📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยวินิจฺฉยฏีกา
(ปโม ภาโค)
คนฺถารมฺภกถา
(ก)
พฺยามปฺปภามณฺฑลเทวจาปํ;
ธมฺมมฺพุนิชฺฌาปิตปาปฆมฺมํ;
วนฺทามหํ พุทฺธ มหมฺพุวนฺตํ.
(ข)
ปสนฺนคมฺภีรปทาฬิโสตํ;
นานานยานนฺตตรงฺคมาลํ;
สีลาทิขนฺธามิตมจฺฉคุมฺพํ ¶ ;
วนฺทามหํ ธมฺม มหาสวนฺตึ.
(ค)
สีโลรุเวลํ ธุตสงฺขมาลํ;
สนฺโตสโตยํ สมถูมิจิตฺตํ;
ปธานกิจฺจํ อธิจิตฺตสารํ;
วนฺทามหํ สงฺฆ มหาสมุทฺทํ.
(ฆ)
เย ตนฺติธมฺมํ มุนิราชปุตฺตา;
ยาวชฺชกาลํ ปริปาลยนฺตา;
สํวณฺณนํ นิมฺมลมานยึสุ;
เต ปุพฺพเก จาจริเย นมามิ.
(ง)
โย ¶ ธมฺมเสนาปติตุลฺยนาโม;
ตถูปโม สีหฬทีปทีโป;
มมํ มหาสามิมหายตินฺโท;
ปาเปสิ วุฑฺฒึ ชินสาสนมฺหิ.
(จ)
ฏีกา กตา อฏฺกถาย เยน;
สมนฺตปาสาทิกนามิกาย;
องฺคุตฺตรายฏฺกถาย เจว;
สตฺถนฺตรสฺสาปิ จ โชติสตฺถํ.
(ฉ)
นิกายสามคฺคิวิธายเกน;
รฺา ปรกฺกนฺติภุเชน สมฺมา;
ลงฺกิสฺสเรนาปิ กโตปหารํ;
วนฺเท ครุํ คารวภาชนํ ตํ.
(ช)
นมสฺสมาโนหมลตฺถเมวํ ¶ ;
วตฺถุตฺตยํ วนฺทิตวนฺทเนยฺยํ;
ยํ ปฺุสนฺโทหมมนฺทภูตํ;
ตสฺสานุภาเวน หตนฺตราโย.
(ฌ)
โย พุทฺธโฆสาจริยาสเภน;
วิฺุปฺปสตฺเถนปิ สุปฺปสตฺโถ;
โส พุทฺธทตฺตาจริยาภิธาโน;
มหากวี เถริยวํสทีโป.
()
อกาสิ ยํ วินยวินิจฺฉยวฺหยํ;
สอุตฺตรํ ปกรณมุตฺตมํ หิตํ;
อเปกฺขตํ วินยนเยสุ ปาฏวํ;
ปุราสิ ยํ วิวรณมสฺส สีหฬํ.
(ฏ)
ยสฺมา ¶ น ทีปนฺตริกานมตฺถํ;
สาเธติ ภิกฺขูนมเสสโต ตํ;
ตสฺมา หิ สพฺพตฺถ ยตีนมตฺถํ;
อาสีสมาเนน ทยาลเยน.
()
สุมงฺคลตฺเถรวเรน ยสฺมา;
สกฺกจฺจ กลฺยาณมโนรเถน;
นยฺุนารฺนิวาสิเกน;
อชฺเฌสิโต สาธุคุณากเรน.
(ฑ)
อากงฺขมาเนน จิรปฺปวตฺตึ;
ธมฺมสฺส ธมฺมิสฺสรเทสิตสฺส;
โจฬปฺปทีเปน ¶ จ พุทฺธมิตฺต-
ตฺเถเรน สทฺธาทิคุโณทิเตน.
(ฒ)
ตถา มหากสฺสปอวฺหเยน;
เถเรน สิกฺขาสุ สคารเวน;
กุทิฏฺิมตฺเตภวิทารเกน;
สีเหน โจฬาวนิปูชิเตน.
(ณ)
โย ธมฺมกิตฺตีติ ปสตฺถนาโม;
เตนาปิ สทฺเธน อุปาสเกน;
สีลาทินานาคุณมณฺฑิเตน;
สทฺธมฺมกาเมนิธ ปณฺฑิเตน.
(ต)
สทฺเธน ปฺาณวตา วฬตฺตา-;
มงฺคลฺยวํเสน มหายเสน;
อายาจิโต วาณิชภาณุนาปิ;
วรฺุนา สาธุคุโณทเยน.
(ถ)
ตสฺมา ¶ ตมาโรปิย ปาฬิภาสํ;
นิสฺสาย ปุพฺพาจริโยปเทสํ;
หิตฺวา นิกายนฺตรลทฺธิโทสํ;
กตฺวาติวิตฺถารนยํ สมาสํ.
(ท)
อวุตฺตมตฺถฺจ ปกาสยนฺโต;
ปากฺกมฺจาปิ อโวกฺกมนฺโต;
สํวณฺณยิสฺสามิ ตทตฺถสารํ;
อาทาย คนฺถนฺตรโตปิ สารํ.
(ธ)
จิรฏฺิตึ ¶ ปตฺถยตา ชนานํ;
หิตาวหสฺสามลสาสนสฺส;
มยา สมาเสน วิธียมานํ;
สํวณฺณนํ สาธุ สุณนฺตุ สนฺโตติ.
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา
. สุวิปุลามลสทฺธาปฺาทิคุณสมุทยาวหํ สกลชนหิเตกเหตุชินสาสนฏฺิติมูลภูตํ วินยปฺปกรณมิทมารภนฺโตยมาจริโย ปกรณารมฺเภ รตนตฺตยปฺปณามปกรณาภิธานาภิเธยฺยกรณปฺปการปโยชนนิมิตฺตกตฺตุปริมาณาทีนิ ทสฺเสตุมาห ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติอาทิ. ตตฺถ รตนตฺตยํ นาม.
‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;
อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๒๒๓; ขุ. ปา. อฏฺ. ๖.๓; สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๒๒๖; มหานิ. อฏฺ. ๕๐) –
นิทฺทิฏฺสภาวํ
‘‘พุทฺโธ ¶ สพฺพฺุตฺาณํ, ธมฺโม โลกุตฺตโร นว;
สงฺโฆ มคฺคผลฏฺโ จ, อิจฺเจตํ รตนตฺตย’’นฺติ. –
วิภาวิตปฺปเภทํ สกลภวทุกฺขวินิวารณํ ติภเวเนกปฏิสรณํ วตฺถุตฺตยํ.
ตสฺส ปณาโม นาม ปณามกิริยานิปฺผาทิกา เจตนา. สา ติวิธา กายปณาโม วจีปณาโม มโนปณาโมติ. ตตฺถ กายปณาโม นาม รตนตฺตยคุณานุสฺสรณปุพฺพิกา อฺชลิกมฺมาทิกายกิริยาวสปฺปวตฺติกา กายวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา. วจีปณาโม นาม ตเถว ปวตฺตา นานาวิธคุณวิเสสวิภาวนสภาวโถมนากิริยาวสปฺปวตฺติกา วจีวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา ¶ เจตนา. มโนปณาโม นาม อุภยวิฺตฺติโย อสมุฏฺาเปตฺวา เกวลํ คุณานุสฺสรเณน จิตฺตสนฺตานสฺส ตนฺนินฺนตปฺโปณตปฺปพฺภารตาย คารวพหุมานนวสปฺปวตฺติสาธิกา เจตนา.
อิมสฺส ตาว รตนตฺตยปณามสฺส ทสฺสนํ ยถาธิปฺเปตตฺถสาธนตฺถํ. คุณาติสยโยเคน หิ ปณามารเห รตนตฺตเย กโต ปณาโม ปฺุวิเสสภาวโต อิจฺฉิตตฺถาภินิปฺผตฺติวิพนฺธเกน อุปฆาตเกน, อุปปีฬเกน จ อปฺุกมฺเมน อุปนียมานสฺส อุปทฺทวชาลสฺส วินิวารเณน ยถาลทฺธสมฺปตฺตินิมิตฺตกสฺส ปฺุกมฺมสฺส อนุพลปฺปทาเนน จ ตพฺพิปากสนฺตติยา อายุสุขพลาทิวฑฺฒเนน จ จิรกาลปฺปวตฺติเหตุโกติ ยถาธิปฺเปตปกรณนิปฺผตฺตินิพนฺธนโก โหติ. อถาปิ โสตูนฺจ วนฺทนียวนฺทนาปุพฺพเกนารมฺเภน อนนฺตราเยน อุคฺคหณธารณาทิกฺกเมน ปกรณาวโพธปฺปโยชนสาธนตฺถํ. อปิจ โสตูนเมว วิฺาตสตฺถุกานํ ภควโต ยถาภูตคุณวิเสสานุสฺสวเนน สมุปชาตปฺปสาทานํ ปกรเณ คารวุปฺปาทนตฺถํ, อวิฺาตสตฺถุกานํ ¶ ปน ปกรณสฺส สฺวาขฺยาตตาย ตปฺปภเว สตฺถริ คารวุปฺปาทนตฺถฺจ โสตุชนานุคฺคหเมว ปธานํ กตฺวา อาจริเยหิ คนฺถารมฺเภ ถุติปฺปณามปริทีปกานํ คาถาวากฺยานํ นิกฺเขโป วิธียติ. อิตรถา วินาปิ ตนฺนิกฺเขปํ กายมโนปณาเมนาปิ ยถาธิปฺเปตปฺปโยชนสิทฺธิโต กิเมเตน คนฺถคารวกเรนาติ อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน ปณามปฺปโยชนํ สารตฺถทีปนิยาทีสุ (สารตฺถ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; วิ. วิ. ฏี. ๒.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา) ทสฺสิตนเยเนว าตพฺพํ.
อภิธานกถนํ ปน โวหารสุขตฺถํ. อภิเธยฺยสฺส สมุทิเตน ปกรเณน ปฏิปาเทตพฺพสฺส กถนํ ปกรณสฺส อารภิตพฺพสภาวทสฺสนตฺถํ. วิทิตานินฺทิตสาตฺถกสุกรานุฏฺานาภิ เธยฺยเมว หิ ปกรณํ ปริกฺขกชนา อารภิตพฺพํ มฺนฺตีติ. กรณปฺปการสนฺทสฺสนํ โสตุชนสมุสฺสาหนตฺถํ. อนากุลมสํกิณฺณตาทิปฺปกาเรน หิ วิรจิตํ ปกรณํ โสตาโร โสตุมุสฺสหนฺตีติ. ปโยชนกถนํ ปน ปกรณชฺฌายเน โสตุชนสมุตฺเตชนตฺถํ. อสติ หิ ปโยชนกถเน อวิฺาตปฺปโยชนา อชฺฌายเน พฺยาวฏา น โหนฺตีติ. นิมิตฺตกถนํ สริกฺขกชนานํ ปกรเณ คารวุปฺปาทนตฺถํ. ปสตฺถการณุปฺปนฺเนเยว หิ ปกรเณ สริกฺขกา คารวํ ชเนนฺตีติ.
กตฺตุกถนํ ปุคฺคลครุกสฺส ปกรเณ คารโว ปุคฺคลคารเวนปิ โหตูติ. ปริมาณกถนํ อสชฺฌายนาทิปสุตานํ ¶ สมฺปหํสนตฺถํ. ปกรณปริมาณสฺสวเนน หิ เต สมฺปหฏฺา ‘‘กิตฺตกมิทมปฺปกํ น จิเรเนว ปริสมาเปสฺสามา’’ติ สชฺฌายนาทีสุ วตฺตนฺตีติ. อาทิ-สทฺเทน สกฺกจฺจสวนนิโยชนํ สงฺคหิตํ, ตํ สพฺพสมฺปตฺตินิทานสุตมยาณนิปฺผาทนตฺถํ. อสกฺกจฺจํ สุณมานสฺส จ สวนาภาวโต ตํเหตุกสฺส ¶ สุตมยาณสฺสาปิ อภาโวติ. ตถา หิ วิกฺขิตฺตจิตฺโต ปุคฺคโล สพฺพสมฺปตฺติยา วุจฺจมาโนปิ ‘‘น มยา สุตํ, ปุน ภณิตพฺพ’’นฺติ ภณติ.
ตตฺถ ปมคาถายํ ตาว ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ อิมินา ติวิโธปิ ปณาโม อวิเสสโต ทสฺสิโต. วิเสสโต ปน ‘‘เสฏฺํ, อปฺปฏิปุคฺคลํ, ภวาภาวกรํ, นิรงฺคณ’’นฺติ อิเมหิ จตูหิ ปเทหิ วจีปณาโม, ‘‘สิรสา’’ติ อิมินา กายปฺปณาโม, ‘‘พุทฺธํ, ธมฺมํ, คณฺจา’’ติ อิเมหิ ปน ตีหิ ปเทหิ ปณามกิริยาย กมฺมภูตํ รตนตฺตยํ ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ อิมินา อภิธานํ ทสฺสิตํ อลุตฺตสมาเสน วินยวินิจฺฉยนามสฺส ทสฺสนโต. ตสฺส อนฺวตฺถภาเวน สทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตภูตํ สกเลนาเนน ปกรเณน ปฏิปาเทตพฺพมภิเธยฺยมฺปิ เตเนว ทสฺสิตํ. ‘‘สมาเสนา’’ติ จ ‘‘อนากุลมสํกิณฺณํ, มธุรตฺถปทกฺกม’’นฺติ จ เอเตหิ กรณปฺปกาโร ทสฺสิโต. ‘‘หิตตฺถายา’’ติ จ ‘‘ปฏุภาวกรํ วินยกฺกเม’’ติ จ ‘‘อปารํ โอตรนฺตาน’’นฺติอาทินา จ ปโยชนํ. ‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีน’’นฺติ อิมินา พาหิรนิมิตฺตํ ทสฺสิตํ. อพฺภนฺตรนิมิตฺตํ ปน พาหิรนิมิตฺตภูตภิกฺขุภิกฺขุนิวิสยา กรุณา, สา อาจริยสฺส ปกรณารมฺเภเนว วิฺายตีติ วิสุํ น วุตฺตา. ‘‘ปวกฺขามี’’ติ อิมินา สมานาธิกรณภาเวน ลพฺภมาโน ‘‘อห’’นฺติ สุทฺธกตฺตา สามฺเน ทสฺสิโต. วิเสสโต ปน ปกรณาวสาเน –
‘‘รจิโต พุทฺธทตฺเตน, สุทฺธจิตฺเตน ธีมตา;
สุจิรฏฺิติกาเมน, สาสนสฺส มเหสิโน’’ติ. (อุ. วิ. ๙๖๑) –
อิมาย ¶ คาถาย เจว ‘‘อิติ ตมฺพปณฺณิเยน ปรมเวยฺยากรเณน ติปิฏกนยวิธิกุสเลน ปรมกวิวรชน หทยปทุมวนวิกสนกเรน กวิวราสเภน ปรมรติกรวรมธุรวจนุคฺคาเรน อุรคปุเรน พุทฺธทตฺเตน รจิโตยํ วินยวินิจฺฉโย’’ติ (วิ. วิ. ๓๑๘๓) อิมินา วากฺเยน จ ¶ ทสฺสิโต – ‘‘มาทิสาปิ กวี โหนฺติ, พุทฺธทตฺเต ทิวงฺคเต’’ติอาทินา ปจฺฉิมเกหิ จ ปสตฺถตเรหิ กวิวเรหิ อภิตฺถุตคุโณ ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริโย เวทิตพฺโพ. เหตุกตฺตา จ ตตฺเถว วกฺขมาโน ปกรณชฺเฌสเน กตาธีโน พุทฺธสีหมหาเถโร, โส –
‘‘วุตฺตสฺส พุทฺธสีเหน;
วินยสฺส วินิจฺฉโย;
พุทฺธสีหํ สมุทฺทิสฺส;
มม สทฺธิวิหาริกํ;
กโตยํ ปน ภิกฺขูนํ;
หิตตฺถาย สมาสโต’’ติ. (วิ. วิ. ๓๑๗๗-๓๑๗๘) –
เอวํ ทสฺสิโต.
อุตฺตรปฺปกรณสฺส เหตุกตฺตา ปน สงฺฆปาลมหาเถโร, โสปิ –
‘‘ขนฺติโสรจฺจโสสิลฺย-พุทฺธิสทฺธาทยาทโย;
ปติฏฺิตา คุณา ยสฺมึ, รตนานีว สาคเร.
‘‘วินยาจารยุตฺเตน, เตน สกฺกจฺจ สาทรํ;
ยาจิโต สงฺฆปาเลน, เถเรน ถิรเจตสา.
‘‘สุจิรฏฺิติกาเมน ¶ , วินยสฺส มเหสิโน;
ภิกฺขูนํ ปาฏวตฺถาย, วินยสฺสวินิจฺฉเย;
อกาสึ ปรมํ เอตํ, อุตฺตรํ นาม นามโต’’ติ. (อุ. วิ. ๙๖๕-๙๖๘) –
เอวํ ทสฺสิโต. น เกวลเมเต ทฺเวเยว มหาเถรา เหตุกตฺตาโร, อถ โข มหาวํสาทีสุ –
‘‘พุทฺธสฺส ¶ วิย คมฺภีร-
โฆสตฺตา ตํ วิยากรุํ;
‘พุทฺธโฆโส’ติ โย โส หิ;
พุทฺโธ วิย มหีตเล’’ติ. –
อาทินา นเยน อภิตฺถุตคุโณ ติปิฏกปริยตฺติยา อฏฺกถากาโร ภทนฺตพุทฺธโฆสาจริโย จ อนุสฺสุติวเสน ‘‘เหตุกตฺตา’’ติ เวทิตพฺโพ.
กถํ? อยํ กิร ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริโย ลงฺกาทีปโต สชาติภูมึ ชมฺพุทีปมาคจฺฉนฺโต ภทนฺตพุทฺธโฆสาจริยํ ชมฺพุทีปวาสิเกหิ ปฏิปตฺติปรายเนหิ ยุตฺตพฺยตฺตคุโณเปเตหิ มหาเถรวเรหิ กตาราธนํ สีหฬฏฺกถํ ปริวตฺเตตฺวา สกลชนสาธารณาย มูลภาสาย ติปิฏกปริยตฺติยา อฏฺกถํ ลิขิตุํ ลงฺกาทีปํ คจฺฉนฺตํ อนฺตรามคฺเค ทิสฺวา สากจฺฉาย สมุปปริกฺขิตฺวา สพฺพโลกาตีเตน อสทิเสน ปณฺฑิจฺจคุเณน รตนนิธิทสฺสเน ปรมทลิทฺโท วิย พลวปริโตสํ ปตฺวา อฏฺกถมสฺส กาตุกามตํ ตฺวา ‘‘ตุมฺเห ยถาธิปฺเปตปริยนฺตลิขิตมฏฺกถํ อมฺหากํ เปเสถ, มยมสฺสา ปกรณํ ลิขามา’’ติ ตสฺส สมฺมุขา ปฏิชานิตฺวา เตน จ ‘‘สาธุ ตถา กาตพฺพ’’นฺติ อชฺเฌสิโต อภิธมฺมฏฺกถาย อภิธมฺมาวตารํ, วินยฏฺกถาย สอุตฺตรํ วินยวินิจฺฉยปกรณฺจ อกาสีติ อนุสฺสุยฺยเตติ.
‘‘สมาเสนา’’ติ ¶ อิมินา จ ปริมาณมฺปิ สามฺเน ทสฺสิตํ วิตฺถารปริมาเณ ตสฺส ปริมาณสามฺสฺส วิฺายมานตฺตา. วิเสสโต ปน ปริจฺเฉทปริมาณํ คนฺถปริมาณนฺติ ทุวิธํ. ตตฺถ ปริจฺเฉทปริมาณํ อิมสฺมึ ปกรเณ กถาโวหาเรน วุจฺจติ.
เสยฺยถิทํ? – ปาราชิกกถา สงฺฆาทิเสสกถา อนิยตกถา นิสฺสคฺคิยกถา ปาจิตฺติยกถา ปาฏิเทสนียกถา เสขิยกถาติ ภิกฺขุวิภงฺคกถา สตฺตวิธา, ตโต อนิยตกถํ วชฺเชตฺวา ตเถว ภิกฺขุนิวิภงฺคกถา ฉพฺพิธา, มหาขนฺธกกถาทิกา ภิกฺขุนิกฺขนฺธกกถาวสานา วีสติวิธา ขนฺธกกถา, กมฺมกถา, กมฺมวิปตฺติกถา, ปกิณฺณกวินิจฺฉโย, กมฺมฏฺานภาวนาวิธานนฺติ วินยวินิจฺฉเย กถาปริจฺเฉโท สตฺตตึส.
อุตฺตรปฺปกรเณ ¶ จ วุตฺตนเยน ภิกฺขุวิภงฺเค สตฺตวิธา กถา, ภิกฺขุนิวิภงฺเค ฉพฺพิธา, ตทนนฺตรา วิปตฺติกถา, อธิกรณปจฺจยกถา, ขนฺธกปฺหากถา, สมุฏฺานสีสกถา, อาปตฺติสมุฏฺานกถา, เอกุตฺตรนยกถา, เสทโมจนกถา, วิภงฺคทฺวยนิทานาทิกถา, สพฺพงฺคลกฺขณกถา, ปริวารสงฺกลนกถาติ ฉตฺตึส กถาปริจฺเฉทา.
นิสฺสนฺเทเห ปน ‘‘อฏฺตึส กถาปริจฺเฉทา’’ติ วุตฺตํ, ตํ เอกุตฺตรนเย อทสฺสิเตหิปิ ทฺวาทสกปนฺนรสกนเยหิ สห โสฬสปริจฺเฉเท คเหตฺวา อปฺปกํ อูนมธิกํ คณนูปคํ น โหตีติ กตฺวา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุภยตฺถ กถาปริจฺเฉทปริมาณํ เตสตฺตติวิธํ โหติ. นิสฺสนฺเทเห ‘‘ปฺจสตฺตติวิธา’’ติ วจเน ปริหาโร วุตฺตนโยว. คนฺถปริมาณํ ปน วินยวินิจฺฉเย อสีติคนฺถาธิกานิ จตฺตาริ คนฺถสหสฺสานิ ¶ , อุตฺตเร ปฺาสคนฺถาธิกานิ นว คนฺถสตานิ โหนฺติ. เตน วุตฺตํ อุตฺตราวสาเน –
‘‘คาถา จตุสหสฺสานิ, สตฺจ อูนวีสติ;
ปริมาณโตติ วิฺเยฺโย, วินยสฺสวินิจฺฉโย.
ปฺาสาธิกสงฺขานิ, นว คาถาสตานิ หิ;
คณนา อุตฺตรสฺสายํ, ฉนฺทสานุฏฺุเภน ตู’’ติ. (อุ. วิ. ๙๖๙-๙๗๐);
อิจฺเจวํ วินยวินิจฺฉโย อุตฺตโร จาติ ทฺเว ปกรณานิ ตึสาธิกานิ ปฺจคาถาสหสฺสานิ. เอตฺถ จ วินยวินิจฺฉโย นาม อุภโตวิภงฺคขนฺธกาคตวินิจฺฉยสงฺคาหกปกรณํ. ตโต ปรํ ปริวารตฺถสงฺคาหกปกรณํ อุตฺตโร นาม. เตเนว วกฺขติ –
‘‘โย มยา รจิโต สาโร, วินยสฺสวินิจฺฉโย;
ตสฺส ทานิ กริสฺสามิ, สพฺพานุตฺตรมุตฺตร’’นฺติ. (อุ. วิ. ๒)
ตํ กสฺมา อุตฺตรนาเมน โวหริยตีติ? ปฺหุตฺตรวเสน ิเต ปริวาเร ตเถว สงฺคเหตพฺเพปิ เตน ปกาเรน ปาราชิกกถามตฺตํ ทสฺเสตฺวา –
‘‘อิโต ¶ ปฏฺาย มฺุจิตฺวา, ปฺหาปุจฺฉนมตฺตกํ;
วิสฺสชฺชนวเสเนว, โหติ อตฺถวินิจฺฉโย’’ติ. (อุ. วิ. ๑๔) –
วตฺวา ปฺหํ ปหาย ตโต ปฏฺาย อุตฺตรมตฺตสฺเสว ทสฺสิตตฺตา ตถา โวหรียนฺติ.
‘‘ตสฺมา วินยนูปาย’’นฺติอาทินา ปน โสตุชนํ สกฺกจฺจสวเน นิโยเชติ. สกฺกจฺจสวนปฏิพทฺธา หิ สพฺพาปิ โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺตีติ อยเมตฺถ สมุทายตฺโถ. อยํ ปน อวยวตฺโถ – โส ยสฺมา อตฺถโยชนกฺกเมน ปทโยชนํ ¶ กตฺวา วณฺณิเต สุวิฺเยฺโย โหติ, ตสฺมา ตถา ปทโยชนํ กตฺวา อตฺถวณฺณนํ กริสฺสาม –
เสฏฺํ อปฺปฏิปุคฺคลํ พุทฺธฺเจว ภวาภาวกรํ ธมฺมฺเจว นิรงฺคณํ คณฺเจว สิรสา วนฺทิตฺวา ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ หิตตฺถาย สมาเสน สมาหิโต วินยสฺสวินิจฺฉยํ วกฺขามีติ โยชนา.
ตตฺถ เสฏฺนฺติ สพฺเพ อิเม ปสตฺถา อยเมเตสํ อติสเยน ปสตฺโถติ เสฏฺโ. ตถา หิ โส ภควา ‘‘อหฺหิ พฺราหฺมณ เชฏฺโ เสฏฺโ โลกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑) เวรฺชพฺราหฺมณสฺส อตฺตโน เชฏฺเสฏฺภาวสฺส ปริชานนวินิจฺฉยเหตุภูตาหิ ฌานาทีหิ นิรติสยคุณสมฺปตฺตีหิ สมนฺนาคตตฺตา –
‘‘ตฺวเมว อสิ สมฺพุทฺโธ, ตุวํ สตฺถา อนุตฺตโร;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เต ปฏิปุคฺคโล. (ที. นิ. ๒.๓๗๐);
ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุวํ มาราภิภู มุนิ;
ตุวํ อนุสเย เฉตฺวา, ติณฺโณ ตาเรสิมํ ปชํ.
อุปธี เต สมติกฺกนฺตา, อาสวา เต ปทาลิตา;
สีโหสิ อนุปาทาโน, ปหีนภยเภรโว. (ม. นิ. ๒.๔๐๐; สุ. นิ. ๕๕๐-๕๕๑; เถรคา. ๘๓๙-๙๔๐);
มหาวีร ¶ มหาปฺ, อิทฺธิยา ยสสา ชล;
สพฺพเวรภยาตีต, ปาเท วนฺทามิ จกฺขุมา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๙; ธ. ป. อฏฺ. ๑.๕๖); –
อาทีหี นานานเยหิ สเทวเกน โลเกน อภิตฺถวิยตาย ปสตฺถตโม, ตเมว เสฏฺํ ปสตฺถตมนฺติ อตฺโถ.
อปฺปฏิปุคฺคลนฺติ ¶ นตฺถิ เอตสฺส ปฏิปุคฺคโล อธิโก, สทิโส วาติ อปฺปฏิปุคฺคโล. ตถา หิ คุณวเสน อนนฺตาปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อตฺตนา อธิกสฺส, สทิสสฺส วา ปุคฺคลสฺส อภาวโต –
‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’’ติ. (มหาว. ๑๑) –
อตฺตนาว อตฺตโน อวิปรีโต อปฺปฏิปุคฺคลภาโว ปฏิฺาโต, ตสฺมา ตํ อปฺปฏิปุคฺคลํ สพฺพโลกุตฺตมนฺติ อตฺโถ.
พุทฺธนฺติ อนนฺตมปริเมยฺยํ เยฺยมณฺฑลมนวเสสํ พุทฺธวาติ พุทฺโธ, เอเตน อเนกกปฺปโกฏิสตสหสฺสํ สมฺภตปฺุาณสมฺภารานุภาวสิทฺธิธมฺมรูปกายสิริวิลาสปฏิมณฺฑิโต สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตี สมฺมาสมฺพุทฺโธ ทสฺสิโต. อถ วา จตฺตาริ สจฺจานิ สยํ วิจิโตปจิตปารมิตาปริปาจิเตน สวาสนานวเสสกิเลสปฺปหายเกน สยมฺภุาเณน พุชฺฌีติ พุทฺโธ. ยถาห –
‘‘อภิฺเยฺยํ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;
ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. (ม. นิ. ๒.๓๙๒, ๓๙๙; สุ. นิ. ๕๖๓; เถรคา. ๘๒๘);
วิตฺถาโร ปนสฺส ‘‘พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ, โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ’’ติอาทินา (มหานิ. ๑๙๒; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๙๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๖๒) นิทฺเทสาทีสุ ¶ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. สทฺทสิทฺธิ สาสนิกานํ อวคมนตฺเถ วตฺตมานา พุธ-ธาตุโต ‘‘ภาวกมฺเมสุ ต’’ อิติ อิโต ตาติวตฺตมาเน ‘‘พุธคมาทิตฺเถ กตฺตรี’’ติ อิมินา กจฺจายนสุตฺเตน กตฺตริ ตปฺปจฺจยวิธานโต เวทิตพฺพา. โลกิยานํ ปน โพธนตฺถธาตูนมฺปิ คมนตฺถตาย วุตฺตตฺตา คตฺยตฺถากมฺมกาทิ ¶ สุตฺตโต กตฺตริ ต-ปฺปจฺจยกรเณน เวทิตพฺพา.
อถ วา ธาตูนํ อเนกตฺถตาย พุธ-อิจฺจยํ ธาตุ ชาครณวิกสนตฺเถสุ วตฺตมาโน อกมฺมโกติ ‘‘ปพุทฺโธ ปุริโส, ปพุทฺธํ ปทุม’’นฺติอาทีสุ วิย พุทฺธวา อฺาณนิทฺทาวิคเมน าณจกฺขูนิ อุมฺมีลนฺโต ปพุทฺโธ, คุเณหิ วา วิกสิโตติ กตฺตริ สิทฺเธน พุทฺธ-สทฺเทน ‘‘พุทฺโธ’’ติ ติภวเนกจูฬามณิปาทปงฺกชราครตโน ภควา โลกนาโถ วุจฺจติ, อิมสฺมึ ปกฺเขปิ คตฺยตฺถาทิสุตฺเต อกมฺมกคฺคหเณน ปจฺจยวิธานํ ทฏฺพฺพํ.
อถ วา สกมฺมกานํ ธาตูนํ กมฺมวจนิจฺฉาย อภาเว อกมฺมกภาวโต ‘‘ผลํ สยเมว ปกฺก’’นฺติอาทีสุ วิย โพธนตฺเถเยว พุธ-ธาตุโต กตฺตริ วิธานํ สิชฺฌติ. อถ วา นีลคุณโยเคน ปฏาทีสุ นีลโวหาโร วิย ภาวสาธนํ พุทฺธ-สทฺทํ คเหตฺวา พุทฺธคุณโยคโต ‘‘พุทฺโธ’’ติ โวหรียติ. เอวมเนกธา สิทฺเธน พุทฺธ-สทฺเทน วุจฺจมานํ ตํ ภควนฺตํ ตํ ธมฺมราชนฺติ อตฺโถ.
‘‘เสฏฺํ อปฺปฏิปุคฺคล’’นฺติ ปททฺวยํ ‘‘พุทฺธ’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ. เอตฺถ จ ‘‘พุทฺธํ, เสฏฺํ, อปฺปฏิปุคฺคล’’นฺติ อิเมหิ ตีหิ ปเทหิ นยโต ‘‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๑๕๗; ๓.๖; ม. นิ. ๑.๑๔๗, ๑๔๔; ๓.๔๓๔; สํ. นิ. ๑.๒๔๙; ๕.๔๗๙; อ. นิ. ๕.๑๔, ๓๐; ๖.๒๕, ๒๖; เนตฺติ. ๙๓), ‘‘โย วทตํ ปวโร มนุเชสุ, สกฺยมุนี ภควา กตกิจฺโจ’’ติอาทีหิ (วิ. ว. ๘๘๖) จ อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ ทสฺสิตทูราวิทูรสนฺติกนิทานเหตุผลสตฺโตปการาวตฺถาธมฺมตฺถ- โลกุทฺธารตฺติกตฺตยสงฺคหิตํ สุปริสุทฺธํ พุทฺธคุณสมุทยํ ¶ นิรวเสสํ ทสฺเสติ. อยเมว หิ พุทฺธคุณานํ นิรวเสสโต ทสฺสนูปาโย, ยทิทํ นยทสฺสนํ. อิตรถา ปฏิปทวณฺณนาย อปริมิตานํ พุทฺธคุณานํ โก หิ นาม สมตฺโถ ปริยนฺตํ คนฺตุํ. ยถาห –
‘‘พุทฺโธปิ ¶ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ;
กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;
ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร;
วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๔๑; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๔๒๕; อุทา. อฏฺ. ๕๓; อป. อฏฺ. ๒.๗.๒๐; พุ. วํ. อฏฺ. ๔.๔; จริยา. อฏฺ. นิทานกถา, ปกิณฺณกกถา; ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; ม. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; วชิร. ฏี. คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; สารตฺถ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; เนตฺติ. ฏี. คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา);
เอวเมเตหิ ตีหิ ปเทหิ นิรวเสสคุณสํกิตฺตนถุติยา วเสน ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ อิมินา ปณามสฺส จ วุตฺตตฺตา อิมาย อฑฺฒคาถาย พุทฺธรตนสงฺขาตปมวนฺทนียวตฺถุวิสยา ถุติปณามสภาวา วนฺทนา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ.
ตทนนฺตรํ ธมฺมรตนสฺส ปณามํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภวาภาวกรํ ธมฺม’’นฺติ. เอตฺถ ภว-สทฺเทน ทฺเว ภวา วุตฺตา กมฺมภโว, อุปปตฺติภโวติ. ตตฺถ กมฺมภโว ภวติ เอตสฺมา ผลนฺติ ‘‘ภโว’’ติ วุจฺจติ. วิปากกฺขนฺธกฏตฺตารูปสงฺขาโต ปน อุปปตฺติภโว อวิชฺชาตณฺหุปาทานสงฺขาราทิสหการิการณยุตฺเตน กุสลากุสลเจตนาสงฺขาตกมฺมภวปจฺจเยน ยถารหํ ภวตีติ ‘‘ภโว’’ติ วุจฺจติ. โส ปน กามภวรูปภวอรูปภวสฺีภวอสฺีภวเนวสฺีนาสฺีภว- เอกโวการภวจตุโวการภวปฺจโวการภววเสน นววิโธ. เอวเมเตสุ นวสุ ภเวสุ ทสวิโธปิ ธมฺโม อตฺตานํ ธาเรนฺตสฺส ปุคฺคลสนฺตานสฺส อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุยา ปรํ อปฺปฏิสนฺธิกตาสาธเนน ภเวสุ ¶ , ภวสฺส วา อภาวํ กโรตีติ ภวาภาวกโร, ตํ, อปราปรชาติปฺปพนฺธสฺส เหตุสมุคฺฆาเตน อปฺปวตฺติธมฺมตาปาทกนฺติ อตฺโถ.
ธมฺมนฺติ อตฺตานํ ธาเรนฺเต จตูสุ อปาเยสุ, สํสาเร จ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม, โส จตุมคฺคผลนิพฺพานสงฺขาตนวโลกุตฺตรธมฺโม จ ตปฺปฏิปาทโก นวงฺคสาสนาปรนามเธยฺยจตุราสีติสหสฺสธมฺมกฺขนฺธปฺปเภทภินฺโน ปริยตฺติธมฺโม จาติ ทสวิโธ. โสปิ นิปฺปริยายธมฺโม, ปริยายธมฺโม ¶ จาติ ทุวิโธ. ตตฺถ นิปฺปริยายธมฺโม นาม อปาเย, สํสาเร วา ปธานเหตุภูตานํ อุทฺธมฺภาคิยานํ, โอรมฺภาคิยานฺจ ทสนฺนํ สํโยชนานํ สมุจฺฉินฺทเนน มคฺคธมฺโม, ตสฺส ตํกิจฺจนิปฺผตฺตินิมิตฺตภาเวน นิพฺพานธมฺโม จาติ ปฺจวิโธปิ นิปฺปริยาเยน ปุคฺคลสนฺตานํ ธาเรตีติ กตฺวา ‘‘นิปฺปริยายธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. จตฺตาริ ปน สามฺผลานิ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหาเนน มคฺคานุคุณปฺปวตฺติยา, ปริยตฺติ จ มคฺคนิพฺพานาธิคมสฺส มูลการณภาวโตติ ปฺจวิโธปิ ปริยายธมฺโม นาม.
เอตฺตาวตา ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๑.๒๔๙; อ. นิ. ๓.๗๖; ที. นิ. ๓.๖; อ. นิ. ๖.๑๐, ๒๕, ๒๖), ‘‘ราควิราคมเนชมโสก’’นฺติอาทีหิ (วิ. ว. ๘๘๗) จ สุตฺตนฺเตหิ วุตฺตสฺส, ตทฏฺกถาทีสุ จ วณฺณิตสฺส สรณานุสฺสรณวเสนาปิ สคฺคโมกฺขสมฺปตฺติปฏิลาภการณสฺส อนวเสสสฺส ธมฺมรตนคุณสฺส นยโต อุทฺทิฏฺตฺตา จ ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ อิมินา ปณามสฺส ทสฺสิตตฺตา จ ธมฺมรตนสงฺขาตสฺส ทุติยสฺส วนฺทนียสฺส ถุติปณามสภาวา วนฺทนา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ.
ตทนนฺตรํ ¶ สงฺฆรตนสฺส วนฺทนาสนฺทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ ‘‘คณฺเจว นิรงฺคณ’’นฺติ. เอตฺถ ‘‘ราโค องฺคณํ โทโส องฺคณํ โมโห องฺคณ’’นฺติ (วิภ. ๙๒๔) วุตฺเตหิ ราคาทิองฺคเณหิ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิมุตฺติวเสน นิคฺคโต วิมุตฺโตติ นิรงฺคโณ, ตํ นิรงฺคณํ. อริยวํเส สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสงฺขาเตหิ คุณคเณหิ คณียตีติ คโณ, ตํ.
เอตฺตาวตา ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๑.๒๔๙; อ. นิ. ๓.๗๖; ที. นิ. ๓.๖; อ. นิ. ๖.๑๐, ๒๕, ๒๖;), ‘‘ยตฺถ จ ทินฺนํ มหปฺผลมาหุ, จตูสุ สุจีสุ ปุริสยุเคสู’’ติอาทีหิ (วิ. ว. ๘๘๘) จ เตหิ เตหิ สุตฺตปเทหิ วุตฺตานํ, ตทฏฺกถาทีสุ จ วณฺณิตานํ วิมลาตุลนิขิลวิสาลเปสลสีลาทินานปฺปการานคฺฆสงฺฆรตนคุณานํ สํกิตฺตนสภาวาย ถุติยา จ ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ เอเตน ยถาวุตฺตสรูปปเภทปณามสฺส วุตฺตตฺตา จ สงฺฆรตนสงฺขาตตติยวนฺทนียวตฺถุวิสยา ถุติปฺปณามสงฺขาตา วนฺทนา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. สิรสาติ อตฺตปฺปสาทคารวาวหนฺเตน มุทฺธนา. วนฺทิตฺวาติ ปณมิตฺวา โถมิตฺวา วา.
เอวํ ¶ ปมคาถาย วนฺทนียสฺส รตนตฺตยสฺส ถุติปฺปณามสงฺขาตํ วนฺทนํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตราย สนฺทสฺเสตพฺพปโยชนาทิปฏิปาทิกาย คาถาย ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ อิมินา กิฺจาปิ สํสาเร ภยํ อิกฺขตีติ ‘‘ภิกฺขู’’ติ กลฺยาณปุถุชฺชเนน สทฺธึ อฏฺ อริยปุคฺคลา วุจฺจนฺติ, ปาฬิยํ (ปารา. ๔๔-๔๕; วิภ. ๕๑๐) ปน ‘‘ภินฺนปฏํ ธาเรตีติ ภิกฺขุ, ภิกฺขนสีโลติ ภิกฺขู’’ติอาทินา ภิกฺขุสทฺทสฺส อตฺถุทฺธารวเสน นิพฺพจนนฺตรานิ ทสฺเสตฺวา ¶ ปาติโมกฺขสํวรสํวรณารหสฺเสว อธิปฺเปตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมคฺเคน สงฺเฆน ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อกุปฺเปน านารเหน อุปสมฺปนฺโน, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปโต ภิกฺขู’’ติ ทสฺสิตา สิกฺขากามา สาสนาวจารา กุลปุตฺตา อิธาธิปฺเปตา, เตสํ ภิกฺขูนฺจ. ภิกฺขุนีนฺจาติ อฏฺวาจิกอุปสมฺปทากมฺเมน อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาตาทิสาเยว กุลธีตโร ทสฺสิตา. เอกโตปสมฺปนฺนาปิ สามฺเน คยฺหนฺติ. เอกโตปสมฺปนฺนาติ จ ภิกฺขุนิสงฺเฆ อุปสมฺปชฺชิตฺวา ยาว ภิกฺขุสงฺเฆ น อุปสมฺปชฺชนฺติ, ตาว, ภิกฺขุนี จ ลิงฺคปริวตฺตเนน ภิกฺขุนิภาวปฺปตฺตา อธิปฺเปตา, ตาสํ ภิกฺขุนีนฺจ.
หิตตฺถายาติ สพฺพสมฺปตฺตินิปฺผาทกรณตฺถาย หิโนติ คจฺฉติ ยถาธิปฺเปตผลสาธเน ปวตฺตตีติ หิตนฺติ อโรคตาทิการณํ อมโตสธาทิ วุจฺจติ. อิธ ปน สคฺคโมกฺขสมฺปตฺติสิทฺธิการณํ ปาติโมกฺขสํวรสีลรกฺขนํ วุจฺจติ, ตทตฺถาย.
สมาหิโต สมฺมา อาหิโต ปวตฺติโต วินิจฺฉยมคฺโค เอเตนาติ ‘‘สมาหิโต’’ติ ปกรณการโก ทสฺสิโต. อถ วา สมฺมา อาหิตํ วินยวินิจฺฉเย ปิตํ ปวตฺติตํ จิตฺตเมตสฺสาติ ‘‘สมาหิตจิตฺโต’’ติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘สมาหิโต’’ติ วุตฺโต. ปรมคมฺภีรสุทุตฺตรวินยปิฏกตฺถวินิจฺฉเย ปวตฺตนารหสฺส อิมินา วิเสสเนน อตฺตนิ สมาหิตจิตฺตปฺปวตฺตินิมิตฺตภูโต อตฺตโน าณสฺส ปทฏฺานภูโต สมาธิ ทสฺสิโต เตน สมาธินา สมาหิโต หุตฺวาติ อตฺโถ.
ปวกฺขามีติ ปกาเรน วกฺขามิ, เยน ปกาเรน วินยวินิจฺฉเย วุตฺเต อชฺชตนา มนฺทสติมติวีริยา ปฏิปชฺชนกา คมฺภีรตรํ ¶ วินยปิฏกตฺถวินิจฺฉยํ สุเขน อุคฺคณฺหิตุํ, ธาเรตฺุจ สกฺโกนฺติ, ตาทิเสน ปการวิเสเสน วกฺขามีติ อตฺโถ. สมาเสนาติ สมสนํ สํขิปนํ สมาโส, เตน, สํขิตฺตรุจิกานมุคฺฆาฏิตฺูนํ กตาธิการานํ าณุตฺตรานํ ปุคฺคลานฺจ ¶ ปปฺจภีรุกานํ คหณธารเณ มนฺทยนฺตานํ มนฺทพุทฺธีนฺจ อุปการเกน นาติวิตฺถารกฺกเมนาติ อตฺโถ. วินยสฺสาติ วินยปิฏกสฺส. ตฺหิ –
‘‘วิวิธวิเสสนยตฺตา;
วินยนโต เจว กายวาจานํ;
วินยตฺถวิทูหิ อยํ;
วินโย ‘วินโย’ติ อกฺขาโต’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา) –
วุตฺเตหิ อตฺถวิเสเสหิ ‘‘วินโย’’ติ วุจฺจติ. ตสฺส เอวํ สนฺทสฺสิตสภาวสฺส ‘‘วินโย นาม สาสนสฺส อายู’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.ปมมหาสงฺคีติกถา) สงฺคีติการเกหิ มหากสฺสปาทีหิ อภิตฺถุตคุณสฺส วินยปิฏกุตฺตมสฺส. วินิจฺฉยนฺติ วิเสเสน, วิวิเธน วา อากาเรน วิปฺปฏิปตฺตินีหรณวเสน จียติ วิภชียตีติ ‘‘วินิจฺฉโย’’ติ ลทฺธนามํ วิภชนํ, วินยวินิจฺฉยํ นาม ปกรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ จ อลุตฺตสมาโสยํ ‘‘เทวานํปิยติสฺโส, กณฺเกาโฬ’’ติอาทีสุ วิย.
เอวํ ทุติยคาถาย กตฺตุนิมิตฺตปโยชนาภิธานาภิเธยฺยปกรณปฺปกาเรกเทสํ ทสฺเสตฺวา สกฺกจฺจสวนการณนิทสฺสนมุเขนาปิ ปกรณปฺปการาทึ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนากุล’’มิจฺจาทิ. ตตฺถ อนากุลนฺติ นตฺถิ เอตฺถ สทฺทโต, อตฺถโต, วินิจฺฉยโต วา อากุลํ ปุพฺพาปรวิโรโธ, มิสฺสตา ¶ วาติ อนากุโล, วินยวินิจฺฉโย, ตํ วทโต เม นิโพธถาติ สมฺพนฺโธ. อสํกิณฺณนฺติ นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ.
มธุรตฺถปทกฺกมนฺติ ปทานํ กโม ปทกฺกโม, ปทคติ, สทฺทานมุจฺจารณนฺติ อตฺโถ. มธุโร อตฺโถ จ ปทกฺกโม จ ยสฺส โส มธุรตฺถปทกฺกโม, ตํ –
‘‘ปทาสตฺตํ ¶ ปทตฺถานํ, มธุรตฺถมุทีริตํ;
เยน มชฺชนฺติ ธีมนฺโต, มธุเนว มธุพฺพตา’’ติ. –
อิมินา ลกฺขเณน สทฺทานมตฺถานฺจ วเสน ปทาสตฺตาปรนามเธยฺยมาธุริยาลงฺกาเรน สมลงฺกตตฺตา มธุรตฺถปทกฺกมํ.
ปฏุภาวกรนฺติ ปฏติ คจฺฉติ ปชานาตีติ ปฏุ, ปฺวา, ปฏุโน ภาโว, สทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตภูตา ปฺา, ตํ ปฏุภาวํ ปฺาวิเสสํ กโรติ ชเนตีติ ปฏุภาวกโร, ตํ, ปฺาวิเสสชนกนฺติ อตฺโถ. เอตํ วินยสฺส วินิจฺฉยนฺติ โยชนา. ปรมนฺติ อุตฺตมํ. วินยกฺกเมติ วินยปิฏเก, ตทตฺเถ จ, ปวตฺติกฺกเม ปฏุภาวกรนฺติ อตฺโถ.
เอวํ ตติยคาถาย ปกรณคุณาปเทเสน โสตุชนํ สมุสฺสาเหตฺวา อิทานิ ‘‘อปาร’’นฺติอาทิจตุตฺถคาถาย ปกรณฺจ ตนฺนิสฺสยํ วินยปิฏกฺจ นาวาสาครภาเวน ทสฺเสตฺวา ติโรภูโตปเมยฺโยปมานเภเทน รูปกาลงฺกาเรน ปกรณคุณํ ปกาเสนฺโต โสตุชนํ สมุตฺเตเชติ. ตตฺถ อปารนฺติ นตฺถิ ปารํ เอตสฺสาติ อปาโร, วินยสาคโร. โส หิ ปุริมพุทฺธุปฺปาเทสุ สาสนํ ปสีทิตฺวา วินยปิฏเก อุคฺคหณธารณปฏิปาทนปฏิปตฺติวเสน อกตาธิกาเรหิ ปุคฺคเลหิ ทุรธิคมนียธมฺมตฺถนิรุตฺติปฏิภานปริยนฺตตาย ‘‘อปาโร’’ติ วุจฺจติ.
โอตรนฺตานนฺติ ¶ สชฺฌายนสวนธารณาทิวเสน อชฺโฌคาหนฺตานํ. สารนฺติ นิพฺพานสมฺปาปกภาเวน สารภูตาย อริยมคฺคสมฺภาราย ปุพฺพภาคปฏิปตฺติยา มูลภูตปาติโมกฺขสํวรสงฺขาตสีลสารปฺปกาสกตาย สารํ. วินยสาครนฺติ วินยปิฏกสงฺขาตํ สาครํ. วินโย หิ สิกฺขาปทปฺตฺติยา กาลปฺปตฺตชานนสฺสาปิ ธมฺมเสนาปติอาทีนมฺปิ อวิสยตฺตา อติคมฺภีราติวิตฺถิณฺณภาเวน สาคโร วิยาติ สาคโร, วินโย จ โส สาคโร จาติ วินยสาคโร, ตํ, อคาธาปารคุณโยคโต สาคโรปมํ วินยปิฏกนฺติ อตฺโถ.
ทุติยคาถาย ‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีน’’นฺติ วตฺวาปิ ‘‘หิตตฺถายา’’ติ อิมินา สมฺพนฺธตฺตา จ วากฺยนฺตเรหิ อนฺตริตภาเวน ทูรตฺตา จ ตํ อนาทิยิตฺวา เอตฺถ วินยสาครชฺโฌคาหนตทตฺถปฏิปชฺชนารหกตฺตุวิเสสสนฺทสฺสนตฺถาย ¶ ‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีน’’นฺติ ปุน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นาวา วิย ภูโต นาวาภูโต, ตํ, นาวาฏฺานิยํ มหานาวาสทิสนฺติ อตฺโถ. มโนรมนฺติ มโน รมติ เอตฺถ, เอเตนาติ วา มโนรโม, ตํ, อชฺฌายนโวหารปสุตานํ ปฏิปตฺติปรายนานฺจ สาธูนํ มโนรมนฺติ อตฺโถ.
เอตฺตาวตา ปกรณคุณสํกิตฺตเนน โสตุชนํ สมุตฺเตเชตฺวา อิทานิ สกฺกจฺจสวเน นิโยเชนฺโต ‘‘ตสฺมา วินยนูปาย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา ยถาวุตฺตํ อนากุลตาทิวิวิธานคฺฆคุณาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ, เตน เหตุนาติ อตฺโถ. วินยนูปายนฺติ วิวิธากาเรน, วิเสสนยโต วา กายวาจานํ นยนํ ทมนํ อกตฺตพฺพโต นิวตฺเตตฺวา กตฺตพฺเพสุ นิโยชนํ วินยนํ, อุเปจฺจ ตํ ผลํ อายติ อุปฺปชฺชตีติ อุปาโย, เหตุ, วินยนสฺส อุปาโย วินยนูปาโย, ตํ, กายชีวิตานเปกฺขานํ สิกฺขากามานํ เปสลานํ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ กายวาจานํ อนนุโลมิกวิปฺผนฺทิตาปนยนสงฺขาตทมนสฺส ¶ การณภูตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
เอตฺตาวตา อตฺตนา กตฺตุมิจฺฉิเต ปกรเณ ปณฺฑิตานํ ปวตฺติเหตุภูตานํ อนากุลตาทิคุณานํ วิภาวนวเสน ‘‘อนากุล’’นฺติอาทิวิเสสนานิ วตฺวา อิทานิ สกฺกจฺจสวนาวโพเธ วิสยํ วิเสสิตพฺพํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ. เอตฺถ จ ทุติยคาถาย ‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ ‘‘ปวกฺขามี’’ติ กิริยาย กมฺมทสฺสนวเสน วุตฺตํ, ตํ อิธ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิยมานมฺปิ ทูรสมฺพนฺธํ โหตีติ ตมนาเนตฺวา ‘‘นิโพธถา’’ติ อิมิสฺสา กิริยาย กมฺมสนฺทสฺสนตฺถํ ‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปุนรุตฺติโทสาภาโวติ ทฏฺพฺพํ.
อวิกฺขิตฺเตน จิตฺเตนาติ เอตฺถ วิวิเธ อารมฺมเณ ขิตฺตํ เปสิตํ วิกฺขิตฺตํ, อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาทิปเรตํ อสมาหิตํ จิตฺตํ, น วิกฺขิตฺตํ อวิกฺขิตฺตํ, ตปฺปฏิปกฺขํ สมาหิตํ กุสลจิตฺตํ, เตน, เอตสฺส ปกรณุตฺตมสฺส สวนาทิพฺยาปารํ วินา นานารมฺมเณสุ ปวตฺติวเสน วิกฺเขปมนาปนฺเนน สมาหิเตน จิตฺเตนาติ อตฺโถ. ‘‘อวิกฺขิตฺเตน…เป… นิโพธถา’’ติ วทนฺเตน จ ‘‘อวิกฺขิตฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม วิกฺขิตฺตสฺสา’’ติ วจนโต วิกฺขิตฺตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทาภาวโต อตฺตโน ปกรณตฺถภูตาย อธิสีลสิกฺขาย สมฺมาปฏิปชฺชนาปเทโส กโต โหติ.
วทโต ¶ เมติ เอตฺถ ‘‘คารเวน จา’’ติ ปาเสโส. ตตฺถายมตฺโถ – ภาสมาเน มยิ คารเวน, ยถาวุตฺเตน การเณน จาติ สามิภุมฺมานมวิเสสตาย ‘‘เม’’ติ สามิวจนสฺส ‘‘มยี’’ติ อตฺถสมฺภวโต อยมตฺโถ วุตฺโต. ปกรณสฺส อนากุลตาทิคุณสมนฺนาคตตฺตา จ วตฺตริ มยิ คารเวน จ สมาหิเตน เจตสาติ อธิปฺปาโย. นิโพธถาติ วากฺยตฺถปทตฺถํ สนฺธายภาสิตตฺถภาวตฺถาทิวเสน ¶ นิเสสโต โพธถ, สกฺกจฺจํ สุตฺวา วินยวินิจฺฉยํ พุชฺฌถ วิชานาถาติ อตฺโถ, จินฺตาภาวนามยาณานํ มูลภูตปกรณวิสยํ สุตมยาณํ นิปฺผาเทถาติ อธิปฺปาโย.
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภิกฺขุวิภงฺโค
ปาราชิกกถา
ปมปาราชิกกถาวณฺณนา
๖. เอวํ ¶ ปฺจหิ คาถาหิ รตนตฺตยปณามาทึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยถาปฏิฺาตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ติวิเธ’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ติวิเธ’’ติอาทินา ปมปาราชิกสิกฺขาปทวินิจฺฉยํ ทสฺเสติ. ติวิเธติ วจฺจปสฺสาวมุขมคฺคานํ วเสน ติปฺปกาเร มคฺเคติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ติลมตฺตมฺปีติ ติลพีชมตฺตมฺปิ องฺคชาตนฺติ สมฺพนฺโธ. มคฺเคติ วจฺจปสฺสาวานํ นิกฺขมนทฺวารตาย, อนฺนปานปิตฺตเสมฺหาทีนํ ปเวสนนิกฺขมนทฺวารตาย จ มคฺคโวหารคเต สรีรปฺปเทเส, อลฺโลกาเสติ สมฺพนฺโธ. ‘‘มคฺเคสุ ติลมตฺตมฺปิ, ตีสุ เสวนเจตโน’’ติ วตฺตพฺเพปิ ‘‘ติวิเธ’’ติ ปการวาจิวิธสทฺโทปาทาเนน สชาติสงฺคหวเสน ตีหิ ราสีหิ สงฺคเหตฺวา ปเภทวเสน ตึสวิโธ มคฺโค ทสฺสิโต โหติ.
เสยฺยถิทํ? ปาราชิกวตฺถุภูตมุขาทิมคฺคานํ นิสฺสยภูเต สตฺเต ทสฺเสตุํ ‘‘ติสฺโส อิตฺถิโย มนุสฺสิตฺถี ¶ อมนุสฺสิตฺถี ติรจฺฉานคติตฺถี’’ติอาทินา (ปารา. ๕๖) นเยน ปาฬิยํ ทสฺสิตมนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคติตฺถีนํ ปจฺเจกํ ติณฺณํ มคฺคานํ วเสน นว มคฺคา, ตเถว ทสฺสิตานํ ติณฺณํ อุภโตพฺยฺชนกานํ วเสน นว มคฺคา, ติณฺณํ ปน ปณฺฑกานํ มุขมคฺควจฺจมคฺคานํ วเสน ปจฺเจกํ ทฺเว ทฺเว มคฺคาติ ฉ มคฺคา, ตถา ติณฺณํ ปน ปุริสานนฺติ เอวํ ตึสวิโธ โหติ.
เสวนเจตโนติ เสวเน เมถุนปโยเค เจตนา อสฺสาติ วิคฺคโห, เมถุนราคูปสํหิตาย เจตนาย สมนฺนาคโตติ ¶ อตฺโถ. อลฺโลกาเสติ ตึสมคฺคานมฺตเร มคฺเค ปกติวาเตน อสํผุฏฺเ อลฺลปเทเส, อิมินา พาหิรํ ปาราชิกกฺเขตฺตํ น โหตีติ ทีเปติ. วิเสสนสฺส วิเสสาเปกฺขตฺตา ทุติยคาถาย ‘‘สสิกฺโข โส’’ติ ปททฺวยํ อาหริตฺวา ‘‘เสวนเจตโน สสิกฺโข โส ภิกฺขู’’ติ โยเชตพฺพํ.
องฺเค สรีเร ชาตนฺติ องฺคชาตํ, ปุริสนิมิตฺตํ. สติปิ อวเสสสรีราวยวานํ ตถาภาเว รุฬฺหิวเสน ตเทว ตถา วุตฺตํ. ปเวเสนฺโตติ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติสงฺขาตกายิกกิริยํ นิปฺผาเทนฺโต. ปราชิโตติ ทุลฺลภาย ขณสมฺปตฺติยา ลทฺธพฺพโต ทุลฺลภา โลกิยโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺติสุขโต ปริหาเปตฺวา กิเลสสปตฺเตหิ ปราชยมาปาทิโตติ อตฺโถ.
อยเมตฺถ โยชนา – สสิกฺโข เสวนเจตโน ติวิเธ มคฺเค อลฺโลกาเส องฺคชาตํ ติลมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺโต โส ภิกฺขุ ปราชิโต โหตีติ. เอตฺตาวตา –
‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺย, อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปิ, ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติ (ปารา. ๔๔) –
ภควตา ปฺตฺตสิกฺขาปทํ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๗. เอวํ อิมิสฺสา คาถาย อตฺตูปกฺกมมูลกํ ปาราชิกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถึ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมคฺเคน (ปารา. ๕๘) องฺคชาเต ¶ อภินิสีเทนฺตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ ปโรปกฺกมมูลกํ ปาราชิกฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปเวสน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ปเวสนนฺติ ภิกฺขุปจฺจตฺถิเกหิ สุตฺตปมตฺตาทิมนุสฺสิตฺถิอาทีนมฺตรํ อาเนตฺวา ยถาวุตฺตมคฺคานมฺตรํ ¶ มคฺคํ ยถา ปวิสติ, ตถา ภิกฺขุโน องฺคชาเต อภินิสีทาปเน สมฺภวนฺตํ มคฺคปฺปเวสนมาห. ปเวสนํ สาทิยนฺโต สสิกฺโข โสติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘ปเวสนํ สาทิยติ อธิวาเสติ, ตสฺมึ ขเณ เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๘) อฏฺกถาวจนโต อคฺคโต ยาว มูลํ ปเวเสนฺเตสุ อสฺสาทจิตฺตํ อุปฏฺาเปนฺโต ตงฺขเณเยว สาสนโต จุโตติ อตฺโถ. ปวิฏฺนฺติอาทีสุ ปเทสุปิ เอวเมว โยชนา.
ปวิฏฺนฺติ ปวิฏฺกฺขโณ. ‘‘ปวิฏฺ’’นฺติอาทินา ตาย ตาย กิริยาย อุปลกฺขิโต ขโณ คเหตพฺโพ. เตเนเวตฺถ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ กตํ. ิตนฺติ เอตฺถ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิสมเย’’ติ อฏฺกถาวจนสฺส สพฺพถา พฺยาปารรหิตํ กาลํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา สุกฺกวิสฺสฏฺิสมโยปิ คเหตพฺโพ. เตเนว คณฺิปเท วุตฺตนเยน ปวิฏฺสฺส จ ยาว อุทฺธรณารมฺโภ, ตาว สมฺภวนฺโต ิตกาโลปิ คเหตพฺโพ. อุทฺธรณนฺติ นีหรณกาโล.
วาติ วิกปฺเป, อปีติ สมุจฺจเย, โส วา-สทฺเทน วิกปฺปิตานํ ปกฺขานํ ตุลฺยพลตํ โชเตติ. อิติ อิเมหิ ทฺวีหิปิ ‘‘โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฏฺํ สาทิยตี’’ติอาทินา (ปารา. ๕๘) ปาฬิยํ อาคตนเยน ลพฺภมานํ ปเวสนาทิเอกกฺขณมฺปิ สาทิยนปจฺจยา อาปชฺชมานํ ปาราชิกํ ทสฺเสติ. สสิกฺโขติ สิกฺขาย สห วตฺตตีติ สสิกฺโข, อปจฺจกฺขาตสิกฺโขติ อตฺโถ. สาทิยนฺโตติ เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปนฺโต. โส ภิกฺขุ. เปตฺวา กิริยนฺติ อตฺตูปกฺกมนํ วินา. จุโตติ ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิเกหิ กตมิทํ, น มยา’’ติ เลเสน น มุจฺจติ, สาทิยนจิตฺเต สติ สาสนโต จุโตเยว โหตีติ อธิปฺปาโย.
เอตฺถ ¶ จ สสิกฺโขติ อิทํ ‘‘สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ (ปารา. ๔๔) สิกฺขาปทปาสฺส อตฺถทสฺสนวเสน นิทฺทิฏฺํ. ตสฺส ปทภาชเน (ปารา. ๔๕), ตทฏฺกถาย จ วิภตฺตํ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ สงฺเขปโต เอวํ เวทิตพฺพํ – จิตฺตเขตฺตกาลปโยคปุคฺคลวิชานนวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. อุปสมฺปนฺนภาวโต จวิตุกามตาจิตฺเตเนว หิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ทวา วา รวา วา วทนฺตสฺส. เอวํ จิตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ตถา ¶ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามิ, ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ, สงฺฆํ ปจฺจกฺขามิ, สิกฺขํ, วินยํ, ปาติโมกฺขํ, อุทฺเทสํ, อุปชฺฌายํ, อาจริยํ, สทฺธิวิหาริกํ, อนฺเตวาสิกํ, สมานุปชฺฌายกํ, สมานาจริยกํ, สพฺรหฺมจารึ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ วุตฺตานํ พุทฺธาทีนํ จตุทฺทสนฺนํ, ‘‘คิหีติ มํ ธาเรหิ, อุปาสโก, อารามิโก, สามเณโร, ติตฺถิโย, ติตฺถิยสาวโก, อสฺสมโณ, อสกฺยปุตฺติโยติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ วุตฺตานํ คิหิอาทีนํ อฏฺนฺนฺจาติ อิเมสํ พาวีสติยา เขตฺตปทานํ ยสฺส กสฺสจิ สเววจนสฺส วเสน เตสุ ยํ กิฺจิ วตฺตุกามสฺส ยํ กิฺจิ วทโต สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น รุกฺขาทีนํ อฺตรสฺส นามํ คเหตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺตสฺส. เอวํ เขตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ตตฺถ ยเทตํ ‘‘ปจฺจกฺขามี’’ติ จ ‘‘มํ ธาเรหี’’ติ จาติ วุตฺตํ วตฺตมานกาลวจนํ, ยานิ จ ‘‘อลํ เม พุทฺเธน, กึ นุ เม พุทฺเธน, น มมตฺโถ พุทฺเธน, สุมุตฺตาหํ พุทฺเธนา’’ติอาทินา นเยน อาขฺยาตวเสน กาลํ อนามสิตฺวา ปุริเมหิ จุทฺทสหิ ปเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา วุตฺตานิ ‘‘อลํ เม’’ติอาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ, เตสํเยว สเววจนานํ วเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ‘‘ปจฺจกฺขาสิ’’นฺติ วา ‘‘ปจฺจกฺขิสฺส’’นฺติ วา ¶ ‘‘มํ ธาเรสี’’ติ วา ‘‘มํ ธาเรสฺสตี’’ติ วา ‘‘ยํ นูนาหํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ วาติอาทีนิ อตีตานาคตปริกปฺปวจนานิ ภณนฺตสฺส. เอวํ วตฺตมานกาลวเสน เจว อนามฏฺกาลวเสน จ ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ปโยโค ปน ทุวิโธ กายิโก จ วาจสิโก จ. ตตฺถ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินา นเยน ยาย กายจิ ภาสาย วจีเภทํ กตฺวา วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น อกฺขรลิขนํ วา หตฺถมุทฺทาทิทสฺสนํ วา กายปโยคํ กโรนฺตสฺส. เอวํ วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ปุคฺคโล ปน ทุวิโธ โย จ ปจฺจกฺขาติ, ยสฺส จ ปจฺจกฺขาติ. ตตฺถ โย ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ อุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนฏฺฏานํ อฺตโร น โหติ. ยสฺส ปน ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ มนุสฺสชาติโก โหติ, น จ อุมฺมตฺตกาทีนํ อฺตโร, สมฺมุขีภูโต จ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ. น หิ อสมฺมุขีภูตสฺส ทูเตน วา ปณฺเณน วา อาโรจนํ รุหติ. เอวํ ยถาวุตฺตสฺส ปุคฺคลสฺส วเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
วิชานนมฺปิ ¶ นิยมิตานิยมิตวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ ยสฺส, เยสํ วา นิยเมตฺวา ‘‘อิมสฺส, อิเมสํ วา อาโรเจมี’’ติ วทติ. สเจ เต ยถา ปกติยา โลเก มนุสฺสา วจนํ สุตฺวา อาวชฺชนสมเย ชานนฺติ, เอวํ ตสฺส วจนานนฺตรเมว ตสฺส ‘‘อยํ อุกฺกณฺิโต’’ติ วา ‘‘คิหิภาวํ ปตฺถยตี’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน สิกฺขาปจฺจกฺขานภาวํ ชานนฺติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อถ อปรภาเค ‘‘กึ อิมินา วุตฺต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ชานนฺติ, อฺเ วา ชานนฺติ, อปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อนิยเมตฺวา อาโรเจนฺตสฺส ปน สเจ วุตฺตนเยน โย โกจิ มนุสฺสชาติโก วจนตฺถํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. เอวํ วิชานนวเสน ปจฺจกฺขานํ ¶ โหติ, น ตทภาเวน. โย ปน อนฺตมโส ทวายปิ ปจฺจกฺขาติ, เตน อปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา.
อิติ อิเมสํ วุตฺตปฺปการานํ จิตฺตาทีนํ วเสน อปจฺจกฺขาตสิกฺโข ‘‘สสิกฺโข’’ติ วุตฺโต.
๘-๑๐. ‘‘อิทานิ สนฺถเตน สนฺถตสฺส ฆฏฺฏเน อุปาทินฺนกฆฏฺฏนาภาวโต โทโส นตฺถี’’ติ ปาปภิกฺขูนํ เลสกปฺปนํ ปฏิกฺขิปิตุํ ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถึ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมคฺเคน, ปสฺสาวมคฺเคน, มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ สนฺถตาย อสนฺถตสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๖๑) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตสนฺถตวารานมตฺถํ สงฺคณฺหนฺโต อาห ‘‘สนฺถเตนา’’ติอาทิ. ตตฺถ สนฺถเตนาติ จมฺมโจฬติปุปฏฺฏาทีหิ ปฏิจฺฉาทิเตน. ‘‘ปเวเสนฺโต’’ติ อิมินา สนฺถตวารสฺส ปโรปกฺกมํ นิสฺสาย ทสฺสนมุปลกฺขณนฺติ อตฺตูปกฺกเมปิ โยเชตพฺพตํ ทสฺเสติ, ตสฺส วกฺขมาเนน ‘‘ปราชิโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ปเวเสนฺโตติอาทิปฺปการํ ปรามสติ.
เอวํ ปเวเสนฺโต กทา ปราชิโต โหตีติ อาห ‘‘อุปาทินฺเนนา’’ติอาทิ. เอตฺถ อุปาทินฺเนนาติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อุเปเตน กมฺมุนา อตฺตโน ผลภาเวเนว อาทินฺนํ คหิตนฺติ อุปาทินฺนํ, เอเตน อตฺตโน องฺคชาตสฺส, วตฺถุปุคฺคลานํ มคฺคสฺส จ ฆฏฺฏนฏฺานคตํ กายปฺปสาทํ ทสฺเสติ. อิมินาว องฺคชาตคตํ อนฏฺกายปฺปสาทํ จมฺมขิลํ, ปิฬกาทิ จ คเหตพฺพํ. ‘‘อุปาทินฺนกํ นาม กายินฺทฺริย’’นฺติ คณฺิปเท วุตฺตํ. ตพฺพิปริยาเยน ‘‘อนุปาทินฺนก’’นฺติ ตปฺปฏิจฺฉาทกํ โจฬาทิ วุตฺตํ. อุปาทินฺเนน อุปาทินฺเน, อนุปาทินฺเน วา ปาราชิกกฺเขตฺเต ฆฏฺฏิเต, อนุปาทินฺนเกน ¶ วา อุปาทินฺเน อนุปาทินฺเน วา ปาราชิกกฺเขตฺเต ¶ ฆฏฺฏิเตติ โยชนา. เอตฺถ จ กรณวจนนฺตานิ ปทานิ ‘‘องฺคชาเตนา’’ติ อิมสฺส วิเสสนานิ.
เอตฺตาวตา สนฺถตจตุกฺกวเสน อตฺตูปกฺกเม สติ ปาราชิกกฺเขตฺเต ปาราชิกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปรูปกฺกเมปิ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. เอตฺถาติ เอเตสุ จตูสุ วิกปฺเปสุ. ปาราชิกกฺเขตฺเต ปวิฏฺเ ตูติ เอตฺถ ตุ-สทฺเทน ปเวสนฏฺิตุทฺธารกฺขณตฺตยํ สมุจฺจิโนติ. ยํตํ-สทฺทานํ นิจฺจสมฺพนฺธตฺตา หิ ‘‘โส’’ติ ตํ-สทฺโทปาทาเน ‘‘โย’’ติ ยํ-สทฺโทปิ อชฺฌาหริตพฺโพ, สามตฺถิเยน สมฺปิณฺฑนตฺโถ อปิสทฺโท จ. อยเมตฺถ อตฺถโยชนา – ภิกฺขุปจฺจตฺถิเกหิ อาเนตฺวา ภิกฺขุโน องฺคชาเต อภินิสีทาปิตมนุสฺสิตฺถิอาทีนํ ตีสุ มคฺเคสุ อฺตรมคฺคสงฺขาตํ ปาราชิกกฺเขตฺตํ ปวิฏฺเ วา ตุ-สทฺเทน สมฺปิณฺฑิตปเวสนฏฺิตุทฺธารานมฺตรกฺขเณ วา สเจ โย สาทิยติ, สปฺปมุขาทิปฺปเวสนกาเล วิย อนุตฺตสิตฺวา กามราคปิปาสาภิภูโต ยทิ สาทิยติ, โสปิ ภิกฺขุ ปราชิโต โหตีติ โยชนา. ‘‘สเจ สาทิยตี’’ติ อิมินา สาสงฺกวจเนน น สาทิยติ, อนาปตฺตีติ สูจิตํ โหติ.
‘‘ปาราชิกกฺเขตฺเต’’ติ อิมินา พฺยวจฺฉินฺเน อฺสฺมึ าเน วีติกฺกมนฺตสฺส อิมสฺมึเยว วิกปฺเป สมฺภวนฺติโย อิตราปตฺติโย ทสฺเสตุมาห ‘‘เขตฺเต’’ติอาทิ. ‘‘เอตฺถา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธนียํ. ‘‘เขตฺเต’’ติ สามฺนิทฺเทเสปิ เหฏฺา ‘‘ปาราชิกกฺเขตฺเต’’ติ วิเสสิตตฺตา, อุปริถุลฺลจฺจยาทีนฺจ วิธียมานตฺตา อฺถานุปปตฺติลกฺขณาย สามตฺถิยา ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานํ เขตฺเตติ อยมตฺโถ ลพฺภติ. ‘‘กณฺณจฺฉิทฺทกฺขินาสาสู’’ติอาทินา นเยน วกฺขมาเนสุ ชีวมานกสรีรคตถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺเตสูติ วุตฺตํ โหติ.
อิเมสุ ¶ ทฺวีสุ เขตฺเตสุ ‘‘สนฺถตาทินา สนฺถตาทึ ปเวเสนฺตสฺส อุปาทินฺนาทีหิ อุปาทินฺนาทีนํ ฆฏฺฏเน อธิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ วตฺตุมสกฺกุเณยฺยตาย ปาราชิกกฺเขตฺเต วุตฺตสพฺพวิกปฺเป เอตฺถ โยเชนฺเตหิ เอวํ โยเชตพฺพํ – ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต สนฺถเต วา อสนฺถเต วา สนฺถเตน วา อสนฺถเตน วา องฺคชาเตน เสวนฺตสฺส อุปาทินฺเน วา อนุปาทินฺเน วา อุปาทินฺเนน, ตถา อนุปาทินฺเนน วา ฆฏฺฏิเต ถุลฺลจฺจยํ ตสฺส วินิทฺทิเสติ. เอวํ ทุกฺกฏกฺเขตฺเต สนฺถเต วา…เป… ฆฏฺฏิเต ทุกฺกฏฺจ ตสฺส วินิทฺทิเสติ โยเชตพฺพํ.
อิห ¶ สพฺพตฺถ ตีสุปิ เขตฺเตสุ อุปาทินฺน-สทฺเทน อนฏฺกายปฺปสาทํ องฺคชาตฺจ ตตฺถชาตจมฺมขิลปิฬกา จ คยฺหนฺติ, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ปน องฺคุลิอาทิอิตราวยวาปิ. ตีสุปิ เขตฺเตสุ อนุปาทินฺน-สทฺเทน องฺคชาตาทิปฏิจฺฉาทิตวตฺถาทโย จ คยฺหนฺติ, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ปน นิมิตฺเต นฏฺกายปฺปสาทจมฺมขิลปิฬกโรมาทีนิ. อิมานิ จ อนุปาทินฺนานิ. องฺคชาเตตโรปาทินฺนาวยเว จ ตีสุปิ เขตฺเตสุ ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.
๑๑. เอตฺตาวตา ชีวมานสรีเร สนฺถตาสนฺถตวเสน ปจฺเจกํ ติวิเธสุปิ ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺเตสุ สนฺถตาสนฺถตวเสเนว ทุวิเธน นิมิตฺเตน เสวนฺตสฺส ปโรปกฺกเม สติ สาทิยนฺตสฺส ลพฺภมานปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏาปตฺติโย ยถาสมฺภวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘มตสรีเร ปน ตถา ตถา เสวนฺตานํ โทโส นตฺถี’’ติ ปาปภิกฺขูนํ เลโสกาสปฏิพาหนตฺถํ ปาฬิยํ ทสฺสิเตสุ ยถาวุตฺเตสุ ตีสุ เขตฺเตสุ ลพฺภมานา ติสฺโส อาปตฺติโย ทสฺเสตุมาห ‘‘มเต’’ติอาทิ.
ตตฺถ ¶ ‘‘มเต’’ติ เอตสฺส ‘‘มนุสฺสิตฺถิอาทีนํ สรีเร’’ติ อชฺฌาหริตฺวา อตฺถโยชนา กาตพฺพา. อิมินา ‘‘อกฺขายิเต’’ติอาทินา ทสฺสิตานํ นิมิตฺตานํ นิสฺสยํ ทสฺสิตํ โหติ. ‘‘นิมิตฺตมตฺตํ เสเสตฺวา’’ติอาทินา นเยน วกฺขมานคาถายํ วิย สกลสรีเร ขาทิเตปิ นิมิตฺตสฺส วิชฺชมานาวิชฺชมานภาโวเยว อาปตฺติยาภาวาภาวสฺส ปมาณนฺติ ‘‘อกฺขายิเต’’ติ เอเตน ‘‘มเต’’ติ เอตํ อวิเสเสตฺวา ‘‘นิมิตฺเต’’ติ อชฺฌาหริตฺวา ตํ เตน วิเสสิตพฺพํ. อถ วา ‘‘นิมิตฺตมตฺต’’นฺติอาทินา วกฺขมานคาถาย ‘‘นิมิตฺเต’’ติ ปทํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ.
อกฺขายิเตติ สพฺพถา อกฺขายิเต ปาราชิกวตฺถุภูเต นิมิตฺเต. เยภุยฺยกฺขายิเตปิ จาติ กิฺจิ กิฺจิ ขาทิตฺวา พหุกาวสิฏฺเ นิมิตฺเต. ‘‘ยสฺส จตูสุ ภาเคสุ ติภาคมตฺตํ ขาทิตํ, ตํ นิมิตฺตํ เยภุยฺยกฺขายิตํ นามา’’ติ วทนฺติ. เมถุนนฺติ ราคปริยุฏฺาเนน สทิสภาวาปตฺติยา มิถุนานํ อิทํ เมถุนํ, มติตฺถิอาทีนํ ราคปริยุฏฺาเนน สทิสตฺตาภาเวปิ ตตฺถ วีติกฺกโม รุฬฺหิยา ‘‘เมถุน’’นฺติ วุจฺจติ.
ปาราชิโกติปราชิโต, ปราชยมาปนฺโนติ อตฺโถ. อยฺหิ ปาราชิก-สทฺโท สิกฺขาปทาปตฺติปุคฺคเลสุ วตฺตติ. ตตฺถ ‘‘อฏฺานเมตํ อานนฺท อนวกาโส, ยํ ตถาคโต วชฺชีนํ ¶ วา วชฺชิปุตฺตกานํ วา การณา สาวกานํ ปาราชิกํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ สมูหเนยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๓) เอวํ สิกฺขาปเท วตฺตมาโน เวทิตพฺโพ. ‘‘อาปตฺติ ตฺวํ ภิกฺขุ อาปนฺโน ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. ๖๗) อาปตฺติยา. ‘‘น มยํ ปาราชิกา, โย อวหโฏ, โส ปาราชิโก’’ติ (ปารา. ๑๕๕) เอวํ ปุคฺคเล. ‘‘ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสยฺยา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๓๘๔) ปน ธมฺเม วตฺตตีติ วทนฺติ. ยสฺมา ปน ¶ ตตฺถ ธมฺโมติ กตฺถจิ อาปตฺติ, กตฺถจิ สิกฺขาปทเมว อธิปฺเปตํ, ตสฺมา โส วิสุํ น วตฺตพฺโพ.
ตตฺถ สิกฺขาปทํ โย ตํ อติกฺกมติ ตํ ปราเชติ, ตสฺมา ‘‘ปาราชิก’’นฺติ วุจฺจติ. อาปตฺติ ปน โย นํ อชฺฌาปชฺชติ ตํ ปราเชติ, ตสฺมา ‘‘ปาราชิกา’’ติ วุจฺจติ. ปุคฺคโล ยสฺมา ปราชิโต ปราชยมาปนฺโน, ตสฺมา ‘‘ปาราชิโก’’ติ วุจฺจติ. สิกฺขาปทาปตฺตีสุ ปาราชิก-สทฺโท ปราเชตีติ ‘‘ปาราชิโก’’ติ กตฺตุสาธโน, ปุคฺคเล ปน ปราชียตีติ กมฺมสาธโนติ เวทิตพฺโพ. ‘‘นโร’’ติ อิมินา ปุพฺเพ วุตฺตภิกฺขุเยว อธิปฺเปโต. สามฺโชตนา วิเสเส อวติฏฺตีติ.
๑๒. เยภุยฺยกฺขายิเตติ จตูสุ โกฏฺาเสสุ เอกโกฏฺาสาวเสสํ กตฺวา ขาทิเต. อุปฑฺฒกฺขายิเตติ สมภาคาวเสสํ ขาทิเต. ถูโล อจฺจโย ถุลฺลจฺจโย, โสเยว อาปชฺชียตีติ อาปตฺตีติ ถุลฺลจฺจยาปตฺติ. ปาจิตฺติยาทโย สนฺธาเยตฺถ ถุลฺลจฺจยโวหาโร, น ปาราชิกสงฺฆาทิเสเสติ ทฏฺพฺพํ. เสเสติ อวเสเส อุปกจฺฉกาทีสุ. วุตฺตฺหิ อฏฺกถายํ ‘‘อวเสสสรีเร อุปกจฺฉกาทีสุ ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๙-๖๐). ทุฏฺุ กตนฺติ ทุกฺกฏํ, ทุกฺกฏ-สทฺโท นิยตนปุํสกตฺตา อิตฺถิลิงฺคสฺสาปิ อาปตฺติ-สทฺทสฺส สลิงฺเคน วิเสสนํ โหติ.
๑๓. นิมิตฺตมตฺตํ เสเสตฺวา ขายิเตปีติ เอตฺถ ติณฺณมฺตรํ นิมิตฺตํ เสเสตฺวา สกลสรีเร ขาทิเตปิ. ปิ-สทฺโท พฺยติเรเก, ปเคว อิตเรติ ทีเปติ. ตสฺมึ นิมิตฺเต อกฺขายิเต วา เยภุยฺยกฺขายิเต วาติ ทฺวิธา วุตฺเตสุ ตีสุ นิมิตฺเตสุ อฺตรสฺมึ นิมิตฺเต เมถุนํ เสวโตปิ ปราชโย ปาราชิกาปตฺติ โหตีติ อธิปฺปาโย ¶ . เสวโตปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท อเปกฺขายํ. ตสฺมา น เกวลํ เหฏฺา วุตฺตานเมวาติ อเปกฺขติ. สนฺถตาทโย วิกปฺปา ยถาวุตฺตนเยน เอตฺถาปิ โยเชตพฺพา.
๑๔. ‘‘อุทฺธุมาตาทิสมฺปตฺเต’’ติ ¶ เอตฺถ ‘‘ยทา ปน สรีรํ อุทฺธุมาตกํ โหติ กุถิตํ นีลมกฺขิกาสมากิณฺณํ กิมิกุลสมากุลํ นวหิ วณมุเขหิ ปคฺฆริตปุพฺพกุณปภาเวน อุปคนฺตุมฺปิ อสกฺกุเณยฺยํ, ตทา ปาราชิกวตฺถฺุจ ถุลฺลจฺจยวตฺถฺุจ ชหติ, ตาทิเส สรีเร ยตฺถ กตฺถจิ อุปกฺกมโต ทุกฺกฏเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๙-๖๐) อฏฺกถาวจนโต สพฺพตฺถาปิ จาติ อกฺขายิตาทิสพฺพวิกปฺโปปคตานิ ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺตานิ คหิตานีติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถาปิ วีติกฺกโม อนาปตฺติ น โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘ขายิตกฺขายิต’’นฺติอาทีสุ ขายิตกฺขายิตฺจ นาเมตํ สพฺพํ มตสรีรเกเยว เวทิตพฺพํ, น ชีวมาเนติ โยเชตพฺพํ.
๑๕. ชีวมาเน กถนฺติ อาห ‘‘ฉินฺทิตฺวา ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ วณสงฺเขปโตติ วณสงฺคหโต. ตสฺมินฺติ ยตฺถ ิตํ นิมิตฺตํ อุปฺปาฏิตํ, ตสฺมึ ปเทเส. เอตฺถ ทุติโย ปน-สทฺโท อิธ อทสฺสิตํ อฏฺกถายํ อาคตนเยน วิฺายมานํ อตฺถวิเสสํ โชเตติ. อฏฺกถายหิ ‘‘ยทิปิ นิมิตฺตํ สพฺพโส ขายิตํ, ฉวิจมฺมมฺปิ นตฺถิ, นิมิตฺตสณฺานํ ปฺายติ, ปเวสนํ ชายติ, ปาราชิกเมวา’’ติ เอวํ อชีวมาเน วุตฺตวินิจฺฉยานุสาเรน ชีวมาเนปิ ฉวิจมฺมมตฺตํ เจ สพฺพโส อุปฺปาฏิตํ, นิมิตฺตสณฺานํ ปฺายติ, ปเวสนกฺขมํ โหติ, ตตฺถ เสวนฺตสฺส ปาราชิกเมวาติ วิฺายมานมตฺถํ โชเตตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๖. ตโต ¶ นิมิตฺตโตติ สมฺพนฺโธ. ปติตายาติ ปติตายํ, อยเมว วา ปาโ. นิมิตฺตโตติ นิมิตฺตปฺปเทสโต ปติตายํ มํสเปสิยนฺติ สมฺพนฺโธ. ฉินฺทิตฺวา วา ตจฺเฉตฺวา วา ปติตายํ ตสฺสํ นิมิตฺตมํสเปสิยนฺติ อตฺโถ. เมถุนราเคน อุปกฺกมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วินิทฺทิเสติ โยชนา.
๑๗. ‘‘นขปิฏฺิปฺปมาเณปี’’ติอาทิคาถาย ‘‘ฉินฺทิตฺวา’’ติอาทิกา อฏฺกถา อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพา. สตีติ เอตฺถ ‘‘อวสิฏฺเ’’ติ ปาเสโส. ชีวมาเนติ เอตฺถ ‘‘สรีเร’’ติ ปาเสโส. ชีวมานสรีเร ปน ฉินฺทิตฺวา ตจฺเฉตฺวา นิมิตฺเต อุปฺปาฏิเต นขปิฏฺิปฺปมาเณปิ มํเส, นฺหารุมฺหิ วา อวสิฏฺเ สติ เมถุนํ ปฏิเสวนฺโต ปราชิโตติ โยชนา.
๑๘. ‘‘กณฺณจฺฉิทฺทกฺขี’’ติ คาถาย ‘‘ชีวมาเน’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, ‘‘สรีเร’’ติ ¶ ปาเสโส. ‘‘อสฺสโคมหิสาทีน’’นฺติอาทินา อสฺสาทีนํ วกฺขมานตฺตา ปาริเสสโต ‘‘มนุสฺสาน’’นฺติ ลพฺภติ. มนุสฺสานํ ชีวมานสรีเร กณฺณ…เป… วเณสุ วาติ โยชนา. วตฺถิโกเสติ มุตฺตปถพฺภนฺตเร. วเณสุ วาติ สตฺถกาทีหิ กตวเณสุ. องฺคชาตนฺติ ติลมตฺตมฺปิ องฺคชาเตกเทสํ. ราคาติ เมถุนราเคน.
๑๙. อวเสสสรีรสฺมินฺติ กณฺณจฺฉิทฺทาทิยถาวุตฺตสรีราวยววชฺชิตสรีรปฺปเทเส. เตนาห ‘‘อุปกจฺฉูรุกาทิสู’’ติ อุปกจฺฉํ นาม พาหุมูลนฺตรํ. อูรุกาทิสูติ อูรุเวมชฺฌาทีสุ. อาทิ-สทฺเทน วุตฺตาวเสสํ สรีรปฺปเทสํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘องฺคชาต’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘ปเวเสตฺวา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, องฺคชาตํ ติลพีชมตฺตํ ปเวเสตฺวาติ ¶ วุตฺตํ โหติ. วสา เมถุนราคสฺส เสวมานสฺสาติ เมถุนราเคน วีติกฺกมนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘สนฺถเตนา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาโร เอตฺถาปิ โยเชตพฺโพ.
๒๐. อสฺสโคมหิสาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน โคกณฺณควชาทโย สงฺคหิตา. อสฺสาทโย ปากฏาเยว. ‘‘มตาน’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ชีวมานาน’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. เสวนฺติ ‘‘วสา เมถุนราคสฺสา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา เมถุนราควเสน ติลพีชมตฺตมฺปิ องฺคชาตปฺปเทสํ ปเวเสนฺโต ถุลฺลจฺจยํ ผุเสติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘โอฏฺคทฺรภทนฺตีนํ, อสฺสโคมหิสาทิน’’นฺติ ปาเน ภวิตพฺพํ. เอวฺหิ สติ อฏฺกถาวสาเน นิทฺทิฏฺเน ปการตฺถวาจินา อาทิ-สทฺเทน ถุลฺลจฺจยวีติกฺกมารหนาสาวตฺถิโกสวนฺโต อวุตฺตา สพฺเพปิ สตฺตา คยฺหนฺติ. ‘‘อสฺสโคมหิสาทีน’’นฺติ ปมปาทาวสาเน นิทฺทิฏฺเน อาทิ-สทฺเทน โอฏฺคทฺรภทนฺตีนมฺปิ สงฺคโห โหตีติ เตสํ ปุนวจนํ นิรตฺถกํ สิยาติ.
๒๑. ตถา เสวมานสฺส ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. สพฺพติรจฺฉานนฺติ ติริยํ อฺจนฺติ วฑฺฒนฺตีติ ติรจฺฉา, สพฺเพ จ เต ติรจฺฉาจาติ สพฺพติรจฺฉา, เตสํ สพฺพติรจฺฉานํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วสา เมถุนราคสฺสา’’ติอาทีนํ ปรามฏฺตฺตา สพฺพติรจฺฉานานํ อกฺขิอาทีสุ ติลพีชมตฺตมฺปิ องฺคชาตปฺปเทสํ เมถุนราเคน ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถาปิ สนฺถตาทิวิกปฺเป นิทฺโทสภาโว น สกฺกา วตฺตุนฺติ ตมฺปิ โยเชตพฺพํ.
๒๒. เอวํ ติรจฺฉานานํ ชีวมานกสรีเร ลพฺภมานา อาปตฺติโย ทสฺเสตฺวา เตสํเยว มตสรีเรปิ ¶ สมฺภวนกอาปตฺติโย ทสฺเสตุมาห ‘‘เตส’’นฺติอาทิ. ‘‘เตส’’นฺติ ¶ อิมินา มนุสฺสติรจฺฉานคตานํ คหณนฺติ วทนฺติ. มนุสฺสานํ มตามตสรีเร ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺเตสุ ติสฺสนฺนํ อาปตฺตีนํ ทสฺสิตตฺตา, ปุน คหเณ ปโยชนาภาวา เต วชฺเชตฺวา อนุวตฺตมานสพฺพติรจฺฉานนฺติ อิมินา โยเชตพฺพํ, เตสํ สพฺพติรจฺฉานคตานนฺติ อตฺโถ. อลฺลสรีเรสูติ อุทฺธุมาตกาทิภาวมสมฺปตฺเตสุ อลฺลมตสรีเรสุ ติวิเธ เขตฺตสฺมึ อสนฺถเต, สนฺถเต วา สติ เมถุนราคสฺส วสา เสวโต ติวิธาปิ อาปตฺติ สิยาติ อนุวตฺตมานปเทหิ สห โยชนา.
ติวิเธ เขตฺตสฺมินฺติ มตมนุสฺสสรีเร วุตฺตนเยน อกฺขายิตเยภุยฺยกฺขายิตเภเท มคฺคตฺตยสงฺขาเต ปาราชิกกฺเขตฺเต จ เยภุยฺยกฺขายิตอุปฑฺฒกฺขายิตเภเท ตสฺมึเยว มคฺคตฺตยสงฺขาเต จ, อกฺขายิตเยภุยฺยกฺขายิตเภเท กณฺณจฺฉิทฺทกฺขินาสาวตฺถิโกสวณสงฺขาเต จ ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต อุปฑฺฒกฺขายิตเยภุยฺยกฺขายิตเภเท ตสฺมึเยว กณฺณจฺฉิทฺทกฺขินาสาวตฺถิโกสวณสงฺขาเต จ, อกฺขายิตเยภุยฺยกฺขายิตอุปฑฺฒกฺขายิต เยภุยฺยกฺขายิตเภเท อวเสสสรีรสงฺขาเต ทุกฺกฏกฺเขตฺเต จาติ ติวิเธปิ เขตฺเต. สตีติ วิชฺชมาเน. สนฺถเต วา อสนฺถเต วา เมถุนราคสฺส วสา เสวโต ยถารหํ ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏสงฺขาตา ติวิธา อาปตฺติ ภเวยฺยาติ อตฺโถ.
เอเตสเมว จ อุทฺธุมาตาทิภาวํ สมฺปตฺเต สรีเร สนฺถตาทิวุตฺตวิกปฺปยุตฺเตสุ ตีสุ มคฺเคสุ ยตฺถ กตฺถจิ เมถุนราเคน เสวโต อาปชฺชิตพฺพทุกฺกฏฺจ อุทฺธุมาตาทิสมฺปตฺเต สพฺพตฺถาปิ จ ทุกฺกฏนฺติ มนุสฺสสรีเร วุตฺตนเยน วิฺาตุํ สกฺกาติ อิมสฺมึ ติรจฺฉานคตสรีเร วิเสสมตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตสํ อลฺลสรีเรสู’’ติอาทีนํ วุตฺตตฺตา ทุกฺกฏํ ปุพฺเพ ¶ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กุถิตกุณเป ปน ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว สพฺพตฺถ ทุกฺกฏ’’นฺติ.
๒๓. พหิ ฉุปนฺตสฺสาติ โยชนา. นิมิตฺตํ มุตฺตกรณํ. ‘‘อิตฺถิยา’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ จตุตฺถคาถาย ‘‘ติรจฺฉานคติตฺถิยา’’ติ วกฺขมานตฺตา ปาริเสสโต อิมินา มนุสฺสามนุสฺสิตฺถีนเมว คหณํ, อิมินา อมนุสฺสิตฺถิยาปิ คหณสฺส. อิมิสฺสานนฺตรคาถาย อิโต ‘‘อิตฺถิยา’’ติ อนุวตฺติเต ตตฺราปิ อมนุสฺสิตฺถิยาปิ คหณํ สิยาติ ตมฺปิ วชฺเชตฺวา กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสสฺส วตฺถุภูตํ มนุสฺสิตฺถิเมว ทสฺเสตุํ ตตฺถ วุตฺตํ ‘‘อิตฺถิยา’’ติอธิกวจนเมว าปกนฺติ เวทิตพฺพํ.
มหาอฏฺกถายํ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๙-๖๐) ‘‘อิตฺถินิมิตฺตํ เมถุนราเคน มุเขน ฉุปติ, ถุลฺลจฺจย’’นฺติ สามฺเน วุตฺตตฺตา จ ธมฺมกฺขนฺธเก ‘‘น จ ภิกฺขเว รตฺตจิตฺเตน องฺคชาตํ ฉุปิตพฺพํ, โย ฉุเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๒) สามฺวจนโต จ อุทฺธุมาตาทิภาวมสมฺปตฺตาย อลฺลมตมนุสฺสิตฺถิยา จ อกฺขายิเต วา เยภุยฺยกฺขายิเต วา นิมิตฺเต สติ ปาราชิกวตฺถุภาวโต ตตฺถาปิ พหิ ฉุปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ อยมตฺโถปิ มตามตวิเสสํ อกตฺวา ‘‘อิตฺถิยา’’ติ อิมินาว สามฺวจเนน คเหตพฺโพ.
๒๔. นิมิตฺเตนาติ อตฺตโน องฺคชาเตน. มุเขนาติ ปกติมุเขน. นิมิตฺตํ อิตฺถิยาติ ชีวมานกมนุสฺสิตฺถิยา องฺคชาตํ. ยสฺมา ปน กายสํสคฺคสิกฺขาปทวินีตวตฺถูสุ มติตฺถิวตฺถุมฺหิ มติตฺถิยา สรีเร กายสํสคฺคราเคน โย ฉุปติ, ตสฺส ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาปตฺติ ¶ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๘๑) วุตฺตตฺตา มตมนุสฺสิตฺถี น คเหตพฺพา. ตเถว ยกฺขิวตฺถุมฺหิ กายสํสคฺคราเคน ยกฺขินิยา สรีรํ เยน ผุฏฺํ, ตสฺส ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา, อิเธว อุปริ ทุติยสงฺฆาทิเสเส ‘‘ปณฺฑเก ยกฺขิเปตีสุ, ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา’’ติ (วิ. วิ. ๓๔๑) วกฺขมานตฺตา จ อมนุสฺสิตฺถีปิ น คเหตพฺพา. เตน วุตฺตํ ‘‘ชีวมานกมนุสฺสิตฺถิยา องฺคชาต’’นฺติ. อนฺโต ปเวเสตุกามตาย สติ กายสํสคฺคราคาสมฺภวโต ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติ อิมินา จ พหิ ฉุปิตุกามตา วิฺายตีติ ‘‘พหี’’ติ อนุวตฺตนํ วินาปิ ตทตฺโถ ลพฺภติ. ครุกนฺติ สงฺฆาทิเสโส.
๒๕. ตเถว พหิ ฉุปนฺตสฺสาติ โยชนา, อนฺโต อปฺปเวเสตฺวา พหิเยว ฉุปนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. อุภยราเคนาติ กายสํสคฺคราเคน, เมถุนราเคน วา. ปุริสสฺสาปีติ ชีวมานกปุริสสฺสปิ. ปิ-สทฺโท น เกวลํ วุตฺตนเยน อิตฺถิยา นิมิตฺตํ ผุสนฺตสฺเสว อาปตฺติ, อถ โข ปุริสสฺสาปีติ ทีเปติ. ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ มุตฺตกรณเมว วุจฺจติ. ‘‘ชีวมานกปุริสสฺสา’’ติ อยํ วิเสโส กุโต ลพฺภตีติ เจ? ‘‘กายสํสคฺคราเคน วา เมถุนราเคน วา ชีวมานกปุริสสฺส วตฺถิโกสํ อปฺปเวเสนฺโต นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฉุปติ, ทุกฺกฏ’’นฺติ อิโต อฏฺกถาวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๙-๖๐) ลพฺภติ.
๒๖. อจิรวติตรนฺตานํ คุนฺนํ ปิฏฺึ อภิรุหนฺตา ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เมถุนราเคน องฺคชาเตน ¶ องฺคชาตํ ฉุปึสูติ อิมสฺมึ วตฺถุมฺหิ ‘‘น จ ภิกฺขเว รตฺตจิตฺเตน องฺคชาตํ ฉุปิตพฺพํ, โย ฉุเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๒) อาคตนยํ ทสฺเสตุมาห ¶ ‘‘นิมิตฺเตนา’’ติอาทิ. เอตฺถาปิ ‘‘ตถา’’ติ อิมสฺสานุวตฺตนโต ‘‘พหี’’ติ ลพฺภติ. อตฺตโน นิมิตฺเตน ติรจฺฉานคติตฺถิยา นิมิตฺตํ เมถุนราคโต พหิ ฉุปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา.
๒๗. ‘‘เมถุนราคโต’’ติ อิมินา พฺยวจฺฉินฺนมตฺถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติอาทิ. เอตฺถาปิ ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติวจนสามตฺถิยา พหิ ฉุปนํ เวทิตพฺพํ. นิมิตฺตสฺสาติ ปสฺสาวมคฺคสฺส. ฉุปเนติ ผุสเน.
๒๘. ตมาวฏฺฏกเตติ เอตฺถ ‘‘ตํ อาวฏฺฏกเต’’ติ ปทจฺเฉโท. อาวฏฺฏกเตติ วิวเฏ. ‘‘มุเข’’ติ สมฺพนฺธิสทฺทตฺตา, อฺสฺส สมฺพนฺธิโน จ อนิทฺทิฏฺตฺตา สุตานุโลมิกานํ สุตสมฺพนฺธสฺเสว พลวตฺตา จ ปุริมานนฺตรคาถาย ‘‘ติรจฺฉานคติตฺถิยา มุเข’’ติ กิฺจาปิ สุตสฺเสว สมฺพนฺโธ วิฺายติ, ตถาปิ อิมาย คาถาย วินีตวตฺถุมฺหิ (ปารา. ๗๓) ‘‘อฺตโร ภิกฺขุ สิวถิกํ คนฺตฺวา ฉินฺนสีสํ ปสฺสิตฺวา วฏฺฏกเต มุเข อจฺฉุปนฺตํ องฺคชาตํ ปเวเสสี’’ติ ทสฺสิตฉินฺนสีสวตฺถุสฺส สงฺคหิตตฺตา มนุสฺสมุขเมว คเหตพฺพํ สิยา. ติรจฺฉานคตานํ, ปน อมนุสฺสานฺจ มุเข ตถา ปเวโส นิทฺโทโสติ วตฺตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา ตตฺถาปิ อิทเมว อุปลกฺขณนฺติ ปาราชิกปฺปโหนกานํ สพฺเพสํ มุเขติ ทฏฺพฺพํ. ตํ องฺคชาตํ. ตตฺถ อาวฏฺฏกเต ปาราชิกปฺปโหนกานํ มุเข อากาสคตํ กตฺวา กตฺถจิ อผุสาเปตฺวา นีหรนฺตสฺส อุกฺขิปนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อถ วา ติรจฺฉานานํ อาวฏฺฏกเต มุเขติ โยเชตฺวา ตทฺสงฺคโห อุปลกฺขณวเสน กาตพฺโพ.
๒๙. ตถาติ ¶ ‘‘อากาสคตํ กตฺวา’’ติ ยถาวุตฺตปฺปการํ ปรามสติ. จตูหิ ปสฺเสหีติ สหตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘ปสฺเสหี’’ติ สมฺพนฺธิสทฺทตฺตา ‘‘นิมิตฺตสฺสา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ‘‘อิตฺถิยา’’ติ สามฺสทฺทตฺตา ‘‘สพฺพสฺสา’’ติ ปาเสโส. ชาติวาจกตฺตา เอกวจนํ. ‘‘จตูหิ ปสฺเสหิ, เหฏฺิมตฺตล’’นฺติ จ อิเมสํ สมฺพนฺธิปทสฺส อนิทฺเทเสปิ เมถุนปาราชิกาธิการตฺตา จ สนฺถตจตุกฺกสฺส อฏฺกถาวสาเน อิมาย คาถาย สงฺคหิตสฺส อิมสฺส วินิจฺฉยสฺส ปริโยสาเน ‘‘ยถา จ อิตฺถินิมิตฺเต วุตฺตํ, เอวํ สพฺพตฺถ ลกฺขณํ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๖๑-๖๒) นิมิตฺตวินิจฺฉยสฺสาติเทสสฺส ¶ กตตฺตา จ สามตฺถิเยน ‘‘นิมิตฺตสฺสา’’ติ ลพฺภติ. อิทเมว ‘‘ปเวเสตฺวา’’ติ เอตสฺส อาธารวเสน คเหตพฺพํ. ‘‘องฺคชาต’’นฺติ อนุวตฺตติ.
เอวํ วากฺยํ ปูเรตฺวา ‘‘ยถา อาวฏฺฏกเต มุเข องฺคชาตํ ปเวเสตฺวา ตมากาสคตํ กตฺวา นีหรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ตถา สพฺพสฺสา อิตฺถิยา นิมิตฺเต ปสฺสาวมคฺคสงฺขาเต องฺคชาตํ ปเวเสตฺวา ตสฺส จตูหิ ปสฺเสหิ สห เหฏฺิมตฺตลํ จตฺตาโร ปสฺเส, เหฏฺิมตฺตลฺจ อจฺฉุปนฺตํ อากาสคตํ กตฺวา นีหรนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ โยเชตฺวา อตฺโถ วตฺตพฺโพ.
๓๐. อุปฺปาฏิโตฏฺมํเสสูติ อุปฺปาฏิตํ โอฏฺมํสํ เยสนฺติ วิคฺคโห. เตสุ ทนฺเตสุ. พหินิกฺขนฺตเกสุ วาติ ปกติยา โอฏฺมํสโต พหิ นิกฺขมิตฺวา ิเตสุ วา ทนฺเตสุ. วายมนฺตสฺสาติ องฺคชาเตน ฉุปนฺตสฺส.
๓๑. อฏฺิสงฺฆฏฺฏนํ กตฺวาติ นิมิตฺตมํสสนฺนิสฺสยานิ อฏฺีนิ สงฺฆฏฺเฏตฺวา. มคฺเคติ อฏฺิสงฺฆาตมเย มคฺเค. ทุวิธราคโตติ ¶ เมถุนราเคน วา กายสํสคฺคราเคน วา. วายมนฺตสฺสาติ องฺคชาตํ ปเวเสตฺวา จาเรนฺตสฺส.
๓๒. อาลิงฺคนฺตสฺสาติ ปริสฺสชนฺตสฺส. หตฺถคาหาทีสุ หตฺโถ นาม กปฺปรโต ปฏฺาย ยาว อคฺคนขา. หตฺถสฺส, ตปฺปฏิพนฺธสฺส จ คหณํ หตฺถคฺคาโห. อวเสสสรีรสฺส, ตปฺปฏิพนฺธสฺส จ ปรามสนํ ปรามาโส. นิสฺสนฺเทเห ปน ‘‘มาตุคามสฺส สรีรสฺส วา ตปฺปฏิพนฺธสฺส วา หตฺเถน คหณํ หตฺถคฺคาโห’’ติ วุตฺตํ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ. ตสฺมา ยถาวุตฺตนยสฺเสว อฏฺกถาสุ อาคตตฺตา โสเยว สารโต ปจฺเจตพฺโพ. ปรามเสปิ ‘‘หตฺเถน สรีรสฺส, ตปฺปฏิพนฺธสฺส จ ปรามสน’’นฺติ ยํ ตตฺถ วุตฺตํ, ตมฺปิ น ยุชฺชติ. อวเสสสรีราวยเวนาปิ ปรามสโต ทุกฺกฏเมว โหตีติ. จุมฺพนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน เวณิคฺคาหาทึ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อยํ นโย’’ติ เอเตน ‘‘อิตฺถิยา เมถุนราเคน หตฺถคฺคาหาทีสุ ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมมตฺถํ อติทิสติ.
๓๓. มนุสฺสามนุสฺเสหิ อฺเสุ ติรจฺฉานคเตสุ เหฏฺิมปริจฺเฉเทน เมถุนธมฺมปาราชิกวตฺถุภูเต ¶ สตฺเต ทสฺเสตุมาห ‘‘อปเท’’ติอาทิ. ‘‘อปเท, ทฺวิปเท, จตุปฺปเท’’ติ อิเมหิ วิเสสเนหิ วิเสสิตพฺพํ ‘‘สตฺตนิกาเย’’ติ อิทํ วตฺตพฺพํ. อปเท สตฺตนิกาเย. อหโยติ ถลจเรสุ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต หตฺถิคิลนเก อชคเร อุปาทาย เหฏฺิมปริจฺเฉเทน นาคา จ. มจฺฉาติ ชลเชสุ อุปริมโกฏิยา ปฺจสตโยชนิกานิ ติมิรปิงฺคลาทิมจฺเฉ อุปาทาย เหฏฺิมนฺตโต ปาีนปาวุสาทโย มจฺฉา จ. ทฺวิปเท สตฺตนิกาเย. กโปตาติ อุปริมโกฏิยา ครุเฬ อุปาทาย เหฏฺิมนฺตโต กโปตากโปตปกฺขี จ. ปาราวตาติ เกจิ. จตุปฺปเท สตฺตนิกาเย. โคธาติ อุปริมโกฏิยา หตฺถึ ¶ อุปาทาย เหฏฺิมนฺตโต โคธา จาติ อิเม สตฺตา. เหฏฺาติ เหฏฺิมปริจฺเฉทโต. ปาราชิกสฺสวตฺถูติ เมถุนธมฺมปาราชิกสฺส วตฺถูนีติ ปาเสโส.
๓๔. เสเวตุกามตา เมถุนเสวาย ตณฺหา, ตาย เมถุนราคสงฺขาตาย สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ เสเวตุกามตาจิตฺตํ. มคฺเคติ วจฺจมคฺคาทีนํ อฺตเร มคฺเค. มคฺคสฺส อตฺตโน มุตฺตกรณสฺส ปเวสนํ. ปพฺพชฺชาย, ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส วา อนฺเต วินาเส ภโวติ อนฺติโม, ปาราชิกาปนฺโน ปุคฺคโล, ตสฺส วตฺถุ อนฺติมภาวสฺส การณตฺตา ปาราชิกาปตฺติ อนฺติมวตฺถูติ วุจฺจติ, ตเทว ปมํ จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อาทิมฺหิ เทสิตตฺตา ปมนฺติมวตฺถุ, ตสฺส ปมนฺติมวตฺถุโน, ปมปาราชิกสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
๓๕. สามนฺตา อาปตฺติสมีเป ภวํ สามนฺตํ, ปาราชิกาปตฺติยา สมีเป ปุพฺพภาเค ภวนฺติ อตฺโถ. เสสานํ ปน ติณฺณมฺปีติ อวเสสานํ อทินฺนาทานาทีนํ ติณฺณํ ปาราชิกธมฺมานํ. ถุลฺลจฺจยํ สามนฺตมิติ อุทีริตนฺติ สมฺพนฺโธ. กถมุทีริตํ? ‘‘ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๙๔) ทุติเย, ‘‘มนุสฺสํ อุทฺทิสฺส โอปาตํ ขณติ, ปติตฺวา ทุกฺขเวทนํ อุปฺปาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ, ตติเย, ‘‘ปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส, อปฺปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๑๕) จตุตฺเถ สมุทีริตํ.
เอตฺถ จ จตุตฺถปาราชิกสฺส ถุลฺลจฺจยาปตฺติยา สามนฺตาปตฺติภาโว ยสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ สมุลฺลปติ, โส ยาว น ปฏิวิชานาติ, ตาว สมุลฺลปนปจฺจยา ถุลฺลจฺจยาปตฺติสมฺภาเว, สมุลฺลปิเต ตสฺมึ สมุลฺลปิตมตฺเถ ปฏิวิชานนฺเต ปาราชิกาปตฺติสมฺภาเว จ ยุชฺชติ. โส ¶ จ ‘‘อปฺปฏิวิชานนฺตสฺส วุตฺเต ถุลฺลจฺจย’’นฺติ อิมินาว สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺพํ.
๓๖. อชานนฺตสฺส ¶ วาตูปตฺถทฺธํ องฺคชาตํ ทิสฺวา อตฺตโน รุจิยา วีติกฺกมํ กตฺวา มาตุคาเมสุ คจฺฉนฺเตสุ อชานมานสฺส, มหาวเน ทิวา นิทฺทุปคตภิกฺขุโน วิย ปเรหิ กิริยมานํ อชานนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ตเถวาติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตีติ าตพฺพ’’นฺติ อิทมากฑฺฒติ. อสฺสาทิยนฺตสฺสาติ ภิกฺขุปจฺจตฺถิเกสุ อภิภวิตฺวา วีติกฺกมํ กโรนฺเตสุ จ การาเปนฺเตสุ จ, สปฺปมุขํ ปวิฏฺกาเล วิย อุตฺตสิตฺวา อนธิวาเสนฺตสฺส จ, มหาวเน ทิวาวิหาโรปคตภิกฺขุโน วิย ปโรปกฺกมํ ตฺวาปิ กาเย อาทิตฺตอคฺคินา วิย อุตฺตสิตฺวา อนธิวาเสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อชานนฺตสฺสา’’ติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท โยเชตพฺโพ. พุทฺธสาสเน ขีรสาครสลิลนิมฺมเล สพฺพปมํ ปาตุภูตตฺตา อาทิ จ ตํ วีติกฺกมสงฺขาตํ กมฺมฺจาติ อาทิกมฺมํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ อาทิกมฺมี, เอตฺถ สุทินฺโน ภิกฺขุ, ตสฺส อาทิกมฺมิโนติ คเหตพฺโพ. อุปริปิ อิเมสํ ปทานํ อาคตาคตฏฺาเน อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิธ จ อุปริ สพฺพสิกฺขาปเทสุ จ นิทานาทิวเสน สตฺตรสวิโธ สาธารณวินิจฺฉโย ปกิณฺณเก สงฺเขปโต, อุตฺตเร วิตฺถารโต จ อาวิ ภวิสฺสติ. ตสฺมา เอตฺถ น ทสฺสิโตติ เวทิตพฺพํ.
๓๗-๓๘. วินเยติ วินยปิฏเก. อนยูปรเมติ เนติ ปาเปติ สีลสมฺปทํ สมาธิสมฺปทํ ปฺาสมฺปทฺจาติ นโย, กายวจีทฺวาเรหิ อวีติกฺกมสงฺขาโต สํวโร, ตปฺปฏิปกฺโข อสํวโร อนโย นาม, ตสฺส อุปรโม นิวตฺติ เอตฺถาติ อนยูปรโม, วินโย, ตตฺถ อนยูปรเม วินเย.
ตโต ¶ เอว ปรเม อุกฺกฏฺเ. อนยสฺส วา อุปรเม นิวตฺตเน ปรเม อุกฺกฏฺเติ คเหตพฺพํ. ปรา อุตฺตมา มา สาสนสิรี เอตฺถาติ ปรโม, วินโยติ เอวมฺปิ คเหตพฺพํ. ‘‘วินโย นาม สาสนสฺส อายู’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.มหาสงฺคีติกถา; เถรคา. อฏฺ. ๑.๒๕๑) วจนโต อุตฺตมสาสนสมฺปตฺติยุตฺเตติ อตฺโถ.
สุชนสฺสาติ โสภโณ ชโน สุชโน, สิกฺขากาโม อธิสีลสิกฺขาย โสภมาโน ปิยสีโล กุลปุตฺโต, ตสฺส นยเน นยนูปเม วินเยติ สมฺพนฺโธ. อนยูปรมตฺตา, ปรมตฺตา จ สุชนสฺส กุลปุตฺตสฺส นยเน นยนูปเม. สุขานยเนติ โลกิยโลกุตฺตรเภทํ สุขํ อาเนตีติ สุขานยนํ, ตสฺมึ. อิทฺจ ‘‘นยเน’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ.
เอตํ ¶ วิเสสนํ กิมตฺถนฺติ เจ? อุปมาภาเวน คหิตปกตินยนโต อิธ สมฺภวนฺตํ วิเสสํ ทสฺเสตุนฺติ เวทิตพฺพํ. กตโร โส วิเสโสติ เจ? ปกตินยนํ ราคโทสาทิกิเลสูปนิสฺสโย หุตฺวา ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกทุกฺขสฺส จ ปจฺจโย โหติ. อิทํ ปน วินยนยนํ อิมสฺส กุลปุตฺตสฺส เอวํ อหุตฺวา เอกํเสน โมกฺขาวหนสุขสฺเสว ปจฺจโย โหตีติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ. ยถา วินยมวิราเธตฺวา ปฏิปชฺชเนน สิชฺฌนกสีลสํวรมูลกอวิปฺปฏิสาราทิอนุปาทิเสสปรินิพฺพานาวสา- นผลสมฺปตฺติวเสน อุปฺปชฺชนกโลกิยโลกุตฺตรสุขาวหเน วินเยติ วุตฺตํ โหติ.
ปธานรโตติ เอตฺถ ‘‘อปี’’ติ ปาเสโส. ปธาเน วินยาภิโยเค รโตปิ, วินเย อชฺฌายนสวนจินฺตนาทิวเสน วายมนฺโตปีติ อตฺโถ. อถ วา ‘‘วิราโค เสฏฺโ ธมฺมาน’’นฺติ (ธ. ป. ๒๗๓; เนตฺติ. ๑๗๐; กถา. ๘๗๒) วจนโต ปธานํ นิพฺพานํ, ตสฺมึ รโตติ อตฺโถ ¶ . สารมเตติ ‘‘สาร’’นฺติ อธิมเต. อถ วา สารํ อเผคฺคุมตํ มหาวิหารวาสีนํ อาจริยมตํ เอตฺถาติ ‘‘สารมโต’’ติ วินยวินิจฺฉโย วุตฺโต, ตสฺมึ. อิธาติ อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย. รโตติ อจฺจนฺตาภิรโต. ‘‘น รโต’’ติ เอตฺถ น-การํ ‘‘รมเต’’ติ โอสานปเทน โยเชตฺวา โย ปน น รมเตติ สมฺพนฺโธ.
เถรนวมชฺฌิมภิกฺขุภิกฺขุนีนํ อนฺตเร โย ปน ปุคฺคโล นิจฺจปริวตฺตนสวนานุสฺสรณจินฺตนวเสน น รมเต น กีฬติ, โส ปุคฺคโล วินเย ปธานรโตปิ วินยปิฏเก อชฺฌยนสวนาทิวเสน ยุตฺตปยุตฺโตปิ ปฏุ โหติ กึ, น โหเตวาติ ทสฺเสติ. วินยปิฏเก ปาฏวมากงฺขนฺเตหิ ปมํ ตาเวตฺถ สกฺกจฺจํ อภิโยโค กาตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
อิมเมวตฺถํ อานิสํสปารํปริยปโยชเนน สห ทสฺเสตุมาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ. อิมนฺติ วุจฺจมานํ วินยวินิจฺฉยํ, ‘‘อเวที’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘โย’’ติ ปาเสโส. โย กุลปุตฺโต สติสมฺปชฺสทฺธาสมฺปนฺโน อิมํ วินยวินิจฺฉยํ สมฺมา อเวทิ อฺาสิ. กึ ภูตนฺติ อาห ‘‘หิตวิภาวน’’นฺติ. โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺติยา มูลสาธนตฺตา สีลมิธ หิตํ นาม, ตํ วิภาเวติ ปกาเสตีติ หิตวิภาวโนติ วิคฺคโห. ‘‘สีเล ปติฏฺาย…เป… วิชฏเย ชฏ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒; มิ. ป. ๒.๑.๙) วุตฺตตฺตา สพฺพกิเลสชฏาวิชฏนโลกุตฺตราณสฺส ปทฏฺานโสปจารสาภิฺารูปารูปอฏฺสมาธีนํ ปทฏฺานตาย สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณสมฺปทานํ ¶ มูลภูเตสุ จตุปาริสุทฺธิสีเลสุ ปธานํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ, ตปฺปกาสกตฺตา อยํ วินยวินิจฺฉโย ‘‘หิตวิภาวโน’’ติ วุตฺโต.
ภาวนนฺติ ¶ ภาวียติ ปุนปฺปุนํ เจตสิ นิเวสียตีติ ภาวโน, ภาวนีโยติ วุตฺตํ โหติ. หิตวิภาวกตฺตาเยว หิตตฺถีหิ ปุนปฺปุนํ จิตฺเต วาเสตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ, ตํ เอวํวิธํ วินยวินิจฺฉยํ. สุรสมฺภวนฺติ รสียติ อสฺสาทียตีติ รโส, สทฺทรโส อตฺถรโส กรุณาทิรโส วิมุตฺติรโส จ, โสภโณ รโส เอตสฺสาติ สุรโส, วินยวินิจฺฉโย, ตํ สุรสํ. ภวํ ภวนฺตํ, สนฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ, สุรสํ สมานํ, สุรสํ ภูตนฺติ อตฺโถ. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘สิเลโส ปสาโท สมตา มธุรตา สุขุมาลตา อตฺถพฺยตฺติ อุทารตา โอโช กนฺติ สมาธี’’ติ เอวํ วุตฺเตหิ กวิชเนหิ อสฺสาเทตพฺพสิเลสาทิทสวิธสทฺทชีวิตคุณสงฺขาตสทฺทรสสมฺปตฺตีหิ จ สภาวาขฺยานํ อุปมา รูปกํ ทีปกํ อาวุตฺตีติ เอวมาทิกฺกมนิทฺทิฏฺปฺจตึสอตฺถาลงฺกาเรสุ อนุรูปสภาวาขฺยานาทิปฺปธานอตฺถาลงฺการสงฺขาตอตฺถรสสมฺปตฺตีหิ จ ยถาสมฺภวํ ปกาสิตพฺพกรุณารสอพฺภุตรสสนฺตรสาทีหิ จ ยุตฺตตฺตา สุรสํ อิมํ วินยวินิจฺฉยนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อถ วา อิมินา ปกรเณน ปธานโต วิธียมานปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส เอกนฺเตน สมาธิสํวตฺตนิกตฺตา สมาธิสฺส จ ปฺาย ปทฏฺานตฺตา ปฺาย จ นิพฺพานปาปนโต มูลการณํ หุตฺวา กเมน นิพฺพานามตผลรสสมฺปทายกํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ ปรมสฺสาทนียรูเปน ธิติวิมุตฺติรเสน สุรสภูตนฺติ วุตฺตํ โหตีติ จ เวทิตพฺพํ. สมฺภวนฺติ เอตฺถ สํ วุจฺจติ สุขํ กายิกํ เจตสิกฺจ, ตํ ภวติ เอตสฺมาติ สมฺภโว, วินยวินิจฺฉโย, ตํ, กายจิตฺตสุขานํ มูลการณภูตํ, วุตฺตนเยน สุรสตฺตา จ ยถาวุตฺตรสสมฺปทสารมหุสฺสเวน สมฺภูตมานสิกสุขสฺส, ตํสมุฏฺานรูปนิสฺสยกายิกสุขสฺส จ ปภวภูตนฺติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา ¶ อิมสฺส วินยวินิจฺฉยสฺส สมฺมา วิฺาตพฺพตาย การณํ ทสฺสิตํ โหติ.
เอวํ นานาคุณรตนากรํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ สมฺปชานนฺโต โส กุลปุตฺโต กึ โหตีติ เจ? ปาลินา อุปาลินา สโม ภวติ. ปาลินาติ สาสนํ ปาเลตีติ ‘‘ปาโล’’ติ วินโย วุจฺจติ, วุตฺตฺหิ ‘‘วินโย นาม สาสนสฺส อายู’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.มหาสงฺคีติกถา; เถรคา. อฏฺ. ๑.๒๕๑) โส ¶ อสฺส อตฺถีติ ปาลี, ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธวเสน ติวิธสาสนสฺส ชีวิตภูตวินยปฺตฺติสงฺขาตสาสนธรตฺตา ‘‘ปาลี’’ติ ลทฺธนาเมน อุปาลินา, ‘‘เอตทคฺคํ ภิกฺขเว มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ วินยธรานํ ยทิทํ อุปาลี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙, ๒๒๘) จตุปริสมชฺเฌ นิสินฺเนน สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน มุขปทุมํ วิกาเสตฺวา ปกาสิตเอตทคฺคฏฺาเนน วิเสสโต สายนรกฺขนกภาเวน ปฏิลทฺธปาลีตินามเธยฺเยน อุปาลิมหาเถเรน สโม โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
กสฺมึ วิสเย สโม ภวตีติ เจ? สาสเน. สาสเนติ ยถาวุตฺเต ติวิเธ สาสเน, ตตฺราปิ ถาวรชงฺคมสกลวตฺถุวิตฺถาราธรมณฺฑลสทิเส ปฏิปตฺติปฏิเวธทฺวยธาเร ปริยตฺติสาสเน, ตตฺถาปิ วินยกถาธิการตฺตา ลพฺภมาเน วินยปิฏกสงฺขาตปริยตฺติสาสเนกเทเส สโม ภวตีติ อตฺโถ.
กึภูเต สาสเน? มารพลิสาสเน. มารสฺส พลิ มารพลิ, มารโคจโร, ตสฺส สาสนํ หึสกํ มารพลิสาสนํ, ตสฺมึ. ขนฺธาทีสุ ปฺจสุ มาเรสุ ปธานภูตกามราคาทิปภวกิเลสมารสฺส โคจรภาเวน พลิสงฺขาตอิตฺถิสรีราทินิสฺสยโผฏฺพฺพาทิวิสยสฺส ปริจฺจชาปนตฺถํ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ…เป… อสํวาโส’’ติอาทินา (ปารา. ๔๔) นเยน วุตฺตตฺตา ตสฺส ¶ มารพลิสฺส หึสกํ โหตีติ มารพลิสาสนนามเธยฺยวินยปฺตฺติสงฺขาตสาสเนติ อตฺโถ.
อถ วา ‘‘พฬิเสนปิ ชาเลน, หตฺเถน กุมิเนน วา’’ติ อุทกฏฺกถาย วกฺขมานตฺตา พฬิส-สทฺเทน มจฺฉมารณกณฺฏกมาห, ตํ มารสฺส พฬิสํ อสติ ขิปติ วชฺเชตีติ มารพฬิสาสนํ, ตสฺมึ, ‘‘สมนฺตปาโส มารสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา สํสารสาคเร ปริวตฺตมานกสํกิเลสทาสปุถุชฺชนสงฺขาตมจฺเฉ คณฺหิตุํ มารมหาเกวฏฺเฏน ปกฺขิตฺตพฬิสสงฺขาตอิตฺถิรูปสทฺทาทิปฺจกามคุณา- มิสาวุตกามราคาทิกิเลสมหาพฬิสํ ตทงฺคปฺปหานวีติกฺกมปฺปหานาทิวเสน ปชหนฺเต วินยปฺตฺติสงฺขาเต สาสเนติ อธิปฺปาโย.
เอตฺถ จ สารมเต อิธ อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย โย ปน น รมเต, โส ปุคฺคโล อนยูปรเม ¶ ตโต เอว ปรเม อุตฺตเม สุชนสฺส สุขานยเน นยเน นยนุปเม วินเย รโต อภิรโต ปธานรโตปิ วินเย อชฺฌายนาทีสุ โยคมาปชฺชนฺโตปิ ปฏุ โหติ ปฏุตโร โหติ กึ, น โหเตว. ตสฺมา วินเย ปาฏวตฺถินา เอตฺเถว สกฺกจฺจาภิโยโค กาตพฺโพติ สงฺเขปโต สาธิปฺปายา อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. อถ วา ปธาเน จตุพฺพิเธ สมฺมปฺปธาเน วีริเย รโต อภิรโต โย ปน นโร สารมเต อิธ อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย ยโต รมเต, อโต ตสฺมา โส อนยูปรเม สุชนสฺส สุขานยเน วินเย ปฏุ โหติ กุสโล โหตีติ โยชนาติ โน ขนฺติ.
หิตวิภาวนํ หิตปฺปกาสกํ ภาวนํ ภาวนียํ อาเสวิตพฺพํ สุรสมฺภวํ สุรสํ สมานํ สุรสํ ภูตํ สมฺภวํ สุขเหตุกํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ โย อเวทิ อฺาสิ, โส ปุคฺคโล มารพฬิสาสเน มารวิสยปฺปหานกเร, อถ วา มารพฬิสสฺส ¶ มารสฺส วตฺถุกามามิสาวุตกิเลสกามพฬิสสฺส อสเน วชฺชมาเน สาสเน ติวิเธปิ ชินสาสเน, ตตฺถาปิ ปฏิปตฺติปฏิเวธานํ ปติฏฺานภูเต ปริยตฺติสาสเน, ตตฺราปิ สกลสาสนสฺส ชีวิตสมาเน วินยปฺตฺติสงฺขาตปริยตฺติสาสเนกเทเส ปาลินา วินยปริยตฺติยํ เอตทคฺเค ปเนน สาสนปาลเน ตํมูลภาวโต ปาลสงฺขาตวินยปริยตฺติยา ปสตฺถตเรน อุปาลินา อุปาลิมหาเถเรน สโม ภวตีติ โยชนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ปมปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยปาราชิกกถาวณฺณนา
๓๙. อิทานิ ทุติยํ ปาราชิกวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาทิยนฺโต’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘เถยฺยจิตฺเตนา’’ติ ปาเสโส. โส จ ปจฺจตฺเตกวจนนฺเตหิ สพฺพปเทหิ โยเชตพฺโพ, เถยฺยจิตฺเตน อาทิยนฺโต ปราชิโตติ สมฺพนฺโธ. ปรสนฺตกํ อารามาทึ อภิยฺุชิตฺวา สามิกํ ปราเชตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโต ตทตฺถาย กเต ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ, สามิกสฺส วิมตุปฺปาทเน ถุลฺลจฺจยฺจ ¶ อาปชฺชิตฺวา ตสฺส จ อตฺตโน จ ธุรนิกฺเขเปน ปาติโมกฺขสํวรสีลสมฺปตฺติยา อทายาโท หุตฺวา ปราชิโต โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘ตถา’’ติ จ ‘‘อปี’’ติ จ ‘‘ปราชิโต’’ติ จ ‘‘เถยฺยจิตฺเตนา’’ติ อิมินา สห เอกโต กตฺวา ‘‘หรนฺโต’’ติอาทีหิ จตูหิปิ ปเทหิ โยเชตพฺพํ. เถยฺยจิตฺเตน หรนฺโตปิ ตถา ปราชิโตติ โยชนา สีสาทีหิ ปรสนฺตกํ ภณฺฑํ หรนฺโต เถยฺยจิตฺเตน ภณฺฑสฺส อามสเน ¶ ทุกฺกฏฺจ ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ อาปชฺชิตฺวา สีสโต ขนฺโธหรณาทิปโยคํ กโรนฺโตปิ ตถา ปราชิโต โหตีติ อตฺโถ.
เถยฺยจิตฺเตน อวหรนฺโตปิ ตถา ปราชิโตติ โยชนา. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – อฺเหิ สงฺโคปนาทึ สนฺธาย อตฺตนิ อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑํ ‘‘เทหิ เม ภณฺฑ’’นฺติ โจทิยมาโน ‘‘น มยา คหิต’’นฺติอาทินา มุสา วตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโตปิ ตสฺส วิมตุปฺปาทเน ถุลฺลจฺจยมาปชฺชิตฺวา ตเถว ธุรนิกฺเขเปน ปราชิโต โหตีติ. ‘‘นาหํ อคฺคเหสิ’’นฺติอาทินา อวชานิตฺวา ปฏิกฺขิปิตฺวา หรนฺโต ‘‘อวหรนฺโต’’ติ วุตฺโต.
เถยฺยจิตฺเตน อิริยาปถํ วิโกเปนฺโตปิ ตถา ปราชิโตติ โยชนา. ยํ ปน อฺเสํ ภณฺฑหรณกมนุสฺสาทีนมฺตรํ ‘‘เตน ภณฺเฑน สห คณฺหามี’’ติ ภณฺฑํ หรนฺตํ เถยฺยจิตฺเตน นิวาเรตฺวา อตฺตนา อิจฺฉิตทิสาภิมุขํ กตฺวา ตสฺส ปกติอิริยาปถํ วิโกเปนฺโตปิ ปมปาทุทฺธาเรน ถุลฺลจฺจยมาปชฺชิตฺวา ทุติยปทวาราติกฺกเมน ตเถว ปราชิโต โหตีติ อตฺโถ.
เถยฺยจิตฺเตน านา จาเวนฺโตปิ ตถา ปราชิโตติ โยชนา. ถลาทีสุ ิตํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺเตน อวหริตุกามตาย ิตฏฺานโต อปเนนฺโตปิ ทุติยปริเยสนาทีสุ อามสนาวสาเนสุ สพฺเพสุปิ ปโยเคสุ ทุกฺกฏานิ จ ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ อาปชฺชิตฺวา อุปริ วกฺขมานปฺปกาเรสุ วิย ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนนฺโต ตเถว ปราชิโต โหตีติ อตฺโถ.
เอวเมตาย คาถาย ‘‘อาทิเยยฺย หเรยฺย อวหเรยฺย อิริยาปถํ วิโกเปยฺย านาจาเวยฺย สงฺเกตํ วีตินาเมยฺยา’’ติ ¶ (ปารา. ๙๒) ปทภาชนาคเตสุ ฉสุ ปเทสุ อาโท ปฺจ ปทานิ สงฺคเหตฺวา ¶ ฉฏฺํ ปทํ กสฺมา น สงฺคหิตนฺติ เจ? อยํ คาถา น ตํปทภาชนํ ทสฺเสตุํ วุตฺตา, อถ โข เตสํ ปทานํ วินิจฺฉยํ สนฺธาย อฏฺกถาสุ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) วุตฺตปฺจวีสติอวหาเร ทสฺเสตุํ ตทวยวภูตปฺจปฺจกานิ ทสฺเสตุกาเมน วุตฺตา, ตสฺมา เอตฺถ ฉฏฺํ ปทํ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา วกฺขมาเน ตติยปฺจเก นิสฺสคฺคิยาวหารปเทน, ปฺจมปฺจเก ปริกปฺปาวหารปเทน จ สงฺคยฺหมานตฺตา เอตฺถ นาเนกภณฺฑปฺจกทฺวยํ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ ฉฏฺํ ปทํ น คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๔๐. อิมสฺมึ อทินฺนาทานปาราชิเก วตฺถุมฺหิ โอติณฺเณ กตฺตพฺพวินิจฺฉยสฺส ปฺจวีสติอวหารานํ องฺคานิ โหนฺติ, เต จ นานาภณฺฑปฺจกํ เอกภณฺฑปฺจกํ สาหตฺถิกปฺจกํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ เถยฺยาวหารปฺจกนฺติ นิทฺทิฏฺา ปฺจปฺจกเภทา, ตตฺถ อิมาย คาถาย นาเนกภณฺฑปฺจกทฺวยปฺปเภเท ทส อวหาเร สงฺคเหตฺวา อวเสสปฺจกตฺตยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ติสฺสํ คาถายํ. นาเนกภณฺฑานนฺติ นานา, เอโก จ ภณฺโฑ เยสนฺติ วิคฺคโห. สวิฺาณกอวิฺาณกภณฺฑวเสน นานาภณฺฑปฺจกฺจ สวิฺาณกภณฺฑวเสเนว เอกภณฺฑปฺจกฺจ เวทิตพฺพํ. ปฺจ ปริมาณา เยสนฺเต ปฺจกา, เตสํ. อวหาราติ อวหรณานิ, โจรกมฺมานีติ วุตฺตํ โหติ. เอเตติ อนนฺตรคาถาย ‘‘อาทิยนฺโต’’ติอาทินา นิทฺทิฏฺา อาทิยนฺตาทโย. ปฏิปตฺติสนฺตาเน วิเสสํ วินิจฺฉยํ ภาเวติ อุปฺปาเทตีติ วิภาวี, วินยธโร, เตน วิภาวินา. วิฺาตพฺพาติ ปเรสํ อารามาทิสวิฺาณกวตฺถูนิ วา ทาสมยูราทึ เกวลํ สวิฺาณกวตฺถุมตฺตํ วา อวหริตุํ กตา ยถาวุตฺตสรูปา อาทิยนาทโย านาจาวนปริโยสานา ¶ ปฺจ อวหารา ยถาวุตฺตนานาภณฺฑเอกภณฺฑวิสยา หุตฺวา ปวตฺตนฺตีติ นานาภณฺฑปฺจกํ เอกภณฺฑปฺจกนฺติ ทส อวหารา ภวนฺตีติ วินยธเรน โอติณฺณสฺส วตฺถุโน วินิจฺฉโยปการกตฺตา ตถโต าตพฺพาติ อตฺโถ.
๔๑. เอวํ ปฺจวีสติ อวหาเร ทสฺเสตุํ วตฺตพฺเพสุ ปฺจสุ ปฺจเกสุ นาเนกภณฺฑปฺจกานิ ทฺเว ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวเสสปฺจกตฺตยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สาหตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถ สาหตฺโถติ สโก หตฺโถ, เตน นิพฺพตฺโต, ตสฺส วา สมฺพนฺธีติ สาหตฺโถ, อวหาโร, โจเรน สหตฺถา กโต อวหาโรติ อตฺโถ. อาณตฺติโก เจวาติ อาณตฺติยา นิพฺพตฺโต อาณตฺติโก, อวหาโร, โจรสฺส ‘‘อิมํ นาม ภณฺฑํ คณฺหา’’ติ ยสฺส กสฺสจิ อาณาปเนน ¶ สิทฺโธ อวหาโร จ. นิสฺสคฺโคติ นิสฺสชฺชนํ นิสฺสคฺโค, อวหาโร, สุงฺกฆาตฏฺาเน, ปริกปฺปิโตกาเส วา ตฺวา ภณฺฑสฺส พหิ ปาตนนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อตฺถสาธโกติ ปาราชิกาปตฺติสงฺขาตํ อตฺถํ สาเธตีติ อตฺถสาธโก, โส อวหาโร จ ยถาณตฺติกํ อวิราเธตฺวา เอกํเสน อวหรนฺตสฺส ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อวิเสเสน วา อวหริตพฺพวตฺถุวิเสโส คหณกาโล คหณเทโส คหณากาโร จาติ เอวมาทิวิเสสานมฺตเรน วิเสเสตฺวา วา อาณาปนฺจ เอกํเสน ปาทคฺฆนกเตลปิวนกํ อุปาหนาทิกิฺจิวตฺถุํ เตลภาชนาทีสุ ปาตนาทิปฺปโยโค จาติ เอวมาทิปฺปโยโค จ กิริยาสิทฺธิยา ปุเรตรเมว ปาราชิกสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส สาธนโต อตฺถสาธโก อวหาโร จาติ วุตฺตํ โหติ.
ธุรนิกฺเขปนฺจาติ ¶ ธุรสฺส นิกฺเขปนํ ธุรนิกฺเขปนํ, ตฺจ อวหาโร, ปรสนฺตกานํ อารามาทีนํ อภิโยควิสเย จ อุปนิกฺขิตฺตสฺส ภณฺฑาทิโน วิสเย จ โจรสฺส สามิโน วิสฺสชฺชเน จ สามิโน จ, ยทา กทาจิ ยถากถฺจิ คณฺหิสฺสามีติ คหเณ นิรุสฺสาหภาวสงฺขาโต ธุรนิกฺเขปาวหาโร จาติ วุตฺตํ โหติ. อิติ อิทํ ธุรนิกฺเขปนฺจ ยถาวุตฺตปฺปการํ สาหตฺถาทิจตุกฺกฺจ ปฺจนฺนํ อวหารานํ สมูโห ปฺจกํ, สาหตฺถาทิปฺจกํ ‘‘สาหตฺถปฺจก’’นฺติ วุจฺจติ. อาทิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺพํ.
๔๒. ปุพฺพสหปโยคา จาติ เอตฺถ ‘‘ปุพฺพปโยโค สหปโยโค’’ติ ปโยค-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ‘‘อาณตฺติวเสน ปุพฺพปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ อฏฺกถาวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) ยถาณตฺติกมวิราเธตฺวา คณฺหโต ‘‘อสุกสฺส อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อาณาปนํ ปุพฺพปโยโค นาม อวหาโร. กาเยน, วาจาย วา ปยุชฺชนํ อาณาปนํ ปโยโค, อาณตฺตสฺส ภณฺฑคฺคหณโต ปุพฺพตฺตา ปุพฺโพ จ โส ปโยโค จาติ ปุพฺพปโยโค อวหาโรติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘านาจาวนวเสน สหปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ อฏฺกถาวจนสฺส อุปลกฺขณปทตฺตา านาจาวนฺจ ปรายตฺตภูมิคหเณ ขีลสงฺกมนาทิกฺจ สหปโยโค อวหาโรติ เวทิตพฺโพ.
สํวิทาหรณนฺติ พหูหิ เอกโต หุตฺวา ‘‘อิทํ นาม ภณฺฑํ อวหริสฺสามา’’ติ สํวิทหิตฺวา สพฺเพหิ, เอกโต วา สพฺเพสํ อนุมติยา เอเกน วา คนฺตฺวา ปรสนฺตกสฺส เถยฺยจิตฺเตน หรณสงฺขาโต สํวิทาวหาโร จ. สมํ เอกี หุตฺวา วิสุํ เอเกนาปิ เถยฺยจิตฺเตน ปาเท วา ปาทารเห ¶ วา คหิเต กตมนฺตนานํ สพฺเพสมฺปิ ปาราชิกํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ ¶ . สํวิทหิตฺวา มนฺเตตฺวา อวหรณํ สํวิทาหรณํ. นิรุตฺตินเยน สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ‘‘สํวิทาหรณ’’นฺติ ‘‘สํวิทาวหาโร’’ติ อิมสฺส เววจนํ. ‘‘สมฺพหุลา สํวิทหิตฺวา เอโก ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ สพฺเพสํ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๘) วจนโต เอวํ สหกตมนฺตเนสุ เอเกนาปิ เถยฺยจิตฺเตน ปาเท วา ปาทารเห วา คหิเต กตมนฺตนานํ สพฺเพสํ ปาราชิกํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
สงฺเกตกมฺมนฺติ ปุพฺพณฺหาทิกาลปริจฺเฉเทน สฺชานนํ สงฺเกโต, เตน กตํ กมฺมํ อวหรณํ สงฺเกตกมฺมํ นาม. ตํ ปน ปุเรภตฺตาทีสุ กฺจิ กาลํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อิมสฺมึ กาเล อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ วุตฺเต ตสฺมึเยว กาเล ตํเยว ยถาวุตฺตํ ภณฺฑํ อวหรติ เจ, สงฺเกตการกสฺส สงฺเกตกฺขเณเยว ปาราชิกนฺติ สงฺเขปโต เวทิตพฺพํ.
เนมิตฺตนฺติ ปรภณฺฑาวหารสฺส เหตุตฺตา อกฺขินิขณนาทิ นิมิตฺตํ นาม, เตน นิพฺพตฺตํ เนมิตฺตํ, อวหรณสงฺขาตกมฺมํ อวหาโร. ‘‘มยา อกฺขิมฺหิ นิขณิเต วา ภมุมฺหิ อุกฺขิตฺเต วา อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อาณตฺเตน ตํ นิมิตฺตํ ทิสฺวา วุตฺตเมว ภณฺฑํ วุตฺตนิยามมวิราเธตฺวา คหิตํ เจ, นิมิตฺตการกสฺส นิมิตฺตกรณกฺขเณเยว ปาราชิกํ โหติ. วุตฺตนิยามํ วิราเธตฺวา คหิตํ เจ, นิมิตฺตการโก มุจฺจติ, อวหารกสฺเสว ปาราชิกํ. ปุพฺพปโยโค อาทิ ยสฺส ตํ ปุพฺพปโยคาทิ, ปุพฺพปโยคาทิ จ ตํ ปฺจกฺจาติ วิคฺคโห.
๔๓. เถยฺยฺจ ปสยฺหฺจ ปริกปฺโป จ ปฏิจฺฉนฺโน จ กุโส จ เถยฺยปสยฺหปริกปฺปปฏิจฺฉนฺนกุสา, เต อาที อุปปทภูตา เยสํ อวหารานํ เต เถยฺย…เป… กุสาทิกา ¶ , อวหารา, อิมินา เถยฺยาวหาโร จ…เป… กุสาวหาโร จาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ เถยฺยาวหาโรติ เถโน วุจฺจติ โจโร, ตสฺส ภาโว เถยฺยํ, เอตฺถ น-การโลโป นิรุตฺตินเยน ทฏฺพฺโพ, เตน อวหรณํ เถยฺยาวหาโร, สนฺธิจฺเฉทาทิวเสน อทิสฺสมาเนน คหณฺจ กูฏมานกูฏกหาปณาทีหิ วฺเจตฺวา คหณฺจ เถยฺยาวหาโร.
ปสยฺห อภิภวิตฺวา อวหรณํ ปสยฺหาวหาโร, คามวิโลปกา วิย สามิเก อภิภวิตฺวา คหณฺจ ราชภฏาทโย วิย อภิภวิตฺวา นิพทฺธกรคฺคหเณ อธิกคฺคหณฺจ ปสยฺหาวหาโร.
วตฺถสุตฺตาทิกํ ¶ ปริจฺฉิชฺช กปฺเปตฺวา อวหรณํ ปริกปฺปาวหาโร, โส จ ภณฺโฑกาสปริกปฺปวเสน ทุวิโธ โหติ. ตตฺถ นิกฺขิตฺตภณฺฑํ อนฺธการปฺปเทสํ ปวิสิตฺวา สุตฺตาทิภณฺฑานิ ตตฺถ นิกฺขิตฺตานิ, เต เปฬาทโย คณฺหนฺตสฺส ‘‘วตฺถานิ เจ คณฺหิสฺสามิ, สุตฺตานิ เจ น คณฺหิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปริกปฺเปตฺวา อุกฺขิปนํ ภณฺฑปริกปฺปปุพฺพกตฺตา ภณฺฑปริกปฺปาวหาโร นาม. อารามปริเวณาทีนิ ปวิสิตฺวา โลภนียํ ภณฺฑํ ทิสฺวา คพฺภปาสาทตลปมุขมาฬกปาการทฺวารโกฏฺกาทึ ยํ กิฺจิ านํ ปริกปฺเปตฺวา ‘‘เอตฺถนฺตเร ทิฏฺโ เจ, โอโลเกตุํ คหิตํ วิย ทสฺสามิ, โน เจ, หริสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปตฺวา อาทาย คนฺตฺวา ปริกปฺปิตฏฺานาติกฺกโม โอกาสปริกปฺปปุพฺพกตฺตา โอกาสปริกปฺปาวหาโร นามาติ สงฺเขปโต เวทิตพฺโพ.
ติณปณฺณาทีหิ ¶ ปฏิจฺฉนฺนสฺส ภณฺฑสฺส อวหรณํ ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร, อุยฺยานาทีสุ กีฬมาเนหิ วา สงฺฆปริวิสนฺเตหิ วา มนุสฺเสหิ โอมฺุจิตฺวา ปิตํ อลงฺการาทิกํ ยํ กิฺจิ ภณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘โอณมิตฺวา คณฺหนฺเต อาสงฺกนฺตี’’ติ ตฺวา ติณปณฺณปํสุวาลุกาทีหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา สามิเกสุ ปริเยสิตฺวา อทิสฺวา สาลเยสุ คเตสุ ปจฺฉา เถยฺยจิตฺเตน คหณฺจ ตเทว ภณฺฑํ กทฺทมาทีสุ เถยฺยจิตฺเตน องฺคุฏฺาทีหิ ปีเฬตฺวา โอสีทาเปตฺวา เหฏฺาภาเคน ผุฏฺฏฺานํ อุปริภาเคน อติกฺกมนฺจ ปฏิจฺฉนฺนาวหาโรติ วุตฺตํ โหติ.
กุเสน อวหาโร กุสาวหาโร, เถยฺยจิตฺเตน กุสํ สงฺกาเมตฺวา ปรโกฏฺาสสฺส อคฺเฆน มหนฺตสฺส วา สมสมสฺส วา คหณนฺติ อตฺโถ. โย ปน ภิกฺขุ กุสปาตเนน สงฺฆสฺส จีวเรสุ ภาชิยมาเนสุ อตฺตโน โกฏฺาเสน สมํ วา อธิกํ วา อูนกํ วา อคฺเฆน ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ อฺสฺส โกฏฺาสํ อวหริตุกาโม อตฺตโน โกฏฺาเส ปติตํ กุสํ ปรโกฏฺาเส ปาเตตุกาโม อุทฺธรติ, ตงฺขเณ จ ปรสฺส โกฏฺาเส ปาติตกฺขเณ จ น ปาราชิกํ อนาปชฺชิตฺวา ปรโกฏฺาสโต ปรนามลิขิตํ กุสํ อุกฺขิเปนฺโต ตโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปนาเมติ, ปาราชิโก โหติ. ยทิ ปมํ ปรโกฏฺาสโต กุสํ อุทฺธรติ, อุทฺธฏกฺขเณ จ อตฺตโน โกฏฺาเส ปาติตกฺขเณ จ สกนามลิขิตํ กุสํ อุทฺธรณกฺขเณ จ ปาราชิกํ อนาปชฺชิตฺวา ปรโกฏฺาเส ปาตนกฺขเณ หตฺถโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุตฺเต ปาราชิโก โหติ.
ยทิ ¶ ทฺเวปิ กุเส ปฏิจฺฉาเทตฺวา สพฺเพสุ ภิกฺขูสุ สกสกโกฏฺาสํ อาทาย คเตสุ ยสฺมึ กุสํ ปฏิจฺฉาเทสิ, ตสฺส สามิเกน อาคนฺตฺวา ‘‘มยฺหํ กุโส กสฺมา น ¶ ทิสฺสตี’’ติ วุตฺเต โจโร ‘‘มยฺหมฺปิ กุโส น ทิสฺสตี’’ติ วตฺวา อตฺตโน โกฏฺาสํ ตสฺส สนฺตกํ วิย ทสฺเสตฺวา ตสฺมึ วิวทิตฺวา วา อวิวทิตฺวา วา คเหตฺวา คเต อิตรํ โกฏฺาสํ อุทฺธรติ เจ, อุทฺธฏกฺขเณเยว ปาราชิโก โหติ. ยทิ ปโร ‘‘มยฺหํ โกฏฺาสํ ตุยฺหํ น เทมิ, ตฺวํ ตุยฺหํ โกฏฺาสํ วิจินิตฺวา คณฺหาหี’’ติ วทติ, เอวํ วุตฺเต โส อตฺตโน อสฺสามิกภาวํ ชานนฺโตปิ ปรสฺส โกฏฺาสํ อุทฺธรติ, อุทฺธฏกฺขเณ ปาราชิโก โหติ. ยทิ ปโร วิวาทภีรุกตฺตา ‘‘กึ วิวาเทนา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มยฺหํ วา ปตฺตํ โหตุ ตุยฺหํ วา, วรโกฏฺาสํ ตฺวํ คณฺหาหี’’ติ วเทยฺย, ทินฺนกํ นาม คหิตํ โหตีติ ปาราชิกํ น โหตีติ. ยทิ ‘‘ตว รุจฺจนกํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺโต วิวาทภเยน อตฺตโน ปตฺตํ วรภาคํ เปตฺวา ลามกภาคํ คเหตฺวา คโต, โจโร ปจฺฉา คณฺหนฺโต วิจิตาวเสสํ นาม อคฺคเหสีติ ปาราชิโก น โหติ. เอวํ กุสาวหารวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยเมตฺถ ปฺจวีสติยา อวหาเรสุ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๔๔. เอตฺตาวตา อทินฺนาทานปาราชิกสฺส วินิจฺฉยาวยวรูเปน อุคฺคเหตพฺเพ ปฺจวีสติ อวหาเร ทสฺเสตฺวา อิทานิ อทินฺนาทานวินิจฺฉเย สมฺปตฺเต สหสา อาปตฺตึ อนาโรเปตฺวา ปมํ โอโลเกตพฺพานิ ปฺจ านานิ ทสฺเสตุํ ‘‘วตฺถุกาลคฺฆเทเส จา’’ติอาทิ อารทฺธํ.
ตตฺถ วตฺถุ นาม อวหฏภณฺฑํ. กึ วุตฺตํ โหติ? อวหารเกน ‘‘มยา อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหฏ’’นฺติ วุตฺเตปิ ตสฺส ภณฺฑสฺส สสฺสามิกอสฺสามิกภาวํ อุปปริกฺขิตฺวา สสฺสามิกํ ¶ เจ, อวหารกาเล เตสํ สาลยภาวํ วา นิราลยภาวํ วา นิยเมตฺวา สาลยกาเล เจ คหิตํ, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา มาสกํ วา อูนมาสกํ วา โหติ, ทุกฺกเฏน, อติเรกมาสกํ วา อูนปฺจมาสกํ วา โหติ, ถุลฺลจฺจเยน, ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา โหติ, ปาราชิเกน กาตพฺโพ. สามิกานํ นิราลยกาเล เจ คหิตํ, นตฺถิ ปาราชิกํ. ภณฺฑสามิเก ปน ภณฺฑํ อาหราเปนฺเต ตํ วา ภณฺฑํ ตทคฺฆนกํ วา ทาตพฺพนฺติ.
กาโล นาม อวหารกาโล. ภณฺฑํ นาเมตํ กทาจิ มหคฺฆํ โหติ, กทาจิ สมคฺฆํ. ตสฺมา ¶ อวหฏภณฺฑสฺส อคฺฆํ ปริจฺฉินฺทนฺเตหิ อวหฏกาลานุรูปํ กตฺวา ปริจฺฉินฺทนตฺถํ กาลวินิจฺฉโย กาตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
อคฺโฆ นาม อวหฏภณฺฑสฺส อคฺโฆ. เอตฺถ จ สพฺพทา ภณฺฑานํ อคฺโฆ สมานรูโป น โหติ, นวภณฺฑํ มหคฺฆํ โหติ, ปุราณํ เจ สมคฺฆํ. ตสฺมา อวหารกาเล ภณฺฑสฺส นวภาวํ วา ปุราณภาวํ วา นิยเมตฺวา อคฺโฆ ปริจฺฉินฺทิตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
เทโส จาติ ภณฺฑาวหารเทโส. เอตฺถ จ สพฺพสฺสาปิ ภณฺฑสฺส อุฏฺานเทเส สมคฺฆํ หุตฺวา อฺตฺถ มหคฺฆตฺตา อวหฏภณฺเฑ อคฺฆํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ตทนุรูปา อาปตฺติโย นิยมนฺเตหิ อคฺฆํ ปริจฺฉินฺทนตฺถาย อวหารเทสํ นิยเมตฺวา ตสฺมึ เทเส อคฺฆวเสน ตทนุรูปา อาปตฺติโย กาเรตพฺพาติ อธิปฺปาโย.
ปริโภโค นาม อวหฏภณฺเฑ อวหารโต ปุพฺเพ ปเรหิ กตปริโภโค. เอตฺถ จ ยสฺส กสฺสจิ ภณฺฑสฺส ปริโภเคน อคฺโฆ ปริหายตีติ ภณฺฑสามิกํ ปุจฺฉิตฺวา ตสฺมึ ¶ ภณฺเฑ นเวปิ เอกวารมฺปิ เยน เกนจิ ปกาเรน ปริภุตฺเต ปริหาเปตฺวา อคฺโฆ ปริจฺฉินฺทิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
เอวมาทินา นเยน เอตานิ ปฺจ านานิ อุปปริกฺขิตฺวาว วินิจฺฉโย กาตพฺโพติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปฺจปิ ตฺวา เอตานิ กตฺตพฺโพ ปณฺฑิเตน วินิจฺฉโย’’ติ.
๔๕. เอตฺตาวตา อทินฺนาทานวินิจฺฉยาวยวภูเต ปฺจวีสติ อวหาเร จ ปฺจฏฺานาวโลกนฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาคเต ปาปภิกฺขูนํ เลโสกาสปิทหนตฺถํ ปรสนฺตกํ ยํ กิฺจิ วตฺถุํ ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ เยน เกนจิ ปกาเรน คณฺหโต โมกฺขาภาวํ ทสฺเสตุกาเมน ตถาคเตน ยา ปเนตา –
ภูมฏฺฺจ ถลฏฺฺจ;
อากาสฏฺ มถาปรํ;
เวหาสฏฺโ ¶ ทกฏฺฺจ;
นาวา ยานฏฺเมว จ.
ภารา ราม วิหารฏฺํ;
เขตฺต วตฺถุฏฺเมว จ;
คามา รฺฏฺ มุทกํ;
ทนฺตโปโน วนปฺปติ.
หรณโก ปนิธิ เจว;
สุงฺกฆาตกํ ปาณกา;
อปทํ ทฺวิปทฺเจว;
จตุปฺปทํ พหุปฺปทํ.
โอจรโกณิรกฺโข จ;
สํวิทาหรณมฺปิ จ;
สงฺเกตกมฺมํ นิมิตฺต-
มิติ ตึ เสตฺถ มาติกา. –
นิกฺขิตฺตา ¶ , ตาสํ ยถากฺกมํ ปทภาชเน, ตทฏฺกถาย จ อาคตนเยน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุกาโม ปมํ ตาว ภูมฏฺเ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทุติยํ วาปี’’ติอาทิ.
ตตฺถ ทุติยํ เถยฺยจิตฺเตน ปริเยสโต ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. เอวํ สพฺพปเทสุ. อุปริ สฺชาตาหิ รุกฺขลตาหิ, อิฏฺกปาสาณาทีหิ จ สฺฉนฺนํ มหานิธึ อุทฺธริตุกาเมน ‘‘มยา เอเกเนว น สกฺกา’’ติ อตฺตโน อฺํ สหายํ ปริเยสิตุํ เถยฺยจิตฺเตน สยิตฏฺานา อุฏฺานาทีสุ สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. กุทาลํ ภูมิขณนตฺถาย ปิฏกํ วาปิ ปํสุอุทฺธรณตฺถาย ยํ กิฺจิ ภาชนํ. อิเมสุ ทฺวีสุ กุทาลสฺส เจ ทณฺโฑ นตฺถิ, ทณฺฑตฺถาย รุกฺขโต ทณฺฑํ ฉินฺทโต จ กุทาโล เจ น โหติ, กุทาลกรณตฺถาย อโยพีชํ อุทฺธรณตฺถาย อกปฺปิยปถวึ ขณนฺตสฺสปิ ปจฺฉิกรณตฺถาย ปณฺณานิ ฉินฺทโตปิ ปิฏกวายนตฺถาย วลฺลึ ฉินฺทโตปิ ¶ อุภยตฺถาปิ ปริเยสเน มุสา ภณโตปิ ทุกฺกฏฺเจว ปาจิตฺติยฺจ, อิตรปโยเคสุ ทุกฺกฏเมวาติ เวทิตพฺพํ.
คจฺฉโตติ ทุติยาทึ ปริเยสิตฺวา ลทฺธา วา อลทฺธา วา นิธิฏฺานํ คจฺฉนฺตสฺส ปเท ปเท ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘เถยฺยจิตฺโต ทุติยํ วา ปริเยสตี’’ติอาทิ ปาฬิยํ (ปารา. ๙๔) ‘‘เถยฺยจิตฺโต’’ติ วุตฺตตฺตา, อิธ ‘‘เถยฺยจิตฺเตนา’’ติ วจนโต ‘‘อิมํ นิธึ ลภิตฺวา พุทฺธปูชํ วา กริสฺสามิ, สงฺฆภตฺตํ วา กริสฺสามี’’ติ เอวมาทินา นเยน กุสลจิตฺตปฺปวตฺติยา สติ อนาปตฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ปุพฺพโยคโตติ อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยคภาวโต, ทุติยปริเยสนาทีสุ ปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
ทุกฺกฏฺจ ¶ อฏฺวิธํ โหติ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏํ สหปโยคทุกฺกฏํ อนามาสทุกฺกฏํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ าตทุกฺกฏํ ตฺติทุกฺกฏํ ปฏิสฺสวทุกฺกฏนฺติ. ตตฺถ ‘‘เถยฺยจิตฺโต ทุติยํ วา กุทาลํ วา ปิฏกํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตํ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏํ นาม. อิธ ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยํ, อิตเรสุ ปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. ‘‘ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วา ลตํ วา ฉินฺทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตํ สหปโยคทุกฺกฏํ. อิธ อทินฺนาทานสหิตปโยคตฺตา ปาจิตฺติยวตฺถุมฺหิ, อิตรตฺร จ ทุกฺกฏเมวาติ อยเมตฺถ วิเสโส. มุตฺตามณิอาทีสุ ทสสุ รตเนสุ, สาลิอาทีสุ สตฺตสุ ธฺเสุ, สพฺเพสุ จ อาวุธภณฺฑาทีสุ อามสนปจฺจยา ทุกฺกฏํ อนามาสทุกฺกฏํ. กทลินาฬิเกรปนสาทิรุกฺขฏฺเมว ผลํ อามสนฺตสฺส วุตฺตํ ทุกฺกฏํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ. อุปจรณํ อุปจิณฺณํ, ปรามสนนฺติ อตฺโถ. ทุฏฺุ อุปจิณฺณํ ทุรุปจิณฺณํ, ทุรุปจิณฺเณ ทุกฺกฏํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ. ภิกฺขาจารกาเล ปตฺเต รชสฺมึ ปติเต ปตฺตํ อปฺปฏิคฺคเหตฺวา วา อโธวิตฺวา วา ภิกฺขาปฏิคฺคหเณน ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ, วินเย ปฺตฺตํ ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ. กิฺจาปิ อวเสสทุกฺกฏานิปิ วินเย ปฺตฺตาเนว, ตถาปิ รุฬฺหิยา มยูราทิสทฺเทหิ โมราทโย วิย อิทเมว ตถา วุจฺจติ. ‘‘สุตฺวา น วทนฺติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตํ าตทุกฺกฏํ นาม. เอกาทสสุ สมนุภาสนาสุ ‘‘ตฺติยา ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตํ ตฺติทุกฺกฏํ. ‘‘ตสฺส ภิกฺขเว ภิกฺขุโน ปุริมิกา จ น ปฺายติ, ปฏิสฺสเว จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๐๗) วุตฺตํ ปฏิสฺสวทุกฺกฏํ นาม. อิเมสุ อฏฺสุ ทุกฺกเฏสุ อิธ อาปชฺชิตพฺพํ ทุกฺกฏํ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏํ นาม. เตนาห ‘‘ปุพฺพโยคโต’’ติ. คาถาพนฺธสุขตฺถํ ¶ อุปสคฺคํ อนาทิยิตฺวา ‘‘ปุพฺพปโยคโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปุพฺพโยคโต’’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
เอตฺถ ¶ จ กิฺจาปิ อิเมสุ ทุกฺกเฏสุ อสงฺคหิตานิ อุภโตวิภงฺคาคตานิ ทิวาเสยฺยาทิทุกฺกฏานิ เจว ขนฺธกาคตานิ จ พหูนิ ทุกฺกฏานิ สนฺติ, ตานิ ปเนตฺถ วินยทุกฺกเฏเยว สงฺคหิตพฺพานิ. ‘‘วินเย ปฺตฺตํ ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏ’’นฺติ หิ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๙๔) วุตฺตนฺติ. อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) ปน รโชกิณฺณทุกฺกฏสฺเสว ‘‘วินยทุกฺกฏ’’นฺติ คหณํ อุปลกฺขณมตฺตํ. อิตรถา อฏฺ ทุกฺกฏานีติ คณนาปริจฺเฉโทเยว นิรตฺถโก สิยาติ ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏาทีนมฺปิ วินยทุกฺกเฏเยว สงฺคเหตพฺพภาเวปิ กติปยานิ ทสฺเสตฺวา อิตเรสเมกโต ทสฺสนตฺถํ เตสํ วิสุํ คหณํ สุตฺตงฺคสงฺคหิตตฺเตปิ เคยฺยคาถาทีนํ อฏฺนฺนํ วิสุํ ทสฺสนํ วิยาติ เวทิตพฺพํ.
๔๖. ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วาติ ตสฺมึ จิรนิหิตนิธูปริ ชาตํ อลฺลํ สุกฺขํ กฏฺํ วา. ลตํ วาติ ตาทิสํ วลฺลึ วา. อิทํ อุปลกฺขณํ ติณาทีนํ ขุทฺทกคจฺฉานฺจ คเหตพฺพตฺตา. อุภยตฺถาปีติ อลฺเล จ สุกฺเข จาติ วุตฺตํ โหติ. อลฺลรุกฺขาทีนิ ฉินฺทโต ปาจิตฺติยํ อหุตฺวา ทุกฺกฏมตฺตสฺส ภวเน การณํ ทสฺเสติ ‘‘สหปโยคโต’’ติ. อวหาเรน สหิตปโยคตฺตา ปาจิตฺติยฏฺาเนปิ ทุกฺกฏเมวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สหปโยคโต อุภยตฺถาปิ ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺโต ปมคาถาย ทสฺสิตปุพฺพปโยคโต อิมาย ทสฺสิตสหปโยคสฺส วิเสสํ ทสฺเสติ.
๔๗. ปถวินฺติ กปฺปิยํ วา อกปฺปิยํ วา ปถวึ. อกปฺปิยปถวึ ขณโต สหปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว. พฺยูหโตติ ปํสุํ เอกโต ราสึ กโรนฺตสฺส. ‘‘วิยูหติ เอกปสฺเส ราสึ กโรตี’’ติ อฏฺกถาวจนโต อูห-อิจฺเจตสฺส ธาตุโน วิตกฺเก อุปฺปนฺนตฺเตปิ ธาตูนมเนกตฺถตฺตา วิ-อุปสคฺควเสน ¶ อิธ ราสิกรเณ วตฺตตีติ คเหตพฺพํ. ราสิภูตํ ปํสุํ กุทาเลน วา หตฺเถน วา ปจฺฉิยา วา อุทฺธรนฺตสฺส จ อปเนนฺตสฺส จ ปโยคคณนาย ทุกฺกฏํ ปํสุเมว วาติ เอตฺถ อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน วา-สทฺเทน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อามสนฺตสฺสาติ นิธิกุมฺภึ หตฺเถน ปรามสนฺตสฺส. วาติ สมุจฺจเย. ทุกฺกฏนฺติ ทุฏฺุ กตํ กิริยํ สตฺถารา วุตฺตํ วิราเธตฺวา ขลิตฺวา กตตฺตาติ ทุกฺกฏํ. วุตฺตฺเจตํ ปริวาเร (ปริ. ๓๓๙) –
‘‘ทุกฺกฏนฺติ ¶ หิ ยํ วุตฺตํ, ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;
อปรทฺธํ วิรทฺธฺจ, ขลิตํ ยฺจ ทุกฺกฏ’’นฺติ.
ทุฏฺุ วา วิรูปํ กตํ กิริยาติ ทุกฺกฏํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ปริวาเร (ปริ. ๓๓๙) –
‘‘ยํ มนุสฺโส กเร ปาปํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห;
‘ทุกฺกฏ’นฺติ ปเวเทนฺติ, เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ.
เอวํ ‘‘ตตฺถชาตก’’นฺติอาทิคาถาทฺวยาคตํ เฉทนทุกฺกฏํ ขณนทุกฺกฏํ พฺยูหนทุกฺกฏํ อุทฺธรณทุกฺกฏํ อามสนทุกฺกฏนฺติ ปฺจสุ สหปโยคทุกฺกเฏสุ ปุริมปุริมปโยเคหิ อาปนฺนา ทุกฺกฏาปตฺติโย ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ทุกฺกฏํ ปตฺวา ปฏิปสฺสมฺภนฺติ, ตํตํปโยคาวสาเน ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา โอรมติ เจ, ตํตํทุกฺกฏมตฺตํ เทเสตฺวา ปริสุทฺโธ โหติ. ธุรนิกฺเขปมกตฺวา ผนฺทาเปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ ปตฺวา อามสนทุกฺกฏํ ปฏิปสฺสมฺภตีติ มหาอฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) วุตฺตํ. ยถาปาฬิยา คยฺหมาเน ปุริมปุริมาปตฺตีนํ ปฏิปสฺสทฺธิ ‘‘ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ ¶ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยา ปฏิปสฺสมฺภนฺตี’’ติ ปาฬิยํ (ปารา. ๔๑๔, ๔๒๑, ๔๒๘, ๔๓๙) อาคตตฺตา อนุสฺสาวนาย เอว ลพฺภตีติ ทฏฺพฺพํ. อิมสฺส ปน สุตฺตสฺส อนุโลมวเสน มหาอฏฺกถายํ วุตฺตา อิมสฺมึ อทินฺนาทานสิกฺขาปเทปิ อาปตฺติปฏิปสฺสทฺธิ ปมาณนฺติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
๔๘. ‘‘ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๙๔) วุตฺตํ านาจาวเน ปาราชิกฺจ ตสฺส สามนฺตาปตฺติภูตํ ถุลฺลจฺจยฺจ านเภทวิฺาปนมุเขน วตฺตพฺพนฺติ อิทานิ ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มุเขปาส’’นฺติอาทิ. ตตฺถ มุเข กุมฺภิมุขวฏฺฏิยํ. ปาสํ ปเวเสตฺวาติ พนฺธนํ ปาสํ ปกฺขิปิตฺวา. ขาณุเกติ อโยขาณุมฺหิ, ขทิรขาณุเก วา. พทฺธกุมฺภิยา านเภโท พนฺธนานํ วสา เยฺโยติ สมฺพนฺโธ.
๔๙. อิทานิ านเภทํ ทสฺเสติ ‘‘ทฺเว’’ติอาทินา. ‘‘เอกสฺมึ ขาณุเก’’ติ อิมินา ทฺวีสุ ทิสาสุ วา ตีสุ จตูสุ วา ทิสาสุ ขาณุเก ขณิตฺวา พทฺธขาณุคณนาย สมฺภวนฺโต านเภโท ¶ อุปลกฺขิโต โหติ. วลยํ…เป… กตาย วา ทฺเว านานีติ โยชนา. วาติ สมุจฺจเย อุปลกฺขิโต โหติ.
๕๐. เอวํ านเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ านวเสน อาปชฺชิตพฺพา อาปตฺติโย ทสฺเสตุมาห ‘‘อุทฺธรนฺตสฺสา’’ติอาทิ. สงฺขลินฺติ ทามํ. ถุลฺลจฺจยนฺติ เอกสฺส สนฺติเก เทเสตพฺพาสุ อาปตฺตีสุ ถูลตฺตา, อจฺจยตฺตา จ ถุลฺลจฺจยํ นาม. วุตฺตฺเหตํ ปริวาเร –
‘‘ถุลฺลจฺจยนฺติ ¶ ยํ วุตฺตํ;
ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;
เอกสฺส มูเล โย เทเสติ;
โย จ ตํ ปฏิคณฺหติ;
อจฺจโย เตน สโม นตฺถิ;
เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ. (ปริ. ๓๓๙);
เอตฺถ จ ถูลจฺจยนฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘สมฺปราเย จ (สํ. นิ. ๑.๔๙) สุคฺคติ, ตํ โหติ กฏุกปฺผล’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๖๖) วิย ลการสฺส ทฺวิตฺตํ, สํโยเค อูการสฺส รสฺโส จ เวทิตพฺโพ. ตโต สงฺขลิกเภทโต ปรํ. านา จาเวตีติ ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนติ. เอตฺถ จ นาวฏฺกถายํ ‘‘อุทฺธํ วา อโธ วา ติริยํ วา อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๙๙) วุตฺตนเยน ‘‘ติริย’’นฺติ วุตฺตา จตสฺโส ทิสา, อุทฺธมโธ จาติ ฉฏฺานานิ. ตาสุ เอกํ ทิสํ อปนียมานาย กุมฺภิยา ตํทิสาภิมุขํ อิตรทิสายํ ิตปสฺเส โอริมทิสาย ิตปสฺเสน ผุฏฺโกาสสฺส เกสคฺคมตฺตมฺปิ อนติกฺกนฺเต ผนฺทาปนวเสน ถุลฺลจฺจยํ โหติ, อติกฺกนฺเต านา จาวิตตฺตา ปาราชิกํ โหตีติ เวทิตพฺโพ. อิมเมว สนฺธายาห ‘‘านา จาเวติ เจ จุโต’’ติ. เอเสว นโย ผนฺทนรหิตาย นิธิกุมฺภิยา านาจาวเนปิ.
๕๑. เอวํ ปมํ พนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา ปจฺฉา กุมฺภิคฺคหเณ นยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปมํ กุมฺภึ อปเนตฺวา ปจฺฉา พนฺธนาปนยเน นยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปม’’นฺติอาทิ. โส นโยติ ‘‘ปมุทฺธาเร ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยุทฺธาเร ปาราชิก’’นฺติ ตเมวตฺถมติทิสติ.
๕๒. วลยนฺติ ¶ ¶ กุมฺภิยา พทฺธสงฺขลิกาย มูเล ปเวสิตํ วลยํ. มูเล ฆํสนฺโต อิโต จิโต จ สาเรตีติ โยชนา. ฆํสนฺโตติ ผุสาเปนฺโต. อิโต จิโต จ สาเรตีติ โอรโต จ ปารโต จ สฺจาเลติ. รกฺขตีติ เอตฺถ ‘‘สีลํ ภิกฺขุ’’นฺติ ปาเสโส, ปาราชิกํ นาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ มูเล. เขคตํ กโรนฺโตวาติ สพฺพปสฺสโต มูลํ อผุสาเปตฺวา อากาสคตํ กโรนฺโตว. ปราชิโตติ านาจาวนสฺส กตตฺตา ปราชยมาปนฺโน โหติ.
๕๓. กุมฺภิมตฺถเก ชาตนฺติ โยชนา. จิรกาลํ นิหิตตฺตา มูเลหิ กุมฺภึ วินนฺธิตฺวา ิตนฺติ อตฺโถ. สมีเป ชาตํ รุกฺขํ ฉินฺทโตติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วา’’ติอาทิกาย คาถาย นิธิมตฺถเก ภูมิยํ ิตรุกฺขลตาทึ ฉินฺทนฺตสฺส อาปตฺติ วุตฺตา, อิมาย ปน คาถาย ภูมึ นิขณิตฺวา โอติณฺณกาเล นิธึ วินนฺธิตฺวา ิตมูลํ อลฺลรุกฺขํ, ขาณุกํ วา คเหตฺวา อาหาติ ปุนรุตฺติโทสาภาโว เวทิตพฺโพ. ‘‘อตตฺถช’’นฺติ อิมินา สหปโยคาภาวมาห. อิมินาว ปุริมคาถาย วุตฺตํ กฏฺลตาทีนิ นิธิสมฺพนฺธานิ เจ, ยถาวุตฺตทุกฺกฏสฺส วตฺถูนิ, สมีปานิ เจ, ปาจิตฺติยสฺเสว วตฺถูนีติ ทีเปติ.
๕๔. อิทานิ เอวํ ปริเยสิตฺวา ทิฏฺนิธิภาชนํ ิตฏฺานโต อจาเลตฺวา อนฺโติตํ ภณฺฑมตฺตํ คณฺหโต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนฺโตกุมฺภิคต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ผนฺทาเปตีติ อนฺโตจาฏิยา ปกฺขิตฺเต อตฺตโน ภาชเน ปกฺขิปิตุํ ราสิกรณาทิวเสน ผนฺทาเปติ. อปพฺยูหติ วาติ เหฏฺา ิตํ คณฺหิตุํ อุปริ ิตานิ อปเนนฺโต วิยูหติ วา. อถ วา อปพฺยูหนฺโตติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) อฏฺกถาวจนสฺส ทฺวิธา กโรนฺโตติ ¶ คณฺิปเท อตฺโถ วุตฺโตติ อตฺตโน ภาชเน ปกฺขิปิตุํ อิโต จิโต จ ราสึ กโรนฺโตติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺเถวาติ อนฺโตกุมฺภิยเมว.
๕๕. หรนฺโตติ อวหรนฺโต. มุฏฺึ ฉินฺทตีติ อตฺตโน ภาชนํ ปกฺขิปิตฺวา คณฺหิตุํ อสกฺกุเณยฺโย อนฺโตกุมฺภิมฺหิ หตฺถํ โอตาเรตฺวา กุมฺภิคตภณฺเฑน ยถา อพทฺธํ โหติ, ตถา มุฏฺิยา ปริจฺฉินฺทติ, กุมฺภิคตํ มุฏฺิยา คณฺหนฺโต กุมฺภิคเตน มุฏฺิคตํ ยถา อสมฺมิสฺสํ โหติ, ตถา ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปาทคฺฆนกํ วา อติเรกปาทคฺฆนกํ วา คณฺหาตีติ วุตฺตํ โหติ. อตฺตโน ภาชเน คตํ กตฺวา วา ฉินฺทตีติ โยชนา. อตฺตโน ภาชนคตํ กตฺวา กุมฺภิคเตน ยถา ¶ อสมฺมิสฺสํ โหติ, ตถา ปริจฺฉินฺทตีติ อตฺโถ, สเจ อตฺตโน ภาชนคตํ หุตฺวา กุมฺภิคเตน อสมฺมิสฺสํ ภณฺฑํ ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆติ, ปาราชิโกติ วุตฺตํ โหติ.
๕๖. หารํ วาติ มุตฺตาหารํ วา. ปามงฺคํ วาติ สุวณฺณมยํ, รชตมยํ วา ปามงฺคํ ทามํ. สุตฺตารุฬฺหนฺติ สุตฺเต อารุฬฺหํ สุตฺตารุฬฺหํ, สุตฺตฺจ สุตฺตารุฬฺหฺจ สุตฺตารุฬฺหนฺติ เอกเทสสรูเปกเสโส ทฏฺพฺโพ. ‘‘สุตฺเตน อาวุตสฺสาปิ สุตฺตมยสฺสาปิ เอตํ อธิวจน’’นฺติ อฏฺกถาวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) ปมมุตฺตาหารํ วินา สุวณฺณรชตปวาฬาทิมณิกํ วา สุตฺเตสุ อาวุณิตฺวา กตา นานาวลิโย เจว สุตฺตมยานิ จ ภณฺฑานิ คเหตพฺพานิ. กุมฺภิยา ิตนฺติ ปาเสโส. ผนฺทาเปตีติ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหิตุกามตาย จาเลติ. ยถาวตฺถุนฺติ วีติกฺกมานุรูปํ ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ อธิปฺปาโย. านา จาเวตีติ ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมติ ¶ . จุโตติ ปาติโมกฺขสํวรสีลา ปริหีโนติ อตฺโถ.
อปริปุณฺณาย กุมฺภิยาเอกเทสฏฺํ ภณฺฑํ ตโต ตโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ านํ อปเนตฺวา ตตฺเถว อนฺโตกุมฺภิยา อฺํ านํ เนนฺตสฺส จ ตตฺเถว อากาสคตํ กโรนฺตสฺส จ ‘‘อตฺตโน ภาชนคตํ วา กโรติ, มุฏฺึ วา ฉินฺทตี’’ติ (ปารา. ๙๔) เอเตหิ สทิสตฺตา วตฺถุมฺหิ ปาทํ อคฺฆนฺเต ปาราชิกา โหตีติ มหาอฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) อิทํ สนฺนิฏฺานํ. ภาชนตเล โกฏึ เปตฺวา กเมน สกลภาชนกุจฺฉึ เตเนว ปูเรตฺวา มุขวฏฺฏิยา เอกา โกฏิ นิกฺขิตฺตา เจ, ตถาปิตสฺส หาราทิโน สกลภาชนํ อฏฺานนฺติ โกฏึ คเหตฺวา อุชุกํ อุกฺขิปนฺตสฺส โอสานโกฏิ ภาชนตลโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อากาสคตํ กโรโต จ มุขวฏฺฏิยํ ฆํสิตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺส สกลภาชโนทรํ เขเปตฺวา มุขวฏฺฏิยา ปิตโกฏิยา ผุฏฺฏฺานํ อปราย โกฏิยา เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกามยโต จ ภาชนกุจฺฉิยา อุปฑฺฒํ วตฺถาทินา เกนจิ ปูเรตฺวา ตสฺโสปริ ปิตหาราทิสุตฺตารุฬฺหสฺส ิโตกาสเมว านนฺติ ตโต เกสคฺคมตฺตํ อปเนนฺตสฺสปิ ปาราชิกํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๕๗. สปฺปิอาทีสูติ ภาชนคเตสุ สปฺปิอาทิทฺรววตฺถูสุ ยํ กิฺจิ. ปาทปูรณนฺติ ปาทํ ปูเรตีติ ปาทปูรณํ, ปาทคฺฆนกนฺติ อตฺโถ. ปิวโต ปราชโยติ สมฺพนฺโธ. กทาติ เจ? เอเกเนว ¶ ปโยเคน ปีตมตฺเต ปาทปูรเณติ โยชนา. ‘‘มุขคตํ วินา’’ติ ปาเสโส. ตตฺถ เอเกเนว ปโยเคนาติ ธุรนิกฺเขปมกตฺวา เอกาพทฺธํ กตฺวา อากฑฺเฒตฺวา ¶ ปิวนปโยเคน. ‘‘มุขคตํ วินา’’ติ อิมินา สเจ คลคเตเนว ปาโท ปูรติ, อนฺโตคลํ ปวิฏฺเติ วุตฺตํ โหติ. มุขคเตน ปูรติ, มุขคตํ ภาชนคเตน วิโยเชตฺวา โอฏฺเสุ ปิหิเตสูติ วุตฺตํ โหติ. เวฬุนฬาทีหิ อากฑฺเฒตฺวา ปิวนฺตสฺส นาฬคเตน ปูรติ, นาฬคตํ ภาชนคเตน วิโยเชตฺวา นาฬิโกฏิยํ องฺคุลิยา ปิหิตายนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิทํ ‘‘อตฺตโน ภาชนคตํ วา กโรติ, มุฏฺึ วา ฉินฺทตี’’ติ (ปารา. ๙๔) วุตฺตนยสฺส อนุโลมวเสน มหาปจฺจริยาทีสุ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) อฏฺกถาสุ วุตฺตนเยน คเหตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
‘‘เอเกเนว ปโยเคน ปีตมตฺเต ปราชโย’’ติ อิมินา สปฺปิอาทีสุ มหคฺเฆสุ ตตฺตเกเนว ปาทปูรณฺเจ โหติ, เอกวารเมว มุเขน วา สปฺปิอาทินา วา ภาชนคเตน เอกาพทฺธภาเว ฉินฺนมตฺเตปิ อตฺตโน ภาชเน กุมฺภึ ปณาเมตฺวา ปกฺขิตฺเตน กุมฺภิคเต ฉินฺนมตฺเตปิ ปาราชิโก โหตีติ คเหตพฺพํ.
๕๘. ‘‘ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปุนปฺปุนํ ปิวนฺตสฺส น ปราชโย’’ติ อิมินา ธุรนิกฺเขปมกตฺวา ปุนปฺปุนํ ปิวโต ปราชโยติ สามตฺถิยา วุตฺตํ โหติ. ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา ปุนปฺปุนํ มุเขน คเหตฺวา วา ปุฏาทีหิ วา คเหตฺวา ปาทปูรณมตฺตํ ปิวนฺตสฺส ปราชโย โหตีติ คเหตพฺพํ.
๕๙-๖๐. สเจ ขิปติ เถยฺยจิตฺโตติ สมฺพนฺโธ. ยํ กิฺจิ ภณฺฑกนฺติ เตลปิวนารหํ ทุกูลสาฏกจมฺมขณฺฑาทิกํ ภณฺฑํ. เตลกุมฺภิยํ ปรสฺสาติ ลพฺภติ. ตํ นิกฺขิตฺตภณฺฑํ. ธุวนฺติ เอกํเสน. ตาวเท วินสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. ตาวเทติ ตสฺมึ ขเณเยว. กตรสฺมึ ขเณติ อาห ‘‘หตฺถโต มุตฺตมตฺเต’’ติ, เตลสฺส ปีตกาลํ อนาคมฺม ปุพฺพปโยคตฺตา ¶ ปมเมว โหตีติ อธิปฺปาโย. วินสฺสตีติ สีลวินาสํ ปาปุณาติ. อาวิฺเชตฺวาติ ปณาเมตฺวา. คาเฬตีติ ปคฺฆราเปติ. ‘‘สาเฬตี’’ติปิ ปนฺติ, โสเยว อตฺโถ. สาฬ สวเนติ ธาตุ. ตถาติ ‘‘เถยฺยจิตฺโต วินสฺสตี’’ติ อากฑฺฒติ, เถยฺยจิตฺเตน เอวํ กโรนฺตสฺส ปาราชิโก โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๖๑. ตนฺติ เตลสฺส โอกิรณภาวํ ตฺวา ปมเมว ตุจฺฉภาชเน เถยฺยจิตฺเตน นิกฺขิตฺตํ ปาทคฺฆนกเตลปิวนกํ ¶ ตํ วตฺถาทิภณฺฑํ. ‘‘อุทฺธรนฺโตวา’’ติ สาวธารณวจเนน ‘‘ปีตมตฺเต ปราชโย’’ติ ทสฺสิตํ มหาอฏฺกถามตํ ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ. ธํสิโตติ ‘‘สาสนกปฺปรุกฺขา ปาติโต, ปาราชิกาปนฺโนติ อธิปฺปาโย. ‘‘เถยฺยจิตฺโต’’ติ อากฑฺฒนตฺถํ ‘‘ตถา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธนียํ. อิมินา สุทฺธจิตฺเตน โคปนตฺถาย ตุจฺฉภาชเน วตฺถาทึ นิกฺขิปิตฺวา อฺเน ตํ อโนโลเกตฺวา เตเล อาสิตฺเต ปจฺฉา สุทฺธจิตฺเตเนว อุทฺธรโต น โทโสติ ทีปิตํ โหติ.
๖๒. ตตฺเถวาติ ิตฏฺาเนเยว. ภินฺทโตติ านา อจาเวตฺวา ติณชฺฌาปกสฺส วิย ภิกฺขุโน านาจาวนาธิปฺปายํ วินา ปาสาณาทินา เกนจิ ปหริตฺวา ภินฺทโต. ‘‘มนฺโตสธานุภาเวน ภินฺทโต’’ติ จ วทนฺติ. ฉฑฺเฑนฺตสฺสาติ อฉฑฺเฑตุกามสฺสาปิ สโต ปริปุณฺณเตลฆฏาทีสุ จาปลฺเลน วาลุกํ วา อุทกํ วา โอกิริตฺวา อุตฺตราเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อุทกมาติกํ ฆฏาภิมุขํ กตฺวา โอปิลาเปนฺตสฺสา’’ติ วทนฺติ. านาจาวนาธิปฺปาเย สติปิ เถยฺยจิตฺตาภาเวน ปาราชิกา น วิชฺชติ, ภณฺฑเทยฺยํ ¶ ปน โหตีติ สนฺนิฏฺานํ. ฌาเปนฺตสฺสาติ กฏฺานิ ปกฺขิปิตฺวา ฌาเปนฺตสฺส. อปริโภคํ กโรนฺตสฺสาติ อุจฺจารปสฺสาวาทิโมกิริตฺวา อปริโภคํ กโรนฺตสฺส. ทุกฺกฏนฺติ เอเตสุ ภินฺทนาทีสุ จตูสุปิ าเนสุ ปทภาชนิยํ ทุกฺกฏเมว อาคตตฺตา วุตฺตํ.
ภูมฏฺกถาวณฺณนา.
๖๓. อิทานิ ถลฏฺเ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปิต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ปตฺถริตฺวาติ อตฺถริตฺวา. เอตฺถ จ-สทฺโท อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺโถ, เตน ถเล ราสิกตธฺาทีสุ วินิจฺฉโย นิมิกุมฺภิยา วุตฺตวินิจฺฉยานุสาเรน วิฺาตุํ สกฺกาติ ตํ สรูปโต อวุตฺตํ สมุจฺจิโนติ. อตฺถรณาทิกนฺติ ปจฺจตฺถรณาทิกํ. เวเตฺวา อุทฺธรนฺตสฺสาติ กิลฺชสํหรณนิยาเมน วฏฺเฏตฺวา สํหริตฺวา อุทฺธรนฺตสฺส. มุตฺเต านาติ กเมน สํหริตฺวา ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุตฺเต สติ. ปราภโวติ สาสนโต ปริหีโน.
๖๔. เอวํ อตฺถริตฺวา ปิตวตฺถาทีนํ สํหริตฺวา คหเณ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ติริยโต อากฑฺฒเน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โอริมนฺเตนา’’ติอาทิ. ปิ, วาติ ปการนฺตรเมว สมุจฺจิโนติ. อุชุกํ กฑฺฒโตปิ วาติ อตฺถริตฺวา ปิตวตฺถาทิกํ จตูสุ ทิสาสุ เอกํ ทิสํ อุชุกมากฑฺฒโต ¶ จ ปาราชิกํ โหติ. กทาติ เจ? เอตฺถาปิ โอริมนฺเตน ผุฏฺโมกาสํ ปาริมนฺตโต อติกฺกนฺเต ปาราชิกนฺติ โยชนา. โอริมนฺเตน ผุฏฺโมกาสนฺติ คเหตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺส อตฺตโน ิตทิสาคตปริยนฺเตน ผุสิตฺวา ิตฏฺานํ. ปาริมนฺตโตติ ปาริมนฺเตน, กรณตฺเถ โต-ปจฺจโย.
ถลํ ¶ นาม ปฏิจฺฉนฺนาปฏิจฺฉนฺนภูมิปาสาทปพฺพตตลาทีนิ, ตตฺรฏฺํ ธฺาทิภณฺฑํ ถลฏฺํ นาม โหติ. ตตฺถ สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.
ถลฏฺกถาวณฺณนา.
๖๕-๖. ปริจฺเฉทาติ านปริจฺเฉทา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
๖๗-๘. เขคตนฺติ อากาสคตํ. อสฺสาติ โมรสฺส. ตนฺติ โมรํ.
๖๙. านาติ ยถาปริจฺฉินฺนา ฉพฺพิธา านา. ตสฺสาติ โมรสฺส ผนฺทาปเนติ โยชนา. ตสฺสาติ วา ภิกฺขุสฺส ถุลฺลจฺจยมุทีริตํ.
๗๐. อคฺคเหตฺวา หตฺเถน เลฑฺฑุขิปนาทิปโยเคน โมรํ ตาเสตฺวา ิตฏฺานโต อปเนติ. อตฺตโน านาติ โมรสฺส อตฺตโน ฉปฺปการฏฺานา. สยํ านาติ ภิกฺขุ สกฏฺานา, สมณภาวโตติ วุตฺตํ โหติ.
๗๑-๒. อิทานิ ‘‘านา จาเวติ เจ โมร’’นฺติ ทสฺสิตํ านาจาวนํ วิภาเวตุมาห ‘‘ผุฏฺโกาส’’นฺติอาทิ.
๗๓. กเร นิลียตีติ ปสาริตหตฺถตเล นิสีทติ.
๗๕. อุฑฺเฑตฺวาติ อากาสํ อุปฺปติตฺวา.
๗๖. องฺเค ¶ นิลีนนฺติ อํสกูฏาทิสรีราวยเว นิลีนํ. ปาเทติ อตฺตโน ปมุทฺธารปาเท. ทุติเย ปาเท.
๗๗. ปาทานนฺติ ¶ ทฺวินฺนํ ปาทานํ. กลาปสฺสาติ ภูมิยํ ผุสิยมานสฺส กลาปคฺคสฺส.
๗๘. ตโต ปถวิโตติ ตีหิ อวยเวหิ ปติฏฺิตปถวิปฺปเทสโต, น ปมโต ตตฺถ ทุกฺกฏตฺตา, น ทุติยโต ตตฺถ ถุลฺลจฺจยตฺตา, ตติยา ปน านา เกสคฺคมตฺตมฺปิ จาวยโต ปาราชิกนฺติ วุตฺตํ โหติ.
เอตฺตาวตา –
‘‘ปฺชเร ิตํ โมรํ สห ปฺชเรน อุทฺธรติ, ปาราชิกํ. ยทิ ปน ปาทํ นคฺฆติ, สพฺพตฺถ อคฺฆวเสน กตฺตพฺพํ. อนฺโตวตฺถุมฺหิ จรนฺตํ โมรํ เถยฺยจิตฺโต ปทสา พหิวตฺถุํ นีหรนฺโต ทฺวารปริจฺเฉทํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. วเช ิตพลิพทฺทสฺส หิ วโช วิย อนฺโตวตฺถุ ตสฺส านํ. หตฺเถน ปน คเหตฺวา อนฺโตวตฺถุสฺมิมฺปิ อากาสคตํ กโรนฺตสฺส ปาราชิกเมว. อนฺโตคาเม จรนฺตมฺปิ คามปริจฺเฉทํ อติกฺกาเมนฺตสฺส ปาราชิกํ. สยเมว นิกฺขมิตฺวา คามูปจาเร วา วตฺถูปจาเร วา จรนฺตํ ปน เถยฺยจิตฺโต กฏฺเน วา กถลาย วา อุตฺราเสตฺวา อฏวีภิมุขํ กโรติ, โมโร อุฑฺเฑตฺวา อนฺโตคาเม วา อนฺโตวตฺถุมฺหิ วา ฉทนปิฏฺเ วา นิลียติ, รกฺขติ. สเจ ปน อฏวีภิมุโข อุฑฺเฑติ วา คจฺฉติ วา, ‘อฏวึ ปเวเสตฺวา คเหสฺสามี’ติ ปริกปฺเป อสติ ปถวิโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อุปฺปติตมตฺเต วา ทุติยปทวาเร วา ปาราชิกํ. กสฺมา? ยสฺมา คามโต นิกฺขมนฺตสฺส ิตฏฺานเมว านํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๖) –
อฏฺกถาคโต ¶ วินิจฺฉโย อุปลกฺขิโตติ เวทิตพฺพํ. กปิฺชราทิปรสนฺตกสกุเณสุ จ เอเสว วินิจฺฉโย ทฏฺพฺโพ.
๗๙. ปตฺเตติ ทฺวาเร ภิกฺขาย ิตํ ภิกฺขุโน หตฺถคเต ปตฺเต. ตสฺส เถยฺยจิตฺตสฺส.
๘๐. อนุทฺธริตฺวาวาติ ¶ ปตฺเต ปติตํ สุวณฺณาทึ หตฺเถน อนุกฺขิปิตฺวาว ปมปทวาเร ถุลฺลจฺจยํ คมฺมมานตฺตา น วุตฺตํ.
๘๑. หตฺเถติ หตฺถตเล. วตฺเถติ จีวเร. มตฺถเกติ สิรสิ. คาถาฉนฺทวเสน วา-สทฺเท อาการสฺส รสฺสตฺตํ. ปติฏฺิตนฺติ ปติตํ. ตนฺติ ฉิชฺชมานํ ตํ สุวณฺณขณฺฑาทิ. ยทิ อากาเส คจฺฉนฺตํ, ปตนฺตํ วา หตฺเถน คณฺหาติ. คหิตหตฺเถ ิตฏฺานเมว านํ, ตโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนนฺตสฺส ปาราชิกํ. ตถา คเหตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คจฺฉโต ทุติยปาทุทฺธาเร. วตฺถาทีสุ ปติเตปิ เอเสว นโย.
อากาสฏฺกถาวณฺณนา.
๘๒. มฺจปีาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มฺจปีสทิเส เวหาสภูเต อฏฺฏวิตานาทโย สงฺคณฺหาติ. อามาสมฺปีติ หตฺเถน วา กาเยน วา อามสิตพฺพํ วตฺถาทิฺจ. อนามาสมฺปีติ ตถา อปรามสิตพฺพํ สุวณฺณาทึ. อามสนฺตสฺสาติ หตฺถาทีหิ ปรามสนฺตสฺส. ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ านาจาวเน ปาราชิกฺจ เหฏฺา ถลฏฺเ วุตฺตนเยน วิฺาตุํ สกฺกาติ อติทิสติ. านปริจฺเฉโท ปน มฺจาทีหิ เอว อุกฺขิปนฺตสฺส จตุนฺนํ ปาทานํ วเสน, ตตฺรฏฺเมว คณฺหนฺตสฺส มฺจสฺส จตูสุ ปาทสีเสสุ ผุสิตฺวา ¶ มชฺเฌ อผุสิตฺวา ิตสฺส ขลิมกฺขิตถทฺธสาฏกสฺส จตุนฺนํ ปาทสีสานํ วเสน, อฏนีสุ ผุสิตฺวา ิตสฺส อฏนีนํ วเสน วา เวทิตพฺโพ.
๘๓. วํเสติ จีวรวํเส, อิมินา จีวรนิกฺเขปนตฺถาย ปิตรุกฺขทณฺฑสลาการชฺชุอาทโย อุปลกฺขิตา. โอรโตติ อตฺตโน ิตทิสาภิมุขโต. โภคนฺติ สํหริตฺวา จีวรํ ตสฺส นาเมตฺวา ปิตมชฺฌฏฺานํ. อนฺตนฺติ นาเมตฺวา เอกโต กตํ, อุภยานํ วา อนฺตํ. ปารโต กตฺวาติ วํสโต ปรภาเค กตฺวา.
๘๔. จีวเรน ผุฏฺโกาโสติ จีวเรน ผุฏฺฏฺานํ. ตสฺสาติ ตถา ปิตสฺส จีวรสฺส. โส สกโล จีวรวํโส านํ น ตุ โหตีติ มโตติ สมฺพนฺโธ.
๘๕-๖. โอริมนฺเตน ¶ ผุฏฺํ วา ตํ โอกาสนฺติ สมฺพนฺโธ. จีวรโภคํ คเหตฺวา เถยฺยจิตฺเตน อตฺตโน อภิมุขํ อากฑฺฒโต อตฺตโน ิตทิสาย จีวรวํเส จีวเรน ผุสิตฺวา ิตฏฺานปริยนฺตํ อิตเรน อติกฺกามยโต จุตีติ สมฺพนฺโธ. อิตเรน ปาริมนฺเตน ภิตฺติทิสาย จีวรสฺส ผุฏฺโกาสปริยนฺตํ อิตเรน ผุฏฺํ ตํ โอกาสํ โอริมนฺเตน อติกฺกามยโต วา จุตีติ โยชนา. อิตเรนาติ ปาริมนฺเตน ภิตฺติปสฺเส จีวรวํเส ผุสิตฺวา ิตจีวรปริยนฺเตน. ผุฏฺํ จีวรวํโสกาสํ. โอริมนฺเตนาติ อตฺตโน ิตทิสาย จีวรวํเส ผุสิตฺวา ปิตจีวรปฺปเทเสน. อติกฺกามยโตติ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมนฺตสฺส.
เอวํ ทีฆนฺตากฑฺฒเน สมฺภวนฺตํ วิกปฺปํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ติริยนฺเตน อติกฺกมนวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทกฺขิณนฺเตนา’’ติอาทิ. ปุนาติ อถ วา. ทกฺขิณนฺเตน ผุฏฺฏฺานํ วามนฺเตน ¶ อติกฺกามยโต จุตีติ โยชนา. จีวรํ หริตุํ จีวราภิมุขํ ิตสฺส อตฺตโน ทกฺขิณปสฺเส จีวรโกฏิยา ผุฏฺํ จีวรฏฺิตปฺปเทสํ วามปสฺเส จีวรนฺเตน อติกฺกามยโต ปาราชิกเมวาติ อตฺโถ. วามนฺเตน ผุฏฺฏฺานํ อิตเรน อติกฺกามยโต วา จุตีติ โยชนา. วามนฺเตน ผุฏฺฏฺานนฺติ จีวราภิมุขํ ิตสฺส วามปสฺเส จีวรนฺเตน ผุฏฺํ จีวรฏฺิตปฺปเทสํ. อิตเรน ทกฺขิณปสฺเส จีวรนฺเตน อติกฺกามยโต วา จุติ ปาราชิกา โหตีติ อตฺโถ.
๘๗. วํสโตติ จีวเรน ผุสิตฺวา ิตจีวรวํสปฺปเทสโต. ‘‘เกสคฺคมตฺต’’นฺติ กตฺถจิ โปตฺถเก ลิขนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ‘‘อุกฺขิตฺเต’’ติ ภุมฺเมกวจนนฺเตน สมานาธิกรณตฺตา ปจฺจตฺเตกวจนนฺตตา น ยุชฺชตีติ. ‘‘เกสคฺคมตฺเต อุกฺขิตฺเต’’ติ กตฺถจิ ปาโ ทิสฺสติ, โส จ ปมาณํ.
๘๘. วิโมเจนฺโต ถุลฺลจฺจยํ ผุเสติ โยชนา. จีวรวํเส ผุสาเปตฺวา, อผุสาเปตฺวา วา รชฺชุยา พนฺธิตฺวา ปิตจีวรํ คณฺหิตุกาโม เถยฺยจิตฺเตน พนฺธนํ โมเจนฺโต ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. มุตฺเตติ มุตฺตมตฺเต. ปาราชิโก โหติ านา จุตภาวโตติ อธิปฺปาโย.
๘๙. เวเตฺวาติ เอตฺถ ‘‘วํสเมวา’’ติ สามตฺถิยโต ลพฺภติ. จีวรวํสํ ปลิเวเตฺวา ตตฺเถว ปิตจีวรํ นิพฺเพเนฺตสฺส ภิกฺขุโนปิ อยํ นโยติ สมฺพนฺโธ. นิพฺเพเนฺตสฺสาติ วินิเวเนฺตสฺส. อยํ นโยติ ‘‘นิพฺเพเนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, นิพฺเพิเต ปาราชิก’’นฺติ ยถาวุตฺตนยมติทิสติ ¶ . วลยํ ฉินฺทโต วาปิ อยํ นโยติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ภิกฺขุโน, วํเส, ปิตํ, จีวร’’นฺติ จ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. จีวรวํเส ปเวเสตฺวา ¶ ปิตํ จีวรวลยํ ยถา ฉินฺนมตฺเต านา จวติ, ตถา ฉินฺทนฺตสฺส ภิกฺขุโน เฉทเน ถุลฺลจฺจยํ, ฉินฺเน ปาราชิกนฺติ อตฺโถ. โมเจนฺตสฺสาปฺยยํ นโยติ เอตฺถาปิ ‘‘วลย’’นฺติ อิมินา สทฺธึ ‘‘ภิกฺขุโน’’ติอาทิปทานิ โยเชตพฺพานิ. จีวรวํเส ปิตํ จีวรํ วลยํ โมเจนฺตสฺสาปิ ถุลฺลจฺจยปาราชิกานิ ปุพฺเพ วุตฺตนยาเนว.
อิห ปุริเมน อปิ-สทฺเทน ยถาวุตฺตปการทฺวเย สมฺปิณฺฑิเต อิตเรน อปิ-สทฺเทน อวุตฺตสมฺปิณฺฑนมนฺตเรน อตฺถวิเสสาภาวโต อวุตฺตมตฺถํ สมฺปิณฺเฑติ, เตน ‘‘อากาสคตํ วา กโรติ, นีหรติ วา’’ติ ปการทฺวยํ สงฺคณฺหาติ. เตน รุกฺขมูเล ปเวเสตฺวา ปิตนิธิสงฺขลิกวลยมิว จีวรวํเส สพฺพฏฺาเนหิปิ อผุสาเปตฺวา จีวรวลยํ อากาสคตํ กโรนฺตสฺสาปิ จีวรวํสโกฏิยา พหิ นีหรนฺตสฺสาปิ ถุลฺลจฺจยปาราชิกานิ วุตฺตนเยเนว าตพฺพานีติ เอเตเยว สงฺคณฺหาติ. ‘‘วลยํ ฉินฺทโต วาปิ, โมเจนฺตสฺส วาปิ, วลยํ อากาสคตํ วา กโรติ, นีหรติ วา’’ติ อิเมสุ จตูสุ วิกปฺเปสุ เอกมฺปิ ตถา อกตฺวา จีวรวลยํ จีวรวํเส ฆํเสตฺวา อิโต จิโต จ สฺจาเรนฺตสฺส จีวรวลยสฺส สพฺโพปิ จีวรวํโส านนฺติ ‘‘านาจาวนํ นตฺถี’’ติ วุตฺตพฺยติเรกวเสน ทสฺสิตพฺพนฺติ คเหตพฺพํ.
๙๐. ปิตสฺส หีติ เอตฺถ ปสิทฺธิสูจกํ หิ-สทฺทํ อาเนตฺวา ‘‘จีวเร วิย หี’’ติ โยเชตฺวา วิเสสตฺถโชตกํ ตุ-สทฺทํ อาเนตฺวา ‘‘ปิตสฺส ตู’’ติ โยเชตพฺพํ. อถ วา นิปาตานมเนกตฺถตฺตา ยถาาเน ิตานเมว วิเสสตฺเถ หิ-สทฺโท, ปสิทฺธิยํ ตุ-สทฺโท จ โยเชตพฺโพ. วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ โยชนา. ทีฆโต วา ติริยโต วา ปสาเรตฺวา ¶ จีวรวํเส นิกฺขิตฺตสฺส จีวรสฺส วินิจฺฉโย ปน สํหริตฺวา จีวรวํเส ปิตจีวรวินิจฺฉโย วิย วุตฺโต, ‘‘โอริมนฺเตน…เป… ปาราชิกํ ภเว’’ติ คาถาตฺตเย วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพติ อตฺโถ.
๙๑. สิกฺกายาติ โอลมฺพิกาธาเร. ยํ ภณฺฑกนฺติ สมฺพนฺโธ. ปกฺขิปิตฺวาติ นิเวเสตฺวา. ลคฺคิตํ โหตีติ โอลมฺพิตํ โหติ. ‘‘สิกฺกาโต ตํ หรนฺโต วา จุโต’’ติ เอตสฺมึ วิกปฺเป ¶ สิกฺกาย ผุฏฺฏฺานวเสน านาจาวนํ เวทิตพฺพํ. ทุติยวิกปฺเป สิกฺกาย, พนฺธนฏฺานสฺส จ ภิตฺติปสฺเส ผุฏฺฏฺานํ ยทิ สิยา, ตสฺส จ วเสน านาจาวนํ เวทิตพฺพํ.
๙๒-๓. กุนฺตาทีติ อาทิ-สทฺเทน ภินฺทิวาลาทิ ทีฆวตฺถุ คเหตพฺพํ. ตฏฺฏิกาขาณุกา วิย ภิตฺติยํ ปฏิปาฏิยา นิเวสิตานิ มิคสิงฺคานิ วา สูลานิ วา นาคทนฺตา นาม. อคฺเค วาติ กุนฺตผลโกฏิยํ วา. พุนฺเท วาติ กุนฺตทนฺตมูเล วา. ปริกฑฺฒโตติ อุชุกํ อากฑฺฒโต.
ผุฏฺโกาสนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ นาคทนฺเต ผุฏฺฏฺานํ อติกฺกามยโต เกสคฺคมตฺเตน ปราชโย สิยาติ สมฺพนฺโธ, ปิตฏฺปิตฏฺานํ วิหาย เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกามยโต ปาราชิกนฺติ อตฺโถ. เกสคฺเคน อนฺตเรน เหตุนา ปราชโยติ คเหตพฺพํ, เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปนยนเหตุ ปาราชิกํ โหตีติ อตฺโถ.
๙๔-๕. เอวํ ทีฆโต อากฑฺฒเน, อุกฺขิปเน จ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ติริยํ อากฑฺฒเน, ปรโต นยเน จ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาการาภิมุโข’’ติอาทิ. อากฑฺฒตีติ อตฺตโน ¶ ิตฏฺานาภิมุขํ อาวิฺฉติ. โอริมนฺตผุฏฺโกาสนฺติ โอริมนฺเตน ผุฏฺโกาสํ, อตฺตโน ทิสาย กุนฺตทณฺเฑน ผุฏฺโกาสนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ อจฺจยนกิริยาสมฺพนฺเธ สามิวจนปฺปสงฺเค อุปโยควจนํ. ‘‘สกมฺมกธาตุปฺปโยเค อุปโยควจนสฺส มาคธิกโวหาเร ทสฺสนโต กมฺมตฺเถเยว อุปโยควจน’’นฺติ เอเก วทนฺติ, เอตํ กจฺจายนลกฺขเณน สมานํ. อิตรนฺตจฺจเยติ อิตรนฺเตน กโต อจฺจโยติ อิตรนฺตจฺจโย, มชฺเฌปทโลปสมาโส, ปาริมนฺเตน กตฺตพฺพาติกฺกเม กเตติ อตฺโถ. เกสคฺเคน จุโตติ โยชนา. ยถาวุตฺโตเยว อตฺโถ.
ปรโต เปลฺลนฺตสฺสาติ ปรโต กตฺวา เปลฺลนฺตสฺส, ภิตฺติปสฺสาภิมุขํ กตฺวา นิปฺปีเฬนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ตเถวาติ ‘‘เกสคฺเคน จุโต’’ติ อากฑฺฒติ. ปิเตปิ จ กุนฺตาทิมฺหิ อยํ นโยติ โยชนา. ‘‘เกสคฺเคนา’’ติอาทินา อยเมว วินิจฺฉยนโย วตฺตพฺโพติ อตฺโถ.
๙๖. ตาลสฺส ผลํ จาเลนฺตสฺส อสฺส ภิกฺขุโน เยน ผเลน วตฺถุ ปฺจมาสกํ ปูรติ, ตสฺมึ ผเล พนฺธนา มุตฺเต ปาราชิกํ ภเวติ โยชนา.
๙๗. ตาลสฺส ¶ ปิณฺฑึ ฉินฺทตีติ ตาลผลกณฺณิกํ ฉินฺทติ. ยาย วตฺถุ ปูรติ, ตสฺสา ฉินฺนมตฺตาย ‘‘อสฺส ปาราชิกํ สิยา’’ติ เหฏฺา วุตฺตนโย อิธาปิ โยเชตพฺโพ. ตาลปิณฺฑิ สเจ อากาสคตา โหติ, ปิณฺฑิมูลเมว านํ. ปณฺณทณฺเฑ วา ปณฺเณ วา อปสฺสาย ิตา เจ, ิตฏฺาเนหิ สห ปิณฺฑิมูลํ คเหตฺวา านเภทํ ตฺวา านาจาวเนน ปาราชิกมฺปิ ทฏฺพฺพํ. เอเสว นโยติ ‘‘เยน วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ พนฺธนา มุตฺเต อสฺส ปาราชิกํ สิยา’’ติ ยถาวุตฺโต เอว นโย. เอเตสุ สพฺเพสุ ¶ าเนสุ ปาราชิกวีติกฺกมโต ปุพฺพภาคานนฺตรปฺปโยเค ถุลฺลจฺจยฺจ สหปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏฺจ ตโตปิ ปุพฺพปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจ คมนทุติยปริเยสนาทิอวเสสปโยเคสุ อทินฺนาทานปุพฺพกตฺตา ทุกฺกฏฺจ อสมฺมุยฺหนฺเตหิ เวทิตพฺพํ.
เวหาสฏฺกถาวณฺณนา.
๙๘. อุทเก นิธิฏฺานํ คจฺฉโตติ สมฺพนฺโธ. อคมฺภีโรทเก นิธิฏฺานํ ปทวาเรน คจฺฉโต ปเท ปเท ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. คมฺภีเร ปน ตถาติ ‘‘ปทวาเรน คจฺฉโต ทุกฺกฏ’’นฺติ ยถาวุตฺตมติทิสติ. คจฺฉโตติ ตรโต, หตฺถํ อจาเลตฺวา ตรนฺตสฺส ปทวารคณนาย, หตฺเถน จ วายมนฺตสฺส ‘‘ปทวาเรนา’’ติ อิทํ อุปลกฺขณนฺติ กตฺวา หตฺถวารคณนาย ปทวารคณนาย ทุกฺกฏานิ เวทิตพฺพานิ. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘คมฺภีเร หตฺเถหิ วา ปาเทหิ วา ปโยคํ กโรนฺตสฺส หตฺถวาเรหิ วา ปทวาเรหิ วา ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๘).
อุมฺมุชฺชนาทิสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นิมุชฺชนํ สงฺคณฺหาติ. เอตฺถาปิ ‘‘ตถา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏนฺติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. นิหิตกุมฺภิยา คหณตฺถํ นิมุชฺชนุมฺมุชฺชเนสุปิ หตฺถวาเรน, ปทวาเรน, หตฺถปทวาเรหิ จ ทุกฺกฏเมวาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘เอเสว นโย กุมฺภิคหณตฺถํ นิมุชฺชนุมฺมุชฺชเนสู’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๘).
อิมิสฺสา คาถาย ‘‘นิธิฏฺานํ คจฺฉโต ทุกฺกฏ’’นฺติ วจนโต ตถา คจฺฉนฺตสฺส อุทกสปฺปจณฺฑมจฺฉทสฺสเนน ภายิตฺวา ปลายนฺตสฺส คมนสฺส อตทตฺถตฺตา อนาปตฺตีติ พฺยติเรเกน ¶ วิฺายติ. เอตฺถ ทุติยปริเยสนาทิสพฺพปโยเคสุ ปาจิตฺติยฏฺาเน ¶ ปาจิตฺติยฺจ ปาจิตฺติเยน สห ทุกฺกฏฺจ อวเสสปโยเคสุ สุทฺธทุกฺกฏฺจ สหปโยเค ภาชนามสเน อนามาสทุกฺกฏฺจ ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ านาจาวเน ปาราชิกฺจ นิธิกุมฺภิยา วุตฺตนเยน วิฺาตุํ สกฺกาติ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ านเภโท ปฺจธา โหติ, อิธ ปีเฬตฺวา โอสาเรตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา อโธทิสาย สห ฉพฺพิธํ โหตีติ อยเมเตสํ วิเสโส.
๙๙. ตตฺถ ชาตกปุปฺเผสูติ ตสฺมึ ชเล รุฬฺเหสุ อุปฺปลาทิกุสุเมสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เยน ปุปฺเผนาติ นิทฺธาริตพฺพํ. ฉินฺทโตติ เอตฺถ วตฺตมานกาลวเสน อตฺถํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ฉินฺนวโต’’ติ ภูตวเสน อตฺโถ คเหตพฺโพ. เอวํ อคฺคหิเต อนฺติมสฺส ปโยคสฺส ยาว อนุปรโม, ถุลฺลจฺจยารหตฺตา ปาราชิกวจนสฺส วตฺถุวิโรธิตาย จ อิมสฺเสว ปจฺฉิมกุสุมสฺส กนฺตนกาเล ปุปฺผนาฬปสฺเส ตจมตฺเตปิ อจฺฉินฺเน ปาราชิกํ นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกนาฬ…เป… ปริรกฺขตี’’ติ เอตฺเถว อนนฺตเร วุจฺจมานนยสฺส วิรุทฺธตฺตา จ อิมํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุํ ลิขิตสฺส ‘‘ยสฺมึ ปุปฺเผ วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ ฉินฺนมตฺเต ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๘) อฏฺกถาวจนสฺส วิรุทฺธตฺตา จ วตฺตมานกาลมคเหตฺวา ภูตกาลสฺเสว คเหตพฺพตฺตา ‘‘กทา เทวทตฺต อาคโตสี’’ติ ปฺหสฺส ‘‘เอโสหมาคจฺฉามิ, อาคจฺฉนฺตํ มา มํ วิชฺฌา’’ติ อุตฺตเร วิย วตฺตมานสมีเป วตฺตมาเนวาติ ภูเต วตฺตมานพฺยปเทสโต วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๑๐๐. ‘‘อุปฺปลชาติยา’’ติ อิมินา ‘‘ปทุมชาติยา’’ติ พฺยติเรกโต วุตฺตตฺตา ‘‘ปทุมชาติกานํ ปน ทณฺเฑ ฉินฺเน อพฺภนฺตเร สุตฺตํ อจฺฉินฺนมฺปิ รกฺขตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๘) อฏฺกถานโย สงฺคหิโตติ ¶ ทฏฺพฺพํ. เอกนาฬสฺส วา ปสฺเสติ ‘‘นาฬสฺส เอกปสฺเส’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธสุขตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตโตติ นาฬโต.
๑๐๑. ภารพทฺธกุสุเมสุ วินิจฺฉยสฺส วกฺขมานตฺตา ฉินฺทิตฺวา ปิเตสูติ อพทฺธกุสุมวเสน คเหตพฺพํ. ปุพฺเพ วุตฺตนเยนาติ ตตฺรชาตกกุสุเมสุ วุตฺตวินิจฺฉยานุสาเรน. ‘‘เยน ปุปฺเผน ปูรติ, ตสฺมึ ฉินฺนมตฺเต’’ติ อวตฺวา คหิตมตฺเต ปาราชิกนฺติ โยชนา เจตฺถ วิเสโส.
๑๐๒. ภารํ กตฺวา พทฺธานิ ภารพทฺธานีติ มชฺฌปทโลปีสมาโส. ปุปฺผานีติ ปาทคฺฆนกานิ ¶ อุปฺปลาทิกุสุมานิ. ฉสฺวากาเรสูติ อุทเก โอสีทาเปตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา อโธทิสาย สห จตสฺโส ทิสา, อุทฺธนฺติ อิมาสุ ฉสุ ทิสาสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เกนจิ อากาเรนาติ นิทฺธาเรตพฺพทสฺสนํ. านาจาวนสฺส สาธกตมตฺตา กรเณเยว กรณวจนํ. นสฺสตีติ ปาทคฺฆนกปุปฺผานํ านาจาวเนน ปาราชิกมาปชฺชิตฺวา โลกิยโลกุตฺตรานํ อนวเสสคุณานํ ปติฏฺานภูตํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ นาเสตฺวา สยํ คุณมรเณน มียตีติ อตฺโถ.
๑๐๓. ปุปฺผานํ กลาปนฺติ ปาทคฺฆนกอุปฺปลาทิกุสุมกลาปํ. อุทกํ จาเลตฺวาติ ยถา วีจิ อุฏฺาติ, ตถา จาเลตฺวา. ปุปฺผฏฺานาติ ปุปฺผานํ ิตฏฺานา. จาเวตีติ กลาปํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนติ. ‘‘ปุปฺผํ านา จาเวตี’’ติ กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ปาโ ทิสฺสติ. ปุปฺผกลาปสฺเสว คหิตตฺตา ปุริโมเยว คเหตพฺโพ.
๑๐๔. ‘‘เอตฺถ คตํ คเหสฺสามี’’ติ สห ปาเสเสน โยชนา. ปริกปฺเปตีติ ‘‘เอตฺถ คตํ คเหสฺสามี’’ติ านํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ¶ ตกฺเกติ. รกฺขตีติ านาจาวเนปิ สติ โส ปริกปฺโป ปาราชิกาปตฺติโต ตํ ภิกฺขุํ รกฺขติ. คตฏฺานาติ ปุปฺผกลาเปน คตํ สมฺปตฺตฺจ ตํ านฺจาติ วิคฺคโห. ‘‘อุทฺธรนฺโต’’ติ เอเตน ‘‘ปุปฺผานํ กลาป’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘กตฏฺานา’’ติปิ ปาโ, กตา ปุปฺผานํ านา อุทฺธรนฺโตติ สมฺพนฺโธ. อุทกํ จาเลตฺวา วีจิโย อุฏฺาเปตฺวา วีจิปฺปหาเรน อุทกปิฏฺเน ปริกปฺปิตฏฺานํ สมฺปตฺตํ ปุปฺผกลาปํ ิตฏฺานา อุทฺธรนฺโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ านา จาเวนฺโตติ อตฺโถ. ‘‘านา’’ติ อิทํ ‘‘ภฏฺโ’’ติ อิมินา สมฺพนฺธนียํ. ภฏฺโ นาม ปวุจฺจตีติ อตฺตนา สมาทาย รกฺขิยมานา ปาติโมกฺขสํวรสีลสงฺขาตสพฺพคุณรตนงฺกุราภินิพฺพตฺตฏฺานา ปติโต นาม โหตีติ ปวุจฺจติ.
๑๐๕. ชลโต อจฺจุคฺคตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ปุปฺผสฺสา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ชลปิฏฺิโต อจฺจุคฺคตสฺส ปุปฺผสฺส สกลชลํ านํ, กทฺทมปิฏฺิโต ปฏฺาย อุทกปิฏฺิปริยนฺตํ ปุปฺผทณฺเฑน ผริตฺวา ิตํ สพฺพมุทกํ านนฺติ วุตฺตํ โหติ. อุปฺปาเฏตฺวาติ ปุปฺผคฺคํ อากฑฺฒิตฺวา อุปฺปีเฬตฺวา. ตโตติ ตสฺมา ปุปฺผฏฺานภูตสกลชลราสิโต. อุชุนฺติ อุชุํ กตฺวา. อุทฺธรโตติ อุปฺปาเฏนฺตสฺส.
๑๐๖. นาฬนฺเตติ อุปฺปาฏิตปุปฺผนาฬสฺส มูลโกฏิยา. ชลโตติ อุทกปิฏฺิโต. มุตฺตมตฺเต ¶ เกสคฺคมตฺตํ ทูรํ กตฺวาติ ปาเสสโยชนา กาตพฺพา. ‘‘ชลโต’’ติ ปมตติยปาเทสุ ทฺวิกฺขตฺตุํ วจนํ อตฺถาวิเสเสปิ ปทาวุตฺติอลงฺกาเร อฑฺฒยมกวเสน วุตฺตตฺตา ปุนรุตฺติโทโส น โหตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘มุตฺตมตฺเต, อมุตฺเต’’ติ จ สมฺพนฺธิตพฺพํ, อตฺถานํ วา วิเสสโต อุภยตฺถ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมึ นาฬนฺเตติ สมฺพนฺโธ.
๑๐๗. ตสฺส ¶ นาเมตฺวา อุปฺปาฏิตสฺส. สห คจฺเฉน อุปฺปาฏิตสฺสาปิ อยเมว วินิจฺฉโย. อิธ ปน สพฺพปุปฺผปณฺณนาฬานิ มูลโต ปภุติ ปมํ ิตฏฺานโต อปนามนวเสน านาจาวนํ เวทิตพฺพํ. เอวํ ปุปฺผาทีนิ อุปฺปาเฏนฺตสฺส ภูตคามวิโกปนาปตฺติยา าเน สหปโยคทุกฺกฏํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
๑๐๘-๙. พฬิสาทิมจฺฉคฺคหโณปกรณานํ วจนโต, ชเล ิตมตมจฺฉานํ วินิจฺฉยสฺส จ วกฺขมานตฺตา มจฺเฉติ ชีวมานกมจฺฉานํ คหณํ. อุปลกฺขณวเสน วา อวุตฺตสมุจฺจยตฺถ วา-สทฺเทน วา ขิปกาทีนิ มจฺฉวโธปกรณานิ วุตฺตาเนวาติ ทฏฺพฺพํ. วตฺถูติ ปาโท. ตสฺมึ มจฺเฉ. อุทฺธโฏเยว อุทฺธฏมตฺโต, มจฺโฉ, ตสฺมึ. ชลาติ อุทกโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนตฺวา อุกฺขิตฺตมตฺเตติ วุตฺตํ โหติ.
๑๑๐. ปุปฺผานํ วิย มจฺฉานมฺปิ ิตฏฺานเมว านนฺติ อคฺคเหตฺวา สกลชลํ านํ กตฺวา กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘านํ สลิลชานํ หี’’ติอาทิ. สลิเล ชาตา สลิลชา, อิติ ปกรณโต มจฺฉาเยว วุจฺจนฺติ. อตฺถปฺปกรณสทฺทนฺตรสนฺนิธานาทีหิ สทฺทา วิเสสตฺถํ วทนฺตีติ. หีติ ปสิทฺธิยํ. เกวลนฺติ อวธารเณ, ชลเมวาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา พหิอุทกํ นิวตฺติตํ โหติ. สกลํ ชลเมว านํ ยสฺมา, ตสฺมา สลิลฏฺํ ชลา วิโมเจนฺโต ปาราชิโก โหตีติ เหตุเหตุมนฺตภาเวน โยชนา เวทิตพฺพา. อาปนฺนํ ปราเชตีติ ปาราชิกา, อาปตฺติ, สา เอตสฺส อตฺถีติ ปาราชิโก, ปุคฺคโล.
๑๑๑. นีรํ อุทกํ. วาริมฺหิ ชเล ชาโต วาริโช, อิติ ปกรณโต มจฺโฉว คยฺหติ. เอเตเนว อากาเส อุปฺปติตมจฺโฉ ¶ , โคจรตฺถาย จ ถลมุคฺคตกุมฺมาทโย อุปลกฺขิตาติ เวทิตพฺพํ. เตสํ คหเณ วินิจฺฉโย อากาสฏฺถลฏฺกถาย วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. ภณฺฑคฺเฆน วินิทฺทิเสติ ทุกฺกฏาทิวตฺถุโน ¶ ภณฺฑสฺส อคฺฆวเสน ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกาปตฺติโย วเทยฺยาติ อตฺโถ.
๑๑๒. ตฬาเกติ สรสฺมึ, อิมินา จ วาปิโปกฺขรณิโสพฺภาทิชลาสยา สงฺคยฺหนฺติ. นทิยาติ นินฺนคาย, อิมินา จ กนฺทราทโย สงฺคยฺหนฺติ. นินฺเนติ อาวาเฏ. มจฺฉวิสํ นามาติ เอตฺถ นาม-สทฺโท สฺายํ. มจฺฉวิสนามกํ มทนผลาทิกํ ทฏฺพฺพํ. คเตติ วิสปกฺขิปเก มจฺฉฆาตเก คเต.
๑๑๔. สามิเกสูติ วิสํ โยเชตฺวา คเตสุ มจฺฉสามิเกสุ. อาหรนฺเตสูติ อาหราเปนฺเตสุ. ภณฺฑเทยฺยนฺติ ภณฺฑฺจ ตํ เทยฺยฺจาติ วิคฺคโห, อตฺตนา คหิตวตฺถุํ วา ตทคฺฆนกํ วา ภณฺฑํ ทาตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๑๑๕. มจฺเฉติ มตมจฺเฉ. เสเสติ นมตมจฺเฉ.
๑๑๖. อมเตสุ คหิเตสูติ ปกรณโต ลพฺภติ, นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมํ. อนาปตฺตึ วทนฺตีติ อทินฺนาทานาปตฺติยา อนาปตฺตึ วทนฺติ, มารณปฺปตฺติยา ปาจิตฺติยํ โหเตว. อยฺจ วินิจฺฉโย อรกฺขิตอโคปิเตสุ อสฺสามิกตฬากาทีสุ เวทิตพฺโพ.
อุทกฏฺกถาวณฺณนา.
๑๑๗. นาวนฺติ เอตฺถ ‘‘นาวา นาม ยาย ตรตี’’ติ (ปารา. ๙๙) วจนโต ชลตารณารหํ อนฺตมโส เอกมฺปิ วหนฺตํ รชนโทณิเวณุกลาปาทิกํ ¶ เวทิตพฺพํ. นาวฏฺํ นาม ภณฺฑํ ยํ กิฺจิ อินฺทฺริยพทฺธํ วา อนินฺทฺริยพทฺธํ วา. ‘‘เถเนตฺวา คณฺหิสฺสามี’’ติ อิมินา ‘‘เถยฺยจิตฺตสฺสา’’ติ อิมมตฺถํ วิฺาเปติ. ปาทุทฺธาเรติ ทุติยปริเยสนาทิอตฺถํ คจฺฉนฺตสฺส ปเท ปเท. โทสาติ ทุกฺกฏาปตฺติโย. วุตฺตาติ ‘‘นาวฏฺํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามี’ติ เถยฺยจิตฺโต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๙๙) ปทภาชนิยํ ภควตา วุตฺตา, อิมินา ปุพฺพปโยคสหปโยคทุกฺกฏานิ, ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยํ, านาจาวเน ปาราชิกฺจ อุปลกฺขณวเสน ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๑๘. จณฺฑโสเตติ ¶ เวเคน คจฺฉนฺเต อุทกปฺปวาเห, ‘‘จณฺฑโสเต’’ติ อิมินา พนฺธนํ วินา สภาเวน อฏฺิตภาวสฺส สูจนโต ‘‘พนฺธนเมว าน’’นฺติ วุตฺตฏฺานปริจฺเฉทสฺส การณํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา จณฺฑโสเต พทฺธา, ตสฺมา พนฺธนเมกเมว านํ มตนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมินฺติ พนฺธเน. ธีรา วินยธรา.
๑๑๙-๑๒๐. ‘‘นิจฺจเล อุทเก นาว-มพนฺธนมวฏฺิต’’นฺติ อิมินา ฉธา านปริจฺเฉทสฺส ลพฺภมานตฺเต การณํ ทสฺเสติ. นาวํ กฑฺฒโต ตสฺส ปาราชิกนฺติ สมฺพนฺโธ. ปุนปิ กึ กโรนฺโตติ อาห ‘‘เอเกนนฺเตน สมฺผุฏฺ’’นฺติอาทิ. ตํ นาวํ อติกฺกามยโตติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถาปิ ‘‘กฑฺฒิตวโต อติกฺกมิตวโต’’ติ ภูตวเสน อตฺโถ โยเชตพฺโพ. ยเมตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
๑๒๑. เอวํ จตุปสฺสากฑฺฒเน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อุทฺธํ, อโธ จ อุกฺขิปนโอสีทาปเนสุ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตถา’’ติอาทิ. ตถาติ ‘‘ตสฺส ปาราชิก’’นฺติ อากฑฺฒติ. กสฺมึ ¶ กาเลติ อาห ‘‘อุทฺธํ เกสคฺคมตฺตมฺปี’’ติอาทิ. อโธนาวาตลนฺติ นาวาตลสฺส อโธ อโธนาวาตลํ, ตสฺมึ อุทฺธํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อุทกมฺหา วิโมจิเตติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เตน ผุฏฺํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุขวฏฺฏิยา วิโมจิเตติ โยชนา. เตนาติ อโธนาวาตเลน ผุฏฺเ อุทเก มุขวฏฺฏิยา กรณภูตาย เกสคฺคมตฺตมฺปิ วิโมจิเตติ คเหตพฺพํ.
๑๒๒. ตีเร พนฺธิตฺวา ปน นิจฺจเล ชเล ปิตา ยา นาวา, ตสฺสา นาวาย านํ พนฺธนฺจ ิโตกาโส จาติ ทฺวิธา มตนฺติ โยชนา.
๑๒๓. ปุพฺพํ ปมํ พนฺธนสฺส วิโมจเน ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา. เกนจุปาเยนาติ ‘‘ปุรโต ปจฺฉโต วาปี’’ติอาทิกฺกเมน ยถาวุตฺโตปายฉกฺเกสุ เยน เกนจิ อุปาเยนาติ อตฺโถ. านา จาเวติ นาวํ.
๑๒๔. ปมํ านา จาเวตฺวาติ ‘‘ปุรโต ปจฺฉโต วา’’ติอาทินา ยถาวุตฺเตสุ ฉสุ อากาเรสุ อฺตเรน อากาเรน นาวํ ปิตฏฺานโต ปมํ จาเวตฺวา. เอเสว จ นโยติ นาวาย ¶ ปมํ ิตฏฺานโต จาวเน ถุลฺลจฺจยํ, ปจฺฉา พนฺธนโมจเน ปาราชิกนฺติ เอเสว นโย เนตพฺโพติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘ตีเร พนฺธิตฺวา นิจฺจเล อุทเก ปิตนาวาย พนฺธนฺจ ิโตกาโส จาติ ทฺเว านานิ, ตํ ปมํ พนฺธนา โมเจติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา ฉนฺนํ อาการานํ อฺตเรน านา จาเวติ, ปาราชิกํ. ปมํ านา จาเวตฺวา ปจฺฉา พนฺธนโมจเนปิ เอเสว นโย’’ติ (ปารา. ๙๙) อฏฺกถายํ วุตฺตวินิจฺฉโย สงฺคหิโต. อามสนผนฺทาปเนสุ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยานิ เหฏฺา กุมฺภิยํ วุตฺตนเยเนว าตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา น วุตฺตานีติ เวทิตพฺพํ. เอวมุปริปิ.
๑๒๕. อุสฺสาเรตฺวาติ ¶ อุทกโต ถลํ อาโรเปตฺวา. นิกุชฺชิตฺวาติ อโธมุขํ กตฺวา. ถเล ปิตาย นาวาย มุขวฏฺฏิยา ผุฏฺโกาโส เอว านนฺติ โยชนา. หีติ วิเสโส, เตน ชลฏฺโต ถลฏฺาย นาวาย วุตฺตํ วิเสสํ โชเตติ.
๑๒๖. เอตฺถ อโธ โอสีทาปนสฺส อลพฺภมานตาย ตํ วินา อิตเรสํ ปฺจนฺนํ อาการานํ วเสน านาจาวนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เยฺโย’’ติอาทิ. ยโต กุโตจีติ ติริยํ จตสฺสนฺนํ, อุปริทิสาย จ วเสน ยํ กิฺจิ ทิสาภิมุขํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกเมนฺโต.
๑๒๗. อุกฺกุชฺชิตายปีติ อุทฺธํมุขํ ปิตายปิ. ฆฏิกานนฺติ ทารุขณฺฑานํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘เยฺโย านปริจฺเฉโท’’ติอาทินา วุตฺตนยํ อติทิสติ. โส ปน อุกฺกุชฺชิตฺวา ภูมิยํ ปิตนาวาย ยุชฺชติ. ฆฏิกานํ อุปริ ปิตาย ปน นาคทนฺเตสุ ปิตกุนฺเต วุตฺตวินิจฺฉโย ยุชฺชติ.
๑๒๘. ‘‘เถยฺยา’’ติ อิทํ ‘‘ปาเชนฺตสฺสา’’ติ วิเสสนํ. ติตฺเถติ ติตฺถาสนฺนชเล. อริตฺเตนาติ เกนิปาเตน. ผิเยนาติ ปาชนผลเกน. ปาเชนฺตสฺสาติ เปเสนฺตสฺส. ‘‘ตํ ปาเชตี’’ติปิ ปาโ ทิสฺสติ, ตํ นาวํ โย ปาเชติ, ตสฺส ปราชโยติ อตฺโถ.
๑๒๙-๓๐. ฉตฺตนฺติ อาตปวารณํ. ปณาเมตฺวาติ ยถา วาตํ คณฺหาติ, ตถา ปณาเมตฺวา. อุสฺสาเปตฺวาว จีวรนฺติ จีวรํ อุทฺธํ อุจฺจาเรตฺวา วา. คาถาฉนฺทวเสน ‘ว’อิติ รสฺสตฺตํ. ลงฺการสทิสนฺติ ปสาริตปฏสริกฺขกํ. สมีรณนฺติ มาลุตํ. น โทโส ตสฺส วิชฺชตีติ อิทํ วาตสฺส ¶ ¶ อวิชฺชมานกฺขเณ เอวํ กโรโต ปจฺฉา อาคเตน วาเตน นีตนาวาย วเสน วุตฺตํ. วายมาเน ปน วาเต เอวํ กโรนฺตสฺส อาปตฺติเยวาติ ทฏฺพฺพํ.
๑๓๑-๒. สยเมว อุปาคตนฺติ สมฺพนฺโธ. คามสมีเป ติตฺถํ คามติตฺถํ. ตนฺติ นาวํ. านาติ ฉตฺเตน วา จีวเรน วา คหิตวาเตน คนฺตฺวา คามติตฺเถ ิตฏฺานา. อจาเลนฺโตติ ผนฺทาปนมฺปิ อกโรนฺโต, อิมินา ถุลฺลจฺจยสฺสาปิ อภาวํ ทสฺเสติ. ‘‘อจาเวนฺโต’’ติปิ ปาโ, ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อนปเนนฺโตติ อตฺโถ, อิมินา ปาราชิกาภาวํ ทสฺเสติ. กิณิตฺวาติ มูเลน วิกฺกิณิตฺวา. สยเมว จ คจฺฉนฺตินฺติ เอตฺถ จ-กาโร วตฺตพฺพนฺตรสมุจฺจเย. ตถา ปณามิตฉตฺเตน วา อุสฺสาปิตจีวเรน วา คหิตวาเตน อตฺตนา คจฺฉนฺตึ. านา จาเวตีติ อตฺตนา อิจฺฉิตทิสาภิมุขํ กตฺวา ปาชนวเสน คมนฏฺานา จาเวติ.
นาวฏฺกถาวณฺณนา.
๑๓๓-๔. ยนฺติ เอเตนาติ ยานํ. รมยตีติ รโถ. วหติ, วุยฺหติ, วหนฺติ เอเตนาติ วา วยฺหํ. ‘‘อุปริ มณฺฑปสทิสํ ปทรจฺฉนฺนํ, สพฺพปาลิคุณฺิมํ วา ฉาเทตฺวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน กตํ สกฏํ วยฺหํ นาม. สนฺทมานิกาติ ‘‘อุโภสุ ปสฺเสสุ สุวณฺณรชตาทิมยา โคปานสิโย ทตฺวา ครุฬปกฺขกนเยน กตา สนฺทมานิกา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน กตยานวิเสโส. านา จาวนโยคสฺมินฺติ านา จาวนปฺปโยเค.
๑๓๕-๖. ทสฏฺานาจาวนวเสน ปาราชิกํ วทนฺเตหิ ปมํ านเภทสฺส าตพฺพตฺตา ตํ ทสฺเสตฺวา อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ¶ ‘‘ยานสฺส ทุกยุตฺตสฺสา’’ติอาทิ. ทุกยุตฺตสฺสาติ ทุกํ โคยุคํ ยุตฺตสฺส ยสฺสาติ, ยุตฺเต ยสฺมินฺติ วา วิคฺคโห. ทส านานีติ ทฺวินฺนํ โคณานํ อฏฺ ปาทา, ทฺเว จ จกฺกานีติ เอเตสํ ทสนฺนํ ปติฏฺิตฏฺานานํ วเสน ทส านานิ วเทยฺยาติ อตฺโถ. เอเตเนว นเยน จตุยุตฺตาทิยาเน อฏฺารสาติ านเภทสฺส นโย ทสฺสิโต โหติ. ยานํ ปาชยโตติ สกฏาทิยานํ เปสยโต. ‘‘ธุเรติ ยุคาสนฺเน’’ติ อฏฺกถาย คณฺิปเท วุตฺตํ. รถีสาย ยุเคน สทฺธึ พนฺธนฏฺานาสนฺเนติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ธุร’’นฺติ จ ยุคสฺเสว นามํ. ‘‘ธุรํ ฉฑฺเฑตฺวา, ธุรํ อาโรเปตฺวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) อฏฺกถาวจนโต ตํสหจริยาย สมฺพนฺธนฏฺานมฺปิ ¶ ธุรํ นาม. อิธ ปน คงฺคา-สทฺโท วิย คงฺคาสมีเป ธุรสมีเป ปาชกสฺส นิสชฺชารหฏฺาเน ธุรสฺส วตฺตมานตา ลพฺภติ.
โคณานํ ปาทุทฺธาเร ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ วินิทฺทิเสติ โยชนา. อิทฺจ โคณานํ อวิโลมกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิโลมกาเล สมฺภวนฺตํ วิเสสํ โชเตตุํ ‘‘ถุลฺลจฺจยํ ตุ’’ อิจฺจตฺร ตุ-สทฺเทน อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน โคณา ‘นายํ อมฺหากํ สามิโก’ติ ตฺวา ธุรํ ฉฑฺเฑตฺวา อากฑฺฒนฺตา ติฏฺนฺติ วา ผนฺทนฺติ วา, รกฺขติ ตาว. โคเณ ปุน อุชุกํ ปฏิปาเทตฺวา ธุรํ อาโรเปตฺวา ทฬฺหํ โยเชตฺวา ปาจเนน วิชฺฌิตฺวา ปาเชนฺตสฺส วุตฺตนเยเนว เตสํ ปาทุทฺธาเรน ถุลฺลจฺจย’’นฺติ วุตฺตวิเสโส สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ. จกฺกานํ หีติ เอตฺถ อธิเกน หิ-สทฺเทน ‘‘สเจปิ สกทฺทเม มคฺเค เอกํ จกฺกํ กทฺทเม ลคฺคํ โหติ, ทุติยํ จกฺกํ โคณา ปริวตฺเตนฺตา ปวตฺเตนฺติ, เอกสฺส ปน ิตตฺตา น ตาว อวหาโร โหติ. โคเณ ปน ปุน อุชุกํ ปฏิปาเทตฺวา ปาเชนฺตสฺส ¶ ิตจกฺเก เกสคฺคมตฺตํ ผุฏฺโกาสํ อติกฺกนฺเต ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) อฏฺกถายํ วุตฺตวิเสโส ทสฺสิโต โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
๑๓๗-๙. เอตฺตาวตา ยุตฺตยานวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อยุตฺตยานวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อยุตฺตกสฺสา’’ติอาทิ. ธุเรน อุปตฺถมฺภนิยํ ิตสฺส ตสฺส อยุตฺตกสฺสาปิ จ ยานกสฺส อุปตฺถมฺภนิจกฺกกานํ วเสน ตีเณว านานิ ภวนฺตีติ โยชนา. ตตฺถ อยุตฺตกสฺสาติ โคเณหิ อยุตฺตกสฺส. ธุเรนาติ ยถาวุตฺตนเยน ธุรยุตฺตฏฺานสมีปเทเสน, สกฏสีเสนาติ วุตฺตํ โหติ. อุปตฺถมฺภนิยนฺติ สกฏสีโสปตฺถมฺภนิยา อุปริ ิตสฺส. อุปตฺถมฺภยติ ธุรนฺติ อุปตฺถมฺภนี. สกฏสฺส ปจฺฉิมภาโคปตฺถมฺภนตฺถํ ทียมานํ ทณฺฑทฺวยํ ปจฺฉิโมปตฺถมฺภนี นาม, ปุริมภาคสฺส ทียมานสฺส อุปตฺถมฺภนี ปุริโมปตฺถมฺภนี นามาติ อยมุปตฺถมฺภนีนํ วิเสโส. อิธ ปุริโมปตฺถมฺภนี อธิปฺเปตา. ‘‘อุปตฺถมฺภนิจกฺกกานํ วเสน ตีเณว านานี’’ติ อิทํ เหฏฺา อกปฺปกตาย อุปตฺถมฺภนิยา วเสน วุตฺตํ, กปฺปกตาย ปน วเสน ‘‘จตฺตารี’’ติ วตฺตพฺพํ.
‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘านานิ ตีเณวา’’ติ อากฑฺฒติ, ทารุจกฺกทฺวยวเสน ตีณิ านานีติ อตฺโถ. ‘‘ทารูน’’นฺติ อิมินา พหุวจนนิทฺเทเสน ราสิกตทารูนํ ทารุกสฺส เอกสฺสาปิ ผลกสฺสาปิ คหณํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ภูมิยมฺปิ ธุเรเนว, ตเถว ปิตสฺส จา’’ติ อิมินา ¶ ตีณิเยว านานีติ อติทิสติ. เอตฺถ ธุรจกฺกานํ ปติฏฺิโตกาสวเสน ตีณิ านานิ. เอตฺถ จ อุปริฏฺปิตสฺส จาติ จ-การํ ‘‘ภูมิยํ ปิตสฺสา’’ติ เอตฺถาปิ โยเชตฺวา สมุจฺจยํ กาตุํ สกฺกาติ. ตตฺถ อธิกวจเนน จ-กาเรน อฏฺกถายํ ‘‘ยํ ปน อยุตฺตกํ ธุเร เอกาย, ปจฺฉโต ¶ จ ทฺวีหิ อุปตฺถมฺภนีหิ อุปตฺถมฺเภตฺวา ปิตํ, ตสฺส ติณฺณํ อุปตฺถมฺภนีนํ, จกฺกานฺจ วเสน ปฺจ านานิ. สเจ ธุเร อุปตฺถมฺภนี เหฏฺาภาเค กปฺปกตา โหติ, ฉ านานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) วุตฺตวินิจฺฉยํ สงฺคณฺหาติ.
ปุรโต ปจฺฉโต วาปีติ เอตฺถ ‘‘กฑฺฒิตฺวา’’ติ ปาเสโส. อปิ-สทฺเทน ‘‘อุกฺขิปิตฺวาปี’’ติ อวุตฺตํ สมุจฺจิโนติ. โย ปน ปุรโต กฑฺฒิตฺวา านา จาเวติ, โย วา ปน ปจฺฉโต กฑฺฒิตฺวา านา จาเวติ, โย วา ปน อุกฺขิปิตฺวา านา จาเวตีติ โยชนา. ติณฺณนฺติ อิเม ตโย คหิตา, ‘‘เตส’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, เตสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานนฺติ วุตฺตํ โหติ. กทา กึ โหตีติ อาห ‘‘ถุลฺลจฺจยํ ตุ…เป… ปราชโย’’ติ. ‘‘านา จาเว’’ติ อิทํ ‘‘ถุลฺลจฺจย’’นฺติ อิมินาปิ สมฺพนฺธนียํ. ตุ-สทฺทสฺส วิเสสโชตนตฺถํ อุปาตฺตตฺตา สาวเสสฏฺานาจาวเน ผนฺทาปนถุลฺลจฺจยํ, นิรวเสสฏฺานาจาวเน ปน กเต านาจาวนปาราชิกา วุตฺตา โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
๑๔๐. อกฺขานํ สีสเกหีติ อกฺขสฺส อุภยโกฏีหิ. ‘‘ชาตฺยาขฺยายเมกสฺมึ พหุวจนมฺตราย’’มิติ วจนโต เอกสฺมึ อตฺเถ พหุวจนํ ยุชฺชติ. ‘‘ิตสฺสา’’ติ เอตสฺส วิเสสนสฺส ‘‘ยานสฺสา’’ติ วิเสสิตพฺพํ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ‘‘านานิ ทฺเว’’ติ วุตฺตตฺตา ยถา สกฏธุรํ ภูมึ น ผุสติ, เอวํ อุจฺจตเรสุ ทฺวีสุ ตุลาทิทารูสุ ทฺเว อกฺขสีเส อาโรเปตฺวา ปิตํ ยานเมว คยฺหติ.
๑๔๑. กฑฺฒนฺโตติ ทฺวินฺนํ อกฺขสีสานํ อาธารภูเตสุ ทารูสุ ฆํสิตฺวา อิโต จิโต จ กฑฺฒนฺโต. อุกฺขิปนฺโตติ อุชุํ ิตฏฺานโต อุจฺจาเรนฺโต. ผุฏฺโกาสจฺจเยติ ผุฏฺโกาสโต ¶ เกสคฺคมตฺตาติกฺกเม. อฺสฺสาติ ยถาวุตฺตปฺปการโต อิตรสฺส. ยสฺส กสฺสจิ รถาทิกสฺส ยานสฺส.
๑๔๒. อกฺขุทฺธีนนฺติ จตุนฺนํ อกฺขรุทฺธนกอาณีนํ. อกฺขสฺส อุภยโกฏีสุ จกฺกาวุณนฏฺานโต ¶ อนฺโต ทฺวีสุ สกฏพาหาสุ อกฺขรุทฺธนตฺถาย ทฺเว องฺคุลิโย วิย อาโกฏิตา จตสฺโส อาณิโย อกฺขุทฺธิ นาม. ธุรสฺสาติ ธุรพนฺธนฏฺานาสนฺนสฺส รถสีสคฺคสฺส. ตํ ยานํ. วา-สทฺเทน ปสฺเส วา คเหตฺวา กฑฺฒนฺโต, มชฺเฌ วา คเหตฺวา อุกฺขิเปนฺโตติ กิริยนฺตรํ วิกปฺเปติ. คเหตฺวาติ เอตฺถ ‘‘กฑฺฒนฺโต’’ติ ปาเสโส. านา จาเวตีติ อุทฺธีสุ คเหตฺวา กฑฺฒนฺโต อตฺตโน ทิสาย อุทฺธิอนฺเตน ผุฏฺฏฺานํ อิตเรน อุทฺธิปริยนฺเตน เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมติ.
‘‘อุทฺธีสุ วา’’ติ สาสงฺกวจเนน อนุทฺธิกยานสฺสาปิ วิชฺชมานตฺตํ สูจิตํ โหติ. อฏฺกถายํ ‘‘อถ อุทฺธิขาณุกา น โหนฺติ, สมเมว พาหํ กตฺวา มชฺเฌ วิชฺฌิตฺวา อกฺขสีสานิ ปเวสิตานิ โหนฺติ, ตํ เหฏฺิมตลสฺส สมนฺตา สพฺพํ ปถวึ ผุสิตฺวา ติฏฺติ, ตตฺถ จตูสุ ทิสาสุ, อุทฺธฺจ ผุฏฺฏฺานาติกฺกมวเสน ปาราชิกํ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) วุตฺตวินิจฺฉยฺจ พฺยติเรกวเสน สงฺคณฺหาติ.
๑๔๓. นาภิยาติ นาภิมุเขน. เอกเมว สิยา านนฺติ เอกํ นาภิยา ผุฏฺฏฺานเมว านํ ภวตีติ อตฺโถ. ‘‘เอกมสฺส สิยา าน’’นฺติ โปตฺถเกสุ ทิสฺสติ, ตโต ปุริมปาโว สุนฺทรตโร. ปริจฺเฉโทปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท วิเสสตฺถโชตโก, ปริจฺเฉโท ปนาติ อตฺโถ. ปฺจธาติ นาภิยา จตุปสฺสปริยนฺตํ, อุทฺธฺจ ปฺจธา, านาจาวนากาโร โหตีติ อตฺโถ.
๑๔๔. านานิ ¶ ทฺเวติ เนมิยา, นาภิยา จ ผุฏฺฏฺานวเสน ทฺเว านานิ. อสฺสาติ จกฺกสฺส. เตสํ ทฺวินฺนํ านานํ. ภิตฺติอาทึ อปสฺสาย ปิตจกฺกสฺสาปิ หิ อฏฺกถายํ วุตฺโต อยมฺปิ วินิจฺฉโย วุตฺโต, โยปิ อิมินา จ ปาเน ทสฺสิโต โหติ.
๑๔๕. อนารกฺขนฺติ สามิเกน อสํวิหิตารกฺขํ. อโธเทตฺวาติ โคเณ อเปเสตฺวา. วฏฺฏติ, ปาราชิกํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. สามิเก อาหราเปนฺเต ปน ภณฺฑเทยฺยํ โหติ.
ยานฏฺกถาวณฺณนา.
๑๔๖. ภารฏฺกถาย สีสกฺขนฺธกโฏลมฺพวสาติ เอวํนามกานํ สรีราวยวานํ วเสน ภาโร ¶ จตุพฺพิโธ โหติ. ตตฺถ สีสภาราทีสุ อสมฺโมหตฺถํ สีสาทีนํ ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ – สีสสฺส ตาว ปุริมคเล คลวาฏโก ปิฏฺิคเล เกสฺจิ เกสนฺเต อาวฏฺโฏ โหติ, คลสฺเสว อุโภสุ ปสฺเสสุ เกสฺจิ เกสาวฏฺฏา โอรุยฺห ชายนฺติ, เย ‘‘กณฺณจูฬิกา’’ติ วุจฺจนฺติ, เตสํ อโธภาโค จาติ อยํ เหฏฺิมปริจฺเฉโท, ตโต อุปริ สีสํ, เอตฺถนฺตเร ิตภาโร สีสภาโร นาม.
อุโภสุ ปสฺเสสุ กณฺณจูฬิกาหิ ปฏฺาย เหฏฺา, กปฺปเรหิ ปฏฺาย อุปริ, ปิฏฺิคลาวฏฺฏโต จ คลวาฏกโต จ ปฏฺาย เหฏฺา, ปิฏฺิเวมชฺฌาวฏฺฏโต จ อุรปริจฺเฉทมชฺเฌ หทยอาวาฏโต จ ปฏฺาย อุปริ ขนฺโธ, เอตฺถนฺตเร ิตภาโร ขนฺธภาโร นาม.
ปิฏฺิเวมชฺฌาวฏฺฏโต ¶ , ปน หทยอาวาฏโต จ ปฏฺาย เหฏฺา ยาว ปาทนขสิขา, อยํ กฏิปริจฺเฉโท, เอตฺถนฺตเร สมนฺตโต สรีเร ิตภาโร กฏิภาโร นาม.
กปฺปรโต ปฏฺาย ปน เหฏฺา ยาว หตฺถนขสิขา, อยํ โอลมฺพกปริจฺเฉโท, เอตฺถนฺตเร ิตภาโร โอลมฺพโก นาม.
ภรตีติ ภาโร, ภรติ เอเตน, เอตสฺมินฺติ วา ภาโร, อิติ ยถาวุตฺตสีสาทโย อวยวา วุจฺจนฺติ. ภาเร ติฏฺตีติ ภารฏฺํ. อิติ สีสาทีสุ ิตํ ภณฺฑํ วุจฺจติ. ‘‘ภาโรเยว ภารฏฺ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๑) อฏฺกถาวจนโต ภรียตีติ ภาโร, กมฺมนิ สิทฺเธน ภาร-สทฺเทน ภณฺฑเมว วุจฺจติ.
๑๔๗. สิรสฺมึเยวาติ ยถาปริจฺฉินฺเน สิรสิ เอว. สาเรตีติ อนุกฺขิปนฺโต อิโต จิโต จ สาเรติ. ถุลฺลจฺจยํ สิยาติ ผนฺทาปนถุลฺลจฺจยํ ภเวยฺย.
๑๔๘. ขนฺธนฺติ ยถาปริจฺฉินฺนเมว ขนฺธํ. โอโรปิเตติ โอหาริเต. สีสโตติ เอตฺถ ‘‘อุทฺธ’’นฺติ ปาเสโส, ยถาปริจฺฉินฺนสีสโต อุปรีติ อตฺโถ. เกสคฺคมตฺตมฺปีติ เกสคฺคมตฺตํ ทูรํ กตฺวา. ปิ-สทฺโท ปเคว ตโต อธิกนฺติ ทีเปติ. โมเจนฺโตปีติ เกสคฺเคน อผุสนฺตํ อปเนนฺโต. เอตฺถาปิ ปิ-สทฺเทน น เกวลํ ขนฺธํ โอโรเปนฺตสฺเสว ปาราชิกํ, อปิจ โข โมเจนฺโตปิ ¶ ปราชิโตติ เหฏฺา วุตฺตมเปกฺขติ. ปสิพฺพกาทิยมกภารํ ปน สีเส จ ปิฏฺิยฺจาติ ทฺวีสุ าเนสุ ิตตฺตา ทฺวีหิ าเนหิ อปนยเนน ปาราชิกํ โหติ, ตฺจ ‘‘สีสโต โมเจนฺโต’’ติ อิมินาว เอกเทสวเสน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๑๔๙-๕๐. เอวํ ¶ สีสภาเร วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ อุทฺเทสกฺกเมสุ ขนฺธภาราทีสุ วินิจฺฉเย ทสฺเสตพฺเพปิ อวสาเน วุตฺตโอลมฺพกภาเร วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อาทฺยนฺตภารานํ วุตฺตนยานุสาเรน เสเสสุปิ วินิจฺฉยํ อติทิสิตุมาห ‘‘ภาร’’นฺติอาทิ. สุทฺธมานโสติ ปาตราสาทิการเณน อเถยฺยจิตฺโต, หตฺถคตภารํ เถยฺยจิตฺเตน ภูมิยํ ปนนิสฺสชฺชนาทึ กโรนฺตสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกนฺติ อิทเมเตน อุปลกฺขิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เอตฺถ วุตฺตนเยเนวาติ สีสภารโอลมฺพกภาเรสุ วุตฺตานุสาเรน. เสเสสุปิ ภาเรสูติ ขนฺธภาราทิเกสุปิ. มติสาเรน สารมตินา. เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโยติ ยถาปริจฺฉินฺเนสุ าเนสุ ิตํ ปาทคฺฆนกํ ยํ กิฺจิ วตฺถุํ เถยฺยจิตฺเตน ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ อามสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, านา อจาเวตฺวา ผนฺทาเปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, ยถาปริจฺฉินฺนฏฺานาติกฺกมนวเสน วา อุทฺธํอุกฺขิปนวเสน วา านา จาเวนฺตสฺส ปาราชิกํ โหตีติ อยํ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ.
ภารฏฺกถาวณฺณนา.
๑๕๑-๓. อิทานิ อารามฏฺวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติอาทิ. อารามนฺติ จมฺปกาทิปุปฺผารามฺจ อมฺพาทิผลารามฺจาติ ทฺวีสุ อาราเมสุ ยํ กฺจิ อารามํ. อารมนฺติ เอตฺถ ปุปฺผาทิกามิโนติ วิคฺคโห, ตํ อารามํ, อภิ-สทฺทโยเค อุปโยควจนํ. อภิยฺุชโตติ ปรายตฺตภาวํ ชานนฺโต ‘‘มม สนฺตก’’นฺติ อฏฺฏํ กตฺวา คณฺหิตุํ เถยฺยจิตฺเตน สหายาทิภาวตฺถํ ทุติยกปริเยสนาทิวเสน อภิยฺุชนฺตสฺส ทุกฺกฏํ มุนินา วุตฺตนฺติ อิมินา สมฺพนฺธนียํ, อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยคตฺตา สหปโยคคณนาย ทุกฺกฏนฺติ ภควตา ¶ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ธมฺมํ จรนฺโตติ อฏฺฏํ กโรนฺโต. ปรํ สามิกํ ปราเชติ เจ, สยํ สาสนโต ปราชิโตติ โยชนา.
ตสฺสาติ ภณฺฑสามิโน. วิมตึ ชนยนฺตสฺสาติ ‘‘อิมินา สห อฏฺฏํ กตฺวา มม สนฺตกํ ลภิสฺสามิ ¶ วา, น วา’’ติ สํสยํ อุปฺปาเทนฺตสฺส โจรสฺส. โยปิ ธมฺมํ จรนฺโต สยํ ปรชฺชติ, ตสฺส จ ถุลฺลจฺจยนฺติ โยชนา.
สามิโน ธุรนิกฺเขเปติ ‘‘อยํ ถทฺโธ กกฺขโฬ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายมฺปิ เม กเรยฺย, อลํ ทานิ มยฺหํ อิมินา อาราเมนา’’ติ สามิโน ธุรนิกฺเขเป สติ, อตฺตโน ‘‘น ทสฺสามี’’ติ ธุรนิกฺเขเป จาติ โยชนา. เอวํ อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเป ปาราชิกํ. ตสฺสาติ อภิยฺุชนฺตสฺส. สพฺเพสํ กูฏสกฺขีนฺจาติ จ-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺโพ. โจรสฺส อสฺสามิกภาวํ ตฺวาปิ ตทายตฺตกรณตฺถํ ยํ กิฺจิ วทนฺตา กูฏสกฺขิโน, เตสํ สพฺเพสมฺปิ ภิกฺขูนํ ปาราชิกํ โหตีติ อตฺโถ.
อารามฏฺกถาวณฺณนา.
๑๕๔. วิหารฏฺกถายํ วิหารนฺติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘ปริเวณํ วา, อาวาสํ วา’’ติ จ คเหตพฺพํ. สงฺฆิกนฺติ จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ภิกฺขูนํ ทินฺนตฺตา สงฺฆสนฺตกํ. กฺจีติ ขุทฺทกํ, มหนฺตํ วาติ อตฺโถ. อจฺฉินฺทิตฺวาน คณฺหิตุํ อภิยฺุชนฺตสฺส ปาราชิกา น สิชฺฌตีติปิ ปาเสสโยชนา. เหตุํ ทสฺเสติ ‘‘สพฺเพสํ ธุรนิกฺเขปาภาวโต’’ติ, สพฺพสฺเสว จาตุทฺทิสิกสงฺฆสฺส ธุรนิกฺเขปสฺส อสมฺภวโตติ อตฺโถ. ‘‘วิหาร’’นฺติ เอตฺตกเมว อวตฺวา ‘‘สงฺฆิก’’นฺติ วิเสสเนน ทีฆภาณกาทิเภทสฺส คณสฺส, เอกปุคฺคลสฺส วา ทินฺนวิหาราทึ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺเต ธุรนิกฺเขปสมฺภวา ปาราชิกนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ วินิจฺฉโย อาราเม วิย ¶ เวทิตพฺโพ. อิเมสุ ตตฺรฏฺภณฺเฑ วินิจฺฉโย ภูมฏฺถลฏฺอากาสฏฺเวหาสฏฺเสุ วุตฺตนเยน าตุํ สกฺกาติ น วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
วิหารฏฺกถาวณฺณนา.
๑๕๕-๖. เขตฺตฏฺเ สีสานีติ วลฺลิโย. นิทมฺปิตฺวานาติ ยถา ธฺมตฺตํ หตฺถคตํ โหติ, ตถา กตฺวา. อสิเตนาติ ทาตฺเตน. ลายิตฺวาติ ทายิตฺวา. สพฺพกิริยาปเทสุ ‘‘สาลิอาทีนํ สีสานี’’ติ สมฺพนฺธนียํ. สาลิอาทีนํ สีสานิ นิทมฺปิตฺวา คณฺหโต ยสฺมึ พีเช คหิเต วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ พนฺธนา โมจิเต ตสฺส ปาราชิกํ ภเวติ โยชนา. อสิเตน ลายิตฺวา คณฺหโต ¶ ยสฺมึ สีเส คหิเต…เป… ภเว, กเรน ฉินฺทิตฺวา คณฺหโต ยสฺสํ มุฏฺิยํ คหิตายํ…เป… ภเวติ โยชนา. พีเชติ วีหาทิผเล. วตฺถุ ปูรตีติ ปาทคฺฆนกํ โหตีติ. มุฏฺิยนฺติ สีสมุฏฺิยํ, พีชมุฏฺิยํ วา. พนฺธนา โมจิเตติ พนฺธนฏฺานโต โมจิเต.
๑๕๗. ทณฺโฑ วาติ วตฺถุปูรกวีหิทณฺโฑ วา. อจฺฉินฺโน รกฺขตีติ สมฺพนฺโธ. ตโจ วาติ ตสฺส ทณฺฑสฺส เอกปสฺเส ฉลฺลิ วา อจฺฉินฺโน รกฺขติจฺเจว สมฺพนฺโธ. วา-คฺคหเณน อิธาวุตฺตํ อฏฺกถาคตํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๔) ‘‘วาโก’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. วาโก นาม ทณฺเฑ วา ตเจ วา พาหิรํ. อิธาปิ ตโจ วา อจฺฉินฺโน รกฺขตีติ โยชนา. วีหินาฬมฺปิ วาติ คหิตธฺสาลิสีเสน ปติฏฺิตํ วีหิกุทฺรูสาทิคจฺฉานํ นาฬํ, ตจคพฺโภติ วุตฺตํ โหติ. ทีฆนฺติ ทีฆํ เจ โหติ. ‘‘อนิกฺขนฺโตวา’’ติ อิมินา ‘‘ทณฺโฑ’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตโต’’ติ ปาเสโส. ตโต ¶ ทีฆวีหินาฬโต สพีชวีหิสีสทณฺโฑ สพฺพโส ฉินฺโน ฉินฺนโกฏิยา เกสคฺคมตฺตมฺปิ พหิ อนิกฺขนฺโตติ อตฺโถ. รกฺขตีติ ตํ ภิกฺขุํ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกวตฺถูนํ อนุรูปาปตฺติโต ปาเลติ. มุตฺโต เจ, น รกฺขตีติ อตฺโถ.
วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ ‘‘วีหินาฬํ ทีฆมฺปิ โหติ, ยาว อนฺโตนาฬโต วีหิสีสทณฺฑโก น นิกฺขมติ, ตาว รกฺขติ. เกสคฺคมตฺตมฺปิ นาฬโต ทณฺฑกสฺส เหฏฺิมตเล นิกฺขนฺตมตฺเต ภณฺฑคฺฆวเสน กาเรตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๑.๑๐๔). ตถา อิมินาว วินิจฺฉเยน อฏฺกถายํ ‘‘ลายิตพฺพวตฺถุปูรกวีหิสีสมุฏฺิยา มูเล ฉินฺเนปิ สีเสสุ อจฺฉินฺนวีหิสีสคฺเคหิ สทฺธึ ชเฏตฺวา ิเตสุ รกฺขติ, ชฏํ วิชเฏตฺวา วิโยชิเตสุ ยถาวุตฺตปาราชิกาทิอาปตฺติโย โหนฺตี’’ติ เอวมาทิโก วินิจฺฉโย จ สูจิโตติ คเหตพฺโพ.
๑๕๘. มทฺทิตฺวาติ วีหิสีสานิ มทฺทิตฺวา. ปปฺโผเฏตฺวาติ ภุสาทีนิ โอผุนิตฺวา. อิโต สารํ คณฺหิสฺสามีติ ปริกปฺเปตีติ โยชนา. อิโตติ วีหิสีสโต. สารํ คณฺหิสฺสามีติ สารภาคํ อาทิยิสฺสามิ. สเจ ปริกปฺเปตีติ โยชนา. รกฺขตีติ วตฺถุปโหนกปฺปมาณํ ทาตฺเตน ลายิตฺวา วา หตฺเถน ฉินฺทิตฺวา วา านา จาเวตฺวา คหิตมฺปิ ยาว ปริกปฺโป น นิฏฺาติ, ตาว อาปตฺติโต รกฺขตีติ อตฺโถ.
๑๕๙. มทฺทเนปีติ วีหิสีสมทฺทเนปิ. อุทฺธรเณปีติ ปลาลาปนยเนปิ. ปปฺโผฏเนปีติ ภุสาทิกจวราปนยเนปิ ¶ . โทโส นตฺถีติ อคฺฆวเสน ปาราชิกาทิอาปตฺติโย น ภวนฺติ, สหปโยคทุกฺกฏํ ปน โหเตว. อตฺตโน…เป… ปราชโยติ ¶ อตฺตโน ปมํ ปริกปฺปิตากาเรน สพฺพํ กตฺวา สารภาคํ คณฺหิตุํ อตฺตโน ภาชเน ปกฺขิตฺตมตฺเต ยถาวุตฺตปาราชิกาทโย โหนฺตีติ อตฺโถ.
๑๖๐. เอตฺตาวตา ‘‘เขตฺตฏฺํ นาม ภณฺฑํ เขตฺเต จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ ภูมฏฺํ ถลฏฺํ อากาสฏฺํ เวหาสฏฺ’’นฺติ (ปารา. ๑๐๔) วุตฺตานิ เขตฺตฏฺานิ จตฺตาริ ยถาวุตฺตสทิสานีติ ตานิ ปหาย ‘‘ตตฺถชาตก’’นฺติอาทิ ปาฬิยํ อาคเต ตตฺรชาเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘เขตฺตํ นาม ยตฺถ ปุพฺพณฺณํ วา อปรณฺณํ วา ชายตี’’ติ (ปารา. ๑๐๔) เอวมาคเต เขตฺเตปิ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ชาน’’นฺติอาทิ. ชานนฺติ ปรสนฺตกภาวํ ชานนฺโต. ขีลนฺติ อปฺปิตกฺขรํ วา อิตรํ วา ปาสาณาทิขีลํ. สงฺกาเมตีติ ปรายตฺตภูมึ สามิกา ยถา ปสฺสนฺติ, ตถา วา อฺถา วา อตฺตโน สนฺตกํ กาตุกามตาย เกสคฺคมตฺตมฺปิ านํ ยถา สสนฺตกํ โหติ, ตถา เถยฺยจิตฺเตน นิขณตีติ อตฺโถ.
๑๖๑. ตํ ปาราชิกตฺตํ ตสฺส กทา โหตีติ อาห ‘‘สามิกานํ ตุ ธุรนิกฺเขปเน สตี’’ติ. ‘‘โหตี’’ติ ปาเสโส. ตุ-สทฺเทน ‘‘อตฺตโน วา’’ติ วิเสสสฺส สงฺคหิตตฺตา สามิโน นิราลยภาวสงฺขาตธุรนิกฺเขเป จ ‘‘สามิกสฺส น ทสฺสามี’’ติ อตฺตโน ธุรนิกฺเขเป จ ตสฺส ปาราชิกตฺตํ โหตีติ อตฺโถ. เอวมุทีริตนฺติ ‘‘เกสคฺคมตฺตมฺปี’’ติ เอวํ นิยมิตํ กถิตํ.
๑๖๒. ยา ปนาติ ยา ภูมิ ปน. เตสุ ทฺวีสุ ขีเลสุ. อาโท ถุลฺลจฺจยนฺติ ปเม ขีเล สงฺกามิเต โส ภิกฺขุ ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ. ทุติเยติ ทุติเย ขีเล สงฺกามิเต ปราชโย ¶ โหตีติ โยชนา. พหูหิ ขีเลหิ คเหตพฺพฏฺาเน ปริยนฺตขีเลสุ ทฺวีสุ วินิจฺฉโย จ เอเตเนว วุตฺโต โหติ. เอตฺถ ปน อนฺเต ขีลทฺวยํ วินา อวเสสขีลนิขณเน จ อิตเรสุ ตทตฺเถสุ สพฺพปโยเคสุ จ ทุกฺกฏํ โหตีติ วิเสโส.
๑๖๓-๔. ‘‘มเมทํ สนฺตก’’นฺติ าเปตุกาโมติ สมฺพนฺโธ. ปรสนฺตกาย ภูมิยา ปรายตฺตภาวํ ตฺวาว เถยฺยจิตฺเตน เกสคฺคมตฺตมฺปิ านํ คณฺหิตุกามตาย ‘‘เอตฺตกํ านํ มม สนฺตก’’นฺติ ¶ รชฺชุยา วา ยฏฺิยา วา มินิตฺวา ปรสฺส าเปตุกาโมติ อตฺโถ. เยหิ ทฺวีหิ ปโยเคหีติ สพฺพปจฺฉิมเกหิ รชฺชุปสารณยฏฺิปาตนานมฺตเรหิ ทฺวีหิ ปโยเคหิ. เตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ.
อิธ รชฺชุํ วาปีติ วิกปฺปตฺถวา-สทฺเทน ‘‘ยฏฺึ วา’’ติ โยเชตพฺเพปิ อวุตฺตสมุจฺจยตฺถํ อธิกวจนภาเวน วุตฺตปิ-สทฺเทน อิธาวุตฺตมริยาทวตีนํ วินิจฺฉยสฺส าปิตตฺตา ยถาวุตฺตรชฺชุยฏฺิวินิจฺฉเยสุ วิย ปรสนฺตกาย ภูมิยา เกสคฺคมตฺตมฺปิ านํ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหิตุกามตาย วติปาเท นิขณิตฺวา วา สาขามตฺเตน วา วตึ กโรนฺตสฺส มริยาทํ วา พนฺธนฺตสฺส ปาการํ วา จินนฺตสฺส ปํสุมตฺติกา วา วฑฺเฒนฺตสฺส ปุพฺพปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจ สหปโยเค เกวลทุกฺกฏฺจ ปจฺฉิมปโยเคสุ ทฺวีสุ ปมปโยเค ถุลฺลจฺจยฺจ อวสานปโยเค ปาราชิกฺจ โหตีติ วินิจฺฉโยปิ สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺพํ.
เขตฺตฏฺกถาวณฺณนา.
๑๖๕. วตฺถฏฺาทีสุ วตฺถฏฺสฺสาติ เอตฺถ ‘‘วตฺถุ นาม อารามวตฺถุ วิหารวตฺถู’’ติ (ปารา. ๑๐๕) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา ปุปฺผาทิอาราเม ¶ กาตุํ สงฺขริตฺวา ปิตภูมิ จ ปุพฺพกตารามานํ วินาเส ตุจฺฉภูมิ จ วิหารํ กาตุํ อภิสงฺขตา ภูมิ จ นฏฺวิหารภูมิ จาติ เอวํ วิภาควติ วสติ เอตฺถ อุปโรโป วา วิหาโร วาติ ‘‘วตฺถู’’ติ วุจฺจติ อิจฺเจวํ ทุวิธํ วตฺถฺุจ ‘‘วตฺถุฏฺํ นาม ภณฺฑํ วตฺถุสฺมึ จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ ภูมฏฺํ ถลฏฺํ อากาสฏฺํ เวหาสฏฺ’’นฺติ (ปารา. ๑๐๕) วจนโต เอวํ จตุพฺพิธํ ภณฺฑฺจาติ อิทํ ทฺวยํ วตฺถุ จ วตฺถุฏฺฺจ วตฺถุวตฺถุฏฺนฺติ วตฺตพฺเพ เอกเทสสรูเปกเสสวเสน สมาเสตฺวา, อุ-การสฺส จ อการํ กตฺวา ‘‘วตฺถฏฺสฺสา’’ติ ทสฺสิตนฺติ คเหตพฺพํ. ยถาวุตฺตทุวิธวตฺถุโน, วตฺถฏฺสฺส จ ภณฺฑสฺสาติ อตฺโถ. เขตฺตฏฺเติ เอตฺถาปิ อยเมว สมาโสติ เขตฺเต จ เขตฺตฏฺเ จาติ คเหตพฺพํ. นาวฏฺาทิโวหาเรปิ เอเสว นโย. คามฏฺเปิ จาติ ‘‘คามฏฺํ นาม ภณฺฑํ คาเม จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ ภูมฏฺํ…เป… เวหาสฏฺ’’นฺติ (ปารา. ๑๐๖) วุตฺเต จตุพฺพิเธ คามฏฺภณฺเฑปีติ อตฺโถ.
วตฺถฏฺคามฏฺกถาวณฺณนา.
๑๖๖. อรฺฏฺกถายํ ¶ ‘‘ติณํ วา’’ติอาทิปทานํ ‘‘ตตฺถชาตก’’นฺติ ปเทน สมฺพนฺโธ. ตตฺถชาตกนฺติ ‘‘อรฺํ นาม ยํ มนุสฺสานํ ปริคฺคหิตํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) วจนโต ตตฺถชาตํ ยํ กิฺจิ มนุสฺสสนฺตกํ สามิกานํ อกามา อคเหตพฺพโต สารกฺเข อรฺเ อุปฺปนฺนนฺติ อตฺโถ. ติณํ วาติ ปเรหิ ลายิตฺวา ปิตํ วา อตฺตนา ลายิตพฺพํ วา เคหจฺฉาทนารหํ ติณํ วา. ปณฺณํ วาติ เอวรูปเมว เคหจฺฉาทนารหํ ตาลปณฺณาทิปณฺณํ วา. ลตํ วาติ ตถารูปเมว เวตฺตลตาทิกํ วลฺลึ วา. ยา ปน ทีฆา โหติ ¶ , มหารุกฺเข จ คจฺเฉ จ วินิวิชฺฌิตฺวา วา เวเตฺวา วา คตา, สา มูเล ฉินฺนาปิ อวหารํ น ชเนติ, อคฺเค ฉินฺนาปิ. ยทา ปน อคฺเคปิ มูเลปิ ฉินฺนา โหติ, ตทา อวหารํ ชเนติ. สเจ ปน เวเตฺวา ิตา โหติ, เวเตฺวา ิตา ปน รุกฺขโต โมจิตมตฺตา อวหารํ ชเนตีติ อยเมตฺถ วิเสโส. สามิเกน อวิสฺสชฺชิตาลยํ ฉลฺลิวากาทิอวเสสภณฺฑฺจ อิมินาว อุปลกฺขิตฺวา สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. กฏฺเมว วาติ ทารุํ วา. ภณฺฑคฺเฆเนว กาตพฺโพติ เอตฺถ อนฺโตภูตเหตุตฺถวเสน กาเรตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ’’ติ. อวหฏติณาทิภณฺเฑสุ อคฺฆวเสน มาสกํ วา อูนมาสกํ วา โหติ, ทุกฺกฏํ. อติเรกมาสกํ วา อูนปฺจมาสกํ วา โหติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา โหติ, ปาราชิกํ. ปาราชิกํ เจ อนาปนฺโน, อามสนทุกฺกฏํ, ผนฺทาปนถุลฺลจฺจยฺจ กาเรตพฺโพติ อตฺโถ. คณฺหนฺโตติ อวหรนฺโต.
๑๖๗-๗๔. อิทานิ ‘‘กฏฺเมว วา’’ติ วุตฺตรุกฺขทารูสุ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มหคฺเฆ’’ติอาทิ. มหคฺเฆติ ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆกํ หุตฺวา มหคฺเฆ. นสฺสตีติ เถยฺยจิตฺตสมงฺคี หุตฺวา ฉินฺนมตฺเตปิ ปาราชิกํ อาปชฺชติ. ปิ-สทฺโท อวธารเณ. ‘‘โกจิปี’’ติ อิมินา อทฺธคโตปิ อลฺลํ วา โหตุ ปุราณํ วา, ตจฺเฉตฺวา ปิตํ น คเหตพฺพเมวาติ อตฺโถ.
มูเลติ อุปลกฺขณมตฺตํ. ‘‘อคฺเค จ มูเล จ ฉินฺโน โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) อฏฺกถาวจนโต มูลฺจ อคฺคฺจ ฉินฺทิตฺวาติ คเหตพฺโพ. อทฺธคตนฺติ ชิณฺณคฬิตปติตตจํ, จิรกาลํ ิตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ลกฺขเณติ ¶ อตฺตโน สนฺตกํ าเปตุํ รุกฺขกฺขนฺเธ ตจํ ฉินฺทิตฺวา กตสลฺลกฺขเณ. ฉลฺลิโยนทฺเธติ ¶ สมนฺตโต อภินวุปฺปนฺนาหิ ฉลฺลีหิ ปริโยนนฺธิตฺวา อทสฺสนํ คมิเต. อชฺฌาวุตฺถฺจาติ เอตฺถ ‘‘เคห’’นฺติ ปาเสโส. เคหํ กตฺจ อชฺฌาวุตฺถฺจาติ โยชนา. เคหํ กาตุํ อรฺสามิกานํ มูลํ ทตฺวา รุกฺเข กิณิตฺวา ฉินฺนทารูหิ ตํ เคหํ กตฺจ ปริภุตฺตฺจาติ อตฺโถ. วินสฺสนฺตฺจาติ เอตฺถาปิ ‘‘อวสิฏฺํ ทารุ’’นฺติ ปาเสโส. ตํ เคหํ กตฺวา อวสิฏฺํ วสฺสาตปาทีหิ วิวิธา ชีริตฺวา วินสฺสมานํ, วิปนฺนทารุนฺติ วุตฺตํ โหติ. คณฺหโต น โทโส โกจีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สามิกา นิราลยา’’ติ คณฺหโต กาจิปิ อาปตฺติ นตฺถีติ อตฺโถ. กึการณนฺติ เจ? อรฺสามิเกหิ มูลํ คเหตฺวา อฺเสํ ทินฺนตฺตา, เตสฺจ นิราลยํ ฉฑฺฑิตตฺตาติ อิทเมตฺถ การณํ.
วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ ‘‘เคหาทีนํ อตฺถาย รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา ยทา ตานิ กตานิ, อชฺฌาวุตฺถานิ จ โหนฺติ, ทารูนิปิ อรฺเ วสฺเสน จ อาตเปน จ วินสฺสนฺติ, อีทิสานิปิ ทิสฺวา ‘ฉฑฺฑิตานี’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? ยสฺมา อรฺสามิกา เอเตสํ อนิสฺสรา. เยหิ อรฺสามิกานํ เทยฺยธมฺมํ ทตฺวา ฉินฺนานิ, เต เอว อิสฺสรา, เตหิ จ ตานิ ฉฑฺฑิตานิ, นิราลยา ตตฺถ ชาตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗). เอวมฺปิ สติ ปจฺฉา สามิเกสุ อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
โย จาติ อรฺสามิกานํ เทยฺยธมฺมํ ปวิสนฺโต อทตฺวา ‘‘นิกฺขมนฺโต ทสฺสามี’’ติ รุกฺเข คาหาเปตฺวา นิกฺขมนฺโต โย จ ภิกฺขุ. อารกฺขฏฺานํ ปตฺวาติ อรฺปาลกา ยตฺถ นิสินฺนา อรฺํ รกฺขนฺติ, ตํ านํ ปตฺวา. ‘‘จินฺเตนฺโต’’ติ กิริยนฺตรสาเปกฺขตฺตา ‘‘อติกฺกเมยฺยา’’ติ สามตฺถิยโต ¶ ลพฺภติ. ตสฺมา จิตฺเต กมฺมฏฺานาทีนิ กตฺวาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปการตฺเถน กุสลปกฺขิยา วิตกฺกา สงฺคยฺหนฺติ. อฺํ จินฺเตนฺโต วา อารกฺขนฏฺานํ ปตฺวาเยว อติกฺกาเมยฺยาติ โยเชตฺวา อตฺโถ วตฺตพฺโพ. ตตฺถ อฺํ จินฺเตนฺโต วาติ อฺํ วิหิโต วา, อิมินา ยถาวุตฺตวิตกฺกานํ สงฺคโห. อสฺสาติ เอตฺถ ‘‘เทยฺย’’นฺติ กิตโยเค กตฺตริ สามิวจนตฺตา อเนนาติ อตฺโถ.
‘‘โยจา’’ติ เอตฺถ อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน จ-สทฺเทน อรฺปวิสนกาเล ยถาวุตฺตนเยน มูลํ อทตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ทารูนิ คเหตฺวา คมนกาเล ‘‘อรฺปาลกา สเจ ยาจนฺติ, ทสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปตฺวา คนฺตฺวา เตหิ อยาจิตตฺตา อทตฺวา คจฺฉนฺโตปิ ตเถว อาคนฺตฺวา อารกฺขเกสุ ¶ กีฬาปสุเตสุ วา นิทฺทายนฺเตสุ วา พหิ นิกฺขนฺเตสุ วา ตตฺถ ตฺวา อารกฺขเก ปริเยสิตฺวา อทิสฺวา คจฺฉนฺโตปิ ตเถว อาคนฺตฺวา ตตฺถ นิยุตฺตอิสฺสรชเนหิ อตฺตโน หตฺถโต ทาตพฺพํ ทตฺวา วา อตฺตานํ สมฺมานํ กตฺวา วา ปาลเก สฺาเปตฺวา วา ปาลเก โอกาสํ ยาจิตฺวา เตหิ ทินฺโนกาโส วา คจฺฉนฺโตปีติ เอตฺตกา วุตฺเตน สทิสตฺตา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา.
วราหาติ สูกรา. วคฺฆาติ พฺยคฺฆา. อจฺฉาติ อิสฺสา. ตรจฺฉาติ กาฬสีหา. อาทิ-สทฺเทน ทีปิมตฺตหตฺถิสีหาทโย วาฬมิคา สงฺคยฺหนฺติ. เอเตเยว วราหาทโย สมาคมวเสน มรณาทิอนิฏฺสมีปจาริตาย อุป อนิฏฺสมีเป ทวนฺติ ปวตฺตนฺตีติ ‘‘อุปทฺทวา’’ติ วุจฺจนฺติ. อารกฺขฏฺานํ อาคตกาเล ทิฏฺวราหาทิอุปทฺทวโตติ วุตฺตํ โหติ. มุจฺจิตุกามตายาติ โมกฺขาธิปฺปาเยน. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ปวิสนกาเล เทยฺยธมฺมํ อทตฺวา ‘‘นิกฺขมนกาเล ทสฺสามี’’ติ ¶ ปวิสิตฺวา ทารุํ คเหตฺวา อารกฺขฏฺานํ ปตฺโตติ ปุริมคาถาย สามตฺถิยโต ลพฺภมาโนเยวตฺโถ ทสฺสิโต. ตํ านนฺติ ตํ อารกฺขฏฺานํ. อติกฺกาเมตีติ ‘‘อิทํ ตํ าน’’นฺติปิ อสลฺลกฺขณมตฺตภยุปทฺทโว หุตฺวา ปลายนฺโต อติกฺกมติ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตีติ โยชนา.
สุงฺกฆาตโตติ เอตฺถาปิ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺโพ, สุงฺกคหณฏฺานโตปีติ อตฺโถ. สุงฺกสฺส รฺโ ทาตพฺพภาคสฺส ฆาโต มุสิตฺวา คหณมตฺโต, สุงฺโก หฺติ เอตฺถาติ วา สุงฺกฆาโตติ วิคฺคโห. สุงฺกฆาตสรูปํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. ตสฺมาติ สุงฺกฆาตโต ตสฺส ครุกตฺตา เอว. ตนฺติ ตํ สุงฺกฆาตฏฺานํ. อโนกฺกมฺม คจฺฉโตติ อปวิสิตฺวา คจฺฉนฺตสฺส. ทุกฺกฏํ อุทฺทิฏฺํ ‘‘สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๓).
เอตนฺติ ยถาวุตฺตอารกฺขฏฺานํ. เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺสาติ เถยฺยจิตฺเตน ปริหริตฺวา ทูรโต คจฺฉนฺตสฺส. อากาเสนปิ คจฺฉโต ปาราชิกมนุทฺทิฏฺํ สตฺถุนาติ สมฺพนฺโธ.
นนุ จ ‘‘อิทํ ปน เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺส อากาเสน คจฺฉโตปิ ปาราชิกเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) อฏฺกถายํ วุตฺตวจนํ วินา ปาฬิยํ ‘‘อรฺฏฺ’’นฺติ มาติกาปทสฺส วิภงฺเค ‘‘ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วา ลตํ วา ติณํ วา ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ¶ ถุลฺลจฺจยสฺส. านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๐๖) สามฺวจนโต สุงฺกฆาเต ‘‘สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วจนํ วิย เอตฺถ อารกฺขฏฺานํ ¶ ปริหรนฺตสฺส วิสุํ วุตฺตปาราชิกาปตฺติวจเน อสติปิ ‘‘อฏฺกถาย’’นฺติ อวตฺวา ‘‘สตฺถุนา’’ติ กสฺมา อาหาติ? วุจฺจเต – อฏฺกถาจริเยน ตเถว วุตฺตตฺตา อาห. กสฺมา ปน อฏฺกถาจริเยน ‘‘อปฺตฺตํ น ปฺเปสฺสาม, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสามา’’ติ (ปารา. ๕๖๕) ปาฬิปาํ ชานนฺเตนปิ ปาฬิยํ อวุตฺตปาราชิกํ นิทฺทิฏฺนฺติ? เอตฺถ วินิจฺฉยํ ภิกฺขูหิ ปุฏฺเน ภควตา วุตฺตนยสฺส มหาอฏฺกถาย อาคตตฺตา ตสฺเสว นยสฺส สมนฺตปาสาทิกายํ นิทฺทิฏฺภาวํ ชานนฺเตน อิมินาปิ อาจริเยน อิธ ‘‘สตฺถุนา’’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
อถ วา ‘‘สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วตฺวา อารกฺขฏฺานวินิจฺฉเย อวจนํ ยถาวุตฺตวิสยสฺส อทิฏฺภาเวน วา สิยา, อิมสฺส ตถา อนวชฺชตา วา สิยา, วุตฺตานุสาเรน สุวิฺเยฺยตา วา สิยาติ ตโย วิกปฺปา. เตสุ ปมวิกปฺโป สพฺพฺุภาวพาธนโต ทุพฺพิกปฺปมตฺตํ โหติ. ทุติยวิกปฺโป โลกวชฺชสฺส อิมสฺส อนวชฺชภาโว นาม อนุปปนฺโนติ อนาทาตพฺโพ. ปาริเสสโต ตติยวิกปฺโป ยุชฺชติ.
ตตฺถ ‘‘วุตฺตานุสาเรนา’’ติ กิเมตฺถ วุตฺตํ นาม, ตทนุสาเรน อิมสฺสาปิ สุวิฺเยฺยตา กถนฺติ เจ? ปมนิทฺทิฏฺเ อรฺฏฺนิทฺเทเส สามฺเน ‘‘านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๐๖) อิทํ วุตฺตํ, น ปน เถยฺยจิตฺเตน อารกฺขฏฺานปริหรณฺจ. ‘‘คมนกาเล ‘มูลํ ทตฺวา คมิสฺสามี’ติ ปุพฺพปริกปฺปิตนิยาเมน อทตฺวา คจฺฉโต ปริกปฺปาวหาโรว โหตี’’ติ จ ‘‘ตํ ปน เยน เกนจิ อากาเรน ปริกปฺปิตฏฺานํ ปหาย คมนํ านาจาวนํ นาม โหเตวาติ เตน วตฺถุนา ปาราชิกเมว โหตี’’ติ ¶ จ ‘‘านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’ติ อิมินา จ วิฺาตตฺถเมว โหตี’’ติ จ วิสุํ น วุตฺตํ. สุงฺกฏฺานปริหรณํ ปน านปริหรณสภาวตฺตา สภาวโต อีทิสํว สนฺตมฺปิ อิทํ วิย ปริกปฺปิตฏฺานํ น โหตีติ วกฺขมานราชสมฺมตฏฺานโต อฺํ ปริกปฺปิตฏฺานํ สมานมฺปิ เถยฺยจิตฺตุปฺปตฺติมตฺเตน ตํ ปริหริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส เถยฺยจิตฺเตน อตฺตโน ปตฺตํ คณฺหนฺตสฺส วิย ปาราชิกาย อวตฺถุตฺจ ทุกฺกฏสฺเสว วตฺถุภาวฺจ วิฺาเปตุํ ‘‘สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตนฺติ ภควโต อธิปฺปายฺุนา อฏฺกถาจริเยน ‘‘ปาราชิกเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) วุตฺตตฺตา ¶ เตน อฏฺกถายํ วุตฺตนีหารเมว ทสฺเสตุํ อยมาจริโยปิ ‘‘สตฺถุนา ปาราชิกมนุทฺทิฏฺ’’นฺติ อาหาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
ตสฺมาติ ยสฺมา เอวํ ปริหริตฺวา เถยฺยจิตฺเตน ทูรโต วชฺเชตฺวา คจฺฉนฺตสฺสาปิ ปาราชิกปฺปโหนกตาย อจฺจนฺตภาริยํ โหติ, ตสฺมา. เอตฺถาติ อิมสฺมึ อรฺารกฺขฏฺาเน. ‘‘วิเสเสนา’’ติ อิทํ ‘‘อปฺปมตฺเตน โหตพฺพ’’นฺติ อิมินา เหตุภาเวน สมฺพนฺธนียํ. สติสมฺปนฺนเจตสาติ จ ปิยสีเลนาติ จ ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ. อสิกฺขากามสฺส ภิกฺขุโน อิมสฺส โอวาทสฺส อภาชนตาย ตํ ปริวชฺเชตุมาห ‘‘ปิยสีเลนา’’ติ. ปิยสีลสฺสาปิ สติวิรหิตสฺส ปมตฺตฏฺาเน สรณาสมฺภวา อิมสฺส อภาชนตาย ตํ วชฺเชตุมาห ‘‘สติสมฺปนฺนเจตสา’’ติ.
อรฺฏฺกถาวณฺณนา.
๑๗๕-๖. โตยทุลฺลภกาลสฺมินฺติ โตยํ ทุลฺลภํ ยสฺมึ โส โตยทุลฺลโภ, โตยทุลฺลโภ จ โส กาโล จาติ โตยทุลฺลภกาโล, ตสฺมึ. อาวชฺเชตฺวา วาติ อุทกภาชนํ นาเมตฺวา วา. ปเวเสตฺวา วาติ อตฺตโน ¶ ภาชนํ ตสฺมึ ปกฺขิปิตฺวา วา. ฉิทฺทํ กตฺวาปิ วาติ อุทกภาชเน โอมฏฺาทิเภทํ ฉิทฺทํ กตฺวา วา คณฺหนฺตสฺส ภณฺฑคฺเฆน วินิทฺทิเสติ วกฺขมาเนน สมฺพนฺธนียํ.
ตถาติ ยถา โตยทุลฺลภกาลสฺมึ ภาชเน รกฺขิตโคปิตํ อุทกํ อวหรนฺตสฺส ปาราชิกํ วุตฺตํ, เตเนว นีหาเรน. วาปิยํ วาติ ปรสนฺตกาย สารกฺขาย วาปิยํ วา. ตฬาเก วาติ ตาทิเส ชาตสฺสเร วา. เอวํ สารกฺขานํ โปกฺขรณิอาทีนํ เอเตหิ วา อวุตฺตสมุจฺจเยน วา-สทฺเทน วา คหณํ เวทิตพฺพํ. อตฺตโน ภาชนํ ปเวเสตฺวา คณฺหนฺตสฺสาติ อุปลกฺขณปทนฺติ ภาชนคตชเล จ อิธ จ เตลภาชเน วิย มุเขน วา วํสาทีหิ วา อากฑฺฒิตฺวา เถยฺยจิตฺเตน ปิวนฺตสฺส ยถาวตฺถุกมาปตฺติวิธานํ เวทิตพฺพํ.
๑๗๗. มริยาทนฺติ วาปิอาทีนํ ปาฬิวฏฺฏพนฺธํ. ฉินฺทโตติ กุทาลาทีหิ ปํสุอาทีนิ อุทฺธริตฺวา ทฺวิธา กโรนฺตสฺส. วิเสสตฺถาวโชตเกน ตุ-สทฺเทน ‘‘มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา ทุพฺพลํ กตฺวา ตสฺส ¶ ฉินฺทนตฺถาย วีจิโย อุฏฺาเปตุํ อุทกํ สยํ โอตริตฺวา วา โคมหึเส วา อฺเ มนุสฺเส วา กีฬนฺเต ทารเก วา โอตาเรตฺวา วา อตฺตโน ธมฺมตาย โอติณฺเณ ตาเสตฺวา วา อุทเก ิตํ รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา วา เฉทาเปตฺวา วา ปาเตตฺวา วา ปาตาเปตฺวา วา ชลํ โขเภติ, ตโต อุฏฺิตาหิ วีจีหิ มริยาเท ฉินฺเนปิ เตเนว ฉินฺโน โหติ. เอวเมว โคมหึสาทโย มริยาทํ อาโรหนฺเตนาปิ อฺเหิ อาโรหาเปนฺเตนาปิ เตสํ ขุเรหิ มริยาเท ฉินฺเนปิ, อุทกนิทฺธมนาทึ ปิทหิตฺวา วา ปิทหาเปตฺวา วา วาปิมริยาทาย นีจฏฺานํ พนฺธิตฺวา วา พนฺธาเปตฺวา วา อติเรกชลาปคมนมคฺคโต นีหริตพฺโพทกํ วาเรตฺวา วา พาหิรโต อุทกํ ปเวเสตฺวา วา ปูเรติ, โอเฆน มริยาเท ¶ ฉินฺเนปิ เตเนว ฉินฺนํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๘ อตฺถโต สมานํ) เอวมาทิกํ อฏฺกถาคตวิเสสํ สงฺคณฺหาติ. อทินฺนาทานปุพฺพโตติ อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยคตฺตา. ภูตคาเมน สทฺธิมฺปีติ ภูตคาเมนปิ สทฺธึ. อปิ-สทฺเทน ปถวิขณนํ สมฺปิณฺเฑติ. มริยาทํ ฉินฺทนฺโต ตตฺถชาตํ ติณาทึ ฉินฺทติ, ภูตคามปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ. ชาตปถวึ ฉินฺทติ, ปถวิขณนปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ อธิปฺปาโย.
๑๗๘. กาตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘ภณฺฑคฺเฆน อาปตฺติยา’’ติ ปาเสโส. อนฺโตภูตเหตฺวตฺถวเสน กาเรตพฺโพติ คเหตพฺโพ. อนฺโต ตฺวา ฉินฺทนฺโต พหิอนฺเตน, พหิ ตฺวา ฉินฺทนฺโต อนฺโตอนฺเตน, อุภยตฺถาปิ ตฺวา ฉินฺทนฺโต มชฺฌโต ภณฺฑคฺเฆน อาปตฺติยา กาเรตพฺโพติ โยชนา. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – อนฺโตวาปิยํ ตฺวา มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา อุทเก พหิ นิกฺขมิเต นิกฺขนฺตอุทกคฺเฆน ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกาสุ ยถาปนฺนาย อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. พหิ ตฺวา มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา อนฺโตวาปิยํ ปวิสนฺโตทกสฺส ิตฏฺานโต จาวิตกฺขเณ นิกฺขนฺตอุทกคฺเฆน อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. กทาจิ อนฺโต กทาจิ พหิ ตฺวา มริยาทํ มชฺเฌ เปตฺวา ฉินฺทนฺโต มชฺเฌ ิตฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา อุทกสฺส นีหฏกฺขเณ นีหฏอุทกสฺส อคฺเฆน อาปตฺติยา กาเรตพฺโพติ.
อุทกฏฺกถาวณฺณนา.
๑๗๙-๘๐. วาเรนาติ วาเรน วาเรน สามเณรา อรฺโต ยํ ทนฺตกฏฺํ สงฺฆสฺสตฺถาย อาเนตฺวา สเจ อาจริยานมฺปิ อาหรนฺติ, ยาว เต ทนฺตกฏฺํ ปมาเณน ฉินฺทิตฺวา สงฺฆสฺส จ อาจริยานฺจ ¶ น นิยฺยาเทนฺติ, ตาว อรฺโต ¶ อาภตตฺตา ตํ สพฺพํ สงฺฆสฺส จ สกสกอาจริยานฺจ อาภตํ ทนฺตกฏฺํ เตสเมว จ ทนฺตกฏฺหารกานํ สามเณรานํ สนฺตกํ โหตีติ อตฺถโยชนา.
๑๘๑. ตสฺมาติ ยสฺมา เตสเมว สามเณรานํ สนฺตกํ โหติ, ตสฺมา. ตํ อรฺโต อาภตํ ทนฺตกฏฺฺจ สงฺฆสฺส ครุภณฺฑฺจ ทนฺตกฏฺนฺติ สมฺพนฺโธ. สงฺฆิกาย ภูมิยํ อุปฺปนฺนํ สงฺเฆน รกฺขิตโคปิตตฺตา ครุภณฺฑภูตํ ทนฺตกฏฺฺจาติ วุตฺตํ โหติ. คณฺหนฺตสฺส จาติ อธิกจ-กาเรน อิหาวุตฺตสฺส อฏฺกถาคตสฺส คณปุคฺคลคิหิปริพทฺธ อารามุยฺยานสฺชาตฉินฺนาฉินฺนรกฺขิตโคปิตทนฺตกฏฺสฺส สมุจฺจิตตฺตา ตฺจ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺตสฺส อวหฏทนฺตกฏฺสฺส อคฺฆวเสน อาปตฺติโย วตฺตพฺพาติ อยมตฺโถ ทีปิโต โหติ.
๑๘๒. เตหิ ทนฺตกฏฺหารเกหิ สามเณเรหิ. นิยฺยาทิตนฺติ มหาสงฺฆสฺส ปฏิปาทิตํ.
๑๘๓. สงฺฆิกกาลโต ปฏฺาย เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโตปิ อวหาราภาเว การณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อรกฺขตฺตา’’ติอาทิ. ตตฺถ อรกฺขตฺตาติ สงฺฆิกภาเวน ลทฺเธปิ รกฺขิตโคปิตทนฺตกฏฺเ วิย สงฺเฆน กตารกฺขายาภาวา. ยถาวุฑฺฒมภาเชตพฺพโตติ สงฺฆิกตฺตสฺสาปิ สโต ยถาวุฑฺฒํ ปฏิปาฏิมนติกฺกมฺม ภาเชตพฺพผลปุปฺผาทีนํ วิย ภาเชตพฺพตาภาวโต. สพฺพสาธารณตฺตา จาติ สงฺฆปริยาปนฺนานํ สพฺเพสเมว สาธารณตฺตา.
อิทนฺติ สงฺฆสฺส นิยฺยาทิตทนฺตกฏฺํ. อฺํ วิยาติ อฺํ คณปุคฺคลาทิสนฺตกํ รกฺขิตโคปิตทนฺตกฏฺํ วิย. เอวํ โจริกาย คณฺหโต อวหาราภาเว การเณน สาธิเตปิ เถยฺยจิตฺเตน ¶ สกปริกฺขารมฺปิ คณฺหโต ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา ตถา คณฺหนฺโต ทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ ทฏฺพฺพํ. วตฺตํ ปน ชานิตพฺพํ – สงฺฆิกทนฺตกฏฺํ คณฺหนฺเตน ปธานฆราทีสุ ปวิสิตฺวา จิเรน โอสรนฺเตน พหิ วีตินาเมตพฺพทิวเส คเณตฺวา ตํปมาเณน คเหตพฺพํ, มคฺคํ คจฺฉนฺเตน เอกํ ทฺเว ทนฺตกฏฺานิ ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพํ, ตตฺเถว วสนฺเตน ทิวเส ขาทิตพฺพทนฺตกฏฺํ คเหตพฺพนฺติ.
ทนฺตกฏฺกถาวณฺณนา.
๑๘๔. ‘‘อคฺคึ ¶ วา เทตี’’ติอาทีสุ ‘‘รุกฺเข’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ ‘‘รุกฺโข วินสฺสตี’’ติ วกฺขมานตฺตา, รุกฺโข จ ‘‘วนปฺปติ นาม โย มนุสฺสานํ ปริคฺคหิโต โหติ รุกฺโข ปริโภโค’’ติ (ปารา. ๑๑๐) ปาฬิยํ อาคตตฺตา จ อฏฺกถาย (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๐) จ วุตฺตนเยน อมฺพลพุชปนสาทิโก มนุสฺสานํ ปริโภคารโห มนุสฺสายตฺโต รกฺขิตโคปิโตเยว คเหตพฺโพ. อคฺคึ วา เทตีติ โจริกาย อคฺคึ อาลิมฺเปติ วา. สตฺเถน รุกฺเข สมนฺตโต อาโกเฏตีติ วาสิผรสุอาทิสตฺเถน รุกฺขตจํ ฉินฺทนฺโต สมนฺตโต อาวาฏํ ทสฺเสติ. มณฺฑูกกณฺฏกนามกํ วิสํ วา รุกฺเข อาโกเฏตีติ โจริกาย รุกฺขํ นาเสตุกาโม รุกฺเข มณฺฑูกกณฺฏกนามกํ วิสํ ปเวเสติ.
๑๘๕. เยน วา เตน วาติ ยถาวุตฺเตน วา อวุตฺเตน วา เยน เกนจิ อุปาเยน. รุกฺโข วินสฺสตีติ อคฺคึ ทตฺวา ฌาปิโต ธฺกลาโป วิย, เตลกุมฺภี วิย จ วินาว านาจาวเนน ยถาฏฺิตเมวนสฺสติ. ‘‘ฑยฺหตี’’ติ อิทํ ‘‘อคฺคึ เทตี’’ติ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ. วินสฺสตีติ มณฺฑูกกณฺฏกาโกฏนาทิอวเสสปโยคํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ ‘‘เถยฺยจิตฺโต ฉินฺทติ, ปหาเร ปหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส, เอกํ ปหารํ ¶ อนาคเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส, ตสฺมึ ปหาเร อาคเต อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๐) านาจาวเนน ปาราชิกสฺส อาคตตฺตา. ปกาสิตนฺติ เอตฺถ ‘‘อฏฺกถาย’’นฺติ ลพฺภติ. ปาาคตํ ปาราชิกํ ปน ปาริเสสโต จ สูจียตีติ ตพฺพาจกสฺส วา สงฺคาหกสฺส วา วจนสฺส อิหาวิชฺชมานตฺตา ตตฺถ วินิจฺฉโย ปาสํสิโกปิ อิหาวุตฺโต.
วนปฺปติกถาวณฺณนา.
๑๘๖-๗. ‘‘หรณกํ นาม อฺสฺส หรณกํ ภณฺฑํ. เถยฺยจิตฺโต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๑) วุตฺตหรณกนิทฺเทเส ‘‘านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๑) ปาเ ‘‘าน’’นฺติ คหิตสีสาทิฏฺานปฺปเภทวเสน อฏฺกถาย (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๐) อาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ฉินฺทิตฺวา โมเจตฺวา คณฺหโต’’ติ. กิริยานํ สกมฺมกตฺตา ‘‘อลงฺการ’’นฺติ ปาเสโส. ฉินฺทิตฺวาติ คีเวยฺยกาทึ. โมเจตฺวาติ กณฺณปิฬนฺธนาทึ.
สีสาทีหิ ¶ โมจิตมตฺตสฺมินฺติ เอตฺถาปิ วิเสสิตพฺพทสฺสนตฺถํ ‘‘อลงฺการสฺมิ’’นฺติ ตเมว ภุมฺเมกวจนนฺตวเสน คเหตพฺพํ. อากฑฺฒนวิกฑฺฒนนฺติ เอตฺถ อภิมุขํ กฑฺฒนํ อากฑฺฒนนฺติ กตฺวา อตฺตโน สมีปมาวิฺฉนํ อากฑฺฒนํ, วิปรีตํ กฑฺฒนํ วิกฑฺฒนนฺติ กตฺวา ตพฺพิปรีตํ วิกฑฺฒนํ.
๑๘๘-๙. วลยนฺติ อวงฺกํ มฏฺหตฺถูปคํ. กฏกมฺปิ วาติ อเนกวงฺเก โยเชตฺวา พุพฺพุฬาทีนิ ทสฺเสตฺวา วา อทสฺเสตฺวา ¶ วา กตํ หตฺถูปคํ. อคฺคพาหุนฺติ กปฺปรโต ปฏฺาย อคฺคหตฺถํ. อปราปรํ จาเรตีติ อิโต จิโต จ สฺจาเรติ. ‘‘สาเรตี’’ติ วา ปาโ, โสเยว อตฺโถ. ตํ วลยํ วา กฏกํ วา. อากาสคตํ กโรตีติ สพฺพทิสาหิ ยถา หตฺถํ น ผุสติ, ตถา อากาสคตํ กโรติ. นิธิวลยสฺส ปเวสิตรุกฺขมูเล สพฺพทิสาหิ อผุสนฺตํ อากาสคตกรเณ ปาราชิกํ โหติ, อิธ ‘‘รกฺขตี’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สวิฺาณกโต’’ติอาทิ. อิทนฺติ วลยํ กฏกฺจ.
๑๙๐. ‘‘นิวตฺถํ วตฺถ’’นฺติ อิมินา จีวรมฺปิ คยฺหติ. ปรสฺส วตฺถสามิกสฺส. ปโรปีติ วตฺถสามิโกปิ. ตนฺติ โจเรน อจฺฉิชฺชมานํ อตฺตนา นิวตฺถวตฺถํ. ลชฺชาย สหสา น มฺุจตีติ ลชฺชาย สีฆตรํ น ปริจฺจชติ.
๑๙๑. โจโรปิ อากฑฺฒติ, โส ปโรปิ อากฑฺฒตีติ โยชนา. โส ปโร โจรโต อฺโ, วตฺถสามิโกติ อตฺโถ. ปรสฺสาติ วตฺถสามิกสฺส.
๑๙๒. ‘‘านา จาเวยฺยา’’ติ ปาเ าน-สทฺเทน สงฺคหิตสีสาทิฏฺานโต หรียเตติ หรณกนฺติ วุตฺตาลงฺการาทิภณฺฑสฺส จาวเนน ปาราชิกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตเทว หรณกํ หารเกน สห หรนฺตสฺส หารกสฺส ิตฏฺานโต อปนยเนน านาจาวนฺจ ‘‘านา จาเวยฺยา’’ติ อิมินาว สงฺคยฺหตีติ ตตฺถาปิ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สภณฺฑหารก’’นฺติอาทิ. ภณฺฑํ หรติ เนตีติ ภณฺฑหารโก, ปุริสาทิโก, เตน สหาติ สภณฺฑหารกํ, อลงฺการวตฺถาทีนิ อาทาย คจฺฉนฺเตหิ อิตฺถิปุริสาทิปาเณหิ สเหว. ภณฺฑนฺติ เตหิ หริยมานตฺตา หรณกสงฺขาตวตฺถาภรณาทิภณฺฑํ ¶ . เนนฺตสฺสาติ ‘‘เนนฺโต อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. เนนฺโตติ ิตฏฺานโต จาเวตฺวา อตฺตนา อิจฺฉิตทิสาภิมุขํ ปาเปนฺโต. อสฺส ปเม ปาเท อติกฺกนฺเต ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชิตฺวาติ ¶ ปาเสสโยชนา. อสฺสาติ อิมสฺส ภณฺฑหารกสฺส. ปมปาเท อติกฺกนฺเต อตฺตนา ปมํ คนฺตพฺพทิสโต โจรสฺสาภิมตทิสํ คเต ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชิตฺวา ทุติเย อติกฺกนฺเต จุโต สิยาติ โยชนา.
๑๙๓. เถยฺยเจตโน สเจ ตชฺเชตฺวา ปรสฺส หตฺถโต ภณฺฑํ ปาตาเปติ, ปรสฺส หตฺถโต ภณฺเฑ มุตฺตมตฺเต ตชฺเชตฺวา ปาตาปกสฺส ปราชโยติ โยชนา. ภณฺเฑ มุตฺตมตฺเตติ ภณฺเฑ หตฺถโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุตฺตกฺขเณ.
๑๙๔. อถาปีติ อถ วา. ปริกปฺเปตฺวา ปาตาเปติ วาติ เอตฺถ ‘‘ยํ มยฺหํ รุจฺจติ, ตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ วา ‘‘เอวรูปํ เจ โหติ, คณฺหิสฺสามี’’ติ วิเสเสตฺวา วา ปริกปฺเปตฺวา ตชฺเชตฺวา ปาเตติ, ทุกฺกฏํ. เอวํ ปาติตํ ภณฺฑํ ตสฺส โจรสฺส อามสเน ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๑๙๕. ยถาวตฺถุนฺติ ภณฺฑสฺส อคฺฆานุรูปํ, ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ อธิปฺปาโย. ฉฑฺฑิเตปีติ ตสฺส โจรภาวํ ชานิตฺวา ภีตตสิเตน อตฺตนา นียมาเน ภณฺเฑ ฉฑฺฑิเตปิ สติ. เตเนว านาจาวนํ การาปิตนฺติ ปาราชิกนฺติ น คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘น โทโส’’ติ. ‘‘ติฏฺ ติฏฺา’’ติ วุตฺเต ปน อุตฺตสิตฺวา ฉฑฺฑนํ ตสฺส อาณตฺติยา วินา โหตีติ ตตฺถ ตสฺส อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย. ตถา วทโต ปน อทินฺนาทานปุพฺพปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว.
๑๙๖. ตนฺติ ตํ ฉฑฺฑิตํ ภณฺฑํ. ตทุทฺธาเรติ ตสฺส ฉฑฺฑิตสฺส ภณฺฑสฺส อุทฺธาเร ปาราชิกํ. ปาราชิกํ กทา สิยาติ ¶ อาห ‘‘สามิเก สาลเย คเต’’ติ. นิราลยํ ฉฑฺฑิตํ ปน คณฺหโต อสติ เถยฺยจิตฺเต น โทโสติ พฺยติเรกโต ทสฺเสติ.
๑๙๗. สามิกสฺส สาลยกาเล คณฺหนฺตสฺสาปิ ปาราชิกาภาวปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘คณฺหโต’’ติ. ปุพฺพคาถาย ‘‘ต’’นฺติ อิธานุวตฺตเต. สกสฺายคณฺหโตติ ‘‘ติฏฺ ติฏฺา’’ติ วจนโต อุตฺตสิตฺวา สาลยํ ฉฑฺฑิตํ ตํ วตฺถุํ สกสฺาย คณฺหนฺตสฺส. คหเณติ สกสฺาย คหณเหตุ, สกสฺาย คหิตภณฺฑํ อตฺตโน คหณการณา ภิกฺขุํ อวหาราปตฺติโต รกฺขตีติ อธิปฺปาโย ¶ . เตนาห ‘‘คหเณ ปน รกฺขตี’’ติ. ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตีติ โยชนา. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา คหเณ รกฺขตีติ อติทิสติ.
๑๙๘-๙. ธุรนิกฺเขปํ กตฺวาติ ‘‘มยฺหํ กิเมเตน ภณฺเฑน, ชีวิตรกฺขนเมว วรตร’’นฺติ นิราลโย หุตฺวา. เตนาห ‘‘ภีโต โจรา ปลายตี’’ติ. โจราติ เอตฺถ จ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกํ. คณฺหโตติ เอตฺถ ‘‘ต’’นฺติ ปาเสโส, ตถา ฉฑฺฑิตํ ตํ ภณฺฑนฺติ อตฺโถ. อุทฺธาเร ทุกฺกฏนฺติ วตฺถุมฺหิ อนวชฺเชปิ เถยฺยจิตฺตวเสน ทุกฺกฏํ โหติ, อสติ เถยฺยจิตฺเต ทุกฺกฏมฺปิ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อาหราเปนฺเตติ เอตฺถ ภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ, ตสฺมึ ภณฺฑสามินิ อาหราเปนฺเต สตีติ อตฺโถ.
๒๐๐. นิราลเยน ฉฑฺฑิตวตฺถุโน คหเณ ภณฺฑเทยฺยฺจ อเทนฺตสฺส ปราชโย จ กสฺมาติ อาห ‘‘ตสฺสา’’ติอาทิ. อฺาสูติ มหาปจฺจริยาทีสุ อิตราสุ อฏฺกถาสุ.
หรณกกถาวณฺณนา.
๒๐๑. อุปนิธิกถาย ¶ ‘‘น คณฺหามี’’ติ สมฺปชานมุสาวาทํ ภาสโตติ โยชนา. เยน เกนจิ รหสิ ‘‘อิทํ มยฺหํ ภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา เทหี’’ติ นิยฺยาทิตํ ภณฺฑํ ปจฺฉา สามิเกน ‘‘เทหิ เม ตํ ภณฺฑ’’นฺติ วุตฺเต อจฺจนฺตมุปคนฺตุํ ‘‘นาหํ คณฺหามี’’ติ สมฺปชานมุสาวาทํ ภาสโตติ อตฺโถ. คณฺหามีติ อคฺคเหสึ. อจฺจนฺตา เหโส อตีเต วตฺตมานปฺปโยโคยํ. ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒) อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส วิสเย กสฺมา ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อทินฺนาทานปุพฺพกตฺตา’’ติอาทิ. ตตฺถ อทินฺนาทานปุพฺพกตฺตาติ อทินฺนาทานสฺส สหปโยควเสน ปุพฺพงฺคมตฺตา, น ปุพฺพปโยคตฺตา. น หิ อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏมตฺถีติ. เตเนวาห อฏฺกถายํ ‘‘อทินฺนาทานสฺส ปโยคตฺตา’’ติ.
๒๐๒. เอตสฺสาติ เอตสฺส สมีเป. กึ นุ ทสฺสตีติ ทสฺสติ กึ นุ. วิมตุปฺปาเทติ เหตุมฺหิ ภุมฺมํ. ตสฺสาติ ยสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก อุปนิกฺขิตฺตํ, ตสฺส.
๒๐๓. ตสฺมินฺติ ¶ ยสฺมึ อุปนิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ ภิกฺขุมฺหิ. ทาเน นิรุสฺสาเหติ อตฺตนิ นิกฺขิตฺตสฺส ภณฺฑสฺส สามิกสฺส ทานวิสเย อุสฺสาหรหิเต สติ, ‘‘น ทานิ ตํ ทสฺสามี’’ติ ธุรนิกฺเขเป กเตติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเป’’ติ. ปโรติ ภณฺฑสามิโก. ธุรนฺติ ‘‘เยน เกนจิ อากาเรน คณฺหิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหํ. นิกฺขิเปติ นิกฺขิเปยฺย.
๒๐๔. จิตฺเตนาทาตุกาโมวาติ เอตฺถ ‘‘โย ตสฺสา’’ติ ปาเสโส. เจติ อปิ-สทฺทตฺเถ. โย โจโร จิตฺเตน อทาตุกาโมว, ตสฺส โจรสฺส ‘‘ทสฺสามี’’ติ มุเขน ¶ วทโตปีติ โยชนา. อถ วา อทาตุกาโมติ เอตฺถ ‘‘หุตฺวา’’ติ ปาเสโส. เจติ วุตฺตตฺโถ. เอวาติ ‘‘ปราชโย’’ติ อิมินา ยุชฺชติ. จิตฺเตน อทาตุกาโม หุตฺวา มุเขน ‘‘ทสฺสามี’’ติ วทโตปิ สามิโน ธุรนิกฺเขเป สติ ปราชโย โหเตวาติ โยชนา.
อุปนิธิกถาวณฺณนา.
๒๐๕. สุงฺกฆาตสฺสาติ ‘‘สุงฺกฆาตํ นาม รฺา ปิตํ โหติ ปพฺพตขณฺเฑ วา นทีติตฺเถ วา คามทฺวาเร วา’’ติ (ปารา. ๑๑๓) ปาฬิยํ อาคตสฺส ‘‘สุงฺกํ ตโต หนนฺติ…เป… วินาเสนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๓) อฏฺกถายํ นิรุตฺตสฺส ‘‘อิโต ปฏฺาย นียมาเน ภณฺเฑ เอตฺตกโต เอตฺตกํ ราชภาคํ คเหตพฺพ’’นฺติ ราชาทีหิ ตํตํปเทสสามิเกหิ นิยมิตสฺส ปพฺพตขณฺฑาทิฏฺานสฺส. พหีติ สุงฺกคหณตฺถาย ปริกปฺปิตสีมโต พหิ. ปาเตตีติ เอตฺถ ‘‘เถยฺยจิตฺโต’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘ราชารหํ ภณฺฑ’’นฺติ ปาเสโส. ยโต กุโตจิ ภณฺฑโต ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนโก ภาโค ราชาทิเทสสามิกสฺส ทาตพฺโพ โหติ, ตาทิสํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺโต ยถา พหิ ปตติ, เอวํ ขิปตีติ อตฺโถ. ธุวํ ปตตีติ เอตฺถาปิ ‘‘ต’’นฺติ ปาเสโส, ‘‘ภณฺฑ’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ยถา ขิตฺตํ ตํ ภณฺฑํ เอกนฺเตน พหิ ปตตีติ. หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ตสฺมึ ภณฺเฑ.
๒๐๖. ‘‘ธุวํ ปตตี’’ติ เอตฺถ พฺยติเรกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตํ รุกฺเข’’ติอาทิ. ตนฺติ เถยฺยาย พหิ ปาเตตุํ ขิตฺตํ ภณฺฑํ ปฏิหตํ หุตฺวาติ โยชนา. วาตกฺขิตฺตมฺปิ วาติ ปาโ ¶ คเหตพฺโพ. ‘‘วาตกฺขิตฺโต’’ติ ลิงฺควิปลฺลาโส วา ทฏฺพฺโพ.
๒๐๗. ปจฺฉาติ ¶ ปติตฏฺาเน โถกํ จิรายิตฺวา, อิมินา โถกมฺปิ จิรายิตมตฺเต ปโยคสาธิยํ การิยํ สิทฺธเมวาติ ปาราชิกสฺส การณํ สมฺปนฺนเมวาติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ปาราชิกํ สิยา’’ติ.
๒๐๘. ‘‘ตฺวา’’ติอาทินา ปติตฏฺาเน อจิรายิตฺวา คเตปิ ตสฺมึ พหิ ปติตฏฺานโต อิตรตฺราปิ จิรายิเตน พหิ ปาตนปฺปโยเคน สาธิยํ การิยํ สิทฺธเมวาติ ปาราชิกการณสฺส สิทฺธตํ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘ปราชโย’’ติ. ‘‘อติฏฺมาน’’นฺติอาทินา ยตฺถ กตฺถจิ อจิรายเนน ปโยคสฺส นิรตฺถกตํ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘รกฺขตี’’ติ.
๒๑๐. สยํ วา วฏฺเฏตีติ อนฺโต ิโต สยํ วา หตฺเถน วา ปาเทน วา ยฏฺิยา วา พหิสีมาย นินฺนฏฺานํ ปริวฏฺเฏติ. อฏฺตฺวาติ ปวฏฺฏิตมตฺเต อนฺโต กตฺถจิปิ อฏฺตฺวา. วฏฺฏมานนฺติ ปวฏฺฏนฺตํ. คตนฺติ พหิสีมํ เกสคฺคมตฺตฏฺานมฺปิ อนฺโตสีมมติกฺกมมตฺตํ.
๒๑๑. ตํ ภณฺฑํ สเจ อนฺโต ตฺวา ตฺวา พหิ คจฺฉตีติ โยชนา. ยทิ อนฺโตสีมาย ตฺวา ตฺวา พหิสีมํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. รกฺขตีติ อนฺโตสีมาย ปมคตินิวตฺตเนเนว เอตสฺส ภิกฺขุโน ปโยคเวคสฺส นิวตฺตตฺตา, ตโต อุปริ นิวตฺตนารหการณสฺส อลทฺธภาเวน อตฺตนา จ คตตฺตา ตถา พหิสีมปฺปตฺตํ ตํ ภณฺฑํ ตํมูลกปโยชกํ ¶ ภิกฺขุํ อาปตฺติยา รกฺขตีติ อธิปฺปาโย. สุทฺธจิตฺเตน ปิเตติ ‘‘เอวํ ปิเต วฏฺฏิตฺวา คมิสฺสตี’’ติ เถยฺยจิตฺเตน วินา ‘‘เกวลํ เปสฺสามี’’ติ จิตฺเตน พหิสีมาภิมุขํ นินฺนฏฺานํ โอตาเรตฺวา ปิเต. สยํ วฏฺฏตีติ ภณฺฑํ สยเมว นินฺนฏฺานํ นินฺนํ หุตฺวา พหิสีมํ เจ ปวฏฺฏนฺตํ คจฺฉติ. วฏฺฏตีติ อาปตฺติยา อกรณโต วฏฺฏติ.
๒๑๒. คจฺฉนฺเตติ โจรสฺส ปโยคํ วินา อตฺตนาว คจฺฉนฺเต. ตนฺติ ราชเทยฺยปฺจมาสกอติเรกปฺจมาสกมตฺตํ สุงฺกวนฺตํ ภณฺฑํ. นีหเฏปิ นาวหาโรติ โยชนา. เกวลํ เถยฺยจิตฺตสฺส อาปตฺติยา อนงฺคภาวโต, ยานาทิปโยชกกายวจีปโยคสฺส อภาวโต, ภณฺฑฏฺปิตยานาทิโน ¶ อตฺตนาว พหิสีมปฺปตฺตตฺตา, เตเนว ภณฺฑสฺสาปิ คตตฺตา จ ภิกฺขุโน อวหาโร นตฺถีติ อตฺโถ.
๒๑๓. ปโยเคน วินาติ โจรสฺส สกปโยคมนฺตเรน. อวหาโร น วิชฺชตีติ เอตฺถ ยุตฺติ วุตฺตนยาว.
๒๑๔. มณินฺติ ปาทารหํ สุงฺกทาตพฺพมณิรตนํ, เอเตเนว อุปลกฺขณปทตฺตา ยํกิฺจิ ภณฺฑํ สงฺคหิตเมว. ปาราชิกํ สิยาติ ยานสฺส อตฺตนา ปาชิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. สีมาติกฺกมเนติ สุงฺกคฺคหณสฺส นิยมิตฏฺานาติกฺกมเน.
๒๑๕. มตนฺติ ‘‘เอตฺตกภณฺฑโต เอตฺตกํ คเหตพฺพ’’นฺติ ราชูหิ อนุมตํ. เสโส กถามคฺโคติ ‘‘สุงฺกฏฺานํ ปตฺวา สุงฺกิเกสุ นิทฺทายมาเนสุ, กีฬนฺเตสุ, พหิคเตสุ วา ปริเยสิตฺวา อทิสฺวา คจฺฉโต น โทโส, ภณฺฑเทยฺยํ ¶ โหตี’’ติ เอวมาทิโก วินิจฺฉยกถามคฺโค. อรฺฏฺกถาสโมติ ‘‘โย จารกฺขฏฺานํ ปตฺวา’’ติอาทินา (วิ. วิ. ๑๗๐) ยถาวุตฺตอรฺฏฺกถาย สทิโส,
‘‘กมฺมฏฺานํ จิตฺเต กตฺวา;
จินฺเตนฺโต อฺวิหิโต;
สุงฺกฏฺานํ ปตฺวา คจฺเฉ;
ภณฺฑเทยฺยํ โหเตวสฺสา’’ติ. –
อาทินา นเยน วุจฺจมานสทิโสเยว. เตเนว คตตฺถตาย อิทานิ น วิจารียตีติ อธิปฺปาโย.
สุงฺกฆาตกถาวณฺณนา.
๒๑๖. ‘‘ปาโณ ¶ นาม มนุสฺสปาโณ วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๑๑๔) ปาฬิโต จ ‘‘ตมฺปิ ภุชิสฺสํ หรนฺตสฺส อวหาโร นตฺถี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๔) อฏฺกถาวจนโต จ ปรทาสมนุสฺโสเยว อธิปฺเปโตติ ตเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘อนฺโตชาต’’นฺติอาทิ. เคหทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ทาสสฺส ชาโต อนฺโตชาโต นาม, ตํ วา. ธเนน กีโต ธนกฺกีโต, ตํ วา. ทินฺนํ วา ปน เกนจีติ มาตุลอยฺยกาทีสุ เยน เกนจิ ทาสํ กตฺวา ทินฺนํ วา. ทาสนฺติ ปจฺเจกํ สมฺพนฺธนียํ. กรมรานีตํ วา ทาสนฺติ ปรวิสยํ วิลุมฺปิตฺวา อาเนตฺวา ทาสภาวาย คหิตสงฺขาตํ กรมรานีตทาสํ วา. หรนฺตสฺส ปราชโยติ เอตฺถ ‘‘โจริกาย หริสฺสามี’’ติ อามสเน ทุกฺกฏํ, ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชิตฺวา ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกามยโต ปาราชิกํ โหตีติ อธิปฺปาโย.
๒๑๗. ภุชิสฺสํ วาติ ยสฺส กสฺสจิ มนุสฺสสฺส อทาสภูตํ. มานุสนฺติ มนุสฺสชาติกํ สตฺตํ. อาปิตนฺติ อุปนิกฺขิตฺตํ.
๒๑๘. ตนฺติ ¶ อนฺโตชาตาทีสุ ทาเสสุ ยํ กฺจิ ทาสํ. ปลายิตุกาโมวาติ ปลาเปตุกาโม นีหริตุกาโม. อถ วา ตํ ทาสํ ภุเชหิ อุกฺขิปิตฺวา อยํ ปลายิตุกาโมติปิ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ภุเชหีติ อุโภหิ หตฺเถหิ. ตํ ิตฏฺานโตติ ตสฺส ิตฏฺานํ ตํิตฏฺานํ, ตโต ตํิตฏฺานโต, โจเรน อตฺตนา ิตฏฺานโตติ อตฺโถ น คเหตพฺโพติ ทสฺเสตุเมวํ วุตฺตํ. กิฺจิ สงฺกาเมตีติ เกสคฺคมตฺตมฺปิ ตโต อฺํ านํ ปาเปติ. ภุเชหิ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท วกฺขมานปการนฺตราเปกฺโข, ‘‘สงฺกาเมติ วา’’ติ โยเชตพฺพํ.
๒๑๙. ตชฺเชตฺวาติ ภยกเรน วจเนน เลเสน, อิงฺคิเตน วา ตาเสตฺวา เนนฺตสฺส ตสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ปทวารโตติ ปทวาเรน ยุตฺตา ถุลฺลจฺจยาทโย อาปตฺติโย โหนฺตีติ โยชนา. ปมปทวารยุตฺตา ถุลฺลจฺจยาปตฺติ, ทุติยปทวารยุตฺตา ปาราชิกาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ.
๒๒๐. หตฺถาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน เกสวตฺถาทึ สงฺคณฺหาติ. ตนฺติ ทาสํ. กฑฺฒโตปีติ อากฑฺฒโตปิ. ปราชโยติ ‘‘ปทวารโต’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา ปมปทวาเร ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปทวาเร อติกฺกนฺเต ปาราชิกนฺติ อตฺโถ. อยํ นโยติ ‘‘ปทวารโต ยุตฺตา ถุลฺลจฺจยาทโย อาปตฺติโย โหนฺตี’’ติ วุตฺตนโย.
๒๒๑. เวคสาวาติ ¶ เวเคเนว, โจรสฺส วจเนน กาตพฺพวิเสสรหิเตน พลวคมนเวเคนาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา อนาปตฺติภาวสฺส การณํ ทสฺเสติ.
๒๒๒. สณิกนฺติ ¶ มนฺทคติยา. วทตีติ ‘‘คจฺฉ, ยาหิ, ปลายา’’ติอาทิกํ วจนํ กเถติ. โสปิ จาติ โย มนฺทคติยา คจฺฉนฺโต เอวํ วุตฺโต, โสปิ จ.
๒๒๓. ปลายิตฺวาติ สามิกํ ปหาย คนฺตฺวา. อฺนฺติ สามิกายตฺตฏฺานโต อฺํ านํ. สาปณํ วีถิสนฺนิเวสยุตฺตํ นิคมมฺปิ วา. ตโตติ ปลายิตฺวา ปวิฏฺคามาทิโต. ตนฺติ ปลายิตฺวา ปวิฏฺํ ตํ ทาสํ.
ปาณกถาวณฺณนา.
๒๒๔. เถยฺยาติ เถยฺยจิตฺเตน. สปฺปกรณฺฑนฺติ สปฺปสยนเปฬํ. ยถาวตฺถุนฺติ ถุลฺลจฺจยมาห. านโตติ สปฺปเปฬาย ิตฏฺานโต. จาวเนติ เกสคฺคมตฺตาติกฺกเม.
๒๒๕. กรณฺฑนฺติ สปฺปเปฬํ. อุคฺฆาเฏตฺวาติ วิวริตฺวา. กรณฺฑตลโตติ อนฺโตเปฬาย ตลโต. นงฺคุฏฺเติ นงฺคุฏฺปริยนฺเต.
๒๒๖. ฆํสิตฺวาติ เปฬาปสฺเส ผุสาเปตฺวา. สปฺปกรณฺฑสฺส มุขวฏฺฏิโตติ กรณฺฑปุฏมุขวฏฺฏิโต. ตสฺส นงฺคุฏฺเ มุตฺตมตฺเตติ โยชนา.
๒๒๗. นามโตติ นาเมน, นามํ วตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปกฺโกสนฺตสฺสาติ อวฺหายนฺตสฺส. ตสฺสาติ ปกฺโกสกสฺส.
๒๒๘. ตถาติ กรณฺฑํ วิวริตฺวา. มณฺฑูกมูสิกานํ รวํ กตฺวา นาเมน ปกฺโกสนฺตสฺสาติ โยชนา. วา-สทฺเทน ลาชาวิกิรณอจฺฉรปหาราทิกํ สงฺคณฺหาติ.
๒๒๙. มุขนฺติ ¶ สปฺปกรณฺฑสฺส มุขํ. เอวเมว จ กโรนฺตสฺสาติ มณฺฑูกสฺํ, มูสิกสฺํ กตฺวา วา ลาชา วิกิริตฺวา ¶ วา อจฺฉรํ ปหริตฺวา วา นามํ วตฺวา ปกฺโกสนฺตสฺส. เยน เกนจีติ วุตฺตนีหารโต เยน วา เตน วา.
๒๓๐. น ปกฺโกสติ เจติ ยถาวุตฺตนเยน โยเชตฺวา นามํ วตฺวา น ปกฺโกสติ. ตสฺสาติ กรณฺฑมุขวิวรกสฺส ภิกฺขุสฺส.
อปทกถาวณฺณนา.
๒๓๑. หตฺถินฺติ หตฺถิมฺหิ, ภุมฺมตฺเถ เอว อุปโยควจนํ.
๒๓๒. สาลายนฺติ หตฺถิสาลายํ. วสติ เอตฺถาติ วตฺถุ, ราชาคารํ, ตสฺส อนฺโต อนฺโตวตฺถุ, อนฺโตราชเคหนฺติ อตฺโถ. องฺคเณติ อนฺโตราชงฺคเณ. ปิ-สทฺโท ‘‘อนฺโตนคเร’’ติ อวุตฺตมฺปิ สมฺปิณฺเฑติ. วตฺถุ จาติ จ-สทฺเทน องฺคณํ สมุจฺจิโนติ. สกลํ องฺคณํ านนฺติ หตฺถิโน วิจรณโยคฺคํ องฺคณฏฺานํ สนฺธายาห, สกลสาลาติ คเหตพฺพํ.
๒๓๓. อพทฺธสฺสาติ ยถาวุตฺตสาลาราชวตฺถงฺคณาเปกฺขาย วุตฺตํ. อพทฺธสฺส หิ หตฺถิโน สกลสาลาทโย านํ, ตทติกฺกเม านาจาวนํ โหตีติ อตฺโถ. หีติ อวธารเณ วา. ‘‘พทฺธสฺส หี’’ติ โยชนาย วิเสสตฺโถว ทฏฺพฺโพ, พทฺธสฺส ปนาติ วุตฺตํ โหติ. พทฺธสฺส ปนาติ สาลาทีสุ สนฺนิหิตสฺส ปน. ิตฏฺานฺจาติ สาลาทีสุ ิตฏฺานฺจ, จตูหิ ปาเทหิ อกฺกนฺตฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. พนฺธนฺจาติ คีวาย วา ปจฺฉา ปาททฺวยพนฺธนวลเย วา อุภยตฺถ วา พนฺธนฏฺานฺจ. ตสฺมาติ ยสฺมา ิตฏฺานฺจ พนฺธนฺจ านนฺติ ฉ วา ปฺจ วา านานิ ลพฺภนฺติ, ตสฺมา. เตสํ านานํ. การเยติ เอตฺถ ‘‘อาปตฺติ’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภตีติ. หรโตติ หตฺถิสาลาทิโต โจริกาย หรนฺตสฺส ¶ . การเยติ อามสเน ทุกฺกฏํ, านเภทคณนาย ยาว ปจฺฉิมฏฺานา ปุริเมสุ ถุลฺลจฺจยานิ, อนฺติมฏฺานา เกสคฺคมตฺตมฺปิ จาวเน ปาราชิกํ กาเรยฺยาติ อตฺโถ.
๒๓๔. ิตฏฺานนฺติ ¶ จตูหิ ปาเทหิ อกฺกนฺตฏฺานํ, อิทฺจ อพทฺธหตฺถึ สนฺธาย วุตฺตํ. พทฺธสฺส วินิจฺฉโย สาลาทีสุ พทฺธสฺส วุตฺตวินิจฺฉยสทิโสติ คตตฺถตาย น วุตฺโต.
๒๓๕. เอกํ านนฺติ สยิตฏฺานมตฺตํ. ตสฺมินฺติ คเช. ตสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. ตุรงฺคมหิสาทีสุ ทฺวิปเท จ พหุปฺปเท จ.
๒๓๖. เอเสว นโย เยฺโย, วตฺตพฺพํ กิฺจิปิ นตฺถีติ โยชนา. ตตฺถ ตุรงฺคา อสฺสา. มหิสา ลุลายา. อาทิ-สทฺเทน โคคทฺรภโอฏฺาทิจตุปฺปทานํ สงฺคโห. นตฺถิ กิฺจิปิ วตฺตพฺพนฺติ อสฺสสาลาราชาคารงฺคณพหินคราทีสุ อพนฺธิตสยนอสฺสาทีนํ านเภโท ยถาวุตฺตสทิสตฺตา น วุตฺโต.
พนฺธิตฺวา ปิตอสฺสสฺส ปน สเจ โส จตูสุ ปาเทสุ พทฺโธ โหติ, พนฺธนานํ, ขุรานฺจ คณนาย อฏฺ านานิ, สเจ มุเข จ พทฺโธ โหติ, นว านานิ, มุเขเยว พทฺโธ, ปฺจ านานีติ านเภโท จ ตเถว สสมิคสูกราทิจตุปฺปเทสุ พนฺธิตฺวา ปิเตสุ พทฺธพทฺธฏฺาเนหิ สห จตูหิ ปาเทหิ อกฺกนฺตฏฺานวเสน ลพฺภมาโน านเภโท จ โคมหิเสสุ พทฺเธสุ เอวเมว ลพฺภมาโน านเภโท จ วชาทีสุ ปเทเสสุ ปเวสิเตสุ ทฺวาเรสุ รุกฺขสูจิโย อปเนตฺวา วา อนปเนตฺวา วา นามํ วตฺวา วา อวตฺวา วา ปกฺโกสนฺตสฺส, สาขาภงฺคติณาทีนิ ทสฺเสตฺวา ปกฺโกสิตฺวา วา อปกฺโกสิตฺวา วา ปโลเภนฺตสฺส ตาเสตฺวา นิกฺขมนฺตสฺส ¶ สปฺปกรณฺฑเก สปฺปสฺส วุตฺตนเยน ลพฺภมาโน วิเสโส จ เนตพฺโพ. อิห สพฺพตฺถ านเภเทสุ พหุเกสุปิ อุปนฺตฏฺาเนสุ ถุลฺลจฺจยํ, อนฺตฏฺาเน ปาราชิกํ วุตฺตสทิสนฺติ อิมสฺส สพฺพสฺส วินิจฺฉยสฺส ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินาว คตตฺตา, อาหฏโต อวิฺายมานสฺส กสฺสจิ วิเสสสฺสาภาวา จ วุตฺตํ ‘‘นตฺถิ กิฺจิปิ วตฺตพฺพ’’นฺติ.
ทฺวิปเทปีติ ‘‘ทฺวิปทํ นาม มนุสฺสา ปกฺขชาตา’’ติ (ปารา. ๑๑๕) ปาฬิยํ วุตฺตา มนุสฺสา จ มยูราทิโลมปกฺขา จ วคฺคุลิอาทิจมฺมปกฺขา จ ภมราทิอฏฺิปกฺขา จาติ เอวมาทิเก สตฺเต จ. พหุปฺปเทติ ‘‘พหุปฺปทํ นาม วิจฺฉิกา สตปที อุจฺจาลิงฺคปาณกา’’ติ (ปารา. ๑๑๗) ปาฬิยํ วุตฺตพหุปฺปทสตฺเต จาติ อตฺโถ.
เอตฺตาวตา ¶ ปาปภิกฺขูนํ เลโสกาสปิทหนตฺถํ ปทภาชเน วุตฺตภูมฏฺาทิตึสวินิจฺฉยมาติกากถาสุ ปฺจวีสติ มาติกากถา ทสฺเสตฺวา อวสิฏฺาสุ ปฺจมาติกากถาสุ สํวิทาวหาโร, สงฺเกตกมฺมํ, นิมิตฺตกมฺมนฺติ มาติกตฺตยกถา ปมเมว อทินฺนาทานวินิจฺฉยสมฺภารภูตานํ ปฺจวีสติยา อวหารานํ ทสฺสนฏฺาเน ตฺวา –
‘‘ปุพฺพสหปโยโค จ, สํวิทาหรณมฺปิ จ;
สงฺเกตกมฺมํ เนมิตฺตํ, ปุพฺพโยคาทิปฺจก’’นฺติ. (วิ. วิ. ๔๒) –
อิมินา สงฺคหิตาติ ตํ ปหาย อวเสเส โอจรโก, โอณิรกฺขโกติ กถาทฺวเย โอจรณกกถาย อาณตฺติกปฺปโยคตฺตา, ตฺจ โอณิรกฺขเกน กริยมานํ านาจาวนํ สาหตฺถิเกน วา อาณตฺติเกน วา ปโยเคน โหตีติ ตสฺสาปิ ‘‘สาหตฺถาณตฺติโก เจวา’’ติ สาหตฺถิกปฺจเก ปมเมว สงฺคหิตตฺตา จ ถลฏฺเวหาสฏฺกถาทีสุ ¶ สงฺคหิตตฺตา จ ตฺจ ทฺวยํ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ ‘‘โอจรโก นาม ภณฺฑํ โอจริตฺวา อาจิกฺขตี’’ติ (ปารา. ๑๑๘) ปาฬิยํ วุตฺโต โจราปนปุริโส ‘‘โอจรโก’’ติ เวทิตพฺโพ. โอจรตีติ โอจรโก, ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา อนฺโต อนุปวิสตีติ วุตฺตํ โหตีติ. ‘‘โอณิรกฺโข นาม อาหฏํ ภณฺฑํ โคเปนฺโต’’ติ (ปารา. ๑๑๘) ปาฬิยํ วุตฺโต มุหุตฺตํ อตฺตนิ ปิตสฺส ปรภณฺฑสฺส รกฺขโก ‘‘โอณิรกฺโข’’ติ เวทิตพฺโพ. โอณิตํ รกฺขตีติ โอณิรกฺโข, โย ปเรน อตฺตโน วสนฏฺาเน อาภตํ ภณฺฑํ ‘‘อิทํ ตาว ภนฺเต มุหุตฺตํ โอโลเกถ, ยาวาหํ อิทํ นาม กิจฺจํ กตฺวา อาคจฺฉามี’’ติ วุตฺโต รกฺขติ, ตสฺเสตํ อธิวจนํ.
ทฺวิจตุพหุปฺปทกถาวณฺณนา.
๒๓๗. ‘‘ปฺจหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๑๒๒) นเยน ปาฬิยํ อาคตานิ ปฺจงฺคานิ สงฺคเหตุมาห ‘‘ปเรส’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ปเรสํ สนฺตกํ ธน’’นฺติ อิมินา ปรมนุสฺสสนฺตกตา, ‘‘ปเรสนฺติ วิชานิตฺวา’’ติ อิมินา ปรายตฺตภาวสฺส ชานนํ, ‘‘ครุก’’นฺติ อิมินา ปาทํ วา อติเรกปาทํ วา อคฺฆนกตา, ‘‘เถยฺยจิตฺเตนา’’ติ ¶ อิมินา เถยฺยจิตฺตตา, ‘‘านา จาเวตี’’ติ อิมินา ปฺจวีสติยา อวหารานํ อฺตรสฺส สมงฺคิตาติ เอวเมตฺถ ปฺจงฺคสงฺคโห เวทิตพฺโพ.
๒๓๘. เอตฺตาวตา ตึสมาติกากถาวินิจฺฉยํ สงฺคเหตฺวา อิทานิ ‘‘อนาปตฺติ สสฺิสฺส วิสฺสาสคฺคาเห ตาวกาลิเก เปตปริคฺคเห ติรจฺฉานคตปริคฺคเห ปํสุกูลสฺิสฺสา’’ติอาทินา ¶ (ปารา. ๑๓๑) นเยน ปาฬิยํ อาคตํ อนาปตฺติวารํ สงฺคเหตุมาห ‘‘อนาปตฺตี’’ติอาทิ. ตตฺถ สสฺิสฺสาติ ปรสนฺตกมฺปิ ‘‘สสนฺตก’’นฺติ สุทฺธสฺาย คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺตีติ สพฺพตฺถ โยเชตพฺพํ. เอวํ คหิตํ สามิเกหิ ทิสฺวา ยาจิเต อเทนฺตสฺส อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ปาราชิกํ.
ติรจฺฉานปริคฺคเหติ ติรจฺฉาเนหิ ปริคฺคหิตวตฺถุมฺหิ. สเจปิ หิ นาคครุฬมาณวกมาณวิกาปิ มนุสฺสเวเสน อาปณํ ปสาเรตฺวา นิสินฺนา โหนฺติ, ภิกฺขุ จ เถยฺยจิตฺเตน เตสํ สนฺตกํ คณฺหาติ, อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สีหพฺยคฺฆทีปิปภุตีหิ วาฬมิเคหิ คหิตโคจรํ ปมํ โมจาเปนฺตสฺส ตํ มฺุจิตฺวา อตฺตโนปิ หึสนโต โถกํ ขายิเต วาเรนฺตสฺส โทโส นตฺถิ. เสนาทีสุ ติรจฺฉาเนสุ เยน เกนจิ คหิตํ โคจรํ โมจาเปตุํ วฏฺฏติ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ ‘‘เสนาทโยปิ อามิสํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเต ปาตาเปตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๓๑). เอวเมว ธมฺมนิเทฑฺฑุภาทีหิ คหิตมณฺฑูกาทโย ชีวิตรกฺขนตฺถาย โมจาเปตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ.
ตาวกาลิกคฺคาเหติ ‘‘ปฏิกริสฺสามี’’ติ ตาวกาลิกํ คณฺหนฺตสฺส เอวํ คหิตํ สเจ ภณฺฑสามิโก ปุคฺคโล วา คโณ วา ‘‘ตุมฺเหว คณฺหถา’’ติ อนุชาเนยฺย, วฏฺฏติ. นานุชาเนยฺย, น คณฺเหยฺย, ทาตพฺพํ. อเทนฺตสฺส อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ปาราชิกํ. ‘‘สงฺฆสนฺตกํ ปน ปฏิทาตุเมว วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
วิสฺสาสคฺคาเหติ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส วิสฺสาสํ คเหตุํ, สนฺทิฏฺโ จ โหติ, สมฺภตฺโต จ, อาลปิโต จ, ชีวติ จ, คหิเต จ อตฺตมโน ¶ โหตี’’ติ (มหาว. ๓๕๖) ปาฬิยํ อาคตํ ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาเสน คณฺหนฺตสฺส คหเณ วินิจฺฉโย ยถาวุตฺตสุตฺตวณฺณนายํ เวทิตพฺโพ. ยถาห สมนฺตปาสาทิกายํ –
ตตฺถ ¶ สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมตฺตกมิตฺโต. สมฺภตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต. อาลปิโตติ ‘‘มม สนฺตกํ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ คณฺเหยฺยาสิ, อาปุจฺฉิตฺวา คหเณ การณํ นตฺถี’’ติ วุตฺโต. ชีวตีติ อนุฏฺานเสยฺยาย สยิโตปิ ยาว ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทํ น ปาปุณาติ. คหิเต จ อตฺตมโนติ คหิเต ตุฏฺจิตฺโต โหติ, เอวรูปสฺส สนฺตกํ ‘‘คหิเต เม อตฺตมโน ภวิสฺสตี’’ติ ชานนฺเตน คเหตุํ วฏฺฏติ. อนวเสสปริยาทานวเสน เจตานิ ปฺจงฺคานิ วุตฺตานิ, วิสฺสาสคฺคาโห ปน ตีหงฺเคหิ รุหติ – สนฺทิฏฺโ, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน, สมฺภตฺโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน, อาลปิโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโนติ.
โย ปน ชีวติ, น จ คหิเต อตฺตมโน โหติ, ตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาสคฺคาเหน คหิตมฺปิ ปุน ทาตพฺพํ. ททมาเนน จ มตกธนํ ตาว เย ตสฺส ธเน อิสฺสรา คหฏฺา วา ปพฺพชิตา วา, เตสํ ทาตพฺพํ. อนตฺตมนสฺส สนฺตกํ ตสฺเสว ทาตพฺพํ. โย ปน ปมํเยว ‘‘สุฏฺุ กตํ ตยา มม สนฺตกํ คณฺหนฺเตนา’’ติ วจีเภเทน วา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน วา อนุโมทิตฺวา ปจฺฉา เกนจิ การเณน กุปิโต ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โยปิ อทาตุกาโมว, จิตฺเตน ปน อธิวาเสติ, น กิฺจิ วทติ, โสปิ ปุน ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โย ปน ‘‘มยา ตุมฺหากํ ¶ สนฺตกํ คหิตํ วา ปริภุตฺตํ วา’’ติ วุตฺเต ‘‘คหิตํ วา โหตุ ปริภุตฺตํ วา, มยา ปน ตํ เกนจิเทว กรณีเยน ปิตํ, ตํ ปากติกํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทติ, อยํ ปจฺจาหราเปตุํ ลภตีติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๓๑).
