📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยวินิจฺฉยฏีกา
(ปโม ภาโค)
คนฺถารมฺภกถา
(ก)
พฺยามปฺปภามณฺฑลเทวจาปํ;
ธมฺมมฺพุนิชฺฌาปิตปาปฆมฺมํ;
วนฺทามหํ พุทฺธ มหมฺพุวนฺตํ.
(ข)
ปสนฺนคมฺภีรปทาฬิโสตํ;
นานานยานนฺตตรงฺคมาลํ;
สีลาทิขนฺธามิตมจฺฉคุมฺพํ ¶ ;
วนฺทามหํ ธมฺม มหาสวนฺตึ.
(ค)
สีโลรุเวลํ ธุตสงฺขมาลํ;
สนฺโตสโตยํ สมถูมิจิตฺตํ;
ปธานกิจฺจํ อธิจิตฺตสารํ;
วนฺทามหํ สงฺฆ มหาสมุทฺทํ.
(ฆ)
เย ตนฺติธมฺมํ มุนิราชปุตฺตา;
ยาวชฺชกาลํ ปริปาลยนฺตา;
สํวณฺณนํ นิมฺมลมานยึสุ;
เต ปุพฺพเก จาจริเย นมามิ.
(ง)
โย ¶ ธมฺมเสนาปติตุลฺยนาโม;
ตถูปโม สีหฬทีปทีโป;
มมํ มหาสามิมหายตินฺโท;
ปาเปสิ วุฑฺฒึ ชินสาสนมฺหิ.
(จ)
ฏีกา กตา อฏฺกถาย เยน;
สมนฺตปาสาทิกนามิกาย;
องฺคุตฺตรายฏฺกถาย เจว;
สตฺถนฺตรสฺสาปิ จ โชติสตฺถํ.
(ฉ)
นิกายสามคฺคิวิธายเกน;
รฺา ปรกฺกนฺติภุเชน สมฺมา;
ลงฺกิสฺสเรนาปิ กโตปหารํ;
วนฺเท ครุํ คารวภาชนํ ตํ.
(ช)
นมสฺสมาโนหมลตฺถเมวํ ¶ ;
วตฺถุตฺตยํ วนฺทิตวนฺทเนยฺยํ;
ยํ ปฺุสนฺโทหมมนฺทภูตํ;
ตสฺสานุภาเวน หตนฺตราโย.
(ฌ)
โย พุทฺธโฆสาจริยาสเภน;
วิฺุปฺปสตฺเถนปิ สุปฺปสตฺโถ;
โส พุทฺธทตฺตาจริยาภิธาโน;
มหากวี เถริยวํสทีโป.
()
อกาสิ ยํ วินยวินิจฺฉยวฺหยํ;
สอุตฺตรํ ปกรณมุตฺตมํ หิตํ;
อเปกฺขตํ วินยนเยสุ ปาฏวํ;
ปุราสิ ยํ วิวรณมสฺส สีหฬํ.
(ฏ)
ยสฺมา ¶ น ทีปนฺตริกานมตฺถํ;
สาเธติ ภิกฺขูนมเสสโต ตํ;
ตสฺมา หิ สพฺพตฺถ ยตีนมตฺถํ;
อาสีสมาเนน ทยาลเยน.
()
สุมงฺคลตฺเถรวเรน ยสฺมา;
สกฺกจฺจ กลฺยาณมโนรเถน;
นยฺุนารฺนิวาสิเกน;
อชฺเฌสิโต สาธุคุณากเรน.
(ฑ)
อากงฺขมาเนน จิรปฺปวตฺตึ;
ธมฺมสฺส ธมฺมิสฺสรเทสิตสฺส;
โจฬปฺปทีเปน ¶ จ พุทฺธมิตฺต-
ตฺเถเรน สทฺธาทิคุโณทิเตน.
(ฒ)
ตถา มหากสฺสปอวฺหเยน;
เถเรน สิกฺขาสุ สคารเวน;
กุทิฏฺิมตฺเตภวิทารเกน;
สีเหน โจฬาวนิปูชิเตน.
(ณ)
โย ธมฺมกิตฺตีติ ปสตฺถนาโม;
เตนาปิ สทฺเธน อุปาสเกน;
สีลาทินานาคุณมณฺฑิเตน;
สทฺธมฺมกาเมนิธ ปณฺฑิเตน.
(ต)
สทฺเธน ปฺาณวตา วฬตฺตา-;
มงฺคลฺยวํเสน มหายเสน;
อายาจิโต วาณิชภาณุนาปิ;
วรฺุนา สาธุคุโณทเยน.
(ถ)
ตสฺมา ¶ ตมาโรปิย ปาฬิภาสํ;
นิสฺสาย ปุพฺพาจริโยปเทสํ;
หิตฺวา นิกายนฺตรลทฺธิโทสํ;
กตฺวาติวิตฺถารนยํ สมาสํ.
(ท)
อวุตฺตมตฺถฺจ ปกาสยนฺโต;
ปากฺกมฺจาปิ อโวกฺกมนฺโต;
สํวณฺณยิสฺสามิ ตทตฺถสารํ;
อาทาย คนฺถนฺตรโตปิ สารํ.
(ธ)
จิรฏฺิตึ ¶ ปตฺถยตา ชนานํ;
หิตาวหสฺสามลสาสนสฺส;
มยา สมาเสน วิธียมานํ;
สํวณฺณนํ สาธุ สุณนฺตุ สนฺโตติ.
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา
. สุวิปุลามลสทฺธาปฺาทิคุณสมุทยาวหํ สกลชนหิเตกเหตุชินสาสนฏฺิติมูลภูตํ วินยปฺปกรณมิทมารภนฺโตยมาจริโย ปกรณารมฺเภ รตนตฺตยปฺปณามปกรณาภิธานาภิเธยฺยกรณปฺปการปโยชนนิมิตฺตกตฺตุปริมาณาทีนิ ทสฺเสตุมาห ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติอาทิ. ตตฺถ รตนตฺตยํ นาม.
‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;
อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๒๒๓; ขุ. ปา. อฏฺ. ๖.๓; สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๒๒๖; มหานิ. อฏฺ. ๕๐) –
นิทฺทิฏฺสภาวํ
‘‘พุทฺโธ ¶ สพฺพฺุตฺาณํ, ธมฺโม โลกุตฺตโร นว;
สงฺโฆ มคฺคผลฏฺโ จ, อิจฺเจตํ รตนตฺตย’’นฺติ. –
วิภาวิตปฺปเภทํ สกลภวทุกฺขวินิวารณํ ติภเวเนกปฏิสรณํ วตฺถุตฺตยํ.
ตสฺส ปณาโม นาม ปณามกิริยานิปฺผาทิกา เจตนา. สา ติวิธา กายปณาโม วจีปณาโม มโนปณาโมติ. ตตฺถ กายปณาโม นาม รตนตฺตยคุณานุสฺสรณปุพฺพิกา อฺชลิกมฺมาทิกายกิริยาวสปฺปวตฺติกา กายวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา. วจีปณาโม นาม ตเถว ปวตฺตา นานาวิธคุณวิเสสวิภาวนสภาวโถมนากิริยาวสปฺปวตฺติกา วจีวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา ¶ เจตนา. มโนปณาโม นาม อุภยวิฺตฺติโย อสมุฏฺาเปตฺวา เกวลํ คุณานุสฺสรเณน จิตฺตสนฺตานสฺส ตนฺนินฺนตปฺโปณตปฺปพฺภารตาย คารวพหุมานนวสปฺปวตฺติสาธิกา เจตนา.
อิมสฺส ตาว รตนตฺตยปณามสฺส ทสฺสนํ ยถาธิปฺเปตตฺถสาธนตฺถํ. คุณาติสยโยเคน หิ ปณามารเห รตนตฺตเย กโต ปณาโม ปฺุวิเสสภาวโต อิจฺฉิตตฺถาภินิปฺผตฺติวิพนฺธเกน อุปฆาตเกน, อุปปีฬเกน จ อปฺุกมฺเมน อุปนียมานสฺส อุปทฺทวชาลสฺส วินิวารเณน ยถาลทฺธสมฺปตฺตินิมิตฺตกสฺส ปฺุกมฺมสฺส อนุพลปฺปทาเนน จ ตพฺพิปากสนฺตติยา อายุสุขพลาทิวฑฺฒเนน จ จิรกาลปฺปวตฺติเหตุโกติ ยถาธิปฺเปตปกรณนิปฺผตฺตินิพนฺธนโก โหติ. อถาปิ โสตูนฺจ วนฺทนียวนฺทนาปุพฺพเกนารมฺเภน อนนฺตราเยน อุคฺคหณธารณาทิกฺกเมน ปกรณาวโพธปฺปโยชนสาธนตฺถํ. อปิจ โสตูนเมว วิฺาตสตฺถุกานํ ภควโต ยถาภูตคุณวิเสสานุสฺสวเนน สมุปชาตปฺปสาทานํ ปกรเณ คารวุปฺปาทนตฺถํ, อวิฺาตสตฺถุกานํ ¶ ปน ปกรณสฺส สฺวาขฺยาตตาย ตปฺปภเว สตฺถริ คารวุปฺปาทนตฺถฺจ โสตุชนานุคฺคหเมว ปธานํ กตฺวา อาจริเยหิ คนฺถารมฺเภ ถุติปฺปณามปริทีปกานํ คาถาวากฺยานํ นิกฺเขโป วิธียติ. อิตรถา วินาปิ ตนฺนิกฺเขปํ กายมโนปณาเมนาปิ ยถาธิปฺเปตปฺปโยชนสิทฺธิโต กิเมเตน คนฺถคารวกเรนาติ อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน ปณามปฺปโยชนํ สารตฺถทีปนิยาทีสุ (สารตฺถ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; วิ. วิ. ฏี. ๒.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา) ทสฺสิตนเยเนว าตพฺพํ.
อภิธานกถนํ ปน โวหารสุขตฺถํ. อภิเธยฺยสฺส สมุทิเตน ปกรเณน ปฏิปาเทตพฺพสฺส กถนํ ปกรณสฺส อารภิตพฺพสภาวทสฺสนตฺถํ. วิทิตานินฺทิตสาตฺถกสุกรานุฏฺานาภิ เธยฺยเมว หิ ปกรณํ ปริกฺขกชนา อารภิตพฺพํ มฺนฺตีติ. กรณปฺปการสนฺทสฺสนํ โสตุชนสมุสฺสาหนตฺถํ. อนากุลมสํกิณฺณตาทิปฺปกาเรน หิ วิรจิตํ ปกรณํ โสตาโร โสตุมุสฺสหนฺตีติ. ปโยชนกถนํ ปน ปกรณชฺฌายเน โสตุชนสมุตฺเตชนตฺถํ. อสติ หิ ปโยชนกถเน อวิฺาตปฺปโยชนา อชฺฌายเน พฺยาวฏา น โหนฺตีติ. นิมิตฺตกถนํ สริกฺขกชนานํ ปกรเณ คารวุปฺปาทนตฺถํ. ปสตฺถการณุปฺปนฺเนเยว หิ ปกรเณ สริกฺขกา คารวํ ชเนนฺตีติ.
กตฺตุกถนํ ปุคฺคลครุกสฺส ปกรเณ คารโว ปุคฺคลคารเวนปิ โหตูติ. ปริมาณกถนํ อสชฺฌายนาทิปสุตานํ ¶ สมฺปหํสนตฺถํ. ปกรณปริมาณสฺสวเนน หิ เต สมฺปหฏฺา ‘‘กิตฺตกมิทมปฺปกํ น จิเรเนว ปริสมาเปสฺสามา’’ติ สชฺฌายนาทีสุ วตฺตนฺตีติ. อาทิ-สทฺเทน สกฺกจฺจสวนนิโยชนํ สงฺคหิตํ, ตํ สพฺพสมฺปตฺตินิทานสุตมยาณนิปฺผาทนตฺถํ. อสกฺกจฺจํ สุณมานสฺส จ สวนาภาวโต ตํเหตุกสฺส ¶ สุตมยาณสฺสาปิ อภาโวติ. ตถา หิ วิกฺขิตฺตจิตฺโต ปุคฺคโล สพฺพสมฺปตฺติยา วุจฺจมาโนปิ ‘‘น มยา สุตํ, ปุน ภณิตพฺพ’’นฺติ ภณติ.
ตตฺถ ปมคาถายํ ตาว ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ อิมินา ติวิโธปิ ปณาโม อวิเสสโต ทสฺสิโต. วิเสสโต ปน ‘‘เสฏฺํ, อปฺปฏิปุคฺคลํ, ภวาภาวกรํ, นิรงฺคณ’’นฺติ อิเมหิ จตูหิ ปเทหิ วจีปณาโม, ‘‘สิรสา’’ติ อิมินา กายปฺปณาโม, ‘‘พุทฺธํ, ธมฺมํ, คณฺจา’’ติ อิเมหิ ปน ตีหิ ปเทหิ ปณามกิริยาย กมฺมภูตํ รตนตฺตยํ ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ อิมินา อภิธานํ ทสฺสิตํ อลุตฺตสมาเสน วินยวินิจฺฉยนามสฺส ทสฺสนโต. ตสฺส อนฺวตฺถภาเวน สทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตภูตํ สกเลนาเนน ปกรเณน ปฏิปาเทตพฺพมภิเธยฺยมฺปิ เตเนว ทสฺสิตํ. ‘‘สมาเสนา’’ติ จ ‘‘อนากุลมสํกิณฺณํ, มธุรตฺถปทกฺกม’’นฺติ จ เอเตหิ กรณปฺปกาโร ทสฺสิโต. ‘‘หิตตฺถายา’’ติ จ ‘‘ปฏุภาวกรํ วินยกฺกเม’’ติ จ ‘‘อปารํ โอตรนฺตาน’’นฺติอาทินา จ ปโยชนํ. ‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีน’’นฺติ อิมินา พาหิรนิมิตฺตํ ทสฺสิตํ. อพฺภนฺตรนิมิตฺตํ ปน พาหิรนิมิตฺตภูตภิกฺขุภิกฺขุนิวิสยา กรุณา, สา อาจริยสฺส ปกรณารมฺเภเนว วิฺายตีติ วิสุํ น วุตฺตา. ‘‘ปวกฺขามี’’ติ อิมินา สมานาธิกรณภาเวน ลพฺภมาโน ‘‘อห’’นฺติ สุทฺธกตฺตา สามฺเน ทสฺสิโต. วิเสสโต ปน ปกรณาวสาเน –
‘‘รจิโต พุทฺธทตฺเตน, สุทฺธจิตฺเตน ธีมตา;
สุจิรฏฺิติกาเมน, สาสนสฺส มเหสิโน’’ติ. (อุ. วิ. ๙๖๑) –
อิมาย ¶ คาถาย เจว ‘‘อิติ ตมฺพปณฺณิเยน ปรมเวยฺยากรเณน ติปิฏกนยวิธิกุสเลน ปรมกวิวรชน หทยปทุมวนวิกสนกเรน กวิวราสเภน ปรมรติกรวรมธุรวจนุคฺคาเรน อุรคปุเรน พุทฺธทตฺเตน รจิโตยํ วินยวินิจฺฉโย’’ติ (วิ. วิ. ๓๑๘๓) อิมินา วากฺเยน จ ¶ ทสฺสิโต – ‘‘มาทิสาปิ กวี โหนฺติ, พุทฺธทตฺเต ทิวงฺคเต’’ติอาทินา ปจฺฉิมเกหิ จ ปสตฺถตเรหิ กวิวเรหิ อภิตฺถุตคุโณ ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริโย เวทิตพฺโพ. เหตุกตฺตา จ ตตฺเถว วกฺขมาโน ปกรณชฺเฌสเน กตาธีโน พุทฺธสีหมหาเถโร, โส –
‘‘วุตฺตสฺส พุทฺธสีเหน;
วินยสฺส วินิจฺฉโย;
พุทฺธสีหํ สมุทฺทิสฺส;
มม สทฺธิวิหาริกํ;
กโตยํ ปน ภิกฺขูนํ;
หิตตฺถาย สมาสโต’’ติ. (วิ. วิ. ๓๑๗๗-๓๑๗๘) –
เอวํ ทสฺสิโต.
อุตฺตรปฺปกรณสฺส เหตุกตฺตา ปน สงฺฆปาลมหาเถโร, โสปิ –
‘‘ขนฺติโสรจฺจโสสิลฺย-พุทฺธิสทฺธาทยาทโย;
ปติฏฺิตา คุณา ยสฺมึ, รตนานีว สาคเร.
‘‘วินยาจารยุตฺเตน, เตน สกฺกจฺจ สาทรํ;
ยาจิโต สงฺฆปาเลน, เถเรน ถิรเจตสา.
‘‘สุจิรฏฺิติกาเมน ¶ , วินยสฺส มเหสิโน;
ภิกฺขูนํ ปาฏวตฺถาย, วินยสฺสวินิจฺฉเย;
อกาสึ ปรมํ เอตํ, อุตฺตรํ นาม นามโต’’ติ. (อุ. วิ. ๙๖๕-๙๖๘) –
เอวํ ทสฺสิโต. น เกวลเมเต ทฺเวเยว มหาเถรา เหตุกตฺตาโร, อถ โข มหาวํสาทีสุ –
‘‘พุทฺธสฺส ¶ วิย คมฺภีร-
โฆสตฺตา ตํ วิยากรุํ;
‘พุทฺธโฆโส’ติ โย โส หิ;
พุทฺโธ วิย มหีตเล’’ติ. –
อาทินา นเยน อภิตฺถุตคุโณ ติปิฏกปริยตฺติยา อฏฺกถากาโร ภทนฺตพุทฺธโฆสาจริโย จ อนุสฺสุติวเสน ‘‘เหตุกตฺตา’’ติ เวทิตพฺโพ.
กถํ? อยํ กิร ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริโย ลงฺกาทีปโต สชาติภูมึ ชมฺพุทีปมาคจฺฉนฺโต ภทนฺตพุทฺธโฆสาจริยํ ชมฺพุทีปวาสิเกหิ ปฏิปตฺติปรายเนหิ ยุตฺตพฺยตฺตคุโณเปเตหิ มหาเถรวเรหิ กตาราธนํ สีหฬฏฺกถํ ปริวตฺเตตฺวา สกลชนสาธารณาย มูลภาสาย ติปิฏกปริยตฺติยา อฏฺกถํ ลิขิตุํ ลงฺกาทีปํ คจฺฉนฺตํ อนฺตรามคฺเค ทิสฺวา สากจฺฉาย สมุปปริกฺขิตฺวา สพฺพโลกาตีเตน อสทิเสน ปณฺฑิจฺจคุเณน รตนนิธิทสฺสเน ปรมทลิทฺโท วิย พลวปริโตสํ ปตฺวา อฏฺกถมสฺส กาตุกามตํ ตฺวา ‘‘ตุมฺเห ยถาธิปฺเปตปริยนฺตลิขิตมฏฺกถํ อมฺหากํ เปเสถ, มยมสฺสา ปกรณํ ลิขามา’’ติ ตสฺส สมฺมุขา ปฏิชานิตฺวา เตน จ ‘‘สาธุ ตถา กาตพฺพ’’นฺติ อชฺเฌสิโต อภิธมฺมฏฺกถาย อภิธมฺมาวตารํ, วินยฏฺกถาย สอุตฺตรํ วินยวินิจฺฉยปกรณฺจ อกาสีติ อนุสฺสุยฺยเตติ.
‘‘สมาเสนา’’ติ ¶ อิมินา จ ปริมาณมฺปิ สามฺเน ทสฺสิตํ วิตฺถารปริมาเณ ตสฺส ปริมาณสามฺสฺส วิฺายมานตฺตา. วิเสสโต ปน ปริจฺเฉทปริมาณํ คนฺถปริมาณนฺติ ทุวิธํ. ตตฺถ ปริจฺเฉทปริมาณํ อิมสฺมึ ปกรเณ กถาโวหาเรน วุจฺจติ.
เสยฺยถิทํ? – ปาราชิกกถา สงฺฆาทิเสสกถา อนิยตกถา นิสฺสคฺคิยกถา ปาจิตฺติยกถา ปาฏิเทสนียกถา เสขิยกถาติ ภิกฺขุวิภงฺคกถา สตฺตวิธา, ตโต อนิยตกถํ วชฺเชตฺวา ตเถว ภิกฺขุนิวิภงฺคกถา ฉพฺพิธา, มหาขนฺธกกถาทิกา ภิกฺขุนิกฺขนฺธกกถาวสานา วีสติวิธา ขนฺธกกถา, กมฺมกถา, กมฺมวิปตฺติกถา, ปกิณฺณกวินิจฺฉโย, กมฺมฏฺานภาวนาวิธานนฺติ วินยวินิจฺฉเย กถาปริจฺเฉโท สตฺตตึส.
อุตฺตรปฺปกรเณ ¶ จ วุตฺตนเยน ภิกฺขุวิภงฺเค สตฺตวิธา กถา, ภิกฺขุนิวิภงฺเค ฉพฺพิธา, ตทนนฺตรา วิปตฺติกถา, อธิกรณปจฺจยกถา, ขนฺธกปฺหากถา, สมุฏฺานสีสกถา, อาปตฺติสมุฏฺานกถา, เอกุตฺตรนยกถา, เสทโมจนกถา, วิภงฺคทฺวยนิทานาทิกถา, สพฺพงฺคลกฺขณกถา, ปริวารสงฺกลนกถาติ ฉตฺตึส กถาปริจฺเฉทา.
นิสฺสนฺเทเห ปน ‘‘อฏฺตึส กถาปริจฺเฉทา’’ติ วุตฺตํ, ตํ เอกุตฺตรนเย อทสฺสิเตหิปิ ทฺวาทสกปนฺนรสกนเยหิ สห โสฬสปริจฺเฉเท คเหตฺวา อปฺปกํ อูนมธิกํ คณนูปคํ น โหตีติ กตฺวา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุภยตฺถ กถาปริจฺเฉทปริมาณํ เตสตฺตติวิธํ โหติ. นิสฺสนฺเทเห ‘‘ปฺจสตฺตติวิธา’’ติ วจเน ปริหาโร วุตฺตนโยว. คนฺถปริมาณํ ปน วินยวินิจฺฉเย อสีติคนฺถาธิกานิ จตฺตาริ คนฺถสหสฺสานิ ¶ , อุตฺตเร ปฺาสคนฺถาธิกานิ นว คนฺถสตานิ โหนฺติ. เตน วุตฺตํ อุตฺตราวสาเน –
‘‘คาถา จตุสหสฺสานิ, สตฺจ อูนวีสติ;
ปริมาณโตติ วิฺเยฺโย, วินยสฺสวินิจฺฉโย.
ปฺาสาธิกสงฺขานิ, นว คาถาสตานิ หิ;
คณนา อุตฺตรสฺสายํ, ฉนฺทสานุฏฺุเภน ตู’’ติ. (อุ. วิ. ๙๖๙-๙๗๐);
อิจฺเจวํ วินยวินิจฺฉโย อุตฺตโร จาติ ทฺเว ปกรณานิ ตึสาธิกานิ ปฺจคาถาสหสฺสานิ. เอตฺถ จ วินยวินิจฺฉโย นาม อุภโตวิภงฺคขนฺธกาคตวินิจฺฉยสงฺคาหกปกรณํ. ตโต ปรํ ปริวารตฺถสงฺคาหกปกรณํ อุตฺตโร นาม. เตเนว วกฺขติ –
‘‘โย มยา รจิโต สาโร, วินยสฺสวินิจฺฉโย;
ตสฺส ทานิ กริสฺสามิ, สพฺพานุตฺตรมุตฺตร’’นฺติ. (อุ. วิ. ๒)
ตํ กสฺมา อุตฺตรนาเมน โวหริยตีติ? ปฺหุตฺตรวเสน ิเต ปริวาเร ตเถว สงฺคเหตพฺเพปิ เตน ปกาเรน ปาราชิกกถามตฺตํ ทสฺเสตฺวา –
‘‘อิโต ¶ ปฏฺาย มฺุจิตฺวา, ปฺหาปุจฺฉนมตฺตกํ;
วิสฺสชฺชนวเสเนว, โหติ อตฺถวินิจฺฉโย’’ติ. (อุ. วิ. ๑๔) –
วตฺวา ปฺหํ ปหาย ตโต ปฏฺาย อุตฺตรมตฺตสฺเสว ทสฺสิตตฺตา ตถา โวหรียนฺติ.
‘‘ตสฺมา วินยนูปาย’’นฺติอาทินา ปน โสตุชนํ สกฺกจฺจสวเน นิโยเชติ. สกฺกจฺจสวนปฏิพทฺธา หิ สพฺพาปิ โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺตีติ อยเมตฺถ สมุทายตฺโถ. อยํ ปน อวยวตฺโถ – โส ยสฺมา อตฺถโยชนกฺกเมน ปทโยชนํ ¶ กตฺวา วณฺณิเต สุวิฺเยฺโย โหติ, ตสฺมา ตถา ปทโยชนํ กตฺวา อตฺถวณฺณนํ กริสฺสาม –
เสฏฺํ อปฺปฏิปุคฺคลํ พุทฺธฺเจว ภวาภาวกรํ ธมฺมฺเจว นิรงฺคณํ คณฺเจว สิรสา วนฺทิตฺวา ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ หิตตฺถาย สมาเสน สมาหิโต วินยสฺสวินิจฺฉยํ วกฺขามีติ โยชนา.
ตตฺถ เสฏฺนฺติ สพฺเพ อิเม ปสตฺถา อยเมเตสํ อติสเยน ปสตฺโถติ เสฏฺโ. ตถา หิ โส ภควา ‘‘อหฺหิ พฺราหฺมณ เชฏฺโ เสฏฺโ โลกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑) เวรฺชพฺราหฺมณสฺส อตฺตโน เชฏฺเสฏฺภาวสฺส ปริชานนวินิจฺฉยเหตุภูตาหิ ฌานาทีหิ นิรติสยคุณสมฺปตฺตีหิ สมนฺนาคตตฺตา –
‘‘ตฺวเมว อสิ สมฺพุทฺโธ, ตุวํ สตฺถา อนุตฺตโร;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เต ปฏิปุคฺคโล. (ที. นิ. ๒.๓๗๐);
ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุวํ มาราภิภู มุนิ;
ตุวํ อนุสเย เฉตฺวา, ติณฺโณ ตาเรสิมํ ปชํ.
อุปธี เต สมติกฺกนฺตา, อาสวา เต ปทาลิตา;
สีโหสิ อนุปาทาโน, ปหีนภยเภรโว. (ม. นิ. ๒.๔๐๐; สุ. นิ. ๕๕๐-๕๕๑; เถรคา. ๘๓๙-๙๔๐);
มหาวีร ¶ มหาปฺ, อิทฺธิยา ยสสา ชล;
สพฺพเวรภยาตีต, ปาเท วนฺทามิ จกฺขุมา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๙; ธ. ป. อฏฺ. ๑.๕๖); –
อาทีหี นานานเยหิ สเทวเกน โลเกน อภิตฺถวิยตาย ปสตฺถตโม, ตเมว เสฏฺํ ปสตฺถตมนฺติ อตฺโถ.
อปฺปฏิปุคฺคลนฺติ ¶ นตฺถิ เอตสฺส ปฏิปุคฺคโล อธิโก, สทิโส วาติ อปฺปฏิปุคฺคโล. ตถา หิ คุณวเสน อนนฺตาปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อตฺตนา อธิกสฺส, สทิสสฺส วา ปุคฺคลสฺส อภาวโต –
‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’’ติ. (มหาว. ๑๑) –
อตฺตนาว อตฺตโน อวิปรีโต อปฺปฏิปุคฺคลภาโว ปฏิฺาโต, ตสฺมา ตํ อปฺปฏิปุคฺคลํ สพฺพโลกุตฺตมนฺติ อตฺโถ.
พุทฺธนฺติ อนนฺตมปริเมยฺยํ เยฺยมณฺฑลมนวเสสํ พุทฺธวาติ พุทฺโธ, เอเตน อเนกกปฺปโกฏิสตสหสฺสํ สมฺภตปฺุาณสมฺภารานุภาวสิทฺธิธมฺมรูปกายสิริวิลาสปฏิมณฺฑิโต สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตี สมฺมาสมฺพุทฺโธ ทสฺสิโต. อถ วา จตฺตาริ สจฺจานิ สยํ วิจิโตปจิตปารมิตาปริปาจิเตน สวาสนานวเสสกิเลสปฺปหายเกน สยมฺภุาเณน พุชฺฌีติ พุทฺโธ. ยถาห –
‘‘อภิฺเยฺยํ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;
ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. (ม. นิ. ๒.๓๙๒, ๓๙๙; สุ. นิ. ๕๖๓; เถรคา. ๘๒๘);
วิตฺถาโร ปนสฺส ‘‘พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ, โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ’’ติอาทินา (มหานิ. ๑๙๒; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๙๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๖๒) นิทฺเทสาทีสุ ¶ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. สทฺทสิทฺธิ สาสนิกานํ อวคมนตฺเถ วตฺตมานา พุธ-ธาตุโต ‘‘ภาวกมฺเมสุ ต’’ อิติ อิโต ตาติวตฺตมาเน ‘‘พุธคมาทิตฺเถ กตฺตรี’’ติ อิมินา กจฺจายนสุตฺเตน กตฺตริ ตปฺปจฺจยวิธานโต เวทิตพฺพา. โลกิยานํ ปน โพธนตฺถธาตูนมฺปิ คมนตฺถตาย วุตฺตตฺตา คตฺยตฺถากมฺมกาทิ ¶ สุตฺตโต กตฺตริ ต-ปฺปจฺจยกรเณน เวทิตพฺพา.
อถ วา ธาตูนํ อเนกตฺถตาย พุธ-อิจฺจยํ ธาตุ ชาครณวิกสนตฺเถสุ วตฺตมาโน อกมฺมโกติ ‘‘ปพุทฺโธ ปุริโส, ปพุทฺธํ ปทุม’’นฺติอาทีสุ วิย พุทฺธวา อฺาณนิทฺทาวิคเมน าณจกฺขูนิ อุมฺมีลนฺโต ปพุทฺโธ, คุเณหิ วา วิกสิโตติ กตฺตริ สิทฺเธน พุทฺธ-สทฺเทน ‘‘พุทฺโธ’’ติ ติภวเนกจูฬามณิปาทปงฺกชราครตโน ภควา โลกนาโถ วุจฺจติ, อิมสฺมึ ปกฺเขปิ คตฺยตฺถาทิสุตฺเต อกมฺมกคฺคหเณน ปจฺจยวิธานํ ทฏฺพฺพํ.
อถ วา สกมฺมกานํ ธาตูนํ กมฺมวจนิจฺฉาย อภาเว อกมฺมกภาวโต ‘‘ผลํ สยเมว ปกฺก’’นฺติอาทีสุ วิย โพธนตฺเถเยว พุธ-ธาตุโต กตฺตริ วิธานํ สิชฺฌติ. อถ วา นีลคุณโยเคน ปฏาทีสุ นีลโวหาโร วิย ภาวสาธนํ พุทฺธ-สทฺทํ คเหตฺวา พุทฺธคุณโยคโต ‘‘พุทฺโธ’’ติ โวหรียติ. เอวมเนกธา สิทฺเธน พุทฺธ-สทฺเทน วุจฺจมานํ ตํ ภควนฺตํ ตํ ธมฺมราชนฺติ อตฺโถ.
‘‘เสฏฺํ อปฺปฏิปุคฺคล’’นฺติ ปททฺวยํ ‘‘พุทฺธ’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ. เอตฺถ จ ‘‘พุทฺธํ, เสฏฺํ, อปฺปฏิปุคฺคล’’นฺติ อิเมหิ ตีหิ ปเทหิ นยโต ‘‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๑๕๗; ๓.๖; ม. นิ. ๑.๑๔๗, ๑๔๔; ๓.๔๓๔; สํ. นิ. ๑.๒๔๙; ๕.๔๗๙; อ. นิ. ๕.๑๔, ๓๐; ๖.๒๕, ๒๖; เนตฺติ. ๙๓), ‘‘โย วทตํ ปวโร มนุเชสุ, สกฺยมุนี ภควา กตกิจฺโจ’’ติอาทีหิ (วิ. ว. ๘๘๖) จ อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ ทสฺสิตทูราวิทูรสนฺติกนิทานเหตุผลสตฺโตปการาวตฺถาธมฺมตฺถ- โลกุทฺธารตฺติกตฺตยสงฺคหิตํ สุปริสุทฺธํ พุทฺธคุณสมุทยํ ¶ นิรวเสสํ ทสฺเสติ. อยเมว หิ พุทฺธคุณานํ นิรวเสสโต ทสฺสนูปาโย, ยทิทํ นยทสฺสนํ. อิตรถา ปฏิปทวณฺณนาย อปริมิตานํ พุทฺธคุณานํ โก หิ นาม สมตฺโถ ปริยนฺตํ คนฺตุํ. ยถาห –
‘‘พุทฺโธปิ ¶ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ;
กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;
ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร;
วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๔๑; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๔๒๕; อุทา. อฏฺ. ๕๓; อป. อฏฺ. ๒.๗.๒๐; พุ. วํ. อฏฺ. ๔.๔; จริยา. อฏฺ. นิทานกถา, ปกิณฺณกกถา; ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; ม. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; วชิร. ฏี. คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; สารตฺถ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; เนตฺติ. ฏี. คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา);
เอวเมเตหิ ตีหิ ปเทหิ นิรวเสสคุณสํกิตฺตนถุติยา วเสน ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ อิมินา ปณามสฺส จ วุตฺตตฺตา อิมาย อฑฺฒคาถาย พุทฺธรตนสงฺขาตปมวนฺทนียวตฺถุวิสยา ถุติปณามสภาวา วนฺทนา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ.
ตทนนฺตรํ ธมฺมรตนสฺส ปณามํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภวาภาวกรํ ธมฺม’’นฺติ. เอตฺถ ภว-สทฺเทน ทฺเว ภวา วุตฺตา กมฺมภโว, อุปปตฺติภโวติ. ตตฺถ กมฺมภโว ภวติ เอตสฺมา ผลนฺติ ‘‘ภโว’’ติ วุจฺจติ. วิปากกฺขนฺธกฏตฺตารูปสงฺขาโต ปน อุปปตฺติภโว อวิชฺชาตณฺหุปาทานสงฺขาราทิสหการิการณยุตฺเตน กุสลากุสลเจตนาสงฺขาตกมฺมภวปจฺจเยน ยถารหํ ภวตีติ ‘‘ภโว’’ติ วุจฺจติ. โส ปน กามภวรูปภวอรูปภวสฺีภวอสฺีภวเนวสฺีนาสฺีภว- เอกโวการภวจตุโวการภวปฺจโวการภววเสน นววิโธ. เอวเมเตสุ นวสุ ภเวสุ ทสวิโธปิ ธมฺโม อตฺตานํ ธาเรนฺตสฺส ปุคฺคลสนฺตานสฺส อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุยา ปรํ อปฺปฏิสนฺธิกตาสาธเนน ภเวสุ ¶ , ภวสฺส วา อภาวํ กโรตีติ ภวาภาวกโร, ตํ, อปราปรชาติปฺปพนฺธสฺส เหตุสมุคฺฆาเตน อปฺปวตฺติธมฺมตาปาทกนฺติ อตฺโถ.
ธมฺมนฺติ อตฺตานํ ธาเรนฺเต จตูสุ อปาเยสุ, สํสาเร จ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม, โส จตุมคฺคผลนิพฺพานสงฺขาตนวโลกุตฺตรธมฺโม จ ตปฺปฏิปาทโก นวงฺคสาสนาปรนามเธยฺยจตุราสีติสหสฺสธมฺมกฺขนฺธปฺปเภทภินฺโน ปริยตฺติธมฺโม จาติ ทสวิโธ. โสปิ นิปฺปริยายธมฺโม, ปริยายธมฺโม ¶ จาติ ทุวิโธ. ตตฺถ นิปฺปริยายธมฺโม นาม อปาเย, สํสาเร วา ปธานเหตุภูตานํ อุทฺธมฺภาคิยานํ, โอรมฺภาคิยานฺจ ทสนฺนํ สํโยชนานํ สมุจฺฉินฺทเนน มคฺคธมฺโม, ตสฺส ตํกิจฺจนิปฺผตฺตินิมิตฺตภาเวน นิพฺพานธมฺโม จาติ ปฺจวิโธปิ นิปฺปริยาเยน ปุคฺคลสนฺตานํ ธาเรตีติ กตฺวา ‘‘นิปฺปริยายธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. จตฺตาริ ปน สามฺผลานิ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหาเนน มคฺคานุคุณปฺปวตฺติยา, ปริยตฺติ จ มคฺคนิพฺพานาธิคมสฺส มูลการณภาวโตติ ปฺจวิโธปิ ปริยายธมฺโม นาม.
เอตฺตาวตา ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๑.๒๔๙; อ. นิ. ๓.๗๖; ที. นิ. ๓.๖; อ. นิ. ๖.๑๐, ๒๕, ๒๖), ‘‘ราควิราคมเนชมโสก’’นฺติอาทีหิ (วิ. ว. ๘๘๗) จ สุตฺตนฺเตหิ วุตฺตสฺส, ตทฏฺกถาทีสุ จ วณฺณิตสฺส สรณานุสฺสรณวเสนาปิ สคฺคโมกฺขสมฺปตฺติปฏิลาภการณสฺส อนวเสสสฺส ธมฺมรตนคุณสฺส นยโต อุทฺทิฏฺตฺตา จ ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ อิมินา ปณามสฺส ทสฺสิตตฺตา จ ธมฺมรตนสงฺขาตสฺส ทุติยสฺส วนฺทนียสฺส ถุติปณามสภาวา วนฺทนา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ.
ตทนนฺตรํ ¶ สงฺฆรตนสฺส วนฺทนาสนฺทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ ‘‘คณฺเจว นิรงฺคณ’’นฺติ. เอตฺถ ‘‘ราโค องฺคณํ โทโส องฺคณํ โมโห องฺคณ’’นฺติ (วิภ. ๙๒๔) วุตฺเตหิ ราคาทิองฺคเณหิ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิมุตฺติวเสน นิคฺคโต วิมุตฺโตติ นิรงฺคโณ, ตํ นิรงฺคณํ. อริยวํเส สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสงฺขาเตหิ คุณคเณหิ คณียตีติ คโณ, ตํ.
เอตฺตาวตา ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๑.๒๔๙; อ. นิ. ๓.๗๖; ที. นิ. ๓.๖; อ. นิ. ๖.๑๐, ๒๕, ๒๖;), ‘‘ยตฺถ จ ทินฺนํ มหปฺผลมาหุ, จตูสุ สุจีสุ ปุริสยุเคสู’’ติอาทีหิ (วิ. ว. ๘๘๘) จ เตหิ เตหิ สุตฺตปเทหิ วุตฺตานํ, ตทฏฺกถาทีสุ จ วณฺณิตานํ วิมลาตุลนิขิลวิสาลเปสลสีลาทินานปฺปการานคฺฆสงฺฆรตนคุณานํ สํกิตฺตนสภาวาย ถุติยา จ ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ เอเตน ยถาวุตฺตสรูปปเภทปณามสฺส วุตฺตตฺตา จ สงฺฆรตนสงฺขาตตติยวนฺทนียวตฺถุวิสยา ถุติปฺปณามสงฺขาตา วนฺทนา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. สิรสาติ อตฺตปฺปสาทคารวาวหนฺเตน มุทฺธนา. วนฺทิตฺวาติ ปณมิตฺวา โถมิตฺวา วา.
เอวํ ¶ ปมคาถาย วนฺทนียสฺส รตนตฺตยสฺส ถุติปฺปณามสงฺขาตํ วนฺทนํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตราย สนฺทสฺเสตพฺพปโยชนาทิปฏิปาทิกาย คาถาย ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ อิมินา กิฺจาปิ สํสาเร ภยํ อิกฺขตีติ ‘‘ภิกฺขู’’ติ กลฺยาณปุถุชฺชเนน สทฺธึ อฏฺ อริยปุคฺคลา วุจฺจนฺติ, ปาฬิยํ (ปารา. ๔๔-๔๕; วิภ. ๕๑๐) ปน ‘‘ภินฺนปฏํ ธาเรตีติ ภิกฺขุ, ภิกฺขนสีโลติ ภิกฺขู’’ติอาทินา ภิกฺขุสทฺทสฺส อตฺถุทฺธารวเสน นิพฺพจนนฺตรานิ ทสฺเสตฺวา ¶ ปาติโมกฺขสํวรสํวรณารหสฺเสว อธิปฺเปตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมคฺเคน สงฺเฆน ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อกุปฺเปน านารเหน อุปสมฺปนฺโน, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปโต ภิกฺขู’’ติ ทสฺสิตา สิกฺขากามา สาสนาวจารา กุลปุตฺตา อิธาธิปฺเปตา, เตสํ ภิกฺขูนฺจ. ภิกฺขุนีนฺจาติ อฏฺวาจิกอุปสมฺปทากมฺเมน อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาตาทิสาเยว กุลธีตโร ทสฺสิตา. เอกโตปสมฺปนฺนาปิ สามฺเน คยฺหนฺติ. เอกโตปสมฺปนฺนาติ จ ภิกฺขุนิสงฺเฆ อุปสมฺปชฺชิตฺวา ยาว ภิกฺขุสงฺเฆ น อุปสมฺปชฺชนฺติ, ตาว, ภิกฺขุนี จ ลิงฺคปริวตฺตเนน ภิกฺขุนิภาวปฺปตฺตา อธิปฺเปตา, ตาสํ ภิกฺขุนีนฺจ.
หิตตฺถายาติ สพฺพสมฺปตฺตินิปฺผาทกรณตฺถาย หิโนติ คจฺฉติ ยถาธิปฺเปตผลสาธเน ปวตฺตตีติ หิตนฺติ อโรคตาทิการณํ อมโตสธาทิ วุจฺจติ. อิธ ปน สคฺคโมกฺขสมฺปตฺติสิทฺธิการณํ ปาติโมกฺขสํวรสีลรกฺขนํ วุจฺจติ, ตทตฺถาย.
สมาหิโต สมฺมา อาหิโต ปวตฺติโต วินิจฺฉยมคฺโค เอเตนาติ ‘‘สมาหิโต’’ติ ปกรณการโก ทสฺสิโต. อถ วา สมฺมา อาหิตํ วินยวินิจฺฉเย ปิตํ ปวตฺติตํ จิตฺตเมตสฺสาติ ‘‘สมาหิตจิตฺโต’’ติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘สมาหิโต’’ติ วุตฺโต. ปรมคมฺภีรสุทุตฺตรวินยปิฏกตฺถวินิจฺฉเย ปวตฺตนารหสฺส อิมินา วิเสสเนน อตฺตนิ สมาหิตจิตฺตปฺปวตฺตินิมิตฺตภูโต อตฺตโน าณสฺส ปทฏฺานภูโต สมาธิ ทสฺสิโต เตน สมาธินา สมาหิโต หุตฺวาติ อตฺโถ.
ปวกฺขามีติ ปกาเรน วกฺขามิ, เยน ปกาเรน วินยวินิจฺฉเย วุตฺเต อชฺชตนา มนฺทสติมติวีริยา ปฏิปชฺชนกา คมฺภีรตรํ ¶ วินยปิฏกตฺถวินิจฺฉยํ สุเขน อุคฺคณฺหิตุํ, ธาเรตฺุจ สกฺโกนฺติ, ตาทิเสน ปการวิเสเสน วกฺขามีติ อตฺโถ. สมาเสนาติ สมสนํ สํขิปนํ สมาโส, เตน, สํขิตฺตรุจิกานมุคฺฆาฏิตฺูนํ กตาธิการานํ าณุตฺตรานํ ปุคฺคลานฺจ ¶ ปปฺจภีรุกานํ คหณธารเณ มนฺทยนฺตานํ มนฺทพุทฺธีนฺจ อุปการเกน นาติวิตฺถารกฺกเมนาติ อตฺโถ. วินยสฺสาติ วินยปิฏกสฺส. ตฺหิ –
‘‘วิวิธวิเสสนยตฺตา;
วินยนโต เจว กายวาจานํ;
วินยตฺถวิทูหิ อยํ;
วินโย ‘วินโย’ติ อกฺขาโต’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา) –
วุตฺเตหิ อตฺถวิเสเสหิ ‘‘วินโย’’ติ วุจฺจติ. ตสฺส เอวํ สนฺทสฺสิตสภาวสฺส ‘‘วินโย นาม สาสนสฺส อายู’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.ปมมหาสงฺคีติกถา) สงฺคีติการเกหิ มหากสฺสปาทีหิ อภิตฺถุตคุณสฺส วินยปิฏกุตฺตมสฺส. วินิจฺฉยนฺติ วิเสเสน, วิวิเธน วา อากาเรน วิปฺปฏิปตฺตินีหรณวเสน จียติ วิภชียตีติ ‘‘วินิจฺฉโย’’ติ ลทฺธนามํ วิภชนํ, วินยวินิจฺฉยํ นาม ปกรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ จ อลุตฺตสมาโสยํ ‘‘เทวานํปิยติสฺโส, กณฺเกาโฬ’’ติอาทีสุ วิย.
เอวํ ทุติยคาถาย กตฺตุนิมิตฺตปโยชนาภิธานาภิเธยฺยปกรณปฺปกาเรกเทสํ ทสฺเสตฺวา สกฺกจฺจสวนการณนิทสฺสนมุเขนาปิ ปกรณปฺปการาทึ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนากุล’’มิจฺจาทิ. ตตฺถ อนากุลนฺติ นตฺถิ เอตฺถ สทฺทโต, อตฺถโต, วินิจฺฉยโต วา อากุลํ ปุพฺพาปรวิโรโธ, มิสฺสตา ¶ วาติ อนากุโล, วินยวินิจฺฉโย, ตํ วทโต เม นิโพธถาติ สมฺพนฺโธ. อสํกิณฺณนฺติ นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ.
มธุรตฺถปทกฺกมนฺติ ปทานํ กโม ปทกฺกโม, ปทคติ, สทฺทานมุจฺจารณนฺติ อตฺโถ. มธุโร อตฺโถ จ ปทกฺกโม จ ยสฺส โส มธุรตฺถปทกฺกโม, ตํ –
‘‘ปทาสตฺตํ ¶ ปทตฺถานํ, มธุรตฺถมุทีริตํ;
เยน มชฺชนฺติ ธีมนฺโต, มธุเนว มธุพฺพตา’’ติ. –
อิมินา ลกฺขเณน สทฺทานมตฺถานฺจ วเสน ปทาสตฺตาปรนามเธยฺยมาธุริยาลงฺกาเรน สมลงฺกตตฺตา มธุรตฺถปทกฺกมํ.
ปฏุภาวกรนฺติ ปฏติ คจฺฉติ ปชานาตีติ ปฏุ, ปฺวา, ปฏุโน ภาโว, สทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตภูตา ปฺา, ตํ ปฏุภาวํ ปฺาวิเสสํ กโรติ ชเนตีติ ปฏุภาวกโร, ตํ, ปฺาวิเสสชนกนฺติ อตฺโถ. เอตํ วินยสฺส วินิจฺฉยนฺติ โยชนา. ปรมนฺติ อุตฺตมํ. วินยกฺกเมติ วินยปิฏเก, ตทตฺเถ จ, ปวตฺติกฺกเม ปฏุภาวกรนฺติ อตฺโถ.
เอวํ ตติยคาถาย ปกรณคุณาปเทเสน โสตุชนํ สมุสฺสาเหตฺวา อิทานิ ‘‘อปาร’’นฺติอาทิจตุตฺถคาถาย ปกรณฺจ ตนฺนิสฺสยํ วินยปิฏกฺจ นาวาสาครภาเวน ทสฺเสตฺวา ติโรภูโตปเมยฺโยปมานเภเทน รูปกาลงฺกาเรน ปกรณคุณํ ปกาเสนฺโต โสตุชนํ สมุตฺเตเชติ. ตตฺถ อปารนฺติ นตฺถิ ปารํ เอตสฺสาติ อปาโร, วินยสาคโร. โส หิ ปุริมพุทฺธุปฺปาเทสุ สาสนํ ปสีทิตฺวา วินยปิฏเก อุคฺคหณธารณปฏิปาทนปฏิปตฺติวเสน อกตาธิกาเรหิ ปุคฺคเลหิ ทุรธิคมนียธมฺมตฺถนิรุตฺติปฏิภานปริยนฺตตาย ‘‘อปาโร’’ติ วุจฺจติ.
โอตรนฺตานนฺติ ¶ สชฺฌายนสวนธารณาทิวเสน อชฺโฌคาหนฺตานํ. สารนฺติ นิพฺพานสมฺปาปกภาเวน สารภูตาย อริยมคฺคสมฺภาราย ปุพฺพภาคปฏิปตฺติยา มูลภูตปาติโมกฺขสํวรสงฺขาตสีลสารปฺปกาสกตาย สารํ. วินยสาครนฺติ วินยปิฏกสงฺขาตํ สาครํ. วินโย หิ สิกฺขาปทปฺตฺติยา กาลปฺปตฺตชานนสฺสาปิ ธมฺมเสนาปติอาทีนมฺปิ อวิสยตฺตา อติคมฺภีราติวิตฺถิณฺณภาเวน สาคโร วิยาติ สาคโร, วินโย จ โส สาคโร จาติ วินยสาคโร, ตํ, อคาธาปารคุณโยคโต สาคโรปมํ วินยปิฏกนฺติ อตฺโถ.
ทุติยคาถาย ‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีน’’นฺติ วตฺวาปิ ‘‘หิตตฺถายา’’ติ อิมินา สมฺพนฺธตฺตา จ วากฺยนฺตเรหิ อนฺตริตภาเวน ทูรตฺตา จ ตํ อนาทิยิตฺวา เอตฺถ วินยสาครชฺโฌคาหนตทตฺถปฏิปชฺชนารหกตฺตุวิเสสสนฺทสฺสนตฺถาย ¶ ‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีน’’นฺติ ปุน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นาวา วิย ภูโต นาวาภูโต, ตํ, นาวาฏฺานิยํ มหานาวาสทิสนฺติ อตฺโถ. มโนรมนฺติ มโน รมติ เอตฺถ, เอเตนาติ วา มโนรโม, ตํ, อชฺฌายนโวหารปสุตานํ ปฏิปตฺติปรายนานฺจ สาธูนํ มโนรมนฺติ อตฺโถ.
เอตฺตาวตา ปกรณคุณสํกิตฺตเนน โสตุชนํ สมุตฺเตเชตฺวา อิทานิ สกฺกจฺจสวเน นิโยเชนฺโต ‘‘ตสฺมา วินยนูปาย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา ยถาวุตฺตํ อนากุลตาทิวิวิธานคฺฆคุณาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ, เตน เหตุนาติ อตฺโถ. วินยนูปายนฺติ วิวิธากาเรน, วิเสสนยโต วา กายวาจานํ นยนํ ทมนํ อกตฺตพฺพโต นิวตฺเตตฺวา กตฺตพฺเพสุ นิโยชนํ วินยนํ, อุเปจฺจ ตํ ผลํ อายติ อุปฺปชฺชตีติ อุปาโย, เหตุ, วินยนสฺส อุปาโย วินยนูปาโย, ตํ, กายชีวิตานเปกฺขานํ สิกฺขากามานํ เปสลานํ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ กายวาจานํ อนนุโลมิกวิปฺผนฺทิตาปนยนสงฺขาตทมนสฺส ¶ การณภูตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
เอตฺตาวตา อตฺตนา กตฺตุมิจฺฉิเต ปกรเณ ปณฺฑิตานํ ปวตฺติเหตุภูตานํ อนากุลตาทิคุณานํ วิภาวนวเสน ‘‘อนากุล’’นฺติอาทิวิเสสนานิ วตฺวา อิทานิ สกฺกจฺจสวนาวโพเธ วิสยํ วิเสสิตพฺพํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ. เอตฺถ จ ทุติยคาถาย ‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ ‘‘ปวกฺขามี’’ติ กิริยาย กมฺมทสฺสนวเสน วุตฺตํ, ตํ อิธ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิยมานมฺปิ ทูรสมฺพนฺธํ โหตีติ ตมนาเนตฺวา ‘‘นิโพธถา’’ติ อิมิสฺสา กิริยาย กมฺมสนฺทสฺสนตฺถํ ‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปุนรุตฺติโทสาภาโวติ ทฏฺพฺพํ.
อวิกฺขิตฺเตน จิตฺเตนาติ เอตฺถ วิวิเธ อารมฺมเณ ขิตฺตํ เปสิตํ วิกฺขิตฺตํ, อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาทิปเรตํ อสมาหิตํ จิตฺตํ, น วิกฺขิตฺตํ อวิกฺขิตฺตํ, ตปฺปฏิปกฺขํ สมาหิตํ กุสลจิตฺตํ, เตน, เอตสฺส ปกรณุตฺตมสฺส สวนาทิพฺยาปารํ วินา นานารมฺมเณสุ ปวตฺติวเสน วิกฺเขปมนาปนฺเนน สมาหิเตน จิตฺเตนาติ อตฺโถ. ‘‘อวิกฺขิตฺเตน…เป… นิโพธถา’’ติ วทนฺเตน จ ‘‘อวิกฺขิตฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม วิกฺขิตฺตสฺสา’’ติ วจนโต วิกฺขิตฺตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทาภาวโต อตฺตโน ปกรณตฺถภูตาย อธิสีลสิกฺขาย สมฺมาปฏิปชฺชนาปเทโส กโต โหติ.
วทโต ¶ เมติ เอตฺถ ‘‘คารเวน จา’’ติ ปาเสโส. ตตฺถายมตฺโถ – ภาสมาเน มยิ คารเวน, ยถาวุตฺเตน การเณน จาติ สามิภุมฺมานมวิเสสตาย ‘‘เม’’ติ สามิวจนสฺส ‘‘มยี’’ติ อตฺถสมฺภวโต อยมตฺโถ วุตฺโต. ปกรณสฺส อนากุลตาทิคุณสมนฺนาคตตฺตา จ วตฺตริ มยิ คารเวน จ สมาหิเตน เจตสาติ อธิปฺปาโย. นิโพธถาติ วากฺยตฺถปทตฺถํ สนฺธายภาสิตตฺถภาวตฺถาทิวเสน ¶ นิเสสโต โพธถ, สกฺกจฺจํ สุตฺวา วินยวินิจฺฉยํ พุชฺฌถ วิชานาถาติ อตฺโถ, จินฺตาภาวนามยาณานํ มูลภูตปกรณวิสยํ สุตมยาณํ นิปฺผาเทถาติ อธิปฺปาโย.
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภิกฺขุวิภงฺโค
ปาราชิกกถา
ปมปาราชิกกถาวณฺณนา
๖. เอวํ ¶ ปฺจหิ คาถาหิ รตนตฺตยปณามาทึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยถาปฏิฺาตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ติวิเธ’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ติวิเธ’’ติอาทินา ปมปาราชิกสิกฺขาปทวินิจฺฉยํ ทสฺเสติ. ติวิเธติ วจฺจปสฺสาวมุขมคฺคานํ วเสน ติปฺปกาเร มคฺเคติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ติลมตฺตมฺปีติ ติลพีชมตฺตมฺปิ องฺคชาตนฺติ สมฺพนฺโธ. มคฺเคติ วจฺจปสฺสาวานํ นิกฺขมนทฺวารตาย, อนฺนปานปิตฺตเสมฺหาทีนํ ปเวสนนิกฺขมนทฺวารตาย จ มคฺคโวหารคเต สรีรปฺปเทเส, อลฺโลกาเสติ สมฺพนฺโธ. ‘‘มคฺเคสุ ติลมตฺตมฺปิ, ตีสุ เสวนเจตโน’’ติ วตฺตพฺเพปิ ‘‘ติวิเธ’’ติ ปการวาจิวิธสทฺโทปาทาเนน สชาติสงฺคหวเสน ตีหิ ราสีหิ สงฺคเหตฺวา ปเภทวเสน ตึสวิโธ มคฺโค ทสฺสิโต โหติ.
เสยฺยถิทํ? ปาราชิกวตฺถุภูตมุขาทิมคฺคานํ นิสฺสยภูเต สตฺเต ทสฺเสตุํ ‘‘ติสฺโส อิตฺถิโย มนุสฺสิตฺถี ¶ อมนุสฺสิตฺถี ติรจฺฉานคติตฺถี’’ติอาทินา (ปารา. ๕๖) นเยน ปาฬิยํ ทสฺสิตมนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคติตฺถีนํ ปจฺเจกํ ติณฺณํ มคฺคานํ วเสน นว มคฺคา, ตเถว ทสฺสิตานํ ติณฺณํ อุภโตพฺยฺชนกานํ วเสน นว มคฺคา, ติณฺณํ ปน ปณฺฑกานํ มุขมคฺควจฺจมคฺคานํ วเสน ปจฺเจกํ ทฺเว ทฺเว มคฺคาติ ฉ มคฺคา, ตถา ติณฺณํ ปน ปุริสานนฺติ เอวํ ตึสวิโธ โหติ.
เสวนเจตโนติ เสวเน เมถุนปโยเค เจตนา อสฺสาติ วิคฺคโห, เมถุนราคูปสํหิตาย เจตนาย สมนฺนาคโตติ ¶ อตฺโถ. อลฺโลกาเสติ ตึสมคฺคานมฺตเร มคฺเค ปกติวาเตน อสํผุฏฺเ อลฺลปเทเส, อิมินา พาหิรํ ปาราชิกกฺเขตฺตํ น โหตีติ ทีเปติ. วิเสสนสฺส วิเสสาเปกฺขตฺตา ทุติยคาถาย ‘‘สสิกฺโข โส’’ติ ปททฺวยํ อาหริตฺวา ‘‘เสวนเจตโน สสิกฺโข โส ภิกฺขู’’ติ โยเชตพฺพํ.
องฺเค สรีเร ชาตนฺติ องฺคชาตํ, ปุริสนิมิตฺตํ. สติปิ อวเสสสรีราวยวานํ ตถาภาเว รุฬฺหิวเสน ตเทว ตถา วุตฺตํ. ปเวเสนฺโตติ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติสงฺขาตกายิกกิริยํ นิปฺผาเทนฺโต. ปราชิโตติ ทุลฺลภาย ขณสมฺปตฺติยา ลทฺธพฺพโต ทุลฺลภา โลกิยโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺติสุขโต ปริหาเปตฺวา กิเลสสปตฺเตหิ ปราชยมาปาทิโตติ อตฺโถ.
อยเมตฺถ โยชนา – สสิกฺโข เสวนเจตโน ติวิเธ มคฺเค อลฺโลกาเส องฺคชาตํ ติลมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺโต โส ภิกฺขุ ปราชิโต โหตีติ. เอตฺตาวตา –
‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺย, อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปิ, ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติ (ปารา. ๔๔) –
ภควตา ปฺตฺตสิกฺขาปทํ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๗. เอวํ อิมิสฺสา คาถาย อตฺตูปกฺกมมูลกํ ปาราชิกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถึ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมคฺเคน (ปารา. ๕๘) องฺคชาเต ¶ อภินิสีเทนฺตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ ปโรปกฺกมมูลกํ ปาราชิกฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปเวสน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ปเวสนนฺติ ภิกฺขุปจฺจตฺถิเกหิ สุตฺตปมตฺตาทิมนุสฺสิตฺถิอาทีนมฺตรํ อาเนตฺวา ยถาวุตฺตมคฺคานมฺตรํ ¶ มคฺคํ ยถา ปวิสติ, ตถา ภิกฺขุโน องฺคชาเต อภินิสีทาปเน สมฺภวนฺตํ มคฺคปฺปเวสนมาห. ปเวสนํ สาทิยนฺโต สสิกฺโข โสติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘ปเวสนํ สาทิยติ อธิวาเสติ, ตสฺมึ ขเณ เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๘) อฏฺกถาวจนโต อคฺคโต ยาว มูลํ ปเวเสนฺเตสุ อสฺสาทจิตฺตํ อุปฏฺาเปนฺโต ตงฺขเณเยว สาสนโต จุโตติ อตฺโถ. ปวิฏฺนฺติอาทีสุ ปเทสุปิ เอวเมว โยชนา.
ปวิฏฺนฺติ ปวิฏฺกฺขโณ. ‘‘ปวิฏฺ’’นฺติอาทินา ตาย ตาย กิริยาย อุปลกฺขิโต ขโณ คเหตพฺโพ. เตเนเวตฺถ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ กตํ. ิตนฺติ เอตฺถ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิสมเย’’ติ อฏฺกถาวจนสฺส สพฺพถา พฺยาปารรหิตํ กาลํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา สุกฺกวิสฺสฏฺิสมโยปิ คเหตพฺโพ. เตเนว คณฺิปเท วุตฺตนเยน ปวิฏฺสฺส จ ยาว อุทฺธรณารมฺโภ, ตาว สมฺภวนฺโต ิตกาโลปิ คเหตพฺโพ. อุทฺธรณนฺติ นีหรณกาโล.
วาติ วิกปฺเป, อปีติ สมุจฺจเย, โส วา-สทฺเทน วิกปฺปิตานํ ปกฺขานํ ตุลฺยพลตํ โชเตติ. อิติ อิเมหิ ทฺวีหิปิ ‘‘โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฏฺํ สาทิยตี’’ติอาทินา (ปารา. ๕๘) ปาฬิยํ อาคตนเยน ลพฺภมานํ ปเวสนาทิเอกกฺขณมฺปิ สาทิยนปจฺจยา อาปชฺชมานํ ปาราชิกํ ทสฺเสติ. สสิกฺโขติ สิกฺขาย สห วตฺตตีติ สสิกฺโข, อปจฺจกฺขาตสิกฺโขติ อตฺโถ. สาทิยนฺโตติ เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปนฺโต. โส ภิกฺขุ. เปตฺวา กิริยนฺติ อตฺตูปกฺกมนํ วินา. จุโตติ ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิเกหิ กตมิทํ, น มยา’’ติ เลเสน น มุจฺจติ, สาทิยนจิตฺเต สติ สาสนโต จุโตเยว โหตีติ อธิปฺปาโย.
เอตฺถ ¶ จ สสิกฺโขติ อิทํ ‘‘สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ (ปารา. ๔๔) สิกฺขาปทปาสฺส อตฺถทสฺสนวเสน นิทฺทิฏฺํ. ตสฺส ปทภาชเน (ปารา. ๔๕), ตทฏฺกถาย จ วิภตฺตํ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ สงฺเขปโต เอวํ เวทิตพฺพํ – จิตฺตเขตฺตกาลปโยคปุคฺคลวิชานนวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. อุปสมฺปนฺนภาวโต จวิตุกามตาจิตฺเตเนว หิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ทวา วา รวา วา วทนฺตสฺส. เอวํ จิตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ตถา ¶ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามิ, ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ, สงฺฆํ ปจฺจกฺขามิ, สิกฺขํ, วินยํ, ปาติโมกฺขํ, อุทฺเทสํ, อุปชฺฌายํ, อาจริยํ, สทฺธิวิหาริกํ, อนฺเตวาสิกํ, สมานุปชฺฌายกํ, สมานาจริยกํ, สพฺรหฺมจารึ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ วุตฺตานํ พุทฺธาทีนํ จตุทฺทสนฺนํ, ‘‘คิหีติ มํ ธาเรหิ, อุปาสโก, อารามิโก, สามเณโร, ติตฺถิโย, ติตฺถิยสาวโก, อสฺสมโณ, อสกฺยปุตฺติโยติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ วุตฺตานํ คิหิอาทีนํ อฏฺนฺนฺจาติ อิเมสํ พาวีสติยา เขตฺตปทานํ ยสฺส กสฺสจิ สเววจนสฺส วเสน เตสุ ยํ กิฺจิ วตฺตุกามสฺส ยํ กิฺจิ วทโต สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น รุกฺขาทีนํ อฺตรสฺส นามํ คเหตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺตสฺส. เอวํ เขตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ตตฺถ ยเทตํ ‘‘ปจฺจกฺขามี’’ติ จ ‘‘มํ ธาเรหี’’ติ จาติ วุตฺตํ วตฺตมานกาลวจนํ, ยานิ จ ‘‘อลํ เม พุทฺเธน, กึ นุ เม พุทฺเธน, น มมตฺโถ พุทฺเธน, สุมุตฺตาหํ พุทฺเธนา’’ติอาทินา นเยน อาขฺยาตวเสน กาลํ อนามสิตฺวา ปุริเมหิ จุทฺทสหิ ปเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา วุตฺตานิ ‘‘อลํ เม’’ติอาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ, เตสํเยว สเววจนานํ วเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ‘‘ปจฺจกฺขาสิ’’นฺติ วา ‘‘ปจฺจกฺขิสฺส’’นฺติ วา ¶ ‘‘มํ ธาเรสี’’ติ วา ‘‘มํ ธาเรสฺสตี’’ติ วา ‘‘ยํ นูนาหํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ วาติอาทีนิ อตีตานาคตปริกปฺปวจนานิ ภณนฺตสฺส. เอวํ วตฺตมานกาลวเสน เจว อนามฏฺกาลวเสน จ ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ปโยโค ปน ทุวิโธ กายิโก จ วาจสิโก จ. ตตฺถ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินา นเยน ยาย กายจิ ภาสาย วจีเภทํ กตฺวา วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น อกฺขรลิขนํ วา หตฺถมุทฺทาทิทสฺสนํ วา กายปโยคํ กโรนฺตสฺส. เอวํ วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ปุคฺคโล ปน ทุวิโธ โย จ ปจฺจกฺขาติ, ยสฺส จ ปจฺจกฺขาติ. ตตฺถ โย ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ อุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนฏฺฏานํ อฺตโร น โหติ. ยสฺส ปน ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ มนุสฺสชาติโก โหติ, น จ อุมฺมตฺตกาทีนํ อฺตโร, สมฺมุขีภูโต จ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ. น หิ อสมฺมุขีภูตสฺส ทูเตน วา ปณฺเณน วา อาโรจนํ รุหติ. เอวํ ยถาวุตฺตสฺส ปุคฺคลสฺส วเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
วิชานนมฺปิ ¶ นิยมิตานิยมิตวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ ยสฺส, เยสํ วา นิยเมตฺวา ‘‘อิมสฺส, อิเมสํ วา อาโรเจมี’’ติ วทติ. สเจ เต ยถา ปกติยา โลเก มนุสฺสา วจนํ สุตฺวา อาวชฺชนสมเย ชานนฺติ, เอวํ ตสฺส วจนานนฺตรเมว ตสฺส ‘‘อยํ อุกฺกณฺิโต’’ติ วา ‘‘คิหิภาวํ ปตฺถยตี’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน สิกฺขาปจฺจกฺขานภาวํ ชานนฺติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อถ อปรภาเค ‘‘กึ อิมินา วุตฺต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ชานนฺติ, อฺเ วา ชานนฺติ, อปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อนิยเมตฺวา อาโรเจนฺตสฺส ปน สเจ วุตฺตนเยน โย โกจิ มนุสฺสชาติโก วจนตฺถํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. เอวํ วิชานนวเสน ปจฺจกฺขานํ ¶ โหติ, น ตทภาเวน. โย ปน อนฺตมโส ทวายปิ ปจฺจกฺขาติ, เตน อปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา.
อิติ อิเมสํ วุตฺตปฺปการานํ จิตฺตาทีนํ วเสน อปจฺจกฺขาตสิกฺโข ‘‘สสิกฺโข’’ติ วุตฺโต.
๘-๑๐. ‘‘อิทานิ สนฺถเตน สนฺถตสฺส ฆฏฺฏเน อุปาทินฺนกฆฏฺฏนาภาวโต โทโส นตฺถี’’ติ ปาปภิกฺขูนํ เลสกปฺปนํ ปฏิกฺขิปิตุํ ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถึ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมคฺเคน, ปสฺสาวมคฺเคน, มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ สนฺถตาย อสนฺถตสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๖๑) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตสนฺถตวารานมตฺถํ สงฺคณฺหนฺโต อาห ‘‘สนฺถเตนา’’ติอาทิ. ตตฺถ สนฺถเตนาติ จมฺมโจฬติปุปฏฺฏาทีหิ ปฏิจฺฉาทิเตน. ‘‘ปเวเสนฺโต’’ติ อิมินา สนฺถตวารสฺส ปโรปกฺกมํ นิสฺสาย ทสฺสนมุปลกฺขณนฺติ อตฺตูปกฺกเมปิ โยเชตพฺพตํ ทสฺเสติ, ตสฺส วกฺขมาเนน ‘‘ปราชิโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ปเวเสนฺโตติอาทิปฺปการํ ปรามสติ.
เอวํ ปเวเสนฺโต กทา ปราชิโต โหตีติ อาห ‘‘อุปาทินฺเนนา’’ติอาทิ. เอตฺถ อุปาทินฺเนนาติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อุเปเตน กมฺมุนา อตฺตโน ผลภาเวเนว อาทินฺนํ คหิตนฺติ อุปาทินฺนํ, เอเตน อตฺตโน องฺคชาตสฺส, วตฺถุปุคฺคลานํ มคฺคสฺส จ ฆฏฺฏนฏฺานคตํ กายปฺปสาทํ ทสฺเสติ. อิมินาว องฺคชาตคตํ อนฏฺกายปฺปสาทํ จมฺมขิลํ, ปิฬกาทิ จ คเหตพฺพํ. ‘‘อุปาทินฺนกํ นาม กายินฺทฺริย’’นฺติ คณฺิปเท วุตฺตํ. ตพฺพิปริยาเยน ‘‘อนุปาทินฺนก’’นฺติ ตปฺปฏิจฺฉาทกํ โจฬาทิ วุตฺตํ. อุปาทินฺเนน อุปาทินฺเน, อนุปาทินฺเน วา ปาราชิกกฺเขตฺเต ฆฏฺฏิเต, อนุปาทินฺนเกน ¶ วา อุปาทินฺเน อนุปาทินฺเน วา ปาราชิกกฺเขตฺเต ¶ ฆฏฺฏิเตติ โยชนา. เอตฺถ จ กรณวจนนฺตานิ ปทานิ ‘‘องฺคชาเตนา’’ติ อิมสฺส วิเสสนานิ.
เอตฺตาวตา สนฺถตจตุกฺกวเสน อตฺตูปกฺกเม สติ ปาราชิกกฺเขตฺเต ปาราชิกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปรูปกฺกเมปิ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. เอตฺถาติ เอเตสุ จตูสุ วิกปฺเปสุ. ปาราชิกกฺเขตฺเต ปวิฏฺเ ตูติ เอตฺถ ตุ-สทฺเทน ปเวสนฏฺิตุทฺธารกฺขณตฺตยํ สมุจฺจิโนติ. ยํตํ-สทฺทานํ นิจฺจสมฺพนฺธตฺตา หิ ‘‘โส’’ติ ตํ-สทฺโทปาทาเน ‘‘โย’’ติ ยํ-สทฺโทปิ อชฺฌาหริตพฺโพ, สามตฺถิเยน สมฺปิณฺฑนตฺโถ อปิสทฺโท จ. อยเมตฺถ อตฺถโยชนา – ภิกฺขุปจฺจตฺถิเกหิ อาเนตฺวา ภิกฺขุโน องฺคชาเต อภินิสีทาปิตมนุสฺสิตฺถิอาทีนํ ตีสุ มคฺเคสุ อฺตรมคฺคสงฺขาตํ ปาราชิกกฺเขตฺตํ ปวิฏฺเ วา ตุ-สทฺเทน สมฺปิณฺฑิตปเวสนฏฺิตุทฺธารานมฺตรกฺขเณ วา สเจ โย สาทิยติ, สปฺปมุขาทิปฺปเวสนกาเล วิย อนุตฺตสิตฺวา กามราคปิปาสาภิภูโต ยทิ สาทิยติ, โสปิ ภิกฺขุ ปราชิโต โหตีติ โยชนา. ‘‘สเจ สาทิยตี’’ติ อิมินา สาสงฺกวจเนน น สาทิยติ, อนาปตฺตีติ สูจิตํ โหติ.
‘‘ปาราชิกกฺเขตฺเต’’ติ อิมินา พฺยวจฺฉินฺเน อฺสฺมึ าเน วีติกฺกมนฺตสฺส อิมสฺมึเยว วิกปฺเป สมฺภวนฺติโย อิตราปตฺติโย ทสฺเสตุมาห ‘‘เขตฺเต’’ติอาทิ. ‘‘เอตฺถา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธนียํ. ‘‘เขตฺเต’’ติ สามฺนิทฺเทเสปิ เหฏฺา ‘‘ปาราชิกกฺเขตฺเต’’ติ วิเสสิตตฺตา, อุปริถุลฺลจฺจยาทีนฺจ วิธียมานตฺตา อฺถานุปปตฺติลกฺขณาย สามตฺถิยา ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานํ เขตฺเตติ อยมตฺโถ ลพฺภติ. ‘‘กณฺณจฺฉิทฺทกฺขินาสาสู’’ติอาทินา นเยน วกฺขมาเนสุ ชีวมานกสรีรคตถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺเตสูติ วุตฺตํ โหติ.
อิเมสุ ¶ ทฺวีสุ เขตฺเตสุ ‘‘สนฺถตาทินา สนฺถตาทึ ปเวเสนฺตสฺส อุปาทินฺนาทีหิ อุปาทินฺนาทีนํ ฆฏฺฏเน อธิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ วตฺตุมสกฺกุเณยฺยตาย ปาราชิกกฺเขตฺเต วุตฺตสพฺพวิกปฺเป เอตฺถ โยเชนฺเตหิ เอวํ โยเชตพฺพํ – ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต สนฺถเต วา อสนฺถเต วา สนฺถเตน วา อสนฺถเตน วา องฺคชาเตน เสวนฺตสฺส อุปาทินฺเน วา อนุปาทินฺเน วา อุปาทินฺเนน, ตถา อนุปาทินฺเนน วา ฆฏฺฏิเต ถุลฺลจฺจยํ ตสฺส วินิทฺทิเสติ. เอวํ ทุกฺกฏกฺเขตฺเต สนฺถเต วา…เป… ฆฏฺฏิเต ทุกฺกฏฺจ ตสฺส วินิทฺทิเสติ โยเชตพฺพํ.
อิห ¶ สพฺพตฺถ ตีสุปิ เขตฺเตสุ อุปาทินฺน-สทฺเทน อนฏฺกายปฺปสาทํ องฺคชาตฺจ ตตฺถชาตจมฺมขิลปิฬกา จ คยฺหนฺติ, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ปน องฺคุลิอาทิอิตราวยวาปิ. ตีสุปิ เขตฺเตสุ อนุปาทินฺน-สทฺเทน องฺคชาตาทิปฏิจฺฉาทิตวตฺถาทโย จ คยฺหนฺติ, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ปน นิมิตฺเต นฏฺกายปฺปสาทจมฺมขิลปิฬกโรมาทีนิ. อิมานิ จ อนุปาทินฺนานิ. องฺคชาเตตโรปาทินฺนาวยเว จ ตีสุปิ เขตฺเตสุ ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.
๑๑. เอตฺตาวตา ชีวมานสรีเร สนฺถตาสนฺถตวเสน ปจฺเจกํ ติวิเธสุปิ ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺเตสุ สนฺถตาสนฺถตวเสเนว ทุวิเธน นิมิตฺเตน เสวนฺตสฺส ปโรปกฺกเม สติ สาทิยนฺตสฺส ลพฺภมานปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏาปตฺติโย ยถาสมฺภวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘มตสรีเร ปน ตถา ตถา เสวนฺตานํ โทโส นตฺถี’’ติ ปาปภิกฺขูนํ เลโสกาสปฏิพาหนตฺถํ ปาฬิยํ ทสฺสิเตสุ ยถาวุตฺเตสุ ตีสุ เขตฺเตสุ ลพฺภมานา ติสฺโส อาปตฺติโย ทสฺเสตุมาห ‘‘มเต’’ติอาทิ.
ตตฺถ ¶ ‘‘มเต’’ติ เอตสฺส ‘‘มนุสฺสิตฺถิอาทีนํ สรีเร’’ติ อชฺฌาหริตฺวา อตฺถโยชนา กาตพฺพา. อิมินา ‘‘อกฺขายิเต’’ติอาทินา ทสฺสิตานํ นิมิตฺตานํ นิสฺสยํ ทสฺสิตํ โหติ. ‘‘นิมิตฺตมตฺตํ เสเสตฺวา’’ติอาทินา นเยน วกฺขมานคาถายํ วิย สกลสรีเร ขาทิเตปิ นิมิตฺตสฺส วิชฺชมานาวิชฺชมานภาโวเยว อาปตฺติยาภาวาภาวสฺส ปมาณนฺติ ‘‘อกฺขายิเต’’ติ เอเตน ‘‘มเต’’ติ เอตํ อวิเสเสตฺวา ‘‘นิมิตฺเต’’ติ อชฺฌาหริตฺวา ตํ เตน วิเสสิตพฺพํ. อถ วา ‘‘นิมิตฺตมตฺต’’นฺติอาทินา วกฺขมานคาถาย ‘‘นิมิตฺเต’’ติ ปทํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ.
อกฺขายิเตติ สพฺพถา อกฺขายิเต ปาราชิกวตฺถุภูเต นิมิตฺเต. เยภุยฺยกฺขายิเตปิ จาติ กิฺจิ กิฺจิ ขาทิตฺวา พหุกาวสิฏฺเ นิมิตฺเต. ‘‘ยสฺส จตูสุ ภาเคสุ ติภาคมตฺตํ ขาทิตํ, ตํ นิมิตฺตํ เยภุยฺยกฺขายิตํ นามา’’ติ วทนฺติ. เมถุนนฺติ ราคปริยุฏฺาเนน สทิสภาวาปตฺติยา มิถุนานํ อิทํ เมถุนํ, มติตฺถิอาทีนํ ราคปริยุฏฺาเนน สทิสตฺตาภาเวปิ ตตฺถ วีติกฺกโม รุฬฺหิยา ‘‘เมถุน’’นฺติ วุจฺจติ.
ปาราชิโกติปราชิโต, ปราชยมาปนฺโนติ อตฺโถ. อยฺหิ ปาราชิก-สทฺโท สิกฺขาปทาปตฺติปุคฺคเลสุ วตฺตติ. ตตฺถ ‘‘อฏฺานเมตํ อานนฺท อนวกาโส, ยํ ตถาคโต วชฺชีนํ ¶ วา วชฺชิปุตฺตกานํ วา การณา สาวกานํ ปาราชิกํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ สมูหเนยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๓) เอวํ สิกฺขาปเท วตฺตมาโน เวทิตพฺโพ. ‘‘อาปตฺติ ตฺวํ ภิกฺขุ อาปนฺโน ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. ๖๗) อาปตฺติยา. ‘‘น มยํ ปาราชิกา, โย อวหโฏ, โส ปาราชิโก’’ติ (ปารา. ๑๕๕) เอวํ ปุคฺคเล. ‘‘ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสยฺยา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๓๘๔) ปน ธมฺเม วตฺตตีติ วทนฺติ. ยสฺมา ปน ¶ ตตฺถ ธมฺโมติ กตฺถจิ อาปตฺติ, กตฺถจิ สิกฺขาปทเมว อธิปฺเปตํ, ตสฺมา โส วิสุํ น วตฺตพฺโพ.
ตตฺถ สิกฺขาปทํ โย ตํ อติกฺกมติ ตํ ปราเชติ, ตสฺมา ‘‘ปาราชิก’’นฺติ วุจฺจติ. อาปตฺติ ปน โย นํ อชฺฌาปชฺชติ ตํ ปราเชติ, ตสฺมา ‘‘ปาราชิกา’’ติ วุจฺจติ. ปุคฺคโล ยสฺมา ปราชิโต ปราชยมาปนฺโน, ตสฺมา ‘‘ปาราชิโก’’ติ วุจฺจติ. สิกฺขาปทาปตฺตีสุ ปาราชิก-สทฺโท ปราเชตีติ ‘‘ปาราชิโก’’ติ กตฺตุสาธโน, ปุคฺคเล ปน ปราชียตีติ กมฺมสาธโนติ เวทิตพฺโพ. ‘‘นโร’’ติ อิมินา ปุพฺเพ วุตฺตภิกฺขุเยว อธิปฺเปโต. สามฺโชตนา วิเสเส อวติฏฺตีติ.
๑๒. เยภุยฺยกฺขายิเตติ จตูสุ โกฏฺาเสสุ เอกโกฏฺาสาวเสสํ กตฺวา ขาทิเต. อุปฑฺฒกฺขายิเตติ สมภาคาวเสสํ ขาทิเต. ถูโล อจฺจโย ถุลฺลจฺจโย, โสเยว อาปชฺชียตีติ อาปตฺตีติ ถุลฺลจฺจยาปตฺติ. ปาจิตฺติยาทโย สนฺธาเยตฺถ ถุลฺลจฺจยโวหาโร, น ปาราชิกสงฺฆาทิเสเสติ ทฏฺพฺพํ. เสเสติ อวเสเส อุปกจฺฉกาทีสุ. วุตฺตฺหิ อฏฺกถายํ ‘‘อวเสสสรีเร อุปกจฺฉกาทีสุ ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๙-๖๐). ทุฏฺุ กตนฺติ ทุกฺกฏํ, ทุกฺกฏ-สทฺโท นิยตนปุํสกตฺตา อิตฺถิลิงฺคสฺสาปิ อาปตฺติ-สทฺทสฺส สลิงฺเคน วิเสสนํ โหติ.
๑๓. นิมิตฺตมตฺตํ เสเสตฺวา ขายิเตปีติ เอตฺถ ติณฺณมฺตรํ นิมิตฺตํ เสเสตฺวา สกลสรีเร ขาทิเตปิ. ปิ-สทฺโท พฺยติเรเก, ปเคว อิตเรติ ทีเปติ. ตสฺมึ นิมิตฺเต อกฺขายิเต วา เยภุยฺยกฺขายิเต วาติ ทฺวิธา วุตฺเตสุ ตีสุ นิมิตฺเตสุ อฺตรสฺมึ นิมิตฺเต เมถุนํ เสวโตปิ ปราชโย ปาราชิกาปตฺติ โหตีติ อธิปฺปาโย ¶ . เสวโตปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท อเปกฺขายํ. ตสฺมา น เกวลํ เหฏฺา วุตฺตานเมวาติ อเปกฺขติ. สนฺถตาทโย วิกปฺปา ยถาวุตฺตนเยน เอตฺถาปิ โยเชตพฺพา.
๑๔. ‘‘อุทฺธุมาตาทิสมฺปตฺเต’’ติ ¶ เอตฺถ ‘‘ยทา ปน สรีรํ อุทฺธุมาตกํ โหติ กุถิตํ นีลมกฺขิกาสมากิณฺณํ กิมิกุลสมากุลํ นวหิ วณมุเขหิ ปคฺฆริตปุพฺพกุณปภาเวน อุปคนฺตุมฺปิ อสกฺกุเณยฺยํ, ตทา ปาราชิกวตฺถฺุจ ถุลฺลจฺจยวตฺถฺุจ ชหติ, ตาทิเส สรีเร ยตฺถ กตฺถจิ อุปกฺกมโต ทุกฺกฏเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๙-๖๐) อฏฺกถาวจนโต สพฺพตฺถาปิ จาติ อกฺขายิตาทิสพฺพวิกปฺโปปคตานิ ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺตานิ คหิตานีติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถาปิ วีติกฺกโม อนาปตฺติ น โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘ขายิตกฺขายิต’’นฺติอาทีสุ ขายิตกฺขายิตฺจ นาเมตํ สพฺพํ มตสรีรเกเยว เวทิตพฺพํ, น ชีวมาเนติ โยเชตพฺพํ.
๑๕. ชีวมาเน กถนฺติ อาห ‘‘ฉินฺทิตฺวา ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ วณสงฺเขปโตติ วณสงฺคหโต. ตสฺมินฺติ ยตฺถ ิตํ นิมิตฺตํ อุปฺปาฏิตํ, ตสฺมึ ปเทเส. เอตฺถ ทุติโย ปน-สทฺโท อิธ อทสฺสิตํ อฏฺกถายํ อาคตนเยน วิฺายมานํ อตฺถวิเสสํ โชเตติ. อฏฺกถายหิ ‘‘ยทิปิ นิมิตฺตํ สพฺพโส ขายิตํ, ฉวิจมฺมมฺปิ นตฺถิ, นิมิตฺตสณฺานํ ปฺายติ, ปเวสนํ ชายติ, ปาราชิกเมวา’’ติ เอวํ อชีวมาเน วุตฺตวินิจฺฉยานุสาเรน ชีวมาเนปิ ฉวิจมฺมมตฺตํ เจ สพฺพโส อุปฺปาฏิตํ, นิมิตฺตสณฺานํ ปฺายติ, ปเวสนกฺขมํ โหติ, ตตฺถ เสวนฺตสฺส ปาราชิกเมวาติ วิฺายมานมตฺถํ โชเตตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๖. ตโต ¶ นิมิตฺตโตติ สมฺพนฺโธ. ปติตายาติ ปติตายํ, อยเมว วา ปาโ. นิมิตฺตโตติ นิมิตฺตปฺปเทสโต ปติตายํ มํสเปสิยนฺติ สมฺพนฺโธ. ฉินฺทิตฺวา วา ตจฺเฉตฺวา วา ปติตายํ ตสฺสํ นิมิตฺตมํสเปสิยนฺติ อตฺโถ. เมถุนราเคน อุปกฺกมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วินิทฺทิเสติ โยชนา.
๑๗. ‘‘นขปิฏฺิปฺปมาเณปี’’ติอาทิคาถาย ‘‘ฉินฺทิตฺวา’’ติอาทิกา อฏฺกถา อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพา. สตีติ เอตฺถ ‘‘อวสิฏฺเ’’ติ ปาเสโส. ชีวมาเนติ เอตฺถ ‘‘สรีเร’’ติ ปาเสโส. ชีวมานสรีเร ปน ฉินฺทิตฺวา ตจฺเฉตฺวา นิมิตฺเต อุปฺปาฏิเต นขปิฏฺิปฺปมาเณปิ มํเส, นฺหารุมฺหิ วา อวสิฏฺเ สติ เมถุนํ ปฏิเสวนฺโต ปราชิโตติ โยชนา.
๑๘. ‘‘กณฺณจฺฉิทฺทกฺขี’’ติ คาถาย ‘‘ชีวมาเน’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, ‘‘สรีเร’’ติ ¶ ปาเสโส. ‘‘อสฺสโคมหิสาทีน’’นฺติอาทินา อสฺสาทีนํ วกฺขมานตฺตา ปาริเสสโต ‘‘มนุสฺสาน’’นฺติ ลพฺภติ. มนุสฺสานํ ชีวมานสรีเร กณฺณ…เป… วเณสุ วาติ โยชนา. วตฺถิโกเสติ มุตฺตปถพฺภนฺตเร. วเณสุ วาติ สตฺถกาทีหิ กตวเณสุ. องฺคชาตนฺติ ติลมตฺตมฺปิ องฺคชาเตกเทสํ. ราคาติ เมถุนราเคน.
๑๙. อวเสสสรีรสฺมินฺติ กณฺณจฺฉิทฺทาทิยถาวุตฺตสรีราวยววชฺชิตสรีรปฺปเทเส. เตนาห ‘‘อุปกจฺฉูรุกาทิสู’’ติ อุปกจฺฉํ นาม พาหุมูลนฺตรํ. อูรุกาทิสูติ อูรุเวมชฺฌาทีสุ. อาทิ-สทฺเทน วุตฺตาวเสสํ สรีรปฺปเทสํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘องฺคชาต’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘ปเวเสตฺวา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, องฺคชาตํ ติลพีชมตฺตํ ปเวเสตฺวาติ ¶ วุตฺตํ โหติ. วสา เมถุนราคสฺส เสวมานสฺสาติ เมถุนราเคน วีติกฺกมนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘สนฺถเตนา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาโร เอตฺถาปิ โยเชตพฺโพ.
๒๐. อสฺสโคมหิสาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน โคกณฺณควชาทโย สงฺคหิตา. อสฺสาทโย ปากฏาเยว. ‘‘มตาน’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ชีวมานาน’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. เสวนฺติ ‘‘วสา เมถุนราคสฺสา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา เมถุนราควเสน ติลพีชมตฺตมฺปิ องฺคชาตปฺปเทสํ ปเวเสนฺโต ถุลฺลจฺจยํ ผุเสติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘โอฏฺคทฺรภทนฺตีนํ, อสฺสโคมหิสาทิน’’นฺติ ปาเน ภวิตพฺพํ. เอวฺหิ สติ อฏฺกถาวสาเน นิทฺทิฏฺเน ปการตฺถวาจินา อาทิ-สทฺเทน ถุลฺลจฺจยวีติกฺกมารหนาสาวตฺถิโกสวนฺโต อวุตฺตา สพฺเพปิ สตฺตา คยฺหนฺติ. ‘‘อสฺสโคมหิสาทีน’’นฺติ ปมปาทาวสาเน นิทฺทิฏฺเน อาทิ-สทฺเทน โอฏฺคทฺรภทนฺตีนมฺปิ สงฺคโห โหตีติ เตสํ ปุนวจนํ นิรตฺถกํ สิยาติ.
๒๑. ตถา เสวมานสฺส ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. สพฺพติรจฺฉานนฺติ ติริยํ อฺจนฺติ วฑฺฒนฺตีติ ติรจฺฉา, สพฺเพ จ เต ติรจฺฉาจาติ สพฺพติรจฺฉา, เตสํ สพฺพติรจฺฉานํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วสา เมถุนราคสฺสา’’ติอาทีนํ ปรามฏฺตฺตา สพฺพติรจฺฉานานํ อกฺขิอาทีสุ ติลพีชมตฺตมฺปิ องฺคชาตปฺปเทสํ เมถุนราเคน ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถาปิ สนฺถตาทิวิกปฺเป นิทฺโทสภาโว น สกฺกา วตฺตุนฺติ ตมฺปิ โยเชตพฺพํ.
๒๒. เอวํ ติรจฺฉานานํ ชีวมานกสรีเร ลพฺภมานา อาปตฺติโย ทสฺเสตฺวา เตสํเยว มตสรีเรปิ ¶ สมฺภวนกอาปตฺติโย ทสฺเสตุมาห ‘‘เตส’’นฺติอาทิ. ‘‘เตส’’นฺติ ¶ อิมินา มนุสฺสติรจฺฉานคตานํ คหณนฺติ วทนฺติ. มนุสฺสานํ มตามตสรีเร ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺเตสุ ติสฺสนฺนํ อาปตฺตีนํ ทสฺสิตตฺตา, ปุน คหเณ ปโยชนาภาวา เต วชฺเชตฺวา อนุวตฺตมานสพฺพติรจฺฉานนฺติ อิมินา โยเชตพฺพํ, เตสํ สพฺพติรจฺฉานคตานนฺติ อตฺโถ. อลฺลสรีเรสูติ อุทฺธุมาตกาทิภาวมสมฺปตฺเตสุ อลฺลมตสรีเรสุ ติวิเธ เขตฺตสฺมึ อสนฺถเต, สนฺถเต วา สติ เมถุนราคสฺส วสา เสวโต ติวิธาปิ อาปตฺติ สิยาติ อนุวตฺตมานปเทหิ สห โยชนา.
ติวิเธ เขตฺตสฺมินฺติ มตมนุสฺสสรีเร วุตฺตนเยน อกฺขายิตเยภุยฺยกฺขายิตเภเท มคฺคตฺตยสงฺขาเต ปาราชิกกฺเขตฺเต จ เยภุยฺยกฺขายิตอุปฑฺฒกฺขายิตเภเท ตสฺมึเยว มคฺคตฺตยสงฺขาเต จ, อกฺขายิตเยภุยฺยกฺขายิตเภเท กณฺณจฺฉิทฺทกฺขินาสาวตฺถิโกสวณสงฺขาเต จ ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต อุปฑฺฒกฺขายิตเยภุยฺยกฺขายิตเภเท ตสฺมึเยว กณฺณจฺฉิทฺทกฺขินาสาวตฺถิโกสวณสงฺขาเต จ, อกฺขายิตเยภุยฺยกฺขายิตอุปฑฺฒกฺขายิต เยภุยฺยกฺขายิตเภเท อวเสสสรีรสงฺขาเต ทุกฺกฏกฺเขตฺเต จาติ ติวิเธปิ เขตฺเต. สตีติ วิชฺชมาเน. สนฺถเต วา อสนฺถเต วา เมถุนราคสฺส วสา เสวโต ยถารหํ ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏสงฺขาตา ติวิธา อาปตฺติ ภเวยฺยาติ อตฺโถ.
เอเตสเมว จ อุทฺธุมาตาทิภาวํ สมฺปตฺเต สรีเร สนฺถตาทิวุตฺตวิกปฺปยุตฺเตสุ ตีสุ มคฺเคสุ ยตฺถ กตฺถจิ เมถุนราเคน เสวโต อาปชฺชิตพฺพทุกฺกฏฺจ อุทฺธุมาตาทิสมฺปตฺเต สพฺพตฺถาปิ จ ทุกฺกฏนฺติ มนุสฺสสรีเร วุตฺตนเยน วิฺาตุํ สกฺกาติ อิมสฺมึ ติรจฺฉานคตสรีเร วิเสสมตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตสํ อลฺลสรีเรสู’’ติอาทีนํ วุตฺตตฺตา ทุกฺกฏํ ปุพฺเพ ¶ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กุถิตกุณเป ปน ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว สพฺพตฺถ ทุกฺกฏ’’นฺติ.
๒๓. พหิ ฉุปนฺตสฺสาติ โยชนา. นิมิตฺตํ มุตฺตกรณํ. ‘‘อิตฺถิยา’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ จตุตฺถคาถาย ‘‘ติรจฺฉานคติตฺถิยา’’ติ วกฺขมานตฺตา ปาริเสสโต อิมินา มนุสฺสามนุสฺสิตฺถีนเมว คหณํ, อิมินา อมนุสฺสิตฺถิยาปิ คหณสฺส. อิมิสฺสานนฺตรคาถาย อิโต ‘‘อิตฺถิยา’’ติ อนุวตฺติเต ตตฺราปิ อมนุสฺสิตฺถิยาปิ คหณํ สิยาติ ตมฺปิ วชฺเชตฺวา กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสสฺส วตฺถุภูตํ มนุสฺสิตฺถิเมว ทสฺเสตุํ ตตฺถ วุตฺตํ ‘‘อิตฺถิยา’’ติอธิกวจนเมว าปกนฺติ เวทิตพฺพํ.
มหาอฏฺกถายํ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๙-๖๐) ‘‘อิตฺถินิมิตฺตํ เมถุนราเคน มุเขน ฉุปติ, ถุลฺลจฺจย’’นฺติ สามฺเน วุตฺตตฺตา จ ธมฺมกฺขนฺธเก ‘‘น จ ภิกฺขเว รตฺตจิตฺเตน องฺคชาตํ ฉุปิตพฺพํ, โย ฉุเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๒) สามฺวจนโต จ อุทฺธุมาตาทิภาวมสมฺปตฺตาย อลฺลมตมนุสฺสิตฺถิยา จ อกฺขายิเต วา เยภุยฺยกฺขายิเต วา นิมิตฺเต สติ ปาราชิกวตฺถุภาวโต ตตฺถาปิ พหิ ฉุปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ อยมตฺโถปิ มตามตวิเสสํ อกตฺวา ‘‘อิตฺถิยา’’ติ อิมินาว สามฺวจเนน คเหตพฺโพ.
๒๔. นิมิตฺเตนาติ อตฺตโน องฺคชาเตน. มุเขนาติ ปกติมุเขน. นิมิตฺตํ อิตฺถิยาติ ชีวมานกมนุสฺสิตฺถิยา องฺคชาตํ. ยสฺมา ปน กายสํสคฺคสิกฺขาปทวินีตวตฺถูสุ มติตฺถิวตฺถุมฺหิ มติตฺถิยา สรีเร กายสํสคฺคราเคน โย ฉุปติ, ตสฺส ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาปตฺติ ¶ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๘๑) วุตฺตตฺตา มตมนุสฺสิตฺถี น คเหตพฺพา. ตเถว ยกฺขิวตฺถุมฺหิ กายสํสคฺคราเคน ยกฺขินิยา สรีรํ เยน ผุฏฺํ, ตสฺส ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา, อิเธว อุปริ ทุติยสงฺฆาทิเสเส ‘‘ปณฺฑเก ยกฺขิเปตีสุ, ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา’’ติ (วิ. วิ. ๓๔๑) วกฺขมานตฺตา จ อมนุสฺสิตฺถีปิ น คเหตพฺพา. เตน วุตฺตํ ‘‘ชีวมานกมนุสฺสิตฺถิยา องฺคชาต’’นฺติ. อนฺโต ปเวเสตุกามตาย สติ กายสํสคฺคราคาสมฺภวโต ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติ อิมินา จ พหิ ฉุปิตุกามตา วิฺายตีติ ‘‘พหี’’ติ อนุวตฺตนํ วินาปิ ตทตฺโถ ลพฺภติ. ครุกนฺติ สงฺฆาทิเสโส.
๒๕. ตเถว พหิ ฉุปนฺตสฺสาติ โยชนา, อนฺโต อปฺปเวเสตฺวา พหิเยว ฉุปนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. อุภยราเคนาติ กายสํสคฺคราเคน, เมถุนราเคน วา. ปุริสสฺสาปีติ ชีวมานกปุริสสฺสปิ. ปิ-สทฺโท น เกวลํ วุตฺตนเยน อิตฺถิยา นิมิตฺตํ ผุสนฺตสฺเสว อาปตฺติ, อถ โข ปุริสสฺสาปีติ ทีเปติ. ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ มุตฺตกรณเมว วุจฺจติ. ‘‘ชีวมานกปุริสสฺสา’’ติ อยํ วิเสโส กุโต ลพฺภตีติ เจ? ‘‘กายสํสคฺคราเคน วา เมถุนราเคน วา ชีวมานกปุริสสฺส วตฺถิโกสํ อปฺปเวเสนฺโต นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฉุปติ, ทุกฺกฏ’’นฺติ อิโต อฏฺกถาวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๙-๖๐) ลพฺภติ.
๒๖. อจิรวติตรนฺตานํ คุนฺนํ ปิฏฺึ อภิรุหนฺตา ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เมถุนราเคน องฺคชาเตน ¶ องฺคชาตํ ฉุปึสูติ อิมสฺมึ วตฺถุมฺหิ ‘‘น จ ภิกฺขเว รตฺตจิตฺเตน องฺคชาตํ ฉุปิตพฺพํ, โย ฉุเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๒) อาคตนยํ ทสฺเสตุมาห ¶ ‘‘นิมิตฺเตนา’’ติอาทิ. เอตฺถาปิ ‘‘ตถา’’ติ อิมสฺสานุวตฺตนโต ‘‘พหี’’ติ ลพฺภติ. อตฺตโน นิมิตฺเตน ติรจฺฉานคติตฺถิยา นิมิตฺตํ เมถุนราคโต พหิ ฉุปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา.
๒๗. ‘‘เมถุนราคโต’’ติ อิมินา พฺยวจฺฉินฺนมตฺถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติอาทิ. เอตฺถาปิ ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติวจนสามตฺถิยา พหิ ฉุปนํ เวทิตพฺพํ. นิมิตฺตสฺสาติ ปสฺสาวมคฺคสฺส. ฉุปเนติ ผุสเน.
๒๘. ตมาวฏฺฏกเตติ เอตฺถ ‘‘ตํ อาวฏฺฏกเต’’ติ ปทจฺเฉโท. อาวฏฺฏกเตติ วิวเฏ. ‘‘มุเข’’ติ สมฺพนฺธิสทฺทตฺตา, อฺสฺส สมฺพนฺธิโน จ อนิทฺทิฏฺตฺตา สุตานุโลมิกานํ สุตสมฺพนฺธสฺเสว พลวตฺตา จ ปุริมานนฺตรคาถาย ‘‘ติรจฺฉานคติตฺถิยา มุเข’’ติ กิฺจาปิ สุตสฺเสว สมฺพนฺโธ วิฺายติ, ตถาปิ อิมาย คาถาย วินีตวตฺถุมฺหิ (ปารา. ๗๓) ‘‘อฺตโร ภิกฺขุ สิวถิกํ คนฺตฺวา ฉินฺนสีสํ ปสฺสิตฺวา วฏฺฏกเต มุเข อจฺฉุปนฺตํ องฺคชาตํ ปเวเสสี’’ติ ทสฺสิตฉินฺนสีสวตฺถุสฺส สงฺคหิตตฺตา มนุสฺสมุขเมว คเหตพฺพํ สิยา. ติรจฺฉานคตานํ, ปน อมนุสฺสานฺจ มุเข ตถา ปเวโส นิทฺโทโสติ วตฺตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา ตตฺถาปิ อิทเมว อุปลกฺขณนฺติ ปาราชิกปฺปโหนกานํ สพฺเพสํ มุเขติ ทฏฺพฺพํ. ตํ องฺคชาตํ. ตตฺถ อาวฏฺฏกเต ปาราชิกปฺปโหนกานํ มุเข อากาสคตํ กตฺวา กตฺถจิ อผุสาเปตฺวา นีหรนฺตสฺส อุกฺขิปนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อถ วา ติรจฺฉานานํ อาวฏฺฏกเต มุเขติ โยเชตฺวา ตทฺสงฺคโห อุปลกฺขณวเสน กาตพฺโพ.
๒๙. ตถาติ ¶ ‘‘อากาสคตํ กตฺวา’’ติ ยถาวุตฺตปฺปการํ ปรามสติ. จตูหิ ปสฺเสหีติ สหตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘ปสฺเสหี’’ติ สมฺพนฺธิสทฺทตฺตา ‘‘นิมิตฺตสฺสา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ‘‘อิตฺถิยา’’ติ สามฺสทฺทตฺตา ‘‘สพฺพสฺสา’’ติ ปาเสโส. ชาติวาจกตฺตา เอกวจนํ. ‘‘จตูหิ ปสฺเสหิ, เหฏฺิมตฺตล’’นฺติ จ อิเมสํ สมฺพนฺธิปทสฺส อนิทฺเทเสปิ เมถุนปาราชิกาธิการตฺตา จ สนฺถตจตุกฺกสฺส อฏฺกถาวสาเน อิมาย คาถาย สงฺคหิตสฺส อิมสฺส วินิจฺฉยสฺส ปริโยสาเน ‘‘ยถา จ อิตฺถินิมิตฺเต วุตฺตํ, เอวํ สพฺพตฺถ ลกฺขณํ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๖๑-๖๒) นิมิตฺตวินิจฺฉยสฺสาติเทสสฺส ¶ กตตฺตา จ สามตฺถิเยน ‘‘นิมิตฺตสฺสา’’ติ ลพฺภติ. อิทเมว ‘‘ปเวเสตฺวา’’ติ เอตสฺส อาธารวเสน คเหตพฺพํ. ‘‘องฺคชาต’’นฺติ อนุวตฺตติ.
เอวํ วากฺยํ ปูเรตฺวา ‘‘ยถา อาวฏฺฏกเต มุเข องฺคชาตํ ปเวเสตฺวา ตมากาสคตํ กตฺวา นีหรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ตถา สพฺพสฺสา อิตฺถิยา นิมิตฺเต ปสฺสาวมคฺคสงฺขาเต องฺคชาตํ ปเวเสตฺวา ตสฺส จตูหิ ปสฺเสหิ สห เหฏฺิมตฺตลํ จตฺตาโร ปสฺเส, เหฏฺิมตฺตลฺจ อจฺฉุปนฺตํ อากาสคตํ กตฺวา นีหรนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ โยเชตฺวา อตฺโถ วตฺตพฺโพ.
๓๐. อุปฺปาฏิโตฏฺมํเสสูติ อุปฺปาฏิตํ โอฏฺมํสํ เยสนฺติ วิคฺคโห. เตสุ ทนฺเตสุ. พหินิกฺขนฺตเกสุ วาติ ปกติยา โอฏฺมํสโต พหิ นิกฺขมิตฺวา ิเตสุ วา ทนฺเตสุ. วายมนฺตสฺสาติ องฺคชาเตน ฉุปนฺตสฺส.
๓๑. อฏฺิสงฺฆฏฺฏนํ กตฺวาติ นิมิตฺตมํสสนฺนิสฺสยานิ อฏฺีนิ สงฺฆฏฺเฏตฺวา. มคฺเคติ อฏฺิสงฺฆาตมเย มคฺเค. ทุวิธราคโตติ ¶ เมถุนราเคน วา กายสํสคฺคราเคน วา. วายมนฺตสฺสาติ องฺคชาตํ ปเวเสตฺวา จาเรนฺตสฺส.
๓๒. อาลิงฺคนฺตสฺสาติ ปริสฺสชนฺตสฺส. หตฺถคาหาทีสุ หตฺโถ นาม กปฺปรโต ปฏฺาย ยาว อคฺคนขา. หตฺถสฺส, ตปฺปฏิพนฺธสฺส จ คหณํ หตฺถคฺคาโห. อวเสสสรีรสฺส, ตปฺปฏิพนฺธสฺส จ ปรามสนํ ปรามาโส. นิสฺสนฺเทเห ปน ‘‘มาตุคามสฺส สรีรสฺส วา ตปฺปฏิพนฺธสฺส วา หตฺเถน คหณํ หตฺถคฺคาโห’’ติ วุตฺตํ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ. ตสฺมา ยถาวุตฺตนยสฺเสว อฏฺกถาสุ อาคตตฺตา โสเยว สารโต ปจฺเจตพฺโพ. ปรามเสปิ ‘‘หตฺเถน สรีรสฺส, ตปฺปฏิพนฺธสฺส จ ปรามสน’’นฺติ ยํ ตตฺถ วุตฺตํ, ตมฺปิ น ยุชฺชติ. อวเสสสรีราวยเวนาปิ ปรามสโต ทุกฺกฏเมว โหตีติ. จุมฺพนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน เวณิคฺคาหาทึ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อยํ นโย’’ติ เอเตน ‘‘อิตฺถิยา เมถุนราเคน หตฺถคฺคาหาทีสุ ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมมตฺถํ อติทิสติ.
๓๓. มนุสฺสามนุสฺเสหิ อฺเสุ ติรจฺฉานคเตสุ เหฏฺิมปริจฺเฉเทน เมถุนธมฺมปาราชิกวตฺถุภูเต ¶ สตฺเต ทสฺเสตุมาห ‘‘อปเท’’ติอาทิ. ‘‘อปเท, ทฺวิปเท, จตุปฺปเท’’ติ อิเมหิ วิเสสเนหิ วิเสสิตพฺพํ ‘‘สตฺตนิกาเย’’ติ อิทํ วตฺตพฺพํ. อปเท สตฺตนิกาเย. อหโยติ ถลจเรสุ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต หตฺถิคิลนเก อชคเร อุปาทาย เหฏฺิมปริจฺเฉเทน นาคา จ. มจฺฉาติ ชลเชสุ อุปริมโกฏิยา ปฺจสตโยชนิกานิ ติมิรปิงฺคลาทิมจฺเฉ อุปาทาย เหฏฺิมนฺตโต ปาีนปาวุสาทโย มจฺฉา จ. ทฺวิปเท สตฺตนิกาเย. กโปตาติ อุปริมโกฏิยา ครุเฬ อุปาทาย เหฏฺิมนฺตโต กโปตากโปตปกฺขี จ. ปาราวตาติ เกจิ. จตุปฺปเท สตฺตนิกาเย. โคธาติ อุปริมโกฏิยา หตฺถึ ¶ อุปาทาย เหฏฺิมนฺตโต โคธา จาติ อิเม สตฺตา. เหฏฺาติ เหฏฺิมปริจฺเฉทโต. ปาราชิกสฺสวตฺถูติ เมถุนธมฺมปาราชิกสฺส วตฺถูนีติ ปาเสโส.
๓๔. เสเวตุกามตา เมถุนเสวาย ตณฺหา, ตาย เมถุนราคสงฺขาตาย สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ เสเวตุกามตาจิตฺตํ. มคฺเคติ วจฺจมคฺคาทีนํ อฺตเร มคฺเค. มคฺคสฺส อตฺตโน มุตฺตกรณสฺส ปเวสนํ. ปพฺพชฺชาย, ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส วา อนฺเต วินาเส ภโวติ อนฺติโม, ปาราชิกาปนฺโน ปุคฺคโล, ตสฺส วตฺถุ อนฺติมภาวสฺส การณตฺตา ปาราชิกาปตฺติ อนฺติมวตฺถูติ วุจฺจติ, ตเทว ปมํ จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อาทิมฺหิ เทสิตตฺตา ปมนฺติมวตฺถุ, ตสฺส ปมนฺติมวตฺถุโน, ปมปาราชิกสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
๓๕. สามนฺตา อาปตฺติสมีเป ภวํ สามนฺตํ, ปาราชิกาปตฺติยา สมีเป ปุพฺพภาเค ภวนฺติ อตฺโถ. เสสานํ ปน ติณฺณมฺปีติ อวเสสานํ อทินฺนาทานาทีนํ ติณฺณํ ปาราชิกธมฺมานํ. ถุลฺลจฺจยํ สามนฺตมิติ อุทีริตนฺติ สมฺพนฺโธ. กถมุทีริตํ? ‘‘ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๙๔) ทุติเย, ‘‘มนุสฺสํ อุทฺทิสฺส โอปาตํ ขณติ, ปติตฺวา ทุกฺขเวทนํ อุปฺปาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ, ตติเย, ‘‘ปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส, อปฺปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๑๕) จตุตฺเถ สมุทีริตํ.
เอตฺถ จ จตุตฺถปาราชิกสฺส ถุลฺลจฺจยาปตฺติยา สามนฺตาปตฺติภาโว ยสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ สมุลฺลปติ, โส ยาว น ปฏิวิชานาติ, ตาว สมุลฺลปนปจฺจยา ถุลฺลจฺจยาปตฺติสมฺภาเว, สมุลฺลปิเต ตสฺมึ สมุลฺลปิตมตฺเถ ปฏิวิชานนฺเต ปาราชิกาปตฺติสมฺภาเว จ ยุชฺชติ. โส ¶ จ ‘‘อปฺปฏิวิชานนฺตสฺส วุตฺเต ถุลฺลจฺจย’’นฺติ อิมินาว สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺพํ.
๓๖. อชานนฺตสฺส ¶ วาตูปตฺถทฺธํ องฺคชาตํ ทิสฺวา อตฺตโน รุจิยา วีติกฺกมํ กตฺวา มาตุคาเมสุ คจฺฉนฺเตสุ อชานมานสฺส, มหาวเน ทิวา นิทฺทุปคตภิกฺขุโน วิย ปเรหิ กิริยมานํ อชานนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ตเถวาติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตีติ าตพฺพ’’นฺติ อิทมากฑฺฒติ. อสฺสาทิยนฺตสฺสาติ ภิกฺขุปจฺจตฺถิเกสุ อภิภวิตฺวา วีติกฺกมํ กโรนฺเตสุ จ การาเปนฺเตสุ จ, สปฺปมุขํ ปวิฏฺกาเล วิย อุตฺตสิตฺวา อนธิวาเสนฺตสฺส จ, มหาวเน ทิวาวิหาโรปคตภิกฺขุโน วิย ปโรปกฺกมํ ตฺวาปิ กาเย อาทิตฺตอคฺคินา วิย อุตฺตสิตฺวา อนธิวาเสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อชานนฺตสฺสา’’ติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท โยเชตพฺโพ. พุทฺธสาสเน ขีรสาครสลิลนิมฺมเล สพฺพปมํ ปาตุภูตตฺตา อาทิ จ ตํ วีติกฺกมสงฺขาตํ กมฺมฺจาติ อาทิกมฺมํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ อาทิกมฺมี, เอตฺถ สุทินฺโน ภิกฺขุ, ตสฺส อาทิกมฺมิโนติ คเหตพฺโพ. อุปริปิ อิเมสํ ปทานํ อาคตาคตฏฺาเน อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิธ จ อุปริ สพฺพสิกฺขาปเทสุ จ นิทานาทิวเสน สตฺตรสวิโธ สาธารณวินิจฺฉโย ปกิณฺณเก สงฺเขปโต, อุตฺตเร วิตฺถารโต จ อาวิ ภวิสฺสติ. ตสฺมา เอตฺถ น ทสฺสิโตติ เวทิตพฺพํ.
๓๗-๓๘. วินเยติ วินยปิฏเก. อนยูปรเมติ เนติ ปาเปติ สีลสมฺปทํ สมาธิสมฺปทํ ปฺาสมฺปทฺจาติ นโย, กายวจีทฺวาเรหิ อวีติกฺกมสงฺขาโต สํวโร, ตปฺปฏิปกฺโข อสํวโร อนโย นาม, ตสฺส อุปรโม นิวตฺติ เอตฺถาติ อนยูปรโม, วินโย, ตตฺถ อนยูปรเม วินเย.
ตโต ¶ เอว ปรเม อุกฺกฏฺเ. อนยสฺส วา อุปรเม นิวตฺตเน ปรเม อุกฺกฏฺเติ คเหตพฺพํ. ปรา อุตฺตมา มา สาสนสิรี เอตฺถาติ ปรโม, วินโยติ เอวมฺปิ คเหตพฺพํ. ‘‘วินโย นาม สาสนสฺส อายู’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.มหาสงฺคีติกถา; เถรคา. อฏฺ. ๑.๒๕๑) วจนโต อุตฺตมสาสนสมฺปตฺติยุตฺเตติ อตฺโถ.
สุชนสฺสาติ โสภโณ ชโน สุชโน, สิกฺขากาโม อธิสีลสิกฺขาย โสภมาโน ปิยสีโล กุลปุตฺโต, ตสฺส นยเน นยนูปเม วินเยติ สมฺพนฺโธ. อนยูปรมตฺตา, ปรมตฺตา จ สุชนสฺส กุลปุตฺตสฺส นยเน นยนูปเม. สุขานยเนติ โลกิยโลกุตฺตรเภทํ สุขํ อาเนตีติ สุขานยนํ, ตสฺมึ. อิทฺจ ‘‘นยเน’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ.
เอตํ ¶ วิเสสนํ กิมตฺถนฺติ เจ? อุปมาภาเวน คหิตปกตินยนโต อิธ สมฺภวนฺตํ วิเสสํ ทสฺเสตุนฺติ เวทิตพฺพํ. กตโร โส วิเสโสติ เจ? ปกตินยนํ ราคโทสาทิกิเลสูปนิสฺสโย หุตฺวา ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกทุกฺขสฺส จ ปจฺจโย โหติ. อิทํ ปน วินยนยนํ อิมสฺส กุลปุตฺตสฺส เอวํ อหุตฺวา เอกํเสน โมกฺขาวหนสุขสฺเสว ปจฺจโย โหตีติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ. ยถา วินยมวิราเธตฺวา ปฏิปชฺชเนน สิชฺฌนกสีลสํวรมูลกอวิปฺปฏิสาราทิอนุปาทิเสสปรินิพฺพานาวสา- นผลสมฺปตฺติวเสน อุปฺปชฺชนกโลกิยโลกุตฺตรสุขาวหเน วินเยติ วุตฺตํ โหติ.
ปธานรโตติ เอตฺถ ‘‘อปี’’ติ ปาเสโส. ปธาเน วินยาภิโยเค รโตปิ, วินเย อชฺฌายนสวนจินฺตนาทิวเสน วายมนฺโตปีติ อตฺโถ. อถ วา ‘‘วิราโค เสฏฺโ ธมฺมาน’’นฺติ (ธ. ป. ๒๗๓; เนตฺติ. ๑๗๐; กถา. ๘๗๒) วจนโต ปธานํ นิพฺพานํ, ตสฺมึ รโตติ อตฺโถ ¶ . สารมเตติ ‘‘สาร’’นฺติ อธิมเต. อถ วา สารํ อเผคฺคุมตํ มหาวิหารวาสีนํ อาจริยมตํ เอตฺถาติ ‘‘สารมโต’’ติ วินยวินิจฺฉโย วุตฺโต, ตสฺมึ. อิธาติ อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย. รโตติ อจฺจนฺตาภิรโต. ‘‘น รโต’’ติ เอตฺถ น-การํ ‘‘รมเต’’ติ โอสานปเทน โยเชตฺวา โย ปน น รมเตติ สมฺพนฺโธ.
เถรนวมชฺฌิมภิกฺขุภิกฺขุนีนํ อนฺตเร โย ปน ปุคฺคโล นิจฺจปริวตฺตนสวนานุสฺสรณจินฺตนวเสน น รมเต น กีฬติ, โส ปุคฺคโล วินเย ปธานรโตปิ วินยปิฏเก อชฺฌยนสวนาทิวเสน ยุตฺตปยุตฺโตปิ ปฏุ โหติ กึ, น โหเตวาติ ทสฺเสติ. วินยปิฏเก ปาฏวมากงฺขนฺเตหิ ปมํ ตาเวตฺถ สกฺกจฺจํ อภิโยโค กาตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
อิมเมวตฺถํ อานิสํสปารํปริยปโยชเนน สห ทสฺเสตุมาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ. อิมนฺติ วุจฺจมานํ วินยวินิจฺฉยํ, ‘‘อเวที’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘โย’’ติ ปาเสโส. โย กุลปุตฺโต สติสมฺปชฺสทฺธาสมฺปนฺโน อิมํ วินยวินิจฺฉยํ สมฺมา อเวทิ อฺาสิ. กึ ภูตนฺติ อาห ‘‘หิตวิภาวน’’นฺติ. โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺติยา มูลสาธนตฺตา สีลมิธ หิตํ นาม, ตํ วิภาเวติ ปกาเสตีติ หิตวิภาวโนติ วิคฺคโห. ‘‘สีเล ปติฏฺาย…เป… วิชฏเย ชฏ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒; มิ. ป. ๒.๑.๙) วุตฺตตฺตา สพฺพกิเลสชฏาวิชฏนโลกุตฺตราณสฺส ปทฏฺานโสปจารสาภิฺารูปารูปอฏฺสมาธีนํ ปทฏฺานตาย สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณสมฺปทานํ ¶ มูลภูเตสุ จตุปาริสุทฺธิสีเลสุ ปธานํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ, ตปฺปกาสกตฺตา อยํ วินยวินิจฺฉโย ‘‘หิตวิภาวโน’’ติ วุตฺโต.
ภาวนนฺติ ¶ ภาวียติ ปุนปฺปุนํ เจตสิ นิเวสียตีติ ภาวโน, ภาวนีโยติ วุตฺตํ โหติ. หิตวิภาวกตฺตาเยว หิตตฺถีหิ ปุนปฺปุนํ จิตฺเต วาเสตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ, ตํ เอวํวิธํ วินยวินิจฺฉยํ. สุรสมฺภวนฺติ รสียติ อสฺสาทียตีติ รโส, สทฺทรโส อตฺถรโส กรุณาทิรโส วิมุตฺติรโส จ, โสภโณ รโส เอตสฺสาติ สุรโส, วินยวินิจฺฉโย, ตํ สุรสํ. ภวํ ภวนฺตํ, สนฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ, สุรสํ สมานํ, สุรสํ ภูตนฺติ อตฺโถ. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘สิเลโส ปสาโท สมตา มธุรตา สุขุมาลตา อตฺถพฺยตฺติ อุทารตา โอโช กนฺติ สมาธี’’ติ เอวํ วุตฺเตหิ กวิชเนหิ อสฺสาเทตพฺพสิเลสาทิทสวิธสทฺทชีวิตคุณสงฺขาตสทฺทรสสมฺปตฺตีหิ จ สภาวาขฺยานํ อุปมา รูปกํ ทีปกํ อาวุตฺตีติ เอวมาทิกฺกมนิทฺทิฏฺปฺจตึสอตฺถาลงฺกาเรสุ อนุรูปสภาวาขฺยานาทิปฺปธานอตฺถาลงฺการสงฺขาตอตฺถรสสมฺปตฺตีหิ จ ยถาสมฺภวํ ปกาสิตพฺพกรุณารสอพฺภุตรสสนฺตรสาทีหิ จ ยุตฺตตฺตา สุรสํ อิมํ วินยวินิจฺฉยนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อถ วา อิมินา ปกรเณน ปธานโต วิธียมานปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส เอกนฺเตน สมาธิสํวตฺตนิกตฺตา สมาธิสฺส จ ปฺาย ปทฏฺานตฺตา ปฺาย จ นิพฺพานปาปนโต มูลการณํ หุตฺวา กเมน นิพฺพานามตผลรสสมฺปทายกํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ ปรมสฺสาทนียรูเปน ธิติวิมุตฺติรเสน สุรสภูตนฺติ วุตฺตํ โหตีติ จ เวทิตพฺพํ. สมฺภวนฺติ เอตฺถ สํ วุจฺจติ สุขํ กายิกํ เจตสิกฺจ, ตํ ภวติ เอตสฺมาติ สมฺภโว, วินยวินิจฺฉโย, ตํ, กายจิตฺตสุขานํ มูลการณภูตํ, วุตฺตนเยน สุรสตฺตา จ ยถาวุตฺตรสสมฺปทสารมหุสฺสเวน สมฺภูตมานสิกสุขสฺส, ตํสมุฏฺานรูปนิสฺสยกายิกสุขสฺส จ ปภวภูตนฺติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา ¶ อิมสฺส วินยวินิจฺฉยสฺส สมฺมา วิฺาตพฺพตาย การณํ ทสฺสิตํ โหติ.
เอวํ นานาคุณรตนากรํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ สมฺปชานนฺโต โส กุลปุตฺโต กึ โหตีติ เจ? ปาลินา อุปาลินา สโม ภวติ. ปาลินาติ สาสนํ ปาเลตีติ ‘‘ปาโล’’ติ วินโย วุจฺจติ, วุตฺตฺหิ ‘‘วินโย นาม สาสนสฺส อายู’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.มหาสงฺคีติกถา; เถรคา. อฏฺ. ๑.๒๕๑) โส ¶ อสฺส อตฺถีติ ปาลี, ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธวเสน ติวิธสาสนสฺส ชีวิตภูตวินยปฺตฺติสงฺขาตสาสนธรตฺตา ‘‘ปาลี’’ติ ลทฺธนาเมน อุปาลินา, ‘‘เอตทคฺคํ ภิกฺขเว มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ วินยธรานํ ยทิทํ อุปาลี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙, ๒๒๘) จตุปริสมชฺเฌ นิสินฺเนน สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน มุขปทุมํ วิกาเสตฺวา ปกาสิตเอตทคฺคฏฺาเนน วิเสสโต สายนรกฺขนกภาเวน ปฏิลทฺธปาลีตินามเธยฺเยน อุปาลิมหาเถเรน สโม โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
กสฺมึ วิสเย สโม ภวตีติ เจ? สาสเน. สาสเนติ ยถาวุตฺเต ติวิเธ สาสเน, ตตฺราปิ ถาวรชงฺคมสกลวตฺถุวิตฺถาราธรมณฺฑลสทิเส ปฏิปตฺติปฏิเวธทฺวยธาเร ปริยตฺติสาสเน, ตตฺถาปิ วินยกถาธิการตฺตา ลพฺภมาเน วินยปิฏกสงฺขาตปริยตฺติสาสเนกเทเส สโม ภวตีติ อตฺโถ.
กึภูเต สาสเน? มารพลิสาสเน. มารสฺส พลิ มารพลิ, มารโคจโร, ตสฺส สาสนํ หึสกํ มารพลิสาสนํ, ตสฺมึ. ขนฺธาทีสุ ปฺจสุ มาเรสุ ปธานภูตกามราคาทิปภวกิเลสมารสฺส โคจรภาเวน พลิสงฺขาตอิตฺถิสรีราทินิสฺสยโผฏฺพฺพาทิวิสยสฺส ปริจฺจชาปนตฺถํ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ…เป… อสํวาโส’’ติอาทินา (ปารา. ๔๔) นเยน วุตฺตตฺตา ตสฺส ¶ มารพลิสฺส หึสกํ โหตีติ มารพลิสาสนนามเธยฺยวินยปฺตฺติสงฺขาตสาสเนติ อตฺโถ.
อถ วา ‘‘พฬิเสนปิ ชาเลน, หตฺเถน กุมิเนน วา’’ติ อุทกฏฺกถาย วกฺขมานตฺตา พฬิส-สทฺเทน มจฺฉมารณกณฺฏกมาห, ตํ มารสฺส พฬิสํ อสติ ขิปติ วชฺเชตีติ มารพฬิสาสนํ, ตสฺมึ, ‘‘สมนฺตปาโส มารสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา สํสารสาคเร ปริวตฺตมานกสํกิเลสทาสปุถุชฺชนสงฺขาตมจฺเฉ คณฺหิตุํ มารมหาเกวฏฺเฏน ปกฺขิตฺตพฬิสสงฺขาตอิตฺถิรูปสทฺทาทิปฺจกามคุณา- มิสาวุตกามราคาทิกิเลสมหาพฬิสํ ตทงฺคปฺปหานวีติกฺกมปฺปหานาทิวเสน ปชหนฺเต วินยปฺตฺติสงฺขาเต สาสเนติ อธิปฺปาโย.
เอตฺถ จ สารมเต อิธ อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย โย ปน น รมเต, โส ปุคฺคโล อนยูปรเม ¶ ตโต เอว ปรเม อุตฺตเม สุชนสฺส สุขานยเน นยเน นยนุปเม วินเย รโต อภิรโต ปธานรโตปิ วินเย อชฺฌายนาทีสุ โยคมาปชฺชนฺโตปิ ปฏุ โหติ ปฏุตโร โหติ กึ, น โหเตว. ตสฺมา วินเย ปาฏวตฺถินา เอตฺเถว สกฺกจฺจาภิโยโค กาตพฺโพติ สงฺเขปโต สาธิปฺปายา อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. อถ วา ปธาเน จตุพฺพิเธ สมฺมปฺปธาเน วีริเย รโต อภิรโต โย ปน นโร สารมเต อิธ อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย ยโต รมเต, อโต ตสฺมา โส อนยูปรเม สุชนสฺส สุขานยเน วินเย ปฏุ โหติ กุสโล โหตีติ โยชนาติ โน ขนฺติ.
หิตวิภาวนํ หิตปฺปกาสกํ ภาวนํ ภาวนียํ อาเสวิตพฺพํ สุรสมฺภวํ สุรสํ สมานํ สุรสํ ภูตํ สมฺภวํ สุขเหตุกํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ โย อเวทิ อฺาสิ, โส ปุคฺคโล มารพฬิสาสเน มารวิสยปฺปหานกเร, อถ วา มารพฬิสสฺส ¶ มารสฺส วตฺถุกามามิสาวุตกิเลสกามพฬิสสฺส อสเน วชฺชมาเน สาสเน ติวิเธปิ ชินสาสเน, ตตฺถาปิ ปฏิปตฺติปฏิเวธานํ ปติฏฺานภูเต ปริยตฺติสาสเน, ตตฺราปิ สกลสาสนสฺส ชีวิตสมาเน วินยปฺตฺติสงฺขาตปริยตฺติสาสเนกเทเส ปาลินา วินยปริยตฺติยํ เอตทคฺเค ปเนน สาสนปาลเน ตํมูลภาวโต ปาลสงฺขาตวินยปริยตฺติยา ปสตฺถตเรน อุปาลินา อุปาลิมหาเถเรน สโม ภวตีติ โยชนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ปมปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยปาราชิกกถาวณฺณนา
๓๙. อิทานิ ทุติยํ ปาราชิกวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาทิยนฺโต’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘เถยฺยจิตฺเตนา’’ติ ปาเสโส. โส จ ปจฺจตฺเตกวจนนฺเตหิ สพฺพปเทหิ โยเชตพฺโพ, เถยฺยจิตฺเตน อาทิยนฺโต ปราชิโตติ สมฺพนฺโธ. ปรสนฺตกํ อารามาทึ อภิยฺุชิตฺวา สามิกํ ปราเชตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโต ตทตฺถาย กเต ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ, สามิกสฺส วิมตุปฺปาทเน ถุลฺลจฺจยฺจ ¶ อาปชฺชิตฺวา ตสฺส จ อตฺตโน จ ธุรนิกฺเขเปน ปาติโมกฺขสํวรสีลสมฺปตฺติยา อทายาโท หุตฺวา ปราชิโต โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘ตถา’’ติ จ ‘‘อปี’’ติ จ ‘‘ปราชิโต’’ติ จ ‘‘เถยฺยจิตฺเตนา’’ติ อิมินา สห เอกโต กตฺวา ‘‘หรนฺโต’’ติอาทีหิ จตูหิปิ ปเทหิ โยเชตพฺพํ. เถยฺยจิตฺเตน หรนฺโตปิ ตถา ปราชิโตติ โยชนา สีสาทีหิ ปรสนฺตกํ ภณฺฑํ หรนฺโต เถยฺยจิตฺเตน ภณฺฑสฺส อามสเน ¶ ทุกฺกฏฺจ ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ อาปชฺชิตฺวา สีสโต ขนฺโธหรณาทิปโยคํ กโรนฺโตปิ ตถา ปราชิโต โหตีติ อตฺโถ.
เถยฺยจิตฺเตน อวหรนฺโตปิ ตถา ปราชิโตติ โยชนา. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – อฺเหิ สงฺโคปนาทึ สนฺธาย อตฺตนิ อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑํ ‘‘เทหิ เม ภณฺฑ’’นฺติ โจทิยมาโน ‘‘น มยา คหิต’’นฺติอาทินา มุสา วตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโตปิ ตสฺส วิมตุปฺปาทเน ถุลฺลจฺจยมาปชฺชิตฺวา ตเถว ธุรนิกฺเขเปน ปราชิโต โหตีติ. ‘‘นาหํ อคฺคเหสิ’’นฺติอาทินา อวชานิตฺวา ปฏิกฺขิปิตฺวา หรนฺโต ‘‘อวหรนฺโต’’ติ วุตฺโต.
เถยฺยจิตฺเตน อิริยาปถํ วิโกเปนฺโตปิ ตถา ปราชิโตติ โยชนา. ยํ ปน อฺเสํ ภณฺฑหรณกมนุสฺสาทีนมฺตรํ ‘‘เตน ภณฺเฑน สห คณฺหามี’’ติ ภณฺฑํ หรนฺตํ เถยฺยจิตฺเตน นิวาเรตฺวา อตฺตนา อิจฺฉิตทิสาภิมุขํ กตฺวา ตสฺส ปกติอิริยาปถํ วิโกเปนฺโตปิ ปมปาทุทฺธาเรน ถุลฺลจฺจยมาปชฺชิตฺวา ทุติยปทวาราติกฺกเมน ตเถว ปราชิโต โหตีติ อตฺโถ.
เถยฺยจิตฺเตน านา จาเวนฺโตปิ ตถา ปราชิโตติ โยชนา. ถลาทีสุ ิตํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺเตน อวหริตุกามตาย ิตฏฺานโต อปเนนฺโตปิ ทุติยปริเยสนาทีสุ อามสนาวสาเนสุ สพฺเพสุปิ ปโยเคสุ ทุกฺกฏานิ จ ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ อาปชฺชิตฺวา อุปริ วกฺขมานปฺปกาเรสุ วิย ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนนฺโต ตเถว ปราชิโต โหตีติ อตฺโถ.