เปตปริคฺคเหติ เปตฺติวิสยุปฺปนฺนา จ มริตฺวา ตสฺมึเยว อตฺตภาเว นิพฺพตฺตา จ จาตุมหาราชิกาทโย เทวา จ อิมสฺมึ อตฺเถ เปตา นาม, เตสํ สนฺตกํ คณฺหนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. สเจปิ หิ สกฺโก เทวราชา อาปณํ ปสาเรตฺวา นิสินฺโน โหติ, ทิพฺพจกฺขุโก จ ภิกฺขุ ตํ ตฺวา สตสหสฺสคฺฆนกมฺปิ วตฺถํ ตสฺส วิรวนฺตสฺเสว อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เทวปูชตฺถํ รุกฺขาทีสุ มฏฺวตฺถาทีนิ คณฺหโต นิทฺโทสตาย กิเมว วตฺตพฺพํ. ปํสุกูลสฺาย คณฺหโตปิ อนาปตฺติ. ตถา คหิตมฺปิ สเจ สสฺสามิกํ โหติ, สามิเก อาหราเปนฺเต ทาตพฺพนฺติ อุปลกฺขณโต เวทิตพฺพํ.
๒๓๙. เอตฺถาติ ¶ ทุติยปาราชิกวินิจฺฉเย. จ-สทฺเทน อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน อวเสสสิกฺขาปทวินิจฺฉเย สงฺคณฺหาติ. วตฺตพฺโพติ มาติกฏฺกถาทีสุ วิย อวสาเน กเถตพฺโพ. ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโยติ สมุฏฺานาทิโก ตํตํสิกฺขาปทปาฬิยํ อนาคโต อุปาลิตฺเถราทีหิ ปิโต วินิจฺฉโย.
๒๔๐. ปราชิตาเนกมเลนาติ อปริเมยฺยกปฺปโกฏิสตสหสฺโสปจิตปารมิตาสมฺภูเตน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺาเนน อาสวกฺขยาเณน สห วาสนาย สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปราชิตา ราคาทโย อเนกกิเลสมลา เยน โส ปราชิตาเนกมโล, เตน ปราชิตาเนกมเลน ¶ . ชิเนน ยํ ทุติยํ ปาราชิกํ วุตฺตํ, อสฺส ทุติยปาราชิกสฺส จ อตฺโถ มยา สมาเสน วุตฺโต. อเสเสน อติวิตฺถารนเยน วตฺตุํ ตสฺส อตฺถํ กเถตุํ โก หิ สมตฺโถติ โยชนา. เอตฺถ จ-สทฺโท ปมปาราชิกสมุจฺจยตฺโถ. หิ-สทฺโท อวธารเณ, เตน อเสเสน ตทตฺถํ วตฺตุํ สมตฺโถ นตฺเถว อฺตฺร ตถาคตาติ ทีเปติ.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ทุติยปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยปาราชิกกถาวณฺณนา
๒๔๑-๒. เอวมติสุขุมนยสมากุลํ ทุติยปาราชิกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตติยปาราชิกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มนุสฺสชาติ’’นฺติอาทิ. ตตฺถ มนุสฺสชาตินฺติ ชายตีติ ชาติ, รูปารูปปฏิสนฺธิ, มนุสฺเสสุ ชาติ ยสฺส โส มนุสฺสชาติ, มนุสฺสชาติโก มนุสฺสวิคฺคโหติ วุตฺตํ โหติ, ตํ มนุสฺสชาตึ.
เอตฺถ จ มนุสฺเสสูติ กุสลากุสลมนสฺส อุสฺสนฺนตฺตา มนุสฺสสงฺขาเตสุ นเรสุ. ‘‘ยํ มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปมํ ¶ จิตฺตํ อุปฺปนฺน’’นฺติ (ปารา. ๑๗๒) ปทภาชเน วุตฺตนเยน มาตุกุจฺฉิมฺหิ ปมํ อุปฺปชฺชมานปฏิสนฺธิจิตฺตฺจ ตํสมฺปยุตฺตเวทนาสฺาสงฺขารสงฺขาตขนฺธตฺตยฺจ ตํสหชาตานิ –
‘‘ติลเตลสฺส ยถา พินฺทุ, สปฺปิมณฺโฑ อนาวิโล;
เอวํ วณฺณปฺปฏิภาคํ, ‘กลล’นฺติ ปวุจฺจตี’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒; วิภ. อฏฺ. ๒๖) –
วุตฺตานิ ¶ ชาติอุณฺณํสุมฺหิ ปสนฺนติลเตเล วา สปฺปิมณฺเฑ วา โอตาเรตฺวา อุกฺขิปิตฺวา วิธุนิเต อคฺเค ลมฺพมานพินฺทุปฺปมาณกลลสงฺขาตานิ สภาวกานํ กายภาววตฺถุทสกวเสน ตึส รูปานิ จ อภาวกานํ กายวตฺถุทสกวเสน วีสติ รูปานิ จาติ อยํ นามรูปปฏิสนฺธิ อิธ ‘‘ชาตี’’ติ คหิตา. ‘‘ยสฺสา’’ติ อิมินา อฺปเทน ‘‘ยาว มรณกาลา เอตฺถนฺตเร เอโส มนุสฺสวิคฺคโห นามา’’ติ (ปารา. ๑๗๒) ปทภาชเน วุตฺตนเยน ปมภวงฺคโต ปฏฺาย จุติจิตฺตาสนฺนภวงฺคปริยนฺตสนฺตานสงฺขาตสตฺโต คหิโต. อิมินา มนุสฺสวิคฺคหสฺส ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย ปาราชิกวตฺถุภาวํ ทสฺเสติ.
ชานนฺโตติ ‘‘สตฺโต อย’’นฺติ ชานนฺโต. ชีวิตา โย วิโยชเยติ โย ภิกฺขุ ชีวิตินฺทฺริยา วิโยเชยฺย โวโรเปยฺย, ตสฺส ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺเทยฺย อุปโรเธยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ปทภาชเน ‘‘ชีวิตา โวโรเปยฺยาติ ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺทติ อุปโรเธตี’’ติ (ปารา. ๑๗๒).
ตฺจ ชีวิตินฺทฺริยํ รูปารูปวเสน ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ อรูปชีวิตินฺทฺริยํ อวิคฺคหตฺตา อุปกฺกมวิสยํ น โหติ. รูปชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉเทน ปน ตทายตฺตวุตฺติตาย ตํสมกาลเมว โอจฺฉิชฺชมานตาย เอตฺถ สามฺเน อุภยมฺปิ คเหตพฺพํ. อิทฺจ อตีตานาคตํ น คเหตพฺพํ ตสฺส อวิชฺชมานตฺตา. อุปกฺกมวิสยารหํ ปน ปจฺจุปฺปนฺนเมว คเหตพฺพํ. ตฺจ ขณสนฺตติอทฺธาวเสน ติวิธํ โหติ.
ตตฺถ อุปฺปาทฏฺิติภงฺควเสน ขณตฺตยปริยาปนฺโน ภาโว ขณปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ตํ สรสภงฺคภูตตฺตา สยํ ภิชฺชมานํ อุปกฺกมสาธิยํ วินาสวนฺตํ น โหติ. อาตเป ตฺวา คพฺภํ ปวิฏฺสฺส ¶ อนฺธการวิคมนฺตรฺจ สีเตน โอวรกํ ปวิฏฺสฺส วิสภาคอุตุสมุฏฺาเนน ¶ สีตปนูทนฺตรฺจ รูปสนฺตติ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ปฏิสนฺธิจุตีนมนฺตราฬปฺปวตฺติ ขนฺธสนฺตติ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. อิมสฺมึ ทฺวเย อุปกฺกมสมฺภโว, ตํวเสน อุปจฺฉิชฺชมานํ ชีวิตํ สนฺตานปริหานิปจฺจยภาวโต สนฺตติอทฺธาปจฺจุปฺปนฺนทฺวยํ ยถาปริจฺฉินฺนกาลมปฺปตฺวา อุปกฺกมวเสน อนฺตราเยว นิรุชฺฌติ, ตสฺมา สนฺตติอทฺธาปจฺจุปฺปนฺนรูปชีวิตินฺทฺริยฺจ ตํนิโรเธน นิรุชฺฌมานอรูปชีวิตินฺทฺริยฺจาติ อุภยํ เอตฺถ ‘‘ชีวิตา’’ติ คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทเมว สนฺธายาห ปทภาชเน ‘‘สนฺตตึ วิโกเปตี’’ติ (ปารา. ๑๗๒).
อิมิสฺสาว ปาณาติปาตภาเว อาปตฺติภาวโต เอตฺถ ตฺวา อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒) ปาณปาณาติปาตปาณาติปาตีปาณาติปาตปฺปโยคานํ วิภาโค ทสฺสิโต. ตตฺถ ปาโณติ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต อุปจฺฉิชฺชมานํ ชีวิตินฺทฺริยํ, ตํ ‘‘ชีวิตา’’ติ อิมินา วุตฺตํ. ปาณาติปาโต นาม วธกเจตนา, โส จ ‘‘วิโยชเย’’ติ อิมินา สนฺทสฺสิโต. ปาณาติปาตี นาม ปุคฺคโล, โส จ ‘‘โย’’ติ อิมินา สนฺทสฺสิโต. ปาณาติปาตปฺปโยโค ปน –
‘‘วุตฺตา ปาณาติปาตสฺส;
ปโยคา ฉ มเหสินา’’ติ –
อาทินา นเยน อิเธว วกฺขมานวิภาคตฺตา วกฺขมานนเยเนว ทฏฺพฺโพ.
อสฺส สตฺถํ นิกฺขิเปยฺย วาติ โยชนา. อสฺสาติ มนุสฺสชาติกสฺส. ‘‘หตฺถปาเส’’ติ ปาเสโส. หตฺถปาโส นาม สมีโปติ. อสฺสาติ สมีปสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. สตฺถนฺติ เอตฺถ ชีวิตวิหึ สนุปกรณภาเวน สมฺมตา ธาราวนฺตอสิอาทิ จ ธารารหิตยฏฺิภินฺทิวาลลคุฬาทิ จ ¶ อุปลกฺขณวเสน คเหตพฺพา. สสติ หึสตีติ สตฺถํ. เตเนวาห ปทภาชเน ‘‘อสึ วา สตฺตึ วา ภินฺทิวาลํ วา ลคุฬํ วา ปาสาณํ วา สตฺถํ วา วิสํ วา รชฺชุํ วา’’ติ. อิธาวุตฺตํ กรปาลิกาฉุริกาทิ สมุขํ ‘‘สตฺถํ วา’’ติ อิมินา สงฺคหิตํ. นิกฺขิเปยฺยาติ ยถา โภคเหตุํ ลภติ, ตถา อุปนิกฺขิเปยฺย, อตฺตวธาย อิจฺฉิตกฺขเณ ยถา คณฺหาติ, ตถา สมีเป เตเนว จิตฺเตน เปยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา ถาวรปฺปโยโค สนฺทสฺสิโต.
มรเณ ¶ คุณํ วา วเทยฺยาติ โยชนา, มรณตฺถาย มรเณ คุณํ วณฺเณตีติ อตฺโถ. ‘‘ชีวิเต อาทีนวํ ทสฺเสติ, มรเณ คุณํ ภณตี’’ติ (ปารา. ๑๗๒) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา ‘‘กึ ตุยฺหิมินา ปาปเกน ทุชฺชีวิเตน, โย ตฺวํ น ลภสิ ปณีตโภชนานิ ภฺุชิตุ’’มิจฺจาทินา นเยน มรณตฺถาย ชีวิเต อวณฺณํ วทนฺโต จ ‘‘ตฺวํ โขสิ อุปาสก กตกลฺยาโณ อกตปาโป, มตํ เต ชีวิตา เสยฺโย, อิโต ตฺวํ กาลกโต วิวิธวิหงฺคมวิกูชิเต ปรมสุรภิกุสุมภูสิตตรุวรนิจิเต ปรมรติกรลฬิตคติภาสิตวิลปิตสุรยุวติคณวิจริเต วรนนฺทเน อจฺฉราสงฺฆปริวาริโต วิจริสฺสสี’’ติอาทินา นเยน มรณตฺถาย มรณานิสํสํ ทสฺเสนฺโต จ ‘‘มรเณ คุณํ วเทยฺย’’อิจฺเจว วุจฺจติ.
มรณูปายํ เทเสยฺยาติ โยชนา. มรณาธิปฺปาเยเนว ‘‘สตฺถํ วา อาหร, วิสํ วา ขาท, รชฺชุยา วา อุพฺพนฺธิตฺวา กาลงฺกโรหี’’ติ ปทภาชเน วุตฺตสตฺถหรณานิ จ อวุตฺตมฺปิ โสพฺภนรกปปาตาทีสุ ปปตนฺจาติ เอวมาทิกํ มรณูปายํ อาจิกฺเขยฺย. ‘‘โหติ อยมฺปี’’ติ ปทจฺเฉโท, อปีติ ปุพฺเพ วุตฺตทฺวยํ สมุจฺจิโนติ. ทฺเวธา ภินฺนสิลา วิย อสนฺเธยฺโยว ¶ โส เยฺโยติ ทฺวิธา ภินฺนปาสาโณ วิย ภควโต ปฏิปตฺติปฏิเวธสาสนทฺวเยน โส ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตภาเว สนฺธาตุมสกฺกุเณยฺโยวาติ าตพฺโพติ อตฺโถ.
๒๔๓. ถาวราทโยติ อาทิ-สทฺเทน วิชฺชามยอิทฺธิมยปโยคทฺวยํ สงฺคหิตํ.
๒๔๔. ตตฺถาติ เตสุ ฉสุ ปโยเคสุ. สโก หตฺโถ สหตฺโถ, เตน นิพฺพตฺโต สาหตฺถิโก, ปโยโค. อิธ หตฺถคฺคหณํ อุปลกฺขณํ, ตสฺมา หตฺถาทินา อตฺตโน องฺคปจฺจงฺเคน นิปฺผาทิโต วธปฺปโยโค สาหตฺถิโกติ เวทิตพฺโพ.
๒๔๕. ‘‘ตฺวํ ตํ เอวํ ปหริตฺวา มาเรหี’’ติ ภิกฺขุโน ปรสฺส ยํ อาณาปนํ, อยมาณตฺติโก นโยติ โยชนา. อาณตฺติโก นโยติ อาณตฺติเยว อาณตฺติโก. เนติ ปวตฺเตตีติ นโย, ปโยคสฺเสตํ นามํ.
๒๔๖. ทูรนฺติ ทูรฏฺํ. กาเยน ปฏิพทฺเธนาติ เอตฺถ กาเยกเทโส หตฺถาทิ กาโย อวยเว สมุทาโยปจารโต ‘‘คาโม ทฑฺโฒ’’ติ ยถา. กายปฏิพทฺธํ จาปาทิกํ ปฏิพทฺธํ นาม ปุพฺพปทโลเปน ¶ ‘‘เทวทตฺโต ทตฺโต’’ติ ยถา. วา-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วาติ วุตฺตํ โหติ, ‘‘อุสุอาทินิปาตน’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. วิธานํ วิธิ, ปโยโคติ อตฺโถ.
๒๔๗. อสฺจาริมุปาเยนาติ อสฺจาริเมน นิจฺจเลน อุปาเยน. โอปตนฺติ เอตฺถาติ โอปาโต, โส อาทิ เยสํ อปสฺเสนวิสเภสชฺชสํวิธานาทีนํ เต โอปาตาทโย, เตสํ ¶ วิธานํ โอปาตาทิวิธานํ, โอปาตกฺขณนาทิกิริยา.
๒๔๘. วิชฺชายาติ อาถพฺพนเวทาคตมรณมนฺตสงฺขาตวิชฺชาย. ชปฺปนนฺติ ยถา ปโร น สุณาติ, ตถา ปุนปฺปุนํ วจนํ.
๒๔๙. มารเณ สมตฺถา ยา กมฺมวิปากชา อิทฺธิ, อยํ อิทฺธิมโย ปโยโค นามาติ สมุทีริโตติ โยชนา. กมฺมวิปาเก ชาตา กมฺมวิปากชา, อิทฺธิ, ยา ‘‘นาคานํ นาคิทฺธิ สุปณฺณานํ สุปณฺณิทฺธิ ยกฺขานํ ยกฺขิทฺธี’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒) พหุธา อฏฺกถายํ วุตฺตา. ตตฺถ ทิฏฺทฏฺผุฏฺวิสานํ นาคานํ ทิสฺวา, ฑํสิตฺวา, ผุสิตฺวา จ ปรูปฆาตกรเณ นาคิทฺธิ เวทิตพฺพา. เอวํ เสสานมฺปิ. อิทฺธิเยว อิทฺธิมโย, ภาวนามโย อิทฺธิปฺปโยโค ปเนตฺถ น คเหตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ –
‘‘เกจิ ปน ภาวนามยิทฺธิยาปิ ปรูปฆาตกรณํ วทนฺติ. สห ปรูปฆาตกรเณน จ อาทิตฺตฆรูปริ ขิตฺตสฺส อุทกฆฏสฺส เภทนํ วิย อิทฺธิวินาสฺจ อิจฺฉนฺติ, ตํ เตสํ อิจฺฉามตฺตเมว. กสฺมา? ยสฺมา ตํ กุสลเวทนาวิตกฺกปริตฺตตฺติกาทีหิ น สเมติ. กถํ? อยฺหิ ภาวนามยิทฺธิ นาม จตุตฺถชฺฌานมยา กุสลตฺติเก กุสลา เจว อพฺยากตา จ, ปาณาติปาโต อกุสโล. เวทนาตฺติเก อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺตา, ปาณาติปาโต ทุกฺขสมฺปยุตฺโต. วิตกฺกตฺติเก อวิตกฺกอวิจารา, ปาณาติปาโต สวิตกฺกสวิจาโร. ปริตฺตตฺติเก ¶ มหคฺคตา, ปาณาติปาโต ปริตฺโตเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒).
๒๕๐. ตตฺถาติ เตสุ ฉพฺพิเธสุ ปโยเคสุ. อุทฺเทโสปีติ อุทฺทิสนํ อุทฺเทโส, ตํสหิโต ปโยโคปิ ¶ อุทฺเทโสติ วุตฺตํ โหติ ‘‘กุนฺเต ปเวเสหี’’ติ ยถา. เอวํ วตฺตพฺพตาย จ อนุทฺเทโสติ ตพฺพิปรีตวจนเมว าปกนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ เอเกโก อุทฺเทโสปิ อนุทฺเทโสปิ โหตีติ เตสมยํ เภโท ปน ทุวิโธ โหตีติ ปริทีปิโตติ โยชนา. อิเมสุ ฉสุ ปโยเคสฺเวว เอเกกสฺเสว อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสกิริยมานตาย ทุวิธภาวโต เตสํ ทฺวาทสวิโธ เภโท ปทภาชเน จ อฏฺกถาย จ ทีปิโต, ตตฺถ วินิจฺฉยมิทานิ ทสฺสยิสฺสามีติ อธิปฺปาโย.
๒๕๑. พหูสุปีติ มนุสฺเสสุ พหูสุปิ. เตน กมฺเมนาติ ปหารทานสงฺขาเตน กมฺเมน. พชฺฌตีติ อปายํ เนตุํ กมฺมปาเสน กมฺมนฺตรํ นิวาเรตฺวา พชฺฌตีติ อตฺโถ.
๒๕๒. ปหาเรปีติ ปหรเณปิ. เทหิโนติ มนุสฺสวิคฺคหสฺส. ตสฺสาติ ปหฏสฺส.
๒๕๓. ปหฏมตฺเต วาติ ปหฏกฺขเณ วา. ปจฺฉาติ ตปฺปจฺจยา กาลนฺตเร วา. อุภยถาปิ จ มเตติ ทฺวินฺนํ อาการานมฺตเรน มเตปิ. หนฺตา วธโก. ปหฏมตฺตสฺมินฺติ ตสฺมึ มรณารหปหารสฺส ลทฺธกฺขเณเยว, มรณโต ปุพฺพภาเคเยวาติ มตฺตสทฺเทน ทีเปติ. มรณตฺถาย จ อฺตฺถาย จ ทินฺเนสุ อเนเกสุ ปหาเรสุ มรณตฺถาย ¶ ทินฺนปฺปหาเรเนว ยทา กทาจิ มริสฺสติ, ปหารทานกฺขเณเยว ปาราชิกํ โหติ. อมรณาธิปฺปาเยน ทินฺนปฺปหารพเลน เจ มเรยฺย, น โหตีติ วุตฺตํ โหตีติ.
๒๕๔. ทฺเว ปโยคาติ อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสกิริยาเภทภินฺนา สาหตฺถิกาณตฺติกา ทฺเว ปโยคา.
๒๕๕. กรณสฺสาติ กิริยาย. วิเสโสติ นานตฺตํ. อาณตฺตินิยามกาติ อาณตฺตึ นิยาเมนฺติ ววตฺถาเปนฺตีติ อาณตฺตินิยามกา.
๒๕๖. ตตฺถาติ เตสุ อาณตฺตินิยามเกสุ ฉสุ อากาเรสุ. โยพฺพนาทิ จาติ อาทิ-สทฺเทน ถาวริยมนฺทขิฑฺฑวุทฺธาทิอวตฺถาวิเสโส สงฺคหิโต.
๒๕๗. ยํ มาติกาย นิทฺทิฏฺํ สตฺถํ, ตํ กตมํ?. สตฺตมารณนฺติ สตฺเต มาเรนฺติ เอเตนาติ สตฺตมารณํ, อสิอาทิวโธปกรณํ.
๒๕๘. วิชฺฌนนฺติ ¶ อุสุอาทีหิ วิชฺฌนํ. เภทนนฺติ กกจาทีหิ ทฺวิธากรณํ. เฉทนนฺติ ขคฺคาทีหิ ทฺวิธากรณํ. ตาฬนนฺติ มุคฺคราทีหิ อาฆาตนํ. เอวมาทิวิโธติ เอวมาทิปฺปกาโร. อเนโกติ พหุโก เภโท. กรณสฺส วิเสโส กิริยาวิเสโสติ อตฺโถ.
๒๕๙-๖๐. ‘‘ปุรโต ปหริตฺวาน มาเรหี’’ติ โย ภาสิโต อาณาปเกน, เตน อาณตฺเตน ปจฺฉโต…เป… มาริเตติ โยชนา. วตฺถาณตฺติ วิสงฺเกตาติ เอตฺถ ‘‘ยํ ‘มาเรหี’ติ…เป… ตโต’’ติ วตฺถุวิสงฺเกโต ทสฺสิโต. ‘‘ปุรโต…เป… มาริเต’’ติ อาณตฺติวิสงฺเกโต ทสฺสิโต. มูลฏฺโติ อาณาปโก. มูลนฺติ หิ ปุพฺพกิริยานุรูปํ อาณาปนํ, ตตฺถ ิโตติ มูลฏฺโ.
๒๖๑. อิมินา ¶ วิสงฺเกเต อาณาปกสฺส อนาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา สงฺเกเต อวิราธิเต อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วตฺถุ’’นฺติอาทิ. ตํ วตฺถุํ อวิรชฺฌิตฺวา มาริเต อุภเยสํ…เป… อุทีริโต, ยถาณตฺติ จ มาริเต…เป… อุทีริโตติ โยชนา. มาริเต วตฺถุสฺมินฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. อุภเยสนฺติ อาณาปกอาณตฺตานํ. ยถากาลนฺติ อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขณํ, อาณตฺตสฺส มารณกฺขณฺจ อนติกฺกมิตฺวา. พนฺธนํ พนฺโธ, กมฺมุนา พนฺโธ กมฺมพนฺโธ. อถ วา พชฺฌติ เอเตนาติ พนฺโธ, กมฺมเมว พนฺโธ กมฺมพนฺโธ.
๒๖๔. วิสงฺเกโต นาติ วิสงฺเกโต นตฺถิ, ทฺวินฺนมฺปิ ยถากาลปริจฺเฉทํ กมฺมพนฺโธเยวาติ อตฺโถ.
๒๖๕. สพฺพโสติ สพฺเพสุ กาลเภเทสุ, สพฺพโส เวทิตพฺโพติ วา สมฺพนฺโธ. สพฺพโสติ สพฺพปฺปกาเรน. วิภาวินาติ ปณฺฑิเตน. โส หิ อตฺถํ วิภาเวตีติ ตถา วุตฺโต.
๒๖๖-๗-๘. ‘‘อิมํ คาเม ิต’’นฺติ อิทํ ตํ สฺชานิตุํ วุตฺตํ, น มารณกฺขณฏฺานนิยมตฺถายาติ ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ ิต’’นฺติ วตฺวาปิ ‘‘นตฺถิ ตสฺส วิสงฺเกโต’’ติ อาห. ตสฺสาติ อาณาปกสฺส. ‘‘ตตฺถา’’ติ วา ปาโ, ตสฺสํ อาณตฺติยนฺติ อตฺโถ. ‘‘คาเมเยว ิตํ เวรึ มาเรหี’’ติ สาวธารณํ อาณตฺโต วเน เจ ิตํ มาเรติ วา ‘‘วเนเยว ิตํ เวรึ มาเรหี’’ติ สาวธารณํ วุตฺโต คาเม ิตํ เจ มาเรติ วาติ โยชนา. ‘‘ภิกฺขุนา สาวธารณ’’นฺติ ¶ จ โปตฺถเกสุ ลิขนฺติ, ตํ อคฺคเหตฺวา ‘‘วเน วา ¶ สาวธารณ’’นฺติ ปาโเยว คเหตพฺโพ. วิคโต สงฺเกโต อาณตฺตินิยาโม เอตฺถาติ วิสงฺเกโต.
๒๖๙. สพฺพเทเสสูติ คามวนองฺคณเคหาทีสุ สพฺเพสุ าเนสุ. เภทโตติ นานตฺตโต.
๒๗๐. ‘‘สตฺเถน ปน มาเรหี’’ติ เยน เกนจิ โย อาณตฺโต, เตน เยน เกนจิ สตฺเถน มาริเต วิสงฺเกโต นตฺถีติ โยชนา.
๒๗๑-๒. อิมินา วาสินา หีติ เอตฺถ หีติ ปทปูรเณ. ‘‘อิมินา อสินา มาเรยฺยา’’ติ วุตฺโต อฺเน อสินา มาเรติ วา ‘‘ตฺวํ อิมสฺส อสิสฺส เอตาย ธาราย มารย’’ อิติ วุตฺโต ตํ เวรึ สเจ อิตราย ธาราย มาเรติ วา ถรุนา มาเรติ วา ตุณฺเฑน มาเรติ วา, ตถา มาริเต วิสงฺเกโตเยว โหตีติ โยชนา. ถรุนาติ ขคฺคมุฏฺินา. ตุณฺเฑนาติ ขคฺคตุณฺเฑน. ‘‘วิสงฺเกโตวา’’ติ สงฺเกตวิราเธเนว ปาราชิกํ น โหตีติ ทสฺสนปทเมตํ.
๒๗๓. สพฺพาวุธกชาติสูติ อิธาวุตฺตกรปาลิกาฉุริกาทิสพฺพปหรณสามฺเสุ. วิเสสโตติ เภทโต.
๒๗๔. ปเรนาติ ภิกฺขุนา. โสติ อาณตฺโต. นิสินฺนํ นํ มาเรติ, วิสงฺเกโต น วิชฺชตีติ ‘‘คจฺฉนฺตเมว มาเรหี’’ติ สาวธารณํ อวุตฺตตฺตา ‘‘นิสินฺโนปิ โสเยวา’’ติ ตํ มาเรนฺตสฺส วิสงฺเกโต น โหติ, อวธารณํ อนฺตเรน กถนํ ตํ สฺชานาเปตุํ วุจฺจตีติ อิริยาปถนิยามกํ น โหตีติ อธิปฺปาโย.
๒๗๕-๖. อสติ ¶ สาวธารเณ วิสงฺเกตาภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สาวธารเณ อิริยาปถนฺตเรสุ วิสงฺเกตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นิสินฺนํเยวา’’ติอาทิ. ‘‘นิสินฺนํเยว มาเรหี’’ติ วุตฺโต คจฺฉนฺตํ มาเรติ, วิสงฺเกตนฺติ าตพฺพํ. ‘‘คจฺฉนฺตํเยว มาเรหี’’ติ วุตฺโต นิสินฺนํ มาเรติ, วิสงฺเกตนฺติ าตพฺพนฺติ โยชนา. อิมเมว โยชนากฺกมํ สนฺธายาห ‘‘ยถากฺกม’’นฺติ.
๒๗๗. วิชฺฌิตฺวาติ สราทีหิ วิชฺฌิตฺวา.
๒๗๘. ฉินฺทิตฺวาติ ¶ อสิอาทีหิ ฉินฺทิตฺวา. ปุน โสติ ปโยโค.
๒๗๙. กรเณสูติ วิชฺฌนาทิกิริยาวิเสเสสุ.
๒๘๐-๑. เอตฺตาวตา อาณตฺตินิยามกนิทฺเทสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทีฆาทิลิงฺควเสนาปิ สมฺภวนฺตํ วิสงฺเกตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทีฆ’’นฺติอาทิ. ‘‘ทีฆํ…เป… ถูลํ มาเรหีติ อนิยเมตฺวา อาณาเปตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๔) อฏฺกถาวจนโต เอว-การํ วินา ‘‘ทีฆํ มาเรหี’’ติ อนิยเมตฺวา เกนจิ โย อาณตฺโต โหติ, โสปิ อาณตฺโต ยํ กิฺจิ ตาทิสํ สเจ มาเรติ, นตฺถิ ตตฺถ วิสงฺเกโต, อุภินฺนมฺปิ ปราชโยติ โยชนา. เอวํ ‘‘รสฺส’’นฺติอาทิสพฺพปเทหิปิ ปจฺเจกํ โยชนา กาตพฺพา. อนิยเมตฺวาติ วิสงฺเกตาภาวสฺส เหตุทสฺสนํ. เอวกาโร วากฺยาลงฺกาโร. ตตฺถาติ อาณตฺติกปฺปโยเค. ‘‘อุภินฺนมฺปิ ปราชโย’’ติ วุตฺตตฺตา อาณาปกํ วินา อฺํ ยถาวุตฺตกฺขณํ มนุสฺสวิคฺคหํ ‘‘ยํ กิฺจิ ตาทิส’’นฺติ อิมินา ทสฺเสติ.
สเจ อาณาปโก อาณาเปตฺวา อตฺตานเมว มาเรติ, อาณาปโก ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวา มรติ, อาณตฺตสฺส ¶ ปาราชิกํ. อาณาปเกน อตฺตานมุทฺทิสฺส อาณตฺติยา กตาย อาณตฺโต อชานิตฺวา ตาทิสํ อฺํ มาเรติ, โอกาสสฺส อนิยมิตตฺตา อาณาปโก มุจฺจติ, อิตโร กมฺมุนา พชฺฌติ. ยทิ ‘‘อมุกสฺมึ รตฺติฏฺาเน วา ทิวาฏฺาเน วา นิสินฺนํ อีทิสํ มาเรหี’’ติ โอกาสํ นิยเมตฺวา อาณาเปติ, ตตฺถ อาณาปกโต อฺสฺมึ มาริเต อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ. ตโต พหิ มาริเต วธกสฺเสว กมฺมพนฺโธ. อาณาปโก อตฺตานเมว อุทฺทิสฺส อาณาเปติ, อิตโร จ ตเมว ตตฺถ มาเรติ, อาณาปกสฺส ทุกฺกฏํ, อาณตฺตสฺส ปาราชิกํ. สเจ อฺตฺถ มาเรติ, มูลฏฺโ มุจฺจติ. อชานิตฺวา อฺํ ตตฺถ วา อฺตฺถ วา มาเรติ, วธโก ปาราชิกํ อาปชฺชติ, มูลฏฺโ มุจฺจติ. อานนฺตริยวตฺถุมฺหิ อานนฺตริเยน สทฺธึ โยเชตพฺพํ.
๒๘๒. โย มนุสฺสํ กฺจิ อุทฺทิสฺส สเจ โอปาตํ ขณติ, ตถา โอปาตํ ขณนฺตสฺส ตสฺส ทุกฺกฏํ นาม อาปตฺติ โหตีติ อชฺฌาหารโยชนา. โยชนา จ นาเมสา ยถารุตโยชนา, อชฺฌาหารโยชนาติ ทุวิธา. ตตฺถ ปาาคตปทานเมว โยชนา ยถารุตโยชนา, อูนปูรณตฺถมชฺฌาหารปเทหิ สห ปาาคตปทานํ โยชนา อชฺฌาหารโยชนาติ เวทิตพฺพา. ‘‘ขณนฺตสฺส ¶ จ โอปาต’’นฺติ โปตฺถเกสุ ปาโ ทิสฺสติ. ‘‘ขณนฺตสฺส ตโถปาต’นฺติ ปาโ สุนฺทโร’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. ‘‘อาวาฏนฺติ เอตสฺส ‘โอปาต’นฺติ ปริยาโย’’ติ จ วุตฺตํ. ตโตปิ –
‘‘มนุสฺสํ กฺจิ อุทฺทิสฺส;
โย เจ ขณติวาฏกํ;
ขณโต ตํ ตถา ตสฺส;
โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏ’’นฺติ. –
ปาโ ¶ สุนฺทรตโร. ชาตปถวึ ขณนฺตสฺส ปาราชิกปโยคตฺตา ปโยคคณนาย ทุกฺกฏํ.
๒๘๓. ตตฺถาติ ตสฺมึ อาวาเฏ. ตสฺสาติ ปติตสฺส มนุสฺสวิคฺคหสฺส. ทุกฺขสฺสุปฺปตฺติยาติ ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุ. ตสฺสาติ เยน อาวาโฏ ขโต, ตสฺส ภิกฺขุโน. ปติตฺวา โส เจ มรติ, ตสฺมึ มเต ตสฺส ภิกฺขุโน ปาราชิกํ ภเวติ โยชนา.
๒๘๔. อฺสฺมินฺติ ยํ สมุทฺทิสฺส อาวาโฏ ขโต, ตโต อฺสฺมึ. อนุทฺทิสฺสกนฺติ กิริยาวิเสสนํ, อนุทฺทิสฺสกํ กตฺวาติ อตฺโถ. โอปาตวิเสสนํ เจ, ‘‘อนุทฺทิสฺสโก โอปาโต’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อคฺคมกฺขายตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๓๔; ๑๐.๑๕; อิติวุ. ๙๐; เนตฺติ. ๑๗๐) วิย โอ-การฏฺาเน อ-กาโร, ม-การาคโม จ ทฏฺพฺโพ, อโนทิสฺสโก โอปาโต ขโต โหตีติ อตฺโถ.
๒๘๕. ‘‘เอตฺถ ปติตฺวา โย โกจิ มรตู’’ติ อโนทิสฺสโก โอปาโต สเจ ขโต โหติ, ยตฺตกา นิปติตฺวา มรนฺติ เจ, อสฺส ตตฺตกา โทสา โหนฺตีติ โยชนา. ‘‘โย โกจี’’ติ อิมินา อตฺตโน มาตาปิตโร จ สงฺคหิตา. โทสาติ กมฺมพนฺธโทสา, ปาราชิกํ ปน เอกเมว. อสฺสาติ เยน อโนทิสฺส โอปาโต ขโต, ตสฺส.
๒๘๖. อานนฺตริยวตฺถุสฺมึ มเตติ ปาเสโส, ‘‘ตตฺถ ปติตฺวา’’ติ อธิกาโร, อรหนฺเต, มาตริ, ปิตริ จ ตสฺมึ ปติตฺวา มเต กาลกเตติ อตฺโถ. อานนฺตริยกนฺติ เอตฺถ สกตฺเถ, กุจฺฉิเต ¶ , สฺายํ วา ก-ปจฺจโย ทฏฺพฺโพ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อานนฺตริยวตฺถุสฺมิ’’นฺติ อิมสฺมึ สมาสปเท ¶ อวยวภูตมฺปิ ‘‘วตฺถุสฺมิ’’นฺติ อิทฺจ ‘‘ตตฺถ ปติตฺวา มเต’’ติ อิทฺจ อากฑฺฒติ. ถุลฺลจฺจยาทีนํ วตฺถุสฺมึ ตตฺถ ปติตฺวา มเต ถุลฺลจฺจยาทโย โหนฺตีติ โยชนา. ตสฺมึ อาวาเฏ ปติตฺวา ยกฺขาทีสุ มเตสุ, ปาราชิกวตฺถุโน ทุกฺขุปฺปตฺติยฺจ ถุลฺลจฺจยํ, มนุสฺสวิคฺคเห มเต ปาราชิกํ, ติรจฺฉาเน มเต ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๒๘๗. ปาณาติปาตา ทฺเวติ ทฺวินฺนํ มตตฺตา ทฺเว ปาณาติปาตา, เอเกน ปาราชิกํ, อิตเรน กมฺมพนฺโธเยว. เอโกเวเกกธํสเนติ มาตุ วา ทารกสฺส วา มรเณ เอโก ปาณาติปาโตว.
๒๘๘. โจเรหิ อนุพทฺโธ เอตฺถ อาวาเฏ ปติตฺวา มริสฺสติ เจ, โอปาตขณกสฺเสว ปาราชิกํ โหติ กิราติ โยชนา. กิราติ อนุสฺสวเน อรุจิสูจกํ.
๒๘๙-๙๐. เวริโน ภิกฺขุโต อฺเ เวริปุคฺคลา. ตตฺถ ตสฺมึ โอปาเต สเจ มนุสฺสํ ปาเตตฺวา มาเรนฺติ, ตถา เวริโน ตตฺถ สยเมว ปติตํ มนุสฺสํ พหิ นีหริตฺวา สเจ มาเรนฺติ, ตตฺถ โอปปาติกา มนุสฺสา โอปาเต นิพฺพตฺติตฺวา ตโต นิกฺขนฺตุํ อสกฺโกนฺตา มตา เจ สิยุํ, สพฺพตฺถ จ ยถาวุตฺตสพฺพวาเรสุ โอปาตขณกสฺเสว ปราชโยติ โยชนา. นิพฺพตฺติตฺวา หีติ เอตฺถ หีติ ปทปูรเณ. ยตฺถ ยตฺถ นิปาตสทฺทานํ อตฺโถ น ทสฺสิโต, ตตฺถ ตตฺถ ปทปูรณมตฺตตา เวทิตพฺพา.
๒๙๑. ยกฺขาทโยติ อาทิ-สทฺเทน ติรจฺฉานานํ สงฺคโห. วตฺถุวสาติ ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยานํ วตฺถุภูตยกฺขติรจฺฉานานํ วสา. ถุลฺลจฺจยาทโยติ อาทิ-สทฺเทน ปาจิตฺติยสงฺคโห.
๒๙๓. อยํ ¶ นโยติ ‘‘อนาปตฺตี’’ติ ยถาวุตฺโต นโย.
๒๙๔-๕. พชฺฌนฺตีติ สเจ อวสฺสํ พชฺฌนฺติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปาเส. ‘‘หตฺถโต มุตฺตมตฺตสฺมิ’’นฺติ อิมินา ปโยคสฺส อตฺถสาธกตํ ทีเปติ.
๒๙๖. ยํ ¶ ปน อุทฺทิสฺส ปาโส โอฑฺฑิโต, ตโต อฺสฺส พนฺธเน ตุ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
๒๙๗. มุธา วาปีติ อมูเลน วาปิ. มูลฏฺสฺเสวาติ ปาสการกสฺเสว. กมฺมพนฺโธติ ปาณาติปาโต. พชฺฌติ เอเตนาติ พนฺโธ, กมฺมเมว พนฺโธ กมฺมพนฺโธ. ปาราชิกมตฺเต วตฺตพฺเพปิ ยาว โส วตฺตติ, ตาว ตตฺถ พชฺฌิตฺวา มตสตฺเตสุ ปมมตสฺส วเสน ปาราชิกํ, อวเสสานํ ปาณาติปาตสงฺขาตสฺส อกุสลราสิโน สมฺภวโต ตํ สพฺพํ สงฺคเหตฺวา สามฺเน ทฺวยมฺปิ ทสฺเสตุมาห ‘‘กมฺมพนฺโธ’’ติ.
๒๙๘. ‘‘สเจ เยน ลทฺโธ, โส อุคฺคฬิตํ วา ปาสํ สณฺเปติ, ตสฺส ปสฺเสน วา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา วตึ กตฺวา สมฺมุเข ปเวเสติ, ถทฺธตรํ วา ปาสยฏฺึ เปติ, ทฬฺหตรํ วา ปาสรชฺชุํ พนฺธติ, ถิรตรํ วา ขาณุกํ อาโกเฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๖) อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ สงฺคหิตุมาห ‘‘ปาสมุคฺคฬิตมฺปิ วา’’ติ. เอตฺถ อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน ปิ-สทฺเทน ‘‘สณฺเปตี’’ติอาทิกา ‘‘พนฺธตี’’ติ ทสฺสิตกิริยาวสานา ปโยคา ทสฺสิตา. ถิรํ วาปีติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท อฏฺกถาย อวสิฏฺํ ‘‘ขาณุกํ อาโกเฏตี’’ติ กิริยํ สมุจฺจิโนติ อุภยตฺถปิ ปการนฺตรวิกปฺปตฺถตฺตาติ คเหตพฺพา. เอวนฺติ ¶ เอวํ สติ. เยน ปาโส ลทฺโธ, เตนาปิ เอวํ ปาเส กตวิเสเส สตีติ วุตฺตํ โหติ. อุภินฺนนฺติ ปาสการกสฺส จ อิทานิ ลภิตฺวา ปฏิชคฺคนฺตสฺส จาติ อุภเยสํ.
๒๙๙-๓๐๐. โยติ ปาสการโก, ลทฺธปาสโกติ อิเมสํ โย โกจิ. อุคฺคฬาเปตฺวาติ วิฆาเฏตฺวา, ยถา ตตฺถ ปาณิโน น พชฺฌนฺติ, เอวํ กตฺวาติ อตฺโถ. ตตฺถ จาติ ปุน สณฺปิเต ปาเส จ. โก วิมุจฺจติ? เยน ลทฺโธ, โส.
๓๐๑-๒. โคเปตฺวาติ โคปนเหตุ โมกฺโข น โหตีติ โยชนา. ‘‘สีหํ ทิสฺวา ภยํ โหตี’’ติอาทีสุ วิย เหตุมฺหิ ตฺวา-ปจฺจโย ทฏฺพฺโพ. ตมฺโ…เป… น จ มุจฺจตีติ เอตฺถ น จาติ เนว. นาเสตฺวา สพฺพโส วาติ โส ยถา ยสฺส กสฺสจิ สตฺตสฺส วินาโสปกรณํ น โหติ, ตถา ฉินฺทนาทีหิ นาเสตฺวา. ตํ ปาสยฏฺึ. โก วิมุจฺจติ? ปาสการโก.
๓๐๓. สูลํ ¶ โรเปนฺตสฺสาติ สูลํ นิขณนฺตสฺส. สชฺเชนฺตสฺสาติ สณฺเปนฺตสฺส.
๓๐๔. อสฺจิจฺจาติ เอตฺถ ‘‘กเตน ปโยเคนา’’ติ ปาเสโส, ‘‘มเตปิ อนาปตฺตี’’ติ เอเตหิ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิมินาหํ อุปกฺกเมน อิมํ มาเรสฺสามี’’ติ อเจเตตฺวา อปกปฺเปตฺวา อวธกเจตโน หุตฺวา กเตน อฺตฺถิเกนปิ อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อาปตฺติ นตฺถีติ อตฺโถ, มุสลุสฺสาปนาทิวตฺถูสุ (ปารา. ๑๘๐) วิย อยํ สตฺโตติสฺี หุตฺวา ‘‘อิมินา อุปกฺกเมน อิมํ มาเรสฺสามี’’ติ วีติกฺกมสมุฏฺาปกเจตนาสมฺปยุตฺตวิกปฺปรหิโต หุตฺวา อฺตฺถิเกน ปโยเคน มนุสฺเส มเตปิ ปาราชิกํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ.
อชานนฺตสฺสาติ ¶ ‘‘อิมินา อยํ มริสฺสตี’’ติ อชานนฺตสฺส อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อนาปตฺติ, วิสคตปิณฺฑปาตวตฺถุมฺหิ (ปารา. ๑๘๑) วิย ‘‘อิทํ การณ’’นฺติ อชานิตฺวา กเตน มนุสฺเส มเตปิ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อากฑฺฒติ. อมรณจิตฺตสฺส อมรณิจฺฉาสหิตจิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อนาปตฺติ วุทฺธปพฺพชิตาทิวตฺถูสุ (ปารา. ๑๘๐) วิยาติ อตฺโถ. อุมฺมตฺตกาทโย วุตฺตสรูปาเยว.
๓๐๕. ‘‘มนุสฺสปาณิมฺหี’’ติ อิมินา มนุสฺสภาโว องฺคภาเวน ทสฺสิโต. ‘‘สจสฺส จิตฺตํ มรณูปสํหิต’’นฺติ อิมินา มรณูปสํหิตจิตฺตตา ทสฺสิตา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ตติยปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุตฺถปาราชิกกถาวณฺณนา
๓๐๖-๗. เอวํ นาติสงฺเขปวิตฺถารนเยน ตติยปาราชิกวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ จตุตฺถปาราชิกวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อสนฺต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘อสนฺต’’นฺติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘อตฺตนี’’ติ จ ‘‘ฌานาทิเภท’’นฺติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺม’’นฺติ จ ‘‘สมุทาจเรยฺยา’’ติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘โย ภิกฺขู’’ติ จ สามตฺถิยา ลพฺภตีติ อชฺฌาหริตฺวา ‘‘อตฺตนิ อสนฺต’’นฺติอาทินา นเยน โยเชตพฺพํ.
อตฺตนิ ¶ อสนฺตนฺติ ตสฺมึ อตฺตภาเว อตฺตโน สนฺตาเน อนุปฺปาทิตตาย อวิชฺชมานํ. อตฺตสฺสิตเมว กตฺวาติ อตฺตุปนายิกํ กตฺวา อตฺตนิ วิชฺชมานํ วิย กตฺวา ตํ อุปเนตฺวา ¶ . ภวํ อธิฏฺาย จ วตฺตมานนฺติ ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย จ วตฺตนฺตํ ภวํ จิตฺเตน อธิฏฺหิตฺวา ตกฺเกตฺวา, จิตฺเต เปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อฺาปเทสฺจ วินาติ ‘‘โย เต วิหาเร วสตีธ ภิกฺขู’’ติอาทินา นเยน วกฺขมานํ ปริยายกถํ เปตฺวา. อธิมานฺจ วินาติ อทิฏฺเ ทิฏฺสฺิตาทิสภาวํ อธิคตมานสงฺขาตํ ‘‘อธิคตอุตฺตริมนุสฺสธมฺโม อหมฺหี’’ติ อธิมานฺจ เปตฺวา. ฌานาทิเภทนฺติ ฌานาทโย เภทา วิเสสา ยสฺส ตํ ฌานาทิเภทํ, ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม นาม ฌานํ วิโมกฺโข สมาธิ สมาปตฺติ าณทสฺสนํ มคฺคภาวนา ผลสจฺฉิ กิริยา กิเลสปฺปหานํ วินีวรณตา จิตฺตสฺส สฺุาคาเร อภิรตี’’ติ (ปารา. ๑๙๘, ๑๙๙) ปทภาชเน วุตฺตํ ฌานาทิธมฺมวิเสสนฺติ อตฺโถ. ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจ ธมฺม’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๙๗) อฏฺกถาย วุตฺตํ ฌานลาภีหิ เจว อฏฺหิ อริยปุคฺคเลหิ จ อธิคตตฺตา เตสํ สนฺตกนฺติ สงฺขฺยํ คตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ.
วิฺตฺติปเถ ิตสฺส กาเยน วา วาจาย วา โย ภิกฺขุ สมุทาจเรยฺยาติ อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺพํ. วิฺตฺติปเถ ิตสฺสาติ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ปเทเส ิตสฺส ‘‘อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา’’ติ (ปารา. ๑๙๘) ปทภาชเน วุตฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ. กาเยน วาติ หตฺถมุทฺทาทิวเสน กาเยน วา. ‘‘สิกฺขาปจฺจกฺขานํ หตฺถมุทฺทาย สีสํ น โอตรติ, อิทํ อภูตาโรจนํ หตฺถมุทฺทายปิ โอตรตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๑๕) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อิธ หตฺถมุทฺทาทิหตฺถวิกาโร จ องฺคปจฺจงฺคโจปนฺจ ‘‘กาเยนา’’ติ อิมินา คเหตพฺพํ. วาจาย วาติ โย สวนูปจาเร ิโต เตน วิฺาตุํ สกฺกุเณยฺเยน เยน เกนจิ โวหาเรน วา. โย ภิกฺขูติ โย อุปสมฺปนฺโน เถโร วา นโว ¶ วา มชฺฌิโม วา. สมุทาจเรยฺยาติ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทิวจนปฺปกาเรสุ ยํ กฺจิ ปการํ วเทยฺย. ตทตฺเถติ เตน วุตฺตวากฺยสฺส อตฺเถ. าเตวาติ าเต เอว. มาตุคามํ วา ปุริสํ วา ยํ กิฺจิ อุทฺทิสฺส วุตฺเต, เตเนว วา อนุทฺทิสฺส วุตฺเต สวนูปจาเร ิเตน เยน เกนจิ มนุสฺสภูเตน วจนสมนนฺตรเมว ‘‘อยํ ปมชฺฌานลาภี’’ติอาทิเก ยถาวุตฺเต อตฺถปฺปกาเร าเตเยว. ‘‘โส’’ติ อชฺฌาหริตฺวา ‘‘โส ปุน รุฬฺหิภาเว อภพฺโพ’’ติ โยเชตพฺพํ, อตฺตนิ อวิชฺชมานคุณํ สนฺตํ วิย กตฺวา อิจฺฉาจาเร ตฺวา เอวํ กถิตปุคฺคโล สีเล ปติฏฺาย อุปรูปริ ลพฺภมานโลกิยโลกุตฺตรคุเณหิ พุทฺธิสงฺขาตํ สาสเน พุทฺธิมธิคนฺตุํ อนรโหติ อตฺโถ ¶ . กึ วิยาติ อาห ‘‘ยเถว…เป… รุฬิภาเว’’ติ. ‘‘ยถา’’ติ เอเตน สมฺพนฺโธ ‘‘ตถา’’ติ, ยถา ตาโล มตฺถกจฺฉินฺโน อภพฺโพ ปุน วิรุฬฺหิยา, โสปิ ปาราชิกํ อาปนฺโน ตเถว ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ.
๓๐๘-๙. อิทานิ ‘‘าเตว อภพฺโพ’’ติ จ ‘‘อฺาปเทสฺจ วินา’’ติ จ เอตสฺมึ วากฺยทฺวเย พฺยติเรกตฺถวเสน สมฺภวนฺตํ อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อสนฺตเมวา’’ติอาทิ.
อนนฺตรนฺติ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทิวจนสมนนฺตรเมว. โสติ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ตฺวา เยน ตํ วจนํ สุตํ, โส ปโร ปุคฺคโล. ชานาติ เจติ ‘‘อยํ ปมชฺฌานลาภี’’ติอาทิวเสน เตน วุตฺตวจนปฺปกาเรน อตฺถํ อวิราเธตฺวา อจิเรเนว สเจ ชานาตีติ อตฺโถ. โย ปน ฌานาทีนํ อตฺตนา อลทฺธภาเวน วา อาคเม อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน อปริจิตตฺตา วา ฌานาทิสรูปํ อชานนฺโตปิ ¶ เกวลํ ‘‘ฌานํ วิโมกฺโข สมาธิ สมาปตฺตี’’ติอาทิวจนานํ สุตปุพฺพตฺตา เตน ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทิวจเน วุตฺเต ‘‘ฌานํ กิร เอส สมาปชฺชตี’’ติ ยทิ เอตฺตกมตฺถมฺปิ ชานาติ, โสปิ ‘‘ชานาติ’’จฺเจว อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๑๕) วุตฺโตติ คเหตพฺโพ. จุโต หีติ หิ-สทฺโท อวธารเณ, อตฺตนา วุตฺเต เตน ตตฺตเกเยว าเต โส อสนฺตคุณทีปโก ปาปปุคฺคโล ผลสมฺปตฺติสมฺปนฺนํ อิมํ สาสนามตมหาปาทปํ อารุยฺหาปิ ผลํ อปริภฺุชิตฺวา วิราเธตฺวา ปติตฺวา มโต นาม โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อิมสฺเสวตฺถสฺส ‘‘อสนฺต’’มิจฺจาทินา ปมํ วุตฺตสฺสปิ พฺยติเรกตฺถํ ทสฺเสตุํ อนุวาทวเสน วุตฺตตฺตา ปุนรุตฺติโทโส น โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
อิทานิ ตํ พฺยติเรกตฺถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โน เจ…เป… โหตี’’ติ. ยสฺส โส อาโรเจติ, โส เจ น ชานาติ, อสฺส อสนฺตคุณทีปกสฺส มุสาวาทิโน.
‘‘อฺาปเทสฺจ วินา’’ติ อิมินา ทสฺสิตพฺยติเรกตฺถสฺส ภาวาภาเว สมฺภวนฺตํ อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โย เต’’ติอาทิ. โย ภิกฺขุ เต ตว อิธ อิมสฺมึ วิหาเร วสตีติ โยชนา. ทีปิเตติ อตฺตโน อธิปฺปาเย ปกาสิเต. ชานาติ เจติ โย ตถา วุตฺตวจนํ อสฺโสสิ, โส ‘‘เอส อฺาปเทเสน อตฺตโน ฌานลาภิตํ ทีเปตี’’ติ วา ‘‘เอโส ฌานลาภี’’ติ ¶ วา วจนสมนนฺตรเมว สเจ ชานาติ. อสฺสาติ เอวํ กถิตวจนวโต ตสฺส ภิกฺขุโน. ตํ เตน วุตฺตวจนํ. ทุกฺกฏเมว โหติ, น ถุลฺลจฺจยนฺติ อตฺโถ. อตฺตโน อาวาสการานํ ทายกานํ อฺสฺส ปวตฺตึ กเถนฺตสฺส วิย อตฺตโนเยว อสนฺตคุณํ สนฺตมิว ¶ กตฺวา กถนากาโร อิมาย คาถาย อตฺถโต วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.
เอตฺถ จ ฌานลาภีติ จาติ อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน จ-สทฺเทน ปาฬิยํ (ปารา. ๒๒๐) อาคตา อวเสสปริยายวารา จ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. ตถา ฌานลาภีติ เอตฺถ ฌานคฺคหเณน วิโมกฺขาทีนฺจ อุปลกฺขิตตฺตา ฌานาทิทสวิธอุตฺตริมนุสฺสธมฺมวิสยปริยายกถํ สุตวตา ตงฺขเณ ตทตฺเถ าเต ปริยายสมุลฺลาปเกน อาปชฺชิตพฺพํ ถุลฺลจฺจยฺจ อวิฺาเต วา จิเรน วิฺาเต วา อาปชฺชิตพฺพํ ทุกฺกฏฺจ อิมาย คาถาย อตฺถโต ทสฺสิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ.
๓๑๐. เอตนฺติ ยถาวุตฺตปฺปการํ ฌานาทิเภทํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ. อธิมานาติ ‘‘อธิคโตห’’นฺติ เอวํ อุปฺปนฺนมานา, อธิกมานาติ อตฺโถ, ‘‘อยํ ธมฺโม มยา อธิคโต’’ติ ทฬฺหมุปฺปนฺเนน มาเนน กเถนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺโต อนาปตฺตินโยติ อาปตฺติยา อภาโว อนาปตฺติ, สา เอว นโย เนตพฺโพ พุชฺฌิตพฺโพติ กตฺวา, อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อธิมาเนนา’’ติ เอวํ วุตฺโต ภควตาติ อตฺโถ, ‘‘อธิคตธมฺโมห’’นฺติ อธิมาเนน ‘‘อหํ ปมชฺฌานลาภี’’ติอาทีนิ วทนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
อยมธิมาโน กสฺส โหติ, กสฺส น โหตีติ เจ? อริยานํ น โหติ มคฺคปจฺจเวกฺขณาทีหิ ปฺจหิ ปจฺจเวกฺขณาหิ สฺชาตโสมนสฺสานํ วิติณฺณกงฺขตฺตา. ทุสฺสีลสฺสาปิ น โหติ ตสฺส อริยคุณาธิคเม นิรุสฺสาหตฺตา. สุสีลสฺสาปิ กมฺมฏฺานานุโยครหิตสฺส นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตสฺส น โหติ วิสฺสฏฺภาวนาภิโยคตฺตา. สุปริสุทฺธาย สีลสมฺปตฺติยา ปติฏฺาย สมถภาวนามนุยุตฺตสฺส รูปารูปสมาปตฺติยํ ปตฺตาสิโน วา วิปสฺสนาภิยุตฺตสฺส ¶ โสปกฺกิเลโสทยพฺพยาณลาภิโน วา อุปฺปชฺชติ. โส สมถวิปสฺสนาภาวนาหิ กิเลสสมุทาจารสฺส อภาเว อุปฺปนฺเน เต วิเสสภาคิโน ภวิตุํ อทตฺวา ิติภาคิโน กตฺวา เปตีติ เวทิตพฺโพ.
ปนาติ อปิ-สทฺทตฺโถ. ‘‘เอว’’นฺติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตินโย วุตฺโต’’ติ ปจฺจามสติ. ‘‘อวตฺตุกามสฺสา’’ติ อิทฺจ ปาฬิยํ อาคตํ ‘‘อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺสา’’ติ ¶ (ปารา. ๒๒๒, ๒๒๕) อิทฺจ อนตฺถนฺตรํ. อวตฺตุกามสฺสาติ เอวํ วุตฺโตติ โยชนา. โกหฺเน ปาปิจฺฉาปกตสฺส ‘‘ฌานาทีนํ ลาภิมฺหี’’ติ วทนฺตสฺส อชฺฌาสโย อุลฺลปนาธิปฺปาโย นาม, ตถา อหุตฺวา สพฺรหฺมจารีสุ อฺํ พฺยากโรนฺตสฺส เอวเมว อนาปตฺติภาโว วุตฺโต ภควตาติ อตฺโถ. อาทิกสฺสาปิ เอวํ วุตฺโตติ โยชนา. ‘‘อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๒๒) อาทิกมฺมิกสฺสาปิ อนาปตฺติภาโว วุตฺโต ภควตาติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู อาทิกมฺมิกา. อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน ตถา-สทฺเทน อิธ อวุตฺตอุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนฏฺฏา คหิตา.
๓๑๑. ปาปิจฺฉตาติ ‘‘เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตี’’ติ ฌานลาภิตาทิเหตุกาย สมฺภาวนาย สมฺภาวนานิมิตฺตสฺส ปจฺจยปฏิลาภสฺส ปตฺถนาสงฺขาตาย ปาปิกาย ลามิกาย อิจฺฉาย สมนฺนาคตภาโว จ. ตสฺสาติ ยํ ฌานาทิเภทภินฺนํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ สมุลฺลปิ, ตสฺส ธมฺมสฺส. อสนฺตภาโวติ อตฺตสนฺตาเน ปจฺจุปฺปนฺนชาติยํ อนุปฺปาทิตภาเวน อวิชฺชมานภาโว. มนุสฺสกสฺส อาโรจนฺเจวาติ วุตฺตวจนสฺส อตฺถํ ตงฺขเณ ชานนกสฺส มนุสฺสชาติกสฺส ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติอาทินา นเยน สวนูปจาเร ¶ ตฺวา อาโรจนฺจ. นฺาปเทเสน อาโรจนฺจาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชี’’ติอาทินา (ปารา. ๒๒๐) นเยน ปวตฺตอฺาปเทสํ วินา อุชุกเมว อาโรจนฺจ. ตเทว าณนฺติ ตทา เอว าณํ, อจิรายิตฺวา วุตฺตกฺขเณเยว ชานนนฺติ อตฺโถ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ จตุตฺถปาราชิกาปตฺติยํ. ธีรา วินยธรา.
๓๑๒. ปเม ทุติเย จนฺเตติ มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกวชฺชิเต ยถาวุตฺตปาราชิกตฺตเย. ปริยาโย น วิชฺชตีติ ปาราชิกาปตฺติปถํ ปริยายวจนํ น ลภติ. ‘‘น ปเนตเร’’ติ อิทํ เอตฺถาปิ โยเชตพฺพํ, อิตเร ปน ตติยปาราชิเก ปริยาโย น วิชฺชตีติ อตฺโถ. ‘‘มรณวณฺณํ วา สํวณฺเณยฺยา’’ติ (ปารา. ๑๗๒) จ ‘‘อมฺโภ ปุริส กึ ตุยฺหิมินา’’ติอาทินา (ปารา. ๑๗๑) จ ‘‘โย เอวํ มรติ, โส ธนํ วา ลภตี’’ติอาทินา (ปารา. ๑๗๕) จ ปริยาเยน วทนฺตสฺส ปาราชิกเมวาติ วุตฺตํ โหติ. อาณตฺติ ปาราชิกเหตุอาณตฺติกปฺปโยโค. น ปเนตเรติ ปมจตุตฺถปาราชิกทฺวเย ปน ปาราชิกเหตุภูตา อาณตฺติ น ลภตีติ อตฺโถ.
๓๑๓. อาทีติ ¶ ปมปาราชิกํ. เอกสมุฏฺานนฺติ เอกการณํ. สมุฏฺาติ อาปตฺติ เอตสฺมาติ สมุฏฺานํ, การณํ กายาทิ. ตํ ปน ฉพฺพิธํ กาโย, วาจา, กายวาจา, กายจิตฺตํ, วาจาจิตฺตํ, กายวาจาจิตฺตนฺติ. เตสํ วินิจฺฉยํ อุตฺตเร (อุ. วิ. ๓๒๕ อาทโย) ยถาคตฏฺาเนเยว จ วณฺณยิสฺสาม. ตตฺริทํ เอกสมุฏฺานํ เอกํ กายจิตฺตํ สมุฏฺานํ เอตสฺสาติ กตฺวา. เตนาห ‘‘ทุวงฺคํ กายจิตฺตโต’’ติ. ‘‘ตํ สมุฏฺาน’’นฺติ อชฺฌาหาโร. เยน สมุฏฺาเนน ปมปาราชิกาปตฺติ อุปฺปชฺชติ, ตํสมุฏฺานสงฺขาตํ ¶ การณํ. องฺคชาตสงฺขาตํ กายฺจ เสวนจิตฺตฺจาติ ทฺวยํ องฺคํ อวยวํ เอตสฺสาติ ทุวงฺคํ, ตทุภยสภาวนฺติ อตฺโถ ยถา ‘‘ทุวงฺคํ จตุตฺถชฺฌาน’’นฺติ. เสสาติ อวสิฏฺานิ ตีณิ ปาราชิกานิ. ติสมุฏฺานาติ กายจิตฺตํ, วาจาจิตฺตํ, กายวาจาจิตฺตนฺติ ติสมุฏฺานา ตีณิ สมุฏฺานานิ เอเตสนฺติ กตฺวา. เตสนฺติ เตสํ ติณฺณํ สมุฏฺานานํ. องฺคานีติ อวยวานิ. สตฺต กาโย, จิตฺตํ, วาจา, จิตฺตํ, กาโย, วาจา, จิตฺตนฺติ, ตํสภาวาติ วุตฺตํ โหติ.
๓๑๔. อาทีติ เมถุนธมฺมปฏิเสวนจิตฺตสมฺปยุตฺตเจตนาสภาวํ ปมปาราชิกํ. สุโขเปกฺขายุตํ อุทีริตนฺติ โยชนา. อิฏฺาลมฺพณปฏิลาภาทิโสมนสฺสเหตุมฺหิ สติ สุขเวทนาสมฺปยุตฺตํ โหติ, ตสฺมึ อสติ อุเปกฺขาเวทนาย สมฺปยุตฺตํ โหตีติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
ตติยํ ทุกฺขเวทนนฺติ ตติยํ มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกํ โทสจิตฺตสมฺปยุตฺตเจตนาสภาวตฺตา ทุกฺขเวทนาย สมฺปยุตฺตนฺติ อตฺโถ.
ทุติยนฺติ อทินฺนาทานเจตนาลกฺขณํ ทุติยปาราชิกํ. โลเภน ปรสนฺตกํ โจริกาย คณฺหนฺตสฺส โสมนสฺสสมฺปยุตฺตํ โหติ, โกเธน อภิภูตสฺส วิลุมฺปิตฺวา วา วิลุมฺปาเปตฺวา วา คณฺหโต โทมนสฺสสมฺปยุตฺตํ โหติ, โสมนสฺสํ, โทมนสฺสฺจ วินา อคฺคเหตุกาโม วิย หุตฺวา อุทาสีนสฺส คณฺหโต อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตํ โหตีติ ‘‘ติเวทนมุทีริต’’นฺติ อาห.
จตุตฺถฺจาติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสมุลฺลปนเจตนาลกฺขณํ จตุตฺถปาราชิกฺจ. สมฺภาวนิจฺฉาย ปจฺจยาสาย วา ตุฏฺตุฏฺสฺเสว ‘‘อหํ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทินา นเยน ¶ อตฺตโน อุตฺตริมนุสฺสธมฺมลาภิตํ วทนฺตสฺส โสมนสฺสสมฺปยุตฺตํ โหติ, อฺปุคฺคเลสุ ปฏิหตจิตฺตสฺส กลหปุเรกฺขารตาย วทโต โทมนสฺสสมฺปยุตฺตํ โหติ, ปจฺจยาลาเภน ชิฆจฺฉาทิทุกฺขํ ¶ สหิตุมสกฺกุเณยฺยตาย อุทาสีนสฺส วทโต อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตํ โหตีติ ‘‘ติเวทนมุทีริต’’นฺติ อาห.
๓๑๕. อฏฺ จิตฺตานีติ โลภสหคตานิ อฏฺ จิตฺตานิ ลพฺภเรติ โยชนา, ลพฺภนฺตีติ อตฺโถ, เจตนาสภาเวน ปมปาราชิเกน สมฺปยุตฺตานีติ วุตฺตํ โหติ. เอวมุปริปิ. ทุเวติ ปฏิฆสมฺปยุตฺตานิ ทฺเว จิตฺตานิ. ทส จิตฺตานีติ โลภสหคตานิ อฏฺ, ทฺเว ปฏิฆสมฺปยุตฺตานีติ. ลพฺภเรติ สมฺปยุตฺตภาเวน ลพฺภนฺติ.
๓๑๖. ตสฺมาติ ยสฺมา ยถาวุตฺตจิตฺเตหิ สมฺปยุตฺตํ, เตน เหตุนา. กฺริยาติ กรเณน อาปชฺชิตพฺพตฺตา กิริยา. วีติกฺกมสฺาย อภาเวน มุจฺจนโต สฺาย วิโมกฺโข เอตสฺสาติ สฺาวิโมกฺขํ. โลกวชฺชนฺติ โลเกน อกุสลภาวโต วชฺชนียนฺติ ทีปิตํ ปกาสิตํ.
๓๑๗. อาปตฺติยํเยวาติ เอวกาเรน น สิกฺขาปเทติ ทสฺเสติ. อิทํ วิธานนฺติ สมุฏฺานาทิกํ อิทํ ยถาวุตฺตํ วิธานํ. วิภาวินาติ ปฺวตา วินยธเรน.
๓๑๘-๙. มุทุปิฏฺิ จาติ ลตา วิย นมิตฺวา กรณํ ทสฺเสตฺวา นจฺจิตุํ สมวาหิตฺวา มุทุกตปิฏฺิโก จ. ลมฺพี จาติ ปลมฺพมาเนน ทีเฆน องฺคชาเตน ยุตฺโต. ลมฺพตีติ ลมฺพํ, องฺคชาตํ, ตํ ยสฺส อตฺถิ โส ลมฺพี. อิเม ทฺเวปิ กามปริฬาหาตุรภาเว สติ อตฺตโน องฺคชาตํ อตฺตโน ¶ มุขํ, วจฺจมคฺคฺจ ปเวเสตฺวา วีติกฺกมิตุมรหตฺตา ปาราชิกาปนฺนสทิสตฺตา ปริวชฺชิตา. มุขคฺคาหีติ มุเขน คหณํ มุขคฺคาโห, โส เอตสฺส อตฺถีติ มุขคฺคาหี, ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหนฺโตติ อตฺโถ. นิสีทโกติ ปรสฺส องฺคชาเต อตฺตโน วจฺจมคฺเคน นิสีทนฺโต. อิเม ทฺเว สหวาสิกานํ สีลวินาสนโต อฺเหิ สํวสิตุํ อนรหาติ ปาราชิกาปนฺนสทิสตฺตา วิวชฺชิตา. เตสนฺติ อสํวาสตาสามฺเน จตฺตาโร ปาราชิกาปนฺเน สงฺคณฺหาติ. ‘‘เตสฺจ มคฺเคนมคฺคปฏิปตฺติสามฺเน ปมปาราชิกาปนฺนสฺเสว อนุโลมิกาติ คเหตพฺพา’’ อิจฺเจวํ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. อิมินา จ อกตวีติกฺกมานมฺปิ มุทุปิฏฺิอาทีนํ จตุนฺนํ อนุโลมปาราชิกภาโว วุตฺโตติ วิฺายติ.
สมนฺตปาสาทิกายํ ¶ ปน –
‘‘อปรานิปิ ลมฺพี, มุทุปิฏฺิโก, ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหาติ, ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ อิเมสํ จตุนฺนํ วเสน จตฺตาริ อนุโลมปาราชิกานีติ วทนฺติ. เอตานิ หิ ยสฺมา อุภินฺนํ ราควเสน สทิสภาวูปคตานํ ธมฺโม ‘เมถุนธมฺโม’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา เอเตน ปริยาเยน เมถุนํ ธมฺมํ อปฺปฏิเสวิตฺวาเยว เกวลํ มคฺเคน มคฺคปฺปเวสนวเสน อาปชฺชิตพฺพตฺตา เมถุนธมฺมปาราชิกสฺส อนุโลเมนฺตีติ ‘อนุโลมปาราชิกานี’ติ วุจฺจนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๓) –
วุตฺตตฺตา จ ตพฺพณฺณนาย จ สารตฺถทีปนิยํ –
‘‘ลมฺพํทีฆตาย ปลมฺพมานํ องฺคชาตเมตสฺสาติ ลมฺพี. โส เอตฺตาวตา น ปาราชิโก, อถ โข ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ มุเข ¶ วา วจฺจมคฺเค วา ปเวเสติ, ตทา ปาราชิโก โหติ. มุทุกา ปิฏฺิ เอตสฺสาติ มุทุปิฏฺิโก, กตปริกมฺมาย มุทุกาย ปิฏฺิยา สมนฺนาคโต. โสปิ ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ อตฺตโน มุเข ปเวเสติ ตทา ปาราชิโก โหติ. ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหาตีติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส สุตฺตสฺส วา ปมตฺตสฺส วา องฺคชาตํ อตฺตโน มุเขน คณฺหาติ. ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส องฺคชาตํ กมฺมนิยํ ทิสฺวา อตฺตโน วจฺจมคฺเคน ตสฺสูปริ อภินิสีทติ, ตํ อตฺตโน วจฺจมคฺคํ ปเวเสตีติ อตฺโถ. ลมฺพีอาทโย จตฺตาโร กิฺจาปิ ปมปาราชิเกน สงฺคหิตา, ยสฺมา ปน อุภินฺนํ ราคปริยุฏฺานสงฺขาเตน ปริยาเยน เมถุนํ ธมฺมํ อปฺปฏิเสวิโน โหนฺติ, ตสฺมา วิสุํ วุตฺตา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๒๓๓) –
วุตฺตตฺตา จ กตวีติกฺกมาเยเวเต ‘‘ปาราชิกา’’ติ คเหตพฺพา.
ภิกฺขุนีนฺจ จตฺตารีติ เอตฺถ ‘‘อสาธารณานี’’ติ ปาเสโส, ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนเมว นิยตานิ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา, วชฺชปฏิจฺฉาทิกา, อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา, อฏฺวตฺถุกาติ ¶ จตฺตาริ ปาราชิกานิ จ. วิพฺภนฺตา ภิกฺขุนี สยนฺติ เอตฺถ ‘‘เตสํ อนุโลมิกา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เตสํ จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อนุโลมิกา สยํ วิพฺภนฺตา ภิกฺขุนี จาติ โยชนา. จิตฺตวสิกา หุตฺวา อตฺตนา ¶ นิวตฺถจีวรมฺปิ หิ มาตุคามานํ นิวาสนนีหาเรน สยเมว นิวาเสตฺวา คิหิเวสํ โรเจตฺวา คหิตมตฺเต สาสนโต จุตา ภิกฺขุนี จาติ วุตฺตํ โหติ. เอวํกรเณน คิหิภาวาปนฺนตาสามฺเน สํวาสารหา น โหนฺตีติ อิเมสํ จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อนุโลมิกา ชาตา.
ตถาติ ยถา อิเม ทสฺสิตา เตน อสํวาสารหตาย, ภิกฺขุภาวาย อภพฺพตาย จ ปาราชิกาว, ตถา เอกาทส อภพฺพปุคฺคลาปิ โหนฺตีติ อตฺโถ. เอกาทสาภพฺพาติ มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, สงฺฆเภทโก, โลหิตุปฺปาทโก, ปณฺฑโก, ติรจฺฉานคโต, อุภโตพฺยฺชนโก, เถยฺยสํวาสโก, ภิกฺขุนิทูสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโกติ เอกาทส. สพฺเพเต จตุวีสติ เอเต สพฺเพ จตุวีสติ ปุคฺคลา สโมธานโต เวทิตพฺพาติ อธิปฺปาโย.
๓๒๐. อิเม จตุวีสติ ปาราชิกา ปุคฺคลา สีสจฺฉินฺโนว ชีวิตุํ อิธ ภิกฺขุภาวาย อภพฺพาติ วุตฺตาติ โยชนา.
๓๒๑. อิเมสํ เอกาทสนฺนํ อภพฺพตาย เหตุทสฺสนตฺถมาห ‘‘ปณฺฑโก จา’’ติอาทิ. ปณฺฑโก จาติ อาสิตฺตปณฺฑโก, อุสูยปณฺฑโก, ปกฺขปณฺฑโก, โอปกฺกมิกปณฺฑโก, นปุํสกปณฺฑโกติ วุตฺโต ปฺจวิโธ ปณฺฑโก จ. ติรจฺฉาโนติ ติริยํ อฺฉติ คจฺฉตีติ ‘‘ติรจฺฉาโน’’ติ คหิโต นาคสุปณฺณาทิโก สพฺพติรจฺฉานโยนิโก จ. ยกฺขาทโย สพฺเพ อมนุสฺสาปิ อิธ ติรจฺฉาเนเยว สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา. อุภโตพฺยฺชโนปิ จาติ อิตฺถิปุริสพฺยฺชนสาธเกหิ อุภโต กมฺมโต ชาตานิ ถนาทิกานิ พฺยฺชนานิ ยสฺสาติ นิรุตฺโต อิตฺถิอุภโตพฺยฺชโน ¶ , ปุริสอุภโตพฺยฺชโนติ ทุวิโธ อุภโตพฺยฺชโน จ. วตฺถุวิปนฺนาติ ตพฺภาวภาวิตาย ภิกฺขุภาโว วสติ เอตฺถาติ วตฺถุ, ปุคฺคลานํ ภิกฺขุภาวารหตา, สา ปน ปพฺพชฺชากฺขนฺธกาคตสพฺพโทสวิรหิตคุณสมฺปยุตฺตตา, ตํ วิปนฺนํ ปณฺฑกภาวาทิโยเคน เยสํ เต ‘‘วตฺถุวิปนฺนา’’ติ คเหตพฺพา. หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. ยสฺมา วตฺถุวิปนฺนา, ตสฺมา อิธ อตฺตภาเว ปพฺพชฺชาย อภพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อเหตุปฏิสนฺธิกา’’ติ วจเนน ¶ อิเมสํ วิปากาวรณยุตฺตภาวมาห, อิมินา เอเตสํ มคฺคาธิคมสฺส วาริตภาโว ทสฺสิโตติ เวทิตพฺพํ.
๓๒๒. ปฺจานนฺตริกาติ กมฺมาวรเณน ยุตฺตตาย สคฺคโมกฺขสมฺปตฺติโต ปริหายิตฺวา มรณานนฺตรํ อปายปฏิสนฺธิยํ นิยตา มาตุฆาตกาทโย ปฺจานนฺตริกา จ. เถยฺยสํวาโสปิ จาติ ลิงฺคตฺเถนโก, สํวาสตฺเถนโก, อุภยตฺเถนโกติ ติวิโธ เถยฺยสํวาสโก จ. ทูสโกติ ปกตตฺตาย ภิกฺขุนิยา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ตสฺสา ทูสิตตฺตา ภิกฺขุนึ ทูเสตีติ ‘‘ภิกฺขุนิทูสโก’’ติ วุตฺโต จ. ติตฺถิปกฺกนฺตโก จาติ ติตฺถิยานํ ลทฺธึ, เวสฺจ โรเจตฺวา ตํ คเหตฺวา เตสมนฺตรํ ปวิฏฺโ จ. อิติ อฏฺ ปน กิริยานฏฺาติ โยชนา. อิตีติ อิทมตฺถตฺตา อิเมติ วุตฺตํ โหติ. เต อิเมติ สมฺพนฺโธ. เต อิเม อฏฺ ปน มาตุวธาทิกิริยาย อิหตฺตภาเว ภิกฺขุภาวาย อนรหา หุตฺวา นฏฺาติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา เอกาทสอภพฺพานํ อภพฺพตาย การณํ ทสฺสิตํ โหติ.
๓๒๓. มยา ปาราชิกานํ สารภูโต โย อยํ วินิจฺฉโย วุตฺโต, ตสฺส วินิจฺฉยสฺส อนุสาเรน อนุคมเนน เสโสปิ วินิจฺฉโย พุเธน ปณฺฑิเตน อเสสโตว วิฺาตุํ สกฺกาติ โยชนา.
๓๒๔. ปฏุภาวกเร ¶ ปรเม วิวิเธหิ นเยหิ ยุตฺเต วินยปิฏเก ปรมตฺถนยํ อภิปตฺถยตา อยํ สตตํ ปริยาปุณิตพฺโพติ โยชนา. ตตฺถ วิวิเธหิ นานปฺปกาเรหิ. นเยหีติ นียนฺติ วุตฺตานุสาเรน อุทีริยนฺตีติ ‘‘นยา’’ติ วุตฺเตหิ จกฺกเปยฺยาลาทีหิ นเยหิ. ปรมตฺถนยนฺติ ปรโม จ โส อตฺโถ จาติ ปรมตฺโถ, ปรโม วา วิเสเสน นิจฺฉิตพฺโพ อตฺโถ ปรมตฺโถ, โสเยว วินิจฺฉยตฺถิกานํ พุทฺธิยา เนตพฺโพติ ปรมตฺถนโย, วินิจฺฉยูปาโย นียติ เอเตนาติ กตฺวา ‘‘ปรมตฺถนโย’’ติ วุจฺจติ, ตํ ปรมตฺถนยํ. อภิปตฺถยตาติ วินยปิฏเก วินิจฺฉยํ วา ตทุปายํ วา ปตฺถยตา, อิจฺฉนฺเตนาติ อตฺโถ. ‘‘ปริยาปุณิตพฺโพ อย’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ม-กาโร อาคมสนฺธิโช, โอ-การสฺส อ-การาเทโส. ปริยาปุณิตพฺโพติ ปิตพฺโพ, โสตพฺโพ จินฺเตตพฺโพ ธาเรตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. อยนฺติ วินยวินิจฺฉโย.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
จตุตฺถปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา
๓๒๕. เอวํ ¶ นานานยปฏิมณฺฑิตสฺส ปาราชิกกณฺฑสฺส วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรมุทฺทิฏฺสฺส เตรสกณฺฑสฺส วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โมเจตุกามตา’’ติอาทิ. โมเจตุํ กาเมตีติ โมเจตุกาโม, ตสฺส ภาโว โมเจตุกามตา, ตาย สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ โมเจตุกามตาจิตฺตํ. เอตฺถ ‘‘โมเจตุกามตา’’ติ อิมินา เอกาทสสุ ราเคสุ ‘‘โมจนสฺสาโท’’ติ วุตฺตํ อิมสฺส สงฺฆาทิเสสสฺส มูลการณํ สุกฺกโมจนวิสยํ ราคมาห.
เอกาทส ¶ ราคา นาม ‘‘โมจนสฺสาโท, มุจฺจนสฺสาโท, มุตฺตสฺสาโท, เมถุนสฺสาโท, ผสฺสสฺสาโท, กณฺฑุวนสฺสาโท, ทสฺสนสฺสาโท, นิสชฺชสฺสาโท, วาจสฺสาโท, เคหสฺสิตเปมํ, วนภงฺคิย’’นฺติ เอวมาคตา. อิธ โมจนํ นาม สมฺภวธาตุโมจนํ, ตทตฺถาย ตพฺพิสยราคสมฺปยุตฺตเวทนา โมจนสฺสาโท นาม. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘โมเจตุํ อสฺสาโท โมจนสฺสาโท’’ติ. มุจฺจมาเน อสฺสาโท มุจฺจนสฺสาโท, สมฺภวธาตุมฺหิ มุจฺจมาเน ตํราคสมฺปยุตฺตา เวทนา มุจฺจนสฺสาโท นาม. เอเตเนว นเยน มุตฺตสฺสาทาทิวาจสฺสาทาวสาเนสุ ปเทสุ อตฺถกฺกโม เวทิตพฺโพ. อิเมหิ นวหิ ปเทหิ อสฺสาทสีเสน กุนฺตยฏฺิาเยน ตํสหจริโต ราโค ทสฺสิโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘นวหิ ปเทหิ สมฺปยุตฺตอสฺสาทสีเสน ราโค วุตฺโต’’ติ.
เคหสฺสิตเปมนฺติ เอตฺถ เคหฏฺา มาตุอาทโย อาเธยฺยอาธารโวหาเรน ‘‘เคหา’’ติ วุจฺจนฺติ. ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติอาทีสุ วิย ตนฺนิสฺสิโต สิเนหปริยาโย ราโค ‘‘เคหสฺสิตเปม’’นฺติ วุตฺโต. อิมินา ปเทน ราคสฺส สภาโว สนฺทสฺสิโต. วนโต ภฺชิตฺวา อาภตํ ยํ กิฺจิ ผลปุปฺผาทิ วนภงฺคิยํ นาม. อิธ ปน ราควเสน ปฏิพทฺธจิตฺตํ มาตุคาเมหิ วิรหทุกฺขาปนยนตฺถํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๔๐) เตสํ าเน เปตฺวา ทสฺสนผุสนวเสน วินฺทิตุํ ราคีหิ คเหตพฺพโต เตหิ ปิฬนฺธิตมาลสหิตํ ตมฺพูลนฺติ เอวมาทิ ‘‘วนภงฺคิย’’นฺติ อธิปฺเปตํ. อิมินา ปตฺถิตวิสยโคจโร ราโค ตทายตฺตวตฺถุวเสน สนฺทสฺสิโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอเกน ปเทน สรูเปเนว ราโค, เอเกน ¶ ปเทน วตฺถุนา วุตฺโต. วนภงฺโค หิ ราคสฺส วตฺถุ, น ราโคเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๔๐).
‘‘โมเจตุกามตา’’ติ ¶ อิทเมว อวตฺวา ‘‘จิตฺต’’นฺติ วจเนน วีติกฺกมสาธิกาย กายวิฺตฺติยา สมุฏฺาปกํ ราคสมฺปยุตฺตํ จิตฺตวิเสสํ ทสฺเสติ. เตน จิตฺเตน สมุฏฺาปิยมานํ วิฺตฺติสงฺขาตํ วีติกฺกมํ ‘‘วายาโม’’ติ อิมินา ทสฺเสติ. วายาโม นาม ตํจิตฺตสมฺปยุตฺตวีริยํ. เอตฺถ ปน ‘‘เสมฺโห คุโฬ’’ติอาทีสุ วิย ผเล เหตูปจาราเยน วีติกฺกมสฺส วิเสสเหตุภูตวีริยวาจเกน จ ปเทน วีติกฺกโมว วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. อชฺฌตฺตพาหิรวตฺถุฆฏฺฏนํ, อากาเส กฏิกมฺปนนฺติ สุกฺกโมจนตฺโถ วายาโมติ อตฺโถ. สุกฺกสฺส โมจนํ สุกฺกโมจนํ.
เอตฺถ จ สุกฺกสฺสาติ ‘‘สุกฺกนฺติ ทส สุกฺกานิ นีลํ ปีตกํ โลหิตกํ โอทาตํ ตกฺกวณฺณํ ทกวณฺณํ เตลวณฺณํ ขีรวณฺณํ ทธิวณฺณํ สปฺปิวณฺณ’’นฺติ (ปารา. ๒๓๗) ปทภาชเน วุตฺตานิ สตฺตานํ ปิตฺตาทิอาสยเภเทน, ปถวิธาตุอาทีนํ จตุนฺนํ วา รสโสณิตมํสเมทอฏฺิอฏฺิมิฺชานํ ฉนฺนํ เทหธาตูนํ วา เภเทน อเนกธา ภินฺเน ทสวิเธ สุกฺเก อฺตรสฺส สุกฺกสฺสาติ อตฺโถ. โมจนํ วิสฺสฏฺีติ ปริยายํ, ปกติยา ิตสกฏฺานโต โมจนนฺติ อตฺโถ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘วิสฺสฏฺีติ านโต จาวนา วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗). อิห ‘‘านํ นาม วตฺถิสีสสงฺขาตํ มุตฺตกรณมูล’’นฺติ เกจิ. ‘‘กฏี’’ติ อปเร. ‘‘สกลกาโย’’ติ อฺเ. อิเมสํ ติณฺณํ วจเนสุ ‘‘ตติยสฺส ภาสิตํ สุภาสิต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๗) อฏฺกถายํ ตติยวาทสฺส กตปาสํสตฺตา เกสโลมนขทนฺตานํ มํสวินิมุตฺตฏฺานฺจ มุตฺตกรีสเขฬสิงฺฆาณิกาถทฺธสุกฺขจมฺมฺจ วชฺเชตฺวา อวเสสํ สกลสรีรํ กายปฺปสาทภาวชีวิตินฺทฺริยอพทฺธปิตฺตานํ ¶ วิย สมฺภวธาตุยา จ านนฺติ เวทิตพฺพํ.
‘‘สุกฺกโมจน’’นฺติ อิมินากึ วุตฺตํ โหตีติ? ‘‘อาโรคฺยตฺถาย, สุขตฺถาย, เภสชฺชตฺถาย, ทานตฺถาย, ปฺุตฺถาย, ยฺตฺถาย, สคฺคตฺถาย, พีชตฺถาย, วีมํสตฺถาย, ทวตฺถาย โมเจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗) วุตฺตทสวิธอธิปฺปายนฺโตคธอฺตรอธิปฺปาโย หุตฺวา ‘‘ราคูปตฺถมฺเภ, วจฺจูปตฺถมฺเภ, ปสฺสาวูปตฺถมฺเภ, วาตูปตฺถมฺเภ, อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺูปตฺถมฺเภ โมเจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗) วุตฺตปฺจวิธกาลานมฺตรกาเล ‘‘อชฺฌตฺตรูเป, พหิทฺธารูเป, อชฺฌตฺตพหิทฺธารูเป, อากาเส กฏึ กมฺเปนฺโต โมเจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗) วุตฺตจตุรุปายานมฺตเรน อุปาเยน ยถาวุตฺตราคปิสาจวเสน วิวโส หุตฺวา ยถาวุตฺตนีลาทิทสวิธสมฺภวธาตูนมฺตรํ ยถาวุตฺตฏฺานโต ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ สเจ โมเจตีติ สงฺเขปโต ¶ คเหตพฺพํ. เอตฺถ จ อุจฺจาลิงฺคปาณกา นาม โลมสปาณา, เยสํ โลเม อลฺลิเน องฺคชาตํ กมฺมนิยํ โหติ.
อฺตฺร สุปินนฺเตนาติ สุปิโน เอว สุปินนฺโต, นิสฺสกฺกวจนปฺปสงฺเค กรณวจนโต สุปินนฺตาติ อตฺโถ. สุปินา นาม ‘‘วาตาทิธาตุกฺโขภวเสน วา ปุพฺพานุภูตอิตฺถิรูปาทิวิสยวเสน วา อิฏฺานิฏฺเทวตานุภาเวน วา ปฺุเน ปฏิลภิตพฺพอตฺถสฺส, อปฺุเน ปตฺตพฺพานตฺถสฺส จ ปุพฺพนิมิตฺตวเสน วา โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๗) วุตฺเตสุ จตูสุ การเณสุ เอเกน การเณน กปินิทฺทาย สุปิเน ทิสฺสมานารมฺมณโต ยํ สุกฺกโมจนํ โหติ, ตํ อวิสยํ สุกฺกโมจนํ วินาติ วุตฺตํ โหติ.
สงฺฆาทิเสโสว สงฺฆาทิเสสตา. สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาตุกามสฺส กุลปุตฺตสฺส อาทิมฺหิ ปริวาสทานตฺถํ ¶ , มชฺเฌ จ มูลายปฏิกสฺสเนน วินา วา สห วา มานตฺตทานตฺถํ, อวสาเน อพฺภานตฺถฺจ สงฺโฆ เอสิตพฺโพติ ‘‘สงฺโฆ อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสาติ สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๗; กงฺขา. อฏฺ. สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตตฺตา สงฺฆาทิเสสา นาม, สุกฺกวิสฺสฏฺิสงฺฆาทิเสสาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘สงฺโฆว ตสฺสา อาปตฺติยา ปริวาสํ เทติ, มูลาย ปฏิกสฺสติ, มานตฺตํ เทติ, อพฺเภติ, น สมฺพหุลา, น เอกปุคฺคโล, เตน วุจฺจติ ‘สงฺฆาทิเสโส’ติ. ตสฺเสว อาปตฺตินิกายสฺส นามํ นามกมฺมํ อธิวจนํ, เตนปิ วุจฺจติ ‘สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปารา. ๒๓๗). เอตฺถ จ ปริวาสาทิกถา สงฺฆาทิเสสาวสาเน อาคตฏฺาเนเยว อาวิ ภวิสฺสติ.
๓๒๖. เอตฺตาวตา มูลสิกฺขาปทาคตํ อตฺตูปกฺกมมูลกํ อาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อิมิสฺสา สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา ปรูปกฺกเมนปิ อาปชฺชนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปเรนา’’ติอาทิ. อุปกฺกมาเปตฺวาติ องฺคชาตสฺส คหณํ วา ฆฏฺฏนํ วา กาเรตฺวา.
๓๒๗. สฺจิจฺจาติ ‘‘อุปกฺกมามิ โมเจสฺสามี’’ติ เจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา. อุปกฺกมนฺตสฺสาติ อชฺฌตฺตรูปาทีสุ ตีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ฆฏฺเฏนฺตสฺส. สมุทฺทิฏฺนฺติ ‘‘เจเตติ อุปกฺกมติ น มุจฺจติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๖๒) ปทภาชเน ภควตา วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
๓๒๘. อิมิสฺสํ ¶ คาถายํ ‘‘อตฺตโน องฺคชาตํ อุปกฺกมนฺตสฺสา’’ติ อิมินา อชฺฌตฺตรูเป วา พหิทฺธารูเป วา อชฺฌตฺตพหิทฺธารูเป วา อตฺตโน องฺคชาตํ ฆฏฺเฏนฺตสฺสาติ อิมสฺส อตฺถสฺส วุตฺตตฺตา ¶ องฺคชาตฆฏฺฏเนน วินาภาวโต อิมินา อสงฺคยฺหมานสฺสาปิ อากาเส กฏิกมฺปเนน สุกฺกโมจเน สงฺฆาทิเสสสฺส ปมคาถายํ ‘‘วายาโม’’ติ สามฺวจเนน สงฺคหิตตฺตา ตํ เปตฺวา ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน โมจนาธิปฺปายสฺส อากาเส กฏึ กมฺเปนฺตสฺส อสุจิ มุจฺจิ…เป… อสุจิ น มุจฺจิ. ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป… อนาปตฺติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ อากาเสกฏิกมฺปนวตฺถุมฺหิ วุตฺตตฺตา อมุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ สงฺคเหตุมาห ‘‘สฺจิจฺจา’’ติอาทิ.
ตตฺถ สฺจิจฺจาติ ‘‘อุปกฺกมามิ โมเจสฺสามี’’ติ ชานิตฺวา สฺชานิตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘อุปกฺกมนฺตสฺสา’’ติ สามฺโต ตํ วิเสเสตุํ ‘‘อากาเส กมฺปเนนปี’’ติ อาห, กฏิกมฺปเนนาติ คเหตพฺพํ. กถมิทํ ลพฺภตีติ เจ? อิมาย กถาย สงฺคเหตพฺพวตฺถุมฺหิ ‘‘อากาเส กฏึ กมฺเปนฺตสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๖๖) ปาเ ‘‘กฏึ กมฺเปนฺตสฺสา’’ติ วจนสหจรสฺส ‘‘อากาเส’’ติ วจนสฺส สนฺนิธานพเลน ลพฺภติ อตฺถปฺปกรณสทฺทนฺตรสนฺนิธานา สทฺทานํ วิเสสตฺถทีปนโต.
๓๒๙. วตฺถินฺติ มุตฺตวตฺถึ, มุตฺตกรณสฺส วตฺถินฺติ อตฺโถ. กีฬาย ปูเรตฺวาติ คามทารโก วิย กีฬิตุกามตาย มุตฺตวตฺถึ ทฬฺหํ คเหตฺวา ปูเรตฺวาติ อตฺโถ. ยถาห วตฺถิวตฺถุมฺหิ อฏฺกถายํ ‘‘เต ภิกฺขู วตฺถึ ทฬฺหํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา ปูเรตฺวา วิสฺสชฺเชนฺตา คามทารกาวิย ปสฺสาวมกํสู’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๖๔). ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ สามฺเน กสฺมา วุตฺตนฺติ? ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ วุตฺตนเยน โมจนาธิปฺปาเยน ทฬฺหํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา ปูเรตฺวา วิสฺสชฺเชนฺตสฺส สุกฺเก มุตฺเต โมจนาธิปฺปาโย เจเตติ, อุปกฺกมติ, มุจฺจตีติ องฺคานํ สมฺปนฺนตฺตา สงฺฆาทิเสสสฺส ¶ , อมุตฺเต ถุลฺลจฺจยสฺส สมฺภวโต อุภยสงฺคหตฺถมาห.
๓๓๐. อุปนิชฺฌายนวตฺถุมฺหิ ‘‘น จ ภิกฺขเว สารตฺเตน มาตุคามสฺส องฺคชาตํ อุปนิชฺฌายิตพฺพํ, โย อุปนิชฺฌาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๖๖) ปาฬิยํ ‘‘มาตุคามสฺสา’’ติ สามฺเน วุตฺตตฺตา ‘‘ติสฺสนฺน’’นฺติ วทติ. ติสฺสนฺนํ ปน อิตฺถีนนฺติ มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคตวเสน ติสฺสนฺนํ อิตฺถีนํ. ‘‘องฺคชาต’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ ¶ มุตฺตกรณเมว วุจฺจติ, ปฏสเตนาปิ ปฏิจฺฉาทิตํ วา อปฺปฏิจฺฉาทิตํ วา โยนิมคฺคนฺติ อตฺโถ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจปิ ปฏสตํ นิวตฺถา โหติ, ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ตฺวา ‘อิมสฺมึ นาม โอกาเส นิมิตฺต’นฺติ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. อนิวตฺถานํ คามทาริกานํ นิมิตฺตํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ปน กิเมว วตฺตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๖๖). ปุรโต วาติ เอตฺถ ‘‘ตฺวา’’ติ ปาเสโส.
๓๓๑. เอเกน…เป… ปสฺสโต เอกํ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เอเกน ปโยเคน เอกํ ทุกฺกฏ’’นฺติ วจนโต อเนเกหิ ปโยเคหิ อเนกานิ ทุกฺกฏานีติ พฺยติเรกโต ลพฺภติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อิโต จิโต จ วิโลเกตฺวา ปุนปฺปุนํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๖๖). อิมิสฺสา อฏฺกถาย ‘‘อิโต จิโต จา’’ติ วุตฺตตฺตา อุมฺมีลนนิมีลนนฺติ เอตฺถ ‘‘วิวิธา ตํ อโนโลเกตฺวา ตเมว โอโลเกนฺตสฺสา’’ติ ลพฺภติ.
๓๓๒. อโมจนาธิปฺปายสฺส มุตฺตสฺมึ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. โมจนาธิปฺปายํ วินา เภสชฺชกรณตฺถํ สุทฺธจิตฺเตน องฺคชาเต เภสชฺชเลปํ กโรนฺตสฺส วา สุทฺธจิตฺเตเนว อุจฺจารปสฺสาวาทึ กโรนฺตสฺส วา มุตฺเตปิ อนาปตฺตีติ ¶ อิทํ ‘‘อนาปตฺติ สุปินนฺเตน นโมจนาธิปฺปายสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๒๖๓) นเยน อนาปตฺติวาเร วุตฺตเมวาติ อตฺโถ.
อิมสฺมึ ปาเ ‘‘อนุปกฺกมนฺตสฺสา’’ติ อวุตฺเตปิ อิมสฺส ปาสฺส ปุรโต ‘‘เจเตติ น อุปกฺกมติ มุจฺจติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. ๒๖๒) จ ‘‘น เจเตติ น อุปกฺกมติ มุจฺจติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. ๒๖๒) จ วจนโต ตํ สงฺคเหตุมาห ‘‘อนุปกฺกมโตปิ จ มุตฺตสฺมึ อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ. โมจนสฺสาทราเคน ปีฬิโต หุตฺวา ‘‘อโห วต เม มุจฺเจยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา วา เอวรูปโมจนสฺสาทราคปีฬาปุพฺพงฺคมจิตฺเต อสติปิ เกวลํ กามวิตกฺกมตฺเตน อุปหโต หุตฺวา ตาทิสอชฺฌตฺติกพาหิรวตฺถูสุ ฆฏฺฏนวเสน วา อากาเส กฏิกมฺปนวเสน วา อุปกฺกมํ อกโรนฺตสฺส ตาทิสจินฺตาพเลน วา กามวิตกฺกพเลน วา สุกฺเก มุตฺเตปิ อนาปตฺตีติ อิทํ ยถาวุตฺตปาวเสน ปกาสิตนฺติ อตฺโถ.
สุปินนฺเตน มุตฺตสฺมึ, อนาปตฺติ ปกาสิตาติ เอตฺถ อนฺตสทฺทตฺถาภาวโต สุปิเนติ อตฺโถ. สุปิเน เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส วา มาตุคาเมหิ กายสํสคฺคํ อาปชฺชนฺตสฺส วา สุกฺเก มุตฺเตปิ ¶ อวิสยตฺตา อนาปตฺติ ปาฬิยํ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ สุปินนฺเตนา’’ติ (ปารา. ๒๖๓) อิมินา ปกาสิตาติ อตฺโถ.
เอตฺถ ตฺวา อฏฺกถายํ ‘‘สุปิเน ปน อุปฺปนฺนาย อสฺสาทเจตนาย สจสฺส วิสโย โหติ, นิจฺจเลน ภวิตพฺพํ. น หตฺเถน นิมิตฺตํ กีฬาเปตพฺพํ. กาสาวปจฺจตฺถรณรกฺขนตฺถํ ปน หตฺถปุเฏน คเหตฺวา ชคฺคนตฺถาย อุทกฏฺานํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๖๒) วุตฺตตฺตา อณฺฑปาลิกา กิกีสกุณา วิย, วาลปาลิกา จมรี วิย, เอกเนตฺตปาลโก ปุริโส วิย จ กายชีวิเตปิ อเปกฺขํ ปหาย สีลํ ¶ รกฺขิตุกาเมน สิกฺขากาเมน นิพฺพานคามินิปฏิปตฺตึ ปูเรตุกาเมน กุลปุตฺเตน ‘‘อฺตฺร สุปินนฺตา’’ติ (ปารา. ๒๓๗) วทโต ตถาคตสฺส อธิปฺปายานุกูลํ อฏฺกถาโต ตฺวา อปฺปมตฺเตน ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ อยมตฺรานุสาสนี.
สุกฺกวิสฺสฏฺิกถาวณฺณนา.
๓๓๓. มนุสฺสิตฺถินฺติ มนุสฺสชาติกํ อิตฺถึ, ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, อนฺตมโส ตทหุชาตาปิ ทาริกา, ปเคว มหตฺตรี’’ติ (ปารา. ๒๗๑) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา ตทหุชาตกุมาริกาภาเวนปิ ิตํ ชีวมานกมนุสฺสมาตุคามนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘มนุสฺสิตฺถิ’’นฺติ สามฺวจเนน ชีวมานกมนุสฺสิตฺถินฺติ อยํ วิเสโส กุโต ลพฺภตีติ? วินีตวตฺถุมฺหิ (ปารา. ๒๘๑ อาทโย) มติตฺถิยา กายํ ผุสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยวจนโต ปาริเสสโต ลพฺภติ. อามสนฺโตติ ‘‘หตฺถคฺคาหํ วา เวณิคฺคาหํ วา อฺตรสฺส วา อฺตรสฺส วา องฺคสฺส ปรามสน’’นฺติ (ปารา. ๒๗๐) วุตฺตตฺตา หตฺถาทิองฺคปจฺจงฺคผุสนาทินานปฺปการานํ อฺตเรน ปกาเรน อามสนฺโตติ อตฺโถ. อตฺตโน กาเยน อิตฺถิยา กายสฺส สํสคฺเค มิสฺสีภาเว ราโค กายสํสคฺคราโค. สงฺฆาทิเสโส เอตสฺส อตฺถีติ สงฺฆาทิเสสิโก, กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสโส อาปนฺโน โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๓๓๔. กายสํสคฺคราเคน อิตฺถิยา อนฺตมโส โลมมฺปิ อตฺตโน สรีเร โลเมน ผุสนฺตสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆาทิเสสาปตฺติ โหตีติ โยชนา. เอตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๗๔) ‘‘โลมคณนาย สงฺฆาทิเสสา โหนฺตี’’ติ กุรุนฺทฏฺกถามตสฺส อฏฺิตตฺตา ¶ , ‘‘โกฏฺาสคณนาย น โหติ, อิตฺถิคณนาย โหตี’’ติ มหาอฏฺกถามตสฺส ิตตฺตา สงฺฆสนฺตเก มฺจปีเ ปจฺจตฺถรณาทินา เกนจิ ¶ อปฺปฏิจฺฉาทิเต ผุสนฺตสฺส วิย โลมคณนาย อหุตฺวา ผุฏฺโลมานํ พหุตฺเตปิ เอกสฺมึ ปโยเค เอกา เอว อาปตฺติ, พหูสุ ปโยเคสุ ปโยคคณนาย อาปตฺติโย โหนฺตีติ สนฺนิฏฺานํ.
๓๓๕. อิตฺถิยาติ มนุสฺสิตฺถิยา. สมฺผุฏฺโติ หตฺถาทิสรีราวยเว สํสคฺคํ สมาปนฺโน. เสวนเจตโน วายมิตฺวา กายสํสคฺคราเคน อตฺตโน กายํ จาเลตฺวาติ อตฺโถ. สงฺฆาทิเสสตาติ เอตฺถ สกตฺเถ ตทฺธิตปฺปจฺจโย. ‘‘สงฺฆาทิเสสิตา’’ติ ปน ปาโ สุนฺทโร, สงฺฆาทิเสสสฺส อตฺถิตา วิชฺชมานภาโวติ อตฺโถ. สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา สพฺภาวสงฺขาตา อตฺถิตา อีปจฺจยตฺเถ ปุคฺคเล สงฺฆาทิเสสีสทฺทปวตฺตินิมิตฺตํ โหตีติ ภาวปจฺจโย ตํอตฺถวเสน ลพฺภติ. ยถาหุ ‘‘ยสฺส คุณสฺส หิ ภาวา ทพฺเพ สทฺทสนฺนิเวโส, ตทภิธาเน ตฺตตาทโย’’ติ.
๓๓๖. เอเกน หตฺเถน คเหตฺวาติ (กงฺขา. อฏฺ. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา) เอตฺถ ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘มนุสฺสิตฺถิ’’นฺติ อชฺฌาหาโร. ตํ มนุสฺสิตฺถึ. ตตฺถ ตตฺถาติ อิตฺถิยา ตสฺมึ ตสฺมึ สรีราวยเว. ‘‘เอกาวาปตฺตี’’ติ ปมํ คหิตหตฺถสฺส อนปนีตตฺตา วุตฺตํ. คหิตหตฺถํ ปน โมเจตฺวา ปุนปฺปุนํ ผุสนฺตสฺส ปโยคคณนาย อาปตฺติ โหตีติ พฺยติเรกโต ลพฺภติ.
๓๓๗. เอเกน หตฺเถน อคฺคเหตฺวา สีสโต ยาว ปาทํ, ปาทโต ยาว สีสฺจ กายา หตฺถํ อโมเจตฺวา ทิวสมฺปิ ตํ อิตฺถึ ผุสนฺตสฺส เอกาวาปตฺตีติ โยชนา. เอตฺถาปิ ‘‘อโมเจตฺวา’’ติ ¶ พฺยติเรกโต โมเจตฺวา ผุสนฺตสฺส ปโยคคณนาย อเนกาปตฺติโยติ ลพฺภติ.
๓๓๘. เอกโต คหิตปฺจงฺคุลีนํ คณนาย สเจ อาปตฺติ สิยา, เอกสฺส มาตุคามสฺส สรีรํ ราคจิตฺเตน ผุสนฺตสฺส ทฺวตฺตึสกลาปโกฏฺาสโต พฺยติเรกสฺส สรีรสฺสาภาวา ทฺวตฺตึสกลาปโกฏฺาสคณนาย อาปตฺติยา ภวิตพฺพํ, ตถา อภาวโต อิทมฺปิ น โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘น หิ โกฏฺาสโต สิยา’’ติ อาห.
๓๔๐-๑. อิตฺถิยา วิมติสฺสาปิ อตฺตโน กาเยน อิตฺถิยา กายํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา, อิตฺถิยา ปณฺฑกาทิสฺิโนปิ อตฺตโนปิ กาเยน ¶ อิตฺถิยา กายํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา. อาทิ-สทฺเทน ปุริสติรจฺฉานคตานํ สงฺคโห. อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน อตฺตโน กาเยน อิตฺถิยา กายสมฺพทฺธํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา. ปณฺฑเก ปณฺฑกสฺิโน อตฺตโน กาเยน ปณฺฑกสฺส กายํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา. ยกฺขิเปตีสุ ยกฺขิเปติสฺิโน อตฺตโน กาเยน ตาสํ กายํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยาติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘ปณฺฑกคฺคหเณน อุภโตพฺยฺชนโกปิ คยฺหตี’’ติ วชิรพุทฺธิฏีกายํ วุตฺตํ. ‘‘อิตฺถิยา เวมติกสฺสาปิ ปณฺฑกาทิสฺิโนปิ อตฺตโน กาเยน อิตฺถิยา กายสมฺพทฺธํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา’’ติ น โยเชตพฺพํ. กสฺมา? ตถา โยชนายํ ปาฬิยํ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, น ถุลฺลจฺจยนฺติ อนิฏฺปฺปสงฺคโต.
‘‘ทุกฺกฏํ กายสํสคฺเค, ติรจฺฉานคติตฺถิยา’’ติ อิมินา วินีตวตฺถุมฺหิ อาคตนเย สงฺคหิเตปิ เตเนว นเยน ปณฺฑเก ¶ วิมติอิตฺถิสฺิตาทิอฺมติปกฺเข จ ปุริสติรจฺฉานคเตสุ ปุริสติรจฺฉานคตสฺิวิมติปณฺฑกาทิอฺมติปกฺเข จ อิติ อิเมสํ ติณฺณํ กายปฏิพทฺธามสนาทีสุ จ ปทภาชเน วุตฺตสพฺพทุกฺกฏาปตฺติโย อุปลกฺขิตาติ ทฏฺพฺพํ.
๓๔๒. อตฺตโน กาเยน ปฏิพทฺเธน อิตฺถิยา กาเยน ปฏิพทฺธํ ผุสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปน ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เอตฺถ ปิ-สทฺโท วุตฺตทุกฺกฏานํ สมุจฺจยตฺโถ. จ-สทฺเทน ปน อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน ‘‘นิสฺสคฺคิเยน กายํ อามสติ. นิสฺสคฺคิเยน กายปฏิพทฺธํ อามสติ. นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๗๖) ปาฬิยํ อาคตทุกฺกฏานํ สงฺคโห เวทิตพฺโพ.
๓๔๓-๔. น เกวลํ ปทภาชนาคตอิตฺถิสรีราทิกเมว อนามาสํ, วินีตวตฺถูสุ ทารุธีตลิกวตฺถุอนุโลมโต โปตฺถลิกาทิอิตฺถิรูปกฺจ นิสฺสคฺคิยวารานุโลมโต อสรีรฏฺํ มาตุคาเมหิ ปริภุตฺตวตฺถาภรณาทิฺจ วิภงฺคกฺขนฺธกาทีสุ วุตฺตนยานุสาเรน อฏฺกถาคตํ อวเสสํ อนามาสวตฺถฺุจ อามสนฺตสฺส อาปตฺตึ สงฺคเหตุมาห ‘‘อิตฺถีน’’นฺติอาทิ.
‘‘อิตฺถีนํ อิตฺถิรูปฺจา’’ติ อิทํ ‘‘อิตฺถิกาย อิตฺถิธนํ (ปารา. ๓๔), สทฺธานํ สทฺธาปรายน’’นฺติอาทีสุ วิย โลกโวหารวเสน วุตฺตํ. อิตฺถีนํ ทารุโลหมยาทิกํ อิตฺถิรูปฺจาติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน เหฏฺิมปริจฺเฉทโต มตฺติกาย, ปิฏฺเน วา กตํ มาตุคามรูปํ สงฺคณฺหาติ. มาตุคามรูปํ เยน เกนจิ ทินฺนํ สพฺพรตนมยํ วินา อวเสสํ สาทิยิตฺวา ¶ ภินฺทิตฺวา ¶ สมณสารุปฺปปริกฺขารํ การาเปตุํ, อผุสิตฺวา ปริภฺุชิตพฺเพ วา โยเชตุํ วฏฺฏติ.
‘‘วตฺถ’’นฺติ อิมินา นิวาสนปารุปนทฺวยมฺปิ สามฺเน คหิตํ. อิทฺจ มาตุคาเมน ปริภฺุชิตุํ ปิตมฺปิ อนามาสเมว, จีวรตฺถาย ทินฺนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ติณจุมฺพฏกํ, องฺคุลิยา ปณฺณมุทฺทิกํ อุปาทาย อลงฺการเมว. เอตฺถ จ วาลเกสวฏฺฏเกเสสุ ปเวสนกทนฺตสูจิอาทิ กปฺปิยภณฺฑํ ทิยฺยมานํ สมณสารุปฺปปริกฺขารตฺถาย คเหตพฺพํ.
ตตฺถชาตผลํ ขชฺชนฺติ รุกฺเข ิตํ ขาทิตพฺพํ ปนสนาฬิเกราทิผลฺจ มนุสฺเสหิ ราสิกตํ ปริภฺุชิตพฺพผลฺจ ‘‘มนุสฺเสหิ ราสิกเตสุปิ เอเสว นโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อนามาสนฺติ อุปลกฺขณโต อิมินาว คเหตพฺพํ. อรฺเ รุกฺขโต ปติตํ ผลํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทสฺสามี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. ‘‘มุคฺคาทึ ตตฺถชาตก’’นฺติ อุปลกฺขณปทตฺตา คจฺฉโต วิยุตฺตมฺปิ คเหตพฺพํ. มุคฺคาทินฺติ เอตฺถ ‘‘อปรณฺณ’’นฺติ ปาเสโส.
สพฺพานิ ธฺานีติ ‘‘สาลิ วีหิ ยโว กงฺคุ, กุทฺรูสวรกโคธุมา’’ติ วุตฺตานิ สตฺต ธฺานิ. เขตฺตมคฺเคน คจฺฉตา สาลิสีเส หตฺเถน อผุสนฺเตน คนฺตพฺพํ. สเจ มคฺโค สมฺพาโธ โหติ, สรีเร ธฺํ ผุสนฺเตปิ มคฺคตฺตา น โทโส. วีถิยํ, เคหงฺคเณ วา ธฺเสุ ปสาริเตสุ อปสกฺกิตฺวา เจ คนฺตุํ น สกฺกา, ‘‘มคฺคํ อธิฏฺาย คนฺตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) อฏฺกถาวจนโต ‘‘อิมํ มคฺคํ คมิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘กุลเคเห ธฺมตฺถเก เจ อาสนํ ปฺาเปตฺวา ทินฺนํ โหติ, นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑ อตฺถโต สมานํ) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ‘‘อาสนสาลายํ ธฺเ วิปฺปกิณฺเณ อนุกฺกมิตฺวา เอกมนฺเต ปีกํ ปฺาเปตฺวา ¶ นิสีทิตพฺพํ. สเจ มนุสฺสา ตสฺมึ ธฺมตฺถเก อาสนํ ปฺาเปตฺวา เทนฺติ, นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑ อตฺถโต สมานํ) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อตฺตนา ตตฺถ อาสนํ ปฺาเปตฺวา นิสีทิตุํ น วฏฺฏติ.
๓๔๕. ธมนสงฺขาทึ สพฺพํ ปฺจงฺคตุริยมฺปิ จาติ สมฺพนฺโธ. ธมนสงฺโข นาม สทฺทกรณสงฺโข ¶ . อาทิ-สทฺเทน วํสสิงฺคตาฬาทีนํ สงฺคโห. ปฺจงฺคตุริยนฺติ อาตตํ, วิตตํ, อาตตวิตตํ, ฆนํ, สุสิรนฺติ ปฺจงฺคสงฺขาตํ ตุริยํ. ตตฺถ อาตตํ นาม จมฺมปริโยนทฺเธสุ เภริอาทีสุ เอกโต อากฑฺฒิตฺวา โอนทฺธํ เอกตลตุริยํ. วิตตํ นาม อุภโต อากฑฺฒิตฺวา โอนทฺธํ อุภยตลตุริยํ. อาตตวิตตํ นาม อุภยโต จ มชฺฌโต จ สพฺพโต ปริโยนนฺธิตํ. ฆนํ สมฺมาทิ. สมฺมนฺติ ตาฬํ, ฆณฺฏากิงฺกณิอาทีนมฺปิ เอตฺเถว สงฺคโห. สุสิรนฺติ วํสาทิ.
อิธ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เภริโปกฺขรฺจ เภริตลจมฺมฺจ วีณา จ วีณาโปกฺขรจมฺมฺจ ทณฺโฑ จ อนามาสํ. ‘‘ปูชํ กตฺวา เจติยงฺคณาทีสุ ปิตเภริโย อจาเลนฺเตน อวเสสฏฺานํ สมฺมชฺชิตพฺพํ. กจวรฉฑฺฑนกาเล กจวรํ วิย คเหตฺวา เอกสฺมึ าเน เปตพฺพ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ตุริยภณฺเฑสุ ยํ กิฺจิ อตฺตโน ทียมานํ ตํ ปริวตฺเตตฺวา กปฺปิยปริกฺขารํ คเหตุํ อธิวาเสตพฺพํ. โทณิ วา โปกฺขรํ วา ทนฺตกฏฺนิกฺขิปนตฺถาย, จมฺมฺจ สตฺถโกสกรณตฺถาย คเหตพฺพํ.
รตนานิ จ สพฺพานีติ มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโก มสารคลฺลนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) วุตฺตานิ สพฺพานิ รตนานิ จ. เอตฺถ จ วิทฺธา, อวิทฺธา วา สามุทฺทิกาที สพฺพาปิ มุตฺตา อนามาสา. ภณฺฑมูลตฺถฺจ คณฺหิตุํ ¶ น วฏฺฏติ. อนฺตมโส ชาติผลิกํ อุปาทาย นีลปีตาทิเภโท สพฺโพปิ มณิ โธตวิทฺโธ อนามาโส. อาหตากาเรเนว ิโต อวิทฺธาโธโต มณิ ปตฺตาทิ ภณฺฑมูลตฺถํ อธิวาเสตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน ปฏิกฺขิตฺตํ. ปจิตฺวา กโต กาจมณิเยเวโก วฏฺฏติ. เวฬุริเย จ มณิสทิโสเยว วินิจฺฉโย.
ธมนสงฺโข ‘‘สพฺพํ ธมนสงฺขาทิ’’นฺติอาทิคาถาย ตุริเยสุ คหิโต. รตนขจิโต สงฺโข อนามาโส. ปานียสงฺโข โธโตปิ อโธโตปิ อามาโส. อวเสสสงฺโข ปน อฺชนาทิเภสชฺชตฺถํ, ปตฺตาทิภณฺฑมูลภาเวน จ อธิวาเสตุํ วฏฺฏติ. สุวณฺเณน เอกโต วิลิยาเปตฺวา กตา มุคฺควณฺณา สิลา อนามาสา. เสสา สิลา ขุทฺทกนิสานาทิกมฺมตฺถํ อธิวาเสตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ปวาฬํ โธตมโธตฺจ วิทฺธมวิทฺธฺจ สพฺพถา อนามาสํ, นาปิ อธิวาเสตพฺพ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตตฺตา ปวาฬปฏิมาเจติยานิ เจว โปตฺถเกสุ ปเวเสตพฺพอาณิยา ¶ มูเล, อคฺเคจ ปเวเสตพฺพํ ปทุมาทิอากาเรน กตํ วฏฺฏฺจ น คเหตพฺพํ น ผุสิตพฺพํ.
พีชโต ปฏฺาย รชตํ, ชาตรูปฺจ กตํ วา โหตุ อกตํ วา, สพฺพโส อนามาสํ, น จ สาทิตพฺพํ. อิมินา กตํ ปฏิมาทิกฺจ อารกูฏโลหฺจ อนามาสนฺติ วกฺขติ. กตากตสุวณฺณรชตานํ อสาทิยิตพฺพตาย อิธ อฏฺกถาย อาคตตฺตา อุตฺตเรน ราชปุตฺเตน กาเรตฺวา อาหฏํ สุวณฺณเจติยํ น วฏฺฏตีติ มหาปทุมตฺเถเรน ปฏิกฺขิตฺตนฺติ สุวณฺณปฏิมาเจติยโปตฺถกาวจฺฉาทกมณิปทุมวฏฺฏาทิ ยํ กิฺจิ น สาทิตพฺพเมว, น จ อามสิตพฺพํ. เอเตน กตํ เสนาสโนปกรณํ ปน ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ธมฺมมณฺฑเป กตมฺปิ ¶ ปฏิชคฺคิตุํ วฏฺฏติ. โลหิตวณฺโณ มณิ, มสารคลฺลมณิ จ สพฺพถา อนามาโส, น จ อธิวาเสตพฺโพติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.
๓๔๖. สพฺพมาวุธภณฺฑนฺติ ขคฺคาทิ สพฺพํ อาวุโธปกรณํ ปตฺตาทิกปฺปิยปริกฺขารมูลตฺถาย ทียมานํ สตฺถวาณิชาย อกาตพฺพตฺตา น คเหตพฺพํ, ‘‘อิมํ คณฺหถา’’ติ ทินฺนํ ภินฺทิตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กตฺวา ‘‘ขุราทิกปฺปิยปริกฺขารํ กาเรสฺสามี’’ติ สาทิตุํ วฏฺฏติ. สงฺคามภูมิยํ มคฺเค ปติตขคฺคาทึ ทิสฺวา ปาสาเณน ภินฺทิตฺวา ‘‘ขุราทิกปฺปิยภณฺฑานิ กาเรสฺสามี’’ติ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. อุสุสตฺติอาทิกํ ผลโต ทณฺฑํ อปเนตฺวา กปฺปิยปริกฺขารการาปนตฺถาย คเหตพฺพํ.
ชิยาติ ธนุคุโณ. จ-กาเรน อิมิสฺสา คาถาย อวุตฺตํ องฺกุสโตมราทึ ปรหึ โสปกรณํ สงฺคณฺหาติ. ธนุทณฺฑโกติ ชิยาวิรหิโต ธนุทณฺฑโก. อิทํ ปรหึโสปกรณภณฺฑาทิกํ วิหาเร สมฺมชฺชิตพฺพฏฺาเน ปิตํ เจ, สามิกานํ วตฺวา เตหิ อคฺคหิตํ เจ, อจาเลนฺเตน สมฺมชฺชิตพฺพํ.
ชาลฺจาติ มจฺฉชาลปกฺขิชาลาทิชาลฺจ. ชาลํ ทียมานํ ฉตฺตเวนตฺถํ, อาสนเจติยาทิมตฺถเก พนฺธนาทิปโยชเน สติ ตทตฺถฺจ คเหตพฺพํ. สรวารณํ นาม ผลกาทิกํ อฺเหิ อตฺตโน วิชฺฌนตฺถาย วิสฺสฏฺสรนิวารณํ วินาสโนปโรธการณํ โหตีติ ภณฺฑมูลตฺถํ สาทิตุํ ¶ วฏฺฏติ. ‘‘ทนฺตกฏฺาธารผลกาทิ ยทิจฺฉิตํ กโรมี’’ติ มุฏฺึ อปเนตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ.
๓๔๗. เจติยนฺติ เอตฺถ ‘‘สุวณฺณเจติย’’นฺติ อิทํ ‘‘สุวณฺณปฏิพิมฺพาที’’ติ อนนฺตรํ วุตฺตตฺตา ลพฺภติ. สุวณฺณคฺคหณฺจุปลกฺขณนฺติ รชตมยฺจ คเหตพฺพํ. อารกูฏกนฺติ สุวณฺณวณฺณํ โลหวิเสสมาห ¶ . ‘‘อนามาส’’นฺติ อิทํ ‘‘อสมฺปฏิจฺฉิยํ วา’’ติ เอตสฺส อุปลกฺขณํ.
๓๔๘. สพฺพํ วาทิตมิติ สมฺพนฺโธ. โอนหิตุนฺติ จมฺมวรตฺตตนฺตีหิ พนฺธิตุํ. โอนหาเปตุนฺติ ตเถว อฺเหิ การาเปตุํ. วาทาเปตุนฺติ อฺเหิ วาทาเปตุํ. วาเทตุนฺติ อตฺตนา วาเทตุํ. วาทิตนฺติ วาทนียํ ยถา ‘‘กรณียํ การิต’’นฺติ, วาทนารหํ ตุริยภณฺฑนฺติ อตฺโถ. อิทฺจ โอนหนาทิกิริยาย กมฺมํ.
๓๔๙. อุปหารํ กริสฺสามาติ ปูชํ กริสฺสาม. อิติ อนุมติคฺคหณตฺถาย. วตฺตพฺพาติ เต วตฺตาโร วตฺตพฺพาติ โยชนา.
๓๕๐-๑. ธุตฺติยา อิตฺถิยาติ วิปนฺนาจาราย โลฬิตฺถิยา. สยํ ผุสิยมานสฺสาติ ภิกฺขุโน ปโยคํ วินา อิตฺถิยา อตฺตนาว ผุสิยมานสฺส. กาเยน อวายมิตฺวาติ ตสฺสา สรีรสมฺผสฺสานุภวนตฺถํ อตฺตโน กายํ อจาเลตฺวา. ผสฺสํ ปฏิวิชานโตติ ผสฺสํ อนุภวนฺตสฺส.
อสฺจิจฺจาติ เอตฺถ ‘‘ผุสเน’’ติ ปาเสโส, ‘‘อิมินา อุปาเยน อิมํ ผุสามี’’ติ อเจเตตฺวา. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘อิมินา ปตฺตปฏิคฺคหณาทินา อุปาเยน เอติสฺสา สรีรสมฺผสฺสํ อนุภวิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ปตฺตถาลกตฏฺฏกปณฺณปุฏเภสชฺชาทึ ปฏิคฺคณฺหาเปนฺติยา หตฺเถ อตฺตโน หตฺเถน ผุสนาทีสุ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อสฺสติยา’’ติ อิทํ ปน อิมินาว สงฺคหิตตฺตา อิธ วิสุํ น วุตฺตํ, มาตุคามสฺส สรีเร ผุสนภาวํ อชานิตฺวา อฺวิหิโต หุตฺวา สตึ อนุปฏฺเปตฺวา หตฺถปาทปสารณาทีสุ ผุสนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
อชานนฺตสฺสาติ ¶ ทารกาการํ ทาริกํ ‘‘มาตุคาโม’’ติ อชานิตฺวา เกนจิ กรณีเยน ผุสนฺตสฺส ¶ . โมกฺขาธิปฺปายิโน จาติ ‘‘โมกฺขาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อนาปตฺติ. โมกฺขาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ, น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อนาปตฺติ. โมกฺขาธิปฺปาโย น จ กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อนาปตฺติ. โมกฺขาธิปฺปาโย น จ กาเยน วายมติ, น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. ๒๗๙) วุตฺตโมกฺขาธิปฺปายวโต จตุพฺพิธสฺส ปุคฺคลสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.
อิเมสุ โย มาตุคาเมน อาลิงฺคนาทิปโยเคน อชฺโฌตฺถรยมาโน ตํ อตฺตโน สรีรโต อปเนตฺวา มฺุจิตุกาโม หตฺถจาเลน, มุฏฺิอาทีหิ วา ปฏิปณามนํ, ปหรณาทิกฺจ ปโยคํ กโรติ, อยํ ปโม ปุคฺคโล. อตฺตานมชฺโฌตฺถริตุํ อาคจฺฉนฺตึ อิตฺถึ ทิสฺวา ปหรณาการาทิสพฺพปโยคํ ทสฺเสตฺวา ตาเสตฺวา อตฺตโน สรีรํ ผุสิตุํ อเทนฺโต ทุติโย. อิตฺถิยา อชฺโฌตฺถริตฺวา อาลิงฺคิโต โจปนรหิตํ มํ ‘‘อนตฺถิโก’’ติ มนฺตฺวา ‘‘สยเมว ปลายิสฺสตี’’ติ, ‘‘อโจปนเมว โมกฺโขปาโย’’ติ ตฺวา นิจฺจโลว หุตฺวา ผสฺสํ ปฏิวิชานนฺโต ตติโย. อตฺตานํ อชฺโฌตฺถริตุมาคจฺฉนฺตึ อิตฺถึ ทิสฺวา ทุติโย วิย ตาเสตุํ กายปฺปโยคํ อกตฺวา ‘‘อคเต ปาเตสฺสามิ, ปหริตฺวา ตาเสสฺสามี’’ติ วา จินฺเตตฺวา นิจฺจโลว หุตฺวา ติฏฺนฺโต จตุตฺโถติ เวทิตพฺโพ.
๓๕๒. ปเมนาติ เอตฺถ ‘‘ปาราชิเกนา’’ติ ปาเสโส, กายจิตฺตสมุฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิธ จิตฺตํ นาม ¶ กายสํสคฺคราคสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ, สุกฺกวิสฺสฏฺิมฺหิ โมเจตุกามตาย สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ.
กายสํสคฺคกถาวณฺณนา.
๓๕๓-๔. ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาเทนาติ ทุฏฺุ กุจฺฉิตภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ทุฏฺุลฺลา, ทุฏฺุลฺลา จ สา วาจา จาติ ทุฏฺุลฺลวาจา, วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺเค เมถุนธมฺมปฏิสํยุตฺตา วาจา, ยถาห ‘‘ทุฏฺุลฺลา นาม วาจา วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคเมถุนธมฺมปฏิสํยุตฺตา วาจา’’ติ (ปารา. ๒๘๕), ทุฏฺุลฺลวาจาย อสฺสาโท ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาโท, ตถาปวตฺตวจีวิฺตฺติสมุฏฺาปกจิตฺตสมฺปยุตฺตา เจตนา, เตน สมฺปยุตฺโต ราโค อิธ สหจริเยน ‘‘ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาโท’’ติ วุตฺโต, เตน, ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทสมฺปยุตฺเตน ¶ ราเคนาติ อตฺโถ. อิมินา ‘‘โอภาสนฺตสฺสา’’ติ วกฺขมานโอภาสนสฺส เหตุ ทสฺสิโต.
อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน ภิกฺขุโนติ โยชนา. อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโนติ ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, วิฺู ปฏิพลา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุ’’นฺติ ปทภาชเน นิทฺทิฏฺสรูปาย สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ชานนฺติยา มนุสฺสิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน ภิกฺขุโนติ อตฺโถ. ‘‘ทฺวินฺนํ มคฺคาน’’นฺติ เอตสฺส สมฺพนฺธีวเสน ‘‘อิตฺถิยา’’ติ อิทํ สามิวเสน โยเชตพฺพํ, ยถาวุตฺตสรูปสฺส มาตุคามสฺส วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคนฺติ อตฺโถ. วณฺณาวณฺณวเสน จาติ ‘‘วณฺณํ ภณติ นาม ทฺเว มคฺเค โถเมติ วณฺเณติ ปสํสติ. อวณฺณํ ภณติ นาม ทฺเว มคฺเค ขุํเสติ วมฺเภติ ครหตี’’ติ นิทฺเทเส วุตฺตนเยน อุโภ มคฺเค อุทฺทิสฺส โถมนครหณวเสนาติ วุตฺตํ โหติ.
เมถุนสฺส ¶ ยาจนาทโย เมถุนยาจนาทโย, เตหิ เมถุนยาจนาทีหิ, ‘‘ยาจติปิ อายาจติปิ ปุจฺฉติปิ ปฏิปุจฺฉติปิ อาจิกฺขติปิ อนุสาสติปิ อกฺโกสติปี’’ติ (ปารา. ๒๘๕) อุทฺเทเส วุตฺตเมถุนยาจนาทิวเสนาติ วุตฺตํ โหติ. อิเมหิ ทฺวีหิ ‘‘โอภาสนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตโอภาสนา ทสฺสิตา. โอภาสนฺตสฺสาติ อุทฺเทสยนฺตสฺส, ปกาเสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘วิฺุ’’นฺติ อิมินา โอภาสนกิริยาย กมฺมมาห, อิมินา วิเสสิตพฺพํ ‘‘มนุสฺสิตฺถิ’’นฺติ อิทํ ปกรณโต ลพฺภติ, ยถาทสฺสิตปทภาชนาคตสรูปํ วิฺุํ ปฏิพลํ มนุสฺสิตฺถินฺติ วุตฺตํ โหติ. อนฺตมโส หตฺถมุทฺทายปีติ โอภาสเน อนฺติมปริจฺเฉททสฺสนํ. ทุฏฺุลฺลวจนสฺสาทภาเว สติ โย วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคปฏิพทฺธํ คุณโทสํ วา เมถุนธมฺมยาจนาทิวเสน วา ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ ชานนฺตึ มนุสฺสิตฺถึ เหฏฺิมปริจฺเฉเทน หตฺถมุทฺทายปิ วเทยฺยาติ อตฺโถ.
อิมสฺมึ คาถาทฺวเย ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาเทน อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน วิฺุํ ตํ อิตฺถึ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วณฺณวเสน อนฺตมโส หตฺถมุทฺทายปิ โอภาสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ครุกํ สิยาติ เอกํ วากฺยํ, ตถา ‘‘ทฺวินฺนํ มคฺคานํ อวณฺณวเสนา’’ติ อิมินา จ ‘‘เมถุนยาจนาทีหี’’ติ อิมินา จ โยชนาย วากฺยทฺวยนฺติ เอวํ โยชนาวเสน ตีณิ วากฺยานิ โหนฺติ.
ตตฺถ ¶ ปมวากฺเย วณฺณวจเนน สงฺคหิตํ โถมนาทิกถํ กเถนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส โหติ. ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ เอตฺตกเมว โถมนตฺถํ วทโต สงฺฆาทิเสโส น โหติ, ‘‘ตว วจฺจมคฺโค จ ปสฺสาวมคฺโค จ อีทิโส สุโภ สุสณฺาโน, เตน นาม ¶ อีทิเสน อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ วทนฺตสฺส โหติ. ‘‘วณฺเณติ, ปสํสตี’’ติ ปททฺวยฺจ ‘‘โถเมตี’’ติ ปทสฺส ปริยาโย.
ทุติยวากฺเย อวณฺณปทสงฺคหิตํ ขุํสนาทิตฺตเย ขุํสนํ นาม ปโตโทปเมหิ ผรุสวจเนหิ ตุทนํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ขุํเสตีติ วาจาปโตเทน ฆฏฺเฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๕). ปตุชฺชเตเนนาติ ‘‘ปโตโท’’ติอคจฺฉนฺเต อสฺสาทโย ปวตฺเตตุํ วิชฺฌนกปาจนทณฺโฑ วุจฺจติ. วมฺภนํ นาม อปสาทนํ. อปสาทนํ นาม คุณโต ปริหาปนํ. ยถาห ‘‘วมฺเภตีติ อปสาเทตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๕). ครหา นาม โทสาโรปนํ. ยถาห ‘‘ครหตีติ โทสํ เทตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๕). อิมํ ขุํสนาทิปฏิสํยุตฺตวจนํ วกฺขมาเนสุ ‘‘สิขรณีสิ, สมฺภินฺนาสิ, อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ อิเมสุ ตีสุ ปเทสุ อฺตเรน โยเชตฺวา กเถนฺตสฺเสว สงฺฆาทิเสโส, น อิตรสฺส.
ตติยวากฺเย เมถุนยาจนาทิวจเนหิ สงฺคหิตํ อายาจนาทึ กโรนฺตสฺสาปิ สงฺฆาทิเสโส. ‘‘ยาจติ นาม เทหิ เม อรหสิ เม ทาตุ’’นฺติอาทินา (ปารา. ๒๘๕) นเยน เอเกกํ ปทํ ‘‘เทหิ เม เมถุนํ ธมฺม’’นฺติอาทิวเสน เมถุนธมฺมปเทน สห ฆเฏตฺวา เมถุนธมฺมํ ยาจนฺตสฺเสว โหติ.
‘‘กทา เต มาตา ปสีทิสฺสติ, กทา เต ปิตา ปสีทิสฺสติ, กทา เต เทวตาโย ปสีทิสฺสนฺติ, กทา เต สุขโณ สุลโย สุมุหุตฺโต ภวิสฺสตี’’ติอาทิอายาจนปทนิทฺเทเส เอเกกํ ปทํ ตตฺเถว โอสาเน วุตฺเตน ‘‘กทา เต เมถุนํ ธมฺมํ ลภิสฺสามี’’ติ ปเทน ฆเฏตฺวา เมถุนํ ยาจนฺตสฺเสว โหติ.
‘‘กถํ ¶ ตฺวํ สามิกสฺส เทสิ, กถํ ชารสฺส เทสี’’ติ (ปารา. ๒๘๕) ปุจฺฉานิทฺเทสวจเนสุ จ อฺตรํ เมถุนธมฺมปเทน ฆเฏตฺวา ปุจฺฉนฺตสฺเสว โหติ.
‘‘เอวํ ¶ กิร ตฺวํ สามิกสฺส เทสิ, เอวํ ชารสฺส เทสี’’ติ (ปารา. ๒๘๕) ปฏิปุจฺฉานิทฺเทสวจเนสุ อฺตรํ เมถุนธมฺมปเทน ฆเฏตฺวา วิเสเสตฺวา ปฏิปุจฺฉนฺตสฺเสว โหติ.
‘‘กถํ ททมานา สามิกสฺส ปิยา โหตี’’ติ ปุจฺฉโต มาตุคามสฺส ‘‘เอวํ เทหิ, เอวํ เทนฺตี สามิกสฺส ปิยา ภวิสฺสติ มนาปา จา’’ติ อาณตฺติวจเน, อนุสาสนิวจเน จ เอเสว นโย.
๓๕๕. อกฺโกสนิทฺเทสาคเตสุ ‘‘อนิมิตฺตาสิ นิมิตฺตมตฺตาสิ อโลหิตาสิ ธุวโลหิตาสิ ธุวโจฬาสิ ปคฺฆรนฺตีสิ สิขรณีสิ อิตฺถิปณฺฑกาสิ เวปุริสิกาสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ เอกาทสสุ ปเทสุ ‘‘สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ ปทตฺตยํ ปจฺเจกํ อาปตฺติกรํ, อิมินา ปทตฺตเยน สห ปุพฺเพ วุตฺตานิ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคเมถุนธมฺมปทานิ ตีณิ จาติ ฉปฺปทานํ ปจฺเจกํ อาปตฺติกรตฺตา อิโต ปรานิ อนิมิตฺตาทีนิ อฏฺ ปทานิ ‘‘อนิมิตฺตาสิ เมถุนธมฺมํ เทหี’’ติอาทินา นเยน เมถุนธมฺมปเทน สห ฆเฏตฺวา วุตฺตาเนว อาปตฺติกรานีติ เวทิตพฺพานิ, ‘‘เมถุนยาจนาทีหี’’ติ เอตฺถ อาทิ-สทฺทสงฺคหิเตสุ ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีสุ เอกาทสสุ อกฺโกสปเทสุ อนฺโตคธตฺเตปิ เกวลํ อาปตฺติกรตฺตา ครุตรํ ปทตฺตยํ วิสุํ สงฺคเหตพฺพนฺติ าเปตุมาห ‘‘สิขรณีสี’’ติอาทิ.
สิขรณีสีติ เอตฺถ ‘‘สิขรณี อสี’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อสี’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ตุ-สทฺโท เกวลยุตฺตมฺปิ อาปตฺติกรํ ¶ โหตีติ วิเสสํ โชเตติ. เกวเลนาปิ อกฺโกสวจเนนาติ โยชนา. สิขรณีสีติ พหิ นิกฺขนฺตอาณิมํสา ภวสิ. สมฺภินฺนาสีติ มิสฺสีภูตวจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคา. อุภโตพฺยฺชนาสีติ อิตฺถินิมิตฺเตน, ปุริสนิมิตฺเตน จาติ อุภโตพฺยฺชเนหิ สมนฺนาคตา. ‘‘อยํ อิตฺถี, อยํ ปุริโส’’ติ พฺยฺชยตีติ พฺยฺชนํ, มุตฺตกรณานิ. สุณนฺติยาติ เอตฺถ ‘‘วิฺุมนุสฺสิตฺถิยา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ, อิมินา อกฺโกสิตพฺพวตฺถุ ทสฺสิตํ โหติ. ภาสิตํ สุณนฺติยา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ชานนฺติยา มนุสฺสิตฺถิยา วิสเย ปวตฺตอกฺโกสวจเนน สงฺฆาทิเสโส โหตีติ อตฺโถ.
๓๕๖. ปุนปฺปุนํ โอภาสนฺตสฺส วาจานํ คณนาย ครุกา สิยุนฺติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘เอกํ ¶ อิตฺถิ’’นฺติ อชฺฌาหริตพฺพํ. เอกวาจาย พหู โอภาสนฺตสฺส จ อิตฺถีนํ คณนาย ครุกา สิยุนฺติ โยชนา. เอตฺถาปิ ‘‘อิตฺถิโยปี’’ติ ลพฺภติ.
๓๕๗. สา เจ นปฺปฏิชานาตีติ เอตฺถ ‘‘ยํ สุณนฺตึ มนุสฺสิตฺถึ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วณฺณาวณฺณวเสน โอภาสติ, สา เจ น ปฏิชานาตี’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภมานํ อาทาย โยเชตพฺพํ. อตฺตโน ภาสิตํ ทุฏฺุลฺลํ วุตฺตสมนนฺตรเมว อตฺถวเสน สเจ น ชานาตีติ อตฺโถ. ตสฺสาติ ตสฺส ทุฏฺุลฺลภาสิตภิกฺขุสฺส. อุพฺภชาณุํ, อธกฺขกํ วา อาทิสฺส ภณเน จาปิ ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยาติ โยชนา. ภณเนติ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วณฺณาทิกถเน, ‘‘ภณโต’’ติปิ ลิขนฺติ, ภณนฺตสฺส, ภณนเหตูติ อตฺโถ. เหตุมฺหิ อยมนฺตปจฺจโย ‘‘อสมฺพุธ’’นฺติอาทีสุ (ปารา. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา) วิย. อุพฺภชาณุนฺติ ชาณุโต อุทฺธํ. อกฺเขกนฺติ อกฺขกโต เหฏฺา.
๓๕๘. อุพฺภกฺขกนฺติ ¶ อกฺขกโต อุทฺธํ. อโธชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลโต อโธ. อุทฺทิสนฺติ อุทฺทิสฺส. ‘‘อุทฺทิสฺสุพฺภกฺขํ วา ตถา, อโธชาณุมณฺฑล’’นฺติ จ ลิขนฺติ, โส ปาโ สุนฺทโร. วณฺณาทิภณเน ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วิฺุมนุสฺสิตฺถิยา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ. กายปฏิพทฺเธ วณฺณาทิภณเน ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคา สงฺฆาทิเสสกฺเขตฺตํ, อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺตํ, อุทฺธกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ ทุกฺกฏกฺเขตฺตนฺติ อิเมสุ ตีสุ เขตฺเตสุ อกฺขกฺเจว ชาณุมณฺฑลฺจ ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานํ ทฺวินฺนํ อวธิภูตํ กตฺถ สงฺคยฺหตีติ? ทุกฺกฏกฺเขตฺเตเยว สงฺคยฺหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อกฺขกํ, ปน ชาณุมณฺฑลฺจ เอตฺเถว ทุกฺกฏกฺเขตฺเต สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๖).
๓๕๙. ปณฺฑเก ยกฺขิเปตีสุ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วณฺณาทิภณเน ตสฺส ภณนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ ภเวติ อธิการวเสน อาคตปเทหิ สห โยเชตพฺพํ. ปณฺฑกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน ยกฺขิเปตีนํ คหณํ.
๓๖๐. อุพฺภกฺขก…เป… อยํ นโยติ ‘‘ปณฺฑกาทีสู’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ. อยํ นโยติ ‘‘ทุกฺกฏเมว โหตี’’ติ วุตฺโต นโย. สพฺพตฺถาติ สงฺฆาทิเสสถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺตวเสน สพฺเพสุ เขตฺเตสุ.
๓๖๑. อตฺถปุเรกฺขาโร ¶ หุตฺวา โอภาสโตปิ อนาปตฺตีติ โยชนา. มาตุคามานํ ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีสุ ปเทสุ อตฺถกถนํ ปุเรกฺขตฺวา ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทิปทํ ภณนฺตสฺส วา มาตุคาเมหิ สห อฏฺกถํ สชฺฌายนฺตานํ วา อนาปตฺตีติ อตฺโถ. ธมฺมปุเรกฺขาโร หุตฺวา โอภาสโต อนาปตฺตีติ โยชนา. ปาฬิธมฺมํ วาเจนฺตสฺส วา ตาสํ ¶ สุณนฺตีนํ สชฺฌายนํ วา ปุเรกฺขตฺวา ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีสุ ปเทสุ ยํ กิฺจิ ปพฺพชิตสฺส วา อิตรสฺส วา มาตุคามสฺส กเถนฺตสฺส อนาปตฺตีติ. ปุเรกฺขตฺวานุสาสนินฺติ ‘‘อิทานิ อนิมิตฺตาสิ…เป… อุภโตพฺยฺชนาสิ, อปฺปมาทํ ทานิ กเรยฺยาสิ, ยถา อายติมฺปิ เอวรูปา นาโหสี’’ติ อนุสาสนึ ปุเรกฺขตฺวา.
๓๖๒. อุมฺมตฺตกาทีนนฺติ ปิตฺตุมฺมตฺตกยกฺขุมฺมตฺตกวเสน ทฺวินฺนํ อุมฺมตฺตกานฺจ อาทิ-สทฺทสงฺคหิตสฺส อิมสฺมึ อาทิกมฺมิกสฺส อุทายิตฺเถรสฺส จ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ กายจิตฺตโต จ วาจาจิตฺตโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๗) อฏฺกถายํ วุตฺตปกิณฺณกวินิจฺฉยํ ทสฺเสติ ‘‘สมุฏฺานาทโย…เป… ตุลฺยาวา’’ติ. เวทนาย อทินฺนาทาเนน อสมตฺตา ‘‘เวทเนตฺถ ทฺวิธา มตา’’ติ อาห, สุโขเปกฺขาเวทนาวเสน ทฺวิธา มตาติ อตฺโถ.
ทุฏฺุลฺลวาจากถาวณฺณนา.
๓๖๓. กามปาริจริยายาติ เมถุนธมฺมสงฺขาเตน กาเมน ปาริจริยาย, เมถุนธมฺเมน ปาริจริยายาติ อตฺโถ. อถ วา กามิตา ปตฺถิตาติ กามา, เมถุนราควเสน ปตฺถิตาติ อตฺโถ, กามา จ สา ปาริจริยา จาติ กามปาริจริยา, ตสฺสา กามปาริจริยายาติปิ คเหตพฺพํ, เมถุนราคจิตฺเตน อภิปตฺถิตปาริจริยายาติอตฺโถ. ‘‘วณฺณํ ภาสโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ, ‘‘เอตทคฺคํ ภคินิ ปาริจริยานํ ยา มาทิสํ สีลวนฺตํ กลฺยาณธมฺมํ พฺรหฺมจารึ เอเตน ธมฺเมน ปริจเรยฺยา’’ติ อตฺตโน เมถุนธมฺเมน ปาริจริยาย ¶ คุณํ อานิสํสํ กเถนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมึเยว ขเณติ ตสฺมึ ภณิตกฺขเณเยว. สา เจ ชานาตีติ ยํ อุทฺทิสฺส อภาสิ, สเจ สา วจนสมนนฺตรเมว ชานาติ.
๓๖๔. สา ¶ มนุสฺสิตฺถี โน ชานาติ เจ, ตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ สมฺพนฺโธ. ยกฺขิเปติเทวีสุ ชานนฺตีสุ, ปณฺฑเก จ ชานนฺเต อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาสโต ตสฺส ภิกฺขุโน ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา. เสเสติ ปุริสติรจฺฉานคตวิสเย, ยกฺขิอาทีนํ อชานนวิสเย จ อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาสโต ตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๓๖๕. จีวราทีหีติ จีวรปิณฺฑปาตาทีหิ. วตฺถุกาเมหีติ ตณฺหาย วตฺถุภาเวน วตฺถู จ กามิตตฺตา กามาติ จ สงฺขาเตหิ ปจฺจเยหิ.
๓๖๖. ราโค เอว ราคตา. ‘‘ราคิตา’’ติ วา ปาโ, ราโค อสฺส อตฺถีติ ราคี, ตสฺส ภาโว ราคิตา, อตฺตกามปาริจริยาย ราโคติ อตฺโถ. โอภาโสติ อตฺตกามปาริจริยาย คุณภณนํ. เตน ราเคนาติ กามปาริจริยาย ราเคน. ขเณ ตสฺมินฺติ ภณิตกฺขเณ. วิชานนนฺติ ยํ มนุสฺสิตฺถึ อุทฺทิสฺส อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภณติ, ตาย ตสฺส วจนตฺถสฺส วิชานนนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๓๖๗. ปฺจงฺคานีติ มนุสฺสิตฺถิตา, ตํสฺิตา, ปาริจริยาย ราคิตา, เตน ราเคน โอภาสนํ, ขเณ ตสฺมึ วิชานนนฺติ อิมานิ เอตฺถ อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปเท ปฺจ องฺคานิ ¶ , ปฺจ อาปตฺติการณานีติ อตฺโถ. อสฺสาติ อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทสฺส.
อตฺตกามปาริจริยกถาวณฺณนา.
๓๖๘. ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติอาทิกิริยาตฺตโยปาทานสามตฺถิเยน ติกฺขตฺตุํ ปฏิปาทนกํ ‘‘โย ภิกฺขู’’ติ จ ‘‘ครุ โหตี’’ติ ปทสามตฺถิเยน ‘‘ตสฺสา’’ติ จ ลพฺภมานตฺตา ติวิเธหิ สห ‘‘โย ภิกฺขุ ปุริสสฺส สนฺเทสํ ปฏิคฺคณฺหาติ, วีมํสติ ปจฺจาหรติ เจ, ตสฺส ครุ โหตี’’ติ เอกํ วากฺยํ โหติ. เอวํ ‘‘อิตฺถิยาปิ วา’’ติ อิมินา โยชนายปิ เอกํ วากฺยํ โหตีติ อิมิสฺสา คาถาย วากฺยทฺวยํ ยุชฺชติ.
อิธ สนฺเทสกฺกมฺจ โยชนากฺกมฺจ ชานนตฺถํ ปมํ ตาว อิตฺถีนฺจ ภริยานฺจ ปเภโท จ สรูปฺจ วิภาวียติ – เตสุ อิตฺถิโย ทสวิธา โหนฺติ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘ทส อิตฺถิโย ¶ มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สารกฺขา สปริทณฺฑา’’ติ. ภริยา จ ทสวิธา โหนฺติ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘ทส ภริยาโย ธนกฺกีตา ฉนฺทวาสินี โภควาสินี โอทปตฺตกินี โอภฏจุมฺพฏา ทาสี จ ภริยา จ กมฺมการี จ ภริยา จ ธชาหฏา มุหุตฺติกา’’ติ (ปารา. ๓๐๓). อิมาสํ ปเภโท จ สรูปานิ จ สงฺเขปโต เอวํ เวทิตพฺพานิ –
ปุริเสหิ สห ยถา สํวาสํ น กโรติ, เอวํ มาตรา รกฺขิตา มาตุรกฺขิตา. ยถาห ‘‘มาตุรกฺขิตา นาม มาตา รกฺขติ โคเปติ อิสฺสริยํ กาเรติ วสํ วตฺเตตี’’ติ. ปิตุรกฺขิตาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ยสฺมึ โกณฺฑฺาทิโคตฺเต ชาตา, ตสฺมึเยว โคตฺเต ชาเตหิ ¶ รกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา. ยถาห ‘‘โคตฺตรกฺขิตา นาม สโคตฺตา รกฺขนฺตี’’ติอาทิ. เอกํ สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิเตหิ วา เอกคณปริยาปนฺเนหิ วา รกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา นาม. ยถาห ‘‘ธมฺมรกฺขิตา นาม สหธมฺมิกา รกฺขนฺตี’’ติอาทิ (ปารา. ๓๐๔). สารกฺขา นาม ‘‘คพฺเภปิ ปริคฺคหิตา โหติ ‘มยฺหํ เอสา’ติ อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปี’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตสรูปา. สปริทณฺฑา นาม ‘‘เกหิจิ ทณฺโฑ ปิโต โหติ ‘โย อิตฺถนฺนามํ อิตฺถึ คจฺฉติ, ตสฺส เอตฺตโก ทณฺโฑ’’ติ วุตฺตสรูปาติ อยํ ทสนฺนํ อิตฺถีนํ สรูปสงฺเขโป. อิมาสุ ทสสุ สารกฺขสปริทณฺฑานํ ทฺวินฺนํ ปรปุริสเสวายํ มิจฺฉาจาโร โหติ, อิตราสํ น โหติ. อิมา ทสปิ ปฺจสีลํ รกฺขนฺเตหิ อคมนียา.
ทสสุ ภริยาสุ ‘‘ธนกฺกีตา นาม ธเนน กิณิตฺวา วาเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา ภริยภาวาย อปฺปกํ วา พหุํ วา ธนํ ทตฺวา คหิตา ธนกฺกีตา นาม. ‘‘ฉนฺทวาสินี นาม ปิโย ปิยํ วาเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา อตฺตรุจิยา สํวสิเตน ปุริเสน สมฺปฏิจฺฉิตา ฉนฺทวาสินี นาม. ‘‘โภควาสินี นาม โภคํ ทตฺวา วาเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา อุทุกฺขลมุสลาทิเคโหปกรณํ ลภิตฺวา ภริยภาวํ คจฺฉนฺตี ชนปทิตฺถี โภควาสินี นาม. ‘‘ปฏวาสินี นาม ปฏํ ทตฺวา วาเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา นิวาสนมตฺตํ วา ปารุปนมตฺตํ วา ลทฺธา ภริยภาวํ คจฺฉนฺตี ทลิทฺทิตฺถี ปฏวาสินี นาม. โอทปตฺตกินี นาม ‘‘อุทกปตฺตํ อามสิตฺวา วาเสตี’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา ‘‘อิทํ อุทกํ วิย สํสฏฺา อเภชฺชา โหถา’’ติ วตฺวา เอกสฺมึ อุทกปตฺเต ปุริเสน สทฺธึ หตฺถํ โอตาเรตฺวา ภริยภาวํ นีโต มาตุคาโม วุจฺจติ. ‘‘โอภฏจุมฺพฏา นาม จุมฺพฏํ โอโรเปตฺวา ¶ วาเสตี’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา สีสโต จุมฺพฏํ โอโรเปตฺวา ภริยภาวมุปนีตา กฏฺหาริกาทิอิตฺถี โอภฏจุมฺพฏา นาม. ทาสี ¶ จ ภริยา จ นาม ‘‘ทาสี เจว โหติ ภริยา จา’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา ภริยํ กตฺวา วาสิตา ‘‘ตสฺเสว ทาสี จ ภริยา จา’’ติ วุตฺตา. กมฺมการี จ ภริยา จ นาม ‘‘กมฺมการี เจว โหติ ภริยา จา’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา ปธานิตฺถินิรเปกฺเขน กุฏุมฺพกิจฺจํ กาเรตฺวา ภริยภาวํ นีตา ภริยา กตกมฺมา ‘‘กมฺมการี จ ภริยา จา’’ติ วุตฺตา. ‘‘ธชาหฏา นาม กรมรานีตา วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา ธชํ อุสฺสาเปตฺวา คจฺฉนฺติยา มหาเสนาย สทฺธึ คนฺตฺวา ปรวิสยํ วิลุมฺปนฺเตน ปจฺฉินฺทิตฺวา อาเนตฺวา ภริยภาวมุปนีตา อิตฺถี ธชาหฏา นาม. ‘‘มุหุตฺติกา นาม ตงฺขณิกา วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา อจิรกาลํ สํวาสตฺถาย คหิตา อิตฺถี มุหุตฺติกา นามาติ อยํ ทสนฺนํ ภริยานํ สรูปสงฺเขโป. ยถาวุตฺตาสุ ทสสุ อิตฺถีสุ อฺตรํ ทสนฺนํ ภริยานํ อฺตรฏฺาเน ปนตฺถมธิปฺเปตภาวํ วตฺตุํ ปุริเสน ‘‘คจฺฉ ภนฺเต อิตฺถนฺนามํ มาตุรกฺขิตํ พฺรูหิ ‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา’ติ’’อาทินา นเยน ทินฺนสนฺเทสํ ‘‘สาธุ อุปาสกา’’ติอาทินา นเยน วจีเภทํ กตฺวา วา สีสกมฺปนาทิวเสน วา ปฏิคฺคณฺหาตีติ อาห ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ สนฺเทสํ ปุริสสฺสา’’ติ.
เอตฺถ ปุริสสฺสาติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘ปุริสสฺส มาตา ภิกฺขุํ ปหิณตี’’ติอาทินา (ปารา. ๓๒๑) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตปุริสสฺส มาตาปิตุอาทโย จ คเหตพฺพา. วีมํสตีติ เอวํ ปฏิคฺคหิตสาสนํ ตสฺสาเยว เอกํเสน อวิราเธตฺวา วทนฺตสฺส มาตาปิตุอาทีนมฺตรสฺส วา อาโรเจตีติ อตฺโถ. เอตฺถาปิ วีมํสตีติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ อนฺเตวาสึ วีมํสาเปตฺวา อตฺตนา ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๓๘) วุตฺตตฺตา วีมํสาเปตีติปิ คเหตพฺพํ. ปจฺจาหรตีติ ตถา อาหฏํ สาสนํ สุตฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา ¶ สมฺปฏิจฺฉิเต จ อสมฺปฏิจฺฉิเต จ ลชฺชาย ตุณฺหีภูตาย จ ตํ ปวตฺตึ ปจฺจาหริตฺวา อาจิกฺขตีติ วุตฺตํ โหติ. อิธาปิ ปจฺจาหรตีติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ อนฺเตวาสึ ปจฺจาหราเปติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๓๘) วุตฺตตฺตา ปจฺจาหราเปตีติ จ คเหตพฺพํ.
‘‘อิตฺถิยาปิ วา’’ติ อิมินา โยเชตฺวา คหิตทุติยวากฺเย จ เอวเมว อตฺโถ วตฺตพฺโพ. ตตฺถ สนฺเทสกฺกโม ปน ‘‘มาตุรกฺขิตา ภิกฺขุํ ปหิณติ ‘คจฺฉ ภนฺเต อิตฺถนฺนามํ พฺรูหิ ‘โหมิ อิตฺถนฺนามสฺส ¶ ภริยา ธนกฺกีตา’ติ’’อาทิปาฬินเยน (ปารา. ๓๓๐) ทฏฺพฺโพ. เอตฺถาปิ ‘‘วีมํสาเปติ ปจฺจาหราเปตี’’ติ อิทฺจ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ. อิมินา นิยาเมน ทสนฺนํ อิตฺถีนํ นามํ วิสุํ วิสุํ วตฺวา ทสนฺนํ ภริยานํ อฺตรตฺถาย ทียมานสนฺเทสกฺกโม โยเชตพฺโพ. อิธาปิ อิตฺถิยาปิ วาติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘มาตุรกฺขิตาย มาตา ภิกฺขุํ ปหิณติ ‘คจฺฉ ภนฺเต อิตฺถนฺนามํ พฺรูหิ ‘โหตุ อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา’’ติอาทิปาฬิวเสน (ปารา. ๓๒๔) อิตฺถิยา มาตุปิตุอาทีนฺจ สนฺเทสกฺกโม โยเชตพฺโพ.
๓๗๐. ตํ ปวตฺตึ. สฺจริตฺตา สฺจรณเหตุ. น มุจฺจตีติ อิตฺถิปุริสานํ อนฺตเร สาสนํ ปฏิคฺคเหตฺวา สฺจรณเหตุ อาปชฺชิตพฺพสงฺฆาทิเสสโต น มุจฺจตีติ อตฺโถ.
๓๗๑. อฺํ วาติ มาตาปิตุรกฺขิตาทีสุ อฺตรํ วา. ‘‘ภาสโต’’ติ ลิขนฺติ. ‘‘เปสิโต’’ติ อิมินา วิรุทฺธตฺตา ตํ ปหาย ‘‘ภาสตี’’ติ ปาโ คเหตพฺโพ. ปาเสโส วา กาตพฺโพ. ‘‘โย อฺํ ภาสติ เจ, ตสฺส ภาสโตติ โยชนา’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. ‘‘มาตรา รกฺขิตํ อิตฺถึ ‘คจฺฉ พฺรูหี’ติ โย เปสิโต โหติ, ตสฺส ปิตุรกฺขิตํ ¶ วา อฺํ วา ภาสโต วิสงฺเกโตวา’’ติ, ‘‘มาตรา…เป… พฺรูหี’ติ เปสิโต หุตฺวา ปิตุรกฺขิตํ วา อฺํ วา ภาสโต วิสงฺเกโตวา’’ติ โยชนา ยุตฺตตราติ อมฺหากํ ขนฺติ.
๓๗๒. ปฏิคฺคณฺหนตาทีหีติ ปฏิคฺคณฺหนเมว ปฏิคฺคณฺหนตา. อาทิ-สทฺเทน วีมํสนปจฺจาหรณานิ คหิตานิ. สฺจริตฺเตติ สฺจรเณ. สมาปนฺเนติ คเต สติ. ครุกาปตฺติมาทิเสติ เอตฺถ ‘‘ตสฺสา’’ติ เสโส. อาทิเสติ กเถยฺย.
๓๗๓. ทฺวีหิ ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ เอตฺถ ทฺวีหิ ทฺวีหิ องฺเคหิ สฺจริตฺเต สมาปนฺเน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ น ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสติ ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. น ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๓๘) ทฺวีหิ ทฺวีหิ องฺเคหิ ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ปณฺฑกาทีสูติ ปณฺฑกยกฺขิเปตีสุ. ตีหิปิ องฺเคหิ สฺจริตฺเต สมาปนฺเน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
เอเกเนวาติ ¶ เอเกเนว องฺเคน. สพฺพตฺถาติ มาตุรกฺขิตาทีสุ สพฺพมาตุคาเมสุ จ วินีตวตฺถุมฺหิ ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ปุริโส อฺตรํ ภิกฺขุํ อาณาเปสิ ‘คจฺฉ ภนฺเต อิตฺถนฺนามํ อิตฺถึ วีมํสา’ติ. โส คนฺตฺวา มนุสฺเส ปุจฺฉิ ‘กหํ อิตฺถนฺนามา’ติ. สุตฺตา ภนฺเตติ…เป… มตา ภนฺเตติ. นิกฺขนฺตา ภนฺเตติ. อนิตฺถี ภนฺเตติ. อิตฺถิปณฺฑกา ภนฺเตติ. ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ. อนาปตฺติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๔๑) อาคตาสุ สุตฺตาทีสุ ปฺจสุ จ.
๓๗๔. อนาปตฺติ ปกาสิตาติ เจติยาทีสุ กตฺตพฺพํ นิสฺสาย อิตฺถิยา ปุริสสฺส, ปุริเสน จ อิตฺถิยา ทินฺนสาสนํ ปฏิคฺคเหตฺวา ¶ วีมํสิตฺวา ปจฺจาหริตฺวา อาโรเจนฺตสฺส อนาปตฺติภาโว ‘‘อนาปตฺติ สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา คิลานสฺส วา กรณีเยน คจฺฉติ, อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๔๐) ปาฬิยํ วุตฺตาติ อตฺโถ.
๓๗๕. ตถา ตสฺสาติ มนุสฺสชาติกาย ตสฺสา. นนาลํวจนียตาติ ‘‘มมาย’’นฺติ วา นิคฺคหปคฺคเห วา นิราสงฺกํ วตฺตุํ นาหรตีติ อลํวจนียา, อสฺสามิกา, สา หิ เกนจิ ‘‘มยฺหํ เอสา’’ติ วตฺตุํ วา นิราสงฺเกน นิคฺคหปคฺคหวจนํ วา วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยา, อลํวจนียา น ภวตีติ นาลํวจนียา, สสฺสามิกา, สา หิ สามิเกน ตถา กาตุํ สกฺกุเณยฺยาติ นาลํวจนียา, นาลํวจนียา น ภวตีติ นนาลํวจนียา, อลํวจนียปเทน วุตฺตา อสฺสามิกา เอว, ปฏิเสธา ทฺเว ปกติมตฺถํ คมยนฺตีติ, นนาลํวจนียาย ภาโว นนาลํวจนียตา, นิราสงฺเกน อวจนียตา อสฺสามิกภาโวติ วุตฺตํ โหติ. สฺจริตฺตวเสน ภิกฺขุนา วจนียา น โหตีติ วา ‘‘อลํวจนียา’’ติปิ คเหตพฺพเมว. ปฏิคฺคณฺหนตาทีนํ วสาติ เอตฺถ จกาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ตโต ปฏิคฺคณฺหนวีมํสนปจฺจาหรณสงฺขาตานํ ติณฺณํ องฺคานํ วเสน จ ปุพฺเพ วุตฺตมนุสฺสิตฺถิตา นนาลํวจนียตาติ วุตฺตานํ ทฺวินฺนํ องฺคานํ วเสน จ อิทํ สิกฺขาปทํ อาปตฺติการเณหิ ปฺจหิ องฺเคหิ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ.
๓๗๖. อิทํ สฺจริตฺตสิกฺขาปทํ. อถ วา ลิงฺควิปลฺลาเสน จ อยํ สงฺฆาทิเสโสติ คเหตพฺโพ. กายโต, วาจโต, กายวาจโต, กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต วา อุปฺปชฺชนโต ฉสมุฏฺานํ. ตโต เอว อจิตฺตกมุทีริตํ. มิสฺสกสมุฏฺานฺหิ อจิตฺตกํ. อวเสสจิตฺเตสุปิ ¶ ยสฺมึ จิตฺเต อสติ อจิตฺตกํ นาม โหติ, ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อลํวจนิยตฺตํ ¶ วา’’ติอาทิ. คาถาพนฺธวเสน รสฺโส, ‘‘อลํวจนียตฺต’’นฺติ คเหตพฺพํ. โย สนฺเทสํ เปเสติ, ตสฺมึ ปฏิพทฺธภาวนฺติ อตฺโถ. ปณฺณตฺตึ วาติ สฺจริตฺตสิกฺขาปทสงฺขาตํ ปณฺณตฺตึ วา อชานโต อจิตฺตกมุทีริตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๓๗๗. สาสนนฺติ มาตุคามสฺส, ปุริสสฺส วา สาสนํ. กายวิกาเรนาติ สีสกมฺปนาทินา กายวิกาเรน. คเหตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา. ตํ อุปคมฺมาติ ปฏิคฺคหิตสาสนํ ยสฺส วตฺตพฺพํ โหติ, ตํ มาตุคามํ, ปุริสํ วา อุปคมฺม. วีมํสิตฺวาติ ตํ กิจฺจํ ตีเรตฺวา. หรนฺตสฺสาติ ปจฺจาหรนฺตสฺส. กายโต สิยาติ วจีเภทํ วินา ปฏิคฺคหณาทีนํ กาเยเนว กตตฺตา กายสมุฏฺานโตว สงฺฆาทิเสโส โหตีติ อตฺโถ.
๓๗๘. อิตฺถิยา วจนํ สุตฺวาติ โยชนา. ยถา นิสินฺโนวาติ ปกติยา นิสินฺนฏฺาเนเยว นิสินฺโน. ตํ วจนํ. ตตฺเถวาคตสฺเสวาติ ยตฺถ นิสินฺโน อิตฺถิยา สาสนํ ปฏิคฺคณฺหิ, ตเมว อาสนํ อวิชหิตฺวา อตฺตนา นิสินฺนฏฺานเมว อาคตสฺส สนฺนิสิตพฺพปุริสสฺเสว, เอตฺถ ‘‘อาโรเจตฺวา’’ติ ปาเสโส. ปุน ‘‘อาโรเจนฺตสฺสา’’ติ อิทํ ตตฺเถวาคตาย ตสฺสา เอว อิตฺถิยา เอวํ โยเชตพฺพํ. สาสนํ ทตฺวา คนฺตฺวา ปุน ตตฺเถว อาคตสฺส มาตุคามสฺเสว าตมนนฺตรํ กายิกกิริยํ วินา วจเนเนว อาโรเจนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อิทํ อิตฺถิยา สาสนํ ปฏิคฺคหณาทิวเสน วุตฺตํ.
อถ วา ปุริสสฺส วจนํ สุตฺวา ยถานิสินฺโนว ตํ วจนํ อิตฺถิยา อาโรเจตฺวา ปุน ตตฺเถวาคตสฺเสว ปุริสสฺส ¶ อาโรเจนฺตสฺสาติ เอวํ ปุริสสนฺเทสํ ปฏิคฺคหณาทิวเสนาปิ โยชนา กาตพฺพา. เอตฺถ จ ตตฺเถวาคตสฺสาติ อุปลกฺขณํ. สาสนวจนมตฺเตเนว ปฏิคฺคเหตฺวา, กิจฺจนฺตเรน คนฺตฺวา วา ยทิจฺฉาวเสน ทิฏฺฏฺาเน วา วตฺวา ปุนปิ ตตฺเถว ทิฏฺฏฺาเน ปุน อาโรเจนฺตสฺส จ วจเนเนว สมุฏฺานภาโว เวทิตพฺโพ.
๓๗๙. ‘‘อลํ…เป… อชานโต’’ติ อจิตฺตกตฺตการณํ วุตฺตเมว, กสฺมา ปุน ‘‘อชานนฺตสฺส ปณฺณตฺติ’’นฺติ วุตฺตนฺติ เจ? ตทุภยสฺสาปิ วิสุํ การณาภาวํ วิฺาเปตุํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. นํ วิธินฺติ สาสนํ ปฏิคฺคเหตฺวา อาหริตฺวา อาโรเจตฺวา ปจฺจาหริตฺวา อาโรจนสงฺขาตํ ¶ วิธานํ. อรหโตปีติ ขีณาสวสฺสปิ, เสขปุถุชฺชนานํ ปเควาติ อยมตฺโถ สมฺภาวนตฺเถน อปิ-สทฺเทน โชติโต.
๓๘๐. ชานิตฺวาติ อลํวจนียภาวํ วา ปณฺณตฺตึ วา อุภยเมว วา ชานิตฺวา. ตถาติ กายวาจโต กโรนฺตสฺสาติ อิมินา โยเชตพฺพํ. สจิตฺตเกหีติ ยถาวุตฺตจิตฺเตน สจิตฺตเกหิ. เตเหวาติ กายาทีหิ เตหิ เอว, ‘‘ตีเหวา’’ติปิ ปาโ.
สฺจริตฺตกถาวณฺณนา.
๓๘๑-๒. สยํยาจิตเกเหวาติ เอตฺถ ‘‘อุปกรเณหี’’ติ ปาเสโส, ‘‘ปุริสํ เทถา’’ติอาทินา นเยน อตฺตนาว ยาจิตฺวา คหิเตหิ อุปกรเณเหวาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘สฺาจิกา นาม สยํ ยาจิตฺวา ปุริสมฺปิ ปุริสตฺตกรมฺปิ โคณมฺปิ สกฏมฺปิ วาสิมฺปิ ปรสุมฺปิ กุาริมฺปิ กุทาลมฺปิ นิขาทนมฺปี’’ติ ¶ . เอตฺถ เอว-กาเรน อยาจิตํ นิวตฺเตติ. เตน อสฺสามิกนฺติ ทีปิตํ โหติ. ‘‘กุฏิก’’นฺติ อิมินา ‘‘กุฏิ นาม อุลฺลิตฺตา วา โหติ อวลิตฺตา วา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตา วา’’ติ (ปารา. ๓๔๙) วุตฺตตฺตา ภูมิโต ปฏฺาย ภิตฺติจฺฉทนานิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา มตฺติกาย วา สุธาย วา ทฺวารวาตปานาทิอเลโปกาสํ เปตฺวา อนฺโต ลิตฺตภาเวน อุลฺลิตฺตานามกํ วา ตถา พหิ ลิตฺตภาเวน อวลิตฺตานามกํ วา อนฺโต จ พหิ จ ลิตฺตภาเวน อุลฺลิตฺตาวลิตฺตานามกํ วา กุฏินฺติ วุตฺตํ โหติ.
อปฺปมาณิกนฺติ ‘‘ตตฺริทํ ปมาณํ, ทีฆโส ทฺวาทสวิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ สตฺตนฺตรา’’ติ (ปารา. ๓๔๘) ทีฆปุถุลานํ วุตฺตปฺปมาเณน อติเรกตฺตา อปฺปมาณิกนฺติ อตฺโถ.
เอตฺถ จ ติลกฺขณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ตีณิ กิเลสมูลานิ อุปฺปาเฏตฺวา กาลตฺตยวตฺต สพฺพธมฺเม ปฏิวิชฺฌิตฺวา ติภุวเนกปฏิสรณภูตสฺส ภควโต ธมฺมราชสฺส องฺคุลํ ปมาณมชฺฌิมปุริสสฺส องฺคุลโต ติวงฺคุลํ โหติ, เอกา วิทตฺถิ ติสฺโส วิทตฺถิโย โหนฺติ, เอกํ รตนํ ตีณิ รตนานิ โหนฺตีติ เอวํ นิยมิตา สุคตวิทตฺถิ จ วฑฺฒกิรตเนน ทิยฑฺฒรตนปฺปมาณา โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สุคตวิทตฺถิ นาม อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติสฺโส วิทตฺถิโย วฑฺฒกิหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๘-๓๔๙). ตสฺมา ¶ สุคตวิทตฺถิยา ทฺวาทส วฑฺฒกิหตฺเถน อฏฺารส หตฺถา โหนฺติ. ‘‘ทีฆโส ทฺวาทส วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยาติ พาหิริเมน มาเนนา’’ติ (ปารา. ๓๔๙) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา อนฺติมํ สุธาเลปํ อคฺคเหตฺวา ถุสมตฺติกปริยนฺเตน วา มหามตฺติกปริยนฺเตน วา พาหิรนฺตโต อฏฺารสหตฺถปฺปมาณํ, ‘‘ติริยํ สตฺตนฺตราติ อพฺภนฺตริเมน มาเนนา’’ติ (ปารา. ๓๔๙) ¶ ปทภาชเน วุตฺตตฺตา อพฺภนฺตริเมน ปุถุลโต ทฺวาทสงฺคุลาธิกทสหตฺถปฺปมาณฺจ กุฏิยา ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. เอวํ ิตปมาณโต ทีฆโต ปุถุลโต วา อุภโต วา เกสคฺคมตฺตาธิกาปิ กุฏิ อาปตฺติยา องฺคํ โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปมาณิก’’นฺติ อาหาติ สงฺเขปโต เวทิตพฺพํ.
อตฺตุทฺเทสนฺติ อุทฺทิสิตพฺโพติ อุทฺเทโส, อตฺตา อุทฺเทโส เอติสฺสาติ อตฺตุทฺเทสา, กุฏิ, ตํ อตฺตุทฺเทสํ. ‘‘อตฺตุทฺเทสนฺติ อตฺตโน อตฺถายา’’ติ ปทภาชเน วุตฺตตฺตา ‘‘มยฺหํ เอสา วาสตฺถาย ภวิสฺสตี’’ติ อตฺตานํ อุทฺทิสิตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘กโรนฺตสฺสา’’ติ อิทํ ‘‘การยมาเนนาติ กโรนฺโต วา การาเปนฺโต วา’’ติ ปทภาชเน วุตฺตนเยน ปโยชกกตฺตุโน จ คเหตพฺพตฺตา อุปลกฺขณนฺติ คเหตพฺพํ. ตถาติ เตเนว ปกาเรน, เยหิ อสฺสามิกตาทีหิ ปกาเรหิ ยุตฺตํ ปมาณาติกฺกนฺตํ กุฏึ กโรนฺตสฺส อาปตฺติ, เตเหว ปกาเรหิ ยุตฺตํ อเทสิตวตฺถุกมฺปิ กุฏึ กโรนฺตสฺสาติ. อิมินา อปฺปมาณิกํ วิย อเทสิตวตฺถุกมฺปิ วิสุํเยว อาปตฺติยา ปธานงฺคนฺติ. วสติ เอตฺถาติ วตฺถุ, ภูมิ, สา อเทสิตา เอติสฺสาติ อเทสิตวตฺถุกา, กุฏิ, ตํ อเทสิตวตฺถุกํ.
กึ วุตฺตํ โหติ? เตน กุฏิกาเรน ภิกฺขุนา กุฏิวตฺถุํ โสเธตฺวา สมตลํ กาเรตฺวา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต สฺาจิกาย กุฏึ กตฺตุกาโม อสฺสามิกํ อตฺตุทฺเทสํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ กุฏิวตฺถุโอโลกนํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา ยาจิเตน สงฺเฆน วา สงฺเฆน ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สมฺมเตหิ พฺยตฺเตหิ ¶ ปฏิพเลหิ ทฺวีหิ ภิกฺขูหิ วา เตน สทฺธึ คนฺตฺวา กุฏิวตฺถุํ โอโลเกตฺวา สารมฺภภาวํ วา อปริกฺกมนภาวํ วา อุภยเมว วา ปสฺสนฺเตหิ ‘‘มายิธ กรี’’ติ นิวาเรตฺวา อนารมฺภํ เจ โหติ สปริกฺกมนํ, อาคนฺตฺวา สงฺฆสฺส อาโรจิเต กุฏิการเกเนว ภิกฺขุนา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต สฺาจิกาย กุฏึ กตฺตุกาโม อสฺสามิกํ อตฺตุทฺเทสํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ กุฏิวตฺถุเทสนํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา ยาจิเต วุฑฺฒานุมเตน พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย เทเสตฺวา นิยฺยาทิตกุฏิวตฺถุสฺส ¶ อภาวา อเทสิตวตฺถุกํ, เตเนว อสฺสามิกตาทิปกาเรน ยุตฺตํ ยถาวุตฺตปฺปการํ กุฏิกํ อตฺตนา ยาจิเตหิ อุปกรเณหิ กโรนฺตสฺส, การาเปนฺตสฺส จาติ วุตฺตํ โหติ.
ทฺเว สงฺฆาทิเสสา โหนฺตีติ ‘‘ภิกฺขู วา อนภิเนยฺย วตฺถุเทสนาย, ปมาณํ วา อติกฺกาเมยฺย, สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปารา. ๓๔๘) ตุลฺยพลตาสูจเกน วา-สทฺเทน สมฺปิณฺฑิตฺวา วุตฺตองฺคทฺวยสหิตตฺตา ทฺเว สงฺฆาทิเสสา โหนฺตีติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ อนารมฺภํ สปริกฺกมนํ, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ สงฺฆาทิเสสาน’’นฺติ (ปารา. ๓๕๕) จ ‘‘ภิกฺขุกุฏึ กโรติ อเทสิตวตฺถุกํ อนารมฺภํ สปริกฺกมนํ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๕๔) จ ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ ปมาณาติกฺกนฺตํ อนารมฺภํ สปริกฺกมนํ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๕๕) จ วุตฺตตฺตา ทฺวีสุ องฺเคสุ เอกํ เจ, เอโกว สงฺฆาทิเสโส ¶ โหตีติ. ตํ ปน ‘‘สเจ เอกวิปนฺนา สา, ครุกํ เอกกํ สิยา’’ติ วกฺขติ.
สารมฺภาทีสูติ เอตฺถ สารมฺภ-สทฺโท โสปทฺทวปริยาโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สารมฺภํ อนารมฺภนฺติ สอุปทฺทวํ อนุปทฺทว’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๘-๓๔๙). เอตฺถ ‘‘เสตํ ฉาคมารเภถ ยชมาโน’’ติ ปโยเค วิย อา-ปุพฺพสฺส รภสฺส หึสตฺเถปิ ทิสฺสมานตฺตา กตฺตุสาธโน อารมฺภ-สทฺโท หึสกานํ กิปิลฺลิกาทิสตฺตานํ วาจโก ภวตีติ ตํสหิตฏฺานํ สารมฺภํ นาม โหติ. เตเนว ปทภาชเนปิ วุตฺตํ ‘‘สารมฺภํ นาม กิปิลฺลิกานํ วา อาสโย โหติ, อุปจิกานํ วา, อุนฺทูรานํ วา, อหีนํ วา, วิจฺฉิกานํ วา, สตปทีนํ วา, หตฺถีนํ วา, อสฺสานํ วา, สีหานํ วา, พฺยคฺฆานํ วา…เป… อาสโย โหตี’’ติ (ปารา. ๓๕๓).
อาทิ-สทฺเทน อปริกฺกมนํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘สปริกฺกมนํ นาม สกฺกา โหติ ยถายุตฺเตน สกเฏน อนุปริคนฺตุํ, สมนฺตา นิสฺเสณิยา อนุปริคนฺตุํ, เอตํ สปริกฺกมนํ นามา’’ติ (ปารา. ๓๕๓) วุตฺตลกฺขณวิปริยายโต นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺาเน เอกํ จกฺกํ เปตฺวา อิตรํ จกฺกํ พหิ เปตฺวา กุฏึ ปริกฺขิปิตฺวา อาวชฺชิยมานสฺส โคยุตฺตสกฏสฺส วา นิสฺเสณิยํ ตฺวา กุฏึ ฉาทยมานานํ นิสฺเสณิยา วา ปรโต คมิตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา อปริกฺกมนนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอวํ ¶ วุตฺตสารมฺภอปริกฺกมนสงฺขาตองฺคทฺวเยน ยุตฺตํ เจ, ทฺเว ทุกฺกฏานิ โหนฺติ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ เทสิตวตฺถุกํ ปมาณิกํ สารมฺภํ อปริกฺกมนํ, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏาน’’นฺติ (ปารา. ๓๕๕). เอกํ เจ, เอกเมว โหติ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ เทสิตวตฺถุกํ ปมาณิกํ สารมฺภํ สปริกฺกมนํ, อาปตฺติ ¶ ทุกฺกฏสฺส. ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ เทสิตวตฺถุกํ ปมาณิกํ อนารมฺภํ อปริกฺกมนํ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๕๕) เอตํ ตยมฺปิ ‘‘สารมฺภาทีสุ ทุกฺกฏ’’นฺติ สามฺเน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เอกํ องฺคํ ปมาณิกตฺตํ วา เทสิตวตฺถุกตฺตํ วา วิปนฺนํ เอติสฺสาติ เอกวิปนฺนา. ปุพฺเพ วุตฺตตฺถานํ สงฺฆาทิเสสาทิปทานมตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สาติ ยถาวุตฺตลกฺขณกุฏิ.
๓๘๓. อิทานิ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อฏฺุปฺปตฺติยํ ‘‘เต ยาจนพหุลา วิฺตฺติพหุลา วิหรนฺติ ‘ปุริสํ เทถ ปุริสตฺตกรํ เทถา’’ติอาทิปาฬิยา (ปารา. ๓๔๒) อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) อาคตํ กปฺปิยากปฺปิยวินิจฺฉยํ สงฺเขปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุริส’’นฺติอาทิ. กมฺมสหายตฺถายาติ กิสฺมิฺจิ กมฺเม สหายภาวาย, กมฺมกรณตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อิตฺถนฺนามํ กมฺมํ กาตุํ ปุริสํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ ยาจิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กมฺมกรณตฺถาย ‘ปุริสํ เทถา’ติ ยาจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒). มูลจฺเฉชฺชวเสนาติ สามิกานํ อายตฺตภาวสงฺขาตมูลสฺส ฉินฺทนวเสน, อตฺตโน อายตฺตภาวกรณวเสนาติ วุตฺตํ โหติ.
๓๘๔. อวชฺชนฺติ วชฺชรหิตํ, นิทฺโทสนฺติ อตฺโถ. มิคลุทฺทกมจฺฉพนฺธกาทีนํ สกกมฺมํ วชฺชกมฺมํ นาม. ตสฺมา มิคลุทฺทกาทโย หตฺถกมฺมํ ยาจนฺเตน ปน ‘‘ตุมฺหากํ หตฺถกมฺมํ เทถา’’ติ, ‘‘หตฺถกมฺมํ ทาตพฺพ’’นฺติ สามฺเน อวตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามํ กมฺมํ ทาตพฺพ’’นฺติ วิเสเสตฺวาเยว ยาจิตพฺพํ. ลุทฺทเก วา อิตเร วา นิกฺกมฺเม อยาจิตฺวาปิ ยถารุจิ กมฺมํ การาเปตุํ วฏฺฏติ. หตฺถกมฺมยาจนาย สพฺพถาปิ กปฺปิยภาวํ ทีเปตุํ ตํตํสิปฺปิเก ยาจิตฺวา มหนฺตมฺปิ ปาสาทํ การาเปนฺเตน ¶ หตฺถกมฺเม ยาจิเต อตฺตโน อโนกาสภาวํ ตฺวา อฺเสํ กโรนฺตานํ ทาตพฺพํ มูลํ ทิยฺยมานํ อธิวาเสตุํ วฏฺฏตีติ วิตฺถารโต อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒ อตฺถโตสมานํ) วุตฺตตฺตา กุสลานํ อตฺถํ อปริหาเปนฺเตน กปฺปิเยน สารุปฺเปน ปโยเคน ยาจิตพฺพํ. ยาจิตกมฺมํ กาตุํ อสมตฺเถหิ กโรนฺตานํ ทิยฺยมานํ หตฺถกมฺมมูลํ กมฺมํ การาเปตฺวา ¶ กมฺมการเก ทสฺเสตฺวา ทาเปตพฺพํ. เอวํ ยาจนาย อนวชฺชภาเว อฏฺกถาคตํ การณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘หตฺถกมฺมมฺปี’’ติอาทิ. ปิ-สทฺโท อวธารเณ, ปทปูรเณ วา. หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. ยสฺมา อิทํ หตฺถกมฺมํ กิฺจิ วตฺถุ น โหติ, ตสฺมา อนวชฺชเมว หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ ปน วฏฺฏตีติ.
๓๘๕. าตกาทิเกติ าตกปวาริเต. เปตฺวาติ วชฺเชตฺวา. โคณมายาจมานสฺสาติ อฺาตกอปฺปวาริเต ตาวกาลิกํ วินา เกวลํ กมฺมกรณตฺถาย โคณํ ยาจนฺตสฺส. เตสุปีติ าตกาทีสุปิ มูลจฺเฉชฺเชน โคณมายาจนสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ‘‘ตาวกาลิกนเยน สพฺพตฺถ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) อฏฺกถาวจนโต ยาว กมฺมกรณกาลํ, ตาว นิยเมตฺวา าตกอฺาตกปวาริตอปฺปวาริเต สพฺเพปิ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. ตถา ยาจิตฺวา วา อยาจิตฺวา วา คหิโต เจ, รกฺขิตฺวา ปฏิชคฺคิตฺวา สามิกานํ นิยฺยาเทตพฺโพ, โคเณ วา นฏฺเ วิสาเณ วา ภินฺเน สามิเกสุ อสมฺปฏิจฺฉนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยํ.
๓๘๖. เทมาติ เอตฺถ ‘‘ตุมฺหาก’’นฺติ ปาเสโส. ‘‘วิหารสฺส เทมา’ติ วุตฺเต ปน ‘อารามิกานํ อาจิกฺขถ ปฏิชคฺคนตฺถายา’ติ วตฺตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. สกฏวินิจฺฉยสฺสาปิ ¶ โคณวินิจฺฉเยน สมานตฺตา ตํ อวตฺวา วิเสสมตฺตเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘สกฏํ…เป… วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘ตุมฺหากํ เทมาติ วุตฺเต’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตุมฺหากเมว เทมาติ วุตฺเต ทารุภณฺฑํ นาม สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒).
๓๘๗. กุาราทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นิขาทนํ สงฺคณฺหาติ. อยํ นโย เวทิตพฺโพติ ปาเสโส. ‘‘สกฏํ โคโณ วิย ตาวกาลิกํ อกตฺวา อฺาตกอปฺปวาริเต น ยาจิตพฺพํ, มูลจฺเฉชฺชวเสน อฺาตกอปฺปวาริเต น ยาจิตพฺพํ, ตาวกาลิกํ ยาจิตพฺพ’’นฺติ วินิจฺฉโย จ ‘‘สกฏํ…เป… วฏฺฏตี’’ติ วิเสสวินิจฺฉโย จาติ อยํ นโย วาสิอาทีสุ จ เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ เกนจิ ‘‘มเมต’’นฺติ อปริคฺคหิตํ, ‘‘รกฺขิตโคปิตฏฺาเนเยว หิ วิฺตฺติ นาม วุจฺจตี’’ติ อฏฺกถาวจนโต อรกฺขิตาโคปิตกนฺติ วุตฺตํ โหติ. อฏฺกถาย วลฺลิอาทิวินิจฺฉยมฺปิ วตฺวา ‘‘อนชฺฌาวุตฺถกํ ปน ยํ กิฺจิ อาหราเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) วุตฺตตฺตา สพฺพนฺติ ¶ อิธ วุตฺตโคณาทิกฺจ วกฺขมานวลฺลิอาทิกฺจ คเหตพฺพํ. อิมินา ปุพฺเพ วุตฺตวินิจฺฉยสฺส รกฺขิตโคปิตวิสยตฺตํ ทีปิตํ โหติ. หราเปตุมฺปิ วฏฺฏตีติ เอตฺถ อปิ-สทฺเทน ปเคว เกนจิ หริตฺวา ทินฺนนฺติ ทีเปติ.
๓๘๘. วลฺลิอาทิมฺหีติ อาทิ-สทฺเทน เวตฺตมฺุชติณมตฺติกา สงฺคณฺหาติ. เอตฺถ มฺุชปพฺพชติณํ วินา เคหจฺฉาทนติณํ ติณํ นาม. ครุภณฺฑปฺปโหนเกติ ‘‘วลฺลิ อฑฺฒพาหุมตฺตาปี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตลกฺขเณ ครุภณฺฑปฺปโหนเก. ปเรสํ สนฺตเกเยวาติ อวธารเณน น อนชฺฌาวุตฺถเก ทุกฺกฏนฺติ พฺยติเรกโต ทีเปติ.
๓๘๙. ปจฺจเยสูติ ¶ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนสงฺขาเตสุ ตีสุ ปจฺจเยสุ. เอว-กาเรน คิลานปจฺจยสงฺขาเต จตุตฺถปจฺจเย วิฺตฺติ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. วิฺตฺติ นาม ‘‘อาหร, เทหี’’ติ อิจฺฉิตปจฺจเย นามํ วตฺวา ยาจนา. อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘สพฺเพน สพฺพํ น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) สาวธารณตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘น จ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา เนว วฏฺฏตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
วิฺตฺติยา อลพฺภมานภาเวน สมตฺตา ปจฺจเยสุ ตีสุ อนนฺตรํ สหนิทฺทิฏฺปจฺจยตฺตยโต ตติยปจฺจเยเยว ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตติเย ปริกโถภาสนิมิตฺตานิ จ ลพฺภเร’’ติ วุตฺตตฺตา อวสิฏฺทฺวเย ปน ปริกถาทโย น ลพฺภนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อวุตฺเต จตุตฺถปจฺจเยปิ สมุจฺจยตฺเถน จ-กาเรน ปริกถาทิตฺตยํ ลพฺภตีติ สิทฺธตฺตา ‘‘ตีสฺเววา’’ติ เอว-กาเรน พฺยติเรกมุเขน วิฺตฺติยา จ อนฺุาตตฺตา จตุตฺเถ คิลานปจฺจเย ปริกโถภาสนิมิตฺตกมฺมวิฺตฺติโย วฏฺฏนฺตีติ สิทฺธํ. เอตฺตาวตา จตุตฺเถ ปจฺจเย ปริกถาทโย จตฺตาโรปิ วฏฺฏนฺติ, ตติยปจฺจเย วิฺตฺตึ วินา เสสตฺตยํ วฏฺฏติ, ปุริมปจฺจยทฺวเย สพฺพมฺปิ น วฏฺฏตีติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เสนาสนปจฺจเย ปริกถาทิกนฺติ อุโปสถาคาราทิกรณารหฏฺานํ โอโลเกตฺวา อุปาสกานํ สุณนฺตานํ ‘‘อิมสฺมึ วต โอกาเส เอวรูปํ เสนาสนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วา ‘‘ยุตฺต’’นฺติ วา ‘‘อนุรูป’’นฺติ วา ปวตฺตา กถา ปริกถา นาม. ‘‘อุปาสกา ตุมฺเห กตฺถ วสถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปาสาเท ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขูนํ ปน อุปาสกา ปาสาโท น วฏฺฏตี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตา ¶ กถา โอภาโส นาม. อุปาสเกสุ ปสฺสมาเนสุ ภูมิยํ รชฺชุํ ปสาเรตฺวา ภูมึ ภาเชตฺวา ขาณุเก อาโกเฏตฺวา ‘‘กิมิทํ ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ¶ ‘‘เอตฺถ อาวาสํ กโรม อุปาสกา’’ติอาทิกา กถา นิมิตฺตกถา นาม. คิลานปจฺจเย จ อิมินา นเยน ยถารหํ เวทิตพฺพํ. สพฺพเมตํ อฏฺกถาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) วุตฺตํ.
๓๙๐-๓. อิทานิ กุฏิการสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺติทสฺสนตฺถมาห ‘‘อเทสิเต’’ติอาทิ. ตํ อุตฺตานตฺถเมว. นิเสนฺตสฺสาติ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา ติขิณํ กโรนฺตสฺส. ปาจิตฺติยา สหาติ ‘‘ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๐) วุตฺตปาจิตฺติเยน สทฺธึ.
อาปตฺตินฺติ ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจ อิตรตฺร สุทฺธปโยคทุกฺกฏฺจาติ อาปตฺตึ.
ยา ปนาติ ยา กุฏิ. ปเม ทุติเยติ เอตฺถ ‘‘ปิณฺเฑหี’’ติ กรณพหุวจนํ วิภตฺติวจนวิปริณามวเสน ‘‘ปิณฺเฑ’’ติ ภุมฺเมกวจนนฺตํ กตฺวา โยเชตพฺพํ, ‘‘นิกฺขิตฺเต’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ, ภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ, นิกฺขิตฺเต สตีติ อตฺโถ.
๓๙๔. ‘‘สเจ อฺสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. วิปฺปกตนฺติ อารทฺธมนิฏฺิตํ. ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิทํ นิฏฺิเต อาปชฺชิตพฺพสงฺฆาทิเสสาภาวํ สนฺธายาห. ปุพฺพปโยคมตฺเตน หิ ปาจิตฺติยทุกฺกฏานิปิ โหนฺติ, ตานิ ปน เทเสตพฺพานิ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อากฑฺฒติ, เตน สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา อภาวโต ปุพฺพภาเค อาปนฺนานํ ปาจิตฺติยทุกฺกฏานํ เทเสตพฺพตา จ ทีปิตา โหติ. ตํ กุฏินฺติ ตํ วิปฺปกตกุฏึ.
๓๙๕. อฺํ โภชนสาลาทึ. ตถาติ อนาปตฺติมาห.
๓๙๖. ‘‘กโรโต’’ติ ¶ อิมินา ‘‘การาปยโต’’ติปิ ลพฺภติ. อุภเยนาปิ ‘‘กฺริยโต’’ติ อิมสฺส การณํ ทสฺเสติ. ‘‘อปฺปมาณิก’’นฺติ อิมินา สงฺฆาทิเสสสฺส องฺคํ ทสฺเสติ.
๓๙๗. ตนฺติ ¶ ‘‘อปฺปมาณิก’’นฺติ เอวํ ปจฺจามสติ. ‘‘กฺริยากฺริยโต’’ติ อิทํ กุฏิยา กรณฺจ วตฺถุเทสนาย อกรณฺจ อุปาทาย วุตฺตํ.
กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา.
๓๙๘. วตฺถุํ อเทเสตฺวาติ สมฺพนฺโธ, ‘‘เตน วิหารการเกน ภิกฺขุนา วิหารวตฺถุํ โสเธตฺวา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติอาทินา (ปารา. ๓๖๗) ปทภาชเน อาคตนเยน วิหารํ การาเปนฺเตน ภิกฺขุนา วิหารวตฺถุํ โสเธตฺวา สมตลํ กาเรตฺวา สงฺฆํ อุปสงฺกมฺม วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต มหลฺลกํ วิหารํ กตฺตุกาโม สสฺสามิกํ อตฺตุทฺเทสํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ วิหารวตฺถุโอโลกนํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ยาจิตฺวา ลทฺเธ วุฑฺเฒ วา ภิกฺขู ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สงฺเฆน สมฺมเต วา ภิกฺขู เนตฺวา กตปริกมฺมํ วิหารวตฺถุํ ทสฺเสตฺวา กุฏิวตฺถุโอโลกเน วิย คตภิกฺขูหิ โอโลเกตฺวา สารมฺภาทิภาวํ อุปปริกฺขิตฺวา อนารมฺภสปริกฺกมนภาวํ ตฺวา อาคนฺตฺวา สงฺฆสฺส อาโรจิเต ปุน เตน สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต มหลฺลกํ วิหารํ กตฺตุกาโม สสฺสามิกํ อตฺตุทฺเทสํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ วิหารวตฺถุเทสนํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ยาจิตฺวา สงฺเฆน ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย วิหารวตฺถุ เทเสตพฺพํ ¶ , ตถา อกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อิห สารมฺภาทิ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
มหลฺลกนฺติ ‘‘สสฺสามิกภาเวน สฺาจิกกุฏิโต มหนฺตภาโว เอตสฺส อตฺถีติ มหลฺลโก. ยสฺมา วา วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกเมนาปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ปมาณมหนฺตตายปิ มหลฺลโก’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๖๖) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน มหนฺตภาเวน ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. วิหารนฺติ ‘‘วิหาโร นาม อุลฺลิตฺโต วา โหติ อวลิตฺโต วา อุลฺลิตฺตาวลิตฺโต วา’’ติ (ปารา. ๓๗๑) ปทภาชเน วุตฺตปฺปการํ เสนาสนนฺติ อตฺโถ. วิหรนฺติ อสฺมินฺติ วิคฺคโห. อุลฺลิตฺตาทิสรูปํ ปุริมสิกฺขาปเท วุตฺตนยเมว. ตํ วิหารํ โย กเรยฺยาติ โยชนา. กเรยฺย วา การาเปยฺย วาติ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมว. อตฺตวาสตฺถนฺติ อตฺตโน วาสํ ปฏิจฺจ, อิมินา ปรสฺส วาสตฺถาย กโรติ, อนาปตฺตีติ พฺยติเรกโต วิฺายติ. ‘‘ครุก’’นฺติ เอตฺถ วตฺถุเทสนาย อการาปเนน ‘‘เอโกว สงฺฆาทิเสโส โหตี’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตวิกปฺปตฺตยํ ¶ น คเหตพฺพํ. อิทฺจ วกฺขติ ‘‘ปมาณา…เป… สงฺฆาทิเสสตา’’ติ (วิ. วิ. ๓๙๙ อาทโย).
๓๙๙. กฺริยาสมุฏฺานาภาวนฺติ ปมาณาติกฺกเมปิ อาปตฺติยา อสมฺภวโต กิริยาสมุฏฺานสฺส อิธ อภาโว าตพฺโพ. กฺริย…เป… ลกฺขเยติ เอตฺถ พฺยติเรกโต อเทสิตวตฺถุกตาย อกิริยาสมุฏฺานตา อนฺุาตา.
มหลฺลกวิหารกถาวณฺณนา.
๔๐๑-๓. เตสูติ จตุวีสติยา ปาราชิเกสุ. ภิกฺขุโน อนุรูปานิ เอกูนวีสตีติ ภิกฺขุนีนํ ปฏินิยตา อุพฺภชาณุมณฺฑลิกาทโย ¶ จตฺตาโร ตทนุโลมาย วิพฺภนฺตภิกฺขุนิยา สห ปฺจ ปาราชิเก วินา ภิกฺขุโน อนุรูปา เสสา เอกูนวีสติ ปาราชิกา.
อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปทภาชเน ‘‘ปาราชิเกน ธมฺเมนาติ จตุนฺนํ อฺตเรนา’’ติ (ปารา. ๓๘๖) วุตฺตนยสฺส อิธ ‘‘เอกูนวีสตี’’ติ วจนํ วิรุชฺฌตีติ เจ? น วิรุชฺฌติ. กสฺมา? ยสฺมา ปทภาชนํ ปาติโมกฺขุทฺเทสาคตมตฺตํ คเหตฺวา ปวตฺตํ, อิทํ ปน พุทฺธานุมตึ คเหตฺวา วินยปริยตฺติปวตฺตกานํ อาจริยานํ มตํ คเหตฺวา ปวตฺตํ, ตสฺมา น วิรุชฺฌตีติ คเหตพฺพํ. อาจริโย สพฺพปาราชิกานํ ‘‘พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ (ปารา. ๓๘๕) วุตฺตอนุทฺธํสนสฺส เอกนฺตสาธนตฺตา ภิกฺขุนีนํ ปฏินิยตสานุโลมปาราชิกปฺจกํ วินา อวเสสํ สพฺพํ สงฺคณฺหิ, เตเนว วินยฏฺกถาย คณฺิปทวิวรเณ ‘‘จตุนฺนํ อฺตเรนาติ ปาติโมกฺขุทฺเทเส เอว อาคเต คเหตฺวา วุตฺตํ, อิตเรสํ อฺตเรนาปิ อนุทฺธํเสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโสวา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อนุทฺธํเสยฺยา’’ติ (ปารา. ๓๘๔) ปาเ อธิปฺปายํ คเหตฺวา ปวตฺตตฺตา อิเมสํ อาจริยานํ มตํ ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. ‘‘เตสุ อฺตเรนา’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘เอกูนวีสตี’’ติ เอตฺถ ‘‘ยานี’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
อฺตเรน อมูลเกนาติ โยชนา. อมูลเกนาติ โจทกสฺส ทสฺสนาทีหิ โจทนามูเลหิ วิรหิตตฺตา อมูลกํ, ปาราชิกํ, เตน. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยํ ปาราชิกํ โจทเกน จุทิตกมฺหิ ปุคฺคเล เนว ทิฏฺํ น สุตํ น ปริสงฺกิตํ, อิทํ เอเตสํ ทสฺสนสวนปริสงฺกาสงฺขาตานํ ¶ มูลานํ อภาเวน อมูลกํ นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖). เอตฺถ จ มํสจกฺขุนา วา ทิพฺพจกฺขุนา วา ทิฏฺํ ทิฏฺํ นาม ¶ . ปกติโสเตน วา ทิพฺพโสเตน วา สุตํ สุตํ นาม. จิตฺเตน ปริสงฺกิตํ ปริสงฺกิตํ นาม. ตํ ติวิธํ ทิฏฺสุตมุตปริสงฺกิตวเสน.
ตตฺถ ตาทิเส กมฺมนิเย โอกาเส มาตุคาเมน สทฺธึ ภิกฺขุโน อฺถิยํ ปโยคํ ทิสฺวา อฺถา คเหตฺวา ‘‘วีติกฺกมนํ นุ โขยมกาสี’’ติ คหณํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม. กุฏฺฏติโรหิเต ภิกฺขุมฺหิ มาตุคามสฺส สทฺทํ สุตฺวา ตตฺถ อฺสฺส วิฺุปุริสสฺส สพฺภาวํ อชานิตฺวา ‘‘วีติกฺกมนํ นุ โขยมกาสี’’ติ เอวํ คหณํ สุตปริสงฺกิตํ นาม. วิหารปริยนฺเต ตรุณมาตุคามปุริสานํ ทิวสํ วีตินาเมตฺวา คตฏฺาเน วิปฺปกิณฺณปุปฺผานิ โอโลเกตฺวา, มํสสุรคนฺธฺจ ฆายิตฺวา ‘‘อิทํ กสฺส กมฺม’’นฺติ อุปปริกฺขนฺเตน ภิกฺขุโน เจติยปูชิตมาลาคนฺธสฺส ปีตาริฏฺสฺส ภิกฺขุโน สรีรคนฺธํ ฆายิตฺวา ‘‘ตํ เอตสฺส กมฺมํ นุ โข’’ติ กิริยมานสํสโย มุตปริสงฺกิตํ นาม. เอวรูปสฺส ทิฏฺสุตปริสงฺกิตมูลกสฺส อภาวโต อมูลเกน ปาราชิเกนาติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖) วุตฺตนเยน ทฏฺพฺโพ.
โจเทตีติ ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อาปนฺโนสี’’ติอาทิวจเนน สยํ โจเทติ. โจทาปนํ ปน วกฺขติ. จาวนเจตโน หุตฺวาติ ‘‘อปฺเปว นาม นํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ อุปฺปนฺเนน ปรํ สาสนา จาเวตุกาเมน จิตฺเตน สมนฺนาคโต หุตฺวา. ‘‘สุทฺธํ วา อสุทฺธํ วา’’ติ อิทํ ‘‘โจเทตี’’ติ อิมินา วุตฺตโจทนากิริยาย กมฺมนิทฺเทโส, ‘‘อฺํ ภิกฺขุ’’นฺติ เสโส, ปาราชิกมนาปนฺนํ วา อาปนฺนํ วา อฺํ ภิกฺขุนฺติ อตฺโถ. โยติ มาติกาคตภิกฺขุ, ‘‘ทุฏฺโ โทโส อปฺปตีโต’’ติ อิทํ อชฺฌาหริตพฺพํ, อุปฺปนฺเนน โทสเลเสน ¶ สยํ ทูสิโต, ปรฺจ ทูเสนฺโต ปีติสุขาทีหิ อปคโต โย ภิกฺขูติ อตฺโถ. วกฺขมาเนน ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.
‘‘กเต โอกาสมฺหี’’ติ ปทจฺเฉโท, โอกาสํ ‘‘การาเปตฺวา’’ติ (ปารา. ๓๘๙) ปาโต อนฺโตนีตเหตฺวตฺถตาย ‘‘กเต’’ติ ‘‘การิเต’’ติ เอตสฺส ปริยาโย โหติ, ‘‘โอกาสํ เม กโรหิ, อหํ ตํ วตฺตุกาโม’’ติ โอกาเส การาปิเตติ อตฺโถ. ‘‘อกเต โอกาเส’’ติ ปทจฺเฉโท ¶ , ปุพฺเพ วุตฺโตเยวตฺโถ. ทุกฺกฏาปตฺติยา สหาติ โอกาสสฺส อการาปิตตฺตา ทุกฺกฏาปตฺติยา สทฺธึ.
๔๐๔-๕. โกณฺโสีติ ธุตฺโตสิ. เชฏฺพฺพติโกสีติ กาลีเทวีวตนิยุตฺโตสิ. กาลีเทวี กิร สิริเทวิยา เชฏฺา, ตสฺมา ตสฺสา วตธโร เชฏฺพฺพติโก วุจฺจติ. ตํ ปน วตํ สมาทิยิตฺวา ปูเรนฺโต สกลสรีเร มสึ มกฺเขตฺวา กากปตฺตานิ มุฏฺิยํ กตฺวา กาลีเทวึ ผลเก ลิขาเปตฺวา ตํ กาชโกฏิยํ พนฺธิตฺวา อุจฺฉิฏฺโทกาทิอสุจิสนฺนิจิตโอลิคลฺลํ ปวิสิตฺวา ‘‘ทุสฺสีโลสิ นิสฺสีโลสิ สีลวิรหิโตสี’’ติ โถเมนฺโต วิจรตีติ.
ทุสฺสีลตฺตา เอว หีนชฺฌาสยตาย ปาปธมฺโม ลามกสภาโวสิ. ปูตินา กมฺเมน สีลวิปตฺติยา อนฺโต ปวิฏฺตฺตา อนฺโตปูติ. ฉหิ ทฺวาเรหิ ราคาทิกิเลสานุสฺสวเนน ตินฺตตฺตา อวสฺสุโต. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. ครุกํ นิทฺทิเสติ เอตฺถ ‘‘กโตกาสมฺหี’’ติ จ ‘‘ตเถว อกโตกาเส, ทุกฺกฏาปตฺติยา สหา’’ติ จ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอวมุตฺตรตฺราปิ.
๔๐๖. สมฺมุขาติ ¶ จุทิตกสฺส สมฺมุขา, อวิทูเรติ อตฺโถ. หตฺถมุทฺทายาติ มุตฺตปาณาทิวเสน. ตํ หตฺถมุทฺทาย กถิตํ. ปโรติ ยํ โจเทสิ, โส จุทิตโก ปโร. ภิกฺขุโนติ โจทกสฺส ภิกฺขุโน.
๔๐๗. สมฺมุเข ตฺวาติ จุทิตกสฺส อาสนฺเน ตฺวา. ‘‘โจทาเปนฺตสฺสา’’ติ เอตสฺส กมฺมภาวโต ปโรติ อิทํ อุปโยคนฺตวเสน สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอวมุตฺตรตฺร. เกนจีติ อฺเน เกนจิ ปุคฺคเลน. ตสฺส โจทกสฺส. ‘‘โจทาเปนฺตสฺสา’’ติ ปุน วจนํ นิยมตฺถํ.
๔๐๘. โสปีติ อุคฺคหาปิตตฺตา โจทนํ กโรนฺโต อิตโร ปโยชฺชกปุคฺคโลปิ. เตสํ ทฺวินฺนมฺปีติ ปโยชกปโยชฺชกานํ ทฺวินฺนมฺปิ.
๔๐๙. วุตฺตฏฺานํ ปณฺณํ วา สนฺเทสํ วา หรนฺโต ทูโต นาม, โส ‘‘ปณฺณํ วา สาสนํ วา เปเสตฺวา’’ติ อิมินา สงฺคยฺหตีติ ตสฺมึ วิสุํ อวตฺตพฺเพปิ ‘‘ทุต’’นฺติ วจเนน นิสฺสฏฺทูตมาห ¶ . ปณฺณํ วา อทตฺวา ‘‘เอวฺจ เอวฺจ วทา’’ติ สาสนฺจ อทตฺวา ‘‘ตํ โจเทหี’’ติ อตฺถมตฺตเมว ทตฺวา นิสฺสฏฺโ ภิกฺขุ อิธ ‘‘นิสฺสฏฺทูโต’’ติ คเหตพฺโพ.
อถ วา ‘‘ทูต’’นฺติ อิมินา โจเทตุํ อุคฺคหาเปตฺวา, ตมนุคฺคหาเปตฺวา วา นิสฺสฏฺโ ภิกฺขุ ทูโตเยว คเหตพฺโพ. ‘‘ปณฺณ’’นฺติ อิมินา ปพฺพชิตสฺส วา อปพฺพชิตสฺส วา กสฺสจิ หตฺเถ โจทนํ ลิขิตฺวา ทินฺนปณฺณํ คเหตพฺพํ. สาสนนฺติ ‘‘ปาราชิกํ อาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน วตฺวา เปสิยมานํ สาสนํ คเหตพฺพํ. อิทํ ตยมฺปิ ทูเร นิสีทิตฺวา อฺเหิ การาปนโต ‘‘โจทาเปนฺตสฺสา’’ติ อาห. ‘‘ปร’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอตฺถ โอกาสการาปนํ นตฺถิ.
๔๑๐. ตถาติ ¶ ยถา อมูลเกน ปาราชิเกน สมฺมุขา โอกาเส การิเต, อการิเต จ, ตถา อมูลเกหิ สงฺฆาทิเสเสหีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วุตฺเต สมฺมุขา ปเร’’ติ ภุมฺมวเสน อธิกเตน โยเชตพฺพํ, โจเทติ โจทาเปตีติ วุตฺตํ โหตีติ. ปาจิตฺติยาปตฺตีติ โอกาเส การิเต เกวลา, อการิเต ทุกฺกเฏน สหาติ คเหตพฺพํ. สมฺมุขา เสสาปตฺตีหิ ปเร วุตฺเต จาวนสฺิโน ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. โอกาสาการาปเนนปิ ทุกฺกฏเมว โหติ.
๔๑๑. อกฺโกสนาธิปฺปายสฺสาติ ขุํสนาธิปฺปายสฺส. อกโตกาสนฺติ อการิโตกาสํ, ‘‘ปร’’นฺติ อิมินา โยเชตพฺพํ. อตฺตนาติ โจทเกน, ‘‘สยํ อการิโตกาส’’นฺติ อิมินา โยเชตพฺพํ. สห ปาจิตฺติเยนาติ ‘‘โอมสวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๑๔) วุตฺตปาจิตฺติเยน สห. วทนฺตสฺสาติ โจเทนฺตสฺส วา โจทาเปนฺตสฺส วา, เอตฺถ ‘‘สมฺมุขา’’ติ อิทํ วกฺขมานสฺส ‘‘อสมฺมุขา’’ติ เอตสฺส วิปริยายโต ลพฺภติ, จ-กาเรน การิโตกาสปกฺเข ทุกฺกเฏน ปาจิตฺติยสมฺพนฺธี.
๔๑๒. อสมฺมุขา วทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อกฺโกสนาธิปฺปายสฺสา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘อกโตกาสมตฺตนา’’ติ นานุวตฺตติ. สตฺตหิ อาปตฺตีหีติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยปาฏิเทสนียทุกฺกฏทุพฺภาสิตสงฺขาเตสุ สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ เยน เกนจีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อสมฺมุขา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. กมฺมนฺติ ตชฺชนียาทิสตฺตวิธํ กมฺมํ.
๔๑๓. อุมฺมตฺตกาทีนนฺติ ¶ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อนาปตฺติ สุทฺเธ อสุทฺธทิฏฺิสฺส อสุทฺเธ อสุทฺธทิฏฺิสฺส อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ ¶ (ปารา. ๓๙๐) วุตฺเต สงฺคณฺหาติ. ปฺจงฺคสํยุตนฺติ ยํ โจเทติ, ตสฺส ‘‘อุปสมฺปนฺโน’’ติ สงฺขฺยูปคมนํ, ตสฺมึ สุทฺธสฺิตา, เยน ปาราชิเกน โจเทติ, ตสฺส ทิฏฺาทิวเสน อมูลกตา, จาวนาธิปฺปาเยน สมฺมุขา โจทนา, ตสฺส ตงฺขณวิชานนนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ ยุตฺตํ โหติ.
๔๑๕. อิทนฺติ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ เสโส, ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ จ อิมินา ตปฺปฏิปาทนียา อาปตฺติเยว คยฺหติ. ติสมุฏฺานนฺติ กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโตติ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺานโต ติสมุฏฺานํ. เตเนวาห ‘‘สจิตฺต’’นฺติ. ปฏิฆจิตฺตานํ ทฺวินฺนํ อฺตเรน สหิตตฺตา สจิตฺตกํ. ตํสมฺปยุตฺตาย โทมนสฺสเวทนาย วเสน ทุกฺขเวทนํ.
ทุฏฺโทสกถาวณฺณนา.
๔๑๖. เลสมตฺตนฺติ ‘‘อฺมฺปิ วตฺถุํ ลิสฺสติ สิลิสฺสติ โวหารมตฺเตเนว อีสกํ อลฺลียตีติ เลโส, ชาติอาทีนํเยว อฺตรโกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๙๑) อฏฺกถาย ทสฺสิตนิพฺพจเนสุ ‘‘เลโส นาม ทส เลสา ชาติเลโส นามเลโส’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๓๙๔) นเยน ปทภาชเน วุตฺเตสุ ชาตินามโคตฺตาทีสุ ทสสุ เลเสสุ อฺตรเลสมตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ ชาติ นาม ขตฺติยพฺราหฺมณาทิชาติ. นามํ นาม อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ‘‘ฉคลโก ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต นาม, ฉคลิกา เมตฺติยา ภิกฺขุนี นามา’’ติ ปิตํ นามํ วิย โจทเกหิ ปิตนามฺจ พุทฺธรกฺขิตาทิสกนามฺจาติ ทุวิธํ นามํ. โคตฺตํ นาม โคตมโมคฺคลฺลานาทิโคตฺตํ. ลิงฺคํ นาม ¶ ทีฆตาทิสณฺานนานตฺตฺจ กณฺหตาทิวณฺณนานตฺตฺจาติ อิทํ ทุวิธลิงฺคํ. อาปตฺติเลโส นาม ลหุกาทิรูเปน ิตปาจิตฺติยาทิอาปตฺติ. ปตฺโต นาม โลหปตฺตาทิ. จีวรํ นาม ปํสุกูลาทิ. อุปชฺฌาโย นาม จุทิตกสฺส อุปชฺฌาโย. อาจริโย นาม จุทิตกสฺส ปพฺพชฺชาจริยาทิโก. เสนาสนํ นาม จุทิตกสฺเสว นิวาสปาสาทาทิกํ.
โจเทยฺยาติ อฺขตฺติยชาติกํ ปุคฺคลํ ปาราชิกํ อชฺฌาปชฺชนฺตํ ทิสฺวา อตฺตโน เวริขตฺติยชาติกํ ¶ ปุคฺคลํ ‘‘ขตฺติโย มยา ทิฏฺโ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ติอาทินา นเยน โจเทติ. ครุกาปตฺติ นาม สงฺฆาทิเสโส. สเจ จาวนเจตโนติ ‘‘อปฺเปว นาม นํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ (ปารา. ๓๙๒) วุตฺตตฺตา สเจ อิมํ สาสนา จาเวยฺยามีติ อธิปฺปาโย หุตฺวา โจเทตีติ วุตฺตํ โหติ, อิมินา พฺยติเรกวเสน น อฺาธิปฺปาโยติ วุตฺตเมว โหตีติ ปุริมสิกฺขาปทฏฺกถายํ ทสฺสิเตสุ ‘‘จาวนาธิปฺปาโย อกฺโกสาธิปฺปาโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๙) เอวมาทินานปฺปการาธิปฺปาเยสุ อาปตฺติยา องฺคภูตํ จาวนาธิปฺปายํ ทสฺเสตฺวา เสสาธิปฺปาเย ปฏิกฺขิปติ.
๔๑๗. ตถาสฺีติ อยํ ปาราชิกมชฺฌาปนฺโนเยวาติ ตถาสฺี. ‘‘โจเทติ วา โจทาเปติ วา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ตถาสฺี’’ติ อิทํ ‘‘โจทาเปตี’’ติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. เสโสติ เอตฺถ ‘‘ปาราชิกานิ วุตฺตานี’’ติอาทึ กตฺวา ‘‘สจิตฺตํ ทุกฺขเวทน’’นฺติ ปริยนฺตํ กตฺวา ทสฺสิตปมสิกฺขาปทวินิจฺฉยสงฺคาหกกถาปพนฺเธน วุตฺตสพฺพวินิจฺฉเยสุ ตํสิกฺขาปทนิยตํ ‘‘อมูลเกนา’’ติ อิทฺจ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ‘‘ภิกฺขุมนฺติมวตฺถุนา…เป… อนาปตฺติ สิยา’’ติ วุตฺตมตฺถฺจ ¶ เปตฺวา อวสิฏฺสพฺพวินิจฺฉโยติ อตฺโถ. อนนฺตรสโม มโต เหฏฺา อนนฺตรํ วุตฺตสิกฺขาปเทเนว สทิโสติ เวทิตพฺโพ.
ทุติยทุฏฺโทสกถาวณฺณนา.
๔๑๘. สมคฺคสฺส สงฺฆสฺสาติ ‘‘สมคฺโค นาม สงฺโฆ สมานสํวาสโก สมานสีมายํ ิโต’’ติ ปทภาชเน วุตฺตตฺตา จิตฺเตน จ กาเยน จ เอกีภูตสฺส สงฺฆสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. จ-กาโร ปทปูรโณ, เอว-การตฺโถ วา, นสมคฺคสฺสาติ พฺยติเรกตฺโถ เวทิตพฺโพ. เภทตฺถํ วายเมยฺยาติ ‘‘อิเม กถํ กทา ภิชฺชิสฺสนฺตี’’ติ รตฺตินฺทิวํ จินฺเตตฺวา อุปายํ คเวสิตฺวา ปกฺขปริเยสนาทึ กเรยฺยาติ อตฺโถ. วุตฺตฺหิ ปาฬิยํ ‘‘เภทาย ปรกฺกเมยฺยาติ กถํ อิเม นานา อสฺสุ วินา อสฺสุ วคฺคา อสฺสูติ ปกฺขํ ปริเยสติ คณํ พนฺธตี’’ติ (ปารา. ๔๑๒).
เภทเหตุนฺติ ‘‘อิธุปาลิ ภิกฺขุ อธมฺมํ ‘ธมฺโม’ติ ทีเปติ, ธมฺมํ ‘อธมฺโม’ติ ทีเปตี’’ติอาทินา (ปริ. ๔๕๙) นเยน ขนฺธเก วุตฺตํ อฏฺารสเภทกรวตฺถุสงฺขาตํ สงฺฆเภทการณมาห ¶ . อิทเมว หิ ปทภาชเน วุตฺตํ ‘‘เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณนฺติ อฏฺารสเภทกรวตฺถูนี’’ติ. คเหตฺวาติ ปคฺคยฺห. ติฏฺเยฺยาติ นปฺปฏินิสฺสชฺเชยฺย. ปริทีปยนฺติ เอตฺถ ปริทีเปนฺโต, น ปฏินิสฺสชฺชนฺโตติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ติฏฺเยฺยาติ น ปฏินิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ.
๔๑๙. ภิกฺขูหีติ ตสฺส สงฺฆเภทกสฺส ปรกฺกมนํ ปสฺสนฺเตหิ วา ทูเร เจ, ิตํ ปวตฺตึ สุณนฺเตหิ วา ลชฺชีหิ สุเปสเลหิ เสสภิกฺขูหิ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ภิกฺขูหีติ อฺเหิ ภิกฺขูหิ. เย ปสฺสนฺติ เย สุณนฺติ, เตหิ วตฺตพฺโพ’’ติ ¶ (ปารา. ๔๑๒). ตสฺส วทนฺเตหิ เอวํ วตฺตพฺพนฺติ วจนาการทสฺสนตฺถมาห ‘‘มายสฺมา สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส เภทาย ปรกฺกมิ, เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณํ สมาทาย ปคฺคยฺห อฏฺาสิ, สเมตายสฺมา สงฺเฆน, สมคฺโค หิ สงฺโฆ สมฺโมทมาโน อวิวทมาโน เอกุทฺเทโส ผาสุ วิหรตี’’ติ (ปารา. ๔๑๑) ปาํ, ตํ เอกเทสสงฺคหวเสน อุปลกฺเขตุมาห ‘‘เภทตฺถํ…เป… เภทการณ’’นฺติ. อิติ วตฺตพฺโพติ โยชนา.
๔๒๐. วุจฺจมาโน หีติ เอตฺถ หิ-สทฺโท อปิ-สทฺทตฺโถ. ‘‘ปี’’ติ วา ปาโ, เตหิ ลชฺชิภิกฺขูหิ ‘‘มายสฺมา’’ติอาทินา นเยน วิสุํ ติกฺขตฺตุํ วุตฺโตปีติ อตฺโถ. นิสฺสชฺเชยฺย น เจว นนฺติ ตํ เภทาย ปรกฺกมนํ อปฺปฏินิสฺสชฺชนปจฺจยา ทุกฺกฏาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาปิ น วิสฺสชฺเชยฺยาติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘โน เจ ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๑๒). ตถา หิ อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺโต หตฺเถสุ, ปาเทสุ จ คเหตฺวา สงฺฆมชฺเฌ อาเนตฺวา ตเถว ติกฺขตฺตุํ วุตฺโตปิ ตํ อวิสฺสชฺเชตฺวา ทุกฺกฏาปตฺตึ อาปนฺโนติ อิมินา จ สงฺคหิโต. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘โส ภิกฺขุ สงฺฆมชฺฌมฺปิ อากฑฺฒิตฺวา วตฺตพฺโพ ‘มายสฺมา…เป… ผาสุ วิหรตี’ติ. ทุติยมฺปิ วตฺตพฺโพ. ตติยมฺปิ วตฺตพฺโพ. สเจ ปฏินิสฺสชฺชติ, อิจฺเจตํกุสลํ. โน เจ ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ. อิทํ อุภยตฺถ ทุกฺกฏํ สามฺเน วกฺขติ ‘‘ติกฺขตฺตุํ ปน วุตฺตสฺส, อปริจฺจชโตปิ ต’’นฺติ.
สมนุภาสิตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘โส ภิกฺขู’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, ‘‘ยาวตติย’’นฺติ เสโส, ยถาห ‘‘โส ภิกฺขุ ¶ ภิกฺขูหิ ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๔๑๑), ตถา สงฺฆมชฺเฌปิ ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมาโนปิ โน วิสฺสชฺเชตฺวา ทุกฺกฏํ อาปนฺโน โส อาธานคฺคาหี ภิกฺขุ ¶ สงฺเฆน ติกฺขตฺตุํ วุตฺตํ กมฺมวาจํ วตฺวา สมนุภาสิตพฺโพติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺโพติ ยาว ตติยํ สมนุภาสนํ, ตาว สมนุภาสิตพฺโพ, ตีหิ สมนุภาสนกมฺมวาจาหิ กมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๑). ตนฺติ เภทาย ปรกฺกมนํ, เภทนสํวตฺตนิกํ อธิกรณํ ปคฺคเหตฺวา านฺจ. อจฺจชนฺติ, ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย วุจฺจมานายปิ อจฺจชนฺโต. ครุกํ ผุเสติ ตติยาย กมฺมวาจาย ‘‘โส ภาเสยฺยา’’ติ ยฺยการปฺปตฺตาย สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ.
๔๒๑. สงฺฆสฺส เภทาย ปรกฺกมนฺตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา, สุตฺวา, ตฺวา จ อวทนฺตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๔๒๒. กีวทูเร วสนฺเตหิ สุตฺวา คนฺตฺวา วตฺตพฺพนฺติ อาห ‘‘คนฺตฺวา’’ติอาทิ. อทฺธโยชนเมว อทฺธโยชนตา, ตโต อธิกํ วา. คิลานํ ปฏิจฺจ อทฺธโยชนํ วุตฺตํ, อิตรํ ปฏิจฺจ ‘‘อธิกํ ทูรมฺปิ ปน คนฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘สเจ สกฺโกตี’’ติ. ตาวเทติ ตทา เอว, อจิรายิตฺวาติ อตฺโถ.
๔๒๓. ติกฺขตฺตุํ ปน วุตฺตสฺสาติ ‘‘มายสฺมา’’ติอาทินา นเยน วิสฺุจ สงฺฆมชฺเฌ จ ติกฺขตฺตุํ วุตฺตสฺสาปิ อปริจฺจชนฺตสฺส. ตํ เภทาย ปรกฺกมาทิกํ. เภทปฺปวตฺติยา สุตกฺขเณ สยํ อคนฺตฺวา ปณฺณํ วา สาสนํ วา เปเสนฺตสฺส อาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทูตํ วา’’ติอาทิ. ยถาห อฏฺกถายํ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๑) ‘‘ทูตํ วา ปณฺณํ วา เปเสตฺวา วทโตปิ อาปตฺติโมกฺโข นตฺถี’’ติอาทิ.
๔๒๕. ยฺยกาเร ปน สมฺปตฺเตติ ‘‘ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๑๓) ตติยกมฺมวาจาย อนฺเต ยฺยกาเร อุจฺจาริเต. ปสฺสมฺภนฺตีติ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, วูปสมนฺตีติ อตฺโถ. ทุกฺกฏาทโยติ ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ทฺเว จ ถุลฺลจฺจยา. ยถาห ‘‘สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปชฺชนฺตสฺส ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ (ปารา. ๔๑๔). ตสฺมา ตฺติยา ปุพฺเพ พหิ จ สงฺฆมชฺเฌ จ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเตปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชเนน อาปนฺนานิ ทฺเว ทุกฺกฏานิ เทเสตพฺพานีติ วิฺายติ.
อิมิสฺสา ¶ กมฺมวาจาย กึ อาปนฺนาปตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, อุทาหุ อนาปนฺนาติ วิจารณาย ‘‘โย อวสาเน ปฏินิสฺสชฺชิสฺสติ, โส ตา อาปตฺติโย น อาปชฺชติ, ตสฺมา อนาปนฺนา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๔) มหาสุมตฺเถรสฺส วาทํ ‘‘กิมนาปนฺนานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา’’ติ ปฏิพาหิตฺวา ‘‘ลิงฺคปริวตฺตเน อสาธารณาปตฺติโย วิย อาปนฺนา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ มหาปทุมตฺเถรสฺส วาโท ิโต.
๔๒๖. อกเต ปน กมฺมสฺมินฺติ ยถาวุตฺตสมนุภาสนกมฺเม อกเต. อปริจฺจชโตปิ จาติ ตํ สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนํ อปริจฺจชนฺตสฺสาปิ. ‘‘สงฺฆาทิเสเสนา’’ติ อิมินา กมฺมํ อกตฺวา สงฺฆมชฺเฌ จ พหิ จ ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมานสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชเนน ทุกฺกฏํ ปน โหตีติ พฺยติเรกโตว ทสฺเสติ.
๔๒๗. ปุพฺเพ วาติ ตฺติยา ปุพฺเพ วิสุํ, สงฺฆมชฺเฌ วา ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมาเนปิ. ตงฺขเณปีติ ตฺติกฺขเณ วา. ตฺติยา ¶ อนิฏฺิตายปิ ปจฺฉาปิ, อิมสฺส อวธึ ทสฺเสติ ‘‘อสมฺปตฺเต ยฺยการสฺมิ’’นฺติ. ปฏินิสฺสชฺชโตปิ จ ตสฺส สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺติ ปกาสิตาติ ปมคาถาย ปจฺฉิมฑฺฒํ อิธาเนตฺวา โยเชตพฺพํ.
๔๒๘. เอตฺตาวตา ‘‘อนาปตฺติ อสมนุภาสนฺตสฺส ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส อุมฺมตฺตกสฺส ขิตฺตจิตฺตสฺส เวทนาฏฺฏสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๑๖) ปาเ ‘‘ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺสา’’ติ ปเทน คหิเตสุ ‘‘ตฺติโต’’ติอาทีสุ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ตํ นิคเมตุํ ‘‘ปฏินิสฺสชฺชโต วาปิ ต’’นฺติ อาห. นิคมนตฺถโชตโก เอวํ-สทฺโท สามตฺถิยา ลพฺภติ, เอวํ ‘‘ตฺติโต’’ติอาทินา ยถาวุตฺตนเยน ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส วาติ อตฺโถ. ตนฺติ สงฺฆเภทปฺปโยคํ. อสมนุภาสโต วาติ อสมนุภาสิยมานสฺส. ‘‘อสมนุภาสิยโต’’ติ วตฺตพฺเพ วิกรณปจฺจยโลเปน ‘‘อสมนุภาสโต’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อสมนุภาสนฺตสฺสาติ อสมนุภาสิยมานสฺสา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๖). ‘‘สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา อิจฺฉิตตฺเถ สิทฺเธปิ ปุน ‘‘อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ วจเน ปุนรุตฺตตา อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, ปทาวุตฺติ นาม อลํกาโร โหตีติ.
๔๒๙. อิมสฺส ¶ สิกฺขาปทสฺส อตฺถุปฺปตฺติยํ สงฺฆเภทตฺถํ ปฺจ วตฺถูนิ ยาจนฺเตน เทวทตฺเตน ‘‘สาธุ ภนฺเต ภิกฺขู ยาวชีวํ มจฺฉมํสํ น ขาเทยฺยุํ, โย มจฺฉมํสํ ขาเทยฺย, วชฺชํ นํ ผุเสยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๐๙) วุตฺเต ‘‘อลํ เทวทตฺต มยา ติโกฏิปริสุทฺธํ มจฺฉมํสํ อนฺุาตํ อทิฏฺํ อสุตํ อปริสงฺกิต’’นฺติ (ปารา. ๔๐๙) อนฺุาเตสุ มจฺฉมํเสสุ กปฺปิยากปฺปิยวินิจฺฉยํ ปุพฺเพ อโนกาสาภาเวน อวตฺวา ปกตํ สิกฺขาปทวินิจฺฉยํ นิฏฺาเปตฺวา อิทานิ ปตฺตาวเสสํ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยฺหี’’ติอาทิ อารทฺธํ ¶ . ‘‘ตํ ตสฺสา’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ย’’นฺติ อิทํ ‘‘ภิกฺขุ’’นฺติ อิมินา จ ‘‘มจฺฉมํส’’นฺติ เอเตน จ โยเชตพฺพํ. มจฺฉนฺติ โอทกํ. มํสนฺติ ถลชานํ มํสํ. นิพฺเพมติโกติ ‘‘มํ อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ วา ‘‘สงฺฆํ อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ วา อุปฺปนฺนาย วิมติยา วิรหิโต.
๔๓๐. สมุทฺทิสฺส กตนฺติ สงฺฆํ วา อตฺตานํ วา อุทฺทิสฺส กตํ. ‘‘ตฺวา’’ติ อิมินา อชานิตฺวา ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติภาวมาห.
๔๓๑. หตฺถีนํ อสฺสานํ อจฺฉานํ มนุสฺสานํ อหีนํ กุกฺกุรานํ ทีปีนํ สีหานํ พฺยคฺฆานํ ตรจฺฉานํ มํสํ อกปฺปิยํ โหตีติ โยชนา.
๔๓๒. สจิตฺตกตา อาปตฺติยาเยว ยุชฺชติ, อิธ ปน ตํเหตุกํ มํสเมว เหตุมฺหิ ผลูปจาเรน สจิตฺตกนฺติ คหิตํ. เอตฺถ จิตฺตํ นาม อตฺตานํ วา สงฺฆํ วา อุทฺทิสฺส กตภาวชานนจิตฺตํ. เสสนฺติ อนุทฺทิสฺสกตํ อกปฺปิยมํสํ. อจิตฺตกนฺติ วุตฺตนยเมว.
๔๓๓. ปุจฺฉิตฺวาเยวาติ อกปฺปิยมํสปริหารตฺถํ ทสสุ มํเสสุ นามฺจ อุทฺทิสฺสกตสฺส ปริหารตฺถํ อุภยสฺสาปิ ปฏิลทฺธาการฺจ ปุจฺฉิตฺวาเยวาติ อตฺโถ. โอทเกสุ มจฺเฉสุ อกปฺปิยาภาวโต ลทฺธากาโรว าตพฺโพ. มํเส ทิฏฺมตฺเตเยว ‘‘อิทํ อสุกมํส’’นฺติ ชานนฺติ เจ, อปุจฺฉิเตปิ โทโส นตฺถิ. ทายเกสุ มํสสฺสาภาเว ลทฺธนิยาเม อปุจฺฉิเตปิ โทโส นตฺถิ. ยถา วา ตถา วา วิมติยา อุปฺปนฺนาย อปฺปฏิคฺคาเหตฺวา นิสินฺเน ‘‘กสฺมา น ปฏิคฺคณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิเต วิมติยา อุปฺปนฺนาการํ วตฺวา ‘‘มยํ ตุมฺเห วา อิตเร ภิกฺขู วา อุทฺทิสฺส น กริมฺหา’’ติ ¶ วตฺวา ‘‘อมฺหากเมว สนฺธาย กตํ, ปณฺณาการตฺถาย กตํ, อติถีนํ วา อตฺถาย กต’’นฺติอาทินา ¶ อตฺตนา ลทฺธปฺปการํ วตฺวา ‘‘สํสยํ อกตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ วเทยฺยุํ เจ, ปฏิคฺคเหตุํ วฏฺฏตีติ สพฺพมิทํ อฏฺกถาย วุตฺตํ.
ภิกฺขูนํ เอตํ วตฺตนฺติ โยชนา. วตฺตฏฺาติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน มหากรุณาย เทสิตํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ วิโสเธตฺวา ปฏิปชฺชเน ปติฏฺิตา. ‘‘วินยฺุโน’’ติ อิมินา วินยํ อชานิตฺวา อุปเทสปฺปมาเณเนว วตฺตํ ปูเรนฺเตหิ วตฺตสฺส วิโรโธปิ สิยาติ เต นิวตฺเตติ. ‘‘วตฺตฏฺา’’ติ วิเสสเนน วินยํ ตฺวาปิ อปูรเณ นิวตฺเตติ. อุภเยนปิ อตฺตนา วุตฺตวินิจฺฉยสฺส ปริสุทฺธภาวํ ทีเปติ.
๔๓๔. อิทํ สมนุภาสนนฺติ ยถาวุตฺตสิกฺขาปทมาห. สมนุภาสเนน สาเธตพฺพา อาปตฺติ สมนุภาสนา การณูปจาเรน. อฺถา เอกสมุฏฺานาทิภาโว น ยุชฺชติ. เอกสมุฏฺานํ กายวาจาจิตฺตสงฺขาตํ เอกํ สมุฏฺานํ เอตสฺสาติ กตฺวา. กายกมฺมนฺติ หตฺถมุทฺทาวเสน กาเยน กาตพฺพสฺส ปฏินิสฺสชฺชนสฺส อกตตฺตา กายกมฺมํ. วจีกมฺมนฺติ วจสา กาตพฺพสฺส อกตตฺตา วจีกมฺมํ. อกฺริยนฺติ ยถาวุตฺตนเยน ‘‘สงฺฆเภโทปกฺกมนิวารณาย ปรกฺกมนํ ปฏินิสฺสชฺชามี’’ติ กายวิกาเรน วา วจีเภเทน วา อวิฺาปนโต อกิริยํ นาม โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
สงฺฆเภทกถาวณฺณนา.
๔๓๕. กิฺจิปิ วตฺตพฺพนฺติ ‘‘เอโก วา ทฺเว วา ตโย วา’ติ วุตฺตสงฺฆเภทานุวตฺตกภิกฺขุํ ปสฺสนฺเตหิ สุณนฺเตหิ ลชฺชิภิกฺขูหิ ¶ วิสฺุจ สงฺฆมชฺเฌ จ เนตฺวา ติกฺขตฺตุํเยว สงฺฆเภทานุวตฺตนสฺส อกตฺตพฺพตํ วตฺวา ตโต อโนรมนฺตานํ ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย สมนุภาสนกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ อิทฺจ ‘‘ตติยานุสฺสาวนาย ยฺย-การปฺปตฺตาย อาปชฺชนกสงฺฆาทิเสสโต ปุพฺเพ อาปนฺนา ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ อิทฺจ อนาปตฺติปกาโร จาติ อิมํ สาธารณวินิจฺฉยํ สนฺธายาห. วจนปฺปการเภโท ปน อตฺเถว, โส สงฺเขปโต มาติกาย (ปารา. ๔๑๘-๔๑๙) วิตฺถารโต ปทภาชเน (ปารา. ๔๑๘-๔๑๙) อาคตนเยน วตฺตพฺโพ. อสฺสาติ ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทสฺส. ‘‘สมุฏฺานา…เป… มตา’’ติ อิมินา สาธารณวินิจฺฉโย อติทิฏฺโติ ทฏฺพฺพํ.
ทุติยสงฺฆเภทกถาวณฺณนา.
๔๓๖. อุทฺเทสปริยาปนฺเนติ ¶ เอตฺถ ‘‘สิกฺขาปเท’’ติ เสโส, นิทานปาราชิกสงฺฆาทิเสสอนิยตวิตฺถารสงฺขาเต ปฺจวิธอุทฺเทสลกฺขณปาติโมกฺเข อนฺโตคธสิกฺขาปทวิสเยติ อตฺโถ. ‘‘อุทฺเทสปริยาปนฺเน สิกฺขาปเท’’ติ อิมินา ‘‘อวจนียมตฺตานํ กโรตี’’ติ อิมสฺส วิสยํ ทสฺเสติ. ภิกฺขุ ทุพฺพจชาติโกติ เอตฺถ ‘‘โย’’ติ อชฺฌาหาโร. ‘‘ทุพฺพจชาติโกติ ทุพฺพจสภาโว, วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ อตฺโถ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๒๕-๔๒๖) อฏฺกถาย วุตฺตโทวจสฺสตาย เหตุภูตปาปิจฺฉตาทีหิ เอกูนวีสติยา ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต หุตฺวา อตฺตนิ วุตฺตํ อนุสิฏฺึ สาทรมคฺคหเณน นาสนตา โทวจสฺสสภาโวติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ปทภาชเน ‘‘ทุพฺพจชาติโก โหตีติ ทุพฺพโจ โหติ โทวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อกฺขโม อปฺปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนิ’’นฺติ (ปารา. ๔๒๖).
อวจนียมตฺตานํ ¶ กโรตีติ ‘‘มา มํ อายสฺมนฺโต กิฺจิ อวจุตฺถ กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา, อหมฺปายสฺมนฺเต น กิฺจิ วกฺขามิ กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา, วิรมถายสฺมนฺโต มม วจนายา’’ติ (ปารา. ๔๒๕) วุตฺตนเยน อตฺตานํ อวจนียํ กโรติ. ครุกํ สิยาติ เอตฺถ ‘‘ตสฺสา’’ติ อิทํ อชฺฌาหารนยสมฺพนฺเธน ลพฺภติ. ตตฺรายํ โยชนา – ทุพฺพจชาติโก โย ภิกฺขุ อุทฺเทสปริยาปนฺเน สิกฺขาปเท อตฺตานํ อวจนียํ กโรติ, ตสฺส ครุกํ สิยาติ.
กึ วุตฺตํ โหติ? โย ภิกฺขุ อตฺตโน โทวจสฺสตํ ปสฺสนฺเตหิ, สุณนฺเตหิ จ ลชฺชิภิกฺขูหิ ‘‘มา อายสฺมา อตฺตานํ อวจนียํ อกาสิ…เป… อฺมฺวุฏฺาปเนนา’’ติ (ปารา. ๔๒๕) วุตฺตนเยน ติกฺขตฺตุํ วุตฺโตปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวาปิ น วิสฺสชฺเชติ, ‘‘โส ภิกฺขุ สงฺฆมชฺฌมฺปิ อากฑฺฒิตฺวา วตฺตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๔๒๖) วุตฺตตฺตา หตฺเถ คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวาปิ สงฺฆมชฺฌํ เนตฺวา ตเถว ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวาปิ น วิสฺสชฺเชติ, ตสฺส ทุพฺพจชาติกสฺส ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย กริยมาเน สมนุภาสนกมฺเม ตติยาย กมฺมวาจาย ยฺยการปฺปตฺตาย ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจเย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภยมาโน สงฺฆาทิเสโส โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๓๗. ทุพฺพเจติ เอตฺถ ‘‘สิกฺขาปเท’’ติ เสโส, ตถา สงฺฆเภทกวณฺณเนติ เอตฺถาปิ. สงฺฆเภโท เอว สงฺฆเภทโก, ตํ วณฺเณติ กเถตีติ สงฺฆเภทกวณฺณนํ, กึ ตํ? สิกฺขาปทํ, ตฺจ ¶ ปมเมว สงฺฆเภทกสิกฺขาปทํ คเหตพฺพํ, ตสฺมึ วุตฺตนเยนาติ โยชนา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สมุฏฺานาทีนิ ปมสงฺฆเภทสทิสาเนวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๒๕-๔๒๖). ‘‘สพฺโพ วินิจฺฉโย’’ติ เอเตน อิธ ทสฺสิเตน ¶ ‘‘ครุกํ สิยา’’ติ เอเตน สงฺคหิตํ สงฺฆาทิเสสาวสานวินิจฺฉยํ วชฺเชตฺวา ‘‘อกเต ปนา’’ติอาทิคาถาตฺตเยน วุตฺตอนาปตฺติปฺปกาเร จ ‘‘อิทเมกสมุฏฺาน’’นฺติอาทิคาถาย วุตฺตสมุฏฺานาทิเก จ อติทิสติ.
ทุพฺพจกถาวณฺณนา.
๔๓๘. โย กุลทูสโก ภิกฺขุ, โส ฉนฺทคามิตาทีหิ ปาเปนฺโต ภิกฺขุหิ กมฺเม กริยมาเน ตํ ฉนฺทคามิตาทีหิ ปาปนํ อจฺจชนฺโต ครุกํ ผุเส สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชตีติ โยชนา. ‘‘กุลทูสโกติ กุลานิ ทูเสติ ปุปฺเผน วา ผเลน วา จุณฺเณน วา มตฺติกาย วา ทนฺตกฏฺเน วา เวฬุยา วา เวชฺชิกาย วา ชงฺฆเปสนิเกน วา’’ติ (ปารา. ๔๓๗) วจนโต สทฺธาสมฺปนฺนกุลานิ ลาภํ นิสฺสาย ปุปฺผทานาทีหิ สงฺคณฺหิตฺวา ตถา อกโรนฺเตสุ ลชฺชิภิกฺขูสุ กุลานํ สทฺธาทูสนโต กุลทูสโก, ภิกฺขุ.
ฉนฺทคามิตาทีหิ ปาเปนฺโตติ กุลทูสนกมฺมํ กโรนฺตํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา อวจนโต อาปชฺชิตพฺพทุกฺกฏโต มุจฺจนตฺถาย ‘‘อายสฺมา โข…เป… อลนฺเต อิธ วาเสนา’’ติ วทนฺเต ลชฺชี เปสเล ภิกฺขู ‘‘ฉนฺทคามิโน จ ภิกฺขู…เป… เอกจฺจํ น ปพฺพาเชนฺตี’’ติ ฉนฺทคามิตาทีหิ จตูหิ อคติคมเนหิ โยเชนฺโตติ อตฺโถ. กมฺเม กริยมาเนติ ยถาวุตฺตนเยน อตฺตานํ ครหนฺตานํ ภิกฺขูนํ กริยมานํ อกฺโกสนฺจ ปริภาสนฺจ เย ปสฺสนฺติ, เย จ สุณนฺติ, เตหิ ‘‘มายสฺมา เอวํ อวจ, น จ ภิกฺขู ฉนฺทคามิโน…เป… อลนฺเต อิธ วาเสนา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมาโนปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวาปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตํ หตฺเถ คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวา สงฺฆมชฺฌํ อาเนตฺวา ‘‘มายสฺมา เอวํ อวจา’’ติอาทินา นเยเนว ¶ ปุนปิ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวาปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย สมนุภาสนกมฺเม กริยมาเนติ วุตฺตํ โหติ. ครุกํ ผุเสติ ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจเย จ ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโต ตติยกมฺมวาจาย อนฺเต ยฺยกาเร สมฺปตฺเต สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๓๙-๔๐. ‘‘กุลานิ ¶ ทูเสติ ปุปฺเผน วา’’ติอาทินา (ปารา. ๔๓๗) นเยน วุตฺตกุลทูสโนปกรณภูตจุณฺณปณฺณาทีสุ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘จุณฺณ’’นฺติอาทิ. จุณฺณนฺติ สิรีสปณฺณาทิจุณฺณํ. ปณฺณนฺติ ตมฺพูลปณฺณตาลปณฺณาทิขาทิตพฺพาขาทิตพฺพปณฺณํ. ผลนฺติ ตาลปนสาทิผลํ. ปุปฺผนฺติ จมฺปกาทิปุปฺผํ. เวฬุนฺติ อนฺโทฬิกาปาฏํ กิรณฺฑาทิกํ เวฬุํ. กฏฺนฺติ เคหทารุํ, อินฺธนฺจ. มตฺติกนฺติ ปากติกํ, ปฺจวณฺณํ วา มตฺติกํ.
อตฺตโน สนฺตกํ, ตาวกาลิกาทิวเสน คหิตํ วา จุณฺณํ…เป… มตฺติกํ กุลสงฺคหณตฺถาย ททโต กุลทูสนทุกฺกฏํ โหตีติ สมฺพนฺโธ. เถยฺยาติ โจริกา. ‘‘ททโต’’ติ อิทํ สามิวจนํ ‘‘กาตพฺโพ’’ติ ปจฺจตฺตวจนนฺตํ วิเสสิตพฺพมเปกฺขิตฺวา ‘‘ททนฺโต’’ติ วิภตฺติวิปริณาเมน ปจฺจตฺตวจนนฺตํ อนุวตฺเตตพฺพํ. กาตพฺโพติ เอตฺถ กาเรตพฺโพติ อตฺโถ. อิมินา สงฺฆสนฺตกํ, คณสนฺตกํ, อฺปุคฺคลสนฺตกฺจ จุณฺณาทึ กุลสงฺคหตฺถํ โจริกาย เทนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพติ อิมํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสติ. สงฺฆฺสนฺตเกติ สงฺฆฺสนฺตกจุณฺณาทิเกติ อตฺโถ. เอตฺถ อฺ-สทฺเทน คณปุคฺคลานํ คหณํ.
๔๔๑. สงฺฆิกํ ครุภณฺฑํ วาติ สงฺฆสนฺตกํ ครุภณฺฑปโหนกํ วา ปณฺณาทิกํ. เสนาสนนิยามิตนฺติ ‘‘เอตฺตกา ผลรุกฺขาทโย เสนาสเน นวกมฺมตฺถายา’’ติ เอวํ นิยมิตํ ¶ วา. อิสฺสรวตาเย วาติ เอวกาเรน ‘‘เถยฺยา’’ติ อิทํ นิวตฺติตํ.
๔๔๒. หริตฺวา วาติ อตฺตนาเยว หริตฺวา วา. ‘‘ปุปฺผํ เทนฺตสฺสา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เอส นโย อุปริปิ. หราเปตฺวา วาติ อฺสฺส หตฺเถ เปเสตฺวา วา. ปกฺโกสิตฺวา วาติ อามนฺเตตฺวา วา ปกฺโกสาเปตฺวา วาติ อุปลกฺขณโต ลพฺภติ. อาคตสฺส วาติ อตฺตนา เอว อาคตสฺส วา. ‘‘กุลสงฺคหณตฺถายา’’ติ วจเนน ‘‘เอวรูเป อธิปฺปาเย อสติ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘เจติยํ ปูชํ กโรนฺตาปิ ‘ปูเชสฺสามา’ติ ปุปฺผานิ คเหตฺวา คจฺฉนฺตาปิ ตตฺถ ตตฺถ สมฺปตฺตานํ เจติยปูชนตฺถาย เทนฺติ, เอตมฺปิ ปุปฺผทานํ นาม น โหตี’’ติอาทิกํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๖-๔๓๗) อฏฺกถาคตํ สพฺพํ วินิจฺฉยํ ทสฺสิตํ โหติ.
๔๔๓. เอวํ อุสฺสคฺคํ ทสฺเสตฺวา อปวาทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘หริตฺวา วา’’ติอาทิ. ‘‘หราเปตฺวา’’ติ อิมินา โยเชตพฺพสฺส วา-สทฺทสฺส อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺถตาย ‘‘ปกฺโกสิตฺวา วา ปกฺโกสาเปตฺวา ¶ วา, อาคตานํ วา’’ติ จ สงฺคยฺหติ. อาคตสฺเสวาติ เอวกาเรน หริตฺวา ทานาทึ นิวตฺเตติ.
๔๔๔. ตฺจาติ มาตาปิตุอาทีนํ ตํ ปุปฺผทานฺจ. วตฺถุปูชตฺถนฺติ รตนตฺตยปูชนตฺถํ. น ปนฺถาติ อฺเน ปกาเรน ทาตุํ น วฏฺฏติ. เยน ปกาเรน ทาตุํ น วฏฺฏติ, โกยํ ปกาโรติ อาห ‘‘สิวาที’’ติอาทิ. สิวาทิปูชนตฺถนฺติ มหิสฺสราทิเทวตาปูชนตฺถฺจ. มณฺฑนตฺถนฺติ ปิฬนฺธนตฺถํ. เอวํ อทาตพฺพปฺปการนิยมเนน ‘‘อิมํ วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสฺสนฺตี’’ติ มาตาปิตุอาทีนํ ทาตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
๔๔๕. ‘‘ผลาทีสุ ¶ …เป… วินิจฺฉโย’’ติ อิมินา ‘‘หริตฺวา วา หราเปตฺวา วา’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตวินิจฺฉโย ผลปณฺณาทีสุ สพฺพตฺถ สมาโนติ ทสฺเสติ.
๔๔๖. ‘‘ปุปฺผาทิภาชเน’’ติ ปุปฺผผลาทีนํ ภาชนกาเล. สมฺมเตนาติ ปุปฺผาทิภาชนตฺถํ ขนฺธเก วุตฺตนเยน สงฺเฆน สมฺมเตน ภิกฺขุนา. อสฺสาติ ภาชนฏฺานํ อาคตสฺส. อิตเรนาติ สงฺฆสมฺมุตึ วินา ปุปฺผาทีนิ ภาชาเปนฺเตน. าเปตฺวา ทาตพฺพนฺติ สพฺพํ สงฺฆํ ชานาเปตฺวา ทาตพฺพํ.
๔๔๗. อุปฑฺฒภาวนฺติ เอเกน ภิกฺขุนา ลทฺธพฺพภาคโต อุปฑฺฒํ. ‘‘โถกํ โถก’’นฺติ อิมินา อุปฑฺฒโตปิ อปฺปตรํ คหิตํ.
๔๔๘. ปริพฺพยวิหีนสฺสาติ ตณฺฑุลาทิชีวิตวุตฺติวยมูลรหิตสฺส. สมฺปตฺติสฺสริยสฺสาปีติ อตฺตโน สมีปมุปคตสฺส อิสฺสรสฺส จ. ‘‘ทาตพฺพํ ตุ สกํ ผล’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘ปริพฺพยวิหีนานํ, ทาตุํ สปรสนฺตก’’นฺติ ขุทฺทสิกฺขาย อาคตํ, อิธ ‘‘สกํ ผล’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปรวจเนน วิสฺสาสิกานํ คหณํ, อิธ ปน วิสฺสาสคฺคาเหน คเหตฺวา ทียมานมฺปิ สสนฺตกเมวาติ ‘‘สก’’นฺติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
๔๔๙-๕๐. ยตฺร สงฺฆาราเม สงฺเฆน ผลรุกฺขปริจฺเฉทํ กตฺวา กติกา กตาติ โยชนา, ‘‘อาคนฺตุกานํ เอตฺตกํ ผลํ ทาตพฺพ’’นฺติ ผลปริจฺเฉทํ กตฺวา วา ‘‘เอตฺตเกสุ รุกฺเขสุ ผลํ ทาตพฺพ’’นฺติ ¶ รุกฺขปริจฺเฉทํ กตฺวา วา สงฺเฆน กติกา เยน ปกาเรน กตาติ อตฺโถ. ตตฺราคตสฺสปีติ เอวํ ปิตกติกวตฺตํ ตํ สงฺฆารามํ ผลตฺถาย อาคตสฺสาปิ.
ยถาปริจฺเฉทนฺติ ¶ สงฺเฆน ตถากตผลรุกฺขปริจฺเฉทมนติกฺกมฺม. ททโตติ โอจินิตฺวา ปิตผลํ, กปฺปิยการเกหิ โอจินาเปตฺวา วา เทนฺตสฺส. โอจิตผเล จ กปฺปิยการเก จ อสติ ผลตฺถาย อาคเตสุ วตฺติตพฺพวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทสฺเสตพฺพาปิ วา’’ติอาทิ. ‘‘วตฺวา’’ติ เสโส. จ-การํ อปิ-สทฺเทน เอกโต กตฺวา ‘‘อปิจา’’ติ โยชนา. เอวํ วตฺวา สงฺเฆน ปริจฺฉินฺนรุกฺขา ทสฺเสตพฺพาติ อิมินา ‘‘อิธ ผลานิ สุนฺทรานิ, อิโต คณฺหถา’ติ เอวํ ปน น วตฺตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๖-๔๓๗) อฏฺกถา พฺยติเรกโต ทสฺสิตา โหติ.
๔๕๑. ‘‘ขณิตฺวา’’ติ เอเตน ‘‘ขณาเปตฺวา’’ติ อิทมฺปิ สงฺคหิตํ, ‘‘กปฺปิยภูมิ’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ปถวินฺติ เอตฺถ ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ ลพฺภติ. เตเนวาห ‘‘ปาจิตฺติเยนา’’ติ. ‘‘มาลาคจฺฉ’’นฺติ อิมินา ปุปฺผูปเค ตรุณคจฺเฉ จ มลฺลิกาสุมนาทิคุมฺพคาคจฺเฉ จ สงฺคณฺหาติ. ยถาห อฏฺกถาย ‘‘ตรุณกา หิ ปุปฺผรุกฺขาปิ ปุปฺผคจฺฉาปิ ‘มาลาวจฺฉา’ตฺเวว วุจฺจนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑). อาทิ-สทฺเทน ผลูปครุกฺเข จ เภสชฺชรเส โอสธคจฺเฉ จ สงฺคณฺหาติ. ‘‘โรปาปเน’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘สย’’นฺติ อิทํ ‘‘โรปเน’’ติ อิมินา ยุชฺชติ.
‘‘สยํ ขณิตฺวา’’ติ กสฺมา น ยุชฺชตีติ? ‘‘ขณาเปตฺวา’’ติ วกฺขมานสฺส อภาวา จ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ปถวึ ขเณยฺย วา ขณาเปยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๘๕) วจนโต ขณาปเน ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพตฺตา จ ‘‘ขณิตฺวา’’ติ อิมินา จ ขณนขณาปนานํ ทฺวินฺนเมว คเหตพฺพตฺตา น ยุชฺชติ. กุลทูสเนติ กุลทูสนนิมิตฺตํ. อกปฺปิยปถวึ ขณิตฺวา, ขณาเปตฺวา จ สยํ มาลาคจฺฉาทิโรปเน กเต อสฺส มาลาคจฺฉาทิโรปกสฺส ¶ ภิกฺขุโน อกปฺปิยปถวีขณนปจฺจเยน ปาจิตฺติเยน สทฺธึ กุลทูสเน กุลทูสนนิมิตฺตํ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๔๕๒. ‘‘ตถา’’ติ ¶ อิมินา ‘‘สยํ โรปเน’’ติ อิทํ วินา อวเสสปฺปการํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อกปฺปิเยน วากฺเยนา’’ติ อิทํ ‘‘อกปฺปิยปถวึ ขณาเปตฺวา’’ติ อิมินา จ ‘‘โรปาปเน’’ติ อิมินา จ ยุชฺชติ. ‘‘อิมํ ภูมึ ขณ, อิมํ คจฺฉํ โรเปหี’’ติอาทิกํ อกปฺปิยํ โวหารํ วตฺวา อกปฺปิยปถวึ ขณาเปตฺวา มาลาคจฺฉาทิโรปนํ การาเปนฺตสฺสาปิ ตเถว ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจ โหตีติ อตฺโถ.
ขณนโรปเนหิ ทฺวีหิ ปาจิตฺติยทุกฺกฏานิ อวสิฏฺเหิ ตทตฺถิเกหิ สพฺพโวหารปโยคเภเทหิ กึ โหตีติ อาห ‘‘สพฺพตฺถา’’ติอาทิ. กุลทูสเนติ นิมิตฺเต, วิสเย วา ภุมฺมํ. อกปฺปิเยน วากฺเยน ปน ปถวึ ขณาเปตฺวา อกปฺปิเยน วากฺเยน โรปาปเนปิ ตถา ปาจิตฺติเยน สห กุลทูสเน ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. สพฺพตฺถ อิโต ปเรสุปิ ตทตฺถิเกน สพฺพโวหารพฺยาปาเรสุ กุลทูสนนิมิตฺตํ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๔๕๓. กปฺปิยภูมิยา อตฺตนา ขณเน, อกปฺปิยโวหาเรน ขณาปเน จ ปาจิตฺติยาภาวโต ทุกฺกฏํเยว วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อุภยตฺถ จา’’ติอาทิ. เอตฺถ ‘‘เอว’’นฺติ เสโส, โส ยถาวุตฺตมตฺถํ นิคเมติ. เอวํ ยถาวุตฺตนเยน กปฺปิยภูมิยมฺปิ มาลาคจฺฉาทิโรปนโรปาปนสงฺขาเตสุ ทฺวีสุ าเนสุ จ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๔๕๔. สทุกฺกฏา ¶ ปาจิตฺตีติ ‘‘อาวาฏํ ขณ, คจฺฉํ โรเปหี’’ติ เอกวารํ อาณตฺเต พหู อาวาเฏ ขณิตฺวา พหูสุ คจฺเฉสุ โรปิเตสุปิ อาณตฺติยา เอกตฺตา ทุกฺกเฏน สห ปาจิตฺติยํ โหตีติ อยมตฺโถ อกปฺปิยภูมึ สนฺธาย วุตฺโต. ‘‘สุทฺธํ วา ทุกฺกฏ’’นฺติ อิทํ อกปฺปิยภูมิยํ กปฺปิเยน โวหาเรน อาวาฏํ ขณาปกสฺส จ กปฺปิยภูมิยํ อกปฺปิยโวหาเรน อาวาฏํ ขณาปกสฺส จ ‘‘อิมํ คจฺฉํ โรเปหี’’ติ เอกวาราณตฺตปจฺจยา อาปชฺชิตพฺพํ กุลทูสนทุกฺกฏํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๔๕๕. กปฺปิเยเนว วากฺเยนาติ เอตฺถ กปฺปิยวากฺยํ นาม ‘‘เอตฺถ อาวาฏํ ชาน, เอตฺถ อาวาฏํ ชานิตพฺพํ, เอตฺถ อาวาเฏน ภวิตพฺพ’’นฺติ เอวรูปํ วากฺยฺจ ‘‘อิมํ คจฺฉํ เอตฺถ ชาน, อยํ คจฺโฉ เอตฺถ ชานิตพฺโพ’’ติอาทิวากฺยฺจ. เอวกาเรน อกปฺปิยโวหารฺจ กปฺปิยากปฺปิยมิสฺสกโวหารฺจ นิวตฺเตติ. ปริยาโยภาสนิมิตฺตกมฺมํ ปน ‘‘อิตรตฺตยํ วฏฺฏตี’’ติ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาวจนโต วฏฺฏติ. อุภยตฺถ จ ภูมิยาติ กปฺปิยากปฺปิยภูมีสุ ทฺวีสุ. โรปเนติ เอตฺถ สมฺพนฺธโต, ปกรณโต จ ‘‘มาลาคจฺฉาทีน’’นฺติ ลพฺภติ.
‘‘วากฺเยนา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘โรปาปเน’’ติ วตฺตพฺโพ, ‘‘โรปเน’’ติ กิมตฺถมาหาติ เจ? สุทฺธกตฺตุนิทฺเทเสน ปโยชกสฺสาปิ สงฺคเหตพฺพโต คาถาพนฺธวเสน วุตฺตํ. อิมินา อุปริคาถาย ‘‘สยํ โรเปตุ’’นฺติ เอตฺถ ‘‘สย’’นฺติ อิมินา วิเสเสตฺวา ‘‘โรปาเปตุ’’นฺติ อิทํ นิวตฺเตติ. ‘‘ปริโภคตฺถาย หิ กปฺปิยภูมิยํ วา อกปฺปิยภูมิยํ วา กปฺปิยโวหาเรน โรปาปเน อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาวินิจฺฉโย อิมาย คาถาย สงฺคหิโตติ เวทิตพฺโพ. โกจิ โทโสติ ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจาติ วุตฺตโทเสสุ เอโกปิ โทโส น วิชฺชตีติ อตฺโถ.
๔๕๖-๗. ‘‘สยํ ¶ โรเปตุ’’นฺติ อิทํ ‘‘อารามาทีนมตฺถายา’’ติ อิมินา สมฺพนฺธิตพฺพํ.
อาทิ-สทฺเทน วนาทึ สงฺคณฺหาติ. สยํ โรปิตสฺส วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘โรปาปิตสฺสา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ, เอตสฺส วิเสสนตฺถํ ‘‘กปฺปิเยน โวหาเรนา’’ติ ปาเสโส. อยํ ปน วินิจฺฉโย ‘‘อารามตฺถาย ปน วนตฺถาย จ ฉายตฺถาย จ อกปฺปิยโวหารมตฺตเมว น วฏฺฏติ, เสสํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาคตนเยน เวทิตพฺโพ. อนฺโต อารามภูสนตฺถาย, พหิ อรฺตฺถาย วิย ฉายตฺถาย สุทฺธจิตฺเตน ‘‘อิมํ ชานา’’ติอาทิกปฺปิยโวหาเรน โรปาปิตรุกฺเข จ กปฺปิยภูมิยฺจ อตฺตนา กเต วา อกปฺปิยโวหาเรน การาปิเต วา อกปฺปิยภูมิยฺจ กปฺปิยโวหาเรน อตฺตนา การาปิเต วา อฺเหิ กเต วา อาวาเฏ อตฺตนา โรปิเต รุกฺเข จ ผลํ ปริภฺุชิตุํ อิจฺฉติ เจ, ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
อารามาทีนมตฺถาย กปฺปิยภูมิยํ สยํ โรปิตสฺส วา กปฺปิยภูมิยํ วา อกปฺปิยภูมิยํ วา กปฺปิยโวหาเรน โรปาปิตสฺส วา รุกฺขสฺส ยฺจ ผลํ, ตํ ผลํ ปริภฺุชิตุํ ภิกฺขูนํ วฏฺฏตีติ โยชนา. กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ‘‘อารามาทีนมตฺถายา’’ติ คาถาย ลิขิตฏฺาเน ¶ ‘‘กุลสงฺคหณตฺถายา’’ติอาทิคาถา ทิสฺสติ. สา ปาฬิกฺกมวิรุทฺธตฺตา อฏฺานปฺปยุตฺตา, ‘‘ปุปฺผาน’’นฺติอาทิคาถาย ปุรโต วุจฺจมานา ปน านปฺปยุตฺตา โหติ.
๔๕๘. สพฺพตฺถาติ อารามาทิอตฺถาย ปุพฺเพ วิย อตฺตนา โรปิเตสุ, โรปาปิเตสุ จ สพฺเพสุ มาลาคจฺฉาทีสุ. อกปฺปิโยทเกเนว ปาจิตฺตีติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สปฺปาณกํ ¶ อุทกํ ติณํ วา มตฺติกํ วา สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๔๐) วุตฺตา ปาจิตฺติ เอว, น ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
๔๕๙. อิทานิ ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติยวิสยํ ทสฺเสติ ‘‘กุล…เป… ทุกฺกฏ’’นฺติ. สิฺจโตติ กปฺปิโยทเกเนว สิฺจโต, สิฺจาปยโต จ.
๔๖๐. เตสํเยว ทฺวินฺนํ ปน อตฺถายาติ กุลทูสนปริโภคานํ ทฺวินฺนมตฺถาย. สิฺจเน สิฺจาปเนติ เอตฺถ ‘‘มาลาคจฺฉาทีน’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ ‘‘เกวล’’นฺติ เสโส.
๔๖๑. โอจินาปเนติ อฺเหิ ปุปฺผานํ โอจินาปเน. สยโมจินเน จาปีติ อตฺตนาว โอจินเน จ. สปาจิตฺติยทุกฺกฏนฺติ ‘‘ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๐) วุตฺตตฺตา ปุปฺโผจินนเหตุ ปาจิตฺติยฺจ กุลทูสนทุกฺกฏฺจ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๖๒. ปูชาทิอตฺถาย, กุลสงฺคหตฺถาย จ ปุปฺผานํ โอจินนโอจินาปนานิ การาเปนฺตสฺส อาปตฺติยา อาปชฺชนปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุปฺผาน’’นฺติ. ‘‘ปุปฺผานํ คณนาย ปาจิตฺติยํ โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปุปฺผโมจินโตติ เอตฺถ ‘‘วิสุํ วิสุ’’นฺติ เสโส. เอเกกปุปฺผํ โอจินนฺตสฺส ปุปฺผคณนาย ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘เอเกน ปโยเคน พหูนิ ปุปฺผานิ โอจินนฺตสฺส ปน ปโยคคณนาย โหตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ อิธ พฺยติเรกโต ลพฺภติ. ‘‘โอจินโต’’ติ อิมินา ‘‘โอจินาปยโต’’ติ อิทฺจ กิริยาสามฺเ วิเสสสฺส อนฺโตคธภาวโต วา อุปลกฺขณโต วา ทสฺสิตนฺติ.
ตตฺถ ¶ จ ปุปฺผานิ วิสุํ วิสุํ วตฺวา โอจินาเปนฺตสฺส ปุปฺผานํ คณนาย โหตีติ อิทเมว ¶ อาปชฺชติ. เอกวารมาณตฺเตน พหูนิ ปุปฺผานิ พหูสุ จ วาเรสุ โอจิเตสุ อาณตฺติคณนาย โหตีติ วินิจฺฉโย ทฏฺพฺโพ. อิทํ สพฺพปฺปการํ อนนฺตรวุตฺตคาถาย ทสฺสิตวิธิมฺหิ จ ทฏฺพฺพนฺติ าเปตุมาห ‘‘กุลตฺถํ เจ สทุกฺกฏา’’ติ. กุลตฺถนฺติ กุลสงฺคหตฺถํ. ‘‘สทุกฺกฏา’’ติ วุตฺตตฺตา ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจ ปุปฺผคณนาย โหตีติ สิทฺธํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุปฺผคณนาย ทุกฺกฏปาจิตฺติยานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑).
๔๖๓. คนฺถนํ คนฺโถ, เตน นิพฺพตฺตํ คนฺถิมํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. คนฺถิมาทิสรูปํ สยเมว วกฺขติ. สงฺคหณํ สงฺคโห, ปุปฺผานํ สงฺคโหติ วิคฺคโห.
๔๖๔. อิมานิ คนฺถิมาทีนิ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ตตฺถ ทณฺเฑน ทณฺฑํ วา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ฉสุ ปุปฺผสงฺคเหสุ. ‘‘ทณฺเฑน ทณฺฑํ วา’’ติ อิทํ สทณฺฑอุปฺปลาทิกุสุมํ สนฺธายาห. ‘‘วณฺเฏนปิ จ วณฺฏก’’นฺติ อิทํ สวณฺฏกรตฺตกุสุมาทึ สนฺธายาห. กรณํ สพฺพนฺติ กตํ สพฺพํ. อิธ สพฺพตฺถ กปฺปิยวิธิวิภาคํ ‘‘สพฺพเมต’’มิจฺจาทิคาถายํ วกฺขติ.
๔๖๕. สุตฺตาทีหิ โคปฺเผตฺวาติ เอตฺถ ‘‘วสฺสิกปุปฺผาทีนี’’ติ เสโส. สุตฺเตน วา กทลิวากาทีหิ วา วสฺสิกาทิปุปฺเผ คนฺถิตฺวา กตปุปฺผวิกาโร โคปฺผิมํ นาม. เอกโต วณฺฏานิ ยสฺสาติ วิคฺคโห. อุภโตวณฺฏิกาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อปฺปตฺเถ วา สกตฺเถ วา ก-กาโร ทฏฺพฺโพ. อิตฺถิลิงฺควิสเย ก-การโต ปุพฺพาการสฺส อิ-การาเทโส.
สพฺพปุปฺผานํ วณฺฏานิ เอกทิสาย กตฺวา คนฺถิตปุปฺผาวลิ เอกโตวณฺฏิกา นาม, วณฺฏานิ อุภยทิสาย กตฺวา คนฺถิตปุปฺผาวลิ ¶ อุภโตวณฺฏิกา นามาติ ตํ โคปฺผิมํ เอวํ ทุวิธํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘วากํ วา วลฺลึ วา รชฺชุํ วา ทิคุณํ กตฺวา ตตฺถ นีปกทมฺพาทิวณฺฏรหิตานิ ปุปฺผานิ เวเตฺวา คหณํ โคปฺผิมํ นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑ อตฺถโต สมานํ) อฏฺกถาย วุตฺตํ.
๔๖๖. พุนฺเทสูติ มูเลสุ. มกุลาทิกนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน วณฺฏรหิตมธุกาทิปุปฺผฺจ วณฺฏสหิตมลฺลิกาทิปุปฺผฺจ สงฺคหิตํ. สูจิอาทีหีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ตาลหีราทึ สงฺคณฺหาติ ¶ . มาลาวิกตีติ ปุปฺผมาลาวิกติ. สูจิอาทีหิ มกุลาทิกํ ปุปฺผํ พุนฺเทสุ วิชฺฌิตฺวา อาวุตา มาลาวิกติ เวธิมํ นามาติ วุจฺจตีติ โยชนา.
๔๖๗. ‘‘เวิมํ นาม ปุปฺผทามปุปฺผหตฺถเกสุ ทฏฺพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาย ทสฺสิตปฺปกาเรสุ ปมปฺปการํ ทสฺเสติ ‘‘เวเตฺวา กตํ มาลาคุเณหิ วา’’ติ. ธมฺมเทสนาย วา ปฏิมาย วา ธาตุยา วา ปูชํ กตฺตุกามา มุทฺธนิ อุชุกํ กตฺวา มาลาทามกลาปํ โอลมฺพิตฺวา อคฺเค ฆฏิกาการทสฺสนตฺถํ มาลาวลิโย อเนกกฺขตฺตุํ ปริกฺขิปนฺตา เวเนฺติ, อิทํ เอวรูปํ มาลาคุณกรณมฺปิ เวิมํ นามาติ วุตฺตํ โหติ.
อฺปฺปการํ ทสฺเสติ ‘‘วากาทีหิ จ พทฺธํ วา’’ติ, ‘‘พนฺธิตฺวา’’ติปิ ปาโ, ‘‘กต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เอกจฺเจ อุปฺปลาทิทีฆทณฺฑกุสุมานิ อฏฺ วา นว วา ทส วา กลาปํ กตฺวา เตสเมว ทณฺฑานํ วาเกหิ วา อฺเน เยน เกนจิ ทณฺฑกคฺเค เปตฺวา วา วิสุํ วา พนฺธิตฺวา อุปฺปลหตฺถาทึ กโรนฺติ, ตฺจ เวิมํ นามาติ วุตฺตํ โหติ. เอตํ ทฺวยมฺปิ น วฏฺฏติ.
กปฺปิยการเกหิ ¶ โอจินิตฺวา ปิตปุปฺผานิ สาฏเก ปกฺขิปิตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ. เตสุเยว ปุปฺเผสุ อจฺฉินฺเนน ทณฺเฑน วา ตสฺมึเยว ทณฺเฑ อจฺฉินฺนวาเกน วา กลาปํ กตฺวา พนฺธิตุํ, อํสภณฺฑิกาย ปกฺขิปิตฺวา คเหตฺุจ วฏฺฏติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เตสํเยว ปน วาเกน วา ทณฺเฑน พนฺธิตุํ อํสภณฺฑิกํ วา กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘วาเกน วา ทณฺเฑน วา’ติ จ อิทํ อจฺฉินฺทิตฺวา ปริกฺขิปิตฺวา พนฺธนํ สนฺธาย วทนฺตี’’ติ สีหฬคณฺิปเท วุตฺตํ. ปทุมาทิปุปฺผานิ ปทุมาทิปณฺเณสุ นาเฬหิ ปเวเสตฺวา นาเฬหิ พหิ กตฺวา ปณฺเณน ปุปฺผานิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปณฺณคฺเค พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ทณฺเฑ ปน พนฺธิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) จ อฏฺกถายเมว วุตฺตํ.
๔๖๘. ปุปฺผมาลาหิ ปูรเณติ ปุปฺผาวลีหิ ปูรเณ. อิทํ กตฺถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘โพธิ’’นฺติอาทิ. ปุปฺผปฏํ นาม มาลาวลิโย ตนฺตํ วิย ปสาเรตฺวา วตฺถํ วายนฺเตหิ วิย ติริยฺจ มาลาวลีหิ วายิตปฏํ วุจฺจติ. อิทํ ปุปฺผปฏํ มาลาวลีหิ ทีฆโส ปูรณํ สนฺธาย ¶ ปุริเม คหิตํ, ติริยโต วายนํ สนฺธาย วกฺขมาเน วายิเมปิ คหิตนฺติ ปุนรุตฺตาภาโว เวทิตพฺโพ. ปฏาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน เจติยธาตุกรณฺฑกเวทิกาทีนํ คหณํ.
ปริกฺเขเปสุ ลพฺภตีติ โพธิกฺขนฺธาทีนํ ปุนปฺปุนํ ปริกฺขิปเนสุ ลพฺภติ. โพธิกฺขนฺธาทโย ปุปฺผาวลีหิ ปริกฺขิปนฺเตหิ ปมวทฺธฏฺาเน ปุปฺผาวลิยา อนติกฺกามิเต ปุริมํ นาม านํ ยาว ปาปุณาติ, ตาว อฺเน คเหตฺวา ปริกฺขิปนฺเตน อาหริตฺวา ปุนปิ ตสฺมึ าเน ปตฺเต อฺสฺส ทานวเสน โพธิกฺขนฺธํ, เจติยํ, ธาตุกรณฺฑกํ วา ปุปฺผกฺจุเกน ฉาเทตุํ ¶ วฏฺฏตีติ อฏฺกถาย วุตฺตํ. สเจปิ ทฺเวเยว ภิกฺขู อุโภสุ ปสฺเสสุ ตฺวา ปริยาเยน หรนฺติ, วฏฺฏติเยวาติ วทนฺติ. ปุปฺผปฏวายนตฺถํ ปสาริยมานปุปฺผาวลีสุ จ เอเสว วินิจฺฉโย.
ทีฆปุปฺผาวลึ นาคทนฺเตสุ ปกฺขิปิตฺวา ปุน ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘นาคทนฺเตสุ ปน ปุปฺผวลยํ ปเวเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา อฺเหิ วลยํ กตฺวา ทินฺนปุปฺผาวลิวลยํ ธาตุกรณฺฑถุปิกาย ปเวเสตุํ วฏฺฏติ. ‘‘มาลาคุเณหิ ปน พหูหิปิ กตํ ปุปฺผทามํ ลภิตฺวา อาสนมตฺถกาทีสุ พนฺธิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปุปฺผทามปุปฺผาวลีนํ ปุปฺผรหิตาย สุตฺตโกฏิยา รชฺชุทณฺฑาทีสุ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ.
๔๖๙. ปุปฺผรูปํ นาม ‘‘โคปฺผิมปุปฺเผเหว หตฺถิอสฺสาทิรูปกานิ กโรนฺติ, ตานิปิ วายิมฏฺาเน ติฏฺนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) วุตฺตตฺตา ตํตํรูปสณฺานํ กตฺวา ปุปฺผาวลิโย นิเวเสตฺวา กริยมานํ หตฺถิอสฺสาทิรูปํ. อิมสฺมึ อฏฺกถาปาเ ‘‘ตานิปิ วายิมฏฺาเน ติฏฺนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา จ ‘‘อฺเหิ กตปริจฺเฉเท ปน ปุปฺผานิ เปนฺเตน หตฺถิอสฺสาทิรูปกมฺปิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาปาสฺส สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ปุปฺผานิ เปนฺเตนาติ อคนฺถิตานิ ปากติกปุปฺผานิ เปนฺเตน. ปุปฺผทามํ ปน ปูชนตฺถาย ภูมิยํ เปนฺเตน ผุสาเปตฺวา วา อผุสาเปตฺวา วา ทิคุณํ กตฺวา เปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๓๑) วุตฺตตฺตา จ อิมํ หตฺถิอาทิรูปํ ปูเรนฺเตน มาลาวลึ อฺเหิ กตปริจฺเฉเท สมฺพนฺธิตฺวา ปาสาณอาสนมฺจปีหตฺถิรูปาทิมตฺถเก เปตฺวา ปูชนปฺปกาโร วายิมนฺติ วิฺายติ.
ปุปฺผปฏนฺติ ¶ ¶ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการํ ปุปฺผปฏํ ปูเรนฺเตน เอกาปิ ปุปฺผาวลิ ปริวตฺเตตฺวา น เปตพฺพา, วายนฺเตน อฺเหิ ปูริเตปิ เอกาปิ ปุปฺผาวลิ น ปาเตตพฺพา, อิทํ ปูริมวายิมานํ นานากรณํ. อาทิคฺคหเณน ปุปฺผชาลํ สงฺคณฺหาติ, ตํ กโรนฺตสฺส ชาลจฺฉิทฺทคณนาย ทุกฺกฏํ โหติ. ‘‘ภิตฺติจฺฉตฺตโพธิตฺถมฺภาทีสุปิ เอเสว นโย’’ติ วุตฺตตฺตา ฉตฺตาทีสุ จ ปุปฺผชาลํ น ทาตพฺพํ.
๔๗๐. อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส สาธารณตฺตา ‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจา’’ติ อาห. พุทฺธสฺสปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท สมฺภาวเน, ‘‘ปูชตฺถ’’นฺติ วตฺตพฺพํ, พุทฺธสฺส ปูชตฺถายปิ กาตุํ วา การาเปตุํ วา น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ธมฺมสงฺฆรตนานิปิ อุปลกฺขณโต สงฺคยฺหนฺติ. เสเส กิเมว วตฺตพฺพนฺติ พฺยติเรกตฺโถ.
๔๗๑. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘สยํ ปเรหิ วา การาเปตุํ ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ พุทฺธสฺสปี’’ติ อนนฺตรคาถาย วุตฺตมติทิสติ. กลมฺพกนฺติ ทฺวินฺนํ ธนุกานมนฺตเร โอลมฺพกทามํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กลมฺพโกติ อฑฺฒจนฺทนาคทนฺตนฺตเร ฆฏิกาทามโอลมฺพโก วุตฺโต’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑). เอตฺถ จ ฆฏิกาทามโอลมฺพโก นาม อนฺเต ฆฏิกาการยุตฺโต ยมกทามโอลมฺพโก. กาตุนฺติ พนฺธิตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. เอเกกปุปฺผทามํ ปน นิกฺขนฺตสุตฺตโกฏิยา ปพนฺธิตฺวา โอลมฺพิตุํ วฏฺฏติ. ปุปฺผทามทฺวยํ สงฺฆฏิตุกาเมนปิ นิกฺขนฺตสุตฺตโกฏิยาว สุตฺตโกฏิ สงฺฆฏิตุํ วฏฺฏติ. อฑฺฒจนฺทกเมว วาติ ‘‘อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณปริกฺเขโป’’ติ อฏฺกถาย วุตฺตสรูปํ วา.
เอตฺถ จ อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณปริกฺเขโป นาม อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณสฺส ปุนปฺปุนํ หรณปจฺจาหรณวเสน ปูเรตฺวา ปริกฺขิปนํ. เตเนว ตํ ปูริเม ปวิฏฺํ. ตสฺมา เอตมฺปิ ¶ อฑฺฒจนฺทาการํ ปุนปฺปุนํ หรณปจฺจาหรณวเสน ปูริตํ น วฏฺฏติ, เอกวารํ ปน อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณํ หริตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. กาตุํ น วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตทุภยมฺปิ ปูริเมเยว ปวิฏฺ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อฺเหิ ปูริตนฺติ อฺเหิ อายตํ ปสาเรตฺวา ปูริตํ ปุปฺผปฏํ. วายิตุมฺปิ จาติ ติริยํ เอกปุปฺผาวลิมฺปิ วายิตุํ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ อิมินาว สมฺพนฺโธ.
๔๗๒. ปิฏฺกาจมยนฺติ ¶ ตณฺฑุลปิฏฺาทีหิ กตฺเจว กาจมตฺติกาย จ กตํ ปุปฺผทามํ. เภณฺฑุปุปฺผมยมฺปิ จาติ เภณฺฑุทณฺฑเกหิ มลฺลิกาสุมนจมฺปกาทิสทิสํ กตฺวา ฉิทฺเทหิ กตทามฺจ. ‘‘เคณฺฑุปุปฺผมย’’นฺติปิ ลิขนฺติ. ขรปตฺตมยนฺติ เอตฺถ ขรปตฺตํ นาม กุงฺกุฏฺขจิตํ ปุปฺผปฏนฺติ วทนฺติ. กาตุนฺติ คนฺถนคนฺถาปนาทีนิ กาตุํ. เภณฺฑุขรปตฺตทามานํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา เจลาทีหิ กตทามมฺปิ น วฏฺฏติ อกปฺปิยานุโลมตฺตาติ วทนฺติ.
๔๗๓. หีราทีหีติ ตาลนาฬิเกรหีราทีหิ. อาทิ-สทฺเทน ติณสลากาทึ สงฺคณฺหาติ. ปฏากตฺถนฺติ ปฏากากาเรน ปูชนตฺถํ. ‘‘วิชฺฌนฺตสฺสา’’ติ อิมินา กณฺฏเกหิ วิชฺฌนํ, หีราทีหิ อาวุณนฺจ สงฺคหิตํ.
๔๗๕. อโสกปิณฺฑิอาทีนนฺติ อโสกปุปฺผมฺชริกาทีนํ. อาทิ-สทฺเทน อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) เอเตเหว สทฺธึ ทสฺสิตํ ชาลวิตานํ, ฉิทฺทานิ ทสฺเสตฺวา กตเวทิกา, นาคทนฺตกํ, ปุปฺผจงฺโกฏกาปิธานํ, ตาลปณฺณวลยาทิฺจ สงฺคณฺหาติ. ธมฺมรชฺชุยาติ เอตฺถ สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ธมฺมรชฺชุ นาม เจติยํ วา โพธึ วา ปุปฺผปเวสนตฺถ อาวชฺชิตฺวา พทฺธรชฺชู’ติ มหาคณฺิปเท, มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ, ตสฺมา ตถา พทฺธาย รชฺชุยา เจติยสฺส จ อนฺตเร ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ วฏฺฏตีติ ¶ วิฺายติ. คณฺิปเท ปน ‘ธมฺมรชฺชุนฺติ สิถิลวฏฺฏิตํ รชฺชุํ กตฺวา โพธึ วา เจติยํ วา ปริกฺขิปิตฺวา ธมฺมาสเน วา ลมฺพิตฺวา ตตฺถ ปุปฺผานิ ปเวเสนฺตี’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา สิถิลวฏฺฏิตาย รชฺชุยา อนฺตเรปิ ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ วฏฺฏตีติ วิฺายติ, วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ. อุภยตฺถาปิ ปเนตฺถ เนวตฺถิ วิโรโธติ อมฺหากํ ขนฺตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๓๑) ลิขิตํ.
๔๗๖. วิชฺฌนฺตสฺสปีติ ปิ-สทฺเทน ธมฺมาสนวิตานาทีสุ ปุปฺผปูชนตฺถํ สยํ กณฺฏกหีราทิปฺปเวสนํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘วิตานาทีสุ ปุปฺผปูชนตฺถํ กณฺฏกหีราทิปฺปเวสนํ น วฏฺฏตี’ติ อิทํ อฏฺกถาจริยปฺปมาณโต คเหตพฺพ’’นฺติ สารตฺถทีปนิยํ วุตฺตํ.
๔๗๗. กปฺปิยวจนํ นาม ‘‘เอวํ ชาน, เอวํ กเต โสเภยฺย, ยถา เอตานิ ปุปฺผานิ น วิกิริยนฺติ, ตถา กโรหี’’ติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาคตํ กปฺปิยวจนํ. วตฺถุปูชเนติ รตนตฺตยปูชเน. นิมิตฺตาทีสุ นิมิตฺตํ นาม ปุปฺผานิ จ คนฺถนวาเก ¶ จ คเหตฺวา คนฺถิตุํ ชานนฺตานํ สมีเป ปนํ. โอภาโส นาม ‘‘ตุมฺเหหิ ปิฬนฺธิตกุสุมานิ กสฺมา น วิกิรนฺตี’’ติ วุตฺเต ‘‘คนฺถิตตฺตา’’ติ เจ วทติ, นนุ ปูชนกปุปฺผานิ คนฺถิตุํ น วฏฺฏตีติอาทิวจนานิ. ปริยาโย นาม ปณฺฑิเตหิ ปุปฺผานิ ยถา น วิกิริยนฺติ, ตถา คนฺถิตฺวา ปูเชตุํ มนาปนฺติอาทิวจนํ. ปกาสิตา อฏฺกถายํ.
๔๗๘. ‘‘กุลานิ ทูเสติ ปุปฺเผน วา’’ติอาทิปาเ (ปารา. ๔๓๗) ‘‘เวชฺชิกาย วา ชงฺฆเปสนิเกน วา’’ติ (ปารา. ๔๓๗) วุตฺตํ เวชฺชกมฺมาทึ กุลทูสนโต วิสุํ กตฺวา ‘‘น เกวลํ…เป… กุทาจน’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ? วิสุํ กาตุํ น วุตฺตํ. โยชนา ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพา ¶ ‘‘น เกวลมิทเมว วุตฺตปฺปการํ ปุปฺผทานาทิกุลทูสนํ กุทาจนํ อกตฺตพฺพํ, อถ โข เวชฺชกมฺมาทิ กุลทูสนมฺปิ กุทาจนํ น กตฺตพฺพ’’นฺติ. เวชฺชกมฺมาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน วกฺขมานปริตฺโตทกสุตฺตทานอนามฏฺปิณฺฑทานทูเตยฺยชงฺฆเปสนิเก สงฺคณฺหาติ.
๔๗๙. ‘‘กุทาจนํ น กตฺตพฺพ’’นฺติ สามฺเน นิเสเธตฺวา อิทานิ ‘‘กตฺตพฺพ’’มิจฺจาทินา อปวาทวิธึ ทสฺเสติ. ปฺจนฺนํ สหธมฺมินนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนิสิกฺขมานสามเณรสามเณรีนํ ปฺจนฺนํ สห สทฺธึ จริตพฺโพ ปพฺพชฺชาสาสนธมฺโม เอเตสํ อตฺถีติ ‘‘สหธมฺมิกา’’ติ สงฺขํ คตานํ. อกตวิฺตฺตึ กตฺวาปีติ อฺาตกอปฺปวาริเต เภสชฺชํ ยาจิตฺวาปิ ‘‘วเทยฺยาถ ภนฺเต เยนตฺโถ’’ติ เอวํ อกตฏฺาเน วิฺตฺติ อกตวิฺตฺติ. อตฺตโน ธเนติ สสนฺตกวิสเย.
๔๘๐. ‘‘ตถา’’ติ สหธมฺมิกานํ วุตฺตมติทิสติ. ตทุปฏฺากชนฺตุโนติ เตสํ ทฺวินฺนํ มาตาปิตูนํ เวยฺยาวจฺจกรสฺส. ภณฺฑุกสฺสาติ คิหิลิงฺเค ิตสฺสาปิ ปพฺพชฺชาเปกฺขสฺส. อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺสปีติ อตฺตโน กมฺมกรสฺสปิ. เอตฺตกานฺจ ชนานํ ปฺจสหธมฺมิกานํ วิย อกตวิฺตฺติยาปิ เภสชฺชํ กาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๔๘๑. เชฏฺภาตาติ อตฺตโน ปุพฺพโช ภาตา. กนิฏฺโติ อนุโช ภาตา. ตถา ภคินิโย ทุเวติ เชฏฺกนิฏฺา ทฺเว ภคินิโย. จูฬมาตาติ มาตุ กนิฏฺา. จูฬปิตาติ ปิตุ กนิฏฺโ. มหามาตาติ มาตุ เชฏฺา. มหาปิตา ปิตุ เชฏฺภาตา.
๔๘๒. ปิตุจฺฉาติ ปิตุภคินี เชฏฺกนิฏฺา. มาตุโลติ มาตุ ภาตา. เชฏฺกนิฏฺเ ทฺเว ปิตุจฺฉา ¶ , ทฺเว มาตุเล ¶ จ เอกโต กตฺวา ‘‘ทสา’’ติ วุตฺตํ. เภสชฺชํ กาตุํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ.
๔๘๔. ‘‘ทสฺสนฺติ เม อิเม’’ติ อาโภคํ กตฺวา วา ทาตพฺพนฺติ โยชนา.
๔๘๕. เอเตสํ ทสนฺนํ าตีนํ. ยาว สตฺตมา กุลาติ เอตฺถ กุลปริจฺเฉโท กถํ คเหตพฺโพติ? ‘‘สปุตฺตทารํ ภาตุ กุฏุมฺพํ เอกํ กุลํ, เอวํ ตสฺส ปุตฺตสฺส วา ธีตุ วา กุฏุมฺพํ เอกํ กุล’’นฺติ เอวมาทินา นเยน ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา คเหตพฺพา. ‘‘สปุตฺตปติภคินิยา กุฏุมฺพํ เอกํ กุลํ, ตถา ตสฺส ปุตฺตสฺส วา ธีตุ วา กุฏุมฺพํ เอกํ กุล’’นฺติอาทินา นเยน ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา คเหตพฺพา. จูฬมาตาทีนมฺปิ กุลปรมฺปรา อิมินา นิยาเมน คเหตพฺพาติ วทนฺติ. กุลทูสนํ น รูหตีติ ‘‘ทาตุํ ปุปฺผํ ปนฺสฺส, อาคตสฺเสว าติโน’’ติอาทินา (วิ. วิ. ๔๔๓) นเยน กถิตวิธินา เอเตสุ ปวตฺตนฺตสฺส กุลทูสนํ น รุหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๘๖. ภาตุชายาติ อตฺตโน เชฏฺสฺส วา กนิฏฺสฺส วา ภาตุ ภริยา. ภคินิสามิโกติ อตฺตโน เชฏฺาย วา กนิฏฺาย วา ภคินิยา สามิโก.
๔๘๗. ภาตุโนติ เชฏฺสฺส, กนิฏฺสฺส จ ภาตุโน. อนุ ปจฺฉา ชาตาติ อนุชา, กนิฏฺภคินี. ‘‘อนุชา’’ติ อุปลกฺขณนฺติ เชฏฺายปิ สงฺคโห. เชฏฺกนิฏฺภาตูนํ ภริยา จ เชฏฺกนิฏฺภคินีนํ สามิกา จ สเจ อฺาตกา โหนฺตีติ โยชนา. เทถาติ เอตฺถ ‘‘อิมํ เภสชฺช’’นฺติ ปาเสโส.
๔๘๘. เตสมฺปิ ¶ ภาตุภคินีนํ. ‘‘ปุตฺตาน’’นฺติ อิมินา ธีตูนมฺปิ สงฺคโห. กตฺวาติ วตฺวา. ตุมฺหากํ มาตาปิตูนํ เทถาติ เอตฺถาปิ ‘‘อิมํ เภสชฺช’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. มาตาปิตูนนฺติ อุภยสงฺคาหกวจนโต ‘‘ตุยฺหํ มาตุ วา, ตุยฺหํ ปิตุ วา’’ติ ยถาสมฺภวํ วิสุํ วิสฺุจ วตฺตพฺพํ. เตสนฺติ จ ตุมฺหากนฺติ จ สามิวจนํ. ปุตฺตานนฺติ จ มาตาปิตูนนฺติ จ สมฺปทานวจนํ.
๔๘๙. เภสชฺชกรณารหานํ ¶ วตฺตพฺพตาย ‘‘อกลฺลโก’’ติ อิทํ อิสฺสราทิปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. อกลฺลโกติ อาตุโร. กลฺลํ วุจฺจติ สุขํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ กลฺลโก, น กลฺลโก อกลฺลโก. าติชนุชฺฌิโต วาติ าติชเนน ปริจฺจตฺโต วา.
๔๙๐. เอเตสํ สพฺเพสนฺติ อิสฺสราทิอาตุรานํ สพฺเพสเมเตสํ ชนานํ. ‘‘สาธุนา’’ติ วกฺขมานตฺตา อปจฺจาสีสตา สตาติ เอตฺถ สตาติ กิริยาปทํ. ‘‘อิมสฺมึ กเต อิเม มยฺหํ เอวรูปํ ทสฺสนฺตี’’ติ อตฺตโน อตฺถาย ปจฺจาสีสนํ อกโรนฺเตนาติ อตฺโถ. ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุปการตํ ปจฺจาสีสนฺเตน กาตุํ วฏฺฏติ. ปฏิสนฺถาโรติ อามิสปฏิสนฺถาโร, ธมฺมปฏิสนฺถาโรติ ทุวิโธ ปฏิสนฺถาโร. เอตฺถ อามิสปฏิสนฺถาโร คยฺหติ. เภสชฺชํ อามิเสนปิ โหตีติ ธมฺมกถาย สงฺคโหปิ ยุชฺชเตว. ปฏิสนฺถรณํ ปฏิสนฺถาโร. ปฏิลทฺธามิสสฺส จ ธมฺมสฺส จ เตสุ จ อตฺตนิ จ ปติรูเปนากาเรน สมํ อตฺถรณํ ปวตฺตนนฺติ อตฺโถ.
อปโร นโย – อามิสสฺส จ ธมฺมสฺส จ อลาเภน อตฺตโน, ปรสฺส จ อนฺตเร สมฺภวนฺตสฺส ฉิทฺทสฺส วิวรสฺส เภทสฺส ปฏิสนฺถรณํ ปิทหนํ สงฺคหณํ ปฏิสนฺถาโร. อยฺหิ โลกสนฺนิวาโส อลพฺภมาเนน อามิเสน จ ธมฺเมน ¶ จาติ ทฺวีหิ ฉิทฺโท, ตสฺส ตํ ฉิทฺทํ ยถา น ปฺายติ, เอวํ ปีสฺส วิย ปจฺจตฺถรเณน อามิเสน, ธมฺเมน จ ปฏิสนฺถรณํ ‘‘อามิสปฏิสนฺถาโร, ธมฺมปฏิสนฺถาโร’’ติ วุจฺจตีติ. สาธุนาติ สามีจิปฺปฏิปนฺนตาทิอริยธมฺเม ปติฏฺิตุกาเมน อริยาจาเรน ภิกฺขุนาติ อตฺโถ. ‘‘อธุนา’’ติ อิทํ อิมิสฺสา ปฏิปตฺติยา สพฺพกาลํ ปฏิปชฺชิตพฺพตายปิ ปาปชนกณฺหกสํคาเม อิมสฺมึ วิปนฺนกาเล วิเสเสน อปฺปมตฺเตน ปวตฺเตตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ.
๔๙๑-๒. เกนจีติ อุปลกฺขณตฺตา อุปาสเกน วา อุปาสิกาย วาติ อตฺโถ. หตฺเถนาติ หตฺถาวยวา องฺคุลิโย วุตฺตา สมุทาเย ปวตฺตสฺส โวหารสฺส อวยเว ปวตฺตนโต. กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปริตฺต’’นฺติ ปาเสโส, กโรติสฺส กิริยาสามฺเ วตฺตนโต ภณิตฺวาติ อตฺโถ. เตสเมว จ สนฺตกนฺติ ปริตฺตํ ภณาเปนฺตานเมว สนฺตกํ สุตฺโตทกํ. เอวํ วุตฺตตฺตา ‘‘อตฺตโน สุตฺโตทกํ อาหริตฺวา ปฺุตฺถาย อิทํ หตฺเถน จาเลตฺวา, อามสิตฺวา วา ปริตฺตํ ภณถา’’ติ วุตฺเต เกนจิ ปริตฺโตทกํ สุตฺตํ กาตพฺพํ. เกนจิ ‘‘ปริตฺโตทกสุตฺตานิ เทถา’’ติ วุตฺเต ¶ ภิกฺขุนา เตสเมว สนฺตกํ ชลํ หตฺเถน จาเลตฺวา สุตฺตกํ มทฺทิตฺวา ปริตฺตํ กตฺวา ทาตพฺพนฺติ โยชนา.
๔๙๓. อนามฏฺโปีติ หตฺเถน อนามสิโตปิ, อปพฺพชิตสฺส หตฺถโต ลทฺธา อตฺตนา วา อฺเน วา ภิกฺขุนา อคหิตคฺโคติ วุตฺตํ โหติ.
๔๙๔. โจรทามริกสฺส จาติ คามวิโลปกสฺส โจรสฺส จ.
๔๙๕. ปณฺฑุปลาสสฺสาติ ¶ ปพฺพชฺชาเปกฺขสฺส ภณฺฑุกสฺส, ปณฺฑุวณฺโณ ปลาโส ปณฺฑุปลาโส, โส วิยาติ ปณฺฑุปลาโส, ตํสทิเส ตพฺโพหาโร ‘‘สีโหยํ มาณวโก’’ติอาทีสุ วิย. ยถา ปณฺฑุปลาโส รุกฺขา ปตนาภิมุโข ติฏฺติ นิยตปาโต, เอวมยมฺปิ คิหิลิงฺคโต อปคมาภิมุโข ปพฺพชฺชูปคมเน นิยโตว ติฏฺตีติ ‘‘ปณฺฑุปลาสสทิโส’’ติ เวทิตพฺโพ.
ถาลเกปิ จาติ อตฺตโน ปริโภคถาลเกปิ. อิทฺจ นิทสฺสนมตฺตํ, ปตฺโตปิ คหิโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ. เปตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปิณฺฑปาต’’นฺติ อุปโยควเสน สมฺพนฺธนียํ. ตํ ปนาติ อตฺตโน ปริโภคถาลเก เปตฺวา ทิยฺยมานํ ปิณฺฑปาตํ. ‘‘มาตาปิตูน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๖-๔๓๗) อฏฺกถาวจนโต เอตฺถ ‘‘ปิตุโน’’ติ อุปลกฺขณนฺติ มาตาปิตูนมฺปีติ อตฺโถ. สเจ เอกเสโส อิจฺฉิโต, ‘‘ปิตูนมฺปี’’ติ ปาโ ยุชฺชติ.
๔๙๖. ชงฺฆเปสนิยนฺติ คิหีนํ ทูเตยฺยสาสนหรณกมฺมํ ‘‘ชงฺฆเปสนิย’’นฺติ วุจฺจติ. อปิ จาติ วุตฺตสมุจฺจโย.
๔๙๗. เอตฺตาวตา สามฺวิธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อปวาทวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ภณฺฑู’’ติอาทิ วุตฺตํ. สาสนนฺติ สนฺเทสํ. หริตุนฺติ วุตฺตฏฺานํ เนตุํ.
๔๙๘. อฏฺวิเธนปีติ ปุปฺผทานาทิชงฺฆเปสนิยาวสาเนน อฏฺปฺปกาเรนปิ. กุลทูสนกมฺเมนาติ กุลานํ สทฺธาวินาสเกน อนาจารกมฺเมน. ลทฺธนฺติ เอตฺถ ‘‘โภชน’’นฺติ อิทํ ‘‘ภฺุชิตุ’’นฺติ จ ‘‘อชฺโฌหาเรสู’’ติ จ วุตฺตตฺตา, ‘‘เสเสสุปิ อยํ นโย’’ติ วกฺขมานตฺตา ¶ จ ลพฺภติ. ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ เอเกนาปิ กุลทูสเนน กมฺเมน อุปฺปาทิตปจฺจโย ¶ สพฺเพสมฺปิ น วฏฺฏตีติ ‘‘ปฺจนฺนํ สหธมฺมีนํ น จ วฏฺฏตี’’ติ สพฺพปฏิเสโธ กโต.
๔๙๙. สพฺพตฺถาติ ‘‘อชฺโฌหาเรสู’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ, สพฺเพสูติ อตฺโถ. ‘‘อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร’’ติ อฏฺกถาคตํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อชฺโฌหาเรสู’’ติ อิทํ ปรคลํ กาตพฺพํ อามิสํ สนฺธายาห. เสสปจฺจเย ปฏิจฺจ ปริโภควเสเนว ‘‘เสเสสู’’ติ อาห, อนชฺโฌหรณีเยสุ เสสปจฺจเยสูติ อตฺโถ. กึ วุตฺตํ โหติ? จีวรปจฺจเย สรีรโต โมเจตฺวา ปริโภคคณนาย, เสนาสนปจฺจเย นิพฺพโกเส อุทกปตนฏฺานโต อพฺภนฺตรํ ปวิฏฺวารคณนาย, มฺจปีาทิเสนาสเน นิสีทนสยนาทิปริโภคคณนาย, อนชฺโฌหริตฺวา อพฺภฺชนาเลปนาทิวเสน กาตพฺพเภสชฺเช สรีรโต โมเจตฺวา วารคณนายาติ วุตฺตํ โหติ. อยํ นโยติ ‘‘ทุกฺกฏํ ปริทีปิต’’นฺติ วุตฺโต นโย.
๕๐๐. ‘‘อุปฺปนฺนปจฺจยา’’ติ อิทํ ‘‘อภูตาโรจเนนา’’ติ อิทมเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ. ‘‘กตฺวา รูปิยโวหาร’’นฺติ อิทมเปกฺขิตฺวา ‘‘อุปฺปาทิตปจฺจยา’’ติ โยชนา กาตพฺพา. รูปิยโวหารวินิจฺฉโย นิสฺสคฺคิเย อาวิ ภวิสฺสติ. อภูตาโรจนวินิจฺฉโย จตุตฺถปาราชิเก วุตฺโต. สมานาติ ปกาสิตาติ กุลทูสนกมฺเมน อุปฺปาทิตปจฺจเยหิ สทิสาติ อฏฺกถายํ วุตฺตาติ อตฺโถ. อิมินา ตตฺถาปิ วินิจฺฉโย เอตฺตโกเยวาติ อติทิสติ.
๕๐๑. ‘‘สํสารวาโส ทุกฺข’’นฺติ ตฺวา นิพฺพานาธิคเม มานสํ พนฺธิตฺวา นิพฺพานคามินึ ปฏิปทํ สนฺธาย สาสนาวติณฺเณน สิกฺขากาเมน กุลปุตฺเตน เสวิตกฺขเณเยว ชีวิตหรณสมตฺถวิสมิสฺสปูติมุตฺตํ ¶ วิย วชฺชนียํ อกปฺปิยปจฺจยํ อุปฺปาเทตุํ กริยมานํ อกปฺปิโยปายปฺปการํ เอกโต ทสฺเสตุมาห ‘‘วิฺตฺตี’’ติอาทิ. ตตฺถ วิฺตฺติ ยาจนา. อนุปฺปทานนฺติ ปิณฺฑปฏิปิณฺฑทานํ. เวชฺชกมฺมํ วุตฺตนยเมว. อเนสนํ นาม อปฺปิจฺฉตาย อนนุรูเปน ปโยเคน ปจฺจยปริเยสนํ.
ปาริภฏฺยตา นาม อิสฺสเร เสวิตุํ ปริวาเรตฺวา เตสํ จิตฺตรุจิตํ วิลปนฺตานํ ปริภฏานํ เสวกชนานํ วิย ลาภตฺถิกสฺส ภิกฺขุโน ปจฺจยทายเกสุ ปวตฺตีติ เวทิตพฺโพ. ปริ สมนฺตโต ภฏติ เสวตีติ ปริภโฏ, อิสฺสรชนานํ สมีปาวจโร เสวกชโน, ปริภโฏ วิยาติ ¶ ปริภโฏ, ภิกฺขุ, ปริภฏสฺส กมฺมํ ปาริภฏฺยํ, ตสฺส ภาโว ปาริภฏฺยตา. อถ วา ปริภฏติ ธาติ วิย กุลทารเก องฺเก กรณาทิวเสน ธาเรตีติ ปริภโฏ, ปริภฏสฺส กมฺมํ ปาริภฏฺยํ, ตสฺส ภาโว ปาริภฏฺยตาติ ลาภาสาย ภิกฺขุโน กุลทารเกสุ อนนุโลมิกา ปวตฺติ วุจฺจติ.
มุคฺคสูปตา นาม ปกฺกมุคฺคา วิย ปกฺกาปกฺกพีชมิสฺสา ลาภาสาย ทายกานํ จิตฺตาราธนตฺถาย สจฺจาลีกมิสฺสกตา. ยถา มุคฺเคสุ ปจฺจมาเนสุ โกจิเทว น ปจฺจติ, พหโว ปจฺจนฺติ, เอวเมว ยสฺส ทายเกหิ สทฺธึ กเถนฺตสฺส กิฺจิเทว สจฺจํ โหติ, อสจฺจเมว พหุกํ โหติ, อยํ วุจฺจติ มุคฺคสูปสทิสตฺตา ‘‘มุคฺคสูโป’’ติ, ตสฺส กมฺมํ มุคฺคสูปํ, ตสฺส ภาโว มุคฺคสูปตา. วตฺถุวิชฺชกํ นาม กูปวตฺถุเคหวตฺถุอาทีนํ อาจิกฺขนํ. วตฺถุวิชฺชายกานํ กตํ วตฺถุวิชฺชกํ.
๕๐๒. ชงฺฆเปสนิยํ, ทูตกมฺมฺจ วุตฺตนยเมว. กุลทูสนนฺติ วุตฺตาวเสสํ. อภูตาโรจนฺจ วุตฺตนยเมว. พุทฺธปฏิกุฏฺนฺติ ¶ พุทฺเธหิ ปฏิกฺโกสิตํ ครหิตํ ยถาวุตฺตํ มิจฺฉาชีวฺจ อวุตฺตฺจ องฺควิชฺชานกฺขตฺตวิชฺชาอุกฺกาปาตทิสาฑาหภูมิจาลาทิเภทํ มิจฺฉาชีวนูปายํ สพฺพํ. วิวชฺชเยติ วิสมิว, คูถมุตฺตํ วิย จ อารกา ปริวชฺเชยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘สิกฺขากาโม กุลปุตฺโต’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
๕๐๓. ปฏินิสฺสชฺชโตปิ ตนฺติ สมนุภาสนกมฺมโต ปุพฺเพ วา ตฺติจตุตฺถาสุ กมฺมวาจาสุ อนฺตกมฺมวาจาย ยฺย-การํ อปฺปตฺตาย วา กุลทูสนกมฺมํ ปชหนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. สงฺฆเภทสมนฺติ ปมสงฺฆเภเทน สมนฺติ.
กุลทูสนกถาวณฺณนา.
๕๐๔. ‘‘ชาน’’นฺติ อิมสฺส ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ เอตสฺส วิเสสนตฺตา ชานตาติ คเหตพฺพํ. ปาฬิยา ลิขิเต สีหฬคณฺิปเท ปน เอวรูปํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสฺมีติ ตฺวาติ อตฺโถ วุตฺโต. ยาวตีหนฺติ ยตฺตกานิ อหานิ, ‘‘ฉาทิตา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ, ฉาทนกิริยาอจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ฉาทิตาติ ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติ สพฺรหฺมจารีนํ อนาโรจนทิวเสน ¶ ปฏิจฺฉาทิตา. อาปตฺตีติ สงฺฆาทิเสสาปตฺติ. อกามาติ อรุจิยาว สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชิตฺวา อกตปฏิกมฺมสฺส สคฺคโมกฺขานํ อนฺตรายกรตฺตาติ อธิปฺปาโย. ปริวตฺถพฺพนฺติ ปริวาสํ สมาทาย วตฺถพฺพํ. กิตฺตกํ กาลนฺติ อาห ‘‘ตาวตีห’’นฺติ, ตตฺตกานิ อหานีติ วุตฺตํ โหติ. อาปชฺชิตฺวา ยตฺตกานิ อหานิ ปฏิจฺฉาเทติ, ตตฺตกาเนว อหานีติ อตฺโถ.
๕๐๕-๖. อาปตฺติ กิตฺตเกน ปฏิจฺฉนฺนา โหตีติ อาห ‘‘อาปตฺติ จา’’ติอาทิ. ตตฺถ อาปตฺติ จาติ สงฺฆาทิเสสาปตฺติ จ. อนุกฺขิตฺโต จาติ อุกฺเขปนียกมฺเมน สยํ อนิสฺสาริโต ¶ จ. ปหู จาติ สยํ สพฺรหฺมจารีนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา อาโรเจตุํ ปโหติ จ. อนนฺตรายิโก จาติ คมนวิพนฺธเกน ราชโจราทิอนฺตราเยน วิรหิโต จ. จตุสฺว ปีติ เอตฺถ ‘‘เอเตสู’’ติ เสโส, เอเตสุ จตูสูติ อตฺโถ. ตํสฺีติ อาปตฺติสฺี อนุกฺขิตฺตสฺี ปหุสฺี อนนฺตรายิกสฺีติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส เอวํสฺิโน อิเมสุ จตูสุ ตถาสฺิโน ปุคฺคลสฺส. ฉาเทตุกามตาติ อาจริยาทีสุ คารเวน วา ครหาทิภยา วา ‘‘น อาโรเจสฺสามี’’ติ ปฏิจฺฉาเทตุกามตา จ. ฉาทนนฺติ ตถา จินฺเตตฺวา ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามํ อาปนฺโน’’ติ อวตฺวา ปฏิจฺฉาทนฺจาติ อิเมหิ ทสหิ องฺเคหิ. ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ กตฺตุนิทฺเทสตฺตา ฉนฺนาติ เอตฺถ ฉาทิตาติ อตฺโถ. กาลวิธึ ทสฺเสติ ‘‘อรุณุคฺคมเนนา’’ติ, อาปตฺติอาปนฺนทิวสํ เขเปตฺวา อรุณุฏฺาเนน สทฺธึ ฉนฺนา โหตีติ อตฺโถ.
ทฺเวภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๐๗. เอวํ ปฏิจฺฉนฺนสงฺฆาทิเสสปฏิกมฺมตฺถํ ‘‘อกามา ปริวตฺถพฺพ’’นฺติ วิหิตสฺส ปริวาสสฺส โก เภโท, โก ปวตฺติกฺกโมติ อาห ‘‘ติวิโธ’’ติอาทิ. โส ปริวาโส ติวิโธ ทีปิโตติ สมฺพนฺโธ. เกนาติ อาห ‘‘ติวิธาเปตเจตสา’’ติ. ‘‘ติสฺโส วิธา, เสยฺโยหมสฺมีติ วิธา, สทิโสหมสฺมีติ วิธา, หีโนหมสฺมีติ วิธา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๕) วุตฺตวิธาย มานนามเธยฺยโต ติวิธมานโต อปคตจิตฺเตน สมฺมาสมฺพุทฺเธนาติ อตฺโถ.
ปฏิจฺฉนฺนา อาปตฺติ เอตสฺสาติ ปฏิจฺฉนฺโน. อริสาทีนํ อาคติคณตฺตา ตตฺถ ปกฺขิปเนน อ-การปจฺจโย ทฏฺพฺโพ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปฏิจฺฉนฺนาย ทาตพฺโพ’’ติอาทิ.
สุทฺธนฺโตติ ¶ ¶ ‘‘อุโภ โกฏิโย โสเธตฺวา ทาตพฺพปริวาโส สุทฺธนฺโต นามา’’ติ ปาฬิคณฺิปเท วุตฺตตฺตา อุปสมฺปทากาลสงฺขาโต สุทฺโธ ปุพฺพนฺโต, อาโรจิตกาลสงฺขาโต สุทฺโธ อปรนฺโต จ ปริวาสสมาทานกาเล วา ปริวสนกาเล วา อุปปริกฺขิตฺวา ทิฏฺา สุทฺธา อนฺตา อนาปตฺติกาลสงฺขาตา อุโภ โกฏิโย อสฺสาติ กตฺวา สุทฺธนฺตนามโก ปริวาโส จ. เอตฺถ จ เภทาทึ วกฺขติ.
สมฺมา ทิวสาทีนํ โอธานํ ปกฺเขโป ยตฺถ โส สโมธาโน, ปริวาโส. ทิวเสสุ ทิวเส วา อาปตฺตีสุ อาปตฺติโย วา สพฺพา นานาวตฺถุกา อาปตฺติโย เอกโต กตฺวา โอธาย ทาตพฺพปริวาโสติ อตฺโถ. เอตฺถาปิ เภทาทึ วกฺขติ.
๕๐๘. ตตฺราติ เตสุ ตีสุ ปริวาเสสุ. ‘‘โย’’ติ เสโส. อิตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โย ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส, อยนฺติ เอวํ ปกาสิโตติ โยชนา.
๕๐๙-๑๐. ปริวาสทานกาเล วุจฺจมานาย กมฺมวาจาย ปธานลกฺขณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วตฺถุโคตฺตวเสนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘วตฺถู’’ติ สุกฺกโมจนาทิโก วีติกฺกโม วุจฺจติ. อยเมว สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิกํ คํ วาจํ สฺฺจ ตายติ รกฺขตีติ กตฺวา ‘‘โคตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ สชาติยสาธารณวิชาติยวินิวตฺตนวเสน อฺตฺถ คนฺตุํ อทตฺวา วาจํ สทฺทํ, ตพฺพิสยํ สฺฺจ รกฺขติ. อิทํ วตฺถุโคตฺตทฺวยวาจกํ สุกฺกวิสฺสฏฺิกายสํสคฺควิเสสวจนฺจ ‘‘นานาวตฺถุกา’’ติ สามฺวจนฺจาติ อิมินา วจนทฺวเยนาติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺึ กายสํสคฺค’นฺติอาทิวจเนนาปิ ‘นานาวตฺถุกาโย’ติอาทิวจเนนาปิ วตฺถุเจว ¶ โคตฺตฺจ สงฺคหิต’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒). นามาปตฺติวเสน วาติ เอตฺถ สงฺฆาทิเสโสติ สชาติสาธารณนามํ, อาปตฺตีติ สพฺพสาธารณนามนฺติ ทฺวีหิ นาเมหิ ตํตํวีติกฺกมวเสน อาปชฺชิตพฺพโต ตเทว อาปตฺตีติ เอวมุภินฺนํ นามาปตฺตีนํ วเสน วาติ อตฺโถ.
กมฺมวาจา หิ กาตพฺพาติ ‘‘วตฺถุโคตฺตวเสนาปี’’ติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท ‘‘นามาปตฺติวเสน วา’’ติ เอตฺถ สงฺฆาทิเสโสติ สชาติสาธารณนามํ, อาปตฺตีติ สพฺพสาธารณนามนฺติ ทฺวีหิ นาเมหีติ อิทํ สมุจฺจิโนตีติ อุภยํ เอกโต โยเชตฺวา กมฺมวาจา กาตพฺพาติ. ‘‘นามาปตฺติวเสน ¶ วา’’ติ เอตฺถ วิกปฺปตฺเถน วา-สทฺเทน, ‘‘อหํ ภนฺเต สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนาโย’ติ เอวํ นามมตฺตวเสน วา โยชนา กาตพฺพา’’ติ อฏฺกถาย วุตฺตวิเสสนิวตฺตนตฺถมตฺตสทฺทวเสน จ วตฺถุโคตฺตวิรหิเตน เกวเลน นามาปตฺติมตฺเตน ปโยเชตฺวา กาตพฺพาเยวาติ วุตฺตํ โหติ. กมฺมวาจาย กรณปฺปกาโร ปน สมุจฺจยกฺขนฺธเก อาคตนเยน อาปนฺนปุคฺคลนาเมน จ เอกาหปฏิจฺฉนฺนาทิวจเนน จ โยเชตฺวา ทฏฺพฺโพ. ตสฺส ทาตพฺโพติ โยชนา. ‘‘ปริวาโส’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ, ปฏิจฺฉนฺนาปตฺติกสฺส ปุคฺคลสฺส ปริวาโส ทาตพฺโพติ อตฺโถ.
เตน จาติ ลทฺธปริวาเสน อนฺโตสีมาย อุกฺกุฏิกํ นิสินฺเนน ปคฺคหิตฺชลินา ภิกฺขุนา จ. สมาทิยิตฺวาติ เอตฺถาปิ ‘‘วตฺต’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ‘‘สมาทาเนปฺยยํ นโย’’ติ (วิ. วิ. ๕๑๔) วกฺขมานตฺตา ‘‘วตฺตํ สมาทิยามิ, ปริวาสํ สมาทิยามี’’ติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ อฺตรํ วา ทฺวยเมว วา ติกฺขตฺตุํ วตฺวา ปาริวาสิกกฺขนฺธเก วุตฺตวตฺตปูรณตฺถํ สมาทิยิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อาทิโต สงฺฆสฺส อาโรเจตพฺพนฺติ โยชนา. ตถา ¶ วตฺตํ สมาทิยิตฺวา นิสินฺเนน ปมํ สงฺฆสฺส ‘‘อหํ ภนฺเต เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนํ, โสหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสามิ, เวทยามาหํ ภนฺเต, เวทยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ เอวํ อาโรเจตพฺพํ.
‘‘อิมฺจ ปนตฺถํ คเหตฺวา ยาย กายจิ วาจาย อาโรเจตุํ วฏฺฏติเยวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถาวจนโต ยาย กายจิ ภาสายปิ อาโรเจตุํ วฏฺฏติ.
๕๑๑. ปุนปฺปุนาคตานนฺติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ เสโส. ปุพฺเพ อาโรจนฏฺานํ อสมฺปตฺตานํ อาคนฺตุกานํ ภิกฺขูนมฺปิ. อาโรเจนฺโตวาติ เอกสฺส อาโรจเน โส เจ วุฑฺฒตโร โหติ, ‘‘ภนฺเต’’ติ วตฺวา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วตฺวา, นวโก เจ, ‘‘อาวุโส’’ติ วตฺวา อวสาเน ‘‘มํ อายสฺมา ธาเรตู’’ติ, ทฺเว เจ โหนฺติ, ‘‘มํ อายสฺมนฺตา ธาเรนฺตู’’ติ, ตโย เจ, ‘‘มํ อายสฺมนฺโต ธาเรนฺตู’’ติ วตฺวา อาโรเจนฺโตว. รตฺติยา เฉทํ อกตฺวาติ ‘‘ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน’’ติอาทินา (จูฬว. ๘๑) นเยน วุตฺตเอกเสนาสเน ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ อรุณุฏฺาปนวเสน ¶ กริยมาเนน สหวาเสน วา ‘‘ปกตตฺตภิกฺขูหิ วินา เอกเกน วาโส’’ติ วุตฺตวิปฺปวาเสน วา ‘‘อาคนฺตุกานํ อาโรจนาย อกรณ’’นฺติ วุตฺตอนาโรจเนน วา สมฺภวนฺตํ รตฺติจฺเฉทมกตฺวา. วตฺตเภทํ อกตฺวา วา ปาริวาสิกกฺขนฺธเก ปาริวาสิกสฺส ปฺตฺตวตฺตโต เอกมฺปิ อหาเปตฺวา จ. สทา วเสติ ปริวาสํ วสิตุํ ¶ ปริกปฺปิตา สพฺพทิวสา ยาว ขิณนฺติ, ตาว วเสยฺยาติ อตฺโถ.
๕๑๒. ตตฺถ ปริวาโส วิโสเธตุํ น สกฺกา เจติ ตสฺส วิหารสฺส มหนฺตตฺตา อาคเต อาคนฺตุกภิกฺขู ปริเยสิตฺวา อาโรเจนฺเตน รตฺติจฺเฉทํ อกตฺวา ปริวาสํ โสเธตุํ น สกฺกา เจ โหติ. ตํ วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวานาติ ตถา สมาทินฺนํ วตฺตํ อุปริ วกฺขมานนเยน นิกฺขิปิตฺวา.
๕๑๓. กตฺถ นิกฺขิเปยฺยาติ อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺเถว สงฺฆมชฺเฌ วาติ อตฺตโน ยสฺมึ วตฺตํ สมาทินฺนํ, ตสฺมึเยว สงฺฆมชฺเฌ วา. ปุคฺคเล วาติ ภิกฺขูสุ อุฏฺาย ตตฺถ ตตฺถ คเตสุ อนฺโตสีมายเยว โอหีเน เอกภิกฺขุมฺหิ วา อสติยา พหิสีมํ คเตน สริตกฺขเณ อตฺตนา สทฺธึ คจฺฉนฺเต ตสฺสาเยว ปริสาย ปริวาสทาเน สมฺมุขีภูเต ปุคฺคเล วา อาคนฺตุกภิกฺขุ เจ, ตสฺส วา สนฺติเก อาโรเจตฺวา วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. กถํ นิกฺขิเป’ติ อาห ‘‘นิกฺขิปามี’’ติอาทิ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘นิกฺขิปามี’’ติ เอตํ ปจฺจามสติ. ตํ วตฺตนฺติ อตฺตนา สมาทินฺนํ ตํ วตฺตํ.
๕๑๔. อยํ นโยติ ‘‘เอกปเทนาปิ ทฺวีหิ ปเทหิ วา ปนา’’ติ เอวํ อนนฺตโรทิตนโย.
๕๑๕-๒๐. ปกตตฺโตติ วุจฺจตีติ สคฺคโมกฺขาวรณาภาเวน ปกโต ปุพฺพสรูเปเนว ิโต อตฺตา เอตสฺสาติ ‘‘ปกตตฺโต’’ติ กถียติ. ปจฺจูสกาลสฺมินฺติ อรุณโต ปุริมกาเล.
ปริกฺขิตฺตวิหารสฺสาติ เอตฺถ ปาการาทีหิ ปริกฺขิตฺตํ เอกมฺปิ เสนาสนํ วิหรนฺติ อสฺมินฺติ กตฺวา ตถา วุจฺจติ. ทฺเว ¶ เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺมาติ โยชนา. เลฑฺฑุปาตทฺวยสฺส อวธึ ทสฺเสติ ‘‘ปริกฺเขปโต พหี’’ติ, ‘‘อปริกฺขิตฺตโต ปริกฺเขปารหฏฺานา พหี’’ติ จ.
ปริกฺเขปารหฏฺานํ ¶ นาม กตมนฺติ? วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑) ธุตงฺคนิทฺเทเส ‘‘มชฺฌิมฏฺกถายํ ปน วิหารสฺสาปิ คามสฺเสว อุปจารํ นีหริตฺวา อุภินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อพฺภนฺตรา มินิตพฺพ’นฺติ วุตฺตํ. อิทเมตฺถปมาณ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อปริกฺขิตฺตสฺส ปมเลฑฺฑุปาตํ โหติ, คาเม วุตฺเตน วิธินา วิหารปริยนฺเต ิตภตฺตสาลคิลานสาลาทิเสนาสเน เจ ปริกฺเขโป อตฺถิ, ตตฺถ วา, นตฺถิ เจ, นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺาเน ิเตน มาตุคาเมน ฉฑฺฑิตภาชนโธวโนทกปตนฏฺาเน วา เสนาสนโต ทูเร เจติยงฺคเณ, โพธิยงฺคเณ วา ตฺวา พลมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส หตฺถํ ปสาเรตฺวา อตฺตโน พลปฺปมาเณน ขิตฺตสฺส มุฏฺิยา คหิตปาสาณสฺส ปตนฏฺานํ วิหารูปจาโร นาม, ตเทว ปาการาทีหิ ปริกฺเขปารหฏฺานํ นาม. ตตฺถ ตฺวา ตเถว ขิตฺตสฺส ปาสาณสฺส ปตนฏฺานํ เอโก เลฑฺฑุปาโต, ตตฺถาปิ ตฺวา ตเถว ขิตฺตสฺส ปาสาณสฺส ปตนฏฺานํ เอโก เลฑฺฑุปาโตติ เอวํ ทฺเว เลฑฺฑุปาตา คเหตพฺพา.
มคฺคโต โอกฺกมิตฺวาติ มคฺคโต อปสกฺกิตฺวา. คุมฺเพนาติ รุกฺขคหเนน วา ลตาคหเนน วา. วติยาติ กณฺฏกสาขาทีหิ กตาย วติยา.
วตฺตมาทายาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน วตฺตํ สมาทิยิตฺวา. อาโรเจตฺวาติ ยถาวุตฺตนเยน อาโรเจตฺวา.
นิกฺขิปิตฺวาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา. ภิกฺขูติ อตฺตนา สทฺธึ หตฺถปาสทานตฺถาย อาคโต ภิกฺขุ. ยสฺส กสฺสจีติ เอตฺถ ‘‘สนฺติเก’’ติ เสโส.
อาโรเจตฺวา ¶ วาติ อตฺตโน นวกตโร เจ, ‘‘อาวุโส’’ติ, วุฑฺโฒ เจ, ‘‘ภนฺเต’’ติ วตฺวา ยถาวุตฺตนเยเนว อาโรเจตฺวา. เสสนฺติ อวเสสวินิจฺฉยํ. สมุจฺจยสฺสาติ จูฬวคฺคาคตสฺส ตติยสมุจฺจยกฺขนฺธกสฺส. อฏฺกถายจาติ ‘‘สเจ อฺโ โกจิ ภิกฺขุ เกนจิเทว กรณีเยนา’’ติอาทินา (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถาคตวินิจฺฉเยนาปิ.
วิภาวเยติ ‘‘สเจ ยํ ภิกฺขุํ ตตฺถ อาคตํ ปสฺสติ, ภาสมานสฺส สทฺทํ สุณาติ, ตสฺส อาโรเจตพฺพํ. ตถา อกโรนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท จ วตฺตเภโท จ โหติ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. สเจ โส ทฺวาทสรตนพฺภนฺตรํ ปตฺวา ตสฺส อชานนฺตสฺเสว ปกฺกนฺโต โหติ, รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภโท ¶ . สเจ อตฺตนา สทฺธึ อาคโต เกนจิเทว กรณีเยน คโต โหติ, วิหารํ คนฺตฺวา ยํ ปมํ ปสฺสติ, ตสฺส สนฺติเก อาโรเจตฺวา วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. เอวํ ปริกปฺปิตทิวเส ปุณฺเณ กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํ อติเรเก จ ทิวเส วตฺตํ ปูเรตฺวา ปริโยสาเน วตฺเต อสมาทินฺเน มานตฺตารโห น โหตีติ สงฺฆํ อุปสงฺกมฺม วตฺตํ สมาทิยิตฺวา ขนฺธเก อาคตนเยเนว มานตฺตํ ยาจิตพฺพํ. อนิกฺขิตฺตวตฺเตน จริตุกามสฺส ปุน วตฺตสมาทานํ กาตพฺพํ น โหตี’’ติ เอตฺตโก วิเสโส, อิมํ อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ปกาเสยฺยาติ วุตฺตํ โหตีติ.
ปฏิจฺฉนฺนปริวาสกถาวณฺณนา.
๕๒๑. น ชานตีติ เอตฺถ ฉนฺทวเสน รสฺโส กโต. อาปตฺตีนฺจ รตฺตีนํ, ปริจฺเฉทํ น ชานตีติ พหู สงฺฆาทิเสเส อาปชฺชิตฺวาปิ ‘‘เอตฺตกาหํ อาปตฺติโย อาปนฺโน’’ติ อตฺตโน อาปนฺนสงฺฆาทิเสสาปตฺตีนํ ปริจฺเฉทํ ¶ น ชานาติ, ‘‘มยา อาปนฺนาปตฺติ เอตฺตเก ทิวเส ปฏิจฺฉนฺนา’’ติ ทิวสปริจฺเฉทํ น ชานาติ.
๕๒๒. อิทานิ ตสฺส ปเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอเสวา’’ติอาทิ. ปริสุทฺเธหีติ สกลสํกิเลสปฺปหาเนน ปริสุทฺธสนฺตาเนหิ อุปาลิตฺเถราทิปุพฺพาจริเยหิ. เอโสว สุทฺธนฺโตติ เอโส ยถาวุตฺตสรูโป สุทฺธนฺตปริวาโส. จูฬสุทฺธนฺตนาโม จาติ ‘‘โย อุปสมฺปทโต ปฏฺาย อนุโลมกฺกเมน วา’’ติอาทินา (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน อุปสมฺปทมาฬกโต ปฏฺาย อนุโลมวเสน วา อาโรจิตทิวสโต ปฏฺาย ปฏิโลมวเสน วา สรนฺเต ‘‘กิตฺตกานิ ทิวสานิ ปริสุทฺโธติ สรสี’’ติ วินยธเรหิ ปุจฺฉิเต ‘‘เอตฺตกํ กาลํ ปริสุทฺโธสฺมี’’ติ วุตฺตวโต เตน วุตฺตสุทฺธทินานิ ปริยนฺตํ กตฺวา ทินฺโน ยาว อุปสมฺปนฺนทิวโส, ตาว พหุทิวเสสุ เนตพฺพํ มหาสุทฺธนฺตํ สนฺธาย อิตรทินานํ ปูเรตพฺพตฺตา จูฬสุทฺธนฺโต นามาติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘อยฺหิ สุทฺธนฺตปริวาโส นาม อุทฺธมฺปิ อาโรหติ, เหฏฺาปิ โอโรหติ, อิทมสฺส ลกฺขณ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) วุตฺตตฺตา อิมํ ปริวาสํ ปริวสนโต ปจฺฉา ทิวสํ สรนฺโต ปริกปฺเปตฺวา โยเชตฺวา คหิตทิวสโต วฑฺเฒติ วา หาเปติ วา, อุภยตฺถาปิ ‘‘ปุน ปริวาสทานกิจฺจํ นตฺถี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) วจนโต ปุพฺเพ ทินฺนปริวาโสเยว ปมาณํ ¶ . ‘‘เอตสฺส อปฺปฏิจฺฉนฺนํ ‘ปฏิจฺฉนฺนา’ติ วา อจิรปฏิจฺฉนฺนํ ‘จิรปฏิจฺฉนฺนา’ติ วา อสมฺพหุลมฺปิ ‘สมฺพหุลา’ติ วา วิปรีตโต คเหตฺวา วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺส อาปตฺติโต วุฏฺานํ โหติ, ปฏิจฺฉนฺนํ ‘อปฺปฏิจฺฉนฺนา’ติอาทิวิปริยาเยน น โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒ อตฺถโต สมานํ) อฏฺกถาคตนโย เวทิตพฺโพ.
มหาสุทฺธนฺตนามโกติ ¶ ‘‘โย ปน ยถาวุตฺเตน อนุโลมปฏิโลมนเยน ปุจฺฉิยมาโนปิ รตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, เนว สรติ, เวมติโก วา โหติ, ตสฺส ทินฺโน สุทฺธนฺตปริวาโส มหาสุทฺธนฺโตติ วุจฺจตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถายํ นิทฺทิฏฺสรูโป มหาสุทฺธนฺโต นาม. ‘‘อยํ อุทฺธํ นาโรหติ, เหฏฺา ปน โอโรหตี’’ติ วุตฺตตฺตา อยํ ปริวาโส ยาว อุปสมฺปนฺนทิวโส, ตาว ปูเรตพฺพโต ตโต อุทฺธํ นาโรหติ. อนฺตราเฬ อตฺตโน สุทฺธกาลํ ปริกปฺเปตฺวา สรติ เจ, ตโต ปฏฺาย นิวตฺตนโต ทิวสหานํ ปน โหเตว.
๕๒๓. ‘‘อฺตโร ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปนฺโน โหติ, โส อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาตี’’ติ (จูฬว. ๑๕๖) อาคตวตฺถุมฺหิ อิมสฺส ปริวาสสฺส อนฺุาตตฺตา ตํ วตฺถุํ สงฺคเหตุํ ‘‘อาปตฺตีนํ จา’’ติอาทึ วตฺวาปิ ‘‘อาปตฺติปริยนฺตํ ปน ‘เอตฺตกา อหํ อาปตฺติโย อาปนฺโน’ติ ชานาตุ วา มา วา, อการณเมต’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) ปฏิเสเธตฺวา อฏฺกถายํ ปธานภาเวน วุตฺตรตฺติปริยนฺตสฺส อปริชานนมตฺตเมว ปมาณนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทุวิโธปี’’ติอาทิ. ทุวิโธปิ อยํ สุทฺธนฺตปริวาโส เอกจฺจํ รตฺติปริจฺเฉทํ, สกลํ วา รตฺติปริจฺเฉทํ อชานโต วา วิมติสฺส วา ทาตพฺโพติ โยชนา.
สุทฺธนฺตปริวาสกถาวณฺณนา.
๕๒๔. อิตโรปิ โส สโมธานปริวาโส ติธา มโตติ โยชนา. ธาตุสทฺทานํ อเนกตฺถตฺตา ‘‘โอธาน’’นฺติ มกฺขนํ วุจฺจติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘โอธุนิตฺวา ¶ มกฺเขตฺวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒). ‘‘สโมธาน’’นฺติ ปกฺเขโป วุจฺจติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สโมทหิตฺวา’’ติ. โอธานฺจ สโมธานฺจ โอธานสโมธานํ, ตํ ยตฺถ โส ปริวาโส ‘‘โอธานสโมธาโน’’ติ เวทิตพฺโพ. อริสาทิคเณ อนฺโตคธตฺตา เหตฺถ, อุปริ จ เอวรูเป าเน อ-การปจฺจโย ทฏฺพฺโพ ¶ . ปริวุตฺถทิวสานํ มกฺขนฺจ มูลาปตฺติยํ อนฺตราปตฺตีนํ ปกฺขิปนฺจ ยสฺมึ โส ปริวาโสติ วุตฺตํ โหติ. เตเนเวตฺถ ‘‘ทิวเส ปริวุตฺเถ ตุ, โอธุนิตฺวา ปทียเต’’ติ วกฺขติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปริวุตฺถทิวเส โอธุนิตฺวา มกฺเขตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา มูลทิวสปริจฺเฉเท ปจฺฉา อาปนฺนํ อาปตฺตึ สโมทหิตฺวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒).
อคฺฆปุพฺพโก มิสฺสกปุพฺพโก สโมธานปริวาโสติ โยชนา, อคฺฆสโมธานปริวาโส มิสฺสกสโมธานปริวาโสติ วุตฺตํ โหติ. อคฺโฆ จ มิสฺสโก จ อคฺฆมิสฺสกา, เต ปุพฺพกา เอตสฺสาติ อคฺฆมิสฺสกปุพฺพโก, สโมธาโน. อคฺเฆน สโมธานํ อคฺฆสโมธานํ, ตํ ยตฺถ โส อคฺฆสโมธาโน, อาปนฺนาสุ พหูสุ สพฺพจิรปฏิจฺฉนฺนาปตฺตีนํ ทิวสคณนคฺเฆเนว ปจฺฉา อาปนฺนอาปตฺตีนํ ปกฺเขปยุตฺตปริวาโสติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อคฺฆสโมธาโน นาม สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ ยา เอกา วา ทฺเว วา ติสฺโส วา สมฺพหุลา วา อาปตฺติโย สพฺพจิรปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธาย ตาสํ รตฺติปริจฺเฉทวเสน อวเสสานํ อูนตรปฏิจฺฉนฺนานํ อาปตฺตีนํ ปริวาโส ทิยฺยติ, อยํ วุจฺจติ อคฺฆสโมธาโน’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒). มิสฺสกานํ นานาวตฺถุกานํ อาปตฺตีนํ สโมธานํ มิสฺสกสโมธานํ, ตํ ยตฺถ โส ปริวาโส มิสฺสกสโมธาโน. มิสฺสกานํ นานาวตฺถุกานํ อาปตฺตีนํ เอกโต ปกฺเขปยุตฺโต ปริวาโสติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘มิสฺสกสโมธาโน ¶ นาม โย นานาวตฺถุกา อาปตฺติโย เอกโต กตฺวา ทิยฺยตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒).
๕๒๕-๗. เอวํ ติวิเธ สโมธานปริวาเส ปมปริวาสสฺส วิเสสนภูตตาย อวยวานํ ทฺวินฺนํ โอธานสโมธานสทฺทานํ อตฺถานุวาเทน ตทุภยโอธานสโมธานสรูปํ วิธาตุมาห ‘‘อาปชฺชิตฺวา…เป… ปกาสิโต’’ติ. ตตฺถ ปมสฺส โอธาน-สทฺทสงฺขาตสฺส อวยวสฺส อตฺถสรูปานุวาทมาห ‘‘อาปชฺชิตฺวา…เป… ปทียเต’’ติ. ทุติยาวยวสงฺขาตสโมธาน-สทฺทสฺส อตฺถสรูปานุวาทมาห ‘‘ปุริมาปตฺติยา…เป… ภิกฺขุโน’’ติ. เตเนว อุภยตฺถานุวาเท ‘‘ภิกฺขุโน’’ติ ปททฺวยสฺส, ‘‘ปทียเต ทาตพฺโพ’’ติ กิริยาปททฺวยสฺส จ วิสุํ วิสุํ คหิตตฺตา ปุนรุตฺติโทสาภาโว เวทิตพฺโพ. เอวํ อวยวตฺถานุวาเทน วิธาตพฺพสมุทายํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอโสธานสโมธานปริวาโส ปกาสิโต’’ติ. เอตฺถ ฉาเทนฺตสฺส หีติ หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. เอโสธานสโมธาโนติ เอตฺถ เอต-สทฺทสมฺพนฺเธน ‘‘โย’’ติ ลพฺภติ.
ตตฺรายํ ¶ โยชนา – อาปชฺชิตฺวา…เป… โอธุนิตฺวา โย ยสฺมา ปทียเต, ปุริมาปตฺติยา…เป… โย ยสฺมา ทาตพฺโพ, ตสฺมา เอโสธานสโมธานปริวาโส ปกาสิโตติ.
ตตฺถ อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาติ ปฏิจฺฉนฺนาปตฺติยา ปริวสนฺโต วา มานตฺตารโห วา มานตฺตํ จรนฺโต วา อพฺภานารโห วา หุตฺวา กทาจิ อฺํ สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา. ฉาเทนฺตสฺสาติ ปมํ อาปนฺนาปตฺติยาปฏิจฺฉาทิตกาเลน สมํ วา อูนํ วา กาลํ ปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส. ‘‘มูลายปฏิกสฺสเนน เต ปริวุตฺถทิวเส จ มานตฺตจิณฺณทิวเส ¶ จ สพฺเพ โอธุนิตฺวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถาวจนโต เอตฺถ ‘‘ปริวุตฺเถ’’ติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘มานตฺตจิณฺเณ จา’’ติ คเหตพฺพํ. โอธุนิตฺวาติ จ มูลายปฏิกสฺสนวเสน มกฺเขตฺวา, อทิวเส กตฺวาติ อธิปฺปาโย.
โย ยสฺมา ปทียเต, โส ปริวาโส สฏฺิวสฺสานิ ปริวสิตฺวา มานตฺตารโห หุตฺวาปิ อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา เอกาหมฺปิ ปฏิจฺฉาทิเต มูลายปฏิกสฺสเนน เต ทิวเส สพฺเพ มกฺเขตฺวา ตาเนว สฏฺิวสฺสานิ ปุนปิ ยสฺมา ปทียเตติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สฏฺิวสฺสานิ ปริวสิตฺวา มานตฺตารโห หุตฺวาปิ หิ เอกทิวสํ อนฺตราปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปุนปิ สฏฺิวสฺสานิ ปริวาสารโห โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒).
ปุริมาปตฺติยาติ เตน อาปนฺนาสุ สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ สพฺพาปตฺตีนํ ปุเรตรเมว ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา. มูลทิวเสติ ปมํ วีติกฺกมทิวเส. วินิจฺฉิเตติ ‘‘อสุกสํวจฺฉเร อสุกมาเส อสุกทิวเส’’ติ นิยมิเต. สโมธาย ปกฺขิปิตฺวา ทาตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. วิธานโต ยาจมานสฺสาติ วิธานโต สงฺเฆน ทาตพฺโพติ โยเชตพฺพํ, สมุจฺจยกฺขนฺธเก วุตฺเตน วิธินา ยาจมานสฺส ตตฺเถว วุตฺตวิธินา สงฺเฆน ทาตพฺโพติ อตฺโถ. ‘‘เอโส โอธานสโมธานปริวาโส’’ติ ปทจฺเฉโท.
๕๒๘-๙. ตถา วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. ตาสํ อคฺฆวเสน หีติ หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. ‘‘โสติ ตํสทฺทสมฺพนฺเธน ‘‘โย’’ติ ลพฺภติ. ตตฺรายํ โยชนา – สมฺพหุลา…เป… ตาสํ อคฺฆวเสน ตโต อูนปฏิจฺฉนฺนานํ อาปตฺตีนํ ¶ สโมธาย โย ยสฺมา ปทาตพฺโพ ปริวาโส, ตสฺมา โส ยถา อวยวตฺถวเสน ¶ ‘‘โอธานสโมธาโน’’ติ ปริวาโส วุตฺโต, ตถา ‘‘อคฺฆสโมธาโน’’ติ วุจฺจตีติ.
ตตฺถ สมฺพหุลาสูติ ยาสํ อาปตฺตีนํ ปริวสิตุกาโม, ตาสุ สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ‘‘เอกา วา’’ติอาทิ นิทฺธาริยนิทฺเทโส. ตาสํ อาปตฺตีนํ. อคฺฆวเสนาติ คณนวเสน, รตฺติปริจฺเฉทวเสนาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตาสํ รตฺติปริจฺเฉทวเสนา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒). ‘‘ปทาตพฺโพ’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตโตติ จิรปฏิจฺฉนฺนาปตฺติโต. อูนปฏิจฺฉนฺนานํ อาปตฺตีนนฺติ เอตฺถ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, อูนปฏิจฺฉนฺนาโย อาปตฺติโย สโมธายาติ วุตฺตํ โหติ.
๕๓๐. นานา สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ วตฺถูนิ ยาสํ ตา นานาวตฺถุกา, นานาวตฺถุกา สฺา ยาสํ อาปตฺตีนํ ตา นานาวตฺถุกสฺาโย. สพฺพาติ เอตฺถ ‘‘ยา’’ติ เสโส, สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิกุลทูสนาวสานา ยา สพฺพา เตรส สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโยติ อตฺโถ. ตา สพฺพาติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท วตฺตพฺโพ. ทาตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘ปริวาโส’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตา สพฺพาปิ เอกโต กตฺวา ทาตพฺโพ ปริวาโสติ โยชนา. ตสฺส เตรส สงฺฆาทิเสสาปตฺติโยปิ เอกโต กตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘อหํ ภนฺเต สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ…เป… เอกํ กุลทูสกํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ยาจนาย จ ตทนุรูปาย ตฺติยา จ กมฺมวาจาสุ จ นามํ ¶ วตฺวา ทาตพฺพปริวาโส มิสฺสโก มโต ‘‘มิสฺสกสโมธานปริวาโส’’ติ าโต. ทฺเว, ติสฺโส, จตสฺโส, อติเรกา จ อาปนฺนสฺสาปิ ปริวาสํ เทนฺเตน อิมินา นิยาเมน วตฺถุํ, นามํ วิเสเสตฺวา คเหตพฺพํ.
สโมธานปริวาสกถาวณฺณนา.
๕๓๑. ปริวุตฺถปริวาสสฺสาติ ติวิเธ ปริวาเส อฺตรสฺส วเสน ปริวุตฺถปริวาสสฺส. อุตฺตริ ฉ รตฺติโยติ ปริวาสโต อุตฺตริ ฉ รตฺติโย, ฉ ทิวเสติ วุตฺตํ โหติ, ‘‘จริตุ’’นฺติ เสโส, จรณกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. มานตฺตํ เทยฺยนฺติ โยชนา, ‘‘สงฺเฆนา’’ติ สามตฺถิยา ¶ ลพฺภติ. สมุจฺจยกฺขนฺธเก วุตฺตนเยน โยเชตฺวา ฉารตฺตฺจ ทาตพฺโพ, ภิกฺขุมานนวิธิ ภิกฺขุสฺส ทาตพฺโพติ อตฺโถ.