เอวเมตาย คาถาย ‘‘อาทิเยยฺย หเรยฺย อวหเรยฺย อิริยาปถํ วิโกเปยฺย านาจาเวยฺย สงฺเกตํ วีตินาเมยฺยา’’ติ ¶ (ปารา. ๙๒) ปทภาชนาคเตสุ ฉสุ ปเทสุ อาโท ปฺจ ปทานิ สงฺคเหตฺวา ¶ ฉฏฺํ ปทํ กสฺมา น สงฺคหิตนฺติ เจ? อยํ คาถา น ตํปทภาชนํ ทสฺเสตุํ วุตฺตา, อถ โข เตสํ ปทานํ วินิจฺฉยํ สนฺธาย อฏฺกถาสุ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) วุตฺตปฺจวีสติอวหาเร ทสฺเสตุํ ตทวยวภูตปฺจปฺจกานิ ทสฺเสตุกาเมน วุตฺตา, ตสฺมา เอตฺถ ฉฏฺํ ปทํ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา วกฺขมาเน ตติยปฺจเก นิสฺสคฺคิยาวหารปเทน, ปฺจมปฺจเก ปริกปฺปาวหารปเทน จ สงฺคยฺหมานตฺตา เอตฺถ นาเนกภณฺฑปฺจกทฺวยํ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ ฉฏฺํ ปทํ น คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๔๐. อิมสฺมึ อทินฺนาทานปาราชิเก วตฺถุมฺหิ โอติณฺเณ กตฺตพฺพวินิจฺฉยสฺส ปฺจวีสติอวหารานํ องฺคานิ โหนฺติ, เต จ นานาภณฺฑปฺจกํ เอกภณฺฑปฺจกํ สาหตฺถิกปฺจกํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ เถยฺยาวหารปฺจกนฺติ นิทฺทิฏฺา ปฺจปฺจกเภทา, ตตฺถ อิมาย คาถาย นาเนกภณฺฑปฺจกทฺวยปฺปเภเท ทส อวหาเร สงฺคเหตฺวา อวเสสปฺจกตฺตยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ติสฺสํ คาถายํ. นาเนกภณฺฑานนฺติ นานา, เอโก จ ภณฺโฑ เยสนฺติ วิคฺคโห. สวิฺาณกอวิฺาณกภณฺฑวเสน นานาภณฺฑปฺจกฺจ สวิฺาณกภณฺฑวเสเนว เอกภณฺฑปฺจกฺจ เวทิตพฺพํ. ปฺจ ปริมาณา เยสนฺเต ปฺจกา, เตสํ. อวหาราติ อวหรณานิ, โจรกมฺมานีติ วุตฺตํ โหติ. เอเตติ อนนฺตรคาถาย ‘‘อาทิยนฺโต’’ติอาทินา นิทฺทิฏฺา อาทิยนฺตาทโย. ปฏิปตฺติสนฺตาเน วิเสสํ วินิจฺฉยํ ภาเวติ อุปฺปาเทตีติ วิภาวี, วินยธโร, เตน วิภาวินา. วิฺาตพฺพาติ ปเรสํ อารามาทิสวิฺาณกวตฺถูนิ วา ทาสมยูราทึ เกวลํ สวิฺาณกวตฺถุมตฺตํ วา อวหริตุํ กตา ยถาวุตฺตสรูปา อาทิยนาทโย านาจาวนปริโยสานา ¶ ปฺจ อวหารา ยถาวุตฺตนานาภณฺฑเอกภณฺฑวิสยา หุตฺวา ปวตฺตนฺตีติ นานาภณฺฑปฺจกํ เอกภณฺฑปฺจกนฺติ ทส อวหารา ภวนฺตีติ วินยธเรน โอติณฺณสฺส วตฺถุโน วินิจฺฉโยปการกตฺตา ตถโต าตพฺพาติ อตฺโถ.
๔๑. เอวํ ปฺจวีสติ อวหาเร ทสฺเสตุํ วตฺตพฺเพสุ ปฺจสุ ปฺจเกสุ นาเนกภณฺฑปฺจกานิ ทฺเว ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวเสสปฺจกตฺตยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สาหตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถ สาหตฺโถติ สโก หตฺโถ, เตน นิพฺพตฺโต, ตสฺส วา สมฺพนฺธีติ สาหตฺโถ, อวหาโร, โจเรน สหตฺถา กโต อวหาโรติ อตฺโถ. อาณตฺติโก เจวาติ อาณตฺติยา นิพฺพตฺโต อาณตฺติโก, อวหาโร, โจรสฺส ‘‘อิมํ นาม ภณฺฑํ คณฺหา’’ติ ยสฺส กสฺสจิ อาณาปเนน ¶ สิทฺโธ อวหาโร จ. นิสฺสคฺโคติ นิสฺสชฺชนํ นิสฺสคฺโค, อวหาโร, สุงฺกฆาตฏฺาเน, ปริกปฺปิโตกาเส วา ตฺวา ภณฺฑสฺส พหิ ปาตนนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อตฺถสาธโกติ ปาราชิกาปตฺติสงฺขาตํ อตฺถํ สาเธตีติ อตฺถสาธโก, โส อวหาโร จ ยถาณตฺติกํ อวิราเธตฺวา เอกํเสน อวหรนฺตสฺส ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อวิเสเสน วา อวหริตพฺพวตฺถุวิเสโส คหณกาโล คหณเทโส คหณากาโร จาติ เอวมาทิวิเสสานมฺตเรน วิเสเสตฺวา วา อาณาปนฺจ เอกํเสน ปาทคฺฆนกเตลปิวนกํ อุปาหนาทิกิฺจิวตฺถุํ เตลภาชนาทีสุ ปาตนาทิปฺปโยโค จาติ เอวมาทิปฺปโยโค จ กิริยาสิทฺธิยา ปุเรตรเมว ปาราชิกสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส สาธนโต อตฺถสาธโก อวหาโร จาติ วุตฺตํ โหติ.
ธุรนิกฺเขปนฺจาติ ¶ ธุรสฺส นิกฺเขปนํ ธุรนิกฺเขปนํ, ตฺจ อวหาโร, ปรสนฺตกานํ อารามาทีนํ อภิโยควิสเย จ อุปนิกฺขิตฺตสฺส ภณฺฑาทิโน วิสเย จ โจรสฺส สามิโน วิสฺสชฺชเน จ สามิโน จ, ยทา กทาจิ ยถากถฺจิ คณฺหิสฺสามีติ คหเณ นิรุสฺสาหภาวสงฺขาโต ธุรนิกฺเขปาวหาโร จาติ วุตฺตํ โหติ. อิติ อิทํ ธุรนิกฺเขปนฺจ ยถาวุตฺตปฺปการํ สาหตฺถาทิจตุกฺกฺจ ปฺจนฺนํ อวหารานํ สมูโห ปฺจกํ, สาหตฺถาทิปฺจกํ ‘‘สาหตฺถปฺจก’’นฺติ วุจฺจติ. อาทิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺพํ.
๔๒. ปุพฺพสหปโยคา จาติ เอตฺถ ‘‘ปุพฺพปโยโค สหปโยโค’’ติ ปโยค-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ‘‘อาณตฺติวเสน ปุพฺพปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ อฏฺกถาวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) ยถาณตฺติกมวิราเธตฺวา คณฺหโต ‘‘อสุกสฺส อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อาณาปนํ ปุพฺพปโยโค นาม อวหาโร. กาเยน, วาจาย วา ปยุชฺชนํ อาณาปนํ ปโยโค, อาณตฺตสฺส ภณฺฑคฺคหณโต ปุพฺพตฺตา ปุพฺโพ จ โส ปโยโค จาติ ปุพฺพปโยโค อวหาโรติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘านาจาวนวเสน สหปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ อฏฺกถาวจนสฺส อุปลกฺขณปทตฺตา านาจาวนฺจ ปรายตฺตภูมิคหเณ ขีลสงฺกมนาทิกฺจ สหปโยโค อวหาโรติ เวทิตพฺโพ.
สํวิทาหรณนฺติ พหูหิ เอกโต หุตฺวา ‘‘อิทํ นาม ภณฺฑํ อวหริสฺสามา’’ติ สํวิทหิตฺวา สพฺเพหิ, เอกโต วา สพฺเพสํ อนุมติยา เอเกน วา คนฺตฺวา ปรสนฺตกสฺส เถยฺยจิตฺเตน หรณสงฺขาโต สํวิทาวหาโร จ. สมํ เอกี หุตฺวา วิสุํ เอเกนาปิ เถยฺยจิตฺเตน ปาเท วา ปาทารเห ¶ วา คหิเต กตมนฺตนานํ สพฺเพสมฺปิ ปาราชิกํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ ¶ . สํวิทหิตฺวา มนฺเตตฺวา อวหรณํ สํวิทาหรณํ. นิรุตฺตินเยน สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ‘‘สํวิทาหรณ’’นฺติ ‘‘สํวิทาวหาโร’’ติ อิมสฺส เววจนํ. ‘‘สมฺพหุลา สํวิทหิตฺวา เอโก ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ สพฺเพสํ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๘) วจนโต เอวํ สหกตมนฺตเนสุ เอเกนาปิ เถยฺยจิตฺเตน ปาเท วา ปาทารเห วา คหิเต กตมนฺตนานํ สพฺเพสํ ปาราชิกํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
สงฺเกตกมฺมนฺติ ปุพฺพณฺหาทิกาลปริจฺเฉเทน สฺชานนํ สงฺเกโต, เตน กตํ กมฺมํ อวหรณํ สงฺเกตกมฺมํ นาม. ตํ ปน ปุเรภตฺตาทีสุ กฺจิ กาลํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อิมสฺมึ กาเล อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ วุตฺเต ตสฺมึเยว กาเล ตํเยว ยถาวุตฺตํ ภณฺฑํ อวหรติ เจ, สงฺเกตการกสฺส สงฺเกตกฺขเณเยว ปาราชิกนฺติ สงฺเขปโต เวทิตพฺพํ.
เนมิตฺตนฺติ ปรภณฺฑาวหารสฺส เหตุตฺตา อกฺขินิขณนาทิ นิมิตฺตํ นาม, เตน นิพฺพตฺตํ เนมิตฺตํ, อวหรณสงฺขาตกมฺมํ อวหาโร. ‘‘มยา อกฺขิมฺหิ นิขณิเต วา ภมุมฺหิ อุกฺขิตฺเต วา อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อาณตฺเตน ตํ นิมิตฺตํ ทิสฺวา วุตฺตเมว ภณฺฑํ วุตฺตนิยามมวิราเธตฺวา คหิตํ เจ, นิมิตฺตการกสฺส นิมิตฺตกรณกฺขเณเยว ปาราชิกํ โหติ. วุตฺตนิยามํ วิราเธตฺวา คหิตํ เจ, นิมิตฺตการโก มุจฺจติ, อวหารกสฺเสว ปาราชิกํ. ปุพฺพปโยโค อาทิ ยสฺส ตํ ปุพฺพปโยคาทิ, ปุพฺพปโยคาทิ จ ตํ ปฺจกฺจาติ วิคฺคโห.
๔๓. เถยฺยฺจ ปสยฺหฺจ ปริกปฺโป จ ปฏิจฺฉนฺโน จ กุโส จ เถยฺยปสยฺหปริกปฺปปฏิจฺฉนฺนกุสา, เต อาที อุปปทภูตา เยสํ อวหารานํ เต เถยฺย…เป… กุสาทิกา ¶ , อวหารา, อิมินา เถยฺยาวหาโร จ…เป… กุสาวหาโร จาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ เถยฺยาวหาโรติ เถโน วุจฺจติ โจโร, ตสฺส ภาโว เถยฺยํ, เอตฺถ น-การโลโป นิรุตฺตินเยน ทฏฺพฺโพ, เตน อวหรณํ เถยฺยาวหาโร, สนฺธิจฺเฉทาทิวเสน อทิสฺสมาเนน คหณฺจ กูฏมานกูฏกหาปณาทีหิ วฺเจตฺวา คหณฺจ เถยฺยาวหาโร.
ปสยฺห อภิภวิตฺวา อวหรณํ ปสยฺหาวหาโร, คามวิโลปกา วิย สามิเก อภิภวิตฺวา คหณฺจ ราชภฏาทโย วิย อภิภวิตฺวา นิพทฺธกรคฺคหเณ อธิกคฺคหณฺจ ปสยฺหาวหาโร.
วตฺถสุตฺตาทิกํ ¶ ปริจฺฉิชฺช กปฺเปตฺวา อวหรณํ ปริกปฺปาวหาโร, โส จ ภณฺโฑกาสปริกปฺปวเสน ทุวิโธ โหติ. ตตฺถ นิกฺขิตฺตภณฺฑํ อนฺธการปฺปเทสํ ปวิสิตฺวา สุตฺตาทิภณฺฑานิ ตตฺถ นิกฺขิตฺตานิ, เต เปฬาทโย คณฺหนฺตสฺส ‘‘วตฺถานิ เจ คณฺหิสฺสามิ, สุตฺตานิ เจ น คณฺหิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปริกปฺเปตฺวา อุกฺขิปนํ ภณฺฑปริกปฺปปุพฺพกตฺตา ภณฺฑปริกปฺปาวหาโร นาม. อารามปริเวณาทีนิ ปวิสิตฺวา โลภนียํ ภณฺฑํ ทิสฺวา คพฺภปาสาทตลปมุขมาฬกปาการทฺวารโกฏฺกาทึ ยํ กิฺจิ านํ ปริกปฺเปตฺวา ‘‘เอตฺถนฺตเร ทิฏฺโ เจ, โอโลเกตุํ คหิตํ วิย ทสฺสามิ, โน เจ, หริสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปตฺวา อาทาย คนฺตฺวา ปริกปฺปิตฏฺานาติกฺกโม โอกาสปริกปฺปปุพฺพกตฺตา โอกาสปริกปฺปาวหาโร นามาติ สงฺเขปโต เวทิตพฺโพ.
ติณปณฺณาทีหิ ¶ ปฏิจฺฉนฺนสฺส ภณฺฑสฺส อวหรณํ ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร, อุยฺยานาทีสุ กีฬมาเนหิ วา สงฺฆปริวิสนฺเตหิ วา มนุสฺเสหิ โอมฺุจิตฺวา ปิตํ อลงฺการาทิกํ ยํ กิฺจิ ภณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘โอณมิตฺวา คณฺหนฺเต อาสงฺกนฺตี’’ติ ตฺวา ติณปณฺณปํสุวาลุกาทีหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา สามิเกสุ ปริเยสิตฺวา อทิสฺวา สาลเยสุ คเตสุ ปจฺฉา เถยฺยจิตฺเตน คหณฺจ ตเทว ภณฺฑํ กทฺทมาทีสุ เถยฺยจิตฺเตน องฺคุฏฺาทีหิ ปีเฬตฺวา โอสีทาเปตฺวา เหฏฺาภาเคน ผุฏฺฏฺานํ อุปริภาเคน อติกฺกมนฺจ ปฏิจฺฉนฺนาวหาโรติ วุตฺตํ โหติ.
กุเสน อวหาโร กุสาวหาโร, เถยฺยจิตฺเตน กุสํ สงฺกาเมตฺวา ปรโกฏฺาสสฺส อคฺเฆน มหนฺตสฺส วา สมสมสฺส วา คหณนฺติ อตฺโถ. โย ปน ภิกฺขุ กุสปาตเนน สงฺฆสฺส จีวเรสุ ภาชิยมาเนสุ อตฺตโน โกฏฺาเสน สมํ วา อธิกํ วา อูนกํ วา อคฺเฆน ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ อฺสฺส โกฏฺาสํ อวหริตุกาโม อตฺตโน โกฏฺาเส ปติตํ กุสํ ปรโกฏฺาเส ปาเตตุกาโม อุทฺธรติ, ตงฺขเณ จ ปรสฺส โกฏฺาเส ปาติตกฺขเณ จ น ปาราชิกํ อนาปชฺชิตฺวา ปรโกฏฺาสโต ปรนามลิขิตํ กุสํ อุกฺขิเปนฺโต ตโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปนาเมติ, ปาราชิโก โหติ. ยทิ ปมํ ปรโกฏฺาสโต กุสํ อุทฺธรติ, อุทฺธฏกฺขเณ จ อตฺตโน โกฏฺาเส ปาติตกฺขเณ จ สกนามลิขิตํ กุสํ อุทฺธรณกฺขเณ จ ปาราชิกํ อนาปชฺชิตฺวา ปรโกฏฺาเส ปาตนกฺขเณ หตฺถโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุตฺเต ปาราชิโก โหติ.
ยทิ ¶ ทฺเวปิ กุเส ปฏิจฺฉาเทตฺวา สพฺเพสุ ภิกฺขูสุ สกสกโกฏฺาสํ อาทาย คเตสุ ยสฺมึ กุสํ ปฏิจฺฉาเทสิ, ตสฺส สามิเกน อาคนฺตฺวา ‘‘มยฺหํ กุโส กสฺมา น ¶ ทิสฺสตี’’ติ วุตฺเต โจโร ‘‘มยฺหมฺปิ กุโส น ทิสฺสตี’’ติ วตฺวา อตฺตโน โกฏฺาสํ ตสฺส สนฺตกํ วิย ทสฺเสตฺวา ตสฺมึ วิวทิตฺวา วา อวิวทิตฺวา วา คเหตฺวา คเต อิตรํ โกฏฺาสํ อุทฺธรติ เจ, อุทฺธฏกฺขเณเยว ปาราชิโก โหติ. ยทิ ปโร ‘‘มยฺหํ โกฏฺาสํ ตุยฺหํ น เทมิ, ตฺวํ ตุยฺหํ โกฏฺาสํ วิจินิตฺวา คณฺหาหี’’ติ วทติ, เอวํ วุตฺเต โส อตฺตโน อสฺสามิกภาวํ ชานนฺโตปิ ปรสฺส โกฏฺาสํ อุทฺธรติ, อุทฺธฏกฺขเณ ปาราชิโก โหติ. ยทิ ปโร วิวาทภีรุกตฺตา ‘‘กึ วิวาเทนา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มยฺหํ วา ปตฺตํ โหตุ ตุยฺหํ วา, วรโกฏฺาสํ ตฺวํ คณฺหาหี’’ติ วเทยฺย, ทินฺนกํ นาม คหิตํ โหตีติ ปาราชิกํ น โหตีติ. ยทิ ‘‘ตว รุจฺจนกํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺโต วิวาทภเยน อตฺตโน ปตฺตํ วรภาคํ เปตฺวา ลามกภาคํ คเหตฺวา คโต, โจโร ปจฺฉา คณฺหนฺโต วิจิตาวเสสํ นาม อคฺคเหสีติ ปาราชิโก น โหติ. เอวํ กุสาวหารวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยเมตฺถ ปฺจวีสติยา อวหาเรสุ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๔๔. เอตฺตาวตา อทินฺนาทานปาราชิกสฺส วินิจฺฉยาวยวรูเปน อุคฺคเหตพฺเพ ปฺจวีสติ อวหาเร ทสฺเสตฺวา อิทานิ อทินฺนาทานวินิจฺฉเย สมฺปตฺเต สหสา อาปตฺตึ อนาโรเปตฺวา ปมํ โอโลเกตพฺพานิ ปฺจ านานิ ทสฺเสตุํ ‘‘วตฺถุกาลคฺฆเทเส จา’’ติอาทิ อารทฺธํ.
ตตฺถ วตฺถุ นาม อวหฏภณฺฑํ. กึ วุตฺตํ โหติ? อวหารเกน ‘‘มยา อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหฏ’’นฺติ วุตฺเตปิ ตสฺส ภณฺฑสฺส สสฺสามิกอสฺสามิกภาวํ อุปปริกฺขิตฺวา สสฺสามิกํ ¶ เจ, อวหารกาเล เตสํ สาลยภาวํ วา นิราลยภาวํ วา นิยเมตฺวา สาลยกาเล เจ คหิตํ, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา มาสกํ วา อูนมาสกํ วา โหติ, ทุกฺกเฏน, อติเรกมาสกํ วา อูนปฺจมาสกํ วา โหติ, ถุลฺลจฺจเยน, ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา โหติ, ปาราชิเกน กาตพฺโพ. สามิกานํ นิราลยกาเล เจ คหิตํ, นตฺถิ ปาราชิกํ. ภณฺฑสามิเก ปน ภณฺฑํ อาหราเปนฺเต ตํ วา ภณฺฑํ ตทคฺฆนกํ วา ทาตพฺพนฺติ.
กาโล นาม อวหารกาโล. ภณฺฑํ นาเมตํ กทาจิ มหคฺฆํ โหติ, กทาจิ สมคฺฆํ. ตสฺมา ¶ อวหฏภณฺฑสฺส อคฺฆํ ปริจฺฉินฺทนฺเตหิ อวหฏกาลานุรูปํ กตฺวา ปริจฺฉินฺทนตฺถํ กาลวินิจฺฉโย กาตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
อคฺโฆ นาม อวหฏภณฺฑสฺส อคฺโฆ. เอตฺถ จ สพฺพทา ภณฺฑานํ อคฺโฆ สมานรูโป น โหติ, นวภณฺฑํ มหคฺฆํ โหติ, ปุราณํ เจ สมคฺฆํ. ตสฺมา อวหารกาเล ภณฺฑสฺส นวภาวํ วา ปุราณภาวํ วา นิยเมตฺวา อคฺโฆ ปริจฺฉินฺทิตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
เทโส จาติ ภณฺฑาวหารเทโส. เอตฺถ จ สพฺพสฺสาปิ ภณฺฑสฺส อุฏฺานเทเส สมคฺฆํ หุตฺวา อฺตฺถ มหคฺฆตฺตา อวหฏภณฺเฑ อคฺฆํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ตทนุรูปา อาปตฺติโย นิยมนฺเตหิ อคฺฆํ ปริจฺฉินฺทนตฺถาย อวหารเทสํ นิยเมตฺวา ตสฺมึ เทเส อคฺฆวเสน ตทนุรูปา อาปตฺติโย กาเรตพฺพาติ อธิปฺปาโย.
ปริโภโค นาม อวหฏภณฺเฑ อวหารโต ปุพฺเพ ปเรหิ กตปริโภโค. เอตฺถ จ ยสฺส กสฺสจิ ภณฺฑสฺส ปริโภเคน อคฺโฆ ปริหายตีติ ภณฺฑสามิกํ ปุจฺฉิตฺวา ตสฺมึ ¶ ภณฺเฑ นเวปิ เอกวารมฺปิ เยน เกนจิ ปกาเรน ปริภุตฺเต ปริหาเปตฺวา อคฺโฆ ปริจฺฉินฺทิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
เอวมาทินา นเยน เอตานิ ปฺจ านานิ อุปปริกฺขิตฺวาว วินิจฺฉโย กาตพฺโพติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปฺจปิ ตฺวา เอตานิ กตฺตพฺโพ ปณฺฑิเตน วินิจฺฉโย’’ติ.
๔๕. เอตฺตาวตา อทินฺนาทานวินิจฺฉยาวยวภูเต ปฺจวีสติ อวหาเร จ ปฺจฏฺานาวโลกนฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาคเต ปาปภิกฺขูนํ เลโสกาสปิทหนตฺถํ ปรสนฺตกํ ยํ กิฺจิ วตฺถุํ ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ เยน เกนจิ ปกาเรน คณฺหโต โมกฺขาภาวํ ทสฺเสตุกาเมน ตถาคเตน ยา ปเนตา –
ภูมฏฺฺจ ถลฏฺฺจ;
อากาสฏฺ มถาปรํ;
เวหาสฏฺโ ¶ ทกฏฺฺจ;
นาวา ยานฏฺเมว จ.
ภารา ราม วิหารฏฺํ;
เขตฺต วตฺถุฏฺเมว จ;
คามา รฺฏฺ มุทกํ;
ทนฺตโปโน วนปฺปติ.
หรณโก ปนิธิ เจว;
สุงฺกฆาตกํ ปาณกา;
อปทํ ทฺวิปทฺเจว;
จตุปฺปทํ พหุปฺปทํ.
โอจรโกณิรกฺโข จ;
สํวิทาหรณมฺปิ จ;
สงฺเกตกมฺมํ นิมิตฺต-
มิติ ตึ เสตฺถ มาติกา. –
นิกฺขิตฺตา ¶ , ตาสํ ยถากฺกมํ ปทภาชเน, ตทฏฺกถาย จ อาคตนเยน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุกาโม ปมํ ตาว ภูมฏฺเ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทุติยํ วาปี’’ติอาทิ.
ตตฺถ ทุติยํ เถยฺยจิตฺเตน ปริเยสโต ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. เอวํ สพฺพปเทสุ. อุปริ สฺชาตาหิ รุกฺขลตาหิ, อิฏฺกปาสาณาทีหิ จ สฺฉนฺนํ มหานิธึ อุทฺธริตุกาเมน ‘‘มยา เอเกเนว น สกฺกา’’ติ อตฺตโน อฺํ สหายํ ปริเยสิตุํ เถยฺยจิตฺเตน สยิตฏฺานา อุฏฺานาทีสุ สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. กุทาลํ ภูมิขณนตฺถาย ปิฏกํ วาปิ ปํสุอุทฺธรณตฺถาย ยํ กิฺจิ ภาชนํ. อิเมสุ ทฺวีสุ กุทาลสฺส เจ ทณฺโฑ นตฺถิ, ทณฺฑตฺถาย รุกฺขโต ทณฺฑํ ฉินฺทโต จ กุทาโล เจ น โหติ, กุทาลกรณตฺถาย อโยพีชํ อุทฺธรณตฺถาย อกปฺปิยปถวึ ขณนฺตสฺสปิ ปจฺฉิกรณตฺถาย ปณฺณานิ ฉินฺทโตปิ ปิฏกวายนตฺถาย วลฺลึ ฉินฺทโตปิ ¶ อุภยตฺถาปิ ปริเยสเน มุสา ภณโตปิ ทุกฺกฏฺเจว ปาจิตฺติยฺจ, อิตรปโยเคสุ ทุกฺกฏเมวาติ เวทิตพฺพํ.
คจฺฉโตติ ทุติยาทึ ปริเยสิตฺวา ลทฺธา วา อลทฺธา วา นิธิฏฺานํ คจฺฉนฺตสฺส ปเท ปเท ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘เถยฺยจิตฺโต ทุติยํ วา ปริเยสตี’’ติอาทิ ปาฬิยํ (ปารา. ๙๔) ‘‘เถยฺยจิตฺโต’’ติ วุตฺตตฺตา, อิธ ‘‘เถยฺยจิตฺเตนา’’ติ วจนโต ‘‘อิมํ นิธึ ลภิตฺวา พุทฺธปูชํ วา กริสฺสามิ, สงฺฆภตฺตํ วา กริสฺสามี’’ติ เอวมาทินา นเยน กุสลจิตฺตปฺปวตฺติยา สติ อนาปตฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ปุพฺพโยคโตติ อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยคภาวโต, ทุติยปริเยสนาทีสุ ปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
ทุกฺกฏฺจ ¶ อฏฺวิธํ โหติ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏํ สหปโยคทุกฺกฏํ อนามาสทุกฺกฏํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ าตทุกฺกฏํ ตฺติทุกฺกฏํ ปฏิสฺสวทุกฺกฏนฺติ. ตตฺถ ‘‘เถยฺยจิตฺโต ทุติยํ วา กุทาลํ วา ปิฏกํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตํ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏํ นาม. อิธ ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยํ, อิตเรสุ ปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. ‘‘ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วา ลตํ วา ฉินฺทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตํ สหปโยคทุกฺกฏํ. อิธ อทินฺนาทานสหิตปโยคตฺตา ปาจิตฺติยวตฺถุมฺหิ, อิตรตฺร จ ทุกฺกฏเมวาติ อยเมตฺถ วิเสโส. มุตฺตามณิอาทีสุ ทสสุ รตเนสุ, สาลิอาทีสุ สตฺตสุ ธฺเสุ, สพฺเพสุ จ อาวุธภณฺฑาทีสุ อามสนปจฺจยา ทุกฺกฏํ อนามาสทุกฺกฏํ. กทลินาฬิเกรปนสาทิรุกฺขฏฺเมว ผลํ อามสนฺตสฺส วุตฺตํ ทุกฺกฏํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ. อุปจรณํ อุปจิณฺณํ, ปรามสนนฺติ อตฺโถ. ทุฏฺุ อุปจิณฺณํ ทุรุปจิณฺณํ, ทุรุปจิณฺเณ ทุกฺกฏํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ. ภิกฺขาจารกาเล ปตฺเต รชสฺมึ ปติเต ปตฺตํ อปฺปฏิคฺคเหตฺวา วา อโธวิตฺวา วา ภิกฺขาปฏิคฺคหเณน ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ, วินเย ปฺตฺตํ ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ. กิฺจาปิ อวเสสทุกฺกฏานิปิ วินเย ปฺตฺตาเนว, ตถาปิ รุฬฺหิยา มยูราทิสทฺเทหิ โมราทโย วิย อิทเมว ตถา วุจฺจติ. ‘‘สุตฺวา น วทนฺติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตํ าตทุกฺกฏํ นาม. เอกาทสสุ สมนุภาสนาสุ ‘‘ตฺติยา ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตํ ตฺติทุกฺกฏํ. ‘‘ตสฺส ภิกฺขเว ภิกฺขุโน ปุริมิกา จ น ปฺายติ, ปฏิสฺสเว จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๐๗) วุตฺตํ ปฏิสฺสวทุกฺกฏํ นาม. อิเมสุ อฏฺสุ ทุกฺกเฏสุ อิธ อาปชฺชิตพฺพํ ทุกฺกฏํ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏํ นาม. เตนาห ‘‘ปุพฺพโยคโต’’ติ. คาถาพนฺธสุขตฺถํ ¶ อุปสคฺคํ อนาทิยิตฺวา ‘‘ปุพฺพปโยคโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปุพฺพโยคโต’’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
เอตฺถ ¶ จ กิฺจาปิ อิเมสุ ทุกฺกเฏสุ อสงฺคหิตานิ อุภโตวิภงฺคาคตานิ ทิวาเสยฺยาทิทุกฺกฏานิ เจว ขนฺธกาคตานิ จ พหูนิ ทุกฺกฏานิ สนฺติ, ตานิ ปเนตฺถ วินยทุกฺกเฏเยว สงฺคหิตพฺพานิ. ‘‘วินเย ปฺตฺตํ ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏ’’นฺติ หิ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๙๔) วุตฺตนฺติ. อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) ปน รโชกิณฺณทุกฺกฏสฺเสว ‘‘วินยทุกฺกฏ’’นฺติ คหณํ อุปลกฺขณมตฺตํ. อิตรถา อฏฺ ทุกฺกฏานีติ คณนาปริจฺเฉโทเยว นิรตฺถโก สิยาติ ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏาทีนมฺปิ วินยทุกฺกเฏเยว สงฺคเหตพฺพภาเวปิ กติปยานิ ทสฺเสตฺวา อิตเรสเมกโต ทสฺสนตฺถํ เตสํ วิสุํ คหณํ สุตฺตงฺคสงฺคหิตตฺเตปิ เคยฺยคาถาทีนํ อฏฺนฺนํ วิสุํ ทสฺสนํ วิยาติ เวทิตพฺพํ.
๔๖. ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วาติ ตสฺมึ จิรนิหิตนิธูปริ ชาตํ อลฺลํ สุกฺขํ กฏฺํ วา. ลตํ วาติ ตาทิสํ วลฺลึ วา. อิทํ อุปลกฺขณํ ติณาทีนํ ขุทฺทกคจฺฉานฺจ คเหตพฺพตฺตา. อุภยตฺถาปีติ อลฺเล จ สุกฺเข จาติ วุตฺตํ โหติ. อลฺลรุกฺขาทีนิ ฉินฺทโต ปาจิตฺติยํ อหุตฺวา ทุกฺกฏมตฺตสฺส ภวเน การณํ ทสฺเสติ ‘‘สหปโยคโต’’ติ. อวหาเรน สหิตปโยคตฺตา ปาจิตฺติยฏฺาเนปิ ทุกฺกฏเมวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สหปโยคโต อุภยตฺถาปิ ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺโต ปมคาถาย ทสฺสิตปุพฺพปโยคโต อิมาย ทสฺสิตสหปโยคสฺส วิเสสํ ทสฺเสติ.
๔๗. ปถวินฺติ กปฺปิยํ วา อกปฺปิยํ วา ปถวึ. อกปฺปิยปถวึ ขณโต สหปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว. พฺยูหโตติ ปํสุํ เอกโต ราสึ กโรนฺตสฺส. ‘‘วิยูหติ เอกปสฺเส ราสึ กโรตี’’ติ อฏฺกถาวจนโต อูห-อิจฺเจตสฺส ธาตุโน วิตกฺเก อุปฺปนฺนตฺเตปิ ธาตูนมเนกตฺถตฺตา วิ-อุปสคฺควเสน ¶ อิธ ราสิกรเณ วตฺตตีติ คเหตพฺพํ. ราสิภูตํ ปํสุํ กุทาเลน วา หตฺเถน วา ปจฺฉิยา วา อุทฺธรนฺตสฺส จ อปเนนฺตสฺส จ ปโยคคณนาย ทุกฺกฏํ ปํสุเมว วาติ เอตฺถ อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน วา-สทฺเทน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อามสนฺตสฺสาติ นิธิกุมฺภึ หตฺเถน ปรามสนฺตสฺส. วาติ สมุจฺจเย. ทุกฺกฏนฺติ ทุฏฺุ กตํ กิริยํ สตฺถารา วุตฺตํ วิราเธตฺวา ขลิตฺวา กตตฺตาติ ทุกฺกฏํ. วุตฺตฺเจตํ ปริวาเร (ปริ. ๓๓๙) –
‘‘ทุกฺกฏนฺติ ¶ หิ ยํ วุตฺตํ, ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;
อปรทฺธํ วิรทฺธฺจ, ขลิตํ ยฺจ ทุกฺกฏ’’นฺติ.
ทุฏฺุ วา วิรูปํ กตํ กิริยาติ ทุกฺกฏํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ปริวาเร (ปริ. ๓๓๙) –
‘‘ยํ มนุสฺโส กเร ปาปํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห;
‘ทุกฺกฏ’นฺติ ปเวเทนฺติ, เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ.
เอวํ ‘‘ตตฺถชาตก’’นฺติอาทิคาถาทฺวยาคตํ เฉทนทุกฺกฏํ ขณนทุกฺกฏํ พฺยูหนทุกฺกฏํ อุทฺธรณทุกฺกฏํ อามสนทุกฺกฏนฺติ ปฺจสุ สหปโยคทุกฺกเฏสุ ปุริมปุริมปโยเคหิ อาปนฺนา ทุกฺกฏาปตฺติโย ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ทุกฺกฏํ ปตฺวา ปฏิปสฺสมฺภนฺติ, ตํตํปโยคาวสาเน ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา โอรมติ เจ, ตํตํทุกฺกฏมตฺตํ เทเสตฺวา ปริสุทฺโธ โหติ. ธุรนิกฺเขปมกตฺวา ผนฺทาเปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ ปตฺวา อามสนทุกฺกฏํ ปฏิปสฺสมฺภตีติ มหาอฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) วุตฺตํ. ยถาปาฬิยา คยฺหมาเน ปุริมปุริมาปตฺตีนํ ปฏิปสฺสทฺธิ ‘‘ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ ¶ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยา ปฏิปสฺสมฺภนฺตี’’ติ ปาฬิยํ (ปารา. ๔๑๔, ๔๒๑, ๔๒๘, ๔๓๙) อาคตตฺตา อนุสฺสาวนาย เอว ลพฺภตีติ ทฏฺพฺพํ. อิมสฺส ปน สุตฺตสฺส อนุโลมวเสน มหาอฏฺกถายํ วุตฺตา อิมสฺมึ อทินฺนาทานสิกฺขาปเทปิ อาปตฺติปฏิปสฺสทฺธิ ปมาณนฺติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
๔๘. ‘‘ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๙๔) วุตฺตํ านาจาวเน ปาราชิกฺจ ตสฺส สามนฺตาปตฺติภูตํ ถุลฺลจฺจยฺจ านเภทวิฺาปนมุเขน วตฺตพฺพนฺติ อิทานิ ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มุเขปาส’’นฺติอาทิ. ตตฺถ มุเข กุมฺภิมุขวฏฺฏิยํ. ปาสํ ปเวเสตฺวาติ พนฺธนํ ปาสํ ปกฺขิปิตฺวา. ขาณุเกติ อโยขาณุมฺหิ, ขทิรขาณุเก วา. พทฺธกุมฺภิยา านเภโท พนฺธนานํ วสา เยฺโยติ สมฺพนฺโธ.
๔๙. อิทานิ านเภทํ ทสฺเสติ ‘‘ทฺเว’’ติอาทินา. ‘‘เอกสฺมึ ขาณุเก’’ติ อิมินา ทฺวีสุ ทิสาสุ วา ตีสุ จตูสุ วา ทิสาสุ ขาณุเก ขณิตฺวา พทฺธขาณุคณนาย สมฺภวนฺโต านเภโท ¶ อุปลกฺขิโต โหติ. วลยํ…เป… กตาย วา ทฺเว านานีติ โยชนา. วาติ สมุจฺจเย อุปลกฺขิโต โหติ.
๕๐. เอวํ านเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ านวเสน อาปชฺชิตพฺพา อาปตฺติโย ทสฺเสตุมาห ‘‘อุทฺธรนฺตสฺสา’’ติอาทิ. สงฺขลินฺติ ทามํ. ถุลฺลจฺจยนฺติ เอกสฺส สนฺติเก เทเสตพฺพาสุ อาปตฺตีสุ ถูลตฺตา, อจฺจยตฺตา จ ถุลฺลจฺจยํ นาม. วุตฺตฺเหตํ ปริวาเร –
‘‘ถุลฺลจฺจยนฺติ ¶ ยํ วุตฺตํ;
ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;
เอกสฺส มูเล โย เทเสติ;
โย จ ตํ ปฏิคณฺหติ;
อจฺจโย เตน สโม นตฺถิ;
เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ. (ปริ. ๓๓๙);
เอตฺถ จ ถูลจฺจยนฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘สมฺปราเย จ (สํ. นิ. ๑.๔๙) สุคฺคติ, ตํ โหติ กฏุกปฺผล’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๖๖) วิย ลการสฺส ทฺวิตฺตํ, สํโยเค อูการสฺส รสฺโส จ เวทิตพฺโพ. ตโต สงฺขลิกเภทโต ปรํ. านา จาเวตีติ ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนติ. เอตฺถ จ นาวฏฺกถายํ ‘‘อุทฺธํ วา อโธ วา ติริยํ วา อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๙๙) วุตฺตนเยน ‘‘ติริย’’นฺติ วุตฺตา จตสฺโส ทิสา, อุทฺธมโธ จาติ ฉฏฺานานิ. ตาสุ เอกํ ทิสํ อปนียมานาย กุมฺภิยา ตํทิสาภิมุขํ อิตรทิสายํ ิตปสฺเส โอริมทิสาย ิตปสฺเสน ผุฏฺโกาสสฺส เกสคฺคมตฺตมฺปิ อนติกฺกนฺเต ผนฺทาปนวเสน ถุลฺลจฺจยํ โหติ, อติกฺกนฺเต านา จาวิตตฺตา ปาราชิกํ โหตีติ เวทิตพฺโพ. อิมเมว สนฺธายาห ‘‘านา จาเวติ เจ จุโต’’ติ. เอเสว นโย ผนฺทนรหิตาย นิธิกุมฺภิยา านาจาวเนปิ.
๕๑. เอวํ ปมํ พนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา ปจฺฉา กุมฺภิคฺคหเณ นยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปมํ กุมฺภึ อปเนตฺวา ปจฺฉา พนฺธนาปนยเน นยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปม’’นฺติอาทิ. โส นโยติ ‘‘ปมุทฺธาเร ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยุทฺธาเร ปาราชิก’’นฺติ ตเมวตฺถมติทิสติ.
๕๒. วลยนฺติ ¶ ¶ กุมฺภิยา พทฺธสงฺขลิกาย มูเล ปเวสิตํ วลยํ. มูเล ฆํสนฺโต อิโต จิโต จ สาเรตีติ โยชนา. ฆํสนฺโตติ ผุสาเปนฺโต. อิโต จิโต จ สาเรตีติ โอรโต จ ปารโต จ สฺจาเลติ. รกฺขตีติ เอตฺถ ‘‘สีลํ ภิกฺขุ’’นฺติ ปาเสโส, ปาราชิกํ นาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ มูเล. เขคตํ กโรนฺโตวาติ สพฺพปสฺสโต มูลํ อผุสาเปตฺวา อากาสคตํ กโรนฺโตว. ปราชิโตติ านาจาวนสฺส กตตฺตา ปราชยมาปนฺโน โหติ.
๕๓. กุมฺภิมตฺถเก ชาตนฺติ โยชนา. จิรกาลํ นิหิตตฺตา มูเลหิ กุมฺภึ วินนฺธิตฺวา ิตนฺติ อตฺโถ. สมีเป ชาตํ รุกฺขํ ฉินฺทโตติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วา’’ติอาทิกาย คาถาย นิธิมตฺถเก ภูมิยํ ิตรุกฺขลตาทึ ฉินฺทนฺตสฺส อาปตฺติ วุตฺตา, อิมาย ปน คาถาย ภูมึ นิขณิตฺวา โอติณฺณกาเล นิธึ วินนฺธิตฺวา ิตมูลํ อลฺลรุกฺขํ, ขาณุกํ วา คเหตฺวา อาหาติ ปุนรุตฺติโทสาภาโว เวทิตพฺโพ. ‘‘อตตฺถช’’นฺติ อิมินา สหปโยคาภาวมาห. อิมินาว ปุริมคาถาย วุตฺตํ กฏฺลตาทีนิ นิธิสมฺพนฺธานิ เจ, ยถาวุตฺตทุกฺกฏสฺส วตฺถูนิ, สมีปานิ เจ, ปาจิตฺติยสฺเสว วตฺถูนีติ ทีเปติ.
๕๔. อิทานิ เอวํ ปริเยสิตฺวา ทิฏฺนิธิภาชนํ ิตฏฺานโต อจาเลตฺวา อนฺโติตํ ภณฺฑมตฺตํ คณฺหโต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนฺโตกุมฺภิคต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ผนฺทาเปตีติ อนฺโตจาฏิยา ปกฺขิตฺเต อตฺตโน ภาชเน ปกฺขิปิตุํ ราสิกรณาทิวเสน ผนฺทาเปติ. อปพฺยูหติ วาติ เหฏฺา ิตํ คณฺหิตุํ อุปริ ิตานิ อปเนนฺโต วิยูหติ วา. อถ วา อปพฺยูหนฺโตติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) อฏฺกถาวจนสฺส ทฺวิธา กโรนฺโตติ ¶ คณฺิปเท อตฺโถ วุตฺโตติ อตฺตโน ภาชเน ปกฺขิปิตุํ อิโต จิโต จ ราสึ กโรนฺโตติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺเถวาติ อนฺโตกุมฺภิยเมว.
๕๕. หรนฺโตติ อวหรนฺโต. มุฏฺึ ฉินฺทตีติ อตฺตโน ภาชนํ ปกฺขิปิตฺวา คณฺหิตุํ อสกฺกุเณยฺโย อนฺโตกุมฺภิมฺหิ หตฺถํ โอตาเรตฺวา กุมฺภิคตภณฺเฑน ยถา อพทฺธํ โหติ, ตถา มุฏฺิยา ปริจฺฉินฺทติ, กุมฺภิคตํ มุฏฺิยา คณฺหนฺโต กุมฺภิคเตน มุฏฺิคตํ ยถา อสมฺมิสฺสํ โหติ, ตถา ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปาทคฺฆนกํ วา อติเรกปาทคฺฆนกํ วา คณฺหาตีติ วุตฺตํ โหติ. อตฺตโน ภาชเน คตํ กตฺวา วา ฉินฺทตีติ โยชนา. อตฺตโน ภาชนคตํ กตฺวา กุมฺภิคเตน ยถา ¶ อสมฺมิสฺสํ โหติ, ตถา ปริจฺฉินฺทตีติ อตฺโถ, สเจ อตฺตโน ภาชนคตํ หุตฺวา กุมฺภิคเตน อสมฺมิสฺสํ ภณฺฑํ ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆติ, ปาราชิโกติ วุตฺตํ โหติ.
๕๖. หารํ วาติ มุตฺตาหารํ วา. ปามงฺคํ วาติ สุวณฺณมยํ, รชตมยํ วา ปามงฺคํ ทามํ. สุตฺตารุฬฺหนฺติ สุตฺเต อารุฬฺหํ สุตฺตารุฬฺหํ, สุตฺตฺจ สุตฺตารุฬฺหฺจ สุตฺตารุฬฺหนฺติ เอกเทสสรูเปกเสโส ทฏฺพฺโพ. ‘‘สุตฺเตน อาวุตสฺสาปิ สุตฺตมยสฺสาปิ เอตํ อธิวจน’’นฺติ อฏฺกถาวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) ปมมุตฺตาหารํ วินา สุวณฺณรชตปวาฬาทิมณิกํ วา สุตฺเตสุ อาวุณิตฺวา กตา นานาวลิโย เจว สุตฺตมยานิ จ ภณฺฑานิ คเหตพฺพานิ. กุมฺภิยา ิตนฺติ ปาเสโส. ผนฺทาเปตีติ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหิตุกามตาย จาเลติ. ยถาวตฺถุนฺติ วีติกฺกมานุรูปํ ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ อธิปฺปาโย. านา จาเวตีติ ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมติ ¶ . จุโตติ ปาติโมกฺขสํวรสีลา ปริหีโนติ อตฺโถ.
อปริปุณฺณาย กุมฺภิยาเอกเทสฏฺํ ภณฺฑํ ตโต ตโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ านํ อปเนตฺวา ตตฺเถว อนฺโตกุมฺภิยา อฺํ านํ เนนฺตสฺส จ ตตฺเถว อากาสคตํ กโรนฺตสฺส จ ‘‘อตฺตโน ภาชนคตํ วา กโรติ, มุฏฺึ วา ฉินฺทตี’’ติ (ปารา. ๙๔) เอเตหิ สทิสตฺตา วตฺถุมฺหิ ปาทํ อคฺฆนฺเต ปาราชิกา โหตีติ มหาอฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) อิทํ สนฺนิฏฺานํ. ภาชนตเล โกฏึ เปตฺวา กเมน สกลภาชนกุจฺฉึ เตเนว ปูเรตฺวา มุขวฏฺฏิยา เอกา โกฏิ นิกฺขิตฺตา เจ, ตถาปิตสฺส หาราทิโน สกลภาชนํ อฏฺานนฺติ โกฏึ คเหตฺวา อุชุกํ อุกฺขิปนฺตสฺส โอสานโกฏิ ภาชนตลโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อากาสคตํ กโรโต จ มุขวฏฺฏิยํ ฆํสิตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺส สกลภาชโนทรํ เขเปตฺวา มุขวฏฺฏิยา ปิตโกฏิยา ผุฏฺฏฺานํ อปราย โกฏิยา เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกามยโต จ ภาชนกุจฺฉิยา อุปฑฺฒํ วตฺถาทินา เกนจิ ปูเรตฺวา ตสฺโสปริ ปิตหาราทิสุตฺตารุฬฺหสฺส ิโตกาสเมว านนฺติ ตโต เกสคฺคมตฺตํ อปเนนฺตสฺสปิ ปาราชิกํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๕๗. สปฺปิอาทีสูติ ภาชนคเตสุ สปฺปิอาทิทฺรววตฺถูสุ ยํ กิฺจิ. ปาทปูรณนฺติ ปาทํ ปูเรตีติ ปาทปูรณํ, ปาทคฺฆนกนฺติ อตฺโถ. ปิวโต ปราชโยติ สมฺพนฺโธ. กทาติ เจ? เอเกเนว ¶ ปโยเคน ปีตมตฺเต ปาทปูรเณติ โยชนา. ‘‘มุขคตํ วินา’’ติ ปาเสโส. ตตฺถ เอเกเนว ปโยเคนาติ ธุรนิกฺเขปมกตฺวา เอกาพทฺธํ กตฺวา อากฑฺเฒตฺวา ¶ ปิวนปโยเคน. ‘‘มุขคตํ วินา’’ติ อิมินา สเจ คลคเตเนว ปาโท ปูรติ, อนฺโตคลํ ปวิฏฺเติ วุตฺตํ โหติ. มุขคเตน ปูรติ, มุขคตํ ภาชนคเตน วิโยเชตฺวา โอฏฺเสุ ปิหิเตสูติ วุตฺตํ โหติ. เวฬุนฬาทีหิ อากฑฺเฒตฺวา ปิวนฺตสฺส นาฬคเตน ปูรติ, นาฬคตํ ภาชนคเตน วิโยเชตฺวา นาฬิโกฏิยํ องฺคุลิยา ปิหิตายนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิทํ ‘‘อตฺตโน ภาชนคตํ วา กโรติ, มุฏฺึ วา ฉินฺทตี’’ติ (ปารา. ๙๔) วุตฺตนยสฺส อนุโลมวเสน มหาปจฺจริยาทีสุ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) อฏฺกถาสุ วุตฺตนเยน คเหตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
‘‘เอเกเนว ปโยเคน ปีตมตฺเต ปราชโย’’ติ อิมินา สปฺปิอาทีสุ มหคฺเฆสุ ตตฺตเกเนว ปาทปูรณฺเจ โหติ, เอกวารเมว มุเขน วา สปฺปิอาทินา วา ภาชนคเตน เอกาพทฺธภาเว ฉินฺนมตฺเตปิ อตฺตโน ภาชเน กุมฺภึ ปณาเมตฺวา ปกฺขิตฺเตน กุมฺภิคเต ฉินฺนมตฺเตปิ ปาราชิโก โหตีติ คเหตพฺพํ.
๕๘. ‘‘ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปุนปฺปุนํ ปิวนฺตสฺส น ปราชโย’’ติ อิมินา ธุรนิกฺเขปมกตฺวา ปุนปฺปุนํ ปิวโต ปราชโยติ สามตฺถิยา วุตฺตํ โหติ. ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา ปุนปฺปุนํ มุเขน คเหตฺวา วา ปุฏาทีหิ วา คเหตฺวา ปาทปูรณมตฺตํ ปิวนฺตสฺส ปราชโย โหตีติ คเหตพฺพํ.
๕๙-๖๐. สเจ ขิปติ เถยฺยจิตฺโตติ สมฺพนฺโธ. ยํ กิฺจิ ภณฺฑกนฺติ เตลปิวนารหํ ทุกูลสาฏกจมฺมขณฺฑาทิกํ ภณฺฑํ. เตลกุมฺภิยํ ปรสฺสาติ ลพฺภติ. ตํ นิกฺขิตฺตภณฺฑํ. ธุวนฺติ เอกํเสน. ตาวเท วินสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. ตาวเทติ ตสฺมึ ขเณเยว. กตรสฺมึ ขเณติ อาห ‘‘หตฺถโต มุตฺตมตฺเต’’ติ, เตลสฺส ปีตกาลํ อนาคมฺม ปุพฺพปโยคตฺตา ¶ ปมเมว โหตีติ อธิปฺปาโย. วินสฺสตีติ สีลวินาสํ ปาปุณาติ. อาวิฺเชตฺวาติ ปณาเมตฺวา. คาเฬตีติ ปคฺฆราเปติ. ‘‘สาเฬตี’’ติปิ ปนฺติ, โสเยว อตฺโถ. สาฬ สวเนติ ธาตุ. ตถาติ ‘‘เถยฺยจิตฺโต วินสฺสตี’’ติ อากฑฺฒติ, เถยฺยจิตฺเตน เอวํ กโรนฺตสฺส ปาราชิโก โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๖๑. ตนฺติ เตลสฺส โอกิรณภาวํ ตฺวา ปมเมว ตุจฺฉภาชเน เถยฺยจิตฺเตน นิกฺขิตฺตํ ปาทคฺฆนกเตลปิวนกํ ¶ ตํ วตฺถาทิภณฺฑํ. ‘‘อุทฺธรนฺโตวา’’ติ สาวธารณวจเนน ‘‘ปีตมตฺเต ปราชโย’’ติ ทสฺสิตํ มหาอฏฺกถามตํ ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ. ธํสิโตติ ‘‘สาสนกปฺปรุกฺขา ปาติโต, ปาราชิกาปนฺโนติ อธิปฺปาโย. ‘‘เถยฺยจิตฺโต’’ติ อากฑฺฒนตฺถํ ‘‘ตถา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธนียํ. อิมินา สุทฺธจิตฺเตน โคปนตฺถาย ตุจฺฉภาชเน วตฺถาทึ นิกฺขิปิตฺวา อฺเน ตํ อโนโลเกตฺวา เตเล อาสิตฺเต ปจฺฉา สุทฺธจิตฺเตเนว อุทฺธรโต น โทโสติ ทีปิตํ โหติ.
๖๒. ตตฺเถวาติ ิตฏฺาเนเยว. ภินฺทโตติ านา อจาเวตฺวา ติณชฺฌาปกสฺส วิย ภิกฺขุโน านาจาวนาธิปฺปายํ วินา ปาสาณาทินา เกนจิ ปหริตฺวา ภินฺทโต. ‘‘มนฺโตสธานุภาเวน ภินฺทโต’’ติ จ วทนฺติ. ฉฑฺเฑนฺตสฺสาติ อฉฑฺเฑตุกามสฺสาปิ สโต ปริปุณฺณเตลฆฏาทีสุ จาปลฺเลน วาลุกํ วา อุทกํ วา โอกิริตฺวา อุตฺตราเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อุทกมาติกํ ฆฏาภิมุขํ กตฺวา โอปิลาเปนฺตสฺสา’’ติ วทนฺติ. านาจาวนาธิปฺปาเย สติปิ เถยฺยจิตฺตาภาเวน ปาราชิกา น วิชฺชติ, ภณฺฑเทยฺยํ ¶ ปน โหตีติ สนฺนิฏฺานํ. ฌาเปนฺตสฺสาติ กฏฺานิ ปกฺขิปิตฺวา ฌาเปนฺตสฺส. อปริโภคํ กโรนฺตสฺสาติ อุจฺจารปสฺสาวาทิโมกิริตฺวา อปริโภคํ กโรนฺตสฺส. ทุกฺกฏนฺติ เอเตสุ ภินฺทนาทีสุ จตูสุปิ าเนสุ ปทภาชนิยํ ทุกฺกฏเมว อาคตตฺตา วุตฺตํ.
ภูมฏฺกถาวณฺณนา.
๖๓. อิทานิ ถลฏฺเ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปิต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ปตฺถริตฺวาติ อตฺถริตฺวา. เอตฺถ จ-สทฺโท อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺโถ, เตน ถเล ราสิกตธฺาทีสุ วินิจฺฉโย นิมิกุมฺภิยา วุตฺตวินิจฺฉยานุสาเรน วิฺาตุํ สกฺกาติ ตํ สรูปโต อวุตฺตํ สมุจฺจิโนติ. อตฺถรณาทิกนฺติ ปจฺจตฺถรณาทิกํ. เวเตฺวา อุทฺธรนฺตสฺสาติ กิลฺชสํหรณนิยาเมน วฏฺเฏตฺวา สํหริตฺวา อุทฺธรนฺตสฺส. มุตฺเต านาติ กเมน สํหริตฺวา ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุตฺเต สติ. ปราภโวติ สาสนโต ปริหีโน.
๖๔. เอวํ อตฺถริตฺวา ปิตวตฺถาทีนํ สํหริตฺวา คหเณ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ติริยโต อากฑฺฒเน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โอริมนฺเตนา’’ติอาทิ. ปิ, วาติ ปการนฺตรเมว สมุจฺจิโนติ. อุชุกํ กฑฺฒโตปิ วาติ อตฺถริตฺวา ปิตวตฺถาทิกํ จตูสุ ทิสาสุ เอกํ ทิสํ อุชุกมากฑฺฒโต ¶ จ ปาราชิกํ โหติ. กทาติ เจ? เอตฺถาปิ โอริมนฺเตน ผุฏฺโมกาสํ ปาริมนฺตโต อติกฺกนฺเต ปาราชิกนฺติ โยชนา. โอริมนฺเตน ผุฏฺโมกาสนฺติ คเหตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺส อตฺตโน ิตทิสาคตปริยนฺเตน ผุสิตฺวา ิตฏฺานํ. ปาริมนฺตโตติ ปาริมนฺเตน, กรณตฺเถ โต-ปจฺจโย.
ถลํ ¶ นาม ปฏิจฺฉนฺนาปฏิจฺฉนฺนภูมิปาสาทปพฺพตตลาทีนิ, ตตฺรฏฺํ ธฺาทิภณฺฑํ ถลฏฺํ นาม โหติ. ตตฺถ สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.
ถลฏฺกถาวณฺณนา.
๖๕-๖. ปริจฺเฉทาติ านปริจฺเฉทา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
๖๗-๘. เขคตนฺติ อากาสคตํ. อสฺสาติ โมรสฺส. ตนฺติ โมรํ.
๖๙. านาติ ยถาปริจฺฉินฺนา ฉพฺพิธา านา. ตสฺสาติ โมรสฺส ผนฺทาปเนติ โยชนา. ตสฺสาติ วา ภิกฺขุสฺส ถุลฺลจฺจยมุทีริตํ.
๗๐. อคฺคเหตฺวา หตฺเถน เลฑฺฑุขิปนาทิปโยเคน โมรํ ตาเสตฺวา ิตฏฺานโต อปเนติ. อตฺตโน านาติ โมรสฺส อตฺตโน ฉปฺปการฏฺานา. สยํ านาติ ภิกฺขุ สกฏฺานา, สมณภาวโตติ วุตฺตํ โหติ.
๗๑-๒. อิทานิ ‘‘านา จาเวติ เจ โมร’’นฺติ ทสฺสิตํ านาจาวนํ วิภาเวตุมาห ‘‘ผุฏฺโกาส’’นฺติอาทิ.
๗๓. กเร นิลียตีติ ปสาริตหตฺถตเล นิสีทติ.
๗๕. อุฑฺเฑตฺวาติ อากาสํ อุปฺปติตฺวา.
๗๖. องฺเค ¶ นิลีนนฺติ อํสกูฏาทิสรีราวยเว นิลีนํ. ปาเทติ อตฺตโน ปมุทฺธารปาเท. ทุติเย ปาเท.
๗๗. ปาทานนฺติ ¶ ทฺวินฺนํ ปาทานํ. กลาปสฺสาติ ภูมิยํ ผุสิยมานสฺส กลาปคฺคสฺส.
๗๘. ตโต ปถวิโตติ ตีหิ อวยเวหิ ปติฏฺิตปถวิปฺปเทสโต, น ปมโต ตตฺถ ทุกฺกฏตฺตา, น ทุติยโต ตตฺถ ถุลฺลจฺจยตฺตา, ตติยา ปน านา เกสคฺคมตฺตมฺปิ จาวยโต ปาราชิกนฺติ วุตฺตํ โหติ.
เอตฺตาวตา –
‘‘ปฺชเร ิตํ โมรํ สห ปฺชเรน อุทฺธรติ, ปาราชิกํ. ยทิ ปน ปาทํ นคฺฆติ, สพฺพตฺถ อคฺฆวเสน กตฺตพฺพํ. อนฺโตวตฺถุมฺหิ จรนฺตํ โมรํ เถยฺยจิตฺโต ปทสา พหิวตฺถุํ นีหรนฺโต ทฺวารปริจฺเฉทํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. วเช ิตพลิพทฺทสฺส หิ วโช วิย อนฺโตวตฺถุ ตสฺส านํ. หตฺเถน ปน คเหตฺวา อนฺโตวตฺถุสฺมิมฺปิ อากาสคตํ กโรนฺตสฺส ปาราชิกเมว. อนฺโตคาเม จรนฺตมฺปิ คามปริจฺเฉทํ อติกฺกาเมนฺตสฺส ปาราชิกํ. สยเมว นิกฺขมิตฺวา คามูปจาเร วา วตฺถูปจาเร วา จรนฺตํ ปน เถยฺยจิตฺโต กฏฺเน วา กถลาย วา อุตฺราเสตฺวา อฏวีภิมุขํ กโรติ, โมโร อุฑฺเฑตฺวา อนฺโตคาเม วา อนฺโตวตฺถุมฺหิ วา ฉทนปิฏฺเ วา นิลียติ, รกฺขติ. สเจ ปน อฏวีภิมุโข อุฑฺเฑติ วา คจฺฉติ วา, ‘อฏวึ ปเวเสตฺวา คเหสฺสามี’ติ ปริกปฺเป อสติ ปถวิโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อุปฺปติตมตฺเต วา ทุติยปทวาเร วา ปาราชิกํ. กสฺมา? ยสฺมา คามโต นิกฺขมนฺตสฺส ิตฏฺานเมว านํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๖) –
อฏฺกถาคโต ¶ วินิจฺฉโย อุปลกฺขิโตติ เวทิตพฺพํ. กปิฺชราทิปรสนฺตกสกุเณสุ จ เอเสว วินิจฺฉโย ทฏฺพฺโพ.
๗๙. ปตฺเตติ ทฺวาเร ภิกฺขาย ิตํ ภิกฺขุโน หตฺถคเต ปตฺเต. ตสฺส เถยฺยจิตฺตสฺส.
๘๐. อนุทฺธริตฺวาวาติ ¶ ปตฺเต ปติตํ สุวณฺณาทึ หตฺเถน อนุกฺขิปิตฺวาว ปมปทวาเร ถุลฺลจฺจยํ คมฺมมานตฺตา น วุตฺตํ.
๘๑. หตฺเถติ หตฺถตเล. วตฺเถติ จีวเร. มตฺถเกติ สิรสิ. คาถาฉนฺทวเสน วา-สทฺเท อาการสฺส รสฺสตฺตํ. ปติฏฺิตนฺติ ปติตํ. ตนฺติ ฉิชฺชมานํ ตํ สุวณฺณขณฺฑาทิ. ยทิ อากาเส คจฺฉนฺตํ, ปตนฺตํ วา หตฺเถน คณฺหาติ. คหิตหตฺเถ ิตฏฺานเมว านํ, ตโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนนฺตสฺส ปาราชิกํ. ตถา คเหตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คจฺฉโต ทุติยปาทุทฺธาเร. วตฺถาทีสุ ปติเตปิ เอเสว นโย.
อากาสฏฺกถาวณฺณนา.
๘๒. มฺจปีาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มฺจปีสทิเส เวหาสภูเต อฏฺฏวิตานาทโย สงฺคณฺหาติ. อามาสมฺปีติ หตฺเถน วา กาเยน วา อามสิตพฺพํ วตฺถาทิฺจ. อนามาสมฺปีติ ตถา อปรามสิตพฺพํ สุวณฺณาทึ. อามสนฺตสฺสาติ หตฺถาทีหิ ปรามสนฺตสฺส. ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ านาจาวเน ปาราชิกฺจ เหฏฺา ถลฏฺเ วุตฺตนเยน วิฺาตุํ สกฺกาติ อติทิสติ. านปริจฺเฉโท ปน มฺจาทีหิ เอว อุกฺขิปนฺตสฺส จตุนฺนํ ปาทานํ วเสน, ตตฺรฏฺเมว คณฺหนฺตสฺส มฺจสฺส จตูสุ ปาทสีเสสุ ผุสิตฺวา ¶ มชฺเฌ อผุสิตฺวา ิตสฺส ขลิมกฺขิตถทฺธสาฏกสฺส จตุนฺนํ ปาทสีสานํ วเสน, อฏนีสุ ผุสิตฺวา ิตสฺส อฏนีนํ วเสน วา เวทิตพฺโพ.
๘๓. วํเสติ จีวรวํเส, อิมินา จีวรนิกฺเขปนตฺถาย ปิตรุกฺขทณฺฑสลาการชฺชุอาทโย อุปลกฺขิตา. โอรโตติ อตฺตโน ิตทิสาภิมุขโต. โภคนฺติ สํหริตฺวา จีวรํ ตสฺส นาเมตฺวา ปิตมชฺฌฏฺานํ. อนฺตนฺติ นาเมตฺวา เอกโต กตํ, อุภยานํ วา อนฺตํ. ปารโต กตฺวาติ วํสโต ปรภาเค กตฺวา.
๘๔. จีวเรน ผุฏฺโกาโสติ จีวเรน ผุฏฺฏฺานํ. ตสฺสาติ ตถา ปิตสฺส จีวรสฺส. โส สกโล จีวรวํโส านํ น ตุ โหตีติ มโตติ สมฺพนฺโธ.
๘๕-๖. โอริมนฺเตน ¶ ผุฏฺํ วา ตํ โอกาสนฺติ สมฺพนฺโธ. จีวรโภคํ คเหตฺวา เถยฺยจิตฺเตน อตฺตโน อภิมุขํ อากฑฺฒโต อตฺตโน ิตทิสาย จีวรวํเส จีวเรน ผุสิตฺวา ิตฏฺานปริยนฺตํ อิตเรน อติกฺกามยโต จุตีติ สมฺพนฺโธ. อิตเรน ปาริมนฺเตน ภิตฺติทิสาย จีวรสฺส ผุฏฺโกาสปริยนฺตํ อิตเรน ผุฏฺํ ตํ โอกาสํ โอริมนฺเตน อติกฺกามยโต วา จุตีติ โยชนา. อิตเรนาติ ปาริมนฺเตน ภิตฺติปสฺเส จีวรวํเส ผุสิตฺวา ิตจีวรปริยนฺเตน. ผุฏฺํ จีวรวํโสกาสํ. โอริมนฺเตนาติ อตฺตโน ิตทิสาย จีวรวํเส ผุสิตฺวา ปิตจีวรปฺปเทเสน. อติกฺกามยโตติ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมนฺตสฺส.
เอวํ ทีฆนฺตากฑฺฒเน สมฺภวนฺตํ วิกปฺปํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ติริยนฺเตน อติกฺกมนวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทกฺขิณนฺเตนา’’ติอาทิ. ปุนาติ อถ วา. ทกฺขิณนฺเตน ผุฏฺฏฺานํ วามนฺเตน ¶ อติกฺกามยโต จุตีติ โยชนา. จีวรํ หริตุํ จีวราภิมุขํ ิตสฺส อตฺตโน ทกฺขิณปสฺเส จีวรโกฏิยา ผุฏฺํ จีวรฏฺิตปฺปเทสํ วามปสฺเส จีวรนฺเตน อติกฺกามยโต ปาราชิกเมวาติ อตฺโถ. วามนฺเตน ผุฏฺฏฺานํ อิตเรน อติกฺกามยโต วา จุตีติ โยชนา. วามนฺเตน ผุฏฺฏฺานนฺติ จีวราภิมุขํ ิตสฺส วามปสฺเส จีวรนฺเตน ผุฏฺํ จีวรฏฺิตปฺปเทสํ. อิตเรน ทกฺขิณปสฺเส จีวรนฺเตน อติกฺกามยโต วา จุติ ปาราชิกา โหตีติ อตฺโถ.
๘๗. วํสโตติ จีวเรน ผุสิตฺวา ิตจีวรวํสปฺปเทสโต. ‘‘เกสคฺคมตฺต’’นฺติ กตฺถจิ โปตฺถเก ลิขนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ‘‘อุกฺขิตฺเต’’ติ ภุมฺเมกวจนนฺเตน สมานาธิกรณตฺตา ปจฺจตฺเตกวจนนฺตตา น ยุชฺชตีติ. ‘‘เกสคฺคมตฺเต อุกฺขิตฺเต’’ติ กตฺถจิ ปาโ ทิสฺสติ, โส จ ปมาณํ.
๘๘. วิโมเจนฺโต ถุลฺลจฺจยํ ผุเสติ โยชนา. จีวรวํเส ผุสาเปตฺวา, อผุสาเปตฺวา วา รชฺชุยา พนฺธิตฺวา ปิตจีวรํ คณฺหิตุกาโม เถยฺยจิตฺเตน พนฺธนํ โมเจนฺโต ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. มุตฺเตติ มุตฺตมตฺเต. ปาราชิโก โหติ านา จุตภาวโตติ อธิปฺปาโย.
๘๙. เวเตฺวาติ เอตฺถ ‘‘วํสเมวา’’ติ สามตฺถิยโต ลพฺภติ. จีวรวํสํ ปลิเวเตฺวา ตตฺเถว ปิตจีวรํ นิพฺเพเนฺตสฺส ภิกฺขุโนปิ อยํ นโยติ สมฺพนฺโธ. นิพฺเพเนฺตสฺสาติ วินิเวเนฺตสฺส. อยํ นโยติ ‘‘นิพฺเพเนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, นิพฺเพิเต ปาราชิก’’นฺติ ยถาวุตฺตนยมติทิสติ ¶ . วลยํ ฉินฺทโต วาปิ อยํ นโยติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ภิกฺขุโน, วํเส, ปิตํ, จีวร’’นฺติ จ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. จีวรวํเส ปเวเสตฺวา ¶ ปิตํ จีวรวลยํ ยถา ฉินฺนมตฺเต านา จวติ, ตถา ฉินฺทนฺตสฺส ภิกฺขุโน เฉทเน ถุลฺลจฺจยํ, ฉินฺเน ปาราชิกนฺติ อตฺโถ. โมเจนฺตสฺสาปฺยยํ นโยติ เอตฺถาปิ ‘‘วลย’’นฺติ อิมินา สทฺธึ ‘‘ภิกฺขุโน’’ติอาทิปทานิ โยเชตพฺพานิ. จีวรวํเส ปิตํ จีวรํ วลยํ โมเจนฺตสฺสาปิ ถุลฺลจฺจยปาราชิกานิ ปุพฺเพ วุตฺตนยาเนว.
อิห ปุริเมน อปิ-สทฺเทน ยถาวุตฺตปการทฺวเย สมฺปิณฺฑิเต อิตเรน อปิ-สทฺเทน อวุตฺตสมฺปิณฺฑนมนฺตเรน อตฺถวิเสสาภาวโต อวุตฺตมตฺถํ สมฺปิณฺเฑติ, เตน ‘‘อากาสคตํ วา กโรติ, นีหรติ วา’’ติ ปการทฺวยํ สงฺคณฺหาติ. เตน รุกฺขมูเล ปเวเสตฺวา ปิตนิธิสงฺขลิกวลยมิว จีวรวํเส สพฺพฏฺาเนหิปิ อผุสาเปตฺวา จีวรวลยํ อากาสคตํ กโรนฺตสฺสาปิ จีวรวํสโกฏิยา พหิ นีหรนฺตสฺสาปิ ถุลฺลจฺจยปาราชิกานิ วุตฺตนเยเนว าตพฺพานีติ เอเตเยว สงฺคณฺหาติ. ‘‘วลยํ ฉินฺทโต วาปิ, โมเจนฺตสฺส วาปิ, วลยํ อากาสคตํ วา กโรติ, นีหรติ วา’’ติ อิเมสุ จตูสุ วิกปฺเปสุ เอกมฺปิ ตถา อกตฺวา จีวรวลยํ จีวรวํเส ฆํเสตฺวา อิโต จิโต จ สฺจาเรนฺตสฺส จีวรวลยสฺส สพฺโพปิ จีวรวํโส านนฺติ ‘‘านาจาวนํ นตฺถี’’ติ วุตฺตพฺยติเรกวเสน ทสฺสิตพฺพนฺติ คเหตพฺพํ.
๙๐. ปิตสฺส หีติ เอตฺถ ปสิทฺธิสูจกํ หิ-สทฺทํ อาเนตฺวา ‘‘จีวเร วิย หี’’ติ โยเชตฺวา วิเสสตฺถโชตกํ ตุ-สทฺทํ อาเนตฺวา ‘‘ปิตสฺส ตู’’ติ โยเชตพฺพํ. อถ วา นิปาตานมเนกตฺถตฺตา ยถาาเน ิตานเมว วิเสสตฺเถ หิ-สทฺโท, ปสิทฺธิยํ ตุ-สทฺโท จ โยเชตพฺโพ. วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ โยชนา. ทีฆโต วา ติริยโต วา ปสาเรตฺวา ¶ จีวรวํเส นิกฺขิตฺตสฺส จีวรสฺส วินิจฺฉโย ปน สํหริตฺวา จีวรวํเส ปิตจีวรวินิจฺฉโย วิย วุตฺโต, ‘‘โอริมนฺเตน…เป… ปาราชิกํ ภเว’’ติ คาถาตฺตเย วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพติ อตฺโถ.
๙๑. สิกฺกายาติ โอลมฺพิกาธาเร. ยํ ภณฺฑกนฺติ สมฺพนฺโธ. ปกฺขิปิตฺวาติ นิเวเสตฺวา. ลคฺคิตํ โหตีติ โอลมฺพิตํ โหติ. ‘‘สิกฺกาโต ตํ หรนฺโต วา จุโต’’ติ เอตสฺมึ วิกปฺเป ¶ สิกฺกาย ผุฏฺฏฺานวเสน านาจาวนํ เวทิตพฺพํ. ทุติยวิกปฺเป สิกฺกาย, พนฺธนฏฺานสฺส จ ภิตฺติปสฺเส ผุฏฺฏฺานํ ยทิ สิยา, ตสฺส จ วเสน านาจาวนํ เวทิตพฺพํ.
๙๒-๓. กุนฺตาทีติ อาทิ-สทฺเทน ภินฺทิวาลาทิ ทีฆวตฺถุ คเหตพฺพํ. ตฏฺฏิกาขาณุกา วิย ภิตฺติยํ ปฏิปาฏิยา นิเวสิตานิ มิคสิงฺคานิ วา สูลานิ วา นาคทนฺตา นาม. อคฺเค วาติ กุนฺตผลโกฏิยํ วา. พุนฺเท วาติ กุนฺตทนฺตมูเล วา. ปริกฑฺฒโตติ อุชุกํ อากฑฺฒโต.
ผุฏฺโกาสนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ นาคทนฺเต ผุฏฺฏฺานํ อติกฺกามยโต เกสคฺคมตฺเตน ปราชโย สิยาติ สมฺพนฺโธ, ปิตฏฺปิตฏฺานํ วิหาย เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกามยโต ปาราชิกนฺติ อตฺโถ. เกสคฺเคน อนฺตเรน เหตุนา ปราชโยติ คเหตพฺพํ, เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปนยนเหตุ ปาราชิกํ โหตีติ อตฺโถ.
๙๔-๕. เอวํ ทีฆโต อากฑฺฒเน, อุกฺขิปเน จ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ติริยํ อากฑฺฒเน, ปรโต นยเน จ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาการาภิมุโข’’ติอาทิ. อากฑฺฒตีติ อตฺตโน ¶ ิตฏฺานาภิมุขํ อาวิฺฉติ. โอริมนฺตผุฏฺโกาสนฺติ โอริมนฺเตน ผุฏฺโกาสํ, อตฺตโน ทิสาย กุนฺตทณฺเฑน ผุฏฺโกาสนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ อจฺจยนกิริยาสมฺพนฺเธ สามิวจนปฺปสงฺเค อุปโยควจนํ. ‘‘สกมฺมกธาตุปฺปโยเค อุปโยควจนสฺส มาคธิกโวหาเร ทสฺสนโต กมฺมตฺเถเยว อุปโยควจน’’นฺติ เอเก วทนฺติ, เอตํ กจฺจายนลกฺขเณน สมานํ. อิตรนฺตจฺจเยติ อิตรนฺเตน กโต อจฺจโยติ อิตรนฺตจฺจโย, มชฺเฌปทโลปสมาโส, ปาริมนฺเตน กตฺตพฺพาติกฺกเม กเตติ อตฺโถ. เกสคฺเคน จุโตติ โยชนา. ยถาวุตฺโตเยว อตฺโถ.
ปรโต เปลฺลนฺตสฺสาติ ปรโต กตฺวา เปลฺลนฺตสฺส, ภิตฺติปสฺสาภิมุขํ กตฺวา นิปฺปีเฬนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ตเถวาติ ‘‘เกสคฺเคน จุโต’’ติ อากฑฺฒติ. ปิเตปิ จ กุนฺตาทิมฺหิ อยํ นโยติ โยชนา. ‘‘เกสคฺเคนา’’ติอาทินา อยเมว วินิจฺฉยนโย วตฺตพฺโพติ อตฺโถ.
๙๖. ตาลสฺส ผลํ จาเลนฺตสฺส อสฺส ภิกฺขุโน เยน ผเลน วตฺถุ ปฺจมาสกํ ปูรติ, ตสฺมึ ผเล พนฺธนา มุตฺเต ปาราชิกํ ภเวติ โยชนา.
๙๗. ตาลสฺส ¶ ปิณฺฑึ ฉินฺทตีติ ตาลผลกณฺณิกํ ฉินฺทติ. ยาย วตฺถุ ปูรติ, ตสฺสา ฉินฺนมตฺตาย ‘‘อสฺส ปาราชิกํ สิยา’’ติ เหฏฺา วุตฺตนโย อิธาปิ โยเชตพฺโพ. ตาลปิณฺฑิ สเจ อากาสคตา โหติ, ปิณฺฑิมูลเมว านํ. ปณฺณทณฺเฑ วา ปณฺเณ วา อปสฺสาย ิตา เจ, ิตฏฺาเนหิ สห ปิณฺฑิมูลํ คเหตฺวา านเภทํ ตฺวา านาจาวเนน ปาราชิกมฺปิ ทฏฺพฺพํ. เอเสว นโยติ ‘‘เยน วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ พนฺธนา มุตฺเต อสฺส ปาราชิกํ สิยา’’ติ ยถาวุตฺโต เอว นโย. เอเตสุ สพฺเพสุ ¶ าเนสุ ปาราชิกวีติกฺกมโต ปุพฺพภาคานนฺตรปฺปโยเค ถุลฺลจฺจยฺจ สหปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏฺจ ตโตปิ ปุพฺพปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจ คมนทุติยปริเยสนาทิอวเสสปโยเคสุ อทินฺนาทานปุพฺพกตฺตา ทุกฺกฏฺจ อสมฺมุยฺหนฺเตหิ เวทิตพฺพํ.
เวหาสฏฺกถาวณฺณนา.
๙๘. อุทเก นิธิฏฺานํ คจฺฉโตติ สมฺพนฺโธ. อคมฺภีโรทเก นิธิฏฺานํ ปทวาเรน คจฺฉโต ปเท ปเท ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. คมฺภีเร ปน ตถาติ ‘‘ปทวาเรน คจฺฉโต ทุกฺกฏ’’นฺติ ยถาวุตฺตมติทิสติ. คจฺฉโตติ ตรโต, หตฺถํ อจาเลตฺวา ตรนฺตสฺส ปทวารคณนาย, หตฺเถน จ วายมนฺตสฺส ‘‘ปทวาเรนา’’ติ อิทํ อุปลกฺขณนฺติ กตฺวา หตฺถวารคณนาย ปทวารคณนาย ทุกฺกฏานิ เวทิตพฺพานิ. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘คมฺภีเร หตฺเถหิ วา ปาเทหิ วา ปโยคํ กโรนฺตสฺส หตฺถวาเรหิ วา ปทวาเรหิ วา ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๘).
อุมฺมุชฺชนาทิสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นิมุชฺชนํ สงฺคณฺหาติ. เอตฺถาปิ ‘‘ตถา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏนฺติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. นิหิตกุมฺภิยา คหณตฺถํ นิมุชฺชนุมฺมุชฺชเนสุปิ หตฺถวาเรน, ปทวาเรน, หตฺถปทวาเรหิ จ ทุกฺกฏเมวาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘เอเสว นโย กุมฺภิคหณตฺถํ นิมุชฺชนุมฺมุชฺชเนสู’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๘).
อิมิสฺสา คาถาย ‘‘นิธิฏฺานํ คจฺฉโต ทุกฺกฏ’’นฺติ วจนโต ตถา คจฺฉนฺตสฺส อุทกสปฺปจณฺฑมจฺฉทสฺสเนน ภายิตฺวา ปลายนฺตสฺส คมนสฺส อตทตฺถตฺตา อนาปตฺตีติ พฺยติเรเกน ¶ วิฺายติ. เอตฺถ ทุติยปริเยสนาทิสพฺพปโยเคสุ ปาจิตฺติยฏฺาเน ¶ ปาจิตฺติยฺจ ปาจิตฺติเยน สห ทุกฺกฏฺจ อวเสสปโยเคสุ สุทฺธทุกฺกฏฺจ สหปโยเค ภาชนามสเน อนามาสทุกฺกฏฺจ ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ านาจาวเน ปาราชิกฺจ นิธิกุมฺภิยา วุตฺตนเยน วิฺาตุํ สกฺกาติ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ านเภโท ปฺจธา โหติ, อิธ ปีเฬตฺวา โอสาเรตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา อโธทิสาย สห ฉพฺพิธํ โหตีติ อยเมเตสํ วิเสโส.
๙๙. ตตฺถ ชาตกปุปฺเผสูติ ตสฺมึ ชเล รุฬฺเหสุ อุปฺปลาทิกุสุเมสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เยน ปุปฺเผนาติ นิทฺธาริตพฺพํ. ฉินฺทโตติ เอตฺถ วตฺตมานกาลวเสน อตฺถํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ฉินฺนวโต’’ติ ภูตวเสน อตฺโถ คเหตพฺโพ. เอวํ อคฺคหิเต อนฺติมสฺส ปโยคสฺส ยาว อนุปรโม, ถุลฺลจฺจยารหตฺตา ปาราชิกวจนสฺส วตฺถุวิโรธิตาย จ อิมสฺเสว ปจฺฉิมกุสุมสฺส กนฺตนกาเล ปุปฺผนาฬปสฺเส ตจมตฺเตปิ อจฺฉินฺเน ปาราชิกํ นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกนาฬ…เป… ปริรกฺขตี’’ติ เอตฺเถว อนนฺตเร วุจฺจมานนยสฺส วิรุทฺธตฺตา จ อิมํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุํ ลิขิตสฺส ‘‘ยสฺมึ ปุปฺเผ วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ ฉินฺนมตฺเต ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๘) อฏฺกถาวจนสฺส วิรุทฺธตฺตา จ วตฺตมานกาลมคเหตฺวา ภูตกาลสฺเสว คเหตพฺพตฺตา ‘‘กทา เทวทตฺต อาคโตสี’’ติ ปฺหสฺส ‘‘เอโสหมาคจฺฉามิ, อาคจฺฉนฺตํ มา มํ วิชฺฌา’’ติ อุตฺตเร วิย วตฺตมานสมีเป วตฺตมาเนวาติ ภูเต วตฺตมานพฺยปเทสโต วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๑๐๐. ‘‘อุปฺปลชาติยา’’ติ อิมินา ‘‘ปทุมชาติยา’’ติ พฺยติเรกโต วุตฺตตฺตา ‘‘ปทุมชาติกานํ ปน ทณฺเฑ ฉินฺเน อพฺภนฺตเร สุตฺตํ อจฺฉินฺนมฺปิ รกฺขตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๘) อฏฺกถานโย สงฺคหิโตติ ¶ ทฏฺพฺพํ. เอกนาฬสฺส วา ปสฺเสติ ‘‘นาฬสฺส เอกปสฺเส’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธสุขตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตโตติ นาฬโต.
๑๐๑. ภารพทฺธกุสุเมสุ วินิจฺฉยสฺส วกฺขมานตฺตา ฉินฺทิตฺวา ปิเตสูติ อพทฺธกุสุมวเสน คเหตพฺพํ. ปุพฺเพ วุตฺตนเยนาติ ตตฺรชาตกกุสุเมสุ วุตฺตวินิจฺฉยานุสาเรน. ‘‘เยน ปุปฺเผน ปูรติ, ตสฺมึ ฉินฺนมตฺเต’’ติ อวตฺวา คหิตมตฺเต ปาราชิกนฺติ โยชนา เจตฺถ วิเสโส.
๑๐๒. ภารํ กตฺวา พทฺธานิ ภารพทฺธานีติ มชฺฌปทโลปีสมาโส. ปุปฺผานีติ ปาทคฺฆนกานิ ¶ อุปฺปลาทิกุสุมานิ. ฉสฺวากาเรสูติ อุทเก โอสีทาเปตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา อโธทิสาย สห จตสฺโส ทิสา, อุทฺธนฺติ อิมาสุ ฉสุ ทิสาสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เกนจิ อากาเรนาติ นิทฺธาเรตพฺพทสฺสนํ. านาจาวนสฺส สาธกตมตฺตา กรเณเยว กรณวจนํ. นสฺสตีติ ปาทคฺฆนกปุปฺผานํ านาจาวเนน ปาราชิกมาปชฺชิตฺวา โลกิยโลกุตฺตรานํ อนวเสสคุณานํ ปติฏฺานภูตํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ นาเสตฺวา สยํ คุณมรเณน มียตีติ อตฺโถ.
๑๐๓. ปุปฺผานํ กลาปนฺติ ปาทคฺฆนกอุปฺปลาทิกุสุมกลาปํ. อุทกํ จาเลตฺวาติ ยถา วีจิ อุฏฺาติ, ตถา จาเลตฺวา. ปุปฺผฏฺานาติ ปุปฺผานํ ิตฏฺานา. จาเวตีติ กลาปํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนติ. ‘‘ปุปฺผํ านา จาเวตี’’ติ กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ปาโ ทิสฺสติ. ปุปฺผกลาปสฺเสว คหิตตฺตา ปุริโมเยว คเหตพฺโพ.
๑๐๔. ‘‘เอตฺถ คตํ คเหสฺสามี’’ติ สห ปาเสเสน โยชนา. ปริกปฺเปตีติ ‘‘เอตฺถ คตํ คเหสฺสามี’’ติ านํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ¶ ตกฺเกติ. รกฺขตีติ านาจาวเนปิ สติ โส ปริกปฺโป ปาราชิกาปตฺติโต ตํ ภิกฺขุํ รกฺขติ. คตฏฺานาติ ปุปฺผกลาเปน คตํ สมฺปตฺตฺจ ตํ านฺจาติ วิคฺคโห. ‘‘อุทฺธรนฺโต’’ติ เอเตน ‘‘ปุปฺผานํ กลาป’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘กตฏฺานา’’ติปิ ปาโ, กตา ปุปฺผานํ านา อุทฺธรนฺโตติ สมฺพนฺโธ. อุทกํ จาเลตฺวา วีจิโย อุฏฺาเปตฺวา วีจิปฺปหาเรน อุทกปิฏฺเน ปริกปฺปิตฏฺานํ สมฺปตฺตํ ปุปฺผกลาปํ ิตฏฺานา อุทฺธรนฺโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ านา จาเวนฺโตติ อตฺโถ. ‘‘านา’’ติ อิทํ ‘‘ภฏฺโ’’ติ อิมินา สมฺพนฺธนียํ. ภฏฺโ นาม ปวุจฺจตีติ อตฺตนา สมาทาย รกฺขิยมานา ปาติโมกฺขสํวรสีลสงฺขาตสพฺพคุณรตนงฺกุราภินิพฺพตฺตฏฺานา ปติโต นาม โหตีติ ปวุจฺจติ.
๑๐๕. ชลโต อจฺจุคฺคตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ปุปฺผสฺสา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ชลปิฏฺิโต อจฺจุคฺคตสฺส ปุปฺผสฺส สกลชลํ านํ, กทฺทมปิฏฺิโต ปฏฺาย อุทกปิฏฺิปริยนฺตํ ปุปฺผทณฺเฑน ผริตฺวา ิตํ สพฺพมุทกํ านนฺติ วุตฺตํ โหติ. อุปฺปาเฏตฺวาติ ปุปฺผคฺคํ อากฑฺฒิตฺวา อุปฺปีเฬตฺวา. ตโตติ ตสฺมา ปุปฺผฏฺานภูตสกลชลราสิโต. อุชุนฺติ อุชุํ กตฺวา. อุทฺธรโตติ อุปฺปาเฏนฺตสฺส.
๑๐๖. นาฬนฺเตติ อุปฺปาฏิตปุปฺผนาฬสฺส มูลโกฏิยา. ชลโตติ อุทกปิฏฺิโต. มุตฺตมตฺเต ¶ เกสคฺคมตฺตํ ทูรํ กตฺวาติ ปาเสสโยชนา กาตพฺพา. ‘‘ชลโต’’ติ ปมตติยปาเทสุ ทฺวิกฺขตฺตุํ วจนํ อตฺถาวิเสเสปิ ปทาวุตฺติอลงฺกาเร อฑฺฒยมกวเสน วุตฺตตฺตา ปุนรุตฺติโทโส น โหตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘มุตฺตมตฺเต, อมุตฺเต’’ติ จ สมฺพนฺธิตพฺพํ, อตฺถานํ วา วิเสสโต อุภยตฺถ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมึ นาฬนฺเตติ สมฺพนฺโธ.
๑๐๗. ตสฺส ¶ นาเมตฺวา อุปฺปาฏิตสฺส. สห คจฺเฉน อุปฺปาฏิตสฺสาปิ อยเมว วินิจฺฉโย. อิธ ปน สพฺพปุปฺผปณฺณนาฬานิ มูลโต ปภุติ ปมํ ิตฏฺานโต อปนามนวเสน านาจาวนํ เวทิตพฺพํ. เอวํ ปุปฺผาทีนิ อุปฺปาเฏนฺตสฺส ภูตคามวิโกปนาปตฺติยา าเน สหปโยคทุกฺกฏํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
๑๐๘-๙. พฬิสาทิมจฺฉคฺคหโณปกรณานํ วจนโต, ชเล ิตมตมจฺฉานํ วินิจฺฉยสฺส จ วกฺขมานตฺตา มจฺเฉติ ชีวมานกมจฺฉานํ คหณํ. อุปลกฺขณวเสน วา อวุตฺตสมุจฺจยตฺถ วา-สทฺเทน วา ขิปกาทีนิ มจฺฉวโธปกรณานิ วุตฺตาเนวาติ ทฏฺพฺพํ. วตฺถูติ ปาโท. ตสฺมึ มจฺเฉ. อุทฺธโฏเยว อุทฺธฏมตฺโต, มจฺโฉ, ตสฺมึ. ชลาติ อุทกโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนตฺวา อุกฺขิตฺตมตฺเตติ วุตฺตํ โหติ.
๑๑๐. ปุปฺผานํ วิย มจฺฉานมฺปิ ิตฏฺานเมว านนฺติ อคฺคเหตฺวา สกลชลํ านํ กตฺวา กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘านํ สลิลชานํ หี’’ติอาทิ. สลิเล ชาตา สลิลชา, อิติ ปกรณโต มจฺฉาเยว วุจฺจนฺติ. อตฺถปฺปกรณสทฺทนฺตรสนฺนิธานาทีหิ สทฺทา วิเสสตฺถํ วทนฺตีติ. หีติ ปสิทฺธิยํ. เกวลนฺติ อวธารเณ, ชลเมวาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา พหิอุทกํ นิวตฺติตํ โหติ. สกลํ ชลเมว านํ ยสฺมา, ตสฺมา สลิลฏฺํ ชลา วิโมเจนฺโต ปาราชิโก โหตีติ เหตุเหตุมนฺตภาเวน โยชนา เวทิตพฺพา. อาปนฺนํ ปราเชตีติ ปาราชิกา, อาปตฺติ, สา เอตสฺส อตฺถีติ ปาราชิโก, ปุคฺคโล.
๑๑๑. นีรํ อุทกํ. วาริมฺหิ ชเล ชาโต วาริโช, อิติ ปกรณโต มจฺโฉว คยฺหติ. เอเตเนว อากาเส อุปฺปติตมจฺโฉ ¶ , โคจรตฺถาย จ ถลมุคฺคตกุมฺมาทโย อุปลกฺขิตาติ เวทิตพฺพํ. เตสํ คหเณ วินิจฺฉโย อากาสฏฺถลฏฺกถาย วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. ภณฺฑคฺเฆน วินิทฺทิเสติ ทุกฺกฏาทิวตฺถุโน ¶ ภณฺฑสฺส อคฺฆวเสน ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกาปตฺติโย วเทยฺยาติ อตฺโถ.
๑๑๒. ตฬาเกติ สรสฺมึ, อิมินา จ วาปิโปกฺขรณิโสพฺภาทิชลาสยา สงฺคยฺหนฺติ. นทิยาติ นินฺนคาย, อิมินา จ กนฺทราทโย สงฺคยฺหนฺติ. นินฺเนติ อาวาเฏ. มจฺฉวิสํ นามาติ เอตฺถ นาม-สทฺโท สฺายํ. มจฺฉวิสนามกํ มทนผลาทิกํ ทฏฺพฺพํ. คเตติ วิสปกฺขิปเก มจฺฉฆาตเก คเต.
๑๑๔. สามิเกสูติ วิสํ โยเชตฺวา คเตสุ มจฺฉสามิเกสุ. อาหรนฺเตสูติ อาหราเปนฺเตสุ. ภณฺฑเทยฺยนฺติ ภณฺฑฺจ ตํ เทยฺยฺจาติ วิคฺคโห, อตฺตนา คหิตวตฺถุํ วา ตทคฺฆนกํ วา ภณฺฑํ ทาตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๑๑๕. มจฺเฉติ มตมจฺเฉ. เสเสติ นมตมจฺเฉ.
๑๑๖. อมเตสุ คหิเตสูติ ปกรณโต ลพฺภติ, นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมํ. อนาปตฺตึ วทนฺตีติ อทินฺนาทานาปตฺติยา อนาปตฺตึ วทนฺติ, มารณปฺปตฺติยา ปาจิตฺติยํ โหเตว. อยฺจ วินิจฺฉโย อรกฺขิตอโคปิเตสุ อสฺสามิกตฬากาทีสุ เวทิตพฺโพ.
อุทกฏฺกถาวณฺณนา.
๑๑๗. นาวนฺติ เอตฺถ ‘‘นาวา นาม ยาย ตรตี’’ติ (ปารา. ๙๙) วจนโต ชลตารณารหํ อนฺตมโส เอกมฺปิ วหนฺตํ รชนโทณิเวณุกลาปาทิกํ ¶ เวทิตพฺพํ. นาวฏฺํ นาม ภณฺฑํ ยํ กิฺจิ อินฺทฺริยพทฺธํ วา อนินฺทฺริยพทฺธํ วา. ‘‘เถเนตฺวา คณฺหิสฺสามี’’ติ อิมินา ‘‘เถยฺยจิตฺตสฺสา’’ติ อิมมตฺถํ วิฺาเปติ. ปาทุทฺธาเรติ ทุติยปริเยสนาทิอตฺถํ คจฺฉนฺตสฺส ปเท ปเท. โทสาติ ทุกฺกฏาปตฺติโย. วุตฺตาติ ‘‘นาวฏฺํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามี’ติ เถยฺยจิตฺโต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๙๙) ปทภาชนิยํ ภควตา วุตฺตา, อิมินา ปุพฺพปโยคสหปโยคทุกฺกฏานิ, ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยํ, านาจาวเน ปาราชิกฺจ อุปลกฺขณวเสน ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๑๘. จณฺฑโสเตติ ¶ เวเคน คจฺฉนฺเต อุทกปฺปวาเห, ‘‘จณฺฑโสเต’’ติ อิมินา พนฺธนํ วินา สภาเวน อฏฺิตภาวสฺส สูจนโต ‘‘พนฺธนเมว าน’’นฺติ วุตฺตฏฺานปริจฺเฉทสฺส การณํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา จณฺฑโสเต พทฺธา, ตสฺมา พนฺธนเมกเมว านํ มตนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมินฺติ พนฺธเน. ธีรา วินยธรา.
๑๑๙-๑๒๐. ‘‘นิจฺจเล อุทเก นาว-มพนฺธนมวฏฺิต’’นฺติ อิมินา ฉธา านปริจฺเฉทสฺส ลพฺภมานตฺเต การณํ ทสฺเสติ. นาวํ กฑฺฒโต ตสฺส ปาราชิกนฺติ สมฺพนฺโธ. ปุนปิ กึ กโรนฺโตติ อาห ‘‘เอเกนนฺเตน สมฺผุฏฺ’’นฺติอาทิ. ตํ นาวํ อติกฺกามยโตติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถาปิ ‘‘กฑฺฒิตวโต อติกฺกมิตวโต’’ติ ภูตวเสน อตฺโถ โยเชตพฺโพ. ยเมตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
๑๒๑. เอวํ จตุปสฺสากฑฺฒเน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อุทฺธํ, อโธ จ อุกฺขิปนโอสีทาปเนสุ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตถา’’ติอาทิ. ตถาติ ‘‘ตสฺส ปาราชิก’’นฺติ อากฑฺฒติ. กสฺมึ ¶ กาเลติ อาห ‘‘อุทฺธํ เกสคฺคมตฺตมฺปี’’ติอาทิ. อโธนาวาตลนฺติ นาวาตลสฺส อโธ อโธนาวาตลํ, ตสฺมึ อุทฺธํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อุทกมฺหา วิโมจิเตติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เตน ผุฏฺํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุขวฏฺฏิยา วิโมจิเตติ โยชนา. เตนาติ อโธนาวาตเลน ผุฏฺเ อุทเก มุขวฏฺฏิยา กรณภูตาย เกสคฺคมตฺตมฺปิ วิโมจิเตติ คเหตพฺพํ.
๑๒๒. ตีเร พนฺธิตฺวา ปน นิจฺจเล ชเล ปิตา ยา นาวา, ตสฺสา นาวาย านํ พนฺธนฺจ ิโตกาโส จาติ ทฺวิธา มตนฺติ โยชนา.
๑๒๓. ปุพฺพํ ปมํ พนฺธนสฺส วิโมจเน ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา. เกนจุปาเยนาติ ‘‘ปุรโต ปจฺฉโต วาปี’’ติอาทิกฺกเมน ยถาวุตฺโตปายฉกฺเกสุ เยน เกนจิ อุปาเยนาติ อตฺโถ. านา จาเวติ นาวํ.
๑๒๔. ปมํ านา จาเวตฺวาติ ‘‘ปุรโต ปจฺฉโต วา’’ติอาทินา ยถาวุตฺเตสุ ฉสุ อากาเรสุ อฺตเรน อากาเรน นาวํ ปิตฏฺานโต ปมํ จาเวตฺวา. เอเสว จ นโยติ นาวาย ¶ ปมํ ิตฏฺานโต จาวเน ถุลฺลจฺจยํ, ปจฺฉา พนฺธนโมจเน ปาราชิกนฺติ เอเสว นโย เนตพฺโพติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘ตีเร พนฺธิตฺวา นิจฺจเล อุทเก ปิตนาวาย พนฺธนฺจ ิโตกาโส จาติ ทฺเว านานิ, ตํ ปมํ พนฺธนา โมเจติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา ฉนฺนํ อาการานํ อฺตเรน านา จาเวติ, ปาราชิกํ. ปมํ านา จาเวตฺวา ปจฺฉา พนฺธนโมจเนปิ เอเสว นโย’’ติ (ปารา. ๙๙) อฏฺกถายํ วุตฺตวินิจฺฉโย สงฺคหิโต. อามสนผนฺทาปเนสุ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยานิ เหฏฺา กุมฺภิยํ วุตฺตนเยเนว าตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา น วุตฺตานีติ เวทิตพฺพํ. เอวมุปริปิ.
๑๒๕. อุสฺสาเรตฺวาติ ¶ อุทกโต ถลํ อาโรเปตฺวา. นิกุชฺชิตฺวาติ อโธมุขํ กตฺวา. ถเล ปิตาย นาวาย มุขวฏฺฏิยา ผุฏฺโกาโส เอว านนฺติ โยชนา. หีติ วิเสโส, เตน ชลฏฺโต ถลฏฺาย นาวาย วุตฺตํ วิเสสํ โชเตติ.
๑๒๖. เอตฺถ อโธ โอสีทาปนสฺส อลพฺภมานตาย ตํ วินา อิตเรสํ ปฺจนฺนํ อาการานํ วเสน านาจาวนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เยฺโย’’ติอาทิ. ยโต กุโตจีติ ติริยํ จตสฺสนฺนํ, อุปริทิสาย จ วเสน ยํ กิฺจิ ทิสาภิมุขํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกเมนฺโต.
๑๒๗. อุกฺกุชฺชิตายปีติ อุทฺธํมุขํ ปิตายปิ. ฆฏิกานนฺติ ทารุขณฺฑานํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘เยฺโย านปริจฺเฉโท’’ติอาทินา วุตฺตนยํ อติทิสติ. โส ปน อุกฺกุชฺชิตฺวา ภูมิยํ ปิตนาวาย ยุชฺชติ. ฆฏิกานํ อุปริ ปิตาย ปน นาคทนฺเตสุ ปิตกุนฺเต วุตฺตวินิจฺฉโย ยุชฺชติ.
๑๒๘. ‘‘เถยฺยา’’ติ อิทํ ‘‘ปาเชนฺตสฺสา’’ติ วิเสสนํ. ติตฺเถติ ติตฺถาสนฺนชเล. อริตฺเตนาติ เกนิปาเตน. ผิเยนาติ ปาชนผลเกน. ปาเชนฺตสฺสาติ เปเสนฺตสฺส. ‘‘ตํ ปาเชตี’’ติปิ ปาโ ทิสฺสติ, ตํ นาวํ โย ปาเชติ, ตสฺส ปราชโยติ อตฺโถ.
๑๒๙-๓๐. ฉตฺตนฺติ อาตปวารณํ. ปณาเมตฺวาติ ยถา วาตํ คณฺหาติ, ตถา ปณาเมตฺวา. อุสฺสาเปตฺวาว จีวรนฺติ จีวรํ อุทฺธํ อุจฺจาเรตฺวา วา. คาถาฉนฺทวเสน ‘ว’อิติ รสฺสตฺตํ. ลงฺการสทิสนฺติ ปสาริตปฏสริกฺขกํ. สมีรณนฺติ มาลุตํ. น โทโส ตสฺส วิชฺชตีติ อิทํ วาตสฺส ¶ ¶ อวิชฺชมานกฺขเณ เอวํ กโรโต ปจฺฉา อาคเตน วาเตน นีตนาวาย วเสน วุตฺตํ. วายมาเน ปน วาเต เอวํ กโรนฺตสฺส อาปตฺติเยวาติ ทฏฺพฺพํ.
๑๓๑-๒. สยเมว อุปาคตนฺติ สมฺพนฺโธ. คามสมีเป ติตฺถํ คามติตฺถํ. ตนฺติ นาวํ. านาติ ฉตฺเตน วา จีวเรน วา คหิตวาเตน คนฺตฺวา คามติตฺเถ ิตฏฺานา. อจาเลนฺโตติ ผนฺทาปนมฺปิ อกโรนฺโต, อิมินา ถุลฺลจฺจยสฺสาปิ อภาวํ ทสฺเสติ. ‘‘อจาเวนฺโต’’ติปิ ปาโ, ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อนปเนนฺโตติ อตฺโถ, อิมินา ปาราชิกาภาวํ ทสฺเสติ. กิณิตฺวาติ มูเลน วิกฺกิณิตฺวา. สยเมว จ คจฺฉนฺตินฺติ เอตฺถ จ-กาโร วตฺตพฺพนฺตรสมุจฺจเย. ตถา ปณามิตฉตฺเตน วา อุสฺสาปิตจีวเรน วา คหิตวาเตน อตฺตนา คจฺฉนฺตึ. านา จาเวตีติ อตฺตนา อิจฺฉิตทิสาภิมุขํ กตฺวา ปาชนวเสน คมนฏฺานา จาเวติ.
นาวฏฺกถาวณฺณนา.
๑๓๓-๔. ยนฺติ เอเตนาติ ยานํ. รมยตีติ รโถ. วหติ, วุยฺหติ, วหนฺติ เอเตนาติ วา วยฺหํ. ‘‘อุปริ มณฺฑปสทิสํ ปทรจฺฉนฺนํ, สพฺพปาลิคุณฺิมํ วา ฉาเทตฺวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน กตํ สกฏํ วยฺหํ นาม. สนฺทมานิกาติ ‘‘อุโภสุ ปสฺเสสุ สุวณฺณรชตาทิมยา โคปานสิโย ทตฺวา ครุฬปกฺขกนเยน กตา สนฺทมานิกา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน กตยานวิเสโส. านา จาวนโยคสฺมินฺติ านา จาวนปฺปโยเค.
๑๓๕-๖. ทสฏฺานาจาวนวเสน ปาราชิกํ วทนฺเตหิ ปมํ านเภทสฺส าตพฺพตฺตา ตํ ทสฺเสตฺวา อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ¶ ‘‘ยานสฺส ทุกยุตฺตสฺสา’’ติอาทิ. ทุกยุตฺตสฺสาติ ทุกํ โคยุคํ ยุตฺตสฺส ยสฺสาติ, ยุตฺเต ยสฺมินฺติ วา วิคฺคโห. ทส านานีติ ทฺวินฺนํ โคณานํ อฏฺ ปาทา, ทฺเว จ จกฺกานีติ เอเตสํ ทสนฺนํ ปติฏฺิตฏฺานานํ วเสน ทส านานิ วเทยฺยาติ อตฺโถ. เอเตเนว นเยน จตุยุตฺตาทิยาเน อฏฺารสาติ านเภทสฺส นโย ทสฺสิโต โหติ. ยานํ ปาชยโตติ สกฏาทิยานํ เปสยโต. ‘‘ธุเรติ ยุคาสนฺเน’’ติ อฏฺกถาย คณฺิปเท วุตฺตํ. รถีสาย ยุเคน สทฺธึ พนฺธนฏฺานาสนฺเนติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ธุร’’นฺติ จ ยุคสฺเสว นามํ. ‘‘ธุรํ ฉฑฺเฑตฺวา, ธุรํ อาโรเปตฺวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) อฏฺกถาวจนโต ตํสหจริยาย สมฺพนฺธนฏฺานมฺปิ ¶ ธุรํ นาม. อิธ ปน คงฺคา-สทฺโท วิย คงฺคาสมีเป ธุรสมีเป ปาชกสฺส นิสชฺชารหฏฺาเน ธุรสฺส วตฺตมานตา ลพฺภติ.
โคณานํ ปาทุทฺธาเร ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ วินิทฺทิเสติ โยชนา. อิทฺจ โคณานํ อวิโลมกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิโลมกาเล สมฺภวนฺตํ วิเสสํ โชเตตุํ ‘‘ถุลฺลจฺจยํ ตุ’’ อิจฺจตฺร ตุ-สทฺเทน อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน โคณา ‘นายํ อมฺหากํ สามิโก’ติ ตฺวา ธุรํ ฉฑฺเฑตฺวา อากฑฺฒนฺตา ติฏฺนฺติ วา ผนฺทนฺติ วา, รกฺขติ ตาว. โคเณ ปุน อุชุกํ ปฏิปาเทตฺวา ธุรํ อาโรเปตฺวา ทฬฺหํ โยเชตฺวา ปาจเนน วิชฺฌิตฺวา ปาเชนฺตสฺส วุตฺตนเยเนว เตสํ ปาทุทฺธาเรน ถุลฺลจฺจย’’นฺติ วุตฺตวิเสโส สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ. จกฺกานํ หีติ เอตฺถ อธิเกน หิ-สทฺเทน ‘‘สเจปิ สกทฺทเม มคฺเค เอกํ จกฺกํ กทฺทเม ลคฺคํ โหติ, ทุติยํ จกฺกํ โคณา ปริวตฺเตนฺตา ปวตฺเตนฺติ, เอกสฺส ปน ิตตฺตา น ตาว อวหาโร โหติ. โคเณ ปน ปุน อุชุกํ ปฏิปาเทตฺวา ปาเชนฺตสฺส ¶ ิตจกฺเก เกสคฺคมตฺตํ ผุฏฺโกาสํ อติกฺกนฺเต ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) อฏฺกถายํ วุตฺตวิเสโส ทสฺสิโต โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
๑๓๗-๙. เอตฺตาวตา ยุตฺตยานวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อยุตฺตยานวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อยุตฺตกสฺสา’’ติอาทิ. ธุเรน อุปตฺถมฺภนิยํ ิตสฺส ตสฺส อยุตฺตกสฺสาปิ จ ยานกสฺส อุปตฺถมฺภนิจกฺกกานํ วเสน ตีเณว านานิ ภวนฺตีติ โยชนา. ตตฺถ อยุตฺตกสฺสาติ โคเณหิ อยุตฺตกสฺส. ธุเรนาติ ยถาวุตฺตนเยน ธุรยุตฺตฏฺานสมีปเทเสน, สกฏสีเสนาติ วุตฺตํ โหติ. อุปตฺถมฺภนิยนฺติ สกฏสีโสปตฺถมฺภนิยา อุปริ ิตสฺส. อุปตฺถมฺภยติ ธุรนฺติ อุปตฺถมฺภนี. สกฏสฺส ปจฺฉิมภาโคปตฺถมฺภนตฺถํ ทียมานํ ทณฺฑทฺวยํ ปจฺฉิโมปตฺถมฺภนี นาม, ปุริมภาคสฺส ทียมานสฺส อุปตฺถมฺภนี ปุริโมปตฺถมฺภนี นามาติ อยมุปตฺถมฺภนีนํ วิเสโส. อิธ ปุริโมปตฺถมฺภนี อธิปฺเปตา. ‘‘อุปตฺถมฺภนิจกฺกกานํ วเสน ตีเณว านานี’’ติ อิทํ เหฏฺา อกปฺปกตาย อุปตฺถมฺภนิยา วเสน วุตฺตํ, กปฺปกตาย ปน วเสน ‘‘จตฺตารี’’ติ วตฺตพฺพํ.
‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘านานิ ตีเณวา’’ติ อากฑฺฒติ, ทารุจกฺกทฺวยวเสน ตีณิ านานีติ อตฺโถ. ‘‘ทารูน’’นฺติ อิมินา พหุวจนนิทฺเทเสน ราสิกตทารูนํ ทารุกสฺส เอกสฺสาปิ ผลกสฺสาปิ คหณํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ภูมิยมฺปิ ธุเรเนว, ตเถว ปิตสฺส จา’’ติ อิมินา ¶ ตีณิเยว านานีติ อติทิสติ. เอตฺถ ธุรจกฺกานํ ปติฏฺิโตกาสวเสน ตีณิ านานิ. เอตฺถ จ อุปริฏฺปิตสฺส จาติ จ-การํ ‘‘ภูมิยํ ปิตสฺสา’’ติ เอตฺถาปิ โยเชตฺวา สมุจฺจยํ กาตุํ สกฺกาติ. ตตฺถ อธิกวจเนน จ-กาเรน อฏฺกถายํ ‘‘ยํ ปน อยุตฺตกํ ธุเร เอกาย, ปจฺฉโต ¶ จ ทฺวีหิ อุปตฺถมฺภนีหิ อุปตฺถมฺเภตฺวา ปิตํ, ตสฺส ติณฺณํ อุปตฺถมฺภนีนํ, จกฺกานฺจ วเสน ปฺจ านานิ. สเจ ธุเร อุปตฺถมฺภนี เหฏฺาภาเค กปฺปกตา โหติ, ฉ านานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) วุตฺตวินิจฺฉยํ สงฺคณฺหาติ.
ปุรโต ปจฺฉโต วาปีติ เอตฺถ ‘‘กฑฺฒิตฺวา’’ติ ปาเสโส. อปิ-สทฺเทน ‘‘อุกฺขิปิตฺวาปี’’ติ อวุตฺตํ สมุจฺจิโนติ. โย ปน ปุรโต กฑฺฒิตฺวา านา จาเวติ, โย วา ปน ปจฺฉโต กฑฺฒิตฺวา านา จาเวติ, โย วา ปน อุกฺขิปิตฺวา านา จาเวตีติ โยชนา. ติณฺณนฺติ อิเม ตโย คหิตา, ‘‘เตส’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, เตสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานนฺติ วุตฺตํ โหติ. กทา กึ โหตีติ อาห ‘‘ถุลฺลจฺจยํ ตุ…เป… ปราชโย’’ติ. ‘‘านา จาเว’’ติ อิทํ ‘‘ถุลฺลจฺจย’’นฺติ อิมินาปิ สมฺพนฺธนียํ. ตุ-สทฺทสฺส วิเสสโชตนตฺถํ อุปาตฺตตฺตา สาวเสสฏฺานาจาวเน ผนฺทาปนถุลฺลจฺจยํ, นิรวเสสฏฺานาจาวเน ปน กเต านาจาวนปาราชิกา วุตฺตา โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
๑๔๐. อกฺขานํ สีสเกหีติ อกฺขสฺส อุภยโกฏีหิ. ‘‘ชาตฺยาขฺยายเมกสฺมึ พหุวจนมฺตราย’’มิติ วจนโต เอกสฺมึ อตฺเถ พหุวจนํ ยุชฺชติ. ‘‘ิตสฺสา’’ติ เอตสฺส วิเสสนสฺส ‘‘ยานสฺสา’’ติ วิเสสิตพฺพํ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ‘‘านานิ ทฺเว’’ติ วุตฺตตฺตา ยถา สกฏธุรํ ภูมึ น ผุสติ, เอวํ อุจฺจตเรสุ ทฺวีสุ ตุลาทิทารูสุ ทฺเว อกฺขสีเส อาโรเปตฺวา ปิตํ ยานเมว คยฺหติ.
๑๔๑. กฑฺฒนฺโตติ ทฺวินฺนํ อกฺขสีสานํ อาธารภูเตสุ ทารูสุ ฆํสิตฺวา อิโต จิโต จ กฑฺฒนฺโต. อุกฺขิปนฺโตติ อุชุํ ิตฏฺานโต อุจฺจาเรนฺโต. ผุฏฺโกาสจฺจเยติ ผุฏฺโกาสโต ¶ เกสคฺคมตฺตาติกฺกเม. อฺสฺสาติ ยถาวุตฺตปฺปการโต อิตรสฺส. ยสฺส กสฺสจิ รถาทิกสฺส ยานสฺส.
๑๔๒. อกฺขุทฺธีนนฺติ จตุนฺนํ อกฺขรุทฺธนกอาณีนํ. อกฺขสฺส อุภยโกฏีสุ จกฺกาวุณนฏฺานโต ¶ อนฺโต ทฺวีสุ สกฏพาหาสุ อกฺขรุทฺธนตฺถาย ทฺเว องฺคุลิโย วิย อาโกฏิตา จตสฺโส อาณิโย อกฺขุทฺธิ นาม. ธุรสฺสาติ ธุรพนฺธนฏฺานาสนฺนสฺส รถสีสคฺคสฺส. ตํ ยานํ. วา-สทฺเทน ปสฺเส วา คเหตฺวา กฑฺฒนฺโต, มชฺเฌ วา คเหตฺวา อุกฺขิเปนฺโตติ กิริยนฺตรํ วิกปฺเปติ. คเหตฺวาติ เอตฺถ ‘‘กฑฺฒนฺโต’’ติ ปาเสโส. านา จาเวตีติ อุทฺธีสุ คเหตฺวา กฑฺฒนฺโต อตฺตโน ทิสาย อุทฺธิอนฺเตน ผุฏฺฏฺานํ อิตเรน อุทฺธิปริยนฺเตน เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมติ.
‘‘อุทฺธีสุ วา’’ติ สาสงฺกวจเนน อนุทฺธิกยานสฺสาปิ วิชฺชมานตฺตํ สูจิตํ โหติ. อฏฺกถายํ ‘‘อถ อุทฺธิขาณุกา น โหนฺติ, สมเมว พาหํ กตฺวา มชฺเฌ วิชฺฌิตฺวา อกฺขสีสานิ ปเวสิตานิ โหนฺติ, ตํ เหฏฺิมตลสฺส สมนฺตา สพฺพํ ปถวึ ผุสิตฺวา ติฏฺติ, ตตฺถ จตูสุ ทิสาสุ, อุทฺธฺจ ผุฏฺฏฺานาติกฺกมวเสน ปาราชิกํ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) วุตฺตวินิจฺฉยฺจ พฺยติเรกวเสน สงฺคณฺหาติ.
๑๔๓. นาภิยาติ นาภิมุเขน. เอกเมว สิยา านนฺติ เอกํ นาภิยา ผุฏฺฏฺานเมว านํ ภวตีติ อตฺโถ. ‘‘เอกมสฺส สิยา าน’’นฺติ โปตฺถเกสุ ทิสฺสติ, ตโต ปุริมปาโว สุนฺทรตโร. ปริจฺเฉโทปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท วิเสสตฺถโชตโก, ปริจฺเฉโท ปนาติ อตฺโถ. ปฺจธาติ นาภิยา จตุปสฺสปริยนฺตํ, อุทฺธฺจ ปฺจธา, านาจาวนากาโร โหตีติ อตฺโถ.
๑๔๔. านานิ ¶ ทฺเวติ เนมิยา, นาภิยา จ ผุฏฺฏฺานวเสน ทฺเว านานิ. อสฺสาติ จกฺกสฺส. เตสํ ทฺวินฺนํ านานํ. ภิตฺติอาทึ อปสฺสาย ปิตจกฺกสฺสาปิ หิ อฏฺกถายํ วุตฺโต อยมฺปิ วินิจฺฉโย วุตฺโต, โยปิ อิมินา จ ปาเน ทสฺสิโต โหติ.
๑๔๕. อนารกฺขนฺติ สามิเกน อสํวิหิตารกฺขํ. อโธเทตฺวาติ โคเณ อเปเสตฺวา. วฏฺฏติ, ปาราชิกํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. สามิเก อาหราเปนฺเต ปน ภณฺฑเทยฺยํ โหติ.
ยานฏฺกถาวณฺณนา.
๑๔๖. ภารฏฺกถาย สีสกฺขนฺธกโฏลมฺพวสาติ เอวํนามกานํ สรีราวยวานํ วเสน ภาโร ¶ จตุพฺพิโธ โหติ. ตตฺถ สีสภาราทีสุ อสมฺโมหตฺถํ สีสาทีนํ ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ – สีสสฺส ตาว ปุริมคเล คลวาฏโก ปิฏฺิคเล เกสฺจิ เกสนฺเต อาวฏฺโฏ โหติ, คลสฺเสว อุโภสุ ปสฺเสสุ เกสฺจิ เกสาวฏฺฏา โอรุยฺห ชายนฺติ, เย ‘‘กณฺณจูฬิกา’’ติ วุจฺจนฺติ, เตสํ อโธภาโค จาติ อยํ เหฏฺิมปริจฺเฉโท, ตโต อุปริ สีสํ, เอตฺถนฺตเร ิตภาโร สีสภาโร นาม.
อุโภสุ ปสฺเสสุ กณฺณจูฬิกาหิ ปฏฺาย เหฏฺา, กปฺปเรหิ ปฏฺาย อุปริ, ปิฏฺิคลาวฏฺฏโต จ คลวาฏกโต จ ปฏฺาย เหฏฺา, ปิฏฺิเวมชฺฌาวฏฺฏโต จ อุรปริจฺเฉทมชฺเฌ หทยอาวาฏโต จ ปฏฺาย อุปริ ขนฺโธ, เอตฺถนฺตเร ิตภาโร ขนฺธภาโร นาม.
ปิฏฺิเวมชฺฌาวฏฺฏโต ¶ , ปน หทยอาวาฏโต จ ปฏฺาย เหฏฺา ยาว ปาทนขสิขา, อยํ กฏิปริจฺเฉโท, เอตฺถนฺตเร สมนฺตโต สรีเร ิตภาโร กฏิภาโร นาม.
กปฺปรโต ปฏฺาย ปน เหฏฺา ยาว หตฺถนขสิขา, อยํ โอลมฺพกปริจฺเฉโท, เอตฺถนฺตเร ิตภาโร โอลมฺพโก นาม.
ภรตีติ ภาโร, ภรติ เอเตน, เอตสฺมินฺติ วา ภาโร, อิติ ยถาวุตฺตสีสาทโย อวยวา วุจฺจนฺติ. ภาเร ติฏฺตีติ ภารฏฺํ. อิติ สีสาทีสุ ิตํ ภณฺฑํ วุจฺจติ. ‘‘ภาโรเยว ภารฏฺ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๑) อฏฺกถาวจนโต ภรียตีติ ภาโร, กมฺมนิ สิทฺเธน ภาร-สทฺเทน ภณฺฑเมว วุจฺจติ.
๑๔๗. สิรสฺมึเยวาติ ยถาปริจฺฉินฺเน สิรสิ เอว. สาเรตีติ อนุกฺขิปนฺโต อิโต จิโต จ สาเรติ. ถุลฺลจฺจยํ สิยาติ ผนฺทาปนถุลฺลจฺจยํ ภเวยฺย.
๑๔๘. ขนฺธนฺติ ยถาปริจฺฉินฺนเมว ขนฺธํ. โอโรปิเตติ โอหาริเต. สีสโตติ เอตฺถ ‘‘อุทฺธ’’นฺติ ปาเสโส, ยถาปริจฺฉินฺนสีสโต อุปรีติ อตฺโถ. เกสคฺคมตฺตมฺปีติ เกสคฺคมตฺตํ ทูรํ กตฺวา. ปิ-สทฺโท ปเคว ตโต อธิกนฺติ ทีเปติ. โมเจนฺโตปีติ เกสคฺเคน อผุสนฺตํ อปเนนฺโต. เอตฺถาปิ ปิ-สทฺเทน น เกวลํ ขนฺธํ โอโรเปนฺตสฺเสว ปาราชิกํ, อปิจ โข โมเจนฺโตปิ ¶ ปราชิโตติ เหฏฺา วุตฺตมเปกฺขติ. ปสิพฺพกาทิยมกภารํ ปน สีเส จ ปิฏฺิยฺจาติ ทฺวีสุ าเนสุ ิตตฺตา ทฺวีหิ าเนหิ อปนยเนน ปาราชิกํ โหติ, ตฺจ ‘‘สีสโต โมเจนฺโต’’ติ อิมินาว เอกเทสวเสน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๑๔๙-๕๐. เอวํ ¶ สีสภาเร วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ อุทฺเทสกฺกเมสุ ขนฺธภาราทีสุ วินิจฺฉเย ทสฺเสตพฺเพปิ อวสาเน วุตฺตโอลมฺพกภาเร วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อาทฺยนฺตภารานํ วุตฺตนยานุสาเรน เสเสสุปิ วินิจฺฉยํ อติทิสิตุมาห ‘‘ภาร’’นฺติอาทิ. สุทฺธมานโสติ ปาตราสาทิการเณน อเถยฺยจิตฺโต, หตฺถคตภารํ เถยฺยจิตฺเตน ภูมิยํ ปนนิสฺสชฺชนาทึ กโรนฺตสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกนฺติ อิทเมเตน อุปลกฺขิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เอตฺถ วุตฺตนเยเนวาติ สีสภารโอลมฺพกภาเรสุ วุตฺตานุสาเรน. เสเสสุปิ ภาเรสูติ ขนฺธภาราทิเกสุปิ. มติสาเรน สารมตินา. เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโยติ ยถาปริจฺฉินฺเนสุ าเนสุ ิตํ ปาทคฺฆนกํ ยํ กิฺจิ วตฺถุํ เถยฺยจิตฺเตน ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ อามสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, านา อจาเวตฺวา ผนฺทาเปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, ยถาปริจฺฉินฺนฏฺานาติกฺกมนวเสน วา อุทฺธํอุกฺขิปนวเสน วา านา จาเวนฺตสฺส ปาราชิกํ โหตีติ อยํ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ.
ภารฏฺกถาวณฺณนา.
๑๕๑-๓. อิทานิ อารามฏฺวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติอาทิ. อารามนฺติ จมฺปกาทิปุปฺผารามฺจ อมฺพาทิผลารามฺจาติ ทฺวีสุ อาราเมสุ ยํ กฺจิ อารามํ. อารมนฺติ เอตฺถ ปุปฺผาทิกามิโนติ วิคฺคโห, ตํ อารามํ, อภิ-สทฺทโยเค อุปโยควจนํ. อภิยฺุชโตติ ปรายตฺตภาวํ ชานนฺโต ‘‘มม สนฺตก’’นฺติ อฏฺฏํ กตฺวา คณฺหิตุํ เถยฺยจิตฺเตน สหายาทิภาวตฺถํ ทุติยกปริเยสนาทิวเสน อภิยฺุชนฺตสฺส ทุกฺกฏํ มุนินา วุตฺตนฺติ อิมินา สมฺพนฺธนียํ, อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยคตฺตา สหปโยคคณนาย ทุกฺกฏนฺติ ภควตา ¶ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ธมฺมํ จรนฺโตติ อฏฺฏํ กโรนฺโต. ปรํ สามิกํ ปราเชติ เจ, สยํ สาสนโต ปราชิโตติ โยชนา.
ตสฺสาติ ภณฺฑสามิโน. วิมตึ ชนยนฺตสฺสาติ ‘‘อิมินา สห อฏฺฏํ กตฺวา มม สนฺตกํ ลภิสฺสามิ ¶ วา, น วา’’ติ สํสยํ อุปฺปาเทนฺตสฺส โจรสฺส. โยปิ ธมฺมํ จรนฺโต สยํ ปรชฺชติ, ตสฺส จ ถุลฺลจฺจยนฺติ โยชนา.
สามิโน ธุรนิกฺเขเปติ ‘‘อยํ ถทฺโธ กกฺขโฬ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายมฺปิ เม กเรยฺย, อลํ ทานิ มยฺหํ อิมินา อาราเมนา’’ติ สามิโน ธุรนิกฺเขเป สติ, อตฺตโน ‘‘น ทสฺสามี’’ติ ธุรนิกฺเขเป จาติ โยชนา. เอวํ อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเป ปาราชิกํ. ตสฺสาติ อภิยฺุชนฺตสฺส. สพฺเพสํ กูฏสกฺขีนฺจาติ จ-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺโพ. โจรสฺส อสฺสามิกภาวํ ตฺวาปิ ตทายตฺตกรณตฺถํ ยํ กิฺจิ วทนฺตา กูฏสกฺขิโน, เตสํ สพฺเพสมฺปิ ภิกฺขูนํ ปาราชิกํ โหตีติ อตฺโถ.
อารามฏฺกถาวณฺณนา.
๑๕๔. วิหารฏฺกถายํ วิหารนฺติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘ปริเวณํ วา, อาวาสํ วา’’ติ จ คเหตพฺพํ. สงฺฆิกนฺติ จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ภิกฺขูนํ ทินฺนตฺตา สงฺฆสนฺตกํ. กฺจีติ ขุทฺทกํ, มหนฺตํ วาติ อตฺโถ. อจฺฉินฺทิตฺวาน คณฺหิตุํ อภิยฺุชนฺตสฺส ปาราชิกา น สิชฺฌตีติปิ ปาเสสโยชนา. เหตุํ ทสฺเสติ ‘‘สพฺเพสํ ธุรนิกฺเขปาภาวโต’’ติ, สพฺพสฺเสว จาตุทฺทิสิกสงฺฆสฺส ธุรนิกฺเขปสฺส อสมฺภวโตติ อตฺโถ. ‘‘วิหาร’’นฺติ เอตฺตกเมว อวตฺวา ‘‘สงฺฆิก’’นฺติ วิเสสเนน ทีฆภาณกาทิเภทสฺส คณสฺส, เอกปุคฺคลสฺส วา ทินฺนวิหาราทึ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺเต ธุรนิกฺเขปสมฺภวา ปาราชิกนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ วินิจฺฉโย อาราเม วิย ¶ เวทิตพฺโพ. อิเมสุ ตตฺรฏฺภณฺเฑ วินิจฺฉโย ภูมฏฺถลฏฺอากาสฏฺเวหาสฏฺเสุ วุตฺตนเยน าตุํ สกฺกาติ น วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
วิหารฏฺกถาวณฺณนา.
๑๕๕-๖. เขตฺตฏฺเ สีสานีติ วลฺลิโย. นิทมฺปิตฺวานาติ ยถา ธฺมตฺตํ หตฺถคตํ โหติ, ตถา กตฺวา. อสิเตนาติ ทาตฺเตน. ลายิตฺวาติ ทายิตฺวา. สพฺพกิริยาปเทสุ ‘‘สาลิอาทีนํ สีสานี’’ติ สมฺพนฺธนียํ. สาลิอาทีนํ สีสานิ นิทมฺปิตฺวา คณฺหโต ยสฺมึ พีเช คหิเต วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ พนฺธนา โมจิเต ตสฺส ปาราชิกํ ภเวติ โยชนา. อสิเตน ลายิตฺวา คณฺหโต ¶ ยสฺมึ สีเส คหิเต…เป… ภเว, กเรน ฉินฺทิตฺวา คณฺหโต ยสฺสํ มุฏฺิยํ คหิตายํ…เป… ภเวติ โยชนา. พีเชติ วีหาทิผเล. วตฺถุ ปูรตีติ ปาทคฺฆนกํ โหตีติ. มุฏฺิยนฺติ สีสมุฏฺิยํ, พีชมุฏฺิยํ วา. พนฺธนา โมจิเตติ พนฺธนฏฺานโต โมจิเต.
๑๕๗. ทณฺโฑ วาติ วตฺถุปูรกวีหิทณฺโฑ วา. อจฺฉินฺโน รกฺขตีติ สมฺพนฺโธ. ตโจ วาติ ตสฺส ทณฺฑสฺส เอกปสฺเส ฉลฺลิ วา อจฺฉินฺโน รกฺขติจฺเจว สมฺพนฺโธ. วา-คฺคหเณน อิธาวุตฺตํ อฏฺกถาคตํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๔) ‘‘วาโก’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. วาโก นาม ทณฺเฑ วา ตเจ วา พาหิรํ. อิธาปิ ตโจ วา อจฺฉินฺโน รกฺขตีติ โยชนา. วีหินาฬมฺปิ วาติ คหิตธฺสาลิสีเสน ปติฏฺิตํ วีหิกุทฺรูสาทิคจฺฉานํ นาฬํ, ตจคพฺโภติ วุตฺตํ โหติ. ทีฆนฺติ ทีฆํ เจ โหติ. ‘‘อนิกฺขนฺโตวา’’ติ อิมินา ‘‘ทณฺโฑ’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตโต’’ติ ปาเสโส. ตโต ¶ ทีฆวีหินาฬโต สพีชวีหิสีสทณฺโฑ สพฺพโส ฉินฺโน ฉินฺนโกฏิยา เกสคฺคมตฺตมฺปิ พหิ อนิกฺขนฺโตติ อตฺโถ. รกฺขตีติ ตํ ภิกฺขุํ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกวตฺถูนํ อนุรูปาปตฺติโต ปาเลติ. มุตฺโต เจ, น รกฺขตีติ อตฺโถ.
วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ ‘‘วีหินาฬํ ทีฆมฺปิ โหติ, ยาว อนฺโตนาฬโต วีหิสีสทณฺฑโก น นิกฺขมติ, ตาว รกฺขติ. เกสคฺคมตฺตมฺปิ นาฬโต ทณฺฑกสฺส เหฏฺิมตเล นิกฺขนฺตมตฺเต ภณฺฑคฺฆวเสน กาเรตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๑.๑๐๔). ตถา อิมินาว วินิจฺฉเยน อฏฺกถายํ ‘‘ลายิตพฺพวตฺถุปูรกวีหิสีสมุฏฺิยา มูเล ฉินฺเนปิ สีเสสุ อจฺฉินฺนวีหิสีสคฺเคหิ สทฺธึ ชเฏตฺวา ิเตสุ รกฺขติ, ชฏํ วิชเฏตฺวา วิโยชิเตสุ ยถาวุตฺตปาราชิกาทิอาปตฺติโย โหนฺตี’’ติ เอวมาทิโก วินิจฺฉโย จ สูจิโตติ คเหตพฺโพ.
๑๕๘. มทฺทิตฺวาติ วีหิสีสานิ มทฺทิตฺวา. ปปฺโผเฏตฺวาติ ภุสาทีนิ โอผุนิตฺวา. อิโต สารํ คณฺหิสฺสามีติ ปริกปฺเปตีติ โยชนา. อิโตติ วีหิสีสโต. สารํ คณฺหิสฺสามีติ สารภาคํ อาทิยิสฺสามิ. สเจ ปริกปฺเปตีติ โยชนา. รกฺขตีติ วตฺถุปโหนกปฺปมาณํ ทาตฺเตน ลายิตฺวา วา หตฺเถน ฉินฺทิตฺวา วา านา จาเวตฺวา คหิตมฺปิ ยาว ปริกปฺโป น นิฏฺาติ, ตาว อาปตฺติโต รกฺขตีติ อตฺโถ.
๑๕๙. มทฺทเนปีติ วีหิสีสมทฺทเนปิ. อุทฺธรเณปีติ ปลาลาปนยเนปิ. ปปฺโผฏเนปีติ ภุสาทิกจวราปนยเนปิ ¶ . โทโส นตฺถีติ อคฺฆวเสน ปาราชิกาทิอาปตฺติโย น ภวนฺติ, สหปโยคทุกฺกฏํ ปน โหเตว. อตฺตโน…เป… ปราชโยติ ¶ อตฺตโน ปมํ ปริกปฺปิตากาเรน สพฺพํ กตฺวา สารภาคํ คณฺหิตุํ อตฺตโน ภาชเน ปกฺขิตฺตมตฺเต ยถาวุตฺตปาราชิกาทโย โหนฺตีติ อตฺโถ.
๑๖๐. เอตฺตาวตา ‘‘เขตฺตฏฺํ นาม ภณฺฑํ เขตฺเต จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ ภูมฏฺํ ถลฏฺํ อากาสฏฺํ เวหาสฏฺ’’นฺติ (ปารา. ๑๐๔) วุตฺตานิ เขตฺตฏฺานิ จตฺตาริ ยถาวุตฺตสทิสานีติ ตานิ ปหาย ‘‘ตตฺถชาตก’’นฺติอาทิ ปาฬิยํ อาคเต ตตฺรชาเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘เขตฺตํ นาม ยตฺถ ปุพฺพณฺณํ วา อปรณฺณํ วา ชายตี’’ติ (ปารา. ๑๐๔) เอวมาคเต เขตฺเตปิ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ชาน’’นฺติอาทิ. ชานนฺติ ปรสนฺตกภาวํ ชานนฺโต. ขีลนฺติ อปฺปิตกฺขรํ วา อิตรํ วา ปาสาณาทิขีลํ. สงฺกาเมตีติ ปรายตฺตภูมึ สามิกา ยถา ปสฺสนฺติ, ตถา วา อฺถา วา อตฺตโน สนฺตกํ กาตุกามตาย เกสคฺคมตฺตมฺปิ านํ ยถา สสนฺตกํ โหติ, ตถา เถยฺยจิตฺเตน นิขณตีติ อตฺโถ.