‘‘ปริวุตฺถปริวาสสฺสา’’ติ อิมินา ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ ปกตํ, ตตฺถ ปเภเท อสติ กสฺมา ‘‘ปฏิจฺฉนฺนาปฏิจฺฉนฺนวสา ทุเว’’ติ วุตฺตนฺติ? ปกตเภทมนเปกฺขิตฺวา ฉารตฺตมานตฺเต ลพฺภมานวิสยเภทํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เอวฺหิ สติ สโมธานมานตฺเต จ ‘‘ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทตู’’ติ (จูฬว. ๑๒๘) ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา ตมฺปิ คเหตฺวา ‘‘ติธา’’ติ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? ตมฺปิ ปฏิจฺฉนฺนาปตฺติยา ปริวุตฺถปริวาสสฺเสว ทาตพฺพมานตฺตนฺติ ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตวจเนเนว สงฺคหิตตฺตา วิสุํ น วุตฺตํ. เตเนว จตุพฺพิเธ มานตฺเต อิเมหิ ทฺวีหิ วินา ทสฺเสตพฺเพสุ ทฺวีสุ มานตฺเตสุ ปกฺขมานตฺตมตฺตํ ‘‘ฉาเทนฺติยา’’ติอาทิคาถาย ทสฺเสตฺวา สโมธานมานตฺตํ วิสุํ น ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๕๓๔-๖. วินิทฺทิฏฺปฺปการนฺติ ‘‘ปริกฺขิตฺตวิหารสฺสา’’ติอาทินา ยถาวุตฺตคาถาทฺวเยน นิทฺทิฏฺปฺปการํ. อาทิยิตฺวาน ตํ ¶ เตสนฺติ เอตฺถ ‘‘สนฺติเก’’ติ วกฺขมานโต ลพฺภติ. เตสํ จตุนฺนํ สมฺมุขา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ตํ วตฺตํ สมาทิยิตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘ตํ เตสํ สนฺติเก’’ติ อิทํ ‘‘อาโรเจตฺวา’’ติ อิมินาปิ ยุชฺชติ. เตสเมว สมฺมุขา นิสินฺเนน ‘‘อหํ ภนฺเต เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺิ’’นฺติอาทินา นเยน สมุจฺจยกฺขนฺธกาคตํ อาโรจนํ กตฺวา. อิมินา อนฺโตอรุเณ ทิฏฺานํ อฺเสมฺปิ อาโรจนํ อุปลกฺขิตํ.
นิกฺขิเป สนฺติเก เตสํ วตฺตนฺติ เอตฺถ ‘‘อรุเณ อุฏฺิเต’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ. อรุเณ อุคฺคเต เตสํ ภิกฺขูนํ สมฺมุขา ยถาวุตฺตนเยเนว นิสีทิตฺวา ‘‘วตฺตํ นิกฺขิปามิ, มานตฺตํ นิกฺขิปามี’’ติ อิเมสุ ทฺวีสุ เอกํ วา ทฺวยเมว วา วตฺวา วตฺตํ นิกฺขิเป.
๕๓๗. ตสฺส มานตฺตสฺส. รตฺติจฺเฉทาทิโกติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน วตฺตเภโท คหิโต. อฏฺกถาวเสน ปาฬิวเสนาติ โยชนา.
๕๓๘. วีสติยา ¶ ภิกฺขูนํ วคฺโค สมูโห วีสติวคฺโค, โส เอว วีสติวคฺคิโก. อพฺเภยฺยาติ โอสาเรยฺย, อพฺภนฺตรํ กเรยฺยาติ อตฺโถ. วิธินาติ สมุจฺจยกฺขนฺธกาคตกฺกเมน. อพฺภิโตติ สํวาเสน อนฺโต กโต, ปกตตฺโตติ ปกติสภาโว, อาปตฺตึ อนาปนฺนกาลสทิโส โหตีติ อตฺโถ.
๕๓๙. อาปตฺตึ ฉาเทนฺติยา ภิกฺขุนิยาติ โยชนา, ‘‘อาปชฺชิตฺวา’’ติ เสโส, อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ‘‘อาปตฺติ จา’’ติอาทินา (วิ. วิ. ๕๐๕) นเยน ปุพฺเพ ทสฺสิเตหิ ทสหิ องฺเคหิ ปฏิจฺฉาเทนฺติยา ภิกฺขุนิยา อตฺตโน อาปตฺตึ ฉาเทนฺติยา ภิกฺขุนิยา. น จ อาปตฺตีติ เอตฺถ ‘‘อตฺตโน’’ติ อิมินา อฺิสฺสา ¶ อาปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทนฺติยา วชฺชปฏิจฺฉาทิกาสงฺขาตปาราชิกาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ อิมินา ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏาปตฺติภาวํ ทีเปติ.
๕๔๑. วิรุทฺธมตฺถํ นยติ ปชหตีติ วินโย, วินิจฺฉโย, ตํ วินยปิฏกตฺถวินิจฺฉยวิเสสวิสยํ สมฺโมหสงฺขาตํ วิรุทฺธํ ปจฺจตฺถิกํ ตทงฺควเสน ปชหนโต วินยนยสงฺขาตํ ตโต เอว อติพุทฺธิทีปนํ, อติสเยน พุทฺธึ ทีเปตีติ อติพุทฺธิทีปนํ, ตํ วินยตฺถวินิจฺฉยกํ าณปทีปํ วิเสเสน ชาเลนฺตํ. วิวิเธหิ นเยหิ ยุตฺตตาย วิวิธนยยุตํ. วินยนเยติ วินยปิฏกสฺส ปรสนฺตานปาปเน, วินยวณฺณนายนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนิยตกถาวณฺณนา
๕๔๒-๓. อิทานิ ¶ สงฺฆาทิเสสกถานนฺตรํ อนิยตกถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘รโหนิสชฺชสฺสาเทนา’’ติอาทิ. รหสิ นิสชฺชา รโหนิสชฺชา, ตสฺสา อสฺสาโท รโหนิสชฺชสฺสาโท, เตน รโหนิสชฺชสฺสาเทน, เมถุนธมฺมสนฺนิสฺสิเตน กิเลเสนาติ อตฺโถ. วุตฺตฺหิ อฏฺกถายํ ‘‘รโหนิสชฺชสฺสาโทติ เมถุนธมฺมสนฺนิสฺสิตกิเลโส วุจฺจตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๕๑). ‘‘รโห นาม จกฺขุสฺส รโห โสตสฺส รโห. จกฺขุสฺส รโห นาม น สกฺกา โหติ อกฺขึ วา นิขณิยมาเน ภมุกํ วา อุกฺขิปิยมาเน สีสํ วา อุกฺขิปิยมาเน ปสฺสิตุํ. โสตสฺส รโห นาม น สกฺกา โหติ ปกติกถา โสตุ’’นฺติ (ปารา. ๔๔๕) ปทภาชเน วุตฺตรเหสุ ¶ จกฺขุสฺส รโห เอว อิธาธิปฺเปโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กิฺจาปิ ปาฬิยํ ‘โสตสฺส รโห’ติ อาคตํ, จกฺขุสฺส รเหเนว ปน ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๔๔-๔๔๕).
จกฺขุสฺส รหตฺตา ‘‘ปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ อิมมฺปิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา เอว ‘‘อลํกมฺมนิย’’นฺติ อิมมฺปิ สงฺคณฺหาติ. นิสชฺชสทฺโทปาทาเนน ‘‘อาสเน’’ติ อิทมฺปิ คหิตเมว. ‘‘มาตุคามสฺส สนฺติกํ คนฺตุกาโม’’ติ อิมินา ‘‘มาตุคาเมน สทฺธิ’’นฺติ อิทมฺปิ คหิตเมว. เอวํ สามตฺถิยา ลพฺภมานปโทปาทาเนน โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สทฺธึ เอโก เอกาย รโห ปฏิจฺฉนฺเน อาสเน อลํกมฺมนิเย นิสชฺชสฺสาเทนาติ วุตฺตํ โหติ. จกฺขุสฺส รหภาเวน กุฏฺฏาทิปฏิจฺฉนฺเน เตเนว เมถุนเสวนกมฺมสฺส อนุรูเป อาสเน ตทหุชาตายปิ มนุสฺสิตฺถิยา สห นิสชฺชสฺสาทราเคน สมนฺนาคโต หุตฺวาติ อตฺโถ. เอตฺถ ‘‘มาตุคามสฺสา’’ติ ตทหุชาตมฺปิ อิตฺถึ คณฺหาตีติ กุโต ลพฺภตีติ? ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, อนฺตมโส ตทหุชาตาปิ ทาริกา, ปเคว มหตฺตรี’’ติ (ปารา. ๔๔๕) ปทภาชนโต ลพฺภติ.
‘‘นิวาเสตี’’ติ อิมินา ‘‘กายพนฺธนํ พนฺธติ, จีวรํ ปารุปตี’’ติ อิทํ ลกฺขียติ. สพฺพตฺถาติ ยถาวุตฺตํ ปโยคโต ปุพฺพาปรปโยเค สงฺคณฺหาติ. เตเนว ‘‘ปโยเค จ ปโยเค จา’’ติ วิจฺฉาปโยโค กโต. นิสีทโต จสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ‘‘อุภินฺนมฺปิ นิสชฺชาย ปาจิตฺติย’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ทุกฺกฏํ สนฺธาย เอกกสฺส นิสีทโตติ คเหตพฺพํ.
๕๔๔. นิสชฺชาย ¶ อุภินฺนมฺปีติ เอตฺถ ‘‘สกิ’’นฺติ เสโส, อุภินฺนํ นิสชฺชาปูรณวเสน อฺมฺสฺส ปุเร วา ปจฺฉา วา เอกกฺขเณ ¶ วา มาตุคามสฺส วา ภิกฺขุสฺส วา เอกวารํ นิสชฺชายาติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตฺเหตํ ปาฬิยํ ‘‘มาตุคาเม นิสินฺเน ภิกฺขุ อุปนิสินฺโน วา โหตี’’ติอาทิ (ปารา. ๔๔๕). โหติ ปาจิตฺติยนฺติ โยชนา. ปโยคคณนาย จ โหนฺติ ปาจิตฺติยานีติ คเหตพฺพํ, มาตุคามสฺส วา ภิกฺขุโน วา อุภินฺนํ วา อุฏฺายุฏฺาย ปุนปฺปุนํ อุปนิสีทนปโยคคณนาย จาติ อตฺโถ. ‘‘อาปตฺตีหิปิ ตีหิปี’’ติ วกฺขมานตฺตา ปาจิตฺติยคฺคหณํ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสานํ อุปลกฺขณํ โหติ, ตีสุ เอกํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ ‘‘ปโยคคณนายา’’ติ อิทํ ปาราชิกาย น ลพฺภติ เอกปโยเคเนว สิชฺฌนโต. กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสโส, ปน สรีรโต ปุนปฺปุนํ วิยุชฺชิตฺวา ผุสเนน ปาจิตฺติยฺจ ยถาวุตฺตนเยเนว ลพฺภติ.
พหูสุปิ มาตุคาเมสุ พหุกานิ ปาจิตฺติยานิ โหนฺตีติ โยชนา. พหูสุ มาตุคาเมสุ นิสินฺเนสุ นิสินฺนานํ คณนาย เอเกเนว ปโยเคน พหูนิ ปาจิตฺติยานิ จ สงฺฆาทิเสสา จ โหนฺติ. ‘‘ปโยคคณนาย จา’’ติ อิมสฺส เอตฺถาปิ ยุชฺชมานตฺตา ตาสุ วิสุํ วิสุํ อุฏฺายุฏฺาย ปุนปฺปุนํ นิสีทนฺตีสุ, สยฺจ อุฏฺายุฏฺาย ปุนปฺปุนํ นิสีทโต ตาสํ คณนาย อาปชฺชิตพฺพาปตฺติโย ปโยคคณนาย จ พหู โหนฺตีติ อิทํ ลพฺภติ. เอตฺถาปิ ปน ปาราชิกํ น ลพฺภติ, สงฺฆาทิเสโส, ปาจิตฺติยฺจ ลพฺภติ.
๕๔๕. สมีเป ิโตปิ อนฺโธ อนาปตฺตึ น กโรตีติ โสตสฺส รหภาเว อสติปิ ปธานภูตสฺส ‘‘จกฺขุสฺส รโห’’ติ อิมสฺส องฺคสฺส วิชฺชมานตฺตา วุตฺตํ ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺถเก’’ติ, อิมินา สวนูปจาเร วิชฺชมาเนปีติ วุตฺตํ โหติ. อิตฺถีนํ ตุ สตมฺปิ จ น กโรติ อนาปตฺตินฺติ ¶ โยชนา, วิฺุโน ปุริสสฺส อสนฺนิหิตภาเวนาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิตฺถีนมฺปิ สตมฺปิ จา’’ติ ลิขนฺติ, ตโตปิ อยเมว ปาโ สุนฺทโร. ปิ-สทฺโท วา ตุ-สทฺทตฺเถ ทฏฺพฺโพ.
๕๔๖. นิปชฺชิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘สมีเป’’ติ เสโส, ‘‘นิทฺทายนฺโตปี’’ติ เอตสฺส วิเสสเกน ‘‘นิปชฺชิตฺวา’’ติ อิมินา นิสีทิตฺวา นิทฺทายนฺโตติ อิมสฺส นิวตฺติตตฺตา สมีเป นิสีทิตฺวา นิทฺทายนฺโตปิ อนนฺโธ มนุสฺสปุริโส อนาปตฺตึ กโรตีติ ลพฺภติ. ‘‘เกวล’’นฺติ วิเสสเนน พลวนิทฺทูปคโต ¶ คหิโตติ ตถา อหุตฺวา อนฺตรนฺตรา อาปนฺนาปนฺเน วินิจฺฉินิตฺวา ปวตฺตมานาย กปินิทฺทาย นิทฺทายนฺโตปิ อนาปตฺตึ กโรตีติ อยมตฺโถ ลพฺภติ. ‘‘ปิหิตทฺวารคพฺภสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ มชฺฌปทโลปีสมาสวเสน ‘‘ปิหิตคพฺภสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ทฺวาเร’’ติ อิมินา ทฺวาเรกเทสภูตํ อุมฺมารํ วา ตํสมีปํ วา อุปจาเรน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สเจ คพฺโภ ปิหิตทฺวาโร น โหติ, อนาปตฺตีติ พฺยติเรกโต ทสฺสิตํ.
๕๔๗. อิมสฺมึ อนิยตสิกฺขาปเท ปาฬิยํ อนาปตฺติวาเร อสติปิ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สทฺธึ รโห ปฏิจฺฉนฺเน อาสเน นิสชฺชํ กปฺเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๘๕) ปฺจมสฺส อเจลกวคฺคสฺส จตุตฺถสิกฺขาปเท อนาปตฺติวาเร ‘‘อนาปตฺติ โย โกจิ วิฺู ปุริโส ทุติโย โหติ, ติฏฺติ น นิสีทติ, อรโหเปกฺโข, อฺวิหิโต นิสีทติ, อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๒๘๘) วุตฺเต อนาปตฺติวาเร สงฺคเหตุมาห ‘‘อนนฺเธ สตี’’ติอาทิ. ‘‘เอตสฺส สมีเป’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อิธ ปุลฺลิงฺคนิทฺเทเสน ปุริโส ลพฺภติ, ‘‘เตนาปิ อพาเลน ภวิตพฺพํ, มนุสฺสชาติเกน ภวิตพฺพ’’นฺติ อิทฺจ ¶ ‘‘วิฺุสฺมิ’’นฺติ อิมินา ลพฺภติ. อนฺธสทิสนิทฺทูปคตปฏิปกฺขวาจิอนนฺธปเทน ‘‘อนิทฺทายนฺเต’’ติ ลพฺภติ, มนาปามนาปํ ชานนฺเต อนิทฺทายนฺเต มนุสฺสปุริเส ทสฺสนูปจารสฺส อนฺโต วิชฺชมาเนติ อตฺโถ.
‘‘นิสชฺชปจฺจยา โทโส นตฺถี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ, เอวรูเป รโห อาสเน มาตุคาเมน สทฺธึ นิสินฺนปจฺจยา อาปตฺติ นตฺถีติ อตฺโถ. ‘‘ิตสฺสา’’ติ อิมินาปิ ตเทว ปทํ โยเชตพฺพํ. วิฺุมฺหิ ปฏิพเล มนุสฺสปุริเส อสนฺนิหิเตปิ ตถาวิเธ รโห อาสเน มาตุคาเม อาสเน นิสินฺเนปิ สยาเนปิ ิเตปิ สยํ ิตสฺส นิสชฺชาย อภาวา ตปฺปจฺจยา อาปตฺติ น โหตีติ อตฺโถ. อรหสฺิโน นิสชฺชปจฺจยา โทโส นตฺถีติ รโห อาสเน มาตุคาเมน สทฺธึ นิสชฺชนฺตสฺสาปิ ‘‘รโห’’ติ สฺารหิตสฺส นิสีทโต นิสชฺชปจฺจยา อนาปตฺตีติ อตฺโถ. วิกฺขิตฺตเจตโส นิสชฺชปจฺจยา โทโส นตฺถีติ โยชนา.
๕๔๘. เอตฺตาวตา ปาจิตฺติยาปตฺติมตฺตโต อนาปตฺติปฺปการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อนิยตโวหารเหตุภูตาหิ ตีหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺติปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น โทโส’’ติอาทิ. อาปตฺตีหิปิ ตีหิปีติ ‘‘นิสชฺชํ ภิกฺขุ ปฏิชานมาโน ติณฺณํ ธมฺมานํ อฺตเรน ¶ กาเรตพฺโพ ปาราชิเกน วา สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วา’’ติ (ปารา. ๔๔๔) ปาฬิยํ วุตฺตาหิ ‘‘ปมปาราชิกาปตฺติกายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสาปตฺติปาจิตฺติยาปตฺตี’’ติ อิมาหิ ตีหิปิ อาปตฺตีหีติ วุตฺตํ โหตีติ.
ปมานิยตกถาวณฺณนา.
๕๔๙. วตฺตพฺพภาเวนาธิกตทุติยานิยตวินิจฺฉยโต ปมานิยเต วุตฺตวินิจฺฉเยหิ สมํ วินิจฺฉยํ ปหาย ตตฺถ ¶ อวุตฺตํ อิมสฺเสว วินิจฺฉยวิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนนฺธา’’ติอาทิ. อิธ ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสสสฺสาปิ คหิตตฺตา ตโต อนาปตฺติกรํ ทสฺเสตุํ ‘‘อพธิโร’’ติ วุตฺตํ. อนนฺโธ อพธิโรติ ‘‘ปุริโส’’ติ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘อิตฺถี’’ติ อิทํ สนฺธาย ‘‘อนนฺธาพธิรา’’ติ คเหตพฺพํ. เอวมุปริปิ. เตนาปิ สวนูปจารนฺโตคเธน ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺถฏฺโ’’ติ วุตฺตํ.
๕๕๐. ‘‘อนฺโธ อพธิโร อนาปตฺตึ น กโรตี’’ติ อิทํ กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘พธิโร วาปิ จกฺขุมา, น กโรติ อนาปตฺติ’’นฺติ อิทํ ปน ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสสํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เอวเมตฺถ สนฺธาย ภาสิตตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ปุริมานิยตกถาย อวุตฺตวิเสสสฺส ทุติยานิยตกถาย วตฺตุมิจฺฉิตตฺตา อยมฺปิ วิเสโส อิธ วตฺตพฺโพ. โกยํ วิเสโส, โย อิธ วตฺตพฺโพติ เจ? ตตฺถ ‘‘ปฏิจฺฉนฺเน อาสเน อลํกมฺมนิเย’’ติ (ปารา. ๔๔๔) วุตฺตํ อาสนงฺคทฺวยํ อิธ ‘‘น เหว โข ปน ปฏิจฺฉนฺนํ อาสนํ โหติ นาลํกมฺมนิย’’นฺติ (ปารา. ๔๕๓) นิเสเธตฺวา ‘‘อลฺจ โข โหติ มาตุคามํ ทุฏฺุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาสิตุ’’นฺติ (ปารา. ๔๕๓) อิทํ อปุพฺพงฺคํ วุตฺตํ. ตตฺร มาตุคาโมติ อนฺตมโส ตทหุชาตาปิ ทาริกา คหิตา, อิธ ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, วิฺู ปฏิพลา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุ’’นฺติ (ปารา. ๔๕๔) วิฺู ปฏิพโล มาตุคาโมว วุตฺโต. ตตฺถ ‘‘ปาราชิเกน วา สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วา’’ติ (ปารา. ๔๔๔) ติสฺโส อาปตฺติโย วุตฺตา, อิธ ‘‘นิสชฺชํ ภิกฺขุ ปฏิชานมาโน ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ อฺตเรน ¶ กาเรตพฺโพ สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วา’’ติ (ปารา. ๔๕๓) ทฺเวเยว อาปตฺติโย วุตฺตา. สงฺฆาทิเสเสสุ จ ตตฺถ ‘‘สา เจ เอวํ วเทยฺย ‘อยฺโย ¶ มยา ทิฏฺโ นิสินฺโน มาตุคาเมน สทฺธึ กายสํสคฺคํ สมาปชฺชนฺโต’ติ, โส จ ตํ ปฏิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๔๔๘) กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสโสว วุตฺโต, อิธ โส จ วุตฺโต, ‘‘สา เจ เอวํ วเทยฺย ‘อยฺยสฺส มยา สุตํ นิสินฺนสฺส มาตุคามํ ทุฏฺุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาเสนฺตสฺสา’ติ, โส จ ตํ ปฏิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๔๕๕) ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสโส จ วุตฺโต. เอตฺตโก อุภินฺนมนิยตานํ วิเสโส.
อยํ กสฺมา น วุตฺโตติ? อยํ สมฺโพธวตฺถุวิเสโส วตฺตุมิจฺฉิโต ปน อฏฺกถาคตวินิจฺฉยวิเสสโตติ ตสฺมา น วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. ติสมุฏฺานเมวิทํ กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตวเสน ตีณิ สมุฏฺานานิ เอตสฺสาติ กตฺวา.
อิเมหิปิ ทฺวีหิ อนิยตสิกฺขาปเทหิ สิกฺขาปทนฺตเรสุ ปฺตฺตาเยว อาปตฺติโย, อนาปตฺติโย จ ทสฺสิตา, น โกจิ อาปตฺติวิเสโส วุตฺโต, ตสฺมา กิเมเตสํ วจเนนาติ? วุจฺจเต – วินยวินิจฺฉยลกฺขณํ เปตุํ ภควตา อุปฺปนฺเน วตฺถุมฺหิ ทฺเว อนิยตา ปฺตฺตา. กถํ? เอวรูปายปิ สทฺเธยฺยวจนาย อุปาสิกาย วุจฺจมาโน ปฏิชานมาโนว อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ, น อปฺปฏิชานมาโน, ตสฺมา ‘‘ยาย กายจิ อาปตฺติยา เยน เกนจิ โจทิเต ปฏิฺาตกรณํเยวงฺคํ กาตพฺพ’’นฺติ อิเมหิ สิกฺขาปเทหิ วินิจฺฉยลกฺขณํ ปิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ กสฺมา ภิกฺขุนีนํ อนิยตํ ¶ น วุตฺตนฺติ? อิทเมว ลกฺขณํ สพฺพตฺถ อนุคตนฺติ น วุตฺตํ.
ทุติยานิยตกถาวณฺณนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
อนิยตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา
๕๕๑. เอวํ อนิยตกถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิสฺสคฺคิยกถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โขม’’นฺติอาทิ ¶ . โขมนฺติ เอวํนามกํ จีวรํ. โขมนฺติ คจฺฉวิเสสสฺส นามํ, ตสฺส วาเกหิ กตจีวรํ การโณปจารโวหารวเสน ‘‘โขม’’นฺติ วุตฺตํ. กปฺปาสนฺติ กปฺปาสสุตฺตมยํ จีวรํ, อิทมฺปิ วุตฺตนเยเนว ‘‘กปฺปาส’’นฺติ วุจฺจติ. โกเสยฺยํ นาม โกสการกิมิโกสํ, โกเสน นิพฺพตฺตํ สุตฺตํ โกเสยฺยํ. อิธ ปน เตน โกเสยฺยสุตฺเตน นิพฺพตฺตํ จีวรํ ‘‘โกเสยฺย’’นฺติ วุตฺตํ. สาณนฺติ สาณวากสุตฺเตหิ วายิตฺวา กตจีวรํ. อิทฺจ โขมํ วิย ทฏฺพฺพํ. ภงฺคนฺติ โขมสุตฺตาทีนิ สพฺพานิ, เอกจฺจานิ วา มิสฺเสตฺวา กตจีวรํ. อิทมฺปิ กรณปฺปกาเรน ลทฺธนามกํ. ‘‘ภงฺคํ นาม เอกา คจฺฉชาติ, ตสฺสา วากมยสุตฺเตหิ วายิตฺวา กตจีวร’’นฺติ เกจิ. อิมสฺมึ ปกฺเข โขมํ วิย คเหตพฺพํ. กมฺพลนฺติ มนุสฺสโลมวาฬโลมํ วินา เสสโลเมหิ วายิตฺวา กตจีวรํ วุตฺตนฺติ. อิทํ ‘‘จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ จีวร’’นฺติ (ปารา. ๔๖๓) ปทภาชเน จ ‘‘โขมํ กปฺปาสิกํ โกเสยฺยํ กมฺพลํ สาณํ ภงฺค’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๒-๔๖๓) อฏฺกถาย จ วุตฺตํ สนฺธายาห. ‘‘ชาติโต’’ติ ¶ อิทํ ปมาณาทิเภทสฺส วกฺขมานตฺตา วุตฺตํ. ชาติโตติ โขมาทิสามฺโต. สามฺฺหิ ‘‘ชาตี’’ติ วุจฺจติ. ทีฆรสฺสถูลสุขุมนีลปีตาทิเภทภินฺนานํ สพฺเพสํ วตฺถาวยวานํ สงฺคาหิกโขมสุตฺตมยตาสามฺํ ชาตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ เสเสสุปิ.
๕๕๒. ทุกูลนฺติ เอวํนามกํ รุกฺขวากมยจีวรํ. ปตฺตุณฺณนฺติ ปตฺตุณฺณเทเส สฺชาตวตฺถํ. ‘‘ปตฺตุณฺณํ โกเสยฺยวิเสโส’’ติ อภิธานโกเส วุตฺตํ. จินนฺติ จินเทเส อุปฺปนฺนวตฺถํ. โสมารปฏฺฏกนฺติ โสมารเทเส อุปฺปนฺนวตฺถํ. ‘‘โสมารจินปฏก’’นฺติปิ ลิขนฺติ, โสเยวตฺโถ. อิทฺธิชนฺติ เอหิภิกฺขูนํ ปฺุิทฺธิยา นิพฺพตฺตํ จีวรํ. เทวทินฺนนฺติ เทวตาหิ ทินฺนํ จีวรํ. ตฺหิ กปฺปรุกฺเข นิพฺพตฺตํ, ชาลินิยา เทวกฺาย อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ทินฺนวตฺถสทิสํ. ตสฺสาติ ชาติโต ฉพฺพิธสฺส กปฺปิยจีวรสฺส. อิทํ ฉพฺพิธจีวรํ ยถารหํ อนุโลมิกํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ทุกูลฺหิ สาณสฺส อนุโลมํ วากมยตฺตา, ปตฺตุณฺณาทีนิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ ปาณเกหิ กตสุตฺตมยตฺตา, อิทฺธิชมฺปิ โขมาทีนํเยว อฺตรํ โหตีติ เตสํ อนุโลมํ, เทวทินฺนมฺปิ โขมาทีนํเยว อนุโลมํ โหติ เตสํ อฺตรภาวโต. ยถาห –
‘‘สาณสฺส ตุ ทุกูลฺหิ, อิทฺธิชํ เทวทินฺนกํ;
โขมาทีนํวสิฏฺํตุ, โกเสยฺยสฺสานุโลมิก’’นฺติ.
๕๕๓. ติณฺณํ ¶ จีวรานํ สมาหาโร ติจีวรนฺติ ปมาณยุตฺตํ สงฺฆาฏิอาทินาเมน อธิฏฺิตจีวรสฺเสว นามตฺตา ตเทว วุจฺจติ. คณนวเสน ยํ กิฺจิ จีวรตฺตยํ น วตฺตพฺพํ. สมุทฺเทกเทโสปิ ยถา ‘‘สมุทฺโท’’ติ วุจฺจติ, เอวํ อธิฏฺิเตสุ ตีสุ จีวเรสุ อฺตรํ ‘‘ติจีวร’’นฺติ วุจฺจติ. ปริกฺขารโจฬนฺติ ¶ สงฺฆาฏิอาทิวิสิฏฺนาเมหิ อนธิฏฺิตํ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว อายาเมน อฏฺงฺคุลํ สุคตงฺคุเลน จตุรงฺคุลวิตฺถตํ ปจฺฉิมํ จีวร’’นฺติ (ปารา. ๓๕๘) อนฺุาตํ ปจฺฉิมจีวรปริยนฺตํ กตฺวา กตากตสฺส ยสฺส กสฺสจิ จีวรสฺส รุฬฺหิสฺา.
มุขํ สนฺทมานลาลํ ปฺุฉติ เอเตนาติ มุขปฺุฉนนฺติ กโปลโต นิจฺจํ สนฺทมานลาลานํ ปฺุฉนตฺถาย อนฺุาตสฺส จีวรวิเสสสฺส นามํ. นิสีทนฺติ เอตฺถาติ นิสีทนนฺติ จ ภิกฺขูนํ อตฺถริตฺวา นิสีทิตุํ อนฺุาตสฺส จีวรสฺส นามํ. อธิฏฺเยฺยาติ ‘‘อิมํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ’’นฺติอาทินา (วิ. วิ. ๕๘๕) วกฺขมานนเยน นามํ คเหตฺวา อธิฏฺเยฺยาติ อตฺโถ. ปจฺจตฺถรณเมว จาติ สงฺฆิเก มฺจปีเ สรีรสมฺผุสเนน อาปชฺชิตพฺพาย อาปตฺติยา โมจนตฺถาย ตตฺถ อตฺถริตฺวา ปริโภคตฺถาย อนฺุาตํ ปจฺจตฺถรณจีวรฺจ.
๕๕๔. เอกาหนฺติ วสนกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ติจีวรนฺติ ติจีวเรน. วิปฺปวเสยฺยาติ ‘‘สงฺฆาฏิยา วา อุตฺตราสงฺเคน วา อนฺตรวาสเกน วา’’ติ (ปารา. ๔๗๖) วุตฺตตฺตา เอกเทเส สมุทาโยปจารวเสน อวยวสฺส วจนโต ติณฺณํ จีวรานํ อฺตเรนาติปิ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วินา’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ. อธิฏฺาติ อธิฏฺายาติ คเหตพฺพํ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๒, ๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘) ยถา, เอตฺถ ‘‘วฬฺชิยมาน’’นฺติ เสโส, อธิฏฺาย วฬฺชิยมานํ นิสีทนํ ตถา วินา จตุมาสํ น วเสยฺยาติ โยชนา.
๕๕๕. กปฺปิยนฺติ กปฺปิยการณํ นีลาทิวณฺณเภทกรณํ. กปฺปิยนฺติ จ การเณ การิยูปจาเรน คเหตพฺพํ. พินฺทุํ ทตฺวาติ ‘‘นีลํ วา กทฺทมํ วา กาฬสามํ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๖๘) วุตฺตโลหมลาทินา ¶ เยน เกนจิปิ มงฺคุลปิฏฺิปฺปมาณาทิกํ พินฺทุํ ทตฺวา. ตตฺถาติ เตสุ อธิฏฺาตพฺเพสุ ติจีวราทีสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ติจีวรนฺติ นิทฺธาริตพฺพํ. อุปปนฺนนฺติ ยุตฺตํ. ปมาเณนาติ อนนฺตรํ วกฺขมาเนน ปมาเณน. อธิฏฺาตพฺพนฺติ ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติอาทินา ¶ วกฺขมานนเยน นามํ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. เอวกาเรน ปน นามํ วตฺวา น วิกปฺเปตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เอส นโย เสสจีวเรสุปิ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ, น วิกปฺเปตุ’’นฺติอาทิ (มหาว. ๓๕๘). ตสฺมา ติจีวราทีนิ อธิฏฺหนฺเตน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติอาทินา นามํ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. วิกปฺเปนฺเตน ปน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏิ’’นฺติอาทินา ตสฺส จีวรสฺส นามํ อคฺคเหตฺวา ‘‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วิกปฺเปตพฺพํ. ติจีวรํ วา โหตุ อฺํ วา, ยทิ ตํ ตํ นามํ คเหตฺวา วิกปฺเปติ, อวิกปฺปิตํ โหติ อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺติ. ตํ จีวรนฺติ สมฺพนฺโธ.
๕๕๖-๗. ‘‘อุปปนฺนํ ปมาเณนา’’ติ เอตฺถ วุตฺตปฺปมาณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปจฺฉิมนฺเตนา’’ติอาทิ. สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาฏิ. วตฺถขณฺฑานิ สิพฺพนกมฺเมน สงฺฆเฏตฺวา กตตฺตา ‘‘สงฺฆาฏี’’ติ จีวรานํ สามฺนามํ. อิธ ปน รุฬฺหิยา อนฺตรวาสกาทิวิเสสนามพฺยติริตฺเต จีวรวิเสเส วตฺตติ. มุฏฺิปฺจกาติ เอตฺถ เอกาทีนมฏฺารสนฺตานํ สงฺขฺยาสทฺทานํ สงฺขฺเยยฺเย วตฺตมานตฺตา ปฺจสทฺโท จีวรปฺปมาณปฺปกรณโต ลพฺภมานหตฺถสงฺขาตรตเนเยว ปวตฺตติ, เตเนว มุฏฺิสทฺโทปิ อุตฺตรปทโลเปน มุฏฺิรตเน วตฺตติ. ปฺจนฺนํ ปูรโณ ปฺจโม, มุฏฺิยา ปฺจโม มุฏฺิปฺจโม. มุฏฺิปฺจโม ปริมาณเมติสฺสาติ ‘‘มุฏฺิปฺจมกา’’ติ วตฺตพฺเพ ม-การโลเปน ‘‘มุฏฺิปฺจกา’’ติ สงฺฆาฏิ วุตฺตา.
มุฏฺิตฺติกาติ ¶ เอตฺถ วุตฺตนเยน สงฺขฺเยยฺเย วตฺตมาโน ติ-สทฺโท จีวรปฺปมาณปฺปกรณโต ลพฺภมานหตฺถสงฺขาตรตเนเยว วตฺตติ, เตเนว มุฏฺิสทฺโทปิ อุตฺตรปทโลเปน มุฏฺิรตเน วตฺตติ. ติณฺณํ ปูรโณ ตติโย, มุฏฺิยา ตติโย มุฏฺิตติโย, มุฏฺิตติโย ปริมาณเมติสฺสาติ ‘‘มุฏฺิตติยกา’’ติ วตฺตพฺเพ ติย-ปจฺจยโลเปน ‘‘มุฏฺิตฺติกา’’ติ สงฺฆาฏิเยว วุจฺจติ. เอวมุปริปิ. ติริยนฺติ ติริยโต.
อุตฺตมนฺเตนาติ อุกฺกฏฺปริมาณนฺเตน. สตฺถุโน จีวรูนาปีติ ‘‘ตตฺริทํ สุคตสฺส สุคตจีวรปฺปมาณํ, ทีฆโส นว วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ ฉ วิทตฺถิโย’’ติ (ปาจิ. ๕๔๘) วุตฺตปฺปมาณสุคตจีวรโต อูนาปิ. ปิ-สทฺโท สมฺภาวเน, อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ตตฺตกมฺปิ วฏฺฏติ, ตโต เจ อูนํ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อตฺโถ. อนฺตทฺวยสนฺทสฺสเนน อุภยมชฺเฌ ยํ ปโหนกรุจฺจนกปฺปมาณํ, ตํ คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
๕๕๘. มุฏฺิปฺจกสทฺโท ¶ ปุพฺเพ วุตฺตนเยนิธ ทีฆนฺเต วตฺตติ. มุฏฺิปฺจโก ทีฆนฺโต ยสฺส, ยสฺมึ วา ปมาเณติ วิคฺคโห, ทีฆนฺตโต มุฏฺิปฺจกปฺปมาเณนาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘มุฏฺิปฺจม’’นฺติปิ ลิขนฺติ. ติริยนฺตโตติ วิตฺถารนฺตโต. อฑฺฒหตฺโถ อฑฺโฒ อุตฺตรปทโลเปน, โส เตยฺโย ตติโย ยสฺส ปมาณสฺสาติ คเหตพฺพํ, ตํ, อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณํ โหตีติ อตฺโถ. ทฺวิหตฺถํ วาติ ทฺเว หตฺถา ยสฺส ปมาณสฺสาติ วิคฺคโห, ทฺวิรตนปฺปมาณํ วา โหตีติ อตฺโถ. อิทฺจ ‘‘ติริยํ ทฺวิหตฺโถปิ วฏฺฏติ. ปารุปเนนปิ หิ สกฺกา นาภึ ปฏิจฺฉาเทตุ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อฏฺกถาคตตฺตา วุตฺตํ. ‘‘เสเส อนฺตรวาสเก’’ติ อิทํ ยถาวุตฺตปริมาเณน ปริมิตจีวรนิทสฺสนํ.
๕๕๙. อหตาหตกปฺปานนฺติ ¶ เอตฺถ ‘‘วตฺถาน’’นฺติ เสโส. อหตานํ วตฺถานนฺติ นววตฺถานํ. อหตโต กิฺจิ อูนานิ อหตกปฺปานิ, เตสํ นวโวหารูปคานํ กติปยโธตานํ วตฺถานนฺติ วุตฺตํ โหติ. สงฺฆาฏีติ สงฺฆาฏินามกจีวรํ. ทิคุณาติ ทุปฏฺฏกตา.
๕๖๐. อุตุทฺธฏานนฺติ อติกฺกนฺตทิวสานํ, พหุกาลํ นิวาเสตฺวา ปริจฺจตฺตานนฺติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยานิ อุตุโต อุทฺธฏานิ, เตสํ วตฺถานนฺติ คเหตพฺพํ, ติณฺณํ อุตูนมฺตรํ อติกฺกมิตฺวา ิตานํ ปุราณวตฺถานนฺติ วุตฺตํ โหติ. จีวรานนฺติ จีวรตฺถานิ วตฺถาเนว คหิตานิ. จตุคฺคุณาติ จตุปฏฺฏา. เสสา ทุเวติ อนฺตรวาสกอุตฺตราสงฺคา ทฺเว. ยถาสุขนฺติ ยถารุจิ. ปํสุกูลนฺติ สุสานาทีสุ ปติตปิโลติกจีวรํ.
๕๖๑. ‘‘ตีณิปี’’ติอาทีสุ ‘‘ติจีวเร กยิรมาเน สพฺพํ ฉินฺนกํ นปฺปโหตี’’ติ ปาฬิยํ อาคตวตฺถุมฺหิ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ทฺเว ฉินฺนกานิ เอกํ อฉินฺนก’’นฺติ (มหาว. ๓๖๐) อาทิวจนโต ‘‘จีวร’’นฺติ เสโส. ฉินฺทิตพฺพนฺติ วตฺถานิ ฉินฺทิตฺวา สิพฺเพตฺวา กาตพฺพํ. ปโหติ เจติ วตฺถานิ ฉินฺทิตฺวา กรเณ ยทิ จีวรสฺส ปโหติ. สพฺเพสูติ ตีสุ จีวเรสุ. อปฺปโหนฺเตสูติ วตฺถานํ ฉินฺทิตฺวา สิพฺพเนน อปฺปโหนฺเตสุ. อนฺวาธิกนฺติ วตฺเถ อูนาติเรกํ อปเนตฺวา อาคนฺตุกปตฺตสงฺขาตํ อนุวาตํ จีวรสฺส ปริยนฺเต, มชฺเฌ จ ยถารหํ ทีฆรสฺสปริมาณยุตฺตํ อลฺลิยาเปตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๕๖๒. อจฺฉินฺนํ วาติ ยถาวุตฺตนเยน อจฺฉินฺนํ วา. อนาทินฺนนฺติ อนาทินฺนอาคนฺตุกปตฺตํ ¶ . ติจีวรนฺติ ตีสุ จีวเรสุ เอเกกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ทุพฺโภเคนาติ ทุฏฺุ ปริโภเคน ¶ . ยถา ปริภุตฺตํ นสฺสติ, ตถา กิลิฏฺานํ โธวนาทิมกตฺวา นิวาสนาทินา ปริโภเคน.
๕๖๓-๔. กุสินฺติ อายามโต จ วิตฺถารโต จ อนุวาตํ จีวรมชฺเฌ ตาทิสเมว ทีฆปตฺตฺจ. วุตฺตฺเหตํ จีวรกฺขนฺธอฏฺกถายํ ‘‘กุสีติ อายามโต จ วิตฺถารโต จ อนุวาตาทีนํ ทีฆปตฺตานเมตํ อธิวจน’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). อฑฺฒกุสินฺติ อนุวาตสทิสํ จีวรมชฺเฌ ตตฺถ ตตฺถ รสฺสปตฺตํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อฑฺฒกุสีติ อนฺตรนฺตรา รสฺสปตฺตานํ นาม’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). มณฺฑลนฺติ เอเกกสฺมึ ขณฺเฑ มหามณฺฑลํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘มณฺฑลนฺติ ปฺจขณฺฑิกจีวรสฺส เอเกกสฺมึ ขณฺเฑ มหามณฺฑล’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). อฑฺฒมณฺฑลนฺติ มณฺฑลสฺส อนฺโต นิเวสิยมานํ ขุทฺทกมณฺฑลํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อฑฺฒมณฺฑลนฺติ ขุทฺทกมณฺฑล’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). วิวฏฺฏนฺติ มณฺฑลํ, อฑฺฒมณฺฑลฺจาติ ทฺเว เอกโต กตฺวา สิพฺพิตํ เวมชฺเฌ ขณฺฑํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘วิวฏฺฏนฺติ มณฺฑลฺจ อฑฺฒมณฺฑลฺจ เอกโต กตฺวา สิพฺพิตํ มชฺฌิมขณฺฑ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). อนุวิวฏฺฏนฺติ มชฺฌิมขณฺฑสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ สิพฺพิตํ ตเถว ทฺวิมณฺฑลปตฺตํ ขณฺฑทฺวยํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อนุวิวฏฺฏนฺติ ตสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ทฺเว ขณฺฑานี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). พาหนฺตนฺติ เตสํ อนุวิวฏฺฏานํ พาหิรปสฺเส สิพฺพิตํ พาหิรขณฺฑทฺวยํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘พาหนฺตนฺติ เตสํ อนุวิวฏฺฏานํ พหิ เอเกกํ ขณฺฑ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕).
ปฺจนฺนํ สมาหาโร ปฺจกํ, ทสฺสิตปฺปการปฺจขณฺเฑหิ สิพฺพิตจีวรํ ปฺจกํ นาม. อาทิ-สทฺเทน สตฺตขณฺฑาทีหิ สิพฺพิตจีวรานํ คหณํ. เตเนเวตฺถาห ‘‘กตฺตพฺพํ ตุ ติจีวร’’นฺติ. สตฺตขณฺฑสฺส จีวรสฺส เอกํ มชฺฌิมขณฺฑํ วิวฏฺฏนามเมว โหติ, ตสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ทฺเว ทฺเว ขณฺฑานิ ¶ จูฬานุวิวฏฺฏมหานุวิวฏฺฏสงฺขาตานิ อนุวิวฏฺฏนามาเนว โหนฺติ. วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ ‘‘อถ วา อนุวิวฏฺฏนฺติ วิวฏฺฏสฺส เอกปสฺสโต ทฺวินฺนํ, เอกปสฺสโต ทฺวินฺนนฺติ จตุนฺนมฺปิ ขณฺฑานเมตํ นาม’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). พาหนฺตนฺติ ทฺวีสุ ปริยนฺเตสุ สิพฺพนียํ พาหิรขณฺฑทฺวยํ, ตฺจ สงฺฆเฏตฺวา พาหมตฺถเก ปิยมานตฺตา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติอาทีสุ วิย อาเธยฺเย อาธาโรปจารวเสน พาหาติ จ จีวรสฺส ปริยนฺตาวยวตฺตา ‘‘อนฺต’’นฺติ จ วุจฺจติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘พาหนฺตนฺติ สุปฺปมาณํ จีวรํ ปารุปนฺเตน สํหริตฺวา พาหาย ¶ อุปริ ปิตา อุโภ อนฺตา พหิมุขา ติฏฺนฺติ, เตสํ เอตํ นาม’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). อิทํ สตฺตขณฺฑจีวรเมว มหาอฏฺกถายํ วิหิตนฺติ อิทานิปิ ตเทว วฏฺฏติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อยเมว หิ นโย มหาอฏฺกถายํ วุตฺโต’’ติ. ภิกฺขุนา กุสึ…เป… พาหนฺตมฺปิจาติ สพฺพํ วิธึ ทสฺเสตฺวาว ฉินฺนํ ปฺจกาทิปฺปเภทกํ สมณสารุปฺปํ ติจีวรํ กตฺตพฺพนฺติ โยชนา.
๕๖๕-๖. ยถาวุตฺตวิธึ อวิราเธตฺวา จีวรํ กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา สงฺฆาฏิอาทินาเมน อธิฏฺาย ปริภฺุชนฺตสฺส อธิฏฺานํ กถํ ภิชฺชตีติ อาห ‘‘ทาเนนา’’ติอาทิ. ทาเนนาติ อฺสฺส ทาเนน. อจฺฉิชฺชคาเหนาติ อฺเน อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน. วิสฺสาสคฺคหเณน จาติ อตฺตนิ วิสฺสาเสน อฺสฺส คหเณน. หีนายาวตฺตเนนาติ สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย คิหิภาวูปคมเนน อฺสฺส ทาเน วิย จีวเร นิราลยภาเวเนว ปริจฺจตฺตา.
เกจิ ปน ‘‘หีนายาวตฺตเนนาติ ภิกฺขุนิยา คิหิภาวูปคมเนนาติ เอวมตฺถํ คเหตฺวา ภิกฺขุ ปน วิพฺภนฺโตปิ ยาว สิกฺขํ น ปจฺจกฺขาติ, ตาว ภิกฺขุเยวาติ อธิฏฺานํ น วิชหตี’’ติ ¶ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ‘‘ภิกฺขุนิยา หีนายาวตฺตเนนา’’ติ วิเสเสตฺวา อวุตฺตตฺตา, ภิกฺขุนิยา จ คิหิภาวูปคมเน อธิฏฺานวิชหนํ วิสุํ วตฺตพฺพนฺติ นตฺถิ ตสฺสา วิพฺภมเนเนว อสฺสมณิภาวโต.
สิกฺขายาติ ภิกฺขุสิกฺขาย. ปหาเนนาติ ปจฺจกฺขาเนน. สิกฺขาปจฺจกฺขานํ ปเนตฺถ สเจ ภิกฺขุลิงฺเค ิโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, ตสฺส กายลคฺคมฺปิจีวรํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ ทสฺสนตฺถํ คหิตํ. ‘‘สิกฺขาย จ ปหานโต’’ติ จ ลิขนฺติ, ตํ ‘‘หีนายาวตฺตเนนาปิ, สิกฺขาย จ ปหานโต’’ติ ปากฺกเม สติ ยุชฺชติ. ยถาวุตฺโต ปน ปาโ ‘‘สิกฺขาย จ ปหาเนน, หีนายาวตฺตเนนปี’’ติ ปากฺกเม ยุชฺชติ. ยถา ตถา วา โหตุ, น โกจิ วิโรโธ.
ปจฺจุทฺธาเรนาติ จีวรสฺส ปจฺจุทฺธรเณน. ‘‘กาลกิริยายา’’ติ อฏฺกถาวจนโต วินาเสนาติ จีวรสามิกสฺส ชีวิตวินาโสว วุจฺจตีติ. ลิงฺคสฺส ปริวตฺตนาติ ภิกฺขุสฺส อิตฺถิลิงฺคปริวตฺตนา, ภิกฺขุนิยา ปุริสลิงฺคปริวตฺตนาติ เอวํ อุภยถา ลิงฺคสฺส ปริวตฺตเนน. สพฺพํ ¶ นววิธมฺปิ จีวรํ. อธิฏฺานนฺติ เอตฺถ ‘‘อิเมหิ อฏฺหี’’ติ เสโส. วุตฺโตวายมตฺโถ อฏฺกถายํ ‘‘ตตฺถ ปุริเมหิ อฏฺหิ สพฺพจีวรานิ อธิฏฺานํ วิชหนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙). ภิชฺชตีติ ปชหติ. ฉิทฺทสฺส ภาโว ฉิทฺทภาโว, ตสฺมึ, ฉิทฺเท สติ ฉิทฺเท ชาเตติ วุตฺตํ โหติ. ติจีวรนฺติ ตีสุ จีวเรสุ อฺตรนฺติ วุตฺตํ โหติ. ติจีวรเมว วาติ คเหตพฺพํ. วุตฺตฺจ ‘‘ฉิทฺทภาเวน ปน ติจีวรสฺเสวา’’ติ.
๕๖๗. กีวปฺปมาเณ ฉิทฺเท ชาเตติ อาห ‘‘กนิฏฺสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘กนิฏฺ…เป… มาณก’’นฺติ อิมินา เหฏฺิมปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ.
๕๖๘. เอโก ¶ ตนฺตุปีติ ทีฆโต วา ติริยโต วา เอกมฺปิ สุตฺตํ.
๕๖๙. ชิณฺณฏฺาเน อคฺคฬํ เทนฺเตน เตจีวริเกน วตฺติตพฺพวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปม’’นฺติอาทิ. ปมนฺติ ฉินฺนฏฺานสฺส ฉินฺทนโต ปุพฺเพเยว. อคฺคฬํ ทตฺวาติ วตฺถขณฺฑํ อลฺลิยาเปตฺวา. รกฺขตีติ เอตฺถ ‘‘อธิฏฺาน’’นฺติ อนุวตฺตเต, ‘‘เตจีวริโก ภิกฺขู’’ติ ลพฺภติ, เอวํ วตฺถขณฺฑํ อลฺลิยาเปนฺโต เตจีวริโก ภิกฺขุ อธิฏฺานํ รกฺขตีติ วุตฺตํ โหติ. วิปริยาเยน อธิฏฺานํ ภินฺทตีติ ลพฺภติ. ปมํ ทฺเว โกฏิโย ฆเฏตฺวาติ โยชนา. มชฺเฌ ชิณฺณํ อธิฏฺิตจีวรํ มชฺเฌ ฉินฺทนฺโต ตโต ปุพฺเพเยว ทฺเว โกฏิโย เอกโต ฆเฏตฺวา สิพฺพิตฺวา. ปจฺฉาติ โกฏิฆฏนโต ปจฺฉา. ฉินฺทตีติ มชฺฌํ อุภยโกฏึ กาตุํ ฉินฺทติ. รกฺขตีติ วุตฺตปฺปการเมว.
๕๗๐. ติจีวเร กตฺถ ชาตํ ฉิทฺทมธิฏฺานํ ภินฺทตีติ อาห ‘‘จตุรงฺคุลา’’ติอาทิ. จตฺตาริ จ อฏฺ จ จตุรฏฺํ, จตุนฺนํ อฏฺนฺนํ วา องฺคุลานํ สมาหาโร จตุรฏฺงฺคุลํ, ตสฺมาติ คเหตพฺพํ. จตุรงฺคุลา อฏฺงฺคุลาติ โยชนา. โอรนฺติ อพฺภนฺตรํ. เอกฺจ ทฺเว จ เอกทฺเว, เตสํ เอกทฺวินฺนํ, ‘‘จีวราน’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ, เอกสฺส จีวรสฺส, ทฺวินฺนฺจ จีวรานนฺติ โยชนา. ยถาสงฺขฺยานุทฺเทสวเสน เอกสฺส ติริยโต จตุรงฺคุลโต โอรํ, ทฺวินฺนํ ติริยโต อฏฺงฺคุลโต โอรนฺติ โยชนา. วากฺยทฺวเยปิ ‘‘ฉิทฺทํ ภินฺทเตวา’’ติ โยเชตพฺพํ.
เอกสฺส จีวรสฺสาติ อนฺตรวาสกจีวรสฺส. ติริยโตติ วิตฺถารโต. จตุรงฺคุลํ โอรนฺติ จตุรงฺคุลโต ¶ อพฺภนฺตเร ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ. ทฺวินฺนนฺติ อุตฺตราสงฺคสงฺฆาฏีนํ. ติริยโตติ ¶ วิตฺถารโต. อฏฺงฺคุลโต โอรนฺติ อฏฺงฺคุลโต อพฺภนฺตเร. ติณฺณมฺปิ ทีฆโต วิทตฺถิยา โอรํ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทเตวาติ โยชนา. เอตฺถ วิทตฺถิ วฑฺฒกิวิทตฺถิ คเหตพฺพา. เอวํ วุตฺตปริจฺเฉทพฺภนฺตเร ฉิทฺเท ชาเต ตสฺส จีวรสฺส อติเรกจีวรตฺตา ทสาหมนติกฺกมิตฺวา สูจิกมฺมํ กตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. ตถา อกโรนฺเตน ปน ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตพฺพํ.
๕๗๑. ‘‘นิสีทนสฺสา’’ติ ‘‘นิสีทนจีวรสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทิยฑฺฒาติ เอตฺถ วิเสสิตพฺพา วิทตฺถิ ‘‘ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติ จ ‘‘สุคตสฺส วิทตฺถิยา’’ติ จ วุตฺตสามตฺถิยา ลพฺภติ. อฑฺเฒน ทุติยา ทิยฑฺฒา, ทุติยํ อฑฺฒเมตสฺสาติ ‘‘ทุติยฑฺฒา’’ติ วตฺตพฺเพ ติย-ปจฺจยโลเปน ‘‘ทิยฑฺฒา’’ติ วุตฺตํ, อฑฺฒทุติยาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สุคตสฺส วิทตฺถิยา’’ติ ปมาณนิยมสฺส กตตฺตา วฑฺฒกิวิทตฺถิยา ติสฺโส วิทตฺถิโย เอกา สุคตวิทตฺถิ โหติ. อิทํ นิสีทนจีวรํ ทีฆโต วฑฺฒกิหตฺเถน ติหตฺถํ, วิตฺถารโต ฉฬงฺคุลาธิกทฺวิหตฺถปฺปมาณํ โหติ. ‘‘ทสา วิทตฺถี’’ติ (ปาจิ. ๕๓๓) วุตฺตตฺตา ทิยฑฺฒหตฺถา ทสาติ เวทิตพฺพา.
๕๗๒. จตสฺโสติ เอตฺถาปิ ‘‘วิทตฺถิโย’’ติ สามตฺถิยาว ลพฺภติ. ‘‘กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิยา’’ติ วิภตฺติปริณาเมน ทีฆโตติ โยชนา.
๕๗๓. อฑฺฒํ เตยฺยํ ตติยํ ยสฺสา สา อฑฺฒเตยฺยา, อฑฺฒตติยาติ วุตฺตํ โหติ.
๕๗๔. ตโต อุตฺตรึ ตทุตฺตรึ, ตสฺส ตสฺส วุตฺตปฺปมาณโต อติเรกํ. อธิกจฺเฉทนนฺติ อธิกสฺส ปมาณาติริตฺตฏฺานสฺส เฉทนํ อสฺส ปาจิตฺติยสฺส เทสนายาติ ¶ อธิกจฺเฉทนํ, วุตฺตปฺปมาณโต อธิกฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา เทเสตพฺพํ ปาจิตฺติยํ. อุทีริตํ วุตฺตํ ปาฬิยาติ อตฺโถ.
๕๗๕. อปฺปมาเณนาติ คุณวเสน อปฺปมาเณน สมฺมาสมฺพุทฺเธน.
๕๗๖. สพฺพํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สพฺพ’’นฺติ อิมินา อฏฺกถาย อาคตํ นีลาทึ สงฺคณฺหาติ. มหนฺตาทิเภทํ สพฺพํ ปจฺจตฺถรณจีวรํ วฏฺฏติ.
๕๗๗. ‘‘มุขปฺุฉนโจฬํ ¶ เอก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. เอกํ โธวิตฺวา ยาว สุกฺขาปียติ, ตาว อฺเน มุขปฺุฉเนน ภวิตพฺพตฺตา อาห ‘‘ทฺเวปิ วฏฺฏนฺติ สพฺพถา’’ติ.
๕๗๙. ปมาณโต, คณนโต จ อตีตาติ ปมาณคณนาตีตา. ‘‘ปมาณาตีตา’’ติ วจเนน วินยธรานํ อปฺปมาณคุณตํ ทสฺเสติ, ‘‘คณนาตีตา’’ติ อิมินา อติกฺกนฺตคณนตํ. ปกตํ วินเย ปมํ กตํ พุทฺเธน ภควตา ปฺตฺตํ ชานนฺตีติ ปกตฺู, วินยธรา, เต ปกตฺุโน. อปริมาณคุณมณิคณภูสิตอุปาลิทาสกาทิมหาเถราจริยปรมฺปราคตา สงฺขฺยาปถาตีตา วินยธราติ วุตฺตํ โหติ.
๕๘๐. สุคตฏฺงฺคุลายามนฺติ วฑฺฒกิรตนปฺปมาณทีฆํ. จตุรงฺคุลวิตฺถตนฺติ วฑฺฒกิวิทตฺถิปฺปมาณวิตฺถารํ. วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมํ จีวรํ นาม โหติ. ปจฺฉิมํ จีวรนฺติ ปริสฺสาวนปฏาทีนํ วิเสสนํ, ปจฺฉิมจีวรปฺปมาณนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๕๘๑. ปริสฺสาวปฏนฺติ อุทกปริสฺสาวนตฺถํ ปฏํ. ปตฺตตฺถวิกนฺติ ปตฺตกฺจุกํ. โปตฺถกตฺถวิกนฺติ โปตฺถกกฺจุกํ ¶ . อาทิคฺคหเณน ปจฺฉิมปฺปมาณาทึ ยํ กิฺจิ ปฏํ, ทณฺฑปฏฺจ สงฺคณฺหาติ.
๕๘๒. อธิฏฺาตุนฺติ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ. ปิเตติ อนธิฏฺาย ปิเต. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อาห. นตฺถิ โทสตาติ โทโส เอว โทสตา. ‘‘อตฺตโน สนฺตกภาวโต โมเจตฺวา ปิตํ สนฺธาย มหาปจฺจริยํ อนาปตฺติ วุตฺตา’’ติ วทนฺติ. ‘‘อิมินา เภสชฺชํ เจตาเปสฺสามิ, อิทํ มาตุยา ทสฺสามี’’ติ เปนฺเตน อธิฏฺาตพฺพํ. ‘‘อิทํ เภสชฺชสฺส, มาตุยา’’ติ วิภชิตฺวา สสนฺตกภาวโต โมจิเต อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. โหติ เจตฺถ –
‘‘ยํ วตฺถํ ภิกฺขุนา ลทฺธํ, กตํ มาตาทิสนฺตกํ;
นิสฺสคฺคิยํ น โหตีติ, ตมาหุ วินยฺุโน’’ติ.
๕๘๓. วสฺสมาเส จตุโรติ วสฺสาเน จตุโร มาเส, อธิฏฺานกิริยาย จตฺตาโร มาเส อวิจฺเฉโทติ ¶ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส นิวาเสตพฺพา สาฏิกา วสฺสิกสาฏิกา.
๕๘๔. กณฺฑุํ ปฏิจฺฉาเทตีติ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ, กณฺฑุโรคาตุรสฺส ภิกฺขุโน ตปฺปฏิจฺฉาทนตฺถมนฺุาตจีวรสฺเสตมธิวจนํ. โหนฺติ เจตฺถ –
‘‘มาติกฏฺกถายสฺสา, กณฺฑุจฺฉาทิกสาฏิยา;
น กาลาติกฺกเม วุตฺตํ, อธิฏฺานวิวฏฺฏนํ.
อธิฏฺานปหานงฺเค-สุ วุตฺตตฺตา วิเสสโต;
วีมํสิตพฺพํ วิฺูหิ, ตตฺถ ยํ การณํ สิยา’’ติ.
๕๘๖. ‘‘อสมฺมุเข ¶ เอตนฺติ จา’’ติ วจเนเนว สมฺมุเข ‘‘อิม’’นฺติ วิฺายติ. วิจกฺขโณ ปจฺจุทฺธเรยฺยาติ โยชนา.
๕๘๘. อิติ สพฺพมิทนฺติ เอวํ วุตฺตํ อิทํ ติจีวราทีนํ ปมาณาทิสพฺพวิธานํ. เตจีวริกภิกฺขุโนติ ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺิตเตจีวริกสฺส วินยเตจีวริกสฺส. ติณฺณํ จีวรานํ สมาหาโร ติจีวรํ, ติณฺณํ ติจีวรานํ สมาหาโรติ ‘‘ติติจีวร’’นฺติ วตฺตพฺเพ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน ‘‘ติจีวร’’นฺติ นวจีวรานิ สงฺคหิตานิ, ติจีวเร นิยุตฺโต เตจีวริโกติ วินยเตจีวริโก วุจฺจติ. ธุตงฺคเตจีวริกสฺสาปิ ติจีวเร อิทเมว วิธานนฺติ โสปิ สงฺคยฺหติ. อฺเสุ วา ปน ฉสุ จีวเรสุ ปริกฺขารโจฬํ เอกํ อํสกาสาวเมว วฏฺฏติ. ตถา วตฺวาวาติ ‘‘อิมํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺามี’’ติอาทินา นเยน วตฺวา. ตํ ปริกฺขารโจฬํ. ปริกฺขารโจฬมสฺส อตฺถิ, ตตฺถ วา นิยุตฺโตติ ปริกฺขารโจฬิโก.
๕๘๙. ‘‘ติจีวรํ ปน ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ, น วฏฺฏตี’’ติ อนุโยคํ กตฺวา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา อิธ ‘‘ติจีวร’’นฺติ จีวรตฺตยเมว วุตฺตํ. ‘‘สุขปริหารตฺถํ เอกมฺปิ วิกปฺเปตพฺพ’’นฺติ วจนโต เอกเทเส สมุทาโยปจารวเสน เอกมฺปิ วิกปฺเปตพฺพเมว โหติ.
ปริกฺขารโจฬํ กาตุมฺปิ วฏฺฏตีติ พทฺธสีมโต พหิ วสนฺเตน เอกเกน เตจีวริเกน อนฺโตอรุเณ อสติยา ตีสุ จีวเรสุ หตฺถปาเส อกเตสุ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ, วินยกมฺมํ กาตุํ สภาคปุคฺคลานํ ทุลฺลภตฺตา ¶ จ สุขปริหารตฺถํ ตีสุ เอกํ วา สพฺพานิ เอว วา ติจีวรนาเมน กตาธิฏฺานานิ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ.
เอวํ อคฺคเหตฺวา ‘‘สเจ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานํ ลเภยฺย, อุโทสิตสิกฺขาปเท ปริหาโร นิรตฺถโก ภเวยฺยา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) วุตฺตํ มหาปทุมตฺเถรสฺส มตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอวํ จุโทสิเต’’ติอาทิ. เอวํ เจติ เอวํ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺหิตฺวา ปริหริตุํ วฏฺฏติ เจ. อุโทสิเตติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อนนฺตเร ทุติยกถินสิกฺขาปเท. วุตฺโต ปริหาโรติ ‘‘เอกกุลสฺส คาโม โหติ ปริกฺขิตฺโต จ. อนฺโตคาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตคาเม วตฺถพฺพ’’นฺติอาทินา (ปารา. ๔๗๘) นเยน ปทภาชนาวสาเน วุตฺโต, อิธ จ ‘‘คามาทีสุ ปเทเสสู’’ติอาทินา นเยน อนนฺตรํ วกฺขมาโน ติจีวรสฺส ปริหรณวิธิ. นิรตฺถโกติ ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺิตจีวรสฺส เตน วิธินา ติจีวรํ อปริหรนฺตสฺสาปิ ภิกฺขุโน อนาปตฺติภาวโต นิปฺปโยชโนติ อตฺโถ.
๕๙๐. ตปฺปริหริตุมาห ‘‘น’’อิจฺจาทิ. น นิรตฺถโกติ โยชนา. เหตุํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เตจีวริกสฺเสวา’’ติอาทิ. โย ติจีวรนาเมน อธิฏฺานํ อปจฺจุทฺธริตฺวา สตึ อุปฏฺเปตฺวา อนฺโตอรุเณ จีวรํ หตฺถปาสโต อโมเจตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปติ, ตาทิสสฺส เตจีวริกสฺเสว ตสฺมึ สิกฺขาปเท อุโทสิตปริหารสฺส ภควตา เทสิตตฺตาติ อตฺโถ. ยสฺมา ตาทิสสฺเสว เตจีวริกสฺส อุโทสิตสิกฺขาปเท ปริหาโร วุตฺโต, ตสฺมา. ตํ สพฺพมฺปีติ ตํ นววิธํ สพฺพมฺปิ จีวรํ. ปริกฺขารโจฬสฺสาติ ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺหิตฺวา จีวรํ ปริภฺุชิตุกามสฺส ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ.
๕๙๑. อิมินา ¶ อุโทสิตปริหารสฺส อนิรตฺถกภาวํ สาเธตฺวา อิทานิ ‘‘ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬนาเมนาปิ ¶ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิมสฺส อธิกตฺถสฺส มหาการุณิเกน อนฺุาตภาเว กิริยนฺตรานุชานนสงฺขาตอธิกวจนสฺส าปกเหตุภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธิฏฺเตี’’ติอาทิ. อิมสฺมึเยว สิกฺขาปเท อนาปตฺติวาเร ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ, วิกปฺเปตี’’ติ ปาเ อนาปตฺติภาเว ‘‘อธิฏฺเตี’’ติ เอตฺตเกเนว ปริยตฺเต (ปารา. ๔๖๙) ‘‘วิกปฺเปตี’’ติ กิริยนฺตรานุชานเนน ปการนฺตเรนาปิ โทโส นตฺถีติ อธิปฺปายสฺส วิฺาปิตตฺตาติ อตฺโถ.
๕๙๒. เอวํ กโรนฺตสฺสาติ ติจีวรนาเมน อธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺหนฺตสฺส. อิทานิ อติปฺปสงฺคํ ทสฺเสตุกามสฺส โจทกสฺส อธิปฺปายํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. มูลาธิฏฺานํ ปหาย กาตพฺพปฺปการนฺตรสฺสาปิ วิชฺชมานตฺตา ติจีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา มุขปฺุฉนาทิกํ กตฺวา อธิฏฺหโตปิ โทโส น สิยาติ กสฺมา นาปชฺชตีติ อตฺโถ. นอิติ อติปฺปสงฺคนิวารเณ.
๕๙๓. กิจฺจวิธานโตติ เตสํ มุขปฺุฉนาทีนํ อตฺตโน อตฺตโน กิจฺจสฺส สาธนโต, ตาทิสํ กิจฺจวิเสสาเปกฺขํ วินา ตํตํนาเมน อธิฏฺาตุํ น ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย. อกิจฺจสฺสาติ มุขปฺุฉนาทิกิจฺจรหิตสฺส. อธิกสฺสาติ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปมํ อธิฏฺานสฺส วิชหิตตฺตา อติเรกสฺส. อสฺสาติ ติจีวรสฺส. อธิฏฺานํ ตุ ยุชฺชตีติ ทสาหํ อนติกฺกมิตฺวา ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺานํ ปน ยุชฺชติ.
๕๙๔. นิธานสฺส ¶ มุขํ อุปาโยติ นิธานมุขํ, อนฺตรวาสกาทิตํตํจีวรนาเมน อธิฏฺานโต อติเรกํ ยํ กิฺจิ จีวรํ ยถา ปิตํ อาปตฺตึ น กโรติ, ตถา นิธานสฺส อุปาโยติ อตฺโถ. เอตํ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานํ. มหาปจฺจริยนฺติ พฺราหฺมณติสฺสภเย ภิกฺขุสงฺฆํ ชมฺพุทีปํ เนตุํ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อาณตฺติยา วิสุกมฺเมน นิมฺมิตมหาปจฺจริยํ นิสีทิตฺวา ลิขิตตฺตา ตํนามกายํ วินยฏฺกถายํ, ‘‘มหาปจฺจริยาทิสู’’ติปิ ลิขนฺติ.
๕๙๕. ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺานวิธานสฺส วุตฺตปฺปมาณํ กตมนฺติ อาห ‘‘จีวร’’นฺติอาทิ. ‘‘นิทาเน อุปฺปตฺติโต’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘จีวรํ ปริปุณฺณ’’นฺติ นิทาเน ‘‘ติจีวรํ สมฺปุณฺณํ วิชฺชติ, อิทมติเรกจีวรํ กึ กาตพฺพ’’นฺติ ภิกฺขูหิ ภควโต อาโรจิตวตฺถุมฺหิ ¶ . อุปฺปตฺติโตติ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานสฺส อุปฺปนฺนตฺตา, อนฺุาตตฺตาติ อตฺโถ. ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ ปริปุณฺณํ โหติ ติจีวรํ, อตฺโถ จ โหติ ปริสฺสาวเนหิปิ ถวิกาหิปิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ ภิกฺขเว ปริกฺขารโจฬก’’นฺติ (มหาว. ๓๕๗) เอตฺถ ปาฬิยํ เอวํ วิปฺปวาสสุขตฺถํ นาเมนาธิฏฺิตติจีวรํ อธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตีติ สาธเนน ตเทกสาธนตฺตา เอว เอกมฺปิ จีวรํ วิกปฺเปตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตเมว โหติ. เตเนวาห อฏฺกถายํ ‘‘เอวฺจ สติ โย ติจีวเร เอเกน จีวเรน วิปฺปวสิตุกาโม โหติ, ตสฺส ติจีวราธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิปฺปวาสสุขตฺถํ วิกปฺปนาย โอกาโส ทินฺโน โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙).
๕๙๖-๘. เอตฺตาวตา กปฺปิยจีวรฺจ ตตฺถ กตฺตพฺพฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อกปฺปิยจีวรํ ทสฺเสตุมาห ‘‘กุสวากาที’’ติอาทิ. กุสนฺติ ทพฺพติณํ. วากนฺติ รุกฺขาทีนํ วากํ. อาทิ-สทฺเทน ¶ ผลกํ คหิตํ, จีร-สทฺโท จีวรปริยาโย, อิมสฺมึ กุสาทโย คนฺเถตฺวา กเต จีวเรเยว วตฺตติ. เกสชํ กมฺพลนฺติ มนุสฺสเกเสหิ วีตกมฺพลฺจ. วาลชํ กมฺพลนฺติ อสฺสวาลจมรวาเลหิ วีตกมฺพลฺจ. อุลูกปกฺขนฺติ โกสิยสกุณปตฺตํ. อิธ ปน ตํ คนฺเถตฺวา กตจีวรเมว คเหตพฺพํ. อชินกฺขิเปติ อชินทีปิจมฺเม. ‘‘ธารยโต ถุลฺลจฺจย’’นฺติ ปจฺเจกํ สมฺพนฺโธ.
กทลิทุสฺเสติ กทลิวากมยวตฺเถ. เอรกทุสฺเสติ เอรกมยวตฺเถ. อกฺกทุสฺเสติ อกฺกทณฺเฑ วา เตสํ สุตฺตานิ วา คเหตฺวา กตวตฺเถ. โปตฺถเกติ มกจิวากมยวตฺเถ. ติรีเฏ วาติ เอวํนามเก รุกฺขตเจ. เวเนติ สีสเวเน. กฺจุเกติ กวเจ.
สพฺพนีลเกติ เกวลนีลเก. เอส นโย มฺเชฏฺาทีสุ. มหานามรตฺเตติ ตนุปทุมทลวณฺณรตฺเต. มหารงฺครตฺเตติ สตปทิวณฺณรตฺเต.
๕๙๙. อจฺฉินฺนทสเกติ อจฺฉินฺนา ทสา ยสฺส, ตสฺมึ จีวเร. เอส นโย ทีฆทเสปิ. ผลทเสติ ผลสทิสคนฺถิตา ทสา ยสฺส, ตสฺมึ. ปุปฺผทเสติ กณฺณิกํ พนฺธิตฺวา วิกาเสตฺวา กตา ทสา ยสฺส, ตสฺมึ จีวเรติ อตฺโถ. อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ นคฺคํ กตฺวา โจเรหิ วิลุตฺตจีวรสฺส ¶ . เอตฺถาติ กุสวากาทีสุ, สพฺพนีลาทีสุ จ. กิฺจีติ เอกมฺปิ อกปฺปิยํ นตฺถิ อนนุโลมิกํ นตฺถิ. ‘‘นคฺเคน เอเตสุ อกปฺปิยจีวเรสุ ยํกิฺจิ ลทฺธํ, เตน หิริโกปินํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปจฺฉา กปฺปิยจีวเร ลทฺเธ ตํ อธิวาเสตฺวา อิทํ อกปฺปิยจีวรํ ปริจฺจชิตพฺพํ. สพฺพนีลกาทิวตฺเถสุ ลทฺเธสุ กปฺปิยรชเนน รชิตฺวา, ตํ วณฺณํ นาเสตฺวา วา กปฺปิยวตฺถานิ อุภยปสฺเสสุ ¶ อลฺลิยาเปตฺวา, ปฏิจฺฉาเทตฺวา วา นิวาเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๖๐๐. ‘‘อนฺโตทสาห’’นฺติ อิทํ ‘‘อธิฏฺเตี’’ติอาทีหิ สพฺพปเทหิปิ โยเชตพฺพํ. วิสฺสชฺเชตีติ อฺสฺส เทติ. อิธ ทานํ ทุวิธํ สมฺมุขาทานํ, ปรมฺมุขาทานนฺติ. ปฏิคฺคาหกํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ ทานํ สมฺมุขาทานํ นาม. ปรมฺมุขา ‘‘อิทํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปรมฺมุขาทานํ. ‘‘อิทํ ตฺวํ คณฺหาหี’’ติ วา ‘‘ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วา วุตฺเต ‘‘มยฺหํ คณฺหามี’’ติ สเจ วทติ, ทานคหณทฺวยมฺปิ สุทฺธํ. ‘‘อิทํ ตว สนฺตกํ กโรหิ, ตว สนฺตกํ โหตุ, ตว สนฺตกํ โหตี’’ติ ทายเกน วุตฺเต คณฺหนฺโตปิ ‘‘มม สนฺตกํ กโรมิ, มม สนฺตกํ โหตุ, มม สนฺตกํ โหตี’’ติ วทติ เจ, ทานํ, คหณฺจ อสุทฺธํ โหติ. ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหี’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘สาธุ ภนฺเต มยฺหํ คณฺหามี’’ติ วตฺวา คณฺหาติ, คหณํ สุทฺธํ. ‘‘อิทํ ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘อหํ น คณฺหามี’’ติ วทติ, ปุน ‘‘ทินฺนํ มยา, ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต อิตโรปิ ปุน ปฏิกฺขิปติ, ตํ จีวรํ กสฺสจิ อสนฺตกตฺตา ทสาหาติกฺกเมนาปิ นิสฺสคฺคิยํ น โหตีติ ปจฺฉา เตสุ ทฺวีสุ โย อิจฺฉติ, เตน อธิฏฺาย ปริภฺุชิตพฺพนฺติ สพฺพมิทํ อฏฺกถาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ.
อธิฏฺิตจีวเร อธิฏฺาเน เวมติเกน อตฺตโน วิมตึ ปมํ อาวิ กตฺวา ‘‘สเจ อนธิฏฺิตํ, เอวํ กเต กปฺปิยํ โหตี’’ติ จินฺเตตฺวา นิสฺสชฺเชตฺวา วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺส มุสาวาทโทโส นาปชฺชติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘น หิ เอวํ ชานาเปตฺวา วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺส มุสาวาโท โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙). ‘‘เกจิ ‘ตถา เวมติกจีวรํ อฺเน ¶ วิสฺสาเสน คเหตฺวา ปุน ทาตพฺพ’นฺติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทร’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙ โถกํ วิสทิสํ) ตตฺเถว วุตฺตํ.
วินสฺสตีติ โจราทีหิ วินสฺสติ. ‘‘นสฺสติ, ฑยฺหติ, อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺตี’’ติ อิมานิปิ ¶ วินาสปฺปการตฺตา ‘‘วินสฺสตี’’ติ อิมินาว สงฺคยฺหนฺติ. ตตฺถ ‘‘นสฺสตี’’ติ อิทํ โจราทีหิ หฏํ สนฺธาย วุตฺตํ, ‘‘วินสฺสตี’’ติ อิทํ อุนฺทูรขายิตาทึ สนฺธาย วุตฺตํ, ‘‘ฑยฺหตี’’ติ อคฺคินา ทฑฺฒํ สนฺธาย. วิสฺสาเสติ เอตฺถ สนฺทิฏฺโ จ สมฺภตฺโต จ อาลปิโต จ ชีวติ จ คหิเต จตฺตมโน โหตีติ ปฺจงฺคสมนฺนาคเตน อตฺตนิ วิสฺสาเสน อฺเน คหิเตติ อตฺโถ. ปกาสิตาติ ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเตี’’ติอาทินา (ปารา. ๔๖๙) นเยน วุตฺตา.
๖๐๑. อิทํ ปน สมุฏฺานํ นาเมน กถินสมุฏฺานํ นามาติ อตฺโถ. อิทํ กถินสมุฏฺานํ นาม กายวาจโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. อติเรกจีวรภาวสฺส ชานนจิตฺเตน ปณฺณตฺติชานนจิตฺเต อสติปิ อาปตฺติสมฺภวโต อจิตฺตํ. อนธิฏฺานโต, อวิกปฺปนโต จ อกฺริยํ. กมฺมฏฺานมนุยฺุชนฺโต วา เจติยาทึ วนฺทนฺโต วา เอกาทสมํ อรุณํ อุฏฺาเปติ, กุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, กลหาทิปสุโต วา วีติกฺกมํ ชานนฺโต วา อุฏฺาเปติ, อกุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, ขีณาสโว ปน อสติยา วา ปณฺณตฺตึ อชานนฺโต วา ตถา กโรนฺโต อพฺยากตจิตฺโต อาปชฺชตีติ ติจิตฺตํ. วุตฺตนเยน กมฺมฏฺานาทิมนุยฺุชนฺตสฺส โสมนสฺสจิตฺตสมงฺคิโน สุขเวทนา, อุเปกฺขาจิตฺตสมงฺคิโน อุเปกฺขาเวทนา, กลหาทิปสุตสฺส โทมนสฺสจิตฺตสมงฺคิโน ทุกฺขเวทนา โหตีติ ติเวทนํ. เอส นโย อุปริปิ เอวรูเป าเน โยเชตพฺโพ.
ปมกถินกถาวณฺณนา.
๖๐๒. คามาทีสุ ¶ ปเทเสสุ ติปฺจสูติ ติจีวรานิ นิกฺขิปิตฺวา วิปฺปวาเสน โทสํ, อุปฺปชฺชนฏฺานฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘คาโม เอกูปจาโร’’ติอาทินา (ปารา. ๔๗๗) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตคามนิเวสนอุโทสิตอฏฺฏมาฬปาสาทหมฺมิยนาวาสตฺถเขตฺตธฺกร- ณอารามวิหารรุกฺขมูลอชฺโฌกาสสงฺขาเตสุ ปนฺนรสสุ จีวรนิกฺเขปฏฺาเนสูติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ คาโม นาม เอกกุฏิกาทิคาโม.
นิเวสนํ นาม คามโต พหิ จตุสาลาทิโก เคโห. เตนาห คณฺิปเท ‘‘คามนิเวสนานํ วิเสสํ วทนฺตา ‘ปุน เอกปริจฺเฉทํ กตฺวา นิเวสิตา พหุเคหา นิเวสนํ นาม โหนฺตี’ติ วทนฺติ, ตสฺมา อิทํ นิเวสนาทิ สพฺพํ ‘คามโต พหี’ติ คเหตพฺพ’’นฺติ. อิทฺจ ตตฺเถว วุตฺตํ ‘‘นิเวสนาทิกํ ¶ อนฺโตคาเม เจ โหติ, คาเม วุตฺตปริหารสฺเสว ลพฺภนโต อนฺโตคามโต พหี’ติ คเหตพฺพ’’นฺติ.
อฏฺกถายํ ‘‘อุโทสิโตติ ยานาทีนํ ภณฺฑานํ สาลา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๘๒-๔๘๗) วุตฺตสรูปํ อุโทสิตํ นาม. ‘‘อฏฺโฏติ ปฏิราชาทิปฏิพาหนตฺถํ อิฏฺกาหิ กโต พหลภิตฺติโก จตุปฺจภูมิโก ปติสฺสยวิเสโส’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๘๒-๔๘๗) วุตฺตสรูโป อฏฺโฏ นาม. ‘‘มาโฬติ เอกกูฏสงฺคหิโต จตุรสฺสปาสาโท’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๔๘๒-๔๘๗) วุตฺโต เอกกณฺณิกสงฺคหิโต จตุรสฺสเคโห มาโฬ นาม. ปาสาโทติ ทีฆปาสาโท. หมฺมิยนฺติ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโท. นาวาติ ยานปฺปตฺติ. สตฺถนฺติ ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺถวเสน ทุวิโธ ชนสมูโห, โส จ นิวิฏฺานิวิฏฺวเสน ปจฺเจกํ ทุวิโธ. ตตฺถ นิวิฏฺเ วติอาทิปริกฺเขโปปิ โหเตว.
เขตฺตนฺติ ¶ ยวเขตฺตาทิเขตฺตํ. ธฺกรณํ ขลํ. อาราโม ปุปฺผาราโม, ผลาราโม จ. วิหาโรติ เอกมฺปิ เสนาสนํ วุจฺจติ. ‘‘รุกฺโข นาม ยํ มชฺฌนฺติเก กาเล สมนฺตา ฉายา ผรตี’’ติ (ปารา. ๔๙๔) วุตฺตปฺปมาณปริจฺฉนฺโน รุกฺโข. อชฺโฌกาโส นาม สตฺตพฺภนฺตโร, โส วิฺจาฏวิอาทิอคามการฺเ จ มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ สมุทฺททีเป จ ลพฺภติ. มจฺฉพนฺธานํ อคมนปโถ นาม อุทกปิฏฺิยา คนฺตฺวา ปุน ตทเหว เคหํ อาคนฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ทูโร สมุทฺทปฺปเทโส วุจฺจติ.
อยํ คามาทิโก ปจฺเจกํ เอกูปจาโร, นานูปจาโรติ ทุวิโธ. ตตฺถ อชฺโฌกาสํ วินา คามาทิโก ตํตํราชาทิสามิกกุลานํ เอกตฺถนานตฺถวเสน เอกกุลสนฺตโก เจ โหติ, เอกูปจาโร. นานากุลสนฺตโก เจ, นานูปจาโร โหติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘คาโม เอกูปจาโร นาม เอกกุลสฺส คาโม โหตี’’ติอาทิ (ปารา. ๔๗๘). อฏฺกถายมฺปิ วุตฺตํ ‘‘เอกกุลสฺส คาโมติ เอกสฺส รฺโ วา โภชกสฺส วา คาโม’’ติ จ ‘‘นานากุลสฺส คาโมติ นานาราชูนํ วา โภชกานํ วา คาโม เวสาลีกุสินาราทิสทิโส’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๗๙) จ.
เอกกุเลน การาปิโต วิหาโร เอกูปจาโร, นานากุเลหิ การาปิโต นานูปจาโร โหติ. ยถาห คณฺิปเท ‘‘วิหาเร เอกกุลนานากุลโวหาโร การาปกานํ วเสน วุตฺโต’’ติ. อชฺโฌกาเส ปน ¶ อุปจารเภโท อพฺภนฺตรวเสน เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเจตํ ปาฬิยํ ‘‘อชฺโฌกาโส เอกูปจาโร นาม อคามเก อรฺเ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา เอกูปจาโร. ตโต ปรํ นานูปจาโร’’ติ. อิธ เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติรตนํ โหติ. ยถาห ¶ อฏฺกถายํ ‘‘เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติหตฺถ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๘๙). เอวํ สงฺเขปโต วุตฺตสรูปปฺปเภทานิ ปนฺนรส านานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘คามาทีสุ ปเทเสสุ ติปฺจสู’’ติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ปาฬิอฏฺกถาวณฺณนโต เวทิตพฺโพ.
‘‘ติจีวเรน วิปฺปวาเสยฺยาติ สงฺฆาฏิยา วา อุตฺตราสงฺเคน วา อนฺตรวาสเกน วา. อนฺโตคาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา’’ติ (ปารา. ๔๗๖, ๔๗๘) วจนโต เอตฺถ ติจีวรนฺติ ติณฺณํ จีวรานมฺตรเมว จีวรํ วตฺตพฺพํ. เอกรตฺตนฺติ วิปฺปวาสกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. อปิ-สทฺเทน กึ ปน ทิรตฺตาทิกนฺติ ทสฺเสติ.
สงฺฆสมฺมุติยา วินาติ ติจีวรํ ปริหริตุํ อสมตฺเถน คิลาเนน ภิกฺขุนา สงฺฆํ วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ‘‘อหํ ภนฺเต คิลาโน, น สกฺโกมิ ติจีวรํ อาทาย ปกฺกมิตุํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ ติจีวเรน อวิปฺปวาสสมฺมุตึ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ยาจิเตน สงฺเฆน ตสฺส ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ทินฺนํ อวิปฺปวาสสมฺมุตึ วินาติ วุตฺตํ โหติ. ตถา ลทฺธสมฺมุติกสฺส คิลานสฺส ภิกฺขุโน ตสฺมึ เคลฺเ อวูปสนฺเต วา วูปสนฺเตปิ จีวรนิกฺเขปฏฺานํ อาคมนกาเล วา อุปฺปนฺเน อฺเปิ โรเค อวูปสนฺเต ตายเยว สมฺมุติยา น โทโส.
๖๐๓. ภิกฺขุโนติ อลทฺธสมฺมุติกสฺส ภิกฺขุโน. เตน จีวเรน. วิปฺปวตฺถุํ น วฏฺฏตีติ วินา วสิตุํ น วฏฺฏติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘เอกกุลสฺส คาโม โหติ ปริกฺขิตฺโต จ, อนฺโตคาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตคาเม วตฺถพฺพํ. อปริกฺขิตฺโต โหติ, ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ ฆเร วตฺถพฺพํ, หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ. นานากุลสฺส ¶ คาโม โหติ ปริกฺขิตฺโต จ, ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ ฆเร วตฺถพฺพํ สภาเย วา ทฺวารมูเล วา, หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพ’’นฺติอาทินา (ปารา. ๔๗๘) นเยน ปาฬิยา วุตฺตฏฺานโต พหิ อรุณํ อุฏฺาเปตุํ น วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ.
อิมสฺมึ ¶ ปาเ ‘‘ปริกฺขิตฺโต’’ติ อิทํ ปากาเรน วา วติยา วา ปริขาย วา ปริกฺขิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. หตฺถปาสา วาติ เอตฺถ หตฺถปาสา นาม อฑฺฒติยรตนํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตํ ฆรํ สมนฺตโต หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ, อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณา ปเทสา อุทฺธํ น วิชหิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๗๗-๔๗๘).
วิปฺปวสนฺตสฺส โก โทโสติ อาห ‘‘โหติ…เป… อรุณุคฺคเม’’ติ. อนฺุาตฏฺานโต หิ พหิ จีวเรน วินา อรุณํ อุฏฺาเปนฺตสฺส ตํ จีวรํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ โหติ, ตํเหตุกา ปาจิตฺติยาปตฺติปิ โหตีติ อตฺโถ. เตเนว วกฺขติ ‘‘นิสฺสชฺชิตฺวา…เป… วิฺุนา’’ติ.
๖๐๔. นฺหายนฺตสฺเสวาติ จีวรสฺส หตฺถปาสโต ทูเร นหายนฺตสฺเสว, อนาทเร สามิวจนํ.
๖๐๖. อจฺฉินฺนํ วิลุตฺตํ จีวรํ ยสฺส โส อจฺฉินฺนจีวโร, ภิกฺขุ, ตสฺส านํ อจฺฉินฺนจีวรฏฺานํ, ตสฺมึ.
๖๐๗. นิวาเสตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อนฺตรวาสก’’นฺติ จ คเหตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อิตรานี’’ติ จ เสโส. อิทฺจ คนฺตพฺพฏฺาเน, อาสนฺเน มคฺเค จ มนุสฺสสมฺพาเธ อสติ กตฺตพฺพทสฺสนํ. อิตรตฺถ นิวาเสตฺวา, ปารุปิตฺวา จ สงฺฆาฏึ อํเส กตฺวาว คนฺตพฺพํ โหติ. วิหาเร สภาเคสุ อลพฺภมาเนสุ อาสนสาลมฺปิ คนฺตฺวา สภาคสฺส สนฺติเก วินยกมฺมํ กตฺตพฺพนฺติ ¶ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๙๕ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. ‘‘นิสฺสชฺชิตฺวา’’ติ อิมินา ‘‘อิทํ เม ภนฺเต จีวรํ รตฺติวิปฺปวุตฺถํ อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามี’’ติ สงฺเฆ วา ‘‘อิทํ เม ภนฺเต จีวรํ…เป… อหํ อายสฺมนฺตานํ นิสฺสชฺชามี’’ติ ติณฺณํ, ทฺวินฺนํ วา สนฺติเก วา ‘‘อิทํ เม อาวุโส…เป… อิมาหํ อายสฺมโต นิสฺสชฺชามี’’ติ เอกสฺส สนฺติเก วา วตฺวา นิสฺสชฺชิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วิฺุนาติ เอวํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุนิสฺสชฺชนาทินานปฺปการวิธิชานนเกน าณวตาติ อตฺโถ.
๖๐๙. ‘‘อเทนฺตสฺส จ นิสฺสฏฺํ ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน อาปตฺติ ¶ ปฏิคฺคเหตพฺพา, นิสฺสฏฺจีวรํ ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อิมํ วิธึ ชานนตาย พฺยตฺเตน ยถาวิธึ กาตุํ สมตฺถตาย ปฏิพเลน ขนฺธเก (จูฬว. ๒๓๙) อาคตนเยน อาปตฺตึ ปฏิคฺคเหตฺวา นิสฺสฏฺจีวรํ หตฺเถน คเหตฺวา นิสีทาเปตฺวา สเจ สงฺโฆ โหติ, ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยา’’ติ, สเจ ตโย โหนฺติ, ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ อายสฺมนฺตานํ นิสฺสฏฺํ, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อายสฺมนฺตา อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยุ’’นฺติ, สเจ เอกโก โหติ, ‘‘อิมํ จีวรํ อายสฺมโต ทมฺมี’’ติ ทาตพฺพํ, นิสฺสฏฺจีวรํ ‘‘อตฺตโนเยว ทินฺน’’นฺติ สุทฺธสฺาย คเหตฺวา อเทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
ตสฺส สนฺตกภาวํ ตฺวา เลเสน วิลุมฺปนฺตสฺส ปน ภณฺฑคฺฆวเสน ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกาปตฺติโย โหนฺติ. ยถาห ¶ อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺส สนฺตกภาวํ ปน ตฺวา เลเสน อจฺฉินฺทนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙). ปริยาปุตนฺติ ‘‘น ภิกฺขเว นิสฺสฏฺจีวรํ น ทาตพฺพํ, โย น ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๗๐) ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
๖๑๐-๑. เถเร ทหเร จาติ เอเตสุ อุโภสุปิ มคฺคํ คจฺฉนฺเตสูติ โยชนา. ‘‘เถเร’’ติ อิมินา อนิสฺสิตภาวมาห, ‘‘ทหเร จา’’ติ อิมินา นิสฺสิตภาวํ. โอหีเนติ โอสกฺกิเต. สเจ โส เถโร นิสฺสยาจริโย ภเวยฺยาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ครุ’’นฺติ. ตสฺมึ ทหเร. วตฺถนฺติ ตสฺส หตฺเถ ิตจีวรํ. น ปสฺสมฺภตีติ ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา คมเน สอุสฺสาหตฺตา นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิ น โหตีติ อธิปฺปาโย. เตเนว ‘‘มุหุตฺต’’นฺติอาทิมาห.
๖๑๔. ปจฺจุทฺธาเร อนฺโตเยวารุเณติ อิมินา สมฺพนฺโธ, ทหรภิกฺขุโน ทูรภาวฺจ อรุณุคฺคมนฺจ ตฺวา จีวรสฺส อนิสฺสคฺคิยตฺถํ ตสฺส หตฺเถ ิตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวา ปุรารุณา ปจฺจุทฺธเรติ อตฺโถ. วิสฺสชฺเชตีติ อฺสฺส เทติ. วินสฺสตีติ โจราทีหิ นสฺสติ.
ทุติยกถินกถาวณฺณนา.
๖๑๖. อกาลจีวรนฺติ ¶ ‘‘อกาลจีวรํ นาม อนตฺถเต กถิเน เอกาทสมาเส อุปฺปนฺนํ, อตฺถเต กถิเน สตฺตมาเส อุปฺปนฺนํ, กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺน’’นฺติ (ปารา. ๕๐๐) วจนโต อนตฺถตกถิเน วิหาเร ‘‘จีวรมาโส’’ติ โย ปุพฺพกตฺติกกาฬปกฺขปาฏิปทโต ปฏฺาย ยาว อปรกตฺติกปุณฺณมี, ตาว มาโส วุจฺจติ, ตโต ปเรสุ เอกาทสสุ มาเสสุ ¶ อุปฺปนฺนฺจ อตฺถตกถิเน วิหาเร โย จีวรมาโส, เหมนฺตา จ จตฺตาโร มาสาติ ปฺจมาสโต พหิ สตฺตสุ มาเสสุ อุปฺปนฺนฺจ อตฺถตกถิเน ปฺจ มาสา ยถาปริจฺฉินฺนกาเล สงฺฆสฺส จ ‘‘อิทํ อกาลจีวรํ ทมฺมี’’ติ ปุคฺคลสฺส จ ‘‘อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ ทินฺนฺเจติ อิทํ อกาลจีวรนฺติ อตฺโถ. ‘‘อุปฺปนฺน’’นฺติ เสโส, ‘‘อุปฺปชฺเชยฺย สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา ปํสุกูลโต วา อตฺตโน วา ธเนนา’’ติ (ปารา. ๕๐๐) วจนโต สงฺฆสฺส วา ‘‘อิทํ สุตฺตนฺติกคณสฺส เทม, อิทํ อาภิธมฺมิกคณสฺส เทมา’’ติอาทินา นเยน คณสฺส วา ทินฺนโต อตฺตโน วสฺสคฺเคน วา าติอาทิโต วา สุสานาทิปํสุกูลเขตฺตโต วา อตฺตโน สนฺตเกน สุตฺตกปฺปาสาทิกปฺปิยวตฺถุโต วา อุปฺปนฺนจีวรนฺติ อตฺโถ.
มาสปรมํ นิกฺขิเปติ มาโส ปรมํ ปมาณํ เอตสฺส นิกฺขิปนสฺสาติ มาสปรมํ, นิกฺขิปนนฺติ กิริยาวิเสสนํ กาตพฺพํ, มาสปรมํ นิกฺขิปนํ กเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อากงฺขมาเนน ภิกฺขุนา ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปฏิคฺคเหตฺวา ขิปฺปเมว กาเรตพฺพํ, โน จสฺส ปาริปูรี, มาสปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตํ จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ อูนสฺส ปาริปูริยา’’ติ (ปารา. ๕๐๐) วจนโต เอวํ อุปฺปนฺนํ จีวรํ อิจฺฉนฺเตน ปฏิคฺคเหตฺวา สเจ ปโหติ, ทสาหมนติกฺกาเมตฺวา กาเรตพฺพํ. สเจ นปฺปโหติ, อูนสฺส ปริปูรณตฺถํ มาสปรมํ เปตพฺพนฺติ อตฺโถ.
กทา เอวํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ อาห ‘‘สติ ปจฺจาสายา’’ติ, ‘‘ปจฺจาสา โหติ สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา ปํสุกูลโต วา อตฺตโน วา ธเนนา’’ติ (ปารา. ๕๐๐) วุตฺตสงฺฆาทิโต อตฺตโน วสฺสคฺคาทิโต ลเภยฺย, เตน ‘‘อิมสฺส อูเน ปริปุณฺเณ กาเรสฺสามี’’ติ ปจฺจาสาย สติ เอวํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ตโต อุทฺธํ เปตุํ ¶ น วฏฺฏตีติ มาสโต อติเรกกาลํ นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ.
ยทิ เอวํ ‘‘ตทหุปฺปนฺเน มูลจีวเร ปจฺจาสาจีวรํ อุปฺปชฺชติ, ทสาหา กาเรตพฺพํ…เป… วีเส ¶ อุปฺปนฺเน มูลจีวเร ปจฺจาสาจีวรํ อุปฺปชฺชติ, ทสาหา กาเรตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๐๐) กสฺมา อาหาติ? ปจฺจาสาจีวรสฺส ทสทิวเส อติกฺกมฺม เปตุํ อยุตฺตตฺตา, มูลจีวรสฺส ตคฺคติกตฺตา เอวํ วุตฺตํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘มูลจีวรสฺส อุปฺปนฺนทิวสโต ยาว วีสติโม ทิวโส, ตาว อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรํ มูลจีวรํ อตฺตโน คติกํ กโรตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๐).
ตติยกถินกถาวณฺณนา.
๖๑๘-๙. ภิกฺขุนิยา โย โธวาเปตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ภิกฺขุนี นาม อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนา’’ติ (ปารา. ๕๐๐) วจนโต ภิกฺขุนิสงฺเฆ ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย, ภิกฺขุสงฺเฆ ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจายาติ อฏฺวาจิกาย อุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนี นาม. ภุตฺตนฺติ ภิกฺขุนา อตฺตนา ปริภุตฺตํ รชิตํ อาทินฺนกปฺปํ, ‘‘ปริโภคํ กริสฺสามี’’ติ อนฺตมโส สีสํ เปตฺวา สยนมตฺเตนาปิ ปุราณภูตํ จีวรนฺติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘รชิตฺวา กปฺปํ กตฺวา เอกวารมฺปิ นิวตฺถํ วา ปารุตํ วา อนฺตมโส ปริโภคสีเสน อํเส วา มตฺถเก วา กตฺวา มคฺคํ คโต โหติ, อุสฺสีสกํ วา กตฺวา นิปนฺโน โหติ, เอตมฺปิ ปุราณจีวรเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๓-๕๐๕). วตฺถนฺติ การิเย การโณปจารวเสน จีวรเมว อาห.
อฺาติกายาติ ‘‘อฺาติกา นาม มาติโต วา ปิติโต วา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อสมฺพทฺธา’’ติ วจนโต ¶ อตฺตโน วา ตสฺสา วา มาตุ วา ปิตุ วา ปรมฺปราย ยาว สตฺตมา ยุคา, เอตฺถนฺตเร เยน เกนจิ าตเกน อสมฺพทฺธภาเวน อฺาติกายาติ อตฺโถ. ยถา จาห อฏฺกถายํ ‘‘ปิตามโหเยว ปิตามหยุคํ. ตโต อุทฺธํ สพฺเพปิ ปุพฺพปุริสา ปิตามหคฺคหเณเนว คหิตา. เอวํ ยาว สตฺตโม ปุริโส, ตาว ยา อสมฺพทฺธา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๓-๕๐๕). อาโกฏาเปตีติ ปหราเปติ.
ตโต โธวาปนาทิโต. นิสฺสคฺคิยาปตฺตีติ นิสฺสคฺคิยสฺส อาปตฺติ นิสฺสคฺคิยาปตฺติ, นิสฺสคฺคิยสฺส จีวรสฺส นาเมน วิสิฏฺา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ. อิทฺจ ติณฺณํ ปโยคานํ อนฺเต อาปชฺชิตพฺพาย อาปตฺติยา ทสฺสนํ. ตสฺส นิโยเคน โธวนาทึ กโรนฺติยา ภิกฺขุนิยา ตทตฺถํ สพฺพปุพฺพปโยคคณนาย ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ คเหตพฺโพ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยาว นํ โธวิตฺวา อุกฺขิปติ, ตาว ภิกฺขุนิยา ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๓-๕๐๕). ปเมนาติ ตีณิปิ การาเปนฺตสฺส ยํ ปมํ การาเปติ, เตนาติ อตฺโถ. ทีปิตนฺติ ‘‘อฺาติกาย อฺาติกสฺี ปุราณจีวรํ โธวาเปติ รชาเปติ อาโกฏาเปติ, นิสฺสคฺคิเยน อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏาน’’นฺติอาทินา (ปารา. ๕๐๖) เทสิตํ. อิมินา นเยน ทฺเว การาเปนฺตสฺส ปเมน นิสฺสคฺคิยาปตฺติ, ทุติเยน ทุกฺกฏนฺติ อยมตฺโถ สงฺคยฺหติ.
๖๒๐. ‘‘โธวนตฺถาย เทตี’’ติ อิมินา ‘‘ภุตฺตํ วตฺถ’’นฺติ อธิการโต ลพฺภติ.
๖๒๑. สามเณรนิทฺเทเสปีติ ‘‘สามเณรา’’ติ นิทฺเทโส นาม ยสฺส, ตสฺมิมฺปิ, อตฺตนา ปริภุตฺตํ วตฺถํ โธวนตฺถาย เทตีติ โยชนา, อตฺตโน ปริภุตฺตํ จีวรํ โธวนตฺถาย ¶ สามเณรสฺส เทตีติ อตฺโถ. ปิ-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. อุปสมฺปชฺชาติ ปุพฺพกิริยาย ‘‘โธวตี’’ติ อปรกิริยา สามตฺถิยา ลพฺภติ.
๖๒๒. ทหรานฺจ ภิกฺขูนนฺติ อตฺตโน นวกตรานํ ภิกฺขูนํ. นิยฺยาทิเต ทินฺเน. เอส นโยติ ‘‘เอเกน ปาจิตฺติยํ, อวสิฏฺเหิ ทฺวีหิ วา เอเกน วา สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ โหตี’’ติ นโย.
๖๒๔. ‘‘โธวนปฺปจฺจยาเยวา’’ติ อิมินา อิตรทฺวยสฺส ตสฺส อนาณตฺติยา กตตฺตา ตโต อนาปตฺติภาวมาห.
๖๒๖. าติกาติ เอตฺถ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒-๒๓, ๔๒๒; อ. นิ. ๖.๕๘; ๘.๙; มหานิ. ๒๐๖; ธ. ส. ๑๓๕๕; วิภ. ๕๑๘) วิย คาถาพนฺธวเสน ย-การโลโป, าติกาย ภิกฺขุนิยาติ อตฺโถ. ‘‘าติกา อฺาติสฺิสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ปจฺจตฺถรณนฺติ มฺจปีเ อตฺถริตพฺพํ ปจฺจตฺถรณจีวรฺจ.
๖๒๗. ‘‘ภิกฺขุนีนํ วเสนา’’ติ อิทํ ภิกฺขุสงฺเฆปิ อุปสมฺปนฺนา เจ, ปาจิตฺติยสมฺภวา วุตฺตํ ¶ . ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ยถาวตฺถุกเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๖). ภิกฺขุนิสงฺเฆ ปมํ อุปสมฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา ภิกฺขุสงฺเฆ เจ อุปสมฺปชฺชติ, เกวลํ ภิกฺขุสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาติ น วุจฺจตีติ ตา ภควติ ธรมาเน ปมํ ปพฺพชิตา ปฺจสตา สากิยานิโย วุจฺจนฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนา นาม ปฺจสตา สากิยานิโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๖). ภิกฺขุโน ¶ ลิงฺเค ปริวตฺเต ตสฺเสว อุปสมฺปนฺนกมฺมสฺส อนฺุาตตฺตา โสปิ คเหตพฺโพเยว.
๖๒๘. อวุตฺตา โธวตีติ ‘‘อิมํ จีวรํ โธวา’’ติ อวุตฺตา จีวรํ กิลิฏฺํ ทิสฺวา อวตฺวา ปิตฏฺานโต จีวรํ คเหตฺวา วา สยเมว วตฺวา ยาจนาทินเยน วา อนาณตฺติยา จ คเหตฺวา จีวรโธวนาทึ กเรยฺย เจ. อปริภุตฺตํ วาติ เหฏฺา วุตฺตนเยน อปริภุตฺตํ จีวรํ. อฺํ วาติ อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกโปตฺถกตฺถวิกมฺจปีาทึ ยํ กิฺจิ ปริกฺขารํ.
ปุราณจีวรโธวาปนกถาวณฺณนา.
๖๒๙. วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมํ อุปาทาย กิฺจิ จีวรํ คณฺหโตติ โยชนา, เอตฺถ ‘‘อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต’’ติ จ ‘‘าติกาย อฺาติกสฺิสฺสา’’ติ จ ‘‘เอกโตอุปสมฺปนฺนาย หตฺถโต คณฺหาตี’’ติ จ วกฺขมานวจนสามตฺถิยา ลพฺภมานโต ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อฺาติกาย อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต วิกปฺปนุปครตนวิทตฺถิปฺปมาณวตฺถโต ปฏฺาย ยํ กิฺจิ จีวรํ คณฺหนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อาปตฺตี’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ ‘‘นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติยาปตฺตี’’ติ ปกรณโต จ ‘‘นิสฺสคฺคิยาปตฺตี’’ติ วกฺขมานโต จ ลพฺภติ. เปตฺวา ปาริวตฺตกนฺติ ‘‘ปาริวตฺตกํ ปริตฺเตน วา วิปุลํ, วิปุเลน วา ปริตฺต’’นฺติ (ปารา. ๕๑๔) วจนโต มหาปจฺจริยํ ‘‘อนฺตมโส หรีตกขณฺเฑนาปี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๔) วุตฺตตฺตา จ เหฏฺิมนฺตโต หรีตกขณฺฑมฺปิ ทตฺวา คเหตพฺพํ ติจีวรฺจ ปาริวตฺตกํ นาม โหติ, ตํ เปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปริวตฺตนํ ปริวตฺตํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ ปาริวตฺตกํ, กยวิกฺกเยน คเหตพฺพํ จีวรนฺติ อตฺโถ.
๖๓๐. คหณตฺถาย ¶ ปโยเคติ คณฺหิตุํ หตฺถปสารณาทิปฺปโยเค. ปริยาปุตนฺติ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ ปโยเค ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. ๕๑๒) เทสิตํ.
๖๓๑. อนุปสมฺปนฺนหตฺเถติ ¶ ภิกฺขุภิกฺขุนิโต อฺเ สพฺเพ อนุปสมฺปนฺนา คหิตา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน สิกฺขมานาสามเณรสามเณริอุปาสกอุปาสิกานํ หตฺเถ เปสิตํ ปฏิคฺคณฺหาติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๒).
๖๓๒. เอกโตติ เอตฺถ ภิกฺขุนิสงฺฆโตติ คเหตพฺพํ. อฺสฺมึ ปกฺเข ปาจิตฺติยเมว. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ปาจิตฺติยเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๓).
๖๓๓. ‘‘ปาริวตฺตกํ ทสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คณฺหาติ, โทโส น วิชฺชตีติ โยชนา.
๖๓๔. อฺํ ปริกฺขารนฺติ ถวิกกายพนฺธนาทิ อวิกปฺปิยํ วา อวิกปฺปนุปคํ วา ปริกฺขารเมว คเหตพฺพํ. วิกปฺปนุปคํ ปน น วฏฺฏติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาณํ ปน ปฏปริสฺสาวนมฺปิ น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๔). จีวรปฏิคฺคณฺหนํ กิริยา, ปาริวตฺตกสฺส อทานํ อกิริยาติ กิริยาย จ อกิริยาย จ อาปชฺชิตพฺพโต กฺริยากฺริยํ.
จีวรปฏิคฺคหณกถาวณฺณนา.
๖๓๕. ‘‘อฺาตกํ อปฺปวาริต’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ‘‘คหปตึ วา คหปตานึ วา’’ติ ปาเสโส. วุตฺตฺหิ ภควตา ‘‘อฺาตกํ คหปตึ วา คหปตานึ วา’’ติ (ปารา. ๕๑๖, ๕๑๘). ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา สมฺพทฺธฺาติกตาย อภาวโต อฺาตกํ. ‘‘ยํ มยฺหํ เคเห ¶ อตฺถิ, ตํ ปวาเรมี’’ติอาทินา นเยน อปฺปวาริตํ. ‘‘คหปติ นาม โย โกจิ อคารํ อชฺฌาวสตี’’ติ (ปารา. ๕๑๙) ปาฬิยํ วุตฺตํ คหปตึ วา. ‘‘คหปตานี นาม ยา กาจิ อคารํ อชฺฌาวสตี’’ติ (ปารา. ๕๑๙) ปาฬิยํ วุตฺตํ ฆรณึ วาติ อตฺโถ.
โหติ นิสฺสคฺคิยาปตฺตีติ ‘‘อฺตฺร สมยา วิฺาเปติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ (ปารา. ๕๑๙) ปาฬิยํ วุตฺเตสุ สพฺเพสุ ปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกเฏน สทฺธึ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํ ¶ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อฺตฺร สมยาติ ‘‘ตตฺถายํ สมโย, อจฺฉินฺนจีวโร วา โหติ ภิกฺขุ นฏฺจีวโร วา’’ติ (ปารา. ๕๑๘) มาติกาย, ‘‘อจฺฉินฺนจีวโร นาม ภิกฺขุสฺส จีวรํ อจฺฉินฺนํ โหติ ราชูหิ วา โจเรหิ วา ธุตฺเตหิ วา เยหิ เกหิจิ วา อจฺฉินฺนํ โหติ. นฏฺจีวโร นาม ภิกฺขุสฺส จีวรํ อคฺคินา วา ทฑฺฒํ โหติ, อุทเกน วา วูฬฺหํ โหติ, อุนฺทูเรหิ วา อุปจิกาหิ วา ขายิตํ โหตี’’ติ (ปารา. ๕๑๙) ปทภาชเน จ นิทฺทิฏฺสรูปกาลโต อฺตฺราติ อตฺโถ.
๖๓๖. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อฺาตเก อฺาตกสฺี, เวมติโก, าตกสฺี อฺตฺร สมยา จีวรํ วิฺาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๒๐) ปาจิตฺติยตฺตยํ ภควตา วุตฺตํ. ‘‘าตเก อฺาติสฺิสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ตตฺถาติ ตสฺมึ าตเก. เวมติกสฺสาติ ‘‘าตโก นุ โข, อฺาตโก’’ติ เวมติกสฺส. ทฺวิกทุกฺกฏํ ตเถวาติ โยชนา. ‘‘ตเถวา’’ติ ‘‘วุตฺต’’นฺติ อิทํ อากฑฺฒติ, ‘‘าตเก อฺาตกสฺี, เวมติโก อฺตฺร สมยา จีวรํ วิฺาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๒๐) เทสิตนฺติ อตฺโถ.
๖๓๗-๘. สมเย ¶ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘จีวรํ อฺาตกอปฺปวาริต’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, ยถาปริจฺฉินฺนกาลทฺวยโต อฺตรสฺมึ กาเล อฺาตกอปฺปวาริตํ จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. าตเก วา ปวาริเตติ เอตฺถาปิ ‘‘อตฺตโน’’ติ อชฺฌาหาโร, ‘‘สมเย’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ, อตฺตโน าตกปวาริเต อสมเยปิ จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อฺสฺสตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘อตฺตโน’’ติ เสโส, อตฺตโน าตเก, ปวาริเต วา วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา, อฺํ ภิกฺขุํ นิสฺสาย อตฺตโน าตเก วา ปวาริเต วา จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อิตรํ ปกฺขํ ทสฺเสติ ‘‘ตสฺส าตเก วา ปวาริเต วา’’ติ. ตสฺสาติ ‘‘อฺสฺสา’’ติ วุตฺตสฺส, ‘‘วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ. วาติ ปุริมวิกปฺปาเปกฺขํ. ยํ สนฺธาย จีวรํ วิฺาเปติ, ตสฺส าตเก วา ปวาริเต วา ตํเยว สนฺธาย จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘อตฺตโน วา ธเนนา’’ติ วุตฺตํ อนาปตฺติองฺคํ อุมฺมตฺตกาทิโนติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สงฺคยฺหติ ¶ , อตฺตโน สนฺตกํ สุตฺตกปฺปาสาทิกํ กปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา คณฺหิตุกามตาย อกปฺปิยโวหาเรน ยาจนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
อฺาตกวิฺตฺติกถาวณฺณนา.
๖๓๙. อปฺปวาริตมฺาตินฺติ เอตฺถ ‘‘คหปตึ วา คหปตานึ วา’’ติ อิทํ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ตตุตฺตรินฺติ ตโต สนฺตรุตฺตรปรมโต อุตฺตรินฺติ คเหตพฺพํ, ‘‘สนฺตรุตฺตรปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตโต จีวรํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๒๓) วุตฺตตฺตา ¶ อจฺฉินฺนจีวเรน สาทิตพฺพอนฺตรวาสกอุตฺตราสงฺคมตฺเตน อธิกนฺติ อตฺโถ.
‘‘ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺยา’’ติ (ปารา. ๕๒๓) วจนโต ‘‘สาทิยนฺตสฺสา’’ติ วตฺตพฺพํ, เอวํ วตฺตพฺเพ ‘‘วิฺาเปนฺตสฺสา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ? อจฺฉินฺนจีวรานํ ภิกฺขูนํ ฉพฺพคฺคิเยหิ ภิกฺขูหิ จีวรวิฺาปนวตฺถุสฺมึ ‘‘กถฺหิ นาม ตุมฺเห โมฆปุริสา น มตฺตํ ชานิตฺวา พหุํ จีวรํ วิฺาเปสฺสถา’’ติ (ปารา. ๕๒๒) ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู ครหิตฺวา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา ‘‘สาทิตพฺพ’’นฺติ เอตฺถ วิฺาเปตพฺพนฺติ อตฺโถ โหติ, เตเนว อิมสฺมึ ปทภาชเน ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺยาติ ตตุตฺตริ วิฺาเปตี’’ติ (ปารา. ๕๒๔) จ อาปตฺติเภทสนฺทสฺสนฏฺาเน ‘‘อฺาตเก อฺาตกสฺี ตตุตฺตริ จีวรํ วิฺาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิวจนโต (ปารา. ๕๒๕) จ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ สิกฺขาปเทเยว ‘‘สาทิตพฺพํ, สาทิเยยฺยา’’ติ จ อุภยตฺถ ‘‘วิฺาเปตพฺพํ, วิฺาเปยฺยา’’ติ จ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? อจฺฉินฺนจีวรภาวํ ตฺวา อวิฺาปิเตปิ อภิหริตฺวา ทิยฺยมานมฺปิ อธิวาเสนฺเตน เอวเมว สาทิตพฺพนฺติ น วุตฺตํ. อิมสฺเสว จ อธิกวิฺาปนนิเสธนตฺถํ วทนฺเตนาปิ ‘‘ตฺเจ อฺาตโก คหปติ วา คหปตานี วา พหูหิ จีวเรหิ อภิหฏฺุํ ปวาเรยฺย, สนฺตรุตฺตรปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตโต จีวรํ สาทิตพฺพ’’นฺติ สาทิตพฺพนิยมปฺปธานํ วุตฺตํ. ตสฺมา อจฺฉินฺนจีวเรน อตฺตนา วา ตํ สนฺธาย อฺเน วา วิฺาเปนฺเตนปิ อวิฺาเปนฺเตปิ ทิยฺยมานํ สาทิยนฺเตนาปิ สนฺตรุตฺตรปรมตํ นาติกฺกมิตพฺพนฺติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท สนฺธาย ภาสิตตฺโถติ สลฺลกฺเขตพฺพนฺติ เอตฺตกํ าเปตุํ ‘‘สาทิยนฺตสฺสา’’ติ อวตฺวา ‘‘วิฺาเปนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตนฺติ อาจริยาภิสนฺธิ เวทิตพฺพา.
๖๔๐. อิทานิ ¶ ¶ วิฺาปเน จ อธิวาสเน จ อุภยตฺเถว นิยมํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ ตีณิ นฏฺานิ โหนฺติ, ทฺเว สาทิตพฺพานิ. ทฺเว นฏฺานิ, เอกํ สาทิตพฺพํ. เอกํ นฏฺํ, น กิฺจิ สาทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๒๔) ปทภาชเน วุตฺตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘ยสฺส ตีณิปิ นฏฺานิ, ทฺเว วา นฏฺานิ, เอกํ วา นฏฺ’’นฺติ สมฺพนฺธิตฺวา ยถากฺกมํ ‘‘เตน ทฺเว สาทิตพฺพานิ, เอกํ สาทิตพฺพํ, น กิฺจิปิ สาทิตพฺพ’’นฺติ โยชนา กาตพฺพา. ยสฺส ตีณิปิ จีวรานิ นฏฺานิ, พหุ จ ทิยฺยติ, เตน ทฺเวเยว จีวรานิ สาทิตพฺพานิ. ทฺเว จีวรานิ นฏฺานิ, เอกํ สาทิตพฺพํ. เอกฺเจ นฏฺํ, น สาทิตพฺพํ, อวสิฏฺํ ปจฺฉา ธมฺเมน สเมน ลทฺธนีหาเรน คเหตพฺพนฺติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เสสํ สภาคฏฺานโต ปริเยสิสฺสตี’’ติ. ‘‘ภิกฺขุนิยา ปน ปฺจสุปิ นฏฺเสุ ทฺเว สาทิตพฺพานิ, จตูสุ นฏฺเสุ เอกํ สาทิตพฺพํ, ตีสุ นฏฺเสุ กิฺจิ น สาทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๒๒-๕๒๔) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๖๔๑-๒. เสสกํ อาหรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. เอวมุปริปิ โยเชตพฺพํ. จีวรํ โยเชตฺวา อติเรกํ วตฺถํ ปจฺจาหริตฺวา ‘‘ทสฺสามี’’ติ พหุมฺปิ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อติเรกมฺปิ ตุมฺเหเยว คณฺหถาติ ทินฺนํ คณฺหโตปิ อนาปตฺติ. น อจฺฉินฺนการณา ทินฺเนติ โยชนา, อจฺฉินฺนจีวรภาวํ อนุทฺทิสฺส พหูนํ จีวรานํ คหณนิมิตฺเตนาปิ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. เอวเมว ‘‘น นฏฺการณา เทนฺตี’’ติ อิทมฺปิ ทสฺสิตเมว. อจฺฉินฺนจีวเร นิสฺสาย ตตุตฺตริจีวรวิฺาปนวตฺถุมฺหิ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา อนาปตฺติวาเร ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ น คหิตํ.
ตตุตฺตริกถาวณฺณนา.
๖๔๓. กลฺยาณกมฺยตาเหตูติ ¶ สุนฺทรสฺส มหคฺฆสฺส กามตํ ปฏิจฺจ จีวเร วิกปฺปนํ อาปชฺเชยฺยาติ โยชนา, ‘‘กีทิเสน เต ภนฺเต จีวเรน อตฺโถ’’ติ ปุพฺเพ อปฺปวาริโต ‘‘อายตํ วา โหตุ วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา สณฺหํ วา’’ติ (ปารา. ๕๒๙) ปทภาชเน วุตฺตวิสิฏฺกปฺปํ อธิกวิธานํ กโรตีติ อตฺโถ. ตสฺส ลาภา นิสฺสคฺคิยํ ภเวติ ตถา อปฺปวาริเตน หุตฺวา กเตน อธิกวิธาเนน นิปฺผนฺนจีวรสฺส ลาภปฺปโยเคน ทุกฺกฏนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยา โหนฺติ.
๖๔๔. มหคฺฆํ ¶ …เป… วิฺาเปตีติ วีสติอคฺฆนกํ จีวรํ ทาตุกามมฺหิ อุปาสเก, ‘‘อลํ มยฺหํ เอเตน, ทสคฺฆนกํ วา อปฺปคฺฆนกํ วา เทหี’’ติ วทติ.
๖๔๕. ‘‘าตเก อฺาติสฺิสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท.
ปโมปกฺขฏกถาวณฺณนา.
๖๔๖. ปมสิกฺขาปเท เอเกน อุปาสเกน ปีฬา ลทฺธา, อิธ ทฺวีหีติ เอตฺตกํ นานากรณํ. เสสํ ปมสิกฺขาปทสทิสเมวาติ อาห ‘‘ทุติโย…เป… วินิจฺฉโย’’ติ. อุปกฺขฏปเทน ลกฺขิตํ สิกฺขาปทํ อุปกฺขฏํ, ทุติยฺจ ตํ อุปกฺขฏฺจาติ ทุติโยปกฺขฏํ, ตสฺมึ ทุติโยปกฺขเฏ. อสฺสาติ ทุติโยปกฺขฏสฺส.
ทุติโยปกฺขฏกถาวณฺณนา.
๖๔๗. รฺา วาติ ราชโต วา. ราชโต โภคฺคํ ภฺุชิตพฺพํ อสฺส อตฺถีติ ‘‘ราชโภคฺโค’’ติ วุตฺโต, ราชโต ภตฺตเวตฺตนลาภิโต ยโต กุโตจิ ทายกา อาภตนฺติ สมฺพนฺโธ. น จ วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยภาวโต’’ติ ¶ อชฺฌาหริตพฺพํ. อิธ อุตฺตริกรณียํ ‘‘ติกฺขตฺตุ’’นฺติอาทิคาถาย (วิ. วิ. ๖๗๑) วกฺขติ.
๖๔๘. จีวรเจตาปนฺนวเสน อธิคตรชตาทิ เยน เกนจิ ปริยาเยนาปิ น สาทิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘รชตํ วา’’ติอาทิ. ธวลสภาวตาย ราชตีติ รชตํ, สชฺฌุ. ชาตํ รูปํ วณฺณายตนเมตสฺสาติ ชาตรูปํ, สุวณฺณํ. กิฺจีติ อปฺปมตฺตกมฺปิ. อตฺตโน วา อตฺถาย ปรสฺส วา อตฺถาย ทิยฺยมานํ กิฺจิ คณฺหิตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๖๔๙. อตฺตโน ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติยา รูปิยคหณสิกฺขาปเท วกฺขมานตฺตา อฺสฺส อตฺถาย คหเณ อาปตฺติทสฺสนตฺถมาห ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติอาทิ. ตตฺถ อฺสฺสตฺถายาติ อฺสฺส ปุคฺคลสฺส, คณสฺส, สงฺฆสฺส, เจติยสฺส, นวกมฺมสฺส วา อตฺถาย. นิทฺทิฏฺนฺติ อาหริตฺวา ‘‘อิมํ คณฺหถา’’ติ วุตฺตํ รชตํ, ชาตรูปํ วา อฺํ วา ยํ กิฺจิ นิสฺสคฺคิยทุกฺกฏวตฺถุํ ¶ ปฏิคฺคณฺหโต ตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๖๕๐-๑. วุตฺตเมวตฺถํ สรูปโต วิภาเวตุมาห ‘‘เนตฺวา’’ติอาทิ. เนตฺวาติ อาเนตฺวา. อกปฺปิยํ ภณฺฑนฺติ ‘‘รชตํ ชาตรูปํ วา’’ติ ยถาวุตฺตเมว อกปฺปิยภณฺฑํ. อิตฺถนฺติ วกฺขมานปฺปกาเรน. น จ วฏฺฏตีติ เอตฺถ จ-กาเรน วฏฺฏติ จาติ อนฺุาตํ กตนฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ –
‘‘สเจ ปน ‘นยิทํ ภิกฺขูนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’ติ ปฏิกฺขิตฺเต ‘วฑฺฒกีนํ วา กมฺมกรานํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห สุกตทุกฺกฏํ ชานาถา’ติ วตฺวา เตสํ หตฺเถ ทตฺวา ปกฺกมติ, วฏฺฏติ. อถาปิ ‘มม มนุสฺสานํ หตฺเถ ภวิสฺสติ, มยฺหเมว ¶ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห ยํ ยสฺส ทาตพฺพํ, ตทตฺถาย เปเสยฺยาถา’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙).
๖๕๒. วิหารสฺสาติ เอตฺถ ‘‘นวกมฺมสฺสา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา วตฺตพฺพํ คาถาพนฺธวเสน น วุตฺตํ.
๖๕๔. รชตํ ชาตรูปํ วา สงฺฆสฺสาติ เอตฺถ ‘‘จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชถาติ ทินฺน’’นฺติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน โกจิ พหุมฺปิ หิรฺสุวณฺณํ อาเนตฺวา ‘อิทํ สงฺฆสฺส ทมฺมิ, จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชถา’ติ วทติ, ตํ เจ สงฺโฆ สมฺปฏิจฺฉติ, ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙). เอวํ อาภตํ ตสฺมึ สงฺเฆ โย โกจิ ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ สเจ ปฏิกฺขิปติ, ‘‘อยํ สงฺฆสฺส ลาภนฺตรายํ กโรตี’’ติ วทนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘โย หิ ตํ โจเทติ, สฺเวว สาปตฺติโก โหติ, เตน ปน เอเกน พหู อนาปตฺติกา กตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙). อิธ สฺเวว สาปตฺติโกติ เอตฺถ ‘‘ทุกฺกฏาปตฺติโกติ วุตฺตํ โหตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. อิมิสฺสา คาถาย ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ อลิขิตฺวา ‘‘ภิกฺขุโน’’ติ จ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. อิทานิ ทสฺสิตอฏฺกถาปาเ ‘‘สงฺโฆ สมฺปฏิจฺฉตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙) วุตฺตตฺตา ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ ปาโ สุนฺทโร.
๖๕๕. ตฬากสฺสาติ ¶ วาปิยา. สสฺสุปฺปตฺตินิทานโต ตฬากํ เขตฺตํ, ตโต ตสฺส คหณํ วา ปริโภโค วา น จ วฏฺฏตีติ โยชนา. ตฬากสฺส จาติ เอตฺถ จ-กาเรน เขตฺตวตฺถุ สงฺคหิตํ. น จ วฏฺฏตีติ เอตฺถ จกาเรน วฏฺฏติ จาติ ทสฺสิตํ โหติ.
๖๕๖. ตํ ¶ กตมนฺติ อาห ‘‘จตฺตาโร’’ติอาทิ. สพฺพมฺปีติ ตฬากโปกฺขรณิเขตฺตาทิ สพฺพมฺปิ.
๖๕๘-๙. อปริจฺฉินฺนภาคสฺมินฺติ ‘‘อิมสฺมึ ภูมิภาเค กตสฺส กมฺเมหิ เอตฺตโก ภาโค เทยฺโย’’ติ เอวํ ปุพฺเพ อนิยมิตอาเย ภูมิภาเค. อกตปุพฺพํ นวสสฺสํ นาม. เอตฺตกํ ภาคํ เทถาติ เอตฺตกํ กหาปณภาคํ เทถ. อุฏฺาเปตีติ อุปฺปาเทติ.
‘‘กสถ วปถา’’ติ อกปฺปิยํ วาจํ วตฺวาติ โยชนา. วปถาติ จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท อิธ อวุตฺตํ ตํกตฺตุโยคกาเล วุจฺจมานํ อกปฺปิยวจนนฺตรํ สมุจฺจิโนติ. อุปฺปาทิตฺจาติ เอตฺถ จ-สทฺโท กหาปณํ สมุจฺจิโนติ. สพฺพนฺติ ตถา อุปฺปาทิตกหาปณฺจ เอวํ อกปฺปิยโวหาเรน อุปฺปาทิตฺจาติ สพฺพํ.
๖๖๐. กสถาทิกํ วจนํ อวตฺวา ‘‘เอตฺติกาย ภูมิยา เอตฺตโก นาม ภาโค’’ติ ภูมึ โย จ ปติฏฺาเปติ, ตสฺเสเวตมกปฺปิยนฺติ วกฺขมาเนน โยเชตพฺพํ. จ-สทฺโท ‘‘โย ปนา’’ติ วกฺขมานปุคฺคลนฺตราเปกฺโข.
๖๖๑-๒. ภูมิยา สยเมว ปมาณสฺส ชานนตฺถํ ตูติ โยชนา, ‘‘เอตฺตเก ภูมิภาเค อมฺเหหิ สสฺสํ กตํ, เอตฺตกํ นาม ภาคํ คณฺหถา’’ติ กสเกหิ วุตฺเต เตสํ วจนํ อสทฺทหิตฺวา สยเมว เขตฺตภูมิยา ปมาณํ าตุกามตายาติ อตฺโถ. ตุ-สทฺโท อิมเมว วิเสสํ โชเตติ. โย ปน มินาติ, ตสฺเสเวตมกปฺปิยนฺติ วกฺขมาเนน โยเชตพฺพํ. รชฺชุยาปิ จ ทณฺเฑนาติ เอตฺถ ปาเทนาปิ มินิตุํ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ‘‘รกฺขตี’’ติอาทิกิริยาปเทหิปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ.
ขเล ¶ ตฺวา รกฺขตีติ ธฺกรเณ ตฺวา อฺเ คณฺหิตุํ อทตฺวา ปาเลติ. กถํ รกฺขิตุํ ¶ วฏฺฏติ, กถํ รกฺขิตุํ น วฏฺฏตีติ? ตํ ปน วีหึ ‘‘อิทํ วา เอตฺตกํ วา มา คณฺห, อิทํ คเหตุํ น ลพฺภตี’’ติ วา ‘‘อิโต อปเนหิ, อิธ ปฺุชํ กโรหี’’ติ วา เอวมาทินา ปโยเคน เจ รกฺขติ, ตํ อกปฺปิยํ. สเจ ‘‘มยิ ิเต รกฺขิตํ โหตี’’ติ รกฺขติ, คณฺหนฺเต วา ปสฺสิตฺวา ‘‘กึ กโรถา’’ติ ภณติ, วฏฺฏติ. รูปิยปฏิคฺคหณสิกฺขาปเท ทฺวารํ ปิทหิตฺวา รกฺขนฺเตน วสิตพฺพนฺติ หิ วุตฺตนฺติ คณฺิปเท วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อฺสฺมิมฺปิ คณฺิปเท วุตฺตํ ‘‘เถเนตฺวา คณฺหนฺเต สติ เอตํ โภ ปวตฺตึ ภิกฺขุสงฺฆสฺส กึ อาโรเจสฺสามีติ ปฏิปุจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺตี’’ติ. นีหราเปตีติ เอตฺถาปิ สเจ ปริยาเยน วทติ, วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ตสฺเสเวตมกปฺปิยนฺติ อิทํ เขตฺตมินนาทึ กโรนฺเตน ลทฺธพฺพโต อฺสฺส อภินวุปฺปาทิตสฺส อภาวา อฺเสํ วฏฺฏตีติ ทฺวีสุ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.
๖๖๓. ‘‘เอตฺตเกหิ วีหีหิ อิทํ อาหรถา’’ติ วุตฺตา สเจ อาหรนฺตีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘ตสฺเสเวตมกปฺปิย’’นฺติ อิทํ ธฺสฺส วิจาริตตฺตา วุตฺตํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺเสว อกปฺปิยํ. กสฺมา? ธฺสฺส วิจาริตตฺตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙).
๖๖๔. หิรฺเนาติ กหาปเณน. ‘‘ตมกปฺปิย’’นฺติ อิทํ กหาปณานํ วิจาริตตฺตา วุตฺตํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สพฺเพสํ อกปฺปิยํ. กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙).
๖๖๕. เปสการกทาสํ วาติ เปสการกสงฺขาตํ ทาสํ วา, เปสกาโร ตนฺตวาโย. อารามิกานํ นาเมน เทนฺเตติ ‘‘อารามิกํ ทมฺมิ, เวยฺยาวจฺจกรํ ทมฺมี’’ติอาทินา นเยน เทนฺเต.
๖๖๖. ขีรํ ¶ ทธิ ตกฺกํ สปฺปิ นวนีตนฺติ ปฺจโครสา.
๖๖๗. อชิกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน มหิสํ สงฺคณฺหาติ.
๖๖๙. ปฏิสิทฺเธปีติ ปฏิกฺขิตฺเตปิ. มูลํ ทตฺวาติ กปฺปิยภณฺฑมูลํ ทตฺวา. กุกฺกุฏาทโย ปน ‘‘สุเขน วสนฺตู’’ติ อรฺเเยว วิสฺสชฺเชตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กุกฺกุฏสูกเร ¶ ‘สุขํ ชีวนฺตู’ติ อรฺเ วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙). สูกรมยูราทีสุปิ ลทฺเธสุ เตสํ อนุรูเปเยว วิสเย วิสฺสชฺเชตพฺพา.
๖๗๑. ‘‘ติกฺขตฺตุ’’นฺติอาทิคาถาย โก สมฺพนฺโธ? ‘‘รฺา วา ราชโภคฺเคนา’’ติอาทิคาถาย สงฺคหิตนเยน ราชราชามจฺจพฺราหฺมณคหปตาทีสุ เยน เกนจิ อตฺตนา วา จีวรเจตาปนฺเนน จีวรํ เจตาเปตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวเรน อจฺฉาเทหี’’ติ วตฺวา ตํ จีวรเจตาปนฺนสงฺขาตํ จีวรมูลํ ทตฺวา ปหิตทูเตน วา ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิทํ โข ภนฺเต อายสฺมนฺตํ อุทฺทิสฺส จีวรเจตาปนฺนํ อาภตํ, ปฏิคฺคณฺหาตุ อายสฺมา จีวรเจตาปนฺน’’นฺติ ยทิ วุจฺเจยฺย, ภิกฺขุนา ‘‘น โข มยํ อาวุโส จีวรเจตาปนฺนํ ปฏิคฺคณฺหาม, จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหาม กาเลน กปฺปิย’’นฺติ วุตฺเต สเจ เตน ‘‘อตฺถิ ปนายสฺมโต โกจิ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ วุตฺเต จีวรตฺถิเกน ภิกฺขุนา ‘‘เอโส โข อาวุโส ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ อารามิเก วา อุปาสเก วา ทสฺสิเต ยทิ โส ตสฺส อตฺตนา อาหริตฺวา ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน จีวเรน อตฺเถ สติ อิมินา จีวรํ เจตาเปตฺวา อจฺฉาเทหี’’ติ วตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ยํ โข ภนฺเต อายสฺมา เวยฺยาวจฺจกรํ นิทฺทิสิ, สฺตฺโต โส มยา, อุปสงฺกมตุ อายสฺมา กาเลน, จีวเรน ¶ ตํ อจฺฉาเทสฺสตี’’ติ ยทิ วเทยฺย, เตน จีวรตฺถิเกน ภิกฺขุนา กึ กาตพฺพนฺติ ภควตา วุตฺตนฺติ อาหาติ อยมิมิสฺสา คาถาย สมฺพนฺโธ.
ติกฺขตฺตุํ โจทนา วุตฺตาติ ‘‘จีวรตฺถิเกน ภิกฺขเว ภิกฺขุนา เวยฺยาวจฺจกโร อุปสงฺกมิตฺวา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจเทตพฺโพ สาเรตพฺโพ ‘อตฺโถ เม อาวุโส จีวเรนา’’ติ ติกฺขตฺตุํ โจทนา กาตพฺพาติ วุตฺตา.
ฉกฺขตฺตุํ านมพฺรวีติ ‘‘ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจทยมาโน สารยมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทยฺย, อิจฺเจตํ กุสลํ, โน เจ อภินิปฺผาเทยฺย, จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๓๘) วุตฺตตฺตา ติกฺขตฺตุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อตฺโถ เม อาวุโส จีวเรนา’’ติ กตาย โจทนาย น นิปฺปชฺเชยฺย, เตน ปุน คนฺตฺวา ยํ กิฺจิ อวตฺวา ‘‘น อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น อามิสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, น ธมฺโม ภาสิตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๕๓๙) วจนโต านภฺชนกํ นิสชฺชาทึ กิฺจิ อกตฺวา ‘‘กึ การณํ อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิเต ‘‘ชานาหิ ¶ , อาวุโส’’ติ เอตฺตกมตฺตํ วตฺวา อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ฉกฺขตฺตุํ านํ สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตินา ภควตา เทสิตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ยทิ โจเทติเยวาติ สเจ านํ อกตฺวา โจทนามตฺตํ กโรติ, ฉ อพฺรวีติ โยชนา, ‘‘โจทนา’’ติ สามตฺถิยโต ลพฺภติ, ฉกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา สกิมฺปิ น าตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ฉโจทนํ อกตฺวา โย านเมว กโรติ, เตน กติ านานิ กาตพฺพานีติ อาห ‘‘โจทนาทิคุณา ิตี’’ติ, ‘‘กาตพฺพา’’ติ เสโส, ‘‘อพฺรวี’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ, ‘‘จตุกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา จตุกฺขตฺตุํ าตพฺพํ, ปฺจกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา ทฺวิกฺขตฺตุํ าตพฺพํ, ฉกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา น ¶ าตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๓๙) วจนโต, ‘‘ฉกฺขตฺตุปรม’’นฺติ (ปารา. ๕๓๙) วจนโต จ ฉกฺขตฺตุํ โจทนาย ทิคุณา ทฺวาทสกฺขตฺตุกา ิติ โหตีติ สิทฺธตฺตา โจทนเมว อกตฺวา านมตฺตเมว กโรนฺตสฺส ทฺวาทสกฺขตฺตุํ วุตฺตนเยน าตพฺพเมวาติ วุตฺตํ โหติ. ตโต ปรํ กาตพฺพํ อทสฺเสตฺวา เอตฺตเกเนว นิวตฺเตตพฺพนฺติ าเปนฺโต ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ วายมมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๓๙) วุตฺตนยา อาปตฺติ โหตีติ ทสฺเสติ.
๖๗๒. ‘‘อโจเทตฺวา ลทฺเธ’’ติ อิทํ อุปลกฺขณํ ‘‘อฏฺตฺวา ลทฺเธ’’ติ จ คยฺหมานตฺตา.
ราชสิกฺขาปทกถาวณฺณนา.
จีวรวคฺโค ปโม.
๖๗๓. ‘‘เอเกนาปี’’ติ อิมินา กึ ปน ทฺวีหิ, พหูหิ วาติ วุตฺตํ โหติ. มิสฺเสตฺวาติ อนฺตมโส วาเตน อาหเฏนาปิ โกสิยํสุนา มิสฺเสตฺวา. สนฺถตนฺติ ‘‘สนฺถตํ นาม สนฺถริตฺวา กตํ โหติ อวายิม’’นฺติ (ปารา. ๕๔๔) ปทภาชเน จ ‘‘สเม ภูมิภาเค โกสิยํสูนิ อุปรูปริ สนฺถริตฺวา กฺชิกาทีหิ สิฺจิตฺวา กตํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๔๒) อฏฺกถาย จ วุตฺตสรูปํ กฺชิกํ สิฺจิตฺวา โกสิยํสูนิ อตฺถริตฺวา ยาว พหลมิจฺฉติ, ตาว วฑฺเฒตฺวา นิสีทนนิปชฺชนาทิอตฺถํ กาตพฺพํ สนฺถตนฺติ อตฺโถ. โกสิยํสุนาติ โกสิยกิมิโกสิยสฺส อิทนฺติ โกสิยํ, สุตฺตํ, ตสฺส สุตฺตสฺส อํสุ, เตน โกสิยํสุนาติ อตฺโถ ¶ . การาเปนฺตสฺสาติ อุปลกฺขณตฺตา ¶ ‘‘กโรนฺตสฺสา’’ติปิ คเหตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘การาเปยฺยาติ เอเกนาปิ โกสิยํสุนา มิสฺเสตฺวา กโรติ วา การาเปติ วา’’ติ (ปารา. ๕๔๔). เตเนวาห ‘‘ปรตฺถาย กโรนฺตสฺส การาเปนฺตสฺสา’’ติ.
๖๗๕. ภูมตฺถรณนฺติ ปริกมฺมกตาย ภูมิยา ฉวิรกฺขนตฺถาย อตฺถริตพฺพํ อตฺถรณํ. ภิสิ นาม มฺจภิสิ, ปีภิสีติ ทฺวยํ. พิพฺโพหนํ อุปธานํ.
โกสิยกถาวณฺณนา.
๖๗๖. กาฬเกฬกโลมานนฺติ ‘‘กาฬกํ นาม ทฺเว กาฬกานิ ชาติยา กาฬกํ วา รชนกาฬกํ วา’’ติ (ปารา. ๕๔๙) วจนโต เอวํ กาฬกานํ เอฬกโลมานํ. สุทฺธานนฺติ อิตรวณฺเณหิ เอฬกโลเมหิ อมิสฺสานํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สุทฺธกาฬกานนฺติ สุทฺธานํ กาฬกานํ, อฺเหิ อมิสฺสิตกาฬกานนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๔๗). กเรยฺยาติ กโรนฺตสฺส จ การาเปนฺตสฺส จาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘การาเปยฺยาติ กโรติ วา การาเปติ วา’’ติ. อาปตฺติ โหตีติ ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏฺจ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยฺจ อาห.
สุทฺธกาฬกกถาวณฺณนา.
๖๗๗. โอทาตํ ตุลํ วา พหุํ วา สพฺพเมว วา คเหตฺวานาติ โยชนา. กปิลมฺปิ วาติ เอตฺถาปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ. เอตฺถ สพฺพเมว วาติ สนฺถตสฺส คเหตพฺพํ สพฺพเมว วา โลมํ. กโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘สนฺถต’’นฺติ อธิการโต ¶ ลพฺภติ. ‘‘นว’’นฺติ อิทํ ‘‘กโรนฺตสฺสา’’ติ ปทสามตฺถิเยน ลพฺภติ, นวํ สนฺถตํ กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ, ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. กปิลมฺปิ วาติ วากาเรน ปการนฺตเรนาปิ กโรนฺตสฺส อนาปตฺตึ สงฺคณฺหาติ. เสยฺยถิทํ? ‘‘นวํ ปน ภิกฺขุนา สนฺถตํ การยมาเนน ทฺเว ภาคา สุทฺธกาฬกานํ เอฬกโลมานํ อาทาตพฺพา ตติยํ โอทาตานํ จตุตฺถํ โคจริยาน’’นฺติ (ปารา. ๕๕๓) มาติกาย อนฺุาตปฺปกาโร เวทิตพฺโพ.
เอตฺถ ¶ ‘‘โอทาตํ กปิลมฺปิ วา’’ติ เอตสฺส ‘‘พหุํ วา’’ติ วิเสสเนน กาฬกานํ เอฬกโลมานํ ยถาวุตฺตภาคทฺวยโต อธิกํ เอฬกโลมมฺปิ น คเหตพฺพนฺติ ทีเปติ เกวลานํ กาฬกานํ เอฬกโลมานํ อคฺคเหตพฺพตาย ปมสิกฺขาปเทเนว วุตฺตตฺตา. ‘‘สพฺพเมว วา’’ติ อิมินาปิ ปุริมสิกฺขาปเท วิย อิเม โอทาตาทโย สพฺเพ เกวลา น คเหตพฺพา น โหนฺตีติ ทสฺสิตํ โหติ. ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิมินา เอวํ อกตฺวา อฺเน ปกาเรน กโรนฺตสฺส อาปตฺติ โหตีติ พฺยติเรกโต ทีปิตํ โหติ.
เสยฺยถิทํ? วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘อนาทา เจ ภิกฺขุ ทฺเว ภาเค สุทฺธกาฬกานํ เอฬกโลมานํ ตติยํ โอทาตานํ จตุตฺถํ โคจริยานํ นวํ สนฺถตํ การาเปยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ. ยตฺตกปฺปมาเณหิ เอฬกโลเมหิ นวํ สนฺถตํ กาตุกาโม โหติ, เต โลเม จตุภาคํ ตุลยิตฺวา ทฺเว ตุเล วา อูเน วา กาฬกโลเม คเหตฺวา เอกํ ตุลํ โอทาเตหิ วา เอกํ ตุลํ โคจริเยหิ วา กาฬเกหิ วา อูเน กตฺวา ทฺวีหิปิ อธิเก วา กตฺวา กาฬกโลเม วชฺเชตฺวา ทฺวีสุ เอกํ วา ทฺเว เอว วา คเหตฺวา กาตฺุจ การาเปตฺุจ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ ¶ . เอวํ อนาปตฺติทสฺสเนน สพฺโพปิ สิกฺขาปทตฺโถ สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ.
๖๗๘. ‘‘อนุกฺกเมนา’’ติ อิมินา อิมเมว อคฺคเหตฺวา ปุริมานนฺตรํ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ คเหตพฺพนฺติ ทีเปติ. นิสฺสชฺชิตฺวา ลทฺธานิปีติ โยชนา. ‘‘อปี’’ติ อิมินา ‘‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๕๕) วุตฺตทุกฺกฏฺจ ‘‘นิสฺสคฺคิยํ จีวรํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๖๘) ปมนิสฺสคฺคิยสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน อิหาปิ ‘‘นิสฺสคฺคิยํ สนฺถตํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตมฺปิ ธมฺมสงฺคหการเกหิ เปยฺยาลวเสน สํขิตฺตํ ตํ ทุกฺกฏฺจาติ อิทํ ทฺวยํ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๖๗๙. ตติยํ ตุ กฺริยากฺริยนฺติ อิทํ ตติยสิกฺขาปทํ ปน ‘‘ทฺเว ภาคา สุทฺธกาฬกาน’’นฺติอาทินา (ปารา. ๕๕๔) วุตฺตนเยน อคฺคเหตฺวา กาฬกานํ อติเรกคฺคหณวเสน อนนฺุาตปฺปกาเรน กรณโต กิริยากิริยํ นาม. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อาทาย จ อนาทาย จ กรณโต กิริยากิริย’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๕๒).
ทฺเวภาคกถาวณฺณนา.
๖๘๐. ฉนฺนํ ¶ วสฺสานํ โอเรนาติ ปุพฺเพ สนฺถตสฺส กตทิวสโต ปฏฺาย อุปริ ฉนฺนํ วสฺสานํ อพฺภนฺตเรติ อตฺโถ. โหติ นิสฺสคฺคิยาปตฺตีติ ฉพฺพสฺสนฺตเร กตสนฺถตํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, การกสฺส จ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ. ภิกฺขุสมฺมุตึ เปตฺวาติ สนฺถตํ คเหตฺวา อทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺชิตุํ อสมตฺถสฺส คิลานสฺส ‘‘อหํ ภนฺเต คิลาโน ¶ น สกฺโกมิ สนฺถตํ อาทาย ปกฺกมิตุํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ สนฺถตสมฺมุตึ ยาจามี’’ติ (ปารา. ๕๕๙) สงฺฆมชฺเฌ นิสชฺช อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ติกฺขตฺตุํ ยาจิเต ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย คตฏฺาเน ฉพฺพสฺสานํ อนฺโตปิ สนฺถตํ กาตุํ สงฺเฆน ทินฺนสมฺมุตึ วินาติ อตฺโถ.
๖๘๒. ฉพฺพสฺสานิ กโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ยทา ปริปุณฺณานิ, ตทา’’ติ เสโส, ฉพฺพสฺเสสุ ปริปุณฺเณสุ สนฺถตํ กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยทา ฉพฺพสฺสานิ ปริปุณฺณานิ โหนฺติ, ตทา สนฺถตํ กโรตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๕๗). ตทุทฺธมฺปีติ ฉพฺพสฺสโต อุปริปิ. วิตาเนติ วิตานนิมิตฺตํ กโรนฺตสฺส. สาณิปากาเรติ ปาการสทิสติโรกรณียนิมิตฺตํ กโรนฺตสฺส. นิสฺสชฺชิตฺวา กเตปิ จาติ ปุราณสนฺถเต อฺสฺส ทตฺวา อฺสฺมึ สนฺถเต โอรโต ฉนฺนํ วสฺสานํ กเตปิ จ อนาปตฺตีติ โยชนา. อยมนาปตฺติวาโร เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถาสุ ทิสฺสติ, ตสฺมา โส อาจริยปรมฺปราภโต อาจริเยน ทสฺสิโตติ วิฺายติ. สาธารณวินิจฺฉยํ ปน ‘‘อนนฺตรสฺสิมสฺสาปิ, วิเสโส นุปลพฺภตี’’ติ วกฺขติ.
ฉพฺพสฺสกถาวณฺณนา.
๖๘๓. อนาทายาติ นวํ นิสีทนสนฺถตํ กโรนฺเตน ภิกฺขุนา ตสฺส วิวณฺณกรณตฺถาย ปาฬิยํ ‘‘ปุราณสนฺถตสฺส สามนฺตา สุคตวิทตฺถิ อาทาตพฺพา ทุพฺพณฺณกรณายา’’ติ (ปารา. ๕๖๗) ยา อาทาตุํ วุตฺตา, ตํ ปุราณสนฺถตสฺส ฉินฺนมุขาวตฺตโต สุคตวิทตฺถึ อทตฺวา. เอวเมตํ วุตฺตนฺติ กถํ วิฺายตีติ? ‘‘อนาทานวเสนสฺส, สุคตสฺส วิทตฺถิยา’’ติ วกฺขมาเนน วิฺายติ. สนฺถเตติ เอตฺถ ‘‘ปุราเณ’’อิติ จ กาเรตุํ กตฺจาติ เอตฺถ ‘‘นวํ นิสีทนํ สนฺถต’’นฺติ จ เสโส ¶ , ปุราเณ สนฺถเต อสนฺเต สามนฺตา สุคตวิทตฺถึ อนาทาย นวํ นิสีทนสนฺถตํ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. อฺสฺสตฺถาย นวํ นิสีทนสนฺถตํ กาเรตุํ, นวํ นิสีทนสนฺถตํ อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชิตฺุจ อนาปตฺตีติ โยชนา.
‘‘อฺสฺสตฺถาย ¶ กาเรตุ’’นฺติ อิทเมตฺถ ปาจิตฺติเยเนว อนาปตฺติทสฺสนนฺติ คเหตพฺพํ. ตสฺมา ‘‘อฺสฺสตฺถาย กโรติ วา การาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๖๙) วุตฺตตฺตา จ อฏฺกถาย, ตพฺพณฺณนาสุ จ อทิสฺสมานตฺตา วา ตํ น วตฺตพฺพํ. ‘‘อนาปตฺติ ฉพฺพสฺสานิ กโรติ…เป… อฺสฺสตฺถาย กโรติ วา การาเปติ วา’’ติ (ปารา. ๕๖๔) อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺตโมโลเกตฺวา วา ทุกฺกฏสฺส จ วิหิตตฺตา ปาจิตฺติเยน อนาปตฺติภาวํ สนฺธาย ลิขิตนฺติ วิฺายติ. กตฺจ ปริภฺุชิตุนฺติ เอตฺถ ‘‘อฺเนา’’ติ วตฺตพฺพํ, อิมินา ‘‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชติ, อนาปตฺตี’’ติ ปาโว ทสฺสิโต.
๖๘๔. สุคตสฺส วิทตฺถิยา อนาทานวเสน จ อสฺส สนฺถตสฺส กรเณน จ สตฺถารา เอตํ สิกฺขาปทํ กิริยากิริยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๖๘๕. นนุ จ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อฏฺกถาย ‘‘สมุฏฺานาทีนิ กิริยากิริยตฺตา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ทฺเวภาคสิกฺขาปทสทิสานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๖๗) วุตฺตานิ, อิห ‘‘สฺจริตฺตสมา’’ติ กสฺมา วุตฺตานีติ? วุจฺจเต – ทฺเวภาคสิกฺขาปเท ‘‘สมุฏฺานาทีนิปิ โกสิยสิกฺขาปทสทิสาเนวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๕๒) อฏฺกถาย วุตฺตานิ, โกสิยสิกฺขาปเท สมุฏฺานาทีนํ สฺจริตฺเตน สมภาวสฺส วุตฺตตฺตา, มูลเมว สริตฺวา กิริยากิริยสงฺขาตวิเสสสฺส ¶ วิสุํ ทสฺสิตตฺตา อวสิฏฺวินิจฺฉยมตฺตํ สนฺธาย เอวํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. อิมํ วิเสสํ มฺุจิตฺวา อวสิฏฺวินิจฺฉเยน ทฺวีสุ สิกฺขาปเทสุ สาธารณวินิจฺฉยสฺส อวิเสสตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนนฺตรสฺสา’’ติอาทิ.
นิสีทนสนฺถตกถาวณฺณนา.
๖๘๖-๗. คจฺฉนฺเตติ ติโยชนปูรณฏฺานํ อติกฺกมฺม คจฺฉนฺเต. ยาเนติ สกฏาทิเก. โลมานีติ เอฬกโลมานิ. สามิกสฺสาติ ยานาทิสามิโน. อชานโตติ อนาทเร สามิวจนํ. อทฺธานมคฺคปฏิปนฺโน โย ปน ภิกฺขุ เอฬกโลมํ ลภิตฺวา ‘‘ติโยชนปรมํ สหตฺถา หาเรตพฺพานี’’ติ (ปารา. ๕๗๓) อนฺุาตตฺตา ติโยชนพฺภนฺตเร สหตฺเถนาปิ หริตฺวา ติโยชนาติกฺกเม ปเรสํ ยานาทีสุ สามิเกสุ อชานนฺเตสุ ‘‘เอเต หริสฺสนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา ยทิ เปยฺยาติ อตฺโถ. เตสูติ เยสุ เอฬกโลมานิ ปิตานิ, เตสุ ยานาทีสุ ติโยชนมตีเตสุ ¶ ภิกฺขุสฺส ปโยคํ วินาปิ ติโยชนํ อติกฺกนฺเตสุ ตสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺติ โหตีติ โยชนา, ตสฺส ภิกฺขุโน ‘‘ปมํ ปาทํ ติโยชนํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๗๓) วุตฺตตฺตา ทุกฺกฏปาจิตฺติยา โหนฺตีติ อตฺโถ.
อยํ นโยติ ภิกฺขุโน ปโยคํ วินา ยตฺถ เอฬกโลมานิ ปิตานิ, เตสุ ยานาทีสุ ติโยชนํ อติกฺกมนฺเตสุ อาปตฺติ โหตีติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ.
๖๘๘. อคจฺฉนฺเตติ ติโยชนพฺภนฺตเร ิเต. ‘‘อภิรูหิตฺวา’’ติ อิทํ อนาปตฺติการเณสุ เอกํ ทสฺเสตุมาห. ‘‘ภูมิยฺหิ ¶ ตฺวา เทนฺโต, อวฺหายนฺโต วา ปุรโต คจฺฉติ, เอเสวนโย’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อนาปตฺติวาเร ‘‘อฺํ หราเปตี’’ติ วจนโต อตฺตนา เปสิเต อฺสฺมึ หรนฺเต วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ สาเรติ วฏฺฏตี’’ติ. เตเนวาห ‘‘ตํ ปนฺํ หราเปติ, วจเนน วิรุชฺฌตี’’ติ.
๖๙๐. กณฺณจฺฉิทฺเทสูติ อตฺตโน กณฺณพิเลสุ.
๖๙๑. อนาปตฺติวาเร ‘‘กตภณฺฑ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ตตฺถ อนฺตมโส สุตฺตเกน พทฺธมตฺตมฺปิ กตภณฺฑเมวาติ อาห ‘‘สุตฺตเกน จ พนฺธิตฺวา’’ติ. เวณึ กตฺวาติ กุทฺรูสสีสปลาลเวณิสทิสํ เวณึ กตฺวา. อาปตฺติ ปริทีปิตาติ ‘‘เวณึ กตฺวา หรติ, อิทํ นิธานมุขํ นาม, อาปตฺติเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๕) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๖๙๒. สุงฺกฆาตนฺติ เอตฺถ ‘‘ตํ าน’’นฺติ เสโส, ยทิ ตํ านํ สุงฺกฆาตนฺติ โยชนา, ติโยชโนสานฏฺานํ ยทิ สุงฺกฆาตฏฺานํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อนุปฺปตฺวาติ ตํ านํ ปตฺวา. โจราทีหิ อุปทฺทุโต วา คจฺฉติ, โย อฺวิหิโต วา คจฺฉตีติ โยชนา. อาปตฺตีติ เอตฺถ อาปตฺติ ตสฺส คจฺฉโตติ ลพฺภติ. เอตฺถ ‘‘อาปตฺตี’’ติ อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติมาห. อิมิสฺสา อจิตฺตกตาย เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ โหติ. อทินฺนาทานปาราชิกํ ปน สจิตฺตกตาย เอเตสํ น โหติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ยา หิ ตตฺถ อาปตฺติ, สา อิธ อนาปตฺติ. ยา อิธ อาปตฺติ, สา ตตฺถ อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๒). เถยฺยจิตฺเตน หรโต ภณฺฑคฺฆวเสน ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกเฏสุ ¶ เอกํ โหติ. เตนาห อฏฺกถายํ ¶ ‘‘อทินฺนาทาเน ปน สุงฺกฆาเต อาปตฺติ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๒).
๖๙๓. ติโยชนนฺติ เอตฺถ หรณกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ‘‘หรนฺตสฺสา’’ติ อิมสฺส กมฺมทีปกํ ‘‘โลมานี’’ติ อิทํ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ อิทํ สพฺพตฺถ วกฺขมาเนน สมฺพนฺธนียํ. ตานิเยว ปจฺจาหรนฺตสฺสาติ โยชนา. ติโยชนนฺติ เอตฺถ ตํเยว ติโยชนนฺติ ลพฺภติ. อตฺตนา คตํ ติโยชนํ ปุน ตาเนว โลมานิ คเหตฺวา ปจฺจาคจฺฉนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
๖๙๔. นิวาสตฺถาย วา คนฺตฺวาติ ติโยชนพฺภนฺตเร วา สีมาย วา อาวาเส วสิตุกามตาย คนฺตฺวา. ตโต ปรํ หรนฺตสฺสาติ ตสฺมึ อาวาเส อุทฺเทสาทึ อลภิตฺวา ตโต ปรํ อฺสฺมึ อาวาเส วสิตุกามตาย ปุนปิ ติโยชนํ หรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อิมินาว นเยน ตโตปิ อฺํ านํ, ตโตปิ อฺนฺติ สุทฺธจิตฺเตน คตคตฏฺานโต ปุนปิ ปรมฺปรํ านํ คมนวเสน โยชนสตมฺปิ หรโต โทโส นตฺถีติ อิทมฺปิ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอวํ โยชนสตมฺปิ หรนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๕). อจฺฉินฺนํ วาปิ ลภิตฺวา หรโตปีติ ‘‘โจราวหฏปริจฺจตฺตํ ลภิตฺวา หรนฺตสฺส. อิธ สพฺพตฺเถว ‘‘นิวาสตฺถาย วา คนฺตฺวา’’ติอาทิเก อนาปตฺติวาเร ปมลทฺธฏฺานโต ปภุติ อติเรกติโยชนมฺปิ หรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ วิฺายติ. นิสฺสฏฺํ ลภิตฺวาติ นิสฺสชฺชิตฺวา วินยกมฺมํ กตฺวา ทินฺนํ ลภิตฺวา.
๖๙๕. อฺเนาติ ตานิ หารินา อฺเน. กตภณฺฑกนฺติ ‘‘กมฺพลโกชวสนฺถตาทึ ยํ กิฺจิ อนฺตมโส สุตฺตเกน ¶ พทฺธมตฺตมฺปี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๕) อฏฺกถายํ วุตฺตเอฬกโลเมหิ กตภณฺฑกํ.
๖๙๖. อิทํ สมุฏฺานนฺติ อิทํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ. ปณฺณตฺตึ อชานนตาย วา ตฺวาปิ จีวราทิปริกฺขาเรสุ โลมสฺส อลฺลินภาวํ อชานิตฺวาปิ วา ติโยชนํ อติกฺกาเมนฺตสฺส อรหโตปิ อิมาย อาปตฺติยา สมฺภวโต ‘‘อจิตฺต’’นฺติ อาห.
เอฬกโลมกถาวณฺณนา.
๖๙๗. เอฬกโลมโธวาปนกถา ¶ อุตฺตานาเยว.
เอฬกโลมโธวาปนกถาวณฺณนา.
๖๙๘. คณฺเหยฺย วาติ เอตฺถ ‘‘โย’’ติ เสโส. ‘‘คณฺเหยฺย วา คณฺหาเปยฺย วา’’ติ อิมินา ‘‘ตตฺถตฺตโน ปนตฺถายา’’ติ วกฺขมานตฺตา จ ‘‘นิสฺสชฺชิตฺวา’’ติอาทิวจนโต จ อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคณฺเหยฺย วา อุคฺคณฺหาเปยฺย วาติ วุตฺตํ โหติ. วากาเรน ‘‘อุปนิกฺขิตฺตํ วา สาทิเยยฺยา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ, ‘‘อิทํ อยฺยสฺส โหตู’’ติ อุปนิกฺขิตฺตํ เจ สาทิยตีติ อตฺโถ.
รชตนฺติ อฺตฺถ สชฺฌุ วุจฺจติ, อิธ ปน โวหารูปคกหาปณาทิ วุจฺจติ. วุตฺตฺเหตํ ปาฬิยํ ‘‘รชตํ นาม กหาปโณ โลหมาสโก ทารุมาสโก ชตุมาสโก, เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ (ปารา. ๕๘๔). อิธ กหาปณาทีนํ สรูปํ อฏฺกถายํ –
‘‘ตตฺถ กหาปโณติ โสวณฺณมโย วา รูปิยมโย วา ปากติโก วา. โลหมาสโกติ ตมฺพโลหาทีหิ กตมาสโก. ทารุมาสโกติ ¶ สารทารุนา วา เวฬุเปสิกาย วา อนฺตมโส ตาลปณฺเณปิ รูปํ ฉินฺทิตฺวา กตมาสโก. ชตุมาสโกติ ลาขาย วา นิยฺยาเสน วา รูปํ สมุฏฺาเปตฺวา กตมาสโก. ‘เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’ติ อิมินา ปน ปเทน โย โย ยตฺถ ยตฺถ ชนปเท ยทา ยทา โวหารํ คจฺฉติ, อนฺตมโส อฏฺิมโยปิ จมฺมมโยปิ รุกฺขผลพีชมโยปิ สมุฏฺาปิตรูโปปิ อสมุฏฺาปิตรูโปปิ สพฺโพ สงฺคหิโต’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) –
วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ.
เอตฺถ จ ปากติโก นาม เอตรหิ ปกติกหาปโณ. รุกฺขผลพีชมโยติ ตินฺติณิกาทิรุกฺขานํ ผลพีเชน กโต.
ชาตรูปกํ สุวณฺณํ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘ชาตรูปํ นาม สตฺถุวณฺโณ วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๕๘๔). นิสฺสชฺชิตฺวาติ ¶ เอตฺถ ‘‘เตนา’’ติ ลพฺภติ, ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ อิมินา ยุชฺชติ, เอวํ สาทิตภิกฺขุนาติ อตฺโถ. นิสฺสชฺชิตฺวาติ อตฺตนา อุคฺคหิตํ วา ปเรน อุคฺคหาปิตํ วา อุปนิกฺขิปิตสฺส สาทิยนวเสน สาทิตํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา ‘‘เตน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา’’ติ (ปารา. ๕๘๔) วจนโต สงฺฆมชฺเฌ อุปสงฺกมิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ‘‘อหํ ภนฺเต รูปิยํ ปฏิคฺคเหสึ, อิทํ เม นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ นิสฺสชฺชามี’’ติ นิสฺสชฺชิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
อาปตฺติ ¶ เทเสตพฺพาวาติ อตฺตนา เอว อาปนฺนํ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ ตสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ เอวเมว นิสีทิตฺวา เทเสตพฺพา. เอวํ เทสิตา อาปตฺติ สงฺฆานุมเตน พฺยตฺเตน ปฏิพเลน ภิกฺขุนา ปฏิคฺคเหตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน อาปตฺติ ปฏิคฺคเหตพฺพา’’ติ (ปารา. ๕๘๔).
๖๙๙. รชตนฺติ รูปิยํ. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. อิมินา ปททฺวเยน กตากตํ สพฺพํ สงฺคณฺหาติ. อุภินฺนํ มาสโกติ ชาตรูปมาสโก, รชตมาสโกปิ จาติ วุตฺตํ โหติ. อิธ รชตมาสโกติ ‘‘รชต’’นฺติ ปทภาชเน (ปารา. ๕๘๔) วุตฺตกหาปณาทิ ปฺจปฺปกาโร มาสโก คหิโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วุตฺตปฺปกาโร สพฺโพปิ รชตมาสโก’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔). อิธ ‘‘ชาตรูปมาสโก’’ติ วิสุํ คหิตตฺตา กหาปณปเทน สุวณฺณกหาปณํ วชฺเชตฺวา อิตรทฺวยเมว วตฺตพฺพํ. ‘‘นิสฺสคฺคิยาวห’’นฺติ อิทํ อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคณฺหนอุคฺคณฺหาปนสาทิยนานิ กโรนฺตํ สนฺธายาห. ‘‘ตตฺถา’’ติอาทินา วกฺขมานนเยน ทุกฺกฏาวหฺจ โหเตว.
๗๐๐-๑. มุตฺตาทีนํ อิมสฺมึ สิกฺขาปทวิภงฺเค อวุตฺตตฺเตปิ ปาจิตฺติยกณฺเฑ นวมวคฺเค ทุติยสฺส รตนสิกฺขาปทสฺส ปทภาชเน ‘‘รตนํ นาม มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาลํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโก มสารคลฺล’’นฺติ (ปาจิ. ๕๐๖) วุตฺตานํ ทสนฺนํ รตนานํ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ กตฺวา วุตฺตํ รชตํ, ชาตรูปฺจ วชฺเชตฺวา อวสิฏฺานํ อฏฺนฺนํ รตนานํ ทุกฺกฏวตฺถุภาโว อิมสฺส อฏฺกถายํ ววตฺถาปิโตติ ทสฺสนตฺถมาห ‘‘มุตฺตา…เป… มสารคลฺล’’นฺติ. เอตฺถ เวฬุริโย คาถาพนฺธวเสน น วุตฺโต ¶ , โส เอกโยคนิทฺทิฏฺานํ ¶ สตฺตนฺนํ รตนานํ คหเณเนว คยฺหติ. มุตฺตาทโย ยถาทสฺสิตสรูปาเยว. พฺรหฺมชาลาทิสุตฺตนฺตวเสนาปิ ‘‘อกปฺปิยา’’ติ สิทฺธานํ สตฺตธฺาทีนํ ปฏิคฺคหเณ อาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ธฺานี’’ติอาทิ.
๗๐๒. รตนสิกฺขาปเทเยว ‘‘รตนสมฺมต’’นฺติ อาคตํ กปฺปิยวตฺถุํ ปฏิคฺคณฺหโต อนาปตฺติภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มุคฺคมาสาทิก’’นฺติอาทิ.
๗๐๓-๔. เอวํ ติปฺปกาเรน ิตํ วตฺถุํ คณฺหโต อธิปฺปายนานตฺเตน สมฺภวนฺตํ อาปตฺติปฺปเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถาติ เตสุ ตีสุ นิสฺสคฺคิยาทิวตฺถูสุ. สงฺฆาทีนนฺติ สงฺฆคณปุคฺคลเจติยาทีนํ. ตนฺติ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ. สพฺพตฺถายาติ สพฺเพสํ อตฺถายาติ วิคฺคโห. อตฺตโน อตฺถาย จ สงฺฆาทีนมตฺถาย จ ทุกฺกฏวตฺถุํ คณฺหนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว โหตีติ อตฺโถ. อวุตฺตสมุจฺจเยเนตฺถ จ-สทฺเทน ‘‘สพฺพมฺปิ นิกฺขิปนตฺถาย ภณฺฑาคาริกสีเสน สมฺปฏิจฺฉโต อุปริ รตนสิกฺขาปเท อาคตวเสน ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) อฏฺกถาย วุตฺตวินิจฺฉยวิเสสสฺส สงฺคโห กโต.
๗๐๕. กหาปณาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สุวณฺณาทีนํ สงฺคโห. ‘‘สหสฺส’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณํ, สหสฺสมฺปีติ วุตฺตํ โหติ.
๗๐๖. ถวิกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน สิถิลปูริตานิ ภาชนานิ คหิตานิ. ‘‘สิถิลพทฺเธสู’’ติ วิเสสเนน พฺยติเรกวเสน ‘‘ฆนพทฺเธ, ปน ฆนปูริเต วา เอกาว อาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) อฏฺกถาเสสํ ทีเปติ.
๗๐๗. อุปนิกฺขิตฺตสาทิยนกมฺมํ ¶ ทสฺเสตุมาห ‘‘อิท’’นฺติอาทิ. คณฺหิตุกาโมปีติ เอตฺถ ‘‘โหตู’’ติ เสโส. นิเสเธตพฺพเมวาติ กาเยน วา วาจาย วา ‘‘อิทํ น กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพเมว, เอวํ สติ อนาปตฺติเยวาติ อตฺโถ. อยมตฺโถ อฏฺกถายํ ‘‘กายวาจาหิ วา อปฺปฏิกฺขิปิตฺวาปิ สุทฺธจิตฺโต หุตฺวา ‘นยิทํ อมฺหากํ กปฺปตี’ติ น สาทิยติ, อนาปตฺติเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) อาคโตเยว.
๗๐๘. ตํ ¶ วตฺถุนฺติ ตถา ปฏิกฺขิตฺตํ วตฺถุํ. เปตฺวา ยทิ คจฺฉตีติ ‘‘ตุมฺเห คณฺหถ วา, มา วา, ทินฺนํ ทินฺนเมวา’’ติ สเจ โส เปตฺวาว คจฺฉติ. ยถา ตํ น วินสฺสติ, ตถา ตํ โคปยิตพฺพนฺติ โยชนา. ‘‘อฺโ ตตฺถ อาคนฺตฺวา ปุจฺฉตี’’ติอาทินา อฏฺกถาย วุตฺตนเยน ตตฺถาคเตน กปฺปิยการเกน ‘‘กิมิท’’นฺติ ปุจฺฉิเต สรูปํ อาวิ กตฺวา ‘‘โคปยิสฺสามหํ ภนฺเต, คุตฺตฏฺานํ ทสฺเสถา’’ติ วุตฺเต ‘‘อิมํ คเหตฺวา เอหี’’ติ อวตฺวา สตฺตภูมิกมฺปิ ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ‘‘อิธ เปหี’’ติ อวตฺวา ‘‘อิทํ คุตฺตฏฺาน’’นฺติ สุรกฺขิตฏฺานํ ทสฺเสตฺวา ตตฺถ ปิเต อคฺคฬํ ทตฺวา รกฺขิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๗๐๙. คุตฺตฏฺานํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส กปฺปิยการกสฺส อวตฺตพฺพโวหารํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาหเรทมิท’’นฺติอาทิ. อกปฺปิยนฺติ เอตฺถ ‘‘วจน’’นฺติ ลพฺภติ. เอวํ อกปฺปิยวจนํ อวตฺวา สุรกฺขิตฏฺาเน อาหริตฺวา ปิเต กึ กาตพฺพนฺติ? วิกฺกายิเก ปตฺตจีวราทิกปฺปิยภณฺเฑ อาหเฏ ‘‘อมฺหากํ อิมินา อตฺโถ, อิมสฺส เอวรูปํ มูลมฺปิ อตฺถิ, กปฺปิยการโก เอว นตฺถี’’ติ วตฺวา เตน ‘‘อหํ กปฺปิยการโก, มยฺหํ ทสฺเสถา’’ติ วุตฺเต สเจ รุจฺจติ, ทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘อิทํ คณฺหา’’ติ อวตฺวา ‘‘เอตฺถ ปิต’’นฺติ ทสฺเสตฺวา ตสฺมึ ตสฺส อคฺฆปฺปมาณํ ¶ คเหตฺวา เทนฺเต อธิวาเสตพฺพํ. อติเรกํ คณฺหนฺเต ‘‘มยํ ตุมฺหากํ ภณฺฑํ น คณฺหาม, คจฺฉถา’’ติ นีหริตฺวา อคฺคฬํ ทตฺวา กปฺปิยการเก ลทฺเธ ‘‘อมฺหากํ เอวรูเปน อตฺโถ, อิทํ นาม มูลํ อตฺถี’’ติ วตฺวา เตน กิณิตฺวา ทินฺเน อธิวาเสตพฺพนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
๗๑๐. เปตฺวา รูปิยคฺคาหนฺติ อนนฺตรสิกฺขาปเท วกฺขมานสรูปํ สุวณฺณาทิรูปิยํ ปฏิคฺคเหตฺวา นิสฺสชฺชิตฺวา เทสิตาปตฺติกํ ปุคฺคลํ เปตฺวา. นิสฺสฏฺปริวตฺติตนฺติ เอตฺถ นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติยา เทสิตาย ‘‘สเจ ตตฺถ อาคจฺฉติ อารามิโก วา อุปาสโก วา’’ติอาทินา (ปารา. ๕๘๔) ปทภาชเน วุตฺตนเยน ตตฺถาคตํ กปฺปิยการกํ ‘‘อาวุโส อิมํ ชานา’’ติ วตฺวา ‘‘อิมินา กึ อาหริยฺยตู’’ติ เตน วุตฺเต ‘‘อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’’ติ อวตฺวา ‘‘กปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ สปฺปิ วา เตลํ วา มธุ วา ผาณิตํ วา’’ติ (ปารา. ๕๘๔) วุตฺตตฺตา ภิกฺขูนํ กปฺปิยวตฺถุมตฺเต อาจิกฺขิเต เตน นิสฺสฏฺวตฺถุํ ปริวตฺเตตฺวา อาหฏํ กปฺปิยภณฺฑนฺติ อตฺโถ.
๗๑๑. อตฺตโน ¶ ปตฺตภาคมฺปีติ ตถา อาหเฏ กปฺปิยภณฺเฑ สงฺฆสฺส ภาชิยมาเน อตฺตโน วสฺสคฺเคน อตฺตโน ปตฺตโกฏฺาสมฺปิ. ปฏิคฺคาหกภิกฺขุโนติ รูปิยํ ปฏิคฺคเหตฺวา อาปชฺชิตฺวา นิสฺสชฺชิตฺวา เทสิตาปตฺติกสฺส ภิกฺขุโน น วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. อฺโตติ อตฺตโต อฺสฺมา ปพฺพชิตมนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคติตฺถิปุริสานํ อฺตรโต. ลทฺธนฺติ เตหิ อตฺตนา ลทฺธโกฏฺาสโต ทินฺนวเสนปิ ลทฺธํ ตํ วตฺถุํ.
๗๑๒. ยํ กิฺจิ ปจฺจยนฺติ ตํ วตฺถุํ ปริวตฺเตตฺวา คหิเตสุ จตูสุ ปจฺจเยสุ อฺตรมฺปิ ปจฺจยํ. อนฺตมโส ปถวึ ขณิตฺวา ¶ อุปฺปาทิโตทกมฺปิ ทารูหิ อาทิตฺตอคฺคิมฺปิ เตเลน ชลิตปทีปมฺปิ รุกฺเข วา เคเห วา ปกติฉายมฺปิ ตาลปณฺณมฺปิ อุปโภคปริโภคารหํ อฺมฺปิ ยํ กิฺจีติ อฏฺกถาย วุตฺตนยํ อิมินาว สงฺคหิตนฺติ คเหตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตมโส มกฺกฏาทีหิ ตโต หริตฺวา อรฺเ ปิตํ วา เตสํ หตฺถโต คฬิตฺวา ติรจฺฉานปริคฺคหิตมฺปิ ปํสุกูลมฺปิ น วฏฺฏติเยวา’’ติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔), ‘‘รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ปน เกนจิ ปริยาเยน ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยปริโภโค น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๕) จาติ. ภิกฺขุโนติ รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ภิกฺขุสฺส.
๗๑๓. อชฺฌาราเม วาติ อุปริ วกฺขมานลกฺขเณน ปริจฺฉินฺเน อชฺฌาราเม วา. ตํ รูปิยํ, ‘‘ปติตํ ทิสฺวา’’ติ เสโส. อชฺฌาวสเถปิ วาติ วกฺขมานลกฺขเณ อนฺโตอาวาเส จ. นิกฺขิปนฺตสฺสาติ ‘‘ยสฺส ภวิสฺสติ, โส หริสฺสตี’’ติ วุตฺเต าเน ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ คณนฺจ อุปลกฺขณฺจ สลฺลกฺเขตฺวา เปนฺตสฺส.
๗๑๔. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘รูปิเย รูปิยสฺี, เวมติโก, อรูปิยสฺี รูปิยํ ปฏิคฺคณฺหาติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๘๖) ภควตา ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ ‘‘ทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
๗๑๕. กฺริยากฺริยนฺติ คหเณน อาปชฺชนโต กิริยํ. ปฏิกฺเขปสฺส อกรณโต อกิริยนฺติ.
รูปิยปฏิคฺคหณกถาวณฺณนา.
๗๑๖-๗. นิสฺสคฺคิยสฺสาปิ ¶ วตฺถุนฺติ ‘‘นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสฺส วตฺถู’’ติ ปมสิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺเสุ รชตาทีสุ จตูสุ อฺตรํ ¶ วตฺถุํ. ทุกฺกฏสฺส จ วตฺถุํ วาติ ปมํ ทสฺสิตมุตฺตาทิทุกฺกฏวตฺถูสุ อฺตรํ วา, อิโหภยตฺถ เหตุผลสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. กปฺปิยสฺส จ วตฺถุํ วาติ ยถาทสฺสิเตสุ เอว มุคฺคมาสาทิกปฺปิยวตฺถูสุ อฺตรํ วา, อิห อวยวาวยวิสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. อวยวาวยวีนํ อเภเทปิ เภทูปจารวเสน ยถา ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีร’’นฺติ กปฺปิยวตฺถุนฺติ วุตฺตํ โหติ ‘‘กปฺปิเยน วตฺถุนา’’ติ วกฺขมานตฺตา. อิทาเนตฺถ ทุกฺกฏวตฺถุโน, กปฺปิยวตฺถุโน จ นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา ปริวตฺติตตฺตา อาปตฺติ โหตีติ คเหตพฺพํ. นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา โย ปริวตฺเตติ, ตสฺส อาปตฺตีติ โยชนา.
ทุกฺกฏสฺส วตฺถุนา, กปฺปิเยน จ วตฺถุนา วตฺถุํ นิสฺสคฺคิยสฺส ปริวตฺเตติ, อาปตฺตีติ โยชนา. อิธ อุภยตฺถาปิ ปริวตฺติตสฺส นิสฺสคฺคิยวตฺถุตฺตา อาปตฺติ โหติ. เอวํ ตีสุปิ าเนสุ ‘‘อาปตฺตี’’ติ สามฺวจเนน นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยเมว วุตฺตนฺติ ปกรณโต ลพฺภติ.
๗๑๘. ทุกฺกฏสฺเสว วตฺถุนา ทุกฺกฏสฺส จ วตฺถุํ วา ปริวตฺเตติ, ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ‘‘วตฺถุํ วา กปฺปิยสฺสา’’ติ อิทํ วุตฺตนยเมว, กปฺปิยวตฺถุนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิมสฺส กปฺปิยวตฺถุโนปิ ทุกฺกฏวตฺถุนา ปริวตฺติตตฺตา ทุกฺกฏํ โหตีติ คเหตพฺพํ.
๗๑๙. ‘‘วตฺถุนา กปฺปิยสฺสา’’ติ อิทมฺปิ วุตฺตนยเมว. กปฺปิยวตฺถุนาปิ ปริวตฺติเต ทุกฺกฏวตฺถุวเสน ทุกฺกฏํ โหตีติ อาห ‘‘ตถา’’ติ.
๗๒๐. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วตฺถุโน’’ติ อิทํ อากฑฺฒติ. ‘‘นิสฺสคฺคิยสฺสา’’ติ อิมินา ปาจิตฺติยมาห. ปุพฺพนฺติ ปมํ, ปุพฺเพ ¶ วุตฺตรูปิยปฏิคฺคหณสิกฺขาปเทติ วุตฺตํ โหติ. อิมินาติ รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเทน. ปริวตฺตนํ วาริตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๗๒๑. รูปิยนฺติ จ สฺิสฺสาติ ‘‘รูปิยํ นาม สตฺถุวณฺโณ กหาปโณ โลหมาสโก ทารุมาสโก ชตุมาสโก, เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ (ปารา. ๕๘๙) ปทภาชเน วุตฺเตสุ รูปิยสฺิเตสุ วตฺถูสุ ‘‘อฺตร’’นฺติ สฺิสฺส. อรูปิเยติ ขรปตฺตาทิมฺหิ. เตน อรูปิเยน. ‘‘เจตาเปนฺตสฺส อรูปิย’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อรูปิเย รูปิยสฺี รูปิยํ เจตาเปติ ¶ , นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๙๑) วุตฺตตฺตา รูปิยปริวตฺตเน ทุกฺกฏสฺส อภาวโต, ปาจิตฺติยสฺส จ สมฺภวโต รูปิยํ น คเหตพฺพํ. อรูปิเย รูปิยํ อิติ สฺิสฺส จ วิมติสฺส จ อรูปิยํ เจตาเปนฺตสฺส เตน ทฺเว ทุกฺกฏานิ โหนฺตีติ โยชนา.
๗๒๒. อรูปิเย อรูปิยนฺติ สฺิสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อรูปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺสา’’ติ เสโส. ปฺจหีติ สหตฺเถ กรณวจนํ, ‘‘สหธมฺมิเกหี’’ติ เสโส, ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สทฺธินฺติ อตฺโถ. วทโตติ โวหรโต, กยวิกฺกยํ กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ภิกฺขุภิกฺขุนิสามเณรสามเณริสิกฺขมานาสงฺขาเตหิ ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ อรูปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
๗๒๓. สํโวหาเรน สมุฏฺานโต กฺริยสมุฏฺานํ.
รูปิยสํโวหารกถาวณฺณนา.
๗๒๔. กปฺปิยํ นาม ‘‘จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, อนฺตมโส จุณฺณปิณฺโฑปิ ทนฺตกฏฺมฺปิ ทสิกสุตฺตมฺปี’’ติ ¶ ปทภาชเน วุตฺตานิ กปฺปิยวตฺถูนิ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘จีวราทีนํ กปฺปิยภณฺฑานํ วเสน อเนกวิธ’’นฺติ. กปฺปิเยเนวาติ เตเนว กปฺปิเยน วตฺถุนา. ‘‘กยวิกฺกยํ สมาปชฺเชยฺยาติ ‘อิมินา อิมํ เทหิ, อิมินา อิมํ อาหร, อิมินา อิมํ ปริวตฺเตหิ, อิมินา อิมํ เจตาเปหี’ติ อชฺฌาจรตี’’ติ (ปารา. ๕๙๕) วจนโต ‘‘ปริวตฺตยโต’’ติ อิมสฺส ‘‘กยวิกฺกยํ สมาปชฺชโต’’ติ ปริยาโย.
ตตฺถ อฺสฺส หตฺถโต กปฺปิยวตฺถุนา ปริวตฺเตตฺวา คหณํ กโย นาม. อตฺตโน หตฺถโต กปฺปิยวตฺถุํ ปริวตฺเตตฺวา ทานํ วิกฺกโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’ติอาทินา หิ นเยน ปรสฺส กปฺปิยภณฺฑํ คณฺหนฺโต กยํ สมาปชฺชติ, อตฺตโน กปฺปิยํ เทนฺโต วิกฺกย’’นฺติ. ‘‘เปตฺวา สหธมฺมิเก’’ติ วุตฺตตฺตา ปริวตฺตยโตติ เอตฺถ อฺเหิ สทฺธินฺติ ลพฺภติ. เอตฺถ อฺเ นาม คิหิโน อิตฺถิปุริสา, สาสนโต พาหิรา ปพฺพชิตา จ. ตสฺมา อยํ กยวิกฺกโย อนฺตมโส มาตาปิตูหิปิ น กาตพฺโพเยว. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อยฺหิ กยวิกฺกโย ¶ เปตฺวา ปฺจ สหธมฺมิเก อวเสเสหิ คิหิปพฺพชิเตหิ อนฺตมโส มาตาปิตูหิปิ สทฺธึ น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๙๕).
๗๒๕. อกปฺปิยสฺส วตฺถุสฺสาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วุตฺตจีวราทิกปฺปิยวตฺถุโต อฺสฺส นิสฺสคฺคิยทุกฺกฏวตฺถุสฺส. เตเนวาติ อกปฺปิยวตฺถุนาเยว. ‘‘กปฺปิยสฺส จา’’ติ ปาเสโส, เตเนว อกปฺปิเยน วตฺถุนา กปฺปิยสฺส วตฺถุสฺส ปริวตฺตนฺจาติ โยชนา. เอวฺหิ ปาเสเส อกเต อกปฺปิเยน วตฺถุนา กปฺปิยสฺส ปริวตฺตนํ กยวิกฺกเย สงฺคเหตพฺพํ สิยา, ตํ น ยุชฺชติ ตสฺส รูปิยสํโวหาเรเยว สงฺคหิตตฺตา, อิธ จ ‘‘กปฺปิยวตฺถุสฺเสว กปฺปิยวตฺถุนา ¶ ปริวตฺตนํ กยวิกฺกโย’’ติ นิยมิตตฺตา. นิทฺทิฏฺนฺติ ‘‘อกปฺปิยภณฺฑปริวตฺตนฺหิ กยวิกฺกยสงฺคหํ น คจฺฉตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๙๔) อฏฺกถายํ นิทฺทิฏฺนฺติ อตฺโถ.
๗๒๖. ตสฺมาติ ยสฺมา อฺตฺร สหธมฺมิเกหิ กปฺปิยวตฺถุสฺสาปิ กยวิกฺกโย น วฏฺฏติ, อกปฺปิยสฺส, กปฺปิยสฺส จ วตฺถุโน อกปฺปิเยเนว วตฺถุนา ปริวตฺตนฺจ รูปิยสํโวหาเร สงฺคหิตตฺตา กยวิกฺกยสงฺคหํ น คจฺฉติ, ตสฺมา.
๗๒๙. อิทํ นามาติ โอทนาทิกปฺปิยวตฺถุเมว อาห.
๗๓๐-๑. ‘‘คเหตฺวา’’ติอาทิคาถาย วตฺถุลกฺขณสฺส อุทาหรณํ ทสฺเสตฺวาว อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วิฆาสาท’’นฺติอาทิ. ฉลฺลินฺติ รุกฺขตจํ. วลฺลินฺติ ลตํ. กฏฺนฺติ อินฺธนทารุํ. ทารุนฺติ เคหสมฺภาราทิทารุํ. วิปลฺลาเสนาปิ วตฺตพฺพํ ‘‘วลฺลึ วา ปน ฉลฺลึ วา, ทารุํ วา กฏฺเมว วา’’ติ. วตฺถูนนฺติ ตถา วตฺวา อาหราปิตานํ ฉลฺลิอาทิวตฺถูนํ. กยวิกฺกเย อาปตฺติโย โหนฺตีติ โยชนา, นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยาปตฺติโย โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๗๓๒. ‘‘อิติ เอวา’’ติ ปทจฺเฉโท, ‘‘ปิวิตฺวา’’ติอาทินา นเยน ปุพฺพกาเล วิหิตปจฺจยนฺตํ อกตฺวา วุตฺตนเยเนวาติ อตฺโถ.
๗๓๓. ภูมิยา ลิมฺปเนติ โยชนายํ ปน เสนาสนภูมิยํ ปริภณฺฑกรณกาฬกาทิวณฺณกรณวเสน ¶ เลปเน. วตฺถุโธวเนติ จีวราทิวตฺถูนํ โธวเน. เอตฺถาติ เตสุ วุตฺตปฺปกาเรสุ. เอเตสํ คหณสฺส อุปลกฺขณตฺตา เอวรูเปสุ อฺเสุ าเนสุ.
๗๓๔. อยนฺติ ¶ ภูมิโสธนาทิวเสน อาปนฺนา ปาจิตฺติยาปตฺติ.
๗๓๕. เปตฺวา ภณฺฑสามิกนฺติ เอตฺถ พฺยติเรกวเสน อฺสฺส กปฺปิยการสฺสาติ ลพฺภติ.
๗๓๖. ภาสโต อนาปตฺตีติ โยชนา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
กยวิกฺกยกถาวณฺณนา.
โกสิยวคฺโค ทุติโย.
๗๓๗. กปฺปิยา ปตฺตา มตฺติกาโยมยา ชาติโต ทุเวติ โยชนา. วณฺณาติ ปมาณานิ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณาติ ตีณิ ปตฺตสฺส ปมาณานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒). เตนาห ‘‘อุกฺกฏฺโ มชฺฌิโมมโก’’ติ.
๗๓๘. ทฺวินฺนํ ตณฺฑุลนาฬีนนฺติ สุโกฏฺฏิตานํ อขณฺฑานํ ปุราณสาลิตณฺฑุลานํ ทฺเว นาฬิโย คเหตพฺพา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนุปหตปุราณสาลิตณฺฑุลานํ สุโกฏฺฏิตปริสุทฺธาน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒). ภตฺตนฺติ อวสฺสาวิตํ อนุตฺตณฺฑุลํ อกิลินฺนํ อปิณฺฑิตํ สุวิสทํ กุนฺทมกุลราสิสทิสํ สุปกฺโกทนเมว คเหตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนุตฺตณฺฑุลํ อกิลินฺนํ อปิณฺฑิตํ สุวิสทํ กุนฺทมกุลราสิสทิสํ อวสฺสาวิโตทน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒). มคธนาฬิยาติ มคธรฏฺเ นาฬิยา, สา นาฬิ ติลานํ อฏฺปสตานิ คณฺหาติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ขาริทสทฺวยํ ¶ วาโห, ขารี โทณฏฺกทฺวยํ;
ทฺวิอฏฺนาฬิโย โทโณ, นาเฬกา ปสตฏฺกํ;
ลกฺขํ ติลานํ ปสตํ, เอตํ วุตฺตํ ปมาณโต’’ติ.
‘‘มคธนาฬิ ¶ นาม อฑฺฒเตรสปลา โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒) อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตพฺพณฺณนาย ‘‘อฑฺฒเตรสปลานิ มาเสหิ คเหตพฺพานี’’ติ วุตฺตํ. เกจิ ปนาหุ –
‘‘จตุปฺปสติกา มุฏฺิ, ปลฺเจตํ จตุคฺคุณํ;
กุฑุวปฺปสตฺเจว, จตฺตาริ เจว นาฬิ ตุ.
‘‘โสเยว ปตฺโถ จตฺตาโร, ปตฺถา อฬฺหกมุจฺจเต;
อฬฺหกานมฺปิ จตฺตาริ, ‘โทโณ’ติ ปริกิตฺติโต’’ติ.
อาจริยา ปน ‘‘อฏฺปสตา มาคธนาฬี’’ติ ปุพฺพปกฺขเมว โรจยนฺติ.
ขาทนฺจ จตุพฺภาคนฺติ ตสฺมึ ภตฺเต จตุธา วิภตฺเต เอกภาคมตฺตํ หตฺถหาริยฆนมุคฺคสูปนฺติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺส โอทนสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาโณ นาติฆโน นาติตนุโก หตฺถหาริโย สพฺพสมฺภารสงฺขโต มุคฺคสูโป ปกฺขิปิตพฺโพ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒).
พฺยฺชนฺจ ตทูปิยนฺติ ยาว จริมาโลปํ, ตาว สพฺพาโลปานุรูปํ มจฺฉมํสาทิพฺยฺชนฺจ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปํ ยาวจริมาโลปปฺปโหนกํ มจฺฉมํสาทิพฺยฺชนํ ปกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ. เอตฺถ จ อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปนฺติ ‘‘พฺยฺชนสฺส มตฺตา นาม โอทนจตุตฺถภาโค’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๗) พฺรหฺมายุสุตฺตสฺส อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อาโลปสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาณํ พฺยฺชนํ อาโลปสฺส อนุรูปนฺติ คเหตพฺพํ. อิธ ปน สูปสฺเสว โอทนจตุตฺถภาคปฺปมาณํ ¶ ทสฺเสตฺวา เอตสฺส ลกฺขเณ ทสฺสิเต อิตรสฺสาปิ ทสฺสิตเมว โหตีติ พฺยฺชนสฺส ตถา วิเสเสตฺวา ปมาณํ น ทสฺสิตํ. โอทเน ปกฺขิปิตพฺพานิ สปฺปิเตลตกฺกรสกฺชิกาทีนิ คณนูปคานิ น โหนฺติ.
๗๓๙. ตํ สพฺพนฺติ ยถาวุตฺตภตฺตาทินิรวเสสํ. คณฺหตีติ วกฺขมาเนหิ ตีหิ ปกาเรหิ คณฺหาติ. ตสฺสาติ อุกฺกฏฺสฺส ปตฺตสฺส. อุปฑฺโฒติ ตสฺมึ ปตฺเต คณฺหนกทพฺพสมฺภารคาหี ปตฺโต ตํสหจริเยน ¶ ‘‘อุปฑฺโฒ’’ติ วุตฺโต. ตทุปฑฺโฒ จาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตสฺส มชฺฌิมสฺส ปตฺตสฺส อุปฑฺโฒ ตทุปฑฺโฒติ คเหตพฺพํ.
๗๔๐. อิเมสุ ตีสุ ปตฺเตสุ อุกฺกฏฺสฺส วุตฺตํ โอทนาทิ สพฺพํ ยสฺมึ ปตฺเต ปกฺขิตฺตํ, ตสฺส มุขวฏฺฏิมตฺถเก ปฺุชิยมานํ หีรกํ เหฏฺาภาเค ผุสติ, โส อุกฺกฏฺมชฺฌิโม นาม, หีรโต อติเรกํ ติฏฺติ, โส อุกฺกฏฺโมโก นาม, อนฺโตปตฺเต มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมนฺตํ อปฺปตฺวา ติฏฺติ, โส อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ นาม, เอวํ มชฺฌิโม จ โอมโก จ ปจฺเจกํ ติวิโธ โหตีติ สพฺเพ นว ปตฺตา โหนฺตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุกฺกฏฺสฺสา’’ติอาทิ. ตสฺเสวาติ อุกฺกฏฺสฺเสว. โอมโก จ มชฺฌิโม จาติ โอมกมชฺฌิมา. อิธ มชฺฌิโม จ โอมโก จ อุกฺกฏฺสฺเสว เภโท. เอส นโย อิตรทฺวเยปิ. ‘‘เอว’’นฺติ อิมินา ยถา ‘‘อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ อุกฺกฏฺโมโก อุกฺกฏฺมชฺฌิโม’’ติ โยเชตพฺโพ, เอวํ มชฺฌิโมมกานมฺปิ ยถากฺกมโยชนํ ทสฺเสติ ‘‘มชฺฌิโม มชฺฌิมุกฺกฏฺโ มชฺฌิโมมโก, โอมกุกฺกฏฺโ โอมกมชฺฌิโม โอมโกมโก จา’’ติ.
๗๔๑. เตสูติ ¶ นวสุ ปตฺเตสุ. ตสฺมาติ อปตฺตภาวโต. น คจฺฉนฺตีติ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺฺจ โอมโกมกฺจาติ ทฺเว อเปกฺขิตฺวา พหุวจนํ กตํ. เอเต ภาชนสงฺเขเปน ปริภฺุชิตพฺพาติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺมา เอเต ภาชนปริโภเคน ปริภฺุชิตพฺพา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒).
๗๔๒. ปตฺตลกฺขณสํยุตนฺติ เอตฺถ ปตฺตลกฺขณํ นาม ยถาวุตฺตปมาณยุตฺตตา, ‘‘อโยปตฺโต ปฺจหิ ปาเกหิ ปกฺโก มตฺติกาปตฺโต ทฺวีหิ ปาเกหิ ปกฺโก’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘) วุตฺตา ปากสมฺปตฺติ, กิณิตฺวา คณฺหาติ เจ, ตสฺส ทาตพฺพมูลสฺส อเสเสตฺวา ทินฺนภาโว, ฉิทฺทาภาโว, ฉินฺนราชีนํ อภาโวติ ปฺจวิธํ. โหติ เจตฺถ –
‘‘ปมาณยุตฺตตา ปาก-สมฺปตฺติ ทินฺนมูลตา;
อจฺฉิทฺทาราชิตา เจติ, ปตฺตลกฺขณปฺจก’’นฺติ.
‘‘อธิฏฺาย วา วิกปฺเปตฺวา วา’’ติ วา-สทฺโท โยเชตพฺโพ. อธิฏฺายาติ ปมํ ปริภุตฺเต ปตฺเต สติ ตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อธิฏฺาตพฺพปตฺโต หตฺถปาเส เจ โหติ, วกฺขมานนเยน ‘‘อิมํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ ¶ วจีเภทกรณวเสน วาจาย วา วจีเภทํ อกตฺวา เอวเมว จินฺเตตฺวา หตฺเถน คเหตฺวา ผนฺทาเปนฺเตน กาเยน วา ทูเร เจ หตฺถปาสา โหติ, ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพาติ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตนเยน เอกเกน วา ปจฺฉา สติสมฺโมเส สราเปตฺวา กุกฺกุจฺจํ วูปสเมตุํ สมตฺถสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิธาเน วา อธิฏฺายาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อฺสฺส สนฺติเก อธิฏฺาเน อยมานิสํโส – สจสฺส ‘อธิฏฺิโต นุ โข เม, โน’ติ วิมติ อุปฺปชฺชติ, อิตโร สาเรตฺวา วิมตึ ฉินฺทิสฺสตี’’ติ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘) อยมตฺโถ อฏฺกถายํ วุตฺโต. ‘‘ทฺเว ปตฺเต อธิฏฺาตุํ น ลภตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ.
วิกปฺเปตฺวาติ (ปาจิ. ๓๗๓; ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘; กงฺกา. อฏฺ. วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา) ตฺถ วิกปฺเปตพฺพสฺส ปตฺตสฺส เอกตฺตพหุตฺตํ, สนฺนิหิตาสนฺนิหิตตฺตฺจ สลฺลกฺเขตฺวา เอกํ เจ สนฺนิหิตํ, ‘‘อิมํ ปตฺตํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘อิมํ ปตฺตํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’’ติ วา อาทินา นเยน เอกํ วิกปฺเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ ‘‘ปริภฺุเชยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา, ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภฺุเชหิ วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เตน อปจฺจุทฺธเฏ ปริภฺุชิตุํ อยุตฺตตฺตา ‘‘วิกปฺเปตฺวา’’ติ ปจฺจุทฺธฏวิเสโส คเหตพฺโพ.
๗๔๓. ธาเรยฺยาติ อนธิฏฺหิตฺวา, อวิกปฺเปตฺวา จ ปริภฺุชิตพฺโพ. ตํ กาลํ ปตฺตํ อติกฺกามยโตติ โยชนา. ‘‘นิสฺสคฺคิย’’นฺติ อิมินาปิ ‘‘ปตฺต’’นฺติ อิทํ ยุชฺชติ. ปตฺต-สทฺโท มาคธิกานํ ทฺวิลิงฺคโก, ตสฺมา เอวํ วุตฺโต.
๗๔๔. อธิฏฺิตวิกปฺปิเตสุ อนนฺโตคธตฺตา อติเรกภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยํ ปตฺต’’นฺติอาทิ.
๗๔๕. สมฺมุเขติ อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปเทสโต อนฺโต ิตํ ปตฺตํ. ทูรสฺมินฺติ อฑฺฒเตยฺยรตนโต ปรภาเค ‘‘อนฺโตคพฺเภ วา อุปริปาสาเท วา สามนฺตวิหาเร วา’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตปฺปกาเร ทูเรปิ. ยตฺถ กตฺถจิ วิกปฺปนกาเลปิ สนฺติกทูรวจนเภทา เอวเมว โยเชตฺวา วตฺตพฺพา. ‘‘วิกปฺเปตุํ ¶ ปน พหูนิปิ ลพฺภตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. อยํ นโยติ ‘‘อิมํ ปตฺตํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติอาทินโย.
๗๔๖. วาจากายวเสน ¶ ทุวิเธ อธิฏฺาเน วาจาธิฏฺานํ ทสฺเสตฺวา กายาธิฏฺานํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาโภค’’นฺติอาทิ. อาโภคนฺติ ‘‘อิมํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ อาโภคํ. ‘‘มนสา’’ติ อิมินา น วจสาติ วุตฺตํ โหติ. กายวิกาโรว กายวิการกํ, หตฺเถน ผนฺทาปนาทิกายกิริยาติ อตฺโถ. เอเตเนว กายาธิฏฺานํ หตฺเถน อปตฺตพฺเพ ทูเร น กาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
๗๔๗-๘. ‘‘ชหติ อธิฏฺาน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ทานโตติ อฺสฺส ทาเนน. เภทกโตติ ภิชฺชเนน. นาสโตติ ปตฺตสามิกสฺส กาลกิริยาย. วิพฺภมโตติ สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย คิหิภาวูปคมเนน. อุทฺธารโตติ ปจฺจุทฺธรเณน. ปจฺจกฺขโตติ สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน. ปริวตฺตนโตติ ลิงฺคปริวตฺตเนน. คาหโตติ วิสฺสาสคฺคหเณน, อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน จ.
กงฺคุสิตฺถปฺปมาเณนาติ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ขุทฺทกตรสฺส กงฺคุโน สิตฺถปฺปมาเณน. เขนาติ มุขวฏฺฏิยา ทฺวงฺคุลโต เหฏฺา อากาสปริยาเยน ฉิทฺเทน. อาณิยา วาติ อโยมยาย อาณิยา วา.
๗๕๐-๑. มณิปตฺโตติ มณินา กโต. เวฬุริยุพฺภโวติ มรกตมณิมโย. ผลิกุพฺภโวติ ผลิกปาสาเณน กโต. กาจมโยติ กาจมตฺติกามโย. กํสมโยติ กํสโลเหน กโต. ติปุมโยติ กาฬติปุมโย. สีสมโยติ เสตติปุมโย. วิปลฺลาเสน จ วทนฺติ. สชฺฌุมโยติ รชตมโย.
๗๕๒. ฆฏกฏาโหติ ฆฏกปาลํ. สีสกฏาโหติ ฉวสีสกปาลํ. ตุมฺพนฺติ อลาพุ. อสฺสาติ เอกาทสวิธสฺส ¶ ปตฺตสฺส. อนุโลมิกนฺติ อกปฺปิยวเสน อนุโลมํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ เอกาทสวิเธ. ตมฺพมยํ โลหมยํ ถาลกํ ปน วฏฺฏตีติ โยชนา, ปตฺโตเยว น วฏฺฏติ, ตมฺพโลหมยา ถาลกา ปน วฏฺฏนฺตีติ อตฺโถ.
๗๕๓. ตฏฺฏิกาทีนีติ ¶ อาทิ-สทฺเทน วฏฺฏกาทีนํ สงฺคโห. วฏฺฏกนฺติ จ อฑฺฒจนฺทากาโร โลหาทิมโย ภาชนิยวิเสโส. ปุคฺคลสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. คิหี จ สงฺโฆ จ คิหิสงฺฆา, เตสํ สนฺตกา คิหิสงฺฆิกา.
๗๕๔. ยํ กิฺจิ ปตฺตนฺติ สตฺตสุ ปตฺเตสุ ยํ กิฺจิ ปตฺตํ. โวทกํ กตฺวาติ วิคโตทกํ กตฺวา. ปฏิสาเมยฺยาติ นิกฺเขปารหฏฺาเน นิกฺขิปนวเสน, ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา พนฺธนวเสน วา สงฺโคเปยฺย.
๗๕๕. โอตาเปตุนฺติ อาตเป, อคฺคิมฺหิ วา ตาเปตุํ. อุณฺเหติ ตสฺมึเยว อุณฺเห. น นิทเหตพฺโพติ น ฌาเปตพฺโพ. สีสาปนยนเมว น วฏฺฏตีติ น นิทเหตพฺโพติ อตฺโถ อธิกนิวารเณเนว วิฺายติ.
๗๕๖. มิฑฺฒนฺเตติ มิฑฺฒิยา อนฺเต. ปริภณฺฑนฺเตติ ปมุเข มหามิฑฺฒิยา อนฺเต. ‘‘วิตฺถิณฺเณติ อนฺตมโส ทฺวิปตฺตมตฺโตกาสวิตฺถาเร’’ติ เกจิ. เปตุํ ปน วฏฺฏตีติ โยชนา, วลยาทิอาธาเรน วินาปิ เปตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ‘‘มิฑฺฒิยา ปมุเข มิฑฺฒิยา จ ขรภูมิปเทสาทีสุ จ วลยมตฺถเก เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ.
๗๕๗. ทารุอาธารเกติ อุทุกฺขลสทิเส ทารุมเย อาธาเร. ทฺเว ปตฺเต เปตุมฺปิ วฏฺฏตีติ ปตฺตมตฺถเก อปรสฺสาปิ ปตฺตสฺส ปนวเสน ทฺเว ปตฺเต เปตุมฺปิ วฏฺฏติ. อปิ-สทฺเทน ¶ เอกสฺมึ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. อยเมว นโยติ ‘‘ทฺเวปิ ปตฺเต เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ อยํ นโย. ทณฺฑภูมิอาธารเกสูติ เอตฺถ ทณฺฑาธาโร นาม พหูหิ ทณฺเฑหิ กโต. ภูมิอาธารโก นาม ภูมิยํ กโต อาลวาลวลยากาโร สิลิฏฺาธาโร. ‘‘ทนฺตเวตฺตลตาทิมโย ภูมิอาธารโก’’ติ เกจิ.
๗๕๘-๙. ตฏฺฏิกายาติ ตาลปณฺณาทีหิ กตตฏฺฏิกาย. โปตฺถเกติ มกจิวากมเย วา รุกฺขวากมเย วา อตฺถรเณ. กฏสารเกติ ตาลปณฺณาทีหิ วีเต อตฺถรเณ. ปริภณฺฑกตายาติ กตโคมยปริภณฺฑาย. อปิ-สทฺเทน สุธากมฺมํ กตฺวา ปาสาเณน ฆํสิตฺวา มฏฺกตาย ภูมิยา วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. วาลุกาสุ วาติ เลฑฺฑุปาสาณสกฺขรกปาลาทิอมิสฺสาสุ สณฺหสุขุมวาลุกาสูติ ¶ วุตฺตํ โหติ. เตเนวาห ‘‘ตถารูปาสู’’ติอาทิ. รชมฺหิ สนฺเตปิ อสนฺเตปิ วิสุํเยว ‘‘ขรภูมิยา น เปตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘สรชายา’’ติ อิมินา รโชกิณฺณํ สณฺหภูมิมาห. ขรภูมิยาติ ผรุสภูมิยา.
๗๖๐. ลคฺเคตุนฺติ โอลมฺเพตุํ. ทณฺฑโกฏิยา, นาคทนฺตโกฏิยา จ ปตฺตมุเขน ปกฺขิปิตฺวา ปนมฺปิ ลคฺคนํ นาม. ฉตฺตงฺกมฺจปีเสูติ ฉตฺเต, องฺเก, มฺจปีเ จ.
๗๖๑. อฏนีสูติ องฺเคสุ. พนฺธิตฺวาติ ถวิกาย อํสวทฺธนกาทินา เยน เกนจิ พนฺธิตฺวา. โอลมฺเพตุมฺปีติ ลคฺเคตุมฺปิ. ‘‘เปตุํ อุปรี’’ติ ปทจฺเฉโท.
๗๖๒. มฺจปีฏฺฏเกติ มฺจปีเสุ ปิตปตฺตา ยถา น ปตนฺติ, ตถา อฏนิมตฺถเก ทารุนา ปริกฺเขเป กเต มฺจปีฏฺฏกา ¶ นาม โหนฺติ, ตาทิเส มฺจปีฏฺฏเก เปตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ภตฺตปูโรปีติ ภตฺตสฺส ปูโรปิ. อปิ-สทฺเทน ยาคุเตลปริปูริตสฺสาปิ สงฺคโห. ตุจฺฉปตฺเต วินิจฺฉโย ยถาวุตฺโตเยว. ปูรณํ ปูโร, ภตฺตสฺส ปูโร ภตฺตปูโร.
ติภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗๖๓. กวาฏนฺติ ทฺวารกวาฏผลกํ. ‘‘เสนาสเน ทฺวารกวาฏวาตปานกวาฏาที’’ติอาทีสุ ทฺวารผลกํ ‘‘กวาฏ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. น ปณาเมยฺยาติ น นาเมยฺย น จาเลยฺย, น จ ปิทเหยฺยาติ อตฺโถ. ปตฺตํ หตฺเถ ยสฺส โส ปตฺตหตฺโถติ ภินฺนาธิกรโณยํ พาหิรตฺถสมาโส ‘‘วชิรปาณี’’ติอาทีสุ วิย. ‘‘ปณาเมยฺย อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท.
๗๖๔. น นีหเรยฺย ปตฺเตน จลกานีติ รสํ ปิวิตฺวา ปาติตมธุกผลฏฺิกาทิ ฉฑฺฑิตานิ พหิ ฉฑฺเฑตุํ ปตฺเตน น นีหเรยฺย. อฏฺิกานิ วาติ ปนสฏฺิโกลฏฺิอาทิอฏฺิกานิ วา. อุจฺฉิฏฺมุทกนฺติ มุขโธวนาทิกํ อุจฺฉิฏฺมุทกํ. ปตฺเตน นีหรนฺตสฺสาติ โยชนา, พหิ ฉฑฺเฑตุํ ตํ ปตฺเต อาสิฺจิตฺวา หรนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. อิตรถา อุจฺฉิฏฺปตฺตโธวโนทกมฺปิ เตเนว ปตฺเตน พหิ น นีหริตพฺพํ สิยา.
๗๖๕. ปฏิคฺคเหติ ¶ มุขโธวโนทกนฺติ ปฏิคฺคโห, เขฬมลฺลโกว. มุขโต นีหฏนฺติ มุเขน ฉฑฺฑิตํ มํสขณฺฑาทิ ยํ กิฺจิ.
๗๖๖. วินสฺสตีติ วิพฺภเมน วา สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน วา กาลกิริยาย วา วินสฺสติ. อถ วา โยติ ปจฺจตฺตวจนํ ‘‘ยสฺสา’’ติ สามิวเสน ปริณาเมตฺวา ยสฺส ภิกฺขุโน ¶ ปตฺโต เภเทน วา อจฺเฉเทน วา โจริกาย หรเณน วา นสฺสติ, ตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา.
๗๖๗. ปมสฺสาติ ปตฺตวคฺคสฺส ปมํ สงฺคหิตตฺตา ปมสฺส. ปตฺตสฺสาติ ปตฺตสิกฺขาปทสฺส. ปเมนาติ จีวรวคฺคสฺส ปมํ สงฺคหิตตฺตา ปเมน กถิเนนาติ สมฺพนฺโธ. มเหสินาติ มหนฺเต สีลกฺขนฺธาทโย คุเณ เอสิ คเวสีติ มเหสิ. ปมสฺส ปตฺตสฺส สมุฏฺานาทโย สพฺเพ อิธ อนิทฺทิฏฺวินิจฺฉยา ปเมน กถิเนน สมา สทิสา อิติ มเหสินา มตา อนุมตา อนฺุาตาติ โยชนา.
ปมปตฺตกถาวณฺณนา.
๗๖๘. ปฺจ พนฺธนานิ อูนานิ ยสฺส โส ปฺจพนฺธนอูโน, ปตฺโต, ตสฺมึ, อพนฺธนฺจ เอกทฺวิติจตุพนฺธนฺจ ‘‘ปฺจพนฺธนอูน’’นฺติ คหิตํ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘อูนปฺจพนฺธโน นาม ปตฺโต อพนฺธโน วา เอกพนฺธโน วา ทฺวิพนฺธโน วา ติพนฺธโน วา จตุพนฺธโน วา’’ติ (ปารา. ๖๑๓). พนฺธเน อกเตปิ พนฺธนารโห วกฺขมานลกฺขณราชิยุตฺโตปิ ‘‘อูนปฺจพนฺธโนเยวา’’ติ คเหตพฺโพ. เอตฺถ อพนฺธโน นาม ยสฺส พนฺธนเมว นตฺถิ, โส. เตเนวาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺมา อพนฺธนสฺสปิ ปตฺตสฺส ปฺจ พนฺธนานิ น ปูเรนฺติ สพฺพโส นตฺถิตายา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๖๑๓). ทฺวงฺคุลปฺปมาณโต อูนราชิยุตฺโต อพนฺธโนกาโสปิ ‘‘อพนฺธโนเยวา’’ติ คเหตพฺโพ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘อพนฺธโนกาโส นาม ปตฺโต ยสฺส ทฺวงฺคุลา ราชิ น โหตี’’ติ (ปารา. ๖๑๓).
๗๖๙. อุทฺทิฏฺนฺติ ‘‘พนฺธโนกาโส นาม ปตฺโต ยสฺส ทฺวงฺคุลา ราชิ โหตี’’ติ (ปารา. ๖๑๓) ปทภาชเน วุตฺตํ. ทฺวงฺคุลาย ราชิยา เอกฺจ พนฺธนนฺติ โยชนา. ‘‘มุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ภฏฺา’’ติ ¶ อฏฺกถาวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๖๑๓) ‘‘สพฺพาปิ ราชิโย มุขวฏฺฏิโต ปฏฺาย ¶ เหฏฺา ภฏฺาเยว คเหตพฺพา’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. มุขวฏฺฏึ วินา อฺตฺถาปิ อูนปฺจพนฺธเน วา อูนปฺจพนฺธโนกาเส วา สติ โสปิ ปตฺโต อูนปฺจพนฺธโน น โหตีติ น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา ‘‘มุขวฏฺฏิโต ปฏฺายา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๖๑๓) อฏฺกถายํ นิยเมตฺวา วจนํ วีมํสิตพฺพํ. อิธ ปน ตถา นิยโม น ทสฺสิโต, ตสฺมา อยเมว วินิจฺฉโย สามฺเน วุตฺตาย ปาฬิยา อฺทตฺถุ สํสนฺทติ สเมติ. จ-การสฺส อวุตฺตสมุจฺจยตฺถตฺตา ทฺวงฺคุลทฺวงฺคุลาหิ ทฺวีหิ ทฺเว พนฺธนานิ จ ตีณิ พนฺธนานิ จาติ อิทมฺปิ วุตฺตเมว โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺส ปน ทฺเว ราชิโย, เอกาเยว วา จตุรงฺคุลา, ตสฺส ทฺเว พนฺธนานิ ทาตพฺพานิ. ยสฺส ติสฺโส, เอกาเยว วา ฉฬงฺคุลา, ตสฺส ตีณิ พนฺธนานิ ทาตพฺพานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๖๑๓).
อูนปฺจพนฺธนปตฺเตสุ อนฺติมปตฺตสฺส วิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘พนฺธนานิ จา’’ติอาทิ. มุขวฏฺฏิยา อฏฺงฺคุลปฺปมาณานํ จตุนฺนํ ราชีนํ จตฺตาริ พนฺธนานิ จาติ วุตฺตํ โหติ. จกาโร ปุพฺเพ วุตฺตสฺเสว สมุจฺจยํ กโรติ. อฏฺงฺคุลราชิยา ตถาติ มุขวฏฺฏิโต ปฏฺาย อฏฺงฺคุลายามํ ภฏฺาย ราชิยา ทฺวงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺเต าเน เตเนว นีหาเรน พทฺธานิ จตฺตาริ พนฺธนานิ จาติ อตฺโถ.
๗๗๐. เอวํ อูนปฺจพนฺธนปตฺตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปริปุณฺณปฺจพนฺธนปตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปฺจ วา’’ติอาทิ. มุขวฏฺฏิยา ทฺวงฺคุลทฺวงฺคุลายามํ โอติณฺณา ปฺจ ราชิโย จ. วา-สทฺเทน ปฺจพนฺธนวิกปฺปา ทสฺสิตา. เอกา วาปิ ทสงฺคุลาติ มุขวฏฺฏิโต ทสงฺคุลายามา เอกา วา ราชิ โหติ. อปิ-สทฺเทน ตสฺสา ราชิยา พนฺธโน ปฺจพนฺธนปกฺโข ทสฺสิโต. อยํ ปตฺโตติ ¶ ยสฺส ปฺจ ราชิโย วา ตตฺถ พนฺธนานิ ปฺจพนฺธนานิ วา, ทสงฺคุลา เอกา ราชิ วา ตตฺถ พนฺธนานิ ปฺจพนฺธนานิ วา สนฺติ, อยํ ปตฺโต ปฺจพนฺธโน นาม.
๗๗๑. เอตฺตาวตา มตฺติกาปตฺเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อโยปตฺเต ทสฺเสตุมาห ‘‘อโยปตฺโต’’ติอาทิ. ฉิทฺทานิ ปฏิจฺฉาเทตุํ พนฺธิตพฺพานิ อโยปฏฺฏานิ โลหมณฺฑลกานิ นาม. ‘‘ภณฺฑี’’ติปิ ตสฺเสว ปริยาโย. ภณฺฑิตพฺพํ พนฺธิตฺวา ฉิทฺเท ปฏิจฺฉาทิเตปิ ยตฺถ อสณฺหตาย อามิสํ ติฏฺติ, ตาทิโสปิ อปตฺโตเยวาติ อาห ‘‘มฏฺโ วฏฺฏตี’’ติ. อโยจุณฺเณน วาณิยาติ เอตฺถาปิ ‘‘มฏฺโ วฏฺฏตี’’ติ สมฺพนฺธนียํ.
๗๗๒. ตสฺส ¶ นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ ตํ ปตฺตํ ตสฺมึ อนุกมฺปาย อคณฺหนฺตสฺสาติ โยชนา, ‘‘สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๖๑๓) วจนโต สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสฏฺํ ตสฺส ตํ ปตฺตํ ตสฺมึ ปตฺตนิสฺสชฺชเก ปุคฺคเล อนุกมฺปาย อคณฺหนฺตสฺส.
๗๗๓. ทียมาเน ตุ ปตฺตสฺมินฺติ อูนปฺจพนฺธเนน ปตฺเตน วิฺาปิตนวปตฺเต ภิกฺขุมฺหิ ตํ ปตฺตํ สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺตึ เทเสตฺวา นิสินฺเน จตสฺโส อคติโย อคมนํ, คหิตาคหิตชานนนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ปมํ สงฺฆํ ยาจิตฺวา ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สงฺเฆน ปตฺตคาหกํ กตฺวา สมฺมเตน นิสฺสฏฺปตฺตํ หตฺเถน คเหตฺวา ตสฺมึ สงฺเฆ สงฺฆตฺเถรโต ปฏฺาย อนุกฺกเมน อุปสงฺกมฺม วิฺายมานํ คุณํ วตฺวา ปณามิเต. ยสฺสาติ ตสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ นิสินฺนสฺส ยสฺส ¶ ภิกฺขุโน, โรจนตฺถโยเค สมฺปทานวจนํ. โส ทียมาโน ปตฺโต. ตํ ทียมานํ ปตฺตํ.
๗๗๔. ทีปิโตติ ‘‘อปตฺตกสฺส น คาเหตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๖๑๕) วุตฺโต. ตตฺถาติ ตสฺสํ ภิกฺขุปริสายํ. ปตฺตปริยนฺโตติ เอตฺถ ‘‘เอวํ ปริวตฺเตตฺวา ปริยนฺเต ิตปตฺโต’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๕) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา เตน ปตฺตปริวตฺตเนน อาคโต วา สพฺเพหิ อคฺคหิตตฺตา อาคโต โส เอว วา ปตฺโต ปริยนฺโต นาม โหตีติ อตฺโถ. ตสฺส ภิกฺขุโนติ ปตฺตํ นิสฺสชฺชิตฺวา นิสินฺนสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน.
๗๗๕. ตนฺติ อตฺตโน ทินฺนํ ตํ ปริยนฺตปตฺตํ. อปฺปเทเสติ มฺจปีาทิอฏฺาเน. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘มฺจปีฉตฺตนาคทนฺตาทิเก อเทเส’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๕). วิสฺสชฺเชตีติ อฺสฺส เทติ. อตฺตนา อทาเปตฺวา อฺเน ตํ ปตฺตํ สยเมว อตฺตโน คเหตฺวา อฺํ อนุรูปํ ปตฺตํ ทิยฺยมานํ คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อโภเคน ปริภฺุชตีติ ยาคุรนฺธนาทิวเสน ปริภฺุชติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อโภเคนาติ ยาคุรนฺธนรชนปจนาทินา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๕). ‘‘อนฺตรามคฺเค ปน พฺยาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน อฺสฺมึ ภาชเน อสติ มตฺติกาย ลิมฺปิตฺวา ยาคุํ วา ปจิตุํ อุทกํ วา ตาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๕) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ตาทิเส าเน ตถาปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺถ วิเสโส.
๗๗๖. นฏฺเติ ¶ อตฺตโน ปริภฺุชิยมาเน ปตฺเต โจรคฺคหณาทินา นฏฺเ. ภินฺเนติ เภทมุปคเต. อนาปตฺตีติ อฺํ ปตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺติ. ปกาสิตาติ ‘‘อนาปตฺติ นฏฺปตฺตสฺส ภินฺนปตฺตสฺส าตกานํ ปวาริตานํ อฺสฺสตฺถาย ¶ อตฺตโน ธเนนา’’ติอาทินา (ปารา. ๖๑๗) นเยน ปาฬิยํ เทสิตา. อิธ ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ วุตฺตตฺตา อตฺตโน วฬฺชิยมาเน ปตฺเต สติปิ อฺสฺสตฺถาย ปตฺตํ วิฺาเปตุํ วฏฺฏติ. าตกาทีนํ คณฺหโตติ เอตฺถ ‘‘สนฺตก’’นฺติ ลพฺภติ. อตฺตโน ธเนนาติ โยชนา. เอตฺถ ธนํ นาม สุตฺตวตฺถาทิ กปฺปิยวตฺถุ.
ทุติยปตฺตกถาวณฺณนา.
๗๗๘. สปฺปิอาทึ เภสชฺชนฺติ เอตฺถ ปาฬิยํ ‘‘เสยฺยถิทํ? สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๒) อุทฺทิสิตฺวา ‘‘สปฺปิ นาม โคสปฺปิ วา อชิกาสปฺปิ วา มหึสสปฺปิ วา, เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปี’’ติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ ฆตฺจ ‘‘เตสํเยว นวนีต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ นวนีตฺจ ‘‘ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑกเตลํ วสาเตล’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ เตลฺจ ‘‘มธุ นาม มกฺขิกามธู’’ติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ มธฺุจ ‘‘ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ คุฬาทิผาณิตฺจาติ เอตสฺมึ ปฺจเภสชฺชราสิมฺหิ ยํ ยํ เภสชฺชนฺติ อตฺโถ. ปุเรภตฺตนฺติ ปุเรภตฺเต. ปฏิคยฺหาติ ปฏิคฺคเหตฺวา.
๗๗๙. ตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ เภสชฺชํ. สตฺตาหนฺติ เอตฺถ ‘‘วฏฺฏตี’’ติ กิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ‘‘สตฺตาหํ อติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘สตฺตาหาติกฺกเม ตสฺสา’’ติ วา ปาโ. สตฺตาหสฺส อติกฺกโม สตฺตาหาติกฺกโม, ตสฺมึ สตฺตาหาติกฺกเม. ตสฺสาติ เภสชฺชปฏิคฺคาหกสฺส ภิกฺขุโน. ‘‘นิสฺสคฺคิย’’นฺติ อิมินา ปาจิตฺติยเมว ทสฺสิตํ. นิสฺสคฺคิยวตฺถุ ภาชนคณนาย อาปตฺตึ กโรติ. เอกสฺมึ ภาชเนปิ วิสุํ วิสุํ ปิตานิ นวนีตปิณฺฑคุฬปิณฺฑสกฺกรมธุปฏลานิปิ ¶ อตฺตโน คณนาย อาปตฺตึ กโรนฺติ.
๗๘๐. คณฺหิตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา. สนฺนิธียตีติ สนฺนิธิ, สนฺนิหิตวตฺถุ, ตสฺส การกํ กรณํ ¶ อปราปรทิวสตฺถาย ปนํ, ตํ กตฺวา, ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ยถา อปรํ ทิวสํ คจฺฉติ, ตถา กตฺวา นิกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. นิรามิสํ สายโตติ อามิเสน อมิสฺเสตฺวา ภฺุชนฺตสฺส.
๗๘๑. อุคฺคหิตนฺติ อปฺปฏิคฺคหาเปตฺวา หตฺเถน คหิตํ. สรีรโภเคติ พหิ สรีรปริโภเคเนว.
๗๘๒. คหิตํ ปฏิคฺคหิตํ. ตาเปตฺวาติ วิลียาเปตฺวา.
๗๘๓. ‘‘สยํ ตาเปติ…เป… น โหติ โส’’ติ อิทํ สุโธตนวนีตํ สนฺธาย วุตฺตํ, ทุทฺโธเตน ปน ทธิคุฬิกาทิสหิเตน สามํปาโก โหเตว. นวนีตสฺส ยํ สยํ ตาปนํ, โส สามํปาโก น โหตีติ โยชนา.
๗๘๔. เยน เกนจีติ อุปสมฺปนฺเนน, อนุปสมฺปนฺเนน วา.
๗๘๕. ‘‘สยํ กโรตี’’ติ อิมินา อนุปสมฺปนฺนํ นิวตฺเตติ. เตน กตํ ปน ตทหุ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีเรน วา ทธินา วา กตสปฺปิ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ สามิสมฺปิ ตทหุ ปุเรภตฺตํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒).
๗๘๖. สวตฺถุกสฺสาติ เอตฺถ วตฺถุ นาม ขีรทธิ.
๗๘๗. อสฺสาติ ปฏิคฺคหิตขีรทธีหิ กตสปฺปิมาห. ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา ตานี’’ติ วุตฺตตฺตาติ อิทํ ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ ¶ คิลานานํ ภิกฺขูนํ ปฏิสายนียานิ เภสชฺชานิ, เสยฺยถิทํ? สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ, ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ (ปารา. ๖๒๒) อิมสฺมึ มาติกาปาเ ‘‘ยานี’’ติ วุตฺตสปฺปิอาทีนเมว ‘‘ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตาติ วุตฺตํ โหติ, ตตฺถ ขีรทธีนํ อวุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย.
๗๘๘. กปฺปิยสปฺปิมฺหีติ ¶ กปฺปิยมํสานํ สตฺตานํ ฆเต. อกปฺปิยสปฺปิมฺหีติ อกปฺปิยมํสานํ สตฺตานํ ฆเต, ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาเห อติกฺกนฺเตติ วุตฺตํ โหติ.
๗๘๙. เตน สปฺปินา อกปฺปิเยน ภวิตพฺพนฺติ อิทํ ทุกฺกฏํ กถํ โหตีติ อาห ‘‘สพฺพา’’ติอาทิ. อกปฺปิยํ มํสํ เยสํ เต อกปฺปิยมํสา, มนุสฺสาทโย, สพฺเพ จ เต อกปฺปิยมํสา จาติ สพฺพากปฺปิยมํสา, เตสํ.
๗๙๐-๑. เอวํ เจ วฏฺฏติ, ‘‘เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปี’’ติ กสฺมา ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ โจทนํ สมุฏฺาเปตฺวา ตํ ปริหริตุมาห ‘‘เยส’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘เยสฺหิ กปฺปติ มํสํ, เตสํ สปฺปี’’ติ อิทํ วจนํ กึ ปโยชนํ สาเธตีติ วุตฺตํ โหติ. อิทานิ ปริจฺเฉทนิยมนสงฺขาตํ ตํปโยชนฺจ ตพฺพิสยฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปณีตโภชนสฺสา’’ติอาทิ. ปณีตโภชนสฺส ปริจฺเฉทนิยามนนฺติ โยชนา. สตฺตาหกาลิเก ปฺจวิเธ เภสชฺเชติ วุตฺตํ โหติ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. นิสฺสคฺคิยสฺส วตฺถูนนฺติ นิทฺธาริตพฺพทสฺสนํ. นิสฺสคฺคิยสฺสาติ เอตฺถ ตํเหตุกสฺส ปาจิตฺติยสฺสาติ อตฺโถ. วตฺถูนนฺติ สปฺปินวนีตทฺวยเมว วุตฺตํ. สตฺตาหกาลิเก นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสฺส วตฺถุ นาม เอเตสเมว สปฺปินวนีตานิ, ปณีตโภชนฺจ เตสเมว ขีรทธิสปฺปินวนีตานีติ ทสฺเสตุํ ตถา วุตฺตํ, น อกปฺปิยมํสสตฺตานํ สปฺปิอาทินิวารณตฺถํ ¶ วุตฺตนฺติ อยํ ปาฬิยํ ตถาคตา ธิปฺเปโต อตฺโถติ วุตฺตํ โหติ.
๗๙๒. คหิตุคฺคหิตาทิเก อุคฺคหิตปฏิคฺคหิตาทิเก นวนีเตปิ สพฺโพ วินิจฺฉโย สปฺปิมฺหิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน ปุเรภตฺตํ, ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีรทธีหิ, อุคฺคหิตขีรทธีหิ จ กตํ นวนีตํ, ตาทิสเมว อกปฺปิยมํสนวนีตฺจ สงฺคหิตํ. สพฺโพ วินิจฺฉโยติ อาปตฺติอาทิกํ สพฺพวินิจฺฉยํ สงฺคณฺหาติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สพฺโพ อาปตฺตานาปตฺติปริโภคาปริโภคนโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒).
๗๙๓-๔. ภิกฺขูนํ อากิรนฺตีติ เอตฺถ ‘‘ปตฺเต’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. อาทิจฺจปกฺกนฺติ อาตเป วิลีนํ. สํสฏฺํ ปริสฺสาวิตํ.
๗๙๕-๖. ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑกเตลํ. คหิตนฺติ ปฏิคฺคหิตํ. ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ ¶ นิรามิสมฺปิ สายิตพฺพนฺติ โยชนา. เตสํ วสาติ สตฺตาหาติกฺกนฺตานํ เตสํ เตลานํ วเสน, เตลภาชนคณนายาติ วุตฺตํ โหติ.
๗๙๘. เตสํ ติณฺณมฺปีติ เอรณฺฑมธุกสาสปพีชานํ ติณฺณํ.
๘๐๐. สาสปาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปฏิโลเมน มธุเกรณฺฑกานํ คหณํ. คเหตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา. ภิกฺขุนา เตลตฺถาเยว คเหตฺวา ปิตานํ สาสปาทีนํ สตฺตาหาติกฺกเม ทุกฺกฏํ สิยาติ โยชนา.
๘๐๑-๒. นาฬิเกรฺจ ¶ กรฺชฺจ นาฬิเกรกรฺชานิ, เตสํ, นาฬิเกรผลานํ, นตฺตมาลฏฺีนฺจ เตลนฺติ สมฺพนฺโธ. กุรุวกสฺสาติ อตสิพีชสฺส. นิมฺพฺจ โกสมฺพกฺจ นิมฺพโกสมฺพกานิ, เตสํ, ปุจิมนฺทพีชสฺส จ ผนฺทนพีชสฺส จ เตลนฺติ สมฺพนฺโธ. ภลฺลาตกสฺสาติ เอวํนามกสฺส รุกฺขพีชสฺส. สมยจฺจเยติ สตฺตาหาติกฺกเม.
๘๐๓. ยาวกาลิกเภทฺจาติ เอตฺถ ‘‘ยาวกาลิก’’นฺติ เภโท วิเสสนํ ยสฺสาติ วิคฺคโห, ‘‘อิทํ วตฺถุ’’นฺติ เอตสฺส อชฺโฌหรณียวิเสสิตพฺพสฺส วิเสสนํ. ยาวชีวิกนฺติปิ ตสฺเสว วิเสสนํ. เสสนฺติ ‘‘สามํปากสวตฺถุก ปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปฏิคฺคหิตอุคฺคหิตกวตฺถุวิธานํ สพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒) อฏฺกถายํ ทสฺสิตํ เสสํ วิเสสปฺปการชาตมาห. เอตฺถาปีติ อิมสฺมึ เตลวินิจฺฉเยปิ.
๘๐๔. อจฺฉสฺส อิสสฺส. มจฺฉสฺส ชลชสฺส. วราหสฺส สูกรสฺส. สุสุกาสงฺขาตสฺส มกรสฺส. มจฺฉวจเนเนว มกรสฺส สงฺคหิตตฺเตปิ วาฬมจฺฉภาเวน วิสุํ คหณนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. คทฺรภสฺส ขรสฺส. อิเมสํ ปฺจนฺนํ สตฺตานํ วเสน ปฺจวิธานํ วสานํ เตลฺจ ปฺจปฺปการํ โหตีติ อตฺโถ.
๘๐๕. กปฺปิยากปฺปิยสฺส จาติ กปฺปิยากปฺปิยมํสสฺส สตฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ, สพฺพเมว ¶ วสาเตลํ วฏฺฏตีติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เอตฺถ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว วสานิ เภสชฺชานิ อจฺฉวสํ มจฺฉวสํ สุสุกาวสํ สูกรวสํ คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) อนฺุาตปาเ อจฺฉวสาคฺคหเณน มนุสฺเสหิ อฺเสํ สพฺพากปฺปิยมํสสตฺตานํ วสาย อนฺุาตตฺตา ¶ ตํ สงฺคเหตุํ อกปฺปิยคฺคหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อจฺฉวส’นฺติ วจเนน เปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ อกปฺปิยมํสานํ วสา อนฺุาตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓). เอตฺถ อกปฺปิยมํสสตฺตานํ มํสานํ อกปฺปิยภาโว ‘‘มํเสสุ หิ ทส มนุสฺสหตฺถิอสฺสสุนขอหิสีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉตรจฺฉานํ มํสานิ อกปฺปิยานิ. วสาสุ เอกา มนุสฺสวสาว. ขีราทีสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓) อฏฺกถาวจนโต เวทิตพฺโพ. อกปฺปิยวจเนน มนุสฺสวสายปิ คยฺหมานตฺตา ตสฺมึ นีหริตุมาห ‘‘เปตฺวา’’ติ.
๘๐๖. ปุเรภตฺตนฺติ ปุเรภตฺเต. สํสฏฺํ ปริสฺสาวิตํ. ‘‘ปุเรภตฺต’’นฺติ อิทํ ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวาน, ปกฺกํ, สํสฏฺ’’นฺติ อิเมหิ ปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภฺุชิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒).
๘๐๗. ตํ กตฺวา เทตีติ อปฏิคฺคหิตวสํ คเหตฺวา ปจิตฺวา เตลํ เทตีติ อตฺโถ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ นิพฺพฏฺฏิตวสาเตลํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓). ตโต อุทฺธํ สตฺตาหมนติกฺกมฺมาติ คเหตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓). อิธ อุภยตฺถาปิ กาเล, วิกาเล จ กปฺปิยากปฺปิยมํสวสานํ เตลํ ทิยฺยมานํ สุขุมมํสจุณฺณาทิกํ อพฺโพหาริกํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยํ ปน ตตฺถ สุขุมรชสทิสํ มํสํ วา นฺหารุ วา อฏฺิ วา โลหิตํ วา โหติ, ตํ อพฺโพหาริก’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓).
๘๐๘. ปฏิคฺคเหตุนฺติ เอตฺถ ‘‘วส’’นฺติ จ กาตุนฺติ เอตฺถ ‘‘เตล’’นฺติ จ ปกรณโต ลพฺภติ. กาตุนฺติ เอตฺถ ปจิตุํ ปริสฺสาวิตุนฺติ ¶ อุภยเมวาติ อตฺโถ. ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ ปฏิคฺคหณาทิปโยคตฺตเย วิสุํ วิสุํ ทุกฺกฏตฺตา วุตฺตํ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘วิกาเล เจ ภิกฺขเว ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ติณฺณํ ทุกฺกฏาน’’นฺติ ¶ (มหาว. ๒๖๒). อิมานิ หิ ตีหิ ปโยเคหิ ตีณิ ทุกฺกฏานิ โหนฺติ. เสโสติ อุคฺคหิตกปฏิคฺคหิตกสวตฺถุกวิสโย วินิจฺฉโย จ ภาชนคณนาย อาปตฺติเภโท จาติ เอวํปกาโร วตฺตพฺพวิเสโส.
๘๐๙. คหิตนฺติ ปฏิคฺคหิตํ. มธุกรีกตนฺติ มธุมกฺขิกาขุทฺทกมกฺขิกาภมรมกฺขิกาสงฺขาตาหิ ตีหิ มธุกรีหิ กตํ.
๘๑๐. วตฺถูนํ คณนาติ มธุปฏเลน ิตํ เจ, ปฏลคณนาย, ปีเฬตฺวา ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ปิตํ เจ, ภาชนคณนาย, สิเลสมิว ปตฺถินฺนํ เจ, มหาภมรมธุขณฺฑปิณฺฑวเสน, วิสุํ วิสุํ กเต เตสํ คณนายาติ อตฺโถ.
๘๑๑. ฆนาฆนนฺติ เอตฺถ คุฬฺจ นานปฺปการา สกฺกรา จ ฆนปกฺกํ นาม. ปกฺกตนุกํ ผาณิตํ อฆนปกฺกํ นาม. อุจฺฉุสิเลโส อปกฺกฆนํ นาม. อุจฺฉุทณฺฑโต ปีฬิตรโส อปกฺกาฆนํ นาม. ‘‘ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓) สาธารณปาฬิวจนโต, ‘‘ผาณิตํ นาม อุจฺฉุรสํ อุปาทายา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา; วิ. สงฺค อฏฺ. ๙๘) อฏฺกถาวจนโต จ อิห รสาทีหิ อุจฺฉุปานมฺปิ สงฺคหิตํ. เกจิ อุจฺฉุโน จตุกาลิกตฺตํ วณฺณยนฺติ, ตํ น สารโต ปจฺเจตพฺพํ.
๘๑๒. ผาณิตนฺติ วุตฺตปฺปกาเร ตสฺมึ ผาณิเต อฺตรํ. คหิตํ ปฏิคฺคหิตํ.
๘๑๓. อสํสฏฺเนาติ ¶ อปริสฺสาวิเตน. กตผาณิตนฺติ ปริสฺสาเวตฺวา อตฺตนา กตผาณิตํ. ปุเรภตฺตํ คหิเตนาติ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตน. ‘‘สยํ กต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓) วุตฺตตฺตา กตนฺติ อุจฺฉุรโส คเหตพฺโพ.
๘๑๖. กตฺวาติ ปจิตฺวา ผาณิตํ กตฺวา.
๘๑๗. ปจฺฉาภตฺตํ กตฺจาปีติ ปจฺฉาภตฺตํ อตฺตนา จ กตํ อนุปสมฺปนฺเนน จ กตํ ผาณิตมฺปิ.
๘๑๘. กตํ ¶ …เป… สีตวารินาติ สีตุทเก มธุกปุปฺผานิ ปกฺขิปิตฺวา เปตฺวา มทฺทิตฺวา ปริสฺสาวิตรเสน กตํ มธุกผาณิตํ.
๘๑๙. อสฺสาติ มธุกผาณิตสฺส. ทุกฺกฏนฺติ ตทาธารภาชนคณนาย ทุกฺกฏํ. ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ มธุกผาณิตํ ยาวกาลิกํ เจ โหติ, กถํ ขณฺฑสกฺกรากตํ สตฺตาหกาลิกํ โหตีติ วิจารณายํ ขีรชลฺลิกํ โธวิตฺวา โธวิตฺวา คยฺหมานตฺตา วฏฺฏตีติ ปริหรนฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ขณฺฑสกฺกรํ ปน ขีรชลฺลิกํ อปเนตฺวา อปเนตฺวา โสเธนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓). ‘‘พีชโต ปฏฺาย น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตมธุกปุปฺผเมรยํ วินา อามกฺจ ปกฺกฺจ มธุกปุปฺผํ ปุเรภตฺตํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๘๒๐. สพฺเพสํ ปน ผลานนฺติ กทลิขชฺชูริอาทิผลานํ.
๘๒๑. สามฺโชตนาย วิเสเสปิ อวฏฺานโต ‘‘กาลิกา’’ติ อิมินา ‘‘ปจฺฉาภตฺตํ สติ ปจฺจเย’’ติ วจนสามตฺถิยา ยาวกาลิกวชฺชา ตโย กาลิกา คเหตพฺพา ¶ , ‘‘ปุเรภตฺตํ ยถาสุข’’นฺติ วจนสามตฺถิยา จตฺตาโรปิ คเหตพฺพา. ยาวกาลิกวชฺชา ตโย กาลิกา ปจฺฉาภตฺตํ วิกาเล ปจฺจเย ปิปาสาทิการเณ สติ เกวลมฺปิ ปจฺเจกมฺปิ มิสฺเสตฺวาปิ ปริภฺุชิตุํ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏนฺติ. กาลิกา จตฺตาโรปิ ปุเรภตฺตํ กาเล ยาวมชฺฌนฺหา เกวลมฺปิ มิสฺเสตฺวาปิ ยถาสุขํ อสติปิ ปจฺจเย ปริภฺุชิตุํ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.
๘๒๒. อรุอาทีนีติ วณาทีนิ. ‘‘มกฺเขตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อิมินา พาหิรปริโภโคปิ นิวาริโต.
๘๒๓. อนาปตฺติวาเร ‘‘อนฺโตสตฺตาห’’นฺติ อธิกาเร ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส จตฺเตน วนฺเตน มุตฺเตน อนเปกฺโข ทตฺวา ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชตี’’ติ (ปารา. ๖๒๕) วุตฺตตฺตา จชิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อนฺโตสตฺตาหํ อนุปสมฺปนฺนสฺสา’’ติ วตฺตพฺพํ. ลภิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘สตฺตาหาติกฺกเมปี’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. เตนาห มหาปทุมตฺเถโร ‘‘อนฺโตสตฺตาเห ทินฺนสฺส หิ ปุน ปริโภเค อาปตฺติเยว นตฺถิ, สตฺตาหาติกฺกนฺตสฺส ปน ปริโภเค อนาปตฺตีติ ทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺต’’นฺติ. ลภิตฺวาติ ¶ คหิตเตเลน อนุปสมฺปนฺเนน สกฺกจฺจํ, อสกฺกจฺจํ วา ทินฺนํ ลภิตฺวา. สายิตุนฺติ เอตฺถ ‘‘ลภตี’’ติ เสโส.
๘๒๔. ‘‘อนาปตฺติ อธิฏฺเตี’’ติ ทฺวินฺนํ ปทานํ อนฺตเร ‘‘อนฺโตสตฺตาห’’นฺติ เสโส, สพฺพปเทหิปิ ยุชฺชติ. อธิฏฺเตีติ สตฺตาหพฺภนฺตเร สปฺปิฺจ เตลฺจ วสฺจ มุทฺธนิ เตลํ วา อพฺภฺชนํ วา, มธุํ อรุมกฺขนํ, ผาณิตํ ฆรธูปนํ ภวิสฺสตีติ อธิฏฺเติ. อธิฏฺิเตน อนธิฏฺิตํ เจ มิสฺสํ โหติ, ปุนปิ อธิฏฺาตพฺพํ. วิสฺสชฺเชตีติ อนฺโตสตฺตาเห อฺสฺส อุปสมฺปนฺนสฺส เทติ. สเจ ตถา ทินฺนํ อฺเน อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา ¶ , เตน ปฏิคฺคหิตมฺปิ อิตรสฺส ทินฺนตฺตา เตสํ อนาปตฺตีติ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๕ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ.
วินสฺสตีติ สตฺตาหพฺภนฺตเร เยน เกนจิ อากาเรน ยถา อปริโภคํ โหติ, ตถา โจริกาย หรณาทิวเสน นสฺสติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วินสฺสตีติ อปริโภคํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๕). อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหตีติ อฺโ ตสฺมึ สตฺตาหพฺภนฺตเร วิลุมฺปิตฺวา คณฺหาติ. วิสฺสาสํ คณฺหตีติ ตสฺมึเยว สตฺตาหพฺภนฺตเร อฺโ วิสฺสาสํ คณฺหาติ.
๘๒๕. อกถินจิตฺเตน สตฺถุนา สมุฏฺานาทโย สพฺเพว ปเมน กถิเนน สมา ปกาสิตาติ โยชนา. อกถินจิตฺเตนาติ มหากรุณารเสน ตินฺตตาย อกกฺกสจิตฺเตน, อวิหึสาภิรตจิตฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. สตฺถุนาติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกาทีหิ อตฺเถหิ สเทวกํ โลกํ อนุสาสตีติ สตฺถา, เตน สพฺพฺุนา ทสพเลน สมฺมาสมฺพุทฺเธน.
เภสชฺชสิกฺขาปทกถาวณฺณนา.
๘๒๖. คิมฺหานนฺติ เอตฺถ ‘‘มาสาน’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, นิทฺธารเณ สามิวจนํ, คิมฺเหสุ จตูสุ มาเสสูติ อตฺโถ. นิทฺธาริตพฺพํ ทสฺเสติ ‘‘มาโส เสโส’’ติ, เอตฺถ ‘‘วตฺตพฺเพ กาเล’’ติ เสโส. ผคฺคุนมาสกณฺหปกฺขปาฏิปทโต ปฏฺาย เชฏฺมาสปุณฺณมิปริโยสาเนสุ ตีสุ มาเสสุ อติกฺกนฺเตสูติ อตฺโถ. เสสมาโส นาม เชฏฺมาสสฺส กณฺหปกฺขปาฏิปทโต ปฏฺาย อาสาฬฺหิมาสปุณฺณมิปริโยสาโน. คิมฺหานํ มาโส เสโสติ วตฺตพฺเพ กาเลติ อตฺโถ.
อิมสฺมึ ¶ ¶ ปจฺฉิเม คิมฺหมาเส เชฏฺมาสสฺส กณฺหปกฺโข วสฺสิกสาฏิกา เจ น ลทฺธา, ปริเยสิตุํ ลทฺธํ กาตุํ เขตฺตํ, อธิฏฺานนิวาสนานํ อเขตฺตํ. อาสาฬฺหิปุริมปกฺโข ปริเยสนกรณนิวาสนานํ เขตฺตํ, อธิฏฺาตุํ อเขตฺตํ. อาสาฬฺหิกณฺหปกฺขปาฏิปทโต ยาว ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมี, อิทํ จตุนฺนมฺปิ เขตฺตนฺติ อยเมตฺถ สงฺเขโป.
ปริเยเสยฺยาติ ‘‘เย มนุสฺสา ปุพฺเพ วสฺสิกสาฏิกํ เทนฺตี’’ติอาทินา (ปารา. ๖๒๘) ปทภาชเน วุตฺตนเยน ปุพฺเพ วสฺสิกสาฏิกทายกํ อุปสงฺกมฺม ‘‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวร’’นฺติอาทินา วจเนน อวิฺาเปตฺวา ‘‘กาโล วสฺสิกสาฏิกาย สมโย วสฺสิกสาฏิกาย, อฺเปิ มนุสฺสา วสฺสิกสาฏิกํ เทนฺตี’’ติ เอวํ สตุปฺปาทมตฺตกรเณน ปริเยเสยฺย.
สาฏิกนฺติ วสฺสิกสาฏิกํ. ‘‘อทฺธมาโส เสโส’’ติ อิทํ ‘‘คิมฺหาน’’นฺติ อิมินาว ยุชฺชติ. ตตฺถ ‘‘วตฺตพฺเพ กาเล’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ, อาสาฬฺหิมาสสฺส ปุริมปกฺเขติ อตฺโถ. กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ลทฺธ’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ยถาวุตฺตนเยน สตุปฺปาเทน วา อวเสสานํ สทฺธาสมฺปนฺนกุลานํ วา สนฺติกา ลทฺธํ สิพฺพนรชนกปฺปพินฺทุทานวเสน นิฏฺาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปริทเหติ นิวาเสยฺย.
๘๒๗-๘. ปิฏฺิสมฺมเต สมเยติ ‘‘กตฺติกปุณฺณมาสิยา ปน ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว เชฏฺมูลปุณฺณมา อิเม สตฺต มาสา ปิฏฺิสมโย นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘) เอวํ ทสฺสิเตสุ สตฺตสุ มาเสสุ. าตกาฺาตกาทิโน สตุปฺปาทํ กตฺวาติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน ปวาริตาปวาริตานํ สงฺคโห. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต’’ติ.
เตสุเยวาติ ¶ าตกอฺาตกปวาริตอปฺปวาริเตสุ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘โหติ นิสฺสคฺคิยาปตฺตี’’ติ อิทํ ทสฺสิตํ. สา อาปตฺติ อฺาตกอปฺปวาริเตสุ อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวร’นฺติอาทินา นเยน วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘). าตกปวาริเตสุ เตน สิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, ปิฏฺิสมยตฺตา อิมินา ¶ อาปตฺติ โหติ. อฺาตกอปฺปวาริเตสุ จ วกฺขมานนเยน วตฺตเภททุกฺกเฏน สทฺธึ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
๘๒๙-๓๐. อฺาตกาทิโน กตฺวา ปน สตุปฺปาทนฺติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน อปฺปวาริตานํ สงฺคโห. กุจฺฉิสฺิเต สมเยติ ยถาวุตฺตปิฏฺิสมเย สตฺตมาเส วินา อิตเร ปฺจ มาสา วุตฺตา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เชฏฺมูลปุณฺณมาสิยา ปน ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกปุณฺณมา อิเม ปฺจ มาสา กุจฺฉิสมโย นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘). วตฺถนฺติ วสฺสิกสาฏิกํ. อทินฺนปุพฺเพสูติ เยหิ วสฺสิกสาฏิกา น ทินฺนปุพฺพา, เตสุ, อิมินา วตฺตเภทสฺส การณมาห. อิห วตฺตเภโท นาม ‘‘เย มนุสฺสา ปุพฺเพ วสฺสิกสาฏิกจีวรํ เทนฺตี’’ติอาทิวจนโต (ปารา. ๖๒๘) ทินฺนปุพฺเพสุ กาตพฺพสฺส สตุปฺปาทสฺส อทินฺนปุพฺเพสุ กรณํ. พฺยติเรกโต ทินฺนปุพฺเพสุ นตฺถีติ ทีปิตํ โหติ.
ตตฺราติ อฺาตกาทิมฺหิ. ‘‘นิสฺสคฺคิย’’นฺติ อิมินา อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อาปตฺตึ อาห. ยถาห กุจฺฉิสมยจตุกฺเก ‘‘วิฺตฺติมฺปิ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ. อยํ ปาจิตฺติยาปตฺติ ปกติยา วสฺสิกสาฏิกทายเกสุปิ โหตีติ อิทํ ¶ อฏฺกถายํ ‘‘อิทํ ปน ปกติยา วสฺสิกสาฏิกทายเกสุปิ โหติเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘) วจนโต วิฺายติ.
๘๓๑. โอวสฺสาเปตีติ อากาสโต ปติตอุทเกเนว กายํ เตเมติ, อิมินา ‘‘ฆฏาทีหิ โอสิฺจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ทีปิตํ โหติ. ‘‘นิพฺพโกสมฺพุนา นหายิตุํ วฏฺฏตี’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. สติปิ จีวเรติ วสฺสิกสาฏิกาย สติยาปิ. ‘‘ปริโยสาเน ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา พินฺทุคณนายาติ ทีเปติ. วิวฏงฺคเณติ รุกฺขาทินา เกนจิ อนาวฏฏฺาเน.
๘๓๒. มาสสฺมินฺติ คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสสฺมึ.
๘๓๓. ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ เอตํ วสฺสิกสาฏิกเมว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๓๐) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. วสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสตฺวา นหายนฺตสฺส โจรุปทฺทโว อาปทา นาม. นฺหานโกฏฺกนฺติ นหานตฺถาย กตโกฏฺกํ. ‘‘วาปี’’ติ อิมินา โปกฺขรณิชาตสฺสราทโย ¶ อุปลกฺขิตา. นฺหายนฺตสฺสาติ นคฺโค หุตฺวา นหายนฺตสฺสาติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘อากาสโต ปติตอุทเกเนวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๙) อฏฺกถายเมว วุตฺตํ.
๘๓๔. กฺริยนฺติ อกาเล ปริเยสนกรณอธิฏฺานนิวาสเนหิ อาปชฺชิตพฺพโต กิริยํ. กาเยน จ วาจาย จ วิฺาปนาทึ กโรนฺตสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ โหติ.
วสฺสิกสาฏิกกถาวณฺณนา.
๘๓๕. ‘‘โย ¶ ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส สามํ จีวรํ ทตฺวา’’ติ (ปารา. ๖๓๒) วจนโต สามนฺติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ จ ทตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสฺส’’อิติ จ ลพฺภติ. จีวรนฺติ ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมํ. ‘‘กุปิโต อนตฺตมโน อจฺฉินฺเทยฺยา’’ติ (ปารา. ๖๓๒) วจนโต อจฺฉินฺทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘กุปิตสฺส อนตฺตมนสฺสา’’ติ เสโส, กุปิตสฺส อนตฺตมนสฺส อจฺฉินฺทนฺตสฺส วา อจฺฉินฺทาเปนฺตสฺส วาติ อตฺโถ. ตนฺติ อตฺตนา ทินฺนจีวรํ. ‘‘สกสฺายา’’ติ อิมินา ปาราชิกาย อวตฺถุภาวํ ทีเปติ.
๘๓๖. ตถาติ เอกาเยว อาปตฺตีติ ทีเปติ.
๘๓๗. วตฺถานนฺติ จีวรานํ. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส.
๘๔๑. สงฺฆาฏึ คณฺห, อุตฺตราสงฺคํ คณฺหาติ โยชนา.
๘๔๒. วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมนฺติ เอตฺถ ‘‘จีวร’’นฺติ ลพฺภติ. อายามโต วฑฺฒกิหตฺถํ ติริยํ ตถา วิทตฺถิปฺปมาณํ วตฺถขณฺฑํ เหฏฺิมปริจฺเฉทโต วิกปฺปนุปคํ นาม. อฺํ กิฺจิ ปริกฺขารนฺติ โยชนา, อนฺตมโส สุจิมฺปีติ วุตฺตํ โหติ. ปรํ ปุคฺคลํ. ฉินฺทาเปนฺตสฺสาติ อจฺฉินฺทาเปนฺตสฺส. การิตนฺตสฺส ทฺวิกมฺมกตฺตา ‘‘ปร’’นฺติ จ ‘‘ปริกฺขาร’’นฺติ จ กมฺมทฺวยคหณํ. อฺนฺติ ปริกฺขารวิเสสนํ. ทุกฺกฏํ วตฺถุคณนาย, วจนคณนาย จ.
๘๔๔. เอวนฺติ ¶ ยถา อนุปสมฺปนฺเน อนุปสมฺปนฺนสฺิโน ทุกฺกฏํ, เอวํ อนุปสมฺปนฺเน…เป… เวมติกสฺสาปิ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อจฺฉินฺทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ยถาวุตฺตํ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน’’ติ อิทํ วิภตฺติวิปริณาเมน สามิวจนํ กตฺวา ‘‘ทินฺน’’นฺติ อชฺฌาหาเรน สห โยเชตพฺพํ, ‘‘จีวร’’นฺติ ปกรณโต ¶ ลพฺภติ, อนุปสมฺปนฺนสฺส ทินฺนํ จีวรํ อจฺฉินฺทนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
๘๔๕. โส วาติ ยสฺส จีวรํ ทินฺนํ, โส เอว วา ภิกฺขุ. ตุฏฺโ วา ทุฏฺโ วา โส เทตีติ โยชนา. วิสฺสาสเมว วาติ วิสฺสาสํ กตฺวา คณฺหโตติ โยชนา.
๘๔๖. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท.
จีวรจฺฉินฺทนกถาวณฺณนา.
๘๔๗. วิฺาเปตฺวาติ วตฺถวายาปนํ สนฺธาย ยาจิตฺวา. ฉพฺพิธํ สุตฺตนฺติ ปทภาชเน ‘‘โขมํ กปฺปาสิกํ โกเสยฺยํ กมฺพลํ สาณํ ภงฺค’’นฺติ (ปารา. ๖๓๘) อาคตํ ฉปฺปการํ สุตฺตํ. กมฺพลนฺติ เอฬกโลมสุตฺตํ. สานุโลมานิ ฉปฺปการสุตฺตานิ เหฏฺา จีวรวินิจฺฉเย วุตฺตานุสาเรน เวทิตพฺพานิ. จีวรตฺถํ วตฺถํ ‘‘จีวร’’นฺติ วุตฺตํ. ตนฺตวาเยหีติ กปฺปิยากปฺปิเยหิ เปสกาเรหิ. โปตฺถเกสุ ‘‘วายาเปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ปาโ ทิสฺสติ, ‘‘สเจ’’ติ อิมินา อยุชฺชมานตฺตา โส อปาโ. ‘‘วายาเปติ น วฏฺฏตี’’ติ ปาโ ยุชฺชตีติ สเจ วายาเปตีติ โยชนา, อตฺตโน อตฺถาย ยทิ วายาเปยฺยาติ อตฺโถ.
๘๔๘. ตถา อกปฺปิโย. กีทิโสติ อาห ‘‘อฺาตกาทิโก’’ติ. อฺาตกาทิโกติ อฺาตโก อาทิ ยสฺส โส อฺาตกาทิโก. อาทิ-สทฺเทน อปฺปวาริโต คหิโต. โย ภิกฺขุ ตนฺตวายสฺส อฺาตโก, เตน อปฺปวาริโต จ, ตสฺส อฺาตกาทิโก ภิกฺขุนา วิฺตฺโต โส ตนฺตวาโย อกปฺปิโยติ อตฺโถ.
๘๔๙. อกปฺปิเยนาติ ¶ วิฺาปิเตน. วายาเปนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภนา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘วายาเปติ, ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๖๓๘).
๘๕๐. กิตฺตเก ¶ วีเต นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ อาห ‘‘วิทตฺถิมตฺเต’’ติอาทิ. หตฺถมตฺเตติ รตนมตฺเต. ปทภาชเน ‘‘ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ วุตฺตํ, อิธ ‘‘วีเต นิสฺสคฺคิย’’นฺติ กสฺมา อาหาติ? อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา. ตตฺถาปิ ตถา กสฺมา วุตฺตนฺติ? ตทนนฺตรํ อตฺตโน สนฺตกตฺตา วีตวีตฏฺานํ ปฏิลทฺธเมว โหติ, ปทภาชเนปิ อิมินา อธิปฺปาเยน ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ วุตฺตํ, ตสฺมา ยาว จีวรํ วฑฺฒติ, ตาว อิมินา ปมาเณน อาปตฺติโย วฑฺฒนฺติ. ผลเกปิ จาติ เอตฺถ ผลกํ นาม ตุริวีตฏฺานํ, ยตฺถ สํหริตฺวา เปนฺติ. ผลเก ผลเกปิ จ นิสฺสคฺคิยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๘๕๑. เตเนวาติ วิฺตฺตตนฺตวาเยเนว. กปฺปิยํ สุตฺตนฺติ อวิฺตฺติยา ลทฺธสุตฺตํ. กปฺปิเยน ตนฺตวาเยน อกปฺปิยสุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ตเถว ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๘๕๒. เอกนฺตริกโต วา กปฺปิยากปฺปิเยเหว สุตฺเตหิ วีเต ทุกฺกฏนฺติ โยชนา, อนฺตรนฺตรา อกปฺปิยสุตฺตานํ ปสารเณน, วายเนน จ ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. ทีฆโต วา ติริยโต วา กปฺปิยากปฺปิเยเหว สุตฺเตหิ วีเต ทุกฺกฏนฺติ โยชนา, ทีฆโต กปฺปิยสุตฺตํ ปสาเรตฺวา ติริยํ อกปฺปิยสุตฺเตน วีเต ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. วาคฺคหเณน วุตฺตวิปริยายโตปิ โยเชตพฺพํ. ทีฆโต อกปฺปิยสุตฺตํ ปสาเรตฺวา ติริยโต กปฺปิยสุตฺเตน ¶ วีเตติ อยเมตฺถ วิปริยาโย. วีเตติ เอตฺถ ‘‘ผลเก ผลเก’’ติ อนุวตฺเตตพฺพํ.
๘๕๓. กปฺปิยากปฺปิเยหิ ตนฺตวาเยหิ กปฺปิยากปฺปิยสุตฺตํ มิสฺเสตฺวา กเต วีเต ผลเก ผลเก ตสฺส ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เวติ นิปาตมตฺตํ, อถ วา เว ตสฺมึ กเต วีเตติ อตฺโถ.
๘๕๔-๕. เต กปฺปิยากปฺปิยตนฺตวายา ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา วาเรเนว อกปฺปิยสุตฺตํ สเจ วินนฺตีติ โยชนา. อกปฺปิเยน ตนฺตวาเยน วีเต. ฉนฺทานุรกฺขนตฺถํ ‘‘วิเต’’ติ วุตฺตํ. ปมาณสฺมินฺติ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณสฺมึ. ตทูเนติ ตโต วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณโต อูเน. อิตเรนาติ กปฺปิยตนฺตวาเยน. อุภยตฺถาติ ปมาณสฺมึ, ตทูเน จ ทุกฺกฏํ เอวาติ โยชนา.
๘๕๖. สเจ ¶ กปฺปิยากปฺปิยตนฺตวายา ทฺเวปิ เวมํ อุภยโกฏิยา คเหตฺวา เอกโตว วินนฺติ วาติ โยชนา. ติริยํ สุตฺตํ ปเวเสตฺวา เยน อาโกเฏนฺโต ฆนภาวํ สมฺปาเทนฺติ, ตํ เวมํ วุจฺจติ.
๘๕๗. สพฺพตฺถ เภเทติ กปฺปิยากปฺปิยสุตฺตตนฺตวาเยหิ กเต ปมาณตทูนเอกนฺตริกทีฆติริยปฺปกาเร สพฺพตฺถ วารเภเท. อาปตฺติเภโทติ อกปฺปิยสุตฺเตหิ อายามวิตฺถารโต อกปฺปิยตนฺตวาเยน วีตปฺปเทเส ปมาณยุตฺเต ปาจิตฺติยํ, อิตรตฺร ทุกฺกฏนฺติ เภโท.
๘๕๘. กปฺปิโย ตนฺตวาโย นาม าตโก วา ปวาริโต วา กปฺปิยมูเลน ปโยชิโต วา.
๘๕๙. ‘‘อนาปตฺติ ¶ จีวรํ สิพฺเพตุํ, อาโยเค, กายพนฺธเน, อํสพทฺธเก, ปตฺตตฺถวิกาย, ปริสฺสาวเน, าตกานํ, ปวาริตานํ, อฺสฺสตฺถาย, อตฺตโน ธเนนา’’ติอาทิกํ (ปารา. ๖๔๐) อนาปตฺติวารํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนาปตฺตี’’ติอาทิ. อิธ นิทฺทิฏฺโว ลกฺขเณน อนิทฺทิฏฺมฺปิ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จีวรํ สิพฺเพตุํ สุตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. ธนํ นาม ตณฺฑุลาทิ กปฺปิยวตฺถุ. ‘‘ปริสฺสาวเน’’ติอาทีสุ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, ปริสฺสาวนาทินิมิตฺตํ สุตฺตฺจ ตนฺตวาเย จ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
สุตฺตวิฺตฺติกถาวณฺณนา.
๘๖๐. อปฺปวาริตฺาตีนนฺติ อปฺปวาริตานํ อฺาตีนํ, ‘‘กีทิเสน เต ภนฺเต จีวเรน อตฺโถ, กีทิสํ เต จีวรํ วายาเปมี’’ติ (ปารา. ๖๔๓) ปทภาชเน วุตฺตนเยน อปฺปวาริตานํ อฺาตีนนฺติ อตฺโถ. สเมจฺจาติ อุปคนฺตฺวา. วิกปฺปนฺติ วิสิฏฺํ กปฺปํ อธิกวิธานํ. อาปชฺชตีติ กโรติ, ‘‘อิทํ โข อาวุโส จีวรํ มํ อุทฺทิสฺส วิยฺยติ, อายตฺจ กโรถ, วิตฺถตฺจ อปฺปิตฺจ สุวีตฺจ สุปฺปวายิตฺจ สุวิเลขิตฺจ สุวิตจฺฉิตฺจ กโรถา’’ติอาทินา (ปารา. ๖๔๒) นเยน ทายกานํ อธิปฺปายโต อธิกตรอายตาทิกรณตฺถํ วิธานํ กโรตีติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ ¶ อายตนฺติ ทีฆํ. วิตฺถตนฺติ ปุถุลํ. อปฺปิตนฺติ ฆนํ. สุวีตนฺติ สุฏฺุ วีตํ สพฺพฏฺาเนสุ สมํ กตฺวา วีตํ. สุปฺปวายิตนฺติ สุฏฺุ ปวายิตํ สพฺพฏฺาเน สมํ กตฺวา ตนฺเต ปสาริตํ. สุวิเลขิตนฺติ เลขนิยา สุฏฺุ วิลิขิตํ. สุวิตจฺฉิตนฺติ โกจฺเฉน สุฏฺุ วิตจฺฉิตํ, สุวินิทฺโธตนฺติ อตฺโถ.
๘๖๑. สุตฺตวฑฺฒนปฺปการํ ¶ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทีฆายตปฺปิตตฺถายา’’ติ. เตน จ ปทภาชเน ‘‘ตสฺส วจเนน อายตํ วา วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา กโรติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ (ปารา. ๖๔๓) เอตํ อายตาทิตฺตยเมว วุตฺตํ. สุตฺตวฑฺฒนเก กเตติ เอตฺถ อนนฺตรํ วตฺตพฺเพน ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ ปฏิลาเภนา’’ติ ปาเสเสน สห โยชนา กาตพฺพา, ทายเกหิ ตุลยิตฺวา ทินฺนปฺปมาณโต สุตฺตํ วฑฺฒิตุํ เตน กเตน สพฺเพนาปิ ปโยเคน ภิกฺขุโน ทุกฺกฏฺจ ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยฺจ โหตีติ อตฺโถ.
๘๖๒. าตกาทีนํ ตนฺตวาเยสุ จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺส อนาปตฺตึ วินิทฺทิเสติ โยชนา. อตฺตโน ธเนนาติ เอตฺถ ‘‘ปโยชิเตสู’’ติ เสโส, ตนฺตวาเยสูติ เอตสฺส วิเสสนํ. อตฺตโน ธเนน ปโยชิเตสุ ตนฺตวาเยสุ จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺส อนาปตฺตึ วินิทฺทิเสติ โยชนา, อตฺตโน สนฺตกํ กปฺปิยวตฺถุํ คเหตฺวา วินนฺเตสุ วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อฺสฺสตฺถาย วินนฺเตสุ วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺสาติ สห ปาเสเสน โยชนา ทฏฺพฺพา.
๘๖๓. มหคฺฆํ กตฺตุกามิโน ตนฺตวาเยหิ อปฺปคฺฆํ วายาเปนฺตสฺส อนาปตฺตึ วินิทฺทิเสติ โยชนา.
เปสการกถาวณฺณนา.
๘๖๔. วสฺสํวุตฺเถ ภิกฺขู อุทฺทิสฺสาติ ปุริมิกาย วสฺสูปคเต ภิกฺขู อุทฺทิสิตฺวา. ปวารณาย ปุพฺเพว ยํ จีวรํ ทียตีติ สมฺพนฺโธ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ทสาหานาคตํ กตฺติกเตมาสิกปุณฺณม’’นฺติ ¶ (ปารา. ๖๔๘) ปาฬิยํ วุตฺตํ มหาปวารณาอุโปสถทิวสสฺส ปุเรตรเมว ปุพฺพกตฺติกมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิยํ ยํ จีวรํ ‘‘อจฺเจกจีวรํ นาม เสนาย วา คนฺตุกาโม โหตี’’ติอาทินา (ปารา. ๖๔๙) ปทภาชนาคเตสุ คมิกคิลานคพฺภินิอภินวุปฺปนฺนสทฺธาทีสุ ¶ อฺตเรน ทูตํ เปเสตฺวา วา อตฺตนา วา อาคนฺตฺวา ‘‘วสฺสาวาสิกํ ทมฺมี’’ติ วตฺวา ทิยฺยตีติ. ตํ โหตจฺเจกจีวรนฺติ ตํ อจฺจายิกจีวรํ นาม โหติ.
๘๖๕. ปุเร ปวารณาเยวาติ มหาปวารณาย ปุเรตรเมว ปฺจมิโต ปฏฺาย ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ ทิวเส. ภาเชตฺวา ยทิ คยฺหตีติ เอตฺถ ‘‘เยนา’’ติ จ น กาตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘เตนา’’ติ จ กโรติ เจติ เอตฺถ ‘‘โส วสฺสจฺเฉท’’นฺติ จ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ภาเชตฺวา ยทิ เยน คยฺหติ, เตน วสฺสจฺเฉโท น กาตพฺโพ. โส วสฺสจฺเฉทํ กโรติ เจ, ตํ ภาเชตฺวา คหิตจีวรํ สงฺฆิกํ โหตีติ โยชนา, ฉินฺนวสฺเสน ตํ จีวรํ สงฺฆสฺเสว ทาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๘๖๖. ‘‘อนฺโตสมยเมวา’’ติ อิทํ ‘‘อธิฏฺเตี’’ติอาทีหิ ปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ปทภาชเน ‘‘จีวรกาลสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจมาสา’’ติ วุตฺตสมยพฺภนฺตเรเยว ตํ อจฺเจกจีวรํ.
๘๖๗. กถิเน ตุ อนตฺถเตติ ยสฺมึ กถินํ อนตฺถตํ, ตสฺมึ วิหาเรติ วุตฺตํ โหติ. ตุ-สทฺโท วิเสสตฺถโชตโก. อนธิฏฺาย อวิกปฺเปตฺวา ปริหรียติ เอตฺถ อจฺเจกจีวรนฺติ ปริหาโร, มาโส, เอโก จ โส มาโส ¶ จาติ เอกมาโส, ปุพฺพกตฺติกมาสสฺส ปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว อปรกตฺติกมาสสฺส ปุณฺณมี, อยํ จีวรกาลสมโยติ วุตฺโต มาโส. ทสนฺนํ อหานํ สมาหาโร ทสาหํ, ตํ ปรมํ อธิกํ เอตสฺสาติ ทสาหปรโม, มาโส. ‘‘ทสาหานาคตํ กตฺติกเตมาสิกปุณฺณม’’นฺติ (ปารา. ๖๔๘) ปาฬิยํ วุตฺตปุพฺพกตฺติกปุณฺณมิปริยนฺตทสาหาธิโกติ อตฺโถ. กถิเน อนตฺถเต ตุ ทสาหปรโม เอกมาโสว ตสฺส อจฺจายิกวตฺถสฺส ปริหาโร มโตติ โยชนา.
๘๖๘. อตฺถเต กถิเนติ กถินตฺถตวิหาเรติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส อจฺจายิกวตฺถสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ทสาหปรมา ปฺจ มาสาติ สมฺพนฺโธ. อนตฺถตกถิเน วิหาเร ยถาวุตฺตจีวรกาลสมยสงฺขาตวสฺสานาวสานมาโส จ กถินุทฺธารทิวสสงฺขาตปจฺฉิมกตฺติกกาฬปกฺขปาฏิปทโต ยาว ผคฺคุนมาสปุณฺณมี, ตาว เหมนฺตา จตฺตาโร มาสา จาติ ปฺจ มาสา. ปกาสิตาติ ‘‘อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจ มาสา’’ติ ¶ (ปารา. ๖๔๙) ทีปิตา. ทสาหปรมาติ วุตฺตตฺโถเยว. อตฺถเต กถิเน ทสาหปรมา ปฺจ มาสา ตสฺส อจฺจายิกวตฺถสฺส ปริหาโร กาโลติ มุนินฺเทน ปกาสิตาติ โยชนา.
อยมุภยตฺถ วุตฺตา ทสาหปรมตา อฏฺกถายํ ‘‘อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๐) วุตฺตปาเน ยถา น วิรุชฺฌติ, ตถา วิจาเรตฺวา คเหตพฺพา. เอวฺหิ ปาเ สติ น วิรุชฺฌติ –
‘‘ตสฺสจฺจายิกวตฺถสฺส ¶ , กถิเน ตุ อนตฺถเต;
ปริหาเรกมาเสกา-ทสาหปรโม มโต.
อตฺถเต กถิเน ตสฺส, ปฺจ มาสา ปกาสิตา;
ปริหาโร ทิเนเนกา-ทสาหปรมา ปนา’’ติ.
๘๖๙. ปเมน กถิเนนาติ โยชนา. ‘‘อกฺริยํ อจิตฺต’’นฺติ ปทจฺเฉโท. อกฺริยนฺติ อนฺโตสมเย อธิฏฺานาทิอกรณํ.
อจฺเจกจีวรกถาวณฺณนา.
๘๗๐-๑. ภิกฺขูติ สาสงฺกสมฺมเต สปฺปฏิภเย อารฺกเสนาสเน วสนฺตํ ภิกฺขุมาห. ยถาห ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ อารฺกานิ เสนาสนานิ สาสงฺกสมฺมตานิ สปฺปฏิภยานิ, ตถารูเปสุ ภิกฺขุ เสนาสเนสุ วิหรนฺโต’’ติ (ปารา. ๖๕๓). ปุพฺพกตฺติกปุณฺณมํ วสิตฺวาติ สมฺพนฺโธ. ปุพฺพกตฺติกปุณฺณมา นาม อสฺสยุชมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปนฺนรสี, เอตฺถ ปน สหจริยนเยน ตทุปลกฺขิตา ปุริมิกา ตโย วสฺสานมาสา วุจฺจนฺติ. ปุณฺณมนฺติ เอตฺถ วาสกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา อจฺฉินฺนวสฺโส หุตฺวา ตโย มาเส วสิตฺวาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺมา ปน โย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ยาว ปมกตฺติกปุณฺณมํ วสตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๓-๖๕๔).
‘‘จีวร’’นฺติ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ วุจฺจติ. คาเม เปตฺวาติ สมฺพนฺโธ, เอตฺถ ‘‘กตฺติกปุณฺณม’’นฺติ ¶ จ ‘‘อากงฺขมาโน’’ติ จ เสโส, อปรกตฺติกมาเส กตฺติกโจรภเยน จีวรํ ปฏิสาเมตุกาโม ภิกฺขุ อารฺกเสนาสนสฺส สามนฺตา โคจรคาเม นิกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘อุปวสฺสํ ¶ โข ปน กตฺติกปุณฺณมํ…เป… อากงฺขมาโน ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ อนฺตรฆเร นิกฺขิเปยฺยา’’ติ (ปารา. ๖๕๓).
‘‘สมนฺตา โคจรคาเม’’ติ อิทํ ‘‘อนฺตรฆเร นิกฺขิเปยฺยาติ สมนฺตา โคจรคาเม นิกฺขิเปยฺยา’’ติ (ปารา. ๖๕๔) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา วุตฺตํ. ‘‘อปรกตฺติกมาเส’’ติ จ ‘‘กตฺติกปุณฺณมนฺติ กตฺติกจาตุมาสินี วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๖๕๔) ปทภาชนิยวเสน วุตฺตํ. อิธาปิ หิ ‘‘กตฺติกปุณฺณม’’นฺติ อปรกตฺติกชุณฺหปกฺขปนฺนรสิยา วุจฺจมานายาปิ สหจริยนเยน ตํสหจริโต จตุตฺโถ มาโส วุตฺโต.
เอตฺตาวตา ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา มหาปวารณาย ปวาเรตฺวา วุตฺตลกฺขเณ อารฺกเสนาสเน วสนฺตสฺส อารฺกสฺส ภิกฺขุโน ปจฺฉิมกตฺติกมาเส กตฺติกโจรภเย สติ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ โคจรคาเม เปตฺวา อารฺกงฺคํ ปูรยโต จีวเรน วิปฺปวาโส ตสฺมึ มาเส น โหตีติ อนฺุาตภาโว ทีปิโต. ตเทว ปกาเสตุํ นิกฺเขโปปายสนฺทสฺสนมุเขน วกฺขติ ‘‘กตฺติเกเยว มาสสฺมึ…เป… วฏฺฏตี’’ติ.
อิทานิ อสฺมึเยว มาเส ตโต อฺตฺถ ตสฺส ภิกฺขุโน เกนจิ กรณีเยน คจฺฉโต คาเม ปิเตน เตน จีวเรน วิปฺปวสโต นิทฺโทสภาวํ อนุชานนฺเตน ภควตา ‘‘สิยา จ ตสฺส ภิกฺขุโน…เป… เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๖๕๓) วุตฺตมตฺถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปจฺจเย…เป… สมฺมุติ’’นฺติ. ปจฺจเย สติ ตาทิเสติ ‘‘สิยา ปจฺจโย, สิยา กรณีย’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) วจนโต ตาทิเส กิจฺเจ สตีติ อตฺโถ. ฉารตฺตปรมนฺติ ฉ รตฺติโย ปรมา ยสฺส วาสกมฺมสฺส ตํ ฉารตฺตปรมํ, กิริยาวิเสสนํ, ฉารตฺตปรมํ วาสกมฺมํ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตน วินา วสิตพฺพนฺติ คาเม นิกฺขิตฺเตน เตน จีวเรน วินา ตมฺหา อาวาสา อฺตฺถ วสิตพฺพํ. ตเทว ¶ ปากฏํ กาตุํ วกฺขติ ‘‘อฺตฺเถว วสนฺตสฺส, ฉารตฺตปรมํ มต’’นฺติ.
ตโตติ ฉารตฺตโต. อุตฺตริ วสโตติ สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา วสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ยถาห ¶ ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ วิปฺปวเสยฺยาติ สตฺตเม อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔). โทโสติ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํ. ‘‘วินา สงฺฆสฺส สมฺมุติ’’นฺติ อิมินา กึ วุตฺตํ โหติ? อุโทสิตสิกฺขาปเท อนุปฺตฺตึ กตฺวา โกสมฺพิยํ คิลานภิกฺขุโน ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว คิลานสฺส ภิกฺขุโน ติจีวเรน อวิปฺปวาสสมฺมุตึ ทาตุ’’นฺติ (ปารา. ๔๗๓) อนฺุาตตฺตา คิลานสฺส ภิกฺขุโน สงฺเฆน ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ปุริมเมว ยา อวิปฺปวาสสมฺมุติ ทินฺนา, ตํ วินาติ วุตฺตํ โหติ. เตน ลทฺธสมฺมุติเกน ยาว โรโค วูปสมฺมติ, ตาว จิรมฺปิ เตน จีวเรน วินา วสิตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ยา อุโทสิตสิกฺขาปเท โกสมฺพกสมฺมุติ อนฺุาตา, ตสฺสา สมฺมุติยา อฺตฺร. สเจ สา ลทฺธา โหติ, ฉารตฺตาติเรกมฺปิ วิปฺปวสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๓-๖๕๔).
๘๗๒-๓. จีวรนิกฺเขปํ ทสฺเสตุมาห ‘‘กตฺติเกเยว…เป… ปกาสิโต’’ติ. กตฺติเกเยว มาสสฺมินฺติ จตุนฺนํ วสฺสานานํ มาสานํ ปจฺฉิเม กตฺติกมาเสเยว อิทเมกงฺคํ. ปมาย ปวาริโตติ ทุติยมงฺคํ, อิธ ปมาย วสฺสูปนายิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปวาริโตติ โยชนา, มหาปวารณาย ปวาริโตติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุริมิกาย อุปคนฺตฺวา มหาปวารณาย ปวาริโต โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๓-๖๕๔). ปจฺฉิเมน ปมาเณน ยุตฺเตติ ตติยมงฺคํ. เสนาสเนติ เอตสฺส วิเสสนํ. อิห อารฺกเสนาสนสฺส ปจฺฉิมปฺปมาณํ ¶ นาม ปากาเรน วา วติยา วา ปริขาย วา ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อินฺทขีลสงฺขาตคามทฺวารโกฏฺกุมฺมารโต วา อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปารหฏฺานสงฺขาเต ปริยนฺตเคหสฺส อุปจาเร ิตสฺส ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส พลปฺปมาเณน วิสฺสฏฺเลฑฺฑุปาตทฺวยโต วา ปฏฺาย ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส สปริกฺเขปํ วา อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ยสฺสํ ทิสายํ คาโม โหติ, ตตฺถ คามปริยนฺตเสนาสนํ วา เจติยํ วา โพธึ วา อวธึ กตฺวา วิหารคมนีเยน ปกติมคฺเคน วิทตฺถิคมฺภีรํ อาโรปิเตน อาจริยธนุนา ปมิตปฺจธนุสตปมาณทูรนฺติ สงฺเขปโต คเหตพฺพํ.
สาสงฺกสมฺมเตติ จตุตฺถมงฺคํ, ‘‘อิห สปฺปฏิภเย’’ติ เสโส. ‘‘สาสงฺกสมฺมตานิ สปฺปฏิภยานี’’ติ (ปารา. ๖๕๓) หิ ปาฬิ. อิทํ ทฺวยมฺปิ ‘‘เสนาสเน’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ. อารามอารามูปจาเรสุ โจรานํ นิสินฺนสยิตฏฺิตภุตฺตปีตฏฺานาทีนํ ทิสฺสมานตาย อาสงฺกาสหิเต ตตฺเถว อารามาทีสุ ปหฏมาริตวิลุตฺตมนุสฺสานํ ทิสฺสมานตาย วิเสเสน สหภยตาย ¶ สปฺปฏิภเย อารฺเก เสนาสเนติ อตฺโถ. วสนฺโต ภิกฺขุ. วสนฺโตวาติ เอตฺถ เอวกาโร อฏฺานปฺปยุตฺโต. ตสฺมา ตโต อาเนตฺวา จตุรงฺคสมาโยเค เอวาติ โยเชตพฺโพ. จตุรงฺคสมาโยเค เอวาติ ยถาวุตฺตานํ จตุนฺนํ องฺคานํ สมาโยเค สนฺนิปาเต สติ เอว. เอตฺถ เอวกาเรน ตสฺส องฺคสฺส อภาเว อลพฺภมานตํ ทีเปติ. ปกาสิโตติ ‘‘ตตฺรายํ องฺคสมฺปตฺตี’’ติอาทิกาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๓-๖๕๔) อฏฺกถาย วุตฺโต.
๘๗๔. ตํ จีวรํ. มาสเมกนฺติ วสฺสานสฺส ปจฺฉิมมาสสงฺขาตํ เอกํ มาสํ. โย คาโม สเจ ปุริมพทฺธาย อวิปฺปวาสสีมาย ¶ อนฺโต โหติ, ตตฺถ มาสโต อติเรกมฺปิ เปตุํ วฏฺฏตีติ (วชิร. ฏี. ปาราชิก ๖๕๓ อตฺถโต สมานํ) วชิรพุทฺธิตฺเถเรน วุตฺตํ.
๘๗๕. อฺตฺเถวาติ ยสฺส อารฺกเสนาสนสฺส โคจรคาเม จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตโต อารฺกเสนาสนโต พหิ เอว. อยํ อธิปฺปาโยติ ‘‘ยํ คาม’’นฺติอาทิกาย ทิยฑฺฒคาถาย ปฏิปาทิตตฺถทฺวยสงฺขาโต อธิปฺปาโย. อสฺสาติ สาสงฺกสิกฺขาปทสฺส. เอวํ อิมินา สิกฺขาปเทน ‘‘จีวเรน วินา กตฺติกมาเส อรฺเ วเสยฺยา’’ติ อนฺุาตตฺตา ‘‘ฉารตฺตปรมํ เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๖๕๓) อิมินา โคจรคาเม ตํ เปตฺวา ตสฺมึ อารฺกาวาเส วสิตฺวา เกนจิ กรณีเยน ตโต อาวาสโต คนฺตฺวา พหิ วสโต ทิวสปริจฺเฉทสฺส วิฺายมานตฺตาเยวาห ‘‘ปฏิจฺฉนฺโน ปกาสิโต’’ติ.
๘๗๖. ‘‘สเจ โคจรคามโต ปุรตฺถิมาย ทิสาย เสนาสนํ, อยฺจ ปจฺฉิมํ ทิสํ คโต โหตี’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๖) อฏฺกถายํ กถิตนิยาเมน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เสนาสนมถาคนฺตฺวา’’ติอาทิ. เสนาสนนฺติ อตฺตนา นิวุตฺถํ อารฺกเสนาสนํ. อาคนฺตฺวาติ พหิ คตฏฺานโต อาคนฺตฺวา. โคจรคาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ตโต ปุรตฺถิมาย ทิสาย อารฺกเสนาสเน วิหรโต วิหารา นิกฺขมฺม ตโต โคจรคามโต ปจฺฉิมทิสาย ทูรฏฺานํ คตสฺส อาคตฏฺานโต ตํ เสนาสนํ อาคนฺตฺวา วิทูรตฺตา สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ภิกฺขุโน กึ วิหิตนฺติ อยเมตฺถ โยชนา.
๘๗๗. คามสีมมฺปิ ¶ วาคนฺตฺวาติ ยตฺถ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตํ คามสีมมฺปิ ปุรารุณาเยว อาคนฺตฺวา. ยตฺถ กตฺถจีติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๖) สภาเทวาลยทฺวารโกฏฺกาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ กปฺปิยฏฺาเน ¶ . ‘‘ยตฺถ กตฺถจี’’ติ สามฺเน วุตฺตตฺตา ตสฺสา คามสีมาย อนฺโต อารฺกงฺคารกฺขนารหํ ทูรฏฺานํ ลทฺธํ เจ, องฺคเภทํ อกตฺวา ตตฺถ อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ. ธุตงฺเค วิชฺชมาเนปิ อาปตฺตึ อนาปชฺชิตุํ อนฺโตคาเมปิ อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา จีวรปวตฺติเยว าตพฺพา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘คามสีมมฺปิ โอกฺกมิตฺวา สภายํ วา ยตฺถ กตฺถจิ วา วสิตฺวา จีวรปฺปวตฺตึ ตฺวา ปกฺกมิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๖).
๘๗๘. เอวฺจาปิ อสกฺโกนฺโตติ องฺคเภทํ อกตฺวา, กตฺวา วา อนฺโตคามสีมาย อรุณํ อุฏฺาเปตุมฺปิ คนฺตุํ อสกฺโกนฺโต. ตฺวาติ อตฺตโน จีวรสฺส ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา. ตตฺเถวาติ เอตฺถ ‘‘ิโต’’ติ ลพฺภติ. ขิปฺปนฺติ สีฆํ, ปุรารุณาติ วุตฺตํ โหติ. อติเรเก าเนติ โยชนา, ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อติเรกจีวรฏฺาเน สฺสตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๖), ‘‘อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺตี’’ติ จินฺเตตฺวาติ อตฺโถ.
๘๗๙. วิสฺสชฺเชตีติ สตฺตมอรุณุฏฺานโต ปุเรตรเมว อฺสฺส เทติ. อุปริปิ เอวเมว วตฺตพฺพํ.
๘๘๐. สาสงฺกสมฺมเต เอวํนามเก สิกฺขาปเท สมุฏฺานาทโย สพฺเพ เตน ทุติเยน กถิเนน สมา อิติ มุนินฺเทน มตา อนุมตา อนฺุาตาติ โยชนา.
สาสงฺกกถาวณฺณนา.
๘๘๑. ชานนฺติ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วจเนน ปริณามิตภาวํ เยน เกนจิ อากาเรน ชานนฺโต. ยถาห ปทภาชเน ¶ ‘‘สามํ วา ชานาตี’’ติอาทิ (ปารา. ๖๕๙). ปริณตนฺติ เอตฺถ ปทภาชเน ‘‘ปริณตํ นาม ‘ทสฺสาม กริสฺสามา’ติ วาจา ภินฺนา โหตี’’ติ วุตฺตนิยาเมน สงฺฆสฺส ปริณตนฺติ อตฺโถ. ลาภนฺติ ลภิตพฺพํ จีวราทิ ยํ กิฺจิ. ยถาห ‘‘ลาโภ นาม จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, อนฺตมโส จุณฺณปิณฺโฑปิ ทนฺตกฏฺมฺปิ ทสิกสุตฺตมฺปี’’ติ. อตฺตโน ปริณาเมยฺยาติ ‘‘พหู อาวุโส สงฺฆสฺส ทายกา, พหู สงฺฆสฺส ภตฺตา, มยํ ตุมฺเห นิสฺสาย ตุมฺเห สมฺปสฺสนฺตา อิธ วิหราม. ตุมฺเห เจ อมฺหากํ น ทสฺสถ, อถ โก จรหิ อมฺหากํ ทสฺสติ. เทถาวุโส อมฺหากํ อิมานิ จีวรานี’’ติ (ปารา. ๖๕๗) ปาฬิยา ¶ อาคตนเยน อตฺตโน ปริณาเมยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส นิสฺสคฺคิยนฺติ เอตฺถ ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภนา’’ติ เสโส. นิสฺสคฺคิยนฺติ อิทํ ปริณเต ปริณตสฺึ สนฺธาย วุตฺตํ. เวมติกสฺส ปน ทุกฺกฏํ โหติ. ยถาห ‘‘ปริณเต เวมติโก อตฺตโน ปริณาเมติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ. อปริณตสฺิโน อนาปตฺติ. ยถาห ‘‘ปริณเต อปริณตสฺี อตฺตโน ปริณาเมติ, อนาปตฺตี’’ติ.
๘๘๒. ‘‘อฺสฺส เทหี’’ติ สเจ ปริณาเมตีติ ตถา สงฺฆสฺส ปริณตภาวํ ชานนฺโต ‘‘อฺสฺส เทหี’’ติ ยทิ ปริณาเมติ. สุทฺธิกํ ปาจิตฺติยนฺติ นิสฺสชฺชิตพฺพวตฺถุรหิตํ เกวลํ ปาจิตฺติยมตฺตนฺติ อตฺโถ. สุทฺธจิตฺเตนาติ สวาสนานวเสสกิเลสปฺปหาเนน ปริสุทฺธจิตฺเตน ภควตา. ปาจิตฺติยมุทีริตนฺติ ปาจิตฺติเยสุ อฏฺมสฺส สหธมฺมิกวคฺคสฺส อวสาเน ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ปุคฺคลสฺส ปริณาเมยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๔๙๐) เทสิตํ.
๘๘๓. เอกํ ¶ จีวรนฺติ สงฺฆสฺส ปริณตจีวรโต เอกํ จีวรํ. จีวรํ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท ปจฺจยนฺตรวิกปฺปตฺโถ. วา ปนาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อตฺถวิกปฺปตฺโถ. เอกํ จีวรํ วา อฺํ วา ปจฺจยํ ปรสฺส, เอกํ ปน อตฺตโน วา ปริณาเมยฺย เจติ โยชนา. สทฺธินฺติ เอกโต, เอกกฺขเณติ วุตฺตํ โหติ. ทฺเว ปาจิตฺติโย สทฺธึ สิยุนฺติ โยชนา, อฺสฺส ปริณามเนน สุทฺธปาจิตฺติยฺจ อตฺตโน ปริณามเนน นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยฺจาติ ทฺเว ปาจิตฺติโย เอกกฺขเณ โหนฺตีติ อตฺโถ.
๘๘๔. ปริณาเมตฺวา ปิเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ปริจฺจชิตฺวา ทินฺเน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘ปราชโย’’ติ อิทํ ปาทปฺปโหนกํ วตฺถุํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถาวตฺถุวเสน ปน ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยาปิ วตฺตพฺพา.
๘๘๕. อฺสฺส เจติยสฺส โปณํ ปริณตํ อฺสฺส เจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา ปุคฺคลสฺส วาปิ ปน ปริณาเมยฺยาติ โยชนา. สงฺฆสฺส ปุคฺคลสฺสาติ ปททฺวเยปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘สงฺฆสฺส ปริณตํ อฺสงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ปริณาเมติ ¶ , อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ (ปาจิ. ๔๙๒). อฺสฺส ปุคฺคลสฺส โปณํ อฺสฺส ปุคฺคลสฺส ปริณาเมยฺยาติ.
๘๘๖. อิมสฺส สพฺพสตฺตวิสยตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โย ปนา’’ติอาทิ.
๘๘๗. อิทํ ปริณตสิกฺขาปทํ. ติสมุฏฺานนฺติ กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตสงฺขาเตหิ ตีหิ สจิตฺตกสมุฏฺาเนหิ สมุฏฺานโต ติสมุฏฺานํ. ปริณามนปจฺจยา อาปชฺชิตพฺพโต กฺริยํ. สงฺฆาทีนํ ปริณตนฺติสฺาย อภาเวน ¶ วิมุจฺจนโต สฺาวิโมกฺขํ. กายวิฺตฺติวจีวิฺตฺตีหิ ปริณาเมตพฺพโต กายกมฺมํ วจีกมฺมํ.
ปริณตกถาวณฺณนา.
ปตฺตวคฺโค ตติโย.
๘๘๘. เย อิมํ วินิจฺฉยํ ตรนฺติ, เต ปฺตฺติมหาสมุทฺทํ ตรนฺตีติ โยชนา. ปฺตฺติสงฺขาตํ วินยปิฏกเมว มหาสมุทฺโท วิยาติ ปฺตฺติมหาสมุทฺโท, ตํ. เอวํ สมุทายํ ทสฺเสตฺวา ตทวยเว ทสฺเสตุมาห ‘‘เนกา’’ติอาทิ. เนกานิ นานปฺปการานิ วตฺตานิ เสนาสนวตฺตาทีนิ ขนฺธกาคตานิ อุคฺคา อุตฺตุงฺคา ตรงฺคมาลา มหาวีจิปรมฺปรา ยสฺสาติ วิคฺคโห, นานปฺปการขนฺธกวตฺตสงฺขาตมหาตรงฺคปรมฺปราย สชฺชิตนฺติ อตฺโถ. สีลํ ปาติโมกฺขสํวราทิกเมว อนฺโต เวลาวลโย ยสฺส โส สีลนฺโต, ตํ, ปาติโมกฺขสํวรสีลาทิจตุปาริสุทฺธิสีลเมว ปฏิปาเทตพฺพตาย อนฺตํ เวลาวลยภูตนฺติ อตฺโถ. อาปตฺติโย สตฺตาปตฺติกฺขนฺธา, สีลาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺติโย จ คาหกา มกราทโย ยสฺสาติ วิคฺคโห, สีลาจาราชีวทิฏฺิสมฺปตฺติสงฺขาตมุทุสตฺตนาสกอาปตฺติวิปตฺติสงฺขา- ตมาตงฺคมกราทิจณฺฑสตฺตวนฺตนฺติ อตฺโถ. เอวํ อยํ คาถา สมุทายาวยวานํ สพฺเพสเมว รูปกาลงฺกาเรน วิรจิตาติ ทฏฺพฺพา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา
๘๘๙. เอวํ ¶ นาติวิตฺถารสงฺเขปโต นิสฺสคฺคิยวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรํ นิทฺทิฏฺสฺส ปาจิตฺติยกณฺฑสฺส วินิจฺฉยํ ¶ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท’’ติอาทิ อารทฺธํ. สมฺปชานมุสาวาเทติ อตฺตโน วจนสฺส มุสาภาวํ ตฺวา, อทิฏฺํ ‘‘ทิฏฺ’’นฺติอาทินา นเยน มุสาวาเท สมฺปชานนฺตสฺส มุสาภณเนติปิ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ชานิตฺวา ชานนฺตสฺส จ มุสาภณเน’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒). ‘‘มุสาวาเท’’ติ หิ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, มุสาวาทนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ.
ทวา ภณนฺตสฺสาติ โยชนา. อนุปปริกฺขิตฺวา เวเคน ทิฏฺมฺปิ ‘‘อทิฏฺํ เม’’ติ วทนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ทวา ภณติ นาม สหสา ภณตี’’ติ ปทภาชนีอฏฺกถายํ ‘‘สหสา ภณตีติ อวีมํสิตฺวา อนุปธาเรตฺวา เวเคน ทิฏฺมฺปิ ‘อทิฏฺํ เม’ติ ภณตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑). รวา ภณนฺตสฺสาติ ‘‘จีวร’’นฺติ วตฺตุกามสฺส ‘‘จีร’’นฺติ วจนํ วิย มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ‘‘อฺํ ภณิสฺสามี’’ติ อฺํ ภณนฺตสฺส. ยถาห ‘‘รวา ภณติ นาม ‘อฺํ ภณิสฺสามี’ติ อฺํ ภณตี’’ติ.
๘๙๐. อฺตฺถาติ จตุตฺถปาราชิกาทีสุ. อตฺตนา อลทฺธํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ ‘‘ลทฺธํ มยา’’ติ มุสา ยสฺส ภณติ, เตน ตงฺขณเมว สุตฺวา ตทตฺเถ าเต ปาราชิกสฺส, อฺาเต กาลนฺตเรน าเต จ ปริยายวจเน จ าเต ถุลฺลจฺจยสฺส, ปริยายวจเน อวิฺาเต ทุกฺกฏสฺส, ทุฏฺโทสสิกฺขาปเท ปาราชิกํ อนาปนฺนสฺส ‘‘อาปนฺโน’’ติ มุสาภณเน สงฺฆาทิเสสสฺส, โอมสวาทสิกฺขาปเท ทุพฺภาสิตสฺส จ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘มุสาวาทสฺส การณา ปฺจ อาปตฺติโย’’ติ. อิมาย ปาจิตฺติยา สทฺธึ ฉ อาปตฺติกฺขนฺธา โหนฺติ.
สมฺปชานมุสาวาทกถาวณฺณนา.
๘๙๑-๓. วุตฺเตสุ ¶ ชาติอาทีสุ ทสสุ อกฺโกสวตฺถูสูติ โยชนา, ปทภาชเน วุตฺเตสุ ชาตินามโคตฺตกมฺมสิปฺปอาพาธลิงฺคกิเลสอาปตฺติอกฺโกสานํ วเสน ทสสุ อกฺโกสวตฺถูสูติ อตฺโถ ¶ . เตสุ กิเลสํ วินา สพฺเพเต หีนุกฺกฏฺวเสน ทฺวิปฺปการา โหนฺติ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘ชาติ นาม ทฺเว ชาติโย หีนา จ ชาติ อุกฺกฏฺา จ ชาตี’’ติอาทิ.
ตตฺถ จณฺฑาลาทิชาติ หีนา, ขตฺติยพฺราหฺมณชาติโย อุกฺกฏฺา. นาเมสุ อวกณฺณกชวกณฺณกาทินามานิ ทาสนามตฺตา หีนานิ, พุทฺธรกฺขิตาทินามานิ อุกฺกฏฺานิ. โกสิยาทิโคตฺตํ หีนํ, โคตมาทิโคตฺตํ อุกฺกฏฺํ. กมฺเมสุ วฑฺฒกิมณิการาทิกมฺมานิ หีนานิ, กสิวาณิชฺชาโครกฺขกมฺมานิ อุกฺกฏฺานิ. สิปฺเปสุ นฬการกุมฺภการาทิสิปฺปํ หีนํ, มุทฺทาคณนาทิสิปฺปํ อุกฺกฏฺํ. อาพาเธสุ สพฺเพปิ อาพาธา หีนา, อปิจ มธุเมโห ปีฬาชนกตฺตาภาวา อุกฺกฏฺโ. ลิงฺเคสุ อติทีฆตาทโย หีนา, นาติทีฆตาทโย อุกฺกฏฺา. สพฺเพปิ กิเลสา หีนา. สพฺพาปตฺติโยปิ หีนา, อปิจ โสตาปตฺติสมาปตฺติ อุกฺกฏฺา. อกฺโกเสสุ ‘‘โอฏฺโสิ เมณฺโฑสิ โคโณสี’’ติอาทิโก หีโน, ‘‘ปณฺฑิโตสิ พฺยตฺโตสี’’ติอาทิโก อุกฺกฏฺโ.
อฺตฺรฺาปเทเสนาติ ปริยายกถเนน วินา. โอมสนฺตสฺสาติ วจนปโตเทน โอวิชฺฌนฺตสฺส. สมฺพุทฺเธน ปกาสิตาติ ‘‘จณฺฑาโลสิ เวโนสิ เนสาโทสิ รถกาโรสิ ปุกฺกุโสสี’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ สามํ สพฺพธมฺมาวโพธโต ‘‘สมฺพุทฺโธ’’ติ ปฺาเตน ภควตา เทสิตา.
๘๙๔. เตเหวาติ ¶ ชาติอาทีหิ อกฺโกสวตฺถูเหว. อฺาปเทเสน ภูเตน วา…เป… อาปนฺนเมว วา อนุปสมฺปนฺนํ อกฺโกสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ สมฺพุทฺเธน ปกาสิตนฺติ สมฺพนฺโธ. อิธ ภูตาภูตปทานิ เตหีติ อเปกฺขิตฺวา พหุวจนนฺตานิ โยเชตพฺพานิ. เอเตน ‘‘สนฺติ อิเธกจฺเจ’’ติอาทิทุติยวารตฺถํ (ปาจิ. ๒๖) ทสฺเสนฺเตน ทุกฺกฏสาธนตฺเถน ตเทกการิยํ ตติยํ เยนูนวารฺจ จตุตฺถํ น มยนฺติอาทิวารฺจ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สนฺติ อิเธกจฺเจ’ติ วาเร ปน ปริหริตฺวา วุตฺตภาเวน ทุกฺกฏํ. เอเสว นโย ‘เยนูน…เป… น มย’นฺติ วาเรสุปี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖).
ปาฬิมุตฺตปเทหิปีติ เอตฺถาปิ ตเถว ‘‘ภูเตน วา’’ติอาทีนิ ปทานิ สมฺพนฺธิตพฺพานิ. ‘‘โจโรสิ, คณฺิเภทโกสี’’ติอาทิ ปาฬิมุตฺตปทํ นาม. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ จตูสุ วาเรสุ, ปาฬิมุตฺตปเทสุ ¶ จ. วุตฺตฺหิ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน ปน จตูสุปิ วาเรสุ ทุกฺกฏเมว. ‘โจโรสิ, คณฺิเภทโกสี’ติอาทิวจเนหิ ปน อุปสมฺปนฺเนปิ อนุปสมฺปนฺเนปิ สพฺพวาเรสุ ทุกฺกฏเมวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖). ‘‘อนุปสมฺปนฺน’’นฺติ อิมินา ‘‘อิมสฺมิฺจ สิกฺขาปเท เปตฺวา ภิกฺขุํ ภิกฺขุนิอาทโย สพฺเพ สตฺตา อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ิตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖) อฏฺกถายํ วุตฺตา อนุปสมฺปนฺนา สงฺคหิตา. เตเนเวตฺถาปิ วกฺขติ ‘‘ปวิฏฺานุปสมฺปนฺนฏฺาเน อิธ จ ภิกฺขุนี’’ติ.
๘๙๕. ทวกมฺยตาติ เอตฺถ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒, ๒๓, ๔๒๒; อ. นิ. ๖.๕๘; ๙.๙; มหานิ. ๒๐๖; วิภ. ๕๑๘) วิย ย-การโลโป. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ วุตฺตปาจิตฺติยวตฺถูสุ จ ทุกฺกฏวตฺถูสุ จาติ สพฺพตฺเถว. ทุพฺภาสิตมุทีริตนฺติ ‘‘จณฺฑาโลสิ…เป… ปุกฺกุโสสี’ติ ภณติ, อาปตฺติ ¶ วาจาย วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๒) วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ปรมฺมุขา ปน ปาจิตฺติยวตฺถูหิ จ ทุกฺกฏวตฺถูหิ จ อกฺโกสเน ทุกฺกฏเมว. ตถา ทวกมฺยตาย ปรมฺมุขา วทนฺตสฺสาปิ ทุพฺภาสิตเมวาติ อาจริยา วทนฺติ.
๘๙๖-๗. อตฺถํ ปุรกฺขตฺวา วทโต ภิกฺขุสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. ธมฺโม นาม ‘‘จณฺฑาโลสี’’ติอาทิปาฬิเยว. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปาฬึ วาเจนฺโต ธมฺมปุเรกฺขาโร’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๕). อนุสาสนี นาม ‘‘อิทานิปิ จณฺฑาโลสิ, มา ปาปธมฺมํ อกาสิ, มา ตโม ตมปรายโน อโหสี’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๓๕) นเยน อฏฺกถายํ วุตฺตสรูปาเยว อนุสาสนีปุเรกฺขตาย ตฺวา วทนฺตสฺส จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติตภาวโต อนฺตรา โกเธ อุปฺปนฺเนปิ อนาปตฺติ.
เอตฺถาติ อิมสฺมึ โอมสวาทสิกฺขาปเท. ปฏิฆสมฺปยุตฺตจิตฺเตเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา มานสิกทุกฺขเวทนาว โหติ.
โอมสวาทกถาวณฺณนา.
๘๙๘. ทุวิธาการโต ภิกฺขุเปสฺุเ อาปตฺติ สิยาติ โยชนา. ปิสตีติ ปิสุณา, วาจา ¶ , สมคฺเค สตฺเต อวยวภูเต วคฺเค ภินฺเน กโรตีติ อตฺโถ. ปิสุณา เอว เปสฺุํ, ตาย วาจาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล สหจริยนเยน ปิสุโณ, ตสฺส กมฺมํ เปสฺุํ, ภิกฺขูนํ เปสฺุํ ภิกฺขุเปสฺุํ, ตสฺมึ ภิกฺขุเปสฺุเ. ปทภาชเน ‘‘อุปสมฺปนฺโน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสฺุํ อุปสํหรติ ‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘จณฺฑาโล…เป… ปุกฺกุโส’ติ ภณตี’ติ อาปตฺติ…เป… ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๙) วุตฺตตฺตา สยํ อุปสมฺปนฺโน หุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส ชาติอาทีสุ ทสสุ อกฺโกสวตฺถูสุ อฺตเรน อฺํ อุปสมฺปนฺนํ ¶ ปรมฺมุขา อกฺโกสนฺตสฺส สุตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วกฺขมานสรูเปสุ อตฺตโน ปิยกามตาเภทาธิปฺปายสงฺขาเตสุ ทฺวีสุ การเณสุ อฺตรการณํ ปฏิจฺจ ‘‘อสุโก ตุยฺหํ เอวํ วทตี’’ติ เปสฺุํ หรติ, ตสฺส เปสฺุกถนนิมิตฺตํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ.
ทุวิธาการโตติ เอตฺถ อาการ-สทฺโท การณปริยาโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ทฺวีหากาเรหีติ ทฺวีหิ การเณหี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘). เอตฺถ การณํ นาม อธิปฺปายวิเสโส. ตํ การณํ อธิปฺปายมุเขน ทสฺเสตุมาห ‘‘อตฺตโน’’ติอาทิ. อตฺตโน ปิยกามสฺสาติ อตฺตโน ปิยภาวกามสฺส เปสฺุํ ภณนฺตสฺส, อตฺตโน ปิยภาวํ กามยนฺตสฺสาติ อตฺโถ, ตาทิเสน อธิปฺปาเยนาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอวํ อหํ เอตสฺส ปิโย ภวิสฺสามี’’ติ อตฺตโน ปิยภาวํ ปตฺถยมานสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘). ปรเภทตฺถิโนปิ วาติ อกฺโกสกสฺส จ อตฺตโน เปสฺุวจนํ สุณนฺตสฺส จาติ อุภินฺนํ เภทํ อิจฺฉนฺตสฺสาติ อตฺโถ, เภทาธิปฺปาเยนาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปรสฺส ปเรน เภทํ อิจฺฉนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘).
๘๙๙. ปริยายนเยน อกฺโกสนฺตสฺส วจนสฺส…เป… ทุกฺกฏนฺติ โยชนา, ปริยายอกฺโกสวจนํ สุตฺวา ปรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วทนฺตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘อิตฺถนฺนาโม สนฺติ อิเธกจฺเจ จณฺฑาลา…เป… ภณติ, น โส อฺํ ภณติ, ตํเยว ภณตีติ อาปตฺติ วาจาย วาจาย ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ (ปาจิ. ๔๑). ปาฬิมุตฺตนเยน อกฺโกสนฺตสฺส วจนสฺส…เป… ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘โจโรสิ, คณฺิเภทโกสี’’ติอาทินา ทสฺสิโต ปาฬิมุตฺตนโย นาม.
๙๐๐. อนุปสมฺปนฺนสฺส ¶ อกฺโกสํ อุปสมฺปนฺนํ หรโตปิ จ ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. จ-สทฺเทน ¶ อุปสมฺปนฺนสฺส อกฺโกสํ อนุปสมฺปนฺนํ หรโตปิ จ, อนุปสมฺปนฺนสฺส อกฺโกสํ อนุปสมฺปนฺนํ หรโตปิ จ ตถา ทุกฺกฏนฺติ วิกปฺปทฺวยฺจ สมุจฺจิโนติ. ‘‘อิธาปิ ภิกฺขุนึ อาทึ กตฺวา สพฺเพ อนุปสมฺปนฺนา นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘) อฏฺกถาวจนโต ‘‘ภิกฺขุนี’’ติ อุปลกฺขณํ.
๙๐๑. น เจว ปิยกามสฺสาติ ปิยภาวํ อกามยนฺตสฺส จ. น เภทตฺถิโนปิ จาติ เภทํ อนิจฺฉนฺตสฺส จ. ปาปานํ ครหตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘เกวล’’นฺติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอกํ อกฺโกสนฺตํ, เอกฺจ ขมนฺตํ ทิสฺวา ‘อโห นิลฺลชฺโช, อีทิสมฺปิ นาม อายสฺมนฺตํ ปุน วตฺตพฺพํ มฺิสฺสตี’ติ เอวํ เกวลํ ปาปครหิตาย ภณนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘).
เปสฺุกถาวณฺณนา.
๙๐๓. อฺเนาติ สามเณราทินา. ‘‘ยฺจ ปทํ ยฺจ อนุปทํ ยฺจ อนฺวกฺขรํ ยฺจ อนุพฺยฺชนํ, สพฺพเมตํ ปทโส นามา’’ติ (ปาจิ. ๔๖) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา อวยเว สมุทาโยปจารวเสน ‘‘ปิฏกตฺตย’’นฺติ ตเทกเทสปทาทิ เอว วุตฺโตติ คเหตพฺโพ. เอตฺถ ปทาทิสรูปํ อฏฺกถาย เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘ปทนฺติ เอโก คาถาปาโท อธิปฺเปโต. อนุปทนฺติ ทุติโย ปาโท. อนฺวกฺขรนฺติ เอเกกมกฺขรํ. อนุพฺยฺชนนฺติ ปุริมพฺยฺชเนน สทิสํ ปจฺฉาพฺยฺชน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕). อิทํ คาถามยเทสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ยํ กิฺจิ วา เอกมกฺขรํ ¶ อนฺวกฺขรํ, อกฺขรสมูโห อนุพฺยฺชนํ, อกฺขรานุพฺยฺชนสมูโห ปทํ, ปมปทํ ปทเมว, ทุติยํ อนุปทนฺติ เอวเมตฺถ นานากรณํ เวทิตพฺพ’’นฺติปิ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕) วุตฺตํ. อิทํ จุณฺณิยเทสนํ สนฺธาย วุตฺตํ.
ธมฺมนฺติ พุทฺธภาสิตาทิปาฬิธมฺมํ. ปฏิสมฺภิทายฺหิ ธมฺมปฺจเก ปาฬิปิ ธมฺโมติ วุตฺตา. ธมฺมปฺจกํ นาม ผลนิพฺพตฺตโก เหตุ, อริยมคฺโค, ภาสิตํ, กุสลากุสลํ เจติ เอเต ธมฺมสฺิตาติ นิทฺทิฏฺํ. เอตฺถ หิ ภาสิตนฺติ ปาฬิ วุตฺตา. อฏฺกถานิสฺสิโตปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉติ. โส จ ปุพฺเพ มคธภาสาย ิโต สงฺคีติตฺตยารุฬฺโห คเหตพฺโพ.
‘‘สห ภณนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยา’’ติ อิมินา ‘‘เอกโต ปฏฺเปตฺวา เอกโต โอสาเปนฺตี’’ติอาทินา ¶ (ปาจิ. ๔๖) ปทภาชนาคตนเยน อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ อารภิตฺวา เอกโต อุจฺจารณวเสน ปทํ วา อนุปทํ วา อนฺวกฺขรํ วา อนุพฺยฺชนํ วา วทโต ปทาทิคณนาวเสน ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๙๐๔. สงฺคีตึ อนารุฬฺเหสุ ธมฺเมสุ ราโชวาทาทโย สุตฺตนฺตา อาปตฺติชนกาเยวาติ มหาปจฺจริยาทิสุ วุตฺตาติ โยชนา. ราโชวาโท นาม เอโก สุตฺตนฺโต. อาทิ-สทฺเทน ติกฺขินฺทฺริยาทิสุตฺตนฺตา คหิตา.
๙๐๕. ภิกฺขุสฺมิมฺปิ ภิกฺขุนิยาปิ จ อนุปสมฺปนฺนสฺิโน, วิมติสฺส วา ภิกฺขุสฺส ตถา ปทโสธมฺเม ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๙๐๖-๗. เอกโต อุทฺทิสาเปตีติ เอกโต อุทฺเทสํ คณฺหนฺเตหิ อนุปสมฺปนฺเนหิ สทฺธึ อุจฺจารณวเสน อุทฺทิสาเปติ. สชฺฌายํ วา กโรตีติ ตถา เอกโต สชฺฌายติ.
‘‘สเจ ¶ เอกคาถาย เอโก ปาโท น อาคจฺฉติ, เสสํ อาคจฺฉติ, อยํ เยภุยฺเยน ปคุณคนฺโถ นาม. เอส นโย สุตฺเตปิ เวทิตพฺโพตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๘) อฏฺกถาวจนโต ปคุณคนฺถนฺติ เอตฺถ ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ เสโส. โอปาเตตีติ ‘‘เอวํ ภณาหี’’ติ เอกโต ภณติ. อุทฺเทสนฺติ อุทฺทิสิตพฺพํ. เตนาติ อนุปสมฺปนฺเนน.
๙๐๘. ยสฺมา อิทํ ปทโสธมฺมสิกฺขาปทํ วาจโต จ สมุฏฺาติ, วาจาจิตฺตทฺวยาปิ จ สมุฏฺาติ, ตสฺมา อิทํ สมุฏฺานํ ปทโสธมฺมสฺิตนฺติ วุตฺตนฺติ โยชนา.
ปทโสธมฺมกถาวณฺณนา.
๙๐๙-๑๐. สพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺเน เสนาสเน ติสฺสนฺนํ ปน รตฺตีนํ โย ปน ภิกฺขุ รตฺติยํ เปตฺวา ภิกฺขุํ อฺเน สเจ นิปชฺเชยฺย, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. ‘‘ยํ กิฺจิ ปฏิจฺฉาทนสมตฺถํ อิธ ฉทนฺจ ปริจฺฉนฺนฺจ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ฉทนารหํ อิฏฺกาสิลาสุธาติณปณฺณาทีนํ เยน เกนจิ สพฺพโส ฉาทิตํ เสนาสนํ ¶ สพฺพจฺฉนฺนํ. ‘‘ภูมิโต ปฏฺาย ยาว ฉทนํ อาหจฺจ ปากาเรน วา อฺเน วา เกนจิ อนฺตมโส วตฺเถนปิ ปริกฺขิตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา เยน เกนจิ ปริกฺขิปิตฺวา ปฏิจฺฉาทิตเสนาสนํ สพฺพปริจฺฉนฺนํ. ‘‘ฉทนํ อนาหจฺจ สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธน ปาการาทินา ปริกฺขิตฺตาปิ สพฺพปริจฺฉนฺนาเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตํ ‘‘ทิยฑฺฒา’’ติอาทินา วกฺขติ.
เอวํ สพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺเน เอกสฺมึ เสนาสเน โย ภิกฺขุ อุปสมฺปนฺนโต อฺเน เอเกน วา อเนเกหิ วา ติรตฺตํ ¶ สหเสยฺยํ กปฺเปตฺวา จตุตฺถรตฺตึ อาทึ กตฺวา สพฺพรตฺตีสุ สูริยตฺถงฺคมโต ปฏฺาย สกลรตฺติยํ ปมํ วา ปจฺฉา วา อปุพฺพาจริมํ วา ปิฏฺึ ปสาเรตฺวา สเจ เอกเสนาสเน เสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺส เทวสิกํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อิทํ วิธานํ ‘‘อปิเจตฺถ เอกาวาสาทิกมฺปิ จตุกฺกํ เวทิตพฺพ’’นฺติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
‘‘เยภุยฺเยน ปริจฺฉนฺเน ฉนฺเน’’ติ อิมินาปิ เอวเมว โยเชตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘ยสฺสา ปน อุปริ พหุตรํ านํ ฉนฺนํ, อปฺปํ อจฺฉนฺนํ, สมนฺตโต จ พหุตรํ ปริกฺขิตฺตํ, อปฺปํ อปริกฺขิตฺตํ, อยํ เยภุยฺเยนฉนฺนา เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺนา นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เยภุยฺเยน ฉนฺนปริจฺฉนฺนํ เวทิตพฺพํ. อตฺโถ วุตฺตนโยเยว. ‘‘เยภุยฺเยน ปํสุกา’’ติ เอตสฺส อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖) ตีสุ ทฺเว เยภุยฺยํ นาม, อิธ ปน ปทโสธมฺเม ‘‘เยภุยฺเยน ปคุณํ คนฺถ’’นฺติ เอตสฺส อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๘) ‘‘เอกคาถายา’’ติอาทิวิวรเณ วิย จตูสุ ตโยปิ ภาคา เยภุยฺยํ นามาติ เวทิตพฺพํ.
๙๑๑. เมถุนสฺส ปโหนกํ ยํ ปน วตฺถุ ปมปาราชิกาย นิทฺทิฏฺํ อนฺตมโส ติรจฺฉานคเตนปิ, เตน ปมปาราชิกวตฺถุนา ปุคฺคเลน สห นิปชฺชิตฺวา อาปตฺติ สหเสยฺยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๙๑๒-๓. ‘‘อุโภ วา นิปชฺชนฺตี’’ติ วิกปฺปสฺส ปมคาถาทฺวเยเนว อตฺถโต ทสฺสิตตฺตา ปุพฺพาปริยวเสนปิ สมฺภวนฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน’’ติอาทินา (ปาจิ. ๕๒-๕๔) นเยน ทสฺสิตปกฺขทฺวยํ นิทสฺเสตุมาห ‘‘นิปนฺเน’’ติอาทิ. ‘‘อุฏฺหิตฺวา’’ติ อิทํ วิจฺฉาวเสน คเหตพฺพํ. อนุปสมฺปนฺนคณนายปิ วาติ พหูสุ ¶ อนุปสมฺปนฺเนสุ เตสํ คณนาย จ. อนุปสมฺปนฺเนสุ ¶ พหูสุ เตสํ คณนาย เอกสฺส ภิกฺขุโน พหู อาปตฺติโย โหนฺตีติ เอวํ ทสฺสเนน อุปสมฺปนฺเนสุ พหูสุ เอกสฺมึ อนุปสมฺปนฺเน สติ เตสฺจ ตสฺส ปโยคคณนาย อาปชฺชิตพฺพา พหู อาปตฺติโย จ อุโภสุปิ พหูสุ เอเกกสฺเสว อุปสมฺปนฺนสฺส อนุปสมฺปนฺนคณนาย พหู อาปตฺติโย จ โหนฺตีติปิ ทสฺสิตํ โหติ.
๙๑๔. เอเกเนว ทฺวาเรน วฬฺชิตพฺพโต เอกูปจาเร สตคพฺเภปิ เสนาสเน อุปสมฺปนฺโน เอกสฺมึ คพฺเภ วสนฺโต อตฺตนา สยนคพฺเภ ทฺวารํ ปิทหิตฺวา วา อปิทหิตฺวา วา จตุตฺถรตฺติยํ สยติ เจ, อุปริมตเล, อวเสสคพฺเภสุ จ สยนฺเตหิ อนุปสมฺปนฺเนหิ ปุพฺเพ วุตฺตอาปตฺตินิยโมเยวาติ ทสฺสนตฺถมาห ‘‘สเจ ปิธายา’’ติอาทิ. คพฺภทฺวารํ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘คพฺภ’’นฺติ วุตฺตํ. จตุตฺถทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย นิปชฺชติ, อาปตฺติ สิยาติ โยชนา. ‘‘อนุปสมฺปนฺเนน สหา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อาปตฺติ ปาจิตฺติยํ.
๙๑๕. ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธนาติ วฑฺฒกิรตเนน ทิยฑฺฒรตนุพฺเพเธน. ปากาโร นาม นิฏฺิโต. จยนํ นาม วิปฺปกตปากาโรติปิ วทนฺติ. อิมินา จ อาฬินฺทสฺส อคฺคหณตฺถํ ‘‘ทสหตฺถุพฺเพธาปิ ชคติ ปริกฺเขปสงฺขฺยํ น คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถา ปมาณนฺติ วทนฺติ. ชคตีติ อาฬินฺทํ. อาทิ-สทฺเทน ภิตฺติปณฺณาวรณาทิคหณํ.
๙๑๖. ทุสฺสกุฏิยนฺติ วตฺถกุฏิยํ.
๙๑๗. ‘‘สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉนฺนาทิปฺปเภทโต เยภุยฺยาทิปฺปเภทโต’’ติ อาทิ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ปเมน ¶ อาทิ-สทฺเทน สพฺพจฺฉนฺนเยภุยฺยปริจฺฉนฺนสพฺพจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺนเยภุยฺยจฺฉนฺน- สพฺพปริจฺฉนฺนอุปฑฺฒจฺฉนฺนสงฺขาตานิ จตฺตาริ เสนาสนานิ คหิตานิ. คาถาย สรูเปน วุตฺตสพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺเนน สทฺธึ ปฺจ เสนาสนานิ ทสฺสิตานิ โหนฺติ. ทุติเยน อาทิ-สทฺเทน เยภุยฺยจฺฉนฺนเยภุยฺยปริจฺฉนฺน เยภุยฺยจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺน เยภุยฺยปริจฺฉนฺนอุปฑฺฒจฺฉนฺนสงฺขาตานิ ตีณิ เสนาสนานิ คหิตานิ. อิเม อฏฺ วิกปฺปา ลพฺภนฺติ. กสฺมา วุตฺตํ ‘‘สตฺต ปาจิตฺติยานี’’ติ? มหาอฏฺกถาย วุตฺตตฺตา. ยถาห ‘‘มหาอฏฺกถายํ ปน ‘สพฺพจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน อุปฑฺฒจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ ¶ , เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน อุปฑฺฒจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, ปาฬิยํ วุตฺตปาจิตฺติเยน สทฺธึ สตฺต ปาจิตฺติยานี’ติ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓).
กสฺมา ปน อฏฺกถายํ ‘‘อฏฺ ปาจิตฺติยานี’’ติ วตฺวา ‘‘สตฺตา’’ติ คณนปริจฺเฉโท กโตติ? นิสฺสนฺเทเห ตาว ‘‘เสยฺยา นาม สพฺพจฺฉนฺนา สพฺพปริจฺฉนฺนา, เยภุยฺเยนจฺฉนฺนา เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺนา’ติ (ปาจิ. ๕๒) ปาฬิยํ อาคเตสุ ทฺวีสุ วิกปฺเปสุ เอกสฺมึ วุตฺตปาจิตฺติยํ คเหตฺวา ปาฬิยํ วุตฺเตน ปาจิตฺติเยน ‘สตฺตา’ติ วุตฺต’’นฺติ ปริหาโร ทสฺสิโต. สารตฺถทีปนิยฺจ ‘‘สตฺต ปาจิตฺติยานี’ติ ปาฬิยํ วุตฺตปาจิตฺติยทฺวยํ สามฺโต เอกตฺเตน คเหตฺวา วุตฺตํ. วิสุํ ปน คยฺหมาเน สพฺพจฺฉนฺเน สพฺพปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยนฺติ อฏฺเว ปาจิตฺติยานิ โหนฺตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๕๓) ปริหาโร วุตฺโต.
สพฺพเยภุยฺยอุปฑฺฒปเทสุ ฉนฺนปริจฺฉนฺนปเทหิ โยชิเตสุ นว วิกปฺปา สมฺภวนฺติ, เตสุ นวเม อุปฑฺฒจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนวิกปฺเป ทุกฺกฏสฺส ทสฺสิตตฺตา ปาริเสสโต อิตเรสุ ¶ อฏฺสุ อฏฺ ปาจิตฺติยาเนว สมฺภวนฺติ. อฏฺกถายํ ปน อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คุณนูปคํ น โหตีติ กตฺวา ‘‘สตฺตา‘‘ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท.
๙๑๘. ‘‘อฑฺฒจฺฉนฺเน อฑฺฒปริจฺฉนฺเน’’ติ โยชนา. ‘‘สพฺพปริจฺฉนฺเน จูฬจฺฉนฺเน’’ติ ยถากฺกเมน โยชนา. อิมินา อฏฺกถาคเตสุ ปฺจสุ วิกปฺเปสุ ตติยวิกปฺปํ ทสฺเสตฺวา อาทิ-สทฺเทน สพฺพจฺฉนฺนาทโย เสสวิกปฺปา คหิตา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สพฺพจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยนจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, ปาฬิยํ อาคตทุกฺกเฏน สห ปฺจ ทุกฺกฏานีหิ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓). ปาฬิยํ อาคตทุกฺกฏํ นาม อิมิสฺสาเยว คาถาย อาทิมฺหิเยว วุตฺตทุกฺกฏํ. ยถาห ‘‘อุปฑฺฒจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๕๓).
จูฬจฺฉนฺนาทีนิ เจตฺถ เอวํ เวทิตพฺพานิ – ยสฺส จตูสุ ภาเคสุ เอโก ฉนฺโน, เสสา อจฺฉนฺนา, อิทํ จูฬกจฺฉนฺนํ. ยสฺส ตีสุ ภาเคสุ ทฺเว ฉนฺนา, เอโก อจฺฉนฺโน, อิทํ เยภุยฺเยนจฺฉนฺนํ. ยสฺส ¶ ทฺวีสุ ภาเคสุ เอโก ฉนฺโน, เอโก อจฺฉนฺโน, อิทํ อุปฑฺฒจฺฉนฺนํ นาม เสนาสนํ. จูฬปริจฺฉนฺนาทีนิ อิมินา นเยน เวทิตพฺพานิ. ฉนฺนาทีหิปีติ สหตฺเถ กรณวจนํ. ปิ-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. สพฺพจูฬปริจฺฉนฺนฉนฺนาทีหิ จตูหิปิ สห อฑฺฒจฺฉนฺนปริจฺฉนฺเน ปฺจธา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา.
๙๒๐. สพฺพจฺฉนฺนาทิเกติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘สพฺพปริจฺฉนฺเน สพฺพอจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนอจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนอปริจฺฉนฺเน’’ติ (ปาจิ. ๕๔) ปาฬิยํ วุตฺตา อนาปตฺติวารเสสา จ อฏฺกถายํ วุตฺตา ‘‘อุปฑฺฒจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน, อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ¶ , จูฬกจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓) ตโย อนาปตฺติวารา จ คหิตา.
๙๒๑. นิปนฺเนปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ‘‘ภิกฺขุ นิปนฺเน อนุปสมฺปนฺโน นิสีทติ, อุโภ วา นิสีทนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๕๔) ปาฬิยํ วุตฺตปการนฺตเร สมุจฺจิโนติ.
สหเสยฺยกถาวณฺณนา.
๙๒๒. อปิ-สทฺเทน ปเคว มหตฺตริยาติ ทสฺเสติ. สหเสยฺยํ ปกปฺเปยฺยาติ ยถาวุตฺตลกฺขณํ สพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺนาทิเสนาสนํ ปวิสิตฺวา สูริยตฺถงฺคมโต ปฏฺาย ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเรเนว ปิฏฺิปฺปสารณลกฺขณํ เสยฺยํ กปฺเปยฺย.
๙๒๓-๔. เทวิยาติ เทวิตฺถิยา. ติรจฺฉานคติตฺถิยาติ โคธาทิกาย. ‘‘เมถุนวตฺถุภูตายา’’ติ อิมินา เมถุนธมฺมสฺส อวตฺถุภูตาย สหเสยฺยาย โทสาภาวํ ทสฺเสติ. วตฺถูนํ คณนายาติ มาตุคามสฺส คณนาย จ ตาสฺจ อตฺตโน จ ปโยคคณนาย จ. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. มาตุคาเมน ตโย ทิวเส สหเสยฺยาย อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา จตุตฺถทิวเส สหเสยฺยาย ทฺวีหิปิ สิกฺขาปเทหิ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ เอตฺถ ทุกฺกฏวตฺถุภูตาย อิตฺถิยา ตตฺเถว สหเสยฺยาย อิมินา สิกฺขาปเทน ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวา จตุตฺถทิวเส รตฺติยํ สหเสยฺยาย อิมินา สิกฺขาปเทน อาปชฺชิตพฺพทุกฺกเฏน สห ปุริมสิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยํ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ.
ทุติยสหเสยฺยกถาวณฺณนา.
๙๒๖. ฉปฺปฺจวาจาหิ ¶ ¶ อุทฺธํ อิตฺถิยา ธมฺมํ ภณนฺตสฺสาติ สมฺพนฺโธ. อิตฺถิยาติ ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, วิฺู ปฏิพลา โหติ สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุ’’นฺติ ปาฬิยํ วุตฺตมนุสฺสิตฺถิยา. ภณนฺตสฺสาติ วกฺขมานลกฺขณํ ธมฺมํ ฉหิ ปเทหิ อุตฺตริ ภณนฺตสฺส. วิฺุํ ปุริสวิคฺคหํ วินาติ ‘‘วิฺู นาม ปุริสวิคฺคโห ปฏิพโล โหติ สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๔) ปาฬิยํ วุตฺตสวนูปจารคตมนุสฺสปุริสํ วินา. ธมฺมนฺติ วกฺขมานปฺปการสรูปํ เทสนาธมฺมํ.
๙๒๗. คาถามยา, จุณฺณิยคนฺถมยาติ ทุวิธา เทสนา, ตตฺถ คาถามยเทสนาย วาจา นาม คาถาปาทลกฺขณาติ ทสฺเสตุมาห ‘‘คาถาปาโท’’ติอาทิ. จุณฺณิยเทสนายํ ปน วาจาปริจฺเฉโท วิภตฺยนฺตวเสน เวทิตพฺโพ. เตนาห คณฺิปเท ‘‘เอโก คาถาปาโท’ติ อิทํ คาถาพนฺธเมว สนฺธาย วุตฺตํ, อฺตฺถ ปน วิภตฺติอนฺตปทเมว คเหตพฺพ’’นฺติ. ปทโสธมฺมํ นิทฺทิฏฺํ ธมฺมนฺติ ปิฏกตฺตยํ. ‘‘อฏฺกถ’’นฺติ อิมินา สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ โปราณฏฺกถํ คเหตพฺพํ. เตเนว คณฺิปเท วุตฺตํ ‘‘อฏฺกถํ ธมฺมปทชาตกาทิวตฺถฺุจา’’ติ. อิมินาปิ โปราณกํ สงฺคีติอารุฬฺหเมว อฏฺกถํ วุตฺตนฺติ วทนฺติ. อฏฺกถาทิปาํ เปตฺวา ทมิฬาทิภาสนฺตเรน ยถารุจิ กเถตุํ วฏฺฏตีติ.
๙๒๘. ปทาทีนํ วสา ฉนฺนํ วาจานํ อุปริ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺสาติ โยชนา. เทเสนฺตสฺสาติ ปทโสธมฺเม วุตฺตลกฺขณปทาทิสรูปาหิ ฉหิ วาจาหิ อุตฺตริ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส. ปทาทิคณนายาติ ยถาวุตฺตลกฺขณปทอนุปทอนฺวกฺขรอนุพฺยฺชนคณนาย.
๙๒๙. ปุริสวิคฺคหนฺติ ¶ มนุสฺสปุริสเวสํ. เอตฺถ ติรจฺฉานคตา นาม เวสนิมฺมานารหา อิทฺธิมนฺตา นาคสุปณฺณา.
๙๓๑. วทโตติ อธิกํ ธมฺมํ ภาสโต.
๙๓๒. อิตฺถิรูปนฺติ มนุสฺสิตฺถิเวสํ. ติรจฺฉานคติตฺถิยาติ วุตฺตสรูปาย ติรจฺฉานคติตฺถิยา.
๙๓๓. สยํ ¶ อุฏฺาย นิสีทิตฺวา ปุน ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส อนาปตฺติ ปกาสิตาติ สมฺพนฺโธ. มาตุคามสฺส วา ตถาติ เอตฺถ ‘‘ตถา’’ติ อิมินา วุตฺตปฺปการสฺส คหิตตฺตา อุฏฺาย นิสินฺนสฺส มาตุคามสฺส ปุน ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส อนาปตฺติ ปกาสิตาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อุฏฺายา’’ติอาทินา อิริยาปถปริวตฺตนทสฺสเนน นานาอิริยาปเถปิ อนาปตฺตึ ทีเปติ.
๙๓๔. อฺิสฺสา ปุน อฺิสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อาคตาคตายา’’ติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อฺสฺส มาตุคามสฺสาติ เอกิสฺสา เทเสตฺวา ปุน อาคตาคตาย อฺิสฺสาปิ เทเสตีติ เอวํ เอกาสเน นิสินฺโน มาตุคามสตสหสฺสนฺนมฺปิ เทเสตีติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖). อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน จ-สทฺเทน ‘‘ปฺหํ ปุฏฺโ กเถตี’’ติ (ปาจิ. ๖๖) อิทํ สมุจฺจิโนติ. ‘‘ทีฆนิกาโย กิมตฺถิโย ภนฺเต’’ติ ปฺหํ ปุจฺฉโต มาตุคามสฺส สพฺพํ ทีฆนิกายํ วทโตปิ อนาปตฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปฺหํ ปุจฺฉติ, ปฺหํ ปุฏฺโ กเถตีติ มาตุคาโม ‘ทีฆนิกาโย นาม ภนฺเต กิมตฺถํ ทีเปตี’ติ ปุจฺฉติ, เอวํ ปฺหํ ปุฏฺโ ภิกฺขุ สพฺพํ เจปิ ทีฆนิกายํ กเถติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖). เอตฺถ จ สพฺพํ เจปิ ทีฆนิกายํ กเถตีติ ยาว น นิฏฺาติ, ตาว ปุนทิวเสปิ กเถติ.
๙๓๕. ธมฺมสฺส ¶ เทสนาย, วิฺุมนุสฺสปุริสสฺส อสนฺนิหิตกรเณน จ อาปชฺชิตพฺพโต กฺริยากฺริยํ.
ธมฺมเทสนากถาวณฺณนา.
๙๓๖. มหคฺคตํ รูปารูปชฺฌานํ. ปณีตํ โลกุตฺตรธมฺมํ. ปธานภาวํ นีตนฺติ ปณีตํ. อาโรเจนฺตสฺสาติ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทินา (ปารา. ๒๐๑) นเยน จตุตฺถปาราชิเก วุตฺตนเยน วทนฺตสฺส. ปรินิพฺพานกาเล จ ปุฏฺกาเล จ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ อตฺตนา ลทฺธสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อาโรเจตพฺพตฺตา ‘‘เปตฺวา ภิกฺขุนึ ภิกฺขุ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อฺสฺสา’’ติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อุปสมฺปนฺนสฺส ภูตํ อาโรเจตีติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ปรินิพฺพานกาเล, หิ อนฺตรา วา อติกฑฺฒิยมาเนน อุปสมฺปนฺนสฺส ภูตํ อาโรเจตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๗). ภูเตติ เอตฺถ ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อาโรจิเต’’ติ วตฺตพฺพํ, นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, อตฺตโน สนฺตาเน อิมสฺมึ อตฺตภาเว สิทฺธอุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อาโรจนนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ.
๙๓๗. โน ¶ เจ ชานาติ โส วุตฺตนฺติ ยสฺส อาโรเจติ, โส สเจ สุตกฺขเณเยว วุตฺตนเยเนว ‘‘เอส ปมชฺฌานสฺส ลาภี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตํ โน ชานาติ. ปริยายวจเนติ ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี’’ติ เอวมาทิปริยายวจเน. ยสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อาโรเจติ, โส สเจ สุตสมนนฺตรํ ‘‘เอส เอวํ วทตี’’ติ วุตฺตํ โน ชานาติ, ตาทิสสฺส อาโรเจนฺตสฺส ภิกฺขุโน โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. อสฺส ภูตสฺส ปริยายวจเน จ ภิกฺขุโน อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๙๓๘. ตถารูเป ¶ การเณ สตีติ ปรสฺส การณภาวํ ตฺวาปิ ปฏิปตฺติยา อโมฆภาวทสฺสนสมุตฺเตชนสมฺปหํสนาทิกรสงฺขาเต การเณ สติ. สพฺพสฺสาปีติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนสฺส สพฺพสฺส. สีลาทินฺติ สีลสุตปริยตฺติคุณํ. วทโตติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุโน’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.
๙๓๙. ตทสมฺภวาติ ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส อุมฺมาทาทีนํ อสมฺภวา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ทิฏฺิสมฺปนฺนานํ อุมฺมาทสฺส วา จิตฺตกฺเขปสฺส วา อภาวาติ. มหาปจฺจริยมฺปิ หิ วิจาริต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๗). อุมฺมตฺตกปทสฺส อวจเน การณํ วทนฺเตเนว ขิตฺตจิตฺตาทิปทานํ อวจเน การณฺจ อุปลกฺขณโต ทสฺสิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ มคฺคผลทิฏฺิยา สมนฺนาคตานํ อริยานเมว หิ อุมฺมตฺตกาทิภาโว นตฺถิ. ฌานลาภิโน ปน ตสฺมึ สติ ฌานา ปริหายนฺติ, ตสฺมา เตสํ อภูตาโรจนปจฺจยา อนาปตฺติ วตฺตพฺพา, น ภูตาโรจนปจฺจยา.
๙๔๐. อิมิสฺสาปตฺติยา อฺตฺร ฌานมคฺคาทิลาภีนํ อฺสฺส อสมฺภวา ‘‘กุสลาพฺยากเตเหว ทฺวิจิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อิทฺจ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน อริยปุคฺคเลเยว สนฺธาย วุตฺตํ. ปณฺณตฺตึ อชานนฺตา ปน ฌานลาภี ปุถุชฺชนา นานาวตฺถุมฺหิ โลภวเสน อกุสลจิตฺเตนาปิ น อาโรเจนฺตีติ นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘ติจิตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพํ สิยา, ตถาปิ พหุเลน กุสลาพฺยากตานเมว สมฺภโวติ เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทฺวิเวทนํ สุโขเปกฺขาวเสน. อิทฺจ สิกฺขาปทํ ปณฺณตฺติอชานนวเสน อจิตฺตกสมุฏฺานํ โหติ. อริยา เจตฺถ ปณฺณตฺตึ ชานนฺตา ¶ วีติกฺกมํ น กโรนฺติ, ปุถุชฺชนา ปน ปณฺณตฺตึ ชานิตฺวาปิ วีติกฺกมํ กโรนฺติ. เต จ สตฺถุโน อาณาวีติกฺกมเจตนาย ¶ พลวอกุสลภาวโต ฌานา ปริหายนฺตีติ ทฏฺพฺพํ.
ภูตาโรจนกถาวณฺณนา.
๙๔๑. ภิกฺขุโน ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตึ ภิกฺขุสมฺมุตึ เปตฺวา อนุปสมฺปนฺเน อาโรเจนฺตสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตีติ โยชนา. ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตินฺติ สงฺฆาทิเสโส. นนุ จ ‘‘ทุฏฺุลฺลา นาม อาปตฺติ จตฺตาริ จ ปาราชิกานิ เตรส จ สงฺฆาทิเสสา’’ติ (ปาจิ. ๗๙) ปทภาชเน ปาราชิกสงฺฆาทิเสสา ทสฺสิตา, กสฺมา อิธ สงฺฆาทิเสโสว คหิโตติ? วุจฺจเต – ปาราชิกํ ทุฏฺุลฺลสทฺทตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อิธ ปน สงฺฆาทิเสโสเยว ภควตา อธิปฺเปโตติ อฏฺกถายํ วิจาริตเมตํ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘ปาราชิกานิ ทุฏฺุลฺลสทฺทตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, สงฺฆาทิเสสํ ปน อิธ อธิปฺเปต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๘). วกฺขติ จ ‘‘อิธ สงฺฆาทิเสสาว, ทุฏฺุลฺลาปตฺติโย มตา’’ติ. อนุปสมฺปนฺเนติ ‘‘ภิกฺขฺุจ ภิกฺขุนิฺจ เปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปนฺโน’’ติ (ปาจิ. ๘๐) ปทภาชเน นิทฺทิฏฺอนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรเจนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
เปตฺวา ภิกฺขุสมฺมุตินฺติ ‘‘อตฺถิ ภิกฺขุสมฺมุติ อาปตฺติปริยนฺตา น กุลปริยนฺตา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๘๐) ปทภาชเน ทสฺสิตํ อภิณฺหาปตฺติกสฺส ภิกฺขุโน อายตึ สํวรตฺถํ หิโรตฺตปฺปชนนตฺถํ อาปตฺติโย วา อุปาสกกุลานิ วา อุภยเมว วา ปริจฺฉินฺทิตฺวา วา อปริจฺฉินฺทิตฺวา วา อาปตฺติโย อาโรเจตุํ สงฺเฆน สงฺฆมชฺเฌ ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา กตสมฺมุตึ เปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อภิณฺหาปตฺติกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ‘เอวเมส ปเรสุ หิโรตฺตปฺเปนาปิ อายตึ สํวรํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ ตสฺส ภิกฺขุโน ¶ หิเตสิตาย ติกฺขตฺตุํ อปโลเกตฺวา สงฺเฆน กาตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๐).
๙๔๒. ฆเฏตฺวา วทนฺตสฺเสวาติ เอวกาโร ยถาาเน โยเชตพฺโพ. เอวกาเรน พฺยวจฺฉินฺนมตฺถํ วกฺขติ ‘‘วตฺถุ’’นฺติอาทินา. ‘‘อสุจึ โมเจตฺวา’’ติ อิมินา วตฺถุมาห, ‘‘สงฺฆาทิเสส’’นฺติ อิมินา อาปตฺตึ. วชฺชเมว วชฺชตา. ‘‘ปาจิตฺติยาปตฺตี’’ติ อิมสฺสายํ ปริยาโย. ‘‘อยํ อสุจึ โมเจตฺวา สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน’’ติ วตฺถุนา สทฺธึ ฆเฏตฺวา อาปตฺตึ วทนฺตสฺส วชฺชตา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๙๔๓. สุทฺธสฺสาติ ¶ ปาราชิกมนาปนฺนสฺส. วทนฺติ วทนเหตุ, วตฺถุนา สทฺธึ สงฺฆาทิเสสสฺส กถนโตติ อตฺโถ.
๙๔๔. อทุฏฺุลฺลายาติ สงฺฆาทิเสสโต อฺาย อาปตฺติยา. ทุฏฺุลฺลสฺิโนติ สงฺฆาทิเสสสฺิโน. เสสา อาปตฺติโยปิ วาติ สงฺฆาทิเสสํ วินา เสเส ฉฬาปตฺติกฺขนฺเธ.
๙๔๕. ตถาติ ทุกฺกฏํ อติทิสติ. ปฺจธา มตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลํ อชฺฌาจารํ อาโรเจนฺตสฺส ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อนุปสมฺปนฺนสฺส ปฺจธา มตํ ทุฏฺุลฺลํ อชฺฌาจารนฺติ จ ปาณาติปาตาทิปฺจสิกฺขาปทวีติกฺกมา คหิตา. เกจิ ปน ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทโย ปฺจา’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ปาณาติปาตาทีนิ หิ ทเสว สิกฺขาปทานิ สามเณรานํ ปฺตฺตานิ. เตสํ ปฺตฺเตสุเยว จ สิกฺขาปเทสุ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลวิจารณา กาตพฺพา, น จ สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ วิสุํ เตสํ ปฺตฺตานิ อตฺถีติ.
อถ ¶ ภิกฺขุโน ทุฏฺุลฺลสงฺขาตานิ สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ อนุปสมฺปนฺนสฺส กึ นาม โหนฺตีติ? อชฺฌาจาโร นาม โหนฺตีติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิ…เป… อชฺฌาจาโร นามาติ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒). อิมินาปิ เจตํ สิทฺธํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิ ทุฏฺุลฺลํ นาม น โหตี’’ติ. ‘‘อชฺฌาจาโร นามา’’ติ หิ วทนฺโต อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิ เกวลํ อชฺฌาจาโร นาม โหติ, น ปน ทุฏฺุลฺโล นาม อชฺฌาจาโรติ ทีเปติ. ‘‘อชฺฌาจาโร นามา’’ติ จ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา, อกตฺตพฺพรูปตฺตา จ อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ ทณฺฑกมฺมวตฺถุปกฺขํ ภชนฺติ. ตานิ จ อฺสฺส อนุปสมฺปนฺนสฺส อวณฺณกามตาย อาโรเจนฺโต ภิกฺขุ ทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ วทนฺติ. อิธ ปน อนุปสมฺปนฺนคฺคหเณน สามเณรสามเณริสิกฺขมานานํ คหณํ เวทิตพฺพํ.
อทุฏฺุลฺลํ อชฺฌาจารนฺติ โยชนา. ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺสา’’ติ จ อชฺฌาหริตพฺพานิ. อนุปสมฺปนฺนสฺส ยถาวุตฺเตหิ ปฺจสิกฺขาปเทหิ อฺํ วิกาลโภชนาทึ อทุฏฺุลฺลํ อชฺฌาจารํ วา. ยถาห ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลํ วา อทุฏฺุลฺลํ วา อชฺฌาจาร’’นฺติอาทิ (ปาจิ. ๘๒).
๙๔๖. เกวลํ ¶ วตฺถุํ วา อาโรเจนฺตสฺสาติ ‘‘อยํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ อาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน วตฺถุมตฺตํ อาโรเจนฺตสฺส. เกวลํ อาปตฺตึ วา อาโรเจนฺตสฺสาติ ‘‘อยํ ปาราชิกํ อาปนฺโน, อยํ สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน อาปตฺติมตฺตํ อาโรเจนฺตสฺส จ. ภิกฺขุสมฺมุติยาติ เอตฺถ วตฺถุนา ฆเฏตฺวา อาปตฺตึ อาโรเจนฺตสฺสาติ ¶ คเหตพฺพํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตี’’ติ เอตํ ปรามสติ.
ทุฏฺุลฺลาโรจนกถาวณฺณนา.
๙๔๘. อกปฺปิยํ ปถวินฺติ ปทภาชเน ‘‘ทฺเว ปถวิโย ชาตา จ ปถวี อชาตา จ ปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๖) อุทฺทิสิตฺวา –
‘‘ชาตา นาม ปถวี สุทฺธปํสุ สุทฺธมตฺติกา อปฺปปาสาณา อปฺปสกฺขรา อปฺปกถลา อปฺปมรุมฺพา อปฺปวาลิกา เยภุยฺเยนปํสุกา เยภุยฺเยนมตฺติกา, อทฑฺฒาปิ วุจฺจติ ชาตา ปถวี. โยปิ ปํสุปฺุโช วา มตฺติกาปฺุโช วา อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺโ, อยมฺปิ วุจฺจติ ชาตา ปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๖) จ,
‘‘อชาตา นาม ปถวี สุทฺธปาสาณา สุทฺธสกฺขรา สุทฺธกถลา สุทฺธมรุมฺพา สุทฺธวาลิกา อปฺปปํสุ อปฺปมตฺติกา เยภุยฺเยนปาสาณา เยภุยฺเยนสกฺขรา เยภุยฺเยนกถลา เยภุยฺเยนมรุมฺพา เยภุยฺเยนวาลิกา, ทฑฺฒาปิ วุจฺจติ อชาตา ปถวี. โยปิ ปํสุปฺุโช วา มตฺติกาปฺุโช วา อูนจาตุมาสํ โอวฏฺโ, อยมฺปิ วุจฺจติ อชาตา ปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๖) จ –
นิทฺทิฏฺาสุ ทฺวีสุ ปถวีสุ ชาตปถวิสงฺขาตํ อกปฺปิยปถวึ.
เอตฺถ ปาสาณาทีนํ ลกฺขณํ อฏฺกถายํ ‘‘มุฏฺิปฺปมาณโต อุปริ ปาสาณาติ เวทิตพฺพา, มุฏฺิปฺปมาณา สกฺขรา. กถลาติ กปาลขณฺฑานิ. มรุมฺพาติ กฏสกฺขรา. วาลิกาติ วาลุกาเยวา’’ติ ¶ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เยภุยฺเยนปํสุกาทีนํ ลกฺขณํ ‘‘เยภุยฺเยนปํสุกาติ ตีสุ โกฏฺาเสสุ ทฺเว โกฏฺาสา ปํสุ, เอโก ปาสาณาทีสุ อฺตโร โกฏฺาโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖) จ ¶ ‘‘อทฑฺฒาปีติ อุทฺธนปตฺตปจนกุมฺภการาวาปาทิวเสน ตถา ตถา อทฑฺฒา’’ติอาทิ อฏฺกถาโต จ เวทิตพฺพํ. ‘‘อปฺปปํสุอปฺปมตฺติกา’’ติ ทฺวีสุปิ ปเทสุ นิทฺเทสรูเปน เยภุยฺเยนปาสาณาทิปทปฺจกํ วุตฺตํ, ตตฺถาปิ อตฺโถ เยภุยฺเยนปํสุปทาทีสุ วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เตสํเยว หิ ทฺวินฺนํ ปเภททสฺสนเมต’’นฺติ (ปาจิ. ๘๖).
ขเณยฺย วาติ เอวรูปํ อกปฺปิยปถวิปเทสํ อนฺตมโส ปาทงฺคุฏฺเนาปิ สมฺมฺุชนิสลากายปิ สยํ วา ขณติ. ขณาเปยฺย วาติ อฺเน วา ‘‘อิทํ ขณาหี’’ติอาทินา อกปฺปิยโวหาเรน ขณาเปยฺย. เภทาเปยฺยาติ ตเถว เภทาเปยฺย. ภินฺเทยฺย วาติ ปสฺสาวธาราทีหิปิ ภินฺเทยฺย. อธิการวเสน วา-สทฺทสฺส สพฺพกิริยาปเทหิ สมฺพนฺโธ ลพฺภตีติ เภทาเปยฺย จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท อิธ อวุตฺตสฺส ‘‘ทหติ วา, ทหาเปติ วา’’ติ ปททฺวยสฺส สมุจฺจยโกติ เวทิตพฺโพ. อนฺตมโส ปตฺตมฺปิ ปจนฺโต สยํ วา ทหติ, อฺเน วา ทหาเปตีติอาทิ อิเมสํ ปทานํ อฏฺกถาวเสน (ปาจิ. อฏฺ. ๘๗) เวทิตพฺพํ. ปาจิตฺติยํ สิยาติ ขณนฺตสฺส, ภินฺทนฺตสฺส จ ปหาเร ปหาเร ปาจิตฺติยํ.
๙๔๙. อาณาเปนฺตสฺส อาณตฺติคณนาย, ทหนฺตสฺส อคฺคิปาตคณนาย โหตีติ อิทํ ‘‘ปหาเร ปหาเร ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิอฏฺกถาวจนวเสน เวทิตพฺพํ, อิมเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘สยเมวา’’ติอาทิ.
๙๕๐. อาณาเปนฺตสฺสาติ ¶ สกึ อาณาเปนฺตสฺส.
๙๕๑. ‘‘ขณาเปยฺยา’’ติ สามฺวจนสฺส อปวาททสฺสนตฺถํ ‘‘ขณ โปกฺขรณิ’’นฺติอาทิมาห. โกจิ โทโส น วิชฺชตีติ เอตฺถ โปกฺขรณิอาวาฏาทิสทฺทานํ ปถวิปริยายตฺตาภาวโต เอวํวจเนน อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย.
๙๕๒. ‘‘อิมํ อิธา’’ติอาทีนํ ปทานํ ปจฺจกฺขภูตาธิปฺเปตภูมิวาจกตฺตา เตหิ โยเชตฺวา วุตฺตสฺส ตสฺเสว ปโยคสฺส อาปตฺติกรภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ.
๙๕๓. กนฺทนฺติ ¶ ตาลาทิกนฺทํ. กุรุนฺทนฺติ กุลโจจรุกฺขํ. ถูณนฺติ ถมฺภํ. ขาณุกนฺติ สาขาวิฏปรหิตํ รุกฺขาวยวํ. มูลนฺติ ปถวิยา สุปฺปติฏฺิตภาวกรํ รุกฺขาวยวํ. วฏฺฏตีติ อนิยเมตฺวา วจเนน อนาปตฺติภาวโต วฏฺฏติ.
๙๕๔. อิมนฺติ ปจฺจกฺขปรามาสปเทน นิยเมตฺวา วจนโต อาปตฺติ โหตีติ อาห ‘‘นิยเมตฺวาน วตฺตุํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ.
๙๕๕. ฆเฏหิ อุสฺสิฺจิตุนฺติ ฆเฏหิ คเหตฺวา อวสิฺจิตุํ. ตนุกทฺทโมติ ชมฺพาโล. พหลํ กทฺทมํ ภิกฺขุนา อปเนตุํ น จ วฏฺฏตีติ โยเชตพฺพํ.
๙๕๖. นทิยาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน คงฺคากนฺทราทีนํ คหณํ. ‘‘ตฏ’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. วฏฺนฺติ วุฏฺีหิ โอวฏฺฺจ. จาตุมาสนฺติ วิโกปนกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, จาตุมาสพฺภนฺตเร วิโกเปตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
๙๕๗. สเจ โตยสฺมึ ปตติ ตฏนฺติ โยชนา, สเจ กูลํ ภิชฺชิตฺวา อนฺโตอุทเก ปตตีติ. เทเว วุฏฺเปีติ ¶ ปชฺชุนฺนเทเว วุฏฺเปิ. วุฏฺ-สทฺโท กตฺตุสาธโน. จาตุมาสมติกฺกนฺเตปีติ โยชนา. ตตฺถ เหตุทสฺสนตฺถมาห ‘‘โตเย เทโว หิ วสฺสตี’’ติ.
๙๕๘. โสณฺฑินฺติ ปาสาณโปกฺขรณึ. ตตฺถ ตูติ อุทกรหิเต ตสฺมึ โสณฺฑิอาวาเฏ.
๙๕๙. อนฺโตจาตุมาสํ โสเธตุํ ภินฺทิตุนฺติ โยชนา. ‘‘โสเธตุํ ภินฺทิตุํ วิโกเปตุ’’นฺติ กิริยาปเทหิ ‘‘รช’’นฺติ กมฺมปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตํ รโชราสึ เทเว วุฏฺเ ปจฺฉา อุทกสฺส ฉินฺนตฺตา พหลภูมิสุกฺขมฺปิ วุฏฺิปาตทิวสโต ปฏฺาย อนฺโตจาตุมาเส โกเปตุํ ภินฺทิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
๙๖๐. ปุณฺเณ โสณฺฑิมฺหิ ตํ รชํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ จาตุมาสโต อุทฺธนฺติ โยชนา.
๙๖๑. ‘‘ผุสายนฺเต’’ติ เอเตน ‘‘เทโว’’ติ อิทํ ภุมฺมวเสน วิปริณาเมตฺวา ‘‘เทเว ผุสายนฺเต’’ติ ¶ โยเชตพฺพํ, ปชฺชุนฺนเทเว วุฏฺิปาตํ กโรนฺเตติ อตฺโถ. ปิฏฺิปาสาณเกติ ปาสาณปิฏฺเ. ตมฺปีติ ตถา ปาสาณปิฏฺเ ลคฺคํ ตมฺปิ รชํ.
๙๖๒. อกตปพฺภาโร นาม ยถา เหฏฺาภาโค วุฏฺิผุสิเตหิ น เตมียติ, ตถา นมิตฺวา ิตปพฺพตปฺปเทโส. อิทํ อโนวสฺสกฏฺาเน อุฏฺิตวมฺมิกานํ อุปลกฺขณํ.
๙๖๓. อพฺโภกาเส วุฏฺิโต วมฺมิโก สเจ โอวฏฺโ, กํ จาตุมาสํ วิโกเปตุํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. จาตุมาสนฺติ วิโกปนกิริยาย ¶ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. รุกฺเขติ จ ถมฺภปาสาณาทีนํ อุปลกฺขณํ. อุปจิกาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน กาฬกิปิลฺลิกาทีนํ คหณํ. โส นโยติ ‘‘โอวฏฺทิวสโต อุตฺตริ จาตุมาสพฺภนฺตเร โกเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ ยถาวุตฺโต นโย.
๙๖๔. มูสิกุกฺกิรํ นาม มูสิกาหิ อุทฺธฏปํสุ. มูสิกานํ อุกฺกิโร มูสิกุกฺกิโรติ วิคฺคโห. โคกณฺฏกํ นาม คุนฺนํ ขุรานํ อุฏฺิตมตฺติกา. คณฺฑุปฺปาทมลํ นาม ภูลตาย มลมตฺติกา. สมฺพนฺธํ ปน ปกติภูมึ อโกเปนฺเตน มตฺถกโต คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.
๙๖๕. กสีติ กสิตฏฺานํ, ตตฺถ นงฺคเลน อุทฺธฏมตฺติกา กสินงฺคลมตฺติกา. ‘‘อจฺฉินฺนา’’ติอิมินา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กตฺวา อายตํ หุตฺวา ิตมตฺติกาปฏลมฺปิ อชาตปถวี สิยาติ อาสงฺกานิวตฺตนตฺถมาห ‘‘ภูมิสมฺพนฺธา’’ติ. สาติ กสินงฺคลมตฺติกา.
๙๖๖. เสนาสนนฺติ เอตฺถ ‘‘ปุราณ’’นฺติ ปาเสโส คเหตพฺโพ. โอวฏฺํ จาตุมาสโต อุทฺธํ น วิโกปเยติ โยชนา.
๙๖๗. ตโตติ โอวฏฺทิวสโต ปฏฺาย จาตุมาสาติกฺกนฺตเคหโต. ‘‘โคปานสิ’’นฺติ อิมินา โคปานสิมตฺถเก ิตอุปจิกาปํสุมฺหิ ภิชฺชนฺเตปิ อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. ‘‘ภิตฺติ’’นฺติ อิมินา ตเทกเทสํ ภิตฺติปาทาทิทารุมาห. อิทมฺปิ ภิตฺติมตฺติกํ อุปจิกามตฺติกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ถมฺภ’’นฺติ อิทมฺปิ ตํสมฺพนฺธปาการภูมิมตฺติกาอุปจิกาทิปํสุํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปทรตฺถรนฺติ อตฺถตปทรํ. อิทมฺปิ ปทรานํ อุปริ มตฺติกาอุปจิกาปํสุํ ¶ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘โคปานสิ’’นฺติอาทีหิ ¶ ปเทหิ ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ ปจฺเจกํ โยชนียํ. ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ อิมินา วิโกปนาธิปฺปายาภาวํ ทีเปติ.
๙๖๘. คณฺหนฺตสฺสาติ เอตฺถ อนาทเร สามิวจนํ, ‘‘สุทฺธจิตฺเตนา’’ติ ปาเสโส. อิฏฺกาติ ฉทนิฏฺกา. อาทิ-สทฺเทน ปาสาณสมุทฺทเผณาทีนํ คหณํ. ปตตีติ สุทฺธจิตฺเตน คณฺหนฺเต สเจ มตฺติกา ฉิชฺชิตฺวา ปตติ, อนาปตฺตีติ อตฺโถ. มตฺติกนฺติ ภิตฺติยํ, ฉทเน จ จาตุมาสาธิโกวฏฺมตฺติกํ, อโนวฏฺํ เจ, คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ยา ยา อตินฺตา, ตํ ตํ คณฺหาติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖). ยทิ คณฺหติ, อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.
๙๖๙. อตินฺโตติ วสฺโสทเกน อตินฺโต, อิมินา วินิจฺฉิตพฺพวตฺถุํ ทสฺเสติ. ตสฺส อนฺโตเคเห จ พหิ จ สมฺภวโต อนฺโตเคเห ิตสฺส ตาว วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนฺโตเคเห สเจ สิยา’’ติ. วสฺโสทเกน ตินฺตาตินฺเตสุ ทฺวีสุ มตฺติกาปฺุเชสุ อตินฺตํ ตาว ทสฺเสตุมาห ‘‘อโนวฏฺโ จา’’ติ.
๙๗๐. วสฺโสทเกน ตินฺเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วุฏฺเ ปุน จา’’ติอาทิ. ‘‘วุฏฺเ’’ติ อิมินา ‘‘มตฺติกาปฺุโช’’ติ ปทํ ภุมฺมวเสน วิปริณาเมตฺวา วุฏฺเ มตฺติกาปฺุเชติ โยเชตพฺพํ, ‘‘เอกทิวสมฺปี’’ติ เสโส, เคหสฺมินฺติ เอตฺถ ‘‘ิเต’’ติ วตฺตพฺพํ, เคหสฺมึ ิเต มตฺติกาปฺุเช วสฺโสทเกน เอกทิวสมฺปิ ตินฺเตติ วุตฺตํ โหติ. วกฺขมานนเยน อฺตฺถ ปหริตฺวา อุฏฺิเตน เตน อเตมิตฺวา อุชุกํ ปติเตหิ วสฺสผุสิเตหิ ตินฺเตติ คเหตพฺพํ. สเจ สพฺโพ ตินฺโต โหตีติ โยชนา. ‘‘มตฺติกาปฺุโช’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.
๙๗๑. ‘‘สพฺโพ’’ติ ¶ อิมินา วิเสสเนน พฺยวจฺฉินฺนํ เอกเทสตินฺเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยตฺตก’’นฺติอาทิ. ตุ-สทฺโท อิมเมว วิเสสํ โชเตติ. ยตฺตกนฺติ เหฏฺา อโนตริตฺวา มตฺถกโต, ปริยนฺตกโต จ ยตฺตกปฺปมาณํ. ตตฺถาติ มตฺติกาปฺุเช. ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ เอตสฺส ‘‘จาตุมาสจฺจเยนา’’ติ อนุวตฺตติ. ‘‘อตินฺตํ…เป… กปฺปิย’’นฺติ อิมินา อกปฺปิยฏฺานํ ปริหริตฺวา วา กปฺปิยการเกหิ กปฺปิยวจเนน หราเปตฺวา วา อตินฺตํ านํ ¶ ยถากามํ วฬฺเชตพฺพนฺติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กปฺปิยการเกหี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖).
๙๗๒. วารินาติ อุชุกํ อากาสโต ปติตวสฺโสทเกน. อฺตฺถ ปหริตฺวา ตตฺถ ปติตฺวา เตมิเต วฏฺฏติ. โส มตฺติกาปฺุโช. ตโต ปรนฺติ เอกาพทฺธกาลโต อุตฺตรึ โส มตฺติกาปฺุโช วารินา เตมิโต ภูมิยา เอกาพทฺโธ เจ โหติ, ตโต ปรํ สา ชาตา ปถวี เอว, โกเปตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๙๗๓. ‘‘โอวฏฺโ’’ติ อิมินา อโนวฏฺปากาโร กปฺปิโยติ พฺยติเรกวเสน ทสฺเสติ. ‘‘มตฺติกามโย’’ติ วิเสสเนน อิฏฺกปาการาทึ พฺยวจฺฉินฺทติ. ตสฺส ปน กปฺปิยภาวํ วกฺขติ ‘‘สเจ อิฏฺกปากาโร’’ติอาทินา. ‘‘จาตุมาสจฺจเย’’ติ อิมินา ตโต อนฺโต วิโกปนียภาวํ ทสฺเสติ.
๙๗๔. ตตฺถาติ โอวฏฺเ มตฺติกปากาเร. อฆํสนฺโตวาติ ปาการมตฺติกํ อโกเปนฺโต. มตฺตโส ฉุปิตฺวาติ ปมาณโต มุทุกํ กตฺวา หตฺถตลํ เปตฺวา. อลฺลหตฺเถนาติ อุทกตินฺเตน หตฺถตเลน. หตฺเถกเทโส หตฺโถ นาม.
๙๗๕. เยภุยฺยกถเล ¶ าเนติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ยสฺสา ตีสุ ภาเคสุ ทฺเว ภาคา กถลา โหนฺติ, ตาทิเส กปฺปิยปถวิฏฺาเน.
๙๗๖. อพฺโภกาเสติ อุปลกฺขณตฺตา อนฺโตเคเหปิ ถมฺภํ จาเลตฺวา ชาตปถวึ วิโกเปตุํ น วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ. ทฺวีสุปิ าเนสุ สุทฺธจิตฺเตน นิทฺโทสภาวํ ยถาวุตฺเตน ‘‘ถมฺภํ วา ปทรตฺถรํ. คณฺหิสฺสามี’ติ สฺาย, คเหตุํ ปน วฏฺฏตี’’ติ อิมินา นเยนาห. ปถวินฺติ อกปฺปิยปถวึ.
๙๗๗. อุชุมุทฺธรโต น โทโสติ โยชนา.
๙๗๘. อุจฺจาเลตฺวาติ อุกฺขิปิตฺวา จาเลตฺวา ปริวตฺเตตฺวา. ปวฏฺฏตีติ ปวฏฺเฏตฺวา ปวฏฺเฏตฺวา เนตีติ ¶ อตฺโถ. สุทฺธจิตฺตสฺสาติ ‘‘ภูมิ ภิชฺชตี’’ติ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘‘ปาสาณํ ปวฏฺเฏตฺวา ปวฏฺเฏตฺวา หริสฺสามี’’ติ สุทฺธจิตฺตวโต.
๙๗๙. ภูมิยํ ทารูนิ ผาเลนฺตานมฺปิ ภูมิยํ สาขาทีนิ กฑฺฒโต จาติ โยชนา.
๙๘๐. กณฺฏกนฺติ รุกฺขกณฺฏกํ, มจฺฉกณฺฏกฺจ. สูจิ นาม อโยมยทนฺตมยตมฺพมยกฏฺมยาทิสูจีนํ อฺตรา. อฏฺึ วาติ โคมหึสาทีนํ อฏฺึ วา. หีรํ วาติ นาฬิเกราทิหีรํ วา. อาโกเฏตุนฺติ ยถา เอกโกฏิ ภูมึ ปวิสติ, ตถา ตาเฬตุํ. ปเวเสตุนฺติ ภูมึ คมยิตุํ.
๙๘๑. ปสฺสาวํ มุตฺตํ. เมทนินฺติ เอตฺถ อกปฺปิยปถวิมาห. ภินฺทิสฺสามีติ เอตฺถ ‘‘เอวํ จินฺเตตฺวา’’ติ เสโส.
๙๘๒. กโรนฺตสฺสาติ สุทฺธจิตฺเตน ปสฺสาวํ กโรนฺตสฺสาติโยเชตพฺพํ. ‘‘สมฺมชฺชโต’’ติ อิทํ ‘‘สมฺมชฺชนฺเตนา’’ติ คเหตพฺพํ ¶ , ‘‘สมฺมชฺชนิยา’’ติ เสโส, อนนฺตรํ เมทนีปทํ อุปโยควเสน ‘‘เมทนิ’’นฺติ คเหตพฺพํ, ‘‘วิสม’’นฺติ เสโส, ‘‘สมํ กาตุ’’นฺติ อิมินา โยเชตพฺพํ, สมฺมชฺชนฺเตน อุจฺจฏฺานํ มทฺทิตฺวา, อาวาฏฏฺานํ ปเวเสตฺวา สมํ กาตุํ สมฺมชฺชนิยา ฆํเสตุํ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วิสมํ ภูมึ สมํ กริสฺสามีติ สมฺมชฺชนิยา ฆํสิตุมฺปิ น วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖).
๙๘๓. ปาทงฺคุฏฺเน วาติ เอตฺถ สมุจฺจยตฺเถน วา-สทฺเทน อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘กตฺตรยฏฺิยา ภูมึ โกฏฺเฏนฺตี’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. ลิขิตุมฺปีติ ราชึ กาตุมฺปิ ภูมึ ภินฺทนฺเตนาติ โยชนา. ปาเทหีติ ปาทตเลหิ.
๙๘๕. ภูมินฺติ อกปฺปิยภูมึ. ทหติ ทหาเปตีติ เอตฺถ ‘‘โย’’ติ จ ‘‘ตสฺสา’’ติ จ สมฺพนฺธวเสน ลพฺภติ. ปตฺตํ ทหนฺตสฺสาติ ฉวิยา ถิรภาวตฺถํ ธูมํ คาหาเปตฺวา ติณุกฺกาทีหิ ปตฺตํ คณฺหนฺตสฺส.
๙๘๖. ตตฺตกาเนวาติ ¶ านปฺปมาณาเนว. อิธาปิ ‘‘โย’’ติ จ ‘‘ตสฺสา’’ติ จ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
๙๘๗. ภูมิยนฺติ อกปฺปิยภูมิยํ. ปตฺตํ ปจียติ เอตฺถาติ ปตฺตปจนํ, กปาลํ, ตสฺมึ กปาเล.
๙๘๘. โส อคฺคิ ตานิ ทารูนิ ทหนฺโต คนฺตฺวา เจ เอกํเสน ภูมึ ทหติ, ตสฺมา ทารูนํ อุปริ อคฺคึ เปตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๙๘๙. อิฏฺกา อาวปียนฺติ ปจฺจนฺติ เอตฺถาติ อิฏฺกาวาโป, โส เอว อิฏฺกาวาปโก, อิฏฺกาปจนฏฺานํ. อาทิ-สทฺเทน กุมฺภการาวาปาทึ สงฺคณฺหาติ.
๙๙๐. อุปาทียตีติ ¶ อุปาทานํ, อินฺธนํ, น อุปาทานํ อนุปาทานํ, อินฺธนโต อฺํ, ตโต อนุปาทานโตติ อตฺโถ. ขาณุเกติ มตขาณุเก จ สุกฺขรุกฺเข จ ภูมิคตํ อทตฺวา ‘‘นิพฺพาเปสฺสามี’’ติ อคฺคิทานํ วฏฺฏติ. ปจฺฉา อุสฺสาเห กเตปิ น นิพฺพายติ, น โทโสติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน ภูมึ อปฺปตฺตเมวา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๗).
๙๙๑. ติณุกฺกนฺติ ติเณน พทฺธอุกฺกํ. ติณุกฺกนฺติ อุปลกฺขณํ. นาฬิเกรปณฺณาทีหิ พทฺธาปิ สงฺคยฺหนฺติ.
๙๙๒. ตสฺส อคฺคิสฺส ปติตฏฺาเน อินฺธนํ ทตฺวา ปุน ตํ อคฺคึ กาตุํ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ รุตํ กถิตนฺติ โยชนา.
๙๙๓. ‘‘ตสฺส อปถวิย’’นฺติ ปทจฺเฉโท. วิมติสฺสุภยตฺถาปีติ ปถวิอปถวิทฺวเยปิ เวมติกสฺส. ตตฺถ ชาตา ปถวี, อิตรา อปถวี.
๙๙๔. อิมนฺติ ¶ อาวาฏํ, มตฺติกํ, ปํสุํ วา.
ปถวีขณนกถาวณฺณนา.
มุสาวาทวคฺโค ปโม.
๙๙๕. ภวนฺตสฺสาติ ชายนฺตสฺส, วฑฺฒมานสฺส จ. ภูตสฺสาติ ชาตสฺส, วฑฺฒิตสฺส จาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภวนฺติ อหุวฺุจาติ ภูตา, ชายนฺติ วฑฺฒนฺติ, ชาตา วฑฺฒิตา จา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๐). เอตฺถ จ ‘‘ภวนฺตี’’ติ อิมินา วิรุฬฺหมูเล นีลภาวํ อาปชฺชิตฺวา วฑฺฒมานเก ตรุณคจฺเฉ ทสฺเสติ. ‘‘อหุวุ’’นฺติ อิมินา ปน วฑฺฒิตฺวา ิเต มหนฺเต รุกฺขคจฺฉาทิเก ¶ ทสฺเสติ. ‘‘ภวนฺตี’’ติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ชยนฺติ วฑฺฒนฺตี’’ติ, ‘‘อหุวุ’’นฺติ อิมสฺส ‘‘ชาตา วฑฺฒิตา’’ติ. เอวํ ภูต-สทฺโท ปจฺจุปฺปนฺนาตีตวิสโยติ ทสฺเสติ. ‘‘ภวนฺตสฺส ภูตสฺสา’’ติ อิมินา ปททฺวเยน ‘‘ภูตคามสฺสา’’ติ ปทสฺส ตุลฺยาธิกรณตาทสฺสเนน คาม-สทฺทสฺส ทิฏฺิคตวนนฺตาทิสทฺทานํ ทิฏฺิวนาทิสทฺทตฺเถ วิย ภูตสทฺทตฺเถ วุตฺติปกฺขมาห. ยถาห อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๐) ‘‘ภูตา เอว วา คาโม ภูตคาโม, ปติฏฺิตหริตติณรุกฺขาทีนเมตํ อธิวจน’’นฺติ. ภูตานํ เทวตานํ คาโม นิวาโสติ วา ภูตคาโม. ภูมิยํ ปติฏฺหิตฺวา หิ หริตภาวมาปนฺนา ติณรุกฺขคจฺฉาทโย เทวตาหิ ปริคยฺหนฺตีติ. ชายนฺตสฺส วฑฺฒนฺตสฺส วา สมฺปตฺตวุทฺธิมริยาทสฺส วา รุกฺขาทิโนติ อตฺโถ.
ปาตพฺยตานิมิตฺตนฺติ เอตฺถ ปาตพฺยภาโว ปาตพฺยตา, ‘‘เฉทนเภทนาทีหิ ยถารุจิ ปริภฺุชิตพฺพตาติ อตฺโถ’’ติ อฏฺกถาวจนโต ปาตพฺยตา-สทฺทสฺส ปริภฺุชิตพฺพตาติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ, สา นิมิตฺตํ เหตุ ยสฺส ปาจิตฺติยสฺส ตํ ปาตพฺยตานิมิตฺตํ. รุกฺขาทีนํ เฉทนผาลนาทิวเสน วิโกปนียตาสงฺขาตปาตพฺยตานิมิตฺตํ ปริภฺุชิตพฺพตาเหตุ ปาจิตฺติยํ อุทีริตํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
๙๙๖-๗. โสติ ภูตคาโม. ติลพีชาทิโกติ ติลพีชเมตฺถ สุขุมปณฺณเสวาลาทิโก. อาทิ-สทฺเทน จ ตาทิสา อิตรา เสวาลชาติ คหิตา. ‘‘อุปริ ขุทฺทานุขุทฺทกปณฺณงฺกุโร, เหฏฺา ขุทฺทานุขุทฺทกมูลงฺกุโร เสวาโล ติลพีชํ นามา’’ติ คณฺิปเท วุตฺตนฺติ. วิโกเปนฺตสฺส ตํ สพฺพนฺติ ภูมิยํ ปติฏฺาย อุทเก ชายมานกเสวาลาทึ ภูมิยา อุปฺปาฏนจฺเฉทนวเสน ชเล เอว ปติฏฺิตํ ¶ สุขุมปณฺณนีลิกาทึ อุทกโต อุทฺธรณจฺเฉทนวเสน ตํ สพฺพํ เสวาลํ วิโกเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
๙๙๘. หตฺเถน ¶ วิยูหิตฺวาติ ชลโต อโมเจตฺวา หตฺเถน ทูรโต อปเนตฺวา. ‘‘โหตี’’ติอาทิ ตสฺส เหตุสนฺทสฺสนตฺถํ. สกลํ อนวเสสํ สพฺพํ ชลํ ตสฺส ยสฺมา านํ โหติ, ตสฺมาติ อตฺโถ.
๙๙๙. เจจฺจาติ ชานนฺโต. ตํ เสวาลชาติกํ ชลา อุทฺธริตุํ อุทเกน วินา ภิกฺขุสฺส น วฏฺฏตีติ โยชนา. านสงฺกมนฺหิ ตนฺติ เหตุทสฺสนํ. ตํ ตถากรณํ ยสฺมา านสงฺกมนํ านโต จาวนํ, ตสฺมา ตํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๑๐๐๐. ยถาวุตฺตสฺส พฺยติเรกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุทเกนา’’ติอาทิ. ตตฺถ อุทเกนาติ สหตฺเถ กรณวจนํ. ตํ เสวาลชาติกํ. วาริสูติ เอตฺถ วาสํ วารยนฺตีติ วารี, เตสุ.
๑๐๐๑. ชเล วลฺลิติณาทีนีติ ชลมตฺถเก วลฺลิฺจ ชายมานกรวลฺลิติณาทีนิ จ. อุทฺธรนฺตสฺสาติ ภูมิยํ ปติฏฺิตํ ภูมิโต, อุทเก ปติฏฺิตํ อุทกโต จ อุทฺธรนฺตสฺส. ตตฺถ อนฺตปกฺขํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โตยโต’’ติ. วิโกเปนฺตสฺสาติ ขณฺฑนาทิวเสน โกเปนฺตสฺส. ตตฺถาติ ตสฺมึ อุทเก, เอว-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ ‘‘ตตฺเถวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒) อฏฺกถาวจนโต.
๑๐๐๒. เอตฺถาติ อุทเก เอว. วิโกเปนฺตสฺสาติ กปฺปิยํ อการาเปตฺวา เฉทนาทึ กโรนฺตสฺส. ตานีติ ตถา ปเรหิ อุปฺปาฏิตตฺตา ภูตคามภาวโต มุตฺตานิ วลฺลิติณาทีนิ. พีชคาเมนาติ มูลพีชคามาทิวเสน.
๑๐๐๓. เอวํ ¶ อุทกฏฺเ สงฺเขปโต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อิตรตฺราปิ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ถลฏฺเ’’ติอาทิ. หริตขาณุโกติ เอตฺถ ‘‘โย’’ติ เสโส. ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ, กกุธกรฺชาทีนํ ฉินฺนาวสิฏฺขาณุโกติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ภูตคาเมน สงฺคโห’’ติ อิมินา ตํวิโกปเน ปาจิตฺติยภาวํ ทีเปติ. เอวมุปริปิ.
๑๐๐๔. นาฬิเกราทิกานํ ¶ ขาณูติ เอตฺถาปิ ‘‘อุปริหริโต’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ‘‘พีชคาเมน สงฺคโห’’ติ อิมินา ทุกฺกฏวตฺถุตมาห. เอวมุปริปิ. กิฺจาปิ หิ ตาลนาฬิเกราทีนํ ขาณุ อุทฺธํ อวฑฺฒนโก ภูตคามสฺส การณํ น โหติ, ตถาปิ ภูตคามสงฺขาตนิพฺพตฺตปณฺณมูลพีชโต สมฺภูตตฺตา ภูตคามโต อุปฺปนฺโน นาม โหตีติ พีชคาเมน สงฺคหํ คจฺฉติ.
๑๐๐๕. ตถาปกาสิโตติ ‘‘พีชคาโม’’ติ วุตฺโต.
๑๐๐๖. ผลิตา กทลี ยาว นีลปณฺณา, ตาว สา จ ภูตคาโมติ ปกาสิตาติ โยชนา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กทลี ปน ผลิตา ยาว นีลปณฺณา, ตาว ภูตคาเมเนว สงฺคหิตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒). นฬนฺติ ขุทฺทกเวฬุ. เวฬูติ มหาเวฬุ. ติณาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สสฺสาทโย คหิตา.
๑๐๐๗. โย อยํ ปน เวฬุ อคฺคโต ปฏฺาย ยทา สุสฺสติ, ตทา โส พีชคาเมน สงฺคหิโต นาม โหตีติ โยชนา. พีชคาเมนาติ ผฬุพีชคาเมน. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กตรพีชคาเมน? ผฬุพีชคาเมนา’’ติ.
๑๐๐๘. อินฺทสาโล ¶ สลฺลกี. อาทิ-สทฺเทน โสภฺชนาทีนํ สงฺคโห. ตุ-สทฺเทน อฏฺกถายํ ‘‘กิฺจาปิ ราสิกตทณฺฑเกหิ รตนปฺปมาณาปิ สาขา นิกฺขมนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒) วุตฺตวิเสสํ โชเตติ. ฉินฺทิตฺวา ปิตทณฺฑเกสุ รตนมตฺตาสุปิ สาขาสุ อุฏฺิตาสุ ภูตคามํ อหุตฺวา พีชคามเมว โหติ อวิรุฬฺหมูลกตฺตาติ อยํ วินิจฺฉโย วินยฺุนา าโต กุกฺกุจฺจกานมุปการาย โหตีติ อาห ‘‘วิฺเยฺโย วินยฺุนา’’ติ. อิมเมวตฺถํ ‘‘มูลมตฺเตปิ วา’’ติอาทินา วกฺขติ.
๑๐๐๙. มณฺฑปาทีนมตฺถายาติ มณฺฑปวติปาการาทีนมตฺถาย. สเจ เต นิกฺขณนฺตีติ ยทิ เต อินฺทสาลาทิทณฺฑเก ภูมิยํ นิขณนฺติ. นิคฺคเต มูลปณฺณสฺมินฺติ ตถา นิขาตทณฺฑโต มูเล จ ปณฺเณ จ ชาเต. ภูตคาเมน สงฺคโหติ เอตฺถ ‘‘เตส’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, ‘‘วิฺเยฺโย’’ติ อธิกาโร.
๑๐๑๐. นิคฺคเตปีติ ¶ ตติเยน ปิ-สทฺเทน อติขุทฺทกตํ สูเจติ.
๑๐๑๑. สกนฺทา ตาลฏฺีติ สกนฺทตาลพีชํ. ปตฺตวฏฺฏีติ สูจิสณฺานา องฺกุรปตฺตวฏฺฏิ. น จ พีชคาโมติ วุจฺจตีติ โยชนา. ‘‘ภูตคาโม’’ติ อิทํ ยถาวุตฺตสฺส พฺยติเรกวเสน ทสฺเสติ.
๑๐๑๒. นาฬิเกรตจนฺติ นาฬิเกรผลฉลฺลึ. ทนฺตสูจีวาติ ทนฺตมยสูจิ อิว. โสปีติ นาฬิเกโรปิ. รุกฺขตจสทฺทานํ ผเลสุ วตฺตมานกาเลสุปิ ตํลิงฺคตา น วิรุชฺฌตีติ ‘‘โส’’ติ อาหาติ วิฺายติ.
๑๐๑๓. มิคสิงฺคสมานายาติ ¶ หริตวิสาณสทิสาย. ปตฺตวฏฺฏิยาติ องฺกุรปตฺตวฏฺฏิยา. สติยาติ วิชฺชมานาย. ภูตคาโมติ วุจฺจตีติ อมูลกภูตคาโมติ วุจฺจติ. อิทํ นาฬิเกรสฺส อาเวณิกํ กตฺวา วุตฺตํ.
จตุภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐๑๕-๖. อมฺพฏฺีติ อมฺพพีชํ. ชมฺพุฏฺีติ ชมฺพุพีชํ. อาทิ-สทฺเทน มธุกปนสาทิพีชานํ คหณํ. วนฺทากาติ รุกฺขาทนี. อฺํ วาติ ภณฺฑกทลิมโนรหํ วา. อสฺสาติ วนฺทากาทิโน. อมูลวลฺลีติ เอวํนามิกา วลฺลิ.
๑๐๑๘. ฆํสิตฺวาติ เยน เกนจิ ฆํสิตฺวา. ตํ เสวาลํ. ตสฺมาติ ตสฺมา ปาการา.
๑๐๑๙. เสวาเล อปนีเต. อนฺโตติ ปานียฆฏาทีนํ อนฺโตกุจฺฉิมฺหิ. กณฺณกํ อพฺโพหารนฺติ โยชนา. ปานียฆฏาทีนํ พหิ เสวาโล อุทเก อฏฺิตตฺตา, พีชคามานุโลมตฺตา จ ทุกฺกฏวตฺถูติ วทนฺติ. กณฺณกํ นีลวณฺณมฺปิ อพฺโพหาริกเมว.
๑๐๒๐. ปาสาณททฺทูติ ¶ มนุสฺสสรีเร โรคากาเรน ปาสาเณ ชายมานสฺเสตํ อธิวจนํ. เสวาลนฺติ ปาสาณเสวาลํ. เสเลยฺยกา นาม สิลาย สมฺภูตา เอกา สุคนฺธชาติ. อปตฺตานีติ ปณฺณรหิตานิ.
๑๐๒๑. ปุปฺผิตนฺติ วิกสิตํ. ตํ อหิจฺฉตฺตํ. มกุลนฺติ อวิกสิตํ.
๑๐๒๒. อลฺลสฺมึ ¶ รุกฺเข ตจํ วิโกเปตฺวา ยถา คเหตุํ น วฏฺฏติ, ตถา ปปฺปฏิกมฺปิ นิยฺยาสมฺปิ วิโกเปตฺวา คเหตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา, ปาจิตฺติยเมวาติ อธิปฺปาโย. ปปฺปฏิกมฺปีติ อลฺลตจมตฺถเก สุกฺขตจปฏลมฺปิ. ‘‘อลฺลสฺมิ’’นฺติ อิมินา พฺยติเรเกน มตรุกฺเข โทสาภาวํ ทีเปติ. ‘‘ตจํ วิโกเปตฺวา’’ติ วจนโต รุกฺขตจมฺปิ ปปฺปฏิกมฺปิ สาลกปิตฺถาทินิยฺยาสมฺปิ รุกฺเข อลฺลตจํ อวิโกเปตฺวา มตฺถกโต ฉินฺทิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ.
๑๐๒๓. อกฺขรจฺฉินฺทนารเหสุ นุหิกทลิอาทีสุ รุกฺเขสุ, ตตฺถชาเตสุ ตาลปณฺณาทิเกสุ วา อกฺขรํ ลิขโต ปาจิตฺติยมุทีรเยติ โยชนา. ‘‘ตตฺถชาเตสู’’ติ อิมินา รุกฺขโต อปนีตปณฺเณสุ ลิขิตุํ วฏฺฏตีติ พฺยติเรกโต ทีเปติ.
๑๐๒๔. ‘‘ปกฺกเมว วา’’ติ วิสุํ วจนโต ‘‘ผลํ วา’’ติ อิมินา อปกฺกํ ผลํ คหิตํ.
๑๐๒๕. ผลินึสาขนฺติ ขาทนารหผลวตึ ชมฺพุสาขาทิกํ สาขํ. คณฺหโต อนุปสมฺปนฺนสฺสาติ คเหตพฺพํ. สยํ ขาทิตุกาโม เจติ ตถา โอนมิตฺวา สาขโต โอจินิตฺวา ทินฺนผลํ สเจ สยํ ขาทิตุกาโม โหติ. เอวํ ทาตุนฺติ ยถาวุตฺตปฺปการํ นาเมตฺวา ทาตุํ.
๑๐๒๖. ปรํ กฺจิ อุกฺขิปิตฺวาติ อฺํ กฺจิ อนุปสมฺปนฺนํ อุกฺขิปิตฺวา. ปุปฺผานิ โอจินนฺเตสูติ กุสุมานิ ลุนนฺเตสุ. อยเมว วินิจฺฉโยติ สามฺนิทฺเทเสปิ เอตฺถ อตฺตโน นาเมตฺวา ทินฺนสาขาย ปุปฺผานิ ปานียวาสตฺถาย น คเหตพฺพานิ. อนุปสมฺปนฺนํ อุกฺขิปิตฺวา ปุปฺผานิ โอจินาเปตฺวา คหิตปุปฺผานิ คเหตพฺพานีติ อยเมตฺถ วิเสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เตหิ ¶ ปน ปุปฺเผหิ ปานียํ น วาเสตพฺพํ. ปานียวาสตฺถิเกน ¶ สามเณรํ อุกฺขิปิตฺวา โอจินาเปตพฺพานี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒).
๑๐๒๗. ‘‘สาขา’’ติ ภินฺทิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา โมจิตา วุจฺจติ. สาขีนนฺติ รุกฺขานํ. ตนฺติ ยถาวุตฺตรุกฺขโต โมจิตสาขํ. เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหติ, เตสํ สาขีนํ ตํ สาขํ กปฺปิยํ อการาเปตฺวา วิโกเปนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ‘‘เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหตี’’ติ วุตฺตตฺตา เยสํ สาขา น รุหติ, เตสํ ตสฺสา กปฺปิยกรณกิจฺจํ นตฺถีติ วทนฺติ.
๑๐๒๘. อลฺลสิงฺคิเวราทิเกสุปีติ อาทิ-สทฺเทน วจลสุณาทีนํ คหณํ.
๑๐๒๙. อนิยามโต วฏฺฏเตวาติ โยชนา. นิยามสรูปํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมํ รุกฺข’’นฺติอาทิวกฺขมานตฺตา อนิยามโตติ สามฺนิทฺเทเส ‘‘อิม’’นฺติ นิยามวจนาภาวโตติ คเหตพฺพํ.
๑๐๓๒. อุจฺฉุขณฺฑานนฺติ ปูรณโยเค สามิวจนํ, อุจฺฉุขณฺเฑหีติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพเมวาติ ปจฺฉิยํ ิตํ สพฺพํ ขณฺฑํ. กตํ โหตีติ กตํ กปฺปิยํ โหติ. เอกสฺมึ กปฺปิเย กเตติ ปจฺฉิยํ สพฺพขณฺเฑสุ ผุสิตฺวา ิเตสุ เอกสฺมึ ขณฺเฑ กปฺปิเย กเต. ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภฺุชิตุํ อคฺคิปริชิตํ สตฺถปริชิตํ นขปริชิตํ อพีชํ นิพฺพฏฺฏพีชํเยว ปฺจม’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๐) อิติ วุตฺเตสุ อคฺคิสตฺถนเขสุ อฺตเรน ตตฺต อโยขณฺเฑน วา ชลิตคฺคินา วา สูจิมุเขน วา นขจฺเฉทเนน วา สตฺถกธาราย วา มนุสฺสสีหาทีนํ อุปฺปาฏิตานุปฺปาฏิตอปูตินเขน วา วิชฺฌิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา กปฺปิยํ กาตพฺพํ. กโรนฺเตน จ อนุปสมฺปนฺเนน ¶ ภิกฺขุนา ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ วุตฺเตเยว ‘‘กปฺปิย’’นฺติ ปมํ วตฺวา ปจฺฉา อคฺคิปริชิตาทิ กากพฺพนฺติ คเหตพฺพํ. วกฺขติ จ ‘‘กปฺปิยนฺติ…เป… วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วจนํ ปน ยาย กายจิ วาจาย วตฺตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ปมํ อคฺคึ นิกฺขิปิตฺวา นขาทีหิ วา วิชฺฌิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา กปฺปิยํ กาตพฺพํ. กโรนฺเตน จ ตํ อนุทฺธริตฺวาว ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวา ปจฺฉา อุทฺธริตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ, ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺตุกาโม ‘‘กปฺป’’นฺติ เจ วทติ, วฏฺฏตีติ เกจิ.
๑๐๓๓. ทารุนฺติ ¶ อุจฺฉูหิ สทฺธึ เอกโตพทฺธทารุํ. ทารุํ วิชฺฌตีติ เอตฺถ ชานิตฺวาปิ วิชฺฌติ วา วิชฺฌาเปติ วา, วฏฺฏติเยว. ‘‘เอกสิตฺเถปี’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
๑๐๓๔. ตานิ อุจฺฉุทารูนิ. ตนฺติ วลฺลึ, รชฺชุํ วา.
๑๐๓๕. มริจปกฺเกหีติ ปริณเตหิ มริจปกฺเกหิ. อปริณตานํ ปน อพีชตฺตา กปฺปิเย อกเตปิ วฏฺฏติ. อิทฺจ เสตลสุณตจลสุณาทีหิ มิสฺสภตฺตสฺส อุปลกฺขณํ. เอตฺถ จ ภตฺตสิตฺถสมฺพนฺธวเสน เอกาพทฺธตา เวทิตพฺพา, น ผลาทีนเมว อฺมฺสมฺพนฺธวเสน.
๑๐๓๖. ติลตณฺฑุลกาทิสูติ กปฺปิยํ กาตพฺพติเลหิ มิสฺสตณฺฑุลาทีสุ. อาทิ-สทฺเทน กปฺปิยํ กาตพฺพวตฺถูหิ มิสฺสิตานิ อิตรวตฺถูนิ คหิตานิ. เอกาพทฺเธ กปิตฺเถปีติ กฏาเหน พทฺธพีเช ปริณตกปิตฺถผเลปิ. กฏาเหติ พทฺธมิฺเช กปาเล.
๑๐๓๗. กฏาหํ มฺุจิตฺวาติ สุกฺขตฺตา สมนฺตโต กฏาหํ มฺุจิตฺวา. มิฺชกนฺติ ปริณตกปิตฺถผลมิฺชํ. ตํ กปิตฺถํ ภินฺทาเปตฺวาติ กปิตฺถกฏาหํ ภินฺทาเปตฺวา, อิทํ พีชโต มุตฺตสฺส กฏาหสฺส ภาชนคติกตฺตา วุตฺตํ.
๑๐๓๘. ‘‘อภูตคามอพีเชสู’’ติ ¶ ปทจฺเฉโท, อภูตคาเม จ อพีเช จาติ อตฺโถ. นนุ จ ‘‘อพีเช พีชสฺี, เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๙๒) ปาํ วินา ‘‘อภูตคาเม ภูตคามสฺี’’ติ ปาโ นตฺถีติ อภูตคามคฺคหณํ กสฺมา กตนฺติ? วุจฺจเต – ตสฺมึ ปาเ พีชํ ภูตคามฺจ พีชคามํ พีชฺจ พีชพีชนฺติ วตฺตพฺเพ เอกเสสนเยน ‘‘พีช’’นฺติ คเหตฺวา วินิจฺฉิตนฺติ อุภยํ วิภชิตฺวา ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ตสฺมึ อภูตคามอพีชคามทฺวเย. อิมิสฺสา คาถาย ‘‘อภูตคาเม ภูตคามสฺิโน ทุกฺกฏํ, เวมติกสฺส ทุกฺกฏํ, อพีชคาเม พีชคามสฺิโน ทุกฺกฏํ, เวมติกสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ จตฺตาริ ทุกฺกฏานิ ทสฺสิตานิ. ตตฺถ อภูตคามนฺติ พีชคามํ คเหตพฺพํ. อพีชคามนฺติ โน พีชํ.
๑๐๓๙. ตตฺถ ตสฺมึ ภูตคามพีชคามทฺวเย. ‘‘อตถาสฺิโน’’ติอาทีสุ ‘‘ภูตคามํ วิโกเปนฺตสฺสา’’ติ ¶ เสโส, อนาปตฺติ ปกาสิตาติ สมฺพนฺโธ, อภูตคามํ, อพีชนฺติ วา สฺิโน ภูตคามํ พีชมฺปิ วิโกเปนฺตสฺส อนาปตฺติ ปกาสิตาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘พีเช อพีชสฺี ฉินฺทติ วา…เป… อนาปตฺตี’’ติ.
อสฺจิจฺจ ภูตคามํ วิโกเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เอวมุปริปิ โยเชตพฺพํ. คจฺฉนฺตสฺส ปาเทสุ คเหตฺวา วา อาลมฺพณกตฺตรยฏฺิยา ฆํสิตฺวา วา ติณาทีสุ ฉิชฺเชสุปิ ‘‘อิมํ ฉินฺทิสฺสามี’’ติ อมนสิกตตฺตา อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อสติสฺสาติ อฺวิหิตสติสฺส วา อฺเน กถยโต วา ปาทงฺคุฏฺาทีหิ ติณาทีนิ ฉินฺทนฺตสฺส. จ-กาเรน อิธ อวุตฺตํ ‘‘อชานนฺตสฺสา’’ติ อิทํ สมุจฺจิตํ. ‘‘อิมํ ภูตคาม’’นฺติ วา ‘‘อิมสฺมึ อคฺคิมฺหิ ปติเต อิมํ ฑยฺหตี’’ติ วา ‘‘อิมินา อิทํ ภิชฺชติ ฉิชฺชตี’’ติอาทึ วา อชานนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
๑๐๔๐. อิทํ ¶ จาติ อิทํ ภูตคามสิกฺขาปทฺจ. ติสมุฏฺานนฺติ กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตวเสน ติสมุฏฺานํ. เฉทนาทิกิริยาย อาปชฺชนโต กฺริยํ. ติจิตฺตนฺติ ปณฺณตฺตึ อชานิตฺวา เจติยาทีสุ ติณคหนาทิกํ กโรนฺตสฺส อขีณาสวสฺส กุสลํ, ขีณาสวสฺส กิริยํ, ผลปุปฺผาทิโลเภน วิโกเปนฺตานํ เสขปุถุชฺชนานํ อกุสลนฺติ ติจิตฺตํ.
ภูตคามกถาวณฺณนา.
๑๐๔๑. อฺวาทวิเหสเก กมฺมสฺมึ สงฺเฆน กเตติ โยชนา, อฺวาทกวิเหสกาโรปนกมฺเม ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ปจฺเจกํ สงฺเฆน กเตติ อตฺโถ. ‘‘อฺํ วทตีติ อฺวาทกํ, อฺเนฺํ ปฏิจรณสฺเสตํ นามํ. วิเหเสตีติ วิเหสกํ, ตุณฺหีภูตสฺเสตํ นาม’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๘) วจนโต สงฺฆมชฺเฌ วตฺถุนา, อาปตฺติยา วา โจทนาย กตาย ตํ อวตฺตุกาโม หุตฺวา ‘‘โก อาปนฺโน, กึ อาปนฺโน, กิสฺมึ อาปนฺโน’’ติอาทินา (ปาจิ. ๙๔) ปทภาชนานุกฺกเมน ปุจฺฉิตํ เปตฺวา อฺสฺส อวจนํ อฺเนฺํ ปฏิจรณํ, ตํ กโรนฺโต อฺวาทโก. อิธ ปน ภาวปฺปธานวเสน กิริยา คหิตา.
ตเถว ¶ โจทิยมาโน หุตฺวา ปุจฺฉิตํ อวตฺตุกาโม หุตฺวา อาปตฺติภีรุกตาย อฺเนฺํ ปฏิจรณํ อกตฺวา สงฺฆํ วิเหเสตุํ ตุณฺหีภูโต วิเหสโก นาม. เอตฺถาปิ ภาวปฺปธานวเสน กิริยาว คเหตพฺพา. อิธ ปน ตพฺภาวาโรปนกมฺมํ วุจฺจตีติ สํเขโป. ปุน ตถา กโรนฺตสฺสาติ ปุนปิ เตเนว ปกาเรน อฺวาทกวิเหสกานิ วิสุํ วิสุํ กโรนฺตสฺส. ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตีติ ปทภาชเน ‘‘โรปิเต อฺวาทเก’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๐) นเยน จ ¶ ‘‘โรปิเต วิเหสเก’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๐) นเยน จ วิสุํ วิสุํ ปาจิตฺติยสฺส วุตฺตตฺตา เอเกกสฺมึ วตฺถุมฺหิ เอเกกาย อาปตฺติยา สมฺภวโต ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตีติ คเหตพฺพํ.
๑๐๔๒. ธมฺเมติ เอตฺถ ‘‘กมฺเม’’ติ เสโส. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี, เวมติโก, อธมฺมกมฺมสฺีติ ตีสุ วิกปฺเปสุ. อธมฺเมติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กมฺเม อโรปิเตติ อฺวาทกกมฺมาโรปเน อกเต. เอวํ วทนฺตสฺสาติ ‘‘โก อาปนฺโน’’ติอาทีนิ วทนฺตสฺส. วทนฺตสฺส จาติ เอตฺถ จกาเรน กมฺเม อโรปิเต เอวํ วิเหสนฺตสฺส จ ทุกฺกฏนฺติ สมุจฺจิโนติ. อิมสฺมึ ปกฺเข กมฺเม อโรปิเตติ วิเหสกกาลมาห.
๑๐๔๓. อาปนฺนนฺติ อตฺตนา อาปนฺนํ. ภณฺฑนํ ภวิสฺสตีติ สฺิสฺสาติ มยา อิมสฺมึ วุตฺเต สงฺฆสฺส ภณฺฑนกลหาทโย โหนฺตีติ สฺาย ตุณฺหี ภวนฺตสฺส. คิลานสฺสาติ วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยมุขโรคาทิยุตฺตสฺส.
๑๐๔๔. กฺริยากฺริยนฺติ อฺเนฺปฏิจรณํ กฺริยํ. ตุณฺหีภาโว อกฺริยํ.
อฺวาทกกถาวณฺณนา.
๑๐๔๕-๖. สมฺมตสฺสาติ ขนฺธกาคตเสนาสนปฺาปกสมฺมุติอาทีสุ เตรสสุ สมฺมุตีสุ เอกํ วา กติปยา วา สพฺพา วา ทาตุํ สงฺเฆน ตฺตึ เปตฺวา กมฺมวาจํ วตฺวา ทินฺนสมฺมุติกสฺส. ‘‘อุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน สมฺมต’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๖) วจนโต ภิกฺขุโนติ อุปสมฺปนฺนมาห, อยสํ กตฺตุกาโมติ สมฺพนฺโธ. วทนฺโตติ ‘‘ฉนฺเทน อิตฺถนฺนาโม เสนาสนํ ปฺาเปติ, ฉนฺเทน ภตฺตานิ อุทฺทิสตี’’ติอาทึ ภณนฺโต. ‘‘อุปสมฺปนฺเน’’ติ ¶ อิทํ ‘‘อุชฺฌาเปตี’’ติ กิริยมเปกฺขิตฺวา กมฺมนิ อุปโยคพหุวจนํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – อุชฺฌาเปติ อวฺาย ¶ โอโลกาเปติ, ลามกโต วา จินฺตาเปติ, ขียตีติ ‘‘ฉนฺเทน อิตฺถนฺนาโม เสนาสนํ ปฺเปตี’’ติอาทึ กเถนฺโต ปกาเสตีติ. อิมสฺมึ ปกฺเข ‘‘อุปสมฺปนฺนาน’’นฺติ วตฺตพฺเพ สามิอตฺเถ อุปโยควเสน ‘‘อุปสมฺปนฺเน’’ติ วุตฺตํ, อุปสมฺปนฺนานํ สนฺติเก ปกาเสตีติ อตฺโถ.
‘‘ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตี’’ติ อิทํ ‘‘อุชฺฌาปนเก ขิยฺยนเก ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๕) ทฺวินฺนํ วตฺถูนํ เอกโต วุตฺตตฺตา อิธาปิ เอกโต วุตฺตํ, วิสุํ วิสุํ ปน คเหตพฺพํ. ธมฺเมติ เอตฺถ ‘‘กมฺเม’’ติ เสโส, อุปสมฺปนฺนสฺส สมฺมตสฺส สงฺเฆน ทินฺนสมฺมุติกมฺมํ สเจ ธมฺมกมฺมํ โหตีติ อตฺโถ. อธมฺเมติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
๑๐๔๗-๘. ภิกฺขุโนติ สมฺมตสฺส ภิกฺขุโน. อสมฺมตสฺส ภิกฺขุสฺส อวณฺณํ ภาสโตติ โยชนา. ยสฺส กสฺสจีติ เอตฺถ ‘‘สนฺติเก’’ติ เสโส, อุปสมฺปนฺนสฺส จ อนุปสมฺปนฺนสฺส จ ยสฺส กสฺสจิ สนฺติเกติ อตฺโถ. อุปสมฺปนฺนกาเล สมฺมตํ ปจฺฉา สามเณรภาวํ อุปคตํ สนฺธาย ‘‘สมฺมตสฺส สามเณรสฺสา’’ติ วุตฺตํ. อวณฺณํ วทโตติ โยชนา.
๑๐๔๙. กโรนฺตํ สมฺมตํ. ภณโตติ อุชฺฌาปยโต, ขียโต. อตฺโถ ปน วุตฺตนโยว. อุชฺฌาปนขียนกิริยาหิ อาปชฺชนโต กฺริยํ. ยสฺมา อุชฺฌาปนํ, ขียนฺจ มุสาวาทวเสเนว ปวตฺตํ, ตสฺมา ‘‘อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺตี’’ติ ปาจิตฺติยฏฺาเน, ทุกฺกฏฏฺาเน จ อิมินา จ อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เอวฺจ กตฺวา อุชฺฌาเปนฺตสฺส, ขียนฺตสฺส ¶ จ เอกกฺขเณ ทฺเว ทฺเว อาปตฺติโย โหนฺตีติ อาปนฺนํ.
อุชฺฌาปนกกถาวณฺณนา.
๑๐๕๐. สงฺฆสฺส มฺจาทินฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สงฺฆิกํ มฺจํ วา ปีํ วา ภิสึ วา โกจฺฉํ วา’’ติ ปาฬิยํ ทสฺสิตํ สงฺฆสนฺตกํ มฺจาทึ. เอตฺถ จ มฺโจ นาม ปาฬิยํ ‘‘จตฺตาโร มฺจา มสารโก พุนฺทิกาพทฺโธ กุฬีรปาทโก อาหจฺจปาทโก’’ติ (ปาจิ. ๑๑๑) จ ทสฺสิโต จตุพฺพิโธ มฺโจ. ตตฺถ มสารโก นาม มฺจปาเท วิชฺฌิตฺวา ตตฺถ อฏนิสิขาหิ อาวุณิตฺวา กตมฺโจ. โส อิทานิ วตฺตมาโน เวตฺตมฺโจ. พุนฺทิกาพทฺโธ นาม อฏนิสีเสสุ พุนฺทิกรนฺตรโต มฺจปาเท ฑํสาเปตฺวา กโต เวตฺตมฺจปทรมฺโจ ทฏฺพฺโพ. กุฬีรปาทโก นาม ปาทพุนฺเท ¶ อสฺสขุราทิอาการํ ทสฺเสตฺวา กกฺกฏปาเทหิ วิย วงฺกปาเทหิ โยชิตมฺโจ. อาหจฺจปาทโก นาม อฏนิโย วิชฺฌิตฺวา อฏนิฉิทฺเท ปาทสีเส สิขํ กตฺวา ตํ ปเวเสตฺวา อฏนิยา อุปริ นิกฺขนฺเต ปาทสิขามตฺถเก ติริยํ วิชฺฌิตฺวา อาณึ ปเวเสตฺวา กตมฺโจ.
ปีํ นาม เอวเมว กตํ ตนฺนามกเมว จตุพฺพิธํ;
ภิสิ นาม ‘‘ปฺจ ภิสิโย อุณฺณภิสิ โจฬภิสิ วากภิสิ ติณภิสิ ปณฺณภิสี’’ติ คพฺภวเสน ทสฺสิตา ปฺจ ภิสิโย. ตตฺถ อุณฺณา นาม มนุสฺสโลมํ เปตฺวา อวเสสโลมานิ. โจฬา นาม ปิโลติกา. วากํ นาม มกจิวากาทิกํ. ติณํ นาม ทพฺพติณาทิ. ปณฺณํ นาม ตมาลปณฺณํ เปตฺวา อวเสสปณฺณํ.
โกจฺฉนฺติ ¶ ปาฬิยํ ‘‘โกจฺฉํ นาม วากมยํ วา อุสีรมยํ วา มฺุชมยํ วา ปพฺพชมยํ วา อนฺโต สํเวเตฺวา พทฺธํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๑๑๑) ทสฺสิตํ วากํ วา อุสีรํ วา มฺุชติณํ วา เอฬกโลมานิ วา ปพฺพชติณํ วา อาทาย อุโภหิ โกฏีหิ วิตฺถตํ กตฺวา มชฺเฌ ปีเฬตฺวา สงฺกุจิตฺวา ตํ พนฺธิตฺวา สีหจมฺมาทีหิ เวนพนฺธนานิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปาทปฺุฉนี วิย นิสชฺชตฺถาย กตํ อาสนนฺติ วทนฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เหฏฺา จ อุปริ จ วิตฺถตํ, มชฺเฌ สํขิตฺตํ, ปณวสณฺานํ กตฺวา พทฺธํ โหติ, ตํ กิร มชฺเฌ สีหพฺยคฺฆจมฺมปริกฺขิตฺตมฺปิ กโรนฺติ. อกปฺปิยจมฺมํ นาเมตฺถ นตฺถี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๑). สนฺถราเปตฺวาติ อุปสมฺปนฺเนน วา อนุปสมฺปนฺเนน วา สนฺถราเปตฺวา. เอตฺถ วินิจฺฉยํ วกฺขติ. สนฺถริตฺวาติ สยํ สนฺถริตฺวา วา.
๑๐๕๑. เนวุทฺธเรยฺยาติ ปฺตฺตฏฺานโต อุทฺธริตฺวา น ปฏิสาเมยฺย. น อุทฺธราเปยฺย วาติ อฺเน วา ตถา น การาเปยฺย. ตนฺติ มฺจาทึ. ปกฺกมนฺโตติ เอตฺถ ‘‘โย ภิกฺขู’’ติ ลพฺภติ, มฺจาทีนํ อตฺถตฏฺานโต ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ถามปฺปมาเณน หตฺถํ ปสาเรตฺวา ขิตฺตปาสาณสฺส ปตนฏฺานํ อติกฺกมฺม คจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ.
๑๐๕๒. วสฺสิเก จตุโร มาเสติ อนฺโตวสฺสํ จาตุมาเส. สเจ เทโว น วสฺสตีติ เอตฺถ ‘‘กตฺถจิ ¶ ชนปเท’’ติ เสโส. เตเนว ‘‘สเจ’’ติ สาสงฺกมาห. ‘‘เยสุ ชนปเทสุ วสฺสกาเล น วสฺสติ, เตสุปิ จตฺตาโร มาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๐) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตถา จาปีติ เต จตฺตาโร มาเส อวสฺสนฺเตปิ.
๑๐๕๓. ยตฺถาติ ¶ ยสฺมึ ลงฺกาทีปสทิเส เทเส. ยตฺถ อปเรปิ เหมนฺเต จตฺตาโร มาเส เทโว วสฺสติ, ตตฺถ อฏฺ มาเส อชฺโฌกาเส มฺจาทึ เปตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. คิมฺหาเน ปน จตฺตาโร มาเส พหิ เปตุํ วฏฺฏตีติ พฺยติเรกโต ทสฺเสติ.
๑๐๕๔. นิวาสสฺมินฺติ รุกฺเข กุลาวกํ กตฺวา นิรนฺตรวาเส สติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺมึ ปน ธุวนิวาเสน กุลาวเก กตฺวา วสนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๐). กทาจิปีติ อโนวสฺสกาเลปิ.
๑๐๕๕-๖. สงฺฆิกํ ยํ กิฺจิ มฺจาทีติ โยชนา. สนฺถตํ ยทีติ อนาณตฺเตน ยทิ อตฺถตํ, ปฺตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยตฺถ กตฺถจิ าเนติ รุกฺขมูลมณฺฑปอพฺโภกาสาทิมฺหิ ยตฺถ กตฺถจิ าเน. เยน เกนจีติ สทฺธิวิหาริเกน วา อนฺเตวาสิเกน วา อฺเน วา. ภิกฺขุนาติ อุปสมฺปนฺเนน. โสติ ยสฺสตฺถาย ปฺตฺตํ, โส ภิกฺขุ.
๑๐๕๗. ตนฺติ ตํ สงฺฆิกํ เวตฺตมฺจาทึ. สนฺถราปิต-สทฺโท กตฺตุสาธโน, สนฺถริตุํ นิโยชกสฺเสว ภิกฺขุโนติ อตฺโถ.
๑๐๕๘. ภิกฺขุนาติ เอตฺถ ‘‘อาณาปโก’’ติ วกฺขมานตฺตา อาณตฺเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปนฺเนนาติ ลพฺภติ. ตสฺเสวาติ อาณตฺติยา อาสนปฺาปกสฺส ตสฺเสว ภิกฺขุโน. ‘‘นิสีทตี’’ติ วจนสฺส อุปลกฺขณตฺตา อาคนฺตฺวา ถวิกํ วา จีวรํ วา ยํ กิฺจิเทว เปติ, ‘‘มยฺหเมว ภาโร’’ติ วา วทติ, ปฺาปโก มุจฺจตีติ คเหตพฺโพ.
๑๐๕๙-๖๐. อนาปุจฺฉาติ เอตฺถ ‘‘โย ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี โหติ, อตฺตโน ปลิโพธํ ¶ วิย มฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๓) อฏฺกถาย วุตฺตสรูปํ ยํ กฺจิ อนาปุจฺฉาติ อตฺโถ. ‘‘ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี ¶ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๓) วุตฺตตฺตา อลชฺชึ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตุํ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ‘‘มยํ คมิสฺสามา’’ติ วตฺวา อนุมติคหณํ อาปุจฺฉนํ นาม, ตํ อนาปตฺติยา กถํ องฺคํ โหตีติ เจ? คมนสฺส อนุมติยา ลทฺธตฺตา. ‘‘กปฺปํ ลภิตฺวา คนฺตพฺพ’’นฺติ วจนโต อนุมติทายเกน วตฺตาวตฺตํ สมฺปฏิจฺฉิตํ วิย โหตีติ ลทฺธกปฺปตฺตา เอวํ คจฺฉติ เจ, วฏฺฏติ. อนิยฺยาเตตฺวาติ นิยฺยาตนํ อกตฺวา วตฺตาวตฺตํ อปฺปฏิยาเทตฺวา, อสมฺปฏิจฺฉาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วาเรติ ปทวาเร.
๑๐๖๒. ตสฺมา านาติ อตฺตนา ตฺวา อาณาปิตโภชนสาลโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘โภชนสาลโต นิกฺขมิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๑).
๑๐๖๓. สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺิเวมติกปุคฺคลิกสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ. ติกาตีเตนาติ อกุสลมูลตฺติกาทิโต สวาสนสมุจฺเฉทปฺปหานวเสน อติกฺกนฺเตน. ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี อฺสฺส ปุคฺคลิเก อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๒) วจนโต ทุกฺกฏตฺตยํ โหติ.
๑๐๖๔-๕. จิมิลิกํ นาม ปริกมฺมกตาย ภูมิยา ฉวิรกฺขนตฺถํ อตฺถริตพฺพปิโลติกํ. ตฏฺฏิกา นาม ตาลปณฺณาทีหิ กตตฏฺฏิกา. จมฺมํ สีหจมฺมาทิ. เสนาสนปริกฺขาเร อกปฺปิยจมฺมํ นาม นตฺถิ. ยถาห ‘‘อฏฺกถาสุ หิ เสนาสนปริโภเค ปฏิกฺขิตฺตจมฺมํ นาม น ทิสฺสติ, ตสฺมา ¶ สีหจมฺมาทีนํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๒). อิมสฺส จ อฏฺกถาปาสฺส สารตฺถทีปนิยา (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๑๒) เอวํ อตฺโถ วณฺณิโต –
‘‘สีหจมฺมาทีนํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ’’ติ อิมินา ‘‘น ภิกฺขเว มหาจมฺมานิ ธาเรตพฺพานิ สีหจมฺมํ พฺยคฺฆจมฺมํ ทีปิจมฺมํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ เอวํ วุตฺตาย ขนฺธกปาฬิยา อธิปฺปายํ วิภาเวติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อนฺโตปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺติ, พหิปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๕๕) อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา มฺจปีเสุ อตฺถริตฺวา ปริโภโคเยว ปฏิกฺขิตฺโต, ภูมตฺถรณวเสน ปริโภโค ปน อปฺปฏิกฺขิตฺโตติ. ยทิ เอวํ ‘‘ปริหรเณเยว ¶ ปฏิกฺเขโป’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ? ยถา ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว สพฺพํ ปาสาทปริโภค’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) วจนโต ปุคฺคลิเกปิ เสนาสเน เสนาสนปริโภควเสน นิยมิตํ สุวณฺณฆฏาทิกํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏมานมฺปิ เกวลํ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ, เอวมิทํ ภูมตฺถรณวเสน ปริภฺุชิยมานมฺปิ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ตํ ตํ วิหารํ หริตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตนฺติ.
‘‘ผลก’’นฺติ อิมินา ปาาคตํ ผลกปีเมว ทสฺสิตํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ผลกปีํ นาม ผลกมยํ ปี’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๒). ปาทปฺุฉนินฺติ กทลิวากาทีหิ กตํ ปาทปฺุฉนิกํ. ภูมตฺถรณํ นาม จิมิลิกาย สติ ตสฺสา อุปริ, อสติ สุทฺธภูมิยํ อตฺถริตพฺพา กฏสารกาทิวิกติ. อุตฺตรตฺถรณํ นาม สงฺฆิกมฺจปีาทีนํ อุปริ อตฺถริตพฺพปจฺจตฺถรณํ.
ปตฺตาธารกนฺติ ¶ ปตฺตวลยาธารกํ. ตํ ยถาวุตฺตปริกฺขารํ. คจฺฉโตติ เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมฺม คจฺฉโต. สเจ ปน ทายเกหิ ทานกาเลเยว สหสฺสคฺฆนกมฺปิ กมฺพลํ ‘‘ปาทปฺุฉนึ กตฺวา ปริภฺุชถา’’ติ ทินฺนํ, ตเถว ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา อิมํ มฺจปีาทิเสนาสนมฺปิ ‘‘อพฺโภกาเสปิ ยถาสุขํ ปริภฺุชถา’’ติ ทายเกหิ ทินฺนํ เจ, สพฺพสฺมิมฺปิ กาเล อพฺโภกาเส นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
๑๐๖๖. อารฺเกนาปิ สเจ คนฺตพฺพํ โหติ, อโนวสฺสเก โนสติ มฺจปีาทึ รุกฺขสฺมึ ลคฺเคตฺวา ยถาสุขํ คนฺตพฺพนฺติ โยชนา.
๑๐๖๗. อุปจิกาทีหีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มูสิกา คหิตา. น ลุชฺชตีติ น นสฺสติ. ตํ สพฺพนฺติ มฺจาทิกํ สกลํ.
๑๐๖๘. อตฺตโน สนฺตเกติ อตฺตโน ปุคฺคลิเก มฺจาทิวิสเย. รุทฺเธติ วุฑฺฒภิกฺขุนา วา อิสฺสราทีหิ วา ยกฺขสีหาทีหิ วา มฺจาทิเก รุทฺเธ อชฺฌาวุตฺเถ, อภิภวิตฺวา คหิเตติ อตฺโถ ¶ . อาปทาสุปีติ พฺรหฺมจริยนฺตรายาทีสุ จ สนฺเตสุ. คจฺฉโต ภิกฺขุโน อนาปตฺตีติ โยชนา.
๑๐๖๙. กายวาจโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺานํ กถินสมุฏฺานํ นาม. ปฺตฺตึ อชานิตฺวา สยํ อนุทฺธรนฺตสฺส กาเยน โหติ, อนาปุจฺฉนฺตสฺส วาจาย โหติ, ปฺตฺตึ ชานิตฺวา เอวํ อกโรนฺตสฺส สจิตฺตเกน เตเนว ทฺวเยน สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ. เลฑฺฑุปาตาติกฺกโม กฺริยํ. มฺจาทีนํ อนุทฺธรณาทิ อกฺริยํ.
ปมเสนาสนกถาวณฺณนา.
๑๐๗๐-๓. ภิสีติ ¶ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตปฺจปฺปการา อิมิสฺสา อฏฺกถาย ‘‘มฺจกภิสิ วา ปีกภิสิ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖) เอวํ ทสฺสิตภิสิ จ. ปจฺจตฺถรณํ นาม ปาวาโร โกชโว วา. ‘‘เอตฺตกเมว วุตฺตนฺติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ‘อิทฺจ อฏฺกถาสุ ตถาวุตฺตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อฺมฺปิ ตาทิสํ มฺจปีเสุ อตฺถริตพฺพํ ปจฺจตฺถรณเมวา’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺต’’นฺติ (สารตฺถ. อฏฺ. ปาจิตฺติย ๓.๑๑๖) สารตฺถทีปนิยา ลิขิตํ. นิสีทนนฺติ นิสีทนจีวรํ.
ติณสนฺถาโร เอรกาทีนิ ติณานิ ทฺวีสุ ตีสุ าเนสุ โคเปตฺวา กตสนฺถาโร. ปณฺณสนฺถาโร นาม นาฬิเกราทิปณฺเณ ตเถว โคเปตฺวา กตสนฺถาโร. สยนฺติ เอตฺถาติ เสยฺยา. ‘‘สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉนฺเน’’ติ อิทํ สหเสยฺยกถาย วุตฺตตฺถเมว.
ทสวิธํ เสยฺยนฺติ ทสวิธาสุ เสยฺยาสุ อฺตรนฺติ วุตฺตํ โหติ. สนฺถริตฺวาปิ วาติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, โส สนฺถราเปตฺวาปีติ อิมํ สมฺปิณฺเฑติ. วา-สทฺทํ ‘‘สยํ อนุทฺธริตฺวา’’ติ เอตฺถ ‘‘อนุทฺธริตฺวา วา’’ติ โยเชตฺวา ‘‘อนุทฺธราเปตฺวา วา’’ติ อยํ วิกปฺโป สงฺคยฺหติ. ตํ เสยฺยํ.
อารามสฺสูปจารนฺติ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจาโร นาม เสนาสนโต ทฺเว เลฑฺฑุปาตา’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ อุปจารมาห. อสฺสาติ วิหารสฺส ปริกฺขิตฺตสฺส.
๑๐๗๔. อุภเยสนฺติ ¶ เสนาสนเสยฺยานํ. อนฺโตคพฺเภ สนฺถริตฺวา คจฺฉโตติ สมฺพนฺโธ.
๑๐๗๕. อุปจาเร วิหารสฺสาติ เอตฺถ วิหาโร นาม อนฺโตคพฺภาทิสพฺพปริจฺฉนฺนคุตฺตเสนาสนํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วิหาโรติ อนฺโตคพฺโภ วา อฺํ วา สพฺพปริจฺฉนฺนํ คุตฺตเสนาสนํ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๗). ตตฺถ อุปจาโร นาม ¶ ตํสมีปํ านํ. ยถาห ‘‘อุปจาเรติ ตสฺส พหิ อาสนฺเน โอกาเส’’ติ. มณฺฑโป นาม ปริจฺฉนฺนาปริจฺฉนฺนสนฺนิปาตมณฺฑโป. ยถาห ‘‘มณฺฑเป วาติ อปริจฺฉนฺเน ปริจฺฉนฺเน วาปิ พหูนํ สนฺนิปาตมณฺฑเป’’ติ. อาทิ-สทฺเทน อุปฏฺานสาลารุกฺขมูลานิ สงฺคหิตานิ. อุปฏฺานสาลา นาม อคุตฺตา โภชนสาลา. ยถาห ‘‘อุปฏฺานสาลายํ วาติ โภชนสาลายํ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๗). อคุตฺตตา จ ‘‘านสฺส อคุตฺตตายา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๗) อฏฺกถาวจนโต เวทิตพฺพาติ.
๑๐๗๖. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี’’ติ วารตฺตเย ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ. ทสวตฺถูสุ ภวํ ตทนฺโตคธตฺตาติ ทสวตฺถุกํ, ทสนฺนํ วา วตฺถุ ทสวตฺถุ, ตํเยว ทสวตฺถุกนฺติ ภิสิอาทิกํ อฺตรํ เสยฺยาภณฺฑํ. ตสฺสาติ สนฺถารกสฺส. ‘‘ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี อฺสฺส ปุคฺคลิเก อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๗) ติกทุกฺกฏํ ทีปิตํ.
๑๐๗๗. อุทฺธริตฺวาติ อตฺถตเสยฺยํ ยถา อุปจิกาหิ น ขชฺชติ, ตถา ปฏิสาเมตฺวา, ‘‘คจฺฉโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อฺเน วุทฺธภิกฺขุอิสฺสราทินา. ปลิพุทฺเธติ เสนาสเน ปริพุทฺเธ นิวาริเต.
๑๐๗๘. สาเปกฺโขว จ คนฺตฺวาติ ‘‘อชฺเชว คนฺตฺวา อิทํ ปฏิสาเมสฺสามี’’ติ อเปกฺขาสหิโตว คามนฺตราทึ คนฺตฺวา. ยถาห ‘‘อชฺเชว อาคนฺตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสามี’ติ เอวํ สาเปกฺโข นทีปารํ วา คามนฺตรํ วา คนฺตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๘). ตตฺถ ตฺวาติ คตฏฺาเน ตฺวา, ตโต พหิ คจฺฉามีติ จิตฺเต อุปฺปนฺเนติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ยตฺถสฺส คมนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตตฺเถว ิโต’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๘). ตํ ปุจฺฉตีติ สมฺพนฺโธ. ตํ เสยฺยํ ¶ กฺจิ เปเสตฺวา อาปุจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘กฺจิ เปเสตฺวา อาปุจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๘). เอตฺถ ¶ จ ปุริมสิกฺขาปเท มฺจาทีนํ ปฺตฺตฏฺานโต อนฺโตวิหาเร วา โหตุ พหิ วา, เลฑฺฑุปาตาติกฺกเมน, อิธ อุปจาราติกฺกเมน ปาจิตฺติยนฺติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ.
อพฺโภกาสมฺหิ มฺจาทึ, วิหาเร เสยฺยมตฺตกํ;
หิตฺวา วชนฺตสฺส โทโส, เลฑฺฑุปาตูปจารโตติ.
ทุติยเสนาสนกถาวณฺณนา.
๑๐๗๙. โย ภิกฺขุ สงฺฆิกาวาเส ปุพฺพุปคตํ ภิกฺขุํ ชานํ อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺเปยฺย เจ, อสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. ปุพฺพุปคโต นาม วสฺสคฺเคน ปาเปตฺวา ทินฺนํ เสนาสนํ คเหตฺวา วสนฺโต. ชานนฺติ ‘‘อนุฏฺาปนีโย อย’’นฺติ ชานนฺโต. อนุฏฺาปนียา นาม วุทฺธาทโย. ยถาห ปทภาชเน ‘‘ชานาติ นาม วุฑฺโฒติ, คิลาโนติ, สงฺเฆน ทินฺโนติ ชานาตี’’ติ (ปาจิ. ๑๒๑). อนุปขชฺชาติ อนุปวิสิตฺวา, ตสฺส ปมํ ปฺตฺตํ มฺจาทีนํ อาสนฺนตรํ วกฺขมานลกฺขณํ อุปจารํ ปวิสิตฺวาติ อตฺโถ. เสยฺยํ กปฺเปยฺยาติ ทสวิธาสุ เสยฺยาสุ อฺตรํ อตฺถริตฺวา สยนํ กเรยฺย, นิปชฺเชยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. วกฺขติ จ ‘‘ทสสฺวฺตรํ เสยฺย’’นฺติอาทิ. ‘‘นิสชฺชํ วา’’ติ เสโส. ยถาห ปทภาชเน ‘‘อภินิสีทติ วา อภินิปชฺชติ วา’’ติ.
๑๐๘๐-๒. อุทฺทิฏฺมตฺถํ นิทฺทิสิตุกาโม ปมํ ‘‘อนุปขชฺชเสยฺยํ กปฺเปยฺยา’’ติ เอตฺถ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาทโธวนปาสาณา…เป… ทุกฺกฏ’’นฺติ. เสนาสนํ ปวิสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปาทโธวนปาสาณา ยาว ตํ มฺจํ วา ปีํ วา นิกฺขมนฺตสฺส ¶ ปน มฺจปีโต ยาว ปสฺสาวฏฺานํ, เอตฺถนฺตเร ตุ ยํ านํ, อิทเมว อุปจาโรติ วุจฺจตีติ โยชนา. ตตฺถ อุปจาเรติ โยชนา. พาเธตุกามสฺสาติ ‘‘ยสฺส สมฺพาโธ ภวิสฺสติ, โส ปกฺกมิสฺสตี’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนจิตฺตสฺส. สยนฺติ เอตฺถาติ วิคฺคโห.
๑๙๘๓. ‘‘ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ อุทฺเทสโต วุตฺตํ นิทฺทิสิตุมาห ‘‘นิสีทนฺตสฺสา’’ติอาทิ. ตตฺถาติ ตถา อนุปขชฺช อตฺถตาย เสยฺยาย. ‘‘ปาจิตฺติยทฺวย’’นฺติ อิทํ ‘‘ทฺเวปิ กโรนฺตสฺสา’’ติ ¶ อิมํ ปจฺฉิมวิกปฺปํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุริมวิกปฺปทฺวเย ปน ‘‘นิสีทนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ, นิปชฺชนฺตสฺส วา ปาจิตฺติย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. อิมสฺมึ วิกปฺปตฺตเย ปจฺเจกํ ‘‘ติกปาจิตฺติยํ ติกทุกฺกฏ’’นฺติ อุภยสฺสาปิ วตฺตพฺพตา อฏฺกถายํ วุตฺตา. กถํ? สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี นิสชฺชํ กปฺเปติ, ปาจิตฺติยนฺติ นิสชฺชาย ติกปาจิตฺติยํ, เอวํ เสยฺยาย ติกปาจิตฺติยํ, อุภยตฺถ ติกปาจิตฺติยทฺวยนฺติ เอวํ วิกปฺปทฺวเย ทฺวาทส ปาจิตฺติยานิ. ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี อฺสฺส ปุคฺคลิเก นิสชฺชํ กปฺเปติ, ทุกฺกฏนฺติ นิสชฺชาย ติกทุกฺกฏํ, เอวํ เสยฺยาย ติกทุกฺกฏํ, อุภยตฺถ ติกทุกฺกฏทฺวยนฺติ ทฺวาทส ทุกฺกฏานิ จ เวทิตพฺพานิ.
๑๐๘๔. กโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘นิสีทนาทิ’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี’’ติ วิกปฺปตฺตเย ติกปาจิตฺติยํ ปาฬิยํ (ปาจิ. ๑๒๒) วุตฺตํ. เอวํ ปุคฺคลิเกปิ ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ปุคฺคเล ติกทุกฺกฏ’’นฺติ. อิมินา ยถาวุตฺตปาจิตฺติยทุกฺกฏานิ สามฺเน ติเก ปกฺขิปิตฺวา เอวํ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพํ.
๑๐๘๕-๖. ‘‘วุตฺตูปจาร’’นฺติอาทิคาถาทฺวเย ¶ วิหารสฺส วุตฺตูปจารํ มฺุจิตฺวา อุปจาเร วา อพฺโภกาเสปิ วา สนฺถรโตปิ วา สนฺถราปยโตปิ วา ตตฺถ นิสีทโต วา ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพตฺเถว ตสฺส นิวาโส วาริโตติ โยชนา. ตตฺถ วิหารสฺสาติ ยถาวุตฺตเสนาสนสฺส. อุปจาเรติ อวิทูเร. อพฺโภกาเสติ ตสฺส เสนาสนสฺส นจฺจาสนฺเน องฺคณปฺปเทเส.
นิสีทโต วาติ วาคฺคหเณน นิปชฺชโต วา ทฺเวปิ กโรนฺตสฺส วาติ สงฺคณฺหาติ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘อภินิสีทติ วา อภินิปชฺชติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๒). ตตฺถาติ ตสฺมึ ปุพฺพูปคตสฺส ปตฺเต เสนาสเน. สพฺพตฺเถวาติ ยถาวุตฺตูปจารโต อนฺโต จ พหิ จ อนฺตมโส อชฺโฌกาเสปีติ สพฺพตฺเถว. ตสฺสาติ อนตฺตมนสฺส อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺปยโต ตสฺส วิสภาคปุคฺคลสฺส. นิวาโส วาริโต ปรวิเหเกน สหวาสสฺส มหานตฺถกรตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอวรูเปน หิ วิสภาคปุคฺคเลน เอกวิหาเร วา เอกงฺคเณ วา วสนฺเตน อตฺโถ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพตฺเถวสฺส นิวาโส วาริโต’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๒).
๑๐๘๗. ‘‘สีตาทิอุปปีฬิตสฺสา’’ติ ¶ ปทจฺเฉโท, สีตาทีหิ อุปปีฬิตสฺส พาธิตสฺสาติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อุณฺเหน วา’’ติอาทิกํ สงฺคณฺหาติ. ยถาห ‘‘สีเตน วา อุณฺเหน วา ปีฬิโต ปวิสตี’’ติ. เอตฺถ อาปทา นาม พหิ สยนฺตสฺส ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายาปชฺชนํ.
๑๐๘๘. อิทํ สิกฺขาปทํ ทุกฺขเวทนํ โหตีติ โยชนา.
อนุปขชฺชกถาวณฺณนา.
๑๐๘๙. นิกฺกฑฺเฒยฺยาติ ¶ นีหเรยฺย. นิกฺกฑฺฒาเปยฺย วาติ นีหราเปยฺย วา.
๑๙๙๐. พหู ภูมิโย วาลิกาตลสงฺขาตา ยสฺส โส พหุภูโม, ปาสาโท. สมาสนฺตวิธิวเสน ‘‘พหุภูโม’’ติ วุจฺจติ.
๑๐๙๑. เปตฺวา เปตฺวาติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน คตินิวตฺตึ กตฺวา กตฺวา.
๑๐๙๒. อยํ นโยติ ‘‘นิกฺขมา’ติ เอกวจเนน คจฺฉนฺเต อเนเกปิ ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกนฺเต อาณาปกสฺส เอกาว อาปตฺติ โหติ, ิตฏฺานโต ตฺวา ตฺวา นีหรนฺตสฺส ทฺวารโกฏฺคณนาย โหตี’’ติ อยํ นโย. อาณตฺติยา ขเณเยวาติ ‘‘อิมํ นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ อาณตฺติกฺขเณเยว.
๑๐๙๓. เอกาวาติ เอตฺถ ‘‘ปาจิตฺติ โหตี’’ติ วตฺตพฺโพ. พหุกานิ เจติ เอตฺถ ‘‘ทฺวารานี’’ติ วตฺตพฺพํ, อติกฺกาเมตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เอตฺตเก ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกมาเปตฺวา นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ จ ‘‘ยาว ปริยนฺตทฺวารโกฏฺกา นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ จ ‘‘พหู ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกาเมตฺวา นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ จ อาณตฺตตฺตา พหู ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกาเมตฺวา สเจ นิกฺกฑฺฒตีติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน เอตฺตกานิ ทฺวารานิ นิกฺกฑฺฒาหี’ติ วา ‘ยาว มหาทฺวารํ, ตาว นิกฺกฑฺฒาหี’ติ วา เอวํ นิยเมตฺวา อาณตฺโต โหติ, ทฺวารคณนาย ปาจิตฺติยานี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๖). พหูนิ ปาจิตฺติยานิ โหนฺตีติ โยชนา.
๑๐๙๔. อุปฏฺานสาลาทีติ ¶ เอตฺถ นิสฺสกฺกตฺเถ ปจฺจตฺตวจนโต อุปฏฺานสาลาทิโตติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ‘‘อุปจารโต’’ติ ¶ อิมินา สมานาธิกรณตฺตา วิหารสฺส อุปฏฺานสาลาทิโต อุปจารโตติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห คณฺิปเท ‘‘อุปจาโร นาม อุปฏฺานสาลาทิมตฺตเมวา’’ติ. กาเยนปิ วาจายปิ ตถา นิกฺกฑฺฒเน จ ทุกฺกฏนฺติ วกฺขมาเนน สห โยชนา. ตสฺสาติ อุปสมฺปนฺนสฺส. อาทิ-สทฺเทน มณฺฑปาทโย คหิตา. ยถาห ‘‘วิหารสฺส อุปจารา วา อุปฏฺานสาลาย วา มณฺฑปา วา รุกฺขมูลา วา อชฺโฌกาสา วา นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๗). ‘‘วาจายา’’ติ อิมินา ‘‘นิกฺขมา’’ติ จ ‘‘อิมํ นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ อาณาปนฺจ คหิตํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา เอเกน ปโยเคน เอกาปตฺติ, นานาปโยเคสุ ปโยคคณนาย, ทฺวารคณนาย วา โหตีติ วุตฺตเมว ปการํ อุปสํหรติ.
๑๐๙๕. ‘‘ตถา’’ติ อิทํ ‘‘อิตรํ นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. ยถา วิหารูปจารโต อุปฏฺานสาลาทิโต อุปสมฺปนฺนํ นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส, นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺส จ ทุกฺกฏํ โหติ, ตถา อนุปสมฺปนฺนสฺส วิหารโต จ วิหารูปจารโต จ นิกฺกฑฺฒนาทึ กโรนฺตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. ตถา วิหารสฺสูปจารา วา วิหารา วา สพฺเพสมฺปิ ปริกฺขารํ นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. สพฺเพสนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. ปริกฺขารนฺติ อนฺตมโส รชนฉลฺลิปิ สงฺคยฺหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตมโส รชนฉลฺลิมฺปี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๖).
๑๐๙๖. ‘‘อสมฺพทฺเธสู’’ติ อิมินา พฺยติเรกโต อสิถิลพทฺเธสุ ปริกฺขาเรสุ เอกิสฺสาเยว อาปตฺติยา สมฺภวํ ทสฺเสติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘คาฬฺหํ พนฺธิตฺวา ปิเตสุ ปน เอกาว อาปตฺตี’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๖). สิถิลพนฺธนํ ¶ ปน สมฺมา พนฺธนํ น โหตีติ อสมฺพทฺธวจเนน คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อสฺส ภิกฺขุสฺส วตฺถูนํ คณนาย ทุกฺกฏํ ปริทีปเยติ โยชนา, ปริกฺขารํ นีหรนฺตสฺส, นีหราเปนฺตสฺส จ อสฺส ภิกฺขุโนติ วุตฺตํ โหติ.
๑๐๙๗-๘. อนฺเตวาสินฺติ จ สทฺธิวิหาริกนฺติ จ เอตฺถ ‘‘อสมฺมาวตฺตนฺต’’นฺติ เสโส. ยถาห อนาปตฺติวาเร ‘‘อนฺเตวาสิกํ วา สทฺธิวิหาริกํ วา น สมฺมา วตฺตนฺตํ นิกฺกฑฺฒตี’’ติอาทิ ¶ (ปาจิ. ๑๒๘). นิกฺกฑฺฒนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺสา’’ติ เสโส. อสมฺมาวตฺตนฺตํ อนฺเตวาสึ วา อลชฺชึ วา ตถา อสมฺมาวตฺตนฺตํ สทฺธิวิหาริกํ วา อุมฺมตฺตกํ วา เตสํ อนฺเตวาสิอาทีนํ ปริกฺขารํ วา อตฺตโน วสนฏฺานา วา ตถา วิสฺสาสิกสฺส วสนฏฺานา วา นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส, นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺส วา อุปสมฺปนฺนํ วา อนุปสมฺปนฺนํ วา สงฺฆิกวิหารา นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส สยํ อุมฺมตฺตกสฺส วา อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
อฏฺกถายํ ‘‘อลชฺชีอาทโย ปน อตฺตโน วสนฏฺานโตเยว นิกฺกฑฺฒิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๘) วุตฺตํ, ปาฬิยฺจ ‘‘อตฺตโน ปุคฺคลิเก อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๒๗) วุตฺตํ, ‘‘อตฺตโน วิสฺสาสิกสฺส วสนฏฺานา’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? อิมสฺเสว ปาสฺส อนุโลมโต วุตฺตํ. อนฺเตวาสิกนฺติอาทีสุ ปมํ อสมฺมาวตฺตนาทิภาเวน ‘‘นิกฺกฑฺฒิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส จิตฺตลหุปริวตฺติตาย โกเป อุปฺปนฺเนปิ อนาปตฺติ.
๑๐๙๙. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘นิกฺกฑฺฒนฺตสฺสา’’ติ จ ตตฺเถว เสสํ ‘‘นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๖) จ ‘‘ตสฺส ปริกฺขารํ วา’’ติ จ ยถาวุตฺตํ ¶ อุปสํหรติ. ‘‘สงฺฆารามาปิ สพฺพสฺมา’’ติ อิทํ กลหการเกเนว โยเชตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภณฺฑนการกกลหการกเมว สกลสงฺฆารามโต นิกฺกฑฺฒิตุํ ลภติ. โส หิ ปกฺขํ ลภิตฺวา สงฺฆมฺปิ ภินฺเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๘). อิทํ ตูติ เอตฺถ วิเสสตฺถโชตเกน ตุ-สทฺเทน วุตฺตวิเสสนํ วินา อวเสสวินิจฺฉโย อนนฺตรสทิโสเยวาติ ทีเปติ. ติสมุฏฺานํ กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺานโตติ.
นิกฺกฑฺฒนกถาวณฺณนา.
๑๑๐๐-๑. มชฺฌิมาสีสฆฏฺฏายาติ สีสํ น ฆฏฺเฏตีติ อสีสฆฏฺฏา, มชฺฌิมสฺส อสีสฆฏฺฏา มชฺฌิมาสีสฆฏฺฏา, ตาย, ปมาณมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สีสาฆฏฺฏนปฺปมาณุพฺเพธเหฏฺิมตลายาติ อตฺโถ. เวหาสกุฏิยาติ ปทราทีหิ อุปริ อจฺฉนฺนตลาย ทฺวิภูมิกาทิเภทาย กุฏิยา. อุปรีติ มตฺถเก, อกตปทราทิอตฺถรณาย ตุลามตฺตยุตฺตาย อุปริมตเลติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยาหิ กาหิจิ อุปริ อจฺฉนฺนตลา ทฺวิภูมิกกุฏิ วา ติภูมิกาทิกุฏิ วา ‘เวหาสกุฏี’ติ วุจฺจติ, อิธ ปน อสีสฆฏฺฏา อธิปฺเปตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๑). อาหจฺจปาทเก ¶ มฺเจติ ‘‘อาหจฺจปาทโก นาม มฺโจ องฺเค วิชฺฌิตฺวา ิโต โหตี’’ติ ปาฬิยํ ทสฺสิเต อฏนิสีสานิ วิชฺฌิตฺวา ปาทสิขํ อาวุณิตฺวา อุปริสิขาย อนาโกฏิตอาณิมฺหิ ิตมฺเจติ อตฺโถ. อาหจฺจปาทเก ปีเติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘อาหจฺจปาทกํ นาม ปีํ องฺเค วิชฺฌิตฺวา ิตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๑๓๑). โสเยวตฺโถ.
ตสฺมึ ¶ อาหจฺจปาทเก มฺเจ วา ปีเ วา นิสีทนฺตสฺส วา นิปชฺชนฺตสฺส วา ตสฺส ภิกฺขุโน ปโยคคณนาย ปาจิตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา.
๑๑๐๒-๓. สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺิเวมติกปุคฺคลิกสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ. ปุคฺคเลติ ปุคฺคลิเก วิหาเร. เวหาสกุฏิยา…เป… คณนาเยว ตสฺส ติกทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสฺิเวมติกอฺปุคฺคลิกสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ.
เหฏฺา อปริโภเค วาติ ทารุสมฺภาราทีนํ วเสน เหฏฺิมตเล อวลฺเช วา. สีสฆฏฺฏาย วาติ สีสฆฏฺฏนปฺปมาณตลาย กุฏิยา วา. อเวหาสวิหาเร วาติ อเวหาสกุฏิยา ภูมิยํ กตปณฺณสาลาทีสุ. เอตฺถาปิ ‘‘วิสฺสาสิกวิหาเร’’ติ อิทํ ‘‘อตฺตโน ปุคฺคลิเก อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๓๒) อิมสฺส อนุโลมนโต วุตฺตํ.
๑๑๐๔. ยตฺถ ปฏาณิ วา ทินฺนาติ ยสฺมึ มฺเจ ปาทสีสานํ อุปริ อฏนิมตฺถกโต ติริยํ อาณิ ปเวสิตา โหติ, ตตฺถ อภินิสีทโต, อภินิปชฺชโต วา น โทโสติ โยชนา. ตตฺถาติ ปุพฺเพ วุตฺตอปเวสิตปฏาณิมฺหิ มฺเจ วา ปีเ วา. ‘‘ตฺวา’’ติ อิมินา นิปชฺชนํ นิวตฺเตติ. ลเคตีติ อุปริพทฺธองฺกุสสิกฺกาทีสุ ยํ กิฺจิ ปริกฺขารํ ลเคติ. อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานโต เอฬกโลเมน สิกฺขาปเทน สมํ มตนฺติ โยชนา.
เวหาสกุฏิกถาวณฺณนา.
๑๑๐๕. ยาว ทฺวารสฺส โกสมฺหาติ เอตฺถ ‘‘มหลฺลกสฺส วิหารสฺสา’’ติ เสโส, ‘‘มหลฺลโก นาม วิหาโร สสฺสามิโก ¶ วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๑๓๖) ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา การาเปตานํ ทายกานํ สมฺภวโต มหลฺลกสฺส ‘‘วิหาโร นาม อุลฺลิตฺโต วา โหติ อวลิตฺโต วา ¶ อุลฺลิตฺตาวลิตฺโต วา’’ติ ทสฺสิตเภทสฺส วิหารสฺส ทฺวารโกสสงฺขาตปิฏฺสงฺฆาฏสฺส ‘‘สมนฺตา หตฺถปาสา’’ติ (ปาจิ. ๑๓๖) ปาฬิยํ วุตฺตทฺวารกวาฏปุถุลปฺปมาณทฺวารพาหสมีปํ อวธึ กตฺวาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ทฺวารโกโส นาม ปิฏฺสงฺฆาฏสฺส สมนฺตา กวาฏวิตฺถารปฺปมาโณ โอกาโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕).
อคฺคฬฏฺปนายาติ เอตฺถ อคฺคฬสหจริเยน ตํสหิตทฺวารกวาเฏน ยุตฺตทฺวารพาหานเมว วุตฺตตฺตา ทฺวารพาหานํ นิจฺจลตฺถายาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สกวาฏสฺส ทฺวารพนฺธสฺส นิจฺจลภาวตฺถายาติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕). ลิมฺปิตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘ปุนปฺปุน’’นฺติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุนปฺปุนํ ลิมฺปิตพฺโพ วา เลปาเปตพฺโพ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕). ติณมตฺติกานํ อุปริ ปุนปฺปุนํ มตฺติกาเลโป กาตพฺโพติ อตฺโถ.
๑๑๐๖-๗. โย เยฺโย, อยํ นโยติ สมฺพนฺโธ, ‘‘ปุนปฺปุนํ ลิมฺปิตพฺพํ วา เลปาเปตพฺพเมว วา’’ติ โย วุตฺโต, อยํ นโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. อาโลกํ สนฺเธติ ปิเธตีติ อาโลกสนฺธิ, วาตปานกวาฏานเมตํ อธิวจนํ. ยถาห ‘‘อาโลกสนฺธีติ วาตปานกวาฏกา วุจฺจนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕). เอตฺถ กวาฏสฺส สามนฺตา กวาฏทฺวารผลกวิตฺถารปฺปมาณํ เลปฏฺานํ. ยถาห ‘‘สพฺพทิสาสุ กวาฏวิตฺถารปฺปมาโณ โอกาโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕).
เอตฺถายมธิปฺปาโย ¶ – วาตปานกวาฏสฺส สามนฺตา ทฺวารผลกวิตฺถารปฺปมาเณ าเน ติณฺณํ มตฺติกานํ อุปริปิ ยตฺตกํ พหลํ อิจฺฉติ, ตตฺตเก าเน อาโลกสนฺธิ ปริกมฺมตฺถาย ลิมฺปิตพฺโพ วา เลปาเปตพฺโพ วาติ. ‘‘ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปสิ ปุนปฺปุนํ เลปาเปสี’’ติ (ปาจิ. ๑๓๔) อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ อุปฺปนฺนโทเสน สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา เลปํ อนุชานนฺเตน จ ทฺวารพนฺธนสฺส สามนฺตา อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาเณเยว ปเทเส ปุนปฺปุนํ เลปสฺส อนฺุาตตฺตา ตโต อฺตฺถ ปุนปฺปุนํ ลิมฺเปนฺตสฺส วา ลิมฺปาเปนฺตสฺส วา ภิตฺติยํ มตฺติกาหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา ปุน จตุตฺถเลเป ทินฺเน ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพนฺติ วทนฺติ. คณฺิปเทสุ ปน ตีสุปิ ปุนปฺปุนํ เลปทานสฺส วุตฺตปฺปมาณโต อฺตฺถ ปฏิกฺขิตฺตมตฺตํ เปตฺวา ปาจิตฺติยสฺส อวุตฺตตฺตา ทุกฺกฏํ อนุรูปนฺติ วุตฺตํ.
ฉทนสฺสาติ ¶ ปทภาชเน วุตฺตานํ อิฏฺกาสิลาสุธาติณปณฺณจฺฉทนานํ อฺตรสฺส. ทฺวตฺติปริยายนฺติ เอตฺถ อฏฺกถายํ ‘‘ปริยาเยนาติ ปริกฺเขเปน, เอวํ ฉทนํ ปน ติณปณฺเณหิ ลพฺภตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖) วุตฺตตฺตา ปริยายนฺติ ติเณหิ วา ปณฺเณหิ วา ปริกฺขิปิตฺวา ฉทนเมว คเหตพฺพํ. อิฏฺกาย วา สิลาย วา สุธาย วา ฉทเน ลพฺภมานํ มคฺเคน ฉทนํ ปน อุปลกฺขณวเสน ลพฺภติ. ทฺวตฺติปริยาเยน ฉทนฺจ ‘‘สพฺพมฺปิ เจตํ ฉทนํ ฉทนูปริ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖) อฏฺกถาวจนโต อุปรูปริ ฉทนวเสน เวทิตพฺพํ. หริตํ นาม ปุพฺพณฺณาทิ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘หริตนฺติ เจตฺถ สตฺตธฺเภทํ ปุพฺพณฺณํ, มุคฺคมาสติลกุลตฺถอลาพุกุมฺภณฺฑาทิเภทฺจ อปรณฺณํ อธิปฺเปต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕). อิเมสุ อฺตรสฺสาภาเวน อหริตํ นาม.
อธิฏฺเยฺยนฺติ ¶ วิธาตพฺพํ. ตโต อุทฺธนฺติ ตีหิ ปริยาเยหิ วา ตีหิ มคฺเคหิ วา อุทฺธํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ติณฺณํ มคฺคานํ วา ปริยายานํ วา อุปรี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖). ปาจิตฺติยํ โหตีติ วกฺขมานทูรตาย ยุตฺเต อหริตฏฺาเน ตฺวา สํวิทหิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ฉาทาเปตฺวา ตติยวาเร ‘‘เอวํ กโรหี’’ติ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ. อปกฺกมนฺเตน ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ, ตโต อุตฺตริ จตุตฺถวาเร ฉทนตฺถํ วิทหนฺตสฺส อิฏฺกาทิคณนาย, ติเณสุ ติณคณนาย, ปณฺเณสุ ปณฺณคณนาย ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘มคฺเคน ฉาเทนฺตสฺส ทฺเว มคฺเค อธิฏฺหิตฺวา ตติยาย มคฺคํ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพ’’นฺติอาทิ (ปาจิ. ๑๓๖). ตติยาย มคฺคนฺติ เอตฺถ ตติยายาติ อุปโยคตฺเถ สมฺปทานวจนํ, ตติยํ มคฺคนฺติ อตฺโถ. ตตฺถาติ หริเต, ‘‘สเจ หริเต ิโต อธิฏฺาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๓๗) วจนโต อธิฏฺานาย ติฏฺโตติ ลพฺภติ. พีชโรปนโต ปฏฺาย ยาว สสฺสํ ติฏฺติ, ตาว หริตํ นาม. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺมิมฺปิ เขตฺเต วุตฺตํ พีชํ น ตาว สมฺปชฺชติ, วสฺเส ปน ปติเต สมฺปชฺชิสฺสตี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕).
๑๑๐๘-๙. อหริตฏฺาเนปิ ติฏฺโต ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปิฏฺิวํเส’’ติอาทิ. ‘‘ปิฏฺิวํเส’’ติ อิทํ วํสยุตฺตเสนาสนวเสน วุตฺตํ. กณฺณิกํ คาหาเปตฺวา กตเสนาสนสฺสาปิ อุปลกฺขณํ โหติ. ปิฏฺิวํเสติ จ ‘‘คงฺคายํ โฆโส’’ติอาทีสุ วิย สามีปิกาธาเร ภุมฺมํ. กุโตยํ วิเสโส ลพฺภตีติ? อฏฺกถายํ ‘‘ปิฏฺิวํสสฺส วา กูฏาคารกณฺณิกาย วา อุปริ, ถุปิกาย วา ปสฺเส นิสินฺโน โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕) วุตฺตวิธานโต ลพฺภติ. ‘‘นิสินฺโน’’ติ ¶ อฏฺกถาวจนโต ิโตติ เอตฺถ คตินิวตฺติสามฺเน ¶ นิสินฺโน จ วุตฺโตติ คเหตพฺโพ. ยสฺมึ าเนติ เอตฺถ ‘‘อหริเต’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘าตุ’’นฺติ อิทํ อธิฏฺานกรณตฺถาย านํ คเหตฺวา วุตฺตนฺติ ‘‘ตสฺส อนฺโต อหริเตปิ ตฺวา อธิฏฺาตุํ น ลพฺภตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖) อฏฺกถาวจนโต วิฺายติ.
ปตโนกาสโตติ เอตฺถ ปมตฺเถ โต-ปจฺจโย. ตฺหิ านํ วิหารสฺส ปตโนกาโสติ โยชนา. หีติ เหตุอตฺเถ วตฺตมานโต ยสฺมา อหริเต ปตนฺตสฺส วิหารสฺเสตํ านํ ปตโนกาโส, ตสฺมา ตตฺถ าตุํ น วฏฺฏตีติ คเหตพฺพํ.
๑๑๑๑. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อาโท ตาว วิหารปทสฺส ปทภาชเน ‘‘วิหาโร นาม อุลฺลิตฺโต วา’’ติอาทิวุตฺตตฺตา (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖) ตพฺพิปริยายโต ติเณเหว กตฉทนภิตฺติกา กุฏิ ติณกุฏิกาติ วิฺายตีติ ติณฉทนา กุฏิกา ติณกุฏิกา.
ทฺวตฺติปริยายกถาวณฺณนา.
๑๑๑๒. ชานนฺติ โตยสฺส สปฺปาณกภาวํ ชานนฺโต. สิฺเจยฺย สิฺจาเปยฺยาติ เอตฺถ ‘‘เตน อุทเกนา’’ติ วตฺตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เตน อุทเกน สยํ วา สิฺเจยฺยา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๐).
๑๑๑๓. โย ปน ธารํ อจฺฉินฺทิตฺวา สเจ มตฺติกํ สิฺเจยฺย, เอวํ สิฺจโต ตสฺสาติ โยชนา.
๑๑๑๔-๕. สนฺทมานกนฺติ โตยวาหินึ. มาติกํ อาฬึ. สมฺมุขํ กโรนฺตสฺสาติ อุทกํ นฺหายิตุมิจฺฉิตํ ยทิ, สยํ อภิมุขํ กโรนฺตสฺส. ตตฺถ ตตฺถ พนฺธโต อสฺส ภิกฺขุสฺส ¶ ปโยคคณนาย อาปตฺติ สิยาติ โยชนา. ปโยคคณนาติ ปโยคคณนาย, อุทกํ พนฺธิตฺวา พนฺธิตฺวา ยถิจฺฉิตทิสาภิมุขกรณปโยคานํ คณนายาติ อตฺโถ.
๑๑๑๖-๗. ยํ ชลํ ติณาทิมฺหิ ปกฺขิตฺเต สเจ ขยํ วา อาวิลตฺตํ วา คจฺฉติ, ตาทิเส ¶ อุทเก มตฺติกํ, ติณเมว วา สเจ สกฏปุณฺณมฺปิ เอกโต ปกฺขิเปยฺย, เอวํ ปกฺขิปนฺตสฺส เอกา ปาจิตฺติ. เอเกกํ มตฺติกํ, ติณเมว วา. วา-สทฺเทน กฏฺโคมยาทึ วา ปกฺขิปนฺตสฺส ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยนฺติ โยชนา. อาวิลตฺตนฺติ ปาณกา ยถา นสฺสนฺติ, ตถา อาลุฬิตภาวํ. อิมินา เอวํ อวินสฺสมานปาณเก มหาอุทเก ติณาทึ ปกฺขิปนฺตสฺส อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อิทํ ปน มหาอุทกํ…เป… สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๐).
๑๑๑๘. ทุกฺกฏํ โหตีติ อาณาปนปจฺจยา ทุกฺกฏํ โหติ. เอกา ปาจิตฺติ.
๑๑๑๙. สพฺพตฺถาติ สปฺปาณเก จ อปฺปาณเก จ. วิมติสฺสาติ สหจริเยน วิมติสหิตมาห.
๑๑๒๐. ‘‘สพฺพตฺถาปาณสฺิสฺสา’’ติอาทีสุ อธิการโต ลพฺภมานํ ‘‘สิฺจนาทีสุ ยํ กิฺจิ กโรนฺตสฺสา’’ติ อิทํ ปจฺเจกํ สมฺพนฺธนียํ. สพฺพตฺถาติ สปฺปาณเก, อปฺปาณเก จ. อปาณสฺิสฺสาติ เอวํ กเตน ปโยเคน นสฺสมานา ปาณกา น สนฺตีติสฺิสฺส. อสฺจิจฺจาติ ยถา ปาณกา น นสฺสนฺติ, เอวํ ฆฏาทีหิ คหิตํ สปฺปาณกอุทกํ อุทเกเยว โอสิฺจนฺตสฺส วา โอสิฺจาเปนฺตสฺส วา วฏฺฏิตฺวา ตสฺมึ อุทเก ติณาทิมฺหิ ปติเต อสฺจิจฺจ กตํ นาม โหติ. อสติสฺสาติ ¶ อสติยา กโรนฺตสฺส. อชานโตติ ปาณกานํ อตฺถิภาวํ อชานิตฺวา กโรนฺตสฺส.
๑๑๒๑-๒. วธกจิตฺเต สติ สตฺตเม สปฺปาณกวคฺเค ปมสิกฺขาปทสฺส วิสยภาวโต ตโต วิเสเสตุมาห ‘‘วินา วธกจิตฺเตนา’’ติ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปาฬิยํ (ปาจิ. ๑๔๐) ‘‘สปฺปาณกํ อุทก’’นฺติ อิมินา อฏฺกถาคตํ ปมงฺคฺจ ‘‘ชาน’’นฺติ อิมินา ทุติยงฺคฺจ ‘‘สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา’’ติ อิมินา จตุตฺถงฺคฺจ วุตฺตํ, น วุตฺตํ ตติยงฺคํ. ตฺจ โข วธกจิตฺตสฺส สตฺตมวคฺเค ปมสิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยวจนโต เอตฺถ ตทภาวลกฺขณํ ตติยงฺคํ วุตฺตเมว โหตีติอธิปฺปาเยน อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วินา วธกจิตฺเตนา’’ติ. เตเนวาห ‘‘จตฺตาเรวสฺส องฺคานิ, นิทฺทิฏฺานิ มเหสินา’’ติ. อสฺสาติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส.
๑๑๒๓. สปฺปาณกสฺิสฺส ¶ ‘‘ปริโภเคน ปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ปุพฺพภาเค ชานนฺตสฺสาปิ สิฺจนสิฺจาปนํ ‘‘ปทีเป นิปติตฺวา ปฏงฺคาทิปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ชานนฺตสฺส ปทีปุชฺชลนํ วิย วินาปิ วธกเจตนาย โหตีติ อาห ‘‘ปณฺณตฺติวชฺชํ ติจิตฺต’’นฺติ. เอตฺถ กิสฺมิฺจิ กุปิตสฺส วา กีฬาปสุตสฺส วา สิฺจโต อกุสลจิตฺตํ, มาลาคจฺฉาทึ สิฺจโต กุสลจิตฺตํ, ปณฺณตฺตึ อชานโต ขีณาสวสฺส อพฺยากตจิตฺตนฺติ ติจิตฺตํ เวทิตพฺพํ. ตสฺสาติ สตฺตมวคฺเค ปมสิกฺขาปทสฺส. อสฺส จาติ อิมสฺส สิฺจนสิกฺขาปทสฺส จ. อิทํ วิเสสนนฺติ อิทํ นานากรณํ. เอตฺถ อิมสฺมึ ปกรเณ นิทฺทิฏฺํ ปกาสิตนฺติ อตฺโถ. ตํ โลกวชฺชํ, อิทํ ปณฺณตฺติวชฺชํ. ตํ อกุสลจิตฺตํ, อิทํ ติจิตฺตํ. ตํ ทุกฺขเวทนํ, อิทํ ติเวทนนฺติ วุตฺตํ โหติ.
สตฺตมวคฺเค ¶ ทุติยสฺส อิมสฺส จ โก วิเสโสติ เจ? อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ‘‘สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา’’ติ พาหิรปริโภควเสน ปมํ ปฺตฺตตฺตา ‘‘สปฺปาณกํ อุทกํ ปริภฺุเชยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๓๘๘) สิกฺขาปทํ อตฺตโน นหานปานาทิปริโภควเสน ปฺตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมึ วา ปมํ ปฺตฺเตปิ อตฺตโน ปริโภควเสเนว ปฺตฺตตฺตา ปุน อิทํ สิกฺขาปทํ พาหิรปริโภควเสน ปฺตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
สปฺปาณกกถาวณฺณนา.
เสนาสนวคฺโค ทุติโย.
๑๑๒๔-๖. อฏฺงฺคยุตฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘สีลวา’’ติอาทิ เอกมงฺคํ, ‘‘พหุสฺสุโต’’ติอาทิ ทุติยํ, ‘‘อุภยานิ โข ปนสฺสา’’ติอาทิ ตติยํ, ‘‘กลฺยาณวาโจ โหตี’’ติอาทิ จตุตฺถํ, ‘‘เยภุยฺเยน ภิกฺขุนีนํ ปิโย โหติ มนาโป’’ติ ปฺจมํ, ‘‘ปฏิพโล โหติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุ’’นฺติ ฉฏฺํ, ‘‘น โข ปเนตํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺสา’’ติอาทิ สตฺตมํ, ‘‘วีสติวสฺโส วา โหติ อติเรกวีสติวสฺโส วา’’ติ อฏฺมนฺติ เอตานิ ปาาคตานิ อฏฺ องฺคานิ นาม. ภิกฺขุนีนํ โอวาโท, ตทตฺถาย สมฺมุตีติ วิคฺคโห. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ตฺติ จตุตฺถี ยสฺส กมฺมสฺสาติ วิคฺคโห. ‘‘กมฺเมนา’’ติ เสโส.
อฏฺงฺคยุตฺตสฺส ¶ ภิกฺขุสฺส มเหสินา ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน ยา ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ อิธ อนฺุาตา, ตาย อสมฺมโต โย ภิกฺขูติ โยชนา.
ครุธมฺเมหิ อฏฺหีติ ‘‘วสฺสสตูปสมฺปนฺนาย ภิกฺขุนิยา ตทหุปสมฺปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุปฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ ¶ สามีจิกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติอาทีหิ (ปาจิ. ๑๔๙) ปาฬิยํ อาคเตหิ อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ. เอกํ ภิกฺขุนึ, สมฺพหุลา วา ภิกฺขุนิโยติ อิทํ ปกรณโต ลพฺภติ. โอสาเรนฺโตวาติ ปาฬึ อุจฺจาเรนฺโตว. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘โอสาเรตพฺพาติ ปาฬิ วตฺตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๙). เต ธมฺเมติ ปุพฺเพ วุตฺเต เต อฏฺ ครุธมฺเม. โอวเทยฺยาติ อฏฺครุธมฺมปาฬิภาสนสงฺขาตํ โอวาทํ กเรยฺย.
กึ วุตฺตํ โหติ? ปาฏิปเท โอวาทตฺถาย อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนา ภิกฺขุนิโย ‘‘เตน ภิกฺขุนา’’ติอาทินา ปาาคตนเยน ‘‘สมคฺคตฺถ ภคินิโย’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สมคฺคมฺหยฺยา’’ติ ยทิ วเทยฺยุํ, ‘‘วตฺตนฺติ ภคินิโย อฏฺ ครุธมฺมา’’ติ ปุนปิ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘วตฺตนฺตยฺยา’’ติ ยทิ วเทยฺยุํ, ‘‘เอโส ภคินิโย โอวาโท’’ติ นิยฺยาเทยฺย. ‘‘น วตฺตนฺตยฺยา’’ติ ยทิ วเทยฺยุํ, ‘‘วสฺสสตูปสมฺปนฺนายา’’ติอาทินา อฏฺครุธมฺมปาฬิภาสนวเสน โอวาทํ กเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘โอสาเรนฺโตว เต ธมฺเม โอวเทยฺยา’’ติ.
๑๑๒๗. อฺเน ธมฺเมนาติ สุตฺตนฺเตน วา อภิธมฺเมน วา. เอกโตอุปสมฺปนฺนนฺติ ภิกฺขุนิสงฺเฆเยว อุปสมฺปนฺนํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก เอกโตอุปสมฺปนฺนายา’’ติ. ตถาติ โอวทนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ ทสฺเสติ.
๑๑๒๘. ภิกฺขูนํ สนฺติเกเยว อุปสมฺปนฺนนฺติ มหาปชาปติยา โคตมิยา สทฺธึ ปพฺพชิตา ปฺจสตา สากิยานิโย สงฺคณฺหาติ. ลิงฺควิปลฺลาเส อุปสมฺปนฺนภิกฺขุโน ลิงฺคปริวตฺตเน สติ ตถา ปาจิตฺติ เอว ปกาสิตาติ อตฺโถ.
๑๑๒๙. โอวาทํ ¶ อนิยฺยาเทตฺวาติ ‘‘วตฺตนฺติ ภคินิโย อฏฺ ครุธมฺมา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘วตฺตนฺตยฺยา’’ติ วุตฺเตติ เอตฺถาปิ โสเยวตฺโถ.
๑๑๓๐. ครุธมฺเมหิ ¶ โอวทโต ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๑๓๑. อคณฺหนฺตสฺส โอวาทนฺติ เอตฺถ โอวาทตฺถํ ยาจนสนฺเทโส ตทตฺถตาย โอวาโทติ คหิโตติ โอวาทสาสนํ อสมฺปฏิจฺฉนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อปจฺจาหรโตปิ ตนฺติ ตํ อตฺตนา คหิตํ โอวาทสาสนํ อุโปสถคฺเค อาโรเจตฺวา ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน ทินฺนํ ปฏิสาสนํ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส เนตฺวา อวทนฺตสฺสาปิ. พาลนฺติ สาสนสมฺปฏิจฺฉนฺจ อุโปสถคฺคํ เนตฺวา อาโรจนฺจ ปฏิสาสนํ หริตฺวา ปาฏิปเท ภิกฺขุนิสงฺฆคณปุคฺคลานํ ยถานุรูปํ ปจฺจาโรจนฺจ กาตุํ อชานนตาย พาลํ. คิลานนฺติ อุโปสถคฺคํ คนฺตฺวาปิ อาโรจนสฺส พาธเกน เคลฺเน สมนฺนาคตํ คิลานํ. คมิกนฺติ ปาฏิปทํ อนิสีทิตฺวา คนฺตพฺพํ อจฺจายิกคมนํ คมิกฺจ เปตฺวา ทุกฺกฏํ สิยาติ สมฺพนฺโธ.
๑๑๓๒. กมฺมสฺมินฺติ เอตฺถ กมฺม-สทฺเทน ภิกฺขุโนวาทกสฺส ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน ทินฺนํ สมฺมุติกมฺมํ อธิปฺเปตนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตฺตึ, กมฺมวาจฺจ ปริหาเปตฺวา, ปริวตฺเตตฺวา วา กตํ เจ, อธมฺมกมฺมํ นาม. วคฺเคติ ฉนฺทารหานํ ฉนฺทสฺส อนาหรเณน วา สนฺนิปติตานํ อุกฺโกเฏน วา วคฺเค สติ. ติกปาจิตฺติยํ สิยาติ ‘‘อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี โอวทติ, เวมติโก โอวทติ, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๐) อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺิปกฺเข วุตฺตปาจิตฺติยตฺตยํ โหติ.
๑๑๓๓. อธมฺเม ¶ ปน กมฺมสฺมึ เวมติกสฺสาปีติ โยชนา. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วคฺเค ภิกฺขุนิสงฺฆสฺมึ, ติกปาจิตฺติยํ สิยา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. กึ วุตฺตํ โหติ? อธมฺมกมฺเม เวมติกปกฺเข ‘‘วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๐) อธมฺมิกกมฺเมเยว วิมติวาเร วุตฺตติกปาจิตฺติยํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ธมฺมกมฺมนฺติ สฺิโน’’ติ อิมินาปิ ‘‘อธมฺเม ปน กมฺมสฺมิ’’นฺติ อิทํ โยเชตพฺพํ, ‘‘ตถา’’ติ สมฺพนฺโธ, เตน ‘‘วคฺเค’’ติอาทิกํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี โอวทติ, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๐) วุตฺตํ ติกปาจิตฺติยํ โหติ. เอวเมตา ปาจิตฺติโย สนฺธายาห ‘‘นว ปาจิตฺติโย วุตฺตา’’ติ.
อิมสฺมึ ¶ วิย อธมฺมกมฺมวาเร ‘‘สมคฺเค ภิกฺขุนิสงฺฆสฺมิ’’นฺติ วิกปฺเป จ เอวเมว นว ปาจิตฺติโย โหนฺตีติ อติทิสนฺโต ‘‘สมคฺเคปิ จ ตตฺตกา’’ติ อาห. ยถาห ‘‘อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อธมฺมกมฺเม เวมติโก สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๐).
๑๑๓๔. ทฺวินฺนํ นวกานํ วสาติ ยถาทสฺสิตํ วคฺคนวกํ, สมคฺคนวกนฺติ ทฺวินฺนํ นวกานํ วเสน. ตาติ ปาจิตฺติโย.
‘‘ธมฺมกมฺเม ¶ อธมฺมกมฺมสฺี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติโก วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วคฺคปกฺเข นว ทุกฺกฏานิ. ‘‘ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติโก สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ สมคฺคสฺี โอวทติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๕๑) เอตฺถ อนฺเต วุตฺตํ อนาปตฺติวารํ วินา อวเสเสสุ อฏฺสุ วาเรสุ สมคฺคปกฺเข อฏฺ ทุกฺกฏานิ. เอวํ ปุริมานิ นว, อิมานิ อฏฺาติ ธมฺมกมฺมปกฺเข สตฺตรส ทุกฺกฏานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘ทุกฺกฏํ ธมฺมกมฺเมปิ, สตฺตรสวิธํ สิยา’’ติ.
๑๑๓๕. ‘‘โอสาเรหี’’ติ วุตฺโต กเถติ วาติ โยชนา. ‘‘อฏฺครุธมฺมํ กเถหี’’ติ วุตฺโต ตํ กเถติ วา. ปฺหํ ปุฏฺโ กเถติ วาติ อฏฺครุธมฺมวิสเย ปฺหํ ปุฏฺโ ตเมว วทติ วา. สิกฺขมานาย กเถติ วาติ สมฺพนฺโธ. สิกฺขมานาย อฏฺครุธมฺเม กเถติ วา, เนว โทโสติ อตฺโถ. อุมฺมตฺตกาทิโน กถยโต เนว โทโสติ โยชนา.
๑๑๓๖. อิทานิ ¶ ติณฺณมฺปิ พหุสฺสุตานํ ลกฺขเณ เอกตฺถ ทสฺสิเต ภิกฺขุโนวาทกสฺส วิเสโส สุวิฺเยฺโย โหตีติ ¶ ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วาจุคฺคตาว กาตพฺพา’’ติอาทิ. ทฺเว มาติกา ปคุณา วาจุคฺคตา กาตพฺพาติ โยชนา. ภิกฺขุภิกฺขุนิวิภงฺเค มาติกา ปคุณา วาจุคฺคตาว กาตพฺพาติ โยชนา, ภิกฺขุภิกฺขุนิวิภงฺคมาติกา ปคุณา กตฺวา ตาสํ อฏฺกถํ อุคฺคเหตฺวา ปาฬิโต, อตฺถโต จ วจนปถารุฬฺหา โวหารกฺขมาเยว กาตพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. จตฺตาโร ภาณวารา ปคุณา วาจุคฺคตาว กาตพฺพาติ ปกาสิตาติ โยชนา. ‘‘ปคุณา’’ติ อิมินา ปาฬิยํ ปคุณํ กตฺวา ธาเรตฺวา ปริปุจฺฉิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘วาจุคฺคตาว กาตพฺพา’’ติ อิมินา ตทตฺถํ สุตฺวา ธาเรตฺวา ปริปุจฺฉิตพฺพเมวาติ ทสฺเสติ.
๑๑๓๗. ปริกถตฺถายาติ สมฺปตฺตานํ ธมฺมกถนตฺถาย. กถามคฺโคติ มหาสุทสฺสนกถามคฺโค. มงฺคล…เป… อนุโมทนาติ อคฺคสฺส ทานาทิมงฺคเลสุ ภตฺตานุโมทนาสงฺขาตา ทานกถา จ, กุมารมงฺคลาทีสุ มหามงฺคลสุตฺตาทิมงฺคลานุโมทนา จ, อมงฺคลํ นาม กาลกิริยา, ตตฺถ มตกภตฺตาทีสุ ติโรกุฏฺฏาทิกถา จาติ เอวํ ติสฺโสเยวานุโมทนา.
๑๑๓๘. อุโปสถาทิอตฺถายาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปวารณาทีนํ สงฺคโห. กมฺมากมฺมวินิจฺฉโยติ กมฺมวคฺเค วุตฺตวินิจฺฉโย, ปริวาเร กมฺมวคฺเค อาคตขุทฺทานุขุทฺทกกมฺมวินิจฺฉโยติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘กมฺมฏฺาน’’นฺติ อิมินา ‘‘อุตฺตมตฺถสฺส ปาปก’’นฺติ วกฺขมานตฺตา วิปสฺสนากมฺมฏฺานมาห. วิปสฺสนาวเสน อุคฺคณฺหนฺเตน จ ธาตุววตฺถานมุเขน อุคฺคเหตพฺพนฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อุตฺตมตฺถสฺสาติ อรหตฺตสฺส.
๑๑๓๙. เอตฺตกํ อุคฺคเหตฺวาน พหุสฺสุโตติ ยถาวุตฺตธมฺมานํ อุคฺคหิตตฺตา พหุสฺสุโต. ปฺจวสฺโสติ อุปสมฺปทโต ¶ ปฏฺาย ปริปุณฺณปฺจสํวจฺฉโร. ‘‘ทสวสฺโส’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สํวจฺฉรวเสน ปฺจวสฺเสสุ ปริปุณฺเณสุ วุตฺถวสฺสวเสน อปริปุณฺเณสุปิ ปฺจวสฺโสเยว. อิตรถา อูนปฺจวสฺโสติ เวทิตพฺโพ. ปริปุณฺณวีสติวสฺสูปสมฺปทาทีสุ วิย เกจิ สํวจฺฉรคณนํ อวิจาเรตฺวา ‘‘ปฺจวสฺโส’’ติวจนสามฺเน วุตฺถวสฺสคณนเมว คณฺหนฺติ, ตทยุตฺตํ. ตถา คหเณสุ ยุตฺติ วา มคฺคิตพฺพา. มฺุจิตฺวา นิสฺสยนฺติ นิสฺสยวาสํ ชหิตฺวา. อิสฺสโรติ นิสฺสยาจริยวิรเหน อิสฺสโร, อิมินา นิสฺสยมุตฺตลกฺขณํ ทสฺสิตํ.
๑๑๔๐. ทฺเว ¶ วิภงฺคาติ ภิกฺขุภิกฺขุนิวิภงฺคทฺวยํ. อิธ ‘‘วาจุคฺคตา’’ติ อิทํ ปริปุจฺฉมฺปิ สนฺธายาหาติปิ วุตฺตํ. เตนาห สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ทฺเว วิภงฺคา ปคุณา วาจุคฺคตา กาตพฺพา’ติอิทํ ปริปุจฺฉาวเสน อุคฺคหณมฺปิ สนฺธาย วุตฺต’นฺติ วทนฺตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๔๕-๑๔๗). พฺยฺชนาทิโตติ เอตฺถ พฺยฺชนํ นาม ปทํ, อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตํ อนุพฺยฺชนํ นาม อกฺขรํ, ปทกฺขรานิ อปริหาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. จตูสฺวปิ นิกาเยสูติ ทีฆมชฺฌิมสํยุตฺต องฺคุตฺตรนิกาเยสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เอโก วา นิกาโย โปตฺถโกปิ จ เอโกติ โยชนา. อปิ-สทฺเทน ขุทฺทกนิกายสฺสาปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ‘‘ปิ วา’’ติ อิมินา ขุทฺทกนิกาเย ชาตกภาณเกน สาฏฺกถํ ชาตกํ อุคฺคเหตฺวาปิ ธมฺมปทํ สห วตฺถุนา อุคฺคเหตพฺพเมวาติ ทสฺสิเต ทฺเว โปตฺถเก สมุจฺจิโนติ, จตฺตาริ ขนฺธกวตฺตานิ วา.
๑๑๔๒. ทิสาปาโมกฺโข ยตฺถ ยตฺถ วสติ, ตสฺสา ตสฺสาทิสาย ปาโมกฺโข ปธาโน. เยนกามํคโมติ ยตฺถ กตฺถจิ ทิสาภาเค ยถากามํ วุตฺติโก โหตีติ อตฺโถ ¶ . ปริสํ อุปฏฺาเปตุํ กามํ ลภเต อิสฺสโรติ โยชนา, อิสฺสโร หุตฺวา ภิกฺขุปริสาย อตฺตานํ อุปฏฺาเปตุํ ยถารุจิยา ลภตีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา ปริสูปฏฺาปกลกฺขณํ วุตฺตํ.
๑๑๔๓. วาจุคฺคนฺติ วาจุคฺคตํ. เอตฺถ จ ‘‘อิทานิ อยํ ภณฺฑปาถาวิธิ น โหตีติ มิหกปริปุจฺฉนกถานุรูปโต อตฺถกรณํ น วาจุคฺคตกรณํ นามาติ วิฺายตี’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. อิมินา ยถาวุตฺตํ ทุติยงฺคเมว สงฺคหิตํ.
๑๑๔๔. อสฺสาติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส. อสมฺมตตาทีนิ ตีณิ องฺคานีติ อตฺตโน อสมฺมตตา, ภิกฺขุนิยา ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, โอวาทวเสน อฏฺครุธมฺมภณนนฺติ อิมานิ ตีณิ องฺคานิ.
โอวาทกถาวณฺณนา.
๑๑๔๖. ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อตฺถงฺคเต สูริเย อตฺถงฺคตสฺี, เวมติโก, อนตฺถงฺคตสฺี’’ติ วิกปฺปตฺตเย. เอกโตอุปสมฺปนฺนนฺติ ภิกฺขุนิสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนํ. ‘‘ภิกฺขุสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนํ ปน โอวทโต ปาจิตฺติยเมวา’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๑๑๔๘. อุทฺเทสาทินเยนาติ ¶ ‘‘อนาปตฺติ อุทฺเทสํ เทนฺโต, ปริปุจฺฉํ เทนฺโต’’ติอาทินา อนาปตฺติวารนเยน. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส.
อตฺถงฺคตสูริยกถาวณฺณนา.
๑๑๔๙. ‘‘สเจ อสมฺมโต’’ติ วกฺขมานตฺตา โอวทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘สมฺมตสฺสา’’ติ ลพฺภติ. ภิกฺขุนุปสฺสยนฺติ ภิกฺขุนิวิหารํ. อฺตฺร กาลาติ ‘‘ตตฺถายํ สมโย ¶ , คิลานา โหติ ภิกฺขุนี’’ติ วุตฺตกาลโต อฺตฺร. ‘‘คิลานา นาม ภิกฺขุนี น สกฺโกติ โอวาทาย วา สํวาสาย วา คนฺตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๖๑) ทสฺสิเต คิลานกาเล อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๑๕๐. ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตีติ ปมสิกฺขาปเทน, อิมินา จ สิกฺขาปเทน ทฺเว ปาจิตฺติยานิ โหนฺตีติ. ‘‘ตีณิปิ ปาจิตฺติยานี’’ติ โยเชตพฺพา, ปมทุติยตติเยหิ สิกฺขาปเทหิ ตีณิ ปาจิตฺติยานิ โหนฺตีติ อตฺโถ.
๑๑๕๑. อฺเน ธมฺเมนาติ ครุธมฺมโต อฺเน พุทฺธวจเนน. ทุกฺกฏทฺวยนฺติ อสมฺมตภิกฺขุนุปสฺสยคมนมูลกํ ทุกฺกฏทฺวยํ. ภิกฺขุโนติ อสมฺมตสฺส ‘‘สมฺมตสฺสาปี’’ติ วกฺขมานตฺตา. ‘‘อฏฺหิ วา ครุธมฺเมหิ อฺเน วา ธมฺเมน โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๕) อตฺถงฺคตสิกฺขาปเท วุตฺตตฺตา ‘‘รตฺติเหตุก’’นฺติ อาห, รตฺติโอวาทนมูลนฺติ อตฺโถ.
๑๑๕๒. ปาจิตฺติยทฺวยนฺติ ทุติยตติยมูลกํ. ครุธมฺเมน โอวาโท ครุธมฺโม, โส นิทานํ ยสฺส ปาจิตฺติยสฺสาติ วิคฺคโห. สมฺมตตฺตา ครุธมฺมนิทานสฺส ปาจิตฺติยสฺส อภาวโตติ สมฺพนฺโธ. อิมินา ปมสิกฺขาปเทน อนาปตฺติภาวํ ทสฺเสติ.
๑๑๕๓. ตสฺเสวาติ สมฺมตสฺเสว. ทุกฺกฏํ อิมินา ตติยสิกฺขาปเทน. อนาปตฺติ ปมสิกฺขาปเทน, เตเนวาห ‘‘สมฺมตตฺตา’’ติ. ปาจิตฺติ ทุติยสิกฺขาปเทน, เตเนวาห ‘‘รตฺติย’’นฺติ.
๑๑๕๔. ติกปาจิตฺติยํ ¶ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก, อนุปสมฺปนฺนสฺี ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา ¶ อฺตฺร สมยา โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๖๒) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. อิตรทฺวเยติ ‘‘อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺี, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุปสมฺปนฺนาย เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๖๒) ทสฺสิเต อิตรทฺวเย. โอวทนฺตสฺสาติ เยน เกนจิ โอวทนฺตสฺส.
๑๑๕๕. ติกปาจิตฺติยํ, ทุกฺกฏฏฺาเน ทุกฺกฏเมว โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตถา’’ติ. ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา อฺเน ธมฺเมน โอวทนฺตสฺส ตถาติ โยชนา.
ภิกฺขุนุปสฺสยกถาวณฺณนา.
๑๑๕๖. จีวราทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน ปิณฺฑปาตาทิอิตรปจฺจยตฺตยฺจ สกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนานิ จ สงฺคหิตานิ. สมฺมเตติ ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติยา สมฺมเต.
๑๑๕๗. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี, เวมติโก, อธมฺมกมฺมสฺี เอวํ วทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๖๗) ติกปาจิตฺติยํ ปาฬิยํ ทสฺสิตเมว. อิธ กมฺมํ นาม ยถาวุตฺตํ สมฺมุติกมฺมํ. อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺิเวมติกอธมฺมกมฺมสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ. วีสติวสฺโส วา อติเรกวีสติวสฺโส วาติ สมฺมุติยา องฺคานิ.
๑๑๕๘. ‘‘สมฺมตํ อนุปสมฺปนฺน’’นฺติ กํ สนฺธายาหาติ เจ? สมฺมเตน หุตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย สามเณรภาวมุปคตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อามิสตฺถายาติ จีวราทีนมตฺถาย.
อามิสกถาวณฺณนา.
๑๑๖๒. ภิกฺขุนิยา ทินฺนนฺติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ วตฺตพฺพํ. ภิกฺขุนา ทินฺนนฺติ โยชนา. ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ เสโส ¶ . ตตฺถาติ จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปเท. สูจิตาติ ปกาสิตา.
จีวรทานกถาวณฺณนา.
๑๑๖๓. อฺาติกาย ¶ ภิกฺขุนิยา จีวรนฺติ โยชนา.
๑๑๖๔. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท.
๑๑๖๕. สูจึ จีวรํ ปเวเสตฺวาติ สมฺพนฺโธ. สูจินีหรเณติ จีวรโต.
๑๑๖๖. ปโยคสฺส วสาติ เอกกฺขเณ พหู อาวุณิตฺวา สูจิยา นีหรณปโยคคณนาย. พหู ปาจิตฺติโยติ โยชนา, ปโยคปฺปมาณาปตฺติโย โหนฺตีติ อตฺโถ.
๑๑๖๙. อเนกา ปาจิตฺติยาปตฺตี โหนฺตีติ โยชนา. อารปเถติ สูจิมคฺเค. ทุติเย ปเถติ เอตฺถ อาร-สทฺโท คาถาพนฺธสุขตฺถํ ลุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
๑๑๗๐. กา หิ นาม กถาติ ‘‘อเนกาปตฺติโย โหนฺตี’’ติ เอตฺถ กึ วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อฺาติกาย อฺาติกสฺี, เวมติโก, าติกสฺี จีวรํ สิพฺพติ วา สิพฺพาเปติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๗๘) วุตฺตํ ติกปาจิตฺติยํ.
๑๑๗๒. อฺํ ปริกฺขารนฺติ อุปาหนตฺถวิกาทึ. สิพฺพโตติ เอตฺถ ‘‘สิพฺพาปยโต’’ติ อธิการโต ลพฺภติ. สิกฺขมานสามเณริโย สิกฺขมานาทิกา นาม.
๑๑๗๓. สิพฺพนกิริยาย อาปชฺชิตพฺพโต กฺริยํ.
จีวรสิพฺพนกถาวณฺณนา.
๑๑๗๔-๕. สํวิธายาติ ¶ ‘‘อชฺช ยาม, สฺเว ยามา’’ติอาทินา นเยน สํวิทหิตฺวา. ยถาห ‘‘อชฺช วา หิยฺโย วา ปเร วา คจฺฉามาติ สํวิทหตี’’ติ (ปาจิ. ๑๘๓). มคฺคนฺติ เอกทฺธานมคฺคํ, อนฺตมโส คามนฺตรมฺปิ. อฺตฺร สมยาติ ‘‘ตตฺถายํ สมโย, สตฺถคมนีโย โหติ มคฺโค สาสงฺกสมฺมโต สปฺปฏิภโย’’ติ (ปาจิ. ๑๘๒) วุตฺตกาลวิเสสา อฺตฺราติ ¶ วุตฺตํ โหติ. สตฺถวาเหหิ วินา อคมนีโย มคฺโค สตฺถคมนีโย นาม. โจรานํ สยิตนิสินฺนฏฺิตขาทิตปีตฏฺานานิ ยตฺถ ทิสฺสนฺติ, ตาทิโส มคฺโค สาสงฺโก นาม. โจเรหิ หตมาริตฆาตวิลุตฺตมนุสฺสา ยตฺถ ปฺายนฺติ, โส สปฺปฏิภโย นาม. อิธาติ อิมสฺมึ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ กตสํวิธานํ อวิราเธตฺวา ตาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺชนกาเลติ อตฺโถ.
อฺโ คาโม คามนฺตรํ, ตตฺถ โอกฺกมนํ อุปคมนํ คามนฺตโรกฺกโม, ตสฺมึ กเตติ อตฺโถ. อคามเก อรฺเ อทฺธโยชนาติกฺกเม วาติ โยชนา, คามรหิตํ อรฺมคฺคมฺปิ ทฺวิคาวุตํ อติกฺกนฺเต วาติ อตฺโถ.
๑๑๗๖. ‘‘อาปตฺติ โหตี’’ติ สามฺโต ทสฺสิตอาปตฺติยา เภทาเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปทวินิจฺฉเย, ปกรเณ วา. ทุกฺกฏํ ทีปิตนฺติ สมฺพนฺโธ. อกปฺปิยภูมฏฺโติ เอตฺถ อกปฺปิยา ภูมิ นาม อนฺโตคาเม ภิกฺขุนุปสฺสยทฺวารโกฏฺโกติ เอวมาทิ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน อนฺโตคาเม ภิกฺขุนุปสฺสยทฺวาเร รถิกาย, อฺเสุ วา จตุกฺกสิงฺฆาฏกหตฺถิสาลาทีสุ สํวิทหนฺติ, ภิกฺขุโน อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๒-๑๘๓). เอตฺถ จ จตุนฺนํ มคฺคานํ สมฺพนฺธฏฺานํ จตุกฺกํ. ติณฺณํ มคฺคานํ สมฺพนฺธฏฺานํ สิงฺฆาฏกํ.
๑๑๗๗. กปฺปิยภูมิ ¶ นาม ภิกฺขุนุปสฺสยาทิ. ยถาห ‘‘สเจ อุโภปิ ภิกฺขุนุปสฺสเย วา อนฺตราราเม วา อาสนสาลาย วา ติตฺถิยเสยฺยาย วา ตฺวา สํวิทหนฺติ, อนาปตฺติ. กปฺปิยภูมิ กิรายํ. ตสฺมา เอตฺถ สํวิทหนปจฺจยา ทุกฺกฏาปตฺตึ น วทนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๒-๑๘๓). เตเนวาห ‘‘น วทนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘น วทนฺติ อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท.
๑๑๗๘. อุภยตฺถาติ อกปฺปิยภูมิยํ ตฺวา สํวิธาย คมเน, กปฺปิยภูมิยํ ตฺวา สํวิธาย คมเน จาติ อุภยวิกปฺเป. คจฺฉนฺตสฺเสวาติ เอวกาเรน นิกฺขนฺตสฺส โชตกํ. ยถาห ‘‘นิกฺขมเน อนาปตฺตี’’ติ. ‘‘ภิกฺขุโน’’ติ อิมินา ภิกฺขุนิยา อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. อาปตฺติเขตฺตนิยมนตฺถมาห ‘‘อนนฺตรสฺสา’’ติอาทิ.
๑๑๗๙. ตตฺราปีติ ¶ กปฺปิยภูมิอุปจาโรกฺกมเนปิ. อุทีริตนฺติ มหาปจฺจริยํ. ยถาห ‘‘มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ.
๑๑๘๐. อนฺตราติ อตฺตโน นิกฺขนฺตคามสฺส, อนนฺตรคามสฺส จ เวมชฺเฌ. ยถาห ‘‘คามโต นิกฺขมิตฺวา ปน ยาว อนนฺตรคามสฺส อุปจารํ น โอกฺกมติ, เอตฺถนฺตเร สํวิทหิเตปิ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๒-๑๘๓). อิมสฺมึ สิกฺขาปเท กาลทฺวารมคฺคานํ วเสน ตโย สงฺเกตวิสงฺเกตาติ เตสุ มคฺคทฺวารวิสงฺเกเตปิ อาปตฺติ โหเตวาติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทฺวาร…เป… วุจฺจตี’’ติ. กาลวิสงฺเกเต ปน อนาปตฺตึ วกฺขติ. อาปตฺติ ปาจิตฺติ.
๑๑๘๑. อสํวิทหิเต กาเลติ ‘‘ปุเรภตฺตํ คมิสฺสามา’’ติอาทินา กตสํวิธานานํ ปจฺฉาภตฺตาทิ อสํวิทหิตกาลํ นาม, ตสฺมึ. ภิกฺขุสฺเสว วิธานสฺมินฺติ ภิกฺขุนิยา ¶ สํวิธานํ วินา ภิกฺขุสฺเสว วิธาเน สติ อาปตฺติ ทุกฺกฏํ.
๑๑๘๒. สมเย วิทหิตฺวา คจฺฉโต วา อสมเย วิทหิตฺวา วิสงฺเกเตน คจฺฉโต วา อาปทาสุ วิทหิตฺวา คจฺฉโต วา อนาปตฺตีติ โยชนา. ตถาติ ‘‘วิทหิตฺวา คจฺฉโต อนาปตฺตี’’ติ อิทํ อติทิสติ.
ตตฺถ สมโย นาม ยถาวุตฺตกาลวิเสโส. วิสงฺเกโต นาม กาลวิสงฺเกโต, ‘‘อสุกสฺมึ ทิวเส อสุกเวลาย คมิสฺสามา’’ติ สํวิทหิตฺวา คมนกาเล ตสฺส กาลสงฺเกตสฺส วิภวนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘กาลวิสงฺเกเตเยว อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๕). อาปทา นาม รฏฺเภเท ชนปทานํ ปลายนกาโล. ยถาห ‘‘รฏฺเภเท จกฺกสมารุฬฺหา ชนปทา ปริยายนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสู’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๕). เอตฺถ จ รฏฺเภเทติ รฏฺวิโลเป. จกฺกสมารุฬฺหาติ อิริยาปถจกฺกํ, สกฏจกฺกํ วา สมารุฬฺหา. อุมฺมตฺตกาทิโนติ อาทิ-สทฺเทน ขิตฺตจิตฺตาทโย คหิตา.
๑๑๘๓. กายวาจาทิกตฺตยาติ ¶ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน จิตฺตํ คหิตํ, กายวาจาจิตฺตาติ วุตฺตํ โหติ.
สํวิธานกถาวณฺณนา.
๑๑๘๔. อุทฺธํ ชวตีติ อุชฺชวนี, ปฏิโสตคามินี นาวา, ตํ. อโธ ชวนโต โอชวนี, อนุโสตคามินี นาวา, ตํ. อภิรุเหยฺยาติ เอตฺถ ‘‘สํวิธายา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาย เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๘๖). โลกสฺสาทสงฺขาตมิตฺตสนฺถเวน ตํ นาวํ อารุยฺห กีฬนจิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา อฺมฺํ สํวิธายาติ ¶ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสน กีฬาปุเรกฺขาโร สํวิทหิตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๘).
๑๑๘๕. สคามตีรปสฺเสน คมเน คามนฺตรวเสน วา ปาจิตฺติ, อคามตีรปสฺเสน คมเน อทฺธโยชเน ปาจิตฺติ อทฺธโยชนาติเรเก าเน คาเม วิชฺชมาเนปิ อวิชฺชมาเนปิ.
๑๑๘๖. โยชนปุถุลาย นทิยา มชฺเฌน คจฺฉโต อทฺธโยชนวเสน อาปตฺติทสฺสนตฺถมาห ‘‘ตถา’’ติอาทิ. ‘‘อูนโยชนปุถุลาย นทิยา มชฺฌํ อุภยภาคํ ภชตีติ ตาทิสิกาย นทิยา มชฺเฌน คจฺฉนฺตสฺส คามนฺตรคณนาย, อทฺธโยชนคณนาย จ อาปตฺตี’’ติ วทนฺติ.
๑๑๘๗. ยถาสุขํ สมุทฺทสฺมินฺติ เอตฺถ ‘‘คนฺตพฺพ’’นฺติ เสโส. ‘‘สพฺพอฏฺกถาสู’’ติอาทินา ยถาสุขคมนานฺุาย เหตุํ ทสฺเสติ. อิมินาว อสนฺทมาโนทเกสุ วาปิตฬากาทีสุ อนาปตฺตีติ วิฺายติ.
๑๑๘๘. ติตฺถสมฺปาทนตฺถายาติ ปรติตฺถํ ปาเปตุํ. ตํ นาวํ. ยุตฺตาติ นาวาปาชกา.
๑๑๘๙. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ อิมํ สงฺคณฺหาติ. อสํวิทหิตฺวา ภิกฺขุนิยา สทฺธึ เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺย วา, ติริยํ ตรณาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิทหิตฺวาปิ เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺย วา, อาปทาสุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิทหิตฺวาปิ เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺย วา, ตถา อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
‘‘อนนฺตรสโม’’ติ ¶ ¶ อิมินา ‘‘อสํวิทหิเต กาเล’’ติอาทินา วุตฺตวินิจฺฉยํ สงฺคณฺหาติ. อิธาปิ กาลวิสงฺเกเต อนาปตฺติ, ติตฺถนาวาวิสงฺเกเต อาปตฺติเยว. ยถาห ‘‘อิธาปิ กาลวิสงฺเกเตเนว อนาปตฺตี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๙๑). ‘‘โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสน กีฬาปุเรกฺขาโร สํวิทหิตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๘) วจนโต เกจิ ‘‘อิมํ สิกฺขาปทํ อกุสลจิตฺตํ โลกวชฺช’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. กีฬาปุเรกฺขารตาย หิ อภิรุหิตฺวา คามนฺตโรกฺกมเน, อทฺธโยชนาติกฺกเม วา กุสลาพฺยากตจิตฺตสมงฺคีปิ หุตฺวา อาปตฺตึ อาปชฺชติ. ยทิ หิ โส สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา อรหตฺตํ วา สจฺฉิกเรยฺย, นิทฺทํ วา โอกฺกเมยฺย, กมฺมฏฺานํ วา มนสิ กโรนฺโต คจฺเฉยฺย, กุโต ตสฺส อกุสลจิตฺตสมงฺคิตา, เยนิทํ สิกฺขาปทํ ‘‘อกุสลจิตฺตํ, โลกวชฺช’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺมา ปณฺณตฺติวชฺชํ, ติจิตฺตนฺติ สิทฺธํ.
นาวาภิรุหนกถาวณฺณนา.
๑๑๙๐. คิหิสมารมฺภํ หิตฺวา ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตํ ภตฺตํ ตฺวา ภฺุชโต ภิกฺขุโน ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. ปริปาจิตํ นาม ภิกฺขุโน สีลสุตาทิคุณํ กุลานํ วตฺวา นิปฺผาทิตํ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตํ, คุณปฺปกาสเนน นิปฺผาทิตํ ลทฺธพฺพํ กตนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๙๔). คิหิสมารมฺภนฺติ ภิกฺขุนิยา ปริปาจนโต ปุพฺเพเยว คิหิปฏิยตฺตํ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุนิยา ปริปาจนโต ปมเมว ยํ คิหีนํ ปฏิยาทิตํ ภตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๙๔). วกฺขติ หิ ‘‘คิหิสมฺปาทิตมฺปิ วา วินา’’ติ.
๑๑๙๑. ‘‘ตสฺสา’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ยํ โภชน’’นฺติ โยเชตพฺพํ. ตสฺสาติ ปฺจธา วุตฺตสฺส โภชนสฺส. สพฺเพสุ ¶ อชฺโฌหาเรสูติ สพฺเพสุ ปรคลกรณปฺปโยเคสุ.
๑๑๙๒. ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตํ ภฺุชโต โทโสติ โยชนา.
๑๑๙๓. อุโภสูติ ปริปาจิเตปิ อปริปาจิเตปิ. สพฺพตฺถาติ อิเมสุ ทฺวีสุ ปริภฺุชโต อชฺโฌหารวเสเนว ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๑๙๕. ปฺจโภชนํ ¶ เปตฺวา อฺํ ปน ยํ กิฺจิ ยาคุขชฺชผลาทิกํ ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา.
ปริปาจิตกถาวณฺณนา.
๑๑๙๗. อิทํ สพฺพํ ทสมํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานนยาทินา ทุติยานิยเตเนว สทิสํ มตนฺติ โยชนา. อิทํ สิกฺขาปทนฺติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กปฺเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๙๙) วุตฺตํ รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ.
รโหนิสชฺชกถาวณฺณนา.
ภิกฺขุนิวคฺโค ตติโย.
๑๑๙๘. เอโกติ เอกทิวสิโก. อาวสโถ ปิณฺโฑติ ปฺุตฺถิเกหิ เอกํ ปาสณฺฑํ อนุทฺทิสฺส ยาวทตฺถํ ทาตุํ สาลาทีสุ ปฺตฺตํ ปฺจสุ โภชเนสุ อฺตรํ โภชนํ. ยถาห ‘‘อาวสถปิณฺโฑ นาม ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ สาลาย วา มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา อชฺโฌกาเส วา อโนทิสฺส ยาวทตฺโถ ปฺตฺโต โหตี’’ติ ¶ (ปาจิ. ๒๐๖). อคิลาเนนาติ เอตฺถ ‘‘อคิลาโน นาม สกฺโกติ ตมฺหา อาวสถา ปกฺกมิตุ’’นฺติ วุตฺต ปทภาชนิยอฏฺกถายํ ‘‘อทฺธโยชนํ วา โยชนํ วา คนฺตุํ สกฺโกตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๐๖) วุตฺตตฺตา ตมฺหา อาวสถา อทฺธโยชนํ วา โยชนํ วา คนฺตุํ สมตฺเถน อคิลาเนนาติ อตฺโถ. ตโต อุทฺธนฺติ ทุติยทิวสโต อุตฺตริ.
๑๑๙๙. อโนทิสฺเสว ปฺตฺเต ปิณฺเฑติ โยชนา, ‘‘อิเมสํเยว วา’’ติ อฺตรํ ปาสณฺฑํ วา ‘‘เอตฺตกานํเยว วา’’ติ ตตฺถ ปุคฺคลปริจฺเฉทํ วา อกตฺวา สพฺพสาธารณํ กตฺวา ปฺตฺเต อาวสถปิณฺเฑติ อตฺโถ. ยาวทตฺเถ เอว ปิณฺเฑ ปฺตฺเตติ โยชนา, ยาวตา อตฺโถ กุจฺฉิปูรณาทิกํ ปโยชนเมตฺถ ปิณฺเฑติ วิคฺคโห, ‘‘เอตฺตกํ ทาตพฺพ’’นฺติ อปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ภฺุชนฺตานํ ยาวทตฺถํ ทาตพฺพ’’นฺติ ปฺตฺเต ปิณฺเฑ เอวาติ อตฺโถ. ภฺุชิตพฺพนฺติ กมฺมสาธนํ วา ภาวสาธนํ วา. ‘‘โภชน’’นฺติ อชฺฌาหรณียํ. สกินฺติ เอกวารํ. ตตฺถาติ อาวสเถ.
๑๒๐๐. ตสฺส ¶ ปิณฺฑสฺส. อชฺโฌหาเรสุ สพฺเพสูติ สพฺเพสุ อชฺโฌหารปฺปโยเคสุ กเตสุ. ตสฺส อชฺโฌหารกสฺส. ปาจิตฺติโย ปโยคคณนาย.
๑๒๐๑. ‘‘เอเกน กุเลน นาเนกฏฺานเภเทสุ ปฺตฺเต’’ติ, ‘‘นานากุเลหิ วา นาเนกฏฺานเภเทสุ ปฺตฺเต’’ติ จาติ โยชนา. ‘‘ปิณฺเฑ’’ติ อธิกาโร. นานา จ เอโก จ นาเนกา, านานํ เภทา านเภทา, นาเนกา จ เต านเภทา จาติ วิคฺคโห, เตสุ. เอกโภโคติ เอกปิณฺฑปริโภโค. เอวกาเรน ทุติยทิวสาทิปริโภคํ นิวตฺเตติ.
๑๒๐๔. คิลานสฺสาติ ¶ วุตฺตลกฺขเณน คิลาโน หุตฺวา ปุนปฺปุนํ ภฺุชนฺตสฺส คจฺฉโต วา อาคจฺฉนฺตสฺส วา อนาปตฺตีติ โยชนา, อนฺตมโส อทฺธโยชนมฺปิ คจฺฉโต, คนฺตฺวา อาคจฺฉโต วา อนฺตรามคฺเค จ คตฏฺาเน จ เอกสฺมึ ทิวเส ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘โย คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค เอกทิวสํ, คตฏฺาเน จ เอกทิวสํ ภฺุชติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติ. อาคจฺฉนฺเตปิ เอเสว นโย’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๐๘). โอทิสฺส ปฺตฺเตติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘ภิกฺขูนํเยว อตฺถาย อุทฺทิสิตฺวา ปฺตฺโต โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๐๘). ปริตฺเตติ อุทรปูรณาย อปฺปโหนเก โถเก โภชเน. ยถาห ‘‘ยาวทตฺถํ ปฺตฺโต น โหติ, โถกํ โถกํ ลพฺภติ, ตาทิสํ นิจฺจมฺปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๐๘). สกินฺติ ยาวทตฺถํ ปฺตฺตํ วุตฺตนเยน เอกวารํ ภฺุชโต อนาปตฺติ.
๑๒๐๕. ยาคุอาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ปฺจโภชนโต อฺเสํ อชฺโฌหรณียานํ คหณํ.
อาวสถกถาวณฺณนา.
๑๒๐๖. วุตฺตา สมยา อฺตฺราติ โยชนา, ‘‘ตตฺถายํ สมโย, คิลานสมโย จีวรทานสมโย จีวรการสมโย อทฺธานคมนสมโย นาวาภิรุหนสมโย มหาสมโย สมณภตฺตสมโย’’ติ (ปาจิ. ๒๑๗) วุตฺตา สตฺตวิธกาลา อฺตฺร.
ตตฺถ ยทา ปาทานํ ผลิตตฺตา น สกฺโกติ ปิณฺฑาย จริตุํ, อยํ คิลานสมโย. อตฺถตกถินานํ ปฺจ มาสา, อิตเรสํ กตฺติกมาโสติ อยํ จีวรทานสมโย. ยทา ¶ จีวเร กริยมาเน กิฺจิเทว จีวเร กตฺตพฺพํ กโรติ, อยํ จีวรการสมโย. ยทา อทฺธโยชนมฺปิ คนฺตุกาโม ¶ วา โหติ, คจฺฉติ วา, คโต วา, อยํ อทฺธานคมนสมโย. นาวาภิรุหนสมเยปิ เอเสว นโย. ยทา โคจรคาเม จตฺตาโร ภิกฺขู ปิณฺฑาย จริตฺวา น ยาเปนฺติ, อยํ มหาสมโย. ยทา โย โกจิ ปพฺพชิโต ภตฺเตน นิมนฺเตติ, อยํ สมณภตฺตสมโย. คโณ กตโมติ อาห ‘‘คโณ’’ติอาทิ.
๑๒๐๗. คณโภชนํ นาม กินฺติ อาห ‘‘ย’’นฺติอาทิ. ยํ ปฺจนฺนํ อฺตรํ นิมนฺตนโต, วิฺตฺติโต วา ลทฺธํ, ตํ อิธ โภชนนฺติ อธิปฺเปตํ โหตีติ โยชนา. นิมนฺตนโตติ ‘‘โภชนาน’’นฺติอาทินา วกฺขมานปฺปกาเรน กตํ อกปฺปิยนิมนฺตนมาห. วิฺตฺติโตปิ วาติ ‘‘สเจปี’’ติอาทินา วกฺขมานนเยน กตมกปฺปิยวิฺตฺติมาห.
๑๒๐๘-๑๑. โภชนานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ, ‘‘อฺตรสฺสา’’ติ เสโส, ‘‘โอทโน สตฺตุ กุมฺมาโส, มจฺโฉ มํสฺจ โภชน’’นฺติ สงฺคหิตานํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรสฺส. นามนฺติ วกฺขมานํ โอทนาทินามํ. ภิกฺขู นิมนฺเตตีติ เอตฺถ ‘‘เอกโต, นานโต วา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘เอกโต นิมนฺติตา. นานโต นิมนฺติตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๑๗-๒๑๘). เอกโต นิมนฺตนํ นาม สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ เอกโต ิตานํ นิมนฺตนํ. นานโต นิมนฺตนํ นาม ภิกฺขูนํ วิสุํ วิสุํ วสนฏฺานํ คนฺตฺวา วา เอกโต ิตฏฺานํ คนฺตฺวา วา อเนเกหิ นิมนฺตนํ. ยถาห ‘‘จตฺตาริ ปริเวณานิ วา วิหาเร วา คนฺตฺวา นานโต นิมนฺติตา, เอกฏฺาเน ิเตสุเยว วา เอโก ปุตฺเตน, เอโก ปิตราติ เอวมฺปิ นานโต นิมนฺติตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๑๗-๒๑๘).
เววจนํ ¶ นาม โอทนาทิสพฺพปทานํ, สมฺปฏิจฺฉถาติอาทิกิริยาปทานฺจ ปริยายวจนํ. ภาสนฺตรํ นาม มาคธวจนโต อฺํ สีหฬทมิฬาทิโวหารนฺตรํ. เววจเนหิ เอว วา ภาสนฺตเรน วา นิมนฺเตตีติ สมฺพนฺโธ.
ตโต นิมนฺตนานนฺตรํ. นิมนฺตนนฺติ ยถาวุตฺตํ อกปฺปิยนิมนฺตนํ. เอกโต คณฺหนฺตีติ อฺมฺสฺส ทฺวาทสหตฺถํ อมฺุจิตฺวา ิตา วา นิสินฺนา วา เอกโต คณฺหนฺติ.
‘‘คณโภชนการณ’’นฺติ ¶ อิทํ โภชนปจฺจยา ปาจิตฺติยํ เอวํ คหณมนฺตเรน น โหตีติ วุตฺตํ.
๑๒๑๒. เอกโต, นานโต วาปิ ยํ คมนํ, โภชนมฺปิ วา, ตํ คณโภชเน น การณนฺติปิ วิฺู ภณนฺตีติ โยชนา. เอกโต นานโต วาปีติ เอตฺถ ‘‘ิตา วา นิสินฺนา วา’’ติ เสโส.
๑๒๑๓-๔. วิฺาเปตฺวาติ ‘‘อมฺหากํ จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทหี’’ติอาทินา เอกโต วา ‘‘มยฺหํ เทหิ, มยฺหํ เทหี’’ติ ปาเฏกฺกํ วา วิฺาเปตฺวา. เอวมฺปีติ วิฺตฺติโตปิ.
๑๒๑๕. ทุวิธสฺสาติ นิมนฺตกสฺส, วิฺาปกสฺส จ.
๑๒๑๖. สตฺตสุปิ สมเยสุ ภฺุชตํ อนาปตฺตีติ โยชนา, ‘‘คณโภชน’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ, ยถาวุตฺเตสุ คิลานาทีสุ สตฺตสุ กาเลสุ เลสํ วินา ภฺุชนฺตานนฺติ อตฺโถ. ‘‘เอกโต’’ติ อิทํ ‘‘คเหตฺวา’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ. ภฺุชตนฺติ ภฺุชนฺตานํ. ตถาติ ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ.
๑๒๑๗. อนุปสมฺปนฺโน จ จารี จ ปตฺโต จ อนิมนฺติโต จ อนุปสมฺปนฺน…เป… นิมนฺติตา, เต จตุตฺเถ กตฺวาติ อตฺโถ ¶ , อนุปสมฺปนฺนํ วา ปิณฺฑจารึ วา จตุตฺถสฺส ปตฺตํ วา อนิมนฺติตํ วา จตุตฺถํ กตฺวา เอกโต คเหตฺวา ภฺุชนฺตานํ คณเภโท มุนินา ปกาสิโต, คณสฺส อปริปุณฺณตา ทีปิตาติ วุตฺตํ โหติ. ปิณฺฑาย จรติ สีเลนาติ ปิณฺฑจารี, โส อิธ ปุพฺพปทโลเปน ‘‘จารี’’ติ วุตฺโต, ปิณฺฑปาติโก. โส หิ นิมนฺตนํ อสาทิยนฺโต คณโภชนโก คณขาทโก น โหตีติ อธิปฺปาโย. ปตฺโต นาม วิหาเร นิสีทิตฺวา จตุตฺเถน อตฺตนา ลทฺธพฺพโภชนตฺถาย เปสิโต ปตฺโต. อนิมนฺติโต นาม ปมํ อกปฺปิยนิมนฺตนาย นิมนฺติเต อนนฺโตคโธ อุปสมฺปนฺโน. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. อปิ-สทฺโท เหฏฺา ทสฺสิตํ ทฺวินฺนํ, ติณฺณํ วา วเสน วุตฺตวินิจฺฉยํ อเปกฺขติ.
๑๒๑๘. สมยลทฺธานนฺติ คิลานาทโย สตฺตสมยา ลทฺธา เยหิ เต สมยลทฺธา, เตสํ, นิทฺธารเณ ¶ สามิวจนํ. ‘‘อฺตรสฺสา’’ติ เสโส, ‘‘วเสนา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เนว คณเภโทติ โยชนา. สมยลทฺธกสฺส อตฺตโน อนาปตฺติภาวมนฺตเรน ตํ จตุตฺถํ กตฺวา คณโภชนํ คณฺหนฺตานํ ปน อาปตฺติสมฺภวโต อาห ‘‘อาปตฺติ ปน เวทิตพฺพา’’ติ. ยถาห มหาปจฺจริยํ ‘‘สมยลทฺธโก สยเมว มุจฺจติ, เสสานํ คณปูรกตฺตา อาปตฺติกโร โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๒๐).
๑๒๑๙. ปฺจโภชเนสุ อฺตรสฺส นามํ คเหตฺวา นิมนฺเตตฺวา เตสุเยว อฺํ ทิยฺยมานํ คณฺหนฺตสฺส วิสงฺเกตาภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โภชนานฺจา’’ติอาทิ. โภชนานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ, อฺตรสฺส วเสนาติ วุตฺตํ โหติ. ตํ วิสงฺเกตํ, โอทนาทีนํ นาเมน นิมนฺเตตฺวา ¶ ทิยฺยมานํ ยาคุอาทึ คณฺหนฺตสฺส คณโภชนํ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๒๒๑. ‘‘นิจฺจภตฺต’’นฺติ ธุวภตฺตํ วุจฺจติ. ‘‘นิจฺจภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, พหูนมฺปิ เอกโต คเหตุํ วฏฺฏติ. สลากภตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย.
คณโภชนกถาวณฺณนา.
๑๒๒๓-๔. พหูหิ มนุสฺสเกหีติ วิสุํ วิสุํ นิมนฺติเตหิ อเนเกหิ มนุสฺเสหิ. ปฺจสุ ยสฺส กสฺสาติ เอตฺถ ‘‘สหธมฺมิเกสู’’ติ เสโส, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ, ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ ยสฺส กสฺสจีติ อตฺโถ. ‘‘หิตฺวา’’ติอาทินา กิมาหาติ? ยสฺส วิกปฺเปติ, ตสฺมึ สนฺนิหิเต ‘‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ สมฺมุขา วิกปฺปนวเสน วา ตสฺมึ อสนฺนิหิเต ตสฺส นามํ คเหตฺวา ‘‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ อสมฺมุขา วิกปฺปนวเสน วา ปมนิมนฺตนาย วิกปฺปนํ หิตฺวา, ตํ อวิกปฺเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
ภตฺตนฺติ เอตฺถ ‘‘โย ภฺุชตี’’ติ เสโส. นิมนฺติโต โย ปจฺฉา นิมนฺติตํ ภตฺตํ ภฺุชติ, ตสฺส ปาจิตฺติยนฺติ โยชนา. อุปฺปฏิปาฏิยา เอกสิตฺถมฺปิ ภฺุชโต ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนาติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ปจฺฉา นิมนฺติตานํ โภชนํ ปมํ ภฺุชิตฺวา ปมํ นิมนฺติตานํ โภชนํ ปจฺฉา ภฺุชนฺตสฺส จ เอกปตฺเตเยว เหฏฺา ปมํ นิมนฺติตานํ โภชนํ ปกฺขิปิตฺวา อิตรํ อุปริ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา หตฺถํ โอตาเรตฺวา เหฏฺา ิตโภชเน ¶ เอกสิตฺถมฺปิ ปมํ อภฺุชิตฺวา อุปริ ิตํ ปมํ ภฺุชนฺตสฺส จาติ วุตฺตํ โหติ. เตเนว ยถา อุปฺปฏิปาฏิ น โหติ, ตถา มิสฺสีกตํ โภชนํ ภฺุชนฺตสฺส น โทโสติ มหาปจฺจริยํ วินิจฺฉโย ¶ พฺยติเรกโต ทสฺสิโต โหติ. ยถาห ‘‘ทฺเว ตีณิ กุลานิ นิมนฺเตตฺวา เอกสฺมึ าเน นิสีทาเปตฺวา อิโต จิโต จ อาหริตฺวา ภตฺตํ อากิรนฺติ, สูปพฺยฺชนํ อากิรนฺติ, เอกมิสฺสกํ โหติ, เอตฺถ อนาปตฺตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๒๙).
๑๒๒๕-๖. ปรมฺปรโภชนสฺส สรูปํ ปทภาชเน วุตฺตนเยน ทสฺเสตุมาห ‘‘โภชนานมฺปี’’ติอาทิ. เตสเมว ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ ปริภฺุชตีติ โยชนา. มเหสินา ปริทีปิตนฺติ ปทภาชเน ‘‘ปรมฺปรโภชนํ นาม ปฺจนฺนํ โภชนาน’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๒๒๗) นเยน วุตฺตํ.
๑๒๒๗. ยตฺถาติ อเนเกหิ เอกภาชเน ปกฺขิตฺเต ยสฺมึ โภชเนติ วุตฺตํ โหติ เอเกเนว ทินฺเน วิจารณาภาวา. สพฺพเมกรสํ สิยาติ วิสุํ วิสุํ วิฺายมานรสํ อหุตฺวา เอกรสเมว โหติ.
๑๒๓๐. ‘‘คาเมนา’’ติ อิมินา คามฏฺาเยว วุตฺตา. ‘‘นิมนฺติตสฺส โทโส น วิชฺชตี’’ติ อิทํ คามปูคนิคเมหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. คาม-สทฺเทน ‘‘คามา วา อรฺา วา’’ติ (ปารา. ๙๑) เอตฺถ วิย นครมฺปิ สงฺคหิตํ. ปูโค นาม วิสุํ วิสุํ สมูหา หุตฺวา ปฺุการิโน ธมฺมิกมนุสฺสา. นิคโม นาม สาปโณ มหาคาโม. สกลคาเมน นิมนฺติโต หุตฺวา สมฺปตฺเต ยตฺถ กตฺถจิ เคเห ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. ปูคาทีสุปิ เอเสว นโย. ยถาห ‘‘สกเลน คาเมน เอกโต หุตฺวา นิมนฺติตสฺเสว ยตฺถ กตฺถจิ ภฺุชโต อนาปตฺติ. ปูเคปิ เอเสว นโย’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๒๙). นิจฺจภตฺเต โทโส น วิชฺชตีติ อเนกฏฺานโต ทิยฺยมานํ นิจฺจภตฺตมฺปิ อุปฺปฏิปาฏิยา ภฺุชนฺตสฺส น โทโสติ วุตฺตํ โหติ.
๑๒๓๑. กาโย ¶ ¶ วาจา กายวาจาจิตฺตนฺติ อิเมหิ อาปชฺชนํ กถินสมุฏฺานํ นาม. อิธ กฺริยํ นาม โภชนํ, อกฺริยํ นาม ปมนิมนฺตนสฺส อวิกปฺปนํ, อิทํ ทฺวยเมวาห ‘‘โภชนฺจาวิกปฺปน’’นฺติ.
ปรมฺปรโภชนกถาวณฺณนา.
๑๒๓๒-๓. ปูวาติ อติรสาทโย รสา. ปเหณกตฺถายาติ ปณฺณาการตฺถาย. ปฏิยตฺตาติ สมฺปาทิตา. ปาเถยฺยตฺถายาติ คมิกสฺส สมฺพลตฺถาย. ปฏิยตฺตา มนฺถา วาติ สมฺพนฺโธ. มนฺถา นาม พทฺธสตฺตุอพทฺธสตฺตุติลตณฺฑุลาทโย. ยถาห ‘‘พทฺธสตฺตุอพทฺธสตฺตุติลตณฺฑุลาทิ สพฺพํ อิธ มนฺโถตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓). เย ปูวา, มนฺถา วาติ โยชนา. หีติ นิปาตมตฺตํ. ตตฺถ ปฏิยตฺเตสุ เตสุ ปูเวสุ วา มนฺเถสุ วา. ภิกฺขุนาติ เอตฺถ ‘‘อากงฺขมาเนนา’’ติ เสโส.
ทฺวตฺติปตฺตาติ ทฺเว วา ตโย วา ปตฺตาติ วิคฺคโห. ปูราติ มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมราชิสมํ ปุณฺณา. ยถาห ‘‘มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมเลขาย สมปูเร ปตฺเต คเหตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓). ‘‘ทฺวตฺติปตฺตา ปูรา’’ติ เจตฺถ ปริมาณํ ทสฺสิตํ, ปริมาณปริเมยฺยานํ อเภโทปจาเรน ปูวมนฺถา คเหตพฺพา ยถา ‘‘ทฺเว ติสฺโส ตณฺฑุลนาฬิโย’’ติ. ปูเวหิ วา สตฺตูหิ วาติ โยชนา. สตฺตูติ พทฺธสตฺตุอพทฺธสตฺตูนํ คหณํ, อิมินาว ติลาทีนิ อุปลกฺขิตานิ. ตติยปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา เหฏฺาราชิยา อุทฺธํ กตฺวา ปกฺขิตฺตฺเจตํ ‘‘ตโต อุตฺตริ’’นฺติ อิมินา จ คยฺหติ. ยถาห ‘‘สเจ ตติยํ ปตฺตํ ถูปีกตํ คณฺหาติ, ปูวคณนาย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓).
๑๒๓๗. ตตฺถ ¶ เตสุ ปูเวสุ วา มนฺเถสุ วา ทฺเว เจ ปตฺตปูรา ลทฺธาติ โยชนา. เอโก ปตฺตปูโร ปทาตพฺโพติ โยชนา. เอกโตติ เอกปตฺตปูรโต น ปทาตพฺโพติ โยชนา, กิฺจิปิ อกามา น ทาตพฺพนฺติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘เยน เอโก คหิโต, น เตน กิฺจิ อกามา ทาตพฺพํ. ยถารุจิ กาตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓). เอวํ ททนฺเตน อาสนสาลาย วา อตฺตโน นิพทฺธวาสฏฺาเน วา ทิฏฺสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สาธารณํ กตฺวา ทานมนฺตเรน น มิตฺตานเมว ทาตพฺพํ. ยถาห ‘‘ยถามิตฺตํ ปน ทาตุํ น ลพฺภตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓).
๑๒๓๘-๙. อปเหณกํ ¶ อปาเถยฺยํ เทนฺตานนฺติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘น ปเหณกตฺถาย น ปาเถยฺยตฺถาย ปฏิยตฺตํ เทนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๕). ตโตติ ปเหณกปาเถยฺยโต. วา-สทฺเทน อิธ อวุตฺตํ ‘‘คมเน ปฏิปฺปสฺสทฺเธ เทนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๕) อนาปตฺติวาเร วุตฺตํ สงฺคณฺหาติ. ตทูนกนฺติ ตโต ทฺวตฺติปตฺตโต อูนกํ. ยถาห ‘‘อูนกทฺวตฺติปตฺตปูเร ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๕). อปาเถยฺยาทิอตฺถาย ปฏิยาทิตนฺติ สฺาย ปาเถยฺยาทึ คณฺหนฺตสฺสาปิ อาปตฺติเยว อจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส. อตฺตโนเยว คหณตฺถํ ‘‘อิมสฺส หตฺเถ เทหี’’ติ วจเนนาปิ อาปชฺชนโต วจีกมฺมํ.
กาณมาตุกถาวณฺณนา.
๑๒๔๐. อฺเนาติ ตทฺธิตโลเปน นิทฺเทโส, อฺตเรนาติ อตฺโถ, ปวาริโตติ สมฺพนฺโธ. โภชนานนฺติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ปวาริโตติ ‘‘คณฺหถ ภนฺเต ยาว อิจฺฉถา’ติ เอวํ ยาวทตฺถปวารณาย, สยฺจ ‘อลํ อาวุโส โถกํ โถกํ เทหี’ติ เอวํ ปฏิกฺเขปปวารณายา’’ติ อฏฺกถาย วุตฺตปฺปการทฺวเยน ปวาริโตติ อตฺโถ ¶ . วิกปฺปทฺวเย ปการทฺวเย ปวาริต-สทฺเท วร-ธาตุสฺส ปตฺถนวารณตฺถวเสนายมตฺโถ เวทิตพฺโพ, ‘‘ปาจิตฺติ อนติริตฺต’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อนติริตฺตํ โภชน’’นฺติ วิเสสิตพฺพมเปกฺขิตฺวา ‘‘อฺเนา’’ติ เอตฺถ วิภตฺตึ วิปริณาเมตฺวา ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชน’’นฺติ โยเชตพฺพํ, วกฺขมาเน อนติริตฺตกตโภชนนิทฺเทเส วุตฺเตสุ ปฺจสุ โภชเนสุ อฺตรํ โภชนนฺติ อตฺโถ. ‘‘ขาทนียํ วา โภชนียํ วา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๖, ๒๓๘) สห เทสิตตฺตา เอกโยคาเยน ‘‘ขาทนียํ วา’’ติ จ คเหตพฺพํ. ปฺจ โภชนานิ, กาลิกตฺตยฺจ เปตฺวา สพฺพํ ยาวกาลิกํ ขาทนียนฺติ วุตฺตํ.
๑๒๔๑. อสนนฺติ เอตฺถ วิปฺปกตโภชนํ ทิสฺสติ, ภฺุชมาโน เจ ปุคฺคโล โหติ, โภชนกิริยานุปจฺฉินฺนา วตฺตตีติ อตฺโถ. โภชนนฺติ ปวารณปโหนกโอทนาทิ หตฺถาทีสุ ทิสฺสติ. หตฺถปาโสติ ปวารณปโหนกํ โภชนํ ทาตุํ อภิหริตฺวา ิโตกาโส อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาโณ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อภิหรณํ อภิหาโร, โส เอว อภิหารตา, ตถา ทาตุํ ิตสฺส กาเยน กโต อภิหาโร ทิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติ. กายวาจาปฏิกฺเขโปติ ตถา อภิหเฏ โภชเน ปฏิคฺคาหกสฺส หตฺถวิการาทิโก กายิโก วา ‘‘อล’’นฺติอาทิโก วาจสิโก วา ปฏิกฺเขโป ปฺายตีติ อตฺโถ.
๑๒๔๒. นิปฺปปฺเจนาติ ¶ สห วาสนาย ปหีนตณฺหาทิปปฺจตฺตยรหิเตน ตถาคเตน.
๑๒๔๓. ตตฺถาติ โอทนาทีสุ. สตฺตนฺนนฺติ ‘‘สาลี’’ติอาทินา วกฺขมานานุรูปานํ.
๑๒๔๔. โอทโกติ ¶ อุทเก ภโว. เอตฺถาติ ปฺจงฺคปวารณาย. อยํนิจฺฉโยติ วกฺขมานวิธิปฺปการํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสติ.
๑๒๔๕. สาลีติ สพฺพสาลิชาติ. วีหีติ สพฺพวีหิชาติ. กงฺคูติ เสตรตฺตกาฬเภทา สพฺพา กงฺคุชาติ. วรโก เสตวรโก. ธฺเน สมฺภตปฺุสมฺภาเรน ภควตา.
๑๒๔๖. ติณนฺติ ติณพีชเมว วุตฺตํ. ทีปิตํ สงฺคหิตํ. วรกโจรโกติ สุขุมวรโก.
๑๒๔๘. องฺคสมฺปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘หตฺเถนา’’ติอาทิ.
๑๒๕๑-๒. ธฺรสาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ทธิอาทโย คหิตา. อาโรเปตฺวาติ อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา. ผลนฺติ เอลาฬุกาทิผลํ. ปณฺณนฺติ สูปสากํ. กฬีรนฺติ เวฬุอาทีนํ กฬีรํ. พหูนีติ เตสเมว วิเสสนํ. ตตฺถ จาติ ปกฺขิตฺตปณฺณาทิมฺหิ ตกฺกาทิเก. โอธึ ทสฺเสตีติ เอตฺถ ‘‘ปริโภคกาเล’’ติ เสโส. สฺชเนตีติ เอตฺถ ‘‘ผลาทิยาคู’’ติ ลพฺภติ.
๑๒๕๓-๔. รเสติ มํสาทิรเส. ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วา ‘‘ยาคุ’’นฺติ วา วตฺวาติ โยเชตพฺพา. ยาคุ สงฺคหิตาติ เอตฺถ โอธิปฺายนอปฺายนวิกปฺปทฺวเย ยาคุยา สโม วินิจฺฉโยติ อธิปฺปาโย.
๑๒๕๕. ฉุปนฺตีติ ¶ สมฺผุสนฺติ. ฉุป สมฺผสฺเสติ ธาตุ, ปกฺขิปนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ¶ ‘‘ยตฺถ มจฺฉมํสํ ปกฺขิปนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙). สาสปมตฺตมฺปิ มจฺฉมํสํ วา สเจ ปฺายตีติ โยชนา. ปวารณนฺติ เอตฺถ ‘‘ชเนตี’’ติ เสโส. ยาคุยาติ ปทํ ปจฺจตฺตวเสน วิปริณาเมตฺวา ยาคุ ชเนตีติ โยเชตพฺพํ.
๑๒๕๖. สํสฏฺโติ ปริสฺสาวิโต น สฺชเนตีติ โยชนา.
๑๒๕๗. สพฺพโส เปตฺวาติ สมฺพนฺโธ. มํสาทิปกฺขิตฺตโอทนาทิปฺปกรณาวเสสโต องฺคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สพฺพโส’’ติ. สพฺพโส น ปวาเรตีติ โยชนา. เวฬุตณฺฑุลนฺติ เวฬุวีหีนํ ตณฺฑุลํ. อาทิ-สทฺเทน กนฺทมูลํ สงฺคหิตํ. ยถาห ‘‘เวณุตณฺฑุลาทีหิ วา กนฺทมูลผเลหิ วา เยหิ เกหิจิ กตภตฺต’’นฺติ.
๑๒๕๘. ตโตติ สาลิอาทิโต, เวฬุอาทิโต จ, ตโต นิพฺพตฺตา ปุถุกา วาติ อตฺโถ. ตาหีติ ปุถุกาหิ. สุทฺธาติ ปุถุกาทีหิ อมิสฺสา น ปวาเรนฺตีติ สมฺพนฺโธ.
๑๒๕๙. ภฏฺานนฺติ ภชฺชิตานํ. สตฺตูหิ สงฺคหิตํ สตฺตุสงฺคหิตํ.
๑๒๖๑. สตฺตูนํ โมทโกติ สตฺตุพทฺธํ, พทฺธสตฺตูติ อตฺโถ.
๑๒๖๓. เตเหวาติ ลาเชหิ เอว. สุทฺธํ ขชฺชกํ วาติ วกฺขมานนเยน มจฺฉาทีหิ อสมฺมิสฺสํ ขชฺชกํ.
๑๒๖๔. ‘‘ปูริต’’นฺติอาทินา ¶ ตพฺพิปริยายํ ทสฺเสติ. ตนฺติ กุณฺฑกาทิ.
๑๒๖๖. อกปฺปิยํ มํสํ. อวตฺถุตฺตาติ อกปฺปิยมํสานํ วาเรตพฺพตฺตา ปวารณาย อวตฺถุตฺตา.
๑๒๖๗. วตฺถุกตฺตาติ กปฺปิยมํสสฺส ปวารณาย วตฺถุภูตตฺตา. ปวาเรตีติ เอตฺถ ‘‘ขาทิยมานสฺส จ มํสตฺตา’’ติ เสโส ทฏฺพฺโพ. ยถาห ‘‘ยํ ปน ขาทติ, ตํ กิฺจาปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ¶ ิตํ, ขาทิยมานํ ปน มํสภาวํ น ชหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙).
๑๒๖๘. กิฺจิ กปฺปิยโภชนนฺติ ปฺจสุ โภชเนสุ ยํ กิฺจิ กปฺปิยโภชนํ.
๑๒๖๙. อกปฺปิยํ มํสํ อฺนฺติ อกปฺปิยมํสโต อวเสสํ กุลทูสนาทิวเสน อุปฺปนฺนโภชนํ คหิตํ. ยถาห ‘‘กุลทูสนเวชฺชกมฺมอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนสาทิตรูปิยาทีหิ นิพฺพตฺตํ พุทฺธปฏิกุฏฺํ อเนสนาย อุปฺปนฺนํ อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตี’’ติ.
๑๒๗๐-๑. อสนํ โภชนนฺติ องฺคทฺวเย วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ อชฺโฌหฏ’’นฺติอาทิ. อชฺโฌหฏนฺติ ปรคลคตํ โหติ. ‘‘ปตฺเต’’ติ อิมินา ถาลกาทิภาชนฺจ คหิตํ. กตฺถจิ โภชนํ นตฺถีติ โยชนา. ปตฺเต, หตฺเถ, มุเข วา ยตฺถ กตฺถจิ ปฺจนฺนํ โภชนานํ กิฺจิ น วิชฺชติ, คนฺธมตฺตํ ปฺายตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๒๗๒. อาทายาติ เอตฺถ ‘‘อฺตฺร ภฺุชิตุ’’นฺติ เสโส. ‘‘โยปิ อฺตฺร คนฺตฺวา ภฺุชิตุกาโม มุเข ภตฺตํ คิลิตฺวา เสสํ ¶ อาทายา’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) มหาปจฺจริยฏฺกถายํ วุตฺตวจนสฺส ปมาณตฺตา อาห ‘‘น ปวาเรตี’’ติ.
๑๒๗๓. ‘‘มุเข ภตฺตํ คิลิตํ, หตฺเถ ภตฺตํ วิฆาสาทสฺส ทาตุกาโม, ปตฺเต ภตฺตํ ภิกฺขุสฺส ทาตุกาโม, สเจ ตสฺมึ ขเณ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) เอวมาคตํ กุรุนฺทฏฺกถํ สงฺคเหตุํ ‘‘มุเข จ ภตฺต’’นฺติอาทิวจนโต จ ‘‘อสนสฺส อุปจฺเฉทา’’ติอาทินา วกฺขมานาย ยุตฺติยา อสนาวสาเน ยุชฺชมานตฺตา จ อิมิสฺสา คาถาย ‘‘โภตฺตุกาโม’’ติ ปาํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ทาตุกาโม’’ติ ปาโ คเหตพฺโพ.
๑๒๗๔. ‘‘อสนสฺส อุปจฺเฉทา’’ติ อิมินา ตสฺมึเยว อาสเน ยถานิสินฺเนเนว กาตพฺเพ อสเน อาสาวจฺเฉโท ทีปิโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺมึ ปน อาสเน น ภฺุชิตุกาโม, วิหารํ ปวิสิตฺวา ภฺุชิตุกาโม, อฺสฺส วา ทาตุกาโม’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙). กุรุนฺทฏฺกถายํ ตสฺส วินิจฺฉยสฺส ทสฺสิตตฺตา ‘‘มหาปฺา’’ติ กุรุนฺทฏฺกถาจริยํ ¶ สนฺธายาห. การณาการณฺุโนติ ‘‘ปวารณสฺส อิทํ การณํ, อิทํ อการณ’’นฺติ ชานนฺตา. ‘‘การณาการณฺุนา’’ติ กตฺถจิ โปตฺถเก ลิขนฺติ. ตตฺถ มหาปฺา การณาการณฺุโน อาจริยา อสนสฺส…เป… โสติ หิ การณํ กถยนฺตีติ โยชนา.
๑๒๗๕. หตฺถปาสงฺเค วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘คณฺหโต…เป… ปสาริต’’นฺติ. คณฺหโตติ เยน อิริยาปเถน สมนฺนาคโต หุตฺวา คณฺหาติ, เอวํ คณฺหโต. ปจฺฉิมํ องฺคนฺติ ทายเกน ทินฺนสฺส ปฏิคฺคาหกสฺส โย อวยโว ปรภาเค โหติ ¶ , ตํ านาทิอิริยาปถสมนฺนาคตสฺส ปฏิคฺคาหกสฺส ปณฺหิอาทึ ปจฺฉิมํ องฺคํ. ททโต ปสาริตํ หตฺถํ วินา ปุริมํ องฺคนฺติ โยชนา. ปสาริตํ หตฺถนฺติ เอตฺถ ‘‘ทาตุ’’นฺติ เสโส. อุภินฺนนฺติ เอตฺถ ‘‘อนฺตเร’’ติ เสโส. ปฏิคฺคาหกทายกานํ ปจฺฉิมปุริมานํ อุภินฺนํ องฺคานํ อนฺตเร โอกาเส. อฑฺฒํ อุปฑฺฒํ หตฺถํ เตยฺยํ ตติยํ ยสฺสาติ วิคฺคโห, อติเรกวิทตฺถิทฺวิรตนปฺปมาณนฺติ อตฺโถ.
๑๒๗๖. อภิหารงฺเค วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตสฺมิ’’นฺติอาทิ. อฑฺฒเตยฺเย ตสฺมึ าเน ตฺวาติ โยชนา, ทฺวิรตนวิทตฺถิปมาเณ ตสฺมึ าเน ตฺวาติ อตฺโถ. อภิหฏนฺติ อุปนีตํ. ตาทิสนฺติ อภิหฏสทิสํ, ปวารณปโหนกานํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรนฺติ อตฺโถ.
๑๒๗๗-๘. อาธารเก วาปีติ วลยาทิปตฺตาธารเกปิ. อูรูสูติ ทฺวินฺนํ อูรูนํ มชฺเฌ, องฺเกติ อตฺโถ. อาหริตฺวาติ อภิหริตฺวา. ภตฺตํ คณฺหาตีติ เอตฺถ ‘‘อิโต’’ติ เสโส, ‘‘อิโต ภตฺตํ คณฺหา’’ติ อนนฺตเร นิสินฺโน จ ภาสตีติ โยชนา. ภตฺตนฺติ อุปลกฺขณํ, ปฺจสุ โภชเนสุ ยํ กิฺจีติ อตฺโถ. ตนฺติ ตถา คณฺหิตุํ วุตฺตภตฺตาทิโภชนํ. อภิหารสฺส จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท ปทปูรณตฺโถ, เอวการตฺโถ วา, อภาวา เอวาติ โยชนา.
๑๒๗๙. ‘‘ภตฺตปจฺฉิ’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณํ.
๑๒๘๐. ทียมาเนติ เอตฺถ ‘‘โภชเน’’ติ เสโส. อิตโรติ หตฺถปาเส นิสินฺโน. อภิหารงฺคสฺส อภาวา โส น ปวาริโตติ.
๑๒๘๑. ปฏิกฺเขปงฺเค ¶ ¶ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘กาเยนา’’ติอาทิ. วาจาภิหารสฺส อนงฺคตฺตา อาห ‘‘กาเยนาภิหฏ’’นฺติ. ยถาห ‘‘วาจาย อภิหฏํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙). อภิหฏโภชนํ ปฏิกฺขิปิตุํ องฺคุลิโย วา หตฺถํ วา หตฺถคตสฺส กสฺสจิ จลนาทึ ยํ กฺจิ กายวิการํ กโรนฺโต, ภมุํ อุกฺขิปนฺโต, กุชฺฌิตฺวา โอโลเกนฺโต วา กาเยน ปฏิกฺขิปตีติ วุจฺจติ. ‘‘อล’’นฺติ วา ‘‘น คณฺหามี’’ติ วา ‘‘อาคเมหี’’ติ วา ‘‘อธิวาเสหี’’ติ วา ‘‘มา อากิรา’’ติ วา ‘‘อปคจฺฉาหี’’ติ วา เอวมาทิกํ วทนฺโต วาจาย ปฏิกฺขิปตีติ วุจฺจติ.
๑๒๘๒-๓. อากิราติ เอตฺถาปิ ‘‘อิติ จา’’ติ โยเชตพฺพํ. เอวํ วทนฺตสฺส นิวาเรตุกามตาจิตฺเต สติปิ นิวารณวจเนน โหนฺตํ ปวารณํ อากิราติอาทิวิธิวจเน น โหตีติ อาห ‘‘น ปน’นฺติ ปวารณา’’ติ. ปวารณา ปน น อตฺถีติ โยชนา.
๑๒๘๔. ‘‘รสํ คณฺหถา’’ติ วเทติ สมฺพนฺโธ. ตํ สุตฺวาติ ตํ วจนํ สุตฺวา.
๑๒๘๕. ‘‘สาร’’นฺติ อิทํ วณฺณภณนมตฺตํ. ‘‘อิท’’นฺติ สามฺเน มจฺฉมํสํ วทติ, ปวารณงฺคํ โหติ. มจฺฉรสํ มํสรสนฺติ เอตฺถ ทฺวนฺทสมาสสฺสปิ สมฺภวโต ‘‘มจฺฉํ, มํสํ คณฺหา’’ติ จ วุตฺตํ โหติ, ตฺจ องฺคํ โหติ.
๑๒๘๖. ‘‘รสํ คณฺหา’’ติ วุตฺเต ปนสฺส วิกปฺปสฺส อภาวา ปวารณสฺส องฺคํ น โหติ. เตเนวาห ‘‘อตฺถิ จ มํสํ เจ’’ติ.
๑๒๘๗. มุหุตฺตํ ¶ อาคเมหีติ กฺจิ กาลํ โอโลเกหิ.
๑๒๘๘. ปนสาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน เวตฺตงฺคาทีนํ คหณํ.
๑๒๙๐. มจฺฉสูปํ มํสสูปนฺติ เอตฺถ สมาสวิกปฺปา ‘‘มจฺฉรสํ มํสรส’’นฺติ เอตฺถ วิย ทฏฺพฺพา.
๑๒๙๑. กรมฺพกนฺติ ¶ มจฺฉมํเสน วา อฺเน วา มิสฺสสฺเสว สูปวิเสสสฺส นามํ. เตเนว จ ‘‘มํสกรมฺพกํ คณฺหถ, มจฺฉกรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต นิเสเธน ปวารณา โหติ, ‘‘กรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต อนิยตวจนตฺตา น โหติ. กฬีรสูปาทีหิ สมานวินิจฺฉยภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอเสว นโย วุตฺโต’’ติ.
๑๒๙๓. เยนาติ ภตฺเตน. อาปุจฺฉิโตติ ‘‘คณฺหถา’’ติ วุตฺโต. ตสฺส ภตฺตสฺส. อตฺถิตาย ยาคุยา วิชฺชมานตฺตา. อิติ การณนฺติ อิทํ ปวารณการณํ.
๑๒๙๔. ‘‘ยาคุมิสฺสกํ คณฺหา’’ติ วุตฺเต สา ยาคุ ตตฺถ ตสฺมึ อภิหเฏ ภาชเน ปกฺขิตฺตภตฺเตน สมา วา พหุตรา วา เจ โหติ, โส เอวํ วตฺวา อภิหฏํ ปฏิกฺเขปํ ภิกฺขุ น ปวาเรติ กิราติ โยชนา. กิราติ อรุจึ สูเจติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘การณํ ปน ทุทฺทส’’นฺติ.
๑๒๙๕. สพฺพตฺถาติ สพฺพอฏฺกถาสุ.
๑๒๙๖. วิสุํ กตฺวาติ เอกสิตฺถมฺปิ ยถา น โหติ, ตถา รสํ วา ขีรํ วา ภตฺตโต วิโยเชตฺวา.
๑๒๙๗. คจฺฉนฺเตเนวาติ ยาว โภชนนิฏฺานํ, ตาว คจฺฉนฺเตเนว. ยถาห ‘‘คจฺฉนฺเตน นทิปูรํ ปตฺเตนปิ อฏฺตฺวา นทิตีเร ¶ คุมฺพํ ปริกฺขิปิตฺวา วิจรนฺเตน นาวํ วา เสตุํ วา อารุฬฺเหน อฏฺตฺวา วฏฺเฏตฺวา วิจรนฺเตนา’’ติ.
๑๒๙๘. โสติ คจฺฉนฺโต. ตโตติ านโต, คมนอิริยาปถสฺส วิโกปิตตฺตาติ อธิปฺปาโย.
๑๒๙๙. อาสนํ ¶ อวิจาเลตฺวาติ นิสชฺชาวเสน ผุฏฺฏฺานํ อจาเลตฺวา, อนุฏฺหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อทินฺนาทาเน วิย านาจาวนํ คเหตพฺพ’’นฺติ คณฺิปเท วุตฺตํ.
๑๓๐๐. ตโตติ ปวาริตกาลโต อุทฺธํ, ตโต นิสินฺนฏฺานโต วา. อิโต, เอตฺโต วา. อีสกมฺปิ สํสริตุนฺติ นิสินฺนฏฺานโต อิโต จิโต จ โถกมฺปิ สํสริตุํ, อปคนฺตุนฺติ อตฺโถ.
๑๓๐๑. สพฺพตฺถาติ ปีกาทิสํหาริเม สพฺพสฺมึ อาสเน. ‘‘วินยฺุนา’’ติ อิมินา ‘‘สเจ ปน นํ สห มฺเจน อุกฺขิปิตฺวา อฺตฺร เนนฺติ, วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) อฏฺกถายํ ‘‘ปีกาทีสุปิ อยเมว วินิจฺฉโย’’ติ วุตฺตภาวํ ชานนฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๐๒. นิปชฺชิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปริวตฺตนฺเตน เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส านํ นาติกฺกเมตพฺพ’’นฺติ วจนโต ปุพฺพสยิตฏฺานํ อวิชหิตฺวา สยิตฺวาเยวาติ อตฺโถ. ตเถวาติ อุกฺกุฏิโก หุตฺวาวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตสฺส ปน เหฏฺา ปลาลปีํ วา กิฺจิ วา นิสีทนกํ ทาตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๑๓๐๓. อติริตฺตํ กโรนฺเตน สิกฺขุนา ภาชนํ โอนเมตฺวาน โภชเน ทสฺสิเต อถ ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพนฺติ ¶ โยชนา. ตตฺถ อติริตฺตํ กโรนฺเตนาติ ‘‘อติริตฺตํ นาม กปฺปิยกตํ โหติ, ปฏิคฺคหิตกตํ โหติ, อุจฺจาริตกตํ โหติ, หตฺถปาเส กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา อวุฏฺิเตน กตํ โหติ, ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ วุตฺตํ โหติ, คิลานาติริตฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙) วุตฺเตสุ อฏฺสุ อากาเรสุ อนฺตํ วินา ปุริเมหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ อติริตฺตํ กโรนฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘อิเมหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ ยํ อติริตฺต’’นฺติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙).
อิธ อติริตฺตํ กาตุํ อภิหฏโภชนํ กปฺปิยฺจ นาม โหติ, กปฺปิยกเตน สิงฺคิเวรลสุณาทิวตฺถุนา ยุตฺตตาย จ อกปฺปิยมํสาภาเวน จ กุลทูสนาทีหิ อนุปฺปนฺนภาเวน จ กตฺจ นาม โหติ. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อติริตฺตกตภาวโต เอวํ กปฺปิยฺจ ตํ กตํ จาติ กปฺปิยกตนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวมุปริปิ กต-สทฺทสฺส อตฺโถ จ สมาสวิคฺคโห จ เวทิตพฺโพ ¶ . อวสิฏฺปเทสุ ภิกฺขุนา ปฏิคฺคหิตํ ปฏิคฺคหิตํ นาม. ตํ การาเปตฺวา อาคเตน ภิกฺขุนา โถกํ อุจฺจาเรตฺวา, โอตาเรตฺวา วา ทสฺสิตํ อุจฺจาริตกตํ นาม. กปฺปิยํ การาเปตุมาคตสฺส อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาณหตฺถปาสพฺภนฺตรคเตน อติริตฺตกตํ ‘‘หตฺถปาเส กต’’นฺติ วุจฺจติ. อนฺตมโส ปวารณชนกํ ยํ กิฺจิ โภชนํ กุสคฺเคนาปิ คเหตฺวา ภุตฺตตฺตา ภุตฺตาวินา. ยถาห ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ อนฺตมโส กุสคฺเคนาปิ ภุตฺตํ โหตี’’ติ. ภฺุชนฺโต ปวาริโต หุตฺวา โย อาสนํ น โกเปติ, โส ภุตฺตาวี ปวาริโต ‘‘อาสนา อวุฏฺิโต’’ติ วุจฺจติ, เตน กตํ ‘‘ภุตฺตาวินา…เป… อวุฏฺิเตน กต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ วจีเภทํ กตฺวา ¶ วุตฺตํ ‘‘อลเมตํ สพฺพนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ ทสฺสิตํ. อยํ สตฺตวิโธ วินยกมฺมากาโร นาม.
คิลานาติริตฺตกํ ปน อิมิสฺสา คาถาย อวุตฺตมฺปิ อนติริตฺตสนฺทสฺสนตฺถํ วกฺขมานาย ‘‘กต’’นฺติอาทิคาถาย ‘‘น คิลานาติริตฺตฺจา’’ติ อิมสฺส วิปริยายโต เวทิตพฺพํ. คิลานโต อติริตฺตํ, ตสฺส อฺทิเนสุ ภฺุชนตฺถาย อุปฏฺาปิตมฺปิ คิลานาติริตฺตํ นาม.
‘‘เตน ภิกฺขุนา’’ติ อิมินา ‘‘ภุตฺตาวินา’’ติ จ ‘‘ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตนา’’ติ จ วุตฺตปฺปกาเรน วิสิฏฺํ เตเนว ปากฏํ ภิกฺขุํ ปรามสติ, ปวารณชนกานํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ อปฺปมตฺตกมฺปิ ภุตฺตาวินา, ภุตฺตาวี ปวาริโตปิ หุตฺวา อาสนา อวุฏฺิเตน วา ภิกฺขุนาติ วุตฺตํ โหติ. โอนมิตฺวาน ภาชเนติ เอตฺถ ‘‘ทสฺสิเต โภชเน’’ติ เสโส, ‘‘อถา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. กปฺปิยกรณารหานิ สิงฺคิเวราทีนิ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฏิคฺคหาเปตฺวา อาคนฺตฺวา หตฺถปาสพฺภนฺตเร ปตฺวา อติริตฺตํ การาเปนฺเตน ภิกฺขุนา ภาชนํ โถกํ โอนาเมตฺวา อุจฺจาเรตฺวา ทสฺสิตกาลานนฺตราติ วุตฺตํ โหติ. อุตฺตริ กาตพฺพํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อล’’นฺติอาทิ.
เอตฺตาวตา ‘‘เตน ภิกฺขุนา’’ติ อิมินา ‘‘ภุตฺตาวินา กตํ, ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา อวุฏฺิเตน กต’’นฺติ องฺคทฺวยํ สงฺคหิตํ. ‘‘โอนเมตฺวาน ภาชน’’นฺติ อิมินา ‘‘อุจฺจาริตกตํ โหตี’’ติ อิทํ สงฺคหิตํ. ‘‘กปฺปิยกตํ, ปฏิคฺคหิตกตํ, หตฺถปาเสกต’’นฺติ อิทํ ตยํ อนนฺตริยวาจินา อถ-สทฺเทน สงฺคหิตํ. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อิทํ ปเนตฺถ สรูเปเนว ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๑๓๐๔. ปตฺเต ¶ ¶ ิตโภชนเมว อติริตฺตํ กาตพฺพนฺติ นตฺถิ, ปจฺฉิอาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ภาชเน ิตมฺปิ กาตพฺพนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘กปฺปิยํ ปนา’’ติ. กุณฺเฑติ ภณฺฑุกฺขลิยํ. ภาชเนติ ยํ กิฺจิ ภาชนํ คหิตํ.
๑๓๐๕. เอตนฺติ อติริตฺตกตํ เอตํ โภชนํ. ตํ เอกเมว เปตฺวาติ โยชนา. ‘‘วฏฺฏเตวา’’ติ วุตฺเตปิ อพฺภงฺคาทีนมตฺถายาติ คณฺเหยฺยุนฺติ อาห ‘‘ภฺุชิตพฺพ’’นฺติ, ตเมกํ วินา ปเรหิ ปริภฺุชิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๑๓๐๖-๗. กปฺปิยํ กาเรตฺวาติ อติริตฺตํ กาเรตฺวา. อากิรนฺติ เจติ ยทิ ปกฺขิปนฺติ. ปุน ตถา อติริตฺตํ กาเรตฺวา ภฺุชิตพฺพนฺติ โยชนา.
ตํ เกน อติริตฺตํ กาตพฺพนฺติ อาห ‘‘เยนา’’ติอาทิ. ตนฺติ อติริตฺตกตํ โภชนํ. เยน อกตนฺติ เยน ภิกฺขุนา ปมํ อติริตฺตํ น กตํ, เตน กาตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘เยน อกตนฺติ อฺเน ภิกฺขุนา เยน ปมํ น กตํ, เตน กาตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙). ยํ วา อกตํ, ตํ วิสุํ เตน วา กาตพฺพนฺติ โยชนา. ยํ วา อกตนฺติ ตสฺมึ อติริตฺตกตโภชเน อปกฺขิตฺตํ ยํ โภชนํ อติริตฺตํ น กตํ. ตํ วิสุํ เตน วา กาตพฺพนฺติ ปจฺฉา ปกฺขิตฺตํ โภชนํ อติริตฺตํ กเตน ยถา อมิสฺสํ โหติ, ตถา อฺสฺส ภาชนสฺส คหณวเสน วิสุํ กาเรตฺวา เตน ปมํ กตาติริตฺเตนาปิ อติริตฺตํ กาตพฺพํ. ยถาห – ‘‘ยฺจ อกตนฺติ เยน ปมํ กปฺปิยํ กตํ, เตนาปิ ยํ อกตํ, ตํ กาตพฺพํ. ปมภาชเน ปน กาตุํ น ลพฺภติ. ตตฺถ หิ กริยมานํ ปมํ กเตน สทฺธึ กตํ โหติ, ตสฺมา อฺสฺมึ ภาชเน กาตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย’’ติ.
๑๓๐๘. อกปฺปิยาทีหิ ¶ สตฺตหีติ ‘‘อนติริตฺตํ นาม อกปฺปิยกตํ โหติ, อปฺปฏิคฺคหิตกตํ โหติ, อนุจฺจาริตกตํ โหติ, อหตฺถปาเส กตํ โหติ, อภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา จ ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน กตํ โหติ, ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ อวุตฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙) วุตฺเตหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ. อติริตฺตํ กตนฺติ โยชนา. ‘‘โหติ อนติริตฺตก’’นฺติ ปทจฺเฉโท.
๑๓๐๙. อุปกฏฺเวลายปิ ¶ อติริตฺตํ กโรนฺเตน ‘‘อหํ ปาโตว ภฺุชิ’’นฺติ วา ‘‘โถกํ ปริภฺุชิ’’นฺติ วา อจินฺเตตฺวา กาตพฺพนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘โยปี’’ติอาทิ. อุปกฏฺูปนีตมฺปีติ อุปกฏฺเวลาย อุปนีตมฺปิ โภชนํ.
๑๓๑๐. ยามาทิกาลิกนฺติ ยามสตฺตาหยาวชีวิกกาลิกํ. อนามิสฺสนฺติ อามิเสน อมิสฺสํ. ตํ ยามาทิกาลิกํ ปริภฺุชโตติ สมฺพนฺโธ.
๑๓๑๒. คิลานสฺส ภุตฺตาติริตฺตํ วิย กทาจิ ภฺุชิสฺสตีติ อุทฺทิสฺส ปิตมฺปิ คิลานาติริตฺตํ นามาติ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. ‘‘วิหาราทีสุ คิลานสฺส ปาปุณนโกฏฺาสมฺปิ คิลานาติริตฺตํ นามา’’ติ วทนฺติ.
ปมปวารณกถาวณฺณนา.
๑๓๑๔. อนติริตฺเตนาติ เอตฺถ ‘‘ขาทนีเยน วา โภชนีเยน วา’’ติ เสโส. เอตฺถ ‘‘ขาทนียํ นาม ปฺจโภชนานิ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ เปตฺวา อวเสส’’นฺติ ¶ (ปาจิ. ๒๓๙) วุตฺตํ ปฺจโภชนโต อฺํ สพฺพํ ยาวกาลิกํ ขาทนียํ นาม. ‘‘โภชนียํ นาม ปฺจ โภชนานิ โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํส’’นฺติ (ปาจิ. ๒๓๙) วุตฺตํ. เอตฺถ วินิจฺฉโย อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺโต. ปวาเรยฺยาติ เอตฺถ ‘‘อภิหฏฺุ’’นฺติ เสโส. อภิหฏฺุํ ปวาเรยฺยาติ อภิหริตฺวา ‘‘หนฺท ภิกฺขุ ยาวตกํ อิจฺฉสิ, ตาวตกํ คเหตฺวา ขาท วา ภฺุช วา’’ติ เอวํ ปวาเรยฺย. ‘‘ปวาริต’’นฺติปทํ วุตฺตตฺถเมว. ชานนฺติ สุตฺวา วา ทิสฺวา วา ตสฺส ปวาริตภาวํ ชานนฺโต. อาสาทนาเปกฺโขติ อาสาทนํ โจทนํ มงฺกุกรณภาวํ อเปกฺขมาโน. ภุตฺเตติ ตสฺส ปโยเคน อิตเรน ภฺุชิตฺวา ปริโยสาปิเต. ตสฺสาติ โย ตสฺส ปวาริตภาวํ ตฺวา ‘‘ภฺุชา’’ติ นิโยเชสิ, ตสฺส.
๑๓๑๕-๖. เอกสฺส ภฺุชเนน อฺสฺส ปาจิตฺติ โหตีติ กถเมตนฺติ อาสงฺกาย ตถา วุตฺตตฺตา ปริหริตุมาห ‘‘ทุกฺกฏํ…เป… ทสฺสิต’’นฺติ. อิตรสฺส คหเณติ ปวาริตภิกฺขุโน ภฺุชนตฺถาย ¶ ปฏิคฺคหเณ. อชฺโฌหารปโยเคสุ จาติ เอตฺถาปิ ‘‘อิตรสฺสา’’ติ สมฺพนฺโธ. สพฺพํ ทุกฺกฏํ, ปาจิตฺติยฺจ. ทสฺสิตนฺติ ‘‘อภิหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ตสฺส วจเนน ‘ขาทิสฺสามิ ภฺุชิสฺสามี’ติ ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. โภชนปริโยสาเน อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๒๔๔) เทสิตํ ภควตาติ อตฺโถ.
๑๓๑๗. อุภยตฺถาปิ วิมติสฺสาติ ปวาริเต จ อปวาริเต จ วิมติสฺส. ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ ‘‘ปวาริเต เวมติโก. อปฺปวาริเต เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๒๔๕) เทสิตํ.
๑๓๑๘. การาเปตฺวาติ ¶ เอตฺถ ‘‘ภฺุชาหี’’ติ เสโส. อฺสฺสตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘อภิหรนฺโต คจฺฉาหี’’ติ เสโส.
๑๓๑๙. โอมสวาทตุลฺยาวาติ อิทํ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ สนฺธายาห.
ทุติยปวารณกถาวณฺณนา.
๑๓๒๐. ขาทนียํ วาติ ปฺจ โภชนานิ จ กาลิกตฺตยฺจ วินา อวเสเสสุ ยํ กิฺจิ วา. โภชนียํ วาติ ปฺจสุ โภชเนสุ อฺตรมฺปิ. วิกาเลติ วิคเต กาเล. กาโล นาม อรุณุคฺคมนโต ยาว มชฺฌนฺติกา, ตทฺโ วิกาโล. ยถาห ‘‘วิกาโล นาม มชฺฌนฺติเก วีติวตฺเต ยาว อรุณุคฺคมนา’’ติ (ปาจิ. ๒๔๙). ิตมชฺฌนฺติโกปิ กาเลเยว สงฺคยฺหติ. ยถาห ‘‘ิตมชฺฌนฺติโกปิ กาลสงฺคหํ คจฺฉติ. ตโต ปฏฺาย ปน ขาทิตุํ วา ภฺุชิตุํ วา น สกฺกา, สหสา ปิวิตุํ ปน สกฺกา ภเวยฺย. กุกฺกุจฺจเกน ปน น กาตพฺพํ. กาลปริจฺเฉทชานนตฺถฺจ กาลตฺถมฺโภ โยเชตพฺโพ, กาลพฺภนฺตเรว ภตฺตกิจฺจํ กาตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๔๘-๒๔๙). โทสนฺติ ปาจิตฺติยํ.
๑๓๒๑. ‘‘ขาทนียํ วา โภชนียํ วา’’ติ เอตฺถ โภชนียสฺส ปวารณสิกฺขาปเท ทสฺสิตสรูปตฺตา ขาทนียํ ตาว สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ยมามิสคต’’นฺติอาทิ. เอตฺถาติ เอเตสุ ¶ ขาทนียโภชนีเยสุ. ยํ ปน วนมูลผลาทิกํ อามิสคตํ อามิเส ยาวกาลิเก ปริยาปนฺนํ, ตํ ขาทนียนฺติ โยชนา. กาลิเกสฺวสโมหตฺถนฺติ เอตฺถ ¶ คาถาพนฺธวเสน ม-การโลโป, อสมฺโมหตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิทนฺติ วกฺขมานํ สนฺธายาห.
๑๓๒๒. มูลนฺติ ยํ กิฺจิ รุกฺขลตานํ มูลํ. กนฺทนฺติ รุกฺขลตานเมว กนฺทํ. มุฬาลนฺติ ปทุมคจฺฉมูลกนฺทํ. มตฺถกนฺติ ตาลนาฬิเกราทีนํ มตฺถกํ, เวฬุกฬีรปลฺลวงฺกุรานฺจ เอตฺเถว สงฺคโห. ขนฺธกนฺติ อุจฺฉุอาทิขนฺธกํ. ตจนฺติ ฉลฺลิ. ปตฺตนฺติ ปณฺณํ. ปุปฺผนฺติ กุสุมํ. ผลนฺติ รุกฺขลตาทีนํ ผลํ. อฏฺีติ รุกฺขลตาทิพีชํ. ปิฏฺนฺติ ธฺาทิปิฏฺํ. นิยฺยาสนฺติ สิเลสํ. ‘‘ขาทนีย’’นฺติ สพฺพตฺถ ปกรณโต ลพฺภติ.
๑๓๒๓. เอวํ ขาทนียานํ มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา เต สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘มูลขาทนียาทีน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ รุกฺขมูลเมว ขาทนียํ, ตํ อาทิ เยสนฺติ วิคฺคโห. มุขมตฺตนิทสฺสนํ นิโพธถาติ เอตฺถ ‘‘มยา กริยมาน’’นฺติ เสโส. มุขมตฺตนฺติ ปเวสทฺวารมตฺตํ, นิรวเสสโต ทสฺสเน ปปฺจภีรุกานํ ปุพฺเพ ภยํ โหตีติ สงฺเขปโต ขาทนียานิ ทสฺสิสฺสนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถา ทสฺสเน ปโยชนมาห ‘‘นามตฺเถสุ ภิกฺขูนํ ปาฏวตฺถายา’’ติ, มูลขาทนียาทีนํ นาเมสุ จ ตทตฺเถสุ จ ภิกฺขูนํ ปาฏวุปฺปาทนตฺถนฺติ อตฺโถ.
๑๓๒๔-๕. มูลกมูลาทีนิ อุปเทสโตเยว เวทิตพฺพานิ. น หิ ตานิ ปริยายนฺตเรน วุจฺจมานานิปิ สกฺกา วิฺาตุํ. ปริยายนฺตเรนปิ หิ วุจฺจมาเน ตํ ตํ นามํ อชานนฺตานํ สมฺโมโหเยว สิยา, ตสฺมา ตตฺถ น กิฺจิ วกฺขาม. สากานนฺติ สูเปยฺยปณฺณานํ. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. อาหารตฺถนฺติ อาหาเรน กตฺตพฺพปโยชนํ, อาหารกิจฺจนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อามิสตฺถ’’นฺติปิ ลิขนฺติ. ผรนฺตีติ วิตฺถาเรนฺติ.
๑๓๒๖. ชรฏฺนฺติ ¶ ปุราณกนฺทํ. ยํ ตํ ชรฏฺนฺติ สมฺพนฺโธ. เสสานํ ชรฏฺํ ยาวกาลิกนฺติ โยชนา. เสสานนฺติ มูลกาทีนิ วุตฺตานิ. ยถาห ‘‘มูลกขารกชชฺฌรีมูลานํ ปน ชรฏฺานิปิ อามิสคติกาเนวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๔๘-๒๔๙).
๑๓๓๑. โธโตติ นิพฺพตฺติตปิฏฺโ.
๑๓๓๒. อโธโต ¶ ขีรวลฺลิยา กนฺโทติ โยชนา. วากฺยปถาตีตาติ ‘‘อสุโก วา อสุโก วา’’ติ วตฺวา ปริยนฺตํ ปาเปตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา วจนปถาตีตา.
๑๓๓๓. ปุณฺฑรีกํ เสตํ. ปทุมํ รตฺตํ.
๑๓๓๘. ชรฏฺพุนฺโทติ กนฺทสฺส เหฏฺา อตีว ปริณตฏฺานํ.
๑๓๓๙. ปถวิยํ คโตติ อนฺโตปถวิยํ คโต, ปถวิยํ นิมุชฺชิตฺวา คตตรุณทณฺโฑติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๔๐. เอวํ อนฺโตภูมิยํ คโต. ‘‘ปณฺณทณฺโฑ อุปฺปลาทีน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. สพฺโพติ ตรุโณปิ ปริณโตปิ. อุปฺปลาทีนํ, ปทุมชาติยา จ สพฺโพ ปณฺณทณฺโฑ ยาวกาลิโกติ โยชนา.
๑๓๔๕. ปตฺตขาทนียํนามาติ ปตฺตสงฺขาตํ ขาทนียํ นาม.
๑๓๔๘. มูลกาทีนนฺติ ‘‘มูลกํ ขารกฺเจวา’’ติอาทิกาย คาถาย วุตฺตมูลกาทีนํ.
๑๓๖๐. เกตกาทีนนฺติ ¶ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ติมฺพรุสกํ คหิตํ. ตาลผลฏฺีติ ตรุณผลานํ อฏฺิ.
๑๓๖๑. ‘‘ปุนฺนาคมธุกฏฺีนี’’ติ จ ‘‘ปุนฺนาคมธุกฏฺิจา’’ติ จ โปตฺถเกสุ อุภยถา ปาโ ทิสฺสติ, อตฺโถ ปน เอโกเยว. ‘‘เสลุ อฏฺี’’ติ ปทจฺเฉโท. อนามิเสติ ยาวชีวิเก.
๑๓๖๓. โธตํ ¶ ตาลปิฏฺนฺติ ตาลเผคฺคุํ โกฏฺเฏตฺวา อุทเก มทฺทิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา กลเล ภาชนตลํ โอติณฺเณ ปสนฺโนทกํ อปเนตฺวา คหิตตาลปิฏฺนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถา ขีรวลฺลิยา ปิฏฺนฺติ โยชนา, ตเถว โกฏฺเฏตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา คหิตขีรวลฺลิยา ปิฏฺนฺติ อตฺโถ.
๑๓๖๔. อโธตํ วุตฺตวิปริยายโต คเหตพฺพํ. ‘‘อาหารตฺถมสาเธนฺตํ, สพฺพํ ตํ ยาวชีวิก’’นฺติ วจนโต เตสุ เตสุ ชนปเทสุ มนุสฺสานํ อาหารกิจฺจํ อกโรนฺตํ มูลาทิ ยาวชีวิกํ, ตทฺํ ยาวกาลิกนฺติ สงฺเขปลกฺขณํ กาตพฺพนฺติ.
วิกาลโภชนกถาวณฺณนา.
๑๓๖๙. โภชนํ สนฺนิธึ กตฺวา ขาทนํ วาติ เอตฺถ โภชนขาทนียานิ ยถาวุตฺตเภทสรูปาเนว. สนฺนิธึ กตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตมฺปิ อติกฺกาเมตฺวา, สนฺนิทหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตมฺปิ วีตินามิตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓). ตเทว วกฺขติ ‘‘สย’’นฺติอาทินา. ขาทนนฺติ กมฺมสาธโนยํ, ‘‘ขชฺช’’นฺติ อิมินา สมานตฺโถ.
๑๓๗๑. ‘‘สนฺนิธึ ¶ กตฺวา’’ติ เอตฺถ นิทฺเทสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สย’’นฺติอาทิ.
๑๓๗๒. ‘‘ตํ น วฏฺฏตี’’ติ เอตฺถ อตฺถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตโต’’ติอาทิ. ตโตติ สนฺนิธิกตโภชนโต. สุทฺธจิตฺเตนาติ สวาสนสกลกิเลสปฺปหานโต นิมฺมลจิตฺเตน. ตาทินาติ อฏฺสุ โลกธมฺเมสุ นิพฺพิการภาเวน ตาทินา. อถ วา ยาทิสา ปุริมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา รูปารูปคุเณหิ อเหสุํ, ตาทิเสน ภควตา.
๑๓๗๓. โอทนาทีสุ ปฺจสุ โภชเนสุ ตาว อกปฺปิยมํเสน สนฺนิธิวเสน ปาจิตฺติยฺจ อาปตฺติวิเสสฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘อกปฺปิเยสู’’ติอาทิ. ปาจิตฺตีติ สนฺนิธิปาจิตฺติยมาห. อิตเรติ สีหาทิมํสมฺหิ. ทุกฺกเฏน สห ปาจิตฺตีติ โยชนา.
๑๓๗๔. ยามกาลิกสงฺขาตํ ปริภฺุชโตติ เอตฺถ ‘‘สนฺนิธึ กตฺวา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ ¶ . ‘‘ทุกฺกเฏน สหา’’ติ อวตฺวา ‘‘ปาจิตฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา สติ ปจฺจเย ปริภฺุชโตติ คเหตพฺพํ. ยถาห ‘‘ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย อชฺโฌหารโต ปาจิตฺติยํ. อาหารตฺถาย อชฺโฌหารโต ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓).
๑๓๗๕. อนฺนนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘สนฺนิธิกต’’นฺติ อิทํ ปุเร วิย ลพฺภติ, ‘‘ปกติ’’นฺติ อิทํ ‘‘อนฺน’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ, มนุสฺสมํสาทีหิ อสมฺมิสฺสํ นาติริตฺตกตํ อนฺนมตฺตนฺติ อตฺโถ. ปาจิตฺติยทฺวยนฺติ อนติริตฺตปจฺจยา จ สนฺนิธิปจฺจยา จ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ.
๑๓๗๖. ‘‘ทฺเว ¶ , ทฺวย’’นฺติ อุภยตฺถาปิ อยเมวตฺโถ.
๑๓๗๗. สามิเสน มุเขน ทฺเวติ เอตฺถ ‘‘ปฺจ โภชนานิ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ เปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๕๔) วุตฺตตฺตา ขาทนียาสงฺคหิเตน ยามกาลิเกน จ เตน สมฺมิสฺสตฺตา สนฺนิธินาเมน มุขคตอามิสมูลเกน จ สนฺนิธิปาจิตฺติยานิ ทฺเว โหนฺตีติ อตฺโถ. สามิเสน มุเขนาติ อุปลกฺขณตฺตา ยถากถฺจิ อามิเส มิสฺสีภูเต เอตฺตกา อาปตฺติโยติ ทฏฺพฺพํ. นิรามิสํ ยามกาลิกํ ภฺุชโต เอกเมว ปาจิตฺติยนฺติ โยชนา, เยน เกนจิ อากาเรน อสมฺมิสฺสํ ยามกาลิกํ ปริภฺุชโต เอกเมว ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ.
๑๓๗๘. ตเมวาติ สนฺนิหิตเมว กาลิกํ. เตสุ ทฺวีสุ วิกปฺเปสูติ สามิสนิรามิสวิกปฺปทฺวเย. เกวลํ ทุกฺกฏํ วฑฺฒตีติ ปมวิกปฺเป ทฺวีหิ ปาจิตฺติเยหิ สทฺธึ ทุกฺกฏํ, ทุติยวิกปฺเป ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๗๙. สุทฺธนฺติ เอตฺถ ‘‘สนฺนิธิกตํ โภชน’’นฺติ เสโส. อิทํ ‘‘ปกติโภชเน’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓) อฏฺกถายํ, อิธ จ ‘‘น โทโส ยามกาลิเก’’ติ ยามกาลิกสฺส วิสุํ วกฺขมานตฺตา วิฺายติ, อกปฺปิยมํสยามกาลิเกหิ อมิสฺสํ โภชนนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๘๐. มํเสติ เอตฺถ ‘‘อกปฺปิเย’’ติ อิทํ ถุลฺลจฺจยาทิวจเนเนว ลพฺภติ. วฑฺฒตีติ ปุพฺเพ วุตฺเตหิ ปาจิตฺติยทฺวเยหิ สทฺธึ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจยฺจ สีหาทิมํเส ทุกฺกฏฺจ วฑฺฒติ. มนุสฺสมํเส ¶ จ เสเส สีหมํสาทิเก อกปฺปิยมํเส จ ยถานุกฺกมโต ¶ ถุลฺลจฺจยฺเจว ทุกฺกฏฺจาติ ทฺวยํ วฑฺฒตีติ โยชนา.
๑๓๘๑. อนติริตฺตมฺปิ โภชนํ วิกาเล ปริภฺุชโต ภิกฺขุโน ตนฺนิมิตฺตโก โทโส ยถาวุตฺเตสุ สพฺพวิกปฺเปสุ นตฺถีติ โยชนา. ‘‘วิกาล…เป… กาลิเก’’ติ ยามกาลิกสฺส วิสุํ วกฺขมานตฺตา จ อติริตฺตการาปนฺจ โภชเนเยว สมฺภวตีติ อนติริตฺตนฺติ เอตฺถ ‘‘นิหิตโภชน’’นฺติ เสโส. ‘‘อนติริตฺตปจฺจยา ปน วิกาเล สพฺพวิกปฺเปสุ อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓) อฏฺกถาวจนโต โทโสติ อนติริตฺตปจฺจยา ปาจิตฺติยมาห. เตเนว วกฺขติ ‘‘ตนฺนิมิตฺตโก’’ติ, อนติริตฺตนิมิตฺตโกติ อตฺโถ. สพฺพวิกปฺเปสูติ ‘‘สุทฺธํ วา มนุสฺสมํสมิสฺสํ วา สีหาทิมํสมิสฺสํ วา ยามกาลิกมิสฺสํ วา’’ติ สพฺเพสุ วิกปฺเปสุ. ‘‘ตนฺนิมิตฺตโก’’ติ วจเนเนว วาริตวิกาลาทินิมิตฺตสฺส โทสสฺส สมฺภวํ ทสฺเสติ.
๑๓๘๒-๓. วิกาลปจฺจยา วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘อนติริตฺตปจฺจยา’’ติ อิทํ สมุจฺจิตํ. อปิ-สทฺโท ‘‘ยามกาลิเกปี’’ติ โยเชตพฺโพ. สตฺตาหกาลิกํ, ยาวชีวิกํ อาหารสฺเสว อตฺถาย ปฏิคฺคณฺหโต คหเณ, ยถาวุตฺตสฺส สตฺตาหกาลิกยาวชีวิกเภเทน ทุวิธสฺส ตุ อชฺโฌหารปโยเคสุ นิรามิเส วา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ตุ-สทฺโท เอว-การตฺโถ.
๑๓๘๔. อถาติ วากฺยารมฺเภ นิปาโต. อามิสสํสฏฺํ สตฺตาหกาลิกํ, ยาวชีวิกํ วาติ โยชนา. คเหตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา. ปิตนฺติ อรุณํ อติกฺกาเมตฺวา ปิตํ. ปาจิตฺตีติ สนฺนิธิปาจิตฺติ.
๑๓๘๕. กาโลติ ¶ อรุณุคฺคมนาทิมชฺฌนฺติกาวสาโน กาโล. ยาโมติ มชฺฌนฺติกาทิทุติยอรุณุคฺคมนาวสาโน. ตํ ตํ กาลํ กาลิกํ อติกฺกามยโต ตุ โทโสติ โยชนา. ตุ-สทฺโท เอวการตฺโถ. ตํ วา กาลิกนฺติ ยถากฺกมํ ยาวกาลิกํ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๘๖. ยาวกาลิกํ อตฺตนา สมฺภินฺนานิ อิตรานิ ตีณิ กาลิกานิ อตฺตโนเยว สภาวํ อุปเนตีติ โยชนา. สโก ภาโว สภาโว, ตํ.
๑๓๘๗-๘. เอวเมว ¶ วินิทฺทิเสติ ‘‘ปุริมํ ปุริมํ กาลิกํ อตฺตนา สมฺมิสฺสํ ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อตฺตโน สภาวเมว คาหาเปตี’’ติ กเถยฺยาติ วุตฺตํ โหติ.
อิเมสูติอาทีสุ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. อนฺโตวุตฺถํ โหตีติ อกปฺปิยกุฏิยํ เปตฺวา อรุณุฏฺาปเนน อนฺโตวุตฺถํ นาม โหติ. สนฺนิธิ จ โหตีติ ปฏิคฺคเหตฺวา ปฏิคฺคหณํ อวิชหิตฺวา อรุณุฏฺาปเนน สนฺนิธิ จ นาม โหติ. โปตฺถเกสุ ‘‘สนฺนิธิ’’นฺติ สานุนาสิโก ปาโ ทิสฺสติ, ‘‘โหตี’’ติ กิริยาย สมฺพนฺธตฺตา สนฺนิธิ-สทฺโท ปเมกวจนนฺโตติ อนุนาสิโก อาคมสนฺธิโชติ เวทิตพฺโพ. อุภยมฺปีติ ยถาวุตฺตํ อนฺโตวุตฺถํ, สนฺนิธิ จาติ อุภยมฺปิ. น โหเตวาติ ปุริมกาลิกทฺวเยน อมิสฺสํ น โหเตว.
๑๓๘๙. กปฺปิยกุฏินาเมน อกตํ, อสมฺมตํ, อปริคฺคหํ, ปาการาทีหิ ปริกฺขิตฺตํ เสนาสนํ อกปฺปิยกุฏิ นามาติ สงฺเขปโต คเหตพฺพํ. อนฺตทฺวเยนาติ สตฺตาหกาลิกยาวชีวิเกน, สหตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘มิสฺสิต’’นฺติ เสโส. คหิตนฺติ ปฏิคฺคหิตํ. ตํ ปุพฺพํ ทฺวยนฺติ ยาวกาลิกยามกาลิกทฺวยํ. ปุริมกาลิกทฺวเย ยํ กิฺจิ ตทหุปฏิคฺคหิตมฺปิ ¶ อกปฺปิยกุฏิยาเยว เปตฺวา อรุณํ อุฏฺาปิเตน ปจฺฉิมกาลิกทฺวเย เยน เกนจิ สมฺมิสฺสํ อนฺโตวุตฺถํ นาม โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๙๐. อนฺโตวุตฺเถน ปจฺฉิมกาลิกทฺวเยน สํสฏฺํ ยทิทํ ปุริมกาลิกทฺวยํ, อยํ มุขสนฺนิธิ นาม โหตีติ อฏฺกถายํ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน อนฺโตวุตฺถํ โหติ, น กปฺปติ อิติ ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตนฺติ โยชนา.
ตตฺถ ‘‘มุขสนฺนิธี’’ติ จ ‘‘อนฺโตวุตฺถ’’นฺติ จ นามมตฺตเมว นานากรณํ, โสเยวตฺโถติ อุภินฺนํ อฏฺกถาวจนานํ อนตฺถนฺตรตา เวทิตพฺพา. ตถา หิ มุข-สทฺโท อนฺโต-สทฺทปริยาโย, สนฺนิธิ-สทฺโท ปริวุตฺถ-สทฺทปริยาโย. มุเข สนฺนิธิ มุขสนฺนิธีติ กมฺมสาธนํ. พหิ สนฺนิธินิวตฺตนตฺถํ อฏฺกถาสุ มุข-คฺคหณํ, อนฺโต-คหณฺจ กตํ. พหีติ จ ปฏิคฺคเหตฺวา อกปฺปิยกุฏิยา พหิ ยตฺถ กตฺถจิ ปริวุตฺถํ ปจฺฉิมกาลิกทฺวยํ ปุริเมน กาลิกทฺวเยน สํสฏฺํ อธิปฺเปตํ. มุขสนฺนิธิอนฺโตวุตฺถปทานํ อนตฺถนฺตรภาโว สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต.
ยถาห ¶ ‘‘สามเณโร ภิกฺขุสฺส ตณฺฑุลาทิกํ อามิสํ อาหริตฺวา กปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปุนทิวเส ปจิตฺวา เทติ, อนฺโตวุตฺถํ น โหติ. ตตฺถ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิตฺตสปฺปิอาทีสุ ยํ กิฺจิ ปกฺขิปิตฺวา เทติ, มุขสนฺนิธิ นาม โหติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘อนฺโตวุตฺถํ โหตี’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ นามมตฺตเมว นานากรณ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕). นิสฺสนฺเทเห ปน อฺถา วุตฺโต วิย วิฺายติ, ตตฺถปิ อยเมว นโย เวทิตพฺโพ.
๑๓๙๑. น ¶ โทโสติ สนฺนิธิโทโส น โหติ. นิทหิตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา ปฏิคฺคหณํ อวิชหิตฺวา สกสกกาลพฺภนฺตเรเยว นิทหิตฺวา. เอตฺถ จ เหฏฺิมนฺตโต สนฺนิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ปตฺตํ โธวิตฺวา ปุน ตตฺถ อจฺโฉทกํ วา อาสิฺจิตฺวา องฺคุลิยา วา ฆํสิตฺวา นิสฺเนหภาโว ชานิตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. เอเตน นิรเปกฺเขน ปฏิคฺคหณํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว สยํ วา อฺเน วา ตุจฺฉํ กตฺวาน สมฺมา โธวิตฺวา นิฏฺาปิเต ปตฺเต ลคฺคมฺปิ อวิชหิตปฏิคฺคหิตเมว โหตีติ ตตฺถ อาปตฺติ วุตฺตาติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เอเตน นิรเปกฺเขน ปฏิคฺคหเณ วิสฺสฏฺเ ตาทิเสปิ ปตฺเต โทโส นตฺถีติ สิทฺธํ.
สนฺนิธิกถาวณฺณนา.
๑๓๙๓. ปณีตานิ โภชนานีติ ปาฬิยํ ‘‘เสยฺยถิทํ? สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ มจฺโฉ มํสํ ขีรํ ทธี’’ติ (ปาจิ. ๒๕๙) อุทฺทิสิตฺวา –
‘‘สปฺปิ นาม โคสปฺปิ วา อชิกาสปฺปิ วา มหึสสปฺปิ วา, เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปิ. นวนีตํ นาม เตสฺเว นวนีตํ. เตลํ นาม ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑกเตลํ วสาเตลํ. มธุ นาม มกฺขิกามธุ. ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตํ. มจฺโฉ นาม โอทโก วุจฺจติ. มํสํ นาม เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ มํสํ. ขีรํ นาม โคขีรํ วา อชิกาขีรํ วา มหึสขีรํ วา, เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ ขีรํ. ทธิ นาม เตสฺเว ทธี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) –
นิทฺทิฏฺานิ นว ปณีตโภชนานีติ อตฺโถ. อคิลาโนติ ‘‘อคิลาโน นาม ยสฺส วินา ปณีตโภชนานิ ¶ ผาสุ ¶ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) วุตฺโต. อคิลาโนติ เอตฺถ ‘‘หุตฺวา’’ติ เสโส.
๑๓๙๔. สปฺปินา เทหีติอาทิ วิฺาปนปฺปกาโร. สปฺปิภตฺตนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ สปฺปิสํสฏฺํ ภตฺตํ, สปฺปิ จ ภตฺตฺจ สปฺปิภตฺตนฺติ วิฺายติ, อฏฺกถาสุ ปน ‘‘สาลิภตฺตํ วิย สปฺปิภตฺตํ นาม นตฺถี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙) การณํ วตฺวา ทุกฺกฏสฺเสว ทฬฺหตรํ กตฺวา วุตฺตตฺตา น สกฺกา อฺํ วตฺตุํ. อฏฺกถาจริยา เอว หิ อีทิเสสุ าเนสุ ปมาณํ.
๑๓๙๕. ปาจิตฺติ ปริยาปุตาติ ‘‘อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) เอวํ อชฺโฌหารคณนาย ปาจิตฺติ วุตฺตา.
๑๓๙๖. สุทฺธานีติ อนฺเนน อมิสฺสานิ. เสขิเยสูติ สิกฺขากรณีเย วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
๑๓๙๗. ยสฺมา สุทฺธานํ ปณีตโภชนานํ วิฺาเปตฺวา ปริภฺุชนํ ทุกฺกฏวิสยํ, ตสฺมา. สตฺตธฺมยนฺติ สาลิอาทีนํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ อฺตรสฺส วิการภูตํ.
๑๓๙๘. สเจ ททาตีติ โยชนา. วิสงฺเกตนฺติ อนาปตฺติ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๙๙. เทติ เจติ สมฺพนฺโธ. อฺตเรนาติ สหตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘ภตฺต’’นฺติ อธิการโต ลพฺภติ. อสฺส ภิกฺขุสฺส. วิสงฺเกตนฺติ อฺํ ยาจิตสฺส อฺสฺส ทินฺนตฺตา สงฺเกตสฺส วิราธเนน อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๔๐๐. เยน เยน หีติ เอตฺถาปิ ตเถว กรณวจนํ. ‘‘วิฺตฺต’’นฺติ อิทํ อธิกตสฺส ‘‘ภตฺต’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ. เยน ¶ เยนาติ อนิยเมน ปณีเตน. เตน สปฺปิอาทิ วิสุํ วิสุํ คหิตเมว, สปฺปิอาทีนํ โคสปฺปิอาทิเภโท จ สงฺคหิโต. ตสฺมึ ลทฺเธปีติ ยาจิเตเยว ลทฺเธ สติ. ตสฺส ตสฺส มูเลปิ ลทฺเธติ วิจฺฉาวเสน โยชนา.
กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘สปฺปินา ภตฺตํ เทหี’’ติ สามฺเน วิฺาเปนฺตสฺส ตเมว วา ‘‘อิมินา ¶ สปฺปึ กตฺวา คณฺหถา’’ติ นวนีตาทีสุ อฺตรํ วา เธนุํ วา มูลํ วา เทติ เจ, ‘‘โคสปฺปินา ภตฺตํ เทหี’’ติ วิเสสยุตฺตํ กตฺวา วิฺาเปนฺตสฺส ตเมว วา โคนวนีตาทีนิ วา คาวึ วา ‘‘อิทํ ทตฺวา สปฺปึ คณฺหถา’’ติ มูลํ วา สเจ เทติ, วิสงฺเกตํ น โหติ, ยถาวตฺถุกเมว อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.
น อฺถาติ สปฺปึ ยาจิตวโต ‘‘อิมํ คเหตฺวา สปฺปึ กตฺวา คณฺหถา’’ติ อวตฺวา ‘‘สปฺปิ นตฺถิ, อิทํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา วา ตุณฺหีภูเตน วา นวนีตาทีสุ กิสฺมิฺจิ ทินฺเน วิเสสวิฺาปกสฺส ตทฺทาเนปิ วิสงฺเกตเมว โหตีติ อตฺโถ. ปาฬิยา อนาคเตปิ ทินฺเน วิสงฺเกตเมว โหติ. ‘‘สเจ ปน อฺํ ปาฬิยา อาคตํ วา อนาคตํ วา เทติ, วิสงฺเกต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๑๔๐๑. ปาฬิยนฺติ ปุพฺเพ ทสฺสิตํ ‘‘สปฺปิ นาม โคสปฺปี’’ติอาทึ นิทฺเทสปาฬิมาห. ยถาห ‘‘ปาฬิยํ อาคตนวนีตาทีนิ เปตฺวา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙). อฺเหิ นวนีตาทีหิ. สหตฺเถ กรณวจนํ.
๑๔๐๒. ‘‘วิฺาเปตฺวา’’ติ อิมสฺส กมฺมภูตํ ‘‘ภตฺต’’นฺติ อธิกตํ. คาถาพนฺธวเสน วา-สทฺทสฺส รสฺโส กโต. เอกโต วาติ โยชนา, ‘‘นานโต’’ติปิ คหิตเมว, เอกฏฺานโต วา นานฏฺานโต วาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ¶ ‘‘สเจ ปน สพฺเพหิปิ สปฺปิอาทีหิ เอกฏฺาเน วา นานฏฺาเน วา วิฺาเปตฺวา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙). เตเนว ภฺุชตีติ เอตฺถ ปริกปฺปสูจกํ ‘‘เจ’’ติ อิทฺจ อวกํสสนฺทสฺสนตฺถํ ‘‘กุสคฺเคน เอกพินฺทุมฺปี’’ติ อิทฺจ อชฺฌาหริตพฺพํ. มตาติ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙) วุตฺตํ สนฺธายาห. เอกโต วา นานโต วา านา ภตฺตํ วิฺาเปตฺวา เอกรสํ กตฺวา อนฺตมโส กุสคฺเคน เอกพินฺทุมฺปิ ภฺุชติ เจ, นว ปาจิตฺติโย มตาติ โยชนา.
๑๔๐๓. อกปฺปิเยน สปฺปินา เทหีติ วุตฺเตปีติ โยชนา, สหตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘ภตฺต’’นฺติ อธิกตํ. ‘‘เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) วุตฺตปฺปการสฺส วิปริยายโต อกปฺปิยํ ทฏฺพฺพํ. เตน เจ เทตีติ ยทิ เตน ยาจิเตน เตเนว อกปฺปิเยน สทฺธึ โอทนํ เทตีติ.
๑๔๐๔. ตถาสฺิสฺสาติ ¶ ตถาสฺิโน, คิลาโนมฺหีติสฺิโนติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘คิลาโน คิลานสฺี, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๑).
๑๔๐๕. คิลานกาเล วิฺตฺตํ อคิลานสฺส ภฺุชโต อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. เอวมิตเรหิปิ ทฺวีหิ ปเทหิ โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘อนาปตฺติ คิลาโน หุตฺวา วิฺาเปตฺวา อคิลาโน ภฺุชตี’’ติอาทิ (ปาจิ. ๒๖๒). าตกาทีนนฺติ เอตฺถ ‘‘อายตฺต’’นฺติ เสโส. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปวาริตานํ อฺสฺสตฺถาย อตฺตโน ธเนน อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาตีติ.
๑๔๐๖. จตฺตาริ สมุฏฺานานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘กายโต’’ติอาทิ.
ปณีตโภชนกถาวณฺณนา.
๑๔๐๗. ‘‘อทินฺน’’นฺติ ¶ อิมินา อทินฺนาทานสิกฺขาปเท (ปารา. ๙๑ อาทโย) วิย ปรปริคฺคหิตํ อวตฺวา อปฺปฏิคฺคหิตเมว วตฺตพฺพํ. ยถาห ‘‘อทินฺนํ นาม อปฺปฏิคฺคหิตกํ วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๖). มุขทฺวารนฺติ มุเข ทฺวารํ มุขทฺวารํ, คลนาฬิกา, อิมินา ปน วจเนน ยํ กิฺจิ อชฺโฌหรณียํ, ตํ มุเขน วา ปวิสตุ นาสิกาย วา, คลพิลํ ปวิฏฺเมว อาปตฺติกรนฺติ ทีเปติ. อาหารนฺติ อุทกทนฺตโปเนหิ อฺํ อชฺโฌหริตพฺพํ ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกาทึ. ยถาห ‘‘อาหาโร นาม อุทกทนฺตโปนํ เปตฺวา ยํ กิฺจิ อชฺโฌหรณีย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๖๖).
อาหเรยฺยาติ มุขทฺวารํ ปเวเสยฺย, อิมินา ปรคลํ อกตฺวา มุเขน ปฏิคฺคหิตคฺคหเณปิ นตฺถิ โทโสติ สูจิตํ. เตเนวาห ‘‘ทนฺตโปโนทกํ หิตฺวา’’ติ. เตเนว วุตฺตํ คณฺิปเท ‘‘ภควโต ทนฺตกฏฺสฺส มุขทฺวารปเน อนาปตฺติวจเนเนว ยํ กิฺจิ วตฺถุํ ปรคลํ อกตฺวา มุเข ปเน อนาปตฺติภาโว วุตฺโต’’ติ. อุทกฺหิ ยถาสุขํ ปาตุํ, ทนฺตกฏฺฺจ ทนฺตโปนปริโภเคน ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺส ปน รสํ คิลิตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิ ทนฺตกฏฺรโส อชานนฺตสฺส อนฺโต ปวิสติ, ปาจิตฺติยเมว. ทนฺเต ปุนนฺติ นิมฺมเล กโรนฺติ เอเตนาติ ทนฺตโปนํ.
๑๔๐๘-๙. พฺยติเรกมุเขน ¶ อทินฺนลกฺขณํ, ปทภาชเน จ วุตฺตนเยน ปมํ ทินฺนลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘หตฺถปาโส’’ติอาทิ. หตฺถปาโสติ ปวารณสิกฺขาปเท –
‘‘คณฺหโต ปจฺฉิมํ องฺคํ, ททโต ปุริมํ ปน;
อุภินฺนํ อฑฺฒเตยฺยํ เจ, วินา หตฺถํ ปสาริต’’นฺติ. (วิ. วิ. ๑๒๗๕) –
วุตฺตลกฺขโณ ¶ หตฺถปาโส. อภินีหาโรติ ตตฺเถว วุตฺตนเยน อภิมุขํ กตฺวา หรณฺจ. มชฺฌิมุจฺจารณกฺขโมติ ปฏิคฺคเหตพฺพภารสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน อุกฺขิปนารหตา. ภาวปฺปธาโนยํ นิทฺเทโส. อวกํโส ปน ‘‘อนฺตมโส รถเรณุมตฺตมฺปี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๙) อฏฺกถาวจนโต เวทิตพฺโพ. อุจฺจารณํ อุกฺขิปนํ. ‘‘อมนุสฺโส’’ติ อิมินา ตทฺสตฺตสามฺเน ติรจฺฉานคตาปิ เวทิตพฺพา. ‘‘ปกฺขี วา’’ติอาทิวกฺขมาเนน วา เวทิตพฺพา. กายาทินาติ กายกายปฏิพทฺธนิสฺสคฺคิยานํ อฺตเรน. เตเนวาห ‘‘ติธา’’ติ.
ทฺวิธาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา. ปฺจงฺคสํโยเคติ เอตฺถ ‘‘หตฺถปาโส’’ติ ปมงฺคํ, ‘‘อภินีหาโร’’ติ ทุติยํ, ‘‘มชฺฌิมุจฺจารณกฺขโม’’ติ ตติยํ, ‘‘มนุสฺโส…เป… ติธา’’ติ จตุตฺถํ, ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ…เป… ทฺวิธา’’ติ ปฺจมนฺติ อิมานิ ปฺจ องฺคานิ, ปฺจนฺนํ องฺคานํ สํโยโค สมาคโม สนฺนิปาโต ปฺจงฺคสํโยโค, ตสฺมึ. คหณนฺติ ปฏิคฺคหณํ. ตสฺส ภิกฺขุโน. รูหติ สมฺปชฺชติ.
๑๔๑๐-๑๒. อิตโรติ ปฏิคฺคาหโก. ตสฺส องฺคสฺส. น คจฺฉตีติ นโค, ‘‘นโค’’ติ รุกฺโขปิ ปพฺพโตปิ วุจฺจติ. เอวรูเปติ อีทิเส อุจฺจนีจฏฺาเน.
๑๔๑๕-๖. อีสกํ โอนตฺวา โถกํ นาเมตฺวา เตน ภิกฺขุนา ตํ เหฏฺิมํ ภาชนํ เอกเทเสนาปิ ปฏิจฺฉิตพฺพนฺติ โยชนา.
๑๔๑๗. อุคฺฆาเฏตฺวา ¶ อุจฺจาเรตฺวา, ภาชนานิ วิสุํ วิสุํ โอโรเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๔๑๘. กาชภตฺตนฺติ ¶ ภตฺตกาชํ, ภตฺตภริตํ ปิฏกนฺติ วุตฺตํ โหติ. โอนตฺวา เทตีติ สยํ โอนมิตฺวา พฺยาภงฺคึ เทติ.
๑๔๑๙. ‘‘ตึสหตฺโถ’’ติ อิทํ ตึสรตนมตฺโต เจ โหติ, ‘‘ทูร’’นฺติ น ปริสงฺกิตพฺโพติ ทสฺสนตฺถมาห. คหิเตกสฺมินฺติ อุภยโกฏีสุ ปิเต ทฺเว ฆเฏ ปฏิคฺคหาเปตุํ หตฺถปาเส ิเตน ทายเกน ทิยฺยมานํ ตึสหตฺถเวณุํ ปฏิคฺคณฺหนฺเตน เยน เกนจิ กายปฺปเทเสน วา กายปฏิพทฺเธน วา ‘‘อิมํ คณฺหามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา มฺจาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ผุสิตฺวา ปฏิคฺคหิเตติ วุตฺตํ โหติ. ตํ สพฺพนฺติ เตสุ ทฺวีสุ ฆเฏสุ ปกฺขิตฺตํ สพฺพเมว. คหิตเมวาติ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ, ทายกสฺส หตฺถปาสพฺภนฺตเร คตตฺตา อิทํ ตสฺส กายปฏิพทฺธนฺติ ‘‘ทูร’’นฺติ สงฺกา น กาตพฺพาติ เอวกาเรน ทีเปติ. ‘‘ทฺวีสุ ฆเฏสุ ภูมิยํ ปิเตสุปิ ตตฺถ พนฺธนเวฬุยํ ปฏิคฺคณฺหนมตฺเตเนว ปฏิคฺคหิตํ โหตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ.
๑๔๒๐-๒๔. ‘‘กฏสารเก’’ติ อิมินา โทณิผลกาทโย อุปลกฺขิตา. ‘‘นิสีทตี’’ติ อิทํ ‘‘ติฏฺตี’’ติอาทีนํ อุปลกฺขณํ. มฺจาทีนิ ผุสิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘องฺคุลิยาปี’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘ปฏิคฺคหณสฺาย มฺจาทีนิ องฺคุลิยาปิ ผุสิตฺวา ิเตน วา นิสินฺเนน วา นิปนฺเนน วา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). ปตฺเตสูติ ตถา ปิเตสุ สพฺเพสุ ปตฺเตสุเยว. ยฺจ ทียตีติ เอตฺถ ‘‘ตถา ิเตนา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
มฺจาทีสุ องฺคุลิอาทินา เยน เกนจิ ผุฏฺมตฺเตปิ ปฏิคฺคหณสฺส รุหณภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทาโรหเณนาปิ สิชฺฌตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปฏิคฺคเหสฺสามี’’ติอาทิ. สเจ ปน ¶ ปฏิคฺคเหสฺสามิจฺเจว มฺจาทีนิ อารุหิตฺวา นิสีทติ, ทายโกปิ หตฺถปาเส ตฺวาน เทติ เจ, ตํ สพฺพํ คหิตํ โหตีติ โยชนา.
กุจฺฉิยา กุจฺฉึ อาหจฺจ เย ปตฺตา ภูมิยํ ิตา, เตสุ ยํ ยํ ปตฺตํ องฺคุลิยาปิ วา สูจิยาปิ วา ผุสิตฺวา นิสินฺโน, ตตฺถ ตตฺเถว ทียมานมฺปิ ปฏิคฺคณฺหาติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.
๑๔๒๕. กฏสาราทโย ¶ สเจ มหนฺตา, ปฏิคฺคหณํ น รุเหยฺยาติ วิกปฺโป สิยาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถมาห ‘‘กฏสารเก’’ติอาทิ. ‘‘มหนฺตสฺมิ’’นฺติ อิมินา กฏสารกสฺส ปุน วจเน เหตุมาห. หตฺถตฺถรํ นาม หตฺถิปิฏฺเ อตฺถริตพฺพํ อตฺถรณํ. อาทิ-สทฺเทน อสฺสตฺถรรถตฺถราทึ สงฺคณฺหาติ. ิตปตฺเตสุ ทิยฺยมานํ คณฺหโต ปฏิคฺคหณรุหณเหตุํ ทสฺเสติ ‘‘หตฺถปาสสฺมึ วิชฺชมาเน ตู’’ติ. ตุ-สทฺโท วุตฺตวิเสสเมว โชเตติ.
๑๔๒๖. ตตฺถชาตกปณฺเณสูติ รุกฺเขเยว ิเตสุ ปณฺเณสุ. คเหตุนฺติ ปฏิคฺคเหตุํ. ‘‘น ปเนตานี’’ติอาทิ เยน เหตุนา น วฏฺฏติ, ตสฺส ทสฺสนํ. หิ-สทฺโท ปสิทฺธึ สูเจติ.
๑๔๒๗. ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน อุกฺขิปิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อสํหาริยํ. ตาทิเสติ ตถารูเป, อสํหาริเยติ วุตฺตํ โหติ. ขาณุพทฺเธติ ภูมิยํ นิขาตขาณุเก พทฺเธ.
๑๔๒๘. ตินฺติณิกาติ จิฺจา. อาทิ-สทฺเทน ตถา ขุทฺทกานํ กทมฺพปุปฺผปณฺณาทีนํ คหณํ. ‘‘ตินฺติณิกาทิปณฺเณสู’’ติ วจนโต สาขาสุ ปฏิคฺคหณํ รุหตีติ ทฏฺพฺพํ. ภูมิยํ ปตฺถเฏสูติ โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘ภูมิยํ อตฺถเตสุ สุขุเมสุ ตินฺติณิกาทิปณฺเณสุปิ ปฏิคฺคหณํ น รุหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).
๑๔๒๙. ปริเวสโกติ ¶ ทายโก.
๑๔๓๐. อเสสโต ปฺุฉิตฺวาติ โยชนา.
๑๔๓๑. ปฏิคฺคเหตฺวาวาติ ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวาว. ภิกฺขา คเหตพฺพาติ สมฺพนฺโธ.
๑๔๓๒. อปฏิคฺคหิเตติ เอตฺถ ‘‘ปตฺเต’’ติ เสโส. ตํ ปจฺฉา ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชโต อนาปตฺตีติ โยชนา.
๑๔๓๓. อนาทิยิตฺวาติ อคฺคเหตฺวา, ตสฺมึ วจเน อาทรํ อกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๔๓๕. อฺสฺส ¶ อนุปสมฺปนฺนสฺส.
๑๔๓๖. ปุพฺพาโภคสฺส อนุรูปวเสน ‘‘สามเณรสฺส ตํ ทตฺวา…เป… ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ตํ ‘‘อฺสฺส ทสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน ปรสนฺตกํ นาม น โหติ, ตสฺมา ตสฺส อทตฺวาปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
๑๔๓๗-๙. ภิกฺขุโนติ อฺสฺส ภิกฺขุสฺส. ภตฺตสฺสาติ กฺชิกาทิทฺรวมิสฺสภตฺตมาห. อุปฺลวตีติ อุปริ ปฺลวติ. กฺชิกนฺติ อารนาลํ, อิมสฺส อุปลกฺขณตฺตา ขีรตกฺกาทิทฺรวํ สงฺคหิตํ. ปวาเหตฺวาติ มตฺถกโต ปลาเปตฺวา. อนฺโต ปวิฏฺํ สเจ ตนฺติ ตํ รชํ ยทิ ภตฺตสฺส อนฺโต ปวิฏฺํ โหติ. ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อสติ หตฺถโต อโมเจนฺเตเนว ยตฺถ อนุปสมฺปนฺโน อตฺถิ, ตํ ตตฺถ เนตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพํ.
๑๔๔๐. อปนียาวาติ เอตฺถ ‘‘ถูล’’นฺติ อิทํ ‘‘สุขุมํ เจ’’ติ วกฺขมานวิปริยายโต ลพฺภติ. สภตฺตํ อปนียาติ ¶ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘อุปริภตฺเตน สทฺธึ อปเนตพฺพํ, ปฏิคฺคเหตฺวา วา ภฺุชิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).
๑๔๔๑. เถโวติ พินฺทุ. เถโว…เป… วฏฺฏตีติ เอตฺถ ยถา ปมตรํ ปติตเถเว โทโส นตฺถิ, ตถา อากิริตฺวา อปเนนฺตานํ ปจฺฉา ปติตเถเวปิ อภิหฏตฺตา เนวตฺถิ โทโส.
๑๔๔๒-๔. จรุเกนาติ ขุทฺทกอุกฺขลิยา. ตโต จรุกโต. มสีติ ชลฺลิกาอาทิกา ภสฺมา. ภาชเนติ ภาชนปตฺตาทิภาชเน. ตสฺส จาติ ตสฺส มสิอาทิโน จ.
อนนฺตรสฺส ภิกฺขุสฺส ทียมานํ ยํ ปตฺตโต อุปฺปติตฺวา อิตรสฺส ภิกฺขุโน ปตฺเต สเจ ปตติ, ตํ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ, ตสฺมา วฏฺฏเตวาติ โยชนา. ‘‘ทียมาน’’นฺติ เอตฺถ ‘‘ภตฺตาทิกํ ยํ กิฺจี’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. วฏฺฏเตวา ยนฺติ เอตฺถ ‘‘วฏฺฏเตว อย’’นฺติ ปทจฺเฉโท น กาตพฺโพ ‘‘อย’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺธนียสฺส อภาวโต. ตสฺมา ว-กาโร คาถาฉนฺทวเสน ทีฆํ กตฺวา วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
๑๔๔๕-๖. ปายาสสฺสาติ ¶ เอตฺถ ปูรณโยเค สามิวจนํ, ปายาเสนาติ วุตฺตํ โหติ. อุณฺหโตติ อุณฺหตฺตา. น สกฺกตีติ น สกฺโกติ. มุขวฏฺฏิยํ วฏฺฏตีติ มุขวฏฺฏึ อุกฺขิปิตฺวา หตฺเถ ผุสาปิเต คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. ตถา มุขวฏฺฏิยา คเหตุํ น สกฺกา เจ, อาธารเกนปิ คเหตพฺโพติ โยชนา.
๑๔๔๗-๘. อาหริยมานํ วา เนว ชานาติ, ทียมานํ วา น ชานาตีติ โยชนา. คาถาพนฺธวเสน ‘‘ชานตี’’ติ รสฺโส กโต. อาโภคนฺติ ‘‘คณฺหามี’’ติ อาโภคํ. ยถาห ¶ มหาปจฺจริยํ ‘‘อาโภคมตฺตเมว หิ เอตฺถ ปมาณ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). ‘‘กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) วุตฺตตฺตา ปตฺตํ คเหตฺวา นิสินฺนตฺตา ‘‘กายปฏิพทฺเธน คณฺหิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวาติปิ ยุชฺชเตว.
๑๔๔๙. ‘‘หตฺเถน มฺุจิตฺวา’’ติ อิทํ ‘‘อาธารกมฺปิ วา’’ติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. ‘‘ปาเทน เปลฺเลตฺวา’’ติ อิมินา ปน ‘‘อาธารก’’นฺติ อิทเมว โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘หตฺเถน อาธารกํ มฺุจิตฺวา ปาเทน เปลฺเลตฺวา นิทฺทายตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). เปลฺเลตฺวาติ ปีเฬตฺวา, อกฺกมิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๔๕๐. กมิ-ธาตุสฺส มชฺเฌ ‘‘อกฺก’’อิติ ปทจฺเฉโท ยติหีนโทโสติ.
‘‘สิโลเก นิยตฏฺานํ, ปทจฺเฉทํ ยตึ วิทู;
ตทเปตํ ยติพฺภฏฺํ, สวนุพฺเพชนํ ยถา’’ติ. –
ทณฺฑินา วุตฺตลกฺขณโต สิทฺธตาย โทโส ยถา น โหติ, ตถา วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ. เกจิ ปเนตฺถ อิ-การาคมสฺส ปจฺจยภาวตฺตา ตํสหิโต ม-กาโร ตคฺคหเณน สงฺคยฺหตีติ อุภยปกฺขภาคีติ ธาตุปจฺจยานํ มชฺเฌ ยติยา อิจฺฉิตตฺตา น โทโสติ ปริหรนฺติ. ชาครสฺสาปีติ อนิทฺทายนฺตสฺสาปิ. อนาทโรติ อนาทรภาโว.
๑๔๕๑. ตสฺมาติ ตถา คหณสฺส อนาทรภาวโต. ตนฺติ ตํ อาธารกํ ปาเทน อกฺกมิตฺวา ปฏิคฺคหณฺจ. ทียมานนฺติ ทายเกน ปฏิคฺคหาปิยมานํ. ปตตีติ ปฏิคฺคาหกสฺส ¶ หตฺถํ อผุสิตฺวา รโชรหิตาย สุทฺธภูมิยา วา ปทุมินิปณฺณาทีสุ วา ปตติ. ยถาห ‘‘ยํ ทิยฺยมานํ ทายกสฺส หตฺถโต ¶ ปริคฬิตฺวา สุทฺธาย ภูมิยา วา ปทุมินิปณฺณวตฺถกฏสารกาทีสุ วา ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). สรชาย ภูมิยา ปติเต รชํ ปฺุฉิตฺวา วา โธวิตฺวา วา ปฏิคฺคหาเปตฺวา วา ปริภฺุชิตพฺพนฺติ อิทํ อฏฺกถายํ ปน ‘‘สรชาย ภูมิยํ ปตตี’’ติอาทินา ทสฺสิตํ. คเหตุนฺติ เอตฺถ ‘‘ภฺุชิตุ’’นฺติ จ วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘ปริจฺจตฺตํ ทายเกหี’’ติ จ เสโส. ยถาห ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ยํ ทิยฺยมานํ ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ. ปริจฺจตฺตํ ตํ ภิกฺขเว ทายเกหี’’ติ (จูฬว. ๒๗๓). ‘‘ยํ ทิยฺยมานํ ปตตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา จตูสุปิ กาลิเกสุ อยํ นโย เวทิตพฺโพ.
๑๔๕๒. อพฺโพหาริกนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภฺุชนฺตาน’’นฺติ.
๑๔๕๓-๔. ตํ มลํ. เตสูติ อุจฺฉุอาทีสุ วตฺถูสุ. ตนฺติ มลมิสฺสกํ อุจฺฉุอาทิกํ วตฺถุ. น ปฺายตีติ น ปน ปฺายติ. ตสฺมินฺติ อุจฺฉุอาทิวตฺถุสฺมึ.
๑๔๕๕. นิสโททุกฺขลาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน นิสทโปตมุสลาทีนํ คหณํ.
๑๔๕๖. วาสิยา อุปลกฺขณตฺตา ตชฺชาติกํ ยํ กิฺจิ สตฺถมฺปิ คเหตพฺพํ. ขีเรติ อนุปสมฺปนฺเนน ตาปิตขีเร, อิทํ อุปริ อามกสฺส วิสุํ คหเณน วิฺายติ. นีลิกาติ นีลวณฺณํ. สตฺถเก วิย นิจฺฉโยติ สตฺเถน อุฏฺิตมเล อุจฺฉุขณฺเฑ วิย ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตพฺพนฺติ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
๑๔๕๗. ตนฺติ ตํ อคฺคิสนฺตตฺตวาสิอาทึ, ตาปวตฺถุโต วาสิ คเหตพฺพา.
๑๔๕๙. ตนฺติ ¶ ตํ หตฺถาทิกายาวยวํ วา จีวรํ วา โธวิตฺวา ปติตกิลิฏฺชลมิสฺสโมทนํ. รุกฺขมูลาทีสุ นิสีทิตฺวา ภฺุชนฺตสฺส ปตฺตาทีสุ รุกฺขปณฺณาทึ โธวิตฺวา ปติตกิลิฏฺโทเกปิ เอเสว วินิจฺฉโยติ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอเสวา’’ติอาทิ.
๑๔๖๐. ชลํ ¶ สเจ สุทฺธํ ปตติ, วฏฺฏตีติ โยชนา, ‘‘รุกฺขโต’’ติ ลพฺภติ. อพฺโภกาเส จ สเจ สุทฺธํ โตยํ ปตติ, วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘อากาสโต’’ติ ลพฺภติ. อุภยตฺถาปิ รุกฺขปณฺเณสุ, อากาเส จ รชสฺส ปมเมว วสฺโสทเกน โธวิตตฺตา อาห ‘‘สุทฺธ’’นฺติ.
๑๔๖๑. อจฺฉุปนฺเตนาติ อผุสนฺเตน. ตสฺส สามเณรสฺส.
๑๔๖๒. ปตฺตนฺติ อนุปสมฺปนฺนสฺส ปตฺตํ. ฉุปิตฺวาติ อนุปสมฺปนฺนปตฺตคโตทนํ ผุสิตฺวา. ตํ อตฺตโน ปตฺเต ภตฺตํ. ยถาห ‘‘อปฺปฏิคฺคหิเต โอทนํ ฉุปิตฺวา ปุน อตฺตโน ปตฺเต โอทนํ คณฺหนฺตสฺส อุคฺคหิตโก โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).
๑๔๖๔. ปจฺฉาติ ตสฺมึ คหิเตปิ อคหิเตปิ ปจฺฉา. ตํ ปฏิคฺคหิตโภชนํ.
๑๔๖๗. ตสฺส อตฺตโน ปตฺตคตสฺส ภตฺตสฺส.
๑๔๖๘. ปเรนาติ อปฺปฏิคฺคหิตปตฺเตน.
๑๔๖๙-๗๐. ‘‘ยาคุอาทีนํ ปจเน ภิกฺขูนํ ภาชเน’’ติ สมฺพนฺโธ. ปจนฺติ เอตฺถาติ ปจนํ, ภาชนํ. ภาชนูปริ หตฺเถสุ สามเณรสฺสาติ ภาชนสฺส อุปริ กเตสุ สามเณรสฺส หตฺเถสุ. ปติตํ หตฺถโต ตสฺมินฺติ ตสฺส สามเณรสฺส ¶ หตฺถโต ปริคฬิตฺวา ตสฺมึ ภาชเน ปติตํ.
๑๔๗๑. ‘‘น กโรติ อกปฺปิย’’นฺติ เอตฺถ การณมาห ‘‘ปริจฺจตฺตฺหิ ต’’นฺติ. ตฺหิ ยสฺมา ปริจฺจตฺตํ, ตสฺมา อกปฺปิยํ น กโรตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ อกตฺวาติ ยถาวุตฺตปกาเรน อกตฺวา. อากิรเตว เจติ สเจ ภาชเน อากิรติ เอว. ตํ ตถา ปกฺขิตฺตํ ภตฺตภาชนํ. นิรามิสํ กตฺวาติ ตตฺถ ปติตํ อามิสํ ยถา น ติฏฺติ, เอวํ โธวิตฺวา ภฺุชิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ.
๑๔๗๒-๓. กุฏนฺติ ¶ ฆฏํ. อาวชฺเชตีติ กุฏํ นาเมตฺวา ยาคุํ อาสิฺจติ.
๑๔๗๔. หตฺเถติ ทฺเว หตฺเถ. ตตฺถาติ ตตฺถ ภูมิยํ ปิเตสุ ทฺวีสุ หตฺถตเลสุ.
๑๔๗๕-๖. เอกสฺส คหณูปคํ เจ ภารนฺติ ถามมชฺฌิเมน เอเกน ปุริเสน อุกฺขิปนปฺปมาณํ ภารํ สเจ ภเวยฺย. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘เอกสฺส คหณูปคํ ภาร’’นฺติ อิทํ ปจฺจามสติ.
๑๔๗๗. ลคฺเคนฺตีติ โอลมฺพนฺติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ มฺจปีเ. วฏฺฏเตวาติ อุคฺคหิตกํ น โหตีติ ทีเปติ.
๑๔๗๘. สมฺมุชฺชนฺโตติ สมฺมชฺชนฺโต. ฆฏฺเฏตีติ อสฺจิจฺจ สมฺมชฺชนิยา ผุสติ.
๑๔๗๙. ตํ ตฺวาติ ปฏิคฺคหิตภาวํ ตฺวา. เปตุํ วฏฺฏติ อุคฺคหิตกํ น โหตีติ อธิปฺปาโย.
๑๔๘๐. ตนฺติ ปฏิคฺคหิตสฺาย คหิตํ ตํ อปฺปฏิคฺคหิตํ. อฺถา ปน น กตฺตพฺพนฺติ อปิหิตํ ปิธาตฺุจ ปิหิตํ วิวริตฺุจ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
๑๔๘๑. พหิ ¶ เปติ เจติ ยทิ ปุพฺเพ ปิตฏฺานโต พหิ เปติ. เตนาติ พหิ เปตฺวา มุตฺตหตฺเถน เตน ภิกฺขุนา. ตนฺติ พหิ ปิตํ หตฺถโต มุตฺตํ. ตฺวาติ อปฺปฏิคฺคหิตภาวํ ตฺวา. ตํ ตถา ตฺวา ปิตํ.
๑๔๘๒-๓. อุฏฺเติ ยทิ กณฺณิกาติ สเจ กณฺณิกา สฺชายติ. สิงฺคิเวราทิเกติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปิปฺผลิอาทีนํ คหณํ. มูเลติ ปฺจมูลาทิเก มูเล. ฆุณจุณฺณนฺติ ฆุณปาณเกหิ อุปฺปาทิตจุณฺณํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อุฏฺเตี’’ติ กิริยํ ปจฺจามสติ. ตํสมุฏฺานโตติ ปฏิคฺคหิตเตลาทีสุ สมุปฺปนฺนตฺตา. ตฺเวาติ ปวุจฺจตีติ ปมปฏิคฺคหิตํ ตเมว เตลาทิกนฺติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘ปฏิคฺคหณ…เป… น วิชฺชตี’’ติ.
๑๔๘๔-๕. โกจิ ¶ ปุคฺคโลติ สามเณรคมิกาทีสุปิ โย โกจิ สตฺโต. ตาลปิณฺฑินฺติ ตาลกณฺณิกํ ผลํ. อฺโ ภูมฏฺโติ ภูมิยํ ิโต อฺโ โกจิ ปุคฺคโล อิตฺถี วา ปุริโส วา.
๑๔๘๖. ฉินฺทิตฺวาติ ฉินฺทํ กตฺวา. วตินฺติ หตฺถปาสปฺปโหนกพหลวตึ. ยถาห ‘‘หตฺถปาเส สตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). ทณฺฑเก อผุสิตฺวาวาติ ยตฺตเกน คมนเวโค นิพฺพายติ, เอตฺตกํ, ปหรณโต วติทณฺฑเก วา อปฺปหริตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปหริตฺวา ตฺวา คจฺฉติ เจ, น วฏฺฏติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘มยํ ปน ‘ยํ านํ ปหฏํ, ตโต สยํ ปติตมิว โหตี’ติ ตกฺกยาม. ตสฺมิมฺปิ อฏฺตฺวา คจฺฉนฺเต ยุชฺชติ สุงฺกฆาตกโต ปวฏฺเฏตฺวา พหิ ปติตภณฺฑํ วิยา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).
๑๔๘๗-๘. ปากาโรติ ¶ เอตฺถ ‘‘วตึ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) อฏฺกถายํ อาคตตฺตา อิทํ อธิการโต คเหตพฺพํ. ‘‘น ปุถุโล’’ติ เอตฺถ อธิปฺเปตปฺปมาณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนฺโต…เป… ปโหติ เจ’’ติ. ‘‘อุทฺธํ หตฺถสตํ คนฺตฺวา’’ติ อิมินา ทายกสฺส ทาตุมิจฺฉาย อากาสํ ตํ อุกฺขิปิตฺวา วิสฺสฏฺภาวํ าเปติ. สมฺปตฺตนฺติ หตฺถปฺปตฺตํ. คณฺหโตติ ปฏิคฺคหณสฺาย คณฺหโต.
๑๔๘๙. ‘‘สามเณร’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณนฺติ คิหิโนปิ คหณํ. ตตฺเถวาติ ขนฺเธ เอว. นิสินฺโน สามเณโร.
๑๔๙๑-๒. ผลินึ สาขนฺติ ผลวตึ สาขํ. ‘‘ขาทิตุ’’นฺติ อิทํ ‘‘จิตฺเต สมุปฺปนฺเน’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ. สเจ ผลํ ขาทติ, เอวํ ขาทิตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. มกฺขิกานํ นิวารตฺถนฺติ มกฺขิกานํ นิวาเรตุํ.
๑๔๙๓. ฉายตฺถฺจ มกฺขิกา นิวาเรตฺุจ คยฺหมานา ผลสาขา สุขปริโภคตฺถาย กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคหิตา เจ, ขาทิตุมิจฺฉาย สติ ปุน อปฺปฏิคฺคหิตาปิ วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘กปฺปิยํ ปน กาเรตฺวา’’ติอาทิ.
๑๔๙๔-๕. ‘‘ตํ ¶ โส ปฏิคฺคหาเปตฺวา’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘คเหตฺวา’’ติ อิทํ อปฺปฏิคฺคหาเปตฺวา คหณํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ตํ ปฏิคฺคหิตนฺติ เอตฺถ ‘‘เจ ปุพฺพเมวา’’ติ เสโส.
๑๔๙๖-๙. ภิกฺขุสฺส ปาเถยฺยตณฺฑุเลติ สมฺพนฺโธ. โสติ สามเณโร. อิตเรหีติ ภิกฺขุนา คหิเตหิ อตฺตโน ตณฺฑุเลหิ.
ทฺวีสุ ปตฺเตสูติ อุปลกฺขณํ. พหูสุปิ เอเสว นโย. อตฺตนา ลทฺธํ ภิกฺขูนํ ทตฺวา เตหิ ลทฺธํ อตฺตนา คเหตฺวา อฺเสํ ¶ ทานวเสน พหุนฺนมฺปิ ทาตุํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ ตเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘ยาคุํ ภิกฺขุสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘อาวุโส ตุยฺหํ ยาคุํ มยฺหํ เทหี’ติ เอวํ เถเรหิ ปฏิปาฏิยา ยาจิตฺวาปิ ปิวิตุํ วฏฺฏติ, สพฺเพหิ สามเณรสฺส สนฺตกเมว ภุตฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. สามเณรสฺส ปีตตฺตาติ เอตฺถ ‘‘ยาคุยา’’ติอิทํ อธิการโต ลพฺภติ.
๑๕๐๐. อิมสฺสาติ ปาเถยฺยตณฺฑุลหารกสฺส. ‘‘น วิเสสตา’’ติ อิมินา วิสุํ อวตฺตพฺพตํ ทีเปติ.
๑๕๐๑. อสฺส วิเสสสฺสาติ ยถาวุตฺตวินิจฺฉยวิเสสสฺส วิสุํ วตฺตพฺพภาเวติ เสโส. ตสฺสาติ สามเณรตณฺฑุลหารกสฺส ภิกฺขุสฺส. สาลยภาวนฺติ อตฺตนา หฏตณฺฑุเลสุ ปริกฺขีเณสุ ‘‘อิทํ อมฺหากมฺปิ ปทสฺสตี’’ติ สาลยภาโว. ฉายาทีนมตฺถาย คยฺหมานาย สาขาย อิมิสฺสา ผลํ ขาทิตุกามตาย สติ ขาทนารหนฺติ อาลยสฺส กาตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา อยมฺปิ อวิเสโสติ วิฺายติ, ตตฺถ สมฺภวนฺตํ ปน วิเสสํ ทสฺเสตุมาหาติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.
๑๕๐๒-๔. นิจฺจาเลตุํ น สกฺโกตีติ นิจฺจาเลตฺวา สกฺขรา อปเนตุํ น สกฺโกติ. เจลโกติ จูฬสามเณโร. ปกฺกกาลสฺมึ วิวริตฺวา ปกฺกตา าตพฺพาติ โยชนา. ปิ-สทฺโท ปน-สทฺทตฺเถ. โอโรเปตฺวาติ อุทฺธนโต โอโรเปตฺวา. ปุพฺพตณฺฑุลโธวนตฺถาย กตปฏิคฺคหณสฺเสว ปมาณตฺตา อาห ‘‘น ปจฺฉสฺส ปฏิคฺคหณการณ’’นฺติ. อสฺสาติ โภชนสฺส.
๑๕๐๕. การิตนฺตสฺส ¶ ¶ ทฺวิกมฺมกตฺตา อาห ‘‘อุทฺธนํ สุทฺธภาชน’’นฺติ, อุทฺธเนติ วุตฺตํ โหติ.
๑๕๐๖. โกจีติ อนุปสมฺปนฺโน. เตน ภิกฺขุนาติ อุทฺธนํ สุทฺธภาชนํ อาโรเปตฺวา เยน อคฺคิ กโต, เตน ภิกฺขุนา. อิทฺจ อุปลกฺขณํ อฺเนปิ น กาตพฺพตฺตา.
๑๕๐๗. ปจฺฉาติ ตณฺฑุลปกฺเขปโต ปจฺฉา. ตํ ยาคุํ. สเจ ปจตีติ อคฺคึ กโรนฺโต ปจติ. สามปากา น มุจฺจตีติ ตํ ยาคุํ ปิวนฺโต สามปากทุกฺกฏโต น มุจฺจติ.
๑๕๐๘. วลฺลิยา สห ตตฺถ วลฺลิยํ ชาตํ ผลํ กิฺจิ อีสกมฺปิ จาเลติ, ตโต ลทฺธํ กิฺจิ ผลํ ตสฺเสว ภิกฺขุโน น วฏฺฏตีติ โยชนา, ตํ ปริภฺุชโต ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ โหตีติ อธิปฺปาโย. ตสฺเสวาติ เอวกาเรน อฺเสํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ.
๑๕๐๙. ปรามฏฺุนฺติ อามสิตุํ. อปสฺสยิตุนฺติ อวลมฺพิตุํ, อปสฺสนํ วา กาตุํ. ‘‘กิรา’’ติ อิมินา เกวลํ มหาปจฺจริยํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) วุตฺตภาวํ สูเจติ.
๑๕๑๐-๑. ตตฺถาติ ตสฺมึ เตเล. หตฺเถน สณฺฑาสคฺคหณํ อมฺุจนฺเตน. ตํ เตลํ.
๑๕๑๕-๖. โลณกิจฺจนฺติ อลวณฏฺาเน โลเณน กาตพฺพกิจฺจํ. สนฺนิหิตเสสกาลิกสมฺมิสฺสํ ยาวชีวิกํ วิย สมุทฺโททกสฺส อสนฺนิธิภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยาวชีวิกสงฺขาต’’นฺติอาทิ. กาลวินิมฺมุตฺตนฺติ อกาลิกํ, จตูสุ กาลิเกสุ อสงฺคหิตนฺติ อตฺโถ.
๑๕๑๗. หิมสฺส กรกาติ หิโมทกสฺส มุตฺตา วิย ปตฺถินสกฺขรา. พหลมฺปิ จาติ ปกฺขิตฺตฏฺาเน มุเข วา กทฺทมวณฺณสฺส ¶ อปฺายนปฺปมาณพหลํ ปานียฺจ. อปฺปฏิคฺคหิตํ วฏฺฏติ. สเจ กทฺทมวณฺณํ ปฺายติ, น วฏฺฏตีติ. ยถาห ‘‘สเจ ปน มุเข จ หตฺเถ จ ลคฺคติ, น วฏฺฏติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).
๑๕๑๘. กสิตฏฺาเนติ ¶ กฏฺฏฺาเน. น วฏฺฏติ อปฺปฏิคฺคหิตํ. เอวํ สพฺพตฺถ.
๑๕๑๙. โสพฺโภ ทุกฺโขคาหนชลาสโย. ‘‘อาวาโฏ’’ติ เกจิ. กกุโธติ อชฺชุโน.
๑๕๒๐. ปานียสฺส ฆเฏติ ปานียฆเฏ. ตํ ปานียฆฏํ.
๑๕๒๑. วาสตฺถาย ปุปฺผานิ วาสปุปฺผานิ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปานียฆเฏ. กมลฺลิกาสูติ ปาฏลิกุสุมาทีหิปิ สห กณฺฏกมลฺลิกาสุ. ทินฺนาสูติ ปานีเย ปกฺขิตฺตาสุ.
๑๕๒๒. วิสตีติ อนฺโตคลํ ปวิสติ. เตเนว อฏฺกถายํ ‘‘อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) วุตฺตํ. อิทํ อฏฺกถาวจนํ ‘‘อฺตฺร อุทกทนฺตโปนา’’ติ (ปาจิ. ๒๖๖) ปาฬิยา วิรุชฺฌตีติ เจ? น วิรุชฺฌติ. สา หิ เกวลํ ทนฺตกิจฺจํ สนฺธาย วุตฺตา, อิทํ รสํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ. เตเนว ตทนนฺตรํ ‘‘อชานนฺตสฺส รเส ปวิฏฺเปิ อาปตฺติเยว. อจิตฺตกฺหิ อิทํ สิกฺขาปท’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) วุตฺตํ. ตสฺส สิกฺขาปทสฺส อจิตฺตกตา ‘‘อปฺปฏิคฺคหิตเก ปฏิคฺคหิตสฺี’’ติอาทิกาย ปาฬิยา กปฺปิยสฺิโนปิ ปาจิตฺติยสฺส วุตฺตตฺตา วิฺายติ. ปสนฺโนทกสฺส ปน อปฺปฏิคฺคเหตฺวาปิ ปาตพฺพตาย ทนฺตกฏฺเน สทิสตฺตา เอกโยคนิทฺทิฏฺานํ สเหว ปวตฺตีติ วิฺายติ. อุทกสฺส จ ทนฺตโปนสฺส จ ตุลฺยโทเสน ภวิตพฺพนฺติ.
๑๕๒๓. มุตฺโตทกสิงฺฆาณิกาทิทฺรวอสฺสุขีราทิทฺรวสฺส ¶ อาโปธาตุปฺปการตฺตา, กณฺณมลาทิโน ฆนทพฺพสฺส ปถวิธาตุปฺปการตฺตา ‘‘สรีรฏฺเสุ ภูเตสู’’ติ อิมินา ขีราทิมาห. ‘‘กิ’’นฺติ อิทํ น วฏฺฏตีติ ปเทนปิ โยเชตพฺพํ. กปฺปากปฺปิยมํสานนฺติ เอตฺถ ‘‘สตฺตาน’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
๑๕๒๔. โลณนฺติ เอตฺถ ‘‘เอตํ สพฺพมฺปี’’ติ อิทํ อธิการโต ลพฺภติ.
๑๕๒๕. เอตฺถาติ เอเตสุ ยถาวุตฺเตสุ กณฺณมลาทีสุ.
๑๕๒๘. จตฺตาริ ¶ วิกฏานีติ มหาวิกฏํ นาม คูถํ, มตฺติกา, มุตฺตํ, ฉาริกา จาติ วุตฺตานิ จตฺตาริ วิกฏานิ. ตานิ หิ วิรุทฺธานิ สปฺปวิสานิ กตานิ วิหตานีติ ‘‘วิกฏานี’’ติ วุจฺจนฺติ. นตฺถิ ทายโก เอตฺถาติ นทายกํ, านํ, ตสฺมึ. ‘‘น อ โน มา อลํ ปฏิเสเธ’’ติ วุตฺตตฺตา ปฏิเสธวาจินา น-สทฺเทน สมาโส, ‘‘อทายเก’’ติ อิมินา อนตฺถนฺตรํ. อิธ ทุพฺพโจ จ อสมตฺโถ จ อสนฺโต นามาติ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕; กงฺขา. อฏฺ. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา, อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. อิทํ กาโลทิสฺสํ นาม.
๑๕๒๙. ปถวินฺติ อกปฺปิยปถวึ. ตรุนฺติ อลฺลรุกฺขํ. อิมินา สปฺปทฏฺกาเล อสติ กปฺปิยการเก วิกฏตฺถาย อตฺตนา จ กตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
๑๕๓๐. อจฺเฉทคาหโตติ วิลุมฺปิตฺวา คณฺหนโต. ‘‘ตสฺสา’’ติ อิทํ สพฺเพหิ เหตุปเทหิ ยุชฺชติ. ตสฺสาติ อปฺปฏิคฺคหิตสฺสาติ อตฺโถ. อปรสฺส อภิกฺขุกสฺส ทาเนน จาติ โยชนา. ‘‘อภิกฺขุกสฺสา’’ติ ปน วิเสสเนน อุปสมฺปนฺนสฺส ¶ ทินฺเน ปฏิคฺคหณํ น วิชหตีติ ทีเปติ. สพฺพนฺติ ยถาวุตฺตํ กาเยน คหณาทิปฺปการสฺส กลฺยํ คหิตํ. เอวนฺติ อิมินา นิยาเมน.
๑๕๓๑. ทุรุปจิณฺเณติ ทุฏฺุ อุปจิณฺเณ ทุรามฏฺเ, อปฺปฏิคฺคหิตสฺส อามิสภตฺตภาชนาทิโน กีฬาวเสน หตฺเถน ปรามสเน จ ตตฺถชาตกผลินึ สาขาย วา วลฺลิยา วา คเหตฺวา จาลเน จาติ อตฺโถ. อุคฺคหิตสฺส คหเณติ อปฺปฏิคฺคหิตภาวํ ตฺวาว คหิตสฺส กสฺสจิ วตฺถุโน ปฏิคฺคหเณ จ. อนฺโตวุตฺเถ จาติ อกปฺปิยกุฏิยา อนฺโต เปตฺวา อรุณํ อุฏฺาปิเต จ. สยํปกฺเก จาติ ยตฺถ กตฺถจิ อตฺตนา ปกฺเก จ. อนฺโตปกฺเก จาติ อกปฺปิยกุฏิยา อนฺโตเยว ปกฺเก จ. ทุกฺกฏํ นิทฺทิฏฺนฺติ สมฺพนฺโธ.
๑๕๓๒-๓. ปฏิคฺคหิตเก ตสฺมึ ปฏิคฺคหิตสฺิสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ทนฺตโปนํ ทนฺตกฏฺํ.
๑๕๓๔. ภิกฺขุนีนนฺติ ภิกฺขุโน จ ภิกฺขุนิยา จ ภิกฺขุนีนํ, เอกเทสสรูเปกเสโส. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. วินิจฺฉโย นวมชฺฌิมเถรภิกฺขุนีนํ ยโต อวิเสเสน ¶ อิจฺฉิตพฺพโก, ตโต ตสฺมา เหตุนา สกโล อยํ วินิจฺฉโย อสมาสโต มยา กถิโตติ โยชนา. กุสลตฺติกาทีสุ วิย อตฺถสากลฺยสฺส อตฺถสงฺเขปโตว วตฺตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา ‘‘สกโล’’ติ วตฺวาปิ กถาย วิตฺถาริตภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อสมาสโต’’ติ.
ทนฺตโปนกถาวณฺณนา.
โภชนวคฺโค จตุตฺโถ.
๑๕๓๕. ‘‘อเจลกาทีน’’นฺติอาทีสุ ¶ ‘‘อเจลโก นาม โย โกจิ ปริพฺพาชกสมาปนฺโน นคฺโค’’ติ (ปาจิ. ๒๗๑) ปทภาชเน วุตฺตํ, ตทฏฺกถาย ‘‘ปริพฺพาชกสมาปนฺโนติ ปพฺพชฺชํ สมาปนฺโน’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๙) วุตฺตํ, ตสฺมา อเจลกปพฺพชฺชมุปคโตเยเวตฺถ อเจลโก นาม. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๐) มาติกา-คเต ทฺเว สงฺคณฺหาติ. อิเมสุ จ ทฺวีสุ ‘‘ปริพฺพาชโก นาม ภิกฺขฺุจ สามเณรฺจ เปตฺวา โย โกจิ ปริพฺพาชกสมาปนฺโน’’ติ (ปาจิ. ๒๗๑) วุตฺโต ปริพฺพาชโก นาม. ‘‘ภิกฺขุนิฺจ สิกฺขมานฺจ สามเณริฺจ เปตฺวา ยา กาจิ ปริพฺพาชิกสมาปนฺนา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๑) วุตฺตา ปริพฺพาชิกา นามาติ คเหตพฺพา. ปริพฺพาชกา ปเนตฺถ ฉนฺนาเยว คเหตพฺพา. เทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ, เอตฺถ ‘‘กายาทินา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘ทเทยฺยาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา เทตี’’ติ (ปาจิ. ๒๗๑).
๑๕๓๖. ติกปาจิตฺติยนฺติ ติตฺถิเย ติตฺถิยสฺี, เวมติโก, อติตฺถิยสฺีติ ติเก ปาจิตฺติยตฺตยํ.
๑๕๓๗. อติตฺถิเย ติตฺถิยสฺิสฺส, เวมติกสฺส จ ตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๕๓๘-๙. เตสนฺติ ติตฺถิยานํ. พหิเลปนนฺติ พหิสรีเร ลิมฺปิตพฺพํ กิฺจิ เทนฺตสฺส. เตสํ ติตฺถิยานํ สนฺติเก สมีเป อตฺตโน ภตฺตปตฺตาทิกํ โภชนํ เปตฺวา ‘‘โภชนํ คณฺหถา’’ติ วทนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ โยชนา. ‘‘สมุฏฺานํ เอฬกูปม’’นฺติ ปทจฺเฉโท.
อเจลกกถาวณฺณนา.
๑๕๔๐-๒. ภิกฺขุ ¶ ¶ ภิกฺขุโน ยํ กิฺจิ อามิสํ ทาเปตฺวา วา อทาเปตฺวา วาติ โยชนา. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘เอหาวุโส, คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๕) สิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว วตฺวา เยน สทฺธึ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ, ตสฺส ภิกฺขุสฺส ขาทนียาทิเภทํ ยํ กิฺจิ อามิสํ ทาเปตฺวา วา อทาเปตฺวา วาติ.
ตํ ภิกฺขุํ ‘‘คจฺฉา’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชตีติ โยชนา. กึ วุตฺตํ โหติ? เอวํ โย ภิกฺขุ เตน สทฺธึ คามํ ปวิฏฺโ, ตํ ‘‘คจฺฉาวุโส, น เม ตยา สทฺธึ กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหติ, เอกกสฺส เม กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๗๕) วตฺวา ตปฺปจฺจยา เตสํ อิตฺถิยาสทฺธึ วจนาทีนํ อนาจารานํ ปจฺจยา คนฺตุํ นิโยเชตีติ. ตปฺปจฺจยาติ ‘‘อุยฺโยชนมตฺตสฺมิ’’นฺติ วิเสสนํ. ปเมน จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต ‘‘อุยฺโยชนมตฺตสฺมิฺจา’’ติ โยเชตพฺโพ. ตสฺสาติ อุยฺโยชกสฺส.
อสฺสาติ อุยฺโยชิตสฺส, อวยวสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. อุปจารสฺมึ อติกฺกนฺเตติ วกฺขมานลกฺขเณ ทสฺสนูปจาเร วา สวนูปจาเร วา อติกฺกนฺเตติ อตฺโถ, ภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ. ปุน อสฺสาติ อุปจารสฺส. ทฺวาทสรตนปริโยสานํ, ตทนฺโตคธํ ปาการาทิ เอว วา อุปจารสฺส สีมา นาม.
๑๕๔๓. ตํ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ทสฺสเน’’ติอาทิ. อชฺโฌกาเส ทสฺสเน อุปจารสฺส ทฺวาทส หตฺถา ปมาณํ เทสิตาติ โยชนา. สวเน จ อชฺโฌกาเส เอวํ สวนูปจารสฺส อชฺโฌกาเส ทฺวาทส หตฺถา ปมาณํ เทสิตาติ โยชนา, สวเน จ อุปจารสฺส อวธิ ทฺวาทสหตฺถปฺปมาณเมวาติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. น เจตเรติ อิตรสฺมึ ¶ อนชฺโฌกาเส เอวํ อุปจารสฺส ปมาณํ ทฺวาทสหตฺถา น จ เทสิตา, กึ นุ พฺยาวธากรา กุฏฺฏาทโย อุปจารสฺส ปมาณนฺติ เทสิตาติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน อนฺตรา กุฏฺฏทฺวารปาการาทโย โหนฺติ, เตหิ อนฺตริตภาโวเยว ทสฺสนูปจาราติกฺกโม, ตสฺส วเสน อาปตฺติ เวทิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๗๖). อิธ อุปจารทฺวเย สมาเนปิ อุยฺโยชิตมวธิอนฺตํ สนฺธาย อสวนูปจารํ วุตฺตนฺติ วิฺายติ.
๑๕๔๔. ‘‘ติกปาจิตฺตีติ อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีหิ ติกปาจิตฺติยํ ¶ . อิตเรติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ. ‘‘อิตเรติ สามเณเรเยวา’’ติ นิสฺสนฺเทเห ลิขิตํ. เอตสฺเสวตฺถสฺส วชิรพุทฺธินาปิ วุตฺตภาโว ทสฺสิโต. ตถาทสฺสนํ ปฺจสหธมฺมิเกสุ อิธาธิปฺเปตมนุปสมฺปนฺนํ สนฺธาย วุตฺตํ เจ, ยุชฺชติ. อฺถา ปาฬิอฏฺกถาสุ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน’’ติ สามฺเน นิทฺทิฏฺตฺตา คหฏฺานุปสมฺปนฺนมฺปิ ตถา อุยฺโยเชนฺตสฺส อนาปตฺติ น วตฺตพฺพาติ อมฺหากํ ขนฺติ.
อุภินฺนนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. นิสฺสนฺเทเห ปน ‘‘ภิกฺขุสามเณราน’’นฺติ ลิขิตํ. กลิสาสนาโรปเนติ เอตฺถ กลีติ โกโธ, ตสฺส สาสนํ อาณา กลิสาสนํ, ตสฺส อาโรปนํ ปวตฺตนํ กลิสาสนาโรปนํ, ตสฺมึ, โกธวเสน านนิสชฺชาทีสุ โทสํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ปสฺสถ โภ อิมสฺส านํ นิสชฺชํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ, ขาณุโก วิย ติฏฺติ, สุนโข วิย นิสีทติ, มกฺกโฏ วิย อิโต จิโต จ วิโลเกตี’’ติ เอวํ ‘‘อปฺเปว นาม อิมินาปิ อุพฺพาฬฺโห ปกฺกเมยฺยา’’ติ อมนาปวจนสฺส ภณเนติ วุตฺตํ โหติ.
๑๕๔๕. อุยฺโยเชนฺตสฺส ¶ กิจฺเจนาติ วิหารปาลกาทีนํ โภชนหรณาทิกิจฺเจน เปเสนฺตสฺส, อิมสฺส อุปลกฺขณตฺตา ‘‘อนาปตฺติ ‘อุโภ เอกโต น ยาเปสฺสามา’ติ อุยฺโยเชตี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๒๗๘) อนาปตฺติวาราคตา สพฺเพปิ ปการา คเหตพฺพา.
อุยฺโยชนกถาวณฺณนา.
๑๕๔๖. ขุทฺทเกติ เอตฺถ ‘‘สยนิฆเร’’ติ เสโส อุปริ ‘‘อสยนิฆเร ตสฺส, สยนิฆรสฺิโน’’ติ วกฺขมานตฺตา ลพฺภติ. ‘‘มหลฺลเก’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปิฏฺิสงฺฆาฏโต อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาณํ ยสฺส เวมชฺเฌ โหติ, อีทิเส ขุทฺทเก สยนิฆเรติ อตฺโถ. ปิฏฺิวํสนฺติ ปิฏฺิวํเสน นิยมิตํ เคหมชฺฌํ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ปิฏฺิวํสํ อติกฺกมิตฺวา’ติ อิมินา มชฺฌาติกฺกมํ ทสฺเสตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๘๐). สโภชเนติ สห โภชเนหีติ สโภชนํ, ตสฺมึ สโภชเน. อถ วา สโภชเนติ สโภเค. ราคปริยุฏฺิตสฺส ปุริสสฺส หิ อิตฺถี โภโค, อิตฺถิยา จ ปุริโส, เมถุนราเคน สารตฺตปุริสิตฺถิสหิเตติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘สโภชนํ นาม กุลํ อิตฺถี เจว โหติ ปุริโส จ, อิตฺถี จ ปุริโส จ อุโภ อนิกฺขนฺตา ¶ โหนฺติ, อุโภ อวีตราคา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๘๑). อิมินา ปริยุฏฺิตสฺส เมถุนราคคฺคิโน ตงฺขเณ นิพฺพตฺตภาโว ทีปิโต. กุเลติ ฆเร.
๑๕๔๗. หตฺถปาสนฺติ อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณเทสํ. ปิฏฺิสงฺฆาฏกสฺส จาติ ทฺวารสพนฺธสฺส จ. สยนสฺสาติ สยนฺติ เอตฺถาติ สยนํ, ตสฺส, อาสนฺเน าเน โย นิสีทติ สโภชเน กุเล, ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ, สยนสฺส ¶ สมีเป าเน โย นิสีทตีติ อตฺโถ. มหลฺลเกติ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปมาณโต มหนฺเต สยนิฆเร. ‘‘อีทิสฺจ สยนิฆรํ มหาจตุสาลาทีสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๘๐) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๑๕๔๘. สยนเมตสฺส อตฺถีติ สยนี, สยนี จ ตํ ฆรฺจาติ วิคฺคโห. ตตฺถาติ สยนิฆเร.
๑๕๔๙-๕๐. ทุติเย สตีติ ทุติเย ภิกฺขุมฺหิ สติ. ยถาห อนาปตฺติวาเร ‘‘ภิกฺขุ ทุติโย โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๘๓). วีตราเคสูติ วีตราคปริยุฏฺาเนสุ. วุตฺตลกฺขณํ ปเทสนฺติ ขุทฺทกมหนฺตเสนาสเน วุตฺตลกฺขณปเทส. อนติกฺกมฺม นิสินฺนสฺสาติ อนติกฺกมิตฺวา นิสีทโต.
สโภชนกถาวณฺณนา.
๑๕๕๒. เตสนฺติ ทฺวินฺนํ อนิยตสิกฺขาปทานํ. เอสนฺติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ รโหปฏิจฺฉนฺนรโหนิสชฺชสิกฺขาปทานํ, อยเมว วิเสโสติ อนนฺตรสิกฺขาปเทน สมุฏฺานภาวสงฺขาโต อยํ วิเสโส ทีปิโตติ โยชนา.
รโหปฏิจฺฉนฺนรโหนิสชฺชกถาวณฺณนา.
๑๕๕๓-๖. วุตฺโตติ นิมนฺติโต. สนฺตํ ภิกฺขุนฺติ ‘‘กุลํ อุปสงฺกมิสฺสามี’’ติ ยสฺมึ ปเทเส จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺส สามนฺตา ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ิตํ ภิกฺขุนฺติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ยตฺถ ิตสฺส กุลานิ ปยิรุปาสนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตโต ปฏฺาย ยํ ปสฺเส วา อภิมุเข วา ปสฺสติ, ยสฺส จ สกฺกา โหติ ปกติวจเนน อาโรเจตุํ, อยํ สนฺโต นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๙๘). เอตฺถ ¶ ยํ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ิเตน โสตุํ สกฺกา ภเวยฺย, ตํ ¶ ปกติวจนํ นาม. อนาปุจฺฉาติ ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ฆรํ คจฺฉามี’’ติ วา ‘‘จาริตฺตํ อาปุจฺฉามี’’ติ วา อีทิเสน วจเนน อนาปุจฺฉิตฺวา. จาริตฺตํ อาปชฺเชยฺย เจติ ยทิ สฺจเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. อฺตฺร สมยาติ ‘‘ตตฺถายํ สมโย, จีวรทานสมโย จีวรการสมโย’’ติ (ปาจิ. ๒๙๙) สิกฺขาปเท อนุปฺตฺติวเสน วุตฺตา ทุวิธา สมยา อฺสฺมึ กาเล.
อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เปตฺวา’’ติอาทิ. ‘‘อวีติวตฺเต มชฺฌนฺเห’’ติ อิมินา ปุเรภตฺตํ, ปจฺฉาภตฺตฺจ สงฺคหิตํ. เอตฺถ จ ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตนฺติ เยน ภตฺเตน นิมนฺติโต, ตสฺมึ อภุตฺเต วา ภุตฺเต วาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ปุเรภตฺตํ นาม เยน นิมนฺติโต, ตํ อภุตฺตาวี. ปจฺฉาภตฺตํ นาม เยน นิมนฺติโต, ตํ อนฺตมโส กุสคฺเคนปิ ภุตฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๓๐๐) ปทภาชเน วุตฺตํ. อฺสฺส ฆรนฺติ นิมนฺติตโต อฺสฺส เคหํ. ฆรูปจาโรกฺกมเน ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ, อตฺตนา คตเคหสฺส อุปจาโรกฺกมเน ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. ปเมน ปาเทนาติ สมฺพนฺโธ.
ฆรุมฺมาเรติ อฺสฺส เคหุมฺมาเร. ฆรูปจาเร ทุกฺกฏํ สนฺธาย ‘‘อปรมฺปิ จา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สมติกฺกเม’’ติ อิมินา สห ‘‘ฆรุมฺมาเร’’ติ ปทํ ‘‘ฆรุมฺมารสฺสา’’ติ วิภตฺติวิปริณาเมน โยเชตพฺพํ.
๑๕๕๗. ิตฏฺาเนติ ยตฺถ ิตสฺส คมนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมึ าเน ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเรติ อิทํ ยถาวุตฺตนิยาเมเนว คเหตพฺพํ. โอโลเกตฺวาติ อุภยปสฺสํ, อภิมุขฺจ โอโลเกตฺวา. ‘‘ยํ ปสฺเส วา อภิมุเข วา ปสฺสตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๙๘) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๑๕๕๘. ทูเรติ ¶ ทฺวาทสหตฺถโต ทูรเมวาห. อิโต จิโต จ คเวสิตฺวา อาโรจเน กิจฺจํ นตฺถีติ โยชนา.
๑๕๕๙. น โทโสติ อนาปตฺติ. สมเยติ เอตฺถ ‘‘อนาปุจฺฉโต’’ติ เสโส. เอตฺถ จ อุปริ จ ‘‘น โทโส’’ติ ปจฺเจกํ ยุชฺชติ. สนฺตํ ภิกฺขุนฺติ สมฺพนฺโธ. ฆเรนาติ อฺสฺส ฆเรน, เอตฺถ ‘‘ฆรูปจาเรน จา’’ติ เสโส. อารามํ คจฺฉโตติ เอตฺถ เตน มคฺเคนาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๕๖๐. ‘‘เตน ¶ มคฺเคนา’’ติ จ ‘‘คจฺฉโต’’ติ จ ปททฺวยํ ‘‘ติตฺถิยานํ ปสฺสย’’นฺติ จ ‘‘ภิกฺขุนิปสฺสย’’นฺติ จ อุภยตฺถ ตถา-สทฺเทน ลพฺภติ. เตน ฆเรน, ฆรูปจาเรน วา คนฺตพฺพมคฺเคน ติตฺถิยารามํ วา ภิกฺขุนิปสฺสยํ วา คจฺฉโต อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อาปทาย คจฺฉตีติ โยชนา. ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายา อาปทา. อาสนสาลํ วาติ สีหฬทีเป วิย ภิกฺขูนํ ภฺุชนตฺถาย ยตฺถ ทานปตีหิ อาสนานิ ปฺาปียนฺติ, ตํ อาสนสาลํ วา, โภชนสาลนฺติ อตฺโถ. ‘‘อาปทายาสนสาล’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ยการโลโป. ภตฺติยสฺส ฆรนฺติ นิมนฺติตฆรํ วา สลากภตฺตทายกานํ วา ฆรํ.
๑๕๖๑. ปเวสนํ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ. อจิตฺตกสมุฏฺานมิสฺสกตฺตา ‘‘อจิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. กุสลากุสลาพฺยากตานํ อฺตรจิตฺตสมงฺคินา อาปชฺชิตพฺพํ สนฺธาย ‘‘ติจิตฺตฺจา’’ติ วุตฺตํ.
จาริตฺตกถาวณฺณนา.
๑๕๖๒. ‘‘สพฺพา’’ติ อิทํ วิวรนฺโต ‘‘จตุมาสปวารณา ปุนปวารณา นิจฺจปวารณา’’ติ ปวารณตฺตยํ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ ¶ ‘‘จตุมาสปจฺจยปวารณา สาทิตพฺพาติ คิลานปจฺจยปวารณา สาทิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. ๓๐๗) ปทภาชเน วุตฺตํ. ปุนปวารณา จ จตฺตาโรเยว มาเส เภสชฺเชน ปวารณํ. เตนาห อฏฺุปฺปตฺติยํ ‘‘เตน หิ ตฺวํ มหานาม สงฺฆํ อปรมฺปิ จตุมาสํ เภสชฺเชน ปวาเรหี’’ติ. นิจฺจปวารณา นาม ยาวชีวํ เภสชฺเชเหว ปวารณา. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา อฏฺุปฺปตฺติยํ ‘‘เตน หิ ตฺวํ มหานาม สงฺฆํ ยาวชีวํ เภสชฺเชน ปวาเรหี’’ติ (ปาจิ. ๓๐๓).
สพฺพา เจตา ปวารณา เภสชฺชปริยนฺตรตฺติปริยนฺตตทุภยปริยนฺตอปริยนฺตวเสน จตุพฺพิธา โหนฺติ. ยถาห –
‘‘เภสชฺชปริยนฺตา นาม เภสชฺชานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ ‘เอตฺตเกหิ เภสชฺเชหิ ปวาเรมี’ติ. รตฺติปริยนฺตา นาม รตฺติโย ปริคฺคหิตาโย โหนฺติ ‘เอตฺตกาสุ รตฺตีสุ ปวาเรมี’ติ. เภสชฺชปริยนฺตา จ รตฺติปริยนฺตา จ นาม เภสชฺชานิ จ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ รตฺติโย จ ปริคฺคหิตาโย โหนฺติ ‘เอตฺตเกหิ เภสชฺเชหิ เอตฺตกาสุ รตฺตีสุ ¶ ปวาเรมี’ติ. เนวเภสชฺชปริยนฺตา นรตฺติปริยนฺตา นาม เภสชฺชานิ จ อปริคฺคหิตานิ โหนฺติ รตฺติโย จ อปริคฺคหิตาโย โหนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๐๗).
๑๕๖๓. ‘‘สาทิตพฺพา’’ติ วุตฺเต สาทิยนปฺปกาเร ทสฺเสตุมาห ‘‘วิฺาเปสฺสามี’’ติอาทิ. เภสชฺชมฺปิ สติ เม ปจฺจเย วิฺาเปสฺสามีติ โยชนา, ‘‘สาทิตพฺพา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตเทว พฺยติเรกโต ทสฺเสตุมาห ‘‘น ปฏิกฺขิปิตพฺพา’’ติ. ปฏิกฺเขปการณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โรโคทานิ น เมติ จา’’ติ. สา ติวิธา ปวารณา.
๑๕๖๔. ติกปาจิตฺติยํ ¶ วุตฺตนฺติ ‘‘ตตุตฺตริ ตตุตฺตริสฺี, เวมติโก, นตตุตฺตริสฺี เภสชฺชํ วิฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๐๙) วุตฺตํ ปาจิตฺติยตฺตยํ. อิธ ตตุตฺตรีติ เอตฺถ เยหิ เภสชฺเชหิ ปวาริโต, ยาสุ จ รตฺตีสุ ปวาริโต, ตโต เจ อุตฺตริ อธิกนฺติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘เภสชฺชปริยนฺเต เยหิ เภสชฺเชหิ ปวาริโต โหติ, ตานิ เภสชฺชานิ เปตฺวา อฺานิ เภสชฺชานิ วิฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ จ ‘‘รตฺติปริยนฺเต ยาสุ รตฺตีสุ ปวาริโต โหติ, ตา รตฺติโย เปตฺวา อฺาสุ รตฺตีสุ วิฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๐๘) จ. ตตฺถ เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๑๕๖๕. ตโต จตุมาสโต อุตฺตริ อติเรกํ ตตุตฺตริ, ตตุตฺตริ น โหตีติ นตตุตฺตริ, นตตุตฺตรีติ สฺา อสฺส อตฺถีติ นตตุตฺตริสฺี, ภิกฺขุ, ตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เยหิ เภสชฺเชหิ ปวาริโต, ตานิ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ สห เสเสน โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘อนาปตฺติ เยหิ เภสชฺเชหิ ปวาริโต โหติ, ตานิ เภสชฺชานิ วิฺาเปตี’’ติ (ปาจิ. ๓๑๐). เยน วา เยหิ เภสชฺเชหิ ยาสุ วา รตฺตีสุ ปวาริโต, ตโต อฺมฺปิ ยถาตถํ อาจิกฺขิตฺวา ภิยฺโย วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ สห เสเสน โยเชตพฺพํ. ยถาตถํ อาจิกฺขิตฺวา ภิยฺโย วิฺาเปนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อิเมหิ ตยา เภสชฺเชหิ ปวาริตมฺห, อมฺหากฺจ อิมินา จ อิมินา จ เภสชฺเชน อตฺโถ’ติ อาจิกฺขิตฺวา วิฺาเปติ, ‘ยาสุ ตยา รตฺตีสุ ปวาริตมฺห, ตาโย จ รตฺติโย วีติวตฺตา, อมฺหากฺจ เภสชฺเชน อตฺโถ’ติ อาจิกฺขิตฺวา วิฺาเปตี’’ติ (ปาจิ. ๓๑๐) วจนโต ยถาตถํ วตฺวา อธิกํ วิฺาเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
๑๕๖๖. อฺสฺส ¶ ¶ ภิกฺขุสฺส อตฺถาย วา วิฺาเปนฺตสฺส ภิกฺขุสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. าตกานํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอตฺถ าตกานํ สนฺตกํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อตฺตโน วา ธเนน วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เอตฺถ ธนํ นาม ตณฺฑุลาทิ กปฺปิยวตฺถุ.
๑๕๖๗. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วิฺาเปนฺตสฺสา’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ. อุมฺมตฺตกาทีนนฺติ วิเสสิตพฺพมเปกฺขิตฺวา ‘‘วิฺาเปนฺตาน’’นฺติ พหุวจนํ กาตพฺพํ.
เภสชฺชกถาวณฺณนา.
๑๕๖๘. อุยฺยุตฺตนฺติ สงฺคามตฺถาย กตอุยฺโยคํ, คามโต นิกฺขมฺม คจฺฉนฺตํ วา เอกตฺถ สนฺนิวิฏฺํ วา. ยถาห ‘‘อุยฺยุตฺตา นาม เสนา คามโต นิกฺขมิตฺวา นิวิฏฺา วา โหติ ปยาตา วา’’ติ (ปาจิ. ๓๑๔). อฺตฺร ปจฺจยาติ เปตฺวา ตถารูปปจฺจยํ.
๑๕๖๙. ทสฺสนสฺสุปจารสฺมินฺติ เอตฺถ ทสฺสนูปจารํ นาม ยสฺมึ าเน ิตสฺส เสนา ปฺายติ, ตํ านํ. ยถาห ‘‘ยตฺถ ิโต ปสฺสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๑๔). อุปจารํ วิมฺุจิตฺวา ปสฺสนฺตสฺสาติ ยถาวุตฺตทสฺสโนปจารฏฺานํ เอตฺถ ตฺวา โอโลเกตุํ น สุกรนฺติอาทินา การเณน ตํ านํ ปหาย อฺตฺถ วิโลเกนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. เกนจิ ปฏิจฺฉนฺนํ หุตฺวา อทิสฺสมานมฺปิ นินฺนํ านํ โอติณฺณํ อปฺายมานมฺปิ ปฺายนฺตมฺปิ โอโลเกตุํ น สกฺกา เอวเมว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ยถาห ‘‘เกนจิ อนฺตริตา วา นินฺนํ โอรุฬฺหา วา น ทิสฺสตี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๑๔). ปโยคโตติ ยถาวุตฺตทสฺสนปโยคคณนาย.
๑๕๗๐. อิทานิ ¶ จตุรงฺคเสนาลกฺขณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาโรหา ปน จตฺตาโร’’ติอาทิ. อาโรหาติ เอตฺถ หตฺถาโรหา ทฏฺพฺพา. ตปฺปาทรกฺขกาติ ตสฺส ปาทรกฺขกาติ วิคฺคโห. ทฺเว ทฺเวติ เอเกกํ ปาทํ รกฺขนฺตา ทฺเว ทฺเว. ทฺวาทสโปโสติ ทฺวาทส โปสา เอตสฺสาติ วิคฺคโห. ทฺวาทสปุริสยุตฺโต เอโก หตฺถี นาม.
๑๕๗๑. อาโรโหติ ¶ เอตฺถ อสฺสาโรโห วุจฺจติ. ติปุริโสติ ตโย ปุริสา อสฺสาติ วิคฺคโห. หโยติ อสฺโส. เอโก สารถีติ รถจาริโก. ‘‘โยโธ เอโก’’ติ ปทจฺเฉโท. อาณิรกฺขาติ รถจกฺกทฺวยสฺส อคฬนตฺถํ อกฺขกสฺส อุโภสุ โกฏีสุ อาโกฏิตา ทฺเว อาณิโย รกฺขนกา.
๑๕๗๒. จตุโปโสติ จตฺตาโร โปสา ยสฺสาติ วิคฺคโห. จตุสจฺจวิภาวินาติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ เทสเกน ภควตา. ปทหตฺถาติ อาวุธหตฺถา. ปชฺชเต คมฺยเต อเนน ปเร หนิตุนฺติ ปทํ, อาวุธํ, ปทานิ หตฺเถสุ เยสํ เต ปทหตฺถาติ ภินฺนาธิกรโณ พาหิรตฺถสมาโส ยถา ‘‘วชิรปาณี’’ติ. ปตฺติปทาติ-สทฺโท อนตฺถนฺตรา, มนุสฺสเสนาย อธิวจนํ.
๑๕๗๓. จตุรงฺคสมายุตฺตาติ จตูหิ องฺเคหิ อวยเวหิ สมายุตฺตาติ วิคฺคโห.
๑๕๗๔. หตฺถิอาทีสูติ ยถาวุตฺตลกฺขณหตฺถิอสฺสรถปทาตินามเกสุ จตูสุ องฺเคสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เอเกกนฺติ เอเกกํ องฺคํ. เอเตสุ อวกํสโต เอกํ ปุริสารุฬฺหมปิ หตฺถิฺจ ตถา อสฺสฺจ เอกํ ปทหตฺถปุริสฺจ เอกเมกํ ¶ กตฺวา อาห ‘‘เอเกกํ ทสฺสนตฺถาย คจฺฉโต’’ติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตมโส เอกปุริสารุฬฺหํ เอกมฺปิ หตฺถิมฺปี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๑๕). อนุยฺยุตฺเตปีติ สงฺคามํ วินา อฺเน การเณน นิกฺขนฺเต. ยถาห ‘‘อนุยฺยุตฺตา นาม ราชา อุยฺยานํ วา นทึ วา คจฺฉติ, เอวํ อนุยฺยุตฺตา โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๑๕).
๑๕๗๕. สมฺปตฺตนฺติ เอตฺถ ‘‘เสน’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. อาปทาสูติ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตราเย สติ ‘‘เอตฺถ คโต มุจฺจิสฺสามี’’ติ คจฺฉโต อนาปตฺติ. ตถารูเป ปจฺจเย คิลานาวโลกนาทิเก คมนานุรูปปจฺจเย สติ อนาปตฺตีติ โยชนา.
อุยฺยุตฺตกถาวณฺณนา.
๑๕๗๖-๗. ‘‘สิยา จ ตสฺส ภิกฺขุโน โกจิเทว ปจฺจโย เสนํ คมนาย, ทิรตฺตติรตฺตํ เตน ภิกฺขุนา เสนาย วสิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๑๘) อนฺุาตตฺตา เกนจิ กรณีเยน ¶ สงฺคามตฺถํ อุยฺยุตฺตาย เสนาย ทิรตฺตติรตฺตํ ปฏิปาฏิยา วสิตฺวา จตุตฺถรตฺติยํ วสนฺตสฺส ปน ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘จตุตฺเถ’’ติอาทิ. อนาปตฺติวาเร ‘‘คิลาโน วสตี’’ติ (ปาจิ. ๓๒๑) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อโรควา’’ติ. เสนายาติ เอตฺถ ปริกฺเขปารหฏฺาเนน วา สฺจรณปริยนฺเตน วา เสนา ปริจฺฉินฺทิตพฺพา, เอวํ ปริจฺฉินฺนาย เสนาย อนฺโตวาติ อตฺโถ.
ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อติเรกติรตฺเต อติเรกสฺี, เวมติโก, อูนกสฺี เสนาย วสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๒๐) ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ.
เสนาวาสกถาวณฺณนา.
๑๕๘๐. อุยฺโยธิกํ ¶ นาม สงฺคามฏฺานํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อุคฺคนฺตฺวา อุคฺคนฺตฺวา เอตฺถ ยุชฺฌนฺตีติ อุยฺโยธิกํ, สมฺปหารฏฺานสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๒). พลคฺคนฺติ ‘‘เอตฺตกา หตฺถี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๓๒๔) ปทภาชนาคตนเยน พลสฺส คณนฏฺานํ พลคฺคํ. ยถาห ‘‘พลสฺส อคฺคํ ชานนฺติ เอตฺถาติ พลคฺคํ, พลคณนฏฺานนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๒). เสนาพฺยูหนฺติ ‘‘อิโต หตฺถี โหนฺตุ, อิโต อสฺสา, อิโต รถา, อิโต ปตฺตี โหนฺตู’’ติ (ปาจิ. ๓๒๔) ปทภาชเน วุตฺตเสนาสนฺนิเวสฏฺานํ เสนาพฺยูหํ. ยถาห ‘‘เสนาย วิยูหํ เสนาพฺยูหํ, เสนาสนฺนิเวสสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๒).
๑๕๘๑. ปุริเมติ อนนฺตรสิกฺขาปเท. ‘‘ทฺวาทสปุริโส หตฺถี’’อิติ โย หตฺถี วุตฺโตติ โยชนา. เตนาติ เตน หตฺถินา เหตุภูเตน.
๑๕๘๒. ‘‘เสเสสู’’ติ อิมินา อสฺสานีกรถานีกปตฺตานีกา คหิตา. ปตฺตานีกํ นาม ‘‘จตฺตาโร ปุริสา ปทหตฺถา ปตฺตี ปจฺฉิมํ ปตฺตานีก’’นฺติ (ปาจิ. ๓๒๔) เสนงฺเคสุ ปฏินิทฺเทเสน นิพฺพิเสสํ กตฺวา วุตฺตํ. ติณฺณนฺติ เอเตสํ อุยฺยุตฺตาทีนํ.
อุยฺโยธิกกถาวณฺณนา.
อเจลกวคฺโค ปฺจโม.
๑๕๘๓. ปิฏฺาทีหีติ ¶ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปูวาทึ สงฺคณฺหาติ. ยถาห ‘‘สุรา นาม ปิฏฺสุรา ปูวสุรา โอทนสุรา กิณฺณปกฺขิตฺตา สมฺภารสํยุตฺตา’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘). เอตฺถ จ ปิฏฺํ ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ตชฺชํ อุทกํ ทตฺวา ปกฺขิปิตฺวา กตา ปิฏฺสุรา. เอวํ ¶ ปูเว, โอทเน จ ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ตชฺชํ อุทกํ ทตฺวา มทฺทิตฺวา กตา ‘‘ปูวสุรา, โอทนสุรา’’ติ วุจฺจติ. ‘‘กิณฺณา’’ติ ปน ตสฺสา สุราย พีชํ วุจฺจติ, เย ‘‘สุราโมทกา’’ติปิ วุจฺจนฺติ, เต ปกฺขิปิตฺวา กตา กิณฺณปกฺขิตฺตา. หรีตกิสาสปาทินานาสมฺภาเรหิ สํโยชิตา สมฺภารสํยุตฺตา.
ปุปฺผาทีหีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ผลาทีนํ คหณํ. ยถาห ‘‘เมรโย นาม ปุปฺผาสโว ผลาสโว มธฺวาสโว คุฬาสโว สมฺภารสํยุตฺโต’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘). ตตฺถ จ ปุปฺผาสโว นาม มธุกปุปฺผาทีนํ ชาติรสกโต เจว ตาลนาฬิเกรปุปฺผานฺจ รโส จิรปริวาสิโต. ผลาสโว ปน มุทฺทิกาปนสผลาทีนิ มทฺทิตฺวา เตสํ รเสน กโต. มธฺวาสโว นาม มุทฺทิกานํ ชาติรเสน กโต. มกฺขิกามธุนาปิ กรียตีติ วทนฺติ. อุจฺฉุรโส คุฬาสโว. หรีตกามลกกฏุกภณฺฑาทินานาสมฺภารานํ รโส จิรปริวาสิโต สมฺภารสํยุตฺโต. อาสโว เมรยํ โหตีติ โยชนา.
๑๕๘๔. พีชโต ปฏฺายาติ สมฺภาเร ปฏิยาทิตฺวา จาฏิยํ ปกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ตาลนาฬิเกราทีนํ ปุปฺผรเส ปุปฺผโต คฬิตาภินวกาลโตเยว จ ปฏฺาย. ปิวนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘กุสคฺเคนา’’ติปิ เสโส. อุภยมฺปิ จาติ สุรํ, เมรยฺจาติ อุภยมฺปิ. พีชโต ปน ปฏฺาย กุสคฺเคน ปิวนฺตสฺสปิ ภิกฺขุโน ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยเชตพฺพํ. ปโยคพาหุลฺเลน อาปตฺติพาหุลฺลํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปโยเค จ ปโยเค จา’’ติ. อิทฺจ วิจฺฉินฺทิตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ปิวนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปโยเค จ ปโยเค จ ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘วิจฺฉินฺทิตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ปิวโต ปโยคคณนาย อาปตฺติโย’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๘). เอเกเนว ปโยเคน พหุมฺปิ ปิวนฺตสฺส เอกํ เอว ¶ อาปตฺตึ พฺยติเรกโต ทีเปติ. ยถาห ‘‘เอเกน ปน ปโยเคน พหุมฺปิ ปิวนฺตสฺส เอกา อาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๘).
๑๕๘๕. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘มชฺเช มชฺชสฺี, มชฺเช เวมติโก, มชฺเช อมชฺชสฺี ปิวติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ.
๑๕๘๖. ‘‘อนาปตฺติ ¶ นมชฺชํ โหติ มชฺชวณฺณํ มชฺชคนฺธํ มชฺชรสํ, ตํ ปิวตี’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อมชฺชํ มชฺชวณฺณ’’นฺติอาทิ. อริฏฺํ นาม อามลกผลรสาทีหิ กโต อาสววิเสโส. โลณโสวีรกํ นาม อฏฺกถายํ –
‘‘หรีตกามลกวิภีตกกสาเว, สพฺพธฺานิ, สพฺพอปรณฺณานิ, สตฺตนฺนมฺปิ ธฺานํ โอทนํ, กทลิผลาทีนิ สพฺพผลานิ, เวตฺตเกตกขชฺชูริกฬีราทโย สพฺพกฬีเร, มจฺฉมํสขณฺฑานิ, อเนกานิ จ มธุผาณิตสินฺธวโลณติกฏุกาทีนิ เภสชฺชานิ ปกฺขิปิตฺวา กุมฺภิมุขํ ลิมฺปิตฺวา เอกํ วา ทฺเว วา ตีณิ วา สํวจฺฉรานิ เปนฺติ, ตํ ปริปจฺจิตฺวา ชมฺพุรสวณฺณํ โหติ. วาตกาสกุฏฺปณฺฑุภคนฺทลาทีนฺจ สินิทฺธโภชนภุตฺตานฺจ อุตฺตรปานํ ภตฺตชีรณกเภสชฺชํ ตาทิสํ นตฺถิ. ตํ ปเนตํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ วฏฺฏติ, คิลานานํ ปากติกเมว. อคิลานานํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ ปานปริโภเคนา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๙๒) –
วิภาวิโต เภสชฺชวิเสโส. สุตฺตํ นาม อเนเกหิ เภสชฺเชหิ อภิสงฺขโต อมชฺชภูโต อาสววิเสโส.
๑๕๘๗. วาสคาหาปนตฺถายาติ ¶ สุคนฺธิภาวคาหาปนตฺถํ. อีสกนฺติ มชฺชวณฺณคนฺธรสา ยถา น ปฺายนฺติ, เอวํ อปฺปมตฺตกํ. ยถาห ‘‘อนติกฺขิตฺตมชฺเชเยว อนาปตฺติ. ยํ ปน อติกฺขิตฺตมชฺชํ โหติ, ยตฺถ มชฺชสฺส วณฺณคนฺธรสา ปฺายนฺติ, ตสฺมึ อาปตฺติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙). สูปาทีนํ ตุ ปาเกติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มํสปากาทโย สงฺคหิตา. ยถาห ‘‘สูปสมฺปาเก มํสสมฺปาเก เตลสมฺปาเก’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘).
๑๕๘๘. วตฺถุอชานนา อจิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘วตฺถุอชานนตาย เจตฺถ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙). วตฺถุอชานนตา จ นาม ‘‘มชฺช’’นฺติ อชานนภาโว. อิทนฺติ อิทํ สิกฺขาปทํ. จ-สทฺเทน อฺานิ จ คิรคฺคสมชฺชาทิสิกฺขาปทานิ สมุจฺจิโนติ. อกุสเลเนวาติ อกุสลจิตฺเตเนว. ปานโตติ ปาตพฺพโต. โลกวชฺชกนฺติ สาธุโลเกน วชฺเชตพฺพนฺติ อตฺโถ. โลกวชฺชเมว โลกวชฺชกํ.
นนุ ¶ เจตฺถ วตฺถุอชานนตาย อจิตฺตกตฺเต ตํวตฺถุอชานนํ กุสลาพฺยากตจิตฺตสมงฺคิโนปิ สมฺภวติ, กสฺมา ‘‘อกุสเลเนว ปานโต โลกวชฺชก’’นฺติ วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – ยสฺมา อมชฺชสฺาย ปิวโต, มชฺชสฺาย จ ปิวโต มชฺชํ วตฺถุนิยาเมน กิเลสุปฺปตฺติยาว ปจฺจโย โหติ, ยถา มชฺชํ ปีตํ อชานนฺตสฺสาปิ อกุสลานเมว ปจฺจโย โหติ, น กุสลานํ, ตถา อชฺโฌหรณกาเลปิ วตฺถุนิยาเมน อกุสลสฺเสว ปจฺจโย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อกุสเลเนว ปานโต โลกวชฺชก’’นฺติ. ยถา ตํ นิฬินิชาตเก (ชา. ๒.๑๘.๑ อาทโย; ชา. อฏฺ. ๕.๑๘.๑ อาทโย) เภสชฺชสฺาย อิตฺถิยา มคฺเค องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส กุมารสฺส ‘‘อิตฺถี’’ติ วา ‘‘ตสฺสา มคฺเค เมถุนํ ปฏิเสวามี’’ติ วา สฺาย ¶ อภาเวปิ กามราคุปฺปตฺติยา สีลาทิคุณปริหานิ วตฺถุนิยามโต จ อโหสิ, เอวมิธาปิ ทฏฺพฺโพ.
เกจิ ปน ‘‘อกุสเลเนว ปานโต’’ติ อิทํ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส สจิตฺตกปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ, อฺถา ปาณาติปาตาทีสุปิ อติปฺปสงฺโคติ มฺมานา พหุการณํ, นิยมนฺจ ทสฺเสสุํ. วินยฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙), ปน ขุทฺทกปาฏฺกถายํ (ขุ. ปา. อฏฺ. สิกฺขาปทวณฺณนา), วิภงฺคฏฺกถาทีสุ จ ‘‘ติจิตฺต’’นฺติ อวตฺวา ‘‘อกุสลจิตฺต’’มิจฺเจว วุตฺตตฺตา, สิกฺขาปทสฺส สามฺลกฺขณํ ทสฺเสนฺเตน ปกฺขนฺตรลกฺขณทสฺสนสฺส อยุตฺตตฺตา จ อฏฺกถาสุ ยถารุตวเสเนว อตฺถคฺคหเณ จ กสฺสจิ วิโรธสฺส อสมฺภวโต สจิตฺตกปกฺขเมว สนฺธาย อกุสลจิตฺตตา, โลกวชฺชตา เจตฺถ น วตฺตพฺพา. ‘‘วตฺถุํ ชานิตฺวาปิ อชานิตฺวาปิ มชฺชํ ปิวโต ภิกฺขุสฺส ปาจิตฺติยํ. สามเณรสฺส ปน ชานิตฺวาว ปิวโต สีลเภโท, น อชานิตฺวา’’ติ (มาหาว. อฏฺ. ๑๐๘ อตฺถโต สมานํ) ยํ วุตฺตํ, ตตฺถ การณํ มคฺคิตพฺพํ. สิกฺขาปทปฺตฺติยา พุทฺธานเมว วิสยตฺตา น ตํ มคฺคิตพฺพํ, ยถาปฺตฺเตเยว วตฺติตพฺพํ. อิทํ ปน สิกฺขาปทํ อกุสลจิตฺตํ, สุโขเปกฺขาเวทนานํ วเสน ทุเวทนฺจ โหติ. วินยฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙), ปน มาติกฏฺกถายฺจ (กงฺขา. อฏฺ. สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ติเวทน’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, ขุทฺทกปาวณฺณนาย (ขุ. ปา. อฏฺ. สิกฺขาปทวณฺณนา), วิภงฺคฏฺกถาทีสุ (วิภ. อฏฺ. ๗๐๓ อาทโย) จ ‘‘สุขมชฺฌตฺตเวทนาวเสน ทุเวทน’’นฺติ จ ‘‘โลภโมหมูลวเสน ทฺวิมูลก’’นฺติ จ วุตฺตตฺตา โส ‘‘ปมาทปาโ’’ติ คเหตพฺโพ.
สุราปานกถาวณฺณนา.
๑๕๘๙. เยน ¶ ¶ เกนจิ องฺเคนาติ องฺคุลิอาทินา เยน เกนจิ สรีราวยเวน. หสาธิปฺปายิโนติ หเส อธิปฺปาโย หสาธิปฺปาโย, โส เอตสฺส อตฺถีติ วิคฺคโห, ตสฺส, อิมินา กีฬาธิปฺปายรหิตสฺส อนาปตฺตึ พฺยติเรกโต ทีเปติ. วกฺขติ จ ‘‘อนาปตฺติ นหสาธิปฺปายสฺสา’’ติ. ผุสโต ผุสนฺตสฺส.
๑๕๙๐. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺเนสุ. กายปฏิพทฺธาทิเก นเยติ ‘‘กาเยน กายปฏิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติเอวมาทินา (ปาจิ. ๓๓๒) ทสฺสิเต นเย. อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ตีณิ ทุกฺกฏานิ วุตฺตานีติ อาห ‘‘ตเถวานุปสมฺปนฺเน, ทีปิตํ ติกทุกฺกฏ’’นฺติ. เอตฺถ จ ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยสฺส วุตฺตภาโว ทีปิโต โหติ. ยถา อุปสมฺปนฺเน ติกปาจิตฺติยํ ทีปิตํ, ตเถว อนุปสมฺปนฺเน ติกทุกฺกฏํ ทีปิตนฺติ โยชนา.
๑๕๙๑. เอตฺถ…เป… ภิกฺขุนีติ เอตฺถ ภิกฺขุปิ ภิกฺขุนิยา อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ิโตติ เวทิตพฺโพ.
๑๕๙๒. นหสาธิปฺปายสฺส ผุสโตติ หสาธิปฺปายํ วินา วนฺทนาทีสุ ปาทาทิสรีราวยเวน ปรํ ผุสนฺตสฺส. กิจฺเจ สตีติ ปิฏฺิปริกมฺมาทิกิจฺเจ สติ.
องฺคุลิปโตทกกถาวณฺณนา.
๑๕๙๓. ชเลติ เอตฺถ ‘‘อุปริโคปฺผเก’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘อุปริโคปฺผเก อุทเก’’ติ (ปาจิ. ๓๓๗). นิมุชฺชนาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อุมฺมุชฺชนปฺลวนานิ คหิตานิ. ยถาห ‘‘อุปริโคปฺผเก อุทเก หสาธิปฺปาโย นิมุชฺชติ วา อุมฺมุชฺชติ วา ปลวติ ¶ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๓๗). ‘‘เกวล’’นฺติ อิมินา นหานาทิกิจฺเจน โอตรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ ทีเปติ.
๑๕๙๔. อุปริโคปฺผเก ชเลติ โคปฺผกานํ อุปริภาคปฺปมาเณ ชเล. นิมุชฺเชยฺยปิ วาติ อนฺโตชลํ ปวิสนฺโต นิมุชฺเชยฺย วา. ตเรยฺย วาติ ปฺลเวยฺย วา.
๑๕๙๕-๖. อนฺโตเยโวทเก ¶ นิมุชฺชิตฺวาน คจฺฉโต ตสฺส หตฺถปาทปโยเคหิ ปาจิตฺตึ ปริทีปเยติ โยชนา.
๑๕๙๗. หตฺถาทิสกลสรีราวยวํ สงฺคณฺหิตุํ ‘‘เยน เยนา’’ติ อนิยมาเมฑิตมาห. ชลํ ตรโต ภิกฺขุโน เยน เยน ปน องฺเคน ตรณํ โหตีติ โยชนา.
๑๕๙๘. ตรุโต วาปีติ รุกฺขโตปิ วา. ติกปาจิตฺติยนฺติ อุทเก หสธมฺเม หสธมฺมสฺิเวมติกอหสธมฺมสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ. ‘‘ติกทุกฺกฏ’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, ‘‘อุทเก อหสธมฺเม หสธมฺมสฺี, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อุทเก อหสธมฺเม เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๓๘) วตฺวา ‘‘อุทเก อหสธมฺเม อหสธมฺมสฺี, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๓๘) ตติยวิกปฺเป ปาฬิยํ อนาปตฺติ วุตฺตาติ โส ปมาทปาโ, ‘‘ทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ ปาโเยว คเหตพฺโพ.
๑๕๙๙. นาวํ ตีเร อุสฺสาเรนฺโตปิ วาติ สมฺพนฺโธ. อุสฺสาเรนฺโตติ ตีรมาโรเปนฺโต. ‘‘กีฬตี’’ติ อิทํ ‘‘ปาเชนฺโต’’ติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ.
๑๖๐๐. กถลาย วาติ ขุทฺทกกปาลิกาย วา. อุทกนฺติ เอตฺถ ‘‘ภาชนคตํ วา’’ติ เสโส. ‘‘ภาชนคตํ อุทกํ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๓๘) หิ ปทภาชเน วุตฺตํ.
๑๖๐๑. กฺจิกํ ¶ วาติ ธฺรสํ วา. อปิ-สทฺโท ‘‘ขีรํ วา ตกฺกํ วา รชนํ วา ปสฺสาวํ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๓๘) ปาฬิยํ อาคเต สมฺปิณฺเฑติ. จิกฺขลฺลํ วาปีติ อุทกกทฺทมํ วา. เอตฺถ วิเสสโชตเกน อปิ-สทฺเทน ‘‘อปิจ อุปริโคปฺผเก วุตฺตานิ อุมฺมุชฺชนาทีนิ เปตฺวา อฺเน เยน เกนจิ อากาเรน อุทกํ โอตริตฺวา วา อโนตริตฺวา วา ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ อุทกํ อนฺตมโส พินฺทุํ คเหตฺวา ขิปนกีฬายปิ กีฬนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๓๖) อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยวิเสสํ สมฺปิณฺเฑติ. วิกฺขิปนฺติ วิกฺขิปิตฺวา.
๑๖๐๒. สติ ¶ กิจฺเจ ชลํ วิคาหิตฺวา นิมุชฺชนาทิกํ กโรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. กิจฺจํ นาม นหานาทิกํ.
๑๖๐๓. อนนฺตรสฺสาติ องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทสฺส. วิเสโสว วิเสสตา, โกจิ วิเสโส นตฺถีติ อตฺโถ.
หสธมฺมกถาวณฺณนา.
๑๖๐๔-๕. โย ภิกฺขุ ภิกฺขุนา ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน อสฺส วจนํ อกตฺตุกามตาย อาทรํ ปน สเจ น กโรติ, ตสฺส ตสฺมึ อนาทริเย ปาจิตฺติยมุทีรเยติ โยชนา, อิมินา วากฺเยน ปุคฺคลานาทรมูลกํ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ยถาห ‘‘อนาทริยํ นาม ทฺเว อนาทริยานิ ปุคฺคลานาทริยฺจ ธมฺมานาทริยฺจา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๒), ‘‘ปุคฺคลานาทริยํ นาม อุปสมฺปนฺเนน ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน ‘อยํ อุกฺขิตฺตโก วา วมฺภิโต วา ครหิโต วา อิมสฺส วจนํ อกตํ ภวิสฺสตี’ติ อนาทริยํ กโรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๒) จ.
ธมฺมเมว วา อสิกฺขิตุกาโม โย ภิกฺขุ ภิกฺขุนา ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน อสฺส วจนํ อกตฺตุกามตาย อาทรํ ¶ ปน สเจ น กโรติ, ตสฺส ตสฺมึ อนาทริเย ปาจิตฺติยมุทีรเยติ โยชนา, อิมินา ธมฺมานาทริยมูลกํ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ยถาห ‘‘ธมฺมานาทริยํ นาม อุปสมฺปนฺเนน ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน กถายํ นสฺเสยฺย วา วินสฺเสยฺย วา อนฺตรธาเยยฺย วา, ตํ นสิกฺขิตุกาโม อนาทริยํ กโรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๒). อนาทริเยติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ.
๑๖๐๖. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก, อนุปสมฺปนฺนสฺี อนาทริยํ กโรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๓) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ติกาตีเตนาติ โลกตฺติกมติกฺกนฺเตน. อนุปสมฺปนฺนานาทเร ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ.
๑๖๐๗. สุตฺเตเนวาภิธมฺเมนาติ เอตฺถ เอวกาโร ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา โยเชตพฺโพ. ‘‘สุตฺเตน ¶ อภิธมฺเมนา’’ติ ปททฺวเยน อเภโทปจารโต สุตฺตาภิธมฺมาคโต ปริยตฺติธมฺโม วุตฺโต. อปฺตฺเตนาติ ปฺตฺตสงฺขาตวินยโต อฺตฺตา อปฺตฺเตน. ‘‘อปฺตฺเตนา’’ติ อิทํ ‘‘สุตฺเตน อภิธมฺเมนา’’ติ ปททฺวยวิเสสนํ. ภิกฺขุนา วุตฺตสฺส ตสฺมึ ภิกฺขุมฺหิ วา ธมฺเม วา อนาทรํ กโรโต ทุกฺกฏเมว. สามเณเรน อุภเยนปิ ปฺตฺเตน วา อปฺตฺเตน วา วุตฺตสฺส ตสฺมึ สามเณเร วา ปฺตฺเต วา อปฺตฺเต วา ธมฺเม อนาทรํ กโรโต ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏเมวาติ โยชนา.
๑๖๐๘. โทโสติ ปาจิตฺติยทุกฺกฏสงฺขาโต โกจิ โทโส.
๑๖๐๙. เอตฺถาติ ¶ อิมสฺมึ อาจริยานํ คาเห. คารยฺโห อาจริยุคฺคโห เนว คเหตพฺโพติ โยชนา. คารยฺโห อาจริยุคฺคโหติ เอตฺถ ‘‘ยสฺมา อุจฺฉุรโส สตฺตาหกาลิโก, ตสฺส กสโฏ ยาวชีวิโก, ทฺวินฺนํเยว สมวาโย อุจฺฉุยฏฺิ, ตสฺมา วิกาเล อุจฺฉุยฏฺึ ขาทิตุํ วฏฺฏติ คุฬหรีตเก วิยา’’ติ เอวมาทิโก สมฺปติ นิพฺพตฺโต คารยฺหาจริยวาโท. กตโร ปน คเหตพฺโพติ? ปเวณิยา อาคโต อาจริยุคฺคโหว คเหตพฺโพ.
กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘โลกวชฺเช อาจริยุคฺคโห น วฏฺฏติ, ปณฺณตฺติวชฺเช ปน วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๔๔) วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ‘‘สุตฺตํ, สุตฺตานุโลมฺจ อุคฺคหิตกานํเยว อาจริยานํ อุคฺคโห ปมาณํ, อชานนฺตานํ กถา อปฺปมาณ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๔๔) วุตฺตํ. ‘‘ตํ สพฺพํ ปเวณิยา อาคเต สโมธานํ คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๔๔) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. เอตฺถ โลกวชฺเช อาจริยุคฺคโห น วฏฺฏตีติ โลกวชฺชสิกฺขาปเท อาปตฺติฏฺาเน โย อาจริยวาโท, โส น คเหตพฺโพ, โลกวชฺชมติกฺกมิตฺวา ‘‘อิทํ อมฺหากํ อาจริยุคฺคโห’’ติ วทนฺตสฺส อุคฺคโห น วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. สุตฺตานุโลมํ นาม อฏฺกถา. ปเวณิยา อาคเต สโมธานํ คจฺฉตีติ ‘‘ปเวณิยา อาคโต อาจริยุคฺคโหว คเหตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๔๔) เอวํ วุตฺเต มหาอฏฺกถาวาเทเยว สงฺคหํ คจฺฉตีติ อธิปฺปาโย.
อนาทริยกถาวณฺณนา.
๑๖๑๐-๑. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ภึสาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๓๔๖) มาติกาวจนโต ¶ ภยสฺชนนตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ เสโส. เตเนว วกฺขติ ‘‘อิตรสฺส ตุ ภิกฺขุสฺสา’’ติ. รูปาทินฺติ รูปสทฺทคนฺธาทึ. อุปสํหเรติ อุปฏฺเปติ ¶ , ทสฺเสตีติ วุตฺตํ โหติ. ภยานกํ กถนฺติ โจรกนฺตาราทิกถํ. ยถาห ‘‘โจรกนฺตารํ วา วาฬกนฺตารํ วา ปิสาจกนฺตารํ วา อาจิกฺขตี’’ติ (ปาจิ. ๓๔๘). ปรสนฺติเกติ เอตฺถ ‘‘ปโร’’ติ วุตฺตนเยน ลพฺภมาโน อุปสมฺปนฺโน คเหตพฺโพ.
ทิสฺวา วาติ อุปฏฺาปิตํ ตํ รูปาทึ ทิสฺวา วา. สุตฺวา วาติ ตํ ภยานกํ กถํ สุตฺวา วา. ยสฺส ภยทสฺสนตฺถาย ตํ อุปฏฺาเปสิ, โส ภายตุ วา มา วา ภายตุ. อิตรสฺสาติ ตทุปฏฺาปกสฺส ภิกฺขุสฺส. ตงฺขเณติ อุปฏฺาปิตกฺขเณ.
๑๖๑๒. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก, อนุปสมฺปนฺนสฺี ภึสาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๘) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ. ‘‘อนุปสมฺปนฺนํ ภึสาเปตุกาโม’’ติอาทิเก ทุกฺกฏวาเร อนุปสมฺปนฺนคฺคหเณน คิหิโนปิ สงฺคยฺหมานตฺตา ‘‘สามเณรํ คหฏฺํ วา’’ติ อาห. สามเณรํ…เป… ภิกฺขุโน ตเถว ภึสาเปนฺตสฺส ติกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
ภึสาปนกถาวณฺณนา.