๑๖๑. ตํ ปาราชิกตฺตํ ตสฺส กทา โหตีติ อาห ‘‘สามิกานํ ตุ ธุรนิกฺเขปเน สตี’’ติ. ‘‘โหตี’’ติ ปาเสโส. ตุ-สทฺเทน ‘‘อตฺตโน วา’’ติ วิเสสสฺส สงฺคหิตตฺตา สามิโน นิราลยภาวสงฺขาตธุรนิกฺเขเป จ ‘‘สามิกสฺส น ทสฺสามี’’ติ อตฺตโน ธุรนิกฺเขเป จ ตสฺส ปาราชิกตฺตํ โหตีติ อตฺโถ. เอวมุทีริตนฺติ ‘‘เกสคฺคมตฺตมฺปี’’ติ เอวํ นิยมิตํ กถิตํ.
๑๖๒. ยา ปนาติ ยา ภูมิ ปน. เตสุ ทฺวีสุ ขีเลสุ. อาโท ถุลฺลจฺจยนฺติ ปเม ขีเล สงฺกามิเต โส ภิกฺขุ ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ. ทุติเยติ ทุติเย ขีเล สงฺกามิเต ปราชโย ¶ โหตีติ โยชนา. พหูหิ ขีเลหิ คเหตพฺพฏฺาเน ปริยนฺตขีเลสุ ทฺวีสุ วินิจฺฉโย จ เอเตเนว วุตฺโต โหติ. เอตฺถ ปน อนฺเต ขีลทฺวยํ วินา อวเสสขีลนิขณเน จ อิตเรสุ ตทตฺเถสุ สพฺพปโยเคสุ จ ทุกฺกฏํ โหตีติ วิเสโส.
๑๖๓-๔. ‘‘มเมทํ สนฺตก’’นฺติ าเปตุกาโมติ สมฺพนฺโธ. ปรสนฺตกาย ภูมิยา ปรายตฺตภาวํ ตฺวาว เถยฺยจิตฺเตน เกสคฺคมตฺตมฺปิ านํ คณฺหิตุกามตาย ‘‘เอตฺตกํ านํ มม สนฺตก’’นฺติ ¶ รชฺชุยา วา ยฏฺิยา วา มินิตฺวา ปรสฺส าเปตุกาโมติ อตฺโถ. เยหิ ทฺวีหิ ปโยเคหีติ สพฺพปจฺฉิมเกหิ รชฺชุปสารณยฏฺิปาตนานมฺตเรหิ ทฺวีหิ ปโยเคหิ. เตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ.
อิธ รชฺชุํ วาปีติ วิกปฺปตฺถวา-สทฺเทน ‘‘ยฏฺึ วา’’ติ โยเชตพฺเพปิ อวุตฺตสมุจฺจยตฺถํ อธิกวจนภาเวน วุตฺตปิ-สทฺเทน อิธาวุตฺตมริยาทวตีนํ วินิจฺฉยสฺส าปิตตฺตา ยถาวุตฺตรชฺชุยฏฺิวินิจฺฉเยสุ วิย ปรสนฺตกาย ภูมิยา เกสคฺคมตฺตมฺปิ านํ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหิตุกามตาย วติปาเท นิขณิตฺวา วา สาขามตฺเตน วา วตึ กโรนฺตสฺส มริยาทํ วา พนฺธนฺตสฺส ปาการํ วา จินนฺตสฺส ปํสุมตฺติกา วา วฑฺเฒนฺตสฺส ปุพฺพปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจ สหปโยเค เกวลทุกฺกฏฺจ ปจฺฉิมปโยเคสุ ทฺวีสุ ปมปโยเค ถุลฺลจฺจยฺจ อวสานปโยเค ปาราชิกฺจ โหตีติ วินิจฺฉโยปิ สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺพํ.
เขตฺตฏฺกถาวณฺณนา.
๑๖๕. วตฺถฏฺาทีสุ วตฺถฏฺสฺสาติ เอตฺถ ‘‘วตฺถุ นาม อารามวตฺถุ วิหารวตฺถู’’ติ (ปารา. ๑๐๕) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา ปุปฺผาทิอาราเม ¶ กาตุํ สงฺขริตฺวา ปิตภูมิ จ ปุพฺพกตารามานํ วินาเส ตุจฺฉภูมิ จ วิหารํ กาตุํ อภิสงฺขตา ภูมิ จ นฏฺวิหารภูมิ จาติ เอวํ วิภาควติ วสติ เอตฺถ อุปโรโป วา วิหาโร วาติ ‘‘วตฺถู’’ติ วุจฺจติ อิจฺเจวํ ทุวิธํ วตฺถฺุจ ‘‘วตฺถุฏฺํ นาม ภณฺฑํ วตฺถุสฺมึ จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ ภูมฏฺํ ถลฏฺํ อากาสฏฺํ เวหาสฏฺ’’นฺติ (ปารา. ๑๐๕) วจนโต เอวํ จตุพฺพิธํ ภณฺฑฺจาติ อิทํ ทฺวยํ วตฺถุ จ วตฺถุฏฺฺจ วตฺถุวตฺถุฏฺนฺติ วตฺตพฺเพ เอกเทสสรูเปกเสสวเสน สมาเสตฺวา, อุ-การสฺส จ อการํ กตฺวา ‘‘วตฺถฏฺสฺสา’’ติ ทสฺสิตนฺติ คเหตพฺพํ. ยถาวุตฺตทุวิธวตฺถุโน, วตฺถฏฺสฺส จ ภณฺฑสฺสาติ อตฺโถ. เขตฺตฏฺเติ เอตฺถาปิ อยเมว สมาโสติ เขตฺเต จ เขตฺตฏฺเ จาติ คเหตพฺพํ. นาวฏฺาทิโวหาเรปิ เอเสว นโย. คามฏฺเปิ จาติ ‘‘คามฏฺํ นาม ภณฺฑํ คาเม จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ ภูมฏฺํ…เป… เวหาสฏฺ’’นฺติ (ปารา. ๑๐๖) วุตฺเต จตุพฺพิเธ คามฏฺภณฺเฑปีติ อตฺโถ.
วตฺถฏฺคามฏฺกถาวณฺณนา.
๑๖๖. อรฺฏฺกถายํ ¶ ‘‘ติณํ วา’’ติอาทิปทานํ ‘‘ตตฺถชาตก’’นฺติ ปเทน สมฺพนฺโธ. ตตฺถชาตกนฺติ ‘‘อรฺํ นาม ยํ มนุสฺสานํ ปริคฺคหิตํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) วจนโต ตตฺถชาตํ ยํ กิฺจิ มนุสฺสสนฺตกํ สามิกานํ อกามา อคเหตพฺพโต สารกฺเข อรฺเ อุปฺปนฺนนฺติ อตฺโถ. ติณํ วาติ ปเรหิ ลายิตฺวา ปิตํ วา อตฺตนา ลายิตพฺพํ วา เคหจฺฉาทนารหํ ติณํ วา. ปณฺณํ วาติ เอวรูปเมว เคหจฺฉาทนารหํ ตาลปณฺณาทิปณฺณํ วา. ลตํ วาติ ตถารูปเมว เวตฺตลตาทิกํ วลฺลึ วา. ยา ปน ทีฆา โหติ ¶ , มหารุกฺเข จ คจฺเฉ จ วินิวิชฺฌิตฺวา วา เวเตฺวา วา คตา, สา มูเล ฉินฺนาปิ อวหารํ น ชเนติ, อคฺเค ฉินฺนาปิ. ยทา ปน อคฺเคปิ มูเลปิ ฉินฺนา โหติ, ตทา อวหารํ ชเนติ. สเจ ปน เวเตฺวา ิตา โหติ, เวเตฺวา ิตา ปน รุกฺขโต โมจิตมตฺตา อวหารํ ชเนตีติ อยเมตฺถ วิเสโส. สามิเกน อวิสฺสชฺชิตาลยํ ฉลฺลิวากาทิอวเสสภณฺฑฺจ อิมินาว อุปลกฺขิตฺวา สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. กฏฺเมว วาติ ทารุํ วา. ภณฺฑคฺเฆเนว กาตพฺโพติ เอตฺถ อนฺโตภูตเหตุตฺถวเสน กาเรตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ’’ติ. อวหฏติณาทิภณฺเฑสุ อคฺฆวเสน มาสกํ วา อูนมาสกํ วา โหติ, ทุกฺกฏํ. อติเรกมาสกํ วา อูนปฺจมาสกํ วา โหติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา โหติ, ปาราชิกํ. ปาราชิกํ เจ อนาปนฺโน, อามสนทุกฺกฏํ, ผนฺทาปนถุลฺลจฺจยฺจ กาเรตพฺโพติ อตฺโถ. คณฺหนฺโตติ อวหรนฺโต.
๑๖๗-๗๔. อิทานิ ‘‘กฏฺเมว วา’’ติ วุตฺตรุกฺขทารูสุ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มหคฺเฆ’’ติอาทิ. มหคฺเฆติ ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆกํ หุตฺวา มหคฺเฆ. นสฺสตีติ เถยฺยจิตฺตสมงฺคี หุตฺวา ฉินฺนมตฺเตปิ ปาราชิกํ อาปชฺชติ. ปิ-สทฺโท อวธารเณ. ‘‘โกจิปี’’ติ อิมินา อทฺธคโตปิ อลฺลํ วา โหตุ ปุราณํ วา, ตจฺเฉตฺวา ปิตํ น คเหตพฺพเมวาติ อตฺโถ.
มูเลติ อุปลกฺขณมตฺตํ. ‘‘อคฺเค จ มูเล จ ฉินฺโน โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) อฏฺกถาวจนโต มูลฺจ อคฺคฺจ ฉินฺทิตฺวาติ คเหตพฺโพ. อทฺธคตนฺติ ชิณฺณคฬิตปติตตจํ, จิรกาลํ ิตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ลกฺขเณติ ¶ อตฺตโน สนฺตกํ าเปตุํ รุกฺขกฺขนฺเธ ตจํ ฉินฺทิตฺวา กตสลฺลกฺขเณ. ฉลฺลิโยนทฺเธติ ¶ สมนฺตโต อภินวุปฺปนฺนาหิ ฉลฺลีหิ ปริโยนนฺธิตฺวา อทสฺสนํ คมิเต. อชฺฌาวุตฺถฺจาติ เอตฺถ ‘‘เคห’’นฺติ ปาเสโส. เคหํ กตฺจ อชฺฌาวุตฺถฺจาติ โยชนา. เคหํ กาตุํ อรฺสามิกานํ มูลํ ทตฺวา รุกฺเข กิณิตฺวา ฉินฺนทารูหิ ตํ เคหํ กตฺจ ปริภุตฺตฺจาติ อตฺโถ. วินสฺสนฺตฺจาติ เอตฺถาปิ ‘‘อวสิฏฺํ ทารุ’’นฺติ ปาเสโส. ตํ เคหํ กตฺวา อวสิฏฺํ วสฺสาตปาทีหิ วิวิธา ชีริตฺวา วินสฺสมานํ, วิปนฺนทารุนฺติ วุตฺตํ โหติ. คณฺหโต น โทโส โกจีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สามิกา นิราลยา’’ติ คณฺหโต กาจิปิ อาปตฺติ นตฺถีติ อตฺโถ. กึการณนฺติ เจ? อรฺสามิเกหิ มูลํ คเหตฺวา อฺเสํ ทินฺนตฺตา, เตสฺจ นิราลยํ ฉฑฺฑิตตฺตาติ อิทเมตฺถ การณํ.
วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ ‘‘เคหาทีนํ อตฺถาย รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา ยทา ตานิ กตานิ, อชฺฌาวุตฺถานิ จ โหนฺติ, ทารูนิปิ อรฺเ วสฺเสน จ อาตเปน จ วินสฺสนฺติ, อีทิสานิปิ ทิสฺวา ‘ฉฑฺฑิตานี’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? ยสฺมา อรฺสามิกา เอเตสํ อนิสฺสรา. เยหิ อรฺสามิกานํ เทยฺยธมฺมํ ทตฺวา ฉินฺนานิ, เต เอว อิสฺสรา, เตหิ จ ตานิ ฉฑฺฑิตานิ, นิราลยา ตตฺถ ชาตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗). เอวมฺปิ สติ ปจฺฉา สามิเกสุ อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
โย จาติ อรฺสามิกานํ เทยฺยธมฺมํ ปวิสนฺโต อทตฺวา ‘‘นิกฺขมนฺโต ทสฺสามี’’ติ รุกฺเข คาหาเปตฺวา นิกฺขมนฺโต โย จ ภิกฺขุ. อารกฺขฏฺานํ ปตฺวาติ อรฺปาลกา ยตฺถ นิสินฺนา อรฺํ รกฺขนฺติ, ตํ านํ ปตฺวา. ‘‘จินฺเตนฺโต’’ติ กิริยนฺตรสาเปกฺขตฺตา ‘‘อติกฺกเมยฺยา’’ติ สามตฺถิยโต ¶ ลพฺภติ. ตสฺมา จิตฺเต กมฺมฏฺานาทีนิ กตฺวาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปการตฺเถน กุสลปกฺขิยา วิตกฺกา สงฺคยฺหนฺติ. อฺํ จินฺเตนฺโต วา อารกฺขนฏฺานํ ปตฺวาเยว อติกฺกาเมยฺยาติ โยเชตฺวา อตฺโถ วตฺตพฺโพ. ตตฺถ อฺํ จินฺเตนฺโต วาติ อฺํ วิหิโต วา, อิมินา ยถาวุตฺตวิตกฺกานํ สงฺคโห. อสฺสาติ เอตฺถ ‘‘เทยฺย’’นฺติ กิตโยเค กตฺตริ สามิวจนตฺตา อเนนาติ อตฺโถ.
‘‘โยจา’’ติ เอตฺถ อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน จ-สทฺเทน อรฺปวิสนกาเล ยถาวุตฺตนเยน มูลํ อทตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ทารูนิ คเหตฺวา คมนกาเล ‘‘อรฺปาลกา สเจ ยาจนฺติ, ทสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปตฺวา คนฺตฺวา เตหิ อยาจิตตฺตา อทตฺวา คจฺฉนฺโตปิ ตเถว อาคนฺตฺวา อารกฺขเกสุ ¶ กีฬาปสุเตสุ วา นิทฺทายนฺเตสุ วา พหิ นิกฺขนฺเตสุ วา ตตฺถ ตฺวา อารกฺขเก ปริเยสิตฺวา อทิสฺวา คจฺฉนฺโตปิ ตเถว อาคนฺตฺวา ตตฺถ นิยุตฺตอิสฺสรชเนหิ อตฺตโน หตฺถโต ทาตพฺพํ ทตฺวา วา อตฺตานํ สมฺมานํ กตฺวา วา ปาลเก สฺาเปตฺวา วา ปาลเก โอกาสํ ยาจิตฺวา เตหิ ทินฺโนกาโส วา คจฺฉนฺโตปีติ เอตฺตกา วุตฺเตน สทิสตฺตา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา.
วราหาติ สูกรา. วคฺฆาติ พฺยคฺฆา. อจฺฉาติ อิสฺสา. ตรจฺฉาติ กาฬสีหา. อาทิ-สทฺเทน ทีปิมตฺตหตฺถิสีหาทโย วาฬมิคา สงฺคยฺหนฺติ. เอเตเยว วราหาทโย สมาคมวเสน มรณาทิอนิฏฺสมีปจาริตาย อุป อนิฏฺสมีเป ทวนฺติ ปวตฺตนฺตีติ ‘‘อุปทฺทวา’’ติ วุจฺจนฺติ. อารกฺขฏฺานํ อาคตกาเล ทิฏฺวราหาทิอุปทฺทวโตติ วุตฺตํ โหติ. มุจฺจิตุกามตายาติ โมกฺขาธิปฺปาเยน. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ปวิสนกาเล เทยฺยธมฺมํ อทตฺวา ‘‘นิกฺขมนกาเล ทสฺสามี’’ติ ¶ ปวิสิตฺวา ทารุํ คเหตฺวา อารกฺขฏฺานํ ปตฺโตติ ปุริมคาถาย สามตฺถิยโต ลพฺภมาโนเยวตฺโถ ทสฺสิโต. ตํ านนฺติ ตํ อารกฺขฏฺานํ. อติกฺกาเมตีติ ‘‘อิทํ ตํ าน’’นฺติปิ อสลฺลกฺขณมตฺตภยุปทฺทโว หุตฺวา ปลายนฺโต อติกฺกมติ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตีติ โยชนา.
สุงฺกฆาตโตติ เอตฺถาปิ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺโพ, สุงฺกคหณฏฺานโตปีติ อตฺโถ. สุงฺกสฺส รฺโ ทาตพฺพภาคสฺส ฆาโต มุสิตฺวา คหณมตฺโต, สุงฺโก หฺติ เอตฺถาติ วา สุงฺกฆาโตติ วิคฺคโห. สุงฺกฆาตสรูปํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. ตสฺมาติ สุงฺกฆาตโต ตสฺส ครุกตฺตา เอว. ตนฺติ ตํ สุงฺกฆาตฏฺานํ. อโนกฺกมฺม คจฺฉโตติ อปวิสิตฺวา คจฺฉนฺตสฺส. ทุกฺกฏํ อุทฺทิฏฺํ ‘‘สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๓).
เอตนฺติ ยถาวุตฺตอารกฺขฏฺานํ. เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺสาติ เถยฺยจิตฺเตน ปริหริตฺวา ทูรโต คจฺฉนฺตสฺส. อากาเสนปิ คจฺฉโต ปาราชิกมนุทฺทิฏฺํ สตฺถุนาติ สมฺพนฺโธ.
นนุ จ ‘‘อิทํ ปน เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺส อากาเสน คจฺฉโตปิ ปาราชิกเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) อฏฺกถายํ วุตฺตวจนํ วินา ปาฬิยํ ‘‘อรฺฏฺ’’นฺติ มาติกาปทสฺส วิภงฺเค ‘‘ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วา ลตํ วา ติณํ วา ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ¶ ถุลฺลจฺจยสฺส. านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๐๖) สามฺวจนโต สุงฺกฆาเต ‘‘สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วจนํ วิย เอตฺถ อารกฺขฏฺานํ ¶ ปริหรนฺตสฺส วิสุํ วุตฺตปาราชิกาปตฺติวจเน อสติปิ ‘‘อฏฺกถาย’’นฺติ อวตฺวา ‘‘สตฺถุนา’’ติ กสฺมา อาหาติ? วุจฺจเต – อฏฺกถาจริเยน ตเถว วุตฺตตฺตา อาห. กสฺมา ปน อฏฺกถาจริเยน ‘‘อปฺตฺตํ น ปฺเปสฺสาม, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสามา’’ติ (ปารา. ๕๖๕) ปาฬิปาํ ชานนฺเตนปิ ปาฬิยํ อวุตฺตปาราชิกํ นิทฺทิฏฺนฺติ? เอตฺถ วินิจฺฉยํ ภิกฺขูหิ ปุฏฺเน ภควตา วุตฺตนยสฺส มหาอฏฺกถาย อาคตตฺตา ตสฺเสว นยสฺส สมนฺตปาสาทิกายํ นิทฺทิฏฺภาวํ ชานนฺเตน อิมินาปิ อาจริเยน อิธ ‘‘สตฺถุนา’’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
อถ วา ‘‘สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วตฺวา อารกฺขฏฺานวินิจฺฉเย อวจนํ ยถาวุตฺตวิสยสฺส อทิฏฺภาเวน วา สิยา, อิมสฺส ตถา อนวชฺชตา วา สิยา, วุตฺตานุสาเรน สุวิฺเยฺยตา วา สิยาติ ตโย วิกปฺปา. เตสุ ปมวิกปฺโป สพฺพฺุภาวพาธนโต ทุพฺพิกปฺปมตฺตํ โหติ. ทุติยวิกปฺโป โลกวชฺชสฺส อิมสฺส อนวชฺชภาโว นาม อนุปปนฺโนติ อนาทาตพฺโพ. ปาริเสสโต ตติยวิกปฺโป ยุชฺชติ.
ตตฺถ ‘‘วุตฺตานุสาเรนา’’ติ กิเมตฺถ วุตฺตํ นาม, ตทนุสาเรน อิมสฺสาปิ สุวิฺเยฺยตา กถนฺติ เจ? ปมนิทฺทิฏฺเ อรฺฏฺนิทฺเทเส สามฺเน ‘‘านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๐๖) อิทํ วุตฺตํ, น ปน เถยฺยจิตฺเตน อารกฺขฏฺานปริหรณฺจ. ‘‘คมนกาเล ‘มูลํ ทตฺวา คมิสฺสามี’ติ ปุพฺพปริกปฺปิตนิยาเมน อทตฺวา คจฺฉโต ปริกปฺปาวหาโรว โหตี’’ติ จ ‘‘ตํ ปน เยน เกนจิ อากาเรน ปริกปฺปิตฏฺานํ ปหาย คมนํ านาจาวนํ นาม โหเตวาติ เตน วตฺถุนา ปาราชิกเมว โหตี’’ติ ¶ จ ‘‘านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’ติ อิมินา จ วิฺาตตฺถเมว โหตี’’ติ จ วิสุํ น วุตฺตํ. สุงฺกฏฺานปริหรณํ ปน านปริหรณสภาวตฺตา สภาวโต อีทิสํว สนฺตมฺปิ อิทํ วิย ปริกปฺปิตฏฺานํ น โหตีติ วกฺขมานราชสมฺมตฏฺานโต อฺํ ปริกปฺปิตฏฺานํ สมานมฺปิ เถยฺยจิตฺตุปฺปตฺติมตฺเตน ตํ ปริหริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส เถยฺยจิตฺเตน อตฺตโน ปตฺตํ คณฺหนฺตสฺส วิย ปาราชิกาย อวตฺถุตฺจ ทุกฺกฏสฺเสว วตฺถุภาวฺจ วิฺาเปตุํ ‘‘สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตนฺติ ภควโต อธิปฺปายฺุนา อฏฺกถาจริเยน ‘‘ปาราชิกเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) วุตฺตตฺตา ¶ เตน อฏฺกถายํ วุตฺตนีหารเมว ทสฺเสตุํ อยมาจริโยปิ ‘‘สตฺถุนา ปาราชิกมนุทฺทิฏฺ’’นฺติ อาหาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
ตสฺมาติ ยสฺมา เอวํ ปริหริตฺวา เถยฺยจิตฺเตน ทูรโต วชฺเชตฺวา คจฺฉนฺตสฺสาปิ ปาราชิกปฺปโหนกตาย อจฺจนฺตภาริยํ โหติ, ตสฺมา. เอตฺถาติ อิมสฺมึ อรฺารกฺขฏฺาเน. ‘‘วิเสเสนา’’ติ อิทํ ‘‘อปฺปมตฺเตน โหตพฺพ’’นฺติ อิมินา เหตุภาเวน สมฺพนฺธนียํ. สติสมฺปนฺนเจตสาติ จ ปิยสีเลนาติ จ ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ. อสิกฺขากามสฺส ภิกฺขุโน อิมสฺส โอวาทสฺส อภาชนตาย ตํ ปริวชฺเชตุมาห ‘‘ปิยสีเลนา’’ติ. ปิยสีลสฺสาปิ สติวิรหิตสฺส ปมตฺตฏฺาเน สรณาสมฺภวา อิมสฺส อภาชนตาย ตํ วชฺเชตุมาห ‘‘สติสมฺปนฺนเจตสา’’ติ.
อรฺฏฺกถาวณฺณนา.
๑๗๕-๖. โตยทุลฺลภกาลสฺมินฺติ โตยํ ทุลฺลภํ ยสฺมึ โส โตยทุลฺลโภ, โตยทุลฺลโภ จ โส กาโล จาติ โตยทุลฺลภกาโล, ตสฺมึ. อาวชฺเชตฺวา วาติ อุทกภาชนํ นาเมตฺวา วา. ปเวเสตฺวา วาติ อตฺตโน ¶ ภาชนํ ตสฺมึ ปกฺขิปิตฺวา วา. ฉิทฺทํ กตฺวาปิ วาติ อุทกภาชเน โอมฏฺาทิเภทํ ฉิทฺทํ กตฺวา วา คณฺหนฺตสฺส ภณฺฑคฺเฆน วินิทฺทิเสติ วกฺขมาเนน สมฺพนฺธนียํ.
ตถาติ ยถา โตยทุลฺลภกาลสฺมึ ภาชเน รกฺขิตโคปิตํ อุทกํ อวหรนฺตสฺส ปาราชิกํ วุตฺตํ, เตเนว นีหาเรน. วาปิยํ วาติ ปรสนฺตกาย สารกฺขาย วาปิยํ วา. ตฬาเก วาติ ตาทิเส ชาตสฺสเร วา. เอวํ สารกฺขานํ โปกฺขรณิอาทีนํ เอเตหิ วา อวุตฺตสมุจฺจเยน วา-สทฺเทน วา คหณํ เวทิตพฺพํ. อตฺตโน ภาชนํ ปเวเสตฺวา คณฺหนฺตสฺสาติ อุปลกฺขณปทนฺติ ภาชนคตชเล จ อิธ จ เตลภาชเน วิย มุเขน วา วํสาทีหิ วา อากฑฺฒิตฺวา เถยฺยจิตฺเตน ปิวนฺตสฺส ยถาวตฺถุกมาปตฺติวิธานํ เวทิตพฺพํ.
๑๗๗. มริยาทนฺติ วาปิอาทีนํ ปาฬิวฏฺฏพนฺธํ. ฉินฺทโตติ กุทาลาทีหิ ปํสุอาทีนิ อุทฺธริตฺวา ทฺวิธา กโรนฺตสฺส. วิเสสตฺถาวโชตเกน ตุ-สทฺเทน ‘‘มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา ทุพฺพลํ กตฺวา ตสฺส ¶ ฉินฺทนตฺถาย วีจิโย อุฏฺาเปตุํ อุทกํ สยํ โอตริตฺวา วา โคมหึเส วา อฺเ มนุสฺเส วา กีฬนฺเต ทารเก วา โอตาเรตฺวา วา อตฺตโน ธมฺมตาย โอติณฺเณ ตาเสตฺวา วา อุทเก ิตํ รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา วา เฉทาเปตฺวา วา ปาเตตฺวา วา ปาตาเปตฺวา วา ชลํ โขเภติ, ตโต อุฏฺิตาหิ วีจีหิ มริยาเท ฉินฺเนปิ เตเนว ฉินฺโน โหติ. เอวเมว โคมหึสาทโย มริยาทํ อาโรหนฺเตนาปิ อฺเหิ อาโรหาเปนฺเตนาปิ เตสํ ขุเรหิ มริยาเท ฉินฺเนปิ, อุทกนิทฺธมนาทึ ปิทหิตฺวา วา ปิทหาเปตฺวา วา วาปิมริยาทาย นีจฏฺานํ พนฺธิตฺวา วา พนฺธาเปตฺวา วา อติเรกชลาปคมนมคฺคโต นีหริตพฺโพทกํ วาเรตฺวา วา พาหิรโต อุทกํ ปเวเสตฺวา วา ปูเรติ, โอเฆน มริยาเท ¶ ฉินฺเนปิ เตเนว ฉินฺนํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๘ อตฺถโต สมานํ) เอวมาทิกํ อฏฺกถาคตวิเสสํ สงฺคณฺหาติ. อทินฺนาทานปุพฺพโตติ อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยคตฺตา. ภูตคาเมน สทฺธิมฺปีติ ภูตคาเมนปิ สทฺธึ. อปิ-สทฺเทน ปถวิขณนํ สมฺปิณฺเฑติ. มริยาทํ ฉินฺทนฺโต ตตฺถชาตํ ติณาทึ ฉินฺทติ, ภูตคามปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ. ชาตปถวึ ฉินฺทติ, ปถวิขณนปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ อธิปฺปาโย.
๑๗๘. กาตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘ภณฺฑคฺเฆน อาปตฺติยา’’ติ ปาเสโส. อนฺโตภูตเหตฺวตฺถวเสน กาเรตพฺโพติ คเหตพฺโพ. อนฺโต ตฺวา ฉินฺทนฺโต พหิอนฺเตน, พหิ ตฺวา ฉินฺทนฺโต อนฺโตอนฺเตน, อุภยตฺถาปิ ตฺวา ฉินฺทนฺโต มชฺฌโต ภณฺฑคฺเฆน อาปตฺติยา กาเรตพฺโพติ โยชนา. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – อนฺโตวาปิยํ ตฺวา มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา อุทเก พหิ นิกฺขมิเต นิกฺขนฺตอุทกคฺเฆน ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกาสุ ยถาปนฺนาย อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. พหิ ตฺวา มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา อนฺโตวาปิยํ ปวิสนฺโตทกสฺส ิตฏฺานโต จาวิตกฺขเณ นิกฺขนฺตอุทกคฺเฆน อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. กทาจิ อนฺโต กทาจิ พหิ ตฺวา มริยาทํ มชฺเฌ เปตฺวา ฉินฺทนฺโต มชฺเฌ ิตฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา อุทกสฺส นีหฏกฺขเณ นีหฏอุทกสฺส อคฺเฆน อาปตฺติยา กาเรตพฺโพติ.
อุทกฏฺกถาวณฺณนา.
๑๗๙-๘๐. วาเรนาติ วาเรน วาเรน สามเณรา อรฺโต ยํ ทนฺตกฏฺํ สงฺฆสฺสตฺถาย อาเนตฺวา สเจ อาจริยานมฺปิ อาหรนฺติ, ยาว เต ทนฺตกฏฺํ ปมาเณน ฉินฺทิตฺวา สงฺฆสฺส จ อาจริยานฺจ ¶ น นิยฺยาเทนฺติ, ตาว อรฺโต ¶ อาภตตฺตา ตํ สพฺพํ สงฺฆสฺส จ สกสกอาจริยานฺจ อาภตํ ทนฺตกฏฺํ เตสเมว จ ทนฺตกฏฺหารกานํ สามเณรานํ สนฺตกํ โหตีติ อตฺถโยชนา.
๑๘๑. ตสฺมาติ ยสฺมา เตสเมว สามเณรานํ สนฺตกํ โหติ, ตสฺมา. ตํ อรฺโต อาภตํ ทนฺตกฏฺฺจ สงฺฆสฺส ครุภณฺฑฺจ ทนฺตกฏฺนฺติ สมฺพนฺโธ. สงฺฆิกาย ภูมิยํ อุปฺปนฺนํ สงฺเฆน รกฺขิตโคปิตตฺตา ครุภณฺฑภูตํ ทนฺตกฏฺฺจาติ วุตฺตํ โหติ. คณฺหนฺตสฺส จาติ อธิกจ-กาเรน อิหาวุตฺตสฺส อฏฺกถาคตสฺส คณปุคฺคลคิหิปริพทฺธ อารามุยฺยานสฺชาตฉินฺนาฉินฺนรกฺขิตโคปิตทนฺตกฏฺสฺส สมุจฺจิตตฺตา ตฺจ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺตสฺส อวหฏทนฺตกฏฺสฺส อคฺฆวเสน อาปตฺติโย วตฺตพฺพาติ อยมตฺโถ ทีปิโต โหติ.
๑๘๒. เตหิ ทนฺตกฏฺหารเกหิ สามเณเรหิ. นิยฺยาทิตนฺติ มหาสงฺฆสฺส ปฏิปาทิตํ.
๑๘๓. สงฺฆิกกาลโต ปฏฺาย เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโตปิ อวหาราภาเว การณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อรกฺขตฺตา’’ติอาทิ. ตตฺถ อรกฺขตฺตาติ สงฺฆิกภาเวน ลทฺเธปิ รกฺขิตโคปิตทนฺตกฏฺเ วิย สงฺเฆน กตารกฺขายาภาวา. ยถาวุฑฺฒมภาเชตพฺพโตติ สงฺฆิกตฺตสฺสาปิ สโต ยถาวุฑฺฒํ ปฏิปาฏิมนติกฺกมฺม ภาเชตพฺพผลปุปฺผาทีนํ วิย ภาเชตพฺพตาภาวโต. สพฺพสาธารณตฺตา จาติ สงฺฆปริยาปนฺนานํ สพฺเพสเมว สาธารณตฺตา.
อิทนฺติ สงฺฆสฺส นิยฺยาทิตทนฺตกฏฺํ. อฺํ วิยาติ อฺํ คณปุคฺคลาทิสนฺตกํ รกฺขิตโคปิตทนฺตกฏฺํ วิย. เอวํ โจริกาย คณฺหโต อวหาราภาเว การเณน สาธิเตปิ เถยฺยจิตฺเตน ¶ สกปริกฺขารมฺปิ คณฺหโต ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา ตถา คณฺหนฺโต ทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ ทฏฺพฺพํ. วตฺตํ ปน ชานิตพฺพํ – สงฺฆิกทนฺตกฏฺํ คณฺหนฺเตน ปธานฆราทีสุ ปวิสิตฺวา จิเรน โอสรนฺเตน พหิ วีตินาเมตพฺพทิวเส คเณตฺวา ตํปมาเณน คเหตพฺพํ, มคฺคํ คจฺฉนฺเตน เอกํ ทฺเว ทนฺตกฏฺานิ ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพํ, ตตฺเถว วสนฺเตน ทิวเส ขาทิตพฺพทนฺตกฏฺํ คเหตพฺพนฺติ.
ทนฺตกฏฺกถาวณฺณนา.
๑๘๔. ‘‘อคฺคึ ¶ วา เทตี’’ติอาทีสุ ‘‘รุกฺเข’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ ‘‘รุกฺโข วินสฺสตี’’ติ วกฺขมานตฺตา, รุกฺโข จ ‘‘วนปฺปติ นาม โย มนุสฺสานํ ปริคฺคหิโต โหติ รุกฺโข ปริโภโค’’ติ (ปารา. ๑๑๐) ปาฬิยํ อาคตตฺตา จ อฏฺกถาย (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๐) จ วุตฺตนเยน อมฺพลพุชปนสาทิโก มนุสฺสานํ ปริโภคารโห มนุสฺสายตฺโต รกฺขิตโคปิโตเยว คเหตพฺโพ. อคฺคึ วา เทตีติ โจริกาย อคฺคึ อาลิมฺเปติ วา. สตฺเถน รุกฺเข สมนฺตโต อาโกเฏตีติ วาสิผรสุอาทิสตฺเถน รุกฺขตจํ ฉินฺทนฺโต สมนฺตโต อาวาฏํ ทสฺเสติ. มณฺฑูกกณฺฏกนามกํ วิสํ วา รุกฺเข อาโกเฏตีติ โจริกาย รุกฺขํ นาเสตุกาโม รุกฺเข มณฺฑูกกณฺฏกนามกํ วิสํ ปเวเสติ.
๑๘๕. เยน วา เตน วาติ ยถาวุตฺเตน วา อวุตฺเตน วา เยน เกนจิ อุปาเยน. รุกฺโข วินสฺสตีติ อคฺคึ ทตฺวา ฌาปิโต ธฺกลาโป วิย, เตลกุมฺภี วิย จ วินาว านาจาวเนน ยถาฏฺิตเมวนสฺสติ. ‘‘ฑยฺหตี’’ติ อิทํ ‘‘อคฺคึ เทตี’’ติ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ. วินสฺสตีติ มณฺฑูกกณฺฏกาโกฏนาทิอวเสสปโยคํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ ‘‘เถยฺยจิตฺโต ฉินฺทติ, ปหาเร ปหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส, เอกํ ปหารํ ¶ อนาคเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส, ตสฺมึ ปหาเร อาคเต อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๐) านาจาวเนน ปาราชิกสฺส อาคตตฺตา. ปกาสิตนฺติ เอตฺถ ‘‘อฏฺกถาย’’นฺติ ลพฺภติ. ปาาคตํ ปาราชิกํ ปน ปาริเสสโต จ สูจียตีติ ตพฺพาจกสฺส วา สงฺคาหกสฺส วา วจนสฺส อิหาวิชฺชมานตฺตา ตตฺถ วินิจฺฉโย ปาสํสิโกปิ อิหาวุตฺโต.
วนปฺปติกถาวณฺณนา.
๑๘๖-๗. ‘‘หรณกํ นาม อฺสฺส หรณกํ ภณฺฑํ. เถยฺยจิตฺโต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๑) วุตฺตหรณกนิทฺเทเส ‘‘านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๑) ปาเ ‘‘าน’’นฺติ คหิตสีสาทิฏฺานปฺปเภทวเสน อฏฺกถาย (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๐) อาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ฉินฺทิตฺวา โมเจตฺวา คณฺหโต’’ติ. กิริยานํ สกมฺมกตฺตา ‘‘อลงฺการ’’นฺติ ปาเสโส. ฉินฺทิตฺวาติ คีเวยฺยกาทึ. โมเจตฺวาติ กณฺณปิฬนฺธนาทึ.
สีสาทีหิ ¶ โมจิตมตฺตสฺมินฺติ เอตฺถาปิ วิเสสิตพฺพทสฺสนตฺถํ ‘‘อลงฺการสฺมิ’’นฺติ ตเมว ภุมฺเมกวจนนฺตวเสน คเหตพฺพํ. อากฑฺฒนวิกฑฺฒนนฺติ เอตฺถ อภิมุขํ กฑฺฒนํ อากฑฺฒนนฺติ กตฺวา อตฺตโน สมีปมาวิฺฉนํ อากฑฺฒนํ, วิปรีตํ กฑฺฒนํ วิกฑฺฒนนฺติ กตฺวา ตพฺพิปรีตํ วิกฑฺฒนํ.
๑๘๘-๙. วลยนฺติ อวงฺกํ มฏฺหตฺถูปคํ. กฏกมฺปิ วาติ อเนกวงฺเก โยเชตฺวา พุพฺพุฬาทีนิ ทสฺเสตฺวา วา อทสฺเสตฺวา ¶ วา กตํ หตฺถูปคํ. อคฺคพาหุนฺติ กปฺปรโต ปฏฺาย อคฺคหตฺถํ. อปราปรํ จาเรตีติ อิโต จิโต จ สฺจาเรติ. ‘‘สาเรตี’’ติ วา ปาโ, โสเยว อตฺโถ. ตํ วลยํ วา กฏกํ วา. อากาสคตํ กโรตีติ สพฺพทิสาหิ ยถา หตฺถํ น ผุสติ, ตถา อากาสคตํ กโรติ. นิธิวลยสฺส ปเวสิตรุกฺขมูเล สพฺพทิสาหิ อผุสนฺตํ อากาสคตกรเณ ปาราชิกํ โหติ, อิธ ‘‘รกฺขตี’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สวิฺาณกโต’’ติอาทิ. อิทนฺติ วลยํ กฏกฺจ.
๑๙๐. ‘‘นิวตฺถํ วตฺถ’’นฺติ อิมินา จีวรมฺปิ คยฺหติ. ปรสฺส วตฺถสามิกสฺส. ปโรปีติ วตฺถสามิโกปิ. ตนฺติ โจเรน อจฺฉิชฺชมานํ อตฺตนา นิวตฺถวตฺถํ. ลชฺชาย สหสา น มฺุจตีติ ลชฺชาย สีฆตรํ น ปริจฺจชติ.
๑๙๑. โจโรปิ อากฑฺฒติ, โส ปโรปิ อากฑฺฒตีติ โยชนา. โส ปโร โจรโต อฺโ, วตฺถสามิโกติ อตฺโถ. ปรสฺสาติ วตฺถสามิกสฺส.
๑๙๒. ‘‘านา จาเวยฺยา’’ติ ปาเ าน-สทฺเทน สงฺคหิตสีสาทิฏฺานโต หรียเตติ หรณกนฺติ วุตฺตาลงฺการาทิภณฺฑสฺส จาวเนน ปาราชิกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตเทว หรณกํ หารเกน สห หรนฺตสฺส หารกสฺส ิตฏฺานโต อปนยเนน านาจาวนฺจ ‘‘านา จาเวยฺยา’’ติ อิมินาว สงฺคยฺหตีติ ตตฺถาปิ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สภณฺฑหารก’’นฺติอาทิ. ภณฺฑํ หรติ เนตีติ ภณฺฑหารโก, ปุริสาทิโก, เตน สหาติ สภณฺฑหารกํ, อลงฺการวตฺถาทีนิ อาทาย คจฺฉนฺเตหิ อิตฺถิปุริสาทิปาเณหิ สเหว. ภณฺฑนฺติ เตหิ หริยมานตฺตา หรณกสงฺขาตวตฺถาภรณาทิภณฺฑํ ¶ . เนนฺตสฺสาติ ‘‘เนนฺโต อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. เนนฺโตติ ิตฏฺานโต จาเวตฺวา อตฺตนา อิจฺฉิตทิสาภิมุขํ ปาเปนฺโต. อสฺส ปเม ปาเท อติกฺกนฺเต ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชิตฺวาติ ¶ ปาเสสโยชนา. อสฺสาติ อิมสฺส ภณฺฑหารกสฺส. ปมปาเท อติกฺกนฺเต อตฺตนา ปมํ คนฺตพฺพทิสโต โจรสฺสาภิมตทิสํ คเต ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชิตฺวา ทุติเย อติกฺกนฺเต จุโต สิยาติ โยชนา.
๑๙๓. เถยฺยเจตโน สเจ ตชฺเชตฺวา ปรสฺส หตฺถโต ภณฺฑํ ปาตาเปติ, ปรสฺส หตฺถโต ภณฺเฑ มุตฺตมตฺเต ตชฺเชตฺวา ปาตาปกสฺส ปราชโยติ โยชนา. ภณฺเฑ มุตฺตมตฺเตติ ภณฺเฑ หตฺถโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุตฺตกฺขเณ.
๑๙๔. อถาปีติ อถ วา. ปริกปฺเปตฺวา ปาตาเปติ วาติ เอตฺถ ‘‘ยํ มยฺหํ รุจฺจติ, ตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ วา ‘‘เอวรูปํ เจ โหติ, คณฺหิสฺสามี’’ติ วิเสเสตฺวา วา ปริกปฺเปตฺวา ตชฺเชตฺวา ปาเตติ, ทุกฺกฏํ. เอวํ ปาติตํ ภณฺฑํ ตสฺส โจรสฺส อามสเน ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๑๙๕. ยถาวตฺถุนฺติ ภณฺฑสฺส อคฺฆานุรูปํ, ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ อธิปฺปาโย. ฉฑฺฑิเตปีติ ตสฺส โจรภาวํ ชานิตฺวา ภีตตสิเตน อตฺตนา นียมาเน ภณฺเฑ ฉฑฺฑิเตปิ สติ. เตเนว านาจาวนํ การาปิตนฺติ ปาราชิกนฺติ น คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘น โทโส’’ติ. ‘‘ติฏฺ ติฏฺา’’ติ วุตฺเต ปน อุตฺตสิตฺวา ฉฑฺฑนํ ตสฺส อาณตฺติยา วินา โหตีติ ตตฺถ ตสฺส อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย. ตถา วทโต ปน อทินฺนาทานปุพฺพปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว.
๑๙๖. ตนฺติ ตํ ฉฑฺฑิตํ ภณฺฑํ. ตทุทฺธาเรติ ตสฺส ฉฑฺฑิตสฺส ภณฺฑสฺส อุทฺธาเร ปาราชิกํ. ปาราชิกํ กทา สิยาติ ¶ อาห ‘‘สามิเก สาลเย คเต’’ติ. นิราลยํ ฉฑฺฑิตํ ปน คณฺหโต อสติ เถยฺยจิตฺเต น โทโสติ พฺยติเรกโต ทสฺเสติ.
๑๙๗. สามิกสฺส สาลยกาเล คณฺหนฺตสฺสาปิ ปาราชิกาภาวปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘คณฺหโต’’ติ. ปุพฺพคาถาย ‘‘ต’’นฺติ อิธานุวตฺตเต. สกสฺายคณฺหโตติ ‘‘ติฏฺ ติฏฺา’’ติ วจนโต อุตฺตสิตฺวา สาลยํ ฉฑฺฑิตํ ตํ วตฺถุํ สกสฺาย คณฺหนฺตสฺส. คหเณติ สกสฺาย คหณเหตุ, สกสฺาย คหิตภณฺฑํ อตฺตโน คหณการณา ภิกฺขุํ อวหาราปตฺติโต รกฺขตีติ อธิปฺปาโย ¶ . เตนาห ‘‘คหเณ ปน รกฺขตี’’ติ. ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตีติ โยชนา. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา คหเณ รกฺขตีติ อติทิสติ.
๑๙๘-๙. ธุรนิกฺเขปํ กตฺวาติ ‘‘มยฺหํ กิเมเตน ภณฺเฑน, ชีวิตรกฺขนเมว วรตร’’นฺติ นิราลโย หุตฺวา. เตนาห ‘‘ภีโต โจรา ปลายตี’’ติ. โจราติ เอตฺถ จ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกํ. คณฺหโตติ เอตฺถ ‘‘ต’’นฺติ ปาเสโส, ตถา ฉฑฺฑิตํ ตํ ภณฺฑนฺติ อตฺโถ. อุทฺธาเร ทุกฺกฏนฺติ วตฺถุมฺหิ อนวชฺเชปิ เถยฺยจิตฺตวเสน ทุกฺกฏํ โหติ, อสติ เถยฺยจิตฺเต ทุกฺกฏมฺปิ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อาหราเปนฺเตติ เอตฺถ ภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ, ตสฺมึ ภณฺฑสามินิ อาหราเปนฺเต สตีติ อตฺโถ.
๒๐๐. นิราลเยน ฉฑฺฑิตวตฺถุโน คหเณ ภณฺฑเทยฺยฺจ อเทนฺตสฺส ปราชโย จ กสฺมาติ อาห ‘‘ตสฺสา’’ติอาทิ. อฺาสูติ มหาปจฺจริยาทีสุ อิตราสุ อฏฺกถาสุ.
หรณกกถาวณฺณนา.
๒๐๑. อุปนิธิกถาย ¶ ‘‘น คณฺหามี’’ติ สมฺปชานมุสาวาทํ ภาสโตติ โยชนา. เยน เกนจิ รหสิ ‘‘อิทํ มยฺหํ ภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา เทหี’’ติ นิยฺยาทิตํ ภณฺฑํ ปจฺฉา สามิเกน ‘‘เทหิ เม ตํ ภณฺฑ’’นฺติ วุตฺเต อจฺจนฺตมุปคนฺตุํ ‘‘นาหํ คณฺหามี’’ติ สมฺปชานมุสาวาทํ ภาสโตติ อตฺโถ. คณฺหามีติ อคฺคเหสึ. อจฺจนฺตา เหโส อตีเต วตฺตมานปฺปโยโคยํ. ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒) อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส วิสเย กสฺมา ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อทินฺนาทานปุพฺพกตฺตา’’ติอาทิ. ตตฺถ อทินฺนาทานปุพฺพกตฺตาติ อทินฺนาทานสฺส สหปโยควเสน ปุพฺพงฺคมตฺตา, น ปุพฺพปโยคตฺตา. น หิ อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏมตฺถีติ. เตเนวาห อฏฺกถายํ ‘‘อทินฺนาทานสฺส ปโยคตฺตา’’ติ.
๒๐๒. เอตสฺสาติ เอตสฺส สมีเป. กึ นุ ทสฺสตีติ ทสฺสติ กึ นุ. วิมตุปฺปาเทติ เหตุมฺหิ ภุมฺมํ. ตสฺสาติ ยสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก อุปนิกฺขิตฺตํ, ตสฺส.
๒๐๓. ตสฺมินฺติ ¶ ยสฺมึ อุปนิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ ภิกฺขุมฺหิ. ทาเน นิรุสฺสาเหติ อตฺตนิ นิกฺขิตฺตสฺส ภณฺฑสฺส สามิกสฺส ทานวิสเย อุสฺสาหรหิเต สติ, ‘‘น ทานิ ตํ ทสฺสามี’’ติ ธุรนิกฺเขเป กเตติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเป’’ติ. ปโรติ ภณฺฑสามิโก. ธุรนฺติ ‘‘เยน เกนจิ อากาเรน คณฺหิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหํ. นิกฺขิเปติ นิกฺขิเปยฺย.
๒๐๔. จิตฺเตนาทาตุกาโมวาติ เอตฺถ ‘‘โย ตสฺสา’’ติ ปาเสโส. เจติ อปิ-สทฺทตฺเถ. โย โจโร จิตฺเตน อทาตุกาโมว, ตสฺส โจรสฺส ‘‘ทสฺสามี’’ติ มุเขน ¶ วทโตปีติ โยชนา. อถ วา อทาตุกาโมติ เอตฺถ ‘‘หุตฺวา’’ติ ปาเสโส. เจติ วุตฺตตฺโถ. เอวาติ ‘‘ปราชโย’’ติ อิมินา ยุชฺชติ. จิตฺเตน อทาตุกาโม หุตฺวา มุเขน ‘‘ทสฺสามี’’ติ วทโตปิ สามิโน ธุรนิกฺเขเป สติ ปราชโย โหเตวาติ โยชนา.
อุปนิธิกถาวณฺณนา.
๒๐๕. สุงฺกฆาตสฺสาติ ‘‘สุงฺกฆาตํ นาม รฺา ปิตํ โหติ ปพฺพตขณฺเฑ วา นทีติตฺเถ วา คามทฺวาเร วา’’ติ (ปารา. ๑๑๓) ปาฬิยํ อาคตสฺส ‘‘สุงฺกํ ตโต หนนฺติ…เป… วินาเสนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๓) อฏฺกถายํ นิรุตฺตสฺส ‘‘อิโต ปฏฺาย นียมาเน ภณฺเฑ เอตฺตกโต เอตฺตกํ ราชภาคํ คเหตพฺพ’’นฺติ ราชาทีหิ ตํตํปเทสสามิเกหิ นิยมิตสฺส ปพฺพตขณฺฑาทิฏฺานสฺส. พหีติ สุงฺกคหณตฺถาย ปริกปฺปิตสีมโต พหิ. ปาเตตีติ เอตฺถ ‘‘เถยฺยจิตฺโต’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘ราชารหํ ภณฺฑ’’นฺติ ปาเสโส. ยโต กุโตจิ ภณฺฑโต ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนโก ภาโค ราชาทิเทสสามิกสฺส ทาตพฺโพ โหติ, ตาทิสํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺโต ยถา พหิ ปตติ, เอวํ ขิปตีติ อตฺโถ. ธุวํ ปตตีติ เอตฺถาปิ ‘‘ต’’นฺติ ปาเสโส, ‘‘ภณฺฑ’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ยถา ขิตฺตํ ตํ ภณฺฑํ เอกนฺเตน พหิ ปตตีติ. หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ตสฺมึ ภณฺเฑ.
๒๐๖. ‘‘ธุวํ ปตตี’’ติ เอตฺถ พฺยติเรกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตํ รุกฺเข’’ติอาทิ. ตนฺติ เถยฺยาย พหิ ปาเตตุํ ขิตฺตํ ภณฺฑํ ปฏิหตํ หุตฺวาติ โยชนา. วาตกฺขิตฺตมฺปิ วาติ ปาโ ¶ คเหตพฺโพ. ‘‘วาตกฺขิตฺโต’’ติ ลิงฺควิปลฺลาโส วา ทฏฺพฺโพ.
๒๐๗. ปจฺฉาติ ¶ ปติตฏฺาเน โถกํ จิรายิตฺวา, อิมินา โถกมฺปิ จิรายิตมตฺเต ปโยคสาธิยํ การิยํ สิทฺธเมวาติ ปาราชิกสฺส การณํ สมฺปนฺนเมวาติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ปาราชิกํ สิยา’’ติ.
๒๐๘. ‘‘ตฺวา’’ติอาทินา ปติตฏฺาเน อจิรายิตฺวา คเตปิ ตสฺมึ พหิ ปติตฏฺานโต อิตรตฺราปิ จิรายิเตน พหิ ปาตนปฺปโยเคน สาธิยํ การิยํ สิทฺธเมวาติ ปาราชิกการณสฺส สิทฺธตํ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘ปราชโย’’ติ. ‘‘อติฏฺมาน’’นฺติอาทินา ยตฺถ กตฺถจิ อจิรายเนน ปโยคสฺส นิรตฺถกตํ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘รกฺขตี’’ติ.
๒๑๐. สยํ วา วฏฺเฏตีติ อนฺโต ิโต สยํ วา หตฺเถน วา ปาเทน วา ยฏฺิยา วา พหิสีมาย นินฺนฏฺานํ ปริวฏฺเฏติ. อฏฺตฺวาติ ปวฏฺฏิตมตฺเต อนฺโต กตฺถจิปิ อฏฺตฺวา. วฏฺฏมานนฺติ ปวฏฺฏนฺตํ. คตนฺติ พหิสีมํ เกสคฺคมตฺตฏฺานมฺปิ อนฺโตสีมมติกฺกมมตฺตํ.
๒๑๑. ตํ ภณฺฑํ สเจ อนฺโต ตฺวา ตฺวา พหิ คจฺฉตีติ โยชนา. ยทิ อนฺโตสีมาย ตฺวา ตฺวา พหิสีมํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. รกฺขตีติ อนฺโตสีมาย ปมคตินิวตฺตเนเนว เอตสฺส ภิกฺขุโน ปโยคเวคสฺส นิวตฺตตฺตา, ตโต อุปริ นิวตฺตนารหการณสฺส อลทฺธภาเวน อตฺตนา จ คตตฺตา ตถา พหิสีมปฺปตฺตํ ตํ ภณฺฑํ ตํมูลกปโยชกํ ¶ ภิกฺขุํ อาปตฺติยา รกฺขตีติ อธิปฺปาโย. สุทฺธจิตฺเตน ปิเตติ ‘‘เอวํ ปิเต วฏฺฏิตฺวา คมิสฺสตี’’ติ เถยฺยจิตฺเตน วินา ‘‘เกวลํ เปสฺสามี’’ติ จิตฺเตน พหิสีมาภิมุขํ นินฺนฏฺานํ โอตาเรตฺวา ปิเต. สยํ วฏฺฏตีติ ภณฺฑํ สยเมว นินฺนฏฺานํ นินฺนํ หุตฺวา พหิสีมํ เจ ปวฏฺฏนฺตํ คจฺฉติ. วฏฺฏตีติ อาปตฺติยา อกรณโต วฏฺฏติ.
๒๑๒. คจฺฉนฺเตติ โจรสฺส ปโยคํ วินา อตฺตนาว คจฺฉนฺเต. ตนฺติ ราชเทยฺยปฺจมาสกอติเรกปฺจมาสกมตฺตํ สุงฺกวนฺตํ ภณฺฑํ. นีหเฏปิ นาวหาโรติ โยชนา. เกวลํ เถยฺยจิตฺตสฺส อาปตฺติยา อนงฺคภาวโต, ยานาทิปโยชกกายวจีปโยคสฺส อภาวโต, ภณฺฑฏฺปิตยานาทิโน ¶ อตฺตนาว พหิสีมปฺปตฺตตฺตา, เตเนว ภณฺฑสฺสาปิ คตตฺตา จ ภิกฺขุโน อวหาโร นตฺถีติ อตฺโถ.
๒๑๓. ปโยเคน วินาติ โจรสฺส สกปโยคมนฺตเรน. อวหาโร น วิชฺชตีติ เอตฺถ ยุตฺติ วุตฺตนยาว.
๒๑๔. มณินฺติ ปาทารหํ สุงฺกทาตพฺพมณิรตนํ, เอเตเนว อุปลกฺขณปทตฺตา ยํกิฺจิ ภณฺฑํ สงฺคหิตเมว. ปาราชิกํ สิยาติ ยานสฺส อตฺตนา ปาชิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. สีมาติกฺกมเนติ สุงฺกคฺคหณสฺส นิยมิตฏฺานาติกฺกมเน.
๒๑๕. มตนฺติ ‘‘เอตฺตกภณฺฑโต เอตฺตกํ คเหตพฺพ’’นฺติ ราชูหิ อนุมตํ. เสโส กถามคฺโคติ ‘‘สุงฺกฏฺานํ ปตฺวา สุงฺกิเกสุ นิทฺทายมาเนสุ, กีฬนฺเตสุ, พหิคเตสุ วา ปริเยสิตฺวา อทิสฺวา คจฺฉโต น โทโส, ภณฺฑเทยฺยํ ¶ โหตี’’ติ เอวมาทิโก วินิจฺฉยกถามคฺโค. อรฺฏฺกถาสโมติ ‘‘โย จารกฺขฏฺานํ ปตฺวา’’ติอาทินา (วิ. วิ. ๑๗๐) ยถาวุตฺตอรฺฏฺกถาย สทิโส,
‘‘กมฺมฏฺานํ จิตฺเต กตฺวา;
จินฺเตนฺโต อฺวิหิโต;
สุงฺกฏฺานํ ปตฺวา คจฺเฉ;
ภณฺฑเทยฺยํ โหเตวสฺสา’’ติ. –
อาทินา นเยน วุจฺจมานสทิโสเยว. เตเนว คตตฺถตาย อิทานิ น วิจารียตีติ อธิปฺปาโย.
สุงฺกฆาตกถาวณฺณนา.
๒๑๖. ‘‘ปาโณ ¶ นาม มนุสฺสปาโณ วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๑๑๔) ปาฬิโต จ ‘‘ตมฺปิ ภุชิสฺสํ หรนฺตสฺส อวหาโร นตฺถี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๔) อฏฺกถาวจนโต จ ปรทาสมนุสฺโสเยว อธิปฺเปโตติ ตเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘อนฺโตชาต’’นฺติอาทิ. เคหทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ทาสสฺส ชาโต อนฺโตชาโต นาม, ตํ วา. ธเนน กีโต ธนกฺกีโต, ตํ วา. ทินฺนํ วา ปน เกนจีติ มาตุลอยฺยกาทีสุ เยน เกนจิ ทาสํ กตฺวา ทินฺนํ วา. ทาสนฺติ ปจฺเจกํ สมฺพนฺธนียํ. กรมรานีตํ วา ทาสนฺติ ปรวิสยํ วิลุมฺปิตฺวา อาเนตฺวา ทาสภาวาย คหิตสงฺขาตํ กรมรานีตทาสํ วา. หรนฺตสฺส ปราชโยติ เอตฺถ ‘‘โจริกาย หริสฺสามี’’ติ อามสเน ทุกฺกฏํ, ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชิตฺวา ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกามยโต ปาราชิกํ โหตีติ อธิปฺปาโย.
๒๑๗. ภุชิสฺสํ วาติ ยสฺส กสฺสจิ มนุสฺสสฺส อทาสภูตํ. มานุสนฺติ มนุสฺสชาติกํ สตฺตํ. อาปิตนฺติ อุปนิกฺขิตฺตํ.
๒๑๘. ตนฺติ ¶ อนฺโตชาตาทีสุ ทาเสสุ ยํ กฺจิ ทาสํ. ปลายิตุกาโมวาติ ปลาเปตุกาโม นีหริตุกาโม. อถ วา ตํ ทาสํ ภุเชหิ อุกฺขิปิตฺวา อยํ ปลายิตุกาโมติปิ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ภุเชหีติ อุโภหิ หตฺเถหิ. ตํ ิตฏฺานโตติ ตสฺส ิตฏฺานํ ตํิตฏฺานํ, ตโต ตํิตฏฺานโต, โจเรน อตฺตนา ิตฏฺานโตติ อตฺโถ น คเหตพฺโพติ ทสฺเสตุเมวํ วุตฺตํ. กิฺจิ สงฺกาเมตีติ เกสคฺคมตฺตมฺปิ ตโต อฺํ านํ ปาเปติ. ภุเชหิ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท วกฺขมานปการนฺตราเปกฺโข, ‘‘สงฺกาเมติ วา’’ติ โยเชตพฺพํ.
๒๑๙. ตชฺเชตฺวาติ ภยกเรน วจเนน เลเสน, อิงฺคิเตน วา ตาเสตฺวา เนนฺตสฺส ตสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ปทวารโตติ ปทวาเรน ยุตฺตา ถุลฺลจฺจยาทโย อาปตฺติโย โหนฺตีติ โยชนา. ปมปทวารยุตฺตา ถุลฺลจฺจยาปตฺติ, ทุติยปทวารยุตฺตา ปาราชิกาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ.
๒๒๐. หตฺถาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน เกสวตฺถาทึ สงฺคณฺหาติ. ตนฺติ ทาสํ. กฑฺฒโตปีติ อากฑฺฒโตปิ. ปราชโยติ ‘‘ปทวารโต’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา ปมปทวาเร ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปทวาเร อติกฺกนฺเต ปาราชิกนฺติ อตฺโถ. อยํ นโยติ ‘‘ปทวารโต ยุตฺตา ถุลฺลจฺจยาทโย อาปตฺติโย โหนฺตี’’ติ วุตฺตนโย.
๒๒๑. เวคสาวาติ ¶ เวเคเนว, โจรสฺส วจเนน กาตพฺพวิเสสรหิเตน พลวคมนเวเคนาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา อนาปตฺติภาวสฺส การณํ ทสฺเสติ.
๒๒๒. สณิกนฺติ ¶ มนฺทคติยา. วทตีติ ‘‘คจฺฉ, ยาหิ, ปลายา’’ติอาทิกํ วจนํ กเถติ. โสปิ จาติ โย มนฺทคติยา คจฺฉนฺโต เอวํ วุตฺโต, โสปิ จ.
๒๒๓. ปลายิตฺวาติ สามิกํ ปหาย คนฺตฺวา. อฺนฺติ สามิกายตฺตฏฺานโต อฺํ านํ. สาปณํ วีถิสนฺนิเวสยุตฺตํ นิคมมฺปิ วา. ตโตติ ปลายิตฺวา ปวิฏฺคามาทิโต. ตนฺติ ปลายิตฺวา ปวิฏฺํ ตํ ทาสํ.
ปาณกถาวณฺณนา.
๒๒๔. เถยฺยาติ เถยฺยจิตฺเตน. สปฺปกรณฺฑนฺติ สปฺปสยนเปฬํ. ยถาวตฺถุนฺติ ถุลฺลจฺจยมาห. านโตติ สปฺปเปฬาย ิตฏฺานโต. จาวเนติ เกสคฺคมตฺตาติกฺกเม.
๒๒๕. กรณฺฑนฺติ สปฺปเปฬํ. อุคฺฆาเฏตฺวาติ วิวริตฺวา. กรณฺฑตลโตติ อนฺโตเปฬาย ตลโต. นงฺคุฏฺเติ นงฺคุฏฺปริยนฺเต.
๒๒๖. ฆํสิตฺวาติ เปฬาปสฺเส ผุสาเปตฺวา. สปฺปกรณฺฑสฺส มุขวฏฺฏิโตติ กรณฺฑปุฏมุขวฏฺฏิโต. ตสฺส นงฺคุฏฺเ มุตฺตมตฺเตติ โยชนา.
๒๒๗. นามโตติ นาเมน, นามํ วตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปกฺโกสนฺตสฺสาติ อวฺหายนฺตสฺส. ตสฺสาติ ปกฺโกสกสฺส.
๒๒๘. ตถาติ กรณฺฑํ วิวริตฺวา. มณฺฑูกมูสิกานํ รวํ กตฺวา นาเมน ปกฺโกสนฺตสฺสาติ โยชนา. วา-สทฺเทน ลาชาวิกิรณอจฺฉรปหาราทิกํ สงฺคณฺหาติ.
๒๒๙. มุขนฺติ ¶ สปฺปกรณฺฑสฺส มุขํ. เอวเมว จ กโรนฺตสฺสาติ มณฺฑูกสฺํ, มูสิกสฺํ กตฺวา วา ลาชา วิกิริตฺวา ¶ วา อจฺฉรํ ปหริตฺวา วา นามํ วตฺวา ปกฺโกสนฺตสฺส. เยน เกนจีติ วุตฺตนีหารโต เยน วา เตน วา.
๒๓๐. น ปกฺโกสติ เจติ ยถาวุตฺตนเยน โยเชตฺวา นามํ วตฺวา น ปกฺโกสติ. ตสฺสาติ กรณฺฑมุขวิวรกสฺส ภิกฺขุสฺส.
อปทกถาวณฺณนา.
๒๓๑. หตฺถินฺติ หตฺถิมฺหิ, ภุมฺมตฺเถ เอว อุปโยควจนํ.
๒๓๒. สาลายนฺติ หตฺถิสาลายํ. วสติ เอตฺถาติ วตฺถุ, ราชาคารํ, ตสฺส อนฺโต อนฺโตวตฺถุ, อนฺโตราชเคหนฺติ อตฺโถ. องฺคเณติ อนฺโตราชงฺคเณ. ปิ-สทฺโท ‘‘อนฺโตนคเร’’ติ อวุตฺตมฺปิ สมฺปิณฺเฑติ. วตฺถุ จาติ จ-สทฺเทน องฺคณํ สมุจฺจิโนติ. สกลํ องฺคณํ านนฺติ หตฺถิโน วิจรณโยคฺคํ องฺคณฏฺานํ สนฺธายาห, สกลสาลาติ คเหตพฺพํ.
๒๓๓. อพทฺธสฺสาติ ยถาวุตฺตสาลาราชวตฺถงฺคณาเปกฺขาย วุตฺตํ. อพทฺธสฺส หิ หตฺถิโน สกลสาลาทโย านํ, ตทติกฺกเม านาจาวนํ โหตีติ อตฺโถ. หีติ อวธารเณ วา. ‘‘พทฺธสฺส หี’’ติ โยชนาย วิเสสตฺโถว ทฏฺพฺโพ, พทฺธสฺส ปนาติ วุตฺตํ โหติ. พทฺธสฺส ปนาติ สาลาทีสุ สนฺนิหิตสฺส ปน. ิตฏฺานฺจาติ สาลาทีสุ ิตฏฺานฺจ, จตูหิ ปาเทหิ อกฺกนฺตฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. พนฺธนฺจาติ คีวาย วา ปจฺฉา ปาททฺวยพนฺธนวลเย วา อุภยตฺถ วา พนฺธนฏฺานฺจ. ตสฺมาติ ยสฺมา ิตฏฺานฺจ พนฺธนฺจ านนฺติ ฉ วา ปฺจ วา านานิ ลพฺภนฺติ, ตสฺมา. เตสํ านานํ. การเยติ เอตฺถ ‘‘อาปตฺติ’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภตีติ. หรโตติ หตฺถิสาลาทิโต โจริกาย หรนฺตสฺส ¶ . การเยติ อามสเน ทุกฺกฏํ, านเภทคณนาย ยาว ปจฺฉิมฏฺานา ปุริเมสุ ถุลฺลจฺจยานิ, อนฺติมฏฺานา เกสคฺคมตฺตมฺปิ จาวเน ปาราชิกํ กาเรยฺยาติ อตฺโถ.
๒๓๔. ิตฏฺานนฺติ ¶ จตูหิ ปาเทหิ อกฺกนฺตฏฺานํ, อิทฺจ อพทฺธหตฺถึ สนฺธาย วุตฺตํ. พทฺธสฺส วินิจฺฉโย สาลาทีสุ พทฺธสฺส วุตฺตวินิจฺฉยสทิโสติ คตตฺถตาย น วุตฺโต.
๒๓๕. เอกํ านนฺติ สยิตฏฺานมตฺตํ. ตสฺมินฺติ คเช. ตสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. ตุรงฺคมหิสาทีสุ ทฺวิปเท จ พหุปฺปเท จ.
๒๓๖. เอเสว นโย เยฺโย, วตฺตพฺพํ กิฺจิปิ นตฺถีติ โยชนา. ตตฺถ ตุรงฺคา อสฺสา. มหิสา ลุลายา. อาทิ-สทฺเทน โคคทฺรภโอฏฺาทิจตุปฺปทานํ สงฺคโห. นตฺถิ กิฺจิปิ วตฺตพฺพนฺติ อสฺสสาลาราชาคารงฺคณพหินคราทีสุ อพนฺธิตสยนอสฺสาทีนํ านเภโท ยถาวุตฺตสทิสตฺตา น วุตฺโต.
พนฺธิตฺวา ปิตอสฺสสฺส ปน สเจ โส จตูสุ ปาเทสุ พทฺโธ โหติ, พนฺธนานํ, ขุรานฺจ คณนาย อฏฺ านานิ, สเจ มุเข จ พทฺโธ โหติ, นว านานิ, มุเขเยว พทฺโธ, ปฺจ านานีติ านเภโท จ ตเถว สสมิคสูกราทิจตุปฺปเทสุ พนฺธิตฺวา ปิเตสุ พทฺธพทฺธฏฺาเนหิ สห จตูหิ ปาเทหิ อกฺกนฺตฏฺานวเสน ลพฺภมาโน านเภโท จ โคมหิเสสุ พทฺเธสุ เอวเมว ลพฺภมาโน านเภโท จ วชาทีสุ ปเทเสสุ ปเวสิเตสุ ทฺวาเรสุ รุกฺขสูจิโย อปเนตฺวา วา อนปเนตฺวา วา นามํ วตฺวา วา อวตฺวา วา ปกฺโกสนฺตสฺส, สาขาภงฺคติณาทีนิ ทสฺเสตฺวา ปกฺโกสิตฺวา วา อปกฺโกสิตฺวา วา ปโลเภนฺตสฺส ตาเสตฺวา นิกฺขมนฺตสฺส ¶ สปฺปกรณฺฑเก สปฺปสฺส วุตฺตนเยน ลพฺภมาโน วิเสโส จ เนตพฺโพ. อิห สพฺพตฺถ านเภเทสุ พหุเกสุปิ อุปนฺตฏฺาเนสุ ถุลฺลจฺจยํ, อนฺตฏฺาเน ปาราชิกํ วุตฺตสทิสนฺติ อิมสฺส สพฺพสฺส วินิจฺฉยสฺส ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินาว คตตฺตา, อาหฏโต อวิฺายมานสฺส กสฺสจิ วิเสสสฺสาภาวา จ วุตฺตํ ‘‘นตฺถิ กิฺจิปิ วตฺตพฺพ’’นฺติ.
ทฺวิปเทปีติ ‘‘ทฺวิปทํ นาม มนุสฺสา ปกฺขชาตา’’ติ (ปารา. ๑๑๕) ปาฬิยํ วุตฺตา มนุสฺสา จ มยูราทิโลมปกฺขา จ วคฺคุลิอาทิจมฺมปกฺขา จ ภมราทิอฏฺิปกฺขา จาติ เอวมาทิเก สตฺเต จ. พหุปฺปเทติ ‘‘พหุปฺปทํ นาม วิจฺฉิกา สตปที อุจฺจาลิงฺคปาณกา’’ติ (ปารา. ๑๑๗) ปาฬิยํ วุตฺตพหุปฺปทสตฺเต จาติ อตฺโถ.
เอตฺตาวตา ¶ ปาปภิกฺขูนํ เลโสกาสปิทหนตฺถํ ปทภาชเน วุตฺตภูมฏฺาทิตึสวินิจฺฉยมาติกากถาสุ ปฺจวีสติ มาติกากถา ทสฺเสตฺวา อวสิฏฺาสุ ปฺจมาติกากถาสุ สํวิทาวหาโร, สงฺเกตกมฺมํ, นิมิตฺตกมฺมนฺติ มาติกตฺตยกถา ปมเมว อทินฺนาทานวินิจฺฉยสมฺภารภูตานํ ปฺจวีสติยา อวหารานํ ทสฺสนฏฺาเน ตฺวา –
‘‘ปุพฺพสหปโยโค จ, สํวิทาหรณมฺปิ จ;
สงฺเกตกมฺมํ เนมิตฺตํ, ปุพฺพโยคาทิปฺจก’’นฺติ. (วิ. วิ. ๔๒) –
อิมินา สงฺคหิตาติ ตํ ปหาย อวเสเส โอจรโก, โอณิรกฺขโกติ กถาทฺวเย โอจรณกกถาย อาณตฺติกปฺปโยคตฺตา, ตฺจ โอณิรกฺขเกน กริยมานํ านาจาวนํ สาหตฺถิเกน วา อาณตฺติเกน วา ปโยเคน โหตีติ ตสฺสาปิ ‘‘สาหตฺถาณตฺติโก เจวา’’ติ สาหตฺถิกปฺจเก ปมเมว สงฺคหิตตฺตา จ ถลฏฺเวหาสฏฺกถาทีสุ ¶ สงฺคหิตตฺตา จ ตฺจ ทฺวยํ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ ‘‘โอจรโก นาม ภณฺฑํ โอจริตฺวา อาจิกฺขตี’’ติ (ปารา. ๑๑๘) ปาฬิยํ วุตฺโต โจราปนปุริโส ‘‘โอจรโก’’ติ เวทิตพฺโพ. โอจรตีติ โอจรโก, ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา อนฺโต อนุปวิสตีติ วุตฺตํ โหตีติ. ‘‘โอณิรกฺโข นาม อาหฏํ ภณฺฑํ โคเปนฺโต’’ติ (ปารา. ๑๑๘) ปาฬิยํ วุตฺโต มุหุตฺตํ อตฺตนิ ปิตสฺส ปรภณฺฑสฺส รกฺขโก ‘‘โอณิรกฺโข’’ติ เวทิตพฺโพ. โอณิตํ รกฺขตีติ โอณิรกฺโข, โย ปเรน อตฺตโน วสนฏฺาเน อาภตํ ภณฺฑํ ‘‘อิทํ ตาว ภนฺเต มุหุตฺตํ โอโลเกถ, ยาวาหํ อิทํ นาม กิจฺจํ กตฺวา อาคจฺฉามี’’ติ วุตฺโต รกฺขติ, ตสฺเสตํ อธิวจนํ.
ทฺวิจตุพหุปฺปทกถาวณฺณนา.
๒๓๗. ‘‘ปฺจหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๑๒๒) นเยน ปาฬิยํ อาคตานิ ปฺจงฺคานิ สงฺคเหตุมาห ‘‘ปเรส’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ปเรสํ สนฺตกํ ธน’’นฺติ อิมินา ปรมนุสฺสสนฺตกตา, ‘‘ปเรสนฺติ วิชานิตฺวา’’ติ อิมินา ปรายตฺตภาวสฺส ชานนํ, ‘‘ครุก’’นฺติ อิมินา ปาทํ วา อติเรกปาทํ วา อคฺฆนกตา, ‘‘เถยฺยจิตฺเตนา’’ติ ¶ อิมินา เถยฺยจิตฺตตา, ‘‘านา จาเวตี’’ติ อิมินา ปฺจวีสติยา อวหารานํ อฺตรสฺส สมงฺคิตาติ เอวเมตฺถ ปฺจงฺคสงฺคโห เวทิตพฺโพ.
๒๓๘. เอตฺตาวตา ตึสมาติกากถาวินิจฺฉยํ สงฺคเหตฺวา อิทานิ ‘‘อนาปตฺติ สสฺิสฺส วิสฺสาสคฺคาเห ตาวกาลิเก เปตปริคฺคเห ติรจฺฉานคตปริคฺคเห ปํสุกูลสฺิสฺสา’’ติอาทินา ¶ (ปารา. ๑๓๑) นเยน ปาฬิยํ อาคตํ อนาปตฺติวารํ สงฺคเหตุมาห ‘‘อนาปตฺตี’’ติอาทิ. ตตฺถ สสฺิสฺสาติ ปรสนฺตกมฺปิ ‘‘สสนฺตก’’นฺติ สุทฺธสฺาย คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺตีติ สพฺพตฺถ โยเชตพฺพํ. เอวํ คหิตํ สามิเกหิ ทิสฺวา ยาจิเต อเทนฺตสฺส อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ปาราชิกํ.
ติรจฺฉานปริคฺคเหติ ติรจฺฉาเนหิ ปริคฺคหิตวตฺถุมฺหิ. สเจปิ หิ นาคครุฬมาณวกมาณวิกาปิ มนุสฺสเวเสน อาปณํ ปสาเรตฺวา นิสินฺนา โหนฺติ, ภิกฺขุ จ เถยฺยจิตฺเตน เตสํ สนฺตกํ คณฺหาติ, อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สีหพฺยคฺฆทีปิปภุตีหิ วาฬมิเคหิ คหิตโคจรํ ปมํ โมจาเปนฺตสฺส ตํ มฺุจิตฺวา อตฺตโนปิ หึสนโต โถกํ ขายิเต วาเรนฺตสฺส โทโส นตฺถิ. เสนาทีสุ ติรจฺฉาเนสุ เยน เกนจิ คหิตํ โคจรํ โมจาเปตุํ วฏฺฏติ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ ‘‘เสนาทโยปิ อามิสํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเต ปาตาเปตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๓๑). เอวเมว ธมฺมนิเทฑฺฑุภาทีหิ คหิตมณฺฑูกาทโย ชีวิตรกฺขนตฺถาย โมจาเปตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ.
ตาวกาลิกคฺคาเหติ ‘‘ปฏิกริสฺสามี’’ติ ตาวกาลิกํ คณฺหนฺตสฺส เอวํ คหิตํ สเจ ภณฺฑสามิโก ปุคฺคโล วา คโณ วา ‘‘ตุมฺเหว คณฺหถา’’ติ อนุชาเนยฺย, วฏฺฏติ. นานุชาเนยฺย, น คณฺเหยฺย, ทาตพฺพํ. อเทนฺตสฺส อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ปาราชิกํ. ‘‘สงฺฆสนฺตกํ ปน ปฏิทาตุเมว วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
วิสฺสาสคฺคาเหติ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส วิสฺสาสํ คเหตุํ, สนฺทิฏฺโ จ โหติ, สมฺภตฺโต จ, อาลปิโต จ, ชีวติ จ, คหิเต จ อตฺตมโน ¶ โหตี’’ติ (มหาว. ๓๕๖) ปาฬิยํ อาคตํ ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาเสน คณฺหนฺตสฺส คหเณ วินิจฺฉโย ยถาวุตฺตสุตฺตวณฺณนายํ เวทิตพฺโพ. ยถาห สมนฺตปาสาทิกายํ –
ตตฺถ ¶ สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมตฺตกมิตฺโต. สมฺภตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต. อาลปิโตติ ‘‘มม สนฺตกํ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ คณฺเหยฺยาสิ, อาปุจฺฉิตฺวา คหเณ การณํ นตฺถี’’ติ วุตฺโต. ชีวตีติ อนุฏฺานเสยฺยาย สยิโตปิ ยาว ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทํ น ปาปุณาติ. คหิเต จ อตฺตมโนติ คหิเต ตุฏฺจิตฺโต โหติ, เอวรูปสฺส สนฺตกํ ‘‘คหิเต เม อตฺตมโน ภวิสฺสตี’’ติ ชานนฺเตน คเหตุํ วฏฺฏติ. อนวเสสปริยาทานวเสน เจตานิ ปฺจงฺคานิ วุตฺตานิ, วิสฺสาสคฺคาโห ปน ตีหงฺเคหิ รุหติ – สนฺทิฏฺโ, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน, สมฺภตฺโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน, อาลปิโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโนติ.
โย ปน ชีวติ, น จ คหิเต อตฺตมโน โหติ, ตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาสคฺคาเหน คหิตมฺปิ ปุน ทาตพฺพํ. ททมาเนน จ มตกธนํ ตาว เย ตสฺส ธเน อิสฺสรา คหฏฺา วา ปพฺพชิตา วา, เตสํ ทาตพฺพํ. อนตฺตมนสฺส สนฺตกํ ตสฺเสว ทาตพฺพํ. โย ปน ปมํเยว ‘‘สุฏฺุ กตํ ตยา มม สนฺตกํ คณฺหนฺเตนา’’ติ วจีเภเทน วา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน วา อนุโมทิตฺวา ปจฺฉา เกนจิ การเณน กุปิโต ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โยปิ อทาตุกาโมว, จิตฺเตน ปน อธิวาเสติ, น กิฺจิ วทติ, โสปิ ปุน ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โย ปน ‘‘มยา ตุมฺหากํ ¶ สนฺตกํ คหิตํ วา ปริภุตฺตํ วา’’ติ วุตฺเต ‘‘คหิตํ วา โหตุ ปริภุตฺตํ วา, มยา ปน ตํ เกนจิเทว กรณีเยน ปิตํ, ตํ ปากติกํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทติ, อยํ ปจฺจาหราเปตุํ ลภตีติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๓๑).
เปตปริคฺคเหติ เปตฺติวิสยุปฺปนฺนา จ มริตฺวา ตสฺมึเยว อตฺตภาเว นิพฺพตฺตา จ จาตุมหาราชิกาทโย เทวา จ อิมสฺมึ อตฺเถ เปตา นาม, เตสํ สนฺตกํ คณฺหนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. สเจปิ หิ สกฺโก เทวราชา อาปณํ ปสาเรตฺวา นิสินฺโน โหติ, ทิพฺพจกฺขุโก จ ภิกฺขุ ตํ ตฺวา สตสหสฺสคฺฆนกมฺปิ วตฺถํ ตสฺส วิรวนฺตสฺเสว อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เทวปูชตฺถํ รุกฺขาทีสุ มฏฺวตฺถาทีนิ คณฺหโต นิทฺโทสตาย กิเมว วตฺตพฺพํ. ปํสุกูลสฺาย คณฺหโตปิ อนาปตฺติ. ตถา คหิตมฺปิ สเจ สสฺสามิกํ โหติ, สามิเก อาหราเปนฺเต ทาตพฺพนฺติ อุปลกฺขณโต เวทิตพฺพํ.
๒๓๙. เอตฺถาติ ¶ ทุติยปาราชิกวินิจฺฉเย. จ-สทฺเทน อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน อวเสสสิกฺขาปทวินิจฺฉเย สงฺคณฺหาติ. วตฺตพฺโพติ มาติกฏฺกถาทีสุ วิย อวสาเน กเถตพฺโพ. ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโยติ สมุฏฺานาทิโก ตํตํสิกฺขาปทปาฬิยํ อนาคโต อุปาลิตฺเถราทีหิ ปิโต วินิจฺฉโย.
๒๔๐. ปราชิตาเนกมเลนาติ อปริเมยฺยกปฺปโกฏิสตสหสฺโสปจิตปารมิตาสมฺภูเตน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺาเนน อาสวกฺขยาเณน สห วาสนาย สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปราชิตา ราคาทโย อเนกกิเลสมลา เยน โส ปราชิตาเนกมโล, เตน ปราชิตาเนกมเลน ¶ . ชิเนน ยํ ทุติยํ ปาราชิกํ วุตฺตํ, อสฺส ทุติยปาราชิกสฺส จ อตฺโถ มยา สมาเสน วุตฺโต. อเสเสน อติวิตฺถารนเยน วตฺตุํ ตสฺส อตฺถํ กเถตุํ โก หิ สมตฺโถติ โยชนา. เอตฺถ จ-สทฺโท ปมปาราชิกสมุจฺจยตฺโถ. หิ-สทฺโท อวธารเณ, เตน อเสเสน ตทตฺถํ วตฺตุํ สมตฺโถ นตฺเถว อฺตฺร ตถาคตาติ ทีเปติ.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ทุติยปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยปาราชิกกถาวณฺณนา
๒๔๑-๒. เอวมติสุขุมนยสมากุลํ ทุติยปาราชิกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตติยปาราชิกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มนุสฺสชาติ’’นฺติอาทิ. ตตฺถ มนุสฺสชาตินฺติ ชายตีติ ชาติ, รูปารูปปฏิสนฺธิ, มนุสฺเสสุ ชาติ ยสฺส โส มนุสฺสชาติ, มนุสฺสชาติโก มนุสฺสวิคฺคโหติ วุตฺตํ โหติ, ตํ มนุสฺสชาตึ.
เอตฺถ จ มนุสฺเสสูติ กุสลากุสลมนสฺส อุสฺสนฺนตฺตา มนุสฺสสงฺขาเตสุ นเรสุ. ‘‘ยํ มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปมํ ¶ จิตฺตํ อุปฺปนฺน’’นฺติ (ปารา. ๑๗๒) ปทภาชเน วุตฺตนเยน มาตุกุจฺฉิมฺหิ ปมํ อุปฺปชฺชมานปฏิสนฺธิจิตฺตฺจ ตํสมฺปยุตฺตเวทนาสฺาสงฺขารสงฺขาตขนฺธตฺตยฺจ ตํสหชาตานิ –
‘‘ติลเตลสฺส ยถา พินฺทุ, สปฺปิมณฺโฑ อนาวิโล;
เอวํ วณฺณปฺปฏิภาคํ, ‘กลล’นฺติ ปวุจฺจตี’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒; วิภ. อฏฺ. ๒๖) –
วุตฺตานิ ¶ ชาติอุณฺณํสุมฺหิ ปสนฺนติลเตเล วา สปฺปิมณฺเฑ วา โอตาเรตฺวา อุกฺขิปิตฺวา วิธุนิเต อคฺเค ลมฺพมานพินฺทุปฺปมาณกลลสงฺขาตานิ สภาวกานํ กายภาววตฺถุทสกวเสน ตึส รูปานิ จ อภาวกานํ กายวตฺถุทสกวเสน วีสติ รูปานิ จาติ อยํ นามรูปปฏิสนฺธิ อิธ ‘‘ชาตี’’ติ คหิตา. ‘‘ยสฺสา’’ติ อิมินา อฺปเทน ‘‘ยาว มรณกาลา เอตฺถนฺตเร เอโส มนุสฺสวิคฺคโห นามา’’ติ (ปารา. ๑๗๒) ปทภาชเน วุตฺตนเยน ปมภวงฺคโต ปฏฺาย จุติจิตฺตาสนฺนภวงฺคปริยนฺตสนฺตานสงฺขาตสตฺโต คหิโต. อิมินา มนุสฺสวิคฺคหสฺส ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย ปาราชิกวตฺถุภาวํ ทสฺเสติ.
ชานนฺโตติ ‘‘สตฺโต อย’’นฺติ ชานนฺโต. ชีวิตา โย วิโยชเยติ โย ภิกฺขุ ชีวิตินฺทฺริยา วิโยเชยฺย โวโรเปยฺย, ตสฺส ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺเทยฺย อุปโรเธยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ปทภาชเน ‘‘ชีวิตา โวโรเปยฺยาติ ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺทติ อุปโรเธตี’’ติ (ปารา. ๑๗๒).
ตฺจ ชีวิตินฺทฺริยํ รูปารูปวเสน ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ อรูปชีวิตินฺทฺริยํ อวิคฺคหตฺตา อุปกฺกมวิสยํ น โหติ. รูปชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉเทน ปน ตทายตฺตวุตฺติตาย ตํสมกาลเมว โอจฺฉิชฺชมานตาย เอตฺถ สามฺเน อุภยมฺปิ คเหตพฺพํ. อิทฺจ อตีตานาคตํ น คเหตพฺพํ ตสฺส อวิชฺชมานตฺตา. อุปกฺกมวิสยารหํ ปน ปจฺจุปฺปนฺนเมว คเหตพฺพํ. ตฺจ ขณสนฺตติอทฺธาวเสน ติวิธํ โหติ.
ตตฺถ อุปฺปาทฏฺิติภงฺควเสน ขณตฺตยปริยาปนฺโน ภาโว ขณปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ตํ สรสภงฺคภูตตฺตา สยํ ภิชฺชมานํ อุปกฺกมสาธิยํ วินาสวนฺตํ น โหติ. อาตเป ตฺวา คพฺภํ ปวิฏฺสฺส ¶ อนฺธการวิคมนฺตรฺจ สีเตน โอวรกํ ปวิฏฺสฺส วิสภาคอุตุสมุฏฺาเนน ¶ สีตปนูทนฺตรฺจ รูปสนฺตติ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ปฏิสนฺธิจุตีนมนฺตราฬปฺปวตฺติ ขนฺธสนฺตติ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. อิมสฺมึ ทฺวเย อุปกฺกมสมฺภโว, ตํวเสน อุปจฺฉิชฺชมานํ ชีวิตํ สนฺตานปริหานิปจฺจยภาวโต สนฺตติอทฺธาปจฺจุปฺปนฺนทฺวยํ ยถาปริจฺฉินฺนกาลมปฺปตฺวา อุปกฺกมวเสน อนฺตราเยว นิรุชฺฌติ, ตสฺมา สนฺตติอทฺธาปจฺจุปฺปนฺนรูปชีวิตินฺทฺริยฺจ ตํนิโรเธน นิรุชฺฌมานอรูปชีวิตินฺทฺริยฺจาติ อุภยํ เอตฺถ ‘‘ชีวิตา’’ติ คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทเมว สนฺธายาห ปทภาชเน ‘‘สนฺตตึ วิโกเปตี’’ติ (ปารา. ๑๗๒).
อิมิสฺสาว ปาณาติปาตภาเว อาปตฺติภาวโต เอตฺถ ตฺวา อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒) ปาณปาณาติปาตปาณาติปาตีปาณาติปาตปฺปโยคานํ วิภาโค ทสฺสิโต. ตตฺถ ปาโณติ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต อุปจฺฉิชฺชมานํ ชีวิตินฺทฺริยํ, ตํ ‘‘ชีวิตา’’ติ อิมินา วุตฺตํ. ปาณาติปาโต นาม วธกเจตนา, โส จ ‘‘วิโยชเย’’ติ อิมินา สนฺทสฺสิโต. ปาณาติปาตี นาม ปุคฺคโล, โส จ ‘‘โย’’ติ อิมินา สนฺทสฺสิโต. ปาณาติปาตปฺปโยโค ปน –
‘‘วุตฺตา ปาณาติปาตสฺส;
ปโยคา ฉ มเหสินา’’ติ –
อาทินา นเยน อิเธว วกฺขมานวิภาคตฺตา วกฺขมานนเยเนว ทฏฺพฺโพ.
อสฺส สตฺถํ นิกฺขิเปยฺย วาติ โยชนา. อสฺสาติ มนุสฺสชาติกสฺส. ‘‘หตฺถปาเส’’ติ ปาเสโส. หตฺถปาโส นาม สมีโปติ. อสฺสาติ สมีปสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. สตฺถนฺติ เอตฺถ ชีวิตวิหึ สนุปกรณภาเวน สมฺมตา ธาราวนฺตอสิอาทิ จ ธารารหิตยฏฺิภินฺทิวาลลคุฬาทิ จ ¶ อุปลกฺขณวเสน คเหตพฺพา. สสติ หึสตีติ สตฺถํ. เตเนวาห ปทภาชเน ‘‘อสึ วา สตฺตึ วา ภินฺทิวาลํ วา ลคุฬํ วา ปาสาณํ วา สตฺถํ วา วิสํ วา รชฺชุํ วา’’ติ. อิธาวุตฺตํ กรปาลิกาฉุริกาทิ สมุขํ ‘‘สตฺถํ วา’’ติ อิมินา สงฺคหิตํ. นิกฺขิเปยฺยาติ ยถา โภคเหตุํ ลภติ, ตถา อุปนิกฺขิเปยฺย, อตฺตวธาย อิจฺฉิตกฺขเณ ยถา คณฺหาติ, ตถา สมีเป เตเนว จิตฺเตน เปยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา ถาวรปฺปโยโค สนฺทสฺสิโต.
มรเณ ¶ คุณํ วา วเทยฺยาติ โยชนา, มรณตฺถาย มรเณ คุณํ วณฺเณตีติ อตฺโถ. ‘‘ชีวิเต อาทีนวํ ทสฺเสติ, มรเณ คุณํ ภณตี’’ติ (ปารา. ๑๗๒) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา ‘‘กึ ตุยฺหิมินา ปาปเกน ทุชฺชีวิเตน, โย ตฺวํ น ลภสิ ปณีตโภชนานิ ภฺุชิตุ’’มิจฺจาทินา นเยน มรณตฺถาย ชีวิเต อวณฺณํ วทนฺโต จ ‘‘ตฺวํ โขสิ อุปาสก กตกลฺยาโณ อกตปาโป, มตํ เต ชีวิตา เสยฺโย, อิโต ตฺวํ กาลกโต วิวิธวิหงฺคมวิกูชิเต ปรมสุรภิกุสุมภูสิตตรุวรนิจิเต ปรมรติกรลฬิตคติภาสิตวิลปิตสุรยุวติคณวิจริเต วรนนฺทเน อจฺฉราสงฺฆปริวาริโต วิจริสฺสสี’’ติอาทินา นเยน มรณตฺถาย มรณานิสํสํ ทสฺเสนฺโต จ ‘‘มรเณ คุณํ วเทยฺย’’อิจฺเจว วุจฺจติ.
มรณูปายํ เทเสยฺยาติ โยชนา. มรณาธิปฺปาเยเนว ‘‘สตฺถํ วา อาหร, วิสํ วา ขาท, รชฺชุยา วา อุพฺพนฺธิตฺวา กาลงฺกโรหี’’ติ ปทภาชเน วุตฺตสตฺถหรณานิ จ อวุตฺตมฺปิ โสพฺภนรกปปาตาทีสุ ปปตนฺจาติ เอวมาทิกํ มรณูปายํ อาจิกฺเขยฺย. ‘‘โหติ อยมฺปี’’ติ ปทจฺเฉโท, อปีติ ปุพฺเพ วุตฺตทฺวยํ สมุจฺจิโนติ. ทฺเวธา ภินฺนสิลา วิย อสนฺเธยฺโยว ¶ โส เยฺโยติ ทฺวิธา ภินฺนปาสาโณ วิย ภควโต ปฏิปตฺติปฏิเวธสาสนทฺวเยน โส ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตภาเว สนฺธาตุมสกฺกุเณยฺโยวาติ าตพฺโพติ อตฺโถ.
๒๔๓. ถาวราทโยติ อาทิ-สทฺเทน วิชฺชามยอิทฺธิมยปโยคทฺวยํ สงฺคหิตํ.
๒๔๔. ตตฺถาติ เตสุ ฉสุ ปโยเคสุ. สโก หตฺโถ สหตฺโถ, เตน นิพฺพตฺโต สาหตฺถิโก, ปโยโค. อิธ หตฺถคฺคหณํ อุปลกฺขณํ, ตสฺมา หตฺถาทินา อตฺตโน องฺคปจฺจงฺเคน นิปฺผาทิโต วธปฺปโยโค สาหตฺถิโกติ เวทิตพฺโพ.
๒๔๕. ‘‘ตฺวํ ตํ เอวํ ปหริตฺวา มาเรหี’’ติ ภิกฺขุโน ปรสฺส ยํ อาณาปนํ, อยมาณตฺติโก นโยติ โยชนา. อาณตฺติโก นโยติ อาณตฺติเยว อาณตฺติโก. เนติ ปวตฺเตตีติ นโย, ปโยคสฺเสตํ นามํ.
๒๔๖. ทูรนฺติ ทูรฏฺํ. กาเยน ปฏิพทฺเธนาติ เอตฺถ กาเยกเทโส หตฺถาทิ กาโย อวยเว สมุทาโยปจารโต ‘‘คาโม ทฑฺโฒ’’ติ ยถา. กายปฏิพทฺธํ จาปาทิกํ ปฏิพทฺธํ นาม ปุพฺพปทโลเปน ¶ ‘‘เทวทตฺโต ทตฺโต’’ติ ยถา. วา-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วาติ วุตฺตํ โหติ, ‘‘อุสุอาทินิปาตน’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. วิธานํ วิธิ, ปโยโคติ อตฺโถ.
๒๔๗. อสฺจาริมุปาเยนาติ อสฺจาริเมน นิจฺจเลน อุปาเยน. โอปตนฺติ เอตฺถาติ โอปาโต, โส อาทิ เยสํ อปสฺเสนวิสเภสชฺชสํวิธานาทีนํ เต โอปาตาทโย, เตสํ ¶ วิธานํ โอปาตาทิวิธานํ, โอปาตกฺขณนาทิกิริยา.
๒๔๘. วิชฺชายาติ อาถพฺพนเวทาคตมรณมนฺตสงฺขาตวิชฺชาย. ชปฺปนนฺติ ยถา ปโร น สุณาติ, ตถา ปุนปฺปุนํ วจนํ.
๒๔๙. มารเณ สมตฺถา ยา กมฺมวิปากชา อิทฺธิ, อยํ อิทฺธิมโย ปโยโค นามาติ สมุทีริโตติ โยชนา. กมฺมวิปาเก ชาตา กมฺมวิปากชา, อิทฺธิ, ยา ‘‘นาคานํ นาคิทฺธิ สุปณฺณานํ สุปณฺณิทฺธิ ยกฺขานํ ยกฺขิทฺธี’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒) พหุธา อฏฺกถายํ วุตฺตา. ตตฺถ ทิฏฺทฏฺผุฏฺวิสานํ นาคานํ ทิสฺวา, ฑํสิตฺวา, ผุสิตฺวา จ ปรูปฆาตกรเณ นาคิทฺธิ เวทิตพฺพา. เอวํ เสสานมฺปิ. อิทฺธิเยว อิทฺธิมโย, ภาวนามโย อิทฺธิปฺปโยโค ปเนตฺถ น คเหตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ –
‘‘เกจิ ปน ภาวนามยิทฺธิยาปิ ปรูปฆาตกรณํ วทนฺติ. สห ปรูปฆาตกรเณน จ อาทิตฺตฆรูปริ ขิตฺตสฺส อุทกฆฏสฺส เภทนํ วิย อิทฺธิวินาสฺจ อิจฺฉนฺติ, ตํ เตสํ อิจฺฉามตฺตเมว. กสฺมา? ยสฺมา ตํ กุสลเวทนาวิตกฺกปริตฺตตฺติกาทีหิ น สเมติ. กถํ? อยฺหิ ภาวนามยิทฺธิ นาม จตุตฺถชฺฌานมยา กุสลตฺติเก กุสลา เจว อพฺยากตา จ, ปาณาติปาโต อกุสโล. เวทนาตฺติเก อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺตา, ปาณาติปาโต ทุกฺขสมฺปยุตฺโต. วิตกฺกตฺติเก อวิตกฺกอวิจารา, ปาณาติปาโต สวิตกฺกสวิจาโร. ปริตฺตตฺติเก ¶ มหคฺคตา, ปาณาติปาโต ปริตฺโตเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒).
๒๕๐. ตตฺถาติ เตสุ ฉพฺพิเธสุ ปโยเคสุ. อุทฺเทโสปีติ อุทฺทิสนํ อุทฺเทโส, ตํสหิโต ปโยโคปิ ¶ อุทฺเทโสติ วุตฺตํ โหติ ‘‘กุนฺเต ปเวเสหี’’ติ ยถา. เอวํ วตฺตพฺพตาย จ อนุทฺเทโสติ ตพฺพิปรีตวจนเมว าปกนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ เอเกโก อุทฺเทโสปิ อนุทฺเทโสปิ โหตีติ เตสมยํ เภโท ปน ทุวิโธ โหตีติ ปริทีปิโตติ โยชนา. อิเมสุ ฉสุ ปโยเคสฺเวว เอเกกสฺเสว อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสกิริยมานตาย ทุวิธภาวโต เตสํ ทฺวาทสวิโธ เภโท ปทภาชเน จ อฏฺกถาย จ ทีปิโต, ตตฺถ วินิจฺฉยมิทานิ ทสฺสยิสฺสามีติ อธิปฺปาโย.
๒๕๑. พหูสุปีติ มนุสฺเสสุ พหูสุปิ. เตน กมฺเมนาติ ปหารทานสงฺขาเตน กมฺเมน. พชฺฌตีติ อปายํ เนตุํ กมฺมปาเสน กมฺมนฺตรํ นิวาเรตฺวา พชฺฌตีติ อตฺโถ.
๒๕๒. ปหาเรปีติ ปหรเณปิ. เทหิโนติ มนุสฺสวิคฺคหสฺส. ตสฺสาติ ปหฏสฺส.
๒๕๓. ปหฏมตฺเต วาติ ปหฏกฺขเณ วา. ปจฺฉาติ ตปฺปจฺจยา กาลนฺตเร วา. อุภยถาปิ จ มเตติ ทฺวินฺนํ อาการานมฺตเรน มเตปิ. หนฺตา วธโก. ปหฏมตฺตสฺมินฺติ ตสฺมึ มรณารหปหารสฺส ลทฺธกฺขเณเยว, มรณโต ปุพฺพภาเคเยวาติ มตฺตสทฺเทน ทีเปติ. มรณตฺถาย จ อฺตฺถาย จ ทินฺเนสุ อเนเกสุ ปหาเรสุ มรณตฺถาย ¶ ทินฺนปฺปหาเรเนว ยทา กทาจิ มริสฺสติ, ปหารทานกฺขเณเยว ปาราชิกํ โหติ. อมรณาธิปฺปาเยน ทินฺนปฺปหารพเลน เจ มเรยฺย, น โหตีติ วุตฺตํ โหตีติ.
๒๕๔. ทฺเว ปโยคาติ อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสกิริยาเภทภินฺนา สาหตฺถิกาณตฺติกา ทฺเว ปโยคา.
๒๕๕. กรณสฺสาติ กิริยาย. วิเสโสติ นานตฺตํ. อาณตฺตินิยามกาติ อาณตฺตึ นิยาเมนฺติ ววตฺถาเปนฺตีติ อาณตฺตินิยามกา.
๒๕๖. ตตฺถาติ เตสุ อาณตฺตินิยามเกสุ ฉสุ อากาเรสุ. โยพฺพนาทิ จาติ อาทิ-สทฺเทน ถาวริยมนฺทขิฑฺฑวุทฺธาทิอวตฺถาวิเสโส สงฺคหิโต.
๒๕๗. ยํ มาติกาย นิทฺทิฏฺํ สตฺถํ, ตํ กตมํ?. สตฺตมารณนฺติ สตฺเต มาเรนฺติ เอเตนาติ สตฺตมารณํ, อสิอาทิวโธปกรณํ.
๒๕๘. วิชฺฌนนฺติ ¶ อุสุอาทีหิ วิชฺฌนํ. เภทนนฺติ กกจาทีหิ ทฺวิธากรณํ. เฉทนนฺติ ขคฺคาทีหิ ทฺวิธากรณํ. ตาฬนนฺติ มุคฺคราทีหิ อาฆาตนํ. เอวมาทิวิโธติ เอวมาทิปฺปกาโร. อเนโกติ พหุโก เภโท. กรณสฺส วิเสโส กิริยาวิเสโสติ อตฺโถ.
๒๕๙-๖๐. ‘‘ปุรโต ปหริตฺวาน มาเรหี’’ติ โย ภาสิโต อาณาปเกน, เตน อาณตฺเตน ปจฺฉโต…เป… มาริเตติ โยชนา. วตฺถาณตฺติ วิสงฺเกตาติ เอตฺถ ‘‘ยํ ‘มาเรหี’ติ…เป… ตโต’’ติ วตฺถุวิสงฺเกโต ทสฺสิโต. ‘‘ปุรโต…เป… มาริเต’’ติ อาณตฺติวิสงฺเกโต ทสฺสิโต. มูลฏฺโติ อาณาปโก. มูลนฺติ หิ ปุพฺพกิริยานุรูปํ อาณาปนํ, ตตฺถ ิโตติ มูลฏฺโ.
๒๖๑. อิมินา ¶ วิสงฺเกเต อาณาปกสฺส อนาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา สงฺเกเต อวิราธิเต อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วตฺถุ’’นฺติอาทิ. ตํ วตฺถุํ อวิรชฺฌิตฺวา มาริเต อุภเยสํ…เป… อุทีริโต, ยถาณตฺติ จ มาริเต…เป… อุทีริโตติ โยชนา. มาริเต วตฺถุสฺมินฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. อุภเยสนฺติ อาณาปกอาณตฺตานํ. ยถากาลนฺติ อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขณํ, อาณตฺตสฺส มารณกฺขณฺจ อนติกฺกมิตฺวา. พนฺธนํ พนฺโธ, กมฺมุนา พนฺโธ กมฺมพนฺโธ. อถ วา พชฺฌติ เอเตนาติ พนฺโธ, กมฺมเมว พนฺโธ กมฺมพนฺโธ.
๒๖๔. วิสงฺเกโต นาติ วิสงฺเกโต นตฺถิ, ทฺวินฺนมฺปิ ยถากาลปริจฺเฉทํ กมฺมพนฺโธเยวาติ อตฺโถ.
๒๖๕. สพฺพโสติ สพฺเพสุ กาลเภเทสุ, สพฺพโส เวทิตพฺโพติ วา สมฺพนฺโธ. สพฺพโสติ สพฺพปฺปกาเรน. วิภาวินาติ ปณฺฑิเตน. โส หิ อตฺถํ วิภาเวตีติ ตถา วุตฺโต.
๒๖๖-๗-๘. ‘‘อิมํ คาเม ิต’’นฺติ อิทํ ตํ สฺชานิตุํ วุตฺตํ, น มารณกฺขณฏฺานนิยมตฺถายาติ ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ ิต’’นฺติ วตฺวาปิ ‘‘นตฺถิ ตสฺส วิสงฺเกโต’’ติ อาห. ตสฺสาติ อาณาปกสฺส. ‘‘ตตฺถา’’ติ วา ปาโ, ตสฺสํ อาณตฺติยนฺติ อตฺโถ. ‘‘คาเมเยว ิตํ เวรึ มาเรหี’’ติ สาวธารณํ อาณตฺโต วเน เจ ิตํ มาเรติ วา ‘‘วเนเยว ิตํ เวรึ มาเรหี’’ติ สาวธารณํ วุตฺโต คาเม ิตํ เจ มาเรติ วาติ โยชนา. ‘‘ภิกฺขุนา สาวธารณ’’นฺติ ¶ จ โปตฺถเกสุ ลิขนฺติ, ตํ อคฺคเหตฺวา ‘‘วเน วา ¶ สาวธารณ’’นฺติ ปาโเยว คเหตพฺโพ. วิคโต สงฺเกโต อาณตฺตินิยาโม เอตฺถาติ วิสงฺเกโต.
๒๖๙. สพฺพเทเสสูติ คามวนองฺคณเคหาทีสุ สพฺเพสุ าเนสุ. เภทโตติ นานตฺตโต.
๒๗๐. ‘‘สตฺเถน ปน มาเรหี’’ติ เยน เกนจิ โย อาณตฺโต, เตน เยน เกนจิ สตฺเถน มาริเต วิสงฺเกโต นตฺถีติ โยชนา.
๒๗๑-๒. อิมินา วาสินา หีติ เอตฺถ หีติ ปทปูรเณ. ‘‘อิมินา อสินา มาเรยฺยา’’ติ วุตฺโต อฺเน อสินา มาเรติ วา ‘‘ตฺวํ อิมสฺส อสิสฺส เอตาย ธาราย มารย’’ อิติ วุตฺโต ตํ เวรึ สเจ อิตราย ธาราย มาเรติ วา ถรุนา มาเรติ วา ตุณฺเฑน มาเรติ วา, ตถา มาริเต วิสงฺเกโตเยว โหตีติ โยชนา. ถรุนาติ ขคฺคมุฏฺินา. ตุณฺเฑนาติ ขคฺคตุณฺเฑน. ‘‘วิสงฺเกโตวา’’ติ สงฺเกตวิราเธเนว ปาราชิกํ น โหตีติ ทสฺสนปทเมตํ.
๒๗๓. สพฺพาวุธกชาติสูติ อิธาวุตฺตกรปาลิกาฉุริกาทิสพฺพปหรณสามฺเสุ. วิเสสโตติ เภทโต.
๒๗๔. ปเรนาติ ภิกฺขุนา. โสติ อาณตฺโต. นิสินฺนํ นํ มาเรติ, วิสงฺเกโต น วิชฺชตีติ ‘‘คจฺฉนฺตเมว มาเรหี’’ติ สาวธารณํ อวุตฺตตฺตา ‘‘นิสินฺโนปิ โสเยวา’’ติ ตํ มาเรนฺตสฺส วิสงฺเกโต น โหติ, อวธารณํ อนฺตเรน กถนํ ตํ สฺชานาเปตุํ วุจฺจตีติ อิริยาปถนิยามกํ น โหตีติ อธิปฺปาโย.
๒๗๕-๖. อสติ ¶ สาวธารเณ วิสงฺเกตาภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สาวธารเณ อิริยาปถนฺตเรสุ วิสงฺเกตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นิสินฺนํเยวา’’ติอาทิ. ‘‘นิสินฺนํเยว มาเรหี’’ติ วุตฺโต คจฺฉนฺตํ มาเรติ, วิสงฺเกตนฺติ าตพฺพํ. ‘‘คจฺฉนฺตํเยว มาเรหี’’ติ วุตฺโต นิสินฺนํ มาเรติ, วิสงฺเกตนฺติ าตพฺพนฺติ โยชนา. อิมเมว โยชนากฺกมํ สนฺธายาห ‘‘ยถากฺกม’’นฺติ.
๒๗๗. วิชฺฌิตฺวาติ สราทีหิ วิชฺฌิตฺวา.
๒๗๘. ฉินฺทิตฺวาติ ¶ อสิอาทีหิ ฉินฺทิตฺวา. ปุน โสติ ปโยโค.
๒๗๙. กรเณสูติ วิชฺฌนาทิกิริยาวิเสเสสุ.
๒๘๐-๑. เอตฺตาวตา อาณตฺตินิยามกนิทฺเทสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทีฆาทิลิงฺควเสนาปิ สมฺภวนฺตํ วิสงฺเกตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทีฆ’’นฺติอาทิ. ‘‘ทีฆํ…เป… ถูลํ มาเรหีติ อนิยเมตฺวา อาณาเปตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๔) อฏฺกถาวจนโต เอว-การํ วินา ‘‘ทีฆํ มาเรหี’’ติ อนิยเมตฺวา เกนจิ โย อาณตฺโต โหติ, โสปิ อาณตฺโต ยํ กิฺจิ ตาทิสํ สเจ มาเรติ, นตฺถิ ตตฺถ วิสงฺเกโต, อุภินฺนมฺปิ ปราชโยติ โยชนา. เอวํ ‘‘รสฺส’’นฺติอาทิสพฺพปเทหิปิ ปจฺเจกํ โยชนา กาตพฺพา. อนิยเมตฺวาติ วิสงฺเกตาภาวสฺส เหตุทสฺสนํ. เอวกาโร วากฺยาลงฺกาโร. ตตฺถาติ อาณตฺติกปฺปโยเค. ‘‘อุภินฺนมฺปิ ปราชโย’’ติ วุตฺตตฺตา อาณาปกํ วินา อฺํ ยถาวุตฺตกฺขณํ มนุสฺสวิคฺคหํ ‘‘ยํ กิฺจิ ตาทิส’’นฺติ อิมินา ทสฺเสติ.
สเจ อาณาปโก อาณาเปตฺวา อตฺตานเมว มาเรติ, อาณาปโก ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวา มรติ, อาณตฺตสฺส ¶ ปาราชิกํ. อาณาปเกน อตฺตานมุทฺทิสฺส อาณตฺติยา กตาย อาณตฺโต อชานิตฺวา ตาทิสํ อฺํ มาเรติ, โอกาสสฺส อนิยมิตตฺตา อาณาปโก มุจฺจติ, อิตโร กมฺมุนา พชฺฌติ. ยทิ ‘‘อมุกสฺมึ รตฺติฏฺาเน วา ทิวาฏฺาเน วา นิสินฺนํ อีทิสํ มาเรหี’’ติ โอกาสํ นิยเมตฺวา อาณาเปติ, ตตฺถ อาณาปกโต อฺสฺมึ มาริเต อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ. ตโต พหิ มาริเต วธกสฺเสว กมฺมพนฺโธ. อาณาปโก อตฺตานเมว อุทฺทิสฺส อาณาเปติ, อิตโร จ ตเมว ตตฺถ มาเรติ, อาณาปกสฺส ทุกฺกฏํ, อาณตฺตสฺส ปาราชิกํ. สเจ อฺตฺถ มาเรติ, มูลฏฺโ มุจฺจติ. อชานิตฺวา อฺํ ตตฺถ วา อฺตฺถ วา มาเรติ, วธโก ปาราชิกํ อาปชฺชติ, มูลฏฺโ มุจฺจติ. อานนฺตริยวตฺถุมฺหิ อานนฺตริเยน สทฺธึ โยเชตพฺพํ.
๒๘๒. โย มนุสฺสํ กฺจิ อุทฺทิสฺส สเจ โอปาตํ ขณติ, ตถา โอปาตํ ขณนฺตสฺส ตสฺส ทุกฺกฏํ นาม อาปตฺติ โหตีติ อชฺฌาหารโยชนา. โยชนา จ นาเมสา ยถารุตโยชนา, อชฺฌาหารโยชนาติ ทุวิธา. ตตฺถ ปาาคตปทานเมว โยชนา ยถารุตโยชนา, อูนปูรณตฺถมชฺฌาหารปเทหิ สห ปาาคตปทานํ โยชนา อชฺฌาหารโยชนาติ เวทิตพฺพา. ‘‘ขณนฺตสฺส ¶ จ โอปาต’’นฺติ โปตฺถเกสุ ปาโ ทิสฺสติ. ‘‘ขณนฺตสฺส ตโถปาต’นฺติ ปาโ สุนฺทโร’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. ‘‘อาวาฏนฺติ เอตสฺส ‘โอปาต’นฺติ ปริยาโย’’ติ จ วุตฺตํ. ตโตปิ –
‘‘มนุสฺสํ กฺจิ อุทฺทิสฺส;
โย เจ ขณติวาฏกํ;
ขณโต ตํ ตถา ตสฺส;
โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏ’’นฺติ. –
ปาโ ¶ สุนฺทรตโร. ชาตปถวึ ขณนฺตสฺส ปาราชิกปโยคตฺตา ปโยคคณนาย ทุกฺกฏํ.
๒๘๓. ตตฺถาติ ตสฺมึ อาวาเฏ. ตสฺสาติ ปติตสฺส มนุสฺสวิคฺคหสฺส. ทุกฺขสฺสุปฺปตฺติยาติ ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุ. ตสฺสาติ เยน อาวาโฏ ขโต, ตสฺส ภิกฺขุโน. ปติตฺวา โส เจ มรติ, ตสฺมึ มเต ตสฺส ภิกฺขุโน ปาราชิกํ ภเวติ โยชนา.
๒๘๔. อฺสฺมินฺติ ยํ สมุทฺทิสฺส อาวาโฏ ขโต, ตโต อฺสฺมึ. อนุทฺทิสฺสกนฺติ กิริยาวิเสสนํ, อนุทฺทิสฺสกํ กตฺวาติ อตฺโถ. โอปาตวิเสสนํ เจ, ‘‘อนุทฺทิสฺสโก โอปาโต’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อคฺคมกฺขายตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๓๔; ๑๐.๑๕; อิติวุ. ๙๐; เนตฺติ. ๑๗๐) วิย โอ-การฏฺาเน อ-กาโร, ม-การาคโม จ ทฏฺพฺโพ, อโนทิสฺสโก โอปาโต ขโต โหตีติ อตฺโถ.
๒๘๕. ‘‘เอตฺถ ปติตฺวา โย โกจิ มรตู’’ติ อโนทิสฺสโก โอปาโต สเจ ขโต โหติ, ยตฺตกา นิปติตฺวา มรนฺติ เจ, อสฺส ตตฺตกา โทสา โหนฺตีติ โยชนา. ‘‘โย โกจี’’ติ อิมินา อตฺตโน มาตาปิตโร จ สงฺคหิตา. โทสาติ กมฺมพนฺธโทสา, ปาราชิกํ ปน เอกเมว. อสฺสาติ เยน อโนทิสฺส โอปาโต ขโต, ตสฺส.
๒๘๖. อานนฺตริยวตฺถุสฺมึ มเตติ ปาเสโส, ‘‘ตตฺถ ปติตฺวา’’ติ อธิกาโร, อรหนฺเต, มาตริ, ปิตริ จ ตสฺมึ ปติตฺวา มเต กาลกเตติ อตฺโถ. อานนฺตริยกนฺติ เอตฺถ สกตฺเถ, กุจฺฉิเต ¶ , สฺายํ วา ก-ปจฺจโย ทฏฺพฺโพ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อานนฺตริยวตฺถุสฺมิ’’นฺติ อิมสฺมึ สมาสปเท ¶ อวยวภูตมฺปิ ‘‘วตฺถุสฺมิ’’นฺติ อิทฺจ ‘‘ตตฺถ ปติตฺวา มเต’’ติ อิทฺจ อากฑฺฒติ. ถุลฺลจฺจยาทีนํ วตฺถุสฺมึ ตตฺถ ปติตฺวา มเต ถุลฺลจฺจยาทโย โหนฺตีติ โยชนา. ตสฺมึ อาวาเฏ ปติตฺวา ยกฺขาทีสุ มเตสุ, ปาราชิกวตฺถุโน ทุกฺขุปฺปตฺติยฺจ ถุลฺลจฺจยํ, มนุสฺสวิคฺคเห มเต ปาราชิกํ, ติรจฺฉาเน มเต ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๒๘๗. ปาณาติปาตา ทฺเวติ ทฺวินฺนํ มตตฺตา ทฺเว ปาณาติปาตา, เอเกน ปาราชิกํ, อิตเรน กมฺมพนฺโธเยว. เอโกเวเกกธํสเนติ มาตุ วา ทารกสฺส วา มรเณ เอโก ปาณาติปาโตว.
๒๘๘. โจเรหิ อนุพทฺโธ เอตฺถ อาวาเฏ ปติตฺวา มริสฺสติ เจ, โอปาตขณกสฺเสว ปาราชิกํ โหติ กิราติ โยชนา. กิราติ อนุสฺสวเน อรุจิสูจกํ.
๒๘๙-๙๐. เวริโน ภิกฺขุโต อฺเ เวริปุคฺคลา. ตตฺถ ตสฺมึ โอปาเต สเจ มนุสฺสํ ปาเตตฺวา มาเรนฺติ, ตถา เวริโน ตตฺถ สยเมว ปติตํ มนุสฺสํ พหิ นีหริตฺวา สเจ มาเรนฺติ, ตตฺถ โอปปาติกา มนุสฺสา โอปาเต นิพฺพตฺติตฺวา ตโต นิกฺขนฺตุํ อสกฺโกนฺตา มตา เจ สิยุํ, สพฺพตฺถ จ ยถาวุตฺตสพฺพวาเรสุ โอปาตขณกสฺเสว ปราชโยติ โยชนา. นิพฺพตฺติตฺวา หีติ เอตฺถ หีติ ปทปูรเณ. ยตฺถ ยตฺถ นิปาตสทฺทานํ อตฺโถ น ทสฺสิโต, ตตฺถ ตตฺถ ปทปูรณมตฺตตา เวทิตพฺพา.
๒๙๑. ยกฺขาทโยติ อาทิ-สทฺเทน ติรจฺฉานานํ สงฺคโห. วตฺถุวสาติ ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยานํ วตฺถุภูตยกฺขติรจฺฉานานํ วสา. ถุลฺลจฺจยาทโยติ อาทิ-สทฺเทน ปาจิตฺติยสงฺคโห.
๒๙๓. อยํ ¶ นโยติ ‘‘อนาปตฺตี’’ติ ยถาวุตฺโต นโย.
๒๙๔-๕. พชฺฌนฺตีติ สเจ อวสฺสํ พชฺฌนฺติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปาเส. ‘‘หตฺถโต มุตฺตมตฺตสฺมิ’’นฺติ อิมินา ปโยคสฺส อตฺถสาธกตํ ทีเปติ.
๒๙๖. ยํ ¶ ปน อุทฺทิสฺส ปาโส โอฑฺฑิโต, ตโต อฺสฺส พนฺธเน ตุ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
๒๙๗. มุธา วาปีติ อมูเลน วาปิ. มูลฏฺสฺเสวาติ ปาสการกสฺเสว. กมฺมพนฺโธติ ปาณาติปาโต. พชฺฌติ เอเตนาติ พนฺโธ, กมฺมเมว พนฺโธ กมฺมพนฺโธ. ปาราชิกมตฺเต วตฺตพฺเพปิ ยาว โส วตฺตติ, ตาว ตตฺถ พชฺฌิตฺวา มตสตฺเตสุ ปมมตสฺส วเสน ปาราชิกํ, อวเสสานํ ปาณาติปาตสงฺขาตสฺส อกุสลราสิโน สมฺภวโต ตํ สพฺพํ สงฺคเหตฺวา สามฺเน ทฺวยมฺปิ ทสฺเสตุมาห ‘‘กมฺมพนฺโธ’’ติ.
๒๙๘. ‘‘สเจ เยน ลทฺโธ, โส อุคฺคฬิตํ วา ปาสํ สณฺเปติ, ตสฺส ปสฺเสน วา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา วตึ กตฺวา สมฺมุเข ปเวเสติ, ถทฺธตรํ วา ปาสยฏฺึ เปติ, ทฬฺหตรํ วา ปาสรชฺชุํ พนฺธติ, ถิรตรํ วา ขาณุกํ อาโกเฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๖) อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ สงฺคหิตุมาห ‘‘ปาสมุคฺคฬิตมฺปิ วา’’ติ. เอตฺถ อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน ปิ-สทฺเทน ‘‘สณฺเปตี’’ติอาทิกา ‘‘พนฺธตี’’ติ ทสฺสิตกิริยาวสานา ปโยคา ทสฺสิตา. ถิรํ วาปีติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท อฏฺกถาย อวสิฏฺํ ‘‘ขาณุกํ อาโกเฏตี’’ติ กิริยํ สมุจฺจิโนติ อุภยตฺถปิ ปการนฺตรวิกปฺปตฺถตฺตาติ คเหตพฺพา. เอวนฺติ ¶ เอวํ สติ. เยน ปาโส ลทฺโธ, เตนาปิ เอวํ ปาเส กตวิเสเส สตีติ วุตฺตํ โหติ. อุภินฺนนฺติ ปาสการกสฺส จ อิทานิ ลภิตฺวา ปฏิชคฺคนฺตสฺส จาติ อุภเยสํ.
๒๙๙-๓๐๐. โยติ ปาสการโก, ลทฺธปาสโกติ อิเมสํ โย โกจิ. อุคฺคฬาเปตฺวาติ วิฆาเฏตฺวา, ยถา ตตฺถ ปาณิโน น พชฺฌนฺติ, เอวํ กตฺวาติ อตฺโถ. ตตฺถ จาติ ปุน สณฺปิเต ปาเส จ. โก วิมุจฺจติ? เยน ลทฺโธ, โส.
๓๐๑-๒. โคเปตฺวาติ โคปนเหตุ โมกฺโข น โหตีติ โยชนา. ‘‘สีหํ ทิสฺวา ภยํ โหตี’’ติอาทีสุ วิย เหตุมฺหิ ตฺวา-ปจฺจโย ทฏฺพฺโพ. ตมฺโ…เป… น จ มุจฺจตีติ เอตฺถ น จาติ เนว. นาเสตฺวา สพฺพโส วาติ โส ยถา ยสฺส กสฺสจิ สตฺตสฺส วินาโสปกรณํ น โหติ, ตถา ฉินฺทนาทีหิ นาเสตฺวา. ตํ ปาสยฏฺึ. โก วิมุจฺจติ? ปาสการโก.
๓๐๓. สูลํ ¶ โรเปนฺตสฺสาติ สูลํ นิขณนฺตสฺส. สชฺเชนฺตสฺสาติ สณฺเปนฺตสฺส.
๓๐๔. อสฺจิจฺจาติ เอตฺถ ‘‘กเตน ปโยเคนา’’ติ ปาเสโส, ‘‘มเตปิ อนาปตฺตี’’ติ เอเตหิ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิมินาหํ อุปกฺกเมน อิมํ มาเรสฺสามี’’ติ อเจเตตฺวา อปกปฺเปตฺวา อวธกเจตโน หุตฺวา กเตน อฺตฺถิเกนปิ อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อาปตฺติ นตฺถีติ อตฺโถ, มุสลุสฺสาปนาทิวตฺถูสุ (ปารา. ๑๘๐) วิย อยํ สตฺโตติสฺี หุตฺวา ‘‘อิมินา อุปกฺกเมน อิมํ มาเรสฺสามี’’ติ วีติกฺกมสมุฏฺาปกเจตนาสมฺปยุตฺตวิกปฺปรหิโต หุตฺวา อฺตฺถิเกน ปโยเคน มนุสฺเส มเตปิ ปาราชิกํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ.
อชานนฺตสฺสาติ ¶ ‘‘อิมินา อยํ มริสฺสตี’’ติ อชานนฺตสฺส อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อนาปตฺติ, วิสคตปิณฺฑปาตวตฺถุมฺหิ (ปารา. ๑๘๑) วิย ‘‘อิทํ การณ’’นฺติ อชานิตฺวา กเตน มนุสฺเส มเตปิ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อากฑฺฒติ. อมรณจิตฺตสฺส อมรณิจฺฉาสหิตจิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อนาปตฺติ วุทฺธปพฺพชิตาทิวตฺถูสุ (ปารา. ๑๘๐) วิยาติ อตฺโถ. อุมฺมตฺตกาทโย วุตฺตสรูปาเยว.
๓๐๕. ‘‘มนุสฺสปาณิมฺหี’’ติ อิมินา มนุสฺสภาโว องฺคภาเวน ทสฺสิโต. ‘‘สจสฺส จิตฺตํ มรณูปสํหิต’’นฺติ อิมินา มรณูปสํหิตจิตฺตตา ทสฺสิตา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ตติยปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุตฺถปาราชิกกถาวณฺณนา
๓๐๖-๗. เอวํ นาติสงฺเขปวิตฺถารนเยน ตติยปาราชิกวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ จตุตฺถปาราชิกวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อสนฺต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘อสนฺต’’นฺติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘อตฺตนี’’ติ จ ‘‘ฌานาทิเภท’’นฺติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺม’’นฺติ จ ‘‘สมุทาจเรยฺยา’’ติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘โย ภิกฺขู’’ติ จ สามตฺถิยา ลพฺภตีติ อชฺฌาหริตฺวา ‘‘อตฺตนิ อสนฺต’’นฺติอาทินา นเยน โยเชตพฺพํ.
อตฺตนิ ¶ อสนฺตนฺติ ตสฺมึ อตฺตภาเว อตฺตโน สนฺตาเน อนุปฺปาทิตตาย อวิชฺชมานํ. อตฺตสฺสิตเมว กตฺวาติ อตฺตุปนายิกํ กตฺวา อตฺตนิ วิชฺชมานํ วิย กตฺวา ตํ อุปเนตฺวา ¶ . ภวํ อธิฏฺาย จ วตฺตมานนฺติ ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย จ วตฺตนฺตํ ภวํ จิตฺเตน อธิฏฺหิตฺวา ตกฺเกตฺวา, จิตฺเต เปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อฺาปเทสฺจ วินาติ ‘‘โย เต วิหาเร วสตีธ ภิกฺขู’’ติอาทินา นเยน วกฺขมานํ ปริยายกถํ เปตฺวา. อธิมานฺจ วินาติ อทิฏฺเ ทิฏฺสฺิตาทิสภาวํ อธิคตมานสงฺขาตํ ‘‘อธิคตอุตฺตริมนุสฺสธมฺโม อหมฺหี’’ติ อธิมานฺจ เปตฺวา. ฌานาทิเภทนฺติ ฌานาทโย เภทา วิเสสา ยสฺส ตํ ฌานาทิเภทํ, ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม นาม ฌานํ วิโมกฺโข สมาธิ สมาปตฺติ าณทสฺสนํ มคฺคภาวนา ผลสจฺฉิ กิริยา กิเลสปฺปหานํ วินีวรณตา จิตฺตสฺส สฺุาคาเร อภิรตี’’ติ (ปารา. ๑๙๘, ๑๙๙) ปทภาชเน วุตฺตํ ฌานาทิธมฺมวิเสสนฺติ อตฺโถ. ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจ ธมฺม’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๙๗) อฏฺกถาย วุตฺตํ ฌานลาภีหิ เจว อฏฺหิ อริยปุคฺคเลหิ จ อธิคตตฺตา เตสํ สนฺตกนฺติ สงฺขฺยํ คตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ.
วิฺตฺติปเถ ิตสฺส กาเยน วา วาจาย วา โย ภิกฺขุ สมุทาจเรยฺยาติ อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺพํ. วิฺตฺติปเถ ิตสฺสาติ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ปเทเส ิตสฺส ‘‘อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา’’ติ (ปารา. ๑๙๘) ปทภาชเน วุตฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ. กาเยน วาติ หตฺถมุทฺทาทิวเสน กาเยน วา. ‘‘สิกฺขาปจฺจกฺขานํ หตฺถมุทฺทาย สีสํ น โอตรติ, อิทํ อภูตาโรจนํ หตฺถมุทฺทายปิ โอตรตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๑๕) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อิธ หตฺถมุทฺทาทิหตฺถวิกาโร จ องฺคปจฺจงฺคโจปนฺจ ‘‘กาเยนา’’ติ อิมินา คเหตพฺพํ. วาจาย วาติ โย สวนูปจาเร ิโต เตน วิฺาตุํ สกฺกุเณยฺเยน เยน เกนจิ โวหาเรน วา. โย ภิกฺขูติ โย อุปสมฺปนฺโน เถโร วา นโว ¶ วา มชฺฌิโม วา. สมุทาจเรยฺยาติ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทิวจนปฺปกาเรสุ ยํ กฺจิ ปการํ วเทยฺย. ตทตฺเถติ เตน วุตฺตวากฺยสฺส อตฺเถ. าเตวาติ าเต เอว. มาตุคามํ วา ปุริสํ วา ยํ กิฺจิ อุทฺทิสฺส วุตฺเต, เตเนว วา อนุทฺทิสฺส วุตฺเต สวนูปจาเร ิเตน เยน เกนจิ มนุสฺสภูเตน วจนสมนนฺตรเมว ‘‘อยํ ปมชฺฌานลาภี’’ติอาทิเก ยถาวุตฺเต อตฺถปฺปกาเร าเตเยว. ‘‘โส’’ติ อชฺฌาหริตฺวา ‘‘โส ปุน รุฬฺหิภาเว อภพฺโพ’’ติ โยเชตพฺพํ, อตฺตนิ อวิชฺชมานคุณํ สนฺตํ วิย กตฺวา อิจฺฉาจาเร ตฺวา เอวํ กถิตปุคฺคโล สีเล ปติฏฺาย อุปรูปริ ลพฺภมานโลกิยโลกุตฺตรคุเณหิ พุทฺธิสงฺขาตํ สาสเน พุทฺธิมธิคนฺตุํ อนรโหติ อตฺโถ ¶ . กึ วิยาติ อาห ‘‘ยเถว…เป… รุฬิภาเว’’ติ. ‘‘ยถา’’ติ เอเตน สมฺพนฺโธ ‘‘ตถา’’ติ, ยถา ตาโล มตฺถกจฺฉินฺโน อภพฺโพ ปุน วิรุฬฺหิยา, โสปิ ปาราชิกํ อาปนฺโน ตเถว ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ.
๓๐๘-๙. อิทานิ ‘‘าเตว อภพฺโพ’’ติ จ ‘‘อฺาปเทสฺจ วินา’’ติ จ เอตสฺมึ วากฺยทฺวเย พฺยติเรกตฺถวเสน สมฺภวนฺตํ อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อสนฺตเมวา’’ติอาทิ.
อนนฺตรนฺติ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทิวจนสมนนฺตรเมว. โสติ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ตฺวา เยน ตํ วจนํ สุตํ, โส ปโร ปุคฺคโล. ชานาติ เจติ ‘‘อยํ ปมชฺฌานลาภี’’ติอาทิวเสน เตน วุตฺตวจนปฺปกาเรน อตฺถํ อวิราเธตฺวา อจิเรเนว สเจ ชานาตีติ อตฺโถ. โย ปน ฌานาทีนํ อตฺตนา อลทฺธภาเวน วา อาคเม อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน อปริจิตตฺตา วา ฌานาทิสรูปํ อชานนฺโตปิ ¶ เกวลํ ‘‘ฌานํ วิโมกฺโข สมาธิ สมาปตฺตี’’ติอาทิวจนานํ สุตปุพฺพตฺตา เตน ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทิวจเน วุตฺเต ‘‘ฌานํ กิร เอส สมาปชฺชตี’’ติ ยทิ เอตฺตกมตฺถมฺปิ ชานาติ, โสปิ ‘‘ชานาติ’’จฺเจว อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๑๕) วุตฺโตติ คเหตพฺโพ. จุโต หีติ หิ-สทฺโท อวธารเณ, อตฺตนา วุตฺเต เตน ตตฺตเกเยว าเต โส อสนฺตคุณทีปโก ปาปปุคฺคโล ผลสมฺปตฺติสมฺปนฺนํ อิมํ สาสนามตมหาปาทปํ อารุยฺหาปิ ผลํ อปริภฺุชิตฺวา วิราเธตฺวา ปติตฺวา มโต นาม โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อิมสฺเสวตฺถสฺส ‘‘อสนฺต’’มิจฺจาทินา ปมํ วุตฺตสฺสปิ พฺยติเรกตฺถํ ทสฺเสตุํ อนุวาทวเสน วุตฺตตฺตา ปุนรุตฺติโทโส น โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
อิทานิ ตํ พฺยติเรกตฺถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โน เจ…เป… โหตี’’ติ. ยสฺส โส อาโรเจติ, โส เจ น ชานาติ, อสฺส อสนฺตคุณทีปกสฺส มุสาวาทิโน.