๑๖๑๔. โชตินฺติ อคฺคึ. ตปฺเปตุกาโมติ วิสิพฺเพตุกาโม. ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ปทีเปปิ โชติเกปิ ชนฺตาฆเรปิ กุกฺกุจฺจายนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๕๒) อุปฺปนฺนวตฺถุมฺหิ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ตถารูปปจฺจยา โชตึ สมาทหิตุํ สมาทหาเปตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๕๒) วุตฺตตฺตา เอตฺถ ‘‘ตถารูปํ ปจฺจย’’นฺติ อิมินา ¶ ปทีปุชฺชลนฺจ ปตฺตปจนสรีรเสทนาทิกมฺมฺจ ชนฺตาฆรวตฺตฺจ คเหตพฺพํ. เอตฺถ จ โชติเกปีติ ปตฺตปจนเสทนกมฺมาทีสุ โชติกรเณติ อตฺโถ.
๑๖๑๕. สยํสมาทหนฺตสฺสาติ อตฺตนา ชาเลนฺตสฺส.
๑๖๑๖. ชาลาเปนฺตสฺส ¶ …เป… ทุกฺกฏนฺติ อาณตฺติยา อาปชฺชิตพฺพํ ทุกฺกฏํ สนฺธายาห. อาณตฺติยา ชลิเต อาปชฺชิตพฺพาปตฺติ ‘‘ชาลุฏฺาเน ปนาปตฺติ, ปาจิตฺติ ปริกิตฺติตา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา สิทฺธาติ วิสุํ น วุตฺตา.
๑๖๑๗. คิลานสฺสาติ ‘‘คิลาโน นาม ยสฺส วินา อคฺคินา น ผาสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๓๕๔) วุตฺตสฺส คิลานสฺส. อวิชฺฌาตํ อลาตํ อุกฺขิปนฺตสฺสาติ คหเณน ภฏฺํ อนิพฺพุตาลาตํ อคฺคิโน สมีปํ กโรนฺตสฺส, ยถาาเน เปนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๖๑๘-๙. วิชฺฌาตํ อลาตนฺติ นิพฺพุตาลาตํ. ยถาวตฺถุกํ ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ. อฺเน วา กตํ วิสิพฺเพนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. วิสิพฺเพนฺตสฺสาติ ตปฺเปนฺตสฺส. องฺคารนฺติ วีตจฺจิกํ องฺคารํ. ปทีปุชฺชลนาทิเกติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘โชติเก ชนฺตาฆเร ตถารูปปจฺจยา’’ติ (ปาจิ. ๓๕๒) อาคตํ สงฺคณฺหาติ. เอตฺถ จ ตถารูปปจฺจยาติ เปตฺวา ปทีปาทีนิ อฺเนปิ ตถารูเปน ปจฺจเยน.
โชติสมาทหนกถาวณฺณนา.
๑๖๒๐-๑. มชฺฌิเม เทเสติ ชมฺพุทีเป ยตฺถ โพธิมณฺฑลํ โหติ, ตสฺมึ นวโยชนสตาวฏฺเฏ มชฺฌิมมณฺฑเล, อิมินา อิทํ ¶ สิกฺขาปทํ ตตฺเถว เทโสทิสฺสกตาย นิยตนฺติ ทสฺเสติ. เตเนว วกฺขติ อนาปตฺติวาเร ‘‘ปจฺจนฺติเมปิ วา เทเส’’ติ. จุณฺณนฺติ สิรีสจุณฺณาทิกํ จุณฺณํ. อภิสงฺขรโตติ ปฏิยาเทนฺตสฺส.
๑๖๒๒-๓. ‘‘มาเส อูนสฺิโน’’ติ ปทจฺเฉโท. อติเรกทฺธมาเส อูนสฺิโน วา อติเรกทฺธมาเส วิมติสฺส วา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อติเรกทฺธมาเส นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. สมเยสุ จ นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอตฺถ ‘‘อุณฺหสมโย ปริฬาหสมโย คิลานสมโย กมฺมสมโย อทฺธานคมนสมโย วาตวุฏฺิสมโย’’ติ (ปาจิ. ๓๖๓) ทสฺสิเตสุ ฉสุ สมเยสุ อฺตเร สมฺปตฺเต สมเย สตึ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อูนมาเสปิ นหายนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
ตตฺถ ¶ เชฏฺมาโส จ อาสาฬฺหิมาสสฺส ปุริมปกฺโข จาติ ทิยฑฺฒมาโส อุณฺหสมโย นาม. ยถาห ‘‘อุณฺหสมโย นาม ทิยฑฺโฒ มาโส เสโส คิมฺหาน’’นฺติ (ปาจิ. ๓๖๔), วสฺสานสฺส ปโม มาโส ปริฬาหสมโย นาม. ยถาห ‘‘ปริฬาหสมโย นาม วสฺสานสฺส ปโม มาโส’’ติ (ปาจิ. ๓๖๔). ‘‘ยสฺส วินา นหานา น ผาสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๔) วุตฺโต สมโย คิลานสมโย นาม. ‘‘อนฺตมโส ปริเวณมฺปิ สมฺมฏฺํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๔) วุตฺโต กมฺมสมโย นาม. ‘‘อทฺธโยชนํ คจฺฉิสฺสามี’ติ นหายิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๖๔) วุตฺโต อทฺธานคมนสมโย นาม. ‘‘ภิกฺขู สรเชน วาเตน โอกิณฺณา โหนฺติ, ทฺเว วา ตีณิ วา อุทกผุสิตานิ กาเย ปติตานิ โหนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๔) วุตฺโต วาตวุฏฺิสมโย นาม.
นทีปารํ คจฺฉโตปิ อูนกทฺธมาเส นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. วาลิกํ อุกฺกิริตฺวานาติ เอตฺถ สุกฺขาย นทิยา ¶ วาลิกํ อุกฺกิริตฺวา. กตาวาเฏสุปิ อูนกทฺธมาเส นฺหายนฺตสฺสปิ อนาปตฺตีติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ.
๑๖๒๔. ปจฺจนฺติเมปิ วา เทเสติ ชมฺพุทีเป ยถาวุตฺตมชฺฌิมเทสโต พหิ ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ, ขุทฺทเกสุ จ ทีเปสุ. สพฺเพสนฺติ ลทฺธสมยานํ, อลทฺธสมยานฺจ สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ. อาปทาสูติ ภมรอนุพนฺธาทิอาปทาสุ. ยถาห ‘‘ภมราทีหิ อนุพทฺธสฺส อุทเก นิมุชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๖). กายจิตฺตสมุฏฺานํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ นาม.
นฺหานกถาวณฺณนา.
๑๖๒๕-๗. ‘‘นวํ นาม อกตกปฺปํ วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๙) ปาฬิวจนโต จ ‘‘ปฏิลทฺธนวจีวเรนาติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) อฏฺกถาวจนโต จ จีวรนฺติ เอตฺถ ‘‘นว’’นฺติ เสโส. กปฺปิยํ พินฺทุํ อทตฺวา นวํ จีวรํ ภิกฺขุ ปริภฺุชติ, ตสฺเสวํ ปริภฺุชโต ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ฉนฺนนฺติ โขมาทีนํ, นิทฺธารเณ สามิวจนํ. อฺตรํ นวํ จีวรนฺติ นิทฺธาเรตพฺพํ. ยตฺถ กตฺถจีติ ‘‘จตูสุ วา โกเณสุ ตีสุ วา ทฺวีสุ วา เอกสฺมึ วา โกเณ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) อฏฺกถาวจนโต จีวรโกเณสุ ยตฺถ กตฺถจิ.
กํสนีเลนาติ ¶ จมฺมการนีเลน. จมฺมการนีลํ นาม ปกตินีลํ. คณฺิปเท ปน ‘‘จมฺมการา อุทเก ติผลํ, อโยคูถฺจ ปกฺขิปิตฺวา จมฺมํ กาฬํ กโรนฺติ, ตํ จมฺมการนีล’’นฺติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อโยมลํ โลหมลํ, เอตํ กํสนีลํ นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) วุตฺตํ. ปตฺตนีเลน วาติ ‘‘โย โกจิ นีลวณฺโณ ปณฺณรโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) อฏฺกถาย วุตฺเตน นีลปณฺณรเสน. เยน เกนจิ กาเฬนาติ องฺคารชลฺลิกาทีสุ อฺตเรน เยน เกนจิ กาฬวณฺเณน. ‘‘กทฺทโม นาม ¶ โอทโก วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๙) วุตฺตตฺตา กทฺทเมนาติ อุทกานุกทฺทมสุกฺขกทฺทมาทึ สงฺคณฺหาติ.
‘‘มงฺคุลสฺส ปิฏฺิปฺปมาณกํ มยูรสฺส อกฺขิปฺปมาณก’’นฺติ ยถากฺกเมน โยชนา.
๑๖๒๘. ‘‘ปาฬิกปฺโป กณฺณิกากปฺโป’’ติ โยชนา, มุตฺตาวลิ วิย ปาฬึ กตฺวา อปฺปิตกปฺโป จ กณฺณิกากาเรน อปฺปิตกปฺโป จาติ อตฺโถ. กตฺถจีติ เอตฺถ ‘‘ยถาวุตฺตปฺปเทเส’’ติ เสโส. ‘‘จตูสุ วา โกเณสุ ตีสุ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) วุตฺตตฺตา ‘‘อเนกํ วา’’ติ อาห. วฏฺฏเมว วฏฺฏกํ, อิมินา อฺํ วิการํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ยถาห ‘‘เปตฺวา เอกํ วฏฺฏพินฺทุํ อฺเน เกนจิปิ วิกาเรน กปฺโป น กาตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. ๓๖๘).
๑๖๒๙. ‘‘อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ อิทํ ‘‘วิมติสฺสจา’’ติ เอตฺถ จ-สทฺเทน สมุจฺจิตํ ‘‘อาทินฺเน อาทินฺนสฺิโน’’ติ ตติยวิกปฺปํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถาห ‘‘อาทินฺเน อาทินฺนสฺี, อนาปตฺตี’’ติ.
๑๖๓๐. ‘‘กปฺเป นฏฺเปิ วา’’ติอาทีหิ จ โยเชตพฺพํ. ปิ-สทฺเทน ‘‘กปฺปกโตกาเส ชิณฺเณ’’ติ อิทํ สมฺปิณฺเฑติ. ยถาห ‘‘กปฺปกโตกาโส ชิณฺโณ โหตี’’ติ. เตน กปฺปกเตนาติ สหตฺเถ กรณวจนํ. สํสิพฺพิเตสูติ เอตฺถ ‘‘อกปฺปกเตสู’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘กปฺปกเตน อกปฺปกตํ สํสิพฺพิตํ โหตี’’ติ. นิวาสนปารุปนํ กฺริยํ. กปฺปพินฺทุอนาทานํ อกฺริยํ.
ทุพฺพณฺณกรณกถาวณฺณนา.
๑๖๓๑-๔. ‘‘วิกปฺปนา ¶ ¶ นาม ทฺเว วิกปฺปนา สมฺมุขาวิกปฺปนา จ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จา’’ติ (ปาจิ. ๓๗๔) วุตฺตตฺตา ‘‘วิกปฺปนา ทุเว’’ติอาทิมาห. อิตีติ นิทสฺสเน, เอวนฺติ อตฺโถ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหตีติ อาห ‘‘สมฺมุขาย…เป… นิทฺทิเส’’ติ. เอกสฺสาติ เอตฺถ ‘‘พฺยตฺตสฺสา’’ติ เสโส. อิธ พฺยตฺโต นาม วิกปฺปนปจฺจุทฺธารณวิธึ ชานนฺโต.
ยถาวจนโยคโตติ ‘‘อิมํ จีวร’นฺติ วา, ‘อิมานิ จีวรานี’ติ วา, ‘เอตํ จีวร’นฺติ วา, ‘เอตานิ จีวรานี’ติ วา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อฏฺกถาย วุตฺตํ อนติกฺกมฺม, วจนสมฺพนฺธกฺกเมนาติ อตฺโถ. ตเทกเทสสรูปํ ทสฺเสติ ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ.
‘‘อปจฺจุทฺธฏโต’’ติ อิมินา ‘‘น กปฺปตี’’ติ เอตสฺส เหตุํ ทสฺเสติ.
๑๖๓๕. ‘‘สนฺตก’’มิจฺจาทิ ปจฺจุทฺธรณปฺปกาโร. ยถาปจฺจยํ กโรหีติ ตุยฺหํ รุจฺจนกํ กโรหีติ อตฺโถ.
๑๖๓๖. สมฺมุขาวิกปฺปนฺตรํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อปรา สมฺมุขา วุตฺตา’’ติอาทิ. อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวาติ โยชนา. สหธมฺมินนฺติ เอตฺถ ‘‘ปฺจนฺน’’นฺติ เสโส, นิทฺธารเณ สามิวจนํ.
๑๖๓๙. เอวนฺติ วกฺขมานาเปกฺขํ. อปิ-สทฺโท ปน สทฺทสฺสตฺเถ.
๑๖๔๐. มิตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต, ‘‘เตน วตฺตพฺพํ ‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๗๔) วจนโต อิทํ อุปลกฺขณํ. ปุน เตนปิ ภิกฺขุนา วตฺตพฺพนฺติ โยชนา.
๑๖๔๑-๒. ‘‘อหํ ¶ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมี’ติ วา…เป… ‘ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’ติ วา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) เสสอฏฺกถาปาเน ‘‘อิท’’มิจฺจาทิปาโ โยเชตพฺโพ.
๑๖๔๓. ทฺวีสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ, เอตฺถ ‘‘วิกปฺปนาสู’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.
๑๖๔๔-๕. อิธ ¶ ปน อิมสฺมึ สาสเน เยน ปน ภิกฺขุนา สห จีวรสามิเกน ตํ วินยกมฺมํ กตํ, ตสฺส อวิสฺสาเสน วิสฺสาสภาวํ วินา โส วินยกมฺมกโต ภิกฺขุ ตํ จีวรํ ปริภฺุเชยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺตีติ โยชนา. ฉนฺทานุรกฺขนตฺถํ ‘‘วินยํกมฺม’’นฺติ อนุสฺสาราคโม เวทิตพฺโพ, วินยกมฺมนฺติ อตฺโถ. ตํ จีวรํ อธิฏฺหนฺตสฺส วา วิสฺสชฺชนฺตสฺส วา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๖๔๖. ปจฺจุทฺธารกวตฺเถสูติ ปจฺจุทฺธฏวตฺเถสุ. อปจฺจุทฺธารสฺิโนติ อปจฺจุทฺธฏสฺิโน. ตตฺถาติ อปจฺจุทฺธฏวตฺเถสุ. เวมติกสฺสาติ ‘‘ปจฺจุทฺธฏานิ นุ โข มยา, อปจฺจุทฺธฏานี’’ติ สํสยาปนฺนสฺส.
๑๖๔๗. ปจฺจุทฺธารณสฺิสฺสาติ ปจฺจุทฺธฏมิทนฺติ สฺิสฺส. วิสฺสาสาติ ยสฺส วา จีวรํ วิกปฺเปสิ, เตน อปจฺจุทฺธฏมฺปิ ตสฺส วิสฺสาสา ปริภฺุชโต จ. ยถาห ‘‘ตสฺส วา วิสฺสสนฺโต ปริภฺุชตี’’ติ (ปาจิ. ๓๗๖).
วิกปฺปนกถาวณฺณนา.
๑๖๔๘-๙. ‘‘ปตฺโต นาม ทฺเว ปตฺตา อโยปตฺโต มตฺติกาปตฺโต’’ติ (ปาจิ. ๓๗๙) ชาติยา กปฺปิยปตฺตานํ วุตฺตตฺตา อาห ¶ ‘‘อธิฏฺานุปคํ ปตฺต’’นฺติ. ตาทิสนฺติ อธิฏฺานุปคํ. สูจิฆรํ นาม สสูจิกํ วา อสูจิกํ วา. กายพนฺธนํ นาม ปฏฺฏิกา วา สูกรนฺตกํ วา. นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจติ.
‘‘ปตฺตํ วา’’ติอาทีหิ อุปโยคนฺตปเทหิ ‘‘อปเนตฺวา นิเธนฺตสฺสา’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. นิเธนฺตสฺสาติ เอตสฺส ‘‘หสาเปกฺขสฺสา’’ติ วิเสสนํ. ยถาห ‘‘หสาเปกฺโขปีติ กีฬาธิปฺปาโย’’ติ (ปาจิ. ๓๗๙). ‘‘เกวล’’นฺติ อิมินา ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺส ปฏิสามนาธิปฺปายาทิอฺาธิปฺปายาภาวํ ทีเปติ. วกฺขติ จ ‘‘ทุนฺนิกฺขิตฺตมนาปตฺติ, ปฏิสามยโต ปนา’’ติ.
๑๖๕๐. เตนาปีติ อาณตฺเตน. ตสฺสาติ อาณาปกสฺส. ติกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ อนุปสมฺปนฺเน ¶ อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ, อิมินา จ อุปสมฺปนฺนสนฺตเก ติกปาจิตฺติยนฺติ อิทฺจ วุตฺตเมว โหติ.
๑๖๕๑. อฺนฺติ ปาฬิยํ อนาคตํ ปตฺตตฺถวิกาทิปริกฺขารํ.
๑๖๕๒. สพฺเพสูติ ปาฬิยํ อาคเตสุ จ อนาคเตสุ จ สพฺเพสุ ปริกฺขาเรสุ.
๑๖๕๓. ธมฺมกถํ กตฺวาติ ‘‘สมเณน นาม อนิหิตปริกฺขาเรน ภวิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๗๗) อฏฺกถาคตนเยน ธมฺมกถํ กตฺวา. อนิหิตปริกฺขาเรนาติ อปฺปฏิสามิตปริกฺขาเรน. นิเธติ เจ, ตถา อนาปตฺตีติ โยชนา. อวิเหเสตุกามสฺสาติ วิเหสาธิปฺปายรหิตสฺส. อกีฬสฺสาติ กีฬาธิปฺปายรหิตสฺส เกวลํ วตฺตสีเสน ‘‘ปฏิสาเมตฺวา ทสฺสามี’’ติ อปนิเธนฺตสฺส.
๑๖๕๔. อทินฺนาทานสมุฏฺานาปตฺตีนํ ¶ อกุสลาทิวเสนปิ สจิตฺตกตฺตา อาห ‘‘อิทํ อกุสเลเนว สจิตฺต’’นฺติ.
จีวราปนิธานกถาวณฺณนา.
สุราปานวคฺโค ฉฏฺโ.
๑๖๕๕. ‘‘ติรจฺฉานคตํ ปาณ’’นฺติ อิมินา ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๓๘๓) อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อธิปฺเปตํ ปาณํ ทสฺเสติ. อาปตฺตินานตฺตาภาวา อาห ‘‘มหนฺตํ ขุทฺทกมฺปิ วา’’ติ. ยถาห ‘‘อิมสฺมิฺจ สิกฺขาปเท ติรจฺฉานคโตเยว ‘ปาโณ’ติ เวทิตพฺโพ, ตํ ขุทฺทกมฺปิ มหนฺตมฺปิ มาเรนฺตสฺส อาปตฺตินานากรณํ นตฺถิ, มหนฺเต ปน อุปกฺกมมหนฺตตฺตา อกุสลํ มหนฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘๒). ‘‘มาเรนฺตสฺส อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘ขุทฺทกมฺปิ วา มาเรนฺตสฺสา’’ติ อิมินา อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตมโส มฺจปีํ โสเธนฺโต มงฺคุลพีชเกปิ ปาณสฺี นิกฺการุณิกตาย ตํ ภินฺทนฺโต อปเนติ, ปาจิตฺติยํ. ตสฺมา เอวรูเปสุ าเนสุ การฺุํ อุปฏฺเปตฺวา อปฺปมตฺเตน วตฺตํ กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตวินิจฺฉโยปิ สงฺคหิโต.
๑๖๕๖. อุภยตฺถ ¶ จาติ ปาเณ วา อปาเณ วาติ อุภยตฺถาปิ. อวเสสวินิจฺฉโย ปเนตฺถ มนุสฺสวิคฺคเห วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
สฺจิจฺจปาณกถาวณฺณนา.
๑๖๕๘. สปฺปาณกนฺติ สห ปาณเกหีติ สปฺปาณกํ. เย ปริโภเคน มรนฺติ, เอวรูปา อิธ ‘‘ปาณกา’’ติ อธิปฺเปตา. อสฺสาติ ภิกฺขุโน.
๑๖๕๙. ‘‘อวิจฺฉิชฺชา’’ติ ¶ อิมินา วิจฺเฉเทเนว ปโยคนานตฺตํ โหตีติ ทีเปติ. ปตฺตปูรมฺปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท พฺยติเรเก.
๑๖๖๐-๑. อสฺส ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ สมฺพนฺโธ. ตาทิเสนาติ สปฺปาณเกน. อาวิฺฉิตฺวานาติ ปริพฺภมิตฺวา. ยาคุโยติ เอตฺถ ‘‘อุณฺหา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. อิทฺจ ปาณีนํ มารณตฺถํ ยํ กิฺจิ อุณฺหวตฺถุํ สปฺปาณเกน อุทเกน อนิพฺพาเปตุํ อุปลกฺขณํ. ตํ สปฺปาณกํ อุทกํ. นฺหายโตปิ วาติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน อฏฺกถายํ –
‘‘อุทกโสณฺฑึ วา โปกฺขรณึ วา ปวิสิตฺวา พหิ นิกฺขมนตฺถาย วีจึ อุฏฺาปยโตปิ. โสณฺฑึ วา โปกฺขรณึ วา โสเธนฺเตหิ ตโต คหิตอุทกํ อุทเกเยว อาสิฺจิตพฺพํ. สมีปมฺหิ อุทเก อสติ กปฺปิยอุทกสฺส อฏฺ วา ทส วา ฆเฏ อุทกสณฺานกปฺปเทเส อาสิฺจิตฺวา ตตฺถ อาสิฺจิตพฺพํ. ‘ปวฏฺฏิตฺวา อุทเก ปติสฺสตี’ติ อุณฺหปาสาเณ อุทกํ นาสิฺจิตพฺพํ. กปฺปิยอุทเกน ปน ปาสาณํ นิพฺพาเปตฺวา อาสิฺจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘๗) –
วุตฺตวินิจฺฉยํ สมฺปิณฺเฑติ.
๑๖๖๒. อุภยตฺถปีติ สปฺปาณเกปิ อปฺปาณเกปีติ อุภยตฺเถว.
๑๖๖๔-๖. ปาณปฏิพทฺธตาย การณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปตน’’นฺติอาทิ. สลภาทีนนฺติ ปฏงฺคาทีนํ ¶ . ตฺวาติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. เอวมุปริปิ. ปทีปุชฺชลนนฺติ เอตฺถ ‘‘วิยา’’ติ เสโส. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. สปฺปาณภาโวว สปฺปาณภาวตา, ตํ. ภฺุชโตติ ภฺุชิตพฺพโต.
สลภาทีนํ ¶ ปตนํ ตฺวาปิ สุทฺเธน เจตสา ปทีปุชฺชลนํ วิย สปาณภาวํ ตฺวาปิ ชลสฺาย ภฺุชิตพฺพโต เอตฺถ ปณฺณตฺติวชฺชตา เยฺยาติ โยชนา.
เอวํ สนฺเต สิฺจนสปฺปาณกสิกฺขาปทานํ อุภินฺนมฺปิ โก วิเสโสติ อาห ‘‘สิฺจเน’’ติอาทิ. สิฺจนํ สิฺจนสิกฺขาปทํ สิฺจเน วุตฺตํ สิฺจนวิสเย ปฺตฺตํ, อิทํ ปน สปฺปาณกสิกฺขาปทํ ปริโภเค วุตฺตํ อชฺโฌหารวิสเย ปฺตฺตนฺติ อยเมว ตสฺส เจว อสฺส จ วิเสโสติ โยชนา.
สปฺปาณกกถาวณฺณนา.
๑๖๖๗. ยถาธมฺมนฺติ โย ยสฺส อธิกรณสฺส วูปสมนาย ธมฺโม วุตฺโต, เตเนว ธมฺเมนาติ อตฺโถ. ‘‘กิจฺจาธิกรณ’’นฺติ อิมินา อิตรานิ อธิกรณานิ อุปลกฺขิตานิ. ยถาห ‘‘อธิกรณํ นาม จตฺตาริ อธิกรณานิ วิวาทาธิกรณํ อนุวาทาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณํ กิจฺจาธิกรณ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๙๔). อปโลกนกมฺมาทีนิ จตฺตาริ สงฺฆกิจฺจํ นาม, ตเทว สมเถหิ อธิกรณียตฺตา วูปสเมตพฺพตฺตา อธิกรณนฺติ กิจฺจาธิกรณํ. ปุน นีหาตพฺพนฺติ ปุน นีหริตพฺพํ, วูปสเมตพฺพนฺติ อตฺโถ. อิมินา ‘‘อกตํ กมฺม’’นฺติอาทินา ปาฬิยํ ทสฺสิตา ทฺวาทส อุกฺโกฏา อุปลกฺขิตาติ ทฏฺพฺพา. อุกฺโกเฏนฺตสฺสาติ ตสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อกตํ กมฺม’’นฺติอาทีนิ วตฺวา อุจฺจาเลนฺตสฺส ยถาปติฏฺิตภาเวน ปติฏฺาตุํ น เทนฺตสฺส. เอตฺถ จ ปติฏฺาตุํ น เทนฺตสฺสาติ ตสฺส ปวตฺติอาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ยํ ปน ธมฺเมน อธิกรณํ นิหฏํ, ตํ สุนิหฏเมว.
๑๖๖๘. ‘‘อกตํ กมฺมํ, ทุกฺกฏํ กมฺมํ, ปุน กาตพฺพํ กมฺม’’นฺติ วทตา วทนฺเตน ภิกฺขุนา ตํ กมฺมํ อุจฺจาเลตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๑๖๖๙. วิปฺปกเตติ ¶ ¶ อารทฺธานิฏฺิเต. ตนฺติ ปฏิกฺโกสนฺตํ. สฺาเปตฺวาติ กตกมฺมสฺส อนวชฺชภาวํ าเปตฺวา. น ปนฺถาติ ตถา อสฺาเปตฺวา.
๑๖๗๐. อธมฺเม ปน กมฺมสฺมินฺติ ยถาปาฬิอาคเต กมฺมสฺมึ. อุภยตฺถาปีติ ธมฺมกมฺเม, อธมฺมกมฺเม วาติ อุภยตฺถ.
๑๖๗๑. น จ กมฺมารหสฺส วาติ เอตฺถ จ-สทฺโท ‘‘วคฺเคน จา’’ติ โยเชตพฺโพ. จ-สทฺโท วา-สทฺทตฺเถ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อธมฺเมน, วคฺเคน วา น กมฺมารหสฺส วา กต’’นฺติ ชานโต อุกฺโกฏเน โทโส นตฺถีติ โยชนา.
อุกฺโกฏนกถาวณฺณนา.
๑๖๗๓. ‘‘ทุฏฺุลฺลา นาม อาปตฺติ จตฺตาริ จ ปาราชิกานิ เตรส จ สงฺฆาทิเสสา’’ติ (ปาจิ. ๓๙๙) วจนโต ปาราชิกานมฺปิ ทุฏฺุลฺลตฺตา, อิธ จ ปาราชิกสฺส อนธิปฺเปตตฺตา อิธาธิปฺเปตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺฆาทิเสส’’นฺติ อิมินา ทุฏฺุลฺล-ปทํ วิเสสิตํ. ยถาห ‘‘เอตฺถ จตฺตาริ ปาราชิกานิ อตฺถุทฺธารวเสน ทสฺสิตานิ, สงฺฆาทิเสสาปตฺติ ปน อธิปฺเปตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๙๙). ตฺวาติ สามํ วา อฺโต วา ชานิตฺวา. ฉาทยโต ตสฺส ปริยาปุตาติ ‘‘อิมํ ชานิตฺวา โจเทสฺสนฺติ, สาเรสฺสนฺติ, นาโรเจสฺสามี’’ติ ปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส ตสฺส ปริยาปุตา เทสิตา.
๑๖๗๔-๕. ธุรํ นิกฺขิปิตฺวาติ ‘‘อฺสฺส น อาโรเจสฺสามี’’ติ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา. ตสฺสาติ ทุฏฺุลฺลสฺส. ปฏิจฺฉาทนํ เหตุ การณํ ยสฺส อาโรจนสฺสาติ วิคฺคโห. ปฏิจฺฉาทนเหตุกนฺติ อาโรจนกิริยาย วิเสสนํ, ‘‘อิตฺถนฺนาโม ¶ อิตฺถนฺนามํ สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน, อฺสฺส น อาโรเจหี’’ติ วตฺวา อาโรจนํ กโรตีติ วุตฺตํ โหติ. อิตีติ วุตฺตนิทสฺสเน, หีติ เอวการตฺเถ, เอวเมว วทตีติ อตฺโถ.
ยาว โกฏิ น ฉิชฺชติ, ตาว เอวํ ภิกฺขูนํ สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ ตํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ เอวาติ โยชนา.
๑๖๗๖. มูเลนาติ ¶ สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺนปุคฺคเลน. อาโรจิตสฺส ทุติยสฺสาติ สมานาธิกรณํ. มูเลน ‘‘มม อาปตฺตึ อาปนฺนภาวํ อฺสฺส น อาโรเจหี’’ติ อาโรจิตสฺส ทุติยภิกฺขุสฺส สนฺติกา สุณนฺเตน ตติเยน นิวตฺติตฺวา ตสฺเสว ทุติยสฺส ปกาสิเต อาโรจนสฺส โกฏิ ฉินฺนาติ วุจฺจตีติ โยชนา. โกฏีติ อาโรจนกิริยาวสานํ วุจฺจติ.
๑๖๗๗. ทุฏฺุลฺลาย จ ทุฏฺุลฺลสฺีติ เอตฺถ ‘‘อาโรเจนฺโต’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อิตเรสุ ปน ทฺวีสูติ ทุฏฺุลฺลาย เวมติโก, อทุฏฺุลฺลสฺีติ ทฺวีสุ.
๑๖๗๘. อทุฏฺุลฺลายาติ ปฺจวิธาย ลหุกาปตฺติยา. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ วิกปฺเปสุ. ติกทุกฺกฏํ นิทฺทิฏฺนฺติ อทุฏฺุลฺลาย ทุฏฺุลฺลสฺิเวมติกอทุฏฺุลฺลสฺีนํ วเสน ทุกฺกฏตฺตยํ ปาฬิยํ (ปาจิ. ๔๐๐) ทสฺสิตนฺติ อตฺโถ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ. อนุปสมฺปนฺนวาเรสูติ ตีสุ อนุปสมฺปนฺนวิกปฺเปสุ. ทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
๑๖๗๙-๘๐. ‘‘สงฺฆสฺส เภทนาทีนิ ภวิสฺสนฺตี’’ติอาทีหิ สพฺเพหิ ปเทหิ ‘‘น อาโรเจติ เจ, โทโส นตฺถี’’ติ อิทํ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. สภาคํ วา น ปสฺสตีติ ตถา ¶ อปสฺสนฺโต น อาโรเจติ เจ, โทโส นตฺถิ. กกฺขโฬ อยนฺติ น อาโรเจติ เจ, โทโส นตฺถิ.
๑๖๘๑. อฺสฺส อนาโรจเนน อาปชฺชิตพฺพโต ‘‘อกฺริย’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อาโรเจตพฺพ’’นฺติ อนฺุาตสฺส อนาโรจนํ อนาทรมนฺตเรน น โหตีติ อาห ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ. เอตฺถ จ มาติกฏฺกถายํ ‘‘สมนุภาสนสทิสาเนวา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุฏฺลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ, อิธ ‘‘ธุรนิกฺเขปตุลฺยาวา’’ติ, อุภยตฺถ นามมตฺตเมว วิเสโส, เอกเมว สมุฏฺานนฺติ เวทิตพฺพํ.
ทุฏฺุลฺลกถาวณฺณนา.
๑๖๘๒. อูนวีสติวสฺสนฺติ เอตฺถ ‘‘ชาน’’นฺติ เสโส, ‘‘อูนวีสติวสฺโส’’ติ ชานนฺโตติ อตฺโถ. อูนวีสติวสฺโส นาม ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย อปริปุณฺณวีสติสํวจฺฉโร. โยติ ¶ โย ภิกฺขุ อุปชฺฌาโย หุตฺวา. กเรยฺยาติ การาเปยฺย. อุปสมฺปชฺชตีติ อุปสมฺปโท, ตํ. โย ชานํ อูนวีสติวสฺสํ ปุคฺคลํ อุปสมฺปทํ อุปสมฺปนฺนํ กเรยฺย, ตสฺส เอวํ อุปสมฺปาเทนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา. เสสานนฺติ ‘‘คณสฺส จ อาจริยสฺส จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๐๔) ปาฬิยํ ทสฺสิตานํ คหณํ.
๑๖๘๓. อูนวีสติวสฺสภาวํ ชานตา วา อชานตา วา ภิกฺขุนา โย ปุคฺคโล เจ อุปสมฺปาทิโต, โส อนุปสมฺปนฺโนว โหติ, ปุน โส ปริปุณฺณวีสติวสฺโส สมาโน อุปสมฺปนฺโน กาตพฺโพ อุปสมฺปาเทตพฺโพเยวาติ โยชนา.
๑๖๘๔. ทสวสฺสจฺจเยน ปริปุณฺณทสวสฺโส หุตฺวา อุปชฺฌายสฺส สโต อสฺส ภิกฺขุปฏิฺสฺส อฺเสํ อุปสมฺปาทเน ¶ โกจิ โทโส เจ เอกํเสน นตฺถิ น วิชฺชตีติ โยชนา.
๑๖๘๕. ตํ ภิกฺขุนฺติ อูนวีสติวสฺโส หุตฺวา อุปสมฺปชฺชิตฺวา ปริปุณฺณทสวสฺโส อุปชฺฌาโย หุตฺวา อุปสมฺปาเทนฺตํ ตํ ภิกฺขุปฏิฺํ. คโณ เจ ปริปูรตีติ มชฺฌิมเทเส ทสวคฺโค, ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ปฺจวคฺโค คโณ สเจ อนูโน โหติ. เตติ อุปสมฺปาทิตา. สูปสมฺปนฺนาติ สุฏฺุ อุปสมฺปนฺนา.
๑๖๘๖-๗. โย ภิกฺขุ อุปชฺฌาโย หุตฺวา ‘‘อูนวีสติวสฺสปุคฺคลํ อุปสมฺปาทยิสฺสามิ’’อิติ คณมฺปิ วา อาจริยมฺปิ วา ปตฺตมฺปิ วา ปริเยสติ, มาฬกฺจ สมฺมนฺนติ พทฺธสีมํ พนฺธติ, ตสฺส สพฺเพสุ ปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. ตถา ตฺติยา ทุกฺกฏํ. ตถา ทฺวีสุ กมฺมวาจาสุปิ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๖๘๘-๙. วีสติ จ ตานิ วสฺสานิ จาติ วีสติวสฺสานิ, อูนานิ วีสติวสฺสานิ ยสฺส โส อูนวีสติวสฺโส, อูนวีสติวสฺโสติ สฺา อูนวีสติวสฺสสฺา, สา เอตสฺส อตฺถีติ ‘‘อูนวีสติวสฺสสฺี’’อิติ วตฺตพฺเพ นิปาตนลกฺขเณน วสฺส-สทฺทโลปํ กตฺวา ‘‘อูนวีสติสฺี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺส อูนวีสติสฺิสฺส. ปริปุณฺณานิ วีสติวสฺสานิ เอตสฺสาติ ‘‘ปริปุณฺณวีสติวสฺโส’’ติ วตฺตพฺเพ นิปาตนลกฺขเณน วีสติวสฺส-สทฺทโลปํ ¶ กตฺวา ‘‘ปริปุณฺโณ’’ติ ปุคฺคโล วุจฺจติ, ตสฺมึ ปริปุณฺเณ, ปริปุณฺณวีสติวสฺเส ปุคฺคเลติ อตฺโถ. อุภยตฺถาติ อูนวีสติปริปุณฺณวีสติวสฺเสสุ อุโภสุ ปุคฺคเลสุ.
อูนวีสติวสฺสกถาวณฺณนา.
๑๖๙๑. เถยฺยสตฺเถน ¶ สทฺธินฺติ ‘‘เถยฺยสตฺโถ นาม โจรา กตกมฺมา วา โหนฺติ อกตกมฺมา วา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๐๙) ปทภาชเน วุตฺตสรูเปน สตฺถสงฺขาเตน ชนสมูเหน สหาติ วุตฺตํ โหติ. สหาทิโยเค กรณวจนํ. ชานนฺโตติ ‘‘เถยฺยสตฺโถ’’ติ ชานนฺโต. สํวิธายาติ ‘‘คจฺฉามาวุโส, คจฺฉาม ภนฺเต, คจฺฉามาวุโส, อชฺช วา หิยฺโย วา ปเร วา อปเร วา คจฺฉามา’’ติ ปทภาชเน วุตฺตนเยน สํวิทหิตฺวาติ อตฺโถ. มคฺคนฺติ เอกทฺธานมคฺคํ, เอตฺถ ‘‘อนฺตมโส คามนฺตรมฺปี’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺเชยฺย อนฺตมโส คามนฺตรมฺปี’’ติ. ปาจิตฺติยํ สิยาติ ‘‘คาเม คามนฺตเร คามนฺตเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อคามเก อรฺเ อทฺธโยชเน อทฺธโยชเน อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ วุตฺตปฺปการํ ปาจิตฺติยํ ภเวยฺย.
๑๖๙๒. น อุทฺธโฏติ อิธ น วุตฺโต.
๑๖๙๓-๔. มคฺคาฏวิวิสงฺเกเตติ มคฺควิสงฺเกเต, อฏวิวิสงฺเกเต จ. ยถาวตฺถุกเมวาติ ปาจิตฺติยเมว. เตสูติ สตฺถิเกสุ. อสํวิทหนฺเตสูติ สํวิธานํ อกโรนฺเตสุ. สยํ วิทหโตปิ จาติ อตฺตนา สํวิทหนฺตสฺส จ. อุภยตฺถาติ เถยฺยสตฺเถ วา อเถยฺยสตฺเถ วาติ ทฺวีสุ.
๑๖๙๕. อเถยฺยสตฺถสฺิสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อุภยตฺถา’’ติ อนุวตฺเตตพฺพํ. กาลสฺสายนฺติ กาลิโก, วิสงฺเกโต, ตสฺมึ, กาลสมฺพนฺธินิ วิสงฺเกเต จ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. ‘‘กาลิเก’’ติ อิมินา วิสงฺเกตวิเสสเนน มคฺคาฏวิวิสงฺเกเตปิ อาปตฺติเยวาติ ทีเปติ.
๑๖๙๖. กายจิตฺตโต ¶ , กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺานโต อิทํ สิกฺขาปทํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ กถิตนฺติ โยชนา.
เถยฺยสตฺถกถาวณฺณนา.
๑๖๙๗. สตฺตมนฺติ ¶ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สทฺธึ สํวิธายา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๑๓) อุทฺทิฏฺํ สตฺตมสิกฺขาปทํ. ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาเนนาติ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธานสิกฺขาปเทน. สมุฏฺานาทินาติ สมุฏฺานาทินา วินิจฺฉเยน. ตุลฺยนฺติ สทิสํ. โกจิปีติ อปฺปมตฺตโกปิ.
สํวิธานกถาวณฺณนา.
๑๖๙๘. เอเต ปฺจ ธมฺมา อนฺตรายกราติ ปกาสิตาติ โยชนา. อิธ อยํ อนฺตรายกร-สทฺโท ปาฬิยํ อาคเตน อนฺตรายิก-สทฺเทน สมานตฺโถ. ตสฺมา กมฺมนฺตรายิกา, กิเลสนฺตรายิกา, วิปากนฺตรายิกา, อุปวาทนฺตรายิกา, อาณาวีติกฺกมนฺตรายิกาติ อิเม ปฺจ อนฺตรายิกา ธมฺมา ภควตา ปกาสิตาติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ ตํตํสมฺปตฺติยา วิพนฺธนวเสน สตฺตสนฺตานสฺส อนฺตเร เวมชฺเฌ เอติ อาคจฺฉตีติ อนฺตราโย, ทิฏฺธมฺมิกาทิอนตฺโถ, อนติกฺกมนฏฺเน ตสฺมึ อนฺตราเย นิยุตฺตา, อนฺตรายํ วา ผลํ อรหนฺติ, อนฺตรายสฺส วา กรณสีลาติ อนฺตรายิกา (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๔๑๗; กงฺขา. อภิ. ฏี. อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา).
ปฺจานนฺตริยกมฺมาเนว กมฺมนฺตรายิกา, ตถา ภิกฺขุนิทูสกกมฺมํ. ตํ ปน โมกฺขสฺเสว อนฺตรายํ กโรติ, น สคฺคสฺส. อิทฺจ มิจฺฉาจารลกฺขณสฺส อภาวโต วุตฺตํ. น หิ ¶ ภิกฺขุนิยา ธมฺมรกฺขิตภาโว อตฺถิ. ปากติกภิกฺขุนิวเสน เจตํ วุตฺตํ. อริยาย ปน ปวตฺตํ อปายสํวตฺตนิกเมว. นนฺทมาณวโก (ม. นิ. อฏฺ. ๓.๗; ธ. ป. อฏฺ. ๑.๖๘ อุปฺปลวณฺณตฺเถรีวตฺถุ; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๓๔) เจตฺถ นิทสฺสนํ. อุภินฺนํ สมานจฺฉนฺทตาวเสน วา น สคฺคนฺตรายิกตา, โมกฺขนฺตรายิกตา ปน โมกฺขตฺถาย ปฏิปตฺติยา วิทูสนโต. อภิภวิตฺวา ปน ปวตฺติยา สคฺคนฺตรายิกตาปิ น สกฺกา นิวาเรตุนฺติ วทนฺติ.
อเหตุกทิฏฺิอกิริยทิฏฺินตฺถิกทิฏฺิสงฺขาตา มิจฺฉาทิฏฺิธมฺมา นิยตภาวปฺปตฺตา กิเลสนฺตรายิกา นาม. ปณฺฑกติรจฺฉานคตอุภโตพฺยฺชนกานํ ปฏิสนฺธิจิตฺตุปฺปาทธมฺมา วิปากนฺตรายิกา นาม. ปณฺฑกาทิคฺคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ สพฺพายปิ อเหตุกปฏิสนฺธิยา วิปากนฺตรายิกภาวโต ¶ . อริยูปวาทา อุปวาทนฺตรายิกา นาม. เต ปน ยาว อริเย น ขมาเปนฺติ, ตาวเทว, น ตโต ปรํ. สฺจิจฺจ อาปนฺนา สตฺตาปตฺติกฺขนฺธา อาณาวีติกฺกมนฺตรายิกา นาม. เตปิ ยาว ภิกฺขุภาวํ วา ปฏิชานาติ, น วุฏฺาติ วา น เทเสติ วา, ตาวเทว, น ตโต ปรํ.
‘‘อนนฺตรายิกา เอเต;
ยถา โหนฺติ ตถา อหํ;
เทสิตํ มุนินา ธมฺมํ;
อาชานามีติ โย วเท’’ติ. –
เอวํ ทุติยคาถา วตฺตพฺพา. ตถา อวุตฺเต ‘‘ติกฺขตฺตุ’’นฺติอาทิคาถา ปมคาถาย สทฺธึ ฆฏนา เอว น สิยา. ตสฺมา เอตฺถายํ คาถา ปริหีนาติ วิฺายติ.
เอเตติ ‘‘อนฺตรายิกา’’ติ ภควตา ปกาสิตา ปฺจ ธมฺมา ‘‘ยถา อนนฺตรายิกา โหนฺติ, ตถา อหํ มุนินา เทสิตํ ธมฺมํ อาชานามี’’ติ โย ภิกฺขุ วเทยฺย, โส ปน ¶ ภิกฺขุ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. เกหิ กถํ วตฺตพฺโพติ อาห ‘‘เย ปสฺสนฺตี’’ติอาทิ. เย ตถาวาทิตํ ภิกฺขุํ ปสฺสนฺติ, ‘‘อสุโก อายสฺมา เอวํวาที’’ติ ปรโต สุณนฺติ จ, เตหิ. โส ปน ภิกฺขุ ‘‘มา อายสฺมา เอวํ อวจา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺโพติ โยชนา.
๑๗๐๑. อวทนฺตสฺสาติ ตํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ยถาวุตฺตนเยน อวทนฺตสฺส. ทุกฺกฏนฺติ าตทุกฺกฏํ. ตํ ทุลทฺธึ. อนิสฺสชโตติ ภิกฺขูหิ เอวํ วุตฺเตปิ อนิสฺสชนฺตสฺส. ตถา ทุกฺกฏนฺติ อติทิสติ.
๑๗๐๒. กมฺมวาจายาติ ตติยาย กมฺมวาจาย. โอสาเนติ ปริโยสาเน, ยฺยกาเร ปตฺเตติ อธิปฺปาโย. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี น ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติโก น ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี น ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๑) ติกปาจิตฺติยํ ¶ วุตฺตํ. อธมฺเม ติกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺิเวมติกอธมฺมกมฺมสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ.
๑๗๐๓. ‘‘อนาปตฺติ อกตกมฺมสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. กมฺมํ นาม สมนุภาสนกมฺมํ. ยถาห ‘‘อนาปตฺติ อสมนุภาสนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๒).
อริฏฺกถาวณฺณนา.
๑๗๐๔. ตฺวาติ อโนสาริตภาวํ สยเมว วา ปรโต วา ตสฺส วา สนฺติกา ตฺวา. อกตานุธมฺเมนาติ อกโต โอสารณสงฺขาโต อนุธมฺโม ยสฺส โส ¶ อกตานุธมฺโม, เตน, สหโยเค กรณวจนํ. ตถาวาทิกภิกฺขุนาติ ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามี’’ติอาทึ วทนฺเตน ภิกฺขุนา. ‘‘อกตานุธมฺเมนา’’ติ อิมินา สมานาธิกรณํ. สํวเสยฺยาติ อุโปสถาทิกํ สงฺฆกมฺมํ กเรยฺย. ภฺุเชยฺย จาติ อามิสสมฺโภคํ วา ธมฺมสมฺโภคํ วา กเรยฺย. สห เสยฺย วาติ นานูปจาเรปิ เอกจฺฉนฺเน นิปชฺเชยฺย.
๑๗๐๕. อิทานิ ยถาวุตฺตปาจิตฺติยสฺส เขตฺตนิยมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุโปสถาทิกํ กมฺม’’นฺติอาทิ. อาทิ-สทฺเทน ปวารณํ คหิตํ. ยถาห ‘‘อุโปสถํ วา ปวารณํ วา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๕). เตน สหาติ อุกฺขิตฺตเกน สห. ‘‘กมฺมสฺส ปริโยสาเน’’ติ อิทํ สํวาเสน อาปตฺติเขตฺตนิทสฺสนํ.
๑๗๐๖. เอเกเนว ปโยเคน พหุํ ยามกาลิกาทิอามิสํ คณฺหโต เอกํ ปาจิตฺติยํ. ตถา เอเกเนว ปโยเคน พหุํ อามิสํ ททโตปิ เอกํ ปาจิตฺติยํ. พหูสุ ปโยเคสุ พหูนิ ปาจิตฺติยานีติ โยชนา. อิมินา จ อามิสสมฺโภเคน ตุลฺยผลํ ธมฺมสมฺโภคมฺปิ สหจริเยน อาหาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ปน ปทาทีหิ อุทฺทิสนฺตสฺส วา อุทฺทิสาเปนฺตสฺส วา ปทโสธมฺเม วุตฺตนเยน อาปตฺติ เวทิตพฺพา.
๑๗๐๗. อิตโรติ ปกตตฺโต. อิตรสฺมินฺติ อุกฺขิตฺตเก. ปโรติ ปกตตฺโต. อุโภปิ วาติ ¶ ปกตตฺตอุกฺขิตฺตา ทฺเวปิ วา. ‘‘เอกตฺถ เอกโต นิปชฺชนฺตี’’ติ เสโส. อิเมสุ ตีสุปิ าเนสุ ‘‘ปาจิตฺตี’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.
๑๗๐๘. อุฏฺหิตฺวา ปุนปฺปุนํ นิปชฺชนฺตสฺส นิปชฺชนปโยคานํ วเสน อาปตฺติโย สิยุนฺติ อชฺฌาหารโยชนา กาตพฺพา. ‘‘อุกฺขิตฺตเก นิปนฺนสฺมิ’’นฺติอาทินา วุตฺตาปตฺติวินิจฺฉโย กตฺถ ¶ โหตีติ อาห ‘‘เอกนานูปจาเรสุ, เอกจฺฉนฺเน วินิจฺฉโย’’ติ. นานูปจาเรสูติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท จ ‘‘วินิจฺฉโย’’ติ เอตฺถ อยนฺติ จ โยเชตพฺโพ. เอโก อุปจาโร อสฺสาติ เอกูปจารํ, นานา อุปจาโร อสฺสาติ นานูปจารํ, เอกูปจารฺจ นานูปจารฺจ เอกนานูปจารานิ เอกเทสสรูเปกเสเสน, เตสุ. เอกโต ฉนฺนานิ เอกจฺฉนฺนานิ, เตสุ เอกจฺฉนฺเนสูติ วตฺตพฺเพ วณฺณโลเปน วา วจนวิปลฺลาเสน วา ‘‘เอกจฺฉนฺเน’’ติ วุตฺตํ. เอกนานูปจาเรสุปิ เสนาสเนสุ เอกจฺฉนฺเนสุ อยํ ยถาวุตฺตอาปตฺติวินิจฺฉโย ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ.
๑๗๐๙. อุภยตฺถาปีติ อุกฺขิตฺตานุกฺขิตฺเตสุ ทฺวีสุปิ.
๑๗๑๐. ‘‘สฺิสฺส โอสาริโตติ จา’’ติ ปทจฺเฉโท.
อุกฺขิตฺตกถาวณฺณนา.
๑๗๑๒. ตถา วินาสิตนฺติ ‘‘อชฺชตคฺเค เต อาวุโส สมณุทฺเทส น เจว โส ภควา สตฺถา อปทิสิตพฺโพ, ยมฺปิ จฺเ สมณุทฺเทสา ลภนฺติ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ, สาปิ เต นตฺถิ, จร ปิเร วินสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๙) วุตฺตนเยน นาสิตํ. ‘‘ตถา นาสิตํ สมณุทฺเทส’’นฺติ (ปาจิ. ๔๒๘) วจนโต ‘‘สมณุทฺเทส’’นฺติ เสโส. ชานนฺติ วุตฺตนเยน ‘‘นาสิโต อย’’นฺติ ชานนฺโต. อุปลาเปยฺยาติ ‘‘อุปลาเปยฺย วาติ ตสฺส ปตฺตํ วา จีวรํ วา อุทฺเทสํ วา ปริปุจฺฉํ วา ทสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๔๓๐) ปทภาชเน อาคตนเยน สงฺคณฺเหยฺย. เตนาติ นาสิเตน. อุปฏฺาเปยฺย วาติ เตน ทิยฺยมานานิ จุณฺณมตฺติกาทีนิ สาทิยนฺโต เตน อตฺตโน อุปฏฺานํ การาเปยฺย วา. ‘‘เตนา’’ติ อิทํ สหตฺเถ กรณวเสน ‘‘สมฺภฺุเชยฺยา’’ติอาทีหิ จ โยเชตพฺพํ. วาติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน ¶ รสฺโส. สมฺโภคสหเสยฺยา ¶ อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺตนยา เอว. ตสฺมา อาปตฺติปริจฺเฉโทเปตฺถ ตสฺมึ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๑๗๑๓. อตฺถุทฺธารวเสน อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๒๘) วุตฺตา ติสฺโส นาสนา ทสฺเสตุมาห ‘‘สํวาเสน…เป… ติสฺโส’’ติ. ตตฺถ ตีสุ กตมา อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิ. ทณฺฑกมฺเมน นาสนา เอตฺถ อธิปฺเปตาติ โยชนา. เอตาสํ วิภาโค จ ‘‘ตตฺถ อาปตฺติยา อทสฺสนาทีสุ อุกฺเขปนา สํวาสนาสนา นาม. ‘ทูสโก นาเสตพฺโพ, เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’ติ อยํ ลิงฺคนาสนา นาม. ‘อชฺชตคฺเค เต อาวุโส สมณุทฺเทส น เจว โส ภควา สตฺถา อปทิสิตพฺโพ’ติ อยํ ทณฺฑกมฺมนาสนา นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๒๘) อฏฺกถาย วุตฺโต.
๑๗๑๕. ‘‘วุตฺตา สมนุภาสเน’’ติ (วิ. วิ. ๑๗๐๓) ตตฺถ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อริฏฺเน สมา มตา’’ติ.
กณฺฏกกถาวณฺณนา.
สปฺปาณกวคฺโค สตฺตโม.
๑๗๑๖-๗. โย ภิกฺขุ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมนฺโต ตํ วีติกฺกมํ เย ปสฺสนฺติ, สุณนฺติ จ, เตหิ ภิกฺขูหิ สิกฺขาปเทน วุจฺจมาโน ‘‘มาวุโส เอวํ อกาสิ, น กปฺปติ เอตํ ภิกฺขุสฺสา’’ติ สิกฺขาปเท วุตฺตนเยน วุจฺจมาโน ‘‘เอตสฺมึ สิกฺขาปเท เยน มํ ตุมฺเห วเทถ, เอตสฺมึ สิกฺขาปทตฺเถ ยาว อฺํ วิยตฺตํ พหุสฺสุตํ ปกตฺุํ วินยธรํ น ปุจฺฉามิ, ตาว อหํ น สิกฺขิสฺสามี’’ติ ภณติ, ตสฺส เอวํ ภณนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ สาธิปฺปายโยชนา.
๑๗๑๘-๙. อนุปสมฺปนฺเน ¶ อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน อนุปสมฺปนฺเน สตฺถุนา ติกทุกฺกฏํ ทีปิตนฺติ โยชนา, อิมินา จ อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน อุปสมฺปนฺเน ติกปาจิตฺติยํ ทีปิตํ โหติ. อปฺตฺเตน โอวทนปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น สลฺเลขายิทํ โหตี’’ติ. อุโภหิปิ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺเนหิ ¶ . ‘‘อิทํ สลฺเลขาย น โหตี’’ติ อปฺตฺเตน วุจฺจมานสฺส ‘‘น ตาวาห’’นฺติอาทีนิ วทโต ตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. ‘‘น โทโส อุมฺมตฺตกาทีน’’นฺติ ปทจฺเฉโท.
สหธมฺมิกกถาวณฺณนา.
๑๗๒๐. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน เอวํ วเทยฺยา’’ติอาทิสิกฺขาปทปาโต (ปาจิ. ๔๓๙) อุทฺทิฏฺเหีติ เอตฺถ ‘‘ขุทฺทานุขุทฺทเกหิ สิกฺขาปเทหี’’ติ เสโส. ปาราชิกํ เปตฺวา อวเสสา อุปาทายุปาทาย ขุทฺทานุขุทฺทกาติ นิทฺทิฏฺา. เอตฺถ กินฺติ ปฏิกฺเขเป, เอเตหิ กึ, ปโยชนํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. เอเตหีติ สมีปตฺเถ วจนสามฺเน ‘‘อิเมหี’’ติ เอตสฺส ปริยาโย. ‘‘กึ ปนิเมหี’’ติ (ปาจิ. ๔๓๙) สิกฺขาปทปาเ ปฏิกฺเขปสฺส การณํ ทสฺเสติ ‘‘กุกฺกุจฺจาทินิทานโต’’ติ. เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน วิเหสาวิเลขา คหิตา. เอตฺถ กุกฺกุจฺจํ นาม ‘‘กปฺปติ นุ โข, น กปฺปติ นุ โข’’ติ กุกฺกุจฺจกรณํ. วิเหสา นาม วิปฺปฏิสาโร. วิเลขา นาม วิจิกิจฺฉาสงฺขาตา มโนวิเลขตา มโนวิเลขา, อิเมหิ สกเลหิ ปเทหิ สิกฺขาปทวิวณฺณกปฺปกาโร ทสฺสิโต. ‘‘อิติ สิกฺขาปทวิวณฺณเน’’ติ อิติ-สทฺโท อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺโพ. วิวณฺณเนติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ.
กุกฺกุจฺจาทินิทานโต ¶ เอเตหิ ขุทฺทานุขุทฺทเกหิ สิกฺขาปเทหิ อุทฺทิฏฺเหิ กึ อิติ สิกฺขาปทวิวณฺณเน ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๑๗๒๑. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี วินยํ วิวณฺเณติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อุปสมฺปนฺเน เวมติโก…เป… อนุปสมฺปนฺนสฺี…เป… ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๔๑) ตีณิ ปาจิตฺติยานิ วุตฺตานิ. ตํ วินยํ สเจ ปน อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก วิวณฺเณติ, ติกทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๗๒๒-๔. อุภินฺนมฺปีติ อุปสมฺปนฺนานํ, อนุปสมฺปนฺนานํ อุภินฺนมฺปิ, ‘‘สนฺติเก’’ติ เสโส. อฺธมฺมวิวณฺณเนติ วินยโต อฺเสํ สุตฺตาภิธมฺมานํ วิวณฺณเน.
อนาปตฺติวิสยํ ¶ ทสฺเสตุมาห ‘‘นวิวณฺเณตุกามสฺสา’’ติอาทิ. นวิวณฺเณตุกามสฺส ‘‘หนฺท สุตฺตนฺตํ ปริยาปุณ, ปจฺฉาปิ วินยํ ปริยาปุณิสฺสสิ’’ อิติ เอวํ วทนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. สทิสา เอว สาทิสา.
วิเลขนกถาวณฺณนา.
‘‘อนฺวฑฺฒมาสํ โย ภิกฺขุ;
ปาติโมกฺเข อเสสโต;
อุทฺทิสฺสมาเน อฺาณ-
ตาย ปุจฺฉติ อตฺตโน’’ติ. –
ปมคาถาย ภวิตพฺพํ. เอวฺหิ สติ ‘‘อฺาเณนา’’ติอาทิคาถา ปริปุณฺณสมฺพนฺธา สิยาติ วิฺายติ.
อฺาเณนาติ เอตฺถ วา ‘‘อาปนฺนตฺตา’’ติ เสโส. อาปตฺติโมกฺโขติ อาปตฺติยา โมกฺโข. อฺาเณน อาปนฺนตฺตา ¶ อาปตฺติโมกฺโข เนว วิชฺชตีติ โยชนา. กึ กาตพฺพนฺติ อาห ‘‘กาเรตพฺโพ’’ติอาทิ. ยถา ธมฺโม ิโต, ตถา ภิกฺขุ กาเรตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. ธมฺม-สทฺโท ปาฬิวาจโก, ปาฬิยํ ยถา วุตฺตํ, ตถา กาเรตพฺโพติ อตฺโถ, เทสนาคามินี อาปตฺติ เจ, เทสาเปตพฺโพ, วุฏฺานคามินี เจ, วุฏฺาเปตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. ๔๔๔). อฺาเณน อาปนฺนตฺตา ตสฺส อาปตฺติยา โมกฺโข นตฺถิ. ยถา ปน ธมฺโม จ วินโย จ ิโต, ตถา ภิกฺขุ กาเรตพฺโพ, เทสนาคามินึ เจ อาปนฺโน โหติ, เทสาเปตพฺโพ, วุฏฺานคามินึ เจ, วุฏฺาเปตพฺโพติ อตฺโถ.
๑๗๒๖. อุตฺตรินฺติ ยถาธมฺมกรณโต อุตฺตรึ. ทุติเยเนวาติ ตฺติทุติเยเนว. นินฺทิตฺวาติ ‘‘ตสฺส เต อาวุโส อลาภา’’ติอาทินา ครหิตฺวา.
๑๗๒๗. เอวํ ¶ อาโรปิเต โมเหติ ยถาธมฺมกรณโต อุปริ ยถาวุตฺตนเยน ตํ ปุคฺคลํ ครหิตฺวา ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ตสฺส เอวํ โมเห อาโรปิเต. ปุน ยทิ โมเหตีติ โยชนา. ตสฺมึ โมหนเก ปุคฺคเล ปาจิตฺติ วุตฺตาติ โยชนา.
๑๗๒๘. ทีปิตํ ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี โมเหติ, เวมติโก, อธมฺมกมฺมสฺี โมเหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๔๗) ติกทุกฺกฏํ ทสฺสิตํ. เอตสฺส วิปริยายโต ติกปาจิตฺติยํ เวทิตพฺพํ. ยถาห ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี โมเหติ, เวมติโก, อธมฺมกมฺมสฺี โมเหติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๔๗). เอตฺถ กมฺมนฺติ โมหาโรปนกมฺมํ ¶ อธิปฺเปตํ. ยถาห ‘‘ธมฺมกมฺเมติอาทีสุ โมหาโรปนกมฺมํ อธิปฺเปต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๔๗).
๑๗๒๙-๓๐. ‘‘น จ โมเหตุกามสฺสา’’ติอาทีหิ ‘‘อนาปตฺตีติ วิฺเยฺย’’นฺติ อิทํ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ‘‘วิตฺถาเรน อสุตสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. เอตฺถ ‘‘ปาติโมกฺข’’นฺติ กมฺมปทํ อเปกฺขิตพฺพํ. วิตฺถาเรน อูนกทฺวตฺติกฺขตฺตุํ สุตสฺส จาติ โยชนา. ตถาติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตีติ วิฺเยฺย’’นฺติ อิทํ ปจฺจามสติ.
โมหนกถาวณฺณนา.
๑๗๓๑-๒. กุทฺโธติ กุปิโต. ปหารํ เทตีติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา อนฺตมโส อุปฺปลปตฺเตนาปิ ปหารํ เทติ. ยถาห ‘‘ปหารํ ทเทยฺยาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา อนฺตมโส อุปฺปลปตฺเตนาปิ ปหารํ เทตี’’ติ (ปาจิ. ๔๕๑). เอตฺถ ‘‘อฺสฺส ภิกฺขุสฺสา’’ติ เสโส. ตสฺสาติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘โย’’ติ ลพฺภติ.
อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สมฺปหริตุกาเมนา’’ติอาทิ, อิมินา มรณาธิปฺปาเยน ปหเฏ ปาราชิกนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๑๗๓๓. ‘‘อิติ เอวํ กเต อยํ สงฺฆมชฺเฌน วิโรจตี’’ติ วิรูปกรณาเปกฺโข วิรูปกรเณ อเปกฺขวา ตสฺส จ อเปกฺขิตสฺส ภิกฺขุสฺส กณฺณํ วา นาสํ วา ยทิ ฉินฺทติ, ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๗๓๔. อนุปสมฺปนฺเนติ ¶ ¶ สามิวจนตฺเถ ภุมฺมํ. ‘‘อิตฺถิยา’’ติอาทีหิ ปเทหิ ยถารหํ โยเชตพฺพํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนาย อิตฺถิยา อนุปสมฺปนฺนสฺส ปุริสสฺสา’’ติ. ติรจฺฉานคตสฺสปีติ เอตฺถ ‘‘อนฺตมโส’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘อนฺตมโส ติรจฺฉานคตสฺสปี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕๒).
๑๗๓๕. ‘‘สเจ ปหรติ อิตฺถิฺจา’’ติ ปทจฺเฉโท. รตฺเตน เจตสาติ กายสํสคฺคราเคน รตฺเตน จิตฺเตน. วินิทฺทิฏฺาติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ โอติณฺโณ วิปริณเตน จิตฺเตน มาตุคาเมน สทฺธึ กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติอาทินา (ปารา. ๒๗๐) ทสฺสิตา.
๑๗๓๖. โมกฺขาธิปฺปาโยติ ตโต อตฺตโน โมกฺขํ ปตฺเถนฺโต. โทโส น วิชฺชตีติ ทุกฺกฏาทิโกปิ โทโส นตฺถิ.
๑๗๓๗-๙. เหเตุกามมายนฺตํ โจรมฺปิ วา ปจฺจตฺถิกมฺปิ วา อนฺตรามคฺเค ปสฺสิตฺวาติ โยชนา. ทิสฺวา กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ อาห ‘‘มา อิธาคจฺฉุปาสกา’’ติอาทิ, อาคมนปฏิกฺเขเปน ตตฺเถว ติฏฺาติ วุตฺตํ โหติ. อายนฺตนฺติ เอวํ วุตฺเต ตํ อนาทิยิตฺวา อาคจฺฉนฺตํ. ยถาห ‘‘วจนํ อนาทิยิตฺวา อาคจฺฉนฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕๓).
เอเสว นโยติ ‘‘มา อาคจฺฉา’ติ วุตฺเตปิ อาคจฺฉนฺตํ ปหเฏ มเตปิ อนาปตฺตี’’ติ อยํ นโย.
๑๗๔๐. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก, อนุปสมฺปนฺนสฺี ปหารํ เทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๕๒) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสเสติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก ¶ , อนุปสมฺปนฺนสฺี ปหารํ เทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๕๒) ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อนาณตฺติกตฺตา อาห ‘‘กายจิตฺตสมุฏฺาน’’นฺติ. กายจิตฺตานํ สุโขเปกฺขาปิ สมฺภวนฺตีติ ตโต วิเสเสตุมาห ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ.
ปหารกถาวณฺณนา.
๑๗๔๑. กายนฺติ ¶ กาเยกเทสํ หตฺถาทิอวยวมาห. วาติ ทุติยตฺถสมฺปิณฺฑเน. กายพทฺธนฺติ กายปฏิพทฺธํ ปหรณโยคฺคาโยคฺเคสุ กตฺตรยฏฺิสตฺถาทีสุ อฺตรํ. สเจ อุจฺจาเรยฺยาติ สเจ ปหรณาการํ ทสฺเสตฺวา อุกฺขิเปยฺย, อิทํ ‘‘กายํ วา กายปฏิพทฺธํ วา’’ติ อิเมหิ ปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ตสฺสาติ อุจฺจาริตกายาทิกสฺส. อุคฺคิรณปจฺจยาติ อุกฺขิปนการณา.
๑๗๔๒. อสมฺปหริตุกาเมนาติ ปหารทานํ อนิจฺฉนฺเตน. ทินฺนตฺตาติ ปหารสฺส ทินฺนตฺตา. อปฺปหริตุกามตฺตา ปุริมสิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยํ น โหติ, อุคฺคิริตุกามตาย กตปโยคสฺส อุคฺคิรณมตฺเต อฏฺตฺวา ปหารสฺส ทินฺนตฺตา อิมินาปิ ปาจิตฺติยํ น โหติ, อชฺฌาสยสฺส, ปโยคสฺส จ อสุทฺธตฺตา อนาปตฺติยาปิ น ภวิตพฺพนฺติ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.
๑๗๔๓. สเจ เตน ปหาเรน ภิกฺขุโน หตฺถาทีสุปิ ยํ กิฺจิ องฺคํ ภิชฺชติ, ปหฏสฺส ปหารทายกสฺส ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ.
๑๗๔๔. เสโส วินิจฺฉโย ‘‘โมกฺขาธิปฺปาโย’’ติอาทิโก อิธ อวุตฺโต วินิจฺฉโย สมุฏฺานาทินา สทฺธึ อนนฺตเร วุตฺตนเยน วินยฺุนา เวทิตพฺโพติ โยชนา. ‘‘ติรจฺฉานาทีนํ ¶ วจฺจกรณาทึ ทิสฺวาน ปลาเปตุกามตาย กุชฺฌิตฺวาปิ อุคฺคิรนฺตสฺส โมกฺขาธิปฺปาโย เอวา’’ติ วทนฺติ.
ตลสตฺติกถาวณฺณนา.
๑๗๔๕. อมูลเกนาติ ทิฏฺาทิมูลวิรหิเตน, เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุ’’นฺติ เสโส. สงฺฆาทิเสเสนาติ เตรสนฺนํ อฺตเรน. ตสฺสาติ โจทกสฺส, โจทาปกสฺส วา ปาปภิกฺขุโน. สเจ จุทิตโก ตสฺมึ ขเณ ‘‘เอส มํ โจเทตี’’ติ ชานาติ, ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา, อิมินา ‘‘สเจ เอวํ น ชานาติ, จิเรน วา ชานาติ, ทุกฺกฏํ โหตี’’ติ สิทฺธํ.
๑๗๔๖. ตตฺถาติ อุปสมฺปนฺเน. ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํเสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. เวมติโก…เป… อนุปสมฺปนฺนสฺี อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํเสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๖๒) ติกปาจิตฺติยํ ¶ . ทิฏฺาจารวิปตฺติยา โจทโก ทุกฺกฏาปตฺตีติ อมูลิกาย ทิฏฺิวิปตฺติยา วา อาจารวิปตฺติยา วา อนุทฺธํเสนฺตสฺส ทุกฺกฏาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ. เสเส จาติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ตีณิ ทุกฺกฏานิ โหนฺตีติ อตฺโถ.
๑๗๔๗. ‘‘ตถาสฺิสฺส อนาปตฺตี’’ติ ปทจฺเฉโท. ตถาสฺิสฺสาติ สมูลกสฺิสฺส.
อมูลกกถาวณฺณนา.
๑๗๔๘-๙. สฺจิจฺจาติ ตสฺส ปริปุณฺณวีสติวสฺสาทิภาวํ ชานนฺโตเยว. ภิกฺขุโนติ เอตฺถ ‘‘อฺสฺสา’’ติ เสโส ¶ . อูนวีสติวสฺโส ตฺวํ มฺเติ เอตฺถ ‘‘มฺเ’’ติ อิมินา ปริกปฺปตฺถวาจินา นิปาเตน ‘‘อุทกํ มฺเ อาทิตฺต’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๓๘๓) วิย มุสาวาทาปตฺติยา อวิสยตํ ทีเปติ. หิเตสิตาย อนุสิฏฺิทานาทิเก ตถารูเป อฺสฺมึ ปจฺจเย การเณ อสติ ‘‘อูนวีสติวสฺโส ตฺวํ มฺเ’’ อิติ เอวมาทินา อฺสฺส ภิกฺขุโน โย ภิกฺขุ สเจ สฺจิจฺจ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทยฺย, ตสฺส เอวํ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทนฺตสฺส ภิกฺขุโน วาจาย วาจาย ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา.
๑๗๕๐. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี สฺจิจฺจ กุกฺกุจฺจํ อุปทหติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. เวมติโก…เป… อนุปสมฺปนฺนสฺี สฺจิจฺจ กุกฺกุจฺจํ อุปทหติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๖๗) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสเส จาติ อนุปสมฺปนฺเน จ. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ. วชฺชเมว วชฺชตา.
๑๗๕๑. หิเตสิตาย ภาสโตติ สมฺพนฺโธ. มา เอวนฺติ เอตฺถ ‘‘กโรหี’’ติ เสโส, ปุนปิ มา เอวํ กโรหีติ อตฺโถ. ‘‘อหํ ตํ อิตฺถิยา สห นิสินฺนํ มฺเ, ตยา วิกาเล ภุตฺตํ มฺเ, ปุน มา เอวํ กโรหิ’’ อิติ หิเตสิตาย ภาสโต อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
สฺจิจฺจกถาวณฺณนา.
๑๗๕๓. ภณฺฑนํ ¶ นาม กลโห, ภณฺฑนํ ชาตํ เยสนฺติ วิคฺคโห, ชาตภณฺฑนานนฺติ อตฺโถ, ‘‘วจน’’นฺติ เสโส. โสตุํ อุปสฺสุตึ ติฏฺเยฺยาติ โยชนา. อุเปจฺจ สุยฺยติ เอตฺถาติ หิ อุปสฺสุติ, านํ, ยํ านํ อุปคเตน สกฺกา โหติ กเถนฺตานํ สทฺทํ โสตุํ, ตตฺถาติ อตฺโถ. โย ¶ ปน ภิกฺขุ ภณฺฑนชาตานํ ภิกฺขูนํ วจนํ โสตุํ อุปสฺสุตึ สเจ ติฏฺเยฺย, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.
๑๗๕๔. โจเทตุกามตาย คจฺฉโต อสฺสาติ โยชนา.
๑๗๕๕. โสตุนฺติ ปจฺฉโต คจฺฉนฺตานํ ภณฺฑนชาตานํ วจนํ โสตุํ. โอหียนฺตสฺสาติ ปกติคมนํ หาเปตฺวา โอสกฺกนฺตสฺส. ปุรโต คจฺฉโต ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. คจฺฉโต ตุริตํ วาปีติ ปุรโต คจฺฉนฺตานํ ภณฺฑนชาตานํ วจนํ โสตุํ ปจฺฉโต สีฆํ คจฺฉนฺตสฺสาปิ. อยเมว วินิจฺฉโยติ ปเท ปเท อยํ เอว วินิจฺฉโย.
๑๗๕๖. อตฺตโน ิโตกาสนฺติ สมฺพนฺโธ. อุกฺกาสิตฺวาปิ วาติ อุกฺกาสิตสทฺทํ กตฺวา วา. เอตฺถ อหนฺติ วา วตฺวา าเปตพฺพนฺติ โยชนา.
๑๗๕๗. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน. เสเส จาติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏํ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน.
๑๗๕๘. โอรมิสฺสนฺติ มยา คหิตทุคฺคาหโต วิรมิสฺสามิ.
๑๗๕๙. กายจิตฺตโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺานโต เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. สิยา กิริยํ โสตุกามตาย คมนวเสน, สิยา อกิริยํ ิตฏฺานํ อาคนฺตฺวา มนฺตยมานํ อชานาปนวเสน, เตนาห ‘‘อิทํ โหติ กฺริยากฺริย’’นฺติ. คมเนน สิชฺฌนโต กายกมฺมํ ¶ . ตุณฺหีภาเวน สิชฺฌนโต วจีกมฺมํ. สโทสนฺติ สาวชฺชํ, อกุสลจิตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อุปสฺสุติกถาวณฺณนา.
๑๗๖๐. ธมฺมิกานนฺติ ¶ ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน กตานํ. กมฺมานนฺติ อปโลกนกมฺมํ, ตฺติกมฺมํ, ตฺติทุติยกมฺมํ, ตฺติจตุตฺถกมฺมนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ กมฺมานํ. ขียตีติ อรุจึ ปกาเสติ.
๑๗๖๑. อุภยตฺถาติ อธมฺเม, ธมฺเม จ.
๑๗๖๒. อธมฺเมนาติ เอตฺถ ‘‘กมฺเมนา’’ติ เสโส, ธมฺมวิรุทฺเธน กมฺเมนาติ อตฺโถ. ‘‘กมฺมสฺมิ’’นฺติ อิทํ วิภตฺตึ วิปริณาเมตฺวา ‘‘กมฺเมนา’’ติ อนุวตฺเตตพฺพํ. วคฺเคนาติ ‘‘ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา น ปฏิกฺโกสนฺตี’’ติ (มหาว. ๓๘๗) วุตฺตสามคฺคิลกฺขณสฺส วิรุทฺธตฺตา อสมคฺเคน, เอตฺถ ‘‘สงฺเฆนา’’ติ เสโส. ‘‘ตถา อกมฺมารหสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อธมฺเมน กมฺเมน อิเม กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ จ ‘‘อสมคฺเคน สงฺเฆน อิเม กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ จ ‘‘อธมฺเมน กมฺเมน วคฺเคน สงฺเฆน อิเม กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ จ ตถา ‘‘อกมฺมารหสฺส อิเม กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ จ ตฺวา โย ขียติ, ตสฺส จ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
กมฺมปฏิพาหนกถาวณฺณนา.
๑๗๖๔-๕. อาโรจิตํ วตฺถุ ยาว น วินิจฺฉิตํ วาติ โยชนา, ‘‘โจทเกน จ จุทิตเกน จ อตฺตโน กถา กถิตา, อนุวิชฺชโก สมฺมโต, เอตฺตาวตาปิ วตฺถุเมว อาโรจิตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๘๑) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา อาโรจิตํ วตฺถุ ยาว น วินิจฺฉิตํ โหตีติ อตฺโถ. ตฺติ วา ปิตา ¶ , กมฺมวาจา นิฏฺํ ยาว น คจฺฉติ, เอตสฺมึ…เป…โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๗๖๖. ฉนฺทํ อทตฺวา หตฺถปาเส ชหิเต ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.
๑๗๖๗-๙. อธมฺเมปิ กมฺมสฺมึ ธมฺมกมฺมนฺติ สฺิโน ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ธมฺมกมฺเม จ อธมฺมกมฺมสฺิโน อนาปตฺติ อิธ น วุตฺตา, ปาฬิยํ ปน วุตฺตตฺตา อิธาปิ โยเชตพฺพา. ‘‘สงฺฆสฺส ภณฺฑนาทีนิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ สฺิโน คจฺฉโต จ โย วา คิลาโน โหติ, ตสฺส คจฺฉโต ¶ จ คิลานสฺส กรณีเย สติ คจฺฉโต จ กมฺมํ นโกเปตุกามสฺส คจฺฉโต จ ปสฺสาวนาทินา ปีฬิตสฺส คจฺฉโต จ ‘‘อาคมิสฺสามิ’’อิติ เอวํ คจฺฉโตปิ น โทสตาติ โยชนา. ตตฺถ โทโส เอว โทสตา, อาปตฺติ, นโทสตา อนาปตฺติ. หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา คมเนน, ฉนฺทสฺส อทาเนน จ อาปชฺชนโต กฺริยากฺริยํ.
ฉนฺทํอทตฺวาคมนกถาวณฺณนา.
๑๗๗๐-๑. สมคฺเคน สงฺเฆน สทฺธินฺติ สมานสํวาสเกน สมานสีมายํ ิเตน สงฺเฆน สทฺธึ. วุตฺตฺหิ ‘‘สมคฺโค นาม สงฺโฆ สมานสํวาสโก สมานสีมายํ ิโต’’ติ (ปาจิ. ๔๘๖). จีวรนฺติ วิกปฺปนุปคมาห. ยถาห ‘‘จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปาจิ. ๔๘๖). สมฺมตสฺสาติ เสนาสนปฺาปกาทิสมฺมุตึ ปตฺเตสุ อฺตรสฺส. ขียตีติ ‘‘โย โย มิตฺโต, ตสฺส ตสฺส เทนฺตี’’ติอาทินา นเยน อวณฺณํ ภณติ.
ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺิเวมติกอธมฺมกมฺมสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ.
๑๗๗๒-๔. สงฺเฆนาสมฺมตสฺสาปิ ¶ จีวรํ, อฺเมว วา ตเถว สมคฺเคน สงฺเฆน ทตฺวา ขียติ, ตสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อนุปสมฺปนฺเน ตเถว สมคฺเคน สงฺเฆน ทินฺเน สพฺพตฺถ จีวเร, อฺปริกฺขาเร จ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อนุปสมฺปนฺเนติ สมฺปทานตฺเถ ภุมฺมํ, อนุปสมฺปนฺนสฺสาติ อตฺโถ.
สภาวโต ฉนฺทาทีนํ วเสเนว กโรนฺตํ ขียนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ โยชนา. นยา วินิจฺฉยกฺกมา.
ทุพฺพลกถาวณฺณนา.
๑๗๗๕. อิทํ ทฺวาทสมนฺติ สมฺพนฺโธ, ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ปุคฺคลสฺส ปริณาเมยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๔๙๐) อิมํ ทฺวาทสมํ สิกฺขาปทนฺติ อตฺโถ. ตึสกกณฺฑสฺมึ นิสฺสคฺคิยกณฺเฑ. อนฺติเมนาติ เอตฺถ ‘‘สิกฺขาปเทนา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. จ-สทฺโท ¶ เอวการตฺโถ. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ อตฺตโน ปริณาเมยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๖๕๘) อิมินา อนฺติเมเนว สิกฺขาปเทน สพฺพถา สพฺพํ วตฺตพฺพํ ตุลฺยนฺติ โยชนา. อยเมว วิเสสตาติ เอตฺถ วิเสโสเยว วิเสสตา, อยเมว วิเสโสติ อตฺโถ.
๑๗๗๖. ตตฺถาติ ตสฺมึ นิสฺสคฺคิยาวสาเน สิกฺขาปเท. อตฺตโน ปริณามนาติ อตฺตโน ปริณามนเหตุ.
ปริณามนกถาวณฺณนา.
สหธมฺมิกวคฺโค อฏฺโม.
๑๗๗๗-๘. โย ¶ ปน ภิกฺขุ เทวิยา วาปิ รฺโ วาปิ อวิทิตาคมโน อปฺปฏิสํวิทิตาคมโน สยนียฆรา ราชสฺมึ อนิกฺขนฺเต, เทวิยา อนิกฺขนฺตาย ตสฺส สยนียฆรสฺส อุมฺมารํ อินฺทขีลํ สเจ อติกฺกเมยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน ปเม ปาเท ทุกฺกฏํ สิยา, ทุติเย ปาเท ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.
๑๗๗๙. ปฏิสํวิทิเตติ อตฺตโน อาคมเน นิเวทิเต. เนวปฏิสํวิทิตสฺิโนติ อนิเวทิตสฺิโน. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปฏิสํวิทิตาคมเน. เวมติกสฺสาติ ‘‘ปฏิสํวิทิตํ นุ โข, น ปฏิสํวิทิตํ นุ โข’’ติ สํสยมาปนฺนสฺส.
๑๗๘๐-๑. เนว ขตฺติยสฺส อปฺปฏิสํวิทิเตปิ วา น ขตฺติยาภิเสเกน อภิสิตฺตสฺส อปฺปฏิสํวิทิเตปิ วา ปวิสโต น โทโสติ โยชนา, เอวรูปานํ อนิเวทิเตปิ ปวิสนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
อุโภสุ ราชินิ จ เทวิยา จ สยนิฆรโต พหิ นิกฺขนฺเตสุ ปวิสโตปิ วา อุภินฺนํ อฺตรสฺมึ นิกฺขนฺเต ปวิสโตปิ วา น โทโสติ โยชนา. กถิเนนาติ เอตฺถ ‘‘สมุฏฺานาทินา สม’’นฺติ เสโส, อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานาทิวเสน กถินสิกฺขาปเทน สมานนฺติ วุตฺตํ โหติ. สยนียฆรปฺปเวโส กฺริยํ. อปฺปฏิสํเวทนํ อกฺริยํ.
อนฺเตปุรกถาวณฺณนา.
๑๗๘๒. รชตํ ¶ , ชาตรูปํ วา อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคณฺหนฺตสฺส, อุคฺคณฺหาปยโตปิ วา ตสฺส นิสฺสคฺคิยาปตฺตีติ โยชนา.
๑๗๘๓. คณปุคฺคลสงฺฆานํ อตฺถาย เจติเย นวกมฺมสฺส อตฺถาย อุคฺคณฺหาปยโต, อุคฺคณฺหโตปิ วา ทุกฺกฏํ โหตีติ ¶ โยชนา. ชาตรูปรชตานํ สรูปํ นิสฺสคฺคิเย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๑๗๘๔. มุตฺตาทิรตนมฺปิ วุตฺตสรูปเมว. สงฺฆาทีนมฺปีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน คณปุคฺคลเจติยานํ สงฺคโห.
๑๗๘๕-๖. ยํ กิฺจิ คิหิสนฺตกํ สเจ กปฺปิยวตฺถุ วา โหตุ, อกปฺปิยวตฺถุ วาปิ โหตุ, มาตุกณฺณปิฬนฺธนํ ตาลปณฺณมฺปิ วา โหตุ, ภณฺฑาคาริกสีเสน ปฏิสามยโต ตสฺส ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๑๗๘๗. น นิเธตพฺพเมวาติ น ปฏิสาเมตพฺพเมว.
๑๗๘๘. เอโส หิ ยสฺมา ปลิโพโธ นาม, ตสฺมา เปตุํ ปน วฏฺฏตีติ โยชนา.
๑๗๘๙. อนฺุาเต าเนติ เอตฺถ ‘‘ปติต’’นฺติ เสโส. เอตฺถ อนฺุาตฏฺานํ นาม อชฺฌาราโม วา อชฺฌาวสโถ วา. ยถาห ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว รตนํ วา รตนสมฺมตํ วา อชฺฌาราเม วา อชฺฌาวสเถ วา อุคฺคเหตฺวา วา อุคฺคหาเปตฺวา วา นิกฺขิปิตุํ ‘ยสฺส ภวิสฺสติ, โส หริสฺสตี’’ติ (ปาจิ. ๕๐๔). เอตฺถ จ อชฺฌาราโม นาม ปริกฺขิตฺตสฺส อนฺโตปริกฺเขโป, อปริกฺขิตฺตสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต. อชฺฌาวสโถ นาม ปริกฺขิตฺตสฺส อนฺโตปริกฺเขโป, อปริกฺขิตฺตสฺส มุสลปาตพฺภนฺตรํ. ‘‘อุคฺคเหตฺวา’’ติ อิทํ อุปลกฺขณํ, อุคฺคหาเปตฺวาติปิ วุตฺตํ โหติ.
๑๗๙๐-๑. อนฺุาเต ปน าเน ยถาวุตฺตอชฺฌารามาทิเก าเน รตนํ วา รตนสมฺมตํ วา มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ วา สยนภณฺฑํ วา คเหตฺวา นิกฺขิปนฺตสฺส, รตนสมฺมตํ ¶ วิสฺสาสํ ¶ คณฺหนฺตสฺส จ ตาวกาลิกเมว วา คณฺหนฺตสฺส อุภยตฺถ อุมฺมตฺตกาทีนฺจ น โทโสติ โยชนา.
สฺจริตฺตสโมทยนฺติ เอตฺถ ‘‘สมุฏฺานาทินา อิทํ สิกฺขาปท’’นฺติ วตฺตพฺพํ, อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานาทินา สฺจริตฺตสมชาติกนฺติ อตฺโถ.
รตนกถาวณฺณนา.
๑๗๙๓-๔. สนฺตนฺติ จาริตฺตสิกฺขาปเท วุตฺตสรูปํ. อนาปุจฺฉาติ ‘‘วิกาเล คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามี’’ติ อนาปุจฺฉิตฺวา. ปจฺจยํ วินาติ ตาทิสํ อจฺจายิกํ กรณียํ วินา. ปริกฺเขโปกฺกเมติ ปริกฺเขปสฺส อนฺโตปเวเส. อุปจาโรกฺกเมติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
๑๗๙๖. ตโต อฺนฺติ ปมํ วิกาเล คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉิตฺวา ตโต ปวิฏฺคามโต อฺํ คามํ. ปุน ตโตติ ทุติยคามมาห. กตฺถจิ โปตฺถเก ‘‘อาปุจฺฉเน กิจฺจ’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, ‘‘อาปุจฺฉนกิจฺจ’’นฺติ ปาโเยว ปน ยุตฺตตโร. ยถาอากงฺขิตปมาณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘คามสเตปิ วา’’ติ.
๑๗๙๗. ปสฺสมฺเภตฺวานาติ ปฏิวิโนเทตฺวา. อนฺตรา อฺํ คามํ ปวิสนฺติ เจติ โยชนา.
๑๗๙๘-๙. กุลฆเร วา อฺตฺถ อาสนสาลาย วา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา โย ภิกฺขุ สปฺปิภิกฺขาย วา เตลภิกฺขาย วา สเจ จริตุกาโม สิยาติ โยชนา.
ปสฺเสติ ¶ ปกติวจนสวนารเห อตฺตโน สมีเป, เอเตเนว เอตฺตกา านา ทูรีภูโต อสนฺโต ¶ นาม โหตีติ พฺยติเรกโต ลพฺภตีติ ทสฺเสติ. อสนฺเตติ อวิชฺชมาเน วา วุตฺตปฺปมาณโต ทูรีภูเต วา. นตฺถีติ เอตฺถ ‘‘จินฺเตตฺวา’’ติ เสโส.
๑๘๐๒. อโนกฺกมฺมาติ อนุปสกฺกิตฺวา. มคฺคาติ คนฺตพฺพมคฺคา.
๑๘๐๓. ติกปาจิตฺติยนฺติ วิกาเล วิกาลสฺิเวมติกกาลสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ.
๑๘๐๔. อจฺจายิเก กิจฺเจ วาปีติ สปฺปทฏฺาทีนํ เภสชฺชปริเยสนาทิเก อจิรายิตพฺพกิจฺเจ สติ คจฺฉโต.
๑๘๐๕. อนฺตรารามนฺติ คามพฺภนฺตเร สงฺฆารามํ. ภิกฺขุนีนํ อุปสฺสยนฺติ ภิกฺขุนิวิหารํ. ติตฺถิยานํ อุปสฺสยนฺติ ติตฺถิยารามํ.
๑๘๐๖-๗. อนฺตรารามาทิคมเน น เกวลํ อนาปุจฺฉา คจฺฉโตเยว, กายพนฺธนํ อพนฺธิตฺวา, สงฺฆาฏึ อปารุปิตฺวา คจฺฉนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ.
อาปทาสุปีติ สีโห วา พฺยคฺโฆ วา อาคจฺฉติ, เมโฆ วา อุฏฺเติ, อฺโ วา โกจิ อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุปิ พหิคามโต อนฺโตคามํ คจฺฉโต อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
วิกาลคามปฺปเวสนกถาวณฺณนา.
๑๘๐๘. อฏฺิทนฺตมยํ วาปิ วิสาณชํ วาปิ สูจิฆรนฺติ โยชนา. อฏฺิ นาม ยํ กิฺจิ อฏฺิ. ทนฺโตติ หตฺถิทนฺโต. วิสาณํ นาม ยํ กิฺจิ วิสาณํ.
๑๘๐๙. ลาเภติ ¶ ปฏิลาเภ. เภทนกนฺติ เภทนเมว เภทนกํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ เภทนกํ, ปมํ ภินฺทิตฺวา ปจฺฉา เทเสตพฺพตฺตา ตํ เภทนกํ อสฺส ปาจิตฺติยสฺส อตฺถีติ เภทนกํ, ปาจิตฺติยํ, อสฺสตฺถิอตฺเถ อ-การปจฺจโย.
๑๘๑๐-๑. ‘‘อนาปตฺติ ¶ อรณิเก’’ติ ปทจฺเฉโท. อรณิเกติ อรณิธนุเก. วิเธติ กายพนฺธนสฺส วิธเก. อฺชนิกาติ อฺชนินาฬิกา. ทกปฺุฉนิยาติ นหาตสฺส คตฺเต อุทกปฺุฉนเปสิกาย. วาสิชเฏติ วาสิทณฺฑเก.
สูจิฆรกถาวณฺณนา.
๑๘๑๒-๓. มฺจปีสรูปํ ทุติเย ภูตคามวคฺเค จตุตฺถสิกฺขาปเท วุตฺตเมว. ‘‘สุคตงฺคุเลน อฏฺงฺคุลปาทก’’นฺติ อฏฺงฺคุลปาทกสฺส อาคตตฺตา ‘‘อฏฺงฺคุลปฺปมาเณนา’’ติ เอตฺถ ‘‘ปาเทนา’’ติ เสโส.
เหฏฺิมาฏนินฺติ อฏนิยา เหฏฺิมตลํ. อฏนิยา เหฏฺิมํ เหฏฺิมาฏนี, ตํ เปตฺวา, อฺตฺร เหฏฺิมาย อฏนิยาติ วุตฺตํ โหติ. เทสนาปุพฺพภาคิเยน มฺจปาทจฺเฉเทน สห วตฺตตีติ สจฺเฉทา. ตํ ปมาณํ. อติกฺกมโตติ อติกฺกามยโต, คาถาพนฺธวเสน ย-การโลโป.
๑๘๑๕. ปมาเณน กโรนฺตสฺสาติ อฏนิยา เหฏฺา วฑฺฒกิรตนปฺปมาเณน ปาเทน โยเชตฺวา กโรนฺตสฺส, เอเตเนว ‘‘อูนกํ กโรนฺตสฺสา’’ติ อิทํ อุปลกฺขิตํ. ตสฺสาติ ตสฺส อปฺปมาณิกสฺส. ฉินฺทิตฺวาติ อฏนิโต เหฏฺา วฑฺฒกิรตนาติริตฺตํ านํ ฉินฺทิตฺวา.
๑๘๑๖. ปมาณโต นิขณิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อธิก’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, ปมาณโต อธิกํ านํ นิขณิตฺวา, อนฺโตภูมึ ¶ ปเวเสตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุตฺตานํ วาปีติ อุทฺธํ ปาทํ กตฺวา ภูมิยํ วา ทารุฆฏิกาสุ วา เปตฺวา. อฏฺฏํ วา พนฺธิตฺวา ปริภฺุชโตติ อุกฺขิปิตฺวา ตุลาสงฺฆาเฏ เปตฺวา อฏฺฏํ พนฺธิตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ.
มฺจกถาวณฺณนา.
๑๘๑๗. ตูลํ โอนทฺธเมตฺถาติ ตูโลนทฺธํ, ตูลํ ปกฺขิปิตฺวา อุปริ จิมิลิกาย โอนทฺธํ, ‘‘ตูลํ นาม ตีณิ ตูลานิ รุกฺขตูลํ ลตาตูลํ โปฏกิตูล’’นฺติ (ปาจิ. ๕๒๘) วุตฺตตูลานํ ¶ อฺตรํ ปกฺขิปิตฺวา อุปริ ปิโลติกาย สิพฺพิตฺวา กตนฺติ วุตฺตํ โหติ. โปฏกิตูลนฺติ เอรกตูลาทิ ยํ กิฺจิ ติณชาตีนํ ตูลํ. อุทฺทาลนเมว อุทฺทาลนกํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ อุทฺทาลนกนฺติ วุตฺตนยเมว. อติกฺกนฺตา อีติ อุปทฺทโว เยน โส อนีติ, ภควา, เตน อนีตินา.
๑๘๑๘. อาโยเคติ อาโยคปตฺเต. พนฺธเนติ กายพนฺธเน. อํสพทฺธเกติ อํสพนฺธนเก. พิพฺโพหเนติ อุปธาเน. ถวิกาติ ปตฺตถวิกา. ถวิกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน สิปาฏิกาทีนํ สงฺคโห. ถวิกาทีสุ ตูโลนทฺเธสุ ปริภุตฺเตสุ ภิกฺขุโน อนาปตฺตีติ โยชนา.
๑๘๑๙. อฺเน จ กตนฺติ เอตฺถ ‘‘มฺจํ วา ปีํ วา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อุทฺทาเลตฺวาติ ปิโลติกํ อุปฺปาเฏตฺวา ตูลํ อปเนตฺวา. นยาติ สมุฏฺานาทโย.
ตูโลนทฺธกถาวณฺณนา.
๑๘๒๐. นิสีทนนฺติ นิสีทนจีวรํ. ปมาณโตติ ‘‘ตตฺริทํ ปมาณํ, ทีฆโส ทฺเว วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ ทิยฑฺฒํ ¶ , ทสา วิทตฺถี’’ติ (ปาจิ. ๕๓๑) วุตฺตปมาณโต. ปมาณาติกฺกเม ปโยเค ตสฺส ทุกฺกฏํ สิยาติ โยชนา.
๑๘๒๑. สจฺเฉทนฺติ ปมาณโต อติริตฺตปเทสสฺส เฉทนกิริยาสหิตปฏิกมฺมํ ปาจิตฺติยมุทีริตนฺติ อตฺโถ. ตสฺสาติ นิสีทนสฺส. ทฺวีสุ าเนสุ ผาเลตฺวา ติสฺโส ทสา กาตพฺพา สิยุนฺติ โยชนา.
๑๘๒๒. ตทูนกนฺติ ตโต ปมาณโต อูนกํ. วิตานาทึ กโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อตฺถรณสาณิปาการภิสิพิพฺโพหนานํ สงฺคโห. ‘‘สฺจริตฺตสมา นยา’’ติ อิทํ วุตฺตตฺถเมว.
นิสีทนกถาวณฺณนา.
๑๘๒๓. โรเคติ กณฺฑุปิฬกาทิโรเค สติ. ยถาห ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ยสฺส กณฺฑุ ¶ วา ปิฬกาวา อสฺสาโว วา ถุลฺลกจฺฉุ วา อาพาโธ, ตสฺส กณฺฑุปฏิจฺฉาทิ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๔). เอตฺถ กณฺฑูติ กจฺฉุ. ปิฬกาติ โลหิตตุณฺฑิกา สุขุมปิฬกา. อสฺสาโวติ อริสภคนฺทลมธุเมหาทิวเสน อสุจิปคฺฆรณํ. ถุลฺลกจฺฉุ วา อาพาโธติ มหาปิฬกาพาโธ วุจฺจติ. ปมาณโตติ ‘‘ตตฺริทํ ปมาณํ, ทีฆโส จตสฺโส วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติ (ปาจิ. ๕๓๘) วุตฺตปฺปมาณโต.
กณฺฑุปฏิจฺฉาทิกถาวณฺณนา.
๑๘๒๕. ปมาเณเนวาติ ‘‘ตตฺริทํ ปมาณํ, ทีฆโส ฉ วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ อฑฺฒเตยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๕๔๓) วุตฺตปฺปมาเณเนว. ปมาณาติกฺกเมติ วสฺสิกสาฏิกาย ยถาวุตฺตปมาณโต ¶ อติกฺกมเน, นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมํ. ตสฺส ภิกฺขุสฺส. นโยติ เฉทนปาจิตฺติยาทิโก วินิจฺฉยนโย.
วสฺสิกสาฏิกกถาวณฺณนา.
๑๘๒๖. สุคตสฺส จีวเรน ตุลฺยปฺปมาณํ จีวรํ โย ภิกฺขุ สเจ กาเรยฺย, ตสฺส จีวรสฺส กรเณ ตสฺส ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ สิยาติ โยชนา. ตุลฺยํ ปมาณํ ยสฺสาติ วิคฺคโห.
๑๘๒๗. อตฺตโน วตฺถานํ กรณการาปนํ วินา อฺโต ปฏิลาโภ นาม นตฺถิ, สูจิกมฺมปริโยสาเน จีวรสรูปสฺส ปฏิลาโภเยเวตฺถ ปฏิลาโภติ วิฺายติ.
๑๘๒๘. ตสฺสาติ ยํ ‘‘สุคตสฺส จีวเรนา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺส สุคตจีวรสฺส. ทีฆโส ปมาเณน สุคตสฺส วิทตฺถิยา นว วิทตฺถิโย, ติริยํ ปมาเณน ฉ วิทตฺถิโย วินิทฺทิฏฺา สิกฺขาปเทเยว กถิตาติ โยชนา.
นนฺทกถาวณฺณนา.
ราชวคฺโค นวโม.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปโม ภาโค นิฏฺิโต.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยปิฏเก
วินยวินิจฺฉย-ฏีกา (ทุติโย ภาโค)
ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา
๑๘๓๐-๑. เอวํ ¶ ¶ นาติสงฺเขปวิตฺถารนเยน ทฺเวนวุติ ปาจิตฺติยานิ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ นิทฺทิฏฺเ ปาฏิเทสนีเย ทสฺเสตุมาห ‘‘โย จนฺตรฆร’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อนฺตรฆรนฺติ รถิกาทิมาห. ยถาห ‘‘อนฺตรฆรํ นาม รถิกา พฺยูหํ สิงฺฆาฏกํ ฆร’’นฺติ.
โย ¶ ปน ภิกฺขุ อนฺตรฆรํ ปวิฏฺาย อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต ยํ กิฺจิ ขาทนํ, โภชนมฺปิ วา สหตฺถา ปฏิคฺคณฺเหยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน คหเณ ทุกฺกฏํ, โภเค อชฺโฌหาเร ปาฏิเทสนียํ สิยาติ โยชนา.
อิโต ปฏฺาย จตสฺโส คาถา อุปฺปฏิปาฏิยา โปตฺถเกสุ ลิขิตา, ตาสํ อยํ ปฏิปาฏิ – ‘‘เอตฺถนฺตรฆร’’นฺติ ตติยา, ‘‘ตสฺมา ภิกฺขุนิยา’’ติ จตุตฺถี, ‘‘รถิกาทีสู’’ติ ปฺจมี ¶ , ‘‘รถิกายปิ วา’’ติ ฉฏฺี. ปฏิปาฏิ ปนายํ มาติกฏฺกถกฺกเมน เวทิตพฺพา. อิมาย ปฏิปาฏิยา ตาสํ อตฺถวณฺณนา โหติ –
๑๘๓๒-๓. ปุริมคาถาทฺวเยน ปทภาชนาคตสามฺวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อฏฺกถาคตํ วิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอตฺถาติ อิมสฺมึ ปมปาฏิเทสนียสิกฺขาปเท. ตสฺสาติ อฺาติกภิกฺขุนิยา. วากฺยโตติ ‘‘อนฺตรฆรํ ปวิฏฺายา’’ติ วจนโต. หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. ยสฺมา ภิกฺขุสฺส ิตฏฺานํ นปฺปมาณนฺติ อฏฺกถาย (ปาจิ. อฏฺ. ๕๕๓) วณฺณิตํ, ตสฺมา อารามาทีสุ ตฺวา เทนฺติยา ภิกฺขุนิยา หตฺถโต วีถิอาทีสุ ตฺวา โย ปฏิคฺคณฺเหยฺย เจ, เอวํ ปฏิคฺคณฺหโต ตสฺส ภิกฺขุโน น โทโสติ โยชนา. ปริโภคสฺส ปฏิคฺคหณมูลกตฺตา น โทโส. ‘‘ปฏิคฺคณฺหโต’’ติ อิมินา ปริโภเค ปาฏิเทสนียาภาโว จ ทีปิโต โหติ.
๑๘๓๔. สเจ ภิกฺขุนี รถิกาทีสุ ตฺวา โภชนํ เทติ, ภิกฺขุ อนฺตราราเม ตฺวา ปฏิคฺคณฺหาติ เจ, ตสฺส อาปตฺตีติ โยชนา. คาถาพนฺธวเสน ‘‘ภิกฺขุนิ โภชน’’นฺติ รสฺสตฺตํ. อาปตฺตีติ จ ปฏิคฺคหณปริโภเคสุ ทุกฺกฏปาฏิเทสนียาปตฺติโย สนฺธาย วุตฺตํ.
๑๘๓๕. รถิกาทีสุ ตฺวา ภิกฺขุนี โภชนํ เทติ เจ, ตํ รถิกายปิ วา…เป… อยํ นโยติ โยชนา. ตตฺถ รถิกาติ รจฺฉา. พฺยูหนฺติ อนิพฺพิชฺฌิตฺวา ิตา คตปจฺจาคตรจฺฉา. สนฺธิ นาม ฆรสนฺธิ. สิงฺฆาฏกนฺติ จตุกฺโกณํ วา ติโกณํ วา มคฺคสโมธานฏฺานํ. อยํ นโยติ ‘‘อาปตฺตี’’ติ อนนฺตรคาถาย วุตฺตนโย.
๑๘๓๗. อามิเสน ¶ ¶ อสมฺภินฺนรสํ สนฺธาย อิทํ ทุกฺกฏํ ภาสิตํ. อามิเสน สมฺภินฺเน เอกรเส ยามกาลิกาทิมฺหิ ปฏิคฺคเหตฺวา อชฺโฌหาเร ปาฏิเทสนียาปตฺติ สิยาติ โยชนา.
๑๘๓๘. เอกโตอุปสมฺปนฺนหตฺถโตติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย หตฺถโต. ยถาห ‘‘เอกโตอุปสมฺปนฺนายาติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนายา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๕๓). ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ยถาวตฺถุกเมวาติ.
๑๘๓๙. อฺาติกาย าติกสฺิสฺส, ตเถว วิมติสฺส จ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๘๔๐. อฺาติกาย ทาเปนฺติยา ภูมิยา นิกฺขิปิตฺวา ททมานาย วา อนฺตรารามาทีสุ ตฺวา เทนฺติยา ปฏิคฺคณฺหโต ภิกฺขุสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. อนฺตรารามาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ภิกฺขุนุปสฺสยติตฺถิยเสยฺยาปฏิกฺกมนาทึ สงฺคณฺหาติ. ปฏิกฺกมนํ นาม โภชนสาลา.
๑๘๔๑. คามโต พหิ นีหริตฺวา เทตีติ โยชนา.
๑๘๔๒. หตฺถโตติ เอตฺถ ‘‘คหเณ’’ติ เสโส. ตถาติ อนาปตฺติ. สมุฏฺานํ อิทํ สิกฺขาปทํ เอฬกโลเมน สมํ มตนฺติ โยชนา.
ปมปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.
๑๘๔๓-๔. อวุตฺเตติ วกฺขมานนเยน อวุตฺเต. เอเกนปิ จ ภิกฺขุนาติ สมฺพนฺโธ. อปสกฺกาติ อปคจฺฉ. อาทิ-อตฺถวาจินา อิติ-สทฺเทน ‘‘อปสกฺก ตาว, ภคินิ, ยาว ภิกฺขู ภฺุชนฺตี’’ติ วากฺยเสโส สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ. อิมินา อปสาทนากาโร ¶ สนฺทสฺสิโต. ‘‘เอเกนปิ จ ภิกฺขุนา’’ติ อิมินา อวกํโส ทสฺสิโต. อุกฺกํโส ปน ‘‘เตหิ ภิกฺขูหิ สา ภิกฺขุนี อปสาเทตพฺพา’’ติ ปาฬิโตปิ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อามิส’’นฺติ สามฺวจเนปิ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรสฺเสว คหณํ. ยถาห ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรนา’’ติ. โภเคติ จ เอกโตอุปสมฺปนฺนนฺติ จ วุตฺตตฺถเมว.
๑๘๔๕. ตเถวาติ ¶ ทุกฺกฏํ. ตตฺถาติ อนุปสมฺปนฺนาย.
๑๘๔๖. อตฺตโน ภตฺเต ทินฺเนปิ อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, ปุริมสิกฺขาปเทน ปน อาปตฺติสมฺภวา ‘‘น เทตี’’ติ วุตฺตํ. ยถาห ‘‘อตฺตโน ภตฺตํ ทาเปติ, น เทตีติ เอตฺถ สเจปิ อตฺตโน ภตฺตํ เทติ, อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติเยว, ปุริมสิกฺขาปเทน อาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๕๘). ตถาติ อนาปตฺติ. อุภยสิกฺขาปเทหิปิ อนาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปเทติ เจ’’ติ. ยถาห ‘‘อฺเสํ ภตฺตํ เทติ, น ทาเปตีติ เอตฺถ ปน สเจปิ ทาเปยฺย, อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติ ภเวยฺย, เทนฺติยา ปน เนว อิมินา, น ปุริเมน อาปตฺตี’’ติ.
๑๘๔๗. ภิกฺขุนี ยํ น ทินฺนํ, ตํ ทาเปติ, ยตฺถ วา น ทินฺนํ, ตตฺถ ทาเปติ, ตมฺปิ สพฺเพสํ มิตฺตามิตฺตานํ สมํ ทาเปติ, ตตฺถาปิ อนาปตฺติ.
๑๘๔๘. สิกฺขมานา วา สามเณริกา วา ‘‘อิธ สูปํ เทถ, โอทนํ เทถา’’ติ โวสาสนฺตี วิธานํ กโรนฺตี ิตา, ตํ อนปสาเทนฺตสฺส อนาปตฺติ. ปฺเจว โภชนานิ วินา อฺํ โวสาสนฺตึ ภิกฺขุนึ อนปสาเทนฺตสฺส อนาปตฺติ. อนปสาเทนฺตสฺส อุมฺมตฺตกาทิโนปิ อนาปตฺตีติ โยชนา.
๑๘๔๙. สมุฏฺานนฺติ ¶ เอตฺถ ‘‘อิมสฺสา’’ติ เสโส. โภชนํ กิริยํ, โวสาสนฺติยา อนิวารณํ อกิริยนฺติ เอวมิทํ กฺริยากฺริยํ.
ทุติยปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.
๑๘๕๐-๑. เสกฺขนฺติ สมฺมเตติ ‘‘เสกฺขสมฺมตํ นาม กุลํ ยํ กุลํ สทฺธาย วฑฺฒติ, โภเคน หายติ, เอวรูปสฺส กุลสฺส ตฺติทุติเยน กมฺเมน เสกฺขสมฺมุติ ทินฺนา โหตี’’ติ (ปาจิ. ๕๖๗) วุตฺตํ อิทํ กุลํ เสกฺขสมฺมตํ นาม. เตนาห ‘‘ลทฺธสมฺมุติเก กุเล’’ติ. ลทฺธา สมฺมุติ เยนาติ วิคฺคโห. ฆรูปจารํ โอกฺกนฺเต นิมนฺติโตปิ อนิมนฺติโตว โหตีติ อาห ‘‘ฆรูปจาโรกฺกมนา ปุพฺเพวา’’ติ. ยถาห ‘‘อนิมนฺติโต นาม อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย ¶ วา อนิมนฺติโต, ฆรูปจารํ โอกฺกมนฺเต นิมนฺเตติ, เอโส อนิมนฺติโต นามา’’ติ (ปาจิ. ๕๖๗).
‘‘อคิลาโน นาม โย สกฺโกติ ปิณฺฑาย จริตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ภิกฺขาย จริตุํ สมตฺโถ อคิลาโน นาม. คเหตฺวาติ สหตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา. ‘‘อามิส’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สหตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๕๖๗). คหเณติ เอตฺถ ‘‘อาหารตฺถายา’’ติ เสโส.
๑๘๕๓. ตตฺถาติ อเสกฺขสมฺมเต กุเล. ตเถว ปริทีปิตนฺติ ทุกฺกฏํ ปริทีปิตํ.
๑๘๕๔. นิมนฺติตสฺส วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน นิมนฺติตสฺส อวเสสํ คณฺหาติ. ยถาห ‘‘นิมนฺติตสฺส วา คิลานสฺส วา เสสกํ ภฺุชตี’’ติ. อฺเสํ ภิกฺขา ตตฺถ ทียตีติ โยชนา. ตตฺถาติ ตสฺมึ เสกฺขสมฺมเต กุเล.
๑๘๕๕. ยตฺถ ¶ กตฺถจีติ อาสนสาลาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ. นิจฺจภตฺตาทิเก วาปีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สลากภตฺตปกฺขิกอุโปสถิกปาฏิปทิกภตฺตานํ คหณํ.
๑๘๕๖. ทฺวาเรติ เอตฺถ ‘‘เปตฺวา’’ติ เสโส. สมฺปตฺเตติ เอตฺถ ‘‘ปจฺฉา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘สเจปิ อนาคเต ภิกฺขุมฺหิ ปมํเยว นีหริตฺวา ทฺวาเร เปตฺวา ปจฺฉา สมฺปตฺตสฺส เทนฺติ, วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๖๙).
๑๘๕๗. มหาปจฺจริยา(ปอาจิ. อฏฺ. ๕๖๙) คตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิกฺขุ’’นฺติอาทิ. สมุฏฺาเนฬกูปมนฺติ สมุฏฺานโต เอฬกโลมสิกฺขาปทสทิสนฺติ อตฺโถ.
ตติยปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.
๑๘๕๘-๙. ‘‘ปฺจนฺนํ ปฏิสํวิทิตํ, เอตํ อปฺปฏิสํวิทิตํ นามา’’ติ วจนโต จ อิธาปิ ‘‘สหธมฺมิกาปิต’’นฺติ วกฺขมานตฺตา จ อคหฏฺ-สทฺเทน ปริพฺพาชกานํ คหณํ. วุตฺตเมว ¶ นยํ โวหารนฺตเรน ทสฺเสตุมาห ‘‘อิตฺถิยา ปุริเสน วา’’ติ. ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ อารฺกานิ เสนาสนานี’’ติ (ปาจิ. ๕๗๓) วจนโต อารามนฺติ อารฺการามมาห. สเจ เอวมาโรจิตํ ปฏิสํวิทิตนฺติ หิ วุตฺตํ ปทภาชเนติ (ปาจิ. ๕๗๓) โยชนา. ปฏิสํวิทิตนฺติ ปเคว นิเวทิตํ.
๑๘๖๐. ปจฺฉา ยถาโรจิตํ ตเมว วา ตสฺส จ ปริวารํ กตฺวา อฺํ พหุํ วา อาหรียตุ, ตมฺปิ ปฏิสํเวทิตํ นามาติ โยชนา.
๑๘๖๑. ยาคุยา วิทิตํ กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ตํ เปตฺวา’’ติ อิทํ สามตฺถิยา ลพฺภติ. อิทมฺปิ วิทิตํ กุรุนฺทิยํ วฏฺฏตีติ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๑๘๖๒. ปนาติ ¶ อปิ-สทฺทตฺโถ. อฺานิปิ กุลานีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘อสุกํ นาม กุลํ ปฏิสํเวทิตํ กตฺวา ขาทนียาทีนิ คเหตฺวา คจฺฉตีติ สุตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๗๓) อฏฺกถาเสโส. เตนาติ กตปฏิสํเวทิเตน. ตมฺปิ จ สพฺพํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
๑๘๖๓. เอวํ ยํ อนาโรจิตนฺติ ‘‘อารามํ วา อุปจารํ วา ปวิสิตฺวา’’ติอาทินา นเยน ยํ ปมํ อนิเวทิตํ. ‘‘เอว’’นฺติ อิทํ ‘‘ยํ อารามมนาภต’’นฺติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. เอวนฺติ ‘‘ตสฺส ปริวารํ กตฺวา’’ติอาทินา ปกาเรน. ‘‘ตํ อสํวิทิตํ นามา’’ติ อิทํ ‘‘สหธมฺมิกาปิต’’นฺติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘ปฺจนฺนํ ปฏิสํวิทิตํ, เอตํ อปฺปฏิสํวิทิตํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๕๗๓). อฏฺกถายฺจ ‘‘ปฺจนฺนํ ปฏิสํวิทิตนฺติ ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ ยํ กิฺจิ เปเสตฺวา ‘ขาทนียํ วา โภชนียํ วา อาหริสฺสามา’ติ ปฏิสํวิทิตํ กตมฺปิ อปฺปฏิสํวิทิตเมวาติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๗๓) วุตฺตํ.
๑๘๖๔. การาเปตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปฏิสํวิทิต’’นฺติ เสโส.
๑๘๖๕. ภิกฺขุนา วา คนฺตฺวา อนฺตรามคฺเค คเหตพฺพนฺติ โยชนา. เอวมกตฺวาติ ‘‘พหิอารามํ เปเสตฺวา’’ติอาทินา วุตฺตวิธานํ อกตฺวา. อุปจารโตติ เอตฺถ ภุมฺมตฺเถ โต-ปจฺจโย เวทิตพฺโพ.
๑๘๖๘. ‘‘ปฏิสํวิทิเต’’ติอาทีนํ ¶ ปทานํ ‘‘อนาปตฺเต วา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปฏิสํวิทิเตติ เอตฺถ ‘‘คิลานสฺสา’’ติ เสโส. ปฏิสํวิทิเต อนาปตฺติ, คิลานสฺสาปิ อนาปตฺติ, อปฺปฏิสํวิทิเตปิ ตสฺส ปฏิสํวิทิตสฺส อวเสสเก วา คิลานสฺส อวเสสเก วา อนาปตฺติ เอวาติ สมฺพนฺโธ ¶ . ยถาห อนาปตฺติวาเร ‘‘ปฏิสํวิทิตสฺส วา คิลานสฺส วา เสสกํ ภฺุชตี’’ติ (ปาจิ. ๕๗๕). พหาราเม ปฏิคฺคเหตฺวา อนฺโตเยว ภฺุชโต อสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. คเหตฺวา วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท ‘‘ตสฺสา’’ติอาทีสุปิ โยเชตพฺโพ.
๑๘๖๙. ตตฺถาติ ตสฺมึ อารฺการาเม. ขาทโต อนาปตฺติ เอวาติ โยชนา, ตตฺถ ‘‘อฺเน กปฺปิยํ กตฺวา ทินฺนานี’’ติ เสโส.
จตุตฺถปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เสขิยกถาวณฺณนา
๑๘๗๐. เอวํ ปาฏิเทสนียวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ อุทฺทิฏฺานํ เสขิยานํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โย อนาทริเยเนวา’’ติอาทิ. โยติ เถโร วา นโว วา มชฺฌิโม วา. เอตฺถ อนาทริยํ นาม สฺจิจฺจ อาปตฺติอาปชฺชนํ, นิวาสนาทิวตฺถสฺส อุคฺคหเณ นิรุสฺสาหฺจ. ปจฺฉโตปิ วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘ปสฺสโตปิ วา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. ตสฺส จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท วกฺขมานสมุจฺจโย.
๑๘๗๑. น เกวลํ วุตฺตนเยน นิวาเสนฺตสฺเสว โหติ, ขนฺธกาคตหตฺถิโสณฺฑาทิอากาเรนาปิ นิวาเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ อาห ‘‘หตฺถิโสณฺฑาที’’ติอาทิ. หตฺถิโสณฺฑาทินิวาสนํ ปรโต ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๘๐) อาวิ ¶ ภวิสฺสติ. ปริมณฺฑลนฺติ สมนฺตโต มณฺฑลํ กตฺวา. วตฺถพฺพนฺติ นิวตฺถพฺพํ นิวาเสตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๑๘๗๒. ชาณุมณฺฑลโต ¶ เหฏฺาติ เอตฺถ ‘‘ชงฺฆฏฺิสีสโต ปฏฺายา’’ติ เสโส. อฏฺงฺคุลปฺปมาณกนฺติ วฑฺฒกิองฺคุเลน อฏฺงฺคุลมตฺตนฺติ อาจริยา. ‘‘โย ปน สุกฺขชงฺโฆ วา มหาปิณฺฑิกมํโส วา โหติ, ตสฺส สารุปฺปตฺถาย ชาณุมณฺฑลโต อฏฺงฺคุลาธิกมฺปิ โอตาเรตฺวา นิวาเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๗๖) อฏฺกถํ สงฺคณฺหิตุมาห ‘‘ตโต อูนํ น วฏฺฏตี’’ติ.
๑๘๗๓. อสฺจิจฺจ อปริมณฺฑลํ นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เอวมุปริปิ. อสฺจิจฺจาติ ‘‘อปริมณฺฑลํ นิวาเสสฺสามี’’ติ เอวํ อสฺจิจฺจ, อถ โข ‘‘ปริมณฺฑลํเยว นิวาเสสฺสามี’’ติ วิรชฺฌิตฺวา อปริมณฺฑลํ นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. อสติสฺสาปีติ อฺวิหิตสฺสาปิ ตถา นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. อชานนฺตสฺสาติ เกวลํ ปริมณฺฑลํ นิวาเสตุํ อชานนฺตสฺส อนาปตฺติ. อปิจ นิวาสนวตฺตํ อุคฺคเหตพฺพํ. อุคฺคหิตวตฺโตปิ สเจ ‘‘อารุฬฺห’’นฺติ วา ‘‘โอรุฬฺห’’นฺติ วา น ชานาติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติเยว. คิลานสฺสาติ ยสฺส ชงฺฆาย วา ปาเท วา วโณ โหติ, ตสฺส อุกฺขิปิตฺวา วา โอตาเรตฺวา วา นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. ปาโทติ เจตฺถ ปาทสมีปํ อธิปฺเปตํ. อาปทาสูติ วาฬา วา โจรา วา อนุพนฺธนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ.
ปริมณฺฑลกถาวณฺณนา.
๑๘๗๔. อุโภ โกเณ สมํ กตฺวาติ ปารุปนสฺส เอกํเส กตสฺส ปิฏฺิปสฺเส, อุทรปสฺเส จ โอลมฺพมาเน อุโภ ¶ กณฺเณ หตฺถิปิฏฺเ คณฺฑา วิย สมํ กตฺวา. ปริมณฺฑลํ กตฺวาติ เอตสฺเสว อตฺถปทํ. สาทรนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส. สาทรํ วา ปารุปิตพฺพนฺติ โยชนา, สาทรํ ปารุปนํ กตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. เอวํ อกโรนฺตสฺสาติ ปารุปนวตฺเต อาทรํ ชเนตฺวา เอวํ อปารุปนฺตสฺส.
๑๘๗๕. ‘‘ปริมณฺฑลํ นิวาเสสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา’’ติ (ปาจิ. ๕๗๖) วา ‘‘ปริมณฺฑลํ ปารุปิสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา’’ติ (ปาจิ. ๕๗๗) วา ‘‘อนฺตรฆเร’’ติ อวิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อวิเสเสน วุตฺต’’นฺติ. อิทํ สิกฺขาปททฺวยํ ยสฺมา อวิเสเสน วุตฺตํ, ตสฺมา ฆเร, วิหาเร วา กาตพฺพํ ปริมณฺฑลนฺติ โยชนา. ฆเรติ อนฺตรฆเร. วิหาเร วาติ พุทฺธุปฏฺานาทิกาลํ ¶ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริมณฺฑลํ กตฺตพฺพนฺติ ปริมณฺฑลเมว นิวาเสตพฺพํ ปารุปิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
ทุติยํ.
๑๘๗๖. อุโภ โกเณ สมํ กตฺวาติ สมฺพนฺโธ. คีวเมว จ อนุวาเตน ฉาเทตฺวาติ โยชนา.
๑๘๗๗. ตถา อกตฺวาติ ยถาวุตฺตวิธานํ อกตฺวา. ชตฺตูนิปีติ อุโภ อํสกูฏานิปิ. อุรมฺปิ จาติ หทยมฺปิ. วิวริตฺวาติ อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา. ยถากามนฺติ อิจฺฉานุรูปํ. คจฺฉโตติ เอตฺถ ‘‘อนฺตรฆเร’’ติ เสโส. อนฺตรฆรํ นาม คาเม วา โหตุ วิหาเร วา, ปจิตฺวา ภฺุชิตฺวา คิหีนํ วสนฏฺานํ.
ตติยํ.
๑๘๗๘-๙. ‘‘มณิพนฺธโต’’ติ อิมินาปิ ‘‘เหฏฺา’’ติ โยเชตพฺพํ. วาสูปคสฺสาติ เอตฺถ ‘‘กายํ วิวริตฺวา นิสีทโต’’ติ ¶ เสโส. วาสูปโค นาม รตฺติวาสตฺถาย อุปคโต, เอเตน วาสตฺถาย อนฺตรฆรํ อุปคจฺฉนฺเตน สุปฺปฏิจฺฉนฺเนเนว อุปคนฺตพฺพนฺติ ทีปิตํ โหติ, เอเตเนว วาสูปคตสฺส สนฺติกํ อุปคตสฺส ยถากามํ คมเน น โทโสติ จ วุตฺตเมว โหติ. เตนาห คณฺิปเท ‘‘เอกทิวสมฺปิ วาสูปคตสฺส สนฺติกํ ยถาสุขํ คนฺตุํ วฏฺฏติ, โก ปน วาโท จตุปฺจาหํ วาสมธิฏฺาย วสิตภิกฺขูนํ สนฺติก’’นฺติ.
จตุตฺถํ.
๑๘๘๐. สุวินีเตนาติ หตฺถปาทานํ อกีฬาปเนเนว สุฏฺุ วินีเตน.
ปฺจมํ.
๑๘๘๑. คาถาพนฺธวเสน ‘‘สตีมตา’’ติ ทีโฆ กโต. อวิกาเรนาติ ตํตทวโลกาสหิเตน ¶ . ยุคํ มตฺตา ปมาณํ เอตสฺสาติ ยุคมตฺตํ, รถยุคํ จตุหตฺถปฺปมาณํ, ตตฺตกํ ปเทสํ. เปกฺขินาติ โอโลเกนฺเตน. ‘‘ภิกฺขุนา โอกฺขิตฺตจกฺขุนา’’ติ ปทจฺเฉโท.
๑๘๘๒. อนฺตรฆเร ยตฺถ กตฺถจิปิ เอกสฺมิมฺปิ าเน ตฺวาติ โยชนา. เอวํ วุตฺเตปิ ตถารูเป อนฺตราเย สติ คจฺฉโตปิ โอโลเกตุํ ลพฺภติ. เอกสฺมึ ปน าเน ตฺวาติ เอตฺถ คจฺฉนฺโตปิ ปริสฺสยาภาวํ โอโลเกตุํ ลพฺภติเยว. ‘‘ตถา คาเม ปูช’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ปิ-สทฺโท ปน-สทฺทตฺโถ, โอโลเกตุํ ปน วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๘๘๓. โอโลเกนฺโต ตหํ ตหนฺติ โย อนาทริยํ ปฏิจฺจ ตํ ตํ ทิสาภาคํ ปาสาทํ กูฏาคารํ วีถึ โอโลเกนฺโต.
สตฺตมํ.
๑๘๘๔. เอกโต ¶ วาปีติ เอกอํสกูฏโต วา. อุภโต วาปีติ อุภยํสกูฏโต วา. อินฺทขีลกโต อนฺโตติ คามทฺวารินฺทขีลโต อนฺโต, ฆเรติ วุตฺตํ โหติ.
นวมํ.
๑๘๘๕. ตถา นิสินฺนกาเลปีติ อินฺทขีลสฺส อนฺโต นิสินฺนกาเลปิ. กุณฺฑิกํ นีหรนฺเตน จ จีวรํ อนุกฺขิปิตฺวา ทาตพฺพา กุณฺฑิกาติ โยชนา. กุณฺฑิกนฺติ จ อุปลกฺขณมตฺตํ. ธมฺมกรณาทีสุปิ เอเสว นโย.
ทสมํ.
ปโม วคฺโค.
๑๘๘๖. คนฺตฺุเจว นิสีทิตฺุจ น วฏฺฏตีติ โยชนา. จ-สทฺโท กิริยาสมุจฺจโย. หสนียสฺมึ วตฺถุสฺมินฺติ หาสชนเก การเณ. สิตมตฺตนฺติ มนฺทหาสํ.
ปมทุติยานิ.
๑๘๘๗. อปฺปสทฺเทนาติ ¶ ‘‘กิตฺตาวตา อปฺปสทฺโท โหติ? ทฺวาทสหตฺเถ เคเห อาทิมฺหิ สงฺฆตฺเถโร, มชฺเฌ ทุติยตฺเถโร, อนฺเต ตติยตฺเถโรติ เอวํ นิสินฺเนสุยํ สงฺฆตฺเถโร ทุติยตฺเถเรน สทฺธึ มนฺเตติ, ทุติยตฺเถโร ตสฺส สทฺทฺเจว สุณาติ, กถฺจ ววตฺถเปติ. ตติยตฺเถโร ปน สทฺทเมว สุณาติ, กถํ น ววตฺถเปติ. เอตฺตาวตา อปฺปสทฺโท โหตี’’ติ (ปาจิ. ๕๘๘) วุตฺตอปฺปสทฺทยุตฺเตน. สเจ ¶ ปน ตติยตฺเถโร กถฺจ ววตฺถเปติ, มหาสทฺโท นาม โหตีติ.
ตติยํ.
๑๘๘๘. กายปฺปจาลกํ กตฺวาติ กายํ จาเลตฺวา จาเลตฺวา. อุปริปิ เอเสว นโย. หตฺถสฺส วุตฺตลกฺขณตฺตา ‘‘พาหู’’ติ มณิพนฺธโต ยาว อํสกูฏา คเหตพฺพา.
๑๘๘๙. อุชุํ ปคฺคเหตฺวาติ อุชุํ เปตฺวา. อาสิตพฺพนฺติ นิสีทิตพฺพํ. ‘‘สเมน อิริยาปเถน ตู’’ติ ปทจฺเฉโท.
๑๘๙๐. อิตฺถมฺภูเต กรณวจนํ. คมนปฏิสํยุตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ คมนสฺส อสมฺภโวติ อาห ‘‘นิสีทเนน ยุตฺเตสู’’ติ.
ปฺจมฉฏฺสตฺตมฏฺมนวมานิ.
ทุติโย วคฺโค.
๑๘๙๑. ขมฺภํ กตฺวาติ กฏิยา เอกปสฺเส วา ทฺวีสุ วา ปสฺเสสุ กปฺปรสนฺธิโต อาภุชิตฺวา หตฺถํ เปตฺวา. ยถาห – ‘‘ขมฺภกโต นาม กฏิยํ หตฺถํ เปตฺวา กตขมฺโภ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๙๖). อุกฺกุฏิกาย วา คจฺฉโตติ โยชนา. อุกฺกุฏิกา วุจฺจติ ปณฺหิโย อุกฺขิปิตฺวา อคฺคปาเทหิ วา อคฺคปาเท อุกฺขิปิตฺวา ปณฺหีหิ เอว วา ภูมึ ผุสนฺตสฺส คมนํ.
๑๘๙๒. ทุสฺสปลฺลตฺถิกายาติ อาโยคปลฺลตฺถิกาย. อนฺตรฆเร นิสีทนฺตสฺส ตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๑๘๙๓. ทุติเย ¶ จาติ ‘‘น ขมฺภกโต อนฺตรฆเร นิสีทิสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๕๙๗) สิกฺขาปเท จ. จตุตฺเถ จาติ ‘‘น โอคุณฺิโต ¶ อนฺตรฆเร นิสีทิสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๕๙๙) สิกฺขาปเท จ. ฉฏฺเติ ‘‘น ปลฺลตฺถิกาย อนฺตรฆเร’’อิจฺจาทิ (ปาจิ. ๖๐๑) สิกฺขาปเท จ. อิติ เอวํ สารุปฺปา สมณาจารานุจฺฉวิกา ฉพฺพีสติ สิกฺขาปทานิ ปกาสิตานิ.
ปมทุติยตติยจตุตฺถปฺจมฉฏฺานิ.
๑๘๙๔. วิฺุนา ภิกฺขุนา สกฺกจฺจํ สติยุตฺเตน, ปตฺตสฺินา จ หุตฺวา สมสูโปว ปิณฺฑปาโต คเหตพฺโพติ โยชนา. เอวํ เอตาย คาถาย สิกฺขาปทตฺตยํ สงฺคหิตํ. สกฺกจฺจนฺติ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. ‘‘สติยุตฺเตนา’’ติ อิทํ ‘‘สกฺกจฺจ’’นฺติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ‘‘สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๐๒) หิ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ปตฺเต สฺา ปตฺตสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ ปตฺตสฺี, อนฺวิหิเตน อตฺตโน ภาชเนเยว อุปนิพทฺธสฺินาติ อตฺโถ.
๑๘๙๕. ภตฺตจตุพฺภาโคติ ภตฺตสฺส จตุพฺภาคปฺปมาโณ. ตโต อธิกํ คณฺหโต ทุกฺกฏํ.
๑๘๙๖. ‘‘รสรเส’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘รเสรเส’’ติ คาถาพนฺธวเสน วุตฺตํ. ทฺเว สูเป เปตฺวา อวเสสานิ โอโลณิสากสูเปยฺยมจฺฉรสมํสรสาทีนิ รสรสาติ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ ‘‘โอโลณีติ ทธิกตํ โครส’’นฺติ เกจิ. ‘‘เอกา พฺยฺชนวิกตี’’ติ อปเร. ‘‘โย โกจิ สุทฺโธ กฺชิกตกฺกาทิรโส’’ติ อฺเ. สากสูเปยฺยคฺคหเณน ยา กาจิ สูเปยฺยสาเกหิ กตา พฺยฺชนวิกติ วุตฺตา. มํสรสาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อวเสสา สพฺพาปิ พฺยฺชนวิกติ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. าตกาทีนนฺติ เอตฺถ ‘‘สนฺตกํ คณฺหนฺตสฺสา’’ติ เสโส. อฺตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘กตํ คณฺหนฺตสฺสา’’ติ เสโส. ธเนนาติ เอตฺถ ‘‘อตฺตโน’’ติ จ ¶ ‘‘กีต’’นฺติ จ ‘‘คณฺหนฺตสฺสา’’ติ จ เสโส. าตกาทีนํ สนฺตกํ คณฺหนฺตสฺส, อฺตฺถาย กตํ คณฺหนฺตสฺส, อตฺตโน ธเนน กีตํ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
สตฺตมฏฺมนวมานิ.
๑๘๙๗. อธิฏฺานูปคสฺส ¶ ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา อนฺโตเลขาปมาเณน ปูริโตว คเหตพฺโพติ โยชนา.
๑๘๙๘. อนาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตฺวา อาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถาติ อธิฏฺานูปเค ปตฺเต. ถูปีกตํ กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ทิยฺยมาน’’นฺติ เสโส. ยถาวุตฺตเลขาติกฺกโม ยถา โหติ, เอวํ ถูปีกตํ ทิยฺยมานํ คณฺหโต อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. อิมินา ปมํ ถูปีกตสฺส อธิฏฺานูปคปตฺตสฺส ปจฺฉา ปฏิคฺคหณฺจ ปมปฏิคฺคหิตปตฺเต ปจฺฉา โภชนสฺส ถูปีกตสฺส ปฏิคฺคหณฺจ นิวาริตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๘๙๙. กาลิกตฺตยเมว จ ถูปีกตํ วฏฺฏเตวาติ โยชนา. เสเสติ อนธิฏฺานูปเค ปตฺเต. สพฺพนฺติ จตุพฺพิธํ กาลิกํ ถูปีกตํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
๑๙๐๐. เปเสตีติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ เสโส. ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ยทิ เปเสตีติ โยชนา. ‘‘วิหารํ เปเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๐๕) อฏฺกถาย อธิปฺปายํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ วจเนน ปฏิคฺคหณํ อวิชหิตฺวา ภิกฺขุนา เอว เปสิตํ คณฺหนฺตานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. อฺถา ‘‘ปูเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพนฺติ วิฺายติ.
๑๙๐๑. ปกฺขิปฺปมานนฺติ มุขวฏฺฏิโต อุจฺจํ กตฺวา มชฺเฌ ปกฺขิปิยมานํ. ผลาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน โอทนาทิมฺปิ สงฺคณฺหาติ. เหฏฺา ¶ โอโรหตีติ สมนฺตา โอกาสสมฺภวโต จาลิยมานํ มุขวฏฺฏิปฺปมาณโต เหฏฺา ภสฺสติ.
๑๙๐๒. ตกฺโกลกาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปูคผลาทีนํ สงฺคโห. เปตฺวาติ ภตฺตมตฺถเก นิกฺขิปิตฺวา. วฏํสกนฺติ อวฏํสกํ.
๑๙๐๓. ปูวสฺสาติ วิการสมฺพนฺเธ สามิวจนํ, ปูววฏํสกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปูวสฺส ยาวกาลิกตฺตา อาห ‘‘อิทํ ถูปีกตํ สิยา’’ติ.
๑๙๐๔. ปณฺณานํ วิสุํ ภาชนตฺตา อาห ‘‘วฏฺฏตี’’ติ.
๑๙๐๕. อสฺสาติ ¶ ภิกฺขุสฺส. ตํ ตุ สพฺพนฺติ ‘‘ถูปีกตตฺตา น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ ตํ ปน สพฺพํ. คหิตํ สุคหิตนฺติ วิราเธตฺวา ปฏิคฺคหิตํ เจ, สุปฺปฏิคฺคหิตํ.
ทสมํ.
ตติโย วคฺโค.
๑๙๐๖. ‘‘อุปริ โอธิ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. อุปรีติ ภตฺตสฺส อุปริ. โอธินฺติ ปริจฺเฉทํ. ปฏิปาฏิยาติ อตฺตโน ทิสาย ปริยนฺตโต ปฏฺาย อนุกฺกเมน.
๑๙๐๗. อฺเสนฺติ เอตฺถ ‘‘เทนฺโต’’ติ เสโส. อตฺตโน ภตฺตํ อฺเสํ เทนฺโต อฺสฺส ภาชเน อากิรํ อากิรนฺโต ปน ปฏิปาฏึ วินาปิ ตหึ ตหึ โอมสติ เจ, นตฺถิ โทโสติ โยชนา. อุตฺตริภงฺคกํ ตถา อากิรนฺโต ตตฺถ ตตฺถ โอมสติ, นตฺถิ โทโสติ โยชนา ¶ . ภฺุชนตฺถาย คณฺหนฺโตปิ เจตฺถ วตฺตพฺโพ. อุตฺตริภงฺคํ นาม พฺยฺชนํ.
ตติยํ.
๑๙๐๘. มตฺถกํ โอมทฺทิตฺวา ปริภฺุชโต โทโสติ โยชนา. ‘‘ถูปกโตติ มตฺถกโต, เวมชฺฌโต’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๑๐) อฏฺกถาวจนโต มตฺถกนฺติ เอตฺถ ภตฺตมตฺถกมาห. โอมทฺทิตฺวาติ หตฺเถน ภตฺตํ อวมทฺทิตฺวา.
๑๙๐๙. เสสเก ปริตฺเตปิ จาติ อวสิฏฺเ อปฺปเกปิ จ. สํกฑฺฒิตฺวานาติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ิตํ สํหริตฺวา. เอกโต ปน มทฺทิตฺวา ภฺุชโต อนาปตฺตีติ โยชนา.
ปฺจมํ.
๑๙๑๐. ภิยฺโยกมฺยตาเหตูติ ปุน คณฺหิตุกามตาเหตุ. สูปํ วาติ มุคฺคาทิสูปํ วา. พฺยฺชนํ วาติ อุตฺตริภงฺคํ วา.
ฉฏฺํ.
๑๙๑๑. วิฺตฺติยนฺติ ¶ สูโปทนวิฺตฺติยํ. ‘‘าตกานํ วา ปวาริตานํ วา อฺสฺส อตฺถาย วา อตฺตโน ธเนน วา’’ติ อิทํ อนาปตฺติยํ อธิกํ. คิลาโนปิ หุตฺวา ปเรสํ ปตฺตํ อุชฺฌานสฺาย โอโลเกนฺตสฺส อาปตฺติ โหตีติ อาห ‘‘อุชฺฌาเน คิลาโนปิ น มุจฺจตี’’ติ. อุชฺฌาเนติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ.
๑๙๑๒. ทสฺสามีติ อิมสฺส ภตฺตํ โอโลเกตฺวา ‘‘ยํ ตตฺถ นตฺถิ, ตํ ทสฺสามี’’ติ วา ‘‘ทาเปสฺสามี’’ติ วา. อวมฺิตฺวา อุชฺฌายนจิตฺตํ อุชฺฌานํ, อุชฺฌาเน สฺา อุชฺฌานสฺา, สา ¶ อสฺส อตฺถีติ วิคฺคโห. นอุชฺฌานสฺิโน จ อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา.
สตฺตมฏฺมานิ.
๑๙๑๓. ‘‘เตสํ มชฺฌปฺปมาเณนา’’ติ อิมินา อสารุปฺปวเสน ขุทฺทกปฏิกฺเขโป กโตติ เวทิตพฺโพ. ‘‘นาติมหนฺต’’นฺติ จ อติมหนฺตสฺเสว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ขุทฺทเก อาปตฺติ น ทิสฺสตีติ. กพโฬติ อาโลโป.
๑๙๑๔. มูลขาทนียาทิเก สพฺพตฺถ ขชฺชเก ปนาติ โยชนา. ผลาผเลติ ขุทฺทเก, มหนฺเต จ ผเล.
นวมํ.
๑๙๑๕. ทสเม นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพํ.
ทสมํ.
จตุตฺโถ วคฺโค.
๑๙๑๖. ‘‘อนาหเฏ’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ ‘‘มุขทฺวารํ อปฺปตฺเต’’ติ. ยถาห ‘‘อนาหเฏติ อนาหริเต, มุขทฺวารํ อสมฺปาปิเตติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๑๗). ‘‘มุขทฺวารํ วิวรนฺตสฺสา’’ติ เอตฺตเก วุตฺเต มุขทฺวาร-สทฺทสฺส สมฺพนฺธิสทฺทตฺตา กสฺสาติ อเปกฺขาย ‘‘มุขทฺวารํ วิวริสฺสามี’’ติ ¶ อตฺตโนปเทกวจเนน พฺยฺชิตเมวตฺถํ ปกาเสตุํ อตฺตโน-คหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. จ-สทฺโท เอวการตฺโถ, อปฺปตฺเต วาติ โยเชตพฺโพ, อสมฺปตฺเตเยวาติ อตฺโถ.
ปมํ.
๑๙๑๗. สกลํ ¶ หตฺถนฺติ เอตฺถ หตฺถ-สทฺโท ตเทกเทเสสุ องฺคุลีสุ ทฏฺพฺโพ. ‘‘หตฺถมุทฺทา’’ติอาทีสุ วิย สมุทาเย ปวตฺตโวหารสฺส อวยเวปิ ปวตฺตนโต เอกงฺคุลิมฺปิ มุเข ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ.
๑๙๑๘. อสฺสาติ ภิกฺขุโน. พฺยาหรนฺตสฺสาติ กเถนฺตสฺส.
ทุติยตติยานิ.
๑๙๒๐. ปิณฺฑุกฺเขปกนฺติ ปิณฺฑํ อุกฺขิปิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา. อิธาปิ ขชฺชกผลาผเลสุ อนาปตฺติ. กพฬจฺเฉทกมฺปิ วาติ กพฬํ ฉินฺทิตฺวา. อิธ ขชฺชกผลาผเลหิ สทฺธึ อุตฺตริภงฺเคปิ อนาปตฺติ. คณฺเฑ กตฺวาติ เอตฺถ ผลาผลมตฺเตเยว อนาปตฺติ.
จตุตฺถปฺจมฉฏฺานิ.
๑๙๒๑-๒. หตฺถํ นิทฺธุนิตฺวานาติ หตฺถํ นิทฺธุนิตฺวา ภตฺตํ ภฺุชโตติ จ สมฺพนฺโธ. สิตฺถาวการกนฺติ สิตฺถานิ อวกิริตฺวา อวกิริตฺวา. ชิวฺหานิจฺฉารกํ วาปีติ ชิวฺหํ นิจฺฉาเรตฺวา นิจฺฉาเรตฺวา. จปุ จปูติ วาติ ‘‘จปุ จปู’’ติ เอวํ สทฺทํ กตฺวา. สตฺตเมติ ‘‘น หตฺถนิทฺธุนก’’นฺติ สิกฺขาปเท. อฏฺเมติ ‘‘น สิตฺถาวการก’’นฺติ สิกฺขาปเท. กจวรุชฺฌเนติ กจวราปนยเน.
สตฺตมฏฺมนวมทสมานิ.
ปฺจโม วคฺโค.
๑๙๒๓. ‘‘สุรุ ¶ สุรู’’ติ เอวํ สทฺทํ กตฺวา น โภตฺตพฺพนฺติ โยชนา. หตฺถนิลฺเลหกํ วาปีติ หตฺถํ นิลฺเลหิตฺวา นิลฺเลหิตฺวา.
๑๙๒๔. ผาณิตํ ¶ , ฆนยาคุํ วา องฺคุลีหิ คเหตฺวา องฺคุลิโย มุเข ปเวเสตฺวาปิ ตํ โภตฺตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
๑๙๒๕. เอกาย องฺคุลิกายปิ ปตฺโต น เลหิตพฺโพว. ชิวฺหาย เอกโอฏฺโปิ น นิลฺเลหิตพฺพโกติ โยชนา. พหิ โอฏฺฺจ ชิวฺหาย น เลหิตพฺพํ. โอฏฺเ ลคฺคํ สิตฺถาทึ ยํ กิฺจิ อุโภหิ โอฏฺมํเสหิเยว คเหตฺวา อนฺโต กาตุํ วฏฺฏติ.
ปมทุติยตติยจตุตฺถานิ.
๑๙๒๖-๘. น จ คเหตพฺพํ, ปฏิกฺกูลวเสน ปฏิกฺขิตฺตนฺติ โยชนา. หิ-อิติ ‘‘ยสฺมา’’ติ เอตสฺส อตฺเถ, เตเนว วกฺขติ ‘‘ตสฺมา’’ติ. ‘‘ปานียถาลก’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ สงฺขาทีนมฺปิ ตถา นคเหตพฺพตฺตา. สราวํ วาติ ตฏฺฏกํ วา.
อนามิเสน หตฺเถนาติ อามิสรหิเตน หตฺเถกเทเสน. ยถาห ‘‘สเจ ปน หตฺถสฺส
เอกเทโส อามิสมกฺขิโต น โหติ, เตน ปเทเสน คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๓๑). อามิสมกฺขิเตเนว หตฺเถน ‘‘โธวิสฺสามี’’ติ วา ‘‘โธวาเปสฺสามี’’ติ วา คณฺหนฺตสฺส ปน อนาปตฺติ.
ปฺจมํ.
๑๙๒๙. อุทฺธริตฺวาติ สสิตฺถกา ปตฺตโธวนา สิตฺถกานิ อุทฺธริตฺวา ตํ ปตฺตโธวโนทกํ ฆรา พหิ อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. ภินฺทิตฺวาติ สสิตฺถเก ปตฺตโธวเน สิตฺถกานิ มทฺทิตฺวา อุทเกน สมฺภินฺทิตฺวา อุทกคติกาเนว กตฺวา ตํ อุทกํ ฆรา พหิ อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. คเหตฺวาติ สสิตฺถกํ ปตฺตโธวโนทกํ คเหตฺวา ปฏิคฺคเห ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. สสิตฺถกํ ปตฺตโธวโนทกํ ฆรา ¶ พหิ นีหริตฺวา อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อชฺฌาหารโยชนา ¶ เวทิตพฺพา. เอตฺถ ปฏิคฺคโห นาม เขฬมลฺลาทิโก อุจฺฉิฏฺหตฺถโธวนภาชนวิเสโส.
ฉฏฺํ.
๑๙๓๐. ฉตฺตํ ยํ กิฺจีติ ‘‘ฉตฺตํ นาม ตีณิ ฉตฺตานิ เสตจฺฉตฺตํ กิลฺชจฺฉตฺตํ ปณฺณจฺฉตฺตํ มณฺฑลพทฺธํ สลากพทฺธ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๓๔) วุตฺเตสุ ตีสุ ฉตฺเตสุ อฺตรํ. เอตฺถ จ เสตจฺฉตฺตนฺติ วตฺถปลิคุณฺิตํ ปณฺฑรจฺฉตฺตํ. กิลฺชจฺฉตฺตนฺติ วิลีวจฺฉตฺตํ. ปณฺณจฺฉตฺตนฺติ ตาลปณฺณาทีหิ เยหิ เกหิจิ กตํ. ‘‘มณฺฑลพทฺธํ สลากพทฺธ’’นฺติ อิทํ ปน ติณฺณมฺปิ ฉตฺตานํ ปฺชรทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตานิ หิ มณฺฑลพทฺธานิ เจว โหนฺติ สลากพทฺธานิ จ. ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ อนวเสสปริคฺคหวจเนน ‘‘ยมฺปิ จ ตตฺถชาตทณฺเฑน กตํ เอกปณฺณจฺฉตฺตํ โหติ, ตมฺปิ ฉตฺตเมวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๓๔) อฏฺกถาย วุตฺตํ ฉตฺตวิเสสํ คณฺหาติ. หตฺเถนาติ เอตฺถ ‘‘อมฺุจิตฺวา’’ติ เสโส. สรีราวยเวนาติ เอตฺถ ‘‘คเหตฺวา’’ติ เสโส. วา-สทฺโท อปิ-สทฺทตฺโถ. อํสกูฏาทิสรีราวยเวน คเหตฺวาปิ หตฺเถน อมฺุจิตฺวา ธาเรนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
สเจ ปนสฺส อฺโ ฉตฺตํ ธาเรติ, ฉตฺตปาทุกาย วา ิตํ โหติ, ปสฺเส วา ิตํ โหติ,
หตฺถโต อปคตมตฺเต ฉตฺตปาณิ นาม น โหติ, ตสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏติ. ‘‘น ฉตฺตปาณิสฺส อคิลานสฺสา’’ติ วจนโต, อิธ ‘‘สพฺพตฺถ อคิลานสฺสา’’ติ วกฺขมานตฺตา จ เอตฺถ ‘‘อคิลานสฺสา’’ติ ลพฺภติ. ธมฺมปริจฺเฉโท เจตฺถ ปทโสธมฺเม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เอวมุปริปิ.
สตฺตมํ.
๑๙๓๑. ทณฺฑปาณิมฺหีติ ¶ เอตฺถ ทณฺโฑ ปาณิมฺหิ อสฺสาติ วิคฺคโห. กิตฺตกปฺปมาโณ ทณฺโฑติ อาห ‘‘จตุหตฺถปฺปมาโณ’’ติอาทิ. มชฺฌิมหตฺถโตติ ปมาณมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส หตฺถโต, โย ‘‘วฑฺฒกิหตฺโถ’’ติ วุจฺจติ.
อฏฺมํ.
๑๙๓๒. สตฺถปาณิสฺสาติ ¶ เอตฺถาปิ วิคฺคโห วุตฺตนโยว. วกฺขมานํ สกลํ ธนุวิกตึ, สรวิกติฺจ เปตฺวา อวเสสํ ขคฺคาทิ สตฺถํ นาม. ขคฺคํ สนฺนหิตฺวา ิโตปิ สตฺถปาณิ นุ โขติ อาสงฺกาย นิวตฺตนตฺถมาห ‘‘สตฺถปาณี’’ติอาทิ. ‘‘น โหติ อสิ’’นฺติ ปทจฺเฉโท.
นวมํ.
๑๙๓๓-๕. สเรน สทฺธึ ธนุํ วา สุทฺธธนุํ วา สุทฺธสรํ วา สชิยํ ธนุทณฺฑํ วา นิชิยํ ธนุทณฺฑํ วา คเหตฺวา ิตสฺสาปิ วา นิสินฺนสฺสาปิ วา นิปนฺนสฺสาปิ วา สเจ โย ตถา ปทโสธมฺเม วุตฺตลกฺขณํ สทฺธมฺมํ เทเสติ, ตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. สเจ ปนสฺส ธนุ ขนฺเธ ปฏิมุกฺกํ โหติ, ยาว น คณฺหาติ, ตาว วฏฺฏติ. ชิยาย สห วตฺตตีติ สชิยํ.
ทสมํ.
ฉฏฺโ วคฺโค.
๑๙๓๖. ปาทุการุฬฺหกสฺสาติ ปาทุกํ อารุฬฺโห ปาทุการุฬฺโห, โสเยว ปาทุการุฬฺหโก, ตสฺส. กถํ อารุฬฺหสฺสาติ อาห ‘‘อกฺกมิตฺวา’’ติอาทิ. อกฺกมิตฺวา ิตสฺสาติ ¶ ฉตฺตทณฺฑเก องฺคุลนฺตรํ อปฺปเวเสตฺวา เกวลํ ปาทุกํ อกฺกมิตฺวา ิตสฺส. ปฏิมุกฺกสฺส วาติ ปฏิมฺุจิตฺวา ิตสฺส. เอตํ ทฺวยมฺปิ ‘‘ปาทุการุฬฺหกสฺสา’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ยถาห ‘‘น ปาทุการุฬฺหสฺส อคิลานสฺส ธมฺโม เทเสตพฺโพ. โย อนาทริยํ ปฏิจฺจ อกฺกนฺตสฺส วา ปฏิมุกฺกสฺส วา โอมุกฺกสฺส วา อคิลานสฺส ธมฺมํ เทเสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๓๘).
ปมํ.
๑๙๓๗-๔๐. อุปาหนคตสฺสาปีติ อกฺกนฺตาทิอากาเรน อุปาหนารุฬฺหสฺส จ. ยถาห ‘‘อกฺกนฺตสฺส วา ปฏิมุกฺกสฺส วา’’ติ. สพฺพตฺถาติ ฉตฺตปาณิอาทีสุ สพฺพสิกฺขาปเทสุ. อคิลานสฺสาติ อิทํ โยเชตพฺพนฺติ เสโส. ยาเน วา คตสฺส อคิลานสฺส ธมฺมํ เทเสติ, ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ตตฺถ ยาเน วา คตสฺสาติ สเจ ทฺวีหิ ชเนหิ หตฺถสงฺฆาเตน คหิโต, สาฏเก ¶ วา เปตฺวา วํเสน วยฺหติ, อยุตฺเต วา วยฺหาทิเก ยาเน, วิสงฺขริตฺวา วา ปิเต จกฺกมตฺเตปิ นิสินฺโน โหติ, ยานคโตตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.
สยเนปิ วา อนฺตมโส กฏสารเก วา ฉมาย วา นิปนฺนสฺสาปิ อคิลานสฺสาติ โยชนา. ยถาห ‘‘สยนคตสฺสาติ อนฺตมโส กฏสารเกปิ ปกติภูมิยมฺปิ นิปนฺนสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๔๑). อุจฺเจ ปีเ วา อุจฺเจ มฺเจปิ วา นิสินฺเนน, ิเตน วา นิปนฺนสฺส เทเสตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘ตฺวา’’ติ อิมินา ‘‘นิสีทิตฺวา’’ติ อิทฺจ สงฺคหิตเมว. สยเนสุ คตสฺส จ เทเสนฺเตน สยเนสุ คเตนาปิ สมาเน วาปิ อุจฺเจ วา นิปนฺเนเนว วฏฺฏตีติ โยชนา.
๑๙๔๑. ‘‘ตเถว ¶ จา’’ติ อิมินา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ อิทํ คหิตํ.
ทุติยตติยจตุตฺถานิ.
๑๙๔๒. ‘‘ปลฺลตฺถิกาย นิสินฺนสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ยการสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘ปลฺลตฺถิกา นิสินฺนสฺสา’’ติ วุตฺตํ, อาโยคปลฺลตฺถิกาย วา หตฺถปลฺลตฺถิกาย วา ทุสฺสปลฺลตฺถิกาย วา ยาย กายจิ ปลฺลตฺถิกาย นิสินฺนสฺสาติ อตฺโถ. เวิตสีสสฺสาติ ทุสฺสเวเนน วา โมลิอาทีหิ วา ยถา เกสนฺโต น ทิสฺสติ, เอวํ เวิตสีสสฺส.
๑๙๔๓. ยทิ เกสนฺตํ วิวราเปตฺวา เทเสติ, วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘อยเมว วินิจฺฉโย’’ติ อิมินา ‘‘สีสํ วิวราเปตฺวา เทเสติ, วฏฺฏตี’’ติ อนาปตฺติวาโรปิ วุตฺโต โหติ.
ปฺจมฉฏฺสตฺตมานิ.
๑๙๔๔-๕. อฏฺเม ‘‘อาสเน นิสินฺนสฺสาติ อนฺตมโส วตฺถมฺปิ ติณานิปิ สนฺถริตฺวา นิสินฺนสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๔๕) อิทฺจ นวเม ‘‘อุจฺเจ อาสเนติ อนฺตมโส ภูมิปฺปเทเสปิ อุนฺนเต าเน นิสินฺนสฺส เทเสตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๔๗) อิทฺจ ทสเม ‘‘สเจปี’’ติอาทินา วกฺขมานวินิจฺฉยฺจ เปตฺวา วตฺตพฺพวิเสสาภาวา อาห ‘‘อฏฺเม นวเม ¶ วาปิ, ทสเม นตฺถิ กิฺจิปี’’ติ. เอตฺถ ‘‘วตฺตพฺพ’’นฺติ เสโส. เถรุปฏฺานํ คนฺตฺวาน ิตํ ทหรํ อาสเน นิสินฺโน เถโร เจ ปฺหํ ปุจฺฉตีติ อชฺฌาหารโยชนา. กเถตพฺพมุปายํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตสฺส ปสฺเส ปนฺสฺส, กเถตพฺพํ วิชานตา’’ติ. เอตฺถ ‘‘ิตสฺสา’’ติ เสโส ¶ . ตสฺส สมีปวตฺติโน กสฺสจิ อภาเว สชฺฌายํ อธิฏฺหิตฺวาปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
อฏฺมนวมทสมานิ.
สตฺตโม วคฺโค.
๑๙๔๖. คจฺฉโต ปุรโตติ เอตฺถ ‘‘ปจฺฉโต คจฺฉนฺเตนา’’ติ เสโส. ปจฺฉโต คจฺฉนฺเตน ปุรโต คจฺฉโต ปฺหํ น วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. สเจ ปุรโต คจฺฉนฺโต ปฺหํ ปุจฺฉติ, กึ กาตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปจฺฉิมสฺสา’’ติอาทิ.
๑๙๔๗. อุคฺคหิตํ ธมฺมํ ปุรโต คจฺฉนฺเตน สทฺธึ ปจฺฉโต คจฺฉนฺโต สชฺฌายติ, วฏฺฏตีติ โยชนา. สมเมว คจฺฉโต ยุคคฺคาหํ กเถตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ยุคคฺคาหนฺติ อฺมฺํ. อฺมฺ-สทฺทปริยาโย หิ ยุคคฺคาห-สทฺโท.
ปมํ.
๑๙๔๘. สกฏมคฺเค เอเกกสฺส จกฺกสฺส ปเถน คจฺฉนฺโต เอเกกสฺส จกฺกสฺส ปเถน สมํ คจฺฉโต ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏติ. อุปฺปเถนาปิ คจฺฉนฺโต อุปฺปเถน สมํ คจฺฉนฺตสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏตีติ อชฺฌาหารโยชนา. อุปฺปเถนาติ อมคฺเคน. เอวํ อนาปตฺติวิสเย ทสฺสิเต ตพฺพิปริยายโต อาปตฺติวิสโย ทสฺสิโตเยวาติ เวทิตพฺโพ.
ทุติยํ.
๑๙๔๙. ตติเย นตฺถิ วตฺตพฺพนฺติ ‘‘น ิโต อคิลาโน อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กริสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๖๕๑) เอตสฺส วินิจฺฉโย ยถารุตวเสน ¶ สุวิฺเยฺโยติ กตฺวา วุตฺตํ. สเจ ปฏิจฺฉนฺนํ านํ คจฺฉนฺตสฺส สหสา อุจฺจาโร วา ปสฺสาโว วา นิกฺขมติ, อสฺจิจฺจ ¶ กโต นาม, อนาปตฺติ. อยเมตฺถ วิเสโส ทฏฺพฺโพ. สิงฺฆาณิกาย เขเฬเนว สงฺคหิตตฺเตปิ พาตฺตึสโกฏฺาเสสุ วิสุํเยว ทสฺสิโต เอโก โกฏฺาโสติ สิกฺขาปเทสุ อวุตฺตมฺปิ สงฺคเหตฺวา อาห ‘‘อุจฺจาราทิจตุกฺก’’นฺติ.
๑๙๕๐. เอตฺถ หริตํ นาม อิทนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ชีวรุกฺขสฺสา’’ติอาทิ. รุกฺขสฺสาติ อุปลกฺขณํ ชีวมานกติณลตาทีนมฺปิ หริเตเยว สงฺคหิตตฺตา. ‘‘ทิสฺสมานํ คจฺฉตี’’ติ วจเนเนว อทิสฺสมานคตํ อหริตนฺติ พฺยติเรกโต วิฺายติ. สาขา วา ภูมิลคฺคา ทิสฺสมานา คจฺฉติ, ตํ สพฺพํ หริตเมวาติ โยชนา.
๑๙๕๑. สหสา วจฺจํ นิกฺขมเตวาติ สมฺพนฺโธ. อสฺส ภิกฺขุโน. วจฺจนฺติ อุปลกฺขณํ ปสฺสาวาทีนมฺปิ ทสฺสิตตฺตา. วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘คิลานฏฺาเน ิตตฺตา’’ติ เสโส.
๑๙๕๒. ปลาลณฺฑุปเก วาปีติ ปลาลจุมฺพฏเกปิ. เอตฺถ ‘‘อปฺปหริตํ อลภนฺเตนา’’ติ เสโส. กิสฺมิฺจีติ สุกฺขติณาทิมฺหิ กิสฺมิฺจิ. ตํ วจฺจํ ปจฺฉา หริตํ โอตฺถรติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.
๑๙๕๓. เอตีติ ปวิสติ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ‘‘เขเฬน เอว จา’’ติ ปทจฺเฉโท.
ตติยจตุตฺถานิ.
๑๙๕๔. วจฺจกุฏิสมุทฺทาทิอุทเกสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สพฺพํ อปริโภคชลํ สงฺคณฺหาติ. เตเนว ‘‘เตสํ อปริโภคตฺตา’’ติ อปริโภคตฺตเมว การณมาห.
๑๙๕๕. อุทโกเฆติ ¶ เอตฺถ ‘‘ชาเต’’ติ เสโส. อชลนฺติ อชลฏฺานํ. ชเลติ ปริโภคารหชเล. อิธาปิ ถลกโต อุทกํ โอตฺถรติ, อนาปตฺติ.
ปฺจมํ.
อฏฺโม วคฺโค.
๑๙๕๖-๗. ปกิณฺณกวินิจฺฉยํ ¶ ทสฺเสตุมาห ‘‘สมุฏฺานาทโย’’ติอาทิ. เยฺยาติ วกฺขมานนเยน เวทิตพฺพา. เอตฺถาติ เอเตสุ เสขิเยสุ. อุชฺชคฺฆิกา อาทิ เยสนฺติ วิคฺคโห, ตคฺคุณสํวิฺาโณยํ พาหิรตฺถสมาโส, อุชฺชคฺฆิกาอปฺปสทฺทปฏิสํยุตฺตานิ จตฺตาริ สิกฺขาปทานีติ อตฺโถ. ฉมา จ นีจาสนฺจ านฺจ ปจฺฉา จ อุปฺปโถ จ ฉมานีจาสนฏฺานปจฺฉาอุปฺปถา, เต สทฺทา เอเตสํ สิกฺขาปทานํ อตฺถีติ ตปฺปฏิสํยุตฺตานิ สิกฺขาปทานิ ฉมา…เป… อุปฺปถวา, ฉมาทิปทวนฺตานิ ปฺจ สิกฺขาปทานีติ อตฺโถ. เอตฺถ าน-สทฺเทน า-ธาตุสฺเสว รูปตฺตา สิกฺขาปทาคโต ิต-สทฺโท คหิโต. ‘‘ทสสู’’ติ วตฺตพฺเพ วณฺณโลเปน, วิภตฺติวิปลฺลาเสน วา ‘‘ทสา’’ติ วุตฺตํ. สมนุภาสเน สมุฏฺานาทีหิ เอเตสุ ทสสุ สิกฺขาปเทสุ สมุฏฺานาทโย ตุลฺยา วุตฺตาติ โยชนา.
กึ วุตฺตํ โหติ? อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ สมนุภาสนสมุฏฺานานิ, เอเกกเมตฺถ กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๑๙๕๘-๙. ‘‘ฉตฺต’’นฺติอาทีนิ สิกฺขาปทานํ อุปลกฺขณปทานิ. เอตานิ เอกาทส สิกฺขาปทานิ สมุฏฺานาทินา ปน ธมฺมเทสเนน ตุลฺยาว สทิสา เอวาติ โยชนา. อิทํ วุตฺตํ ¶ โหติ – อิมานิ เอกาทส สิกฺขาปทานิ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานานิ, กิริยากิริยานิ, สฺาวิโมกฺขานิ, สจิตฺตกานิ, โลกวชฺชานิ, วจีกมฺมานิ, อกุสลจิตฺตานิ, ทุกฺขเวทนานีติ.
สูโปทเนน วิฺตฺตีติ สูโปทน-สทฺเทน ลกฺขิตํ วิฺตฺติสิกฺขาปทํ. วิฺตฺติสิกฺขาปทานํ พหุตฺตา อิทเมว วิเสสิตํ. เถยฺยสตฺถสมํ มตนฺติ สมุฏฺานาทีหิ เถยฺยสตฺถสิกฺขาปเทน สมานํ มตนฺติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปทํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
๑๙๖๐. อวเสสา ติปฺาสาติ อวเสสานิ เตปฺาสสิกฺขาปทานิ. สมานา ปเมน ตูติ ปเมน ปาราชิเกน สมุฏฺานาทิโต สมานานีติ อตฺโถ, ปมปาราชิกสทิสสมุฏฺานานีติ ¶ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อนาปตฺติ อาปทาสู’’ติ ปทจฺเฉโท. ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา, ปารุปิตฺวา จรนฺตานํ โจรุปทฺทวาทิ อาปทา นาม. อปิ-สทฺเทน นทิสนฺตรณาทึ สงฺคณฺหาติ. เสขิเยสุ สพฺเพสูติ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ.
๑๙๖๑. ‘‘น อุชฺฌานสฺี ปเรสํ ปตฺตํ โอโลเกสฺสามี’’ติอาทีนํ (ปาจิ. ๖๑๔) อิมสฺส อนาปตฺติวารสฺส อสมฺภวโต น ปนาคโตติ ปาฬิยํ น วุตฺโต. ตสฺสาปิ ยถาวตฺถุกาว อาปตฺติโย ทฏฺพฺพา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
เสขิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๙๖๒. โย ¶ อิมํ วินิจฺฉยํ วิทิตฺวา ิโต, โส หิ ยสฺมา วินเย วิสารโท โหติ, วินีตมานโส จ โหติ, ปเรหิ ทุปฺปธํสิโย จ โหติ, ตโต ตสฺมา การณา สมาหิโต สตตํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ สิกฺเขยฺยาติ โยชนา.
ตตฺถ อิมํ วินิจฺฉยํ วิทิตฺวาติ สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺตินิทานํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ อตฺถโต, คนฺถโต, วินิจฺฉยโต จ สกฺกจฺจํ ตฺวา. วิสารโทติ สารชฺชนํ สารโท, วิคโต สารโท อสฺสาติ วิสารโท, วินยปริยตฺติยา, อาปตฺตาทิวิภาเค จ นิพฺภโย นิราสงฺโกติ วุตฺตํ โหติ. น เกวลํ อิมสฺส ชานเน เอโสว อานิสํโส, อถ โข วินีตมานโส จ โหติ, สํยตจิตฺโต โหตีติ อตฺโถ. โสติ อิมํ วินิจฺฉยํ สกฺกจฺจํ วิทิตฺวา ิโต ภิกฺขุ. ปเรหีติ อิมํ อชานนฺเตหิ อฺเหิ. ทุปฺปธํสิโย จ โหตีติ อนภิภวนีโย จ โหติ.
ตโตติ ตสฺมา วินเย วิสารทตาทิสพฺพคุณสมฺปนฺนเหตุตฺตา. หีติ ยสฺมาติ อตฺโถ. สิกฺเขติ สชฺฌายนสวนาทิวเสน สิกฺเขยฺย, อุคฺคณฺเหยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘สตต’’นฺติ อิมินา สพฺพตฺถกกมฺมฏฺาเน วิย เอตฺถาปิ สตตาภิโยโค กาตพฺโพติ ทสฺเสติ. วิกฺขิตฺตสฺส ยถาภูตปฏิเวธาภาวโต ตปฺปฏิปกฺขาย เอกคฺคตาย นิโยเชนฺโต อาห ‘‘สมาหิโต’’ติ, สมฺมา วินยวินิจฺฉเย ¶ อาหิโต ปติฏฺิโต เอกคฺคจิตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘อวิกฺขิตฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม วิกฺขิตฺตสฺสา’’ติ.
๑๙๖๓. เอวํ อิมาย คาถาย วุตฺตเมวตฺถํ ปการนฺตเรนาปิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ. เตติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘เย’’ติ ¶ ลพฺภติ. เย เถรา วา นวา วา มชฺฌิมา วา. ปรมนฺติ อมตมหานิพฺพานปฺปตฺติยา มูลการณสฺส สีลสฺส ปกาสนโต อุตฺตมํ. อสํกรนฺติ นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ. สํกรนฺติ วุตฺตปฺปการคุโณเปตตฺตา กายจิตฺตสุขการณํ สมฺมุขํ กโรตีติ สํกรํ. สวนามตนฺติ สทฺทรสาทิโยเคน กณฺณรสายนํ. อมตนฺติ ตโตเยว อมตํ สุมธุรํ. อมตมหานิพฺพานาวหตฺตา วา ผลูปจาเรน อมตํ. อิมํ วินยวินิจฺฉยํ. อเวจฺจาติ สกฺกจฺจํ วิทิตฺวา. อธิเกติ อธิสีลาทิสิกฺขตฺตยปฺปกาสเนน อุกฺกฏฺเ. หิเตติ โลกิยโลกุตฺตรสุขเหตุตฺเตน หิเต. หิโนติ อตฺตโน ผลนฺติ ‘‘หิต’’นฺติ สุขเหตุ วุจฺจติ. กลิสาสเนติ โลภาทิกิเลสวิทฺธํสเน. สาสเนติ วินยปริยตฺติสงฺขาตสาสเนกเทเส. ปฏุตฺตนฺติ พฺยตฺตภาวํ. น ยนฺติ น คจฺฉนฺติ. เก เตติ กตเม เต. ‘‘น เกจิ สนฺติ จา’’ติ นิสฺสนฺเทเห อิมิสฺสา คาถาย อตฺโถ ลิขิโต.
เอวํ เอตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา – ปรมํ อุตฺตมํ อสํกรํ นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ สํกรํ สกลโลกิยโลกุตฺตรสุขาภินิปฺผาทกํ สวนามตํ โสตรสายนํ อิมํ วินิจฺฉยปฺปกรณํ อเวจฺจ สกฺกจฺจํ วิทิตฺวา อธิเก อธิสีลาทิสิกฺขตฺตยปฺปกาสเนน อุกฺกฏฺเ หิเต โลกิยโลกุตฺตรสุขเหตุภูเต กลิสาสเน สกลสํกิเลสวิทฺธํสเก สาสเน วินยปิฏกสงฺขาเต ปริยตฺติสาสเน เย ปฏุตฺตํ น ยนฺติ, เต เก นามาติ โยชนา, เย อิมํ ปกรณํ อเวจฺจ วิทิตฺวา ิตา, เต เอกํสโต วินยปิฏเก ปฏุตฺตํ ปาปุณนฺติ เยวาติ อธิปฺปาโย.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ภิกฺขุวิภงฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภิกฺขุนิวิภงฺโค
๑๙๖๔. เอวํ ¶ ภิกฺขุวิภงฺคปาฬิยา, อฏฺกถาย จ อาคตํ วินิจฺฉยสารํ นาติสงฺเขปวิตฺถารนเยน ¶ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตราย ภิกฺขุนิวิภงฺคปาฬิยา, ตทฏฺกถาย จ อาคตวินิจฺฉยสารํ ทสฺเสตุมารภนฺโต อาห ‘‘ภิกฺขุนีน’’นฺติอาทิ. ตสฺมึ อปีติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท วุตฺตาเปกฺขายํ. ‘‘สมาเสนา’’ติ อิทํ คนฺถวเสน สงฺขิปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘กิฺจิมตฺต’’นฺติ อิทํ อตฺถวเสนาติ เวทิตพฺพํ.
ปาราชิกกถาวณฺณนา
๑๙๖๕. ฉนฺทโสติ เมถุนเสวนราคปฏิสํยุตฺเตน ฉนฺเทน. เอเตน ‘‘ฉนฺเท ปน อสติ พลกฺกาเรน ปธํสิตาย อนาปตฺตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. เมถุนธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา) อฏฺกถา สูจิตา โหติ. สา สมณี ปาราชิกา นาม โหตีติ ปวุจฺจตีติ โยชนา.
๑๙๖๖-๗. ‘‘สชีวสฺส อปิ อชีวสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘สนฺถตํ วา อสนฺถต’’นฺติ อิทํ ‘‘องฺคชาต’’นฺติ อิมสฺส วิเสสนํ. อตฺตโน ติวิเธ มคฺเคติ อตฺตโน วจฺจปสฺสาวมุขมคฺคานํ อฺตรสฺมึ มคฺเค. เอตฺถ ‘‘สนฺถเต วา อสนฺถเต วา’’ติ เสโส, ‘‘อลฺโลกาเส’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘เยภุยฺยอกฺขายิตาทิก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. อาทิ-สทฺเทน อกฺขายิตํ สงฺคณฺหาติ.
มนุสฺสปุริสาทีนํ นวนฺนํ สชีวสฺสปิ อชีวสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ สนฺถตํ วา อสนฺถตํ วา เยภุยฺยกฺขายิตาทิกํ องฺคชาตํ อตฺตโน สนฺถเต วา อสนฺถเต วา ติวิเธ มคฺเค อลฺโลกาเส ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺตี ปราชิตาติ โยชนา.
๑๙๖๘. สาธารณวินิจฺฉยนฺติ ¶ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ สาธารณสิกฺขาปทวินิจฺฉยํ.
๑๙๖๙-๗๐. อธกฺขกนฺติ เอตฺถ อกฺขกานํ อโธติ วิคฺคโห. อุพฺภชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลานํ อุพฺภนฺติ วิคฺคโห. อุพฺภ-สทฺโท อุทฺธํ-สทฺทปริยาโย. อิธ ‘‘อตฺตโน’’ติ เสโส. อวสฺสุตสฺสาติ กายสํสคฺคราเคน ตินฺตสฺส. อวสฺสุตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ยาติ วุตฺตตฺตา ‘‘สา’’ติ ลพฺภติ. สรีรนฺติ เอตฺถ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ เสโส. ปโรปกฺกมมูลกํ ปาราชิกํ ทสฺเสตุมาห ¶ ‘‘เตน วา ผุฏฺา’’ติ. เอตฺถ ‘‘ยถาปริจฺฉินฺเน กาเย’’ติ จ ‘‘สาทิเยยฺยา’’ติ จ วตฺตพฺพํ.
ยา ปน ภิกฺขุนี อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส มนุสฺสปุคฺคลสฺส ยํ กิฺจิ สรีรํ อตฺตโน อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ ยํ สรีรกํ, เตน สรีรเกน ฉุเปยฺย, เตน มนุสฺสปุริเสน ยถาปริจฺฉินฺเน กาเย ผุฏฺา สาทิเยยฺย วา, สา ปาราชิกา สิยาติ โยชนา.
๑๙๗๑-๒. ‘‘คหิตํ อุพฺภชาณุนา’’ติ อิมินา กปฺปรโต อุทฺธํ ปาราชิกกฺเขตฺตเมวาติ ทีเปติ. อตฺตโน ยถาวุตฺตปฺปกาเรน กาเยนาติ โยชนา, อตฺตโน ‘‘อธกฺขก’’นฺติอาทิวุตฺตปฺปกาเรน กาเยนาติ อตฺโถ. ตถา อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส ปุริสสฺส กายปฏิพทฺธํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ โหติ. อตฺตโน ยถาปริจฺฉินฺนกายปฏิพทฺเธน ตถา อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส ปุริสสฺส กายํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ โหติ.
๑๙๗๓. อตฺตโน อวเสเสน กาเยน อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส กายํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ ¶ โหติ. เอวํ อตฺตโน ปโยเค จ ปุริสสฺส ปโยเค จ ตสฺสา ภิกฺขุนิยาเยว ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา.
๑๙๗๔. ยกฺขเปตติรจฺฉานปณฺฑกานํ กายํ ‘‘อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑล’’นฺติ ยถาปริจฺฉินฺนํ ตเถว อตฺตโน กาเยน อุภโตอวสฺสเว สติ ผุสนฺติยา อสฺสา ภิกฺขุนิยา ถุลฺลจฺจยํ, ตเถว ยกฺขาทีนํ ปโยเคปิ ตสฺสาเยว ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา.
๑๙๗๕. เอกโตวสฺสเว จาปีติ ภิกฺขุนิยา วเสน เอกโตอวสฺสเว จาปิ. ถุลฺลจฺจยมุทีริตนฺติ ปาราชิกกฺเขตฺตภูเตน อตฺตโน กาเยน มนุสฺสปุริสสฺส กายํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖๒) วุตฺตนฺติ อตฺโถ. อวเสเส จ สพฺพตฺถาติ ยถาวุตฺตปาราชิกกฺเขตฺตโต อวเสเส ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต สพฺพตฺถ เอกโตอวสฺสเว สติ ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. กายปฏิพทฺเธน กายปฏิพทฺธามสนาทีสุ สพฺพตฺถ อุภโตอวสฺสเว วา เอกโตอวสฺสเว วา ทุกฺกฏเมว โหติ.
๑๙๗๖. ‘‘อุพฺภกฺขกมโธชาณุมณฺฑล’’นฺติ ¶ ยํ อปาราชิกกฺเขตฺตํ อิธ ทสฺสิตํ, เอตฺถ เอกโตอวสฺสเว ทุกฺกฏํ โหติ. กปฺปรสฺส จ เหฏฺาปิ เอตฺเถว อโธชาณุมณฺฑเล สงฺคหํ คตนฺติ โยชนา.
๑๙๗๗-๙. ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สเจ กายสํสคฺคํ เกลายติ เสวตีติ โยชนา. ภิกฺขุนิยา นาโส สิยาติ สีลวินาโส ปาราชิกาปตฺติ สิยาติ อตฺโถ. เคหเปมนฺติ เอตฺถ ‘‘เคหสิตเปม’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน สิต-สทฺทโลโป, อตฺโถ ปนสฺส ภิกฺขุวิภงฺเค วุตฺตนโยว.
๑๙๘๐. อวิเสเสนาติ ¶ ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ วา วิเสสํ อกตฺวา.
๑๙๘๑. ยสฺสาติ ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา. ยตฺถาติ ภิกฺขุนิยํ วา ภิกฺขุสฺมึ วา. มโนสุทฺธนฺติ กายสํสคฺคาทิราครหิตํ. ตสฺส ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ตตฺถ ภิกฺขุนิยํ วา ภิกฺขุสฺมึ วา วิสเย นโทสตา อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
๑๙๘๒. ภินฺทิตฺวาติ สีลเภทํ กตฺวา. ภิกฺขุนิยา อปกตตฺตา อาห ‘‘เนว โหติ ภิกฺขุนิทูสโก’’ติ.
๑๙๘๓. อถาติ วากฺยารมฺเภ. น โหตาปตฺติ ภิกฺขุโนติ เอตฺถ ภิกฺขุนีหิ กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสมาห.
๑๙๘๔. ‘‘เขตฺเต’’ติ วกฺขมานํ ‘‘ผุฏฺา’’ติ อิมินา โยเชตฺวา ‘‘ปาราชิก’’นฺติอาทีหิ, ‘‘ถุลฺลจฺจยํ เขตฺเต’’ติอาทีหิ จ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘ปาราชิก’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ผุฏฺาติ เอตฺถ ‘‘ปาราชิกกฺเขตฺเต’’ติ เสโส.
๑๙๘๕. ตถาติ นิจฺจลาปิ สาทิยติ. เขตฺเตติ ถุลฺลจฺจยาทีนํ เขตฺเต. กาเยน นิจฺจลายปิ จิตฺเตน สาทิยนฺติยา อาปตฺติ กสฺมา วุตฺตาติ อาห ‘‘วุตฺตตฺตา…เป… สตฺถุนา’’ติ ¶ , ภิกฺขุปาติโมกฺเข วิย ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ อวตฺวา อิธ ‘‘กายสํสคฺคํ สาทิเยยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย.
๑๙๘๖. ตสฺสา อาปตฺติยา. กฺริยสมุฏฺานนฺติ กิริยาย สมุฏฺานํ. เอวํ สตีติ สาทิยนมตฺเตเนว อาปชฺชิตพฺพภาเว สติ. อิทนฺติ ‘‘กิริยสมุฏฺาน’’มิติวิธานํ. ตพฺพหุเลเนว นเยนาติ ¶ กิริยสมุฏฺานพาหุลฺเลน นเยน ขทิรวนาทิโวหาโร วิยาติ ทฏฺพฺพํ.
๑๙๘๗. ตสฺสา ภิกฺขุนิยา อสฺจิจฺจ วิรชฺฌิตฺวา อามสนฺติยา อนาปตฺติ, ‘‘อยํ ปุริโส’’ติ วา ‘‘อิตฺถี’’ติ วา อชานิตฺวา อามสนฺติยา อนาปตฺติ, ปุริสสฺส อามสเน สติ ผสฺสํ อสาทิยนฺติยา วา อนาปตฺตีติ โยชนา.
๑๙๘๘. ขิตฺตจิตฺตายาติ ยกฺขุมฺมตฺตาย. อุมฺมตฺติกาย วาติ ปิตฺตโกเปน อุมฺมาทปฺปตฺตาย. อิทฺจ ‘‘อสุจี’’ติ วา ‘‘จนฺทน’’นฺติ วา วิเสสตํ อชานนเมว ปมาณํ.
อุพฺภชาณุมณฺฑลกถาวณฺณนา.
๑๙๘๙-๙๐. ‘‘ปาราชิกตฺตํ ชานนฺตี’’ติ อิมินา อวเสสาปตฺตึ ชานิตฺวา ฉาเทนฺติยา ปาราชิกาภาวํ ทีเปติ. สลิงฺเค ตุ ิตายาติ ปพฺพชฺชาลิงฺเคเยว ิตาย. อิติ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺตสฺมินฺติ โยชนา. อิติ-สทฺโท นิทสฺสเน. อิตราย ปุพฺเพเยว อาปนฺนตฺตา ตมเปกฺขิตฺวา ‘‘สา จา’’ติ อาห.
๑๙๙๑. วุตฺตาวิสิฏฺํ สพฺพํ วินิจฺฉยํ สงฺคเหตุมาห ‘‘เสส’’นฺติอาทิ. ตตฺถาติ ทุฏฺุลฺลปฏิจฺฉาทเน.
วชฺชปฏิจฺฉาทิกถาวณฺณนา.
๑๙๙๒-๕. สงฺเฆนาติ สมคฺเคน สงฺเฆน. อุกฺขิตฺตโกติ อาปตฺติยา อทสฺสนาทีสุ อุกฺขิตฺตโก. ‘‘อุกฺเขปเน ิโต’’ติ อิมินา อุกฺเขปนียกมฺมกตสฺส อโนสาริตภาวํ ทีเปติ. ยา ¶ ทิฏฺิ เอตสฺสาติ ยํทิฏฺิโก, โส อุกฺขิตฺตโก ภิกฺขุ ยาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต โหตีติ อธิปฺปาโย ¶ . ‘‘ตสฺสา ทิฏฺิยา คหเณนา’’ติ อิมินา อนุวตฺตปฺปกาโร ทสฺสิโต. ตํ อุกฺขิตฺตกํ ภิกฺขุนฺติ โยชนา. สา ภิกฺขุนี อฺาหิ ภิกฺขุนีหิ วิสุมฺปิจ สงฺฆมชฺเฌปิ ‘‘เอโส โข อยฺเย ภิกฺขุ สมคฺเคน สงฺเฆน อุกฺขิตฺโต’’ติอาทินา (ปาจิ. ๖๖๙) นเยน ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมานาติ โยชนา. ตํ วตฺถุํ อจชนฺตี คเหตฺวา ยทิ ตเถว ติฏฺตีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺพา’’ติ เสโส. ตสฺส กมฺมสฺส โอสาเนติ ตติยาย กมฺมวาจาย ยฺยการปฺปตฺตวเสน อสฺส สมนุภาสนกมฺมสฺส ปริโยสาเน. อสากิยธีตราติ อสากิยธีตา, ปจฺจตฺเต กรณวจนํ. ‘‘ปุน อปฺปฏิสนฺเธยา’’ติ อิมินา ปุน เตเนว จ อตฺตภาเวน ภิกฺขุนิภาเว ปฏิสนฺธาตุํ อนรหตา วุตฺตา.
๑๙๙๖. ติกทุกฺกฏํ นิทฺทิฏฺนฺติ อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา, เวมติกา, ธมฺมกมฺมสฺาติ เอตาสํ วเสน ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ. สมนุภาสเน วุตฺตา สมุฏฺานาทโย สพฺเพ อิธ วตฺตพฺพาติ โยชนา.
อุกฺขิตฺตานุวตฺติกกถาวณฺณนา.
๑๙๙๗. ‘‘หตฺถคฺคหณํ วา สาทิเยยฺยาติ หตฺโถ นาม กปฺปรํ อุปาทาย ยาว อคฺคนขา. เอตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิเสวนตฺถาย อุพฺภกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ คหณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อปาราชิกเขตฺตสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘ต’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ย’’นฺติ ลพฺภติ. อปาราชิกกฺเขตฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ องฺคสฺส ยํ คหณํ, ตํ หตฺถคฺคหณนฺติ ปวุจฺจตีติ โยชนา. หตฺเถ คหณํ หตฺถคฺคหณํ.
๑๙๙๘. ยสฺส กสฺสจีติ วุตฺตปฺปกาเรน ยสฺส กสฺสจิ จีวรสฺส ยํ คหณนฺติ โยชนา.
๑๙๙๙. อสทฺธมฺม-สทฺเทน ¶ เมถุนสฺสาปิ วุจฺจมานตฺตา ตโต วิเสเสตุมาห ‘‘กายสํสคฺค ¶ …เป… การณา’’ติ. ภิกฺขุนี กายสํสคฺคสงฺขาตสฺส อสทฺธมฺมสฺส การณา ปุริสสฺส หตฺถปาสสฺมึ ติฏฺเยฺย วาติ โยชนา.
๒๐๐๐. ตโตติ ตสฺส อสทฺธมฺมสฺส การณา. ตตฺถาติ หตฺถปาเส. ปุริเสนาติ เอตฺถ ‘‘กต’’นฺติ เสโส, ‘‘สงฺเกต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘อาคมนํ อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. อิจฺเฉยฺยาติ วุตฺเตปิ น คมนิจฺฉามตฺเตน, อถ โข ภิกฺขุนิยา ปุริสสฺส หตฺถปาสํ, ปุริเสน จ ภิกฺขุนิยา หตฺถปาสํ โอกฺกนฺตกาเลเยว วตฺถุปูรณํ ทฏฺพฺพํ. ยถาห ‘‘สงฺเกตํ วา คจฺเฉยฺยาติ เอตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิเสวนตฺถาย ปุริเสน ‘อิตฺถนฺนามํ อาคจฺฉา’ติ วุตฺตา คจฺฉติ, ปเท ปเท อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ปุริสสฺส หตฺถปาสํ โอกฺกนฺตมตฺเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) จ ‘‘ปุริสสฺส อพฺภาคมนํ สาทิยติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. หตฺถปาสํ โอกฺกนฺตมตฺเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) จ. เอตฺถ จ อิตฺถนฺนามํ อาคจฺฉาติ อิตฺถนฺนามํ านํ อาคจฺฉาติ อตฺโถ.
๒๐๐๑. ตทตฺถายาติ ตสฺเสว กายสํสคฺคสงฺขาตอสทฺธมฺมสฺส เสวนตฺถาย. ปฏิจฺฉนฺนฏฺานฺจาติ วตฺถาทินา เยน เกนจิ ปฏิจฺฉนฺนโอกาสํ. ปุริสสฺส หตฺถปาเส ิตา ตทตฺถาย กายํ อุปสํหเรยฺย วาติ โยชนา.
๒๐๐๒. หตฺถคฺคหณาทีนํ วุตฺตปฺปการานํ อฏฺนฺนํ วตฺถูนํ ปูรเณน ‘‘อฏฺวตฺถุกา’’ติ สงฺขาตา อยํ ภิกฺขุนี วินฏฺา โหติ สีลวินาเสน, ตโตเยว อสฺสมณี โหติ อภิกฺขุนี โหตีติ โยชนา.
๒๐๐๓. อนุโลเมน ¶ วาติ หตฺถคฺคหณาทิปฏิปาฏิยา วา. ปฏิโลเมน วาติ ตพฺพิปริยโต ปฏิโลเมน วา. เอกนฺตริกาย วาติ เอกเมกํ อนฺตริตฺวา ปุน ตสฺสาปิ กรณวเสน เอกนฺตริกาย วา. อนุโลเมน วา ปฏิโลเมน วา ตเถกนฺตริกาย วา อฏฺมํ วตฺถุํ ปริปูเรนฺตี จุตาติ โยชนา.
๒๐๐๔. เอตเทว อตฺถํ พฺยติเรกมุเขน สมตฺเถตุมาห ‘‘อถาทิโต’’ติอาทิ. สตกฺขตฺตุมฺปีติ ¶ พหุกฺขตฺตุมฺปิ. สต-สทฺโท เหตฺถ พหุ-สทฺทปริยาโย. ปาราชิกา เนว สิยาติ โยชนา, อิมินา ตํตํวตฺถุมูลกํ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๐๐๕. ยา ปน อาปตฺติโย อาปนฺนา, เทเสตฺวา ตาหิ มุจฺจตีติ โยชนา. ธุรนิกฺเขปนํ กตฺวาติ ‘‘น ปุเนวํ กริสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา. เทสิตา คณนูปิกาติ เทสิตา เทสิตคณนเมว อุเปติ, ปาราชิกสฺส องฺคํ น โหตีติ อตฺโถ. ตสฺมา ยา เอกํ อาปนฺนา, ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา เทเสตฺวา ปุน กิเลสวเสน อาปชฺชติ, ปุน เทเสติ, เอวํ อฏฺ วตฺถูนิ ปูเรนฺตีปิ ปาราชิกา น โหติ.
๒๐๐๖. สอุสฺสาหาย เทสิตาติ ปุน อาปชฺชเน อนิกฺขิตฺตธุราย ภิกฺขุนิยา เทสิตาปิ อาปตฺติ เทสนาคณนํ น อุเปติ. กึ โหตีติ อาห ‘‘เทสิตาปิ อเทสิตา’’ติ, ตสฺมา ปาราชิกาปตฺติยา องฺคเมว โหตีติ อธิปฺปาโย.
๒๐๐๘. อยํ อตฺโถติ ‘‘อสทฺธมฺโม นาม กายสํสคฺโค’’ติ อยํ อตฺโถ. อุทฺทิสิโตติ ปกาสิโต.
๒๐๐๙. อยมตฺโถ ¶ เกน วจเนน อุทฺทิสิโตติ อาห ‘‘วิฺู…เป… สาธกํ วจนํ อิท’’นฺติ. อิทํ วจนนฺติ ‘‘วิฺู ปฏิพโล กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๗๖) อิทํ วจนํ. สาธกํ ปมาณํ.
อฏฺวตฺถุกกถาวณฺณนา.
๒๐๑๐. อวสฺสุตา, วชฺชปฏิจฺฉาทิกา, อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา, อฏฺวตฺถุกาติ อิมา จตสฺโส ปาราชิกาปตฺติโย มเหสินา อสาธารณา ภิกฺขุนีนเมว ปฺตฺตาติ โยชนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา
๒๐๑๑. เอวํ ¶ ภิกฺขุนิวิภงฺเค อาคตํ ปาราชิกวินิจฺฉยํ วตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรุทฺทิฏฺํ สงฺฆาทิเสสวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี’’ติอาทิ. อุสฺสยวาทาติ โกธุสฺสยมานุสฺสยวเสน วิวทมานา. ตโตเยว อฏฺฏํ กโรติ สีเลนาติ อฏฺฏการี. เอตฺถ จ ‘‘อฏฺโฏ’’ติ โวหาริกวินิจฺฉโย วุจฺจติ, ยํ ปพฺพชิตา ‘‘อธิกรณ’’นฺติปิ วทนฺติ. สพฺพตฺถ วตฺตพฺเพ มุขมสฺสา อตฺถีติ มุขรี, พหุภาณีติ อตฺโถ. เยน เกนจิ นเรน สทฺธินฺติ ‘‘คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๖๗๙) ทสฺสิเตน เยน เกนจิ มนุสฺเสน สทฺธึ. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. กิราติ ปทปูรเณ, อนุสฺสวเน วา.
๒๐๑๒. สกฺขึ ¶ วาติ ปจฺจกฺขโต ชานนกํ วา. อฏฺฏํ กาตุํ คจฺฉนฺติยา ปเท ปเท ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๒๐๑๓. โวหาริเกติ วินิจฺฉยามจฺเจ.
๒๐๑๔. อนนฺตรนฺติ ตสฺส วจนานนฺตรํ.
๒๐๑๕. อิตโรติ อฏฺฏการโก. ปุพฺพสทิโสว วินิจฺฉโยติ ปมาโรจเน ทุกฺกฏํ, ทุติยาโรจเน ถุลฺลจฺจยนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๒๐๑๖. ‘‘ตว, มมาปิ จ กถํ ตุวเมว อาโรเจหี’’ติ อิตเรน วุตฺตา ภิกฺขุนีติ โยชนา. ยถากามนฺติ ตสฺสา จ อตฺตโน จ วจเน ยํ ปมํ วตฺตุมิจฺฉติ, ตํ อิจฺฉานุรูปํ อาโรเจตุ.
๒๐๑๘-๙. อุภินฺนมฺปิ ยถา ตถา อาโรจิตกถํ สุตฺวาติ โยชนา. ยถา ตถาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน เกนจิ ปกาเรน. เตหีติ โวหาริเกหิ. อฏฺเฏ ปน จ นิฏฺิเตติ อฏฺฏการเกสุ เอกสฺมึ ปกฺเข ปราชิเต. ยถาห ‘‘ปราชิเต อฏฺฏการเก อฏฺฏปริโยสานํ นาม โหตี’’ติ. อฏฺฏสฺส ปริโยสาเนติ เอตฺถ ‘‘ตสฺสา’’ติ เสโส. ตสฺส อฏฺฏสฺส ปริโยสาเนติ โยชนา.
๒๐๒๐-๒๓. อนาปตฺติวิสยํ ¶ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทูตํ วาปี’’ติอาทิ. ปจฺจตฺถิกมนุสฺเสหิ ทูตํ วาปิ ปหิณิตฺวา สยมฺปิ วา อาคนฺตฺวา ยา ปน อากฑฺฒียตีติ โยชนา. อฺเหีติ คามทารกาทีหิ อฺเหิ. กิฺจิ ปรํ อโนทิสฺสาติ โยชนา. อิมิสฺสา โอทิสฺส วุตฺเต เตหิ คหิตทณฺเฑ ตสฺสา จ คีวาติ สูจิตํ โหติ. ยา รกฺขํ ยาจติ ¶ , ตตฺถ ตสฺมึ รกฺขายาจเน ตสฺสา อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. อฺโต สุตฺวาติ โยชนา. อุมฺมตฺติกาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อาทิกมฺมิกา คหิตา.
สมุฏฺานํ กถิเนน ตุลฺยนฺติ โยชนา. เสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สกิริยํ อิท’’นฺติ. อิทํ สิกฺขาปทํ. กิริยาย สห วตฺตตีติ สกิริยํ อฏฺฏกรเณน อาปชฺชนโต. ‘‘สมุฏฺาน’’นฺติ อิมินา จ สมุฏฺานาทิวินิจฺฉโย อุปลกฺขิโตติ ทฏฺพฺโพ.
อฏฺฏการิกากถาวณฺณนา.
๒๐๒๔-๕. ชานนฺตีติ ‘‘สามํ วา ชานาติ, อฺเ วา ตสฺสา อาโรเจนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๖๘๔) วุตฺตนเยน ชานนฺตี. โจรินฺติ ยาย ปฺจมาสคฺฆนกโต ปฏฺาย ยํ กิฺจิ ปรสนฺตกํ อวหริตํ, อยํ โจรี นาม. วชฺฌํ วิทิตนฺติ ‘‘เตน กมฺเมน วธารหา อย’’นฺติ เอวํ วิทิตํ. สงฺฆนฺติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ. อนปโลเกตฺวาติ อนาปุจฺฉา. ราชานํ วาติ รฺา อนุสาสิตพฺพฏฺาเน ตํ ราชานํ วา. ยถาห ‘‘ราชา นาม ยตฺถ ราชา อนุสาสติ, ราชา อปโลเกตพฺโพ’’ติ. คณเมว วาติ ‘‘ตุมฺเหว ตตฺถ อนุสาสถา’’ติ ราชูหิ ทินฺนํ คามนิคมมลฺลคณาทิกํ คณํ วา. มลฺลคณํ นาม ปานียฏฺปนโปกฺขรณิขณนาทิปฺุกมฺมนิยุตฺโต ชนสมูโห. เอเตเนว เอวเมว ทินฺนคามวรา ปูคา จ เสนิโย จ สงฺคหิตา. วุฏฺาเปยฺยาติ อุปสมฺปาเทยฺย. กปฺปนฺติ จ วกฺขมานลกฺขณํ กปฺปํ. สา โจริวุฏฺาปนนฺติ สมฺพนฺโธ. อุปชฺฌายา หุตฺวา ยา โจรึ อุปสมฺปาเทติ, สา ภิกฺขุนีติ อตฺโถ. อุปชฺฌายสฺส ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ.
๒๐๒๖. ปฺจมาสคฺฆนนฺติ เอตฺถ ปฺจมาสฺจ ปฺจมาสคฺฆนกฺจ ปฺจมาสคฺฆนนฺติ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน ปฺจมาสสฺสาปิ ¶ คหณํ. อติเรกคฺฆนํ วาปีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
๒๐๒๗. ปพฺพชิตํ ¶ ปุพฺพํ ยาย สา ปพฺพชิตปุพฺพา. วุตฺตปฺปการํ โจรกมฺมํ กตฺวาปิ ติตฺถายตนาทีสุ ยา ปมํ ปพฺพชิตาติ อตฺโถ.
๒๐๒๘-๓๐. อิทานิ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏาทิอาปตฺติวิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วุฏฺาเปติ จ ยา โจริ’’นฺติอาทิ. อิธ ‘‘อุปชฺฌายา หุตฺวา’’ติ เสโส. อิทํ กปฺปํ เปตฺวาติ โยชนา. สีมํ สมฺมนฺนติ จาติ อภินวํ สีมํ สมฺมนฺนติ, พนฺธตีติ วุตฺตํ โหติ. อสฺสาติ ภเวยฺย. ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา จ ‘‘ถุลฺลจฺจยํ ทฺวย’’นฺติ อิมินา จ โยเชตพฺพํ.
กมฺมนฺเตติ อุปสมฺปทกมฺมสฺส ปริโยสาเน, ตติยาย กมฺมวาจาย ยฺยการปฺปตฺตายาติ วุตฺตํ โหติ.
๒๐๓๑. อชานนฺตีติ โจรึ อชานนฺตี. (อิทํ สิกฺขาปทํ.)
๒๐๓๒. โจริวุฏฺาปนํ นามาติ อิทํ สิกฺขาปทํ โจริวุฏฺาปนสมุฏฺานํ นาม. วาจจิตฺตโตติ ขณฺฑสีมํ อคนฺตฺวา กโรนฺติยา วาจาจิตฺเตหิ. กายวาจาทิโต เจวาติ คนฺตฺวา กโรนฺติยา กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. ยถาห ‘‘เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกนฺตาสุ ภิกฺขุนีสุ อคนฺตฺวา ขณฺฑสีมํ วา นทึ วา ยถานิสินฺนฏฺาเนเยว อตฺตโน นิสฺสิตกปริสาย สทฺธึ วุฏฺาเปนฺติยา วาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, ขณฺฑสีมํ วา นทึ วา คนฺตฺวา วุฏฺาเปนฺติยา ¶ กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๘๓). กฺริยากฺริยนฺติ อนาปุจฺฉาวุฏฺาปนวเสน กิริยากิริยํ.
โจริวุฏฺาปนกถาวณฺณนา.
๒๐๓๓-๔. คามนฺตรนฺติ อฺํ คามํ. ยา เอกา สเจ คจฺเฉยฺยาติ สมฺพนฺโธ. นทีปารนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. นทิยา ปารํ นทีปารํ. ‘‘เอกา วา’’ติ อุปริปิ โยเชตพฺพํ. โอหีเยยฺยาติ วินา ภเวยฺย. อิธ ‘‘อรฺเ’’ติ เสโส. อรฺลกฺขณํ ‘‘อินฺทขีล’’อิจฺจาทินา วกฺขติ. ‘‘เอกา วา รตฺตึ วิปฺปวเสยฺย, เอกา วา คณมฺหา โอหีเยยฺยา’’ติ สิกฺขาปทกฺกโม, เอวํ สนฺเตปิ คาถาพนฺธวเสน ‘‘รตฺตึ วิปฺปวเสยฺยา’’ติ อนฺเต วุตฺตํ ¶ . เตเนว วิภาควินิจฺฉเย เทสนารุฬฺหกฺกเมเนว ‘‘ปุเรรุโณทยาเยวา’’ติอาทึ วกฺขติ. สา ปมาปตฺติกํ ครุกํ ธมฺมํ อาปนฺนา สิยาติ โยชนา. ปมํ อาปตฺติ เอตสฺสาติ ปมาปตฺติโก, วีติกฺกมกฺขเณเยว อาปชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ. ‘‘ครุกํ ธมฺม’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. สกคามา นิกฺขมนฺติยาติ ภิกฺขุนิยา อตฺตโน วสนคามโต นิกฺขมนฺติยา.
๒๐๓๖-๗. เอเกน ปทวาเรน อิตรสฺส คามสฺส ปริกฺเขเป อติกฺกนฺเต, อุปจาโรกฺกเม วา ถุลฺลจฺจยนฺติ โยชนา. อติกฺกนฺเต โอกฺกนฺเตติ เอตฺถ ‘‘ปริกฺเขเป อุปจาเร’’ติ อธิการโต ลพฺภติ.
๒๐๓๘-๙. นิกฺขมิตฺวาติ อตฺตโน ปวิฏฺคามโต นิกฺขมิตฺวา. อยเมว นโยติ ‘‘เอเกน ปทวาเรน ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเยน ครุกาปตฺตี’’ติ อยํ นโย.
วติจฺฉิทฺเทน ¶ วา ขณฺฑปากาเรน วาติ โยชนา. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘ปากาเรนา’’ติ เอตฺถาปิ วา-สทฺทสฺส สมฺพนฺธนียตํ ทสฺเสติ. ‘‘ภิกฺขุวิหารสฺส ภูมิ ตาสมกปฺปิยา’’ติ วกฺขมานตฺตา วิหารสฺส ภูมินฺติ ภิกฺขุนิวิหารภูมิ คหิตา. ‘‘กปฺปิยนฺติ ปวิฏฺตฺตา’’ติ อิมินา วกฺขมานสฺส การณํ ทสฺเสติ. โกจิ โทโสติ ถุลฺลจฺจยสงฺฆาทิเสโส วุจฺจมาโน โย โกจิ โทโส.
๒๐๔๐. ตาสนฺติ ภิกฺขุนีนํ. ‘‘อกปฺปิยา’’ติ อิมินา ตตฺถาปิ ปวิฏฺาย คามนฺตรปจฺจยา อาปตฺติสมฺภวมาห.
๒๐๔๑. ‘‘ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺติยา’’ติ (ปาจิ. ๖๙๒) วุตฺตตฺตา ‘‘หตฺถิ…เป… อนาปตฺติ สิยาปตฺติ, ปทสา คมเน ปนา’’ติ วุตฺตํ.
๒๐๔๒. ‘‘ยํ กิฺจิ…เป… อาปตฺติ ปวิสนฺติยา’’ติ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส อุปสํหารตฺตา น ปุนรุตฺติโทโส.
๒๐๔๓-๔. ลกฺขเณนุปปนฺนายาติ ¶ ‘‘นที นาม ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนฺตรวาสโก เตมิยตี’’ติ (ปาจิ. ๖๙๒) วุตฺตลกฺขเณน สมนฺนาคตาย นทิยา. ยา ปารํ ตีรํ คจฺฉตีติ โยชนา.
ปมํ ปาทํ อุทฺธริตฺวาน ตีเร เปนฺติยาติ ‘‘อิทานิ ปทวาเรน อติกฺกมตี’’ติ วตฺตพฺพกาเล ปมํ ปาทํ อุกฺขิปิตฺวา ปรตีเร เปนฺติยา. ‘‘ทุติยปาทุทฺธาเร สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๙๒) อฏฺกถาวจนโต ‘‘อติกฺกเม’’ติ อิมินา อุทฺธาโร คหิโต.
๒๐๔๕. อนฺตรนทิยนฺติ นทิเวมชฺเฌ. ภณฺฑิตฺวาติ กลหํ กตฺวา. โอริมํ ตีรนฺติ อาคตทิสาย ตีรํ. ตถา ปเม ถุลฺลจฺจยํ ¶ , ทุติเย ครุ โหตีติ อตฺโถ. อิมินา สกเลน วจเนน ‘‘อิตริสฺสา ปน อยํ ปกฺกนฺตฏฺาเน ิตา โหติ, ตสฺมา ปรตีรํ คจฺฉนฺติยาปิ อนาปตฺตี’’ติ อฏฺกถาปิ อุลฺลิงฺคิตา.
๒๐๔๖. รชฺชุยาติ วลฺลิอาทิกาย ยาย กายจิ รชฺชุยา.
๒๐๔๗. ปิวิตุนฺติ เอตฺถ ‘‘ปานีย’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน อปิ-สทฺเทน ภณฺฑโธวนาทึ สงฺคณฺหาติ. อถาติ วากฺยารมฺเภ นิปาโต. ‘‘นหานาทิกิจฺจํ สมฺปาเทตฺวา โอริมเมว ตีรํ อาคมิสฺสามี’’ติ อาลยสฺส วิชฺชมานตฺตา อาห ‘‘วฏฺฏตี’’ติ.
๒๐๔๘. ปทสานทึ โอตริตฺวานาติ โยชนา. เสตุํ อาโรหิตฺวา ตถา ปทสา อุตฺตรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.
๒๐๔๙. คนฺตฺวานาติ เอตฺถ ‘‘นทิ’’นฺติ เสโส. อุตฺตรณกาเล ปทสา ยาตีติ โยชนา.
๒๐๕๐. เวเคนาติ เอเกเนว เวเคน, อนฺตรา อนิวตฺติตฺวาติ อตฺโถ.
๒๐๕๑. ‘‘นิสีทิตฺวา’’ติ อิทํ ‘‘ขนฺเธ วา’’ติอาทีหิปิ โยเชตพฺพํ. ขนฺธาทโย เจตฺถ สภาคานเมว คเหตพฺพา. หตฺถสงฺฆาตเน วาติ อุโภหิ พทฺธหตฺถวลเย วา.
๒๐๕๒-๓. ปาสนฺติ ¶ หตฺถปาสํ. ‘‘อาโภคํ วินา’’ติ อิมินา ‘‘คมิสฺสามี’’ติ อาโภเค กเต อชานนฺติยา อรุเณ ¶ อุฏฺิเตปิ อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. ยถาห ‘‘สเจ สชฺฌายํ วา สวนํ วา อฺํ วา กิฺจิ กมฺมํ กุรุมานา ‘ปุเรอรุเณเยว ทุติยิกาย สนฺติกํ คมิสฺสามี’ติ อาโภคํ กโรติ, อชานนฺติยา เอว จสฺสา อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๙๒). นานาคพฺเภ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกคพฺเภปิ วา’’ติ. เอกคพฺเภปิ วา ทุติยิกาย หตฺถปาสํ อติกฺกมฺม อรุณํ อุฏฺเปนฺติยา ภิกฺขุนิยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.
๒๐๕๔. ทุติยาปาสนฺติ ทุติยิกาย หตฺถปาสํ. ‘‘คมิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คจฺฉนฺติยา สเจ อรุณํ อุฏฺเติ, น โทโสติ โยชนา.
๒๐๕๕-๖. อฺตฺถ ปฺจธนุสติกสฺส (ปารา. ๖๕๔) ปจฺฉิมสฺส อารฺกเสนาสนสฺส วุตฺตตฺตา ตโต นิวตฺเตตุมาห ‘‘อินฺทขีลมติกฺกมฺมา’’ติอาทิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ทีปิตนฺติ อฏฺกถาย ‘‘อรฺเติ เอตฺถ นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๙๒) เอวํ วุตฺตลกฺขณเมว อรฺํ ทสฺสิตนฺติ อตฺโถ.
ทุติยิกาย ทสฺสนูปจารํ วิชหนฺติยา ตสฺสาติ โยชนา. ‘‘ชหิเต’’ติ อิทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘อุปจาเร’’ติ วิภตฺติวิปริณาโม กาตพฺโพ.
๒๐๕๗. สาณิปาการปาการตรุอนฺตริเต าเน อสติ ทสฺสนูปจาเร สติปิ สวนูปจาเร อาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๒๐๕๘-๖๐. เอตฺถ กถนฺติ ยตฺถ ทูเรปิ ทสฺสนํ โหติ, เอวรูเป อชฺโฌกาเส อาปตฺตินิยโม กถํ กาตพฺโพติ ¶ อตฺโถ. อเนเกสุ าเนสุ ‘‘สวนูปจาราติกฺกเม’’ติ วุจฺจมานตฺตา ตตฺถ ลกฺขณํ เปตุมาห ‘‘มคฺค…เป… เอวรูปเก’’ติ. เอตฺถ ‘‘าเน’’ติ เสโส. กูชนฺติยาติ ยถาวณฺณววตฺถานํ น โหติ, เอวํ อพฺยตฺตสทฺทํ กโรนฺติยา.
เอวรูปเก าเน ธมฺมสฺสวนาโรจเน วิย จ มคฺคมูฬฺหสฺส สทฺเทน วิย จ ‘‘อยฺเย’’ติ กูชนฺติยา ¶ ตสฺสา สทฺทสฺส สวนาติกฺกเม ภิกฺขุนิยา ครุกา อาปตฺติ โหตีติ โยชนา. ‘‘ภิกฺขุนิยา ครุกา โหตี’’ติ อิทํ ‘‘ทุติยิกํ น ปาปุณิสฺสามี’’ติ นิรุสฺสาหวเสน เวทิตพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘โอหียิตฺวาถ คจฺฉนฺตี’’ติอาทิ. เอตฺถาติ ‘‘คณมฺหา โอหีเยยฺยา’’ติ อิมสฺมึ.
๒๐๖๑. อถ คจฺฉนฺตี โอหียิตฺวาติ โยชนา. ‘‘อิทานิ อหํ ปาปุณิสฺสามิ’’ อิติ เอวํ สอุสฺสาหา อนุพนฺธติ, วฏฺฏติ, ทุติโยปจาราติกฺกเมปิ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๐๖๒. ‘‘คจฺฉตุ อยํ’’ อิติ อุสฺสาหสฺสจฺเฉทํ กตฺวา โอหีนา เจ, ตสฺสา อาปตฺตีติ อชฺฌาหารโยชนา.
๒๐๖๓. อิตราปีติ คนฺตุํ สมตฺถาปิ. โอหียตุ อยนฺติ จาติ นิรุสฺสาหปฺปกาโร สนฺทสฺสิโต. วุตฺตตฺถเมว สมตฺถยิตุมาห ‘‘สอุสฺสาหา น โหติ เจ’’ติ.
๒๐๖๔-๕. ปุริมา เอกกํ มคฺคํ ยาตีติ โยชนา. เอกเมว เอกกํ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอกิสฺสา อิตรา ปกฺกนฺตฏฺาเน ติฏฺติ, ตสฺมา. ตตฺถาติ ตสฺมึ คณมฺหาโอหียเน. ปิ-สทฺโท เอวการตฺโถ. อนาปตฺติ เอว ปกาสิตาติ โยชนา.
๒๐๖๖-๗. คามนฺตรคตายาติ คามสีมคตาย. ‘‘นทิยา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อาปตฺติโยจตสฺโสปีติ รตฺติวิปฺปวาส คามนฺตรคมน นทิปารคมน คณมฺหาโอหียน สงฺขาตา จตสฺโส ¶ สงฺฆาทิเสสาปตฺติโย. คณมฺหาโอหียนมูลกาปตฺติยา คามโต พหิ อาปชฺชิตพฺพตฺเตปิ คามนฺตโรกฺกมนมูลกาปตฺติยา อนฺโตคาเม อาปชฺชิตพฺพตฺเตปิ เอกกฺขเณติ คามูปจารํ สนฺธายาห.
๒๐๖๘-๙. ยา สทฺธึ ยาตา ทุติยิกา, สา จ ปกฺกนฺตา วา สเจ โหติ, วิพฺภนฺตา วา โหติ, เปตานํ โลกํ ยาตา วา โหติ, กาลกตา วา โหตีติ อธิปฺปาโย, ปกฺขสงฺกนฺตา วา โหติ, ติตฺถายตนสงฺกนฺตา วา โหตีติ อธิปฺปาโย, นฏฺา วา โหติ, ปาราชิกาปนฺนา วา โหตีติ ¶ อธิปฺปาโย. เอวรูเป กาเล คามนฺตโรกฺกมนาทีนิ…เป… อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. อุมฺมตฺติกายปิ เอวํ จตฺตาริปิ กโรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.
๒๐๗๐. ‘‘อคามเก อรฺเ’’ติ อิทํ คามาภาเวน วุตฺตํ, น วิฺฌาฏวิสทิสตาย.
๒๐๗๑. คามภาวโต นทิปารคมนคณมฺหาโอหียนาปตฺติ น สมฺภวติ, ตสฺสาปิ สกคามตฺตา คามนฺตรคมนมูลิกาปตฺติ จ ทิวสภาคตฺตา รตฺติวิปฺปวาสมูลิกาปตฺติ จ น สมฺภวตีติ อาห ‘‘สกคาเม…เป… น วิชฺชเร’’ติ. ยถากามนฺติ ยถิจฺฉิตํ, ทุติยิกาย อสนฺติยาปีติ อตฺโถ.
๒๐๗๒. สมุฏฺานาทโย ปมนฺติมวตฺถุนา ตุลฺยาติ โยชนา.
คามนฺตรคมนกถาวณฺณนา.
๒๐๗๓. สีมาสมฺมุติยา เจวาติ ‘‘สมคฺเคน สงฺเฆน ธมฺเมน วินเยน อุกฺขิตฺตํ ภิกฺขุนึ การกสงฺฆํ อนาปุจฺฉา ตสฺเสว การกสงฺฆสฺส ฉนฺทํ อชานิตฺวา โอสาเรสฺสามี’’ติ นวสีมาสมฺมนฺนเน จ. ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ทุเว ถุลฺลจฺจยา โหนฺตีติ โยชนา.
๒๐๗๔. กมฺมสฺส ¶ ปริโยสาเนติ โอสารณกมฺมสฺส อวสาเน. ติกสงฺฆาทิเสสนฺติ ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติกา, ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๙๗) ติกสงฺฆาทิเสสํ วุตฺตํ. กมฺมนฺติ จ อุกฺเขปนียกมฺมํ. อธมฺเม ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมกมฺเม เวมติกา, อธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ.
๒๐๗๕. คณสฺสาติ ตสฺเสว การกคณสฺส. วตฺเต วา ปน วตฺตนฺตินฺติ เตจตฺตาลีสปฺปเภเท เนตฺตารวตฺเต วตฺตมานํ. เตจตฺตาลีสปฺปเภทํ ปน วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๗๖) อาวิ ภวิสฺสติ. เนตฺตารวตฺเตติ กมฺมโต นิตฺถรณสฺส เหตุภูเต วตฺเต.
๒๐๗๗. โอสารณํ ¶ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.
จตุตฺถํ.
๒๐๗๘-๙. อวสฺสุตาติ เมถุนราเคน ตินฺตา. เอวมุปริปิ. ‘‘มนุสฺสปุคฺคลสฺสา’’ติ อิมินา ยกฺขาทีนํ ปฏิกฺเขโป. ‘‘อุทเก…เป… ทุกฺกฏ’’นฺติ วกฺขมานตฺตา อามิสนฺติ อฺตฺร ทนฺตโปนา อชฺโฌหรณียสฺส คหณํ. ปโยคโตติ ปโยคคณนาย.
๒๐๘๐. เอกโตวสฺสุเตติ ปุมิตฺถิยา สามฺเน ปุลฺลิงฺคนิทฺเทโส. กถเมตํ วิฺายตีติ? ‘‘เอกโตอวสฺสุเตติ เอตฺถ ภิกฺขุนิยา อวสฺสุตภาโว ทฏฺพฺโพติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปเนตํ น วุตฺตํ, ตํ ¶ ปาฬิยา สเมตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๐๑) วุตฺตตฺตา วิฺายติ. เอตฺถ จ เอตํ น วุตฺตนฺติ ‘‘ภิกฺขุนิยา อวสฺสุตภาโว ทฏฺพฺโพ’’ติ เอตํ นิยมนํ น วุตฺตํ. ตนฺติ ตํ นิยเมตฺวา อวจนํ. ปาฬิยา สเมตีติ ‘‘เอกโตอวสฺสุเต’’ติ (ปาจิ. ๗๐๑-๗๐๒) อวิเสเสตฺวา วุตฺตปาฬิยา, ‘‘อนวสฺสุโตติ ชานนฺตี ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ (ปาจิ. ๗๐๓) อิมาย จ ปาฬิยา สเมติ. ยทิ หิ ปุคฺคลสฺส อวสฺสุตภาโว นปฺปมาณํ, กึ ‘‘อนวสฺสุโตติ ชานนฺตี’’ติ อิมินา วจเนน. ‘‘อนาปตฺติ อุโภ อนวสฺสุตา โหนฺติ, อนวสฺสุตา ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ สิยา. อชฺโฌหารปโยเคสุ พหูสุ ถุลฺลจฺจยจโย ถุลฺลจฺจยานํ สมูโห สิยา, ปโยคคณนาย พหูนิ ถุลฺลจฺจยานิ โหนฺตีติ อธิปฺปาโย.
๒๐๘๑. สมฺภเว, พฺยภิจาเร จ วิเสสนํ สาตฺถกํ ภวตีติ ‘‘มนุสฺสวิคฺคหาน’’นฺติ อิทํ วิเสสนํ ยกฺขเปตติรจฺฉานปเทหิ โยเชตพฺพํ. อุภโตอวสฺสุเต สติ มนุสฺสวิคฺคหานํ ยกฺขเปตติรจฺฉานานํ หตฺถโต จ ปณฺฑกานํ หตฺถโต จ ตถาติ โยชนา. ตถา-สทฺเทเนตฺถ ‘‘ยํ กิฺจิ อามิสํ ปฏิคฺคณฺหาติ, ทุกฺกฏํ. อชฺโฌหารปโยเคสุ ถุลฺลจฺจยจโย สิยา’’ติ ยถาวุตฺตมติทิสติ.
๒๐๘๒. เอตฺถาติ อิเมสุ ยกฺขาทีสุ. เอกโตอวสฺสุเต สติ อามิสํ ปฏิคฺคณฺหนฺติยา ทุกฺกฏํ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ มนุสฺสามนุสฺเสสุ เอกโต, อุภโต วา อนวสฺสุเตสุ. อุทเก ทนฺตกฏฺเกติ ¶ อุทกสฺส, ทนฺตกฏฺสฺส จ คหเณ. ปริโภเค จาติ ปฏิคฺคหเณ เจว ปริโภเค จ.
๒๐๘๓-๔. อุภยาวสฺสุตาภาเวติ ภิกฺขุนิยา, ปุคฺคลสฺส จ อุภินฺนํ อวสฺสุตตฺเต อสติ ยทิ อามิสํ ปฏิคฺคณฺหาติ ¶ , น โทโสติ โยชนา. อยํ ปุริสปุคฺคโล. น จ อวสฺสุโตติ เนว อวสฺสุโตติ ตฺวา. ยา ปน อามิสํ ปฏิคฺคณฺหาติ, ตสฺสา จ อุมฺมตฺติกาทีนฺจ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. ‘‘ยา คณฺหาติ, ตสฺสา อนาปตฺตี’’ติ วุตฺเตปิ ปริภฺุชนฺติยาว อนาปตฺติภาโว ทฏฺพฺโพ.
ปฺจมํ.
๒๐๘๕. อุยฺโยชเนติ ‘‘กึ เต อยฺเย เอโส ปุริสปุคฺคโล กริสฺสติ อวสฺสุโต วา อนวสฺสุโต วา, ยโต ตฺวํ อนวสฺสุตา, อิงฺฆ อยฺเย ยํ เต เอโส ปุริสปุคฺคโล เทติ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา, ตํ ตฺวํ สหตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา ขาท วา ภฺุช วา’’ติ (ปาจิ. ๗๐๕) วุตฺตนเยน นิโยชเน. เอกิสฺสาติ อุยฺโยชิกาย. อิตริสฺสาติ อุยฺโยชิตาย. ปฏิคฺคเหติ อวสฺสุตสฺส หตฺถโต อามิสปฏิคฺคหเณ. ทุกฺกฏานิ จาติ อุยฺโยชิกาย ทุกฺกฏานิ. โภเคสูติ อุยฺโยชิตาย ตถา ปฏิคฺคหิตสฺส อามิสสฺส ปริโภเคสุ. ถุลฺลจฺจยคโณ สิยาติ อุยฺโยชิกาย ถุลฺลจฺจยสมูโห สิยาติ อตฺโถ.
๒๐๘๖-๗. โภชนสฺสาวสานสฺมินฺติ อุยฺโยชิตาย โภชนปริยนฺเต. สงฺฆาทิเสสตาติ อุยฺโยชิกาย สงฺฆาทิเสสาปตฺติ โหติ.
ยกฺขาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน เปตปณฺฑกติรจฺฉานคตา คหิตา. ตเถว ปุริสสฺส จาติ อวสฺสุตสฺส มนุสฺสปุริสสฺส. ‘‘คหเณ อุยฺโยชเน’’ติ ปทจฺเฉโท. คหเณติ อุยฺโยชิตาย คหเณ. อุยฺโยชเนติ อุยฺโยชิกาย อตฺตโน อุยฺโยชเน. เตสนฺติ อุทกทนฺตโปนานํ. ปริโภเคติ อุยฺโยชิตาย ปริภฺุชเน. ทุกฺกฏํ ปริกิตฺติตนฺติ อุยฺโยชิกาย ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.
๒๐๘๘. เสสสฺสาติ ¶ ¶ อุทกทนฺตโปนโต อฺสฺส ปริภฺุชิตพฺพามิสสฺส. ‘‘คหณุยฺโยชเน’’ติอาทิ วุตฺตนยเมว.
๒๐๘๙-๙๐. ยา ปน ภิกฺขุนี ‘‘อนวสฺสุโต’’ติ ตฺวา อุยฺโยเชติ, ‘‘กุปิตา วา น ปฏิคฺคณฺหตี’’ติ อุยฺโยเชติ, ‘‘กุลานุทฺทยตา วาปิ น ปฏิคฺคณฺหตี’’ติ อุยฺโยเชติ, ตสฺสา จ อุมฺมตฺติกาทีนฺจ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. ยถาห ‘‘อนาปตฺติ ‘อนวสฺสุโต’ติ ชานนฺตี อุยฺโยเชติ, ‘กุปิตา น ปฏิคฺคณฺหตี’ติ อุยฺโยเชติ, ‘กุลานุทฺทยตาย น ปฏิคฺคณฺหตี’ติ อุยฺโยเชตี’’ติอาทิ (ปาจิ. ๗๐๘).
ฉฏฺํ.
๒๐๙๑. สตฺตมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี กุปิตา อนตฺตมนา เอวํ วเทยฺย พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ (ปาจิ. ๗๑๐) สตฺตมสิกฺขาปทฺจ. อฏฺมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี กิสฺมิฺจิเทว อธิกรเณ ปจฺจากตา’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ (ปาจิ. ๗๑๖) อฏฺมสิกฺขาปทฺจ.
สตฺตมฏฺมานิ.
๒๐๙๒. นวเมติ ‘‘ภิกฺขุนิโย ปเนว สํสฏฺา วิหรนฺตี’’ติอาทิสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๗๒๒) จ. ทสเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี เอวํ วเทยฺย สํสฏฺาว อยฺเย ตุมฺเห วิหรถ, มา ตุมฺเห นานา วิหริตฺถา’’ติอาทิสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๗๒๘) จ.
นวมทสมานิ.
๒๐๙๓. เตน มหาวิภงฺคาคเตน ทุฏฺโทสทฺวเยน จ ตตฺเถว อาคเตน เตน สฺจริตฺตสิกฺขาปเทน จาติ อิเมหิ ตีหิ สทฺธึ อิธาคตานิ ฉ สิกฺขาปทานีติ เอวํ นว ปมาปตฺติกา ¶ . อิโต ภิกฺขุนิวิภงฺคโต จตฺตาริ ยาวตติยกานิ ตโต มหาวิภงฺคโต จตฺตาริ ยาวตติยกานีติ ¶ เอวํ อฏฺ ยาวตติยกานิ, ปุริมานิ นว จาติ สตฺตรส สงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทานิ มยา เจตฺถ ทสฺสิตานีติ อธิปฺปาโย.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา
๒๐๙๔-๕. เอวํ สตฺตรสสงฺฆาทิเสเส ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรานิ นิสฺสคฺคิยานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธิฏฺานุปคํ ปตฺต’’นฺติอาทิ. ‘‘อธิฏฺานุปคํ ปตฺต’’นฺติ อิมินา ปเทน เกนจิ การเณน อนธิฏฺานุปเค ปตฺเต อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. ‘‘ตสฺสา’’ติ ต-สทฺทาเปกฺขาย ภิกฺขุนีติ เอตฺถ ‘‘ยา’’ติ ลพฺภติ. ปตฺตสนฺนิธิการณาติ อนธิฏฺาย, อวิกปฺเปตฺวา เอกรตฺตมฺปิ ปตฺตสฺส นิกฺขิตฺตการณา.
๒๐๙๖. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท เสโส สพฺโพ วินิจฺฉโย กถามคฺโคติ โยชนา, อวเสสสพฺพวินิจฺฉยกถามคฺโคติ อตฺโถ. ปตฺตสิกฺขาปเทติ มหาวิภงฺคปมปตฺตสิกฺขาปเท.
ปมํ.
๒๐๙๘. อกาเลติ ‘‘อนตฺถตกถิเน วิหาเร เอกาทส มาสา, อตฺถตกถิเน วิหาเร สตฺต มาสา’’ติ (ปาจิ. ๗๔๐ อตฺถโต สมานํ) เอวํ ¶ วุตฺเต อกาเล. วิกปฺปนฺตรํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทินฺนํ กาเลปิ เกนจี’’ติอาทิ. วุตฺตวิปริยาเยน กาลนิยโม เวทิตพฺโพ. เกนจิ อกาเล ยํ จีวรํ ทินฺนํ, กาเลปิ ยํ จีวรํ อาทิสฺส ทินฺนํ, ตํ อกาลจีวรํ นามาติ โยชนา. อาทิสฺส ทานปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สมฺปตฺตา ภาเชนฺตู’’ติ. นิยามิตนฺติ ‘‘สมฺปตฺตา ภาเชนฺตู’’ติ เอวํ วตฺวา ทินฺนฺจ ‘‘อิทํ คณสฺส, อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ วตฺวา วา ทาตุกามตาย ปาทมูเล เปตฺวา วา ทินฺนฺจ อาทิสฺส ทินฺนํ นามาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘สมฺปตฺตา ภาเชนฺตู’ติ วตฺวา วา ‘อิทํ ¶ คณสฺส, อิทํ ตุมฺหากํ ทมฺมี’ติ วตฺวา วา ทาตุกมฺยตาย ปาทมูเล เปตฺวา วา ทินฺนมฺปิ อาทิสฺส ทินฺนํ นาม โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๔๐).
๒๐๙๙. อกาลจีวรนฺติ วุตฺตปฺปการํ อกาลจีวรํ.
๒๑๐๐. อตฺตนา ปฏิลทฺธนฺติ ตโต ยํ จีวรํ อตฺตนา วสฺสคฺเคน ปฏิลทฺธํ. นิสฺสชฺชิตฺวา ปฏิลทฺธกาเล กตฺตพฺพวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ลภิตฺวา…เป… นิโยชเย’’ติ. ยถาทาเน นิโยชเยติ ยถา ทายเกน ทินฺนํ, ตถา อุปเนตพฺพํ, อกาลจีวรปกฺเขเยว เปตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๒๑๐๑. ตสฺสาติ ‘‘ยถาทาเน นิโยชเย’’ติ วจนสฺส. วินยกมฺมํ กตฺวา ปฏิลทฺธมฺปิ ตํ ปุน เสวิตุํ น จ วฏฺฏตีติ อยมธิปฺปาโยติ โยชนา.
๒๑๐๒. กาลจีวเร อกาลวตฺถสฺาย ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อุภยตฺถปีติ อกาลจีวเรปิ กาลจีวเรปิ. เวมติกาย ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๒๑๐๓. อุภยตฺถปิ ¶ จีวเร กาลจีวเร จ อกาลจีวเร จาติ อุภยจีวเรปิ กาลจีวรสฺาย ภาชาเปนฺติยา นโทโสติ โยชนา. สจิตฺตกสมุฏฺานตฺตยํ สนฺธายาห ‘‘ติสมุฏฺานตา’’ติ.
ทุติยํ.
๒๑๐๔. สเจ สยํ อจฺฉินฺทติ อฺาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ จีวรํ ปริวตฺเตตฺวา ปจฺฉา ‘‘ตุยฺหํ จีวรํ ตฺวเมว คณฺห, มยฺหํ จีวรํ เทหี’’ติ เอวํ ยทิ สยํ อจฺฉินฺทติ. เอตฺถ ‘‘สกสฺายา’’ติ เสโส. สกสฺาย คหิตตฺตา ปาจิตฺติยํ, ทุกฺกฏฺจ วุตฺตํ, อิตรถา ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ.
๒๑๐๕. อิตเรสูติ อพนฺธนฺจ อาณตฺติพหุตฺตฺจ สงฺคณฺหาติ. เตนาห ‘‘วตฺถูนํ ปโยคสฺส วสา สิยา’’ติ.
๒๑๐๖. ‘‘ติกปาจิตฺตี’’ติ ¶ อิทมเปกฺขิตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺา’’ติ สมฺพนฺธนียํ, อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺาติ เอตาสํ วเสน ติกปาจิตฺติ วุตฺตาติ อตฺโถ. อฺสฺมึ ปริกฺขาเรติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ อฺสฺมึ ปริกฺขาเร. อิตริสฺสาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺาเวมติกาอนุปสมฺปนฺนสฺานํ วเสน ติกทุกฺกฏํ อุทฺทิฏฺํ.
๒๑๐๗. ตาย วา ทียมานํ ตาย อฺาย ภิกฺขุนิยา ทุฏฺาย วา ตุฏฺาย วา ทียมานํ คณฺหนฺติยา, ตสฺสา วิสฺสาสเมว วา คณฺหนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. ‘‘ติสมุฏฺานตา มตา’’ติ อิทํ วุตฺตตฺถเมว.
ตติยํ.
๒๑๐๘. ยา ¶ ปน ภิกฺขุนี ‘‘กึ เต, อยฺเย, อผาสุ, กึ อาหรียตู’’ติ วุตฺตา อฺํ วิฺาเปตฺวา ตํ อาหฏํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตฺจ อฺฺจ คณฺหิตุกามา สเจ อฺํ วิฺาเปติ, ตสฺสา วิฺตฺติทุกฺกฏํ, ลาภา นิสฺสคฺคิยํ สิยาติ สาธิปฺปายโยชนา. วิฺตฺติยา ทุกฺกฏํ วิฺตฺติทุกฺกฏํ.
๒๑๐๙-๑๑. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อฺเ อฺสฺา, อฺเ เวมติกา, อฺเ อนฺสฺา อฺํ วิฺาเปตฺวา อฺํ วิฺาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๗๕๑) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. อนฺเ ทฺวิกทุกฺกฏนฺติ อนฺเ อฺสฺาย, เวมติกาย จ วเสน ทฺวิกทุกฺกฏํ. ‘‘อนฺเนฺสฺายา’’ติอาทินา อนาปตฺติวิสโย ทสฺสิโต. ‘‘อนฺเ อนฺสฺายา’’ติ ปทจฺเฉโท. อนฺเ อนฺสฺาย วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. ตสฺมึ ปมวิฺาปิเต อปฺปโหนฺเต วา ตฺเว วา วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. อฺเนปิ อตฺเถ สติ เตน สทฺธึ อฺํ วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ ปมํ สปฺปิ วิฺตฺตํ, ‘‘อามกมํสํ ปจิตพฺพ’’นฺติ จ เวชฺเชน วุตฺตตฺตา เตเลน อตฺโถ โหติ, ตโต ‘‘เตเลนาปิ เม อตฺโถ’’ติ เอวํ อฺฺจ วิฺาเปตีติ. อานิสํสฺจ ทสฺเสตฺวา ตโต อฺํ วิฺาเปนฺติยาปิ อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ กหาปณสฺส ¶ สปฺปิ อาภตํ โหติ, อิมินา มูเลน ทิคุณํ เตลํ ลพฺภติ, เตเลนาปิ จ อิทํ กิจฺจํ นิปฺปชฺชติ, ตสฺมา เตลมาหราติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา วิฺาเปตีติ.
จตุตฺถํ.
๒๑๑๒-๓. ปุพฺพํ ¶ อฺํ เจตาเปตฺวาติ โยชนา, อตฺตโน กปฺปิยภณฺเฑน ‘‘อิทํ นาม อาหรา’’ติ ปุพฺพํ อฺํ ปริวตฺตาเปตฺวาติ อตฺโถ. เอวนฺติ เอตฺถ ‘‘วุตฺเต’’ติ เสโส. ธเนน นิพฺพตฺตํ ธฺํ, อตฺตโน ธเนน นิปฺผาทิตตฺตา เตลาทิ อิธ ‘‘ธฺ’’นฺติ อธิปฺเปตํ, น วีหาทิ. เอวํ วุตฺเต มยฺหํ อฺํ ธฺํ อาเนตฺวา เทติ อิติ สฺาย ปจฺฉา อฺํ เจตาเปยฺยาติ โยชนา, น เม อิมินา อตฺโถ, อฺํ อาหราติ วุตฺเต อิทฺจ ทตฺวา อฺฺจ อาหริตฺวา เทตีติ สฺาย ‘‘น เม อิทํ รุจฺจติ, อฺํ อาหรา’’ติ ปจฺฉา อฺํ ปริวตฺตาเปยฺยาติ อตฺโถ. เจตาปนปโยเคนาติ อาณตฺตาย เจตาปนวเสน. มูลฏฺายาติ อาณาปิกาย. เตน จ อฺเน วา มูเลน อาภตํ โหตุ, ตสฺส ลาเภ นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ โยชนา.
๒๑๑๔. เสสนฺติ ติกปาจิตฺติยาทิกํ วินิจฺฉยวิเสสํ.
ปฺจมํ.
๒๑๑๕-๖. อฺทตฺถาย ทินฺเนนาติ อุปาสเกหิ ‘‘เอวรูปํ คเหตฺวา ภาเชตฺวา ปริภฺุชถา’’ติ อฺสฺสตฺถาย ทินฺเนน. ‘‘สงฺฆิเกน ปริกฺขาเรนา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปริกฺขาเรนาติ กปฺปิยภณฺเฑน. สงฺฆิเกนาติ สงฺฆสฺส ปริจฺจตฺเตน. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. ตสฺสาติ ยาย เจตาปิตํ. นิสฺสคฺคิยํ สิยาติ เอตฺถ นิสฺสฏฺปฏิลทฺธํ ยถาทาเน อุปเนตพฺพนฺติ วตฺตพฺพํ. ยถาห ‘‘นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวา ยถาทาเน อุปเนตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๗๖๑). อิทํ เหฏฺา วุตฺตตฺถาธิปฺปายเมว. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ‘‘อนฺทตฺถิเก อฺทตฺถิกสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนฺทตฺถิเก เวมติกา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อนฺทตฺถิเก นิทฺทิฏฺํ ¶ ทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ. อิมินา จ ‘‘อฺทตฺถิเก ติกปาจิตฺติย’’นฺติ อิทํ วุตฺตเมว. ‘‘อฺทตฺถิเก อฺทตฺถิกสฺา, เวมติกา, อนฺทตฺถิกสฺา อฺํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๗๖๑) หิ วุตฺตํ.
๒๑๑๗. เสสกนฺติ ¶ ยทตฺถาย ทินฺนํ, ตํ เจตาเปตฺวา อาหริตฺวา อติริตฺตํ มูลํ อฺทตฺถาย อุปเนนฺติยา อนาปตฺตีติ โยเชตพฺพํ. สามิเก ปุจฺฉิตฺวาติ ‘‘ตุมฺเหหิ จีวรตฺถาย ทินฺนํ, อมฺหากฺจ จีวรํ สํวิชฺชติ, เตลาทีหิ ปน อตฺโถ’’ติ เอวํ สามิเก ปุจฺฉิตฺวา. ตนฺติ ตํ เจตาปนฺนํ. อาปทาสูติ ภิกฺขุนีหิ วิหารํ ปหาย คมนารหมุปทฺทโว คหิโต. ยถาห ‘‘อาปทาสูติ ตถารูเปสุ อุปทฺทเวสุ ภิกฺขุนิโย วิหารํ ฉฑฺเฑตฺวา ปกฺกมนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ยํ วา ตํ วา เจตาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๖๒).
๒๑๑๘. สยํ ยาจิตกํ วินาติ ‘‘สํยาจิตก’’นฺติ ปทํ วินา, เอตฺตกเมว วิสทิสนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ฉฏฺสตฺตมานิ.
๒๑๑๙. อธิกวจนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มหาชนิกสฺาจิเกนา’’ติ. ปทตาธิกาติ ปทเมว ปทตา. มหาชนิเกนาติ คณสฺส ปริจฺจตฺเตน. สฺาจิเกนาติ สยํ ยาจิตเกน.
๒๑๒๐. อนนฺตรสมา มตาติ อิธ ‘‘ปุคฺคลิเกนา’’ติ ปทํ วินา สมุฏฺานาทินา สทฺธึ สพฺเพ วินิจฺฉยา อนนฺตรสิกฺขาปทสทิสา มตาติ อตฺโถ. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อฺทตฺถิเกน ปริกฺขาเรน อฺุทฺทิสิเกน ปุคฺคลิเกนา’’ติ หิ ¶ สิกฺขาปทํ. ปุคฺคลิเกนาติ เอกภิกฺขุนิยา ปริจฺจตฺเตน. ‘‘กิฺจิปี’’ติ ลิขนฺติ. ‘‘โกจิปี’’ติ ปาโ สุนฺทโร ‘‘วิเสโส’’ติ อิมินา ตุลฺยาธิกรณตฺตา.
อฏฺมนวมทสมานิ.
ปโม วคฺโค.
๒๑๒๑-๒. จตฺตาริ กํสานิ สมาหฏานิ, จตุนฺนํ กํสานํ สมาหาโร วา จตุกฺกํสํ, จตุกฺกํสโต อติเรกํ อติเรกจตุกฺกํสํ, เตน อติเรกจตุกฺกํสคฺฆนกํ ปาวุรณมาห, อุปจาเรน ‘‘อติเรกจตุกฺกํส’’นฺติ วุตฺตํ. กํสปริมาณํ ปเนตฺถ สยเมว วกฺขติ ‘‘กหาปณจตุกฺกํ ตุ, กํโส นาม ปวุจฺจตี’’ติ. ตสฺมา อติเรกโสฬสกหาปณคฺฆนกนฺติ อตฺโถ. ครุปาวุรณนฺติ สีตกาเล ปารุปิตพฺพปาวุรณํ. เจตาเปยฺยาติ วิฺาเปยฺย. จตฺตาริ สจฺจานิ ¶ สมาหฏานิ, จตุนฺนํ วา สจฺจานํ สมาหาโร จตุสจฺจํ, ตํ ปกาเสติ สีเลนาติ จตุสจฺจปฺปกาสี, เตน, จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ นิทฺทิสเกน สมฺมาสมฺพุทฺเธน. ปโยเคติ ‘‘เทหี’’ติ เอวํ วิฺาปนปโยเค. ลาเภติ ปฏิลาเภ.
จตุนฺนํ สมูโห จตุกฺกํ, กหาปณานํ จตุกฺกํ กหาปณจตุกฺกํ. กหาปโณ เจตฺถ ตํตํกาเล, ตํตํปเทเส จ โวหารูปโค คเหตพฺโพ. อิมา วุตฺตปฺปการา นิสฺสคฺคิยาวสานาปตฺติโย ‘‘าตกานฺจ สนฺตเก’’ติ อนาปตฺติวิสเย วกฺขมานตฺตา ‘‘ยทา เยน อตฺโถ, ตทา ตํ วเทยฺยาถา’’ติ เอวํ นิจฺจปวารณํ อกตฺวา ตสฺมึ กาเล กิสฺมิฺจิ คุเณ ปสีทิตฺวา ‘‘วเทยฺยาถ เยน อตฺโถ’’ติ เอวํ ปวาริตฏฺาเน สมฺภวนฺตีติ ทฏฺพฺพา.
๒๑๒๓-๕. อูนกจตุกฺกํเส ¶ อติเรกสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อูนกจตุกฺกํเส เวมติกา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อูนเก ตุ จตุกฺกํเส, อุทฺทิฏฺํ ทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ. อิมินา ‘‘อติเรกจตุกฺกํเส อติเรกสฺา, เวมติกา, อูนกสฺา เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ ติกปาจิตฺติยฺจ ทสฺสิตํ โหติ.
ครุกนฺติ ครุปาวุรณํ. ตทูนํ วาติ จตุกฺกํสโต อูนกํ วา. าตกานฺจาติ เอตฺถ จ-สทฺเทน ปวาริตานํ สงฺคโห. ยถาห อนาปตฺติวาเร ‘‘าตกานํ, ปวาริตาน’’นฺติ (ปาจิ. ๗๘๗). เอตฺถ จ ‘‘อติเรกจตุกฺกํสมฺปี’’ติ วตฺตพฺพํ ‘‘ตทูนํ วา’’ติ อิมินา จตุกฺกํสูนสฺส วุตฺตตฺตา. ‘‘อปฺปเมว วา’’ติ อิมินา อติเรกจตุกฺกํเสปิ มหคฺฆตรํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอกาทสมํ.
๒๑๒๖-๗. ‘‘ลหุปาวุรณํ ปน ภิกฺขุนิยา เจตาเปนฺติยา อฑฺฒเตยฺยกํสปรมํ เจตาเปตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๗๘๙) วจนโต ลหุปาวุรณนฺติ เอตฺถ ‘‘เจตาเปนฺติยา ภิกฺขุนิยา’’ติ จ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนนฺติ เอตฺถ ‘‘เจตาเปตพฺพ’’นฺติ จ เสโส. ลหุปาวุรณนฺติ อุณฺหกาเล ปาวุรณํ. ติณฺณํ ปูรโณ เตยฺโย, อฑฺโฒ เตยฺโย อสฺสาติ อฑฺฒเตยฺโย, อฑฺฒเตยฺโย จ โส กํโส จาติ อฑฺฒเตยฺยกํโส, ตํ อคฺฆตีติ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนํ, ทสกหาปณคฺฆนกนฺติ อตฺโถ. ตโตติ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกโต. ยํ ปน ปาวุรณํ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกํ, ตํ ลหุปาวุรณํ ¶ . ตโต อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกโต ลหุปาวุรณโต. อุตฺตรินฺติ อติเรกํ. อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกํ ยํ ปาวุรณํ ยา ภิกฺขุนี เจตาเปติ ¶ , ตสฺส ปาวุรณสฺส ปฏิลาเภ ตสฺสา ภิกฺขุนิยา นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยา วุตฺตาติ โยชนา.
‘‘อนนฺตรสมํ เสส’’นฺติ อิทํ สมตฺเถตุมาห ‘‘นตฺถิ กาจิ วิเสสตา’’ติ. วิเสโสเยว วิเสสตา.
ทฺวาทสมํ.
๒๑๒๘. อิทานิ ปาติโมกฺขุทฺเทเส อาคเตสุ สมตึสนิสฺสคฺคิเยสุ เกสฺจิ อตฺตโน อวจเน การณฺจ อวุตฺเตหิ สทฺธึ วุตฺตานํ คหณฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘สาธารณานี’’ติอาทิ. หิ ยสฺมา ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ สาธารณานิ ยานิ สิกฺขาปทานิ เสสานิ อิธ วุตฺเตหิ อฺานิ, ตานิ อฏฺารส สิกฺขาปทานิ เจว อิธ วุตฺตสรูปานิ ทฺวาทส สิกฺขาปทานิ เจติ อิจฺเจวํ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทานิ สมตึเสว โหนฺตีติ โยชนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา
๒๑๒๙-๓๐. เอวํ ตึส นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สุทฺธปาจิตฺติยานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ลสุณ’’นฺติอาทิ. ลสุณนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ‘‘ลสุณํ’’อิติ ภณฺฑิกํ วุตฺตํ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๓-๗๙๕). จตุปฺจมิฺชาทิปฺปเภทํ ภณฺฑิกํ ลสุณํ นาม, น ตโต อูนํ. เตนาห ‘‘น เอกทฺวิติมิฺชก’’นฺติ. ปกฺกลสุณโต, สีหฬทีปสมฺภวโต จ วิเสสมาห ‘‘อามกํ มาคธํเยวา’’ติ. มคเธสุ ชาตํ มาคธํ, ‘‘วุตฺต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘มคธรฏฺเ ชาตลสุณเมว ¶ หิ อิธ ลสุณนฺติ อธิปฺเปต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๕). ตํ ‘‘ขาทิสฺสามี’’ติ คณฺหตีติ สมฺพนฺโธ. วุตฺตปฺปการํ ปาจิตฺติยฺจ อชฺโฌหารวเสนาติ ทสฺเสตุมาห ‘‘อชฺโฌหารวเสเนว, ปาจิตฺตึ ปริทีปเย’’ติ.
๒๑๓๑. ตเทว ¶ วกฺขติ ‘‘ทฺเว ตโย’’ติอาทินา. สทฺธินฺติ เอกโต. สงฺขาทิตฺวาติ คลพิลํ อปฺปเวเสตฺวา ทนฺเตหิ สํจุณฺณิยนฺตี ขาทิตฺวา. อชฺโฌหรติ ปรคลํ กโรติ.
๒๑๓๒. ตตฺถาติ ตสฺมึ ภณฺฑิกลสุเณ. ‘‘มิฺชานํ คณนายา’’ติ อิมินา อชฺโฌหารปโยคคณนาเยว ทีปิตา. ยถาห ‘‘ภินฺทิตฺวา เอเกกํ มิฺชํ ขาทนฺติยา ปน ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยานี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๕).
๒๑๓๓. สภาวโต วฏฺฏนฺเตวาติ โยชนา.
๒๑๓๕. ยถาวุตฺตปลณฺฑุกาทีนํ นานตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกา มิฺชา’’ติอาทิ. อิธ มิฺชานํ วเสเนว นานตฺตํ ทสฺสิตํ. อฏฺกถายํ ปน วณฺณวเสนาปิ. ยถาห ‘‘ปลณฺฑุโก ปณฺฑุวณฺโณ โหติ. ภฺชนโก โลหิตวณฺโณ. หริตโก หริตปณฺณวณฺโณ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๗).
๒๑๓๖. ‘‘สาฬเว อุตฺตริภงฺคเก’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘พทรสาฬวาทีสู’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๗) อฏฺกถาวจนโต เอตฺถ พทร-สทฺโท เสโส. พทรสาฬวํ นาม พทรผลานิ สุกฺขาเปตฺวา จุณฺเณตฺวา กาตพฺพา ขาทนียวิกติ. อุมฺมตฺติกาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อาทิกมฺมิกา คหิตา. ยถาห ‘‘อุมฺมตฺติกาย อาทิกมฺมิกายา’’ติ (ปาจิ. ๗๙๗).
ปมํ.
๒๑๓๗. สมฺพาเธติ ¶ ปฏิจฺฉนฺโนกาเส. ตสฺส วิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปกจฺเฉสุ มุตฺตสฺส กรเณปิ วา’’ติ.
๒๑๓๘. อสฺสา ตถา ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘น โลมคณนายา’’ติ อิมินา ‘‘ปโยคคณนายา’’ติ อิทเมว สมตฺถยติ.
๒๑๓๙. อาพาเธติ กณฺฑุอาทิเก โรเค. ยถาห – ‘‘อาพาธปจฺจยาติ กณฺฑุกจฺฉุอาทิอาพาธปจฺจยา’’ติ ¶ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๐๑). มคฺคสํวิธานสมา มตาติ ภิกฺขุนิยา สํวิธาย เอกทฺธานสิกฺขาปเทน สทิสา มตา าตาติ อตฺโถ.
ทุติยํ.
๒๑๔๐. ปทุมสฺส วา ปุณฺฑรีกสฺส วา อนฺตมโส เกสเรนาปิ กามราเคน มุตฺตกรณสฺส ตลฆาตเน มุตฺตกรณมฺปิ ปหารทาเน ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. เกสเรนาปีติ อปิ-สทฺเทน มหาปทุมปณฺเณหิ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทีเปติ. ยถาห – ‘‘อนฺตมโส อุปฺปลปตฺเตนาปีติ เอตฺถ ปตฺตํ ตาว มหนฺตํ, เกสเรนาปิ ปหารํ เทนฺติยา อาปตฺติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๐๓).
๒๑๔๑. ตตฺถาติ ตสฺมึ มุตฺตกรณตเล.
ตติยํ.
๒๑๔๒. ยา ปน ภิกฺขุนี กามราคปเรตา กามราเคน ปีฬิตา อตฺตโน พฺยฺชเน มุตฺตปเถ อุปฺปลปตฺตมฺปิ ปเวเสติ, น วฏฺฏติ ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. ปิ-สทฺเทน ‘‘เกสรมตฺตมฺปิ ปน ปเวเสนฺติยา อาปตฺติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๑๒) อฏฺกถา อุลฺลิงฺคิตา.
๒๑๔๓-๔. ยทฺเยวํ ¶ ‘‘ชตุมฏฺเก ปาจิตฺติย’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิทํ…เป… ชตุมฏฺก’’นฺติ. อิทํ ชตุมฏฺกํ วตฺถุวเสเนว วุตฺตนฺติ ‘‘อถ โข สา ภิกฺขุนี ชตุมฏฺกํ อาทิยิตฺวา โธวิตุํ วิสฺสริตฺวา เอกมนฺตํ ฉฑฺเฑสิ. ภิกฺขุนิโย มกฺขิกาหิ สมฺปริกิณฺณํ ปสฺสิตฺวา เอวมาหํสุ ‘กสฺสิทํ กมฺม’นฺติ. สา เอวมาห ‘มยฺหิทํ กมฺม’นฺติ. ยา ตา ภิกฺขุนิโย อปฺปิจฺฉา, ตา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ ‘กถฺหิ นาม ภิกฺขุนี ชตุมฏฺกํ อาทิยิสฺสตี’’ติ (ปาจิ. ๘๐๖) อาคตวตฺถุวเสเนว วุตฺตํ, น ตํ วินา อฺสฺส วฏฺฏกสฺส สมฺภวโตติ อธิปฺปาโย. ชตุมฏฺกํ นาม ชตุนา กโต มฏฺทณฺฑโก.
ทณฺฑนฺติ ¶ เอตฺถ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘อนฺตมโส อุปฺปลปตฺตมฺปิ มุตฺตกรณํ ปเวเสตี’’ติ (ปาจิ. ๘๐๘). เอตมฺปิ จ อติมหนฺตํ, เกสรมตฺตมฺปิ ปน ปเวเสนฺติยา อาปตฺติ เอว. เอฬาลุกนฺติ กกฺการิผลํ วา. ตสฺมินฺติ อตฺตโน มุตฺตกรเณ.
๒๑๔๕. อาพาธปจฺจยาติ มุตฺตกรณปฺปเทเส ชาตวณาทิมฺหิ วณฏฺานนิรุปนาทิปจฺจยา.
จตุตฺถํ.
๒๑๔๖. อคฺคปพฺพทฺวยาธิกนฺติ อคฺคปพฺพทฺวยโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อธิกํ. ยถาห ‘‘อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๘๑๒). ทกสุทฺธึ กโรนฺติยาติ มุตฺตกรณฏฺาเน โธวนํ กโรนฺติยา. ยถาห ‘‘อุทกสุทฺธิกํ นาม มุตฺตกรณสฺส โธวนา วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๘๑๒).
๒๑๔๗. ‘‘ตีณี’’ติ ¶ อิมินา เอกงฺคุลิยา ปพฺพทฺวยสฺส ปเวเสตฺวา โธวเน โทสาภาวํ ทีเปติ. ทีฆโตติ องฺคุลิยา ทีฆโต. ตีณิ ปพฺพานิ คมฺภีรโต มุตฺตกรเณ ปเวเสตฺวา อุทกสุทฺธึ อาทิยนฺติยา ปาจิตฺติยํ ภเวติ โยชนา.
๒๑๔๘. ติสฺโส, จตสฺโส วา องฺคุลิโย เอกโต กตฺวา วิตฺถาเรน ปเวสเน เอกปพฺเพปิ ปวิฏฺเ ‘‘ทฺวงฺคุลปพฺพปรม’’นฺติ นิยมิตปฺปมาณาติกฺกมโต อาห ‘‘เอกปพฺพมฺปิ ยา ปนา’’ติ. ยา ปน ภิกฺขุนี จตุนฺนํ วาปิ องฺคุลีนํ ติสฺสนฺนํ วาปิ องฺคุลีนํ เอกปพฺพมฺปิ วิตฺถารโต ปเวเสติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.
๒๑๔๙. อิตีติ เอวํ. สพฺพปฺปกาเรนาติ คมฺภีรปเวสนาทินา สพฺเพน ปกาเรน. อภิพฺยตฺตตรํ กตฺวาติ สุปากฏตรํ กตฺวา. อยมตฺโถติ ‘‘เอกิสฺสงฺคุลิยา ตีณี’’ติอาทินา วุตฺโต อยมตฺโถ.
๒๑๕๐. ทฺวงฺคุลปพฺเพ โทโส นตฺถีติ โยชนา. อุทกสุทฺธิปจฺจเย ปน สติปิ ผสฺสสาทิยเน ¶ ยถาวุตฺตปริจฺเฉเท อนาปตฺติ. อธิกมฺปีติ ทฺวงฺคุลปพฺพโต อธิกมฺปิ. อุทกสุทฺธึ กโรนฺติยา โทโส นตฺถีติ โยชนา.
๒๑๕๑. ตถา อุทกสุทฺธึ กโรนฺตีนํ อุมฺมตฺติกาทีนํ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
ปฺจมํ.
๒๑๕๒. ภฺุชโต ปน ภิกฺขุสฺสาติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ ภฺุชโต ภิกฺขุสฺส. ยถาห ‘‘ภฺุชนฺตสฺสาติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ ภฺุชนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๘๑๗). ปานียํ วา วิธูปนํ ¶ วาติ วกฺขมานํ ปานียํ, พีชนียฺจ. อุปติฏฺเยฺยาติ ‘‘หตฺถปาเส ติฏฺตี’’ติ (ปาจิ. ๘๑๗) วจนโต เอตฺถ อุป-สทฺโท หตฺถปาสสงฺขาตํ สมีปํ วทตีติ เวทิตพฺพํ.
๒๑๕๓. วตฺถโกณาทิ ยา กาจิ ‘‘พีชนี’’ติ วุจฺจตีติ โยชนา, อิมินา ‘‘พีชนิกิจฺจํ สมฺปาเทสฺสามี’’ติ อธิฏฺาย คหิตจีวรโกณปฺปการํ ยํ กิฺจิ ‘‘พีชนี’’ติ วุจฺจตีติ อตฺโถ.
๒๑๕๔. ‘‘อถ โข สา ภิกฺขุนี ตสฺส ภิกฺขุโน ภฺุชนฺตสฺส ปานีเยน จ วิธูปเนน จ อุปติฏฺิตฺวา อจฺจาวทติ. อถ โข โส ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุนึ อปสาเทติ ‘มา, ภคินิ, เอวรูปํ อกาสิ, เนตํ กปฺปตี’ติ. ‘ปุพฺเพ มํ ตฺวํ เอวฺจ เอวฺจ กโรสิ, อิทานิ เอตฺตกํ น สหสี’ติ ปานียถาลกํ มตฺถเก อาสุมฺภิตฺวา วิธูปเนน ปหารํ อทาสี’’ติ (ปาจิ. ๘๑๕) อิมสฺมึ วตฺถุมฺหิ ภิกฺขูหิ อาโรจิเต ‘‘กถฺหิ นาม, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนี ภิกฺขุสฺส ปหารํ ทสฺสตี’’ติอาทีนิ (ปาจิ. ๘๑๕) วตฺวา ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ภิกฺขุสฺส ภฺุชนฺตสฺส ปานีเยน วา วิธูปเนน วา อุปติฏฺเยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๘๑๖) วุตฺตตฺตา ปหารปจฺจยา นุ โขติ อาสงฺกํ นิวตฺเตตุมาห ‘‘หตฺถปาเส อิธ านปจฺจยาปตฺติ ทีปิตา’’ติ. เอตฺถ จ อาสุมฺภิตฺวาติ ปาเตตฺวา. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสฺส ปหาโร ทาตพฺโพ. ยา ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๔๒๐) ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก ¶ วุตฺตํ คเหตฺวา อาห ‘‘ปหารปจฺจยา วุตฺตํ, ขนฺธเก ทุกฺกฏํ วิสุ’’นฺติ. อิมินา วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส การณํ ทสฺสิตํ โหติ.
๒๑๕๕. หตฺถปาสํ ชหิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘โภชนํ ภฺุชโต’’ติ จ ขาทนํ ขาทโตติ เอตฺถ ‘‘หตฺถปาเส’’ติ จ วตฺตพฺพํ ¶ . โภชนํ ภฺุชโต หตฺถปาสํ ชหิตฺวา อุปติฏฺนฺติยา วา ขาทนํ ขาทโต หตฺถปาเส อุปติฏฺนฺติยา วา โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๒๑๕๖. เทตีติ ปานียํ วา สูปาทึ วา ‘‘อิมํ ปิวถ, อิมินา ภฺุชถา’’ติ เทติ. ตาลวณฺฏํ ‘‘อิมินา พีชนฺตา ภฺุชถา’’ติ เทติ. ทาเปตีติ อฺเน อุภยมฺปิ ทาเปติ. อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานโต เอฬกโลเมน สมํ มตนฺติ โยชนา.
ฉฏฺํ.
๒๑๕๗. วิฺตฺวาติ สยํ วิฺตฺวา, อฺาย วา วิฺาเปตฺวา. ‘‘วิฺตฺวา วา วิฺาเปตฺวา วา’’ติ (ปาจิ. ๘๒๑) หิ สิกฺขาปทํ. อามกํ ธฺนฺติ อปกฺกํ อภฏฺํ สาลิอาทิกํ สตฺตวิธํ ธฺํ. ยถาห – ‘‘อามกธฺํ นาม สาลิ วีหิ ยโว โคธุโม กงฺคุ วรโก กุทฺรูสโก’’ติ (ปาจิ. ๘๒๒). โกฏฺเฏตฺวาติ มุสเลหิ โกฏฺเฏตฺวา. ยทิ ปริภฺุชตีติ โยชนา.
๒๑๕๘-๖๐. ‘‘ภฺุชิสฺสามีติ ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อิทํ ปโยคทุกฺกฏํ นาม, ตสฺมา น เกวลํ ปฏิคฺคหเณเยว ทุกฺกฏํ โหตี’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๒) อฏฺกถาคตํ วิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น เกวลํ ตุ ธฺาน’’นฺติอาทิ. ปนาติ อปิ-สทฺทตฺเถ, สุกฺขาปเนปีติ อตฺโถ. ภชฺชนตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘วทฺทลิทิวเส’’ติ เสโส. ‘‘กปลฺลสชฺชเน อุทฺธนสชฺชเน’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ทพฺพิสชฺชเนติ กฏจฺฉุสมฺปาทเน. ตตฺถ กปลฺลเก ธฺปกฺขิปเนติ โยชนา. ‘‘ฆฏฺฏนโกฏฺฏเน’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน น-การโลปํ กตฺวา ‘‘ฆฏฺฏโกฏฺฏเน’’ติ วุตฺตํ.
๒๑๖๑-๓. ปมาณ-สทฺทสฺส ¶ อาวตฺตลิงฺคสงฺขฺยตฺตา อาห ‘‘โภชนฺเจว วิฺตฺติปมาณ’’นฺติ ¶ . อาวตฺตลิงฺคสงฺขฺยตฺตํ นาม นิยตลิงฺเคกตฺตพหุตฺตํ. ตถา เหตฺถ ปมาณ-สทฺโท นิยตนปุํสกลิงฺเค นิยเตกตฺตํ วุจฺจติ. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท โภชนฺเจว วิฺตฺติ จาติ อิทํ ทฺวยํ หิ ยสฺมา ปมาณํ, ตสฺมา สยํ วิฺตฺวา วา อฺโต ภชฺชนาทีนิ การาเปตฺวา วา อฺาย ปน วิฺาเปตฺวา สยํ ภชฺชนาทีนิ กตฺวา วา ยา ปน ภิกฺขุนี อชฺโฌหรติ, ตสฺสา อชฺโฌหารปโยเคสุ ปาจิตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา.
มหาปจฺจริยํ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๓) วุตฺตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มาตรํ วา’’ติอาทิ. มาตรํ วาปิ ยาจิตฺวาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อตฺถนฺตรวิกปฺปเน. ปิ-สทฺโท สมฺภาวเน. มาตรํ วา ปิตรํ วา อฺํ วา าตกํ วา ปวาริตํ วา อามกธฺํ ยาจิตฺวา วา อฺาย การาเปตฺวา วา ยา ปริภฺุชติ, ตสฺสา ปาจิตฺตีติ โยชนา.
๒๑๖๔. อวิฺตฺติยา ลทฺธํ สยํ วา ภชฺชนาทีนิ กตฺวา วา อฺาย การาเปตฺวา วา ยา ปริภฺุชติ, ตสฺสา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๒๑๖๕. อฺาย ปน วิฺตฺติยา ลทฺธํ ตาย การาเปตฺวาปิ สยํ กตฺวา วา อชฺโฌหรนฺติยา ตถา อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อิทฺจ มหาปจฺจริยาคตนยํ คเหตฺวา วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘อฺาย วิฺตฺตํ ภฺุชนฺติยา ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๒) วุตฺตตฺตา วิฺตฺติยาปิ อฺาย ลทฺธํ อามกํ ธฺํ ตาย การาเปตฺวา วา สยํ กตฺวา วา ปริภฺุชนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๒๑๖๖-๗. เสทกมฺมาทิอตฺถายาติ ¶ วาตโรคาทินา อาตุรานํ เสทนาทิปฏิการตฺถาย. อิธ ‘‘อฺาตกอปฺปวาริตฏฺาเนปี’’ติ เสโส. ภิกฺขูนมฺปิ เอเสว นโย. เปตฺวา สตฺต ธฺานิ าตกปวาริตฏฺาเน เสสวิฺตฺติยาปิ อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. เสสวิฺตฺติยาติ มุคฺคมาสอลาพุกุมฺภณฺฑกาทีนํ วุตฺตธฺาวเสสานํ วิฺตฺติยา.
สาลิอาทีนํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา, อนามาสตฺตา จ สพฺเพน สพฺพํ น วฏฺฏนฺตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘าตกานมฺปี’’ติอาทิ.
๒๑๖๘. ลทฺธนฺติ ¶ ลพฺภมานํ. นวกมฺเมสูติ นวกมฺมตฺถาย, นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. เอตฺถ ‘‘สมฺปฏิจฺฉิตุ’’นฺติ เสโส. ‘‘อวิฺตฺติยา ลพฺภมานํ ปน นวกมฺมตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๓) มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.
สตฺตมํ.
๒๑๖๙. สงฺการนฺติ กจวรํ. วิฆาสกํ วาติ อุจฺฉิฏฺกมจฺฉกณฺฏกมํสฏฺิจลกมุขโธวนาทิกํ ยํ กิฺจิ. ฉฑฺเฑยฺย วาติ เอตฺถ ‘‘สย’’นฺติ เสโส ‘‘ฉฑฺฑาเปยฺย ปเรหี’’ติ วกฺขมานตฺตา. กุฏฺฏสฺส ติโร ติโรกุฏฺฏํ, ตสฺมึ, กุฏฺฏสฺส ปรภาเคติ อตฺโถ. ‘‘ปากาเรปิ อยํ นโย’’ติ วกฺขมานตฺตา กุฏฺฏนฺติ วา พฺยติริตฺตา ภิตฺติ คเหตพฺพา.
๒๑๗๑. เอกาติ เอตฺถ อาปตฺตีติ เสโส. ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.
๒๑๗๒. ฉฑฺฑเนติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ทนฺตกฏฺสฺส ฉฑฺฑเนปิ ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.
๒๑๗๓-๔. สพฺพตฺถาติ ¶ วุตฺตปฺปกาเรสุ สพฺเพสุ วิกปฺเปสุ. อนาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อวลฺเชปี’’ติอาทิ. อวลฺเช าเน อโนโลเกตฺวา ฉฑฺเฑนฺติยาปิ วา วลฺเช าเน โอโลเกตฺวาปิ วา ปน ฉฑฺเฑนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. ฉฑฺฑนํ กฺริยํ. อโนโลกนํ อกฺริยํ.
อฏฺมํ.
๒๑๗๕-๖. ยา ปน ภิกฺขุนี เขตฺเต วา นาฬิเกราทิอาราเม วา ยตฺถ กตฺถจิ โรปิเม หริตฏฺาเน ตานิ วิฆาสุจฺจารสงฺการมุตฺตสงฺขาตานิ จตฺตาริ วตฺถูนิ สเจ สยํ ฉฑฺเฑติ วา, ตถา ปเร ฉฑฺฑาเปติ วา, ตสฺสา ภิกฺขุนิยา อาปตฺติวินิจฺฉโย วุตฺตนโย ‘‘เอเกก’’มิจฺจาทินา ยถาวุตฺตปกาโรติ โยชนา.
๒๑๗๗-๘. ยา ปน ภิกฺขุนี หริเต เขตฺเต นิสีทิตฺวา ภฺุชมานา วา ตถา หริเต ตตฺถ ¶ เขตฺเต อุจฺฉุอาทีนิ ขาทนฺติ ขาทมานา คจฺฉนฺตี วา ยทิ อุจฺฉิฏฺํ อุทกํ วา จลกาทึ วา ฉฑฺเฑติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา. จลกํ นาม วมิกรํ.
๒๑๗๙. ตาทิเส หริเต าเน อนฺตมโส มตฺถกฉินฺนํ นาฬิเกรมฺปิ ชลํ ปิวิตฺวา ฉฑฺเฑนฺติยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.
๒๑๘๐. สพฺเพสนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ.
๒๑๘๑. ลายิตมฺปิ เขตฺตํ ปุน โรหณตฺถาย มนุสฺสา รกฺขนฺติ เจ, ตตฺถ ตสฺมึ เขตฺเต วิฆาสุจฺจาราทีนิ ฉฑฺเฑนฺติยา อสฺสา ภิกฺขุนิยา ยถาวตฺถุกเมว หิ ปาจิตฺติยเมวาติ ¶ โยชนา. ‘‘อสฺสา ยถาวตฺถุก’’นฺติ อิมินา ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตเมว โหติ.
๒๑๘๒. ฉฑฺฑิเต เขตฺเตติ มนุสฺเสหิ อุทฺธฏสสฺเส เขตฺเต. ยถาห – ‘‘มนุสฺเสสุ สสฺสํ อุทฺธริตฺวา คเตสุ ฉฑฺฑิตเขตฺตํ นาม โหติ, ตตฺถ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๐). เอวํ อกเตปิ เขตฺเต สามิเก อาปุจฺฉิตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. ยถาห ‘‘สามิเก อปโลเกตฺวา ฉฑฺเฑตี’’ติ (ปาจิ. ๘๓๒). อิธ เขตฺตปาลกา, อารามาทิโคปกา จ สามิกา เอว. สงฺฆสฺส เขตฺเต, อาราเม จ สเจ ‘‘ตตฺถ กจวรํ น ฉฑฺเฑตพฺพ’’นฺติ กติกา นตฺถิ, ภิกฺขุสฺส ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ สงฺฆปริยาปนฺนตฺตา, น ภิกฺขุนีนํ. ตาสํ ปน ภิกฺขุสงฺเฆ วุตฺตนเยน น วฏฺฏติ, น ตสฺส ภิกฺขุสฺส, เอวํ สนฺเตปิ สารุปฺปวเสน กาตพฺพนฺติ. สพฺพนฺติ อุจฺจาราทิ จตุพฺพิธํ.
นวมํ.
๒๑๘๓. เอตฺถ ‘‘นจฺจํ นาม ยํ กิฺจิ นจฺจํ. คีตํ นาม ยํ กิฺจิ คีตํ. วาทิตํ นาม ยํ กิฺจิ วาทิต’’นฺติ (ปาจิ. ๘๓๕) วจนโต ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ เสโส. ยา ปน ภิกฺขุนี ยํ กิฺจิ นจฺจํ วา ยํ กิฺจิ คีตํ วา ยํ กิฺจิ วาทิตํ วา ทสฺสนตฺถาย คจฺเฉยฺยาติ โยชนา. ตตฺถ ยํ กิฺจิ นจฺจนฺติ นฏาทโย วา นจฺจนฺตุ โสณฺฑา วา, อนฺตมโส โมรสุกมกฺกฏาทโยปิ, สพฺพมฺเปตํ นจฺจเมว. ยํ กิฺจิ คีตนฺติ นฏาทีนํ วา คีตํ โหตุ อริยานํ ปรินิพฺพานกาเล รตนตฺตยคุณูปสํหิตํ สาธุกีฬิตคีตํ วา อสฺตภิกฺขูนํ ¶ ธมฺมภาณกคีตํ วา, สพฺพมฺเปตํ คีตเมว. ยํ กิฺจิ วาทิตนฺติ ฆนาทิวาทนียภณฺฑวาทิตํ วา โหตุ กุฏเภริวาทิตํ วา อนฺตมโส อุทรเภริวาทิตมฺปิ ¶ , สพฺพมฺเปตํ วาทิตเมว. ‘‘ทสฺสนสวนตฺถายา’’ติ วตฺตพฺเพ วิรูเปกเสสนเยน ‘‘ทสฺสนตฺถายา’’ติ วุตฺตํ. ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ ยถาสกํ วิสยสฺส อาโลจนสภาวตาย วา ‘‘ทสฺสนตฺถาย’’ อิจฺเจว วุตฺตํ.
๒๑๘๔. ปุพฺพปโยคทุกฺกเฏน สห ปาจิตฺติยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทสฺสนตฺถาย นจฺจสฺสา’’ติอาทิ. คีตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘วาทิตสฺสา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.
๒๑๘๕. เอกปโยเคนาติ เอกทิสาวโลกนปโยเคน. เตเนว วกฺขติ ‘‘อฺสฺมิมฺปิ…เป… สิยุ’’นฺติ. ปสฺสตีติ เอตฺถ ‘‘นจฺจ’’นฺติ เสโส. เตสนฺติ เยสํ นจฺจํ ปสฺสติ. ปิ-สทฺเทน วาทิตมฺปิ สมฺปิณฺเฑติ. ยถาห ‘‘เตสํเยว คีตวาทิตํ สุณาติ, เอกเมว ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๖).
๒๑๘๖. อฺโตติ อฺสฺมึ ทิสาภาเค.
๒๑๘๗. ‘‘วิสุํ ปาจิตฺติโย สิยุ’’นฺติ อิทเมว ปกาเสตุมาห ‘‘ปโยคคณนาเยตฺถ, อาปตฺติคณนา สิยา’’ติ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ นานาทิสาภาเค. นจฺจคีตวาทิตานํ ทสฺสนสวเน อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นจฺจิตุ’’นฺติอาทิ.
๒๑๘๘. ‘‘นจฺจ อิตี’’ติ ปทจฺเฉโท, ‘‘นจฺจาหี’’ติปิ ปาโ. อุปฏฺานนฺติ เภริสทฺทปูชํ. สมฺปฏิจฺฉิตุนฺติ ‘‘สาธู’’ติ อธิวาเสตุํ. อิมสฺส อุปลกฺขณวเสน วุตฺตตฺตา นจฺจคีเตปิ เอเสว นโย.
๒๑๘๙-๙๐. สพฺพตฺถาติ นจฺจนาทีสุ สพฺพตฺถ. อุปฏฺานํ กโรมาติ ตุมฺหากํ เจติยสฺส นจฺจาทีหิ อุปหารํ กโรมาติ. อุปฏฺานํ ปสตฺถนฺติ อุปฏฺานกรณํ นาม สุนฺทรนฺติ.
ยา ¶ อาราเมเยว จ ตฺวา ปสฺสติ วา สุณาติ วาติ โยชนา, อิธ ‘‘อนฺตราราเม วา’’ติอาทิ ¶ เสโส. ‘‘อาราเม ตฺวา อนฺตราราเม วา พหิอาราเม วา นจฺจาทีนิ ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๗) อฏฺกถาย วุตฺตํ. ‘‘ตฺวา’’ติ วุตฺเตปิ สพฺเพสุปิ อิริยาปเถสุ ลพฺภติ. อาราเม ตฺวาติ น เกวลํ ตฺวาว, ตโต คนฺตฺวาปิ สพฺพิริยาปเถหิปิ ลภติ. ‘‘อาราเม ิตา’’ติ (ปาจิ. ๘๓๗) ปน อารามปริยาปนฺนทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อิตรถา นิสินฺนาปิ น ลเภยฺยาติ คณฺิปทาทีสุ วุตฺตํ. ภิกฺขูนมฺปิ เอเสว นโย.
๒๑๙๑. ยา อตฺตโน ิโตกาสํ อาคนฺตฺวา ปโยชิตํ ปสฺสติ วา สุณาติ วาติ โยชนา. ิโตกาสนฺติ เอตฺถ คตินิวตฺติสามฺเน สยิตนิสินฺนมฺปิ คยฺหติ. ตถารูปา หิ การณา คนฺตฺวา ปสฺสนฺติยา วาปีติ โยชนา. การณํ นาม สลากภตฺตาทิการณํ. ยถาห ‘‘สติ กรณีเยติ สลากภตฺตาทีนํ วา อตฺถาย อฺเน วา เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา คตฏฺาเน ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๗).
๒๑๙๒. มคฺคํ คจฺฉนฺตี ปฏิปเถ นจฺจํ อฏฺตฺวา ปสฺสตีติ เอวํ ปสฺสนฺติยาปิ จ ตถา อนาปตฺตีติ อชฺฌาหารโยชนา. ปฏิปเถติ คมนมคฺคาภิมุเข. อาปทาสุปีติ ตาทิเสน อุปทฺทเวน อุปทฺทุตา สมชฺชฏฺานํ ปวิสติ, เอวํ ปวิสิตฺวา ปสฺสนฺติยา วา สุณนฺติยา วา อนาปตฺติ.
๒๑๙๓. อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานโต เอฬกโลมสิกฺขาปเทน สมํ มตํ ‘‘สมาน’’นฺติ วิฺาตํ.
ทสมํ.
ลสุณวคฺโค ปโม.
๒๑๙๔-๕. อิธ ¶ อิมสฺมึ สาสเน ยา ปน ภิกฺขุนี รตฺตนฺธการสฺมึ อปฺปทีเป ปุริเสน สทฺธึ เอกิกา สเจ สนฺติฏฺติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ โยชนา. รตฺตนฺธการสฺมินฺติ รตฺติยํ. รตฺติปริยาโย หิ รตฺตนฺธการ-สทฺโท. ยถาห ปทภาชเน ‘‘รตฺตนฺธกาเรติ โอคฺคเต สูริเย’’ติ (ปาจิ. ๘๔๐). อปฺปทีเปติ ปชฺโชตจนฺทสูริยอคฺคีสุ เอเกนาปิ อโนภาสิเต, อิมินา ¶ รตฺติกฺเขตฺตํ ทสฺเสติ. ‘‘สนฺติฏฺตี’’ติ อิมินา คมนนิสินฺนสยนสงฺขาตํ อิริยาปถตฺติกฺจ อุปลกฺขิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. วุตฺตฺหิ วชิรพุทฺธินา ‘‘สนฺติฏฺเยฺยาติ เอตฺถ านาปเทเสน จตุพฺพิโธปิ อิริยาปโถ สงฺคหิโต, ตสฺมา ปุริเสน สทฺธึ จงฺกมนาทีนิ กโรนฺติยาปิ ปาจิตฺติยฺจ อุปลพฺภตี’’ติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๘๓๙ โถกํ วิสทิสํ). ปุริเสน สทฺธินฺติ สนฺติฏฺิตุํ, สลฺลปิตฺุจ วิฺุนา มนุสฺสปุริเสน สทฺธึ.
รหสฺสาทวเสน ปุริสสฺส หตฺถปาสํ สมาคนฺตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺติยา วา ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๒๑๙๖-๗. ยา ปน ภิกฺขุนี สเจ มนุสฺสปุริสสฺส หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา สนฺติฏฺติ วา สลฺลปติ วา, ยกฺขเปตติรจฺฉานคตานํ หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา สนฺติฏฺติ วา สลฺลปติ วา, ตสฺสา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา.
วิฺุคฺคหเณน อวิฺู ปุริโส อนาปตฺตึ น กโรตีติ ทีเปติ.
๒๑๙๘. อฺวิหิตายาติ รโหอสฺสาทโต อฺํ จินฺเตนฺติยา. ยถาห ‘‘รโหอสฺสาทโต อฺวิหิตาว หุตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๔๑). จตุตฺเถน, ฉฏฺเน จ สมุฏฺาเนน สมุฏฺานโต ¶ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. สนฺติฏฺนสลฺลปนวเสน กฺริยํ. สฺาย วิโมกฺโข เอตสฺมินฺติ สฺาวิโมกฺขกํ.
ปมํ.
๒๑๙๙. ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเสติ กุฏฺฏาทีสุ เยน เกนจิ ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส. อิทํ วจนํ.
ทุติยํ.
๒๒๐๐. ตติเย ‘‘อชฺโฌกาเส’’ติ จ จตุตฺเถ ‘‘รถิกาย, พฺยูเห, สิงฺฆาฏเก’’ติ ปทานิ จ วชฺเชตฺวา อวเสสํ สนฺธายาห ‘‘อปุพฺพํ นตฺถิ กิฺจิปี’’ติ. เอตฺถ ‘‘วตฺตพฺพ’’นฺติ เสโส. เอตฺถ ¶ จ รถิกายาติ รจฺฉาย. พฺยูเหติ อนิพฺพิทฺธรจฺฉาย. สิงฺฆาฏเกติ จจฺจเร โอกาเส, ติโกณํ วา จตุโกณํ วา มคฺคสโมธานฏฺาเนติ วุตฺตํ โหติ.
ตติยจตุตฺถานิ.
๒๒๐๑-๒. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปุเรภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา อาสเน นิสีทิตฺวา สามิเก อนาปุจฺฉา ปกฺกเมยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๘๕๕) วจนโต ยา ปน ภิกฺขุนี ปุเรภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา ฉทนนฺโต อาสเน นิสีทิตฺวา สามิเก อนาปุจฺฉา อโนวสฺสกปฺปเทสํ อติกฺกเมติ, ยา จ อชฺโฌกาเส วา นิสีทิตฺวา สเจ อุปจารํ อติกฺกเมติ, ตสฺสา ปเม ปเท ทุกฺกฏํ โหติ, ทุติเย ปเท ปาจิตฺติ ปริยาปุตาติ โยชนา. ‘‘อาสเน’’ติ อิมินา ปลฺลงฺกมาภุชิตฺวา นิสีทนารหมาสนํ อธิปฺเปตํ. ยถาห – ‘‘อาสนํ นาม ปลฺลงฺกสฺส โอกาโส วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๘๕๖). อโนวสฺสปฺปเทสนฺติ นิพฺพโกสพฺภนฺตรํ. อพฺโภกาเส อาปตฺติเขตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปจารมฺปิ วา สเจ’’ติ. อุปจารนฺติ ทฺวาทสหตฺถปฺปมาณํ ¶ ปเทสํ. ยถาห คณฺิปเท ‘‘อุปจาโร ทฺวาทสหตฺโถ’’ติ.
๒๒๐๓. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘ทุกฺกฏํ สมุทีริต’’นฺติ อิทํ ปจฺจามสติ. อาปุฏฺเ อนาปุฏฺสฺาย อาปุฏฺเ วิจิกิจฺฉโต ปกฺกมนฺติยา ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ สมฺพนฺธินิยา สมานตฺตา ‘‘วิจิกิจฺฉนฺติยา’’ติ วตฺตพฺเพ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน ‘‘วิจิกิจฺฉโต’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๒๒๐๔. คิลานายาติ ยา ตาทิเสน เคลฺเน อาปุจฺฉิตุํ น สกฺโกติ. อาปทาสูติ ฆเร อคฺคิ อุฏฺิโต โหติ โจรา วา, เอวรูเป อุปทฺทเว อนาปุจฺฉา ปกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ.
ปฺจมํ.
๒๒๐๕-๖. ‘‘คจฺฉนฺติยา วชนฺติยา’’ติ จ นิสีทนนิปชฺชนาวสานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปาจิตฺติยํ ปน ปจฺฉาภตฺตํ สามิเก ‘‘อิธ นิสีทาม วา สยาม วา’’ติ อนาปุจฺฉิตฺวา นิสินฺนนิปนฺนปจฺจยา ¶ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ปจฺฉาภตฺตํ สามิเก อนาปุจฺฉา อาสเน นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺติยา เอกา ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. เอส นโย ‘‘นิปชฺชิตฺวา’’ติอาทีสุปิ.
ยถา ปน ตตฺถ อสํหาริเม อนาปตฺติ, เอวมิธ ธุวปฺตฺเต วา อนาปตฺตีติ.
ฉฏฺํ.
๒๒๐๗. ติสมุฏฺานนฺติ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺานโต.
อฏฺมํ.
๒๒๐๘. ยา ¶ ปน ภิกฺขุนี อตฺตานมฺปิ วา ปรมฺปิ วา นิรยพฺรหฺมจริเยหิ อภิสเปยฺย, ตสฺสา วาจโต วาจโต สิยา ปาจิตฺตีติ โยชนา. ตตฺถ อภิสเปยฺยาติ สปถํ กเรยฺย, ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตามิ, อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตามี’’ติ อตฺตานํ วา ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตตุ, อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตตู’’ติ ปรํ วา ‘‘คิหินี โหมิ, โอทาตวตฺถา โหมี’’ติ อตฺตานํ วา ‘‘คิหินี โหตุ, โอทาตวตฺถา โหตู’’ติ ปรํ วา อภิสเปยฺยาติ วุตฺตํ โหติ.
๒๒๑๐. อกฺโกสติ อตฺตานํ วา ปรํ วาติ สมฺพนฺโธ. ติกปาจิตฺติยนฺติ อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺาเวมติกาอนุปสมฺปนฺนสฺาวเสน. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺา อกฺโกสติ, ทุกฺกฏนฺติ เอวํ ติกทุกฺกฏํ.
๒๒๑๑. อตฺถธมฺมานุสาสนึ ปุรกฺขตฺวา วทนฺตีนํ อนาปตฺตีติ โยชนา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อตฺถปุเรกฺขารายาติ อฏฺกถํ กเถนฺติยา. ธมฺมปุเรกฺขารายาติ ปาฬึ วาเจนฺติยา. อนุสาสนิปุเรกฺขารายาติ ‘อิทานิปิ ตฺวํ เอทิสา, สาธุ วิรมสฺสุ, โน เจ วิรมสิ, อทฺธา ปุน เอวรูปานิ กมฺมานิ กตฺวา นิรเย อุปฺปชฺชิสฺสสิ, ติรจฺฉานโยนิยา อุปฺปชฺชิสฺสสี’ติ เอวํ อนุสาสนิยํ ตฺวา วทนฺติยา อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๗๘).
นวมํ.
๒๒๑๒. วธิตฺวาติ ¶ สตฺถาทีหิ ปหริตฺวา. วธิตฺวา วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท ปาฬิยํ ‘‘วธิตฺวา วธิตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๘๘๐) วุตฺตํ อาเมฑิตํ สูเจติ.
๒๒๑๓. เอตฺถาติ ¶ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. กายวาจาจิตฺตสมุฏฺานํ ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ นาม, สมนุภาสนสมุฏฺานนฺติปิ เอตสฺเสว นามํ.
ทสมํ.
อนฺธการวคฺโค ทุติโย.
๒๒๑๔. ยา ปน ภิกฺขุนี นคฺคา อนิวตฺถา อปารุตา หุตฺวา นหายติ, อสฺสา สพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ. ตสฺส นหานสฺส โวสาเน ปริโยสาเน สา ภิกฺขุนี ชินวุตฺตํ ชิเนน ภควตา ภิกฺขุนีนํ ปฺตฺตํ โทสํ ปาจิตฺติยาปตฺตึ สมุเปติ อาปชฺชตีติ โยชนา. ภิกฺขุนิ โทสนฺติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต.
๒๒๑๕. อจฺฉินฺนจีวราติ อจฺฉินฺนอุทกสาฏิกจีวรา. นฏฺจีวราติ โจราทีหิ นฏฺอุทกสาฏิกจีวรา. อาปทาสุ วาติ ‘‘มหคฺฆํ อิมํ ทิสฺวา โจราปิ หเรยฺยุ’’นฺติ เอวรูปาสุ อาปทาสุ วา นคฺคาย นหายนฺติยา น โทโส.
ปมํ.
๒๒๑๖. ทุติเยติ ‘‘อุทกสาฏิกํ ปน ภิกฺขุนิยา การยมานายา’’ติอาทิสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๘๘๘).
ทุติยํ.
๒๒๑๗-๘. ทุสฺสิพฺพิตํ จีวรนฺติ อสกฺกจฺจสิพฺพิตํ จีวรํ. วิสิพฺเพตฺวาติ ทุสฺสิพฺพิตํ ปุน สิพฺพนตฺถาย สยํ วา วิคตสิพฺพนํ กตฺวา. ‘‘วิสิพฺพาเปตฺวา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘วิสิพฺเพตฺวา วา วิสิพฺพาเปตฺวา วา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๓). อนนฺตรายาติ ทสสุ อนฺตราเยสุ ¶ อฺตรนฺตรายรหิตา. ตํ วิสิพฺพิตํ, วิสิพฺพาปิตํ วา จีวรํ. ‘‘อนนฺตรายา ตํ ¶ ปจฺฉา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต. น สิพฺเพยฺยาติ เอตฺถาปิ ‘‘น สิพฺพาเปยฺยา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘เนว สิพฺเพยฺย, น สิพฺพาปนาย อุสฺสุกฺกํ กเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๓).
จตุปฺจาหนฺติ เอตฺถ ‘‘อุตฺตริฉปฺปฺจวาจาหิ (ปาจิ. ๖๒-๖๔), อุตฺตริทิรตฺตติรตฺต’’นฺติอาทีสุ (ปาจิ. ๕๑-๕๒) วิย อปฺปสงฺขฺยาย พหุสงฺขฺยายํ อนฺโตคธตฺเตปิ อุภยวจนํ โลกโวหารวเสน วจนสิลิฏฺตายาติ ทฏฺพฺพํ. ธุเรติ สิพฺพนุสฺสาเห. นิกฺขิตฺตมตฺเตติ วิสฺสฏฺมตฺเต.
๒๒๑๙. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺาติ ตีสุ วาเรสุ ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ติกทุกฺกฏนฺติ วารตฺตเย ทุกฺกฏตฺตยํ.
๒๒๒๐. อุภินฺนนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. อฺสฺมินฺติ จีวรโต อฺสฺมึ. อนฺตราเยปิ วา สตีติ ราชโจราทิอนฺตรายานํ ทสนฺนํ อฺตเร สติ.
๒๒๒๑. ‘‘ธุรนิกฺเขปนํ นาม, สมุฏฺานมิทํ มต’’นฺติ อิทํ อฏฺกถาย ‘‘ธุรนิกฺเขปสมุฏฺาน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๙๓) วุตฺตเมว คเหตฺวา วุตฺตํ, เตรสสุ สมุฏฺานสีเสสุ ‘‘ธุรนิกฺเขปสมุฏฺาน’’นฺติ วิสุํ สมุฏฺานสีสํ นาม นตฺถิ. มาติกฏฺกถายฺจ ‘‘สมนุภาสนสมุฏฺาน’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา, อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ, ตํ สมุฏฺานสีเสสุ อนฺโตคธเมว. ตสฺมา ‘‘ธุรนิกฺเขปสมุฏฺาน’’นฺติ อิทํ สมนุภาสนสมุฏฺานสฺเสว ปริยาโยติ คเหตพฺพํ.
ตติยํ.
๒๒๒๒. ปฺจ ¶ อหานิ ปฺจาหํ, ปฺจาหเมว ปฺจาหิกํ. ‘‘อติกฺกเมยฺยา’’ติ กิริยาย ทฺวิกมฺมกตฺตา ‘‘ปฺจาหิก’’นฺติ จ ‘‘สงฺฆาฏิจาร’’นฺติ จ อุปโยคตฺเถ เอว อุปโยควจนํ. สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาฏิ, อิติ วกฺขมานานํ ปฺจนฺนํ จีวรานเมวาธิวจนํ, สงฺฆาฏีนํ ¶ จาโร สงฺฆาฏิจาโร, ปริโภควเสน วา โอตาปนวเสน วา ปริวตฺตนนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปฺจาหิกํ สงฺฆาฏิจารํ อติกฺกเมยฺยาติ ปฺจมํ ทิวสํ ปฺจ จีวรานิ เนว นิวาเสติ น ปารุปติ น โอตาเปติ ปฺจมํ ทิวสํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๙) วจนโต ปฺจทิวสพฺภนฺตเร ยํ กิฺจิ อกตฺวา อติกฺกาเมนฺติยา จีวรคณนาย ปาจิตฺติ โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยาติกฺกเมยฺยา’’ติอาทิ.
๒๒๒๓. ติจีวรนฺติ อนฺตรวาสกอุตฺตราสงฺคสงฺฆาฏิสงฺขาตํ ติจีวรฺจ. สํกจฺจีติ ถนเวนสงฺขาตํ จีวรฺจ. ทกสาฏีติ อุตุนิกาเล นิวาเสตพฺพอุทกสาฏิจีวรฺจ. อิติ อิเม ปฺจ. ปฺจ ตูติ ปฺจ จีวรานิ นาม.
๒๒๒๔-๕. ติกปาจิตฺตีติ ปฺจาหาติกฺกนฺตสฺา, เวมติกา, อนติกฺกนฺตสฺาติ วิกปฺปตฺตเย ปาจิตฺติยตฺตยํ โหติ. ปฺจาหานติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺาเวมติกานํ วเสน ทฺวิกทุกฺกฏํ.
‘‘ปฺจเม ทิวเส’’ติอาทิ อนาปตฺติวารสนฺทสฺสนํ. นิเสวตีติ นิวาเสติ วา ปารุปติ วา. โอตาเปตีติ เอตฺถ วา-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, โอตาเปติ วาติ อตฺโถ. อาปทาสุปีติ มหคฺฆํ จีวรํ, น สกฺกา โหติ โจรภยาทีสุ ปริภฺุชิตุํ, เอวรูเป อุปทฺทเว อนาปตฺติ.
จตุตฺถํ.
๒๒๒๖. อฺิสฺสา ¶ สงฺกเมตพฺพจีวรํ อนาปุจฺฉา คเหตฺวา ยา ปริภฺุชติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา, อฺิสฺสา อุปสมฺปนฺนาย สนฺตกํ ปฺจนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ ตสฺสา อวตฺวา อาทาย ปุน ตสฺสา ทาตพฺพํ, อทตฺวา ยา ภิกฺขุนี ปฏิเสวติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘สงฺกเมตพฺพจีวรํ สงฺกมนีย’’นฺติ ปริยายสทฺทา เอเต. ยถาห ‘‘จีวรสงฺกมนียนฺติ สงฺกเมตพฺพจีวรํ, อฺิสฺสา สนฺตกํ อนาปุจฺฉา คหิตํ ปุน ปฏิทาตพฺพจีวรนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๐๓).
๒๒๒๗. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา…เป… เวมติกา ¶ …เป… อนุปสมฺปนฺนสฺา จีวรสงฺกมนียํ ธาเรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๙๐๕) เอวํ ติกปาจิตฺติยํ ปาฬิยํ วุตฺตํ. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ‘‘ติกทุกฺกฏ’’นฺติ อิทฺจ วุตฺตนยเมว. อาปทาสูติ สเจ อปารุตํ วา อนิวตฺถํ วา โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ วา.
๒๒๒๘. เอตํ สมุฏฺานํ กถิเนน ตุลฺยนฺติ โยชนา. คหณํ, ปริโภโค จ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.
ปฺจมํ.
๒๒๒๙. ลภิตพฺพํ ตุ จีวรนฺติ ลภิตพฺพํ วิกปฺปนุปคํ จีวรํ. นิวาเรตีติ ยถา เต ทาตุกามา น เทนฺติ, เอวํ อนฺตรายํ ปรกฺกมติ. ปาจิตฺตึ ปริทีปเยติ สเจ ตสฺสา วจเนน เต น เทนฺติ, ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยํ วเทยฺยาติ อตฺโถ.
๒๒๓๐. เอตฺถ ปมํ ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา คณสฺสาติ ทฺเว ตโยว คเหตพฺพา. ลาเภติ เอตฺถ ‘‘นิวาริเต’’ติ เสโส. สเจ อฺํ ปริกฺขารํ นิวาเรติ, ตเถว ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อฺนฺติ วิกปฺปนุปคจีวรโต อฺํ. ปริกฺขารนฺติ ¶ ยํ กิฺจิ ถาลกาทีนํ วา สปฺปิเตลาทีนํ วา อฺตรํ.
๒๒๓๑. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘กิตฺตกํ อคฺฆนกํ ทาตุกามตฺถาติ ปุจฺฉติ, ‘เอตฺตกํ นามา’ติ วทนฺติ, ‘อาคเมถ ตาว, อิทานิ วตฺถุ มหคฺฆํ, กติปาเหน กปฺปาเส อาคเต สมคฺฆํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา. น โทสตาติ น โทโส, อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
ฉฏฺํ.
๒๒๓๒-๓. ธมฺมิกํ สมคฺเคน สงฺเฆน สนฺนิปติตฺวา กริยมานํ จีวรานํ วิภงฺคํ ภาชนํ ยา ภิกฺขุนี ปฏิเสเธยฺย ปฏิพาเหยฺย, ตสฺสา เอวํ ปฏิเสเธนฺติยา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา. อธมฺเม ธมฺมสฺาย ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา. อุโภ เวมติกาย วาติ อุโภสุ เวมติกาย. คาถาพนฺธวเสน สุ-สทฺทโลโป. ธมฺมิเก อธมฺมิเก จีวรวิภงฺเค เวมติกาย ปฏิพาหนฺติยา ¶ ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา. ยถาห ‘‘ธมฺมิเก เวมติกา ปฏิพาหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมิเก เวมติกา ปฏิพาหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘เอกิสฺสา เอกํ สาฏกํ นปฺปโหติ, อาคเมถ ตาว, กติปาเหเนว อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตโต ภาเชสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๙๑๔) เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา.
สตฺตมํ.
๒๒๓๕-๖. นิวาสนุปคํ วา ตถา ปารุปนุปคํ วา กปฺปพินฺทุกตํ วา ยํ กิฺจิ จีวรํ ปฺจ สหธมฺมิเก จ มาตาปิตโรปิ มฺุจิตฺวา อฺสฺส ยสฺส กสฺสจิ คหฏฺสฺส วา ปริพฺพาชกสฺส วา ¶ ยทิ ทเทยฺย, ตสฺสาปิ ปาจิตฺติยํ ปริยาปุตนฺติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘ปิตโร’’ติ มาตา จ ปิตา จ มาตาปิตโรติ วตฺตพฺเพ วิรูเปกเสสวเสน นิทฺเทโส ทฏฺพฺโพ.
๒๒๓๗. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ตา ปน ปาจิตฺติโย จีวรานํ คณนาย วเสน คเณตพฺพาติ โยชนา.
๒๒๓๘. ตาว สมฺปฏิจฺฉิโต กาโล เอตสฺสาติ ตาวกาลิกํ, จีวรํ. ‘‘อฺสฺสา’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตสฺส ทูรตฺตา ปุนปิ ‘‘อฺเส’’นฺติ อาห, โสเยวตฺโถ.
อฏฺมํ.
๒๒๓๙. ยา ปน ภิกฺขุนี ‘‘สเจ มยํ สกฺโกม, ทสฺสาม กริสฺสามาติ เอวํ วาจา ภินฺนา โหตี’’ติ วุตฺตาย ทุพฺพลาย จีวรปจฺจาสาย จีวรสฺส วิภงฺคํ นิเสเธตฺวา จีวเร กาลํ อติกฺกเมยฺย, อสฺสา โทสตา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา. จีวเร กาลนฺติ ‘‘จีวรกาลสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจมาสา’’ติ (ปาจิ. ๙๒๒) ปทภาชเน วุตฺตํ จีวรกาลํ. อติกฺกเมยฺยาติ ‘‘อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิมํ ทิวสํ, อตฺถเต กถิเน กถินุทฺธารทิวสํ อติกฺกาเมตี’’ติ วุตฺตวิธึ อติกฺกาเมยฺย.
๒๒๔๐. ‘‘อทุพฺพลจีวเร ¶ ทุพฺพลจีวรสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วจนโต สุทุพฺพลนฺติ เจตสาติ เอตฺถ สุ-สทฺโท ปทปูรเณ. อุโภสูติ ทุพฺพเล, อทุพฺพเล จ. กงฺขิตาย วาติ เวมติกาย วา.
๒๒๔๑. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘กิฺจาปิ ‘น มยํ อยฺเย สกฺโกมา’ติ วทนฺติ, อิทานิ ปน เตสํ กปฺปาโส อาคมิสฺสติ, สทฺโธ ปสนฺโน ปุริโส อาคมิสฺสติ ¶ , อทฺธา ทสฺสตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒๑) เอวํ อฏฺกถาย วุตฺตนเยน อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา.
นวมํ.
๒๒๔๒. ธมฺมิกํ กถินุทฺธารนฺติ ‘‘ธมฺมิโก นาม กถินุทฺธาโร สมคฺโค ภิกฺขุนิสงฺโฆ สนฺนิปติตฺวา อุทฺธรตี’’ติ (ปาจิ. ๙๒๙) วุตฺตํ กถินุทฺธารํ.
๒๒๔๓. ยสฺสาติ ยสฺส กถินสฺส. อตฺถารมูลโก อานิสํโส นาม ‘‘โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโท, โส เนสํ ภวิสฺสตี’’ติ (มหาว. ๓๐๖) อนฺุาโต ตสฺมึ วิหาเร อุปฺปชฺชนกจีวรวตฺถานิสํโส. อุทฺธารมูลโก นาม อนฺตรุพฺภารํ การาเปนฺเตหิ อุปาสเกหิ ทิยฺยมานจีวรวตฺถานิสํโส.
๒๒๔๕. สมานิสํโสปีติ อตฺถารอานิสํเสน สมานิสํโสปิ อุพฺภาโร. สทฺธาปาลนกอารณาติ ปสาทานุรกฺขนตฺถาย ทาตพฺโพติ โยชนา. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ ชิณฺณจีวโร, กถินานิสํสมูลโก มหาลาโภ’’ติ เอวรูปํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา.
๒๒๔๖. สมุฏฺานาทินา สทฺธึ เสสํ ปน วินิจฺฉยชาตํ อเสเสน สพฺพากาเรน สตฺตเมน สิกฺขาปเทน สมํ มตํ ‘‘สทิส’’นฺติ วิฺาตํ. กิฺจิปิ อปฺปกมฺปิ อปุพฺพํ ตตฺถ วุตฺตนยโต อฺํ นตฺถีติ โยชนา.
ทสมํ.
นคฺควคฺโค ตติโย.
๒๒๔๗. ‘‘ยา ¶ ¶ ปน ภิกฺขุนิโย ทฺเว เอกมฺเจ ตุวฏฺเฏยฺยุํ, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๓๓) ปฺตฺตสิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกายา’’ติอาทิ. เอกายาติ เอกาย ภิกฺขุนิยา. อปราติ อฺา อุปสมฺปนฺนา. นิปชฺเชยฺยุนฺติ เอตฺถ ‘‘เอกมฺเจ’’ติ เสโส. ทฺเวติ ทฺเว ภิกฺขุนิโย.
๒๒๔๘-๙. ‘‘เอกาย จา’’ติอาทิ อนาปตฺติวารนิทฺเทโส. อุโภ วาปิ สมํ นิสีทนฺตีติ โยชนา. เอฬเกนาติ เอฬกโลมสิกฺขาปเทน.
ปมํ.
๒๒๕๐-๑. ปาวารกฏสาราทินฺติ เอตฺถ ภุมฺเมกวจนํ. ‘‘สํหาริเมสู’’ติ อิมินา สมานาธิกรณตฺตา พหุวจนปฺปสงฺเค วจนวิปลฺลาเสเนตฺถ เอกวจนนิทฺเทโสติ ทฏฺพฺโพ. ปาวาโร จ กฏสาโร จ เต อาทิ ยสฺสาติ วิคฺคโห, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมํ. เอกกนฺติ นิทฺธาริตพฺพนิทสฺสนํ. เอกเมว เอกกํ. สํหาริเมสุ ปาวาราทีสุ อฺตรนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปาวาโรติ โกชวาทโย’’ติ วทนฺติ. กฏสาโรติ กโฏเยว. อาทิ-สทฺเทน อตฺถริตฺวา สยนารหํ สพฺพํ สงฺคณฺหาติ. เตเนวาติ ยํ อตฺถตํ, เตเนว. ปารุปิตฺวา สเจ ยา ปน ทฺเว สเหว นิปชฺชนฺติ, ตาสํ ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. เอตฺถ จ อตฺถรณปาวุรณกิจฺเจ เอกสฺเสว นิทฺทิฏฺตฺตา เอกสฺส อนฺตสฺส อตฺถรณฺจ เอกสฺส อนฺตสฺส ปารุปนฺจ วิฺายติ. ยถาห ‘‘สํหาริมานํ ปาวารตฺถรณกฏสารกาทีนํ เอกํ อนฺตํ อตฺถริตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา ตุวฏฺเฏนฺตีนเมตํ อธิวจน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๓๗).
เอกสฺมึ เอกตฺถรเณ วา เอกปาวุรเณ วา นิปชฺชเน สติ ตาสํ ทฺวินฺนํ ภิกฺขุนีนํ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ทฺวิกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ ¶ ‘‘นานตฺถรณปาวุรเณ เอกตฺถรณปาวุรณสฺา…เป… เวมติกา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๙๓๙) วุตฺตํ ทุกฺกฏทฺวยํ.
๒๒๕๒. ววตฺถานํ นิทสฺเสตฺวาติ มชฺเฌ กาสาวํ วา กตฺตรยฏฺึ วา อนฺตมโส กายพนฺธนมฺปิ ¶ เปตฺวา นิปชฺชนฺติ, อนาปตฺตีติ อตฺโถ. เสสํ สมุฏฺานาทิวิธานํ. อาทินาติ อิมสฺมึเยว วคฺเค ปมสิกฺขาปเทน. ตุลฺยนฺติ สมานํ.
ทุติยํ.
๒๒๕๓. อฺิสฺสา ภิกฺขุนิยา. อผาสุการณาติ อผาสุกรณเหตุ. อนาปุจฺฉาติ อนาปุจฺฉิตฺวา. ตสฺสา ปุรโต จ จงฺกมนาทโย ยทิ กเรยฺย, เอวํ กโรนฺติยา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา. จงฺกมนาทโยติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ติฏฺติ วา นิสีทติ วา เสยฺยํ วา กปฺเปติ อุทฺทิสติ วา อุทฺทิสาเปติ วา สชฺฌายํ วา กโรตี’’ติ (ปาจิ. ๙๔๓) ปทภาชเน วุตฺตานํ สงฺคโห.
๒๒๕๔. นิวตฺตนานํ คณนายาติ จงฺกมนฺติยา จงฺกมสฺส อุภยโกฏึ ปตฺวา นิวตฺตนฺติยา นิวตฺตนคณนาย. ปโยคโตเยวาติ ปโยคคณนาเยว, อิริยาปถปริวตฺตนคณนาเยวาติ วุตฺตํ โหติ. โทสาติ ปาจิตฺติยาปตฺติโย.
๒๒๕๕. ปทานํ คณนาวสาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ยถาห ‘‘ปทาทิคณนายา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๔๓). ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺาติ วิกปฺปตฺตยสฺส วเสน ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย.
๒๒๕๖. น ¶ จ อผาสุกามายาติ อาปุจฺฉิตฺวา ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ปุรโต จงฺกมนาทีนิ กโรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.
๒๒๕๗. กฺริยากฺริยนฺติ จงฺกมนาทิกรณํ กิริยํ. อาปุจฺฉาย อกรณํ อกิริยํ. ปาปมานสนฺติ อกุสลจิตฺตํ.
ตติยํ.
๒๒๕๘-๙. อนนฺตรายาติ วกฺขมาเนสุ ราชนฺตรายาทีสุ ทสสุ อนฺตราเยสุ อฺตรรหิตา ¶ ภิกฺขุนี. ทุกฺขิตนฺติ คิลานํ. ยถาห ‘‘ทุกฺขิตา นาม คิลานา วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๙๔๘). สหชีวินินฺติ สทฺธิวิหารินึ. ยถาห ‘‘สหชีวินี นาม สทฺธิวิหารินี วุจฺจตี’’ติ. อฺาย วา นุปฏฺาเปยฺยาติ อฺาย ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, สามเณริยา วา คิหินิยา วา อุปฏฺานํ น การาเปยฺย. นุปฏฺเยฺย สยมฺปิ วาติ ยา อุปฏฺานํ น กเรยฺย. ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺเต วาติ ‘‘เนว อุปฏฺเสฺสามิ, น อุปฏฺาปนาย อุสฺสุกฺกํ กริสฺสามี’’ติ ธุเร อุสฺสาเห นิกฺขิตฺตมตฺเตเยว. ตสฺสาติ อุปชฺฌายาย.
อนฺเตวาสินิยา วาปีติ ปพฺพชฺชาอุปสมฺปทาธมฺมนิสฺสยวเสน จตุพฺพิธาสุ อนฺเตวาสินีสุ อฺตราย. อิตรายาติ อนุปสมฺปนฺนาย.
๒๒๖๐. คิลานายาติ สยํ คิลานาย. ‘‘คเวสิตฺวา อลภนฺติยา’’ติ ปทจฺเฉโท, อฺํ อุปฏฺายิกํ ปริเยสิตฺวา อลภมานายาติ อตฺโถ. ‘‘อาปทาสุ อุมฺมตฺติกาทีน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. คาถาพนฺธวเสน วณฺณโลโปปิ ทฏฺพฺโพ. อาปทาสูติ ตถารูเป อุปทฺทเว สติ. ธุรนิกฺเขปโนทยนฺติ ¶ ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ. ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
จตุตฺถํ.
๒๒๖๑-๒. ปุคฺคลิกสฺส อตฺตายตฺตปรายตฺตวเสน อนิยมิตตฺตา ‘‘สก’’นฺติ อิมินา นิยเมติ. สกํ ปุคฺคลิกนฺติ อตฺตโน ปุคฺคลิกํ. ทตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ เสโส. สกวาฏนฺติ ปริวตฺตกทฺวารกวาฏสหิตํ. อุปสฺสยนฺติ เคหํ. ทฺวาราทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน คพฺภปมุขานํ สงฺคโห, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมํ. พหูนิปีติ นิทฺธาเรตพฺพนิทสฺสนํ. พหูนิปิ ทฺวารานิ วา พหู คพฺเภ วา พหูนิ ปมุขานิ วา. ตนฺติ ยสฺสา อุปสฺสโย ทินฺโน, ตํ ภิกฺขุนึ. นิกฺกฑฺฒนฺติยาติ อติกฺกาเมนฺติยา. ตสฺสาติ ยา นิกฺกฑฺฒติ, ตสฺสา.
๒๒๖๓. เอตฺถาติ นิกฺกฑฺฒเน. เอเสว นโยติ ‘‘ปโยคคณนาย อาปตฺตี’’ติ ทสฺสิตนโย. เอตฺถ ปโยโค นาม อาณาปนํ, อิมินา ‘‘เอกายาณตฺติยา อเนเกสุ ทฺวาเรสุ อติกฺกามิเตสุปิ เอกาว อาปตฺติ โหตี’’ติ เอวมาทิกํ อฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๔๓, ๙๕๒ อตฺถโต สมานํ) สงฺคณฺหาติ.
๒๒๖๔. เตสุ ¶ วินิจฺฉเยสุ เอกํ วินิจฺฉยวิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺตกาว อิมํ ทฺวารา’’ติอาทิ. ทฺวารคณนาย อาปตฺติโย ทฺวารคณนาปตฺติโย.
๒๒๖๕. อกวาฏมฺหาติ อกวาฏพนฺธโต อุปสฺสยา นิกฺกฑฺฒนฺติยา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺาย, เวมติกาย, อนุปสมฺปนฺนสฺาย จ วเสน ติกทุกฺกฏํ. อุภินฺนนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. ปริกฺขาเรสูติ ปตฺตจีวราทีสุ ปริกฺขาเรสุ ¶ . สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ ปโยเคสุ, นิกฺกฑฺฒิยมาเนสุ, นิกฺกฑฺฒาปิยมาเนสุ จาติ วุตฺตํ โหติ.
๒๒๖๖. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท สมุฏฺานาทิวินิจฺฉเยน สห เสสํ วินิจฺฉยชาตํ อเสเสน สพฺพปฺปกาเรน สงฺฆิกา วิหารสฺมา นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปเทน สมํ มตํ ‘‘สทิส’’นฺติ สลฺลกฺขิตนฺติ โยชนา.
ปฺจมํ.
๒๒๖๗. ฉฏฺเติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี สํสฏฺา วิหเรยฺย คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา’’ติอาทิมาติกาย (ปาจิ. ๙๕๖) นิทฺทิฏฺเ ฉฏฺสิกฺขาปเท. อิธ วตฺตพฺพนฺติ อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย กเถตพฺพํ. อริฏฺสฺส สิกฺขาปเทนาติ อริฏฺสิกฺขาปเทน. วินิจฺฉโยติ สมุฏฺานาทิโก.
ฉฏฺํ.
๒๒๖๘. สาสงฺกสมฺมเตติ เอตฺถ ‘‘สปฺปฏิภเย’’ติ เสโส. อุภยมฺปิ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว. อนฺโตรฏฺเติ ยสฺส วิชิเต วิหรติ, ตสฺเสว รฏฺเ. สาสงฺกสมฺมเต สปฺปฏิภเย อนฺโตรฏฺเ สตฺเถน วินา จาริกํ จรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.
๒๒๖๙. เอวํ จรนฺติยา สคามกฏฺาเน คามนฺตรปฺปเวเส จ อคามเก อรฺเ อทฺธโยชเน จ วินยฺุนา ภิกฺขุนา ปาจิตฺติยนโย ปาจิตฺติยาปตฺติวิธานกฺกโม เยฺโย าตพฺโพติ โยชนา.
๒๒๗๐. สห ¶ สตฺเถน จรนฺติยา น โทโสติ โยชนา. เขมฏฺาเน จรนฺติยา, อาปทาสุ วา จรนฺติยา น โทโสติ โยชนา.
สตฺตมํ.
๒๒๗๑. อฏฺเม ¶ นวเม วาปีติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ติโรรฏฺเ’’ติอาทิเก (ปาจิ. ๙๖๖) อฏฺมสิกฺขาปเท จ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อนฺโตวสฺสํ จาริกํ จเรยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๗๐) วุตฺตนวมสิกฺขาปเท จ. อนุตฺตานํ น วิชฺชติ, สพฺพํ อุตฺตานเมว, ตสฺมา เอตฺถ มยา น วิจารียตีติ อธิปฺปาโย.
อฏฺมนวมานิ.
๒๒๗๒. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี วสฺสํวุตฺถา จาริกํ น ปกฺกเมยฺย อนฺตมโส ฉปฺปฺจโยชนานิปิ, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๗๔) วุตฺตสิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาจิตฺตี’’ติอาทิ. อหํ น คมิสฺสามิ น ปกฺกมิสฺสามีติ ธุรนิกฺเขเป กเต ปาจิตฺตีติ โยชนา. ตถาติ ปาจิตฺติ.
๒๒๗๓. วสฺสํวุตฺถาย ปวาเรตฺวา อนฺตมโส ปฺจ โยชนานิ คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ อปิ-สทฺทสฺส สมฺภาวนตฺถตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ฉสู’’ติอาทิ. อิธ อิมสฺมึ อนาปตฺติวาเร ฉสุ โยชเนสุ ยทตฺถิ วตฺตพฺพํ, ตํ กินฺนุ นาม สิยา, นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปวาเรตฺวา ฉ โยชนานิ คจฺฉนฺติยา อนาปตฺติภาโว อวุตฺตสิทฺโธวาติ ทีเปติ.
๒๒๗๔. ตีณิ โยชนานิ. เตเนวาติ เยน คตา, เตเนว มคฺเคน. อฺเน มคฺเคนาติ คตมคฺคโต อฺเน ปเถน.
๒๒๗๕. ทสวิเธ อนฺตรายสฺมึ สตีติ วกฺขมาเนสุ อนฺตราเยสุ อฺตรสฺมึ สติ. ตสฺสา อนาปตฺตีติ โยชนา. อาปทาสูติ อฏฺฏาทิการเณน เกนจิ ปลิพุทฺธาทิภาวสงฺขาตาสุ อาปทาสุ. คิลานายาติ สยํ คิลานาย. ทุติยาย ภิกฺขุนิยา อลาเภ วา อปกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ.
๒๒๗๖. ราชา ¶ ¶ จ โจรา จ อมนุสฺสา จ อคฺคิ จ โตยฺจ วาฬา จ สรีสปา จาติ วิคฺคโห. มนุสฺโสติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน ปุพฺพปทโลโป ‘‘ลาพูนิ สีทนฺตี’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๑.๗๗) วิย. ชีวิตฺจ พฺรหฺมจริยา จ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺติ สมาหารทฺวนฺเท สมาโส, ตสฺส ชีวิตพฺรหฺมจริยสฺส. อนฺตรายา เอว อนฺตรายิกา. เอเตสํ ทสนฺนํ อฺตรสฺมึ อปกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ. ยถาห ‘‘อนฺตราเยติ ทสวิเธ อนฺตราเย. ‘ปรํ คจฺฉิสฺสามี’ติ นิกฺขนฺตา, นทิปูโร ปน อาคโต, โจรา วา มคฺเค โหนฺติ, เมโฆ วา อุฏฺาติ, นิวตฺติตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๗๖).
๒๒๗๗. อปกฺกมนํ อกฺริยํ. อนาทริเยน อาปชฺชนโต อาห ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ.
ทสมํ.
ตุวฏฺฏวคฺโค จตุตฺโถ.
๒๒๗๘-๘๐. ราชาคารนฺติ รฺโ กีฬนฆรํ. จิตฺตาคารนฺติ กีฬนจิตฺตสาลํ. อารามนฺติ กีฬนอุปวนํ. กีฬุยฺยานนฺติ กีฬนตฺถาย กตํ อุยฺยานํ. กีฬาวาปินฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ ปาฬิยํ (ปาจิ. ๙๗๙) โปกฺขรณี วุตฺตา, สา ปน สพฺพชลาสยานํ กีฬาย กตานํ อุปลกฺขณวเสน วุตฺตาติ อาห ‘‘กีฬาวาปิ’’นฺติ, กีฬนตฺถาย กตวาปินฺติ อตฺโถ. ‘‘นานาการ’’นฺติ อิทํ ยถาวุตฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. สพฺพสงฺคาหิกวเสน ‘‘ตานี’’ติ วุตฺตํ. นานาการํ ราชาคารํ จิตฺตาคารํ อารามํ กีฬุยฺยานํ วา กีฬาวาปึ ทฏฺุํ คจฺฉนฺตีนํ ตานิ สพฺพานิ เอกโต ทฏฺุํ คจฺฉนฺตีนํ ตาสํ ภิกฺขุนีนํ ปเท ปเท ทุกฺกฏํ มุนินา นิทฺทิฏฺนฺติ โยชนา.
ปฺจปีติ ¶ ราชาคาราทีนิ ปฺจปิ. เอกาเยว ปาจิตฺติ อาปตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา. ตํ ตํ ทิสาภาคํ คนฺตฺวา ปสฺสนฺติ เจ, ปาเฏกฺกาปตฺติโย ปโยคคณนาย สิยุนฺติ โยชนา.
๒๒๘๑. คมนพาหุลฺเลน อาปตฺติพาหุลฺลํ ปกาเสตฺวา คีวาปริวตฺตนสงฺขาเตน ปโยคพาหุลฺเลนาปิ ¶ อาปตฺติพาหุลฺลํ ปกาเสตุมาห ‘‘ปโยคพหุตายาปิ, ปาจิตฺติพหุตา สิยา’’ติ. สพฺพตฺถาติ ยตฺถ ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, ตตฺถ สพฺพตฺถ.
๒๒๘๒. ‘‘อวเสโสปิ อนาปตฺตี’’ติ ปทจฺเฉโท. อนาปตฺติ จ กถามคฺโค จ อนาปตฺติกถามคฺโค, เตสํ วินิจฺฉโย อนาปตฺติกถามคฺควินิจฺฉโย, ‘‘อนาปตฺติ อาราเม ิตา ปสฺสตี’’ติอาทิโก (ปาจิ. ๙๘๑) อนาปตฺติวินิจฺฉโย จ อฏฺกถาคโต (ปาจิ. อฏฺ. ๙๘๑) อวเสสวินิจฺฉโย จาติ อตฺโถ. ‘‘อาราเม ิตา’’ติ เอเตน อชฺฌาราเม ราชาคาราทีนิ กโรนฺติ, ตานิ ปสฺสนฺติยา อนาปตฺตีติ อยมนาปตฺติวาโร ทสฺสิโต. เอเตเนว อนฺโตอาราเม ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา นจฺจาทีนิ วิย ราชาคาราทีนิปิ ปสฺสิตุํ ลภตีติปิ สิทฺธํ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย คจฺฉนฺติยา มคฺเค โหนฺติ, ตานิ ปสฺสติ, อนาปตฺติ. รฺโ สนฺติกํ เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา ปสฺสติ, อนาปตฺติ. เกนจิ อุปทฺทุตา ปวิสิตฺวา ปสฺสติ, อนาปตฺตี’’ติ เอเต อนาปตฺติวารา สงฺคหิตา. นจฺจทสฺสน…เป… สหาติ สมุฏฺานาทินา วินิจฺฉเยน สห นจฺจทสฺสนสิกฺขาปทสทิโสว.
ปมํ.
๒๒๘๓. มานโต ¶ ปมาณโต อตีตา อเปตา มานาตีตา, อาสนฺที, ตํ. วาเฬหิ อุเปโต วาฬูเปโต, ปลฺลงฺโก, ตํ. ‘‘อาสนฺที นาม อติกฺกนฺตปฺปมาณา วุจฺจตี’’ติ วจนโต เหฏฺา อฏฺฏนิยา วฑฺฒกิหตฺถโต อุจฺจตรปาโท อายามจตุรสฺโส มฺจปีวิเสโส อาสนฺที นาม สมจตุรสฺสานํ อติกฺกนฺตปฺปมาณานมฺปิ อนฺุาตตฺตา. ‘‘ปลฺลงฺโก นาม อาหริเมหิ วาเฬหิ กโต’’ติ (ปาจิ. ๙๘๔) วจนโต ปมาณยุตฺโตปิ เอวรูโป น วฏฺฏติ. อาหริตฺวา ยถานุรูปฏฺาเน เปตพฺพวาฬรูปานิ อาหริมวาฬา นาม, สํหริมวาฬรูปยุตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. มานาตีตํ อาสนฺทึ วา วาฬูเปตํ ปลฺลงฺกํ วา เสวนฺตีนํ อภินิสีทนฺตีนํ, อภินิปชฺชนฺตีนฺจ ยาสํ ภิกฺขุนีนํ สตฺถา ปาจิตฺติยาปตฺตึ อาห.
๒๒๘๔. ตาสํ นิสีทนสฺสาปิ นิปชฺชนสฺสาปิ ปโยคพาหุลฺลวเสน ปาจิตฺติยานํ คณนา โหติ อิติ เอวํ นิทฺทิฏฺา เอวํ อยํ คณนา อจฺจนฺตยเสน อนนฺตปริวาเรน ภควตา วุตฺตาติ ¶ โยชนา. เอตฺถ จ อิจฺเจวนฺติ นิปาตสมุทาโย, อิติ-สทฺโท นิทสฺสเน, เอวํ-สทฺโท อิทมตฺเถ ทฏฺพฺโพ.
๒๒๘๕. ปาเท อาสนฺทิยา เฉตฺวาติ อาสนฺทิยา ปาเท ปมาณโต อธิกฏฺานฉินฺทเนน เฉตฺวา. ปลฺลงฺกสฺส ปาเท วาฬกา ปลฺลงฺกวาฬกา, เต หิตฺวา อปเนตฺวา, อนาปตฺตีติ เสวนฺตีนํ อนาปตฺติ.
ทุติยํ.
๒๒๘๖-๗. ฉนฺนนฺติ โขมาทีนํ ฉนฺนํ, นิทฺธารเณ สามิวจนํ. อฺตรํ สุตฺตนฺติ นิทฺธาริตพฺพนิทสฺสนํ. หตฺถาติ หตฺเถน, กรณตฺเถ เจตํ นิสฺสกฺกวจนํ. อฺจิตนฺติ หตฺถายาเมน อากฑฺฒิตํ ¶ . ตสฺมินฺติ ตสฺมึ อฺฉิเต สุตฺตปฺปเทเส. ตกฺกมฺหีติ กนฺตนสูจิมฺหิ. เวิเตติ ปลิเวิเต.
สุตฺตกนฺตนโต สพฺพปุพฺพปโยเคสูติ สุตฺตกนฺตนโต ปุพฺเพสุ กปฺปาสวิจินนาทิสพฺพปโยเคสุ. หตฺถวารโตติ หตฺถวารคณนาย. ยถาห ‘‘กปฺปาสวิจินนํ อาทึ กตฺวา สพฺพปุพฺพปโยเคสุ หตฺถวารคณนาย ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๘๘).
๒๒๘๘. กนฺติตํ สุตฺตนฺติ ปมเมว กนฺติตํ ทสิกสุตฺตาทึ. ปุน กนฺตนฺติยาติ โกฏิยา โกฏึ สงฺฆาเฏตฺวา ปุน กนฺตนฺติยา.
ตติยํ.
๒๒๘๙. ตณฺฑุลานํ โกฏฺฏนํ ตุ อาทึ กตฺวา คิหีนํ เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺติยา สพฺพปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๒๒๙๐. ยาคุอาทิสุ นิปฺผาเทตพฺเพสุ ตทาธารานิ ภาชนานิ คเณตฺวาว ปาจิตฺตึ ปริทีปเย, ขชฺชกาทีสุ รูปานํ คณนาย ปาจิตฺตึ ปริทีปเยติ โยชนา. ยาคุอาทิสูติ เอตฺถ ¶ อาทิ-สทฺเทน ภตฺตสูปาทีนํ สงฺคโห. ขชฺชกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน มจฺฉมํสาทิอุตฺตริภงฺคานํ สงฺคโห.
๒๒๙๑. ‘‘สเจปิ มาตาปิตโร อาคจฺฉนฺติ, ยํกิฺจิ พีชนึ วา สมฺมชฺชนิทณฺฑํ วา การาเปตฺวา เวยฺยาวจฺจกรฏฺาเน เปตฺวาว ยํ กิฺจิ ปจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. สเจติ เอตฺถ ‘‘มาตาปิตโร อาคจฺฉนฺตี’’ติ เสโส. อตฺตโน เอวมาคตานํ มาตาปิตูนมฺปิ ¶ กิฺจิ กมฺมํ อกาเรตฺวา กิฺจิ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. อปิ-สทฺโท สมฺภาวเน, เตน อฺเสํ กถาเยว นตฺถีติ ทีเปติ.
๒๒๙๒-๓. สงฺฆสฺส ยาคุปาเน เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. ‘‘สงฺฆภตฺเตปี’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส วาติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘ยาคุปาเนติ มนุสฺเสหิ สงฺฆสฺสตฺถาย กริยมาเน ยาคุปาเน วา สงฺฆภตฺเต วา เตสํ สหายิกภาเวน ยํ กิฺจิ ปจนฺติยา อนาปตฺติ. เจติยปูชาย สหายิกา หุตฺวา คนฺธมาลาทีนิ ปูเชติ, วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๙๓).
จตุตฺถํ.
๒๒๙๔. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ‘เอหายฺเย อิมํ อธิกรณํ วูปสเมหี’ติ วุจฺจมานา ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา สา ปจฺฉา อนนฺตรายิกินี เนว วูปสเมยฺย น วูปสมาย อุสฺสุกฺกํ กเรยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๙๕) สิกฺขาปทสฺส วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาจิตฺติ ธุรนิกฺเขเป’’ติอาทิ. ธุรนิกฺเขเปติ น ทานิ ตํ วูปสเมสฺสามิ, อฺาหิ วา น วูปสมาเปสฺสามี’’ติ เอวํ ธุรสฺส อุสฺสาหสฺส นิกฺเขเป ปาจิตฺตีติ โยชนา. จีวรสิพฺพเน ยถา ปฺจาหปริหาโร ลพฺภติ, อิธ ปน ตถา เอกาหมฺปิ ปริหาโร น ลพฺภตีติ โยชนา.
๒๒๙๕. เสสนฺติ ‘‘ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา วินิจฺฉินนฺตี อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาว วินิจฺฉินาตี’’ติอาทิกํ วินิจฺฉยชาตํ. ตตฺถ จีวรสิพฺพเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ โยชนา.
ปฺจมํ.
๒๒๙๖-๗. ยา ¶ ¶ ปน ภิกฺขุนี คิหีนํ วา สหธมฺมิเก เปตฺวา อฺเสํ ปริพฺพาชกปริพฺพาชิกานํ วา ทนฺตโปโนทกํ วินา อฺํ ยํ กิฺจิ อชฺโฌหรณียํ ขาทนียํ, โภชนียํ วา กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา ททาติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.
๒๒๙๘-๙. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท มุนินา ทนฺตกฏฺโทเก ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา. ยา ปน ภิกฺขุนี กายาทีหิ สยํ น เทติ อฺเน ทาเปติ, ตสฺสา จ กายาทีหิ อทตฺวา ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา เทนฺติยาปิ ยา พาหิรเลปํ วา เทติ, ตสฺสาปิ อุมฺมตฺติกาย จ น โทโส อนาปตฺตีติ โยชนา.
ฉฏฺํ.
๒๓๐๐-๑. อาวสถจีวรนฺติ ‘‘อุตุนิโย ภิกฺขุนิโย ปริภฺุชนฺตู’’ติ ทินฺนํ จีวรํ. ยา ภิกฺขุนี ยํ ‘‘อาวสถจีวร’’นฺติ นิยมิตํ จีวรํ, ตํ จตุตฺเถ ทิวเส โธวิตฺวา อนฺตมโส อุตุนิยา สามเณราย วา อทตฺวา สเจ ปริภฺุเชยฺย, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ โยชนา. ติกปาจิตฺติยํ สิยาติ ‘‘อนิสฺสชฺชิเต อนิสฺสชฺชิตสฺา…เป… เวมติกา…เป… นิสฺสชฺชิตสฺา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๐๖) วุตฺตํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.
๒๓๐๒-๓. ตสฺมึ จีวเร นิสฺสชฺชิเต อนิสฺสชฺชิตสฺาย วา เวมติกาย วา ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ทฺวิกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา. อฺาสํ อุตุนีนํ อภาเว อทตฺวาปิ ปริภฺุชนฺติยา อนาปตฺติ. ปุน ปริยเยติ ปุน อุตุนิวาเร ยถากาลํ ปริภฺุชนฺติยา อนาปตฺติ. อจฺฉินฺนจีวราทีนฺจ อนาปตฺตีติ โยชนา. ปริยเยติ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ ¶ . อจฺฉินฺนจีวราทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นฏฺจีวราทีนํ สงฺคโห. อาปทาสุปีติ มหคฺฆจีวรํ สรีรโต โมเจตฺวา สุปฺปฏิสามิตมฺปิ โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ปริภฺุชนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.
สตฺตมํ.
๒๓๐๔. สกวาฏกํ ¶ วิหารนฺติ กวาฏพนฺธวิหารํ, ทฺวารกวาฏยุตฺตํ สุคุตฺตเสนาสนนฺติ วุตฺตํ โหติ. รกฺขนตฺถาย อทตฺวาติ ‘‘อิมํ ชคฺเคยฺยาสี’’ติ เอวํ อนาปุจฺฉิตฺวา.
๒๓๐๕-๖. ‘‘โหติ ปาจิตฺติยํ ตสฺสา, จาริกํ ปกฺกมนฺติยา’’ติ วุตฺตเมว ปกาเสตุมาห ‘‘อตฺตโน คามโต’’ติอาทิ. อตฺตโน คามโตติ อตฺตโน วสนกคามโต. ตถา อิตรสฺสาติ อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปํ อุปจารํ. ตนฺติอาทิปทตฺตเย ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ เวทิตพฺพํ. ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเป ปเมน ปเทน สมติกฺกนฺเต ทุกฺกฏํ, ตถา อิตรสฺส อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ตสฺมึ อุปจาเร อติกฺกนฺเต ทุกฺกฏํ. ทุติเยน ปเทน ปริกฺเขเป, อุปจาเร สมติกฺกนฺตมตฺเต ปาจิตฺตีติ โยชนา.
๒๓๐๗. อกวาฏพนฺธนสฺมึ กวาฏพนฺธรหิเต วิหาเร ตถา อนิสฺสชฺชนฺติยา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตํ. ชคฺคิกํ อลภนฺติยาติ เอตฺถ ‘‘ปริเยสิตฺวา’’ติ เสโส. ชคฺคิกนฺติ วิหารปฏิชคฺคิกํ.
๒๓๐๘. อาปทาสูติ รฏฺเ ภิชฺชนฺเต อาวาเส ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ. คิลานายาติ วจีเภทํ กาตุํ อสมตฺถายาติ.
อฏฺมํ.
๒๓๐๙-๑๐. หตฺถี ¶ จ อสฺโส จ รโถ จ หตฺถิอสฺสรถา, เต อาทิ เยสํ เต หตฺถิอสฺสรถาทโย, เตหิ. อาทิ-สทฺเทน ธนุ ถรูติ ปททฺวยํ คหิตํ. สํยุตฺตนฺติ ยถาวุตฺเตหิ หตฺถิอสฺสาทิปเทหิ สํโยชิตํ, ‘‘หตฺถีนํ สิปฺปํ หตฺถิสิปฺป’’นฺติอาทินา กตสมาสนฺติ อตฺโถ, ‘‘หตฺถิสิปฺปํ อสฺสสิปฺปํ รถสิปฺปํ ธนุสิปฺปํ ถรุสิปฺป’’นฺติ เอวํ วุตฺตํ ยํ กิฺจิ สิปฺปนฺติ วุตฺตํ โหติ. หตฺถิสิกฺขาทิสิปฺปํ สนฺทีปโก คนฺโถ วจฺจวาจกานํ อเภโทปจาเรน เอวํ วุตฺโตติ คเหตพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปทาทีนํ วเสนิธา’’ติ. ปรูปฆาตกํ มนฺตาคทโยคปฺปเภทกํ กิฺจีติ ปเรสํ อนฺตรายกรํ ขิลนวสีกรณโสสาปนาทิเภทํ อาถพฺพณมนฺตฺจ วิสโยคาทิปฺปเภทกฺจ ยํ กิฺจิ สิปฺปนฺติ อตฺโถ.
เอตฺถ ¶ จ ขิลนมนฺโต นาม ทารุสารขิลํ มนฺเตตฺวา ปถวิยํ ปเวเสตฺวา มารณมนฺโต. วสีกรณมนฺโต นาม ปรํ อตฺตโน วเส วตฺตาปนกมนฺโต. โสสาปนกมนฺโต นาม ปรสรีรํ รสาทิธาตุกฺขเยน สุกฺขภาวํ ปาปนกมนฺโต. อาทิ-สทฺเทน วิเทสฺสนาทิมนฺตานํ สงฺคโห. วิเทสฺสนํ นาม มิตฺตานํ อฺมฺสฺส เวริภาวาปาทนํ. อิธ อิมสฺมึ สาสเน ยา ภิกฺขุนี หตฺถิ…เป… กิฺจิ ยสฺส กสฺสจิ สนฺติเก ปทาทีนํ วเสน ปริยาปุเณยฺย อธีเยยฺย เจ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.
๒๓๑๑. เลเขติ ลิขิตสิปฺเป. ธารณาย จาติ ธารณสตฺเถ, ยสฺมึ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชนฺตา พหูนิปิ คนฺถานิ ธาเรนฺติ. คุตฺติยาติ อตฺตโน วา ปเรสํ วา คุตฺตตฺถาย. ปริตฺเตสุ จ สพฺเพสูติ ยกฺขปริตฺตโจรวาฬาทิสพฺเพสุ ปริตฺเตสุ จ.
นวมํ.
๒๓๑๒. ทสเมติ ¶ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ติรจฺฉานวิชฺชํ วาเจยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๑๘) สมุทฺทิฏฺเ ทสมสิกฺขาปเท. อิทํ ทสมสิกฺขาปทํ.
ทสมํ.
จิตฺตาคารวคฺโค ปฺจโม.
๒๓๑๓. สภิกฺขุกํ อารามนฺติ ยตฺถ ภิกฺขู รุกฺขมูเลปิ วสนฺติ, ตํ ปเทสํ. ชานิตฺวาติ ‘‘สภิกฺขุก’’นฺติ ชานิตฺวา. ยํ กิฺจีติ ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา อารามิกํ วา ยํ กิฺจิ.
๒๓๑๔-๕. ‘‘สภิกฺขุโก นาม อาราโม ยตฺถ ภิกฺขู รุกฺขมูเลปิ วสนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๐๒๕) วจนโต อาห ‘‘สเจ อนฺตมโส’’ติอาทิ. ยา ปน ภิกฺขุนี อนฺตมโส รุกฺขมูลสฺสปิ อนาปุจฺฉา สเจ ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมติ, ตสฺสา ปเม ปาเท ทุกฺกฏํ, อปริกฺขิตฺเต ตสฺส วิหารสฺส อุปจาโรกฺกเม วาปิ ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏํ, ทุติเย ปาเท อติกฺกามิเต ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา.
๒๓๑๖. อภิกฺขุเก ¶ อาราเม สภิกฺขูติ สฺาย อุโภสุปิ สภิกฺขุกาภิกฺขุเกสุ อาราเมสุ ชาตกงฺขาย สฺชาตวิจิกิจฺฉาย, เวมติกายาติ อตฺโถ. ตสฺสา อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๒๓๑๗. สีสานุโลกิกา ยา ภิกฺขุนี คจฺฉติ, ตสฺสา จ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. เอวมุปริปิ. ตา ภิกฺขุนิโย ยตฺถ สนฺนิปติตา โหนฺติ, ตาสํ สนฺติกํ ‘‘คจฺฉามี’’ติ คจฺฉติ. ยถาห ‘‘ยตฺถ ภิกฺขุนิโย ปมตรํ ¶ ปวิสิตฺวา สชฺฌายํ วา เจติยวนฺทนาทีนิ วา กโรนฺติ, ตตฺถ ตาสํ สนฺติกํ คจฺฉามีติ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๐๒๗).
๒๓๑๘. ‘‘สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา’’ติ วจเนเนว อภิกฺขุกํ อารามํ กิฺจิ อนาปุจฺฉา ปวิสนฺติยา อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. อารามมชฺฌโต วา มคฺโค โหติ, เตน คจฺฉนฺติยาปิ. อาปทาสูติ เยน เกนจิ อุปทฺทุตา โหติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ปวิสนฺติยา.
ปมํ.
๒๓๒๐. อกฺโกเสยฺยาติ ทสนฺนํ อกฺโกสวตฺถูนํ อฺตเรน สมฺมุขา, ปรมฺมุขา วา อกฺโกเสยฺย วา. ปริภาเสยฺย วาติ ภย’มสฺส อุปทํเสยฺย วา. ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺา…เป… เวมติกา…เป… อนุปสมฺปนฺนสฺา อกฺโกสติ วา ปริภาสติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๓๑) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสเสติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏํ ตสฺสา โหตีติ โยชนา.
๒๓๒๑. ‘‘ปุรกฺขตฺวา’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ‘‘อภิสเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๗๕) วุตฺตสิกฺขาปเท วุตฺตนยเมว.
ทุติยํ.
๒๓๒๒-๓. สงฺฆนฺติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ. ปริภาเสยฺยาติ ‘‘พาลา เอตา, อพฺยตฺตา เอตา, เนตา ชานนฺติ กมฺมํ วา กมฺมโทสํ วา กมฺมวิปตฺตึ วา กมฺมสมฺปตฺตึ วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๓๕) อาคตนเยน ¶ ปริภาเสยฺยาติ อตฺโถ. อิตรายาติ เอตฺถ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ. เอกํ ภิกฺขุนึ วา สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย ¶ วา ตเถว อิตรํ อนุปสมฺปนฺนํ วา ปริภาสนฺติยา ตสฺสา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา.
ตติยํ.
๒๓๒๔-๖. ยา นิมนฺตนปวารณา อุโภปิ คณโภชนสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๒๑๗-๒๑๙), ปวารณสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๒๓๘-๒๓๙) จ วุตฺตลกฺขณา, ตาหิ อุโภหิ นิมนฺตนปวารณาหิ ยา จ ภิกฺขุนี สเจ นิมนฺติตาปิ วา ปวาริตาปิ วา ภเวยฺย, สา ปุเรภตฺตํ ยาคฺุจ ยามกาลิกาทิกาลิกตฺตยฺจ เปตฺวา ยํ กิฺจิ อามิสํ ยาวกาลิกํ อชฺโฌหรณตฺถาย ปฏิคฺคณฺหาติ เจ, ตสฺสา คหเณ ทุกฺกฏํ สิยา, อชฺโฌหารวเสน เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.
เอตฺถ จ นิมนฺติตา นาม ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน โภชเนน นิมนฺติตา’’ติ คณโภชนสิกฺขาปเท วุตฺตลกฺขณา. ปวารณา จ ‘‘ปวาริโต นาม อสนํ ปฺายติ, โภชนํ ปฺายติ, หตฺถปาเส ิโต อภิหรติ, ปฏิกฺเขโป ปฺายตี’’ติ ปวารณสิกฺขาปเท วุตฺตลกฺขณาติ เวทิตพฺพา.
๒๓๒๗. กาลิกานิ จ ตีเณวาติ ยามกาลิกาทีนิ ตีณิ กาลิกานิ เอว.
๒๓๒๘-๙. นิมนฺติตปวาริตานํ ทฺวินฺนํ สาธารณาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อนาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘นิมนฺติตา’’ติอาทิ. อิธ อิมสฺมึ สาสเน ยา ปน ภิกฺขุนี นิมนฺติตา อปฺปวาริตา สเจ ยาคุํ ปิวติ, วฏฺฏติ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. สามิกสฺสาติ เยน นิมนฺติตา, ตสฺส นิมนฺตนสามิกสฺเสว. อฺโภชนนฺติ ¶ เยน นิมนฺติตา, ตโต อฺสฺส โภชนํ. สเจ สา ภฺุชติ, ตถา วฏฺฏตีติ โยชนา.
กาลิกานิ จ ตีเณวาติ ยามกาลิกาทีนิ ตีณิ กาลิกาเนว. ปจฺจเย สตีติ ปิปาสาทิปจฺจเย สติ.
๒๓๓๐. อิมสฺส ¶ สิกฺขาปทสฺส อิทํ สมุฏฺานํ อทฺธาเนน ตุลฺยนฺติ โยชนา. ปวาริตาย, อปฺปวาริตาย วา นิมนฺติตาย วเสน กิริยากิริยตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นิมนฺติตา’’ติอาทิ. นิมนฺติตา ปน สามิกํ อนาปุจฺฉา ภฺุชติ เจ, ตสฺสา วเสน อิทํ สิกฺขาปทํ กิริยากิริยํ โหติ. เอตฺถ ภฺุชนํ กฺริยํ. สามิกสฺส อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.
๒๓๓๑. ‘‘กปฺปิยํ การาเปตฺวา’’ติอาทึ ปวาริตเมว สนฺธายาห. ยา ยทิ ปริภฺุชติ, ตสฺสา จ ปาจิตฺติ สิยา กิริยโต โหตีติ โยชนา. สิยาติ อวสฺสํ. ปวารณสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน กปฺปิยํ กาเรตฺวา วา อการาเปตฺวา วา ปริภฺุชนฺติยา ตสฺสา ปริโภเคเนว อิมินา สิกฺขาปเทน อวสฺสํ อาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ.
จตุตฺถํ.
๒๓๓๒. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี กุลมจฺฉรินี อสฺส, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๔๓) อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิกฺขุนีน’’นฺติอาทิ. กุลสนฺติเก ภิกฺขุนีนํ อวณฺณํ วทนฺติยา ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ, กุลสฺส สนฺติเก ‘‘ภิกฺขุนิโย ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา’’ติ ภิกฺขุนีนํ อวณฺณํ ภาสนฺติยาติ อตฺโถ. กุลสฺสาวณฺณนํ วาปีติ ‘‘ตํ กุลํ อสฺสทฺธํ อปฺปสนฺน’’นฺติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก กุลสฺส อวณฺณํ อคุณํ วทนฺติยา ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ.
๒๓๓๓. สนฺตํ ¶ ภาสนฺติยา โทสนฺติ อมจฺฉรายิตฺวา กุลสฺส วา ภิกฺขุนีนํ วา สนฺตํ โทสํ อาทีนวํ กเถนฺติยา.
ปฺจมํ.
๒๓๓๔-๕. โอวาททายโกติ อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ โอวาทํ เทนฺโต. วสฺสํ อุปคจฺฉนฺติยาติ วสฺสํ วสนฺติยา.
๒๓๓๖. ภิกฺขูติ โอวาททายกา ภิกฺขู.
ฉฏฺํ.
๒๓๓๘. ยา ¶ สา ภิกฺขุนี วสฺสํ วุตฺถา ปุริมํ วา ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ วุตฺถา ตโต อนนฺตรํ อุภโตสงฺเฆ ภิกฺขุนิสงฺเฆ จ ภิกฺขุสงฺเฆ จ ‘‘นาหํ ปวาเรสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ เจติ โยชนา.
สตฺตมํ.
๒๓๔๑. โอวาทาทีนมตฺถายาติ อฏฺครุธมฺมสฺสวนาทีนมตฺถาย. อาทิ-สทฺเทน อุโปสถปุจฺฉนปวารณานํ คหณํ.
๒๓๔๒. โอวาทาทีนมตฺถาย อคมเนน อกฺริยํ. กายิกนฺติ กายกมฺมํ.
อฏฺมํ.
๒๓๔๓. ‘‘อนฺวทฺธมาสํ ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสงฺฆโต ทฺเว ธมฺมา ปจฺจาสีสิตพฺพา อุโปสถปุจฺฉนฺจ โอวาทูปสงฺกมนฺจ, ตํ อติกฺกาเมนฺติยา ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๕๙) อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น ยาจิสฺสามี’’ติอาทิ. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.
นวมํ.
๒๓๔๖-๗. ปสาโข ¶ นาม นาภิยา เหฏฺา, ชาณุมณฺฑลานํ อุปริ ปเทโส. ตถา หิ ยสฺมา รุกฺขสฺส สาขา วิย อุโภ อูรู ปภิชฺชิตฺวา คตา, ตสฺมา โส ปสาโขติ วุจฺจติ, ตสฺมึ ปสาเข. สฺชาตนฺติ อุฏฺิตํ. คณฺฑนฺติ ยํ กิฺจิ คณฺฑํ. รุธิตนฺติ ยํ กิฺจิ วณํ. สงฺฆํ วาติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วา. คณํ วาติ สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย วา. เอเกนาติ เอตฺถ ‘‘ปุริเสนา’’ติ เสโส, สหตฺเถ อิทํ กรณวจนํ. ยถาห ‘‘ปุริเสน สทฺธึ เอเกเนกา’’ติ. ปุริโสติ จ มนุสฺสปุริโสว คเหตพฺโพ.
โธวาติ เอตฺถ อาทิ-อตฺเถ วตฺตมาเนน อิติ-สทฺเทน ‘‘อาลิมฺปาเปยฺย วา พนฺธาเปยฺย วา โมจาเปยฺย วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๖๓) สิกฺขาปทาคตานํ อิตเรสํ ติณฺณํ สงฺคณฺหนโต ‘‘อาลิมฺป ¶ พนฺธ โมเจหี’’ติ อาณตฺติตฺตยํ สงฺคหิตํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ทุกฺกฏานิจฺฉ ปาจิตฺติโย ฉ จา’’ติ.
ยา ปน ภิกฺขุนี ปสาเข ชาตํ คณฺฑํ วา รุธิตํ วา สงฺฆํ วา คณํ วา อนาปุจฺฉิตฺวา เอเกน ปุริเสน เอกิกา ‘‘ภินฺท ผาเลหิ โธว อาลิมฺป พนฺธ โมเจหี’’ติ สพฺพานิ กาตพฺพานิ อาณาเปติ, ตสฺสา ฉ ทุกฺกฏานิ, กเตสุ ภินฺทนาทีสุ ฉสุ กิจฺเจสุ ตสฺสา ฉ ปาจิตฺติโย โหนฺตีติ โยชนา.
๒๓๔๘-๙. เอตฺถาติ คณฺเฑ วา วเณ วา. ‘‘ยํ กาตพฺพํ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ ตฺวํ กโรหิ’’อิติ สเจ เอวํ ยา อาณาเปตีติ โยชนา. ตสฺสา เอกาย อาณาปนวาจาย ฉ ทุกฺกฏานิ จ ปาจิตฺติยจฺฉกฺกฺเจติ ทฺวาทสาปตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา.