‘‘อฺาปเทสฺจ วินา’’ติ อิมินา ทสฺสิตพฺยติเรกตฺถสฺส ภาวาภาเว สมฺภวนฺตํ อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โย เต’’ติอาทิ. โย ภิกฺขุ เต ตว อิธ อิมสฺมึ วิหาเร วสตีติ โยชนา. ทีปิเตติ อตฺตโน อธิปฺปาเย ปกาสิเต. ชานาติ เจติ โย ตถา วุตฺตวจนํ อสฺโสสิ, โส ‘‘เอส อฺาปเทเสน อตฺตโน ฌานลาภิตํ ทีเปตี’’ติ วา ‘‘เอโส ฌานลาภี’’ติ ¶ วา วจนสมนนฺตรเมว สเจ ชานาติ. อสฺสาติ เอวํ กถิตวจนวโต ตสฺส ภิกฺขุโน. ตํ เตน วุตฺตวจนํ. ทุกฺกฏเมว โหติ, น ถุลฺลจฺจยนฺติ อตฺโถ. อตฺตโน อาวาสการานํ ทายกานํ อฺสฺส ปวตฺตึ กเถนฺตสฺส วิย อตฺตโนเยว อสนฺตคุณํ สนฺตมิว ¶ กตฺวา กถนากาโร อิมาย คาถาย อตฺถโต วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.
เอตฺถ จ ฌานลาภีติ จาติ อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน จ-สทฺเทน ปาฬิยํ (ปารา. ๒๒๐) อาคตา อวเสสปริยายวารา จ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. ตถา ฌานลาภีติ เอตฺถ ฌานคฺคหเณน วิโมกฺขาทีนฺจ อุปลกฺขิตตฺตา ฌานาทิทสวิธอุตฺตริมนุสฺสธมฺมวิสยปริยายกถํ สุตวตา ตงฺขเณ ตทตฺเถ าเต ปริยายสมุลฺลาปเกน อาปชฺชิตพฺพํ ถุลฺลจฺจยฺจ อวิฺาเต วา จิเรน วิฺาเต วา อาปชฺชิตพฺพํ ทุกฺกฏฺจ อิมาย คาถาย อตฺถโต ทสฺสิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ.
๓๑๐. เอตนฺติ ยถาวุตฺตปฺปการํ ฌานาทิเภทํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ. อธิมานาติ ‘‘อธิคโตห’’นฺติ เอวํ อุปฺปนฺนมานา, อธิกมานาติ อตฺโถ, ‘‘อยํ ธมฺโม มยา อธิคโต’’ติ ทฬฺหมุปฺปนฺเนน มาเนน กเถนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺโต อนาปตฺตินโยติ อาปตฺติยา อภาโว อนาปตฺติ, สา เอว นโย เนตพฺโพ พุชฺฌิตพฺโพติ กตฺวา, อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อธิมาเนนา’’ติ เอวํ วุตฺโต ภควตาติ อตฺโถ, ‘‘อธิคตธมฺโมห’’นฺติ อธิมาเนน ‘‘อหํ ปมชฺฌานลาภี’’ติอาทีนิ วทนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
อยมธิมาโน กสฺส โหติ, กสฺส น โหตีติ เจ? อริยานํ น โหติ มคฺคปจฺจเวกฺขณาทีหิ ปฺจหิ ปจฺจเวกฺขณาหิ สฺชาตโสมนสฺสานํ วิติณฺณกงฺขตฺตา. ทุสฺสีลสฺสาปิ น โหติ ตสฺส อริยคุณาธิคเม นิรุสฺสาหตฺตา. สุสีลสฺสาปิ กมฺมฏฺานานุโยครหิตสฺส นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตสฺส น โหติ วิสฺสฏฺภาวนาภิโยคตฺตา. สุปริสุทฺธาย สีลสมฺปตฺติยา ปติฏฺาย สมถภาวนามนุยุตฺตสฺส รูปารูปสมาปตฺติยํ ปตฺตาสิโน วา วิปสฺสนาภิยุตฺตสฺส ¶ โสปกฺกิเลโสทยพฺพยาณลาภิโน วา อุปฺปชฺชติ. โส สมถวิปสฺสนาภาวนาหิ กิเลสสมุทาจารสฺส อภาเว อุปฺปนฺเน เต วิเสสภาคิโน ภวิตุํ อทตฺวา ิติภาคิโน กตฺวา เปตีติ เวทิตพฺโพ.
ปนาติ อปิ-สทฺทตฺโถ. ‘‘เอว’’นฺติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตินโย วุตฺโต’’ติ ปจฺจามสติ. ‘‘อวตฺตุกามสฺสา’’ติ อิทฺจ ปาฬิยํ อาคตํ ‘‘อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺสา’’ติ ¶ (ปารา. ๒๒๒, ๒๒๕) อิทฺจ อนตฺถนฺตรํ. อวตฺตุกามสฺสาติ เอวํ วุตฺโตติ โยชนา. โกหฺเน ปาปิจฺฉาปกตสฺส ‘‘ฌานาทีนํ ลาภิมฺหี’’ติ วทนฺตสฺส อชฺฌาสโย อุลฺลปนาธิปฺปาโย นาม, ตถา อหุตฺวา สพฺรหฺมจารีสุ อฺํ พฺยากโรนฺตสฺส เอวเมว อนาปตฺติภาโว วุตฺโต ภควตาติ อตฺโถ. อาทิกสฺสาปิ เอวํ วุตฺโตติ โยชนา. ‘‘อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๒๒) อาทิกมฺมิกสฺสาปิ อนาปตฺติภาโว วุตฺโต ภควตาติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู อาทิกมฺมิกา. อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน ตถา-สทฺเทน อิธ อวุตฺตอุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนฏฺฏา คหิตา.
๓๑๑. ปาปิจฺฉตาติ ‘‘เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตี’’ติ ฌานลาภิตาทิเหตุกาย สมฺภาวนาย สมฺภาวนานิมิตฺตสฺส ปจฺจยปฏิลาภสฺส ปตฺถนาสงฺขาตาย ปาปิกาย ลามิกาย อิจฺฉาย สมนฺนาคตภาโว จ. ตสฺสาติ ยํ ฌานาทิเภทภินฺนํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ สมุลฺลปิ, ตสฺส ธมฺมสฺส. อสนฺตภาโวติ อตฺตสนฺตาเน ปจฺจุปฺปนฺนชาติยํ อนุปฺปาทิตภาเวน อวิชฺชมานภาโว. มนุสฺสกสฺส อาโรจนฺเจวาติ วุตฺตวจนสฺส อตฺถํ ตงฺขเณ ชานนกสฺส มนุสฺสชาติกสฺส ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติอาทินา นเยน สวนูปจาเร ¶ ตฺวา อาโรจนฺจ. นฺาปเทเสน อาโรจนฺจาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชี’’ติอาทินา (ปารา. ๒๒๐) นเยน ปวตฺตอฺาปเทสํ วินา อุชุกเมว อาโรจนฺจ. ตเทว าณนฺติ ตทา เอว าณํ, อจิรายิตฺวา วุตฺตกฺขเณเยว ชานนนฺติ อตฺโถ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ จตุตฺถปาราชิกาปตฺติยํ. ธีรา วินยธรา.
๓๑๒. ปเม ทุติเย จนฺเตติ มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกวชฺชิเต ยถาวุตฺตปาราชิกตฺตเย. ปริยาโย น วิชฺชตีติ ปาราชิกาปตฺติปถํ ปริยายวจนํ น ลภติ. ‘‘น ปเนตเร’’ติ อิทํ เอตฺถาปิ โยเชตพฺพํ, อิตเร ปน ตติยปาราชิเก ปริยาโย น วิชฺชตีติ อตฺโถ. ‘‘มรณวณฺณํ วา สํวณฺเณยฺยา’’ติ (ปารา. ๑๗๒) จ ‘‘อมฺโภ ปุริส กึ ตุยฺหิมินา’’ติอาทินา (ปารา. ๑๗๑) จ ‘‘โย เอวํ มรติ, โส ธนํ วา ลภตี’’ติอาทินา (ปารา. ๑๗๕) จ ปริยาเยน วทนฺตสฺส ปาราชิกเมวาติ วุตฺตํ โหติ. อาณตฺติ ปาราชิกเหตุอาณตฺติกปฺปโยโค. น ปเนตเรติ ปมจตุตฺถปาราชิกทฺวเย ปน ปาราชิกเหตุภูตา อาณตฺติ น ลภตีติ อตฺโถ.
๓๑๓. อาทีติ ¶ ปมปาราชิกํ. เอกสมุฏฺานนฺติ เอกการณํ. สมุฏฺาติ อาปตฺติ เอตสฺมาติ สมุฏฺานํ, การณํ กายาทิ. ตํ ปน ฉพฺพิธํ กาโย, วาจา, กายวาจา, กายจิตฺตํ, วาจาจิตฺตํ, กายวาจาจิตฺตนฺติ. เตสํ วินิจฺฉยํ อุตฺตเร (อุ. วิ. ๓๒๕ อาทโย) ยถาคตฏฺาเนเยว จ วณฺณยิสฺสาม. ตตฺริทํ เอกสมุฏฺานํ เอกํ กายจิตฺตํ สมุฏฺานํ เอตสฺสาติ กตฺวา. เตนาห ‘‘ทุวงฺคํ กายจิตฺตโต’’ติ. ‘‘ตํ สมุฏฺาน’’นฺติ อชฺฌาหาโร. เยน สมุฏฺาเนน ปมปาราชิกาปตฺติ อุปฺปชฺชติ, ตํสมุฏฺานสงฺขาตํ ¶ การณํ. องฺคชาตสงฺขาตํ กายฺจ เสวนจิตฺตฺจาติ ทฺวยํ องฺคํ อวยวํ เอตสฺสาติ ทุวงฺคํ, ตทุภยสภาวนฺติ อตฺโถ ยถา ‘‘ทุวงฺคํ จตุตฺถชฺฌาน’’นฺติ. เสสาติ อวสิฏฺานิ ตีณิ ปาราชิกานิ. ติสมุฏฺานาติ กายจิตฺตํ, วาจาจิตฺตํ, กายวาจาจิตฺตนฺติ ติสมุฏฺานา ตีณิ สมุฏฺานานิ เอเตสนฺติ กตฺวา. เตสนฺติ เตสํ ติณฺณํ สมุฏฺานานํ. องฺคานีติ อวยวานิ. สตฺต กาโย, จิตฺตํ, วาจา, จิตฺตํ, กาโย, วาจา, จิตฺตนฺติ, ตํสภาวาติ วุตฺตํ โหติ.
๓๑๔. อาทีติ เมถุนธมฺมปฏิเสวนจิตฺตสมฺปยุตฺตเจตนาสภาวํ ปมปาราชิกํ. สุโขเปกฺขายุตํ อุทีริตนฺติ โยชนา. อิฏฺาลมฺพณปฏิลาภาทิโสมนสฺสเหตุมฺหิ สติ สุขเวทนาสมฺปยุตฺตํ โหติ, ตสฺมึ อสติ อุเปกฺขาเวทนาย สมฺปยุตฺตํ โหตีติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
ตติยํ ทุกฺขเวทนนฺติ ตติยํ มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกํ โทสจิตฺตสมฺปยุตฺตเจตนาสภาวตฺตา ทุกฺขเวทนาย สมฺปยุตฺตนฺติ อตฺโถ.
ทุติยนฺติ อทินฺนาทานเจตนาลกฺขณํ ทุติยปาราชิกํ. โลเภน ปรสนฺตกํ โจริกาย คณฺหนฺตสฺส โสมนสฺสสมฺปยุตฺตํ โหติ, โกเธน อภิภูตสฺส วิลุมฺปิตฺวา วา วิลุมฺปาเปตฺวา วา คณฺหโต โทมนสฺสสมฺปยุตฺตํ โหติ, โสมนสฺสํ, โทมนสฺสฺจ วินา อคฺคเหตุกาโม วิย หุตฺวา อุทาสีนสฺส คณฺหโต อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตํ โหตีติ ‘‘ติเวทนมุทีริต’’นฺติ อาห.
จตุตฺถฺจาติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสมุลฺลปนเจตนาลกฺขณํ จตุตฺถปาราชิกฺจ. สมฺภาวนิจฺฉาย ปจฺจยาสาย วา ตุฏฺตุฏฺสฺเสว ‘‘อหํ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทินา นเยน ¶ อตฺตโน อุตฺตริมนุสฺสธมฺมลาภิตํ วทนฺตสฺส โสมนสฺสสมฺปยุตฺตํ โหติ, อฺปุคฺคเลสุ ปฏิหตจิตฺตสฺส กลหปุเรกฺขารตาย วทโต โทมนสฺสสมฺปยุตฺตํ โหติ, ปจฺจยาลาเภน ชิฆจฺฉาทิทุกฺขํ ¶ สหิตุมสกฺกุเณยฺยตาย อุทาสีนสฺส วทโต อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตํ โหตีติ ‘‘ติเวทนมุทีริต’’นฺติ อาห.
๓๑๕. อฏฺ จิตฺตานีติ โลภสหคตานิ อฏฺ จิตฺตานิ ลพฺภเรติ โยชนา, ลพฺภนฺตีติ อตฺโถ, เจตนาสภาเวน ปมปาราชิเกน สมฺปยุตฺตานีติ วุตฺตํ โหติ. เอวมุปริปิ. ทุเวติ ปฏิฆสมฺปยุตฺตานิ ทฺเว จิตฺตานิ. ทส จิตฺตานีติ โลภสหคตานิ อฏฺ, ทฺเว ปฏิฆสมฺปยุตฺตานีติ. ลพฺภเรติ สมฺปยุตฺตภาเวน ลพฺภนฺติ.
๓๑๖. ตสฺมาติ ยสฺมา ยถาวุตฺตจิตฺเตหิ สมฺปยุตฺตํ, เตน เหตุนา. กฺริยาติ กรเณน อาปชฺชิตพฺพตฺตา กิริยา. วีติกฺกมสฺาย อภาเวน มุจฺจนโต สฺาย วิโมกฺโข เอตสฺสาติ สฺาวิโมกฺขํ. โลกวชฺชนฺติ โลเกน อกุสลภาวโต วชฺชนียนฺติ ทีปิตํ ปกาสิตํ.
๓๑๗. อาปตฺติยํเยวาติ เอวกาเรน น สิกฺขาปเทติ ทสฺเสติ. อิทํ วิธานนฺติ สมุฏฺานาทิกํ อิทํ ยถาวุตฺตํ วิธานํ. วิภาวินาติ ปฺวตา วินยธเรน.
๓๑๘-๙. มุทุปิฏฺิ จาติ ลตา วิย นมิตฺวา กรณํ ทสฺเสตฺวา นจฺจิตุํ สมวาหิตฺวา มุทุกตปิฏฺิโก จ. ลมฺพี จาติ ปลมฺพมาเนน ทีเฆน องฺคชาเตน ยุตฺโต. ลมฺพตีติ ลมฺพํ, องฺคชาตํ, ตํ ยสฺส อตฺถิ โส ลมฺพี. อิเม ทฺเวปิ กามปริฬาหาตุรภาเว สติ อตฺตโน องฺคชาตํ อตฺตโน ¶ มุขํ, วจฺจมคฺคฺจ ปเวเสตฺวา วีติกฺกมิตุมรหตฺตา ปาราชิกาปนฺนสทิสตฺตา ปริวชฺชิตา. มุขคฺคาหีติ มุเขน คหณํ มุขคฺคาโห, โส เอตสฺส อตฺถีติ มุขคฺคาหี, ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหนฺโตติ อตฺโถ. นิสีทโกติ ปรสฺส องฺคชาเต อตฺตโน วจฺจมคฺเคน นิสีทนฺโต. อิเม ทฺเว สหวาสิกานํ สีลวินาสนโต อฺเหิ สํวสิตุํ อนรหาติ ปาราชิกาปนฺนสทิสตฺตา วิวชฺชิตา. เตสนฺติ อสํวาสตาสามฺเน จตฺตาโร ปาราชิกาปนฺเน สงฺคณฺหาติ. ‘‘เตสฺจ มคฺเคนมคฺคปฏิปตฺติสามฺเน ปมปาราชิกาปนฺนสฺเสว อนุโลมิกาติ คเหตพฺพา’’ อิจฺเจวํ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. อิมินา จ อกตวีติกฺกมานมฺปิ มุทุปิฏฺิอาทีนํ จตุนฺนํ อนุโลมปาราชิกภาโว วุตฺโตติ วิฺายติ.
สมนฺตปาสาทิกายํ ¶ ปน –
‘‘อปรานิปิ ลมฺพี, มุทุปิฏฺิโก, ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหาติ, ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ อิเมสํ จตุนฺนํ วเสน จตฺตาริ อนุโลมปาราชิกานีติ วทนฺติ. เอตานิ หิ ยสฺมา อุภินฺนํ ราควเสน สทิสภาวูปคตานํ ธมฺโม ‘เมถุนธมฺโม’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา เอเตน ปริยาเยน เมถุนํ ธมฺมํ อปฺปฏิเสวิตฺวาเยว เกวลํ มคฺเคน มคฺคปฺปเวสนวเสน อาปชฺชิตพฺพตฺตา เมถุนธมฺมปาราชิกสฺส อนุโลเมนฺตีติ ‘อนุโลมปาราชิกานี’ติ วุจฺจนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๓) –
วุตฺตตฺตา จ ตพฺพณฺณนาย จ สารตฺถทีปนิยํ –
‘‘ลมฺพํทีฆตาย ปลมฺพมานํ องฺคชาตเมตสฺสาติ ลมฺพี. โส เอตฺตาวตา น ปาราชิโก, อถ โข ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ มุเข ¶ วา วจฺจมคฺเค วา ปเวเสติ, ตทา ปาราชิโก โหติ. มุทุกา ปิฏฺิ เอตสฺสาติ มุทุปิฏฺิโก, กตปริกมฺมาย มุทุกาย ปิฏฺิยา สมนฺนาคโต. โสปิ ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ อตฺตโน มุเข ปเวเสติ ตทา ปาราชิโก โหติ. ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหาตีติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส สุตฺตสฺส วา ปมตฺตสฺส วา องฺคชาตํ อตฺตโน มุเขน คณฺหาติ. ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส องฺคชาตํ กมฺมนิยํ ทิสฺวา อตฺตโน วจฺจมคฺเคน ตสฺสูปริ อภินิสีทติ, ตํ อตฺตโน วจฺจมคฺคํ ปเวเสตีติ อตฺโถ. ลมฺพีอาทโย จตฺตาโร กิฺจาปิ ปมปาราชิเกน สงฺคหิตา, ยสฺมา ปน อุภินฺนํ ราคปริยุฏฺานสงฺขาเตน ปริยาเยน เมถุนํ ธมฺมํ อปฺปฏิเสวิโน โหนฺติ, ตสฺมา วิสุํ วุตฺตา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๒๓๓) –
วุตฺตตฺตา จ กตวีติกฺกมาเยเวเต ‘‘ปาราชิกา’’ติ คเหตพฺพา.
ภิกฺขุนีนฺจ จตฺตารีติ เอตฺถ ‘‘อสาธารณานี’’ติ ปาเสโส, ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนเมว นิยตานิ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา, วชฺชปฏิจฺฉาทิกา, อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา, อฏฺวตฺถุกาติ ¶ จตฺตาริ ปาราชิกานิ จ. วิพฺภนฺตา ภิกฺขุนี สยนฺติ เอตฺถ ‘‘เตสํ อนุโลมิกา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เตสํ จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อนุโลมิกา สยํ วิพฺภนฺตา ภิกฺขุนี จาติ โยชนา. จิตฺตวสิกา หุตฺวา อตฺตนา ¶ นิวตฺถจีวรมฺปิ หิ มาตุคามานํ นิวาสนนีหาเรน สยเมว นิวาเสตฺวา คิหิเวสํ โรเจตฺวา คหิตมตฺเต สาสนโต จุตา ภิกฺขุนี จาติ วุตฺตํ โหติ. เอวํกรเณน คิหิภาวาปนฺนตาสามฺเน สํวาสารหา น โหนฺตีติ อิเมสํ จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อนุโลมิกา ชาตา.
ตถาติ ยถา อิเม ทสฺสิตา เตน อสํวาสารหตาย, ภิกฺขุภาวาย อภพฺพตาย จ ปาราชิกาว, ตถา เอกาทส อภพฺพปุคฺคลาปิ โหนฺตีติ อตฺโถ. เอกาทสาภพฺพาติ มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, สงฺฆเภทโก, โลหิตุปฺปาทโก, ปณฺฑโก, ติรจฺฉานคโต, อุภโตพฺยฺชนโก, เถยฺยสํวาสโก, ภิกฺขุนิทูสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโกติ เอกาทส. สพฺเพเต จตุวีสติ เอเต สพฺเพ จตุวีสติ ปุคฺคลา สโมธานโต เวทิตพฺพาติ อธิปฺปาโย.
๓๒๐. อิเม จตุวีสติ ปาราชิกา ปุคฺคลา สีสจฺฉินฺโนว ชีวิตุํ อิธ ภิกฺขุภาวาย อภพฺพาติ วุตฺตาติ โยชนา.
๓๒๑. อิเมสํ เอกาทสนฺนํ อภพฺพตาย เหตุทสฺสนตฺถมาห ‘‘ปณฺฑโก จา’’ติอาทิ. ปณฺฑโก จาติ อาสิตฺตปณฺฑโก, อุสูยปณฺฑโก, ปกฺขปณฺฑโก, โอปกฺกมิกปณฺฑโก, นปุํสกปณฺฑโกติ วุตฺโต ปฺจวิโธ ปณฺฑโก จ. ติรจฺฉาโนติ ติริยํ อฺฉติ คจฺฉตีติ ‘‘ติรจฺฉาโน’’ติ คหิโต นาคสุปณฺณาทิโก สพฺพติรจฺฉานโยนิโก จ. ยกฺขาทโย สพฺเพ อมนุสฺสาปิ อิธ ติรจฺฉาเนเยว สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา. อุภโตพฺยฺชโนปิ จาติ อิตฺถิปุริสพฺยฺชนสาธเกหิ อุภโต กมฺมโต ชาตานิ ถนาทิกานิ พฺยฺชนานิ ยสฺสาติ นิรุตฺโต อิตฺถิอุภโตพฺยฺชโน ¶ , ปุริสอุภโตพฺยฺชโนติ ทุวิโธ อุภโตพฺยฺชโน จ. วตฺถุวิปนฺนาติ ตพฺภาวภาวิตาย ภิกฺขุภาโว วสติ เอตฺถาติ วตฺถุ, ปุคฺคลานํ ภิกฺขุภาวารหตา, สา ปน ปพฺพชฺชากฺขนฺธกาคตสพฺพโทสวิรหิตคุณสมฺปยุตฺตตา, ตํ วิปนฺนํ ปณฺฑกภาวาทิโยเคน เยสํ เต ‘‘วตฺถุวิปนฺนา’’ติ คเหตพฺพา. หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. ยสฺมา วตฺถุวิปนฺนา, ตสฺมา อิธ อตฺตภาเว ปพฺพชฺชาย อภพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อเหตุปฏิสนฺธิกา’’ติ วจเนน ¶ อิเมสํ วิปากาวรณยุตฺตภาวมาห, อิมินา เอเตสํ มคฺคาธิคมสฺส วาริตภาโว ทสฺสิโตติ เวทิตพฺพํ.
๓๒๒. ปฺจานนฺตริกาติ กมฺมาวรเณน ยุตฺตตาย สคฺคโมกฺขสมฺปตฺติโต ปริหายิตฺวา มรณานนฺตรํ อปายปฏิสนฺธิยํ นิยตา มาตุฆาตกาทโย ปฺจานนฺตริกา จ. เถยฺยสํวาโสปิ จาติ ลิงฺคตฺเถนโก, สํวาสตฺเถนโก, อุภยตฺเถนโกติ ติวิโธ เถยฺยสํวาสโก จ. ทูสโกติ ปกตตฺตาย ภิกฺขุนิยา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ตสฺสา ทูสิตตฺตา ภิกฺขุนึ ทูเสตีติ ‘‘ภิกฺขุนิทูสโก’’ติ วุตฺโต จ. ติตฺถิปกฺกนฺตโก จาติ ติตฺถิยานํ ลทฺธึ, เวสฺจ โรเจตฺวา ตํ คเหตฺวา เตสมนฺตรํ ปวิฏฺโ จ. อิติ อฏฺ ปน กิริยานฏฺาติ โยชนา. อิตีติ อิทมตฺถตฺตา อิเมติ วุตฺตํ โหติ. เต อิเมติ สมฺพนฺโธ. เต อิเม อฏฺ ปน มาตุวธาทิกิริยาย อิหตฺตภาเว ภิกฺขุภาวาย อนรหา หุตฺวา นฏฺาติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา เอกาทสอภพฺพานํ อภพฺพตาย การณํ ทสฺสิตํ โหติ.
๓๒๓. มยา ปาราชิกานํ สารภูโต โย อยํ วินิจฺฉโย วุตฺโต, ตสฺส วินิจฺฉยสฺส อนุสาเรน อนุคมเนน เสโสปิ วินิจฺฉโย พุเธน ปณฺฑิเตน อเสสโตว วิฺาตุํ สกฺกาติ โยชนา.
๓๒๔. ปฏุภาวกเร ¶ ปรเม วิวิเธหิ นเยหิ ยุตฺเต วินยปิฏเก ปรมตฺถนยํ อภิปตฺถยตา อยํ สตตํ ปริยาปุณิตพฺโพติ โยชนา. ตตฺถ วิวิเธหิ นานปฺปกาเรหิ. นเยหีติ นียนฺติ วุตฺตานุสาเรน อุทีริยนฺตีติ ‘‘นยา’’ติ วุตฺเตหิ จกฺกเปยฺยาลาทีหิ นเยหิ. ปรมตฺถนยนฺติ ปรโม จ โส อตฺโถ จาติ ปรมตฺโถ, ปรโม วา วิเสเสน นิจฺฉิตพฺโพ อตฺโถ ปรมตฺโถ, โสเยว วินิจฺฉยตฺถิกานํ พุทฺธิยา เนตพฺโพติ ปรมตฺถนโย, วินิจฺฉยูปาโย นียติ เอเตนาติ กตฺวา ‘‘ปรมตฺถนโย’’ติ วุจฺจติ, ตํ ปรมตฺถนยํ. อภิปตฺถยตาติ วินยปิฏเก วินิจฺฉยํ วา ตทุปายํ วา ปตฺถยตา, อิจฺฉนฺเตนาติ อตฺโถ. ‘‘ปริยาปุณิตพฺโพ อย’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ม-กาโร อาคมสนฺธิโช, โอ-การสฺส อ-การาเทโส. ปริยาปุณิตพฺโพติ ปิตพฺโพ, โสตพฺโพ จินฺเตตพฺโพ ธาเรตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. อยนฺติ วินยวินิจฺฉโย.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
จตุตฺถปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา
๓๒๕. เอวํ ¶ นานานยปฏิมณฺฑิตสฺส ปาราชิกกณฺฑสฺส วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรมุทฺทิฏฺสฺส เตรสกณฺฑสฺส วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โมเจตุกามตา’’ติอาทิ. โมเจตุํ กาเมตีติ โมเจตุกาโม, ตสฺส ภาโว โมเจตุกามตา, ตาย สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ โมเจตุกามตาจิตฺตํ. เอตฺถ ‘‘โมเจตุกามตา’’ติ อิมินา เอกาทสสุ ราเคสุ ‘‘โมจนสฺสาโท’’ติ วุตฺตํ อิมสฺส สงฺฆาทิเสสสฺส มูลการณํ สุกฺกโมจนวิสยํ ราคมาห.
เอกาทส ¶ ราคา นาม ‘‘โมจนสฺสาโท, มุจฺจนสฺสาโท, มุตฺตสฺสาโท, เมถุนสฺสาโท, ผสฺสสฺสาโท, กณฺฑุวนสฺสาโท, ทสฺสนสฺสาโท, นิสชฺชสฺสาโท, วาจสฺสาโท, เคหสฺสิตเปมํ, วนภงฺคิย’’นฺติ เอวมาคตา. อิธ โมจนํ นาม สมฺภวธาตุโมจนํ, ตทตฺถาย ตพฺพิสยราคสมฺปยุตฺตเวทนา โมจนสฺสาโท นาม. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘โมเจตุํ อสฺสาโท โมจนสฺสาโท’’ติ. มุจฺจมาเน อสฺสาโท มุจฺจนสฺสาโท, สมฺภวธาตุมฺหิ มุจฺจมาเน ตํราคสมฺปยุตฺตา เวทนา มุจฺจนสฺสาโท นาม. เอเตเนว นเยน มุตฺตสฺสาทาทิวาจสฺสาทาวสาเนสุ ปเทสุ อตฺถกฺกโม เวทิตพฺโพ. อิเมหิ นวหิ ปเทหิ อสฺสาทสีเสน กุนฺตยฏฺิาเยน ตํสหจริโต ราโค ทสฺสิโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘นวหิ ปเทหิ สมฺปยุตฺตอสฺสาทสีเสน ราโค วุตฺโต’’ติ.
เคหสฺสิตเปมนฺติ เอตฺถ เคหฏฺา มาตุอาทโย อาเธยฺยอาธารโวหาเรน ‘‘เคหา’’ติ วุจฺจนฺติ. ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติอาทีสุ วิย ตนฺนิสฺสิโต สิเนหปริยาโย ราโค ‘‘เคหสฺสิตเปม’’นฺติ วุตฺโต. อิมินา ปเทน ราคสฺส สภาโว สนฺทสฺสิโต. วนโต ภฺชิตฺวา อาภตํ ยํ กิฺจิ ผลปุปฺผาทิ วนภงฺคิยํ นาม. อิธ ปน ราควเสน ปฏิพทฺธจิตฺตํ มาตุคาเมหิ วิรหทุกฺขาปนยนตฺถํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๔๐) เตสํ าเน เปตฺวา ทสฺสนผุสนวเสน วินฺทิตุํ ราคีหิ คเหตพฺพโต เตหิ ปิฬนฺธิตมาลสหิตํ ตมฺพูลนฺติ เอวมาทิ ‘‘วนภงฺคิย’’นฺติ อธิปฺเปตํ. อิมินา ปตฺถิตวิสยโคจโร ราโค ตทายตฺตวตฺถุวเสน สนฺทสฺสิโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอเกน ปเทน สรูเปเนว ราโค, เอเกน ¶ ปเทน วตฺถุนา วุตฺโต. วนภงฺโค หิ ราคสฺส วตฺถุ, น ราโคเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๔๐).
‘‘โมเจตุกามตา’’ติ ¶ อิทเมว อวตฺวา ‘‘จิตฺต’’นฺติ วจเนน วีติกฺกมสาธิกาย กายวิฺตฺติยา สมุฏฺาปกํ ราคสมฺปยุตฺตํ จิตฺตวิเสสํ ทสฺเสติ. เตน จิตฺเตน สมุฏฺาปิยมานํ วิฺตฺติสงฺขาตํ วีติกฺกมํ ‘‘วายาโม’’ติ อิมินา ทสฺเสติ. วายาโม นาม ตํจิตฺตสมฺปยุตฺตวีริยํ. เอตฺถ ปน ‘‘เสมฺโห คุโฬ’’ติอาทีสุ วิย ผเล เหตูปจาราเยน วีติกฺกมสฺส วิเสสเหตุภูตวีริยวาจเกน จ ปเทน วีติกฺกโมว วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. อชฺฌตฺตพาหิรวตฺถุฆฏฺฏนํ, อากาเส กฏิกมฺปนนฺติ สุกฺกโมจนตฺโถ วายาโมติ อตฺโถ. สุกฺกสฺส โมจนํ สุกฺกโมจนํ.
เอตฺถ จ สุกฺกสฺสาติ ‘‘สุกฺกนฺติ ทส สุกฺกานิ นีลํ ปีตกํ โลหิตกํ โอทาตํ ตกฺกวณฺณํ ทกวณฺณํ เตลวณฺณํ ขีรวณฺณํ ทธิวณฺณํ สปฺปิวณฺณ’’นฺติ (ปารา. ๒๓๗) ปทภาชเน วุตฺตานิ สตฺตานํ ปิตฺตาทิอาสยเภเทน, ปถวิธาตุอาทีนํ จตุนฺนํ วา รสโสณิตมํสเมทอฏฺิอฏฺิมิฺชานํ ฉนฺนํ เทหธาตูนํ วา เภเทน อเนกธา ภินฺเน ทสวิเธ สุกฺเก อฺตรสฺส สุกฺกสฺสาติ อตฺโถ. โมจนํ วิสฺสฏฺีติ ปริยายํ, ปกติยา ิตสกฏฺานโต โมจนนฺติ อตฺโถ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘วิสฺสฏฺีติ านโต จาวนา วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗). อิห ‘‘านํ นาม วตฺถิสีสสงฺขาตํ มุตฺตกรณมูล’’นฺติ เกจิ. ‘‘กฏี’’ติ อปเร. ‘‘สกลกาโย’’ติ อฺเ. อิเมสํ ติณฺณํ วจเนสุ ‘‘ตติยสฺส ภาสิตํ สุภาสิต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๗) อฏฺกถายํ ตติยวาทสฺส กตปาสํสตฺตา เกสโลมนขทนฺตานํ มํสวินิมุตฺตฏฺานฺจ มุตฺตกรีสเขฬสิงฺฆาณิกาถทฺธสุกฺขจมฺมฺจ วชฺเชตฺวา อวเสสํ สกลสรีรํ กายปฺปสาทภาวชีวิตินฺทฺริยอพทฺธปิตฺตานํ ¶ วิย สมฺภวธาตุยา จ านนฺติ เวทิตพฺพํ.
‘‘สุกฺกโมจน’’นฺติ อิมินากึ วุตฺตํ โหตีติ? ‘‘อาโรคฺยตฺถาย, สุขตฺถาย, เภสชฺชตฺถาย, ทานตฺถาย, ปฺุตฺถาย, ยฺตฺถาย, สคฺคตฺถาย, พีชตฺถาย, วีมํสตฺถาย, ทวตฺถาย โมเจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗) วุตฺตทสวิธอธิปฺปายนฺโตคธอฺตรอธิปฺปาโย หุตฺวา ‘‘ราคูปตฺถมฺเภ, วจฺจูปตฺถมฺเภ, ปสฺสาวูปตฺถมฺเภ, วาตูปตฺถมฺเภ, อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺูปตฺถมฺเภ โมเจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗) วุตฺตปฺจวิธกาลานมฺตรกาเล ‘‘อชฺฌตฺตรูเป, พหิทฺธารูเป, อชฺฌตฺตพหิทฺธารูเป, อากาเส กฏึ กมฺเปนฺโต โมเจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗) วุตฺตจตุรุปายานมฺตเรน อุปาเยน ยถาวุตฺตราคปิสาจวเสน วิวโส หุตฺวา ยถาวุตฺตนีลาทิทสวิธสมฺภวธาตูนมฺตรํ ยถาวุตฺตฏฺานโต ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ สเจ โมเจตีติ สงฺเขปโต ¶ คเหตพฺพํ. เอตฺถ จ อุจฺจาลิงฺคปาณกา นาม โลมสปาณา, เยสํ โลเม อลฺลิเน องฺคชาตํ กมฺมนิยํ โหติ.
อฺตฺร สุปินนฺเตนาติ สุปิโน เอว สุปินนฺโต, นิสฺสกฺกวจนปฺปสงฺเค กรณวจนโต สุปินนฺตาติ อตฺโถ. สุปินา นาม ‘‘วาตาทิธาตุกฺโขภวเสน วา ปุพฺพานุภูตอิตฺถิรูปาทิวิสยวเสน วา อิฏฺานิฏฺเทวตานุภาเวน วา ปฺุเน ปฏิลภิตพฺพอตฺถสฺส, อปฺุเน ปตฺตพฺพานตฺถสฺส จ ปุพฺพนิมิตฺตวเสน วา โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๗) วุตฺเตสุ จตูสุ การเณสุ เอเกน การเณน กปินิทฺทาย สุปิเน ทิสฺสมานารมฺมณโต ยํ สุกฺกโมจนํ โหติ, ตํ อวิสยํ สุกฺกโมจนํ วินาติ วุตฺตํ โหติ.
สงฺฆาทิเสโสว สงฺฆาทิเสสตา. สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาตุกามสฺส กุลปุตฺตสฺส อาทิมฺหิ ปริวาสทานตฺถํ ¶ , มชฺเฌ จ มูลายปฏิกสฺสเนน วินา วา สห วา มานตฺตทานตฺถํ, อวสาเน อพฺภานตฺถฺจ สงฺโฆ เอสิตพฺโพติ ‘‘สงฺโฆ อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสาติ สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๗; กงฺขา. อฏฺ. สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตตฺตา สงฺฆาทิเสสา นาม, สุกฺกวิสฺสฏฺิสงฺฆาทิเสสาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘สงฺโฆว ตสฺสา อาปตฺติยา ปริวาสํ เทติ, มูลาย ปฏิกสฺสติ, มานตฺตํ เทติ, อพฺเภติ, น สมฺพหุลา, น เอกปุคฺคโล, เตน วุจฺจติ ‘สงฺฆาทิเสโส’ติ. ตสฺเสว อาปตฺตินิกายสฺส นามํ นามกมฺมํ อธิวจนํ, เตนปิ วุจฺจติ ‘สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปารา. ๒๓๗). เอตฺถ จ ปริวาสาทิกถา สงฺฆาทิเสสาวสาเน อาคตฏฺาเนเยว อาวิ ภวิสฺสติ.
๓๒๖. เอตฺตาวตา มูลสิกฺขาปทาคตํ อตฺตูปกฺกมมูลกํ อาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อิมิสฺสา สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา ปรูปกฺกเมนปิ อาปชฺชนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปเรนา’’ติอาทิ. อุปกฺกมาเปตฺวาติ องฺคชาตสฺส คหณํ วา ฆฏฺฏนํ วา กาเรตฺวา.
๓๒๗. สฺจิจฺจาติ ‘‘อุปกฺกมามิ โมเจสฺสามี’’ติ เจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา. อุปกฺกมนฺตสฺสาติ อชฺฌตฺตรูปาทีสุ ตีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ฆฏฺเฏนฺตสฺส. สมุทฺทิฏฺนฺติ ‘‘เจเตติ อุปกฺกมติ น มุจฺจติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๖๒) ปทภาชเน ภควตา วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
๓๒๘. อิมิสฺสํ ¶ คาถายํ ‘‘อตฺตโน องฺคชาตํ อุปกฺกมนฺตสฺสา’’ติ อิมินา อชฺฌตฺตรูเป วา พหิทฺธารูเป วา อชฺฌตฺตพหิทฺธารูเป วา อตฺตโน องฺคชาตํ ฆฏฺเฏนฺตสฺสาติ อิมสฺส อตฺถสฺส วุตฺตตฺตา ¶ องฺคชาตฆฏฺฏเนน วินาภาวโต อิมินา อสงฺคยฺหมานสฺสาปิ อากาเส กฏิกมฺปเนน สุกฺกโมจเน สงฺฆาทิเสสสฺส ปมคาถายํ ‘‘วายาโม’’ติ สามฺวจเนน สงฺคหิตตฺตา ตํ เปตฺวา ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน โมจนาธิปฺปายสฺส อากาเส กฏึ กมฺเปนฺตสฺส อสุจิ มุจฺจิ…เป… อสุจิ น มุจฺจิ. ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป… อนาปตฺติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ อากาเสกฏิกมฺปนวตฺถุมฺหิ วุตฺตตฺตา อมุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ สงฺคเหตุมาห ‘‘สฺจิจฺจา’’ติอาทิ.
ตตฺถ สฺจิจฺจาติ ‘‘อุปกฺกมามิ โมเจสฺสามี’’ติ ชานิตฺวา สฺชานิตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘อุปกฺกมนฺตสฺสา’’ติ สามฺโต ตํ วิเสเสตุํ ‘‘อากาเส กมฺปเนนปี’’ติ อาห, กฏิกมฺปเนนาติ คเหตพฺพํ. กถมิทํ ลพฺภตีติ เจ? อิมาย กถาย สงฺคเหตพฺพวตฺถุมฺหิ ‘‘อากาเส กฏึ กมฺเปนฺตสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๖๖) ปาเ ‘‘กฏึ กมฺเปนฺตสฺสา’’ติ วจนสหจรสฺส ‘‘อากาเส’’ติ วจนสฺส สนฺนิธานพเลน ลพฺภติ อตฺถปฺปกรณสทฺทนฺตรสนฺนิธานา สทฺทานํ วิเสสตฺถทีปนโต.
๓๒๙. วตฺถินฺติ มุตฺตวตฺถึ, มุตฺตกรณสฺส วตฺถินฺติ อตฺโถ. กีฬาย ปูเรตฺวาติ คามทารโก วิย กีฬิตุกามตาย มุตฺตวตฺถึ ทฬฺหํ คเหตฺวา ปูเรตฺวาติ อตฺโถ. ยถาห วตฺถิวตฺถุมฺหิ อฏฺกถายํ ‘‘เต ภิกฺขู วตฺถึ ทฬฺหํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา ปูเรตฺวา วิสฺสชฺเชนฺตา คามทารกาวิย ปสฺสาวมกํสู’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๖๔). ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ สามฺเน กสฺมา วุตฺตนฺติ? ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ วุตฺตนเยน โมจนาธิปฺปาเยน ทฬฺหํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา ปูเรตฺวา วิสฺสชฺเชนฺตสฺส สุกฺเก มุตฺเต โมจนาธิปฺปาโย เจเตติ, อุปกฺกมติ, มุจฺจตีติ องฺคานํ สมฺปนฺนตฺตา สงฺฆาทิเสสสฺส ¶ , อมุตฺเต ถุลฺลจฺจยสฺส สมฺภวโต อุภยสงฺคหตฺถมาห.
๓๓๐. อุปนิชฺฌายนวตฺถุมฺหิ ‘‘น จ ภิกฺขเว สารตฺเตน มาตุคามสฺส องฺคชาตํ อุปนิชฺฌายิตพฺพํ, โย อุปนิชฺฌาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๖๖) ปาฬิยํ ‘‘มาตุคามสฺสา’’ติ สามฺเน วุตฺตตฺตา ‘‘ติสฺสนฺน’’นฺติ วทติ. ติสฺสนฺนํ ปน อิตฺถีนนฺติ มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคตวเสน ติสฺสนฺนํ อิตฺถีนํ. ‘‘องฺคชาต’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ ¶ มุตฺตกรณเมว วุจฺจติ, ปฏสเตนาปิ ปฏิจฺฉาทิตํ วา อปฺปฏิจฺฉาทิตํ วา โยนิมคฺคนฺติ อตฺโถ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจปิ ปฏสตํ นิวตฺถา โหติ, ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ตฺวา ‘อิมสฺมึ นาม โอกาเส นิมิตฺต’นฺติ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. อนิวตฺถานํ คามทาริกานํ นิมิตฺตํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ปน กิเมว วตฺตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๖๖). ปุรโต วาติ เอตฺถ ‘‘ตฺวา’’ติ ปาเสโส.
๓๓๑. เอเกน…เป… ปสฺสโต เอกํ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เอเกน ปโยเคน เอกํ ทุกฺกฏ’’นฺติ วจนโต อเนเกหิ ปโยเคหิ อเนกานิ ทุกฺกฏานีติ พฺยติเรกโต ลพฺภติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อิโต จิโต จ วิโลเกตฺวา ปุนปฺปุนํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๖๖). อิมิสฺสา อฏฺกถาย ‘‘อิโต จิโต จา’’ติ วุตฺตตฺตา อุมฺมีลนนิมีลนนฺติ เอตฺถ ‘‘วิวิธา ตํ อโนโลเกตฺวา ตเมว โอโลเกนฺตสฺสา’’ติ ลพฺภติ.
๓๓๒. อโมจนาธิปฺปายสฺส มุตฺตสฺมึ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. โมจนาธิปฺปายํ วินา เภสชฺชกรณตฺถํ สุทฺธจิตฺเตน องฺคชาเต เภสชฺชเลปํ กโรนฺตสฺส วา สุทฺธจิตฺเตเนว อุจฺจารปสฺสาวาทึ กโรนฺตสฺส วา มุตฺเตปิ อนาปตฺตีติ ¶ อิทํ ‘‘อนาปตฺติ สุปินนฺเตน นโมจนาธิปฺปายสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๒๖๓) นเยน อนาปตฺติวาเร วุตฺตเมวาติ อตฺโถ.
อิมสฺมึ ปาเ ‘‘อนุปกฺกมนฺตสฺสา’’ติ อวุตฺเตปิ อิมสฺส ปาสฺส ปุรโต ‘‘เจเตติ น อุปกฺกมติ มุจฺจติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. ๒๖๒) จ ‘‘น เจเตติ น อุปกฺกมติ มุจฺจติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. ๒๖๒) จ วจนโต ตํ สงฺคเหตุมาห ‘‘อนุปกฺกมโตปิ จ มุตฺตสฺมึ อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ. โมจนสฺสาทราเคน ปีฬิโต หุตฺวา ‘‘อโห วต เม มุจฺเจยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา วา เอวรูปโมจนสฺสาทราคปีฬาปุพฺพงฺคมจิตฺเต อสติปิ เกวลํ กามวิตกฺกมตฺเตน อุปหโต หุตฺวา ตาทิสอชฺฌตฺติกพาหิรวตฺถูสุ ฆฏฺฏนวเสน วา อากาเส กฏิกมฺปนวเสน วา อุปกฺกมํ อกโรนฺตสฺส ตาทิสจินฺตาพเลน วา กามวิตกฺกพเลน วา สุกฺเก มุตฺเตปิ อนาปตฺตีติ อิทํ ยถาวุตฺตปาวเสน ปกาสิตนฺติ อตฺโถ.
สุปินนฺเตน มุตฺตสฺมึ, อนาปตฺติ ปกาสิตาติ เอตฺถ อนฺตสทฺทตฺถาภาวโต สุปิเนติ อตฺโถ. สุปิเน เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส วา มาตุคาเมหิ กายสํสคฺคํ อาปชฺชนฺตสฺส วา สุกฺเก มุตฺเตปิ ¶ อวิสยตฺตา อนาปตฺติ ปาฬิยํ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ สุปินนฺเตนา’’ติ (ปารา. ๒๖๓) อิมินา ปกาสิตาติ อตฺโถ.
เอตฺถ ตฺวา อฏฺกถายํ ‘‘สุปิเน ปน อุปฺปนฺนาย อสฺสาทเจตนาย สจสฺส วิสโย โหติ, นิจฺจเลน ภวิตพฺพํ. น หตฺเถน นิมิตฺตํ กีฬาเปตพฺพํ. กาสาวปจฺจตฺถรณรกฺขนตฺถํ ปน หตฺถปุเฏน คเหตฺวา ชคฺคนตฺถาย อุทกฏฺานํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๖๒) วุตฺตตฺตา อณฺฑปาลิกา กิกีสกุณา วิย, วาลปาลิกา จมรี วิย, เอกเนตฺตปาลโก ปุริโส วิย จ กายชีวิเตปิ อเปกฺขํ ปหาย สีลํ ¶ รกฺขิตุกาเมน สิกฺขากาเมน นิพฺพานคามินิปฏิปตฺตึ ปูเรตุกาเมน กุลปุตฺเตน ‘‘อฺตฺร สุปินนฺตา’’ติ (ปารา. ๒๓๗) วทโต ตถาคตสฺส อธิปฺปายานุกูลํ อฏฺกถาโต ตฺวา อปฺปมตฺเตน ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ อยมตฺรานุสาสนี.
สุกฺกวิสฺสฏฺิกถาวณฺณนา.
๓๓๓. มนุสฺสิตฺถินฺติ มนุสฺสชาติกํ อิตฺถึ, ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, อนฺตมโส ตทหุชาตาปิ ทาริกา, ปเคว มหตฺตรี’’ติ (ปารา. ๒๗๑) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา ตทหุชาตกุมาริกาภาเวนปิ ิตํ ชีวมานกมนุสฺสมาตุคามนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘มนุสฺสิตฺถิ’’นฺติ สามฺวจเนน ชีวมานกมนุสฺสิตฺถินฺติ อยํ วิเสโส กุโต ลพฺภตีติ? วินีตวตฺถุมฺหิ (ปารา. ๒๘๑ อาทโย) มติตฺถิยา กายํ ผุสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยวจนโต ปาริเสสโต ลพฺภติ. อามสนฺโตติ ‘‘หตฺถคฺคาหํ วา เวณิคฺคาหํ วา อฺตรสฺส วา อฺตรสฺส วา องฺคสฺส ปรามสน’’นฺติ (ปารา. ๒๗๐) วุตฺตตฺตา หตฺถาทิองฺคปจฺจงฺคผุสนาทินานปฺปการานํ อฺตเรน ปกาเรน อามสนฺโตติ อตฺโถ. อตฺตโน กาเยน อิตฺถิยา กายสฺส สํสคฺเค มิสฺสีภาเว ราโค กายสํสคฺคราโค. สงฺฆาทิเสโส เอตสฺส อตฺถีติ สงฺฆาทิเสสิโก, กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสโส อาปนฺโน โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๓๓๔. กายสํสคฺคราเคน อิตฺถิยา อนฺตมโส โลมมฺปิ อตฺตโน สรีเร โลเมน ผุสนฺตสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆาทิเสสาปตฺติ โหตีติ โยชนา. เอตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๗๔) ‘‘โลมคณนาย สงฺฆาทิเสสา โหนฺตี’’ติ กุรุนฺทฏฺกถามตสฺส อฏฺิตตฺตา ¶ , ‘‘โกฏฺาสคณนาย น โหติ, อิตฺถิคณนาย โหตี’’ติ มหาอฏฺกถามตสฺส ิตตฺตา สงฺฆสนฺตเก มฺจปีเ ปจฺจตฺถรณาทินา เกนจิ ¶ อปฺปฏิจฺฉาทิเต ผุสนฺตสฺส วิย โลมคณนาย อหุตฺวา ผุฏฺโลมานํ พหุตฺเตปิ เอกสฺมึ ปโยเค เอกา เอว อาปตฺติ, พหูสุ ปโยเคสุ ปโยคคณนาย อาปตฺติโย โหนฺตีติ สนฺนิฏฺานํ.
๓๓๕. อิตฺถิยาติ มนุสฺสิตฺถิยา. สมฺผุฏฺโติ หตฺถาทิสรีราวยเว สํสคฺคํ สมาปนฺโน. เสวนเจตโน วายมิตฺวา กายสํสคฺคราเคน อตฺตโน กายํ จาเลตฺวาติ อตฺโถ. สงฺฆาทิเสสตาติ เอตฺถ สกตฺเถ ตทฺธิตปฺปจฺจโย. ‘‘สงฺฆาทิเสสิตา’’ติ ปน ปาโ สุนฺทโร, สงฺฆาทิเสสสฺส อตฺถิตา วิชฺชมานภาโวติ อตฺโถ. สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา สพฺภาวสงฺขาตา อตฺถิตา อีปจฺจยตฺเถ ปุคฺคเล สงฺฆาทิเสสีสทฺทปวตฺตินิมิตฺตํ โหตีติ ภาวปจฺจโย ตํอตฺถวเสน ลพฺภติ. ยถาหุ ‘‘ยสฺส คุณสฺส หิ ภาวา ทพฺเพ สทฺทสนฺนิเวโส, ตทภิธาเน ตฺตตาทโย’’ติ.
๓๓๖. เอเกน หตฺเถน คเหตฺวาติ (กงฺขา. อฏฺ. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา) เอตฺถ ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘มนุสฺสิตฺถิ’’นฺติ อชฺฌาหาโร. ตํ มนุสฺสิตฺถึ. ตตฺถ ตตฺถาติ อิตฺถิยา ตสฺมึ ตสฺมึ สรีราวยเว. ‘‘เอกาวาปตฺตี’’ติ ปมํ คหิตหตฺถสฺส อนปนีตตฺตา วุตฺตํ. คหิตหตฺถํ ปน โมเจตฺวา ปุนปฺปุนํ ผุสนฺตสฺส ปโยคคณนาย อาปตฺติ โหตีติ พฺยติเรกโต ลพฺภติ.
๓๓๗. เอเกน หตฺเถน อคฺคเหตฺวา สีสโต ยาว ปาทํ, ปาทโต ยาว สีสฺจ กายา หตฺถํ อโมเจตฺวา ทิวสมฺปิ ตํ อิตฺถึ ผุสนฺตสฺส เอกาวาปตฺตีติ โยชนา. เอตฺถาปิ ‘‘อโมเจตฺวา’’ติ ¶ พฺยติเรกโต โมเจตฺวา ผุสนฺตสฺส ปโยคคณนาย อเนกาปตฺติโยติ ลพฺภติ.
๓๓๘. เอกโต คหิตปฺจงฺคุลีนํ คณนาย สเจ อาปตฺติ สิยา, เอกสฺส มาตุคามสฺส สรีรํ ราคจิตฺเตน ผุสนฺตสฺส ทฺวตฺตึสกลาปโกฏฺาสโต พฺยติเรกสฺส สรีรสฺสาภาวา ทฺวตฺตึสกลาปโกฏฺาสคณนาย อาปตฺติยา ภวิตพฺพํ, ตถา อภาวโต อิทมฺปิ น โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘น หิ โกฏฺาสโต สิยา’’ติ อาห.
๓๔๐-๑. อิตฺถิยา วิมติสฺสาปิ อตฺตโน กาเยน อิตฺถิยา กายํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา, อิตฺถิยา ปณฺฑกาทิสฺิโนปิ อตฺตโนปิ กาเยน ¶ อิตฺถิยา กายํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา. อาทิ-สทฺเทน ปุริสติรจฺฉานคตานํ สงฺคโห. อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน อตฺตโน กาเยน อิตฺถิยา กายสมฺพทฺธํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา. ปณฺฑเก ปณฺฑกสฺิโน อตฺตโน กาเยน ปณฺฑกสฺส กายํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา. ยกฺขิเปตีสุ ยกฺขิเปติสฺิโน อตฺตโน กาเยน ตาสํ กายํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยาติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘ปณฺฑกคฺคหเณน อุภโตพฺยฺชนโกปิ คยฺหตี’’ติ วชิรพุทฺธิฏีกายํ วุตฺตํ. ‘‘อิตฺถิยา เวมติกสฺสาปิ ปณฺฑกาทิสฺิโนปิ อตฺตโน กาเยน อิตฺถิยา กายสมฺพทฺธํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา’’ติ น โยเชตพฺพํ. กสฺมา? ตถา โยชนายํ ปาฬิยํ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, น ถุลฺลจฺจยนฺติ อนิฏฺปฺปสงฺคโต.
‘‘ทุกฺกฏํ กายสํสคฺเค, ติรจฺฉานคติตฺถิยา’’ติ อิมินา วินีตวตฺถุมฺหิ อาคตนเย สงฺคหิเตปิ เตเนว นเยน ปณฺฑเก ¶ วิมติอิตฺถิสฺิตาทิอฺมติปกฺเข จ ปุริสติรจฺฉานคเตสุ ปุริสติรจฺฉานคตสฺิวิมติปณฺฑกาทิอฺมติปกฺเข จ อิติ อิเมสํ ติณฺณํ กายปฏิพทฺธามสนาทีสุ จ ปทภาชเน วุตฺตสพฺพทุกฺกฏาปตฺติโย อุปลกฺขิตาติ ทฏฺพฺพํ.
๓๔๒. อตฺตโน กาเยน ปฏิพทฺเธน อิตฺถิยา กาเยน ปฏิพทฺธํ ผุสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปน ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เอตฺถ ปิ-สทฺโท วุตฺตทุกฺกฏานํ สมุจฺจยตฺโถ. จ-สทฺเทน ปน อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน ‘‘นิสฺสคฺคิเยน กายํ อามสติ. นิสฺสคฺคิเยน กายปฏิพทฺธํ อามสติ. นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๗๖) ปาฬิยํ อาคตทุกฺกฏานํ สงฺคโห เวทิตพฺโพ.
๓๔๓-๔. น เกวลํ ปทภาชนาคตอิตฺถิสรีราทิกเมว อนามาสํ, วินีตวตฺถูสุ ทารุธีตลิกวตฺถุอนุโลมโต โปตฺถลิกาทิอิตฺถิรูปกฺจ นิสฺสคฺคิยวารานุโลมโต อสรีรฏฺํ มาตุคาเมหิ ปริภุตฺตวตฺถาภรณาทิฺจ วิภงฺคกฺขนฺธกาทีสุ วุตฺตนยานุสาเรน อฏฺกถาคตํ อวเสสํ อนามาสวตฺถฺุจ อามสนฺตสฺส อาปตฺตึ สงฺคเหตุมาห ‘‘อิตฺถีน’’นฺติอาทิ.
‘‘อิตฺถีนํ อิตฺถิรูปฺจา’’ติ อิทํ ‘‘อิตฺถิกาย อิตฺถิธนํ (ปารา. ๓๔), สทฺธานํ สทฺธาปรายน’’นฺติอาทีสุ วิย โลกโวหารวเสน วุตฺตํ. อิตฺถีนํ ทารุโลหมยาทิกํ อิตฺถิรูปฺจาติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน เหฏฺิมปริจฺเฉทโต มตฺติกาย, ปิฏฺเน วา กตํ มาตุคามรูปํ สงฺคณฺหาติ. มาตุคามรูปํ เยน เกนจิ ทินฺนํ สพฺพรตนมยํ วินา อวเสสํ สาทิยิตฺวา ¶ ภินฺทิตฺวา ¶ สมณสารุปฺปปริกฺขารํ การาเปตุํ, อผุสิตฺวา ปริภฺุชิตพฺเพ วา โยเชตุํ วฏฺฏติ.
‘‘วตฺถ’’นฺติ อิมินา นิวาสนปารุปนทฺวยมฺปิ สามฺเน คหิตํ. อิทฺจ มาตุคาเมน ปริภฺุชิตุํ ปิตมฺปิ อนามาสเมว, จีวรตฺถาย ทินฺนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ติณจุมฺพฏกํ, องฺคุลิยา ปณฺณมุทฺทิกํ อุปาทาย อลงฺการเมว. เอตฺถ จ วาลเกสวฏฺฏเกเสสุ ปเวสนกทนฺตสูจิอาทิ กปฺปิยภณฺฑํ ทิยฺยมานํ สมณสารุปฺปปริกฺขารตฺถาย คเหตพฺพํ.
ตตฺถชาตผลํ ขชฺชนฺติ รุกฺเข ิตํ ขาทิตพฺพํ ปนสนาฬิเกราทิผลฺจ มนุสฺเสหิ ราสิกตํ ปริภฺุชิตพฺพผลฺจ ‘‘มนุสฺเสหิ ราสิกเตสุปิ เอเสว นโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อนามาสนฺติ อุปลกฺขณโต อิมินาว คเหตพฺพํ. อรฺเ รุกฺขโต ปติตํ ผลํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทสฺสามี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. ‘‘มุคฺคาทึ ตตฺถชาตก’’นฺติ อุปลกฺขณปทตฺตา คจฺฉโต วิยุตฺตมฺปิ คเหตพฺพํ. มุคฺคาทินฺติ เอตฺถ ‘‘อปรณฺณ’’นฺติ ปาเสโส.
สพฺพานิ ธฺานีติ ‘‘สาลิ วีหิ ยโว กงฺคุ, กุทฺรูสวรกโคธุมา’’ติ วุตฺตานิ สตฺต ธฺานิ. เขตฺตมคฺเคน คจฺฉตา สาลิสีเส หตฺเถน อผุสนฺเตน คนฺตพฺพํ. สเจ มคฺโค สมฺพาโธ โหติ, สรีเร ธฺํ ผุสนฺเตปิ มคฺคตฺตา น โทโส. วีถิยํ, เคหงฺคเณ วา ธฺเสุ ปสาริเตสุ อปสกฺกิตฺวา เจ คนฺตุํ น สกฺกา, ‘‘มคฺคํ อธิฏฺาย คนฺตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) อฏฺกถาวจนโต ‘‘อิมํ มคฺคํ คมิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘กุลเคเห ธฺมตฺถเก เจ อาสนํ ปฺาเปตฺวา ทินฺนํ โหติ, นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑ อตฺถโต สมานํ) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ‘‘อาสนสาลายํ ธฺเ วิปฺปกิณฺเณ อนุกฺกมิตฺวา เอกมนฺเต ปีกํ ปฺาเปตฺวา ¶ นิสีทิตพฺพํ. สเจ มนุสฺสา ตสฺมึ ธฺมตฺถเก อาสนํ ปฺาเปตฺวา เทนฺติ, นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑ อตฺถโต สมานํ) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อตฺตนา ตตฺถ อาสนํ ปฺาเปตฺวา นิสีทิตุํ น วฏฺฏติ.
๓๔๕. ธมนสงฺขาทึ สพฺพํ ปฺจงฺคตุริยมฺปิ จาติ สมฺพนฺโธ. ธมนสงฺโข นาม สทฺทกรณสงฺโข ¶ . อาทิ-สทฺเทน วํสสิงฺคตาฬาทีนํ สงฺคโห. ปฺจงฺคตุริยนฺติ อาตตํ, วิตตํ, อาตตวิตตํ, ฆนํ, สุสิรนฺติ ปฺจงฺคสงฺขาตํ ตุริยํ. ตตฺถ อาตตํ นาม จมฺมปริโยนทฺเธสุ เภริอาทีสุ เอกโต อากฑฺฒิตฺวา โอนทฺธํ เอกตลตุริยํ. วิตตํ นาม อุภโต อากฑฺฒิตฺวา โอนทฺธํ อุภยตลตุริยํ. อาตตวิตตํ นาม อุภยโต จ มชฺฌโต จ สพฺพโต ปริโยนนฺธิตํ. ฆนํ สมฺมาทิ. สมฺมนฺติ ตาฬํ, ฆณฺฏากิงฺกณิอาทีนมฺปิ เอตฺเถว สงฺคโห. สุสิรนฺติ วํสาทิ.
อิธ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เภริโปกฺขรฺจ เภริตลจมฺมฺจ วีณา จ วีณาโปกฺขรจมฺมฺจ ทณฺโฑ จ อนามาสํ. ‘‘ปูชํ กตฺวา เจติยงฺคณาทีสุ ปิตเภริโย อจาเลนฺเตน อวเสสฏฺานํ สมฺมชฺชิตพฺพํ. กจวรฉฑฺฑนกาเล กจวรํ วิย คเหตฺวา เอกสฺมึ าเน เปตพฺพ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ตุริยภณฺเฑสุ ยํ กิฺจิ อตฺตโน ทียมานํ ตํ ปริวตฺเตตฺวา กปฺปิยปริกฺขารํ คเหตุํ อธิวาเสตพฺพํ. โทณิ วา โปกฺขรํ วา ทนฺตกฏฺนิกฺขิปนตฺถาย, จมฺมฺจ สตฺถโกสกรณตฺถาย คเหตพฺพํ.
รตนานิ จ สพฺพานีติ มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโก มสารคลฺลนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) วุตฺตานิ สพฺพานิ รตนานิ จ. เอตฺถ จ วิทฺธา, อวิทฺธา วา สามุทฺทิกาที สพฺพาปิ มุตฺตา อนามาสา. ภณฺฑมูลตฺถฺจ คณฺหิตุํ ¶ น วฏฺฏติ. อนฺตมโส ชาติผลิกํ อุปาทาย นีลปีตาทิเภโท สพฺโพปิ มณิ โธตวิทฺโธ อนามาโส. อาหตากาเรเนว ิโต อวิทฺธาโธโต มณิ ปตฺตาทิ ภณฺฑมูลตฺถํ อธิวาเสตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน ปฏิกฺขิตฺตํ. ปจิตฺวา กโต กาจมณิเยเวโก วฏฺฏติ. เวฬุริเย จ มณิสทิโสเยว วินิจฺฉโย.
ธมนสงฺโข ‘‘สพฺพํ ธมนสงฺขาทิ’’นฺติอาทิคาถาย ตุริเยสุ คหิโต. รตนขจิโต สงฺโข อนามาโส. ปานียสงฺโข โธโตปิ อโธโตปิ อามาโส. อวเสสสงฺโข ปน อฺชนาทิเภสชฺชตฺถํ, ปตฺตาทิภณฺฑมูลภาเวน จ อธิวาเสตุํ วฏฺฏติ. สุวณฺเณน เอกโต วิลิยาเปตฺวา กตา มุคฺควณฺณา สิลา อนามาสา. เสสา สิลา ขุทฺทกนิสานาทิกมฺมตฺถํ อธิวาเสตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ปวาฬํ โธตมโธตฺจ วิทฺธมวิทฺธฺจ สพฺพถา อนามาสํ, นาปิ อธิวาเสตพฺพ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตตฺตา ปวาฬปฏิมาเจติยานิ เจว โปตฺถเกสุ ปเวเสตพฺพอาณิยา ¶ มูเล, อคฺเคจ ปเวเสตพฺพํ ปทุมาทิอากาเรน กตํ วฏฺฏฺจ น คเหตพฺพํ น ผุสิตพฺพํ.
พีชโต ปฏฺาย รชตํ, ชาตรูปฺจ กตํ วา โหตุ อกตํ วา, สพฺพโส อนามาสํ, น จ สาทิตพฺพํ. อิมินา กตํ ปฏิมาทิกฺจ อารกูฏโลหฺจ อนามาสนฺติ วกฺขติ. กตากตสุวณฺณรชตานํ อสาทิยิตพฺพตาย อิธ อฏฺกถาย อาคตตฺตา อุตฺตเรน ราชปุตฺเตน กาเรตฺวา อาหฏํ สุวณฺณเจติยํ น วฏฺฏตีติ มหาปทุมตฺเถเรน ปฏิกฺขิตฺตนฺติ สุวณฺณปฏิมาเจติยโปตฺถกาวจฺฉาทกมณิปทุมวฏฺฏาทิ ยํ กิฺจิ น สาทิตพฺพเมว, น จ อามสิตพฺพํ. เอเตน กตํ เสนาสโนปกรณํ ปน ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ธมฺมมณฺฑเป กตมฺปิ ¶ ปฏิชคฺคิตุํ วฏฺฏติ. โลหิตวณฺโณ มณิ, มสารคลฺลมณิ จ สพฺพถา อนามาโส, น จ อธิวาเสตพฺโพติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.
๓๔๖. สพฺพมาวุธภณฺฑนฺติ ขคฺคาทิ สพฺพํ อาวุโธปกรณํ ปตฺตาทิกปฺปิยปริกฺขารมูลตฺถาย ทียมานํ สตฺถวาณิชาย อกาตพฺพตฺตา น คเหตพฺพํ, ‘‘อิมํ คณฺหถา’’ติ ทินฺนํ ภินฺทิตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กตฺวา ‘‘ขุราทิกปฺปิยปริกฺขารํ กาเรสฺสามี’’ติ สาทิตุํ วฏฺฏติ. สงฺคามภูมิยํ มคฺเค ปติตขคฺคาทึ ทิสฺวา ปาสาเณน ภินฺทิตฺวา ‘‘ขุราทิกปฺปิยภณฺฑานิ กาเรสฺสามี’’ติ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. อุสุสตฺติอาทิกํ ผลโต ทณฺฑํ อปเนตฺวา กปฺปิยปริกฺขารการาปนตฺถาย คเหตพฺพํ.
ชิยาติ ธนุคุโณ. จ-กาเรน อิมิสฺสา คาถาย อวุตฺตํ องฺกุสโตมราทึ ปรหึ โสปกรณํ สงฺคณฺหาติ. ธนุทณฺฑโกติ ชิยาวิรหิโต ธนุทณฺฑโก. อิทํ ปรหึโสปกรณภณฺฑาทิกํ วิหาเร สมฺมชฺชิตพฺพฏฺาเน ปิตํ เจ, สามิกานํ วตฺวา เตหิ อคฺคหิตํ เจ, อจาเลนฺเตน สมฺมชฺชิตพฺพํ.
ชาลฺจาติ มจฺฉชาลปกฺขิชาลาทิชาลฺจ. ชาลํ ทียมานํ ฉตฺตเวนตฺถํ, อาสนเจติยาทิมตฺถเก พนฺธนาทิปโยชเน สติ ตทตฺถฺจ คเหตพฺพํ. สรวารณํ นาม ผลกาทิกํ อฺเหิ อตฺตโน วิชฺฌนตฺถาย วิสฺสฏฺสรนิวารณํ วินาสโนปโรธการณํ โหตีติ ภณฺฑมูลตฺถํ สาทิตุํ ¶ วฏฺฏติ. ‘‘ทนฺตกฏฺาธารผลกาทิ ยทิจฺฉิตํ กโรมี’’ติ มุฏฺึ อปเนตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ.
๓๔๗. เจติยนฺติ เอตฺถ ‘‘สุวณฺณเจติย’’นฺติ อิทํ ‘‘สุวณฺณปฏิพิมฺพาที’’ติ อนนฺตรํ วุตฺตตฺตา ลพฺภติ. สุวณฺณคฺคหณฺจุปลกฺขณนฺติ รชตมยฺจ คเหตพฺพํ. อารกูฏกนฺติ สุวณฺณวณฺณํ โลหวิเสสมาห ¶ . ‘‘อนามาส’’นฺติ อิทํ ‘‘อสมฺปฏิจฺฉิยํ วา’’ติ เอตสฺส อุปลกฺขณํ.
๓๔๘. สพฺพํ วาทิตมิติ สมฺพนฺโธ. โอนหิตุนฺติ จมฺมวรตฺตตนฺตีหิ พนฺธิตุํ. โอนหาเปตุนฺติ ตเถว อฺเหิ การาเปตุํ. วาทาเปตุนฺติ อฺเหิ วาทาเปตุํ. วาเทตุนฺติ อตฺตนา วาเทตุํ. วาทิตนฺติ วาทนียํ ยถา ‘‘กรณียํ การิต’’นฺติ, วาทนารหํ ตุริยภณฺฑนฺติ อตฺโถ. อิทฺจ โอนหนาทิกิริยาย กมฺมํ.
๓๔๙. อุปหารํ กริสฺสามาติ ปูชํ กริสฺสาม. อิติ อนุมติคฺคหณตฺถาย. วตฺตพฺพาติ เต วตฺตาโร วตฺตพฺพาติ โยชนา.
๓๕๐-๑. ธุตฺติยา อิตฺถิยาติ วิปนฺนาจาราย โลฬิตฺถิยา. สยํ ผุสิยมานสฺสาติ ภิกฺขุโน ปโยคํ วินา อิตฺถิยา อตฺตนาว ผุสิยมานสฺส. กาเยน อวายมิตฺวาติ ตสฺสา สรีรสมฺผสฺสานุภวนตฺถํ อตฺตโน กายํ อจาเลตฺวา. ผสฺสํ ปฏิวิชานโตติ ผสฺสํ อนุภวนฺตสฺส.
อสฺจิจฺจาติ เอตฺถ ‘‘ผุสเน’’ติ ปาเสโส, ‘‘อิมินา อุปาเยน อิมํ ผุสามี’’ติ อเจเตตฺวา. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘อิมินา ปตฺตปฏิคฺคหณาทินา อุปาเยน เอติสฺสา สรีรสมฺผสฺสํ อนุภวิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ปตฺตถาลกตฏฺฏกปณฺณปุฏเภสชฺชาทึ ปฏิคฺคณฺหาเปนฺติยา หตฺเถ อตฺตโน หตฺเถน ผุสนาทีสุ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อสฺสติยา’’ติ อิทํ ปน อิมินาว สงฺคหิตตฺตา อิธ วิสุํ น วุตฺตํ, มาตุคามสฺส สรีเร ผุสนภาวํ อชานิตฺวา อฺวิหิโต หุตฺวา สตึ อนุปฏฺเปตฺวา หตฺถปาทปสารณาทีสุ ผุสนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
อชานนฺตสฺสาติ ¶ ทารกาการํ ทาริกํ ‘‘มาตุคาโม’’ติ อชานิตฺวา เกนจิ กรณีเยน ผุสนฺตสฺส ¶ . โมกฺขาธิปฺปายิโน จาติ ‘‘โมกฺขาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อนาปตฺติ. โมกฺขาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ, น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อนาปตฺติ. โมกฺขาธิปฺปาโย น จ กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อนาปตฺติ. โมกฺขาธิปฺปาโย น จ กาเยน วายมติ, น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. ๒๗๙) วุตฺตโมกฺขาธิปฺปายวโต จตุพฺพิธสฺส ปุคฺคลสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.
อิเมสุ โย มาตุคาเมน อาลิงฺคนาทิปโยเคน อชฺโฌตฺถรยมาโน ตํ อตฺตโน สรีรโต อปเนตฺวา มฺุจิตุกาโม หตฺถจาเลน, มุฏฺิอาทีหิ วา ปฏิปณามนํ, ปหรณาทิกฺจ ปโยคํ กโรติ, อยํ ปโม ปุคฺคโล. อตฺตานมชฺโฌตฺถริตุํ อาคจฺฉนฺตึ อิตฺถึ ทิสฺวา ปหรณาการาทิสพฺพปโยคํ ทสฺเสตฺวา ตาเสตฺวา อตฺตโน สรีรํ ผุสิตุํ อเทนฺโต ทุติโย. อิตฺถิยา อชฺโฌตฺถริตฺวา อาลิงฺคิโต โจปนรหิตํ มํ ‘‘อนตฺถิโก’’ติ มนฺตฺวา ‘‘สยเมว ปลายิสฺสตี’’ติ, ‘‘อโจปนเมว โมกฺโขปาโย’’ติ ตฺวา นิจฺจโลว หุตฺวา ผสฺสํ ปฏิวิชานนฺโต ตติโย. อตฺตานํ อชฺโฌตฺถริตุมาคจฺฉนฺตึ อิตฺถึ ทิสฺวา ทุติโย วิย ตาเสตุํ กายปฺปโยคํ อกตฺวา ‘‘อคเต ปาเตสฺสามิ, ปหริตฺวา ตาเสสฺสามี’’ติ วา จินฺเตตฺวา นิจฺจโลว หุตฺวา ติฏฺนฺโต จตุตฺโถติ เวทิตพฺโพ.
๓๕๒. ปเมนาติ เอตฺถ ‘‘ปาราชิเกนา’’ติ ปาเสโส, กายจิตฺตสมุฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิธ จิตฺตํ นาม ¶ กายสํสคฺคราคสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ, สุกฺกวิสฺสฏฺิมฺหิ โมเจตุกามตาย สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ.
กายสํสคฺคกถาวณฺณนา.
๓๕๓-๔. ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาเทนาติ ทุฏฺุ กุจฺฉิตภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ทุฏฺุลฺลา, ทุฏฺุลฺลา จ สา วาจา จาติ ทุฏฺุลฺลวาจา, วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺเค เมถุนธมฺมปฏิสํยุตฺตา วาจา, ยถาห ‘‘ทุฏฺุลฺลา นาม วาจา วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคเมถุนธมฺมปฏิสํยุตฺตา วาจา’’ติ (ปารา. ๒๘๕), ทุฏฺุลฺลวาจาย อสฺสาโท ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาโท, ตถาปวตฺตวจีวิฺตฺติสมุฏฺาปกจิตฺตสมฺปยุตฺตา เจตนา, เตน สมฺปยุตฺโต ราโค อิธ สหจริเยน ‘‘ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาโท’’ติ วุตฺโต, เตน, ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทสมฺปยุตฺเตน ¶ ราเคนาติ อตฺโถ. อิมินา ‘‘โอภาสนฺตสฺสา’’ติ วกฺขมานโอภาสนสฺส เหตุ ทสฺสิโต.
อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน ภิกฺขุโนติ โยชนา. อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโนติ ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, วิฺู ปฏิพลา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุ’’นฺติ ปทภาชเน นิทฺทิฏฺสรูปาย สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ชานนฺติยา มนุสฺสิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน ภิกฺขุโนติ อตฺโถ. ‘‘ทฺวินฺนํ มคฺคาน’’นฺติ เอตสฺส สมฺพนฺธีวเสน ‘‘อิตฺถิยา’’ติ อิทํ สามิวเสน โยเชตพฺพํ, ยถาวุตฺตสรูปสฺส มาตุคามสฺส วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคนฺติ อตฺโถ. วณฺณาวณฺณวเสน จาติ ‘‘วณฺณํ ภณติ นาม ทฺเว มคฺเค โถเมติ วณฺเณติ ปสํสติ. อวณฺณํ ภณติ นาม ทฺเว มคฺเค ขุํเสติ วมฺเภติ ครหตี’’ติ นิทฺเทเส วุตฺตนเยน อุโภ มคฺเค อุทฺทิสฺส โถมนครหณวเสนาติ วุตฺตํ โหติ.
เมถุนสฺส ¶ ยาจนาทโย เมถุนยาจนาทโย, เตหิ เมถุนยาจนาทีหิ, ‘‘ยาจติปิ อายาจติปิ ปุจฺฉติปิ ปฏิปุจฺฉติปิ อาจิกฺขติปิ อนุสาสติปิ อกฺโกสติปี’’ติ (ปารา. ๒๘๕) อุทฺเทเส วุตฺตเมถุนยาจนาทิวเสนาติ วุตฺตํ โหติ. อิเมหิ ทฺวีหิ ‘‘โอภาสนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตโอภาสนา ทสฺสิตา. โอภาสนฺตสฺสาติ อุทฺเทสยนฺตสฺส, ปกาเสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘วิฺุ’’นฺติ อิมินา โอภาสนกิริยาย กมฺมมาห, อิมินา วิเสสิตพฺพํ ‘‘มนุสฺสิตฺถิ’’นฺติ อิทํ ปกรณโต ลพฺภติ, ยถาทสฺสิตปทภาชนาคตสรูปํ วิฺุํ ปฏิพลํ มนุสฺสิตฺถินฺติ วุตฺตํ โหติ. อนฺตมโส หตฺถมุทฺทายปีติ โอภาสเน อนฺติมปริจฺเฉททสฺสนํ. ทุฏฺุลฺลวจนสฺสาทภาเว สติ โย วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคปฏิพทฺธํ คุณโทสํ วา เมถุนธมฺมยาจนาทิวเสน วา ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ ชานนฺตึ มนุสฺสิตฺถึ เหฏฺิมปริจฺเฉเทน หตฺถมุทฺทายปิ วเทยฺยาติ อตฺโถ.
อิมสฺมึ คาถาทฺวเย ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาเทน อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน วิฺุํ ตํ อิตฺถึ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วณฺณวเสน อนฺตมโส หตฺถมุทฺทายปิ โอภาสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ครุกํ สิยาติ เอกํ วากฺยํ, ตถา ‘‘ทฺวินฺนํ มคฺคานํ อวณฺณวเสนา’’ติ อิมินา จ ‘‘เมถุนยาจนาทีหี’’ติ อิมินา จ โยชนาย วากฺยทฺวยนฺติ เอวํ โยชนาวเสน ตีณิ วากฺยานิ โหนฺติ.
ตตฺถ ¶ ปมวากฺเย วณฺณวจเนน สงฺคหิตํ โถมนาทิกถํ กเถนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส โหติ. ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ เอตฺตกเมว โถมนตฺถํ วทโต สงฺฆาทิเสโส น โหติ, ‘‘ตว วจฺจมคฺโค จ ปสฺสาวมคฺโค จ อีทิโส สุโภ สุสณฺาโน, เตน นาม ¶ อีทิเสน อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ วทนฺตสฺส โหติ. ‘‘วณฺเณติ, ปสํสตี’’ติ ปททฺวยฺจ ‘‘โถเมตี’’ติ ปทสฺส ปริยาโย.
ทุติยวากฺเย อวณฺณปทสงฺคหิตํ ขุํสนาทิตฺตเย ขุํสนํ นาม ปโตโทปเมหิ ผรุสวจเนหิ ตุทนํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ขุํเสตีติ วาจาปโตเทน ฆฏฺเฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๕). ปตุชฺชเตเนนาติ ‘‘ปโตโท’’ติอคจฺฉนฺเต อสฺสาทโย ปวตฺเตตุํ วิชฺฌนกปาจนทณฺโฑ วุจฺจติ. วมฺภนํ นาม อปสาทนํ. อปสาทนํ นาม คุณโต ปริหาปนํ. ยถาห ‘‘วมฺเภตีติ อปสาเทตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๕). ครหา นาม โทสาโรปนํ. ยถาห ‘‘ครหตีติ โทสํ เทตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๕). อิมํ ขุํสนาทิปฏิสํยุตฺตวจนํ วกฺขมาเนสุ ‘‘สิขรณีสิ, สมฺภินฺนาสิ, อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ อิเมสุ ตีสุ ปเทสุ อฺตเรน โยเชตฺวา กเถนฺตสฺเสว สงฺฆาทิเสโส, น อิตรสฺส.
ตติยวากฺเย เมถุนยาจนาทิวจเนหิ สงฺคหิตํ อายาจนาทึ กโรนฺตสฺสาปิ สงฺฆาทิเสโส. ‘‘ยาจติ นาม เทหิ เม อรหสิ เม ทาตุ’’นฺติอาทินา (ปารา. ๒๘๕) นเยน เอเกกํ ปทํ ‘‘เทหิ เม เมถุนํ ธมฺม’’นฺติอาทิวเสน เมถุนธมฺมปเทน สห ฆเฏตฺวา เมถุนธมฺมํ ยาจนฺตสฺเสว โหติ.
‘‘กทา เต มาตา ปสีทิสฺสติ, กทา เต ปิตา ปสีทิสฺสติ, กทา เต เทวตาโย ปสีทิสฺสนฺติ, กทา เต สุขโณ สุลโย สุมุหุตฺโต ภวิสฺสตี’’ติอาทิอายาจนปทนิทฺเทเส เอเกกํ ปทํ ตตฺเถว โอสาเน วุตฺเตน ‘‘กทา เต เมถุนํ ธมฺมํ ลภิสฺสามี’’ติ ปเทน ฆเฏตฺวา เมถุนํ ยาจนฺตสฺเสว โหติ.
‘‘กถํ ¶ ตฺวํ สามิกสฺส เทสิ, กถํ ชารสฺส เทสี’’ติ (ปารา. ๒๘๕) ปุจฺฉานิทฺเทสวจเนสุ จ อฺตรํ เมถุนธมฺมปเทน ฆเฏตฺวา ปุจฺฉนฺตสฺเสว โหติ.
‘‘เอวํ ¶ กิร ตฺวํ สามิกสฺส เทสิ, เอวํ ชารสฺส เทสี’’ติ (ปารา. ๒๘๕) ปฏิปุจฺฉานิทฺเทสวจเนสุ อฺตรํ เมถุนธมฺมปเทน ฆเฏตฺวา วิเสเสตฺวา ปฏิปุจฺฉนฺตสฺเสว โหติ.
‘‘กถํ ททมานา สามิกสฺส ปิยา โหตี’’ติ ปุจฺฉโต มาตุคามสฺส ‘‘เอวํ เทหิ, เอวํ เทนฺตี สามิกสฺส ปิยา ภวิสฺสติ มนาปา จา’’ติ อาณตฺติวจเน, อนุสาสนิวจเน จ เอเสว นโย.
๓๕๕. อกฺโกสนิทฺเทสาคเตสุ ‘‘อนิมิตฺตาสิ นิมิตฺตมตฺตาสิ อโลหิตาสิ ธุวโลหิตาสิ ธุวโจฬาสิ ปคฺฆรนฺตีสิ สิขรณีสิ อิตฺถิปณฺฑกาสิ เวปุริสิกาสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ เอกาทสสุ ปเทสุ ‘‘สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ ปทตฺตยํ ปจฺเจกํ อาปตฺติกรํ, อิมินา ปทตฺตเยน สห ปุพฺเพ วุตฺตานิ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคเมถุนธมฺมปทานิ ตีณิ จาติ ฉปฺปทานํ ปจฺเจกํ อาปตฺติกรตฺตา อิโต ปรานิ อนิมิตฺตาทีนิ อฏฺ ปทานิ ‘‘อนิมิตฺตาสิ เมถุนธมฺมํ เทหี’’ติอาทินา นเยน เมถุนธมฺมปเทน สห ฆเฏตฺวา วุตฺตาเนว อาปตฺติกรานีติ เวทิตพฺพานิ, ‘‘เมถุนยาจนาทีหี’’ติ เอตฺถ อาทิ-สทฺทสงฺคหิเตสุ ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีสุ เอกาทสสุ อกฺโกสปเทสุ อนฺโตคธตฺเตปิ เกวลํ อาปตฺติกรตฺตา ครุตรํ ปทตฺตยํ วิสุํ สงฺคเหตพฺพนฺติ าเปตุมาห ‘‘สิขรณีสี’’ติอาทิ.
สิขรณีสีติ เอตฺถ ‘‘สิขรณี อสี’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อสี’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ตุ-สทฺโท เกวลยุตฺตมฺปิ อาปตฺติกรํ ¶ โหตีติ วิเสสํ โชเตติ. เกวเลนาปิ อกฺโกสวจเนนาติ โยชนา. สิขรณีสีติ พหิ นิกฺขนฺตอาณิมํสา ภวสิ. สมฺภินฺนาสีติ มิสฺสีภูตวจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคา. อุภโตพฺยฺชนาสีติ อิตฺถินิมิตฺเตน, ปุริสนิมิตฺเตน จาติ อุภโตพฺยฺชเนหิ สมนฺนาคตา. ‘‘อยํ อิตฺถี, อยํ ปุริโส’’ติ พฺยฺชยตีติ พฺยฺชนํ, มุตฺตกรณานิ. สุณนฺติยาติ เอตฺถ ‘‘วิฺุมนุสฺสิตฺถิยา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ, อิมินา อกฺโกสิตพฺพวตฺถุ ทสฺสิตํ โหติ. ภาสิตํ สุณนฺติยา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ชานนฺติยา มนุสฺสิตฺถิยา วิสเย ปวตฺตอกฺโกสวจเนน สงฺฆาทิเสโส โหตีติ อตฺโถ.
๓๕๖. ปุนปฺปุนํ โอภาสนฺตสฺส วาจานํ คณนาย ครุกา สิยุนฺติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘เอกํ ¶ อิตฺถิ’’นฺติ อชฺฌาหริตพฺพํ. เอกวาจาย พหู โอภาสนฺตสฺส จ อิตฺถีนํ คณนาย ครุกา สิยุนฺติ โยชนา. เอตฺถาปิ ‘‘อิตฺถิโยปี’’ติ ลพฺภติ.
๓๕๗. สา เจ นปฺปฏิชานาตีติ เอตฺถ ‘‘ยํ สุณนฺตึ มนุสฺสิตฺถึ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วณฺณาวณฺณวเสน โอภาสติ, สา เจ น ปฏิชานาตี’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภมานํ อาทาย โยเชตพฺพํ. อตฺตโน ภาสิตํ ทุฏฺุลฺลํ วุตฺตสมนนฺตรเมว อตฺถวเสน สเจ น ชานาตีติ อตฺโถ. ตสฺสาติ ตสฺส ทุฏฺุลฺลภาสิตภิกฺขุสฺส. อุพฺภชาณุํ, อธกฺขกํ วา อาทิสฺส ภณเน จาปิ ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยาติ โยชนา. ภณเนติ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วณฺณาทิกถเน, ‘‘ภณโต’’ติปิ ลิขนฺติ, ภณนฺตสฺส, ภณนเหตูติ อตฺโถ. เหตุมฺหิ อยมนฺตปจฺจโย ‘‘อสมฺพุธ’’นฺติอาทีสุ (ปารา. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา) วิย. อุพฺภชาณุนฺติ ชาณุโต อุทฺธํ. อกฺเขกนฺติ อกฺขกโต เหฏฺา.
๓๕๘. อุพฺภกฺขกนฺติ ¶ อกฺขกโต อุทฺธํ. อโธชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลโต อโธ. อุทฺทิสนฺติ อุทฺทิสฺส. ‘‘อุทฺทิสฺสุพฺภกฺขํ วา ตถา, อโธชาณุมณฺฑล’’นฺติ จ ลิขนฺติ, โส ปาโ สุนฺทโร. วณฺณาทิภณเน ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วิฺุมนุสฺสิตฺถิยา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ. กายปฏิพทฺเธ วณฺณาทิภณเน ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคา สงฺฆาทิเสสกฺเขตฺตํ, อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺตํ, อุทฺธกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ ทุกฺกฏกฺเขตฺตนฺติ อิเมสุ ตีสุ เขตฺเตสุ อกฺขกฺเจว ชาณุมณฺฑลฺจ ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานํ ทฺวินฺนํ อวธิภูตํ กตฺถ สงฺคยฺหตีติ? ทุกฺกฏกฺเขตฺเตเยว สงฺคยฺหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อกฺขกํ, ปน ชาณุมณฺฑลฺจ เอตฺเถว ทุกฺกฏกฺเขตฺเต สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๖).
๓๕๙. ปณฺฑเก ยกฺขิเปตีสุ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วณฺณาทิภณเน ตสฺส ภณนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ ภเวติ อธิการวเสน อาคตปเทหิ สห โยเชตพฺพํ. ปณฺฑกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน ยกฺขิเปตีนํ คหณํ.
๓๖๐. อุพฺภกฺขก…เป… อยํ นโยติ ‘‘ปณฺฑกาทีสู’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ. อยํ นโยติ ‘‘ทุกฺกฏเมว โหตี’’ติ วุตฺโต นโย. สพฺพตฺถาติ สงฺฆาทิเสสถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺตวเสน สพฺเพสุ เขตฺเตสุ.
๓๖๑. อตฺถปุเรกฺขาโร ¶ หุตฺวา โอภาสโตปิ อนาปตฺตีติ โยชนา. มาตุคามานํ ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีสุ ปเทสุ อตฺถกถนํ ปุเรกฺขตฺวา ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทิปทํ ภณนฺตสฺส วา มาตุคาเมหิ สห อฏฺกถํ สชฺฌายนฺตานํ วา อนาปตฺตีติ อตฺโถ. ธมฺมปุเรกฺขาโร หุตฺวา โอภาสโต อนาปตฺตีติ โยชนา. ปาฬิธมฺมํ วาเจนฺตสฺส วา ตาสํ ¶ สุณนฺตีนํ สชฺฌายนํ วา ปุเรกฺขตฺวา ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีสุ ปเทสุ ยํ กิฺจิ ปพฺพชิตสฺส วา อิตรสฺส วา มาตุคามสฺส กเถนฺตสฺส อนาปตฺตีติ. ปุเรกฺขตฺวานุสาสนินฺติ ‘‘อิทานิ อนิมิตฺตาสิ…เป… อุภโตพฺยฺชนาสิ, อปฺปมาทํ ทานิ กเรยฺยาสิ, ยถา อายติมฺปิ เอวรูปา นาโหสี’’ติ อนุสาสนึ ปุเรกฺขตฺวา.
๓๖๒. อุมฺมตฺตกาทีนนฺติ ปิตฺตุมฺมตฺตกยกฺขุมฺมตฺตกวเสน ทฺวินฺนํ อุมฺมตฺตกานฺจ อาทิ-สทฺทสงฺคหิตสฺส อิมสฺมึ อาทิกมฺมิกสฺส อุทายิตฺเถรสฺส จ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ กายจิตฺตโต จ วาจาจิตฺตโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๗) อฏฺกถายํ วุตฺตปกิณฺณกวินิจฺฉยํ ทสฺเสติ ‘‘สมุฏฺานาทโย…เป… ตุลฺยาวา’’ติ. เวทนาย อทินฺนาทาเนน อสมตฺตา ‘‘เวทเนตฺถ ทฺวิธา มตา’’ติ อาห, สุโขเปกฺขาเวทนาวเสน ทฺวิธา มตาติ อตฺโถ.
ทุฏฺุลฺลวาจากถาวณฺณนา.
๓๖๓. กามปาริจริยายาติ เมถุนธมฺมสงฺขาเตน กาเมน ปาริจริยาย, เมถุนธมฺเมน ปาริจริยายาติ อตฺโถ. อถ วา กามิตา ปตฺถิตาติ กามา, เมถุนราควเสน ปตฺถิตาติ อตฺโถ, กามา จ สา ปาริจริยา จาติ กามปาริจริยา, ตสฺสา กามปาริจริยายาติปิ คเหตพฺพํ, เมถุนราคจิตฺเตน อภิปตฺถิตปาริจริยายาติอตฺโถ. ‘‘วณฺณํ ภาสโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ, ‘‘เอตทคฺคํ ภคินิ ปาริจริยานํ ยา มาทิสํ สีลวนฺตํ กลฺยาณธมฺมํ พฺรหฺมจารึ เอเตน ธมฺเมน ปริจเรยฺยา’’ติ อตฺตโน เมถุนธมฺเมน ปาริจริยาย ¶ คุณํ อานิสํสํ กเถนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมึเยว ขเณติ ตสฺมึ ภณิตกฺขเณเยว. สา เจ ชานาตีติ ยํ อุทฺทิสฺส อภาสิ, สเจ สา วจนสมนนฺตรเมว ชานาติ.
๓๖๔. สา ¶ มนุสฺสิตฺถี โน ชานาติ เจ, ตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ สมฺพนฺโธ. ยกฺขิเปติเทวีสุ ชานนฺตีสุ, ปณฺฑเก จ ชานนฺเต อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาสโต ตสฺส ภิกฺขุโน ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา. เสเสติ ปุริสติรจฺฉานคตวิสเย, ยกฺขิอาทีนํ อชานนวิสเย จ อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาสโต ตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๓๖๕. จีวราทีหีติ จีวรปิณฺฑปาตาทีหิ. วตฺถุกาเมหีติ ตณฺหาย วตฺถุภาเวน วตฺถู จ กามิตตฺตา กามาติ จ สงฺขาเตหิ ปจฺจเยหิ.
๓๖๖. ราโค เอว ราคตา. ‘‘ราคิตา’’ติ วา ปาโ, ราโค อสฺส อตฺถีติ ราคี, ตสฺส ภาโว ราคิตา, อตฺตกามปาริจริยาย ราโคติ อตฺโถ. โอภาโสติ อตฺตกามปาริจริยาย คุณภณนํ. เตน ราเคนาติ กามปาริจริยาย ราเคน. ขเณ ตสฺมินฺติ ภณิตกฺขเณ. วิชานนนฺติ ยํ มนุสฺสิตฺถึ อุทฺทิสฺส อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภณติ, ตาย ตสฺส วจนตฺถสฺส วิชานนนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๓๖๗. ปฺจงฺคานีติ มนุสฺสิตฺถิตา, ตํสฺิตา, ปาริจริยาย ราคิตา, เตน ราเคน โอภาสนํ, ขเณ ตสฺมึ วิชานนนฺติ อิมานิ เอตฺถ อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปเท ปฺจ องฺคานิ ¶ , ปฺจ อาปตฺติการณานีติ อตฺโถ. อสฺสาติ อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทสฺส.
อตฺตกามปาริจริยกถาวณฺณนา.
๓๖๘. ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติอาทิกิริยาตฺตโยปาทานสามตฺถิเยน ติกฺขตฺตุํ ปฏิปาทนกํ ‘‘โย ภิกฺขู’’ติ จ ‘‘ครุ โหตี’’ติ ปทสามตฺถิเยน ‘‘ตสฺสา’’ติ จ ลพฺภมานตฺตา ติวิเธหิ สห ‘‘โย ภิกฺขุ ปุริสสฺส สนฺเทสํ ปฏิคฺคณฺหาติ, วีมํสติ ปจฺจาหรติ เจ, ตสฺส ครุ โหตี’’ติ เอกํ วากฺยํ โหติ. เอวํ ‘‘อิตฺถิยาปิ วา’’ติ อิมินา โยชนายปิ เอกํ วากฺยํ โหตีติ อิมิสฺสา คาถาย วากฺยทฺวยํ ยุชฺชติ.
อิธ สนฺเทสกฺกมฺจ โยชนากฺกมฺจ ชานนตฺถํ ปมํ ตาว อิตฺถีนฺจ ภริยานฺจ ปเภโท จ สรูปฺจ วิภาวียติ – เตสุ อิตฺถิโย ทสวิธา โหนฺติ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘ทส อิตฺถิโย ¶ มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สารกฺขา สปริทณฺฑา’’ติ. ภริยา จ ทสวิธา โหนฺติ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘ทส ภริยาโย ธนกฺกีตา ฉนฺทวาสินี โภควาสินี โอทปตฺตกินี โอภฏจุมฺพฏา ทาสี จ ภริยา จ กมฺมการี จ ภริยา จ ธชาหฏา มุหุตฺติกา’’ติ (ปารา. ๓๐๓). อิมาสํ ปเภโท จ สรูปานิ จ สงฺเขปโต เอวํ เวทิตพฺพานิ –
ปุริเสหิ สห ยถา สํวาสํ น กโรติ, เอวํ มาตรา รกฺขิตา มาตุรกฺขิตา. ยถาห ‘‘มาตุรกฺขิตา นาม มาตา รกฺขติ โคเปติ อิสฺสริยํ กาเรติ วสํ วตฺเตตี’’ติ. ปิตุรกฺขิตาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ยสฺมึ โกณฺฑฺาทิโคตฺเต ชาตา, ตสฺมึเยว โคตฺเต ชาเตหิ ¶ รกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา. ยถาห ‘‘โคตฺตรกฺขิตา นาม สโคตฺตา รกฺขนฺตี’’ติอาทิ. เอกํ สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิเตหิ วา เอกคณปริยาปนฺเนหิ วา รกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา นาม. ยถาห ‘‘ธมฺมรกฺขิตา นาม สหธมฺมิกา รกฺขนฺตี’’ติอาทิ (ปารา. ๓๐๔). สารกฺขา นาม ‘‘คพฺเภปิ ปริคฺคหิตา โหติ ‘มยฺหํ เอสา’ติ อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปี’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตสรูปา. สปริทณฺฑา นาม ‘‘เกหิจิ ทณฺโฑ ปิโต โหติ ‘โย อิตฺถนฺนามํ อิตฺถึ คจฺฉติ, ตสฺส เอตฺตโก ทณฺโฑ’’ติ วุตฺตสรูปาติ อยํ ทสนฺนํ อิตฺถีนํ สรูปสงฺเขโป. อิมาสุ ทสสุ สารกฺขสปริทณฺฑานํ ทฺวินฺนํ ปรปุริสเสวายํ มิจฺฉาจาโร โหติ, อิตราสํ น โหติ. อิมา ทสปิ ปฺจสีลํ รกฺขนฺเตหิ อคมนียา.
ทสสุ ภริยาสุ ‘‘ธนกฺกีตา นาม ธเนน กิณิตฺวา วาเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา ภริยภาวาย อปฺปกํ วา พหุํ วา ธนํ ทตฺวา คหิตา ธนกฺกีตา นาม. ‘‘ฉนฺทวาสินี นาม ปิโย ปิยํ วาเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา อตฺตรุจิยา สํวสิเตน ปุริเสน สมฺปฏิจฺฉิตา ฉนฺทวาสินี นาม. ‘‘โภควาสินี นาม โภคํ ทตฺวา วาเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา อุทุกฺขลมุสลาทิเคโหปกรณํ ลภิตฺวา ภริยภาวํ คจฺฉนฺตี ชนปทิตฺถี โภควาสินี นาม. ‘‘ปฏวาสินี นาม ปฏํ ทตฺวา วาเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา นิวาสนมตฺตํ วา ปารุปนมตฺตํ วา ลทฺธา ภริยภาวํ คจฺฉนฺตี ทลิทฺทิตฺถี ปฏวาสินี นาม. โอทปตฺตกินี นาม ‘‘อุทกปตฺตํ อามสิตฺวา วาเสตี’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา ‘‘อิทํ อุทกํ วิย สํสฏฺา อเภชฺชา โหถา’’ติ วตฺวา เอกสฺมึ อุทกปตฺเต ปุริเสน สทฺธึ หตฺถํ โอตาเรตฺวา ภริยภาวํ นีโต มาตุคาโม วุจฺจติ. ‘‘โอภฏจุมฺพฏา นาม จุมฺพฏํ โอโรเปตฺวา ¶ วาเสตี’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา สีสโต จุมฺพฏํ โอโรเปตฺวา ภริยภาวมุปนีตา กฏฺหาริกาทิอิตฺถี โอภฏจุมฺพฏา นาม. ทาสี ¶ จ ภริยา จ นาม ‘‘ทาสี เจว โหติ ภริยา จา’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา ภริยํ กตฺวา วาสิตา ‘‘ตสฺเสว ทาสี จ ภริยา จา’’ติ วุตฺตา. กมฺมการี จ ภริยา จ นาม ‘‘กมฺมการี เจว โหติ ภริยา จา’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา ปธานิตฺถินิรเปกฺเขน กุฏุมฺพกิจฺจํ กาเรตฺวา ภริยภาวํ นีตา ภริยา กตกมฺมา ‘‘กมฺมการี จ ภริยา จา’’ติ วุตฺตา. ‘‘ธชาหฏา นาม กรมรานีตา วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา ธชํ อุสฺสาเปตฺวา คจฺฉนฺติยา มหาเสนาย สทฺธึ คนฺตฺวา ปรวิสยํ วิลุมฺปนฺเตน ปจฺฉินฺทิตฺวา อาเนตฺวา ภริยภาวมุปนีตา อิตฺถี ธชาหฏา นาม. ‘‘มุหุตฺติกา นาม ตงฺขณิกา วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา อจิรกาลํ สํวาสตฺถาย คหิตา อิตฺถี มุหุตฺติกา นามาติ อยํ ทสนฺนํ ภริยานํ สรูปสงฺเขโป. ยถาวุตฺตาสุ ทสสุ อิตฺถีสุ อฺตรํ ทสนฺนํ ภริยานํ อฺตรฏฺาเน ปนตฺถมธิปฺเปตภาวํ วตฺตุํ ปุริเสน ‘‘คจฺฉ ภนฺเต อิตฺถนฺนามํ มาตุรกฺขิตํ พฺรูหิ ‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา’ติ’’อาทินา นเยน ทินฺนสนฺเทสํ ‘‘สาธุ อุปาสกา’’ติอาทินา นเยน วจีเภทํ กตฺวา วา สีสกมฺปนาทิวเสน วา ปฏิคฺคณฺหาตีติ อาห ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ สนฺเทสํ ปุริสสฺสา’’ติ.
เอตฺถ ปุริสสฺสาติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘ปุริสสฺส มาตา ภิกฺขุํ ปหิณตี’’ติอาทินา (ปารา. ๓๒๑) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตปุริสสฺส มาตาปิตุอาทโย จ คเหตพฺพา. วีมํสตีติ เอวํ ปฏิคฺคหิตสาสนํ ตสฺสาเยว เอกํเสน อวิราเธตฺวา วทนฺตสฺส มาตาปิตุอาทีนมฺตรสฺส วา อาโรเจตีติ อตฺโถ. เอตฺถาปิ วีมํสตีติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ อนฺเตวาสึ วีมํสาเปตฺวา อตฺตนา ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๓๘) วุตฺตตฺตา วีมํสาเปตีติปิ คเหตพฺพํ. ปจฺจาหรตีติ ตถา อาหฏํ สาสนํ สุตฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา ¶ สมฺปฏิจฺฉิเต จ อสมฺปฏิจฺฉิเต จ ลชฺชาย ตุณฺหีภูตาย จ ตํ ปวตฺตึ ปจฺจาหริตฺวา อาจิกฺขตีติ วุตฺตํ โหติ. อิธาปิ ปจฺจาหรตีติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ อนฺเตวาสึ ปจฺจาหราเปติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๓๘) วุตฺตตฺตา ปจฺจาหราเปตีติ จ คเหตพฺพํ.
‘‘อิตฺถิยาปิ วา’’ติ อิมินา โยเชตฺวา คหิตทุติยวากฺเย จ เอวเมว อตฺโถ วตฺตพฺโพ. ตตฺถ สนฺเทสกฺกโม ปน ‘‘มาตุรกฺขิตา ภิกฺขุํ ปหิณติ ‘คจฺฉ ภนฺเต อิตฺถนฺนามํ พฺรูหิ ‘โหมิ อิตฺถนฺนามสฺส ¶ ภริยา ธนกฺกีตา’ติ’’อาทิปาฬินเยน (ปารา. ๓๓๐) ทฏฺพฺโพ. เอตฺถาปิ ‘‘วีมํสาเปติ ปจฺจาหราเปตี’’ติ อิทฺจ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ. อิมินา นิยาเมน ทสนฺนํ อิตฺถีนํ นามํ วิสุํ วิสุํ วตฺวา ทสนฺนํ ภริยานํ อฺตรตฺถาย ทียมานสนฺเทสกฺกโม โยเชตพฺโพ. อิธาปิ อิตฺถิยาปิ วาติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘มาตุรกฺขิตาย มาตา ภิกฺขุํ ปหิณติ ‘คจฺฉ ภนฺเต อิตฺถนฺนามํ พฺรูหิ ‘โหตุ อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา’’ติอาทิปาฬิวเสน (ปารา. ๓๒๔) อิตฺถิยา มาตุปิตุอาทีนฺจ สนฺเทสกฺกโม โยเชตพฺโพ.
๓๗๐. ตํ ปวตฺตึ. สฺจริตฺตา สฺจรณเหตุ. น มุจฺจตีติ อิตฺถิปุริสานํ อนฺตเร สาสนํ ปฏิคฺคเหตฺวา สฺจรณเหตุ อาปชฺชิตพฺพสงฺฆาทิเสสโต น มุจฺจตีติ อตฺโถ.
๓๗๑. อฺํ วาติ มาตาปิตุรกฺขิตาทีสุ อฺตรํ วา. ‘‘ภาสโต’’ติ ลิขนฺติ. ‘‘เปสิโต’’ติ อิมินา วิรุทฺธตฺตา ตํ ปหาย ‘‘ภาสตี’’ติ ปาโ คเหตพฺโพ. ปาเสโส วา กาตพฺโพ. ‘‘โย อฺํ ภาสติ เจ, ตสฺส ภาสโตติ โยชนา’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. ‘‘มาตรา รกฺขิตํ อิตฺถึ ‘คจฺฉ พฺรูหี’ติ โย เปสิโต โหติ, ตสฺส ปิตุรกฺขิตํ ¶ วา อฺํ วา ภาสโต วิสงฺเกโตวา’’ติ, ‘‘มาตรา…เป… พฺรูหี’ติ เปสิโต หุตฺวา ปิตุรกฺขิตํ วา อฺํ วา ภาสโต วิสงฺเกโตวา’’ติ โยชนา ยุตฺตตราติ อมฺหากํ ขนฺติ.
๓๗๒. ปฏิคฺคณฺหนตาทีหีติ ปฏิคฺคณฺหนเมว ปฏิคฺคณฺหนตา. อาทิ-สทฺเทน วีมํสนปจฺจาหรณานิ คหิตานิ. สฺจริตฺเตติ สฺจรเณ. สมาปนฺเนติ คเต สติ. ครุกาปตฺติมาทิเสติ เอตฺถ ‘‘ตสฺสา’’ติ เสโส. อาทิเสติ กเถยฺย.
๓๗๓. ทฺวีหิ ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ เอตฺถ ทฺวีหิ ทฺวีหิ องฺเคหิ สฺจริตฺเต สมาปนฺเน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ น ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสติ ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. น ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๓๘) ทฺวีหิ ทฺวีหิ องฺเคหิ ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ปณฺฑกาทีสูติ ปณฺฑกยกฺขิเปตีสุ. ตีหิปิ องฺเคหิ สฺจริตฺเต สมาปนฺเน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
เอเกเนวาติ ¶ เอเกเนว องฺเคน. สพฺพตฺถาติ มาตุรกฺขิตาทีสุ สพฺพมาตุคาเมสุ จ วินีตวตฺถุมฺหิ ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ปุริโส อฺตรํ ภิกฺขุํ อาณาเปสิ ‘คจฺฉ ภนฺเต อิตฺถนฺนามํ อิตฺถึ วีมํสา’ติ. โส คนฺตฺวา มนุสฺเส ปุจฺฉิ ‘กหํ อิตฺถนฺนามา’ติ. สุตฺตา ภนฺเตติ…เป… มตา ภนฺเตติ. นิกฺขนฺตา ภนฺเตติ. อนิตฺถี ภนฺเตติ. อิตฺถิปณฺฑกา ภนฺเตติ. ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ. อนาปตฺติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๔๑) อาคตาสุ สุตฺตาทีสุ ปฺจสุ จ.
๓๗๔. อนาปตฺติ ปกาสิตาติ เจติยาทีสุ กตฺตพฺพํ นิสฺสาย อิตฺถิยา ปุริสสฺส, ปุริเสน จ อิตฺถิยา ทินฺนสาสนํ ปฏิคฺคเหตฺวา ¶ วีมํสิตฺวา ปจฺจาหริตฺวา อาโรเจนฺตสฺส อนาปตฺติภาโว ‘‘อนาปตฺติ สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา คิลานสฺส วา กรณีเยน คจฺฉติ, อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๔๐) ปาฬิยํ วุตฺตาติ อตฺโถ.
๓๗๕. ตถา ตสฺสาติ มนุสฺสชาติกาย ตสฺสา. นนาลํวจนียตาติ ‘‘มมาย’’นฺติ วา นิคฺคหปคฺคเห วา นิราสงฺกํ วตฺตุํ นาหรตีติ อลํวจนียา, อสฺสามิกา, สา หิ เกนจิ ‘‘มยฺหํ เอสา’’ติ วตฺตุํ วา นิราสงฺเกน นิคฺคหปคฺคหวจนํ วา วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยา, อลํวจนียา น ภวตีติ นาลํวจนียา, สสฺสามิกา, สา หิ สามิเกน ตถา กาตุํ สกฺกุเณยฺยาติ นาลํวจนียา, นาลํวจนียา น ภวตีติ นนาลํวจนียา, อลํวจนียปเทน วุตฺตา อสฺสามิกา เอว, ปฏิเสธา ทฺเว ปกติมตฺถํ คมยนฺตีติ, นนาลํวจนียาย ภาโว นนาลํวจนียตา, นิราสงฺเกน อวจนียตา อสฺสามิกภาโวติ วุตฺตํ โหติ. สฺจริตฺตวเสน ภิกฺขุนา วจนียา น โหตีติ วา ‘‘อลํวจนียา’’ติปิ คเหตพฺพเมว. ปฏิคฺคณฺหนตาทีนํ วสาติ เอตฺถ จกาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ตโต ปฏิคฺคณฺหนวีมํสนปจฺจาหรณสงฺขาตานํ ติณฺณํ องฺคานํ วเสน จ ปุพฺเพ วุตฺตมนุสฺสิตฺถิตา นนาลํวจนียตาติ วุตฺตานํ ทฺวินฺนํ องฺคานํ วเสน จ อิทํ สิกฺขาปทํ อาปตฺติการเณหิ ปฺจหิ องฺเคหิ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ.
๓๗๖. อิทํ สฺจริตฺตสิกฺขาปทํ. อถ วา ลิงฺควิปลฺลาเสน จ อยํ สงฺฆาทิเสโสติ คเหตพฺโพ. กายโต, วาจโต, กายวาจโต, กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต วา อุปฺปชฺชนโต ฉสมุฏฺานํ. ตโต เอว อจิตฺตกมุทีริตํ. มิสฺสกสมุฏฺานฺหิ อจิตฺตกํ. อวเสสจิตฺเตสุปิ ¶ ยสฺมึ จิตฺเต อสติ อจิตฺตกํ นาม โหติ, ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อลํวจนิยตฺตํ ¶ วา’’ติอาทิ. คาถาพนฺธวเสน รสฺโส, ‘‘อลํวจนียตฺต’’นฺติ คเหตพฺพํ. โย สนฺเทสํ เปเสติ, ตสฺมึ ปฏิพทฺธภาวนฺติ อตฺโถ. ปณฺณตฺตึ วาติ สฺจริตฺตสิกฺขาปทสงฺขาตํ ปณฺณตฺตึ วา อชานโต อจิตฺตกมุทีริตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๓๗๗. สาสนนฺติ มาตุคามสฺส, ปุริสสฺส วา สาสนํ. กายวิกาเรนาติ สีสกมฺปนาทินา กายวิกาเรน. คเหตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา. ตํ อุปคมฺมาติ ปฏิคฺคหิตสาสนํ ยสฺส วตฺตพฺพํ โหติ, ตํ มาตุคามํ, ปุริสํ วา อุปคมฺม. วีมํสิตฺวาติ ตํ กิจฺจํ ตีเรตฺวา. หรนฺตสฺสาติ ปจฺจาหรนฺตสฺส. กายโต สิยาติ วจีเภทํ วินา ปฏิคฺคหณาทีนํ กาเยเนว กตตฺตา กายสมุฏฺานโตว สงฺฆาทิเสโส โหตีติ อตฺโถ.
๓๗๘. อิตฺถิยา วจนํ สุตฺวาติ โยชนา. ยถา นิสินฺโนวาติ ปกติยา นิสินฺนฏฺาเนเยว นิสินฺโน. ตํ วจนํ. ตตฺเถวาคตสฺเสวาติ ยตฺถ นิสินฺโน อิตฺถิยา สาสนํ ปฏิคฺคณฺหิ, ตเมว อาสนํ อวิชหิตฺวา อตฺตนา นิสินฺนฏฺานเมว อาคตสฺส สนฺนิสิตพฺพปุริสสฺเสว, เอตฺถ ‘‘อาโรเจตฺวา’’ติ ปาเสโส. ปุน ‘‘อาโรเจนฺตสฺสา’’ติ อิทํ ตตฺเถวาคตาย ตสฺสา เอว อิตฺถิยา เอวํ โยเชตพฺพํ. สาสนํ ทตฺวา คนฺตฺวา ปุน ตตฺเถว อาคตสฺส มาตุคามสฺเสว าตมนนฺตรํ กายิกกิริยํ วินา วจเนเนว อาโรเจนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อิทํ อิตฺถิยา สาสนํ ปฏิคฺคหณาทิวเสน วุตฺตํ.
อถ วา ปุริสสฺส วจนํ สุตฺวา ยถานิสินฺโนว ตํ วจนํ อิตฺถิยา อาโรเจตฺวา ปุน ตตฺเถวาคตสฺเสว ปุริสสฺส ¶ อาโรเจนฺตสฺสาติ เอวํ ปุริสสนฺเทสํ ปฏิคฺคหณาทิวเสนาปิ โยชนา กาตพฺพา. เอตฺถ จ ตตฺเถวาคตสฺสาติ อุปลกฺขณํ. สาสนวจนมตฺเตเนว ปฏิคฺคเหตฺวา, กิจฺจนฺตเรน คนฺตฺวา วา ยทิจฺฉาวเสน ทิฏฺฏฺาเน วา วตฺวา ปุนปิ ตตฺเถว ทิฏฺฏฺาเน ปุน อาโรเจนฺตสฺส จ วจเนเนว สมุฏฺานภาโว เวทิตพฺโพ.
๓๗๙. ‘‘อลํ…เป… อชานโต’’ติ อจิตฺตกตฺตการณํ วุตฺตเมว, กสฺมา ปุน ‘‘อชานนฺตสฺส ปณฺณตฺติ’’นฺติ วุตฺตนฺติ เจ? ตทุภยสฺสาปิ วิสุํ การณาภาวํ วิฺาเปตุํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. นํ วิธินฺติ สาสนํ ปฏิคฺคเหตฺวา อาหริตฺวา อาโรเจตฺวา ปจฺจาหริตฺวา อาโรจนสงฺขาตํ ¶ วิธานํ. อรหโตปีติ ขีณาสวสฺสปิ, เสขปุถุชฺชนานํ ปเควาติ อยมตฺโถ สมฺภาวนตฺเถน อปิ-สทฺเทน โชติโต.
๓๘๐. ชานิตฺวาติ อลํวจนียภาวํ วา ปณฺณตฺตึ วา อุภยเมว วา ชานิตฺวา. ตถาติ กายวาจโต กโรนฺตสฺสาติ อิมินา โยเชตพฺพํ. สจิตฺตเกหีติ ยถาวุตฺตจิตฺเตน สจิตฺตเกหิ. เตเหวาติ กายาทีหิ เตหิ เอว, ‘‘ตีเหวา’’ติปิ ปาโ.
สฺจริตฺตกถาวณฺณนา.
๓๘๑-๒. สยํยาจิตเกเหวาติ เอตฺถ ‘‘อุปกรเณหี’’ติ ปาเสโส, ‘‘ปุริสํ เทถา’’ติอาทินา นเยน อตฺตนาว ยาจิตฺวา คหิเตหิ อุปกรเณเหวาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘สฺาจิกา นาม สยํ ยาจิตฺวา ปุริสมฺปิ ปุริสตฺตกรมฺปิ โคณมฺปิ สกฏมฺปิ วาสิมฺปิ ปรสุมฺปิ กุาริมฺปิ กุทาลมฺปิ นิขาทนมฺปี’’ติ ¶ . เอตฺถ เอว-กาเรน อยาจิตํ นิวตฺเตติ. เตน อสฺสามิกนฺติ ทีปิตํ โหติ. ‘‘กุฏิก’’นฺติ อิมินา ‘‘กุฏิ นาม อุลฺลิตฺตา วา โหติ อวลิตฺตา วา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตา วา’’ติ (ปารา. ๓๔๙) วุตฺตตฺตา ภูมิโต ปฏฺาย ภิตฺติจฺฉทนานิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา มตฺติกาย วา สุธาย วา ทฺวารวาตปานาทิอเลโปกาสํ เปตฺวา อนฺโต ลิตฺตภาเวน อุลฺลิตฺตานามกํ วา ตถา พหิ ลิตฺตภาเวน อวลิตฺตานามกํ วา อนฺโต จ พหิ จ ลิตฺตภาเวน อุลฺลิตฺตาวลิตฺตานามกํ วา กุฏินฺติ วุตฺตํ โหติ.
อปฺปมาณิกนฺติ ‘‘ตตฺริทํ ปมาณํ, ทีฆโส ทฺวาทสวิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ สตฺตนฺตรา’’ติ (ปารา. ๓๔๘) ทีฆปุถุลานํ วุตฺตปฺปมาเณน อติเรกตฺตา อปฺปมาณิกนฺติ อตฺโถ.
เอตฺถ จ ติลกฺขณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ตีณิ กิเลสมูลานิ อุปฺปาเฏตฺวา กาลตฺตยวตฺต สพฺพธมฺเม ปฏิวิชฺฌิตฺวา ติภุวเนกปฏิสรณภูตสฺส ภควโต ธมฺมราชสฺส องฺคุลํ ปมาณมชฺฌิมปุริสสฺส องฺคุลโต ติวงฺคุลํ โหติ, เอกา วิทตฺถิ ติสฺโส วิทตฺถิโย โหนฺติ, เอกํ รตนํ ตีณิ รตนานิ โหนฺตีติ เอวํ นิยมิตา สุคตวิทตฺถิ จ วฑฺฒกิรตเนน ทิยฑฺฒรตนปฺปมาณา โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สุคตวิทตฺถิ นาม อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติสฺโส วิทตฺถิโย วฑฺฒกิหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๘-๓๔๙). ตสฺมา ¶ สุคตวิทตฺถิยา ทฺวาทส วฑฺฒกิหตฺเถน อฏฺารส หตฺถา โหนฺติ. ‘‘ทีฆโส ทฺวาทส วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยาติ พาหิริเมน มาเนนา’’ติ (ปารา. ๓๔๙) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา อนฺติมํ สุธาเลปํ อคฺคเหตฺวา ถุสมตฺติกปริยนฺเตน วา มหามตฺติกปริยนฺเตน วา พาหิรนฺตโต อฏฺารสหตฺถปฺปมาณํ, ‘‘ติริยํ สตฺตนฺตราติ อพฺภนฺตริเมน มาเนนา’’ติ (ปารา. ๓๔๙) ¶ ปทภาชเน วุตฺตตฺตา อพฺภนฺตริเมน ปุถุลโต ทฺวาทสงฺคุลาธิกทสหตฺถปฺปมาณฺจ กุฏิยา ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. เอวํ ิตปมาณโต ทีฆโต ปุถุลโต วา อุภโต วา เกสคฺคมตฺตาธิกาปิ กุฏิ อาปตฺติยา องฺคํ โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปมาณิก’’นฺติ อาหาติ สงฺเขปโต เวทิตพฺพํ.
อตฺตุทฺเทสนฺติ อุทฺทิสิตพฺโพติ อุทฺเทโส, อตฺตา อุทฺเทโส เอติสฺสาติ อตฺตุทฺเทสา, กุฏิ, ตํ อตฺตุทฺเทสํ. ‘‘อตฺตุทฺเทสนฺติ อตฺตโน อตฺถายา’’ติ ปทภาชเน วุตฺตตฺตา ‘‘มยฺหํ เอสา วาสตฺถาย ภวิสฺสตี’’ติ อตฺตานํ อุทฺทิสิตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘กโรนฺตสฺสา’’ติ อิทํ ‘‘การยมาเนนาติ กโรนฺโต วา การาเปนฺโต วา’’ติ ปทภาชเน วุตฺตนเยน ปโยชกกตฺตุโน จ คเหตพฺพตฺตา อุปลกฺขณนฺติ คเหตพฺพํ. ตถาติ เตเนว ปกาเรน, เยหิ อสฺสามิกตาทีหิ ปกาเรหิ ยุตฺตํ ปมาณาติกฺกนฺตํ กุฏึ กโรนฺตสฺส อาปตฺติ, เตเหว ปกาเรหิ ยุตฺตํ อเทสิตวตฺถุกมฺปิ กุฏึ กโรนฺตสฺสาติ. อิมินา อปฺปมาณิกํ วิย อเทสิตวตฺถุกมฺปิ วิสุํเยว อาปตฺติยา ปธานงฺคนฺติ. วสติ เอตฺถาติ วตฺถุ, ภูมิ, สา อเทสิตา เอติสฺสาติ อเทสิตวตฺถุกา, กุฏิ, ตํ อเทสิตวตฺถุกํ.
กึ วุตฺตํ โหติ? เตน กุฏิกาเรน ภิกฺขุนา กุฏิวตฺถุํ โสเธตฺวา สมตลํ กาเรตฺวา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต สฺาจิกาย กุฏึ กตฺตุกาโม อสฺสามิกํ อตฺตุทฺเทสํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ กุฏิวตฺถุโอโลกนํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา ยาจิเตน สงฺเฆน วา สงฺเฆน ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สมฺมเตหิ พฺยตฺเตหิ ¶ ปฏิพเลหิ ทฺวีหิ ภิกฺขูหิ วา เตน สทฺธึ คนฺตฺวา กุฏิวตฺถุํ โอโลเกตฺวา สารมฺภภาวํ วา อปริกฺกมนภาวํ วา อุภยเมว วา ปสฺสนฺเตหิ ‘‘มายิธ กรี’’ติ นิวาเรตฺวา อนารมฺภํ เจ โหติ สปริกฺกมนํ, อาคนฺตฺวา สงฺฆสฺส อาโรจิเต กุฏิการเกเนว ภิกฺขุนา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต สฺาจิกาย กุฏึ กตฺตุกาโม อสฺสามิกํ อตฺตุทฺเทสํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ กุฏิวตฺถุเทสนํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา ยาจิเต วุฑฺฒานุมเตน พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย เทเสตฺวา นิยฺยาทิตกุฏิวตฺถุสฺส ¶ อภาวา อเทสิตวตฺถุกํ, เตเนว อสฺสามิกตาทิปกาเรน ยุตฺตํ ยถาวุตฺตปฺปการํ กุฏิกํ อตฺตนา ยาจิเตหิ อุปกรเณหิ กโรนฺตสฺส, การาเปนฺตสฺส จาติ วุตฺตํ โหติ.
ทฺเว สงฺฆาทิเสสา โหนฺตีติ ‘‘ภิกฺขู วา อนภิเนยฺย วตฺถุเทสนาย, ปมาณํ วา อติกฺกาเมยฺย, สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปารา. ๓๔๘) ตุลฺยพลตาสูจเกน วา-สทฺเทน สมฺปิณฺฑิตฺวา วุตฺตองฺคทฺวยสหิตตฺตา ทฺเว สงฺฆาทิเสสา โหนฺตีติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ อนารมฺภํ สปริกฺกมนํ, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ สงฺฆาทิเสสาน’’นฺติ (ปารา. ๓๕๕) จ ‘‘ภิกฺขุกุฏึ กโรติ อเทสิตวตฺถุกํ อนารมฺภํ สปริกฺกมนํ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๕๔) จ ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ ปมาณาติกฺกนฺตํ อนารมฺภํ สปริกฺกมนํ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๕๕) จ วุตฺตตฺตา ทฺวีสุ องฺเคสุ เอกํ เจ, เอโกว สงฺฆาทิเสโส ¶ โหตีติ. ตํ ปน ‘‘สเจ เอกวิปนฺนา สา, ครุกํ เอกกํ สิยา’’ติ วกฺขติ.
สารมฺภาทีสูติ เอตฺถ สารมฺภ-สทฺโท โสปทฺทวปริยาโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สารมฺภํ อนารมฺภนฺติ สอุปทฺทวํ อนุปทฺทว’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๘-๓๔๙). เอตฺถ ‘‘เสตํ ฉาคมารเภถ ยชมาโน’’ติ ปโยเค วิย อา-ปุพฺพสฺส รภสฺส หึสตฺเถปิ ทิสฺสมานตฺตา กตฺตุสาธโน อารมฺภ-สทฺโท หึสกานํ กิปิลฺลิกาทิสตฺตานํ วาจโก ภวตีติ ตํสหิตฏฺานํ สารมฺภํ นาม โหติ. เตเนว ปทภาชเนปิ วุตฺตํ ‘‘สารมฺภํ นาม กิปิลฺลิกานํ วา อาสโย โหติ, อุปจิกานํ วา, อุนฺทูรานํ วา, อหีนํ วา, วิจฺฉิกานํ วา, สตปทีนํ วา, หตฺถีนํ วา, อสฺสานํ วา, สีหานํ วา, พฺยคฺฆานํ วา…เป… อาสโย โหตี’’ติ (ปารา. ๓๕๓).
อาทิ-สทฺเทน อปริกฺกมนํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘สปริกฺกมนํ นาม สกฺกา โหติ ยถายุตฺเตน สกเฏน อนุปริคนฺตุํ, สมนฺตา นิสฺเสณิยา อนุปริคนฺตุํ, เอตํ สปริกฺกมนํ นามา’’ติ (ปารา. ๓๕๓) วุตฺตลกฺขณวิปริยายโต นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺาเน เอกํ จกฺกํ เปตฺวา อิตรํ จกฺกํ พหิ เปตฺวา กุฏึ ปริกฺขิปิตฺวา อาวชฺชิยมานสฺส โคยุตฺตสกฏสฺส วา นิสฺเสณิยํ ตฺวา กุฏึ ฉาทยมานานํ นิสฺเสณิยา วา ปรโต คมิตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา อปริกฺกมนนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอวํ ¶ วุตฺตสารมฺภอปริกฺกมนสงฺขาตองฺคทฺวเยน ยุตฺตํ เจ, ทฺเว ทุกฺกฏานิ โหนฺติ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ เทสิตวตฺถุกํ ปมาณิกํ สารมฺภํ อปริกฺกมนํ, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏาน’’นฺติ (ปารา. ๓๕๕). เอกํ เจ, เอกเมว โหติ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ เทสิตวตฺถุกํ ปมาณิกํ สารมฺภํ สปริกฺกมนํ, อาปตฺติ ¶ ทุกฺกฏสฺส. ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ เทสิตวตฺถุกํ ปมาณิกํ อนารมฺภํ อปริกฺกมนํ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๕๕) เอตํ ตยมฺปิ ‘‘สารมฺภาทีสุ ทุกฺกฏ’’นฺติ สามฺเน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เอกํ องฺคํ ปมาณิกตฺตํ วา เทสิตวตฺถุกตฺตํ วา วิปนฺนํ เอติสฺสาติ เอกวิปนฺนา. ปุพฺเพ วุตฺตตฺถานํ สงฺฆาทิเสสาทิปทานมตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สาติ ยถาวุตฺตลกฺขณกุฏิ.
๓๘๓. อิทานิ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อฏฺุปฺปตฺติยํ ‘‘เต ยาจนพหุลา วิฺตฺติพหุลา วิหรนฺติ ‘ปุริสํ เทถ ปุริสตฺตกรํ เทถา’’ติอาทิปาฬิยา (ปารา. ๓๔๒) อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) อาคตํ กปฺปิยากปฺปิยวินิจฺฉยํ สงฺเขปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุริส’’นฺติอาทิ. กมฺมสหายตฺถายาติ กิสฺมิฺจิ กมฺเม สหายภาวาย, กมฺมกรณตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อิตฺถนฺนามํ กมฺมํ กาตุํ ปุริสํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ ยาจิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กมฺมกรณตฺถาย ‘ปุริสํ เทถา’ติ ยาจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒). มูลจฺเฉชฺชวเสนาติ สามิกานํ อายตฺตภาวสงฺขาตมูลสฺส ฉินฺทนวเสน, อตฺตโน อายตฺตภาวกรณวเสนาติ วุตฺตํ โหติ.
๓๘๔. อวชฺชนฺติ วชฺชรหิตํ, นิทฺโทสนฺติ อตฺโถ. มิคลุทฺทกมจฺฉพนฺธกาทีนํ สกกมฺมํ วชฺชกมฺมํ นาม. ตสฺมา มิคลุทฺทกาทโย หตฺถกมฺมํ ยาจนฺเตน ปน ‘‘ตุมฺหากํ หตฺถกมฺมํ เทถา’’ติ, ‘‘หตฺถกมฺมํ ทาตพฺพ’’นฺติ สามฺเน อวตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามํ กมฺมํ ทาตพฺพ’’นฺติ วิเสเสตฺวาเยว ยาจิตพฺพํ. ลุทฺทเก วา อิตเร วา นิกฺกมฺเม อยาจิตฺวาปิ ยถารุจิ กมฺมํ การาเปตุํ วฏฺฏติ. หตฺถกมฺมยาจนาย สพฺพถาปิ กปฺปิยภาวํ ทีเปตุํ ตํตํสิปฺปิเก ยาจิตฺวา มหนฺตมฺปิ ปาสาทํ การาเปนฺเตน ¶ หตฺถกมฺเม ยาจิเต อตฺตโน อโนกาสภาวํ ตฺวา อฺเสํ กโรนฺตานํ ทาตพฺพํ มูลํ ทิยฺยมานํ อธิวาเสตุํ วฏฺฏตีติ วิตฺถารโต อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒ อตฺถโตสมานํ) วุตฺตตฺตา กุสลานํ อตฺถํ อปริหาเปนฺเตน กปฺปิเยน สารุปฺเปน ปโยเคน ยาจิตพฺพํ. ยาจิตกมฺมํ กาตุํ อสมตฺเถหิ กโรนฺตานํ ทิยฺยมานํ หตฺถกมฺมมูลํ กมฺมํ การาเปตฺวา ¶ กมฺมการเก ทสฺเสตฺวา ทาเปตพฺพํ. เอวํ ยาจนาย อนวชฺชภาเว อฏฺกถาคตํ การณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘หตฺถกมฺมมฺปี’’ติอาทิ. ปิ-สทฺโท อวธารเณ, ปทปูรเณ วา. หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. ยสฺมา อิทํ หตฺถกมฺมํ กิฺจิ วตฺถุ น โหติ, ตสฺมา อนวชฺชเมว หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ ปน วฏฺฏตีติ.
๓๘๕. าตกาทิเกติ าตกปวาริเต. เปตฺวาติ วชฺเชตฺวา. โคณมายาจมานสฺสาติ อฺาตกอปฺปวาริเต ตาวกาลิกํ วินา เกวลํ กมฺมกรณตฺถาย โคณํ ยาจนฺตสฺส. เตสุปีติ าตกาทีสุปิ มูลจฺเฉชฺเชน โคณมายาจนสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ‘‘ตาวกาลิกนเยน สพฺพตฺถ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) อฏฺกถาวจนโต ยาว กมฺมกรณกาลํ, ตาว นิยเมตฺวา าตกอฺาตกปวาริตอปฺปวาริเต สพฺเพปิ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. ตถา ยาจิตฺวา วา อยาจิตฺวา วา คหิโต เจ, รกฺขิตฺวา ปฏิชคฺคิตฺวา สามิกานํ นิยฺยาเทตพฺโพ, โคเณ วา นฏฺเ วิสาเณ วา ภินฺเน สามิเกสุ อสมฺปฏิจฺฉนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยํ.