๒๓๕๑. อาปุจฺฉิตฺวา ¶ วาติ สงฺฆํ วา คณํ วา อาปุจฺฉิตฺวา. ทุติยนฺติ ทุติยิกํ. วิฺุํ ทุติยํ คเหตฺวาปิ วาติ โยชนา.
ทสมํ.
อารามวคฺโค ฉฏฺโ.
๒๓๕๓. ‘‘คณปริเยสนาทิสฺมิ’’นฺติ วตฺตพฺเพ ฉนฺทานุรกฺขนตฺถํ นิคฺคหิตาคโม. คพฺภินินฺติ อาปนฺนสตฺตํ, กุจฺฉิปวิฏฺสตฺตนฺติ อตฺโถ. วุฏฺาเปนฺติยาติ อุปสมฺปาเทนฺติยา. กมฺมวาจาหีติ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ.
๒๓๕๔-๕. กมฺมวาจาย โอสาเนติ ตติยกมฺมวาจาย ปริโยสาเน, ยฺยการปฺปตฺเตติ อตฺโถ. คพฺภินิสฺาย น จ คพฺภินิยาติ อคพฺภินิยา คพฺภินิสฺาย จ. อุโภ สฺชาตกงฺขายาติ อุโภสุ สมุปฺปนฺนสํสยาย, คพฺภินิยา, อคพฺภินิยา จ เวมติกายาติ อตฺโถ. คาถาพนฺธวเสเนตฺถ สุ-สทฺทโลโป. ตถา วุฏฺาเปนฺติยา อุปชฺฌายาย อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. อาจรินิยา ตสฺสาติ อุปชฺฌายา คพฺภินึ วุฏฺาเปติ, ตสฺสา กมฺมวาจํ สาเวนฺติยา ¶ อาจรินิยา จ. คณสฺสาติ อุปชฺฌายาจรินีหิ อฺสฺส ภิกฺขุนิคณสฺส จ. ตถา ทุกฺกฏํ ทีปิตนฺติ โยชนา.
๒๓๕๖. ‘‘ทฺวีสุ อคพฺภินิสฺายา’’ติ ปทจฺเฉโท. ทฺวีสูติ คพฺภินิยา, อคพฺภินิยา จ.
ปมํ.
๒๓๕๗. ทุติเยติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปายนฺตึ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๗๓) สิกฺขาปเท. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปายนฺตี ¶ นาม มาตา วา โหติ ธาติ วาติ อยํ วิเสโส.
ทุติยํ.
๒๓๕๘. ยา ปน ภิกฺขุนี ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ อสิกฺขิตสิกฺขํ สิกฺขมานํ สเจ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา. ตตฺถ ทฺเว วสฺสานีติ ปวารณวเสน ทฺเว สํวจฺฉรานิ. ฉสุ ธมฺเมสูติ ปาณาติปาตาเวรมณิอาทีสุ วิกาลโภชนาเวรมณิปริโยสาเนสุ ฉสุ ธมฺเมสุ. อสิกฺขิตสิกฺขนฺติ ‘‘ปาณาติปาตาเวรมณึ ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมฺม สมาทานํ สมาทิยามี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๗๙) นเยน อนาทินฺนสิกฺขาปทํ วา เอวํ สมาทิยิตฺวาปิ กุปิตสิกฺขํ วา. สิกฺขมานํ เตสุ ฉสุ ธมฺเมสุ สิกฺขนโต วา เต วา สิกฺขาสงฺขาเต ธมฺเม มานนโต เอวํ ลทฺธนามํ อนุปสมฺปนฺนํ. วุฏฺาเปยฺยาติ อุปสมฺปาเทยฺย. อาปตฺติ สิยาติ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจาปริโยสาเน ปาจิตฺติ อาปตฺติ สิยา, ปาจิตฺติ โหตีติ อตฺโถ.
๒๓๕๙. ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติกา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ เอวํ ธมฺมกมฺเม สตฺถุนา ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมกมฺเม เวมติกา อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๘๒) เอวํ อธมฺเม ปน กมฺมสฺมึ สตฺถุนา ติกทุกฺกฏํ ทีปิตํ.
๒๓๖๐. อขณฺฑโต ¶ ขณฺฑํ อกตฺวา.
๒๓๖๑. สเจ ¶ อุปสมฺปทาเปกฺขา ปพฺพชฺชาย สฏฺิวสฺสาปิ โหติ, ตสฺสา อิมา ฉ สิกฺขาโย ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมนียา ปทาตพฺพา, อิมา อทตฺวา น การเย เนว วุฏฺาเปยฺยาติ โยชนา.
ตติยํ.
๒๓๖๒. จตุตฺเถ นตฺถิ วตฺตพฺพนฺติ วกฺขมานวิเสสโต อฺํ วตฺตพฺพํ นตฺถีติ ยถาวุตฺตนยเมวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิธา’’ติอาทินา อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสติ. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท สงฺเฆน สมฺมตํ ตํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๒๓๖๓. ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ สิกฺขิตสิกฺขาย สิกฺขมานาย ภิกฺขุนิสงฺเฆน อุปสมฺปทโต ปมํ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ยา วุฏฺานสมฺมุติ ทาตพฺพา โหติ, สา วุฏฺานสมฺมุติ สเจ ปมํ อทินฺนา โหติ. ตตฺถ ตสฺมึ อุปสมฺปทมาฬเกปิ ปทาตพฺพาเยวาติ โยชนา.
๒๓๖๔. ตติยฺจาติ ตติยสิกฺขาปทฺจ. จตุตฺถฺจาติ อิทํ จตุตฺถสิกฺขาปทฺจ. ปเมน สมํ เยฺยนฺติ ปเมน สิกฺขาปเทน สมุฏฺานาทินา วินิจฺฉเยน สมานนฺติ าตพฺพํ. จตุตฺถํ ปน สิกฺขาปทํ วุฏฺาปนสมฺมุตึ อทาเปตฺวา วุฏฺาปนวเสน กฺริยากฺริยํ โหติ.
จตุตฺถํ.
๒๓๖๕. คิหิคตนฺติ ปุริสนฺตรคตํ, ปุริสสมาคมปฺปตฺตนฺติ อตฺโถ. ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา ปริปุณฺณา อุตฺตรปทโลเปน. กิฺจาปิ น โทโสติ โยชนา. วุฏฺาเปนฺติยาติ อุปชฺฌายา หุตฺวา อุปสมฺปาเทนฺติยา.
๒๓๖๖. เสสนฺติ ¶ ¶ วุตฺตํ. อเสเสน สพฺพโส.
ปฺจมํ.
๒๓๖๘. ทุกฺขิตํ สหชีวินินฺติ เอตฺถ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ เสโส. ตุวฏฺฏกวคฺคสฺมึ ‘‘ทุกฺขิตํ สหชีวินิ’’นฺติ อิเมหิ ปเทหิ ยุตฺตํ ยํ สิกฺขาปทํ วุตฺตํ, เตน สิกฺขาปเทน อฏฺมํ สมํ เยฺยํ, น วิเสสตา วิเสโส นตฺถีติ โยชนา. อฏฺมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี สหชีวินึ วุฏฺาเปตฺวา ทฺเว วสฺสานิ เนว อนุคฺคณฺเหยฺย น อนุคฺคณฺหาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๐๘) วุตฺตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ สหชีวินินฺติ สทฺธิวิหารินึ. เนว อนุคฺคณฺเหยฺยาติ สยํ อุทฺเทสาทีหิ นานุคฺคณฺเหยฺย. น อนุคฺคณฺหาเปยฺยาติ ‘‘อิมิสฺสา อยฺเย อุทฺเทสาทีนิ เทหี’’ติ เอวํ น อฺาย อนุคฺคณฺหาเปยฺย. ปาจิตฺติยนฺติ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺเต ปาจิตฺติยํ.
อฏฺมํ.
๒๓๖๙. ยา กาจิ ภิกฺขุนี วุฏฺาปิตปวตฺตินึ ทฺเว วสฺสานิ นานุพนฺเธยฺย เจ, ตสฺสา ปาจิตฺติ ปริยาปุตา กถิตาติ โยชนา. วุฏฺาเปตีติ วุฏฺาปิตา, ปวตฺเตติ สุสิกฺขาเปตีติ ปวตฺตินี, วุฏฺาปิตา จ สา ปวตฺตินี จาติ วุฏฺาปิตปวตฺตินี, อุปชฺฌายาเยตํ อธิวจนํ, ตํ, อุปชฺฌายํ. นานุพนฺเธยฺยาติ จุณฺเณน, มตฺติกาย, ทนฺตกฏฺเน, มุโขทเกนาติ เอวํ เตน เตน กรณีเยน อุปฏฺเหยฺย.
๒๓๗๐. ‘‘ทฺเว วสฺสานิ อหํ นานุพนฺธิสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ เจ, เอวํ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺตสฺมึ ปน ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.
๒๓๗๑. ยา ¶ ปน ภิกฺขุนี อุปชฺฌายํ พาลํ วา อลชฺชึ วา นานุพนฺธติ, ตสฺสา, คิลานาย วา อาปทาสุ วา อุมฺมตฺติกาย วา นานุพนฺธนฺติยา น โทโสติ โยชนา.
๒๓๗๒. อนุปฏฺาเนน โหตีติ อาห ‘‘อกฺริยํ วุตฺต’’นฺติ.
นวมํ.
๒๓๗๓-๕. ยา ¶ กาจิ ภิกฺขุนี สหชีวินึ สทฺธิวิหารินึ วุฏฺาเปตฺวา อุปสมฺปาเทตฺวา ตํ คเหตฺวา อนฺตมโส ฉปฺปฺจโยชนานิปิ น คจฺเฉยฺย น จฺํ อาณาเปยฺย ‘‘อิมํ, อยฺเย, คเหตฺวา คจฺฉา’’ติ อฺฺจ น นิโยเชยฺย เจ, ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺตสฺมึ ‘‘น ทานิ คจฺฉิสฺสามิ, อฺฺจ คเหตฺวา คนฺตุํ น นิโยเชสฺสามี’’ติ อุสฺสาเห วิสฺสฏฺมตฺเต ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.
อนฺตรายสฺมึ สติ วา ทุติยํ อลภนฺติยา วา อาปทาสุ วา คิลานาย วา อุมฺมตฺติกาย วา น โทโสติ โยชนา.
ทสมํ.
คพฺภินิวคฺโค สตฺตโม.
๒๓๗๖. คิหิคเตหิ ตีเหวาติ อนนฺตเร คพฺภินิวคฺเค คิหิคตปทยุตฺเตหิ ปฺจมฉฏฺสตฺตเมหิ ตีเหว สิกฺขาปเทหิ. สทิสานีติ อิธ วีสติวสฺสวจนฺจ กุมาริภูตวจนฺจ ตตฺถ ทฺวาทสวสฺสวจนฺจ คิหิคตวจนฺจ เปตฺวา อวเสเสหิ วินิจฺฉเยหิ ยถากฺกมํ สทิสาเนวาติ.
๒๓๗๗. มหูปปทาติ มหา อุปปโท ยาสํ สิกฺขมานานํ ตา มหูปปทา. อุปปทํ นาม ปทานเมว ยุชฺชติ, น อตฺถานนฺติ ¶ ‘‘ยาส’’นฺติ อฺปเทน สิกฺขมานาทิปทานํ คหณํ, สทฺทตฺถานมเภโทปจารสฺส ปน อิจฺฉิตตฺตา สิกฺขมานปทคหิตานเมตฺถ คหณํ เวทิตพฺพํ, มหาสิกฺขมานาติ วุตฺตํ โหติ. อาทิโตติ เอตฺถ ‘‘วุตฺตา’’ติ เสโส, คพฺภินิวคฺเค ติสฺสนฺนํ คิหิคตานํ ปุริเมสุ ตติยจตุตฺถสิกฺขาปเทสุ อาคตา ทฺเว สิกฺขมานาติ อตฺโถ. คิหิคตาย ‘‘ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา’’ติ จ กุมาริภูตาย ‘‘ปริปุณฺณวีสติวสฺสา’’ติ จ วสฺสวเสน นานากรณสฺส วุตฺตตฺตา ตาหิ ทฺวีหิ มหาสิกฺขมานาย วสฺสวเสเนว นานากรณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘คตา วีสติวสฺสาติ, วิฺาตพฺพา วิภาวินา’’ติ, อติกฺกนฺตวีสติวสฺสา มหาสิกฺขมานา นาม โหตีติ อตฺโถ.
๒๓๗๘. ตา ทฺเว มหาสิกฺขมานา สเจ คิหิคตา วา โหนฺตุ, น จ ปุริสคตา วา โหนฺตุ ¶ , สมฺมุติอาทิสุ กมฺมวาจาย ‘‘สิกฺขมานา’’ติ วตฺตพฺพาติ โยชนา. เอตฺถ จ สมฺมุติ นาม ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย กาตพฺพาย สิกฺขาย สมฺมุติ เจว วุฏฺานสมฺมุติ จ. อาทิ-สทฺเทน อุปสมฺปทากมฺมํ คหิตํ.
๒๓๗๙. อิมาสํ ทฺวินฺนํ สมฺมุติทานาทีสุ ตฺติยา จ กมฺมวาจาย จ วตฺตพฺพํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวตฺตพฺพํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น ตา’’ติอาทิ. ตา เอตา อุโภปิ มหาสิกฺขมานา ‘‘กุมาริภูตา’’ติ วา ตถา ‘‘คิหิคตา’’ติ วา กมฺมวาจาย น วตฺตพฺพา ยสฺมา, ตสฺมา เอวํ วตฺตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘น วตฺตพฺพา’’ติ อิมินา ตถา เจ กมฺมวาจา วุจฺเจยฺย, ตํ กมฺมํ กุปฺปตีติ ทีเปติ. อิธ ปน-สทฺโท ยสฺมา-ปทตฺโถติ ตทตฺถวเสน โยชนา ทสฺสิตา.
๒๓๘๐. สมฺมุตินฺติ ¶ สิกฺขมานสมฺมุตึ. ทสวสฺสายาติ เอตฺถ ‘‘คิหิคตายา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘คิหิคตาย ทสวสฺสกาเล สิกฺขาสมฺมุตึ ทตฺวา ทฺวาทสวสฺสกาเล อุปสมฺปทา กาตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๑๙). เสสาสุปีติ เอกาทสวสฺสกาเล ทตฺวา เตรสวสฺสกาเล กาตพฺพา, ทฺวาทส, เตรส, จุทฺทส, ปนฺนรส, โสฬส, สตฺตรส, อฏฺารสวสฺสกาเล สิกฺขาสมฺมุตึ ทตฺวา วีสติวสฺสกาเล กาตพฺพาติ เอวํ อฏฺารสวสฺสปริยนฺตาสุ เสสาสุปิ สิกฺขมานาสุ. อยํ นโยติ ‘‘สมฺมุติยา ทินฺนสํวจฺฉรโต อาคามินิ ทุติเย สํวจฺฉเร อุปสมฺปาเทตพฺพา’’ติ อยํ นโย. เตเนว วุตฺตํ ‘‘เอกาทสวสฺสกาเล ทตฺวา เตรสวสฺสกาเล กาตพฺพา’’ติอาทิ.
๒๓๘๑. ‘‘กุมาริภูตา’’ติปิ ‘‘คิหิคตา’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ วุตฺตาติ โยชนา.
๒๓๘๒. ยา ปน ปริปุณฺณวีสติวสฺสา สามเณรี ‘‘กุมาริภูตา’’ติ วุตฺตา, สา กมฺมวาจาย ‘‘กุมาริภูตา’’อิจฺเจว วตฺตพฺพา, อฺถา ปน น วตฺตพฺพา ‘‘คิหิคตา’’ติ วา ‘‘ปุริสนฺตรคตา’’ติ วา น วตฺตพฺพาติ โยชนา. ยถาห ‘‘กุมาริภูตา ปน ‘คิหิคตา’ติ น วตฺตพฺพา, ‘กุมาริภูตา’อิจฺเจว วตฺตพฺพา’’ติ.
๒๓๘๓. เอตา ตุ ปน ติสฺโสปีติ มหาสิกฺขมานา คิหิคตา, กุมาริภูตาติ วุตฺตา ปน ¶ เอตา ติสฺโสปิ. อปิ-สทฺเทน คิหิคตา กุมาริภูตา ทฺเว สกสกนาเมนาปิ วตฺตุํ วฏฺฏนฺตีติ ทีเปติ. ‘‘กุมาริภูตสิกฺขมานายา’’ติ ปาฬิยํ อวุตฺตตฺตา น วฏฺฏตีติ โกจิ มฺเยฺยาติ ¶ อาห ‘‘น สํสโย’’ติ. ตถา วตฺตพฺพตาเหตุทสฺสนตฺถมาห ‘‘สิกฺขาสมฺมุติทานโต’’ติ.
ปมทุติยตติยานิ.
๒๓๘๔-๕. ยา ปน ภิกฺขุนี อูนทฺวาทสวสฺสาว อุปสมฺปทาวเสน อปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา เอว สยํ อุปชฺฌายา หุตฺวา ปรํ สิกฺขมานํ สเจ วุฏฺาเปติ, ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว คณปริเยสนาทิทุติยานุสฺสาวนปริโยสาเนสุ อาปนฺนานํ ทุกฺกฏานํ อนนฺตรํ กมฺมวาจานํ โอสาเน ตติยานุสฺสาวนาย ยฺยตารปฺปตฺตาย ตสฺสา ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.
จตุตฺถํ.
๒๓๘๖. ปฺจเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา สงฺเฆน อสมฺมตา วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๔๒) สิกฺขาปเท. กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตวเสน ติสมุฏฺานํ. กฺริยากฺริยนฺติ วุฏฺาปนํ กิริยํ, สงฺฆสมฺมุติยา อคฺคหณํ อกิริยํ.
ปฺจมํ.
๒๓๘๗. สงฺเฆนาติ ภิกฺขุนิสงฺเฆน. อุปปริกฺขิตฺวาติ อลชฺชิภาวาทึ อุปปริกฺขิตฺวา. อลํ ตาวาติ เอตฺถ ‘‘เต อยฺเย’’ติ เสโส. วาริตาติ เอตฺถ ‘‘สาธูติ ปฏิสฺสุณิตฺวา’’ติ เสโส. ‘‘อลํ ตาว เต, อยฺเย, อุปสมฺปาทิเตนา’’ติ วาริตา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา เอตฺถ เอตสฺมึ ปวารเณ ปจฺฉา ขียติ ‘‘อหเมว นูน พาลา, อหเมว นูน อลชฺชินี’’ติอาทินา อวณฺณํ ปกาเสติ, โทสตา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๒๓๘๘. ฉนฺทโทสาทีหิ ¶ กโรนฺติยาติ เอตฺถ ‘‘ปกติยา’’ติ เสโส. ปกติยา ฉนฺทโทสาทีหิ อคติคมเนหิ นิวารณํ กโรนฺติยา สเจ อุชฺฌายติ, น โทโสติ โยชนา.
ฉฏฺํ.
๒๓๘๙-๙๐. ลทฺเธ ¶ จีวเรติ สิกฺขามานาย ‘‘สเจ เม ตฺวํ, อยฺเย, จีวรํ ทสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติ วตฺวา ยาจิเต ตสฺมึ จีวเร ลทฺเธ. ปจฺฉาติ จีวรลาภโต ปจฺฉา. อสนฺเต อนฺตรายิเกติ ทสนฺนํ อนฺตรายานํ อฺตรสฺมึ อนฺตราเย อวิชฺชมาเน. วุฏฺาเปสฺสามินาหนฺติ อหํ ตํ น สมุฏฺาเปสฺสามีติ ธุรนิกฺเขปเน ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.
๒๓๙๑. อิทนฺติ อิทํ สิกฺขาปทํ. อวุฏฺาปเนน อกฺริยํ.
สตฺตมํ.
๒๓๙๒. อฏฺมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี สิกฺขมานํ ‘สเจ มํ ตฺวํ, อยฺเย, ทฺเว วสฺสานิ อนุพนฺธิสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติอาทิ (ปาจิ. ๑๑๕๕) สิกฺขาปทํ. นวเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปุริสสํสฏฺํ กุมารกสํสฏฺํ จณฺฑึ โสกาวาสํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๕๙) วุตฺตสิกฺขาปเท. ‘‘วตฺตพฺพํ นตฺถี’’ติ อิทํ สทฺทตฺถวิเสสมนฺตเรน วินิจฺฉยสฺส สุวิฺเยฺยตฺตา วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อุตฺตานเมวิท’’นฺติ.
สทฺทตฺโถ ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – ปุริสสํสฏฺนฺติ ปริปุณฺณวีสติวสฺเสน ปุริเสน อนนุโลมิเกน กายวจีกมฺเมน สํสฏฺํ. กุมารกสํสฏฺนฺติ อูนวีสติวสฺเสน กุมาเรน ตเถว สํสฏฺํ. จณฺฑินฺติ โกธนํ. โสกาวาสนฺติ สงฺเกตํ กตฺวา ¶ อาคจฺฉมานา ปุริสานํ อนฺโต โสกํ ปเวเสตีติ โสกาวาสา, ตํ โสกาวาสํ. อถ วา ฆรํ วิย ฆรสามิกา, อยมฺปิ ปุริสสมาคมํ อลภมานา โสกํ อาวิสติ, อิติ ยํ อาวิสติ, สฺวาสฺสา อาวาโส โหตีติ โสกาวาสา. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘โสกาวาสา นาม ปเรสํ ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, โสกํ อาวิสตี’’ติ (ปาจิ. ๑๑๖๐) ทฺเวธา อตฺโถ วุตฺโต. ปาจิตฺติยนฺติ เอวรูปํ วุฏฺาเปนฺติยา วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจาปริโยสาเน อุปชฺฌายาย ปาจิตฺติยํ.
๒๓๙๓. ‘‘นตฺถิ อชานนฺติยา’’ติ ปจฺเฉโท, สิกฺขมานาย ปุริสสํสฏฺาทิภาวํ อชานนฺติยาติ อตฺโถ.
อฏฺมนวมานิ.
๒๓๙๔. วิชาตมาตรา ¶ วา ชนกปิตรา วา สามินา ปริคฺคาหกสามินา วา นานฺุาตํ อุปสมฺปทตฺถาย อนนฺุาตํ ตํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปนฺติยา ตสฺสา ปาจิตฺติยาปตฺติ สิยาติ โยชนา.
๒๓๙๕. น ภิกฺขุนาติ ภิกฺขุนา ทฺวิกฺขตฺตุํ น ปุจฺฉิตพฺพํ, สกิเมว ปุจฺฉิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุนีหิ ทฺวิกฺขตฺตุํ อาปุจฺฉิตพฺพํ ปพฺพชฺชากาเล จ อุปสมฺปทากาเล จ, ภิกฺขูนํ ปน สกึ อาปุจฺฉิเตปิ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖๒).
๒๓๙๖-๗. อตฺถิตนฺติ อตฺถิภาวํ. จตูหิ สมุฏฺาติ, จตฺตาริ วา สมุฏฺานานิ เอตสฺสาติ จตุสมุฏฺานํ. กตเมหิ จตูหิ สมุฏฺาตีติ อาห ‘‘วาจโต…เป… กายวาจาทิโตปิ จา’’ติ. กถํ วาจาทีหิ จตูหิ สมุฏฺาติ? อพฺภานกมฺมาทีสุ เกนจิเทว กรณีเยน ขณฺฑสีมายํ นิสินฺนา ¶ ‘‘ปกฺโกสถ สิกฺขมานํ, อิเธว นํ อุปสมฺปาเทสฺสามา’’ติ อุปสมฺปาเทติ, เอวํ วาจโต สมุฏฺาติ. ‘‘อุปสฺสยโต ปฏฺาย อุปสมฺปาเทสฺสามี’’ติ วตฺวา ขณฺฑสีมํ คจฺฉนฺติยา กายวาจโต สมุฏฺาติ. ทฺวีสุปิ าเนสุ ปณฺณตฺตึ ชานิตฺวา วีติกฺกมํ กโรนฺติยา วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. อุปสมฺปาทนํ กฺริยํ, อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.
ทสมํ.
๒๓๙๘. เอตฺถ อิมสฺมึ สาสเน ยา ภิกฺขุนี ปาริวาสิเกน ฉนฺททาเนน สิกฺขมานํ สเจ วุฏฺาเปติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. ตตฺถ ปาริวาสิเกน ฉนฺททาเนนาติ จตุพฺพิธํ ปาริวาสิยํ ปริสปาริวาสิยํ, รตฺติปาริวาสิยํ, ฉนฺทปาริวาสิยํ, อชฺฌาสยปาริวาสิยนฺติ.
ตตฺถ ปริสปาริวาสิยํ นาม ภิกฺขู เกนจิเทว กรณีเยน สนฺนิปติตา โหนฺติ, อถ เมโฆ วา อุฏฺหติ, อุสฺสารณา วา กรียติ, มนุสฺสา วา อชฺโฌตฺถรนฺตา อาคจฺฉนฺติ, ภิกฺขู ‘‘อโนกาโส อยํ, อฺตฺร คจฺฉามา’’ติ ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว อุฏฺหนฺติ. อิทํ ปริสปาริวาสิยํ. กิฺจาปิ ปริสปาริวาสิยํ, ฉนฺทสฺส ปน อวิสฺสฏฺตฺตา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.
ปุน ¶ ภิกฺขู ‘‘อุโปสถาทีนิ กริสฺสามา’’ติ รตฺตึ สนฺนิปติตฺวา ‘‘ยาว สพฺเพ สนฺนิปตนฺติ, ตาว ธมฺมํ สุณิสฺสามา’’ติ เอกํ อชฺเฌสนฺติ, ตสฺมึ ธมฺมกถํ กเถนฺเตเยว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ. สเจ ‘‘จาตุทฺทสิกํ อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา, ‘‘ปนฺนรโส’’ติ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปนฺนรสิกํ กาตุํ ¶ นิสินฺนา, ปาฏิปเท อนุโปสเถ อุโปสถํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อฺํ ปน สงฺฆกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. อิทํ ปน รตฺติปาริวาสิยํ นาม.
ปุน ภิกฺขู ‘‘กิฺจิเทว อพฺภานาทิสงฺฆกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา โหนฺติ, ตตฺเรโก นกฺขตฺตปาโก ภิกฺขุ เอวํ วทติ ‘‘อชฺช นกฺขตฺตํ ทารุณํ, มา อิทํ กมฺมํ กโรถา’’ติ, เต ตสฺส วจเนน ฉนฺทํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตตฺเถว นิสินฺนา โหนฺติ, อถฺโ อาคนฺตฺวา –
‘‘นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ, อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา’’ติ. (ชา. ๑.๑.๔๙) –
วตฺวา ‘‘กึ นกฺขตฺเตน, กโรถา’’ติ วทติ. อิทํ ฉนฺทปาริวาสิยฺเจว อชฺฌาสยปาริวาสิยฺจ. เอตสฺมึ ปาริวาสิเย ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อนาหริตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปาริวาสิเกน ฉนฺททาเนนา’’ติ.
ปาจิตฺติยํ สิยาติ เอวํ วุฏฺาเปนฺติยา วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจาปริโยสาเน ปาจิตฺติยํ สิยาติ อตฺโถ.
๒๓๙๙. ฉนฺทํ อวิหาย วา อวิสฺสชฺเชตฺวาว อวุฏฺิตาย ปริสาย ตุ ยถานิสินฺนาย ปริสาย วุฏฺาเปนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. วา-สทฺโท เอวการตฺโถ.
เอกาทสมํ.
๒๔๐๐. ทฺวาทเสติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อนุวสฺสํ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๗๑) สิกฺขาปเท. เตรเสติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี เอกํ วสฺสํ ทฺเว วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๗๕) สิกฺขาปเท.
ทฺวาทสมเตรสมานิ.
กุมาริภูตวคฺโค อฏฺโม.
๒๔๐๑. อคิลานาติ ¶ ¶ ฉตฺตุปาหเนน วูปสเมตพฺพโรครหิตา. ยถาห ‘‘อคิลานา นาม ยสฺสา วินา ฉตฺตุปาหนา ผาสุ โหตี’’ติ. ฉตฺตฺจ อุปาหนา จ ฉตฺตุปาหนํ. ตตฺถ ฉตฺตํ วุตฺตลกฺขณํ, อุปาหนา วกฺขมานลกฺขณา. ธาเรยฺยาติ อุภยํ เอกโต ธาเรยฺย. วิสุํ ธาเรนฺติยา หิ ทุกฺกฏํ วกฺขติ.
๒๔๐๒. ทิวสนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. สเจ ธาเรตีติ โยชนา.
๒๔๐๓. กทฺทมาทีนีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มหาวาลุกาทีนํ คหณํ.
๒๔๐๔. สเจ คจฺฉตีติ สมฺพนฺโธ. ทิสฺวา คจฺฉาทิกนฺติ ฉตฺเต ลคฺคนโยคฺคํ นีจตรํ คจฺฉาทิกํ ทิสฺวา. อาทิ-สทฺเทน คุมฺพาทีนํ คหณํ. ทุกฺกฏนฺติ อุปาหนมตฺตสฺเสว ธารเณ ทุกฺกฏํ.
๒๔๐๕. อปนาเมตฺวาติ สีสโต อปนาเมตฺวา. โอมฺุจิตฺวาติ ปาทโต โอมฺุจิตฺวา. โหติ ปาจิตฺติยนฺติ ปุน ปาจิตฺติยํ โหติ.
๒๔๐๖. ปโยคคณนาเยวาติ ฉตฺตุปาหนสฺส อปเนตฺวา อปเนตฺวา เอกโต ธารณปโยคคณนาย. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อคิลานา อคิลานสฺา, เวมติกา, คิลานสฺา ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๘๑) เอวํ ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ‘‘คิลานา อคิลานสฺา, คิลานา เวมติกา, ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๘๒) เอวํ ทฺวิกทุกฺกฏํ ตเถว วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๒๔๐๗. ยตฺถ ¶ ภิกฺขู วา ภิกฺขุนิโย วา นิวสนฺติ, ตสฺมึ อาราเม วา อุปจาเร วา อปริกฺขิตฺตสฺส อารามสฺส อุปจาเร วา. อาปทาสูติ รฏฺเภทาทิอาปทาสุ.
ปมํ.
๒๔๐๘. ภิกฺขุนิยาติ เอตฺถ ‘‘อคิลานายา’’ติ เสโส, ปาเทน คนฺตุํ สมตฺถาย อคิลานาย ¶ ภิกฺขุนิยาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘อคิลานา นาม สกฺโกติ ปทสา คนฺตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๘๗). ยานํ นาม รถาทิ, ตํ เหฏฺา วุตฺตสรูปเมว.
๒๔๐๙. อาปทาสูติ รฏฺเภทาทิอาปทาสุ. ฉตฺตุปาหนสิกฺขาปเท อาราเม, อารามูปจาเร จ อนาปตฺติ วุตฺตา, อิธ ตถา อวุตฺตตฺตา สพฺพตฺถาปิ อาปตฺติเยว เวทิตพฺพา.
ทุติยํ.
๒๔๑๐. ‘‘ยํ กิฺจิปิ กฏูปิย’’นฺติ อิทํ ‘‘สงฺฆาณิ’’นฺติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ยถาห – ‘‘สงฺฆาณิ นาม ยา กาจิ กฏูปคา’’ติ. สงฺฆาณิ นาม เมขลาทิกฏิปิฬนฺธนํ. กฏูปิยนฺติ กฏิปฺปเทโสปคํ.
๒๔๑๒. กฏิสุตฺตํ นาม กฏิยํ ปิฬนฺธนรชฺชุสุตฺตกํ.
๒๔๑๓. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท จิตฺตํ อกุสลํ, อิทํ ปน สิกฺขาปทํ โลกวชฺชํ, อิติ อิทํ อุภยเมว วิเสสตา ปุริมสิกฺขาปทโต อิมสฺส นานากรณํ.
ตติยํ.
๒๔๑๔. สีสูปคาทิสุ ¶ ยํ กิฺจิ สเจ ยา ธาเรติ, ตสฺสา ตสฺส วตฺถุสฺส คณนาย อาปตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา. สีสํ อุปคจฺฉตีติ สีสูปคํ, สีเส ปิฬนฺธนารหนฺติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน คีวูปคาทีนํ คหณํ. ยถาห – ‘‘อิตฺถาลงฺกาโร นาม สีสูปโค คีวูปโค หตฺถูปโค ปาทูปโค กฏูปโค’’ติ.
๒๔๑๕. น จ โทโสติ โยชนา. ‘‘สทิสนฺติ ปริทีปิต’’นฺติ วตฺตพฺเพ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ.
จตุตฺถํ.
๒๔๑๖. เยน ¶ เกนจิ คนฺเธนาติ จนฺทนตคราทินา เยน เกนจิ คนฺธกกฺเกน. สวณฺณาวณฺณเกน จาติ วณฺเณน สห วตฺตตีติ สวณฺณกํ, หลิทฺทิกกฺกาทิ, นตฺถิ เอตสฺส อุพฺพฏฺฏนปจฺจยา ทิสฺสมาโน วณฺณวิเสโสติ อวณฺณกํ, สาสปกกฺกาทิ, สวณฺณกฺจ อวณฺณกฺจ สวณฺณาวณฺณกํ, เตน สวณฺณาวณฺณเกน จ. อุพฺพฏฺเฏตฺวา นฺหายนฺติยา นฺหาโนสาเน ปาจิตฺติยาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
๒๔๑๗. สพฺพปโยเคติ สพฺพสฺมึ ปุพฺพปโยเค. อาพาธปจฺจยาติ ททฺทุกุฏฺาทิโรคปจฺจยา.
๒๔๑๘. ฉฏฺนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี วาสิตเกน ปิฺาเกน นหาเยยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๒๐๓) สิกฺขาปทํ.
ปฺจมฉฏฺานิ.
๒๔๑๙. ยา ปน ภิกฺขุนี อฺาย ภิกฺขุนิยา สเจ อุพฺพฏฺฏาเปยฺย วา สมฺพาหาเปยฺย วา, ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ตถา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๒๔๒๐. เอตฺถ ¶ อิมสฺมึ อุพฺพฏฺฏเน, สมฺพาหเน จ หตฺถํ อโมเจตฺวา อุพฺพฏฺฏเน เอกา อาปตฺติ สิยา, หตฺถํ โมเจตฺวา โมเจตฺวา อุพฺพฏฺฏเน ปโยคคณนาย สิยาติ โยชนา.
๒๔๒๑. อาปทาสูติ โจรภยาทีหิ สรีรกมฺปนาทีสุ. คิลานายาติ อนฺตมโส มคฺคคมนปริสฺสเมนาปิ อาพาธิกาย.
๒๔๒๒. อฏฺมสิกฺขาปเท ‘‘สิกฺขมานายา’’ติ จ นวมสิกฺขาปเท ‘‘สามเณริยา’’ติ จ ทสมสิกฺขาปเท ‘‘คิหินิยา’’ติ จ วิเสสํ วชฺเชตฺวา อวเสสวินิจฺฉโย สตฺตเมเนว สมาโนติ ทสฺเสตุมาห ‘‘อฏฺมาทีนิ ตีณิปี’’ติ.
สตฺตมฏฺมนวมทสมานิ.
๒๔๒๓. อนฺโตอุปจารสฺมินฺติ ¶ ทฺวาทสรตนพฺภนฺตเร. ‘‘ภิกฺขุสฺส ปุรโต’’ติ อิทํ อุปลกฺขณํ. ตสฺมา ปุรโต วา โหตุ ปจฺฉโต วา ปสฺสโต วา, สมนฺตโต ทฺวาทสรตนพฺภนฺตเรติ นิทสฺสนปทเมตํ. ฉมายปีติ อนนฺตรหิตาย ภูมิยาปิ. ยา นิสีเทยฺยาติ สมฺพนฺโธ. น วฏฺฏติ ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ.
๒๔๒๔. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ อนาปุจฺฉิเต อนาปุจฺฉิตสฺา, เวมติกา, อาปุจฺฉิตสฺาติ ตีสุ วิกปฺเปสุ ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ. อาปุจฺฉิเต อนาปุจฺฉิตสฺา, เวมติกา วา ภิกฺขุสฺส ปุรโต นิสีเทยฺยาติ วิกปฺปทฺวเย ทุกฺกฏทฺวยํ โหติ. อาปทาสูติ รฏฺเภทาทิอาปทาสุ. อาปุจฺฉิตฺุจ าตฺุจ อสกฺโกนฺติยา คิลานาย.
๒๔๒๕. นิปชฺชนํ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.
เอกาทสมํ.
๒๔๒๖. โอกาโส ¶ กโต เยน โส โอกาสกโต, น โอกาสกโต อโนกาสกโต, ตํ, อกโตกาสนฺติ อตฺโถ, ‘‘อสุกสฺมึ นาม าเน ปุจฺฉามี’’ติ อตฺตนา ปุจฺฉิตพฺพวินยาทีนํ นามํ คเหตฺวา โอกาสํ การาปนกาเล อธิวาสนวเสน อกโตกาสนฺติ วุตฺตํ โหติ. โทสตาติ ปาจิตฺติยาปตฺติ. เอกสฺมึ ปิฏเก โอกาสํ การาเปตฺวา อฺสฺมึ ปิฏเก ปฺหํ ปุจฺฉนฺติยาปิ ปาจิตฺติยํ โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘วินเย จา’’ติอาทิ.
ปุจฺฉนฺติยาปิ จาติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ‘‘อภิธมฺมํ ปุจฺฉนฺติยาปี’’ติ อิทฺจ อนุตฺตสมุจฺจยตฺเถน จ-สทฺเทน ‘‘สุตฺตนฺเต โอกาสํ การาเปตฺวา วินยํ วา อภิธมฺมํ วา ปุจฺฉติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อภิธมฺเม โอกาสํ การาเปตฺวา สุตฺตนฺตํ วา วินยํ วา ปุจฺฉติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ อิทฺจ สงฺคหิตํ.
๒๔๒๗. อโนทิสฺสาติ ‘‘อสุกสฺมึ นาม ปุจฺฉามี’’ติ เอวํ อนิยเมตฺวา เกวลํ ‘‘ปุจฺฉิตพฺพํ อตฺถิ, ปุจฺฉามิ อยฺยา’’ติ เอวํ วตฺวา.
ทฺวาทสมํ.
๒๔๒๘-๙. สํกจฺจิกนฺติ ¶ ถนเวนจีวรํ, ตํ ปน ปารุปนฺติยา อธกฺขกํ อุพฺภนาภิมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺติยา ปารุปิตพฺพํ. เตนาห มาติกฏฺกถายํ ‘‘อสํกจฺจิกาติ อธกฺขกอุพฺภนาภิมณฺฑลสงฺขาตสฺส สรีรสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถํ อนฺุาตสํกจฺจิกจีวรรหิตา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. อสํกจฺจิกสิกฺขาปทวณฺณนา). ‘‘สํกจฺจิกาย ปมาณํ ติริยํ ทิยฑฺฒหตฺถนฺติ โปราณคณฺิปเท วุตฺต’’นฺติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๑๒๒๔-๑๒๒๖) วชิรพุทฺธิตฺเถโร. ปริกฺเขโปกฺกเมติ ปริกฺเขปสฺส อนฺโตปเวสเน. อุปจาโรกฺกเมปีติ ¶ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ทุติยเลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรปเวสเนปิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. เอเสว นโยติ ‘‘ปเม ปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติเย ปาจิตฺติย’’นฺติ ยถาวุตฺโตเยว นโย มโต วิฺาโตติ อตฺโถ.
๒๔๓๐. อาปทาสุปีติ มหคฺฆํ โหติ สํกจฺจิกํ, ปารุปิตฺวา คจฺฉนฺติยา จ อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ.
๒๔๓๑. เสสนฺติ อิธ สรูปโต อทสฺสิตฺจ. วุตฺตนเยเนวาติ มาติกาปทภาชนาทีสุ วุตฺตนเยเนว. สุนิปุณสฺมึ ธมฺมชาตํ, อตฺถชาตฺจ วิภาเวติ วิวิเธนากาเรน ปกาเสตีติ วิภาวี, เตน วิภาวินา.
เตรสมํ.
ฉตฺตุปาหนวคฺโค นวโม.
เอวํ นวหิ วคฺเคหิ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ฉนฺนวุติ สิกฺขาปทานิ ทสฺเสตฺวา อิโต ปเรสุ มุสาวาทวคฺคาทีสุ สตฺตสุ วคฺเคสุ ภิกฺขูหิ สาธารณสิกฺขาปทานิ ภิกฺขุปาติโมกฺขวินิจฺฉยกถาย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานีติ ตานิ อิธ น ทสฺสิตานิ.
สพฺพาเนว ภิกฺขุนีนํ ขุทฺทเกสุ ฉนฺนวุติ, ภิกฺขูนํ ทฺเวนวุตีติ อฏฺาสีติสตํ สิกฺขาปทานิ. ตโต ปรํ สกลํ ภิกฺขุนิวคฺคํ, ปรมฺปรโภชนํ, อนติริตฺตโภชนํ, อนติริตฺเตน อภิหฏฺุํ ปวารณํ, ปณีตโภชนวิฺตฺติ, อเจลกสิกฺขาปทํ, ทุฏฺุลฺลปอจฺฉาทนํ, อูนวีสติวสฺสอุปสมฺปาทนํ, มาตุคาเมน สทฺธึ สํวิธาย อทฺธานคมนํ, ราชนฺเตปุรปฺปเวสนํ ¶ , สนฺตํ ¶ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา วิกาเล คามปฺปเวสนํ, นิสีทนํ, วสฺสิกสาฏิกนฺติ อิมานิ พาวีสติ สิกฺขาปทานิ อปเนตฺวา เสสานิ สตฺจ ฉสฏฺิ จ สิกฺขาปทานิ ภิกฺขุนิปาติโมกฺขุทฺเทสมคฺเคน อุทฺทิฏฺานีติ เวทิตพฺพานิ.
ตตฺรายํ สงฺเขปโต อสาธารณสิกฺขาปเทสุ สมุฏฺานวินิจฺฉโย – คิรคฺคสมชฺชา, จิตฺตาคารสิกฺขาปทํ, สงฺฆาณิ, อิตฺถาลงฺกาโร, คนฺธวณฺณโก, วาสิตกปิฺาโก, ภิกฺขุนิอาทีหิ อุมฺมทฺทนปริมทฺทนานีติ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ อจิตฺตกานิ, โลกวชฺชานิ, อกุสลจิตฺตานิ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จ. อวเสสานิ อจิตฺตกานิ ปณฺณตฺติวชฺชาเนว. โจริวุฏฺาปนํ, คามนฺตรํ, อารามสิกฺขาปทํ, คพฺภินิวคฺเค อาทิโต ปฏฺาย สตฺต, กุมาริภูตวคฺเค อาทิโต ปฏฺาย ปฺจ, ปุริสสํสฏฺํ, ปาริวาสิยฉนฺททานํ, อนุวสฺสวุฏฺาปนํ, เอกนฺตริกวุฏฺาปนนฺติ อิมานิ เอกูนวีสติ สิกฺขาปทานิ สจิตฺตกานิ, ปณฺณตฺติวชฺชานิ. อวเสสานิ สจิตฺตกานิ โลกวชฺชาเนวาติ.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา
๒๔๓๒. เอวํ ปาจิตฺติยวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปาฏิเทสนียํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อคิลานา’’ติอาทิ. ยา ปน ภิกฺขุนี ¶ อคิลานา สยํ อตฺตนา วิฺตฺติยา ลทฺธํ สปฺปึ สเจ ‘‘ภฺุชิสฺสามี’’ติ คณฺหติ, ตสฺสา เอวํ คหเณ ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา. ตตฺถ ยสฺสา วินา สปฺปินา ผาสุ โหติ, สา อคิลานา นาม. สปฺปินฺติ ปุพฺเพ วุตฺตวินิจฺฉยํ ปาฬิอาคตํ โคสปฺปิอาทิกเมว.
๒๔๓๓. ติปาฏิเทสนียนฺติ อคิลานา อคิลานสฺา, เวมติกา, คิลานสฺาติ ตีสุ ¶ วิกปฺเปสุ ตีณิ ปาฏิเทสนียานิ. คิลานา ทฺวิกทุกฺกฏนฺติ คิลานาย ทฺวิกทุกฺกฏํ. คิลานา อคิลานสฺา, เวมติกา วาติ ทฺวีสุ วิกปฺเปสุ ทฺเว ทุกฺกฏานิ.
๒๔๓๔-๕. คิลานา หุตฺวา สปฺปึ วิฺาเปตฺวา ปจฺฉา วูปสนฺตเคลฺา หุตฺวา เสวนฺติยา ปริภฺุชนฺติยาปิ จ คิลานาย อวเสสํ ปริภฺุชนฺติยา วา าตกาทิโต าตกปวาริตฏฺานโต วิฺตฺตํ ภฺุชนฺติยา วา อฺสฺสตฺถาย วิฺตฺตํ ปริภฺุชนฺติยา วา อตฺตโน ธเนน คหิตํ ภฺุชนฺติยา วา อุมฺมตฺติกาย วา อนาปตฺตีติ โยชนา.
ปมํ.
๒๔๓๖. เสเสสุ ทุติยาทีสูติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อคิลานา เตลํ…เป… มธุํ…เป… ผาณิตํ…เป… มจฺฉํ…เป… มํสํ…เป… ขีรํ…เป… ทธึ วิฺาเปตฺวา ภฺุเชยฺย, ปฏิเทเสตพฺพํ ตาย ภิกฺขุนิยา คารยฺหํ อยฺเย ธมฺมํ อาปชฺชึ อสปฺปายํ ปาฏิเทสนียํ, ตํ ปฏิเทเสมี’’ติ (ปาจิ. ๑๒๓๖) เอวํ ทุติยาทีสุ สตฺตสุ ปาฏิเทสนีเยสุ. นตฺถิ กาจิ วิเสสตาติ เตลาทิปทานิ วินา อฺโ โกจิ วิเสโส นตฺถีติ อตฺโถ.
๒๔๓๗. ปาฬิยํ ¶ อนาคเตสุ สพฺเพสุ สปฺปิอาทีสุ อฏฺสุ อฺตรํ วิฺาเปตฺวา ภฺุชนฺติยาปิ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สิกฺขากรณียกถาวณฺณนา
๒๔๓๘. ปาฏิเทสนียานนฺตรํ อุทฺทิฏฺานิ ปฺจสตฺตติ เสขิยานิ มหาวิภงฺเค วุตฺตวินิจฺฉยาเนวาติ ตเทว อติทิสนฺโต อาห ‘‘เสขิยา ปน เย ธมฺมา’’ติอาทิ. เย ปน ปฺจสตฺตติ ¶ เสขิยา ธมฺมา ปาฏิเทสนียานนฺตรํ อุทฺทิฏฺา, เตสํ อตฺถวินิจฺฉโย มหาวิภงฺเค วุตฺโตวาติ โยชนา, อตฺถิเกหิ ตโตว คเหตพฺโพ, น ปุน อิธ ทสฺเสสฺสามีติ อธิปฺปาโย.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
สิกฺขากรณียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๔๓๙-๔๐. สวิภงฺคานํ อุภโตวิภงฺคสหิตานํ อุภโตปาติโมกฺขานํ ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีนฺจ ปาติโมกฺขานํ อฏฺกถาสาโร สพฺพฏฺกถานํ สารภูโต โย โส อตฺโถ วิเสสโต สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต. ตํ สพฺพํ สารภูตํ อตฺถํ สมาทาย โย วินยสฺสวินิจฺฉโย ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีนฺจ หิตตฺถาย มยา กโต วิรจิโตติ สมฺพนฺโธ.
๒๔๔๑. โน อมฺหากํ ปฏิภาณชํ ปฏิภาณโต ชาตํ อิมํ ตุ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ ปน เย ชนฺตุโน สตฺตา สุณนฺติ ¶ , เต ชนฺตุโน ชนสฺส สตฺตโลกสฺส หิเต อธิสีลสิกฺขาปกาสกตฺตา อุปการเก สุมตสฺส โสภณนฺติ พุทฺธาทีหิ มตสฺส, โสภเณหิ วา พุทฺธาทีหิ มตสฺส ปฏิวิทฺธสฺส อมตมหานิพฺพานสฺส อยเน อฺชสภูเต ชนสฺส ตายเน กายิกวาจสิกวีติกฺกมปฏิปกฺขตฺตา อปายภยนิวารณฏฺเน ตาณภูเต วินเย วินยปิฏเก ปกตฺุโน ยถาสภาวํ ชานนฺตา ตฺุโน ภวนฺติ ตํ ตํ กปฺปิยากปฺปิยํ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพํ ชานนฺตา ภวนฺเตวาติ อตฺโถ.
๒๔๔๒. พหโว สารภูตา นยา เอตฺถาติ พหุสารนโย, ตสฺมึ พหุสารนเย. ปรเม อุตฺตเม วินเย วินยปิฏเก วิสารทตํ เวสารชฺชํ อสํหีราณํ อภิปตฺถยตา วิเสสโต อิจฺฉนฺเตน พุทฺธิมตา าณาติสยมนฺเตน ยตินา สพฺพกาลํ ติวิธสิกฺขาปริปูรเณ อสิถิลปวตฺตสมฺมาวายาเมน ภิกฺขุนา อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย ปรมา อุตฺตริตรา มหตี อาทรตา กรณียตมา วิเสเสน กาตพฺพาเยวาติ อตฺโถ.
๒๔๔๓. อิจฺเจวํ สีลวิสุทฺธิสาธเน วินยปิฏเก เวสารชฺชเหตุตาย อิมสฺส วินยวินิจฺฉยสฺส สีลวิสุทฺธิอาทิสตฺตวิสุทฺธิปรมฺปราย อธิคนฺตพฺพสฺส อมตมหานิพฺพานสฺส ปตฺติยาปิ มูลภูตตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อวคจฺฉตี’’ติอาทิ.
โย ¶ ปน ภิกฺขุ อตฺถยุตฺตํ มหตา ปโยชนตฺเถน, อภิเธยฺยตฺเถน จ สมนฺนาคตํ อิมํ วินยสฺสวินิจฺฉยํ อวคจฺฉติ อเวจฺจ ยาถาวโต ชานาติ, โส อปรมฺปรํ มรณาภาวา อมรํ ชรายาภาวา อชรํ ราคาทิกิเลสรชปฏิปกฺขตฺตา อรชํ อเนกปฺปการโรคานํ อปฺปวตฺติเหตุตฺตา อรุชํ สนฺติปทํ สพฺพกิเลสทรถปริฬาหานํ วูปสมเหตุตฺตา ¶ สนฺติสงฺขาตํ นิพฺพานปทํ อธิคจฺฉติ สีลวิสุทฺธิอาทิสตฺตวิสุทฺธิปรมฺปราย คนฺตฺวา ปฏิวิชฺฌตีติ โยชนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ภิกฺขุนิวิภงฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ขนฺธกกถา
มหาวคฺโค
มหาขนฺธกกถา
ปพฺพชฺชากถาวณฺณนา
๒๔๔๔. อิจฺเจวํ ¶ ¶ นาติสงฺเขปวิตฺถารวเสน วิภงฺคทฺวเย, ตทฏฺกถาย จ อาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ขนฺธกาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมารภนฺโต อาห ‘‘สีลกฺขนฺธาที’’ติอาทิ. ตตฺถ สีลกฺขนฺธาทิยุตฺเตนาติ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสงฺขาเตหิ ปฺจหิ ขนฺเธหิ คุณราสีหิ ยุตฺเตน สมนฺนาคเตน. สุภกฺขนฺเธนาติ สุวณฺณาลิงฺคสทิสวฏฺฏกฺขนฺธตาย สุโภ สุนฺทโร ขนฺโธ เอตสฺสาติ สุภกฺขนฺโธ, ภควา, เตน. อิมินา พาตฺตึสลกฺขณานเมกเทสภูตสฺส สมวฏฺฏกฺขนฺธตาลกฺขณสฺส ปริทีปเกน วจเนน ลกฺขณาหารนเยน พาตฺตึสลกฺขณาทิกา สพฺพาปิ รูปกายสิรี สนฺทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.
ขนฺธเกติ ขนฺธานํ สมูโห ขนฺธโก, ขนฺธานํ วา กายนโต ทีปนโต ขนฺธโก. ‘‘ขนฺธา’’ติ เจตฺถ ปพฺพชฺชูปสมฺปทาทิวินยกมฺมสงฺขาตา, จาริตฺตวาริตฺตสิกฺขาปทสงฺขาตา จ ปฺตฺติโย อธิปฺเปตา. ปพฺพชฺชาทีนิ หิ ภควตา ปฺตฺตตฺตา ‘‘ปฺตฺติโย’’ติ วุจฺจนฺติ. ปฺตฺติยฺจ ขนฺธ-สทฺโท ทิสฺสติ ‘‘ทารุกฺขนฺโธ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑) อคฺคิกฺขนฺโธ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๖) อุทกกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๖.๓๗) วิย. อปิจ ภาคราสตฺถตา ¶ เจตฺถ ยุชฺชติเยว ตาสํ ปฺตฺตีนํ ภาคโส, ราสิโต จ วิภตฺตตฺตา. ตสฺมึ ขนฺธเก. ปิ-สทฺโท วุตฺตาเปกฺขาย ปฺจสติกสตฺตสติกกฺขนฺธเก ทฺเว วชฺเชตฺวา ¶ ปพฺพชฺชกฺขนฺธกาทิเก ภิกฺขุนิขนฺธกปริโยสาเน วีสติวิเธ ขนฺธเก วุตฺตวินิจฺฉยสฺส อิธ วกฺขมานตฺตา. ตเทว สนฺธายาห ‘‘ขนฺธเกปิ ปวกฺขามิ, สมาเสน วินิจฺฉย’’นฺติ.
๒๔๔๕. ‘‘มาตรา ปิตรา’’ติ อิมินา ชนกาเยว อธิปฺเปตา. ‘‘ภณฺฑุกมฺมํ, สมณกรณํ, ปพฺพาชนนฺติ จ ปริยาย-สทฺทา’’ติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆํ อปโลเกตุํ ภณฺฑุกมฺมายา’’ติ (มหาว. ๙๘) อิมิสฺสา ปาฬิยา อฏฺกถาย (มหาว. อฏฺ. ๙๘) วุตฺตํ. อาปุจฺฉิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘สงฺฆ’’นฺติ เสโส.
๒๔๔๖. วาวโฏติ ปสุโต, ยุตฺตปยุตฺโตติ อตฺโถ. ‘‘ปพฺพาเชตฺวา อานย อิติ จา’’ติ ปทจฺเฉโท. เอตฺถ จ ติธา ปพฺพาชนํ เวทิตพฺพํ เกสจฺเฉทนํ, กาสายอจฺฉาทนํ, สรณทานนฺติ, อิมานิ ตีณิ กโรนฺโต ‘‘ปพฺพาเชตี’’ติ วุจฺจติ. เตสุ เอกํ, ทฺเว วาปิ กโรนฺโต ตถา โวหรียติเยว. ตสฺมา ‘‘ปพฺพาเชตฺวานยา’’ติ อิมินา เกเส ฉินฺทิตฺวา กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา อาเนหีติ อยมตฺโถ ทีปิโตติ ทฏฺพฺโพ.
๒๔๔๗. อวุตฺโตติ อุปชฺฌาเยน อนุยฺโยชิโต. โส ทหโร สเจ ตํ สยเมว เกสจฺเฉทนกาสายจฺฉาทเนหิ ปพฺพาเชติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.
๒๔๔๘. ตตฺถาติ อตฺตโน สมีเป. ขณฺฑสีมํ เนตฺวาติ ภณฺฑุกมฺมาโรจนปริหารตฺถํ วุตฺตํ. เตน สภิกฺขุเก วิหาเร อฺมฺปิ ภิกฺขุํ ‘‘เอตสฺส เกเส ฉินฺทา’’ติ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. ปพฺพาเชตฺวาติ เกสจฺเฉทนํ สนฺธาย วทติ.
๒๔๕๐. ‘‘ปุริสํ ¶ ภิกฺขุโต อฺโ, ปพฺพาเชติ น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ สรณทานํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘สามเณโร’’ติอาทิ.
๒๔๕๑. อุภินฺนมฺปิ เถรเถรีนํ ‘‘อิเมหิ จีวเรหิ อิมํ อจฺฉาเทหี’’ติ อาณตฺติยา สามเณโรปิ ¶ วา โหตุ, ตถา สามเณรี วา โหตุ, เต อุโภ สามเณรสามเณรี กาสายานิ ทาตุํ ลภนฺตีติ โยชนา.
๒๔๕๒-๔. ปพฺพาเชนฺเตน ภิกฺขุนาติ เอตฺถ ‘‘ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ ทตฺวา’’ติ วตฺตพฺพํ เอวฺหิ กตฺวา เกสาปนยนสฺส อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘อาวุโส, สุฏฺุ อุปธาเรหิ, สตึ อุปฏฺาเปหีติ วตฺวา ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตพฺพํ. อาจิกฺขนฺเตน จ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน อสุจิเชคุจฺฉปฏิกฺกูลภาวํ, นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวํ วา ปากฏํ กโรนฺเตน อาจิกฺขิตพฺพ’’นฺติอาทิ. กิมตฺถเมวํ กรียตีติ เจ? สเจ อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน โหติ, ตสฺส ขุรคฺเคเยว อรหตฺตปาปุณนตฺถํ. วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ –
‘‘เย หิ เกจิ ขุรคฺเค อรหตฺตํ ปตฺตา, สพฺเพ เต เอวรูปํ สวนํ ลภิตฺวา กลฺยาณมิตฺเตน อาจริเยน ทินฺนนยํ นิสฺสาย, โน อนิสฺสาย, ตสฺมาสฺส อาทิโตว เอวรูปี กถา กเถตพฺพา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔).
เอเตเนว พฺยติเรกโต อิโต อฺา อนิยฺยานิกกถา น กเถตพฺพาติ ทีปิตํ โหติ. โคมยาทินาติ โคมยจุณฺณาทินา. อาทิ-สทฺเทน มตฺติกาทีนํ คหณํ. ปีฬกา วาติ ถุลฺลปีฬกา วา. กจฺฉุ วาติ สุขุมกจฺฉุ วา. นิยํปุตฺตนฺติ ¶ อตฺตโน ปุตฺตํ. ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ อิมสฺส ปทสฺส ทูรตฺตา ‘‘ยตินา’’ติ อาห.
๒๔๕๕-๖. กสฺมา ปน เอวํ นหาเปตพฺโพติ อาห ‘‘เอตฺตเกนาปี’’ติอาทิ. โสติ ปพฺพชฺชาเปกฺโข. อุปชฺฌายกาทิสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อาจริยสมานุปชฺฌายกาทีนํ คหณํ. ปาปุณนฺติ หีติ เอตฺถ หิ-สทฺโท ยสฺมา-ปทตฺเถ วตฺตติ. ยสฺมา เอตฺตเกนาปิ อุปชฺฌายาทีสุ สคารโว โหติ, ยสฺมา จ เอวรูปํ อุปการํ ลภิตฺวา กุลปุตฺตา อุปฺปนฺนํ อนภิรตึ ปฏิวิโนเทตฺวา สิกฺขาโย ปริปูเรตฺวา นิพฺพานํ ปาปุณิสฺสนฺติ, ตสฺมา เอวรูโป อุปกาโร กาตพฺโพติ อตฺโถ.
๒๔๕๘. เอกโตติ สพฺพานิ จีวรานิ เอกโต กตฺวา.
๒๔๕๙. อถาติ ¶ อธิการนฺตรารมฺเภ นิปาโต. ตสฺส หตฺเถ อทตฺวาปิ อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วาปิ สยเมว ตํ ปพฺพชฺชาเปกฺขํ อจฺฉาเทติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.
๒๔๖๐. อทินฺนจีวรสฺส อคฺคเหตพฺพตฺตา อาห ‘‘อปเนตฺวา ตโต สพฺพํ, ปุน ทาตพฺพเมว ต’’นฺติ. ตโตติ ตสฺส สรีรโต. ตนฺติ จีวรํ.
๒๔๖๑-๒. เอตเทว อาห ‘‘ภิกฺขุนา’’ติอาทินา. อทินฺนํ น วฏฺฏตีติ เอตฺถ ปพฺพชฺชา น รุหตีติ วทนฺติ. ตสฺเสว สนฺตกํ วาปิ จีวรํ อทินฺนํ น วฏฺฏติ อตฺตสนฺตเก อาจริยุปชฺฌายานํ อตฺตโน สนฺตเก จีวเร กา กถา วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อตฺโถ. ภิกฺขูติ เย ตตฺถ สนฺนิปติตา. การาเปตฺวาน อุกฺกุฏินฺติ เอตฺถ สพฺพธาตฺวตฺถานุคโต กโรติ-สทฺโท คหิโตติ อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ, ‘‘อุกฺกุฏิก’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔) อฏฺกถาปาโ คาถาพนฺธสุขตฺถํ อิธ ก-การโลเปน นิทฺทิฏฺโ.
๒๔๖๔. เอกปทํ ¶ วาปีติ พุทฺธมิจฺจาทิกํ เอกมฺปิ วา ปทํ. เอกกฺขรมฺปิ วาติ พุการาทิอกฺขเรสุ เอกมฺปิ วา อกฺขรํ. ปฏิปาฏินฺติ ‘‘พุทฺธ’’มิจฺจาทิกํ ปทปนฺตึ.
๒๔๖๕. อกตฺตพฺพปฺปการนฺตรํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ติกฺขตฺตุํ ยทิ วา’’ติอาทิ. ตถา เสเสสูติ ยทิ วา ‘‘ธมฺมํ สรณ’’นฺติ ติกฺขตฺตุํ เทติ, ‘‘สงฺฆํ สรณ’’นฺติ ยทิ วา ติกฺขตฺตุํ เทติ, เอวมฺปิ ตีณิ สรณานิ อทินฺนาเนว โหนฺติ.
๒๔๖๖. อนุนาสิกนฺตานิ กตฺวา ทาตพฺพานีติ สมฺพนฺโธ. อนุนาสิกนฺตํ กตฺวา ทานกาเล อนฺตราวิจฺเฉทํ อกตฺวา ทาตพฺพานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกาพทฺธานิ วา ปนา’’ติ วุตฺตํ. วิจฺฉินฺทิตฺวา ปทปฏิปาฏิโต ม-การนฺตํ กตฺวา ทานสมเย วิจฺเฉทํ กตฺวา. มนฺตานีติ ‘‘พุทฺธํ สรณํ อิจฺจาทินา ม-การนฺตานิ. ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติอาทินา นเยน นิคฺคหิตนฺตเมว กตฺวา น ทาตพฺพนฺติ ‘‘อถา’’ติ อาห.
๒๔๖๗. สุทฺธิ นาม อาจริยสฺส ตฺติยา, กมฺมวาจาย จ อุจฺจารณวิสุทฺธิ. ปพฺพชฺชาติ สามเณรสามเณริปพฺพชฺชา. อุภโตสุทฺธิยา วินาติ อุภโตสุทฺธึ วินา อาจริยนฺเตวาสีนํ ¶ อุภินฺนํ ตีสุ สรณตฺตยทานคฺคหเณสุ อุจฺจารณสุทฺธึ วินา, เอกสฺสาปิ อกฺขรสฺส วิปตฺติสพฺภาเว น โหตีติ อตฺโถ.
๒๔๖๘-๙. ‘‘ปพฺพชฺชาคุณมิจฺฉตา’’ติ อิทํ ‘‘อาจริเยน, อนฺเตวาสิเกนา’’ติ ปททฺวยสฺส วิเสสนํ ทฏฺพฺพํ, อนฺเตวาสิกสฺส ปพฺพชฺชาคุณํ อิจฺฉนฺเตน อาจริเยน, อตฺตโน ปพฺพชฺชาคุณํ อิจฺฉนฺเตน อนฺเตวาสิเกน จ พุ-ทฺธ-การาทโย วณฺณา พุ-การ ธ-การาทโย วณฺณา อกฺขรา านกรณสมฺปทํ กณฺตาลุมุทฺธทนฺตโอฏฺนาสิกาเภทํ านสมฺปทฺจ ¶ อกฺขรุปฺปตฺติสาธกตมชิวฺหามชฺฌาทิกรณสมฺปทฺจ อหาเปนฺเตน อปริหาเปนฺเตน วตฺตพฺพาติ โยชนา. กสฺมา อิทเมว ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เอกวณฺณวินาเสนา’’ติอาทิ. หิ-สทฺโท ยสฺมา-ปทตฺเถ, ยสฺมา เอกสฺสาปิ วณฺณสฺส วินาเสน อนุจฺจารเณน วา ทุรุจฺจารเณน วา ปพฺพชฺชา น รุหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
๒๔๗๐. ยทิ สิทฺธาติ สาสงฺกวจเนน อุภโตอุจฺจารณสุทฺธิยา ทุกฺกรตฺตํ ทีเปตฺวา ‘‘อปฺปมตฺเตหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ อุภินฺนํ อาจริยนฺเตวาสิกานํ อนุสิฏฺิ ทินฺนา โหติ. สรณคมนโตวาติ อวธารเณน สามเณรปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา วิย ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน น โหติ, อิทานิปิ สรณคมเนเนว สิชฺฌตีติ ทีเปติ. หิ-สทฺโท ปสิทฺธิยํ. ยถาห –
‘‘ยสฺมา สรณคมเนน อุปสมฺปทา ปรโต ปฏิกฺขิตฺตา, ตสฺมา สา เอตรหิ สรณคมนมตฺเตเนว น รุหติ. สามเณรสฺส ปพฺพชฺชา ปน ยสฺมา ปรโตปิ ‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ตีหิ สรณคมเนหิ สามเณรปพฺพชฺช’นฺติ (มหาว. ๑๐๕) อนฺุาตา เอว, ตสฺมา สา เอตรหิปิ สรณคมนมตฺเตเนว รุหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔).
สรณคมนโต เอว ปพฺพชฺชา ยทิปิ กิฺจาปิ สิทฺธา นิปฺผนฺนา, ตถาปิ อสฺส สามเณรสฺส ‘‘อิทฺจิทฺจ มยา ปูเรตพฺพํ สีล’’นฺติ ตฺวา ปริปูรณตฺถาย ภิกฺขุนา ทส สีลานิ ทาตพฺพานีติ โยชนา. ยถาห ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามเณรานํ ทส สิกฺขาปทานิ, เตสุ จ สามเณเรหิ สิกฺขิตุํ. ปาณาติปาตา เวรมณี’’ติอาทิ (มหาว. ๑๐๖).
ปพฺพชฺชากถาวณฺณนา.
๒๔๗๑. อุปชฺฌายนฺติ ¶ ¶ วชฺชาวชฺเช อุปนิชฺฌายตีติ อุปชฺฌาโย, ตํ, ภควตา วุตฺเตหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต ปริปุณฺณทสวสฺโส ปุคฺคโล. นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ สิรสิ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา อตฺตโน อภิมุเข อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา ‘‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, โหหี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา อายาจนาย กตาย ‘‘สาหุ, ลหุ, โอปายิกํ, ปฏิรูปํ, ปาสาทิเกน สมฺปาเทหี’’ติ อิเมสุ ปฺจสุ ปเทสุ อฺตรํ กาเยน วา วาจาย วา อุภเยน วา วิฺาเปตฺวา ตสฺมึ สมฺปฏิจฺฉิเต ปิตุฏฺาเน ตฺวา อตฺรชมิว ตํ คเหตฺวา วชฺชาวชฺชํ อุปปริกฺขิตฺวา โทเสน นิคฺคณฺหิตฺวา สทฺธิวิหาริเก สิกฺขาเปนฺโต อุปชฺฌาโย นาม.
วิชฺชาสิปฺปํ, อาจารสมาจารํ วา สิกฺขิตุกาเมหิ อาทเรน จริตพฺโพ อุปฏฺาตพฺโพติ อาจริโย, ตํ, อุปชฺฌาเย วุตฺตลกฺขณสมนฺนาคโตเยว ปุคฺคโล. วุตฺตนเยเนว นิสีทิตฺวา ‘‘อาจริโย เม, ภนฺเต, โหหิ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา อายาจนาย กตาย ‘‘สาหู’’ติอาทีสุ ปฺจสุ อฺตรํ วตฺวา ตสฺมึ สมฺปฏิจฺฉิเต ปิตุฏฺาเน ตฺวา ปุตฺตฏฺานิยํ อนฺเตวาสึ สิกฺขาเปนฺโต อาจริโย นาม.
เอตฺถ จ สาหูติ สาธุ. ลหูติ อครุ, มม ตุยฺหํ อุปชฺฌายภาเว ภาริยํ นตฺถีติ อตฺโถ. โอปายิกนฺติ อุปายปฏิสํยุตฺตํ, ตํ อุปชฺฌายคฺคหณํ อิมินา อุปาเยน ตฺวํ เม อิโต ปฏฺาย ภาโร ชาโตสีติ วุตฺตํ โหติ. ปฏิรูปนฺติ อนุรูปํ เต อุปชฺฌายคฺคหณนฺติ อตฺโถ. ปาสาทิเกนาติ ปสาทาวเหน กายวจีปโยเคน. สมฺปาเทหีติ ติวิธํ สิกฺขํ นิปฺผาเทหีติ อตฺโถ. กาเยน วาติ หตฺถมุทฺทาทึ ทสฺเสนฺโต กาเยน วา. นามวิเสสํ วินา ปูเรตพฺพวตฺตานํ สมตาย อุโภปิ เอกโต วุตฺตา.
เอตานิ ¶ วตฺตานิ อุปชฺฌายสฺส สทฺธิวิหาริเกน, อาจริยสฺส อนฺเตวาสิเกนาปิ เอวเมว กาตพฺพาเนวาติ. วสตาติ วสนฺเตน. ปิยสีเลนาติ ปิยํ สีลเมตสฺสาติ ปิยสีโล, เตน, สีลํ ปริปูริตุกาเมนาติ วุตฺตํ โหติ.
๒๔๗๒-๓. อาสนํ ปฺเปตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘กาลสฺเสว วุฏฺาย อุปาหนา โอมฺุจิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา’’ติ (มหาว. ๖๖) วุตฺตา ปุพฺพกิริยา วตฺตพฺพา. อาสนํ ปฺเปตพฺพนฺติ ¶ ทนฺตกฏฺขาทนฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา นิสีทนตฺถาย อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. อิมินา จ ยาคุปานฏฺานาทีสุปิ อาสนานิ ปฺเปตพฺพาเนวาติ ทสฺสิตํ โหติ.
ทนฺตกฏฺํ ทาตพฺพนฺติ มหนฺตํ, มชฺฌิมํ, ขุทฺทกนฺติ ตีณิ ทนฺตกฏฺานิ อุปเนตฺวา ตโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ คณฺหาติ, จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสเมว ทาตพฺพํ. สเจ อนิยมํ กตฺวา ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, อถ ยาทิสํ ลภติ, ตาทิสํ ทาตพฺพํ.
มุโขทกํ ทาตพฺพนฺติ มุขโธวโนทกํ มุโขทกนฺติ มชฺเฌปทโลปีสมาโส, ตํ เทนฺเตน สีตฺจ อุณฺหฺจ อุทกํ อุปเนตฺวา ตโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ วฬฺเชติ, จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสเมว มุขโธวโนทกํ ทาตพฺพํ. สเจ อนิยมํ กตฺวา ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, อถ ยาทิสํ ลภติ, ตาทิสํ ทาตพฺพํ. สเจ ทุวิธมฺปิ วฬฺเชติ, ทุวิธมฺปิ อุปเนตพฺพํ. ‘‘มุโขทกํ มุขโธวนฏฺาเน เปตฺวา อวเสสฏฺานานิ สมฺมชฺชิตพฺพานิ. สมฺมชฺชนฺเตน จ วจฺจกุฏิโต ปฏฺาย สมฺมชฺชิตพฺพํ. เถเร วจฺจกุฏึ คเต ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, เอวํ ปริเวณํ อสฺุํ โหตี’’ติ อฏฺกถายํ (มหาว. อฏฺ. ๖๔ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตนเยเนว สมฺมชฺชิตพฺพํ.
ตโต ¶ อุตฺตรึ กตฺตพฺพํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตสฺส กาเลนา’’ติอาทิ. ตสฺสาติ อุปชฺฌายสฺส วา อาจริยสฺส วา. กาเลนาติ ยาคุปานกาเล. อิธาปิ ‘‘อาสนํ ปฺเปตพฺพ’’นฺติ เสโส. ยถาห ‘‘เถเร วจฺจกุฏิโต อนิกฺขนฺเตเยว อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. สรีรกิจฺจํ กตฺวา อาคนฺตฺวา ตสฺมึ นิสินฺนสฺส ‘สเจ ยาคุ โหตี’ติอาทินา นเยน วุตฺตํ วตฺตํ กาตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๖๔).
ยาคุ ตสฺสุปเนตพฺพาติ เอตฺถ ‘‘ภาชนํ โธวิตฺวา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘ภาชนํ โธวิตฺวา ยาคุ อุปนาเมตพฺพา’’ติ (มหาว. ๖๖). สงฺฆโต วาติ สลากาทิวเสน สงฺฆโต ลพฺภมานา วา. กุลโตปิ วาติ อุปาสกาทิกุลโต วา.
‘‘ปตฺเต วตฺตฺจ กาตพฺพ’’นฺติ อิทํ ‘‘ยาคุํ ปีตสฺส อุทกํ ทตฺวา ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา ปฏิสาเมตพฺพํ, อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ ¶ . สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, โส เทโส สมฺมชฺชิตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๖๖) อาคตวตฺตํ สนฺธายาห. ทิวา ภุตฺตปตฺเตปิ กาตพฺพํ เอเตเนว ทสฺสิตํ โหติ.
วตฺตํ ‘‘คามปฺปเวสเน’’ติ อิทํ ‘‘สเจ อุปชฺฌาโย คามํ ปวิสิตุกาโม โหติ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (มหาว. ๖๖) วตฺตํ สนฺธายาห. ‘‘กาตพฺพ’’นฺติ อิทํ สพฺพปเทหิ โยเชตพฺพํ.
๒๔๗๔. จีวเร ยานิ วตฺตานีติ คามํ ปวิสิตุกามสฺส จีวรทาเน, ปฏินิวตฺตสฺส จีวรคฺคหณสงฺฆรณปฏิสามเนสุ มเหสินา ยานิ วตฺตานิ วุตฺตานิ, ตานิ จ กาตพฺพานิ. เสนาสเน ตถาติ ‘‘ยสฺมึ วิหาเร อุปชฺฌาโย วิหรตี’’ติอาทินา ¶ (มหาว. ๖๖) วุตฺตนเยน ‘‘เสนาสเน กตฺตพฺพ’’นฺติ ทสฺสิตํ เสนาสนวตฺตฺจ.
ปาทปีกถลิกาทีสุ ตถาติ โยชนา. อุปชฺฌาเย คามโต ปฏินิวตฺเต จ ชนฺตาฆเร จ ‘‘ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๖๖) เอวมาคตํ วตฺตฺจ กาตพฺพํ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อุปชฺฌาโย ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ’’ติอาทิวตฺตํ (มหาว. ๖๖) สงฺคณฺหาติ.
๒๔๗๕. เอวํ สพฺพตฺถ วตฺเตสุ ปาฏิเยกฺกํ ทสฺสิยมาเนสุ ปปฺโจติ ขนฺธกํ โอโลเกตฺวา สุขคฺคหณตฺถาย คณนํ ทสฺเสตุกาโม อาห ‘‘เอวมาทีนี’’ติอาทิ. โรคโต วุฏฺานาคมนนฺตานีติ อาจริยุปชฺฌายานํ โรคโต วุฏฺานาคมนปริโยสานานิ. สตฺตตึสสตํ สิยุนฺติ สตฺตตึสาธิกสตวตฺตานีติ อตฺโถ.
ตานิ ปน วตฺตานิ ขนฺธกปาฬิยา (มหาว. ๖๖) อาคตกฺกเมน เอวํ ยถาวุตฺตคณนาย สมาเนตพฺพานิ – ทนฺตกฏฺทานํ, มุโขทกทานํ, อาสนปฺาปนํ, สเจ ยาคุ โหติ, ภาชนํ โธวิตฺวา ยาคุยา อุปนามนํ, ยาคุํ ปีตสฺส อุทกํ ทตฺวา ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา ปฏิสามนํ, อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนสฺส อุทฺธรณํ, สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, ตสฺส สมฺมชฺชนํ, สเจ อุปชฺฌาโย คามํ ปวิสิตุกาโม โหติ, ตสฺส นิวาสนทานํ, ปฏินิวาสนปฏิคฺคหณํ, กายพนฺธนทานํ, สคุณํ กตฺวา ¶ สงฺฆาฏิทานํ, โธวิตฺวา โสทกปตฺตสฺส ทานํ, สเจ อุปชฺฌาโย ปจฺฉาสมณํ อากงฺขติ, ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ปารุปิตฺวา ¶ คณฺิกํ ปริมฺุจิตฺวา โธวิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา อุปชฺฌายสฺส ปจฺฉาสมเณน คมนํ, นาติทูรนจฺจาสนฺเน คมนํ, ปตฺตปริยาปนฺนสฺส ปฏิคฺคหณํ, น อุปชฺฌายสฺส ภณมานสฺส อนฺตรนฺตรา กถาโอปาตนํ, อุปชฺฌายสฺส อาปตฺติสามนฺตา ภณมานสฺส จ นิวารณํ, นิวตฺตนฺเตน ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนปฺาปนํ, ปาโททกปาทปีปาทกถลิกานํ อุปนิกฺขิปนํ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรปฏิคฺคหณํ, ปฏินิวาสนทานํ, นิวาสนปฏิคฺคหณํ, สเจ จีวรํ สินฺนํ โหติ, มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาปนํ, เนว อุณฺเห จีวรสฺส นิทหนํ, มชฺเฌ ยถา ภงฺโค น โหติ, เอวํ จตุรงฺคุลํ กณฺณํ อุสฺสาเรตฺวา จีวรสฺส สงฺฆรณํ, โอโภเค กายพนฺธนสฺส กรณํ, สเจ ปิณฺฑปาโต โหติ, อุปชฺฌาโย จ ภฺุชิตุกาโม โหติ, อุทกํ ทตฺวา ปิณฺฑปาตสฺส อุปนามนํ, อุปชฺฌายสฺส ปานีเยน ปุจฺฉนํ, ภุตฺตาวิสฺส อุทกํ ทตฺวา ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา โวทกํ กตฺวา มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาปนํ, น จ อุณฺเห ปตฺตสฺส นิทหนํ, ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ –
ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺตสฺส นิกฺขิปนํ, น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺตสฺส นิกฺขิปนํ, จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรสฺส นิกฺขิปนํ, อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนสฺส อุทฺธรณํ, ปาโททกปาทปีปาทกถลิกานํ ปฏิสามนํ, สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, ตสฺส สมฺมชฺชนํ, สเจ อุปชฺฌาโย นฺหายิตุกาโม โหติ, นฺหานสฺส ปฏิยาทนํ, สเจ สีเตน อตฺโถ โหติ, สีตสฺส สเจ อุณฺเหน อตฺโถ โหติ, อุณฺหสฺส ปฏิยาทนํ, สเจ อุปชฺฌาโย ชนฺตาฆรํ ปวิสิตุกาโม โหติ, จุณฺณสฺส ¶ สนฺนยนํ, มตฺติกาเตมนํ, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย อุปชฺฌายสฺส ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คนฺตฺวา ชนฺตาฆรปีํ ทตฺวา จีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, จุณฺณทานํ, มตฺติกาทานํ, สเจ อุสฺสหติ, ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ –
ชนฺตาฆรํ ปวิสนฺเตน มตฺติกาย มุขํ มกฺเขตฺวา ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรปฺปเวโส, น เถรานํ ภิกฺขูนํ อนุปขชฺช นิสีทนํ, น นวานํ ภิกฺขูนํ อาสเนน ปฏิพาหนํ, ชนฺตาฆเร อุปชฺฌายสฺส ปริกมฺมสฺส กรณํ, ชนฺตาฆรา นิกฺขมนฺเตน ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ¶ ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรา นิกฺขมนํ, อุทเกปิ อุปชฺฌายสฺส ปริกมฺมกรณํ, นฺหาเตน ปมตรํ อุตฺตริตฺวา อตฺตโน คตฺตํ โวทกํ กตฺวา นิวาเสตฺวา อุปชฺฌายสฺส คตฺตโต อุทกสฺส ปมชฺชนํ, นิวาสนทานํ, สงฺฆาฏิทานํ, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนสฺส ปฺาปนํ, ปาโททกปาทปีปาทกถลิกานํ อุปนิกฺขิปนํ, อุปชฺฌายสฺส ปานีเยน ปุจฺฉนํ, สเจ อุทฺทิสาเปตุกาโม โหติ, อุทฺทิสาปนํ, สเจ ปริปุจฺฉิตุกาโม โหติ, ปริปุจฺฉนํ, ยสฺมึ วิหาเร อุปชฺฌาโย วิหรติ, สเจ โส วิหาโร อุกฺลาโป โหติ, สเจ อุสฺสหติ, ตสฺส โสธนํ, วิหารํ โสเธนฺเตน ปมํ ปตฺตจีวรสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, นิสีทนปจฺจตฺถรณสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, ภิสิพิพฺโพหนสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, มฺจสฺส นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, ปีสฺส นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, มฺจปฏิปาทกานํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, เขฬมลฺลกสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, อปสฺเสนผลกสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, ภูมตฺถรณสฺส ยถาปฺตฺตสฺส สลฺลกฺเขตฺวา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ ¶ , สเจ วิหาเร สนฺตานกํ โหติ, อุลฺโลกา ปมํ โอหารณํ, อาโลกสนฺธิกณฺณภาคานํ ปมชฺชนํ, สเจ เครุกปริกมฺมกตา ภิตฺติ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชนํ, สเจ กาฬวณฺณกตา ภูมิ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชนํ, สเจ อกตา โหติ ภูมิ, อุทเกน ปริปฺโผสิตฺวา ปมชฺชนํ ‘‘มา วิหาโร รเชน อุหฺี’’ติ, สงฺการํ วิจินิตฺวา เอกมนฺตํ ฉฑฺฑนํ, ภูมตฺถรณสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, มฺจปฏิปาทกานํ โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาฏฺาเน ปนํ, มฺจสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, ปีสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, ภิสิพิพฺโพหนสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, นิสีทนปจฺจตฺถรณสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, เขฬมลฺลกสฺส โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาฏฺาเน ปนํ, อปสฺเสนผลกสฺส โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาฏฺาเน ปนํ, ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ –
ปตฺตํ ¶ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺตสฺส นิกฺขิปนํ, น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺตสฺส นิกฺขิปนํ, จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน ¶ จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรสฺส นิกฺขิปนํ, สเจ ปุรตฺถิมาย สรชา วาตา วายนฺติ, ปุรตฺถิมานํ วาตปานานํ ถกนํ, ตถา ปจฺฉิมานํ, ตถา อุตฺตรานํ, ตถา ทกฺขิณานํ วาตปานานํ ถกนํ, สเจ สีตกาโล โหติ, ทิวา วาตปานานํ วิวรณํ, รตฺตึ ถกนํ, สเจ อุณฺหกาโล โหติ, ทิวา วาตปานานํ ถกนํ, รตฺตึ วิวรณํ, สเจ ปริเวณํ อุกฺลาปํ โหติ, ปริเวณสฺส สมฺมชฺชนํ, สเจ โกฏฺโก อุกฺลาโป โหติ, โกฏฺกสฺส สมฺมชฺชนํ, สเจ อุปฏฺานสาลา อุกฺลาปา โหติ, ตสฺสา สมฺมชฺชนํ, สเจ อคฺคิสาลา อุกฺลาปา โหติ, ตสฺสา สมฺมชฺชนํ, สเจ วจฺจกุฏิ อุกฺลาปา โหติ, ตสฺสา สมฺมชฺชนํ, สเจ ปานียํ น โหติ, ปานียสฺส อุปฏฺาปนํ, สเจ ปริโภชนียํ น โหติ, ปริโภชนียสฺส อุปฏฺาปนํ, สเจ อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ น โหติ, อาจมนกุมฺภิยา อุทกสฺส อาสิฺจนํ, สเจ อุปชฺฌายสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วูปกาสนํ วูปกาสาปนํ วา, ธมฺมกถาย วา ตสฺส กรณํ, สเจ อุปชฺฌายสฺส กุกฺกุจฺจํ อุปฺปนฺนํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วิโนทนํ วิโนทาปนํ วา, ธมฺมกถาย วา ตสฺส กรณํ, สเจ อุปชฺฌายสฺส ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วิเวจนํ วิเวจาปนํ วา, ธมฺมกถาย วา ตสฺส กรณํ, สเจ อุปชฺฌาโย ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส ปริวาสํ ทเทยฺยา’’ติ, สเจ อุปชฺฌาโย มูลายปฏิกสฺสนารโห โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ ¶ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายํ มูลาย ปฏิกสฺเสยฺยา’’ติ, สเจ อุปชฺฌาโย มานตฺตารโห โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส มานตฺตํ ทเทยฺยา’’ติ, สเจ อุปชฺฌาโย อพฺภานารโห โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายํ อพฺเภยฺยา’’ติ, สเจ สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ กตฺตุกาโม โหติ ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ น กเรยฺย, ลหุกาย วา ปริณาเมยฺยา’’ติ, กตํ วา ปนสฺส โหติ สงฺเฆน กมฺมํ ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌาโย สมฺมา วตฺเตยฺย, โลมํ ปาเตยฺย, เนตฺถารํ วตฺเตยฺย, สงฺโฆ ตํ กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยา’’ติ, สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ โธวิตพฺพํ โหติ ¶ , สทฺธิวิหาริเกน โธวนํ อุสฺสุกฺกกรณํ วา ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ โธวิเยถา’’ติ, สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ กาตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน กรณํ อุสฺสุกฺกกรณํ วา ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ กริเยถา’’ติ, สเจ อุปชฺฌายสฺส รชนํ ปจิตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน ปจนํ อุสฺสุกฺกกรณํ วา ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส รชนํ ปจิเยถา’’ติ, สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ รเชตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน รชนํ อุสฺสุกฺกกรณํ วา ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ รชิเยถา’’ติ, จีวรํ รชนฺเตน สาธุกํ สมฺปริวตฺตกํ สมฺปริวตฺตกํ รชนํ, น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมนํ, อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา น เอกจฺจสฺส ปตฺตทานํ, น เอกจฺจสฺส ปตฺตปฏิคฺคหณํ, น เอกจฺจสฺส จีวรทานํ, น เอกจฺจสฺส จีวรปฏิคฺคหณํ, น เอกจฺจสฺส ปริกฺขารทานํ, น เอกจฺจสฺส ปริกฺขารปฏิคฺคหณํ, น เอกจฺจสฺส เกสจฺเฉทนํ, น เอกจฺเจน เกสานํ เฉทาปนํ, น เอกจฺจสฺส ปริกมฺมกรณํ, น เอกจฺเจน ปริกมฺมสฺส การาปนํ, น เอกจฺจสฺส เวยฺยาวจฺจกรณํ, น เอกจฺเจน เวยฺยาวจฺจสฺส ¶ การาปนํ, น เอกจฺจสฺส ปจฺฉาสมเณน คมนํ, น เอกจฺจสฺส ปจฺฉาสมณสฺส อาทานํ, น เอกจฺจสฺส ปิณฺฑปาตสฺส นีหรณํ, น เอกจฺเจน ปิณฺฑปาตนีหราปนํ, น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา คามปฺปเวสนํ, น สุสานคมนํ, น ทิสาปกฺกมนํ, สเจ อุปชฺฌาโย คิลาโน โหติ, ยาวชีวํ อุปฏฺานํ, วุฏฺานมสฺส อาคมนนฺติ เตสุ กานิจิ วตฺตานิ สวิภตฺติกานิ, กานิจิ อวิภตฺติกานิ, เตสุ อวิภตฺติกานํ วิภาเค วุจฺจมาเน ยถาวุตฺตคณนาย อติเรกตรานิ โหนฺติ, ตํ ปน วิภาคํ อนามสิตฺวา ปิณฺฑวเสน คเหตฺวา ยถา อยํ คณนา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.
๒๔๗๖. อกโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘วตฺต’’นฺติ เสโส. อนาทรวเสเนว วตฺตํ อกโรนฺตสฺส ภิกฺขุโน เตน วตฺตเภเทน วตฺตากรเณน สพฺพตฺถ สตฺตตึสาธิกสตปฺปเภทฏฺาเน ตตฺตกํเยว ทุกฺกฏํ ปกาสิตนฺติ โยชนา.
อุปชฺฌายาจริยวตฺตกถาวณฺณนา.
๒๔๗๗. เอวํ อุปชฺฌายาจริยวตฺตานิ สงฺเขเปน ทสฺเสตฺวา อุปชฺฌายาจริเยหิ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสีนํ กาตพฺพวตฺตานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปชฺฌายสฺส วตฺตานี’’ติอาทิ. อุปชฺฌายสฺส วตฺตานีติ อุปชฺฌาเยน สทฺธิวิหาริกสฺส ยุตฺตปตฺตกาเล กตฺตพฺพตฺตา อุปชฺฌายายตฺตวตฺตานีติ ¶ อตฺโถ. ตถา สทฺธิวิหาริเกติ ยถา สทฺธิวิหาริเกน อุปชฺฌายสฺส กาตพฺพานิ, ตถา อุปชฺฌาเยน สทฺธิวิหาริเก กาตพฺพานิ.
อุปชฺฌายาจริยวตฺเตสุ คามปฺปเวเส ปจฺฉาสมเณน หุตฺวา นาติทูรนจฺจาสนฺนคมนํ, น อนฺตรนฺตรา กถาโอปาตนํ, อาปตฺติสามนฺตา ภณมานสฺส นิวารณํ, ปตฺตปริยาปนฺนปฏิคฺคหณนฺติ จตฺตาริ วตฺตานิ, น เอกจฺจสฺส ปตฺตทานาทิอนาปุจฺฉาทิสาปกฺกมนาวสานานิ วีสติ ปฏิกฺเขปา เจติ เอตานิ ¶ จตุวีสติ วตฺตานิ เปตฺวา อวเสสานิ เตรสาธิกสตวตฺตานิ สนฺธายาห ‘‘สตํ เตรส โหนฺเตวา’’ติ, เตรสาธิกสตวตฺตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ. อาจริเยน อนฺเตวาสิเกปิ จ กาตพฺพวตฺตานิ ตถา ตตฺตกาเนวาติ อตฺโถ.
สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา.
๒๔๗๘. อุปชฺฌายาจริเยหิ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิกานํ นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปกฺกนฺเต วาปี’’ติอาทิ. ปกฺกนฺเต วาปิ วิพฺภนฺเต วาปิ ปกฺขสงฺกนฺเต วาปิ มเต วาปิ อาณตฺติยา วาปิ เอวํ ปฺจธา อุปชฺฌายา สทฺธิวิหาริเกน คหิโต นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ โยชนา. ปกฺกนฺเตติ ตทหุ อปจฺจาคนฺตุกามตาย ทิสํ คเต. วิพฺภนฺเตติ คิหิภาวํ ปตฺเต. ปกฺขสงฺกนฺตเกติ ติตฺถิยายตนํ คเต. มเตติ กาลกเต. อาณตฺติยาติ นิสฺสยปณามเนน.
๒๔๗๙-๘๐. อาจริยมฺหาปิ อนฺเตวาสิเกน คหิตนิสฺสยสฺส เภทนํ ฉธา ฉปฺปกาเรน โหตีติ โยชนา. กถนฺติ อาห ‘‘ปกฺกนฺเต จา’’ติอาทิ. ตํ อุปชฺฌายโต นิสฺสยเภเท วุตฺตนยเมว. วิเสสํ ปน สยเมว วกฺขติ ‘‘อาณตฺติย’’นฺติอาทินา. อาณตฺติยนฺติ เอตฺถ วิเสสตฺถโชตโก ปน-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. อุภินฺนมฺปิ ธุรนิกฺเขปเนปิ จาติ อาจริยสฺส นิสฺสยปณามเน ปน อุภินฺนํ อาจริยนฺเตวาสิกานํเยว อฺมฺนิราลยภาเว สติ นิสฺสยเภโท โหติ, น เอกสฺสาติ อตฺโถ. ตเมวตฺถํ พฺยติเรกโต ทฬฺหีกโรติ ‘‘เอเกกสฺสา’’ติอาทินา. เอเกกสฺส วา อุภินฺนํ วา อาลเย สติ น ภิชฺชตีติ โยชนา. ยถาห –
‘‘อาณตฺติยํ ¶ ¶ ปน สเจปิ อาจริโย มฺุจิตุกาโมว หุตฺวา นิสฺสยปณามนาย ปณาเมติ, อนฺเตวาสิโก จ ‘กิฺจาปิ มํ อาจริโย ปณาเมติ, อถ โข หทเยน มุทุโก’ติ สาลโยว โหติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว. สเจปิ อาจริโย สาลโย, อนฺเตวาสิโก นิราลโย ‘น ทานิ อิมํ นิสฺสาย วสิสฺสามี’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, เอวมฺปิ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุภินฺนํ สาลยภาเว ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว. อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๘๓).
อยํ ปน วิเสโส อาจริยาณตฺติยา นิสฺสยเภเทเยว ทสฺสิโต, น อุปชฺฌายาณตฺติยา. สารตฺถทีปนิยํ ปน ‘‘สเจปิ อาจริโย มฺุจิตุกาโมว หุตฺวา นิสฺสยปณามนาย ปณาเมตีติอาทิ สพฺพํ อุปชฺฌายสฺส อาณตฺติยมฺปิ เวทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.
๒๔๘๑. เอวํ ปฺจ สาธารณงฺคานิ ทสฺเสตฺวา อสาธารณงฺคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปชฺฌายสโมธาน-คตสฺสาปิ จ ภิชฺชตี’’ติ. ตตฺถ สโมธานคมนํ สรูปโต, ปเภทโต จ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทสฺสนํ สวนฺจาติ, สโมธานํ ทฺวิธา มต’’นฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ (มหาว. อฏฺ. ๘๓) คเหตพฺโพ. คนฺถวิตฺถารภีรูนํ อนุคฺคหาย ปน อิธ น วิตฺถาริโต.
๒๔๘๒-๓. สภาเค ทายเก อสนฺเต อทฺธิกสฺส จ คิลานสฺส จ ‘‘คิลาเนน มํ อุปฏฺหา’’ติ ยาจิตสฺส คิลานุปฏฺากสฺส จ นิสฺสยํ วินา วสิตุํ โทโส นตฺถีติ โยชนา ¶ . ‘‘คิลานุปฏฺากสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ. อิมินา สภาเค นิสฺสยทายเก สนฺเต เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร น ลพฺภตีติ ทีเปติ. อตฺตโน วเน ผาสุวิหารตํ ชานตาติ อตฺตโน สมถวิปสฺสนาปฏิลาภสฺส วเน ผาสุวิหารํ ชานนฺเตนปิ. ‘‘สภาเค ทายเก อสนฺเต’’ติ ปทจฺเฉโท. สพฺพเมตํ วิธานํ อนฺโตวสฺสโต อฺสฺมึ กาเล เวทิตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกาย คเหตพฺโพ.
นิสฺสยปฏิปฺปสฺสมฺภนกถาวณฺณนา.
๒๔๘๔. กุฏฺมสฺส ¶ อตฺถีติ กุฏฺี, ตํ. ‘‘คณฺฑิ’’นฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. รตฺตเสตาทิเภเทน เยน เกนจิ กุฏฺเน เววณฺณิยํ ปตฺตสรีรนฺติ อตฺโถ. ยถาห –
‘‘รตฺตกุฏฺํ วา โหตุ กาฬกุฏฺํ วา, ยํ กิฺจิ กิฏิภททฺทุกจฺฉุอาทิปฺปเภทมฺปิ สพฺพํ กุฏฺเมวาติ วุตฺตํ. ตฺเจ นขปิฏฺิปฺปมาณมฺปิ วฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน นิวาสนปารุปเนหิ ปกติปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นขปิฏฺิปฺปมาณํ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, วฏฺฏติ. มุเข, ปน หตฺถปาทปิฏฺเสุ วา สเจปิ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ นขปิฏฺิโต ขุทฺทกปมาณมฺปิ น วฏฺฏติเยวาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ตํ ติกิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชนฺเตนาปิ ปกติวณฺเณ ชาเตเยว ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๘๘).
นขปิฏฺิปฺปมาณนฺติ เอตฺถ ‘‘กนิฏฺงฺคุลินขปิฏฺิ อธิปฺเปตา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.
คณฺฑินฺติ ¶ เมทคณฺฑาทิคณฺฑเภทวนฺตํ. ยถาห ‘‘เมทคณฺโฑ วา โหตุ อฺโ วา, โย โกจิ โกลฏฺิมตฺตโกปิ เจ วฑฺฒนกปกฺเข ิโต คณฺโฑ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติอาทิ (มหาว. อฏฺ. ๘๘). โกลฏฺีติ พทรฏฺิ. กิลาสินฺติ กิลาสวนฺตํ. ยถาห – ‘‘กิลาโสติ นภิชฺชนกํ นปคฺฆรณกํ ปทุมปุณฺฑรีกปตฺตวณฺณํ กุฏฺํ, เยน คุนฺนํ วิย สพลํ สรีรํ โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๘๘). จ-สทฺโท สพฺเพหิ อุปโยควนฺเตหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. โสสินฺติ ขยโรควนฺตํ. ยถาห – ‘‘โสโสติ โสสพฺยาธิ. ตสฺมึ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๘๘). อปมาริกนฺติ อปมารวนฺตํ. ยถาห – ‘‘อปมาโรติ ปิตฺตุมฺมาโร วา ยกฺขุมฺมาโร วา. ตตฺถ ปุพฺพเวริเกน อมนุสฺเสน คหิโต ทุตฺติกิจฺโฉ โหติ, อปฺปมตฺตเกปิ ปน อปมาเร สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ.
ราชภฏนฺติ รฺโ ภตฺตเวตนภฏํ วา านนฺตรํ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา ราชปุริสํ. ยถาห – ‘‘อมจฺโจ วา โหตุ มหามตฺโต วา เสวโก วา กิฺจิ านนฺตรํ ปตฺโต วา อปฺปตฺโต วา, โย โกจิ รฺโ ภตฺตเวตนภโฏ. สพฺโพ ‘ราชภโฏ’ติ สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติ. โจรนฺติ มนุสฺเสหิ อปฺปมาทนํ คามฆาตปนฺถฆาตาทิกมฺเมน ปากฏํ โจรฺจ. ลิขิตกนฺติ ยํ กฺจิ โจริกํ วา อฺํ วา ครุํ ราชาปราธํ กตฺวา ปลาตํ, ราชา จ นํ ปณฺเณ วา โปตฺถเก วา ‘‘อิตฺถนฺนาโม ¶ ยตฺถ ทิสฺสติ, ตตฺถ คเหตฺวา มาเรตพฺโพ’’ติ วา ‘‘หตฺถปาทาทีนิสฺส ฉินฺทิตพฺพานี’’ติ วา ‘‘เอตฺตกํ นาม ทณฺฑํ หราเปตพฺโพ’’ติ วา ลิขาเปติ, เอวรูปํ ลิขิตกํ.
‘‘การเภทก’’นฺติ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต. การเภทกนฺติ ทาตพฺพกรสฺส วา กตโจรกมฺมสฺส วา การณา ¶ การาฆเร ปกฺขิตฺโต วา นิคฬพนฺธนาทีหิ พทฺโธ วา, ตโต โส มุจฺจิตฺวา ปลายติ, เอวรูปํ การาเภทกฺจ. ยถาห – ‘‘การา วุจฺจติ พนฺธนาคารํ, อิธ ปน อนฺทุพนฺธนํ วา โหตุ สงฺขลิกพนฺธนํ วา รชฺชุพนฺธนํ วา คามพนฺธนํ วา นิคมพนฺธนํ วา นครพนฺธนํ วา ปุริสคุตฺติ วา ชนปทพนฺธนํ วา ทีปพนฺธนํ วา, โย เอเตสุ ยํ กิฺจิ พนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา ภินฺทิตฺวา มฺุจิตฺวา วิวริตฺวา วา ปสฺสมานานํ วา อปสฺสมานานํ วา ปลายติ, โส ‘การาเภทโก’ติ สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๙๒).
๒๔๘๕. กสาหตนฺติ อิณํ คเหตฺวา ทาตุํ อสมตฺถตฺตา ‘‘อยเมว เต ทณฺโฑ โหตู’’ติ กสาทินา ทินฺนปฺปหารํ อวูปสนฺตวณํ. ยถาห –
‘‘โย วจนเปสนาทีนิ อกโรนฺโต หฺติ, น โส กตทณฺฑกมฺโม. โย ปน เกณิยา วา อฺถา วา กิฺจิ คเหตฺวา ขาทิตฺวา ปุน ทาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘อยเมว เต ทณฺโฑ โหตู’ติ กสาหิ หฺติ, อยํ กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม. โย จ กสาหิ วา หโต โหตุ อทฺธทณฺฑกาทีนํ วา อฺตเรน, ยาว อลฺลวโณ โหติ, ตาว น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๙๔).
ลกฺขณาหตนฺติ เอกํสํ กตฺวา ปารุเตน อุตฺตราสงฺเคน อปฺปฏิจฺฉาทนียฏฺาเน ตตฺเตน โลเหน อาหตํ อสจฺฉวิภูตลกฺขเณน สมนฺนาคตํ. ยถาห –
‘‘ยสฺส ปน นลาเฏ วา อุราทีสุ วา ตตฺเตน โลเหน ลกฺขณํ อาหตํ โหติ, โส สเจ ภุชิสฺโส, ยาว อลฺลวโณ โหติ, ตาว น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิสฺส วณา รุฬฺหา โหนฺติ ฉวิยา ¶ สมปริจฺเฉทา, ลกฺขณํ ปน ปฺายติ, ติมณฺฑลํ นิวตฺถสฺส อุตฺตราสงฺเค ¶ กเต ปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ โหติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อปฺปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ, น วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๙๕).
อิณายิกฺจาติ มาตาปิตุปิตามหาทีหิ วา อตฺตนา วา คหิตอิณํ. ยถาห –
‘‘อิณายิโก นาม ยสฺส ปิติปิตามเหหิ วา อิณํ คหิตํ โหติ, สยํ วา อิณํ คหิตํ โหติ, ยํ วา อาเปตฺวา มาตาปิตูหิ กิฺจิ คหิตํ โหติ, โส ตํ อิณํ ปเรสํ ธาเรตีติ อิณายิโก. ยํ ปน อฺเ าตกา อาเปตฺวา กิฺจิ คณฺหนฺติ, โส น อิณายิโก. น หิ เต ตํ อาเปตุํ อิสฺสรา. ตสฺมา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๙๖).
ทาสนฺติ อนฺโตชาโต, ธนกฺกีโต, กรมรานีโต, สยํ วา ทาสพฺยํ อุปคโตติ จตุนฺนํ ทาสานํ อฺตรํ. ทาสวินิจฺฉโย ปเนตฺถ สมนฺตปาสาทิกาย (มหาว. อฏฺ. ๙๗) วิตฺถารโต คเหตพฺโพ. ปพฺพาเชนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ ‘‘กุฏฺิ’’นฺติอาทีหิ อุปโยควนฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ.
๒๔๘๖. หตฺถจฺฉินฺนนฺติ หตฺถตเล วา มณิพนฺเธ วา กปฺปเร วา ยตฺถ กตฺถจิ ฉินฺนหตฺถํ. อฏฺจฺฉินฺนนฺติ ยถา นขํ น ปฺายติ, เอวํ จตูสุ องฺคุฏฺเกสุ อฺตรํ วา สพฺเพ วา ยสฺส ฉินฺนา โหนฺติ, เอวรูปํ. ปาทจฺฉินฺนนฺติ ยสฺส อคฺคปาเทสุ วา โคปฺผเกสุ วา ชงฺฆาย วา ยตฺถ กตฺถจิ เอโก วา ทฺเว วา ปาทา ฉินฺนา โหนฺติ. หตฺถปาทฉินฺนสฺสาปิ ปาฬิยํ (มหาว. ๑๑๙) อาคตตฺตา โสปิ อิธ วตฺตพฺโพ, ยถาวุตฺตนเยเนว ตสฺส ทุกฺกฏวตฺถุตา ปฺายตีติ น วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ.
กณฺณนาสงฺคุลิจฺฉินฺนนฺติ ¶ เอตฺถ ‘‘กณฺณจฺฉินฺนํ นาสจฺฉินฺนํ กณฺณนาสจฺฉินฺนํ องฺคุลิจฺฉินฺน’’นฺติ โยชนา. กณฺณจฺฉินฺนนฺติ ยสฺส กณฺณมูเล วา กณฺณสกฺขลิกาย วา เอโก วา ทฺเว วา กณฺณา ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน กณฺณาวฏฺเฏ ฉินฺนา โหนฺติ, สกฺกา จ โหนฺติ สงฺฆาเฏตุํ, โส กณฺณํ สงฺฆาเฏตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. นาสจฺฉินฺนนฺติ ยสฺส อชปทเก วา อคฺเค วา เอกปุเฏ วา ยตฺถ กตฺถจิ นาสา ฉินฺนา โหติ. ยสฺส ปน นาสิกา สกฺกา โหติ สนฺเธตุํ, โส ¶ ตํ ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. กณฺณนาสจฺฉินฺนนฺติ ตทุภยจฺฉินฺนํ. องฺคุลิจฺฉินฺนนฺติ ยสฺส นขเสสํ อทสฺเสตฺวา เอกา วา พหู วา องฺคุลิโย ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน สุตฺตตนฺตุมตฺตมฺปิ นขเสสํ ปฺายติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. กณฺฑรจฺฉินฺนเมว จาติ ยสฺส กณฺฑรนามกา มหานฺหารู ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ฉินฺนา โหนฺติ, เยสุ เอกสฺสาปิ ฉินฺนตฺตา อคฺคปาเทน วา จงฺกมติ, มูเลน วา จงฺกมติ, น วา ปาทํ ปติฏฺาเปตุํ สกฺโกติ.
๒๔๘๗. กาณนฺติ ปสนฺนนฺโธ วา โหตุ ปุปฺผาทีหิ วา อุปหตปสาโท, โย ทฺวีหิ วา เอเกน วา อกฺขินา น ปสฺสติ, ตํ กาณํ. กุณินฺติ หตฺถกุณี วา ปาทกุณี วา องฺคุลิกุณี วา, ยสฺส เอเตสุ หตฺถาทีสุ ยํ กิฺจิ วงฺกํ ปฺายติ, โส กุณี. ขุชฺชฺจาติ โย อุรสฺส วา ปิฏฺิยา วา ปสฺสสฺส วา นิกฺขนฺตตฺตา ขุชฺชสรีโร, ตํ ขุชฺชํ. ยสฺส ปน กิฺจิ กิฺจิ องฺคปจฺจงฺคํ อีสกํ วงฺกํ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มหาปุริโส เอว หิ พฺรหฺมุชุคตฺโต, อวเสโส สตฺโต อขุชฺโช นาม นตฺถิ.
วามนนฺติ โย ชงฺฆวามโน วา กฏิวามโน วา อุภยวามโน วา, ตํ. ตตฺถ ชงฺฆวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย เหฏฺิมกาโย ¶ รสฺโส โหติ, อุปริมกาโย ปริปุณฺโณ. กฏิวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย อุปริมกาโย รสฺโส โหติ, เหฏฺิมกาโย ปริปุณฺโณ โหติ. อุภยวามนสฺส อุโภปิ กายา รสฺสา โหนฺติ. เยสํ กายรสฺสตฺตา ภูตานํ วิย ปริวฏุโม มหากุจฺฉิฆฏสทิโส อตฺตภาโว โหติ. ตํ ติวิธมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ.
ผณหตฺถกนฺติ ยสฺส วคฺคุลิปกฺขกา วิย องฺคุลิโย สมฺพทฺธา โหนฺติ, ตํ. เอตํ ปพฺพาเชตุกาเมน องฺคุลนฺตริกาโย ผาเลตฺวา สพฺพํ อนฺตรจมฺมํ อปเนตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺสาปิ ฉ องฺคุลิโย โหนฺติ, ตํ ปพฺพาเชตุกาเมน อธิกํ องฺคุลึ ฉินฺทิตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ.
ขฺชนฺติ โย นตชาณุโก วา ภินฺนชงฺโฆ วา มชฺเฌ สํกุฏิตปาทตฺตา กุณฺฑปาทโก วา ปิฏฺิปาทมชฺเฌน จงฺกมนฺโต อคฺเค สํกุฏิตปาทตฺตา กุณฺฑปาทโก วา ปิฏฺิปาทคฺเคน จงฺกมนฺโต อคฺคปาเทเนว จงฺกมนขฺโช วา ปณฺหิกาย จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส พาหิรนฺเตน จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส อพฺภนฺตรนฺเตน จงฺกมนขฺโช วา โคปฺผกานํ อุปริ ภคฺคตฺตา สกเลน ¶ ปิฏฺิปาเทน จงฺกมนขฺโช วา, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. เอตฺถ นตชาณุโกติ อนฺโตปวิฏฺอานตปาโท. ปกฺขหตนฺติ ยสฺส เอโก หตฺโถ วา ปาโท วา อฑฺฒสรีรํ วา สุขํ น วหติ.
สีปทินฺติ ภารปาทํ. ยสฺส ปาโท ถูโล โหติ สฺชาตปีฬโก ขโร, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺส ปน น ตาว ขรภาวํ คณฺหาติ, สกฺกา โหติ อุปนาหํ พนฺธิตฺวา อุทกอาวาเฏ ปเวเสตฺวา อุทกวาลิกาย ปูเรตฺวา ¶ ยถา สิรา ปฺายนฺติ, ชงฺฆา จ เตลนาฬิกา วิย โหนฺติ, เอวํ มิลาเปตุํ สกฺกา, ตสฺส ปาทํ อีทิสํ กตฺวา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปุน วฑฺฒติ, อุปสมฺปาเทนฺเตนาปิ ตถา กตฺวาว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. ปาปโรคินนฺติ โย อริสภคนฺทรปิตฺตเสมฺหกาสโสสาทีสุ เยน เกนจิ โรเคน นิจฺจาตุโร อเตกิจฺฉโรโค เชคุจฺโฉ อมนาโป, ตํ.
๒๔๘๘. ชราย ทุพฺพลนฺติ โย ชิณฺณภาเวน ทุพฺพโล อตฺตโน จีวรรชนาทิกมฺมมฺปิ กาตุํ อสมตฺโถ, ตํ. โย ปน มหลฺลโกปิ พลวา โหติ อตฺตานํ ปฏิชคฺคิตุํ สกฺโกติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. อนฺธนฺติ ชจฺจนฺธํ. ปธิรฺเจวาติ โย สพฺเพน สพฺพํ น สุณาติ, ตํ. โย ปน มหาสทฺทํ สุณาติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มมฺมนนฺติ ยสฺส วจีเภโท วตฺตติ, สรณคมนํ ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ น สกฺโกติ, ตาทิสํ มมฺมนมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. โย ปน สรณคมนมตฺตํ ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ สกฺโกติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อถ วา มมฺมนนฺติ ขลิตวจนํ, โย เอกเมว อกฺขรํ จตุปฺจกฺขตฺตุํ วทติ, ตสฺเสตมธิวจนํ. ปีสปฺปินฺติ ฉินฺนิริยาปถํ. มูคนฺติ ยสฺส วจีเภโท นปฺปวตฺตติ.
๒๔๘๙. อตฺตโน วิรูปภาเวน ปริสํ ทูเสนฺเตน ปริสทูสเก (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙) ทสฺเสตุมาห ‘‘อติทีโฆ’’ติอาทิ. อติทีโฆติ อฺเสํ สีสปฺปมาณนาภิปฺปเทโส. อติรสฺโสติ วุตฺตปฺปกาโร อุภยวามโน วิย อติรสฺโส. อติกาโฬ วาติ ฌาปิตเขตฺเต ขาณุโก วิย อติกาฬวณฺโณ. มฏฺตมฺพโลหนิทสฺสโน อจฺโจทาโตปิ วาติ สมฺพนฺโธ, ทธิตกฺกาทีหิ มชฺชิตมฏฺตมฺพโลหวณฺโณ อตีว โอทาตสรีโรติ อตฺโถ.
๒๔๙๐. อติถูโล ¶ วาติ ภาริยมํโส มโหทโร มหาภูตสทิโส. อติกิโสติ มนฺทมํสโลหิโต ¶ อฏฺิสิราจมฺมสรีโร วิย. อติมหาสีโส วาติ โยชนา. อติมหาสีโส วาติ ปจฺฉึ สีเส กตฺวา ิโต วิย. ‘‘อติขุทฺทกสีเสน อสหิเตนา’’ติ ปทจฺเฉโท. อสหิเตนาติ สรีรสฺส อนนุรูเปน. ‘‘อติขุทฺทกสีเสนา’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ. อสหิเตน อติขุทฺทกสีเสน สมนฺนาคโตติ โยชนา. ยถาห – ‘‘อติขุทฺทกสีโส วา สรีรสฺส อนนุรูเปน อติขุทฺทเกน สีเสน สมนฺนาคโต’’ติ.
๒๔๙๑. กุฏกุฏกสีโสติ ตาลผลปิณฺฑิสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต. สิขรสีสโกติ อุทฺธํ อนุปุพฺพตนุเกน สีเสน สมนฺนาคโต, มตฺถกโต สํกุฏิโก มูลโต วิตฺถโต หุตฺวา ิตปพฺพตสิขรสทิสสีโสติ อตฺโถ. เวฬุนาฬิสมาเนนาติ มหาเวฬุปพฺพสทิเสน. สีเสนาติ ทีฆสีเสน. ยถาห – ‘‘นาฬิสีโส วา มหาเวฬุปพฺพสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙).
๒๔๙๒. กปฺปสีโสปีติ มชฺเฌ ทิสฺสมานอาวาเฏน หตฺถิกุมฺภสทิเสน ทฺวิธาภูตสีเสน สมนฺนาคโต. ปพฺภารสีโส วาติ จตูสุ ปสฺเสสุ เยน เกนจิ ปสฺเสน โอณเตน สีเสน สมนฺนาคโต. วณสีสโกติ วเณหิ สมนฺนาคตสีโส. กณฺณิกเกโส วาติ ปาณเกหิ ขายิตเกทาเร สสฺสสทิเสหิ ตหึ ตหึ อุฏฺิเตหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต. ถูลเกโสปิ วาติ ตาลหีรสทิเสหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต.
๒๔๙๓. ปูติสีโสติ ¶ ทุคฺคนฺธสีโส. นิลฺโลมสีโส วาติ โลมรหิตสีโส. ชาติปณฺฑรเกสโกติ ชาติผลิเตหิ ปณฺฑรเกโส วา. ชาติยา ตมฺพเกโส วาติ อาทิตฺเตหิ วิย ตมฺพวณฺเณหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต. อาวฏฺฏสีสโกติ คุนฺนํ สรีเร อาวฏฺฏสทิเสหิ อุทฺธคฺเคหิ เกสาวฏฺเฏหิ สมนฺนาคโต.
๒๔๙๔. สีสโลเมกพทฺเธหิ ภมุเกหิ ยุโตปีติ สีสโลเมหิ สทฺธึ เอกาพทฺธโลเมหิ ภมุเกหิ สมนฺนาคโต. สมฺพทฺธภมุโก วาติ เอกาพทฺธอุภยภมุโก, มชฺเฌ สฺชาตโลเมหิ ภมุเกหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. นิลฺโลมภมุโกปิ วาติ ภมุโลมรหิโต. นิลฺโลมภมุโกปิ วาติ ปิ-สทฺเทน อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน มกฺกฏภมุโก สงฺคหิโต.
๒๔๙๕. มหนฺตขุทฺทเนตฺโต ¶ วาติ เอตฺถ เนตฺต-สทฺโท มหนฺตขุทฺท-สทฺเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ, มหนฺตเนตฺโต วา ขุทฺทกเนตฺโต วาติ อตฺโถ. มหนฺตเนตฺโต วาติ อติมหนฺเตหิ เนตฺเตหิ สมนฺนาคโต. ขุทฺทกเนตฺโต วาติ มหึสจมฺเม วาสิโกเณน ปหริตฺวา กตฉิทฺทสทิเสหิ อติขุทฺทกกฺขีหิ สมนฺนาคโต. วิสมโลจโนติ เอเกน มหนฺเตน, เอเกน ขุทฺทเกน อกฺขินา สมนฺนาคโต. เกกโร วาปีติ ติริยํ ปสฺสนฺโต. เอตฺถ อปิ-สทฺเทน นิกฺขนฺตกฺขึ สมฺปิณฺเฑติ, ยสฺส กกฺกฏกสฺเสว อกฺขิตารกา นิกฺขนฺตา โหนฺติ. คมฺภีรเนตฺโตติ ยสฺส คมฺภีเร อุทปาเน อุทกตารกา วิย อกฺขิตารกา ปฺายนฺติ. เอตฺถ จ อุทกตารกา นาม อุทกปุพฺพุฬํ. อกฺขิตารกาติ อกฺขิเคณฺฑกา. วิสมจกฺกโลติ เอเกน อุทฺธํ, เอเกน อโธติ เอวํ วิสมชาเตหิ อกฺขิจกฺเกหิ สมนฺนาคโต.
๒๔๙๖. ชตุกณฺโณ ¶ วาติ อติขุทฺทิกาหิ กณฺณสกฺขลีหิ สมนฺนาคโต. มูสิกกณฺโณ วาติ มูสิกานํ กณฺณสทิเสหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโต. หตฺถิกณฺโณปิ วาติ อนนุรูปาหิ มหนฺตาหิ หตฺถิกณฺณสทิสาหิ กณฺณสกฺขลีหิ สมนฺนาคโต. ฉิทฺทมตฺตกกณฺโณ วาติ ยสฺส วินา กณฺณสกฺขลีหิ กณฺณจฺฉิทฺทเมว โหติ. อวิทฺธกณฺณโกติ กณฺณพนฺธตฺถาย อวิทฺเธน กณฺเณน สมนฺนาคโต.
๒๔๙๗. ฏงฺกิตกณฺโณ วาติ โคภตฺตนาฬิกาย อคฺคสทิเสหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโต, โคหนุโกฏิสณฺาเนหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. ปูติกณฺโณปิ วาติ สทา ปคฺฆริตปุพฺเพน กณฺเณน สมนฺนาคโต. ปูติกณฺโณปีติ อปิ-สทฺเทน กณฺณภคนฺทริโก คหิโต. กณฺณภคนฺทริโกติ นิจฺจปูตินา กณฺเณน สมนฺนาคโต. อวิทฺธกณฺโณ ปริสทูสโก วุตฺโต, กถํ โยนกชาตีนํ ปพฺพชฺชาติ อาห ‘‘โยนกาทิปฺปเภโทปิ, นายํ ปริสทูสโก’’ติ, กณฺณาเวธนํ โยนกานํ สภาโว, อยํ โยนกาทิปฺปเภโท ปริสทูสโก น โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๔๙๘. อติปิงฺคลเนตฺโตติ ¶ อติสเยน ปิงฺคเลหิ เนตฺเตหิ สมนฺนาคโต. มธุปิงฺคลํ ปน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. นิปฺปขุมกฺขิ วาติ อกฺขิทลโรเมหิ วิรหิตอกฺขิโก. ปขุม-สทฺโท หิ โลเก อกฺขิทลโรเมสุ นิรุฬฺโห. อสฺสุปคฺฆรเนตฺโต วาติ ปคฺฆรณสฺสูหิ เนตฺเตหิ สมนฺนาคโต. ปกฺกปุปฺผิตโลจโนติ ปกฺกโลจโน ปุปฺผิตโลจโนติ โยชนา. ปริปกฺกเนตฺโต สฺชาตปุปฺผเนตฺโตติ อตฺโถ.
๒๔๙๙. มหานาโสติ สรีรสฺส อนนุรูปาย มหติยา นาสาย สมนฺนาคโต. อติขุทฺทกนาสิโกติ ตถา ¶ อติขุทฺทิกาย นาสาย สมนฺนาคโต. จิปิฏนาโส วาติ จิปิฏาย อนฺโต ปวิฏฺาย วิย อลฺลินาสาย สมนฺนาคโต. จิปิฏนาโส วาติ อวุตฺตวิกปฺปตฺเถน วา-สทฺเทน ทีฆนาสิโก สงฺคยฺหติ. โส จ สุกตุณฺฑสทิสาย ชิวฺหาย เลหิตุํ สกฺกุเณยฺยาย นาสิกาย สมนฺนาคโต. กุฏิลนาสิโกติ มุขมชฺเฌ อปฺปติฏฺหิตฺวา เอกปสฺเส ิตนาสิโก.
๒๕๐๐. นิจฺจวิสฺสวนาโส วาติ นิจฺจปคฺฆริตสิงฺฆาณิกนาโส วา. มหามุโขติ ยสฺส ปฏงฺคมณฺฑุกสฺเสว มุขนิมิตฺตํเยว มหนฺตํ โหติ, มุขํ ปน ลาพุสทิสํ อติขุทฺทกํ. ปฏงฺคมณฺฑุโก นาม มหามุขมณฺฑุโก. วงฺกภินฺนมุโข วาปีติ เอตฺถ ‘‘วงฺกมุโข วา ภินฺนมุโข วาปี’’ติ โยชนา. วงฺกมุโขติ ภมุกสฺส, นลาตสฺส วา เอกปสฺเส นินฺนตาย วงฺกมุโข. ภินฺนมุโข วาติ มกฺกฏสฺเสว ภินฺนมุโข. มหาโอฏฺโปิ วาติ อุกฺขลิมุขวฏฺฏิสทิเสหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต.
๒๕๐๑. ตนุกโอฏฺโ วาติ เภริจมฺมสทิเสหิ ทนฺเต ปิทหิตุํ อสมตฺเถหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต. เภริจมฺมสทิเสหีติ เภริมุขจมฺมสทิเสหิ. ตนุกโอฏฺโ วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน มหาธโรฏฺโ วา ตนุกอุตฺตโรฏฺโ วา ตนุกอธโรฏฺโ วาติ ตโย วิกปฺปา สงฺคหิตา. วิปุลุตฺตรโอฏฺโกติ มหาอุตฺตโรฏฺโ. โอฏฺฉินฺโนติ ยสฺส เอโก วา ทฺเว วา โอฏฺา ฉินฺนา โหนฺติ. อุปฺปกฺกมุโขติ ปกฺกมุโข. เอฬมุโขปิ วาติ นิจฺจปคฺฆรณมุโข.
๒๕๐๒-๓. สงฺขตุณฺโฑปีติ พหิ เสเตหิ อนฺโต อติรตฺเตหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต. ทุคฺคนฺธมุโขติ ทุคฺคนฺธกุณปมุโข. มหาทนฺโตปีติ อฏฺกทนฺตสทิเสหิ สมนฺนาคโต ¶ . อจฺจนฺตนฺติ อติสเยน. ‘‘เหฏฺา อุปริโต วาปิ, พหิ นิกฺขนฺตทนฺตโก’’ติ อิทํ ‘‘อสุรทนฺตโก’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ. อสุโรติ ทานโว. ‘‘สิปฺปิทนฺโต วา โอฏฺทนฺโต วา’’ติ คณฺิปเท ลิขิโต. ยสฺส ปน สกฺกา โหนฺติ โอฏฺเหิ ปิทหิตุํ, กเถนฺตสฺเสว ปฺายติ, โน อกเถนฺตสฺส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อทนฺโตติ ทนฺตรหิโต. ปูติทนฺโตติ ปูติภูเตหิ ทนฺเตหิ สมนฺนาคโต.
๒๕๐๔. ‘‘อติขุทฺทกทนฺตโก’’ติ อิมสฺส ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิ อปวาโท. ยสฺส ทนฺตนฺตเร กาฬกทนฺตสนฺนิโภ ¶ กลนฺทกทนฺตสทิโส ทนฺโต สุขุโมว ิโต เจ, ตํ ตุ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ปพฺพาเชตุมฺปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ตุ-สทฺทตฺโถ.
๒๕๐๕. โย โปโสติ สมฺพนฺโธ. มหาหนุโกติ โคหนุสทิเสน หนุนา สมนฺนาคโต. ‘‘รสฺเสน หนุนา ยุโต’’ติ อิทํ ‘‘จิปิฏหนุโก วา’’ติ อิมสฺส อตฺถปทํ. ยถาห – ‘‘จิปิฏหนุโก วา อนฺโตปวิฏฺเน วิย อติรสฺเสน หนุเกน สมนฺนาคโต’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙). จิปิฏหนุโก วาปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ‘‘ภินฺนหนุโก วา วงฺกหนุโก วา’’ติ วิกปฺปทฺวยํ สงฺคณฺหาติ.
๒๕๐๖. นิมฺมสฺสุทาิโก วาปีติ ภิกฺขุนิสทิสมุโข. อติทีฆคโลปิ วาติ พกคลสทิเสน คเลน สมนฺนาคโต. อติรสฺสคโลปิ วาติ อนฺโตปวิฏฺเน วิย คเลน สมนฺนาคโต. ภินฺนคโล วา คณฺฑคโลปิ วาติ โยชนา, ภินฺนคลฏฺิโก วา คณฺเฑน สมนฺนาคตคโลปิ วาติ อตฺโถ.
๒๕๐๗. ภฏฺํสกูโฏ ¶ วาติ มาตุคามสฺส วิย ภฏฺเน อํสกูเฏน สมนฺนาคโต. ภินฺนปิฏฺิ วา ภินฺนอุโรปิ วาติ โยชนา, สุทีฆหตฺโถ วา สุรสฺสหตฺโถ วาติ โยชนา, อติทีฆหตฺโถ วา อติรสฺสหตฺโถ วาติ อตฺโถ. วา-สทฺเทน อหตฺถเอกหตฺถานํ คหณํ. กจฺฉุสมายุโต วา กณฺฑุสมายุโต วาติ โยชนา. วา-สทฺเทน ‘‘ททฺทุคตฺโต วา โคธาคตฺโต วา’’ติ อิเม ทฺเว สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ โคธาคตฺโต วาติ ยสฺส โคธาย วิย คตฺตโต จุณฺณานิ ปตนฺติ.
๒๕๐๘. มหานิสทมํโสติ อิมสฺส อตฺถปทํ ‘‘อุทฺธนคฺคุปมายุโต’’ติ. ยถาห – ‘‘มหาอานิสโท วา อุทฺธนกูฏสทิเสหิ อานิสทมํเสหิ อจฺจุคฺคเตหิ สมนฺนาคโต’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙). มหานิสทมํโส วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ภฏฺกฏิโก สงฺคหิโต. วาตณฺฑิโกติ อณฺฑโกเสสุ วุทฺธิโรเคน สมนฺนาคโต. มหาอูรูติ สรีรสฺส อนนุรูเปหิ มหนฺเตหิ สตฺตีหิ สมนฺนาคโต. สงฺฆฏฺฏนกชาณุโกติ อฺมฺํ สงฺฆฏฺเฏหิ ชาณูหิ สมนฺนาคโต.
๒๕๐๙. ภินฺนชาณูติ ยสฺส เอโก วา ทฺเว วา ชาณู ภินฺนา โหนฺติ. มหาชาณูติ มหนฺเตน ¶ ชาณุนา สมนฺนาคโต. ทีฆชงฺโฆติ ยฏฺิสทิสชงฺโฆ. วิกโฏ วาติ ติริยํ คมนปาเทหิ สมนฺนาคโต, ยสฺส จงฺกมโต ชาณุกา พหิ นิคฺคจฺฉนฺติ. ปณฺโห วาติ ปจฺฉโต ปริวตฺตปาเทหิ สมนฺนาคโต, ยสฺส จงฺกมโต ชาณุกา อนฺโต ปวิสนฺติ. ‘‘ปนฺโต’’ติ จ ‘‘สณฺโห’’ติ จ เอตสฺเสว เววจนานิ. อุพฺพทฺธปิณฺฑิโกติ เหฏฺา โอรุฬฺหาหิ วา อุปริ อารุฬฺหาหิ วา มหตีหิ ชงฺฆปิณฺฑิกาหิ สมนฺนาคโต.
๒๕๑๐. ยฏฺิชงฺโฆติ ¶ ยฏฺิสทิสาย ชงฺฆาย สมนฺนาคโต. มหาชงฺโฆติ สรีรสฺส อนนุรูปาย มหติยา ชงฺฆาย สมนฺนาคโต. มหาปาโทปิ วาติ สรีรสฺส อนนุรูเปหิ มหนฺเตหิ ปาเทหิ สมนฺนาคโต. อปิ-สทฺเทน ถูลชงฺฆปิณฺฑิโก สงฺคหิโต, ภตฺตปุฏสทิสาย ถูลาย ชงฺฆปิณฺฑิยา สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. ปิฏฺิกปาโท วาติ ปาทเวมชฺฌโต อุฏฺิตชงฺโฆ. มหาปณฺหิปิ วาติ อนนุรูเปหิ อติมหนฺเตหิ ปณฺหีหิ สมนฺนาคโต.
๒๕๑๑. วงฺกปาโทติ อนฺโต วา พหิ วา ปริวตฺตปาทวเสน ทุวิโธ วงฺกปาโท. คณฺิกงฺคุลิโกติ สิงฺคิเวรผณสทิสาหิ องฺคุลีหิ สมนฺนาคโต. ‘‘อนฺธนโข วาปี’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ ‘‘กาฬปูตินโขปิ จา’’ติ. ยถาห – ‘‘อนฺธนโข วา กาฬวณฺเณหิ ปูตินเขหิ สมนฺนาคโต’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙).
๒๕๑๒. อิจฺเจวนฺติ ยถาวุตฺตวจนียนิทสฺสนตฺโถยํ นิปาตสมุทาโย. องฺคเวกลฺลตาย พหุวิธตฺตา อนวเสสํ เวกลฺลปฺปการํ สงฺคณฺหิตุมาห ‘‘อิจฺเจวมาทิก’’นฺติ.
ปริสทูสกกถาวณฺณนา.
๒๕๑๔. ปตฺตจีวรนฺติ เอตฺถ ‘‘สามเณรสฺสา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ. อนฺโต นิกฺขิปโตติ โอวรกาทีนํ อนฺโต นิกฺขิปนฺตสฺส. สพฺพปโยเคสูติ ปตฺตจีวรสฺส อามสนาทิสพฺพปโยเคสุ.
๒๕๑๕-๖. ทณฺฑกมฺมํ กตฺวาติ ทณฺฑกมฺมํ โยเชตฺวา. ทณฺเฑนฺติ วิเนนฺติ เอเตนาติ ทณฺโฑ, โสเยว กตฺตพฺพตฺตา กมฺมนฺติ ¶ ทณฺฑกมฺมํ, อาวรณาทิ. อนาจารสฺส ทุพฺพจสามเณรสฺส เกวลํ ¶ หิตกาเมน ภิกฺขุนา ทณฺฑกมฺมํ กตฺวา ทณฺฑกมฺมํ โยเชตฺวา ยาคุํ วา ภตฺตํ วา วา-สทฺเทน ปตฺตํ วา จีวรํ วา ทสฺเสตฺวา ‘‘ทณฺฑกมฺเม อาหเฏ ตฺวํ อิทํ ลจฺฉสิ’’ อิติ ภาสิตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. กิราติ ปทปูรณตฺเถ นิปาโต.
๒๕๑๗. ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตทณฺฑกมฺมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อปราธานุรูเปนา’’ติอาทิ. ตํ อปราธานุรูปทณฺฑกมฺมํ นาม วาลิกาสลิลาทีนํ อาหราปนเมวาติ โยเชตพฺพํ. อาทิ-สทฺเทน ทารุอาทีนํ อาหราปนํ คณฺหาติ. ตฺจ โข ‘‘โอรมิสฺสตี’’ติ อนุกมฺปาย, น ‘‘นสฺสิสฺสติ วิพฺภมิสฺสตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน ปาปชฺฌาสเยน.
๒๕๑๘-๙. อกตฺตพฺพํ ทณฺฑกมฺมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สีเส วา’’ติอาทิ. สีเส วาติ เอตฺถ ‘‘สามเณรสฺสา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ. ปาสาณาทีนีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อิฏฺกาทีนํ คหณํ. สามเณรํ อุณฺเห ปาสาเณ นิปชฺชาเปตุํ วา อุณฺหาย ภูมิยา นิปชฺชาเปตุํ วา อุทกํ ปเวเสตุํ วา ภิกฺขุโน น วฏฺฏตีติ โยชนา.
ภควตา อนฺุาตทณฺฑกมฺมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อิธา’’ติอาทิ. อิธาติ อิมสฺมึ ทณฺฑกมฺมาธิกาเร. อาวรณมตฺตนฺติ ‘‘มา อิธ ปาวิสี’’ติ นิวารณมตฺตํ. ปกาสิตนฺติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยตฺถ วา วสติ, ยตฺถ วา ปฏิกฺกมติ, ตตฺถ อาวรณํ กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๐๗) ภาสิตํ.
‘‘ยตฺถ วา วสติ, ยตฺถ วา ปฏิกฺกมตีติ ยตฺถ วสติ วา ปวิสติ วา, อุภเยนาปิ อตฺตโน ปริเวณฺจ วสฺสคฺเคน ปตฺตเสนาสนฺจ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๗) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา ยาว โยชิตํ ¶ ทณฺฑกมฺมํ กโรนฺติ, ตาว อตฺตโน ปุคฺคลิกปริเวณํ วา วสฺสคฺเคน ปตฺตเสนาสนํ วา ปวิสิตุํ อทตฺวา นิวารณํ อาวรณํ นาม. อฏฺกถายํ ‘‘อตฺตโน’’ติ วจนํ เย อาวรณํ กโรนฺติ, เต อาจริยุปชฺฌาเย สนฺธาย วุตฺตนฺติ วิฺายติ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘อตฺตโน’’ติ อิทํ ยสฺส อาวรณํ กโรนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตฺวา ตตฺถ วินิจฺฉยํ วทนฺติ. เกจิ อุภยถาปิ อตฺถํ คเหตฺวา อุภยตฺถาปิ อาวรณํ กาตพฺพนฺติ วทนฺติ. วีมํสิตฺวา ยเมตฺถ ยุตฺตตรํ, ตํ คเหตพฺพํ.
นิวารณกถาวณฺณนา.
๒๕๒๐. ปกฺโข ¶ จ โอปกฺกมิโก จ อาสิตฺโต จาติ วิคฺคโห. เอตฺถ จ ‘‘อนุโปสเถ อุโปสถํ กโรตี’’ติอาทีสุ ยถา อุโปสถทิเน กตฺตพฺพกมฺมํ ‘‘อุโปสโถ’’ติ วุจฺจติ, ตถา มาสสฺส ปกฺเข ปณฺฑกภาวมาปชฺชนฺโต ‘‘ปกฺโข’’ติ วุตฺโต. อถ วา ปกฺขปณฺฑโก ปกฺโข อุตฺตรปทโลเปน ยถา ‘‘ภีมเสโน ภีโม’’ติ. อิทฺจ ปาปานุภาเวน กณฺหปกฺเขเยว ปณฺฑกภาวมาปชฺชนฺตสฺส อธิวจนํ. ยถาห ‘‘อกุสลวิปากานุภาเวน กาฬปกฺเข กาฬปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ชุณฺหปกฺเข ปนสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ ปกฺขปณฺฑโก’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๙).
ยสฺส อุปกฺกเมน พีชานิ อปนีตานิ, อยํ โอปกฺกมิกปณฺฑโก. ยสฺส ปเรสํ องฺคชาตํ มุเขน คเหตฺวา อสุจินา อาสิตฺตสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อาสิตฺตปณฺฑโก. อุสูยโกติ ยสฺส ปเรสํ อชฺฌาจารํ ปสฺสโต อุสูยาย อุปฺปนฺนาย ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อุสูยปณฺฑโก. โย ปฏิสนฺธิยํเยว อภาวโก อุปฺปนฺโน, อยํ นปุํสกปณฺฑโก.
๒๕๒๑. เตสูติ ¶ เตสุ ปฺจสุ ปณฺฑเกสุ. ‘‘ปกฺขปณฺฑกสฺส ยสฺมึปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ตสฺมึเยวสฺส ปกฺเข ปพฺพชฺชา วาริตา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๙) กุรุนฺทิยํ วุตฺตตฺตา ‘‘ติณฺณํ นิวาริตา’’ติ อิทํ ตสฺส ปณฺฑกสฺส ปณฺฑกปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
๒๕๒๒. ‘‘นาเสตพฺโพ’’ติ อิทํ ลิงฺคนาสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถาห ‘‘โสปิ ลิงฺคนาสเนเนว นาเสตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๙). เอส นโย อุปริปิ อีทิเสสุ าเนสุ.
ปณฺฑกกถาวณฺณนา.
๒๕๒๓. เถเนตีติ เถโน, ลิงฺคสฺส ปพฺพชิตเวสสฺส เถโน ลิงฺคเถโน. สํวาสสฺส ภิกฺขุวสฺสคณนาทิกสฺส เถโน สํวาสเถโน. ตทุภยสฺส จาติ ตสฺส ลิงฺคสฺส, สํวาสสฺส จ อุภยสฺส เถโนติ สมฺพนฺโธ. เอส ติวิโธปิ เถยฺยสํวาสโก นาม ปวุจฺจตีติ โยชนา.
๒๕๒๔-๖. ตตฺถ เตสุ ตีสุ เถยฺยสํวาสเกสุ โย สยเมว ปพฺพชิตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ น คณฺหติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนมฺปิ เนว คณฺหติ, อปิ-สทฺเทน อาสเนน เนว ปฏิพาหติ อุโปสถปวารณาทีสุ ¶ เนว สนฺทิสฺสตีติ สงฺคณฺหนโต ตทุภยมฺปิ น กโรติ, อยํ ลิงฺคมตฺตสฺส ปพฺพชิตเวสมตฺตสฺส เถนโต โจริกาย คหณโต ลิงฺคตฺเถโน สิยาติ โยชนา.
โย จ ปพฺพชิโต หุตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คณฺหติ, โส ยถาวุฑฺฒวนฺทนาทิกํ สํวาสํ สาทิยนฺโตว สํวาสตฺเถนโก มโตติ โยชนา. ยถาห – ‘‘ภิกฺขุวสฺสคณนาทิโก หิ สพฺโพปิ กิริยเภโท อิมสฺมึ อตฺเถ ‘สํวาโส’ติ เวทิตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐).
วุตฺตนโยเยวาติ ¶ อุภินฺนํ ปจฺเจกํ วุตฺตลกฺขณเมว เอตสฺส ลกฺขณนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. อยํ ติวิโธปิ เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ, ปุน ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโตปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. พฺยติเรกมุเขน เถยฺยสํวาสลกฺขณํ นิยเมตุํ อฏฺกถาย (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐) วุตฺตคาถาทฺวยํ อุทาหรนฺโต อาห ‘‘ยถาห จา’’ติ. ยถา อฏฺกถาจริโย ราชทุพฺภิกฺขาทิคาถาทฺวยมาห, ตถายมตฺโถ พฺยติเรกโต เวทิตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
๒๕๒๗-๘. ราชทุพฺภิกฺขกนฺตาร-โรคเวริภเยหิ วาติ เอตฺถ ภย-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ ‘‘ราชภเยน ทุพฺภิกฺขภเยนา’’ติอาทินา. จีวราหรณตฺถํ วาติ อตฺตนา ปริจฺจตฺตจีวรํ ปุน วิหารํ อาหรณตฺถาย. อิธ อิมสฺมึ สาสเน. สํวาสํ นาธิวาเสติ, ยาว โส สุทฺธมานโสติ ราชภยาทีหิ คหิตลิงฺคตาย โส สุทฺธมานโส ยาว สํวาสํ นาธิวาเสตีติ อตฺโถ.
โย หิ ราชภยาทีหิ วินา เกวลํ ภิกฺขู วฺเจตฺวา เตหิ สทฺธึ วสิตุกามตาย ลิงฺคํ คณฺหาติ, โส อสุทฺธจิตฺตตาย ลิงฺคคฺคหเณเนว เถยฺยสํวาสโก นาม โหติ. อยํ ปน ตาทิเสน อสุทฺธจิตฺเตน ภิกฺขู วฺเจตุกามตาย อภาวโต ยาว สํวาสํ นาธิวาเสติ, ตาว เถยฺยสํวาสโก นาม น โหติ. เตเนว ‘‘ราชภยาทีหิ คหิตลิงฺคานํ ‘คิหี มํ สมโณติ ชานนฺตู’ติ วฺจนาจิตฺเต สติปิ ภิกฺขูนํ วฺเจตุกามตาย อภาวา โทโส น ชาโต’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.
เกจิ ¶ ปน ‘‘วูปสนฺตภยตา อิธ สุทฺธจิตฺตตา’’ติ วทนฺติ, เอวฺจ สติ โส วูปสนฺตภโย ยาว สํวาสํ นาธิวาเสติ, ตาว เถยฺยสํวาสโก นาม น โหตีติ อยมตฺโถ วิฺายติ. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ วิฺายมาเน อวูปสนฺตภยสฺส สํวาสสาทิยเนปิ เถยฺยสํวาสกตา ¶ น โหตีติ อาปชฺเชยฺย, น จ อฏฺกถายํ อวูปสนฺตภยสฺส สํวาสสาทิยเน อเถยฺยสํวาสกตา ทสฺสิตา. ‘‘สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภฺุชนฺโต’’ติ จ อิมินา อวูปสนฺตภเยนาปิ สํวาสํ อสาทิยนฺเตเนว วสิตพฺพนฺติ ทีเปติ. เตเนว ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ ‘‘ยสฺมา วิหารํ อาคนฺตฺวา สงฺฆิกํ คณฺหนฺตสฺส สํวาสํ ปริหริตุํ ทุกฺกรํ, ตสฺมา ‘สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภฺุชนฺโต’ติ อิทํ วุตฺต’’นฺติ. ตสฺมา ราชภยาทีหิ คหิตลิงฺคตา เจตฺถ สุทฺธจิตฺตตาติ คเหตพฺพํ.
ตาว เอส เถยฺยสํวาสโก นาม น วุจฺจตีติ โยชนา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ‘‘ตตฺรายํ วิตฺถารนโย’’ติ อฏฺกถายํ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐) อาคตนเยน เวทิตพฺโพ.
เถยฺยสํวาสกกถาวณฺณนา.
๒๕๒๙-๓๐. โย อุปสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ‘‘อหํ ติตฺถิโย ภวิสฺส’’นฺติ สลิงฺเคเนว อตฺตโน ภิกฺขุเวเสเนว ติตฺถิยานํ อุปสฺสยํ ยาติ เจติ สมฺพนฺโธ. ติตฺถิเยสุ ปกฺกนฺตโก ปวิฏฺโ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก. เตสํ ลิงฺเค นิสฺสิเตติ เตสํ ติตฺถิยานํ เวเส คหิเต.
๒๕๓๑. ‘‘อหํ ติตฺถิโย ภวิสฺส’’นฺติ กุสจีราทิกํ โย สยเมว นิวาเสติ, โสปิ ปกฺกนฺตโก ติตฺถิยปกฺกนฺตโก สิยาติ โยชนา.
๒๕๓๒-๔. นคฺโค ¶ เตสํ อาชีวกาทีนํ อุปสฺสยํ คนฺตฺวาติ โยชนา. เกเส ลฺุจาเปตีติ อตฺตโน เกเส ลฺุจาเปติ. เตสํ วตานิ อาทิยติ วาติ โยชนา. วตานิ อาทิยตีติ อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีนิ วา วตานิ อาทิยติ. เตสํ ติตฺถิยานํ โมรปิฺฉาทิกํ ลิงฺคํ สฺาณํ สเจ คณฺหาติ วา เตสํ ปพฺพชฺชํ, ลทฺธิเมว วา สารโต วา เอติ อุปคจฺฉติ วาติ โยชนา. ‘‘อยํ ปพฺพชฺชา เสฏฺาติ เสฏฺภาวํ วา อุปคจฺฉตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐ ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถา) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. เอส ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ เอว, น ปน วิมุจฺจติ ติตฺถิยปกฺกนฺตภาวโต. นคฺคสฺส คจฺฉโตติ ‘‘อาชีวโก ภวิสฺส’’นฺติ กาสายาทีนิ อนาทาย นคฺคสฺส อาชีวกานํ อุปสํคจฺฉโต.
๒๕๓๕. เถยฺยสํวาสโก ¶ อนุปสมฺปนฺนวเสน วุตฺโต, โน อุปสมฺปนฺนวเสน. อิมินา ‘‘อุปสมฺปนฺโน ภิกฺขุ กูฏวสฺสํ คณฺหนฺโตปิ อสฺสมโณ น โหติ. ลิงฺเค สอุสฺสาโห ปาราชิกํ อาปชฺชิตฺวา ภิกฺขุวสฺสาทีนิ คเณนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหตี’’ติ อฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ ทีเปติ. ตถา วุตฺโตติ โยชนา. ‘‘อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนา’’ติ อิมินา อนุปสมฺปนฺนํ นิวตฺเตติ. เตน จ ‘‘สามเณโร สลิงฺเคน ติตฺถายตนํ คโตปิ ปุน ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภตี’’ติ กุรุนฺทฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสติ.
ติตฺถิยปกฺกนฺตกสฺส กึ กาตพฺพนฺติ? น ปพฺพาเชตพฺโพ, ปพฺพาชิโตปิ น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปาทิโต จ กาสายานิ อปเนตฺวา เสตกานิ ทตฺวา คิหิภาวํ อุปเนตพฺโพ. อยมตฺโถ จ ‘‘ติตฺถิยปกฺกนฺตโก ภิกฺขเว อนุปสมฺปนฺโน ¶ น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๑๐) ปาฬิโต จ ‘‘โส น เกวลํ น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อถ โข น ปพฺพาเชตพฺโพปี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐ ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถา) อฏฺกถาวจนโต จ เวทิตพฺโพ.
ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถาวณฺณนา.
๒๕๓๖. อิธาติ อิมสฺมึ ปพฺพชฺชูปสมฺปทาธิกาเร. มนุสฺสชาติกโต อฺสฺส ติรจฺฉานคเตเยว อนฺโตคธตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยกฺโข สกฺโกปิ วา’’ติ. ติรจฺฉานคโต วุตฺโตติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ‘‘ติรจฺฉานคโต, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๑๑) วจนโต ปพฺพชฺชาปิ อุปลกฺขณโต นิวาริตาเยวาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏตี’’ติ. เตน ติรจฺฉานคโต จ ภควโต อธิปฺปายฺูหิ อฏฺกถาจริเยหิ น ปพฺพาเชตพฺโพติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๑) วุตฺตํ.
ติรจฺฉานกถาวณฺณนา.
๒๕๓๗. ปฺจานนฺตริเก โปเสติ มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, โลหิตุปฺปาทโก, สงฺฆเภทโกติ อานนฺตริยกมฺเมหิ สมนฺนาคเต ปฺจ ปุคฺคเล.
ตตฺถ ¶ มาตุฆาตโก (มหาว. อฏฺ. ๑๑๒) นาม เยน มนุสฺสิตฺถิภูตา ชนิกา มาตา สยมฺปิ มนุสฺสชาติเกเนว สตา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรปิตา, อยํ อานนฺตริเยน มาตุฆาตกกมฺเมน มาตุฆาตโก, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ ปฏิกฺขิตฺตา. เยน ปน มนุสฺสิตฺถิภูตาปิ อชนิกา โปสาวนิกมาตา วา จูฬมาตา วา มหามาตา วา ชนิกาปิ วา นมนุสฺสิตฺถิภูตา ¶ มาตาฆาติตา, ตสฺส ปพฺพชฺชา น วาริตา, น จ อานนฺตริโย โหติ. เยน สยํ ติรจฺฉานภูเตน มนุสฺสิตฺถิภูตา มาตา ฆาติตา, โสปิ อานนฺตริโย น โหติ, ติรจฺฉานคตตฺตา ปนสฺส ปพฺพชฺชา ปฏิกฺขิตฺตาว. ปิตุฆาตเกปิ เอเสว นโย. สเจปิ หิ เวสิยา ปุตฺโต โหติ, ‘‘อยํ เม ปิตา’’ติ น ชานาติ, ยสฺส สมฺภเวน นิพฺพตฺโต, โส เจ อเนน ฆาติโต, ‘‘ปิตุฆาตโก’’ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ.
อรหนฺตฆาตโกปิ มนุสฺสอรหนฺตวเสเนว เวทิตพฺโพ. มนุสฺสชาติยฺหิ อนฺตมโส อปพฺพชิตมฺปิ ขีณาสวํ ทารกํ วา ทาริกํ วา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรเปนฺโต อรหนฺตฆาตโกว โหติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปพฺพชฺชา จสฺส วาริตา. อมนุสฺสชาติกํ ปน อรหนฺตํ, มนุสฺสชาติกํ วา อวเสสํ อริยปุคฺคลํ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโย น โหติ, ปพฺพชฺชาปิสฺส น วาริตา, กมฺมํ ปน พลวํ โหติ. ติรจฺฉาโน มนุสฺสอรหนฺตมฺปิ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโย น โหติ, กมฺมํ ปน ภาริยํ.
โย เทวทตฺโต วิย ทุฏฺจิตฺเตน วธกจิตฺเตน ตถาคตสฺส ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนกมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทติ, อยํ โลหิตุปฺปาทโก นาม, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน โรควูปสมนตฺถํ ชีวโก วิย สตฺเถน ผาเลตฺวา ปูติมํสฺจ โลหิตฺจ นีหริตฺวา ผาสุํ กโรติ, พหุํ โส ปฺุํ ปสวติ.
โย เทวทตฺโต วิย สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กตฺวา จตุนฺนํ กมฺมานํ อฺตรวเสน สงฺฆํ ภินฺทติ, อยํ สงฺฆเภทโก นาม, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. ‘‘มาตุฆาตโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน ¶ นาเสตพฺโพ’’ติอาทิกาย (มหาว. ๑๑๒) ปาฬิยา อุปสมฺปทาปฏิกฺเขโป ปพฺพชฺชาปฏิกฺเขปสฺส อุปลกฺขณนฺติ อาห ‘‘ปพฺพาเชนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ.
อุภโตพฺยฺชนฺเจว ¶ ภิกฺขุนิทูสกฺจ ตถา ปพฺพาเชนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. อุภโตพฺยฺชนนฺติ ก-การโลเปน นิทฺเทโส. อิตฺถินิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ ปุริสนิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ อุภโต พฺยฺชนมสฺส อตฺถีติ อุภโตพฺยฺชนโก. โส ทุวิโธ โหติ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก, ปุริสอุภโตพฺยฺชนโกติ.
ตตฺถ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส (มหาว. อฏฺ. ๑๑๖) อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถีสุ ปุริสตฺตํ กโรนฺตสฺส อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสานํ อิตฺถิภาวํ อุปคจฺฉนฺตสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก สยฺจ คพฺภํ คณฺหาติ, ปรฺจ คพฺภํ คณฺหาเปติ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนโก สยํ น คณฺหาติ, ปรํ คณฺหาเปตีติ อิทเมเตสํ นานากรณํ. อิมสฺส ปน ทุวิธสฺสาปิ อุภโตพฺยฺชนกสฺสเนว ปพฺพชฺชา อตฺถิ, น อุปสมฺปทาติ อิทมิธ สนฺนิฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
โย ปกตตฺตํ ภิกฺขุนึ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๕) ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ ทูเสติ, อยํ ภิกฺขุนิทูสโก นาม, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน กายสํสคฺเคน สีลวินาสํ ปาเปติ, ตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ น วาริตา. พลกฺกาเรน ปน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อนิจฺฉมานํเยว ทูเสนฺโตปิ ภิกฺขุนิทูสโกเยว. พลกฺกาเรน ปน โอทาตวตฺถวสนํ ¶ กตฺวา อิจฺฉมานํ ทูเสนฺโต ภิกฺขุนิทูสโก น โหติ. กสฺมา? ยสฺมา คิหิภาเว สมฺปฏิจฺฉิตมตฺเตเยว สา อภิกฺขุนี โหติ. สกึ สีลวิปนฺนํ ปน ปจฺฉา ทูเสนฺโต เนว ภิกฺขุนิทูสโก โหติ, ปพฺพชฺชมฺปิ อุปสมฺปทมฺปิ ลภติ.
๒๕๓๘. ปาฬิอฏฺกถาวิมุตฺตํ อาจริยปรมฺปราภตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกโต’’ติอาทิ. ‘‘เอกโต’’ติ อิมินา ภิกฺขุสงฺฆสฺสาปิ คหณํ ภเวยฺยาติ ตํ ปริวชฺเชตุํ ‘‘ภิกฺขุนีนํ ตุ สนฺติเก’’ติ วุตฺตํ. เอเตน ตํทูสกสฺส ภพฺพตํ ทีเปติ. โส เนว ภิกฺขุนิทูสโก สิยา, ‘‘อุปสมฺปทํ ลภเตว จ ปพฺพชฺชํ, สา จ เนว ปราชิตา’’ติ อิทํ ทุติยคาถาย อิธาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. เกวลํ ภิกฺขุนิสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนา นาม น โหตีติ อธิปฺปาเยเนว วุตฺตํ. ‘‘สา จ เนว ปราชิตา’’ติ อิมินา ตสฺสา จ ปุน ปพฺพชฺชูปสมฺปทาย ภพฺพตํ ¶ ทีเปติ. อยมตฺโถ อฏฺกถาคณฺิปเทปิ วุตฺโตเยว ‘‘ภิกฺขุนีนํ วเสน เอกโตอุปสมฺปนฺนํ ทูเสตฺวา ภิกฺขุนิทูสโก น โหติ, ปพฺพชฺชาทีนิ ลภติ, สา จ ปาราชิกา น โหตีติ วินิจฺฉโย’’ติ.
๒๕๓๙. ‘‘สิกฺขมานาสามเณรีสุ จ วิปฺปฏิปชฺชนฺโต เนว ภิกฺขุนิทูสโก โหติ, ปพฺพชฺชมฺปิ อุปสมฺปทมฺปิ ลภตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๕) อฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ อนุปสมฺปนฺนทูสโก’’ติ. ‘‘อุปสมฺปทํ ลภเตว จ ปพฺพชฺช’’นฺติ อิทํ ยถาาเนปิ โยเชตพฺพํ. สา จ เนว ปราชิตาติ อิทํ ปน อฏฺกถาย อนาคตตฺตา จ อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนวิกปฺปาภาวา จ น โยเชตพฺพํ. อสติ หิ อุปสมฺปนฺนวิกปฺเป ปราชิตวิกปฺปาสงฺคโห ปฏิเสโธ นิรตฺถโกติ สา ปพฺพชฺชูปสมฺปทานํ ภพฺพาเยวาติ ทฏฺพฺพา. อิเม ¶ ปน ปณฺฑกาทโย เอกาทส ปุคฺคลา ‘‘ปณฺฑโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติอาทิวจนโต (มหาว. ๑๐๙) อภพฺพาเยว, เนสํ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ น รุหติ, ตสฺมา น ปพฺพาเชตพฺพา. ชานิตฺวา ปพฺพาเชนฺโต, อุปสมฺปาเทนฺโต จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อชานิตฺวาปิ ปพฺพาชิตา, อุปสมฺปาทิตา จ ชานิตฺวา ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺพา.
เอกาทสอภพฺพปุคฺคลกถาวณฺณนา.
๒๕๔๐. นูปสมฺปาทนีโยวาติ น อุปสมฺปาเทตพฺโพว. อนุปชฺฌายโกติ อสนฺนิหิตอุปชฺฌาโย วา อคฺคหิตอุปชฺฌายคฺคหโณ วา. กโรโตติ อนุปชฺฌายกํ อุปสมฺปาทยโต. ทุกฺกฏํ โหตีติ อาจริยสฺส จ คณสฺส จ ทุกฺกฏาปตฺติ โหติ. น กุปฺปติ สเจ กตนฺติ สเจ อนุปชฺฌายกสฺส อุปสมฺปทากมฺมํ กตํ ภเวยฺย, ตํ น กุปฺปติ สมคฺเคน สงฺเฆน อกุปฺเปน านารเหน กตตฺตา.
๒๕๔๑. เอเกติ อภยคิริวาสิโน. ‘‘น คเหตพฺพเมวา’’ติ อฏฺกถาย ทฬฺหํ วุตฺตตฺตา วุตฺตํ. ตํ วจนํ. เอตฺถ จ อุปชฺฌาเย อสนฺนิหิเตปิ อุปชฺฌายคฺคหเณ อกเตปิ กมฺมวาจายํ ปน อุปชฺฌายกิตฺตนํ กตํเยวาติ ทฏฺพฺพํ. อฺถา ‘‘ปุคฺคลํ น ปรามสตี’’ติ วุตฺตาย กมฺมวิปตฺติยา สมฺภวโต กมฺมํ กุปฺเปยฺย. เตเนว ‘‘อุปชฺฌายํ อกิตฺเตตฺวา’’ติ อวตฺวา ‘‘อุปชฺฌํ อคฺคาหาเปตฺวา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๗) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ยถา จ อปริปุณฺณปตฺตจีวรสฺส ¶ อุปสมฺปทากาเล กมฺมวาจายํ ‘‘ปริปุณฺณสฺส ปตฺตจีวร’’นฺติ อสนฺตํ วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา กมฺมวาจาย กตายปิ อุปสมฺปทา รุหติ, เอวํ ‘‘อยํ พุทฺธรกฺขิโต อายสฺมโต ธมฺมรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ อสนฺตํ ปุคฺคลํ กิตฺเตตฺวา เกวลํ สนฺตปทนีหาเรน กมฺมวาจาย ¶ กตาย อุปสมฺปทา รุหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘น กุปฺปติ สเจ กต’’นฺติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, อนุปชฺฌายโก อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๑๗) เอตฺตกเมว วตฺวา ‘‘โส จ ปุคฺคโล อนุปสมฺปนฺโน’’ติ อวุตฺตตฺตา, กมฺมวิปตฺติลกฺขณสฺส จ อสมฺภวโต ‘‘น คเหตพฺพเมว ต’’นฺติ วุตฺตํ.
เสเสสุ สพฺพตฺถปีติ สงฺฆคณปณฺฑกเถยฺยสํวาสกติตฺถิยปกฺกนฺตกติรจฺฉานคตมาตุปิตุอรหนฺตฆาตกภิกฺขุนิทูสกสงฺฆเภทกโลหิตุปฺปาทกอุภโตพฺยฺชนกสงฺขาเตหิ อุปชฺฌาเยหิ อุปสมฺปาทิเตสุ สพฺเพสุ เตรสสุ วิกปฺเปสุ. วุตฺตฺหิ ภควตา ‘‘น, ภิกฺขเว, สงฺเฆน อุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ. น เกวลํ เอเตสุเยว เตรสสุ, อถ ‘‘อปตฺตกอจีวรกอจีวรปตฺตกยาจิตกปตฺตยาจิตกจีวรยาจิตกปตฺตจีวรกา’’ติ เอเตสุ ฉสุ วิกปฺเปสุ อยํ นโย โยเชตพฺโพติ. เสส-คฺคหเณน เอเตสมฺปิ สงฺคโห. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘น, ภิกฺขเว, อปตฺตโก อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ (มหาว. ๑๑๘). อยํ นโยติ ‘‘น กุปฺปติ สเจ กต’’นฺติ วุตฺตนโย.
๒๕๔๒. ปฺจวีสตีติ จตุวีสติ ปาราชิกา, อูนวีสติวสฺโส จาติ ปฺจวีสติ. วุตฺตฺหิ ‘‘น, ภิกฺขเว, ชานํ อูนวีสติวสฺโส ปุคฺคโล อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๙๙). โอสาโรติ อุปสมฺปทาสงฺขาโต โอสาโร. เตเนว จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก ‘‘ตฺเจ สงฺโฆ โอสาเรติ, เอกจฺโจ โสสาริโต’’ติอาทิปาสฺส (มหาว. ๓๙๖) อฏฺกถายํ ‘‘โอสาเรตีติ อุปสมฺปทากมฺมวเสน ¶ ปเวเสตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๙๖) วุตฺตํ. ‘‘นาสนารโห’’ติ อิมินา ‘‘ปณฺฑโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติอาทิวจนโต (มหาว. ๑๐๙) อุปสมฺปาทิตสฺสาปิ เสตกานิ ทตฺวา คิหิภาวํ ปาเปตพฺพตํ ทีเปติ.
๒๕๔๓. หตฺถจฺฉินฺนาทิ ¶ พาตฺตึสาติ จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก –
‘‘หตฺถจฺฉินฺโน, ภิกฺขเว, อปฺปตฺโต โอสารณํ, ตฺเจ สงฺโฆ โอสาเรติ, โสสาริโต. ปาทจฺฉินฺโน…เป… หตฺถปาทจฺฉินฺโน… กณฺณจฺฉินฺโน… นาสจฺฉินฺโน… กณฺณนาสจฺฉินฺโน… องฺคุลิจฺฉินฺโน… อฬจฺฉินฺโน… กณฺฑรจฺฉินฺโน… ผณหตฺถโก… ขุชฺโช… วามโน… คลคณฺฑี… ลกฺขณาหโต… กสาหโต… ลิขิตโก… สีปทิโก… ปาปโรคี… ปริสทูสโก… กาโณ… กุณี… ขฺโช… ปกฺขหโต… ฉินฺนิริยาปโถ… ชราทุพฺพโล… อนฺโธ… มูโค… ปธิโร… อนฺธมูโค… อนฺธปธิโร… มูคปธิโร… อนฺธมูคปธิโร, ภิกฺขเว, อปฺปตฺโต โอสารณํ, ตฺเจ สงฺโฆ โอสาเรติ, โสสาริโต’’ติ (มหาว. ๓๙๖) พาตฺตึส.
กุฏฺิอาทิ จ เตรสาติ มหาขนฺธเก อาคตา –
‘‘กุฏฺึ คณฺฑึ กิลาสิฺจ, โสสิฺจ อปมาริกํ;
ตถา ราชภฏํ โจรํ, ลิขิตํ การเภทกํ.
‘‘กสาหตํ นรฺเจว, ปุริสํ ลกฺขณาหตํ;
อิณายิกฺจ ทาสฺจ, ปพฺพาเชนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ. –
ยถาวุตฺตา เตรส.
เอวเมเต ปฺจจตฺตาลีส วุตฺตา. เตสุ กสาหตลกฺขณาหตลิขิตกานํ ติณฺณํ อุภยตฺถ อาคตตฺตา อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาจตฺตาลีเสว ทฏฺพฺพา.
‘‘หตฺถจฺฉินฺนาทิพาตฺตึส ¶ , กุฏฺิอาทิ จ เตรสา’’ติ เย ปุคฺคลา วุตฺตา, เตสํ. โอสาโร อปฺปตฺโตติ อุปสมฺปทาอนนุรูปาติ อตฺโถ. กโต เจติ อกตฺตพฺพภาวมสลฺลกฺขนฺเตหิ ภิกฺขูหิ ยทิ อุปสมฺปทาสงฺขาโต โอสาโร กโต ภเวยฺย. รูหตีติ สิชฺฌติ, เต ปุคฺคลา อุปสมฺปนฺนาเยวาติ อธิปฺปาโย. อาจริยาทโย ปน อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ. ยถาห จมฺเปยฺยกฺขนฺธกฏฺกถายํ ¶ – ‘‘หตฺถจฺฉินฺนาทโย ปน ทฺวตฺตึส สุโอสาริตา, อุปสมฺปาทิตา อุปสมฺปนฺนาว โหนฺติ, น เต ลพฺภา กิฺจิ วตฺตุํ. อาจริยุปชฺฌายา, ปน การกสงฺโฆ จ สาติสารา, น โกจิ อาปตฺติโต มุจฺจตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๙๖).
๒๕๔๔-๕. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุํ, ตฺจ โข เอเกน อุปชฺฌาเยนา’’ติ (มหาว. ๑๒๓) วจนโต สเจ ตโย อาจริยา เอกสีมายํ นิสินฺนา เอกสฺส อุปชฺฌายสฺส นามํ คเหตฺวา ติณฺณํ อุปสมฺปทาเปกฺขานํ วิสุํ วิสุํเยว กมฺมวาจํ เอกกฺขเณ วตฺวา ตโย อุปสมฺปาเทนฺติ, วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกูปชฺฌายโก โหตี’’ติอาทิ.
‘‘ตโย’’ติ อิทํ อฏฺุปฺปตฺติยํ ‘‘สมฺพหุลานํ เถราน’’นฺติ (มหาว. ๑๒๓) อาคตตฺตา วุตฺตํ. เอกโตติ เอกกฺขเณ. อนุสาวนนฺติ กมฺมวาจํ. โอสาเรตฺวาติ วตฺวา. กมฺมนฺติ อุปสมฺปทากมฺมํ. น จ กุปฺปตีติ น วิปชฺชติ. กปฺปตีติ อวิปชฺชนโต เอวํ กาตุํ วฏฺฏติ.
๒๕๔๖-๗. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๒๓) วจนโต สเจ เอโก อาจริโย ‘‘พุทฺธรกฺขิโต จ ธมฺมรกฺขิโต จ สงฺฆรกฺขิโต จ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ อุปสมฺปทาเปกฺขานํ ¶ ปจฺเจกํ นามํ คเหตฺวา กมฺมวาจํ วตฺวา ทฺเว ตโยปิ อุปสมฺปาเทติ, วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกูปชฺฌายโก โหตี’’ติอาทิ.
อุปสมฺปทํ อเปกฺขนฺตีติ ‘‘อุปสมฺปทาเปกฺขา’’ติ อุปสมฺปชฺชนกา วุจฺจนฺติ. เตสํ นามนฺติ เตสํ อุปสมฺปชฺชนฺตานฺเจว อุปชฺฌายานฺจ นามํ. อนุปุพฺเพน สาเวตฺวาติ โยชนา, ‘‘พุทฺธรกฺขิโต’’ติอาทินา ยถาวุตฺตนเยน กมฺมวาจายํ สกฏฺาเน วตฺวา สาเวตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาติ เอเกน อาจริเยน. เอกโตติ ทฺเว ตโย ชเน เอกโต กตฺวา. อนุสาเวตฺวาติ กมฺมวาจํ วตฺวา. กตํ อุปสมฺปทากมฺมํ.
๒๕๔๘. อฺมฺานุสาเวตฺวาติ ¶ อฺมฺสฺส นามํ อนุสาเวตฺวา, คเหตฺวาติ อตฺโถ, อฺมฺสฺส นามํ คเหตฺวา กมฺมวาจํ วตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
๒๕๔๙. ตํ วิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘สุมโน’’ติอาทิ. สุมโนติ อาจริโย. ติสฺสเถรสฺส อุปชฺฌายสฺส. สิสฺสกํ สทฺธิวิหาริกํ. อนุสาเวตีติ กมฺมวาจํ สาเวติ. ติสฺโสติ ปมํ อุปชฺฌายภูตสฺส คหณํ. สุมนเถรสฺสาติ ปมํ อาจริยตฺเถรมาห. อิเม ทฺเว เอกสีมายํ นิสีทิตฺวา เอกกฺขเณ อฺมฺสฺส สทฺธิวิหาริกานํ กมฺมวาจํ วทนฺตา อตฺตโน อตฺตโน สทฺธิวิหาริกํ ปฏิจฺจ อุปชฺฌายาปิ โหนฺติ, อนฺเตวาสิเก ปฏิจฺจ อาจริยาปิ โหนฺติ, อฺมฺสฺส คณปูรกา จ โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห –
‘‘สเจ ปน นานาจริยา นานาอุปชฺฌายา โหนฺติ, ติสฺสตฺเถโร สุมนตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ, สุมนตฺเถโร ติสฺสตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ อนุสฺสาเวติ ¶ , อฺมฺฺจ คณปูรกา โหนฺติ, วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๒๓).
๒๕๕๐. อิธาติ อิมสฺมึ อุปสมฺปทาธิกาเร. ปฏิกฺขิตฺตาติ ‘‘น ตฺเวว นานุปชฺฌาเยนา’’ติ (มหาว. ๑๒๓) ปฏิสิทฺธา. โลกิเยหิ อาทิจฺจปุตฺโต มนูติ โย ปมกปฺปิโก มนุสฺสานํ อาทิราชา วุจฺจติ, ตสฺส วํเส ชาตตฺตา อาทิจฺโจ พนฺธุ เอตสฺสาติ อาทิจฺจพนฺธุ, ภควา, เตน.
มหาขนฺธกกถาวณฺณนา.
อุโปสถกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๕๕๑-๒. ยา เอกาทสหิ สีมาวิปตฺตีหิ วชฺชิตา ติสมฺปตฺติสํยุตา นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆเฏตฺวา สมฺมตา, สา อยํ พทฺธสีมา นาม สิยาติ โยชนา. ตตฺถ อติขุทฺทกา, อติมหตี, ขณฺฑนิมิตฺตา, ฉายานิมิตฺตา, อนิมิตฺตา, พหิสีเม ิตสมฺมตา, นทิยา สมฺมตา, สมุทฺเท สมฺมตา, ชาตสฺสเร สมฺมตา, สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา, สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตาติ ‘‘อิเมหิ เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺตี’’ติ ¶ (ปริ. ๔๘๖) วจนโต อิมา เอกาทส วิปตฺติสีมาโย นาม, วิปนฺนสีมาติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ อติขุทฺทกา นาม ยตฺถ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ น สกฺโกนฺติ. อติมหตี นาม ยา อนฺตมโส เกสคฺคมตฺเตนาปิ ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา สมฺมตา. ขณฺฑนิมิตฺตา นาม อฆฏิตนิมิตฺตา วุจฺจติ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา อนุกฺกเมเนว ทกฺขิณาย, ปจฺฉิมาย, อุตฺตราย ทิสาย กิตฺเตตฺวา ปุน ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปุพฺพกิตฺติตํ ¶ ปฏิกิตฺเตตฺวา เปตุํ วฏฺฏติ, เอวํ อขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. สเจ ปน อนุกฺกเมน อาหริตฺวา อุตฺตราย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตตฺเถว เปติ, ขณฺฑนิมิตฺตา นาม โหติ. อปราปิ ขณฺฑนิมิตฺตา นาม ยา อนิมิตฺตุปคํ ตจสารรุกฺขํ วา ขาณุกํ วา ปํสุปฺุชวาลิกาปฺุชานํ วา อฺตรํ อนฺตรา เอกํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา. ฉายานิมิตฺตา นาม ปพฺพตจฺฉายาทีนํ ยํ กิฺจิ ฉายํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา. อนิมิตฺตา นาม สพฺเพน สพฺพํ นิมิตฺตานิ อกิตฺเตตฺวา สมฺมตา. พหิสีเม ิตสมฺมตา นาม นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา นิมิตฺตานํ พหิ ิเตน สมฺมตา.
นทิยา สมุทฺเท ชาตสฺสเร สมฺมตา นาม เอเตสุ นทิอาทีสุ สมฺมตา. สา หิ เอวํ สมฺมตาปิ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๘) วจนโต อสมฺมตาว โหติ. สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา นาม อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา. สเจ หิ โปราณกสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อมฺโพ เจว ชมฺพู จาติ ทฺเว รุกฺขา อฺมฺํ สํสฏฺวิฏปา โหนฺติ, เตสุ อมฺพสฺส ปจฺฉิมทิสาภาเค ชมฺพู, วิหารสีมา จ ชมฺพุํ อนฺโต กตฺวา อมฺพํ กิตฺเตตฺวา พทฺธา โหติ, อถ ปจฺฉา ตสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย วิหาเร กเต สีมํ พนฺธนฺตา ภิกฺขู ตํ อมฺพํ อนฺโต กตฺวา ชมฺพุํ กิตฺเตตฺวา พนฺธนฺติ, สีมาย สีมํ สมฺภินฺนา โหติ. สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตา นาม อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตา. สเจ หิ ปเรสํ พทฺธสีมํ สกลํ วา ตสฺสา ปเทสํ วา อนฺโต กตฺวา อตฺตโน สีมํ สมฺมนฺนติ, สีมาย สีมา อชฺโฌตฺถริตา นาม โหตีติ. อิติ อิมาหิ เอกาทสหิ วิปตฺติสีมาหิ วชฺชิตาติ อตฺโถ.
ติสมฺปตฺติสํยุตาติ ¶ นิมิตฺตสมฺปตฺติ, ปริสาสมฺปตฺติ, กมฺมวาจาสมฺปตฺตีติ อิมาหิ ตีหิ สมฺปตฺตีหิ ¶ สมนฺนาคตา. ตตฺถ นิมิตฺตสมฺปตฺติยุตฺตา นาม ‘‘ปพฺพตนิมิตฺตํ, ปาสาณนิมิตฺตํ, วนนิมิตฺตํ, รุกฺขนิมิตฺตํ, มคฺคนิมิตฺตํ, วมฺมิกนิมิตฺตํ, นทินิมิตฺตํ, อุทกนิมิตฺต’’นฺติ (มหาว. ๑๓๘) เอวํ วุตฺเตสุ อฏฺสุ นิมิตฺเตสุ ตสฺมึ ตสฺมึ ทิสาภาเค ยถาลทฺธานิ นิมิตฺตุปคานิ นิมิตฺตานิ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺตํ? ปพฺพโต, ภนฺเต, เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติอาทินา นเยน สมฺมา กิตฺเตตฺวา สมฺมตา.
ปริสาสมฺปตฺติยุตฺตา นาม สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน จตูหิ ภิกฺขูหิ สนฺนิปติตฺวา ยาวติกา ตสฺมึ คามเขตฺเต พทฺธสีมํ วา นทิสมุทฺทชาตสฺสเร วา อโนกฺกมิตฺวา ิตา ภิกฺขู, เต สพฺเพ หตฺถปาเส วา กตฺวา, ฉนฺทํ วา อาหริตฺวา สมฺมตา.
กมฺมวาจาสมฺปตฺติยุตฺตา นาม ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, ยาวตา สมนฺตา นิมิตฺตา กิตฺติตา’’ติอาทินา (มหาว. ๑๓๙) นเยน วุตฺตาย ปริสุทฺธาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมตา. เอวํ เอกาทส วิปตฺติสีมาโย อติกฺกมิตฺวา ติวิธสมฺปตฺติยุตฺตา นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆเฏตฺวา สมฺมตา สีมา พทฺธสีมาติ เวทิตพฺพา.
๒๕๕๓-๔. ขณฺฑสมานสํวาสอวิปฺปวาสา อาทโย อาทิภูตา, อาทิมฺหิ วา ยาสํ สีมานํ ตา ขณฺฑสมานสํวาสาวิปฺปวาสาที, ตาสํ, ตาหิ วา ปเภโท ขณฺฑสมานสํวาสาทิเภโท, ตโต ขณฺฑสมานสํวาสาทิเภทโต, ขณฺฑสีมา, สมานสํวาสสีมา, อวิปฺปวาสสีมาติ อิมาสํ สีมานํ เอตาหิ วา กรณภูตาหิ, เหตุภูตาหิ วา ชาเตน วิภาเคนาติ วุตฺตํ โหติ. สมานสํวาสาวิปฺปวาสานมนฺตเร ขณฺฑา ปริจฺฉินฺนา ตาหิ อสงฺกรา ¶ สีมา ขณฺฑสีมา นาม. สมานสํวาเสหิ ภิกฺขูหิ เอกโต อุโปสถาทิโก สํวาโส เอตฺถ กรียตีติ สมานสํวาสา นาม. อวิปฺปวาสาย ลกฺขณํ ‘‘พนฺธิตฺวา’’ติอาทินา วกฺขติ. อิติ พทฺธา ติธา วุตฺตาติ เอวํ พทฺธสีมา ติปฺปเภทา วุตฺตา.
อุทกุกฺเขปาติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนํ. สตฺตนฺนํ อพฺภนฺตรานํ สมาหารา สตฺตพฺภนฺตรา, ตโตปิ จ. อพทฺธาปิ ติวิธาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถาติ ตาสุ ตีสุ อพทฺธสีมาสุ. คามปริจฺเฉโทติ สพฺพทิสาสุ สีมํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อิมสฺส ปเทสสฺส เอตฺตโก กโร’’ติ เอวํ กเรน นิยมิโต คามปฺปเทโส. ยถาห – ‘‘ยตฺตเก ปเทเส ตสฺส คามสฺส โภชกา พลึ หรนฺติ ¶ , โส ปเทโส อปฺโป วา โหตุ มหนฺโต วา, ‘คามสีมา’ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ยมฺปิ เอกสฺมึเยว คามกฺเขตฺเต เอกํ ปเทสํ ‘อยํ วิสุํ คาโม โหตู’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ราชา กสฺสจิ เทติ, โสปิ วิสุํคามสีมา โหติเยวา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗).
‘‘คามปริจฺเฉโท’’ติ อิมินา จ นครปริจฺเฉโท จ สงฺคหิโต. ยถาห – ‘‘คามคฺคหเณน เจตฺถ นครมฺปิ คหิตเมว โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗). นิคมสีมาย วิสุํเยว วุตฺตตฺตา ตสฺสา อิธ สงฺคโห น วตฺตพฺโพ. วุตฺตฺหิ ปาฬิยํ ‘‘ยํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรติ. ยา ตสฺส วา คามสฺส คามสีมา, นิคมสฺส วา นิคมสีมา, อยํ ตตฺถ สมานสํวาสา เอกุโปสถา’’ติ (มหาว. ๑๔๗). อิมิสฺสา วิสุํเยว ลกฺขณสฺส วุตฺตตฺตา คามสีมาลกฺขเณเนว อุปลกฺขิตา.
๒๕๕๕. ‘‘ชาตสฺสเร’’ติอาทีสุ ชาตสฺสราทีนํ ลกฺขณํ เอวํ เวทิตพฺพํ – โย ปน เกนจิ ขณิตฺวา อกโต สยํชาโต โสพฺโภ สมนฺตโต อาคเตน อุทเกน ปูริโต ¶ ติฏฺติ, ยตฺถ นทิยํ วกฺขมานปฺปกาเร วสฺสกาเล อุทกํ สนฺติฏฺติ, อยํ ชาตสฺสโร นาม. โยปิ นทึ วา สมุทฺทํ วา ภินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตอุทเกน ขณิโต โสพฺโภ เอตํ ลกฺขณํ ปาปุณาติ, อยมฺปิ ชาตสฺสโรเยว. สมุทฺโท ปากโฏเยว.
ยสฺสา ธมฺมิกานํ ราชูนํ กาเล อนฺวฑฺฒมาสํ อนุทสาหํ อนุปฺจาหํ อนติกฺกมิตฺวา เทเว วสฺสนฺเต วลาหเกสุ วิคตมตฺเตสุ โสตํ ปจฺฉิชฺชติ, อยํ นทิสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ยสฺสา ปน อีทิเส สุวุฏฺิกาเล วสฺสานสฺส จตุมาเส โสตํ น ปจฺฉิชฺชติ, ยตฺถ ติตฺเถน วา อติตฺเถน วา สิกฺขากรณีเย อาคตลกฺขเณน ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อนฺตรวาสกํ อนุกฺขิปิตฺวา อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา เอกทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ อนฺตรวาสโก เตมิยติ, อยํ สมุทฺทํ วา ปวิสตุ ตฬากํ วา, ปภวโต ปฏฺาย นที นาม.
สมนฺตโตติ สมนฺตา. มชฺฌิมสฺสาติ ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส. อุทกุกฺเขโปติ วกฺขมาเนน นเยน ถามปฺปมาเณน ขิตฺตสฺส อุทกสฺส วา วาลุกาย วา ปติตฏฺาเนน ปริจฺฉินฺโน อนฺโตปเทโส. ยถา อกฺขธุตฺตา ทารุคุฬํ ขิปนฺติ, เอวํ อุทกํ วา วาลุกํ วา หตฺเถน คเหตฺวา ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน สพฺพถาเมน ขิปิตพฺพํ, ตตฺถ ยตฺถ เอวํ ขิตฺตํ อุทกํ วา ¶ วาลุกา วา ปตติ, อยํ อุทกุกฺเขโป นามาติ. อุทกุกฺเขปสฺิโตติ ‘‘อุทกุกฺเขโป’’ติ สลฺลกฺขิโต.
๒๕๕๖. อคามเก อรฺเติ วิฺฌาฏวิสทิเส คามรหิเต มหาอรฺเ. สมนฺตโต สตฺเตวพฺภนฺตราติ อตฺตโน ิตฏฺานโต ปริกฺขิปิตฺวา สตฺเตว อพฺภนฺตรา ยสฺสา สีมาย ปริจฺเฉโท, อยํ สตฺตพฺภนฺตรนามิกา สีมา นาม.
๒๕๕๗. คุฬุกฺเขปนเยนาติ ¶ อกฺขธุตฺตกานํ ทารุคุฬุกฺขิปนากาเรน. อุทกุกฺเขปกาติ อุทกุกฺเขปสทิสวเสน.
๒๕๕๘. อิมาสํ ทฺวินฺนํ สีมานํ วฑฺฒนกฺกมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อพฺภนฺตรูทกุกฺเขปา, ิโตกาสา ปรํ สิยุ’’นฺติ. ิโตกาสา ปรนฺติ ปริสาย ิตฏฺานโต ปรํ, ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย สตฺตพฺภนฺตรา จ มินิตพฺพา, อุทกุกฺเขโป จ กาตพฺโพติ อตฺโถ.
๒๕๕๙-๖๐. อนฺโตปริจฺเฉเทติ อุทกุกฺเขเปน วา สตฺตพฺภนฺตเรหิ วา ปริจฺฉินฺโนกาสสฺส อนฺโต. หตฺถปาสํ วิหาย ิโต วา ปรํ ตตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อนติกฺกมฺม ิโต วาติ โยชนา, สีมนฺตริกตฺถาย เปตพฺพํ เอกํ อุทกุกฺเขปํ วา สตฺตพฺภนฺตรํ เอว วา อนติกฺกมฺม ิโตติ อตฺโถ.
กมฺมํ วิโกเปตีติ อนฺโต ิโต กมฺมสฺส วคฺคภาวกรณโต, พหิ ตตฺตกํ ปเทสํ อนติกฺกมิตฺวา ิโต อฺสฺส สงฺฆสฺส คณปูรณภาวํ คจฺฉนฺโต สีมาย สงฺกรภาวกรเณน กมฺมํ วิโกเปติ. อิติ ยสฺมา อฏฺกถานโย, ตสฺมา โส อนฺโตสีมาย หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิโต หตฺถปาเส วา กาตพฺโพ, สีมนฺตริกตฺถาย ปริจฺฉินฺโนกาสโต พหิ วา กาตพฺโพ. ตตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อนติกฺกมิตฺวา ิโต ยถาิโตว สเจ อฺสฺส กมฺมสฺส คณปูรโก น โหติ, กมฺมํ น โกเปตีติ คเหตพฺพํ.
๒๕๖๑-๒. สณฺานนฺติ ติโกฏิสณฺานํ. นิมิตฺตนฺติ ปพฺพตาทินิมิตฺตํ. ทิสกิตฺตนนฺติ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’’นฺติอาทินา ทิสากิตฺตนํ. ปมาณนฺติ ติโยชนปรมํ ปมาณํ ¶ . โสเธตฺวาติ ยสฺมึ คามกฺเขตฺเต สีมํ พนฺธติ, ตตฺถ วสนฺเต ¶ อุปสมฺปนฺนภิกฺขู พทฺธสีมวิหาเร วสนฺเต สีมาย พหิ คนฺตุํ อทตฺวา, อพทฺธสีมวิหาเร วสนฺเต หตฺถปาสํ อุปเนตพฺเพ หตฺถปาสํ เนตฺวา อวเสเส พหิสีมาย กตฺวา สพฺพมคฺเคสุ อารกฺขํ วิทหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. สีมนฺติ ขณฺฑสีมํ.
กีทิสนฺติ อาห ‘‘ติโกณ’’นฺติอาทิ. ปณวูปมนฺติ ปณวสณฺานํ มชฺเฌ สํขิตฺตํ อุภยโกฏิยา วิตฺถตํ. ‘‘วิตานาการํ ธนุกาการ’’นฺติ อาการ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ธนุกาการนฺติ อาโรปิตธนุสณฺานํ, ‘‘มุทิงฺคูปมํ สกฏูปม’’นฺติ อุปมา-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. มุทิงฺคูปมนฺติ มชฺเฌ วิตฺถตํ อุภยโกฏิยา ตนุกํ ตุริยวิเสสํ มุทิงฺคนฺติ วทนฺติ, ตาทิสนฺติ อตฺโถ. สีมํ พนฺเธยฺยาติ โยชนา.
๒๕๖๓. ปพฺพตาทินิมิตฺตุปคนิมิตฺตานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปพฺพต’’นฺติอาทิ. อิติ อฏฺ นิมิตฺตานิ ทีปเยติ โยชนา. ตตฺเรวํ สงฺเขปโต นิมิตฺตุปคตา เวทิตพฺพา – สุทฺธปํสุสุทฺธปาสาณอุภยมิสฺสกวเสน (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา; มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) ติวิโธปิ หิ ปพฺพโต หตฺถิปฺปมาณโต ปฏฺาย อุทฺธํ นิมิตฺตุปโค, ตโต โอมกตโร น วฏฺฏติ. อนฺโตสาเรหิ วา อนฺโตสารมิสฺสเกหิ วา รุกฺเขหิ จตุปฺจรุกฺขมตฺตมฺปิ วนํ นิมิตฺตุปคํ, ตโต อูนตรํ น วฏฺฏติ. ปาสาณนิมิตฺเต อยคุฬมฺปิ ปาสาณสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตสฺมา โย โกจิ ปาสาโณ อุกฺกํเสน หตฺถิปฺปมาณโต โอมกตรํ อาทึ กตฺวา เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ทฺวตฺตึสปลคุฬปิณฺฑปริมาโณ นิมิตฺตุปโค, น ตโต ขุทฺทกตโร. ปิฏฺิปาสาโณ ปน อติมหนฺโตปิ วฏฺฏติ. รุกฺโข ชีวนฺโตเยว อนฺโตสาโร ภูมิยํ ปติฏฺิโต อนฺตมโส อุพฺเพธโต อฏฺงฺคุโล ¶ ปริณาหโต สูจิทณฺฑปฺปมาโณปิ นิมิตฺตุปโค, น ตโต โอรํ วฏฺฏติ. มคฺโค ชงฺฆมคฺโค วา โหตุ สกฏมคฺโค วา, โย วินิวิชฺฌิตฺวา ทฺเว ตีณิ คามกฺเขตฺตานิ คจฺฉติ, ตาทิโส ชงฺฆสกฏสตฺเถหิ วฬฺชิยมาโนเยว นิมิตฺตุปโค, อวฬฺโช น วฏฺฏติ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ตํทิวสํ ชาโต อฏฺงฺคุลุพฺเพโธ โควิสาณมตฺโตปิ วมฺมิโก นิมิตฺตุปโค, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ. อุทกํ ยํ อสนฺทมานํ อาวาฏโปกฺขรณิตฬากชาตสฺสรโลณิสมุทฺทาทีสุ ิตํ, ตํ อาทึ กตฺวา อนฺตมโส ตงฺขณํเยว ปถวิยํ ขเต อาวาเฏ ฆเฏหิ อาหริตฺวา ปูริตมฺปิ ยาว กมฺมวาจาปริโยสานา สณฺหนกํ นิมิตฺตุปคํ, อิตรํ สนฺทมานกํ, วุตฺตปริจฺเฉทกาลํ ¶ อติฏฺนฺตํ, ภาชนคตํ วา น วฏฺฏติ. ยา อพทฺธสีมาลกฺขเณ นที วุตฺตา, สา นิมิตฺตุปคา, อฺา น วฏฺฏตีติ.
๒๕๖๔. เตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ตีณีติ นิทฺธาริตพฺพทสฺสนํ, อิมินา เอกํ วา ทฺเว วา นิมิตฺตานิ น วฏฺฏนฺตีติ ทสฺเสติ. ยถาห – ‘‘สา เอวํ สมฺมนฺนิตฺวา พชฺฌมานา เอเกน, ทฺวีหิ วา นิมิตฺเตหิ อพทฺธา โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘). สเตนาปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท สมฺภาวนายํ ทฏฺพฺโพ, เตน วีสติยา, ตึสาย วา นิมิตฺเตหิ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทีเปติ.
๒๕๖๕. ติโยชนํ ปรํ อุกฺกฏฺโ ปริจฺเฉโท เอติสฺสาติ ติโยชนปรา. ‘‘วีสตี’’ติอาทีนํ สงฺขฺยาเน, สงฺขฺเยยฺเย จ วตฺตนโต อิธ สงฺขฺยาเน วตฺตมานํ วีสติ-สทฺทํ คเหตฺวา เอกวีสติ ภิกฺขูนนฺติ ภินฺนาธิกรณนิทฺเทโส กโตติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘เอกวีสติ’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน นิคฺคหีตโลโป, วีสติวคฺคกรณียปรมตฺตา สงฺฆกมฺมสฺส กมฺมารเหน สทฺธึ ภิกฺขูนํ เอกวีสตึ คณฺหนฺตีติ อตฺโถ, อิทฺจ ¶ นิสินฺนานํ วเสน วุตฺตํ. เหฏฺิมนฺตโต หิ ยตฺถ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ สกฺโกนฺติ, ตตฺตเก ปเทเส สีมํ พนฺธิตุํ วฏฺฏตีติ.
๒๕๖๖. ยา อุกฺกฏฺายปิ ยา จ เหฏฺิมายปิ เกสคฺคมตฺตโตปิ อธิกา วา อูนา วา, เอตา ทฺเวปิ สีมาโย ‘‘อสีมา’’ติ อาทิจฺจพนฺธุนา วุตฺตาติ โยชนา.
๒๕๖๗. สมนฺตโต สพฺพเมว นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวาติ ปุพฺพทิสานุทิสาทีสุ ปริโต สพฺพทิสาสุ ยถาลทฺธํ นิมิตฺโตปคํ สพฺพนิมิตฺตํ ‘‘วินยธเรน ปุจฺฉิตพฺพํ ‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’นฺติ? ‘ปพฺพโต, ภนฺเต’ติ. ปุน วินยธเรน ‘เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติอาทินา (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆเฏตฺวา กิตฺเตตฺวา. ตฺติ ทุติยา ยสฺสาติ วิคฺคโห, ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, ยาวตา สมนฺตา นิมิตฺตา กิตฺติตา’’ติอาทินา (มหาว. ๑๓๙) ปทภาชเน วุตฺเตน ตฺติทุติเยน กมฺเมนาติ อตฺโถ. อรหติ ปโหติ วินยธโรติ อธิปฺปาโย.
๒๕๖๘. พนฺธิตฺวาติ ยถาวุตฺตลกฺขณนเยน สมานสํวาสสีมํ ปมํ พนฺธิตฺวา. อนนฺตรนฺติ กิจฺจนฺตเรน พฺยวหิตํ อกตฺวา, กาลกฺเขปํ อกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ, สีมํ สมูหนิตุกามานํ ¶ ปจฺจตฺติกานํ โอกาสํ อทตฺวาติ อธิปฺปาโย. ปจฺฉาติ สมานสํวาสสมฺมุติโต ปจฺฉา. จีวราวิปฺปวาสกํ สมฺมนฺนิตฺวาน ยา พทฺธา, สา ‘‘อวิปฺปวาสา’’ติ วุจฺจตีติ โยชนา.
ตตฺถ จีวราวิปฺปวาสกํ สมฺมนฺนิตฺวาน ยา พทฺธาติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา ¶ เอกุโปสถา…เป… เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๔๔) วุตฺตนเยน จีวเรน อวิปฺปวาสํ สมฺมนฺนิตฺวา ยา พทฺธา. สา อวิปฺปวาสาติ วุจฺจตีติ ตตฺถ วสนฺตานํ ภิกฺขูนํ จีวเรน วิปฺปวาสนิมิตฺตาปตฺติยา อภาวโต ตถา วุจฺจติ, ‘‘อวิปฺปวาสสีมา’’ติ วุจฺจตีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๕๖๙. ‘‘ยา กาจิ นทิลกฺขณปฺปตฺตา นที นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ‘เอตํ พทฺธสีมํ กโรมา’ติ กตาปิ อสีมาว โหตี’’ติอาทิกํ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗) อฏฺกถานยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นที…เป… น โวตฺถรตี’’ติ, น ปตฺถรติ สีมาภาเวน พฺยาปินี น โหตีติ อตฺโถ. เตเนวาติ เยน น โวตฺถรติ, เตเนว การเณน. อพฺรวีติ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๗) อโวจ.
สีมากถาวณฺณนา.
๒๕๗๐. อฏฺมิยาปิ อุโปสถโวหารตฺตา ทินวเสน อุโปสถานํ อติเรกตฺเตปิ อิธ อธิปฺเปเตเยว อุโปสเถ คเหตฺวา อาห ‘‘นเววา’’ติ.
๒๕๗๑-๓. เต สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘จาตุทฺทโส…เป… กมฺเมนุโปสถา’’ติ. จตุทฺทสนฺนํ ปูรโณ จาตุทฺทโส. ปนฺนรสนฺนํ ปูรโณ ปนฺนรโส. ยทา ปน โกสมฺพกฺขนฺธเก (มหาว. ๔๕๑ อาทโย) อาคตนเยน ภินฺเน สงฺเฆ โอสาริเต ตสฺมึ ภิกฺขุสฺมึ สงฺโฆ ตสฺส วตฺถุสฺส วูปสมาย สงฺฆสามคฺคึ กโรติ, ตทา ‘‘ตาวเทว อุโปสโถ กาตพฺโพ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๔๗๕) วจนโต เปตฺวา จาตุทฺทสปนฺนรเส ¶ อฺโปิ โย โกจิ ทิวโส สามคฺคี อุโปสโถติ. เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. จาตุทฺทโส, ปนฺนรโส, สามคฺคี จ อุโปสโถติ เอเต ตโยปิ อุโปสถา ทิวเสเนว นิทฺทิฏฺา ทิวเสเนว วุตฺตาติ โยชนา.
สงฺเฆอุโปสโถติ ¶ สงฺเฆน กาตพฺพอุโปสโถ. คเณปุคฺคลุโปสโถติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สาธฺยสาธนลกฺขณสฺส สมฺพนฺธสฺส ลพฺภมานตฺตา ‘‘สงฺเฆ’’ติอาทีสุ สามิวจนปฺปสงฺเค ภุมฺมนิทฺเทโส. อุโปสโถ สาธฺโย กมฺมภาวโต, สงฺฆคณปุคฺคลา สาธนํ การกภาวโต.
สุตฺตสฺส อุทฺเทโส สุตฺตุทฺเทโส, สุตฺตุทฺเทโสติ อภิธานํ นามํ ยสฺส โส สุตฺตุทฺเทสาภิธาโน. กมฺเมนาติ กิจฺจวเสน.
๒๕๗๔. ‘‘อธิฏฺาน’’นฺติ วาจฺจลิงฺคมเปกฺขิตฺวา ‘‘นิทฺทิฏฺ’’นฺติ นปุํสกนิทฺเทโส. วาจฺจลิงฺคา หิ ตพฺพาทโยติ ปาติโมกฺโข นิทฺทิฏฺโ, ปาริสุทฺธิ นิทฺทิฏฺาติ ปุมิตฺถิลิงฺเคน โยเชตพฺพา.
๒๕๗๕. วุตฺตาติ ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ปาติโมกฺขุทฺเทสา, นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ปโม ปาติโมกฺขุทฺเทโส’’ติอาทินา (มหาว. ๑๕๐) เทสิตา, สยฺจ เตสฺจ อุทฺเทเส สงฺเขปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘นิทาน’’นฺติอาทิ. สาเวตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘สุเตนา’’ติ เสโส. เสสกนฺติ อนุทฺทิฏฺฏฺานํ –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ…เป… อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตีติ อิมํ นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา ‘อุทฺทิฏฺํ โข ¶ อายสฺมนฺโต นิทานํ, ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามิ กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา, ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ…เป… เอวเมตํ ธารยามี’ติ วตฺวา ‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ. สุตา โข ปนายสฺมนฺเตหิ จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา…เป… อวิวทมาเนหิ สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๐) –
อฏฺกถาย วุตฺตนเยน อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ.
๒๕๗๖. เสเสสุปีติ อุทฺทิฏฺาเปกฺขาย เสเสสุ ปาราชิกุทฺเทสาทีสุปิ. ‘‘อยเมว นโย เยฺโย’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ ‘‘วิตฺถาเรเนว ปฺจโม’’ติ วจนโต วิตฺถารุทฺเทเส ‘‘สาเวตพฺพํ ตุ เสสก’’นฺติ อยํ นโย น ลพฺภติ. ‘‘สาเวตพฺพํ ตุ เสสก’’นฺติ วจนโต ปาราชิกุทฺเทสาทีสุ ยสฺมึ วิปฺปกเต อนฺตราโย อุปฺปชฺชติ, เตน สทฺธึ อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ. นิทานุทฺเทเส ปน ¶ อนุทฺทิฏฺเ สุเตน สาเวตพฺพํ นาม นตฺถิ. ภิกฺขุนิปาติโมกฺเข อนิยตุทฺเทสสฺส ปริหีนตฺตา ‘‘ภิกฺขุนีนฺจ จตฺตาโร’’ติ วุตฺตํ. อุทฺเทสา นวิเม ปนาติ ภิกฺขูนํ ปฺจ, ภิกฺขุนีนํ จตฺตาโรติ อุภโตปาติโมกฺเข อิเม นว อุทฺเทสา วุตฺตาติ อตฺโถ.
๒๕๗๗. อุโปสเถติ สงฺฆุโปสเถ. อนฺตรายนฺติ ราชนฺตรายาทิกํ ทสวิธํ อนฺตรายํ. ยถาห – ‘‘ราชนฺตราโย โจรนฺตราโย อคฺยนฺตราโย อุทกนฺตราโย มนุสฺสนฺตราโย อมนุสฺสนฺตราโย วาฬนฺตราโย สรีสปนฺตราโย ชีวิตนฺตราโย พฺรหฺมจริยนฺตราโย’’ติ (มหาว. ๑๕๐).
ตตฺถ สเจ ภิกฺขูสุ ‘‘อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๐) นิสินฺเนสุ ราชา อาคจฺฉติ, อยํ ราชนฺตราโย. โจรา อาคจฺฉนฺติ ¶ , อยํ โจรนฺตราโย. ทวทาโห อาคจฺฉติ วา, อาวาเส วา อคฺคิ อุฏฺหติ, อยํ อคฺยนฺตราโย. เมโฆ วา อุฏฺเติ, โอโฆ วา อาคจฺฉติ, อยํ อุทกนฺตราโย. พหู มนุสฺสา อาคจฺฉนฺติ, อยํ มนุสฺสนฺตราโย. ภิกฺขุํ ยกฺโข คณฺหาติ, อยํ อมนุสฺสนฺตราโย. พฺยคฺฆาทโย จณฺฑมิคา อาคจฺฉนฺติ, อยํ วาฬนฺตราโย. ภิกฺขุํ สปฺปาทโย ฑํสนฺติ, อยํ สรีสปนฺตราโย. ภิกฺขุ คิลาโน วา โหติ, กาลํ วา กโรติ, เวริโน วา ตํ มาเรตุํ คณฺหนฺติ, อยํ ชีวิตนฺตราโย. มนุสฺสา เอกํ วา พหุํ วา ภิกฺขู พฺรหฺมจริยา จาเวตุกามา คณฺหนฺติ, อยํ พฺรหฺมจริยนฺตราโย.
‘‘เจวา’’ติ อิมินา อนฺตราเยว อนฺตรายสฺินา วิตฺถารุทฺเทเส อกเตปิ อนาปตฺตีติ ทีเปติ. อนุทฺเทโสติ วิตฺถาเรน อนุทฺเทโส. นิวาริโตติ ‘‘น, ภิกฺขเว, อสติ อนฺตราเย สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๕๐) ปฏิสิทฺโธ. อิมินา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สติ อนฺตราเย สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๕๐) อิทมฺปิ วิภาวิตํ โหติ.
๒๕๗๘. ตสฺสาติ ปาติโมกฺขสฺส. อิสฺสรณสฺส เหตุมาห ‘‘‘เถราเธยฺย’นฺติ ปาโต’’ติ. เถราเธยฺยนฺติ เถราธีนํ, เถรายตฺตนฺติ อตฺโถ. ปาโตติ ปาฬิวจนโต. ‘‘โย ตตฺถ ภิกฺขุ พฺยตฺโต ปฏิพโล, ตสฺสาเธยฺยํ ปาติโมกฺข’’นฺติ (มหาว. ๑๕๕) วจนโต อาห ‘‘อวตฺตนฺเตนา’’ติอาทิ. อวตฺตนฺเตนาติ อนฺตมโส ทฺเวปิ อุทฺเทเส อุทฺทิสิตุํ อสกฺโกนฺเตน. เถเรน โย ¶ อชฺฌิฏฺโ, เอวมชฺฌิฏฺสฺส ยสฺส ปน เถรสฺส, นวสฺส, มชฺฌิมสฺส วา โส ปาติโมกฺโข ¶ วตฺตติ ปคุโณ โหติ, โส อิสฺสโรติ สมฺพนฺโธ.
อชฺฌิฏฺโติ ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสา’’ติ อาณตฺโต, อิมินา อนาณตฺตสฺส อุทฺทิสิตุํ สามตฺถิยา สติปิ อนิสฺสรภาโว ทีปิโต โหติ. ยถาห – ‘‘สเจ เถรสฺส ปฺจ วา จตฺตาโร วา ตโย วา ปาติโมกฺขุทฺเทสา นาคจฺฉนฺติ, ทฺเว ปน อขณฺฑา สุวิสทา วาจุคฺคตา โหนฺติ, เถรายตฺโตว ปาติโมกฺโข. สเจ ปน เอตฺตกมฺปิ วิสทํ กาตุํ น สกฺโกติ, พฺยตฺตสฺส ภิกฺขุโน อายตฺโต โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๕).
๒๕๗๙. อุทฺทิสนฺเตติ ปาติโมกฺขุทฺเทสเก ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺเต. สมา วาติ อาวาสิเกหิ คณเนน สมา วา. อปฺปา วาติ อูนา วา. อาคจฺฉนฺติ สเจ ปนาติ สเจ ปน อาคนฺตุกา ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ. เสสกนฺติ อนุทฺทิฏฺฏฺานํ.
๒๕๘๐. อุทฺทิฏฺมตฺเตติ อุทฺทิฏฺกฺขเณเยว กถารมฺภโต ปุพฺพเมว. ‘‘วา’’ติ อิทํ เอตฺถาปิ โยเชตพฺพํ, อิมินา อวุตฺตํ ‘‘อวุฏฺิตาย วา’’ติ อิมํ วิกปฺปํ สมฺปิณฺเฑติ. อวุฏฺิตาย ปริสายาติ จ ภิกฺขุปริสาย อฺมฺํ สุขกถาย นิสินฺนายเยวาติ อตฺโถ. ปริสายาติ เอตฺถ ‘‘เอกจฺจายา’’ติ จ ‘‘สพฺพายา’’ติ จ เสโส. ภิกฺขูนํ เอกจฺจาย ปริสาย วุฏฺิตาย วา สพฺพาย ปริสาย วุฏฺิตาย วาติ โยชนา. เตสนฺติ วุตฺตปฺปการานํ อาวาสิกานํ. มูเลติ สนฺติเก. ปาริสุทฺธิ กาตพฺพาติ โยชนา. ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว…เป… อาคจฺฉนฺติ พหุตรา, เตหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ปุน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ พหู’’ติ. เอตฺถ ‘‘ปุน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ เสโส. สพฺพวิกปฺเปสุ ปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา ¶ ปุน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ อตฺโถ. อยํ ปเนตฺถ เสสวินิจฺฉโย –
‘‘ปนฺนรโสวาสิกานํ, อิตรานํ สเจตโร;
สมาเนตเรนุวตฺตนฺตุ, ปุริมานํ สเจธิกา;
ปุริมา อนุวตฺตนฺตุ, เตสํ เสเสปฺยยํ นโย.
‘‘ปาฏิปโทวาสิกานํ ¶ ,
อิตรานํ อุโปสโถ;
สมโถกานํ สามคฺคึ,
มูลฏฺา เทนฺตุ กามโต.
พหิ คนฺตฺวาน กาตพฺโพ,
โน เจ เทนฺติ อุโปสโถ;
เทยฺยานิจฺฉาย สามคฺคี,
พหูสุ พหิ วา วเช.
‘‘ปาฏิปเทคนฺตุกานํ, เอวเมว อยํ นโย;
สาเวยฺย สุตฺตํ สฺจิจฺจ, อสฺสาเวนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ.
๒๕๘๑. วินิทฺทิฏฺสฺสาติ อาณตฺตสฺส, อิมินา อิตเรสํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ. อิธ ‘‘อคิลานสฺสา’’ติ เสโส. เถเรน อาณาเปนฺเตน ‘‘กิฺจิ กมฺมํ กโรนฺโต วา สทากาลเมว เอโก วา ภารนิตฺถรณโก วา สรภาณกธมฺมกถิกาทีสุ อฺตโร วา น อุโปสถาคารสมฺมชฺชนตฺถํ อาณาเปตพฺโพ, อวเสสา ปน วาเรน อาณาเปตพฺพา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๙) อฏฺกถาย วุตฺตวิธินา อาณาเปตพฺโพ. สเจ อาณตฺโต สมฺมชฺชนึ ตาวกาลิกมฺปิ น ลภติ, สาขาภงฺคํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ.
อาสนปฺาปนาณตฺติยมฺปิ ¶ วุตฺตนเยเนว อาณาเปตพฺโพ. อาณาเปนฺเตน จ สเจ อุโปสถาคาเร อาสนานิ นตฺถิ, สงฺฆิกาวาสโตปิ อาหริตฺวา ปฺเปตฺวา ปุน อาหริตพฺพานิ. อาสเนสุ อสติ กฏสารเกปิ ตฏฺฏิกาโยปิ ปฺเปตุํ วฏฺฏติ, ตฏฺฏิกาสุปิ อสติ สาขาภงฺคานิ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฺเปตพฺพานิ, กปฺปิยการกํ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ.
ปทีปกรเณปิ วุตฺตนเยเนว อาณาเปตพฺโพ. อาณาเปนฺเตน จ ‘‘อสุกสฺมึ นาม โอกาเส เตลํ วา วฏฺฏิ วา กปลฺลิกา วา อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ เตลาทีนิ นตฺถิ ¶ , ภิกฺขาจาเรนปิ ปริเยสิตพฺพานิ. ปริเยสิตฺวา อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ. อปิจ กปาเล อคฺคิปิ ชาเลตพฺโพ.
๒๕๘๒. ทีปนฺติ เอตฺถ ‘‘ชาเลตฺวา’’ติ เสโส. อถ วา ‘‘กตฺวา’’ติ อิมินา จ โยเชตพฺพํ. คณตฺตึ เปตฺวาติ ‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺตา, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อฺมฺํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยามา’’ติ เอวํ คณตฺตึ นิกฺขิปิตฺวา. กตฺตพฺโพ ตีหุโปสโถติ ตีหิ ภิกฺขูหิ อุโปสโถ กาตพฺโพ. ตีสุ เถเรน เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ทฺเว เอวํ ติกฺขตฺตุเมว วตฺตพฺโพ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส, ‘ปริสุทฺโธ’ติ มํ ธาเรถา’’ติ (มหาว. ๑๖๘). ทุติเยน, ตติเยน จ ยถากฺกมํ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, ภนฺเต, ‘ปริสุทฺโธ’ติ มํ ธาเรถา’’ติ ติกฺขตฺตุเมว วตฺตพฺพํ.
๒๕๘๓. ปุพฺพกิจฺจาทีนิ กตฺวา ตฺตึ อฏฺเปตฺวา เถเรน นโว เอวํ ติกฺขตฺตุเมว วตฺตพฺโพ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส ¶ , ‘ปริสุทฺโธ’ติ มํ ธาเรหี’’ติ (มหาว. ๑๖๘), นเวน เถโรปิ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, ภนฺเต, ‘ปริสุทฺโธ’ติ มํ ธาเรถา’’ติ (มหาว. ๑๖๘) ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺโพ. อิมสฺมึ ปน วาเร ตฺติยา อฏฺปนฺจ ‘‘ธาเรหี’’ติ เอกวจนนิทฺเทโส จาติ เอตฺตโกว วิเสโสติ ตํ อนาทิยิตฺวา ปุคฺคเลน กาตพฺพํ อุโปสถวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุพฺพกิจฺจํ สมาเปตฺวา, อธิฏฺเยฺย ปเนกโก’’ติ. อธิฏฺเยฺยาติ ‘‘อชฺช เม อุโปสโถ, ปนฺนรโส’ติ วา ‘จาตุทฺทโส’ติ วา อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺเยฺย. อสฺสาติ อวสาเน วุตฺตปุคฺคลํ สนฺธาย เอกวจนนิทฺเทโส. ยถาวุตฺโต สงฺโฆปิ ตโยปิ ทฺเวปิ อตฺตโน อตฺตโน อนฺุาตํ อุโปสถํ อนฺตรายํ วินา สเจ น กโรนฺติ, เอวเมว อาปตฺติมาปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺโพ.
๒๕๘๔-๕. อิทานิ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อุโปสถกมฺมานิ, อธมฺเมน วคฺคํ อุโปสถกมฺม’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๔๙) นเยน วุตฺตํ กมฺมจตุกฺกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธมฺเมน จ วคฺเคนา’’ติอาทิ. อธมฺเมน วคฺเคน กมฺมํ, อธมฺมโต สมคฺเคน กมฺมํ, ธมฺเมน วคฺเคน กมฺมํ, ธมฺมโต สมคฺเคน กมฺมนฺติ เอตานิ จตฺตาริ อุโปสถสฺส กมฺมานีติ ชิโน อพฺรวีติ โยชนา. จตูสฺวปิ ปเนเตสูติ เอเตสุ จตูสุ กมฺเมสุ ปน. จตุตฺถนฺติ ‘‘สมคฺเคน จ ธมฺมโต’’ติ วุตฺตํ จตุตฺถํ อุโปสถกมฺมํ ‘‘ธมฺมกมฺม’’นฺติ อธิปฺเปตํ.
๒๕๘๖-๗. ตานิ ¶ กมฺมานิ วิภาเวตุมาห ‘‘อธมฺเมนิธา’’ติอาทิ. อิธ อิมสฺมึ สาสเน เอตฺถ เอเตสุ จตูสุ อุโปสเถสุ. อธมฺเมน วคฺโค อุโปสโถ กตโมติ กเถตุกามตาปุจฺฉา. ยตฺถ ยสฺสํ เอกสีมายํ ภิกฺขุโน จตฺตาโร วสนฺตีติ โยชนา.
ตตฺร ¶ เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อานยิตฺวา เต ตโย ชนา ปาริสุทฺธึ อุโปสถํ กโรนฺติ เจ, เอวํ กโต อุโปสโถ อธมฺโม วคฺคุโปสโถ นามาติ โยชนา, เอกสีมฏฺเหิ จตูหิ สงฺฆุโปสเถ กาตพฺเพ คณุโปสถสฺส กตตฺตา อธมฺโม จ สงฺฆมชฺฌํ วินา คณมชฺฌํ ปาริสุทฺธิยา อคมนโต ตสฺส หตฺถปาสํ อนุปคมเนน วคฺโค จ โหตีติ อตฺโถ.
๒๕๘๘. อธมฺเมน สมคฺโคติ เอตฺถ ‘‘อุโปสโถ กตโม’’ติ อนุวตฺเตตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขุโน เอกโต’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘โหติ อธมฺมิโก’’ติ ปทจฺเฉโท. จตูหิ สมคฺเคหิ สงฺฆุโปสเถ กาตพฺเพ คณุโปสถกรณํ อธมฺโม, หตฺถปาสุปคมนโต สมคฺโค โหติ.
๒๕๘๙-๙๐. โย อุโปสโถ ธมฺเมน วคฺโค โหติ, โส กตโมติ โยชนา. ยตฺถ ยสฺสํ เอกสีมายํ จตฺตาโร ภิกฺขุโน วสนฺติ, ตตฺร เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อานยิตฺวา เต ตโย ชนา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺเต เจ, ธมฺเมน วคฺโค อุโปสโถ โหตีติ โยชนา. เอกสีมฏฺเหิ จตูหิ สงฺฆุโปสถสฺส กตตฺตา ธมฺโม, เอกสฺส หตฺถปาสํ อนุปคมเนน วคฺโค จ โหตีติ อตฺโถ.
๒๕๙๑. โย ธมฺมโต สมคฺโค, โส กตโมติ โยชนา. อิธ อิมสฺมึ สาสเน จตฺตาโร ภิกฺขุโน เอกโต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ เจ, อยํ ธมฺมโต สมคฺโค อุโปสโถติ มโต อธิปฺเปโตติ โยชนา. จตูหิ สงฺฆุโปสถสฺส กตตฺตา ธมฺโม, เอกสฺสาปิ หตฺถปาสํ อวิชหเนน สมคฺโคติ อธิปฺปาโย.
๒๕๙๒. วคฺเค สงฺเฆ วคฺโคติ สฺิโน, สมคฺเค จ สงฺเฆ วคฺโคติ สฺิโน อุภยตฺถ วิมติสฺส วา อุโปสถํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ อาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๒๕๙๓. เภทาธิปฺปายโตติ ¶ ‘‘นสฺสนฺเตเต, วินสฺสนฺเตเต, โก เตหิ อตฺโถ’’ติ เอวํ เภทปุเรกฺขารตาย ‘‘อุโปสถํ กโรนฺตสฺสา’’ติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. ตสฺส ภิกฺขุโน ถุลฺลจฺจยํ โหติ ¶ อกุสลพลวตาย จ ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ. ยถาห – ‘‘เภทปุเรกฺขารปนฺนรสเก อกุสลพลวตาย ถุลฺลจฺจยํ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๑๗๖). วคฺเค วา สมคฺเค วา สงฺเฆ สมคฺโค อิติ สฺิโน อุโปสถํ กโรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. อวเสโส ปเนตฺถ วตฺตพฺพวินิจฺฉโย ปวารณวินิจฺฉยาวสาเน ‘‘ปาริสุทฺธิปฺปทาเนนา’’ติอาทีหิ (วิ. วิ. ๒๖๔๒) เอกโต วตฺตุมิจฺฉนฺเตน น วุตฺโต.
๒๕๙๔-๕. ‘‘อุกฺขิตฺเตนา’’ติอาทิกานิ กรณวจนนฺตานิ ปทานิ ‘‘สหา’’ติ อิมินา สทฺธึ ‘‘อุโปสโถ น กาตพฺโพ’’ติ ปเทน ปจฺเจกํ โยเชตพฺพานิ. อุกฺขิตฺเตนาติ อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิตฺตโก, อาปตฺติยา อปฺปฏิกมฺเม อุกฺขิตฺตโก, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺขิตฺตโกติ ติวิเธน อุกฺขิตฺเตน. เอเตสุ หิ ติวิเธ อุกฺขิตฺตเก สติ อุโปสถํ กโรนฺโต สงฺโฆ ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ.
‘‘คหฏฺเนา’’ติ อิมินา ติตฺถิโยปิ สงฺคหิโต. เสเสหิ สหธมฺมิหีติ ภิกฺขุนี, สิกฺขมานา, สามเณโร, สามเณรีติ จตูหิ สหธมฺมิเกหิ. จุตนิกฺขิตฺตสิกฺเขหีติ เอตฺถ จุโต จ นิกฺขิตฺตสิกฺโข จาติ วิคฺคโห. จุโต นาม อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนโก. นิกฺขิตฺตสิกฺโข นาม สิกฺขาปจฺจกฺขาตโก.
เอกาทสหีติ ปณฺฑโก, เถยฺยสํวาสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, ติรจฺฉานคโต, มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, ภิกฺขุนิทูสโก, สงฺฆเภทโก ¶ , โลหิตุปฺปาทโก, อุภโตพฺยฺชนโกติ อิเมหิ เอกาทสหิ อภพฺเพหิ.
สภาคาปตฺติเกน วา สห อุโปสโถ น กาตพฺโพ, ปาริวุตฺเถน ฉนฺเทน อุโปสโถ น กาตพฺโพ, กโรโต ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. เอวํ อุกฺขิตฺตวชฺชิเตสุ สพฺพวิกปฺเปสุ ทุกฺกฏเมว เวทิตพฺพํ. ‘‘ยํ ทฺเวปิ ชนา วิกาลโภชนาทินา สภาควตฺถุนา อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, เอวรูปา วตฺถุสภาคา ‘สภาคา’ติ วุจฺจตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๖๙) วจนโต ‘‘สภาคาปตฺตี’’ติ วตฺถุสภาคาปตฺติเยว คเหตพฺพา.
อุโปสถทิวเส สพฺโพว สงฺโฆ สเจ สภาคาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ,
‘‘อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, อฺตรสฺมึ อาวาเส ตทหุโปสเถ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคํ อาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ, เตหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ เอโก ภิกฺขุ สามนฺตา อาวาสา สชฺชุกํ ปาเหตพฺโพ ‘คจฺฉาวุโส, ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริตฺวา อาคจฺฉ, มยํ เต สนฺติเก ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามา’ติ. เอวฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ – ‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ยทา อฺํ ภิกฺขุํ สุทฺธํ อนาปตฺติกํ ปสฺสิสฺสติ, ตทา ตสฺส สนฺติเก ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสตี’’ติ (มหาว. ๑๗๑) จ,
เวมติโก เจ โหติ,
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ¶ ภวิสฺสติ, ตทา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสตี’’ติ (มหาว. ๑๗๑) จ,
วุตฺตนเยน อุโปสโถ กาตพฺโพ.
เอตฺถ จ สชฺฌุกนฺติ ตทเหวาคมนตฺถาย. คณุโปสถาทีสุปิ เอเสว นโย. วุตฺตฺหิ อฏฺกถาคณฺิปเท ‘‘ยถา สงฺโฆ สภาคํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา สุทฺธํ อลภิตฺวา ‘ยทา สุทฺธํ ปสฺสิสฺสติ, ตทา ตสฺส สนฺติเก ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสตี’ติ วตฺวา อุโปสถํ กาตุํ ลภติ, เอวํ ทฺวีหิปิ อฺมฺํ อาโรเจตฺวา อุโปสถํ กาตุํ วฏฺฏติ. เอเกนาปิ ‘ปริสุทฺธํ ลภิตฺวา ปฏิกริสฺสามี’ติ อาโภคํ กตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ กิรา’’ติ. กิราติ เจตฺถ อนุสฺสวตฺเถ ทฏฺพฺโพ, น ปนารุจิยํ.
ปาริวุตฺเถน ฉนฺเทนาติ ฉนฺทํ อาหริตฺวา กมฺมํ กาตุํ นิสินฺเนนปิ ‘‘อสุภลกฺขณตาทินา เกนจิ การเณน น กริสฺสามี’’ติ วิสฺสฏฺเ ฉนฺเท สเจ ปุน กริสฺสติ, ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา กาตพฺพํ. ยถาห – ‘‘เอตสฺมึ ปาริวาสิเย ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อนาเนตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๖๗).
๒๕๙๖. อเทเสตฺวา ¶ ปนาปตฺตินฺติ อาปนฺนํ อาปตฺตึ อเทเสตฺวา. นาวิกตฺวาน เวมตินฺติ ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสามิ, ตทา ตา อาปตฺติโย ปฏิกริสฺสามี’’ติ วิมตึ อนาโรเจตฺวา. ‘‘ยทา นิพฺเพมติโกติ เอตฺถ สเจ ปเนส นิพฺเพมติโก น โหติ, วตฺถุํ กิตฺเตตฺวาว เทเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๖๙) อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ เทสนาวิธิ – สเจ เมฆจฺฉนฺเน สูริเย ‘‘กาโล นุ โข, วิกาโล’’ติ ¶ เวมติโก ภฺุชติ, เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ, ภนฺเต, เวมติโก ภฺุชึ, สเจ กาโล อตฺถิ, สมฺพหุลา ทุกฺกฏา อาปตฺติโย อาปนฺโนมฺหิ. โน เจ อตฺถิ, สมฺพหุลา ปาจิตฺติยาปตฺติโย อาปนฺโนมฺหี’’ติ เอวํ วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ยา ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ สมฺพหุลา ทุกฺกฏา วา ปาจิตฺติยา วา อาปตฺติโย อาปนฺโน, ตา ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เอเสว นโย สพฺพาปตฺตีสูติ.
คณฺิปเทสุ ปเนวํ วินิจฺฉโย วุตฺโต – ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสามิ, ตทา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามี’ติ วตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ, ปาติโมกฺขํ โสตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๑๗๐) วจนโต ยาว นิพฺเพมติโก น โหติ, ตาว สภาคาปตฺตึ ปฏิคฺคเหตุํ น ลภติ. อฺเสฺจ กมฺมานํ ปริสุทฺโธ นาม โหติ. ‘‘ปุน นิพฺเพมติโก หุตฺวา เทเสตพฺพเมวา’’ติ (กงฺขา. อภิ. ฏี. นิทานวณฺณนา) เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถายํ อตฺถิ, เทสิเต ปน น โทโส. ‘‘อิโต วุฏฺหิตฺวา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามี’’ติ (มหาว. ๑๗๐) เอตฺถาปิ เอเสว นโยติ.
๒๕๙๗. อุโปสเถติ ทินการกกตฺตพฺพาการวเสน ปนฺนรสี, สงฺฆุโปสโถ, สุตฺตุทฺเทโสติ อิเมหิ ตีหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคเต อุโปสเถ. สภิกฺขุมฺหา จ อาวาสาติ ‘‘ยสฺมึ อุโปสเถ กิจฺจ’’นฺติอาทินา วกฺขมานปฺปการา สภิกฺขุกา อาวาสา. อิธ ‘‘อนาวาสา’’ติ เสโส. อาวาโส วา อนาวาโส วาติ เอตฺถ ‘‘อภิกฺขุโก วา นานาสํวาสเกหิ สภิกฺขุโก วา’’ติ จ ¶ น คนฺตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘อฺตฺร สงฺเฆน อฺตฺร อนฺตรายา’’ติ จ เสโส. ‘‘อนาวาโส’’ติ อุโทสิตาทโย วุตฺตา. ภิกฺขุนา อุโปสเถ สภิกฺขุมฺหา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก วา นานาสํวาสเกหิ สภิกฺขุโก วา อาวาโส วา อนาวาโส วา อฺตฺร สงฺเฆน อฺตฺร อนฺตรายา กุทาจนํ กทาจิปิ น คนฺตพฺโพติ โยชนา.
๒๕๙๘. ยสฺมึ ¶ อาวาเส ปน อุโปสเถ กิจฺจํ สเจ วตฺตติ, โส อาวาโส ‘‘สภิกฺขุโก นามา’’ติ ปกาสิโตติ โยชนา, อิมินา สเจ ยตฺถ อุโปสโถ น วตฺตติ, โส สนฺเตสุปิ ภิกฺขูสุ อภิกฺขุโก นามาติ ทีเปติ.
๒๕๙๙. อุโปสถสฺส ปโยชนํ, ตปฺปสงฺเคน ปวารณาย จ นิทฺธาเรตุกามตายาห ‘‘อุโปสโถ กิมตฺถายา’’ติอาทิ.
๒๖๐๐. ปฏิกฺโกเสยฺยาติ นิวาเรยฺย. อเทนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ ‘‘โกเปตุํ ธมฺมิกํ กมฺม’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ.
๒๖๐๑. โส จาติ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) จตุวคฺคาทิปฺปเภเทน ปฺจวิโธ โส สงฺโฆ จ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน กตฺตพฺพกมฺมานํ วเสน ปริทีปิโต, น ฉพฺพคฺคาทีนํ กาตุํ อยุตฺตตาทสฺสนวเสน.
๒๖๐๒. จตุวคฺคาทิเภทนิพนฺธนํ กมฺมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปวารณ’’นฺติอาทิ. ปวารณฺจ ตถา อพฺภานฺจ อุปสมฺปทฺจ เปตฺวา จตุวคฺเคน อกตฺตพฺพํ กมฺมํ น วิชฺชตีติ โยชนา.
๒๖๐๓. มชฺฌเทเส ¶ อุปสมฺปทา มชฺฌเทสูปสมฺปทา, ตํ. อพฺภานํ, มชฺฌเทสูปสมฺปทฺจ วินา ปฺจวคฺเคน สพฺพํ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
๒๖๐๔. กิฺจิปิ กมฺมํ น น กตฺตพฺพนฺติ โยชนา, สพฺพมฺปิ กมฺมํ กตฺตพฺพเมวาติ อตฺโถ. ทฺเว ปฏิเสธา ปกตตฺถํ คมยนฺตีติ. วีสติวคฺเคน สงฺเฆน สพฺเพสมฺปิ กมฺมานํ กตฺตพฺพภาเว กิมตฺถํ อติเรกวีสติวคฺคสฺส คหณนฺติ อาห ‘‘อูเน โทโสติ าเปตุํ, นาธิเก อติเรกตา’’ติ. ยถาวุตฺเต จตุพฺพิเธ สงฺเฆ คณนโต อูเน โทโส โหติ, อธิเก โทโส น โหตีติ าเปตุํ อติเรกตา ทสฺสิตา, อติเรกวีสติวคฺคสงฺโฆ ทสฺสิโตติ อธิปฺปาโย.
๒๖๐๕. จตุวคฺเคน กตฺตพฺเพ ปกตตฺตาว จตฺตาโร กมฺมปฺปตฺตาติ ทีปิตาติ โยชนา. เสสา ¶ ปกตตฺตา ฉนฺทารหาติ เสโส. ปกตตฺตาติ อนุกฺขิตฺตา เจว อนฺติมวตฺถุํ อนชฺฌาปนฺนา จ คเหตพฺพา. เสเสสุ จาติ ปฺจวคฺคาทีสุปิ.
๒๖๐๖. จตุวคฺคาทิกตฺตพฺพกมฺมํ อสํวาสปุคฺคลํ คณปูรํ กตฺวา กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหติ. น เกวลํ ทุกฺกฏเมว, กตฺจ กมฺมํ กุปฺปตีติ โยชนา.
๒๖๐๗. ปริวาสาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มูลายปฏิกสฺสนาทีนํ คหณํ. ตตฺรฏฺนฺติ ปริวาสาทีสุ ิตํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘กตํ กุปฺปติ ทุกฺกฏ’’นฺติ อิทํ อนุวตฺเตติ. เสสํ ตูติ ปริวาสาทิกมฺมโต อฺํ ปน อุโปสถาทิกมฺมํ ¶ . วฏฺฏตีติ เต ปาริวาสิกาทโย คณปูรเก กตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ.
อุโปสถกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๖๐๘. วสฺสูปนายิกา วุตฺตาติ เสโส. ปจฺฉิมา จาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท นิทสฺสเน. วสฺสูปนายิกาติ วสฺสูปคมนา. อาลโย, วจีเภโท วา กาตพฺโพ อุปคจฺฉตาติ อิมินา วสฺสูปคมนปฺปกาโร ทสฺสิโต. อุปคจฺฉตา อาลโย กตฺตพฺโพ, วจีเภโท วา กตฺตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. อุปคจฺฉนฺเตน จ เสนาสเน อสติ ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺตํ วา กาตพฺพํ, เสนาสเน สติ ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ จ ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ จ วจีเภโท วา กาตพฺโพติ อตฺโถ.
๒๖๐๙. ชานํ วสฺสูปคมนํ อนุปคจฺฉโต วาปีติ โยชนา. เตมาสนฺติ เอตฺถ ‘‘ปุริมํ วา ปจฺฉิมํ วา’’ติ เสโส. จรนฺตสฺสาปีติ เอตฺถ ‘‘จาริก’’นฺติ เสโส. ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวาว จาริกํ จรนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เตมาสนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวา จาริกา ปกฺกมิตพฺพา, โย ปกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๘๕).
๒๖๑๐. รุกฺขสฺส ¶ สุสิเรติ เอตฺถ ‘‘สุทฺเธ’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘รุกฺขสุสิเรติ เอตฺถ สุทฺเธ รุกฺขสุสิเรเยว น วฏฺฏติ, มหนฺตสฺส ปน รุกฺขสุสิรสฺส อนฺโต ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ ¶ กตฺวา ปวิสนทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘รุกฺขสฺส สุสิเร’’ติ อิมินา รุกฺเขกเทโส วิฏโปปิ สงฺคหิโต, โสปิ สุทฺโธว น วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘รุกฺขวิฏภิยาติ เอตฺถาปิ สุทฺเธ วิฏปมตฺเต น วฏฺฏติ, มหาวิฏเป ปน อฏฺฏกํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๓).
‘‘ฉตฺเตติ เอตฺถาปิ จตูสุ ถมฺเภสุ ฉตฺตํ เปตฺวา อาวรณํ กตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ, ฉตฺตกุฏิกา นาเมสา โหติ. จาฏิยาติ เอตฺถาปิ มหนฺเตน กปลฺเลน ฉตฺเต วุตฺตนเยน กุฏึ กตฺวาว อุปคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถาวจนโต เอวมกตาสุ สุทฺธฉตฺตจาฏีสุ นิวารณํ เวทิตพฺพํ. ฉวกุฏีติ ฏงฺกิตมฺจาทโย วุตฺตา. ยถาห – ‘‘ฉวกุฏิกา นาม ฏงฺกิตมฺจาทิเภทา กุฏิ, ตตฺถ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๓).
สุสาเน ปน อฺํ กุฏิกํ กตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ฉวสรีรํ ฌาเปตฺวา ฉาริกาย, อฏฺิกานฺจ อตฺถาย กุฏิกา กรียตี’’ติ อนฺธกฏฺกถายํ ฉวกุฏิ วุตฺตา. ‘‘ฏงฺกิตมฺโจติ กสิกุฏิกาปาสาณฆรนฺติ ลิขิต’’นฺติ (วชิร. ฏี. มหาวคฺค ๒๐๓) วชิรพุทฺธิตฺเถโร. จตุนฺนํ ปาสาณานํ อุปริ ปาสาณํ อตฺถริตฺวา กโต เคโหปิ ‘‘ฏงฺกิตมฺโจ’’ติ วุจฺจติ. ทีเฆ มฺจปาเท มชฺเฌ วิชฺฌิตฺวา อฏนิโย ปเวเสตฺวา มฺจํ กโรนฺตีติ ตสฺส อิทํ อุปริ, อิทํ เหฏฺาติ นตฺถิ, ปริวตฺเตตฺวา อตฺถโตปิ ตาทิโสว โหติ, ตํ สุสาเน, เทวฏฺาเน จ เปนฺติ, อยมฺปิ ฏงฺกิตมฺโจ นาม.
๒๖๑๑. ‘‘สติ ปจฺจยเวกลฺเล, สรีราผาสุตาย วา’’ติ อวเสสนฺตรายานํ วกฺขมานตฺตา ‘‘อนฺตราโย’’ติ อิมินา ราชนฺตรายาทิ ทสวิโธ คเหตพฺโพ.
๒๖๑๒-๔. ‘‘อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, สตฺตนฺนํ สตฺตาหกรณีเยน อปฺปหิเตปิ คนฺตุํ, ปเคว ปหิเต ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยา มาตุยา จ ปิตุสฺส จา’’ติ (มหาว. ๑๙๘) วุตฺตนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มาตาปิตูน’’นฺติอาทิ.
มาตาปิตูนํ ¶ ทสฺสนตฺถํ, ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ ทสฺสนตฺถํ วา เนสํ อตฺเถ สติ วา เนสํ อนฺตเร คิลานํ ทฏฺุํ วา ตทุปฏฺากานํ ภตฺตาทึ ปริเยสนตฺถํ วา เนสํ ภตฺตาทึ ปริเยสนตฺถํ วา ตถา เนสํ ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ อฺตรํ อนภิรตํ อุกฺกณฺิตํ อหํ คนฺตฺวา วูปกาเสสฺสํ วา วูปกาสาเปสฺสามิ วา ธมฺมกถมสฺส กริสฺสามีติ วา ตสฺส ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ อฺตรสฺส อุฏฺิตํ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺึ วิเวเจสฺสามิ วา วิเวจาเปสฺสามิ วา ธมฺมกถมสฺส กริสฺสามีติ วา ตถา อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ วิโนเทสฺสามีติ วา วิโนทาเปสฺสามีติ วา ธมฺมกถมสฺส กริสฺสามีติ วา เอวํ วินยฺุนา ภิกฺขุนา สตฺตาหกิจฺเจน อเปสิเตปิ คนฺตพฺพํ, ปเคว ปหิเตติ โยชนา.
ภตฺตาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน เภสชฺชปริเยสนาทึ สงฺคณฺหาติ. ยถาห – ‘‘คิลานภตฺตํ วา ปริเยสิสฺสามิ, คิลานุปฏฺากภตฺตํ วา ปริเยสิสฺสามิ, คิลานเภสชฺชํ วา ปริเยสิสฺสามิ, ปุจฺฉิสฺสามิ วา อุปฏฺหิสฺสามิ วา’’ติ. วูปกาเสสฺสนฺติ ยตฺถ อนภิรติ อุปฺปนฺนา, ตโต อฺตฺถ คเหตฺวา คมิสฺสามีติ อตฺโถ.
วิโนเทสฺสามหนฺติ วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห, โส เจ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ ปหิเณยฺย ‘อหฺหิ ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน ปริวาสารโห, อาคจฺฉนฺตุ ภิกฺขู, อิจฺฉามิ ¶ ภิกฺขูนํ อาคต’นฺติ. คนฺตพฺพํ, ภิกฺขเว, สตฺตาหกรณีเยน อปฺปหิเตปิ, ปเคว ปหิเต ‘ปริวาสทานํ อุสฺสุกฺกํ กริสฺสามิ วา อนุสฺสาเวสฺสามิ วา คณปูรโก วา ภวิสฺสามี’’ติอาทินยํ (มหาว. ๑๙๓) สงฺคณฺหาติ. เอวํ สตฺตาหกิจฺเจน คจฺฉนฺเตน อนฺโตอุปจารสีมาย ิเตเนว ‘‘อนฺโตสตฺตาเห อาคจฺฉิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ อาโภคํ อกตฺวา อุปจารสีมํ อติกฺกมติ, ฉินฺนวสฺโส โหตีติ วทนฺติ.
๒๖๑๕. ‘‘อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตกรตฺติจฺเฉทวินิจฺฉโย’’ติ อฏฺกถาคตํ รตฺติจฺเฉทวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วสฺสํ อุปคเตเนตฺถา’’ติอาทิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สตฺตาหกิจฺจาธิกาเร. อยํ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ.
๒๖๑๖. ‘‘อสุกํ นาม ทิวส’’นฺติอาทินา นิมนฺตนาการํ วกฺขติ. ปุพฺพนฺติ ปมํ. วฏฺฏตีติ ¶ สตฺตาหกิจฺเจน คนฺตุํ วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘สเจ เอกสฺมึ มหาวาเส ปมํเยว กติกา กตา โหติ ‘อสุกทิวสํ นาม สนฺนิปติตพฺพ’นฺติ, นิมนฺติโตเยว นาม โหติ, คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๙๙). ‘‘อุปาสเกหิ ‘อิมสฺมึ นาม ทิวเส ทานาทีนิ กโรม, สพฺเพ เอว สนฺนิปตนฺตู’ติ กติกายปิ กตาย คนฺตุํ วฏฺฏติ, นิมนฺติโตเยว นาม โหตี’’ติ เกจิ.
๒๖๑๗. ภณฺฑกนฺติ อตฺตโน จีวรภณฺฑํ. น วฏฺฏตีติ สตฺตาหกิจฺเจน คนฺตุํ น วฏฺฏติ. ปหิณนฺตีติ จีวรโธวนาทิกมฺเมน ปหิณนฺติ. อาจริยุปชฺฌายานํ อาณตฺติเยน เกนจิ อนวชฺชกิจฺเจน สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุํ วฏฺฏตีติ อิมินาว ทีปิตํ โหติ.
๒๖๑๘. อุทฺเทสาทีนมตฺถายาติ ¶ ปาฬิวาจนานิ สนฺธาย. อาทิ-สทฺเทน ปริปุจฺฉาทึ สงฺคณฺหาติ. ครูนนฺติ อคิลานานมฺปิ อาจริยุปชฺฌายานํ. คนฺตุํ ลภตีติ สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุํ ลภติ. ปุคฺคโลติ ปกรณโต ภิกฺขุํเยว คณฺหาติ.
๒๖๑๙. อาจริโยติ นิทสฺสนมตฺตํ, อุปชฺฌาเยน นิวาริเตปิ เอเสว นโย. ‘‘สเจ ปน นํ อาจริโย ‘อชฺช มา คจฺฉา’ติ วทติ, วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๙๙) อฏฺกถานยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘รตฺติจฺเฉเท อนาปตฺติ, โหตีติ ปริทีปิตา’’ติ. รตฺติจฺเฉเทติ วสฺสจฺเฉทนิมิตฺตํ. ‘‘รตฺติจฺเฉเท’’ติ สพฺพตฺถ วสฺสจฺเฉโทติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา วทนฺติ, เอวํ สตฺตาหกรณีเยน คตํ นํ อนฺโตสตฺตาเหเยว ปุน อาคจฺฉนฺตํ สเจ อาจริโย วา อุปชฺฌาโย วา ‘‘อชฺช มา คจฺฉา’’ติ วทติ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย, วสฺสจฺเฉโท ปน โหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ สตฺตาหสฺส พหิทฺธา วีตินามิตตฺตา.
๒๖๒๐. ยสฺส กสฺสจิ าติสฺสาติ มาตาปิตูหิ อฺสฺส าติชนสฺส. ‘‘คจฺฉโต ทสฺสนตฺถายา’’ติ อิมินา เสสาติเกหิ ‘‘มยํ คิลานา ภทนฺตานํ อาคมนํ อิจฺฉามา’’ติ จ ‘‘อุปฏฺากกุเลหิ ทานํ ทสฺสาม, ธมฺมํ โสสฺสาม, ภิกฺขูนํ ทสฺสนํ อิจฺฉามา’’ติ จ เอวํ กตฺตพฺพํ นิทฺทิสิตฺวา ทูเต วา เปสิเต สตฺตาหกรณีเยน คจฺฉโต รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏฺจ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสฺส าตโก คิลาโน โหติ…เป… คนฺตพฺพํ, ภิกฺขเว, สตฺตาหกรณีเยน ปหิเต, น ตฺเวว อปฺปหิเต’’ติ (มหาว. ๑๙๙) จ ¶ ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, อุปาสเกน สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหาโร การาปิโต โหติ…เป… อิจฺฉามิ ทานฺจ ¶ ทาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ ภิกฺขู จ ปสฺสิตุนฺติ. คนฺตพฺพํ, ภิกฺขเว, สตฺตาหกรณีเยน ปหิเต, น ตฺเวว อปฺปหิเต’’ติ (มหาว. ๑๘๘) จ.
๒๖๒๑. ‘‘อหํ คามกํ คนฺตฺวา อชฺเชว อาคมิสฺสามี’’ติ อาคจฺฉํ อาคจฺฉนฺโต สเจ ปาปุณิตุํ น สกฺโกเตว, วฏฺฏตีติ โยชนา. วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘อชฺเชว อาคมิสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺส อนฺตรามคฺเค สเจ อรุณุคฺคมนํ โหติ, วสฺสจฺเฉโทปิ น โหติ, รตฺติจฺเฉททุกฺกฏฺจ นตฺถีติ อธิปฺปาโย.
๒๖๒๒. วเชติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๓) โคปาลกานํ นิวาสนฏฺาเน. สตฺเถติ ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺถานํ สนฺนิวิฏฺโกาเส. ตีสุ าเนสุ ภิกฺขุโน, วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺตีติ เตหิ สทฺธึ คจฺฉนฺตสฺเสว นตฺถิ อาปตฺติ, เตหิ วิยฺุชิตฺวา คมเน ปน อาปตฺติเยว, ปวาเรตฺุจ น ลภติ.
วชาทีสุ วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตน วสฺสูปนายิกทิวเส เตน ภิกฺขุนา อุปาสกา วตฺตพฺพา ‘‘กุฏิกา ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ กริตฺวา เทนฺติ, ตตฺถ ปวิสิตฺวา ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, สาลาสงฺเขเปน ิตสกฏสฺส เหฏฺา อุปคนฺตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺเตน อาลโย กาตพฺโพ. สตฺเถ ปน กุฏิกาทีนํ อภาเว ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ วจีเภทํ กตฺวา อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ, อาลยกรณมตฺตเมว วฏฺฏติ. อาลโย นาม ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺตํ.
สเจ มคฺคปฺปฏิปนฺเนเยว สตฺเถ ปวารณทิวโส โหติ, ตตฺเถว ปวาเรตพฺพํ. อถ สตฺโถ อนฺโตวสฺเสเยว ภิกฺขุนา ปตฺถิตฏฺานํ ปตฺวา อติกฺกมติ. ปตฺถิตฏฺาเน ¶ วสิตฺวา ตตฺถ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. อถาปิ สตฺโถ อนฺโตวสฺเสเยว อนฺตรา เอกสฺมึ คาเม ติฏฺติ วา วิปฺปกิรติ วา, ตสฺมึเยว คาเม ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสิตฺวา ปวาเรตพฺพํ, อปฺปวาเรตฺวา ตโต ปรํ คนฺตุํ น วฏฺฏติ.
นาวาย วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตนาปิ กุฏิยํเยว อุปคนฺตพฺพํ. ปริเยสิตฺวา อลภนฺเต อาลโย กาตพฺโพ ¶ . สเจ อนฺโตเตมาสํ นาวา สมุทฺเทเยว โหติ, ตตฺเถว ปวาเรตพฺพํ. อถ นาวา กูลํ ลภติ, สยฺจ ปรโต คนฺตุกาโม โหติ, คนฺตุํ น วฏฺฏติ. นาวาย ลทฺธคาเมเยว วสิตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. สเจปิ นาวา อนุตีรเมว อฺตฺถ คจฺฉติ, ภิกฺขุ จ ปมํ ลทฺธคาเมเยว วสิตุกาโม, นาวา คจฺฉตุ, ภิกฺขุนา ตตฺเถว วสิตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ.
อิติ วเช, สตฺเถ, นาวายนฺติ ตีสุ าเนสุ นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺติ, ปวาเรตฺุจ ลภติ.
๒๖๒๓. สติ ปจฺจยเวกลฺเลติ ปิณฺฑปาตาทีนํ ปจฺจยานํ อูนตฺเต สติ. สรีราผาสุตาย วาติ สรีรสฺส อผาสุตาย อาพาเธ วา สติ. วสฺสํ เฉตฺวาปิ ปกฺกเมติ วสฺสจฺเฉทํ กตฺวาปิ ยถาผาสุกฏฺานํ คจฺเฉยฺย. อปิ-สทฺเทน วสฺสํ อเฉตฺวา วสฺสจฺเฉทการเณ สติ สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุมฺปิ วฏฺฏตีติ ทีเปติ.
๒๖๒๔. เยน เกนนฺตราเยนาติ ราชนฺตรายาทีสุ เยน เกนจิ อนฺตราเยน. โย ภิกฺขุ วสฺสํ โนปคโต, เตนาปิ ฉินฺนวสฺเสน วาปิ ทุติยา วสฺสูปนายิกา อุปคนฺตพฺพาติ โยชนา.
๒๖๒๕-๖. สตฺตาหนฺติ ¶ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ‘‘วีตินาเมตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อุปคนฺตฺวาปิ วา พหิทฺธา เอว สตฺตาหํ วีตินาเมติ เจ. โย คจฺฉติ, โย จ วีตินาเมติ, ตสฺส ภิกฺขุสฺส. ปุริมาปิ น วิชฺชตีติ อนุปคตตฺตา, ฉินฺนวสฺสตฺตา จ ปุริมาปิ วสฺสูปนายิกา น วิชฺชติ น ลภติ. อิเมสํ ทฺวินฺนํ ยถากฺกมํ อุปจาราติกฺกเม, สตฺตาหาติกฺกเม จ อาปตฺติ เวทิตพฺพา.
ปฏิสฺสเว จ ภิกฺขุสฺส, โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ ‘‘อิธ วสฺสํ วสถา’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ตสฺส วิสํวาเท อสจฺจาปเน อาปตฺติ โหติ. กตมาติ อาห ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ. น เกวลํ เอตสฺเสว วิสํวาเท อาปตฺติ โหติ, อถ โข อิตเรสมฺปิ ปฏิสฺสวานํ วิสํวาเท อาปตฺติ เวทิตพฺพา. ยถาห – ‘‘ปฏิสฺสเว จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ น เกวลํ ‘อิมํ เตมาสํ อิธ วสฺสํ วสถา’ติ เอตสฺเสว ปฏิสฺสวสฺส วิสํวาเท อาปตฺติ, ‘อิมํ ¶ เตมาสํ ภิกฺขํ คณฺหถ, อุโภปิ มยํ อิธ วสฺสํ วสิสฺสาม, เอกโตว อุทฺทิสาเปสฺสามา’ติ เอวมาทินาปิ ตสฺส ตสฺส ปฏิสฺสวสฺส วิสํวาเท ทุกฺกฏ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๗). ตฺจ โข ปฏิสฺสวกาเล สุทฺธจิตฺตสฺส ปจฺฉา วิสํวาทนปจฺจยา โหติ. ปมํ อสุทฺธจิตฺตสฺส ปน ปฏิสฺสเว ปาจิตฺติยํ, วิสํวาเทน ทุกฺกฏนฺติ ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ ยุชฺชติ.
๒๖๒๗. ‘‘วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปน อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวา ตทเหว สตฺตาหกรณีเยน ปกฺกมนฺตสฺสาปิ อนฺโตสตฺตาเห นิวตฺตนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๗) อฏฺกถาวจนโต, ‘‘โก วาโท วสิตฺวา พหิ คจฺฉโต’’ติ วกฺขมานตฺตา ¶ จ ‘‘นุฏฺาเปตฺวา ปนารุณ’’นฺติ ปาโ คเหตพฺโพ. กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ‘‘อุฏฺาเปตฺวา ปนารุณ’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, โส น คเหตพฺโพ.
๒๖๒๘. วสิตฺวาติ ทฺวีหตีหํ วสิตฺวา. ยถา วสฺสํ วสิตฺวา อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวาว สตฺตาหกรณีเยน คจฺฉโต อนาปตฺติ, ตถา คตฏฺานโต อนฺโตสตฺตาเห อาคนฺตฺวา ปุนปิ อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวาว สตฺตาหกรณีเยน คจฺฉโต อนาปตฺติ. ‘‘สตฺตาหวาเรน อรุโณ อุฏฺาเปตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๑) อฏฺกถาวจนํ สตฺตมารุเณน ปฏิพทฺธทิวสํ สตฺตเมน อรุเณเนว สงฺคเหตฺวา สตฺตมอรุณพฺภนฺตเร อนาคนฺตฺวา อฏฺมํ อรุณํ พหิ อุฏฺาเปนฺตสฺส รตฺติจฺเฉททสฺสนปรํ, น สตฺตมอรุณสฺเสว ตตฺถ อุฏฺาเปตพฺพภาวทสฺสนปรนฺติ คเหตพฺพํ สิกฺขาภาชนอฏฺกถาย, สีหฬคณฺิปเทสุ จ ตถา วินิจฺฉิตตฺตา.
๒๖๒๙. ‘‘โนเปติ อสติยา’’ติ ปทจฺเฉโท, โนเปตีติ ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ วจีเภเทน น อุปคจฺฉติ.
๒๖๓๐. วุตฺตเมวตฺถํ สมตฺเถตุมาห ‘‘น โทโส โกจิ วิชฺชตี’’ติ.
๒๖๓๑. ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วจเน นิจฺฉาริเต เอว วสฺสํ อุปคโต สิยาติ โยชนา. ‘‘นิจฺฉาริเตว ติกฺขตฺตุ’’นฺติ อิทํ อุกฺกํสวเสน วุตฺตํ, สกึ, ทฺวิกฺขตฺตุํ วา นิจฺฉาริเตปิ วสฺสูปคโต นาม โหตีติ. ยถาห – ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ ¶ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมีติ สกึ วา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ วา วาจํ นิจฺฉาเรตฺวาว วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๑๘๔).
๒๖๓๒. นวมิโต ¶ ปฏฺาย คนฺตุํ วฏฺฏติ, อาคจฺฉตุ วา มา วา, อนาปตฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๗) อฏฺกถานยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาทึ ตุ นวมึ กตฺวา’’ติอาทิ. นวมึ ปภุติ อาทึ กตฺวา, นวมิโต ปฏฺายาติ วุตฺตํ โหติ. คนฺตุํ วฏฺฏตีติ สตฺตาหกรณีเยเนว คนฺตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ปวารณทิวเสปิ ตทเหว อาคนฺตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺานํ ปวารณตฺถาย คจฺฉนฺเตน ลพฺภมาเนน สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ปวาเรตฺวา ปน คนฺตุํ วฏฺฏติ ปวารณาย ตํทิวสสนฺนิสฺสิตตฺตา’’ติ (วชิร. ฏี. มหาวคฺค ๒๐๗) หิ วชิรพุทฺธิตฺเถโร. โส ปจฺฉา อาคจฺฉตุ วา มา วา, โทโส น วิชฺชตีติ โยชนา.
วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
ปวารณกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๖๓๓. ‘‘ปวารณา’’ติ อิทํ ‘‘จาตุทฺทสี’’ติอาทีหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ตสฺมึ ตสฺมึ ทิเน กาตพฺพา ปวารณา อเภโทปจาเรน ตถา วุตฺตา. สามคฺคี อุโปสถกฺขนฺธกกถาวณฺณนาย วุตฺตสรูปาว. สามคฺคิปวารณํ กโรนฺเตหิ จ ปมํ ปวารณํ เปตฺวา ปาฏิปทโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกจาตุมาสิปุณฺณมา เอตฺถนฺตเร กาตพฺพา, ตโต ปจฺฉา วา ปุเร วา น วฏฺฏติ. เตวาจี ทฺเวกวาจีติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต…เป… เตวาจิกํ ปวาเรยฺย, ทฺเววาจิกํ ปวาเรยฺย, เอกวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ ตํ ตํ ตฺตึ เปตฺวา กาตพฺพา ปวารณา วุจฺจติ.
๒๖๓๔. ตีณิ กมฺมานิ มฺุจิตฺวา, อนฺเตเนว ปวารเยติ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ปวารณกมฺมานิ, อธมฺเมน วคฺคํ ปวารณกมฺมํ…เป… ธมฺเมน สมคฺคํ ปวารณกมฺม’’นฺติ (มหาว. ๒๑๒) วตฺวา ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว ¶ , ยทิทํ อธมฺเมน วคฺคํ ปวารณกมฺมํ, น, ภิกฺขเว, เอวรูปํ ปวารณกมฺมํ กาตพฺพํ…เป… ตตฺร, ภิกฺขเว, ยทิทํ ธมฺเมน สมคฺคํ ปวารณกมฺมํ, เอวรูปํ, ภิกฺขเว, ปวารณกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติอาทิวจนโต (มหาว. ๒๑๒) ตีณิ ¶ อกตฺตพฺพานิ ปวารณกมฺมานิ มฺุจิตฺวา กาตุํ อนฺุาเตน จตุตฺเถน ปวารณกมฺเมน ปวาเรยฺยาติ อตฺโถ. ตสฺส วิภาเคกเทสํ ‘‘ปฺจ ยสฺมึ ปนาวาเส’’ติอาทินา วกฺขติ.
๒๖๓๕. ปุพฺพกิจฺจํ สมาเปตฺวาติ –
‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป จ, อุทกํ อาสเนน จ;
ปวารณาย เอตานิ, ‘ปุพฺพกรณ’นฺติ วุจฺจติ.
‘‘ฉนฺทปาริสุทฺธิอุตุกฺขานํ, ภิกฺขุคณนา จ โอวาโท;
ปวารณาย เอตานิ, ‘ปุพฺพกิจฺจ’นฺติ วุจฺจตี’’ติ. –
วุตฺตํ นววิธํ ปุพฺพกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา.
ปตฺตกลฺเล สมานิเตติ –
‘‘ปวารณา ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา,
สภาคาปตฺติโย จ น วิชฺชนฺติ;
วชฺชนียา จ ปุคฺคลา ตสฺมึ น โหนฺติ,
‘ปตฺตกลฺล’นฺติ วุจฺจตี’’ติ. –
วุตฺเต จตุพฺพิเธ ปตฺตกลฺเล สโมธานิเต ปริสมาปิเต.
ตฺตึ เปตฺวาติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ (มหาว. ๒๑๐) เอวํ สพฺพสงฺคาหิกวเสน จ ‘‘เตวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ จ ทานาทิกรเณน เยภุยฺเยน รตฺติยา เขปิตาย จ ราชาทิอนฺตราเย สติ จ ตทนุรูปโต ‘‘ทฺเววาจิกํ, เอกวาจิกํ, สมานวสฺสิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ จ ตฺตึ เปตฺวา ¶ , ตาสํ วิเสโส อฏฺกถายํ ทสฺสิโตเยว. ยถาห –
‘‘เอวฺหิ ¶ วุตฺเต เตวาจิกฺจ ทฺเววาจิกฺจ เอกวาจิกฺจ ปวาเรตุํ วฏฺฏติ, สมานวสฺสิกํ น วฏฺฏติ. ‘เตวาจิกํ ปวาเรยฺยา’ติ วุตฺเต ปน เตวาจิกเมว วฏฺฏติ, อฺํ น วฏฺฏติ, ‘ทฺเววาจิกํ ปวาเรยฺยา’ติ วุตฺเต ทฺเววาจิกฺจ เตวาจิกฺจ วฏฺฏติ, เอกวาจิกฺจ สมานวสฺสิกฺจ น วฏฺฏติ. ‘เอกวาจิกํ ปวาเรยฺยา’ติ วุตฺเต ปน เอกวาจิกทฺเววาจิกเตวาจิกานิ วฏฺฏนฺติ, สมานวสฺสิกเมว น วฏฺฏติ. ‘สมานวสฺสิก’นฺติ วุตฺเต สพฺพํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๑๐).
กาตพฺพาติ เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย ‘‘สงฺฆํ, อาวุโส, ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา…เป… ตติยมฺปิ อาวุโส, สงฺฆํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา…เป… ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ (มหาว. ๒๑๐) วุตฺตนเยน กาตพฺพา. นวเกน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา…เป… ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา…เป… ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามีติ (มหาว. ๒๑๐) วุตฺตนเยน กาตพฺพา.
๒๖๓๖. เถเรสุ ปวาเรนฺเตสุ โย ปน นโว, โส สยํ ยาว ปวาเรติ, ตาว อุกฺกุฏิกํ นิสีเทยฺยาติ โยชนา.
๒๖๓๗. จตฺตาโร วา ตโยปิ วา เอกาวาเส เอกสีมายํ วสนฺติ เจ, ตฺตึ วตฺวา ‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺโต, อชฺช ปวารณา, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อฺมฺํ ปวาเรยฺยามา’’ติ (มหาว. ๒๑๖) คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรยฺยุนฺติ โยชนา.
ปวาเรยฺยุนฺติ ¶ เอตฺถ เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เต ตโย วา ทฺเว วา ภิกฺขู เอวมสฺสุ วจนียา ‘‘อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ (มหาว. ๒๑๖) ปวาเรตพฺพํ. นเวนปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย ¶ , ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ ปวาเรตพฺพํ.
๒๖๓๘. อฺมฺํ ปวาเรยฺยุํ, วินา ตฺตึ ทุเว ชนา. เตสุ เถเรน ‘‘อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ…เป… ปฏิกริสฺสามี’’ติ (มหาว. ๒๑๗) ปวาเรตพฺพํ. นเวนปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ…เป… วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ…เป… ปฏิกริสฺสามี’’ติ ปวาเรตพฺพํ.
อธิฏฺเยฺยาติ ปุพฺพกิจฺจํ สมาเปตฺวา ‘‘อชฺช เม ปวารณา จาตุทฺทสี’’ติ วา ‘‘ปนฺนรสี’’ติ วา วตฺวา ‘‘อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺเยฺย ¶ . ยถาห ‘‘อชฺช เม ปวารณาติ เอตฺถ สเจ จาตุทฺทสิกา โหติ, ‘อชฺช เม ปวารณา จาตุทฺทสี’ติ, สเจ ปนฺนรสิกา, ‘อชฺช เม ปวารณา ปนฺนรสี’ติ เอวํ อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๑๘), อิมินา สพฺพสงฺคาหาทิตฺตีสุ จ ตสฺมึ ตสฺมึ ทิวเส โส โส โวหาโร กาตพฺโพติ ทีปิตเมว.
เสสา สงฺฆปวารณาติ ปฺจหิ, อติเรเกหิ วา ภิกฺขูหิ กตฺตพฺพา ปวารณา สงฺฆปวารณา.
๒๖๓๙. ปวาริเตติ ปมปวารณาย ปวาริเต. อนาคโตติ เกนจิ อนฺตราเยน ปุริมิกาย จ ปจฺฉิมิกาย จ วสฺสูปนายิกาย วสฺสํ อนุปคโต. อวุตฺโถติ ปจฺฉิมิกาย อุปคโต. วุตฺตฺหิ ขุทฺทสิกฺขาวณฺณนาย ‘‘อวุตฺโถติ ปจฺฉิมิกาย อุปคโต อปรินิฏฺิตตฺตา ‘อวุตฺโถ’ติ วุจฺจตี’’ติ. ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยาติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘เตสํ สนฺติเก’’ติ เสโส.
๒๖๔๐-๑. ยสฺมึ ¶ ปนาวาเส ปฺจ วา จตฺตาโร วา ตโย วา สมณา วสนฺติ, เต ตตฺถ เอเกกสฺส ปวารณํ หริตฺวาน สเจ อฺมฺํ ปวาเรนฺติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
เสสนฺติ ‘‘อธมฺเมน สมคฺค’’นฺติอาทิกํ วินิจฺฉยํ. อิธาติ อิมสฺมึ ปวารณาธิกาเร. พุโธติ วินยธโร. อุโปสเถ วุตฺตนเยนาติ อุโปสถวินิจฺฉเย วุตฺตกฺกเมน. นเยติ ชาเนยฺย.
๒๖๔๒. สมฺปาเทตตฺตโน สุจินฺติ อตฺตโน อุโปสถํ สมฺปาเทติ. สพฺพํ สาเธตีติ อุโปสถาทิสพฺพํ กมฺมํ นิปฺผาเทติ. นตฺตโนติ อตฺตโน อุโปสถํ น นิปฺผาเทติ.
๒๖๔๓. ตสฺมาติ ¶ ยสฺมา อตฺตโน สุจึ น สาเธติ, ตสฺมา. อุภินฺนนฺติ อตฺตโน จ สงฺฆสฺส จ. กิจฺจสิทฺธตฺถเมวิธาติ อุโปสถาทิกมฺมนิปฺปชฺชนตฺถํ อิธ อิมสฺมึ อุโปสถกมฺมาทิปกรเณ. ปาริสุทฺธิปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ปวารณา สงฺคหิตา. เตเนว วกฺขติ ‘‘ฉนฺทํ วา ปาริสุทฺธึ วา, คเหตฺวา วา ปวารณ’’นฺติ.
ฉนฺทปาริสุทฺธิปวารณํ เทนฺเตน สเจ สาปตฺติโก โหติ, อาปตฺตึ เทเสตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ฉนฺทาทิหารโก ภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘ฉนฺทํ ทมฺมิ, ฉนฺทํ เม หร, ฉนฺทํ เม อาโรเจหี’’ติ (มหาว. ๑๖๕), ‘‘ปาริสุทฺธึ ทมฺมิ, ปาริสุทฺธึ เม หร, ปาริสุทฺธึ เม อาโรเจหี’’ติ (มหาว. ๑๖๔), ‘‘ปวารณํ ทมฺมิ, ปวารณํ เม หร, ปวารณํ เม อาโรเจหิ, มมตฺถาย ปวาเรหี’’ติ (มหาว. ๒๑๓).
๒๖๔๔. ‘‘ฉนฺโท เอเกนา’’ติ ปทจฺเฉโท. เอเกน พหูนมฺปิ ฉนฺโท หาตพฺโพ, ตถา ปาริสุทฺธิ หาตพฺพา. ปิ-สทฺเทน ปวารณา หาตพฺพาติ โยชนา. ปรมฺปราหโฏ ฉนฺโทติ พหูนํ วา เอกสฺส วา ฉนฺทาทิหารกสฺส หตฺถโต อนฺตรา อฺเน คหิตา ฉนฺทปาริสุทฺธิปวารณา. วิสุทฺธิยา น คจฺฉติ อนวชฺชภาวาย น ปาปุณาติ พิฬาลสงฺขลิกฉนฺทาทีนํ สงฺฆมชฺฌํ อคมเนน วคฺคภาวกรณโต.
เอตฺถ จ ยถา พิฬาลสงฺขลิกาย ปมวลยํ ทุติยวลยํ ปาปุณาติ, น ตติยํ, เอวมิเมปิ ฉนฺทาทโย ทายเกน ยสฺส ทินฺนา, ตโต อฺตฺถ น คจฺฉตีติ พิฬาลสงฺขลิกาสทิสตฺตา ¶ ‘‘พิฬาลสงฺขลิกา’’ติ วุตฺตา. พิฬาลสงฺขลิกาคฺคหณฺเจตฺถ ยาสํ กาสฺจิ สงฺขลิกานํ อุปลกฺขณมตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๒๖๔๕-๖. ฉนฺทํ ¶ วา ปาริสุทฺธึ วา ปวารณํ วา คเหตฺวา ฉนฺทาทิหารโก สงฺฆมปฺปตฺวา สเจ สามเณราทิภาวํ ปฏิชาเนยฺย วา วิพฺภเมยฺย วา มเรยฺย วา, ตํ สพฺพํ ฉนฺทาทิภาวํ นาหฏํ โหติ, สงฺฆํ ปตฺวา เอวํ สิยา สามเณราทิภาวํ ปฏิชานนฺโต, วิพฺภนฺโต, กาลกโต วา ภเวยฺย, ตํ สพฺพํ หฏํ อานีตํ โหตีติ โยชนา.
ตตฺถ สามเณราทิภาวํ วา ปฏิชาเนยฺยาติ ‘‘อหํ สามเณโร’’ติอาทินา ภูตํ สามเณราทิภาวํ กเถยฺย, ปจฺฉา สามเณรภูมิยํ ปติฏฺเหยฺยาติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺโน คหิโต.
๒๖๔๗. สงฺฆํ ปตฺวาติ อนฺตมโส ตํตํกมฺมปฺปตฺตสฺส จตุวคฺคาทิสงฺฆสฺส หตฺถปาสํ ปตฺวาติ อตฺโถ. ปมตฺโตติ ปมาทํ สติสมฺโมสํ ปตฺโต. สุตฺโตติ นิทฺทูปคโต. ขิตฺตจิตฺตโกติ ยกฺขาทีหิ วิกฺเขปมาปาทิตจิตฺโต. นาโรเจตีติ อตฺตโน ฉนฺทาทีนํ อาหฏภาวํ เอกสฺสาปิ ภิกฺขุโน น กเถติ. สฺจิจฺจาติ สฺเจเตตฺวา ชานนฺโตเยว อนาทริโย นาโรเจติ, ทุกฺกฏํ โหติ.
๒๖๔๘. เย เตติ เย เต ภิกฺขู เถรา วา นวา วา มชฺฌิมา วา. วิปสฺสนาติ สหจริเยน สมโถปิ คยฺหติ. สมถวิปสฺสนา จ อิธ ตรุณาเยว อธิปฺเปตา, ตสฺมา วิปสฺสนายุตฺตาติ เอตฺถ ตรุณาหิ สมถวิปสฺสนาหิ สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. รตฺตินฺทิวนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. อตนฺทิตาติ อนลสา.
‘‘รตฺตินฺทิว’’นฺติ เอตฺถ รตฺติ-สทฺเทน รตฺติยาเยว คหณํ, อุทาหุ เอกเทสสฺสาติ อาห ‘‘ปุพฺพรตฺตาปรรตฺต’’นฺติ. ปุพฺพา จ สา รตฺติ จาติ ปุพฺพรตฺติ, ปมยาโม, อปรา จ ¶ สา รตฺติ จาติ อปรรตฺติ, ปจฺฉิมยาโม, ปุพฺพรตฺติ จ อปรรตฺติ จาติ สมาหารทฺวนฺเท สมาสนฺเต อ-การปจฺจยํ กตฺวา ‘‘ปุพฺพรตฺตาปรรตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อิธาปิ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. มชฺฌิมยาเม กายทรถวูปสมนตฺถาย สุปนํ อนฺุาตนฺติ ตํ วชฺเชตฺวา ปุริมปจฺฉิมยาเมสุ นิรนฺตรภาวนานุโยโค กาตพฺโพติ ทสฺสนตฺถเมว วุตฺตํ. วิปสฺสนา ปรายนา สมถวิปสฺสนาว ปรํ ¶ อยนํ ปติฏฺา เอเตสนฺติ วิปสฺสนาปรายนา, สมถวิปสฺสนาย ยุตฺตปยุตฺตา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๖๔๙. ลทฺโธ ผาสุวิหาโร เยหิ เต ลทฺธผาสุวิหารา, เตสํ. ผาสุวิหาโรติ จ สุขวิหารสฺส มูลการณตฺตา ตรุณา สมถวิปสฺสนา อธิปฺเปตา, ปฏิลทฺธตรุณสมถวิปสฺสนานนฺติ อตฺโถ. สิยา น ปริหานิติ ปริหานิ นาม เอวํ กเต น ภเวยฺย.
กตฺติกมาสเกติ จีวรมาสสงฺขาเต กตฺติกมาเส ปวารณาย สงฺคโห วุตฺโตติ โยชนา. คาถาพนฺธวเสน ‘‘สงฺคาโห’’ติ ทีโฆ กโต, ปวารณาสงฺคโห วุตฺโตติ อตฺโถ. ยถาห –
‘‘ปวารณาสงฺคโห จ นามายํ วิสฺสฏฺกมฺมฏฺานานํ ถามคตสมถวิปสฺสนานํ โสตาปนฺนาทีนฺจ น ทาตพฺโพ. ตรุณสมถวิปสฺสนาลาภิโน ปน สพฺเพ วา โหนฺตุ, อุปฑฺฒา วา, เอกปุคฺคโล วา, เอกสฺสปิ วเสน ทาตพฺโพเยว. ทินฺเน ปวารณาสงฺคเห อนฺโตวสฺเส ปริหาโรว โหติ, อาคนฺตุกา เตสํ เสนาสนํ คเหตุํ น ลภนฺติ. เตหิปิ ฉินฺนวสฺเสหิ น ภวิตพฺพํ, ปวาเรตฺวา ปน อนฺตราปิ จาริกํ ปกฺกมิตุํ ลภนฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๑).
ปวารณาสงฺคหสฺส ¶ ทานปฺปกาโร ปน ปาฬิโต คเหตพฺโพ.
ปวารณกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
จมฺมกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๖๕๐. เอฬกา จ อชา จ มิคา จาติ วิคฺคโห. ปสูนํ ทฺวนฺเท เอกตฺตนปุํสกตฺตสฺส วิภาสิตตฺตา พหุวจนนิทฺเทโส. เอฬกานฺจ อชานฺจ มิคานํ โรหิเตณิกุรุงฺคานฺจ. ปสทา จ มิคมาตา จ ปสทมิคมาตา, ‘‘ปสทมิคมาตุยา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ‘‘ปสท’’นฺติ นิคฺคหิตาคโม. ปสทมิคมาตุยา จ จมฺมํ ภิกฺขุโน วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘มิคาน’’นฺติ อิมินา คหิตานเมเวตฺถ วิภาคทสฺสนํ ‘‘โรหิเตณี’’ติอาทิ. โรหิตาทโย มิควิภาควิเสสา.
๒๖๕๑. เอเตสํ ¶ ยถาวุตฺตสตฺตานํ จมฺมํ เปตฺวา อฺํ จมฺมํ ทุกฺกฏาปตฺติยา วตฺถุภูตนฺติ อตฺโถ. อฺนฺติ จ –
‘‘มกฺกโฏ กาฬสีโห จ, สรโภ กทลีมิโค;
เย จ วาฬมิคา โหนฺติ, เตสํ จมฺมํ น วฏฺฏตี’’ติ. (มหาว. อฏฺ. ๒๕๙) –
อฏฺกถาย ปฏิกฺขิตฺตํ จมฺมมาห. มกฺกโฏ นาม สาขมิโค. กาฬสีโห นาม มหามุขวานรชาติโก. วาฬมิคา นาม สีหพฺยคฺฆาทโย. ยถาห – ‘‘ตตฺถ วาฬมิคาติ สีหพฺยคฺฆอจฺฉตรจฺฉา, น เกวลฺจ เอเตเยว, เยสํ ปน จมฺมํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ, เต เปตฺวา อวเสสา อนฺตมโส โคมหึสสฺสมิฬาราทโยปิ สพฺเพ อิมสฺมึ อตฺเถ ‘วาฬมิคา’ตฺเวว เวทิตพฺพา’’ติ.
ถวิกา ¶ จ อุปาหนา จ ถวิโกปาหนํ. อมานุสํ มนุสฺสจมฺมรหิตํ สพฺพํ จมฺมํ ถวิโกปาหเน วฏฺฏตีติ โยชนา. เอตฺถ ถวิกาติ อุปาหนาทิโกสกสฺส คหณํ. ยถาห ‘‘มนุสฺสจมฺมํ เปตฺวา เยน เกนจิ จมฺเมน อุปาหนา วฏฺฏติ. อุปาหนาโกสกสตฺถกโกสกกฺุชิกาโกสเกสุปิ เอเสว นโย’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๕๙).
๒๖๕๒. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ คุณงฺคุณูปาหน’’นฺติ (มหาว. ๒๕๙) วจนโต ‘‘วฏฺฏนฺติ มชฺฌิเม เทเส, น คุณงฺคุณูปาหนา’’ติ วุตฺตํ. มชฺฌิเม เทเสติ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย คชงฺคลํ นาม นิคโม’’ติอาทินา (มหาว. ๒๕๙) วุตฺตสีมาปริจฺเฉเท มชฺฌิมเทเส. คุณงฺคุณูปาหนาติ จตุปฏลโต ปฏฺาย พหุปฏลา อุปาหนา. ยถาห – ‘‘คุณงฺคุณูปาหนาติ จตุปฏลโต ปฏฺาย วุจฺจตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๕). มชฺฌิมเทเส คุณงฺคุณูปาหนา น วฏฺฏนฺตีติ โยชนา. อนฺโตอาราเมติ เอตฺถ ปกรณโต ‘‘สพฺเพส’’นฺติ ลพฺภติ, คิลานานมิตเรสฺจ สพฺเพสนฺติ อตฺโถ. สพฺพตฺถาปิ จาติ อนฺโตอาราเม, พหิ จาติ สพฺพตฺถาปิ. โรคิโนติ คิลานสฺส วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.
๒๖๕๓. ปุฏพทฺธา ขลฺลกพทฺธาจาติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. วิเสโส ปเนตาสํ อฏฺกถายเมว ¶ วุตฺโต ‘‘ปุฏพทฺธาติ โยนกอุปาหนา วุจฺจติ, ยา ยาวชงฺฆโต สพฺพปาทํ ปฏิจฺฉาเทติ. ขลฺลกพทฺธาติ ปณฺหิปิธานตฺถํ ตเล ขลฺลกํ พนฺธิตฺวา กตา’’ติ. ปาลิคุณฺิมา จ ‘‘ปลิคุณฺิตฺวา กตา, ยา อุปริ ปาทมตฺตเมว ปฏิจฺฉาเทติ, น ชงฺฆ’’นฺติ อฏฺกถายํ ทสฺสิตาว. ตูลปุณฺณาติ ตูลปิจุนา ปูเรตฺวา กตา.
สพฺพาว ¶ นีลา สพฺพนีลา, สา อาทิ ยาสํ ตา สพฺพนีลาทโย. อาทิ-สทฺเทน มหานามรตฺตปริยนฺตานํ คหณํ. เอตาสํ สรูปํ อฏฺกถายเมว วุตฺตํ ‘‘นีลิกา อุมาปุปฺผวณฺณา โหติ, ปีติกา กณิการปุปฺผวณฺณา, โลหิติกา ชยสุมนปุปฺผวณฺณา, มฺชิฏฺิกา มฺชิฏฺวณฺณา เอว, กณฺหา อทฺทาริฏฺกวณฺณา, มหารงฺครตฺตา สตปทิปิฏฺิวณฺณา, มหานามรตฺตา สมฺภินฺนวณฺณา โหติ ปณฺฑุปลาสวณฺณา. กุรุนฺทิยํ ปน ‘ปทุมปุปฺผวณฺณา’ติ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๖). สพฺพนีลาทโยปิ จาติ อปิ-สทฺเทน นีลาทิวทฺธิกานํ คหณํ.
๒๖๕๔. จิตฺราติ วิจิตฺรา. เมณฺฑวิสาณูปมวทฺธิกาติ เมณฺฑานํ วิสาณสทิสวทฺธิกา, กณฺณิกฏฺาเน เมณฺฑสิงฺคสณฺาเน วทฺเธ โยเชตฺวา กตาติ อตฺโถ. ‘‘เมณฺฑวิสาณูปมวทฺธิกา’’ติ อิทํ อชวิสาณูปมวทฺธิกานํ อุปลกฺขณํ. โมรสฺส ปิฺเฉน ปริสิพฺพิตาติ ตเลสุ วา วทฺเธสุ วา โมรปิฺเฉหิ สุตฺตกสทิเสหิ ปริสิพฺพิตา. อุปาหนา น จ วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.
๒๖๕๕. มชฺชาราติ พิฬารา. กาฬกา รุกฺขกณฺฏกา. อูลูกา ปกฺขิพิฬาลา. สีหาติ เกสรสีหาทโย สีหา. อุทฺทาติ จตุปฺปทชาติกา. ทีปี สทฺทลา. อชินสฺสาติ เอวํนามิกสฺส. ปริกฺขฏาติ อุปาหนปริยนฺเต จีวเร อนุวาตํ วิย วุตฺตปฺปการํ จมฺมํ โยเชตฺวา กตา.
๒๖๕๖. สเจ อีทิสา อุปาหนา ลภนฺติ, ตาสํ วฬฺชนปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุฏาทึ อปเนตฺวา’’ติอาทิ. ปุฏาทึ สพฺพโส ฉินฺทิตฺวา วา อปเนตฺวา วา อุปาหนา ธาเรตพฺพาติ โยชนา. เอวมกตฺวา ลทฺธนีหาเรเนว ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ยถาห – ‘‘เอตาสุ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา สเจ ¶ ตานิ ขลฺลกาทีนิ อปเนตฺวา สกฺกา โหนฺติ วฬฺชิตุํ, วฬฺเชตพฺพา, เตสุ ปน สติ วฬฺชนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๖).
วณฺณเภทํ ¶ ตถา กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘เอกเทเสนา’’ติ เสโส. ‘‘สพฺพโส วา’’ติ อาหริตฺวา สพฺพโส วา เอกเทเสน วา วณฺณเภทํ กตฺวา สพฺพนีลาทโย อุปาหนา ธาเรตพฺพาติ โยชนา. ตถา อกตฺวา ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ยถาห ‘‘เอตาสุ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา รชนํ โจฬเกน ปฺุฉิตฺวา วณฺณํ ภินฺทิตฺวา ธาเรตุํ วฏฺฏติ. อปฺปมตฺตเกปิ ภินฺเน วฏฺฏติเยวา’’ติ. นีลวทฺธิกาทโยปิ วณฺณเภทํ กตฺวา ธาเรตพฺพา.
๒๖๕๗. ตตฺถ าเน ปสฺสาวปาทุกา, วจฺจปาทุกา, อาจมนปาทุกาติ ติสฺโส ปาทุกาโย เปตฺวา สพฺพาปิ ปาทุกา ตาลปตฺติกาทิเภทา สพฺพาปิ สงฺกมนียา ปาทุกา ธาเรตุํ น วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.
๒๖๕๘. อติกฺกนฺตปมาณํ อุจฺจาสยนสฺิตํ อาสนฺทิฺเจว ปลฺลงฺกฺจ เสวมานสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อาสนฺที วุตฺตลกฺขณาว. ปลฺลงฺโกติ ปาเทสุ อาหริมานิ วาฬรูปานิ เปตฺวา กโต, เอกสฺมึเยว ทารุมฺหิ กฏฺกมฺมวเสน ฉินฺทิตฺวา กตานิ อสํหาริมานิ ตตฺรฏฺาเนว วาฬรูปานิ ยสฺส ปาเทสุ สนฺติ, เอวรูโป ปลฺลงฺโก กปฺปตีติ ‘‘อาหริเมนา’’ติ อิมินาว ทีปิตํ. ‘‘อกปฺปิยรูปกโต อกปฺปิยมฺโจ ปลฺลงฺโก’’ติ หิ สารสมาเส วุตฺตํ.
๒๖๕๙. โคนกนฺติ ทีฆโลมกมหาโกชวํ. จตุรงฺคุลาธิกานิ กิร ตสฺส โลมานิ, กาฬวณฺณฺจ โหติ. ‘‘จตุรงฺคุลโต อูนกปฺปมาณโลโม โกชโว วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. กุตฺตกนฺติ โสฬสนฺนํ นาฏกิตฺถีนํ ตฺวา นจฺจนโยคฺคํ ¶ อุณฺณามยตฺถรณํ. จิตฺตนฺติ ภิตฺติจฺฉิทฺทาทิกวิจิตฺรํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ปฏิกนฺติ อุณฺณามยํ เสตตฺถรณํ. ปฏลิกนฺติ ฆนปุปฺผกํ อุณฺณามยํ โลหิตตฺถรณํ, โย ‘‘อามลกปตฺโต’’ติปิ วุจฺจติ.
เอกนฺตโลมินฺติ อุภโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ. วิกตินฺติ สีหพฺยคฺฆาทิรูปวิจิตฺรํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ‘‘เอกนฺตโลมีติ เอกโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณ’’นฺติ ทีฆนิกา. ตูลิกนฺติ รุกฺขตูลลตาตูลโปฏกิตูลสงฺขาตานํ ติณฺณํ ตูลานํ อฺตรปุณฺณํ ปกติตูลิกํ. อุทฺทโลมิกนฺติ เอกโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ‘‘อุทฺทโลมีติ อุภโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณํ. เอกนฺตโลมีติ เอกโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณ’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) ทีฆนิกายฏฺกถายํ ¶ วุตฺตํ. สารสมาเส ปน ‘‘อุทฺทโลมีติ เอกโต อุคฺคตปุปฺผํ. เอกนฺตโลมีติ อุภโต อุคฺคตปุปฺผ’’นฺติ วุตฺตํ.
๒๖๖๐. กฏฺฏิสฺสนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยํ ปจฺจตฺถรณํ. ‘‘โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยนฺติ โกเสยฺยกสฏมย’’นฺติ (ที. นิ. ฏี. ๑.๑๕) อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ, กนฺติตโกเสยฺยปุฏมยนฺติ อตฺโถ. โกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกสิยสุตฺตมยํ ปจฺจตฺถรณํ. รตนปริสิพฺพนรหิตํ สุทฺธโกเสยฺยํ ปน วฏฺฏติ.
ทีฆนิกายฏฺกถายํ ปเนตฺถ ‘‘เปตฺวา ตูลิกํ สพฺพาเนว โคนกาทีนิ รตนปริสิพฺพิตานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘เปตฺวา ตูลิก’’นฺติ เอเตน รตนปริสิพฺพนรหิตาปิ ตูลิกา น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ‘‘รตนปริสิพฺพิตานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ อิมินา ปน ยานิ รตนปริสิพฺพิตานิ, ตานิ ภูมตฺถรณวเสน ยถานุรูปํ มฺจาทีสุ จ อุปเนตุํ วฏฺฏตีติ ทีปิตนฺติ ¶ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ วินยปริยายํ ปตฺวา ครุเก าตพฺพตฺตา อิธ วุตฺตนเยเนเวตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. สุตฺตนฺติกเทสนายํ ปน คหฏฺานมฺปิ วเสน วุตฺตตฺตา เนสํ สงฺคณฺหนตฺถํ ‘‘เปตฺวา ตูลิกํ…เป… วฏฺฏนฺตีติ วุตฺต’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) อปเร.
หตฺถิอสฺสรถตฺถรนฺติ หตฺถิปิฏฺเ อตฺถริตํ อตฺถรณํ หตฺถตฺถรณํ นาม. อสฺสรถตฺถเรปิ เอเสว นโย. กทลิมิคปวร-ปจฺจตฺถรณกมฺปิ จาติ กทลิมิคจมฺมํ นาม อตฺถิ, เตน กตํ ปวรปจฺจตฺถรณนฺติ อตฺโถ. ตํ กิร เสตวตฺถสฺส อุปริ กทลิมิคจมฺมํ ปตฺถริตฺวา สิพฺเพตฺวา กโรนฺติ. ปิ-สทฺเทน อชินปฺปเวณี คหิตา. อชินปฺปเวณี นาม อชินจมฺเมหิ มฺจปมาเณน สิพฺเพตฺวา กตา ปเวณี. ตานิ กิร จมฺมานิ สุขุมตรานิ, ตสฺมา ทุปฏฺฏติปฏฺฏานิ กตฺวา สิพฺพนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อชินปฺปเวณี’’ติ.
๒๖๖๑. รตฺตวิตานสฺส เหฏฺาติ กุสุมฺภาทิรตฺตสฺส โลหิตวิตานสฺส เหฏฺา กปฺปิยปจฺจตฺถรเณหิ อตฺถตํ สยนาสนฺจ. กสาวรตฺตวิตานสฺส ปน เหฏฺา กปฺปิยปจฺจตฺถรเณน อตฺถตํ วฏฺฏติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘เหฏฺา อกปฺปิเย’’ติอาทิ.
ทฺวิธา ¶ รตฺตูปธานกนฺติ สีสปสฺเส, ปาทปสฺเส จาติ อุภโตปสฺเส ปฺตฺตรตฺตพิพฺโพหนวนฺตฺจ สยนาสนํ. อิทํ สพฺพํ อกปฺปิยํ ปริภฺุชโต ทุกฺกฏํ โหติ. ‘‘ยํ ปน เอกเมว อุปธานํ อุโภสุ ปสฺเสสุ รตฺตํ วา โหติ ปทุมวณฺณํ วา วิจิตฺรํ วา, สเจ ปมาณยุตฺตํ, วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๕๔) อฏฺกถาวินิจฺฉโย เอเตเนว พฺยติเรกโต วุตฺโต โหติ. ‘‘เยภุยฺยรตฺตานิปิ ทฺเว พิพฺโพหนานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. เตเนว เยภุยฺเยน รตฺตวิตานมฺปิ น วฏฺฏตีติ วิฺายติ.
เอตฺถ ¶ จ กิฺจาปิ ทีฆนิกายฏฺกถายํ ‘‘อโลหิตกานิ ทฺเวปิ วฏฺฏนฺติเยว, ตโต อุตฺตริ ลภิตฺวา อฺเสํ ทาตพฺพานิ, ทาตุํ อสกฺโกนฺโต มฺเจ ติริยํ อตฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ ลภตี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) อวิเสเสน วุตฺตํ. เสนาสนกฺขนฺธกสํวณฺณนายํ ปน ‘‘อคิลานสฺส สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ ทฺวยเมว วฏฺฏติ, คิลานสฺส พิพฺโพหนานิ สนฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗) วุตฺตตฺตา คิลาโนเยว มฺเจ ติริยํ อตฺถริตฺวา นิปชฺชิตุํ ลภตีติ เวทิตพฺพํ.
๒๖๖๒. อุทฺธํ เสตวิตานมฺปิ เหฏฺา อกปฺปิเย ปจฺจตฺถรเณ สติ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ตสฺมินฺติ อกปฺปิยปจฺจตฺถรเณ.
๒๖๖๓. ‘‘เปตฺวา’’ติ อิมินา อาสนฺทาทิตฺตยสฺส วฏฺฏนากาโร นตฺถีติ ทีเปติ. เสสํ สพฺพนฺติ โคนกาทิ ทฺวิธารตฺตูปธานกปริยนฺตํ สพฺพํ. คิหิสนฺตกนฺติ คิหีนํ สนฺตกํ เตหิเยว ปฺตฺตํ, อิมินา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตเรน วา เตสํ อาณตฺติยา วา ปฺตฺตํ น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ลภเตติ นิสีทิตุํ ลภติ.
๒๖๖๔. ตํ กตฺถ ลภตีติ ปเทสนิยมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ธมฺมาสเน’’ติอาทิ. ธมฺมาสเนติ เอตฺถ อฏฺกถายํ ‘‘ยทิ ธมฺมาสเน สงฺฆิกมฺปิ โคนกาทึ ภิกฺขูหิ อนาณตฺตา อารามิกาทโย สยเมว ปฺาเปนฺติ เจว นีหรนฺติ จ, เอตํ คิหิวิกตนีหารํ นาม. อิมินา คิหิวิกตนีหาเรน วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐; วิ. สงฺค. อฏฺ. ปกิณฺณกวินิจฺฉยกถา ๕๖ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. ภตฺตคฺเค วาติ วิหาเร นิสีทาเปตฺวา ปริเวสนฏฺาเน ¶ วา โภชนสาลายํ วา. อปิสทฺเทน คิหีนํ เคเหปิ เตหิ ปฺตฺเต โคนกาทิมฺหิ นิสีทิตุํ ¶ อนาปตฺตีติ ทีเปติ. ธมฺมาสนาทิปเทสนิยมเนน ตโต อฺตฺถ คิหิปฺตฺเตปิ ตตฺถ นิสีทิตุํ น วฏฺฏตีติ พฺยติเรกโต วิฺายติ.
ภูมตฺถรณเกติ เอตฺถ ‘‘กเต’’ติ เสโส. ตตฺถาติ สงฺฆิเก วา คิหิสนฺตเก วา โคนกาทิมฺหิ สหธมฺมิเกหิ อนาณตฺเตหิ คิหีหิ เอว ภูมตฺถรเณ กเต. สยิตุนฺติ อุปริ อตฺตโน ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. อปิ-สทฺเทน นิสีทิตุมฺปิ วาติ สมุจฺจิโนติ. ‘‘ภูมตฺถรณเก’’ติ อิมินา คิหีหิ เอว มฺจาทีสุ สยนตฺถํ อตฺถเต อุปริ อตฺตโน ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา สยิตุํ วา นิสีทิตุํ วา น วฏฺฏตีติ ทีเปติ.
จมฺมกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
เภสชฺชกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๖๖๕. คหปติสฺส ภูมิ, สมฺมุติภูมิ, อุสฺสาวนนฺติกาภูมิ, โคนิสาทิภูมีติ กปฺปิยภูมิโย จตสฺโส โหนฺตีติ วุตฺตา ภควตาติ โยชนา.
๒๖๖๖. กถํ กปฺปิยํ กตฺตพฺพนฺติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตสฺโส กปฺปิยภูมิโย อุสฺสาวนนฺติกํ โคนิสาทิกํ คหปตึ สมฺมุติ’’นฺติ (มหาว. ๒๙๕) เอวํ จตสฺโส ภูมิโย อุทฺธริตฺวา ตาสํ สามฺลกฺขณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติอาทิ. สงฺฆสฺส สนฺตกํ วาสตฺถาย กตํ เคหํ วา ภิกฺขุโน สนฺตกํ วาสตฺถาย กตํ เคหํ วาติ โยชนา. กปฺปิยํ กตฺตพฺพนฺติ กปฺปิยฏฺานํ กตฺตพฺพํ. สหเสยฺยปฺปโหนกนฺติ สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉนฺนาทิลกฺขเณน สหเสยฺยารหํ.
๒๖๖๗. อิทานิ ¶ จตสฺโสปิ ภูมิโย สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘เปตฺวา’’ติอาทิ. ภิกฺขุํ เปตฺวา อฺเหิ กปฺปิยภูมิยา อตฺถาย ทินฺนํ วา เตสํ สนฺตกํ วา ยํ เคหํ, อิทํ เอว คหปติภูมิ นามาติ โยชนา.
๒๖๖๘. ยา ปน กุฏิ สงฺเฆน สมฺมตา ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย, สา สมฺมุติกา นาม. ตสฺสา สมฺมนฺนนกาเล กมฺมวาจํ อวตฺวา อปโลกนํ วา กาตุํ วฏฺฏเตวาติ โยชนา.
๒๖๖๙-๗๐. ปมอิฏฺกาย ¶ วา ปมปาสาณสฺส วา ปมตฺถมฺภสฺส วา อาทิ-คฺคหเณน ปมภิตฺติปาทสฺส วา ปเน ปเรสุ มนุสฺเสสุ อุกฺขิปิตฺวา เปนฺเตสุ สมนฺตโต ปริวาเรตฺวา ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรม, กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ อภิกฺขณํ วทนฺเตหิ อามสิตฺวา วา สยเมว อุกฺขิปิตฺวา วา อิฏฺกา เปยฺย ปาสาโณ วา ถมฺโภ วา ภิตฺติปาโท วา เปยฺย เปตพฺโพ, อยํ อุสฺสาวนนฺติกา กุฏีติ โยชนา.
๒๖๗๑. อิฏฺกาทิปติฏฺานนฺติ ปมิฏฺกาทีนํ ภูมิยํ ปติฏฺานํ. วทตนฺติ ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรม, กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ วทนฺตานํ. สมกาลํ ตุ วฏฺฏตีติ เอกกาลํ วฏฺฏติ, อิมินา ‘‘สเจ หิ อนิฏฺิเต วจเน ถมฺโภ ปติฏฺาติ, อปฺปติฏฺิเต วา ตสฺมึ วจนํ นิฏฺาติ, อกตา โหติ กปฺปิยกุฏี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕) อฏฺกถาวินิจฺฉโย สูจิโต.
๒๖๗๒. อาราโม สกโล อปริกฺขิตฺโต วา เยภุยฺยโต อปริกฺขิตฺโต วาติ ทุวิโธปิ วิฺูหิ วินยธเรหิ ¶ ‘‘โคนิสาที’’ติ วุจฺจติ. ปเวสนิวารณาภาเวน ปวิฏฺานํ คุนฺนํ นิสชฺชาโยคโต ตถา วุจฺจตีติ โยชนา.
๒๖๗๓. ปโยชนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺถ ปกฺกฺจา’’ติอาทิ. อามิสนฺติ ปุริมกาลิกทฺวยํ. ‘‘อามิส’’นฺติ อิมินา นิรามิสํ อิตรกาลิกทฺวยํ อกปฺปิยกุฏิยํ วุตฺถมฺปิ ปกฺกมฺปิ กปฺปตีติ ทีเปติ.
๒๖๗๔-๕. อิมา กปฺปิยกุฏิโย กทา ชหิตวตฺถุกา โหนฺตีติ อาห ‘‘อุสฺสาวนนฺติกา ยา สา’’ติอาทิ. ยา อุสฺสาวนนฺติกา เยสุ ถมฺภาทีสุ อธิฏฺิตา, สา เตสุ ถมฺภาทีสุ อปนีเตสุ ตทฺเสุปิ ถมฺภาทีสุ ติฏฺตีติ โยชนา.
สพฺเพสุ ถมฺภาทีสุ อปนีเตสุ สา ชหิตวตฺถุกา สิยาติ โยชนา. โคนิสาทิกุฏิ ปริกฺขิตฺตา วติอาทีหิ ชหิตวตฺถุกา สิยา. ปริกฺขิตฺตาติ จ ‘‘อาราโม ปน อุปฑฺฒปริกฺขิตฺโตปิ พหุตรํ ปริกฺขิตฺโตปิ ปริกฺขิตฺโตเยว นามา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕) กุรุนฺทิมหาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตตฺตา น เกวลํ สพฺพปริกฺขิตฺตาว, อุปฑฺฒปริกฺขิตฺตาปิ เยภุยฺยปริกฺขิตฺตาปิ คเหตพฺพา.
เสสาติ ¶ คหปติสมฺมุติกุฏิโย. ฉทนนาสโต ชหิตวตฺถุกา สิยุนฺติ โยชนา. ฉทนนาสโตติ เอตฺถ ‘‘โคปานสิมตฺตํ เปตฺวา’’ติ เสโส. สเจ โคปานสีนํ อุปริ เอกมฺปิ ปกฺขปาสมณฺฑลํ อตฺถิ, รกฺขติ. ยตฺร ปนิมา จตสฺโสปิ กปฺปิยภูมิโย นตฺถิ, ตตฺถ กึ กาตพฺพํ? อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา ตสฺส สนฺตกํ กตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ.
๒๖๗๖. ภิกฺขุํ ¶ เปตฺวา อฺเสํ หตฺถโต ปฏิคฺคโห จ เตสํ สนฺนิธิ จ เตสํ อนฺโตวุตฺถฺจ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏตีติ โยชนา.
๒๖๗๗. ภิกฺขุสฺส สนฺตกํ สงฺฆิกมฺปิ วา อกปฺปิยภูมิยํ สหเสยฺยปฺปโหนเก เคเห อนฺโตวุตฺถฺจ อนฺโตปกฺกฺจ ภิกฺขุสฺส น วฏฺฏติ. ภิกฺขุนิยา สนฺตกํ สงฺฆิกมฺปิ วา อกปฺปิยภูมิยํ สหเสยฺยปฺปโหนเก เคเห อนฺโตวุตฺถฺจ อนฺโตปกฺกฺจ ภิกฺขุนิยา น วฏฺฏตีติ เอวํ อุภินฺนํ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๒๖๗๘. อกปฺปกุฏิยาติ อกปฺปิยกุฏิยา, ‘‘อกปฺปิยภูมิยํ สหเสยฺยปฺปโหนเก เคเห’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตาย อกปฺปิยภูมิยาติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน นวนีตเตลมธุผาณิตานํ คหณํ.
๒๖๗๙. เตเหว อนฺโตวุตฺเถหิ สปฺปิอาทีหิ สตฺตาหกาลิเกหิ สห ภิกฺขุนา ปกฺกํ ตํ ยาวชีวิกํ นิรามิสํ สตฺตาหํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏเตวาติ โยชนา.
๒๖๘๐. ปกฺกํ สามํปกฺกํ ตํ ยาวชีวิกํ สเจ อามิสสํสฏฺํ ปริภฺุชติ, อนฺโตวุตฺถฺจ ภฺุชติ, กิฺจ ภิยฺโย สามํปกฺกฺจ ภฺุชตีติ โยชนา. ยาวชีวิกสฺส อามิสสํสฏฺสฺส อามิสคติกตฺตา ‘‘อนฺโตวุตฺถ’’นฺติ วุตฺตํ.
๒๖๘๒. อุทกํ น โหติ กาลิกํ จตูสุ กาลิเกสุ อสงฺคหิตตฺตา.
๒๖๘๓. ติกาลิกา ยาวกาลิกา ยามกาลิกา สตฺตาหกาลิกาติ ตโย กาลิกา ปฏิคฺคหวเสเนว ¶ อตฺตโน ¶ อตฺตโน กาลํ อติกฺกมิตฺวา ภุตฺตา โทสกรา โหนฺติ, ตติยํ สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยวตฺถุตฺตา อภุตฺตมฺปิ โทสกรนฺติ โยชนา.
‘‘ภุตฺตา โทสกรา’’ติ อิมินา ปุริมกาลิกทฺวยํ ปฏิคฺคเหตฺวา กาลาติกฺกมนมตฺเตน อาปตฺติยา การณํ น โหติ, ภุตฺตเมว โหติ. สตฺตาหกาลิกํ กาลาติกฺกเมน อปริภุตฺตมฺปิ อาปตฺติยา การณํ โหตีติ ทีเปติ. เตสุ สตฺตาหกาลิเกเยว วิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อภุตฺตํ ตติยมฺปิ จา’’ติ. จ-สทฺโท ตุ-สทฺทตฺเถ. ยาวชีวิกํ ปน ปฏิคฺคเหตฺวา ยาวชีวํ ปริภฺุชิยมานํ อิตรกาลิกสํสคฺคํ วินา โทสกรํ น โหตีติ น คหิตํ.
๒๖๘๔. อมฺพาทโย สทฺทา รุกฺขานํ นามภูตา ตํตํผเลปิ วตฺตมานา อิธ อุปจารวเสน ตชฺเช ปานเก วุตฺตา, เตเนวาห ‘‘ปานกํ มต’’นฺติ. โจจํ อฏฺิกกทลิปานํ. โมจํ อิตรกทลิปานํ. มธูติ มุทฺทิกผลานํ รสํ. มุทฺทิกาติ สีโตทเก มทฺทิตานํ มุทฺทิกผลานํ ปานํ. ‘‘สาลูกปานนฺติ รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ สาลูเก มทฺทิตฺวา กตปาน’’นฺติ ปาฬิยํ, อฏฺกถาย (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) จ สาลูก-สทฺทสฺส ทีฆวเสน สํโยคทสฺสนโต ‘‘สาลุ ผารุสกฺจา’’ติ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต.
สาลูกํ กุมุทุปฺปลานํ ผลรสํ. ขุทฺทสิกฺขาวณฺณนายํ ปน ‘‘สาลูกปานํ นาม รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ กิฺชกฺขเรณูหิ กตปาน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ผารุสก’นฺติอาทีสุ เอโก รุกฺโข’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. ตสฺส ผลรโส ผารุสกํ นาม. เอเตสํ อฏฺนฺนํ ผลานํ รโส อุทกสมฺภินฺโน วฏฺฏติ, สีตุทเก มทฺทิโต ปสนฺโน นิกฺกสโฏว วฏฺฏติ, อุทเกน ปน อสมฺภินฺโน รโส ยาวกาลิโก.
๒๖๘๕. ผลนฺติ ¶ อมฺพาทิผลํ. สวตฺถุกปฏิคฺคโหติ ปานวตฺถุกานํ ผลานํ ปฏิคฺคโห. วสติ เอตฺถ ปานนฺติ วตฺถุ, ผลํ, วตฺถุนา สห วฏฺฏตีติ สวตฺถุกํ, ปานํ, สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคโห สวตฺถุกปฏิคฺคโห. สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคหํ นาม วตฺถุปฏิคฺคหณเมวาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปานวตฺถุกานํ ผลานํ ปฏิคฺคโห’’ติ.
๒๖๘๖. ‘‘สุโกฏฺเฏตฺวา’’ติ วุจฺจมานตฺตา ‘‘อมฺพปกฺก’’นฺติ อามกเมว อมฺพผลํ วุจฺจติ ¶ . อุทเกติ สีโตทเก. ปริสฺสวํ ปริสฺสาวิตํ. กตฺวาติ มธุอาทีหิ อภิสงฺขริตฺวา. ยถาห – ‘‘ตทหุปฏิคฺคหิเตหิ มธุสกฺกรกปฺปูราทีหิ โยเชตฺวา กาตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐). ปาตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺถ วินิจฺฉโย ‘‘เอวํ กตํ ปุเรภตฺตเมว กปฺปติ, อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ลภิตฺวา ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภเคนาปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตํ นิรามิสปริโภเคน ยาว อรุณุคฺคมนา วฏฺฏติเยว. เอส นโย สพฺพปาเนสู’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺโต.
๒๖๘๗. เสสปานเกสุปีติ ชมฺพุปานกาทีสุปิ.
๒๖๘๘. อุจฺฉุรโส อนฺโตคธตฺตา อิธ วุตฺโต, น ปน ยามกาลิกตฺตา, โส ปน สตฺตาหกาลิโกเยว.
๒๖๘๙. มธุกสฺส รสนฺติ มธุกปุปฺผสฺส รสํ. เอตฺถ มธุกปุปฺผรโส อคฺคิปาโก วา โหตุ อาทิจฺจปาโก วา, ปจฺฉาภตฺตํ น วฏฺฏติ. ปุเรภตฺตมฺปิ ยํ ปานํ คเหตฺวา มชฺชํ กโรนฺติ, โส อาทิโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ. มธุกปุปฺผํ ปน อลฺลํ วา สุกฺขํ วา ภชฺชิตํ วา เตน กตผาณิตํ วา ยโต ปฏฺาย มชฺชํ น กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ ปุเรภตฺตํ วฏฺฏติ.
ปกฺกฑากรสนฺติ ¶ ปกฺกสฺส ยาวกาลิกสฺส รสํ. สพฺโพ ปตฺตรโส ยามกาลิโก วุตฺโตติ โยชนา. อฏฺกถายํ ‘‘ยาวกาลิกปตฺตานฺหิ ปุเรภตฺตํเยว รโส กปฺปตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) อิมเมว สนฺธาย วุตฺตํ.
๒๖๙๐. สานุโลมานํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ผลชํ รสํ เปตฺวา สพฺโพ ผลโช รโส วิกาเล ยามสฺิเต อนุโลมโต ปริภฺุชิตุํ อนฺุาโตติ โยชนา.
๒๖๙๑. ยาวกาลิกปตฺตานํ สีตุทเก มทฺทิตฺวา กโต รโสปิ อปกฺโก, อาทิจฺจปาโกปิ วิกาเล ปน วฏฺฏตีติ โยชนา.
๒๖๙๒-๓. สตฺตธฺานุโลมานิ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ตาลฺจนาฬิเกรฺจา’’ติอาทิ. อปรณฺณํ ¶ มุคฺคาทิ. ‘‘สตฺตธฺานุโลมิก’’นฺติ อิมินา เอเตสํ รโส ยาวกาลิโก ยามกาลสงฺขาเต วิกาเล ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ.
๒๖๙๕. เอวมาทีนํ ขุทฺทกานํ ผลานํ รโส ปน อฏฺปานานุโลมตฺตา อนุโลมิเก ยามกาลิกานุโลมิเก นิทฺทิฏฺโ กถิโตติ โยชนา.
๒๖๙๖. อิธ อิมสฺมึ โลเก สานุโลมสฺส ธฺสฺส ผลชํ รสํ เปตฺวา อยามกาลิโก อฺโ ผลรโส นตฺถีติ โยชนา, สพฺโพ ยามกาลิโกเยวาติ ทีเปติ.
เภสชฺชกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
กถินกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๖๙๗. วุตฺถวสฺสานํ ¶ ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ยาว มหาปวารณา, ตาว รตฺติจฺเฉทํ อกตฺวา วุตฺถวสฺสานํ ภิกฺขูนํ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ ติณฺณํ จตุนฺนํ ปฺจนฺนํ อติเรกานํ วา ภิกฺขูนํ ปฺจนฺนํ อานิสํสานํ วกฺขมานานํ อนามนฺตจาราทีนํ ปฺจนฺนํ อานิสํสานํ ปฏิลาภการณา มุนิปุงฺคโว สพฺเพสํ อคาริกาทิมุนีนํ สกลคุณคเณหิ อุตฺตโม ภควา กถินตฺถารํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺถานํ ภิกฺขูนํ กถินํ อตฺถริตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๐๖) อพฺรฺวิ กเถสีติ โยชนา.
เอตฺถายํ วินิจฺฉโย – ‘‘กถินตฺถารํ เก ลภนฺติ, เก น ลภนฺตีติ? คณนวเสน ตาว ปจฺฉิมโกฏิยา ปฺจ ชนา ลภนฺติ, อุทฺธํ สตสหสฺสมฺปิ, ปฺจนฺนํ เหฏฺา น ลภนฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖) อิทํ อฏฺกถาย อตฺถารกสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆสฺส กถินทุสฺสทานกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘วุตฺถวสฺสวเสน ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปมปวารณาย ปวาริตา ลภนฺติ, ฉินฺนวสฺสา วา ปจฺฉิมิกาย อุปคตา วา น ลภนฺติ. อฺสฺมึ วิหาเร วุตฺถวสฺสาปิ น ลภนฺตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖) อิทํ อฏฺกถาย อานิสํสลาภํ สนฺธาย วุตฺตํ, น กมฺมํ.
อิทานิ ตทุภยํ วิภชิตฺวา ทสฺเสติ –
‘‘ปุริมิกาย ¶ อุปคตานํ ปน สพฺเพ คณปูรกา โหนฺติ, อานิสํสํ น ลภนฺติ, อานิสํโส อิตเรสํเยว โหติ. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา จตฺตาโร วา โหนฺติ, ตโย วา ทฺเว วา เอโก วา, อิตเร คณปูรเก กตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. อถ จตฺตาโร ภิกฺขู อุปคตา, เอโก ปริปุณฺณวสฺโส สามเณโร, โส เจ ปจฺฉิมิกาย อุปสมฺปชฺชติ, คณปูรโก เจว โหติ, อานิสํสฺจ ลภติ ¶ . ตโย ภิกฺขู ทฺเว สามเณรา, ทฺเว ภิกฺขู ตโย สามเณรา, เอโก ภิกฺขุ จตฺตาโร สามเณราติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา กถินตฺถารกุสลา น โหนฺติ, อตฺถารกุสลา ขนฺธกภาณกตฺเถรา ปริเยสิตฺวา อาเนตพฺพา, กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กถินํ อตฺถราเปตฺวา ทานฺจ ภฺุชิตฺวา คมิสฺสนฺติ, อานิสํโส ปน อิตเรสํเยว โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖).
กถินํ เกน ทินฺนํ วฏฺฏตีติ? เยน เกนจิ เทเวน วา มนุสฺเสน วา ปฺจนฺนํ วา สหธมฺมิกานํ อฺตเรน ทินฺนํ วฏฺฏติ. กถินทายกสฺส วตฺตํ อตฺถิ, สเจ โส ตํ อชานนฺโต ปุจฺฉติ ‘‘ภนฺเต, กถํ กถินํ ทาตพฺพ’’นฺติ, ตสฺส เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ ‘‘ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรปฺปโหนกํ สูริยุคฺคมนสมเย วตฺถํ ‘กถินจีวรํ เทมา’ติ ทาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺส ปริกมฺมตฺถํ เอตฺตกา นาม สูจิโย, เอตฺตกํ สุตฺตํ, เอตฺตกํ รชนํ, ปริกมฺมํ กโรนฺตานํ เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ ยาคุภตฺตฺจ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ.
กถินตฺถารเกนาปิ ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนํ กถินํ อตฺถรนฺเตน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตนฺตวายเคหโต หิ อาภตสนฺตาเนเนว ขลิมกฺขิตสาฏโกปิ น วฏฺฏติ, มลีนสาฏโกปิ น วฏฺฏติ, ตสฺมา กถินตฺถารสาฏกํ ลภิตฺวา สุทฺธํ โธวิตฺวา สูจิอาทีนิ จีวรกมฺมูปกรณานิ สชฺเชตฺวา พหูหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ตทเหว สิพฺพิตฺวา นิฏฺิตสูจิกมฺมํ รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. สเจ ตสฺมึ อนตฺถเตเยว อฺโ กถินสาฏกํ อตฺถริตพฺพกํ อาหรติ, อฺานิ จ พหูนิ กถินานิสํสวตฺถานิ เทติ, โย ¶ อานิสํสํ พหุํ เทติ, ตสฺส สนฺตเกเนว อตฺถริตพฺพํ. อิตโร ยถา ตถา โอวทิตฺวา สฺาเปตพฺโพ.
กถินํ ปน เกน อตฺถริตพฺพํ? ยสฺส สงฺโฆ กถินจีวรํ เทติ. สงฺเฆน ปน กสฺส ทาตพฺพํ? โย ชิณฺณจีวโร โหติ. สเจ พหู ชิณฺณจีวรา โหนฺติ, วุฑฺฒสฺส ทาตพฺพํ. วุฑฺเฒสุปิ โย มหาปริวาโร ตทเหว จีวรํ กตฺวา อตฺถริตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. สเจ วุฑฺโฒ ¶ น สกฺโกติ, นวกตโร สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. อปิ จ สงฺเฆน มหาเถรสฺส สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, คณฺหถ, มยํ กตฺวา ทสฺสามา’’ติ วตฺตพฺพํ.
ตีสุ จีวเรสุ ยํ ชิณฺณํ โหติ, ตทตฺถาย ทาตพฺพํ. ปกติยา ทุปฏฺฏจีวรสฺส ทุปฏฺฏตฺถาเยว ทาตพฺพํ. สเจปิสฺส เอกปฏฺฏจีวรํ ฆนํ โหติ, กถินสาฏโก จ เปลโว, สารุปฺปตฺถาย ทุปฏฺฏปฺปโหนกเมว ทาตพฺพํ. ‘‘อหํ อลภนฺโต เอกปฏฺฏํ ปารุปามี’’ติ วทนฺตสฺสาปิ ทุปฏฺฏํ ทาตุํ วฏฺฏติ. โย ปน โลภปกติโก โหติ, ตสฺส น ทาตพฺพํ. เตนาปิ กถินํ อตฺถริตฺวา ‘‘ปจฺฉา วิสิพฺพิตฺวา ทฺเว จีวรานิ กริสฺสามี’’ติ น คเหตพฺพํ.
ยสฺส ปน ทิยฺยติ, ตสฺส –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺย กถินํ อตฺถริตุํ, เอสา ตฺติ.
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ, สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทติ กถินํ อตฺถริตุํ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ ¶ อิมสฺส กถินทุสฺสสฺส อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทานํ กถินํ อตฺถริตุํ, โส ตุณฺหสฺส, ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.
‘‘ทินฺนํ อิทํ สงฺเฆน กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน กถินํ อตฺถริตุํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๓๐๗) –
เอวํ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ทาตพฺพนฺติ เอวํ ทินฺนํ.
๒๖๙๘-๙. น อุลฺลิขิตมตฺตาทิ-จตุวีสติวชฺชิตนฺติ ปาฬิยํ อาคเตหิ ‘‘น อุลฺลิขิตมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถิน’’นฺติ (มหาว. ๓๐๘) อุลฺลิขิตมตฺตาทีหิ จตุวีสติยา อากาเรหิ วชฺชิตํ. จีวรนฺติ ‘‘อหเตน อตฺถตํ โหติ กถิน’’นฺติ (มหาว. ๓๐๙) ปาฬิยํ ¶ อาคตานํ โสฬสนฺนํ อาการานํ อฺตเรน ยุตฺตํ กตปริโยสิตํ ทินฺนํ กปฺปพินฺทุํ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรจีวรํ. เต ปน จตุวีสติ อาการา, โสฬสาการา จ ปาฬิโต (มหาว. ๓๐๘), อฏฺกถาโต (มหาว. อฏฺ. ๓๐๘) จ คเหตพฺพา. คนฺถคารวปริหารตฺถมิธ น วุตฺตา.
ภิกฺขุนา วกฺขมาเน อฏฺธมฺเม ชานนฺเตน อตฺถรเกน อาทาย คเหตฺวา ปุราณกํ อตฺตนา ปริภฺุชิยมานํ อตฺถริตพฺพจีวเรน เอกนามกํ ปุราณจีวรํ อุทฺธริตฺวา ปจฺจุทฺธริตฺวา นวํ อตฺถริตพฺพํ จีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปุราณปจฺจุทฺธฏจีวรสฺส นาเมน อธิฏฺหิตฺวาว ตํ อนฺตรวาสกํ เจ, ‘‘อิมินา อนฺตรวาสเกน กถินํ อตฺถรามิ’’อิติ วจสา วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. สเจ อุตฺตราสงฺโค โหติ, ‘‘อิมินา อุตฺตราสงฺเคน กถินํ อตฺถรามิ’’, สเจ สงฺฆาฏิ โหติ, ‘‘อิมาย สงฺฆาฏิยา กถินํ อตฺถรามี’’ติ วตฺตพฺพํ.
๒๗๐๐-๑. อิจฺเจวํ ¶ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ โหตีติ โยชนา. เตน ปน ภิกฺขุนา นวเกน กถินจีวรํ อาทาย สงฺฆํ อุปสงฺกมฺม ‘‘อตฺถตํ, ภนฺเต, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทถ’’อิติ วตฺตพฺพนฺติ โยชนา.
๒๗๐๒. อนุโมทเกสุ จ เถเรหิ ‘‘อตฺถตํ, อาวุโส, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามา’’ติ วตฺตพฺพํ, นเวน ปน ‘‘อตฺถตํ, ภนฺเต, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามี’’ติ อิติ ปุน อีรเย กเถยฺยาติ โยชนา. คาถาย ปน อนุโมทนปาสฺส อตฺถทสฺสนมุเขน ‘‘สุอตฺถตํ ตยา ภนฺเต’’ติ วุตฺตํ, น ปากฺกมทสฺสนวเสนาติ เวทิตพฺพํ.
อตฺถารเกสุ จ อนุโมทเกสุ จ นเวหิ วุฑฺฒานํ วจนกฺกโม วุตฺโต, วุฑฺเฒหิ นวานํ วจนกฺกโม ปน ตทนุสาเรน ยถารหํ โยเชตฺวา วตฺตพฺโพติ คาถาสุ น วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. อตฺถารเกน เถเรน วา นเวน วา คณปุคฺคลานํ วจนกฺกโม จ คณปุคฺคเลหิ อตฺถารกสฺส วจนกฺกโม จ วุตฺตนเยน ยถารหํ โยเชตุํ สกฺกาติ น วุตฺโต.
เอวํ อตฺถเต ปน กถิเน สเจ กถินจีวเรน สทฺธึ อาภตํ อานิสํสํ ทายกา ‘‘เยน อมฺหากํ ¶ กถินํ คหิตํ, ตสฺเสว จ เทมา’’ติ เทนฺติ, ภิกฺขุสงฺโฆ อนิสฺสโร. อถ อวิจาเรตฺวาว ทตฺวา คจฺฉนฺติ, ภิกฺขุสงฺโฆ อิสฺสโร. ตสฺมา สเจ กถินตฺถารกสฺส เสสจีวรานิปิ ทุพฺพลานิ โหนฺติ, สงฺเฆน อปโลเกตฺวา เตสมฺปิ อตฺถาย วตฺถานิ ทาตพฺพานิ, กมฺมวาจาย ปน เอกาเยว วฏฺฏติ. อวเสเส ¶ กถินานิสํเส พลววตฺถานิ วสฺสาวาสิกิติกาย ทาตพฺพานิ, ิติกาย อภาเว เถราสนโต ปฏฺาย ทาตพฺพานิ, ครุภณฺฑํ น ภาเชตพฺพํ. สเจ ปน เอกสีมาย พหู วิหารา โหนฺติ, สพฺเพ ภิกฺขู สนฺนิปาเตตฺวา เอกตฺถ กถินํ อตฺถริตพฺพํ, วิสุํ วิสุํ อตฺถริตุํ น วฏฺฏติ.
๒๗๐๓. ‘‘กถินสฺส จ กึ มูล’’นฺติอาทีนิ สยเมว วิวริสฺสติ.
๒๗๐๖. อฏฺธมฺมุทฺเทสคาถาย ปุพฺพกิจฺจํ ปุพฺพ-วจเนเนว อุตฺตรปทโลเปน วุตฺตํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปุพฺพกิจฺจนฺติ วุจฺจตี’’ติ. ‘‘ปจฺจุทฺธาร’’อิติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปจฺจุทฺธร’’อิติ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปจฺจุทฺธาโร’’ติ. อธิฏฺหนํ อธิฏฺานํ. ปจฺจุทฺธาโร จ อธิฏฺานฺจ ปจฺจุทฺธราธิฏฺานา. อิตรีตรโยเคน ทฺวนฺทสมาโส. อตฺถาโรติ เอตฺถ ‘‘กถินตฺถาโร’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.
‘‘มาติกา’’ติ อิมินา ‘‘อฏฺ กถินุพฺภารมาติกา’’ติ ปกรณโต วิฺายติ. ยถาห – ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, มาติกา กถินสฺส อุพฺภารายา’’ติ (มหาว. ๓๑๐). มาติกาติ มาตโร ชเนตฺติโย, กถินุพฺภารํ เอตา อฏฺ ชเนนฺตีติ อตฺโถ. อุทฺธาโรติ กถินสฺส อุทฺธาโร. อานิสํสาติ เอตฺถ ‘‘กถินสฺสา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. กถินสฺส อานิสํสาติ อิเม อฏฺ ธมฺมาติ โยชนา. ยถาห ‘‘อตฺถตกถินานํ โว, ภิกฺขเว, ปฺจ กปฺปิสฺสนฺตี’’ติอาทิ (มหาว. ๓๐๖). ‘‘อานิสํเสนา’’ติปิ ปาโ. อานิสํเสน สห อิเม อฏฺ ธมฺมาติ โยชนา.
๒๗๐๗. ‘‘น อุลฺลิขิตมตฺตาทิ-จตุวีสติวชฺชิต’’นฺติอาทินา กถินํ อตฺถริตุํ กตปริโยสิตํ จีวรํ เจ ลทฺธํ, ตตฺถ ¶ ปฏิปชฺชนวิธึ ทสฺเสตฺวา สเจ อกตสิพฺพนาทิกมฺมํ วตฺถเมว ลทฺธํ, ตตฺถ ปฏิปชฺชนวิธึ ปุพฺพกิจฺจวเสน ทสฺเสตุมาห ‘‘โธวน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ โธวนนฺติ กถินทุสฺสสฺส เสตภาวกรณํ. วิจาโรติ ‘‘ปฺจกํ วา สตฺตกํ วา นวกํ วา เอกาทสกํ ¶ วา โหตู’’ติ วิจารณํ. เฉทนนฺติ ยถาวิจาริตสฺส วตฺถสฺส เฉทนํ. พนฺธนนฺติ โมฆสุตฺตกาโรปนํ. สิพฺพนนฺติ สพฺพสูจิกมฺมํ. รชนนฺติ รชนกมฺมํ. กปฺปนฺติ กปฺปพินฺทุทานํ. ‘‘ปุพฺพกิจฺจ’’นฺติ วุจฺจติ อิทํ สพฺพํ กถินตฺถารสฺส ปมเมว กตฺตพฺพตฺตา.
๒๗๐๘. อนฺตรวาสโกติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. สงฺฆาฏิ, อุตฺตราสงฺโค, อโถ อนฺตรวาสโกติ เอสเมว ตุ ปจฺจุทฺธาโรปิ อธิฏฺานมฺปิ อตฺถาโรปิ วุตฺโตติ โยชนา.
๒๗๐๙. อฏฺมาติกา (มหาว. ๓๑๐-๓๑๑; ปริ. ๔๑๕; มหาว. อฏฺ. ๓๑๐-๓๑๑) ทสฺเสตุมาห ‘‘ปกฺกมนฺจา’’ติอาทิ. ปกฺกมนํ อนฺโต เอตสฺสาติ ปกฺกมนนฺติกาติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘ปกฺกมน’’นฺติ วุตฺตํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อฏฺิมาติ เอตฺถ ‘‘มาติกา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อิมา อฏฺ มาติกาติ โยชนา.
๒๗๑๐. อุทฺเทสานุกฺกเมน นิทฺทิสิตุมาห ‘‘กตจีวรมาทายา’’ติอาทิ. ‘‘กตจีวรมาทายา’’ติ อิมินา จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. ‘‘อาวาเส นิรเปกฺขโก’’ติ อิมินา ทุติโย อาวาสปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. เอตฺถ สพฺพวากฺเยสุ ‘‘อตฺถตกถิโน โย ภิกฺขุ สเจ ปกฺกมตี’’ติ เสโส. อติกฺกนฺตาย สีมายาติ วิหารสีมาย อติกฺกนฺตาย. โหติ ปกฺกมนนฺติกาติ เอตฺถ ‘‘ตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ เสโส, ตสฺส ภิกฺขุโน ปกฺกมนนฺติกา นาม มาติกา โหตีติ อตฺโถ.
๒๗๑๑-๒. อานิสํสํ ¶ นาม วุตฺถวสฺเสน ลทฺธํ อกตสูจิกมฺมวตฺถํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘กโรตี’’ติอาทิ. ‘‘วิหาเร อนเปกฺขโก’’ติ อิมินา เอตฺถ ปมํ อาวาสปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. สุขวิหรณํ ปโยชนมสฺสาติ สุขวิหาริโก, วิหาโรติ. ตตฺถ ตสฺมึ วิหาเร วิหรนฺโตว ตํ จีวรํ ยทิ กโรติ, ตสฺมึ จีวเร นิฏฺิเต นิฏฺานนฺตา นิฏฺานนฺติกาติ วุจฺจตีติ โยชนา. ‘‘นิฏฺิเตจีวเร’’ติ อิมินา จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต.
๒๗๑๓. ตมสฺสมนฺติ ตํ วุตฺถวสฺสาวาสํ. ธุรนิกฺเขเปติ อุภยธุรนิกฺเขปวเสน จิตฺตปฺปวตฺตกฺขเณ. สนฺนิฏฺานํ นาม ธุรนิกฺเขโป. เอตฺถ ปลิโพธทฺวยสฺส เอกกฺขเณเยว อุปจฺเฉโท อฏฺกถายํ ¶ วุตฺโต ‘‘สนฺนิฏฺานนฺติเก ทฺเวปิ ปลิโพธา ‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’นฺติ จินฺติตมตฺเตเยว เอกโต ฉิชฺชนฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๑).
๒๗๑๔. กถินจฺฉาทนนฺติ กถินานิสํสํ จีวรวตฺถุํ. น ปจฺเจสฺสนฺติ น ปจฺจาคมิสฺสามิ. กโรนฺตสฺเสวาติ เอตฺถ ‘‘จีวร’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘กถินจฺฉาทน’’นฺติ อิทํ วา สมฺพนฺธนียํ. กโรนฺตสฺสาติ อนาทเร สามิวจนํ. นฏฺนฺติ โจเรหิ หฏตฺตา วา อุปจิกาทีหิ ขาทิตตฺตา วา นฏฺํ. ทฑฺฒํ วาติ อคฺคินา ทฑฺฒํ วา. นาสนนฺติกาติ เอวํ จีวรสฺส นาสนนฺเต ลพฺภมานา อยํ มาติกา นาสนนฺติกา นามาติ อตฺโถ. เอตฺถ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ อิมินา ปมํ อาวาสปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. ‘‘กโรนฺตสฺเสวา’’ติ อิมินา ทุติยํ จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต.
๒๗๑๕. ลทฺธานิสํโสติ ลทฺธกถินานิสํสจีวโร. อานิสํเส จีวเร สาเปกฺโข อเปกฺขวา พหิสีมคโต วสฺสํวุตฺถสีมาย ¶ พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กโรติ, โส กตจีวโร อนฺตรุพฺภารํ อนฺตรา อุพฺภารํ สุณาติ เจ, สวนนฺติกา นาม โหตีติ โยชนา. ‘‘พหิสีมคโต’’ติอาทินา ทุติยปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. เอตฺถ ‘‘กตจีวโร’’ติ วุตฺตตฺตา จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ปมํ โหติ, อิตโร ปน ‘‘สห สวเนน อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๑) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา ปจฺฉา โหติ.
๒๗๑๖-๗. จีวราสาย วสฺสํวุตฺโถ อาวาสโต ปกฺกนฺโต ‘‘ตุยฺหํ จีวรํ ทสฺสามี’’ติ เกนจิ วุตฺโต พหิสีมคโต ปน สวติ, ปุน ‘‘ตว จีวรํ ทาตุํ น สกฺโกมี’’ติ วุตฺโต อาสาย ฉินฺนมตฺตาย จีวเร ปจฺจาสาย อุปจฺฉินฺนมตฺตาย อาสาวจฺเฉทิกา นาม มาติกาติ มตา าตาติ โยชนา. อาสาวจฺฉาทิเก กถินุพฺภาเร อาวาสปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, จีวราสาย อุปจฺฉินฺนาย จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชติ.
๒๗๑๘-๒๐. โย วสฺสํวุตฺถวิหารมฺหา อฺํ วิหารํ คโต โหติ, โส อาคจฺฉํ อาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค กถินุทฺธารํ อติกฺกเมยฺย, ตสฺส โส กถินุทฺธาโร สีมาติกฺกนฺติโก มโตติ โยชนา. ตตฺถ สีมาติกฺกนฺติเก กถินุพฺภาเร จีวรปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, ตสฺส พหิสีเม อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชติ.
เอตฺถ ¶ จ ‘‘สีมาติกฺกนฺติโก นาม จีวรกาลสีมาติกฺกนฺติโก’’ติ เกนจิ วุตฺตํ. ‘‘พหิสีมายํ จีวรกาลสมยสฺส อติกฺกนฺตตฺตา สีมาติกฺกนฺติโก’’ติ (สารตฺถ. ฏี. มหาว. ๓๑๑) สารตฺถทีปนิยํ วุตฺตํ. ‘‘อาคจฺฉํ อนฺตรามคฺเค, ตทุทฺธารมติกฺกเม’’ติ วุตฺตตฺตา ปน สงฺเฆน ¶ กริยมานํ อนฺตรุพฺภารํ อาคจฺฉนฺโต วิหารสีมํ อสมฺปตฺเตเยว กถินุพฺภารสฺส ชาตตฺตา ตํ น สมฺภุเณยฺย, ตสฺเสวํ สีมมติกฺกนฺตสฺเสว สโต ปุน อาคจฺฉโต อนฺตรามคฺเค ชาโต กถินุพฺภาโร สีมาติกฺกนฺติโกติ อมฺหากํ ขนฺติ.
กถินานิสํสจีวรํ อาทาย สเจ อาวาเส สาเปกฺโขว คโต โหติ, ปุน อาคนฺตฺวา กถินุทฺธารํ กถินสฺส อนฺตรุพฺภารเมว สมฺภุณาติ เจ ยทิ ปาปุเณยฺย, ตสฺส โส กถินุทฺธาโร โหติ, โส ‘‘สหุพฺภาโร’’ติ วุจฺจตีติ โยชนา. สหุพฺภาเร ทฺเว ปลิโพธา อปุพฺพํ อจริมํ ฉิชฺชนฺติ.
๒๗๒๑. ‘‘สีมาติกฺกนฺติเกนา’’ติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘สีมโต’’ติ วุตฺตํ. ปกฺกมนฺจ นิฏฺานฺจ สนฺนิฏฺานฺจ สีมโต สีมาติกฺกนฺติเกน สห อิเม จตฺตาโร กถินุพฺภารา ปุคฺคลาธีนา ปุคฺคลายตฺตา สหุพฺภารสงฺขาโต อนฺตรุพฺภาโร สงฺฆาธีโนติ โยชนา. ‘‘อนฺตรุพฺภโร’’ติ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ.
๒๗๒๒. นาสนนฺติ นาสนนฺติโก. สวนนฺติ สวนนฺติโก. อาสาวจฺเฉทิกาปิ จาติ ตโยปิ กถินุพฺภารา. น ตุ สงฺฆา น ภิกฺขุโตติ สงฺฆโตปิ น โหนฺติ, ปุคฺคลโตปิ น โหนฺตีติ อตฺโถ. จีวรสฺส วินาโส สงฺฆสฺส วา จีวรสามิกสฺส วา ปโยเคน น ชาโตติ นาสนโก ตาว กถินุพฺภาโร อุภโตปิ น โหตีติ วุตฺโต. สวนฺจ อุภเยสํ ปโยคโต น ชาตนฺติ ตถา วุตฺตํ. ตถา อาสาวจฺเฉทิกาปิ.
๒๗๒๓. อาวาโสเยว ปลิโพโธติ วิคฺคโห. ปลิโพโธ จ จีวเรติ เอตฺถ จีวเรติ เภทวจนิจฺฉาย นิมิตฺตตฺเถ ¶ ภุมฺมํ, จีวรนิมิตฺตปลิโพโธติ อตฺโถ, จีวรสงฺขาโต ปลิโพโธติ วุตฺตํ โหติ. สจฺจาทิคุณยุตฺตํ มุสาวาทาทิโทสวิมุตฺตํ อตฺถํ วทติ สีเลนาติ ยุตฺตมุตฺตตฺถวาที, เตน.
๒๗๒๔. อฏฺนฺนํ ¶ มาติกานนฺติ พหิสีมคตานํ วเสน วุตฺตา ปกฺกมนนฺติกาทโย สตฺต มาติกา, พหิสีมํ คนฺตฺวา อนฺตรุพฺภารํ สมฺภุณนฺตสฺส วเสน วุตฺโต สหุพฺภาโรติ อิมาสํ อฏฺนฺนํ มาติกานํ วเสน จ. อนฺตรุพฺภารโตปิ วาติ พหิสีมํ อคนฺตฺวา ตตฺเถว วสิตฺวา กถินุพฺภารกมฺเมน อุพฺภารกถินานํ วเสน ลพฺภนโต อนฺตรุพฺภารโต จาติ มเหสินา กถินสฺส ทุเว อุพฺภาราปิ วุตฺตาติ โยชนา. พหิสีมํ คนฺตฺวา อาคตสฺส วเสน สหุพฺภาโร, พหิสีมํ อาคตานํ วเสน อนฺตรุพฺภาโรติ เอโกเยว อุพฺภาโร ทฺวิธา วุตฺโต, ตสฺมา อนฺตรุพฺภารํ วิสุํ อคฺคเหตฺวา อฏฺเว มาติกา ปาฬิยํ (มหาว. ๓๑๐) วิภตฺตาติ เวทิตพฺพา.
๒๗๒๕. อนามนฺตจาโร อุตฺตรปทโลปวเสน ‘‘อนามนฺตา’’ อิติ วุตฺโต. ยาว กถินํ น อุทฺธรียติ, ตาว อนามนฺเตตฺวา จรณํ กปฺปิสฺสติ, จาริตฺตสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.
อสมาทานจาโร ‘‘อสมาทาน’’นฺติ อุตฺตรปทโลเปน วุตฺโต. อสมาทานจาโรติ ติจีวรํ อสมาทาย จรณํ, จีวรวิปฺปวาโส กปฺปิสฺสตีติ อตฺโถ.
‘‘คณโต’’ติ อิมินา อุตฺตรปทโลเปน คณโภชนํ ทสฺสิตํ. คณโภชนมฺปิ กปฺปิสฺสติ, ตํ สรูปโต ปาจิตฺติยกณฺเฑ วุตฺตํ.
‘‘ยาวทตฺถิก’’นฺติ ¶ อิมินา ยาวทตฺถจีวรํ วุตฺตํ. ยาวทตฺถจีวรนฺติ ยาวตเกน จีวเรน อตฺโถ, ตาวตกํ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ กปฺปิสฺสตีติ อตฺโถ.
‘‘ตตฺถ โย จีวรุปฺปาโท’’ติ อิมินา ‘‘โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโท’’ติ (มหาว. ๓๐๖) วุตฺโต อานิสํโส ทสฺสิโต. โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโทติ ตตฺถ กถินตฺถตสีมายํ มตกจีวรํ วา โหตุ สงฺฆสฺส อุทฺทิสฺส ทินฺนํ วา สงฺฆิเกน ตตฺรุปฺปาเทน อาภตํ วา, เยน เกนจิ อากาเรน ยํ สงฺฆิกํ จีวรํ อุปฺปชฺชติ, ตํ เตสํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อิเม ปฺจ กถินานิสํสา จ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ.
กถินกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
จีวรกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๗๒๖-๗. จีวรํ ¶ อุปฺปชฺชติ เอตาสูติ ‘‘อุปฺปาทา’’ติ ชนิกาว วุจฺจนฺติ, จีวรวตฺถปริลาภกฺเขตฺตนฺติ อตฺโถ. ยถาห – ‘‘ยถาวุตฺตานํ จีวรานํ ปฏิลาภาย เขตฺตํ ทสฺเสตุํ อฏฺิมา ภิกฺขเว มาติกาติอาทิมาหา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙). จีวรมาติกาติ จีวรุปฺปาทเหตุภูตมาตโร. เตนาห กถินกฺขนฺธกวณฺณนายํ ‘‘มาติกาติ มาตโร, ชเนตฺติโยติ อตฺโถ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๐). มาติกาติ เจตฺถ จีวรทานมธิปฺเปตํ. ยถาห ‘‘สีมาย ทานํ เอกา มาติกา, กติกาย ทานํ ทุติยา’’ติอาทิ. สีมาย เทติ, กติกาย เทติ, ภิกฺขาปฺตฺติยา เทติ, สงฺฆสฺส เทติ, อุภโตสงฺเฆ เทติ, วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส เทติ, อาทิสฺส เทติ, ปุคฺคลสฺส เทติ. ‘‘อิมา ปน อฏฺ มาติกา’’ติ วุตฺตเมว นิคมนวเสน วุตฺตํ.
๒๗๒๘. ตตฺถาติ ¶ ตาสุ อฏฺมาติกาสุ. สีมาย เทตีติ ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ เอวํ สีมํ ปรามสิตฺวา เทนฺโต สีมาย เทติ, เอวํ ทินฺนํ อนฺโตสีมคเตหิ ภิกฺขูหิ ภาเชตพฺพนฺติ วณฺณิตนฺติ โยชนา. ตตฺถ อนฺโตสีมคเตหีติ ทายโก ยํ สีมํ อเปกฺขิตฺวา เอวมาห, ตสฺสา สีมาย อนฺโตคเตหิ สพฺเพหิ. ภาเชตพฺพนฺติ ตํ จีวรํ ภาเชตพฺพํ. วรวณฺณินาติ ‘‘อิติปิ โส ภควา อรห’’นฺติอาทินา สกลโลกพฺยาปิคุณาติสยยุตฺเตน พฺยามปฺปภาย, ฉพฺพณฺณานํ รํสีนฺจ วเสน อุตฺตมปฺปภาติสยยุตฺเตน วรวณฺณินา วณฺณิตํ กถิตํ. อยเมตฺถ ปทวณฺณนา, อยํ ปน วินิจฺฉโย – สีมาย เทตีติ เอตฺถ ตาว ขณฺฑสีมา อุปจารสีมา สมานสํวาสสีมา อวิปฺปวาสสีมา ลาภสีมา คามสีมา นิคมสีมา นครสีมา อพฺภนฺตรสีมา อุทกุกฺเขปสีมา ชนปทสีมา รฏฺสีมา รชฺชสีมา ทีปสีมา จกฺกวาฬสีมา อิติ ปนฺนรส สีมา เวทิตพฺพา.
ตตฺถ ขณฺฑสีมา สีมากถายํ วุตฺตา. อุปจารสีมา ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเปน, อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปารหฏฺาเนน ปริจฺฉินฺนา โหติ. อปิจ ภิกฺขูนํ ธุวสนฺนิปาตฏฺานโต วา ปริยนฺเต ิตโภชนสาลโต วา นิพทฺธวสนกอาวาสโต วา ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต อุปจารสีมา เวทิตพฺพา. สา ปน อาวาเสสุ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒติ, ปริหายนฺเตสุ ปริหายติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ภิกฺขูสุปิ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) วุตฺตํ. ตสฺมา สเจ วิหาเร สนฺนิปติตภิกฺขูหิ สทฺธึ ¶ เอกาพทฺธา หุตฺวา โยชนสตมฺปิ ปูเรตฺวา นิสีทนฺติ, โยชนสตมฺปิ อุปจารสีมาว โหติ, สพฺเพสํ ลาโภ ปาปุณาติ. สมานสํวาสอวิปฺปวาสสีมาทฺวยมฺปิ วุตฺตเมว.
ลาภสีมา ¶ นาม เนว สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนฺุาตา, น ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตา, อปิจ โข ราชราชมหามตฺตา วิหารํ กาเรตฺวา คาวุตํ วา อฑฺฒโยชนํ วา โยชนํ วา สมนฺตโต ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อยํ อมฺหากํ วิหารสฺส ลาภสีมา’’ติ นามลิขิตเก ถมฺเภ นิขณิตฺวา ‘‘ยํ เอตฺถนฺตเร อุปฺปชฺชติ, สพฺพํ ตํ อมฺหากํ วิหารสฺส เทมา’’ติ สีมํ เปนฺติ, อยํ ลาภสีมา นาม. คามนิคมนครอพฺภนฺตรอุทกุกฺเขปสีมาปิ วุตฺตา เอว.
ชนปทสีมา นาม กาสิโกสลรฏฺาทีนํ อนฺโต พหู ชนปทา โหนฺติ, เอตฺถ เอเกโก ชนปทปริจฺเฉโท ชนปทสีมา. รฏฺสีมา นาม กาสิโกสลาทิรฏฺปริจฺเฉโท. รชฺชสีมา นาม มหาโจฬโภโค เกรฬโภโคติ เอวํ เอเกกสฺส รฺโ อาณาปวตฺติฏฺานํ. ทีปสีมา นาม สมุทฺทนฺเตน สมุจฺฉินฺนมหาทีปา จ อนฺตรทีปา จ. จกฺกวาฬสีมา นาม จกฺกวาฬปพฺพเตเนว ปริจฺฉินฺนา.
เอวเมตาสุ สีมาสุ ขณฺฑสีมาย เกนจิ กมฺเมน สนฺนิปติตํ สงฺฆํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺเถว สีมาย สงฺฆสฺส เทมี’’ติ วุตฺเต ยาวติกา ภิกฺขู อนฺโตขณฺฑสีมคตา, เตหิ ภาเชตพฺพํ. เตสํเยว หิ ตํ ปาปุณาติ, อฺเสํ สีมนฺตริกาย วา อุปจารสีมาย วา ิตานมฺปิ น ปาปุณาติ. ขณฺฑสีมาย ิเต ปน รุกฺเข วา ปพฺพเต วา ิตสฺส เหฏฺา วา ปถวิยา เวมชฺฌํ คตสฺส ปาปุณาติเยว.
‘‘อิมิสฺสา อุปจารสีมาย สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ิตานมฺปิ ปาปุณาติ. ‘‘สมานสํวาสสีมาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ิตานํ น ปาปุณาติ. อวิปฺปวาสสีมาลาภสีมาสุ ทินฺนํ ตาสุ สีมาสุ อนฺโตคตานํเยว ปาปุณาติ. คามสีมาทีสุ ทินฺนํ ¶ ตาสํ สีมานํ อพฺภนฺตเร พทฺธสีมาย ิตานมฺปิ ปาปุณาติ. อพฺภนฺตรสีมาอุทกุกฺเขปสีมาสุ ทินฺนํ ตตฺถ อนฺโตคตานํเยว ปาปุณาติ. ชนปทรฏฺรชฺชทีปจกฺกวาฬสีมาสุปิ คามสีมาทีสุ วุตฺตสทิโสเยว วินิจฺฉโย.
สเจ ¶ ปน ชมฺพุทีเป ิโต ‘‘ตมฺพปณฺณิทีเป สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, ตมฺพปณฺณิทีปโต เอโกปิ คนฺตฺวา สพฺเพสํ คณฺหิตุํ ลภติ. สเจปิ ตตฺเรว เอโก สภาคภิกฺขุ สภาคานํ ภาคํ คณฺหาติ, น วาเรตพฺโพ. เอวํ ตาว โย สีมํ ปรามสิตฺวา เทติ, ตสฺส ทาเน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
โย ปน ‘‘อสุกสีมายา’’ติ วตฺตุํ น ชานาติ, เกวลํ ‘‘สีมา’’ติ วจนมตฺตเมว ชานนฺโต วิหารํ อาคนฺตฺวา ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ วา ‘‘สีมฏฺกสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วา ภณติ, โส ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สีมา นาม พหุวิธา, กตรํ สีมํ สนฺธาย ภณสี’’ติ, สเจ วทติ ‘‘อหํ ‘อสุกสีมา’ติ น ชานามิ, สีมฏฺกสงฺโฆ ภาเชตฺวา คณฺหตู’’ติ, กตรสีมาย ภาเชตพฺพํ? มหาสีวตฺเถโร กิราห ‘‘อวิปฺปวาสสีมายา’’ติ. ตโต นํ อาหํสุ ‘‘อวิปฺปวาสสีมา นาม ติโยชนาปิ โหติ, เอวํ สนฺเต ติโยชเน ิตา ลาภํ คณฺหิสฺสนฺติ, ติโยชเน ตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ ปูเรตฺวา อารามํ ปวิสิตพฺพํ ภวิสฺสติ, คมิโก ติโยชนํ คนฺตฺวา เสนาสนํ อาปุจฺฉิสฺสติ, นิสฺสยปฏิปนฺนสฺส ติโยชนาติกฺกเม นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภิสฺสติ, ปาริวาสิเกน ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ ภวิสฺสติ, ภิกฺขุนิยา ติโยชเน ตฺวา อารามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉิตพฺพํ ภวิสฺสติ, สพฺพมฺเปตํ อุปจารสีมาปริจฺเฉทวเสเนว กตฺตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา อุปจารสีมายเมว ภาเชตพฺพ’’นฺติ.
๒๗๒๙. เย ¶ วิหารา สงฺเฆน กติกาย เอกลาภกา สมานลาภกา เอตฺถ เอเตสุ วิหาเรสุ ทินฺนํ ‘‘กติกาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ สพฺเพหิ ภิกฺขูหิ สห ภาเชตพฺพํ จีวรํ กติกาย วุจฺจตีติ โยชนา.
อยเมตฺถ วินิจฺฉโย – กติกา นาม สมานลาภกติกา, ตตฺเรวํ กติกา กาตพฺพา – เอกสฺมึ วิหาเร สนฺนิปติเตหิ ภิกฺขูหิ ยํ วิหารํ สงฺคณฺหิตุกามา สมานลาภํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ, อสฺส นามํ คเหตฺวา ‘‘อสุโก นาม วิหาโร โปราณโก’’ติ วา ‘‘พุทฺธาธิวุตฺโถ’’ติ วา ‘‘อปฺปลาโภ’’ติ วา ยํ กิฺจิ การณํ วตฺวา ‘‘ตํ วิหารํ อิมินา วิหาเรน สทฺธึ เอกลาภํ กาตุํ สงฺฆสฺส รุจฺจตี’’ติ ติกฺขตฺตุํ สาเวตพฺพํ. เอตฺตาวตา ตสฺมึ วิหาเร นิสินฺโนปิ อิธ นิสินฺโนว โหติ. ตสฺมึ วิหาเรปิ สงฺเฆน เอวเมว กาตพฺพํ. เอตฺตาวตา อิธ ¶ นิสินฺโนปิ ตสฺมึ วิหาเร นิสินฺโนว โหติ. เอกสฺมึ ลาเภ ภาชิยมาเน อิตรสฺมึ ิตสฺส ภาคํ คเหตุํ วฏฺฏติ. เอวํ เอเกน วิหาเรน สทฺธึ พหูปิ อาวาสา เอกลาภา กาตพฺพาติ.
๒๗๓๐. จีวรทายเกน ธุวการา ปากวตฺตาทินิจฺจสกฺการา ยตฺถ สงฺฆสฺส กฺรียนฺติ กรียนฺติ ตตฺถ ตสฺมึ วิหาเร เตเนว ทายเกน สงฺฆสฺส ทินฺนํ วิหารํ ‘‘ภิกฺขาปฺตฺติยา ทินฺน’’นฺติ มเหสินา วุตฺตนฺติ โยชนา.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ยสฺมึ วิหาเร อิมสฺส จีวรทายกสฺส สนฺตกํ สงฺฆสฺส ปากวตฺตํ วา วตฺตติ, ยสฺมึ วา วิหาเร ภิกฺขู อตฺตโน ภารํ กตฺวา สทา เคเห โภเชติ, ยตฺถ วา เตน อาวาโส การิโต, สลากภตฺตาทีนิ วา นิพทฺธานิ, เยน ปน สกโลปิ วิหาโร ¶ ปติฏฺาปิโต, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, อิเม ธุวการา นาม. ตสฺมา สเจ โส ‘‘ยตฺถ มยฺหํ ธุวการา กรียนฺติ, เอตฺถ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘ตตฺถ เทถา’’ติ วา ภณติ, พหูสุ เจปิ าเนสุ ธุวการา โหนฺติ, สพฺพตฺถ ทินฺนเมว โหติ.
สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู พหุตรา โหนฺติ, เตหิ วตฺตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ ธุวกาเร เอกตฺถ ภิกฺขู พหู, เอกตฺถ อปฺปกา’’ติ, สเจ ‘‘ภิกฺขุคณนาย คณฺหถา’’ติ ภณติ, ตถา ภาเชตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ วตฺถเภสชฺชาทิ อปฺปกมฺปิ สุเขน ภาชียติ, ยทิ ปน มฺโจ วา ปีกํ วา เอกเมว โหติ, ตํ ปุจฺฉิตฺวา ยสฺส วา วิหารสฺส เอกวิหาเรปิ วา ยสฺส เสนาสนสฺส โส วิจาเรติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจ ‘‘อสุกภิกฺขุ คณฺหตู’’ติ วทติ, วฏฺฏติ.
อถ ‘‘มยฺหํ ธุวกาเร เทถา’’ติ วตฺวา อวิจาเรตฺวาว คจฺฉติ, สงฺฆสฺสปิ วิจาเรตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ปน วิจาเรตพฺพํ – ‘‘สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน เทถา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ตตฺถ เสนาสนํ ปริปุณฺณํ โหติ. ยตฺถ นปฺปโหติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจ เอโก ภิกฺขุ ‘‘มยฺหํ วสนฏฺาเน เสนาสนปริโภคภณฺฑํ นตฺถี’’ติ วทติ, ตตฺถ ทาตพฺพนฺติ.