๓๘๖. เทมาติ เอตฺถ ‘‘ตุมฺหาก’’นฺติ ปาเสโส. ‘‘วิหารสฺส เทมา’ติ วุตฺเต ปน ‘อารามิกานํ อาจิกฺขถ ปฏิชคฺคนตฺถายา’ติ วตฺตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. สกฏวินิจฺฉยสฺสาปิ ¶ โคณวินิจฺฉเยน สมานตฺตา ตํ อวตฺวา วิเสสมตฺตเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘สกฏํ…เป… วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘ตุมฺหากํ เทมาติ วุตฺเต’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตุมฺหากเมว เทมาติ วุตฺเต ทารุภณฺฑํ นาม สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒).
๓๘๗. กุาราทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นิขาทนํ สงฺคณฺหาติ. อยํ นโย เวทิตพฺโพติ ปาเสโส. ‘‘สกฏํ โคโณ วิย ตาวกาลิกํ อกตฺวา อฺาตกอปฺปวาริเต น ยาจิตพฺพํ, มูลจฺเฉชฺชวเสน อฺาตกอปฺปวาริเต น ยาจิตพฺพํ, ตาวกาลิกํ ยาจิตพฺพ’’นฺติ วินิจฺฉโย จ ‘‘สกฏํ…เป… วฏฺฏตี’’ติ วิเสสวินิจฺฉโย จาติ อยํ นโย วาสิอาทีสุ จ เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ เกนจิ ‘‘มเมต’’นฺติ อปริคฺคหิตํ, ‘‘รกฺขิตโคปิตฏฺาเนเยว หิ วิฺตฺติ นาม วุจฺจตี’’ติ อฏฺกถาวจนโต อรกฺขิตาโคปิตกนฺติ วุตฺตํ โหติ. อฏฺกถาย วลฺลิอาทิวินิจฺฉยมฺปิ วตฺวา ‘‘อนชฺฌาวุตฺถกํ ปน ยํ กิฺจิ อาหราเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) วุตฺตตฺตา สพฺพนฺติ ¶ อิธ วุตฺตโคณาทิกฺจ วกฺขมานวลฺลิอาทิกฺจ คเหตพฺพํ. อิมินา ปุพฺเพ วุตฺตวินิจฺฉยสฺส รกฺขิตโคปิตวิสยตฺตํ ทีปิตํ โหติ. หราเปตุมฺปิ วฏฺฏตีติ เอตฺถ อปิ-สทฺเทน ปเคว เกนจิ หริตฺวา ทินฺนนฺติ ทีเปติ.
๓๘๘. วลฺลิอาทิมฺหีติ อาทิ-สทฺเทน เวตฺตมฺุชติณมตฺติกา สงฺคณฺหาติ. เอตฺถ มฺุชปพฺพชติณํ วินา เคหจฺฉาทนติณํ ติณํ นาม. ครุภณฺฑปฺปโหนเกติ ‘‘วลฺลิ อฑฺฒพาหุมตฺตาปี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตลกฺขเณ ครุภณฺฑปฺปโหนเก. ปเรสํ สนฺตเกเยวาติ อวธารเณน น อนชฺฌาวุตฺถเก ทุกฺกฏนฺติ พฺยติเรกโต ทีเปติ.
๓๘๙. ปจฺจเยสูติ ¶ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนสงฺขาเตสุ ตีสุ ปจฺจเยสุ. เอว-กาเรน คิลานปจฺจยสงฺขาเต จตุตฺถปจฺจเย วิฺตฺติ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. วิฺตฺติ นาม ‘‘อาหร, เทหี’’ติ อิจฺฉิตปจฺจเย นามํ วตฺวา ยาจนา. อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘สพฺเพน สพฺพํ น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) สาวธารณตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘น จ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา เนว วฏฺฏตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
วิฺตฺติยา อลพฺภมานภาเวน สมตฺตา ปจฺจเยสุ ตีสุ อนนฺตรํ สหนิทฺทิฏฺปจฺจยตฺตยโต ตติยปจฺจเยเยว ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตติเย ปริกโถภาสนิมิตฺตานิ จ ลพฺภเร’’ติ วุตฺตตฺตา อวสิฏฺทฺวเย ปน ปริกถาทโย น ลพฺภนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อวุตฺเต จตุตฺถปจฺจเยปิ สมุจฺจยตฺเถน จ-กาเรน ปริกถาทิตฺตยํ ลพฺภตีติ สิทฺธตฺตา ‘‘ตีสฺเววา’’ติ เอว-กาเรน พฺยติเรกมุเขน วิฺตฺติยา จ อนฺุาตตฺตา จตุตฺเถ คิลานปจฺจเย ปริกโถภาสนิมิตฺตกมฺมวิฺตฺติโย วฏฺฏนฺตีติ สิทฺธํ. เอตฺตาวตา จตุตฺเถ ปจฺจเย ปริกถาทโย จตฺตาโรปิ วฏฺฏนฺติ, ตติยปจฺจเย วิฺตฺตึ วินา เสสตฺตยํ วฏฺฏติ, ปุริมปจฺจยทฺวเย สพฺพมฺปิ น วฏฺฏตีติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เสนาสนปจฺจเย ปริกถาทิกนฺติ อุโปสถาคาราทิกรณารหฏฺานํ โอโลเกตฺวา อุปาสกานํ สุณนฺตานํ ‘‘อิมสฺมึ วต โอกาเส เอวรูปํ เสนาสนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วา ‘‘ยุตฺต’’นฺติ วา ‘‘อนุรูป’’นฺติ วา ปวตฺตา กถา ปริกถา นาม. ‘‘อุปาสกา ตุมฺเห กตฺถ วสถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปาสาเท ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขูนํ ปน อุปาสกา ปาสาโท น วฏฺฏตี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตา ¶ กถา โอภาโส นาม. อุปาสเกสุ ปสฺสมาเนสุ ภูมิยํ รชฺชุํ ปสาเรตฺวา ภูมึ ภาเชตฺวา ขาณุเก อาโกเฏตฺวา ‘‘กิมิทํ ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ¶ ‘‘เอตฺถ อาวาสํ กโรม อุปาสกา’’ติอาทิกา กถา นิมิตฺตกถา นาม. คิลานปจฺจเย จ อิมินา นเยน ยถารหํ เวทิตพฺพํ. สพฺพเมตํ อฏฺกถาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) วุตฺตํ.
๓๙๐-๓. อิทานิ กุฏิการสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺติทสฺสนตฺถมาห ‘‘อเทสิเต’’ติอาทิ. ตํ อุตฺตานตฺถเมว. นิเสนฺตสฺสาติ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา ติขิณํ กโรนฺตสฺส. ปาจิตฺติยา สหาติ ‘‘ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๐) วุตฺตปาจิตฺติเยน สทฺธึ.
อาปตฺตินฺติ ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจ อิตรตฺร สุทฺธปโยคทุกฺกฏฺจาติ อาปตฺตึ.
ยา ปนาติ ยา กุฏิ. ปเม ทุติเยติ เอตฺถ ‘‘ปิณฺเฑหี’’ติ กรณพหุวจนํ วิภตฺติวจนวิปริณามวเสน ‘‘ปิณฺเฑ’’ติ ภุมฺเมกวจนนฺตํ กตฺวา โยเชตพฺพํ, ‘‘นิกฺขิตฺเต’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ, ภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ, นิกฺขิตฺเต สตีติ อตฺโถ.
๓๙๔. ‘‘สเจ อฺสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. วิปฺปกตนฺติ อารทฺธมนิฏฺิตํ. ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิทํ นิฏฺิเต อาปชฺชิตพฺพสงฺฆาทิเสสาภาวํ สนฺธายาห. ปุพฺพปโยคมตฺเตน หิ ปาจิตฺติยทุกฺกฏานิปิ โหนฺติ, ตานิ ปน เทเสตพฺพานิ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อากฑฺฒติ, เตน สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา อภาวโต ปุพฺพภาเค อาปนฺนานํ ปาจิตฺติยทุกฺกฏานํ เทเสตพฺพตา จ ทีปิตา โหติ. ตํ กุฏินฺติ ตํ วิปฺปกตกุฏึ.
๓๙๕. อฺํ โภชนสาลาทึ. ตถาติ อนาปตฺติมาห.
๓๙๖. ‘‘กโรโต’’ติ ¶ อิมินา ‘‘การาปยโต’’ติปิ ลพฺภติ. อุภเยนาปิ ‘‘กฺริยโต’’ติ อิมสฺส การณํ ทสฺเสติ. ‘‘อปฺปมาณิก’’นฺติ อิมินา สงฺฆาทิเสสสฺส องฺคํ ทสฺเสติ.
๓๙๗. ตนฺติ ¶ ‘‘อปฺปมาณิก’’นฺติ เอวํ ปจฺจามสติ. ‘‘กฺริยากฺริยโต’’ติ อิทํ กุฏิยา กรณฺจ วตฺถุเทสนาย อกรณฺจ อุปาทาย วุตฺตํ.
กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา.
๓๙๘. วตฺถุํ อเทเสตฺวาติ สมฺพนฺโธ, ‘‘เตน วิหารการเกน ภิกฺขุนา วิหารวตฺถุํ โสเธตฺวา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติอาทินา (ปารา. ๓๖๗) ปทภาชเน อาคตนเยน วิหารํ การาเปนฺเตน ภิกฺขุนา วิหารวตฺถุํ โสเธตฺวา สมตลํ กาเรตฺวา สงฺฆํ อุปสงฺกมฺม วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต มหลฺลกํ วิหารํ กตฺตุกาโม สสฺสามิกํ อตฺตุทฺเทสํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ วิหารวตฺถุโอโลกนํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ยาจิตฺวา ลทฺเธ วุฑฺเฒ วา ภิกฺขู ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สงฺเฆน สมฺมเต วา ภิกฺขู เนตฺวา กตปริกมฺมํ วิหารวตฺถุํ ทสฺเสตฺวา กุฏิวตฺถุโอโลกเน วิย คตภิกฺขูหิ โอโลเกตฺวา สารมฺภาทิภาวํ อุปปริกฺขิตฺวา อนารมฺภสปริกฺกมนภาวํ ตฺวา อาคนฺตฺวา สงฺฆสฺส อาโรจิเต ปุน เตน สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต มหลฺลกํ วิหารํ กตฺตุกาโม สสฺสามิกํ อตฺตุทฺเทสํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ วิหารวตฺถุเทสนํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ยาจิตฺวา สงฺเฆน ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย วิหารวตฺถุ เทเสตพฺพํ ¶ , ตถา อกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อิห สารมฺภาทิ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
มหลฺลกนฺติ ‘‘สสฺสามิกภาเวน สฺาจิกกุฏิโต มหนฺตภาโว เอตสฺส อตฺถีติ มหลฺลโก. ยสฺมา วา วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกเมนาปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ปมาณมหนฺตตายปิ มหลฺลโก’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๖๖) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน มหนฺตภาเวน ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. วิหารนฺติ ‘‘วิหาโร นาม อุลฺลิตฺโต วา โหติ อวลิตฺโต วา อุลฺลิตฺตาวลิตฺโต วา’’ติ (ปารา. ๓๗๑) ปทภาชเน วุตฺตปฺปการํ เสนาสนนฺติ อตฺโถ. วิหรนฺติ อสฺมินฺติ วิคฺคโห. อุลฺลิตฺตาทิสรูปํ ปุริมสิกฺขาปเท วุตฺตนยเมว. ตํ วิหารํ โย กเรยฺยาติ โยชนา. กเรยฺย วา การาเปยฺย วาติ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมว. อตฺตวาสตฺถนฺติ อตฺตโน วาสํ ปฏิจฺจ, อิมินา ปรสฺส วาสตฺถาย กโรติ, อนาปตฺตีติ พฺยติเรกโต วิฺายติ. ‘‘ครุก’’นฺติ เอตฺถ วตฺถุเทสนาย อการาปเนน ‘‘เอโกว สงฺฆาทิเสโส โหตี’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตวิกปฺปตฺตยํ ¶ น คเหตพฺพํ. อิทฺจ วกฺขติ ‘‘ปมาณา…เป… สงฺฆาทิเสสตา’’ติ (วิ. วิ. ๓๙๙ อาทโย).
๓๙๙. กฺริยาสมุฏฺานาภาวนฺติ ปมาณาติกฺกเมปิ อาปตฺติยา อสมฺภวโต กิริยาสมุฏฺานสฺส อิธ อภาโว าตพฺโพ. กฺริย…เป… ลกฺขเยติ เอตฺถ พฺยติเรกโต อเทสิตวตฺถุกตาย อกิริยาสมุฏฺานตา อนฺุาตา.
มหลฺลกวิหารกถาวณฺณนา.
๔๐๑-๓. เตสูติ จตุวีสติยา ปาราชิเกสุ. ภิกฺขุโน อนุรูปานิ เอกูนวีสตีติ ภิกฺขุนีนํ ปฏินิยตา อุพฺภชาณุมณฺฑลิกาทโย ¶ จตฺตาโร ตทนุโลมาย วิพฺภนฺตภิกฺขุนิยา สห ปฺจ ปาราชิเก วินา ภิกฺขุโน อนุรูปา เสสา เอกูนวีสติ ปาราชิกา.
อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปทภาชเน ‘‘ปาราชิเกน ธมฺเมนาติ จตุนฺนํ อฺตเรนา’’ติ (ปารา. ๓๘๖) วุตฺตนยสฺส อิธ ‘‘เอกูนวีสตี’’ติ วจนํ วิรุชฺฌตีติ เจ? น วิรุชฺฌติ. กสฺมา? ยสฺมา ปทภาชนํ ปาติโมกฺขุทฺเทสาคตมตฺตํ คเหตฺวา ปวตฺตํ, อิทํ ปน พุทฺธานุมตึ คเหตฺวา วินยปริยตฺติปวตฺตกานํ อาจริยานํ มตํ คเหตฺวา ปวตฺตํ, ตสฺมา น วิรุชฺฌตีติ คเหตพฺพํ. อาจริโย สพฺพปาราชิกานํ ‘‘พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ (ปารา. ๓๘๕) วุตฺตอนุทฺธํสนสฺส เอกนฺตสาธนตฺตา ภิกฺขุนีนํ ปฏินิยตสานุโลมปาราชิกปฺจกํ วินา อวเสสํ สพฺพํ สงฺคณฺหิ, เตเนว วินยฏฺกถาย คณฺิปทวิวรเณ ‘‘จตุนฺนํ อฺตเรนาติ ปาติโมกฺขุทฺเทเส เอว อาคเต คเหตฺวา วุตฺตํ, อิตเรสํ อฺตเรนาปิ อนุทฺธํเสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโสวา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อนุทฺธํเสยฺยา’’ติ (ปารา. ๓๘๔) ปาเ อธิปฺปายํ คเหตฺวา ปวตฺตตฺตา อิเมสํ อาจริยานํ มตํ ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. ‘‘เตสุ อฺตเรนา’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘เอกูนวีสตี’’ติ เอตฺถ ‘‘ยานี’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
อฺตเรน อมูลเกนาติ โยชนา. อมูลเกนาติ โจทกสฺส ทสฺสนาทีหิ โจทนามูเลหิ วิรหิตตฺตา อมูลกํ, ปาราชิกํ, เตน. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยํ ปาราชิกํ โจทเกน จุทิตกมฺหิ ปุคฺคเล เนว ทิฏฺํ น สุตํ น ปริสงฺกิตํ, อิทํ เอเตสํ ทสฺสนสวนปริสงฺกาสงฺขาตานํ ¶ มูลานํ อภาเวน อมูลกํ นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖). เอตฺถ จ มํสจกฺขุนา วา ทิพฺพจกฺขุนา วา ทิฏฺํ ทิฏฺํ นาม ¶ . ปกติโสเตน วา ทิพฺพโสเตน วา สุตํ สุตํ นาม. จิตฺเตน ปริสงฺกิตํ ปริสงฺกิตํ นาม. ตํ ติวิธํ ทิฏฺสุตมุตปริสงฺกิตวเสน.
ตตฺถ ตาทิเส กมฺมนิเย โอกาเส มาตุคาเมน สทฺธึ ภิกฺขุโน อฺถิยํ ปโยคํ ทิสฺวา อฺถา คเหตฺวา ‘‘วีติกฺกมนํ นุ โขยมกาสี’’ติ คหณํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม. กุฏฺฏติโรหิเต ภิกฺขุมฺหิ มาตุคามสฺส สทฺทํ สุตฺวา ตตฺถ อฺสฺส วิฺุปุริสสฺส สพฺภาวํ อชานิตฺวา ‘‘วีติกฺกมนํ นุ โขยมกาสี’’ติ เอวํ คหณํ สุตปริสงฺกิตํ นาม. วิหารปริยนฺเต ตรุณมาตุคามปุริสานํ ทิวสํ วีตินาเมตฺวา คตฏฺาเน วิปฺปกิณฺณปุปฺผานิ โอโลเกตฺวา, มํสสุรคนฺธฺจ ฆายิตฺวา ‘‘อิทํ กสฺส กมฺม’’นฺติ อุปปริกฺขนฺเตน ภิกฺขุโน เจติยปูชิตมาลาคนฺธสฺส ปีตาริฏฺสฺส ภิกฺขุโน สรีรคนฺธํ ฆายิตฺวา ‘‘ตํ เอตสฺส กมฺมํ นุ โข’’ติ กิริยมานสํสโย มุตปริสงฺกิตํ นาม. เอวรูปสฺส ทิฏฺสุตปริสงฺกิตมูลกสฺส อภาวโต อมูลเกน ปาราชิเกนาติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖) วุตฺตนเยน ทฏฺพฺโพ.
โจเทตีติ ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อาปนฺโนสี’’ติอาทิวจเนน สยํ โจเทติ. โจทาปนํ ปน วกฺขติ. จาวนเจตโน หุตฺวาติ ‘‘อปฺเปว นาม นํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ อุปฺปนฺเนน ปรํ สาสนา จาเวตุกาเมน จิตฺเตน สมนฺนาคโต หุตฺวา. ‘‘สุทฺธํ วา อสุทฺธํ วา’’ติ อิทํ ‘‘โจเทตี’’ติ อิมินา วุตฺตโจทนากิริยาย กมฺมนิทฺเทโส, ‘‘อฺํ ภิกฺขุ’’นฺติ เสโส, ปาราชิกมนาปนฺนํ วา อาปนฺนํ วา อฺํ ภิกฺขุนฺติ อตฺโถ. โยติ มาติกาคตภิกฺขุ, ‘‘ทุฏฺโ โทโส อปฺปตีโต’’ติ อิทํ อชฺฌาหริตพฺพํ, อุปฺปนฺเนน โทสเลเสน ¶ สยํ ทูสิโต, ปรฺจ ทูเสนฺโต ปีติสุขาทีหิ อปคโต โย ภิกฺขูติ อตฺโถ. วกฺขมาเนน ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.
‘‘กเต โอกาสมฺหี’’ติ ปทจฺเฉโท, โอกาสํ ‘‘การาเปตฺวา’’ติ (ปารา. ๓๘๙) ปาโต อนฺโตนีตเหตฺวตฺถตาย ‘‘กเต’’ติ ‘‘การิเต’’ติ เอตสฺส ปริยาโย โหติ, ‘‘โอกาสํ เม กโรหิ, อหํ ตํ วตฺตุกาโม’’ติ โอกาเส การาปิเตติ อตฺโถ. ‘‘อกเต โอกาเส’’ติ ปทจฺเฉโท ¶ , ปุพฺเพ วุตฺโตเยวตฺโถ. ทุกฺกฏาปตฺติยา สหาติ โอกาสสฺส อการาปิตตฺตา ทุกฺกฏาปตฺติยา สทฺธึ.
๔๐๔-๕. โกณฺโสีติ ธุตฺโตสิ. เชฏฺพฺพติโกสีติ กาลีเทวีวตนิยุตฺโตสิ. กาลีเทวี กิร สิริเทวิยา เชฏฺา, ตสฺมา ตสฺสา วตธโร เชฏฺพฺพติโก วุจฺจติ. ตํ ปน วตํ สมาทิยิตฺวา ปูเรนฺโต สกลสรีเร มสึ มกฺเขตฺวา กากปตฺตานิ มุฏฺิยํ กตฺวา กาลีเทวึ ผลเก ลิขาเปตฺวา ตํ กาชโกฏิยํ พนฺธิตฺวา อุจฺฉิฏฺโทกาทิอสุจิสนฺนิจิตโอลิคลฺลํ ปวิสิตฺวา ‘‘ทุสฺสีโลสิ นิสฺสีโลสิ สีลวิรหิโตสี’’ติ โถเมนฺโต วิจรตีติ.
ทุสฺสีลตฺตา เอว หีนชฺฌาสยตาย ปาปธมฺโม ลามกสภาโวสิ. ปูตินา กมฺเมน สีลวิปตฺติยา อนฺโต ปวิฏฺตฺตา อนฺโตปูติ. ฉหิ ทฺวาเรหิ ราคาทิกิเลสานุสฺสวเนน ตินฺตตฺตา อวสฺสุโต. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. ครุกํ นิทฺทิเสติ เอตฺถ ‘‘กโตกาสมฺหี’’ติ จ ‘‘ตเถว อกโตกาเส, ทุกฺกฏาปตฺติยา สหา’’ติ จ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอวมุตฺตรตฺราปิ.
๔๐๖. สมฺมุขาติ ¶ จุทิตกสฺส สมฺมุขา, อวิทูเรติ อตฺโถ. หตฺถมุทฺทายาติ มุตฺตปาณาทิวเสน. ตํ หตฺถมุทฺทาย กถิตํ. ปโรติ ยํ โจเทสิ, โส จุทิตโก ปโร. ภิกฺขุโนติ โจทกสฺส ภิกฺขุโน.
๔๐๗. สมฺมุเข ตฺวาติ จุทิตกสฺส อาสนฺเน ตฺวา. ‘‘โจทาเปนฺตสฺสา’’ติ เอตสฺส กมฺมภาวโต ปโรติ อิทํ อุปโยคนฺตวเสน สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอวมุตฺตรตฺร. เกนจีติ อฺเน เกนจิ ปุคฺคเลน. ตสฺส โจทกสฺส. ‘‘โจทาเปนฺตสฺสา’’ติ ปุน วจนํ นิยมตฺถํ.
๔๐๘. โสปีติ อุคฺคหาปิตตฺตา โจทนํ กโรนฺโต อิตโร ปโยชฺชกปุคฺคโลปิ. เตสํ ทฺวินฺนมฺปีติ ปโยชกปโยชฺชกานํ ทฺวินฺนมฺปิ.
๔๐๙. วุตฺตฏฺานํ ปณฺณํ วา สนฺเทสํ วา หรนฺโต ทูโต นาม, โส ‘‘ปณฺณํ วา สาสนํ วา เปเสตฺวา’’ติ อิมินา สงฺคยฺหตีติ ตสฺมึ วิสุํ อวตฺตพฺเพปิ ‘‘ทุต’’นฺติ วจเนน นิสฺสฏฺทูตมาห ¶ . ปณฺณํ วา อทตฺวา ‘‘เอวฺจ เอวฺจ วทา’’ติ สาสนฺจ อทตฺวา ‘‘ตํ โจเทหี’’ติ อตฺถมตฺตเมว ทตฺวา นิสฺสฏฺโ ภิกฺขุ อิธ ‘‘นิสฺสฏฺทูโต’’ติ คเหตพฺโพ.
อถ วา ‘‘ทูต’’นฺติ อิมินา โจเทตุํ อุคฺคหาเปตฺวา, ตมนุคฺคหาเปตฺวา วา นิสฺสฏฺโ ภิกฺขุ ทูโตเยว คเหตพฺโพ. ‘‘ปณฺณ’’นฺติ อิมินา ปพฺพชิตสฺส วา อปพฺพชิตสฺส วา กสฺสจิ หตฺเถ โจทนํ ลิขิตฺวา ทินฺนปณฺณํ คเหตพฺพํ. สาสนนฺติ ‘‘ปาราชิกํ อาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน วตฺวา เปสิยมานํ สาสนํ คเหตพฺพํ. อิทํ ตยมฺปิ ทูเร นิสีทิตฺวา อฺเหิ การาปนโต ‘‘โจทาเปนฺตสฺสา’’ติ อาห. ‘‘ปร’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอตฺถ โอกาสการาปนํ นตฺถิ.
๔๑๐. ตถาติ ¶ ยถา อมูลเกน ปาราชิเกน สมฺมุขา โอกาเส การิเต, อการิเต จ, ตถา อมูลเกหิ สงฺฆาทิเสเสหีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วุตฺเต สมฺมุขา ปเร’’ติ ภุมฺมวเสน อธิกเตน โยเชตพฺพํ, โจเทติ โจทาเปตีติ วุตฺตํ โหตีติ. ปาจิตฺติยาปตฺตีติ โอกาเส การิเต เกวลา, อการิเต ทุกฺกเฏน สหาติ คเหตพฺพํ. สมฺมุขา เสสาปตฺตีหิ ปเร วุตฺเต จาวนสฺิโน ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. โอกาสาการาปเนนปิ ทุกฺกฏเมว โหติ.
๔๑๑. อกฺโกสนาธิปฺปายสฺสาติ ขุํสนาธิปฺปายสฺส. อกโตกาสนฺติ อการิโตกาสํ, ‘‘ปร’’นฺติ อิมินา โยเชตพฺพํ. อตฺตนาติ โจทเกน, ‘‘สยํ อการิโตกาส’’นฺติ อิมินา โยเชตพฺพํ. สห ปาจิตฺติเยนาติ ‘‘โอมสวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๑๔) วุตฺตปาจิตฺติเยน สห. วทนฺตสฺสาติ โจเทนฺตสฺส วา โจทาเปนฺตสฺส วา, เอตฺถ ‘‘สมฺมุขา’’ติ อิทํ วกฺขมานสฺส ‘‘อสมฺมุขา’’ติ เอตสฺส วิปริยายโต ลพฺภติ, จ-กาเรน การิโตกาสปกฺเข ทุกฺกเฏน ปาจิตฺติยสมฺพนฺธี.
๔๑๒. อสมฺมุขา วทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อกฺโกสนาธิปฺปายสฺสา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘อกโตกาสมตฺตนา’’ติ นานุวตฺตติ. สตฺตหิ อาปตฺตีหีติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยปาฏิเทสนียทุกฺกฏทุพฺภาสิตสงฺขาเตสุ สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ เยน เกนจีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อสมฺมุขา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. กมฺมนฺติ ตชฺชนียาทิสตฺตวิธํ กมฺมํ.
๔๑๓. อุมฺมตฺตกาทีนนฺติ ¶ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อนาปตฺติ สุทฺเธ อสุทฺธทิฏฺิสฺส อสุทฺเธ อสุทฺธทิฏฺิสฺส อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ ¶ (ปารา. ๓๙๐) วุตฺเต สงฺคณฺหาติ. ปฺจงฺคสํยุตนฺติ ยํ โจเทติ, ตสฺส ‘‘อุปสมฺปนฺโน’’ติ สงฺขฺยูปคมนํ, ตสฺมึ สุทฺธสฺิตา, เยน ปาราชิเกน โจเทติ, ตสฺส ทิฏฺาทิวเสน อมูลกตา, จาวนาธิปฺปาเยน สมฺมุขา โจทนา, ตสฺส ตงฺขณวิชานนนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ ยุตฺตํ โหติ.
๔๑๕. อิทนฺติ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ เสโส, ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ จ อิมินา ตปฺปฏิปาทนียา อาปตฺติเยว คยฺหติ. ติสมุฏฺานนฺติ กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโตติ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺานโต ติสมุฏฺานํ. เตเนวาห ‘‘สจิตฺต’’นฺติ. ปฏิฆจิตฺตานํ ทฺวินฺนํ อฺตเรน สหิตตฺตา สจิตฺตกํ. ตํสมฺปยุตฺตาย โทมนสฺสเวทนาย วเสน ทุกฺขเวทนํ.
ทุฏฺโทสกถาวณฺณนา.
๔๑๖. เลสมตฺตนฺติ ‘‘อฺมฺปิ วตฺถุํ ลิสฺสติ สิลิสฺสติ โวหารมตฺเตเนว อีสกํ อลฺลียตีติ เลโส, ชาติอาทีนํเยว อฺตรโกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๙๑) อฏฺกถาย ทสฺสิตนิพฺพจเนสุ ‘‘เลโส นาม ทส เลสา ชาติเลโส นามเลโส’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๓๙๔) นเยน ปทภาชเน วุตฺเตสุ ชาตินามโคตฺตาทีสุ ทสสุ เลเสสุ อฺตรเลสมตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ ชาติ นาม ขตฺติยพฺราหฺมณาทิชาติ. นามํ นาม อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ‘‘ฉคลโก ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต นาม, ฉคลิกา เมตฺติยา ภิกฺขุนี นามา’’ติ ปิตํ นามํ วิย โจทเกหิ ปิตนามฺจ พุทฺธรกฺขิตาทิสกนามฺจาติ ทุวิธํ นามํ. โคตฺตํ นาม โคตมโมคฺคลฺลานาทิโคตฺตํ. ลิงฺคํ นาม ¶ ทีฆตาทิสณฺานนานตฺตฺจ กณฺหตาทิวณฺณนานตฺตฺจาติ อิทํ ทุวิธลิงฺคํ. อาปตฺติเลโส นาม ลหุกาทิรูเปน ิตปาจิตฺติยาทิอาปตฺติ. ปตฺโต นาม โลหปตฺตาทิ. จีวรํ นาม ปํสุกูลาทิ. อุปชฺฌาโย นาม จุทิตกสฺส อุปชฺฌาโย. อาจริโย นาม จุทิตกสฺส ปพฺพชฺชาจริยาทิโก. เสนาสนํ นาม จุทิตกสฺเสว นิวาสปาสาทาทิกํ.
โจเทยฺยาติ อฺขตฺติยชาติกํ ปุคฺคลํ ปาราชิกํ อชฺฌาปชฺชนฺตํ ทิสฺวา อตฺตโน เวริขตฺติยชาติกํ ¶ ปุคฺคลํ ‘‘ขตฺติโย มยา ทิฏฺโ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ติอาทินา นเยน โจเทติ. ครุกาปตฺติ นาม สงฺฆาทิเสโส. สเจ จาวนเจตโนติ ‘‘อปฺเปว นาม นํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ (ปารา. ๓๙๒) วุตฺตตฺตา สเจ อิมํ สาสนา จาเวยฺยามีติ อธิปฺปาโย หุตฺวา โจเทตีติ วุตฺตํ โหติ, อิมินา พฺยติเรกวเสน น อฺาธิปฺปาโยติ วุตฺตเมว โหตีติ ปุริมสิกฺขาปทฏฺกถายํ ทสฺสิเตสุ ‘‘จาวนาธิปฺปาโย อกฺโกสาธิปฺปาโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๙) เอวมาทินานปฺปการาธิปฺปาเยสุ อาปตฺติยา องฺคภูตํ จาวนาธิปฺปายํ ทสฺเสตฺวา เสสาธิปฺปาเย ปฏิกฺขิปติ.
๔๑๗. ตถาสฺีติ อยํ ปาราชิกมชฺฌาปนฺโนเยวาติ ตถาสฺี. ‘‘โจเทติ วา โจทาเปติ วา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ตถาสฺี’’ติ อิทํ ‘‘โจทาเปตี’’ติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. เสโสติ เอตฺถ ‘‘ปาราชิกานิ วุตฺตานี’’ติอาทึ กตฺวา ‘‘สจิตฺตํ ทุกฺขเวทน’’นฺติ ปริยนฺตํ กตฺวา ทสฺสิตปมสิกฺขาปทวินิจฺฉยสงฺคาหกกถาปพนฺเธน วุตฺตสพฺพวินิจฺฉเยสุ ตํสิกฺขาปทนิยตํ ‘‘อมูลเกนา’’ติ อิทฺจ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ‘‘ภิกฺขุมนฺติมวตฺถุนา…เป… อนาปตฺติ สิยา’’ติ วุตฺตมตฺถฺจ ¶ เปตฺวา อวสิฏฺสพฺพวินิจฺฉโยติ อตฺโถ. อนนฺตรสโม มโต เหฏฺา อนนฺตรํ วุตฺตสิกฺขาปเทเนว สทิโสติ เวทิตพฺโพ.
ทุติยทุฏฺโทสกถาวณฺณนา.
๔๑๘. สมคฺคสฺส สงฺฆสฺสาติ ‘‘สมคฺโค นาม สงฺโฆ สมานสํวาสโก สมานสีมายํ ิโต’’ติ ปทภาชเน วุตฺตตฺตา จิตฺเตน จ กาเยน จ เอกีภูตสฺส สงฺฆสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. จ-กาโร ปทปูรโณ, เอว-การตฺโถ วา, นสมคฺคสฺสาติ พฺยติเรกตฺโถ เวทิตพฺโพ. เภทตฺถํ วายเมยฺยาติ ‘‘อิเม กถํ กทา ภิชฺชิสฺสนฺตี’’ติ รตฺตินฺทิวํ จินฺเตตฺวา อุปายํ คเวสิตฺวา ปกฺขปริเยสนาทึ กเรยฺยาติ อตฺโถ. วุตฺตฺหิ ปาฬิยํ ‘‘เภทาย ปรกฺกเมยฺยาติ กถํ อิเม นานา อสฺสุ วินา อสฺสุ วคฺคา อสฺสูติ ปกฺขํ ปริเยสติ คณํ พนฺธตี’’ติ (ปารา. ๔๑๒).
เภทเหตุนฺติ ‘‘อิธุปาลิ ภิกฺขุ อธมฺมํ ‘ธมฺโม’ติ ทีเปติ, ธมฺมํ ‘อธมฺโม’ติ ทีเปตี’’ติอาทินา (ปริ. ๔๕๙) นเยน ขนฺธเก วุตฺตํ อฏฺารสเภทกรวตฺถุสงฺขาตํ สงฺฆเภทการณมาห ¶ . อิทเมว หิ ปทภาชเน วุตฺตํ ‘‘เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณนฺติ อฏฺารสเภทกรวตฺถูนี’’ติ. คเหตฺวาติ ปคฺคยฺห. ติฏฺเยฺยาติ นปฺปฏินิสฺสชฺเชยฺย. ปริทีปยนฺติ เอตฺถ ปริทีเปนฺโต, น ปฏินิสฺสชฺชนฺโตติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ติฏฺเยฺยาติ น ปฏินิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ.
๔๑๙. ภิกฺขูหีติ ตสฺส สงฺฆเภทกสฺส ปรกฺกมนํ ปสฺสนฺเตหิ วา ทูเร เจ, ิตํ ปวตฺตึ สุณนฺเตหิ วา ลชฺชีหิ สุเปสเลหิ เสสภิกฺขูหิ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ภิกฺขูหีติ อฺเหิ ภิกฺขูหิ. เย ปสฺสนฺติ เย สุณนฺติ, เตหิ วตฺตพฺโพ’’ติ ¶ (ปารา. ๔๑๒). ตสฺส วทนฺเตหิ เอวํ วตฺตพฺพนฺติ วจนาการทสฺสนตฺถมาห ‘‘มายสฺมา สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส เภทาย ปรกฺกมิ, เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณํ สมาทาย ปคฺคยฺห อฏฺาสิ, สเมตายสฺมา สงฺเฆน, สมคฺโค หิ สงฺโฆ สมฺโมทมาโน อวิวทมาโน เอกุทฺเทโส ผาสุ วิหรตี’’ติ (ปารา. ๔๑๑) ปาํ, ตํ เอกเทสสงฺคหวเสน อุปลกฺเขตุมาห ‘‘เภทตฺถํ…เป… เภทการณ’’นฺติ. อิติ วตฺตพฺโพติ โยชนา.
๔๒๐. วุจฺจมาโน หีติ เอตฺถ หิ-สทฺโท อปิ-สทฺทตฺโถ. ‘‘ปี’’ติ วา ปาโ, เตหิ ลชฺชิภิกฺขูหิ ‘‘มายสฺมา’’ติอาทินา นเยน วิสุํ ติกฺขตฺตุํ วุตฺโตปีติ อตฺโถ. นิสฺสชฺเชยฺย น เจว นนฺติ ตํ เภทาย ปรกฺกมนํ อปฺปฏินิสฺสชฺชนปจฺจยา ทุกฺกฏาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาปิ น วิสฺสชฺเชยฺยาติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘โน เจ ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๑๒). ตถา หิ อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺโต หตฺเถสุ, ปาเทสุ จ คเหตฺวา สงฺฆมชฺเฌ อาเนตฺวา ตเถว ติกฺขตฺตุํ วุตฺโตปิ ตํ อวิสฺสชฺเชตฺวา ทุกฺกฏาปตฺตึ อาปนฺโนติ อิมินา จ สงฺคหิโต. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘โส ภิกฺขุ สงฺฆมชฺฌมฺปิ อากฑฺฒิตฺวา วตฺตพฺโพ ‘มายสฺมา…เป… ผาสุ วิหรตี’ติ. ทุติยมฺปิ วตฺตพฺโพ. ตติยมฺปิ วตฺตพฺโพ. สเจ ปฏินิสฺสชฺชติ, อิจฺเจตํกุสลํ. โน เจ ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ. อิทํ อุภยตฺถ ทุกฺกฏํ สามฺเน วกฺขติ ‘‘ติกฺขตฺตุํ ปน วุตฺตสฺส, อปริจฺจชโตปิ ต’’นฺติ.
สมนุภาสิตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘โส ภิกฺขู’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, ‘‘ยาวตติย’’นฺติ เสโส, ยถาห ‘‘โส ภิกฺขุ ¶ ภิกฺขูหิ ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๔๑๑), ตถา สงฺฆมชฺเฌปิ ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมาโนปิ โน วิสฺสชฺเชตฺวา ทุกฺกฏํ อาปนฺโน โส อาธานคฺคาหี ภิกฺขุ ¶ สงฺเฆน ติกฺขตฺตุํ วุตฺตํ กมฺมวาจํ วตฺวา สมนุภาสิตพฺโพติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺโพติ ยาว ตติยํ สมนุภาสนํ, ตาว สมนุภาสิตพฺโพ, ตีหิ สมนุภาสนกมฺมวาจาหิ กมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๑). ตนฺติ เภทาย ปรกฺกมนํ, เภทนสํวตฺตนิกํ อธิกรณํ ปคฺคเหตฺวา านฺจ. อจฺจชนฺติ, ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย วุจฺจมานายปิ อจฺจชนฺโต. ครุกํ ผุเสติ ตติยาย กมฺมวาจาย ‘‘โส ภาเสยฺยา’’ติ ยฺยการปฺปตฺตาย สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ.
๔๒๑. สงฺฆสฺส เภทาย ปรกฺกมนฺตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา, สุตฺวา, ตฺวา จ อวทนฺตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๔๒๒. กีวทูเร วสนฺเตหิ สุตฺวา คนฺตฺวา วตฺตพฺพนฺติ อาห ‘‘คนฺตฺวา’’ติอาทิ. อทฺธโยชนเมว อทฺธโยชนตา, ตโต อธิกํ วา. คิลานํ ปฏิจฺจ อทฺธโยชนํ วุตฺตํ, อิตรํ ปฏิจฺจ ‘‘อธิกํ ทูรมฺปิ ปน คนฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘สเจ สกฺโกตี’’ติ. ตาวเทติ ตทา เอว, อจิรายิตฺวาติ อตฺโถ.
๔๒๓. ติกฺขตฺตุํ ปน วุตฺตสฺสาติ ‘‘มายสฺมา’’ติอาทินา นเยน วิสฺุจ สงฺฆมชฺเฌ จ ติกฺขตฺตุํ วุตฺตสฺสาปิ อปริจฺจชนฺตสฺส. ตํ เภทาย ปรกฺกมาทิกํ. เภทปฺปวตฺติยา สุตกฺขเณ สยํ อคนฺตฺวา ปณฺณํ วา สาสนํ วา เปเสนฺตสฺส อาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทูตํ วา’’ติอาทิ. ยถาห อฏฺกถายํ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๑) ‘‘ทูตํ วา ปณฺณํ วา เปเสตฺวา วทโตปิ อาปตฺติโมกฺโข นตฺถี’’ติอาทิ.
๔๒๕. ยฺยกาเร ปน สมฺปตฺเตติ ‘‘ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๑๓) ตติยกมฺมวาจาย อนฺเต ยฺยกาเร อุจฺจาริเต. ปสฺสมฺภนฺตีติ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, วูปสมนฺตีติ อตฺโถ. ทุกฺกฏาทโยติ ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ทฺเว จ ถุลฺลจฺจยา. ยถาห ‘‘สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปชฺชนฺตสฺส ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ (ปารา. ๔๑๔). ตสฺมา ตฺติยา ปุพฺเพ พหิ จ สงฺฆมชฺเฌ จ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเตปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชเนน อาปนฺนานิ ทฺเว ทุกฺกฏานิ เทเสตพฺพานีติ วิฺายติ.
อิมิสฺสา ¶ กมฺมวาจาย กึ อาปนฺนาปตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, อุทาหุ อนาปนฺนาติ วิจารณาย ‘‘โย อวสาเน ปฏินิสฺสชฺชิสฺสติ, โส ตา อาปตฺติโย น อาปชฺชติ, ตสฺมา อนาปนฺนา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๔) มหาสุมตฺเถรสฺส วาทํ ‘‘กิมนาปนฺนานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา’’ติ ปฏิพาหิตฺวา ‘‘ลิงฺคปริวตฺตเน อสาธารณาปตฺติโย วิย อาปนฺนา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ มหาปทุมตฺเถรสฺส วาโท ิโต.
๔๒๖. อกเต ปน กมฺมสฺมินฺติ ยถาวุตฺตสมนุภาสนกมฺเม อกเต. อปริจฺจชโตปิ จาติ ตํ สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนํ อปริจฺจชนฺตสฺสาปิ. ‘‘สงฺฆาทิเสเสนา’’ติ อิมินา กมฺมํ อกตฺวา สงฺฆมชฺเฌ จ พหิ จ ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมานสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชเนน ทุกฺกฏํ ปน โหตีติ พฺยติเรกโตว ทสฺเสติ.
๔๒๗. ปุพฺเพ วาติ ตฺติยา ปุพฺเพ วิสุํ, สงฺฆมชฺเฌ วา ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมาเนปิ. ตงฺขเณปีติ ตฺติกฺขเณ วา. ตฺติยา ¶ อนิฏฺิตายปิ ปจฺฉาปิ, อิมสฺส อวธึ ทสฺเสติ ‘‘อสมฺปตฺเต ยฺยการสฺมิ’’นฺติ. ปฏินิสฺสชฺชโตปิ จ ตสฺส สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺติ ปกาสิตาติ ปมคาถาย ปจฺฉิมฑฺฒํ อิธาเนตฺวา โยเชตพฺพํ.
๔๒๘. เอตฺตาวตา ‘‘อนาปตฺติ อสมนุภาสนฺตสฺส ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส อุมฺมตฺตกสฺส ขิตฺตจิตฺตสฺส เวทนาฏฺฏสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๑๖) ปาเ ‘‘ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺสา’’ติ ปเทน คหิเตสุ ‘‘ตฺติโต’’ติอาทีสุ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ตํ นิคเมตุํ ‘‘ปฏินิสฺสชฺชโต วาปิ ต’’นฺติ อาห. นิคมนตฺถโชตโก เอวํ-สทฺโท สามตฺถิยา ลพฺภติ, เอวํ ‘‘ตฺติโต’’ติอาทินา ยถาวุตฺตนเยน ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส วาติ อตฺโถ. ตนฺติ สงฺฆเภทปฺปโยคํ. อสมนุภาสโต วาติ อสมนุภาสิยมานสฺส. ‘‘อสมนุภาสิยโต’’ติ วตฺตพฺเพ วิกรณปจฺจยโลเปน ‘‘อสมนุภาสโต’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อสมนุภาสนฺตสฺสาติ อสมนุภาสิยมานสฺสา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๖). ‘‘สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา อิจฺฉิตตฺเถ สิทฺเธปิ ปุน ‘‘อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ วจเน ปุนรุตฺตตา อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, ปทาวุตฺติ นาม อลํกาโร โหตีติ.
๔๒๙. อิมสฺส ¶ สิกฺขาปทสฺส อตฺถุปฺปตฺติยํ สงฺฆเภทตฺถํ ปฺจ วตฺถูนิ ยาจนฺเตน เทวทตฺเตน ‘‘สาธุ ภนฺเต ภิกฺขู ยาวชีวํ มจฺฉมํสํ น ขาเทยฺยุํ, โย มจฺฉมํสํ ขาเทยฺย, วชฺชํ นํ ผุเสยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๐๙) วุตฺเต ‘‘อลํ เทวทตฺต มยา ติโกฏิปริสุทฺธํ มจฺฉมํสํ อนฺุาตํ อทิฏฺํ อสุตํ อปริสงฺกิต’’นฺติ (ปารา. ๔๐๙) อนฺุาเตสุ มจฺฉมํเสสุ กปฺปิยากปฺปิยวินิจฺฉยํ ปุพฺเพ อโนกาสาภาเวน อวตฺวา ปกตํ สิกฺขาปทวินิจฺฉยํ นิฏฺาเปตฺวา อิทานิ ปตฺตาวเสสํ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยฺหี’’ติอาทิ อารทฺธํ ¶ . ‘‘ตํ ตสฺสา’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ย’’นฺติ อิทํ ‘‘ภิกฺขุ’’นฺติ อิมินา จ ‘‘มจฺฉมํส’’นฺติ เอเตน จ โยเชตพฺพํ. มจฺฉนฺติ โอทกํ. มํสนฺติ ถลชานํ มํสํ. นิพฺเพมติโกติ ‘‘มํ อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ วา ‘‘สงฺฆํ อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ วา อุปฺปนฺนาย วิมติยา วิรหิโต.
๔๓๐. สมุทฺทิสฺส กตนฺติ สงฺฆํ วา อตฺตานํ วา อุทฺทิสฺส กตํ. ‘‘ตฺวา’’ติ อิมินา อชานิตฺวา ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติภาวมาห.
๔๓๑. หตฺถีนํ อสฺสานํ อจฺฉานํ มนุสฺสานํ อหีนํ กุกฺกุรานํ ทีปีนํ สีหานํ พฺยคฺฆานํ ตรจฺฉานํ มํสํ อกปฺปิยํ โหตีติ โยชนา.
๔๓๒. สจิตฺตกตา อาปตฺติยาเยว ยุชฺชติ, อิธ ปน ตํเหตุกํ มํสเมว เหตุมฺหิ ผลูปจาเรน สจิตฺตกนฺติ คหิตํ. เอตฺถ จิตฺตํ นาม อตฺตานํ วา สงฺฆํ วา อุทฺทิสฺส กตภาวชานนจิตฺตํ. เสสนฺติ อนุทฺทิสฺสกตํ อกปฺปิยมํสํ. อจิตฺตกนฺติ วุตฺตนยเมว.
๔๓๓. ปุจฺฉิตฺวาเยวาติ อกปฺปิยมํสปริหารตฺถํ ทสสุ มํเสสุ นามฺจ อุทฺทิสฺสกตสฺส ปริหารตฺถํ อุภยสฺสาปิ ปฏิลทฺธาการฺจ ปุจฺฉิตฺวาเยวาติ อตฺโถ. โอทเกสุ มจฺเฉสุ อกปฺปิยาภาวโต ลทฺธากาโรว าตพฺโพ. มํเส ทิฏฺมตฺเตเยว ‘‘อิทํ อสุกมํส’’นฺติ ชานนฺติ เจ, อปุจฺฉิเตปิ โทโส นตฺถิ. ทายเกสุ มํสสฺสาภาเว ลทฺธนิยาเม อปุจฺฉิเตปิ โทโส นตฺถิ. ยถา วา ตถา วา วิมติยา อุปฺปนฺนาย อปฺปฏิคฺคาเหตฺวา นิสินฺเน ‘‘กสฺมา น ปฏิคฺคณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิเต วิมติยา อุปฺปนฺนาการํ วตฺวา ‘‘มยํ ตุมฺเห วา อิตเร ภิกฺขู วา อุทฺทิสฺส น กริมฺหา’’ติ ¶ วตฺวา ‘‘อมฺหากเมว สนฺธาย กตํ, ปณฺณาการตฺถาย กตํ, อติถีนํ วา อตฺถาย กต’’นฺติอาทินา ¶ อตฺตนา ลทฺธปฺปการํ วตฺวา ‘‘สํสยํ อกตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ วเทยฺยุํ เจ, ปฏิคฺคเหตุํ วฏฺฏตีติ สพฺพมิทํ อฏฺกถาย วุตฺตํ.
ภิกฺขูนํ เอตํ วตฺตนฺติ โยชนา. วตฺตฏฺาติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน มหากรุณาย เทสิตํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ วิโสเธตฺวา ปฏิปชฺชเน ปติฏฺิตา. ‘‘วินยฺุโน’’ติ อิมินา วินยํ อชานิตฺวา อุปเทสปฺปมาเณเนว วตฺตํ ปูเรนฺเตหิ วตฺตสฺส วิโรโธปิ สิยาติ เต นิวตฺเตติ. ‘‘วตฺตฏฺา’’ติ วิเสสเนน วินยํ ตฺวาปิ อปูรเณ นิวตฺเตติ. อุภเยนปิ อตฺตนา วุตฺตวินิจฺฉยสฺส ปริสุทฺธภาวํ ทีเปติ.
๔๓๔. อิทํ สมนุภาสนนฺติ ยถาวุตฺตสิกฺขาปทมาห. สมนุภาสเนน สาเธตพฺพา อาปตฺติ สมนุภาสนา การณูปจาเรน. อฺถา เอกสมุฏฺานาทิภาโว น ยุชฺชติ. เอกสมุฏฺานํ กายวาจาจิตฺตสงฺขาตํ เอกํ สมุฏฺานํ เอตสฺสาติ กตฺวา. กายกมฺมนฺติ หตฺถมุทฺทาวเสน กาเยน กาตพฺพสฺส ปฏินิสฺสชฺชนสฺส อกตตฺตา กายกมฺมํ. วจีกมฺมนฺติ วจสา กาตพฺพสฺส อกตตฺตา วจีกมฺมํ. อกฺริยนฺติ ยถาวุตฺตนเยน ‘‘สงฺฆเภโทปกฺกมนิวารณาย ปรกฺกมนํ ปฏินิสฺสชฺชามี’’ติ กายวิกาเรน วา วจีเภเทน วา อวิฺาปนโต อกิริยํ นาม โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
สงฺฆเภทกถาวณฺณนา.
๔๓๕. กิฺจิปิ วตฺตพฺพนฺติ ‘‘เอโก วา ทฺเว วา ตโย วา’ติ วุตฺตสงฺฆเภทานุวตฺตกภิกฺขุํ ปสฺสนฺเตหิ สุณนฺเตหิ ลชฺชิภิกฺขูหิ ¶ วิสฺุจ สงฺฆมชฺเฌ จ เนตฺวา ติกฺขตฺตุํเยว สงฺฆเภทานุวตฺตนสฺส อกตฺตพฺพตํ วตฺวา ตโต อโนรมนฺตานํ ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย สมนุภาสนกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ อิทฺจ ‘‘ตติยานุสฺสาวนาย ยฺย-การปฺปตฺตาย อาปชฺชนกสงฺฆาทิเสสโต ปุพฺเพ อาปนฺนา ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ อิทฺจ อนาปตฺติปกาโร จาติ อิมํ สาธารณวินิจฺฉยํ สนฺธายาห. วจนปฺปการเภโท ปน อตฺเถว, โส สงฺเขปโต มาติกาย (ปารา. ๔๑๘-๔๑๙) วิตฺถารโต ปทภาชเน (ปารา. ๔๑๘-๔๑๙) อาคตนเยน วตฺตพฺโพ. อสฺสาติ ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทสฺส. ‘‘สมุฏฺานา…เป… มตา’’ติ อิมินา สาธารณวินิจฺฉโย อติทิฏฺโติ ทฏฺพฺพํ.
ทุติยสงฺฆเภทกถาวณฺณนา.
๔๓๖. อุทฺเทสปริยาปนฺเนติ ¶ เอตฺถ ‘‘สิกฺขาปเท’’ติ เสโส, นิทานปาราชิกสงฺฆาทิเสสอนิยตวิตฺถารสงฺขาเต ปฺจวิธอุทฺเทสลกฺขณปาติโมกฺเข อนฺโตคธสิกฺขาปทวิสเยติ อตฺโถ. ‘‘อุทฺเทสปริยาปนฺเน สิกฺขาปเท’’ติ อิมินา ‘‘อวจนียมตฺตานํ กโรตี’’ติ อิมสฺส วิสยํ ทสฺเสติ. ภิกฺขุ ทุพฺพจชาติโกติ เอตฺถ ‘‘โย’’ติ อชฺฌาหาโร. ‘‘ทุพฺพจชาติโกติ ทุพฺพจสภาโว, วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ อตฺโถ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๒๕-๔๒๖) อฏฺกถาย วุตฺตโทวจสฺสตาย เหตุภูตปาปิจฺฉตาทีหิ เอกูนวีสติยา ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต หุตฺวา อตฺตนิ วุตฺตํ อนุสิฏฺึ สาทรมคฺคหเณน นาสนตา โทวจสฺสสภาโวติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ปทภาชเน ‘‘ทุพฺพจชาติโก โหตีติ ทุพฺพโจ โหติ โทวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อกฺขโม อปฺปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนิ’’นฺติ (ปารา. ๔๒๖).
อวจนียมตฺตานํ ¶ กโรตีติ ‘‘มา มํ อายสฺมนฺโต กิฺจิ อวจุตฺถ กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา, อหมฺปายสฺมนฺเต น กิฺจิ วกฺขามิ กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา, วิรมถายสฺมนฺโต มม วจนายา’’ติ (ปารา. ๔๒๕) วุตฺตนเยน อตฺตานํ อวจนียํ กโรติ. ครุกํ สิยาติ เอตฺถ ‘‘ตสฺสา’’ติ อิทํ อชฺฌาหารนยสมฺพนฺเธน ลพฺภติ. ตตฺรายํ โยชนา – ทุพฺพจชาติโก โย ภิกฺขุ อุทฺเทสปริยาปนฺเน สิกฺขาปเท อตฺตานํ อวจนียํ กโรติ, ตสฺส ครุกํ สิยาติ.
กึ วุตฺตํ โหติ? โย ภิกฺขุ อตฺตโน โทวจสฺสตํ ปสฺสนฺเตหิ, สุณนฺเตหิ จ ลชฺชิภิกฺขูหิ ‘‘มา อายสฺมา อตฺตานํ อวจนียํ อกาสิ…เป… อฺมฺวุฏฺาปเนนา’’ติ (ปารา. ๔๒๕) วุตฺตนเยน ติกฺขตฺตุํ วุตฺโตปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวาปิ น วิสฺสชฺเชติ, ‘‘โส ภิกฺขุ สงฺฆมชฺฌมฺปิ อากฑฺฒิตฺวา วตฺตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๔๒๖) วุตฺตตฺตา หตฺเถ คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวาปิ สงฺฆมชฺฌํ เนตฺวา ตเถว ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวาปิ น วิสฺสชฺเชติ, ตสฺส ทุพฺพจชาติกสฺส ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย กริยมาเน สมนุภาสนกมฺเม ตติยาย กมฺมวาจาย ยฺยการปฺปตฺตาย ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจเย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภยมาโน สงฺฆาทิเสโส โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๓๗. ทุพฺพเจติ เอตฺถ ‘‘สิกฺขาปเท’’ติ เสโส, ตถา สงฺฆเภทกวณฺณเนติ เอตฺถาปิ. สงฺฆเภโท เอว สงฺฆเภทโก, ตํ วณฺเณติ กเถตีติ สงฺฆเภทกวณฺณนํ, กึ ตํ? สิกฺขาปทํ, ตฺจ ¶ ปมเมว สงฺฆเภทกสิกฺขาปทํ คเหตพฺพํ, ตสฺมึ วุตฺตนเยนาติ โยชนา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สมุฏฺานาทีนิ ปมสงฺฆเภทสทิสาเนวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๒๕-๔๒๖). ‘‘สพฺโพ วินิจฺฉโย’’ติ เอเตน อิธ ทสฺสิเตน ¶ ‘‘ครุกํ สิยา’’ติ เอเตน สงฺคหิตํ สงฺฆาทิเสสาวสานวินิจฺฉยํ วชฺเชตฺวา ‘‘อกเต ปนา’’ติอาทิคาถาตฺตเยน วุตฺตอนาปตฺติปฺปกาเร จ ‘‘อิทเมกสมุฏฺาน’’นฺติอาทิคาถาย วุตฺตสมุฏฺานาทิเก จ อติทิสติ.
ทุพฺพจกถาวณฺณนา.
๔๓๘. โย กุลทูสโก ภิกฺขุ, โส ฉนฺทคามิตาทีหิ ปาเปนฺโต ภิกฺขุหิ กมฺเม กริยมาเน ตํ ฉนฺทคามิตาทีหิ ปาปนํ อจฺจชนฺโต ครุกํ ผุเส สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชตีติ โยชนา. ‘‘กุลทูสโกติ กุลานิ ทูเสติ ปุปฺเผน วา ผเลน วา จุณฺเณน วา มตฺติกาย วา ทนฺตกฏฺเน วา เวฬุยา วา เวชฺชิกาย วา ชงฺฆเปสนิเกน วา’’ติ (ปารา. ๔๓๗) วจนโต สทฺธาสมฺปนฺนกุลานิ ลาภํ นิสฺสาย ปุปฺผทานาทีหิ สงฺคณฺหิตฺวา ตถา อกโรนฺเตสุ ลชฺชิภิกฺขูสุ กุลานํ สทฺธาทูสนโต กุลทูสโก, ภิกฺขุ.
ฉนฺทคามิตาทีหิ ปาเปนฺโตติ กุลทูสนกมฺมํ กโรนฺตํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา อวจนโต อาปชฺชิตพฺพทุกฺกฏโต มุจฺจนตฺถาย ‘‘อายสฺมา โข…เป… อลนฺเต อิธ วาเสนา’’ติ วทนฺเต ลชฺชี เปสเล ภิกฺขู ‘‘ฉนฺทคามิโน จ ภิกฺขู…เป… เอกจฺจํ น ปพฺพาเชนฺตี’’ติ ฉนฺทคามิตาทีหิ จตูหิ อคติคมเนหิ โยเชนฺโตติ อตฺโถ. กมฺเม กริยมาเนติ ยถาวุตฺตนเยน อตฺตานํ ครหนฺตานํ ภิกฺขูนํ กริยมานํ อกฺโกสนฺจ ปริภาสนฺจ เย ปสฺสนฺติ, เย จ สุณนฺติ, เตหิ ‘‘มายสฺมา เอวํ อวจ, น จ ภิกฺขู ฉนฺทคามิโน…เป… อลนฺเต อิธ วาเสนา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมาโนปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวาปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตํ หตฺเถ คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวา สงฺฆมชฺฌํ อาเนตฺวา ‘‘มายสฺมา เอวํ อวจา’’ติอาทินา นเยเนว ¶ ปุนปิ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวาปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย สมนุภาสนกมฺเม กริยมาเนติ วุตฺตํ โหติ. ครุกํ ผุเสติ ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจเย จ ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโต ตติยกมฺมวาจาย อนฺเต ยฺยกาเร สมฺปตฺเต สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๓๙-๔๐. ‘‘กุลานิ ¶ ทูเสติ ปุปฺเผน วา’’ติอาทินา (ปารา. ๔๓๗) นเยน วุตฺตกุลทูสโนปกรณภูตจุณฺณปณฺณาทีสุ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘จุณฺณ’’นฺติอาทิ. จุณฺณนฺติ สิรีสปณฺณาทิจุณฺณํ. ปณฺณนฺติ ตมฺพูลปณฺณตาลปณฺณาทิขาทิตพฺพาขาทิตพฺพปณฺณํ. ผลนฺติ ตาลปนสาทิผลํ. ปุปฺผนฺติ จมฺปกาทิปุปฺผํ. เวฬุนฺติ อนฺโทฬิกาปาฏํ กิรณฺฑาทิกํ เวฬุํ. กฏฺนฺติ เคหทารุํ, อินฺธนฺจ. มตฺติกนฺติ ปากติกํ, ปฺจวณฺณํ วา มตฺติกํ.
อตฺตโน สนฺตกํ, ตาวกาลิกาทิวเสน คหิตํ วา จุณฺณํ…เป… มตฺติกํ กุลสงฺคหณตฺถาย ททโต กุลทูสนทุกฺกฏํ โหตีติ สมฺพนฺโธ. เถยฺยาติ โจริกา. ‘‘ททโต’’ติ อิทํ สามิวจนํ ‘‘กาตพฺโพ’’ติ ปจฺจตฺตวจนนฺตํ วิเสสิตพฺพมเปกฺขิตฺวา ‘‘ททนฺโต’’ติ วิภตฺติวิปริณาเมน ปจฺจตฺตวจนนฺตํ อนุวตฺเตตพฺพํ. กาตพฺโพติ เอตฺถ กาเรตพฺโพติ อตฺโถ. อิมินา สงฺฆสนฺตกํ, คณสนฺตกํ, อฺปุคฺคลสนฺตกฺจ จุณฺณาทึ กุลสงฺคหตฺถํ โจริกาย เทนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพติ อิมํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสติ. สงฺฆฺสนฺตเกติ สงฺฆฺสนฺตกจุณฺณาทิเกติ อตฺโถ. เอตฺถ อฺ-สทฺเทน คณปุคฺคลานํ คหณํ.
๔๔๑. สงฺฆิกํ ครุภณฺฑํ วาติ สงฺฆสนฺตกํ ครุภณฺฑปโหนกํ วา ปณฺณาทิกํ. เสนาสนนิยามิตนฺติ ‘‘เอตฺตกา ผลรุกฺขาทโย เสนาสเน นวกมฺมตฺถายา’’ติ เอวํ นิยมิตํ ¶ วา. อิสฺสรวตาเย วาติ เอวกาเรน ‘‘เถยฺยา’’ติ อิทํ นิวตฺติตํ.
๔๔๒. หริตฺวา วาติ อตฺตนาเยว หริตฺวา วา. ‘‘ปุปฺผํ เทนฺตสฺสา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เอส นโย อุปริปิ. หราเปตฺวา วาติ อฺสฺส หตฺเถ เปเสตฺวา วา. ปกฺโกสิตฺวา วาติ อามนฺเตตฺวา วา ปกฺโกสาเปตฺวา วาติ อุปลกฺขณโต ลพฺภติ. อาคตสฺส วาติ อตฺตนา เอว อาคตสฺส วา. ‘‘กุลสงฺคหณตฺถายา’’ติ วจเนน ‘‘เอวรูเป อธิปฺปาเย อสติ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘เจติยํ ปูชํ กโรนฺตาปิ ‘ปูเชสฺสามา’ติ ปุปฺผานิ คเหตฺวา คจฺฉนฺตาปิ ตตฺถ ตตฺถ สมฺปตฺตานํ เจติยปูชนตฺถาย เทนฺติ, เอตมฺปิ ปุปฺผทานํ นาม น โหตี’’ติอาทิกํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๖-๔๓๗) อฏฺกถาคตํ สพฺพํ วินิจฺฉยํ ทสฺสิตํ โหติ.
๔๔๓. เอวํ อุสฺสคฺคํ ทสฺเสตฺวา อปวาทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘หริตฺวา วา’’ติอาทิ. ‘‘หราเปตฺวา’’ติ อิมินา โยเชตพฺพสฺส วา-สทฺทสฺส อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺถตาย ‘‘ปกฺโกสิตฺวา วา ปกฺโกสาเปตฺวา ¶ วา, อาคตานํ วา’’ติ จ สงฺคยฺหติ. อาคตสฺเสวาติ เอวกาเรน หริตฺวา ทานาทึ นิวตฺเตติ.
๔๔๔. ตฺจาติ มาตาปิตุอาทีนํ ตํ ปุปฺผทานฺจ. วตฺถุปูชตฺถนฺติ รตนตฺตยปูชนตฺถํ. น ปนฺถาติ อฺเน ปกาเรน ทาตุํ น วฏฺฏติ. เยน ปกาเรน ทาตุํ น วฏฺฏติ, โกยํ ปกาโรติ อาห ‘‘สิวาที’’ติอาทิ. สิวาทิปูชนตฺถนฺติ มหิสฺสราทิเทวตาปูชนตฺถฺจ. มณฺฑนตฺถนฺติ ปิฬนฺธนตฺถํ. เอวํ อทาตพฺพปฺปการนิยมเนน ‘‘อิมํ วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสฺสนฺตี’’ติ มาตาปิตุอาทีนํ ทาตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
๔๔๕. ‘‘ผลาทีสุ ¶ …เป… วินิจฺฉโย’’ติ อิมินา ‘‘หริตฺวา วา หราเปตฺวา วา’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตวินิจฺฉโย ผลปณฺณาทีสุ สพฺพตฺถ สมาโนติ ทสฺเสติ.
๔๔๖. ‘‘ปุปฺผาทิภาชเน’’ติ ปุปฺผผลาทีนํ ภาชนกาเล. สมฺมเตนาติ ปุปฺผาทิภาชนตฺถํ ขนฺธเก วุตฺตนเยน สงฺเฆน สมฺมเตน ภิกฺขุนา. อสฺสาติ ภาชนฏฺานํ อาคตสฺส. อิตเรนาติ สงฺฆสมฺมุตึ วินา ปุปฺผาทีนิ ภาชาเปนฺเตน. าเปตฺวา ทาตพฺพนฺติ สพฺพํ สงฺฆํ ชานาเปตฺวา ทาตพฺพํ.
๔๔๗. อุปฑฺฒภาวนฺติ เอเกน ภิกฺขุนา ลทฺธพฺพภาคโต อุปฑฺฒํ. ‘‘โถกํ โถก’’นฺติ อิมินา อุปฑฺฒโตปิ อปฺปตรํ คหิตํ.
๔๔๘. ปริพฺพยวิหีนสฺสาติ ตณฺฑุลาทิชีวิตวุตฺติวยมูลรหิตสฺส. สมฺปตฺติสฺสริยสฺสาปีติ อตฺตโน สมีปมุปคตสฺส อิสฺสรสฺส จ. ‘‘ทาตพฺพํ ตุ สกํ ผล’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘ปริพฺพยวิหีนานํ, ทาตุํ สปรสนฺตก’’นฺติ ขุทฺทสิกฺขาย อาคตํ, อิธ ‘‘สกํ ผล’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปรวจเนน วิสฺสาสิกานํ คหณํ, อิธ ปน วิสฺสาสคฺคาเหน คเหตฺวา ทียมานมฺปิ สสนฺตกเมวาติ ‘‘สก’’นฺติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
๔๔๙-๕๐. ยตฺร สงฺฆาราเม สงฺเฆน ผลรุกฺขปริจฺเฉทํ กตฺวา กติกา กตาติ โยชนา, ‘‘อาคนฺตุกานํ เอตฺตกํ ผลํ ทาตพฺพ’’นฺติ ผลปริจฺเฉทํ กตฺวา วา ‘‘เอตฺตเกสุ รุกฺเขสุ ผลํ ทาตพฺพ’’นฺติ ¶ รุกฺขปริจฺเฉทํ กตฺวา วา สงฺเฆน กติกา เยน ปกาเรน กตาติ อตฺโถ. ตตฺราคตสฺสปีติ เอวํ ปิตกติกวตฺตํ ตํ สงฺฆารามํ ผลตฺถาย อาคตสฺสาปิ.
ยถาปริจฺเฉทนฺติ ¶ สงฺเฆน ตถากตผลรุกฺขปริจฺเฉทมนติกฺกมฺม. ททโตติ โอจินิตฺวา ปิตผลํ, กปฺปิยการเกหิ โอจินาเปตฺวา วา เทนฺตสฺส. โอจิตผเล จ กปฺปิยการเก จ อสติ ผลตฺถาย อาคเตสุ วตฺติตพฺพวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทสฺเสตพฺพาปิ วา’’ติอาทิ. ‘‘วตฺวา’’ติ เสโส. จ-การํ อปิ-สทฺเทน เอกโต กตฺวา ‘‘อปิจา’’ติ โยชนา. เอวํ วตฺวา สงฺเฆน ปริจฺฉินฺนรุกฺขา ทสฺเสตพฺพาติ อิมินา ‘‘อิธ ผลานิ สุนฺทรานิ, อิโต คณฺหถา’ติ เอวํ ปน น วตฺตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๖-๔๓๗) อฏฺกถา พฺยติเรกโต ทสฺสิตา โหติ.
๔๕๑. ‘‘ขณิตฺวา’’ติ เอเตน ‘‘ขณาเปตฺวา’’ติ อิทมฺปิ สงฺคหิตํ, ‘‘กปฺปิยภูมิ’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ปถวินฺติ เอตฺถ ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ ลพฺภติ. เตเนวาห ‘‘ปาจิตฺติเยนา’’ติ. ‘‘มาลาคจฺฉ’’นฺติ อิมินา ปุปฺผูปเค ตรุณคจฺเฉ จ มลฺลิกาสุมนาทิคุมฺพคาคจฺเฉ จ สงฺคณฺหาติ. ยถาห อฏฺกถาย ‘‘ตรุณกา หิ ปุปฺผรุกฺขาปิ ปุปฺผคจฺฉาปิ ‘มาลาวจฺฉา’ตฺเวว วุจฺจนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑). อาทิ-สทฺเทน ผลูปครุกฺเข จ เภสชฺชรเส โอสธคจฺเฉ จ สงฺคณฺหาติ. ‘‘โรปาปเน’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘สย’’นฺติ อิทํ ‘‘โรปเน’’ติ อิมินา ยุชฺชติ.
‘‘สยํ ขณิตฺวา’’ติ กสฺมา น ยุชฺชตีติ? ‘‘ขณาเปตฺวา’’ติ วกฺขมานสฺส อภาวา จ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ปถวึ ขเณยฺย วา ขณาเปยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๘๕) วจนโต ขณาปเน ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพตฺตา จ ‘‘ขณิตฺวา’’ติ อิมินา จ ขณนขณาปนานํ ทฺวินฺนเมว คเหตพฺพตฺตา น ยุชฺชติ. กุลทูสเนติ กุลทูสนนิมิตฺตํ. อกปฺปิยปถวึ ขณิตฺวา, ขณาเปตฺวา จ สยํ มาลาคจฺฉาทิโรปเน กเต อสฺส มาลาคจฺฉาทิโรปกสฺส ¶ ภิกฺขุโน อกปฺปิยปถวีขณนปจฺจเยน ปาจิตฺติเยน สทฺธึ กุลทูสเน กุลทูสนนิมิตฺตํ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๔๕๒. ‘‘ตถา’’ติ ¶ อิมินา ‘‘สยํ โรปเน’’ติ อิทํ วินา อวเสสปฺปการํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อกปฺปิเยน วากฺเยนา’’ติ อิทํ ‘‘อกปฺปิยปถวึ ขณาเปตฺวา’’ติ อิมินา จ ‘‘โรปาปเน’’ติ อิมินา จ ยุชฺชติ. ‘‘อิมํ ภูมึ ขณ, อิมํ คจฺฉํ โรเปหี’’ติอาทิกํ อกปฺปิยํ โวหารํ วตฺวา อกปฺปิยปถวึ ขณาเปตฺวา มาลาคจฺฉาทิโรปนํ การาเปนฺตสฺสาปิ ตเถว ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจ โหตีติ อตฺโถ.
ขณนโรปเนหิ ทฺวีหิ ปาจิตฺติยทุกฺกฏานิ อวสิฏฺเหิ ตทตฺถิเกหิ สพฺพโวหารปโยคเภเทหิ กึ โหตีติ อาห ‘‘สพฺพตฺถา’’ติอาทิ. กุลทูสเนติ นิมิตฺเต, วิสเย วา ภุมฺมํ. อกปฺปิเยน วากฺเยน ปน ปถวึ ขณาเปตฺวา อกปฺปิเยน วากฺเยน โรปาปเนปิ ตถา ปาจิตฺติเยน สห กุลทูสเน ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. สพฺพตฺถ อิโต ปเรสุปิ ตทตฺถิเกน สพฺพโวหารพฺยาปาเรสุ กุลทูสนนิมิตฺตํ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๔๕๓. กปฺปิยภูมิยา อตฺตนา ขณเน, อกปฺปิยโวหาเรน ขณาปเน จ ปาจิตฺติยาภาวโต ทุกฺกฏํเยว วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อุภยตฺถ จา’’ติอาทิ. เอตฺถ ‘‘เอว’’นฺติ เสโส, โส ยถาวุตฺตมตฺถํ นิคเมติ. เอวํ ยถาวุตฺตนเยน กปฺปิยภูมิยมฺปิ มาลาคจฺฉาทิโรปนโรปาปนสงฺขาเตสุ ทฺวีสุ าเนสุ จ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๔๕๔. สทุกฺกฏา ¶ ปาจิตฺตีติ ‘‘อาวาฏํ ขณ, คจฺฉํ โรเปหี’’ติ เอกวารํ อาณตฺเต พหู อาวาเฏ ขณิตฺวา พหูสุ คจฺเฉสุ โรปิเตสุปิ อาณตฺติยา เอกตฺตา ทุกฺกเฏน สห ปาจิตฺติยํ โหตีติ อยมตฺโถ อกปฺปิยภูมึ สนฺธาย วุตฺโต. ‘‘สุทฺธํ วา ทุกฺกฏ’’นฺติ อิทํ อกปฺปิยภูมิยํ กปฺปิเยน โวหาเรน อาวาฏํ ขณาปกสฺส จ กปฺปิยภูมิยํ อกปฺปิยโวหาเรน อาวาฏํ ขณาปกสฺส จ ‘‘อิมํ คจฺฉํ โรเปหี’’ติ เอกวาราณตฺตปจฺจยา อาปชฺชิตพฺพํ กุลทูสนทุกฺกฏํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๔๕๕. กปฺปิเยเนว วากฺเยนาติ เอตฺถ กปฺปิยวากฺยํ นาม ‘‘เอตฺถ อาวาฏํ ชาน, เอตฺถ อาวาฏํ ชานิตพฺพํ, เอตฺถ อาวาเฏน ภวิตพฺพ’’นฺติ เอวรูปํ วากฺยฺจ ‘‘อิมํ คจฺฉํ เอตฺถ ชาน, อยํ คจฺโฉ เอตฺถ ชานิตพฺโพ’’ติอาทิวากฺยฺจ. เอวกาเรน อกปฺปิยโวหารฺจ กปฺปิยากปฺปิยมิสฺสกโวหารฺจ นิวตฺเตติ. ปริยาโยภาสนิมิตฺตกมฺมํ ปน ‘‘อิตรตฺตยํ วฏฺฏตี’’ติ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาวจนโต วฏฺฏติ. อุภยตฺถ จ ภูมิยาติ กปฺปิยากปฺปิยภูมีสุ ทฺวีสุ. โรปเนติ เอตฺถ สมฺพนฺธโต, ปกรณโต จ ‘‘มาลาคจฺฉาทีน’’นฺติ ลพฺภติ.
‘‘วากฺเยนา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘โรปาปเน’’ติ วตฺตพฺโพ, ‘‘โรปเน’’ติ กิมตฺถมาหาติ เจ? สุทฺธกตฺตุนิทฺเทเสน ปโยชกสฺสาปิ สงฺคเหตพฺพโต คาถาพนฺธวเสน วุตฺตํ. อิมินา อุปริคาถาย ‘‘สยํ โรเปตุ’’นฺติ เอตฺถ ‘‘สย’’นฺติ อิมินา วิเสเสตฺวา ‘‘โรปาเปตุ’’นฺติ อิทํ นิวตฺเตติ. ‘‘ปริโภคตฺถาย หิ กปฺปิยภูมิยํ วา อกปฺปิยภูมิยํ วา กปฺปิยโวหาเรน โรปาปเน อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาวินิจฺฉโย อิมาย คาถาย สงฺคหิโตติ เวทิตพฺโพ. โกจิ โทโสติ ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจาติ วุตฺตโทเสสุ เอโกปิ โทโส น วิชฺชตีติ อตฺโถ.
๔๕๖-๗. ‘‘สยํ ¶ โรเปตุ’’นฺติ อิทํ ‘‘อารามาทีนมตฺถายา’’ติ อิมินา สมฺพนฺธิตพฺพํ.
อาทิ-สทฺเทน วนาทึ สงฺคณฺหาติ. สยํ โรปิตสฺส วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘โรปาปิตสฺสา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ, เอตสฺส วิเสสนตฺถํ ‘‘กปฺปิเยน โวหาเรนา’’ติ ปาเสโส. อยํ ปน วินิจฺฉโย ‘‘อารามตฺถาย ปน วนตฺถาย จ ฉายตฺถาย จ อกปฺปิยโวหารมตฺตเมว น วฏฺฏติ, เสสํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาคตนเยน เวทิตพฺโพ. อนฺโต อารามภูสนตฺถาย, พหิ อรฺตฺถาย วิย ฉายตฺถาย สุทฺธจิตฺเตน ‘‘อิมํ ชานา’’ติอาทิกปฺปิยโวหาเรน โรปาปิตรุกฺเข จ กปฺปิยภูมิยฺจ อตฺตนา กเต วา อกปฺปิยโวหาเรน การาปิเต วา อกปฺปิยภูมิยฺจ กปฺปิยโวหาเรน อตฺตนา การาปิเต วา อฺเหิ กเต วา อาวาเฏ อตฺตนา โรปิเต รุกฺเข จ ผลํ ปริภฺุชิตุํ อิจฺฉติ เจ, ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
อารามาทีนมตฺถาย กปฺปิยภูมิยํ สยํ โรปิตสฺส วา กปฺปิยภูมิยํ วา อกปฺปิยภูมิยํ วา กปฺปิยโวหาเรน โรปาปิตสฺส วา รุกฺขสฺส ยฺจ ผลํ, ตํ ผลํ ปริภฺุชิตุํ ภิกฺขูนํ วฏฺฏตีติ โยชนา. กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ‘‘อารามาทีนมตฺถายา’’ติ คาถาย ลิขิตฏฺาเน ¶ ‘‘กุลสงฺคหณตฺถายา’’ติอาทิคาถา ทิสฺสติ. สา ปาฬิกฺกมวิรุทฺธตฺตา อฏฺานปฺปยุตฺตา, ‘‘ปุปฺผาน’’นฺติอาทิคาถาย ปุรโต วุจฺจมานา ปน านปฺปยุตฺตา โหติ.
๔๕๘. สพฺพตฺถาติ อารามาทิอตฺถาย ปุพฺเพ วิย อตฺตนา โรปิเตสุ, โรปาปิเตสุ จ สพฺเพสุ มาลาคจฺฉาทีสุ. อกปฺปิโยทเกเนว ปาจิตฺตีติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สปฺปาณกํ ¶ อุทกํ ติณํ วา มตฺติกํ วา สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๔๐) วุตฺตา ปาจิตฺติ เอว, น ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
๔๕๙. อิทานิ ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติยวิสยํ ทสฺเสติ ‘‘กุล…เป… ทุกฺกฏ’’นฺติ. สิฺจโตติ กปฺปิโยทเกเนว สิฺจโต, สิฺจาปยโต จ.
๔๖๐. เตสํเยว ทฺวินฺนํ ปน อตฺถายาติ กุลทูสนปริโภคานํ ทฺวินฺนมตฺถาย. สิฺจเน สิฺจาปเนติ เอตฺถ ‘‘มาลาคจฺฉาทีน’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ ‘‘เกวล’’นฺติ เสโส.
๔๖๑. โอจินาปเนติ อฺเหิ ปุปฺผานํ โอจินาปเน. สยโมจินเน จาปีติ อตฺตนาว โอจินเน จ. สปาจิตฺติยทุกฺกฏนฺติ ‘‘ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๐) วุตฺตตฺตา ปุปฺโผจินนเหตุ ปาจิตฺติยฺจ กุลทูสนทุกฺกฏฺจ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๖๒. ปูชาทิอตฺถาย, กุลสงฺคหตฺถาย จ ปุปฺผานํ โอจินนโอจินาปนานิ การาเปนฺตสฺส อาปตฺติยา อาปชฺชนปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุปฺผาน’’นฺติ. ‘‘ปุปฺผานํ คณนาย ปาจิตฺติยํ โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปุปฺผโมจินโตติ เอตฺถ ‘‘วิสุํ วิสุ’’นฺติ เสโส. เอเกกปุปฺผํ โอจินนฺตสฺส ปุปฺผคณนาย ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘เอเกน ปโยเคน พหูนิ ปุปฺผานิ โอจินนฺตสฺส ปน ปโยคคณนาย โหตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ อิธ พฺยติเรกโต ลพฺภติ. ‘‘โอจินโต’’ติ อิมินา ‘‘โอจินาปยโต’’ติ อิทฺจ กิริยาสามฺเ วิเสสสฺส อนฺโตคธภาวโต วา อุปลกฺขณโต วา ทสฺสิตนฺติ.
ตตฺถ ¶ จ ปุปฺผานิ วิสุํ วิสุํ วตฺวา โอจินาเปนฺตสฺส ปุปฺผานํ คณนาย โหตีติ อิทเมว ¶ อาปชฺชติ. เอกวารมาณตฺเตน พหูนิ ปุปฺผานิ พหูสุ จ วาเรสุ โอจิเตสุ อาณตฺติคณนาย โหตีติ วินิจฺฉโย ทฏฺพฺโพ. อิทํ สพฺพปฺปการํ อนนฺตรวุตฺตคาถาย ทสฺสิตวิธิมฺหิ จ ทฏฺพฺพนฺติ าเปตุมาห ‘‘กุลตฺถํ เจ สทุกฺกฏา’’ติ. กุลตฺถนฺติ กุลสงฺคหตฺถํ. ‘‘สทุกฺกฏา’’ติ วุตฺตตฺตา ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจ ปุปฺผคณนาย โหตีติ สิทฺธํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุปฺผคณนาย ทุกฺกฏปาจิตฺติยานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑).
๔๖๓. คนฺถนํ คนฺโถ, เตน นิพฺพตฺตํ คนฺถิมํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. คนฺถิมาทิสรูปํ สยเมว วกฺขติ. สงฺคหณํ สงฺคโห, ปุปฺผานํ สงฺคโหติ วิคฺคโห.
๔๖๔. อิมานิ คนฺถิมาทีนิ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ตตฺถ ทณฺเฑน ทณฺฑํ วา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ฉสุ ปุปฺผสงฺคเหสุ. ‘‘ทณฺเฑน ทณฺฑํ วา’’ติ อิทํ สทณฺฑอุปฺปลาทิกุสุมํ สนฺธายาห. ‘‘วณฺเฏนปิ จ วณฺฏก’’นฺติ อิทํ สวณฺฏกรตฺตกุสุมาทึ สนฺธายาห. กรณํ สพฺพนฺติ กตํ สพฺพํ. อิธ สพฺพตฺถ กปฺปิยวิธิวิภาคํ ‘‘สพฺพเมต’’มิจฺจาทิคาถายํ วกฺขติ.
๔๖๕. สุตฺตาทีหิ โคปฺเผตฺวาติ เอตฺถ ‘‘วสฺสิกปุปฺผาทีนี’’ติ เสโส. สุตฺเตน วา กทลิวากาทีหิ วา วสฺสิกาทิปุปฺเผ คนฺถิตฺวา กตปุปฺผวิกาโร โคปฺผิมํ นาม. เอกโต วณฺฏานิ ยสฺสาติ วิคฺคโห. อุภโตวณฺฏิกาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อปฺปตฺเถ วา สกตฺเถ วา ก-กาโร ทฏฺพฺโพ. อิตฺถิลิงฺควิสเย ก-การโต ปุพฺพาการสฺส อิ-การาเทโส.
สพฺพปุปฺผานํ วณฺฏานิ เอกทิสาย กตฺวา คนฺถิตปุปฺผาวลิ เอกโตวณฺฏิกา นาม, วณฺฏานิ อุภยทิสาย กตฺวา คนฺถิตปุปฺผาวลิ ¶ อุภโตวณฺฏิกา นามาติ ตํ โคปฺผิมํ เอวํ ทุวิธํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘วากํ วา วลฺลึ วา รชฺชุํ วา ทิคุณํ กตฺวา ตตฺถ นีปกทมฺพาทิวณฺฏรหิตานิ ปุปฺผานิ เวเตฺวา คหณํ โคปฺผิมํ นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑ อตฺถโต สมานํ) อฏฺกถาย วุตฺตํ.
๔๖๖. พุนฺเทสูติ มูเลสุ. มกุลาทิกนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน วณฺฏรหิตมธุกาทิปุปฺผฺจ วณฺฏสหิตมลฺลิกาทิปุปฺผฺจ สงฺคหิตํ. สูจิอาทีหีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ตาลหีราทึ สงฺคณฺหาติ ¶ . มาลาวิกตีติ ปุปฺผมาลาวิกติ. สูจิอาทีหิ มกุลาทิกํ ปุปฺผํ พุนฺเทสุ วิชฺฌิตฺวา อาวุตา มาลาวิกติ เวธิมํ นามาติ วุจฺจตีติ โยชนา.
๔๖๗. ‘‘เวิมํ นาม ปุปฺผทามปุปฺผหตฺถเกสุ ทฏฺพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาย ทสฺสิตปฺปกาเรสุ ปมปฺปการํ ทสฺเสติ ‘‘เวเตฺวา กตํ มาลาคุเณหิ วา’’ติ. ธมฺมเทสนาย วา ปฏิมาย วา ธาตุยา วา ปูชํ กตฺตุกามา มุทฺธนิ อุชุกํ กตฺวา มาลาทามกลาปํ โอลมฺพิตฺวา อคฺเค ฆฏิกาการทสฺสนตฺถํ มาลาวลิโย อเนกกฺขตฺตุํ ปริกฺขิปนฺตา เวเนฺติ, อิทํ เอวรูปํ มาลาคุณกรณมฺปิ เวิมํ นามาติ วุตฺตํ โหติ.
อฺปฺปการํ ทสฺเสติ ‘‘วากาทีหิ จ พทฺธํ วา’’ติ, ‘‘พนฺธิตฺวา’’ติปิ ปาโ, ‘‘กต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เอกจฺเจ อุปฺปลาทิทีฆทณฺฑกุสุมานิ อฏฺ วา นว วา ทส วา กลาปํ กตฺวา เตสเมว ทณฺฑานํ วาเกหิ วา อฺเน เยน เกนจิ ทณฺฑกคฺเค เปตฺวา วา วิสุํ วา พนฺธิตฺวา อุปฺปลหตฺถาทึ กโรนฺติ, ตฺจ เวิมํ นามาติ วุตฺตํ โหติ. เอตํ ทฺวยมฺปิ น วฏฺฏติ.
กปฺปิยการเกหิ ¶ โอจินิตฺวา ปิตปุปฺผานิ สาฏเก ปกฺขิปิตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ. เตสุเยว ปุปฺเผสุ อจฺฉินฺเนน ทณฺเฑน วา ตสฺมึเยว ทณฺเฑ อจฺฉินฺนวาเกน วา กลาปํ กตฺวา พนฺธิตุํ, อํสภณฺฑิกาย ปกฺขิปิตฺวา คเหตฺุจ วฏฺฏติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เตสํเยว ปน วาเกน วา ทณฺเฑน พนฺธิตุํ อํสภณฺฑิกํ วา กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘วาเกน วา ทณฺเฑน วา’ติ จ อิทํ อจฺฉินฺทิตฺวา ปริกฺขิปิตฺวา พนฺธนํ สนฺธาย วทนฺตี’’ติ สีหฬคณฺิปเท วุตฺตํ. ปทุมาทิปุปฺผานิ ปทุมาทิปณฺเณสุ นาเฬหิ ปเวเสตฺวา นาเฬหิ พหิ กตฺวา ปณฺเณน ปุปฺผานิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปณฺณคฺเค พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ทณฺเฑ ปน พนฺธิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) จ อฏฺกถายเมว วุตฺตํ.
๔๖๘. ปุปฺผมาลาหิ ปูรเณติ ปุปฺผาวลีหิ ปูรเณ. อิทํ กตฺถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘โพธิ’’นฺติอาทิ. ปุปฺผปฏํ นาม มาลาวลิโย ตนฺตํ วิย ปสาเรตฺวา วตฺถํ วายนฺเตหิ วิย ติริยฺจ มาลาวลีหิ วายิตปฏํ วุจฺจติ. อิทํ ปุปฺผปฏํ มาลาวลีหิ ทีฆโส ปูรณํ สนฺธาย ¶ ปุริเม คหิตํ, ติริยโต วายนํ สนฺธาย วกฺขมาเน วายิเมปิ คหิตนฺติ ปุนรุตฺตาภาโว เวทิตพฺโพ. ปฏาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน เจติยธาตุกรณฺฑกเวทิกาทีนํ คหณํ.
ปริกฺเขเปสุ ลพฺภตีติ โพธิกฺขนฺธาทีนํ ปุนปฺปุนํ ปริกฺขิปเนสุ ลพฺภติ. โพธิกฺขนฺธาทโย ปุปฺผาวลีหิ ปริกฺขิปนฺเตหิ ปมวทฺธฏฺาเน ปุปฺผาวลิยา อนติกฺกามิเต ปุริมํ นาม านํ ยาว ปาปุณาติ, ตาว อฺเน คเหตฺวา ปริกฺขิปนฺเตน อาหริตฺวา ปุนปิ ตสฺมึ าเน ปตฺเต อฺสฺส ทานวเสน โพธิกฺขนฺธํ, เจติยํ, ธาตุกรณฺฑกํ วา ปุปฺผกฺจุเกน ฉาเทตุํ ¶ วฏฺฏตีติ อฏฺกถาย วุตฺตํ. สเจปิ ทฺเวเยว ภิกฺขู อุโภสุ ปสฺเสสุ ตฺวา ปริยาเยน หรนฺติ, วฏฺฏติเยวาติ วทนฺติ. ปุปฺผปฏวายนตฺถํ ปสาริยมานปุปฺผาวลีสุ จ เอเสว วินิจฺฉโย.
ทีฆปุปฺผาวลึ นาคทนฺเตสุ ปกฺขิปิตฺวา ปุน ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘นาคทนฺเตสุ ปน ปุปฺผวลยํ ปเวเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา อฺเหิ วลยํ กตฺวา ทินฺนปุปฺผาวลิวลยํ ธาตุกรณฺฑถุปิกาย ปเวเสตุํ วฏฺฏติ. ‘‘มาลาคุเณหิ ปน พหูหิปิ กตํ ปุปฺผทามํ ลภิตฺวา อาสนมตฺถกาทีสุ พนฺธิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปุปฺผทามปุปฺผาวลีนํ ปุปฺผรหิตาย สุตฺตโกฏิยา รชฺชุทณฺฑาทีสุ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ.
๔๖๙. ปุปฺผรูปํ นาม ‘‘โคปฺผิมปุปฺเผเหว หตฺถิอสฺสาทิรูปกานิ กโรนฺติ, ตานิปิ วายิมฏฺาเน ติฏฺนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) วุตฺตตฺตา ตํตํรูปสณฺานํ กตฺวา ปุปฺผาวลิโย นิเวเสตฺวา กริยมานํ หตฺถิอสฺสาทิรูปํ. อิมสฺมึ อฏฺกถาปาเ ‘‘ตานิปิ วายิมฏฺาเน ติฏฺนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา จ ‘‘อฺเหิ กตปริจฺเฉเท ปน ปุปฺผานิ เปนฺเตน หตฺถิอสฺสาทิรูปกมฺปิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาปาสฺส สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ปุปฺผานิ เปนฺเตนาติ อคนฺถิตานิ ปากติกปุปฺผานิ เปนฺเตน. ปุปฺผทามํ ปน ปูชนตฺถาย ภูมิยํ เปนฺเตน ผุสาเปตฺวา วา อผุสาเปตฺวา วา ทิคุณํ กตฺวา เปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๓๑) วุตฺตตฺตา จ อิมํ หตฺถิอาทิรูปํ ปูเรนฺเตน มาลาวลึ อฺเหิ กตปริจฺเฉเท สมฺพนฺธิตฺวา ปาสาณอาสนมฺจปีหตฺถิรูปาทิมตฺถเก เปตฺวา ปูชนปฺปกาโร วายิมนฺติ วิฺายติ.
ปุปฺผปฏนฺติ ¶ ¶ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการํ ปุปฺผปฏํ ปูเรนฺเตน เอกาปิ ปุปฺผาวลิ ปริวตฺเตตฺวา น เปตพฺพา, วายนฺเตน อฺเหิ ปูริเตปิ เอกาปิ ปุปฺผาวลิ น ปาเตตพฺพา, อิทํ ปูริมวายิมานํ นานากรณํ. อาทิคฺคหเณน ปุปฺผชาลํ สงฺคณฺหาติ, ตํ กโรนฺตสฺส ชาลจฺฉิทฺทคณนาย ทุกฺกฏํ โหติ. ‘‘ภิตฺติจฺฉตฺตโพธิตฺถมฺภาทีสุปิ เอเสว นโย’’ติ วุตฺตตฺตา ฉตฺตาทีสุ จ ปุปฺผชาลํ น ทาตพฺพํ.
๔๗๐. อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส สาธารณตฺตา ‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจา’’ติ อาห. พุทฺธสฺสปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท สมฺภาวเน, ‘‘ปูชตฺถ’’นฺติ วตฺตพฺพํ, พุทฺธสฺส ปูชตฺถายปิ กาตุํ วา การาเปตุํ วา น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ธมฺมสงฺฆรตนานิปิ อุปลกฺขณโต สงฺคยฺหนฺติ. เสเส กิเมว วตฺตพฺพนฺติ พฺยติเรกตฺโถ.
๔๗๑. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘สยํ ปเรหิ วา การาเปตุํ ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ พุทฺธสฺสปี’’ติ อนนฺตรคาถาย วุตฺตมติทิสติ. กลมฺพกนฺติ ทฺวินฺนํ ธนุกานมนฺตเร โอลมฺพกทามํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กลมฺพโกติ อฑฺฒจนฺทนาคทนฺตนฺตเร ฆฏิกาทามโอลมฺพโก วุตฺโต’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑). เอตฺถ จ ฆฏิกาทามโอลมฺพโก นาม อนฺเต ฆฏิกาการยุตฺโต ยมกทามโอลมฺพโก. กาตุนฺติ พนฺธิตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. เอเกกปุปฺผทามํ ปน นิกฺขนฺตสุตฺตโกฏิยา ปพนฺธิตฺวา โอลมฺพิตุํ วฏฺฏติ. ปุปฺผทามทฺวยํ สงฺฆฏิตุกาเมนปิ นิกฺขนฺตสุตฺตโกฏิยาว สุตฺตโกฏิ สงฺฆฏิตุํ วฏฺฏติ. อฑฺฒจนฺทกเมว วาติ ‘‘อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณปริกฺเขโป’’ติ อฏฺกถาย วุตฺตสรูปํ วา.
เอตฺถ จ อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณปริกฺเขโป นาม อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณสฺส ปุนปฺปุนํ หรณปจฺจาหรณวเสน ปูเรตฺวา ปริกฺขิปนํ. เตเนว ตํ ปูริเม ปวิฏฺํ. ตสฺมา เอตมฺปิ ¶ อฑฺฒจนฺทาการํ ปุนปฺปุนํ หรณปจฺจาหรณวเสน ปูริตํ น วฏฺฏติ, เอกวารํ ปน อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณํ หริตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. กาตุํ น วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตทุภยมฺปิ ปูริเมเยว ปวิฏฺ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อฺเหิ ปูริตนฺติ อฺเหิ อายตํ ปสาเรตฺวา ปูริตํ ปุปฺผปฏํ. วายิตุมฺปิ จาติ ติริยํ เอกปุปฺผาวลิมฺปิ วายิตุํ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ อิมินาว สมฺพนฺโธ.
๔๗๒. ปิฏฺกาจมยนฺติ ¶ ตณฺฑุลปิฏฺาทีหิ กตฺเจว กาจมตฺติกาย จ กตํ ปุปฺผทามํ. เภณฺฑุปุปฺผมยมฺปิ จาติ เภณฺฑุทณฺฑเกหิ มลฺลิกาสุมนจมฺปกาทิสทิสํ กตฺวา ฉิทฺเทหิ กตทามฺจ. ‘‘เคณฺฑุปุปฺผมย’’นฺติปิ ลิขนฺติ. ขรปตฺตมยนฺติ เอตฺถ ขรปตฺตํ นาม กุงฺกุฏฺขจิตํ ปุปฺผปฏนฺติ วทนฺติ. กาตุนฺติ คนฺถนคนฺถาปนาทีนิ กาตุํ. เภณฺฑุขรปตฺตทามานํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา เจลาทีหิ กตทามมฺปิ น วฏฺฏติ อกปฺปิยานุโลมตฺตาติ วทนฺติ.
๔๗๓. หีราทีหีติ ตาลนาฬิเกรหีราทีหิ. อาทิ-สทฺเทน ติณสลากาทึ สงฺคณฺหาติ. ปฏากตฺถนฺติ ปฏากากาเรน ปูชนตฺถํ. ‘‘วิชฺฌนฺตสฺสา’’ติ อิมินา กณฺฏเกหิ วิชฺฌนํ, หีราทีหิ อาวุณนฺจ สงฺคหิตํ.
๔๗๕. อโสกปิณฺฑิอาทีนนฺติ อโสกปุปฺผมฺชริกาทีนํ. อาทิ-สทฺเทน อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) เอเตเหว สทฺธึ ทสฺสิตํ ชาลวิตานํ, ฉิทฺทานิ ทสฺเสตฺวา กตเวทิกา, นาคทนฺตกํ, ปุปฺผจงฺโกฏกาปิธานํ, ตาลปณฺณวลยาทิฺจ สงฺคณฺหาติ. ธมฺมรชฺชุยาติ เอตฺถ สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ธมฺมรชฺชุ นาม เจติยํ วา โพธึ วา ปุปฺผปเวสนตฺถ อาวชฺชิตฺวา พทฺธรชฺชู’ติ มหาคณฺิปเท, มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ, ตสฺมา ตถา พทฺธาย รชฺชุยา เจติยสฺส จ อนฺตเร ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ วฏฺฏตีติ ¶ วิฺายติ. คณฺิปเท ปน ‘ธมฺมรชฺชุนฺติ สิถิลวฏฺฏิตํ รชฺชุํ กตฺวา โพธึ วา เจติยํ วา ปริกฺขิปิตฺวา ธมฺมาสเน วา ลมฺพิตฺวา ตตฺถ ปุปฺผานิ ปเวเสนฺตี’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา สิถิลวฏฺฏิตาย รชฺชุยา อนฺตเรปิ ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ วฏฺฏตีติ วิฺายติ, วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ. อุภยตฺถาปิ ปเนตฺถ เนวตฺถิ วิโรโธติ อมฺหากํ ขนฺตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๓๑) ลิขิตํ.
๔๗๖. วิชฺฌนฺตสฺสปีติ ปิ-สทฺเทน ธมฺมาสนวิตานาทีสุ ปุปฺผปูชนตฺถํ สยํ กณฺฏกหีราทิปฺปเวสนํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘วิตานาทีสุ ปุปฺผปูชนตฺถํ กณฺฏกหีราทิปฺปเวสนํ น วฏฺฏตี’ติ อิทํ อฏฺกถาจริยปฺปมาณโต คเหตพฺพ’’นฺติ สารตฺถทีปนิยํ วุตฺตํ.
๔๗๗. กปฺปิยวจนํ นาม ‘‘เอวํ ชาน, เอวํ กเต โสเภยฺย, ยถา เอตานิ ปุปฺผานิ น วิกิริยนฺติ, ตถา กโรหี’’ติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาคตํ กปฺปิยวจนํ. วตฺถุปูชเนติ รตนตฺตยปูชเน. นิมิตฺตาทีสุ นิมิตฺตํ นาม ปุปฺผานิ จ คนฺถนวาเก ¶ จ คเหตฺวา คนฺถิตุํ ชานนฺตานํ สมีเป ปนํ. โอภาโส นาม ‘‘ตุมฺเหหิ ปิฬนฺธิตกุสุมานิ กสฺมา น วิกิรนฺตี’’ติ วุตฺเต ‘‘คนฺถิตตฺตา’’ติ เจ วทติ, นนุ ปูชนกปุปฺผานิ คนฺถิตุํ น วฏฺฏตีติอาทิวจนานิ. ปริยาโย นาม ปณฺฑิเตหิ ปุปฺผานิ ยถา น วิกิริยนฺติ, ตถา คนฺถิตฺวา ปูเชตุํ มนาปนฺติอาทิวจนํ. ปกาสิตา อฏฺกถายํ.
๔๗๘. ‘‘กุลานิ ทูเสติ ปุปฺเผน วา’’ติอาทิปาเ (ปารา. ๔๓๗) ‘‘เวชฺชิกาย วา ชงฺฆเปสนิเกน วา’’ติ (ปารา. ๔๓๗) วุตฺตํ เวชฺชกมฺมาทึ กุลทูสนโต วิสุํ กตฺวา ‘‘น เกวลํ…เป… กุทาจน’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ? วิสุํ กาตุํ น วุตฺตํ. โยชนา ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพา ¶ ‘‘น เกวลมิทเมว วุตฺตปฺปการํ ปุปฺผทานาทิกุลทูสนํ กุทาจนํ อกตฺตพฺพํ, อถ โข เวชฺชกมฺมาทิ กุลทูสนมฺปิ กุทาจนํ น กตฺตพฺพ’’นฺติ. เวชฺชกมฺมาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน วกฺขมานปริตฺโตทกสุตฺตทานอนามฏฺปิณฺฑทานทูเตยฺยชงฺฆเปสนิเก สงฺคณฺหาติ.
๔๗๙. ‘‘กุทาจนํ น กตฺตพฺพ’’นฺติ สามฺเน นิเสเธตฺวา อิทานิ ‘‘กตฺตพฺพ’’มิจฺจาทินา อปวาทวิธึ ทสฺเสติ. ปฺจนฺนํ สหธมฺมินนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนิสิกฺขมานสามเณรสามเณรีนํ ปฺจนฺนํ สห สทฺธึ จริตพฺโพ ปพฺพชฺชาสาสนธมฺโม เอเตสํ อตฺถีติ ‘‘สหธมฺมิกา’’ติ สงฺขํ คตานํ. อกตวิฺตฺตึ กตฺวาปีติ อฺาตกอปฺปวาริเต เภสชฺชํ ยาจิตฺวาปิ ‘‘วเทยฺยาถ ภนฺเต เยนตฺโถ’’ติ เอวํ อกตฏฺาเน วิฺตฺติ อกตวิฺตฺติ. อตฺตโน ธเนติ สสนฺตกวิสเย.
๔๘๐. ‘‘ตถา’’ติ สหธมฺมิกานํ วุตฺตมติทิสติ. ตทุปฏฺากชนฺตุโนติ เตสํ ทฺวินฺนํ มาตาปิตูนํ เวยฺยาวจฺจกรสฺส. ภณฺฑุกสฺสาติ คิหิลิงฺเค ิตสฺสาปิ ปพฺพชฺชาเปกฺขสฺส. อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺสปีติ อตฺตโน กมฺมกรสฺสปิ. เอตฺตกานฺจ ชนานํ ปฺจสหธมฺมิกานํ วิย อกตวิฺตฺติยาปิ เภสชฺชํ กาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๔๘๑. เชฏฺภาตาติ อตฺตโน ปุพฺพโช ภาตา. กนิฏฺโติ อนุโช ภาตา. ตถา ภคินิโย ทุเวติ เชฏฺกนิฏฺา ทฺเว ภคินิโย. จูฬมาตาติ มาตุ กนิฏฺา. จูฬปิตาติ ปิตุ กนิฏฺโ. มหามาตาติ มาตุ เชฏฺา. มหาปิตา ปิตุ เชฏฺภาตา.
๔๘๒. ปิตุจฺฉาติ ปิตุภคินี เชฏฺกนิฏฺา. มาตุโลติ มาตุ ภาตา. เชฏฺกนิฏฺเ ทฺเว ปิตุจฺฉา ¶ , ทฺเว มาตุเล ¶ จ เอกโต กตฺวา ‘‘ทสา’’ติ วุตฺตํ. เภสชฺชํ กาตุํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ.
๔๘๔. ‘‘ทสฺสนฺติ เม อิเม’’ติ อาโภคํ กตฺวา วา ทาตพฺพนฺติ โยชนา.
๔๘๕. เอเตสํ ทสนฺนํ าตีนํ. ยาว สตฺตมา กุลาติ เอตฺถ กุลปริจฺเฉโท กถํ คเหตพฺโพติ? ‘‘สปุตฺตทารํ ภาตุ กุฏุมฺพํ เอกํ กุลํ, เอวํ ตสฺส ปุตฺตสฺส วา ธีตุ วา กุฏุมฺพํ เอกํ กุล’’นฺติ เอวมาทินา นเยน ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา คเหตพฺพา. ‘‘สปุตฺตปติภคินิยา กุฏุมฺพํ เอกํ กุลํ, ตถา ตสฺส ปุตฺตสฺส วา ธีตุ วา กุฏุมฺพํ เอกํ กุล’’นฺติอาทินา นเยน ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา คเหตพฺพา. จูฬมาตาทีนมฺปิ กุลปรมฺปรา อิมินา นิยาเมน คเหตพฺพาติ วทนฺติ. กุลทูสนํ น รูหตีติ ‘‘ทาตุํ ปุปฺผํ ปนฺสฺส, อาคตสฺเสว าติโน’’ติอาทินา (วิ. วิ. ๔๔๓) นเยน กถิตวิธินา เอเตสุ ปวตฺตนฺตสฺส กุลทูสนํ น รุหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๘๖. ภาตุชายาติ อตฺตโน เชฏฺสฺส วา กนิฏฺสฺส วา ภาตุ ภริยา. ภคินิสามิโกติ อตฺตโน เชฏฺาย วา กนิฏฺาย วา ภคินิยา สามิโก.
๔๘๗. ภาตุโนติ เชฏฺสฺส, กนิฏฺสฺส จ ภาตุโน. อนุ ปจฺฉา ชาตาติ อนุชา, กนิฏฺภคินี. ‘‘อนุชา’’ติ อุปลกฺขณนฺติ เชฏฺายปิ สงฺคโห. เชฏฺกนิฏฺภาตูนํ ภริยา จ เชฏฺกนิฏฺภคินีนํ สามิกา จ สเจ อฺาตกา โหนฺตีติ โยชนา. เทถาติ เอตฺถ ‘‘อิมํ เภสชฺช’’นฺติ ปาเสโส.
๔๘๘. เตสมฺปิ ¶ ภาตุภคินีนํ. ‘‘ปุตฺตาน’’นฺติ อิมินา ธีตูนมฺปิ สงฺคโห. กตฺวาติ วตฺวา. ตุมฺหากํ มาตาปิตูนํ เทถาติ เอตฺถาปิ ‘‘อิมํ เภสชฺช’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. มาตาปิตูนนฺติ อุภยสงฺคาหกวจนโต ‘‘ตุยฺหํ มาตุ วา, ตุยฺหํ ปิตุ วา’’ติ ยถาสมฺภวํ วิสุํ วิสฺุจ วตฺตพฺพํ. เตสนฺติ จ ตุมฺหากนฺติ จ สามิวจนํ. ปุตฺตานนฺติ จ มาตาปิตูนนฺติ จ สมฺปทานวจนํ.
๔๘๙. เภสชฺชกรณารหานํ ¶ วตฺตพฺพตาย ‘‘อกลฺลโก’’ติ อิทํ อิสฺสราทิปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. อกลฺลโกติ อาตุโร. กลฺลํ วุจฺจติ สุขํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ กลฺลโก, น กลฺลโก อกลฺลโก. าติชนุชฺฌิโต วาติ าติชเนน ปริจฺจตฺโต วา.
๔๙๐. เอเตสํ สพฺเพสนฺติ อิสฺสราทิอาตุรานํ สพฺเพสเมเตสํ ชนานํ. ‘‘สาธุนา’’ติ วกฺขมานตฺตา อปจฺจาสีสตา สตาติ เอตฺถ สตาติ กิริยาปทํ. ‘‘อิมสฺมึ กเต อิเม มยฺหํ เอวรูปํ ทสฺสนฺตี’’ติ อตฺตโน อตฺถาย ปจฺจาสีสนํ อกโรนฺเตนาติ อตฺโถ. ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุปการตํ ปจฺจาสีสนฺเตน กาตุํ วฏฺฏติ. ปฏิสนฺถาโรติ อามิสปฏิสนฺถาโร, ธมฺมปฏิสนฺถาโรติ ทุวิโธ ปฏิสนฺถาโร. เอตฺถ อามิสปฏิสนฺถาโร คยฺหติ. เภสชฺชํ อามิเสนปิ โหตีติ ธมฺมกถาย สงฺคโหปิ ยุชฺชเตว. ปฏิสนฺถรณํ ปฏิสนฺถาโร. ปฏิลทฺธามิสสฺส จ ธมฺมสฺส จ เตสุ จ อตฺตนิ จ ปติรูเปนากาเรน สมํ อตฺถรณํ ปวตฺตนนฺติ อตฺโถ.
อปโร นโย – อามิสสฺส จ ธมฺมสฺส จ อลาเภน อตฺตโน, ปรสฺส จ อนฺตเร สมฺภวนฺตสฺส ฉิทฺทสฺส วิวรสฺส เภทสฺส ปฏิสนฺถรณํ ปิทหนํ สงฺคหณํ ปฏิสนฺถาโร. อยฺหิ โลกสนฺนิวาโส อลพฺภมาเนน อามิเสน จ ธมฺเมน ¶ จาติ ทฺวีหิ ฉิทฺโท, ตสฺส ตํ ฉิทฺทํ ยถา น ปฺายติ, เอวํ ปีสฺส วิย ปจฺจตฺถรเณน อามิเสน, ธมฺเมน จ ปฏิสนฺถรณํ ‘‘อามิสปฏิสนฺถาโร, ธมฺมปฏิสนฺถาโร’’ติ วุจฺจตีติ. สาธุนาติ สามีจิปฺปฏิปนฺนตาทิอริยธมฺเม ปติฏฺิตุกาเมน อริยาจาเรน ภิกฺขุนาติ อตฺโถ. ‘‘อธุนา’’ติ อิทํ อิมิสฺสา ปฏิปตฺติยา สพฺพกาลํ ปฏิปชฺชิตพฺพตายปิ ปาปชนกณฺหกสํคาเม อิมสฺมึ วิปนฺนกาเล วิเสเสน อปฺปมตฺเตน ปวตฺเตตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ.
๔๙๑-๒. เกนจีติ อุปลกฺขณตฺตา อุปาสเกน วา อุปาสิกาย วาติ อตฺโถ. หตฺเถนาติ หตฺถาวยวา องฺคุลิโย วุตฺตา สมุทาเย ปวตฺตสฺส โวหารสฺส อวยเว ปวตฺตนโต. กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปริตฺต’’นฺติ ปาเสโส, กโรติสฺส กิริยาสามฺเ วตฺตนโต ภณิตฺวาติ อตฺโถ. เตสเมว จ สนฺตกนฺติ ปริตฺตํ ภณาเปนฺตานเมว สนฺตกํ สุตฺโตทกํ. เอวํ วุตฺตตฺตา ‘‘อตฺตโน สุตฺโตทกํ อาหริตฺวา ปฺุตฺถาย อิทํ หตฺเถน จาเลตฺวา, อามสิตฺวา วา ปริตฺตํ ภณถา’’ติ วุตฺเต เกนจิ ปริตฺโตทกํ สุตฺตํ กาตพฺพํ. เกนจิ ‘‘ปริตฺโตทกสุตฺตานิ เทถา’’ติ วุตฺเต ¶ ภิกฺขุนา เตสเมว สนฺตกํ ชลํ หตฺเถน จาเลตฺวา สุตฺตกํ มทฺทิตฺวา ปริตฺตํ กตฺวา ทาตพฺพนฺติ โยชนา.
๔๙๓. อนามฏฺโปีติ หตฺเถน อนามสิโตปิ, อปพฺพชิตสฺส หตฺถโต ลทฺธา อตฺตนา วา อฺเน วา ภิกฺขุนา อคหิตคฺโคติ วุตฺตํ โหติ.
๔๙๔. โจรทามริกสฺส จาติ คามวิโลปกสฺส โจรสฺส จ.
๔๙๕. ปณฺฑุปลาสสฺสาติ ¶ ปพฺพชฺชาเปกฺขสฺส ภณฺฑุกสฺส, ปณฺฑุวณฺโณ ปลาโส ปณฺฑุปลาโส, โส วิยาติ ปณฺฑุปลาโส, ตํสทิเส ตพฺโพหาโร ‘‘สีโหยํ มาณวโก’’ติอาทีสุ วิย. ยถา ปณฺฑุปลาโส รุกฺขา ปตนาภิมุโข ติฏฺติ นิยตปาโต, เอวมยมฺปิ คิหิลิงฺคโต อปคมาภิมุโข ปพฺพชฺชูปคมเน นิยโตว ติฏฺตีติ ‘‘ปณฺฑุปลาสสทิโส’’ติ เวทิตพฺโพ.
ถาลเกปิ จาติ อตฺตโน ปริโภคถาลเกปิ. อิทฺจ นิทสฺสนมตฺตํ, ปตฺโตปิ คหิโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ. เปตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปิณฺฑปาต’’นฺติ อุปโยควเสน สมฺพนฺธนียํ. ตํ ปนาติ อตฺตโน ปริโภคถาลเก เปตฺวา ทิยฺยมานํ ปิณฺฑปาตํ. ‘‘มาตาปิตูน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๖-๔๓๗) อฏฺกถาวจนโต เอตฺถ ‘‘ปิตุโน’’ติ อุปลกฺขณนฺติ มาตาปิตูนมฺปีติ อตฺโถ. สเจ เอกเสโส อิจฺฉิโต, ‘‘ปิตูนมฺปี’’ติ ปาโ ยุชฺชติ.
๔๙๖. ชงฺฆเปสนิยนฺติ คิหีนํ ทูเตยฺยสาสนหรณกมฺมํ ‘‘ชงฺฆเปสนิย’’นฺติ วุจฺจติ. อปิ จาติ วุตฺตสมุจฺจโย.
๔๙๗. เอตฺตาวตา สามฺวิธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อปวาทวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ภณฺฑู’’ติอาทิ วุตฺตํ. สาสนนฺติ สนฺเทสํ. หริตุนฺติ วุตฺตฏฺานํ เนตุํ.
๔๙๘. อฏฺวิเธนปีติ ปุปฺผทานาทิชงฺฆเปสนิยาวสาเนน อฏฺปฺปกาเรนปิ. กุลทูสนกมฺเมนาติ กุลานํ สทฺธาวินาสเกน อนาจารกมฺเมน. ลทฺธนฺติ เอตฺถ ‘‘โภชน’’นฺติ อิทํ ‘‘ภฺุชิตุ’’นฺติ จ ‘‘อชฺโฌหาเรสู’’ติ จ วุตฺตตฺตา, ‘‘เสเสสุปิ อยํ นโย’’ติ วกฺขมานตฺตา ¶ จ ลพฺภติ. ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ เอเกนาปิ กุลทูสเนน กมฺเมน อุปฺปาทิตปจฺจโย ¶ สพฺเพสมฺปิ น วฏฺฏตีติ ‘‘ปฺจนฺนํ สหธมฺมีนํ น จ วฏฺฏตี’’ติ สพฺพปฏิเสโธ กโต.
๔๙๙. สพฺพตฺถาติ ‘‘อชฺโฌหาเรสู’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ, สพฺเพสูติ อตฺโถ. ‘‘อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร’’ติ อฏฺกถาคตํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อชฺโฌหาเรสู’’ติ อิทํ ปรคลํ กาตพฺพํ อามิสํ สนฺธายาห. เสสปจฺจเย ปฏิจฺจ ปริโภควเสเนว ‘‘เสเสสู’’ติ อาห, อนชฺโฌหรณีเยสุ เสสปจฺจเยสูติ อตฺโถ. กึ วุตฺตํ โหติ? จีวรปจฺจเย สรีรโต โมเจตฺวา ปริโภคคณนาย, เสนาสนปจฺจเย นิพฺพโกเส อุทกปตนฏฺานโต อพฺภนฺตรํ ปวิฏฺวารคณนาย, มฺจปีาทิเสนาสเน นิสีทนสยนาทิปริโภคคณนาย, อนชฺโฌหริตฺวา อพฺภฺชนาเลปนาทิวเสน กาตพฺพเภสชฺเช สรีรโต โมเจตฺวา วารคณนายาติ วุตฺตํ โหติ. อยํ นโยติ ‘‘ทุกฺกฏํ ปริทีปิต’’นฺติ วุตฺโต นโย.
๕๐๐. ‘‘อุปฺปนฺนปจฺจยา’’ติ อิทํ ‘‘อภูตาโรจเนนา’’ติ อิทมเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ. ‘‘กตฺวา รูปิยโวหาร’’นฺติ อิทมเปกฺขิตฺวา ‘‘อุปฺปาทิตปจฺจยา’’ติ โยชนา กาตพฺพา. รูปิยโวหารวินิจฺฉโย นิสฺสคฺคิเย อาวิ ภวิสฺสติ. อภูตาโรจนวินิจฺฉโย จตุตฺถปาราชิเก วุตฺโต. สมานาติ ปกาสิตาติ กุลทูสนกมฺเมน อุปฺปาทิตปจฺจเยหิ สทิสาติ อฏฺกถายํ วุตฺตาติ อตฺโถ. อิมินา ตตฺถาปิ วินิจฺฉโย เอตฺตโกเยวาติ อติทิสติ.
๕๐๑. ‘‘สํสารวาโส ทุกฺข’’นฺติ ตฺวา นิพฺพานาธิคเม มานสํ พนฺธิตฺวา นิพฺพานคามินึ ปฏิปทํ สนฺธาย สาสนาวติณฺเณน สิกฺขากาเมน กุลปุตฺเตน เสวิตกฺขเณเยว ชีวิตหรณสมตฺถวิสมิสฺสปูติมุตฺตํ ¶ วิย วชฺชนียํ อกปฺปิยปจฺจยํ อุปฺปาเทตุํ กริยมานํ อกปฺปิโยปายปฺปการํ เอกโต ทสฺเสตุมาห ‘‘วิฺตฺตี’’ติอาทิ. ตตฺถ วิฺตฺติ ยาจนา. อนุปฺปทานนฺติ ปิณฺฑปฏิปิณฺฑทานํ. เวชฺชกมฺมํ วุตฺตนยเมว. อเนสนํ นาม อปฺปิจฺฉตาย อนนุรูเปน ปโยเคน ปจฺจยปริเยสนํ.
ปาริภฏฺยตา นาม อิสฺสเร เสวิตุํ ปริวาเรตฺวา เตสํ จิตฺตรุจิตํ วิลปนฺตานํ ปริภฏานํ เสวกชนานํ วิย ลาภตฺถิกสฺส ภิกฺขุโน ปจฺจยทายเกสุ ปวตฺตีติ เวทิตพฺโพ. ปริ สมนฺตโต ภฏติ เสวตีติ ปริภโฏ, อิสฺสรชนานํ สมีปาวจโร เสวกชโน, ปริภโฏ วิยาติ ¶ ปริภโฏ, ภิกฺขุ, ปริภฏสฺส กมฺมํ ปาริภฏฺยํ, ตสฺส ภาโว ปาริภฏฺยตา. อถ วา ปริภฏติ ธาติ วิย กุลทารเก องฺเก กรณาทิวเสน ธาเรตีติ ปริภโฏ, ปริภฏสฺส กมฺมํ ปาริภฏฺยํ, ตสฺส ภาโว ปาริภฏฺยตาติ ลาภาสาย ภิกฺขุโน กุลทารเกสุ อนนุโลมิกา ปวตฺติ วุจฺจติ.
มุคฺคสูปตา นาม ปกฺกมุคฺคา วิย ปกฺกาปกฺกพีชมิสฺสา ลาภาสาย ทายกานํ จิตฺตาราธนตฺถาย สจฺจาลีกมิสฺสกตา. ยถา มุคฺเคสุ ปจฺจมาเนสุ โกจิเทว น ปจฺจติ, พหโว ปจฺจนฺติ, เอวเมว ยสฺส ทายเกหิ สทฺธึ กเถนฺตสฺส กิฺจิเทว สจฺจํ โหติ, อสจฺจเมว พหุกํ โหติ, อยํ วุจฺจติ มุคฺคสูปสทิสตฺตา ‘‘มุคฺคสูโป’’ติ, ตสฺส กมฺมํ มุคฺคสูปํ, ตสฺส ภาโว มุคฺคสูปตา. วตฺถุวิชฺชกํ นาม กูปวตฺถุเคหวตฺถุอาทีนํ อาจิกฺขนํ. วตฺถุวิชฺชายกานํ กตํ วตฺถุวิชฺชกํ.
๕๐๒. ชงฺฆเปสนิยํ, ทูตกมฺมฺจ วุตฺตนยเมว. กุลทูสนนฺติ วุตฺตาวเสสํ. อภูตาโรจนฺจ วุตฺตนยเมว. พุทฺธปฏิกุฏฺนฺติ ¶ พุทฺเธหิ ปฏิกฺโกสิตํ ครหิตํ ยถาวุตฺตํ มิจฺฉาชีวฺจ อวุตฺตฺจ องฺควิชฺชานกฺขตฺตวิชฺชาอุกฺกาปาตทิสาฑาหภูมิจาลาทิเภทํ มิจฺฉาชีวนูปายํ สพฺพํ. วิวชฺชเยติ วิสมิว, คูถมุตฺตํ วิย จ อารกา ปริวชฺเชยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘สิกฺขากาโม กุลปุตฺโต’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
๕๐๓. ปฏินิสฺสชฺชโตปิ ตนฺติ สมนุภาสนกมฺมโต ปุพฺเพ วา ตฺติจตุตฺถาสุ กมฺมวาจาสุ อนฺตกมฺมวาจาย ยฺย-การํ อปฺปตฺตาย วา กุลทูสนกมฺมํ ปชหนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. สงฺฆเภทสมนฺติ ปมสงฺฆเภเทน สมนฺติ.
กุลทูสนกถาวณฺณนา.
๕๐๔. ‘‘ชาน’’นฺติ อิมสฺส ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ เอตสฺส วิเสสนตฺตา ชานตาติ คเหตพฺพํ. ปาฬิยา ลิขิเต สีหฬคณฺิปเท ปน เอวรูปํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสฺมีติ ตฺวาติ อตฺโถ วุตฺโต. ยาวตีหนฺติ ยตฺตกานิ อหานิ, ‘‘ฉาทิตา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ, ฉาทนกิริยาอจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ฉาทิตาติ ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติ สพฺรหฺมจารีนํ อนาโรจนทิวเสน ¶ ปฏิจฺฉาทิตา. อาปตฺตีติ สงฺฆาทิเสสาปตฺติ. อกามาติ อรุจิยาว สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชิตฺวา อกตปฏิกมฺมสฺส สคฺคโมกฺขานํ อนฺตรายกรตฺตาติ อธิปฺปาโย. ปริวตฺถพฺพนฺติ ปริวาสํ สมาทาย วตฺถพฺพํ. กิตฺตกํ กาลนฺติ อาห ‘‘ตาวตีห’’นฺติ, ตตฺตกานิ อหานีติ วุตฺตํ โหติ. อาปชฺชิตฺวา ยตฺตกานิ อหานิ ปฏิจฺฉาเทติ, ตตฺตกาเนว อหานีติ อตฺโถ.
๕๐๕-๖. อาปตฺติ กิตฺตเกน ปฏิจฺฉนฺนา โหตีติ อาห ‘‘อาปตฺติ จา’’ติอาทิ. ตตฺถ อาปตฺติ จาติ สงฺฆาทิเสสาปตฺติ จ. อนุกฺขิตฺโต จาติ อุกฺเขปนียกมฺเมน สยํ อนิสฺสาริโต ¶ จ. ปหู จาติ สยํ สพฺรหฺมจารีนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา อาโรเจตุํ ปโหติ จ. อนนฺตรายิโก จาติ คมนวิพนฺธเกน ราชโจราทิอนฺตราเยน วิรหิโต จ. จตุสฺว ปีติ เอตฺถ ‘‘เอเตสู’’ติ เสโส, เอเตสุ จตูสูติ อตฺโถ. ตํสฺีติ อาปตฺติสฺี อนุกฺขิตฺตสฺี ปหุสฺี อนนฺตรายิกสฺีติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส เอวํสฺิโน อิเมสุ จตูสุ ตถาสฺิโน ปุคฺคลสฺส. ฉาเทตุกามตาติ อาจริยาทีสุ คารเวน วา ครหาทิภยา วา ‘‘น อาโรเจสฺสามี’’ติ ปฏิจฺฉาเทตุกามตา จ. ฉาทนนฺติ ตถา จินฺเตตฺวา ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามํ อาปนฺโน’’ติ อวตฺวา ปฏิจฺฉาทนฺจาติ อิเมหิ ทสหิ องฺเคหิ. ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ กตฺตุนิทฺเทสตฺตา ฉนฺนาติ เอตฺถ ฉาทิตาติ อตฺโถ. กาลวิธึ ทสฺเสติ ‘‘อรุณุคฺคมเนนา’’ติ, อาปตฺติอาปนฺนทิวสํ เขเปตฺวา อรุณุฏฺาเนน สทฺธึ ฉนฺนา โหตีติ อตฺโถ.
ทฺเวภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๐๗. เอวํ ปฏิจฺฉนฺนสงฺฆาทิเสสปฏิกมฺมตฺถํ ‘‘อกามา ปริวตฺถพฺพ’’นฺติ วิหิตสฺส ปริวาสสฺส โก เภโท, โก ปวตฺติกฺกโมติ อาห ‘‘ติวิโธ’’ติอาทิ. โส ปริวาโส ติวิโธ ทีปิโตติ สมฺพนฺโธ. เกนาติ อาห ‘‘ติวิธาเปตเจตสา’’ติ. ‘‘ติสฺโส วิธา, เสยฺโยหมสฺมีติ วิธา, สทิโสหมสฺมีติ วิธา, หีโนหมสฺมีติ วิธา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๕) วุตฺตวิธาย มานนามเธยฺยโต ติวิธมานโต อปคตจิตฺเตน สมฺมาสมฺพุทฺเธนาติ อตฺโถ.
ปฏิจฺฉนฺนา อาปตฺติ เอตสฺสาติ ปฏิจฺฉนฺโน. อริสาทีนํ อาคติคณตฺตา ตตฺถ ปกฺขิปเนน อ-การปจฺจโย ทฏฺพฺโพ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปฏิจฺฉนฺนาย ทาตพฺโพ’’ติอาทิ.
สุทฺธนฺโตติ ¶ ¶ ‘‘อุโภ โกฏิโย โสเธตฺวา ทาตพฺพปริวาโส สุทฺธนฺโต นามา’’ติ ปาฬิคณฺิปเท วุตฺตตฺตา อุปสมฺปทากาลสงฺขาโต สุทฺโธ ปุพฺพนฺโต, อาโรจิตกาลสงฺขาโต สุทฺโธ อปรนฺโต จ ปริวาสสมาทานกาเล วา ปริวสนกาเล วา อุปปริกฺขิตฺวา ทิฏฺา สุทฺธา อนฺตา อนาปตฺติกาลสงฺขาตา อุโภ โกฏิโย อสฺสาติ กตฺวา สุทฺธนฺตนามโก ปริวาโส จ. เอตฺถ จ เภทาทึ วกฺขติ.
สมฺมา ทิวสาทีนํ โอธานํ ปกฺเขโป ยตฺถ โส สโมธาโน, ปริวาโส. ทิวเสสุ ทิวเส วา อาปตฺตีสุ อาปตฺติโย วา สพฺพา นานาวตฺถุกา อาปตฺติโย เอกโต กตฺวา โอธาย ทาตพฺพปริวาโสติ อตฺโถ. เอตฺถาปิ เภทาทึ วกฺขติ.
๕๐๘. ตตฺราติ เตสุ ตีสุ ปริวาเสสุ. ‘‘โย’’ติ เสโส. อิตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โย ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส, อยนฺติ เอวํ ปกาสิโตติ โยชนา.
๕๐๙-๑๐. ปริวาสทานกาเล วุจฺจมานาย กมฺมวาจาย ปธานลกฺขณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วตฺถุโคตฺตวเสนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘วตฺถู’’ติ สุกฺกโมจนาทิโก วีติกฺกโม วุจฺจติ. อยเมว สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิกํ คํ วาจํ สฺฺจ ตายติ รกฺขตีติ กตฺวา ‘‘โคตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ สชาติยสาธารณวิชาติยวินิวตฺตนวเสน อฺตฺถ คนฺตุํ อทตฺวา วาจํ สทฺทํ, ตพฺพิสยํ สฺฺจ รกฺขติ. อิทํ วตฺถุโคตฺตทฺวยวาจกํ สุกฺกวิสฺสฏฺิกายสํสคฺควิเสสวจนฺจ ‘‘นานาวตฺถุกา’’ติ สามฺวจนฺจาติ อิมินา วจนทฺวเยนาติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺึ กายสํสคฺค’นฺติอาทิวจเนนาปิ ‘นานาวตฺถุกาโย’ติอาทิวจเนนาปิ วตฺถุเจว ¶ โคตฺตฺจ สงฺคหิต’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒). นามาปตฺติวเสน วาติ เอตฺถ สงฺฆาทิเสโสติ สชาติสาธารณนามํ, อาปตฺตีติ สพฺพสาธารณนามนฺติ ทฺวีหิ นาเมหิ ตํตํวีติกฺกมวเสน อาปชฺชิตพฺพโต ตเทว อาปตฺตีติ เอวมุภินฺนํ นามาปตฺตีนํ วเสน วาติ อตฺโถ.
กมฺมวาจา หิ กาตพฺพาติ ‘‘วตฺถุโคตฺตวเสนาปี’’ติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท ‘‘นามาปตฺติวเสน วา’’ติ เอตฺถ สงฺฆาทิเสโสติ สชาติสาธารณนามํ, อาปตฺตีติ สพฺพสาธารณนามนฺติ ทฺวีหิ นาเมหีติ อิทํ สมุจฺจิโนตีติ อุภยํ เอกโต โยเชตฺวา กมฺมวาจา กาตพฺพาติ. ‘‘นามาปตฺติวเสน ¶ วา’’ติ เอตฺถ วิกปฺปตฺเถน วา-สทฺเทน, ‘‘อหํ ภนฺเต สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนาโย’ติ เอวํ นามมตฺตวเสน วา โยชนา กาตพฺพา’’ติ อฏฺกถาย วุตฺตวิเสสนิวตฺตนตฺถมตฺตสทฺทวเสน จ วตฺถุโคตฺตวิรหิเตน เกวเลน นามาปตฺติมตฺเตน ปโยเชตฺวา กาตพฺพาเยวาติ วุตฺตํ โหติ. กมฺมวาจาย กรณปฺปกาโร ปน สมุจฺจยกฺขนฺธเก อาคตนเยน อาปนฺนปุคฺคลนาเมน จ เอกาหปฏิจฺฉนฺนาทิวจเนน จ โยเชตฺวา ทฏฺพฺโพ. ตสฺส ทาตพฺโพติ โยชนา. ‘‘ปริวาโส’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ, ปฏิจฺฉนฺนาปตฺติกสฺส ปุคฺคลสฺส ปริวาโส ทาตพฺโพติ อตฺโถ.
เตน จาติ ลทฺธปริวาเสน อนฺโตสีมาย อุกฺกุฏิกํ นิสินฺเนน ปคฺคหิตฺชลินา ภิกฺขุนา จ. สมาทิยิตฺวาติ เอตฺถาปิ ‘‘วตฺต’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ‘‘สมาทาเนปฺยยํ นโย’’ติ (วิ. วิ. ๕๑๔) วกฺขมานตฺตา ‘‘วตฺตํ สมาทิยามิ, ปริวาสํ สมาทิยามี’’ติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ อฺตรํ วา ทฺวยเมว วา ติกฺขตฺตุํ วตฺวา ปาริวาสิกกฺขนฺธเก วุตฺตวตฺตปูรณตฺถํ สมาทิยิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อาทิโต สงฺฆสฺส อาโรเจตพฺพนฺติ โยชนา. ตถา ¶ วตฺตํ สมาทิยิตฺวา นิสินฺเนน ปมํ สงฺฆสฺส ‘‘อหํ ภนฺเต เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนํ, โสหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสามิ, เวทยามาหํ ภนฺเต, เวทยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ เอวํ อาโรเจตพฺพํ.
‘‘อิมฺจ ปนตฺถํ คเหตฺวา ยาย กายจิ วาจาย อาโรเจตุํ วฏฺฏติเยวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถาวจนโต ยาย กายจิ ภาสายปิ อาโรเจตุํ วฏฺฏติ.
๕๑๑. ปุนปฺปุนาคตานนฺติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ เสโส. ปุพฺเพ อาโรจนฏฺานํ อสมฺปตฺตานํ อาคนฺตุกานํ ภิกฺขูนมฺปิ. อาโรเจนฺโตวาติ เอกสฺส อาโรจเน โส เจ วุฑฺฒตโร โหติ, ‘‘ภนฺเต’’ติ วตฺวา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วตฺวา, นวโก เจ, ‘‘อาวุโส’’ติ วตฺวา อวสาเน ‘‘มํ อายสฺมา ธาเรตู’’ติ, ทฺเว เจ โหนฺติ, ‘‘มํ อายสฺมนฺตา ธาเรนฺตู’’ติ, ตโย เจ, ‘‘มํ อายสฺมนฺโต ธาเรนฺตู’’ติ วตฺวา อาโรเจนฺโตว. รตฺติยา เฉทํ อกตฺวาติ ‘‘ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน’’ติอาทินา (จูฬว. ๘๑) นเยน วุตฺตเอกเสนาสเน ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ อรุณุฏฺาปนวเสน ¶ กริยมาเนน สหวาเสน วา ‘‘ปกตตฺตภิกฺขูหิ วินา เอกเกน วาโส’’ติ วุตฺตวิปฺปวาเสน วา ‘‘อาคนฺตุกานํ อาโรจนาย อกรณ’’นฺติ วุตฺตอนาโรจเนน วา สมฺภวนฺตํ รตฺติจฺเฉทมกตฺวา. วตฺตเภทํ อกตฺวา วา ปาริวาสิกกฺขนฺธเก ปาริวาสิกสฺส ปฺตฺตวตฺตโต เอกมฺปิ อหาเปตฺวา จ. สทา วเสติ ปริวาสํ วสิตุํ ¶ ปริกปฺปิตา สพฺพทิวสา ยาว ขิณนฺติ, ตาว วเสยฺยาติ อตฺโถ.
๕๑๒. ตตฺถ ปริวาโส วิโสเธตุํ น สกฺกา เจติ ตสฺส วิหารสฺส มหนฺตตฺตา อาคเต อาคนฺตุกภิกฺขู ปริเยสิตฺวา อาโรเจนฺเตน รตฺติจฺเฉทํ อกตฺวา ปริวาสํ โสเธตุํ น สกฺกา เจ โหติ. ตํ วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวานาติ ตถา สมาทินฺนํ วตฺตํ อุปริ วกฺขมานนเยน นิกฺขิปิตฺวา.
๕๑๓. กตฺถ นิกฺขิเปยฺยาติ อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺเถว สงฺฆมชฺเฌ วาติ อตฺตโน ยสฺมึ วตฺตํ สมาทินฺนํ, ตสฺมึเยว สงฺฆมชฺเฌ วา. ปุคฺคเล วาติ ภิกฺขูสุ อุฏฺาย ตตฺถ ตตฺถ คเตสุ อนฺโตสีมายเยว โอหีเน เอกภิกฺขุมฺหิ วา อสติยา พหิสีมํ คเตน สริตกฺขเณ อตฺตนา สทฺธึ คจฺฉนฺเต ตสฺสาเยว ปริสาย ปริวาสทาเน สมฺมุขีภูเต ปุคฺคเล วา อาคนฺตุกภิกฺขุ เจ, ตสฺส วา สนฺติเก อาโรเจตฺวา วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. กถํ นิกฺขิเป’ติ อาห ‘‘นิกฺขิปามี’’ติอาทิ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘นิกฺขิปามี’’ติ เอตํ ปจฺจามสติ. ตํ วตฺตนฺติ อตฺตนา สมาทินฺนํ ตํ วตฺตํ.
๕๑๔. อยํ นโยติ ‘‘เอกปเทนาปิ ทฺวีหิ ปเทหิ วา ปนา’’ติ เอวํ อนนฺตโรทิตนโย.
๕๑๕-๒๐. ปกตตฺโตติ วุจฺจตีติ สคฺคโมกฺขาวรณาภาเวน ปกโต ปุพฺพสรูเปเนว ิโต อตฺตา เอตสฺสาติ ‘‘ปกตตฺโต’’ติ กถียติ. ปจฺจูสกาลสฺมินฺติ อรุณโต ปุริมกาเล.
ปริกฺขิตฺตวิหารสฺสาติ เอตฺถ ปาการาทีหิ ปริกฺขิตฺตํ เอกมฺปิ เสนาสนํ วิหรนฺติ อสฺมินฺติ กตฺวา ตถา วุจฺจติ. ทฺเว ¶ เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺมาติ โยชนา. เลฑฺฑุปาตทฺวยสฺส อวธึ ทสฺเสติ ‘‘ปริกฺเขปโต พหี’’ติ, ‘‘อปริกฺขิตฺตโต ปริกฺเขปารหฏฺานา พหี’’ติ จ.
ปริกฺเขปารหฏฺานํ ¶ นาม กตมนฺติ? วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑) ธุตงฺคนิทฺเทเส ‘‘มชฺฌิมฏฺกถายํ ปน วิหารสฺสาปิ คามสฺเสว อุปจารํ นีหริตฺวา อุภินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อพฺภนฺตรา มินิตพฺพ’นฺติ วุตฺตํ. อิทเมตฺถปมาณ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อปริกฺขิตฺตสฺส ปมเลฑฺฑุปาตํ โหติ, คาเม วุตฺเตน วิธินา วิหารปริยนฺเต ิตภตฺตสาลคิลานสาลาทิเสนาสเน เจ ปริกฺเขโป อตฺถิ, ตตฺถ วา, นตฺถิ เจ, นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺาเน ิเตน มาตุคาเมน ฉฑฺฑิตภาชนโธวโนทกปตนฏฺาเน วา เสนาสนโต ทูเร เจติยงฺคเณ, โพธิยงฺคเณ วา ตฺวา พลมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส หตฺถํ ปสาเรตฺวา อตฺตโน พลปฺปมาเณน ขิตฺตสฺส มุฏฺิยา คหิตปาสาณสฺส ปตนฏฺานํ วิหารูปจาโร นาม, ตเทว ปาการาทีหิ ปริกฺเขปารหฏฺานํ นาม. ตตฺถ ตฺวา ตเถว ขิตฺตสฺส ปาสาณสฺส ปตนฏฺานํ เอโก เลฑฺฑุปาโต, ตตฺถาปิ ตฺวา ตเถว ขิตฺตสฺส ปาสาณสฺส ปตนฏฺานํ เอโก เลฑฺฑุปาโตติ เอวํ ทฺเว เลฑฺฑุปาตา คเหตพฺพา.
มคฺคโต โอกฺกมิตฺวาติ มคฺคโต อปสกฺกิตฺวา. คุมฺเพนาติ รุกฺขคหเนน วา ลตาคหเนน วา. วติยาติ กณฺฏกสาขาทีหิ กตาย วติยา.
วตฺตมาทายาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน วตฺตํ สมาทิยิตฺวา. อาโรเจตฺวาติ ยถาวุตฺตนเยน อาโรเจตฺวา.
นิกฺขิปิตฺวาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา. ภิกฺขูติ อตฺตนา สทฺธึ หตฺถปาสทานตฺถาย อาคโต ภิกฺขุ. ยสฺส กสฺสจีติ เอตฺถ ‘‘สนฺติเก’’ติ เสโส.
อาโรเจตฺวา ¶ วาติ อตฺตโน นวกตโร เจ, ‘‘อาวุโส’’ติ, วุฑฺโฒ เจ, ‘‘ภนฺเต’’ติ วตฺวา ยถาวุตฺตนเยเนว อาโรเจตฺวา. เสสนฺติ อวเสสวินิจฺฉยํ. สมุจฺจยสฺสาติ จูฬวคฺคาคตสฺส ตติยสมุจฺจยกฺขนฺธกสฺส. อฏฺกถายจาติ ‘‘สเจ อฺโ โกจิ ภิกฺขุ เกนจิเทว กรณีเยนา’’ติอาทินา (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถาคตวินิจฺฉเยนาปิ.
วิภาวเยติ ‘‘สเจ ยํ ภิกฺขุํ ตตฺถ อาคตํ ปสฺสติ, ภาสมานสฺส สทฺทํ สุณาติ, ตสฺส อาโรเจตพฺพํ. ตถา อกโรนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท จ วตฺตเภโท จ โหติ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. สเจ โส ทฺวาทสรตนพฺภนฺตรํ ปตฺวา ตสฺส อชานนฺตสฺเสว ปกฺกนฺโต โหติ, รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภโท ¶ . สเจ อตฺตนา สทฺธึ อาคโต เกนจิเทว กรณีเยน คโต โหติ, วิหารํ คนฺตฺวา ยํ ปมํ ปสฺสติ, ตสฺส สนฺติเก อาโรเจตฺวา วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. เอวํ ปริกปฺปิตทิวเส ปุณฺเณ กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํ อติเรเก จ ทิวเส วตฺตํ ปูเรตฺวา ปริโยสาเน วตฺเต อสมาทินฺเน มานตฺตารโห น โหตีติ สงฺฆํ อุปสงฺกมฺม วตฺตํ สมาทิยิตฺวา ขนฺธเก อาคตนเยเนว มานตฺตํ ยาจิตพฺพํ. อนิกฺขิตฺตวตฺเตน จริตุกามสฺส ปุน วตฺตสมาทานํ กาตพฺพํ น โหตี’’ติ เอตฺตโก วิเสโส, อิมํ อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ปกาเสยฺยาติ วุตฺตํ โหตีติ.
ปฏิจฺฉนฺนปริวาสกถาวณฺณนา.
๕๒๑. น ชานตีติ เอตฺถ ฉนฺทวเสน รสฺโส กโต. อาปตฺตีนฺจ รตฺตีนํ, ปริจฺเฉทํ น ชานตีติ พหู สงฺฆาทิเสเส อาปชฺชิตฺวาปิ ‘‘เอตฺตกาหํ อาปตฺติโย อาปนฺโน’’ติ อตฺตโน อาปนฺนสงฺฆาทิเสสาปตฺตีนํ ปริจฺเฉทํ ¶ น ชานาติ, ‘‘มยา อาปนฺนาปตฺติ เอตฺตเก ทิวเส ปฏิจฺฉนฺนา’’ติ ทิวสปริจฺเฉทํ น ชานาติ.
๕๒๒. อิทานิ ตสฺส ปเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอเสวา’’ติอาทิ. ปริสุทฺเธหีติ สกลสํกิเลสปฺปหาเนน ปริสุทฺธสนฺตาเนหิ อุปาลิตฺเถราทิปุพฺพาจริเยหิ. เอโสว สุทฺธนฺโตติ เอโส ยถาวุตฺตสรูโป สุทฺธนฺตปริวาโส. จูฬสุทฺธนฺตนาโม จาติ ‘‘โย อุปสมฺปทโต ปฏฺาย อนุโลมกฺกเมน วา’’ติอาทินา (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน อุปสมฺปทมาฬกโต ปฏฺาย อนุโลมวเสน วา อาโรจิตทิวสโต ปฏฺาย ปฏิโลมวเสน วา สรนฺเต ‘‘กิตฺตกานิ ทิวสานิ ปริสุทฺโธติ สรสี’’ติ วินยธเรหิ ปุจฺฉิเต ‘‘เอตฺตกํ กาลํ ปริสุทฺโธสฺมี’’ติ วุตฺตวโต เตน วุตฺตสุทฺธทินานิ ปริยนฺตํ กตฺวา ทินฺโน ยาว อุปสมฺปนฺนทิวโส, ตาว พหุทิวเสสุ เนตพฺพํ มหาสุทฺธนฺตํ สนฺธาย อิตรทินานํ ปูเรตพฺพตฺตา จูฬสุทฺธนฺโต นามาติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘อยฺหิ สุทฺธนฺตปริวาโส นาม อุทฺธมฺปิ อาโรหติ, เหฏฺาปิ โอโรหติ, อิทมสฺส ลกฺขณ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) วุตฺตตฺตา อิมํ ปริวาสํ ปริวสนโต ปจฺฉา ทิวสํ สรนฺโต ปริกปฺเปตฺวา โยเชตฺวา คหิตทิวสโต วฑฺเฒติ วา หาเปติ วา, อุภยตฺถาปิ ‘‘ปุน ปริวาสทานกิจฺจํ นตฺถี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) วจนโต ปุพฺเพ ทินฺนปริวาโสเยว ปมาณํ ¶ . ‘‘เอตสฺส อปฺปฏิจฺฉนฺนํ ‘ปฏิจฺฉนฺนา’ติ วา อจิรปฏิจฺฉนฺนํ ‘จิรปฏิจฺฉนฺนา’ติ วา อสมฺพหุลมฺปิ ‘สมฺพหุลา’ติ วา วิปรีตโต คเหตฺวา วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺส อาปตฺติโต วุฏฺานํ โหติ, ปฏิจฺฉนฺนํ ‘อปฺปฏิจฺฉนฺนา’ติอาทิวิปริยาเยน น โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒ อตฺถโต สมานํ) อฏฺกถาคตนโย เวทิตพฺโพ.
มหาสุทฺธนฺตนามโกติ ¶ ‘‘โย ปน ยถาวุตฺเตน อนุโลมปฏิโลมนเยน ปุจฺฉิยมาโนปิ รตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, เนว สรติ, เวมติโก วา โหติ, ตสฺส ทินฺโน สุทฺธนฺตปริวาโส มหาสุทฺธนฺโตติ วุจฺจตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถายํ นิทฺทิฏฺสรูโป มหาสุทฺธนฺโต นาม. ‘‘อยํ อุทฺธํ นาโรหติ, เหฏฺา ปน โอโรหตี’’ติ วุตฺตตฺตา อยํ ปริวาโส ยาว อุปสมฺปนฺนทิวโส, ตาว ปูเรตพฺพโต ตโต อุทฺธํ นาโรหติ. อนฺตราเฬ อตฺตโน สุทฺธกาลํ ปริกปฺเปตฺวา สรติ เจ, ตโต ปฏฺาย นิวตฺตนโต ทิวสหานํ ปน โหเตว.
๕๒๓. ‘‘อฺตโร ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปนฺโน โหติ, โส อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาตี’’ติ (จูฬว. ๑๕๖) อาคตวตฺถุมฺหิ อิมสฺส ปริวาสสฺส อนฺุาตตฺตา ตํ วตฺถุํ สงฺคเหตุํ ‘‘อาปตฺตีนํ จา’’ติอาทึ วตฺวาปิ ‘‘อาปตฺติปริยนฺตํ ปน ‘เอตฺตกา อหํ อาปตฺติโย อาปนฺโน’ติ ชานาตุ วา มา วา, อการณเมต’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) ปฏิเสเธตฺวา อฏฺกถายํ ปธานภาเวน วุตฺตรตฺติปริยนฺตสฺส อปริชานนมตฺตเมว ปมาณนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทุวิโธปี’’ติอาทิ. ทุวิโธปิ อยํ สุทฺธนฺตปริวาโส เอกจฺจํ รตฺติปริจฺเฉทํ, สกลํ วา รตฺติปริจฺเฉทํ อชานโต วา วิมติสฺส วา ทาตพฺโพติ โยชนา.
สุทฺธนฺตปริวาสกถาวณฺณนา.
๕๒๔. อิตโรปิ โส สโมธานปริวาโส ติธา มโตติ โยชนา. ธาตุสทฺทานํ อเนกตฺถตฺตา ‘‘โอธาน’’นฺติ มกฺขนํ วุจฺจติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘โอธุนิตฺวา ¶ มกฺเขตฺวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒). ‘‘สโมธาน’’นฺติ ปกฺเขโป วุจฺจติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สโมทหิตฺวา’’ติ. โอธานฺจ สโมธานฺจ โอธานสโมธานํ, ตํ ยตฺถ โส ปริวาโส ‘‘โอธานสโมธาโน’’ติ เวทิตพฺโพ. อริสาทิคเณ อนฺโตคธตฺตา เหตฺถ, อุปริ จ เอวรูเป าเน อ-การปจฺจโย ทฏฺพฺโพ ¶ . ปริวุตฺถทิวสานํ มกฺขนฺจ มูลาปตฺติยํ อนฺตราปตฺตีนํ ปกฺขิปนฺจ ยสฺมึ โส ปริวาโสติ วุตฺตํ โหติ. เตเนเวตฺถ ‘‘ทิวเส ปริวุตฺเถ ตุ, โอธุนิตฺวา ปทียเต’’ติ วกฺขติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปริวุตฺถทิวเส โอธุนิตฺวา มกฺเขตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา มูลทิวสปริจฺเฉเท ปจฺฉา อาปนฺนํ อาปตฺตึ สโมทหิตฺวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒).
อคฺฆปุพฺพโก มิสฺสกปุพฺพโก สโมธานปริวาโสติ โยชนา, อคฺฆสโมธานปริวาโส มิสฺสกสโมธานปริวาโสติ วุตฺตํ โหติ. อคฺโฆ จ มิสฺสโก จ อคฺฆมิสฺสกา, เต ปุพฺพกา เอตสฺสาติ อคฺฆมิสฺสกปุพฺพโก, สโมธาโน. อคฺเฆน สโมธานํ อคฺฆสโมธานํ, ตํ ยตฺถ โส อคฺฆสโมธาโน, อาปนฺนาสุ พหูสุ สพฺพจิรปฏิจฺฉนฺนาปตฺตีนํ ทิวสคณนคฺเฆเนว ปจฺฉา อาปนฺนอาปตฺตีนํ ปกฺเขปยุตฺตปริวาโสติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อคฺฆสโมธาโน นาม สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ ยา เอกา วา ทฺเว วา ติสฺโส วา สมฺพหุลา วา อาปตฺติโย สพฺพจิรปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธาย ตาสํ รตฺติปริจฺเฉทวเสน อวเสสานํ อูนตรปฏิจฺฉนฺนานํ อาปตฺตีนํ ปริวาโส ทิยฺยติ, อยํ วุจฺจติ อคฺฆสโมธาโน’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒). มิสฺสกานํ นานาวตฺถุกานํ อาปตฺตีนํ สโมธานํ มิสฺสกสโมธานํ, ตํ ยตฺถ โส ปริวาโส มิสฺสกสโมธาโน. มิสฺสกานํ นานาวตฺถุกานํ อาปตฺตีนํ เอกโต ปกฺเขปยุตฺโต ปริวาโสติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘มิสฺสกสโมธาโน ¶ นาม โย นานาวตฺถุกา อาปตฺติโย เอกโต กตฺวา ทิยฺยตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒).
๕๒๕-๗. เอวํ ติวิเธ สโมธานปริวาเส ปมปริวาสสฺส วิเสสนภูตตาย อวยวานํ ทฺวินฺนํ โอธานสโมธานสทฺทานํ อตฺถานุวาเทน ตทุภยโอธานสโมธานสรูปํ วิธาตุมาห ‘‘อาปชฺชิตฺวา…เป… ปกาสิโต’’ติ. ตตฺถ ปมสฺส โอธาน-สทฺทสงฺขาตสฺส อวยวสฺส อตฺถสรูปานุวาทมาห ‘‘อาปชฺชิตฺวา…เป… ปทียเต’’ติ. ทุติยาวยวสงฺขาตสโมธาน-สทฺทสฺส อตฺถสรูปานุวาทมาห ‘‘ปุริมาปตฺติยา…เป… ภิกฺขุโน’’ติ. เตเนว อุภยตฺถานุวาเท ‘‘ภิกฺขุโน’’ติ ปททฺวยสฺส, ‘‘ปทียเต ทาตพฺโพ’’ติ กิริยาปททฺวยสฺส จ วิสุํ วิสุํ คหิตตฺตา ปุนรุตฺติโทสาภาโว เวทิตพฺโพ. เอวํ อวยวตฺถานุวาเทน วิธาตพฺพสมุทายํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอโสธานสโมธานปริวาโส ปกาสิโต’’ติ. เอตฺถ ฉาเทนฺตสฺส หีติ หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. เอโสธานสโมธาโนติ เอตฺถ เอต-สทฺทสมฺพนฺเธน ‘‘โย’’ติ ลพฺภติ.
ตตฺรายํ ¶ โยชนา – อาปชฺชิตฺวา…เป… โอธุนิตฺวา โย ยสฺมา ปทียเต, ปุริมาปตฺติยา…เป… โย ยสฺมา ทาตพฺโพ, ตสฺมา เอโสธานสโมธานปริวาโส ปกาสิโตติ.
ตตฺถ อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาติ ปฏิจฺฉนฺนาปตฺติยา ปริวสนฺโต วา มานตฺตารโห วา มานตฺตํ จรนฺโต วา อพฺภานารโห วา หุตฺวา กทาจิ อฺํ สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา. ฉาเทนฺตสฺสาติ ปมํ อาปนฺนาปตฺติยาปฏิจฺฉาทิตกาเลน สมํ วา อูนํ วา กาลํ ปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส. ‘‘มูลายปฏิกสฺสเนน เต ปริวุตฺถทิวเส จ มานตฺตจิณฺณทิวเส ¶ จ สพฺเพ โอธุนิตฺวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถาวจนโต เอตฺถ ‘‘ปริวุตฺเถ’’ติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘มานตฺตจิณฺเณ จา’’ติ คเหตพฺพํ. โอธุนิตฺวาติ จ มูลายปฏิกสฺสนวเสน มกฺเขตฺวา, อทิวเส กตฺวาติ อธิปฺปาโย.
โย ยสฺมา ปทียเต, โส ปริวาโส สฏฺิวสฺสานิ ปริวสิตฺวา มานตฺตารโห หุตฺวาปิ อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา เอกาหมฺปิ ปฏิจฺฉาทิเต มูลายปฏิกสฺสเนน เต ทิวเส สพฺเพ มกฺเขตฺวา ตาเนว สฏฺิวสฺสานิ ปุนปิ ยสฺมา ปทียเตติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สฏฺิวสฺสานิ ปริวสิตฺวา มานตฺตารโห หุตฺวาปิ หิ เอกทิวสํ อนฺตราปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปุนปิ สฏฺิวสฺสานิ ปริวาสารโห โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒).
ปุริมาปตฺติยาติ เตน อาปนฺนาสุ สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ สพฺพาปตฺตีนํ ปุเรตรเมว ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา. มูลทิวเสติ ปมํ วีติกฺกมทิวเส. วินิจฺฉิเตติ ‘‘อสุกสํวจฺฉเร อสุกมาเส อสุกทิวเส’’ติ นิยมิเต. สโมธาย ปกฺขิปิตฺวา ทาตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. วิธานโต ยาจมานสฺสาติ วิธานโต สงฺเฆน ทาตพฺโพติ โยเชตพฺพํ, สมุจฺจยกฺขนฺธเก วุตฺเตน วิธินา ยาจมานสฺส ตตฺเถว วุตฺตวิธินา สงฺเฆน ทาตพฺโพติ อตฺโถ. ‘‘เอโส โอธานสโมธานปริวาโส’’ติ ปทจฺเฉโท.
๕๒๘-๙. ตถา วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. ตาสํ อคฺฆวเสน หีติ หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. ‘‘โสติ ตํสทฺทสมฺพนฺเธน ‘‘โย’’ติ ลพฺภติ. ตตฺรายํ โยชนา – สมฺพหุลา…เป… ตาสํ อคฺฆวเสน ตโต อูนปฏิจฺฉนฺนานํ อาปตฺตีนํ ¶ สโมธาย โย ยสฺมา ปทาตพฺโพ ปริวาโส, ตสฺมา โส ยถา อวยวตฺถวเสน ¶ ‘‘โอธานสโมธาโน’’ติ ปริวาโส วุตฺโต, ตถา ‘‘อคฺฆสโมธาโน’’ติ วุจฺจตีติ.
ตตฺถ สมฺพหุลาสูติ ยาสํ อาปตฺตีนํ ปริวสิตุกาโม, ตาสุ สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ‘‘เอกา วา’’ติอาทิ นิทฺธาริยนิทฺเทโส. ตาสํ อาปตฺตีนํ. อคฺฆวเสนาติ คณนวเสน, รตฺติปริจฺเฉทวเสนาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตาสํ รตฺติปริจฺเฉทวเสนา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒). ‘‘ปทาตพฺโพ’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตโตติ จิรปฏิจฺฉนฺนาปตฺติโต. อูนปฏิจฺฉนฺนานํ อาปตฺตีนนฺติ เอตฺถ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, อูนปฏิจฺฉนฺนาโย อาปตฺติโย สโมธายาติ วุตฺตํ โหติ.
๕๓๐. นานา สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ วตฺถูนิ ยาสํ ตา นานาวตฺถุกา, นานาวตฺถุกา สฺา ยาสํ อาปตฺตีนํ ตา นานาวตฺถุกสฺาโย. สพฺพาติ เอตฺถ ‘‘ยา’’ติ เสโส, สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิกุลทูสนาวสานา ยา สพฺพา เตรส สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโยติ อตฺโถ. ตา สพฺพาติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท วตฺตพฺโพ. ทาตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘ปริวาโส’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตา สพฺพาปิ เอกโต กตฺวา ทาตพฺโพ ปริวาโสติ โยชนา. ตสฺส เตรส สงฺฆาทิเสสาปตฺติโยปิ เอกโต กตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘อหํ ภนฺเต สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ…เป… เอกํ กุลทูสกํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ยาจนาย จ ตทนุรูปาย ตฺติยา จ กมฺมวาจาสุ จ นามํ ¶ วตฺวา ทาตพฺพปริวาโส มิสฺสโก มโต ‘‘มิสฺสกสโมธานปริวาโส’’ติ าโต. ทฺเว, ติสฺโส, จตสฺโส, อติเรกา จ อาปนฺนสฺสาปิ ปริวาสํ เทนฺเตน อิมินา นิยาเมน วตฺถุํ, นามํ วิเสเสตฺวา คเหตพฺพํ.
สโมธานปริวาสกถาวณฺณนา.
๕๓๑. ปริวุตฺถปริวาสสฺสาติ ติวิเธ ปริวาเส อฺตรสฺส วเสน ปริวุตฺถปริวาสสฺส. อุตฺตริ ฉ รตฺติโยติ ปริวาสโต อุตฺตริ ฉ รตฺติโย, ฉ ทิวเสติ วุตฺตํ โหติ, ‘‘จริตุ’’นฺติ เสโส, จรณกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. มานตฺตํ เทยฺยนฺติ โยชนา, ‘‘สงฺเฆนา’’ติ สามตฺถิยา ¶ ลพฺภติ. สมุจฺจยกฺขนฺธเก วุตฺตนเยน โยเชตฺวา ฉารตฺตฺจ ทาตพฺโพ, ภิกฺขุมานนวิธิ ภิกฺขุสฺส ทาตพฺโพติ อตฺโถ.
‘‘ปริวุตฺถปริวาสสฺสา’’ติ อิมินา ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ ปกตํ, ตตฺถ ปเภเท อสติ กสฺมา ‘‘ปฏิจฺฉนฺนาปฏิจฺฉนฺนวสา ทุเว’’ติ วุตฺตนฺติ? ปกตเภทมนเปกฺขิตฺวา ฉารตฺตมานตฺเต ลพฺภมานวิสยเภทํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เอวฺหิ สติ สโมธานมานตฺเต จ ‘‘ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทตู’’ติ (จูฬว. ๑๒๘) ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา ตมฺปิ คเหตฺวา ‘‘ติธา’’ติ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? ตมฺปิ ปฏิจฺฉนฺนาปตฺติยา ปริวุตฺถปริวาสสฺเสว ทาตพฺพมานตฺตนฺติ ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตวจเนเนว สงฺคหิตตฺตา วิสุํ น วุตฺตํ. เตเนว จตุพฺพิเธ มานตฺเต อิเมหิ ทฺวีหิ วินา ทสฺเสตพฺเพสุ ทฺวีสุ มานตฺเตสุ ปกฺขมานตฺตมตฺตํ ‘‘ฉาเทนฺติยา’’ติอาทิคาถาย ทสฺเสตฺวา สโมธานมานตฺตํ วิสุํ น ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๕๓๔-๖. วินิทฺทิฏฺปฺปการนฺติ ‘‘ปริกฺขิตฺตวิหารสฺสา’’ติอาทินา ยถาวุตฺตคาถาทฺวเยน นิทฺทิฏฺปฺปการํ. อาทิยิตฺวาน ตํ ¶ เตสนฺติ เอตฺถ ‘‘สนฺติเก’’ติ วกฺขมานโต ลพฺภติ. เตสํ จตุนฺนํ สมฺมุขา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ตํ วตฺตํ สมาทิยิตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘ตํ เตสํ สนฺติเก’’ติ อิทํ ‘‘อาโรเจตฺวา’’ติ อิมินาปิ ยุชฺชติ. เตสเมว สมฺมุขา นิสินฺเนน ‘‘อหํ ภนฺเต เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺิ’’นฺติอาทินา นเยน สมุจฺจยกฺขนฺธกาคตํ อาโรจนํ กตฺวา. อิมินา อนฺโตอรุเณ ทิฏฺานํ อฺเสมฺปิ อาโรจนํ อุปลกฺขิตํ.
นิกฺขิเป สนฺติเก เตสํ วตฺตนฺติ เอตฺถ ‘‘อรุเณ อุฏฺิเต’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ. อรุเณ อุคฺคเต เตสํ ภิกฺขูนํ สมฺมุขา ยถาวุตฺตนเยเนว นิสีทิตฺวา ‘‘วตฺตํ นิกฺขิปามิ, มานตฺตํ นิกฺขิปามี’’ติ อิเมสุ ทฺวีสุ เอกํ วา ทฺวยเมว วา วตฺวา วตฺตํ นิกฺขิเป.
๕๓๗. ตสฺส มานตฺตสฺส. รตฺติจฺเฉทาทิโกติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน วตฺตเภโท คหิโต. อฏฺกถาวเสน ปาฬิวเสนาติ โยชนา.
๕๓๘. วีสติยา ¶ ภิกฺขูนํ วคฺโค สมูโห วีสติวคฺโค, โส เอว วีสติวคฺคิโก. อพฺเภยฺยาติ โอสาเรยฺย, อพฺภนฺตรํ กเรยฺยาติ อตฺโถ. วิธินาติ สมุจฺจยกฺขนฺธกาคตกฺกเมน. อพฺภิโตติ สํวาเสน อนฺโต กโต, ปกตตฺโตติ ปกติสภาโว, อาปตฺตึ อนาปนฺนกาลสทิโส โหตีติ อตฺโถ.
๕๓๙. อาปตฺตึ ฉาเทนฺติยา ภิกฺขุนิยาติ โยชนา, ‘‘อาปชฺชิตฺวา’’ติ เสโส, อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ‘‘อาปตฺติ จา’’ติอาทินา (วิ. วิ. ๕๐๕) นเยน ปุพฺเพ ทสฺสิเตหิ ทสหิ องฺเคหิ ปฏิจฺฉาเทนฺติยา ภิกฺขุนิยา อตฺตโน อาปตฺตึ ฉาเทนฺติยา ภิกฺขุนิยา. น จ อาปตฺตีติ เอตฺถ ‘‘อตฺตโน’’ติ อิมินา อฺิสฺสา ¶ อาปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทนฺติยา วชฺชปฏิจฺฉาทิกาสงฺขาตปาราชิกาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ อิมินา ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏาปตฺติภาวํ ทีเปติ.
๕๔๑. วิรุทฺธมตฺถํ นยติ ปชหตีติ วินโย, วินิจฺฉโย, ตํ วินยปิฏกตฺถวินิจฺฉยวิเสสวิสยํ สมฺโมหสงฺขาตํ วิรุทฺธํ ปจฺจตฺถิกํ ตทงฺควเสน ปชหนโต วินยนยสงฺขาตํ ตโต เอว อติพุทฺธิทีปนํ, อติสเยน พุทฺธึ ทีเปตีติ อติพุทฺธิทีปนํ, ตํ วินยตฺถวินิจฺฉยกํ าณปทีปํ วิเสเสน ชาเลนฺตํ. วิวิเธหิ นเยหิ ยุตฺตตาย วิวิธนยยุตํ. วินยนเยติ วินยปิฏกสฺส ปรสนฺตานปาปเน, วินยวณฺณนายนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนิยตกถาวณฺณนา
๕๔๒-๓. อิทานิ ¶ สงฺฆาทิเสสกถานนฺตรํ อนิยตกถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘รโหนิสชฺชสฺสาเทนา’’ติอาทิ. รหสิ นิสชฺชา รโหนิสชฺชา, ตสฺสา อสฺสาโท รโหนิสชฺชสฺสาโท, เตน รโหนิสชฺชสฺสาเทน, เมถุนธมฺมสนฺนิสฺสิเตน กิเลเสนาติ อตฺโถ. วุตฺตฺหิ อฏฺกถายํ ‘‘รโหนิสชฺชสฺสาโทติ เมถุนธมฺมสนฺนิสฺสิตกิเลโส วุจฺจตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๕๑). ‘‘รโห นาม จกฺขุสฺส รโห โสตสฺส รโห. จกฺขุสฺส รโห นาม น สกฺกา โหติ อกฺขึ วา นิขณิยมาเน ภมุกํ วา อุกฺขิปิยมาเน สีสํ วา อุกฺขิปิยมาเน ปสฺสิตุํ. โสตสฺส รโห นาม น สกฺกา โหติ ปกติกถา โสตุ’’นฺติ (ปารา. ๔๔๕) ปทภาชเน วุตฺตรเหสุ ¶ จกฺขุสฺส รโห เอว อิธาธิปฺเปโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กิฺจาปิ ปาฬิยํ ‘โสตสฺส รโห’ติ อาคตํ, จกฺขุสฺส รเหเนว ปน ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๔๔-๔๔๕).
จกฺขุสฺส รหตฺตา ‘‘ปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ อิมมฺปิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา เอว ‘‘อลํกมฺมนิย’’นฺติ อิมมฺปิ สงฺคณฺหาติ. นิสชฺชสทฺโทปาทาเนน ‘‘อาสเน’’ติ อิทมฺปิ คหิตเมว. ‘‘มาตุคามสฺส สนฺติกํ คนฺตุกาโม’’ติ อิมินา ‘‘มาตุคาเมน สทฺธิ’’นฺติ อิทมฺปิ คหิตเมว. เอวํ สามตฺถิยา ลพฺภมานปโทปาทาเนน โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สทฺธึ เอโก เอกาย รโห ปฏิจฺฉนฺเน อาสเน อลํกมฺมนิเย นิสชฺชสฺสาเทนาติ วุตฺตํ โหติ. จกฺขุสฺส รหภาเวน กุฏฺฏาทิปฏิจฺฉนฺเน เตเนว เมถุนเสวนกมฺมสฺส อนุรูเป อาสเน ตทหุชาตายปิ มนุสฺสิตฺถิยา สห นิสชฺชสฺสาทราเคน สมนฺนาคโต หุตฺวาติ อตฺโถ. เอตฺถ ‘‘มาตุคามสฺสา’’ติ ตทหุชาตมฺปิ อิตฺถึ คณฺหาตีติ กุโต ลพฺภตีติ? ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, อนฺตมโส ตทหุชาตาปิ ทาริกา, ปเคว มหตฺตรี’’ติ (ปารา. ๔๔๕) ปทภาชนโต ลพฺภติ.
‘‘นิวาเสตี’’ติ อิมินา ‘‘กายพนฺธนํ พนฺธติ, จีวรํ ปารุปตี’’ติ อิทํ ลกฺขียติ. สพฺพตฺถาติ ยถาวุตฺตํ ปโยคโต ปุพฺพาปรปโยเค สงฺคณฺหาติ. เตเนว ‘‘ปโยเค จ ปโยเค จา’’ติ วิจฺฉาปโยโค กโต. นิสีทโต จสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ‘‘อุภินฺนมฺปิ นิสชฺชาย ปาจิตฺติย’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ทุกฺกฏํ สนฺธาย เอกกสฺส นิสีทโตติ คเหตพฺพํ.
๕๔๔. นิสชฺชาย ¶ อุภินฺนมฺปีติ เอตฺถ ‘‘สกิ’’นฺติ เสโส, อุภินฺนํ นิสชฺชาปูรณวเสน อฺมฺสฺส ปุเร วา ปจฺฉา วา เอกกฺขเณ ¶ วา มาตุคามสฺส วา ภิกฺขุสฺส วา เอกวารํ นิสชฺชายาติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตฺเหตํ ปาฬิยํ ‘‘มาตุคาเม นิสินฺเน ภิกฺขุ อุปนิสินฺโน วา โหตี’’ติอาทิ (ปารา. ๔๔๕). โหติ ปาจิตฺติยนฺติ โยชนา. ปโยคคณนาย จ โหนฺติ ปาจิตฺติยานีติ คเหตพฺพํ, มาตุคามสฺส วา ภิกฺขุโน วา อุภินฺนํ วา อุฏฺายุฏฺาย ปุนปฺปุนํ อุปนิสีทนปโยคคณนาย จาติ อตฺโถ. ‘‘อาปตฺตีหิปิ ตีหิปี’’ติ วกฺขมานตฺตา ปาจิตฺติยคฺคหณํ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสานํ อุปลกฺขณํ โหติ, ตีสุ เอกํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ ‘‘ปโยคคณนายา’’ติ อิทํ ปาราชิกาย น ลพฺภติ เอกปโยเคเนว สิชฺฌนโต. กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสโส, ปน สรีรโต ปุนปฺปุนํ วิยุชฺชิตฺวา ผุสเนน ปาจิตฺติยฺจ ยถาวุตฺตนเยเนว ลพฺภติ.
พหูสุปิ มาตุคาเมสุ พหุกานิ ปาจิตฺติยานิ โหนฺตีติ โยชนา. พหูสุ มาตุคาเมสุ นิสินฺเนสุ นิสินฺนานํ คณนาย เอเกเนว ปโยเคน พหูนิ ปาจิตฺติยานิ จ สงฺฆาทิเสสา จ โหนฺติ. ‘‘ปโยคคณนาย จา’’ติ อิมสฺส เอตฺถาปิ ยุชฺชมานตฺตา ตาสุ วิสุํ วิสุํ อุฏฺายุฏฺาย ปุนปฺปุนํ นิสีทนฺตีสุ, สยฺจ อุฏฺายุฏฺาย ปุนปฺปุนํ นิสีทโต ตาสํ คณนาย อาปชฺชิตพฺพาปตฺติโย ปโยคคณนาย จ พหู โหนฺตีติ อิทํ ลพฺภติ. เอตฺถาปิ ปน ปาราชิกํ น ลพฺภติ, สงฺฆาทิเสโส, ปาจิตฺติยฺจ ลพฺภติ.
๕๔๕. สมีเป ิโตปิ อนฺโธ อนาปตฺตึ น กโรตีติ โสตสฺส รหภาเว อสติปิ ปธานภูตสฺส ‘‘จกฺขุสฺส รโห’’ติ อิมสฺส องฺคสฺส วิชฺชมานตฺตา วุตฺตํ ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺถเก’’ติ, อิมินา สวนูปจาเร วิชฺชมาเนปีติ วุตฺตํ โหติ. อิตฺถีนํ ตุ สตมฺปิ จ น กโรติ อนาปตฺตินฺติ ¶ โยชนา, วิฺุโน ปุริสสฺส อสนฺนิหิตภาเวนาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิตฺถีนมฺปิ สตมฺปิ จา’’ติ ลิขนฺติ, ตโตปิ อยเมว ปาโ สุนฺทโร. ปิ-สทฺโท วา ตุ-สทฺทตฺเถ ทฏฺพฺโพ.
๕๔๖. นิปชฺชิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘สมีเป’’ติ เสโส, ‘‘นิทฺทายนฺโตปี’’ติ เอตสฺส วิเสสเกน ‘‘นิปชฺชิตฺวา’’ติ อิมินา นิสีทิตฺวา นิทฺทายนฺโตติ อิมสฺส นิวตฺติตตฺตา สมีเป นิสีทิตฺวา นิทฺทายนฺโตปิ อนนฺโธ มนุสฺสปุริโส อนาปตฺตึ กโรตีติ ลพฺภติ. ‘‘เกวล’’นฺติ วิเสสเนน พลวนิทฺทูปคโต ¶ คหิโตติ ตถา อหุตฺวา อนฺตรนฺตรา อาปนฺนาปนฺเน วินิจฺฉินิตฺวา ปวตฺตมานาย กปินิทฺทาย นิทฺทายนฺโตปิ อนาปตฺตึ กโรตีติ อยมตฺโถ ลพฺภติ. ‘‘ปิหิตทฺวารคพฺภสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ มชฺฌปทโลปีสมาสวเสน ‘‘ปิหิตคพฺภสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ทฺวาเร’’ติ อิมินา ทฺวาเรกเทสภูตํ อุมฺมารํ วา ตํสมีปํ วา อุปจาเรน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สเจ คพฺโภ ปิหิตทฺวาโร น โหติ, อนาปตฺตีติ พฺยติเรกโต ทสฺสิตํ.
๕๔๗. อิมสฺมึ อนิยตสิกฺขาปเท ปาฬิยํ อนาปตฺติวาเร อสติปิ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สทฺธึ รโห ปฏิจฺฉนฺเน อาสเน นิสชฺชํ กปฺเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๘๕) ปฺจมสฺส อเจลกวคฺคสฺส จตุตฺถสิกฺขาปเท อนาปตฺติวาเร ‘‘อนาปตฺติ โย โกจิ วิฺู ปุริโส ทุติโย โหติ, ติฏฺติ น นิสีทติ, อรโหเปกฺโข, อฺวิหิโต นิสีทติ, อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๒๘๘) วุตฺเต อนาปตฺติวาเร สงฺคเหตุมาห ‘‘อนนฺเธ สตี’’ติอาทิ. ‘‘เอตสฺส สมีเป’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อิธ ปุลฺลิงฺคนิทฺเทเสน ปุริโส ลพฺภติ, ‘‘เตนาปิ อพาเลน ภวิตพฺพํ, มนุสฺสชาติเกน ภวิตพฺพ’’นฺติ อิทฺจ ¶ ‘‘วิฺุสฺมิ’’นฺติ อิมินา ลพฺภติ. อนฺธสทิสนิทฺทูปคตปฏิปกฺขวาจิอนนฺธปเทน ‘‘อนิทฺทายนฺเต’’ติ ลพฺภติ, มนาปามนาปํ ชานนฺเต อนิทฺทายนฺเต มนุสฺสปุริเส ทสฺสนูปจารสฺส อนฺโต วิชฺชมาเนติ อตฺโถ.
‘‘นิสชฺชปจฺจยา โทโส นตฺถี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ, เอวรูเป รโห อาสเน มาตุคาเมน สทฺธึ นิสินฺนปจฺจยา อาปตฺติ นตฺถีติ อตฺโถ. ‘‘ิตสฺสา’’ติ อิมินาปิ ตเทว ปทํ โยเชตพฺพํ. วิฺุมฺหิ ปฏิพเล มนุสฺสปุริเส อสนฺนิหิเตปิ ตถาวิเธ รโห อาสเน มาตุคาเม อาสเน นิสินฺเนปิ สยาเนปิ ิเตปิ สยํ ิตสฺส นิสชฺชาย อภาวา ตปฺปจฺจยา อาปตฺติ น โหตีติ อตฺโถ. อรหสฺิโน นิสชฺชปจฺจยา โทโส นตฺถีติ รโห อาสเน มาตุคาเมน สทฺธึ นิสชฺชนฺตสฺสาปิ ‘‘รโห’’ติ สฺารหิตสฺส นิสีทโต นิสชฺชปจฺจยา อนาปตฺตีติ อตฺโถ. วิกฺขิตฺตเจตโส นิสชฺชปจฺจยา โทโส นตฺถีติ โยชนา.
๕๔๘. เอตฺตาวตา ปาจิตฺติยาปตฺติมตฺตโต อนาปตฺติปฺปการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อนิยตโวหารเหตุภูตาหิ ตีหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺติปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น โทโส’’ติอาทิ. อาปตฺตีหิปิ ตีหิปีติ ‘‘นิสชฺชํ ภิกฺขุ ปฏิชานมาโน ติณฺณํ ธมฺมานํ อฺตเรน ¶ กาเรตพฺโพ ปาราชิเกน วา สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วา’’ติ (ปารา. ๔๔๔) ปาฬิยํ วุตฺตาหิ ‘‘ปมปาราชิกาปตฺติกายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสาปตฺติปาจิตฺติยาปตฺตี’’ติ อิมาหิ ตีหิปิ อาปตฺตีหีติ วุตฺตํ โหตีติ.
ปมานิยตกถาวณฺณนา.
๕๔๙. วตฺตพฺพภาเวนาธิกตทุติยานิยตวินิจฺฉยโต ปมานิยเต วุตฺตวินิจฺฉเยหิ สมํ วินิจฺฉยํ ปหาย ตตฺถ ¶ อวุตฺตํ อิมสฺเสว วินิจฺฉยวิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนนฺธา’’ติอาทิ. อิธ ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสสสฺสาปิ คหิตตฺตา ตโต อนาปตฺติกรํ ทสฺเสตุํ ‘‘อพธิโร’’ติ วุตฺตํ. อนนฺโธ อพธิโรติ ‘‘ปุริโส’’ติ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘อิตฺถี’’ติ อิทํ สนฺธาย ‘‘อนนฺธาพธิรา’’ติ คเหตพฺพํ. เอวมุปริปิ. เตนาปิ สวนูปจารนฺโตคเธน ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺถฏฺโ’’ติ วุตฺตํ.
๕๕๐. ‘‘อนฺโธ อพธิโร อนาปตฺตึ น กโรตี’’ติ อิทํ กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘พธิโร วาปิ จกฺขุมา, น กโรติ อนาปตฺติ’’นฺติ อิทํ ปน ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสสํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เอวเมตฺถ สนฺธาย ภาสิตตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ปุริมานิยตกถาย อวุตฺตวิเสสสฺส ทุติยานิยตกถาย วตฺตุมิจฺฉิตตฺตา อยมฺปิ วิเสโส อิธ วตฺตพฺโพ. โกยํ วิเสโส, โย อิธ วตฺตพฺโพติ เจ? ตตฺถ ‘‘ปฏิจฺฉนฺเน อาสเน อลํกมฺมนิเย’’ติ (ปารา. ๔๔๔) วุตฺตํ อาสนงฺคทฺวยํ อิธ ‘‘น เหว โข ปน ปฏิจฺฉนฺนํ อาสนํ โหติ นาลํกมฺมนิย’’นฺติ (ปารา. ๔๕๓) นิเสเธตฺวา ‘‘อลฺจ โข โหติ มาตุคามํ ทุฏฺุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาสิตุ’’นฺติ (ปารา. ๔๕๓) อิทํ อปุพฺพงฺคํ วุตฺตํ. ตตฺร มาตุคาโมติ อนฺตมโส ตทหุชาตาปิ ทาริกา คหิตา, อิธ ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, วิฺู ปฏิพลา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุ’’นฺติ (ปารา. ๔๕๔) วิฺู ปฏิพโล มาตุคาโมว วุตฺโต. ตตฺถ ‘‘ปาราชิเกน วา สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วา’’ติ (ปารา. ๔๔๔) ติสฺโส อาปตฺติโย วุตฺตา, อิธ ‘‘นิสชฺชํ ภิกฺขุ ปฏิชานมาโน ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ อฺตเรน ¶ กาเรตพฺโพ สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วา’’ติ (ปารา. ๔๕๓) ทฺเวเยว อาปตฺติโย วุตฺตา. สงฺฆาทิเสเสสุ จ ตตฺถ ‘‘สา เจ เอวํ วเทยฺย ‘อยฺโย ¶ มยา ทิฏฺโ นิสินฺโน มาตุคาเมน สทฺธึ กายสํสคฺคํ สมาปชฺชนฺโต’ติ, โส จ ตํ ปฏิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๔๔๘) กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสโสว วุตฺโต, อิธ โส จ วุตฺโต, ‘‘สา เจ เอวํ วเทยฺย ‘อยฺยสฺส มยา สุตํ นิสินฺนสฺส มาตุคามํ ทุฏฺุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาเสนฺตสฺสา’ติ, โส จ ตํ ปฏิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๔๕๕) ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสโส จ วุตฺโต. เอตฺตโก อุภินฺนมนิยตานํ วิเสโส.
อยํ กสฺมา น วุตฺโตติ? อยํ สมฺโพธวตฺถุวิเสโส วตฺตุมิจฺฉิโต ปน อฏฺกถาคตวินิจฺฉยวิเสสโตติ ตสฺมา น วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. ติสมุฏฺานเมวิทํ กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตวเสน ตีณิ สมุฏฺานานิ เอตสฺสาติ กตฺวา.
อิเมหิปิ ทฺวีหิ อนิยตสิกฺขาปเทหิ สิกฺขาปทนฺตเรสุ ปฺตฺตาเยว อาปตฺติโย, อนาปตฺติโย จ ทสฺสิตา, น โกจิ อาปตฺติวิเสโส วุตฺโต, ตสฺมา กิเมเตสํ วจเนนาติ? วุจฺจเต – วินยวินิจฺฉยลกฺขณํ เปตุํ ภควตา อุปฺปนฺเน วตฺถุมฺหิ ทฺเว อนิยตา ปฺตฺตา. กถํ? เอวรูปายปิ สทฺเธยฺยวจนาย อุปาสิกาย วุจฺจมาโน ปฏิชานมาโนว อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ, น อปฺปฏิชานมาโน, ตสฺมา ‘‘ยาย กายจิ อาปตฺติยา เยน เกนจิ โจทิเต ปฏิฺาตกรณํเยวงฺคํ กาตพฺพ’’นฺติ อิเมหิ สิกฺขาปเทหิ วินิจฺฉยลกฺขณํ ปิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ กสฺมา ภิกฺขุนีนํ อนิยตํ ¶ น วุตฺตนฺติ? อิทเมว ลกฺขณํ สพฺพตฺถ อนุคตนฺติ น วุตฺตํ.
ทุติยานิยตกถาวณฺณนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
อนิยตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา
๕๕๑. เอวํ อนิยตกถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิสฺสคฺคิยกถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โขม’’นฺติอาทิ ¶ . โขมนฺติ เอวํนามกํ จีวรํ. โขมนฺติ คจฺฉวิเสสสฺส นามํ, ตสฺส วาเกหิ กตจีวรํ การโณปจารโวหารวเสน ‘‘โขม’’นฺติ วุตฺตํ. กปฺปาสนฺติ กปฺปาสสุตฺตมยํ จีวรํ, อิทมฺปิ วุตฺตนเยเนว ‘‘กปฺปาส’’นฺติ วุจฺจติ. โกเสยฺยํ นาม โกสการกิมิโกสํ, โกเสน นิพฺพตฺตํ สุตฺตํ โกเสยฺยํ. อิธ ปน เตน โกเสยฺยสุตฺเตน นิพฺพตฺตํ จีวรํ ‘‘โกเสยฺย’’นฺติ วุตฺตํ. สาณนฺติ สาณวากสุตฺเตหิ วายิตฺวา กตจีวรํ. อิทฺจ โขมํ วิย ทฏฺพฺพํ. ภงฺคนฺติ โขมสุตฺตาทีนิ สพฺพานิ, เอกจฺจานิ วา มิสฺเสตฺวา กตจีวรํ. อิทมฺปิ กรณปฺปกาเรน ลทฺธนามกํ. ‘‘ภงฺคํ นาม เอกา คจฺฉชาติ, ตสฺสา วากมยสุตฺเตหิ วายิตฺวา กตจีวร’’นฺติ เกจิ. อิมสฺมึ ปกฺเข โขมํ วิย คเหตพฺพํ. กมฺพลนฺติ มนุสฺสโลมวาฬโลมํ วินา เสสโลเมหิ วายิตฺวา กตจีวรํ วุตฺตนฺติ. อิทํ ‘‘จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ จีวร’’นฺติ (ปารา. ๔๖๓) ปทภาชเน จ ‘‘โขมํ กปฺปาสิกํ โกเสยฺยํ กมฺพลํ สาณํ ภงฺค’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๒-๔๖๓) อฏฺกถาย จ วุตฺตํ สนฺธายาห. ‘‘ชาติโต’’ติ ¶ อิทํ ปมาณาทิเภทสฺส วกฺขมานตฺตา วุตฺตํ. ชาติโตติ โขมาทิสามฺโต. สามฺฺหิ ‘‘ชาตี’’ติ วุจฺจติ. ทีฆรสฺสถูลสุขุมนีลปีตาทิเภทภินฺนานํ สพฺเพสํ วตฺถาวยวานํ สงฺคาหิกโขมสุตฺตมยตาสามฺํ ชาตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ เสเสสุปิ.
๕๕๒. ทุกูลนฺติ เอวํนามกํ รุกฺขวากมยจีวรํ. ปตฺตุณฺณนฺติ ปตฺตุณฺณเทเส สฺชาตวตฺถํ. ‘‘ปตฺตุณฺณํ โกเสยฺยวิเสโส’’ติ อภิธานโกเส วุตฺตํ. จินนฺติ จินเทเส อุปฺปนฺนวตฺถํ. โสมารปฏฺฏกนฺติ โสมารเทเส อุปฺปนฺนวตฺถํ. ‘‘โสมารจินปฏก’’นฺติปิ ลิขนฺติ, โสเยวตฺโถ. อิทฺธิชนฺติ เอหิภิกฺขูนํ ปฺุิทฺธิยา นิพฺพตฺตํ จีวรํ. เทวทินฺนนฺติ เทวตาหิ ทินฺนํ จีวรํ. ตฺหิ กปฺปรุกฺเข นิพฺพตฺตํ, ชาลินิยา เทวกฺาย อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ทินฺนวตฺถสทิสํ. ตสฺสาติ ชาติโต ฉพฺพิธสฺส กปฺปิยจีวรสฺส. อิทํ ฉพฺพิธจีวรํ ยถารหํ อนุโลมิกํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ทุกูลฺหิ สาณสฺส อนุโลมํ วากมยตฺตา, ปตฺตุณฺณาทีนิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ ปาณเกหิ กตสุตฺตมยตฺตา, อิทฺธิชมฺปิ โขมาทีนํเยว อฺตรํ โหตีติ เตสํ อนุโลมํ, เทวทินฺนมฺปิ โขมาทีนํเยว อนุโลมํ โหติ เตสํ อฺตรภาวโต. ยถาห –
‘‘สาณสฺส ตุ ทุกูลฺหิ, อิทฺธิชํ เทวทินฺนกํ;
โขมาทีนํวสิฏฺํตุ, โกเสยฺยสฺสานุโลมิก’’นฺติ.
๕๕๓. ติณฺณํ ¶ จีวรานํ สมาหาโร ติจีวรนฺติ ปมาณยุตฺตํ สงฺฆาฏิอาทินาเมน อธิฏฺิตจีวรสฺเสว นามตฺตา ตเทว วุจฺจติ. คณนวเสน ยํ กิฺจิ จีวรตฺตยํ น วตฺตพฺพํ. สมุทฺเทกเทโสปิ ยถา ‘‘สมุทฺโท’’ติ วุจฺจติ, เอวํ อธิฏฺิเตสุ ตีสุ จีวเรสุ อฺตรํ ‘‘ติจีวร’’นฺติ วุจฺจติ. ปริกฺขารโจฬนฺติ ¶ สงฺฆาฏิอาทิวิสิฏฺนาเมหิ อนธิฏฺิตํ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว อายาเมน อฏฺงฺคุลํ สุคตงฺคุเลน จตุรงฺคุลวิตฺถตํ ปจฺฉิมํ จีวร’’นฺติ (ปารา. ๓๕๘) อนฺุาตํ ปจฺฉิมจีวรปริยนฺตํ กตฺวา กตากตสฺส ยสฺส กสฺสจิ จีวรสฺส รุฬฺหิสฺา.
มุขํ สนฺทมานลาลํ ปฺุฉติ เอเตนาติ มุขปฺุฉนนฺติ กโปลโต นิจฺจํ สนฺทมานลาลานํ ปฺุฉนตฺถาย อนฺุาตสฺส จีวรวิเสสสฺส นามํ. นิสีทนฺติ เอตฺถาติ นิสีทนนฺติ จ ภิกฺขูนํ อตฺถริตฺวา นิสีทิตุํ อนฺุาตสฺส จีวรสฺส นามํ. อธิฏฺเยฺยาติ ‘‘อิมํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ’’นฺติอาทินา (วิ. วิ. ๕๘๕) วกฺขมานนเยน นามํ คเหตฺวา อธิฏฺเยฺยาติ อตฺโถ. ปจฺจตฺถรณเมว จาติ สงฺฆิเก มฺจปีเ สรีรสมฺผุสเนน อาปชฺชิตพฺพาย อาปตฺติยา โมจนตฺถาย ตตฺถ อตฺถริตฺวา ปริโภคตฺถาย อนฺุาตํ ปจฺจตฺถรณจีวรฺจ.
๕๕๔. เอกาหนฺติ วสนกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ติจีวรนฺติ ติจีวเรน. วิปฺปวเสยฺยาติ ‘‘สงฺฆาฏิยา วา อุตฺตราสงฺเคน วา อนฺตรวาสเกน วา’’ติ (ปารา. ๔๗๖) วุตฺตตฺตา เอกเทเส สมุทาโยปจารวเสน อวยวสฺส วจนโต ติณฺณํ จีวรานํ อฺตเรนาติปิ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วินา’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ. อธิฏฺาติ อธิฏฺายาติ คเหตพฺพํ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๒, ๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘) ยถา, เอตฺถ ‘‘วฬฺชิยมาน’’นฺติ เสโส, อธิฏฺาย วฬฺชิยมานํ นิสีทนํ ตถา วินา จตุมาสํ น วเสยฺยาติ โยชนา.
๕๕๕. กปฺปิยนฺติ กปฺปิยการณํ นีลาทิวณฺณเภทกรณํ. กปฺปิยนฺติ จ การเณ การิยูปจาเรน คเหตพฺพํ. พินฺทุํ ทตฺวาติ ‘‘นีลํ วา กทฺทมํ วา กาฬสามํ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๖๘) วุตฺตโลหมลาทินา ¶ เยน เกนจิปิ มงฺคุลปิฏฺิปฺปมาณาทิกํ พินฺทุํ ทตฺวา. ตตฺถาติ เตสุ อธิฏฺาตพฺเพสุ ติจีวราทีสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ติจีวรนฺติ นิทฺธาริตพฺพํ. อุปปนฺนนฺติ ยุตฺตํ. ปมาเณนาติ อนนฺตรํ วกฺขมาเนน ปมาเณน. อธิฏฺาตพฺพนฺติ ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติอาทินา ¶ วกฺขมานนเยน นามํ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. เอวกาเรน ปน นามํ วตฺวา น วิกปฺเปตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เอส นโย เสสจีวเรสุปิ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ, น วิกปฺเปตุ’’นฺติอาทิ (มหาว. ๓๕๘). ตสฺมา ติจีวราทีนิ อธิฏฺหนฺเตน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติอาทินา นามํ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. วิกปฺเปนฺเตน ปน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏิ’’นฺติอาทินา ตสฺส จีวรสฺส นามํ อคฺคเหตฺวา ‘‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วิกปฺเปตพฺพํ. ติจีวรํ วา โหตุ อฺํ วา, ยทิ ตํ ตํ นามํ คเหตฺวา วิกปฺเปติ, อวิกปฺปิตํ โหติ อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺติ. ตํ จีวรนฺติ สมฺพนฺโธ.
๕๕๖-๗. ‘‘อุปปนฺนํ ปมาเณนา’’ติ เอตฺถ วุตฺตปฺปมาณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปจฺฉิมนฺเตนา’’ติอาทิ. สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาฏิ. วตฺถขณฺฑานิ สิพฺพนกมฺเมน สงฺฆเฏตฺวา กตตฺตา ‘‘สงฺฆาฏี’’ติ จีวรานํ สามฺนามํ. อิธ ปน รุฬฺหิยา อนฺตรวาสกาทิวิเสสนามพฺยติริตฺเต จีวรวิเสเส วตฺตติ. มุฏฺิปฺจกาติ เอตฺถ เอกาทีนมฏฺารสนฺตานํ สงฺขฺยาสทฺทานํ สงฺขฺเยยฺเย วตฺตมานตฺตา ปฺจสทฺโท จีวรปฺปมาณปฺปกรณโต ลพฺภมานหตฺถสงฺขาตรตเนเยว ปวตฺตติ, เตเนว มุฏฺิสทฺโทปิ อุตฺตรปทโลเปน มุฏฺิรตเน วตฺตติ. ปฺจนฺนํ ปูรโณ ปฺจโม, มุฏฺิยา ปฺจโม มุฏฺิปฺจโม. มุฏฺิปฺจโม ปริมาณเมติสฺสาติ ‘‘มุฏฺิปฺจมกา’’ติ วตฺตพฺเพ ม-การโลเปน ‘‘มุฏฺิปฺจกา’’ติ สงฺฆาฏิ วุตฺตา.
มุฏฺิตฺติกาติ ¶ เอตฺถ วุตฺตนเยน สงฺขฺเยยฺเย วตฺตมาโน ติ-สทฺโท จีวรปฺปมาณปฺปกรณโต ลพฺภมานหตฺถสงฺขาตรตเนเยว วตฺตติ, เตเนว มุฏฺิสทฺโทปิ อุตฺตรปทโลเปน มุฏฺิรตเน วตฺตติ. ติณฺณํ ปูรโณ ตติโย, มุฏฺิยา ตติโย มุฏฺิตติโย, มุฏฺิตติโย ปริมาณเมติสฺสาติ ‘‘มุฏฺิตติยกา’’ติ วตฺตพฺเพ ติย-ปจฺจยโลเปน ‘‘มุฏฺิตฺติกา’’ติ สงฺฆาฏิเยว วุจฺจติ. เอวมุปริปิ. ติริยนฺติ ติริยโต.
อุตฺตมนฺเตนาติ อุกฺกฏฺปริมาณนฺเตน. สตฺถุโน จีวรูนาปีติ ‘‘ตตฺริทํ สุคตสฺส สุคตจีวรปฺปมาณํ, ทีฆโส นว วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ ฉ วิทตฺถิโย’’ติ (ปาจิ. ๕๔๘) วุตฺตปฺปมาณสุคตจีวรโต อูนาปิ. ปิ-สทฺโท สมฺภาวเน, อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ตตฺตกมฺปิ วฏฺฏติ, ตโต เจ อูนํ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อตฺโถ. อนฺตทฺวยสนฺทสฺสเนน อุภยมชฺเฌ ยํ ปโหนกรุจฺจนกปฺปมาณํ, ตํ คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
๕๕๘. มุฏฺิปฺจกสทฺโท ¶ ปุพฺเพ วุตฺตนเยนิธ ทีฆนฺเต วตฺตติ. มุฏฺิปฺจโก ทีฆนฺโต ยสฺส, ยสฺมึ วา ปมาเณติ วิคฺคโห, ทีฆนฺตโต มุฏฺิปฺจกปฺปมาเณนาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘มุฏฺิปฺจม’’นฺติปิ ลิขนฺติ. ติริยนฺตโตติ วิตฺถารนฺตโต. อฑฺฒหตฺโถ อฑฺโฒ อุตฺตรปทโลเปน, โส เตยฺโย ตติโย ยสฺส ปมาณสฺสาติ คเหตพฺพํ, ตํ, อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณํ โหตีติ อตฺโถ. ทฺวิหตฺถํ วาติ ทฺเว หตฺถา ยสฺส ปมาณสฺสาติ วิคฺคโห, ทฺวิรตนปฺปมาณํ วา โหตีติ อตฺโถ. อิทฺจ ‘‘ติริยํ ทฺวิหตฺโถปิ วฏฺฏติ. ปารุปเนนปิ หิ สกฺกา นาภึ ปฏิจฺฉาเทตุ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อฏฺกถาคตตฺตา วุตฺตํ. ‘‘เสเส อนฺตรวาสเก’’ติ อิทํ ยถาวุตฺตปริมาเณน ปริมิตจีวรนิทสฺสนํ.
๕๕๙. อหตาหตกปฺปานนฺติ ¶ เอตฺถ ‘‘วตฺถาน’’นฺติ เสโส. อหตานํ วตฺถานนฺติ นววตฺถานํ. อหตโต กิฺจิ อูนานิ อหตกปฺปานิ, เตสํ นวโวหารูปคานํ กติปยโธตานํ วตฺถานนฺติ วุตฺตํ โหติ. สงฺฆาฏีติ สงฺฆาฏินามกจีวรํ. ทิคุณาติ ทุปฏฺฏกตา.
๕๖๐. อุตุทฺธฏานนฺติ อติกฺกนฺตทิวสานํ, พหุกาลํ นิวาเสตฺวา ปริจฺจตฺตานนฺติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยานิ อุตุโต อุทฺธฏานิ, เตสํ วตฺถานนฺติ คเหตพฺพํ, ติณฺณํ อุตูนมฺตรํ อติกฺกมิตฺวา ิตานํ ปุราณวตฺถานนฺติ วุตฺตํ โหติ. จีวรานนฺติ จีวรตฺถานิ วตฺถาเนว คหิตานิ. จตุคฺคุณาติ จตุปฏฺฏา. เสสา ทุเวติ อนฺตรวาสกอุตฺตราสงฺคา ทฺเว. ยถาสุขนฺติ ยถารุจิ. ปํสุกูลนฺติ สุสานาทีสุ ปติตปิโลติกจีวรํ.
๕๖๑. ‘‘ตีณิปี’’ติอาทีสุ ‘‘ติจีวเร กยิรมาเน สพฺพํ ฉินฺนกํ นปฺปโหตี’’ติ ปาฬิยํ อาคตวตฺถุมฺหิ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ทฺเว ฉินฺนกานิ เอกํ อฉินฺนก’’นฺติ (มหาว. ๓๖๐) อาทิวจนโต ‘‘จีวร’’นฺติ เสโส. ฉินฺทิตพฺพนฺติ วตฺถานิ ฉินฺทิตฺวา สิพฺเพตฺวา กาตพฺพํ. ปโหติ เจติ วตฺถานิ ฉินฺทิตฺวา กรเณ ยทิ จีวรสฺส ปโหติ. สพฺเพสูติ ตีสุ จีวเรสุ. อปฺปโหนฺเตสูติ วตฺถานํ ฉินฺทิตฺวา สิพฺพเนน อปฺปโหนฺเตสุ. อนฺวาธิกนฺติ วตฺเถ อูนาติเรกํ อปเนตฺวา อาคนฺตุกปตฺตสงฺขาตํ อนุวาตํ จีวรสฺส ปริยนฺเต, มชฺเฌ จ ยถารหํ ทีฆรสฺสปริมาณยุตฺตํ อลฺลิยาเปตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๕๖๒. อจฺฉินฺนํ วาติ ยถาวุตฺตนเยน อจฺฉินฺนํ วา. อนาทินฺนนฺติ อนาทินฺนอาคนฺตุกปตฺตํ ¶ . ติจีวรนฺติ ตีสุ จีวเรสุ เอเกกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ทุพฺโภเคนาติ ทุฏฺุ ปริโภเคน ¶ . ยถา ปริภุตฺตํ นสฺสติ, ตถา กิลิฏฺานํ โธวนาทิมกตฺวา นิวาสนาทินา ปริโภเคน.
๕๖๓-๔. กุสินฺติ อายามโต จ วิตฺถารโต จ อนุวาตํ จีวรมชฺเฌ ตาทิสเมว ทีฆปตฺตฺจ. วุตฺตฺเหตํ จีวรกฺขนฺธอฏฺกถายํ ‘‘กุสีติ อายามโต จ วิตฺถารโต จ อนุวาตาทีนํ ทีฆปตฺตานเมตํ อธิวจน’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). อฑฺฒกุสินฺติ อนุวาตสทิสํ จีวรมชฺเฌ ตตฺถ ตตฺถ รสฺสปตฺตํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อฑฺฒกุสีติ อนฺตรนฺตรา รสฺสปตฺตานํ นาม’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). มณฺฑลนฺติ เอเกกสฺมึ ขณฺเฑ มหามณฺฑลํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘มณฺฑลนฺติ ปฺจขณฺฑิกจีวรสฺส เอเกกสฺมึ ขณฺเฑ มหามณฺฑล’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). อฑฺฒมณฺฑลนฺติ มณฺฑลสฺส อนฺโต นิเวสิยมานํ ขุทฺทกมณฺฑลํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อฑฺฒมณฺฑลนฺติ ขุทฺทกมณฺฑล’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). วิวฏฺฏนฺติ มณฺฑลํ, อฑฺฒมณฺฑลฺจาติ ทฺเว เอกโต กตฺวา สิพฺพิตํ เวมชฺเฌ ขณฺฑํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘วิวฏฺฏนฺติ มณฺฑลฺจ อฑฺฒมณฺฑลฺจ เอกโต กตฺวา สิพฺพิตํ มชฺฌิมขณฺฑ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). อนุวิวฏฺฏนฺติ มชฺฌิมขณฺฑสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ สิพฺพิตํ ตเถว ทฺวิมณฺฑลปตฺตํ ขณฺฑทฺวยํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อนุวิวฏฺฏนฺติ ตสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ทฺเว ขณฺฑานี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). พาหนฺตนฺติ เตสํ อนุวิวฏฺฏานํ พาหิรปสฺเส สิพฺพิตํ พาหิรขณฺฑทฺวยํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘พาหนฺตนฺติ เตสํ อนุวิวฏฺฏานํ พหิ เอเกกํ ขณฺฑ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕).
ปฺจนฺนํ สมาหาโร ปฺจกํ, ทสฺสิตปฺปการปฺจขณฺเฑหิ สิพฺพิตจีวรํ ปฺจกํ นาม. อาทิ-สทฺเทน สตฺตขณฺฑาทีหิ สิพฺพิตจีวรานํ คหณํ. เตเนเวตฺถาห ‘‘กตฺตพฺพํ ตุ ติจีวร’’นฺติ. สตฺตขณฺฑสฺส จีวรสฺส เอกํ มชฺฌิมขณฺฑํ วิวฏฺฏนามเมว โหติ, ตสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ทฺเว ทฺเว ขณฺฑานิ ¶ จูฬานุวิวฏฺฏมหานุวิวฏฺฏสงฺขาตานิ อนุวิวฏฺฏนามาเนว โหนฺติ. วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ ‘‘อถ วา อนุวิวฏฺฏนฺติ วิวฏฺฏสฺส เอกปสฺสโต ทฺวินฺนํ, เอกปสฺสโต ทฺวินฺนนฺติ จตุนฺนมฺปิ ขณฺฑานเมตํ นาม’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). พาหนฺตนฺติ ทฺวีสุ ปริยนฺเตสุ สิพฺพนียํ พาหิรขณฺฑทฺวยํ, ตฺจ สงฺฆเฏตฺวา พาหมตฺถเก ปิยมานตฺตา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติอาทีสุ วิย อาเธยฺเย อาธาโรปจารวเสน พาหาติ จ จีวรสฺส ปริยนฺตาวยวตฺตา ‘‘อนฺต’’นฺติ จ วุจฺจติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘พาหนฺตนฺติ สุปฺปมาณํ จีวรํ ปารุปนฺเตน สํหริตฺวา พาหาย ¶ อุปริ ปิตา อุโภ อนฺตา พหิมุขา ติฏฺนฺติ, เตสํ เอตํ นาม’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). อิทํ สตฺตขณฺฑจีวรเมว มหาอฏฺกถายํ วิหิตนฺติ อิทานิปิ ตเทว วฏฺฏติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อยเมว หิ นโย มหาอฏฺกถายํ วุตฺโต’’ติ. ภิกฺขุนา กุสึ…เป… พาหนฺตมฺปิจาติ สพฺพํ วิธึ ทสฺเสตฺวาว ฉินฺนํ ปฺจกาทิปฺปเภทกํ สมณสารุปฺปํ ติจีวรํ กตฺตพฺพนฺติ โยชนา.
๕๖๕-๖. ยถาวุตฺตวิธึ อวิราเธตฺวา จีวรํ กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา สงฺฆาฏิอาทินาเมน อธิฏฺาย ปริภฺุชนฺตสฺส อธิฏฺานํ กถํ ภิชฺชตีติ อาห ‘‘ทาเนนา’’ติอาทิ. ทาเนนาติ อฺสฺส ทาเนน. อจฺฉิชฺชคาเหนาติ อฺเน อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน. วิสฺสาสคฺคหเณน จาติ อตฺตนิ วิสฺสาเสน อฺสฺส คหเณน. หีนายาวตฺตเนนาติ สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย คิหิภาวูปคมเนน อฺสฺส ทาเน วิย จีวเร นิราลยภาเวเนว ปริจฺจตฺตา.
เกจิ ปน ‘‘หีนายาวตฺตเนนาติ ภิกฺขุนิยา คิหิภาวูปคมเนนาติ เอวมตฺถํ คเหตฺวา ภิกฺขุ ปน วิพฺภนฺโตปิ ยาว สิกฺขํ น ปจฺจกฺขาติ, ตาว ภิกฺขุเยวาติ อธิฏฺานํ น วิชหตี’’ติ ¶ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ‘‘ภิกฺขุนิยา หีนายาวตฺตเนนา’’ติ วิเสเสตฺวา อวุตฺตตฺตา, ภิกฺขุนิยา จ คิหิภาวูปคมเน อธิฏฺานวิชหนํ วิสุํ วตฺตพฺพนฺติ นตฺถิ ตสฺสา วิพฺภมเนเนว อสฺสมณิภาวโต.
สิกฺขายาติ ภิกฺขุสิกฺขาย. ปหาเนนาติ ปจฺจกฺขาเนน. สิกฺขาปจฺจกฺขานํ ปเนตฺถ สเจ ภิกฺขุลิงฺเค ิโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, ตสฺส กายลคฺคมฺปิจีวรํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ ทสฺสนตฺถํ คหิตํ. ‘‘สิกฺขาย จ ปหานโต’’ติ จ ลิขนฺติ, ตํ ‘‘หีนายาวตฺตเนนาปิ, สิกฺขาย จ ปหานโต’’ติ ปากฺกเม สติ ยุชฺชติ. ยถาวุตฺโต ปน ปาโ ‘‘สิกฺขาย จ ปหาเนน, หีนายาวตฺตเนนปี’’ติ ปากฺกเม ยุชฺชติ. ยถา ตถา วา โหตุ, น โกจิ วิโรโธ.
ปจฺจุทฺธาเรนาติ จีวรสฺส ปจฺจุทฺธรเณน. ‘‘กาลกิริยายา’’ติ อฏฺกถาวจนโต วินาเสนาติ จีวรสามิกสฺส ชีวิตวินาโสว วุจฺจตีติ. ลิงฺคสฺส ปริวตฺตนาติ ภิกฺขุสฺส อิตฺถิลิงฺคปริวตฺตนา, ภิกฺขุนิยา ปุริสลิงฺคปริวตฺตนาติ เอวํ อุภยถา ลิงฺคสฺส ปริวตฺตเนน. สพฺพํ ¶ นววิธมฺปิ จีวรํ. อธิฏฺานนฺติ เอตฺถ ‘‘อิเมหิ อฏฺหี’’ติ เสโส. วุตฺโตวายมตฺโถ อฏฺกถายํ ‘‘ตตฺถ ปุริเมหิ อฏฺหิ สพฺพจีวรานิ อธิฏฺานํ วิชหนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙). ภิชฺชตีติ ปชหติ. ฉิทฺทสฺส ภาโว ฉิทฺทภาโว, ตสฺมึ, ฉิทฺเท สติ ฉิทฺเท ชาเตติ วุตฺตํ โหติ. ติจีวรนฺติ ตีสุ จีวเรสุ อฺตรนฺติ วุตฺตํ โหติ. ติจีวรเมว วาติ คเหตพฺพํ. วุตฺตฺจ ‘‘ฉิทฺทภาเวน ปน ติจีวรสฺเสวา’’ติ.
๕๖๗. กีวปฺปมาเณ ฉิทฺเท ชาเตติ อาห ‘‘กนิฏฺสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘กนิฏฺ…เป… มาณก’’นฺติ อิมินา เหฏฺิมปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ.
๕๖๘. เอโก ¶ ตนฺตุปีติ ทีฆโต วา ติริยโต วา เอกมฺปิ สุตฺตํ.
๕๖๙. ชิณฺณฏฺาเน อคฺคฬํ เทนฺเตน เตจีวริเกน วตฺติตพฺพวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปม’’นฺติอาทิ. ปมนฺติ ฉินฺนฏฺานสฺส ฉินฺทนโต ปุพฺเพเยว. อคฺคฬํ ทตฺวาติ วตฺถขณฺฑํ อลฺลิยาเปตฺวา. รกฺขตีติ เอตฺถ ‘‘อธิฏฺาน’’นฺติ อนุวตฺตเต, ‘‘เตจีวริโก ภิกฺขู’’ติ ลพฺภติ, เอวํ วตฺถขณฺฑํ อลฺลิยาเปนฺโต เตจีวริโก ภิกฺขุ อธิฏฺานํ รกฺขตีติ วุตฺตํ โหติ. วิปริยาเยน อธิฏฺานํ ภินฺทตีติ ลพฺภติ. ปมํ ทฺเว โกฏิโย ฆเฏตฺวาติ โยชนา. มชฺเฌ ชิณฺณํ อธิฏฺิตจีวรํ มชฺเฌ ฉินฺทนฺโต ตโต ปุพฺเพเยว ทฺเว โกฏิโย เอกโต ฆเฏตฺวา สิพฺพิตฺวา. ปจฺฉาติ โกฏิฆฏนโต ปจฺฉา. ฉินฺทตีติ มชฺฌํ อุภยโกฏึ กาตุํ ฉินฺทติ. รกฺขตีติ วุตฺตปฺปการเมว.
๕๗๐. ติจีวเร กตฺถ ชาตํ ฉิทฺทมธิฏฺานํ ภินฺทตีติ อาห ‘‘จตุรงฺคุลา’’ติอาทิ. จตฺตาริ จ อฏฺ จ จตุรฏฺํ, จตุนฺนํ อฏฺนฺนํ วา องฺคุลานํ สมาหาโร จตุรฏฺงฺคุลํ, ตสฺมาติ คเหตพฺพํ. จตุรงฺคุลา อฏฺงฺคุลาติ โยชนา. โอรนฺติ อพฺภนฺตรํ. เอกฺจ ทฺเว จ เอกทฺเว, เตสํ เอกทฺวินฺนํ, ‘‘จีวราน’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ, เอกสฺส จีวรสฺส, ทฺวินฺนฺจ จีวรานนฺติ โยชนา. ยถาสงฺขฺยานุทฺเทสวเสน เอกสฺส ติริยโต จตุรงฺคุลโต โอรํ, ทฺวินฺนํ ติริยโต อฏฺงฺคุลโต โอรนฺติ โยชนา. วากฺยทฺวเยปิ ‘‘ฉิทฺทํ ภินฺทเตวา’’ติ โยเชตพฺพํ.
เอกสฺส จีวรสฺสาติ อนฺตรวาสกจีวรสฺส. ติริยโตติ วิตฺถารโต. จตุรงฺคุลํ โอรนฺติ จตุรงฺคุลโต ¶ อพฺภนฺตเร ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ. ทฺวินฺนนฺติ อุตฺตราสงฺคสงฺฆาฏีนํ. ติริยโตติ ¶ วิตฺถารโต. อฏฺงฺคุลโต โอรนฺติ อฏฺงฺคุลโต อพฺภนฺตเร. ติณฺณมฺปิ ทีฆโต วิทตฺถิยา โอรํ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทเตวาติ โยชนา. เอตฺถ วิทตฺถิ วฑฺฒกิวิทตฺถิ คเหตพฺพา. เอวํ วุตฺตปริจฺเฉทพฺภนฺตเร ฉิทฺเท ชาเต ตสฺส จีวรสฺส อติเรกจีวรตฺตา ทสาหมนติกฺกมิตฺวา สูจิกมฺมํ กตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. ตถา อกโรนฺเตน ปน ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตพฺพํ.
๕๗๑. ‘‘นิสีทนสฺสา’’ติ ‘‘นิสีทนจีวรสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทิยฑฺฒาติ เอตฺถ วิเสสิตพฺพา วิทตฺถิ ‘‘ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติ จ ‘‘สุคตสฺส วิทตฺถิยา’’ติ จ วุตฺตสามตฺถิยา ลพฺภติ. อฑฺเฒน ทุติยา ทิยฑฺฒา, ทุติยํ อฑฺฒเมตสฺสาติ ‘‘ทุติยฑฺฒา’’ติ วตฺตพฺเพ ติย-ปจฺจยโลเปน ‘‘ทิยฑฺฒา’’ติ วุตฺตํ, อฑฺฒทุติยาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สุคตสฺส วิทตฺถิยา’’ติ ปมาณนิยมสฺส กตตฺตา วฑฺฒกิวิทตฺถิยา ติสฺโส วิทตฺถิโย เอกา สุคตวิทตฺถิ โหติ. อิทํ นิสีทนจีวรํ ทีฆโต วฑฺฒกิหตฺเถน ติหตฺถํ, วิตฺถารโต ฉฬงฺคุลาธิกทฺวิหตฺถปฺปมาณํ โหติ. ‘‘ทสา วิทตฺถี’’ติ (ปาจิ. ๕๓๓) วุตฺตตฺตา ทิยฑฺฒหตฺถา ทสาติ เวทิตพฺพา.
๕๗๒. จตสฺโสติ เอตฺถาปิ ‘‘วิทตฺถิโย’’ติ สามตฺถิยาว ลพฺภติ. ‘‘กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิยา’’ติ วิภตฺติปริณาเมน ทีฆโตติ โยชนา.
๕๗๓. อฑฺฒํ เตยฺยํ ตติยํ ยสฺสา สา อฑฺฒเตยฺยา, อฑฺฒตติยาติ วุตฺตํ โหติ.
๕๗๔. ตโต อุตฺตรึ ตทุตฺตรึ, ตสฺส ตสฺส วุตฺตปฺปมาณโต อติเรกํ. อธิกจฺเฉทนนฺติ อธิกสฺส ปมาณาติริตฺตฏฺานสฺส เฉทนํ อสฺส ปาจิตฺติยสฺส เทสนายาติ ¶ อธิกจฺเฉทนํ, วุตฺตปฺปมาณโต อธิกฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา เทเสตพฺพํ ปาจิตฺติยํ. อุทีริตํ วุตฺตํ ปาฬิยาติ อตฺโถ.
๕๗๕. อปฺปมาเณนาติ คุณวเสน อปฺปมาเณน สมฺมาสมฺพุทฺเธน.
๕๗๖. สพฺพํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สพฺพ’’นฺติ อิมินา อฏฺกถาย อาคตํ นีลาทึ สงฺคณฺหาติ. มหนฺตาทิเภทํ สพฺพํ ปจฺจตฺถรณจีวรํ วฏฺฏติ.
๕๗๗. ‘‘มุขปฺุฉนโจฬํ ¶ เอก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. เอกํ โธวิตฺวา ยาว สุกฺขาปียติ, ตาว อฺเน มุขปฺุฉเนน ภวิตพฺพตฺตา อาห ‘‘ทฺเวปิ วฏฺฏนฺติ สพฺพถา’’ติ.
๕๗๙. ปมาณโต, คณนโต จ อตีตาติ ปมาณคณนาตีตา. ‘‘ปมาณาตีตา’’ติ วจเนน วินยธรานํ อปฺปมาณคุณตํ ทสฺเสติ, ‘‘คณนาตีตา’’ติ อิมินา อติกฺกนฺตคณนตํ. ปกตํ วินเย ปมํ กตํ พุทฺเธน ภควตา ปฺตฺตํ ชานนฺตีติ ปกตฺู, วินยธรา, เต ปกตฺุโน. อปริมาณคุณมณิคณภูสิตอุปาลิทาสกาทิมหาเถราจริยปรมฺปราคตา สงฺขฺยาปถาตีตา วินยธราติ วุตฺตํ โหติ.
๕๘๐. สุคตฏฺงฺคุลายามนฺติ วฑฺฒกิรตนปฺปมาณทีฆํ. จตุรงฺคุลวิตฺถตนฺติ วฑฺฒกิวิทตฺถิปฺปมาณวิตฺถารํ. วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมํ จีวรํ นาม โหติ. ปจฺฉิมํ จีวรนฺติ ปริสฺสาวนปฏาทีนํ วิเสสนํ, ปจฺฉิมจีวรปฺปมาณนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๕๘๑. ปริสฺสาวปฏนฺติ อุทกปริสฺสาวนตฺถํ ปฏํ. ปตฺตตฺถวิกนฺติ ปตฺตกฺจุกํ. โปตฺถกตฺถวิกนฺติ โปตฺถกกฺจุกํ ¶ . อาทิคฺคหเณน ปจฺฉิมปฺปมาณาทึ ยํ กิฺจิ ปฏํ, ทณฺฑปฏฺจ สงฺคณฺหาติ.
๕๘๒. อธิฏฺาตุนฺติ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ. ปิเตติ อนธิฏฺาย ปิเต. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อาห. นตฺถิ โทสตาติ โทโส เอว โทสตา. ‘‘อตฺตโน สนฺตกภาวโต โมเจตฺวา ปิตํ สนฺธาย มหาปจฺจริยํ อนาปตฺติ วุตฺตา’’ติ วทนฺติ. ‘‘อิมินา เภสชฺชํ เจตาเปสฺสามิ, อิทํ มาตุยา ทสฺสามี’’ติ เปนฺเตน อธิฏฺาตพฺพํ. ‘‘อิทํ เภสชฺชสฺส, มาตุยา’’ติ วิภชิตฺวา สสนฺตกภาวโต โมจิเต อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. โหติ เจตฺถ –
‘‘ยํ วตฺถํ ภิกฺขุนา ลทฺธํ, กตํ มาตาทิสนฺตกํ;
นิสฺสคฺคิยํ น โหตีติ, ตมาหุ วินยฺุโน’’ติ.
๕๘๓. วสฺสมาเส จตุโรติ วสฺสาเน จตุโร มาเส, อธิฏฺานกิริยาย จตฺตาโร มาเส อวิจฺเฉโทติ ¶ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส นิวาเสตพฺพา สาฏิกา วสฺสิกสาฏิกา.
๕๘๔. กณฺฑุํ ปฏิจฺฉาเทตีติ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ, กณฺฑุโรคาตุรสฺส ภิกฺขุโน ตปฺปฏิจฺฉาทนตฺถมนฺุาตจีวรสฺเสตมธิวจนํ. โหนฺติ เจตฺถ –
‘‘มาติกฏฺกถายสฺสา, กณฺฑุจฺฉาทิกสาฏิยา;
น กาลาติกฺกเม วุตฺตํ, อธิฏฺานวิวฏฺฏนํ.
อธิฏฺานปหานงฺเค-สุ วุตฺตตฺตา วิเสสโต;
วีมํสิตพฺพํ วิฺูหิ, ตตฺถ ยํ การณํ สิยา’’ติ.
๕๘๖. ‘‘อสมฺมุเข ¶ เอตนฺติ จา’’ติ วจเนเนว สมฺมุเข ‘‘อิม’’นฺติ วิฺายติ. วิจกฺขโณ ปจฺจุทฺธเรยฺยาติ โยชนา.
๕๘๘. อิติ สพฺพมิทนฺติ เอวํ วุตฺตํ อิทํ ติจีวราทีนํ ปมาณาทิสพฺพวิธานํ. เตจีวริกภิกฺขุโนติ ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺิตเตจีวริกสฺส วินยเตจีวริกสฺส. ติณฺณํ จีวรานํ สมาหาโร ติจีวรํ, ติณฺณํ ติจีวรานํ สมาหาโรติ ‘‘ติติจีวร’’นฺติ วตฺตพฺเพ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน ‘‘ติจีวร’’นฺติ นวจีวรานิ สงฺคหิตานิ, ติจีวเร นิยุตฺโต เตจีวริโกติ วินยเตจีวริโก วุจฺจติ. ธุตงฺคเตจีวริกสฺสาปิ ติจีวเร อิทเมว วิธานนฺติ โสปิ สงฺคยฺหติ. อฺเสุ วา ปน ฉสุ จีวเรสุ ปริกฺขารโจฬํ เอกํ อํสกาสาวเมว วฏฺฏติ. ตถา วตฺวาวาติ ‘‘อิมํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺามี’’ติอาทินา นเยน วตฺวา. ตํ ปริกฺขารโจฬํ. ปริกฺขารโจฬมสฺส อตฺถิ, ตตฺถ วา นิยุตฺโตติ ปริกฺขารโจฬิโก.
๕๘๙. ‘‘ติจีวรํ ปน ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ, น วฏฺฏตี’’ติ อนุโยคํ กตฺวา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา อิธ ‘‘ติจีวร’’นฺติ จีวรตฺตยเมว วุตฺตํ. ‘‘สุขปริหารตฺถํ เอกมฺปิ วิกปฺเปตพฺพ’’นฺติ วจนโต เอกเทเส สมุทาโยปจารวเสน เอกมฺปิ วิกปฺเปตพฺพเมว โหติ.
ปริกฺขารโจฬํ กาตุมฺปิ วฏฺฏตีติ พทฺธสีมโต พหิ วสนฺเตน เอกเกน เตจีวริเกน อนฺโตอรุเณ อสติยา ตีสุ จีวเรสุ หตฺถปาเส อกเตสุ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ, วินยกมฺมํ กาตุํ สภาคปุคฺคลานํ ทุลฺลภตฺตา ¶ จ สุขปริหารตฺถํ ตีสุ เอกํ วา สพฺพานิ เอว วา ติจีวรนาเมน กตาธิฏฺานานิ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ.
เอวํ อคฺคเหตฺวา ‘‘สเจ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานํ ลเภยฺย, อุโทสิตสิกฺขาปเท ปริหาโร นิรตฺถโก ภเวยฺยา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) วุตฺตํ มหาปทุมตฺเถรสฺส มตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอวํ จุโทสิเต’’ติอาทิ. เอวํ เจติ เอวํ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺหิตฺวา ปริหริตุํ วฏฺฏติ เจ. อุโทสิเตติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อนนฺตเร ทุติยกถินสิกฺขาปเท. วุตฺโต ปริหาโรติ ‘‘เอกกุลสฺส คาโม โหติ ปริกฺขิตฺโต จ. อนฺโตคาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตคาเม วตฺถพฺพ’’นฺติอาทินา (ปารา. ๔๗๘) นเยน ปทภาชนาวสาเน วุตฺโต, อิธ จ ‘‘คามาทีสุ ปเทเสสู’’ติอาทินา นเยน อนนฺตรํ วกฺขมาโน ติจีวรสฺส ปริหรณวิธิ. นิรตฺถโกติ ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺิตจีวรสฺส เตน วิธินา ติจีวรํ อปริหรนฺตสฺสาปิ ภิกฺขุโน อนาปตฺติภาวโต นิปฺปโยชโนติ อตฺโถ.
๕๙๐. ตปฺปริหริตุมาห ‘‘น’’อิจฺจาทิ. น นิรตฺถโกติ โยชนา. เหตุํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เตจีวริกสฺเสวา’’ติอาทิ. โย ติจีวรนาเมน อธิฏฺานํ อปจฺจุทฺธริตฺวา สตึ อุปฏฺเปตฺวา อนฺโตอรุเณ จีวรํ หตฺถปาสโต อโมเจตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปติ, ตาทิสสฺส เตจีวริกสฺเสว ตสฺมึ สิกฺขาปเท อุโทสิตปริหารสฺส ภควตา เทสิตตฺตาติ อตฺโถ. ยสฺมา ตาทิสสฺเสว เตจีวริกสฺส อุโทสิตสิกฺขาปเท ปริหาโร วุตฺโต, ตสฺมา. ตํ สพฺพมฺปีติ ตํ นววิธํ สพฺพมฺปิ จีวรํ. ปริกฺขารโจฬสฺสาติ ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺหิตฺวา จีวรํ ปริภฺุชิตุกามสฺส ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ.
๕๙๑. อิมินา ¶ อุโทสิตปริหารสฺส อนิรตฺถกภาวํ สาเธตฺวา อิทานิ ‘‘ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬนาเมนาปิ ¶ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิมสฺส อธิกตฺถสฺส มหาการุณิเกน อนฺุาตภาเว กิริยนฺตรานุชานนสงฺขาตอธิกวจนสฺส าปกเหตุภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธิฏฺเตี’’ติอาทิ. อิมสฺมึเยว สิกฺขาปเท อนาปตฺติวาเร ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ, วิกปฺเปตี’’ติ ปาเ อนาปตฺติภาเว ‘‘อธิฏฺเตี’’ติ เอตฺตเกเนว ปริยตฺเต (ปารา. ๔๖๙) ‘‘วิกปฺเปตี’’ติ กิริยนฺตรานุชานเนน ปการนฺตเรนาปิ โทโส นตฺถีติ อธิปฺปายสฺส วิฺาปิตตฺตาติ อตฺโถ.
๕๙๒. เอวํ กโรนฺตสฺสาติ ติจีวรนาเมน อธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺหนฺตสฺส. อิทานิ อติปฺปสงฺคํ ทสฺเสตุกามสฺส โจทกสฺส อธิปฺปายํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. มูลาธิฏฺานํ ปหาย กาตพฺพปฺปการนฺตรสฺสาปิ วิชฺชมานตฺตา ติจีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา มุขปฺุฉนาทิกํ กตฺวา อธิฏฺหโตปิ โทโส น สิยาติ กสฺมา นาปชฺชตีติ อตฺโถ. นอิติ อติปฺปสงฺคนิวารเณ.
๕๙๓. กิจฺจวิธานโตติ เตสํ มุขปฺุฉนาทีนํ อตฺตโน อตฺตโน กิจฺจสฺส สาธนโต, ตาทิสํ กิจฺจวิเสสาเปกฺขํ วินา ตํตํนาเมน อธิฏฺาตุํ น ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย. อกิจฺจสฺสาติ มุขปฺุฉนาทิกิจฺจรหิตสฺส. อธิกสฺสาติ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปมํ อธิฏฺานสฺส วิชหิตตฺตา อติเรกสฺส. อสฺสาติ ติจีวรสฺส. อธิฏฺานํ ตุ ยุชฺชตีติ ทสาหํ อนติกฺกมิตฺวา ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺานํ ปน ยุชฺชติ.
๕๙๔. นิธานสฺส ¶ มุขํ อุปาโยติ นิธานมุขํ, อนฺตรวาสกาทิตํตํจีวรนาเมน อธิฏฺานโต อติเรกํ ยํ กิฺจิ จีวรํ ยถา ปิตํ อาปตฺตึ น กโรติ, ตถา นิธานสฺส อุปาโยติ อตฺโถ. เอตํ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานํ. มหาปจฺจริยนฺติ พฺราหฺมณติสฺสภเย ภิกฺขุสงฺฆํ ชมฺพุทีปํ เนตุํ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อาณตฺติยา วิสุกมฺเมน นิมฺมิตมหาปจฺจริยํ นิสีทิตฺวา ลิขิตตฺตา ตํนามกายํ วินยฏฺกถายํ, ‘‘มหาปจฺจริยาทิสู’’ติปิ ลิขนฺติ.
๕๙๕. ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺานวิธานสฺส วุตฺตปฺปมาณํ กตมนฺติ อาห ‘‘จีวร’’นฺติอาทิ. ‘‘นิทาเน อุปฺปตฺติโต’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘จีวรํ ปริปุณฺณ’’นฺติ นิทาเน ‘‘ติจีวรํ สมฺปุณฺณํ วิชฺชติ, อิทมติเรกจีวรํ กึ กาตพฺพ’’นฺติ ภิกฺขูหิ ภควโต อาโรจิตวตฺถุมฺหิ ¶ . อุปฺปตฺติโตติ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานสฺส อุปฺปนฺนตฺตา, อนฺุาตตฺตาติ อตฺโถ. ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ ปริปุณฺณํ โหติ ติจีวรํ, อตฺโถ จ โหติ ปริสฺสาวเนหิปิ ถวิกาหิปิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ ภิกฺขเว ปริกฺขารโจฬก’’นฺติ (มหาว. ๓๕๗) เอตฺถ ปาฬิยํ เอวํ วิปฺปวาสสุขตฺถํ นาเมนาธิฏฺิตติจีวรํ อธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตีติ สาธเนน ตเทกสาธนตฺตา เอว เอกมฺปิ จีวรํ วิกปฺเปตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตเมว โหติ. เตเนวาห อฏฺกถายํ ‘‘เอวฺจ สติ โย ติจีวเร เอเกน จีวเรน วิปฺปวสิตุกาโม โหติ, ตสฺส ติจีวราธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิปฺปวาสสุขตฺถํ วิกปฺปนาย โอกาโส ทินฺโน โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙).
๕๙๖-๘. เอตฺตาวตา กปฺปิยจีวรฺจ ตตฺถ กตฺตพฺพฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อกปฺปิยจีวรํ ทสฺเสตุมาห ‘‘กุสวากาที’’ติอาทิ. กุสนฺติ ทพฺพติณํ. วากนฺติ รุกฺขาทีนํ วากํ. อาทิ-สทฺเทน ¶ ผลกํ คหิตํ, จีร-สทฺโท จีวรปริยาโย, อิมสฺมึ กุสาทโย คนฺเถตฺวา กเต จีวเรเยว วตฺตติ. เกสชํ กมฺพลนฺติ มนุสฺสเกเสหิ วีตกมฺพลฺจ. วาลชํ กมฺพลนฺติ อสฺสวาลจมรวาเลหิ วีตกมฺพลฺจ. อุลูกปกฺขนฺติ โกสิยสกุณปตฺตํ. อิธ ปน ตํ คนฺเถตฺวา กตจีวรเมว คเหตพฺพํ. อชินกฺขิเปติ อชินทีปิจมฺเม. ‘‘ธารยโต ถุลฺลจฺจย’’นฺติ ปจฺเจกํ สมฺพนฺโธ.
กทลิทุสฺเสติ กทลิวากมยวตฺเถ. เอรกทุสฺเสติ เอรกมยวตฺเถ. อกฺกทุสฺเสติ อกฺกทณฺเฑ วา เตสํ สุตฺตานิ วา คเหตฺวา กตวตฺเถ. โปตฺถเกติ มกจิวากมยวตฺเถ. ติรีเฏ วาติ เอวํนามเก รุกฺขตเจ. เวเนติ สีสเวเน. กฺจุเกติ กวเจ.
สพฺพนีลเกติ เกวลนีลเก. เอส นโย มฺเชฏฺาทีสุ. มหานามรตฺเตติ ตนุปทุมทลวณฺณรตฺเต. มหารงฺครตฺเตติ สตปทิวณฺณรตฺเต.
๕๙๙. อจฺฉินฺนทสเกติ อจฺฉินฺนา ทสา ยสฺส, ตสฺมึ จีวเร. เอส นโย ทีฆทเสปิ. ผลทเสติ ผลสทิสคนฺถิตา ทสา ยสฺส, ตสฺมึ. ปุปฺผทเสติ กณฺณิกํ พนฺธิตฺวา วิกาเสตฺวา กตา ทสา ยสฺส, ตสฺมึ จีวเรติ อตฺโถ. อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ นคฺคํ กตฺวา โจเรหิ วิลุตฺตจีวรสฺส ¶ . เอตฺถาติ กุสวากาทีสุ, สพฺพนีลาทีสุ จ. กิฺจีติ เอกมฺปิ อกปฺปิยํ นตฺถิ อนนุโลมิกํ นตฺถิ. ‘‘นคฺเคน เอเตสุ อกปฺปิยจีวเรสุ ยํกิฺจิ ลทฺธํ, เตน หิริโกปินํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปจฺฉา กปฺปิยจีวเร ลทฺเธ ตํ อธิวาเสตฺวา อิทํ อกปฺปิยจีวรํ ปริจฺจชิตพฺพํ. สพฺพนีลกาทิวตฺเถสุ ลทฺเธสุ กปฺปิยรชเนน รชิตฺวา, ตํ วณฺณํ นาเสตฺวา วา กปฺปิยวตฺถานิ อุภยปสฺเสสุ ¶ อลฺลิยาเปตฺวา, ปฏิจฺฉาเทตฺวา วา นิวาเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๖๐๐. ‘‘อนฺโตทสาห’’นฺติ อิทํ ‘‘อธิฏฺเตี’’ติอาทีหิ สพฺพปเทหิปิ โยเชตพฺพํ. วิสฺสชฺเชตีติ อฺสฺส เทติ. อิธ ทานํ ทุวิธํ สมฺมุขาทานํ, ปรมฺมุขาทานนฺติ. ปฏิคฺคาหกํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ ทานํ สมฺมุขาทานํ นาม. ปรมฺมุขา ‘‘อิทํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปรมฺมุขาทานํ. ‘‘อิทํ ตฺวํ คณฺหาหี’’ติ วา ‘‘ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วา วุตฺเต ‘‘มยฺหํ คณฺหามี’’ติ สเจ วทติ, ทานคหณทฺวยมฺปิ สุทฺธํ. ‘‘อิทํ ตว สนฺตกํ กโรหิ, ตว สนฺตกํ โหตุ, ตว สนฺตกํ โหตี’’ติ ทายเกน วุตฺเต คณฺหนฺโตปิ ‘‘มม สนฺตกํ กโรมิ, มม สนฺตกํ โหตุ, มม สนฺตกํ โหตี’’ติ วทติ เจ, ทานํ, คหณฺจ อสุทฺธํ โหติ. ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหี’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘สาธุ ภนฺเต มยฺหํ คณฺหามี’’ติ วตฺวา คณฺหาติ, คหณํ สุทฺธํ. ‘‘อิทํ ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘อหํ น คณฺหามี’’ติ วทติ, ปุน ‘‘ทินฺนํ มยา, ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต อิตโรปิ ปุน ปฏิกฺขิปติ, ตํ จีวรํ กสฺสจิ อสนฺตกตฺตา ทสาหาติกฺกเมนาปิ นิสฺสคฺคิยํ น โหตีติ ปจฺฉา เตสุ ทฺวีสุ โย อิจฺฉติ, เตน อธิฏฺาย ปริภฺุชิตพฺพนฺติ สพฺพมิทํ อฏฺกถาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ.
อธิฏฺิตจีวเร อธิฏฺาเน เวมติเกน อตฺตโน วิมตึ ปมํ อาวิ กตฺวา ‘‘สเจ อนธิฏฺิตํ, เอวํ กเต กปฺปิยํ โหตี’’ติ จินฺเตตฺวา นิสฺสชฺเชตฺวา วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺส มุสาวาทโทโส นาปชฺชติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘น หิ เอวํ ชานาเปตฺวา วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺส มุสาวาโท โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙). ‘‘เกจิ ‘ตถา เวมติกจีวรํ อฺเน ¶ วิสฺสาเสน คเหตฺวา ปุน ทาตพฺพ’นฺติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทร’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙ โถกํ วิสทิสํ) ตตฺเถว วุตฺตํ.
วินสฺสตีติ โจราทีหิ วินสฺสติ. ‘‘นสฺสติ, ฑยฺหติ, อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺตี’’ติ อิมานิปิ ¶ วินาสปฺปการตฺตา ‘‘วินสฺสตี’’ติ อิมินาว สงฺคยฺหนฺติ. ตตฺถ ‘‘นสฺสตี’’ติ อิทํ โจราทีหิ หฏํ สนฺธาย วุตฺตํ, ‘‘วินสฺสตี’’ติ อิทํ อุนฺทูรขายิตาทึ สนฺธาย วุตฺตํ, ‘‘ฑยฺหตี’’ติ อคฺคินา ทฑฺฒํ สนฺธาย. วิสฺสาเสติ เอตฺถ สนฺทิฏฺโ จ สมฺภตฺโต จ อาลปิโต จ ชีวติ จ คหิเต จตฺตมโน โหตีติ ปฺจงฺคสมนฺนาคเตน อตฺตนิ วิสฺสาเสน อฺเน คหิเตติ อตฺโถ. ปกาสิตาติ ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเตี’’ติอาทินา (ปารา. ๔๖๙) นเยน วุตฺตา.
๖๐๑. อิทํ ปน สมุฏฺานํ นาเมน กถินสมุฏฺานํ นามาติ อตฺโถ. อิทํ กถินสมุฏฺานํ นาม กายวาจโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. อติเรกจีวรภาวสฺส ชานนจิตฺเตน ปณฺณตฺติชานนจิตฺเต อสติปิ อาปตฺติสมฺภวโต อจิตฺตํ. อนธิฏฺานโต, อวิกปฺปนโต จ อกฺริยํ. กมฺมฏฺานมนุยฺุชนฺโต วา เจติยาทึ วนฺทนฺโต วา เอกาทสมํ อรุณํ อุฏฺาเปติ, กุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, กลหาทิปสุโต วา วีติกฺกมํ ชานนฺโต วา อุฏฺาเปติ, อกุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, ขีณาสโว ปน อสติยา วา ปณฺณตฺตึ อชานนฺโต วา ตถา กโรนฺโต อพฺยากตจิตฺโต อาปชฺชตีติ ติจิตฺตํ. วุตฺตนเยน กมฺมฏฺานาทิมนุยฺุชนฺตสฺส โสมนสฺสจิตฺตสมงฺคิโน สุขเวทนา, อุเปกฺขาจิตฺตสมงฺคิโน อุเปกฺขาเวทนา, กลหาทิปสุตสฺส โทมนสฺสจิตฺตสมงฺคิโน ทุกฺขเวทนา โหตีติ ติเวทนํ. เอส นโย อุปริปิ เอวรูเป าเน โยเชตพฺโพ.
ปมกถินกถาวณฺณนา.
๖๐๒. คามาทีสุ ¶ ปเทเสสุ ติปฺจสูติ ติจีวรานิ นิกฺขิปิตฺวา วิปฺปวาเสน โทสํ, อุปฺปชฺชนฏฺานฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘คาโม เอกูปจาโร’’ติอาทินา (ปารา. ๔๗๗) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตคามนิเวสนอุโทสิตอฏฺฏมาฬปาสาทหมฺมิยนาวาสตฺถเขตฺตธฺกร- ณอารามวิหารรุกฺขมูลอชฺโฌกาสสงฺขาเตสุ ปนฺนรสสุ จีวรนิกฺเขปฏฺาเนสูติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ คาโม นาม เอกกุฏิกาทิคาโม.
นิเวสนํ นาม คามโต พหิ จตุสาลาทิโก เคโห. เตนาห คณฺิปเท ‘‘คามนิเวสนานํ วิเสสํ วทนฺตา ‘ปุน เอกปริจฺเฉทํ กตฺวา นิเวสิตา พหุเคหา นิเวสนํ นาม โหนฺตี’ติ วทนฺติ, ตสฺมา อิทํ นิเวสนาทิ สพฺพํ ‘คามโต พหี’ติ คเหตพฺพ’’นฺติ. อิทฺจ ตตฺเถว วุตฺตํ ‘‘นิเวสนาทิกํ ¶ อนฺโตคาเม เจ โหติ, คาเม วุตฺตปริหารสฺเสว ลพฺภนโต อนฺโตคามโต พหี’ติ คเหตพฺพ’’นฺติ.
อฏฺกถายํ ‘‘อุโทสิโตติ ยานาทีนํ ภณฺฑานํ สาลา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๘๒-๔๘๗) วุตฺตสรูปํ อุโทสิตํ นาม. ‘‘อฏฺโฏติ ปฏิราชาทิปฏิพาหนตฺถํ อิฏฺกาหิ กโต พหลภิตฺติโก จตุปฺจภูมิโก ปติสฺสยวิเสโส’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๘๒-๔๘๗) วุตฺตสรูโป อฏฺโฏ นาม. ‘‘มาโฬติ เอกกูฏสงฺคหิโต จตุรสฺสปาสาโท’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๔๘๒-๔๘๗) วุตฺโต เอกกณฺณิกสงฺคหิโต จตุรสฺสเคโห มาโฬ นาม. ปาสาโทติ ทีฆปาสาโท. หมฺมิยนฺติ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโท. นาวาติ ยานปฺปตฺติ. สตฺถนฺติ ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺถวเสน ทุวิโธ ชนสมูโห, โส จ นิวิฏฺานิวิฏฺวเสน ปจฺเจกํ ทุวิโธ. ตตฺถ นิวิฏฺเ วติอาทิปริกฺเขโปปิ โหเตว.
เขตฺตนฺติ ¶ ยวเขตฺตาทิเขตฺตํ. ธฺกรณํ ขลํ. อาราโม ปุปฺผาราโม, ผลาราโม จ. วิหาโรติ เอกมฺปิ เสนาสนํ วุจฺจติ. ‘‘รุกฺโข นาม ยํ มชฺฌนฺติเก กาเล สมนฺตา ฉายา ผรตี’’ติ (ปารา. ๔๙๔) วุตฺตปฺปมาณปริจฺฉนฺโน รุกฺโข. อชฺโฌกาโส นาม สตฺตพฺภนฺตโร, โส วิฺจาฏวิอาทิอคามการฺเ จ มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ สมุทฺททีเป จ ลพฺภติ. มจฺฉพนฺธานํ อคมนปโถ นาม อุทกปิฏฺิยา คนฺตฺวา ปุน ตทเหว เคหํ อาคนฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ทูโร สมุทฺทปฺปเทโส วุจฺจติ.
อยํ คามาทิโก ปจฺเจกํ เอกูปจาโร, นานูปจาโรติ ทุวิโธ. ตตฺถ อชฺโฌกาสํ วินา คามาทิโก ตํตํราชาทิสามิกกุลานํ เอกตฺถนานตฺถวเสน เอกกุลสนฺตโก เจ โหติ, เอกูปจาโร. นานากุลสนฺตโก เจ, นานูปจาโร โหติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘คาโม เอกูปจาโร นาม เอกกุลสฺส คาโม โหตี’’ติอาทิ (ปารา. ๔๗๘). อฏฺกถายมฺปิ วุตฺตํ ‘‘เอกกุลสฺส คาโมติ เอกสฺส รฺโ วา โภชกสฺส วา คาโม’’ติ จ ‘‘นานากุลสฺส คาโมติ นานาราชูนํ วา โภชกานํ วา คาโม เวสาลีกุสินาราทิสทิโส’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๗๙) จ.
เอกกุเลน การาปิโต วิหาโร เอกูปจาโร, นานากุเลหิ การาปิโต นานูปจาโร โหติ. ยถาห คณฺิปเท ‘‘วิหาเร เอกกุลนานากุลโวหาโร การาปกานํ วเสน วุตฺโต’’ติ. อชฺโฌกาเส ปน ¶ อุปจารเภโท อพฺภนฺตรวเสน เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเจตํ ปาฬิยํ ‘‘อชฺโฌกาโส เอกูปจาโร นาม อคามเก อรฺเ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา เอกูปจาโร. ตโต ปรํ นานูปจาโร’’ติ. อิธ เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติรตนํ โหติ. ยถาห ¶ อฏฺกถายํ ‘‘เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติหตฺถ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๘๙). เอวํ สงฺเขปโต วุตฺตสรูปปฺปเภทานิ ปนฺนรส านานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘คามาทีสุ ปเทเสสุ ติปฺจสู’’ติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ปาฬิอฏฺกถาวณฺณนโต เวทิตพฺโพ.
‘‘ติจีวเรน วิปฺปวาเสยฺยาติ สงฺฆาฏิยา วา อุตฺตราสงฺเคน วา อนฺตรวาสเกน วา. อนฺโตคาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา’’ติ (ปารา. ๔๗๖, ๔๗๘) วจนโต เอตฺถ ติจีวรนฺติ ติณฺณํ จีวรานมฺตรเมว จีวรํ วตฺตพฺพํ. เอกรตฺตนฺติ วิปฺปวาสกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. อปิ-สทฺเทน กึ ปน ทิรตฺตาทิกนฺติ ทสฺเสติ.
สงฺฆสมฺมุติยา วินาติ ติจีวรํ ปริหริตุํ อสมตฺเถน คิลาเนน ภิกฺขุนา สงฺฆํ วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ‘‘อหํ ภนฺเต คิลาโน, น สกฺโกมิ ติจีวรํ อาทาย ปกฺกมิตุํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ ติจีวเรน อวิปฺปวาสสมฺมุตึ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ยาจิเตน สงฺเฆน ตสฺส ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ทินฺนํ อวิปฺปวาสสมฺมุตึ วินาติ วุตฺตํ โหติ. ตถา ลทฺธสมฺมุติกสฺส คิลานสฺส ภิกฺขุโน ตสฺมึ เคลฺเ อวูปสนฺเต วา วูปสนฺเตปิ จีวรนิกฺเขปฏฺานํ อาคมนกาเล วา อุปฺปนฺเน อฺเปิ โรเค อวูปสนฺเต ตายเยว สมฺมุติยา น โทโส.
๖๐๓. ภิกฺขุโนติ อลทฺธสมฺมุติกสฺส ภิกฺขุโน. เตน จีวเรน. วิปฺปวตฺถุํ น วฏฺฏตีติ วินา วสิตุํ น วฏฺฏติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘เอกกุลสฺส คาโม โหติ ปริกฺขิตฺโต จ, อนฺโตคาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตคาเม วตฺถพฺพํ. อปริกฺขิตฺโต โหติ, ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ ฆเร วตฺถพฺพํ, หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ. นานากุลสฺส ¶ คาโม โหติ ปริกฺขิตฺโต จ, ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ ฆเร วตฺถพฺพํ สภาเย วา ทฺวารมูเล วา, หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพ’’นฺติอาทินา (ปารา. ๔๗๘) นเยน ปาฬิยา วุตฺตฏฺานโต พหิ อรุณํ อุฏฺาเปตุํ น วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ.
อิมสฺมึ ¶ ปาเ ‘‘ปริกฺขิตฺโต’’ติ อิทํ ปากาเรน วา วติยา วา ปริขาย วา ปริกฺขิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. หตฺถปาสา วาติ เอตฺถ หตฺถปาสา นาม อฑฺฒติยรตนํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตํ ฆรํ สมนฺตโต หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ, อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณา ปเทสา อุทฺธํ น วิชหิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๗๗-๔๗๘).
วิปฺปวสนฺตสฺส โก โทโสติ อาห ‘‘โหติ…เป… อรุณุคฺคเม’’ติ. อนฺุาตฏฺานโต หิ พหิ จีวเรน วินา อรุณํ อุฏฺาเปนฺตสฺส ตํ จีวรํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ โหติ, ตํเหตุกา ปาจิตฺติยาปตฺติปิ โหตีติ อตฺโถ. เตเนว วกฺขติ ‘‘นิสฺสชฺชิตฺวา…เป… วิฺุนา’’ติ.
๖๐๔. นฺหายนฺตสฺเสวาติ จีวรสฺส หตฺถปาสโต ทูเร นหายนฺตสฺเสว, อนาทเร สามิวจนํ.
๖๐๖. อจฺฉินฺนํ วิลุตฺตํ จีวรํ ยสฺส โส อจฺฉินฺนจีวโร, ภิกฺขุ, ตสฺส านํ อจฺฉินฺนจีวรฏฺานํ, ตสฺมึ.
๖๐๗. นิวาเสตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อนฺตรวาสก’’นฺติ จ คเหตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อิตรานี’’ติ จ เสโส. อิทฺจ คนฺตพฺพฏฺาเน, อาสนฺเน มคฺเค จ มนุสฺสสมฺพาเธ อสติ กตฺตพฺพทสฺสนํ. อิตรตฺถ นิวาเสตฺวา, ปารุปิตฺวา จ สงฺฆาฏึ อํเส กตฺวาว คนฺตพฺพํ โหติ. วิหาเร สภาเคสุ อลพฺภมาเนสุ อาสนสาลมฺปิ คนฺตฺวา สภาคสฺส สนฺติเก วินยกมฺมํ กตฺตพฺพนฺติ ¶ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๙๕ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. ‘‘นิสฺสชฺชิตฺวา’’ติ อิมินา ‘‘อิทํ เม ภนฺเต จีวรํ รตฺติวิปฺปวุตฺถํ อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามี’’ติ สงฺเฆ วา ‘‘อิทํ เม ภนฺเต จีวรํ…เป… อหํ อายสฺมนฺตานํ นิสฺสชฺชามี’’ติ ติณฺณํ, ทฺวินฺนํ วา สนฺติเก วา ‘‘อิทํ เม อาวุโส…เป… อิมาหํ อายสฺมโต นิสฺสชฺชามี’’ติ เอกสฺส สนฺติเก วา วตฺวา นิสฺสชฺชิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วิฺุนาติ เอวํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุนิสฺสชฺชนาทินานปฺปการวิธิชานนเกน าณวตาติ อตฺโถ.
๖๐๙. ‘‘อเทนฺตสฺส จ นิสฺสฏฺํ ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน อาปตฺติ ¶ ปฏิคฺคเหตพฺพา, นิสฺสฏฺจีวรํ ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อิมํ วิธึ ชานนตาย พฺยตฺเตน ยถาวิธึ กาตุํ สมตฺถตาย ปฏิพเลน ขนฺธเก (จูฬว. ๒๓๙) อาคตนเยน อาปตฺตึ ปฏิคฺคเหตฺวา นิสฺสฏฺจีวรํ หตฺเถน คเหตฺวา นิสีทาเปตฺวา สเจ สงฺโฆ โหติ, ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยา’’ติ, สเจ ตโย โหนฺติ, ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ อายสฺมนฺตานํ นิสฺสฏฺํ, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อายสฺมนฺตา อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยุ’’นฺติ, สเจ เอกโก โหติ, ‘‘อิมํ จีวรํ อายสฺมโต ทมฺมี’’ติ ทาตพฺพํ, นิสฺสฏฺจีวรํ ‘‘อตฺตโนเยว ทินฺน’’นฺติ สุทฺธสฺาย คเหตฺวา อเทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
ตสฺส สนฺตกภาวํ ตฺวา เลเสน วิลุมฺปนฺตสฺส ปน ภณฺฑคฺฆวเสน ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกาปตฺติโย โหนฺติ. ยถาห ¶ อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺส สนฺตกภาวํ ปน ตฺวา เลเสน อจฺฉินฺทนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙). ปริยาปุตนฺติ ‘‘น ภิกฺขเว นิสฺสฏฺจีวรํ น ทาตพฺพํ, โย น ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๗๐) ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
๖๑๐-๑. เถเร ทหเร จาติ เอเตสุ อุโภสุปิ มคฺคํ คจฺฉนฺเตสูติ โยชนา. ‘‘เถเร’’ติ อิมินา อนิสฺสิตภาวมาห, ‘‘ทหเร จา’’ติ อิมินา นิสฺสิตภาวํ. โอหีเนติ โอสกฺกิเต. สเจ โส เถโร นิสฺสยาจริโย ภเวยฺยาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ครุ’’นฺติ. ตสฺมึ ทหเร. วตฺถนฺติ ตสฺส หตฺเถ ิตจีวรํ. น ปสฺสมฺภตีติ ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา คมเน สอุสฺสาหตฺตา นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิ น โหตีติ อธิปฺปาโย. เตเนว ‘‘มุหุตฺต’’นฺติอาทิมาห.
๖๑๔. ปจฺจุทฺธาเร อนฺโตเยวารุเณติ อิมินา สมฺพนฺโธ, ทหรภิกฺขุโน ทูรภาวฺจ อรุณุคฺคมนฺจ ตฺวา จีวรสฺส อนิสฺสคฺคิยตฺถํ ตสฺส หตฺเถ ิตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวา ปุรารุณา ปจฺจุทฺธเรติ อตฺโถ. วิสฺสชฺเชตีติ อฺสฺส เทติ. วินสฺสตีติ โจราทีหิ นสฺสติ.
ทุติยกถินกถาวณฺณนา.
๖๑๖. อกาลจีวรนฺติ ¶ ‘‘อกาลจีวรํ นาม อนตฺถเต กถิเน เอกาทสมาเส อุปฺปนฺนํ, อตฺถเต กถิเน สตฺตมาเส อุปฺปนฺนํ, กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺน’’นฺติ (ปารา. ๕๐๐) วจนโต อนตฺถตกถิเน วิหาเร ‘‘จีวรมาโส’’ติ โย ปุพฺพกตฺติกกาฬปกฺขปาฏิปทโต ปฏฺาย ยาว อปรกตฺติกปุณฺณมี, ตาว มาโส วุจฺจติ, ตโต ปเรสุ เอกาทสสุ มาเสสุ ¶ อุปฺปนฺนฺจ อตฺถตกถิเน วิหาเร โย จีวรมาโส, เหมนฺตา จ จตฺตาโร มาสาติ ปฺจมาสโต พหิ สตฺตสุ มาเสสุ อุปฺปนฺนฺจ อตฺถตกถิเน ปฺจ มาสา ยถาปริจฺฉินฺนกาเล สงฺฆสฺส จ ‘‘อิทํ อกาลจีวรํ ทมฺมี’’ติ ปุคฺคลสฺส จ ‘‘อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ ทินฺนฺเจติ อิทํ อกาลจีวรนฺติ อตฺโถ. ‘‘อุปฺปนฺน’’นฺติ เสโส, ‘‘อุปฺปชฺเชยฺย สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา ปํสุกูลโต วา อตฺตโน วา ธเนนา’’ติ (ปารา. ๕๐๐) วจนโต สงฺฆสฺส วา ‘‘อิทํ สุตฺตนฺติกคณสฺส เทม, อิทํ อาภิธมฺมิกคณสฺส เทมา’’ติอาทินา นเยน คณสฺส วา ทินฺนโต อตฺตโน วสฺสคฺเคน วา าติอาทิโต วา สุสานาทิปํสุกูลเขตฺตโต วา อตฺตโน สนฺตเกน สุตฺตกปฺปาสาทิกปฺปิยวตฺถุโต วา อุปฺปนฺนจีวรนฺติ อตฺโถ.
มาสปรมํ นิกฺขิเปติ มาโส ปรมํ ปมาณํ เอตสฺส นิกฺขิปนสฺสาติ มาสปรมํ, นิกฺขิปนนฺติ กิริยาวิเสสนํ กาตพฺพํ, มาสปรมํ นิกฺขิปนํ กเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อากงฺขมาเนน ภิกฺขุนา ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปฏิคฺคเหตฺวา ขิปฺปเมว กาเรตพฺพํ, โน จสฺส ปาริปูรี, มาสปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตํ จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ อูนสฺส ปาริปูริยา’’ติ (ปารา. ๕๐๐) วจนโต เอวํ อุปฺปนฺนํ จีวรํ อิจฺฉนฺเตน ปฏิคฺคเหตฺวา สเจ ปโหติ, ทสาหมนติกฺกาเมตฺวา กาเรตพฺพํ. สเจ นปฺปโหติ, อูนสฺส ปริปูรณตฺถํ มาสปรมํ เปตพฺพนฺติ อตฺโถ.
กทา เอวํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ อาห ‘‘สติ ปจฺจาสายา’’ติ, ‘‘ปจฺจาสา โหติ สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา ปํสุกูลโต วา อตฺตโน วา ธเนนา’’ติ (ปารา. ๕๐๐) วุตฺตสงฺฆาทิโต อตฺตโน วสฺสคฺคาทิโต ลเภยฺย, เตน ‘‘อิมสฺส อูเน ปริปุณฺเณ กาเรสฺสามี’’ติ ปจฺจาสาย สติ เอวํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ตโต อุทฺธํ เปตุํ ¶ น วฏฺฏตีติ มาสโต อติเรกกาลํ นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ.
ยทิ เอวํ ‘‘ตทหุปฺปนฺเน มูลจีวเร ปจฺจาสาจีวรํ อุปฺปชฺชติ, ทสาหา กาเรตพฺพํ…เป… วีเส ¶ อุปฺปนฺเน มูลจีวเร ปจฺจาสาจีวรํ อุปฺปชฺชติ, ทสาหา กาเรตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๐๐) กสฺมา อาหาติ? ปจฺจาสาจีวรสฺส ทสทิวเส อติกฺกมฺม เปตุํ อยุตฺตตฺตา, มูลจีวรสฺส ตคฺคติกตฺตา เอวํ วุตฺตํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘มูลจีวรสฺส อุปฺปนฺนทิวสโต ยาว วีสติโม ทิวโส, ตาว อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรํ มูลจีวรํ อตฺตโน คติกํ กโรตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๐).
ตติยกถินกถาวณฺณนา.
๖๑๘-๙. ภิกฺขุนิยา โย โธวาเปตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ภิกฺขุนี นาม อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนา’’ติ (ปารา. ๕๐๐) วจนโต ภิกฺขุนิสงฺเฆ ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย, ภิกฺขุสงฺเฆ ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจายาติ อฏฺวาจิกาย อุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนี นาม. ภุตฺตนฺติ ภิกฺขุนา อตฺตนา ปริภุตฺตํ รชิตํ อาทินฺนกปฺปํ, ‘‘ปริโภคํ กริสฺสามี’’ติ อนฺตมโส สีสํ เปตฺวา สยนมตฺเตนาปิ ปุราณภูตํ จีวรนฺติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘รชิตฺวา กปฺปํ กตฺวา เอกวารมฺปิ นิวตฺถํ วา ปารุตํ วา อนฺตมโส ปริโภคสีเสน อํเส วา มตฺถเก วา กตฺวา มคฺคํ คโต โหติ, อุสฺสีสกํ วา กตฺวา นิปนฺโน โหติ, เอตมฺปิ ปุราณจีวรเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๓-๕๐๕). วตฺถนฺติ การิเย การโณปจารวเสน จีวรเมว อาห.
อฺาติกายาติ ‘‘อฺาติกา นาม มาติโต วา ปิติโต วา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อสมฺพทฺธา’’ติ วจนโต ¶ อตฺตโน วา ตสฺสา วา มาตุ วา ปิตุ วา ปรมฺปราย ยาว สตฺตมา ยุคา, เอตฺถนฺตเร เยน เกนจิ าตเกน อสมฺพทฺธภาเวน อฺาติกายาติ อตฺโถ. ยถา จาห อฏฺกถายํ ‘‘ปิตามโหเยว ปิตามหยุคํ. ตโต อุทฺธํ สพฺเพปิ ปุพฺพปุริสา ปิตามหคฺคหเณเนว คหิตา. เอวํ ยาว สตฺตโม ปุริโส, ตาว ยา อสมฺพทฺธา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๓-๕๐๕). อาโกฏาเปตีติ ปหราเปติ.
ตโต โธวาปนาทิโต. นิสฺสคฺคิยาปตฺตีติ นิสฺสคฺคิยสฺส อาปตฺติ นิสฺสคฺคิยาปตฺติ, นิสฺสคฺคิยสฺส จีวรสฺส นาเมน วิสิฏฺา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ. อิทฺจ ติณฺณํ ปโยคานํ อนฺเต อาปชฺชิตพฺพาย อาปตฺติยา ทสฺสนํ. ตสฺส นิโยเคน โธวนาทึ กโรนฺติยา ภิกฺขุนิยา ตทตฺถํ สพฺพปุพฺพปโยคคณนาย ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ คเหตพฺโพ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยาว นํ โธวิตฺวา อุกฺขิปติ, ตาว ภิกฺขุนิยา ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๓-๕๐๕). ปเมนาติ ตีณิปิ การาเปนฺตสฺส ยํ ปมํ การาเปติ, เตนาติ อตฺโถ. ทีปิตนฺติ ‘‘อฺาติกาย อฺาติกสฺี ปุราณจีวรํ โธวาเปติ รชาเปติ อาโกฏาเปติ, นิสฺสคฺคิเยน อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏาน’’นฺติอาทินา (ปารา. ๕๐๖) เทสิตํ. อิมินา นเยน ทฺเว การาเปนฺตสฺส ปเมน นิสฺสคฺคิยาปตฺติ, ทุติเยน ทุกฺกฏนฺติ อยมตฺโถ สงฺคยฺหติ.
๖๒๐. ‘‘โธวนตฺถาย เทตี’’ติ อิมินา ‘‘ภุตฺตํ วตฺถ’’นฺติ อธิการโต ลพฺภติ.
๖๒๑. สามเณรนิทฺเทเสปีติ ‘‘สามเณรา’’ติ นิทฺเทโส นาม ยสฺส, ตสฺมิมฺปิ, อตฺตนา ปริภุตฺตํ วตฺถํ โธวนตฺถาย เทตีติ โยชนา, อตฺตโน ปริภุตฺตํ จีวรํ โธวนตฺถาย ¶ สามเณรสฺส เทตีติ อตฺโถ. ปิ-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. อุปสมฺปชฺชาติ ปุพฺพกิริยาย ‘‘โธวตี’’ติ อปรกิริยา สามตฺถิยา ลพฺภติ.
๖๒๒. ทหรานฺจ ภิกฺขูนนฺติ อตฺตโน นวกตรานํ ภิกฺขูนํ. นิยฺยาทิเต ทินฺเน. เอส นโยติ ‘‘เอเกน ปาจิตฺติยํ, อวสิฏฺเหิ ทฺวีหิ วา เอเกน วา สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ โหตี’’ติ นโย.
๖๒๔. ‘‘โธวนปฺปจฺจยาเยวา’’ติ อิมินา อิตรทฺวยสฺส ตสฺส อนาณตฺติยา กตตฺตา ตโต อนาปตฺติภาวมาห.
๖๒๖. าติกาติ เอตฺถ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒-๒๓, ๔๒๒; อ. นิ. ๖.๕๘; ๘.๙; มหานิ. ๒๐๖; ธ. ส. ๑๓๕๕; วิภ. ๕๑๘) วิย คาถาพนฺธวเสน ย-การโลโป, าติกาย ภิกฺขุนิยาติ อตฺโถ. ‘‘าติกา อฺาติสฺิสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ปจฺจตฺถรณนฺติ มฺจปีเ อตฺถริตพฺพํ ปจฺจตฺถรณจีวรฺจ.
๖๒๗. ‘‘ภิกฺขุนีนํ วเสนา’’ติ อิทํ ภิกฺขุสงฺเฆปิ อุปสมฺปนฺนา เจ, ปาจิตฺติยสมฺภวา วุตฺตํ ¶ . ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ยถาวตฺถุกเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๖). ภิกฺขุนิสงฺเฆ ปมํ อุปสมฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา ภิกฺขุสงฺเฆ เจ อุปสมฺปชฺชติ, เกวลํ ภิกฺขุสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาติ น วุจฺจตีติ ตา ภควติ ธรมาเน ปมํ ปพฺพชิตา ปฺจสตา สากิยานิโย วุจฺจนฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนา นาม ปฺจสตา สากิยานิโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๖). ภิกฺขุโน ¶ ลิงฺเค ปริวตฺเต ตสฺเสว อุปสมฺปนฺนกมฺมสฺส อนฺุาตตฺตา โสปิ คเหตพฺโพเยว.
๖๒๘. อวุตฺตา โธวตีติ ‘‘อิมํ จีวรํ โธวา’’ติ อวุตฺตา จีวรํ กิลิฏฺํ ทิสฺวา อวตฺวา ปิตฏฺานโต จีวรํ คเหตฺวา วา สยเมว วตฺวา ยาจนาทินเยน วา อนาณตฺติยา จ คเหตฺวา จีวรโธวนาทึ กเรยฺย เจ. อปริภุตฺตํ วาติ เหฏฺา วุตฺตนเยน อปริภุตฺตํ จีวรํ. อฺํ วาติ อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกโปตฺถกตฺถวิกมฺจปีาทึ ยํ กิฺจิ ปริกฺขารํ.
ปุราณจีวรโธวาปนกถาวณฺณนา.
๖๒๙. วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมํ อุปาทาย กิฺจิ จีวรํ คณฺหโตติ โยชนา, เอตฺถ ‘‘อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต’’ติ จ ‘‘าติกาย อฺาติกสฺิสฺสา’’ติ จ ‘‘เอกโตอุปสมฺปนฺนาย หตฺถโต คณฺหาตี’’ติ จ วกฺขมานวจนสามตฺถิยา ลพฺภมานโต ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อฺาติกาย อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต วิกปฺปนุปครตนวิทตฺถิปฺปมาณวตฺถโต ปฏฺาย ยํ กิฺจิ จีวรํ คณฺหนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อาปตฺตี’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ ‘‘นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติยาปตฺตี’’ติ ปกรณโต จ ‘‘นิสฺสคฺคิยาปตฺตี’’ติ วกฺขมานโต จ ลพฺภติ. เปตฺวา ปาริวตฺตกนฺติ ‘‘ปาริวตฺตกํ ปริตฺเตน วา วิปุลํ, วิปุเลน วา ปริตฺต’’นฺติ (ปารา. ๕๑๔) วจนโต มหาปจฺจริยํ ‘‘อนฺตมโส หรีตกขณฺเฑนาปี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๔) วุตฺตตฺตา จ เหฏฺิมนฺตโต หรีตกขณฺฑมฺปิ ทตฺวา คเหตพฺพํ ติจีวรฺจ ปาริวตฺตกํ นาม โหติ, ตํ เปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปริวตฺตนํ ปริวตฺตํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ ปาริวตฺตกํ, กยวิกฺกเยน คเหตพฺพํ จีวรนฺติ อตฺโถ.