๒๗๓๑. สงฺฆสฺส ปน ยํ ทินฺนนฺติ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ยํ จีวรํ ทินฺนํ. ‘‘สมฺมุขีภูเตนา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺเธน รสฺสตฺตํ. สมฺมุขิภูเตนาติ จ ¶ อุปจารสีมาย ิเตน. ภาเชตพฺพนฺติ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา กาลํ โฆเสตฺวา ภาเชตพฺพํ. อิทเมตฺถ มุขมตฺตทสฺสนํ. วินิจฺฉโย อฏฺกถาย (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ – จีวรทายเกน ¶ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺเนสุ ภาชิยมาเนสุ สีมฏฺสฺส อสมฺปตฺตสฺสปิ ภาคํ คณฺหนฺโต น วาเรตพฺโพ. วิหาโร มหา โหติ, เถราสนโต ปฏฺาย วตฺเถสุ ทิยฺยมาเนสุ อลสชาติกา มหาเถรา ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต, วีสติวสฺสานํ ทิยฺยติ, ตุมฺหากํ ิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา, ิติกํ เปตฺวา เตสํ ทตฺวา ปจฺฉา ิติกาย ทาตพฺพํ.
‘‘อสุกวิหาเร กิร พหุํ จีวรํ อุปฺปนฺน’’นฺติ สุตฺวา โยชนนฺตริกวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ ิตฏฺานโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ. อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมํ ปวิฏฺานํ อนฺเตวาสิกาทีสุ คณฺหนฺเตสุ ทาตพฺพเมว. ‘‘พหิ อุปจารสีมาย ิตานํ เทถา’’ติ วทนฺติ, น ทาตพฺพํ. สเจ ปน อุปจารสีมํ โอกฺกนฺเตหิ เอกาพทฺธา หุตฺวา อตฺตโน วิหารทฺวาเร วา อนฺโตวิหาเรเยว วา โหนฺติ, ปริสวเสน วฑฺฒิตา นาม สีมา โหติ, ตสฺมา ทาตพฺพํ. สงฺฆนวกสฺส ทินฺเนปิ ปจฺฉา อาคตานํ ทาตพฺพเมว. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเห อาคตานํ ปมภาโค น ปาปุณาติ, ทุติยภาคโต วสฺสคฺเคน ทาตพฺพํ.
เอกสฺมึ วิหาเร ทส ภิกฺขู โหนฺติ, ทส วตฺถานิ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ เทนฺติ, ปาเฏกฺกํ ภาเชตพฺพานิ. สเจ ‘‘สพฺพาเนว อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ทุปฺปาปิตานิ เจว ทุคฺคหิตานิ จ, คตคตฏฺาเน สงฺฆิกาเนว โหนฺติ. เอกํ ปน อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ทตฺวา เสสานิ ‘‘อิมานิ อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ.
เอกเมว วตฺถํ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ อาหรนฺติ, อภาเชตฺวาว ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, ทุปฺปาปิตฺเจว ทุคฺคหิตฺจ, สตฺถเกน, ปน หลิทฺทิอาทินา วา เลขํ กตฺวา เอกํ ¶ โกฏฺาสํ ‘‘อิมํ านํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ปาเปตฺวา เสสํ ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. ยํ ปน วตฺถสฺเสว ปุปฺผํ วา วลิ วา, เตน ปริจฺเฉทํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ เอกํ ตนฺตํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ านํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ทตฺวา เสสํ ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, วฏฺฏติ. ขณฺฑํ ขณฺฑํ ฉินฺทิตฺวา ภาชิยมานํ วฏฺฏติเยว.
เอกภิกฺขุเก ¶ วิหาเร สงฺฆสฺส จีวเรสุ อุปฺปนฺเนสุ สเจ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว โส ภิกฺขุ ‘‘สพฺพานิ มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตานิ, ิติกา ปน น ติฏฺติ. สเจ เอเกกํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหาติ, ิติกา ติฏฺติ. ตตฺถ ิติกาย อฏฺิตาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ เอโก ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา ทฺวีหิปิ คเหตพฺพํ. ิตาย ิติกาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ นวกตโร อาคจฺฉติ, ิติกา เหฏฺา โอโรหติ. สเจ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, ิติกา อุทฺธํ อาโรหติ. อถ อฺโ นตฺถิ, ปุน อตฺตโน ปาเปตฺวา คเหตพฺพํ.
‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน สงฺฆํ อามสิตฺวา ทินฺนํ ปน ปํสุกูลิกานํ น วฏฺฏติ ‘‘คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปามิ, ปํสุกูลิกงฺคํ สมาทิยามี’’ติ วุตฺตตฺตา, น ปน อกปฺปิยตฺตา. ภิกฺขุสงฺเฆน อปโลเกตฺวา ทินฺนมฺปิ น คเหตพฺพํ. ยํ ปน ภิกฺขุ อตฺตโน สนฺตกํ เทติ, ตํ ภิกฺขุทตฺติยํ นาม วฏฺฏติ. ปํสุกูลํ ปน น โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ธุตงฺคํ น ภิชฺชติ. ‘‘ภิกฺขูนํ เทม, เถรานํ เทมา’’ติ วุตฺเต ปน ปํสุกูลิกานมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อิทํ วตฺถํ สงฺฆสฺส เทม, อิมินา อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกอาโยคอํสพทฺธกาทีนิ ¶ กโรถา’’ติ ทินฺนมฺปิ วฏฺฏติ.
ปตฺตตฺถวิกาทีนํ อตฺถาย ทินฺนานิ พหูนิปิ โหนฺติ, จีวรตฺถายปิ ปโหนฺติ, ตโต จีวรํ กตฺวา ปารุปิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน สงฺโฆ ภาชิตาติริตฺตานิ วตฺถานิ ฉินฺทิตฺวา อุปาหนตฺถวิกาทีนํ อตฺถาย ภาเชติ, ตโต คเหตุํ น วฏฺฏติ. สามิเกหิ วิจาริตเมว หิ วฏฺฏติ, น อิตรํ.
‘‘ปํสุกูลิกสงฺฆสฺส ธมฺมกรณอํสพทฺธาทีนํ อตฺถาย เทมา’’ติ วุตฺเตปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. ปริกฺขาโร นาม ปํสุกูลิกานมฺปิ อิจฺฉิตพฺโพ. ยํ ตตฺถ อติเรกํ โหติ, ตํ จีวเรปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. สุตฺตํ สงฺฆสฺส เทนฺติ, ปํสุกูลิเกหิปิ คเหตพฺพํ. อยํ ตาว วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺเนสุ วินิจฺฉโย.
สเจ ปน พหิ อุปจารสีมาย อทฺธานปฏิปนฺเน ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส วา สงฺฆนวกสฺส วา อาโรเจติ, สเจปิ โยชนํ ผริตฺวา ปริสา ิตา โหติ, เอกาพทฺธา ¶ เจ, สพฺเพสํ ปาปุณาติ. เย ปน ทฺวาทสหิ หตฺเถหิ ปริสํ อสมฺปตฺตา, เตสํ น ปาปุณาตีติ.
๒๗๓๒. อิทานิ ‘‘อุภโตสงฺเฆ เทตี’’ติ มาติกํ วิวรนฺโต อาห ‘‘อุภโตสงฺฆมุทฺทิสฺสา’’ติอาทิ. อุภโตสงฺฆมุทฺทิสฺสาติ ภิกฺขุสงฺฆํ, ภิกฺขุนิสงฺฆฺจ อุทฺทิสิตฺวา. เทตีติ ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส เทมี’’ติ เทติ. ‘‘พหุ วา’’ติ เอตฺถ ‘‘พหู วา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ. ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขู โถกา วา โหนฺตุ พหู วา, ปุคฺคลคฺเคน อกตฺวา อุภโตสงฺฆวเสน สมภาโคว กาตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
ตตฺรายํ ¶ วินิจฺฉโย – ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘ทฺเวธาสงฺฆสฺส ทมฺมิ, ทฺวินฺนํ สงฺฆานํ ทมฺมิ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ อุภโตสงฺฆสฺส ทินฺนเมว โหติ, ทฺเว ภาเค สเม กตฺวา เอโก ทาตพฺโพ.
‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต สเจ ทส ทส ภิกฺขู, ภิกฺขุนิโย จ โหนฺติ, เอกวีสติ ปฏิวีเส กตฺวา เอโก ปุคฺคลสฺส ทาตพฺโพ, ทส ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ทส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส. เยน ปุคฺคลิโก ลทฺโธ, โส สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน คเหตุํ ลภติ. กสฺมา? อุภโตสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา.
‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. อิธ ปน เจติยสฺส สงฺฆโต ปาปุณนโกฏฺาโส นาม นตฺถิ, เอกปุคฺคลสฺส ปตฺตโกฏฺาสสโมว โกฏฺาโส โหติ.
‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน ทฺวาวีสติ โกฏฺาเส กตฺวา ทส ภิกฺขูนํ, ทส ภิกฺขุนีนํ, เอโก ปุคฺคลสฺส, เอโก เจติยสฺส ทาตพฺโพ. ตตฺถ ปุคฺคโล สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน ปุน คเหตุํ ลภติ. เจติยสฺส เอโกเยว.
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา น ทาตพฺพํ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ทาตพฺพํ.
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ¶ จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปน ปุคฺคโล วิสุํ ¶ น ลภติ, ปาปุณนฏฺานโต เอกเมว ลภติ. กสฺมา? ภิกฺขุสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา.
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ. ตสฺมา เอกํ เจติยสฺส ทตฺวา อวเสสํ ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ภาเชตพฺพํ.
‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ น มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทาตพฺพํ, ปุคฺคลคณนาย เอว วิภชิตพฺพํ.
‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ เอวํ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ นตฺถิ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา เอว ภาเชตพฺพํ. ยถา จ ภิกฺขุสงฺฆํ อาทึ กตฺวา นโย นีโต, เอวํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เนตพฺโพ.
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ, วสฺสคฺเคเนว คเหตพฺพํ.
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส วิสุํ ปฏิวีโส ลพฺภติ.
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส.
‘‘ภิกฺขูนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเตปิ วิสุํ น ลพฺภติ.
‘‘ภิกฺขูนฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส ลพฺภติ.
‘‘ภิกฺขูนฺจ ¶ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว วิสุํ ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส. ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ.
ปุพฺเพ พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ภควา มชฺเฌ นิสีทติ, ทกฺขิณโต ภิกฺขู, วามโต ภิกฺขุนิโย นิสีทนฺติ, ภควา อุภินฺนํ สงฺฆตฺเถโร, ตทา ภควา อตฺตโน ลทฺธปจฺจเย อตฺตนาปิ ปริภฺุชติ, ภิกฺขูนมฺปิ ทาเปติ. เอตรหิ ปน ปณฺฑิตมนุสฺสา สธาตุกํ ปฏิมํ วา เจติยํ วา เปตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ปฏิมาย วา ¶ เจติยสฺส วา ปุรโต อาธารเก ปตฺตํ เปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ‘‘พุทฺธานํ เทมา’’ติ ตตฺถ ยํ ปมํ ขาทนียํ โภชนียํ เทนฺติ, วิหารํ วา อาหริตฺวา ‘‘อิทํ เจติยสฺส เทมา’’ติ ปิณฺฑปาตฺจ มาลาคนฺธาทีนิ จ เทนฺติ, ตตฺถ กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? มาลาคนฺธาทีนิ ตาว เจติเย อาโรเปตพฺพานิ, วตฺเถหิ ปฏากา, เตเลน ปทีปา กาตพฺพา. ปิณฺฑปาตมธุผาณิตาทีนิ ปน โย นิพทฺธํ เจติยสฺส ชคฺคโก โหติ ปพฺพชิโต วา คหฏฺโ วา, ตสฺส ทาตพฺพานิ. นิพทฺธชคฺคเก อสติ อาหฏปตฺตํ เปตฺวา วตฺตํ กตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อุปกฏฺเ กาเล ภฺุชิตฺวา ปจฺฉาปิ วตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติเยว.
มาลาคนฺธาทีสุ จ ยํ กิฺจิ ‘‘อิทํ หริตฺวา เจติยสฺส ปูชํ กโรถา’’ติ วุตฺเต ทูรมฺปิ หริตฺวา ปูเชตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขํ สงฺฆสฺส หรา’’ติ วุตฺเตปิ หริตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อหํ ปิณฺฑาย จรามิ, อาสนสาลาย ภิกฺขู อตฺถิ, เต หริสฺสนฺตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ภนฺเต, ตุยฺหํเยว ทมฺมี’’ติ วทติ, ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อถ ปน ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทสฺสามี’’ติ หรนฺตสฺส คจฺฉโต อนฺตราว กาโล อุปกฏฺโ โหติ, อตฺตโน ปาเปตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
๒๗๓๓. ยํ ปน จีวรํ ‘‘ยสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุตฺถสฺส สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ, ตสฺมึเยว อาวาเส วุตฺถวสฺเสน สงฺเฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วา ตํ จีวรํ ภาเชตพฺพนฺติ วณฺณิตํ เทสิตนฺติ โยชนา.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ, ยาวติกา ภิกฺขู ตสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุตฺถา, ยตฺตกา วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา ปุริมวสฺสํวุตฺถา, เตหิ ภาเชตพฺพํ, อฺเสํ น ปาปุณาติ. ทิสาปกฺกนฺตสฺสาปิ ¶ สติ คาหเก ¶ ยาว กถินสฺส อุพฺภารา ทาตพฺพํ. อนตฺถเต ปน กถิเน อนฺโตเหมนฺเต เอวฺจ วตฺวา ทินฺนํ ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺถานมฺปิ ปาปุณาตีติ ลกฺขณฺู วทนฺติ. อฏฺกถาสุ ปเนตํ อวิจาริตํ.
สเจ ปน พหิ อุปจารสีมายํ ิโต ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, สมฺปตฺตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. อถ ‘‘อสุกวิหาเร วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺสา’’ติ วทติ, ตตฺร วสฺสํวุตฺถานเมว ยาว กถินสฺสุพฺภารา ปาปุณาติ. สเจ ปน คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย เอวํ วทติ, ตตฺร สมฺมุขีภูตานํเยว สพฺเพสํ ปาปุณาติ. กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา. อนฺโตวสฺเสเยว ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ฉินฺนวสฺสา น ลภนฺติ, วสฺสํ วสนฺตาว ลภนฺติ. จีวรมาเส ปน ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปคตานํเยว ปาปุณาติ, ปุริมิกาย วสฺสูปคตานฺจ ฉินฺนวสฺสานฺจ น ปาปุณาติ.
จีวรมาสโต ปฏฺาย ยาว เหมนฺตสฺส ปจฺฉิโม ทิวโส, ตาว ‘‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ วา โหตุ อนตฺถตํ วา, อตีตวสฺสํวุตฺถานเมว ปาปุณาติ. คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย วุตฺเต ปน มาติกา อาโรเปตพฺพา ‘‘อตีตวสฺสาวาสสฺส ปฺจ มาสา อภิกฺกนฺตา, อนาคเต จาตุมาสจฺจเยน ภวิสฺสติ, กตรวสฺสาวาสสฺส เทสี’’ติ. สเจ ‘‘อตีตวสฺสํวุตฺถานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ อนฺโตวสฺสํ วุตฺถานเมว ปาปุณาติ. ทิสาปกฺกนฺตานมฺปิ สภาคา คณฺหิตุํ ลภนฺติ.
สเจ ‘‘อนาคเต วสฺสาวาสิกํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ เปตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส คเหตพฺพํ. อถ ‘‘อคุตฺโต วิหาโร, โจรภยํ อตฺถิ, น สกฺกา เปตุํ, คณฺหิตฺวา วา อาหิณฺฑิตุ’’นฺติ ¶ วุตฺเต ‘‘สมฺปตฺตานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ภาเชตฺวา คเหตพฺพํ. สเจ วทติ ‘‘อิโต เม, ภนฺเต, ตติเย วสฺเส วสฺสาวาสิกํ น ทินฺนํ, ตํ ทมฺมี’’ติ, ตสฺมึ อนฺโตวสฺเส วุตฺถภิกฺขูนํ ปาปุณาติ. สเจ เต ทิสาปกฺกนฺตา, อฺโ วิสฺสาสิโก คณฺหาติ, ทาตพฺพํ. อถ เอโกเยว อวสิฏฺโ, เสสา กาลกตา, สพฺพํ เอกสฺเสว ปาปุณาติ. สเจ เอโกปิ นตฺถิ, สงฺฆิกํ โหติ, สมฺมุขีภูเตหิ ภาเชตพฺพนฺติ.
๒๗๓๔. ยาคุยา ปน ปีตาย วา ภตฺเต วา ภุตฺเต สเจ ปน อาทิสฺส ‘‘เยน เม ยาคุ ปีตา, ตสฺส ทมฺมิ, เยน เม ภตฺตํ ภุตฺตํ, ตสฺส ทมฺมี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา จีวรํ เทติ, วินยธเรน ¶ ตตฺถ ตตฺเถว ทานํ ทาตพฺพนฺติ โยชนา. เอส นโย ขาทนียจีวรเสนาสนเภสชฺชาทีสุ.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ภิกฺขู อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา ยาคุยา นิมนฺเตตฺวา เตสํ ฆรํ ปวิฏฺานํ ยาคุํ เทติ, ยาคุํ ทตฺวา ปีตาย ยาคุยา ‘‘อิมานิ จีวรานิ เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, เตสํ ทมฺมี’’ติ เทติ, เยหิ นิมนฺติเตหิ ยาคุ ปีตา, เตสํเยว ปาปุณนฺติ, เยหิ ปน ภิกฺขาจารวตฺเตน ฆรทฺวาเรน คจฺฉนฺเตหิ วา ฆรํ ปวิฏฺเหิ วา ยาคุ ลทฺธา, เยสํ วา อาสนสาลโต ปตฺตํ อาหริตฺวา มนุสฺเสหิ นีตา, เย วา เถเรหิ เปสิตา, เตสํ น ปาปุณนฺติ.
สเจ ปน นิมนฺติตภิกฺขูหิ สทฺธึ อฺเปิ พหู อาคนฺตฺวา อนฺโตเคหฺจ พหิเคหฺจ ปูเรตฺวา นิสินฺนา, ทายโก จ เอวํ วทติ ‘‘นิมนฺติตา วา โหนฺตุ อนิมนฺติตา วา, เยสํ มยา ยาคุ ทินฺนา, สพฺเพสํ อิมานิ วตฺถานิ โหนฺตู’’ติ, สพฺเพสํ ปาปุณนฺติ. เยหิ ปน เถรานํ หตฺถโต ยาคุ ¶ ลทฺธา, เตสํ น ปาปุณนฺติ. อถ โส ‘‘เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, สพฺเพสํ โหนฺตู’’ติ วทติ, สพฺเพสํ ปาปุณนฺติ. ภตฺตขาทนีเยสุปิ เอเสว นโย.
จีวเร วาติ ปุพฺเพปิ เยน วสฺสํ วาเสตฺวา ภิกฺขูนํ จีวรํ ทินฺนปุพฺพํ โหติ, โส เจ ภิกฺขู โภเชตฺวา วทติ ‘‘เยสํ มยา ปุพฺเพ จีวรํ ทินฺนํ, เตสํเยว อิมํ จีวรํ วา สุตฺตํ วา สปฺปิมธุผาณิตาทีนิ วา โหนฺตู’’ติ, สพฺพํ เตสํเยว ปาปุณาติ.
เสนาสเน วาติ ‘‘โย มยา การิเต วิหาเร วา ปริเวเณ วา วสติ, ตสฺสิทํ โหตู’’ติ วุตฺเต ตสฺเสว โหติ.
เภสชฺเช วาติ ‘‘มยํ กาเลน กาลํ เถรานํ สปฺปิอาทีนิ เภสชฺชานิ เทม, เยหิ ตานิ ลทฺธานิ, เตสํเยวิทํ โหตู’’ติ วุตฺเต เตสํเยว โหตีติ.
๒๗๓๕. ทียเตติ ทานนฺติ กมฺมสาธเนน จีวรํ วุจฺจติ. ยํ-สทฺเทน จีวรสฺส ปรามฏฺตฺตา ตํ-สทฺเทนาปิ ตเทว ปรามสิตพฺพนฺติ.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ‘‘อิมํ ¶ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ เอวํ ปรมฺมุขา วา ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ทมฺมี’’ติ เอวํ สมฺมุขา วา ปาทมูเล เปตฺวา วา เทติ, ตํ ตสฺเสว โหติ. สเจ ปน ‘‘อิทํ ตุมฺหากฺจ ตุมฺหากํ อนฺเตวาสิกานฺจ ทมฺมี’’ติ เอวํ วทติ, เถรสฺส จ อนฺเตวาสิกานฺจ ปาปุณาติ. อุทฺเทสํ คเหตุํ อาคโต คเหตฺวา คจฺฉนฺโต จ อตฺถิ, ตสฺสาปิ ปาปุณาติ. ‘‘ตุมฺเหหิ สทฺธึ นิพทฺธจาริกภิกฺขูนํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต อุทฺเทสนฺเตวาสิกานํ วตฺตํ กตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ คเหตฺวา วิจรนฺตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาตีติ.
๒๗๓๗. วทติจฺเจวเมว ¶ เจติ อิจฺเจวํ ยถาวุตฺตนเยน วทติ เจ. ตนฺติ ตํ ปริกฺขารํ. เตสนฺติ มาตุอาทีนํ. สงฺฆสฺเสว สนฺตกํ โหตีติ โยชนา.
๒๗๓๘. ‘‘ปฺจนฺนํ…เป… โหตี’’ติ อิมินา ปุริมคาถาทฺวเยน วิตฺถาริตเมวตฺถํ สํขิปิตฺวา ทสฺเสติ. ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ. อจฺจเยติ กาลกิริยาย. ทานนฺติ ‘‘มยิ กาลกเต อิมํ ปริกฺขารํ ตุยฺหํ โหตุ, ตว สนฺตกํ กโรหี’’ติอาทินา ปริจฺจชนํ. กิฺจิปีติ อนฺตมโส ทนฺตกฏฺมฺปิ. คิหีนํ ปน ทานํ ตถา ทายกานํ คิหีนเมว อจฺจเย รูหตีติ โยชนา.
๒๗๓๙. ภิกฺขุ วา สามเณโร วา ภิกฺขุนิอุปสฺสเย กาลํ กโรติ, อสฺส ภิกฺขุสฺส วา สามเณรสฺส วา ปริกฺขารา ภิกฺขูนํเยว สนฺตกา ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว สนฺตกาติ โยชนา. ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว สนฺตกา กาลกตสฺส ภิกฺขุสงฺฆปริยาปนฺนตฺตา.
๒๗๔๐. สามเณรี วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘สิกฺขมานา วา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. วิหารสฺมึ ภิกฺขูนํ นิวาสนฏฺาเน. ตสฺสาติ ภิกฺขุนิยา วา สามเณริยา วา สิกฺขมานาย วา ปริกฺขารา ภิกฺขุนีนํ สนฺตกา โหนฺตีติ โยชนา. สนฺตกาติ เอตฺถาปิ ภิกฺขูสุ วุตฺตนเยเนวตฺโถ คเหตพฺโพ.
๒๗๔๑. เทหิ เนตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘อิมํ จีวรํ เนตฺวา อสุกสฺส เทหี’’ติ ยํ จีวรํ ทินฺนํ, ตํ ตสฺส ปุริมสฺเสว สนฺตกํ โหติ. ‘‘อิทํ จีวรํ ¶ อสุกสฺส ทมฺมี’’ติ ยํ จีวรํ ทินฺนํ, ตํ ยสฺส ปหิยฺยติ, ตสฺส ปจฺฉิมสฺเสว สนฺตกํ โหตีติ โยชนา.
๒๗๔๒. ยถาวุตฺตวจนปฺปการานุรูเปน ¶ สามิเก ตฺวา สามิเกสุ วิสฺสาเสน วา เตสุ มเตสุ มตกจีวรมฺปิ คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุํ อาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. ‘‘มตสฺส วา อมตสฺส วา’’ติ ปทจฺเฉโท. วิสฺสาสํ วาปิ คณฺเหยฺยาติ ชีวนฺตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาสคฺคาหํ คณฺเหยฺย. คณฺเห มตกจีวรนฺติ มตสฺส จีวรํ มตกปริกฺขารนีหาเรน ปาเปตฺวา คณฺเหยฺย.
๒๗๔๓. รชเต อเนนาติ รชนนฺติ มูลาทิสพฺพมาห. วนฺตโทเสนาติ สวาสนสมุจฺฉินฺนราคาทิโทเสน. ตาทินาติ รูปาทีสุ ฉฬารมฺมเณสุ ราคาทีนํ อนุปฺปตฺติยา อฏฺสุ โลกธมฺเมสุ นิพฺพิการตาย เอกสทิเสน.
๒๗๔๔-๕. ‘‘มูเล’’ติอาทีสุ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. มูลรชเน หลิทฺทึ เปตฺวา สพฺพํ มูลรชนํ วฏฺฏติ. ขนฺเธสุ รชเนสุ มฺเชฏฺฺจ ตุงฺคหารกฺจ เปตฺวา สพฺพํ ขนฺธรชนํ วฏฺฏติ. ปตฺเตสุ รชเนสุ อลฺลิยา ปตฺตํ ตถา นีลิยา ปตฺตฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปตฺตรชนํ วฏฺฏติ. ปุปฺผรชเนสุ กุสุมฺภฺจ กึสุกฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปุปฺผรชนํ วฏฺฏติ. ตจรชเน โลทฺทฺจ กณฺฑุลฺจ เปตฺวา สพฺพํ ตจรชนํ วฏฺฏติ. ผลรชนํ สพฺพมฺปิ วฏฺฏตีติ โยชนา.
มฺเชฏฺนฺติ เอโก สกณฺฏกรุกฺโข, วลฺลิวิเสโส จ, ยสฺส รชนํ มฺเชฏฺพีชวณฺณํ โหติ. มฺเชฏฺรุกฺขสฺส ขนฺโธ เสตวณฺโณติ โส อิธ น คเหตพฺโพ รชนาธิการตฺตา. ตุงฺคหารโก นาม เอโก สกณฺฏกรุกฺโข, ยสฺส รชนํ หริตาลวณฺณํ โหติ. อลฺลีติ จุลฺลตาปิฺฉรุกฺโข, ยสฺส ปณฺณรชนํ หลิทฺทิวณฺณํ โหติ. นีลีติ คจฺฉวิเสโส, ยสฺส ปน รชนํ นีลวณฺณํ โหติ. กึสุกํ นาม วลฺลิกึสุกปุปฺผํ, ยสฺส รชนํ โลหิตวณฺณํ โหติ.
๒๗๔๖. กิลิฏฺสาฏกนฺติ ¶ มลีนสาฏกํ. โธวิตุนฺติ เอกวารํ โธวิตุํ. อลฺลิยา โธตํ กิร สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺหาติ.
๒๗๔๗. จีวรานํ ¶ กถา เสสาติ เภทการณปฺปการกถาทิกา อิธ อวุตฺตกถา. ปเม กถิเน วุตฺตาติ เสโส. วิภาวินาติ ขนฺธกภาณเกน.
จีวรกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
มหาวคฺควินิจฺฉยวณฺณนา นิฏฺิตา.
จูฬวคฺโค
ปาริวาสิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๗๔๘. เอวํ ¶ ¶ มหาวคฺควินิจฺฉยํ สงฺเขเปน ทสฺเสตฺวา จูฬวคฺคาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตชฺชนีย’’นฺติอาทิ. ตชฺชนียนฺติ กลหการกานํ ภิกฺขูนํ ตโต วิรมนตฺถาย นิคฺคหวเสน อนฺุาตํ ตฺติจตุตฺถํ ตชฺชนียกมฺมฺจ. นิยสฺสนฺติ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส อาปตฺติพหุลสฺส อนปทานสฺส อนนุโลมิเกหิ คิหิสํสคฺเคหิ สํสฏฺสฺส วิหรโต ภิกฺขุโน นิคฺคหวเสน นิสฺสาย วสนตฺถาย กาตุํ อนฺุาตํ ตฺติจตุตฺถํ นิยสฺสกมฺมฺจ.
ปพฺพาชนฺติ กุลทูสกสฺส ภิกฺขุโน ยตฺถ เตน กุลทูสนํ กตํ, ตตฺถ น ลภิตพฺพอาวาสตฺถาย นิคฺคหวเสน อนฺุาตํ ตฺติจตุตฺถํ ปพฺพาชนียกมฺมฺจ. ปฏิสารณนฺติ สทฺธสฺส อุปาสกสฺส ทายกสฺส การกสฺส สงฺฆุปฏฺากสฺส ชาติอาทีหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสกสฺส ภิกฺขุโน ตํขมาปนตฺถาย นิคฺคหวเสน อนฺุาตํ ตฺติจตุตฺถํ ปฏิสารณียกมฺมฺจ.
ติวิธุกฺเขปนนฺติ อาปตฺติยา อทสฺสเน, อาปตฺติยา อปฺปฏิกมฺเม, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค จ ตโต โอรมิตุํ นิคฺคหวเสน อนฺุาตํ ตฺติจตุตฺถํ ติวิธํ อุกฺเขปนียกมฺมฺจาติ. ทีปเยติ ปาฬิยา, อฏฺกถาย จ วุตฺตนเยน ปกาเสยฺยาติ อตฺโถ.
ตชฺชนียาทิกมฺมานํ โอสารณนิสฺสารณวเสน ปจฺเจกํ ทุวิธตฺเตปิ ตํ เภทํ อนามสิตฺวา เกวลํ ¶ ชาติวเสน ‘‘สตฺต กมฺมานี’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา ทสฺสิโต ปเนเตสํ ¶ วิเสโส อตฺถุปฺปตฺติวเสนาติ ทฏฺพฺโพ. วิตฺถาโร ปเนสํ กมฺมกฺขนฺธกโต เวทิตพฺโพ.
๒๗๔๙. ขนฺธเก กมฺมสงฺขาเต ขนฺธเก อาคตานิ เตจตฺตาลีส วตฺตานิ. ตทนนฺตเรติ ตสฺส กมฺมกฺขนฺธกสฺส อนนฺตเร. ขนฺธเกติ ปาริวาสิกกฺขนฺธเก. นว อธิกานิ เยสํ เต นวาธิกานิ ตึเสว วตฺตานิ, เอกูนจตฺตาลีส วตฺตานีติ วุตฺตํ โหติ.
กมฺมกฺขนฺธเก ตาว –
‘‘อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺเขปนียกมฺมกเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา สมฺมา วตฺติตพฺพํ. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนา – น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ, น ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ สาทิตพฺพา, สมฺมเตนาปิ ภิกฺขุนิโย น โอวทิตพฺพา, ยาย อาปตฺติยา สงฺเฆน อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺเขปนียกมฺมํ กตํ โหติ, สา อาปตฺติ น อาปชฺชิตพฺพา, อฺา วา ตาทิสิกา, ตโต วา ปาปิฏฺตรา, กมฺมํ น ครหิตพฺพํ, กมฺมิกา น ครหิตพฺพา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ อาสนาภิหาโร เสยฺยาภิหาโร ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ ปตฺตจีวรปฏิคฺคหณํ นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพํ, น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ, น อาจารวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ, น ทิฏฺิวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ, น อาชีววิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ, น ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ เภเทตพฺโพ, น คิหิทฺธโช ธาเรตพฺโพ, น ติตฺถิยทฺธโช ธาเรตพฺโพ, น ติตฺถิยา เสวิตพฺพา, ภิกฺขู เสวิตพฺพา, ภิกฺขุสิกฺขาย ¶ สิกฺขิตพฺพํ, น ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อนาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ, ปกตตฺตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาตพฺพํ, น ปกตตฺโต ภิกฺขุ อาสาเทตพฺโพ อนฺโต วา พหิ วา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อุโปสโถ เปตพฺโพ, น ปวารณา เปตพฺพา, น สวจนียํ กาตพฺพํ, น อนุวาโท ปฏฺเปตพฺโพ, น โอกาโส กาเรตพฺโพ, น โจเทตพฺโพ, น สาเรตพฺโพ, น ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๕๑) –
เอวํ ¶ เจตานิ เตจตฺตาลีส วตฺตานิ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เตจตฺตาลีส วตฺตานิ, ขนฺธเก กมฺมสฺิเต’’ติ.
ปาริวาสิกกฺขนฺธเก (จูฬว. ๗๖-๘๒) –
‘‘ปาริวาสิเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา สมฺมา วตฺติตพฺพํ. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนา – น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ, น ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ สาทิตพฺพา, สมฺมเตนปิ ภิกฺขุนิโย น โอวทิตพฺพา, ยาย อาปตฺติยา สงฺเฆน ปริวาโส ทินฺโน โหติ, สา อาปตฺติ น อาปชฺชิตพฺพา, อฺา วา ตาทิสิกา, ตโต วา ปาปิฏฺตรา, กมฺมํ น ครหิตพฺพํ, กมฺมิกา น ครหิตพฺพา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อุโปสโถ เปตพฺโพ, น ปวารณา เปตพฺพา, น สวจนียํ กาตพฺพํ, น อนุวาโท ปฏฺเปตพฺโพ, น โอกาโส กาเรตพฺโพ, น โจเทตพฺโพ, น สาเรตพฺโพ, น ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชตพฺพํ.
‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน ปุรโต คนฺตพฺพํ, น ปุรโต นิสีทิตพฺพํ, โย โหติ สงฺฆสฺส อาสนปริยนฺโต เสยฺยาปริยนฺโต วิหารปริยนฺโต, โส ตสฺส ปทาตพฺโพ, เตน จ โส สาทิตพฺโพ.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน ปุเรสมเณน วา ปจฺฉาสมเณน วา กุลานิ อุปสงฺกมิตพฺพานิ, น อารฺิกงฺคํ สมาทาตพฺพํ, น ปิณฺฑปาติกงฺคํ สมาทาตพฺพํ, น จ ตปฺปจฺจยา ปิณฺฑปาโต นีหราเปตพฺโพ ‘มา มํ ชานึสู’ติ.
‘‘ปาริวาสิเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อาคนฺตุเกน อาโรเจตพฺพํ, อาคนฺตุกสฺส อาโรเจตพฺพํ, อุโปสเถ อาโรเจตพฺพํ, ปวารณาย อาโรเจตพฺพํ, สเจ คิลาโน โหติ, ทูเตนปิ อาโรเจตพฺพํ.
‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา อภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา อภิกฺขุโก ¶ อนาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส ¶ วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ¶ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.
‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.
‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส ยตฺถสฺสุ ¶ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.
‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก ¶ อาวาโส วา อนาวาโส วา ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.
‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.
‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.
‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.
‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.
‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อนาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.
‘‘คนฺตพฺโพ ¶ , ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส ¶ วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อนาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ, ปกตตฺตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาตพฺพํ, ปกตตฺโต ภิกฺขุ อาสเนน นิมนฺเตตพฺโพ, น ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกาสเน นิสีทิตพฺพํ, น นีเจ อาสเน นิสินฺเน อุจฺเจ อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น ฉมายํ นิสินฺเน อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น เอกจงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิเกน วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ…เป… มูลายปฏิกสฺสนารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ…เป… มานตฺตารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ…เป… มานตฺตจาริเกน ภิกฺขุนา สทฺธึ…เป… อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อนาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ, น เอกาสเน นิสีทิตพฺพํ, น นีเจ อาสเน นิสินฺเน อุจฺเจ อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น ฉมายํ นิสินฺเน อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น เอกจงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ.
‘‘ปาริวาสิกจตุตฺโถ ¶ เจ, ภิกฺขเว, ปริวาสํ ทเทยฺย, มูลาย ปฏิกสฺเสยฺย, มานตฺตํ ทเทยฺย, ตํวีโส อพฺเภยฺย, อกมฺมํ น จ กรณีย’’นฺติ (จูฬว. ๗๖-๘๒) –
เอวํ ปาริวาสิกานํ จตุนวุติ วตฺตานิ.
สา จ เนสํ จตุนวุติสงฺขา เอวํ เวทิตพฺพา – นอุปสมฺปาทนาทินกมฺมิกครหปริโยสานานิ นว วตฺตานิ, ตโต ปกตตฺตสฺส อุโปสถฏฺปนาทิภิกฺขูหิสมฺปโยชนปริโยสานานิ อฏฺ, ตโต นปุรโตคมนาที ปฺจ, นปุเรคมนาที จตฺตาริ, อาคนฺตุเกน อาโรจนาที จตฺตารีติ ตึส, สภิกฺขุกาวาสาทิโต อภิกฺขุกาวาสาทิคมนปอสํยุตฺตานิ ตีณิ นวกานิ จาติ สตฺตปฺาส, ตโต นปกตตฺเตน สทฺธึ เอกจฺฉนฺนวาสาทิปฏิสํยุตฺตานิ เอกาทส, ตโต นปาริวาสิกวุฑฺฒตรมูลายปฏิกสฺสนารหมานตฺตารหมานตฺตจาริกอพฺภานารเหหิ ¶ สทฺธึ เอกจฺฉนฺนวาสาทิปฏิสํยุตฺตานิ ปจฺเจกํ เอกาทส กตฺวา ปฺจปฺาสาย วตฺเตสุ ปาริวาสิกวุฑฺฒตรมูลายปฏิกสฺสนารหมานตฺตารหานํ ติณฺณํ สมานตฺตา เตสุ เอกํ เอกาทสกํ, มานตฺตจาริกอพฺภานารหานํ ทฺวินฺนํ สมานตฺตา เตสุ เอกํ เอกาทสกนฺติ ทุเว เอกาทสกานิ, อนฺเต ปาริวาสิกจตุตฺถสฺส สงฺฆสฺส ปริวาสาทิทานจตุกฺเก คณปูรณตฺถโทสโต นิวตฺติวเสน จตฺตาริ จตฺตารีติ จตุนวุติ วตฺตานิ. ตานิ อคฺคหิตคฺคหเณน เอกูนจตฺตาลีสวตฺตานิ นาม. อาทิโต นว, อุโปสถฏฺปนาทีนิ อฏฺ, ปกตตฺเตน เอกจฺฉนฺนวาสาที จตฺตาริ จาติ เอกวีสติ วตฺตานิ กมฺมกฺขนฺธเก คหิตตฺตา อิธ คณนาย อคฺคเหตฺวา ตโต เสเสสุ เตสตฺตติยา วตฺเตสุ ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีหิ เอกจฺฉนฺเน วาสาทิปฏิสํยุตฺตานิ ทฺวาวีสติ วตฺตานิ ปกตตฺเตหิ สมานตฺตา ตานิ จ ‘‘คนฺตพฺโพ ภิกฺขเว’’ติอาทิกํ นวกํ ตถา ¶ คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺติทสฺสนปรํ, น อาวาสโต คจฺฉนฺตสฺส อาปตฺติทสฺสนปรนฺติ ตฺจ อคฺคเหตฺวา อวเสเสสุ ทฺวาจตฺตาลีสวตฺเตสุ ปาริวาสิกจตอุตฺถาทิกมฺมจตุกฺกํ ครุกาปตฺติวุฏฺานาย คณปูรณตฺถสามฺเน เอกํ กตฺวา ตโย อปเนตฺวา คณิตานิ เอกูนจตฺตาลีสานิ โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘นวาธิกานิ ตึเสว, ขนฺธเก ตทนนฺตเร’’ติ.
๒๗๕๐. อิมานิ เอกูนจตฺตาลีส วตฺตานิ ปุริเมหิ เตจตฺตาลีสวตฺเตหิ สทฺธึ ทฺวาสีติ โหนฺตีติ อาห ‘‘เอวํ สพฺพานิ…เป… คหิตาคหเณน ตู’’ติ.
เอวํ กมฺมกฺขนฺธกปาริวาสิกกฺขนฺธเกสุ มเหสินา วุตฺตานิ ขนฺธกวตฺตานิ คหิตาคหเณน ทฺวาสีติ เอว โหนฺตีติ โยชนา. เอวเมตฺถ ทฺวาสีติกฺขนฺธกวตฺตานิ ทสฺสิตานิ.
อาคมฏฺกถาวณฺณนายํ ปน –
‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปฺเปสฺสามีติ (จูฬว. ๗๕) อารภิตฺวา ‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ…เป… น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’นฺติ (จูฬว. ๗๖-๘๑) วุตฺตาวสานานิ ฉสฏฺิ, ตโต ปรํ ‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิเกน วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ, มูลายปฏิกสฺสนารเหน, มานตฺตารเหน, มานตฺตจาริเกน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพ’นฺติอาทีนํ (จูฬว. ๘๒) ปกตตฺเต จริตพฺเพหิ อนฺตฺตา วิสุํ เต อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ¶ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิณฺเฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คณิตานิ ปฺจาติ เอกสตฺตติ วตฺตานิ, อุกฺเขปนียกมฺมกตวตฺเตสุ วตฺตปฺาปนวเสน วุตฺตํ ‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ¶ …เป… นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’นฺติ (จูฬว. ๕๑) อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสาทิยนํ เอกํ, ‘น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ’ติอาทีนิ จ ทสาติ เอวเมตานิ ทฺวาสีติ โหนฺติ. เอเตสฺเวว กานิจิ ตชฺชนียกมฺมาทิวตฺตานิ, กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาสีติ เอวา’’ติ (ม. นิ. ฏี. ๒.๒๕; สารตฺถ. ฏี. ๒.๓๙; วิ. วิ. ฏี. ๑.๓๙) –
วุตฺตํ. เอตานิ ปน วตฺตานิ กทาจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเล, ปาริวาสิกาทิกาเล จ จริตพฺพานิ ขุทฺทกวตฺตานีติ คเหตพฺพานิ อาคนฺตุกวตฺตาทีนํ จุทฺทสมหาวตฺตานํ วกฺขมานตฺตา.
๒๗๕๑. อิทานิ ปาริวาสิกสฺส ภิกฺขุโน รตฺติจฺเฉทํ, วตฺตเภทฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปริวาสฺจ วตฺตฺจา’’ติอาทิ. ปริวาสฺจ วตฺตฺจ สมาทินฺนสฺสาติ ‘‘ปริวาสํ สมาทิยามี’’ติ ปริวาสฺจ ‘‘วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ วตฺตฺจ ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา วจีเภทํ กตฺวา สมาทินฺนสฺส. ภิกฺขุโนติ ปาริวาสิกสฺส ภิกฺขุโน.
๒๗๕๒. สหวาสาทโย ‘‘เอกจฺฉนฺเน’’ติอาทินา สยเมว วกฺขติ. สหวาโส, วินาวาโส, อนาโรจนเมว จาติ อิเมหิ ตีหิ ปาริวาสิกภิกฺขุสฺส รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏฺจ โหตีติ โยชนา.
๒๗๕๓. อุทกปาเตน สมนฺตา นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺาเนน. เอกจฺฉนฺเนติ เอกจฺฉนฺเน ปริจฺฉนฺเน วา อปริจฺฉนฺเน วา อาวาเส. ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สห อุกฺขิตฺตสฺส นิวาโส ¶ นิวาริโตติ โยชนา. ‘‘นิวาริโต’’ติ อิมินา ทุกฺกฏํ โหตีติ ทีเปติ.
๒๗๕๔. อนฺโตเยวาติ เอกจฺฉนฺนสฺส อาวาสปริจฺเฉทสฺส อนฺโตเยว. ‘‘น ลพฺภตี’’ติ อิมินา รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏฺจ โหตีติ ทีเปติ.
๒๗๕๕. มหาอฏฺกถาทิสูติ ¶ อาทิ-สทฺเทน กุรุนฺทฏฺกถาทึ สงฺคณฺหาติ. อุภินฺนนฺติ อุกฺขิตฺตกปาริวาสิกานํ. อิติ อวิเสเสน นิทฺทิฏฺนฺติ โยชนา.
๒๗๕๖. อิมินา สหวาเสน รตฺติจฺเฉทฺจ ทุกฺกฏฺจ ทสฺเสตฺวา วินาวาเสน ทสฺเสตุมาห ‘‘อภิกฺขุเก ปนาวาเส’’ติ. อาวาเสติ วสนตฺถาย กตเสนาสเน. อนาวาเสติ วาสตฺถาย อกเต เจติยฆเร วา โพธิฆเร วา สมฺมชฺชนิอฏฺฏเก วา ทารุอฏฺฏเก วา ปานียมาเฬ วา วจฺจกุฏิยํ วา ทฺวารโกฏฺเก วา อฺตฺร วา ยตฺถ กตฺถจิ เอวรูเป าเน. วิปฺปวาสํ วสนฺตสฺสาติ ปกตตฺเตน วินา วาสํ กปฺเปนฺตสฺส. รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏนฺติ รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภททุกฺกฏฺจ โหติ.
๒๗๕๗. เอวํ วิปฺปวาเสน รตฺติจฺเฉททุกฺกฏานิ ทสฺเสตฺวา อนาโรจเนน ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาริวาสิกภิกฺขุสฺสา’’ติอาทิ. ภิกฺขุํ ทิสฺวานาติ อากาเสนาปิ คจฺฉนฺตํ สมานสํวาสกํ อาคนฺตุกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา. ตงฺขเณติ ตสฺมึ ทิฏฺกฺขเณเยว. ‘‘อนาโรเจนฺตสฺส เอว เอตสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. เอวกาเรน รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏฺจาติ อุภยํ เอตสฺส โหตีติ ทีเปนฺเตน อทิฏฺโ เจ, รตฺติจฺเฉโทว โหตีติ าเปติ. ยถาห – ‘‘โสปิสฺส รตฺติจฺเฉทํ กโรติ, อฺาตตฺตา ปน วตฺตเภททุกฺกฏํ นตฺถี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๗๕). นานาสํวาสเกน ¶ สห วินยกมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺส อนาโรจเนปิ รตฺติจฺเฉโท น โหติ.
๒๗๕๘-๙. ปาริวาสิโก ภิกฺขุ ยตฺถ สงฺฆนวกฏฺาเน ิโต, ตตฺเถว ตสฺมึเยว าเน ตฺวา ยถาวุฑฺฒํ ปกตตฺเตหิปิ สทฺธึ วุฑฺฒปฏิปาฏิยา ปฺจ กิจฺจานิ กาตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
ตานิ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘อุโปสถปวารณ’’นฺติอาทิ. อุโปสถปวารณํ ยถาวุฑฺฒํ กาตุํ ลภตีติ โยชนา. เทนฺตีติ เอตฺถ ‘‘ฆณฺฏึ ปหริตฺวา’’ติ เสโส. สงฺฆทายกาติ กมฺมธารยสมาโส. สงฺฆสฺส เอกตฺเตปิ ครูสุ พหุวจนนิทฺเทโส. ‘‘เทติ เจ สงฺฆทายโก’’ติปิ ปาโ. ตตฺถ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาเชตฺวา เทนฺโต สงฺโฆ วสฺสิกสาฏิกํ เทติ เจ, ปาริวาสิโก ยถาวุฑฺฒํ อตฺตโน ปตฺตฏฺาเน ลภตีติ โยชนา.
โอโณชนนฺติ วิสฺสชฺชนํ, สงฺฆโต อตฺตโน ปตฺตานํ ทฺวินฺนํ, ติณฺณํ วา อุทฺเทสภตฺตาทีนํ อตฺตโน ¶ ปุคฺคลิกภตฺตปจฺจาสาย ปฏิคฺคเหตฺวา ‘‘มยฺหํ อชฺช ภตฺตปจฺจาสา อตฺถิ, สฺเว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา สงฺฆวิสฺสชฺชนํ ลภตีติ วุตฺตํ โหติ. ภตฺตนฺติ อาคตาคเตหิ วุฑฺฒปฏิปาฏิยา คเหตฺวา คนฺตพฺพํ วิหาเร สงฺฆสฺส จตุสฺสาลภตฺตํ. ตถา ปาริวาสิโก ยถาวุฑฺฒํ ลภตีติ โยชนา. อิเม ปฺจาติ วุตฺตเมวตฺถํ นิคมยติ.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (จูฬว. อฏฺ. ๗๕) – อุโปสถปวารเณ ตาว ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน หตฺถปาเส นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ปาฬิยา อนิสีทิตฺวา ปาฬึ วิหาย หตฺถปาสํ อมฺุจนฺเตน นิสีทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ปาริสุทฺธิอุโปสเถ กริยมาเน สงฺฆนวกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ตตฺเถว ¶ นิสินฺเนน อตฺตโน ปาฬิยา ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพว. ปวารณายปิ สงฺฆนวกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ตตฺเถว นิสินฺเนน อตฺตโน ปาฬิยา ปวาเรตพฺพํ. สงฺเฆน ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาชิยมานํ วสฺสิกสาฏิกมฺปิ อตฺตโน ปตฺตฏฺาเน คเหตุํ วฏฺฏติ.
โอโณชเน สเจ ปาริวาสิกสฺส ทฺเว ตีณิ อุทฺเทสภตฺตาทีนิ ปาปุณนฺติ, อฺา จสฺส ปุคฺคลิกภตฺตปจฺจาสา โหติ, ตานิ ปฏิปาฏิยา คเหตฺวา ‘‘ภนฺเต, เหฏฺา คาเหถ, อชฺช มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสา อตฺถิ, สฺเวว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺพานิ, เอวํ ตานิ ปุนทิวเสสุ คณฺหิตุํ ลภติ. ‘‘ปุนทิวเส สพฺพปมํ เอตสฺส ทาตพฺพ’’นฺติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ยทิ ปน น คณฺหาติ น วิสฺสชฺเชติ, ปุนทิวเส น ลภติ. อิทํ โอโณชนํ นาม ปาริวาสิกสฺเสว โอทิสฺส อนฺุาตํ. กสฺมา? ตสฺส หิ สงฺฆนวกฏฺาเน นิสินฺนสฺส ภตฺตคฺเค ยาคุขชฺชกาทีนิ ปาปุณนฺติ วา น วา, ตสฺมา ‘‘โส ภิกฺขาหาเรน มา กิลมิตฺถา’’ติ อิทมสฺส สงฺคหกรณตฺถาย โอทิสฺส อนฺุาตํ.
ภตฺเต จตุสฺสาลภตฺตํ ยถาวุฑฺฒํ ลภติ, ปาฬิยา ปน คนฺตุํ วา าตุํ วา น ลภติ. ตสฺมา ปาฬิโต โอสกฺกิตฺวา หตฺถปาเส ิเตน หตฺถํ ปสาเรตฺวา ยถา เสโน นิปติตฺวา คณฺหาติ, เอวํ คณฺหิตพฺพํ. อารามิกสมณุทฺเทเสหิ อาหราเปตุํ น ลภติ. สเจ สยเมว อาหรนฺติ, วฏฺฏติ. รฺโ มหาเปฬภตฺเตปิ เอเสว นโย. จตุสฺสาลภตฺเต ปน สเจ โอโณชนํ กตฺตุกาโม โหติ, อตฺตโน อตฺถาย อุกฺขิตฺเต ปิณฺเฑ ‘‘อชฺช เม ภตฺตํ อตฺถิ, สฺเวว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘ปุนทิวเส ทฺเว ปิณฺเฑ ลภตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๗๕) มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. อุทฺเทสภตฺตาทีนิปิ ¶ ปาฬิโต โอสกฺกิตฺวาว คเหตพฺพานิ. ยตฺถ ปน นิสีทาเปตฺวา ปริวิสนฺติ ¶ , ตตฺถ สามเณรานํ เชฏฺเกน ภิกฺขูนํ สงฺฆนวเกน หุตฺวา นิสีทิตพฺพนฺติ.
ปาริวาสิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
สมถกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๗๖๐. อิทานิ สมถวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุํ เยสุ อธิกรเณสุ สนฺเตสุ สมเถหิ ภวิตพฺพํ, ตานิ ตาว ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิวาทาธารตา’’ติอาทิ. วิวาทาธารตาติ วิวาทาธิกรณํ. อาปตฺตาธารตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อาธารตาติ อธิกรณปริยาโย. อาธารียติ อภิภุยฺยติ วูปสมฺมติ สมเถหีติ อาธาโร, วิวาโท จ โส อาธาโร จาติ วิวาทาธาโร, โส เอว วิวาทาธารตา. เอวมาธาราธิกรณ-สทฺทานํ วิวาทาทิสทฺเทหิ สห กมฺมธารยสมาโส ทฏฺพฺโพ. อธิกรียติ อภิภุยฺยติ วูปสมฺมติ สมเถหีติ อธิกรณนฺติ วิวาทาทิจตุพฺพิธเมว ปาฬิยํ ทสฺสิตํ. อยมตฺโถ ‘‘เอเตสํ ตุ จตุนฺนมฺปิ, สมตฺตา สมถา มตา’’ติ วกฺขมาเนน วิฺายติ.
๒๗๖๑. เอตานิ จตฺตาริ อธิกรณานิ จ ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขู วิวทนฺติ ‘ธมฺโม’ติ วา ‘อธมฺโม’ติ วา’’ติ (จูฬว. ๒๑๕) อฏฺารส เภทการกวตฺถูนิ จ มเหสินา วุตฺตานิ. ตตฺถ เตสุ จตูสุ อธิกรเณสุ วิวาโท อธิกรณสงฺขาโต เอตานิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสิโต นิสฺสาย ปวตฺโตติ โยชนา.
๒๗๖๒. วิปตฺติโย จตสฺโสวาติ ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อนุวทนฺติ สีลวิปตฺติยา วา อาจารวิปตฺติยา วา ¶ ทิฏฺิวิปตฺติยา วา อาชีววิปตฺติยา วา’’ติ (จูฬว. ๒๑๕) วุตฺตา จตสฺโส วิปตฺติโย. ทิฏฺาทีนํ อนุคนฺตฺวา สีลวิปตฺติอาทีหิ วทนํ โจทนา อนุวาโท. อุปาคโตติ นิสฺสิโต, อนุวาโท จตสฺโส วิปตฺติโย นิสฺสาย ปวตฺโตติ อตฺโถ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ปมเมว นิทฺธารณสฺส วุตฺตตฺตา อิธ ปุนวจเน ปโยชนํ น ทิสฺสติ, ‘‘สมฺภวา’’ติ วจนสฺสาปิ น โกจิ อตฺถวิเสโส ทิสฺสติ. ตสฺมา ‘‘อาปตฺตาธารตา ตตฺถ, สตฺตอาปตฺติสมฺภวา’’ติ ปาโ น ยุชฺชติ, ‘‘อาปตฺตาธารตา นาม, สตฺต อาปตฺติโย มตา’’ติ ปาโ ¶ ยุตฺตตโร, อาปตฺตาธารตา นาม อาปตฺตาธิกรณํ นาม สตฺต อาปตฺติโย มตา สตฺต อาปตฺติโยว อธิปฺเปตาติ อตฺโถ.
๒๗๖๓. สงฺฆกิจฺจานิ นิสฺสายาติ อปโลกนกมฺมาทีนิ จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ อุปาทาย กิจฺจาธิกรณาภิธานํ สิยา, กิจฺจาธิกรณํ นาม จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานีติ อตฺโถ. เอเตสํ ตุ จตุนฺนมฺปีติ เอเตสํ ปน จตุนฺนมฺปิ อธิกรณานํ. สมตฺตาติ วูปสมเหตุตฺตา. สมถา มตาติ สมฺมุขาวินยาทโย สตฺต อธิกรณสมถาติ อธิปฺเปตา. อธิกรณานิ สเมนฺติ, สมฺมนฺติ วา เอเตหีติ ‘‘สมถา’’ติ วุจฺจนฺตีติ ‘‘สมตฺตา สมถา มตา’’ติ อิมินา สมถ-สทฺทสฺส อนฺวตฺถํ ทีเปติ.
๒๗๖๔-๕. เต สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘สมฺมุขา’’ติอาทิ. ‘‘วินโย’’ติ อิทํ สมฺมุขาทิปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ ‘‘สมฺมุขาวินโย สติวินโย อมูฬฺหวินโย’’ติ. ‘‘ปฏิฺาวินโย’’ติ จ ปฏิฺาตกรณํ วุตฺตํ. สตฺตโม วินโยติ สมโถ อธิปฺเปโต. ติณวตฺถารโกติ อิเม สตฺต สมถา พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา วุตฺตาติ โยชนา.
๒๗๖๖. จตูสุ ¶ อธิกรเณสุ ยํ อธิกรณํ ยตฺตเกหิ สมเถหิ สมฺมติ, เต สงฺคเหตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิวาโท’’ติอาทิ.
๒๗๖๗-๙. ‘‘วิวาโท’’ติอาทินา อุทฺทิฏฺมตฺถํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘ฉฏฺเนา’’ติอาทิ. เอตฺถ เอเตสุ จตูสุ อธิกรเณสุ, สมเถสุ จ กึ เกน สมฺมตีติ เจ? วิวาโท วิวาทาธิกรณํ ฉฏฺเน เยภุยฺยสิกาย, ปเมน สมเถน สมฺมุขาวินเยน จาติ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ. ยสฺสา กิริยาย ธมฺมวาทิโน พหุตรา, เอสา เยภุยฺยสิกา. ‘‘สงฺฆสมฺมุขตา, ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา, ปุคฺคลสมฺมุขตา’’ติ (จูฬว. ๒๒๙, ๒๓๔, ๒๓๖, ๒๓๗, ๒๔๒) วุตฺตานํ สงฺฆาทีนํ จตุนฺนํ สนฺนิธาเนน วา คณปุคฺคเลหิ สมิยมานํ วิวาทาธิกรณํ สงฺฆสมฺมุขตํ วินา อิตเรหิ ตีหิ วา สมฺมตีติ วุตฺตํ โหติ.
เอตฺถ จ การกสงฺฆสฺส สงฺฆสามคฺคิวเสน สมฺมุขีภาโว สงฺฆสมฺมุขตา, สเมตพฺพสฺส วตฺถุโน ¶ ภูตตา ธมฺมสมฺมุขตา, ยถา ตํ สเมตพฺพํ, ตเถวสฺส สมนํ วินยสมฺมุขตา, โย จ วิวทติ, เยน จ วิวทติ, เตสํ อุภินฺนํ อตฺถปจฺจตฺถิกานํ สมฺมุขีภาโว ปุคฺคลสมฺมุขตา.
‘‘อนุวาโท จตูหิปี’’ติ อุทฺทิฏฺํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘สมฺมุขา’’ติอาทิ. อนุปุพฺเพนาติ อนุปฏิปาฏิยา. สมฺมุขาวินยาทีหิ ตีหิปีติ สมฺมุขาวินยสติวินยอมูฬฺหวินเยหิ ตีหิปิ. ตเถวาติ ยถา ตีหิ, ตถา ปฺจเมน ตสฺสปาปิยสิกาสมเถนาปิ อนุวาโท สมฺมติ, ปเคว จตูหีติ อตฺโถ.
โย ปาปุสฺสนฺนตาย ปาปิโย ปุคฺคโล, ตสฺส กตฺตพฺพโต ‘‘ตสฺสปาปิยสิกา’’ติ กมฺมํ วุจฺจติ. อายสฺมโต ทพฺพสฺส ¶ มลฺลปุตฺตสฺส วิย สติเวปุลฺลปฺปตฺตสฺส ขีณาสวสฺส กตา อมูลิกา สีลวิปตฺติโจทนา สมฺมุขาวินเยน, ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย ทินฺเนน สติวินเยน จ สมฺมติ. อุมฺมตฺตกสฺส ภิกฺขุโน กตา อาปตฺติโจทนา สมฺมุขาวินเยน จ ตเถว ทินฺเนน อมูฬฺหวินเยน จ สมฺมติ. สงฺฆมชฺเฌ อาปตฺติยา โจทิยมานสฺส อวชานิตฺวา ปฏิชานนาทึ กโรนฺตสฺส ปาปภิกฺขุโน พหุลาปตฺติโจทนา สมฺมุขาวินเยน เจว ตเถว ปกเตน ตสฺสปาปิยสิกากมฺเมน จ วูปสมฺมตีติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘อาปตฺติ ปน ตีเหวา’’ติ อุทฺเทสสฺส นิทฺเทสมาห ‘‘สมฺมุเขนา’’ติอาทิ. สมฺมุเขน สมฺมุขาวินเยน, ปฏิฺาย ปฏิฺาตกรเณน, ติณวตฺถารเกน วา อิเมหิ ตีหิ เอว สมเถหิ สา อาปตฺติ อาปตฺตาธิกรณํ อุปสมํ ยาตีติ โยชนา. เอตฺถ ปฏิฺาตกรณํ นาม อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺหนฺเตน ‘‘ปสฺสสี’’ติ วุตฺเต อาปตฺตึ เทเสนฺเตน ‘‘อาม ปสฺสามี’’ติ สมฺปฏิจฺฉนํ. ติณวตฺถารกํ ปน สยเมว วกฺขติ.
ตีเหว สมเถหีติ เอตฺถ ครุกาปตฺติ สมฺมุขาวินเยน, ปฏิฺาตกรเณน จาติ ทฺวีหิ, ลหุกาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา สงฺเฆ วา คเณ วา ปุคฺคเล วา เทสนาย สมฺมุขาวินเยน เจว ปฏิฺาตกรเณน จ, โกสมฺพกานํ วิคฺคหสทิสํ มหาวิคฺคหํ กโรนฺเตหิ อาปนฺนา อเนกวิธา อาปตฺติโย สเจ โหนฺติ, ตาสุ วกฺขมานสรูปํ ถุลฺลวชฺชาทึ เปตฺวา อวเสสา สพฺพา อาปตฺติโย สมฺมุขาวินเยน, ติณวตฺถารเกน จ สมฺมนฺตีติ อตฺโถ.
กิจฺจํ ¶ กิจฺจาธิกรณํ เอเกน สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมตีติ โยชนา.
๒๗๗๐. เยภุยฺยสิกกมฺเมติ ¶ เอตฺถ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. สลากํ คาหเยติ วินิจฺฉยการเก สงฺเฆ ธมฺมวาทีนํ พหุตฺตํ วา อปฺปตรตฺตํ วา ชานิตุํ วกฺขมาเนน นเยน สลากํ คาหาเปยฺย. พุโธติ ‘‘น ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ…เป… คหิตาคหิตฺจ ชานาตี’’ติ วุตฺตํ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ ปุคฺคลํ ทสฺเสติ. ‘‘คูฬฺเหนา’’ติอาทินา สลากคฺคาหปฺปกาโร ทสฺสิโต. กณฺณชปฺเปนาติ เอตฺถ กณฺเณ ชปฺโป ยสฺมึ สลากคฺคาหปโยเคติ วิคฺคโห. เอตฺถ คูฬฺหสลากคฺคาโห นาม ธมฺมวาทิสลากา จ อธมฺมวาทิสลากา จ วิสุํ วิสุํ จีวรกณฺเณ ปกฺขิปิตฺวา ปุคฺคลานํ สนฺติกํ วิสุํ วิสุํ อุปสงฺกมิตฺวา สลากา วิสุํ วิสุํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อิโต ตว รุจฺจนกํ คณฺหาหี’’ติ รโห ตฺวา คาหาปนํ. วิวฏกํ นาม ธมฺมวาทีนํ พหุภาวํ ตฺวา สพฺเพสุ ชานนฺเตสุ ปุคฺคลานํ สนฺติกํ คาหาปนํ. กณฺณชปฺปนํ นาม เอวเมว กณฺณมูเล รโห ตฺวา คาหาปนํ.
๒๗๗๑. อลชฺชุสฺสเทติ เอตฺถ ‘‘สงฺเฆ’’ติ เสโส. ลชฺชิสุ พาเลสูติ เอตฺถาปิ ‘‘อุสฺสเทสู’’ติ วตฺตพฺพํ.
๒๗๗๒. สเกน กมฺมุนาเยวาติ อตฺตโน ยํ กิจฺจํ, เตเนวาติ.
๒๗๗๓-๕. ‘‘อาปชฺชตี’’ติอาทิ ‘‘อลชฺชี, ลชฺชี, พาโล’’ติ ชานนสฺส เหตุภูตกมฺมทสฺสนํ. ทุจฺจินฺติโตติ อภิชฺฌาทิติวิธมโนทุจฺจริตวเสน ทุฏฺุ จินฺเตนฺโต. ทุพฺภาสีติ มุสาวาทาทิจตุพฺพิธวจีทุจฺจริตวเสน วจีทฺวาเร ปฺตฺตานํ สิกฺขาปทานํ วีติกฺกมวเสน ทุฏฺุ ภาสนสีโล. ทุกฺกฏการิโกติ ปาณาติปาตาทิติวิธกายทุจฺจริตวเสน กายทฺวาเร ¶ ปฺตฺตสิกฺขาปทานํ วีติกฺกมวเสน กุจฺฉิตกมฺมสฺส กรณสีโล. อิติ ลกฺขเณเนวาติ ยถาวุตฺตํ อลชฺชีลชฺชีพาลลกฺขณํ นิคเมติ.
๒๗๗๖. ‘‘เยภุยฺยสิกา’’ติอาทิคาถาหิ นิทฺทิฏฺเมว อตฺถํ นิคเมตุมาห ‘‘ติธา’’ติอาทิ. ติธาสลากคาเหนาติ ติวิธสฺส สลากคาหสฺส อฺตเรน. พหุกา ธมฺมวาทิโน ยทิ สิยุนฺติ โยชนา. กาตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘วิวาทาธิกรณวูปสมน’’นฺติ เสโส.
๒๗๗๗. โย ¶ ปุคฺคโล อลชฺชี จ โหติ สานุวาโท จ กมฺมโต กายกมฺมโต, วจีกมฺมโต จ อสุจิ จ สมฺพุทฺธชิคุจฺฉนีโยติ อตฺโถ. โส เอวํวิโธ ปาปปุคฺคโล ตสฺส ปาปิยสิกกมฺมสฺส โยโค โหตีติ สมฺพนฺโธ. สานุวาโทติ เอตฺถ อนุวาโท นาม โจทนา, สห อนุวาเทน วตฺตตีติ สานุวาโท, ปาปครหิตปุคฺคเลหิ กาตพฺพโจทนาย อนุรูโปติ อตฺโถ.
๒๗๗๘-๙. ภณฺฑเนติ กลหสฺส ปุพฺพภาเค. กลเหติ กายวจีทฺวารปฺปวตฺเต หตฺถปรามสาทิเก กลเห จ. วิวาทมฺหิ อนปฺปเกติ พหุวิเธ วิวาเท ชาเต. พหุอสฺสามเณ จิณฺเณติ สมณานํ อนนุจฺฉวิเก นานปฺปกาเร กายิกวาจสิกวีติกฺกเม จ กเต. อนคฺเคติ อนนฺเต. ภสฺสเกติ กุจฺฉิเต อมนาปวจเน จิณฺเณติ โยชนา, ภาสิเตติ อตฺโถ. คเวสนฺตนฺติ คเวสิยมานํ, อาปตฺตาธิกรณนฺติ เสโส. วาฬนฺติ จณฺฑํ. กกฺขฬนฺติ อาสชฺชํ. กาตพฺพนฺติ วูปสเมตพฺพํ.
๒๗๘๐-๒. ยถา จ วูปสมฺมติ, ตถา ติณวตฺถารเก สุทฺโธ โหตีติ สมฺพนฺโธ.
ถุลฺลวชฺชนฺติ ¶ ปาราชิกฺเจว สงฺฆาทิเสสฺจ. คิหีหิ ปฏิสํยุตนฺติ คิหีนํ ชาติอาทีหิ ปาฬิยา อาคเตหิ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ, อฏฺกถาคเตหิ จ ตทฺเหิ อกฺโกสวตฺถูหิ ขุํสนวมฺภนปจฺจยา จ ธมฺมิกปฏิสฺสวสฺส อสจฺจาปนปจฺจยา จ อาปนฺนาปตฺตึ. เอสา เอว หิ อาปตฺติ คิหิปฏิสํยุตฺตา นาม ปริวาเร ‘‘อตฺถิ คิหิปฏิสํยุตฺตา, อตฺถิ นคิหิปฏิสํยุตฺตา’’ติ ทุกํ นิกฺขิปิตฺวา ‘‘คิหิปฏิสํยุตฺตาติ สุธมฺมตฺเถรสฺส อาปตฺติ, ยา จ ธมฺมิกสฺส ปฏิสฺสวสฺส อสจฺจาปเน อาปตฺติ. อวเสสา นคิหิปฏิสํยุตฺตา’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๑) วจนโต.
สุธมฺมตฺเถรสฺส อาปตฺตีติ จ เตน จิตฺตสฺส คหปติโน ชาตึ ปฏิจฺจ ขุํสนวมฺภนปจฺจยา อาปนฺนา โอมสวาทสิกฺขาปทวิภาคคตา ทุกฺกฏาปตฺติ คเหตพฺพา. อิทฺจ อุปลกฺขณมตฺตํ, ตสฺมา อิตเรหิปิ อกฺโกสวตฺถูหิ คิหึ ขุํเสนฺตานํ วมฺเภนฺตานํ อิตเรสํ ภิกฺขูนํ สา อาปตฺติ คิหิปฏิสํยุตฺตาวาติ เวทิตพฺพํ. ตถา อาปนฺนํ อาปตฺตึ เทสาเปนฺเตน ทสฺสนูปจารํ อวิชหาเปตฺวา สวนูปจารํ ชหาเปตฺวา เอกํเส อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวา อฺชลึ ปคฺคณฺหาเปตฺวา สา อาปตฺติ เทสาเปตพฺพา.
ทิฏฺาวิกมฺมิกนฺติ ¶ ทิฏฺาวิกมฺเม นิยุตฺโต ทิฏฺาวิกมฺมิโก, ตํ, อฏฺกถายํ ‘‘เย ปน ‘น เมตํ ขมตี’ติ อฺมฺํ ทิฏฺาวิกมฺมํ กโรนฺตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๑๔) เย ปุคฺคลา ทสฺสิตา, เตสมฺตรสฺเสว คหณํ.
โยติ ภณฺฑนการเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ มหนฺตํ วิคฺคหํ กตฺวา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปนฺโน โย ภิกฺขุ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ติณวตฺถารกสมถการเก ภิกฺขุสมูเห. น โหตีติ ฉนฺทํ ทตฺวา ตํ ภิกฺขุปริสํ อนาคตตฺตา น สํวิชฺชติ. ตฺจ เปตฺวาติ โยชนา.
ติณวตฺถารเก ¶ กเต สติ ยาว อุปสมฺปทมาฬโต ปภุติ อาปนฺนาย เสสาย อาปตฺติยา นิราปตฺติ หุตฺวา สุทฺโธ โหติ สงฺโฆติ โยชนา.
สมถกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๗๘๓. กุฏฺเฏติ อิฏฺกาสิลาทารุกุฏฺฏานํ อฺตรสฺมึ. อฏฺฏาเนติ เอตฺถ อฏฺฏานํ นาม รุกฺเข ผลกํ วิย ตจฺเฉตฺวา อฏฺปทากาเรน ราชิโย ฉินฺทิตฺวา นหานติตฺเถ นิขณนฺติ, ตตฺถ จุณฺณานิ อากิริตฺวา มนุสฺสา กายํ ฆํสนฺติ.
๒๗๘๔. คนฺธพฺพหตฺเถนาติ นหานติตฺเถ ปิเตน ทารุมยหตฺเถน. เตน กิร จุณฺณานิ คเหตฺวา มนุสฺสา สรีรํ ฆํสนฺติ. กุรุวินฺทกสุตฺติยาติ กุรุวินฺทกปาสาณจุณฺณานิ ลาขาย พนฺธิตฺวา กตคุฬิกกลาปโก วุจฺจติ, ตํ อุโภสุ อนฺเตสุ คเหตฺวา สรีรํ ฆํสนฺติ. มลฺลเกนาติ มกรทนฺตกํ ฉินฺทิตฺวา มลฺลกมูลสณฺาเนน กเตน มลฺลเกน, อิทํ คิลานสฺสาปิ น วฏฺฏติ. อฺมฺฺจ กายโตติ อฺมฺํ สรีเรน ฆํเสยฺย.
๒๗๘๕. อกตํ มลฺลกํ นาม มกรทนฺเต อจฺฉินฺทิตฺวา กตํ, อิทํ อคิลานสฺส น วฏฺฏติ.
๒๗๘๖. กปาลิฏฺกขณฺฑานีติ กปาลขณฺฑอิฏฺกขณฺฑานิ. สพฺพสฺสาติ คิลานาคิลานสฺส ¶ สรีเร ฆํสิตฺวา อุพฺพฏฺเฏตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ปุถุปาณิก’’นฺติ หตฺถปริกมฺมํ วุจฺจติ, ตสฺมา สพฺพสฺส หตฺเถน ปิฏฺิปริกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. ‘‘วตฺถวฏฺฏี’’ติ อิทํ ปาฬิยํ วุตฺตอุกฺกาสิกสฺส ¶ ปริยายํ, ตสฺมา นหายนฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นหานสาฏกวฏฺฏิยาปิ ฆํสิตุํ วฏฺฏติ.
๒๗๘๗. เผณกํ นาม สมุทฺทเผณํ. กถลนฺติ กปาลขณฺฑํ. ปาทฆํสเน วุตฺตา อนฺุาตา. กตกํ นาม ปทุมกณฺณิกาการํ ปาทฆํสนตฺถํ กณฺฏเก อุฏฺาเปตฺวา กตํ, เอตํ เนว ปฏิคฺคเหตุํ, น ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
๒๗๘๘. ยํ กิฺจิปิ อลงฺการนฺติ หตฺถูปคาทิอลงฺกาเรสุ ยํ กิฺจิ อลงฺการํ.
๒๗๘๙. โอสณฺเยฺยาติ อลงฺการตฺถํ สงฺขโรนฺโต นเมยฺย. หตฺถผณเกนาติ หตฺเถเนว ผณกิจฺจํ กโรนฺตา องฺคุลีหิ โอสณฺเนฺติ. ผณเกนาติ ทนฺตมยาทีสุ เยน เกนจิ. โกจฺเฉนาติ อุสิรมเยน วา มฺุชปพฺพชมเยน วา โกจฺเฉน.
๒๗๙๐. สิตฺถเตโลทเตเลหีติ สิตฺถเตลฺจ อุทกเตลฺจาติ วิคฺคโห, เตหิ. ตตฺถ สิตฺถเตลํ นาม มธุสิตฺถกนิยฺยาสาทิ ยํ กิฺจิ จิกฺกณํ. จิกฺกณํ นาม นิยฺยาสํ. อุทกเตลํ นาม อุทกมิสฺสกํ เตลํ. กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ‘‘สิฏฺา’’ติ ปาโ, โสเยวตฺโถ. อนุโลมนิปาตตฺถนฺติ นลาฏาภิมุขํ อนุโลเมน ปาตนตฺถํ. อุทฺธโลเมนาติ อุทฺธคฺคํ หุตฺวา ิตโลเมน.
๒๗๙๑. หตฺถํ เตเลน เตเมตฺวาติ กรตลํ เตเลน มกฺเขตฺวา. สิโรรุหา เกสา. อุณฺหาภิตตฺตสฺสาติ อุณฺหาภิตตฺตรชสิรสฺส. อลฺลหตฺเถน สิโรรุเห ปฺุฉิตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
๒๗๙๒. อาทาเส ¶ อุทปตฺเต วาติ เอตฺถ กํสปตฺตาทีนิปิ, เยสุ มุขนิมิตฺตํ ปฺายติ, สพฺพานิ อาทาสสงฺขเมว คจฺฉนฺติ, กฺชิยาทีนิปิ จ อุทปตฺตสงฺขเมว, ตสฺมา ยตฺถ กตฺถจิ โอโลเกนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
๒๗๙๓. เยน ¶ เหตุนา มุขํ โอโลเกนฺตสฺส อนาปตฺติ, ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สฺฉวิ’’นฺติอาทิ. อาพาธปจฺจยา ‘‘เม มุเข วโณ สฺฉวิ นุ โข, อุทาหุ น สฺฉวี’’ติ มุขํ ทฏฺฺุจ ‘‘อหํ ชิณฺโณ นุ โข, อุทาหุ โน’’ติ อตฺตโน อายุสงฺขารชานนตฺถฺจ มุขํ ทฏฺุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
๒๗๙๔. นจฺจํ วาติ ยํ กิฺจิ นจฺจํ อนฺตมโส โมรนจฺจมฺปิ. คีตนฺติ ยํ กิฺจิ นฏคีตํ วา สาธุคีตํ วา อนฺตมโส ทนฺตคีตมฺปิ, ยํ ‘‘คายิสฺสามา’’ติ ปุพฺพภาเค โอกูชนฺตา กโรนฺติ, เอตมฺปิ น วฏฺฏติ. วาทิตนฺติ ยํ กิฺจิ วาทิตํ. ทฏฺุํ วา ปน โสตุํ วาติ นจฺจํ ทฏฺุํ วา คีตํ วาทิตํ โสตุํ วา.
๒๗๙๕. สยํ นจฺจนฺตสฺส วา นจฺจาเปนฺตสฺส วา คายนฺตสฺส วา คายาเปนฺตสฺส วา วาเทนฺตสฺส วา วาทาเปนฺตสฺส วา ทุกฺกฏเมว อฏฺกถาย (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๘) วุตฺตนฺติ ตเทกเทสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทฏฺุมนฺตมโส’’ติอาทิ.
๒๗๙๖. สุณาตีติ คีตํ วา วาทิตํ วา. ปสฺสตีติ นจฺจํ ปสฺสติ.
๒๗๙๗. ปสฺสิสฺสามีติ เอตฺถ ‘‘สุณิสฺสามี’’ติ เสโส. ‘‘นจฺจํ ปสฺสิสฺสามิ, คีตํ, วาทิตํ วา สุณิสฺสามี’’ติ วิหารโต วิหารํ คจฺฉโต วาปิ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๒๗๙๘. อุฏฺหิตฺวาน คจฺฉโตติ ‘‘นจฺจํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ, ‘‘คีตํ, วาทิตํ วา สุณิสฺสามี’’ติ นิสินฺนฏฺานโต อุฏฺหิตฺวา อนฺโตวิหาเรปิ ¶ ตํ ตํ ทิสํ คจฺฉโต อาปตฺติ โหตีติ โยชนา. วีถิยํ ตฺวา คีวํ ปสาเรตฺวา ปสฺสโตปิ จ อาปตฺตีติ โยชนา.
๒๗๙๙. ทีฆาติ ทฺวงฺคุลโต ทีฆา. น ธาเรยฺยาติ น ธาเรตพฺพา. ทฺวงฺคุลํ วา ทุมาสํ วาติ เอตฺถ ทฺเว องฺคุลานิ ปริมาณํ เอตสฺสาติ ทฺวงฺคุโล, เกโส. ทฺเว มาสา อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท อสฺสาติ ทุมาโส. เกสํ ธาเรนฺโต ทฺวงฺคุลํ วา ธาเรยฺย ทุมาสํ วา. ตโต อุทฺธํ น วฏฺฏตีติ ตโต ทฺวงฺคุลโต วา ทุมาสโต วา เกสโต อุทฺธํ เกสํ ธาเรตุํ น วฏฺฏติ.
อถ ¶ วา ทฺเว องฺคุลานิ สมาหฏานิ ทฺวงฺคุลํ, ทฺเว มาสา สมาหฏา ทุมาสํ, อุภยตฺถ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. เกเส ธาเรนฺโต ทฺวงฺคุลมตฺตํ วา ธาเรยฺย ทุมาสมตฺตํ วา, ตโต กาลปริมาณโต อุทฺธํ เกเส ธาเรตุํ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. สเจ เกเส อนฺโตทฺเวมาเส ทฺวงฺคุเล ปาปุณนฺติ, อนฺโตทฺเวมาเสเยว ฉินฺทิตพฺพา. ทฺวงฺคุเล หิ อติกฺกเมตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิ น ทีฆา, ทฺเวมาสโต เอกทิวสมฺปิ อติกฺกเมตุํ น ลภติเยว. เอวมยํ อุภเยนปิ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทเนว วุตฺโต, ตโต โอรํ ปน นวฏฺฏนภาโว นาม นตฺถิ.
๒๘๐๐. ทีเฆ นเข, ทีฆานิ นาสิกโลมานิ จ น ธารเยติ โยชนา, น ธาเรยฺย, ฉินฺเทยฺยาติ อตฺโถ. วีสติมฏฺนฺติ วีสติยา นขานํ มฏฺํ ลิขิตมฏฺภาวํ กาตุํ ภิกฺขุโน น วฏฺฏตีติ โยชนา. สตฺถเกน ตจฺเฉตฺวา จุณฺณเกน ปมชฺชิตฺวา ผลิกมณีนํ วิย อุชฺชลกรณํ ลิขิตมฏฺํ นาม. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มลมตฺตํ อปกฑฺฒิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๔) อนฺุาตตฺตา มุคฺคผลตจาทีหิ นขมลํ อปเนตุํ วฏฺฏติ.
๒๘๐๑. กปฺปาเปยฺย ¶ วิสุํ มสฺสุนฺติ โย เกสจฺฉินฺโน วิสุํ มสฺสุํ กปฺปาเปยฺย. ทาิกํ เปยฺยาติ เกเส ฉินฺทาเปตฺวา มสฺสุํ อกปฺปาเปตฺวา วิสุํ เปยฺย. สมฺพาเธติ อุปกจฺฉกมุตฺตกรณสงฺขาเต สมฺพาธฏฺาเน. โลมํ สํหราเปยฺยวาติ สตฺเถน วา สณฺฑาเสน วา อฺเน เยน เกนจิ ปเรน ฉินฺทาเปยฺย, สยํ วา ฉินฺเทยฺย. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๕) อนฺุาตตฺตา ยถาวุตฺตสมฺพาเธ คณฺฑปิฬกวณาทิเก อาพาเธ สติ โลมํ สํหราเปตุํ วฏฺฏติ.
๒๘๐๒. อคิลานสฺส ฉินฺทโต ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อฺเน วา ปุคฺคเลน ตถา กตฺตริยา ฉินฺทาเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๒๘๐๓. เสสงฺคเฉทเนติ องฺคุลิยาทิอวเสสสรีราวยวานํ เฉทเน. อตฺตวเธติ อตฺตุปกฺกเมน วา อาณตฺติยา อุปกฺกเมน วา อตฺตโน ชีวิตนาเส.
๒๘๐๔. องฺคนฺติ องฺคชาตโต อวเสสํ สรีราวยวํ. อหิกีฏาทิทฏฺสฺส ตปฺปฏิการวเสน ¶ องฺคํ ฉินฺทโต น โทโส. ตาทิสาพาธปจฺจยา ตปฺปฏิการวเสน องฺคํ ฉินฺทโต น โทโส. โลหิตํ โมเจนฺตสฺสาปิ น โทโสติ โยชนา.
๒๘๐๕. อปริสฺสาวโน ภิกฺขุ สเจ มคฺคํ คจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. มคฺเค อทฺธาเน ตํ ปริสฺสาวนํ ยาจมานสฺส โย น ททาติ, ตสฺส อททโต อเทนฺตสฺสาปิ ตเถว ทุกฺกฏเมวาติ โยชนา. โย ปน อตฺตโน หตฺเถ ปริสฺสาวเน วิชฺชมาเนปิ ยาจติ, ตสฺส น อกามา ทาตพฺพํ.
๒๘๐๖. ‘‘นคฺโค’’ติ ¶ ปทํ ‘‘น ภฺุเช’’ติอาทิ กิริยาปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. น ภฺุเชติ ภตฺตาทึ ภฺุชิตพฺพํ น ภฺุเชยฺย. น ปิเวติ ยาคุอาทึ ปาตพฺพํ น ปิเวยฺย. น จ ขาเทติ มูลขาทนียาทิกํ ขาทนียํ น ขาเทยฺย. น สายเยติ ผาณิตาทิกํ สายิตพฺพฺจ น สาเยยฺย น ลิเหยฺย. น ทเทติ อฺสฺส ภตฺตาทึ กิฺจิ น ทเทยฺย. น คณฺเหยฺยาติ ตถา สยํ นคฺโค หุตฺวา น ปฏิคฺคณฺเหยฺย. อฺชสํ มคฺคํ.
๒๘๐๗. ปริกมฺมํ น กาตพฺพนฺติ ปิฏฺิปริกมฺมาทิปริกมฺมํ น กาตพฺพํ. การเยติ สยํ นคฺโค หุตฺวา อฺเน ปิฏฺิปริกมฺมาทิปริกมฺมํ น การาเปยฺยาติ อตฺโถ.
๒๘๐๘. ปิฏฺิกมฺมาทิเก ปริกมฺเม ชนฺตาฆราทิกา ติสฺโส ปฏิจฺฉาที วุตฺตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติสฺโส ปฏิจฺฉาทิโย ชนฺตาฆรปฏิจฺฉาทึ อุทกปฏิจฺฉาทึ วตฺถปฏิจฺฉาทิ’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๑) อนฺุาตาติ โยชนา. ปฏิจฺฉาเทติ หิริโกปินนฺติ ปฏิจฺฉาทิ, ชนฺตาฆรเมว ปฏิจฺฉาทิ ชนฺตาฆรปฏิจฺฉาทิ. อุทกเมว ปฏิจฺฉาทิ อุทกปฏิจฺฉาทิ. วตฺถเมว ปฏิจฺฉาทิ วตฺถปฏิจฺฉาทิ. ‘‘สพฺพตฺถ ปน วฏฺฏตี’’ติ อิมินา อิตรปฏิจฺฉาทิทฺวยํ ปริกมฺเมเยว วฏฺฏตีติ ทีเปติ. สพฺพตฺถาติ โภชนาทิสพฺพกิจฺเจสุ.
๒๘๐๙. ยตฺถ กตฺถจิ เปฬายนฺติ ตมฺพโลหวฏฺฏโลหกํสโลหกาฬโลหสุวณฺณรชตาทีหิ กตาย วา ทารุมยาย วา ยาย กายจิ เปฬาย อาสิตฺตกูปธาเน. ภฺุชิตุํ น จ วฏฺฏตีติ ภาชนํ เปตฺวา ภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘อาสิตฺตกูปธานํ นาม ตมฺพโลเหน วา รชเตน วา กตาย เปฬาย เอตํ อธิวจนํ, ‘น ภิกฺขเว อาสิตฺตกูปธาเน ภฺุชิตพฺพ’นฺติ สามฺเน ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ¶ ปน ¶ ทารุมยาปิ น วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๖๔). ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว มโฬริก’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๔) อนฺุาตตฺตา มโฬริกาย เปตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘มโฬริกา’’ติ จ ทณฺฑาธารโก วุจฺจติ, ยํ ตโย, จตฺตาโร, พหู วา ทณฺฑเก อุปริ จ เหฏฺา จ วิตฺถตํ มชฺเฌ สงฺกุจิตํ กตฺวา พนฺธิตฺวา อาธารกํ กโรนฺติ. ยฏฺิอาธารกปณฺณาธารกปจฺฉิกปิฏฺฆฏกกวาฏกาทิภาชนมุขอุทุกฺขลาทีนิปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ยฏฺิอาธารโกติ ยฏฺึเยว อุชุกํ เปตฺวา พนฺธีกตอาธารโก.
เอกภาชเน วิสุํ วิสุํ โภชนสฺสาปิ สมฺภวโต ‘‘ภฺุชโต เอกภาชเน’’ติ เอตฺตเกเยว วุตฺเต ตสฺสาปิ ปสงฺโค สิยาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถมาห ‘‘เอกโต’’ติ. ‘‘ภฺุชโต’’ติ อิทํ อุปลกฺขณํ. เอกโต เอกภาชเน ยาคุอาทิปานมฺปิ น วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, เอกถาลเก ปาตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๔). อถ วา ภฺุชโตติ อชฺโฌหารสามฺเน ปานมฺปิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยเมตฺถ วินิจฺฉโย – สเจ เอโก ภิกฺขุ ภาชนโต ผลํ วา ปูวํ วา คเหตฺวา คจฺฉติ, ตสฺมึ อปคเต อิตรสฺส เสสกํ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อิตรสฺสาปิ ตสฺมึ ขเณ ปุน คเหตุํ วฏฺฏตีติ.
๒๘๑๐. เย ทฺเว วา ตโย วา ภิกฺขู เอกปาวุรณา วา เอกตฺถรณา วา เอกตฺถรณปาวุรณา วา นิปชฺชนฺติ, เตสฺจ, เย เอกมฺเจปิ เอกโต นิปชฺชนฺติ, เตสฺจ อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๒๘๑๑. สงฺฆาฏิปลฺลตฺถิกมุปาคโตติ เอตฺถ สงฺฆาฏีติ สงฺฆาฏินาเมน อธิฏฺิตจีวรมาห. สงฺฆาฏิปลฺลตฺถิกํ อุปคเตน ยุตฺโต หุตฺวาติ อตฺโถ. น นิสีเทยฺยาติ วิหาเร ¶ วา อนฺตรฆเร วา ยตฺถ กตฺถจิ น นิสีเทยฺย. ‘‘สงฺฆาฏีติ นาเมน อธิฏฺิตจีวรโวหารปฺปตฺตมธิฏฺิตจีวรํ ‘สงฺฆาฏี’ติ วุตฺต’’นฺติ นิสฺสนฺเทเห, ขุทฺทสิกฺขาวณฺณนายมฺปิ ‘‘สงฺฆาฏิยา น ปลฺลตฺเถติ อธิฏฺิตจีวเรน วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ปลฺลตฺถิโก น กาตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘อนฺโตคาเม วาสตฺถาย อุปคเตน อธิฏฺิตํ สงฺฆาฏึ วินา เสสจีวเรหิ ปลฺลตฺถิกาย นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.
กิฺจิ ¶ กีฬํ น กีเฬยฺยาติ ชุตกีฬาทิกํ ยํ กิฺจิ กายิกวาจสิกกีฬิกํ น กีเฬยฺย. น จ คาหเยติ น จ คาหาเปยฺย, น หราเปยฺยาติ อตฺโถ.
๒๘๑๒. ทาิกายปีติ มสฺสุมฺหิ. อุคฺคตนฺติ เอตฺถ ‘‘พีภจฺฉ’’นฺติ เสโส. อฺนฺติ อปลิตํ. ตาทิสนฺติ พีภจฺฉํ.
๒๘๑๓. ‘‘อคิลาโน’’ติ อิมินา คิลานสฺส อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. ‘‘ธาเรยฺยา’’ติ อิมินา สุทฺธกตฺตุนิทฺเทเสน อคิลานสฺสปิ ปรํ ธาราปเน, ปรสฺส ธารณสาทิยเน จ อนาปตฺตีติ วิฺายตีติ. อตฺตโน คุตฺตตฺถํ, จีวราทีนํ คุตฺตตฺถฺจ วฏฺฏตีติ โยชนา. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (จูฬว. อฏฺ. ๒๗๐) – ยสฺส กายทาโห วา ปิตฺตโกโป วา โหติ, จกฺขุ วา ทุพฺพลํ, อฺโ วา โกจิ อาพาโธ วินา ฉตฺเตน อุปฺปชฺชติ, ตสฺส คาเม วา อรฺเ วา ฉตฺตํ วฏฺฏติ. วาฬมิคโจรภเยสุ อตฺตคุตฺตตฺถํ, วสฺเส ปน จีวรคุตฺตตฺถมฺปิ วฏฺฏติ. เอกปณฺณจฺฉตฺตํ ปน สพฺพตฺเถว วฏฺฏติ. ‘‘เอกปณฺณจฺฉตฺตํ นาม ตาลปตฺต’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตนฺติ.
๒๘๑๔. หตฺถิโสณฺฑากาโร อเภโทปจาเรน ‘‘หตฺถิโสณฺฑ’’นฺติ วุตฺโต. เอวมุปริปิ. จีวรสฺส นามเธยฺยํ ‘‘วสน’’นฺติ ¶ อิทํ. ‘‘นิวาเสนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ ปททฺวยฺจ ‘‘หตฺถิโสณฺฑ’’นฺติอาทีหิ สพฺพปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. เวลฺลิยนฺติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน สํ-สทฺทโลโป, สํเวลฺลิยนฺติ อตฺโถ.
เอตฺถ หตฺถิโสณฺฑํ (จูฬว. อฏฺ. ๒๘๐) นาม นาภิมูลโต หตฺถิโสณฺฑสณฺานํ โอลมฺพกํ กตฺวา นิวตฺถํ โจฬิกิตฺถีนํ นิวาสนํ วิย. จตุกฺกณฺณํ นาม อุปริโต ทฺเว, เหฏฺโต ทฺเวติ เอวํ จตฺตาโร กณฺเณ ทสฺเสตฺวา นิวตฺถํ. มจฺฉวาฬกํ นาม เอกโต ทสนฺตํ เอกโต ปาสนฺตํ โอลมฺเพตฺวา นิวตฺถํ. สํเวลฺลิยนฺติ มลฺลกมฺมการาทโย วิย กจฺฉํ พนฺธิตฺวา นิวาสนํ. ตาลวณฺฏกํ นาม ตาลวณฺฏากาเรน สาฏกํ โอลมฺเพตฺวา นิวาสนํ. จ-สทฺเทน สตวลิกํ สงฺคณฺหาติ. สตวลิกํ นาม ทีฆสาฏกํ อเนกกฺขตฺตุํ โอภฺชิตฺวา โอวฏฺฏิกํ กโรนฺเตน นิวตฺถํ, วามทกฺขิณปสฺเสสุ วา นิรนฺตรํ วลิโย ทสฺเสตฺวา นิวตฺถํ. สเจ ปน ชาณุโต ปฏฺาย เอกา วา ทฺเว วา วลิโย ปฺายนฺติ, วฏฺฏติ. เอวํ นิวาเสตุํ คิลานสฺสปิ มคฺคปฏิปนฺนสฺสปิ น วฏฺฏติ.
ยมฺปิ ¶ มคฺคํ คจฺฉนฺตา เอกํ วา ทฺเว วา โกเณ อุกฺขิปิตฺวา อนฺตรวาสกสฺส อุปริ ลคฺเคนฺติ, อนฺโต วา เอกํ กาสาวํ ตถา นิวาเสตฺวา พหิ อปรํ นิวาเสนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ. คิลาโน ปน อนฺโตกาสาวสฺส โอวฏฺฏิกํ ทสฺเสตฺวา อปรํ อุปริ นิวาเสตุํ ลภติ. อคิลาเนน ทฺเว นิวาเสนฺเตน สคุณํ กตฺวา นิวาเสตพฺพานิ. อิติ ยฺจ อิธ ปฏิกฺขิตฺตํ, ยฺจ เสขิยวณฺณนายํ, ตํ สพฺพํ วชฺเชตฺวา นิพฺพิการํ ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตพฺพํ. ยํ กิฺจิ วิการํ กโรนฺโต ทุกฺกฏา น มุจฺจติ.
๒๘๑๕. คิหิปารุปนนฺติ ¶ ‘‘เสตปฏปารุตํ (จูฬว. อฏฺ. ๒๘๐) ปริพฺพาชกปารุตํ เอกสาฏกปารุตํ โสณฺฑปารุตํ อนฺเตปุริกปารุตํ มหาเชฏฺกปารุตํ กุฏิปเวสกปารุตํ พฺราหฺมณปารุตํ ปาฬิการกปารุต’’นฺติ เอวมาทิปริมณฺฑลลกฺขณโต อฺถา ปารุตํ, สพฺพเมตํ คิหิปารุตํ นาม. ตสฺมา ยถา เสตปฏา อฑฺฒปาลกนิคณฺา ปารุปนฺติ, ยถา จ เอกจฺเจ ปริพฺพาชกา อุรํ วิวริตฺวา ทฺวีสุ อํสกูเฏสุ ปาวุรณํ เปนฺติ, ยถา จ เอกสาฏกา มนุสฺสา นิวตฺถสาฏกสฺส เอเกนนฺเตน ปิฏฺึ ปารุปิตฺวา อุโภ กณฺเณ อุโภสุ อํสกูเฏสุ เปนฺติ, ยถา จ สุราโสณฺฑาทโย สาฏเกน คีวํ ปริกฺขิปนฺตา อุโภ อนฺเต อุทเร วา โอลมฺเพนฺติ, ปิฏฺิยํ วา ขิปนฺติ, ยถา จ อนฺเตปุริกาโย อกฺขิตารกมตฺตํ ทสฺเสตฺวา โอคุณฺิกํ ปารุปนฺติ, ยถา จ มหาเชฏฺา ทีฆสาฏกํ นิวาเสตฺวา ตสฺเสว เอเกนนฺเตน สกลสรีรํ ปารุปนฺติ, ยถา จ กสฺสกา เขตฺตกุฏึ ปวิสนฺตา สาฏกํ ปลิเวเตฺวา อุปกจฺฉเก ปกฺขิปิตฺวา ตสฺเสว เอเกนนฺเตน สรีรํ ปารุปนฺติ, ยถา จ พฺราหฺมณา อุภินฺนํ อุปกจฺฉกานํ อนฺตเรน สาฏกํ ปเวเสตฺวา อํสกูเฏสุ ปกฺขิปนฺติ, ยถา จ ปาฬิการโก ภิกฺขุ เอกํสปารุปเนน ปารุตํ วามพาหํ วิวริตฺวา จีวรํ อํสกูฏํ อาโรเปติ, เอวํ อปารุปิตฺวา สพฺเพปิ เอเต, อฺเ จ เอวรูเป ปารุปนโทเส วชฺเชตฺวา นิพฺพิการํ ปริมณฺฑลํ ปารุปิตพฺพํ. ตถา อปารุปิตฺวา อาราเม วา อนฺตรฆเร วา อนาทเรน ยํ กิฺจิ วิการํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ปริมณฺฑลโต วิมุตฺตลกฺขณนิวาสนปารุปนโทเส วชฺเชตฺวา ปริมณฺฑลภาโวเยว วุตฺตลกฺขโณ อธิปฺเปโตติ อตฺโถ.
๒๘๑๖. โลกายตํ น วาเจยฺยาติ ‘‘สพฺพํ อุจฺฉิฏฺํ, สพฺพํ อนุจฺฉิฏฺํ, เสโต กาโก, กาโฬ พโก อิมินา จ อิมินา จ การเณนา’’ติ เอวมาทินิรตฺถกการณปฏิสํยุตฺตํ ติตฺถิยสตฺถํ ¶ อฺเสํ น วาเจยฺย. น จ ตํ ปริยาปุเณติ ตํ โลกายตํ น จ ปริยาปุเณยฺย น ¶ อุคฺคณฺเหยฺย. ติรจฺฉานวิชฺชาติ หตฺถิสิปฺปอสฺสสิปฺปธนุสิปฺปาทิกา ปโรปฆาตกรา วิชฺชา จ. ภิกฺขุนา น ปริยาปุณิตพฺพา, น วาเจตพฺพาติ โยชนา.
๒๘๑๗. สพฺพาจามริพีชนีติ เสตาทิวณฺเณหิ สพฺเพหิ จมรวาเลหิ กตา พีชนี. น จาลิมฺเปยฺย ทายํ วาติ ทวฑาหาทิอุปทฺทวนิวารณาย อนฺุาตํ ปฏคฺคิทานการณํ วินา อรฺํ อคฺคินา น อาลิมฺเปยฺย. ทวฑาเห ปน อาคจฺฉนฺเต อนุปสมฺปนฺเน อสติ ปฏคฺคึ ทาตุํ, อปฺปหริตกรเณน วา ปริขาขณเนน วา ปริตฺตาณํ กาตุํ, เสนาสนํ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา อคฺคึ อลฺลสาขํ ภฺชิตฺวา นิพฺพาเปตฺุจ ลภติ. อุทเกน ปน กปฺปิเยเนว ลภติ, เนตเรน. อนุปสมฺปนฺเน ปน สติ เตเนว กปฺปิยโวหาเรน การาเปตพฺพํ. มุขํ น จ ลฺเชติ มโนสิลาทินา มุขํ น ลิมฺเปยฺย, ติลเกน องฺคํ น กเรยฺยาติ อตฺโถ.
๒๘๑๘. อุภโตกาชนฺติ อุภโตโกฏิยา ภารวหนโกฏิกาชํ. อนฺตรกาชกนฺติ อุภยโกฏิยา ิตวาหเกหิ วหิตพฺพํ มชฺเฌภารยุตฺตกาชํ. สีสกฺขนฺธกฏิภาราทโย เหฏฺา วุตฺตลกฺขณาว.
๒๘๑๙. โย ภิกฺขุ วฑฺฒกิองฺคุเลน อฏฺงฺคุลาธิกํ วา เตเนว องฺคุเลน จตุรงฺคุลปจฺฉิมํ วา ทนฺตกฏฺํ ขาทติ, เอวํ ขาทโต ตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๒๘๒๐. กิจฺเจ สติปีติ สุกฺขกฏฺาทิคฺคหณกิจฺเจ ปน สติ. โปริสนฺติ ปุริสปฺปมาณํ, พฺยามมตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อาปทาสูติ วาฬมิคาทโย วา ทิสฺวา มคฺคมูฬฺโห วา ทิสา โอโลเกตุกาโม หุตฺวา ทวฑาหํ วา อุทโกฆํ วา อาคจฺฉนฺตํ ¶ ทิสฺวา วา เอวรูปาสุ อาปทาสุ. วฏฺฏเตวาภิรูหิตุนฺติ อติอุจฺจมฺปิ รุกฺขํ อาโรหิตุํ วฏฺฏติ เอว.
๒๘๒๑. สเจ อกลฺลโก คิลาโน น สิยา, ลสุณํ มาคธํ อามกํ ภณฺฑิกลสุณํ น จ ขาเทยฺย เนว ปริภฺุเชยฺยาติ โยชนา. ภณฺฑิกลสุณํ นาม จตุมิฺชโต ปฏฺาย พหุมิฺชํ. ปลณฺฑุกภฺชนกาทิลสุเณ มคเธสุ ชาตตฺเตปิ น โทโส. ลสุณวิภาโค เหฏฺา ทสฺสิโตเยว. คิลานสฺส ปน ลสุณํ ขาทิตุํ วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา ลสุณํ ขาทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๙). อาพาธปจฺจยาติ ยสฺส อาพาธสฺส ลสุณํ ¶ เภสชฺชํ โหติ, ตปฺปจฺจยาติ อตฺโถ. พุทฺธวจนนฺติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหา ปิฏกตฺตยปาฬิ. อฺถาติ สกฺกฏาทิขลิตวจนมยํ วาจนามคฺคํ น โรเปตพฺพํ, ตถา น เปตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๒๘๒๒. ขิปิเตติ เยน เกนจิ ขิปิเต. ‘‘ชีวา’’ติ น วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. ภิกฺขุนา ขิปิเต คิหินา ‘‘ชีวถา’’ติ วุตฺเตน ปุน ‘‘จิรํ ชีวา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘จิร’’นฺติ ปเท สติปิ วฏฺฏติ.
๒๘๒๓. อาโกเฏนฺตสฺสาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺธาทีหิ วา ปหรนฺตสฺส. ปุปฺผสํกิณฺเณติ ปุปฺผสนฺถเต.
๒๘๒๔. นฺหาปิตา ปุพฺพกา เอตสฺสาติ นฺหาปิตปุพฺพโก, นฺหาปิตชาติโกติ อตฺโถ. ขุรภณฺฑนฺติ นฺหาปิตปริกฺขารํ. น คณฺเหยฺยาติ น ปริหเรยฺย. สเจ โย นฺหาปิตชาติโก โหติ, โส ขุรภณฺฑํ คเหตฺวา น หเรยฺยาติ อตฺโถ. อฺสฺส หตฺถโต คเหตฺวา เกสจฺเฉทาทิ กาตุํ วฏฺฏติ. อุณฺณีติ เกสกมฺพลํ วินา อุณฺณมยา ปาวุรณชาติ. ‘‘โคนกํ ¶ กุตฺตกํ จิตฺตก’’มิจฺจาทินา วุตฺตเภทวนฺตตาย อาห ‘‘สพฺพา’’ติ. อุณฺณมยํ อนฺโตกริตฺวา ปารุปิตุํ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘พาหิรโลมิกา’’ติ. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, พาหิรโลมี อุณฺณีธาเรตพฺพา’’ติ (จูฬว. ๒๔๙). สิกฺขาปทฏฺกถายํ ‘‘อุณฺณโลมานิ พหิ กตฺวา อุณฺณปาวารํ ปารุปนฺติ, ตถา ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. โลมานิ อนฺโต กตฺวา ปารุปิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๙).
๒๘๒๕. องฺคราคํ นาม กุงฺกุมาทิ. กโรนฺตสฺสาติ อพฺภฺชนฺตสฺส. อกายพนฺธนสฺส คามํ ปวิสโตปิ ทุกฺกฏํ สมุทีริตนฺติ โยชนา. เอตฺถ จ อสติยา อพนฺธิตฺวา นิกฺขนฺเตน ยตฺถ สรติ, ตตฺถ พนฺธิตพฺพํ. ‘‘อาสนสาลาย พนฺธิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ วฏฺฏติ. สริตฺวา ยาว น พนฺธติ, น ตาว ปิณฺฑาย จริตพฺพํ.
๒๘๒๖. สพฺพํ อายุธํ วินา สพฺพํ โลหชํ โลหมยภณฺฑฺจ ปตฺตํ, สงฺกมนียปาทุกํ, ยถาวุตฺตลกฺขณํ ปลฺลงฺกํ, อาสนฺทิฺจ วินา สพฺพํ ทารุชํ ทารุมยภณฺฑฺจ วุตฺตลกฺขณเมว กตกํ ¶ , กุมฺภการิกํ ธนิยสฺเสว สพฺพมตฺติกามยํ กุฏิฺจ วินา สพฺพํ มตฺติกามยํ ภณฺฑฺจ กปฺปิยนฺติ โยชนา.
ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
เสนาสนกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๘๒๗. อาสนฺทิโกติ จตุรสฺสปีํ. อติกฺกนฺตปมาโณติ เหฏฺา อฏนิยา วฑฺฒกิหตฺถโต อุจฺจตรปฺปมาณปาทโก. เอกปสฺสโต ทีโฆ ปน อุจฺจปาทโก น วฏฺฏติ. ยถาห ¶ – ‘‘อุจฺจกมฺปิ อาสนฺทิกนฺติ วจนโต เอกโตภาเคน ทีฆปีเมว หิ อฏฺงฺคุลาธิกปาทกํ น วฏฺฏติ, จตุรสฺสอาสนฺทิโก ปน ปมาณาติกฺกนฺโตปิ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗).
ตถาติ อิมินา ‘‘อติกฺกนฺตปมาโณ’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ. ปฺจงฺคปีนฺติ จตฺตาโร ปาทา, อปสฺเสนนฺติ อิเมหิ ปฺจงฺเคหิ ยุตฺตปีํ. สตฺตงฺคนฺติ ตีสุ ทิสาสุ อปสฺสเย โยเชตฺวา กตํ. ตฺหิ จตูหิ ปาเทหิ, ตีหิ อปสฺเสหิ จ ยุตฺตตฺตา ‘‘สตฺตงฺคปี’’นฺติ วุตฺตํ. เอส นโย มฺเจปิ. ยถาห – ‘‘สตฺตงฺโค นาม ตีสุ ทิสาสุ อปสฺสยํ กตฺวา กตมฺโจ, อยมฺปิ ปมาณาติกฺกนฺโต วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗).
๒๘๒๘. ตูโลนทฺธาติ อุปริ ตูลํ ปกฺขิปิตฺวา พทฺธา. ฆเรเยวาติ คิหีนํ เคเหเยว นิสีทิตุํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นิสีทิตุ’’นฺติ อิมินาว สยนํ ปฏิกฺขิตฺตํ. สีสปาทูปธานนฺติ สีสูปธานฺเจว ปาทูปธานฺจ. จ-สทฺโท ปิ-สทฺทตฺเถ โส ‘‘อคิลานสฺสา’’ติ เอตฺถ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพ, เตน อคิลานสฺสาปิ ตาว วฏฺฏติ, ปเคว คิลานสฺสาติ ทีเปติ.
๒๘๒๙. น เกวลํ คิลานสฺส สีสปาทูปธานเมว วฏฺฏติ, อถ โข อิทมฺปีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘สนฺถริตฺวา’’ติอาทิ. อุปธานานิ สนฺถริตฺวาติ พหู อุปธานานิ อตฺถริตฺวา. ตตฺถ จาติ ตสฺมึ อุปธานสนฺถเร. ปจฺจตฺถรณกํ ทตฺวาติ อุปริ ปจฺจตฺถรณกํ อตฺถริตฺวา.
๒๘๓๐. ติริยนฺติ ¶ วิตฺถารโต. มุฏฺิรตนนฺติ ปากติกมุฏฺิกรตนํ. ตํ ปน วฑฺฒกีนํ วิทตฺถิมตฺตํ. มิตนฺติ ปากฏิตํ ปมาณยุตฺตํ โหตีติ โยชนา. กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ‘‘มต’’นฺติ ¶ ปาโ ทิสฺสติ, โส น คเหตพฺโพ. ทีฆโตติ พิมฺโพหนสฺส ทีฆโต. ทิยฑฺฒนฺติ ทิยฑฺฒหตฺถํ วา ทฺวิหตฺถํ วา โหตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อิทเมว หิ ‘‘สีสปฺปมาณพิมฺโพหน’’นฺติ อธิปฺเปตํ. ยถาห –
‘‘สีสปฺปมาณํ นาม ยสฺส วิตฺถารโต ตีสุ กณฺเณสุ ทฺวินฺนํ กณฺณานํ อนฺตรํ มินิยมานํ วิทตฺถิ เจว จตุรงฺคุลฺจ โหติ, มชฺฌฏฺานํ มุฏฺิรตนํ โหติ. ทีฆโต ปน ทิยฑฺฒรตนํ วา ทฺวิรตนํ วาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. อยํ สีสปฺปมาณสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท, อิโต อุทฺธํ น วฏฺฏติ, เหฏฺา ปน วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗).
๒๘๓๑. โจฬนฺติ ปิโลติกา. ปณฺณนฺติ รุกฺขลตานํ ปณฺณํ. อุณฺณาติ เอฬกาทีนํ โลมํ. ติณนฺติ ทพฺพติณาทิ ยํ กิฺจิ ติณํ. วากนฺติ กทลิอกฺกมกจิวากาทิกํ. เอเตหิ ปฺจหิ ปูริตา ภิสิโย ตูลานํ คณนาวสา เหตุคพฺภานํ เอเตสํ ปฺจนฺนํ คพฺภานํ คณนาวเสน ปฺจ ภาสิตาติ โยชนา.
๒๘๓๒. พิมฺโพหนคพฺภํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิสี’’ติอาทิ. ปฺเจวาติ ยถาวุตฺตโจฬาทิปฺเจว. ตถา ตูลานิ ตีณิปีติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตีณิ ตูลานิ รุกฺขตูลํ ลตาตูลํ โปฏกิตูล’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) อนฺุาตานิ ตีณิปิ ตูลานิ. เอตฺถ จ รุกฺขตูลํ นาม สิมฺพลิรุกฺขาทีนํ เยสํ เกสฺจิ รุกฺขานํ ตูลํ. ลตาตูลํ นาม ขีรวลฺลิอาทีนํ ยาสํ กาสฺจิ วลฺลีนํ ตูลํ. โปฏกิตูลํ นาม โปฏกิติณาทีนํ เยสํ เกสฺจิ ติณชาติกานํ อนฺตมโส อุจฺฉุนฬาทีนมฺปิ ตูลํ. โลมานิ มิคปกฺขีนนฺติ สีหาทิจตุปฺปทานํ, โมราทิปกฺขีนํ โลมานิ. อิเมติ ภิสิคพฺภาทโย อิเม ทส พิมฺโพหนสฺส คพฺภาติ สมฺพนฺโธ.
๒๘๓๓. เอวํ ¶ กปฺปิยํ ภิสิพิมฺโพหนคพฺภํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อกปฺปิยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มนุสฺสโลม’’นฺติอาทิ. โลเมสุ มนุสฺสโลมฺจ ปุปฺเผสุ พกุลปิยงฺคุปุปฺผาทิกํ สพฺพํ ปุปฺผฺจ ปณฺเณสุ ¶ จ สุทฺธํ เกวลํ ตมาลปตฺตฺจ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘สุทฺธ’’นฺติ อิมินา ตมาลปตฺตํ เสสคพฺเภหิ มิสฺสํ วฏฺฏตีติ พฺยติเรกโต ทีเปติ.
๒๘๓๔. มสูรเกติ จมฺมฉวิภิสิพิมฺโพหเน.
๒๘๓๕. ‘‘สุทฺธ’’นฺติ อิมินา พฺยติเรกโต ทสฺสิตเมวตฺถํ สรูปโต วิภาเวตุมาห ‘‘มิสฺส’’นฺติอาทิ.
๒๘๓๖. ติรจฺฉานคตสฺส วาติ อนฺตมโส คณฺฑุปฺปาทสฺสาปิ. กาเรนฺตสฺสาติ จิตฺตกมฺมกฏฺกมฺมาทิวเสน การาเปนฺตสฺส วา กโรนฺตสฺส วา.
๒๘๓๗. ชาตกนฺติ อปณฺณกชาตกาทิชาตกฺจ. วตฺถุนฺติ วิมานวตฺถุอาทิกํ ปสาทชนกํ วา เปตวตฺถุอาทิกํ สํเวคชนกํ วา วตฺถุํ. วา-สทฺเทน อฏฺกถาคตํ อิธ ทสฺสิตปกรณํ สงฺคณฺหาติ. ปเรหิ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อวธารเณ, เตน ปเรหิ การาเปตุเมว วฏฺฏติ, น สยํ กาตุนฺติ ทีเปติ. สยํ กาตุมฺปีติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท ปเคว การาเปตุนฺติ ทีเปติ.
๒๘๓๘. โย ปน ภิกฺขุ ทฺวีหิ วสฺเสหิ วา เอเกน วา วสฺเสน ยสฺส ภิกฺขุโน วุฑฺฒตโร วา โหติ ทหรตโร วา, โส เตน ภิกฺขุนา สมานาสนิโก นาม โหตีติ โยชนา.
๒๘๓๙. ‘‘สตฺตวสฺเสน ปฺจวสฺโส’’ติ อิทํ ทฺวีหิ วสฺเสหิ วุฑฺฒนวกานํ สมานาสนิกตฺเต อุทาหรณํ. ‘‘ฉ ¶ วสฺเสน ปฺจวสฺโส’’ติ อิทํ เอกวสฺเสน วุฑฺฒนวกานํ สมานาสนิกตฺเต อุทาหรณํ.
๒๘๔๐. ยํ ติณฺณํ นิสีทิตุํ ปโหติ, ตํ เหฏฺา ทีฆาสนํ นามาติ โยชนา. ‘‘สมานาสนิกา มฺเจ นิสีทิตฺวา มฺจํ ภินฺทึสุ, ปีเ นิสีทิตฺวา ปีํ ภินฺทึสู’’ติ (จูฬว. ๓๒๐) อาโรปิเต วตฺถุมฺหิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทุวคฺคสฺส มฺจํ ทุวคฺคสฺส ปี’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) อนฺุาตตฺตา ‘‘ทฺเว’’ติ สมานาสนิเก ทฺเว สนฺธาย วุตฺตํ.
๒๘๔๑. อุภโตพฺยฺชนํ ¶ , อิตฺถึ, ปณฺฑกํ เปตฺวา สพฺเพหิปิ คหฏฺเหิ, ปพฺพชิเตหิ วา ปุริเสหิ สห ทีฆาสเน นิสีทิตุํ อนฺุาตนฺติ โยชนา. โปตฺถเกสุ ปน กตฺถจิ ‘‘สพฺเพส’’นฺติ สามิวจนนฺโต ปาโ ทิสฺสติ, ตโต ‘‘สพฺเพหิปี’’ติ กรณวจนนฺโตว ปาโ ยุตฺตตโร. กรณวจนปฺปสงฺเค วา สามิวจนนิทฺเทโสติ เวทิตพฺพํ. ยถาห ‘‘ยํ ติณฺณํ ปโหติ, ตํ สํหาริมํ วา โหตุ อสํหาริมํ วา, ตถารูเป อปิ ผลกขณฺเฑ อนุปสมฺปนฺเนนาปิ สทฺธึ นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐).
๒๘๔๒. ปุริมิโกติ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สมฺมเตน ‘‘น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย…เป… คหิตาคหิตฺจ ชาเนยฺยา’’ติ (จูฬว. ๓๑๗) วุตฺเตหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ปุริมวสฺสูปนายิกทิวเส ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปมํ ภิกฺขู คเณตุํ, ปมํ ภิกฺขู คเณตฺวา เสยฺยา คเณตุํ, เสยฺยา คเณตฺวา เสยฺยคฺเคน คาเหตุ’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๓๑๘) นเยน อนฺุาตนิยาเมเนว เสนาสนคฺคาหาปนํ ปุริมิโก นาม เสนาสนคฺคาโห. เอวเมว ปจฺฉิมิกาย ¶ วสฺสูปนายิกทิวเส เสนาสนคฺคาหาปนํ ปจฺฉิมิโก นาม. เอวเมว มหาปวารณาทิวสสฺส อนนฺตรทิวเส ‘‘ภนฺเต, อนฺตรามุตฺตกํ เสนาสนํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา วุฑฺฒปฏิปาฏิยา เสนาสนคฺคาหาปนํ อนฺตรามุตฺตโก นาม. ปกาสิโต ‘‘อปรชฺชุคตาย อาสาฬฺหิยาปุริมิโก คาหาเปตพฺโพ, มาสคตาย อาสาฬฺหิยา ปจฺฉิมิโก คาเหตพฺโพ, อปรชฺชุคตาย ปวารณาย อายตึ วสฺสาวาสตฺถาย อนฺตรามุตฺตโก คาเหตพฺโพ’’ติ (จูฬว. ๓๑๘) วุตฺโต.
๒๘๔๓. วุตฺตเมวตฺถํ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุพฺพารุณา’’ติอาทิ. อิธ ปาฏิปทา นาม ทฺเว วสฺสูปนายิกทิวสา เจว มหาปวารณาย อนนฺตรทิวโส จ. อิเมสํ ติณฺณํ ปาฏิปททิวสานํ อรุโณ ปุพฺพารุโณ นาม. เต ทิวเส อติกฺกมฺม ทุติยติถิปฏิพทฺโธ อรุโณ ปุนารุโณ นาม. อิทนฺติ อุภยารุณานนฺตรํ. เสนาสนคาหกสฺสาติ เอตฺถ สกตฺเถ ก-ปจฺจโย, เสนาสนคฺคาหสฺสาติ อตฺโถ. ยถาห – ‘‘อิทฺหิ เสนาสนคฺคาหสฺส เขตฺต’’นฺติ. วสฺสูปคเต วสฺสูปคเม กาตพฺเพ สติ, สาเธตพฺพปโยชเน ภุมฺมํ. วสฺสูปคเตติ วา นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. ปุริมิกาย, หิ ปจฺฉิมิกาย จ วสฺสูปคมนสฺส ตํ ตทหุ เสนาสนคฺคาโห นิมิตฺตํ, อนฺตรามุตฺตโก ปน อาคมิโน วสฺสูปคมนสฺสาติ เอวํ ติวิโธปิ เสนาสนคฺคาโห วสฺสูปคมนสฺส นิมิตฺตํ โหติ.
๒๘๔๔. ปาฏิปททิวสสฺส ¶ อรุเณ อุคฺคเตเยว เสนาสเน ปน คาหิเต อฺโ ภิกฺขุ อาคนฺตฺวา สเจ เสนาสนปฺาปกํ เสนาสนํ ยาจติ, โส ภิกฺขุ เสนาสนปฺาปเกน ¶ ‘‘เสนาสนํ คาหิต’’นฺติ วตฺตพฺโพติ โยชนา.
๒๘๔๕. วสฺสาวาสสฺส อิทํ วสฺสาวาสิกํ, วสฺสํวุตฺถานํ ทาตพฺพจีวรํ, คาถาพนฺธวเสน ‘‘วสฺสวาสิก’’นฺติ รสฺสตฺตํ. สงฺฆิกํ อปโลเกตฺวา คหิตํ วสฺสาวาสิกํ จีวรํ สเจ ตตฺรชํ ตตฺรุปฺปาทํ โหติ, อนฺโตวสฺเส วิพฺภนฺโตปิ ลภเตติ โยชนา. ‘‘ตตฺรชํ สเจ’’ติ อิมินา จสฺส ทายกานํ วสฺสาวาสิกปจฺจยวเสน คาหิตํ ปน น ลภตีติ ทีเปติ. ยถาห – ‘‘ปจฺจยวเสน คาหิตํ ปน น ลภตีติ วทนฺตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๑๘).
๒๘๔๖-๘. สเจ วุตฺถวสฺโส โย ภิกฺขุ อาวาสิกหตฺถโต กิฺจิ ติจีวราทิกํ กปฺปิยภณฺฑํ อตฺตโน คเหตฺวา ‘‘อสุกสฺมึ กุเล มยฺหํ คหิตํ วสฺสาวาสิกจีวรํ คณฺห’’ อิติ เอวํ วตฺวา ตสฺส อาวาสิกสฺส ทตฺวา ทิสํ คจฺฉติ ปกฺกมติ, โส ตตฺถ คตฏฺาเน สเจ อุปฺปพฺพชติ คิหี โหติ, ตสฺส ทิสํคตสฺส สมฺปตฺตํ ตํ วสฺสาวาสิกํ เตน ตถา ทินฺนมฺปิ อาวาสิโก ภิกฺขุ คเหตุํ น ลภติ, ตสฺส ปาปิตํ วสฺสาวาสิกจีวรํ สงฺฆิกํเยว สิยาติ โยชนา. ยถาห – ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺโถ ภิกฺขุ วิพฺภมติ, สงฺฆสฺเสเวต’’นฺติ.
๒๘๔๙. ตสฺมึ กุเล ทายเก มนุสฺเส สมฺมุขา เจ ปฏิจฺฉาเปติ, ตสฺส ทิสํคมิสฺส สมฺปตฺตํ วสฺสาวาสิกจีวรํ อาวาสิโก ลภตีติ โยชนา.
๒๘๕๐. ตตฺถ อาราโม นาม ปุปฺผาราโม วา ผลาราโม วา. วิหาโร นาม ยํ กิฺจิ ปาสาทาทิเสนาสนํ. วตฺถูนิ ทุวิธสฺสปีติ อารามวตฺถุ, วิหารวตฺถูติ ทุวิธสฺส วตฺถูนิ ¶ จ. อารามวตฺถุ นาม เตสํเยว อารามานํ อตฺถาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปิโตกาโส, เตสุ วา อาราเมสุ วินฏฺเสุ เตสํ โปราณกภูมิภาโค. วิหารวตฺถุ นาม ตสฺส ปติฏฺาโนกาโส. ภิสิ นาม อุณฺณภิสิอาทีนํ ปฺจนฺนํ อฺตรา. พิมฺโพหนํ นาม วุตฺตปฺปการานํ พิมฺโพหนานํ อฺตรํ. มฺจํ นาม มสารโก พุนฺทิกาพทฺโธ, กุฬีรปาทโก, อาหจฺจปาทโกติ อิเมสํ ปุพฺเพ วุตฺตานํ จตุนฺนํ มฺจานํ อฺตรํ. ปีํ นาม มสารกาทีนํเยว จตุนฺนํ ปีานํ อฺตรํ.
๒๘๕๑. โลหกุมฺภี ¶ นาม กาฬโลเหน วา ตมฺพโลเหน วา เยน เกนจิ โลเหน กตา กุมฺภี. กฏาโห ปากโฏว. ‘‘ภาณก’’นฺติ อลฺชโร วุจฺจติ. อลฺชโรติ จ พหุอุทกคณฺหนิกา มหาจาฏิ, ชลํ คณฺหิตุํ อลนฺติ อลฺชโร. ‘‘วฏฺฏจาฏิ วิย หุตฺวา โถกํ ทีฆมุโข มชฺเฌ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา กโต’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. วารโกติ ฆโฏ. กุ วุจฺจติ ปถวี, ตสฺสา ทาลนโต วิทารณโต ‘‘กุทาโล’’ติ อโยมยอุปกรณวิเสโส วุจฺจติ.
๒๘๕๒. วลฺลิเวฬุอาทีสุ เวฬูติ มหาเวณุ. ติณนฺติ เคหจฺฉาทนํ ติณํ. ปณฺณํ ตาลปณฺณาทิกํ. มฺุชนฺติ มฺุชติณํ. ปพฺพชนฺติ ปพฺพชติณํ, มตฺติกา ปกติมตฺติกา วา เครุกาทิปฺจวณฺณา วา มตฺติกา. อาห จ อฏฺกถาจริโย.
๒๘๕๓. ทฺเวติ ปมทุติยครุภณฺฑานิ. ทฺวีหิ สงฺคหิตานิ ‘‘อาโรโม, อารามวตฺถุ, อิทํ ปมํ. วิหาโร, วิหารวตฺถุ, อิทํ ทุติย’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๑-๓๒๒) วุตฺตตฺตา. จตุสงฺคหนฺติ จตูหิ ภิสิอาทีหิ ¶ สงฺคโห ยสฺสาติ วิคฺคโห. นวโกฏฺาสนฺติ โลหกุมฺภิอาทโย นว โกฏฺาสา อสฺสาติ วิคฺคโห. อฏฺธา วลฺลิอาทีหิ อฏฺหิ ปกาเรหิ.
๒๘๕๔. อิตีติ นิทสฺสนตฺเถ. เอวํ วุตฺตนเยน ปฺจหิ ราสีหิ นิทฺทิฏฺานํ ครุภณฺฑคณนานํ ปิณฺฑวเสน ปฺจวีสติวิธํ ครุภณฺฑํ ปฺจนิมฺมลโลจโน นาโถ ปกาสยีติ โยชนา. ปฺจ นิมฺมลานิ โลจนานิ ยสฺสาติ วิคฺคโห, มํสทิพฺพธมฺมพุทฺธสมนฺตจกฺขุวเสน ปฺจวิธวิปฺปสนฺนโลจโนติ อตฺโถ.
๒๘๕๕. วิสฺสชฺเชนฺโตติ อิสฺสรวตาย ปรสฺส วิสฺสชฺเชนฺโต. วิภาเชนฺโตติ วสฺสคฺเคน ปาเปตฺวา วิภาเชนฺโต. อิทฺหิ สพฺพมฺปิ ครุภณฺฑํ เสนาสนกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๒๑) ‘‘อวิสฺสชฺชิยํ. กิฏาคิริวตฺถุมฺหิ (จูฬว. ๓๒๒) อเวภงฺคิย’’นฺติ จ วุตฺตํ. อุภยตฺถ อาคตโวหารเภททสฺสนมุเขน ตตฺถ วิปฺปฏิปชฺชนฺตสฺส อาปตฺตึ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภิกฺขุ ถุลฺลจฺจยํ ผุเส’’ติ. ปริวาเร ปน –
อวิสฺสชฺชิยํ ¶ อเวภงฺคิยํ, ปฺจ วุตฺตา มเหสินา;
วิสฺสชฺเชนฺตสฺส ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ;
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตาติ. (ปริ. ๔๗๙) –
อาคตํ. ตสฺมา มูลจฺเฉชฺชวเสน อวิสฺสชฺชิยํ, อเวภงฺคิยฺจ, ปริวตฺตนวเสน ปน วิสฺสชฺเชนฺตสฺส, ปริภฺุชนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย.
๒๘๕๖. ภิกฺขุนา ปุคฺคเลน วา สงฺเฆน วา คเณน วา ครุภณฺฑํ ตุ วิสฺสชฺชิตํ อวิสฺสฏฺเมว โหติ, วิภตฺตฺจ อวิภาชิตเมว โหตีติ โยชนา.
๒๘๕๗. เอตฺถ ¶ เอเตสุ ปฺจสุ ครุภณฺเฑสุ ปุริเมสุ ตีสุ อครุภณฺฑกํ กิฺจิ น จ อตฺถีติ โยชนา. จตุตฺเถ ปน ครุภณฺเฑ อฏฺกถาย ‘‘โลหกุมฺภี, โลหภาณกํ, โลหกฏาหนฺติ อิมานิ ตีณิ มหนฺตานิ วา โหนฺตุ ขุทฺทกานิ วา, อนฺตมโส ปสตมตฺตอุทกคณฺหนกานิปิ ครุภณฺฑานิเยวา’’ติ วุตฺตนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โลหกุมฺภี’’ติอาทิ.
๒๘๕๘. อิทํ ติวิธนฺติ สมฺพนฺโธ. ปาทคณฺหนโกติ เอตฺถ ปาโท นาม มคธนาฬิยา ปฺจนาฬิมตฺตคณฺหนโก ภาชนวิเสโส. ภาชนานํ ปมาณํ กโรนฺตา สีหฬทีเป เยภุยฺเยน เตเนว ปาเทน มินนฺติ. ตสฺมา อฏฺกถายํ ‘‘สีหฬทีเป ปาทคณฺหนโก ภาเชตพฺโพ’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วุตฺตํ. โลหวารโกติ กาฬโลหตมฺพโลหวฏฺฏโลหกํสโลหานํ เยน เกนจิ กโต. ภาชิโยติ ภาเชตพฺโพ.
๒๘๕๙. ตโต อุทฺธนฺติ ตโต ปาทคณฺหนกวารกโต อุทฺธํ อธิกํ คณฺหนโก. เอวํ ปาฬิอาคตานํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อฏฺกถาคตานํ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิงฺคาราทีนี’’ติอาทิ. ภิงฺคาโร นาม อุกฺขิตฺตหตฺถิโสณฺฑากาเรน กตชลนิคฺคมกณฺณิโก อุจฺจคีโว มหามุขอุทกภาชนวิเสโส. อาทิ-สทฺเทน อฏฺกถาคตานิ ‘‘ปฏิคฺคหอุฬุงฺกทพฺพิกฏจฺฉุปาติตฏฺฏกสรกสมุคฺคองฺคารกปลฺลธูมกฏจฺฉุอาทีนิ ขุทฺทกานิ วา มหนฺตานิ วา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วุตฺตานิ สงฺคณฺหาติ. สพฺพานีติ ขุทฺทกานิ วา มหนฺตานิ วา.
๒๘๖๐. ตมฺพถาลกา ¶ อยถาลกา ภาเชตพฺพาติ โยชนา. จ-สทฺเทน อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘เปตฺวา ปน ภาชนวิกตึ ¶ อฺสฺมิมฺปิ กปฺปิยโลหภณฺเฑ อฺชนี อฺชนิสลากา กณฺณมลหรณี สูจิ ปณฺณสูจิ ขุทฺทโก ปิปฺผลโก ขุทฺทกํ อารกณฺฏกํ กฺุจิกา ตาฬํ กตฺตรยฏฺิเวธโก นตฺถุทานํ ภินฺทิวาโล โลหกูโฏ โลหกุฏฺฏิ โลหคุโฬ โลหปิณฺฑิ โลหอรณี จกฺกลิกํ อฺมฺปิ วิปฺปกตํ โลหภณฺฑํ ภาชิย’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วจนํ สงฺคณฺหาติ. ธูมเนตฺตนฺติ ธูมนาฬิกา. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ผาลทีปรุกฺขทีปกปลฺลกโอลมฺพกทีปกอิตฺถิปุริสติรจฺฉานคตรูปกานิ ปน อฺานิ วา ภิตฺติจฺฉทนกวาฏาทีสุ อุปเนตพฺพานิ อนฺตมโส โลหขิลกํ อุปาทาย สพฺพานิ โลหภณฺฑานิ ครุภณฺฑานิเยว โหนฺตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วุตฺตํ สงฺคณฺหาติ.
๒๘๖๑. อตฺตนา ปฏิลทฺธนฺติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, อตฺตนา ปฏิลทฺธมฺปีติ อตฺโถ. ภิกฺขุนา อตฺตนา ปฏิลทฺธมฺปิ ตํ โลหภณฺฑํ กิฺจิปิ ปุคฺคลิกปริโภเคน น ภฺุชิตพฺพนฺติ โยชนา.
๒๘๖๒. กํสวฏฺฏโลหานํ วิการภูตานิ ตมฺพมยภาชนานิปิ ปุคฺคลิกปริโภเคน สพฺพโส ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.
๒๘๖๓. เอเสว นโยติ ‘‘น ปุคฺคลิกโภเคนา’’ติอาทินา ทสฺสิตนโย. สงฺฆิเกสุ วา คิหีนํ สนฺตเกสุ วา ยถาวุตฺตภณฺเฑสุ ปริโภคปจฺจยา โทโส น อตฺถีติ โยชนา. ‘‘กํสโลหาทิภาชนํ สงฺฆสฺส ทินฺนมฺปิ ปาริหาริยํ น วฏฺฏติ, คิหิวิกตนีหาเรเนว ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ปาริหาริยํ น วฏฺฏติ อตฺตโน สนฺตกํ วิย คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตีติ. ‘‘คิหิวิกตนีหาเรเนว ¶ ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ อิมินา สเจ อารามิกาทโย ปฏิสาเมตฺวา ปฏิเทนฺติ, ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ.
๒๘๖๔. ขีรปาสาณนฺติ มุทุกา ปาณชาติ. วุตฺตฺหิ มาติกาฏฺกถาคณฺิปเท ‘‘ขีรปาสาโณ นาม มุทุโก ปาสาโณ’’ติ. ครุกนฺติ ครุภณฺฑํ. ตฏฺฏกาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน สรกาทีนํ ¶ สงฺคโห. ฆฏโกติ ขีรปาสาณมโยเยว วารโก. ‘‘ปาทคณฺหนโต อุทฺธ’’นฺติ อิมินา ปาทคณฺหนโก อครุภณฺฑนฺติ ทีเปติ.
๒๘๖๕. ‘‘สุวณฺณรชตหารกูฏชาติผลิกภาชนานิ คิหิวิกตานิปิ น วฏฺฏนฺติ, ปเคว สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถายํ วุตฺตนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สิงฺคี’’ติอาทิ. สิงฺคีติ สุวณฺณํ. สชฺฌุ รชตํ. หารกูฏํ นาม สุวณฺณวณฺณํ โลหชาตํ. ผลิเกน อุพฺภวํ ชาตํ, ผลิกมยํ ภาชนนฺติ อตฺโถ. คิหีนํ สนฺตกานิปีติ อปิ-สทฺเทน คิหิวิกตปริโภเคนาปิ ตาว น วฏฺฏนฺติ, ปเคว สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วาติ ทีเปติ. เสนาสนปริโภเค ปน อามาสมฺปิ อนามาสมฺปิ สพฺพํ วฏฺฏติ.
๒๘๖๖. ขุทฺทาติ ยาย วาสิยา เปตฺวา ทนฺตกฏฺจฺเฉทนํ วา อุจฺฉุตจฺฉนํ วา อฺํ มหากมฺมํ กาตุํ น สกฺกา, เอวรูปา ขุทฺทกา วาสิ ภาชนียา. มหตฺตรีติ ยถาวุตฺตปฺปมาณาย วาสิยา มหนฺตตรา เยน เกนจิ อากาเรน กตวาสิ ครุภณฺฑํ. เวชฺชานํ สิราเวธนกมฺปิ จ ผรสุ ตถา ครุภณฺฑนฺติ โยชนา.
๒๘๖๗. กุารีติ ¶ เอตฺถ ผรสุสทิโสว วินิจฺฉโย. ยา ปน อาวุธสงฺเขเปน กตา, อยํ อนามาสา. กุทาโล อนฺตมโส จตุรงฺคุลมตฺโตปิ. สิขรนฺติ ธนุรชฺชุโต นาเมตฺวา ทารุอาทีนํ วิชฺฌนกกณฺฏโก. เตเนวาติ นิขาทเนเนว.
๒๘๖๘. นิขาทนสฺส เภทวนฺตตาย ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘จตุรสฺสมุขํ โทณิมุข’’นฺติ. โทณิมุขนฺติ โทณิ วิย อุภยปสฺเสน นามิตมุขํ. วงฺกนฺติ อคฺคโต นาเมตฺวา กตนิขาทนํ. ปิ-สทฺเทน อุชุกํ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ จาติ ตสฺมึ นิขาทเน. สทณฺฑํ ขุทฺทกฺจ นิขาทนํ สพฺพํ ครุภณฺฑนฺติ โยชนา. ‘‘สทณฺฑํ ขุทฺทก’’นฺติ อิมินา วิเสสนทฺวเยน อทณฺฑํ ผลมตฺตํ สิปาฏิกาย เปตฺวา ปริหรณโยคฺคํ สมฺมชฺชนิทณฺฑเวธนกํ นิขาทนํ อครุภณฺฑํ, ตโต มหนฺตํ นิขาทนํ อทณฺฑมฺปิ ครุภณฺฑนฺติ ทีเปติ. เยหิ มนุสฺเสหิ วิหาเร วาสิอาทีนิ ทินฺนานิ จ โหนฺติ, เต เจ ฆเร ทฑฺเฒ วา โจเรหิ วา วิลุตฺเต ‘‘เทถ โน, ภนฺเต, อุปกรเณ ¶ ปุน ปากติเก กริสฺสามา’’ติ วทนฺติ, ทาตพฺพา. สเจ อาหรนฺติ, น วาเรตพฺพา, อนาหรนฺตาปิ น โจเทตพฺพา.
๒๘๖๙. ‘‘กมฺมารตฏฺฏการจุนฺทการนฬการมณิการปตฺตพนฺธกานํ อธิกรณิมุฏฺิกสณฺฑาสตุลาทีนิ สพฺพานิ โลหมยอุปกรณานิ สงฺเฆ ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑานิ. ติปุโกฏฺฏกสุวณฺณการจมฺมการอุปกรเณสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – ติปุโกฏฺฏกอุปกรเณสุปิ ติปุจฺเฉทนสตฺถกํ, สุวณฺณการอุปกรเณสุ สุวณฺณจฺเฉทนสตฺถกํ, จมฺมการอุปกรเณสุ กตปริกมฺมจมฺมฉินฺทนกํ ขุทฺทกสตฺถนฺติ อิมานิ ภาชนียภณฺฑานี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉเยกเทสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มุฏฺิก’’นฺติอาทิ ¶ . ตุลาทิกนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน กตฺตริอาทิอุปกรณํ สงฺคณฺหาติ.
๒๘๗๐. ‘‘นหาปิตตุนฺนการานํ อุปกรเณสุปิ เปตฺวา มหากตฺตรึ, มหาสณฺฑาสํ, มหาปิปฺผลกฺจ สพฺพํ ภาชนียํ. มหากตฺตริอาทีนิ ครุภณฺฑานี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นฺหาปิตกสฺสา’’ติอาทิ. นฺหาปิตกสฺส อุปกรเณสุ สณฺฑาโส, มหตฺตรี กตฺตรี จ ตุนฺนการานฺจ อุปกรเณสุ มหตฺตรี กตฺตรี จ มหาปิปฺผลกฺจ ครุภณฺฑกนฺติ โยชนา.
๒๘๗๑. เอตฺตาวตา จตุตฺถครุภณฺเฑ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปฺจมครุภณฺเฑ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วลฺลี’’ติอาทิ. เวตฺตลตาทิกา วลฺลิ ทุลฺลภฏฺาเน สงฺฆสฺส ทินฺนา วา ตตฺถ สงฺฆสฺส ภูมิยํ ชาตา, รกฺขิตา โคปิตา วา อฑฺฒพาหุปฺปมาณา ครุภณฺฑํ โหตีติ โยชนา. ‘‘อฑฺฒพาหูติ กปฺปรโต ปฏฺาย ยาว อํสกูฏ’’นฺติ คณฺิปเท วุตฺตํ. ‘‘อฑฺฒพาหุ นาม วิทตฺถิจตุรงฺคุล’’นฺติปิ วทนฺติ. สเจ สา วลฺลิ สงฺฆกมฺเม, เจติยกมฺเม จ กเต อติเรกา โหติ, ปุคฺคลิกกมฺเมปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. อรกฺขิตา ปน ครุภณฺฑเมว น โหติ.
๒๘๗๒. อฏฺกถายํ ‘‘สุตฺตมกจิวากนาฬิเกรหีรจมฺมมยา รชฺชุกา วา โยตฺตานิ วา วาเก จ นาฬิเกรหีเร จ วฏฺเฏตฺวา กตา เอกวฏฺฏา วา ทฺวิวฏฺฏา วา สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ. สุตฺตํ ปน อวฏฺเฏตฺวา ทินฺนํ, มกจิวากนาฬิเกรหีรา จ ภาชนียา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สุตฺตวากาทินิพฺพตฺตา’’ติอาทิ. วากาทีติ ¶ อาทิ-สทฺเทน มกจิวากนาฬิเกรหีรจมฺมานํ คหณํ. นาติทีฆา รชฺชุกา. อติทีฆํ โยตฺตกํ.
๒๘๗๓. นาฬิเกรสฺส ¶ หีเร วา มกจิวาเก วา วฏฺเฏตฺวา กตา เอกวฏฺฏาปิ ครุภณฺฑกนฺติ โยชนา. เยหิ ปเนตานิ รชฺชุกโยตฺตาทีนิ ทินฺนานิ โหนฺติ, เต อตฺตโน กรณีเยน หรนฺตา น วาเรตพฺพา.
๒๘๗๔. วฑฺฒกิองฺคุเลน อฏฺงฺคุลายโต สูจิทณฺฑมตฺโต ปริณาหโต สีหฬทีเป เลขกานํ เลขนิสูจิทณฺฑมตฺโต สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิโต โคปิโต เวฬุ ครุภณฺฑํ สิยาติ โยชนา. ‘‘ยํ มชฺฌิมปุริสสฺส กนิฏฺงฺคุลิยา อคฺคปฺปมาณํ, อิทํ สีหฬทีเป เลขกานํ เลขนิสูจิยา ปมาณ’’นฺติ วทนฺติ. โส จ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรโก ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ.
๒๘๗๕. ทณฺโฑ จ สลากา จ ทณฺฑสลากา, ฉตฺตสฺส ทณฺฑสลากาติ วิคฺคโห. ฉตฺตทณฺโฑ นาม ฉตฺตปิณฺฑิ. ฉตฺตสลากาติ ฉตฺตปฺชรสลากา. ทณฺโฑติ อุปาหนทณฺฑโก. ‘‘ทณฺโฑ’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ อฏฺกถาคเตสุ สรูเปน อิธาวุตฺโต อุปาหนทณฺโฑเยว สามฺวจเนน ปาริเสสโต คเหตพฺโพติ. ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺตา น วาเรตพฺพา.
๒๘๗๖. มฺุชาทีสุ เคหจฺฉทนารเหสุ ติเณสุ ยํ กิฺจิ มุฏฺิมตฺตํ ติณํ วา เคหจฺฉทนารหํ ตาลปณฺณาทิ เอกมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนํ วา ตตฺถ สงฺฆิกภูมิยํ ชาตํ วา ครุภณฺฑํ สิยาติ โยเชตพฺพา. ตตฺถ มุฏฺิมตฺตํ นาม กรฬมตฺตํ. อิทฺจ กรฬํ กตฺวา ฉาเทนฺตานํ ฉทนกรฬวเสน คเหตพฺพํ. ตาลปณฺณาทีติ อาทิ-สทฺเทน นาฬิเกรปณฺณาทิเคหจฺฉทนปณฺณานํ คหณํ. ตมฺปิ มฺุชาทิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, น วาเรตพฺพาติ.
๒๘๗๗-๘. อฏฺงฺคุลปฺปมาโณติ ¶ ทีฆโต อฏฺงฺคุลมตฺโต. เกจิ ‘‘ปุถุลโต’’ติ วทนฺติ. ริตฺตโปตฺถโกติ เลขาหิ สฺุโปตฺถโก, น ลิขิตโปตฺถโกติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อฏฺงฺคุลปฺปมาโณ’’ติ ¶ อิมินา อฏฺงฺคุลโต อูนปฺปมาโณ ภาชิโย, ‘‘ริตฺตโปตฺถโก’’ติ อิมินา อฏฺงฺคุลโต อติเรกปฺปมาโณปิ ลิขิตโปตฺถโก ภาชิโยติ ทสฺเสติ.
‘‘มตฺติกา ปกติมตฺติกา วา โหตุ ปฺจวณฺณา วา สุธา วา สชฺชุรสกงฺคุฏฺสิเลสาทีสุ วา ยํ กิฺจิ ทุลฺลภฏฺาเน อาเนตฺวา วา ทินฺนํ ตตฺถชาตกํ วา รกฺขิตโคปิตํ ตาลผลปกฺกมตฺตํ ครุภณฺฑํ โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มตฺติกา’’ติอาทิ. ปากติกา วา เสตเครุกาทิปฺจวณฺณา วาปิ มตฺติกาติ โยชนา. สิเลโส นาม กพิฏฺาทิสิเลโส. อาทิ-สทฺเทน สชฺชุรสกงฺคุฏฺาทีนํ คหณํ. ตาลปกฺกปมาณนฺติ เอกฏฺิตาลผลปมาณาปิ. ตมฺปิ มตฺติกาทิ สงฺฆกมฺเม, เจติยกมฺเม จ นิฏฺิเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ.
๒๘๗๙-๘๐. ‘‘เวฬุอาทิก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. รกฺขิตํ โคปิตํ วาปิ คณฺหตา สมกํ วา อติเรกํ วา ถาวรํ อนฺตมโส ตํอคฺฆนกํ วาลิกเมว วา ทตฺวา คเหตพฺพนฺติ โยชนา.
อฏฺกถายํ ปน ‘‘รกฺขิตโคปิตํ เวฬุํ คณฺหนฺเตน สมกํ วา อติเรกํ วา ถาวรํ อนฺตมโส ตํอคฺฆนกวาลิกายปิ ผาติกมฺมํ กตฺวา คเหตพฺโพ. ผาติกมฺมํ อกตฺวา คณฺหนฺเตน ตตฺเถว วฬฺเชตพฺโพ, คมนกาเล สงฺฆิเก อาวาเส เปตฺวา คนฺตพฺพํ. อสติยา คเหตฺวา คเตน ¶ ปน ปหิณิตฺวา ทาตพฺโพ. เทสนฺตรคเตน สมฺปตฺตวิหาเร สงฺฆิกาวาเส เปตพฺโพ’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) เวฬุมฺหิเยว อยํ วินิจฺฉโย วุตฺโต, อิธ ปน ‘‘วลฺลิเวฬาทิกํ กิฺจี’’ติ วลฺลิอาทีนมฺปิ สามฺเน วุตฺตตฺตา ตํ อุปลกฺขณมตฺตํ วลฺลิอาทีสุปิ ยถารหํ ลพฺภตีติ เวทิตพฺพํ.
๒๘๘๑. อฺชนนฺติ สิลามโย. เอวํ หริตาลมโนสิลาปิ.
๒๘๘๒. ทารุภณฺเฑ อยํ วินิจฺฉโย – ปริณาหโต ยถาวุตฺต สูจิทณฺฑปฺปมาณโก อฏฺงฺคุลทีโฆ โย โกจิ ทารุภณฺฑโก ทารุทุลฺลภฏฺาเน สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิตโคปิโต ครุภณฺฑํ โหตีติ โยชนา.
๒๘๘๓. เอวํ ¶ กุรุนฺทฏฺกถาย อาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา มหาอฏฺกถาย (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อาคตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มหาอฏฺกถาย’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อาสนฺทิกสตฺตงฺคา วุตฺตลกฺขณาว. ‘‘ภทฺทปี’’นฺติ เวตฺตมยํ ปีํ วุจฺจติ. ปีิกาติ ปิโลติกาพทฺธปีเมว.
๒๘๘๔. เอฬกปาทปีํ นาม ทารุปฏฺฏิกาย อุปริ ปาเท เปตฺวา โภชนปลฺลงฺกํ วิย กตปีํ วุจฺจติ. ‘‘อามลกวฏฺฏกปี’’นฺติ เอตสฺส ‘‘อามณฺฑกวฏฺฏก’’นฺติ ปริยาโย, ตสฺมา อุภเยนาปิ อามลกากาเรน โยชิตํ พหุปาทกปีํ วุจฺจติ. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘ตถามณฺฑกปีก’’นฺติ ปาโ. คาถาพนฺธวเสน มณฺฑก-สทฺทปโยโค. โกจฺฉํ ภูตคามวคฺเค จตุตฺถสิกฺขาปเท วุตฺตสรูปํ. ปลาลปีนฺติ นิปชฺชนตฺถาย กตา ปลาลภิสิ, อิมินา กทลิปตฺตาทิมยปีมฺปิ อุปลกฺขณโต ทสฺสิตํ. ยถาห – ‘‘ปลาลปีเน เจตฺถ กทลิปตฺตาทิปีานิปิ สงฺคหิตานี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑). โธวเน ¶ ผลกนฺติ จีวรโธวนผลกํ, โธวนาทิสทฺทานํ วิเยตฺถ วิภตฺติอโลโป. อิเมสุ ตาว ยํ กิฺจิ ขุทฺทกํ วา โหตุ มหนฺตํ วา, สงฺฆสฺส ทินฺนํ ครุภณฺฑํ โหติ. พฺยคฺฆจมฺมโอนทฺธมฺปิ วาฬรูปปริกฺขิตฺตํ รตนปริสิพฺพิตํ โกจฺฉํ ครุภณฺฑเมว.
๒๘๘๕. ภณฺฑิกาติ ทณฺฑกฏฺจฺเฉทนภณฺฑิกา. มุคฺคโรติ ทณฺฑมุคฺคโร. ทณฺฑมุคฺคโร นาม เยน รชิตจีวรํ โปเถนฺติ. วตฺถฆฏฺฏนมุคฺคโรติ จีวรฆฏฺฏนมุคฺคโร, เยน อนุวาตาทึ ฆฏฺเฏนฺติ. อมฺพณนฺติ ผลเกหิ โปกฺขรณิสทิสํ กตปานียภาชนํ. มฺชูสา นาม โทณิเปฬา. นาวา โปโต. รชนโทณิกา นาม ยตฺถ จีวรํ รชนฺติ, ปกฺกรชนํ วา อากิรนฺติ.
๒๘๘๖. อุฬุงฺโกติ นาฬิเกรผลกฏาหาทิมโย อุฬุงฺโก. อุภยํ ปิธานสมโก สมุคฺโค. ‘‘ขุทฺทโก ปริวิธโน กรณฺฑ’’นฺติ วทนฺติ. กรณฺโฑ จ ปาทคณฺหนกโต อติเรกปฺปมาโณ อิธ อธิปฺเปโต. กฏจฺฉูติ ทพฺพิ. อาทิ-สทฺเทน ปานียสราวปานียสงฺขาทีนํ คหณํ.
๒๘๘๗. เคหสมฺภารนฺติ เคโหปกรณํ. ถมฺภตุลาโสปานผลกาทิ ทารุมยํ, ปาสาณมยมฺปิ อิมินาว คหิตํ. กปฺปิยจมฺมนฺติ ‘‘เอฬกาชมิคาน’’นฺติอาทินา (วิ. วิ. ๒๖๕๐) เหฏฺา ทสฺสิตํ กปฺปิยจมฺมํ. ตพฺพิปริยายํ อกปฺปิยํ. อภาชิยํ ครุภณฺฑตฺตา. ภูมตฺถรณํ กตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
๒๘๘๘. อฏฺกถายํ ¶ ‘‘เอฬกจมฺมํ ปน ปจฺจตฺถรณคติกเมว โหติ, ตมฺปิ ครุภณฺฑเมวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘เอฬจมฺมํ ครุํ วุตฺต’’นฺติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สพฺพํ มฺจปฺปมาณํ จมฺมํ ครุภณฺฑ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) ¶ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘ปจฺจตฺถรณคติกเมวา’’ติ อิมินา มฺจปีเปิ อตฺถริตุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ‘‘ปาวาราทิปจฺจตฺถรณมฺปิ ครุภณฺฑ’’นฺติ เอเก, ‘‘โน’’ติ อปเร, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. มฺจปฺปมาณนฺติ จ ปมาณยุตฺตํ มฺจํ. ปมาณยุตฺตมฺโจ นาม ยสฺส ทีฆโส นว วิทตฺถิโย ติริยฺจ ตทุปฑฺฒํ. อุทฺธํ มุขมสฺสาติ อุทุกฺขลํ. อาทิ-สทฺเทน มุสลํ, สุปฺปํ, นิสทํ, นิสทโปโต, ปาสาณโทณิ, ปาสาณกฏาหฺจ สงฺคหิตํ. เปสการาทีติ อาทิ-สทฺเทน จมฺมการาทีนํ คหณํ. ตุริเวมาทิ เปสการภณฺฑฺจ ภสฺตาทิ จมฺมการภณฺฑฺจ กสิภณฺฑฺจ ยุคนงฺคลาทิ สงฺฆิกํ สงฺฆสนฺตกํ ครุภณฺฑนฺติ โยชนา.
๒๘๘๙. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ‘‘สงฺฆิก’’นฺติ อิทํ ปจฺจามสติ. อาธารโกติ ปตฺตาธาโร. ตาลวณฺฏนฺติ ตาลวณฺเฏหิ กตํ. เวฬุทนฺตวิลีเวหิ วา โมรปิฺเฉหิ วา จมฺมวิกตีหิ วา กตมฺปิ ตํสทิสํ ‘‘ตาลวณฺฏ’’นฺเตว วุจฺจติ. วฏฺฏวิธูปนานํ ตาลวณฺเฏเยว อนฺโตคธตฺตา ‘‘พีชนี’’ติ จตุรสฺสวิธูปนฺจ เกตกปาโรหกุนฺตาลปณฺณาทิมยทนฺตมยวิสาณมยทณฺฑกมกสพีชนี จ วุจฺจติ. ปจฺฉิ ปากฏาเยว. ปจฺฉิโต ขุทฺทโก ตาลปณฺณาทิมโย ภาชนวิเสโส จงฺโกฏกํ. สพฺพา สมฺมชฺชนีติ นาฬิเกรหีราทีหิ พทฺธา ยฏฺิสมฺมชฺชนี, มุฏฺิสมฺมชฺชนีติ ทุวิธา ปริเวณงฺคณาทิสมฺมชฺชนี จ ตเถว ทุวิธา ขชฺชูรินาฬิเกรปณฺณาทีหิ พทฺธา เคหสมฺมชฺชนี จาติ สพฺพาปิ สมฺมชฺชนี ครุภณฺฑํ โหติ.
๒๘๙๐. จกฺกยุตฺตกยานนฺติ หตฺถวฏฺฏกสกฏาทิยุตฺตยานฺจ.
๒๘๙๑. ฉตฺตนฺติ ปณฺณกิลฺชเสตจฺฉตฺตวเสน ติวิธํ ฉตฺตํ. มุฏฺิปณฺณนฺติ ตาลปณฺณํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิสาณภาชนฺจ ตุมฺพภาชนฺจาติ ¶ วิคฺคโห, เอกเทสสรูเปกเสโส, คาถาพนฺธวเสน นิคฺคหิตาคโม จ. วิสาณมยํ, ภาชนํ ตุมฺพมยํ ภาชนฺจาติ อตฺโถ. อิธ ‘‘ปาทคณฺหนกโต อติริตฺตปฺปมาณ’’นฺติ เสโส. อรณี อรณิสหิตํ. อาทิ-สทฺเทน อามลกตุมฺพํ อนฺุาตวาสิยา ทณฺฑฺจ สงฺคณฺหาติ. ลหุ อครุภณฺฑํ, ภาชนียนฺติ อตฺโถ. ปาทคณฺหนกโต อติริตฺตปฺปมาณํ ครุภณฺฑํ.
๒๘๙๒. วิสาณนฺติ ¶ โควิสาณาทิ ยํ กิฺจิ วิสาณํ. อตจฺฉิตํ ยถาคตเมว ภาชนียํ. อนิฏฺิตํ มฺจปาทาทิ ยํ กิฺจิ ภาชนียนฺติ โยชนา. ยถาห – ‘‘มฺจปาโท มฺจอฏนี ปีปาโท ปีอฏนี วาสิผรสุอาทีนํ ทณฺโฑติ เอเตสุ ยํ กิฺจิ วิปฺปกตตจฺฉนกมฺมํ อนิฏฺิตเมว ภาชนียํ, ตจฺฉิตมฏฺํ ปน ครุภณฺฑํ โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑).
๒๘๙๓. นิฏฺิโต ตจฺฉิโต วาปีติ ตจฺฉิตนิฏฺิโตปิ. วิโธติ กายพนฺธเน อนฺุาตวิโธ. หิงฺคุกรณฺฑโกติ หิงฺคุมโย วา ตทาธาโร วา กรณฺฑโก. อฺชนีติ อฺชนนาฬิกา จ อฺชนกรณฺฑโก จ. สลากาโยติ อฺชนิสลากา. อุทปฺุฉนีติ หตฺถิทนฺตวิสาณาทิมยา อุทกปฺุฉนี. อิทํ สพฺพํ ภาชนียเมว.
๒๘๙๔. ปริโภคารหนฺติ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคโยคฺคํ. กุลาลภณฺฑนฺติ ฆฏปิราทิกุมฺภการภณฺฑมฺปิ. ปตฺตงฺคารกฏาหนฺติ ปตฺตกฏาหํ, องฺคารกฏาหฺจ. ธูมทานํ นาฬิกา. กปลฺลิกาติ ทีปกปลฺลิกา.
๒๘๙๕. ถุปิกาติ ปาสาทาทิถุปิกา. ทีปรุกฺโขติ ปทีปาธาโร. จยนจฺฉทนิฏฺกาติ ปาการเจติยาทีนํ จยนิฏฺกา ¶ จ เคหาทีนํ ฉทนิฏฺกา จ. สพฺพมฺปีติ ยถาวุตฺตํ สพฺพมฺปิ อนวเสสํ ปริกฺขารํ.
๒๘๙๖. กฺจนโกติ สรโก. ฆฏโกติ ปาทคณฺหนกโต อนติริตฺตปฺปมาโณ ฆฏโก. ‘‘ยถา จ มตฺติกาภณฺเฑ, เอวํ โลหภณฺเฑปิ กุณฺฑิกา ภาชนียโกฏฺาสเมว ภชตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถานยํ สงฺคเหตุมาห ‘‘โลหภณฺเฑปิ กุณฺฑิกาปิ จ ภาชิยา’’ติ.
๒๘๙๗. ครุ นาม ปจฺฉิมํ ครุภณฺฑตฺตยํ. ถาวรํ นาม ปุริมทฺวยํ. สงฺฆสฺสาติ สงฺเฆน. ปริวตฺเตตฺวาติ ปุคฺคลิกาทีหิ ตาทิเสหิ เตหิ ปริวตฺเตตฺวา. ตตฺรายํ ปริวตฺตนนโย (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) – สงฺฆสฺส นาฬิเกราราโม ทูเร โหติ, กปฺปิยการกา ตํ พหุตรํ ขาทนฺติ, ตโต สกฏเวตนํ ทตฺวา อปฺปเมว อาหรนฺติ, อฺเสํ ปน ตสฺส อารามสฺส อวิทูรคามวาสีนํ มนุสฺสานํ วิหารสฺส สมีเป อาราโม โหติ, เต สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา สเกน อาราเมน ¶ ตํ อารามํ ยาจนฺติ, สงฺเฆน ‘‘รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ อปโลเกตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ. สเจปิ ภิกฺขูนํ รุกฺขสหสฺสํ โหติ, มนุสฺสานํ ปฺจสตานิ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ อาราโม ขุทฺทโก’’ติ น วตฺตพฺพํ. กิฺจาปิ หิ อยํ ขุทฺทโก, อถ โข อิตรโต พหุตรํ อายํ เทติ. สเจปิ สมกเมว เทติ, เอวมฺปิ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปริภฺุชิตุํ สกฺกาติ คเหตพฺพเมว.
สเจ ปน มนุสฺสานํ พหุตรา รุกฺขา โหนฺติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ พหุตรา รุกฺขา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘อติเรกํ อมฺหากํ ปฺุํ โหตุ, สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ รุกฺขา ผลธาริโน, มนุสฺสานํ รุกฺขา น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ. กิฺจาปิ น คณฺหนฺติ, น ¶ จิรสฺเสว คณฺหิสฺสนฺตีติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพเมว. มนุสฺสานํ รุกฺขา ผลธาริโน, ภิกฺขูนํ น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ. ‘‘นนุ ตุมฺหากํ รุกฺขา ผลธาริโน’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปฺุํ ภวิสฺสตี’’ติ วทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ อาราเมน อาราโม ปริวตฺเตตพฺโพ. เอเตเนว นเยน อารามวตฺถุปิ วิหาโรปิ วิหารวตฺถุปิ อาราเมน ปริวตฺเตตพฺพํ. อารามวตฺถุนา จ มหนฺเตน วา ขุทฺทเกน วา อารามอารามวตฺถุวิหารวิหารวตฺถูนิ.
กถํ วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ? สงฺฆสฺส อนฺโตคาเม เคหํ โหติ, มนุสฺสานํ วิหารมชฺเฌ ปาสาโท, อุโภปิ อคฺเฆน สมกา, สเจ มนุสฺสา เตน ปาสาเทน ตํ เคหํ ยาจนฺติ, สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ เจ มหคฺฆตรํ เคหํ โหติ, ‘‘มหคฺฆตรํ อมฺหากํ เคห’’นฺติ วุตฺเต จ ‘‘กิฺจาปิ มหคฺฆตรํ, ปพฺพชิตานํ ปน อสารุปฺปํ, น สกฺกา ตตฺถ ปพฺพชิเตหิ วสิตุํ, อิทํ ปน สารุปฺปํ, คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, เอวมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน มนุสฺสานํ มหคฺฆํ โหติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ เคหํ มหคฺฆ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ‘‘โหตุ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปฺุํ ภวิสฺสติ, คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปน สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ. เอเตเนว นเยน วิหารวตฺถุปิ อาราโมปิ อารามวตฺถุปิ วิหาเรน ปริวตฺเตตพฺพํ. วิหารวตฺถุนา จ มหคฺเฆน วา อปฺปคฺเฆน วา วิหารวิหารวตฺถุอารามอารามวตฺถูนิ. เอวํ ตาว ถาวเรน ถาวรปริวตฺตนํ เวทิตพฺพํ.
ครุภณฺเฑน ครุภณฺฑปริวตฺตเน ปน มฺจปีํ มหนฺตํ วา โหตุ ขุทฺทกํ วา, อนฺตมโส จตุรงฺคุลปาทกํ ¶ คามทารเกหิ ปํสฺวาคารเกสุ กีฬนฺเตหิ กตมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ โหติ. สเจปิ ราชราชมหามตฺตาทโย เอกปฺปหาเรเนว มฺจสตํ วา มฺจสหสฺสํ วา ¶ เทนฺติ, สพฺเพ กปฺปิยมฺจา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพา, สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วุฑฺฒปฏิปาฏิยา ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชถา’’ติ ทาตพฺพา, ปุคฺคลิกวเสน น ทาตพฺพา. อติเรกมฺเจ ภณฺฑาคาราทีสุ ปฺเปตฺวา ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตุมฺปิ วฏฺฏติ.
พหิสีมาย ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ ทินฺนมฺโจ สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน ทาตพฺโพ. ตตฺถ เจ พหู มฺจา โหนฺติ, มฺเจน กมฺมํ นตฺถิ, ยสฺส วสนฏฺาเน กมฺมํ อตฺถิ, ตตฺถ ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชถา’’ติ ทาตพฺโพ. มหคฺเฆน สตคฺฆนเกน, สหสฺสคฺฆนเกน วา มฺเจน อฺํ มฺจสตํ ลภติ, ปริวตฺเตตฺวา คเหตพฺพํ. น เกวลํ มฺเจน มฺโจเยว, อารามอารามวตฺถุวิหารวิหารวตฺถุปีภิสิพิมฺโพหนานิปิ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏนฺติ. เอส นโย ปีภิสิพิมฺโพหเนสุปิ เอเตสุ หิ กปฺปิยากปฺปิยํ วุตฺตนยเมว. ตตฺถ อกปฺปิยํ น ปริภฺุชิตพฺพํ, กปฺปิยํ สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชิตพฺพํ. อกปฺปิยํ วา มหคฺฆํ กปฺปิยํ วา ปริวตฺเตตฺวา วุตฺตวตฺถูนิ คเหตพฺพานิ, อครุภณฺฑุปคํ ปน ภิสิพิมฺโพหนํ นาม นตฺถีติ.
๒๘๙๘. ภิกฺขุ อโธเตน ปาเทน, อลฺลปาเทน วา เสนาสนํ นกฺกเมติ สมฺพนฺโธ. สยนฺติ เอตฺถ, อาสนฺติ จาติ สยนาสนํ, ปริกมฺมกตภูมตฺถรณาทิ. อลฺลปาเทน วาติ เยน อกฺกนฺตฏฺาเน อุทกํ ปฺายติ, เอวรูเปน ตินฺตปาเทน. ยถาห – ‘‘อลฺเลหิ ปาเทหีติ เยหิ อกฺกนฺตฏฺาเน อุทกํ ปฺายติ, เอวรูเปหิ ปาเทหิ ปริภณฺฑกตภูมิ วา เสนาสนํ วา น อกฺกมิตพฺพํ. สเจ ปน อุทกสิเนหมตฺตเมว ปฺายติ, น อุทกํ, วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๔). สอุปาหโนติ เอตฺถ ‘‘โธตปาทก’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ปาเท ปฏิมุกฺกาหิ อุปาหนาหิ สอุปาหโน ภิกฺขุ โธตปาทกํ โธตปาเทหิ อกฺกมิตพฺพฏฺานํ ตเถว น อกฺกเมติ โยชนา.
๒๘๙๙. ปริกมฺมกตายาติ ¶ สุธาทิปริกมฺมกตาย. นิฏฺุภนฺตสฺสาติ เขฬํ ปาเตนฺตสฺส. ปริกมฺมกตํ ภิตฺตินฺติ เสตภิตฺตึ วา จิตฺตกมฺมกตํ วา ภิตฺตึ. น เกวลฺจ ภิตฺติเมว, ทฺวารมฺปิ วาตปานมฺปิ อปสฺเสนผลกมฺปิ ปาสาณตฺถมฺภมฺปิ รุกฺขตฺถมฺภมฺปิ จีวเรน วา เกนจิ วา อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา อปสฺสยิตุํ น ลภติเยว. ‘‘ทฺวารวาตปานาทโย ปน อปริกมฺมกตาปิ อปฏิจฺฉาเทตฺวา น อปสฺสยิตพฺพา’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ.
๒๙๐๑. นิทฺทายโต ¶ ตสฺส โกจิ สรีราวยโว ปจฺจตฺถรเณ สงฺกุฏิเต สหสา ยทิ มฺจํ ผุสติ, ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๒๙๐๒. โลเมสุ มฺจํ ผุสนฺเตสุ. หตฺถปาทานํ ตเลน อกฺกมิตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. มฺจปีํ นีหรนฺตสฺส กาเย ปฏิหฺติ, อนาปตฺติ.
‘‘ทายเกหิ ‘กาเยน ผุสิตฺวา ยถาสุขํ ปริภฺุชถา’ติ ทินฺนเสนาสนํ, มฺจปีาทิฺจ ทายเกน วุตฺตนิยาเมน ปริภฺุชนฺตสฺส โทโส นตฺถี’’ติ มาติกฏฺกถาย สีหฬคณฺิปเท วุตฺตตฺตา ตถา ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ. ‘‘อิมํ มฺจปีาทึ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ครุภณฺฑํ โหติ, น ภาเชตพฺพํ สงฺฆสฺส ปรามฏฺตฺตา. ‘‘อิมํ มฺจปีาทึ ภทนฺตานํ วสฺสคฺเคน คณฺหิตุํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต สติปิ ครุภณฺฑภาเว กปฺปิยวตฺถุํ ภาเชตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, อกปฺปิยภณฺฑเมว ภาเชตฺวา คเหตุํ น ลพฺภติ. ‘‘อิมํ มฺจปีํ วสฺสคฺเคน คเหตุํ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเต วสฺสคฺเคน ภาเชตฺวา คเหตพฺพํ วสฺสคฺเคน ภาชนํ ปมํ วตฺวา ปจฺฉา สงฺฆสฺส ปรามฏฺตฺตา. ‘‘สงฺฆสฺส อิมํ มฺจปีํ วสฺสคฺเคน คณฺหิตุํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน ครุภณฺฑํ โหติ ปมํ สงฺฆสฺส ปรามฏฺตฺตาติ ¶ อยมฺปิ วิเสโส มาติกฏฺกถา คณฺิปเทเยว วุตฺโต.
๒๙๐๓-๔. อุทฺเทสภตฺตวินิจฺฉเยกเทสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สหสฺสคฺฆนโก’’ติอาทิ. สหสฺสคฺฆนโก สจีวโร ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกํ ภิกฺขุํ ปตฺโต, ตสฺมึ วิหาเร จ ‘‘เอวรูโป ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกํ ภิกฺขุํ ปตฺโต’’ติ ลิขิตฺวา ปิโตปิ จ โหติ, ตโต สฏฺิวสฺสานมจฺจเย ตาทิโส สหสฺสคฺฆนโก สจีวโร โกจิ ปิณฺฑปาโต สเจ อุปฺปนฺโน โหติ, ตํ ปิณฺฑปาตํ พุโธ วินิจฺฉยกุสโล ภิกฺขุ อวสฺสิกฏฺิติกาย อทตฺวา สฏฺิวสฺสิกฏฺิติกาย ทเทยฺยาติ โยชนา.
๒๙๐๕. อุทฺเทสภตฺตํ ภฺุชิตฺวาติ อุปสมฺปนฺนกาเล อตฺตโน วสฺสคฺเคน ปตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ ปริภฺุชิตฺวา. ชาโต เจ สามเณรโกติ สิกฺขาปจฺจกฺขานาทิวเสน สเจ สามเณโร ชาโต. ตนฺติ อุปสมฺปนฺนกาเล คหิตํ ตเทว อุทฺเทสภตฺตํ. สามเณรสฺส ปาฬิยาติ สามเณรปฏิปาฏิยา อตฺตโน ปตฺตํ ปจฺฉา คเหตุํ ลภติ.
๒๙๐๖. โย ¶ สามเณโร สมฺปุณฺณวีสติวสฺโส ‘‘สฺเว อุทฺเทสํ ลภิสฺสตี’’ติ วตฺตพฺโพ, อชฺช โส อุปสมฺปนฺโน โหติ, ิติกา อตีตา สิยาติ โยชนา, สฺเว ปาเปตพฺพา สามเณรฏฺิติกา อชฺช อุปสมฺปนฺนตฺตา อติกฺกนฺตา โหตีติ อตฺโถ, ตํ ภตฺตํ น ลภตีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๙๐๗. อุทฺเทสภตฺตานนฺตรํ สลากภตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ. สเจ สลากา ลทฺธา, ตํทิเน ภตฺตํ น ลทฺธํ, ปุนทิเน ตสฺส ภตฺตํ คเหตพฺพํ, น สํสโย ‘‘คเหตพฺพํ ¶ นุ โข, น คเหตพฺพ’’นฺติ เอวํ สํสโย น กาตพฺโพติ โยชนา.
๒๙๐๘. อุตฺตริ อุตฺตรํ อติเรกํ ภงฺคํ พฺยฺชนํ เอตสฺสาติ อุตฺตริภงฺคํ, ตสฺส, อติเรกพฺยฺชนสฺสาติ อตฺโถ. เอกจรสฺสาติ เอกจาริกสฺส. สลากาเยว สลากิกา.
๒๙๐๙. อุตฺตริภงฺคเมว อุตฺตริภงฺคกํ.
๒๙๑๐. เยน เยน หีติ คาหิตสลาเกน เยน เยน ภิกฺขุนา. ยํ ยนฺติ ภตฺตพฺยฺชเนสุ ยํ ยํ ภตฺตํ วา ยํ ยํ พฺยฺชนํ วา.
๒๙๑๑. สงฺฆุทฺเทสาทิกนฺติ สงฺฆภตฺตอุทฺเทสภตฺตาทิกํ. อาทิ-สทฺเทน นิมนฺตนํ, สลากํ, ปกฺขิกํ, อุโปสถิกํ, ปาฏิปทิกนฺติ ปฺจ ภตฺตานิ คหิตานิ.
ตตฺถ สพฺพสงฺฆสฺส ทินฺนํ สงฺฆภตฺตํ นาม. ‘‘สงฺฆโต เอตฺตเก ภิกฺขู อุทฺทิสิตฺวา เทถา’’ติอาทินา วตฺวา ทินฺนํ อุทฺเทสภตฺตํ. ‘‘สงฺฆโต เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ ภตฺตํ คณฺหถา’’ติอาทินา วตฺวา ทินฺนํ นิมนฺตนํ นาม. อตฺตโน อตฺตโน นาเมน สลากคาหกานํ ภิกฺขูนํ ทินฺนํ สลากภตฺตํ นาม. จาตุทฺทสิยํ ทินฺนํ ปกฺขิกํ. อุโปสเถ ทินฺนํ อุโปสถิกํ. ปาฏิปเท ทินฺนํ ปาฏิปทิกํ. ตํตํนาเมน ทินฺนเมว ตถา ตถา โวหรียติ. เอเตสํ ปน วิตฺถารกถา ‘‘อภิลกฺขิเตสู’’ติอาทินา (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๕ ปกฺขิกภตฺตาทิกถา) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา. อาคนฺตุกาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน คมิกภตฺตํ, คิลานภตฺตํ, คิลานุปฏฺากภตฺตนฺติ ¶ ตีณิ คหิตานิ. อาคนฺตุกานํ ทินฺนํ ภตฺตํ อาคนฺตุกภตฺตํ. เอเสว นโย เสเสสุ.
๒๙๑๒. วิหารนฺติ ¶ วิหารภตฺตํ อุตฺตรปทโลเปน, วิหาเร ตตฺรุปฺปาทภตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. วารภตฺตนฺติ ทุพฺภิกฺขสมเย ‘‘วาเรน ภิกฺขู ชคฺคิสฺสามา’’ติ ธุรเคหโต ปฏฺาย ทินฺนํ. นิจฺจนฺติ นิจฺจภตฺตํ อุตฺตรปทโลเปน, ตฺจ ตถา วตฺวาว ทินฺนํ. กุฏิภตฺตํ นาม สงฺฆสฺส อาวาสํ กตฺวา ‘‘อมฺหากํ เสนาสนวาสิโน อมฺหากํ ภตฺตํ คณฺหนฺตู’’ติ ทินฺนํ. ปนฺนรสวิธํ สพฺพเมว ภตฺตํ อิธ อิมสฺมึ เสนาสนกฺขนฺธเก อุทฺทิฏฺํ กถิตํ. เอเตสํ วิตฺถารวินิจฺฉโย อตฺถิเกหิ สมนฺตปาสาทิกาย คเหตพฺโพ.
๒๙๑๓. ปจฺจยภาชเน มิจฺฉาปฏิปตฺติยา มหาทีนวตฺตา อปฺปมตฺเตเนว ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ ปจฺจยภาชนกํ อนุสาสนฺโต อาห ‘‘ปาฬิ’’นฺติอาทิ.
เสนาสนกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
วตฺตกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๙๑๔-๕. อาคนฺตุโก จ อาวาสิโก จ ปิณฺฑจาริโก จ เสนาสนฺจ อารฺโก จ อนุโมทนา จาติ วิคฺคโห, ตาสุ วตฺตานิ, อิตรีตรโยคทฺวนฺทสมาสสฺส อุตฺตรปทลิงฺคตฺตา อิตฺถิ ลิงฺคนิทฺเทโส. ภตฺเต ภตฺตคฺเค, อุตฺตรปทโลโป. ‘‘ภตฺเต’’ติอาทีหิ ปเทหิ ‘‘วตฺตานี’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ.
อาจริโย จ อุปชฺฌายโก จ สิสฺโส จ สทฺธิวิหาริโก จ, เตสํ วตฺตานีติ วิคฺคโห. สพฺพโสติ สพฺพาวยวเภเทหิ. จตุทฺทเสวาติ อวยวเภเทหิ พหุวิธานิปิ วตฺตานิ วิสยเภเทน จุทฺทส เอว วุตฺตานิ. วิสุทฺธจิตฺเตนาติ สวาสนสกลสํกิเลสปฺปหานโต อจฺจนฺตปริสุทฺธจิตฺตสนฺตาเนน ¶ . วินายเกนาติ สตฺเต วิเนตีติ วินายโก, อนุตฺตรปุริสทมฺมสารถิภาเวน ทมฺมเทวพฺรหฺมนาคาทิเก สตฺเต นานาวิเธน วินยนุปาเยน ทเมตีติ อตฺโถ. อถ วา วิคโต นายโก อสฺสาติ วินายโก, เตน.
๒๙๑๖. อารามนฺติ ¶ เอตฺถ ตํสมีเป ตพฺโพหาโร. ยถาห ‘‘อิทานิ ‘อารามํ ปวิสิสฺสามี’ติ อิมินา อุปจารสีมสมีปํ ทสฺเสติ, ตสฺมา อุปจารสีมํ ปตฺวา อุปาหนาโอมฺุจนาทิ สพฺพํ กาตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๗). ‘‘ปน อปเนตพฺพ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. มฺุจิตพฺพาติ อุปาหนา ปาทโต อปเนตพฺพา.
๒๙๑๗. โอคุณฺนนฺติ สสีสปารุปนํ. สีเส จีวรเมว วา น กาตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. เตนาติ อาคนฺตุเกน. ปานียวารินาติ ปาตพฺพชเลน.
๒๙๑๘. ปุจฺฉิตฺวาติ วสฺสคณนํ ปุจฺฉิตฺวา. วิหาเร วุฑฺฒภิกฺขุโน อาคนฺตุเกน ภิกฺขุนา วนฺทิตพฺพาว. กาเลติ กาลสฺเสว. เตน อาคนฺตุเกน ภิกฺขุนา เสนาสนํ ‘‘มยฺหํ กตรํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพฺจาติ โยชนา.
๒๙๑๙. ‘‘ปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติ อิทํ ‘‘วจฺจฏฺาน’’นฺติอาทิเกหิ สพฺเพหิ อุปโยคนฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ปานียเมว จาติ ‘‘กึ อิมิสฺสา โปกฺขรณิยา ปานียเมว ปิวนฺติ, อุทาหุ นหานาทิปริโภคมฺปิ กโรนฺตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๗) อฏฺกถาคตนเยน ปานียฺจ. ตถา ปริโภชนียฺจ. สงฺฆกติกนฺติ ‘‘เกสุจิ าเนสุ วาฬมิคา วา อมนุสฺสา วา โหนฺติ, ตสฺมา กํ กาลํ ปวิสิตพฺพํ, กํ กาลํ นิกฺขมิตพฺพ’’นฺติ อฏฺกถาคตนเยน สงฺฆสฺส กติกสณฺานฺจ. โคจราทิกนฺติ ¶ เอตฺถ จ ‘‘โคจโร ปุจฺฉิตพฺโพติ ‘โคจรคาโม อาสนฺเน, อุทาหุ ทูเร, กาลสฺเสว จ ปิณฺฑาย จริตพฺพํ, อุทาหุ โน’ติ เอวํ ภิกฺขาจาโร ปุจฺฉิตพฺโพ’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๗) วุตฺตนเยน โคจรฺจ. อาทิ-สทฺเทน อโคจรํ คหิตํ. ‘‘อโคจโร นาม มิจฺฉาทิฏฺิกานํ วา คาโม ปริจฺฉินฺนภิกฺโข วา คาโม, ยตฺถ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา ภิกฺขา ทิยฺยติ, โสปิ ปุจฺฉิตพฺโพ’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๗) วุตฺตนเยน อโคจรฺจ.
๒๙๒๐. เอวํ อาคนฺตุกวตฺตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อาวาสิกวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วุฑฺฒ’’นฺติอาทิ. ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตฺจ จีวรฺจ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ โยชนา. จ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ.
๒๙๒๑. ตสฺสาติ ¶ อาคนฺตุกสฺส. ปาโททกฺจาติ จ-สทฺเทน โธตาโธตปาทา ยตฺถ ปียนฺติ, ตํ ปาทปีํ, ปาทกถลิกฺจ อุปนิกฺขิปิตพฺพนฺติ เอตํ คหิตํ. ปุจฺฉิตพฺพฺจ วารินาติ ‘‘ปานีเยน ปุจฺฉนฺเตน สเจ สกึ อานีตํ ปานียํ สพฺพํ ปิวติ, ‘ปุน อาเนมี’ติ ปุจฺฉิตพฺโพเยวา’’ติ วุตฺตนเยน ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ. อิธ จ-สทฺเทน –
‘‘อปิจ พีชเนนปิ พีชิตพฺโพ, พีชนฺเตน สกึ ปาทปิฏฺิยํ พีชิตฺวา สกึ มชฺเฌ, สกึ สีเส พีชิตพฺพํ, ‘อลํ โหตู’ติ วุตฺเตน ตโต มนฺทตรํ พีชิตพฺพํ. ปุน ‘อล’นฺติ วุตฺเตน ตโต มนฺทตรํ พีชิตพฺพํ. ตติยวารํ วุตฺเตน พีชนี เปตพฺพา. ปาทาปิสฺส โธวิตพฺพา, โธวิตฺวา สเจ อตฺตโน เตลํ อตฺถิ, เตน มกฺเขตพฺพา. โน เจ อตฺถิ, ตสฺส สนฺตเกน มกฺเขตพฺพา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๙) –
วุตฺตวตฺตานิ สงฺคณฺหาติ.
๒๙๒๒-๓. วนฺเทยฺโยติ ¶ วุฑฺฒาคนฺตุโก วนฺทิตพฺโพ. ปฺเปตพฺพนฺติ ‘‘กตฺถ มยฺหํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ ปุจฺฉิเตน เสนาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ‘‘เอตํ เสนาสนํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ‘‘วตฺตพฺโพ’’ติ อิทํ ‘‘อชฺฌาวุตฺถมวุตฺถ’’นฺติอาทีหิ ปเทหิ ตํตํลิงฺควจนานุรูเปน ปริวตฺเตตฺวา ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. อชฺฌาวุตฺถนฺติ ปฺตฺตเสนาสนสฺส ภิกฺขูหิ ปมํ วุตฺถภาวํ. อวุตฺถํ วาติ จีวรกาลํ ตสฺมึ ภิกฺขูหิ อนชฺฌาวุตฺถภาวํ วา. โคจราโคจรํ วุตฺตเมว.
เสกฺขกุลานิ จาติ ลทฺธเสกฺขสมฺมุติกานิ กุลานิ จ วตฺตพฺพานิ. ‘‘ปเวเส นิกฺขเม กาโล’’ติ อิทํ ‘‘สงฺฆกติก’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตตฺถเมว. ปานียาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน ปริโภชนียกตฺตรยฏฺีนํ อาจิกฺขนํ สงฺคณฺหาติ.
๒๙๒๔. ยถานิสินฺเนเนวาติ อตฺตนา นิสินฺนฏฺาเนเยว นิสินฺเนน. อสฺสาติ นวกสฺส.
๒๙๒๕. ‘‘อตฺร ปตฺตํ เปหิ, อิทมาสนํ นิสีทาหี’’ติ อิจฺเจวํ อิมินา ปกาเรน สพฺพํ วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. เทยฺยํ เสนาสนมฺปิ จาติ เสนาสนฺจ ทาตพฺพํ. จ-สทฺเทน ‘‘อวุตฺถํ วา อชฺฌาวุตฺถํ ¶ วา อาจิกฺขิตพฺพ’’นฺติอาทินา วุตฺตํ สมฺปิณฺเฑติ. มหาอาวาเสปิ อตฺตโน สนฺติกํ สมฺปตฺตสฺส อาคนฺตุกสฺส วตฺตํ อกาตุํ น ลพฺภติ.
๒๙๒๖. ‘‘มาติกาย นิทฺทิฏฺกฺกเมเนว วตฺตานิ กาตพฺพานิ, อุทาหุ ยถานุปฺปตฺติวเสนา’’ติ โกจิ มฺเยฺยาติ มาติกากฺกเมเนว กาตพฺพนฺติ นิยโม นตฺถิ, ยถานุปฺปตฺตวเสเนว กาตพฺพนฺติ วิฺาเปตุํ มาติกากฺกมมนาทิยิตฺวา คมิกวตฺตํ อารทฺธํ. อถ วา วตฺติจฺฉานุปุพฺพกตฺตา สทฺทปโยคสฺส ¶ มาติกากฺกมมนาทิยิตฺวา ยถิจฺฉํ นิทฺเทโส กโตติ เวทิตพฺโพติ. ทารุมตฺติกภณฺฑานีติ มฺจปีาทีนิ เจว รชนภาชนานิ จ. ปฏิสาเมตฺวาติ คุตฺตฏฺาเน เปตฺวา. อาวสถมฺปิ ถเกตฺวาติ อาวสเถ ทฺวารกวาฏาทีนิ จ ถเกตฺวา.
๒๙๒๗. อาปุจฺฉิตฺวาปีติ ภิกฺขุสฺส วา สามเณรสฺส วา อารามิกสฺส วา ‘‘อิมํ ปฏิชคฺคาหี’’ติ นิยฺยาเทตฺวา วา. ปุจฺฉิตพฺเพ อสนฺเตปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ปน-สทฺทตฺโถ. โคเปตฺวา วาปิ สาธุกนฺติ ‘‘จตูสุ ปาสาเณสุ มฺจํ ปฺเปตฺวา มฺเจ มฺจํ อาโรเปตฺวา’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๖๐) วุตฺตนเยน สมฺมา ปฏิสาเมตฺวา คนฺตพฺพนฺติ โยชนา.
๒๙๒๘. ปิณฺฑจาริกวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สหสา’’ติอาทิ. ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ อนฺตรฆรํ ปวิสนฺโต สหสา น ปวิเส สีฆํ น ปวิเสยฺย, นิกฺขมนฺโต สหสา น นิกฺขเม สีฆํ น นิกฺขเมยฺย, ภิกฺขุสารุปฺเปน ปวิเสยฺย, นิกฺขเมยฺย จ. ปิณฺฑจารินา ภิกฺขุนา เคหทฺวารํ สมฺปตฺเตน อติทูเร น าตพฺพํ นิพฺพโกสโต อติทูรฏฺาเน น าตพฺพํ. อจฺจาสนฺเน น าตพฺพํ นิพฺพโกสโต อาสนฺนตเร าเน น าตพฺพํ.
๒๙๒๙. อุจฺจาเรตฺวาติ อุปนาเมตฺวา. ภาชนนฺติ ปตฺตํ. ทกฺขิเณน ปณาเมตฺวาติ ทกฺขิเณน หตฺเถน อุปนาเมตฺวา. ภิกฺขํ คณฺเหยฺยาติ เอตฺถ ‘‘อุโภหิ หตฺเถหิ ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘อุโภหิ หตฺเถหิ ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ภิกฺขา คเหตพฺพา’’ติ (จูฬว. ๓๖๖).
๒๙๓๐. สูปํ ทาตุกามา วา อทาตุกามา วา อิติ มุหุตฺตกํ สลฺลกฺเขยฺย ติฏฺเยฺย. อนฺตราติ ¶ ภิกฺขาทานสมเย. น ¶ ภิกฺขาทายิกาติ อิตฺถี วา โหตุ ปุริโส วา, ภิกฺขาทานสมเย มุขํ น โอโลเกตพฺพนฺติ.
๒๙๓๑. ปิณฺฑจาริกวตฺตํ ทสฺเสตฺวา อารฺิกวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปานียาที’’ติอาทิ. ปานียาทีติ อาทิ-สทฺเทน ปริโภชนียอคฺคิอรณิสหิตกตฺตรยฏฺีนํ คหณํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ปานียํ อุปฏฺาเปตพฺพนฺติ สเจ ภาชนานิ นปฺปโหนฺติ, ปานียเมว ปริโภชนียมฺปิ กตฺวา อุปฏฺาเปตพฺพํ. ภาชนํ อลภนฺเตน เวฬุนาฬิกายปิ อุปฏฺาเปตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ยถา สมีเป ขุทฺทกอาวาโฏ โหติ, เอวํ กาตพฺพํ. อรณิสหิเต อสติ อคฺคึ อกาตุมฺปิ จ วฏฺฏติ. ยถา จ อารฺิกสฺส, เอวํ กนฺตารปฏิปนฺนสฺสาปิ อรณิสหิตํ อิจฺฉิตพฺพํ. คณวาสิโน ปน เตน วินาปิ วฏฺฏตีติ.
นกฺขตฺตนฺติ อสฺสยุชาทิสตฺตวีสติวิธํ นกฺขตฺตํ ชานิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. กถํ ชานิตพฺพนฺติ อาห ‘‘เตน โยโค จา’’ติ, เตน นกฺขตฺเตน จนฺทสฺส โยโค าตพฺโพติ อตฺโถ. ชานิตพฺพา ทิสาปิ จาติ อรฺเ วิหรนฺเตน อฏฺปิ ทิสา อสมฺโมหโต ชานิตพฺพา.
๒๙๓๒. อฺวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วจฺจปสฺสาวติตฺถานี’’ติอาทิ. ปฏิปาฏิยา ภวนฺตีติ คตานุกฺกเมน เสวิตพฺพา ภวนฺติ. ยถาห – ‘‘วจฺจกุฏิยํ, ปสฺสาวฏฺาเน, นฺหานติตฺเถติ ตีสุปิ อาคตปฏิปาฏิเยว ปมาณ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๗๓). ยถาวุฑฺฒํ กโรนฺตสฺสาติ คตปฏิปาฏึ วินา วุฑฺฒปฏิปาฏิยา กโรนฺตสฺส.
๒๙๓๓. วจฺจกุฏึ ¶ ปวิสนฺโต สหสา น ปวิเสยฺย. อุพฺภชิตฺวาติ จีวรํ อุกฺขิปิตฺวา.
๒๙๓๔. นิตฺถุนนฺเตน ภิกฺขุนา วจฺจํ น กาตพฺพนฺติ โยชนา. ‘‘วจฺจสฺส ทุนฺนิคฺคมเนน อุปหโต หุตฺวา นิตฺถุนติ เจ, น โทโส’’ติ สิกฺขาภาชนวินิจฺฉเย วุตฺตํ. ทณฺฑกฏฺํ ขาทโต วจฺจํ กโรโต ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๒๙๓๖. ขเรนาติ ผรุเสน วา ผาลิตกฏฺเน วา คณฺิเกน วา กณฺฏเกน วา สุสิเรน ¶ วา ปูตินา วา ทณฺเฑน น อวเลเขยฺย น ปฺุเฉยฺย. น กฏฺํ วจฺจกูปเก ฉฑฺเฑยฺยาติ ตํ กฏฺํ วจฺจกูเป น ฉฑฺเฑยฺย. ปสฺสาวโทณิยา เขฬํ น ปาเตยฺยาติ โยชนา.
๒๙๓๗. ปาทุกาสูติ วจฺจปสฺสาวปาทุกาสุ. นิกฺขมเน นิกฺขมนกาเล. ตตฺเถวาติ วจฺจปสฺสาวปาทุกาสฺเวว. ปฏิจฺฉาเทยฺยาติ อุกฺขิตฺตํ จีวรํ โอตาเรตฺวา สรีรํ ปฏิจฺฉาเทยฺย.
๒๙๓๘. โย วจฺจํ กตฺวา สลิเล สติ สเจ นาจเมยฺย อุทกกิจฺจํ น กเรยฺย, ตสฺส ทุกฺกฏํ อุทฺทิฏฺนฺติ โยชนา. โมหนาสินาติ สวาสนสฺส โมหสฺส, เตน สหเชกฏฺปหาเนกฏฺานํ สกลสํกิเลสานฺจ ปหายินา อาสวกฺขยาเณน สมุจฺฉินฺทตา มุนินา สพฺพฺุนา สมฺมาสมฺพุทฺเธน. ‘‘สลิเล สตี’’ติ อิมินา อสติ นิทฺโทสตํ ทีเปติ. ยถาห –
‘‘สติ อุทเกติ เอตฺถ สเจ อุทกํ อตฺถิ, ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ ปน นตฺถิ, ภาชเนน นีหริตฺวา อาจมิตพฺพํ. ภาชเน อสติ ปตฺเตน นีหริตพฺพํ. ปตฺเตปิ อสติ อสนฺตํ นาม โหติ. ‘อิทํ อติวิวฏํ, ปุรโต อฺํ ¶ อุทกํ ภวิสฺสตี’ติ คตสฺส อุทกํ อลภนฺตสฺเสว ภิกฺขาจารเวลา โหติ, กฏฺเน วา เกนจิ วา ปฺุฉิตฺวา คนฺตพฺพํ, ภฺุชิตุมฺปิ อนุโมทนมฺปิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๗๓).
๒๙๓๙. สสทฺทนฺติ อุทกสทฺทํ กตฺวา. ‘‘ปาสาณาทิฏฺาเน ปหริตฺวา อุทกํ สทฺทายติ เจ, น โทโส’’ติ สิกฺขาภาชนวินิจฺฉเย วุตฺตํ. จปุ จปูติ จาติ ตาทิสํ อนุกรณํ กตฺวา นาจเมตพฺพนฺติ โยชนา. อาจมิตฺวาติ อุทกกิจฺจํ กตฺวา. สราเว อาจมนภาชเน อุทกํ น เสเสตพฺพนฺติ โยชนา, อิทํ ปน สพฺพสาธารณฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถาห อฏฺกถายํ –
‘‘อาจมนสราวเกติ สพฺพสาธารณฏฺานํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตตฺร หิ อฺเ อฺเ อาคจฺฉนฺติ, ตสฺมา อุทกํ น เสเสตพฺพํ. ยํ ปน สงฺฆิเกปิ วิหาเร เอกเทเส นิพทฺธคมนตฺถาย กตํ านํ โหติ ปุคฺคลิกฏฺานํ วา, ตสฺมึ วฏฺฏติ. วิเรจนํ ปิวิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปวิสนฺตสฺสาปิ วฏฺฏติเยวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๗๔).
๒๙๔๐. อูหตมฺปีติ อฺเน วา อตฺตนา วา อสฺจิจฺจ อูหตํ มเลน ทูสิตฏฺานํ. อโธวิตฺวาติ ¶ ชเล สติ อโสเธตฺวา ชเล อสติ กฏฺเน วา เกนจิ วา ปฺุฉิตฺวา คนฺตพฺพํ. ยถาห – ‘‘อุทกํ อตฺถิ ภาชนํ นตฺถิ, อสนฺตํ นาม โหติ, ภาชนํ อตฺถิ อุทกํ นตฺถิ, เอตมฺปิ อสนฺตํ, อุภเย ปน อสติ อสนฺตเมว, กฏฺเน วา เกนจิ วา ปฺุฉิตฺวา คนฺตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๗๔). อุกฺลาปาปิ สเจ โหนฺตีติ วจฺจปสฺสาวฏฺานานิ สเจ กจวรากิณฺณานิ โหนฺติ. ‘‘อเสสโต โสเธตพฺพ’’นฺติ อิมินา ตโต กสฺสจิ กจวรสฺส ¶ อปนยนํ โสธนํ นาม น โหติ, นิสฺเสสกจวราปนยนเมว โสธนนฺติ ทีเปติ.
๒๙๔๑. ปิโรติ อวเลขนกฏฺนิกฺเขปนภาชนํ. กุมฺภี เจ ริตฺตาติ อาจมนกุมฺภี สเจ ตุจฺฉา.
๒๙๔๒. เอวํ วจฺจกุฏิวตฺตํ ทสฺเสตฺวา เสนาสนวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนชฺฌิฏฺโ’’ติอาทิ. อนชฺฌิฏฺโติ อนนฺุาโต.
๒๙๔๓. วุฑฺฒํ อาปุจฺฉิตฺวา กเถนฺตสฺสาติ โยชนา. วุฑฺฒตราคเมติ ยํ อาปุจฺฉิตฺวา กเถตุมารทฺโธ, ตโตปิ วุฑฺฒตรสฺส ภิกฺขุโน อาคเม สติ.
๒๙๔๔. เอกวิหารสฺมินฺติ เอกสฺมึ เคเห. ‘‘อนาปุจฺฉา’’ติ อิทํ วกฺขมาเนหิ ยถารหํ โยเชตพฺพํ.
๒๙๔๕. ปมํ ยตฺถ กตฺถจิ วุฑฺฒานํ สนฺนิธาเน กตฺตพฺพวตฺตํ นิทฺทิฏฺนฺติ อิทานิ เอกวิหาเร วสนฺเตนาปิ ตสฺส กาตพฺพตํ ทสฺเสตุํ ปุนปิ ‘‘น จ ธมฺโม กเถตพฺโพ’’ติ อาห. ธมฺมจกฺขุนาติ ธมฺมโลจเนน ธมฺมครุเกน, อิมินา อตาทิสสฺส กโต วาโร นิรตฺถโกติ ทีเปติ.
๒๙๔๖. กาตพฺโพติ ชาเลตพฺโพ. โสติ ทีโป. ‘‘ทฺวารํ นาม ยสฺมา มหาวฬฺชํ, ตสฺมา ตตฺถ อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๖๙) วจนโต ตํ อวตฺวา อาปตฺติกฺเขตฺตเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘วาตปานกวาฏานิ, ถเกยฺย วิวเรยฺย โน’’ติ.
๒๙๔๗. วุฑฺฒโต ¶ ปริวตฺตเยติ เยน วุฑฺโฒ, ตโต ปริวตฺตเย, ปิฏฺึ อทสฺเสตฺวา วุฑฺฒาภิมุโข เตน ปริวตฺตเยติ อตฺโถ. จีวรกณฺเณน วา กาเยน วา ตํ วุฑฺฒํ น จ ฆฏฺฏเย.
๒๙๔๘. เอวํ ¶ เสนาสนวตฺตํ ทสฺเสตฺวา ชนฺตาฆรวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุรโต’’ติอาทิ. เถรานํ ปุรโต เนว นฺหาเยยฺย, อุปริ ปฏิโสเต น จ นฺหาเยยฺย, โอตรนฺตานํ วุฑฺฒานํ อุตฺตรํ อุตฺตรนฺโต มคฺคํ ทเทยฺย, น ฆฏฺฏเย กาเยน วา จีวเรน วา น ฆฏฺฏเยยฺยาติ โยชนา.
‘‘ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๖๔) นเยน วุตฺตานํ ภตฺตคฺควตฺตานํ เสขิยกถาย วุตฺตตฺตา จ อุปชฺฌายวตฺตาทีนํ มหาขนฺธกกถาย วุตฺตตฺตา จ อนุโมทนวตฺตานํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภตฺตคฺเค จตูหิ ปฺจหิ เถรานุเถเรหิ ภิกฺขูหิ อาคเมตุ’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๓๖๒) นเยน ภตฺตคฺควตฺเตเยว อนฺโตคธภาเวน วุตฺตตฺตา จ นิทฺเทเส ตานิ น วุตฺตานิ, ตถาปิ เตสุ อนุโมทนวตฺตํ เอวํ เวทิตพฺพํ (จูฬว. อฏฺ. ๓๖๒) – สงฺฆตฺเถเร อนุโมทนตฺถาย นิสินฺเน เหฏฺา ปฏิปาฏิยา จตูหิ นิสีทิตพฺพํ. อนุเถเร นิสินฺเน มหาเถเรน จ เหฏฺา จ ตีหิ นิสีทิตพฺพํ. ปฺจเม นิสินฺเน อุปริ จตูหิ นิสีทิตพฺพํ. สงฺฆตฺเถเรน เหฏฺา ทหรภิกฺขุสฺมึ อชฺฌิฏฺเปิ สงฺฆตฺเถรโต ปฏฺาย จตูหิ นิสีทิตพฺพเมว. สเจ ปน อนุโมทโก ภิกฺขุ ‘‘คจฺฉถ, ภนฺเต, อาคเมตพฺพกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วทติ, คนฺตุํ วฏฺฏติ. มหาเถเรน ‘‘คจฺฉาม, อาวุโส’’ติ วุตฺเต ‘‘คจฺฉถา’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘พหิคาเม อาคเมสฺสามา’’ติ อาโภคํ กตฺวาปิ พหิคามํ คนฺตฺวา อตฺตโน นิสฺสิตเก ‘‘ตุมฺเห ตสฺส อาคมนํ อาคเมถา’’ติ วตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติเยว. สเจ ปน มนุสฺสา อตฺตโน รุจิเตน เอเกน อนุโมทนํ กาเรนฺติ, เนว ตสฺส อนุโมทโต อาปตฺติ, น จ มหาเถรสฺส ภาโร โหติ. อุปนิสินฺนกถายเมว หิ มนุสฺเสสุ กถาเปนฺเตสุ ¶ มหาเถโร อาปุจฺฉิตพฺโพ, มหาเถเรน จ อนุโมทนาย อชฺฌิฏฺโว อาคเมตพฺโพติ อิทเมตฺถ ลกฺขณนฺติ.
๒๙๔๙. วตฺตนฺติ ยถาวุตฺตํ อาภิสมาจาริกวตฺตํ. ยถาห – ‘‘อาภิสมาจาริกํ อปริปูเรตฺวา สีลํ ปริปูเรสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ. น วินฺทตีติ น ลภติ.
๒๙๕๐. อเนกคฺโคติ ¶ วิกฺขิตฺตตฺตาเยว อสมาหิตจิตฺโต. น จ ปสฺสตีติ าณจกฺขุนา น ปสฺสติ, ทฏฺุํ สมตฺโถ น โหตีติ อตฺโถ. ทุกฺขาติ ชาติทุกฺขาทิทุกฺขโต.
๒๙๕๑. ตสฺมาติ ยสฺมา ทุกฺขา น ปริมุจฺจติ, ตสฺมา. โอวาทํ กตฺวา กึ วิเสสํ ปาปุณาตีติ อาห ‘‘โอวาทํ พุทฺธเสฏฺสฺส, กตฺวา นิพฺพานเมหิตี’’ติ. เอหิติ ปาปุณิสฺสติ.
วตฺตกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
ภิกฺขุนิกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๙๕๒. วิวริตฺวาน จีวรํ อปเนตฺวา.
๒๙๕๓. ยํ กิฺจิ สมฺปโยเชนฺติยาติ ยํ กิฺจิ อนาจารํ กโรนฺติยา. ตโตติ เตน อนาจารสงฺขาเตน อสทฺธมฺเมน. ภาสนฺติยาติ วาจาย ภาสนฺติยา.
๒๙๕๔-๖. ทีฆนฺติ เอกปริกฺเขปโต ทีฆํ. วิลีเวน จ ปฏฺเฏนาติ สณฺเหหิปิ วิลีเวหิ กตปฏฺเฏน. จมฺมปฏฺเฏนาติ จมฺมมยปฏฺเฏน. ทุสฺสปฏฺเฏนาติ เสตวตฺเถน. ทุสฺสเวณิยาติ ทุสฺเสน คณฺิตเวณิยา. ทุสฺสวฏฺฏิยาติ ทุสฺเสน กตวฏฺฏิยา ¶ . น ผาสุกา นเมตพฺพาติ มชฺฌิมสฺส ตนุภาวตฺถาย คามทาริกา วิย ผาสุลิกา น นาเมตพฺพา. ชฆนนฺติ มุตฺตกรณปฺปเทสํ. อฏฺิกาทินาติ โคชาณุฏฺิกาทินา. น ฆํสาเปยฺยาติ น ฆฏฺฏาเปยฺย. ‘‘อฏฺิกาทินา’’ติ อิทํ ‘‘น ฆํสาเปยฺยา’’ติ อิมินา จ ‘‘โกฏฺฏาเปตี’’ติ อิมินา กิริยาปเทน จ สมฺพนฺธิตพฺพํ.
๒๙๕๗. ‘‘โกฏฺฏาเปตี’’ติ อิทํ ‘‘หตฺถํ วา’’ติอาทีหิ อุปโยคนฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. หตฺถนฺติ อคฺคพาหํ. หตฺถโกจฺฉนฺติ ปิฏฺิหตฺถํ. ปาทนฺติ ชงฺฆํ.
๒๙๕๘. น มุขํ ลิมฺปิตพฺพนฺติ ฉวิปสาทกเรน ติลสาสปกกฺกาทินา อเนกวิเธน ลิมฺปเนน ¶ น ลิมฺปิตพฺพํ. น จุณฺเณตพฺพนฺติ มุขจุณฺณเลปนํ น กาตพฺพํ. มโนสิลาย มุขํ ลฺชนฺติยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.
๒๙๕๙. องฺคราโค น กาตพฺโพติ หลิทฺทิกุงฺกุมาทีหิ สรีรจฺฉวิราโค น กาตพฺโพ. อวงฺคํ น จ กาตพฺพนฺติ อฺชนํ พหิ อกฺขิโกฏิยา เลขํ เปตฺวา น อฺชิตพฺพํ. น กาตพฺพํ วิเสสกนฺติ คณฺฑปเทเส วิจิตฺรสณฺานํ วิเสสกํ วตฺตภงฺคํ น กาตพฺพํ.
๒๙๖๐. โอโลกนกโตติ วาตปานโต. ราคาติ กามราเคน. โอโลเกตุนฺติ อนฺตรวีถึ วิโลเกตุํ, สาโลเก น จ าตพฺพนฺติ โยชนา. สาโลเก ทฺวารํ วิวริตฺวา อุปฑฺฒกายํ ทสฺเสนฺตีหิ น าตพฺพํ. สนจฺจนฺติ นฏสมชฺชํ.
๒๙๖๑. คณิกํ วุฏฺาเปนฺติยา เวสึ วุฏฺาเปนฺติยา. ‘‘วิกฺกิณนฺติยา’’ติ อิทํ ‘‘สุร’’นฺติอาทีหิ อุปโยคนฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ.
๒๙๖๓. น ¶ เจวุปฏฺาเปตพฺโพติ อตฺตโน เวยฺยาวจฺจํ เนว การาเปตพฺโพ. ติรจฺฉานคโตปิ ทาโส วา ทาสี วา ติรจฺฉานคโตปิ กมฺมกโร วา น เจว อุปฏฺาเปตพฺโพ เนว อตฺตโน เวยฺยาวจฺจํ การาเปตพฺโพ. อปิ-สทฺเทน ปเคว มนุสฺสภูโตติ ทีเปติ.
๒๙๖๔. ‘‘สพฺพนีลาทิ’’นฺติ อิมินา –
‘‘สพฺพนีลกมฺเชฏฺ-กณฺหโลหิตปีตเก;
มหานามมหารงฺค-รตฺเตสู’’ติ. (วิ. วิ. ๕๙๘) –
วุตฺตานิ อกปฺปิยจีวรานิ สงฺคหิตานิ. ‘‘นมตกํ นาม เอฬกโลเมหิ กตํ อวายิมํ จมฺมขณฺฑปริโภเคน ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๖๔) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา, คณฺิปเท จ ‘‘สนฺถรณสทิโส ปิโลติกาหิ กโต ปริกฺขารวิเสโส’’ติ วุตฺตตฺตา จ นิปชฺชาย ปริภฺุชิตพฺโพ ปริกฺขารวิเสโส นมตกํ นาม.
๒๙๖๕. ฉนฺนมฺปิ ¶ ปุริสพฺยฺชนํ ‘‘เอตฺถา’’ติ จินฺเตตฺวา ราคจิตฺเตน โอโลเกนฺติยา ทุกฺกฏํ โหติ. สพฺพนฺติ วุตฺตปฺปการํ สพฺพํ.
๒๙๖๖. ภิกฺขุํ ทูรโตว ปสฺสิตฺวา ตสฺส ภิกฺขุโน ทูรโต โอกฺกมิตฺวาน มคฺโค ทาตพฺโพติ โยชนา.
๒๙๖๗. ภิกฺขํ จรนฺติยา ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา ปน เยน ภิกฺขาย จรติ, ตํ ปตฺตํ นีหริตฺวา อุปริ ฉาเทตฺวา ิตํ สงฺฆาฏิจีวรํ อปเนตฺวา อุกฺกุชฺชํ อุทฺธํมุขํ กตฺวา ภิกฺขุโน ทสฺเสตพฺพนฺติ โยชนา.
๒๙๖๘. อุตุนีนํ ¶ ภิกฺขุนีนํ อุตุกาเล สฺชาตปุปฺเผ กาเล สํเวลฺลิกํ กาตุํ กจฺฉํ พนฺธิตุํ มเหสินา กฏิสุตฺตกํ อนฺุาตนฺติ โยชนา, อิมินา อฺสฺมึ กาเล กฏิสุตฺตกํ พนฺธิตุํ น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา สพฺพกาลํ กฏิสุตฺตกํ ธาเรตพฺพํ, ยา ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุตุนิยา กฏิสุตฺตก’’นฺติ (จูฬว. ๔๒๒).
๒๙๖๙. อิตฺถิโปสยุตนฺติ อิตฺถีหิ วา ปุริเสหิ วา อิตฺถิปุริเสหิ วา ยุตฺตํ. อิตฺถิโปสยุตฺตํ หตฺถวฏฺฏกเมว วา. ปาฏงฺกีติ ปฏโปฏฺฏลิกํ.
๒๙๗๐. ครุธมฺเมติ สงฺฆาทิเสเส. มานตฺตนฺติ ปกฺขมานตฺตํ. สมฺมนฺนิตฺวาติ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สมฺมนฺนิตฺวา.
๒๙๗๑. ยสฺสา อิตฺถิยา ปพฺพชิตกาเล คพฺโภ วุฏฺาติ วิชายติ ยทิ, ปุตฺโต เจ, ตสฺสาปิ ทารกมาตุ ยาว โส ทารโก วิฺุตํ ปาปุณาติ, ยาว ขาทิตุํ, ภฺุชิตุํ, นหายิตฺุจ อตฺตโน ธมฺมตาย สกฺโกติ, ตาว ทุติยา ภิกฺขุนี ตถา สมฺมนฺนิตฺวา ทาตพฺพาติ โยชนา.
๒๙๗๒. สา ¶ ปน มาตา ภิกฺขุนี อตฺตโน ปุตฺตํ ปาเยตุํ, โภเชตุํ, มณฺเฑตุํ, อุเร กตฺวา สยิตฺุจ ลภตีติ โยชนา.
๒๙๗๓. ทุติยิกาย ภิกฺขุนิยา ทารเกน สหเสยฺยํ เปตฺวา ยถา อฺเสุ ปุริเสสุ วตฺติตพฺพํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ, ตถา เอว ตสฺมึ ทารเก วตฺติตพฺพนฺติ โยชนา.
๒๙๗๔. วิพฺภเมเนวาติ อตฺตโน รุจิยา เสตวตฺถานํ คหเณเนว. ยถาห – ‘‘ยสฺมา สา วิพฺภนฺตา อตฺตโน รุจิยา ¶ ขนฺติยา โอทาตานิ วตฺถานิ นิวตฺถา, ตสฺมาเยว สา อภิกฺขุนี, น สิกฺขาปจฺจกฺขาเนนา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๔๓๔). อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน.
๒๙๗๕. คตายาติ เอตฺถ ‘‘สกาวาสา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘ยา สา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนี สกาวาสา ติตฺถายตนํ สงฺกนฺตา, สา อาคตา น อุปสมฺปาเทตพฺพา’’ติ. น เกวลํ น อุปสมฺปาเทตพฺพา, ปพฺพชฺชมฺปิ น ลภติ. โอทาตานิ คเหตฺวา วิพฺภนฺตา ปน ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ.
๒๙๗๖. วนฺทนนฺติ ปาเท สมฺพาเหตฺวา วนฺทนํ. สาทิตุํ วฏฺฏตีติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สาทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๓๔) อนฺุาตตฺตา วฏฺฏติ. ตตฺเรเก อาจริยา ‘‘สเจ เอกโต วา อุภโต วา อวสฺสุตา โหนฺติ สารตฺตา, ยถาวตฺถุกเมวา’’ติ วทนฺติ. เอเก อาจริยา ‘‘นตฺถิ เอตฺถ อาปตฺตี’’ติ วทนฺตีติ เอวํ อาจริยวาทํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อิทํ โอทิสฺส อนฺุาตํ วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตํ ปมาณํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สาทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๓๔) หิ วจเนเนว กปฺปิยํ.
๒๙๗๗. ยาย กายจิ วจฺจกุฏิยา วจฺโจ น กาตพฺโพ, เหฏฺา วิวเฏ อุทฺธํ ปฏิจฺฉนฺเน ปน วจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. เหฏฺา วิวเฏ อุปริ ปฏิจฺฉนฺเนติ อฏฺกถายํ ‘‘สเจ กูโป ขโต โหติ, อุปริ ปน ปทรมตฺตเมว สพฺพทิสาสุ ปฺายติ, เอวรูเปปิ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๔๓๕) วุตฺตํ.
๒๙๗๘. สพฺพตฺถาติ ¶ ภิกฺขุนิอุปสฺสยอนฺตรฆราทิสพฺพฏฺาเนสุ. คิลานายาติ ยสฺสา วินา ปลฺลงฺกํ น ผาสุ โหติ. อฑฺฒปลฺลงฺกนฺติ เอกปาทํ อาภุชิตฺวา กตปลฺลงฺกํ. โส ¶ เอกํ ปณฺหึ อูรุมูลาสนฺนํ กตฺวา อิตรํ ทูเร กตฺวา อาภุชิตปลฺลงฺโก นาม.
๒๙๗๙. นรติตฺเถติ ปุริสานํ นหานติตฺเถ. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา ปุริสติตฺเถ นหายิตพฺพํ, ยา นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มหิลาติตฺเถ นหายิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๓๖).
๒๙๘๐. ยา สมณี คนฺธจุณฺเณน วา วาสิตมตฺติยา วาสิตกาย มตฺติกาย วา ปฏิโสเต วา นฺหาเยยฺย, ตสฺสา อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. วาสิตวิเสสเนน อวาสิตา วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ยถาห – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปกติมตฺติก’’นฺติ (จูฬว. ๔๓๖).
๒๙๘๑. อภุตฺวาติ เอตฺถ อามิสอคฺคํ คหณมตฺตมฺปิ อกตฺวา, ปตฺตจีวรํ กติปยทิวสานิปิ อปริภฺุชิตฺวาติ อตฺโถ. สเจ อสปฺปายํ, สพฺพมฺปิ อปเนตุํ วฏฺฏติ.
๒๙๘๒. อนุปสมฺปนฺเน อสนฺเต สพฺพํ ภิกฺขูหิ ปฏิคฺคหิตํ วา อปฺปฏิคฺคหิตํ วา สนฺนิธิกตํ วา สพฺพํ อชฺโฌหรณียํ ภิกฺขูหิ ปฏิคฺคหาเปตฺวา ปริภฺุชิตุํ ภิกฺขุนีนํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘ภิกฺขุนีนํ วฏฺฏตี’’ติ อิทํ ปกรณวเสน วุตฺตํ. ภิกฺขุนีหิปิ ปฏิคฺคหาเปตฺวา ภิกฺขูนมฺปิ ตถาวิธํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ สนฺนิธึ ภิกฺขุนีหิ ปฏิคฺคาหาเปตฺวา ปริภฺุชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๒๑).
ภิกฺขุนิกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ขนฺธกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุพฺพิธกมฺมกถาวณฺณนา
๒๙๘๓. อปโลกนสฺิตํ ¶ กมฺมํ, ตฺติกมฺมํ, ตฺติทุติยกมฺมํ, ตฺติจตุตฺถกมฺมนฺติ อิมานิ ¶ จตฺตาริ กมฺมานีติ โยชนา. ตตฺถ จตฺตารีติ คณนปริจฺเฉโท. อิมานีติ อนนฺตรเมว วกฺขมานตฺตา อาสนฺนปจฺจกฺขวจนํ. กมฺมานีติ ปริจฺฉินฺนกมฺมนิทสฺสนํ. ‘‘อปโลกนสอต’’นฺติอาทิ เตสํ สรูปทสฺสนํ.
ตตฺรายํ สงฺเขปโต วินิจฺฉโย (จูฬว. อฏฺ. ๒๑๕; ปริ. อฏฺ. ๔๘๒) – อปโลกนกมฺมํ นาม สีมฏฺกสงฺฆํ โสเธตฺวา ฉนฺทารหานํ ฉนฺทํ อาหริตฺวา สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา ตํ ตํ วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา ‘‘รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา กตฺตพฺพํ กมฺมํ วุจฺจติ. ตฺติกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา กตฺตพฺพํ กมฺมํ. ตฺติทุติยกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา, เอกาย จ อนุสฺสาวนายาติ เอวํ ตฺติทุติยาย อนุสฺสาวนาย กตฺตพฺพํ กมฺมํ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา, ตีหิ จ อนุสฺสาวนาหีติ เอวํ ตฺติจตุตฺถาหิ ตีหิ อนุสฺสาวนาหิ กตฺตพฺพํ กมฺมํ. ตฺติ ทุติยา ยสฺส อนุสฺสาวนสฺส ตํ ตฺติทุติยํ, เตน กตฺตพฺพํ กมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ. ตฺติ จตุตฺถา ยสฺส อนุสฺสาวนตฺตยสฺส ตํ ตฺติจตุตฺถํ, เตน กาตพฺพํ กมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺมํ.
๒๙๘๔-๗. เตสํ านวเสน เภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อปโลกนกมฺม’’นฺติอาทิ. นวนฺนํ านานํ สมาหาโร นวฏฺานํ, ‘‘คจฺฉตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตฺติกมฺมนฺติ คมนกิริยากตฺตุนิทสฺสนํ ¶ . นวฏฺานนฺติ กมฺมนิทสฺสนํ. ทุติยนฺติ ตฺติทุติยกมฺมํ. สตฺต านานิ คจฺฉตีติ โยชนา.
อิทานิ ตํ านเภทํ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘นิสฺสารณฺจา’’ติอาทิ. นิสฺสารณาทิ กมฺมวิเสสานํ สฺา. อปโลกนกมฺมฺหิ นิสฺสารณํ…เป… ปฺจมํ กมฺมลกฺขณนฺติ อิมานิ ปฺจ านานิ คจฺฉตีติ โยชนา.
เอวํ นามวเสน ทสฺสิตานิ นิสฺสารณาทีนิ อตฺถโต วิภชิตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘นิสฺสารณฺจา’’ติอาทิ. สมณุทฺเทสโตติ กณฺฏกสามเณรโต นิสฺสารณฺจ โอสารณฺจ วเทติ โยชนา. ตตฺถ กณฺฏกสามเณรสฺส นิสฺสารณา ตาทิสานํเยว สมฺมาวตฺตํ ทิสฺวา ปเวสนา ‘‘โอสารณา’’ติ เวทิตพฺพา.
ปพฺพชนฺเตน ¶ เหตุภูเตน ภณฺฑุกํ ภณฺฑุกมฺมปุจฺฉนํ วเทยฺยาติ อตฺโถ. ปพฺพชฺชาเปกฺขสฺส เกสจฺเฉทนปุจฺฉนํ ภณฺฑุกมฺมํ นาม. ฉนฺเนน เหตุภูเตน พฺรหฺมทณฺฑกํ กมฺมํ วเทติ โยชนา. ตถารูปสฺสาติ ฉนฺนสทิสสฺส มุขรสฺส ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนน ฆฏฺเฏนฺตสฺส. กาตพฺโพติ ‘‘ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ มุขโร ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนหิ ฆฏฺเฏนฺโต วิหรติ, โส ภิกฺขุ ยํ อิจฺเฉยฺย, ตํ วเทยฺย. ภิกฺขูหิ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ, น อนุสาสิตพฺโพ. สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ ‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ. ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ… ตติยมฺปิ ปุจฺฉามิ ‘อิตฺถนฺนามสฺส, ภนฺเต, ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖) เอวํ พฺรหฺมทณฺโฑ กาตพฺโพ.
๒๙๘๘-๙. ‘‘อาปุจฺฉิตฺวานา’’ติ ปุพฺพกิริยาย ‘‘คหิตายา’’ติ อปรกิริยา อชฺฌาหริตพฺพา, ‘‘รุจิยา’’ติ เอตสฺส ¶ วิเสสนํ. เทตีติ เอตฺถ ‘‘อจฺฉินฺนจีวราทีน’’นฺติ เสโส. สพฺโพ สงฺโฆ สนฺนิปติตฺวาน สพฺพโส สพฺเพ สีมฏฺเ อาคตาคเต ภิกฺขู อาปุจฺฉิตฺวาน ‘‘อิตฺถนฺนาเมน ปริกฺขาเรน ภวิตพฺพํ, รุจฺจติ ตสฺส ทาน’’นฺติ วิสุํ ปุจฺฉิตฺวา คหิตาย ภิกฺขูนํ รุจิยา ติกฺขตฺตุํ อปโลเกตฺวา จีวราทิปริกฺขารํ อจฺฉินฺนจีวราทีนํ เทติ, ยํ เอวํภูตํ สงฺฆสฺส ทานํ, ตํ ตสฺส อปโลกนกมฺมสฺส กมฺมลกฺขณํ โหตีติ โยชนา. ลกฺขียตีติ ลกฺขณํ, กมฺมเมว ลกฺขณํ, น นิสฺสารณาทีนีติ กมฺมลกฺขณํ.
๒๙๙๐-๑. เอวํ อปโลกนกมฺมสฺส ปฺจ านานิ อุทฺเทสนิทฺเทสวเสน ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตฺติกมฺมสฺส กมฺมลกฺขณํ ตาว ทสฺเสตุมาห ‘‘นิสฺสารณ’’นฺติอาทิ. อิติ ‘‘ตฺติยา นว านานี’’ติ อยมุทฺเทโส วกฺขมาเนน ‘‘วินิจฺฉเย’’ติอาทินิทฺเทเสเนว วิภาวียติ.
๒๙๙๒. วินิจฺฉเยติ อุพฺพาหิกวินิจฺฉเย. อสมฺปตฺเตติ นิฏฺํ อคเต. เถรสฺสาติ ธมฺมกถิกสฺส. เตเนวาห ‘‘อวินยฺุโน’’ติ. ตสฺส ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ธมฺมกถิโก, อิมสฺส เนว สุตฺตํ อาคจฺฉติ, โน สุตฺตวิภงฺโค, โส อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฏิพาหติ, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ วุฏฺาเปตฺวา อวเสสา อิมํ อธิกรณํ วูปสเมยฺยามา’’ติ (จูฬว. ๒๓๓) เอวํ อุพฺพาหิกวินิจฺฉเย ธมฺมกถิกสฺส ภิกฺขุโน ยา นิสฺสรณา วุตฺตา, สา ตฺติกมฺเม ‘‘นิสฺสารณา’’ติ วุตฺตาติ โยชนา.
๒๙๙๓-๔. อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส ¶ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข ¶ , อนุสิฏฺโ โส มยา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อาคจฺเฉยฺยาติ. อาคจฺฉาหี’’ติ (มหาว. ๑๒๖) วจนปฏิสํยุตฺตสฺส สงฺฆสฺส สมฺมุขานยนํ, สา โอสารณา นาม. ‘‘อาคจฺฉ โอสารณา’’ติ ปทจฺเฉโท.
อุโปสถวเสนาปิ, ปวารณาวเสนาปิ. ตฺติยา ปิตตฺตาติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อุโปสถํ กเรยฺย’’ (มหาว. ๑๓๔), ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ (มหาว. ๒๑๐) อุโปสถปวารณาวเสน ตฺติยา ปิตตฺตา อุโปสโถ, ปวารณา วาติ อิมานิ ทฺเว ตฺติกมฺมานิ.
‘‘อุปสมฺปทาเปกฺขฺหิ, อนุสาเสยฺยหนฺติ จา’’ติ อิมินา ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺย’’นฺติ (มหาว. ๑๒๖) อยํ เอกา ตฺติ คหิตา.
๒๙๙๕. ‘‘อิตฺถนฺนามมหํ ภิกฺขุํ, ปุจฺเฉยฺยํ วินยนฺติ จา’’ติ อิมินา ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ (มหาว. ๑๕๑) อยํ เอกา ตฺติ คหิตา. เอวมาทีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺยา’’ติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ (มหาว. ๑๒๖), ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺยา’’ติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺยา’’ติ (มหาว. ๑๕๑), ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ ¶ (มหาว. ๑๕๒), ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ – (มหาว. ๑๕๒) อิมา ฉ ตฺติโย คหิตา. เอวํ ปุริมา ทฺเว, อิมา จ ฉาติ เอทิสา อิมา อฏฺ ตฺติโย ‘‘สมฺมุตี’’ติ วุตฺตา.
๒๙๙๖. นิสฺสฏฺจีวราทีนํ ทานนฺติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ¶ ทเทยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๖๔) เอวํ นิสฺสฏฺจีวรปตฺตาทีนํ ทานํ ‘‘ทาน’’นฺติ วุจฺจติ. อาปตฺตีนํ ปฏิคฺคาโหติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ วิวรติ อุตฺตานึ กโรติ เทเสติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ (จูฬว. ๒๓๙), ‘‘ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ (จูฬว. ๒๓๙). เตน วตฺตพฺโพ ‘‘ปสฺสสี’’ติ. ‘‘อาม ปสฺสามี’’ติ. ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ. เอวํ อาปตฺตีนํ ปฏิคฺคาโห ‘‘ปฏิคฺคาโห’’ติ วุจฺจติ.
๒๙๙๗. ปวารุกฺกฑฺฒนาติ ปวารณุกฺกฑฺฒนา. คาถาพนฺธวเสน ณ-การโลโป. อถ วา ปวารณํ ปวาโรติ ปวารณ-สทฺทปริยาโย ปวาร-สทฺโท. ‘‘อิมํ อุโปสถํ กตฺวา, กาเฬ ปวารยามี’’ติ อิมินา ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา อาวาสิกา, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม กาเฬ ปวาเรยฺยามา’’ติ (มหาว. ๒๔๐) อยํ ตฺติ อุปลกฺขณโต ทสฺสิตา. เอวํ กตปวารณา ‘‘ปจฺจุกฺกฑฺฒนา’’ติ มตา. เอตฺถ จ กาเฬติ ปุพฺพกตฺติกมาสสฺส กาฬปกฺขุโปสเถ. อิมินา จ ‘‘อาคเม ชุณฺเห ปวาเรยฺยามา’’ติ อยํ ¶ ตฺติ จ อุปลกฺขิตา. ชุณฺเหติ อปรกตฺติกชุณฺหปกฺขอุโปสเถ.
๒๙๙๘. ติณวตฺถารเกติ ติณวตฺถารกสมเถ. สพฺพปมา ตฺตีติ สพฺพสงฺคาหิกา ตฺติ วุจฺจติ. อิตรา จาติ อุภยปกฺเข ปจฺเจกํ ปิตา ทฺเว ตฺติโย จาติ เอวํ ติธา ปวตฺตํ เอตํ ตฺติกมฺมํ กมฺมลกฺขณํ อิติ เอวํ วุตฺตนเยน ‘‘วินิจฺฉเย’’ติอาทินา ตฺติยา นว านานิ เวทิตพฺพานีติ โยชนา.
๒๙๙๙-๓๐๐๐. เอวํ ตฺติกมฺเม นว านานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตฺติทุติยกมฺเม สตฺต านานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตฺติทุติยกมฺมมฺปี’’ติอาทิ. ‘‘ตฺติทุติยกมฺม’’นฺติอาทิกา อุทฺเทสคาถา อุตฺตานตฺถาว.
นิทฺเทเส ปตฺตนิกฺกุชฺชนาทีติ อาทิ-สทฺเทน ปตฺตุกฺกุชฺชนํ คหิตํ. นิสฺสาโรสารณา มตาติ ‘‘นิสฺสารณา, โอสารณา’’ติ จ มตา. ตตฺถ ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกนาทิเกหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส สงฺเฆน อสมฺโภคกรณตฺถํ ปตฺตนิกฺกุชฺชนวเสน นิสฺสารณา จ ¶ ตสฺเสว สมฺมา วตฺตนฺตสฺส ปตฺตุกฺกุชฺชนวเสน โอสารณา จ เวทิตพฺพา. สา ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธเก วฑฺฒลิจฺฉวิวตฺถุสฺมึ (จูฬว. ๒๖๕) วุตฺตา.
๓๐๐๑. สีมาทิสมฺมุติ สมฺมุติ นาม. สา ปฺจทสธา มตาติ สีมาสมฺมุติ ติจีวเรนอวิปฺปวาสสมฺมุติ สนฺถตสมฺมุติ ภตฺตุทฺเทสก เสนาสนคฺคาหาปก ภณฺฑาคาริก จีวรปฏิคฺคาหก ยาคุภาชก ผลภาชก ขชฺชภาชก อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชก สาฏิยคฺคาหาปก ปตฺตคฺคาหาปก อารามิกเปสก สามเณรเปสกสมฺมุตีติ เอวํ สา สมฺมุติ ปฺจทสวิธา ¶ มตาติ อตฺโถ. กถินสฺส วตฺถํ, ตสฺส. มโตเยว มตโก, มตกสฺส วาโส มตกวาโส, ตสฺส มตกวาสโส, มตกจีวรสฺส.
๓๐๐๒. อานิสํสเขตฺตภูตปฺจมาสพฺภนฺตเรเยว อุพฺภาโร อนฺตรุพฺภาโร. กุฏิวตฺถุสฺส, วิหารสฺส วตฺถุโน จ เทสนา เทสนา นามาติ โยชนา.
๓๐๐๓. ติณวตฺถารเก ทฺวินฺนํ ปกฺขานํ สาธารณวเสน เปตพฺพตฺติ จ ปจฺฉา ปกฺขทฺวเย วิสุํ วิสุํ เปตพฺพา ทฺเว ตฺติโย จาติ ติสฺโส ตฺติโย กมฺมวาจาย อภาเวน ตฺติกมฺเม ‘‘กมฺมลกฺขณ’’นฺติ ทสฺสิตา, ปจฺฉา วิสุํ วิสุํ ทฺวีสุ ปกฺเขสุ วตฺตพฺพา ทฺเว ตฺติทุติยกมฺมวาจา ตฺติทุติยกมฺเม ‘‘กมฺมลกฺขณ’’นฺติ ทสฺสิตาติ ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ติณวตฺถารเก กมฺเม’’ติ. ‘‘โมหาโรปนตาทิสู’’ติ อิมินา ปาจิตฺติเยสุ ทสฺสิตโมหาโรปนกมฺมฺจ อฺวาทกวิเหสกาโรปนกมฺมาทิฺจ สงฺคณฺหาติ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ ตฺติทุติยกมฺเม. กมฺมลกฺขณเมว กมฺมลกฺขณตา.
๓๐๐๔-๕. อิติ เอวํ ยถาวุตฺตนเยน อิเม สตฺต านเภทา ตฺติทุติยกมฺมสฺส. เอวํ ตฺติทุติยกมฺเม สตฺต านานิ ทสฺเสตฺวา ตฺติจตุตฺถกมฺเม านเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตถา’’ติอาทิ.
๓๐๐๖. ตชฺชนาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน นิยสฺสาทีนํ คหณํ. เตสํ สตฺตนฺนํ กมฺมานํ. ปสฺสทฺธิ วูปสโม.
๓๐๐๗. ‘‘ภิกฺขุนีนํ ¶ โอวาโท’’ติ ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ ผลูปจาเรน วุตฺตา.
๓๐๐๘-๙. มูลปฏิกฺกสฺโส ¶ มูลาย ปฏิกสฺสนา, คาถาพนฺธวเสน ก-การสฺส ทฺเวภาโว. อุกฺขิตฺตสฺสานุวตฺติกาติ อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา เอกา ยาวตติยกา, อฏฺ สงฺฆาทิเสสา, อริฏฺโ จณฺฑกาฬี จ ทฺเว, อิเม เอกาทส ยาวตติยกา ภวนฺติ. อิเมสํ วสาติ อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาทีนิ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน วุตฺตานิ, อิเมสํ สมนุภาสนกมฺมานํ วเสน. ทเสกาติ เอกาทส.
๓๐๑๑. เอวํ จตุนฺนมฺปิ กมฺมานํ านเภทํ ทสฺเสตฺวา อนฺวยโต, พฺยติเรกโต จ กาตพฺพปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อปโลกนกมฺมฺจา’’ติอาทิ. ตฺติยาปิ น การเย, ตฺติทุติเยนปิ น การเยติ โยชนา.
๓๐๑๒. อปโลกนกมฺเม วุตฺตลกฺขเณน ตฺติกมฺมาทีนมฺปิ กาตพฺพปฺปกาโร สกฺกา วิฺาตุนฺติ ตํ อทสฺเสตฺวา ตฺติทุติยกมฺเม ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตฺติทุติยกมฺมานี’’ติอาทิ. อปโลเกตฺวา กาตพฺพานิ ลหุกานิปิ ตฺติทุติยกมฺมานิ อตฺถีติ โยชนา. ตานิ ปน กตมานีติ อาห ‘‘สพฺพา สมฺมุติโย สิยุ’’นฺติ. เอตฺถ สีมาสมฺมุตึ วินา เสสา ติจีวเรนอวิปฺปวาสสมฺมุติอาทโย สพฺพาปิ สมฺมุติโยติ อตฺโถ.
๓๐๑๓. เสสานีติ ยถาวุตฺเตหิ เสสานิ สีมาสมฺมุติอาทีนิ ฉ กมฺมานิ. น วฏฺฏตีติ น วฏฺฏนฺติ, คาถาพนฺธวเสน น-การโลโป. ยถาห ‘‘สีมาสมฺมุติ, สีมาสมูหนนํ, กถินทานํ, กถินุทฺธาโร, กุฏิวตฺถุเทสนา, วิหารวตฺถุเทสนาติ อิมานิ ฉ กมฺมานิ ครุกานิ อปโลเกตฺวา กาตุํ น วฏฺฏนฺติ, ตฺติทุติยกมฺมวาจํ สาเวตฺวาว ¶ กาตพฺพานี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๘๒). ‘‘อปโลเกตฺวา กาตุํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, ตฺติจตุตฺถกมฺมวเสนาปิ กาตุํ น วฏฺฏนฺเตว. เตเนวาห ‘‘ยถาวุตฺตนเยเนว, เตน เตเนว การเย’’ติ, โย โย นโย ตํ ตํ กมฺมํ กาตุํ วุตฺโต, เตเนว เตเนว นเยนาติ อตฺโถ.
จตุพฺพิธกมฺมกถาวณฺณนา.
กมฺมวิปตฺติกถาวณฺณนา
๓๐๑๔. กมฺมานํ ¶ วิปตฺติยา ทสฺสิตาย สมฺปตฺติปิ พฺยติเรกโต วิฺายตีติ กมฺมวิปตฺตึ ตาว ทสฺเสตุมาห ‘‘วตฺถุโต’’ติอาทิ. วสติ เอตฺถ กมฺมสงฺขาตํ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ วตฺถุ, กมฺมสฺส ปธานการณํ, ตโต วตฺถุโต จ. อนุสฺสาวนสีมโตติ อนุสฺสาวนโต, สีมโต จ. ปฺเจวาติ เอวกาเรน กมฺมโทสานํ เอตํปรมตํ ทสฺเสติ.
๓๐๑๕. ยถานิกฺขิตฺตกมฺมโทสมาติกานุกฺกเม กมฺมวิปตฺตึ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘สมฺมุขา’’ติอาทิ. สงฺฆธมฺมวินยปุคฺคลสมฺมุขาสงฺขาตํ จตุพฺพิธํ สมฺมุขาวินยํ อุปเนตฺวา กาตพฺพํ กมฺมํ สมฺมุขากรณียํ นาม.
ตตฺถ ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา น ปฏิกฺโกสนฺติ, อยํ สงฺฆสมฺมุขตา. เยน ธมฺเมน เยน วินเยน เยน สตฺถุสาสเนน สงฺโฆ ตํ กมฺมํ กโรติ, อยํ ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา. ตตฺถ ธมฺโมติ ภูตํ วตฺถุ. วินโยติ โจทนา เจว สารณา จ. สตฺถุสาสนํ นาม ตฺติสมฺปทา เจว อนุสฺสาวนสมฺปทา จ. ยสฺส สงฺโฆ ¶ ตํ กมฺมํ กโรติ, ตสฺส สมฺมุขภาโว ปุคฺคลสมฺมุขตา. เอวํ จตุพฺพิเธน สมฺมุขาวินเยน ยํ สงฺฆกมฺมํ ‘‘กรณีย’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ อสมฺมุขา กโรติ จตุพฺพิธลกฺขณโต เอกมฺปิ ปริหาเปตฺวา กโรติ, ตํ กมฺมํ วตฺถุวิปนฺนํ สมฺมุขาวินยสงฺขาเตน วตฺถุนา เวกลฺลํ ‘‘อธมฺมกมฺม’’นฺติ ปวุจฺจตีติ โยชนา.
๓๐๑๖-๘. เอวํ สมฺมุขากรณีเย วตฺถุโต กมฺมวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อสมฺมุขากรณียํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘อสมฺมุขา’’ติอาทิ.
เทวทตฺตสฺส กตํ ปกาสนียกมฺมฺจ. เสกฺขสมฺมุติ อุมฺมตฺตกสมฺมุตีติ โยชนา. อวนฺทิยกมฺมํ ปุคฺคลสีเสน ‘‘อวนฺทิโย’’ติ วุตฺตํ. อฑฺฒกาสิยา คณิกาย อนฺุาตา ทูเตน อุปสมฺปทา ทูตูปสมฺปทา. อิติ อิมานิ อฏฺ กมฺมานิ เปตฺวาน เสสานิ ปน สพฺพโส สพฺพานิ กมฺมานิ ‘‘สมฺมุขากรณียานี’’ติ โสภนคมนาทีหิ สุคโต สตฺถา อพฺรฺวิ กเถสีติ โยชนา.
๓๐๑๙-๒๐. เอวํ ¶ วตฺถุโต กมฺมวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา ตฺติโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ตฺติโต’’ติอาทิ. วิปชฺชนนยาติ วินยวิปชฺชนกฺกมา. วตฺถุํ น ปรามสตีติ ยสฺส อุปสมฺปทาทิกมฺมํ กโรติ, ตํ น ปรามสติ ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ. เอวํ วตฺถุํ น ปรามสติ.
สงฺฆํ น ปรามสตีติ สงฺฆสฺส นามํ น ปรามสติ ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทติ. เอวํ สงฺฆํ น ปรามสติ.
ปุคฺคลํ ¶ น ปรามสตีติ โย อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส อุปชฺฌาโย, ตํ น ปรามสติ ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ. เอวํ ปุคฺคลํ น ปรามสติ.
ตฺตึ น ปรามสตีติ สพฺเพน สพฺพํ ตฺตึ น ปรามสติ, ตฺติทุติยกมฺเม ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ทฺวิกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ, ตฺติจตุตฺถกมฺเมปิ ตฺตึ อฏฺเปตฺวา จตุกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ. เอวํ ตฺตึ น ปรามสติ.
ปจฺฉา วา ตฺตึ เปตีติ ปมํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ วทติ. เอวํ ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. ปฺจเหเตหีติ เอเตหิ ปฺจหิ การเณหิ.
๓๐๒๑-๒. เอวํ ตฺติโต กมฺมวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนุสฺสาวนโต ทสฺเสตุมาห ‘‘อนุสฺสาวนโต’’ติอาทิ. อนุสฺสาวนโต กมฺมโทสา ปฺจ ปกาสิตาติ โยชนา. ‘‘น ปรามสติ วตฺถุํ วา’’ติอาทีสุ วตฺถุอาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอวํ ปน เนสํ อปรามสนํ โหติ (ปริ. อฏฺ. ๔๘๕) – ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ ปมานุสฺสาวเน วา ¶ ‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ, ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ ทุติยตติยานุสฺสาวเนสุ วา ‘‘อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วทนฺโต วตฺถุํ น ปรามสติ นาม.
‘‘สุณาตุ ¶ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทนฺโต สงฺฆํ น ปรามสติ นาม.
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทนฺโต ปุคฺคลํ น ปรามสติ นาม.
สาวนํ หาเปตีติ สพฺเพน สพฺพํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ น กโรติ, ตฺติทุติยกมฺเม ทฺวิกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ, ตฺติจตุตฺถกมฺเม จตุกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ. เอวํ อนุสฺสาวนํ หาเปติ. โยปิ ตฺติทุติยกมฺเม เอกํ ตฺตึ เปตฺวา เอกํ กมฺมวาจํ อนุสฺสาเวนฺโต อกฺขรํ วา ฉฑฺเฑติ, ปทํ วา ทุรุตฺตํ กโรติ, อยมฺปิ อนุสฺสาวนํ หาเปติเยว. ตฺติจตุตฺถกมฺเม ปน เอกํ ตฺตึ เปตฺวา สกิเมว วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ กโรนฺโตปิ อกฺขรํ วา ปทํ วา ฉฑฺเฑนฺโตปิ ทุรุตฺตํ กโรนฺโตปิ อนุสฺสาวนํ หาเปติเยวาติ เวทิตพฺโพ.
ทุรุตฺตํ กโรตีติ เอตฺถ ปน อยํ วินิจฺฉโย (ปริ. อฏฺ. ๔๘๕) – โย หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, อยํ ทุรุตฺตํ กโรติ นาม. ตสฺมา กมฺมวาจํ กโรนฺเตน ภิกฺขุนา ยฺวายํ –
‘‘สิถิลํ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ;
ครุกํ ลหุกฺจ นิคฺคหิตํ;
สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ;
ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ. (ปริ. อฏฺ. ๔๘๕) –
วุตฺโต ¶ , อยํ สุฏฺุ อุปลกฺเขตพฺโพ.
เอตฺถ หิ สิถิลํ นาม ปฺจสุ วคฺเคสุ ปมตติยํ. ธนิตํ นาม เตสฺเวว ทุติยจตุตฺถํ. ทีฆนฺติ ทีเฆน กาเลน วตฺตพฺพํ อาการาทิ ¶ . รสฺสนฺติ ตโต อุปฑฺฒกาเลน วตฺตพฺพํ อการาทิ. ครุกนฺติ ทีฆเมว, ยํ วา ‘‘อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส, ยสฺส นกฺขมตี’’ติ เอวํ สํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. ลหุกนฺติ รสฺสเมว, ยํ วา ‘‘อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตเถรสฺส, ยสฺส น ขมตี’’ติ เอวํ อสํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. นิคฺคหิตนฺติ ยํ กรณานิ นิคฺคเหตฺวา อวิสฺสชฺเชตฺวา อวิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺพํ. สมฺพนฺธนฺติ ยํ ปรปเทน สมฺพนฺธิตฺวา ‘‘ตุณฺหสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺหิสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. ววตฺถิตนฺติ ยํ ปรปเทน อสมฺพนฺธํ กตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ตุณฺหี อสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺห อสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. วิมุตฺตนฺติ ยํ กรณานิ อนิคฺคเหตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา วุจฺจติ.
ตตฺถ ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วตฺตพฺเพ ต-การสฺส ถ-การํ กตฺวา ‘‘สุณาถุ เม’’ติ วจนํ สิถิลสฺส ธนิตกรณํ นาม, ตถา ‘‘ปตฺตกลฺลํ, เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺถกลฺลํ, เอสา ตฺถี’’ติอาทิวจนฺจ. ‘‘ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ วตฺตพฺเพ ภการฆการานํ พการคกาเร กตฺวา ‘‘พนฺเต สํโค’’ติ วจนํ ธนิตสฺส สิถิลกรณํ นาม. ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วิวเฏน มุเขน วตฺตพฺเพ ปน ‘‘สุณํตุ เม’’ติ วา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘เอสํ ตฺตี’’ติ วา อวิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วจนํ วิมุตฺตสฺส นิคฺคหิตวจนํ นาม. ‘‘ปตฺตกลฺล’’นฺติ อวิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺตกลฺลา’’ติ วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา วจนํ นิคฺคหิตสฺส วิมุตฺตวจนํ นาม. อิติ สิถิเล กตฺตพฺเพ ธนิตํ, ธนิเต กตฺตพฺเพ สิถิลํ, วิมุตฺเต กตฺตพฺเพ นิคฺคหิตํ, นิคฺคหิเต กตฺตพฺเพ วิมุตฺตนฺติ อิมานิ จตฺตาริ พฺยฺชนานิ อนฺโตกมฺมวาจาย กมฺมํ ทูเสนฺติ. เอวํ วทนฺโต หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, ทุรุตฺตํ กโรตีติ วุจฺจติ.
อิตเรสุ ¶ ปน ทีฆรสฺสาทีสุ ฉสุ พฺยฺชเนสุ ทีฆฏฺาเน ทีฆเมว, รสฺสฏฺาเน จ รสฺสเมวาติ เอวํ ยถาาเน ตํ ตเทว อกฺขรํ ภาสนฺเตน อนุกฺกมาคตํ ปเวณึ อวินาเสนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. สเจ ปน เอวํ อกตฺวา ทีเฆ วตฺตพฺเพ รสฺสํ, รสฺเส วา วตฺตพฺเพ ทีฆํ วทติ ¶ , ตถา ครุเก วตฺตพฺเพ ลหุกํ, ลหุเก วา วตฺตพฺเพ ครุกํ วทติ, สมฺพนฺเธ วา ปน วตฺตพฺเพ ววตฺถิตํ, ววตฺถิเต วา วตฺตพฺเพ สมฺพนฺธํ วทติ, เอวํ วุตฺเตปิ กมฺมวาจา น กุปฺปติ. อิมานิ หิ ฉ พฺยฺชนานิ กมฺมํ น โกเปนฺติ.
ยํ ปน สุตฺตนฺติกตฺเถรา ‘‘ท-กาโร ต-การมาปชฺชติ, ต-กาโร ท-การมาปชฺชติ, จ-กาโร ช-การมาปชฺชติ, ช-กาโร จ-การมาปชฺชติ, ย-กาโร ก-การมาปชฺชติ, ก-กาโร ย-การมาปชฺชติ, ตสฺมา ท-การาทีสุ วตฺตพฺเพสุ ต-การาทิวจนํ น วิรุชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ กมฺมวาจํ ปตฺวา น วฏฺฏติ. ตสฺมา วินยธเรน เนว ท-กาโร ต-กาโร กาตพฺโพ…เป… น ก-กาโร ย-กาโร. ยถาปาฬิยา นิรุตฺตึ โสเธตฺวา ทสวิธาย พฺยฺชนนิรุตฺติยา วุตฺตโทเส ปริหรนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. อิตรถา หิ สาวนํ หาเปติ นาม.
อสมเย สาเวตีติ สาวนาย อกาเล อนวกาเส ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ปมํเยว อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. อิติ อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ อนุสฺสาวนโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ. เตนาห – ‘‘เอวํ ปน วิปชฺชนฺติ, อนุสฺสาวนโตปิ จา’’ติ.
๓๐๒๓. เอวํ อนุสฺสาวนโต กมฺมวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา สีมโต กมฺมวิปตฺติ อุโปสถกฺขนฺธกกถาย วุตฺตนยา เอวาติ ตเมว อติทิสนฺโต อาห ‘‘เอกาทสหิ…เป… มยา’’ติ. กมฺมโทโสเยว กมฺมโทสตา. ตาว ปมํ.
๓๐๒๔-๗. เอวํ ¶ สีมโต กมฺมวิปตฺตึ อติเทสโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปริสวเสน ทสฺเสตุมาห ‘‘จตุวคฺเคนา’’ติอาทิ. กมฺมปตฺตาติ เอตฺถ ‘‘จตฺตาโร ปกตตฺตา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘จตุวคฺคกรเณ กมฺเม จตฺตาโร ภิกฺขู ปกตตฺตา กมฺมปตฺตา’’ติ (ปริ. ๔๙๗). เอตฺถ จ ปกตตฺตา นาม อนุกฺขิตฺตา อนิสฺสาริตา ปริสุทฺธสีลา จตฺตาโร ภิกฺขู. กมฺมปตฺตา กมฺมสฺส อรหา อนุจฺฉวิกา สามิโน. น เตหิ วินา ตํ กมฺมํ กรียติ, น เตสํ ฉนฺโท วา ปาริสุทฺธิ วา เอติ. อนาคตาติ ปริสาย หตฺถปาสํ อนาคตา. ฉนฺโทติ เอตฺถ ‘‘ฉนฺทารหาน’’นฺติ เสโส. ยถาห ‘‘อวเสสา ปกตตฺตา ฉนฺทารหา’’ติ. อิมินา อยมตฺโถ ทีปิโต โหติ – ‘‘อวเสสา ปน สเจปิ สหสฺสมตฺตา โหนฺติ, สเจ สมานสํวาสกา, สพฺเพ ฉนฺทารหาว ¶ โหนฺติ, ฉนฺทปาริสุทฺธึ ทตฺวา อาคจฺฉนฺตุ วา มา วา, กมฺมํ ปน ติฏฺตี’’ติ. สมฺมุขาติ สมฺมุขีภูตา.
ติวงฺคิโกติ กมฺมปตฺตานาคมนฉนฺทานาหรณปฏิกฺโกสนสงฺขาตองฺคตฺตยยุตฺโต. โทโส กมฺมวิปตฺติลกฺขโณ. ปริสาย วสา สิยาติ ปริสวเสน โหติ.
ปฏิเสเธนฺตีติ ปฏิกฺโกสนฺติ. ทุติเย จตุวคฺคิเก กมฺเม ทุวงฺคิโก โทโส ปริสาย วสา สิยาติ โยชนา.
เอตฺถ เอตสฺมึ ตติเย จตุวคฺคิเก ปฏิกฺโกโสว อตฺถิ, น อิตเร ปริสโทสาติ เอกงฺคิโก โทโส ปริสาย วสา สิยาติ โยชนา. ทุวงฺค ยุตฺตปริสาโทสสฺส ทุติยํ เทสิตตฺตา ทุวงฺค ยุตฺตปริสาโทโส ‘‘ทุติโย’’ติ ¶ วุตฺโต. ตถา ตติยํ เทสิตตฺตา เอกงฺคยุตฺโต ตติโย เวทิตพฺโพ. อิมเมว นยํ ปฺจวคฺคาทิสงฺฆตฺตยสฺส อติทิสนฺโต อาห ‘‘เอวํ…เป… ติวิเธสุปี’’ติ. อาทิ-สทฺเทน ทสวคฺควีสติวคฺคสงฺฆานํ คหณํ.
๓๐๒๘. เอวํ จตูสุ สงฺเฆสุ จตุนฺนํ ติกานํ วเสน ปริสโต กมฺมวิปตฺติยา ทฺวาทสวิธตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘จตุตฺถิกา’’ติ. อนุวาเทน ‘‘ทส ทฺเว สิยุ’’นฺติ วิธียติ. ปริสาวสา จตุตฺถิกา โทสา ทส ทฺเว ทฺวาทส สิยุนฺติ โยชนา. เอตฺถาติ เอเตสุ ‘‘วตฺถุโต’’ติอาทินา วุตฺเตสุ ปฺจสุ กมฺมโทเสสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ‘‘ปริสาวสา’’ติ อิทํ นิทฺธาเรตพฺพํ. กมฺมานีติ อปโลกนาทีนิ จตฺตาริ. เอตฺถ จ จตุวคฺคาทิกรณีเยสุ กมฺเมสุ ปกตตฺเตน กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กตเมว กมฺมํ กมฺมปตฺเตน กตํ โหติ. กมฺมปตฺเต ปกตตฺเต เปตฺวา อปกตตฺเตน เกนจิ, เกวเลเนว กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กตํ อปกตตฺตกมฺมปตฺตลกฺขณาภาวา, กมฺมปตฺเตน จ กมฺมวาจาย อสฺสาวิตตฺตา อนุสฺสาวนโทเสน วิปนฺนํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. เตเนว โปราณกวินยธรตฺเถรา กมฺมวิปตฺติสงฺกาปริหารตฺถํ ทฺวีหิ ตีหิ เอกโต กมฺมวาจํ สาวยนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ปริวาราวสาเน ปาฬิยา (ปริ. ๔๘๒ อาทโย) วา อฏฺกถาย (ปริ. อฏฺ. ๔๘๒ อาทโย) จ คเหตพฺโพ.
กมฺมวิปตฺติกถาวณฺณนา.
ปกิณฺณกวินิจฺฉยกถาวณฺณนา
๓๐๒๙. ฉตฺตํ ¶ ปณฺณมยํ กิฺจีติ ตาลปณฺณาทิปณฺณจฺฉทนํ ยํ กิฺจิ ฉตฺตํ. พหีติ อุปริ. อนฺโตติ เหฏฺา. สิพฺพิตุนฺติ รูปํ ทสฺเสตฺวา สูจิกมฺมํ กาตุํ.
๓๐๓๐. ปณฺเณติ ¶ ฉทนปณฺเณ. อฑฺฒจนฺทนฺติ อฑฺฒจนฺทาการํ. มกรทนฺตกนฺติ มกรทนฺตาการํ, ยํ ‘‘คิริกูฏ’’นฺติ วุจฺจติ. ฉินฺทิตุํ น วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. มุขวฏฺฏิยา นาเมตฺวา พทฺธปณฺณโกฏิยา วา มตฺถกิมณฺฑลโกฏิยา วา คิริกูฏาทึ กโรนฺติ, อิมินา ตํ ปฏิกฺขิตฺตํ. ทณฺเฑติ ฉตฺตทณฺเฑ. ฆฏกนฺติ ฆฏากาโร. วาฬรูปํ วาติ พฺยคฺฆาทิวาฬานํ รูปกํ วา. เลขาติ อุกฺกิริตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา จิตฺตกมฺมวเสน วา กตราชิ.
๓๐๓๑. ปฺจวณฺณานํ สุตฺตานํ อนฺตเร นีลาทิเอกวณฺเณน สุตฺเตน ถิรตฺถํ ฉตฺตํ อนฺโต จ พหิ จ สิพฺพิตุํ วา ฉตฺตทณฺฑคฺคาหกสลากปฺชรํ ถิรตฺถํ วินนฺธิตุํ วา วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘ปฺจวณฺณานํ เอกวณฺเณน ถิรตฺถ’’นฺติ อิมินา อเนกวณฺเณหิ สุตฺเตหิ วณฺณมฏฺตฺถาย สิพฺพิตฺุจ วินนฺธิตฺุจ น วฏฺฏตีติ ทีเปติ.
โปตฺถเกสุ ปน ‘‘ปฺจวณฺเณนา’’ติ ปาโ ทิสฺสติ, ตสฺส เอกวณฺเณน, ปฺจวณฺเณน วา สุตฺเตน ถิรตฺถํ สิพฺพิตุํ, วินนฺธิตุํ วา วฏฺฏตีติ โยชนา กาตพฺพา โหติ, โส เอตฺเถว เหฏฺา วุตฺเตน –
‘‘ปฺจวณฺเณน สุตฺเตน, สิพฺพิตุํ น จ วฏฺฏตี’’ติ –
ปาเน จ ‘‘เกจิ ตาลปณฺณจฺฉตฺตํ อนฺโต วา พหิ วา ปฺจวณฺเณน สุตฺเตน สิพฺพนฺตา วณฺณมฏฺํ กโรนฺติ, ตํ น วฏฺฏติ. เอกวณฺเณน ปน นีเลน วา ปีตเกน วา เยน เกนจิ สุตฺเตน อนฺโต วา พหิ วา สิพฺพิตุํ ฉตฺตทณฺฑคฺคาหกํ สลากปฺชรํ วา วินนฺธิตุํ วฏฺฏติ, ตฺจ โข ถิรกรณตฺถํ, น วณฺณมฏฺตฺถายา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉย) อฏฺกถาปาเน จ วิรุชฺฌติ, ตสฺมา โส น คเหตพฺโพ.
๓๐๓๒. เลขา ¶ ¶ วา ปน เกวลาติ ยถาวุตฺตปฺปการา สลากเลขา วา. ฉินฺทิตฺวาติ อุกฺกิริตฺวา กตํ ฉินฺทิตฺวา. ฆํสิตฺวาติ จิตฺตกมฺมาทิวเสน กตํ ฆํสิตฺวา.
๓๐๓๓. ทณฺฑพุนฺทมฺหีติ ฉตฺตทณฺฑสฺส ปฺชเร คาหณตฺถาย ผาลิตพุนฺทมฺหิ, มูเลติ อตฺโถ. อยเมตฺถ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตนโย. ขุทฺทสิกฺขาคณฺิปเท ปน ‘‘ฉตฺตปิณฺฑิยา มูเล’’ติ วุตฺตํ. อหิฉตฺตกสณฺานนฺติ ผุลฺลอหิฉตฺตาการํ. รชฺชุเกหิ คาหาเปตฺวา ทณฺเฑ พนฺธนฺติ, ตสฺมึ พนฺธฏฺาเน วลยมิว อุกฺกิริตฺวา อุฏฺาเปตฺวา. พนฺธนตฺถายาติ วาเตน ยถา น จลติ, เอวํ รชฺชูหิ ทณฺเฑ ปฺชรสฺส พนฺธนตฺถาย. อุกฺกิริตฺวา กตา เลขา วฏฺฏตีติ โยชนา. ยถาห – ‘‘วาตปฺปหาเรน อจลนตฺถํ ฉตฺตมณฺฑลิกํ รชฺชุเกหิ คาหาเปตฺวา ทณฺเฑ พนฺธนฺติ, ตสฺมึ พนฺธนฏฺาเน วลยมิว อุกฺกิริตฺวา เลขํ เปนฺติ, สา วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘สเจปิ น พนฺธนฺติ, พนฺธนารหฏฺานตฺตา วลยํ อุกฺกิริตุํ วฏฺฏตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ.
๓๐๓๔. สมํ สตปทาทีนนฺติ สตปทาทีหิ สทิสํ, ตุลฺยตฺเถ กรณวจนปฺปสงฺเค สามิวจนํ.
๓๐๓๕. ปตฺตสฺส ปริยนฺเต วาติ อนุวาตสฺส อุภยปริยนฺเต วา. ปตฺตมุเขปิ วาติ ทฺวินฺนํ อารามวิตฺถารปตฺตานํ สงฺฆฏิตฏฺาเน กณฺเณปิ วา, เอกสฺเสว วา ปตฺตสฺส อูนปูรณตฺถํ สงฺฆฏิตฏฺาเนปิ วา. เวณินฺติ กุทฺรูสสีสากาเรน สิพฺพนํ. เกจิ ‘‘วรกสีสากาเรนา’’ติ วทนฺติ. สงฺขลิกนฺติ พิฬาลทามสทิสํ สิพฺพนํ. เกจิ ‘‘สตปทิสม’’นฺติ วทนฺติ.
๓๐๓๖. ปฏฺฏนฺติ ¶ ปฏฺฏมฺปิ. อฏฺโกณาทิโก วิธิ ปกาโร เอตสฺสาติ อฏฺโกณาทิกวิธิ, ตํ. ‘‘อฏฺโกณาทิก’’นฺติ คาถาพนฺธวเสน นิคฺคหิตาคโม. ‘‘อฏฺโกณาทิกํ วิธิ’’นฺติ เอตํ ‘‘ปฏฺฏ’’นฺติ เอตสฺส สมานาธิกรณวิเสสนํ, กิริยาวิเสสนํ วา, ‘‘กโรนฺตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อถ วา ปฏฺฏนฺติ เอตฺถ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ, ปฏฺเฏติ อตฺโถ. อิมสฺมึ ปกฺเข ‘‘อฏฺโกณาทิก’’นฺติ อุปโยควจนํ. ‘‘วิธิ’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ. อิธ วกฺขมานจตุโกณสณฺานโต อฺํ อฏฺโกณาทิกํ นามํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปฏฺฏทฺวเย. อคฺฆิยคทารูปนฺติ อคฺฆิยสณฺานฺเจว คทาสณฺานฺจ สิพฺพนํ. มุคฺครนฺติ ลคุฬสณฺานสิพฺพนํ. อาทิ-สทฺเทน เจติยาทิสณฺานานํ คหณํ.
๓๐๓๗. ตตฺถาติ ¶ ปฏฺฏทฺวเย ตสฺมึ าเน. กกฺกฏกกฺขีนีติ กุฬีรอจฺฉิสทิสานิ สิพฺพนวิการานิ. อุฏฺาเปนฺตีติ กโรนฺติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ คณฺิกปาสกปฏฺฏเก. สุตฺตาติ โกณโต โกณํ สิพฺพิตสุตฺตา เจว จตุรสฺเส สิพฺพิตสุตฺตา จ. ปิฬกาติ เตสเมว สุตฺตานํ นิวตฺเตตฺวา สิพฺพิตโกฏิโย จ. ทุวิฺเยฺยาวาติ รชนกาเล ทุวิฺเยฺยรูปา อโนฬาริกา ทีปิตา วฏฺฏนฺตีติ. ยถาห – ‘‘โกณสุตฺตปิฬกา จ จีวเร รตฺเต ทุวิฺเยฺยรูปา วฏฺฏนฺตี’’ติ.
๓๐๓๘. คณฺิปาสกปฏฺฏกาติ คณฺิกปฏฺฏกปาสกปฏฺฏกาติ โยชนา. กณฺณโกเณสุ สุตฺตานีติ จีวรกณฺเณสุ สุตฺตานิ เจว คณฺิกปาสกปฏฺฏานํ โกเณสุ สุตฺตานิ จ ฉินฺเทยฺย. เอตฺถ จ จีวเร อายามโต, วิตฺถารโต จ สิพฺพิตฺวา อนุวาตโต พหิ นิกฺขนฺตสุตฺตํ จีวรํ รชิตฺวา สุกฺขาปนกาเล รชฺชุยา วา จีวรวํเส วา พนฺธิตฺวา โอลมฺพิตุํ อนุวาเต พทฺธสุตฺตานิ จ กณฺณสุตฺตานิ นาม. ยถาห ¶ – ‘‘จีวรสฺส กณฺณสุตฺตกํ น วฏฺฏติ, รชิตกาเล ฉินฺทิตพฺพํ. ยํ ปน ‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กณฺณสุตฺตก’นฺติ (มหาว. ๓๔๔) เอวํ อนฺุาตํ, ตํ อนุวาเต ปาสกํ กตฺวา พนฺธิตพฺพํ, รชนกาเล ลคฺคนตฺถายา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉย).
๓๐๓๙. สูจิกมฺมวิการํ วาติ จีวรมณฺฑนตฺถาย นานาสุตฺตเกหิ สตปทิสทิสํ สิพฺพนฺตา อาคนฺตุกปฏฺฏํ เปนฺติ, เอวรูปํ สูจิกมฺมวิการํ วา. อฺํ วา ปน กิฺจิปีติ อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ มาลากมฺมมิคปกฺขิปาทาทิกํ สิพฺพนวิการํ. กาตุนฺติ สยํ กาตุํ. การาเปตุนฺติ อฺเน วา การาเปตุํ.
๓๐๔๐. โย ภิกฺขุ ปรํ อุตฺตมํ วณฺณมฏฺํ อภิปตฺถยํ ปตฺถยนฺโต กฺชิปิฏฺขลิอลฺลิกาทีสุ จีวรํ ปกฺขิปติ, ตสฺส ปน ภิกฺขุโน ทุกฺกฏา โมกฺโข น วิชฺชตีติ โยชนา. กฺชีติ วายนตนฺตมกฺขนกฺชิสทิสา ถูลากฺชิ. ปิฏฺนฺติ ตณฺฑุลปิฏฺํ. ตณฺฑุลปิฏฺเหิ ปกฺกา ขลิ. อลฺลิกาติ นิยฺยาโส. อาทิ-สทฺเทน ลาขาทีนํ คหณํ.
๓๐๔๑. จีวรสฺส กรเณ กรณกาเล สมุฏฺิตานํ สูจิหตฺถมลาทีนํ โธวนตฺถํ, กิลิฏฺกาเล จ โธวนตฺถํ กฺชิปิฏฺิขลิอลฺลิกาทีสุ ปกฺขิปติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.
๓๐๔๒. ตตฺถาติ ¶ เยน กสาเวน จีวรํ รชติ, ตสฺมึ รชเน จีวรสฺส สุคนฺธภาวตฺถาย คนฺธํ วา อุชฺชลภาวตฺถาย เตลํ วา วณฺณตฺถาย ลาขํ วา. กิฺจีติ เอวรูปํ ยํ กิฺจิ.
๓๐๔๓. มณินาติ ปาสาเณน. อฺเนปิ จ เกนจีติ เยน อุชฺชลํ โหติ, เอวรูเปน มุคฺคราทินา อฺเนาปิ เกนจิ ¶ วตฺถุนา. โทณิยาติ รชนมฺพเณ. น ฆํสิตพฺพํ หตฺเถน คาเหตฺวา น ฆฏฺเฏตพฺพํ.
๓๐๔๔. รตฺตํ จีวรํ หตฺเถหิ กิฺจิ โถกํ ปหริตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘ยตฺถ ปกฺกรชนํ ปกฺขิปนฺติ, สา รชนโทณิ, ตตฺถ อํสพทฺธกกายพนฺธนาทึ ฆฏฺเฏตุํ วฏฺฏตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ.
๓๐๔๕. คณฺิเกติ เวฬุทนฺตวิสาณาทิมยคณฺิเก. เลขา วาติ วฏฺฏาทิเภทา เลขา วา. ปิฬกา วาติ สาสปพีชสทิสา ขุทฺทกปุพฺพุฬา วา. ปาฬิกณฺณิกเภทโกติ มณิกาวฬิรูปปุปฺผกณฺณิกรูปเภทโก. กปฺปพินฺทุวิกาโร วา น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๓๐๔๖. อารคฺเคนาติ อารกณฺฏกคฺเคน, สูจิมุเขน วา. กาจิปิ เลขาติ วฏฺฏกโคมุตฺตาทิสณฺานา ยา กาจิปิ ราชิ.
๓๐๔๗. ภมํ อาโรเปตฺวาติ ภเม อลฺลิยาเปตฺวา.
๓๐๔๘. ปตฺตมณฺฑลเกติ ปตฺเต ฉวิรกฺขนตฺถาย ติปุสีสาทีหิ กเต ปตฺตสฺส เหฏฺา อาธาราทีนํ อุปริ กาตพฺเพ ปตฺตมณฺฑลเก. ภิตฺติกมฺมนฺติ วิภตฺตํ กตฺวา นานาการรูปกกมฺมจิตฺตํ. ยถาห ‘‘น ภิกฺขเว จิตฺรานิ ปตฺตมณฺฑลานิ ธาเรตพฺพานิ รูปกากิณฺณานิ ภิตฺติกมฺมกตานี’’ติ (จูฬว. ๒๕๓). ตตฺถาติ ตสฺมึ ปตฺตมณฺฑเล. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. มกรทนฺตกนฺติ คิริกูฏาการํ.
๓๐๔๙. มุขวฏฺฏิยํ ¶ ¶ ยา เลขา ปริสฺสาวนพนฺธนตฺถาย อนฺุาตา, ตํ เลขํ เปตฺวา ธมฺมกรณจฺฉตฺเต วา กุจฺฉิยํ วา กาจิปิ เลขา น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๓๐๕๐. ตหึ ตหินฺติ มตฺติกาย ตตฺถ ตตฺถ. ตนฺติ ตถาโกฏฺฏิตทิคุณสุตฺตกายพนฺธนํ.
๓๐๕๑. อนฺเตสุ ทฬฺหตฺถาย ทสามุเข ทิคุณํ กตฺวา โกฏฺเฏนฺติ, วฏฺฏตีติ โยชนา. จิตฺติกมฺปีติ มาลากมฺมลตากมฺมจิตฺตยุตฺตมฺปิ กายพนฺธนํ.
๓๐๕๒. อกฺขีนีติ กฺุชรกฺขีนิ. ตตฺถาติ กายพนฺธเน วฏฺฏตีติ กา กถา. อุฏฺาเปตุนฺติ อุกฺกิริตุํ.
๓๐๕๓. ฆฏนฺติ ฆฏสณฺานํ. เทฑฺฑุภสีสํ วาติ อุทกสปฺปสีสมุขสณฺานํ วา. ยํ กิฺจิ วิการรูปํ ทสามุเข น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๓๐๕๔. มจฺฉกณฺฏนฺติ มจฺฉกณฺฏกาการํ. ขชฺชูริปตฺตกาการนฺติ ขชฺชูริปตฺตสณฺานํ. มจฺฉกณฺฏํ วา มฏฺํ ปฏฺฏิกํ วา ขชฺชูริปตฺตกาการํ วา อุชุกํ กตฺวา โกฏฺฏิตํ วฏฺฏตีติ โยชนา. เอตฺถ จ อุภยปสฺเสสุ มจฺฉกณฺฏกยุตฺตํ มจฺฉสฺส ปิฏฺิกณฺฏกํ วิย ยสฺส ปฏฺฏิกาย วายนํ โหติ, อิทํ กายพนฺธนํ มจฺฉกณฺฏกํ นาม. ยสฺส ขชฺชูริปตฺตสณฺานมิว วายนํ โหติ, ตํ ขชฺชูริปตฺตกาการํ นาม.
๓๐๕๕. ปกติวีตา ปฏฺฏิกา. สูกรนฺตํนาม กฺุจิกาโกสกสณฺานํ. ตสฺส ทุวิธสฺส กายพนฺธนสฺส. ตตฺถ รชฺชุกา สูกรนฺตานุโลมิกา, ทุสฺสปฏฺฏํ ปฏฺฏิกานุโลมิกํ. อาทิ-สทฺเทน มุทฺทิกกายพนฺธนํ คหิตํ, ตฺจ สูกรนฺตานุโลมิกํ. ยถาห – ‘‘เอกรชฺชุกํ, ปน มุทฺทิกกายพนฺธนฺจ สูกรนฺตกํ ¶ อนุโลเมตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๗๘). ตตฺถ เอกรชฺชุกา นาม เอกวฏฺฏา. พหุรชฺชุกสฺส อกปฺปิยภาวํ วกฺขติ. ‘‘มุทฺทิกกายพนฺธนํ นาม จตุรสฺสํ อกตฺวา สชฺชิต’’นฺติ คณฺิปเท วุตฺตํ.
๓๐๕๖. มุรชํ นาม มุรชวฏฺฏิสณฺานํ เวเตฺวา กตํ. เวเตฺวาติ นานาสุตฺเตหิ เวเตฺวา. สิกฺขาภาชนวินิจฺฉเย ¶ ปน ‘‘พหุกา รชฺชุโย เอกโต กตฺวา เอกาย รชฺชุยา เวิตํ มุรชํ นามา’’ติ วุตฺตํ. มทฺทวีณํ นาม ปามงฺคสณฺานํ. เทฑฺฑุภกํ นาม อุทกสปฺปสีสสทิสํ. กลาพุกํ นาม พหุรชฺชุกํ. รชฺชุโยติ อุภยโกฏิยํ เอกโต อพทฺธา พหู รชฺชุโย, ตถา พทฺธา กลาพุกํ นาม โหตีติ. น วฏฺฏนฺตีติ มุรชาทีนิ อิมานิ สพฺพานิ กายพนฺธนานิ น วฏฺฏนฺติ. ปุริมา ทฺเวติ มุรชํ, มทฺทวีณฺจาติ ทฺเว. ‘‘ทสาสุ สิยุ’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน วณฺณโลเปน ‘‘ทสา สิยุ’’นฺติ วุตฺตํ. ยถาห – ‘‘มุรชํ มทฺทวีณ’นฺติ อิทํ ทสาสุเยว อนฺุาต’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๗๘).
๓๐๕๗. ปามงฺคสณฺานาติ ปามงฺคทามํ วิย จตุรสฺสสณฺานา.
๓๐๕๘. เอกรชฺชุมยนฺติ นานาวฏฺเฏ เอกโต วฏฺเฏตฺวา กตรชฺชุมยํ กายพนฺธนํ. วฏฺฏํ วฏฺฏตีติ ‘‘รชฺชุกา ทุสฺสปฏฺฏาที’’ติ เอตฺถ เอกวฏฺฏรชฺชุกา คหิตา, อิธ ปน นานาวฏฺเฏ เอกโต วฏฺเฏตฺวา กตาว เอกรชฺชุกา คหิตา. ตฺจาติ ตมฺปิ เอกรชฺชุกกายพนฺธนํ. ปามงฺคสณฺานํ เอกมฺปิ น จ วฏฺฏตีติ เกวลมฺปิ น วฏฺฏติ.
๓๐๕๙. พหู รชฺชุเก เอกโต กตฺวาติ โยชนา. วฏฺฏติ พนฺธิตุนฺติ มุรชํ, กลาพุกํ วา น โหติ, รชฺชุกกายพนฺธนเมว ¶ โหตีติ อธิปฺปาโย. อยํ ปน วินิจฺฉโย ‘‘พหู รชฺชุเก เอกโต กตฺวา เอเกน นิรนฺตรํ เวเตฺวา กตํ ‘พหุรชฺชุก’นฺติ น วตฺตพฺพํ, ตํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉย) อฏฺกถาคโตว อิธ วุตฺโต. สิกฺขาภาชนวินิจฺฉเย ‘‘พหุกา รชฺชุโย เอกโต กตฺวา เอกาย รชฺชุยา เวิตํ มุรชํ นามา’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ อิมินา วิรุชฺฌนโต น คเหตพฺพํ.
๓๐๖๐. ทนฺต-สทฺเทน หตฺถิทนฺตา วุตฺตา. ชตูติ ลาขา. สงฺขมยนฺติ สงฺขนาภิมยํ. วิธกา มตาติ เอตฺถ ‘‘เวกา’’ติปิ ปาโ วิธปริยาโย.
๓๐๖๑. กายพนฺธนวิเธติ กายพนฺธนสฺส ทสาย ถิรภาวตฺถํ กฏฺทนฺตาทีหิ กเต วิเธ. วิกาโร อฏฺมงฺคลาทิโก. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน, อุภยโกฏิยนฺติ อตฺโถ. ตุ-สทฺเทน ฆฏากาโรปิ วฏฺฏตีติ ทีเปติ.
๓๐๖๒. มาลา ¶ …เป… วิจิตฺติตาติ มาลากมฺมลตากมฺเมหิ จ มิคปกฺขิรูปาทินานารูเปหิ จ วิจิตฺติตา. ชนรฺชนีติ พาลชนปโลภินี.
๓๐๖๔. อฏฺํสา วาปีติ เอตฺถ อปิ-สทฺเทน โสฬสํสาทีนํ คหณํ. วณฺณมฏฺาติ มาลากมฺมาทิวณฺณมฏฺา.
๓๐๖๕. อฺชนิสลากาปิ ตถา วณฺณมฏฺา น วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘อฺชนิตฺถวิกาย จ, นานาวณฺเณหิ สุตฺเตหิ, จิตฺตกมฺมํ น วฏฺฏตี’’ติ ปาโ ยุชฺชติ. ‘‘ถวิกาปิ จา’’ติ ปาโ ทิสฺสติ, โส น คเหตพฺโพ.
๓๐๖๖. รตฺตาทินา เยน เกนจิ เอกวณฺเณน สุตฺเตน ปิโลติกาทิมยํ ยํ กิฺจิ สิปาฏิกํ สิพฺเพตฺวา วฬฺชนฺตสฺส วฏฺฏตีติ โยชนา.
๓๐๖๗. มณิกนฺติ ¶ ถูลปุพฺพุฬํ. ปิฬกนฺติ สุขุมปุพฺพุฬํ. ปิปฺผเลติ วตฺถจฺเฉทนสตฺเถ. อารกณฺฏเกติ ปตฺตาธารวลยานํ วิชฺฌนกณฺฏเก. เปตุนฺติ อุฏฺาเปตุํ. ยํ กิฺจีติ เสสํ วณฺณมฏฺมฺปิ จ.
๓๐๖๘. ทณฺฑเกติ ปิปฺผลทณฺฑเก. ยถาห – ‘‘ปิปฺผลเกปิ มณิกํ วา ปิฬกํ วา ยํ กิฺจิ อุฏฺาเปตุํ น วฏฺฏติ, ทณฺฑเก ปน ปริจฺเฉทเลขา วฏฺฏตี’’ติ. ปริจฺเฉทเลขามตฺตนฺติ อาณิพนฺธนฏฺานํ ปตฺวา ปริจฺฉินฺทนตฺถํ เอกาว เลขา วฏฺฏติ. วลิตฺวาติ อุภยโกฏิยา มุขํ กตฺวา มชฺเฌ วลิโย คาเหตฺวา. นขจฺเฉทนํ ยสฺมา กโรนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏตีติ โยชนา.
๓๐๖๙. อรณิสหิเต กนฺตกิจฺจกโร ทณฺโฑ อุตฺตรารณี นาม. วาปีติ ปิ-สทฺเทน อธรารณึ สงฺคณฺหาติ, อุทุกฺขลทณฺฑสฺเสตํ อธิวจนํ. อฺฉนกยนฺตธนุ ธนุกํ นาม. มุสลมตฺถกปีฬนทณฺฑโก เปลฺลทณฺฑโก นาม.
๓๐๗๐. สณฺฑาเสติ อคฺคิสณฺฑาสํ วทนฺติ. กฏฺจฺเฉทนวาสิยา ตถา ยํ กิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ทฺวีสุ ปสฺเสสูติ วาสิยา อุโภสุ ปสฺเสสุ. โลเหนาติ กปฺปิยโลเหน ¶ . พนฺธิตุํ วฏฺฏตีติ อุชุกเมว จตุรสฺสํ วา อฏฺํสํ วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘สณฺฑาเสติ อคฺคิสณฺฑาเส’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปเนตฺถ สูจิสณฺฑาโส ทสฺสิโต.
๓๐๗๑. เหฏฺโตติ เหฏฺา อโยปฏฺฏวลยสฺส. ‘‘อุปริ อหิจฺฉตฺตมกุลมตฺต’’นฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๓๐๗๒. วิสาเณติ เตลาสิฺจนกควยมหึสาทิสิงฺเค. นาฬิยํ วาปีติ เวฬุนาฬิกาทินาฬิยํ. อปิ-สทฺเทน อลาพุํ ¶ สงฺคณฺหาติ. อามณฺฑสารเกติ อามลกจุณฺณมยเตลฆเฏ. เตลภาชนเกติ วุตฺตปฺปกาเรเยว เตลภาชเน. สพฺพํ วณฺณมฏฺํ วฏฺฏตีติ ปุมิตฺถิรูปรหิตํ มาลากมฺมาทิ สพฺพํ วณฺณมฏฺํ วฏฺฏติ.
๓๐๗๓-๕. ปานียสฺส อุฬุงฺเกติ ปานียอุฬุงฺเก. โทณิยํ รชนสฺสปีติ รชนโทณิยมฺปิ. ผลกปีเติ ผลกมเย ปีเ. วลยาธารกาทิเกติ ทนฺตวลยาทิอาธารเก. อาทิ-สทฺเทน ทณฺฑาธารโก สงฺคหิโต. ปาทปฺุฉนิยนฺติ โจฬาทิมยปาทปฺุฉนิยํ. ปีเติ ปาทปีเ. สหจริเยน ปาทกถลิกายฺจ. จิตฺตํ สพฺพเมว จ วฏฺฏตีติ ยถาวุตฺเต ภิกฺขุปริกฺขาเร มาตุคามรูปรหิตํ, ภิกฺขุนิปริกฺขาเร ปุริสรูปรหิตํ อวเสสํ สพฺพํ จิตฺตกมฺมํ.
๓๐๗๖. นานา จ เต มณโย จาติ นานามณี, อินฺทนีลาทโย, นานามณีหิ กตา นานามณิมยา, ถมฺภา จ กวาฏา จ ทฺวารา จ ภิตฺติโย จ ถมฺภกวาฏทฺวารภิตฺติโย, นานามณิมยา ถมฺภกวาฏทฺวารภิตฺติโย ยสฺมึ ตํ ตถา วุตฺตํ. กา กถา วณฺณมฏฺเกติ มาลากมฺมลตากมฺมจิตฺตกมฺมาทิวณฺณมฏฺเก วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อตฺโถ.
๓๐๗๗. ถาวรสฺส รตนมยปาสาทสฺส กปฺปิยภาวํ ทสฺเสตฺวา สุวณฺณาทิมยสฺสาปิ สพฺพปาสาทปริโภคสฺส กปฺปิยภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โสวณฺณย’’นฺติอาทิ. โสวณฺณยนฺติ สุวณฺณมยํ. ทฺวารกวาฏานํ อนนฺตรคาถาย ทสฺสิตตฺตา ‘‘ทฺวารกวาฏพนฺธ’’นฺติ อิมินา ทฺวารกวาฏพาหาสงฺขาตํ ปิฏฺสงฺฆาฏํ คหิตํ. ทฺวารฺจ กวาฏฺจ ทฺวารกวาฏานิ, ทฺวารกวาฏานํ พนฺธํ ทฺวารกวาฏพนฺธํ, อุตฺตรปาสกุมฺมารสงฺขาตํ ปิฏฺสงฺฆาฏนฺติ อตฺโถ. นานา จ เต มณโย จาติ นานามณี ¶ , สุวณฺณฺจ นานามณี จ สุวณฺณนานามณี, ภิตฺติ จ ภูมิ จ ภิตฺติภูมิ สุวณฺณนานามณีหิ ¶ กตา ภิตฺติภูมิ สุวณฺณนานามณิภิตฺติภูมิ. อิติ อิเมสุ เสนาสนาวยเวสุ. น กิฺจิ เอกมฺปิ นิเสธนียนฺติ เอกมฺปิ เสนาสนปริกฺขารํ กิฺจิ น นิเสธนียํ, เสนาสนมฺปิ น ปฏิกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ. เสนาสนํ วฏฺฏติ สพฺพเมวาติ สพฺพเมว เสนาสนปริโภคํ วฏฺฏติ. ยถาห –
‘‘สพฺพํ ปาสาทปริโภคนฺติ สุวณฺณรชตาทิวิจิตฺรานิ กวาฏานิ มฺจปีานิ ตาลวณฺฏานิ สุวณฺณรชตมยานิ ปานียฆฏปานียสราวานิ ยํ กิฺจิ จิตฺตกมฺมกตํ, สพฺพํ วฏฺฏติ. ‘ปาสาทสฺส ทาสิทาสํ เขตฺตวตฺถุํ โคมหึสํ เทมา’ติ วทนฺติ, ปาเฏกฺกํ คหณกิจฺจํ นตฺถิ, ปาสาเท ปฏิคฺคหิเต ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. โคนกาทีนิ สงฺฆิกวิหาเร วา ปุคฺคลิกวิหาเร วา มฺจปีเกสุ อตฺถริตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏนฺติ. ธมฺมาสเน ปน คิหิวิกตนีหาเรน ลพฺภนฺติ, ตตฺราปิ นิปชฺชิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐).
‘‘โสวณฺณทฺวารกวาฏพนฺธ’’นฺติ วา ปาโ, พหุพฺพีหิสมาโส. อิมินา จ ทุติยปเทน จ เสนาสนํ วิเสสียติ.
๓๐๗๘. น ทวํ กเรติ ‘‘กึ พุทฺโธ สิลกพุทฺโธ? กึ ธมฺโม โคธมฺโม อชธมฺโม? กึ สงฺโฆ โคสงฺโฆ อชสงฺโฆ มิคสงฺโฆ’’ติ ปริหาสํ น กเรยฺย. ติตฺถิยพฺพตํ มูคพฺพตาทิกํ เนว คณฺเหยฺยาติ โยชนา.
๓๐๗๙. ตา ภิกฺขุนิโย อุทกาทินา วาปิ น สิฺเจยฺยาติ โยชนา.
๓๐๘๐. อฺตฺถ ¶ อฺสฺมึ วิหาเร วสฺสํวุตฺโถ อฺตฺถ อฺสฺมึ วิหาเร ภาคํ วสฺสาวาสิกภาคํ คณฺหาติ เจ, ทุกฺกฏํ. ตสฺมึ จีวเร นฏฺเ วา ชชฺชเร ชิณฺเณ วา คีวา ปุน ทาตพฺพนฺติ โยชนา.
๓๐๘๑. โสติ อฺตฺถ ภาคํ คณฺหนโก ภิกฺขุ. เตหีติ จีวรสามิเกหิ. ตนฺติ ตถา คหิตํ วสฺสาวาสิกภาคํ. เตสนฺติ จีวรสามิกานํ.
๓๐๘๒. กโรโตติ ¶ การาปยโต. ทวา สิลํ ปวิชฺฌนฺโตติ ปนฺติกีฬาย กีฬตฺถิกานํ สิปฺปทสฺสนวเสน สกฺขรํ วา นินฺนฏฺานํ ปวฏฺฏนวเสน ปาสาณํ วา ปวิชฺฌนฺโต. น เกวลฺจ ปาสาณํ, อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ ทารุขณฺฑํ วา อิฏฺกขณฺฑํ วา หตฺเถน วา ยนฺเตน วา ปวิชฺฌิตุํ น วฏฺฏติ. เจติยาทีนํ อตฺถาย ปาสาณาทโย หสนฺตา หสนฺตา ปวฏฺเฏนฺติปิ ขิปนฺติปิ อุกฺขิปนฺติปิ, กมฺมสมโยติ วฏฺฏติ.
๓๐๘๓. คิหิโคปกทานสฺมินฺติ คิหีนํ อุยฺยานโคปกาทีหิ อตฺตนา โคปิตอุยฺยานาทิโต ผลาทีนํ ทาเน ยาวทตฺถํ ทิยฺยมาเนปิ. น โทโส โกจิ คณฺหโตติ ปฏิคฺคณฺหโต ภิกฺขุโน โกจิ โทโส นตฺถิ. สงฺฆเจติยสนฺตเก ตาลผลาทิมฺหิ อุยฺยานโคปกาทีหิ ทิยฺยมาเน ปริจฺเฉทนโย เตสํ เวตนวเสน ปริจฺฉินฺนานํเยว คหเณ อนาปตฺตินโย วุตฺโตติ โยชนา.
๓๐๘๔. ปุริสสํยุตฺตนฺติ ปริวิสเกหิ ปุริเสหิ วุยฺหมานํ. หตฺถวฏฺฏกนฺติ หตฺเถเนว ปวฏฺเฏตพฺพสกฏํ.
๓๐๘๕. ภิกฺขุนิยา สทฺธึ กิฺจิปิ อนาจารํ น สมฺปโยเชยฺย น กาเรยฺยาติ โยชนา. ‘‘กิฺจี’’ติปิ ปาโ, คหฏฺํ ¶ วา ปพฺพชิตํ วา กิฺจิ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ อนาจารวเสน น สมฺปโยเชยฺยาติ อตฺโถ. โอภาเสนฺตสฺสาติ กามาธิปฺปายํ ปกาเสนฺตสฺส.
๓๐๘๗. อตฺตโน ปริโภคตฺถํ ทินฺนนฺติ ‘‘ตุมฺเหเยว ปริภฺุชถา’’ติ วตฺวา ทินฺนํ ติจีวราทึ.
๓๐๘๘. อสปฺปายนฺติ ปิตฺตาทิโทสานํ โกปนวเสน อผาสุการณํ. อปเนตุมฺปิ ชหิตุมฺปิ, ปเคว ทาตุนฺติ อธิปฺปาโย. อคฺคํ คเหตฺวา ทาตุํ วาติ ตถา คหณารหํ อนฺนาทึ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘กติปาหํ ภุตฺวา’’ติ เสโส. ปิณฺฑปาตาทิโต อคฺคํ คเหตฺวา ปตฺตาทึ กติปาหํ ภุตฺวา ทาตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
๓๐๘๙. ปฺจวคฺคูปสมฺปทาติ ¶ วินยธรปฺจเมน สงฺเฆน กาตพฺพอุปสมฺปทา. นวาติ อฺเหิ เอกวารมฺปิ อปริภุตฺตา. คุณงฺคุณอุปาหนา จตุปฏลโต ปฏฺาย พหุปฏลอุปาหนา. จมฺมตฺถาโรติ กปฺปิยจมฺมตฺถรณฺจ. ธุวนฺหานนฺติ ปกตินหานํ.
๓๐๙๐. สมฺพาธสฺสาติ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคทฺวยสฺส สามนฺตา ทฺวงฺคุลา อนฺโต สตฺถวตฺถิกมฺมํ วาริตนฺติ โยชนา. สตฺเถน อนฺตมโส นเขนาปิ เฉทนผาลนาทิวเสน สตฺถกมฺมฺจ วตฺถีหิ เภสชฺชเตลสฺส อนฺโต ปวิสนวเสน กาตพฺพํ วตฺถิกมฺมฺจ ถุลฺลจฺจยาปตฺติวิธาเนน วาริตนฺติ อตฺโถ. ปสฺสาวมคฺคสฺส สามนฺตา ทฺวงฺคุลํ องฺคชาตสฺส อคฺคโต ปฏฺาย คเหตพฺพํ.
๓๐๙๑. ‘‘ปากตฺถ’’นฺติ อิมินา นิพฺพาเปตุํ จลเน นิทฺโทสภาวํ ทีเปติ.
๓๐๙๒. อุปฬาเลตีติ ¶ ‘‘ปตฺตจีวราทิปริกฺขารํ เต ทมฺมี’’ติ วตฺวา ปโลเภตฺวา คณฺหาติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปุคฺคเล. อาทีนวนฺติ อลชฺชิตาทิภาวํ ทสฺเสตฺวา เตน สห สมฺโภคาทิกรเณ อลชฺชิภาวาปชฺชนาทิอาทีนวํ. ตสฺสาติ ตโต วิโยเชตพฺพสฺส ตสฺส.
๓๐๙๓. อาทีนวทสฺสนปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มกฺขน’’นฺติอาทิ. ‘‘นหายิตุํ คเตน คูถมุตฺเตหิ มกฺขนํ วิย ทุสฺสีลํ นิสฺสาย วิหรตา ตยา กต’’นฺติ เอวํ ตตฺถ อาทีนวํ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
๓๐๙๔-๕. ภตฺตคฺเค โภชนสาลาย ภฺุชมาโน. ยาคุปาเนติ ยาคุํ ปิวนกาเล. อนฺโตคาเมติ อนฺตรฆเร. วีถิยนฺติ นิคมนครคามาทีนํ รถิกาย. อนฺธกาเรติ อนฺธกาเร วตฺตมาเน, อนฺธการคโตติ อตฺโถ. ตฺหิ วนฺทนฺตสฺส มฺจปาทาทีสุปิ นลาฏํ ปฏิหฺเยฺย. อนาวชฺโชติ กิจฺจปสุตตฺตา วนฺทนํ อสมนฺนาหรนฺโต. เอกาวตฺโตติ เอกโต อาวตฺโต สปตฺตปกฺเข ิโต เวรี วิสภาคปุคฺคโล. อยฺหิ วนฺทิยมาโน ปาเทนปิ ปหเรยฺย. วาวโฏติ สิพฺพนกมฺมาทิกิจฺจนฺตรปสุโต.
สุตฺโตติ นิทฺทํ โอกฺกนฺโต. ขาทนฺติ ปิฏฺกขชฺชกาทีนิ ขาทนฺโต. ภฺุชนฺโตติ โอทนาทีนิ ¶ ภฺุชนฺโต. วจฺจํ มุตฺตมฺปิ วา กรนฺติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กโรนฺโต อิติ อิเมสํ เตรสนฺนํ วนฺทนา อยุตฺตตฺเถน วาริตาติ สมฺพนฺโธ.
๓๐๙๖-๗. กมฺมลทฺธิสีมาวเสน ตีสุ นานาสํวาสเกสุ กมฺมนานาสํวาสกสฺส อุกฺขิตฺตคฺคหเณน คหิตตฺตา, สีมานานาสํวาสกวุฑฺฒตรปกตตฺตสฺส วนฺทิยตฺตา, ปาริเสสาเยน ‘‘นานาสํวาสโก วุฑฺฒตโร อธมฺมวาที อวนฺทิโย’’ติ ¶ (ปริ. ๔๖๗) วจนโต จ ลทฺธินานาสํวาสโก อิธ ‘‘นานาสํวาสโก’’ติ คหิโตติ เวทิตพฺโพ. อุกฺขิตฺโตติ ติวิเธนาปิ อุกฺเขปนียกมฺเมน อุกฺขิตฺตโก. ครุกฏฺา จ ปฺจาติ ปาริวาสิกมูลายปฏิกสฺสนารหมานตฺตารหมานตฺตจาริกอพฺภานารหสงฺขาตา ปฺจ ครุกฏฺา จ. อิเม ปน อฺมฺสฺส ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนาทีนิ ลภนฺติ, ปกตตฺเตน อวนฺทิยตฺตาว อวนฺทิเยสุ คหิตา. อิเม พาวีสติ ปุคฺคเลติ นคฺคาทโย ยถาวุตฺเต.
๓๐๙๘. ‘‘ธมฺมวาที’’ติ อิทํ ‘‘นานาสํวาสวุฑฺฒโก’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ. ยถาห ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, วนฺทิยา. ปจฺฉา อุปสมฺปนฺเนน ปุเรอุปสมฺปนฺโน วนฺทิโย, นานาสํวาสโก วุฑฺฒตโร ธมฺมวาที วนฺทิโย, สเทวเก โลเก, ภิกฺขเว, สมารเก…เป… ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วนฺทิโย’’ติ (จูฬว. ๓๑๒).
๓๐๙๙. ‘‘เอเตเยว วนฺทิยา, น อฺเ’’ติ นิยามสฺส อกตตฺตา อฺเสมฺปิ วนฺทิยานํ สพฺภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตชฺชนาที’’ติอาทิ. เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นิยสฺสปพฺพาชนียปอสารณียกมฺเม สงฺคณฺหาติ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ วนฺทนียาธิกาเร. กมฺมนฺติ อปโลกนาทิ จตุพฺพิธํ กมฺมํ.
๓๑๐๐. สงฺเฆน อธมฺมกมฺเม กริยมาเน ตํ วาเรตุํ อสกฺโกนฺเตน, อสกฺโกนฺเตหิ จ ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธิฏฺาน’’นฺติอาทิ. อธิฏฺานํ ปเนกสฺส อุทฺทิฏฺนฺติ โยชนา, อธมฺมกมฺมํ กโรนฺตานํ ภิกฺขูนมนฺตเร นิสีทิตฺวา ตํ ‘‘อธมฺม’’นฺติ ชานิตฺวาปิ ตํ วาเรตุํ อสกฺโกนฺตสฺส เอกสฺส ‘‘น เมตํ ขมตี’’ติ จิตฺเตน อธิฏฺานมุทฺทิฏฺนฺติ วุตฺตํ โหติ. ทฺวินฺนํ วา ติณฺณเมว จาติ ตเมว วาเรตุํ อสกฺโกนฺตานํ ¶ ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา ภิกฺขูนํ อฺมฺํ ‘‘น เมตํ ขมตี’’ติ ทิฏฺาวิกมฺมํ สกสกทิฏฺิยา ปกาสนํ อุทฺทิฏฺนฺติ อตฺโถ. ตโต อุทฺธํ ตีหิ ¶ อุทฺธํ จตุนฺนํ กมฺมสฺส ปฏิกฺโกสนํ ‘‘อิทํ อธมฺมกมฺมํ มา กโรถา’’ติ ปฏิกฺขิปนํ อุทฺทิฏฺนฺติ อตฺโถ.
๓๑๐๑. วิสฺสาสคฺคาหลกฺขณํ อคฺคหิตคฺคหเณน ปฺจวิธนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘สนฺทิฏฺโ’’ติอาทิ. โยชนา ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพา – สนฺทิฏฺโ จ โหติ, ชีวติ จ, คหิเต จ อตฺตมโน โหติ, สมฺภตฺโต จ โหติ, ชีวติ จ, คหิเต จ อตฺตมโน โหติ, อาลปิโต จ โหติ, ชีวติ จ, คหิเต จ อตฺตมโน โหตีติ เอวํ สนฺทิฏฺสมฺภตฺตอาลปิตานํ ติณฺณเมเกกสฺส ตีณิ ตีณิ วิสฺสาสคฺคาหลกฺขณานิ กตฺวา นววิธํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. วจนตฺโถ, ปเนตฺถ วินิจฺฉโย จ เหฏฺา วุตฺโตว.
๓๑๐๒. สีลวิปตฺติ, ทิฏฺิวิปตฺติ จ อาจาราชีวสมฺภวา ทฺเว วิปตฺติโย จาติ โยชนา, อาจารวิปตฺติ, อาชีววิปตฺติ จาติ วุตฺตํ โหติ.
๓๑๐๓. ตตฺถาติ เตสุ จตูสุ วิปตฺตีสุ. อปฺปฏิกมฺมา ปาราชิกา วุฏฺานคามินี สงฺฆาทิเสสาปตฺติกา ทุเว อาปตฺติโย สีลวิปตฺตีติ ปกาสิตาติ โยชนา.
๓๑๐๔. ยา จ อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิ, ยา ทสวตฺถุกา ทิฏฺิ, อยํ ทุวิธา ทิฏฺิ ทิฏฺิวิปตฺตีติ ทีปิตาติ โยชนา. ตตฺถ อนฺตคฺคาหิกทิฏฺิ นาม อุจฺเฉทนฺตสสฺสตนฺตคาหวเสน ปวตฺตา ทิฏฺิ. ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา ทสวตฺถุกา ทิฏฺิ.
๓๑๐๕. ถุลฺลจฺจยาทิกา เทสนาคามินิกา ยา ปฺจ อาปตฺติโย, อาจารกุสเลน ภควตา สา อาจารวิปตฺตีติ ¶ วุตฺตาติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน ปาจิตฺติยปาฏิเทสนียทุกฺกฏทุพฺภาสิตานํ คหณํ. ยาติ ปฺจาปตฺติโย อเปกฺขิตฺวา พหุตฺตํ. สาติ อาจารวิปตฺติ สามฺมเปกฺขิตฺวา เอกตฺตํ.
๓๑๐๖. กุหนาทีติ อาทิ-สทฺเทน ลปนา เนมิตฺติกตา นิปฺเปสิกตา ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตา คหิตา, กุหนาทีนํ วิตฺถาโร วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๖) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อาชีโว ปจฺจโย เหตุ ยสฺสา อาปตฺติยาติ วิคฺคโห. ฉพฺพิธาติ จตุตฺถปาราชิกสฺจริตฺตถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยปาฏิเทสนียทุกฺกฏาปตฺตีนํ ¶ วเสน ฉพฺพิธา. ปกาสิตา –
‘‘อาชีวเหตุ อาชีวการณา ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. อาชีวเหตุ…เป… สฺจริตฺตํ สมาปชฺชติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. อาชีวเหตุ…เป… ‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหา’ติ ภณติ, ปฏิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. อาชีวเหตุ…เป… ภิกฺขุ ปณีตโภชนานิ อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อาชีวเหตุ…เป… ภิกฺขุนี ปณีตโภชนานิ อคิลานา อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, อาปตฺติ ปาฏิเทสนียสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา สูปํ วา โอทนํ วา อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปริ. ๒๘๗) –
เทสิตา. อิมินา อาชีววิปตฺติ ทีปิตา.
๓๑๐๗. ‘‘อุกฺขิตฺโต’’ติอาทิ ¶ ยถากฺกเมน เตสํ ติณฺณํ นานาสํวาสกานํ สรูปทสฺสนํ. ตตฺถ ตโย อุกฺขิตฺตกา วุตฺตาเยว.
๓๑๐๘-๙. ‘‘โย สงฺเฆน อุกฺเขปนียกมฺมกตานํ อธมฺมวาทีนํ ปกฺเข นิสินฺโน ‘ตุมฺเห กึ ภณถา’ติ เตสฺจ อิตเรสฺจ ลทฺธึ สุตฺวา ‘อิเม อธมฺมวาทิโน, อิตเร ธมฺมวาทิโน’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทติ, อยํ เตสํ มชฺเฌ นิสินฺโนว เตสํ นานาสํวาสโก โหติ, กมฺมํ โกเปติ. อิตเรสมฺปิ หตฺถปาสํ อนาคตตฺตา โกเปตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๔๕๕) อาคต อฏฺกถาวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธมฺมวาทิปกฺขสฺมิ’’นฺติอาทิ.
อธมฺมวาทิปกฺขสฺมินฺติ อุกฺเขปนียกมฺเมน นิสฺสาริตานํ อธมฺมวาทีนํ ปกฺขสฺมึ. นิสินฺโนวาติ หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา คณปูรโก หุตฺวา นิสินฺโนว. วิจินฺตยนฺติ ‘‘อิเม นุ โข ธมฺมวาทิโน, อุทาหุ เอเต’’ติ วิวิเธนากาเรน จินฺตยนฺโต. ‘‘เอเต ปน ธมฺมวาที’’ติ มานสํ อุปฺปาเทติ, เอวํ อุปฺปนฺเน ปน มานเส. อธมฺมวาทิปกฺขสฺมึ นิสินฺโนว เอวํ มานสํ อุปฺปาเทนฺโต อยํ ¶ ภิกฺขุ. ลทฺธิยาติ เอวํ อุปฺปาทิตมานสสงฺขาตาย ลทฺธิยา. เตสํ อธมฺมวาทีนํ นานาสํวาสโก นาม โหตีติ ปกาสิโต.
ตตฺรฏฺโ ปน โสติ ตสฺมึ อธมฺมวาทิปกฺขสฺมึ นิสินฺโนว โส. สท-ธาตุยา คตินิวารณตฺถตฺตา ตตฺร นิสินฺโน ‘‘ตตฺรฏฺโ’’ติ วุจฺจติ. ทฺวินฺนนฺติ ธมฺมวาทิอธมฺมวาทิปกฺขานํ ทฺวินฺนํ สงฺฆานํ. กมฺมนฺติ จตุวคฺคาทิสงฺเฆน กรณียกมฺมํ. โกเปตีติ อธมฺมวาทีนํ อสํวาสภาวํ คนฺตฺวา เตสํ คณปูรณตฺตา, อิตเรสํ เอกสีมายํ ตฺวา หตฺถปาสํ อนุปคตตฺตา, ฉนฺทสฺส จ อทินฺนตฺตา กมฺมํ โกเปติ. โย ปน อธมฺมวาทีนํ ปกฺเข ¶ นิสินฺโน ‘‘อธมฺมวาทิโน อิเม, อิตเร ธมฺมวาทิโน’’ติ เตสํ มชฺเฌ ปวิสติ, ยตฺถ วา ตตฺถ วา ปกฺเข นิสินฺโน ‘‘อิเม ธมฺมวาทิโน’’ติ คณฺหาติ, อยํ อตฺตนาว อตฺตานํ สมานสํวาสกํ กโรตีติ เวทิตพฺโพ.
๓๑๑๐. พหิสีมาคโต ปกตตฺโต ภิกฺขุ สเจ หตฺถปาเส ิโต โหติ, โส สีมาย นานาสํวาสโก มโตติ โยชนา. ตํ คณปูรณํ กตฺวา กตกมฺมมฺปิ กุปฺปติ. เอวํ ยถาวุตฺตนิยาเมน ตโย นานาสํวาสกา มเหสินา วุตฺตาติ โยชนา.
๓๑๑๑. จุโตติ ปาราชิกาปนฺโน สาสนโต จุตตฺตา ‘‘จุโต’’ติ คหิโต. ‘‘ภิกฺขุนี เอกาทส อภพฺพา’’ติ ปทจฺเฉโท. อิเมติ เภทมนเปกฺขิตฺวา สามฺเน สตฺตรส ชนา. อสํวาสาติ น สํวสิตพฺพา, นตฺถิ วา เอเตหิ ปกตตฺตานํ เอกกมฺมาทิโก สํวาโสติ อสํวาสา นาม สิยุํ.
๓๑๑๒. อสํวาสสฺส สพฺพสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส สตฺตรสวิธสฺส สพฺพสฺส อสํวาสสฺส. ตถา กมฺมารหสฺส จาติ ‘‘ยสฺส สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปตฺโต, นาปิ ฉนฺทารโห, อปิจ กมฺมารโห’’ติ (ปริ. ๔๘๘) เอวํ ปริวาเร วุตฺตกมฺมารหสฺส จ. อุมฺมตฺตกาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน ขิตฺตจิตฺตาทีนํ คหณํ. สงฺเฆ ตชฺชนียาทีนิ กโรนฺเต. ปฏิกฺเขโปติ ปฏิกฺโกสนา. น รูหตีติ ปฏิกฺโกสฏฺาเน น ติฏฺติ, กมฺมํ น โกเปตีติ อธิปฺปาโย.
๓๑๑๓. สสํวาเสก…เป… ภิกฺขุโนติ วุตฺตนเยน กมฺเมน วา ลทฺธิยา วา อสํวาสิกภาวํ ¶ อนุปคตตฺตา สมานสํวาสกสฺส สีมาย อสํวาสิกภาวํ อนุปคนฺตฺวา เอกสีมาย ¶ ิตสฺส อนฺติมวตฺถุํ อนชฺฌาปนฺนตฺตา ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน. อนนฺตรสฺสปิ หตฺถปาเส วจเนน วจีเภทกรเณน ปฏิกฺเขโป ปฏิกฺโกโส รุหติ ปฏิกฺโกสนฏฺาเนเยว ติฏฺติ, กมฺมํ โกเปตีติ อธิปฺปาโย.
๓๑๑๔. ฉหิ อากาเรหีติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๓๘; กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) ลชฺชิตาย, อฺาณตาย, กุกฺกุจฺจปกตตาย, สติสมฺโมสาย, อกปฺปิเยกปฺปิยสฺิตาย, กปฺปิเยอกปฺปิยสฺิตายาติ อิเมหิ ฉหิ อากาเรหิ. ปฺจ สมณกปฺปา จ วุตฺตา, ปฺจ วิสุทฺธิโย จ วุตฺตาติ โยชนา.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภฺุชิตุํ, อคฺคิปริชิตํ สตฺถปริชิตํ นขปริชิตํ อพีชํ นิพฺพฏฺฏพีชฺเว ปฺจม’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๐) ขุทฺทกวตฺถุเก อนฺุาตา ปฺจ สมณกปฺปา นาม. ปฺจ วิสุทฺธิโยติ ปริวาเร เอกุตฺตเร ‘‘ปฺจ วิสุทฺธิโย’’ติ อิมสฺส นิทฺเทเส ‘‘นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ปมา วิสุทฺธี’’ติอาทินา (ปริ. ๓๒๕) นเยน ทสฺสิตา ปฺจ ปาติโมกฺขุทฺเทสสงฺขาตา ปฺจ วิสุทฺธิโย จ ‘‘สุตฺตุทฺเทโส ปาริสุทฺธิอุโปสโถ อธิฏฺานุโปสโถ ปวารณา สามคฺคิอุโปสโถเยว ปฺจโม’’ติ (ปริ. ๓๒๕) เอวํ วุตฺตา ปฺจ วิสุทฺธิโย จาติ ทฺเวปฺจวิสุทฺธิโย ‘‘ทฺวิปฺจวิฺาณานี’’ติอาทีสุ วิย สามฺวจเนน สงฺคหิตา.
๓๑๑๕-๗. นิสฺเสเสน ทียติ ปฺปียติ เอตฺถ สิกฺขาปทนฺติ นิทานํ, เตสํ เตสํ สิกฺขาปทานํ ปฺตฺติยา านภูตํ เวสาลีอาทิ. ปุํ วุจฺจติ นิรโย, ตํ คลติ มทฺทติ เนรยิกทุกฺขํ อนุภวตีติ ปุคฺคโล, สตฺโต. อริยปุคฺคลา ¶ ตํสทิสตฺตา, ภูตปุพฺพคติยา วา ‘‘ปุคฺคลา’’ติ เวทิตพฺพา. อิธ ปเนเต สิกฺขาปทวีติกฺกมสฺส อาทิกมฺมิกา อธิปฺเปตา. อิทานิ ปุคฺคลนิทฺเทสํ วกฺขติ. วสติ เอตฺถ ภควโต อาณาสงฺขาตา สิกฺขาปทปฺตฺติ ตํ ปฏิจฺจ ปวตฺตตีติ วตฺถุ, ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺส สิกฺขาปทปฺตฺติเหตุภูโต อชฺฌาจาโร.
วิธานํ วิภชนํ วิธิ, ปเภโท. ปฺาปียติ ภควโต อาณา ปกาเรน าปียติ เอตายาติ ปฺตฺติ, ปฺตฺติยา วิธิ ปเภโท ‘‘ปฺตฺติวิธิ’’นฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘วิธึ ปฺตฺติยา’’ติ ¶ คาถาพนฺธวเสน อสมตฺถนิทฺเทโส. สา ปน ปฺตฺติวิธิ ปฺตฺติอนุปฺตฺติ อนุปฺปนฺนปฺตฺติ สพฺพตฺถปฺตฺติ ปเทสปฺตฺติ สาธารณปฺตฺติ อสาธารณปฺตฺติ เอกโตปฺตฺติ อุภโตปฺตฺติวเสน นววิธา โหติ.
‘‘วิปตฺติ อาปตฺติ อนาปตฺตี’’ติ ปทจฺเฉโท, วิปชฺชนฺติ เอตาย สีลาทโยติ วิปตฺติ. สา ปน สีลอาจารทิฏฺิอาชีวานํ วเสน จตุพฺพิธา. สา ปน อุทฺเทสวเสน เหฏฺา ทสฺสิตาว. อาปชฺชนฺติ เอตาย อกุสลาพฺยากตภูตาย ภควโต อาณาวีติกฺกมนฺติ อาปตฺติ. สา ปุพฺพปโยคาทิวเสน อเนกปฺปเภทา อาปตฺติ. อนาปตฺติ อชานนาทิวเสน อาณาย อนติกฺกมนํ. สมุฏฺาติ เอเตหิ อาปตฺตีติ สมุฏฺานานิ, กายาทิวเสน ฉพฺพิธานิ อาปตฺติการณานิ. สมุฏฺานานํ นโย สมุฏฺานนโย, ตํ.
วชฺชฺจ กมฺมฺจ กิริยา จ สฺา จ จิตฺตฺจ อาณตฺติ จ วชฺชกมฺมกฺริยาสฺาจิตฺตาณตฺติโย, ตาสํ วิธิ ตถา วุจฺจติ, ตํ. วชฺชวิธินฺติ ‘‘ยสฺสา สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, อยํ โลกวชฺชา, เสสา ปณฺณตฺติวชฺชา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ วชฺชวิธึ. กมฺมวิธินฺติ ‘‘สพฺพา จ กายกมฺมวจีกมฺมตทุภยวเสน ติวิธา โหนฺตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) ทสฺสิตํ กมฺมวิธึ ¶ . กฺริยาวิธินฺติ ‘‘อตฺถาปตฺติ กิริยโต สมุฏฺาติ, อตฺถิ อกิริยโต, อตฺถิ กิริยากิริยโต, อตฺถิ สิยา กิริยโต สิยา อกิริยโต’’ติอาทินา (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) นเยน ทสฺสิตํ กิริยาวิธึ. สฺาวิธินฺติ ‘‘สฺาวิโมกฺขา’’ติอาทินา (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) นเยน ทสฺสิตํ สฺาวิธึ.
จิตฺตวิธินฺติ ‘‘สพฺพาปิ จิตฺตวเสน ทุวิธา โหนฺติ สจิตฺตกา, อจิตฺตกา จา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ จิตฺตวิธึ. อาณตฺติวิธินฺติ ‘‘สาณตฺติกํ อนาณตฺติก’’นฺติ วุตฺตํ อาณตฺติวิธึ. องฺควิธานนฺติ สพฺพสิกฺขาปเทสุ อาปตฺตีนํ วุตฺตํ องฺควิธานฺจ. เวทนาตฺติกํ, กุสลตฺติกฺจาติ โยชนา. ตํ ปน ‘‘อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิจิตฺตํ, ติจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนํ, ทฺวิเวทนํ, ติเวทน’’นฺติ ตตฺถ ตตฺถ ทสฺสิตเมว.
สตฺตรสวิธํ ¶ เอตํ ลกฺขณนฺติ ยถาวุตฺตนิทานาทิสตฺตรสปฺปเภทํ สพฺพสิกฺขาปทานํ สาธารณลกฺขณํ. ทสฺเสตฺวาติ ปกาเสตฺวา. พุโธ วินยกุสโล. ตตฺถ ตตฺถ สิกฺขาปเทสุ ยถารหํ โยเชยฺยาติ สมฺพนฺโธ.
๓๑๑๘. อิเมสุ สตฺตรสสุ ลกฺขเณสุ นิทานปุคฺคเล ตาว นิทฺทิสิตุมาห ‘‘นิทาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถาติ เตสุ สตฺตรสสุ สาธารณลกฺขเณสุ, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมํ. นิทานนฺติ นิทฺธาริตพฺพทสฺสนํ. ‘‘ปุร’’นฺติ อิทํ ‘‘เวสาลี’’ติอาทิปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. สกฺกภคฺคาติ เอเตหิ ชนปทวาจีหิ สทฺเทหิ านนิสฺสิตา นาคราว คเหตพฺพา. ตานิ จ ‘‘สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ, ภคฺเคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร’’ติ ตตฺถ ตตฺถ สิกฺขาปทนิทาเน นิทสฺสิตาเนว.
๓๑๑๙. ‘‘ทส เวสาลิยา’’ติอาทีนํ อตฺถวินิจฺฉโย อุตฺตเร อาวิ ภวิสฺสติ. คิริพฺพเชติ ราชคหนคเร. ตฺหิ ¶ สมนฺตา ิเตหิ อิสิคิลิอาทีหิ ปฺจหิ ปพฺพเตหิ วชสทิสนฺติ ‘‘คิริพฺพช’’นฺติ วุจฺจติ.
๓๑๒๑. ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺขสฺมึ สุทินฺนธนิยาทโย เตวีสติวิธา อาทิกมฺมิกปุคฺคลา วุตฺตาติ โยชนา.
๓๑๒๒. อุภยปาติโมกฺเข อาคตา เต สพฺเพ อาทิกมฺมิกปุคฺคลา ปริปิณฺฑิตา ตึส ภวนฺตีติ โยชนา. วตฺถุอาทีนํ วินิจฺฉโย อุตฺตเร วกฺขมานตฺตา อิธ น วุตฺโต. นนุ จ นิทานปุคฺคลวินิจฺฉยมฺปิ ตตฺถ วกฺขตีติ โส อิธ กสฺมา วุตฺโตติ? นายํ โทโส, อิมสฺส ปกรณตฺตา อิธาปิ วตฺตพฺโพติ. ยทิ เอวํ วตฺถุอาทิวินิจฺฉโยปิ อิธ วตฺตพฺโพ สิยา, โส กสฺมา น วุตฺโตติ? เอกโยคนิทฺทิฏฺสฺส อิมสฺส วจเนน โสปิ วุตฺโตเยว โหตีติ เอกเทสทสฺสนวเสน สํขิตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.
๓๑๒๓. โย เอนํ ตรุํ ชานาติ, โส ปฺตฺตึ อเสสโต ชานาตีติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ ‘‘เอนํ ตรุ’’นฺติ อิมินา นิทานาทิสตฺตรสปฺปการํ สพฺพสิกฺขาปทสาธารณลกฺขณสมุทายํ รูปเกน ทสฺเสติ. กึ วิสิฏฺํ ตรุนฺติ อาห ‘‘ติมูล’’นฺติอาทิ.
ตตฺถ ¶ ติมูลนฺติ นิทานปุคฺคลวตฺถุสงฺขาตานิ ตีณิ มูลานิ เอตสฺสาติ ติมูลํ. นวปตฺตนฺติ นววิธปณฺณตฺติสงฺขาตานิ ปตฺตานิ เอตสฺสาติ นวปตฺตํ. ทฺวยงฺกุรนฺติ โลกวชฺชปณฺณตฺติวชฺชสงฺขาตา ทฺเว องฺกุรา เอตสฺสาติ ทฺวยงฺกุรํ. ‘‘ทฺวิองฺกุร’’นฺติ วตฺตพฺเพ อิ-การสฺส อยาเทสํ กตฺวา ‘‘ทฺวยงฺกุร’’นฺติ วุตฺตํ. สตฺตผลนฺติ อาณตฺติอาปตฺติอนาปตฺติวิปตฺติสฺาเวทนากุสลตฺติกสงฺขาตานิ สตฺต ผลานิ เอตสฺสาติ สตฺตผลํ. ฉปุปฺผนฺติ ฉสมุฏฺานสงฺขาตานิ ปุปฺผานิ เอตสฺสาติ ฉปุปฺผํ. ทฺวิปฺปภวนฺติ จิตฺตกมฺมสงฺขาตา ทฺเว ปภวา เอตสฺสาติ ทฺวิปฺปภวํ. ทฺวิสาขนฺติ ¶ กิริยองฺคสงฺขาตา ทฺเว สาขา เอตสฺสาติ ทฺวิสาขํ. เอนํ ตรุํ โย ชานาตีติ โย วุตฺโต ภิกฺขุ วุตฺตสรูปสาธารณสตฺตรสลกฺขณราสิวินิจฺฉยสงฺขาตตรุํ ชานาติ. โสติ โส ภิกฺขุ. ปฺตฺตินฺติ วินยปิฏกํ. อเสสโตติ สพฺพโส.
๓๑๒๔. อิติ เอวํ มธุรปทตฺถํ อนากุลํ ปรมํ อุตฺตมํ อิมํ วินิจฺฉยํ โย ปติ วาจุคฺคตํ กโรนฺโต ปริยาปุณาติ, ครุสนฺติเก สาธุกํ สุณาติ, ปริปุจฺฉเต จ อตฺถํ ปริปุจฺฉติ จ, โส ภิกฺขุ วินย วินิจฺฉเย อุปาลิสโม ภวติ วินยธรานํ เอตทคฺคฏฺาเน นิกฺขิตฺเตน อุปาลิมหาเถเรน สทิโส ภวตีติ โยชนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ปกิณฺณกวินิจฺฉยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กมฺมฏฺานวิภาวนาวิธานกถาวณฺณนา
๓๑๒๕. ‘‘อาทิมฺหิ สีลํ ทสฺเสยฺย.
มชฺเฌ มคฺคํ วิภาวเย;
ปริโยสาเน จ นิพฺพานํ;
เอสา กถิกสณฺิตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๙๐; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๙๑; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๖๔) –
วุตฺตํ ธมฺมกถิกลกฺขณํ สมนุสฺสรนฺโตยมาจริโย ปาติโมกฺขสํวรสีลปริทีปกํ วินิจฺฉยํ นาติสงฺเขปวิตฺถารมุเขน ทสฺเสตฺวา ตํมูลกานํ อิตเรสฺจ ติณฺณํ สีลานํ ตํทสฺสเนเนว ทสฺสิตภาวฺจ ¶ สีลวิสุทฺธิมูลิกา จิตฺตวิสุทฺธิอาทิโย ปฺจวิสุทฺธิโย จ ตํมูลิกฺจ อริยมคฺคสงฺขาตํ าณทสฺสนวิสุทฺธึ ตทธิคมนียํ นิพฺพานฺจ ทสฺเสตฺวา ยถารทฺธํ ¶ วินยกถํ ปริโยสาเปตุกาโม อาห ‘‘ปาโมกฺเข’’ติอาทิ. ตตฺถ ปาโมกฺเขติ สมาธิอาทีนํ อนวชฺชธมฺมานํ ปติฏฺาภาเวน อุตฺตเม. โมกฺขปฺปเวสเนติ อมตมหานิพฺพานนครสฺส ปเวสนนิมิตฺเต. มุเข อสหายทฺวารภูเต. ยถาห –
‘‘สคฺคาโรหณโสปานํ, อฺํ สีลสมํ กุโต;
ทฺวารํ วา ปน นิพฺพาน-นครสฺส ปเวสเน’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๙; พุ. พํ. อฏฺ. ๓.ทีปงฺกรพุทฺธวํสวณฺณนา);
สพฺพทุกฺขกฺขเยติ ชาติทุกฺขาทิสพฺพทุกฺขานํ ขยสฺส อริยมคฺคสฺส อธิคมูปายตฺตา ผลูปจาเรน สพฺพทุกฺขกฺขยสงฺขาเต. ‘‘ปาโมกฺเข’’ติ จ ‘‘โมกฺขปฺปเวสเน มุเข’’ติ จ ‘‘สพฺพทุกฺขกฺขเย’’ติ จ ‘‘ปาติโมกฺขสฺมิ’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ. วุตฺเตติ ปาราชิกโต ปฏฺาย นานปฺปการโต นิทฺทิฏฺเ สติ. อิตรตฺตยํ วุตฺตเมวาติ สมฺพนฺโธ. อินฺทฺริยสํวรสีลอาชีวปาริสุทฺธิสีลปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสงฺขาตํ อิตรํ สีลตฺตยํ วุตฺตเมว โหติ ‘‘ราชา อาคโต’’ติ วุตฺเต ปริสาย อาคมนํ วิย, ตสฺมา ตํ น วกฺขามาติ อธิปฺปาโย.
๓๑๒๖. อิทํ จตุพฺพิธํ สีลนฺติ ปาติโมกฺขสํวรสีลาทึ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. ตฺวาติ ลกฺขณาทิโต, โวทานโต, หานภาคิยฏฺิติภาคิยวิเสสภาคิยนิพฺเพธภาคิยาทิปฺปการโต จ ชานิตฺวา. ตตฺถาติ จตุพฺพิธสีเล. ปติฏฺิโตติ อจฺฉิทฺทาทิองฺคสมนฺนาคตภาวมาปาทเนน ปติฏฺิโต. สมาธินฺติ อุปจารปฺปนาเภทโลกิยสมาธึ. ภาเวตฺวาติ สมจตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ ปุนปฺปุนํ อนุโยควเสน วฑฺเฒตฺวา. ปฺายาติ ติลกฺขณาการาทิปริจฺเฉทิกาย โลกุตฺตราย ปฺาย เหตุภูตาย, กรณภูตาย จ. ปริมุจฺจตีติ สพฺพกิเลสพนฺธนํ เฉตฺวา ¶ สํสารจารกา สมนฺตโต มุจฺจติ, อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายตีติ อธิปฺปาโย.
๓๑๒๗. เอวํ สมาสโต วุตฺตเมวตฺถํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘ทสานุสฺสติโย’’ติอาทิ. ทส อนุสฺสติโย จ ทส กสิณา จ ทส อสุภา จ จตสฺโส อปฺปมฺาโย จ ตถา จตฺตาโร อารุปฺปา จ วุตฺตา. อปรํ กมฺมฏฺานทฺวยฺจ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.
ตตฺถ ¶ ทสานุสฺสติโย นาม ‘‘พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมานุสฺสติ, สงฺฆานุสฺสติ, สีลานุสฺสติ, จาคานุสฺสติ, เทวตานุสฺสติ, กายคตาสติ, มรณานุสฺสติ, อานาปานสติ, อุปสมานุสฺสตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) เอวํ วุตฺตา ทส อนุสฺสติโย.
ทส กสิณา นาม ‘‘ปถวีกสิณํ, อาโปกสิณํ, เตโชกสิณํ, วาโยกสิณํ, นีลกสิณํ, ปีตกสิณํ, โลหิตกสิณํ, โอทาตกสิณํ, อาโลกกสิณํ, ปริจฺฉินฺนากาสกสิณ’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) วุตฺตา อิเม ทส กสิณา.
ทส อสุภา นาม ‘‘อุทฺธุมาตกํ, วินีลกํ, วิปุพฺพกํ, วิจฺฉิทฺทกํ, วิกฺขายิตกํ, วิกฺขิตฺตกํ, หตวิกฺขิตฺตกํ, โลหิตกํ, ปุฬุวกํ, อฏฺิก’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) วุตฺตา อิเม ทส อสุภา.
จตสฺโส อปฺปมฺาโย นาม ‘‘เมตฺตา, กรุณา, มุทิตา, อุเปกฺขา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) วุตฺตา อิเม อปฺปมฺาโย.
จตฺตาโร อารุปฺปา นาม ‘‘อากาสานฺจายตนํ, วิฺาณฺจายตนํ, อากิฺจฺายตนํ, เนวสฺานาสฺายตน’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) วุตฺตา อิเม อารุปฺปา. อปรํ กมฺมฏฺานทฺวยํ นาม ‘‘อาหาเรปฏิกฺกูลสฺา, จตุธาตุววตฺถาน’’นฺติ วุตฺตํ ฏฺานอุภยํ.
๓๑๒๘. อิจฺเจวํ ¶ จตฺตาลีสวิธํ มโนภุโน กมฺมฏฺานํ สพฺพมฺปิ กมฺมฏฺานํ สมุทฺทิฏฺํ สิยาติ โยชนา. กมฺมสฺส โยคสงฺขาตสฺส านํ อารมฺมณภาเวน ปวตฺติฏฺานนฺติ กมฺมฏฺานํ. ติฏฺติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ านํ, การณํ, กมฺมสฺส วิปสฺสนาย านํ การณํ กมฺมฏฺานํ, กสฺสาติ อาห ‘‘มโนภุโน’’ติ. มโน อภิภวตีติ มโนภู, ตสฺส มโนภุโน, กุสลจิตฺตปฺปวตฺตินิวารเณน ตถาลทฺธนามสฺส กามเทวสฺสาติ อตฺโถ. อิมินา กมฺมฏฺานคณนาปริจฺเฉโท ทสฺสิโต.
๓๑๒๙-๓๐. อิเมสํ กมฺมฏฺานานํ ภาวนามยํ ภินฺทิตฺวา ทสฺเสตุํ มาติกํ ตาว ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อุปจารปฺปนาโต’’ติอาทิ. ตตฺถ อุปจารปฺปนาโตติ ‘‘เอตฺตกานิ กมฺมฏฺานานิ อุปจาราวหานิ ¶ , เอตฺตกานิ อปฺปนาวหานี’’ติ เอวํ อุปจารปฺปนาวเสน จ. ฌานเภทาติ ‘‘เอตฺตกานิ ปมชฺฌานิกานิ, เอตฺตกานิ ติกจตุกฺกชฺฌานิกานิ, เอตฺตกานิ ปฺจกชฺฌานิกานี’’ติอาทินา ฌานเภทา จ. อติกฺกมาติ องฺคานํ, อารมฺมณานฺจ อติกฺกมโต. วฑฺฒนาวฑฺฒนา จาปีติ องฺคุลทฺวงฺคุลาทิวเสน วฑฺเฒตพฺพา, อวฑฺเฒตพฺพา จ. อารมฺมณภูมิโตติ นิมิตฺตารมฺมณาทิอารมฺมณโต เจว ลพฺภมานาลพฺภมานภูมิโต จ.
คหณาติ ทิฏฺาทิวเสน คเหตพฺพโต. ปจฺจยาติ ตํตํานานํ ปจฺจยภาวโต จ. ภิยฺโยติ ปุน-สทฺทตฺถนีหารตฺโถ. จริยานุกูลโตติ ราคจริยาทีนํ อนุกูลภาวโตติ อยํ วิเสโส อยํ เภโท. เอเตสุ จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ.
๓๑๓๑. เอวํ มาติกํ นิทฺทิสิตฺวา ยถากฺกมํ นิทฺทิสนฺโต ปมํ ตาว อุปจาราวหาทโย ทสฺเสตุมาห ‘‘อฏฺานุสฺสติโย’’ติอาทิ ¶ . ตตฺถาติ ติสฺสํ มาติกายํ, เตสุ วา จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ. อฏฺานุสฺสติโยติ กายคตาสติอานาปานสติทฺวยวชฺชิตา พุทฺธานุสฺสติอาทิกา อฏฺ อนุสฺสติโย จ. สฺา อาหาเรปฏิกฺกูลสฺา จ. ววตฺถานฺจ จตุธาตุววตฺถานฺจาติ อิเม ทส. อุปจาราวหาติ พุทฺธคุณาทีนํ ปรมตฺถภาวโต, อเนกวิธตฺตา, เอกสฺสาปิ คมฺภีรภาวโต จ เอเตสุ ทสสุ กมฺมฏฺาเนสุ อปฺปนาวเสน สมาธิสฺส ปติฏฺาตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา อปฺปนาภาวนาปฺปตฺโต สมาธิ อุปจารภาเวเยว ปติฏฺาติ, ตสฺมา เอเต อุปจาราวหา.
นนุ เจตฺถ ทุติยจตุตฺถารุปฺปสมาธิ, โลกุตฺตโร จ สมาธิ ปรมตฺถธมฺเม อปฺปนํ ปาปุณาติ, ตสฺมา ‘‘ปรมตฺถภาวโต’’ติ เหตุ อปฺปนมปาปุณเน การณภาเวน น วุจฺจตีติ? น, ตสฺส ภาวนาวิเสเสน ปรมตฺถธมฺเม ปวตฺติสมฺภวโต, อิมสฺส จ รูปาวจรจตุตฺถภาวนาวิเสสสมฺภวโต จ. ตถา หิ ทุติยจตุตฺถารุปฺปสมาธิ อปฺปนาปตฺตสฺส อรูปาวจรสมาธิสฺส จตุตฺถชฺฌานสฺส อารมฺมณสมติกฺกมมตฺตภาวนาวเสน สภาวารมฺมเณปิ อปฺปนํ ปาปุณาติ. วิสุทฺธิภาวนานุกฺกมพเลน โลกุตฺตโร สมาธิ อปฺปนํ ปาปุณาตีติ.
๓๑๓๒. ตตฺถาติ เตสุ ฌานาวเหสุ ตึสกมฺมฏฺาเนสุ. อสุภาติ อุทฺธุมาตกาทโย ทส อสุภา. กายคตาสตีติ กายคตาสติ จาติ อิเม เอกาทส. ปมชฺฌานิกาติ อิเมสํ ปฏิกฺกูลารมฺมณตฺตา, ปฏิกฺกูลารมฺมเณ จ จิตฺตสฺส จณฺฑโสตาย นทิยา อริตฺตพเลน นาวาฏฺานํ ¶ วิย วิตกฺกพเลเนว ปวตฺติสมฺภวโต อวิตกฺกานํ ทุติยชฺฌานาทีนํ อสมฺภโวติ สวิตกฺกสฺส ปมชฺฌานสฺเสว สมฺภวโต ปมชฺฌานิกา. อานาปานฺจ ¶ กสิณา จาติ อิเม เอกาทส จตุกฺกชฺฌานิกา รูปาวจรจตุกฺกชฺฌานิกา จ จตุกฺกนเยน, ปฺจกชฺฌานิกา จ.
๓๑๓๓. ติสฺโสว อปฺปมฺาติ เมตฺตา, กรุณา, มุทิตาติ อปฺปมฺา ติสฺโสว. สามฺนิทฺเทเส เอตาสเมว คหณํ กถํ วิฺายตีติ? ‘‘อถ ปจฺฉิมา’’ติอาทินา จตุตฺถาย อปฺปมฺาย จตุตฺถชฺฌานิกภาวสฺส วกฺขมานตฺตา ปาริเสสโต ตํ วิฺายติ. ติกชฺฌานานีติ ติกชฺฌานิกา. ‘‘ติกชฺฌานา’’ติ วตฺตพฺเพ ลิงฺควิปลฺลาเสน เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เมตฺตาทีนํ โทมนสฺสสหคตพฺยาปาทวิหึสานภิรตีนํ ปหายกตฺตา โทมนสฺสปฏิปกฺเขน โสมนสฺเสเนว สหคตตา วุตฺตาติ จตุกฺกนเยน ติกชฺฌานิกตา วุตฺตา, ปฺจกนเยน จตุกฺกชฺฌานิกตา จ.
‘‘อถา’’ติ อิทํ ‘‘ปจฺฉิมา’’ติ ปทสฺส ‘‘ติสฺโส’’ติ อิมินา ปุริมปเทน สมฺพนฺธนิวตฺตนตฺถํ. ปจฺฉิมา อปฺปมฺา, จตฺตาโร อารุปฺปา จ จตุตฺถชฺฌานิกา มตา จตุกฺกนเยน, ปฺจมชฺฌานิกา จ. ‘‘สพฺเพ สตฺตา สุขิตา โหนฺตุ, ทุกฺขา มุจฺจนฺตุ, ลทฺธสุขสมฺปตฺติโต มา วิคจฺฉนฺตู’’ติ เมตฺตาทิติวิธวสปฺปวตฺตํ พฺยาปารตฺตยํ ปหาย กมฺมสฺสกตาทสฺสเนน สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปตฺตภาวนานิพฺพตฺตาย ตตฺรมชฺฌตฺโตเปกฺขาย พลวตรตฺตา อปฺปนาปฺปตฺตสฺส อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารสฺส สุขสหคตตาสมฺภวโต อุเปกฺขาสหคตตา วุตฺตา.
๓๑๓๔. องฺคารมฺมณโต อติกฺกโม ทฺวิธา วุตฺโตติ โยชนา. จตุกฺกติกชฺฌาเนสูติ ทสกสิณา, อานาปานสตีติ เอกาทสสุ จตุกฺกชฺฌานิเกสุ เจว เมตฺตาทิปุริมพฺรหฺมวิหารตฺตยสงฺขาเตสุ ¶ ติกชฺฌานิเกสุ จ กมฺมฏฺาเนสุ. องฺคาติกฺกมตาติ เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ วิตกฺกาทิฌานงฺค สมติกฺกเมน ปมชฺฌานาทีนํ อารมฺมเณเยว ทุติยชฺฌานาทีนํ อุปฺปตฺติโต องฺคาติกฺกโม อธิปฺเปโตติ อตฺโถ. องฺคาติกฺกโมเยว องฺคาติกฺกมตา.
๓๑๓๕. องฺคาติกฺกมโตติ ตติยชฺฌานสมฺปยุตฺตโสมนสฺสาติกฺกมนโต. อารมฺมณมติกฺกมฺมาติ ปฏิภาคนิมิตฺตกสิณุคฺฆาฏิมากาสตพฺพิสยปมารุปฺปวิฺาณตทภาวสงฺขาตานิ จตฺตาริ อารมฺมณานิ ยถากฺกมํ อติกฺกมิตฺวา. กสิณุคฺฆาฏิมากาสตพฺพิสยปมารุปฺปวิฺาณตทภาวตพฺพิสยตติยารุปฺปวิฺาณสงฺขาเตสุ ¶ จตูสุ อารมฺมเณสุ อารุปฺปา อากาสานฺจายตนาทีนิ จตฺตาริ อรูปาวจรชฺฌานานิ ชายเร อุปฺปชฺชนฺติ.
๓๑๓๖. เอตฺถาติ เอเตสุ อารมฺมเณสุ. วฑฺเฒตพฺพานีติ ‘‘ยตฺตกํ โอกาสํ กสิเณน ผรติ, ตทพฺภนฺตเร ทิพฺพาย โสตธาตุยา สทฺทํ โสตุํ, ทิพฺเพน จกฺขุนา รูปํ ปสฺสิตุํ, ปรสตฺตานฺจ เจตสา จิตฺตํ อฺาตุํ สมตฺโถ โหตี’’ติ วุตฺตปฺปโยชนํ สนฺธาย องฺคคณนาทิวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ยตฺตกํ อิจฺฉติ, ตตฺตกํ วฑฺเฒตพฺพานิ. เสสํ อสุภาทิ สพฺพํ ตํ กมฺมฏฺานํ ปโยชนาภาวา น วฑฺเฒตพฺพเมวาติ โยชนา.
๓๑๓๗. ตตฺถ เตสุ กมฺมฏฺาเนสุ ทส กสิณา จ ทส อสุภา จ กายคตาสติ, อานาปานสตีติ อิเม พาวีสติ กมฺมฏฺานานิ ปฏิภาคารมฺมณานีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘กสิณา’’ติอาทินา ตทารมฺมณานิ ฌานานิ คหิตานิ.
๓๑๓๘. ธาตุววตฺถนนฺติ ¶ จตุธาตุววตฺถานํ, คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ. วิฺาณฺจาติ วิฺาณฺจายตนํ. เนวสฺาติ เนวสฺานาสฺายตนํ. ทส ทฺเวติ ทฺวาทส. ภาวโคจราติ สภาวธมฺมโคจรา, ปรมตฺถธมฺมาลมฺพณาติ วุตฺตํ โหติ.
๓๑๓๙. ทฺเว จ อารุปฺปมานสาติ อากาสานฺจายตนอากิฺจฺายตนสงฺขาตา อรูปาวจรจิตฺตุปฺปาทา ทฺเว จ. ฉ อิเม ธมฺมา นวตฺตพฺพโคจรา นิทฺทิฏฺาติ โยชนา จตุนฺนํ อปฺปมฺานํ สตฺตปฺตฺติยา, ปมารุปฺปสฺส กสิณุคฺฆาฏิมากาสปฺตฺติยา, ตติยารุปฺปสฺส ปมารุปฺปวิฺาณาภาวปฺตฺติยา จ อารมฺมณตฺตา.
๓๑๔๐. ปฏิกฺกูลสฺาติ อาหาเรปฏิกฺกูลสฺา. กายคตาสตีติ ทฺวาทเสว ภูมิโต เทเวสุ กามาวจรเทเวสุ กุณปานํ, ปฏิกฺกูลารหสฺส จ อสมฺภวา น ปวตฺตนฺตีติ โยชนา.
๓๑๔๑. ตานิ ทฺวาทส จ. ภิยฺโยติ อธิกตฺเถ นิปาโต, ตโต อธิกํ อานาปานสติ จาติ เตรส รูปารูปโลเก อสฺสาสปสฺสาสานฺจ อภาวา สพฺพโส น ชายเรติ โยชนา.
๓๑๔๒. อรูปาวจเร ¶ อรูปภเว จตุโร อารุปฺเป เปตฺวา อฺเ ฉตฺตึส ธมฺมา รูปสมติกฺกมาภาวา น ชายนฺตีติ โยชนา. สพฺเพ สมจตฺตาลีส ธมฺมา มานุเส มนุสฺสโลเก สพฺเพสเมว ลพฺภมานตฺตา ชายนฺติ.
๓๑๔๓. จตุตฺถกสิณํ หิตฺวาติ วาโยกสิณํ ทิฏฺผุฏฺเน คเหตพฺพตฺตา ตํ วชฺเชตฺวา นว กสิณา จ ทส อสุภา จาติ เต เอกูนวีสติ ธมฺมา ทิฏฺเเนว จกฺขุวิฺาเณน ปุพฺพภาเค ปริกมฺมกาเล คเหตพฺพา ภวนฺตีติ ¶ โยชนา. ปุพฺพภาเค จกฺขุนา โอโลเกตฺวา ปริกมฺมํ กตํ, เตน อุคฺคหิตนิมิตฺตํ เตสํ คเหตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๓๑๔๔. ผุฏฺเนาติ นาสิกคฺเค, อุตฺตโรฏฺเ วา ผุฏฺวเสน. กายคตาสติยํ ตจปฺจกํ ทิฏฺเน คเหตพฺพํ. มาลุโตติ วาโยกสิณํ ทิฏฺผุฏฺเน คเหตพฺพํ อุจฺฉุสสฺสาทีนํ ปตฺเตสุ จลมานวณฺณคฺคหณมุเขน, กายปฺปสาทฆฏฺฏเนน จ คเหตพฺพตฺตา. เอตฺถ เอเตสุ กมฺมฏฺาเนสุ. เสสกนฺติ วุตฺตาวเสสํ. พุทฺธานุสฺสติอาทิกา อฏฺานุสฺสติโย, จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา, จตฺตาโร อารุปฺปา, อาหาเรปฏิกฺกูลสฺา, จตุธาตุววตฺถานํ, กายคตาสติยํ วกฺกปฺจกาทีนิ จาติ สพฺพเมตํ ปรโต สุตฺวา คเหตพฺพตฺตา สุเตเนว คเหตพฺพนฺติ วุตฺตํ.
๓๑๔๕. เอตฺถ เอเตสุ กมฺมฏฺาเนสุ อากาสกสิณํ เปตฺวา นว กสิณา ปมารุปฺปจิตฺตสฺส อารมฺมณภูตกสิณุคฺฆาฏิมากาสสฺส เหตุภาวโต ปจฺจยา ชายเร ปจฺจยา ภวนฺตีติ โยชนา.
๓๑๔๖. ทสปิ กสิณา อภิฺานํ ทิพฺพจกฺขุาณาทีนํ ปจฺจยา ภวนฺตีติ โยชนา. จตุตฺถสฺสาติ จตุตฺถสฺส พฺรหฺมวิหารสฺส.
๓๑๔๗. เหฏฺิมเหฏฺิมารุปฺปนฺติ อากาสานฺจายตนาทิกํ. ปรสฺส จ ปรสฺส จาติ วิฺาณฺจายตนาทิอุตฺตรชฺฌานสฺส ปจฺจโยติ ปกาสิตนฺติ โยชนา. เนวสฺาติ เนวสฺานาสฺายตนํ. นิโรธสฺสาติ สฺาเวทยิตนิโรธสฺส, ตาย นิโรธสมาปตฺติยา.
๓๑๔๘. สพฺเพติ ¶ สมจตฺตาลีสกมฺมฏฺานธมฺมา. สุขวิหารสฺสาติ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสฺส. ภวนิสฺสรณสฺส ¶ จาติ วิภวูปนิสฺสยตาย วิปสฺสนาปาทกตฺเตน อาสวกฺขยาเณน อธิคนฺตพฺพสฺส นิพฺพานสฺส จ. ภวสุขานฺจาติ ปริกมฺโมปจารภาวนาวสปฺปวตฺตานิ กามาวจรกุสลจิตฺตานิ กามสุคติภวสุขานํ, รูปาวจรปฺปนาวสปวตฺตานิ รูปาวจรจิตฺตานิ รูปาวจรภวสุขานํ, อิตรานิ อรูปาวจรภูตานิ อรูปาวจรภวสุขานฺจ ปจฺจยาติ ทีปิตา.
๓๑๔๙. ทส อสุภา, กายคตาสตีติ อิเม เอกาทส ราคจริตสฺส วิเสสโต อนุกูลา วิฺเยฺยาติ โยชนา. ‘‘วิเสสโต’’ติ อิมินา ราคสฺส อุชุวิปจฺจนีกภาเวน จ อติสปฺปายโต จ วุตฺโต, อิตเร จ อปฏิกฺขิตฺตาติ ทีเปติ. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘สพฺพฺเจตํ อุชุวิปจฺจนีกวเสน จ อติสปฺปายวเสน จ วุตฺตํ, ราคาทีนํ ปน อวิกฺขมฺภิกา, สทฺธาทีนํ วา อนุปการา กุสลภาวนา นาม นตฺถี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗).
๓๑๕๐. สวณฺณกสิณาติ จตูหิ วณฺณเกหิ กสิเณหิ สหิตา. จตสฺโส อปฺปมฺาโยติ อิเม อฏฺ โทสจริตสฺส อนุกูลาติ ปกาสิตาติ โยชนา.
๓๑๕๑. โมหปฺปกติโนติ โมหจริตสฺส. ‘‘อานาปานสติ เอกาวา’’ติ ปทจฺเฉโท.
๓๑๕๒. มรณูปสเมติ มรณฺจ อุปสโม จ มรณูปสมํ, ตสฺมึ มรณูปสเม. สตีติ มรณานุสฺสติ, อุปสมานุสฺสติ จาติ เอเต จตฺตาโร ธมฺมา. ปฺาปกติโนติ พุทฺธิจริตสฺส.
๓๑๕๓. อาทิอนุสฺสติจฺฉกฺกนฺติ ¶ พุทฺธธมฺมสงฺฆสีลจาคเทวตานุสฺสติสงฺขาตํ ฉกฺกํ. สทฺธาจริตวณฺณิตนฺติ สทฺธาจริตสฺส อนุกูลนฺติ กถิตํ. อารุปฺปาติ จตฺตาโร อารุปฺปา. เสสา กสิณาติ ภูตกสิณอาโลกากาสกสิณานํ วเสน ฉ กสิณาติ เสสา ทส ธมฺมา. สพฺพานุรูปกาติ สพฺเพสํ ฉนฺนํ จริยานํ อนุกูลาติ อตฺโถ.
๓๑๕๔-๘. เอวํ ยถานิกฺขิตฺตมาติกานุกฺกเมน กมฺมฏฺานปฺปเภทํ วิภาเวตฺวา อิทานิ ภาวนานยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. เอวํ ปเภทโต ตฺวา กมฺมฏฺานานีติ ยถาวุตฺตเภทนยมุเขน ¶ ภาวนามยารมฺภทสฺสนํ. ปณฺฑิโตติ ติเหตุกปฏิสนฺธิปฺาย ปฺวา ภพฺพปุคฺคโล. เตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เมธาวีติ ปาริหาริยปฺาย สมนฺนาคโต. ทฬฺหํ คเหตฺวานาติอาทิมชฺฌปริโยสาเน สุฏฺุ สลฺลกฺขนฺเตน ทฬฺหํ อฏฺึ กตฺวา สกฺกจฺจํ อุคฺคเหตฺวา. กลฺยาณมิตฺตโกติ –
‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย;
วตฺตา จ วจนกฺขโม;
คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา;
โน จฏฺาเน นิโยชโก’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๓๗; เนตฺติ. ๑๑๓) –
วุตฺตลกฺขณโก สีลสุตปฺาทิคุณสมนฺนาคตกลฺยาณมิตฺตโก.
ปมเมว ปลิโพธานํ อุจฺเฉทํ กตฺวาติ โยชนา. ปมนฺติ ภาวนารมฺภโต ปมเมว. ปลิโพธานํ อุจฺเฉทํ กตฺวาติ –
‘‘อาวาโส ¶ จ กุลํ ลาโภ;
คโณ กมฺมฺจ ปฺจมํ;
อทฺธานํ าติ อาพาโธ;
คนฺโถ อิทฺธีติ เต ทสา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) –
วุตฺตานํ ทสมหาปลิโพธานํ, ทีฆเกสนขโลมจฺเฉทนจีวรรชนปตฺตปจนาทีนํ ขุทฺทกปอโพธานฺจาติ อุภเยสํ ปลิโพธานํ อุจฺเฉทํ กตฺวา นิฏฺาปเนน วา อาลยปริจฺจาเคน วา อุจฺเฉทํ กตฺวา. อิทฺธิ ปเนตฺถ วิปสฺสนาย ปลิโพโธ โหติ, น สมาธิภาวนาย. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘อิทฺธีติ โปถุชฺชนิกา อิทฺธิ. สา หิ อุตฺตานเสยฺยกทารโก วิย, ตรุณสสฺสํ วิย จ ทุปฺปริหารา โหติ, อปฺปมตฺตเกเนว ภิชฺชติ. สา ปน วิปสฺสนาย ปลิโพโธ โหติ, น สมาธิสฺส สมาธึ ปตฺวา ปตฺตพฺพตฺตา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑).