๖๓๐. คหณตฺถาย ¶ ปโยเคติ คณฺหิตุํ หตฺถปสารณาทิปฺปโยเค. ปริยาปุตนฺติ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ ปโยเค ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. ๕๑๒) เทสิตํ.
๖๓๑. อนุปสมฺปนฺนหตฺเถติ ¶ ภิกฺขุภิกฺขุนิโต อฺเ สพฺเพ อนุปสมฺปนฺนา คหิตา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน สิกฺขมานาสามเณรสามเณริอุปาสกอุปาสิกานํ หตฺเถ เปสิตํ ปฏิคฺคณฺหาติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๒).
๖๓๒. เอกโตติ เอตฺถ ภิกฺขุนิสงฺฆโตติ คเหตพฺพํ. อฺสฺมึ ปกฺเข ปาจิตฺติยเมว. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ปาจิตฺติยเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๓).
๖๓๓. ‘‘ปาริวตฺตกํ ทสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คณฺหาติ, โทโส น วิชฺชตีติ โยชนา.
๖๓๔. อฺํ ปริกฺขารนฺติ ถวิกกายพนฺธนาทิ อวิกปฺปิยํ วา อวิกปฺปนุปคํ วา ปริกฺขารเมว คเหตพฺพํ. วิกปฺปนุปคํ ปน น วฏฺฏติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาณํ ปน ปฏปริสฺสาวนมฺปิ น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๔). จีวรปฏิคฺคณฺหนํ กิริยา, ปาริวตฺตกสฺส อทานํ อกิริยาติ กิริยาย จ อกิริยาย จ อาปชฺชิตพฺพโต กฺริยากฺริยํ.
จีวรปฏิคฺคหณกถาวณฺณนา.
๖๓๕. ‘‘อฺาตกํ อปฺปวาริต’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ‘‘คหปตึ วา คหปตานึ วา’’ติ ปาเสโส. วุตฺตฺหิ ภควตา ‘‘อฺาตกํ คหปตึ วา คหปตานึ วา’’ติ (ปารา. ๕๑๖, ๕๑๘). ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา สมฺพทฺธฺาติกตาย อภาวโต อฺาตกํ. ‘‘ยํ มยฺหํ เคเห ¶ อตฺถิ, ตํ ปวาเรมี’’ติอาทินา นเยน อปฺปวาริตํ. ‘‘คหปติ นาม โย โกจิ อคารํ อชฺฌาวสตี’’ติ (ปารา. ๕๑๙) ปาฬิยํ วุตฺตํ คหปตึ วา. ‘‘คหปตานี นาม ยา กาจิ อคารํ อชฺฌาวสตี’’ติ (ปารา. ๕๑๙) ปาฬิยํ วุตฺตํ ฆรณึ วาติ อตฺโถ.
โหติ นิสฺสคฺคิยาปตฺตีติ ‘‘อฺตฺร สมยา วิฺาเปติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ (ปารา. ๕๑๙) ปาฬิยํ วุตฺเตสุ สพฺเพสุ ปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกเฏน สทฺธึ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํ ¶ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อฺตฺร สมยาติ ‘‘ตตฺถายํ สมโย, อจฺฉินฺนจีวโร วา โหติ ภิกฺขุ นฏฺจีวโร วา’’ติ (ปารา. ๕๑๘) มาติกาย, ‘‘อจฺฉินฺนจีวโร นาม ภิกฺขุสฺส จีวรํ อจฺฉินฺนํ โหติ ราชูหิ วา โจเรหิ วา ธุตฺเตหิ วา เยหิ เกหิจิ วา อจฺฉินฺนํ โหติ. นฏฺจีวโร นาม ภิกฺขุสฺส จีวรํ อคฺคินา วา ทฑฺฒํ โหติ, อุทเกน วา วูฬฺหํ โหติ, อุนฺทูเรหิ วา อุปจิกาหิ วา ขายิตํ โหตี’’ติ (ปารา. ๕๑๙) ปทภาชเน จ นิทฺทิฏฺสรูปกาลโต อฺตฺราติ อตฺโถ.
๖๓๖. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อฺาตเก อฺาตกสฺี, เวมติโก, าตกสฺี อฺตฺร สมยา จีวรํ วิฺาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๒๐) ปาจิตฺติยตฺตยํ ภควตา วุตฺตํ. ‘‘าตเก อฺาติสฺิสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ตตฺถาติ ตสฺมึ าตเก. เวมติกสฺสาติ ‘‘าตโก นุ โข, อฺาตโก’’ติ เวมติกสฺส. ทฺวิกทุกฺกฏํ ตเถวาติ โยชนา. ‘‘ตเถวา’’ติ ‘‘วุตฺต’’นฺติ อิทํ อากฑฺฒติ, ‘‘าตเก อฺาตกสฺี, เวมติโก อฺตฺร สมยา จีวรํ วิฺาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๒๐) เทสิตนฺติ อตฺโถ.
๖๓๗-๘. สมเย ¶ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘จีวรํ อฺาตกอปฺปวาริต’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, ยถาปริจฺฉินฺนกาลทฺวยโต อฺตรสฺมึ กาเล อฺาตกอปฺปวาริตํ จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. าตเก วา ปวาริเตติ เอตฺถาปิ ‘‘อตฺตโน’’ติ อชฺฌาหาโร, ‘‘สมเย’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ, อตฺตโน าตกปวาริเต อสมเยปิ จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อฺสฺสตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘อตฺตโน’’ติ เสโส, อตฺตโน าตเก, ปวาริเต วา วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา, อฺํ ภิกฺขุํ นิสฺสาย อตฺตโน าตเก วา ปวาริเต วา จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อิตรํ ปกฺขํ ทสฺเสติ ‘‘ตสฺส าตเก วา ปวาริเต วา’’ติ. ตสฺสาติ ‘‘อฺสฺสา’’ติ วุตฺตสฺส, ‘‘วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ. วาติ ปุริมวิกปฺปาเปกฺขํ. ยํ สนฺธาย จีวรํ วิฺาเปติ, ตสฺส าตเก วา ปวาริเต วา ตํเยว สนฺธาย จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘อตฺตโน วา ธเนนา’’ติ วุตฺตํ อนาปตฺติองฺคํ อุมฺมตฺตกาทิโนติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สงฺคยฺหติ ¶ , อตฺตโน สนฺตกํ สุตฺตกปฺปาสาทิกํ กปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา คณฺหิตุกามตาย อกปฺปิยโวหาเรน ยาจนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
อฺาตกวิฺตฺติกถาวณฺณนา.
๖๓๙. อปฺปวาริตมฺาตินฺติ เอตฺถ ‘‘คหปตึ วา คหปตานึ วา’’ติ อิทํ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ตตุตฺตรินฺติ ตโต สนฺตรุตฺตรปรมโต อุตฺตรินฺติ คเหตพฺพํ, ‘‘สนฺตรุตฺตรปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตโต จีวรํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๒๓) วุตฺตตฺตา ¶ อจฺฉินฺนจีวเรน สาทิตพฺพอนฺตรวาสกอุตฺตราสงฺคมตฺเตน อธิกนฺติ อตฺโถ.
‘‘ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺยา’’ติ (ปารา. ๕๒๓) วจนโต ‘‘สาทิยนฺตสฺสา’’ติ วตฺตพฺพํ, เอวํ วตฺตพฺเพ ‘‘วิฺาเปนฺตสฺสา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ? อจฺฉินฺนจีวรานํ ภิกฺขูนํ ฉพฺพคฺคิเยหิ ภิกฺขูหิ จีวรวิฺาปนวตฺถุสฺมึ ‘‘กถฺหิ นาม ตุมฺเห โมฆปุริสา น มตฺตํ ชานิตฺวา พหุํ จีวรํ วิฺาเปสฺสถา’’ติ (ปารา. ๕๒๒) ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู ครหิตฺวา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา ‘‘สาทิตพฺพ’’นฺติ เอตฺถ วิฺาเปตพฺพนฺติ อตฺโถ โหติ, เตเนว อิมสฺมึ ปทภาชเน ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺยาติ ตตุตฺตริ วิฺาเปตี’’ติ (ปารา. ๕๒๔) จ อาปตฺติเภทสนฺทสฺสนฏฺาเน ‘‘อฺาตเก อฺาตกสฺี ตตุตฺตริ จีวรํ วิฺาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิวจนโต (ปารา. ๕๒๕) จ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ สิกฺขาปเทเยว ‘‘สาทิตพฺพํ, สาทิเยยฺยา’’ติ จ อุภยตฺถ ‘‘วิฺาเปตพฺพํ, วิฺาเปยฺยา’’ติ จ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? อจฺฉินฺนจีวรภาวํ ตฺวา อวิฺาปิเตปิ อภิหริตฺวา ทิยฺยมานมฺปิ อธิวาเสนฺเตน เอวเมว สาทิตพฺพนฺติ น วุตฺตํ. อิมสฺเสว จ อธิกวิฺาปนนิเสธนตฺถํ วทนฺเตนาปิ ‘‘ตฺเจ อฺาตโก คหปติ วา คหปตานี วา พหูหิ จีวเรหิ อภิหฏฺุํ ปวาเรยฺย, สนฺตรุตฺตรปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตโต จีวรํ สาทิตพฺพ’’นฺติ สาทิตพฺพนิยมปฺปธานํ วุตฺตํ. ตสฺมา อจฺฉินฺนจีวเรน อตฺตนา วา ตํ สนฺธาย อฺเน วา วิฺาเปนฺเตนปิ อวิฺาเปนฺเตปิ ทิยฺยมานํ สาทิยนฺเตนาปิ สนฺตรุตฺตรปรมตํ นาติกฺกมิตพฺพนฺติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท สนฺธาย ภาสิตตฺโถติ สลฺลกฺเขตพฺพนฺติ เอตฺตกํ าเปตุํ ‘‘สาทิยนฺตสฺสา’’ติ อวตฺวา ‘‘วิฺาเปนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตนฺติ อาจริยาภิสนฺธิ เวทิตพฺพา.
๖๔๐. อิทานิ ¶ ¶ วิฺาปเน จ อธิวาสเน จ อุภยตฺเถว นิยมํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ ตีณิ นฏฺานิ โหนฺติ, ทฺเว สาทิตพฺพานิ. ทฺเว นฏฺานิ, เอกํ สาทิตพฺพํ. เอกํ นฏฺํ, น กิฺจิ สาทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๒๔) ปทภาชเน วุตฺตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘ยสฺส ตีณิปิ นฏฺานิ, ทฺเว วา นฏฺานิ, เอกํ วา นฏฺ’’นฺติ สมฺพนฺธิตฺวา ยถากฺกมํ ‘‘เตน ทฺเว สาทิตพฺพานิ, เอกํ สาทิตพฺพํ, น กิฺจิปิ สาทิตพฺพ’’นฺติ โยชนา กาตพฺพา. ยสฺส ตีณิปิ จีวรานิ นฏฺานิ, พหุ จ ทิยฺยติ, เตน ทฺเวเยว จีวรานิ สาทิตพฺพานิ. ทฺเว จีวรานิ นฏฺานิ, เอกํ สาทิตพฺพํ. เอกฺเจ นฏฺํ, น สาทิตพฺพํ, อวสิฏฺํ ปจฺฉา ธมฺเมน สเมน ลทฺธนีหาเรน คเหตพฺพนฺติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เสสํ สภาคฏฺานโต ปริเยสิสฺสตี’’ติ. ‘‘ภิกฺขุนิยา ปน ปฺจสุปิ นฏฺเสุ ทฺเว สาทิตพฺพานิ, จตูสุ นฏฺเสุ เอกํ สาทิตพฺพํ, ตีสุ นฏฺเสุ กิฺจิ น สาทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๒๒-๕๒๔) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๖๔๑-๒. เสสกํ อาหรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. เอวมุปริปิ โยเชตพฺพํ. จีวรํ โยเชตฺวา อติเรกํ วตฺถํ ปจฺจาหริตฺวา ‘‘ทสฺสามี’’ติ พหุมฺปิ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อติเรกมฺปิ ตุมฺเหเยว คณฺหถาติ ทินฺนํ คณฺหโตปิ อนาปตฺติ. น อจฺฉินฺนการณา ทินฺเนติ โยชนา, อจฺฉินฺนจีวรภาวํ อนุทฺทิสฺส พหูนํ จีวรานํ คหณนิมิตฺเตนาปิ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. เอวเมว ‘‘น นฏฺการณา เทนฺตี’’ติ อิทมฺปิ ทสฺสิตเมว. อจฺฉินฺนจีวเร นิสฺสาย ตตุตฺตริจีวรวิฺาปนวตฺถุมฺหิ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา อนาปตฺติวาเร ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ น คหิตํ.
ตตุตฺตริกถาวณฺณนา.
๖๔๓. กลฺยาณกมฺยตาเหตูติ ¶ สุนฺทรสฺส มหคฺฆสฺส กามตํ ปฏิจฺจ จีวเร วิกปฺปนํ อาปชฺเชยฺยาติ โยชนา, ‘‘กีทิเสน เต ภนฺเต จีวเรน อตฺโถ’’ติ ปุพฺเพ อปฺปวาริโต ‘‘อายตํ วา โหตุ วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา สณฺหํ วา’’ติ (ปารา. ๕๒๙) ปทภาชเน วุตฺตวิสิฏฺกปฺปํ อธิกวิธานํ กโรตีติ อตฺโถ. ตสฺส ลาภา นิสฺสคฺคิยํ ภเวติ ตถา อปฺปวาริเตน หุตฺวา กเตน อธิกวิธาเนน นิปฺผนฺนจีวรสฺส ลาภปฺปโยเคน ทุกฺกฏนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยา โหนฺติ.
๖๔๔. มหคฺฆํ ¶ …เป… วิฺาเปตีติ วีสติอคฺฆนกํ จีวรํ ทาตุกามมฺหิ อุปาสเก, ‘‘อลํ มยฺหํ เอเตน, ทสคฺฆนกํ วา อปฺปคฺฆนกํ วา เทหี’’ติ วทติ.
๖๔๕. ‘‘าตเก อฺาติสฺิสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท.
ปโมปกฺขฏกถาวณฺณนา.
๖๔๖. ปมสิกฺขาปเท เอเกน อุปาสเกน ปีฬา ลทฺธา, อิธ ทฺวีหีติ เอตฺตกํ นานากรณํ. เสสํ ปมสิกฺขาปทสทิสเมวาติ อาห ‘‘ทุติโย…เป… วินิจฺฉโย’’ติ. อุปกฺขฏปเทน ลกฺขิตํ สิกฺขาปทํ อุปกฺขฏํ, ทุติยฺจ ตํ อุปกฺขฏฺจาติ ทุติโยปกฺขฏํ, ตสฺมึ ทุติโยปกฺขเฏ. อสฺสาติ ทุติโยปกฺขฏสฺส.
ทุติโยปกฺขฏกถาวณฺณนา.
๖๔๗. รฺา วาติ ราชโต วา. ราชโต โภคฺคํ ภฺุชิตพฺพํ อสฺส อตฺถีติ ‘‘ราชโภคฺโค’’ติ วุตฺโต, ราชโต ภตฺตเวตฺตนลาภิโต ยโต กุโตจิ ทายกา อาภตนฺติ สมฺพนฺโธ. น จ วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยภาวโต’’ติ ¶ อชฺฌาหริตพฺพํ. อิธ อุตฺตริกรณียํ ‘‘ติกฺขตฺตุ’’นฺติอาทิคาถาย (วิ. วิ. ๖๗๑) วกฺขติ.
๖๔๘. จีวรเจตาปนฺนวเสน อธิคตรชตาทิ เยน เกนจิ ปริยาเยนาปิ น สาทิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘รชตํ วา’’ติอาทิ. ธวลสภาวตาย ราชตีติ รชตํ, สชฺฌุ. ชาตํ รูปํ วณฺณายตนเมตสฺสาติ ชาตรูปํ, สุวณฺณํ. กิฺจีติ อปฺปมตฺตกมฺปิ. อตฺตโน วา อตฺถาย ปรสฺส วา อตฺถาย ทิยฺยมานํ กิฺจิ คณฺหิตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๖๔๙. อตฺตโน ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติยา รูปิยคหณสิกฺขาปเท วกฺขมานตฺตา อฺสฺส อตฺถาย คหเณ อาปตฺติทสฺสนตฺถมาห ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติอาทิ. ตตฺถ อฺสฺสตฺถายาติ อฺสฺส ปุคฺคลสฺส, คณสฺส, สงฺฆสฺส, เจติยสฺส, นวกมฺมสฺส วา อตฺถาย. นิทฺทิฏฺนฺติ อาหริตฺวา ‘‘อิมํ คณฺหถา’’ติ วุตฺตํ รชตํ, ชาตรูปํ วา อฺํ วา ยํ กิฺจิ นิสฺสคฺคิยทุกฺกฏวตฺถุํ ¶ ปฏิคฺคณฺหโต ตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๖๕๐-๑. วุตฺตเมวตฺถํ สรูปโต วิภาเวตุมาห ‘‘เนตฺวา’’ติอาทิ. เนตฺวาติ อาเนตฺวา. อกปฺปิยํ ภณฺฑนฺติ ‘‘รชตํ ชาตรูปํ วา’’ติ ยถาวุตฺตเมว อกปฺปิยภณฺฑํ. อิตฺถนฺติ วกฺขมานปฺปกาเรน. น จ วฏฺฏตีติ เอตฺถ จ-กาเรน วฏฺฏติ จาติ อนฺุาตํ กตนฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ –
‘‘สเจ ปน ‘นยิทํ ภิกฺขูนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’ติ ปฏิกฺขิตฺเต ‘วฑฺฒกีนํ วา กมฺมกรานํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห สุกตทุกฺกฏํ ชานาถา’ติ วตฺวา เตสํ หตฺเถ ทตฺวา ปกฺกมติ, วฏฺฏติ. อถาปิ ‘มม มนุสฺสานํ หตฺเถ ภวิสฺสติ, มยฺหเมว ¶ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห ยํ ยสฺส ทาตพฺพํ, ตทตฺถาย เปเสยฺยาถา’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙).
๖๕๒. วิหารสฺสาติ เอตฺถ ‘‘นวกมฺมสฺสา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา วตฺตพฺพํ คาถาพนฺธวเสน น วุตฺตํ.
๖๕๔. รชตํ ชาตรูปํ วา สงฺฆสฺสาติ เอตฺถ ‘‘จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชถาติ ทินฺน’’นฺติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน โกจิ พหุมฺปิ หิรฺสุวณฺณํ อาเนตฺวา ‘อิทํ สงฺฆสฺส ทมฺมิ, จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชถา’ติ วทติ, ตํ เจ สงฺโฆ สมฺปฏิจฺฉติ, ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙). เอวํ อาภตํ ตสฺมึ สงฺเฆ โย โกจิ ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ สเจ ปฏิกฺขิปติ, ‘‘อยํ สงฺฆสฺส ลาภนฺตรายํ กโรตี’’ติ วทนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘โย หิ ตํ โจเทติ, สฺเวว สาปตฺติโก โหติ, เตน ปน เอเกน พหู อนาปตฺติกา กตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙). อิธ สฺเวว สาปตฺติโกติ เอตฺถ ‘‘ทุกฺกฏาปตฺติโกติ วุตฺตํ โหตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. อิมิสฺสา คาถาย ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ อลิขิตฺวา ‘‘ภิกฺขุโน’’ติ จ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. อิทานิ ทสฺสิตอฏฺกถาปาเ ‘‘สงฺโฆ สมฺปฏิจฺฉตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙) วุตฺตตฺตา ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ ปาโ สุนฺทโร.
๖๕๕. ตฬากสฺสาติ ¶ วาปิยา. สสฺสุปฺปตฺตินิทานโต ตฬากํ เขตฺตํ, ตโต ตสฺส คหณํ วา ปริโภโค วา น จ วฏฺฏตีติ โยชนา. ตฬากสฺส จาติ เอตฺถ จ-กาเรน เขตฺตวตฺถุ สงฺคหิตํ. น จ วฏฺฏตีติ เอตฺถ จกาเรน วฏฺฏติ จาติ ทสฺสิตํ โหติ.
๖๕๖. ตํ ¶ กตมนฺติ อาห ‘‘จตฺตาโร’’ติอาทิ. สพฺพมฺปีติ ตฬากโปกฺขรณิเขตฺตาทิ สพฺพมฺปิ.
๖๕๘-๙. อปริจฺฉินฺนภาคสฺมินฺติ ‘‘อิมสฺมึ ภูมิภาเค กตสฺส กมฺเมหิ เอตฺตโก ภาโค เทยฺโย’’ติ เอวํ ปุพฺเพ อนิยมิตอาเย ภูมิภาเค. อกตปุพฺพํ นวสสฺสํ นาม. เอตฺตกํ ภาคํ เทถาติ เอตฺตกํ กหาปณภาคํ เทถ. อุฏฺาเปตีติ อุปฺปาเทติ.
‘‘กสถ วปถา’’ติ อกปฺปิยํ วาจํ วตฺวาติ โยชนา. วปถาติ จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท อิธ อวุตฺตํ ตํกตฺตุโยคกาเล วุจฺจมานํ อกปฺปิยวจนนฺตรํ สมุจฺจิโนติ. อุปฺปาทิตฺจาติ เอตฺถ จ-สทฺโท กหาปณํ สมุจฺจิโนติ. สพฺพนฺติ ตถา อุปฺปาทิตกหาปณฺจ เอวํ อกปฺปิยโวหาเรน อุปฺปาทิตฺจาติ สพฺพํ.
๖๖๐. กสถาทิกํ วจนํ อวตฺวา ‘‘เอตฺติกาย ภูมิยา เอตฺตโก นาม ภาโค’’ติ ภูมึ โย จ ปติฏฺาเปติ, ตสฺเสเวตมกปฺปิยนฺติ วกฺขมาเนน โยเชตพฺพํ. จ-สทฺโท ‘‘โย ปนา’’ติ วกฺขมานปุคฺคลนฺตราเปกฺโข.
๖๖๑-๒. ภูมิยา สยเมว ปมาณสฺส ชานนตฺถํ ตูติ โยชนา, ‘‘เอตฺตเก ภูมิภาเค อมฺเหหิ สสฺสํ กตํ, เอตฺตกํ นาม ภาคํ คณฺหถา’’ติ กสเกหิ วุตฺเต เตสํ วจนํ อสทฺทหิตฺวา สยเมว เขตฺตภูมิยา ปมาณํ าตุกามตายาติ อตฺโถ. ตุ-สทฺโท อิมเมว วิเสสํ โชเตติ. โย ปน มินาติ, ตสฺเสเวตมกปฺปิยนฺติ วกฺขมาเนน โยเชตพฺพํ. รชฺชุยาปิ จ ทณฺเฑนาติ เอตฺถ ปาเทนาปิ มินิตุํ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ‘‘รกฺขตี’’ติอาทิกิริยาปเทหิปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ.
ขเล ¶ ตฺวา รกฺขตีติ ธฺกรเณ ตฺวา อฺเ คณฺหิตุํ อทตฺวา ปาเลติ. กถํ รกฺขิตุํ ¶ วฏฺฏติ, กถํ รกฺขิตุํ น วฏฺฏตีติ? ตํ ปน วีหึ ‘‘อิทํ วา เอตฺตกํ วา มา คณฺห, อิทํ คเหตุํ น ลพฺภตี’’ติ วา ‘‘อิโต อปเนหิ, อิธ ปฺุชํ กโรหี’’ติ วา เอวมาทินา ปโยเคน เจ รกฺขติ, ตํ อกปฺปิยํ. สเจ ‘‘มยิ ิเต รกฺขิตํ โหตี’’ติ รกฺขติ, คณฺหนฺเต วา ปสฺสิตฺวา ‘‘กึ กโรถา’’ติ ภณติ, วฏฺฏติ. รูปิยปฏิคฺคหณสิกฺขาปเท ทฺวารํ ปิทหิตฺวา รกฺขนฺเตน วสิตพฺพนฺติ หิ วุตฺตนฺติ คณฺิปเท วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อฺสฺมิมฺปิ คณฺิปเท วุตฺตํ ‘‘เถเนตฺวา คณฺหนฺเต สติ เอตํ โภ ปวตฺตึ ภิกฺขุสงฺฆสฺส กึ อาโรเจสฺสามีติ ปฏิปุจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺตี’’ติ. นีหราเปตีติ เอตฺถาปิ สเจ ปริยาเยน วทติ, วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ตสฺเสเวตมกปฺปิยนฺติ อิทํ เขตฺตมินนาทึ กโรนฺเตน ลทฺธพฺพโต อฺสฺส อภินวุปฺปาทิตสฺส อภาวา อฺเสํ วฏฺฏตีติ ทฺวีสุ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.
๖๖๓. ‘‘เอตฺตเกหิ วีหีหิ อิทํ อาหรถา’’ติ วุตฺตา สเจ อาหรนฺตีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘ตสฺเสเวตมกปฺปิย’’นฺติ อิทํ ธฺสฺส วิจาริตตฺตา วุตฺตํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺเสว อกปฺปิยํ. กสฺมา? ธฺสฺส วิจาริตตฺตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙).
๖๖๔. หิรฺเนาติ กหาปเณน. ‘‘ตมกปฺปิย’’นฺติ อิทํ กหาปณานํ วิจาริตตฺตา วุตฺตํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สพฺเพสํ อกปฺปิยํ. กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙).
๖๖๕. เปสการกทาสํ วาติ เปสการกสงฺขาตํ ทาสํ วา, เปสกาโร ตนฺตวาโย. อารามิกานํ นาเมน เทนฺเตติ ‘‘อารามิกํ ทมฺมิ, เวยฺยาวจฺจกรํ ทมฺมี’’ติอาทินา นเยน เทนฺเต.
๖๖๖. ขีรํ ¶ ทธิ ตกฺกํ สปฺปิ นวนีตนฺติ ปฺจโครสา.
๖๖๗. อชิกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน มหิสํ สงฺคณฺหาติ.
๖๖๙. ปฏิสิทฺเธปีติ ปฏิกฺขิตฺเตปิ. มูลํ ทตฺวาติ กปฺปิยภณฺฑมูลํ ทตฺวา. กุกฺกุฏาทโย ปน ‘‘สุเขน วสนฺตู’’ติ อรฺเเยว วิสฺสชฺเชตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กุกฺกุฏสูกเร ¶ ‘สุขํ ชีวนฺตู’ติ อรฺเ วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙). สูกรมยูราทีสุปิ ลทฺเธสุ เตสํ อนุรูเปเยว วิสเย วิสฺสชฺเชตพฺพา.
๖๗๑. ‘‘ติกฺขตฺตุ’’นฺติอาทิคาถาย โก สมฺพนฺโธ? ‘‘รฺา วา ราชโภคฺเคนา’’ติอาทิคาถาย สงฺคหิตนเยน ราชราชามจฺจพฺราหฺมณคหปตาทีสุ เยน เกนจิ อตฺตนา วา จีวรเจตาปนฺเนน จีวรํ เจตาเปตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวเรน อจฺฉาเทหี’’ติ วตฺวา ตํ จีวรเจตาปนฺนสงฺขาตํ จีวรมูลํ ทตฺวา ปหิตทูเตน วา ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิทํ โข ภนฺเต อายสฺมนฺตํ อุทฺทิสฺส จีวรเจตาปนฺนํ อาภตํ, ปฏิคฺคณฺหาตุ อายสฺมา จีวรเจตาปนฺน’’นฺติ ยทิ วุจฺเจยฺย, ภิกฺขุนา ‘‘น โข มยํ อาวุโส จีวรเจตาปนฺนํ ปฏิคฺคณฺหาม, จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหาม กาเลน กปฺปิย’’นฺติ วุตฺเต สเจ เตน ‘‘อตฺถิ ปนายสฺมโต โกจิ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ วุตฺเต จีวรตฺถิเกน ภิกฺขุนา ‘‘เอโส โข อาวุโส ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ อารามิเก วา อุปาสเก วา ทสฺสิเต ยทิ โส ตสฺส อตฺตนา อาหริตฺวา ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน จีวเรน อตฺเถ สติ อิมินา จีวรํ เจตาเปตฺวา อจฺฉาเทหี’’ติ วตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ยํ โข ภนฺเต อายสฺมา เวยฺยาวจฺจกรํ นิทฺทิสิ, สฺตฺโต โส มยา, อุปสงฺกมตุ อายสฺมา กาเลน, จีวเรน ¶ ตํ อจฺฉาเทสฺสตี’’ติ ยทิ วเทยฺย, เตน จีวรตฺถิเกน ภิกฺขุนา กึ กาตพฺพนฺติ ภควตา วุตฺตนฺติ อาหาติ อยมิมิสฺสา คาถาย สมฺพนฺโธ.
ติกฺขตฺตุํ โจทนา วุตฺตาติ ‘‘จีวรตฺถิเกน ภิกฺขเว ภิกฺขุนา เวยฺยาวจฺจกโร อุปสงฺกมิตฺวา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจเทตพฺโพ สาเรตพฺโพ ‘อตฺโถ เม อาวุโส จีวเรนา’’ติ ติกฺขตฺตุํ โจทนา กาตพฺพาติ วุตฺตา.
ฉกฺขตฺตุํ านมพฺรวีติ ‘‘ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจทยมาโน สารยมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทยฺย, อิจฺเจตํ กุสลํ, โน เจ อภินิปฺผาเทยฺย, จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๓๘) วุตฺตตฺตา ติกฺขตฺตุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อตฺโถ เม อาวุโส จีวเรนา’’ติ กตาย โจทนาย น นิปฺปชฺเชยฺย, เตน ปุน คนฺตฺวา ยํ กิฺจิ อวตฺวา ‘‘น อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น อามิสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, น ธมฺโม ภาสิตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๕๓๙) วจนโต านภฺชนกํ นิสชฺชาทึ กิฺจิ อกตฺวา ‘‘กึ การณํ อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิเต ‘‘ชานาหิ ¶ , อาวุโส’’ติ เอตฺตกมตฺตํ วตฺวา อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ฉกฺขตฺตุํ านํ สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตินา ภควตา เทสิตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ยทิ โจเทติเยวาติ สเจ านํ อกตฺวา โจทนามตฺตํ กโรติ, ฉ อพฺรวีติ โยชนา, ‘‘โจทนา’’ติ สามตฺถิยโต ลพฺภติ, ฉกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา สกิมฺปิ น าตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ฉโจทนํ อกตฺวา โย านเมว กโรติ, เตน กติ านานิ กาตพฺพานีติ อาห ‘‘โจทนาทิคุณา ิตี’’ติ, ‘‘กาตพฺพา’’ติ เสโส, ‘‘อพฺรวี’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ, ‘‘จตุกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา จตุกฺขตฺตุํ าตพฺพํ, ปฺจกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา ทฺวิกฺขตฺตุํ าตพฺพํ, ฉกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา น ¶ าตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๓๙) วจนโต, ‘‘ฉกฺขตฺตุปรม’’นฺติ (ปารา. ๕๓๙) วจนโต จ ฉกฺขตฺตุํ โจทนาย ทิคุณา ทฺวาทสกฺขตฺตุกา ิติ โหตีติ สิทฺธตฺตา โจทนเมว อกตฺวา านมตฺตเมว กโรนฺตสฺส ทฺวาทสกฺขตฺตุํ วุตฺตนเยน าตพฺพเมวาติ วุตฺตํ โหติ. ตโต ปรํ กาตพฺพํ อทสฺเสตฺวา เอตฺตเกเนว นิวตฺเตตพฺพนฺติ าเปนฺโต ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ วายมมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๓๙) วุตฺตนยา อาปตฺติ โหตีติ ทสฺเสติ.
๖๗๒. ‘‘อโจเทตฺวา ลทฺเธ’’ติ อิทํ อุปลกฺขณํ ‘‘อฏฺตฺวา ลทฺเธ’’ติ จ คยฺหมานตฺตา.
ราชสิกฺขาปทกถาวณฺณนา.
จีวรวคฺโค ปโม.
๖๗๓. ‘‘เอเกนาปี’’ติ อิมินา กึ ปน ทฺวีหิ, พหูหิ วาติ วุตฺตํ โหติ. มิสฺเสตฺวาติ อนฺตมโส วาเตน อาหเฏนาปิ โกสิยํสุนา มิสฺเสตฺวา. สนฺถตนฺติ ‘‘สนฺถตํ นาม สนฺถริตฺวา กตํ โหติ อวายิม’’นฺติ (ปารา. ๕๔๔) ปทภาชเน จ ‘‘สเม ภูมิภาเค โกสิยํสูนิ อุปรูปริ สนฺถริตฺวา กฺชิกาทีหิ สิฺจิตฺวา กตํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๔๒) อฏฺกถาย จ วุตฺตสรูปํ กฺชิกํ สิฺจิตฺวา โกสิยํสูนิ อตฺถริตฺวา ยาว พหลมิจฺฉติ, ตาว วฑฺเฒตฺวา นิสีทนนิปชฺชนาทิอตฺถํ กาตพฺพํ สนฺถตนฺติ อตฺโถ. โกสิยํสุนาติ โกสิยกิมิโกสิยสฺส อิทนฺติ โกสิยํ, สุตฺตํ, ตสฺส สุตฺตสฺส อํสุ, เตน โกสิยํสุนาติ อตฺโถ ¶ . การาเปนฺตสฺสาติ อุปลกฺขณตฺตา ¶ ‘‘กโรนฺตสฺสา’’ติปิ คเหตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘การาเปยฺยาติ เอเกนาปิ โกสิยํสุนา มิสฺเสตฺวา กโรติ วา การาเปติ วา’’ติ (ปารา. ๕๔๔). เตเนวาห ‘‘ปรตฺถาย กโรนฺตสฺส การาเปนฺตสฺสา’’ติ.
๖๗๕. ภูมตฺถรณนฺติ ปริกมฺมกตาย ภูมิยา ฉวิรกฺขนตฺถาย อตฺถริตพฺพํ อตฺถรณํ. ภิสิ นาม มฺจภิสิ, ปีภิสีติ ทฺวยํ. พิพฺโพหนํ อุปธานํ.
โกสิยกถาวณฺณนา.
๖๗๖. กาฬเกฬกโลมานนฺติ ‘‘กาฬกํ นาม ทฺเว กาฬกานิ ชาติยา กาฬกํ วา รชนกาฬกํ วา’’ติ (ปารา. ๕๔๙) วจนโต เอวํ กาฬกานํ เอฬกโลมานํ. สุทฺธานนฺติ อิตรวณฺเณหิ เอฬกโลเมหิ อมิสฺสานํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สุทฺธกาฬกานนฺติ สุทฺธานํ กาฬกานํ, อฺเหิ อมิสฺสิตกาฬกานนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๔๗). กเรยฺยาติ กโรนฺตสฺส จ การาเปนฺตสฺส จาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘การาเปยฺยาติ กโรติ วา การาเปติ วา’’ติ. อาปตฺติ โหตีติ ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏฺจ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยฺจ อาห.
สุทฺธกาฬกกถาวณฺณนา.
๖๗๗. โอทาตํ ตุลํ วา พหุํ วา สพฺพเมว วา คเหตฺวานาติ โยชนา. กปิลมฺปิ วาติ เอตฺถาปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ. เอตฺถ สพฺพเมว วาติ สนฺถตสฺส คเหตพฺพํ สพฺพเมว วา โลมํ. กโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘สนฺถต’’นฺติ อธิการโต ¶ ลพฺภติ. ‘‘นว’’นฺติ อิทํ ‘‘กโรนฺตสฺสา’’ติ ปทสามตฺถิเยน ลพฺภติ, นวํ สนฺถตํ กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ, ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. กปิลมฺปิ วาติ วากาเรน ปการนฺตเรนาปิ กโรนฺตสฺส อนาปตฺตึ สงฺคณฺหาติ. เสยฺยถิทํ? ‘‘นวํ ปน ภิกฺขุนา สนฺถตํ การยมาเนน ทฺเว ภาคา สุทฺธกาฬกานํ เอฬกโลมานํ อาทาตพฺพา ตติยํ โอทาตานํ จตุตฺถํ โคจริยาน’’นฺติ (ปารา. ๕๕๓) มาติกาย อนฺุาตปฺปกาโร เวทิตพฺโพ.
เอตฺถ ¶ ‘‘โอทาตํ กปิลมฺปิ วา’’ติ เอตสฺส ‘‘พหุํ วา’’ติ วิเสสเนน กาฬกานํ เอฬกโลมานํ ยถาวุตฺตภาคทฺวยโต อธิกํ เอฬกโลมมฺปิ น คเหตพฺพนฺติ ทีเปติ เกวลานํ กาฬกานํ เอฬกโลมานํ อคฺคเหตพฺพตาย ปมสิกฺขาปเทเนว วุตฺตตฺตา. ‘‘สพฺพเมว วา’’ติ อิมินาปิ ปุริมสิกฺขาปเท วิย อิเม โอทาตาทโย สพฺเพ เกวลา น คเหตพฺพา น โหนฺตีติ ทสฺสิตํ โหติ. ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิมินา เอวํ อกตฺวา อฺเน ปกาเรน กโรนฺตสฺส อาปตฺติ โหตีติ พฺยติเรกโต ทีปิตํ โหติ.
เสยฺยถิทํ? วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘อนาทา เจ ภิกฺขุ ทฺเว ภาเค สุทฺธกาฬกานํ เอฬกโลมานํ ตติยํ โอทาตานํ จตุตฺถํ โคจริยานํ นวํ สนฺถตํ การาเปยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ. ยตฺตกปฺปมาเณหิ เอฬกโลเมหิ นวํ สนฺถตํ กาตุกาโม โหติ, เต โลเม จตุภาคํ ตุลยิตฺวา ทฺเว ตุเล วา อูเน วา กาฬกโลเม คเหตฺวา เอกํ ตุลํ โอทาเตหิ วา เอกํ ตุลํ โคจริเยหิ วา กาฬเกหิ วา อูเน กตฺวา ทฺวีหิปิ อธิเก วา กตฺวา กาฬกโลเม วชฺเชตฺวา ทฺวีสุ เอกํ วา ทฺเว เอว วา คเหตฺวา กาตฺุจ การาเปตฺุจ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ ¶ . เอวํ อนาปตฺติทสฺสเนน สพฺโพปิ สิกฺขาปทตฺโถ สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ.
๖๗๘. ‘‘อนุกฺกเมนา’’ติ อิมินา อิมเมว อคฺคเหตฺวา ปุริมานนฺตรํ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ คเหตพฺพนฺติ ทีเปติ. นิสฺสชฺชิตฺวา ลทฺธานิปีติ โยชนา. ‘‘อปี’’ติ อิมินา ‘‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๕๕) วุตฺตทุกฺกฏฺจ ‘‘นิสฺสคฺคิยํ จีวรํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๖๘) ปมนิสฺสคฺคิยสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน อิหาปิ ‘‘นิสฺสคฺคิยํ สนฺถตํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตมฺปิ ธมฺมสงฺคหการเกหิ เปยฺยาลวเสน สํขิตฺตํ ตํ ทุกฺกฏฺจาติ อิทํ ทฺวยํ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๖๗๙. ตติยํ ตุ กฺริยากฺริยนฺติ อิทํ ตติยสิกฺขาปทํ ปน ‘‘ทฺเว ภาคา สุทฺธกาฬกาน’’นฺติอาทินา (ปารา. ๕๕๔) วุตฺตนเยน อคฺคเหตฺวา กาฬกานํ อติเรกคฺคหณวเสน อนนฺุาตปฺปกาเรน กรณโต กิริยากิริยํ นาม. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อาทาย จ อนาทาย จ กรณโต กิริยากิริย’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๕๒).
ทฺเวภาคกถาวณฺณนา.
๖๘๐. ฉนฺนํ ¶ วสฺสานํ โอเรนาติ ปุพฺเพ สนฺถตสฺส กตทิวสโต ปฏฺาย อุปริ ฉนฺนํ วสฺสานํ อพฺภนฺตเรติ อตฺโถ. โหติ นิสฺสคฺคิยาปตฺตีติ ฉพฺพสฺสนฺตเร กตสนฺถตํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, การกสฺส จ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ. ภิกฺขุสมฺมุตึ เปตฺวาติ สนฺถตํ คเหตฺวา อทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺชิตุํ อสมตฺถสฺส คิลานสฺส ‘‘อหํ ภนฺเต คิลาโน ¶ น สกฺโกมิ สนฺถตํ อาทาย ปกฺกมิตุํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ สนฺถตสมฺมุตึ ยาจามี’’ติ (ปารา. ๕๕๙) สงฺฆมชฺเฌ นิสชฺช อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ติกฺขตฺตุํ ยาจิเต ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย คตฏฺาเน ฉพฺพสฺสานํ อนฺโตปิ สนฺถตํ กาตุํ สงฺเฆน ทินฺนสมฺมุตึ วินาติ อตฺโถ.
๖๘๒. ฉพฺพสฺสานิ กโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ยทา ปริปุณฺณานิ, ตทา’’ติ เสโส, ฉพฺพสฺเสสุ ปริปุณฺเณสุ สนฺถตํ กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยทา ฉพฺพสฺสานิ ปริปุณฺณานิ โหนฺติ, ตทา สนฺถตํ กโรตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๕๗). ตทุทฺธมฺปีติ ฉพฺพสฺสโต อุปริปิ. วิตาเนติ วิตานนิมิตฺตํ กโรนฺตสฺส. สาณิปากาเรติ ปาการสทิสติโรกรณียนิมิตฺตํ กโรนฺตสฺส. นิสฺสชฺชิตฺวา กเตปิ จาติ ปุราณสนฺถเต อฺสฺส ทตฺวา อฺสฺมึ สนฺถเต โอรโต ฉนฺนํ วสฺสานํ กเตปิ จ อนาปตฺตีติ โยชนา. อยมนาปตฺติวาโร เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถาสุ ทิสฺสติ, ตสฺมา โส อาจริยปรมฺปราภโต อาจริเยน ทสฺสิโตติ วิฺายติ. สาธารณวินิจฺฉยํ ปน ‘‘อนนฺตรสฺสิมสฺสาปิ, วิเสโส นุปลพฺภตี’’ติ วกฺขติ.
ฉพฺพสฺสกถาวณฺณนา.
๖๘๓. อนาทายาติ นวํ นิสีทนสนฺถตํ กโรนฺเตน ภิกฺขุนา ตสฺส วิวณฺณกรณตฺถาย ปาฬิยํ ‘‘ปุราณสนฺถตสฺส สามนฺตา สุคตวิทตฺถิ อาทาตพฺพา ทุพฺพณฺณกรณายา’’ติ (ปารา. ๕๖๗) ยา อาทาตุํ วุตฺตา, ตํ ปุราณสนฺถตสฺส ฉินฺนมุขาวตฺตโต สุคตวิทตฺถึ อทตฺวา. เอวเมตํ วุตฺตนฺติ กถํ วิฺายตีติ? ‘‘อนาทานวเสนสฺส, สุคตสฺส วิทตฺถิยา’’ติ วกฺขมาเนน วิฺายติ. สนฺถเตติ เอตฺถ ‘‘ปุราเณ’’อิติ จ กาเรตุํ กตฺจาติ เอตฺถ ‘‘นวํ นิสีทนํ สนฺถต’’นฺติ จ เสโส ¶ , ปุราเณ สนฺถเต อสนฺเต สามนฺตา สุคตวิทตฺถึ อนาทาย นวํ นิสีทนสนฺถตํ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. อฺสฺสตฺถาย นวํ นิสีทนสนฺถตํ กาเรตุํ, นวํ นิสีทนสนฺถตํ อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชิตฺุจ อนาปตฺตีติ โยชนา.
‘‘อฺสฺสตฺถาย ¶ กาเรตุ’’นฺติ อิทเมตฺถ ปาจิตฺติเยเนว อนาปตฺติทสฺสนนฺติ คเหตพฺพํ. ตสฺมา ‘‘อฺสฺสตฺถาย กโรติ วา การาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๖๙) วุตฺตตฺตา จ อฏฺกถาย, ตพฺพณฺณนาสุ จ อทิสฺสมานตฺตา วา ตํ น วตฺตพฺพํ. ‘‘อนาปตฺติ ฉพฺพสฺสานิ กโรติ…เป… อฺสฺสตฺถาย กโรติ วา การาเปติ วา’’ติ (ปารา. ๕๖๔) อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺตโมโลเกตฺวา วา ทุกฺกฏสฺส จ วิหิตตฺตา ปาจิตฺติเยน อนาปตฺติภาวํ สนฺธาย ลิขิตนฺติ วิฺายติ. กตฺจ ปริภฺุชิตุนฺติ เอตฺถ ‘‘อฺเนา’’ติ วตฺตพฺพํ, อิมินา ‘‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชติ, อนาปตฺตี’’ติ ปาโว ทสฺสิโต.
๖๘๔. สุคตสฺส วิทตฺถิยา อนาทานวเสน จ อสฺส สนฺถตสฺส กรเณน จ สตฺถารา เอตํ สิกฺขาปทํ กิริยากิริยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๖๘๕. นนุ จ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อฏฺกถาย ‘‘สมุฏฺานาทีนิ กิริยากิริยตฺตา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ทฺเวภาคสิกฺขาปทสทิสานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๖๗) วุตฺตานิ, อิห ‘‘สฺจริตฺตสมา’’ติ กสฺมา วุตฺตานีติ? วุจฺจเต – ทฺเวภาคสิกฺขาปเท ‘‘สมุฏฺานาทีนิปิ โกสิยสิกฺขาปทสทิสาเนวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๕๒) อฏฺกถาย วุตฺตานิ, โกสิยสิกฺขาปเท สมุฏฺานาทีนํ สฺจริตฺเตน สมภาวสฺส วุตฺตตฺตา, มูลเมว สริตฺวา กิริยากิริยสงฺขาตวิเสสสฺส ¶ วิสุํ ทสฺสิตตฺตา อวสิฏฺวินิจฺฉยมตฺตํ สนฺธาย เอวํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. อิมํ วิเสสํ มฺุจิตฺวา อวสิฏฺวินิจฺฉเยน ทฺวีสุ สิกฺขาปเทสุ สาธารณวินิจฺฉยสฺส อวิเสสตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนนฺตรสฺสา’’ติอาทิ.
นิสีทนสนฺถตกถาวณฺณนา.
๖๘๖-๗. คจฺฉนฺเตติ ติโยชนปูรณฏฺานํ อติกฺกมฺม คจฺฉนฺเต. ยาเนติ สกฏาทิเก. โลมานีติ เอฬกโลมานิ. สามิกสฺสาติ ยานาทิสามิโน. อชานโตติ อนาทเร สามิวจนํ. อทฺธานมคฺคปฏิปนฺโน โย ปน ภิกฺขุ เอฬกโลมํ ลภิตฺวา ‘‘ติโยชนปรมํ สหตฺถา หาเรตพฺพานี’’ติ (ปารา. ๕๗๓) อนฺุาตตฺตา ติโยชนพฺภนฺตเร สหตฺเถนาปิ หริตฺวา ติโยชนาติกฺกเม ปเรสํ ยานาทีสุ สามิเกสุ อชานนฺเตสุ ‘‘เอเต หริสฺสนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา ยทิ เปยฺยาติ อตฺโถ. เตสูติ เยสุ เอฬกโลมานิ ปิตานิ, เตสุ ยานาทีสุ ติโยชนมตีเตสุ ¶ ภิกฺขุสฺส ปโยคํ วินาปิ ติโยชนํ อติกฺกนฺเตสุ ตสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺติ โหตีติ โยชนา, ตสฺส ภิกฺขุโน ‘‘ปมํ ปาทํ ติโยชนํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๗๓) วุตฺตตฺตา ทุกฺกฏปาจิตฺติยา โหนฺตีติ อตฺโถ.
อยํ นโยติ ภิกฺขุโน ปโยคํ วินา ยตฺถ เอฬกโลมานิ ปิตานิ, เตสุ ยานาทีสุ ติโยชนํ อติกฺกมนฺเตสุ อาปตฺติ โหตีติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ.
๖๘๘. อคจฺฉนฺเตติ ติโยชนพฺภนฺตเร ิเต. ‘‘อภิรูหิตฺวา’’ติ อิทํ อนาปตฺติการเณสุ เอกํ ทสฺเสตุมาห. ‘‘ภูมิยฺหิ ¶ ตฺวา เทนฺโต, อวฺหายนฺโต วา ปุรโต คจฺฉติ, เอเสวนโย’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อนาปตฺติวาเร ‘‘อฺํ หราเปตี’’ติ วจนโต อตฺตนา เปสิเต อฺสฺมึ หรนฺเต วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ สาเรติ วฏฺฏตี’’ติ. เตเนวาห ‘‘ตํ ปนฺํ หราเปติ, วจเนน วิรุชฺฌตี’’ติ.
๖๙๐. กณฺณจฺฉิทฺเทสูติ อตฺตโน กณฺณพิเลสุ.
๖๙๑. อนาปตฺติวาเร ‘‘กตภณฺฑ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ตตฺถ อนฺตมโส สุตฺตเกน พทฺธมตฺตมฺปิ กตภณฺฑเมวาติ อาห ‘‘สุตฺตเกน จ พนฺธิตฺวา’’ติ. เวณึ กตฺวาติ กุทฺรูสสีสปลาลเวณิสทิสํ เวณึ กตฺวา. อาปตฺติ ปริทีปิตาติ ‘‘เวณึ กตฺวา หรติ, อิทํ นิธานมุขํ นาม, อาปตฺติเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๕) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๖๙๒. สุงฺกฆาตนฺติ เอตฺถ ‘‘ตํ าน’’นฺติ เสโส, ยทิ ตํ านํ สุงฺกฆาตนฺติ โยชนา, ติโยชโนสานฏฺานํ ยทิ สุงฺกฆาตฏฺานํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อนุปฺปตฺวาติ ตํ านํ ปตฺวา. โจราทีหิ อุปทฺทุโต วา คจฺฉติ, โย อฺวิหิโต วา คจฺฉตีติ โยชนา. อาปตฺตีติ เอตฺถ อาปตฺติ ตสฺส คจฺฉโตติ ลพฺภติ. เอตฺถ ‘‘อาปตฺตี’’ติ อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติมาห. อิมิสฺสา อจิตฺตกตาย เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ โหติ. อทินฺนาทานปาราชิกํ ปน สจิตฺตกตาย เอเตสํ น โหติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ยา หิ ตตฺถ อาปตฺติ, สา อิธ อนาปตฺติ. ยา อิธ อาปตฺติ, สา ตตฺถ อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๒). เถยฺยจิตฺเตน หรโต ภณฺฑคฺฆวเสน ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกเฏสุ ¶ เอกํ โหติ. เตนาห อฏฺกถายํ ¶ ‘‘อทินฺนาทาเน ปน สุงฺกฆาเต อาปตฺติ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๒).
๖๙๓. ติโยชนนฺติ เอตฺถ หรณกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ‘‘หรนฺตสฺสา’’ติ อิมสฺส กมฺมทีปกํ ‘‘โลมานี’’ติ อิทํ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ อิทํ สพฺพตฺถ วกฺขมาเนน สมฺพนฺธนียํ. ตานิเยว ปจฺจาหรนฺตสฺสาติ โยชนา. ติโยชนนฺติ เอตฺถ ตํเยว ติโยชนนฺติ ลพฺภติ. อตฺตนา คตํ ติโยชนํ ปุน ตาเนว โลมานิ คเหตฺวา ปจฺจาคจฺฉนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
๖๙๔. นิวาสตฺถาย วา คนฺตฺวาติ ติโยชนพฺภนฺตเร วา สีมาย วา อาวาเส วสิตุกามตาย คนฺตฺวา. ตโต ปรํ หรนฺตสฺสาติ ตสฺมึ อาวาเส อุทฺเทสาทึ อลภิตฺวา ตโต ปรํ อฺสฺมึ อาวาเส วสิตุกามตาย ปุนปิ ติโยชนํ หรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อิมินาว นเยน ตโตปิ อฺํ านํ, ตโตปิ อฺนฺติ สุทฺธจิตฺเตน คตคตฏฺานโต ปุนปิ ปรมฺปรํ านํ คมนวเสน โยชนสตมฺปิ หรโต โทโส นตฺถีติ อิทมฺปิ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอวํ โยชนสตมฺปิ หรนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๕). อจฺฉินฺนํ วาปิ ลภิตฺวา หรโตปีติ ‘‘โจราวหฏปริจฺจตฺตํ ลภิตฺวา หรนฺตสฺส. อิธ สพฺพตฺเถว ‘‘นิวาสตฺถาย วา คนฺตฺวา’’ติอาทิเก อนาปตฺติวาเร ปมลทฺธฏฺานโต ปภุติ อติเรกติโยชนมฺปิ หรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ วิฺายติ. นิสฺสฏฺํ ลภิตฺวาติ นิสฺสชฺชิตฺวา วินยกมฺมํ กตฺวา ทินฺนํ ลภิตฺวา.
๖๙๕. อฺเนาติ ตานิ หารินา อฺเน. กตภณฺฑกนฺติ ‘‘กมฺพลโกชวสนฺถตาทึ ยํ กิฺจิ อนฺตมโส สุตฺตเกน ¶ พทฺธมตฺตมฺปี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๕) อฏฺกถายํ วุตฺตเอฬกโลเมหิ กตภณฺฑกํ.
๖๙๖. อิทํ สมุฏฺานนฺติ อิทํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ. ปณฺณตฺตึ อชานนตาย วา ตฺวาปิ จีวราทิปริกฺขาเรสุ โลมสฺส อลฺลินภาวํ อชานิตฺวาปิ วา ติโยชนํ อติกฺกาเมนฺตสฺส อรหโตปิ อิมาย อาปตฺติยา สมฺภวโต ‘‘อจิตฺต’’นฺติ อาห.
เอฬกโลมกถาวณฺณนา.
๖๙๗. เอฬกโลมโธวาปนกถา ¶ อุตฺตานาเยว.
เอฬกโลมโธวาปนกถาวณฺณนา.
๖๙๘. คณฺเหยฺย วาติ เอตฺถ ‘‘โย’’ติ เสโส. ‘‘คณฺเหยฺย วา คณฺหาเปยฺย วา’’ติ อิมินา ‘‘ตตฺถตฺตโน ปนตฺถายา’’ติ วกฺขมานตฺตา จ ‘‘นิสฺสชฺชิตฺวา’’ติอาทิวจนโต จ อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคณฺเหยฺย วา อุคฺคณฺหาเปยฺย วาติ วุตฺตํ โหติ. วากาเรน ‘‘อุปนิกฺขิตฺตํ วา สาทิเยยฺยา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ, ‘‘อิทํ อยฺยสฺส โหตู’’ติ อุปนิกฺขิตฺตํ เจ สาทิยตีติ อตฺโถ.
รชตนฺติ อฺตฺถ สชฺฌุ วุจฺจติ, อิธ ปน โวหารูปคกหาปณาทิ วุจฺจติ. วุตฺตฺเหตํ ปาฬิยํ ‘‘รชตํ นาม กหาปโณ โลหมาสโก ทารุมาสโก ชตุมาสโก, เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ (ปารา. ๕๘๔). อิธ กหาปณาทีนํ สรูปํ อฏฺกถายํ –
‘‘ตตฺถ กหาปโณติ โสวณฺณมโย วา รูปิยมโย วา ปากติโก วา. โลหมาสโกติ ตมฺพโลหาทีหิ กตมาสโก. ทารุมาสโกติ ¶ สารทารุนา วา เวฬุเปสิกาย วา อนฺตมโส ตาลปณฺเณปิ รูปํ ฉินฺทิตฺวา กตมาสโก. ชตุมาสโกติ ลาขาย วา นิยฺยาเสน วา รูปํ สมุฏฺาเปตฺวา กตมาสโก. ‘เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’ติ อิมินา ปน ปเทน โย โย ยตฺถ ยตฺถ ชนปเท ยทา ยทา โวหารํ คจฺฉติ, อนฺตมโส อฏฺิมโยปิ จมฺมมโยปิ รุกฺขผลพีชมโยปิ สมุฏฺาปิตรูโปปิ อสมุฏฺาปิตรูโปปิ สพฺโพ สงฺคหิโต’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) –
วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ.
เอตฺถ จ ปากติโก นาม เอตรหิ ปกติกหาปโณ. รุกฺขผลพีชมโยติ ตินฺติณิกาทิรุกฺขานํ ผลพีเชน กโต.
ชาตรูปกํ สุวณฺณํ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘ชาตรูปํ นาม สตฺถุวณฺโณ วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๕๘๔). นิสฺสชฺชิตฺวาติ ¶ เอตฺถ ‘‘เตนา’’ติ ลพฺภติ, ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ อิมินา ยุชฺชติ, เอวํ สาทิตภิกฺขุนาติ อตฺโถ. นิสฺสชฺชิตฺวาติ อตฺตนา อุคฺคหิตํ วา ปเรน อุคฺคหาปิตํ วา อุปนิกฺขิปิตสฺส สาทิยนวเสน สาทิตํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา ‘‘เตน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา’’ติ (ปารา. ๕๘๔) วจนโต สงฺฆมชฺเฌ อุปสงฺกมิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ‘‘อหํ ภนฺเต รูปิยํ ปฏิคฺคเหสึ, อิทํ เม นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ นิสฺสชฺชามี’’ติ นิสฺสชฺชิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
อาปตฺติ ¶ เทเสตพฺพาวาติ อตฺตนา เอว อาปนฺนํ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ ตสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ เอวเมว นิสีทิตฺวา เทเสตพฺพา. เอวํ เทสิตา อาปตฺติ สงฺฆานุมเตน พฺยตฺเตน ปฏิพเลน ภิกฺขุนา ปฏิคฺคเหตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน อาปตฺติ ปฏิคฺคเหตพฺพา’’ติ (ปารา. ๕๘๔).
๖๙๙. รชตนฺติ รูปิยํ. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. อิมินา ปททฺวเยน กตากตํ สพฺพํ สงฺคณฺหาติ. อุภินฺนํ มาสโกติ ชาตรูปมาสโก, รชตมาสโกปิ จาติ วุตฺตํ โหติ. อิธ รชตมาสโกติ ‘‘รชต’’นฺติ ปทภาชเน (ปารา. ๕๘๔) วุตฺตกหาปณาทิ ปฺจปฺปกาโร มาสโก คหิโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วุตฺตปฺปกาโร สพฺโพปิ รชตมาสโก’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔). อิธ ‘‘ชาตรูปมาสโก’’ติ วิสุํ คหิตตฺตา กหาปณปเทน สุวณฺณกหาปณํ วชฺเชตฺวา อิตรทฺวยเมว วตฺตพฺพํ. ‘‘นิสฺสคฺคิยาวห’’นฺติ อิทํ อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคณฺหนอุคฺคณฺหาปนสาทิยนานิ กโรนฺตํ สนฺธายาห. ‘‘ตตฺถา’’ติอาทินา วกฺขมานนเยน ทุกฺกฏาวหฺจ โหเตว.
๗๐๐-๑. มุตฺตาทีนํ อิมสฺมึ สิกฺขาปทวิภงฺเค อวุตฺตตฺเตปิ ปาจิตฺติยกณฺเฑ นวมวคฺเค ทุติยสฺส รตนสิกฺขาปทสฺส ปทภาชเน ‘‘รตนํ นาม มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาลํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโก มสารคลฺล’’นฺติ (ปาจิ. ๕๐๖) วุตฺตานํ ทสนฺนํ รตนานํ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ กตฺวา วุตฺตํ รชตํ, ชาตรูปฺจ วชฺเชตฺวา อวสิฏฺานํ อฏฺนฺนํ รตนานํ ทุกฺกฏวตฺถุภาโว อิมสฺส อฏฺกถายํ ววตฺถาปิโตติ ทสฺสนตฺถมาห ‘‘มุตฺตา…เป… มสารคลฺล’’นฺติ. เอตฺถ เวฬุริโย คาถาพนฺธวเสน น วุตฺโต ¶ , โส เอกโยคนิทฺทิฏฺานํ ¶ สตฺตนฺนํ รตนานํ คหเณเนว คยฺหติ. มุตฺตาทโย ยถาทสฺสิตสรูปาเยว. พฺรหฺมชาลาทิสุตฺตนฺตวเสนาปิ ‘‘อกปฺปิยา’’ติ สิทฺธานํ สตฺตธฺาทีนํ ปฏิคฺคหเณ อาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ธฺานี’’ติอาทิ.
๗๐๒. รตนสิกฺขาปเทเยว ‘‘รตนสมฺมต’’นฺติ อาคตํ กปฺปิยวตฺถุํ ปฏิคฺคณฺหโต อนาปตฺติภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มุคฺคมาสาทิก’’นฺติอาทิ.
๗๐๓-๔. เอวํ ติปฺปกาเรน ิตํ วตฺถุํ คณฺหโต อธิปฺปายนานตฺเตน สมฺภวนฺตํ อาปตฺติปฺปเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถาติ เตสุ ตีสุ นิสฺสคฺคิยาทิวตฺถูสุ. สงฺฆาทีนนฺติ สงฺฆคณปุคฺคลเจติยาทีนํ. ตนฺติ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ. สพฺพตฺถายาติ สพฺเพสํ อตฺถายาติ วิคฺคโห. อตฺตโน อตฺถาย จ สงฺฆาทีนมตฺถาย จ ทุกฺกฏวตฺถุํ คณฺหนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว โหตีติ อตฺโถ. อวุตฺตสมุจฺจเยเนตฺถ จ-สทฺเทน ‘‘สพฺพมฺปิ นิกฺขิปนตฺถาย ภณฺฑาคาริกสีเสน สมฺปฏิจฺฉโต อุปริ รตนสิกฺขาปเท อาคตวเสน ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) อฏฺกถาย วุตฺตวินิจฺฉยวิเสสสฺส สงฺคโห กโต.
๗๐๕. กหาปณาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สุวณฺณาทีนํ สงฺคโห. ‘‘สหสฺส’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณํ, สหสฺสมฺปีติ วุตฺตํ โหติ.
๗๐๖. ถวิกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน สิถิลปูริตานิ ภาชนานิ คหิตานิ. ‘‘สิถิลพทฺเธสู’’ติ วิเสสเนน พฺยติเรกวเสน ‘‘ฆนพทฺเธ, ปน ฆนปูริเต วา เอกาว อาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) อฏฺกถาเสสํ ทีเปติ.
๗๐๗. อุปนิกฺขิตฺตสาทิยนกมฺมํ ¶ ทสฺเสตุมาห ‘‘อิท’’นฺติอาทิ. คณฺหิตุกาโมปีติ เอตฺถ ‘‘โหตู’’ติ เสโส. นิเสเธตพฺพเมวาติ กาเยน วา วาจาย วา ‘‘อิทํ น กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพเมว, เอวํ สติ อนาปตฺติเยวาติ อตฺโถ. อยมตฺโถ อฏฺกถายํ ‘‘กายวาจาหิ วา อปฺปฏิกฺขิปิตฺวาปิ สุทฺธจิตฺโต หุตฺวา ‘นยิทํ อมฺหากํ กปฺปตี’ติ น สาทิยติ, อนาปตฺติเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) อาคโตเยว.
๗๐๘. ตํ ¶ วตฺถุนฺติ ตถา ปฏิกฺขิตฺตํ วตฺถุํ. เปตฺวา ยทิ คจฺฉตีติ ‘‘ตุมฺเห คณฺหถ วา, มา วา, ทินฺนํ ทินฺนเมวา’’ติ สเจ โส เปตฺวาว คจฺฉติ. ยถา ตํ น วินสฺสติ, ตถา ตํ โคปยิตพฺพนฺติ โยชนา. ‘‘อฺโ ตตฺถ อาคนฺตฺวา ปุจฺฉตี’’ติอาทินา อฏฺกถาย วุตฺตนเยน ตตฺถาคเตน กปฺปิยการเกน ‘‘กิมิท’’นฺติ ปุจฺฉิเต สรูปํ อาวิ กตฺวา ‘‘โคปยิสฺสามหํ ภนฺเต, คุตฺตฏฺานํ ทสฺเสถา’’ติ วุตฺเต ‘‘อิมํ คเหตฺวา เอหี’’ติ อวตฺวา สตฺตภูมิกมฺปิ ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ‘‘อิธ เปหี’’ติ อวตฺวา ‘‘อิทํ คุตฺตฏฺาน’’นฺติ สุรกฺขิตฏฺานํ ทสฺเสตฺวา ตตฺถ ปิเต อคฺคฬํ ทตฺวา รกฺขิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๗๐๙. คุตฺตฏฺานํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส กปฺปิยการกสฺส อวตฺตพฺพโวหารํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาหเรทมิท’’นฺติอาทิ. อกปฺปิยนฺติ เอตฺถ ‘‘วจน’’นฺติ ลพฺภติ. เอวํ อกปฺปิยวจนํ อวตฺวา สุรกฺขิตฏฺาเน อาหริตฺวา ปิเต กึ กาตพฺพนฺติ? วิกฺกายิเก ปตฺตจีวราทิกปฺปิยภณฺเฑ อาหเฏ ‘‘อมฺหากํ อิมินา อตฺโถ, อิมสฺส เอวรูปํ มูลมฺปิ อตฺถิ, กปฺปิยการโก เอว นตฺถี’’ติ วตฺวา เตน ‘‘อหํ กปฺปิยการโก, มยฺหํ ทสฺเสถา’’ติ วุตฺเต สเจ รุจฺจติ, ทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘อิทํ คณฺหา’’ติ อวตฺวา ‘‘เอตฺถ ปิต’’นฺติ ทสฺเสตฺวา ตสฺมึ ตสฺส อคฺฆปฺปมาณํ ¶ คเหตฺวา เทนฺเต อธิวาเสตพฺพํ. อติเรกํ คณฺหนฺเต ‘‘มยํ ตุมฺหากํ ภณฺฑํ น คณฺหาม, คจฺฉถา’’ติ นีหริตฺวา อคฺคฬํ ทตฺวา กปฺปิยการเก ลทฺเธ ‘‘อมฺหากํ เอวรูเปน อตฺโถ, อิทํ นาม มูลํ อตฺถี’’ติ วตฺวา เตน กิณิตฺวา ทินฺเน อธิวาเสตพฺพนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
๗๑๐. เปตฺวา รูปิยคฺคาหนฺติ อนนฺตรสิกฺขาปเท วกฺขมานสรูปํ สุวณฺณาทิรูปิยํ ปฏิคฺคเหตฺวา นิสฺสชฺชิตฺวา เทสิตาปตฺติกํ ปุคฺคลํ เปตฺวา. นิสฺสฏฺปริวตฺติตนฺติ เอตฺถ นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติยา เทสิตาย ‘‘สเจ ตตฺถ อาคจฺฉติ อารามิโก วา อุปาสโก วา’’ติอาทินา (ปารา. ๕๘๔) ปทภาชเน วุตฺตนเยน ตตฺถาคตํ กปฺปิยการกํ ‘‘อาวุโส อิมํ ชานา’’ติ วตฺวา ‘‘อิมินา กึ อาหริยฺยตู’’ติ เตน วุตฺเต ‘‘อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’’ติ อวตฺวา ‘‘กปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ สปฺปิ วา เตลํ วา มธุ วา ผาณิตํ วา’’ติ (ปารา. ๕๘๔) วุตฺตตฺตา ภิกฺขูนํ กปฺปิยวตฺถุมตฺเต อาจิกฺขิเต เตน นิสฺสฏฺวตฺถุํ ปริวตฺเตตฺวา อาหฏํ กปฺปิยภณฺฑนฺติ อตฺโถ.
๗๑๑. อตฺตโน ¶ ปตฺตภาคมฺปีติ ตถา อาหเฏ กปฺปิยภณฺเฑ สงฺฆสฺส ภาชิยมาเน อตฺตโน วสฺสคฺเคน อตฺตโน ปตฺตโกฏฺาสมฺปิ. ปฏิคฺคาหกภิกฺขุโนติ รูปิยํ ปฏิคฺคเหตฺวา อาปชฺชิตฺวา นิสฺสชฺชิตฺวา เทสิตาปตฺติกสฺส ภิกฺขุโน น วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. อฺโตติ อตฺตโต อฺสฺมา ปพฺพชิตมนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคติตฺถิปุริสานํ อฺตรโต. ลทฺธนฺติ เตหิ อตฺตนา ลทฺธโกฏฺาสโต ทินฺนวเสนปิ ลทฺธํ ตํ วตฺถุํ.
๗๑๒. ยํ กิฺจิ ปจฺจยนฺติ ตํ วตฺถุํ ปริวตฺเตตฺวา คหิเตสุ จตูสุ ปจฺจเยสุ อฺตรมฺปิ ปจฺจยํ. อนฺตมโส ปถวึ ขณิตฺวา ¶ อุปฺปาทิโตทกมฺปิ ทารูหิ อาทิตฺตอคฺคิมฺปิ เตเลน ชลิตปทีปมฺปิ รุกฺเข วา เคเห วา ปกติฉายมฺปิ ตาลปณฺณมฺปิ อุปโภคปริโภคารหํ อฺมฺปิ ยํ กิฺจีติ อฏฺกถาย วุตฺตนยํ อิมินาว สงฺคหิตนฺติ คเหตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตมโส มกฺกฏาทีหิ ตโต หริตฺวา อรฺเ ปิตํ วา เตสํ หตฺถโต คฬิตฺวา ติรจฺฉานปริคฺคหิตมฺปิ ปํสุกูลมฺปิ น วฏฺฏติเยวา’’ติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔), ‘‘รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ปน เกนจิ ปริยาเยน ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยปริโภโค น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๕) จาติ. ภิกฺขุโนติ รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ภิกฺขุสฺส.
๗๑๓. อชฺฌาราเม วาติ อุปริ วกฺขมานลกฺขเณน ปริจฺฉินฺเน อชฺฌาราเม วา. ตํ รูปิยํ, ‘‘ปติตํ ทิสฺวา’’ติ เสโส. อชฺฌาวสเถปิ วาติ วกฺขมานลกฺขเณ อนฺโตอาวาเส จ. นิกฺขิปนฺตสฺสาติ ‘‘ยสฺส ภวิสฺสติ, โส หริสฺสตี’’ติ วุตฺเต าเน ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ คณนฺจ อุปลกฺขณฺจ สลฺลกฺเขตฺวา เปนฺตสฺส.
๗๑๔. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘รูปิเย รูปิยสฺี, เวมติโก, อรูปิยสฺี รูปิยํ ปฏิคฺคณฺหาติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๘๖) ภควตา ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ ‘‘ทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
๗๑๕. กฺริยากฺริยนฺติ คหเณน อาปชฺชนโต กิริยํ. ปฏิกฺเขปสฺส อกรณโต อกิริยนฺติ.
รูปิยปฏิคฺคหณกถาวณฺณนา.
๗๑๖-๗. นิสฺสคฺคิยสฺสาปิ ¶ วตฺถุนฺติ ‘‘นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสฺส วตฺถู’’ติ ปมสิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺเสุ รชตาทีสุ จตูสุ อฺตรํ ¶ วตฺถุํ. ทุกฺกฏสฺส จ วตฺถุํ วาติ ปมํ ทสฺสิตมุตฺตาทิทุกฺกฏวตฺถูสุ อฺตรํ วา, อิโหภยตฺถ เหตุผลสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. กปฺปิยสฺส จ วตฺถุํ วาติ ยถาทสฺสิเตสุ เอว มุคฺคมาสาทิกปฺปิยวตฺถูสุ อฺตรํ วา, อิห อวยวาวยวิสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. อวยวาวยวีนํ อเภเทปิ เภทูปจารวเสน ยถา ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีร’’นฺติ กปฺปิยวตฺถุนฺติ วุตฺตํ โหติ ‘‘กปฺปิเยน วตฺถุนา’’ติ วกฺขมานตฺตา. อิทาเนตฺถ ทุกฺกฏวตฺถุโน, กปฺปิยวตฺถุโน จ นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา ปริวตฺติตตฺตา อาปตฺติ โหตีติ คเหตพฺพํ. นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา โย ปริวตฺเตติ, ตสฺส อาปตฺตีติ โยชนา.
ทุกฺกฏสฺส วตฺถุนา, กปฺปิเยน จ วตฺถุนา วตฺถุํ นิสฺสคฺคิยสฺส ปริวตฺเตติ, อาปตฺตีติ โยชนา. อิธ อุภยตฺถาปิ ปริวตฺติตสฺส นิสฺสคฺคิยวตฺถุตฺตา อาปตฺติ โหติ. เอวํ ตีสุปิ าเนสุ ‘‘อาปตฺตี’’ติ สามฺวจเนน นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยเมว วุตฺตนฺติ ปกรณโต ลพฺภติ.
๗๑๘. ทุกฺกฏสฺเสว วตฺถุนา ทุกฺกฏสฺส จ วตฺถุํ วา ปริวตฺเตติ, ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ‘‘วตฺถุํ วา กปฺปิยสฺสา’’ติ อิทํ วุตฺตนยเมว, กปฺปิยวตฺถุนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิมสฺส กปฺปิยวตฺถุโนปิ ทุกฺกฏวตฺถุนา ปริวตฺติตตฺตา ทุกฺกฏํ โหตีติ คเหตพฺพํ.
๗๑๙. ‘‘วตฺถุนา กปฺปิยสฺสา’’ติ อิทมฺปิ วุตฺตนยเมว. กปฺปิยวตฺถุนาปิ ปริวตฺติเต ทุกฺกฏวตฺถุวเสน ทุกฺกฏํ โหตีติ อาห ‘‘ตถา’’ติ.
๗๒๐. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วตฺถุโน’’ติ อิทํ อากฑฺฒติ. ‘‘นิสฺสคฺคิยสฺสา’’ติ อิมินา ปาจิตฺติยมาห. ปุพฺพนฺติ ปมํ, ปุพฺเพ ¶ วุตฺตรูปิยปฏิคฺคหณสิกฺขาปเทติ วุตฺตํ โหติ. อิมินาติ รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเทน. ปริวตฺตนํ วาริตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๗๒๑. รูปิยนฺติ จ สฺิสฺสาติ ‘‘รูปิยํ นาม สตฺถุวณฺโณ กหาปโณ โลหมาสโก ทารุมาสโก ชตุมาสโก, เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ (ปารา. ๕๘๙) ปทภาชเน วุตฺเตสุ รูปิยสฺิเตสุ วตฺถูสุ ‘‘อฺตร’’นฺติ สฺิสฺส. อรูปิเยติ ขรปตฺตาทิมฺหิ. เตน อรูปิเยน. ‘‘เจตาเปนฺตสฺส อรูปิย’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อรูปิเย รูปิยสฺี รูปิยํ เจตาเปติ ¶ , นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๙๑) วุตฺตตฺตา รูปิยปริวตฺตเน ทุกฺกฏสฺส อภาวโต, ปาจิตฺติยสฺส จ สมฺภวโต รูปิยํ น คเหตพฺพํ. อรูปิเย รูปิยํ อิติ สฺิสฺส จ วิมติสฺส จ อรูปิยํ เจตาเปนฺตสฺส เตน ทฺเว ทุกฺกฏานิ โหนฺตีติ โยชนา.
๗๒๒. อรูปิเย อรูปิยนฺติ สฺิสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อรูปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺสา’’ติ เสโส. ปฺจหีติ สหตฺเถ กรณวจนํ, ‘‘สหธมฺมิเกหี’’ติ เสโส, ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สทฺธินฺติ อตฺโถ. วทโตติ โวหรโต, กยวิกฺกยํ กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ภิกฺขุภิกฺขุนิสามเณรสามเณริสิกฺขมานาสงฺขาเตหิ ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ อรูปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
๗๒๓. สํโวหาเรน สมุฏฺานโต กฺริยสมุฏฺานํ.
รูปิยสํโวหารกถาวณฺณนา.
๗๒๔. กปฺปิยํ นาม ‘‘จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, อนฺตมโส จุณฺณปิณฺโฑปิ ทนฺตกฏฺมฺปิ ทสิกสุตฺตมฺปี’’ติ ¶ ปทภาชเน วุตฺตานิ กปฺปิยวตฺถูนิ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘จีวราทีนํ กปฺปิยภณฺฑานํ วเสน อเนกวิธ’’นฺติ. กปฺปิเยเนวาติ เตเนว กปฺปิเยน วตฺถุนา. ‘‘กยวิกฺกยํ สมาปชฺเชยฺยาติ ‘อิมินา อิมํ เทหิ, อิมินา อิมํ อาหร, อิมินา อิมํ ปริวตฺเตหิ, อิมินา อิมํ เจตาเปหี’ติ อชฺฌาจรตี’’ติ (ปารา. ๕๙๕) วจนโต ‘‘ปริวตฺตยโต’’ติ อิมสฺส ‘‘กยวิกฺกยํ สมาปชฺชโต’’ติ ปริยาโย.
ตตฺถ อฺสฺส หตฺถโต กปฺปิยวตฺถุนา ปริวตฺเตตฺวา คหณํ กโย นาม. อตฺตโน หตฺถโต กปฺปิยวตฺถุํ ปริวตฺเตตฺวา ทานํ วิกฺกโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’ติอาทินา หิ นเยน ปรสฺส กปฺปิยภณฺฑํ คณฺหนฺโต กยํ สมาปชฺชติ, อตฺตโน กปฺปิยํ เทนฺโต วิกฺกย’’นฺติ. ‘‘เปตฺวา สหธมฺมิเก’’ติ วุตฺตตฺตา ปริวตฺตยโตติ เอตฺถ อฺเหิ สทฺธินฺติ ลพฺภติ. เอตฺถ อฺเ นาม คิหิโน อิตฺถิปุริสา, สาสนโต พาหิรา ปพฺพชิตา จ. ตสฺมา อยํ กยวิกฺกโย อนฺตมโส มาตาปิตูหิปิ น กาตพฺโพเยว. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อยฺหิ กยวิกฺกโย ¶ เปตฺวา ปฺจ สหธมฺมิเก อวเสเสหิ คิหิปพฺพชิเตหิ อนฺตมโส มาตาปิตูหิปิ สทฺธึ น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๙๕).
๗๒๕. อกปฺปิยสฺส วตฺถุสฺสาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วุตฺตจีวราทิกปฺปิยวตฺถุโต อฺสฺส นิสฺสคฺคิยทุกฺกฏวตฺถุสฺส. เตเนวาติ อกปฺปิยวตฺถุนาเยว. ‘‘กปฺปิยสฺส จา’’ติ ปาเสโส, เตเนว อกปฺปิเยน วตฺถุนา กปฺปิยสฺส วตฺถุสฺส ปริวตฺตนฺจาติ โยชนา. เอวฺหิ ปาเสเส อกเต อกปฺปิเยน วตฺถุนา กปฺปิยสฺส ปริวตฺตนํ กยวิกฺกเย สงฺคเหตพฺพํ สิยา, ตํ น ยุชฺชติ ตสฺส รูปิยสํโวหาเรเยว สงฺคหิตตฺตา, อิธ จ ‘‘กปฺปิยวตฺถุสฺเสว กปฺปิยวตฺถุนา ¶ ปริวตฺตนํ กยวิกฺกโย’’ติ นิยมิตตฺตา. นิทฺทิฏฺนฺติ ‘‘อกปฺปิยภณฺฑปริวตฺตนฺหิ กยวิกฺกยสงฺคหํ น คจฺฉตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๙๔) อฏฺกถายํ นิทฺทิฏฺนฺติ อตฺโถ.
๗๒๖. ตสฺมาติ ยสฺมา อฺตฺร สหธมฺมิเกหิ กปฺปิยวตฺถุสฺสาปิ กยวิกฺกโย น วฏฺฏติ, อกปฺปิยสฺส, กปฺปิยสฺส จ วตฺถุโน อกปฺปิเยเนว วตฺถุนา ปริวตฺตนฺจ รูปิยสํโวหาเร สงฺคหิตตฺตา กยวิกฺกยสงฺคหํ น คจฺฉติ, ตสฺมา.
๗๒๙. อิทํ นามาติ โอทนาทิกปฺปิยวตฺถุเมว อาห.
๗๓๐-๑. ‘‘คเหตฺวา’’ติอาทิคาถาย วตฺถุลกฺขณสฺส อุทาหรณํ ทสฺเสตฺวาว อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วิฆาสาท’’นฺติอาทิ. ฉลฺลินฺติ รุกฺขตจํ. วลฺลินฺติ ลตํ. กฏฺนฺติ อินฺธนทารุํ. ทารุนฺติ เคหสมฺภาราทิทารุํ. วิปลฺลาเสนาปิ วตฺตพฺพํ ‘‘วลฺลึ วา ปน ฉลฺลึ วา, ทารุํ วา กฏฺเมว วา’’ติ. วตฺถูนนฺติ ตถา วตฺวา อาหราปิตานํ ฉลฺลิอาทิวตฺถูนํ. กยวิกฺกเย อาปตฺติโย โหนฺตีติ โยชนา, นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยาปตฺติโย โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๗๓๒. ‘‘อิติ เอวา’’ติ ปทจฺเฉโท, ‘‘ปิวิตฺวา’’ติอาทินา นเยน ปุพฺพกาเล วิหิตปจฺจยนฺตํ อกตฺวา วุตฺตนเยเนวาติ อตฺโถ.
๗๓๓. ภูมิยา ลิมฺปเนติ โยชนายํ ปน เสนาสนภูมิยํ ปริภณฺฑกรณกาฬกาทิวณฺณกรณวเสน ¶ เลปเน. วตฺถุโธวเนติ จีวราทิวตฺถูนํ โธวเน. เอตฺถาติ เตสุ วุตฺตปฺปกาเรสุ. เอเตสํ คหณสฺส อุปลกฺขณตฺตา เอวรูเปสุ อฺเสุ าเนสุ.
๗๓๔. อยนฺติ ¶ ภูมิโสธนาทิวเสน อาปนฺนา ปาจิตฺติยาปตฺติ.
๗๓๕. เปตฺวา ภณฺฑสามิกนฺติ เอตฺถ พฺยติเรกวเสน อฺสฺส กปฺปิยการสฺสาติ ลพฺภติ.
๗๓๖. ภาสโต อนาปตฺตีติ โยชนา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
กยวิกฺกยกถาวณฺณนา.
โกสิยวคฺโค ทุติโย.
๗๓๗. กปฺปิยา ปตฺตา มตฺติกาโยมยา ชาติโต ทุเวติ โยชนา. วณฺณาติ ปมาณานิ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณาติ ตีณิ ปตฺตสฺส ปมาณานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒). เตนาห ‘‘อุกฺกฏฺโ มชฺฌิโมมโก’’ติ.
๗๓๘. ทฺวินฺนํ ตณฺฑุลนาฬีนนฺติ สุโกฏฺฏิตานํ อขณฺฑานํ ปุราณสาลิตณฺฑุลานํ ทฺเว นาฬิโย คเหตพฺพา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนุปหตปุราณสาลิตณฺฑุลานํ สุโกฏฺฏิตปริสุทฺธาน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒). ภตฺตนฺติ อวสฺสาวิตํ อนุตฺตณฺฑุลํ อกิลินฺนํ อปิณฺฑิตํ สุวิสทํ กุนฺทมกุลราสิสทิสํ สุปกฺโกทนเมว คเหตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนุตฺตณฺฑุลํ อกิลินฺนํ อปิณฺฑิตํ สุวิสทํ กุนฺทมกุลราสิสทิสํ อวสฺสาวิโตทน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒). มคธนาฬิยาติ มคธรฏฺเ นาฬิยา, สา นาฬิ ติลานํ อฏฺปสตานิ คณฺหาติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ขาริทสทฺวยํ ¶ วาโห, ขารี โทณฏฺกทฺวยํ;
ทฺวิอฏฺนาฬิโย โทโณ, นาเฬกา ปสตฏฺกํ;
ลกฺขํ ติลานํ ปสตํ, เอตํ วุตฺตํ ปมาณโต’’ติ.
‘‘มคธนาฬิ ¶ นาม อฑฺฒเตรสปลา โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒) อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตพฺพณฺณนาย ‘‘อฑฺฒเตรสปลานิ มาเสหิ คเหตพฺพานี’’ติ วุตฺตํ. เกจิ ปนาหุ –
‘‘จตุปฺปสติกา มุฏฺิ, ปลฺเจตํ จตุคฺคุณํ;
กุฑุวปฺปสตฺเจว, จตฺตาริ เจว นาฬิ ตุ.
‘‘โสเยว ปตฺโถ จตฺตาโร, ปตฺถา อฬฺหกมุจฺจเต;
อฬฺหกานมฺปิ จตฺตาริ, ‘โทโณ’ติ ปริกิตฺติโต’’ติ.
อาจริยา ปน ‘‘อฏฺปสตา มาคธนาฬี’’ติ ปุพฺพปกฺขเมว โรจยนฺติ.
ขาทนฺจ จตุพฺภาคนฺติ ตสฺมึ ภตฺเต จตุธา วิภตฺเต เอกภาคมตฺตํ หตฺถหาริยฆนมุคฺคสูปนฺติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺส โอทนสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาโณ นาติฆโน นาติตนุโก หตฺถหาริโย สพฺพสมฺภารสงฺขโต มุคฺคสูโป ปกฺขิปิตพฺโพ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒).
พฺยฺชนฺจ ตทูปิยนฺติ ยาว จริมาโลปํ, ตาว สพฺพาโลปานุรูปํ มจฺฉมํสาทิพฺยฺชนฺจ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปํ ยาวจริมาโลปปฺปโหนกํ มจฺฉมํสาทิพฺยฺชนํ ปกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ. เอตฺถ จ อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปนฺติ ‘‘พฺยฺชนสฺส มตฺตา นาม โอทนจตุตฺถภาโค’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๗) พฺรหฺมายุสุตฺตสฺส อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อาโลปสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาณํ พฺยฺชนํ อาโลปสฺส อนุรูปนฺติ คเหตพฺพํ. อิธ ปน สูปสฺเสว โอทนจตุตฺถภาคปฺปมาณํ ¶ ทสฺเสตฺวา เอตสฺส ลกฺขเณ ทสฺสิเต อิตรสฺสาปิ ทสฺสิตเมว โหตีติ พฺยฺชนสฺส ตถา วิเสเสตฺวา ปมาณํ น ทสฺสิตํ. โอทเน ปกฺขิปิตพฺพานิ สปฺปิเตลตกฺกรสกฺชิกาทีนิ คณนูปคานิ น โหนฺติ.
๗๓๙. ตํ สพฺพนฺติ ยถาวุตฺตภตฺตาทินิรวเสสํ. คณฺหตีติ วกฺขมาเนหิ ตีหิ ปกาเรหิ คณฺหาติ. ตสฺสาติ อุกฺกฏฺสฺส ปตฺตสฺส. อุปฑฺโฒติ ตสฺมึ ปตฺเต คณฺหนกทพฺพสมฺภารคาหี ปตฺโต ตํสหจริเยน ¶ ‘‘อุปฑฺโฒ’’ติ วุตฺโต. ตทุปฑฺโฒ จาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตสฺส มชฺฌิมสฺส ปตฺตสฺส อุปฑฺโฒ ตทุปฑฺโฒติ คเหตพฺพํ.
๗๔๐. อิเมสุ ตีสุ ปตฺเตสุ อุกฺกฏฺสฺส วุตฺตํ โอทนาทิ สพฺพํ ยสฺมึ ปตฺเต ปกฺขิตฺตํ, ตสฺส มุขวฏฺฏิมตฺถเก ปฺุชิยมานํ หีรกํ เหฏฺาภาเค ผุสติ, โส อุกฺกฏฺมชฺฌิโม นาม, หีรโต อติเรกํ ติฏฺติ, โส อุกฺกฏฺโมโก นาม, อนฺโตปตฺเต มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมนฺตํ อปฺปตฺวา ติฏฺติ, โส อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ นาม, เอวํ มชฺฌิโม จ โอมโก จ ปจฺเจกํ ติวิโธ โหตีติ สพฺเพ นว ปตฺตา โหนฺตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุกฺกฏฺสฺสา’’ติอาทิ. ตสฺเสวาติ อุกฺกฏฺสฺเสว. โอมโก จ มชฺฌิโม จาติ โอมกมชฺฌิมา. อิธ มชฺฌิโม จ โอมโก จ อุกฺกฏฺสฺเสว เภโท. เอส นโย อิตรทฺวเยปิ. ‘‘เอว’’นฺติ อิมินา ยถา ‘‘อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ อุกฺกฏฺโมโก อุกฺกฏฺมชฺฌิโม’’ติ โยเชตพฺโพ, เอวํ มชฺฌิโมมกานมฺปิ ยถากฺกมโยชนํ ทสฺเสติ ‘‘มชฺฌิโม มชฺฌิมุกฺกฏฺโ มชฺฌิโมมโก, โอมกุกฺกฏฺโ โอมกมชฺฌิโม โอมโกมโก จา’’ติ.
๗๔๑. เตสูติ ¶ นวสุ ปตฺเตสุ. ตสฺมาติ อปตฺตภาวโต. น คจฺฉนฺตีติ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺฺจ โอมโกมกฺจาติ ทฺเว อเปกฺขิตฺวา พหุวจนํ กตํ. เอเต ภาชนสงฺเขเปน ปริภฺุชิตพฺพาติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺมา เอเต ภาชนปริโภเคน ปริภฺุชิตพฺพา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒).
๗๔๒. ปตฺตลกฺขณสํยุตนฺติ เอตฺถ ปตฺตลกฺขณํ นาม ยถาวุตฺตปมาณยุตฺตตา, ‘‘อโยปตฺโต ปฺจหิ ปาเกหิ ปกฺโก มตฺติกาปตฺโต ทฺวีหิ ปาเกหิ ปกฺโก’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘) วุตฺตา ปากสมฺปตฺติ, กิณิตฺวา คณฺหาติ เจ, ตสฺส ทาตพฺพมูลสฺส อเสเสตฺวา ทินฺนภาโว, ฉิทฺทาภาโว, ฉินฺนราชีนํ อภาโวติ ปฺจวิธํ. โหติ เจตฺถ –
‘‘ปมาณยุตฺตตา ปาก-สมฺปตฺติ ทินฺนมูลตา;
อจฺฉิทฺทาราชิตา เจติ, ปตฺตลกฺขณปฺจก’’นฺติ.
‘‘อธิฏฺาย วา วิกปฺเปตฺวา วา’’ติ วา-สทฺโท โยเชตพฺโพ. อธิฏฺายาติ ปมํ ปริภุตฺเต ปตฺเต สติ ตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อธิฏฺาตพฺพปตฺโต หตฺถปาเส เจ โหติ, วกฺขมานนเยน ‘‘อิมํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ ¶ วจีเภทกรณวเสน วาจาย วา วจีเภทํ อกตฺวา เอวเมว จินฺเตตฺวา หตฺเถน คเหตฺวา ผนฺทาเปนฺเตน กาเยน วา ทูเร เจ หตฺถปาสา โหติ, ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพาติ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตนเยน เอกเกน วา ปจฺฉา สติสมฺโมเส สราเปตฺวา กุกฺกุจฺจํ วูปสเมตุํ สมตฺถสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิธาเน วา อธิฏฺายาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อฺสฺส สนฺติเก อธิฏฺาเน อยมานิสํโส – สจสฺส ‘อธิฏฺิโต นุ โข เม, โน’ติ วิมติ อุปฺปชฺชติ, อิตโร สาเรตฺวา วิมตึ ฉินฺทิสฺสตี’’ติ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘) อยมตฺโถ อฏฺกถายํ วุตฺโต. ‘‘ทฺเว ปตฺเต อธิฏฺาตุํ น ลภตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ.
วิกปฺเปตฺวาติ (ปาจิ. ๓๗๓; ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘; กงฺกา. อฏฺ. วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา) ตฺถ วิกปฺเปตพฺพสฺส ปตฺตสฺส เอกตฺตพหุตฺตํ, สนฺนิหิตาสนฺนิหิตตฺตฺจ สลฺลกฺเขตฺวา เอกํ เจ สนฺนิหิตํ, ‘‘อิมํ ปตฺตํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘อิมํ ปตฺตํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’’ติ วา อาทินา นเยน เอกํ วิกปฺเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ ‘‘ปริภฺุเชยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา, ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภฺุเชหิ วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เตน อปจฺจุทฺธเฏ ปริภฺุชิตุํ อยุตฺตตฺตา ‘‘วิกปฺเปตฺวา’’ติ ปจฺจุทฺธฏวิเสโส คเหตพฺโพ.
๗๔๓. ธาเรยฺยาติ อนธิฏฺหิตฺวา, อวิกปฺเปตฺวา จ ปริภฺุชิตพฺโพ. ตํ กาลํ ปตฺตํ อติกฺกามยโตติ โยชนา. ‘‘นิสฺสคฺคิย’’นฺติ อิมินาปิ ‘‘ปตฺต’’นฺติ อิทํ ยุชฺชติ. ปตฺต-สทฺโท มาคธิกานํ ทฺวิลิงฺคโก, ตสฺมา เอวํ วุตฺโต.
๗๔๔. อธิฏฺิตวิกปฺปิเตสุ อนนฺโตคธตฺตา อติเรกภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยํ ปตฺต’’นฺติอาทิ.
๗๔๕. สมฺมุเขติ อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปเทสโต อนฺโต ิตํ ปตฺตํ. ทูรสฺมินฺติ อฑฺฒเตยฺยรตนโต ปรภาเค ‘‘อนฺโตคพฺเภ วา อุปริปาสาเท วา สามนฺตวิหาเร วา’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตปฺปกาเร ทูเรปิ. ยตฺถ กตฺถจิ วิกปฺปนกาเลปิ สนฺติกทูรวจนเภทา เอวเมว โยเชตฺวา วตฺตพฺพา. ‘‘วิกปฺเปตุํ ¶ ปน พหูนิปิ ลพฺภตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. อยํ นโยติ ‘‘อิมํ ปตฺตํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติอาทินโย.
๗๔๖. วาจากายวเสน ¶ ทุวิเธ อธิฏฺาเน วาจาธิฏฺานํ ทสฺเสตฺวา กายาธิฏฺานํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาโภค’’นฺติอาทิ. อาโภคนฺติ ‘‘อิมํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ อาโภคํ. ‘‘มนสา’’ติ อิมินา น วจสาติ วุตฺตํ โหติ. กายวิกาโรว กายวิการกํ, หตฺเถน ผนฺทาปนาทิกายกิริยาติ อตฺโถ. เอเตเนว กายาธิฏฺานํ หตฺเถน อปตฺตพฺเพ ทูเร น กาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
๗๔๗-๘. ‘‘ชหติ อธิฏฺาน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ทานโตติ อฺสฺส ทาเนน. เภทกโตติ ภิชฺชเนน. นาสโตติ ปตฺตสามิกสฺส กาลกิริยาย. วิพฺภมโตติ สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย คิหิภาวูปคมเนน. อุทฺธารโตติ ปจฺจุทฺธรเณน. ปจฺจกฺขโตติ สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน. ปริวตฺตนโตติ ลิงฺคปริวตฺตเนน. คาหโตติ วิสฺสาสคฺคหเณน, อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน จ.
กงฺคุสิตฺถปฺปมาเณนาติ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ขุทฺทกตรสฺส กงฺคุโน สิตฺถปฺปมาเณน. เขนาติ มุขวฏฺฏิยา ทฺวงฺคุลโต เหฏฺา อากาสปริยาเยน ฉิทฺเทน. อาณิยา วาติ อโยมยาย อาณิยา วา.
๗๕๐-๑. มณิปตฺโตติ มณินา กโต. เวฬุริยุพฺภโวติ มรกตมณิมโย. ผลิกุพฺภโวติ ผลิกปาสาเณน กโต. กาจมโยติ กาจมตฺติกามโย. กํสมโยติ กํสโลเหน กโต. ติปุมโยติ กาฬติปุมโย. สีสมโยติ เสตติปุมโย. วิปลฺลาเสน จ วทนฺติ. สชฺฌุมโยติ รชตมโย.
๗๕๒. ฆฏกฏาโหติ ฆฏกปาลํ. สีสกฏาโหติ ฉวสีสกปาลํ. ตุมฺพนฺติ อลาพุ. อสฺสาติ เอกาทสวิธสฺส ¶ ปตฺตสฺส. อนุโลมิกนฺติ อกปฺปิยวเสน อนุโลมํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ เอกาทสวิเธ. ตมฺพมยํ โลหมยํ ถาลกํ ปน วฏฺฏตีติ โยชนา, ปตฺโตเยว น วฏฺฏติ, ตมฺพโลหมยา ถาลกา ปน วฏฺฏนฺตีติ อตฺโถ.
๗๕๓. ตฏฺฏิกาทีนีติ ¶ อาทิ-สทฺเทน วฏฺฏกาทีนํ สงฺคโห. วฏฺฏกนฺติ จ อฑฺฒจนฺทากาโร โลหาทิมโย ภาชนิยวิเสโส. ปุคฺคลสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. คิหี จ สงฺโฆ จ คิหิสงฺฆา, เตสํ สนฺตกา คิหิสงฺฆิกา.
๗๕๔. ยํ กิฺจิ ปตฺตนฺติ สตฺตสุ ปตฺเตสุ ยํ กิฺจิ ปตฺตํ. โวทกํ กตฺวาติ วิคโตทกํ กตฺวา. ปฏิสาเมยฺยาติ นิกฺเขปารหฏฺาเน นิกฺขิปนวเสน, ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา พนฺธนวเสน วา สงฺโคเปยฺย.
๗๕๕. โอตาเปตุนฺติ อาตเป, อคฺคิมฺหิ วา ตาเปตุํ. อุณฺเหติ ตสฺมึเยว อุณฺเห. น นิทเหตพฺโพติ น ฌาเปตพฺโพ. สีสาปนยนเมว น วฏฺฏตีติ น นิทเหตพฺโพติ อตฺโถ อธิกนิวารเณเนว วิฺายติ.
๗๕๖. มิฑฺฒนฺเตติ มิฑฺฒิยา อนฺเต. ปริภณฺฑนฺเตติ ปมุเข มหามิฑฺฒิยา อนฺเต. ‘‘วิตฺถิณฺเณติ อนฺตมโส ทฺวิปตฺตมตฺโตกาสวิตฺถาเร’’ติ เกจิ. เปตุํ ปน วฏฺฏตีติ โยชนา, วลยาทิอาธาเรน วินาปิ เปตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ‘‘มิฑฺฒิยา ปมุเข มิฑฺฒิยา จ ขรภูมิปเทสาทีสุ จ วลยมตฺถเก เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ.
๗๕๗. ทารุอาธารเกติ อุทุกฺขลสทิเส ทารุมเย อาธาเร. ทฺเว ปตฺเต เปตุมฺปิ วฏฺฏตีติ ปตฺตมตฺถเก อปรสฺสาปิ ปตฺตสฺส ปนวเสน ทฺเว ปตฺเต เปตุมฺปิ วฏฺฏติ. อปิ-สทฺเทน ¶ เอกสฺมึ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. อยเมว นโยติ ‘‘ทฺเวปิ ปตฺเต เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ อยํ นโย. ทณฺฑภูมิอาธารเกสูติ เอตฺถ ทณฺฑาธาโร นาม พหูหิ ทณฺเฑหิ กโต. ภูมิอาธารโก นาม ภูมิยํ กโต อาลวาลวลยากาโร สิลิฏฺาธาโร. ‘‘ทนฺตเวตฺตลตาทิมโย ภูมิอาธารโก’’ติ เกจิ.
๗๕๘-๙. ตฏฺฏิกายาติ ตาลปณฺณาทีหิ กตตฏฺฏิกาย. โปตฺถเกติ มกจิวากมเย วา รุกฺขวากมเย วา อตฺถรเณ. กฏสารเกติ ตาลปณฺณาทีหิ วีเต อตฺถรเณ. ปริภณฺฑกตายาติ กตโคมยปริภณฺฑาย. อปิ-สทฺเทน สุธากมฺมํ กตฺวา ปาสาเณน ฆํสิตฺวา มฏฺกตาย ภูมิยา วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. วาลุกาสุ วาติ เลฑฺฑุปาสาณสกฺขรกปาลาทิอมิสฺสาสุ สณฺหสุขุมวาลุกาสูติ ¶ วุตฺตํ โหติ. เตเนวาห ‘‘ตถารูปาสู’’ติอาทิ. รชมฺหิ สนฺเตปิ อสนฺเตปิ วิสุํเยว ‘‘ขรภูมิยา น เปตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘สรชายา’’ติ อิมินา รโชกิณฺณํ สณฺหภูมิมาห. ขรภูมิยาติ ผรุสภูมิยา.
๗๖๐. ลคฺเคตุนฺติ โอลมฺเพตุํ. ทณฺฑโกฏิยา, นาคทนฺตโกฏิยา จ ปตฺตมุเขน ปกฺขิปิตฺวา ปนมฺปิ ลคฺคนํ นาม. ฉตฺตงฺกมฺจปีเสูติ ฉตฺเต, องฺเก, มฺจปีเ จ.
๗๖๑. อฏนีสูติ องฺเคสุ. พนฺธิตฺวาติ ถวิกาย อํสวทฺธนกาทินา เยน เกนจิ พนฺธิตฺวา. โอลมฺเพตุมฺปีติ ลคฺเคตุมฺปิ. ‘‘เปตุํ อุปรี’’ติ ปทจฺเฉโท.
๗๖๒. มฺจปีฏฺฏเกติ มฺจปีเสุ ปิตปตฺตา ยถา น ปตนฺติ, ตถา อฏนิมตฺถเก ทารุนา ปริกฺเขเป กเต มฺจปีฏฺฏกา ¶ นาม โหนฺติ, ตาทิเส มฺจปีฏฺฏเก เปตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ภตฺตปูโรปีติ ภตฺตสฺส ปูโรปิ. อปิ-สทฺเทน ยาคุเตลปริปูริตสฺสาปิ สงฺคโห. ตุจฺฉปตฺเต วินิจฺฉโย ยถาวุตฺโตเยว. ปูรณํ ปูโร, ภตฺตสฺส ปูโร ภตฺตปูโร.
ติภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗๖๓. กวาฏนฺติ ทฺวารกวาฏผลกํ. ‘‘เสนาสเน ทฺวารกวาฏวาตปานกวาฏาที’’ติอาทีสุ ทฺวารผลกํ ‘‘กวาฏ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. น ปณาเมยฺยาติ น นาเมยฺย น จาเลยฺย, น จ ปิทเหยฺยาติ อตฺโถ. ปตฺตํ หตฺเถ ยสฺส โส ปตฺตหตฺโถติ ภินฺนาธิกรโณยํ พาหิรตฺถสมาโส ‘‘วชิรปาณี’’ติอาทีสุ วิย. ‘‘ปณาเมยฺย อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท.
๗๖๔. น นีหเรยฺย ปตฺเตน จลกานีติ รสํ ปิวิตฺวา ปาติตมธุกผลฏฺิกาทิ ฉฑฺฑิตานิ พหิ ฉฑฺเฑตุํ ปตฺเตน น นีหเรยฺย. อฏฺิกานิ วาติ ปนสฏฺิโกลฏฺิอาทิอฏฺิกานิ วา. อุจฺฉิฏฺมุทกนฺติ มุขโธวนาทิกํ อุจฺฉิฏฺมุทกํ. ปตฺเตน นีหรนฺตสฺสาติ โยชนา, พหิ ฉฑฺเฑตุํ ตํ ปตฺเต อาสิฺจิตฺวา หรนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. อิตรถา อุจฺฉิฏฺปตฺตโธวโนทกมฺปิ เตเนว ปตฺเตน พหิ น นีหริตพฺพํ สิยา.
๗๖๕. ปฏิคฺคเหติ ¶ มุขโธวโนทกนฺติ ปฏิคฺคโห, เขฬมลฺลโกว. มุขโต นีหฏนฺติ มุเขน ฉฑฺฑิตํ มํสขณฺฑาทิ ยํ กิฺจิ.
๗๖๖. วินสฺสตีติ วิพฺภเมน วา สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน วา กาลกิริยาย วา วินสฺสติ. อถ วา โยติ ปจฺจตฺตวจนํ ‘‘ยสฺสา’’ติ สามิวเสน ปริณาเมตฺวา ยสฺส ภิกฺขุโน ¶ ปตฺโต เภเทน วา อจฺเฉเทน วา โจริกาย หรเณน วา นสฺสติ, ตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา.
๗๖๗. ปมสฺสาติ ปตฺตวคฺคสฺส ปมํ สงฺคหิตตฺตา ปมสฺส. ปตฺตสฺสาติ ปตฺตสิกฺขาปทสฺส. ปเมนาติ จีวรวคฺคสฺส ปมํ สงฺคหิตตฺตา ปเมน กถิเนนาติ สมฺพนฺโธ. มเหสินาติ มหนฺเต สีลกฺขนฺธาทโย คุเณ เอสิ คเวสีติ มเหสิ. ปมสฺส ปตฺตสฺส สมุฏฺานาทโย สพฺเพ อิธ อนิทฺทิฏฺวินิจฺฉยา ปเมน กถิเนน สมา สทิสา อิติ มเหสินา มตา อนุมตา อนฺุาตาติ โยชนา.
ปมปตฺตกถาวณฺณนา.
๗๖๘. ปฺจ พนฺธนานิ อูนานิ ยสฺส โส ปฺจพนฺธนอูโน, ปตฺโต, ตสฺมึ, อพนฺธนฺจ เอกทฺวิติจตุพนฺธนฺจ ‘‘ปฺจพนฺธนอูน’’นฺติ คหิตํ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘อูนปฺจพนฺธโน นาม ปตฺโต อพนฺธโน วา เอกพนฺธโน วา ทฺวิพนฺธโน วา ติพนฺธโน วา จตุพนฺธโน วา’’ติ (ปารา. ๖๑๓). พนฺธเน อกเตปิ พนฺธนารโห วกฺขมานลกฺขณราชิยุตฺโตปิ ‘‘อูนปฺจพนฺธโนเยวา’’ติ คเหตพฺโพ. เอตฺถ อพนฺธโน นาม ยสฺส พนฺธนเมว นตฺถิ, โส. เตเนวาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺมา อพนฺธนสฺสปิ ปตฺตสฺส ปฺจ พนฺธนานิ น ปูเรนฺติ สพฺพโส นตฺถิตายา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๖๑๓). ทฺวงฺคุลปฺปมาณโต อูนราชิยุตฺโต อพนฺธโนกาโสปิ ‘‘อพนฺธโนเยวา’’ติ คเหตพฺโพ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘อพนฺธโนกาโส นาม ปตฺโต ยสฺส ทฺวงฺคุลา ราชิ น โหตี’’ติ (ปารา. ๖๑๓).
๗๖๙. อุทฺทิฏฺนฺติ ‘‘พนฺธโนกาโส นาม ปตฺโต ยสฺส ทฺวงฺคุลา ราชิ โหตี’’ติ (ปารา. ๖๑๓) ปทภาชเน วุตฺตํ. ทฺวงฺคุลาย ราชิยา เอกฺจ พนฺธนนฺติ โยชนา. ‘‘มุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ภฏฺา’’ติ ¶ อฏฺกถาวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๖๑๓) ‘‘สพฺพาปิ ราชิโย มุขวฏฺฏิโต ปฏฺาย ¶ เหฏฺา ภฏฺาเยว คเหตพฺพา’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. มุขวฏฺฏึ วินา อฺตฺถาปิ อูนปฺจพนฺธเน วา อูนปฺจพนฺธโนกาเส วา สติ โสปิ ปตฺโต อูนปฺจพนฺธโน น โหตีติ น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา ‘‘มุขวฏฺฏิโต ปฏฺายา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๖๑๓) อฏฺกถายํ นิยเมตฺวา วจนํ วีมํสิตพฺพํ. อิธ ปน ตถา นิยโม น ทสฺสิโต, ตสฺมา อยเมว วินิจฺฉโย สามฺเน วุตฺตาย ปาฬิยา อฺทตฺถุ สํสนฺทติ สเมติ. จ-การสฺส อวุตฺตสมุจฺจยตฺถตฺตา ทฺวงฺคุลทฺวงฺคุลาหิ ทฺวีหิ ทฺเว พนฺธนานิ จ ตีณิ พนฺธนานิ จาติ อิทมฺปิ วุตฺตเมว โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺส ปน ทฺเว ราชิโย, เอกาเยว วา จตุรงฺคุลา, ตสฺส ทฺเว พนฺธนานิ ทาตพฺพานิ. ยสฺส ติสฺโส, เอกาเยว วา ฉฬงฺคุลา, ตสฺส ตีณิ พนฺธนานิ ทาตพฺพานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๖๑๓).
อูนปฺจพนฺธนปตฺเตสุ อนฺติมปตฺตสฺส วิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘พนฺธนานิ จา’’ติอาทิ. มุขวฏฺฏิยา อฏฺงฺคุลปฺปมาณานํ จตุนฺนํ ราชีนํ จตฺตาริ พนฺธนานิ จาติ วุตฺตํ โหติ. จกาโร ปุพฺเพ วุตฺตสฺเสว สมุจฺจยํ กโรติ. อฏฺงฺคุลราชิยา ตถาติ มุขวฏฺฏิโต ปฏฺาย อฏฺงฺคุลายามํ ภฏฺาย ราชิยา ทฺวงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺเต าเน เตเนว นีหาเรน พทฺธานิ จตฺตาริ พนฺธนานิ จาติ อตฺโถ.
๗๗๐. เอวํ อูนปฺจพนฺธนปตฺตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปริปุณฺณปฺจพนฺธนปตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปฺจ วา’’ติอาทิ. มุขวฏฺฏิยา ทฺวงฺคุลทฺวงฺคุลายามํ โอติณฺณา ปฺจ ราชิโย จ. วา-สทฺเทน ปฺจพนฺธนวิกปฺปา ทสฺสิตา. เอกา วาปิ ทสงฺคุลาติ มุขวฏฺฏิโต ทสงฺคุลายามา เอกา วา ราชิ โหติ. อปิ-สทฺเทน ตสฺสา ราชิยา พนฺธโน ปฺจพนฺธนปกฺโข ทสฺสิโต. อยํ ปตฺโตติ ¶ ยสฺส ปฺจ ราชิโย วา ตตฺถ พนฺธนานิ ปฺจพนฺธนานิ วา, ทสงฺคุลา เอกา ราชิ วา ตตฺถ พนฺธนานิ ปฺจพนฺธนานิ วา สนฺติ, อยํ ปตฺโต ปฺจพนฺธโน นาม.
๗๗๑. เอตฺตาวตา มตฺติกาปตฺเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อโยปตฺเต ทสฺเสตุมาห ‘‘อโยปตฺโต’’ติอาทิ. ฉิทฺทานิ ปฏิจฺฉาเทตุํ พนฺธิตพฺพานิ อโยปฏฺฏานิ โลหมณฺฑลกานิ นาม. ‘‘ภณฺฑี’’ติปิ ตสฺเสว ปริยาโย. ภณฺฑิตพฺพํ พนฺธิตฺวา ฉิทฺเท ปฏิจฺฉาทิเตปิ ยตฺถ อสณฺหตาย อามิสํ ติฏฺติ, ตาทิโสปิ อปตฺโตเยวาติ อาห ‘‘มฏฺโ วฏฺฏตี’’ติ. อโยจุณฺเณน วาณิยาติ เอตฺถาปิ ‘‘มฏฺโ วฏฺฏตี’’ติ สมฺพนฺธนียํ.
๗๗๒. ตสฺส ¶ นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ ตํ ปตฺตํ ตสฺมึ อนุกมฺปาย อคณฺหนฺตสฺสาติ โยชนา, ‘‘สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๖๑๓) วจนโต สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสฏฺํ ตสฺส ตํ ปตฺตํ ตสฺมึ ปตฺตนิสฺสชฺชเก ปุคฺคเล อนุกมฺปาย อคณฺหนฺตสฺส.
๗๗๓. ทียมาเน ตุ ปตฺตสฺมินฺติ อูนปฺจพนฺธเนน ปตฺเตน วิฺาปิตนวปตฺเต ภิกฺขุมฺหิ ตํ ปตฺตํ สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺตึ เทเสตฺวา นิสินฺเน จตสฺโส อคติโย อคมนํ, คหิตาคหิตชานนนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ปมํ สงฺฆํ ยาจิตฺวา ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สงฺเฆน ปตฺตคาหกํ กตฺวา สมฺมเตน นิสฺสฏฺปตฺตํ หตฺเถน คเหตฺวา ตสฺมึ สงฺเฆ สงฺฆตฺเถรโต ปฏฺาย อนุกฺกเมน อุปสงฺกมฺม วิฺายมานํ คุณํ วตฺวา ปณามิเต. ยสฺสาติ ตสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ นิสินฺนสฺส ยสฺส ¶ ภิกฺขุโน, โรจนตฺถโยเค สมฺปทานวจนํ. โส ทียมาโน ปตฺโต. ตํ ทียมานํ ปตฺตํ.
๗๗๔. ทีปิโตติ ‘‘อปตฺตกสฺส น คาเหตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๖๑๕) วุตฺโต. ตตฺถาติ ตสฺสํ ภิกฺขุปริสายํ. ปตฺตปริยนฺโตติ เอตฺถ ‘‘เอวํ ปริวตฺเตตฺวา ปริยนฺเต ิตปตฺโต’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๕) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา เตน ปตฺตปริวตฺตเนน อาคโต วา สพฺเพหิ อคฺคหิตตฺตา อาคโต โส เอว วา ปตฺโต ปริยนฺโต นาม โหตีติ อตฺโถ. ตสฺส ภิกฺขุโนติ ปตฺตํ นิสฺสชฺชิตฺวา นิสินฺนสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน.
๗๗๕. ตนฺติ อตฺตโน ทินฺนํ ตํ ปริยนฺตปตฺตํ. อปฺปเทเสติ มฺจปีาทิอฏฺาเน. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘มฺจปีฉตฺตนาคทนฺตาทิเก อเทเส’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๕). วิสฺสชฺเชตีติ อฺสฺส เทติ. อตฺตนา อทาเปตฺวา อฺเน ตํ ปตฺตํ สยเมว อตฺตโน คเหตฺวา อฺํ อนุรูปํ ปตฺตํ ทิยฺยมานํ คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อโภเคน ปริภฺุชตีติ ยาคุรนฺธนาทิวเสน ปริภฺุชติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อโภเคนาติ ยาคุรนฺธนรชนปจนาทินา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๕). ‘‘อนฺตรามคฺเค ปน พฺยาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน อฺสฺมึ ภาชเน อสติ มตฺติกาย ลิมฺปิตฺวา ยาคุํ วา ปจิตุํ อุทกํ วา ตาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๕) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ตาทิเส าเน ตถาปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺถ วิเสโส.
๗๗๖. นฏฺเติ ¶ อตฺตโน ปริภฺุชิยมาเน ปตฺเต โจรคฺคหณาทินา นฏฺเ. ภินฺเนติ เภทมุปคเต. อนาปตฺตีติ อฺํ ปตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺติ. ปกาสิตาติ ‘‘อนาปตฺติ นฏฺปตฺตสฺส ภินฺนปตฺตสฺส าตกานํ ปวาริตานํ อฺสฺสตฺถาย ¶ อตฺตโน ธเนนา’’ติอาทินา (ปารา. ๖๑๗) นเยน ปาฬิยํ เทสิตา. อิธ ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ วุตฺตตฺตา อตฺตโน วฬฺชิยมาเน ปตฺเต สติปิ อฺสฺสตฺถาย ปตฺตํ วิฺาเปตุํ วฏฺฏติ. าตกาทีนํ คณฺหโตติ เอตฺถ ‘‘สนฺตก’’นฺติ ลพฺภติ. อตฺตโน ธเนนาติ โยชนา. เอตฺถ ธนํ นาม สุตฺตวตฺถาทิ กปฺปิยวตฺถุ.
ทุติยปตฺตกถาวณฺณนา.
๗๗๘. สปฺปิอาทึ เภสชฺชนฺติ เอตฺถ ปาฬิยํ ‘‘เสยฺยถิทํ? สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๒) อุทฺทิสิตฺวา ‘‘สปฺปิ นาม โคสปฺปิ วา อชิกาสปฺปิ วา มหึสสปฺปิ วา, เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปี’’ติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ ฆตฺจ ‘‘เตสํเยว นวนีต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ นวนีตฺจ ‘‘ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑกเตลํ วสาเตล’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ เตลฺจ ‘‘มธุ นาม มกฺขิกามธู’’ติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ มธฺุจ ‘‘ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ คุฬาทิผาณิตฺจาติ เอตสฺมึ ปฺจเภสชฺชราสิมฺหิ ยํ ยํ เภสชฺชนฺติ อตฺโถ. ปุเรภตฺตนฺติ ปุเรภตฺเต. ปฏิคยฺหาติ ปฏิคฺคเหตฺวา.
๗๗๙. ตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ เภสชฺชํ. สตฺตาหนฺติ เอตฺถ ‘‘วฏฺฏตี’’ติ กิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ‘‘สตฺตาหํ อติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘สตฺตาหาติกฺกเม ตสฺสา’’ติ วา ปาโ. สตฺตาหสฺส อติกฺกโม สตฺตาหาติกฺกโม, ตสฺมึ สตฺตาหาติกฺกเม. ตสฺสาติ เภสชฺชปฏิคฺคาหกสฺส ภิกฺขุโน. ‘‘นิสฺสคฺคิย’’นฺติ อิมินา ปาจิตฺติยเมว ทสฺสิตํ. นิสฺสคฺคิยวตฺถุ ภาชนคณนาย อาปตฺตึ กโรติ. เอกสฺมึ ภาชเนปิ วิสุํ วิสุํ ปิตานิ นวนีตปิณฺฑคุฬปิณฺฑสกฺกรมธุปฏลานิปิ ¶ อตฺตโน คณนาย อาปตฺตึ กโรนฺติ.
๗๘๐. คณฺหิตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา. สนฺนิธียตีติ สนฺนิธิ, สนฺนิหิตวตฺถุ, ตสฺส การกํ กรณํ ¶ อปราปรทิวสตฺถาย ปนํ, ตํ กตฺวา, ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ยถา อปรํ ทิวสํ คจฺฉติ, ตถา กตฺวา นิกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. นิรามิสํ สายโตติ อามิเสน อมิสฺเสตฺวา ภฺุชนฺตสฺส.
๗๘๑. อุคฺคหิตนฺติ อปฺปฏิคฺคหาเปตฺวา หตฺเถน คหิตํ. สรีรโภเคติ พหิ สรีรปริโภเคเนว.
๗๘๒. คหิตํ ปฏิคฺคหิตํ. ตาเปตฺวาติ วิลียาเปตฺวา.
๗๘๓. ‘‘สยํ ตาเปติ…เป… น โหติ โส’’ติ อิทํ สุโธตนวนีตํ สนฺธาย วุตฺตํ, ทุทฺโธเตน ปน ทธิคุฬิกาทิสหิเตน สามํปาโก โหเตว. นวนีตสฺส ยํ สยํ ตาปนํ, โส สามํปาโก น โหตีติ โยชนา.
๗๘๔. เยน เกนจีติ อุปสมฺปนฺเนน, อนุปสมฺปนฺเนน วา.
๗๘๕. ‘‘สยํ กโรตี’’ติ อิมินา อนุปสมฺปนฺนํ นิวตฺเตติ. เตน กตํ ปน ตทหุ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีเรน วา ทธินา วา กตสปฺปิ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ สามิสมฺปิ ตทหุ ปุเรภตฺตํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒).
๗๘๖. สวตฺถุกสฺสาติ เอตฺถ วตฺถุ นาม ขีรทธิ.
๗๘๗. อสฺสาติ ปฏิคฺคหิตขีรทธีหิ กตสปฺปิมาห. ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา ตานี’’ติ วุตฺตตฺตาติ อิทํ ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ ¶ คิลานานํ ภิกฺขูนํ ปฏิสายนียานิ เภสชฺชานิ, เสยฺยถิทํ? สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ, ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ (ปารา. ๖๒๒) อิมสฺมึ มาติกาปาเ ‘‘ยานี’’ติ วุตฺตสปฺปิอาทีนเมว ‘‘ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตาติ วุตฺตํ โหติ, ตตฺถ ขีรทธีนํ อวุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย.
๗๘๘. กปฺปิยสปฺปิมฺหีติ ¶ กปฺปิยมํสานํ สตฺตานํ ฆเต. อกปฺปิยสปฺปิมฺหีติ อกปฺปิยมํสานํ สตฺตานํ ฆเต, ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาเห อติกฺกนฺเตติ วุตฺตํ โหติ.
๗๘๙. เตน สปฺปินา อกปฺปิเยน ภวิตพฺพนฺติ อิทํ ทุกฺกฏํ กถํ โหตีติ อาห ‘‘สพฺพา’’ติอาทิ. อกปฺปิยํ มํสํ เยสํ เต อกปฺปิยมํสา, มนุสฺสาทโย, สพฺเพ จ เต อกปฺปิยมํสา จาติ สพฺพากปฺปิยมํสา, เตสํ.
๗๙๐-๑. เอวํ เจ วฏฺฏติ, ‘‘เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปี’’ติ กสฺมา ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ โจทนํ สมุฏฺาเปตฺวา ตํ ปริหริตุมาห ‘‘เยส’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘เยสฺหิ กปฺปติ มํสํ, เตสํ สปฺปี’’ติ อิทํ วจนํ กึ ปโยชนํ สาเธตีติ วุตฺตํ โหติ. อิทานิ ปริจฺเฉทนิยมนสงฺขาตํ ตํปโยชนฺจ ตพฺพิสยฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปณีตโภชนสฺสา’’ติอาทิ. ปณีตโภชนสฺส ปริจฺเฉทนิยามนนฺติ โยชนา. สตฺตาหกาลิเก ปฺจวิเธ เภสชฺเชติ วุตฺตํ โหติ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. นิสฺสคฺคิยสฺส วตฺถูนนฺติ นิทฺธาริตพฺพทสฺสนํ. นิสฺสคฺคิยสฺสาติ เอตฺถ ตํเหตุกสฺส ปาจิตฺติยสฺสาติ อตฺโถ. วตฺถูนนฺติ สปฺปินวนีตทฺวยเมว วุตฺตํ. สตฺตาหกาลิเก นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสฺส วตฺถุ นาม เอเตสเมว สปฺปินวนีตานิ, ปณีตโภชนฺจ เตสเมว ขีรทธิสปฺปินวนีตานีติ ทสฺเสตุํ ตถา วุตฺตํ, น อกปฺปิยมํสสตฺตานํ สปฺปิอาทินิวารณตฺถํ ¶ วุตฺตนฺติ อยํ ปาฬิยํ ตถาคตา ธิปฺเปโต อตฺโถติ วุตฺตํ โหติ.
๗๙๒. คหิตุคฺคหิตาทิเก อุคฺคหิตปฏิคฺคหิตาทิเก นวนีเตปิ สพฺโพ วินิจฺฉโย สปฺปิมฺหิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน ปุเรภตฺตํ, ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีรทธีหิ, อุคฺคหิตขีรทธีหิ จ กตํ นวนีตํ, ตาทิสเมว อกปฺปิยมํสนวนีตฺจ สงฺคหิตํ. สพฺโพ วินิจฺฉโยติ อาปตฺติอาทิกํ สพฺพวินิจฺฉยํ สงฺคณฺหาติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สพฺโพ อาปตฺตานาปตฺติปริโภคาปริโภคนโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒).
๗๙๓-๔. ภิกฺขูนํ อากิรนฺตีติ เอตฺถ ‘‘ปตฺเต’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. อาทิจฺจปกฺกนฺติ อาตเป วิลีนํ. สํสฏฺํ ปริสฺสาวิตํ.
๗๙๕-๖. ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑกเตลํ. คหิตนฺติ ปฏิคฺคหิตํ. ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ ¶ นิรามิสมฺปิ สายิตพฺพนฺติ โยชนา. เตสํ วสาติ สตฺตาหาติกฺกนฺตานํ เตสํ เตลานํ วเสน, เตลภาชนคณนายาติ วุตฺตํ โหติ.
๗๙๘. เตสํ ติณฺณมฺปีติ เอรณฺฑมธุกสาสปพีชานํ ติณฺณํ.
๘๐๐. สาสปาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปฏิโลเมน มธุเกรณฺฑกานํ คหณํ. คเหตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา. ภิกฺขุนา เตลตฺถาเยว คเหตฺวา ปิตานํ สาสปาทีนํ สตฺตาหาติกฺกเม ทุกฺกฏํ สิยาติ โยชนา.
๘๐๑-๒. นาฬิเกรฺจ ¶ กรฺชฺจ นาฬิเกรกรฺชานิ, เตสํ, นาฬิเกรผลานํ, นตฺตมาลฏฺีนฺจ เตลนฺติ สมฺพนฺโธ. กุรุวกสฺสาติ อตสิพีชสฺส. นิมฺพฺจ โกสมฺพกฺจ นิมฺพโกสมฺพกานิ, เตสํ, ปุจิมนฺทพีชสฺส จ ผนฺทนพีชสฺส จ เตลนฺติ สมฺพนฺโธ. ภลฺลาตกสฺสาติ เอวํนามกสฺส รุกฺขพีชสฺส. สมยจฺจเยติ สตฺตาหาติกฺกเม.
๘๐๓. ยาวกาลิกเภทฺจาติ เอตฺถ ‘‘ยาวกาลิก’’นฺติ เภโท วิเสสนํ ยสฺสาติ วิคฺคโห, ‘‘อิทํ วตฺถุ’’นฺติ เอตสฺส อชฺโฌหรณียวิเสสิตพฺพสฺส วิเสสนํ. ยาวชีวิกนฺติปิ ตสฺเสว วิเสสนํ. เสสนฺติ ‘‘สามํปากสวตฺถุก ปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปฏิคฺคหิตอุคฺคหิตกวตฺถุวิธานํ สพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒) อฏฺกถายํ ทสฺสิตํ เสสํ วิเสสปฺปการชาตมาห. เอตฺถาปีติ อิมสฺมึ เตลวินิจฺฉเยปิ.
๘๐๔. อจฺฉสฺส อิสสฺส. มจฺฉสฺส ชลชสฺส. วราหสฺส สูกรสฺส. สุสุกาสงฺขาตสฺส มกรสฺส. มจฺฉวจเนเนว มกรสฺส สงฺคหิตตฺเตปิ วาฬมจฺฉภาเวน วิสุํ คหณนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. คทฺรภสฺส ขรสฺส. อิเมสํ ปฺจนฺนํ สตฺตานํ วเสน ปฺจวิธานํ วสานํ เตลฺจ ปฺจปฺปการํ โหตีติ อตฺโถ.
๘๐๕. กปฺปิยากปฺปิยสฺส จาติ กปฺปิยากปฺปิยมํสสฺส สตฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ, สพฺพเมว ¶ วสาเตลํ วฏฺฏตีติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เอตฺถ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว วสานิ เภสชฺชานิ อจฺฉวสํ มจฺฉวสํ สุสุกาวสํ สูกรวสํ คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) อนฺุาตปาเ อจฺฉวสาคฺคหเณน มนุสฺเสหิ อฺเสํ สพฺพากปฺปิยมํสสตฺตานํ วสาย อนฺุาตตฺตา ¶ ตํ สงฺคเหตุํ อกปฺปิยคฺคหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อจฺฉวส’นฺติ วจเนน เปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ อกปฺปิยมํสานํ วสา อนฺุาตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓). เอตฺถ อกปฺปิยมํสสตฺตานํ มํสานํ อกปฺปิยภาโว ‘‘มํเสสุ หิ ทส มนุสฺสหตฺถิอสฺสสุนขอหิสีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉตรจฺฉานํ มํสานิ อกปฺปิยานิ. วสาสุ เอกา มนุสฺสวสาว. ขีราทีสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓) อฏฺกถาวจนโต เวทิตพฺโพ. อกปฺปิยวจเนน มนุสฺสวสายปิ คยฺหมานตฺตา ตสฺมึ นีหริตุมาห ‘‘เปตฺวา’’ติ.
๘๐๖. ปุเรภตฺตนฺติ ปุเรภตฺเต. สํสฏฺํ ปริสฺสาวิตํ. ‘‘ปุเรภตฺต’’นฺติ อิทํ ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวาน, ปกฺกํ, สํสฏฺ’’นฺติ อิเมหิ ปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภฺุชิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒).
๘๐๗. ตํ กตฺวา เทตีติ อปฏิคฺคหิตวสํ คเหตฺวา ปจิตฺวา เตลํ เทตีติ อตฺโถ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ นิพฺพฏฺฏิตวสาเตลํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓). ตโต อุทฺธํ สตฺตาหมนติกฺกมฺมาติ คเหตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓). อิธ อุภยตฺถาปิ กาเล, วิกาเล จ กปฺปิยากปฺปิยมํสวสานํ เตลํ ทิยฺยมานํ สุขุมมํสจุณฺณาทิกํ อพฺโพหาริกํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยํ ปน ตตฺถ สุขุมรชสทิสํ มํสํ วา นฺหารุ วา อฏฺิ วา โลหิตํ วา โหติ, ตํ อพฺโพหาริก’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓).
๘๐๘. ปฏิคฺคเหตุนฺติ เอตฺถ ‘‘วส’’นฺติ จ กาตุนฺติ เอตฺถ ‘‘เตล’’นฺติ จ ปกรณโต ลพฺภติ. กาตุนฺติ เอตฺถ ปจิตุํ ปริสฺสาวิตุนฺติ ¶ อุภยเมวาติ อตฺโถ. ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ ปฏิคฺคหณาทิปโยคตฺตเย วิสุํ วิสุํ ทุกฺกฏตฺตา วุตฺตํ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘วิกาเล เจ ภิกฺขเว ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ติณฺณํ ทุกฺกฏาน’’นฺติ ¶ (มหาว. ๒๖๒). อิมานิ หิ ตีหิ ปโยเคหิ ตีณิ ทุกฺกฏานิ โหนฺติ. เสโสติ อุคฺคหิตกปฏิคฺคหิตกสวตฺถุกวิสโย วินิจฺฉโย จ ภาชนคณนาย อาปตฺติเภโท จาติ เอวํปกาโร วตฺตพฺพวิเสโส.
๘๐๙. คหิตนฺติ ปฏิคฺคหิตํ. มธุกรีกตนฺติ มธุมกฺขิกาขุทฺทกมกฺขิกาภมรมกฺขิกาสงฺขาตาหิ ตีหิ มธุกรีหิ กตํ.
๘๑๐. วตฺถูนํ คณนาติ มธุปฏเลน ิตํ เจ, ปฏลคณนาย, ปีเฬตฺวา ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ปิตํ เจ, ภาชนคณนาย, สิเลสมิว ปตฺถินฺนํ เจ, มหาภมรมธุขณฺฑปิณฺฑวเสน, วิสุํ วิสุํ กเต เตสํ คณนายาติ อตฺโถ.
๘๑๑. ฆนาฆนนฺติ เอตฺถ คุฬฺจ นานปฺปการา สกฺกรา จ ฆนปกฺกํ นาม. ปกฺกตนุกํ ผาณิตํ อฆนปกฺกํ นาม. อุจฺฉุสิเลโส อปกฺกฆนํ นาม. อุจฺฉุทณฺฑโต ปีฬิตรโส อปกฺกาฆนํ นาม. ‘‘ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓) สาธารณปาฬิวจนโต, ‘‘ผาณิตํ นาม อุจฺฉุรสํ อุปาทายา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา; วิ. สงฺค อฏฺ. ๙๘) อฏฺกถาวจนโต จ อิห รสาทีหิ อุจฺฉุปานมฺปิ สงฺคหิตํ. เกจิ อุจฺฉุโน จตุกาลิกตฺตํ วณฺณยนฺติ, ตํ น สารโต ปจฺเจตพฺพํ.
๘๑๒. ผาณิตนฺติ วุตฺตปฺปกาเร ตสฺมึ ผาณิเต อฺตรํ. คหิตํ ปฏิคฺคหิตํ.
๘๑๓. อสํสฏฺเนาติ ¶ อปริสฺสาวิเตน. กตผาณิตนฺติ ปริสฺสาเวตฺวา อตฺตนา กตผาณิตํ. ปุเรภตฺตํ คหิเตนาติ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตน. ‘‘สยํ กต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓) วุตฺตตฺตา กตนฺติ อุจฺฉุรโส คเหตพฺโพ.