โทสวชฺชิเต ¶ , อนุรูเป จ วิหาเร วสนฺเตนาติ โยชนา. โทสวชฺชิเตติ –
‘‘มหาวาสํ นวาวาสํ, ชราวาสฺจ ปนฺถนึ;
โสณฺฑึ ปณฺณฺจ ปุปฺผฺจ, ผลํ ปตฺถิตเมว จ.
‘‘นครํ ทารุนา เขตฺตํ, วิสภาเคน ปฏฺฏนํ;
ปจฺจนฺตสีมาสปฺปายํ, ยตฺถ มิตฺโต น ลพฺภติ.
‘‘อฏฺารเสตานิ านานิ, อิติ วิฺาย ปณฺฑิโต;
อารกา ปริวชฺเชยฺย, มคฺคํ ปฏิภยํ ยถา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๕๒) –
อฏฺกถาสุ วุตฺเตหิ อิเมหิ อฏฺารสหิ โทเสหิ คชฺชิเต.
อนุรูเป วสนฺเตนาติ –
‘‘อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เสนาสนํ นาติทูรํ โหติ นจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺนํ, ทิวา อปฺปากิณฺณํ, รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ, อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรเนว อุปฺปชฺชนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน เย เต ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ, ตสฺส เต อายสฺมนฺโต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานึ กโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขฏฺานีเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๑) –
เอวํ ภควตา วณฺณิเตหิ ปฺจหิ คุเณหิ สมนฺนาคตตฺตา อนุรูเป ภาวนากมฺมานุคุเณ วิหาเร วิหรนฺเตนาติ อตฺโถ. ปมาทีนีติ ปมทุติยาทีนิ รูปาวจรชฺฌานานิ. สพฺพโส ภาเวตฺวาติ วิสุทฺธิมคฺเค ¶ ‘‘สพฺพํ ภาวนาวิธานํ อปริหาเปนฺเตน ภาเวตพฺโพ’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) นิกฺขิตฺตสฺส มาติกาปทสฺส วิตฺถารกฺกเมน ภาเวตฺวา, จิตฺตวิสุทฺธึ สมฺปาเทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
สปฺปฺโติ กมฺมชติเหตุกปฏิสนฺธิปฺาย เจว กมฺมฏฺานมนสิการสปฺปายานิ ปริคฺคเหตฺวา อสปฺปายํ ปริวชฺเชตฺวา สปฺปายเสวโนปการาย ปาริหาริยปฺาย จ สมนฺนาคโต โยคาวจโร. ตโตติ เนวสฺานาสฺายตนวชฺชิตรูปารูปชฺฌานํ วิปสฺสนาปาทกภาเวน สมาปชฺชิตฺวา อฏฺนฺนํ วิปสฺสนาปาทกชฺฌานานมฺตรโต ฌานา วุฏฺาย. เตนาห วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘เปตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ ¶ อวเสสรูปารูปาวจรชฺฌานานํ อฺตรโต วุฏฺายา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๖๓).
นามรูปววตฺถานํ กตฺวาติ วิสุทฺธิมคฺเค ทิฏฺิวิสุทฺธินิทฺเทเส วุตฺตนเยน ปฺจกฺขนฺธาทิมุเขสุ ยถิจฺฉิเตน มุเขน ปวิสิตฺวา นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ‘‘อิทํ นามํ, อิทํ รูปํ, อิมมฺหา นามรูปโต พฺยติริตฺตํ อตฺตาทิ กิฺจิ วตฺตพฺพํ นตฺถี’’ติ นิฏฺํ คนฺตฺวา, อิมินา ทิฏฺิวิสุทฺธิ ทสฺสิตา.
กงฺขํ วิตีริยาติ ยถาทิฏฺนามรูปธมฺมานํ วิสุทฺธิมคฺเค กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๒.๖๗๘ อาทโย) วุตฺตนเยน ปฺจธา ปริคฺคเหตฺวา ‘‘น ตาวิทํ นามรูปํ อเหตุกํ, น อตฺตาทิเหตุก’’นฺติ ยาถาวโต นามรูปสฺส ปฺจธา ทสฺสเนน อทฺธตฺตยคตํ ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐; มหานิ. ๑๗๔) โสฬสวิธํ กงฺขํ, ‘‘สตฺถริ กงฺขตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ (ธ. ส. ๑๐๐๘) อฏฺวิธฺจ กงฺขํ วีริเยน ตริตฺวา ปชหิตฺวา, อิมินา กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ ทสฺสิตา โหติ.
เอวํ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิปฺผาทเนน าตปริฺาย ิโต โยคาวจโร สปฺปายํ นามรูปํ ลกฺขณตฺตยํ อาโรเปตฺวา กงฺขาวูปสมาเณน มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๒.๖๙๒ อาทโย) วุตฺตนเยน สงฺขาเร สมฺมสนฺโต โอภาโส, าณํ, ปีติ, ปสฺสทฺธิ, สุขํ, อธิโมกฺโข, ปคฺคโห, อุปฏฺานํ, อุเปกฺขา, นิกนฺตีติ ทสสุ อุปกฺกิเลเสสุ ปาตุภูเตสุ ตถา ปาตุภูเต โอภาสาทโย ทส อุปกฺกิเลเส ‘‘อมคฺโค’’ติ มคฺควีถิปฏิปนฺนํ วิปสฺสนาาณเมว ‘‘มคฺโค’’ติ ¶ ปณฺฑิโต ปฺวา โยคาวจโร ชานาตีติ อตฺโถ, อิมินา มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ สงฺเขปโต ทสฺสิตา โหติ.
๓๑๕๙. เอตฺตาวตา ¶ เตสํ ติณฺณํ ววตฺถาเนติ โยชนา. เอตฺตาวตาติ ‘‘นามรูปววตฺถานํ กตฺวา’’ติอาทินา สงฺเขปโต ทสฺสิตนเยน. เตสํ ติณฺณนฺติ ทิฏฺิวิสุทฺธิ, กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ, มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธีติ ตีหิ วิสุทฺธีหิ สกสกวิปสฺสนานํ นามรูปตปฺปจฺจยมคฺคามคฺคานํ ติณฺณํ. ววตฺถาเน กเต นิยเม กเต. ติณฺณํ สจฺจานนฺติ ทุกฺขสมุทยมคฺคสงฺขอาตานํ ติณฺณํ สจฺจานํ. ววตฺถานํ กตํ สิยาติ าตตีรณปริฺาสงฺขาเตน โลกิเยเนว าเณน อนุโพธวเสน นิจฺฉโย กโต โหตีติ อตฺโถ. กถํ? นามรูปววตฺถานสงฺขาเตน ทิฏฺิวิสุทฺธิาเณน ทุกฺขสจฺจววตฺถานํ กตํ โหติ, ปจฺจยปริคฺคหสงฺขาเตน กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิาเณน สมุทยสจฺจววตฺถานํ, มคฺคามคฺคววตฺถานสงฺขาเตน มคฺคามคฺคาณทสฺสเนน มคฺคสจฺจววตฺถานํ.
๓๑๖๐-๑. เอวํ าตตีรณปริฺาทฺวยํ สงฺเขปโต ทสฺเสตฺวา ปหานปริฺาย สรีรภูตานิ นว าณานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุทยพฺพยา’’ติอาทิ. ตตฺถ อุทยพฺพยาติ อุปฺปาทภงฺคานุปสฺสนาวสปฺปวตฺตา อุตฺตรปทโลเปน ‘‘อุทยพฺพยา’’ติ วุตฺตา. ตตฺถ อุทยํ มฺุจิตฺวา วเย วา ปวตฺตา ภงฺคานุปสฺสนา ‘‘ภงฺคา’’ติ วุตฺตา. ภยฺจ อาทีนโว จ นิพฺพิทา จ ภยาทีนวนิพฺพิทา, สงฺขารานํ ภยโต อนุปสฺสนวเสน ปวตฺตา ภยานุปสฺสนา จ ทิฏฺภยานํ อาทีนวโต เปกฺขนวเสน ปวตฺตา อาทีนวานุปสฺสนา จ ทิฏฺาทีนเวสุ นิพฺเพทวเสน ปวตฺตา นิพฺพิทานุปสฺสนา จ ตถา วุตฺตา. นิพฺพินฺทิตฺวา สงฺขาเรหิ มุจฺจิตุกามตาวเสเนว ปวตฺตํ าณํ มุจฺจิตุกามตาาณํ. มุจฺจนสฺส อุปายสมฺปฏิปาทนตฺถํ ปุน สงฺขารตฺตยปฏิคฺคหวสปวตฺตํ าณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา.
สงฺขารธมฺเม ภยนนฺทิวิวชฺชนวเสน อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ปวตฺตาณํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ, สจฺจานุโลโม ตทธิคมาย เอกนฺตปจฺจโย ¶ โหตีติ ‘‘สจฺจานุโลมิก’’นฺติ จ กลาปสมฺมสนาณาทีนํ ปุริมานํ นวนฺนํ กิจฺจนิปฺผตฺติยา, อุปริ จ สตฺตตึสาย โพธิปกฺขิยธมฺมานฺจ อนุโลมนโต ‘‘อนุโลมาณ’’นฺติ จ วุตฺตํ นวมํ าณฺจาติ ยา นวานุปุพฺพวิปสฺสนาสงฺขาตา ปหานปริฺา ทสฺสิตา, อยํ ‘‘ปฏิปทาาณทสฺสน’’นฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
๓๑๖๒. ตโต ¶ อนุโลมาณโต ปรํ มคฺคสฺส อาวชฺชนฏฺานิยํ หุตฺวา นิพฺพานมาลมฺพิตฺวา อุปฺปนฺนสฺส ปุถุชฺชนโคตฺตสฺส อภิภวนโต, อริยโคตฺตสฺส ภาวนโต วฑฺฒนโต จ ‘‘โคตฺรภู’’ติ สงฺขํ คตสฺส จิตฺตสฺส สมนนฺตรเมว จ. สนฺติมารมฺมณํ กตฺวาติ สพฺพกิเลสทรถานฺจ สงฺขารทุกฺขคฺคิโน จ วูปสมนิมิตฺตตฺตา ‘‘สนฺติ’’นฺติ สงฺขาตํ นิโรธมาลมฺพิตฺวา. าณทสฺสนนฺติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปริฺาภิสมยาทิวเสน ชานนฏฺเน าณํ, จกฺขุนา วิย ปจฺจกฺขโต ทสฺสนฏฺเน ทสฺสนนฺติ สงฺขํ คตํ โสตาปตฺติมคฺคาณสงฺขาตํ สตฺตมวิสุทฺธิาณํ ชายเต อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ.
๓๑๖๓. ปจฺจเวกฺขณปริยนฺตนฺติ ปจฺจเวกฺขณชวนปริโยสานํ. ตสฺสาติ าณทสฺสนสงฺขาตสฺส โสตาปตฺติมคฺคสฺส. ผลนฺติ ผลจิตฺตํ อนุ ปจฺฉา มคฺคานนฺตรํ หุตฺวา ชายเต.
เอตฺถ ‘‘ปจฺจเวกฺขณปริยนฺต’’นฺติ อิทํ ‘‘ผล’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ, กิริยาวิเสสนํ วา, ปจฺจเวกฺขณชวนํ มริยาทํ กตฺวาติ อตฺโถ. มคฺคานนฺตรํ ผเล ทฺวิกฺขตฺตุํ, ติกฺขตฺตุํ วา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ ตทนนฺตรเมว ภวงฺคํ โหติ, ภวงฺคํ อาวฏฺเฏตฺวา ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ มคฺคมาลมฺพิตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ, ตโต ปจฺจเวกฺขณชวนานิ. เอวํ ผลจิตฺตํ ภวงฺคปริยนฺตเมว โหติ, น ปจฺจเวกฺขณปริยนฺตํ. ตถาปิ อฺเน ชวเนน อนนฺตริกํ ¶ หุตฺวา ผลชวนานมนนฺตรํ ปจฺจเวกฺขณชวนเมว ปวตฺตตีติ ทสฺสนตฺถํ ผลปจฺจเวกฺขณชวนานนฺตเร อุปฺปนฺนานิ ภวงฺคาวชฺชนานิ อพฺโพหาริกานิ กตฺวา ‘‘ปจฺจเวกฺขณปริยนฺตํ, ผลํ ตสฺสานุชายเต’’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
ปจฺจเวกฺขณฺจ มคฺคผลนิพฺพานปหีนกิเลสอวสิฏฺกิเลสานํ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปฺจวิธํ โหติ. เตสุ เอเกกํ เอเกเกน ชวนวาเรน ปจฺจเวกฺขตีติ ปฺจ ปจฺจเวกฺขณชวนวารานิ โหนฺติ. ตานิ ปจฺจเวกฺขณคฺคหเณน สามฺโต ทสฺสิตานีติ ทฏฺพฺพานิ.
๓๑๖๔. เตเนว จ อุปาเยนาติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาทิวิปสฺสนานํ ปมํ มคฺโค อธิคโต, เตเนว อุปาเยน. โส ภิกฺขูติ โส โยคาวจโร ภิกฺขุ. ปุนปฺปุนํ ภาเวนฺโตติ ปุนปฺปุนํ ¶ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา. ยถา ปมมคฺคผลานิ ปตฺโต, ตถา. เสสมคฺคผลานิ จาติ ทุติยาทิมคฺคผลานิ จ ปาปุณาติ.
๓๑๖๕. อิจฺเจวํ ยถาวุตฺตนเยน อุปฺปาทวยนฺตาตีตกตฺตา อจฺจนฺตํ อมตํ ธมฺมํ อเวจฺจ ปฏิวิชฺฌิตฺวา อเสสํ อกุสลํ วิทฺธํสยิตฺวา สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปชหิตฺวา ตโย ภเว กามภวาทีสุ ตีสุ ภเวสุ นิกนฺติยา โสสนวเสน ตโย ภเว วิเสเสน โสสยิตฺวา โส อคฺคทกฺขิเณยฺโย ขีณาสโว ภิกฺขุ ปมํ กิเลสปรินิพฺพาเน โสสิตวิปากกฺขนฺธกฏตฺตารูปสงฺขาตอุปาทิเสสรหิตตฺตา นิรุปาทิเสสํ นิพฺพานธาตุํ อุเปติ อธิคจฺฉตีติ โยชนา.
อิจฺเจวํ สงฺเขปโต กมฺมฏฺานภาวนานโย อาจริเยน ทสฺสิโตติ คนฺถภีรุชนานุคฺคหวเสน วิตฺถารวณฺณนํ อนามสิตฺวา ¶ อนุปทวณฺณนามตฺตเมเวตฺถ กตํ. วิตฺถารวณฺณนา ปนสฺส วิสุทฺธิมคฺคโต, ตพฺพณฺณนโต จ คเหตพฺพา.
๓๑๖๖-๗. วิฺาสกฺกมโต วาปีติ อกฺขรปทวากฺยสงฺขาตคนฺถรจนกฺกมโต วา. ปุพฺพาปรวเสน วาติ วตฺตพฺพานมตฺถวิเสสานํ ปฏิปาฏิวเสน วา. อกฺขรพนฺเธ วาติ สทฺทสตฺถอลงฺการสตฺถฉนฺโทวิจิติสตฺถานุปาเตน กาตพฺพาย อกฺขรปทรจนาย, คาถาพนฺเธติ อตฺโถ. อยุตฺตํ วิย ยทิ ทิสฺสตีติ โยชนา.
ตนฺติ ตํ ‘‘อยุตฺต’’นฺติ ทิสฺสมานฏฺานํ. ตถา น คเหตพฺพนฺติ ทิสฺสมานากาเรเนว อยุตฺตนฺติ น คเหตพฺพํ. กถํ คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘คเหตพฺพมโทสโต’’ติ. ตสฺส การณมาห ‘‘มยา อุปปริกฺขิตฺวา, กตตฺตา ปน สพฺพโส’’ติ. โย โย ปเนตฺถ โทโส ทิสฺสติ ขิตฺตโทโส วา โหตุ วิปลฺลาสคฺคหณโทโส วา, นาปรํ โทโสติ ทีเปติ. เตเนตํ ปกรณํ สพฺเพสํ ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภทายตนพหุสฺสุตานํ สิกฺขากามานํ เถรานํ อตฺตโน ปมาณภูตตํ สูเจติ. อตฺตโน ปมาณสูจเนน อตฺตนา วิรจิตสฺส วินยวินิจฺฉยสฺสาปิ ปมาณตํ วิภาเวนฺโต ตสฺส สวนุคฺคหธารณาทีสุ โสตุชนํ นิโยเชตีติ ทฏฺพฺพํ.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
กมฺมฏฺานภาวนาวิธานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนกถาวณฺณนา
๓๑๖๘-๗๘. เอวํ ¶ ¶ ‘‘วินโย สํวรตฺถาย, สํวโร อวิปฺปฏิสารตฺถาย, อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชตฺถาย, ปาโมชฺชํ ปีตตฺถาย, ปีติ ปสฺสทฺธตฺถาย, ปสฺสทฺธิ สุขตฺถาย, สุขํ สมาธตฺถาย, สมาธิ ยถาภูตาณทสฺสนตฺถาย, ยถาภูตาณทสฺสนํ นิพฺพิทตฺถาย, นิพฺพิทา วิราคตฺถาย, วิราโค วิมุตฺตตฺถาย, วิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนตฺถาย, วิมุตฺติาณทสฺสนํ อนุปาทาปอนิพฺพานตฺถายา’’ติ (ปริ. ๓๖๕) ทสฺสิตานิสํสปรมฺปรานิทฺธารณมุเขน อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุปริยนฺตํ สานิสํสํ วินยกถํ กเถตฺวา ตสฺสา ปมาณตฺจ วิภาเวตฺวา อตฺตโน สุตพุทฺธตฺตา ‘‘สนิทานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสมี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๒๖; กถา. ๘๐๖) วจนโต ภควโต จริตมนุวตฺตนฺโต ตสฺส เทสกาลาทิวเสน นิทานํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เสฏฺสฺสา’’ติอาทิ.
ตตฺถ เสฏฺสฺสาติ ธนธฺวตฺถาลงฺการาทิอุปโภคปริโภคสมฺปตฺติยา เจว คามราชธานิเขตฺตวตฺถุนทิตฬาการามาทิสมฺปตฺติยา จ ปสตฺถตรสฺส. นาภิภูเตติ มชฺฌวตฺติตาย นาภิสทิเส. นิรากุเลติ มชฺฌวตฺติตาเยว ปริมณฺฑลาทิสมฺภวโต วิโลปาทิอากุลรหิเต. สพฺพสฺส ปน โลกสฺส รามณียเก สมฺปิณฺฑิเต วิย รมณียตเร ภูตมงฺคเล คาเมติ สมฺพนฺโธ.
ปุนปิ กึวิสิฏฺเติ อาห ‘‘กทลี’’ติอาทิ. กทลี จ สาลฺจ ตาลฺจ อุจฺฉุ จ นาฬิเกรา จ กทลี…เป… นาฬิเกรา, เตสํ วนานิ กทลี…เป… นาฬิเกรวนานิ, เตหิ อากุเล อากิณฺเณติ อตฺโถ. กมลานิ จ อุปฺปลานิ จ กมลุปฺปลานิ, เตหิ สฺฉนฺนา กมลุปฺปลสฺฉนฺนา, สลิลสฺส อาสยา สลิลาสยา, กมลุปฺปลสฺฉนฺนา จ ¶ เต สลิลาสยา จาติ กมล…เป… สลิลาสยา, เตหิ โสภิโต กมลุปฺปลสฺฉนฺนสลิลาสยโสภิโต, ตสฺมึ.
กาเวริยา ชลํ กาเวริชลํ, กาเวริชลสฺส สมฺปาโต ปวตฺตนํ กาเวริชลสมฺปาโต, เตน ปริ สมนฺตโต ภูตํ ปวตฺติตํ มหีตลํ เอตสฺสาติ กาเวริชลสมฺปาตปริภูตมหีตโล, ตสฺมึ. อิทฺเธติ นานาสมฺปตฺติยา สมิทฺเธ. สพฺพงฺคสมฺปนฺเนติ สพฺพสุโขปกรณสมฺปนฺเน. มงฺคเลติ ชนานํ อิทฺธิวุทฺธิการณภูเต. ภูตมงฺคเลติ เอวํนามเก คาเม.
ปวโร ¶ ติรตารีณตลาทิคเณหิ กุลาจลจกฺกโภคินา โภควลยสีทนฺตรสาคราทิ อากาโร เอตาสนฺติ ปวราการา, ปาการา จ ปริขา จ ปาการปริขา, ปวราการา จ ตา ปาการปริขา จาติ ปวราการปาการปริขา, ตาหิ ปริวาริโต ปวราการปาการปริขาปริวาริโต, ตสฺมึ. ทสฺสนีเยติ ทสฺสนารเห. มโน รมติ เอตฺถาติ มโนรโม, ตสฺมึ.
ตีรสฺส อนฺโต ตีรนฺโต, ตีรเมว วา อนฺโต ตีรนฺโต, โปกฺขรณิโสพฺภอุทกวาหกปริขาทีนํ กูลปฺปเทโส, ตีรนฺเต รุหึสุ ชายึสูติ ตีรนฺตรุหา, ตีรนฺตรุหา จ เต พหุตฺตา อตีรา อปริจฺเฉทา จาติ ตีรนฺตรุหวาตีรา. ว-กาโร สนฺธิโช, ตรูนํ ราชาโน ตรุราชาโน, ตีรนฺตรุหวาตีรา จ เต ตรุราชาโน จาติ ตีรนฺตรุหวาตีรตรุราชาโน, เตหิ วิราชิโต ตีรนฺต…เป… วิราชิโต, ตสฺมึ, ปุปฺผูปคผลูปคฉายูปเคหิ มหารุกฺเขหิ ปฏิมณฺฑิเตติ อตฺโถ. ‘‘ตีรนฺตรุหวานตรุราชิวิราชิเต’’ติ วา ปาโ, ตีรนฺตรุหานํ วานตรูนํ เวตรูปรุกฺขานํ ราชีหิ ปนฺตีหิ ปฏิมณฺฑิเตติ ¶ อตฺโถ. ทิชานํ คณา ทิชคณา, นานา จ เต ทิชคณา จาติ นานาทิชคณา, เต ตโต ตโต อาคนฺตฺวา รมนฺติ เอตฺถาติ นานาทิชคณาราโม, ตสฺมึ, สุกโกกิลมยูราทิสกุณานํ อาคนฺตฺวา รมนฏฺานภูเตติ อตฺโถ. นานารามมโนรเมติ นานา อเนเก อารามา ปุปฺผผลารามา นานารามา, เตหิ มโนรโมติ นานารามมโนรโม, ตสฺมึ.
จารู จ เต ปงฺกชา จาติ จารุปงฺกชา, กมลุปฺปลกุมุทาทโย, จารุปงฺกเชหิ สํกิณฺณา สฺฉนฺนา จารุปงฺกชสํกิณฺณา, จารุปงฺกชสํกิณฺณา จ เต ตฬากา เจติ จารุปงฺกชสํกิณฺณตฬากา, เตหิ สมลงฺกโต วิภูสิโต จารุ…เป… สมลงฺกโต, ตสฺมึ. สุนฺทโร มธุโร รโส อสฺสาติ สุรสํ, สุรสฺจ ตํ อุทกฺจาติ สุรโสทกํ, สุรโสทเกน สมฺปุณฺณา สุรโสทกสมฺปุณฺณา, วรา จ เต กูปา จาติ วรกูปา, สุรโสทกสมฺปุณฺณา จ เต วรกูปา เจติ สุรโสทกสมฺปุณฺณวรกูปา, เตหิ อุปโสภิโต สุรโส…เป… กูปโสภิโต, ตสฺมึ.
วิเสเสน จิตฺราติ วิจิตฺรา, วิจิตฺรา จ เต วิปุลา จาติ วิจิตฺรวิปุลา, วิจิตฺรวิปุลา จ เต มณฺฑปา จาติ…เป… มณฺฑปา, อติสเยน อุคฺคตา อจฺจุคฺคตา, อจฺจุคฺคตา จ เต วรมณฺฑปา จาติ อจฺจุคฺควรมณฺฑปา, คาถาพนฺธวเสน วณฺณโลโป, วิจิตฺรวิปุลา ¶ จ เต อจฺจุคฺควรมณฺฑปา จาติ วิจิตฺรวิปุลอจฺจุคฺควรมณฺฑปา, เตหิ มณฺฑิโต วิภูสิโต วิจิตฺร…เป… มณฺฑิโต, ตสฺมึ. มณฺฑํ สูริยรสฺมึ ปาติ รกฺขตีติ มณฺฑโป. ตโต ตโต อาคมฺม วสนฺติ เอตฺถาติ อาวาโส, ปาสาทหมฺมิยมาฬาทโย. อเนเกหีติ พหูหิ. อจฺจนฺตนฺติ อติสเยน.
ธรณีตลํ ¶ เภตฺวา อุคฺคเตน วิย, ขรํ ผรุสํ เกลาสสิขรํ ชิตฺวา อวหสนฺเตน วิย ถูเปน จ อุปโสภิเต วิหาเรติ โยชนา.
อมฺพุํ ททาตีติ อมฺพุโท, สรเท อมฺพุโท สรทมฺพุโท, ถุลฺลนตมหนฺตภาวสามฺเน สรทมฺพุเทน สงฺกาโส สรทมฺพุทสงฺกาโส, ตสฺมึ. สมฺมา อุสฺสิโต อุคฺคโตติ สมุสฺสิโต, ตสฺมึ. โอโลเกนฺตานํ, วสนฺตานฺจ ปสาทํ จิตฺตสฺส โตสํ ชเนตีติ ปสาทชนนํ, ตสฺมึ. เอตฺตาวตา วินยวินิจฺฉยกถาย ปวตฺติตเทสํ ทสฺเสติ, ‘‘วสตา มยา’’ติ กตฺตารํ.
เทวทตฺตจิฺจมาณวิกาทีหิ กตาปราธสฺส, สีตุณฺหาทิปริสฺสยสฺส จ สหนโต, สสนฺตานคตกิเลสาทีนํ หนนโต จ สีโห วิยาติ สีโห, พุทฺโธ จ โส สีโห จาติ พุทฺธสีโห. เสฏฺปริยาโย วา สีห-สทฺโท, พุทฺธเสฏฺเนาติ อตฺโถ. วุตฺตสฺสาติ เทสิตสฺส. วินยสฺส วินยปิฏกสฺส. วินิจฺฉโยติ ปาาคโต เจว อฏฺกถาคโต จ อาจริยปรมฺปราภโต จ วินิจฺฉโย. พุทฺธสีหนฺติ เอวํนามกํ มหาเถรํ. สมุทฺทิสฺสาติ อุทฺทิสิตฺวา, เตน กตอายาจนํ ปฏิจฺจาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา พาหิรนิมิตฺตํ ทสฺสิตํ.
อยํ วินิจฺฉโย มม สทฺธิวิหาริกํ พุทฺธสีหํ สมุทฺทิสฺส ภิกฺขูนํ หิตตฺถาย สมาสโต วรปาสาเท วสตา มยา กโตติ โยชนา.
กิมตฺถายาติ อาห ‘‘วินยสฺสาวโพธตฺถํ, สุเขเนวาจิเรน จา’’ติ, อนุปาทิเสเสน นิพฺพานปริยนฺตานิสํสสฺส วินยปิฏกสฺส ปกรณสฺส คนฺถวเสน สมาเสตฺวา อตฺถวเสน สุฏฺุ วินิจฺฉิตตฺตา สุเขน เจว อจิเรน ¶ จ อวโพธนตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. ภิกฺขูนนฺติ ปธานนิทสฺสนํ, เอกเสสนิทฺเทโส วา เหฏฺา –
‘‘ภิกฺขูนํ ¶ ภิกฺขุนีนฺจ หิตตฺถาย สมาหิโต. ปวกฺขามี’’ติ (วิ. วิ. คนฺถารมฺภกถา ๒) –
อารทฺธตฺตา. อิมินา ปโยชนํ ทสฺสิตํ.
๓๑๗๙. เอวํ เทสกตฺตุนิมิตฺตปโยชนานิ ทสฺเสตฺวา กาลนิยมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อจฺจุตา’’ติอาทิ. วิกฺกมนํ วิกฺกนฺโต, วิกฺกโมติ อตฺโถ. อจฺจุตํ เกนจิ อนภิภูตํ, ตฺจ ตํ วิกฺกนฺตฺจาติ อจฺจุตวิกฺกนฺตํ, อจฺจุตสฺส นารายนสฺส วิย อจฺจุตวิกฺกนฺตํ เอตสฺสาติ อจฺจุตจฺจุตวิกฺกนฺโต. โก โส? ราชา, ตสฺมึ. กลมฺภกุลํ นนฺทยตีติ กลมฺภกุลนนฺทโน, ตสฺมึ. อิมินา ตสฺส กุลวํโส นิทสฺสิโต. กลมฺภกุลวํสชาเต อจฺจุตจฺจุตวิกฺกนฺตนาเม โจฬราชินิ มหึ โจฬรฏฺํ สมนุสาสนฺเต สมฺมา อนุสาสนฺเต สติ ตสฺมึ โจฬราชินิ รชฺชํ กาเรนฺเต สติ อยํ วินิจฺฉโย มยา อารทฺโธ เจว สมาปิโต จาติ. อิมินา กาลํ นิทสฺเสติ.
๓๑๘๐. อิทานิ อิมํ วินยวินิจฺฉยปฺปกรณํ กโรนฺเตน อตฺตโน ปฺุสมฺปทํ สกลโลกหิตตฺถาย ปริณาเมนฺโต อาห ‘‘ยถา’’ติอาทิ. อยํ วินยวินิจฺฉโย อนฺตรายํ วินา ยถา สิทฺธึ นิปฺผตฺตึ ปตฺโต, ตถา สตฺตานํ ธมฺมสํยุตา กุสลนิสฺสิตา สงฺกปฺปา จิตฺตุปฺปาทา, อธิปฺเปตตฺถา วา สพฺเพ อนฺตรายํ วินา สิชฺฌนฺตุ นิปฺปชฺชนฺตูติ โยชนา.
๓๑๘๑. เตเนว ปฺุปฺผลภาเวน สกลโลกหิเตกเหตุโน ภควโต สาสนสฺส จิรฏฺิติมาสีสนฺโต อาห ‘‘ยาว ติฏฺตี’’ติอาทิ. ‘‘มนฺทาโร’’ติ วุจฺจติ ¶ สีตสินิทฺธเอกปพฺพตราชา. กํ วุจฺจติ อุทกํ, เตน ทาริโต นิคฺคมปฺปเทโส ‘‘กนฺทโร’’ติ วุจฺจติ. สีตสินิทฺธวิปุลปุลินตเลหิ, สนฺทมานสาตสีตลปสนฺนสลิเลหิ, กีฬมานนานปฺปการมจฺฉคุมฺเพหิ, อุภยตีรปุปฺผผลปลฺลวาลงฺกตตรุลตาวเนหิ, กูชมานสุกสาลิกกโอกิลมยูรหํสาทิสกุนฺตาภิรุเตหิ, ตตฺถ ตตฺถ ปริภมนฺตภมรามวชฺชาหิ จ จารุ มนฺุา กนฺทรา เอตสฺสาติ จารุกนฺทโร. กลิ วุจฺจติ อปราโธ, ตํ สาสติ หึสติ อปเนตีติ กลิสาสนํ. ‘‘กลุสาสน’’นฺติ วา ปาโ. กลุสํ วุจฺจติ ปาปํ, ตํ อสติ วิกฺขิปติ ทูรมุสฺสารยตีติ กลุสาสนํ, ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธสงฺขาตํ ติวิธสาสนํ.
๓๑๘๒. เอวํ ¶ โอกสฺส ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถหิตสาธกสฺส สาสนสฺส จิรฏฺิตึ ปตฺเถตฺวา เตเนว ปฺุกมฺมานุภาเวน โลกสฺส ทิฏฺธมฺมิกตฺถเหตุมาสีสนฺโต อาห ‘‘กาเล’’ติอาทิ. กาเลติ สสฺสสมิทฺธีนํ อนุรูเป กาเล. สมฺมา ปวสฺสนฺตูติ อวุฏฺิอติวุฏฺิโทสรหิตา ยถา สสฺสาทีนิ สมฺปชฺชนฺติ, ตถา วสฺสํ วุฏฺิธารํ ปวสฺสนฺตูติ อตฺโถ. วสฺสวลาหกาติ วสฺสวลาหกาธิฏฺิตา ปชฺชุนฺนเทวปุตฺตา. มหีปาลาติ ราชาโน. ธมฺมโตติ ทสราชธมฺมโต. สกลํ มหินฺติ ปถวินิสฺสิตสพฺพชนกายํ.
๓๑๘๓. เอวํ สพฺพโลกสฺส โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺติสาธนตฺถาย อตฺตโน ปฺุปริณามํ กตฺวา อิทานิ วิทิตโลกุตฺตรสมฺปตฺตินิปฺผาทนวเสเนว ปฺุปริณามํ กโรนฺโต อาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ. อิมินา อตฺตโน วิรจิตํ ปจฺจกฺขํ วินิจฺฉยมาห. สารภูตนฺติ สีลสาราทิติวิธสิกฺขาสารสฺส ปกาสนโต หตฺถสารมิว ภูตํ. หิตนฺติ ตทตฺเถ ปฏิปชฺชนฺตานํ อนุปาทิเสสนิพฺพานาวสานสฺส หิตสฺส อาวหนโต, สํสารทุกฺขสฺส จ วูปสมนโต ¶ อมโตสธํ วิย หิตํ. อตฺถยุตฺตนฺติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถานํ วินยนาทีหิ ยุตฺตตฺตา อตฺถยุตฺตํ. กโรนฺเตนาติ รจยนฺเตน มยา. ยํ ปฺุํ ปตฺตนฺติ การกํ ปุนาตีติ ปฺุํ, ปุชฺชภวผลนิปฺผาทนโต วา ‘‘ปฺุ’’นฺติ สงฺขํ คตํ ยํ กุสลกมฺมํ อปริเมยฺยภวปริยนฺตํ ปสุตํ อธิคตํ. เตน ปฺุเน เหตุภูเตน. อยํ โลโกติ อยํ สกโลปิ สตฺตโลโก. มุนินฺทปฺปยาตนฺติ มุนินฺเทน สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺปตฺตํ. วีตโสกนฺติ วิคตโสกํ. โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสอุปายาสาทีหิ วิคตตฺตา, เตสํ นิกฺกมนนิมิตฺตตฺตา จ อปคตโสกาทิสํสารทุกฺขํ. สิวํ ปุรํ นิพฺพานปุรํ ปาปุณาตุ สจฺฉิกโรตุ, กิเลสปรินิพฺพาเนน, อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา จ ปรินิพฺพาตูติ วุตฺตํ โหติ.
อิติ ตมฺพปณฺณิเยนาติอาทิ ปกรณการกสฺส ปภวสุทฺธิพาหุสจฺจาทิคุณมุเขน ปกรเณ คารวํ ชเนตุกาเมน เอตสฺส สิสฺเสน ปิตํ วากฺยํ.
ตตฺถ ตมฺพปณฺณิเยนาติ ตมฺพปณฺณิมฺหิ ชาโต, ตตฺถ วิทิโต, ตโต อาคโตติ วา ตมฺพปณฺณิโย, เตน. พฺยากรณมเวจฺจ อธีตวาติ เวยฺยากรโณ, ปรโม จ อุตฺตโม จ โส เวยฺยากรโณ จาติ ปรมเวยฺยากรโณ, เตน. ตีณิ ปิฏกานิ สมาหฏานิ, ติณฺณํ ปิฏกานํ สมาหาโร วา ติปิฏกํ, นียนฺติ พุชฺฌียนฺติ เสยฺยตฺถิเกหีติ นยา, นยนฺติ วา เอเตหิ โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺตึ ¶ วิเสเสนาติ นยา, ปาฬินยอตฺถนยเอกตฺตนยาทโยว, ติปิฏเก อาคตา นยา ติปิฏกนยา, วิธานํ ปสาสนํ, ปวตฺตนํ วา วิธิ, ติปิฏกนยานํ วิธิ ติปิฏกนยวิธิ, ติปิฏกนยวิธิมฺหิ กุสโล ติปิฏกนยวิธิกุสโล, เตน.
ปรมา ¶ จ เต กวิชนา จาติ ปรมกวิชนา, ปรมกวิชนานํ หทยานิ ปรมกวิชนหทยานิ, ปทุมานํ วนานิ ปทุมวนานิ, ปรมกวิชนหทยานิ จ ตานิ ปทุมวนานิ จาติ ปรมกวิชนหทยปทุมวนานิ, เตสํ วิกสนํ โพธํ สูริโย วิย กโรตีติ ปรมกวิชนหทยปทุมวนวิกสนกโร, เตน. กวี จ เต วรา จาติ กวิวรา, กวีนํ วราติ วา กวิวรา, กวิวรานํ วสโภ อุตฺตโม กวิวรวสโภ, เตน, กวิราชราเชนาติ อตฺโถ.
ปรมา จ สา รติ จาติ ปรมรติ, ปรมรตึ กโรนฺตีติ ปรมรติกรานิ, วรานิ จ ตานิ มธุรานิ จาติ วรมธุรานิ, วรมธุรานิ จ ตานิ วจนานิ จาติ วรมธุรวจนานิ, ปรมรติกรานิ จ ตานิ วรมธุรวจนานิ จาติ ปรมรติกรวรมธุรวจนานิ, อุคฺคิรณํ กถนํ อุคฺคาโร, ปรมรติกรวรมธุรวจนานํ อุคฺคาโร เอตสฺสาติ ปรม…เป… วจนุคฺคาโร, เตน. อุรคปุรํ ปรมปเวณิคาโม อสฺส นิวาโสติ อุรคปุโร, เตน. พุทฺธทตฺเตนาติ เอวํนามเกน เถเรน, อาจริยพุทฺธทตฺตตฺเถเรนาติ อตฺโถ. อยํ วินยวินิจฺฉโย รจิโตติ สมฺพนฺโธ.
นิฏฺิตา จายํ วินยตฺถสารสนฺทีปนี นาม
วินยวินิจฺฉยวณฺณนา.
วินยวินิจฺฉย-ฏีกา สมตฺตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
อุตฺตรวินิจฺฉย-ฏีกา
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา
(ก)
เทวาติเทวํ ¶ ¶ สุคตํ, เทวพฺรหฺมินฺทวนฺทิตํ;
ธมฺมฺจ วฏฺฏุปจฺเฉทํ, นตฺวา วฏฺฏาติตํ คณํ.
(ข)
วนฺทนามยปฺุเน, กมฺเมน รตนตฺตเย;
เฉตฺวา อุปทฺทเว สพฺเพ, อารภิสฺสํ สมาหิโต.
(ค)
เถเรน พุทฺธทตฺเตน, รจิตสฺส สมาสโต;
สํวณฺณนมสํกิณฺณํ, อุตฺตรสฺส ยถาพลํ.
๑. อถายมาจริโย อตฺตโน วิรจิเต วินเย ตสฺสุปนิสฺสเย วินยปิฏเก จ ภิกฺขูนํ นานปฺปการโกสลฺลชนนตฺถํ ปริวารฏฺกถายฺจ อาคตวินิจฺฉยํ สงฺคเหตฺวา อุตฺตรปกรณํ วณฺณยิตุกาโม ¶ ปมํ ตาว อนฺตรายนิวารเณน ยถาธิปฺเปตสาธนตฺถํ รตนตฺตยํ วนฺทนฺโต อาห ‘‘สพฺพสตฺตุตฺตม’’นฺติอาทิ.
ปกรณารมฺเภ รตนตฺตยวนฺทนาปโยชนํ ตตฺถ ตตฺถาจริเยหิ พหุธา ปปฺจิตํ, อมฺเหหิ จ วินยวินิจฺฉยวณฺณนายํ สมาสโต ทสฺสิตนฺติ น ตํ อิธ วณฺณยิสฺสาม. ปกรณาภิเธยฺย กรณปฺปการปโยชนานิปิ ¶ ตตฺถ ทสฺสิตนยานุสาเรน อิธาปิ เวทิตพฺพานิ. สมฺพนฺธาทิทสฺสนมุเขน อนุตฺตานปทวณฺณนเมเวตฺถ กริสฺสามิ.
ชินํ, ธมฺมฺจ, คณฺจ วนฺทิตฺวา อุตฺตรํ ทานิ กริสฺสามีติ สมฺพนฺโธ. กึวิสิฏฺํ ชินํ, ธมฺมํ, คณฺจ วนฺทิตฺวาติ อาห ‘‘สพฺพสตฺตุตฺตม’’นฺติอาทิ. ตตฺถ สพฺพสตฺตุตฺตมนฺติ ปฺจสุ กามคุเณสุ สตฺตา อาสตฺตา วิสตฺตา ลคฺคิตาติ สตฺตา, ปรมตฺถโต สตฺตปฺตฺติยา อุปาทานภูตา อุปาทานกฺขนฺธา โวหารโต ขนฺธสนฺตตึ อุปาทาย ปฺตฺตา สมฺมุติ ‘‘สตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. เต ปน กามาวจราทิภูมิวเสน, นิรยาทิปเทสวเสน, อเหตุกาทิปฏิสนฺธิวเสนาติ เอวมาทีหิ อนนฺตปเภทา. เตสุ ขีณาสวานํ ยถาวุตฺตนิพฺพจนตฺเถน สตฺตโวหาโร น ลพฺภติ. ตถาปิ เต ภูตปุพฺพคติยา วา ตํสทิสตฺตา วา ‘‘สตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. สพฺเพ จ เต สตฺตา จา ติ สพฺพสตฺตา. อุทฺธฏตมตฺตา, อุคฺคตตมตฺตา, เสฏฺตฺตา จ อุตฺตโม, สพฺพสตฺตานํ โลกิยโลกุตฺตเรหิ รูปารูปคุเณหิ อุตฺตโม, สพฺพสตฺเตสุ วา อุตฺตโม ปวโร เสฏฺโติ สพฺพสตฺตุตฺตโม. ‘‘ชิน’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ.
ปุนปิ กึวิสิฏฺนฺติ อาห ‘‘ธีร’’นฺติ. ธี วุจฺจติ ปฺา, ตาย อีรติ วตฺตตีติ ธีโร, ตํ. ตาทิภาเวน อินฺทขีลสิเนรุอาทโย วิย อฏฺโลกธมฺมสงฺขาเตน ภุสวาเตน อกมฺปิยฏฺเน, จตุเวสารชฺชวเสน สเทวเก โลเก เกนจิ อกมฺปนียฏฺเน จ ธีรํ, ธิติสมฺปนฺนนฺติ อตฺโถ. อิทมฺปิ ตสฺเสว วิเสสนํ.
วนฺทิตฺวาติ กายวจีมโนทฺวาเรหิ อภิวาเทตฺวาติ อตฺโถ, ยถาภุจฺจคุณสํกิตฺตเนน โถเมตฺวา. สิรสาติ ภตฺติภาวนตุตฺตมงฺเคน กรณภูเตน. อิมินา วิเสสโต ¶ กายปณาโม ทสฺสิโต, คุณสํกิตฺตเนน วจีปณาโม, อุภยปณาเมหิ นานนฺตริยกตาย มโนปณาโมปิ ทสฺสิโต จ โหติ.
ชินนฺติ ¶ เทวปุตฺตกิเลสาภิสงฺขารมจฺจุขนฺธมารสงฺขาเต ปฺจวิเธ มาเร พลวิธมนสมอุจฺเฉทปหานสหายเวกลฺลนิทาโนปจฺเฉทวิสยาติกฺกมวเสน ปฺจหิ อากาเรหิ ชิตวาติ ชิโน, ตํ.
‘‘ธมฺม’’นฺติ เอตสฺส นิพฺพจนาทิวเสน อตฺถวินิจฺฉโย เหฏฺา ทสฺสิโตว. อธมฺมวิทฺธํสนฺติ ธมฺมสงฺขาตสฺส กุสลสฺส ปฏิปกฺขตฺตา อธมฺโม วุจฺจติ อกุสลธมฺโม, ตํ อกุสลสงฺขาตํ อธมฺมํ วิทฺธํเสติ วินาเสติ ปชหติ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณปฺปหาเนนาติ อธมฺมวิทฺธํโส, สปริยตฺติโก นวโลกุตฺตโร ธมฺโม. ปริยตฺติ หิ ปฺจนฺนํ ปหานานํ มูลการณตฺตา ผลูปจาเรน ตถา วุจฺจติ, ตํ อธมฺมวิทฺธํสํ. ‘‘ธมฺม’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ.
คณนฺติ อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ สมูหํ, สงฺฆนฺติ อตฺโถ. องฺคณนาสนนฺติ อตฺตโน นิสฺสยํ องฺคนฺติ มตฺเถนฺตีติ องฺคณา, กิเลสา ราคโทสโมหา, เต องฺคเณ นาเสติ ยถาโยคํ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณปฺปหาเนหิ ปชหตีติ องฺคณนาสโน, ตํ. ‘‘คณ’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ.
๒. มยา วินยสฺส โย สาโร วินิจฺฉโย รจิโต, ตสฺส วินิจฺฉยสฺสาติ โยชนา. นตฺถิ ตสฺส อุตฺตโรติ อนุตฺตโร, สพฺเพสุ วินิจฺฉเยสุ, สพฺเพสํ วา วินิจฺฉยานํ อนุตฺตโร อุตฺตโม วินิจฺฉโยติ สพฺพานุตฺตโร, ตํ. อุตฺตรํ ปกรณํ อิทานิ กริสฺสามีติ โยชนา.
๓. ภณโตติ ภณนฺตสฺส ปคุณํ วาจุคฺคตํ กโรนฺตสฺส. ปโตติ ปนฺตสฺส วาจุคฺคตํ สชฺฌายนฺตสฺส. ปยฺุชโตติ ตตฺถ ¶ ปกาเรน ยฺุชนฺตสฺส, ตํ อฺเสํ วาเจนฺตสฺส วา. สุณโตติ ปเรหิ วุจฺจมานํ สุณนฺตสฺส. จินฺตยโตติ ยถาสุตํ อตฺถโต, สทฺทโต จ จินฺเตนฺตสฺส. ‘‘อพุทฺธสฺส พุทฺธิวฑฺฒน’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน วิภตฺติโลโป. อพุทฺธสฺส พาลสฺส วินเย อปฺปกตฺุโน ภิกฺขุภิกฺขุนิชนสฺส. พุทฺธิวฑฺฒนํ วินยวินิจฺฉเย ปฺาวุทฺธินิปฺผาทกํ. อถ วา พุทฺธสฺส วินิจฺฉเย กตปริจยตฺตา ปฺวโต ชนสฺส พุทฺธิวฑฺฒนํ พุทฺธิยา ปฺาย ติกฺขวิสทภาวาปาทเนน ภิยฺโยภาวสาธกํ. ปรมํ อุตฺตมํ อุตฺตรํ นาม ¶ ปกรณํ วทโต กเถนฺตสฺส เม มม สนฺติกา นิรตา วินิจฺฉเย, ตีสุ สิกฺขาสุ วา วิเสเสน รตา นิโพธถ ชานาถ สุตมยาณํ อภินิปฺผาเทถาติ โสตุชนํ สวเน นิโยเชติ.
มหาวิภงฺคสงฺคหกถาวณฺณนา
๔. เอวํ โสตุชนํ สวเน นิโยเชตฺวา ยถาปฏิฺาตํ อุตฺตรวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เมถุน’’นฺติอาทิ. ‘‘กติ อาปตฺติโย’’ติ อยํ ทิฏฺสํสนฺทนา, อทิฏฺโชตนา, วิมติจฺเฉทนา, อนุมติ, กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ ปฺจนฺนํ ปุจฺฉานํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ติสฺโส อาปตฺติโย ผุเสติ ตสฺสา สงฺเขปโต วิสฺสชฺชนํ.
๕. เอวํ คณนาวเสน ทสฺสิตานํ ‘‘ภเว’’ติอาทิ สรูปโต ทสฺสนํ. เขตฺเตติ ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ อลฺโลกาเส ติลพีชมตฺเตปิ ปเทเส. เมถุนํ ปฏิเสวนฺตสฺส ปาราชิกํ ภเวติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ถุลฺลจฺจย’’นฺติ วุตฺตนฺติ โยชนา. ‘‘เยภุยฺยกฺขายิเต’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, อุปฑฺฒกฺขายิเตปิ ถุลฺลจฺจยสฺส เหฏฺา วุตฺตตฺตา. วฏฺฏกเต มุเข อผุสนฺตํ องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๖. ‘‘อทินฺนํ ¶ อาทิยนฺโต’’ติอาทโยปิ วุตฺตนยาเยว.
๗. ปฺจมาสคฺฆเน วาปีติ โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺส จตุตฺถภาคสงฺขาเต ปฺจมาเส, ตทคฺฆนเก วา. อธิเก วาติ อติเรกปฺจมาสเก วา ตทคฺฆนเก วา. อทินฺเน ปฺจวีสติยา อวหารานํ อฺตเรน อวหเฏ ปราชโย โหตีติ อตฺโถ. มาเส วา อูนมาเส วา ตทคฺฆนเก วา ทุกฺกฏํ. ตโต มชฺเฌติ ปฺจมาสกโต มชฺเฌ. ปฺจ มาสา สมาหฏา, ปฺจนฺนํ มาสานํ สมาหาโรติ วา ปฺจมาสํ, ปฺจมาสํ อคฺฆตีติ ปฺจมาสคฺฆนํ, ปฺจมาสฺจ ปฺจมาสคฺฆนฺจ ปฺจมาสคฺฆนํ, เอกเทสสรูเปกเสโสยํ, ตสฺมึ. มาเส วาติ เอตฺถาปิ มาโส จ มาสคฺฆนกฺจ มาสมาสคฺฆนโกติ วตฺตพฺเพ ‘‘มาเส’’ติ เอกเทสสรูเปกเสโส, อุตฺตรปทโลโป จ ทฏฺพฺโพ.
‘‘ปฺจมาสคฺฆเน’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺเสว จตุตฺถภาควเสน ปฺจมาสนิยโม ¶ กาตพฺโพ. ตถา หิ ภควตา ทุติยปาราชิกํ ปฺาเปนฺเตน ภิกฺขูสุ ปพฺพชิตํ ปุราณโวหาริกมหามตฺตํ ภิกฺขุํ ‘‘กิตฺตเกน วตฺถุนา ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร โจรํ คเหตฺวา หนติ วา พนฺธติ วา ปพฺพาเชติ วา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน ‘‘ปาเทน วา ปาทารเหน วา’’ติ วุตฺเต เตเนว ปมาเณน อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส ปฺตฺตํ. อฏฺกถายฺจ –
‘‘ปฺจมาสโก ปาโทติ ปาฬึ อุลฺลิงฺคิตฺวา ‘ตทา ราชคเห วีสติมาสโก กหาปโณ โหติ, ตสฺมา ¶ ปฺจมาสโก ปาโท’. เอเตน ลกฺขเณน สพฺพชนปเทสุ กหาปณสฺส จตุตฺโถ ภาโค ‘ปาโท’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ โข โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺส วเสน, น อิตเรสํ ทุทฺรทามกาทีนํ. เตน หิ ปาเทน อตีตา พุทฺธาปิ ปาราชิกํ ปฺเปสุํ, อนาคตาปิ ปฺเปสฺสนฺติ. สพฺพพุทฺธานฺหิ ปาราชิกวตฺถุมฺหิ วา ปาราชิเก วา นานตฺตํ นตฺถิ, อิมาเนว จตฺตาริ ปาราชิกวตฺถูนิ, อิมาเนว จตฺตาริ ปาราชิกานิ, อิโต อูนํ วา อติเรกํ วา นตฺถิ. ตสฺมา ภควาปิ ธนิยํ วิครหิตฺวา ปาเทเนว ทุติยปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ‘โย ปน ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาต’นฺติอาทิมาหา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๘) วุตฺตํ.
สารตฺถทีปนิยฺจ –
‘‘จตุตฺโถ ภาโค ปาโทติ เวทิตพฺโพติ อิมินาว สพฺพชนปเทสุ กหาปณสฺเสว วีสติโม ภาโคมาสโกติ อิทฺจ วุตฺตเมว โหตีติ ทฏฺพฺพํ. โปราณสตฺถานุรูปํ ลกฺขณสมฺปนฺนา อุปฺปาทิตา นีลกหาปณาติ เวทิตพฺพา. ทุทฺรทาเมน อุปฺปาทิโต ทุทฺรทามโก. โส กิร นีลกหาปณสฺส ติภาคํ อคฺฆตี’ติ วตฺวา ‘ยสฺมึ ปเทเส นีลกหาปณา น สนฺติ, ตตฺถาปิ นีลกหาปณวเสเนว ปริจฺเฉโท กาตพฺโพ. กถํ? นีลกหาปณานํ วฬฺชนฏฺาเน จ อวฬฺชนฏฺาเน จ สมานอคฺฆวเสน ปวตฺตมานํ ภณฺฑํ นีลกหาปเณน สมานคฺฆํ คเหตฺวา ตสฺส จตุตฺถภาคคฺฆนกํ นีลกหาปณสฺส ปาทคฺฆนกนฺติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วินิจฺฉโย กาตพฺโพ’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๘๘) อยมตฺโถว วุตฺโต.
เอตฺถ ¶ กหาปณํ นาม กโรนฺตา สุวณฺเณนปิ กโรนฺติ รชเตนปิ ตมฺเพนปิ สุวณฺณรชตตมฺพมิสฺสเกนปิ ¶ . เตสุ กตรํ กหาปณํ นีลกหาปณนฺติ? เกจิ ตาว ‘‘สุวณฺณกหาปณ’’นฺติ. เกจิ ‘‘มิสฺสกกหาปณ’’นฺติ. ตตฺถ ‘‘สุวณฺณกหาปณ’’นฺติ วทนฺตานํ อยมธิปฺปาโย – ปาราชิกวตฺถุนา ปาเทน สพฺพตฺถ เอกลกฺขเณน ภวิตพฺพํ, กาลเทสปริโภคาทิวเสน อคฺฆนานตฺตํ ปาทสฺเสว ภวิตพฺพํ. ภควตา หิ ธมฺมิกราชูหิ หนนพนฺธนปพฺพาชนานุรูเปเนว อทินฺนาทาเน ปาราชิกํ ปฺตฺตํ, น อิตรถา. ตสฺมา เอสา สพฺพทา สพฺพตฺถ อพฺยภิจารีติ สุวณฺณมยสฺส กหาปณสฺส จตุตฺเถน ปาเทน ภวิตพฺพนฺติ.
‘‘มิสฺสกกหาปณ’’นฺติ วทนฺตานํ ปน อยมธิปฺปาโย –
อฏฺกถายํ –
‘‘ตทา ราชคเห วีสติมาสโก กหาปโณ โหติ, ตสฺมา ปฺจมาสโก ปาโท. เอเตน ลกฺขเณน สพฺพชนปเทสุ กหาปณสฺส จตุตฺโถ ภาโค ‘ปาโท’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ โข โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺส วเสน, น อิตเรสํ ทุทฺรทามกาทีน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๘) –
วุตฺตตฺตา, สารตฺถทีปนิยฺจ –
‘‘โปราณสตฺถานุรูปํ ลกฺขณสมฺปนฺนา อุปฺปาทิตา นีลกหาปณาติ เวทิตพฺพา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๘๘) –
วุตฺตตฺตา จ ‘‘วินยวินิจฺฉยํ ปตฺวา ครุเก าตพฺพ’’นฺติ วจนโต จ มิสฺสกกหาปโณเยว นีลกหาปโณ. ตตฺเถว หิ โปราณสตฺถวิหิตํ ลกฺขณํ ทิสฺสติ. กถํ? ปฺจ ¶ มาสา สุวณฺณสฺส, ตถา รชตสฺส, ทส มาสา ตมฺพสฺสาติ เอเต วีสติ มาเส มิสฺเสตฺวา พนฺธนตฺถาย วีหิมตฺตํ โลหํ ปกฺขิปิตฺวา อกฺขรานิ จ หตฺถิอาทีนมฺตรฺจ รูปํ ทสฺเสตฺวา กโต นิทฺโทสตฺตา นีลกหาปโณ นาม โหตีติ.
สิกฺขาภาชนวินิจฺฉเย จ เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘ปาโท นาม ปฺจ มาสา สุวณฺณสฺสา’’ติ ปุริมปกฺขวาทีนํ ¶ มเตน ปาโ ลิขิโต. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ทุติยปกฺขวาทีนํ มเตน ‘‘ปฺจ มาสา หิรฺสฺสา’’ติ ปาโ ลิขิโต. สีหฬภาสาย โปราณเกหิ ลิขิตาย สามเณรสิกฺขาย ปน –
‘‘โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺสาติ วุตฺตอฏฺกถาวจนสฺส, โปราณเก รตนสุตฺตาภิธานกสุตฺเต วุตฺตกหาปณลกฺขณสฺส จ อนุรูปโต ‘สุวณฺณรชตตมฺพานิ มิสฺเสตฺวา อุฏฺาเปตฺวา กตกหาปณํ กหาปณํ นามา’ติ จ ‘สามเณรานมุปสมฺปนฺนานฺจ อทินฺนาทานปาราชิกวตฺถุมฺหิ โก วิเสโส’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา ‘สามเณรานํ ทสิกสุตฺเตนาปิ ปาราชิโก โหติ, อุปสมฺปนฺนานํ ปน สุวณฺณสฺส วีสติวีหิมตฺเตนา’’ติ –
จ วิเสโส ทสฺสิโต.
ตํ ปน สุวณฺณมาสกวเสน อฑฺฒติยมาสกํ โหติ, ปฺจมาสเกน จ ภควตา ปาราชิกํ ปฺตฺตํ. ตสฺมา ตสฺส ยถาวุตฺตลกฺขณสฺส กหาปณสฺส สพฺพเทเสสุ อลพฺภมานตฺตา สพฺพเทสสาธารเณน ตสฺส มิสฺสกกหาปณสฺส ปฺจมาสปาทคฺฆนเกน สุวณฺเณเนว ปาราชิกวตฺถุมฺหิ นิยมิเต สพฺพเทสวาสีนํ อุปการาย โหตีติ เอวํ สุวณฺเณเนว ปาราชิกวตฺถุปริจฺเฉโท กโต. อยเมว นิยโม ¶ สีหฬาจริยวาเทหิ สาโรติ คหิโต. ตสฺมา สิกฺขาครุเกหิ สพฺพตฺถ เปสเลหิ วินยธเรหิ อยเมว วินิจฺฉโย สารโต ปจฺเจตพฺโพ. โหนฺติ เจตฺถ –
‘‘เหมรชตตมฺเพหิ, สตฺเถ นิทฺทิฏฺลกฺขณํ;
อหาเปตฺวา กโต วีส-มาโส นีลกหาปโณ.
เหมปาทํ สชฺฌุปาทํ, ตมฺพปาททฺวยฺหิ โส;
มิสฺเสตฺวา รูปมปฺเปตฺวา, กาตุํ สตฺเถสุ ทสฺสิโต.
‘เอลา’ติ วุจฺจเต โทโส, นิทฺโทสตฺตา ตถีริโต;
ตสฺส ปาโท สุวณฺณสฺส, วีสวีหคฺฆโน มโต.
ยสฺมึ ¶ ปน ปเทเส โส, น วตฺตติ กหาปโณ;
วีสโสวณฺณวีหคฺฆํ, ตปฺปาทคฺฆนฺติ เวทิยํ.
วีสโสวณฺณวีหคฺฆํ, เถเนนฺตา ภิกฺขโว ตโต;
จวนฺติ สามฺคุณา, อิจฺจาหุ วินยฺุโน’’ติ.
๙. โอปาตนฺติ อาวาฏํ. ทุกฺเข ชาเตติ โยชนา.
๑๐. อุตฺตรึ ธมฺมนฺติ เอตฺถ ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺม’’นฺติ วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน มชฺฌปทโลปํ, นิคฺคหีตาคมฺจ กตฺวา ‘‘อุตฺตรึ ธมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจ ธมฺมํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ. อตฺตุปนายิกนฺติ อตฺตนิ ตํ อุปเนติ ‘‘มยิ อตฺถี’’ติ สมุทาจรนฺโต, อตฺตานํ วา ตตฺถ อุปเนติ ‘‘อหํ เอตฺถ สนฺทิสฺสามี’’ติ สมุทาจรนฺโตติ อตฺตุปนายิโก, ตํ อตฺตุปนายิกํ, เอวํ กตฺวา วทนฺโตติ สมฺพนฺโธ.
๑๑. ปริยาเยติ ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหา’’ติอาทินา (ปริ. ๒๘๗) ปริยายภณเน. าเตติ ยํ ¶ อุทฺทิสฺส ภณติ, ตสฺมึ วิฺุมฺหิ มนุสฺสชาติเก อจิเรน าเต. โน เจติ โน เจ ชานาติ.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
ปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. เจเตติ, อุปกฺกมติ, มุจฺจติ, เอวํ องฺคตฺตเย ปุณฺเณ ครุกํ วุตฺตํ. ทฺวงฺเค เจเตติ, อุปกฺกมติ ยทิ น มุจฺจติ, เอวํ องฺคทฺวเย ถุลฺลจฺจยนฺติ โยชนา. ปโยเคติ ปโยเชตฺวา อุปกฺกมิตุํ องฺคชาตามสนํ, ปรสฺส อาณาปนนฺติ เอวรูเป สาหตฺถิกาณตฺติกปโยเค.
๑๔. วุตฺตนเยเนว อุปรูปริ ปฺหาปุจฺฉนํ าตุํ สกฺกาติ ตํ อวตฺตุกาโม อาห ‘‘อิโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. มยมฺปิ ยเทตฺถ ปุพฺเพ อวุตฺตมนุตฺตานตฺถฺจ, ตเทว วณฺณยิสฺสาม.
๑๕. กาเยนาติ ¶ อตฺตโน กาเยน. กายนฺติ อิตฺถิยา กายํ. เอส นโย ‘‘กายพทฺธ’’นฺติ เอตฺถาปิ.
๑๖. อตฺตโน กาเยน ปฏิพทฺเธน อิตฺถิยา กายปฏิพทฺเธ ผุฏฺเ ตุ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๗. ติสฺโส อาปตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา. ทฺวินฺนํ มคฺคานนฺติ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคานํ.
๑๘. วณฺณาทิภฺเติ วณฺณาทินา ภณเน. กายปฏิพทฺเธ วณฺณาทินา ภฺเ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๙. อตฺตกามจริยายาติ อตฺตกามปาริจริยาย.
๒๐. ปณฺฑกสฺส สนฺติเกปิ อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ วทโต ตสฺส ภิกฺขุโนติ โยชนา. ติรจฺฉานคตสฺสาปิ สนฺติเกติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
๒๑. อิตฺถิปุริสานมนฺตเร ¶ สฺจริตฺตํ สฺจรณภาวํ สมาปนฺเน ภิกฺขุมฺหิ ปฏิคฺคณฺหนวีมํสาปจฺจาหรณกตฺติเก สมฺปนฺเน ตสฺส พุโธ ครุกํ นิทฺทิเสติ โยชนา.
๒๒. ทฺวงฺคสมาโยเคติ ตีสฺเวเตสุ ทฺวินฺนํ องฺคานํ ยถากถฺจิ สมาโยเค. องฺเค สติ ปเนกสฺมินฺติ ติณฺณเมกสฺมึ ปน องฺเค สติ.
๒๔. ปโยเคติ ‘‘อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ กุฏึ, อเทสิตวตฺถุกํ มหลฺลกวิหารฺจ กาเรสฺสามี’’ติ อุปกรณตฺถํ อรฺคมนโต ปฏฺาย สพฺพปโยเค. เอกปิณฺเฑ อนาคเตติ สพฺพปริยนฺติมํ ปิณฺฑํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๒๕. อิธ โย ภิกฺขุ อมูลเกน ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสตีติ โยชนา.
๒๖. โอกาสํ ¶ น จ กาเรตฺวาติ ‘‘กโรตุ เม, อายสฺมา, โอกาสํ, อหํ เต วตฺตุกาโม’’ติ เอวํ เตน ภิกฺขุนา โอกาสํ อการาเปตฺวา.
๒๘. อฺภาคิเยติ อฺภาคิยปเทน อุปลกฺขิตสิกฺขาปเท. เอวํ อฺตฺรปิ อีทิเสสุ าเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๒๙. ‘‘สมนุภาสนาย เอวา’’ติ ปทจฺเฉโท. น ปฏินิสฺสชนฺติ อปฺปฏินิสฺสชนฺโต.
๓๐. ตฺติยา ทุกฺกฏํ อาปนฺโน สิยา, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลตํ อาปนฺโน สิยา, กมฺมวาจาย โอสาเน ครุกํ อาปนฺโน สิยาติ โยชนา. ‘‘ถุลฺลต’’นฺติ อิทํ ถุลฺลจฺจยาปตฺติอุปลกฺขณวจนํ.
๓๑. จตูสุ ¶ ยาวตติยเกสุ ปเม อาปตฺติปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา อิตเรสํ ติณฺณํ เตนปิ เอกปริจฺเฉทตฺตา ตตฺถ วุตฺตนยเมว เตสุ อติทิสนฺโต อาห ‘‘เภทานุวตฺตเก’’ติอาทิ.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๒. อติเรกจีวรนฺติ อนธิฏฺิตํ, อวิกปฺปิตํ วิกปฺปนุปคปมาณํ จีวรํ ลทฺธา ทสาหํ อติกฺกมนฺโต เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ. ติจีวเรน เอกรตฺติมฺปิ วินา วสนฺโต เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ. อิทฺจ ชาติวเสน เอกตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ วตฺถุคณนาย อาปตฺตีนํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพตฺตา.
๓๓. คเหตฺวากาลจีวรนฺติ อกาลจีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา. มาสนฺติ สติยา ปจฺจาสาย นิกฺขิปิตุํ อนฺุาตํ มาสํ. อติกฺกมนฺโตติ สติยาปิ ปจฺจาสาย วีติกฺกมนฺโต อนฺโตมาเส อนธิฏฺหิตฺวา, อวิกปฺเปตฺวา วา ตึสทิวสานิ อติกฺกมนฺโต, จีวรุปฺปาททิวสํ อรุณํ อาทึ กตฺวา เอกตึสมํ อรุณํ อุฏฺาเปนฺโตติ อตฺโถ. เอกํ นิสฺสคฺคิยํ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ อุทีริตนฺติ โยชนา.
๓๔. อฺาติกาย ¶ ภิกฺขุนิยา. ยํกิฺจิ ปุราณจีวรนฺติ เอกวารมฺปิ ปริภุตฺตํ สงฺฆาฏิอาทีนมฺตรํ จีวรํ.
๓๕. ปโยคสฺมินฺติ ‘‘โธวา’’ติอาทิเก ภิกฺขุโน อาณตฺติกปโยเค, เอวํ อาณตฺตาย จ ภิกฺขุนิยา อุทฺธนาทิเก สพฺพสฺมึ ปโยเค จ. ‘‘นิสฺสคฺคิยาว ปาจิตฺติ โหตีติ นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติ จ โหตีติ โยชนา.
๓๖. ปฏิคณฺหโตติ ¶ เอตฺถ ‘‘อฺตฺร ปาริวตฺตกา’’ติ โยชนา.
๓๘. ปโยคสฺมินฺติ วิฺาปนปโยเค. วิฺาปิเตติ วิฺาปิตจีวเร ปฏิลทฺเธ.
๓๙. ภิกฺขูติ อจฺฉินฺนจีวโร วา นฏฺจีวโร วา ภิกฺขุ. ตทุตฺตรินฺติ สนฺตรุตฺตรปรมโต อุตฺตรึ.
๔๑. ปโยเคติ วิกปฺปนาปชฺชนปโยเค.
๔๒. ทุเวติ ทุกฺกฏปาจิตฺติยวเสน ทุเว อาปตฺติโย ผุเสติ โยเชตพฺพํ.
๔๔. ปโยเคติ อนฺุาตปโยคโต อติเรกาภินิปฺผาทนปโยเค. ลาเภติ จีวรสฺส ปฏิลาเภ.
กถินวคฺควณฺณนา ปมา.
๔๕. โกสิยวคฺคสฺส อาทีสุ ปฺจสุ สิกฺขาปเทสุ ทฺเว ทฺเว อาปตฺติโยติ โยชนา. ปโยเคติ กรณการาปนปโยเค. ลาเภติ กตฺวา วา กาเรตฺวา วา ปรินิฏฺาปเน.
๔๖. ‘‘คเหตฺวา เอฬกโลมานี’’ติ ปทจฺเฉโท. อติกฺกมนฺติ อติกฺกมนฺโต.
๔๗. อฺายาติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา. ‘‘โธวาเปติ เอฬโลมก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. เอฬโลมกนฺติ ¶ เอฬกโลมานิ. นิรุตฺตินเยน ก-การสฺส วิปริยาโย. ปโยเคติ โธวาปนปโยเค.
๔๙. นานาการนฺติ ¶ นานปฺปการํ. สมาปชฺชนฺติ สมาปชฺชนฺโต ภิกฺขุ. สมาปนฺเนติ สํโวหาเร สมาปนฺเน สติ. ปโยเคติ สมาปชฺชนปโยเค.
๕๐. ปโยเคติ กยวิกฺกยาปชฺชนปโยเค. ตสฺมึ กเตติ ตสฺมึ ภณฺเฑ อตฺตโน สนฺตกภาวํ นีเต.
โกสิยวคฺควณฺณนา ทุติยา.
๕๑. อติเรกกนฺติ อนธิฏฺิตํ, อวิกปฺปิตํ วา ปตฺตํ. ทสาหํ อติกฺกเมนฺตสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน เอกาว นิสฺสคฺคิยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๕๒-๓. นตฺถิ เอตสฺส ปฺจ พนฺธนานีติ อปฺจพนฺธโน, ตสฺมึ, อูนปฺจพนฺธเน ปตฺเตติ อตฺโถ. ปโยเคติ วิฺาปนปโยเค. ตสฺส ปตฺตสฺส ลาเภ ปฏิลาเภ.
๕๖. ปโยเคติ อจฺฉินฺทนอจฺฉินฺทาปนปโยเค. หเฏติ อจฺฉินฺทิตฺวา คหิเต.
๕๗. ทฺเว ปนาปตฺติโย ผุเสติ วายาปนปโยเค ทุกฺกฏํ, วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรปมาเณน วีเต นิสฺสคฺคิยนฺติ ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺชตีติ อตฺโถ.
๕๘-๙. โย ปน ภิกฺขุ อปฺปวาริโต อฺาตกสฺเสว ตนฺตวาเย สเมจฺจ อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร ¶ วิกปฺปํ อาปชฺชนฺโต โหติ. โสติ โส ภิกฺขุ. ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺชติ, น สํสโยติ โยชนา. ปโยเคติ วิกปฺปาปชฺชนปโยเค.
๖๐. อจฺเจกสฺิตํ ¶ จีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวาติ โยชนา. กาลนฺติ จีวรกาลํ.
๖๑. ติณฺณมฺตรํ วตฺถนฺติ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ. ฆเรติ อนฺตรฆเร. นิทหิตฺวาติ นิกฺขิปิตฺวา. เตน จีวเรน วินา ฉารตฺตโต อธิกํ ทิวสํ ยสฺส อารฺกสฺส วิหารสฺส โคจรคาเม ตํ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตมฺหา วิหารา อฺตฺร วสนฺโต นิสฺสคฺคิยํ ผุเสติ โยชนา.
๖๒. สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ชานํ ชานนฺโต.
๖๓. ปโยเคติ ปริณามนปโยเค. สพฺพตฺถาติ ปาราชิกาทีสุ สพฺพสิกฺขาปเทสุ. อปฺปนาวารปริหานีติ ปริวาเร ปมํ วุตฺตกตฺถปฺตฺติวารสฺส ปริหาปนํ, อิธ อวจนนฺติ อตฺโถ, ตสฺส วารสฺส ปริวาเร สพฺพปมตฺตา ปมํ วตฺตพฺพภาเวปิ ตตฺถ วตฺตพฺพํ ปจฺฉา คณฺหิตุกาเมน มยา ตํ เปตฺวา ปมํ อาปตฺติทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตโร กตาปตฺติวาโร ปมํ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย.
ปตฺตวคฺควณฺณนา ตติยา.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
ตึสนิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖๔. มนุสฺสุตฺตริธมฺเมติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม. อภูตสฺมึ อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม สมุลฺลปิเต ปราชโย ปาราชิกาปตฺติ.
๖๕. อมูลนฺติมวตฺถุนา อมูลเกน ปาราชิเกน ธมฺเมน ภิกฺขุํ โจทนาย ครุ สงฺฆาทิเสโส โหตีติ โยชนา. ปริยายวจเนติ ‘‘โย เต วิหาเร วสตี’’ติอาทินา (ปริ. ๒๘๗) ¶ ปริยาเยน กถเน. าเตติ ยสฺส กเถติ, ตสฺมึ วจนานนฺตรเมว าเต.
๖๖. โน ¶ เจ ปน วิชานาตีติ อถ ตํ ปริยาเยน วุตฺตํ วจนานนฺตรเมว สเจ น ชานาติ. สมุทาหฏนฺติ กถิตํ.
๖๗. โอมสโต ภิกฺขุสฺส ทุเว อาปตฺติโย วุตฺตา. อุปสมฺปนฺนํ โอมสโต ปาจิตฺติ สิยา. อิตรํ อนุปสมฺปนฺนํ โอมสโต ทุกฺกฏํ สิยาติ โยชนา.
๖๘. เปสฺุหรเณปิ ทฺเว อาปตฺติโย โหนฺติ.
๖๙. ปโยเคติ ปทโส ธมฺมํ วาเจนฺตสฺส วจนกิริยารมฺภโต ปฏฺาย ยาว ปทาทีนํ ปริสมาปนํ, เอตฺถนฺตเร อกฺขรุจฺจารณปโยเค ทุกฺกฏํ. ปทานํ ปริสมตฺติยํ ปาจิตฺติยํ.
๗๐. ‘‘ติรตฺตา อนุปสมฺปนฺนสหเสยฺยายา’’ติ ปทจฺเฉโท. อนุปสมฺปนฺเนน สหเสยฺยา อนุปสมฺปนฺนสหเสยฺยา, ตาย. ติรตฺตา อุตฺตรึ อนุปสมฺปนฺนสหเสยฺยายาติ โยชนา. ปโยเคติ สยนตฺถาย เสยฺยาปฺาปนกายาวชฺชนาทิปุพฺพปโยเค. ปนฺเนติ กายปสารณลกฺขเณน สยเนน นิปนฺเน.
๗๑. โย ปน ภิกฺขุ เอกรตฺติยํ มาตุคาเมน สหเสยฺยํ กปฺเปติ. ทุกฺกฏาทโยติ ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ, นิปนฺเน ปาจิตฺติย’’นฺติ ยถาวุตฺตทฺเวอาปตฺติโย อาปชฺชตีติ โยชนา.
๗๒. ปโยเคติ ยถาวุตฺตลกฺขณปโยเค.
๗๓. อนุปสมฺปนฺเนติ ¶ สมีปตฺเถ เจตํ ภุมฺมํ. อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก ภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ โย สเจ อาโรเจตีติ โยชนา. ทุกฺกฏาทโยติ ยสฺส อาโรเจติ, โส นปฺปฏิวิชานาติ, ทุกฺกฏํ, ปฏิวิชานาติ, ปาจิตฺติยนฺติ เอวํ ทฺเว อาปตฺติโย ตสฺส โหนฺติ.
๗๔. อฺโต อฺสฺส อุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลสฺส อาปตฺตึ อนุปสมฺปนฺเน อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก วทํ วทนฺโตติ โยชนา. ปโยเคติ อารมฺภโต ปฏฺาย ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ อาคจฺฉติ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อาโรจิเต ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา.
๗๕. ปโยเคติ ¶ ‘‘อกปฺปิยปถวึ ขณิสฺสามี’’ติ กุทาล ปริเยสนาทิสพฺพปโยเคติ.
มุสาวาทวคฺควณฺณนา ปมา.
๗๖. ปาเตนฺโตติ วิโกเปนฺโต. ตสฺสาติ ภูตคามสฺส. ปาเตติ วิโกปเน.
๗๗. อฺวาทกวิเหสกานํ เอกโยคนิทฺทิฏฺตฺตา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว วิเหสเก จ าตุํ สกฺกาติ ตตฺถ วิสุํ อาปตฺติเภโท น วุตฺโต.
๗๘. ปรนฺติ อฺํ สงฺเฆน สมฺมตเสนาสนปฺาปกาทิกํ อุปสมฺปนฺนํ. อุชฺฌาเปนฺโตติ ตสฺส อยสํ อุปฺปาเทตุกามตาย ภิกฺขูหิ อวชานาเปตุํ ‘‘ฉนฺทาย อิตฺถนฺนาโม อิทํ นาม กโรตี’’ติอาทีนิ วตฺวา อวฺาย โอโลกาเปนฺโต, ลามกโต วา จินฺตาเปนฺโต. ปโยเคติ อุชฺฌาปนตฺถาย ตสฺส อวณฺณภณนาทิเก ปุพฺพปโยเค.
๘๓. สงฺฆิเก ¶ วิหาเร ปุพฺพูปคตํ ภิกฺขุํ ชานํ ชานนฺโต อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺเสวํ เสยฺยํ กปฺปยโตติ โยชนา. ปโยเคทุกฺกฏาทโยติ เอตฺถ อลุตฺตสมาโส. อาทิ-สทฺเทน เสยฺยากปฺปเน ปาจิตฺติยํ สงฺคณฺหาติ.
๘๔. ปโยเคติ ‘‘นิกฺกฑฺฒถ อิม’’นฺติอาทิเก อาณตฺติเก วา ‘‘ยาหิ ยาหี’’ติอาทิเก วาจสิเก วา หตฺเถน ตสฺส องฺคปรามสนาทิวเสน กเต กายิเก วา นิกฺกฑฺฒนปโยเค. เสสนฺติ ปาจิตฺติยํ.
๘๕. ‘‘เวหาสกุฏิยา อุปรี’’ติ ปทจฺเฉโท. อาหจฺจปาทเกติ เอตฺถ ‘‘มฺเจ วา ปีเ วา’’ติ เสโส. สีทนฺติ นิสีทนฺโต. ทุกฺกฏาทโยติ ปโยเค ทุกฺกฏํ, นิปชฺชาย ปาจิตฺติยนฺติ อิมา อาปตฺติโย ผุเสติ อตฺโถ.
๘๖. อสฺส ปชฺชสฺส ปมปาทํ ทสกฺขรปาทกํ ฉนฺโทวิจิติยํ วุตฺตคาถา, ‘‘คาถาฉนฺโท อตีตทฺวย’’นฺติ อิมินา ฉนฺโทวิจิติลกฺขเณน คาถาฉนฺทตฺตา อธิฏฺิตฺวา ทฺวตฺติปริยาเยติ เอตฺถ อกฺขรทฺวยํ ¶ อธิกํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปโยเคติ อธิฏฺานปโยเค. อธิฏฺิเตติ ทฺวตฺติปริยายานํ อุปริ อธิฏฺาเน กเต.
๘๗. ปโยเคติ สิฺจนสิฺจาปนปโยเค. สิตฺเตติ สิฺจนกิริยปริโยสาเน.
ภูตคามวคฺควณฺณนา ทุติยา.
๘๘. ทุกฺกฏํ ผุเสติ โยชนา. โอวทิเต ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา.
๘๙. วิภาโคเยว ¶ วิภาคตา.
๙๐. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา อฺตฺร ปาริวตฺตกา จีวรํ เทนฺโต ภิกฺขุ ทุเว อาปตฺติโย ผุเสติ โยชนา. ปโยเคติ ทานปโยเค.
๙๓. ‘‘นาวํ เอก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ปโยเคติ อภิรุหณปโยเค. ทุกฺกฏาทโยติ อาทิ-สทฺเทน อภิรุฬฺเห ปาจิตฺติยํ สงฺคณฺหาติ.
๙๔. ‘‘ทุวิธํ อาปตฺติ’’นฺติ ปทจฺเฉโท.
๙๖. ภิกฺขุนิยา สทฺธึ รโห นิสชฺชํ กปฺเปนฺโต ภิกฺขุ ปโยเคทุกฺกฏาทโย ทฺเวปิ อาปตฺติโย ผุเสติ โยชนา.
โอวาทวคฺควณฺณนา ตติยา.
๙๗. ตทุตฺตรินฺติ ตโต ภฺุชิตุํ อนฺุาตเอกทิวสโต อุตฺตรึ ทุติยทิวสโต ปฏฺาย. อนนฺตรสฺส วคฺคสฺสาติ โอวาทวคฺคสฺส. นวเมนาติ ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตปิณฺฑปาตสิกฺขาปเทน.
๙๙. ทฺวตฺติปตฺเตติ ¶ ทฺวตฺติปตฺตปูเร. ตทุตฺตรินฺติ ทฺวตฺติปตฺตปูรโต อุตฺตรึ. ปโยเคติ ปฏิคฺคหณปโยเค.
๑๐๒. ตสฺสาติ อภิหรนฺตสฺส. ปิฏเกติ วินยปิฏเก.
๑๐๓. ทสเมปีติ เอตฺถ ‘‘ทสเม อปี’’ติ ปทจฺเฉโท.
โภชนวคฺควณฺณนา จตุตฺถา.
๑๐๔. อเจลกาทิโนติ ¶ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๐) วุตฺเต สงฺคณฺหาติ. โภชนาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน ขาทนียํ สงฺคณฺหาติ. ปโยเคติ สหตฺถา ทานปโยเค.
๑๐๕. ทาเปตฺวา วา อทาเปตฺวา วา กิฺจิ อามิสํ. ปโยเคติ อุยฺโยชนปโยเค. ตสฺมินฺติ ตสฺมึ ภิกฺขุมฺหิ. อุยฺโยชิเต ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา.
๑๐๙. อุมฺมาราติกฺกเมติ อินฺทขีลาติกฺกเม.
๑๑๐. ตทุตฺตรินฺติ ตโต ปริจฺฉินฺนรตฺติปริยนฺตโต วา ปริจฺฉินฺนเภสชฺชปริยนฺตโต วา อุตฺตรึ.
๑๑๑. อุยฺยุตฺตํ ทสฺสนตฺถาย คจฺฉนฺโต ทฺเว อาปตฺติโย ผุเสติ โยชนา.
อเจลกวคฺควณฺณนา ปฺจมา.
๑๑๔. เมเรยฺยนฺติ เมรยํ. นิรุตฺตินเยน อ-การสฺส เอ-กาโร, ย-การสฺส จ ทฺวิตฺตํ. เมรย-สทฺทปริยาโย วา เมเรยฺย-สทฺโท. มุนีติ ภิกฺขุ.
๑๑๕. ‘‘ภิกฺขุ ¶ องฺคุลิปโตเทนา’’ติ ปทจฺเฉโท. ปโยเคติ หาสาปนปโยเค. ตสฺสาติ หาสาเปนฺตสฺส.
๑๑๖. โคปฺผกา เหฏฺา อุทเก ทุกฺกฏํ. โคปฺผกโต อุปริ อุปริโคปฺผกํ, อุทกํ, ตสฺมึ, โคปฺผกโต อธิกปฺปมาเณ อุทเกติ อตฺโถ.
๑๑๗. อนาทริยนฺติ ¶ ปุคฺคลานาทริยํ, ธมฺมานาทริยํ วา. ปโยเคติ อนาทริยวเสน ปวตฺเต กายปโยเค วา วจีปโยเค วา. กเต อนาทริเย.
๑๑๙. โชตินฺติ อคฺคึ. สมาทหิตฺวานาติ ชาเลตฺวา. ‘‘วิสิพฺเพนฺโต’’ติ อิมินา ผลูปจาเรน การณํ วุตฺตํ. วิสิพฺพนกิริยา หิ สมาทหนกิริยาย ผลนฺติ วิสิพฺพนกิริยาโวหาเรน สมาทหนกิริยาว. ตสฺมา วิสิพฺเพนฺโตติ เอตฺถ สมาทหนฺโตติ อตฺโถ. ปโยเคติ สมาทหนสมาทหาปนปโยเค. วิสีวิเตติ วุตฺตนเยน สมาทหิเตติ อตฺโถ.
๑๒๐. ปโยเคติ จุณฺณมตฺติกาภิสงฺขรณาทิสพฺพปโยเค. อิตรนฺติ ปาจิตฺติยํ.
๑๒๑. ติณฺณํ ทุพฺพณฺณกรณานนฺติ กํสนีลปตฺตนีลกทฺทมสงฺขาตานํ ติณฺณํ ทุพฺพณฺณกรณานํ. เอกํ อฺตรํ อนาทิย อทตฺวา. จีวรนฺติ นวจีวรํ.
๑๒๒. นตฺถิ เอตสฺส อุทฺธารนฺติ อนุทฺธาโร, ตํ อนุทฺธารนฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ, อกตปจฺจุทฺธารนฺติ อตฺโถ.
๑๒๓. อปนิเธนฺโตติ อปเนตฺวา นิเธนฺโต นิกฺขิเปนฺโต. ปตฺตาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน จีวรนิสีทนสูจิฆรกายพนฺธนานํ คหณํ. ปโยเคติ อปนิธานปโยเค. ตสฺมึ ปตฺตาทิเก ปฺจวิเธ ปริกฺขาเร. อปนิหิเต เสสา ปาจิตฺติยาปตฺติ สิยาติ โยชนา.
สุราปานวคฺควณฺณนา ฉฏฺา.
๑๒๔. ตโปธโนติ ¶ ¶ ปาติโมกฺขสํวรสีลสงฺขาตํ ตโปธนมสฺสาติ ตโปธโน, ภิกฺขุ.
๑๒๖. มนุสฺสวิคฺคโห มนุสฺสสรีโร. ติรจฺฉานคโต นาโค วา สุปณฺโณ วา. ตสฺส โอปาตขณกสฺส.
๑๒๗. ปฏุพุทฺธินาติ สพฺเพสุ เยฺยธมฺเมสุ นิปุนาเณน ภควตา.
๑๒๘. ปโยเคติ ปริโภคตฺถาย คหณาทิเก ปโยเค. ตสฺสาติ ภิกฺขุสฺส.
๑๒๙. อุกฺโกเฏนฺโตติ อุจฺจาเลนฺโต ยถาาเน าตุํ อเทนฺโต. ปโยเคติ อุกฺโกฏนปโยเค. อุกฺโกฏิเต ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.
๑๓๐. ทุฏฺุลฺลํ วชฺชกนฺติ สงฺฆาทิเสสาทิเก. เอกํ ปาจิตฺติยํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ อิติ ทีปิตนฺติ โยชนา.
๑๓๑. ปโยเคติ คณปริเยสนาทิปโยเค. ทุกฺกฏํ ปตฺโต สิยา ทุกฺกฏาปตฺตึ อาปนฺโน ภเวยฺยาติ อตฺโถ. เสสาติ ปาจิตฺติยาปตฺติ อุปสมฺปาทิเต สิยา. คาถาพนฺธวเสน อุปสคฺคโลโป.
๑๓๒-๓. ชานํ เถยฺยสตฺเถน สห สํวิธาย มคฺคํ ปฏิปชฺชโต จ ตเถว มาตุคาเมน สห สํวิธาย มคฺคํ ปฏิปชฺชโต จาติ โยชนา. ปโยเคติ สํวิธาย คนฺตุํ ปฏิปุจฺฉาทิกรณปโยเค. ปฏิปนฺเนติ มคฺคปฏิปนฺเน. อนนฺตรนฺติ อทฺธโยชนคามนฺตราติกฺกมนานนฺตรํ.
๑๓๔. ตฺติยา โอสาเน ทุกฺกฏํ ผุเสติ โยชนา.
๑๓๕. อกตานุธมฺเมนาติ ¶ ¶ อนุธมฺโม วุจฺจติ อาปตฺติยา อทสฺสเน วา อปฺปฏิกมฺเม วา ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค วา ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน อุกฺขิตฺตกสฺส อนุโลมวตฺตํ ทิสฺวา กตฺวา โอสารณา, โส โอสารณสงฺขาโต อนุธมฺโม ยสฺส น กโต, อยํ อกตานุธมฺโม นาม, ตาทิเสน ภิกฺขุนา สทฺธินฺติ อตฺโถ. สมฺภฺุชนฺโตติ อามิสสมฺโภคํ กโรนฺโต ภิกฺขุ. ปโยเคติ ภฺุชิตุํ อามิสปฏิคฺคหณาทิปโยเค. ภุตฺเตติ สมฺภุตฺเต, อุภยสมฺโภเค, ตทฺตเร วา กเตติ อตฺโถ.
๑๓๖. อุปลาเปนฺโตติ ปตฺตจีวรอุทฺเทสปริปุจฺฉนาทิวเสน สงฺคณฺหนฺโต. ปโยเคติ อุปลาปนปโยเค.
สปฺปาณกวคฺควณฺณนา สตฺตมา.
๑๓๗. สหธมฺมิกนฺติ กรณตฺเถ อุปโยควจนํ, ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สิกฺขิตพฺพตฺตา, เตสํ วา สนฺตกตฺตา ‘‘สหธมฺมิก’’นฺติ ลทฺธนาเมน พุทฺธปฺตฺเตน สิกฺขาปเทน วุจฺจมานสฺสาติ อตฺโถ. ภณโตติ ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ อิมินา สมานาธิกรณํ.
๑๓๘. วิวณฺเณนฺโตติ ‘‘กึ ปนิเมหิ ขุทฺทานุขุทฺทเกหิ สิกฺขาปเทหิ อุทฺทิฏฺเหี’’ติอาทินา ครหนฺโต. ปโยเคติ ‘‘กึ อิเมหี’’ติอาทินา ครหณวเสน ปวตฺเต วจีปโยเค. วิวณฺณิเต ครหิเต.
๑๓๙. โมเหนฺโตติ ‘‘อิทาเนว โข อหํ, อาวุโส, ชานามี’’ติอาทินา อตฺตโน อชานนตฺเตน อาปนฺนภาวํ ทีเปตฺวา ภิกฺขุํ โมเหนฺโต, วฺเจนฺโตติ อตฺโถ. โมเหติ โมหาโรปนกมฺเม. อโรปิเต กเต.
๑๔๐. ภิกฺขุสฺส ¶ กุปิโต ปหารํ เทนฺโต ผุเสติ โยชนา. ปโยเคติ ทณฺฑาทานาทิปโยเค.
๑๔๑. ปโยเคติ อุคฺคิรณปโยเค. อุคฺคิริเตติ อุจฺจาริเต.
๑๔๒. อมูเลเนวาติ ¶ ทิฏฺาทิมูลวิรหิเตเนว. โยเคติ โอกาสการาปนาทิปโยเค. อุทฺธํสิเตติ โจทิเต.
๑๔๓. กุกฺกุจฺจํ ชนยนฺโตติ ‘‘อูนวีสติวสฺโส ตฺวํ มฺเ อุปสมฺปนฺโน’’ติอาทินา กุกฺกุจฺจํ อุปทหนฺโต. โยเคติ กุกฺกุจฺจุปฺปาทนปโยเค. อุปฺปาทิเตติ กุกฺกุจฺเจ อุปฺปาทิเต.
๑๔๔. ‘‘ติฏฺนฺโต อุปสฺสุติ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. สุติยา สมีปํ อุปสฺสุติ, สวนูปจาเรติ อตฺโถ.
๑๔๕. ธมฺมิกานํ ตุ กมฺมานนฺติ ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน กตานํ อปโลกนาทีนํ จตุนฺนํ กมฺมานํ. ตโต ปุนาติ ฉนฺททานโต ปจฺฉา. ขียนธมฺมนฺติ อตฺตโน อธิปฺเปตภาววิภาวนมนฺตนํ. ทฺเว ผุเส ทุกฺกฏาทโยติ ขียนธมฺมาปชฺชนปโยเค ทุกฺกฏํ, ขียนธมฺเม อาปนฺเน ปาจิตฺติยนฺติ เอวํ ทุกฺกฏาทโย ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺเชยฺยาติ อตฺโถ.
๑๔๖. สงฺเฆ สงฺฆมชฺเฌ. วินิจฺฉเยติ วตฺถุโต โอติณฺณวินิจฺฉเย. นิฏฺํ อคเตติ วตฺถุมฺหิ อวินิจฺฉิเต, ตฺตึ เปตฺวา กมฺมวาจาย วา อปริโยสิตาย.
๑๔๘. สมคฺเคน สงฺเฆนาติ สมานสํวาสเกน สมานสีมายํ ิเตน สงฺเฆน.
สหธมฺมิกวคฺควณฺณนา อฏฺมา.
๑๕๐. อวิทิโต ¶ หุตฺวาติ รฺโ อวิทิตาคมโน หุตฺวา.
๑๕๒. รตนนฺติ มุตฺตาทิทสวิธํ รตนํ. ปโยเคติ รตนคฺคหณปโยเค.
๑๕๓. วิกาเลติ มชฺฌนฺติกาติกฺกมโต ปฏฺาย อรุเณ.
๑๕๕. อฏฺิทนฺตวิสาณาภินิพฺพตฺตนฺติ อฏฺิทนฺตวิสาณมยํ. ปโยเคติ การาปนปโยเค.
๑๕๖. ตสฺมึ ¶ มฺจาทิมฺหิ การาปิเต เสสา ปาจิตฺติยาปตฺติ สิยาติ โยชนา.
รตนวคฺควณฺณนา นวมา.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕๙. จตูสุ ปาฏิเทสนีเยสุปิ อวิเสเสน อาทิจฺจพนฺธุนา พุทฺเธน ทฺวิธา อาปตฺติ นิทฺทิฏฺาติ โยชนา.
๑๖๐. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ จตูสุ.
ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.
เสขิยกถาวณฺณนา.
๑๖๒. ปริวาเร ปมํ ทสฺสิตโสฬสวารปฺปเภเท มหาวิภงฺเค ‘‘ปมํ ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑) กตฺถปฺตฺติวาโร ¶ , ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต กติ อาปตฺติโย อาปชฺชตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๕๗) กตาปตฺติวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย จตุนฺนํ วิปตฺตีนํ กติ วิปตฺติโย ภชนฺตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๒) วิปตฺติวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ กติหิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๒) สงฺคหวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย ฉนฺนํ อาปตฺติสมุฏฺานานํ กติหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺหนฺตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๔) สมุฏฺานวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย จตุนฺนํ อธิกรณานํ กตมํ อธิกรณ’’นฺติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๕) อธิกรณวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย สตฺตนฺนํ สมถานํ กติหิ สมเถหิ สมฺมนฺตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๖) สมถวาโร, ตทนนฺตโร อิเมหิ สตฺตหิ วาเรหิ มิสฺโส ¶ อฏฺโม สมุจฺจยวาโรติ อิเมสุ อฏฺสุ วาเรสุ อาทิภูเต กตฺถปฺตฺตินามเธยฺเย อปฺปนาวาเร สงฺคเหตพฺพานํ นิทานาทิสตฺตรสลกฺขณานํ อุภยวิภงฺคสาธารณโต อุปริ วกฺขมานตฺตา ตํ วารํ เปตฺวา ตทนนฺตรํ อสาธารณํ กตาปตฺติวารํ เสขิยาวสานํ ปาฬิกฺกมานุรูปํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรา วิปตฺติวาราทโย ฉ วารา อุภยวิภงฺคสาธารณโต วกฺขมานาติ กตฺวา เตปิ เปตฺวา อิเม ปจฺจยสทฺเทน อโยเชตฺวา ทสฺสิตา อฏฺเว วารา, ปุน ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนปจฺจยา ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติอาทินา (ปริ. ๑๘๘) ปจฺจย-สทฺทํ โยเชตฺวา ทสฺสิตา อปเร อฏฺ วารา โยชิตาติ ตตฺถาปิ ทุติยํ กตาปตฺติปจฺจยวารํ อิมินา กตาปตฺติวาเรน เอกปริจฺเฉทํ กตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘ปฺตฺตา’’ติอาทิ. ปฏิเสวนปจฺจยาติ ปฏิเสวนเหตุนา.
๑๖๓. อลฺโลกาสปฺปเวสเนติ ¶ ชีวมานสรีเร ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ มคฺเค อลฺโลกาสปฺปเวสเน. มเต อกฺขายิเต วา ปิ-สทฺเทน เยภุยฺยอกฺขายิเต ปเวสเน ปเวสนนิมิตฺตํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต ภิกฺขุ ปาราชิกํ ผุเสติ สมฺพนฺโธ.
๑๖๔. ตถา เยภุยฺยกฺขายิเต, อุปฑฺฒกฺขายิเต จ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต ภิกฺขุ ถุลฺลจฺจยํ ผุเสติ โยชนา. วฏฺฏกเต มุเข ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ชตุมฏฺเกติ ภิกฺขุนิยา ชตุมฏฺเก ทินฺเน ปาจิตฺติ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ.
๑๖๖. อวสฺสุตสฺสาติ กายสํสคฺคราเคน ตินฺตสฺส. โปสสฺสาติ คหณกิริยาสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. ภิกฺขุนิยาติ อตฺตสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. ‘‘อตฺตโน’’ติ เสโส. อวสฺสุเตน โปเสน อตฺตโน อธกฺขกาทิคหณํ สาทิยนฺติยา ตถา อวสฺสุตาย ภิกฺขุนิยา ปาราชิกนฺติ โยชนา.
๑๖๗. กาเยนาติ อตฺตโน กาเยน. กายนฺติ มาตุคามสฺส กายํ. ผุสโตติ กายสํสคฺคราเคน ผุสโต. กาเยน กายพทฺธนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
๑๖๘. กาเยน ปฏิพทฺเธนาติ อตฺตโน กายปฏิพทฺเธน. ปฏิพทฺธนฺติ อิตฺถิยา กายปฏิพทฺธํ ผุสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ตสฺส ภิกฺขุสฺส.
‘‘มหาวิภงฺคสงฺคโห ¶ นิฏฺิโต’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ โสฬสวารสงฺคเห มหาวิภงฺเค กตาปตฺติวาโรเยเวตฺถ วุตฺโต, น อิตเร วาราติ? สจฺจํ, อวยเว ปน สมุทาโยปจาเรน วุตฺตํ. สาธารณาสาธารณานํ มหาวิภงฺเค ¶ คตานํ สพฺพาปตฺติปเภทานํ ทสฺสโนปจารภูโต กตาปตฺติวาโร ทสฺสิโตติ ตํทสฺสเนน อปฺปธานา อิตเรปิ วารา อุปจารโต ทสฺสิตา โหนฺตีติ จ ตถา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
มหาวิภงฺคสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภิกฺขุนิวิภงฺโค
๑๗๐. วินยสฺส วินิจฺฉเย ภิกฺขูนํ ปาฏวตฺถายาติ ภิกฺขุนีนํ ปาฏวสฺสาปิ ตทธีนตฺตา ปธานทสฺสนวเสน วุตฺตํ. อถ วา ทสฺสนลิงฺคนฺตรสาธารณตฺเต อิจฺฉิเต ปุลฺลิงฺเคน, นปุํสกลิงฺเคน วา นิทฺเทโส สทฺทสตฺถานุโยคโตติ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ ปุลฺลิงฺเคน วุตฺตํ.
๑๗๒. ติสฺโส อาปตฺติโย ผุเสติ โยชนา. ชาณุสฺส อุทฺธํ, อกฺขกสฺส อโธ คหณํ สาทิยนฺติยา ตสฺสา ปาราชิกนฺติ โยชนา.
๑๗๓. กายปฏิพทฺเธ วา คหณํ สาทิยนฺติยา ทุกฺกฏํ.
๑๗๔. วชฺชนฺติ อฺิสฺสา ภิกฺขุนิยา ปาราชิกาปตฺตึ.
๑๗๖. ตํ ¶ ลทฺธินฺติ อุกฺขิตฺตสฺส ยํ ลทฺธึ อตฺตโน โรเจสิ, ตํ ลทฺธึ น นิสฺสชฺชนฺตีติ โยชนา.
๑๗๘. ‘‘อิธ อาคจฺฉา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘วุตฺตา อาคจฺฉตี’’ติ ปทจฺเฉโท.
๑๗๙. หตฺถปาสปฺปเวสเนติ ¶ หตฺถปาสูปคมเน. ‘‘หตฺถคตปฺปเวสเน’’ติ วา ปาโ, โสเยว อตฺโถ.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา ภิกฺขุนิวิภงฺเค
ปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๘๐. เอกสฺสาติ อตฺตโน อตฺตโน อฏฺฏการสฺส วา. อาโรจเนติ วตฺตพฺพสฺส โวหาริกานํ นิเวทเน.
๑๘๑. ทุติยาโรจเนติ ทุติยสฺส, ทุติยํ เอวํ อาโรจเน.
๑๘๒. ทฺวีหีติ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ. กมฺมวาโจสาเนติ กมฺมวาจาโอสาเน.
๑๘๓. ปริกฺเขเป อติกฺกนฺเตติ อตฺตโน คามโต คนฺตฺวา อิตรํ คามํ ปวิสนฺติยา ปเมน ปาเทน ตสฺส คามสฺส ปริกฺเขเป อติกฺกนฺเต, ปมปาเท ปริกฺเขปํ อติกฺกเมตฺวา อนฺโตคามสงฺเขปํ คเตติ อตฺโถ.
๑๘๔. ทุติเยนาติ คามปริกฺเขปโต พหิ ิเตน ทุติยปาเทน. อติกฺกนฺเตติ ตสฺมึ คามปริกฺเขเป อติกฺกนฺเต, ตสฺมึ ปาเท อนฺโตคามํ ปเวสิเตติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา ภิกฺขุนิวิภงฺเค
สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๙๓. อิห ¶ ภิกฺขุนี ปตฺตสนฺนิจยํ กโรนฺตี โหติ, สา เอกํ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํเยว ผุเสติ โยชนา.
๑๙๔. อกาลจีวรํ กาลจีวรํ กตฺวา ภาชาเปนฺติยาติ โยชนา. ปโยเคติ ภาชนปโยเค.
๑๙๕. ฉินฺเนติ ¶ อจฺฉินฺเน.
๑๙๖. ตโต ปรนฺติ ตโต ปมโต อฺํ.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา ภิกฺขุนิวิภงฺเค
นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๙๙. ลสุณํ ขาทติ เจ, ทฺเว อาปตฺติโย ผุฏาติ โยชนา.
๒๐๐. ปโยเคติ สํหาราปนปโยเค. สํหเฏติ อตฺตนา สํหเฏ, ปเรน สํหราปิเต จ อาปตฺติ ปาจิตฺติ โหติ.
๒๐๒. ชตุนา มฏฺกนฺติ ชตุนา กตํ มฏฺทณฺฑกํ. ‘‘ทุกฺกฏํ อาทินฺเน’’ติ ปทจฺเฉโท.
๒๐๔. ภฺุชมานสฺส ภิกฺขุสฺส หตฺถปาเสติ โยชนา. หิตฺวา หตฺถปาสํ.
๒๐๕. วิฺาเปตฺวาติ อนฺตมโส มาตรมฺปิ ยาจิตฺวา. อชฺโฌหาเร ปาจิตฺตึ ทีปเยติ โยชนา.
๒๐๖. อุจฺจาราทินฺติ อาทิ-สทฺเทน วิฆาสสงฺการมุตฺตานํ คหณํ.
ลสุณวคฺควณฺณนา ปมา.
๒๐๙. อิธ ¶ อิมสฺมึ รตฺตนฺธการวคฺเค. ปเม, ทุติเย, ตติเย, จตุตฺเถปิ วินิจฺฉโย ลสุณวคฺคสฺส ฉฏฺเน สิกฺขาปเทน ตุลฺโย สทิโสติ โยชนา.
๒๑๐. อาสเนติ ¶ ปลฺลงฺเก ตสฺโสกาสภูเต. สามิเก อนาปุจฺฉาติ ตสฺมึ กุเล ยํ กิฺจิ วิฺุมนุสฺสํ อนาปุจฺฉา.
๒๑๑. อโนวสฺสนฺติ ภิตฺติยา พหิ นิพฺพโกสพฺภนฺตรํ. ทุติยาติกฺกเมติ ทุติเยน ปาเทน นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺานาติกฺกเม.
๒๑๔. นิรยาทินา อตฺตานํ วา ปรํ วา อภิสปฺเปนฺตี สปถํ กโรนฺตี ทฺเว ผุเสติ โยชนา. อภิสปฺปิเตติ อภิสปิเต.
๒๑๕. วธิตฺวาติ หตฺถาทีหิ ปหริตฺวา. ‘‘กโรติ เอก’’นฺติ ปทจฺเฉโท.
รตฺตนฺธการวคฺควณฺณนา ทุติยา.
๒๑๖. นคฺคาติ อนิวตฺถา วา อปารุตา วา. ปโยเคติ จุณฺณมตฺติกาอภิสงฺขรณาทิปโยเค.
๒๑๗. ปมาณาติกฺกนฺตนฺติ ‘‘ทีฆโสจตสฺโส วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติ (ปาจิ. ๘๘๘) วุตฺตปมาณมติกฺกนฺตํ. ปโยเคติ การาปนปโยเค.
๒๑๘. วิสิพฺเพตฺวาติ ทุสฺสิพฺพิตํ ปุน สิพฺพนตฺถาย วิสิพฺเพตฺวา.
๒๑๙. ปฺจ ¶ อหานิ ปฺจาหํ, ปฺจาหเมว ปฺจาหิกํ. สงฺฆาฏีนํ จาโร สงฺฆาฏิจาโร, ปริโภควเสน วา โอตาปนวเสน ¶ วา สงฺฆฏิตฏฺเน ‘‘สงฺฆาฏี’’ติ ลทฺธนามานํ ‘‘ติจีวรํ, อุทกสาฏิกา, สํกจฺจิกา’’ติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ จีวรานํ ปริวตฺตนํ. อติกฺกเมติ ภิกฺขุนี อติกฺกเมยฺย. อสฺสา ปน เอกาว ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.
๒๒๐. สงฺกมนียนฺติ สงฺกเมตพฺพํ. อฺิสฺสา สนฺตกํ อนาปุจฺฉา คหิตํ ปุน ทาตพฺพํ ปฺจนฺนํ อฺตรํ.
๒๒๑. คณจีวรลาภสฺสาติ ภิกฺขุนิสงฺเฆน ลภิตพฺพจีวรสฺส. อนฺตรายํ กโรตีติ ยถา เต ทาตุกามา น เทนฺติ, เอวํ ปรกฺกมติ.
๒๒๒. ธมฺมิกนฺติ สมคฺเคน สงฺเฆน สนฺนิปติตฺวา กริยมานํ. ปฏิพาหนฺตีติ ปฏิเสเธนฺตี. ปฏิพาหิเต ปฏิเสธิเต.
๒๒๓. อคาริกาทิโนติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา’’ติ (ปารา. ๙๑๗) วุตฺเต สงฺคณฺหาติ. สมณจีวรนฺติ กปฺปกตํ นิวาสนปารุปนุปคํ. ปโยเคติ ทานปโยเค.
๒๒๔. จีวเร ทุพฺพลาสายาติ ทุพฺพลจีวรปจฺจาสาย ‘‘สเจ สกฺโกม, ทสฺสามา’’ติ เอตฺตกมตฺตํ สุตฺวา อุปฺปาทิตาย อาสายาติ อตฺโถ. กาลนฺติ จีวรกาลสมยํ. สมติกฺกเมติ ภิกฺขุนีหิ กาลจีวเร ภาชิยมาเน ‘‘อาคเมถ, อยฺเย, อตฺถิ สงฺฆสฺส จีวรปจฺจาสา’’ติ วตฺวา ตํ จีวรวิภงฺคํ สมติกฺกเมยฺย.
๒๒๕. ธมฺมิกํ กถินุทฺธารนฺติ สมคฺเคน สงฺเฆน กริยมานํ กถินสฺส อนฺตรุพฺภารํ. ปฏิพาหนฺติยาติ นิวาเรนฺติยา.
นฺหานวคฺควณฺณนา ตติยา.
๒๒๖. ตุวฏฺเฏยฺยุนฺติ ¶ นิปชฺเชยฺยุํ. อิตรํ ปาจิตฺติยํ.
๒๒๗. ปโยเคติ ¶ ภิกฺขุนิยา อผาสุกกรณปโยเค กริยมาเน.
๒๒๘. ทุกฺขิตนฺติ คิลานํ. นุปฏฺาเปนฺติยา วาปีติ ตสฺสา อุปฏฺานํ ปเรหิ อการาเปนฺติยา, สยํ วา อกโรนฺติยา.
๒๒๙. อุปสฺสยํ ทตฺวาติ กวาฏพนฺธํ อตฺตโน ปุคฺคลิกวิหารํ ทตฺวา. กฑฺฒิเตติ นิกฺกฑฺฒิเต.
๒๓๐. สํสฏฺาติ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา สํสฏฺวิหารี ภิกฺขุนี สงฺเฆน สํสฏฺวิหารโต นิวตฺติยมานา. ตฺติยา ทุกฺกฏํ ผุเสติ สมนุภาสนกมฺมตฺติยา ทุกฺกฏํ อาปชฺเชยฺย.
๒๓๑. อนฺโตรฏฺเติ ยสฺส วิชิเต วิหรติ, ตสฺส รฏฺเ. ปฏิปนฺนายาติ จาริกํ กปฺเปนฺติยา. เสสกนฺติ ปาจิตฺติยํ.
ตุวฏฺฏวคฺควณฺณนา จตุตฺถา.
๒๓๓. ราชาคาราทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน จิตฺตาคาราทีนํ คหณํ.
๒๓๕. ปโยเคติ กปฺปาสวิจารณํ อาทึ กตฺวา สพฺพปโยเค. อุชฺชวุชฺชวเนติ ยตฺตกํ หตฺเถน อฺฉิตํ โหติ, ตสฺมึ ตกฺกมฺหิ เวิเต.
๒๓๗. ปโยเคติ อคาริกสฺส วา ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา สหตฺถา ขาทนียาทีนํ ทานปโยเค.
๒๓๘. ‘‘สมํ อาปตฺติปเภทโต’’ติ ปทจฺเฉโท.
๒๓๙. ติรจฺฉานคตํ ¶ วิชฺชนฺติ ยํ กิฺจิ พาหิรกํ อนตฺถสํหิตํ ปรูปฆาตกรํ หตฺถิสิกฺขาทิสิปฺปํ ¶ . ปนฺติยาติ สิกฺขนฺติยา. ปโยเคติ ทุรุปสงฺกมนาทิปโยเค. ปเท ปเทติ ปทาทิวเสน ปริยาปุณนฺติยา ปเท ปเท อกฺขรปทานํ วเสน.
๒๔๐. นวเม ‘‘ปริยาปุณาตี’’ติ ปทํ, ทสเม ‘‘วาเจตี’’ติ ปทนฺติ เอวํ ปทมตฺตเมว อุภินฺนํ วิเสสกํ เภทกํ.
จิตฺตาคารวคฺควณฺณนา ปฺจมา.
๒๔๑. ตมารามนฺติ ยตฺถ ภิกฺขู รุกฺขมูเลปิ วสนฺติ, ตํ สภิกฺขุกํ ปเทสํ.
๒๔๓. อกฺโกสตีติ ทสนฺนํ อกฺโกสวตฺถูนํ อฺตเรน สมฺมุขา วา ปรมฺมุขา วา อกฺโกสติ. ปริภาสตีติ ภยทสฺสเนน ตชฺเชติ. ‘‘ปาจิตฺติ อกฺโกสิเต’’ติ ปทจฺเฉโท.
๒๔๔. จณฺฑิกภาเวนาติ โกเธน. คณนฺติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ. ปริภาสตีติ ‘‘พาลา เอตา’’ติอาทีหิ วจเนหิ อกฺโกสติ. ปโยเคติ ปริภาสนปโยเค. ปริภฏฺเติ อกฺโกสิเต. อิตรํ ปาจิตฺติยํ.
๒๔๕. นิมนฺติตาติ คณโภชเน วุตฺตนเยน นิมนฺติตา. ปวาริตาติ ปวารณสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน วาริตา. ขาทนํ โภชนมฺปิ วาติ ยาคุปูวขชฺชกํ, ยาวกาลิกํ มูลขาทนียาทิขาทนียํ, โอทนาทิโภชนมฺปิ วา ยา ภิกฺขุนี ภฺุชนฺตี โหติ, สา ปน ทฺเวเยว อาปตฺติโย ผุเสติ โยชนา.
๒๔๗. มจฺฉรายนฺตีติ มจฺฉรํ กโรนฺตี, อตฺตโน ปจฺจยทายกกุลสฺส อฺเหิ สาธารณภาวํ อสหนฺตีติ อตฺโถ ¶ . ปโยเคติ ตทนุรูเป กายวจีปโยเค. มจฺฉริเตติ มจฺฉรวเสน กตปโยเค นิปฺผนฺเน.
๒๔๘. อภิกฺขุเก ปนาวาเสติ ยโต ภิกฺขุนุปสฺสยโต อทฺธโยชนพฺภนฺตเร โอวาททายกา ภิกฺขู น วสนฺติ, มคฺโค วา อเขโม โหติ, น สกฺกา อนนฺตราเยน คนฺตุํ, เอวรูเป ¶ อาวาเส. ปุพฺพกิจฺเจสูติ ‘‘วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ เสนาสนปฺาปนปานียอุปฏฺาปนาทิปุพฺพกิจฺเจ ปน กริยมาเน ทุกฺกฏํ ภเวติ โยชนา.
๒๔๙. วสฺสํวุตฺถาติ ปุริมํ วา ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ วุตฺถา. อุภโตสงฺเฆติ ภิกฺขุนิสงฺเฆ, ภิกฺขุสงฺเฆ จ. ตีหิปิ าเนหีติ ‘‘ทิฏฺเน วา’’ติอาทินา วุตฺเตหิ ตีหิ การเณหิ.
๒๕๐. โอวาทตฺถายาติ ครุธมฺโมวาทนตฺถาย. สํวาสตฺถายาติ อุโปสถปุจฺฉนตฺถาย เจว ปวารณตฺถาย จ. น คจฺฉตีติ ภิกฺขุํ น อุปคจฺฉติ.
๒๕๑. โอวาทมฺปิ น ยาจนฺตีติ อุโปสถาทิวเสน โอวาทูปสงฺกมนํ ภิกฺขุํ น ยาจนฺตี น ปุจฺฉนฺตี. อุโปสถนฺติ อุโปสถทิวสโต ปุริมทิวเส เตรสิยํ วา จาตุทฺทสิยํ วา อุโปสถํ น ปุจฺฉนฺตี.
๒๕๒. อปุจฺฉิตฺวาว สงฺฆํ วาติ สงฺฆํ วา คณํ วา อนปโลเกตฺวาว. ‘‘เภทาเปตี’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ ‘‘ผาลาเปยฺย วา โธวาเปยฺย วา อาลิมฺปาเปยฺย วา พนฺธาเปยฺย วา โมจาเปยฺย วา’’ติ อิเมสมฺปิ กิริยาวิกปฺปานํ สงฺคเหตพฺพตฺตา. ปสาขชนฺติ นาภิยา เหฏฺา, ชาณุมณฺฑลานํ ¶ อุปริ ปเทเส ชาตํ คณฺฑํ วา รุธิตํ วา. ปโยเคติ เภทาปนาทิปโยเค.
อารามวคฺควณฺณนา ฉฏฺา.
๒๕๓. คพฺภินินฺติ อาปนฺนสตฺตํ สิกฺขมานํ. วุฏฺาเปนฺตีติ อุปชฺฌายา หุตฺวา อุปสมฺปาเทนฺตี. ปโยเคติ คณปริเยสนาทิปโยเค. วุฏฺาปิเตติ อุปสมฺปาทิเต, กมฺมวาจาปริโยสาเนติ อตฺโถ.
๒๕๕. สหชีวินินฺติ สทฺธิวิหารินึ. นานุคฺคณฺหนฺตีติ อุทฺเทสทานาทีหิ น สงฺคณฺหนฺตี.
คพฺภินิวคฺควณฺณนา สตฺตมา.
๒๕๘. ‘‘อลํ ¶ วุฏฺาปิเตนา’’ติ วุจฺจมานา ภิกฺขุนีหิ นิวาริยมานา. ขียตีติ อฺาสํ พฺยตฺตานํ ลชฺชีนํ วุฏฺานสมฺมุตึ ทียมานํ ทิสฺวา ‘‘อหเมว นูน พาลา’’ติอาทินา ภณมานา ขียติ. ปโยเคติ ขียมานปโยเค. ขียิเตติ ขียนปโยเค นิฏฺิเต.
กุมาริภูตวคฺควณฺณนา อฏฺมา.
๒๖๐. ฉตฺตุปาหนนฺติ วุตฺตลกฺขณํ ฉตฺตฺจ อุปาหนาโย จ. ปโยเคติ ธารณปโยเค.
๒๖๑. ยาเนนาติ วยฺหาทินา. ยายนฺตีติ สเจ ยาเนน คตา โหติ.
๒๖๒. สงฺฆาณินฺติ ยํ กิฺจิ กฏูปคํ. ธาเรนฺติยาติ กฏิยํ ปฏิมุจฺจนฺติยา.
๒๖๓. คนฺธวณฺเณนาติ ¶ เยน เกนจิ วณฺเณน จ เยน เกนจิ คนฺเธน จ. คนฺโธ นาม จนฺทนาเลปาทิ. วณฺโณ นาม กุงฺกุมหลิทฺทาทิ. ปโยเคติ คนฺธาทิปโยเค รจนโต ปฏฺาย ปุพฺพปโยเค.
๒๖๖. อนาปุจฺฉาติ ‘‘นิสีทามิ, อยฺยา’’ติ อนาปุจฺฉิตฺวา. นิสีทิเต ภิกฺขุสฺส อุปจาเร อนฺตมโส ฉมาย นิสินฺเน.
๒๖๗. อโนกาสกตนฺติ ‘‘อสุกสฺมึ นาม าเน ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ เอวํ อกตโอกาสํ.
๒๖๘. ปวิสนฺติยาติ วินิจฺฉยํ อารามวคฺคสฺส ปเมเนว สิกฺขาปเทน สทิสํ กตฺวา วเทยฺยาติ โยชนา.
ฉตฺตุปาหนวคฺควณฺณนา นวมา.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา ภิกฺขุนิวิภงฺเค
ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๖๙-๗๐. อฏฺสุ ¶ ปาฏิเทสนียสิกฺขาปเทสุปิ ทฺวิธา อาปตฺติ โหตีติ โยชนา. ตโตติ คหณเหตุ. สพฺเพสูติ ปาฏิเทสนียสิกฺขาปเทสุ.
ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.
๒๗๑-๒. อิมํ ปรมํ อุตฺตมํ นิรุตฺตรํ เกนจิ วา วตฺตพฺเพน อุตฺตเรน รหิตํ นิทฺโทสํ อุตฺตรํ เอวํนามกํ ธีโร ปฺวา ภิกฺขุ อตฺถวเสน วิทิตฺวา ทุรุตฺตรํ กิจฺเฉน อุตฺตริตพฺพํ ปฺตฺตมหาสมุทฺทํ วินยมหาสาครํ สุเขเนว ยสฺมา อุตฺตรติ, ตสฺมา กงฺขจฺเฉเท วินยวิจิกิจฺฉาย ฉินฺทเน สตฺเถ ¶ สตฺถสทิเส อสฺมึ สตฺเถ อิมสฺมึ อุตฺตรปกรเณ อุสฺมายุตฺโต กมฺมชเตโชธาตุยา สมนฺนาคโต ชีวมาโน ภิกฺขุ นิจฺจํ นิรนฺตรํ สตฺโต อภิรโต นิจฺจํ โยคํ สตตาภิโยคํ กาตุํ ยุตฺโต อนุรูโปติ โยชนา.
ภิกฺขุนิวิภงฺโค นิฏฺิโตติ เอตฺถาปิ อุปฺปตฺติ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
ภิกฺขุนิวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุวิปตฺติกถาวณฺณนา
๒๗๓. อิทานิ อุภยสาธารณํ กตฺวา วิปตฺติวาราทีนํ วิสิฏฺวารานํ สงฺคหํ กาตุมาห ‘‘กติ อาปตฺติโย’’ติอาทิ.
๒๗๔. ภิกฺขุนี สเจ ฉาเทติ, จุตา โหติ. สเจ เวมติกา ฉาเทติ, ถุลฺลจฺจยํ สิยาติ โยชนา.
๒๗๕. สงฺฆาทิเสสนฺติ ปรสฺส สงฺฆาทิเสสํ.
๒๗๖. ‘‘กติ อาจารวิปตฺติปจฺจยา’’ติ ปทจฺเฉโท.
๒๗๗. อาจารวิปตฺตินฺติ ¶ อตฺตโน วา ปรสฺส วา อาจารวิปตฺตึ.
๒๗๙. ปาปิกํ ทิฏฺินฺติ อเหตุกอกิริยนตฺถิกทิฏฺิอาทึ ลามิกํ ทิฏฺึ.
๒๘๑. มนุสฺสุตฺตริธมฺมนฺติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ.
๒๘๒. อาชีวเหตุ ¶ สฺจริตฺตํ สมาปนฺโนติ โยชนา. ปริยายวจเนติ ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหา’’ติอาทิเก เลสวจเน. าเตติ ยํ อุทฺทิสฺส วทติ, ตสฺมึ มนุสฺสชาติเก วจนสมนนฺตรเมว าเต.
๒๘๓. วตฺวาติ อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา. ภิกฺขุนี ปน สเจ เอวํ โหติ, ภิกฺขุนี อคิลานา อตฺตโน อตฺถาย ปณีตโภชนํ วิฺาเปตฺวา ภุตฺตาวินี สเจ โหตีติ อธิปฺปาโย. ตสฺสา ปาฏิเทสนียํ สิยาติ โยชนา.
๒๘๔. ‘‘อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวานา’’ติ อิมินา ปรสฺส าตกปวาริเต ตสฺเสวตฺถาย วิฺาเปตฺวา เตน ทินฺนํ วา ตสฺส วิสฺสาเสน วา ปริภฺุชนฺตสฺส เตสํ อตฺตโน อฺาตกอปฺปวาริเต สุทฺธจิตฺตตาย อนาปตฺตีติ ทีเปติ.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
จตุวิปตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อธิกรณปจฺจยกถาวณฺณนา
๒๘๕. วิวาทาธิกรณมฺหาติ ‘‘อธมฺมํ ‘ธมฺโม’ติ ทีเปตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตา อฏฺารสเภทกรวตฺถุนิสฺสิตา วิวาทาธิกรณมฺหา.
๒๘๖. อุปสมฺปนฺนํ โอมสโต ภิกฺขุสฺส ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา.
๒๘๗. อนุวาทาธิกรณปจฺจยาติ ¶ ¶ โจทนาปรนามเธยฺยํ อนุวาทาธิกรณเมว ปจฺจโย, ตสฺมา, อนุวาทนาธิกรณเหตูติ อตฺโถ.
๒๘๙. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา อมูลกตฺตํ อติทิสติ.
๒๙๐. อาปตฺติปจฺจยาติ อาปตฺตาธิกรณปจฺจยา.
๒๙๓. กิจฺจาธิกรณปจฺจยาติ อปโลกนาทิจตุพฺพิธกมฺมสงฺขาตกิจฺจาธิกรณเหตุ.
๒๙๔. อจฺจชนฺตีวาติ อตฺตโน ลทฺธึ อปริจฺจชนฺตี เอว.
๒๙๗. ปาปิกาย ทิฏฺิยา ปริจฺจชนตฺถาย กตาย ยาวตติยกํ สมนุภาสนาย ตํ ทิฏฺึ อจฺจชนฺติยา ตสฺสา ภิกฺขุนิยา, ตสฺส ภิกฺขุสฺส จ อจฺจชโต ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
อธิกรณปจฺจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ขนฺธกปุจฺฉากถาวณฺณนา
๓๐๐. เสเสสูติ อภพฺพปุคฺคลปริทีปเกสุ สพฺพปเทสุ.
๓๐๒. ‘‘นสฺสนฺตุ เอเต’’ติ ปทจฺเฉโท. ปุรกฺขกาติ เอตฺถ สามิอตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, เภทปุเรกฺขกสฺส, เภทปุเรกฺขกายาติ อตฺโถ.
๓๐๓. เสเสสูติ อวเสเสสุ อสํวาสกาทิทีปเกสุ ปฏิกฺเขปปเทสุ.
๓๐๔. เอกาว ¶ ทุกฺกฏาปตฺติ วุตฺตาติ วสฺสํ อนุปคมนาทิปจฺจยา ชาติโต เอกาว ทุกฺกฏาปตฺติ วุตฺตา.
๓๐๕. อุโปสถสมา ¶ มตาติ อุโปสถกฺขนฺธเก วุตฺตสทิสา ชาตา อาปตฺติโย มตา อธิปฺเปตา.
๓๐๖. จมฺเมติ จมฺมกฺขนฺธเก. วจฺฉตรึ คเหตฺวา มาเรนฺตานํ ฉพฺพคฺคิยานํ ปาจิตฺติ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. วจฺฉตรินฺติ พลสมฺปนฺนํ ตรุณคาวึ. สา หิ วจฺฉกภาวํ ตริตฺวา อติกฺกมิตฺวา ิตตฺตา ‘‘วจฺฉตรี’’ติ วุจฺจติ.
๓๐๗. องฺคชาตํ ฉุปนฺตสฺสาติ คาวีนํ องฺคชาตํ อตฺตโน องฺคชาเตน พหิ ฉุปนฺตสฺส. เสเสสูติ คาวีนํ วิสาณาทีสุ คหเณ, ปิฏฺิอภิรุหเณ จ. ยถาห ‘‘ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อจิรวติยา นทิยา คาวีนํ ตรนฺตีนํ วิสาเณสุปิ คณฺหนฺตี’’ติอาทิ (มหาว. ๒๕๒).
๓๐๙. ตตฺถ เภสชฺชกฺขนฺธเก. สามนฺตา ทฺวงฺคุเลติ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคานํ สามนฺตา ทฺวงฺคุลมตฺเต ปเทเส. สตฺถกมฺมํ กโรนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยมุทีริตนฺติ โยชนา. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, สมฺพาธสฺส สามนฺตา ทฺวงฺคุเล สตฺถกมฺมํ วา วตฺถิกมฺมํ วา กาเรตพฺพํ, โย กาเรยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๗๙). เอตฺถ จ ‘‘สามนฺตา ทฺวงฺคุเล’’ติ อิทํ สตฺถกมฺมํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. วตฺถิกมฺมํ ปน สมฺพาเธเยว ปฏิกฺขิตฺตํ.
‘‘น, ภิกฺขเว, อฺตฺร นิมนฺติเตน อฺสฺส โภชฺชยาคุ ปริภฺุชิตพฺพา, โย ปริภฺุเชยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๒๘๓) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘โภชฺชยาคูสุ ปาจิตฺตี’’ติ. เอตฺถ ¶ จ โภชฺชยาคุ นาม พหลยาคุ. ‘‘ปิณฺฑํ วฏฺเฏตฺวา ปาตพฺพยาคู’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. ปาจิตฺตีติ ปรมฺปรโภชนปวารณสิกฺขาปเทหิ ปาจิตฺติ. เสเสสูติ อนฺโตวุตฺถอนฺโตปกฺกสยํปกฺกปริโภคาทีสุ. ยถาห ‘‘น, ภิกฺขเว, อนฺโตวุตฺถํ อนฺโตปกฺกํ สามํปกฺกํ ปริภฺุชิตพฺพํ, โย ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ (มหาว. ๒๗๔).
๓๑๐. จีวรสํยุตฺเตติ จีวรกฺขนฺธเก.
๓๑๓. จมฺเปยฺยเก ¶ จ โกสมฺเพติ จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก เจว โกสมฺพกกฺขนฺธเก จ. ‘‘กมฺมสฺมิ’’นฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
๓๑๗. โรมนฺเถติ ภุตฺตสฺส ลหุํ ปากตฺตาย กุจฺฉิคตํ มุขํ อาโรเปตฺวา สณฺหกรณวเสน อนุจาลเน.
๓๑๘. เสนาสนสฺมินฺติ เสนาสนกฺขนฺธเก. ครุโนติ ครุภณฺฑสฺส.
๓๒๐. สงฺฆเภเทติ สงฺฆเภทกกฺขนฺธเก.
๓๒๑. เภทานุวตฺตกานนฺติ สงฺฆเภทานุวตฺตกานํ. คณโภเคติ คณโภชเน.
๓๒๒. สาติ เอตฺถ สพฺพวตฺเตสุ อนาทริเยน โหตีติ เสโส. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
ขนฺธกปุจฺฉากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุฏฺานสีสกถาวณฺณนา
๓๒๕-๖. มเหสินา ¶ ทฺวีสุ วิภงฺเคสุ ปฺตฺตานิ ยานิ ปาราชิกาทีนิ สิกฺขาปทานิ อุโปสเถ อุทฺทิสนฺติ, เตสํ สิกฺขาปทานํ สมุฏฺานํ ภิกฺขูนํ ปาฏวตฺถาย อิโต ปรํ ปวกฺขามิ, ตํ สมาหิตา สุณาถาติ โยชนา.
๓๒๗. กาโย จ วาจา จ กายวาจา จาติ อจิตฺตกานิ ยานิ ตีณิ สมุฏฺานานิ, ตาเนว จิตฺเตน ปจฺเจกํ โยชิตานิ สจิตฺตกานิ ตีณิ สมุฏฺานานิ โหนฺตีติ เอวเมว สมุฏฺานํ ปุริมานํ ทฺวินฺนํ วเสน เอกงฺคิกํ, ตติยจตุตฺถปฺจมานํ วเสน ทฺวงฺคิกํ, ฉฏฺสฺส วเสน ติวงฺคิกฺจาติ เอวํ ฉธา สมุฏฺานวิธึ วทนฺตีติ โยชนา. กาโย, วาจาติ เอกงฺคิกํ ทฺวยํ, กายวาจา ¶ , กายจิตฺตํ, วาจาจิตฺตนฺติ ทุวงฺคิกตฺตยํ, กายวาจาจิตฺตนฺติ องฺคเภเทน ติวิธมฺปิ อวยวเภเทน สมุฏฺานเภทวิธึ ฉปฺปการํ วทนฺตีติ อธิปฺปาโย.
๓๒๘. เตสุ ฉสุ สมุฏฺาเนสุ เอเกน วา สมุฏฺาเนน ทฺวีหิ วา ตีหิ วา จตูหิ วา ฉหิ วา สมุฏฺาเนหิ นานา อาปตฺติโย ชายเรติ สมฺพนฺโธ.
๓๒๙. ตตฺถ ตาสุ นานาปตฺตีสุ. ปฺจ สมุฏฺานานิ เอติสฺสาติ ปฺจสมุฏฺานา, เอวรูปา กาจิ อาปตฺติ น วิชฺชติ. เอกเมกํ สมุฏฺานํ ยาสนฺติ วิคฺคโห. ปจฺฉิเมเหว ตีหิปีติ สจิตฺตเกเหว ตีหิ สมุฏฺาเนหิ, ยา อาปตฺติ เอกสมุฏฺานา โหติ, สา สจิตฺตกานํ ติณฺณมฺตเรน โหตีติ อธิปฺปาโย.
๓๓๐-๑. ตติยจฺฉฏฺโตปิ จาติ กายวาจโต, กายวาจาจิตฺตโต จ. จตุตฺถจฺฉฏฺโต เจวาติ กายจิตฺตโต ¶ กายวาจาจิตฺตโต จ. ปฺจมจฺฉฏฺโตปิ จาติ วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ. ‘‘กายโต กายจิตฺตโต’’ติ ปมํ ทฺวิสมุฏฺานํ, ‘‘วาจโต วาจาจิตฺตโต’’ติ ทุติยํ, ‘‘กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต’’ติ ตติยํ, ‘‘กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต’’ติ จตุตฺถํ, ‘‘วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต’’ติ ปฺจมํ ทฺวิสมุฏฺานนฺติ เอวํ ปฺจธา เอว ิเตหิ ทฺวีหิ สมุฏฺาเนหิ เอสา ทฺวิสมุฏฺานาปตฺติ ชายเต สมุฏฺาติ. น อฺโตติ กายโต วาจโตติ เอกํ, วาจโต กายวาจโตติ เอกนฺติ เอวํ ยถาวุตฺตกฺกมวิปริยาเยน โยชิเตหิ อฺเหิ สมุฏฺาเนหิ น สมุฏฺาติ.
๓๓๒. ปเมหิ จ ตีหีติ ‘‘กายโต, วาจโต, กายวาจโต’’ติ ปมํ นิทฺทิฏฺเหิ ตีหิ อจิตฺตกสมุฏฺาเนหิ. ปจฺฉิเมหิ จาติ ‘‘กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต’’ติ เอวํ ปจฺฉา วุตฺเตหิ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ. น อฺโตติ ‘‘กายโต, วาจโต, กายจิตฺตโต, วาจโต, กายวาจโต, กายจิตฺตโต’’ติ เอวํ วุตฺตวิปลฺลาสโต อฺเหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ น สมุฏฺาติ.
๓๓๓-๔. ปมา ตติยา เจว, จตุตฺถจฺฉฏฺโตปิ จาติ กายโต, กายวาจโต, กายจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโตติ เอเตหิ จตูหิ สมุฏฺาเนหิ เจว. ทุติยา…เป… จฺฉฏฺโตปิ จาติ ¶ วาจโต, กายวาจโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโตติ อิเมหิ จตูหิ จาติ จตุสมุฏฺาเนนาปตฺติ.
สา เอวํ ทฺวิธา ิเตหิ จตูหิ สมุฏฺาเนหิ ชายเต. น ปนฺโตติ ‘‘กายโต, วาจโต, กายวาจโต, กายจิตฺตโต’’ติ เอวมาทินา วิปลฺลาสนเยน โยชิเตหิ ¶ จตูหิ สมุฏฺาเนหิ น สมุฏฺาติ. ฉ สมุฏฺานานิ ยสฺสา สา ฉสมุฏฺานา. สจิตฺตเกหิ ตีหิ, อจิตฺตเกหิ ตีหีติ ฉหิ เอว สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาตีติ. ปการนฺตราภาวา อิธ ‘‘น อฺโต’’ติ น วุตฺตํ.
อาห จ อฏฺกถาจริโย มาติกฏฺกถายํ.
๓๓๕. สมุฏฺาติ เอตสฺมาติ สมุฏฺานํ, กายาทิ ฉพฺพิธํ, เอกํ สมุฏฺานํ การณํ ยสฺสา สา เอกสมุฏฺานา. ปการนฺตราภาวา ติธา. กถํ? สจิตฺตกานํ ติณฺณํ สมุฏฺานานํ วเสน ติวิธา. ทฺวีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺิตา ทฺวิสมุฏฺิตา, ทฺวิสมุฏฺานาปตฺตีติ อตฺโถ. ปฺจธาติ วุตฺตนเยน ปฺจปฺปการา. ตีณิ สมุฏฺานานิ ยสฺสา สา ติสมุฏฺานา, จตฺตาริ สมุฏฺานานิ ยสฺสา สา จตุรุฏฺานา, ติสมุฏฺานา จ จตุรุฏฺานา จ ติจตุรุฏฺานาติ เอกเทสสรูเปกเสโส, ติสมุฏฺานา ทฺวิธา วิภตฺตา, จตุสมุฏฺานา จ ทฺวิธา เอว วิภตฺตาติ อตฺโถ. ฉหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺิตา ฉสมุฏฺิตา, ฉสมุฏฺานาติ อตฺโถ. เอกธาติ ปการนฺตราภาวา เอกธาว ิตาติ อธิปฺปาโย.
๓๓๖. สพฺพา อาปตฺติโย สมุฏฺานวิเสสโต เอวํ เตรสธา ิตานํ สมุฏฺานเภทานํ นานตฺตโต เตหิ สมุฏฺิตานํ ปมํ ปฺตฺตตฺตา สีสภูตานํ สิกฺขาปทานํ วเสน เตรเสว นามานิ ลภนฺติ, ตานิ อิโต ปรํ วกฺขามีติ โยชนา.
๓๓๗. ปมนฺติมวตฺถฺุจาติ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ. ทุติยนฺติ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ. สฺจริตฺตกนฺติ สฺจริตฺตสมุฏฺานํ. สมนุภาสนนฺติ สมนุภาสนสมุฏฺานํ. ‘‘กถินํ เอฬกโลมก’’นฺติ ปทจฺเฉโท, กถินสมุฏฺานํ เอฬกโลมสมุฏฺานฺจ.
๓๓๘. ปทโสธมฺมนฺติ ¶ ¶ ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ. อทฺธานํ เถยฺยสตฺถนฺติ อทฺธานสมุฏฺานํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. เทสนาติ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานํ. ภูตาโรจนกนฺติ ภูตาโรจนสมุฏฺานํ. โจริวุฏฺาปนนฺติ โจริวุฏฺาปนสมุฏฺานํ.
๓๓๙. อนนฺุาตกฺจาติ อนนฺุาตกสมุฏฺานฺจาติ เอตานิ เตรส เตหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺิตานํ เตสํ สิกฺขาปทานํ ปมํ ปมํ นิทฺทิฏฺานํ ปมปาราชิกาทิสิกฺขาปทสมุฏฺานานํ อิตเรสํ ปุพฺพงฺคมภาวโต ‘‘สีสานี’’ติ วุตฺตานิ. ยถาห ปริวารฏฺกถายํ ‘‘ปมปาราชิกํ นาม เอกํ สมุฏฺานสีสํ, เสสานิ เตน สทิสานี’’ติอาทิ (ปริ. อฏฺ. ๒๕๘). เตรเสเต สมุฏฺานนยาติ เอเต สีสวเสน ทสฺสิตา เตรส สมุฏฺานนยา. วิฺูหิ อุปาลิตฺเถราทีหิ.
๓๔๐. ตตฺถ เตรสสุ สมุฏฺานสีเสสุ. ยาติ ยา ปน อาปตฺติ. อาทิปาราชิกุฏฺานาติ ปมปาราชิกสมุฏฺานา.
๓๔๑. อทินฺนาทาน-สทฺโท ปุพฺพโก ปโม เอติสฺสา ตํสมุฏฺานาปตฺติยาติ อทินฺนาทานปุพฺพกา, อทินฺนาทานสมุฏฺานาติ อุทฺทิฏฺาติ โยชนา.
๓๔๓. อยํ สมุฏฺานวเสน ‘‘สมนุภาสนาสมุฏฺานา’’ติ วุตฺตาติ โยชนา.
๓๔๔. กถิน-สทฺโท อุปปโท ยสฺสา ตํสมุฏฺานาย อาปตฺติยา สา กถินุปปทา, กถินสมุฏฺานาติ มตา าตา, อยํ สมุฏฺานวเสน ‘‘กถินสมุฏฺานา’’ติ าตาติ อตฺโถ.
๓๔๕. เอฬกโลม-สทฺโท ¶ อาทิ ยสฺสา ตํสมุฏฺานาปตฺติยา สา เอฬกโลมาทิสมุฏฺานาติ อตฺโถ.
๓๕๐. ภูตาโรจน-สทฺโท ¶ ปุพฺพภาโค เอติสฺสา ตํสมุฏฺานาย อาปตฺติยาติ ภูตาโรจนปุพฺพกา, ภูตาโรจนสมุฏฺานาติ อตฺโถ.
๓๕๑. สมุฏฺานํ สมุฏฺิตํ, โจริวุฏฺาปนํ สมุฏฺิตํ ยสฺสา สา โจริวุฏฺาปนสมุฏฺิตา, โจริวุฏฺาปนสมุฏฺานาติ อตฺโถ.
๓๕๓. ตตฺถาติ เตรสสมุฏฺานสีเสสุ, ‘‘สมุฏฺานํ สจิตฺตก’’นฺติ อิทํ ‘‘ปม’’นฺติอาทีหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ปมํ สมุฏฺานนฺติ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ. ทุติยํ สมุฏฺานนฺติ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ. จตุตฺถํ สมุฏฺานนฺติ สมนุภาสนสมุฏฺานํ. นวมํ สมุฏฺานนฺติ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. ทสมํ สมุฏฺานนฺติ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานํ. ทฺวาทสมํ สมุฏฺานนฺติ โจริวุฏฺาปนสมุฏฺานํ.
๓๕๔. สมุฏฺาเนติ สมุฏฺานสีเส. สทิสาติ เตน เตน สมุฏฺานสีเสน สมุฏฺานา อาปตฺติโย. อิธาติ อิมสฺมึ สมุฏฺานวินิจฺฉเย. ทิสฺสเรติ ทิสฺสนฺเต, ทิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา อิธ ทิสฺสเรติ อิธ อุภโตวิภงฺเค เอเตสุ เตรสสมุฏฺาเนสุ เอเกกสฺมึ อฺานิปิ สทิสานิ สมุฏฺานานิ ทิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อิทานิ ตานิ สรูปโต นิทสฺเสตุมาห ‘‘สุกฺกฺจา’’ติอาทิ. ตตฺถ สุกฺกนฺติ สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทํ. เอส นโย ‘‘กายสํสคฺโค’’ติอาทีสุปิ. ยเทตฺถ ทุวิฺเยฺยํ, ตํ วกฺขาม.
๓๕๕. ปุพฺพุปปริปาโก จาติ ¶ ‘‘ชานํ ปุพฺพุปคตํ ภิกฺขุ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๒๐) สิกฺขาปทฺจ ‘‘ภิกฺขุนิปริปาจิต’’นฺติ (ปาจิ. ๑๙๒, ๑๙๔) ปิณฺฑปาตสิกฺขาปทฺจ. รโห ภิกฺขุนิยาสหาติ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ รโห นิสชฺชสิกฺขาปทฺจ. สโภชเน, รโห ทฺเว จาติ สโภชเน กุเล อนุปขชฺชสิกฺขาปทฺจ ทฺเว รโหนิสชฺชสิกฺขาปทานิ จ. องฺคุลี อุทเก หสนฺติ องฺคุลิปโตทฺจ อุทกหสธมฺมสิกฺขาปทฺจ.
๓๕๖. ปหาเร อุคฺคิเร เจวาติ ปหารทานสิกฺขาปทฺจ ตลสตฺติอุคฺคิรณสิกฺขาปทฺจ. เตปฺาสา จ เสขิยาติ ปฺจสตฺตติเสขิยาสุ วกฺขมานานิ อุชฺชคฺฆิกาทีนิ สมนุภาสนสมุฏฺานานิ ทส, ฉตฺตปาณิอาทีนิ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานานิ เอกาทส, เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ ¶ , สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปทฺจาติ พาวีสติ สิกฺขาปทานิ เปตฺวา ปริมณฺฑลนิวาสนาทีนิ อิตรานิ เตปฺาส เสขิยสิกฺขาปทานิ จ. อธกฺขกุพฺภชาณฺุจาติ ภิกฺขุนีนํ อธกฺขกอุพฺภชาณุสิกฺขาปทฺจ. คามนฺตรมวสฺสุตาติ คามนฺตรคมนํ, อวสฺสุตสฺส หตฺถโต ขาทนียคฺคหณสิกฺขาปทฺจ.
๓๕๗-๘. ตลมฏฺุทสุทฺธิ จาติ ตลฆาตํ, ชตุมฏฺํ, อุทกสุทฺธิกาทิยนฺจ. วสฺสํวุตฺถาติ ‘‘วสฺสํวุตฺถา…เป… ฉปฺปฺจโยชนานี’’ติ (ปาจิ. ๙๗๔) สิกฺขาปทฺจ. โอวาทาย น คจฺฉนฺตีติ โอวาทาย อคมนสิกฺขาปทฺจ. นานุพนฺเธ ปวตฺตินินฺติ ‘‘วุฏฺาปิตํ ปวตฺตินึ ทฺเว วสฺสานิ นานุพนฺเธยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๑๒) สิกฺขาปทฺจาติ อุภโตวิภงฺเค นิทฺทิฏฺา อิเม ปฺจสตฺตติ ธมฺมา กายจิตฺตสมุฏฺิตา เมถุเนน สมา เอกสมุฏฺานา มตาติ โยชนา.
เอตฺถ จ ปาฬิยํ ‘‘ฉสตฺตตี’’ติ คณนปริจฺเฉโท สมุฏฺานสิกฺขาปเทน สห ทสฺสิโต. อิธ ปน ตํ วินา ตํสทิสานเมว ¶ คณนา ทสฺสิตา. เตเนว ปมํ สมุฏฺานสีสํ ปาฬิยํ คณนายปิ ทสฺสิตํ, อิเธว น ทสฺสิตํ. อุปริ กตฺถจิ สมุฏฺานสีสสฺส ทสฺสนํ ปเนตฺถ วกฺขมานานํ ตํสทิสภาวทสฺสนตฺถํ, คณนาย วกฺขมานาย อนฺโตคธภาวทสฺสนตฺถํ. เตเนว ตตฺถปิ ตํ วินา คณนํ วกฺขติ.
ปมปาราชิกสมุฏฺานวณฺณนา.
๓๕๙. วิคฺคหนฺติ มนุสฺสวิคฺคหสิกฺขาปทํ. อุตฺตริ เจวาติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสิกฺขาปทฺจ. ทุฏฺุลฺลนฺติ ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทํ. อตฺตกามตาติ อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทฺจ. ทุฏฺโทสา ทุเว เจวาติ ทฺเว ทุฏฺโทสสิกฺขาปทานิ จ. ทุติยานิยโตปิ จาติ ทุติยอนิยตสิกฺขาปทฺจ.
๓๖๐. อจฺฉินฺทนฺจาติ สามํ จีวรํ ทตฺวา อจฺฉินฺทนฺจ. ปริณาโมติ สงฺฆิกลาภสฺส อตฺตโน ปริณามนฺจ. มุสาโอมสเปสุณาติ มุสาวาโท จ โอมสวาโท จ ภิกฺขุเปสฺฺุจ. ทุฏฺุลฺลาโรจนฺเจวาติ ทุฏฺุลฺลาปตฺติอาโรจนสิกฺขาปทฺจ. ปถวีขณนมฺปิ จาติ ปถวีขณนสิกฺขาปทฺจ.
๓๖๑. ภูตคามฺจ ¶ วาโท จาติ ภูตคามสิกฺขาปทํ, อฺวาทกสิกฺขาปทฺจ. อุชฺฌาปนกเมว จาติ อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทฺจ. นิกฺกฑฺโฒ สิฺจนฺเจวาติ วิหารโต นิกฺกฑฺฒนฺจ อุทเก ติณาทิสิฺจนฺจ. อามิสเหตุ จาติ อามิสเหตุ ภิกฺขุนิโย โอวาทสิกฺขาปทฺจ.
๓๖๒. ภุตฺตาวินฺติ ภุตฺตาวึ อนติริตฺเตน ขาทนียาทินา ปวารณสิกฺขาปทฺจ. เอหนาทรินฺติ ‘‘เอหาวุโส, คามํ วา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ อนาทริยสิกฺขาปทฺจ. ภึสาปนเมว จาติ ¶ ภิกฺขุภึสนกฺจ. อปนิเธยฺยาติ ปตฺตาทิอปนิธานสิกฺขาปทฺจ. สฺจิจฺจ ปาณนฺติ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตาโวโรปนฺจ. สปฺปาณกมฺปิ จาติ ชานํ สปฺปาณกอุทกสิกฺขาปทฺจ.
๓๖๓. อุกฺโกฏนฺจาติ ปุนกมฺมาย อุกฺโกฏนฺจ. อูโนติ อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทฺจ. สํวาโสติ อุกฺขิตฺตเกน สทฺธึ สํวาสสิกฺขาปทฺจ. นาสเน จาติ นาสิตกสามเณรสมฺโภคสิกฺขาปทฺจ. สหธมฺมิกนฺติ สหธมฺมิกํ วุจฺจมานสิกฺขาปทฺจ. วิเลขา จาติ ‘‘วิเลขาย สํวตฺตนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๔๓๙) อาคตสิกฺขาปทฺจ. โมหนาติ โมหนสิกฺขาปทฺจ. อมูลเกน จาติ อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํสนสิกฺขาปทฺจ.
๓๖๔. กุกฺกุจฺจํ ขียนํ ทตฺวาติ กุกฺกุจฺจอุปฺปาทนฺจ ธมฺมิกานํ กมฺมานํ ฉนฺทํ ทตฺวา ขียนฺจ จีวรํ ทตฺวา ขียนฺจ. ปริณาเมยฺย ปุคฺคเลติ สงฺฆิกํ ลาภํ ปุคฺคลสฺส ปริณามนสิกฺขาปทฺจ. กึ เต, อกาลํ, อจฺฉินฺเทติ ‘‘กึ เต, อยฺเย, เอโส ปุริสปุคฺคโล กริสฺสตี’’ติ (ปาจิ. ๗๐๕) อาคตสิกฺขาปทฺจ อกาลจีวรํ ‘‘กาลจีวร’’นฺติ อธิฏฺหิตฺวา ภาชนสิกฺขาปทฺจ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ จีวรํ ปริวตฺเตตฺวา อจฺฉินฺทนสิกฺขาปทฺจ. ทุคฺคหนิรเยน จาติ ทุคฺคหิเตน ทุปธาริเตน ปรํ อุชฺฌาปนสิกฺขาปทฺจ นิรเยน วา พฺรหฺมจริเยน วา อภิสปนสิกฺขาปทฺจ.
๓๖๕. คณสฺส จาติ ‘‘คณสฺส จีวรลาภํ อนฺตรายํ กเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๐๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. วิภงฺคฺจาติ ‘‘ธมฺมิกํ จีวรวิภงฺคํ ปฏิพาเหยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๑๒) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ทุพฺพลาสา ตเถว จาติ ‘‘ทุพฺพลจีวรปจฺจาสาย จีวรกาลสมยํ อติกฺกาเมยฺยา’’ติ ¶ (ปาจิ. ๙๒๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ธมฺมิกํ กถินุทฺธารนฺติ ‘‘ธมฺมิกํ ¶ กถินุทฺธารํ ปฏิพาเหยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๒๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สฺจิจฺจาผาสุเมว จาติ ‘‘ภิกฺขุนิยา สฺจิจฺจ อผาสุํ กเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๔๒) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.
๓๖๖. สยํ อุปสฺสยํ ทตฺวาติ ‘‘ภิกฺขุนิยา อุปสฺสยํ ทตฺวา กุปิตา อนตฺตมนา นิกฺกฑฺเฒยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๕๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อกฺโกเสยฺย จาติ ‘‘ภิกฺขุํ อกฺโกเสยฺย วา ปริภาเสยฺย วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๒๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. จณฺฑิกาติ ‘‘จณฺฑีกตา คณํ ปริภาเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๓๔) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. กุลมจฺฉรินี อสฺสาติ ‘‘กุลมจฺฉรินี อสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๔๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. คพฺภินึ วุฏฺาเปยฺย จาติ ‘‘คพฺภินึ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๖๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.
๓๖๗. ปายนฺตินฺติ ‘‘ปายนฺตึ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๗๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ทฺเว จ วสฺสานีติ ‘‘ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ อสิกฺขิตสิกฺขํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๘๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สงฺเฆนาสมฺมตนฺติ ‘‘สิกฺขิตสิกฺขํ สิกฺขมานํ สงฺเฆน อสมฺมตํ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๘๖) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ติสฺโส คิหิคตา วุตฺตาติ ‘‘อูนทฺวาทสวสฺสํ คิหิคตํ (ปาจิ. ๑๐๙๑), ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสํ คิหิคตํ ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ อสิกฺขิตสิกฺขํ (ปาจิ. ๑๐๙๗), ทฺเววสฺสานิ สิกฺขิตสิกฺขํ สงฺเฆน อสมฺมต’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๐๓) วุตฺตสิกฺขาปทานิ จ. ติสฺโสเยว กุมาริกาติ ‘‘อูนวีสติวสฺสํ กุมาริภูต’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๑๑๒๐) นเยน วุตฺตา ติสฺโส จ.
๓๖๘. อูนทฺวาทสวสฺสา ทฺเวติ ‘‘อูนทฺวาทสวสฺสา วุฏฺาเปยฺย (ปาจิ. ๑๑๓๗), ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา สงฺเฆน อสมฺมตา วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๔๒) วุตฺตานิ ทฺเว สิกฺขาปทานิ จ. อลํ ตาว เตติ ‘‘อลํ ¶ ตาว เต, อยฺเย, วุฏฺาปิเตนา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๔๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. โสกาวสฺสาติ ‘‘จณฺฑึ โสกาวาสํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๕๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปาริวาสิกจฺฉนฺททานโตติ ‘‘ปาริวาสิกฉนฺททาเนน สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๖๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.
๓๖๙. อนุวสฺสํ ทุเว จาติ ‘‘อนุวสฺสํ วุฏฺาเปยฺย (ปาจิ. ๑๑๗๑), เอกํ วสฺสํ ทฺเว วุฏฺาเปยฺยา’’ติ ¶ (ปาจิ. ๑๑๗๕) วุตฺตสิกฺขาปทานิ จาติ เอกูนสตฺตติ สิกฺขาปทานิ. อทินฺนาทานตุลฺยตฺตาติ อทินฺนาทาเนน สมานสมุฏฺานตฺตา. ติสมุฏฺานิกา กตาติ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺหนฺตีติ วุตฺตา.
ทุติยปาราชิกสมุฏฺานวณฺณนา.
๓๗๐. สฺจริกุฏิมหลฺลกนฺติ สฺจริตฺตํ, สฺาจิกาย กุฏิกรณํ, มหลฺลกวิหารกรณฺจ. โธวาปนฺจ ปฏิคฺคโหติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา ปุราณจีวรโธวาปนฺจ จีวรปฏิคฺคหณฺจ. จีวรสฺส จ วิฺตฺตินฺติ อฺาตกํ คหปตึ วา คหปตานึ วา จีวรวิฺาปนสิกฺขาปทฺจ. คหณฺจ ตทุตฺตรินฺติ ตทุตฺตริสาทิยนสิกฺขาปทฺจ.
๓๗๑. อุปกฺขฏทฺวยฺเจวาติ ‘‘จีวรเจตาปนฺนํ อุปกฺขฏํ โหตี’’ติ (ปารา. ๕๒๘) อาคตสิกฺขาปททฺวยฺจ. ตถา ทูเตน จีวรนฺติ ทูเตนจีวรเจตาปนฺนปหิตสิกฺขาปทฺจ. โกสิยนฺติ โกสิยมิสฺสกสิกฺขาปทฺจ. สุทฺธกาฬานนฺติ ‘‘สุทฺธกาฬกาน’’นฺติอาทิสิกฺขาปทฺจ (ปารา. ๕๔๘). ทฺเว ภาคาทานเมว จาติ ‘‘ทฺเว ภาคา อาทาตพฺพา’’ติ (ปารา. ๕๕๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.
๓๗๒. ฉพฺพสฺสานีติ ¶ ฉพฺพสฺสานิ ธารณสิกฺขาปทฺจ. ปุราณสฺสาติ ‘‘ปุราณสนฺถตสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๖๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. โลมโธวาปนมฺปิ จาติ เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทฺจ. รูปิยสฺส ปฏิคฺคาโหติ รูปิยปฏิคฺคหณสิกฺขาปทฺจ. อุโภ นานปฺปการกาติ รูปิยสํโวหารกยวิกฺกยสิกฺขาปทานิ จ.
๓๗๓. อูนพนฺธนปตฺโต จาติ อูนปฺจพนฺธนปตฺตสิกฺขาปทฺจ. วสฺสสาฏิกสุตฺตกนฺติ วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทฺจ สุตฺตํ วิฺาเปตฺวา จีวรการาปนสิกฺขาปทฺจ. วิกปฺปาปชฺชนนฺติ ตนฺตวาเย อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปาปชฺชนฺจ. ยาว ทฺวารทานฺจ สิพฺพนนฺติ ‘‘ยาว ทฺวารโกสา อคฺคฬฏฺปนายา’’ติ (ปาจิ. ๑๓๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ ‘‘อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ ทเทยฺย (ปาจิ. ๑๗๑), จีวรํ สิพฺเพยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๗๖) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ.
๓๗๔. ปูเวหีติ ¶ ปูเวหิ วา มนฺเถหิ วา อภิหฏฺุํ ปวารณสิกฺขาปทฺจ. ปจฺจโยติ จตุมาสปจฺจยปวารณสิกฺขาปทฺจ. โชตีติ โชติยา สมาทหนสิกฺขาปทฺจ. รตนนฺติ รตนสิกฺขาปทฺจ. สูจิ…เป… สุคตสฺส จาติ สูจิฆรสิกฺขาปทาทีนิ สตฺต สิกฺขาปทานิ จ.
๓๗๕. อฺวิฺตฺติสิกฺขา จาติ ‘‘อฺํ วิฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๔๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อฺํ เจตาปนมฺปิ จาติ ‘‘อฺํ เจตาเปตฺวา อฺํ เจตาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๔๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สงฺฆิเกน ทุเว วุตฺตาติ ‘‘สงฺฆิเกน อฺํ เจตาเปยฺย (ปาจิ. ๗๕๙), สงฺฆิเกน สฺาจิเกน อฺํ เจตาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๖๔) วุตฺตานิ ทฺเว สิกฺขาปทานิ จ. ทฺเว มหาชนิเกนาติ ‘‘มหาชนิเกน อฺํ เจตาเปยฺย (ปาจิ. ๗๖๙), มหาชนิเกน สฺาจิเกน อฺํ เจตาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๗๔) วุตฺตานิ ทฺเว สิกฺขาปทานิ จ.
๓๗๖. ตถา ¶ ปุคฺคลิเกเนกนฺติ ‘‘ปุคฺคลิเกน สฺาจิเกน อฺํ เจตาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๗๙) วุตฺตเมกสิกฺขาปทฺจ. ครุปาวุรณนฺติ ครุปาวุรณเจตาปนสิกฺขาปทฺจ. ลหุนฺติ ลหุปาวุรณเจตาปนสิกฺขาปทํ. ‘‘วิฆาสา อุทสาฏิ จา’’ติ ปทจฺเฉโท. ทฺเว วิฆาสาติ ‘‘อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา สงฺการํ วา วิฆาสํ วา ติโรกุฏฺเฏ วา ติโรปากาเร วา ฉฑฺเฑยฺย วา ฉฑฺฑาเปยฺย วา (ปาจิ. ๘๒๕), หริเต ฉฑฺเฑยฺย วา ฉฑฺฑาเปยฺย วา’’ติ (ปาจิ. ๘๒๙) เอวํ วุตฺตานิ ทฺเว วิฆาสสิกฺขาปทานิ จ. อุทสาฏิ จาติ อุทกสาฏิกสิกฺขาปทฺจ. ตถา สมณจีวรนฺติ ตถา ‘‘สมณจีวรํ ทเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๑๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจาติ.
๓๗๗. อิติ เอเต เอกูนปณฺณาส ธมฺมา ทุกฺขนฺตทสฺสินา ภควตา ฉสมุฏฺานิกา เตเยว สฺจริตฺตสมา สฺจริตฺตสิกฺขาปเทน สมา กตา อนุมตา ปฺตฺตาติ โยชนา.
สฺจริตฺตสมุฏฺานวณฺณนา.
๓๗๘. สงฺฆเภโทติ สงฺฆเภทสิกฺขาปทฺจ. เภทานุวตฺตทุพฺพจทูสกาติ เภทานุวตฺตกทุพฺพจกุลทูสกสิกฺขาปทานิ จ. ทุฏฺุลฺลจฺฉาทนนฺติ ทุฏฺุลฺลปฏิจฺฉาทนสิกฺขาปทฺจ. ทิฏฺีติ ทิฏฺิอปฺปฏินิสฺสชฺชนสิกฺขาปทฺจ ¶ . ฉนฺทอุชฺชคฺฆิกา ทุเวติ ฉนฺทํอทตฺวาคมนสิกฺขาปทฺจ อุชฺชคฺฆิกาย อนฺตรฆเร คมนนิสีทนสิกฺขาปททฺวยฺจ.
๓๗๙. อปฺปสทฺทา ทุเว วุตฺตาติ ‘‘อปฺปสทฺโท อนฺตรฆเร คมิสฺสามิ, นิสีทิสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๕๘๘, ๕๘๙) วุตฺตานิ ทฺเว สิกฺขาปทานิ จ. น พฺยาหเรติ ‘‘น สกพเฬน มุเขน พฺยาหริสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๖๑๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ฉมา, นีจาสเน, านนฺติ ‘‘ฉมายํ นิสีทิตฺวา (ปาจิ. ๖๔๕), นีเจ ¶ อาสเน นิสีทิตฺวา (ปาจิ. ๖๔๗), ิโต นิสินฺนสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๔๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปจฺฉโต อุปฺปเถน จาติ ‘‘ปจฺฉโต คจฺฉนฺโต ปุรโต คจฺฉนฺตสฺส (ปาจิ. ๖๔๙), อุปฺปเถน คจฺฉนฺโต ปเถน คจฺฉนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๕๐) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ.
๓๘๐. วชฺชจฺฉาทาติ วชฺชโต ปฏิจฺฉาทนสิกฺขาปทฺจ. อนุวตฺตา จาติ อุกฺขิตฺตานุวตฺตนสิกฺขาปทฺจ. คหณนฺติ ‘‘หตฺถคฺคหณํ วา สาทิเยยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. โอสาเรยฺย จาติ ‘‘อนปโลเกตฺวา การกสงฺฆํ อนฺาย คณสฺส ฉนฺทํ โอสาเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๖๙๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปจฺจกฺขามีติ สิกฺขา จาติ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจาจิกฺขามี’’ติ (ปาจิ. ๗๑๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตถา กิสฺมิฺจิเทว จาติ ‘‘กิสฺมิฺจิเทว อธิกรเณ ปจฺจากตา’’ติ (ปาจิ. ๗๑๖) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.
๓๘๑. สํสฏฺา ทฺเว จาติ ‘‘ภิกฺขุนิโย ปเนว สํสฏฺา วิหรนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๗๒๒) จ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี เอวํ วเทยฺย สํสฏฺาว, อยฺเย, ตุมฺเห วิหรถา’’ติอาทิวจนํ (ปาจิ. ๗๒๘) ปฏิจฺจ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ. วธิตฺวา จาติ ‘‘อตฺตานํ วธิตฺวา วธิตฺวา โรเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๘๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. วิสิพฺเพตฺวา จาติ ‘‘ภิกฺขุนิยา จีวรํ วิสิพฺเพตฺวา วา วิสิพฺพาเปตฺวา วา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ทุกฺขิตนฺติ ‘‘ทุกฺขิตํ สหชีวินิ’’นฺติ (ปาจิ. ๙๔๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปุนเทว จ สํสฏฺาติ ‘‘สํสฏฺา วิหเรยฺย คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา’’ติ (ปาจิ. ๙๕๖) เอวํ ปุน วุตฺตสํสฏฺสิกฺขาปทฺจ. เนว วูปสเมยฺย จาติ ‘‘‘เอหายฺเย, อิมํ อธิกรณํ วูปสเมหี’ติ (ปาจิ. ๙๙๕) วุจฺจมานา ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา สา ปจฺฉา อนนฺตรายิกินี เนว วูปสเมยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.
๓๘๒. ชานํ ¶ ¶ สภิกฺขุการามนฺติ ‘‘ชานํ สภิกฺขุกํ อารามํ อนาปุจฺฉา ปวิเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๒๔) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตเถว น ปวารเยติ ‘‘อุภโตสงฺเฆ ตีหิ าเนหิ น ปวาเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๕๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตถา อนฺวทฺธมาสฺจาติ ‘‘อนฺวทฺธมาสํ ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสงฺฆโต ทฺเว ธมฺมา ปจฺจาสีสิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๕๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สหชีวินิโย ทุเวติ ‘‘สหชีวินึ วุฏฺาเปตฺวา ทฺเว วสฺสานิ เนว อนุคฺคณฺเหยฺย (ปาจิ. ๑๑๐๘), สหชีวินึ วุฏฺาเปตฺวา เนว วูปกาเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๑๖) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ.
๓๘๓-๔. สเจ เม จีวรํ อยฺเยติ ‘‘สเจ เม ตฺวํ, อยฺเย, จีวรํ ทสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๑๑๕๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อนุพนฺธิสฺสสีติ ‘‘สเจ มํ ตฺวํ, อยฺเย, ทฺเว วสฺสานิ อนุพนฺธิสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๑๑๕๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อสเมน สมฺพุทฺเธน ปกาสิตา อิเม สตฺตตึส ธมฺมา สพฺเพ กายวาจาทิโต กายวาจาจิตฺตโต เอกสมุฏฺานา กตา สมนุภาสนา สิยุํ สมุฏฺานโต สมนุภาสนสิกฺขาปเทน สทิสา สิยุนฺติ โยชนา.
สมนุภาสนสมุฏฺานวณฺณนา.
๓๘๕. กถินานิ จ ตีณีติ ‘‘นิฏฺิตจีวรสฺมึ ภิกฺขุนา อุพฺภตสฺมึ กถิเน’’ติ (ปารา. ๔๖๒) วุตฺตานิ อาทิโต ตีณิ สิกฺขาปทานิ. ปตฺโตติ ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกปตฺโต’’ติ (ปารา. ๖๐๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. เภสชฺชเมว จาติ ‘‘ปฏิสายนียานิ เภสชฺชานี’’ติ (ปารา. ๖๒๒) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อจฺเจกมฺปิ จาติ อจฺเจกสิกฺขาปทฺจ. สาสงฺกนฺติ ¶ ตทนนฺตรเมว สาสงฺกสิกฺขาปทฺจ. ปกฺกมนฺตทฺวยมฺปิ จาติ ‘‘ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๙, ๑๑๕) ภูตคามวคฺเค วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ.
๓๘๖. ตถา อุปสฺสยํ คนฺตฺวาติ ‘‘ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปรมฺปรํ โภชนนฺติ ‘‘ปรมฺปรโภชเน ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๒๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อนติริตฺตนฺติ ‘‘อนติริตฺตํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สภตฺโตติ ‘‘นิมนฺติโต สภตฺโต สมาโน’’ติ ¶ (ปาจิ. ๒๙๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. วิกปฺเปตฺวา ตเถว จาติ ‘‘จีวรํ วิกปฺเปตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๓๗๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.
๓๘๗. รฺโติ ‘‘รฺโ ขตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๙๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. วิกาเลติ ‘‘วิกาเล คามํ ปวิเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๕๐๙-๕๑๒) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. โวสาสาติ ‘‘โวสาสมานรูปา ิตา’’ติ (ปาจิ. ๕๕๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ‘‘อารฺเก อุสฺสยวาทิกา’’ติ ปทจฺเฉโท. อารฺเกติ ‘‘ตถารูเปสุ อารฺเกสุ เสนาสเนสุ ปุพฺเพ อปฺปฏิสํวิทิต’’นฺติ (ปาจิ. ๕๗๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อุสฺสยวาทิกาติ ‘‘อุสฺสยวาทิกา วิหเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปตฺตสนฺนิจยฺเจวาติ ‘‘ปตฺตสนฺนิจยํ กเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๓๔) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปุเร, ปจฺฉา, วิกาลเกติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปุเรภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๘๕๕) จ ‘‘ปจฺฉาภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๘๖๐) จ ‘‘วิกาเล กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๘๖๕) จ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยฺจ.
๓๘๘-๙. ปฺจาหิกนฺติ ¶ ‘‘ปฺจาหิกํ สงฺฆาฏิจารํ อติกฺกเมยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สงฺกมนินฺติ ‘‘จีวรสงฺกมนียํ ธาเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๐๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตถา อาวสถทฺวยนฺติ ‘‘อาวสถจีวรํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุเชยฺย (ปาจิ. ๑๐๐๔), อาวสถํ อนิสฺสชฺชิตฺวา จาริกํ ปกฺกเมยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๐๙) เอวํ อาวสเถน สทฺธึ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ. ปสาเขติ ‘‘ปสาเข ชาตํ คณฺฑํ วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๖๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อาสเน จาติ ‘‘ภิกฺขุสฺส ปุรโต อนาปุจฺฉา อาสเน นิสีเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๑๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจาติ อิเม ปน เอกูนตึส ธมฺมา กายวาจโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺานโต สพฺเพ ทฺวิสมุฏฺานิกา, ตโตเยว กถินสมฺภวา กถินสมุฏฺานา โหนฺตีติ โยชนา.
กถินสมุฏฺานวณฺณนา.
๓๙๐. ทฺเว เสยฺยาติ ทฺเว สหเสยฺยสิกฺขาปทานิ จ. อาหจฺจปาโท จาติ อาหจฺจปาทกสิกฺขาปทฺจ. ปิณฺฑฺจาติ อาวสถปิณฺฑโภชนสิกฺขาปทฺจ. คณโภชนนฺติ คณโภชนสิกฺขาปทฺจ ¶ . วิกาเลติ วิกาลโภชนสิกฺขาปทฺจ. สนฺนิธิฺเจวาติ สนฺนิธิการกสิกฺขาปทฺจ. ทนฺตโปนนฺติ ทนฺตโปนสิกฺขาปทฺจ. อเจลกนฺติ อเจลกสิกฺขาปทฺจ.
๓๙๑. อุยฺยุตฺตฺจาติ ‘‘อุยฺยุตฺตํ เสนํ ทสฺสนาย คจฺเฉยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๓๑๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ‘‘วเส อุยฺโยธิ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. วเสติ ‘‘เสนาย วเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๓๑๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อุยฺโยธินฺติ ‘‘อุยฺโยธิกํ วา…เป… อนีกทสฺสนํ วา คจฺเฉยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๓๒๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ ¶ . สุราติ สุราปานสิกฺขาปทฺจ. โอเรน นฺหายนนฺติ โอเรนทฺธมาสนหายนสิกฺขาปทฺจ. ทุพฺพณฺณกรณฺเจวาติ ‘‘ติณฺณํ ทุพฺพณฺณกรณาน’’นฺติ (ปาจิ. ๓๖๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปาฏิเทสนียทฺวยนฺติ วุตฺตาวเสสํ ปาฏิเทสนียทฺวยฺจ.
๓๙๒. ลสุณนฺติ ลสุณสิกฺขาปทฺจ. อุปติฏฺเยฺยาติ ‘‘ภิกฺขุสฺส ภฺุชนฺตสฺส ปานีเยน วา วิธูปเนน วา อุปติฏฺเยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๑๖) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. นจฺจทสฺสนเมว จาติ ‘‘นจฺจํ วา คีตํ วา วาทิตํ วา ทสฺสนาย คจฺเฉยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๓๔) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. นคฺคนฺติ ‘‘นคฺคา นหาเยยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๘๔) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อตฺถรณนฺติ ‘‘เอกตฺถรณปาวุรณา ตุวฏฺเฏยฺยุ’’นฺติ (ปาจิ. ๙๓๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. มฺเจติ ‘‘เอกมฺเจ ตุวฏฺเฏยฺยุ’’นฺติ (ปาจิ. ๙๓๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อนฺโตรฏฺเติ ‘‘อนฺโตรฏฺเ สาสงฺกสมฺมเต’’ติ (ปาจิ. ๙๖๒) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตถา พหีติ ‘‘ติโรรฏฺเ สาสงฺกสมฺมเต’’ติ (ปาจิ. ๙๖๖) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.
๓๙๓. อนฺโตวสฺสนฺติ ‘‘อนฺโตวสฺสํ จาริกํ จเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๗๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อคารฺจาติ ‘‘ราชาคารํ วา จิตฺตาคารํ วา…เป… โปกฺขรณึ วา ทสฺสนาย คจฺเฉยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๗๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อาสนฺทินฺติ ‘‘อาสนฺทึ วา ปลฺลงฺกํ วา ปริภฺุเชยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๘๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สุตฺตกนฺตนนฺติ ‘‘สุตฺตํ กนฺเตยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๘๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. เวยฺยาวจฺจนฺติ ‘‘คิหิเวยฺยาวจฺจํ กเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๙๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สหตฺถา จาติ ‘‘อคาริกสฺส วา ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา สหตฺถา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ทเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๐๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ ¶ ¶ . อาวาเส จ อภิกฺขุเกติ ‘‘อภิกฺขุเก อาวาเส วสฺสํ วเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๔๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.
๓๙๔. ฉตฺตนฺติ ‘‘ฉตฺตุปาหนํ ธาเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๗๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ยานฺจาติ ‘‘ยาเนน ยาเยยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๘๖) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สงฺฆาณินฺติ ‘‘สงฺฆาณึ ธาเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๙๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อลงฺการนฺติ ‘‘อิตฺถาลงฺการํ ธาเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๙๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. คนฺธวาสิตนฺติ ‘‘คนฺธวณฺณเกน นหาเยยฺย (ปาจิ. ๑๑๙๙), วาสิตเกน ปิฺาเกน นหาเยยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๐๓) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ. ‘‘ภิกฺขุนี…เป… คิหินิยา’’ติ เอเตน ‘‘ภิกฺขุนิยา อุมฺมทฺทาเปยฺยา’’ติอาทีนิ (ปาจิ. ๑๒๐๗) จตฺตาริ สิกฺขาปทานิ วุตฺตานิ.
๓๙๕. ตถาสํกจฺจิกาติ ‘‘อสํกจฺจิกา คามํ ปวิเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๒๕) เอวํ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อิเม ปน เตจตฺตาลีส ธมฺมา สพฺเพ กายจิตฺตวเสน ทฺวิสมุฏฺานิกา. เอฬกโลเมน สมุฏฺานโต สมา โหนฺตีติ โยชนา.
เอฬกโลมสมุฏฺานวณฺณนา.
๓๙๖-๗. อฺตฺราติ ‘‘มาตุคามสฺส อุตฺตริฉปฺปฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสยฺย อฺตฺร วิฺุนา ปุริสวิคฺคเหนา’’ติ (ปาจิ. ๖๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อสมฺมโต เจวาติ ‘‘อสมฺมโต ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๔๖) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตถา อตฺถงฺคเตน จาติ ‘‘อตฺถงฺคเต สูริเย ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๔) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ติรจฺฉานวิชฺชา ทฺเว วุตฺตาติ ‘‘ติรจฺฉานวิชฺชํ ปริยาปุเณยฺย, วาเจยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๑๔, ๑๐๑๘) เอวํ วุตฺตานิ ทฺเว สิกฺขาปทานิ จ. อโนกาสกตมฺปิ จาติ ‘‘อโนกาสกตํ ภิกฺขุํ ปฺหํ ¶ ปุจฺเฉยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๒๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจาติ อิเม ปน สพฺเพ ฉ ธมฺมา วาจโต, วาจาจิตฺตโต จาติ อิเมหิ ทฺวีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺานิกา โหนฺติ. ปทโสธมฺมตุลฺยตา อยเมเตสํ ปทโสธมฺเมน สทิสภาโวติ โยชนา.
ปทโสธมฺมสมุฏฺานวณฺณนา.
๓๙๘-๙. เอกนฺติ ¶ ‘‘ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺเชยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๘๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. นาวนฺติ ‘‘เอกนาวํ อภิรุเหยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๘๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปณีตฺจาติ ‘‘ปณีตโภชนานิ อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวาภฺุเชยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๒๕๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สํวิธานฺจาติ มาตุคาเมน สทฺธึ สํวิธาย คมนสิกฺขาปทฺจ. สํหเรติ ‘‘สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๙๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ธฺนฺติ ‘‘อามกธฺํ วิฺตฺวา วา’’ติ (ปาจิ. ๘๒๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. นิมนฺติตา เจวาติ ‘‘นิมนฺติตา วา ปวาริตา วา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาเทยฺย วา ภฺุเชยฺย วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๓๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปาฏิเทสนิยฏฺกนฺติ ภิกฺขุนีนํ วุตฺตา อฏฺ ปาฏิเทสนียา เจติ พุทฺธเสฏฺเน ปฺตฺตา เอตา จุทฺทส สิกฺขา จตุสมุฏฺานา กายโต, กายวาจโต, กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต จาติ จตูหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺหนฺติ. สมุฏฺานโต อทฺธาเนน อทฺธานสิกฺขาปเทน สมา โหนฺตีติ มตาติ โยชนา.
อทฺธานสมุฏฺานวณฺณนา.
๔๐๐-๑. สุตินฺติ ¶ อุปสฺสุติติฏฺนสิกฺขาปทฺจ. สูปาทิวิฺตฺตินฺติ สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปทฺจ. อนฺธกาเรติ ‘‘รตฺตนฺธกาเร อปฺปทีเป’’ติ (ปาจิ. ๘๓๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตเถว จ ปฏิจฺฉนฺเนติ ‘‘ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส’’ติ (ปาจิ. ๘๔๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. โอกาเสติ ‘‘อชฺโฌกาเส ปุริเสน สทฺธิ’’นฺติ (ปาจิ. ๘๔๗) เอวํ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. พฺยูเห จาติ ตทนนฺตรเมว ‘‘รถิกาย วา พฺยูเห วา สิงฺฆาฏเก วา ปุริเสน สทฺธิ’’นฺติ (ปาจิ. ๘๕๑) อาคตสิกฺขาปทฺจาติ อิเม สพฺเพปิ อาทิจฺจพนฺธุนา เทสิตา ฉ ธมฺมา จตุตฺถจฺฉฏฺโต กายจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺหนฺตา เถยฺยสตฺถสมุฏฺานา เถยฺยสตฺถสิกฺขาปเทน สมานสมุฏฺานา สิยุนฺติ โยชนา.
เถยฺยสตฺถสมุฏฺานวณฺณนา.
๔๐๒. ฉตฺต, ทณฺฑกรสฺสาปีติ ‘‘น ฉตฺตปาณิสฺส ทณฺฑปาณิสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๓๕) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ. สตฺถาวุธกรสฺสาปีติ ‘‘น สตฺถปาณิสฺส (ปาจิ. ๖๓๖), น อาวุธปาณิสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๓๗) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ. ปาทุกูปาหนา, ยานนฺติ ‘‘น ปาทุการุฬฺหสฺส ¶ (ปาจิ. ๖๓๘), น อุปาหนารุฬฺหสฺส (ปาจิ. ๖๓๙), น ยานคตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๔๐) วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยฺจ. เสยฺยา, ปลฺลตฺถิกาย จาติ ‘‘น สยนคตสฺส (ปาจิ. ๖๔๑), น ปลฺลตฺถิกาย นิสินฺนสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๔๒) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ.
๔๐๓. เวิโตคุณฺิโต จาติ ‘‘น เวิตสีสสฺส (ปาจิ. ๖๔๓), น โอคุณฺิตสีสสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๔๔) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจาติ นิทสฺสิตา สพฺเพ เอกาทส ธมฺมา วาจาจิตฺตสงฺขาเตน เอเกน สมุฏฺาเนน ¶ สมุฏฺิตา ธมฺมเทสนสมุฏฺานาติ สฺิตา สลฺลกฺขิตาติ โยชนา.
ธมฺมเทสนสมุฏฺานวณฺณนา.
๔๐๔. เอวํ ตาว สมฺภินฺนสมุฏฺานํ เวทิตพฺพํ, นิยตสมุฏฺานํ ติวิธํ, ตํ เอกสฺเสว สิกฺขาปทสฺส โหตีติ วิสุํเยว ทสฺเสตุมาห ‘‘ภูตาโรจนกฺเจวา’’ติอาทิ. ภูตาโรจนกฺเจวาติ ตีหิ อจิตฺตกสมุฏฺาเนหิ สมุฏฺิตํ ภูตาโรจนสิกฺขาปทฺจ. โจริวุฏฺาปนมฺปิ จาติ วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จาติ ทฺวีหิ สมุฏฺิตํ โจริวุฏฺาปนสิกฺขาปทฺจ. อนนฺุาตเมว อนนฺุาตมตฺตํ. อนนฺุาตมตฺตนฺติ วาจโต, กายวาจโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จาติ จตูหิ สมุฏฺิตํ อนนฺุาตสิกฺขาปทฺจาติ. อิทํ ตยนฺติ อิทํ สิกฺขาปทตฺตยํ. อสมฺภินฺนนฺติ เกนจิ อฺเน สิกฺขาปเทน อสมฺมิสฺสสมุฏฺานํ.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
สมุฏฺานสีสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาปตฺติสมุฏฺานกถาวณฺณนา
๔๐๕. อาทินาติ ปเมน กายสงฺขาเตน สมุฏฺาเนน.
๔๐๖-๗. ทุกฺกฏาทโยติ อาทิ-สทฺเทน ถุลฺลจฺจยสงฺฆาทิเสสา คหิตา. ยถาห – ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ ¶ . เอกํ ปิณฺฑํ อนาคเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ตสฺมึ ปิณฺเฑ อาคเต อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปริ. ๒๗๗). วิกาเล ปน ปาจิตฺตีติ วิกาลโภชนปาจิตฺติ. อฺาติหตฺถโตติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา อนฺตรฆรํ ปวิฏฺาย หตฺถโต. คเหตฺวาติ ¶ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สหตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา. ‘‘ปฺจ อิมา อาปตฺติโย’’ติ ปทจฺเฉโท.
๔๐๘. ทุติเยนาติ วาจาสงฺขาเตน สมุฏฺาเนน.
๔๐๙-๑๐. สมาทิสติ กเถติ เจ. สพฺพถา วิปนฺนนฺติ อเทสิตวตฺถุกตาทินา สพฺพปฺปกาเรน วิปนฺนปฺปเทสํ. กุฏินฺติ สฺาจิกาย กุฏึ. ยถาห ปริวาเร ‘‘ตสฺส กุฏึ กโรนฺติ อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ สารมฺภํ อปริกฺกมน’’นฺติ (ปริ. ๒๗๘). ปทโสธมฺมํ มูลํ สมุฏฺานํ ยสฺส ปาจิตฺติยสฺสาติ ตถา วุตฺตํ, เตน ปทโสธมฺมมูเลน, สหตฺเถ เจตํ กรณวจนํ.
๔๑๑. ตติเยน สมุฏฺาเนนาติ กายวาจาสงฺขาเตน สมุฏฺาเนน.
๔๑๒. สํวิทหิตฺวานาติ สทฺธึ วิทหิตฺวา, ‘‘กุฏึ กโรมา’’ติ อฺเหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวาติ อตฺโถ.
๔๑๓. วตฺวาติ อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา. ภิกฺขุนินฺติ ภิกฺขูนํ ภฺุชนฏฺาเน ตฺวา ‘‘อิธ สูปํ เทถ, อิธ โอทนํ เทถา’’ติ โวสาสมานํ อุปาสกานํ วตฺวา ทาเปนฺตึ ภิกฺขุนึ. น นิวาเรตฺวาติ ‘‘อปสกฺก ตาว, ภคินิ, ยาว ภิกฺขู ภฺุชนฺตี’’ติ อนปสาเทตฺวา ภฺุชโตติ โยชนา.
๔๑๔. จตุตฺเถน กายจิตฺตสมุฏฺาเนน กติ อาปตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา.
๔๑๗. ปฺจเมนาติ วาจาจิตฺตสมุฏฺาเนน. วทนฺติ วทนฺโต สมุทาจรนฺโต.
๔๑๘. กุฏินฺติ ¶ ¶ นิทสฺสนมตฺตํ, อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ สารมฺภํ อปริกฺกมนํ เสนาสนมฺปิ คหณํ เวทิตพฺพํ.
๔๑๙. วาเจติ ปทโส ธมฺมนฺติ เอตฺถ ‘‘อนุปสมฺปนฺน’’นฺติ เสโส. ยถาห – ‘‘ภิกฺขุ อกปฺปิยสฺี อนุปสมฺปนฺนํ ปทโส ธมฺมํ วาเจตี’’ติ (ปริ. ๒๘๑). ทวกมฺยตา วทนฺตสฺสาติ ชาติอาทีหิ อกฺโกสวตฺถูหิ กีฬาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส. ทวกมฺยตาติ จ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒, ๒๔, ๔๒๒; อ. นิ. ๖.๕๘; ๘.๙; มหานิ. ๑๙๙, ๒๐๖; ธ. ส. ๑๓๕๕; วิภ. ๕๑๘) วิย ย-การโลเปน นิทฺเทโส.
๔๒๐. ฉฏฺเน กายวาจาจิตฺตสมุฏฺาเนน. สํวิทหิตฺวานาติ สํวิธาย, ‘‘ตฺวฺจ อหฺจ เอกโต อวหริสฺสามา’’ติ สมฺมนฺตนํ กตฺวา. ภณฺฑํ หรตีติ ‘‘ภาริยํ ตฺวํ เอกํ ปสฺสํ คณฺห, อหํ อิม’’นฺติ วตฺวา เตน สห านา จาเวติ เจ.
๔๒๓. อิธ อิมสฺมึ สาสเน. วิมตูปรมํ ปรมนฺติ เอตฺถ ‘‘กปฺปิยํ นุ โข, อกปฺปิย’’นฺติ วา ‘‘อาปตฺติ นุ โข, อนาปตฺตี’’ติ วา ‘‘ธมฺโม นุ โข, อธมฺโม’’ติ วา เอวมาทินา นเยน วิวิเธนากาเรน ปวตฺตา วิมติ วิจิกิจฺฉา วิมติ. วิมตึ อุปรเมติ วินาเสตีติ วิมตูปรมํ. ปรมํ อุตฺตมํ. อุตฺตรนฺติ วิภงฺคขนฺธกาคตานํ นิทานาทิวินิจฺฉยานํ ปฺหอุตฺตรภาเวน ิตตฺตา อุตฺตรํ. อิมํ อุตฺตรํ นาม ปกรณํ โย อุตฺตรติ ปฺาย โอคาเหตฺวา ปริโยสาเปติ. อิธ ‘‘อุตฺตรํ อุตฺตร’’นฺติ ปททฺวเย เอกํ คุณนิทสฺสนํ, เอกํ สตฺถนิทสฺสนนฺติ คเหตพฺพํ. สุนเยน ยุโต โส ปุคฺคโล วินยํ ปิฏกํ อุตฺตรตีติ สมฺพนฺโธ. กึ วิสิฏฺนฺติ อาห ‘‘สุนย’’นฺติอาทิ ¶ . สุฏฺุ จาริตฺตวาริตฺตทฬฺหีกรณสิถิลกรณเภทา ปฺตฺติอนอุปฺตฺตาทินยา เอตฺถาติ สุนโย, ตํ. สุฏฺุ นียติ วินิจฺฉโย เอเตนาติ สุนโย, อุตฺตรวินิจฺฉโย, เตน. วินิจฺฉยาวโพเธน สํยุตฺโต สมนฺนาคโต. ทุกฺเขน อุตฺตรียตีติ ทุตฺตรํ. ปาติโมกฺขสํวรสีลทีปกตฺเตน สมาธิปฺานิพฺพานสงฺขาตอุตฺตรปฺปตฺติยา ปติฏฺาภาวโต อุตฺตรํ อุตฺตรติ โอคาเหตฺวา ปริโยสานํ ปาปุณาตีติ อตฺโถ.
อิธ โย วิมตูปรมํ ปรมํ อุตฺตรํ อุตฺตรํ นาม ปกรณํ อุตฺตรติ, สุนเยน ยุโต โส ปุคฺคโล ¶ สุนยํ ทุตฺตรํ อุตฺตรํ วินยํ อุตฺตรตีติ โยชนา. จ-สทฺเทน สตฺถนฺตรสมุจฺจยตฺเถน อิมมตฺถํ ทีเปติ. เสยฺยถิทํ, อิธ โย สุนยํ ทุตฺตรํ อุตฺตรํ วินยํ อุตฺตรติ, สุนเยน ยุโต โส ปุคฺคโล วิมตูปรมํ ปรมํ อุตฺตรํ อุตฺตรํ นาม ปกรณํ อุตฺตรตีติ. อิมินา โย อุตฺตรํ ชานาติ, โส วินยํ ชานาติ. โย วินยํ ชานาติ, โส อุตฺตรํ ชานาตีติ อุตฺตรปกรณสฺส วินยปิฏกชานเน อจฺจนฺตูปการิตา วิภาวิตาติ ทฏฺพฺพํ.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
อาปตฺติสมุฏฺานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เอกุตฺตรนยกถาวณฺณนา
๔๒๔. อิโต ปรนฺติ อิโต สมุฏฺานวินิจฺฉยกถาย ปรํ. ปรนฺติ อุตฺตมํ. เอกุตฺตรํ นยนฺติ เอเกกองฺคาติเรกตาย เอกุตฺตรสงฺขาตํ เอกกทุกาทินยํ.
๔๒๕-๗. เก อาปตฺติกรา ธมฺมา…เป… กา จาเทสนคามินีติ เอเกกปฺหวเสน อุตฺตานตฺโถเยว.
๔๒๘. สมุฏฺานานีติ อาทิโก ¶ วิสฺสชฺชนสงฺขาโต อุตฺตรวาโท. ตตฺถ สมุฏฺานานิ…เป… ทีปิตาติ ยสฺมา เอเตสํ วเสน ปุคฺคโล อาปตฺตึ กโรติ อาปชฺชติ, ตสฺมา ‘‘อาปตฺติกรา’’ติ วุตฺตา.
๔๒๙. ตตฺถาติ ตาสุ อาปตฺตีสุ. ลหุกาติ ลหุเกน วินยกมฺเมน วิสุชฺฌนโต ลหุกา. ครุเกน วินยกมฺเมน วิสุชฺฌนโต สงฺฆาทิเสสาปตฺติ, เกนจิ อากาเรน อนาปตฺติภาวํ อุปเนตุํ อสกฺกุเณยฺยโต ปาราชิกาปตฺติ จ ครุกาปตฺติ นาม, ตา ปน ลหุกาสุ วุตฺตาสุ ตพฺพิปริยายโต าตุํ สกฺกาติ วิสฺสชฺชเน วิสุํ น วุตฺตา.
๔๓๑. ทุฏฺุํ กุจฺฉิตภาวํ ปรมเชคุจฺฉํ นินฺทนียภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ทุฏฺุลฺลํ, ปาราชิกสงฺฆาทิเสสํ. เตนาห ‘‘ทุวิธาปตฺติ อาทิโต’’ติ.
๔๓๒. ปฺจานนฺตริยสํยุตฺตาติ ¶ มาตุฆาตกปิตุฆาตกอรหนฺตฆาตเกหิ อาปนฺนา มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกาปตฺติ จ โลหิตุปฺปาทกสงฺฆเภทกานํ อภพฺพตาเหตุกา กายวจีทฺวารปฺปวตฺตา อกุสลเจตนาสงฺขาตา ปาราชิกา จ อนนฺตรเมว อปายุปฺปตฺติเหตุตาย อิเม ปฺจ อนนฺตรสํยุตฺตา นาม. ตา ปน มิจฺฉตฺตนิยเตสุ อนฺโตคธตฺตา ‘‘นิยตา’’ติ วุตฺตา.
ปริวาเร (ปริ. ๓๒๑) ปน อฺเปิ อนฺตรายิกาที พหู เอกกา ทสฺสิตา, เต ปน คนฺถภีรุกชนานุคฺคเหน อาจริเยน อิธ น ทสฺสิตา. อตฺถิเกหิ ปริวาเรเยว (ปริ. ๓๒๑) คเหตพฺพา. เอตฺถ จ สตฺตปิ อาปตฺติโย สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตา สคฺคนฺตรายฺเจว โมกฺขนฺตรายฺจ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา. อชานนฺเตน วีติกฺกนฺตา ปน ปณฺณตฺติวชฺชาปตฺติ เนว สคฺคนฺตรายํ, น โมกฺขนฺตรายํ ¶ กโรตีติ อนนฺตรายิกา. อนฺตรายิกํ อาปนฺนสฺสปิ เทสนาคามินึ เทเสตฺวา วุฏฺานคามินิโต วุฏฺาย สุทฺธิปตฺตสฺส, สามเณรภูมิยํ ิตสฺส จ อวาริโต สคฺคมคฺคโมกฺขมคฺโคติ.
เอกกกถาวณฺณนา.
๔๓๕. อทฺธวิหีโน นาม อูนวีสติวสฺโส. องฺควิหีโน นาม หตฺถจฺฉินฺนาทิเภโท. วตฺถุวิปนฺโน นาม ปณฺฑโก, ติรจฺฉานคโต, อุภโตพฺยฺชนโก จ. อวเสสา เถยฺยสํวาสกาทโย อฏฺ อภพฺพฏฺานปฺปตฺตา ทุกฺกฏการิโน นาม, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ทุกฺกเฏน อตฺตโน กมฺเมน อภพฺพฏฺานปฺปตฺตาติ อตฺโถ. อปริปุณฺโณติ อปริปุณฺณปตฺตจีวโร. โน ยาจตีติ อุปสมฺปนฺนํ น ยาจติ. ปฏิสิทฺธาติ ‘‘ทฺเว ปุคฺคลา น อุปสมฺปาเทตพฺพา’’ติอาทินา (ปริ. ๓๒๒) วาริตา.
๔๓๖. หเวติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. ลทฺธสมาปตฺติสฺส ภิกฺขุโน ทีปิตา อาปตฺติ อตฺถิ หเว อตฺเถว. โน ลทฺธสมาปตฺติสฺสาติ อลทฺธสมาปตฺติสฺส ทีปิตา อาปตฺติ อตฺเถวาติ โยชนา.
๔๓๗. ภูตสฺสาติ อตฺตนิ สนฺตสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส. อภูตาโรจนาปตฺตีติ จตุตฺถปาราชิกาปตฺติ. อสมาปตฺติลาภิโน นิทฺทิเสติ โยชนา.
๔๓๘. ‘‘อตฺถิ ¶ สทฺธมฺมสํยุตฺตา’’ติอาทีสุ อตฺถิ-สทฺโท ปจฺจตฺเตกวจนนฺเตหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ.
๔๓๙. ปทโสธมฺมมูลาทีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อุตฺตริฉปฺปฺจวาจาธมฺมเทสนา’’ติ อาปตฺตีนํ คหณํ.
๔๔๐. โภเคติ ¶ ปริโภเค. ‘‘สปริกฺขารสํยุตา’’ติ อิทฺจ นิทสฺสนมตฺตํ. ‘‘ปตฺตจีวรานํ นิสฺสชฺชเน, กิลิฏฺจีวรานํ อโธวเน, มลคฺคหิตปตฺตสฺส อปจเน’’ติ เอวมาทิกา อยุตฺตปริโภคา อาปตฺติโยปิ สกปริกฺขารสํยุตฺตาเยว.
๔๔๑. มฺจปีาทินฺติ อาทิ-สทฺเทน ภิสิอาทีนํ คหณํ. อชฺโฌกาสตฺถเรปิ จาติ อชฺโฌกาเส อตฺถเร อตฺถราปเน สติ. อนาปุจฺฉาว คมเนติ อนาปุจฺฉิตฺวา วา คมเน. วา-สทฺเทน อนุทฺธริตฺวา วา อนุทฺธราเปตฺวา วา คมนํ สงฺคณฺหาติ. ปรสนฺตกสํยุตาติ ปรปริกฺขารปฏิพทฺธา.
๔๔๓. ‘‘สิขรณีสี’’ติ ยํ วจนํ สจฺจํ, ตํ ภณโต ครุกํ ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสโส สิยาติ โยชนา.
๔๔๕. ครุกาปตฺตีติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปาราชิกาปตฺติ. ภูตสฺสาโรจเนติ ภูตสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจเน. สจฺจํ วทโตติ สจฺจํ วจนํ วทนฺตสฺส. ลหุกาติ ปาจิตฺติยาปตฺติ.
๔๔๗. วิโกเปตุนฺติ วคฺคกรเณน วิโกเปตุํ. หตฺถปาสํ ชหนฺติ อนฺโตสีมาย เอว หตฺถปาสํ ชหนฺโต, หตฺถปาสํ ชหิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทนฺโตติ อตฺโถ. ผุเสติ ภูมิคโต ผุเสยฺย.
๔๔๘. เวหาสกุฏิยา อุปริ อาหจฺจปาทกํ มฺจํ วา ปีํ วา อภินิสีทนฺโต เวหาสคโต ¶ อาปชฺชตีติ โยชนา. สเจ ตํ ภูมิยํ ปฺเปตฺวา นิสชฺเชยฺย, น อาปชฺเชยฺย. เตน วุตฺตํ ‘‘น ภูมิโต’’ติ.
๔๔๙. ปวิสนฺโตติ อารามํ ปวิสนฺโต. นิกฺขมนฺติ ตโต เอว นิกฺขมนฺโต. ตนฺติ อารามํ.
๔๕๐. วตฺตมปูเรตฺวานาติ ¶ สีสโต ฉตฺตาปนยนํ, ปาทโต อุปาหนามฺุจนวตฺตํ อกตฺวา. นิกฺขมนฺติ พหิ นิกฺขมนฺโต ฉตฺตุปาหนํ ธาเรนฺโตปิ น อาปชฺชติ.
๔๕๑. ‘‘นิกฺขมนฺโต’’ติ อิทํ ‘‘นิกฺขม’’นฺติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ปวิสํ น จาติ ยํ อารามํ สนฺธาย คโต, ตํ ปวิสนฺโต น อาปชฺเชยฺย.
๔๕๓. ยา กาจิ ภิกฺขุนี อติคมฺภีรํ อุทกสุทฺธิกํ อาทิยนฺตี อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ โยชนา.
๔๕๗. วตฺตํ ปนตฺตโนติ ยํ อตฺตโน เนตฺถารวตฺตํ วุตฺตํ, โส ตํ อสมาทิยนฺโตว อาปชฺชติ นามาติ โยชนา.
๔๖๐. อิตรสฺส อาจริยสฺส, ตถา สทฺธิวิหาริกสฺส จ.
๔๖๒. ททมาโนติ ปาริวตฺตกํ วินา ททมาโน.
๔๖๓. มุทูติ มุทุปิฏฺิโก. ‘‘ลมฺพีอาทิโน’’ติ ปทจฺเฉโท. อาทิ-สทฺเทน ‘‘หตฺเถน อุปกฺกมิตฺวา อสุจึ โมเจนฺตสฺส, อูรุนา องฺคชาตํ เปลฺลนฺตสฺส, อตฺตานํ วธิตฺวา วธิตฺวา โรทนฺติยา ภิกฺขุนิยา อาปตฺตี’’ติ เอวมาทีนํ สงฺคโห. อตฺตาติ เอตฺถ นิสฺสิตาติ อุตฺตรปทโลโป, วิภตฺติโลโป จ นิรุตฺติลกฺขเณน ทฏฺพฺโพ. เสสาติ เมถุนธมฺมกายสํสคฺคปหารทานาทีสุ วุตฺตาปตฺติ. ปรนิสฺสิตาติ ปรํ นิสฺสาย อาปชฺชิตพฺพาติ อตฺโถ.
๔๖๕. ‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, โอวาโท น คเหตพฺโพ’’ติ วจนโต โอวาทํ น คณฺหนฺโต น ปฏิคฺคณฺหนฺโต วชฺชตํ อาปชฺชติ นาม.
๔๗๐. อรุณุคฺเคติ ¶ อรุณุคฺคมเน. นอรุณุคฺคเมติ อรุณุคฺคมนโต อฺสฺมึ กาเล.
๔๗๑. เอกรตฺตาติกฺกเม ฉารตฺตาติกฺกเม สตฺตาหาติกฺกเม ทสาหาติกฺกเมติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน มาสาทีนํ สงฺคโห. วุตฺตมาปตฺตินฺติ สพฺพตฺถ นิสฺสคฺคิเย ปาจิตฺติยาปตฺตึ. ‘‘อาปชฺชติ อรุณุคฺคเม’’ติ ปทจฺเฉโท.
๔๗๓. ปรสนฺตกํ รุกฺขลตาทึ เถยฺยาย ฉินฺทนฺตสฺส ปาราชิกํ, ฉินฺทนฺตสฺส ปาจิตฺติมตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘ภูตคามํ ฉินฺทนฺโต ปาราชิกฺจ ปาจิตฺติฺจ ผุเส’’ติ.
๔๗๕. ฉาเทนฺโต ปนาติ เอตฺถ ‘‘กา อาปตฺตี’’ติ เสโส. ตตฺร อาห ‘‘อาปตฺตึ ฉาเทนฺโต นโร อาปชฺชตี’’ติ.
อจฺฉินฺโนติ อจฺฉินฺนจีวโร. นจฺฉาเทนฺโตติ ติเณน วา ปณฺเณน วา สาขาภงฺคาทินา เยน เกนจิ อตฺตโน หิริโกปินํ อปฺปฏิจฺฉาเทนฺโต. ยถาห – ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพํ, น ตฺเวว นคฺเคน อาคนฺตพฺพํ. โย อาคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๑๗).
๔๗๖. กุสจีราทินฺติ อาทิ-สทฺเทน วากจีรผลกจีราทีนํ ติตฺถิยธชานํ คหณํ. ธาเรนฺโต โกจิ อาปชฺชตีติ เสโส. ตตฺราห – ‘‘กุสจีราทีนิ ธาเรนฺโต ธาเรนฺโต อาปชฺชตี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๒).
๔๗๗. ยํ นิสฺสฏฺปตฺตํ ‘‘อยํ เต ภิกฺขุ ปตฺโต ยาวเภทนาย ธาเรตพฺโพ’’ติ ทินฺนํ, ตํ สกฺกจฺจํ อธาเรนฺโต จ ¶ โทสวา โหติ อาปชฺชติ อาปตฺตึ. สจิตฺตกาจิตฺตกทุกสฺส สฺาวิโมกฺขทุกํ ยถากฺกมํ ปริยาโยติ อาห ‘‘สจิตฺตกทุก’’นฺติอาทิ.
ทุกกถาวณฺณนา.
๔๗๘. ยา ¶ อาปตฺติ นาเถ ติฏฺนฺเต โหติ, โน ปรินิพฺพุเต, สา อาปตฺติ อตฺถิ. ยา อาปตฺติ นาเถ ปรินิพฺพุเต โหติ, น ตุ ติฏฺนฺเต, สาปิ อตฺถิ. ยา อาปตฺติ นาเถ ติฏฺนฺเตปิ โหติ ปรินิพฺพุเตปิ, สา อาปตฺติ อตฺถีติ โยชนา.
๔๗๙. สา กตมาติ อาห ‘‘รุหิรุปฺปาทนาปตฺตี’’ติอาทิ. ตตฺถ เถรมาวุสวาเทน, วทโต ปรินิพฺพุเตติ ‘‘ยถา โข ปนานนฺท, เอตรหิ ภิกฺขู อฺมฺํ อาวุโสวาเทน สมุทาจรนฺติ, น โข มมจฺจเยน เอวํ สมุทาจริตพฺพํ…เป… นวกตเรน ภิกฺขุนา เถรตโร ภิกฺขุ ‘ภนฺเต’ติ วา ‘อายสฺมา’ติ วา สมุทาจริตพฺโพ’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖) วจนโต เถรํ อาวุโสวาเทน สมุทาจรณปจฺจยา อาปตฺตึ ปรินิพฺพุเต ภควติ อาปชฺชติ, โน ติฏฺนฺเตติ อตฺโถ.
๔๘๑. กถํ กาเลเยว อาปตฺติ สิยา, น วิกาเล. กถํ วิกาเลเยว อาปตฺติ สิยา, กาเล น สิยา. กถํ กาเล เจว วิกาเล จาติ อุภยตฺถ สิยาติ ปฺเห.
๔๘๒. ยถากฺกมํ วิสฺสชฺเชนฺโต อาห ‘‘ภฺุชโต’’ติอาทิ.
๔๘๓. อวเสสํ ปน สพฺพํ อาปตฺตึ กาลวิกาเลสุ สพฺพทา อาปชฺชติ, ตตฺถ จ สํสโย นตฺถีติ โยชนา.
๔๘๔. ‘‘อตฺถาปตฺติ ¶ รตฺตึ อาปชฺชติ, โน ทิวา, อตฺถาปตฺติ ทิวา อาปชฺชติ, โน รตฺตึ, อตฺถาปตฺติ รตฺติฺเจว อาปชฺชติ ทิวา จา’’ติ (ปริ. ๓๒๓) วุตฺตํ ติกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘รตฺติเมวา’’ติอาทิ.
๔๘๖. อตฺถาปตฺติ ทสวสฺโส อาปชฺชติ, โน อูนทสวสฺโส, สา กถํ สิยา. อตฺถาปตฺติ อูนทสวสฺโส อาปชฺชติ, โน ทสวสฺโส, สา กถํ โหติ. อตฺถาปตฺติ ทสวสฺโสปิ อาปชฺชติ อูนทสวสฺโสปีติ อุภยตฺถปิ อาปตฺติ กถํ โหตีติ โยชนา.
๔๘๗. ตตฺถ ¶ วิสฺสชฺชนมาห ‘‘อุปฏฺาเปตี’’ติอาทิ. ‘‘พาโล’’ติ เอตสฺส หิ อตฺถปทํ ‘‘อพฺยตฺโต’’ติ.
๔๘๘. อูนทสวสฺโส เอวํ ‘‘อหํ ปณฺฑิโต’’ติ ปริสํ คณฺหติ, ตถา อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ โยชนา. ‘‘ทสวสฺโส อูโน’’ติ ปทจฺเฉโท. ทสวสฺโส, อูนทสวสฺโส จาติ อุโภเปเต ปริสุปฏฺาปนาปตฺติโต อฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘อาปชฺชนฺเต’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน น-การโลโป.
๔๘๙. กถํ กาเฬ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, น ชุณฺเห, กถํ ชุณฺเห อาปตฺตึ อาปชฺชติ, น กาฬสฺมึ, กถํ กาเฬ จ ชุณฺเห จาติ อุภยตฺถปิ อาปชฺชตีติ โยชนา.
๔๙๐. วิสฺสชฺชนมาห ‘‘วสฺส’’นฺติอาทิ. ‘‘อาปชฺชเต อปฺปวาเรนฺโต’’ติ ปทจฺเฉโท. ชุณฺเหติ ปุริมปกฺเข. กาฬเกติ อปรปกฺเข.
๔๙๑. อวิปตฺตินาติ จตุพฺพิธวิปตฺติรหิตตฺตา อวิปตฺตินา ภควตา ปฺตฺตํ. อวเสสนฺติ วสฺสํ อนุปคมนาปตฺติยา จ ปวารณาปตฺติยา จ อวเสสํ สพฺพํ อาปตฺตึ.
๔๙๒. วสฺสูปคมนํ ¶ กาเฬ กปฺปติ, ชุณฺเห โน กปฺปติ, ปวารณา ชุณฺเห กปฺปติ, กาเฬ โน กปฺปติ, เสสํ อนฺุาตํ สพฺพํ สงฺฆกิจฺจํ กาเฬ จ ชุณฺเห จาติ อุภยตฺถปิ กปฺปตีติ โยชนา.
๔๙๓. อตฺถาปตฺติ เหมนฺเต โหติ, อิตรอุตุทฺวเย คิมฺหานวสฺสานสงฺขาเต น โหติ, อตฺถาปตฺติ คิมฺเหเยว โหติ, น เสเสสุ วสฺสานเหมนฺตสงฺขาเตสุ, อตฺถาปตฺติ วสฺเส โหติ, โน อิตรทฺวเย เหมนฺตคิมฺหสงฺขาเตติ โยชนา.
๔๙๔-๖. สา ติวิธาปิ อาปตฺติ กตมาติ อาห ‘‘ทิเน ปาฏิปทกฺขาเต’’ติอาทิ. ตตฺถ ทิเน…เป… ปุณฺณมาสิยาติ อปรกตฺติกปุณฺณมาสิยา กาฬปกฺขปาฏิปททิวเส ปจฺจุทฺธริตฺวา ¶ วิกปฺเปตฺวา ปิตํ ปน ตํ วสฺสสาฏิกจีวรํ สเจ เหมนฺเต นิวาเสติ, เหมนฺเต อาปชฺชตีติ โยชนา.
ปจฺฉิเมติ เอตฺถ สามิวจนปฺปสงฺเค ภุมฺมํ. ปจฺฉิมสฺส กตฺติกสฺส ยสฺมึ ปุณฺณเม ทิวเส วสฺสิกสาฏิกจีวรํ ปจฺจุทฺธริตพฺพํ, ตสฺมึ ทิวเส ตํ อปจฺจุทฺธริตฺวาว ปาฏิปเท อรุณํ อุฏฺาเปนฺโต อปจฺจุทฺธรณปจฺจยา อาปตฺติ เหมนฺเตเยว อาปชฺชติ, อิตเร คิมฺหานวสฺสานอุตุทฺวเย น อาปชฺชตีติ กุรุนฺทฏฺกถายํ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๓) นิทฺทิฏฺนฺติ โยชนา. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จตุมาสํ อธิฏฺาตุํ, ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วุตฺตปาฬิยา กุรุนฺทฏฺกถาวจนสฺส อวิรุชฺฌนโต ‘‘ตมฺปิ สุวุตฺต’’นฺติ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๓) สมนฺตปาสาทิกาย วุตฺตตฺตา ‘‘เหมนฺเต อาปชฺชตี’’ติ วจนสฺส อุภยมฺปิ อตฺโถ โหตีติ คเหตพฺพํ.
๔๙๗. คิมฺหานมาสานํ ¶ สมฺพนฺธินิ คิมฺหิเก อุตุมฺหิ. มาสโต อติเรโก อติเรกมาโสติ กตฺวา อติเรกมาโส กาโล เสโสติ วตฺตพฺเพ กาเล. ปริเยสนฺโตติ อฺาติกอปฺปวาริตฏฺานโต สตุปฺปาทกรเณน วสฺสิกสาฏิกํ ปริเยสนฺโต จ อติเรกมาโส เสโสติ กตฺวา นิวาเสนฺโต จ คิมฺเห อาปตฺตึ อาปชฺชติ. ‘‘น ตุ เอว อิตรอุตุทฺวเย’’ติ ปทจฺเฉโท. คิมฺเห ปริเยสนฺโต ปุริมมาสตฺตเย อาปชฺชตีติ กตฺวา นิวาเสนฺโต อฑฺฒมาสาธิเก คิมฺหมาสตฺตเย อาปชฺชติ. นิสฺสนฺเทเห ‘‘คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสโต ปุริเมสุ สตฺตสุ มาเสสู’’ติ วุตฺตํ, ตทยุตฺตํ ‘‘คิมฺหาเนเยว อาปชฺชตี’’ติ คิมฺหาปตฺติยา ทสฺสิตตฺตา, ‘‘อิตรอุตุทฺวเย’’ติ ปฏิสิทฺธตฺตา จ. เอตฺถ จ คาถาย ปริเยสนาปตฺติยาเยว ทสฺสนํ นิทสฺสนมตฺตนฺติ กตฺวา นิวาสนาปตฺติยา จ คิมฺเหเยว สมฺภโวติ สาปิ ทสฺสิตา.
๔๙๘. อิธ ปน อิมสฺมึ สาสเน โย ภิกฺขุ วสฺสิกสาฏิกจีวเร วิชฺชมาเน นคฺโค กายํ โอวสฺสาเปติ, โส หเว เอกํเสน วสฺเส วสฺสานอุตุมฺหิ อาปชฺชตีติ โยชนา.
๔๙๙. ‘‘อตฺถาปตฺติ สงฺโฆ อาปชฺชติ, น คโณ น ปุคฺคโล, อตฺถาปตฺติ คโณ อาปชฺชติ, น สงฺโฆ น ปุคฺคโล, อตฺถาปตฺติ ปุคฺคโล อาปชฺชติ, น สงฺโฆ น คโณ’’ติ (ปริ. ๓๒๓) วุตฺตตฺติกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาปชฺชติ หิ สงฺโฆวา’’ติอาทิ.
๕๐๐. กถมาปชฺชตีติ ¶ อาห ‘‘อธิฏฺาน’’นฺติอาทิ. อธิฏฺานนฺติ อธิฏฺานุโปสถํ กโรนฺโต ปาริสุทฺธิอุโปสถํ วาติ สมฺพนฺโธ. อิธ อตฺตโน ยถาปตฺตมุโปสถํ อกตฺวา ¶ อปตฺตอุโปสถกรณํ อาปชฺชิตพฺพาปตฺติทสฺสนสฺส อธิปฺเปตตฺตา, อตฺตกรณโทสสฺส วิสุํ วิสุํ วกฺขมานตฺตา จ น คโณ น จ ปุคฺคโลติ เอตฺถ อธิฏฺานํ กโรนฺโต ปุคฺคโล จ ปาริสุทฺธึ กโรนฺโต คโณ จ นาปชฺชตีติ ยถาลาภโยชนา กาตพฺพา. ยถากฺกมํ โยชนํ กโรมีติ วิปริยายวิกปฺโป น กาตพฺโพ. เอวมุปริปิ วิปริยายวิปกฺขํ กตฺวา ยถาลาภโยชนาว กาตพฺพา.
๕๐๑. ‘‘อุโปสถ’’นฺติ อิทํ ‘‘สุตฺตุทฺเทสมธิฏฺาน’’นฺติ ปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ.
๕๐๒. สุตฺตุทฺเทสํ กโรนฺโต วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ปาริสุทฺธึ คณฺหาติ. สุตฺตุทฺเทสํ, ปาริสุทฺธึ วา อุโปสถํ กโรนฺโต ปุคฺคโล อาปตฺตึ อาปชฺชติ, สุตฺตุทฺเทสํ กโรนฺโต สงฺโฆ จ นาปชฺชติ, ปาริสุทฺธึ กโรนฺโต คโณ จ น อาปชฺชตีติ โยชนา.
๕๐๓. กถํ ปน คิลาโนว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, น อคิลาโน, กถํ อคิลาโนว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, โน คิลาโน, กถํ คิลาโน จ อคิลาโน จ อุโภปิ อาปชฺชนฺตีติ โยชนา.
๕๐๔. โย ปน อกลฺลโก คิลาโน อฺเน ปน เภสชฺเชน อตฺเถ สติ ตทฺํ ตโต อฺํ เภสชฺชํ วิฺาเปติ, โส อาปชฺชติ ปาจิตฺติยาปตฺตินฺติ โยชนา.
๕๐๕. เภสชฺเชน อตฺเถ อวิชฺชมาเนปิ สเจ เภสชฺชํ วิฺาเปติ, อคิลาโนว วิฺตฺติปจฺจยา อาปตฺตึ อาปชฺชติ. เสสํ ปน อาปตฺตึ คิลานอคิลานา อุโภปิ อาปชฺชนฺติ.
๕๐๖. อตฺถาปตฺติ ¶ อนฺโตว อาปชฺชติ, น พหิทฺธา, ตถา อตฺถาปตฺติ พหิ เอว อาปชฺชติ, น อนฺโต, อตฺถาปตฺติ อนฺโต, พหิทฺธาติ อุภยตฺถปิ อาปชฺชตีติ โยชนา.
๕๐๗. เกวลํ ¶ อนฺโตเยว อาปชฺชตีติ โยชนา.
๕๐๘. มฺจาทินฺติ สงฺฆิกมฺจาทึ.
๕๐๙. ‘‘อนฺโตสีมาย เอว อาปตฺติ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. กถํ อนฺโตสีมาย เอว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, เนว พหิสีมาย อาปตฺตึ อาปชฺชติ, กถํ พหิสีมาย เอว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, โน อนฺโตสีมาย อาปตฺตึ อาปชฺชติ, กถํ อนฺโตสีมาย จ พหิสีมาย จาติ อุภยตฺถปิ อาปชฺชตีติ โยชนา.
๕๑๐. สฉตฺตุปาหโน ภิกฺขูติ ฉตฺตุปาหนสหิโต อาคนฺตุโก ภิกฺขุ. ปวิสนฺโต ตโปธโนติ อาคนฺตุกวตฺตํ อทสฺเสตฺวา สงฺฆารามํ ปวิสนฺโต.
๕๑๑. ‘‘อุปจารสฺส อติกฺกเม’’ติ ปทจฺเฉโท.
๕๑๒. เสสํ สพฺพํ อาปตฺตึ อนฺโตสีมาย จ พหิสีมาย จ อาปชฺชตีติ โยชนา. เอตฺถ จ กิฺจาปิ วสฺสจฺเฉทาปตฺตึ พหิสีมาคโต อาปชฺชติ, ภิกฺขุนีอารามปเวสนาปตฺตึ อนฺโตสีมาย อาปชฺชติ, ตทุภยํ ปน อาคนฺตุกคมิกวตฺตเภทาปตฺตีหิ เอกปริจฺเฉทนฺติ อุปลกฺขณโต เอเตเนว วิฺายตีติ วิสุํ น วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เอวํ สพฺพตฺถ อีทิเสสุ าเนสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ติกกถาวณฺณนา.
๕๑๕. วจีทฺวาริกมาปตฺตินฺติ ¶ มุสาวาทเปสฺุหรณาทิวเสน วจีทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพาปตฺตึ. ปรวาจาย สุชฺฌตีติ สงฺฆมชฺเฌ เอกวาจิกาย ติณวตฺถารกกมฺมวาจาย สุชฺฌติ.
๕๑๖. วชฺชเมว วชฺชตา, ตํ, ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ.
๕๑๘-๙. ตํ ¶ เทเสตฺวา วิสุชฺฌนฺโตติ ตํ เทเสตฺวา วิสุทฺโธ โหนฺโต. ยาวตติยกํ ปนาติ ยาวตติเยน สมนุภาสนกมฺเมน อาปนฺนํ สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ ปน. ปริวาสาทีติ อาทิ-สทฺเทน มานตฺตมูลายปฏิกสฺสนอพฺภานานิ คหิตานิ.
๕๒๒. กายทฺวาริกมาปตฺตินฺติ กายทฺวาเรน อาปชฺชิตพฺพํ ปหารทานาทิอาปตฺตึ.
๕๒๓. กาเยเนว วิสุชฺฌตีติ ติณวตฺถารกํ คนฺตฺวา กายสามคฺคึ เทนฺโต วิสุชฺฌติ.
๕๒๖. โย สุตฺโต อาปตฺตึ อาปชฺชติ, โส กถํ ปฏิพุทฺโธ วิสุชฺฌติ. โย ปฏิพุทฺโธว อาปนฺโน, โส กถํ สุตฺโต สุชฺฌตีติ โยชนา.
๕๒๘. สคารเสยฺยกาทินฺติ มาตุคาเมน สหเสยฺยาทิอาปตฺตึ.
๕๒๙. ชคฺคนฺโตติ ชาครนฺโต นิทฺทํ วิโนเทนฺโต.
๕๓๑. ปฏิพุทฺโธติ อนิทฺทายนฺโต.
๕๓๒. อจิตฺโตติ ‘‘สิกฺขาปทํ วีติกฺกมิสฺสามี’’ติ จิตฺตา ภาเวน อจิตฺโต.
๕๓๕. สจิตฺตกาปตฺตินฺติ ¶ วิกาลโภชนาทิอาปตฺตึ. ติณวตฺถาเร สยนฺโต นิทฺทายนฺโต ติณวตฺถารกกมฺเม กริยมาเน ‘‘อิมินาหํ กมฺเมน อาปตฺติโต วุฏฺามี’’ติ จิตฺตรหิโต วุฏฺหนฺโต อจิตฺตโก วิสุชฺฌติ.
‘‘อาปชฺชิตฺวา อจิตฺโตว, อจิตฺโตว วิสุชฺฌติ;
อาปชฺชิตฺวา สจิตฺโตว, สจิตฺโตว วิสุชฺฌตี’’ติ. –
ปททฺวยํ ¶ . อมิสฺเสตฺวาติ อจิตฺตสจิตฺตปเทหิ เอวเมว มิสฺสํ อกตฺวา. เอตฺถาติ ปุริมปททฺวเย. วุตฺตานุสาเรนาติ วุตฺตนยานุสาเรน.
๕๔๐. อาปชฺชิตฺวา อกมฺมโตติ สมนุภาสนกมฺมํ วินาว อาปชฺชิตฺวา.
๕๔๑. สมนุภาสเน อาปชฺชิตพฺพํ สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ สมนุภาสนมาห การณูปจาเรน.
๕๔๒. อวเสสนฺติ มุสาวาทปาจิตฺติยาทิกํ.
๕๔๓. วิสุชฺฌติ อสมฺมุขาติ สงฺฆสฺส อสมฺมุขา วิสุชฺฌติ. อิทฺจ สมฺมุขาวินเยน เจว ปฏิฺาตกรเณน จ สเมนฺตํ อาปตฺตาธิกรณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ปุคฺคลสมฺมุขตาย สพฺภาเวปิ สงฺฆสฺส อสมฺมุขตาย อาปชฺชติ วา วิสุชฺฌติ วาติ ‘‘อสมฺมุขา’’ติ วุตฺตํ.
๕๕๑. ‘‘อจิตฺตกจตุกฺกํ อชานนฺตจตุกฺก’’นฺติ กุสลตฺติกผสฺสปฺจกาทิโวหาโร วิย อาทิปทวเสน วุตฺโต.
๕๕๒-๓. อตฺถาปตฺติ ¶ อาคนฺตุโก อาปชฺชติ, น เจตโร อาวาสิโก อาปชฺชติ, อตฺถาปตฺติ อาวาสิโกว อาปชฺชติ, น เจตโร อาคนฺตุโก อาปชฺชติ, อตฺถาปตฺติ อาคนฺตุโก จ อาวาสิโก จ เต อุโภปิ อาปชฺชนฺติ, อุโภ เสสํ น อาปชฺชนฺติ อตฺถีติ โยชนา.
๕๕๕. อิตโรติ อาวาสิโก. อาวาสวตฺตนฺติ อาวาสิเกน อาคนฺตุกสฺส กาตพฺพวตฺตํ. อาวาสีติ อาวาสิโก.
๕๕๖. น เจวาคนฺตุโกติ ตํ อาวาสิกวตฺตํ อกโรนฺโต อาคนฺตุโก น เจว อาปชฺชติ ¶ . เสสํ กายวจีทฺวาริกํ อาปตฺตึ. อุโภปิ อาคนฺตุกอาวาสิกา. ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ อสาธารณํ อาปตฺตึ น อาปชฺชนฺติ.
๕๕๗. วตฺถุนานตฺตตาติ วีติกฺกมนานตฺตตา. อาปตฺตินานตฺตตาติ ปาราชิกาทีนํ สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อฺมฺนานตฺตตา.
๕๖๓. ‘‘ปาราชิกานํ…เป… นานภาโว’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ สงฺฆาทิเสสานํ อนิยตาทีหิ วตฺถุนานตาย เจว อาปตฺตินานตาย จ ลพฺภมานตฺตา.
๕๖๕. อยเมว วินิจฺฉโยติ น เกวลํ ปาราชิกาปตฺตีสุเยว สาธารณาปตฺติโย เอกโต จ วิสฺุจ อาปชฺชนฺตานํ ยถาวุตฺตวินิจฺฉโย, อถ โข อวเสสสาธารณาปตฺติโยปิ วุตฺตนเยน อาปชฺชติ, อยเมว วินิจฺฉโย โยเชตพฺโพ.
๕๗๗. อาทิยนฺโต คณฺหนฺโต. ปโยเชนฺโตติ คณฺหาเปนฺโต.
๕๗๙. อูนกํ ¶ ปาทํ…เป… ลหุํ ผุเสติ ถุลฺลจฺจยํ, ทุกฺกฏฺจ สนฺธายาห.
๕๘๐. เอเตเนว อุปาเยน, เสสกมฺปิ ปทตฺตยนฺติ โย อยํ ปมวินิจฺฉเย วุตฺตนโย, เอเตเนว นเยน อูนปาทํ อาทิยนฺโต ลหุกาปตฺตึ อาปชฺชติ, ปาทํ วา อติเรกปาทํ วา คหณตฺถํ อาณาเปนฺโต ครุํ ปาราชิกาปตฺตึ อาปชฺชติ, ปาทํ วา อติเรกปาทํ วา คณฺหนฺโต จ คหณตฺถาย อาณาเปนฺโต จ ครุเก ปาราชิกาปตฺติยํเยว ติฏฺติ, อูนปาทํ คณฺหนฺโต จ คหณตฺถาย อาณาเปนฺโต จ ลหุเก ถุลฺลจฺจเย, ทุกฺกเฏ วา ติฏฺตีติ เอวํ เสสกมฺปิ อิมํ ปทตฺตยํ. อตฺถสมฺภวโตเยวาติ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส สมฺภววเสเนว.
๕๘๑-๒. กถํ กาเลเยว อาปตฺติ สิยา, โน วิกาเล, วิกาเลเยว อาปตฺติ สิยา, น จ กาเล, อตฺถาปตฺติ กาเล จ ปกาสิตา วิกาเล จ, อตฺถาปตฺติ เนว กาเล จ ปกาสิตา เนว วิกาเล จาติ โยชนา.
๕๘๖-๗. กาเล ¶ ปฏิคฺคหิตํ กึ กาเล กปฺปติ วิกาเล ตุ โน กปฺปติ, วิกาเล คหิตํ กึ วิกาเล กปฺปติ, โน กาเล กปฺปติ, กาเล จ วิกาเล จ ปฏิคฺคหิตํ กึ นาม กาเล จ วิกาเล จ กปฺปติ, กาเล จ วิกาเล จ ปฏิคฺคหิตํ กึ นาม กาเล จ วิกาเล จ น กปฺปติ, วท ภทฺรมุขาติ โยชนา.
๕๘๙. วิกาเลเยว กปฺปติ, อปรชฺชุ กาเลปิ น กปฺปตีติ โยชนา.
๕๙๒. กุลทูสนกมฺมาทินฺติ อาทิ-สทฺเทน อภูตาโรจนรูปิยสํโวหารวิฺตฺติกุหนาทีนํ สงฺคโห.
๕๙๓-๔. กตมา ¶ อาปตฺติ ปจฺจนฺติเมสุ เทเสสุ อาปชฺชติ, น มชฺฌิเม, กตมา อาปตฺติ มชฺฌิเม ปน เทสสฺมึ อาปชฺชติ, น จ ปจฺจนฺติเมสุ, กตมา อาปตฺติ ปจฺจนฺติเมสุ เจว เทเสสุ อาปชฺชติ มชฺฌิเม จ, กตมา อาปตฺติ ปจฺจนฺติเมสุ เจว เทเสสุ น อาปชฺชติ น มชฺฌิเม จาติ โยชนา.
๕๙๖. ‘‘โส คุณงฺคุณุปาหน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. โส ภิกฺขูติ อตฺโถ.
๕๙๙. เอวํ ‘‘อาปชฺชติ, นาปชฺชตี’’ติ ปทวเสน ปจฺจนฺติมจตุกฺกํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เนว กปฺปติ, น กปฺปตี’’ติ ปทวเสน ทสฺเสตุมาห ‘‘ปจฺจนฺติเมสู’’ติอาทิ.
๖๐๑. วุตฺตนฺติ ‘‘คเณน ปฺจวคฺเคนา’’ติอาทิคาถาย เหฏฺา วุตฺตํ.
๖๐๓. เอวํ วตฺตุนฺติ ‘‘น กปฺปตี’’ติ วตฺตุํ. ปฺจโลณาทิกนฺติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โลณานี’’ติอาทิ.
๖๐๘. อนฺุาตฏฺานสฺส อนฺโต โน อาปชฺชติ, ตํ อติกฺกมนฺโต พหิเยว จ อาปชฺชตีติ โยชนา.
๖๑๒. เสกฺขปฺตฺตีติ ¶ เสขิยปฺตฺติ.
๖๑๓. อคณาติ อทุติยา. เอตฺถ หิ เอกาปิ คโณ นาม.
๖๑๔. อุภยตฺถปิ อสาธารณมาปตฺตินฺติ ภิกฺขุนีนํ นิยตาปฺตฺติ เวทิตพฺพา.
๖๑๖. คิลาโน ¶ จ นาปชฺชติ, อคิลาโน จ นาปชฺชตีติ เอวํ อุโภปิ นาปชฺชนฺตีติ โยชนา. ติกาทีสุ ทสฺสิตานํ ปทานํ จตุกฺกาทิทสฺสนวเสน ปุนปฺปุนํ คหณํ.
๖๑๘. ‘‘อาปชฺชติ อคิลาโนวา’’ติ ปทจฺเฉโท.
จตุกฺกกถาวณฺณนา.
๖๒๐. ‘‘ครุถุลฺลจฺจย’’นฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘ครุ’’นฺติ นิคฺคหีตาคโม.
๖๒๑. ปฺจ กถินานิสํสา เหฏฺา วุตฺตาเยว.
๖๒๖. อคฺคิสตฺถนขกฺกนฺตนฺติ อคฺคิสตฺถนเขหิ อกฺกนฺตํ ผุฏฺํ, ปหฏนฺติ อตฺโถ. อพีชนฺติ โนพีชํ. อุพฺพฏฺฏพีชกนฺติ นิพฺพฏฺฏพีชกํ.
๖๒๘. ปวารณาปีติ ปฏิกฺเขปปวารณาปิ. โอทนาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน สตฺตุกุมฺมาสมจฺฉมํสานํ คหณํ. กายาทิคหเณนาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา คหเณน. ‘‘ทาตุกามาภิหาโร จ, หตฺถปาเสรณกฺขม’’นฺติ อิเมหิ จตูหิ องฺเคหิ สทฺธึ เตสํ ทฺวินฺนเมกํ คเหตฺวา ปฏิคฺคหณา ปฺเจว โหนฺติ.
๖๒๙-๓๐. วินยฺุกสฺมินฺติ วินยธเร ปุคฺคเล. สกฺจ สีลนฺติ อตฺตโน ปาติโมกฺขสํวรสีลฺจ. สุรกฺขิตํ โหตีติ อาปตฺตานาปตฺติกปฺปิยากปฺปิยานํ วิชานนฺตตาย อเสวิตพฺพํ ปหาย เสวิตพฺพํเยว เสวนวเสน สุฏฺุ รกฺขิตํ โหติ. กุกฺกุจฺจมฺสฺส นิรากโรตีติ ¶ อฺสฺส สพฺรหฺมจาริโน กปฺปิยากปฺปิยวิสเย อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ นิวาเรติ. วิสารโท ภาสติ สงฺฆมชฺเฌติ กปฺปิยากปฺปิยานํ ¶ วินิจฺฉยกถาย อุปฺปนฺนาย นิราสงฺโก นิพฺภโย โวหรติ. เวริภิกฺขูติ อตฺตปจฺจตฺถิเก ปุคฺคเล. ธมฺมสฺส เจว ิติยา ปวตฺโตติ ‘‘วินโย นาม สาสนสฺส อายุ, วินเย ิเต สาสนํ ิตํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.มงฺคลสุตฺตวณฺณนา; เถรคา. อฏฺ. ๑.๒๕๑) วจนโต สทฺธมฺมฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหติ. ตสฺมา การณา. ตตฺถ วินยฺุภาเว. ธีโร ปฺวา ภิกฺขุ.
ปฺจกกถาวณฺณนา.
๖๓๑-๒. ฉฬภิฺเนาติ ฉ อภิฺา เอตสฺสาติ ฉฬภิฺโ, เตน. อติกฺกนฺตปมาณํ มฺจปีํ, อติกฺกนฺตปมาณํ นิสีทนฺจ ตถา อติกฺกนฺตปมาณํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิวสฺสสาฏิกจีวรฺจ สุคตสฺส จีวเร ปมาณิกจีวรนฺติ ฉ.
๖๓๓-๔. อฺาณฺจ กุกฺกุจฺจฺจ อฺาณกุกฺกุจฺจา, เตหิ, อฺาณตาย เจว กุกฺกุจฺจปกตตาย จาติ วุตฺตํ โหติ. วิปรีตาย สฺาย กปฺปิเย อกปฺปิยสฺาย, อกปฺปิเย กปฺปิยสฺาย.
ตตฺถ กถํ อลชฺชิตาย อาปชฺชติ? อกปฺปิยภาวํ ชานนฺโตเยว มทฺทิตฺวา วีติกฺกมํ กโรติ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา). วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชติ;
อาปตฺตึ ปริคูหติ;
อคติคมนฺจ คจฺฉติ;
เอทิโส วุจฺจติ อลชฺชี ปุคฺคโล’’ติ. (ปริ. ๓๕๙);
กถํ อฺาณตาย อาปชฺชติ? อฺาณปุคฺคโล มนฺโท โมมูโห กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ อชานนฺโต อกตฺตพฺพํ กโรติ, กตฺตพฺพํ วิราเธติ. เอวํ อฺาณตาย อาปชฺชติ.
กถํ ¶ ¶ กุกฺกุจฺจปกตตาย อาปชฺชติ? กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเน วินยธรํ ปุจฺฉิตฺวา กปฺปิยํ เจ, กตฺตพฺพํ สิยา, อกปฺปิยํ เจ, น กตฺตพฺพํ, อยํ ปน ‘‘วฏฺฏตี’’ติ มทฺทิตฺวา วีติกฺกมติเยว. เอวํ กุกฺกุจฺจปกตตาย อาปชฺชติ.
กถํ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺาย อาปชฺชติ? สูกรมํสํ ‘‘อจฺฉมํส’’นฺติ ขาทติ, กาเล วิกาลสฺาย ภฺุชติ. เอวํ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺาย อาปชฺชติ.
กถํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺาย อาปชฺชติ? อจฺฉมํสํ ‘‘สูกรมํส’’นฺติ ขาทติ, วิกาเล กาลสฺาย ภฺุชติ. เอวํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺาย อาปชฺชติ.
กถํ สติสมฺโมสาย อาปชฺชติ? สหเสยฺยจีวรวิปฺปวาสาทีนิ สติสมฺโมสาย อาปชฺชติ.
๖๓๕-๘. ‘‘ภิกฺขุนา อุปฏฺเปตพฺโพ’’ติ ปทจฺเฉโท. ธมฺมจกฺขุนาติ ปาติโมกฺขสํวรสีลสงฺขาโต ปฏิปตฺติธมฺโมว จกฺขุ เอตสฺสาติ ธมฺมจกฺขุ, เตน ฉหิ องฺเคหิ ยุตฺเตน ธมฺมจกฺขุนา ปน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาทนา กาตพฺพา, นิสฺสโย เจว ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพติ โยชนา. อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ครุํ อาปตฺตึ ชานาติ, ลหุํ อาปตฺตึ ชานาตีติ โยชนา. อสฺส ภิกฺขุโน อุภยานิ ปาติโมกฺขานิ วิตฺถารา สฺวาคตานิ ภวนฺติ, อตฺถโต สุวิภตฺตานิ ภวนฺติ, สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส สุวินิจฺฉิตานิ ภวนฺติ, ทสวสฺโส วา โหติ, อติเรกทสวสฺโส วาติ โยชนา.
ฉกฺกกถาวณฺณนา.
๖๓๙. สตฺต ¶ สามีจิโย วุตฺตาติ ‘‘โส จ ภิกฺขุ อนพฺภิโต, เต จ ภิกฺขู คารยฺหา, อยํ ตตฺถ สามีจิ, ยฺุชนฺตายสฺมนฺโต สกํ, มา โว สกํ วินสฺสาติ อยํ ตตฺถ สามีจิ, อยํ เต ภิกฺขุ ปตฺโต ยาว เภทนาย ธาเรตพฺโพติ, อยํ ตตฺถ สามีจิ, ตโต นีหริตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวิภชิตพฺพํ, อยํ ตตฺถ สามีจิ, อฺาตพฺพํ ปริปุจฺฉิตพฺพํ ปริปฺหิตพฺพํ, อยํ ตตฺถ สามีจิ, ยสฺส ภวิสฺสติ, โส หริสฺสตีติ, อยํ ตตฺถ สามีจี’’ติ ¶ ฉ สามีจิโย ภิกฺขุปาติโมกฺเขวุตฺตา, ‘‘สา จ ภิกฺขุนี อนพฺภิตา, ตา จ ภิกฺขุนิโย คารยฺหา, อยํ ตตฺถ สามีจี’’ติ ภิกฺขุนิปาติโมกฺเข วุตฺตาย สทฺธึ สตฺต สามีจิโย วุตฺตา. สตฺเตว สมถาปิ จาติ สมฺมุขาวินยาทิสมถาปิ สตฺเตว วุตฺตา. ปฺตฺตาปตฺติโย สตฺตาติ ปาราชิกาทโย ปฺตฺตาปตฺติโย สตฺต วุตฺตา. สตฺตโพชฺฌงฺคทสฺสินาติ สติสมฺโพชฺฌงฺคาทโย สตฺต โพชฺฌงฺเค ยาถาวโต ปสฺสนฺเตน ภควตา.
สตฺตกกถาวณฺณนา.
๖๔๐-๑. อิธ กุลทูสโก ภิกฺขุ อาชีวสฺเสว การณา ปุปฺเผน, ผเลน, จุณฺเณน, มตฺติกาย, ทนฺตกฏฺเหิ, เวฬุยา, เวชฺชิกาย, ชงฺฆเปสนิเกนาติ อิเมหิ อฏฺหิ อากาเรหิ กุลานิ ทูเสตีติ โยชนา. ‘‘ปุปฺเผนา’’ติอาทินา ปุปฺผาทินา ทานเมว อุปลกฺขณโต ทสฺเสติ. ปุปฺเผนาติ ปุปฺผทาเนนาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ปุปฺผทานาทโย กุลทูสเน วุตฺตา.
๖๔๒-๕. ‘‘อฏฺธานติริตฺตาปิ, อติริตฺตาปิ อฏฺธา’’ติทฺวีสุ อฏฺเกสุ อฏฺ อนติริตฺเต ตาว ทสฺเสตุมาห ‘‘อกปฺปิยกตฺเจวา’’ติอาทิ ¶ . คิลานานติริตฺตกนฺติ นิทฺทิฏฺา อิเม อฏฺเว อนติริตฺตกา เยฺยาติ โยชนา. อกปฺปิยกตาทโย ปวารณสิกฺขาปทกถาวณฺณนาย วุตฺตา.
๖๔๖. าตตฺติสูติ าตทุกฺกฏํ, ตฺติทุกฺกฏฺจ. ปฏิสาวเนติ ปฏิสฺสเว. อฏฺทุกฺกฏานํ วินิจฺฉโย ทุติยปาราชิกกถาวณฺณนาย วุตฺโต.
๖๔๘-๙. เอหิภิกฺขูปสมฺปทาติ ยสกุลปุตฺตาทีนํ ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ วจเนน ภควตา ทินฺนอุปสมฺปทา. สรณคมเนน จาติ ปมโพธิยํ ตีหิ สรณคมเนหิ อนฺุาตอุปสมฺปทา. ปฺหาพฺยากรโณวาทาติ โสปากสฺส ปฺหาพฺยากรโณปสมฺปทา, มหากสฺสปตฺเถรสฺส ทินฺนโอวาทปฏิคฺคหโณปสมฺปทา จ. ครุธมฺมปฏิคฺคโหติ มหาปชาปติยา โคตมิยา อนฺุาตครุธมฺมปฏิคฺคหโณปสมฺปทา.
ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมนาติ อิทานิ ภิกฺขุอุปสมฺปทา. อฏฺวาจิกาติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน, ภิกฺขูนํ สนฺติเก ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมนาติ อฏฺหิ กมฺมวาจาหิ ภิกฺขุนีนํ ¶ อุปสมฺปทา อฏฺวาจิกา นาม. ทูเตน ภิกฺขุนีนนฺติ อฑฺฒกาสิยา คณิกาย อนฺุาตา ภิกฺขุนีนํ ทูเตน อุปสมฺปทา.
๖๕๐. สุทฺธทิฏฺินาติ สุฏฺุ สวาสนกิเลสานํ ปหาเนน ปริสุทฺธา สมนฺตจกฺขุสงฺขาตา ทิฏฺิ เอตสฺสาติ สุทฺธทิฏฺิ, เตน สมนฺตจกฺขุนา สมฺมาสมฺพุทฺเธน.
๖๕๑. ปาปิจฺฉา นาม อสนฺตคุณสมฺภาวนิจฺฉา.
๖๕๒-๓. น ¶ จ มชฺชโป สิยาติ มชฺชโป น สิยา มชฺชํ ปิวนฺโต น ภเวยฺย, มชฺชํ น ปิเวยฺยาติ อตฺโถ. อพฺรหฺมจริยาติ (อ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๗๑) อเสฏฺจริยโต เมถุนา วิรเมยฺย. รตฺตึ น ภฺุเชยฺย วิกาลโภชนนฺติ อุโปสถํ อุปวุตฺโถ รตฺติโภชนฺจ ทิวาวิกาลโภชนฺจ น ภฺุเชยฺย. น จ คนฺธมาจเรติ คนฺธฺจ น วิลิมฺเปยฺย. มฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเตติ กปฺปิยมฺเจ วา สุธาทิปริกมฺมกตาย ภูมิยา วา ติณปณฺณปลาลาทีนิ สนฺถริตฺวา กเต สนฺถเต วา สเยถาติ อตฺโถ. เอตฺหิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถนฺติ เอตํ ปาณาติปาตาทีนิ อสมาจรนฺเตน อุปวุตฺถํ อุโปสถํ อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคตตฺตา ‘‘อฏฺงฺคิก’’นฺติ วทนฺติ. ทุกฺขนฺตคุนาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ อมตมหานิพฺพานํ คเตน ปตฺเตน พุทฺเธน ปกาสิตนฺติ โยชนา.
๖๕๔. ภิกฺขุโนวาทกภิกฺขุโน อฏฺงฺคานิ ภิกฺขุโนวาทกถาวณฺณนาย ทสฺสิตาเนว.
อฏฺกกถาวณฺณนา.
๖๕๕. โภชนานิ ปณีตานิ นว วุตฺตานีติ ปณีตานิ หิ โภชนสิกฺขาปเท วุตฺตานิ. ทสสุ อกปฺปิยมํเสสุ มนุสฺสมํสวชฺชิตานิ นว มํสานิ ขาทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ นิทฺทิฏฺนฺติ โยชนา.
๖๕๖. ปาติโมกฺข…เป… ปริทีปิตาติ ภิกฺขูนํ ปฺจุทฺเทสา, ภิกฺขุนีนํ อนิยตุทฺเทเสหิ วินา จตฺตาโรติ อุทฺเทสา นว ทีปิตา. อุโปสถา นเววาติ ทิวสวเสน ตโย, การกวเสน ¶ ตโย, กรณวเสน ตโยติ นว อุโปสถา. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สาสเน. สงฺโฆ นวหิ ภิชฺชตีติ นวหิ ปุคฺคเลหิ สงฺโฆ ภิชฺชตีติ โยชนา. ยถาห –
‘‘เอกโต ¶ , อุปาลิ, จตฺตาโร โหนฺติ, เอกโต จตฺตาโร, นวโม อนุสฺสาเวติ, สลากํ คาเหติ ‘อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสนํ, อิมํ คณฺหถ, อิมํ โรเจถา’ติ. เอวมฺปิ โข, อุปาลิ, สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จ. นวนฺนํ วา, อุปาลิ, อติเรกนวนฺนํ วา สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จา’’ติ (จูฬว. ๓๕๑).
นวกกถาวณฺณนา.
๖๕๗. ทส อกฺโกสวตฺถูนิ วกฺขติ. ทส สิกฺขาปทานิ ปากฏาเนว. มนุสฺสมํสาทีนิ ทส อกปฺปิยมํสานิ เหฏฺา วุตฺตาเนว. สุกฺกานิ เว ทสาติ นีลาทีนิ ทส สุกฺกานิ.
๖๕๙. รฺโ อนฺเตปุรปฺปเวสเน ทส อาทีนวา เอวํ ปาฬิปาเน เวทิตพฺพา –
‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน. กตเม ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ราชา มเหสิยา สทฺธึ นิสินฺโน โหติ, ตตฺร ภิกฺขุ ปวิสติ, มเหสี วา ภิกฺขุํ ทิสฺวา สิตํ ปาตุกโรติ, ภิกฺขุ วา มเหสึ ทิสฺวา สิตํ ปาตุกโรติ, ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ ‘อทฺธา อิเมสํ กตํ วา กริสฺสนฺติ วา’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา พหุกิจฺโจ พหุกรณีโย อฺตรํ อิตฺถึ คนฺตฺวา น สรติ, สา เตน คพฺภํ คณฺหาติ, ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ อฺตฺร ปพฺพชิเตน, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน ¶ ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุเร อฺตรํ รตนํ นสฺสติ, ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ อฺตฺร ปพฺพชิเตน, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุเร อพฺภนฺตรา คุยฺหมนฺตา พหิทฺธา สมฺเภทํ คจฺฉนฺติ, ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ อฺตฺร ปพฺพชิเตน, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุเร ปิตา วา ปุตฺตํ ปตฺเถติ, ปุตฺโต วา ปิตรํ ปตฺเถติ, เตสํ เอวํ โหติ ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ อฺตฺร ปพฺพชิเตน, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา นีจฏฺานิยํ อุจฺเจ าเน เปติ, เยสํ ตํ อมนาปํ, เตสํ เอวํ โหติ ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ฉฏฺโ อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา อุจฺจฏฺานิยํ นีเจ าเน เปติ, เยสํ ตํ อมนาปํ, เตสํ เอวํ โหติ ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา อกาเล เสนํ อุยฺโยเชติ, เยสํ ตํ อมนาปํ, เตสํ เอวํ โหติ ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ, สิยา นุ ¶ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, อฏฺโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา กาเล เสนํ อุยฺโยเชตฺวา อนฺตรามคฺคโต นิวตฺตาเปติ, เยสํ ตํ อมนาปํ, เตสํ เอวํ โหติ ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ, สิยา ¶ นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, นวโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุรํ หตฺถิสมฺมทฺทํ อสฺสสมฺมทฺทํ รถสมฺมทฺทํ รชนียานิ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพานิ, ยานิ น ปพฺพชิตสฺส สารุปฺปานิ, อยํ, ภิกฺขเว, ทสโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อาทีนวา ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๔๕; ปาจิ. ๔๙๗).
ตตฺถ จ ปิตา วา ปุตฺตํ ปตฺเถตีติ ปุตฺตํ มาเรตุมิจฺฉตีติ อตฺโถ. เอเสว นโย ปุตฺโต ปิตรํ ปตฺเถตีติ. หตฺถิสมฺมทฺทนฺติ หตฺถีนํ สมฺมทฺโท สํสฏฺโ เอตฺถาติ หตฺถิสมฺมทฺทํ. เอวํ ‘‘อสฺสสมฺมทฺท’’นฺติอาทีสุปิ.
ทสากาเรหีติ –
‘‘อาปตฺตินุกฺขิตฺตมนนฺตราย-
ปหุตฺตตาโย ตถสฺิตา จ;
ฉาเทตุกาโม อถ ฉาทนาติ;
ฉนฺนา ทสงฺเคหรุณุคฺคมมฺหีติ. –
คหิเตหิ ทสหิ องฺเคหิ.
๖๖๐. ทส กมฺมปถา ปฺุาติ ปาณาติปาตาเวรมณิอาทโย ทส กุสลกมฺมปถา. อปฺุาปิ ตถา ทสาติ ปาณาติปาตาทโย ¶ ทส อกุสลกมฺมปถาว. ทส ทานวตฺถูนิ วกฺขติ. ทเสว รตนานิ จาติ –
‘‘มุตฺตา มณี เวฬุริยา จ สงฺขา;
สิลา ปวาฬํ รชตฺจ เหมํ;
โลหีตกฺจาปิ ¶ มสารคลฺลา;
ทสฺเสติ ธีโร รตนานิ ชฺา’’ติ. –
นิทฺทิฏฺานิ ทส รตนานิ.
๖๖๒. มุนินฺเทน อวนฺทิยา ทส ปุคฺคลา ทีปิตาติ โยชนา. กถํ? ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อวนฺทิยา. ปุเร อุปสมฺปนฺเนน ปจฺฉา อุปสมฺปนฺโน อวนฺทิโย, อนุปสมฺปนฺโน อวนฺทิโย, นานาสํวาสโก วุฑฺฒตโร อธมฺมวาที อวนฺทิโย, มาตุคาโม อวนฺทิโย, ปณฺฑโก อวนฺทิโย, ปาริวาสิโก อวนฺทิโย, มูลายปฏิกสฺสนารโห อวนฺทิโย, มานตฺตารโห อวนฺทิโย, มานตฺตจาริโก อวนฺทิโย, อพฺภานารโห อวนฺทิโย. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อวนฺทิยา’’ติ (จูฬว. ๓๑๒).
๖๖๓-๔. โสสานิกนฺติ สุสาเน ฉฑฺฑิตํ. ปาปณิกนฺติ อาปณทฺวาเร ฉฑฺฑิตํ. อุนฺทูรกฺขายิตนฺติ อุนฺทูเรหิ ขายิตํ ปริจฺจตฺตํ ปิโลติกํ. โคขายิตาทีสุปิ เอเสว นโย. ถูปจีวริกนฺติ พลิกมฺมตฺถาย วมฺมิเก ปริกฺขิปิตฺวา ปริจฺจตฺตวตฺถํ. อาภิเสกิยนฺติ ราชูนํ อภิเสกมณฺฑเป ปริจฺจตฺตวตฺถํ. คตปจฺจาคตฺจาติ สุสานคตมนุสฺเสหิ ปจฺจาคนฺตฺวา นหายิตฺวา ฉฑฺฑิตํ ปิโลติกํ.
๖๖๕. สพฺพนีลาทโย วุตฺตา, ทส จีวรธารณาติ ‘‘สพฺพนีลกานิ จีวรานิ ธาเรนฺตีติ วุตฺตวเสน ทสา’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๓๓๐) กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. เอตฺถ อิมสฺมึ ทสเก สํกจฺจิกาย วา อุทกสาฏิกาย ¶ วา สทฺธึ ติจีวรานิ นาเมน อธิฏฺิตานิ นว จีวรานิ ‘‘ทสจีวรธารณา’’ติ วุตฺตานิ. ยถาห – ‘‘นวสุ กปฺปิยจีวเรสุ อุทกสาฏิกํ วา สํกจฺจิกํ วา ปกฺขิปิตฺวา ทสาติ วุตฺต’’นฺติ (ปริ. อฏฺ. ๓๓๐).
ทสกกถาวณฺณนา.
๖๖๖. ปณฺฑกาทโย เอกาทส อภพฺพปุคฺคลา ปน อุปสมฺปาทิตาปิ อนุปสมฺปนฺนา โหนฺตีติ โยชนา.
๖๖๗. ‘‘อกปฺปิยา’’ติ ¶ วุตฺตา ปตฺตา เอกาทส ภวนฺตีติ โยชนา. ทารุเชน ปตฺเตนาติ ทารุมเยน ปตฺเตน. รตนุพฺภวาติ รตนมยา ทส ปตฺตา เอกาทส ภวนฺตีติ โยชนา. ทารุเชน จาติ เอตฺถ จ-สทฺเทน ตมฺพโลหมยปตฺตสฺส สงฺคโห. ยถาห ‘‘เอกาทส ปตฺตาติ ตมฺพโลหมเยน วา ทารุมเยน วา สทฺธึ ทสรตนมยา’’ติ. อิธ รตนํ นาม มุตฺตาทิทสรตนํ.
๖๖๘. อกปฺปิยา ปาทุกา เอกาทส โหนฺตีติ โยชนา. ยถาห ‘‘เอกาทส ปาทุกาติ ทส รตนมยา, เอกา กฏฺปาทุกา. ติณปาทุกมฺุชปาทุกปพฺพชปาทุกาทโย ปน กฏฺปาทุกสงฺคหเมว คจฺฉนฺตี’’ติ.
๖๖๙-๗๐. อติขุทฺทกา อติมหนฺตาติ โยชนา. ขณฺฑนิมิตฺตกา ฉายานิมิตฺตกาติ โยชนา. พหิฏฺเน สมฺมตาติ สีมาย พหิ ิเตน สมฺมตา. นทิยํ, ชาตสฺสเร, สมุทฺเท วา ตถา สมฺมตาติ โยชนา. สีมาย สมฺภินฺนา สีมาย อชฺโฌตฺถฏา สีมาติ โยชนา. อิมา เอกาทส อสีมาโย สิยุนฺติ โยชนา.
๖๗๑. เอกาทเสว ¶ ปถวี กปฺปิยา, เอกาทเสว ปถวี อกปฺปิยาติ โยชนา.
ตตฺถ เอกาทส กปฺปิยปถวี นาม สุทฺธปาสาณา, สุทฺธสกฺขรา, สุทฺธกถลา, สุทฺธมรุมฺพา, สุทฺธวาลุกา, เยภุยฺเยนปาสาณา, เยภุยฺเยนสกฺขรา, เยภุยฺเยนกถลา, เยภุยฺเยนมรุมฺพา, เยภุยฺเยนวาลุกาติ อิมา ทส ทฑฺฒาย ปถวิยา วา จตุมาโสวฏฺกปํสุปฺุเชน วา มตฺติกาปฺุเชน วา สทฺธึ เอกาทส. ‘‘อปฺปปํสุกา, อปฺปมตฺติกา’’ติ (ปาจิ. ๘๖) อปราปิ ปถวิโย วุตฺตา, ตา เยภุยฺเยนปาสาณาทีสุ ปฺจสุเยว สงฺคหิตา.
เอกาทส อกปฺปิยปถวี นาม ‘‘สุทฺธปํสุ สุทฺธมตฺติกา อปฺปปาสาณา อปฺปสกฺขรา อปฺปกถลา อปฺปมรุมฺพา อปฺปวาลุกา เยภุยฺเยนปํสุกา เยภุยฺเยนมตฺติกา, อทฑฺฒาปิ วุจฺจติ ชาตา ปถวี. โยปิ ปํสุปฺุโช วา มตฺติกาปฺุโช วา อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺโ, อยมฺปิ วุจฺจติ ชาตปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๖) วุตฺตา เอกาทส.
คณฺิกา ¶ กปฺปิยา วุตฺตา, เอกาทส จ วีธกาติ เอตฺถ กปฺปิยา คณฺิกา วิธกา จ เอกาทส วุตฺตาติ โยชนา. เต ปน –
‘‘เวฬุทนฺตวิสาณฏฺิ-กฏฺลาขาผลามยา;
สงฺขนาภิมยา สุตฺต-นฬโลหมยาปิ จ;
วิธา กปฺปนฺติ กปฺปิยา, คณฺิโย จาปิ ตมฺมยา’’ติ. –
อิมาย คาถาย สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา.
๖๗๔-๕. อุกฺขิตฺตสฺสานุวตฺติกา ภิกฺขุนี อุภินฺนํ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ วสา สงฺฆาทิเสเสสุ อฏฺ ยาวตติยกาติ อิเม ¶ เอกาทส ยาวตติยกาติ ปกาสิตาติ โยชนา.
๖๗๖. นิสฺสยสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิโย ทเสกาว เอกาทเสว วุตฺตาติ โยชนา. ฉธาจริยโต วุตฺตาติ –
‘‘ปกฺกนฺเต ปกฺขสงฺกนฺเต, วิพฺภนฺเต จาปิ นิสฺสโย;
มรณาณตฺตุปชฺฌาย-สโมธาเนหิ สมฺมตี’’ติ. –
อาจริยโต ฉธา นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย วุตฺตา. อุปชฺฌายา ตุ ปฺจธาติ ตาสุ อุปชฺฌายสโมธานํ วินา อวเสสาหิ ปฺจธา อุปชฺฌายปฏิปฺปสฺสทฺธิโย วุตฺตาติ อิเม เอกาทส.
เอกาทสกกถาวณฺณนา.
๖๗๗. เตรเสว ธุตงฺคานีติ ปํสุกูลิกงฺคาทีนิ ธุตงฺคานิ เตรเสว โหนฺติ.
ปรมานิ จ จุทฺทสาติ ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพํ, มาสปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตํ จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ, สนฺตรุตฺตรปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตโต จีวรํ สาทิตพฺพํ, ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพํ, นวํ ปน ภิกฺขุนา สนฺถตํ การาเปตฺวา ฉพฺพสฺสานิ ธาเรตพฺพํ ¶ ฉพฺพสฺสปรมตา ธาเรตพฺพํ, ติโยชนปรมํ สหตฺถา หริตพฺพานิ, ทสาหปรมํ อติเรกปตฺโต ธาเรตพฺโพ, สตฺตาหปรมํ สนฺนิธิการกํ ปริภฺุชิตพฺพานิ, ฉารตฺตปรมํ เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพํ, จตุกฺกํสปรมํ, อฑฺฒเตยฺยกํสปรมํ, ทฺวงฺคุลปพฺพปรมํ อาทาตพฺพํ, อฏฺงฺคุลปรมํ มฺจปฏิปาทกํ, อฏฺงฺคุลปรมํ ทนฺตกฏฺ’’นฺติ อิติ อิมานิ จุทฺทส ปรมานิ.
โสฬเสว ตุ ‘‘ชาน’’นฺติ ปฺตฺตานีติ ‘‘ชาน’’นฺติ เอวํ วตฺวา ปฺตฺตานิ โสฬส. เต เอวํ เวทิตพฺพา – ชานํ สงฺฆิกํ ¶ ลาภํ ปริณตํ อตฺตโน ปริณาเมยฺย, ชานํ ปุพฺพุปคตํ ภิกฺขุํ อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺเปยฺย, ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ติณํ วา มตฺติกํ วา สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา, ชานํ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุเชยฺย, ชานํ อาสาทนาเปกฺโข, ภุตฺตสฺมึ ปาจิตฺติยํ, ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ปริภฺุเชยฺย, ชานํ ยถาธมฺมํ นิหฏาธิกรณํ ปุน กมฺมาย อุกฺโกเฏยฺย, ชานํ ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทยฺย, ชานํ อูนวีสติวสฺสํ ปุคฺคลํ อุปสมฺปาเทยฺย, ชานํ เถยฺยสตฺเถน สทฺธึ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺเชยฺย, ชานํ ตถาวาทินา ภิกฺขุนา อกตานุธมฺเมน, ชานํ ตถานาสิตํ สมณุทฺเทสํ, ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ปุคฺคลสฺส ปริณาเมยฺย, ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺนํ ภิกฺขุนึ เนวตฺตนา ปฏิโจเทยฺย, ชานํ โจรึ วชฺฌํ วิทิตํ อนปโลเกตฺวา, ชานํ สภิกฺขุกํ อารามํ อนาปุจฺฉา ปวิเสยฺยาติ.
๖๗๘. อิธ อิมสฺมึ สาสเน โย ภิกฺขุ อนุตฺตรํ สอุตฺตรํ อุตฺตรปกรเณน สหิตํ สกลมฺปิ วินยวินิจฺฉยํ ชานาติ, มหตฺตเร อติวิปุเล อนุตฺตเร อุตฺตรวิรหิเต อุตฺตเม วินยนเย วินยาคเต อาปตฺติอนาปตฺติครุกลหุกกปฺปิยอกปฺปิยาทิวินิจฺฉยกมฺเม. อถ วา วินยนเย วินยปิฏเก ปวตฺตมาโน โส ภิกฺขุ นิรุตฺตโร ภวติ ปจฺจตฺถิเกหิ วตฺตพฺพํ อุตฺตรํ อติกฺกมิตฺวา ิโต, เสฏฺโ วา ภวติ, ตสฺส เจว ปเรสฺจ สํสโย น กาตพฺโพติ โยชนา. ชานตีติ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
เอกุตฺตรนยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เสทโมจนกถาวณฺณนา
๖๗๙. สุณตํ ¶ ¶ สุณนฺตานํ ภิกฺขูนํ ปฏุภาวกรา วินยวินิจฺฉเย ปฺาโกสลฺลสาธิกา ตโตเยว วรา อุตฺตมา. เสทโมจนคาถาโยติ อตฺถปจฺจตฺถิกานํ, สาสนปจฺจตฺถิกานฺจ วิสฺสชฺเชตุมสกฺกุเณยฺยภาเวน จินฺตยนฺตสฺส ขินฺนสรีรา เสเท โมเจนฺตีติ เสทโมจนา. อตฺถานุคตปฺหา อุปาลิตฺเถเรน ปิตา ปฺหคาถาโย, ตปฺปฏิพทฺธา วิสฺสชฺชนคาถาโย จ อิโต ปรํ วกฺขามีติ โยชนา.
๖๘๑. กพนฺธํ นาม อสีสํ อุรสิ ชาตอกฺขิมุขสรีรํ. ยถาห – ‘‘อสีสกํ กพนฺธํ, ยสฺส อุเร อกฺขีนิ เจว มุขฺจ โหตี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๗๙). มุเขน กรณภูเตน. กตฺวาติ เสวิตฺวา.
๖๘๒. ตสฺส ภิกฺขุโน กถํ ปาราชิโก สิยา ปาราชิกธมฺโม กถํ สิยา.
๖๘๔. กิฺจีติ ปาทํ วา ปาทารหํ วา ปรสนฺตกํ. ปรฺจ น สมาทเปติ ‘‘อมุกสฺส อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหราหี’’ติ ปรํ น อาณาเปยฺย.
๖๘๕. ปรสฺส กิฺจิ นาทิยนฺโตติ สมฺพนฺโธ. อาณตฺติฺจาติ จ-สทฺเทน สํวิธานํ, สงฺเกตฺจ สงฺคณฺหาติ.
๖๘๖. ครุกํ ภณฺฑนฺติ ปาทคฺฆนกภาเวน ครุภณฺฑํ. ‘‘ปริกฺขาร’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ. ปรสฺส ปริกฺขารนฺติ ปรสนฺตกํ ยํ กิฺจิ ปริกฺขารํ.
๖๙๒. มนุสฺสุตฺตริเก ธมฺเมติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวิสเย. กติกํ กตฺวานาติ ‘‘เอวํ นิสินฺเน เอวํ ิเต เอวํ คมเน อตฺถํ ¶ อาวิกโรตี’’ติอาทึ กตฺวา. สมฺภาวนาธิปฺปาโยติ ‘‘อรหา’’ติ คเหตฺวา มหาสมฺภาวนํ กโรตีติ อธิปฺปาโย หุตฺวา. อติกฺกมติ เจติ ตถา กตํ กติกํ อติกฺกมติ เจ, ตถารูปํ นิสชฺชํ วา านํ วา คมนํ วา กโรตีติ อตฺโถ. จุโตติ ¶ ตถารูปํ นิสชฺชาทึ ทิสฺวา เกนจิ มนุสฺสชาติเกน ‘‘อรหา’’ติ ตงฺขเณ าเต โส ปุคฺคโล ปาราชิกํ อาปชฺชติ.
๖๙๓. เอกวตฺถุกา กถํ ภเวยฺยุนฺติ โยชนา.
๖๙๔. อิตฺถิยาติ เอกิสฺสา อิตฺถิยา. ปฏิปชฺชนฺโตติ เอกกฺขเณ อฺเน ปุริเสน วุตฺตสาสนํ วตฺวา, อิมินา จ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ, วีมํสตี’’ติ องฺคทฺวยสฺส ปุริมสิทฺธตํ ทีเปติ อิมสฺส ปจฺจาหรณกตฺจ. กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตฺวา ทุฏฺุลฺลํ วตฺวา อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภณนฺโต.
๖๙๕. ยถาวุตฺตํ วตฺตํ อจริตฺวาติ ภควตา วุตฺตํ ปริวาสาทิวตฺตํ อจริตฺวา.
๖๙๖. ภิกฺขุนีหิ อสาธารณสิกฺขาปทตฺตา อาห ‘‘นตฺถิ สงฺฆาทิเสสตา’’ติ.
๖๙๗. เยน กุทฺโธ ปสํสิโตติ เอตฺถ ‘‘นินฺทิโต จา’’ติ เสโส.
๖๙๘. ติตฺถิยานํ วณฺณมฺหิ ภฺมาเน โย กุชฺฌติ, โส อาราธโกติ โยชนา, ปริโตสิโต ปสํสิโตติ อธิปฺปาโย. ติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชฺชํ ลภิตฺวา ติตฺถิยานํ วณฺณสฺมึ ภฺมาเน สุตฺวา สเจ กุปฺปติ อนตฺตมนํ กโรติ, อาราธโก สงฺฆาราธโก สงฺฆํ ปริโตเสนฺโต โหติ, สมฺพุทฺธสฺส วณฺณสฺมึ ภฺมาเน ยทิ กุชฺฌติ, นินฺทิโตติ โยชนา. เอตฺถ สมฺพุทฺธสฺสาติ อุปลกฺขณํ.
๗๐๑. คเหตฺวาติ ¶ ปฏิคฺคเหตฺวา.
๗๕๑. ‘‘น รตฺตจิตฺโต’’ติอาทินา ปุริมานํ ติณฺณํ ปาราชิกานํ วีติกฺกมจิตฺตุปฺปาทมตฺตสฺสาปิ อภาวํ ทีเปติ. มรณายาติ เอตฺถ ‘‘มนุสฺสชาติกสฺสา’’ติ อิทํ ปาราชิกปกรณโตว ลพฺภติ. ตสฺสาติ กิฺจิ เทนฺตสฺส. ตนฺติ ตถา ทียมานํ.
๗๕๒. ‘‘ปราชโย’’ติ ¶ อิทํ อภพฺพปุคฺคเลสุ สงฺฆเภทกสฺส อนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ. สลากคฺคาเหนาปิ สงฺฆํ ภินฺทนฺโต สงฺฆเภทโกว โหติ.
๗๕๓. อทฺธโยชเน ยํ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ เอกํ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวานาติ โยชนา.
๗๕๔. สุปฺปติฏฺิตนิคฺโรธสทิเส รุกฺขมูลเก ติจีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อทฺธโยชเน อรุณํ อุฏฺาเปนฺตสฺสาติ โยชนา.
๗๕๕. กายิกา นานาวตฺถุกาโย สมฺพหุลา อาปตฺติโย อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณ กถํ ผุเสติ โยชนา.
๗๕๗. วาจสิกา น กายิกา นานาวตฺถุกาโย สมฺพหุลา อาปตฺติโย อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณ กถํ ผุเสติ โยชนา.
๗๕๘. วินยนสตฺเถติ วินยปิฏเก. ตสฺส ภิกฺขุสฺส.
๗๕๙. ‘‘อิตฺถิยา’’ติอาทีสุ สหตฺเถ กรณวจนํ. อิตฺถิยา วา ปุริเสน วา ปณฺฑเกน วา นิมิตฺตเก เมถุนํ น เสวนฺโต น ปฏิเสวนฺโต เมถุนปจฺจยา จุโตติ โยชนา.
๗๖๐. กายสํสคฺโคเยว ¶ กายสํสคฺคตา, ตํ อาปนฺนา. อฏฺวตฺถุกํ เฉชฺชนฺติ เอวํนามกํ ปาราชิกํ.
๗๖๒. สมเย ปิฏฺิสฺิเตติ คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสสฺส ปมทิวสโต ยาว เหมนฺตสฺส ปมทิวโส, เอตฺถนฺตเร สตฺตมาสมตฺเต ปิฏฺิสฺิเต สมเย. ‘‘มาตุยาปิ จา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘มาตรมฺปิ จา’’ติ วุตฺตํ. โสเยว วา ปาโ.
๗๖๔. ‘‘อวสฺสุตหตฺถโต หิ ปิณฺฑํ คเหตฺวา’’ติ อิมินา สงฺฆาทิเสสสฺส วตฺถุมาห, ลสุณนฺติ ¶ ปาจิตฺติยสฺส วตฺถุํ, มนุสฺสมํสนฺติ ถุลฺลจฺจยวตฺถุํ, อกปฺปมฺนฺติ ทุกฺกฏวตฺถุํ. อกปฺปมฺนฺติ เอตฺถ ‘‘มํส’’นฺติ เสโส. ‘‘สพฺเพ เอกโต’’ติ ปทจฺเฉโท. เอกโตติ เอตฺถ ‘‘มทฺทิตฺวา’’ติ เสโส, อกปฺปิยมํเสหิ สทฺธึ เอกโต มทฺทิตฺวา ขาทตีติ อตฺโถ. สพฺพเมตํ ‘‘คเหตฺวา, มทฺทิตฺวา, ขาทตี’’ติ กิริยานํ กมฺมวจนํ. มนุสฺสมํสฺจาติ เอตฺถ จ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ โหติ. ตสฺสาติ ภิกฺขุนิยา. สงฺฆาทิเสสปาจิตฺติยทุกฺกฏปาฏิเทสนียถุลฺลจฺจยานิ เอกกฺขเณ โหนฺติ.
๗๖๕. ‘‘ปุคฺคโล เอโก’’ติ ปทจฺเฉโท. ทฺเวปิ จ ปุณฺณวสฺสาติ ปริปุณฺณวีสติวสฺสา จ ทฺเว สามเณรา. เอกาว เตสํ ปน กมฺมวาจาติ เตสํ อุภินฺนํ สามเณรานํ เอเกน อาจริเยน เอกาว อุปสมฺปทกมฺมวาจา กตา. เอกสฺสาติ เอกสฺสาปิ สามเณรสฺส. กมฺมนฺติ อุปสมฺปทกมฺมํ. น รูหเตติ น สมฺปชฺชติ, กิเมตฺถ การณํ, วท ภทฺทมุขาติ อธิปฺปาโย.
๗๖๖. มหิทฺธิเกสูติ ทฺวีสุ สามเณเรสุ. สเจ ปน เอโก เกสคฺคมตฺตมฺปิ อากาสโค อากาสฏฺโ โหติ ¶ , อากาสคตสฺเสว กตํ ตํ อุปสมฺปทกมฺมํ เนว รูหติ เนว สมฺปชฺชติ, ภูมิคตสฺส รูหตีติ โยชนา.
๗๖๗. อิทฺธิยา อากาเส ิเตน สงฺเฆน ภูมิคตสฺส สามเณรสฺส อุปสมฺปทกมฺมํ น กาตพฺพํ. ยทิ กโรติ, กุปฺปตีติ โยชนา. อิทฺจ สพฺพกมฺมานํ สาธารณลกฺขณํ. ยถาห – ‘‘สงฺเฆนาปิ อากาเส นิสีทิตฺวา ภูมิคตสฺส กมฺมํ น กาตพฺพํ. สเจ กโรติ, กุปฺปตี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๘๑).
๗๖๘. วตฺถํ กปฺปกตฺจ น โหติ, รตฺตฺจ น โหติ, เกสกมฺพลาทิ อกปฺปิยฺจ โหติ, นิวตฺถสฺส ปนาปตฺติ ตํ ปน นิวตฺถสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺติ โหติ. อนาปตฺติ กถํ สิยา, วท ภทฺทมุขาติ โยชนา.
๗๖๙. เอตฺถ เอตสฺมึ อกปฺปิยวตฺถุธารเณ ตนฺนิมิตฺตํ. อจฺฉินฺนจีวรสฺส ภิกฺขุโน อนาปตฺติ สิยาติ โยชนา. ‘‘กิฺจิปี’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ สมตฺเถติ. อสฺส อจฺฉินฺนจีวรสฺส ¶ ภิกฺขุสฺส อกปฺปิยํ นาม กิฺจิปิ จีวรํ น วิชฺชติ, ตสฺมา อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย.
๗๗๐. กุโตปิ จ ปุริสสฺส หตฺถโต โภชนสฺส กิฺจิ น คณฺหติ, โภชนโต กิฺจิปิ สยมฺปิ กสฺสจิ ปุริสสฺส น เทติ, ตถาปิ ครุกํ วชฺชํ สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ อุเปติ อาปชฺชติ, ตํ กถมาปชฺชติ, ตฺวํ ยทิ วินเย กุสโล อสิ, เม มยฺหํ วท เอตํ การณํ กเถหีติ โยชนา. หเวติ นิปาตมตฺตํ.
๗๗๑. ยา ปน ภิกฺขุนี อฺาย ภิกฺขุนิยา ‘‘อิงฺฆ, อยฺเย, ยํ เต เอโส ปุริสปุคฺคโล เทติ ขาทนียํ วา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๗๐๕) สงฺฆาทิเสสมาติกาย วุตฺตนเยน อุยฺโยชิตา อวสฺสุตมฺหา ปุริสปุคฺคลา ยํ กิฺจิ โภชนํ อาทาย ปฏิคฺคเหตฺวา ¶ สเจ ภฺุชติ, สา ตถา ภฺุชนฺตี ยาย อุยฺโยชิตา ภฺุชติ, ตสฺสา อุยฺโยชิกาย ธีรา วินยธรา ปณฺฑิตา สงฺฆาทิเสสํ กถยนฺติ ตสฺสา อุยฺโยชิตาย โภชนปริโยสาเน อุยฺโยชิกาย สงฺฆาทิเสสํ วทนฺตีติ โยชนา. ยถาห – ‘‘ตสฺสา หิ โภชนปริโยสาเน อุยฺโยชิกาย สงฺฆาทิเสโส โหตี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๘๑).
๗๗๒. ตํ กถํ ยทิ พุชฺฌสิ ชานาสิ, สาธุกํ พฺรูหิ กเถหีติ โยชนา.
๗๗๓. นิเสวิเตติ ตาย อุยฺโยชิตาย ภิกฺขุนิยา ตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส หตฺถโต ปฏิคฺคหิเต ตสฺมึ ทนฺตโปเน ปริภุตฺเต อุยฺโยชิกา ลหุวชฺชํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ.
๗๗๕. ‘‘อุกฺขิตฺตโก’’ติ อิมินา อาปตฺติวชฺชมาห. ยถาห – ‘‘เตน หิ สทฺธึ วินยกมฺมํ นตฺถิ, ตสฺมา โส สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชิตฺวา ฉาเทนฺโต วชฺชํ น ผุสตี’’ติ.
๗๗๖. สปฺปาณปฺปาณชนฺติ สปฺปาณเก จ อปฺปาณเก จ ชาตํ. เนว ชงฺคมนฺติ ปาเทหิ ภูมิยํ เนว จรนฺตํ. น วิหงฺคมนฺติ อากาเส ปกฺขํ ปสาเรตฺวา น จรนฺตํ. ทฺวิชนฺติ ทฺวีหิ ปจฺจเยหิ, ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ชาตตฺตา ทฺวิชํ. กนฺตนฺติ มโนหรํ. อกนฺตนฺติ อมโนหรํ.
๗๗๗. สปฺปาณโช ¶ สทฺโท จิตฺตโช วุตฺโต, อปฺปาณโช อุตุโช สทฺโท วุตฺโต, โส ปน ทฺวีเหว ปจฺจเยหิ ชาตตฺตา ‘‘ทฺวิโช’’ติ มโตติ โยชนา.
๗๗๘. ‘‘วินเย’’ติอาทิคาถา วณฺณิตตฺถาเยว.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
เสทโมจนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สาธารณาสาธารณกถาวณฺณนา
๗๗๙-๘๐. สพฺพสิกฺขาปทานนฺติ ¶ อุภโตวิภงฺคาคตานํ สพฺพสิกฺขาปทานํ. ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหีติ อุภยตฺถ สหตฺเถ กรณวจนํ. ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีนฺจ, ภิกฺขุนีหิ ภิกฺขูนฺจาติ อุภยตฺถ อสาธารณปฺตฺตฺจ, ตถา ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีนฺจ, ภิกฺขุนีหิ ภิกฺขูนฺจาติ อุภยตฺถ สาธารณสิกฺขาปทฺจ อหํ วกฺขามีติ โยชนา. สมาหิตาติ เอกคฺคจิตฺตา. ตํ มยา วุจฺจมานํ นิทานาทินยํ. สุณาถาติ โสตุชนํ สกฺกจฺจสวเน นิโยเชติ.
๗๘๑. ‘‘นิทาน’’นฺติอาทิคาถา วุตฺตตฺถาว.
๗๘๒-๓. ‘‘กติ เวสาลิยา’’ติอาทิ ปุจฺฉาคาถา อุตฺตานตฺถาเยว.
๗๘๖. ‘‘ทส เวสาลิยา’’ติอาทิวิสฺสชฺชนคาถานํ ‘‘เมถุน’’นฺติอาทโย นิทฺเทสวเสน วุตฺตา. วิคฺคโหติ มนุสฺสวิคฺคหํ ปาราชิกํ. จตุตฺถนฺติมวตฺถุกนฺติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปาราชิกํ. อติเรกจีวรนฺติ ปมกถินํ. สุทฺธกาฬเกฬกโลมกนฺติ เอฬกโลมวคฺเค ทุติยํ.
๗๘๗. ภูตนฺติ ปเม มุสาวาทวคฺเค อฏฺมํ. ปรมฺปรฺเจวาติ ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทํ. มุขทฺวารนฺติ จตุตฺเถ โภชนวคฺเค ทสมํ. ภิกฺขุนีสุ จ อกฺโกโสติ ภิกฺขุนิปาติโมกฺเข ฉฏฺเ อารามวคฺเค ทุติยํ.
๗๘๘. ทฺเว ¶ อนุทฺธํสนานีติ อฏฺมนวมสงฺฆาทิเสสา. จีวรสฺส ปฏิคฺคโหติ จีวรวคฺเค ปฺจมํ.
๗๘๙. รูปิยนฺติ เอฬกโลมวคฺเค อฏฺมํ. สุตฺตวิฺตฺตีติ ปตฺตวคฺเค ฉฏฺํ. อุชฺฌาปนนฺติ ทุติเย ภูตคามวคฺเค ตติยํ. ปริปาจิตปิณฺโฑติ ¶ ตติเย โอวาทวคฺเค นวมํ. ตเถว คณโภชนนฺติ จตุตฺเถ โภชนวคฺเค ทุติยํ.
๗๙๐. วิกาเล โภชนฺเจวาติ ตตฺเถว สตฺตมํ. จาริตฺตนฺติ อเจลกวคฺเค ปฺจเม ฉฏฺํ. นฺหานนฺติ สุราปานวคฺเค ฉฏฺเ สตฺตมํ. อูนวีสติวสฺสนฺติ สตฺตเม สปฺปาณกวคฺเค ปฺจมํ. ทตฺวา สงฺเฆน จีวรนฺติ อฏฺเม สหธมฺมิกวคฺเค นวมํ.
๗๙๑. โวสาสนฺตีติ ทุติยํ ภิกฺขุปาฏิเทสนียํ. นจฺจํ วา คีตํ วาติ ปเม ลสุณวคฺเค ทสมํ. จาริกทฺวยนฺติ จตุตฺเถ ตุวฏฺฏวคฺเค สตฺตมฏฺมานิ. ฉนฺททาเนนาติ อฏฺเม กุมาริภูตวคฺเค เอกาทสมํ. ‘‘ฉนฺททาเนตี’’ติ วา ปาโ. ‘‘ฉนฺททานํ อิติ อิเม’’ติ ปทจฺเฉโท.
๗๙๒. กุฏีติ ฉฏฺโ สงฺฆาทิเสโส. โกสิยนฺติ นิสฺสคฺคิเยสุ ทุติเย เอฬกโลมวคฺเค ปมํ. เสยฺยนฺติ มุสาวาทวคฺเค ปฺจมํ. ปถวีติ มุสาวาทวคฺเค ทสมํ. ภูตคามกนฺติ ภูตคามวคฺเค ทุติเย ปมํ. สปฺปาณกฺจ สิฺจนฺตีติ ภูตคามวคฺเค ทสมํ.
๘๐๐. ฉอูนานิ ตีเณว สตานีติ ฉหิ อูนานิ ตีเณว สตานิ, จตุนวุตาธิกานิ ทฺวิสตานีติ อตฺโถ. สมเจตสาติ –
‘‘วธเก เทวทตฺตมฺหิ, โจเร องฺคุลิมาลเก;
ธนปาเล ราหุเล จ, สพฺพตฺถ สมมานโส’’ติ. (มิ. ป. ๖.๖.๕; ธ. ป. อฏฺ. ๑.๑๖ เทวทตฺตวตฺถุ; อิติวุ. อฏฺ. ๑๐๐) –
วจนโต ¶ สพฺเพสุ หิตาหิเตสุ, ลาภาลาภาทีสุ จ อฏฺสุ โลกธมฺเมสุ นิพฺพิการตาย จ สมานจิตฺเตน ตถาคเตน.
วุตฺตาวเสสาติ ¶ เวสาลิยาทีสุ ฉสุ นคเรสุ วุตฺเตหิ อวสิฏฺานิ. อิเม สพฺเพ อิมานิ สพฺพานิ สิกฺขาปทานิ สาวตฺถิยํ กตานิ ภวนฺติ, ปฺตฺตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ.
๘๐๑. ปาราชิกานิ จตฺตารีติ เวสาลิยํ วุตฺตํ เมถุนมนุสฺสวิคฺคหอุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ, ราชคเห อทินฺนาทานนฺติ จตฺตาริ. สตฺต สงฺฆาทิเสสกาติ ราชคเห วุตฺตา ทฺเว อนุทฺธํสนา, ทฺเว จ เภทา, อาฬวิยํ กุฏิกาโร, โกสมฺพิยํ มหลฺลกวิหาโร, โทวจสฺสนฺติ สตฺต. นิสฺสคฺคิยานิ อฏฺเวาติ เวสาลิยํ อติเรกจีวรํ, กาฬกเอฬกโลมํ, ราชคเห จีวรปฏิคฺคหณํ, รูปิยปฏิคฺคหณํ, สุตฺตวิฺตฺติ, อาฬวิยํ โกสิยมิสฺสกํ, กปิลวตฺถุมฺหิ เอฬกโลมโธวนํ, อูนปฺจพนฺธนนฺติ อฏฺ.
ทฺวตฺตึเสว จ ขุทฺทกาติ เวสาลิยํ ภูตาโรจนํ, ปรมฺปรโภชนํ, อปฺปฏิคฺคหณํ, อเจลกํ, ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ภิกฺขุํ อกฺโกเสยฺยา’’ติ ปฺจ, ราชคเห อุชฺฌาปนกํ, ภิกฺขุนิปริปาจิตปิณฺโฑ, คณโภชนํ, วิกาลโภชนํ, ‘‘โย ปน ภิกฺขุ นิมนฺติโต’’ติอาทิ จ, ‘‘โอเรนฑฺฒมาสํ นหาเยยฺยา’’ติ, อูนวีสติวสฺสํ, ‘‘สมคฺเคน สงฺเฆน จีวรํ ทตฺวา’’ติ ภิกฺขูนํ อฏฺ, ภิกฺขุนีนํ ปน ‘‘นจฺจํ วา คีตํ วา’’ติอาทิ จ, ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อนฺโตวสฺส’’นฺติอาทิ จ, ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี วสฺสํวุตฺถา’’ติอาทิ จาติ ทฺวยํ, ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปาริวาสิกฉนฺททาเนนา’’ติอาทิ จาติ จตฺตาริ, อาฬวิยํ อนุปสมฺปนฺเนน อุตฺตริ ทิรตฺตติรตฺตํ, ‘‘ปถวึ ขเณยฺย วา’’ติอาทิ, ภูตคามปาตพฺยตาย, ‘‘ชานํ สปฺปาณกํ อุทก’’นฺติ จตฺตาริ, โกสมฺพิยํ อฺวาทเก วิเหสเก, ยาวทฺวารโกสา อคฺคฬฏฺปนาย, สุราเมรยปาเน, อนาทริเย, ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ สหธมฺมิก’’นฺติอาทิ จาติ ปฺจ, กปิลวตฺถุมฺหิ ‘‘ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา’’ติอาทิ, ‘‘อคิลาเนน ¶ ภิกฺขุนา จาตุมาส’’นฺติอาทิ, ‘‘อฏฺิมยํ วา ทนฺตมยํ วา’’ติอาทิ ตีณิ ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีนํ ปน ‘‘อุทกสุทฺธิกํ ปนา’’ติอาทิ, ‘‘โอวาทาย วา’’ติอาทีติ ทฺเว, ภคฺเคสุ ‘‘อคิลาโน วิสิพฺพนาเปกฺโข’’ติอาทิ เอกนฺติ เอตานิ พาตฺตึเสว ปาจิตฺติยานิ.
๘๐๒. ทฺเว ¶ คารยฺหาติ ‘‘ภิกฺขุ ปเนว กุเลสู’’ติอาทิ, ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ อารฺกานี’’ติอาทิ จาติ ทฺเว ปาฏิเทสนียา. ตโย เสขาติ โกสมฺพิยํ น สุรุสุรุการกํ, ภคฺเคสุ น สามิเสน หตฺเถน ปานียถาลกํ, น สสิตฺถกํ ปตฺตโธวนนฺติ ตีณิ เสขิยานิ. ฉปฺปฺาเสว สิกฺขาปทานิ ปิณฺฑิตานิ เวสาลิยาทีสุ ฉสุ นคเรสุ ปฺตฺตานิ ภวนฺตีติ โยชนา.
๘๐๓. สตฺตสุ นคเรสุ ปฺตฺตานิ เอตานิ สพฺพาเนว สิกฺขาปทานิ ปน อฑฺฒุฑฺฒานิ สตาเนว ภวนฺติ. สาวตฺถิยํ ปฺตฺเตหิ จตุนวุตาธิกทฺวิสตสิกฺขาปเทหิ สทฺธึ ฉสุ นคเรสุ ปฺตฺตานิ ฉปฺาส สิกฺขาปทานิ ปฺาสาธิกานิ ตีณิ สตานิ ภวนฺตีติ อตฺโถ. อฑฺเฒน จตุตฺถํ เยสํ ตานิ อฑฺฒุฑฺฒานิ.
๘๐๔-๑๐. เอวํ นิทานวเสน นครํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิทานมฺมเสเสตฺวา อุภโตวิภงฺคาคตานํ สพฺเพสํ สิกฺขาปทานํ เกวลํ ปิณฺฑวเสน คณนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สิกฺขาปทานิ ภิกฺขูน’’นฺติอาทิ.
๘๑๑. เอวํ สพฺพสิกฺขาปทานํ นิทานฺจ คณนฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อสาธารณานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ฉจตฺตาลีสา’’ติอาทิ. ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณภาวํ มเหสินา คมิตานิ สิกฺขาปทานิ ฉจตฺตาลีเสว โหนฺตีติ โยชนา. อิมินา อุทฺเทสมาห.
๘๑๔. ‘‘ฉ ¶ จ สงฺฆาทิเสสา’’ติอาทีหิ ทฺวีหิ คาถาหิ นิทฺเทสํ ทสฺเสตฺวา ‘‘วิสฺสฏฺี’’ติอาทินา ปฏินิทฺเทสมาห.
๘๑๕. ‘‘นิสฺสคฺคิเย อาทิวคฺคสฺมิ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. โธวนนฺติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรโธวนํ. ปฏิคฺคโหติ ตสฺสาเยว หตฺถโต จีวรปฏิคฺคหณํ.
๘๑๖. อารฺนฺติ เอกูนตึสติมํ สิกฺขาปทํ.
๘๑๗. ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีนฺจ วุตฺตานิ สพฺพานิ ปาจิตฺติยานิ คณนาวสา อฏฺาสีติสตํ ¶ ภวนฺตีติ โยชนา. อฏฺาสีติสตนฺติ ภิกฺขุนิปาติโมกฺขาคตํ ฉสฏฺิสตปาจิตฺติยํ วกฺขมาเนหิ ภิกฺขุนิยเตหิ พาวีสติปาจิตฺติเยหิ สทฺธึ อฏฺาสีติสตํ โหติ. ตโตติ อฏฺาสีตาธิกสตปาจิตฺติยโต นิทฺธาริตานิ เอตานิ ทฺวาวีสติ ขุทฺทกานิ ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺขเก ภวนฺตีติ โยชนา.
๘๑๘. ภิกฺขุนิวคฺโคติ ภิกฺขุนีนํ โอวาทวคฺโค. ปรมฺปรโภชเน ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ ปรมฺปรโภชนํ, ปรมฺปรโภชเนน สห วตฺตตีติ สปรมฺปรโภชโน.
๘๒๒. ‘‘เอกโต ปน ปฺตฺตา’’ติอาทิ นิคมนํ. ภิกฺขุนีหิ อสาธารณตํ คตา เอกโตว ปฺตฺตา อิเม อิมานิ สิกฺขาปทานิ ปิณฺฑิตานิ ฉจตฺตาลีส โหนฺตีติ โยชนา.
๘๒๓. มเหสินา ภิกฺขูหิ อสาธารณภาวํ คมิตานิ ภิกฺขุนีนํ สิกฺขาปทานิ ปริปิณฺฑิตานิ สตํ, ตึส จ ภวนฺตีติ โยชนา.
๘๒๔. เอวํ ¶ อุทฺทิฏฺานํ นิทฺเทสมาห ‘‘ปาราชิกานี’’ติอาทินา. ปาราชิกานิ จตฺตารีติ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกวชฺชปฏิจฺฉาทิกอุกฺขิตฺตานุวตฺติกอฏฺวตฺถุกสงฺขาตานิ จตฺตาริ ปาราชิกานิ.
๘๒๖. ทฺวีหิ คาถาหิ นิทฺทิฏฺานํ ปฏินิทฺเทโส ‘‘ภิกฺขุนีนํ ตุ สงฺฆาทิเสเสหี’’ติอาทิ. จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อุทฺเทสวเสเนว ปากฏตฺตา ปฏินิทฺเทเส อคฺคหณํ. อาทิโต ฉาติ อุสฺสยวาทิกาทโย ฉ สงฺฆาทิเสสา. ‘‘อาทิโต’’ติ อิทํ ‘‘ยาวตติยกา’’ติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ, อฏฺสุ ยาวตติยเกสุ ปุริมานิ จตฺตาริ สิกฺขาปทานีติ วุตฺตํ โหติ.
๘๒๗. สตฺตฺทตฺถิกาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อฺทตฺถิกสิกฺขาปทโต ปจฺฉิมานิ จตฺตาริ, ปุริมานิ ‘‘อฺํ วิฺาเปยฺย, อฺํ เจตาเปยฺยา’’ติ ทฺเว จ คหิตานิ. ปตฺโต เจวาติ ปมํ ปตฺตสนฺนิจยสิกฺขาปทมาห. ทุติยวคฺเค ปุริมสิกฺขาปททฺวยํ ‘‘ครุํ ลหุ’’นฺติ อิมินา คหิตํ.
๘๒๘. อิธ ¶ ภิกฺขุนิปาติโมกฺเข เอตานิ ปน ทฺวาทเสว นิสฺสคฺคิยานิ สตฺถารา ภิกฺขุนีนํ วเสน เอกโต ปฺตฺตานีติ โยชนา.
๘๒๙-๓๐. ‘‘สพฺเพว คณนาวสา’’ติอาทิ นิคมนํ. ภิกฺขูหิ อสาธารณตํ คตา ภิกฺขุนีนํ เอกโต ปฺตฺตา สตํ, ตึส ภวนฺตีติ โยชนา.
๘๓๑-๓. ‘‘อสาธารณา อุภินฺน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. อุภินฺนํ อสาธารณสิกฺขาปทานิ สตฺจ สตฺตติ จ ฉ จ ภวนฺติ. เอวมุทฺทิฏฺานํ นิทฺเทโส ‘‘ปาราชิกานิ จตฺตารี’’ติอาทิ. ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนํ จตฺตาริ ปาราชิกานิ. ทสจฺฉ ¶ จาติ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนํ สงฺฆาทิเสสา ทส, ภิกฺขุนีหิ อสาธารณานิ ภิกฺขูนํ วิสฺสฏฺิอาทิกา สงฺฆาทิเสสา ฉ จาติ สงฺฆาทิเสสา โสฬส.
อนิยตา ทุเว เจวาติ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณานิ ภิกฺขูนํ อนิยตา ทฺเว จ. นิสฺสคฺคา จตุวีสตีติ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณานิ ภิกฺขูนํ ทฺวาทส, ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนํ ทฺวาทสาติ เอวํ นิสฺสคฺคิยา จตุวีสติ จ. สตํ อฏฺารส ขุทฺทกาติ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณานิ ภิกฺขูนํ พาวีสติ, ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนํ ฉนฺนวุตีติ อฏฺารสาธิกสตํ ขุทฺทกานิ จ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ อสาธารณสงฺคเห.
ทฺวาทเสว จ คารยฺหาติ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณานิ ภิกฺขูนํ จตฺตาริ, ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนํ อฏฺาติ เอเต ปาฏิเทสนียา จาติ อิเม ฉสตฺตติอธิกานิ สตสิกฺขาปทานิ อุภินฺนมฺปิ อสาธารณานีติ โยชนา.
๘๓๔. อุภินฺนมฺปิ สาธารณานิ สตฺถุนา ปฺตฺตานิ สิกฺขาปทานิ สตฺจ สตฺตติ จ จตฺตาริ จ ภวนฺตีติ ปกาสิตาติ โยชนา.
๘๓๕-๖. ปาราชิกานิ จตฺตารีติ เมถุนอทินฺนาทานมนุสฺสวิคฺคหอุตฺตริมนุสฺสธมฺมปาราชิกานิ จตฺตาริ จ. สตฺต สงฺฆาทิเสสกาติ สฺจริตฺตอมูลกอฺภาคิยา, จตฺตาโร ยาวตติยกา จาติ สงฺฆาทิเสสา สตฺต จ. อฏฺารส จ นิสฺสคฺคาติ นิสฺสคฺคิเยสุ ปเม จีวรวคฺเค ¶ โธวนปฏิคฺคหณสิกฺขาปททฺวยวชฺชิตานิ อฏฺ, เอฬกโลมวคฺเค อฏฺมนวมทสมานีติ ตโย, ปตฺตวคฺเค ปมปตฺตวสฺสิกสาฏิกอารฺกสิกฺขาปทตฺตยสฺส วชฺชิตานิ สตฺต จาติ ¶ อิมานิ อฏฺารส นิสฺสคฺคิยสิกฺขาปทานิ จ. สมสตฺตติ ขุทฺทกาติ –
‘‘สพฺโพ ภิกฺขุนิวคฺโคปิ…เป… ทฺวาวีสติ ภวนฺติ หี’’ติ. (อุ. วิ. ๘๑๘-๘๒๑) –
วุตฺตา ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณาติ อิเมหิ พาวีสติปาจิตฺติเยหิ วชฺชิตานิ อวเสสานิ สตฺตติ ปาจิตฺติยานิ จ อุภยสาธารณวเสน ปฺตฺตานิ. ปฺจสตฺตติ เสขิยาปิ จาติ อุภินฺนํ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ สมสิกฺขตา สาธารณสิกฺขาปทานิ สพฺพโส สตํ, สตฺตติ, จตฺตาริ จ โหนฺตีติ โยชนา.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
สาธารณาสาธารณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ลกฺขณกถาวณฺณนา
๘๓๗. อิโตติ สาธารณาสาธารณกถาย ปรํ. สพฺพคนฺติ สพฺพสิกฺขาปทสาธารณํ. วทโต เมติ วทโต มม วจนํ. นิโพธถาติ นิสาเมถ, เอกคฺคจิตฺตา หุตฺวา สกฺกจฺจํ สุณาถาติ อตฺโถ.
๘๓๘-๙. ‘‘วิปตฺติ อาปตฺติ อนาปตฺตี’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อาณตฺติ องฺค’’นฺติ ปทจฺเฉโท. วชฺชกมฺมปเภทกนฺติ วชฺชปเภทกํ กมฺมปเภทกํ. ติกทฺวยนฺติ กุสลตฺติกเวทนาตฺติกทฺวยํ. สพฺพตฺถาติ อิทํ ปน สตฺตรสวิธสพฺพสาธารณลกฺขณํ. สพฺพตฺถ สพฺเพสุ สิกฺขาปเทสุ.
๘๔๐. อิธ อิมสฺมึ สตฺตรสวิเธ ยํ ลกฺขณํ ปุพฺเพ วุตฺตนยํ, ยฺจ อุตฺตานํ, ตํ สพฺพํ วชฺเชตฺวา อตฺถโชตนํ อตฺถปฺปกาสนํ กริสฺสามีติ โยชนา.
๘๔๑. นิทานํ ¶ ¶ นาม ราชคหาทิสิกฺขาปทปฺตฺติฏฺานภูตานิ สตฺต นครานิ, ตํ ปุพฺเพ ทสฺสิตนฺติ อวสิฏฺานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุคฺคโล’’ติอาทิ. ปุคฺคโล นาม กตโม? ยํ ยํ ภิกฺขุนึ, ภิกฺขฺุจ อารพฺภ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, อยํ ภิกฺขุนี จ ภิกฺขุ จ สิกฺขาปทปฺตฺติยา อาทิกมฺมิโก ปุคฺคโลติ วุจฺจตีติ โยชนา.
๘๔๒. ธนิยาทโยติ อาทิ-สทฺเทน สมฺพหุลา ภิกฺขู, วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู, เสยฺยสโก, อุทายี, อาฬวกา ภิกฺขู, ฉนฺโน, เมตฺติยภูมชกา, เทวทตฺโต, อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู, ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู, อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต, อฺตโร ภิกฺขุ, หตฺถโก สกฺยปุตฺโต, อนุรุทฺโธ, สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู, จูฬปนฺถโก, เพลฏฺสีโส, อายสฺมา อานนฺโท, สาคตตฺเถโร, อริฏฺโ ภิกฺขุ, อายสฺมา อานนฺโทติ อิเม เอกวีสติ สงฺคหิตา.
๘๔๓. ถุลฺลนนฺทาทโยติ อาทิ-สทฺเทน สุนฺทรีนนฺทา, ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย, อฺตรา ภิกฺขุนี, จณฺฑกาฬี, สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย, ทฺเว ภิกฺขุนิโยติ ฉยิเม สงฺคหิตา. สพฺเพติ อุภยปาติโมกฺเข อาทิกมฺมิกา สพฺเพ ปุคฺคลา.
๘๔๔. วตฺถูติ วตฺถุ นาม สุทินฺนาทิโน ตสฺส ตสฺเสว ปุคฺคลสฺส เมถุนาทิกสฺส จ วตฺถุโน สพฺพปฺปกาเรน อชฺฌาจาโร วีติกฺกโม ปวุจฺจตีติ โยชนา.
๘๔๕-๖. เกวลา มูลภูตา ปฺตฺติ. อนุ จ อนุปฺปนฺโน จ สพฺพตฺถ จ ปเทโส จ อนฺวนุปฺปนฺนสพฺพตฺถปเทสา, เตเยว ปทานิ อนฺวนุปฺปนฺนสพฺพตฺถปเทสปทานิ, ตานิ ปุพฺพกานิ ยาสํ ปฺตฺตีนํ ตา อนฺวนุปฺปนฺนสพฺพตฺถปเทสปทปุพฺพิกา. ตเถว สา ปฺตฺตีติ โยชนา. อนุปฺตฺติ อนุปฺปนฺนปฺตฺติ สพฺพตฺถปฺตฺติ ปเทสปฺตฺติ โหติ. เอกโต อุภโต ปุพฺพา กเถว ¶ สา ปฺตฺตีติ โยชนา. เอกโตปทํ อุภโตปทฺจ ปุพฺพมสฺสาติ เอกโตอุภโตปุพฺพา, เอกโตปฺตฺติ อุภโตปฺตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๘๔๗. ตตฺถ นวธาสุ ปฺตฺตีสุ. ปฺตฺติ นาม กตมาติ อาห ‘‘โย เมถุน’’นฺติอาทิ. ‘‘โย ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติ จ ‘‘โย ภิกฺขุ อทินฺนํ อาทิเยยฺยา’’ติ จ เอวมาทิกา สิกฺขาปทสฺส มูลภูตา ปฺตฺติ โหตีติ โยชนา.
๘๔๘. อิจฺเจวมาทิกาติ ¶ อาทิ-สทฺเทน ‘‘สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ จ ‘‘คามา วา อรฺา วา’’ติ จ เอวมาทีนํ สงฺคโห.
๘๔๙. วชฺชเก อนุปฺปนฺเนเยว ปฺตฺตา อนุปฺปนฺนปฺตฺติ, สา อนุปฺปนฺนปฺตฺติ.
๘๕๐-๑. คุณงฺคุณุปาหนสิกฺขาปเทน สห จมฺมตฺถรณสิกฺขาปทฺจ ธุวนฺหานํ ธุวนหานสิกฺขาปทํ, ปฺจวคฺเคน อุปสมฺปาทนสิกฺขาปทฺจาติ เอสา จตุพฺพิธา ปฺตฺติ ปเทสปฺตฺติ นามาติ วุตฺตาติ โยชนา. มชฺฌิมเทสสฺมึเยว โหตีติ มชฺฌิมเทสสฺมึเยว อาปตฺติกรา โหติ. น อฺโตติ น อฺตฺร ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ เทสนฺตเร าเน.
๘๕๒. อิโตติ จตุพฺพิธปเทสปฺตฺติโต. เอตฺถาติ อิมสฺมึ ปฺตฺติเภเท. สาธารณทุกาทิกนฺติ สาธารณปฺตฺติ อสาธารณปฺตฺติ, เอกโตปฺตฺติ อุภโตปฺตฺตีติ ทุกทฺวยํ. อตฺถโต เอกเมวาติ อตฺถโต อฺมฺสมานเมว. วิปตฺตาปตฺตานาปตฺติวินิจฺฉโย วิตฺถาริโตติ อิธ น ทสฺสิโต. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – วิปตฺตีติ สีลอาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺตีนํ ¶ อฺตรา. อาปตฺตีติ ปุพฺพปโยคาทิวเสน อาปตฺติเภโท. อนาปตฺตีติ อชานนาทิวเสน อนาปตฺติ.
๘๕๓. อาปตฺติ ปน สาณตฺติกาปิ โหติ, อนาณตฺติกาปิ โหตีติ โยชนา. ‘‘อาณตฺตีติ จ นาเมสา อาณาปนา’’ติ อิมินา อาณตฺติ-สทฺทสฺส สภาวสาธารณตฺตาติ อิธาห.
๘๕๔. สพฺพสิกฺขาปเทสุปิ สพฺพาสํ อาปตฺตีนํ สพฺโพ ปน องฺคเภโทปิ วิภาวินา าตพฺโพติ โยชนา.
๘๕๖. ‘‘สา จ อกฺริยสมุฏฺานา’’ติ ปทจฺเฉโท. กาเยน, วาจาย วา ทสาหพฺภนฺตเร อติเรกจีวรสฺส อนธิฏฺาเนน นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํ โหตีติ ‘‘ปเม กถิเน วิยา’’ติ อุทาหรณํ กตํ.
๘๕๗. กฺริยากฺริยโต โหตีติ กิริยโต จ อกิริยโต จ โหติ. ตตฺถ อุทาหรณมาห ‘‘จีวรคฺคหเณ ¶ วิยา’’ติ. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต จีวรคฺคหณํ กฺริยา, ปาริวตฺตกสฺส อทานํ อกฺริยาติ เอวํ กิริยาย เจว อกิริยาย จ อิมํ อาปชฺชติ.
๘๕๘. สิยา ปน กโรนฺตสฺส อกโรนฺตสฺสาติ ยา ปน อาปตฺติ สิยา กโรนฺตสฺส, สิยา อกโรนฺตสฺส โหติ, อยํ สิยา กิริยโต, สิยา อกิริยโต สมุฏฺาติ. สิยาติ จ กทาจิ-สทฺทตฺเถ นิปาโต. อตฺโรทาหรณมาห ‘‘รูปิโยคฺคหเณ วิยา’’ติ. รูปิยสฺส อุคฺคหเณ, อุคฺคณฺหาปเน สิยา กทาจิ กิริยโต สมุฏฺาติ, อุปนิกฺขิตฺตสฺส สาทิยเน กายวาจาหิ กาตพฺพสฺส อกรเณน กทาจิ อกโรนฺตสฺส โหตีติ.
๘๕๙. ยา ¶ กโรโต อกุพฺพโต, กทาจิ กโรนฺตสฺส จ โหติ, สา อาปตฺติ สิยา กิริยากิริยโต, สิยา กิริยโตปิ จ โหตีติ โยชนา. ‘‘กุฏิการาปตฺติ วิยา’’ติ วตฺตพฺพํ. สา หิ วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกนฺตํ กโรโต กิริยโต สมุฏฺาติ, อเทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกนฺตํ, ปมาณยุตฺตํ วา กโรโต กิริยากิริยโต สมุฏฺาติ.
๘๖๑. ยโต อาปตฺติโต. อยํ อาปตฺติ. สฺาย กรณภูตาย วิโมกฺโข เอตายาติ สฺาวิโมกฺขา. เอตฺถ จ วีติกฺกมสฺา อวิชฺชมานาปิ อาปตฺติยา วิมุจฺจนสฺส สาธกตมฏฺเน คหิตา. ยถา วุฏฺิยา อภาเวน ชาตํ ทุพฺภิกฺขํ ‘‘วุฏฺิกต’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อยํ สจิตฺตกาปตฺติ.
๘๖๒-๔. อิตรา ปน อจิตฺตกาปตฺติ. วีติกฺกมสฺาย อภาเวน นตฺถิ วิโมกฺโข เอตายาติ โนสฺาวิโมกฺขา. สุจิตฺเตน สวาสนกิเลสปฺปหาเนน, สกลโลกิยโลกุตฺตรกุสลสมฺปโยเคน จ สุนฺทรจิตฺเตน ภควตา ปกาสิตา สพฺพาว อาปตฺติ จิตฺตสฺส วเสน ทุวิธา สิยุนฺติ โยชนา. สจิตฺตกสมุฏฺานวเสน ปนาติ สจิตฺตกสมุฏฺานวเสเนว. สจิตฺตกมิสฺสกวิวชฺชนตฺถาย ปน-สทฺโท เอวการตฺโถ วุตฺโต.
ยา สจิตฺตเกหิ วา อจิตฺตกมิสฺสกสมุฏฺานวเสน วา สมุฏฺาติ, อยํ อจิตฺตกา.
๘๖๕. สุวิชฺเชนาติ โสภมานาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ วา อฏฺหิ วา วิชฺชาหิ สมนฺนาคตตฺตา ¶ สุวิชฺเชน. อนวชฺเชนาติ สวาสนกิเลสาวชฺชรหิตตฺตา อนวชฺเชน ภควตา ¶ . โลกปณฺณตฺติวชฺชโต โลกปณฺณตฺติวชฺชวเสน สพฺพาว อาปตฺติโย วชฺชวเสน ทุวิธา ทุกา วุตฺตาติ โยชนา.
๘๖๖. ยสฺสา สจิตฺตเก ปกฺเข, จิตฺตํ อกุสลํ สิยาติ ยสฺสา สจิตฺตกาจิตฺตกสมุฏฺานาย อจิตฺตกาย สุราปานาทิอาปตฺติยา สจิตฺตกสมุฏฺานปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, อยํ โลกวชฺชา นามาติ อตฺโถ. ยสฺสา ปน สจิตฺตกสมุฏฺานาย ปมปาราชิกาทิอาปตฺติยา จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตสฺสา โลกวชฺชตาย วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อจิตฺตกาปิ วา อาปตฺติ สจิตฺตกปกฺเข กุสลจิตฺเต สติ โลกวชฺชตาย สิทฺธาย อจิตฺตกปกฺเขปิ โลกวชฺโช โหติ, กิมงฺคํ ปน อกุสลจิตฺเตเนว อาปชฺชิตพฺพาย อาปตฺติยา โลกวชฺชตาติ สา วิสุํ น วุตฺตา.
ยสฺมา ปน ปณฺณตฺติวชฺชาย วตฺถุวีติกฺกมวชฺชา สิยา กุสลํ, สิยา อพฺยากตํ, ตสฺมา ตสฺสา สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ กุสลเมวาติ อยํ นิยโม นตฺถีติ อาห ‘‘เสสา ปณฺณตฺติวชฺชกา’’ติ. ‘‘ปณฺณตฺติวชฺชกา’’ติ อิมินา จ ลกฺขเณน วตฺถุวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ สิยา กุสลํ, สิยา อกุสลํ, สิยา อพฺยากตํ, ตสฺมา ตสฺสา สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวาติ อยํ นิยโม นตฺถีติ อาห.
๘๖๗. กายทฺวาเรน อาปชฺชิตพฺพา กายกมฺมํ. อุภยตฺถ อาปชฺชิตพฺพา ตทุภยํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ. มโนทฺวาเร อาปตฺติ นาม นตฺถีติ มโนกมฺมํ น วุตฺตํ. ‘‘มโนทฺวาเร อาปตฺติ นาม นตฺถีติ จ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ อุปนิกฺขิตฺตสาทิยนาทีสุ มโนทฺวาเรปิ อาปตฺติสมฺภวโต’’ติ อาจริยา.
๘๖๘-๙. กุสลาทิติกทฺวยนฺติ ¶ กุสลตฺติกฺเจว เวทนาตฺติกฺจ. อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต กุสลากุสลจิตฺโต, ตถา อพฺยากตจิตฺโต วา หุตฺวา อาปชฺชตีติ โยชนา.
ทุกฺขาทิสํยุโตติ อาทิ-สทฺเทน อุเปกฺขาเวทนาสมงฺคิโน สงฺคโห. เอวํ สนฺเตปิ สพฺพสิกฺขาปเทสุ อกุสลจิตฺตวเสน เอกํ จิตฺตํ, กุสลาพฺยากตวเสน ทฺเว จิตฺตานิ, สพฺเพสํ วเสน ตีณิ จิตฺตานิ. ทุกฺขเวทนาวเสน เอกา เวทนา, สุขอุเปกฺขาวเสน ทฺเว, สพฺพาสํ วเสน ¶ ติสฺโส เวทนาติ อยเมว เภโท ลพฺภติ, น อฺโ เภโท.
กุสลตฺติกํ สเจปิ คหิตํ, น ปน สพฺเพสเมว จิตฺตานํ วเสน ลพฺภติ, อถ โข อาปตฺติสมุฏฺาปกานํ พาตฺตึสจิตฺตานเมว วเสน ลพฺภติ. พาตฺตึเสว หิ จิตฺตานิ อาปตฺติสมุฏฺาปกานิ. ทฺวาทส อกุสลานิ, อฏฺ กามาวจรกุสลานิ, ทส กามาวจรกิริยจิตฺตานิ, กุสลโต, กิริยโต จ ทฺเว อภิฺาจิตฺตานิ จาติ เอวํ พาตฺตึสจิตฺเตหิ สมุฏฺิตาปิ อาปตฺติ อกุสลา วา โหติ อพฺยากตา วา, นตฺถิ อาปตฺติ กุสลํ. ยถาห สมถกฺขนฺธเก ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ (จูฬว. ๒๒๒; ปริ. ๓๐๓). อยํ ปน ปาโ ปณฺณตฺติวชฺชํเยว สนฺธาย วุตฺโต, น โลกวชฺชํ. ยสฺมิฺหิ ปถวิขณนภูตคามปาตพฺยตาทิเก อาปตฺตาธิกรเณ กุสลจิตฺตํ องฺคํ โหติ, ตสฺมิฺจ สติ น สกฺกา วตฺตุํ ‘‘นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ. ตสฺมา นยิทํ องฺคปโหนกจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ตาว อาปตฺตาธิกรณํ โลกวชฺชํ, ตํ เอกนฺตโต อกุสลเมว. ตตฺถ ‘‘สิยา อกุสล’’นฺติ วิกปฺโป นตฺถิ. ยํ ปน ปณฺณตฺติวชฺชํ, ตํ ยสฺมา สฺจิจฺจ ‘‘อิมํ อาปตฺตึ วีติกฺกมามี’’ติ วีติกฺกมนฺตสฺเสว อกุสลํ ¶ โหติ, อสฺจิจฺจ ปน กิฺจิ อชานนฺตสฺส สหเสยฺยาทิวเสน อาปชฺชนโต อพฺยากตํ โหติ, ตสฺมา ตตฺถ สฺจิจฺจาสฺจิจฺจวเสน อิมํ วิกปฺปภาวํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ. สเจ ปน ‘‘ยํ กุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, อิทํ วุจฺจติ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ วเทยฺย, อจิตฺตกานํ เอฬกโลมปทโสธมฺมาทิสมุฏฺานานมฺปิ กุสลจิตฺตํ อาปชฺเชยฺย, น จ ตตฺถ วิชฺชมานมฺปิ กุสลจิตฺตํ อาปตฺติยา องฺคํ, กายวจีวิฺตฺติวเสน ปน จลิตปวตฺตานํ กายวาจานํ อฺตรเมว องฺคํ, ตฺจ รูปกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา อพฺยากตนฺติ.
๘๗๐. อิทํ ตุ ลกฺขณนฺติ อิทํ นิทานาทิสาธารณวินิจฺฉยลกฺขณํ.
๘๗๑. ‘‘ตรุ’’นฺติอาทิคาถา ปุพฺเพ วุตฺตตฺถาว. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ ‘‘ทฺวยงฺกุร’’นฺติ วุตฺตํ, อิธ ‘‘จตุสฺสิข’’นฺติ. ตตฺถ ‘‘ทฺวยงฺกุร’’นฺติ โลกวชฺชปณฺณตฺติวชฺชานํ คหณํ ¶ , อิธ จตุสฺสิขนฺติ จตุนฺนํ วิปตฺตีนํ. จตฺตาโร สีขา องฺกุรา เอตสฺสาติ วิคฺคโห. ตตฺถ วิปตฺติ ‘‘สตฺตผล’’นฺติ สตฺตผเลสุ อนฺโตคธา, อิธ วิปตฺติฏฺาเน วชฺชํ คเหตฺวา สตฺตผลานิ.
๘๗๒. อนุตฺตรตํ คตํ อตฺตนา อุตฺตรสฺส อุตฺตมสฺส กสฺสจิ อวิชฺชมานตฺตา อิมํ อุตฺตรํ อุตฺตรํ นาม ปกรณํ โย เถรนวมชฺฌิเมสุ อฺตโร ปริยาปุณาติ ปาสฺส ปคุณวาจุคฺคตกรเณน อธียติ, ปริปุจฺฉติ อตฺถฺจ อตฺถวณฺณนํ สุตฺวา สกฺกจฺจํ อุคฺคเหตฺวา มนสา เปกฺขิตฺวา ปฺาย สุปฺปฏิวิชฺฌิตฺวา ธาเรติ, โส จ ภิกฺขุ จ-สทฺเทน เอวเมว วินยวินิจฺฉเย โย ภิกฺขุ ยุตฺโต, โส จ กายวาจวินเย กายวาจาวีติกฺกมานํ วินยเน สํวรเณ ¶ วินเย วินยปิฏเก อนุตฺตรตํ อุปยาติ อตฺตโน อุตฺตริตรสฺส อวิชฺชมานตํ อุปคจฺฉติ. เอตฺถ การณมาห ‘‘อุตฺตรโต’’ติ, ปคุณวาจุคฺคตกรเณน อธีเตน อตฺถวณฺณนํ สุตฺวา ธารเณน สุฏฺุ ธาริเตน อิมินา อุตฺตรปกรเณน เหตุภูเตนาติ อตฺโถ.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
ลกฺขณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สพฺพสงฺกลนนยกถาวณฺณนา
๘๗๓. ปริวาเร มุขาคตา กตฺถปฺตฺติวาราทโย อฏฺ วารา, เตเยว ปจฺจย-สทฺเทน โยเชตฺวา วุตฺตา อฏฺปจฺจยวาราติ วิภงฺคทฺวเย วิสุํ วิสุํ ทสฺสิตา โสฬส ปริวารา อสฺสาติ โสฬสปริวาโร, ตสฺส โสฬสปริวารสฺส. สพฺพํ สงฺกลนํ นยนฺติ สพฺเพสํ วุตฺตานํ สงฺกลนนยานํ สงฺคเหตพฺพโต สพฺพํ สงฺกลเภทนํ นยํ.
๘๗๕. กายิกา ฉพฺพิธาติ ปมปาราชิกาปตฺติ, กุฏิกรเณ ปโยเค ทุกฺกฏาปตฺติ, เอกํ ปิณฺฑํ อนาคเต ถุลฺลจฺจยาปตฺติ, ตสฺมึ อาคเต สงฺฆาทิเสสาปตฺติ, วิกาลโภชเน ปาจิตฺติยาปตฺติ, ปมปาฏิเทสนียาปตฺตีติ ฉพฺพิธา.
ตถา วาจสิกาปิ จาติ จตุตฺถปาราชิกา, กุฏิยา การาปเน ปุพฺพคติโย, ปทโสธมฺมปาจิตฺติยํ, ทวกมฺยตาย หีเนน ขุํสนํ, ตสฺส ทุพฺภาสิตนฺติ ตถา ฉพฺพิธา.
ฉาเทนฺตสฺส ¶ จ ติสฺโสติ ภิกฺขุนิยา วชฺชปฏิจฺฉาทิกาย ปาราชิกํ, ภิกฺขุโน สงฺฆาทิเสสฉาทเน ปาจิตฺติยํ, อตฺตโน ทุฏฺุลฺลจฺฉาทเน ทุกฺกฏนฺติ ติสฺโส จ.
ปฺจ ¶ สํสคฺคปจฺจยาติ กายสํสคฺเค ภิกฺขุนิยา ปาราชิกํ, ภิกฺขุโน สงฺฆาทิเสโส, กาเยน กายปฏิพทฺเธ ถุลฺลจฺจยํ, นิสฺสคฺคิเยน กายปฏิพทฺเธ ทุกฺกฏํ, องฺคุลิปโตทเก ปาจิตฺติยนฺติ กายสํสคฺคปจฺจยา ปฺจ อาปตฺติโย.
๘๗๗. ภิกฺขุนิยา วชฺชปฏิจฺฉาทิกาย ปาราชิกํ, ภิกฺขุสฺส สงฺฆาทิเสสปฏิจฺฉาทกสฺส ปาจิตฺติยนฺติ ทุฏฺุลฺลจฺฉาทเน ทุเว.
๘๗๙. ‘‘คามนฺตเร จตสฺโสวา’’ติอาทิ ปฏินิทฺเทสโต จ วิฺายติ.
๘๘๕. ยา ปน ภิกฺขุนี รตฺตนฺธกาเร อปฺปทีเป หตฺถปาเส ปุริเสน สทฺธึ ยทิ สลฺลเปยฺย, ตสฺสา ปาจิตฺติ. ทูเร ิตา หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิตา วเทยฺย เจ, ทุกฺกฏเมวาติ โยชนา.
๘๘๖. ยา ปน ภิกฺขุนี ฉนฺเน ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ทิวา ปุริเสน สทฺธึ อสฺส ปุริสสฺส หตฺถปาเส ิตา วเทยฺย สลฺลเปยฺย, ตสฺสา ปาจิตฺติ. หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา วเทยฺย เจ, ทุกฺกฏเมวาติ โยชนา.
๘๙๑. สนิสฺสคฺคา จ ปาจิตฺตีติ นิสฺสชฺชนวินยกมฺมสหิตาเยว ปาจิตฺติ.
๘๙๘. สมานสํวาสกภูมิ ¶ นาม ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน สมานลทฺธิกสฺส เอกสีมายํ ิตภาโว. นานาปทํ ปุพฺพํ เอติสฺสาติ นานาปทปุพฺพิกา, นานาสํวาสกภูมีติ อตฺโถ ¶ . อุกฺขิตฺตนานาลทฺธิกนานาสีมคตา นานาสํวาสกภูมิ. อิมา ทฺเวเยว สํวาสกภูมิโย หิ มเหสินา การุณิเกน วุตฺตาติ โยชนา.
๘๙๙. ทุวินฺนนฺติ ปาริวาสิกมานตฺตจารีนํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ. ทฺวยาตีเตนาติ กามสุขลฺลิกานุโยคอตฺตกิลมถานุโยคสงฺขาตํ อนฺตทฺวยํ อติกฺกมฺม มชฺฌิมาย ปฏิปทาย ิเตน. อถ วา สสฺสตุจฺเฉททฺวยํ อติกฺกนฺเตน.
๙๐๐. ‘‘ทฺวงฺคุลปพฺพปรมํ อาทาตพฺพ’’นฺติ จ ตเถว ‘‘ทฺวงฺคุลํ วา ทุมาสํ วา’’ติ จ ทฺวงฺคุลา ทุเว ปฺตฺตาติ โยชนา.
๙๐๕. อาณตฺติยา มนุสฺสมารณํ, อาณตฺติยา อทินฺนาทานมฺปีติ โยชนา.
๙๐๗. ติสฺโส โอภาสนายิมาติ อิมา ติสฺโส เมถุนาธิปฺปายปฺปกาสนา.
๙๐๘. สงฺฆาทิเสโส เอว สงฺฆาทิเสสตา.
๙๑๐. วนปฺปติ นาม ปุปฺผํ วินา ผลนฺตี นิคฺโรธอุทุมฺพรอสฺสตฺถปิลกฺขกาทิรุกฺขชาติ, อิธ ปน วนเชฏฺโ รกฺขิตโคปิตเจติยรุกฺโข วนปฺปตีติ อธิปฺปาโย. ถุลฺลตาติ ถุลฺลจฺจยํ.
๙๑๒. วิสฺสฏฺีติ วิสฺสชฺชิ สมฺภวธาตุ. ฉฑฺฑเนติ อุปกฺกมิตฺวา โมจเน. ‘‘หริเต อุจฺจารํ ปสฺสาวํ ฉฑฺฑเน’’ติ ปทจฺเฉโท.
๙๑๓. กึ ปมาณเมตาสนฺติ กิตฺตกา.
๙๑๕. ภิกฺขุ ¶ ¶ ภิกฺขุนิยา สทฺธินฺติ เอตฺถ ภิกฺขูติ สามิวจนปฺปสงฺเค ปจฺจตฺตํ, ภิกฺขุโนติ อตฺโถ. คาถาพนฺธวเสน วา วณฺณโลโป.
๙๒๒. ‘‘ยาวตติยเก ติสฺโส อาปตฺติโย’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๗๖ อตฺถโต สมานํ) ปทสฺส นิทฺเทเส ‘‘ถุลฺลจฺจยํ สิยา สงฺฆ-เภทกสฺสานุวตฺติโน’’ติ ปนฺติ. ‘‘ติณฺณํ สงฺฆเภทานุวตฺตากานํ โกกาลิกาทีนํ สงฺฆาทิเสโส’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ตถา ปาโ น คเหตพฺโพ.
๙๒๓. ยาวตติยเกติ ติณฺณํ ปูรณี ตติยา, กมฺมวาจา, ยาวตติยาย กมฺมวาจาย ปริโยสาเน อาปชฺชิตพฺพา อาปตฺติ ยาวตติยกา นาม.
๙๒๖. ‘‘อวสฺสุตสฺส…เป… กิฺจี’’ติ อิทํ ครุกาปตฺติยา วตฺถุทสฺสนํ. ‘‘สพฺพํ มํสํ อกปฺปิย’’นฺติ อิทํ ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานํ วตฺถุทสฺสนํ.
๙๒๗. ‘‘วิฺาเปตฺวาน…เป… โภชนมฺปิ จา’’ติ อิทํ ปาฏิเทสนียวตฺถุทสฺสนํ. ‘‘ลสุณมฺปิ จา’’ติ อิทํ ปาจิตฺติยวตฺถุทสฺสนํ. ‘‘เอกโต อชฺโฌหรนฺติยา’’ติ ปทจฺเฉโท.
๙๓๐. รตฺตจิตฺเตน อิตฺถิยา องฺคชาตํ โอโลเกนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๙๓๑. สมฺมาวตฺตนาว สมฺมาวตฺตนกา. เตจตฺตาลีส วตฺตนา ทฺวาสีติกฺขนฺธกวตฺตานํ ปริปูรณฏฺาเน ทสฺสิตา.
๙๓๒. อทสฺสนอปฏิกมฺเม อาปนฺนาปตฺติยา ทุเว ปุคฺคลา, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อาปนฺนาปตฺติยา เอโกติ อิเม ตโย อุกฺขิตฺตปุคฺคลา.
๙๓๔. ทูสโกติ ¶ ภิกฺขุนิทูสโก. กณฺฏโกติ กณฺฏกสามเณโร.
๙๓๗. ทเทยฺยจฺเจวมาทิกาติ ¶ ตฺติกาเล ‘‘สงฺโฆ ทเทยฺยา’’ติอาทิเภทา ตฺติกปฺปนา, ตฺติกิริยาติ อตฺโถ. เทติ สงฺโฆ กโรตีติอาทีติ กมฺมวาจากาเล ‘‘สงฺโฆ เทตี’’ติ วา ‘‘กโรตี’’ติ วา อาทิเภทา วจนกมฺมสฺส อนิฏฺิตตฺตา วิปฺปกตปจฺจุปฺปนฺนํ นาม สิยา.
๙๓๘. ทินฺนํ กตํ ปนิจฺจาทีติ กมฺมวาจาย นิฏฺิตาย ‘‘ทินฺนํ สงฺเฆนา’’ติ วา ‘‘กตํ สงฺเฆนา’’ติ วาติอาทิวจนํ อตีตกรณํ นาม สิยา.
‘‘การเณหิ ปน ทฺวีหิ, สงฺโฆ ภิชฺชติ นฺถา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ‘‘ปฺจหุปาลิ, อากาเรหิ สงฺโฆ ภิชฺชติ. กตเมหิ ปฺจหิ? กมฺเมน, อุทฺเทเสน, โวหรนฺโต, อนุสฺสาวเนน, สลากคฺคาเหนา’’ติ (ปริ. ๔๕๘) วุตฺตตฺตา, อฏฺกถายฺจ (ปริ. อฏฺ. ๔๕๘) ‘‘ปฺจหิ การเณหี’’ติ วจนโต จ อิธ อิเมหิ ทฺวีเหว การเณหิ สงฺฆเภทกถนํ อยุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – นายุตฺตํ ปุพฺพปโยคการกวเสน วุตฺตตฺตา. ตถา หิ อฏฺกถายํ –
‘‘กมฺเมนาติ อปโลกนาทีสุ จตูสุ กมฺเมสุ อฺตเรน กมฺเมน. อุทฺเทเสนาติ ปฺจสุ ปาติโมกฺขุทฺเทเสสุ อฺตเรน อุทฺเทเสน. โวหรนฺโตติ กถยนฺโต, ตาหิ ตาหิ อุปปตฺตีหิ ‘อธมฺมํ ธมฺโม’ติอาทีนิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ ทีเปนฺโต. อนุสฺสาวเนนาติ ‘นนุ ตุมฺเห ชานาถ มยฺหํ อุจฺจากุลา ปพฺพชิตภาวํ, พหุสฺสุตภาวฺจ, มาทิโส ¶ นาม อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ กเรยฺยาติ จิตฺเต อุปฺปาเทตุํ ตุมฺหากํ ยุตฺตํ, กึ มยฺหํ อวีจิ นีลุปฺปลวนมิว สีตโล, กิมหํ อปายโต น ภายามี’ติอาทินา นเยน กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวา อนุสฺสาวเนน. สลากคฺคาเหนาติ เอวํ อนุสฺสาเวตฺวา เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อนิวตฺติธมฺเม กตฺวา ‘คณฺหถ อิมํ สลาก’นฺติ สลากคฺคาเหน.
‘‘เอตฺถ จ กมฺมเมว, อุทฺเทโส วา ปมาณํ, โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหา ปน ปุพฺพภาคา. อฏฺารสวตฺถุทีปนวเสน หิ โวหรนฺเต ตตฺถ รุจิชนนตฺถํ อนุสฺสาเวตฺวา สลากาย คหิตายปิ อภินฺโนว โหติ สงฺโฆ. ยทา ปน เอวํ จตฺตาโร วา อติเรเก วา ¶ สลากํ คาเหตฺวา อาเวณิกํ กมฺมํ วา อุทฺเทสํ วา กโรติ, ตทา สงฺโฆ ภินฺโน นาม โหตี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๕๘) –
วุตฺตตฺตา สลากคฺคาหกมฺมานิ ทฺเว ปธานการณานีติ อิธ ตาเนว ทสฺสิตานิ.
นนุ จ สลากคฺคาโหปิ สงฺฆเภทสฺส ปุพฺพภาโค วุตฺโต, อุทฺเทสกมฺมาเนว ปธานภาเวน วุตฺตานิ, ตสฺมา กถมสฺส สลากคฺคาหสฺส ปธานการณภาโวติ? วุจฺจเต – อุทฺเทสกมฺมานิปิ สลากคฺคาเห สิทฺเธ อวสฺสมฺภวนโต อตฺถสาธนปโยเคน วินา อสิทฺธาเนว โหนฺตีติ โส ปธานภาเวน อิธ คหิโต, อุทฺเทโส ปน ปฺตฺตกมฺมปุพฺพงฺคมตฺตา กมฺเมเนว สงฺคหิโตติ อิธ วิสุํ น วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ.
๙๔๑. ปยุตฺตายุตฺตวาจายาติ ¶ ปจฺจยุปฺปาทนตฺถาย ปยุตฺตา จ สา สกฺยปุตฺติยภาวสฺส อยุตฺตา อนนุรูปา จาติ ปยุตฺตายุตฺตา, สาเยว วาจาติ ปยุตฺตายุตฺตวาจา, ตาย.
๙๔๔. ยา ภิกฺขุนี วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, ตสฺสา จ ปาฏิเทสนียํ สิยาติ โยชนา.
๙๔๖. ‘‘ทสสตานี’’ติอาทิคาถาย รตฺตีนนฺติ เอตฺถ ‘‘สต’’นฺติ เสโส. ฉาทนกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ทสสตานิ อาปตฺติโย รตฺตีนํ สตํ ฉาเทตฺวาติ โยชนา. เอวํ กตฺตพฺพโยชนายํ –
‘‘ทส สตํ รตฺติสตํ, อาปตฺติโย ฉาทยิตฺวาน;
ทส รตฺติโย วสิตฺวาน, มุจฺเจยฺย ปาริวาสิโก’’ติ. (ปริ. ๔๗๗) –
อยํ ปริวารคาถาปมาณํ. เอกทิวสํ สตํสงฺฆาทิเสสาปตฺติโย อาปชฺชิตฺวา ทสทิวเส ฉาทนวเสน สตํทิวเส สหสฺสสงฺฆาทิเสสาปตฺติโย ฉาทยิตฺวาติ อตฺโถ. อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ – โย ¶ ทสทิวเส สตํ สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิตฺวา ทสทิวเส ปฏิจฺฉาเทติ, เตน รตฺติสตํ อาปตฺติสหสฺสํ ปฏิจฺฉาทิตํ โหตีติ. ทส รตฺติโย วสิตฺวานาติ ‘‘สพฺพาว ตา อาปตฺติโย ทสาหปฏิจฺฉนฺนา’’ติ ปริวาสํ ยาจิตฺวา ทส รตฺติโย วสิตฺวาติ อตฺโถ. มุจฺเจยฺย ปาริวาสิโกติ ปริวาสํ วสนฺโต ภิกฺขุ อตฺตนา วสิตพฺพปริวาสโต มุจฺเจยฺย, มุตฺโต ภเวยฺยาติ อตฺโถ.
๙๔๗. ปาราชิกานิ อฏฺเวาติ อคฺคหิตคฺคหเณน. เตวีส ครุกาติ ภิกฺขูหิ อสาธารณา ภิกฺขุนีนํ ทส, ภิกฺขุนีหิ ¶ อสาธารณา ภิกฺขูนํ ฉ, อุภินฺนํ สาธารณา สตฺตาติ เอวํ เตวีส สงฺฆาทิเสสา.
๙๔๘. วุตฺตานีติ ยถาวุตฺตานิ นิสฺสคฺคิยานิ. ทฺเวจตฺตาลีส โหนฺตีติ ภิกฺขุวิภงฺคาคตา ตึส, ภิกฺขูหิ อสาธารณา ภิกฺขุนีนํ อาทิโต ทฺวาทส จาติ ทฺวาจตฺตาลีส นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ. อฏฺาสีติสตํ ปาจิตฺติยา ปุพฺเพ ทสฺสิตาว.
๙๔๙. สุสิกฺเขนาติ สุฏฺุ สิกฺขิตอธิสีลาทิติวิธสิกฺเขน ภควตา.
๙๕๐. สุปฺเนาติ โสภณา ทสพลจตุเวสารชฺชฉอสาธารณาทโย ปฺา ยสฺส โส สุปฺโ, เตน. ยสสฺสินาติ อฏฺอริยปุคฺคลสมูหสงฺขาตปริวารยสา จ สพฺพโลกพฺยาปกคุณโฆสสงฺขาตกิตฺติยสา จ เตน สมนฺนาคตตฺตา ยสสฺสินา. อฑฺฒุฑฺฒานิ สตานิ ภวนฺตีติ ยถาทสฺสิตคณนาย ปิณฺฑวเสน ปฺาสาธิกานิ ตีณิ สตานิ ภวนฺตีติ อตฺโถ. สุปฺเน ยสสฺสินา โคตเมน ปฺตฺตานิ สพฺพานิ สิกฺขาปทานิ อฑฺฒุฑฺฒานิ สตานิ ภวนฺตีติ โยชนา.
๙๕๑. เอเตสุ สิกฺขาปเทสุ โย สารภูโต วินิจฺฉโย วตฺตพฺโพ, โส สกโล มยา สมาเสน สพฺพถา สพฺพากาเรน วุตฺโตติ โยชนา.
๙๕๓. ตสฺมาติ มยา วิจาเรตฺวา วุตฺตตฺตาว. อตฺเถติ วจนตฺถภาวตฺถาทิเภเท อตฺเถ วา. อกฺขรพนฺเธ ¶ วาติ อกฺขรสงฺขาตปทพนฺเธ วา. วิฺาสสฺส กเมปิ วาติ อุทฺเทสวเสน คนฺถนิกฺเขปสฺส กเมปิ. กงฺขา น กาตพฺพาติ ‘‘ยถาอธิปฺเปตสฺส ¶ อิทํ วาจกํ นุ โข, อวาจก’’นฺติ วา ‘‘อิทมยุตฺตํ นุ โข, ยุตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิทมธิกํ นุ โข, อูน’’นฺติ วา ‘‘อิทมฆฏฺฏิตกฺกมํ นุ โข, ฆฏฺฏิตกฺกม’’นฺติ วา ‘‘อิทํ วิรุทฺธสมยํ นุ โข, อวิรุทฺธสมย’’นฺติ วา ‘‘อิทํ ทุรุตฺตํ นุ โข, สุวุตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิทํ สตฺถกํ นุ โข, นิรตฺถก’’นฺติ วา กงฺขา วิมติ เยน เกนจิ น กาตพฺพา. พหุมานตาติ ‘‘วินโย สํวรตฺถายา’’ติอาทินา (ปริ. ๓๖๖) นิทฺทิฏฺปโยชนปรมฺปราย มูลการณตฺตา มหตี สมฺมานา กาตพฺพาติ อตฺโถ.
๙๕๔. โย ภิกฺขุ สอุตฺตรํ อุตฺตรปกรเณน สหิตํ วินยสฺสวินิจฺฉยํ นาม ปกรณํ ชานาติ ธมฺมโต เจว อตฺถโต จ วินิจฺฉยโต จ สพฺพถา อวพุชฺฌติ, โส ภิกฺขุ อตฺตนา สิกฺขิตพฺพาย สิกฺขาย สพฺพโส วิฺาตตฺตา สิกฺขาปเกน อาจริเยน วินาปิ สิกฺขิตุํ สมตฺโถติ. นิสฺสยํ วิมฺุจิตฺวาติ อาจริยุปชฺฌาเย นิสฺสาย วาสํ มฺุจิตฺวา. ยถากามงฺคโต สิยาติ ยาทิสา ยาทิสา อตฺตนา คามิตา, ตตฺถ ตตฺถ คมนารโห ภเวยฺยาติ อตฺโถ.
๙๕๕. นิสฺสยํ ทาตุกาเมน. สห วิภงฺเคน สวิภงฺคํ. สห มาติกาย สมาติกํ. อิทํ สอุตฺตรํ วินยวินิจฺฉยปกรณํ สุฏฺุ วาจุคฺคตํ กตฺวา คนฺถโต สุฏฺุ ปคุณํ วาจุคฺคตํ กตฺวา อตฺถโต, วินิจฺฉยโต จ สมฺมา ชานิตฺวา เอวํ ทาตพฺพนฺติ โยชนา.
๙๕๖-๗. โย ภิกฺขุ อิมํ สอุตฺตรํ วินยวินิจฺฉยปกรณํ วาจาย ปติ, มนสา จินฺเตติ, อฺเหิ วุจฺจมานํ สุณาติ, อตฺถํ ปริปุจฺฉติ, ปรํ วาเจติ, นิจฺจํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ ยถาปริปุจฺฉิตมตฺถํ เหตุอุทาหรณปวตฺติวเสน อุปคนฺตฺวา สมนฺตโต ¶ อิกฺขติ ปฺาย นิยเมติ ววตฺถเปติ, ตสฺส ปน ภิกฺขุสฺส วินยนิสฺสิตา สพฺเพว อตฺถา อาปตฺตานาปตฺติกปฺปิยากปฺปิยาทิปเภทา สพฺเพ อตฺถา หตฺเถ อามลกํ วิย กรตเล อมลมณิรตนํ วิย อุปฏฺหนฺติ ปากฏา ภวนฺตีติ โยชนา. นตฺถิ เอตสฺส มลนฺติ อมลํ, อมลเมว อามลกนฺติ มณิรตนํ วุจฺจติ.
๙๕๘. นตฺถิ เอเตสํ พุทฺธีติ อพุทฺธี, อพุทฺธี จ เต ชนา จาติ อพุทฺธิชนา, อพุทฺธิชนานํ ¶ สารํ อวสารํ โอสีทนํ ททาติ อาททาติ กโรตีติ อพุทฺธิชนสารทํ, พุทฺธิวิรหิตานํ อคาธํ คมฺภีรํ. เตหิ อลทฺธปติฏฺํ อมตสาครํ สทฺทตฺถรสามตสฺส, นิพฺพานามตสฺส วา ปฏิลาภการณตฺตา สาครสทิสํ ปรมํ อุตฺตมํ อิมํ อุตฺตรํ สาครํ อาสนฺนปจฺจกฺขํ อุตฺตรปกรณสงฺขาตํ สมุทฺทสาครํ สารโท หุตฺวา อุตฺตรํ อุตฺตรนฺโต ปริโยสาเปนฺโต นโร ภิกฺขุ หิ ยสฺมา วินยปารโค วินยปิฏกสฺส ปริยนฺตํ คโต หุตฺวา ปารโค ปารํ สํสารสฺส ปารสงฺขาตํ นิพฺพานํ คจฺฉนฺโต สิยา ภเวยฺยาติ โยชนา.
๙๕๙. อโตติ ตสฺมาเทว การณา อวปูรโตรโต ปาปปูรโต นิราสงฺกตาย โอรโต นิวตฺโต ปาปภีรุโก นโร ตมํ วิธูย ปาปภีรุกตาย เอว จิตฺตปริยุฏฺานวเสน อุปฺปชฺชนกํ โมหนฺธการํ ตทงฺคปหานวเสน วิธเมตฺวา. สพฺพงฺคณกมฺมทํ สพฺเพสํ ราคาทีนํ องฺคณานํ กมฺมํ ตทงฺคาทิปหานํ ททาติ อาวหตีติ ‘‘สพฺพงฺคณกมฺมท’’นฺติ ลทฺธนามํ สุขสฺส ปทํ โลกิยโลกุตฺตรสฺส สุขสฺส การณํ คุณสํหิตํ สีลาทีหิ อตฺถภูเตหิ คุเณหิ สํหิตํ ยุตฺตํ คุณปฺปกาสกํ หิตํ อมโตสธํ วิย ¶ สพฺพโทสสพฺพพฺยาธิรหิตตาย อชราอมตาทิคุณาวหตฺตา หิตํ อิมํ อุตฺตรํ นาม ปกรณํ สกฺกจฺจํ อาทโร หุตฺวา นิจฺจํ สตตํ สิกฺเข ‘‘เอวํ ปริจยนฺตํ กโรมี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกนฺเตน ยถาวุตฺตปโยชนสาธนโยคฺคํ กตฺวา อชฺเฌนาทิวเสน สิกฺเขยฺย เอว, น อชฺฌุเปกฺขโก ภเวยฺยาติ โยชนา.
๙๖๐. ปฏุภาวกเร ปาติโมกฺขสํวรสีลปูรเณ, สาสนปจฺจตฺถิกาภิภวเน จ ปฏุภาวํ เฉกตฺตํ เวสารชฺชํ กโรติ อตฺตานํ ธาเรนฺตานํ ลชฺชิปุคฺคลานนฺติ ปฏุภาวกเร ปรเม ตโตเยว อุตฺตเม ปิฏเก วินยปิฏเก ปฏุตํ ปาฏวํ ปฺาโกสลฺลํ อภิปตฺถยนฺเตน ปฏุนา ยตินา นิมฺมลปฺปวตฺติเกน ปฏุนา วิธินา เฉเกน สาเรน วิธาเนน อิทํ สอุตฺตรํ วินยวินิจฺฉยปกรณํ สตตํ นิรนฺตรํ ปริยาปุณิตพฺพํ อุคฺคหณธารณปริปุจฺฉาจินฺตนาทิวเสน สิกฺขิตพฺพนฺติ โยชนา.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
สพฺพสงฺกลนนยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนกถาวณฺณนา
๙๖๑-๓. มเหสิโน ¶ ติวิธสฺสาปิ สาสนสฺส สุจิรฏฺิติกาเมน อติจิรกาลปฺปวตฺตึ อิจฺฉนฺเตน ธีมตา ปสตฺถตราเณน สุทฺธจิตฺเตน ลาภสกฺการนิรเปกฺขตาย ปริสุทฺธชฺฌาสเยน พุทฺธทตฺเตน พุทฺธทตฺตาภิธาเนน อาจริยวเรน รจิโต.
ปชฺชวเสน คนฺถโต, อตฺถโต เจว ปรมุตฺตโร อุตฺตโร วินิจฺฉโย อนฺตรายํ อนฺตเรน อชฺฌตฺติกํ, พาหิรํ วา ¶ อนฺตรายํ วินา ยถา สิทฺธึ อุปาคโต ปรินิฏฺานํ ปตฺโต, ตถา สตฺตานํ ธมฺมสํยุตา กุสลูปสํหิตา สงฺกปฺปา มโนรถา สิชฺฌนฺตุ อนฺตรายํ วินา นิปฺปชฺชนฺตุ, เอเตน อุตฺตรวินิจฺฉยรจนามเยน มหตา ปฺุโทเยน จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ชนํ รฺเชตีติ ‘‘ราชา’’ติ สงฺขํ คโต มหีปาโล มหึ ปถวิสนฺนิสฺสิตํ ชนกายํ สมฺมา าเยน ทส ราชธมฺเม อโกเปนฺโต ปาเลตุ. เทโว ปชฺชุนฺโน กาเล ถาวรชงฺคมานํ อุปโยคารหกาเล สมฺมา ปวสฺสตุ อวุฏฺิอติวุฏฺิกํ อกตฺวา สมฺมา ปวจฺฉตุ.
๙๖๔. เสลินฺโท สิเนรุปพฺพตราชา ยาว ติฏฺติ ยาว โลเก ปวตฺตติ, จนฺโท สกลชนปทนยนสายโน ยาว วิโรจติ ยาว อตฺตโน สภาวํ โชเตติ, ตาว ยสสฺสิโน โคตมสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สทฺธมฺโม ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธวเสน ติวิโธ สทฺธมฺโม ติฏฺตุ ปวตฺตตุ.
๙๖๕. สีหาทีนํ, ทาหาทีนฺจ พาหิรชฺฌตฺติกานํ ปริสฺสยานํ ขมนํ สหนํ อภิภวิตฺวา ปวตฺตนํ ขนฺติ. โสรจฺจนฺติ โสภเน รโตติ สุรโต, สุรตสฺส ภาโว โสรจฺจํ. สุนฺทรํ อขณฺฑตาทิคุณสมนฺนาคตํ สีลํ อสฺสาติ สุสีโล. สุสีลสฺส ภาโว.
นิคมนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุตฺตรวินิจฺฉยฏีกา นิฏฺิตา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนี นาม วินยวินิจฺฉยวณฺณนา,
ลีนตฺถปกาสนี นาม อุตฺตรวินิจฺฉยวณฺณนา จ
สมตฺตา.
ปจฺฉา ปิตคาถาโย
เถเรน ¶ ¶ ถิรจิตฺเตน, สาสนุชฺโชตนตฺถินา;
ปฺุวา าณวา สีลี, สุหชฺโช มุทุโก ตถา.
โย สีหฬาริมทฺเทสุ, จนฺทิมา สูริโย วิย;
ปากโฏ สีวลิตฺเถโร, มหาเตโช มหายโส.
เตน นีตา สีหฬา ยา, อิธ ปตฺตา สุธีมตา;
เอสา สํวณฺณนา สีห-ฬกฺขเรน สุลิกฺขิตา.
เรวโต อิติ นาเมน, เถเรน ถิรเจตสา;
อริมทฺทิเก รกฺขนฺเตน, ปริวตฺเตตฺวาน สาธุกํ.
ลิขาปิตา หิตตฺถาย, ภิกฺขูนํ อริมทฺทิเก;
เอสา สํวณฺณนา สุฏฺุ, สนฺนิฏฺานมุปาคตา;
ตเถว สพฺพสตฺตานํ, สพฺพตฺโถ จ สมิชฺฌตูติ.