๘๑๖. กตฺวาติ ปจิตฺวา ผาณิตํ กตฺวา.
๘๑๗. ปจฺฉาภตฺตํ กตฺจาปีติ ปจฺฉาภตฺตํ อตฺตนา จ กตํ อนุปสมฺปนฺเนน จ กตํ ผาณิตมฺปิ.
๘๑๘. กตํ ¶ …เป… สีตวารินาติ สีตุทเก มธุกปุปฺผานิ ปกฺขิปิตฺวา เปตฺวา มทฺทิตฺวา ปริสฺสาวิตรเสน กตํ มธุกผาณิตํ.
๘๑๙. อสฺสาติ มธุกผาณิตสฺส. ทุกฺกฏนฺติ ตทาธารภาชนคณนาย ทุกฺกฏํ. ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ มธุกผาณิตํ ยาวกาลิกํ เจ โหติ, กถํ ขณฺฑสกฺกรากตํ สตฺตาหกาลิกํ โหตีติ วิจารณายํ ขีรชลฺลิกํ โธวิตฺวา โธวิตฺวา คยฺหมานตฺตา วฏฺฏตีติ ปริหรนฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ขณฺฑสกฺกรํ ปน ขีรชลฺลิกํ อปเนตฺวา อปเนตฺวา โสเธนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓). ‘‘พีชโต ปฏฺาย น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตมธุกปุปฺผเมรยํ วินา อามกฺจ ปกฺกฺจ มธุกปุปฺผํ ปุเรภตฺตํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๘๒๐. สพฺเพสํ ปน ผลานนฺติ กทลิขชฺชูริอาทิผลานํ.
๘๒๑. สามฺโชตนาย วิเสเสปิ อวฏฺานโต ‘‘กาลิกา’’ติ อิมินา ‘‘ปจฺฉาภตฺตํ สติ ปจฺจเย’’ติ วจนสามตฺถิยา ยาวกาลิกวชฺชา ตโย กาลิกา คเหตพฺพา ¶ , ‘‘ปุเรภตฺตํ ยถาสุข’’นฺติ วจนสามตฺถิยา จตฺตาโรปิ คเหตพฺพา. ยาวกาลิกวชฺชา ตโย กาลิกา ปจฺฉาภตฺตํ วิกาเล ปจฺจเย ปิปาสาทิการเณ สติ เกวลมฺปิ ปจฺเจกมฺปิ มิสฺเสตฺวาปิ ปริภฺุชิตุํ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏนฺติ. กาลิกา จตฺตาโรปิ ปุเรภตฺตํ กาเล ยาวมชฺฌนฺหา เกวลมฺปิ มิสฺเสตฺวาปิ ยถาสุขํ อสติปิ ปจฺจเย ปริภฺุชิตุํ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.
๘๒๒. อรุอาทีนีติ วณาทีนิ. ‘‘มกฺเขตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อิมินา พาหิรปริโภโคปิ นิวาริโต.
๘๒๓. อนาปตฺติวาเร ‘‘อนฺโตสตฺตาห’’นฺติ อธิกาเร ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส จตฺเตน วนฺเตน มุตฺเตน อนเปกฺโข ทตฺวา ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชตี’’ติ (ปารา. ๖๒๕) วุตฺตตฺตา จชิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อนฺโตสตฺตาหํ อนุปสมฺปนฺนสฺสา’’ติ วตฺตพฺพํ. ลภิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘สตฺตาหาติกฺกเมปี’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. เตนาห มหาปทุมตฺเถโร ‘‘อนฺโตสตฺตาเห ทินฺนสฺส หิ ปุน ปริโภเค อาปตฺติเยว นตฺถิ, สตฺตาหาติกฺกนฺตสฺส ปน ปริโภเค อนาปตฺตีติ ทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺต’’นฺติ. ลภิตฺวาติ ¶ คหิตเตเลน อนุปสมฺปนฺเนน สกฺกจฺจํ, อสกฺกจฺจํ วา ทินฺนํ ลภิตฺวา. สายิตุนฺติ เอตฺถ ‘‘ลภตี’’ติ เสโส.
๘๒๔. ‘‘อนาปตฺติ อธิฏฺเตี’’ติ ทฺวินฺนํ ปทานํ อนฺตเร ‘‘อนฺโตสตฺตาห’’นฺติ เสโส, สพฺพปเทหิปิ ยุชฺชติ. อธิฏฺเตีติ สตฺตาหพฺภนฺตเร สปฺปิฺจ เตลฺจ วสฺจ มุทฺธนิ เตลํ วา อพฺภฺชนํ วา, มธุํ อรุมกฺขนํ, ผาณิตํ ฆรธูปนํ ภวิสฺสตีติ อธิฏฺเติ. อธิฏฺิเตน อนธิฏฺิตํ เจ มิสฺสํ โหติ, ปุนปิ อธิฏฺาตพฺพํ. วิสฺสชฺเชตีติ อนฺโตสตฺตาเห อฺสฺส อุปสมฺปนฺนสฺส เทติ. สเจ ตถา ทินฺนํ อฺเน อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา ¶ , เตน ปฏิคฺคหิตมฺปิ อิตรสฺส ทินฺนตฺตา เตสํ อนาปตฺตีติ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๕ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ.
วินสฺสตีติ สตฺตาหพฺภนฺตเร เยน เกนจิ อากาเรน ยถา อปริโภคํ โหติ, ตถา โจริกาย หรณาทิวเสน นสฺสติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วินสฺสตีติ อปริโภคํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๕). อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหตีติ อฺโ ตสฺมึ สตฺตาหพฺภนฺตเร วิลุมฺปิตฺวา คณฺหาติ. วิสฺสาสํ คณฺหตีติ ตสฺมึเยว สตฺตาหพฺภนฺตเร อฺโ วิสฺสาสํ คณฺหาติ.
๘๒๕. อกถินจิตฺเตน สตฺถุนา สมุฏฺานาทโย สพฺเพว ปเมน กถิเนน สมา ปกาสิตาติ โยชนา. อกถินจิตฺเตนาติ มหากรุณารเสน ตินฺตตาย อกกฺกสจิตฺเตน, อวิหึสาภิรตจิตฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. สตฺถุนาติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกาทีหิ อตฺเถหิ สเทวกํ โลกํ อนุสาสตีติ สตฺถา, เตน สพฺพฺุนา ทสพเลน สมฺมาสมฺพุทฺเธน.
เภสชฺชสิกฺขาปทกถาวณฺณนา.
๘๒๖. คิมฺหานนฺติ เอตฺถ ‘‘มาสาน’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, นิทฺธารเณ สามิวจนํ, คิมฺเหสุ จตูสุ มาเสสูติ อตฺโถ. นิทฺธาริตพฺพํ ทสฺเสติ ‘‘มาโส เสโส’’ติ, เอตฺถ ‘‘วตฺตพฺเพ กาเล’’ติ เสโส. ผคฺคุนมาสกณฺหปกฺขปาฏิปทโต ปฏฺาย เชฏฺมาสปุณฺณมิปริโยสาเนสุ ตีสุ มาเสสุ อติกฺกนฺเตสูติ อตฺโถ. เสสมาโส นาม เชฏฺมาสสฺส กณฺหปกฺขปาฏิปทโต ปฏฺาย อาสาฬฺหิมาสปุณฺณมิปริโยสาโน. คิมฺหานํ มาโส เสโสติ วตฺตพฺเพ กาเลติ อตฺโถ.
อิมสฺมึ ¶ ¶ ปจฺฉิเม คิมฺหมาเส เชฏฺมาสสฺส กณฺหปกฺโข วสฺสิกสาฏิกา เจ น ลทฺธา, ปริเยสิตุํ ลทฺธํ กาตุํ เขตฺตํ, อธิฏฺานนิวาสนานํ อเขตฺตํ. อาสาฬฺหิปุริมปกฺโข ปริเยสนกรณนิวาสนานํ เขตฺตํ, อธิฏฺาตุํ อเขตฺตํ. อาสาฬฺหิกณฺหปกฺขปาฏิปทโต ยาว ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมี, อิทํ จตุนฺนมฺปิ เขตฺตนฺติ อยเมตฺถ สงฺเขโป.
ปริเยเสยฺยาติ ‘‘เย มนุสฺสา ปุพฺเพ วสฺสิกสาฏิกํ เทนฺตี’’ติอาทินา (ปารา. ๖๒๘) ปทภาชเน วุตฺตนเยน ปุพฺเพ วสฺสิกสาฏิกทายกํ อุปสงฺกมฺม ‘‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวร’’นฺติอาทินา วจเนน อวิฺาเปตฺวา ‘‘กาโล วสฺสิกสาฏิกาย สมโย วสฺสิกสาฏิกาย, อฺเปิ มนุสฺสา วสฺสิกสาฏิกํ เทนฺตี’’ติ เอวํ สตุปฺปาทมตฺตกรเณน ปริเยเสยฺย.
สาฏิกนฺติ วสฺสิกสาฏิกํ. ‘‘อทฺธมาโส เสโส’’ติ อิทํ ‘‘คิมฺหาน’’นฺติ อิมินาว ยุชฺชติ. ตตฺถ ‘‘วตฺตพฺเพ กาเล’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ, อาสาฬฺหิมาสสฺส ปุริมปกฺเขติ อตฺโถ. กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ลทฺธ’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ยถาวุตฺตนเยน สตุปฺปาเทน วา อวเสสานํ สทฺธาสมฺปนฺนกุลานํ วา สนฺติกา ลทฺธํ สิพฺพนรชนกปฺปพินฺทุทานวเสน นิฏฺาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปริทเหติ นิวาเสยฺย.
๘๒๗-๘. ปิฏฺิสมฺมเต สมเยติ ‘‘กตฺติกปุณฺณมาสิยา ปน ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว เชฏฺมูลปุณฺณมา อิเม สตฺต มาสา ปิฏฺิสมโย นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘) เอวํ ทสฺสิเตสุ สตฺตสุ มาเสสุ. าตกาฺาตกาทิโน สตุปฺปาทํ กตฺวาติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน ปวาริตาปวาริตานํ สงฺคโห. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต’’ติ.
เตสุเยวาติ ¶ าตกอฺาตกปวาริตอปฺปวาริเตสุ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘โหติ นิสฺสคฺคิยาปตฺตี’’ติ อิทํ ทสฺสิตํ. สา อาปตฺติ อฺาตกอปฺปวาริเตสุ อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวร’นฺติอาทินา นเยน วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘). าตกปวาริเตสุ เตน สิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, ปิฏฺิสมยตฺตา อิมินา ¶ อาปตฺติ โหติ. อฺาตกอปฺปวาริเตสุ จ วกฺขมานนเยน วตฺตเภททุกฺกเฏน สทฺธึ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
๘๒๙-๓๐. อฺาตกาทิโน กตฺวา ปน สตุปฺปาทนฺติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน อปฺปวาริตานํ สงฺคโห. กุจฺฉิสฺิเต สมเยติ ยถาวุตฺตปิฏฺิสมเย สตฺตมาเส วินา อิตเร ปฺจ มาสา วุตฺตา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เชฏฺมูลปุณฺณมาสิยา ปน ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกปุณฺณมา อิเม ปฺจ มาสา กุจฺฉิสมโย นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘). วตฺถนฺติ วสฺสิกสาฏิกํ. อทินฺนปุพฺเพสูติ เยหิ วสฺสิกสาฏิกา น ทินฺนปุพฺพา, เตสุ, อิมินา วตฺตเภทสฺส การณมาห. อิห วตฺตเภโท นาม ‘‘เย มนุสฺสา ปุพฺเพ วสฺสิกสาฏิกจีวรํ เทนฺตี’’ติอาทิวจนโต (ปารา. ๖๒๘) ทินฺนปุพฺเพสุ กาตพฺพสฺส สตุปฺปาทสฺส อทินฺนปุพฺเพสุ กรณํ. พฺยติเรกโต ทินฺนปุพฺเพสุ นตฺถีติ ทีปิตํ โหติ.
ตตฺราติ อฺาตกาทิมฺหิ. ‘‘นิสฺสคฺคิย’’นฺติ อิมินา อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อาปตฺตึ อาห. ยถาห กุจฺฉิสมยจตุกฺเก ‘‘วิฺตฺติมฺปิ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ. อยํ ปาจิตฺติยาปตฺติ ปกติยา วสฺสิกสาฏิกทายเกสุปิ โหตีติ อิทํ ¶ อฏฺกถายํ ‘‘อิทํ ปน ปกติยา วสฺสิกสาฏิกทายเกสุปิ โหติเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘) วจนโต วิฺายติ.
๘๓๑. โอวสฺสาเปตีติ อากาสโต ปติตอุทเกเนว กายํ เตเมติ, อิมินา ‘‘ฆฏาทีหิ โอสิฺจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ทีปิตํ โหติ. ‘‘นิพฺพโกสมฺพุนา นหายิตุํ วฏฺฏตี’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. สติปิ จีวเรติ วสฺสิกสาฏิกาย สติยาปิ. ‘‘ปริโยสาเน ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา พินฺทุคณนายาติ ทีเปติ. วิวฏงฺคเณติ รุกฺขาทินา เกนจิ อนาวฏฏฺาเน.
๘๓๒. มาสสฺมินฺติ คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสสฺมึ.
๘๓๓. ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ เอตํ วสฺสิกสาฏิกเมว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๓๐) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. วสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสตฺวา นหายนฺตสฺส โจรุปทฺทโว อาปทา นาม. นฺหานโกฏฺกนฺติ นหานตฺถาย กตโกฏฺกํ. ‘‘วาปี’’ติ อิมินา โปกฺขรณิชาตสฺสราทโย ¶ อุปลกฺขิตา. นฺหายนฺตสฺสาติ นคฺโค หุตฺวา นหายนฺตสฺสาติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘อากาสโต ปติตอุทเกเนวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๙) อฏฺกถายเมว วุตฺตํ.
๘๓๔. กฺริยนฺติ อกาเล ปริเยสนกรณอธิฏฺานนิวาสเนหิ อาปชฺชิตพฺพโต กิริยํ. กาเยน จ วาจาย จ วิฺาปนาทึ กโรนฺตสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ โหติ.
วสฺสิกสาฏิกกถาวณฺณนา.
๘๓๕. ‘‘โย ¶ ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส สามํ จีวรํ ทตฺวา’’ติ (ปารา. ๖๓๒) วจนโต สามนฺติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ จ ทตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสฺส’’อิติ จ ลพฺภติ. จีวรนฺติ ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมํ. ‘‘กุปิโต อนตฺตมโน อจฺฉินฺเทยฺยา’’ติ (ปารา. ๖๓๒) วจนโต อจฺฉินฺทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘กุปิตสฺส อนตฺตมนสฺสา’’ติ เสโส, กุปิตสฺส อนตฺตมนสฺส อจฺฉินฺทนฺตสฺส วา อจฺฉินฺทาเปนฺตสฺส วาติ อตฺโถ. ตนฺติ อตฺตนา ทินฺนจีวรํ. ‘‘สกสฺายา’’ติ อิมินา ปาราชิกาย อวตฺถุภาวํ ทีเปติ.
๘๓๖. ตถาติ เอกาเยว อาปตฺตีติ ทีเปติ.
๘๓๗. วตฺถานนฺติ จีวรานํ. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส.
๘๔๑. สงฺฆาฏึ คณฺห, อุตฺตราสงฺคํ คณฺหาติ โยชนา.
๘๔๒. วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมนฺติ เอตฺถ ‘‘จีวร’’นฺติ ลพฺภติ. อายามโต วฑฺฒกิหตฺถํ ติริยํ ตถา วิทตฺถิปฺปมาณํ วตฺถขณฺฑํ เหฏฺิมปริจฺเฉทโต วิกปฺปนุปคํ นาม. อฺํ กิฺจิ ปริกฺขารนฺติ โยชนา, อนฺตมโส สุจิมฺปีติ วุตฺตํ โหติ. ปรํ ปุคฺคลํ. ฉินฺทาเปนฺตสฺสาติ อจฺฉินฺทาเปนฺตสฺส. การิตนฺตสฺส ทฺวิกมฺมกตฺตา ‘‘ปร’’นฺติ จ ‘‘ปริกฺขาร’’นฺติ จ กมฺมทฺวยคหณํ. อฺนฺติ ปริกฺขารวิเสสนํ. ทุกฺกฏํ วตฺถุคณนาย, วจนคณนาย จ.
๘๔๔. เอวนฺติ ¶ ยถา อนุปสมฺปนฺเน อนุปสมฺปนฺนสฺิโน ทุกฺกฏํ, เอวํ อนุปสมฺปนฺเน…เป… เวมติกสฺสาปิ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อจฺฉินฺทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ยถาวุตฺตํ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน’’ติ อิทํ วิภตฺติวิปริณาเมน สามิวจนํ กตฺวา ‘‘ทินฺน’’นฺติ อชฺฌาหาเรน สห โยเชตพฺพํ, ‘‘จีวร’’นฺติ ปกรณโต ¶ ลพฺภติ, อนุปสมฺปนฺนสฺส ทินฺนํ จีวรํ อจฺฉินฺทนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
๘๔๕. โส วาติ ยสฺส จีวรํ ทินฺนํ, โส เอว วา ภิกฺขุ. ตุฏฺโ วา ทุฏฺโ วา โส เทตีติ โยชนา. วิสฺสาสเมว วาติ วิสฺสาสํ กตฺวา คณฺหโตติ โยชนา.
๘๔๖. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท.
จีวรจฺฉินฺทนกถาวณฺณนา.
๘๔๗. วิฺาเปตฺวาติ วตฺถวายาปนํ สนฺธาย ยาจิตฺวา. ฉพฺพิธํ สุตฺตนฺติ ปทภาชเน ‘‘โขมํ กปฺปาสิกํ โกเสยฺยํ กมฺพลํ สาณํ ภงฺค’’นฺติ (ปารา. ๖๓๘) อาคตํ ฉปฺปการํ สุตฺตํ. กมฺพลนฺติ เอฬกโลมสุตฺตํ. สานุโลมานิ ฉปฺปการสุตฺตานิ เหฏฺา จีวรวินิจฺฉเย วุตฺตานุสาเรน เวทิตพฺพานิ. จีวรตฺถํ วตฺถํ ‘‘จีวร’’นฺติ วุตฺตํ. ตนฺตวาเยหีติ กปฺปิยากปฺปิเยหิ เปสกาเรหิ. โปตฺถเกสุ ‘‘วายาเปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ปาโ ทิสฺสติ, ‘‘สเจ’’ติ อิมินา อยุชฺชมานตฺตา โส อปาโ. ‘‘วายาเปติ น วฏฺฏตี’’ติ ปาโ ยุชฺชตีติ สเจ วายาเปตีติ โยชนา, อตฺตโน อตฺถาย ยทิ วายาเปยฺยาติ อตฺโถ.
๘๔๘. ตถา อกปฺปิโย. กีทิโสติ อาห ‘‘อฺาตกาทิโก’’ติ. อฺาตกาทิโกติ อฺาตโก อาทิ ยสฺส โส อฺาตกาทิโก. อาทิ-สทฺเทน อปฺปวาริโต คหิโต. โย ภิกฺขุ ตนฺตวายสฺส อฺาตโก, เตน อปฺปวาริโต จ, ตสฺส อฺาตกาทิโก ภิกฺขุนา วิฺตฺโต โส ตนฺตวาโย อกปฺปิโยติ อตฺโถ.
๘๔๙. อกปฺปิเยนาติ ¶ วิฺาปิเตน. วายาเปนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภนา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘วายาเปติ, ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๖๓๘).
๘๕๐. กิตฺตเก ¶ วีเต นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ อาห ‘‘วิทตฺถิมตฺเต’’ติอาทิ. หตฺถมตฺเตติ รตนมตฺเต. ปทภาชเน ‘‘ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ วุตฺตํ, อิธ ‘‘วีเต นิสฺสคฺคิย’’นฺติ กสฺมา อาหาติ? อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา. ตตฺถาปิ ตถา กสฺมา วุตฺตนฺติ? ตทนนฺตรํ อตฺตโน สนฺตกตฺตา วีตวีตฏฺานํ ปฏิลทฺธเมว โหติ, ปทภาชเนปิ อิมินา อธิปฺปาเยน ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ วุตฺตํ, ตสฺมา ยาว จีวรํ วฑฺฒติ, ตาว อิมินา ปมาเณน อาปตฺติโย วฑฺฒนฺติ. ผลเกปิ จาติ เอตฺถ ผลกํ นาม ตุริวีตฏฺานํ, ยตฺถ สํหริตฺวา เปนฺติ. ผลเก ผลเกปิ จ นิสฺสคฺคิยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๘๕๑. เตเนวาติ วิฺตฺตตนฺตวาเยเนว. กปฺปิยํ สุตฺตนฺติ อวิฺตฺติยา ลทฺธสุตฺตํ. กปฺปิเยน ตนฺตวาเยน อกปฺปิยสุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ตเถว ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๘๕๒. เอกนฺตริกโต วา กปฺปิยากปฺปิเยเหว สุตฺเตหิ วีเต ทุกฺกฏนฺติ โยชนา, อนฺตรนฺตรา อกปฺปิยสุตฺตานํ ปสารเณน, วายเนน จ ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. ทีฆโต วา ติริยโต วา กปฺปิยากปฺปิเยเหว สุตฺเตหิ วีเต ทุกฺกฏนฺติ โยชนา, ทีฆโต กปฺปิยสุตฺตํ ปสาเรตฺวา ติริยํ อกปฺปิยสุตฺเตน วีเต ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. วาคฺคหเณน วุตฺตวิปริยายโตปิ โยเชตพฺพํ. ทีฆโต อกปฺปิยสุตฺตํ ปสาเรตฺวา ติริยโต กปฺปิยสุตฺเตน ¶ วีเตติ อยเมตฺถ วิปริยาโย. วีเตติ เอตฺถ ‘‘ผลเก ผลเก’’ติ อนุวตฺเตตพฺพํ.
๘๕๓. กปฺปิยากปฺปิเยหิ ตนฺตวาเยหิ กปฺปิยากปฺปิยสุตฺตํ มิสฺเสตฺวา กเต วีเต ผลเก ผลเก ตสฺส ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เวติ นิปาตมตฺตํ, อถ วา เว ตสฺมึ กเต วีเตติ อตฺโถ.
๘๕๔-๕. เต กปฺปิยากปฺปิยตนฺตวายา ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา วาเรเนว อกปฺปิยสุตฺตํ สเจ วินนฺตีติ โยชนา. อกปฺปิเยน ตนฺตวาเยน วีเต. ฉนฺทานุรกฺขนตฺถํ ‘‘วิเต’’ติ วุตฺตํ. ปมาณสฺมินฺติ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณสฺมึ. ตทูเนติ ตโต วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณโต อูเน. อิตเรนาติ กปฺปิยตนฺตวาเยน. อุภยตฺถาติ ปมาณสฺมึ, ตทูเน จ ทุกฺกฏํ เอวาติ โยชนา.
๘๕๖. สเจ ¶ กปฺปิยากปฺปิยตนฺตวายา ทฺเวปิ เวมํ อุภยโกฏิยา คเหตฺวา เอกโตว วินนฺติ วาติ โยชนา. ติริยํ สุตฺตํ ปเวเสตฺวา เยน อาโกเฏนฺโต ฆนภาวํ สมฺปาเทนฺติ, ตํ เวมํ วุจฺจติ.
๘๕๗. สพฺพตฺถ เภเทติ กปฺปิยากปฺปิยสุตฺตตนฺตวาเยหิ กเต ปมาณตทูนเอกนฺตริกทีฆติริยปฺปกาเร สพฺพตฺถ วารเภเท. อาปตฺติเภโทติ อกปฺปิยสุตฺเตหิ อายามวิตฺถารโต อกปฺปิยตนฺตวาเยน วีตปฺปเทเส ปมาณยุตฺเต ปาจิตฺติยํ, อิตรตฺร ทุกฺกฏนฺติ เภโท.
๘๕๘. กปฺปิโย ตนฺตวาโย นาม าตโก วา ปวาริโต วา กปฺปิยมูเลน ปโยชิโต วา.
๘๕๙. ‘‘อนาปตฺติ ¶ จีวรํ สิพฺเพตุํ, อาโยเค, กายพนฺธเน, อํสพทฺธเก, ปตฺตตฺถวิกาย, ปริสฺสาวเน, าตกานํ, ปวาริตานํ, อฺสฺสตฺถาย, อตฺตโน ธเนนา’’ติอาทิกํ (ปารา. ๖๔๐) อนาปตฺติวารํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนาปตฺตี’’ติอาทิ. อิธ นิทฺทิฏฺโว ลกฺขเณน อนิทฺทิฏฺมฺปิ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จีวรํ สิพฺเพตุํ สุตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. ธนํ นาม ตณฺฑุลาทิ กปฺปิยวตฺถุ. ‘‘ปริสฺสาวเน’’ติอาทีสุ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, ปริสฺสาวนาทินิมิตฺตํ สุตฺตฺจ ตนฺตวาเย จ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
สุตฺตวิฺตฺติกถาวณฺณนา.
๘๖๐. อปฺปวาริตฺาตีนนฺติ อปฺปวาริตานํ อฺาตีนํ, ‘‘กีทิเสน เต ภนฺเต จีวเรน อตฺโถ, กีทิสํ เต จีวรํ วายาเปมี’’ติ (ปารา. ๖๔๓) ปทภาชเน วุตฺตนเยน อปฺปวาริตานํ อฺาตีนนฺติ อตฺโถ. สเมจฺจาติ อุปคนฺตฺวา. วิกปฺปนฺติ วิสิฏฺํ กปฺปํ อธิกวิธานํ. อาปชฺชตีติ กโรติ, ‘‘อิทํ โข อาวุโส จีวรํ มํ อุทฺทิสฺส วิยฺยติ, อายตฺจ กโรถ, วิตฺถตฺจ อปฺปิตฺจ สุวีตฺจ สุปฺปวายิตฺจ สุวิเลขิตฺจ สุวิตจฺฉิตฺจ กโรถา’’ติอาทินา (ปารา. ๖๔๒) นเยน ทายกานํ อธิปฺปายโต อธิกตรอายตาทิกรณตฺถํ วิธานํ กโรตีติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ ¶ อายตนฺติ ทีฆํ. วิตฺถตนฺติ ปุถุลํ. อปฺปิตนฺติ ฆนํ. สุวีตนฺติ สุฏฺุ วีตํ สพฺพฏฺาเนสุ สมํ กตฺวา วีตํ. สุปฺปวายิตนฺติ สุฏฺุ ปวายิตํ สพฺพฏฺาเน สมํ กตฺวา ตนฺเต ปสาริตํ. สุวิเลขิตนฺติ เลขนิยา สุฏฺุ วิลิขิตํ. สุวิตจฺฉิตนฺติ โกจฺเฉน สุฏฺุ วิตจฺฉิตํ, สุวินิทฺโธตนฺติ อตฺโถ.
๘๖๑. สุตฺตวฑฺฒนปฺปการํ ¶ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทีฆายตปฺปิตตฺถายา’’ติ. เตน จ ปทภาชเน ‘‘ตสฺส วจเนน อายตํ วา วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา กโรติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ (ปารา. ๖๔๓) เอตํ อายตาทิตฺตยเมว วุตฺตํ. สุตฺตวฑฺฒนเก กเตติ เอตฺถ อนนฺตรํ วตฺตพฺเพน ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ ปฏิลาเภนา’’ติ ปาเสเสน สห โยชนา กาตพฺพา, ทายเกหิ ตุลยิตฺวา ทินฺนปฺปมาณโต สุตฺตํ วฑฺฒิตุํ เตน กเตน สพฺเพนาปิ ปโยเคน ภิกฺขุโน ทุกฺกฏฺจ ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยฺจ โหตีติ อตฺโถ.
๘๖๒. าตกาทีนํ ตนฺตวาเยสุ จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺส อนาปตฺตึ วินิทฺทิเสติ โยชนา. อตฺตโน ธเนนาติ เอตฺถ ‘‘ปโยชิเตสู’’ติ เสโส, ตนฺตวาเยสูติ เอตสฺส วิเสสนํ. อตฺตโน ธเนน ปโยชิเตสุ ตนฺตวาเยสุ จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺส อนาปตฺตึ วินิทฺทิเสติ โยชนา, อตฺตโน สนฺตกํ กปฺปิยวตฺถุํ คเหตฺวา วินนฺเตสุ วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อฺสฺสตฺถาย วินนฺเตสุ วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺสาติ สห ปาเสเสน โยชนา ทฏฺพฺพา.
๘๖๓. มหคฺฆํ กตฺตุกามิโน ตนฺตวาเยหิ อปฺปคฺฆํ วายาเปนฺตสฺส อนาปตฺตึ วินิทฺทิเสติ โยชนา.
เปสการกถาวณฺณนา.
๘๖๔. วสฺสํวุตฺเถ ภิกฺขู อุทฺทิสฺสาติ ปุริมิกาย วสฺสูปคเต ภิกฺขู อุทฺทิสิตฺวา. ปวารณาย ปุพฺเพว ยํ จีวรํ ทียตีติ สมฺพนฺโธ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ทสาหานาคตํ กตฺติกเตมาสิกปุณฺณม’’นฺติ ¶ (ปารา. ๖๔๘) ปาฬิยํ วุตฺตํ มหาปวารณาอุโปสถทิวสสฺส ปุเรตรเมว ปุพฺพกตฺติกมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิยํ ยํ จีวรํ ‘‘อจฺเจกจีวรํ นาม เสนาย วา คนฺตุกาโม โหตี’’ติอาทินา (ปารา. ๖๔๙) ปทภาชนาคเตสุ คมิกคิลานคพฺภินิอภินวุปฺปนฺนสทฺธาทีสุ ¶ อฺตเรน ทูตํ เปเสตฺวา วา อตฺตนา วา อาคนฺตฺวา ‘‘วสฺสาวาสิกํ ทมฺมี’’ติ วตฺวา ทิยฺยตีติ. ตํ โหตจฺเจกจีวรนฺติ ตํ อจฺจายิกจีวรํ นาม โหติ.
๘๖๕. ปุเร ปวารณาเยวาติ มหาปวารณาย ปุเรตรเมว ปฺจมิโต ปฏฺาย ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ ทิวเส. ภาเชตฺวา ยทิ คยฺหตีติ เอตฺถ ‘‘เยนา’’ติ จ น กาตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘เตนา’’ติ จ กโรติ เจติ เอตฺถ ‘‘โส วสฺสจฺเฉท’’นฺติ จ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ภาเชตฺวา ยทิ เยน คยฺหติ, เตน วสฺสจฺเฉโท น กาตพฺโพ. โส วสฺสจฺเฉทํ กโรติ เจ, ตํ ภาเชตฺวา คหิตจีวรํ สงฺฆิกํ โหตีติ โยชนา, ฉินฺนวสฺเสน ตํ จีวรํ สงฺฆสฺเสว ทาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๘๖๖. ‘‘อนฺโตสมยเมวา’’ติ อิทํ ‘‘อธิฏฺเตี’’ติอาทีหิ ปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ปทภาชเน ‘‘จีวรกาลสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจมาสา’’ติ วุตฺตสมยพฺภนฺตเรเยว ตํ อจฺเจกจีวรํ.
๘๖๗. กถิเน ตุ อนตฺถเตติ ยสฺมึ กถินํ อนตฺถตํ, ตสฺมึ วิหาเรติ วุตฺตํ โหติ. ตุ-สทฺโท วิเสสตฺถโชตโก. อนธิฏฺาย อวิกปฺเปตฺวา ปริหรียติ เอตฺถ อจฺเจกจีวรนฺติ ปริหาโร, มาโส, เอโก จ โส มาโส ¶ จาติ เอกมาโส, ปุพฺพกตฺติกมาสสฺส ปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว อปรกตฺติกมาสสฺส ปุณฺณมี, อยํ จีวรกาลสมโยติ วุตฺโต มาโส. ทสนฺนํ อหานํ สมาหาโร ทสาหํ, ตํ ปรมํ อธิกํ เอตสฺสาติ ทสาหปรโม, มาโส. ‘‘ทสาหานาคตํ กตฺติกเตมาสิกปุณฺณม’’นฺติ (ปารา. ๖๔๘) ปาฬิยํ วุตฺตปุพฺพกตฺติกปุณฺณมิปริยนฺตทสาหาธิโกติ อตฺโถ. กถิเน อนตฺถเต ตุ ทสาหปรโม เอกมาโสว ตสฺส อจฺจายิกวตฺถสฺส ปริหาโร มโตติ โยชนา.
๘๖๘. อตฺถเต กถิเนติ กถินตฺถตวิหาเรติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส อจฺจายิกวตฺถสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ทสาหปรมา ปฺจ มาสาติ สมฺพนฺโธ. อนตฺถตกถิเน วิหาเร ยถาวุตฺตจีวรกาลสมยสงฺขาตวสฺสานาวสานมาโส จ กถินุทฺธารทิวสสงฺขาตปจฺฉิมกตฺติกกาฬปกฺขปาฏิปทโต ยาว ผคฺคุนมาสปุณฺณมี, ตาว เหมนฺตา จตฺตาโร มาสา จาติ ปฺจ มาสา. ปกาสิตาติ ‘‘อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจ มาสา’’ติ ¶ (ปารา. ๖๔๙) ทีปิตา. ทสาหปรมาติ วุตฺตตฺโถเยว. อตฺถเต กถิเน ทสาหปรมา ปฺจ มาสา ตสฺส อจฺจายิกวตฺถสฺส ปริหาโร กาโลติ มุนินฺเทน ปกาสิตาติ โยชนา.
อยมุภยตฺถ วุตฺตา ทสาหปรมตา อฏฺกถายํ ‘‘อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๐) วุตฺตปาเน ยถา น วิรุชฺฌติ, ตถา วิจาเรตฺวา คเหตพฺพา. เอวฺหิ ปาเ สติ น วิรุชฺฌติ –
‘‘ตสฺสจฺจายิกวตฺถสฺส ¶ , กถิเน ตุ อนตฺถเต;
ปริหาเรกมาเสกา-ทสาหปรโม มโต.
อตฺถเต กถิเน ตสฺส, ปฺจ มาสา ปกาสิตา;
ปริหาโร ทิเนเนกา-ทสาหปรมา ปนา’’ติ.
๘๖๙. ปเมน กถิเนนาติ โยชนา. ‘‘อกฺริยํ อจิตฺต’’นฺติ ปทจฺเฉโท. อกฺริยนฺติ อนฺโตสมเย อธิฏฺานาทิอกรณํ.
อจฺเจกจีวรกถาวณฺณนา.
๘๗๐-๑. ภิกฺขูติ สาสงฺกสมฺมเต สปฺปฏิภเย อารฺกเสนาสเน วสนฺตํ ภิกฺขุมาห. ยถาห ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ อารฺกานิ เสนาสนานิ สาสงฺกสมฺมตานิ สปฺปฏิภยานิ, ตถารูเปสุ ภิกฺขุ เสนาสเนสุ วิหรนฺโต’’ติ (ปารา. ๖๕๓). ปุพฺพกตฺติกปุณฺณมํ วสิตฺวาติ สมฺพนฺโธ. ปุพฺพกตฺติกปุณฺณมา นาม อสฺสยุชมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปนฺนรสี, เอตฺถ ปน สหจริยนเยน ตทุปลกฺขิตา ปุริมิกา ตโย วสฺสานมาสา วุจฺจนฺติ. ปุณฺณมนฺติ เอตฺถ วาสกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา อจฺฉินฺนวสฺโส หุตฺวา ตโย มาเส วสิตฺวาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺมา ปน โย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ยาว ปมกตฺติกปุณฺณมํ วสตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๓-๖๕๔).
‘‘จีวร’’นฺติ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ วุจฺจติ. คาเม เปตฺวาติ สมฺพนฺโธ, เอตฺถ ‘‘กตฺติกปุณฺณม’’นฺติ ¶ จ ‘‘อากงฺขมาโน’’ติ จ เสโส, อปรกตฺติกมาเส กตฺติกโจรภเยน จีวรํ ปฏิสาเมตุกาโม ภิกฺขุ อารฺกเสนาสนสฺส สามนฺตา โคจรคาเม นิกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘อุปวสฺสํ ¶ โข ปน กตฺติกปุณฺณมํ…เป… อากงฺขมาโน ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ อนฺตรฆเร นิกฺขิเปยฺยา’’ติ (ปารา. ๖๕๓).
‘‘สมนฺตา โคจรคาเม’’ติ อิทํ ‘‘อนฺตรฆเร นิกฺขิเปยฺยาติ สมนฺตา โคจรคาเม นิกฺขิเปยฺยา’’ติ (ปารา. ๖๕๔) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา วุตฺตํ. ‘‘อปรกตฺติกมาเส’’ติ จ ‘‘กตฺติกปุณฺณมนฺติ กตฺติกจาตุมาสินี วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๖๕๔) ปทภาชนิยวเสน วุตฺตํ. อิธาปิ หิ ‘‘กตฺติกปุณฺณม’’นฺติ อปรกตฺติกชุณฺหปกฺขปนฺนรสิยา วุจฺจมานายาปิ สหจริยนเยน ตํสหจริโต จตุตฺโถ มาโส วุตฺโต.
เอตฺตาวตา ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา มหาปวารณาย ปวาเรตฺวา วุตฺตลกฺขเณ อารฺกเสนาสเน วสนฺตสฺส อารฺกสฺส ภิกฺขุโน ปจฺฉิมกตฺติกมาเส กตฺติกโจรภเย สติ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ โคจรคาเม เปตฺวา อารฺกงฺคํ ปูรยโต จีวเรน วิปฺปวาโส ตสฺมึ มาเส น โหตีติ อนฺุาตภาโว ทีปิโต. ตเทว ปกาเสตุํ นิกฺเขโปปายสนฺทสฺสนมุเขน วกฺขติ ‘‘กตฺติเกเยว มาสสฺมึ…เป… วฏฺฏตี’’ติ.
อิทานิ อสฺมึเยว มาเส ตโต อฺตฺถ ตสฺส ภิกฺขุโน เกนจิ กรณีเยน คจฺฉโต คาเม ปิเตน เตน จีวเรน วิปฺปวสโต นิทฺโทสภาวํ อนุชานนฺเตน ภควตา ‘‘สิยา จ ตสฺส ภิกฺขุโน…เป… เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๖๕๓) วุตฺตมตฺถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปจฺจเย…เป… สมฺมุติ’’นฺติ. ปจฺจเย สติ ตาทิเสติ ‘‘สิยา ปจฺจโย, สิยา กรณีย’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) วจนโต ตาทิเส กิจฺเจ สตีติ อตฺโถ. ฉารตฺตปรมนฺติ ฉ รตฺติโย ปรมา ยสฺส วาสกมฺมสฺส ตํ ฉารตฺตปรมํ, กิริยาวิเสสนํ, ฉารตฺตปรมํ วาสกมฺมํ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตน วินา วสิตพฺพนฺติ คาเม นิกฺขิตฺเตน เตน จีวเรน วินา ตมฺหา อาวาสา อฺตฺถ วสิตพฺพํ. ตเทว ¶ ปากฏํ กาตุํ วกฺขติ ‘‘อฺตฺเถว วสนฺตสฺส, ฉารตฺตปรมํ มต’’นฺติ.
ตโตติ ฉารตฺตโต. อุตฺตริ วสโตติ สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา วสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ยถาห ¶ ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ วิปฺปวเสยฺยาติ สตฺตเม อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔). โทโสติ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํ. ‘‘วินา สงฺฆสฺส สมฺมุติ’’นฺติ อิมินา กึ วุตฺตํ โหติ? อุโทสิตสิกฺขาปเท อนุปฺตฺตึ กตฺวา โกสมฺพิยํ คิลานภิกฺขุโน ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว คิลานสฺส ภิกฺขุโน ติจีวเรน อวิปฺปวาสสมฺมุตึ ทาตุ’’นฺติ (ปารา. ๔๗๓) อนฺุาตตฺตา คิลานสฺส ภิกฺขุโน สงฺเฆน ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ปุริมเมว ยา อวิปฺปวาสสมฺมุติ ทินฺนา, ตํ วินาติ วุตฺตํ โหติ. เตน ลทฺธสมฺมุติเกน ยาว โรโค วูปสมฺมติ, ตาว จิรมฺปิ เตน จีวเรน วินา วสิตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ยา อุโทสิตสิกฺขาปเท โกสมฺพกสมฺมุติ อนฺุาตา, ตสฺสา สมฺมุติยา อฺตฺร. สเจ สา ลทฺธา โหติ, ฉารตฺตาติเรกมฺปิ วิปฺปวสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๓-๖๕๔).
๘๗๒-๓. จีวรนิกฺเขปํ ทสฺเสตุมาห ‘‘กตฺติเกเยว…เป… ปกาสิโต’’ติ. กตฺติเกเยว มาสสฺมินฺติ จตุนฺนํ วสฺสานานํ มาสานํ ปจฺฉิเม กตฺติกมาเสเยว อิทเมกงฺคํ. ปมาย ปวาริโตติ ทุติยมงฺคํ, อิธ ปมาย วสฺสูปนายิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปวาริโตติ โยชนา, มหาปวารณาย ปวาริโตติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุริมิกาย อุปคนฺตฺวา มหาปวารณาย ปวาริโต โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๓-๖๕๔). ปจฺฉิเมน ปมาเณน ยุตฺเตติ ตติยมงฺคํ. เสนาสเนติ เอตสฺส วิเสสนํ. อิห อารฺกเสนาสนสฺส ปจฺฉิมปฺปมาณํ ¶ นาม ปากาเรน วา วติยา วา ปริขาย วา ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อินฺทขีลสงฺขาตคามทฺวารโกฏฺกุมฺมารโต วา อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปารหฏฺานสงฺขาเต ปริยนฺตเคหสฺส อุปจาเร ิตสฺส ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส พลปฺปมาเณน วิสฺสฏฺเลฑฺฑุปาตทฺวยโต วา ปฏฺาย ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส สปริกฺเขปํ วา อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ยสฺสํ ทิสายํ คาโม โหติ, ตตฺถ คามปริยนฺตเสนาสนํ วา เจติยํ วา โพธึ วา อวธึ กตฺวา วิหารคมนีเยน ปกติมคฺเคน วิทตฺถิคมฺภีรํ อาโรปิเตน อาจริยธนุนา ปมิตปฺจธนุสตปมาณทูรนฺติ สงฺเขปโต คเหตพฺพํ.
สาสงฺกสมฺมเตติ จตุตฺถมงฺคํ, ‘‘อิห สปฺปฏิภเย’’ติ เสโส. ‘‘สาสงฺกสมฺมตานิ สปฺปฏิภยานี’’ติ (ปารา. ๖๕๓) หิ ปาฬิ. อิทํ ทฺวยมฺปิ ‘‘เสนาสเน’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ. อารามอารามูปจาเรสุ โจรานํ นิสินฺนสยิตฏฺิตภุตฺตปีตฏฺานาทีนํ ทิสฺสมานตาย อาสงฺกาสหิเต ตตฺเถว อารามาทีสุ ปหฏมาริตวิลุตฺตมนุสฺสานํ ทิสฺสมานตาย วิเสเสน สหภยตาย ¶ สปฺปฏิภเย อารฺเก เสนาสเนติ อตฺโถ. วสนฺโต ภิกฺขุ. วสนฺโตวาติ เอตฺถ เอวกาโร อฏฺานปฺปยุตฺโต. ตสฺมา ตโต อาเนตฺวา จตุรงฺคสมาโยเค เอวาติ โยเชตพฺโพ. จตุรงฺคสมาโยเค เอวาติ ยถาวุตฺตานํ จตุนฺนํ องฺคานํ สมาโยเค สนฺนิปาเต สติ เอว. เอตฺถ เอวกาเรน ตสฺส องฺคสฺส อภาเว อลพฺภมานตํ ทีเปติ. ปกาสิโตติ ‘‘ตตฺรายํ องฺคสมฺปตฺตี’’ติอาทิกาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๓-๖๕๔) อฏฺกถาย วุตฺโต.
๘๗๔. ตํ จีวรํ. มาสเมกนฺติ วสฺสานสฺส ปจฺฉิมมาสสงฺขาตํ เอกํ มาสํ. โย คาโม สเจ ปุริมพทฺธาย อวิปฺปวาสสีมาย ¶ อนฺโต โหติ, ตตฺถ มาสโต อติเรกมฺปิ เปตุํ วฏฺฏตีติ (วชิร. ฏี. ปาราชิก ๖๕๓ อตฺถโต สมานํ) วชิรพุทฺธิตฺเถเรน วุตฺตํ.
๘๗๕. อฺตฺเถวาติ ยสฺส อารฺกเสนาสนสฺส โคจรคาเม จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตโต อารฺกเสนาสนโต พหิ เอว. อยํ อธิปฺปาโยติ ‘‘ยํ คาม’’นฺติอาทิกาย ทิยฑฺฒคาถาย ปฏิปาทิตตฺถทฺวยสงฺขาโต อธิปฺปาโย. อสฺสาติ สาสงฺกสิกฺขาปทสฺส. เอวํ อิมินา สิกฺขาปเทน ‘‘จีวเรน วินา กตฺติกมาเส อรฺเ วเสยฺยา’’ติ อนฺุาตตฺตา ‘‘ฉารตฺตปรมํ เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๖๕๓) อิมินา โคจรคาเม ตํ เปตฺวา ตสฺมึ อารฺกาวาเส วสิตฺวา เกนจิ กรณีเยน ตโต อาวาสโต คนฺตฺวา พหิ วสโต ทิวสปริจฺเฉทสฺส วิฺายมานตฺตาเยวาห ‘‘ปฏิจฺฉนฺโน ปกาสิโต’’ติ.
๘๗๖. ‘‘สเจ โคจรคามโต ปุรตฺถิมาย ทิสาย เสนาสนํ, อยฺจ ปจฺฉิมํ ทิสํ คโต โหตี’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๖) อฏฺกถายํ กถิตนิยาเมน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เสนาสนมถาคนฺตฺวา’’ติอาทิ. เสนาสนนฺติ อตฺตนา นิวุตฺถํ อารฺกเสนาสนํ. อาคนฺตฺวาติ พหิ คตฏฺานโต อาคนฺตฺวา. โคจรคาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ตโต ปุรตฺถิมาย ทิสาย อารฺกเสนาสเน วิหรโต วิหารา นิกฺขมฺม ตโต โคจรคามโต ปจฺฉิมทิสาย ทูรฏฺานํ คตสฺส อาคตฏฺานโต ตํ เสนาสนํ อาคนฺตฺวา วิทูรตฺตา สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ภิกฺขุโน กึ วิหิตนฺติ อยเมตฺถ โยชนา.
๘๗๗. คามสีมมฺปิ ¶ วาคนฺตฺวาติ ยตฺถ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตํ คามสีมมฺปิ ปุรารุณาเยว อาคนฺตฺวา. ยตฺถ กตฺถจีติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๖) สภาเทวาลยทฺวารโกฏฺกาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ กปฺปิยฏฺาเน ¶ . ‘‘ยตฺถ กตฺถจี’’ติ สามฺเน วุตฺตตฺตา ตสฺสา คามสีมาย อนฺโต อารฺกงฺคารกฺขนารหํ ทูรฏฺานํ ลทฺธํ เจ, องฺคเภทํ อกตฺวา ตตฺถ อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ. ธุตงฺเค วิชฺชมาเนปิ อาปตฺตึ อนาปชฺชิตุํ อนฺโตคาเมปิ อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา จีวรปวตฺติเยว าตพฺพา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘คามสีมมฺปิ โอกฺกมิตฺวา สภายํ วา ยตฺถ กตฺถจิ วา วสิตฺวา จีวรปฺปวตฺตึ ตฺวา ปกฺกมิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๖).
๘๗๘. เอวฺจาปิ อสกฺโกนฺโตติ องฺคเภทํ อกตฺวา, กตฺวา วา อนฺโตคามสีมาย อรุณํ อุฏฺาเปตุมฺปิ คนฺตุํ อสกฺโกนฺโต. ตฺวาติ อตฺตโน จีวรสฺส ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา. ตตฺเถวาติ เอตฺถ ‘‘ิโต’’ติ ลพฺภติ. ขิปฺปนฺติ สีฆํ, ปุรารุณาติ วุตฺตํ โหติ. อติเรเก าเนติ โยชนา, ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อติเรกจีวรฏฺาเน สฺสตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๖), ‘‘อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺตี’’ติ จินฺเตตฺวาติ อตฺโถ.
๘๗๙. วิสฺสชฺเชตีติ สตฺตมอรุณุฏฺานโต ปุเรตรเมว อฺสฺส เทติ. อุปริปิ เอวเมว วตฺตพฺพํ.
๘๘๐. สาสงฺกสมฺมเต เอวํนามเก สิกฺขาปเท สมุฏฺานาทโย สพฺเพ เตน ทุติเยน กถิเนน สมา อิติ มุนินฺเทน มตา อนุมตา อนฺุาตาติ โยชนา.
สาสงฺกกถาวณฺณนา.
๘๘๑. ชานนฺติ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วจเนน ปริณามิตภาวํ เยน เกนจิ อากาเรน ชานนฺโต. ยถาห ปทภาชเน ¶ ‘‘สามํ วา ชานาตี’’ติอาทิ (ปารา. ๖๕๙). ปริณตนฺติ เอตฺถ ปทภาชเน ‘‘ปริณตํ นาม ‘ทสฺสาม กริสฺสามา’ติ วาจา ภินฺนา โหตี’’ติ วุตฺตนิยาเมน สงฺฆสฺส ปริณตนฺติ อตฺโถ. ลาภนฺติ ลภิตพฺพํ จีวราทิ ยํ กิฺจิ. ยถาห ‘‘ลาโภ นาม จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, อนฺตมโส จุณฺณปิณฺโฑปิ ทนฺตกฏฺมฺปิ ทสิกสุตฺตมฺปี’’ติ. อตฺตโน ปริณาเมยฺยาติ ‘‘พหู อาวุโส สงฺฆสฺส ทายกา, พหู สงฺฆสฺส ภตฺตา, มยํ ตุมฺเห นิสฺสาย ตุมฺเห สมฺปสฺสนฺตา อิธ วิหราม. ตุมฺเห เจ อมฺหากํ น ทสฺสถ, อถ โก จรหิ อมฺหากํ ทสฺสติ. เทถาวุโส อมฺหากํ อิมานิ จีวรานี’’ติ (ปารา. ๖๕๗) ปาฬิยา ¶ อาคตนเยน อตฺตโน ปริณาเมยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส นิสฺสคฺคิยนฺติ เอตฺถ ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภนา’’ติ เสโส. นิสฺสคฺคิยนฺติ อิทํ ปริณเต ปริณตสฺึ สนฺธาย วุตฺตํ. เวมติกสฺส ปน ทุกฺกฏํ โหติ. ยถาห ‘‘ปริณเต เวมติโก อตฺตโน ปริณาเมติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ. อปริณตสฺิโน อนาปตฺติ. ยถาห ‘‘ปริณเต อปริณตสฺี อตฺตโน ปริณาเมติ, อนาปตฺตี’’ติ.
๘๘๒. ‘‘อฺสฺส เทหี’’ติ สเจ ปริณาเมตีติ ตถา สงฺฆสฺส ปริณตภาวํ ชานนฺโต ‘‘อฺสฺส เทหี’’ติ ยทิ ปริณาเมติ. สุทฺธิกํ ปาจิตฺติยนฺติ นิสฺสชฺชิตพฺพวตฺถุรหิตํ เกวลํ ปาจิตฺติยมตฺตนฺติ อตฺโถ. สุทฺธจิตฺเตนาติ สวาสนานวเสสกิเลสปฺปหาเนน ปริสุทฺธจิตฺเตน ภควตา. ปาจิตฺติยมุทีริตนฺติ ปาจิตฺติเยสุ อฏฺมสฺส สหธมฺมิกวคฺคสฺส อวสาเน ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ปุคฺคลสฺส ปริณาเมยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๔๙๐) เทสิตํ.
๘๘๓. เอกํ ¶ จีวรนฺติ สงฺฆสฺส ปริณตจีวรโต เอกํ จีวรํ. จีวรํ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท ปจฺจยนฺตรวิกปฺปตฺโถ. วา ปนาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อตฺถวิกปฺปตฺโถ. เอกํ จีวรํ วา อฺํ วา ปจฺจยํ ปรสฺส, เอกํ ปน อตฺตโน วา ปริณาเมยฺย เจติ โยชนา. สทฺธินฺติ เอกโต, เอกกฺขเณติ วุตฺตํ โหติ. ทฺเว ปาจิตฺติโย สทฺธึ สิยุนฺติ โยชนา, อฺสฺส ปริณามเนน สุทฺธปาจิตฺติยฺจ อตฺตโน ปริณามเนน นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยฺจาติ ทฺเว ปาจิตฺติโย เอกกฺขเณ โหนฺตีติ อตฺโถ.
๘๘๔. ปริณาเมตฺวา ปิเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ปริจฺจชิตฺวา ทินฺเน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘ปราชโย’’ติ อิทํ ปาทปฺปโหนกํ วตฺถุํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถาวตฺถุวเสน ปน ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยาปิ วตฺตพฺพา.
๘๘๕. อฺสฺส เจติยสฺส โปณํ ปริณตํ อฺสฺส เจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา ปุคฺคลสฺส วาปิ ปน ปริณาเมยฺยาติ โยชนา. สงฺฆสฺส ปุคฺคลสฺสาติ ปททฺวเยปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘สงฺฆสฺส ปริณตํ อฺสงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ปริณาเมติ ¶ , อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ (ปาจิ. ๔๙๒). อฺสฺส ปุคฺคลสฺส โปณํ อฺสฺส ปุคฺคลสฺส ปริณาเมยฺยาติ.
๘๘๖. อิมสฺส สพฺพสตฺตวิสยตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โย ปนา’’ติอาทิ.
๘๘๗. อิทํ ปริณตสิกฺขาปทํ. ติสมุฏฺานนฺติ กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตสงฺขาเตหิ ตีหิ สจิตฺตกสมุฏฺาเนหิ สมุฏฺานโต ติสมุฏฺานํ. ปริณามนปจฺจยา อาปชฺชิตพฺพโต กฺริยํ. สงฺฆาทีนํ ปริณตนฺติสฺาย อภาเวน ¶ วิมุจฺจนโต สฺาวิโมกฺขํ. กายวิฺตฺติวจีวิฺตฺตีหิ ปริณาเมตพฺพโต กายกมฺมํ วจีกมฺมํ.
ปริณตกถาวณฺณนา.
ปตฺตวคฺโค ตติโย.
๘๘๘. เย อิมํ วินิจฺฉยํ ตรนฺติ, เต ปฺตฺติมหาสมุทฺทํ ตรนฺตีติ โยชนา. ปฺตฺติสงฺขาตํ วินยปิฏกเมว มหาสมุทฺโท วิยาติ ปฺตฺติมหาสมุทฺโท, ตํ. เอวํ สมุทายํ ทสฺเสตฺวา ตทวยเว ทสฺเสตุมาห ‘‘เนกา’’ติอาทิ. เนกานิ นานปฺปการานิ วตฺตานิ เสนาสนวตฺตาทีนิ ขนฺธกาคตานิ อุคฺคา อุตฺตุงฺคา ตรงฺคมาลา มหาวีจิปรมฺปรา ยสฺสาติ วิคฺคโห, นานปฺปการขนฺธกวตฺตสงฺขาตมหาตรงฺคปรมฺปราย สชฺชิตนฺติ อตฺโถ. สีลํ ปาติโมกฺขสํวราทิกเมว อนฺโต เวลาวลโย ยสฺส โส สีลนฺโต, ตํ, ปาติโมกฺขสํวรสีลาทิจตุปาริสุทฺธิสีลเมว ปฏิปาเทตพฺพตาย อนฺตํ เวลาวลยภูตนฺติ อตฺโถ. อาปตฺติโย สตฺตาปตฺติกฺขนฺธา, สีลาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺติโย จ คาหกา มกราทโย ยสฺสาติ วิคฺคโห, สีลาจาราชีวทิฏฺิสมฺปตฺติสงฺขาตมุทุสตฺตนาสกอาปตฺติวิปตฺติสงฺขา- ตมาตงฺคมกราทิจณฺฑสตฺตวนฺตนฺติ อตฺโถ. เอวํ อยํ คาถา สมุทายาวยวานํ สพฺเพสเมว รูปกาลงฺกาเรน วิรจิตาติ ทฏฺพฺพา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา
๘๘๙. เอวํ ¶ นาติวิตฺถารสงฺเขปโต นิสฺสคฺคิยวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรํ นิทฺทิฏฺสฺส ปาจิตฺติยกณฺฑสฺส วินิจฺฉยํ ¶ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท’’ติอาทิ อารทฺธํ. สมฺปชานมุสาวาเทติ อตฺตโน วจนสฺส มุสาภาวํ ตฺวา, อทิฏฺํ ‘‘ทิฏฺ’’นฺติอาทินา นเยน มุสาวาเท สมฺปชานนฺตสฺส มุสาภณเนติปิ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ชานิตฺวา ชานนฺตสฺส จ มุสาภณเน’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒). ‘‘มุสาวาเท’’ติ หิ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, มุสาวาทนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ.
ทวา ภณนฺตสฺสาติ โยชนา. อนุปปริกฺขิตฺวา เวเคน ทิฏฺมฺปิ ‘‘อทิฏฺํ เม’’ติ วทนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ทวา ภณติ นาม สหสา ภณตี’’ติ ปทภาชนีอฏฺกถายํ ‘‘สหสา ภณตีติ อวีมํสิตฺวา อนุปธาเรตฺวา เวเคน ทิฏฺมฺปิ ‘อทิฏฺํ เม’ติ ภณตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑). รวา ภณนฺตสฺสาติ ‘‘จีวร’’นฺติ วตฺตุกามสฺส ‘‘จีร’’นฺติ วจนํ วิย มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ‘‘อฺํ ภณิสฺสามี’’ติ อฺํ ภณนฺตสฺส. ยถาห ‘‘รวา ภณติ นาม ‘อฺํ ภณิสฺสามี’ติ อฺํ ภณตี’’ติ.
๘๙๐. อฺตฺถาติ จตุตฺถปาราชิกาทีสุ. อตฺตนา อลทฺธํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ ‘‘ลทฺธํ มยา’’ติ มุสา ยสฺส ภณติ, เตน ตงฺขณเมว สุตฺวา ตทตฺเถ าเต ปาราชิกสฺส, อฺาเต กาลนฺตเรน าเต จ ปริยายวจเน จ าเต ถุลฺลจฺจยสฺส, ปริยายวจเน อวิฺาเต ทุกฺกฏสฺส, ทุฏฺโทสสิกฺขาปเท ปาราชิกํ อนาปนฺนสฺส ‘‘อาปนฺโน’’ติ มุสาภณเน สงฺฆาทิเสสสฺส, โอมสวาทสิกฺขาปเท ทุพฺภาสิตสฺส จ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘มุสาวาทสฺส การณา ปฺจ อาปตฺติโย’’ติ. อิมาย ปาจิตฺติยา สทฺธึ ฉ อาปตฺติกฺขนฺธา โหนฺติ.
สมฺปชานมุสาวาทกถาวณฺณนา.
๘๙๑-๓. วุตฺเตสุ ¶ ชาติอาทีสุ ทสสุ อกฺโกสวตฺถูสูติ โยชนา, ปทภาชเน วุตฺเตสุ ชาตินามโคตฺตกมฺมสิปฺปอาพาธลิงฺคกิเลสอาปตฺติอกฺโกสานํ วเสน ทสสุ อกฺโกสวตฺถูสูติ อตฺโถ ¶ . เตสุ กิเลสํ วินา สพฺเพเต หีนุกฺกฏฺวเสน ทฺวิปฺปการา โหนฺติ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘ชาติ นาม ทฺเว ชาติโย หีนา จ ชาติ อุกฺกฏฺา จ ชาตี’’ติอาทิ.
ตตฺถ จณฺฑาลาทิชาติ หีนา, ขตฺติยพฺราหฺมณชาติโย อุกฺกฏฺา. นาเมสุ อวกณฺณกชวกณฺณกาทินามานิ ทาสนามตฺตา หีนานิ, พุทฺธรกฺขิตาทินามานิ อุกฺกฏฺานิ. โกสิยาทิโคตฺตํ หีนํ, โคตมาทิโคตฺตํ อุกฺกฏฺํ. กมฺเมสุ วฑฺฒกิมณิการาทิกมฺมานิ หีนานิ, กสิวาณิชฺชาโครกฺขกมฺมานิ อุกฺกฏฺานิ. สิปฺเปสุ นฬการกุมฺภการาทิสิปฺปํ หีนํ, มุทฺทาคณนาทิสิปฺปํ อุกฺกฏฺํ. อาพาเธสุ สพฺเพปิ อาพาธา หีนา, อปิจ มธุเมโห ปีฬาชนกตฺตาภาวา อุกฺกฏฺโ. ลิงฺเคสุ อติทีฆตาทโย หีนา, นาติทีฆตาทโย อุกฺกฏฺา. สพฺเพปิ กิเลสา หีนา. สพฺพาปตฺติโยปิ หีนา, อปิจ โสตาปตฺติสมาปตฺติ อุกฺกฏฺา. อกฺโกเสสุ ‘‘โอฏฺโสิ เมณฺโฑสิ โคโณสี’’ติอาทิโก หีโน, ‘‘ปณฺฑิโตสิ พฺยตฺโตสี’’ติอาทิโก อุกฺกฏฺโ.
อฺตฺรฺาปเทเสนาติ ปริยายกถเนน วินา. โอมสนฺตสฺสาติ วจนปโตเทน โอวิชฺฌนฺตสฺส. สมฺพุทฺเธน ปกาสิตาติ ‘‘จณฺฑาโลสิ เวโนสิ เนสาโทสิ รถกาโรสิ ปุกฺกุโสสี’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ สามํ สพฺพธมฺมาวโพธโต ‘‘สมฺพุทฺโธ’’ติ ปฺาเตน ภควตา เทสิตา.
๘๙๔. เตเหวาติ ¶ ชาติอาทีหิ อกฺโกสวตฺถูเหว. อฺาปเทเสน ภูเตน วา…เป… อาปนฺนเมว วา อนุปสมฺปนฺนํ อกฺโกสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ สมฺพุทฺเธน ปกาสิตนฺติ สมฺพนฺโธ. อิธ ภูตาภูตปทานิ เตหีติ อเปกฺขิตฺวา พหุวจนนฺตานิ โยเชตพฺพานิ. เอเตน ‘‘สนฺติ อิเธกจฺเจ’’ติอาทิทุติยวารตฺถํ (ปาจิ. ๒๖) ทสฺเสนฺเตน ทุกฺกฏสาธนตฺเถน ตเทกการิยํ ตติยํ เยนูนวารฺจ จตุตฺถํ น มยนฺติอาทิวารฺจ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สนฺติ อิเธกจฺเจ’ติ วาเร ปน ปริหริตฺวา วุตฺตภาเวน ทุกฺกฏํ. เอเสว นโย ‘เยนูน…เป… น มย’นฺติ วาเรสุปี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖).
ปาฬิมุตฺตปเทหิปีติ เอตฺถาปิ ตเถว ‘‘ภูเตน วา’’ติอาทีนิ ปทานิ สมฺพนฺธิตพฺพานิ. ‘‘โจโรสิ, คณฺิเภทโกสี’’ติอาทิ ปาฬิมุตฺตปทํ นาม. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ จตูสุ วาเรสุ, ปาฬิมุตฺตปเทสุ ¶ จ. วุตฺตฺหิ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน ปน จตูสุปิ วาเรสุ ทุกฺกฏเมว. ‘โจโรสิ, คณฺิเภทโกสี’ติอาทิวจเนหิ ปน อุปสมฺปนฺเนปิ อนุปสมฺปนฺเนปิ สพฺพวาเรสุ ทุกฺกฏเมวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖). ‘‘อนุปสมฺปนฺน’’นฺติ อิมินา ‘‘อิมสฺมิฺจ สิกฺขาปเท เปตฺวา ภิกฺขุํ ภิกฺขุนิอาทโย สพฺเพ สตฺตา อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ิตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖) อฏฺกถายํ วุตฺตา อนุปสมฺปนฺนา สงฺคหิตา. เตเนเวตฺถาปิ วกฺขติ ‘‘ปวิฏฺานุปสมฺปนฺนฏฺาเน อิธ จ ภิกฺขุนี’’ติ.
๘๙๕. ทวกมฺยตาติ เอตฺถ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒, ๒๓, ๔๒๒; อ. นิ. ๖.๕๘; ๙.๙; มหานิ. ๒๐๖; วิภ. ๕๑๘) วิย ย-การโลโป. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ วุตฺตปาจิตฺติยวตฺถูสุ จ ทุกฺกฏวตฺถูสุ จาติ สพฺพตฺเถว. ทุพฺภาสิตมุทีริตนฺติ ‘‘จณฺฑาโลสิ…เป… ปุกฺกุโสสี’ติ ภณติ, อาปตฺติ ¶ วาจาย วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๒) วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ปรมฺมุขา ปน ปาจิตฺติยวตฺถูหิ จ ทุกฺกฏวตฺถูหิ จ อกฺโกสเน ทุกฺกฏเมว. ตถา ทวกมฺยตาย ปรมฺมุขา วทนฺตสฺสาปิ ทุพฺภาสิตเมวาติ อาจริยา วทนฺติ.
๘๙๖-๗. อตฺถํ ปุรกฺขตฺวา วทโต ภิกฺขุสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. ธมฺโม นาม ‘‘จณฺฑาโลสี’’ติอาทิปาฬิเยว. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปาฬึ วาเจนฺโต ธมฺมปุเรกฺขาโร’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๕). อนุสาสนี นาม ‘‘อิทานิปิ จณฺฑาโลสิ, มา ปาปธมฺมํ อกาสิ, มา ตโม ตมปรายโน อโหสี’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๓๕) นเยน อฏฺกถายํ วุตฺตสรูปาเยว อนุสาสนีปุเรกฺขตาย ตฺวา วทนฺตสฺส จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติตภาวโต อนฺตรา โกเธ อุปฺปนฺเนปิ อนาปตฺติ.
เอตฺถาติ อิมสฺมึ โอมสวาทสิกฺขาปเท. ปฏิฆสมฺปยุตฺตจิตฺเตเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา มานสิกทุกฺขเวทนาว โหติ.
โอมสวาทกถาวณฺณนา.
๘๙๘. ทุวิธาการโต ภิกฺขุเปสฺุเ อาปตฺติ สิยาติ โยชนา. ปิสตีติ ปิสุณา, วาจา ¶ , สมคฺเค สตฺเต อวยวภูเต วคฺเค ภินฺเน กโรตีติ อตฺโถ. ปิสุณา เอว เปสฺุํ, ตาย วาจาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล สหจริยนเยน ปิสุโณ, ตสฺส กมฺมํ เปสฺุํ, ภิกฺขูนํ เปสฺุํ ภิกฺขุเปสฺุํ, ตสฺมึ ภิกฺขุเปสฺุเ. ปทภาชเน ‘‘อุปสมฺปนฺโน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสฺุํ อุปสํหรติ ‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘จณฺฑาโล…เป… ปุกฺกุโส’ติ ภณตี’ติ อาปตฺติ…เป… ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๙) วุตฺตตฺตา สยํ อุปสมฺปนฺโน หุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส ชาติอาทีสุ ทสสุ อกฺโกสวตฺถูสุ อฺตเรน อฺํ อุปสมฺปนฺนํ ¶ ปรมฺมุขา อกฺโกสนฺตสฺส สุตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วกฺขมานสรูเปสุ อตฺตโน ปิยกามตาเภทาธิปฺปายสงฺขาเตสุ ทฺวีสุ การเณสุ อฺตรการณํ ปฏิจฺจ ‘‘อสุโก ตุยฺหํ เอวํ วทตี’’ติ เปสฺุํ หรติ, ตสฺส เปสฺุกถนนิมิตฺตํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ.
ทุวิธาการโตติ เอตฺถ อาการ-สทฺโท การณปริยาโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ทฺวีหากาเรหีติ ทฺวีหิ การเณหี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘). เอตฺถ การณํ นาม อธิปฺปายวิเสโส. ตํ การณํ อธิปฺปายมุเขน ทสฺเสตุมาห ‘‘อตฺตโน’’ติอาทิ. อตฺตโน ปิยกามสฺสาติ อตฺตโน ปิยภาวกามสฺส เปสฺุํ ภณนฺตสฺส, อตฺตโน ปิยภาวํ กามยนฺตสฺสาติ อตฺโถ, ตาทิเสน อธิปฺปาเยนาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอวํ อหํ เอตสฺส ปิโย ภวิสฺสามี’’ติ อตฺตโน ปิยภาวํ ปตฺถยมานสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘). ปรเภทตฺถิโนปิ วาติ อกฺโกสกสฺส จ อตฺตโน เปสฺุวจนํ สุณนฺตสฺส จาติ อุภินฺนํ เภทํ อิจฺฉนฺตสฺสาติ อตฺโถ, เภทาธิปฺปาเยนาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปรสฺส ปเรน เภทํ อิจฺฉนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘).
๘๙๙. ปริยายนเยน อกฺโกสนฺตสฺส วจนสฺส…เป… ทุกฺกฏนฺติ โยชนา, ปริยายอกฺโกสวจนํ สุตฺวา ปรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วทนฺตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘อิตฺถนฺนาโม สนฺติ อิเธกจฺเจ จณฺฑาลา…เป… ภณติ, น โส อฺํ ภณติ, ตํเยว ภณตีติ อาปตฺติ วาจาย วาจาย ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ (ปาจิ. ๔๑). ปาฬิมุตฺตนเยน อกฺโกสนฺตสฺส วจนสฺส…เป… ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘โจโรสิ, คณฺิเภทโกสี’’ติอาทินา ทสฺสิโต ปาฬิมุตฺตนโย นาม.
๙๐๐. อนุปสมฺปนฺนสฺส ¶ อกฺโกสํ อุปสมฺปนฺนํ หรโตปิ จ ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. จ-สทฺเทน ¶ อุปสมฺปนฺนสฺส อกฺโกสํ อนุปสมฺปนฺนํ หรโตปิ จ, อนุปสมฺปนฺนสฺส อกฺโกสํ อนุปสมฺปนฺนํ หรโตปิ จ ตถา ทุกฺกฏนฺติ วิกปฺปทฺวยฺจ สมุจฺจิโนติ. ‘‘อิธาปิ ภิกฺขุนึ อาทึ กตฺวา สพฺเพ อนุปสมฺปนฺนา นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘) อฏฺกถาวจนโต ‘‘ภิกฺขุนี’’ติ อุปลกฺขณํ.
๙๐๑. น เจว ปิยกามสฺสาติ ปิยภาวํ อกามยนฺตสฺส จ. น เภทตฺถิโนปิ จาติ เภทํ อนิจฺฉนฺตสฺส จ. ปาปานํ ครหตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘เกวล’’นฺติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอกํ อกฺโกสนฺตํ, เอกฺจ ขมนฺตํ ทิสฺวา ‘อโห นิลฺลชฺโช, อีทิสมฺปิ นาม อายสฺมนฺตํ ปุน วตฺตพฺพํ มฺิสฺสตี’ติ เอวํ เกวลํ ปาปครหิตาย ภณนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘).
เปสฺุกถาวณฺณนา.
๙๐๓. อฺเนาติ สามเณราทินา. ‘‘ยฺจ ปทํ ยฺจ อนุปทํ ยฺจ อนฺวกฺขรํ ยฺจ อนุพฺยฺชนํ, สพฺพเมตํ ปทโส นามา’’ติ (ปาจิ. ๔๖) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา อวยเว สมุทาโยปจารวเสน ‘‘ปิฏกตฺตย’’นฺติ ตเทกเทสปทาทิ เอว วุตฺโตติ คเหตพฺโพ. เอตฺถ ปทาทิสรูปํ อฏฺกถาย เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘ปทนฺติ เอโก คาถาปาโท อธิปฺเปโต. อนุปทนฺติ ทุติโย ปาโท. อนฺวกฺขรนฺติ เอเกกมกฺขรํ. อนุพฺยฺชนนฺติ ปุริมพฺยฺชเนน สทิสํ ปจฺฉาพฺยฺชน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕). อิทํ คาถามยเทสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ยํ กิฺจิ วา เอกมกฺขรํ ¶ อนฺวกฺขรํ, อกฺขรสมูโห อนุพฺยฺชนํ, อกฺขรานุพฺยฺชนสมูโห ปทํ, ปมปทํ ปทเมว, ทุติยํ อนุปทนฺติ เอวเมตฺถ นานากรณํ เวทิตพฺพ’’นฺติปิ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕) วุตฺตํ. อิทํ จุณฺณิยเทสนํ สนฺธาย วุตฺตํ.
ธมฺมนฺติ พุทฺธภาสิตาทิปาฬิธมฺมํ. ปฏิสมฺภิทายฺหิ ธมฺมปฺจเก ปาฬิปิ ธมฺโมติ วุตฺตา. ธมฺมปฺจกํ นาม ผลนิพฺพตฺตโก เหตุ, อริยมคฺโค, ภาสิตํ, กุสลากุสลํ เจติ เอเต ธมฺมสฺิตาติ นิทฺทิฏฺํ. เอตฺถ หิ ภาสิตนฺติ ปาฬิ วุตฺตา. อฏฺกถานิสฺสิโตปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉติ. โส จ ปุพฺเพ มคธภาสาย ิโต สงฺคีติตฺตยารุฬฺโห คเหตพฺโพ.
‘‘สห ภณนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยา’’ติ อิมินา ‘‘เอกโต ปฏฺเปตฺวา เอกโต โอสาเปนฺตี’’ติอาทินา ¶ (ปาจิ. ๔๖) ปทภาชนาคตนเยน อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ อารภิตฺวา เอกโต อุจฺจารณวเสน ปทํ วา อนุปทํ วา อนฺวกฺขรํ วา อนุพฺยฺชนํ วา วทโต ปทาทิคณนาวเสน ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๙๐๔. สงฺคีตึ อนารุฬฺเหสุ ธมฺเมสุ ราโชวาทาทโย สุตฺตนฺตา อาปตฺติชนกาเยวาติ มหาปจฺจริยาทิสุ วุตฺตาติ โยชนา. ราโชวาโท นาม เอโก สุตฺตนฺโต. อาทิ-สทฺเทน ติกฺขินฺทฺริยาทิสุตฺตนฺตา คหิตา.
๙๐๕. ภิกฺขุสฺมิมฺปิ ภิกฺขุนิยาปิ จ อนุปสมฺปนฺนสฺิโน, วิมติสฺส วา ภิกฺขุสฺส ตถา ปทโสธมฺเม ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๙๐๖-๗. เอกโต อุทฺทิสาเปตีติ เอกโต อุทฺเทสํ คณฺหนฺเตหิ อนุปสมฺปนฺเนหิ สทฺธึ อุจฺจารณวเสน อุทฺทิสาเปติ. สชฺฌายํ วา กโรตีติ ตถา เอกโต สชฺฌายติ.
‘‘สเจ ¶ เอกคาถาย เอโก ปาโท น อาคจฺฉติ, เสสํ อาคจฺฉติ, อยํ เยภุยฺเยน ปคุณคนฺโถ นาม. เอส นโย สุตฺเตปิ เวทิตพฺโพตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๘) อฏฺกถาวจนโต ปคุณคนฺถนฺติ เอตฺถ ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ เสโส. โอปาเตตีติ ‘‘เอวํ ภณาหี’’ติ เอกโต ภณติ. อุทฺเทสนฺติ อุทฺทิสิตพฺพํ. เตนาติ อนุปสมฺปนฺเนน.
๙๐๘. ยสฺมา อิทํ ปทโสธมฺมสิกฺขาปทํ วาจโต จ สมุฏฺาติ, วาจาจิตฺตทฺวยาปิ จ สมุฏฺาติ, ตสฺมา อิทํ สมุฏฺานํ ปทโสธมฺมสฺิตนฺติ วุตฺตนฺติ โยชนา.
ปทโสธมฺมกถาวณฺณนา.
๙๐๙-๑๐. สพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺเน เสนาสเน ติสฺสนฺนํ ปน รตฺตีนํ โย ปน ภิกฺขุ รตฺติยํ เปตฺวา ภิกฺขุํ อฺเน สเจ นิปชฺเชยฺย, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. ‘‘ยํ กิฺจิ ปฏิจฺฉาทนสมตฺถํ อิธ ฉทนฺจ ปริจฺฉนฺนฺจ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ฉทนารหํ อิฏฺกาสิลาสุธาติณปณฺณาทีนํ เยน เกนจิ สพฺพโส ฉาทิตํ เสนาสนํ ¶ สพฺพจฺฉนฺนํ. ‘‘ภูมิโต ปฏฺาย ยาว ฉทนํ อาหจฺจ ปากาเรน วา อฺเน วา เกนจิ อนฺตมโส วตฺเถนปิ ปริกฺขิตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา เยน เกนจิ ปริกฺขิปิตฺวา ปฏิจฺฉาทิตเสนาสนํ สพฺพปริจฺฉนฺนํ. ‘‘ฉทนํ อนาหจฺจ สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธน ปาการาทินา ปริกฺขิตฺตาปิ สพฺพปริจฺฉนฺนาเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตํ ‘‘ทิยฑฺฒา’’ติอาทินา วกฺขติ.
เอวํ สพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺเน เอกสฺมึ เสนาสเน โย ภิกฺขุ อุปสมฺปนฺนโต อฺเน เอเกน วา อเนเกหิ วา ติรตฺตํ ¶ สหเสยฺยํ กปฺเปตฺวา จตุตฺถรตฺตึ อาทึ กตฺวา สพฺพรตฺตีสุ สูริยตฺถงฺคมโต ปฏฺาย สกลรตฺติยํ ปมํ วา ปจฺฉา วา อปุพฺพาจริมํ วา ปิฏฺึ ปสาเรตฺวา สเจ เอกเสนาสเน เสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺส เทวสิกํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อิทํ วิธานํ ‘‘อปิเจตฺถ เอกาวาสาทิกมฺปิ จตุกฺกํ เวทิตพฺพ’’นฺติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
‘‘เยภุยฺเยน ปริจฺฉนฺเน ฉนฺเน’’ติ อิมินาปิ เอวเมว โยเชตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘ยสฺสา ปน อุปริ พหุตรํ านํ ฉนฺนํ, อปฺปํ อจฺฉนฺนํ, สมนฺตโต จ พหุตรํ ปริกฺขิตฺตํ, อปฺปํ อปริกฺขิตฺตํ, อยํ เยภุยฺเยนฉนฺนา เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺนา นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เยภุยฺเยน ฉนฺนปริจฺฉนฺนํ เวทิตพฺพํ. อตฺโถ วุตฺตนโยเยว. ‘‘เยภุยฺเยน ปํสุกา’’ติ เอตสฺส อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖) ตีสุ ทฺเว เยภุยฺยํ นาม, อิธ ปน ปทโสธมฺเม ‘‘เยภุยฺเยน ปคุณํ คนฺถ’’นฺติ เอตสฺส อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๘) ‘‘เอกคาถายา’’ติอาทิวิวรเณ วิย จตูสุ ตโยปิ ภาคา เยภุยฺยํ นามาติ เวทิตพฺพํ.
๙๑๑. เมถุนสฺส ปโหนกํ ยํ ปน วตฺถุ ปมปาราชิกาย นิทฺทิฏฺํ อนฺตมโส ติรจฺฉานคเตนปิ, เตน ปมปาราชิกวตฺถุนา ปุคฺคเลน สห นิปชฺชิตฺวา อาปตฺติ สหเสยฺยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๙๑๒-๓. ‘‘อุโภ วา นิปชฺชนฺตี’’ติ วิกปฺปสฺส ปมคาถาทฺวเยเนว อตฺถโต ทสฺสิตตฺตา ปุพฺพาปริยวเสนปิ สมฺภวนฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน’’ติอาทินา (ปาจิ. ๕๒-๕๔) นเยน ทสฺสิตปกฺขทฺวยํ นิทสฺเสตุมาห ‘‘นิปนฺเน’’ติอาทิ. ‘‘อุฏฺหิตฺวา’’ติ อิทํ วิจฺฉาวเสน คเหตพฺพํ. อนุปสมฺปนฺนคณนายปิ วาติ พหูสุ ¶ อนุปสมฺปนฺเนสุ เตสํ คณนาย จ. อนุปสมฺปนฺเนสุ ¶ พหูสุ เตสํ คณนาย เอกสฺส ภิกฺขุโน พหู อาปตฺติโย โหนฺตีติ เอวํ ทสฺสเนน อุปสมฺปนฺเนสุ พหูสุ เอกสฺมึ อนุปสมฺปนฺเน สติ เตสฺจ ตสฺส ปโยคคณนาย อาปชฺชิตพฺพา พหู อาปตฺติโย จ อุโภสุปิ พหูสุ เอเกกสฺเสว อุปสมฺปนฺนสฺส อนุปสมฺปนฺนคณนาย พหู อาปตฺติโย จ โหนฺตีติปิ ทสฺสิตํ โหติ.
๙๑๔. เอเกเนว ทฺวาเรน วฬฺชิตพฺพโต เอกูปจาเร สตคพฺเภปิ เสนาสเน อุปสมฺปนฺโน เอกสฺมึ คพฺเภ วสนฺโต อตฺตนา สยนคพฺเภ ทฺวารํ ปิทหิตฺวา วา อปิทหิตฺวา วา จตุตฺถรตฺติยํ สยติ เจ, อุปริมตเล, อวเสสคพฺเภสุ จ สยนฺเตหิ อนุปสมฺปนฺเนหิ ปุพฺเพ วุตฺตอาปตฺตินิยโมเยวาติ ทสฺสนตฺถมาห ‘‘สเจ ปิธายา’’ติอาทิ. คพฺภทฺวารํ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘คพฺภ’’นฺติ วุตฺตํ. จตุตฺถทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย นิปชฺชติ, อาปตฺติ สิยาติ โยชนา. ‘‘อนุปสมฺปนฺเนน สหา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อาปตฺติ ปาจิตฺติยํ.
๙๑๕. ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธนาติ วฑฺฒกิรตเนน ทิยฑฺฒรตนุพฺเพเธน. ปากาโร นาม นิฏฺิโต. จยนํ นาม วิปฺปกตปากาโรติปิ วทนฺติ. อิมินา จ อาฬินฺทสฺส อคฺคหณตฺถํ ‘‘ทสหตฺถุพฺเพธาปิ ชคติ ปริกฺเขปสงฺขฺยํ น คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถา ปมาณนฺติ วทนฺติ. ชคตีติ อาฬินฺทํ. อาทิ-สทฺเทน ภิตฺติปณฺณาวรณาทิคหณํ.
๙๑๖. ทุสฺสกุฏิยนฺติ วตฺถกุฏิยํ.
๙๑๗. ‘‘สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉนฺนาทิปฺปเภทโต เยภุยฺยาทิปฺปเภทโต’’ติ อาทิ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ปเมน ¶ อาทิ-สทฺเทน สพฺพจฺฉนฺนเยภุยฺยปริจฺฉนฺนสพฺพจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺนเยภุยฺยจฺฉนฺน- สพฺพปริจฺฉนฺนอุปฑฺฒจฺฉนฺนสงฺขาตานิ จตฺตาริ เสนาสนานิ คหิตานิ. คาถาย สรูเปน วุตฺตสพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺเนน สทฺธึ ปฺจ เสนาสนานิ ทสฺสิตานิ โหนฺติ. ทุติเยน อาทิ-สทฺเทน เยภุยฺยจฺฉนฺนเยภุยฺยปริจฺฉนฺน เยภุยฺยจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺน เยภุยฺยปริจฺฉนฺนอุปฑฺฒจฺฉนฺนสงฺขาตานิ ตีณิ เสนาสนานิ คหิตานิ. อิเม อฏฺ วิกปฺปา ลพฺภนฺติ. กสฺมา วุตฺตํ ‘‘สตฺต ปาจิตฺติยานี’’ติ? มหาอฏฺกถาย วุตฺตตฺตา. ยถาห ‘‘มหาอฏฺกถายํ ปน ‘สพฺพจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน อุปฑฺฒจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ ¶ , เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน อุปฑฺฒจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, ปาฬิยํ วุตฺตปาจิตฺติเยน สทฺธึ สตฺต ปาจิตฺติยานี’ติ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓).
กสฺมา ปน อฏฺกถายํ ‘‘อฏฺ ปาจิตฺติยานี’’ติ วตฺวา ‘‘สตฺตา’’ติ คณนปริจฺเฉโท กโตติ? นิสฺสนฺเทเห ตาว ‘‘เสยฺยา นาม สพฺพจฺฉนฺนา สพฺพปริจฺฉนฺนา, เยภุยฺเยนจฺฉนฺนา เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺนา’ติ (ปาจิ. ๕๒) ปาฬิยํ อาคเตสุ ทฺวีสุ วิกปฺเปสุ เอกสฺมึ วุตฺตปาจิตฺติยํ คเหตฺวา ปาฬิยํ วุตฺเตน ปาจิตฺติเยน ‘สตฺตา’ติ วุตฺต’’นฺติ ปริหาโร ทสฺสิโต. สารตฺถทีปนิยฺจ ‘‘สตฺต ปาจิตฺติยานี’ติ ปาฬิยํ วุตฺตปาจิตฺติยทฺวยํ สามฺโต เอกตฺเตน คเหตฺวา วุตฺตํ. วิสุํ ปน คยฺหมาเน สพฺพจฺฉนฺเน สพฺพปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยนฺติ อฏฺเว ปาจิตฺติยานิ โหนฺตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๕๓) ปริหาโร วุตฺโต.
สพฺพเยภุยฺยอุปฑฺฒปเทสุ ฉนฺนปริจฺฉนฺนปเทหิ โยชิเตสุ นว วิกปฺปา สมฺภวนฺติ, เตสุ นวเม อุปฑฺฒจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนวิกปฺเป ทุกฺกฏสฺส ทสฺสิตตฺตา ปาริเสสโต อิตเรสุ ¶ อฏฺสุ อฏฺ ปาจิตฺติยาเนว สมฺภวนฺติ. อฏฺกถายํ ปน อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คุณนูปคํ น โหตีติ กตฺวา ‘‘สตฺตา‘‘ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท.
๙๑๘. ‘‘อฑฺฒจฺฉนฺเน อฑฺฒปริจฺฉนฺเน’’ติ โยชนา. ‘‘สพฺพปริจฺฉนฺเน จูฬจฺฉนฺเน’’ติ ยถากฺกเมน โยชนา. อิมินา อฏฺกถาคเตสุ ปฺจสุ วิกปฺเปสุ ตติยวิกปฺปํ ทสฺเสตฺวา อาทิ-สทฺเทน สพฺพจฺฉนฺนาทโย เสสวิกปฺปา คหิตา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สพฺพจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยนจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, ปาฬิยํ อาคตทุกฺกเฏน สห ปฺจ ทุกฺกฏานีหิ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓). ปาฬิยํ อาคตทุกฺกฏํ นาม อิมิสฺสาเยว คาถาย อาทิมฺหิเยว วุตฺตทุกฺกฏํ. ยถาห ‘‘อุปฑฺฒจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๕๓).
จูฬจฺฉนฺนาทีนิ เจตฺถ เอวํ เวทิตพฺพานิ – ยสฺส จตูสุ ภาเคสุ เอโก ฉนฺโน, เสสา อจฺฉนฺนา, อิทํ จูฬกจฺฉนฺนํ. ยสฺส ตีสุ ภาเคสุ ทฺเว ฉนฺนา, เอโก อจฺฉนฺโน, อิทํ เยภุยฺเยนจฺฉนฺนํ. ยสฺส ¶ ทฺวีสุ ภาเคสุ เอโก ฉนฺโน, เอโก อจฺฉนฺโน, อิทํ อุปฑฺฒจฺฉนฺนํ นาม เสนาสนํ. จูฬปริจฺฉนฺนาทีนิ อิมินา นเยน เวทิตพฺพานิ. ฉนฺนาทีหิปีติ สหตฺเถ กรณวจนํ. ปิ-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. สพฺพจูฬปริจฺฉนฺนฉนฺนาทีหิ จตูหิปิ สห อฑฺฒจฺฉนฺนปริจฺฉนฺเน ปฺจธา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา.
๙๒๐. สพฺพจฺฉนฺนาทิเกติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘สพฺพปริจฺฉนฺเน สพฺพอจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนอจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนอปริจฺฉนฺเน’’ติ (ปาจิ. ๕๔) ปาฬิยํ วุตฺตา อนาปตฺติวารเสสา จ อฏฺกถายํ วุตฺตา ‘‘อุปฑฺฒจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน, อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ¶ , จูฬกจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓) ตโย อนาปตฺติวารา จ คหิตา.
๙๒๑. นิปนฺเนปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ‘‘ภิกฺขุ นิปนฺเน อนุปสมฺปนฺโน นิสีทติ, อุโภ วา นิสีทนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๕๔) ปาฬิยํ วุตฺตปการนฺตเร สมุจฺจิโนติ.
สหเสยฺยกถาวณฺณนา.
๙๒๒. อปิ-สทฺเทน ปเคว มหตฺตริยาติ ทสฺเสติ. สหเสยฺยํ ปกปฺเปยฺยาติ ยถาวุตฺตลกฺขณํ สพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺนาทิเสนาสนํ ปวิสิตฺวา สูริยตฺถงฺคมโต ปฏฺาย ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเรเนว ปิฏฺิปฺปสารณลกฺขณํ เสยฺยํ กปฺเปยฺย.
๙๒๓-๔. เทวิยาติ เทวิตฺถิยา. ติรจฺฉานคติตฺถิยาติ โคธาทิกาย. ‘‘เมถุนวตฺถุภูตายา’’ติ อิมินา เมถุนธมฺมสฺส อวตฺถุภูตาย สหเสยฺยาย โทสาภาวํ ทสฺเสติ. วตฺถูนํ คณนายาติ มาตุคามสฺส คณนาย จ ตาสฺจ อตฺตโน จ ปโยคคณนาย จ. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. มาตุคาเมน ตโย ทิวเส สหเสยฺยาย อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา จตุตฺถทิวเส สหเสยฺยาย ทฺวีหิปิ สิกฺขาปเทหิ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ เอตฺถ ทุกฺกฏวตฺถุภูตาย อิตฺถิยา ตตฺเถว สหเสยฺยาย อิมินา สิกฺขาปเทน ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวา จตุตฺถทิวเส รตฺติยํ สหเสยฺยาย อิมินา สิกฺขาปเทน อาปชฺชิตพฺพทุกฺกเฏน สห ปุริมสิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยํ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ.
ทุติยสหเสยฺยกถาวณฺณนา.
๙๒๖. ฉปฺปฺจวาจาหิ ¶ ¶ อุทฺธํ อิตฺถิยา ธมฺมํ ภณนฺตสฺสาติ สมฺพนฺโธ. อิตฺถิยาติ ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, วิฺู ปฏิพลา โหติ สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุ’’นฺติ ปาฬิยํ วุตฺตมนุสฺสิตฺถิยา. ภณนฺตสฺสาติ วกฺขมานลกฺขณํ ธมฺมํ ฉหิ ปเทหิ อุตฺตริ ภณนฺตสฺส. วิฺุํ ปุริสวิคฺคหํ วินาติ ‘‘วิฺู นาม ปุริสวิคฺคโห ปฏิพโล โหติ สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๔) ปาฬิยํ วุตฺตสวนูปจารคตมนุสฺสปุริสํ วินา. ธมฺมนฺติ วกฺขมานปฺปการสรูปํ เทสนาธมฺมํ.
๙๒๗. คาถามยา, จุณฺณิยคนฺถมยาติ ทุวิธา เทสนา, ตตฺถ คาถามยเทสนาย วาจา นาม คาถาปาทลกฺขณาติ ทสฺเสตุมาห ‘‘คาถาปาโท’’ติอาทิ. จุณฺณิยเทสนายํ ปน วาจาปริจฺเฉโท วิภตฺยนฺตวเสน เวทิตพฺโพ. เตนาห คณฺิปเท ‘‘เอโก คาถาปาโท’ติ อิทํ คาถาพนฺธเมว สนฺธาย วุตฺตํ, อฺตฺถ ปน วิภตฺติอนฺตปทเมว คเหตพฺพ’’นฺติ. ปทโสธมฺมํ นิทฺทิฏฺํ ธมฺมนฺติ ปิฏกตฺตยํ. ‘‘อฏฺกถ’’นฺติ อิมินา สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ โปราณฏฺกถํ คเหตพฺพํ. เตเนว คณฺิปเท วุตฺตํ ‘‘อฏฺกถํ ธมฺมปทชาตกาทิวตฺถฺุจา’’ติ. อิมินาปิ โปราณกํ สงฺคีติอารุฬฺหเมว อฏฺกถํ วุตฺตนฺติ วทนฺติ. อฏฺกถาทิปาํ เปตฺวา ทมิฬาทิภาสนฺตเรน ยถารุจิ กเถตุํ วฏฺฏตีติ.
๙๒๘. ปทาทีนํ วสา ฉนฺนํ วาจานํ อุปริ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺสาติ โยชนา. เทเสนฺตสฺสาติ ปทโสธมฺเม วุตฺตลกฺขณปทาทิสรูปาหิ ฉหิ วาจาหิ อุตฺตริ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส. ปทาทิคณนายาติ ยถาวุตฺตลกฺขณปทอนุปทอนฺวกฺขรอนุพฺยฺชนคณนาย.
๙๒๙. ปุริสวิคฺคหนฺติ ¶ มนุสฺสปุริสเวสํ. เอตฺถ ติรจฺฉานคตา นาม เวสนิมฺมานารหา อิทฺธิมนฺตา นาคสุปณฺณา.
๙๓๑. วทโตติ อธิกํ ธมฺมํ ภาสโต.
๙๓๒. อิตฺถิรูปนฺติ มนุสฺสิตฺถิเวสํ. ติรจฺฉานคติตฺถิยาติ วุตฺตสรูปาย ติรจฺฉานคติตฺถิยา.
๙๓๓. สยํ ¶ อุฏฺาย นิสีทิตฺวา ปุน ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส อนาปตฺติ ปกาสิตาติ สมฺพนฺโธ. มาตุคามสฺส วา ตถาติ เอตฺถ ‘‘ตถา’’ติ อิมินา วุตฺตปฺปการสฺส คหิตตฺตา อุฏฺาย นิสินฺนสฺส มาตุคามสฺส ปุน ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส อนาปตฺติ ปกาสิตาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อุฏฺายา’’ติอาทินา อิริยาปถปริวตฺตนทสฺสเนน นานาอิริยาปเถปิ อนาปตฺตึ ทีเปติ.
๙๓๔. อฺิสฺสา ปุน อฺิสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อาคตาคตายา’’ติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อฺสฺส มาตุคามสฺสาติ เอกิสฺสา เทเสตฺวา ปุน อาคตาคตาย อฺิสฺสาปิ เทเสตีติ เอวํ เอกาสเน นิสินฺโน มาตุคามสตสหสฺสนฺนมฺปิ เทเสตีติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖). อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน จ-สทฺเทน ‘‘ปฺหํ ปุฏฺโ กเถตี’’ติ (ปาจิ. ๖๖) อิทํ สมุจฺจิโนติ. ‘‘ทีฆนิกาโย กิมตฺถิโย ภนฺเต’’ติ ปฺหํ ปุจฺฉโต มาตุคามสฺส สพฺพํ ทีฆนิกายํ วทโตปิ อนาปตฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปฺหํ ปุจฺฉติ, ปฺหํ ปุฏฺโ กเถตีติ มาตุคาโม ‘ทีฆนิกาโย นาม ภนฺเต กิมตฺถํ ทีเปตี’ติ ปุจฺฉติ, เอวํ ปฺหํ ปุฏฺโ ภิกฺขุ สพฺพํ เจปิ ทีฆนิกายํ กเถติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖). เอตฺถ จ สพฺพํ เจปิ ทีฆนิกายํ กเถตีติ ยาว น นิฏฺาติ, ตาว ปุนทิวเสปิ กเถติ.
๙๓๕. ธมฺมสฺส ¶ เทสนาย, วิฺุมนุสฺสปุริสสฺส อสนฺนิหิตกรเณน จ อาปชฺชิตพฺพโต กฺริยากฺริยํ.
ธมฺมเทสนากถาวณฺณนา.
๙๓๖. มหคฺคตํ รูปารูปชฺฌานํ. ปณีตํ โลกุตฺตรธมฺมํ. ปธานภาวํ นีตนฺติ ปณีตํ. อาโรเจนฺตสฺสาติ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทินา (ปารา. ๒๐๑) นเยน จตุตฺถปาราชิเก วุตฺตนเยน วทนฺตสฺส. ปรินิพฺพานกาเล จ ปุฏฺกาเล จ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ อตฺตนา ลทฺธสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อาโรเจตพฺพตฺตา ‘‘เปตฺวา ภิกฺขุนึ ภิกฺขุ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อฺสฺสา’’ติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อุปสมฺปนฺนสฺส ภูตํ อาโรเจตีติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ปรินิพฺพานกาเล, หิ อนฺตรา วา อติกฑฺฒิยมาเนน อุปสมฺปนฺนสฺส ภูตํ อาโรเจตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๗). ภูเตติ เอตฺถ ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อาโรจิเต’’ติ วตฺตพฺพํ, นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, อตฺตโน สนฺตาเน อิมสฺมึ อตฺตภาเว สิทฺธอุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อาโรจนนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ.
๙๓๗. โน ¶ เจ ชานาติ โส วุตฺตนฺติ ยสฺส อาโรเจติ, โส สเจ สุตกฺขเณเยว วุตฺตนเยเนว ‘‘เอส ปมชฺฌานสฺส ลาภี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตํ โน ชานาติ. ปริยายวจเนติ ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี’’ติ เอวมาทิปริยายวจเน. ยสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อาโรเจติ, โส สเจ สุตสมนนฺตรํ ‘‘เอส เอวํ วทตี’’ติ วุตฺตํ โน ชานาติ, ตาทิสสฺส อาโรเจนฺตสฺส ภิกฺขุโน โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. อสฺส ภูตสฺส ปริยายวจเน จ ภิกฺขุโน อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๙๓๘. ตถารูเป ¶ การเณ สตีติ ปรสฺส การณภาวํ ตฺวาปิ ปฏิปตฺติยา อโมฆภาวทสฺสนสมุตฺเตชนสมฺปหํสนาทิกรสงฺขาเต การเณ สติ. สพฺพสฺสาปีติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนสฺส สพฺพสฺส. สีลาทินฺติ สีลสุตปริยตฺติคุณํ. วทโตติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุโน’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.
๙๓๙. ตทสมฺภวาติ ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส อุมฺมาทาทีนํ อสมฺภวา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ทิฏฺิสมฺปนฺนานํ อุมฺมาทสฺส วา จิตฺตกฺเขปสฺส วา อภาวาติ. มหาปจฺจริยมฺปิ หิ วิจาริต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๗). อุมฺมตฺตกปทสฺส อวจเน การณํ วทนฺเตเนว ขิตฺตจิตฺตาทิปทานํ อวจเน การณฺจ อุปลกฺขณโต ทสฺสิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ มคฺคผลทิฏฺิยา สมนฺนาคตานํ อริยานเมว หิ อุมฺมตฺตกาทิภาโว นตฺถิ. ฌานลาภิโน ปน ตสฺมึ สติ ฌานา ปริหายนฺติ, ตสฺมา เตสํ อภูตาโรจนปจฺจยา อนาปตฺติ วตฺตพฺพา, น ภูตาโรจนปจฺจยา.
๙๔๐. อิมิสฺสาปตฺติยา อฺตฺร ฌานมคฺคาทิลาภีนํ อฺสฺส อสมฺภวา ‘‘กุสลาพฺยากเตเหว ทฺวิจิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อิทฺจ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน อริยปุคฺคเลเยว สนฺธาย วุตฺตํ. ปณฺณตฺตึ อชานนฺตา ปน ฌานลาภี ปุถุชฺชนา นานาวตฺถุมฺหิ โลภวเสน อกุสลจิตฺเตนาปิ น อาโรเจนฺตีติ นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘ติจิตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพํ สิยา, ตถาปิ พหุเลน กุสลาพฺยากตานเมว สมฺภโวติ เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทฺวิเวทนํ สุโขเปกฺขาวเสน. อิทฺจ สิกฺขาปทํ ปณฺณตฺติอชานนวเสน อจิตฺตกสมุฏฺานํ โหติ. อริยา เจตฺถ ปณฺณตฺตึ ชานนฺตา ¶ วีติกฺกมํ น กโรนฺติ, ปุถุชฺชนา ปน ปณฺณตฺตึ ชานิตฺวาปิ วีติกฺกมํ กโรนฺติ. เต จ สตฺถุโน อาณาวีติกฺกมเจตนาย ¶ พลวอกุสลภาวโต ฌานา ปริหายนฺตีติ ทฏฺพฺพํ.
ภูตาโรจนกถาวณฺณนา.
๙๔๑. ภิกฺขุโน ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตึ ภิกฺขุสมฺมุตึ เปตฺวา อนุปสมฺปนฺเน อาโรเจนฺตสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตีติ โยชนา. ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตินฺติ สงฺฆาทิเสโส. นนุ จ ‘‘ทุฏฺุลฺลา นาม อาปตฺติ จตฺตาริ จ ปาราชิกานิ เตรส จ สงฺฆาทิเสสา’’ติ (ปาจิ. ๗๙) ปทภาชเน ปาราชิกสงฺฆาทิเสสา ทสฺสิตา, กสฺมา อิธ สงฺฆาทิเสโสว คหิโตติ? วุจฺจเต – ปาราชิกํ ทุฏฺุลฺลสทฺทตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อิธ ปน สงฺฆาทิเสโสเยว ภควตา อธิปฺเปโตติ อฏฺกถายํ วิจาริตเมตํ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘ปาราชิกานิ ทุฏฺุลฺลสทฺทตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, สงฺฆาทิเสสํ ปน อิธ อธิปฺเปต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๘). วกฺขติ จ ‘‘อิธ สงฺฆาทิเสสาว, ทุฏฺุลฺลาปตฺติโย มตา’’ติ. อนุปสมฺปนฺเนติ ‘‘ภิกฺขฺุจ ภิกฺขุนิฺจ เปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปนฺโน’’ติ (ปาจิ. ๘๐) ปทภาชเน นิทฺทิฏฺอนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรเจนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
เปตฺวา ภิกฺขุสมฺมุตินฺติ ‘‘อตฺถิ ภิกฺขุสมฺมุติ อาปตฺติปริยนฺตา น กุลปริยนฺตา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๘๐) ปทภาชเน ทสฺสิตํ อภิณฺหาปตฺติกสฺส ภิกฺขุโน อายตึ สํวรตฺถํ หิโรตฺตปฺปชนนตฺถํ อาปตฺติโย วา อุปาสกกุลานิ วา อุภยเมว วา ปริจฺฉินฺทิตฺวา วา อปริจฺฉินฺทิตฺวา วา อาปตฺติโย อาโรเจตุํ สงฺเฆน สงฺฆมชฺเฌ ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา กตสมฺมุตึ เปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อภิณฺหาปตฺติกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ‘เอวเมส ปเรสุ หิโรตฺตปฺเปนาปิ อายตึ สํวรํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ ตสฺส ภิกฺขุโน ¶ หิเตสิตาย ติกฺขตฺตุํ อปโลเกตฺวา สงฺเฆน กาตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๐).
๙๔๒. ฆเฏตฺวา วทนฺตสฺเสวาติ เอวกาโร ยถาาเน โยเชตพฺโพ. เอวกาเรน พฺยวจฺฉินฺนมตฺถํ วกฺขติ ‘‘วตฺถุ’’นฺติอาทินา. ‘‘อสุจึ โมเจตฺวา’’ติ อิมินา วตฺถุมาห, ‘‘สงฺฆาทิเสส’’นฺติ อิมินา อาปตฺตึ. วชฺชเมว วชฺชตา. ‘‘ปาจิตฺติยาปตฺตี’’ติ อิมสฺสายํ ปริยาโย. ‘‘อยํ อสุจึ โมเจตฺวา สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน’’ติ วตฺถุนา สทฺธึ ฆเฏตฺวา อาปตฺตึ วทนฺตสฺส วชฺชตา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๙๔๓. สุทฺธสฺสาติ ¶ ปาราชิกมนาปนฺนสฺส. วทนฺติ วทนเหตุ, วตฺถุนา สทฺธึ สงฺฆาทิเสสสฺส กถนโตติ อตฺโถ.
๙๔๔. อทุฏฺุลฺลายาติ สงฺฆาทิเสสโต อฺาย อาปตฺติยา. ทุฏฺุลฺลสฺิโนติ สงฺฆาทิเสสสฺิโน. เสสา อาปตฺติโยปิ วาติ สงฺฆาทิเสสํ วินา เสเส ฉฬาปตฺติกฺขนฺเธ.
๙๔๕. ตถาติ ทุกฺกฏํ อติทิสติ. ปฺจธา มตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลํ อชฺฌาจารํ อาโรเจนฺตสฺส ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อนุปสมฺปนฺนสฺส ปฺจธา มตํ ทุฏฺุลฺลํ อชฺฌาจารนฺติ จ ปาณาติปาตาทิปฺจสิกฺขาปทวีติกฺกมา คหิตา. เกจิ ปน ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทโย ปฺจา’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ปาณาติปาตาทีนิ หิ ทเสว สิกฺขาปทานิ สามเณรานํ ปฺตฺตานิ. เตสํ ปฺตฺเตสุเยว จ สิกฺขาปเทสุ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลวิจารณา กาตพฺพา, น จ สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ วิสุํ เตสํ ปฺตฺตานิ อตฺถีติ.
อถ ¶ ภิกฺขุโน ทุฏฺุลฺลสงฺขาตานิ สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ อนุปสมฺปนฺนสฺส กึ นาม โหนฺตีติ? อชฺฌาจาโร นาม โหนฺตีติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิ…เป… อชฺฌาจาโร นามาติ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒). อิมินาปิ เจตํ สิทฺธํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิ ทุฏฺุลฺลํ นาม น โหตี’’ติ. ‘‘อชฺฌาจาโร นามา’’ติ หิ วทนฺโต อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิ เกวลํ อชฺฌาจาโร นาม โหติ, น ปน ทุฏฺุลฺโล นาม อชฺฌาจาโรติ ทีเปติ. ‘‘อชฺฌาจาโร นามา’’ติ จ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา, อกตฺตพฺพรูปตฺตา จ อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ ทณฺฑกมฺมวตฺถุปกฺขํ ภชนฺติ. ตานิ จ อฺสฺส อนุปสมฺปนฺนสฺส อวณฺณกามตาย อาโรเจนฺโต ภิกฺขุ ทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ วทนฺติ. อิธ ปน อนุปสมฺปนฺนคฺคหเณน สามเณรสามเณริสิกฺขมานานํ คหณํ เวทิตพฺพํ.
อทุฏฺุลฺลํ อชฺฌาจารนฺติ โยชนา. ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺสา’’ติ จ อชฺฌาหริตพฺพานิ. อนุปสมฺปนฺนสฺส ยถาวุตฺเตหิ ปฺจสิกฺขาปเทหิ อฺํ วิกาลโภชนาทึ อทุฏฺุลฺลํ อชฺฌาจารํ วา. ยถาห ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลํ วา อทุฏฺุลฺลํ วา อชฺฌาจาร’’นฺติอาทิ (ปาจิ. ๘๒).
๙๔๖. เกวลํ ¶ วตฺถุํ วา อาโรเจนฺตสฺสาติ ‘‘อยํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ อาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน วตฺถุมตฺตํ อาโรเจนฺตสฺส. เกวลํ อาปตฺตึ วา อาโรเจนฺตสฺสาติ ‘‘อยํ ปาราชิกํ อาปนฺโน, อยํ สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน อาปตฺติมตฺตํ อาโรเจนฺตสฺส จ. ภิกฺขุสมฺมุติยาติ เอตฺถ วตฺถุนา ฆเฏตฺวา อาปตฺตึ อาโรเจนฺตสฺสาติ ¶ คเหตพฺพํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตี’’ติ เอตํ ปรามสติ.
ทุฏฺุลฺลาโรจนกถาวณฺณนา.
๙๔๘. อกปฺปิยํ ปถวินฺติ ปทภาชเน ‘‘ทฺเว ปถวิโย ชาตา จ ปถวี อชาตา จ ปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๖) อุทฺทิสิตฺวา –
‘‘ชาตา นาม ปถวี สุทฺธปํสุ สุทฺธมตฺติกา อปฺปปาสาณา อปฺปสกฺขรา อปฺปกถลา อปฺปมรุมฺพา อปฺปวาลิกา เยภุยฺเยนปํสุกา เยภุยฺเยนมตฺติกา, อทฑฺฒาปิ วุจฺจติ ชาตา ปถวี. โยปิ ปํสุปฺุโช วา มตฺติกาปฺุโช วา อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺโ, อยมฺปิ วุจฺจติ ชาตา ปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๖) จ,
‘‘อชาตา นาม ปถวี สุทฺธปาสาณา สุทฺธสกฺขรา สุทฺธกถลา สุทฺธมรุมฺพา สุทฺธวาลิกา อปฺปปํสุ อปฺปมตฺติกา เยภุยฺเยนปาสาณา เยภุยฺเยนสกฺขรา เยภุยฺเยนกถลา เยภุยฺเยนมรุมฺพา เยภุยฺเยนวาลิกา, ทฑฺฒาปิ วุจฺจติ อชาตา ปถวี. โยปิ ปํสุปฺุโช วา มตฺติกาปฺุโช วา อูนจาตุมาสํ โอวฏฺโ, อยมฺปิ วุจฺจติ อชาตา ปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๖) จ –
นิทฺทิฏฺาสุ ทฺวีสุ ปถวีสุ ชาตปถวิสงฺขาตํ อกปฺปิยปถวึ.
เอตฺถ ปาสาณาทีนํ ลกฺขณํ อฏฺกถายํ ‘‘มุฏฺิปฺปมาณโต อุปริ ปาสาณาติ เวทิตพฺพา, มุฏฺิปฺปมาณา สกฺขรา. กถลาติ กปาลขณฺฑานิ. มรุมฺพาติ กฏสกฺขรา. วาลิกาติ วาลุกาเยวา’’ติ ¶ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เยภุยฺเยนปํสุกาทีนํ ลกฺขณํ ‘‘เยภุยฺเยนปํสุกาติ ตีสุ โกฏฺาเสสุ ทฺเว โกฏฺาสา ปํสุ, เอโก ปาสาณาทีสุ อฺตโร โกฏฺาโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖) จ ¶ ‘‘อทฑฺฒาปีติ อุทฺธนปตฺตปจนกุมฺภการาวาปาทิวเสน ตถา ตถา อทฑฺฒา’’ติอาทิ อฏฺกถาโต จ เวทิตพฺพํ. ‘‘อปฺปปํสุอปฺปมตฺติกา’’ติ ทฺวีสุปิ ปเทสุ นิทฺเทสรูเปน เยภุยฺเยนปาสาณาทิปทปฺจกํ วุตฺตํ, ตตฺถาปิ อตฺโถ เยภุยฺเยนปํสุปทาทีสุ วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เตสํเยว หิ ทฺวินฺนํ ปเภททสฺสนเมต’’นฺติ (ปาจิ. ๘๖).
ขเณยฺย วาติ เอวรูปํ อกปฺปิยปถวิปเทสํ อนฺตมโส ปาทงฺคุฏฺเนาปิ สมฺมฺุชนิสลากายปิ สยํ วา ขณติ. ขณาเปยฺย วาติ อฺเน วา ‘‘อิทํ ขณาหี’’ติอาทินา อกปฺปิยโวหาเรน ขณาเปยฺย. เภทาเปยฺยาติ ตเถว เภทาเปยฺย. ภินฺเทยฺย วาติ ปสฺสาวธาราทีหิปิ ภินฺเทยฺย. อธิการวเสน วา-สทฺทสฺส สพฺพกิริยาปเทหิ สมฺพนฺโธ ลพฺภตีติ เภทาเปยฺย จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท อิธ อวุตฺตสฺส ‘‘ทหติ วา, ทหาเปติ วา’’ติ ปททฺวยสฺส สมุจฺจยโกติ เวทิตพฺโพ. อนฺตมโส ปตฺตมฺปิ ปจนฺโต สยํ วา ทหติ, อฺเน วา ทหาเปตีติอาทิ อิเมสํ ปทานํ อฏฺกถาวเสน (ปาจิ. อฏฺ. ๘๗) เวทิตพฺพํ. ปาจิตฺติยํ สิยาติ ขณนฺตสฺส, ภินฺทนฺตสฺส จ ปหาเร ปหาเร ปาจิตฺติยํ.
๙๔๙. อาณาเปนฺตสฺส อาณตฺติคณนาย, ทหนฺตสฺส อคฺคิปาตคณนาย โหตีติ อิทํ ‘‘ปหาเร ปหาเร ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิอฏฺกถาวจนวเสน เวทิตพฺพํ, อิมเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘สยเมวา’’ติอาทิ.
๙๕๐. อาณาเปนฺตสฺสาติ ¶ สกึ อาณาเปนฺตสฺส.
๙๕๑. ‘‘ขณาเปยฺยา’’ติ สามฺวจนสฺส อปวาททสฺสนตฺถํ ‘‘ขณ โปกฺขรณิ’’นฺติอาทิมาห. โกจิ โทโส น วิชฺชตีติ เอตฺถ โปกฺขรณิอาวาฏาทิสทฺทานํ ปถวิปริยายตฺตาภาวโต เอวํวจเนน อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย.
๙๕๒. ‘‘อิมํ อิธา’’ติอาทีนํ ปทานํ ปจฺจกฺขภูตาธิปฺเปตภูมิวาจกตฺตา เตหิ โยเชตฺวา วุตฺตสฺส ตสฺเสว ปโยคสฺส อาปตฺติกรภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ.
๙๕๓. กนฺทนฺติ ¶ ตาลาทิกนฺทํ. กุรุนฺทนฺติ กุลโจจรุกฺขํ. ถูณนฺติ ถมฺภํ. ขาณุกนฺติ สาขาวิฏปรหิตํ รุกฺขาวยวํ. มูลนฺติ ปถวิยา สุปฺปติฏฺิตภาวกรํ รุกฺขาวยวํ. วฏฺฏตีติ อนิยเมตฺวา วจเนน อนาปตฺติภาวโต วฏฺฏติ.
๙๕๔. อิมนฺติ ปจฺจกฺขปรามาสปเทน นิยเมตฺวา วจนโต อาปตฺติ โหตีติ อาห ‘‘นิยเมตฺวาน วตฺตุํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ.
๙๕๕. ฆเฏหิ อุสฺสิฺจิตุนฺติ ฆเฏหิ คเหตฺวา อวสิฺจิตุํ. ตนุกทฺทโมติ ชมฺพาโล. พหลํ กทฺทมํ ภิกฺขุนา อปเนตุํ น จ วฏฺฏตีติ โยเชตพฺพํ.
๙๕๖. นทิยาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน คงฺคากนฺทราทีนํ คหณํ. ‘‘ตฏ’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. วฏฺนฺติ วุฏฺีหิ โอวฏฺฺจ. จาตุมาสนฺติ วิโกปนกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, จาตุมาสพฺภนฺตเร วิโกเปตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
๙๕๗. สเจ โตยสฺมึ ปตติ ตฏนฺติ โยชนา, สเจ กูลํ ภิชฺชิตฺวา อนฺโตอุทเก ปตตีติ. เทเว วุฏฺเปีติ ¶ ปชฺชุนฺนเทเว วุฏฺเปิ. วุฏฺ-สทฺโท กตฺตุสาธโน. จาตุมาสมติกฺกนฺเตปีติ โยชนา. ตตฺถ เหตุทสฺสนตฺถมาห ‘‘โตเย เทโว หิ วสฺสตี’’ติ.
๙๕๘. โสณฺฑินฺติ ปาสาณโปกฺขรณึ. ตตฺถ ตูติ อุทกรหิเต ตสฺมึ โสณฺฑิอาวาเฏ.
๙๕๙. อนฺโตจาตุมาสํ โสเธตุํ ภินฺทิตุนฺติ โยชนา. ‘‘โสเธตุํ ภินฺทิตุํ วิโกเปตุ’’นฺติ กิริยาปเทหิ ‘‘รช’’นฺติ กมฺมปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตํ รโชราสึ เทเว วุฏฺเ ปจฺฉา อุทกสฺส ฉินฺนตฺตา พหลภูมิสุกฺขมฺปิ วุฏฺิปาตทิวสโต ปฏฺาย อนฺโตจาตุมาเส โกเปตุํ ภินฺทิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
๙๖๐. ปุณฺเณ โสณฺฑิมฺหิ ตํ รชํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ จาตุมาสโต อุทฺธนฺติ โยชนา.
๙๖๑. ‘‘ผุสายนฺเต’’ติ เอเตน ‘‘เทโว’’ติ อิทํ ภุมฺมวเสน วิปริณาเมตฺวา ‘‘เทเว ผุสายนฺเต’’ติ ¶ โยเชตพฺพํ, ปชฺชุนฺนเทเว วุฏฺิปาตํ กโรนฺเตติ อตฺโถ. ปิฏฺิปาสาณเกติ ปาสาณปิฏฺเ. ตมฺปีติ ตถา ปาสาณปิฏฺเ ลคฺคํ ตมฺปิ รชํ.
๙๖๒. อกตปพฺภาโร นาม ยถา เหฏฺาภาโค วุฏฺิผุสิเตหิ น เตมียติ, ตถา นมิตฺวา ิตปพฺพตปฺปเทโส. อิทํ อโนวสฺสกฏฺาเน อุฏฺิตวมฺมิกานํ อุปลกฺขณํ.
๙๖๓. อพฺโภกาเส วุฏฺิโต วมฺมิโก สเจ โอวฏฺโ, กํ จาตุมาสํ วิโกเปตุํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. จาตุมาสนฺติ วิโกปนกิริยาย ¶ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. รุกฺเขติ จ ถมฺภปาสาณาทีนํ อุปลกฺขณํ. อุปจิกาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน กาฬกิปิลฺลิกาทีนํ คหณํ. โส นโยติ ‘‘โอวฏฺทิวสโต อุตฺตริ จาตุมาสพฺภนฺตเร โกเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ ยถาวุตฺโต นโย.
๙๖๔. มูสิกุกฺกิรํ นาม มูสิกาหิ อุทฺธฏปํสุ. มูสิกานํ อุกฺกิโร มูสิกุกฺกิโรติ วิคฺคโห. โคกณฺฏกํ นาม คุนฺนํ ขุรานํ อุฏฺิตมตฺติกา. คณฺฑุปฺปาทมลํ นาม ภูลตาย มลมตฺติกา. สมฺพนฺธํ ปน ปกติภูมึ อโกเปนฺเตน มตฺถกโต คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.
๙๖๕. กสีติ กสิตฏฺานํ, ตตฺถ นงฺคเลน อุทฺธฏมตฺติกา กสินงฺคลมตฺติกา. ‘‘อจฺฉินฺนา’’ติอิมินา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กตฺวา อายตํ หุตฺวา ิตมตฺติกาปฏลมฺปิ อชาตปถวี สิยาติ อาสงฺกานิวตฺตนตฺถมาห ‘‘ภูมิสมฺพนฺธา’’ติ. สาติ กสินงฺคลมตฺติกา.
๙๖๖. เสนาสนนฺติ เอตฺถ ‘‘ปุราณ’’นฺติ ปาเสโส คเหตพฺโพ. โอวฏฺํ จาตุมาสโต อุทฺธํ น วิโกปเยติ โยชนา.
๙๖๗. ตโตติ โอวฏฺทิวสโต ปฏฺาย จาตุมาสาติกฺกนฺตเคหโต. ‘‘โคปานสิ’’นฺติ อิมินา โคปานสิมตฺถเก ิตอุปจิกาปํสุมฺหิ ภิชฺชนฺเตปิ อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. ‘‘ภิตฺติ’’นฺติ อิมินา ตเทกเทสํ ภิตฺติปาทาทิทารุมาห. อิทมฺปิ ภิตฺติมตฺติกํ อุปจิกามตฺติกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ถมฺภ’’นฺติ อิทมฺปิ ตํสมฺพนฺธปาการภูมิมตฺติกาอุปจิกาทิปํสุํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปทรตฺถรนฺติ อตฺถตปทรํ. อิทมฺปิ ปทรานํ อุปริ มตฺติกาอุปจิกาปํสุํ ¶ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘โคปานสิ’’นฺติอาทีหิ ¶ ปเทหิ ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ ปจฺเจกํ โยชนียํ. ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ อิมินา วิโกปนาธิปฺปายาภาวํ ทีเปติ.
๙๖๘. คณฺหนฺตสฺสาติ เอตฺถ อนาทเร สามิวจนํ, ‘‘สุทฺธจิตฺเตนา’’ติ ปาเสโส. อิฏฺกาติ ฉทนิฏฺกา. อาทิ-สทฺเทน ปาสาณสมุทฺทเผณาทีนํ คหณํ. ปตตีติ สุทฺธจิตฺเตน คณฺหนฺเต สเจ มตฺติกา ฉิชฺชิตฺวา ปตติ, อนาปตฺตีติ อตฺโถ. มตฺติกนฺติ ภิตฺติยํ, ฉทเน จ จาตุมาสาธิโกวฏฺมตฺติกํ, อโนวฏฺํ เจ, คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ยา ยา อตินฺตา, ตํ ตํ คณฺหาติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖). ยทิ คณฺหติ, อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.
๙๖๙. อตินฺโตติ วสฺโสทเกน อตินฺโต, อิมินา วินิจฺฉิตพฺพวตฺถุํ ทสฺเสติ. ตสฺส อนฺโตเคเห จ พหิ จ สมฺภวโต อนฺโตเคเห ิตสฺส ตาว วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนฺโตเคเห สเจ สิยา’’ติ. วสฺโสทเกน ตินฺตาตินฺเตสุ ทฺวีสุ มตฺติกาปฺุเชสุ อตินฺตํ ตาว ทสฺเสตุมาห ‘‘อโนวฏฺโ จา’’ติ.
๙๗๐. วสฺโสทเกน ตินฺเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วุฏฺเ ปุน จา’’ติอาทิ. ‘‘วุฏฺเ’’ติ อิมินา ‘‘มตฺติกาปฺุโช’’ติ ปทํ ภุมฺมวเสน วิปริณาเมตฺวา วุฏฺเ มตฺติกาปฺุเชติ โยเชตพฺพํ, ‘‘เอกทิวสมฺปี’’ติ เสโส, เคหสฺมินฺติ เอตฺถ ‘‘ิเต’’ติ วตฺตพฺพํ, เคหสฺมึ ิเต มตฺติกาปฺุเช วสฺโสทเกน เอกทิวสมฺปิ ตินฺเตติ วุตฺตํ โหติ. วกฺขมานนเยน อฺตฺถ ปหริตฺวา อุฏฺิเตน เตน อเตมิตฺวา อุชุกํ ปติเตหิ วสฺสผุสิเตหิ ตินฺเตติ คเหตพฺพํ. สเจ สพฺโพ ตินฺโต โหตีติ โยชนา. ‘‘มตฺติกาปฺุโช’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.
๙๗๑. ‘‘สพฺโพ’’ติ ¶ อิมินา วิเสสเนน พฺยวจฺฉินฺนํ เอกเทสตินฺเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยตฺตก’’นฺติอาทิ. ตุ-สทฺโท อิมเมว วิเสสํ โชเตติ. ยตฺตกนฺติ เหฏฺา อโนตริตฺวา มตฺถกโต, ปริยนฺตกโต จ ยตฺตกปฺปมาณํ. ตตฺถาติ มตฺติกาปฺุเช. ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ เอตสฺส ‘‘จาตุมาสจฺจเยนา’’ติ อนุวตฺตติ. ‘‘อตินฺตํ…เป… กปฺปิย’’นฺติ อิมินา อกปฺปิยฏฺานํ ปริหริตฺวา วา กปฺปิยการเกหิ กปฺปิยวจเนน หราเปตฺวา วา อตินฺตํ านํ ¶ ยถากามํ วฬฺเชตพฺพนฺติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กปฺปิยการเกหี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖).
๙๗๒. วารินาติ อุชุกํ อากาสโต ปติตวสฺโสทเกน. อฺตฺถ ปหริตฺวา ตตฺถ ปติตฺวา เตมิเต วฏฺฏติ. โส มตฺติกาปฺุโช. ตโต ปรนฺติ เอกาพทฺธกาลโต อุตฺตรึ โส มตฺติกาปฺุโช วารินา เตมิโต ภูมิยา เอกาพทฺโธ เจ โหติ, ตโต ปรํ สา ชาตา ปถวี เอว, โกเปตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๙๗๓. ‘‘โอวฏฺโ’’ติ อิมินา อโนวฏฺปากาโร กปฺปิโยติ พฺยติเรกวเสน ทสฺเสติ. ‘‘มตฺติกามโย’’ติ วิเสสเนน อิฏฺกปาการาทึ พฺยวจฺฉินฺทติ. ตสฺส ปน กปฺปิยภาวํ วกฺขติ ‘‘สเจ อิฏฺกปากาโร’’ติอาทินา. ‘‘จาตุมาสจฺจเย’’ติ อิมินา ตโต อนฺโต วิโกปนียภาวํ ทสฺเสติ.
๙๗๔. ตตฺถาติ โอวฏฺเ มตฺติกปากาเร. อฆํสนฺโตวาติ ปาการมตฺติกํ อโกเปนฺโต. มตฺตโส ฉุปิตฺวาติ ปมาณโต มุทุกํ กตฺวา หตฺถตลํ เปตฺวา. อลฺลหตฺเถนาติ อุทกตินฺเตน หตฺถตเลน. หตฺเถกเทโส หตฺโถ นาม.
๙๗๕. เยภุยฺยกถเล ¶ าเนติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ยสฺสา ตีสุ ภาเคสุ ทฺเว ภาคา กถลา โหนฺติ, ตาทิเส กปฺปิยปถวิฏฺาเน.
๙๗๖. อพฺโภกาเสติ อุปลกฺขณตฺตา อนฺโตเคเหปิ ถมฺภํ จาเลตฺวา ชาตปถวึ วิโกเปตุํ น วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ. ทฺวีสุปิ าเนสุ สุทฺธจิตฺเตน นิทฺโทสภาวํ ยถาวุตฺเตน ‘‘ถมฺภํ วา ปทรตฺถรํ. คณฺหิสฺสามี’ติ สฺาย, คเหตุํ ปน วฏฺฏตี’’ติ อิมินา นเยนาห. ปถวินฺติ อกปฺปิยปถวึ.
๙๗๗. อุชุมุทฺธรโต น โทโสติ โยชนา.
๙๗๘. อุจฺจาเลตฺวาติ อุกฺขิปิตฺวา จาเลตฺวา ปริวตฺเตตฺวา. ปวฏฺฏตีติ ปวฏฺเฏตฺวา ปวฏฺเฏตฺวา เนตีติ ¶ อตฺโถ. สุทฺธจิตฺตสฺสาติ ‘‘ภูมิ ภิชฺชตี’’ติ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘‘ปาสาณํ ปวฏฺเฏตฺวา ปวฏฺเฏตฺวา หริสฺสามี’’ติ สุทฺธจิตฺตวโต.
๙๗๙. ภูมิยํ ทารูนิ ผาเลนฺตานมฺปิ ภูมิยํ สาขาทีนิ กฑฺฒโต จาติ โยชนา.
๙๘๐. กณฺฏกนฺติ รุกฺขกณฺฏกํ, มจฺฉกณฺฏกฺจ. สูจิ นาม อโยมยทนฺตมยตมฺพมยกฏฺมยาทิสูจีนํ อฺตรา. อฏฺึ วาติ โคมหึสาทีนํ อฏฺึ วา. หีรํ วาติ นาฬิเกราทิหีรํ วา. อาโกเฏตุนฺติ ยถา เอกโกฏิ ภูมึ ปวิสติ, ตถา ตาเฬตุํ. ปเวเสตุนฺติ ภูมึ คมยิตุํ.
๙๘๑. ปสฺสาวํ มุตฺตํ. เมทนินฺติ เอตฺถ อกปฺปิยปถวิมาห. ภินฺทิสฺสามีติ เอตฺถ ‘‘เอวํ จินฺเตตฺวา’’ติ เสโส.
๙๘๒. กโรนฺตสฺสาติ สุทฺธจิตฺเตน ปสฺสาวํ กโรนฺตสฺสาติโยเชตพฺพํ. ‘‘สมฺมชฺชโต’’ติ อิทํ ‘‘สมฺมชฺชนฺเตนา’’ติ คเหตพฺพํ ¶ , ‘‘สมฺมชฺชนิยา’’ติ เสโส, อนนฺตรํ เมทนีปทํ อุปโยควเสน ‘‘เมทนิ’’นฺติ คเหตพฺพํ, ‘‘วิสม’’นฺติ เสโส, ‘‘สมํ กาตุ’’นฺติ อิมินา โยเชตพฺพํ, สมฺมชฺชนฺเตน อุจฺจฏฺานํ มทฺทิตฺวา, อาวาฏฏฺานํ ปเวเสตฺวา สมํ กาตุํ สมฺมชฺชนิยา ฆํเสตุํ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วิสมํ ภูมึ สมํ กริสฺสามีติ สมฺมชฺชนิยา ฆํสิตุมฺปิ น วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖).
๙๘๓. ปาทงฺคุฏฺเน วาติ เอตฺถ สมุจฺจยตฺเถน วา-สทฺเทน อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘กตฺตรยฏฺิยา ภูมึ โกฏฺเฏนฺตี’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. ลิขิตุมฺปีติ ราชึ กาตุมฺปิ ภูมึ ภินฺทนฺเตนาติ โยชนา. ปาเทหีติ ปาทตเลหิ.
๙๘๕. ภูมินฺติ อกปฺปิยภูมึ. ทหติ ทหาเปตีติ เอตฺถ ‘‘โย’’ติ จ ‘‘ตสฺสา’’ติ จ สมฺพนฺธวเสน ลพฺภติ. ปตฺตํ ทหนฺตสฺสาติ ฉวิยา ถิรภาวตฺถํ ธูมํ คาหาเปตฺวา ติณุกฺกาทีหิ ปตฺตํ คณฺหนฺตสฺส.
๙๘๖. ตตฺตกาเนวาติ ¶ านปฺปมาณาเนว. อิธาปิ ‘‘โย’’ติ จ ‘‘ตสฺสา’’ติ จ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
๙๘๗. ภูมิยนฺติ อกปฺปิยภูมิยํ. ปตฺตํ ปจียติ เอตฺถาติ ปตฺตปจนํ, กปาลํ, ตสฺมึ กปาเล.
๙๘๘. โส อคฺคิ ตานิ ทารูนิ ทหนฺโต คนฺตฺวา เจ เอกํเสน ภูมึ ทหติ, ตสฺมา ทารูนํ อุปริ อคฺคึ เปตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๙๘๙. อิฏฺกา อาวปียนฺติ ปจฺจนฺติ เอตฺถาติ อิฏฺกาวาโป, โส เอว อิฏฺกาวาปโก, อิฏฺกาปจนฏฺานํ. อาทิ-สทฺเทน กุมฺภการาวาปาทึ สงฺคณฺหาติ.
๙๙๐. อุปาทียตีติ ¶ อุปาทานํ, อินฺธนํ, น อุปาทานํ อนุปาทานํ, อินฺธนโต อฺํ, ตโต อนุปาทานโตติ อตฺโถ. ขาณุเกติ มตขาณุเก จ สุกฺขรุกฺเข จ ภูมิคตํ อทตฺวา ‘‘นิพฺพาเปสฺสามี’’ติ อคฺคิทานํ วฏฺฏติ. ปจฺฉา อุสฺสาเห กเตปิ น นิพฺพายติ, น โทโสติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน ภูมึ อปฺปตฺตเมวา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๗).
๙๙๑. ติณุกฺกนฺติ ติเณน พทฺธอุกฺกํ. ติณุกฺกนฺติ อุปลกฺขณํ. นาฬิเกรปณฺณาทีหิ พทฺธาปิ สงฺคยฺหนฺติ.
๙๙๒. ตสฺส อคฺคิสฺส ปติตฏฺาเน อินฺธนํ ทตฺวา ปุน ตํ อคฺคึ กาตุํ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ รุตํ กถิตนฺติ โยชนา.
๙๙๓. ‘‘ตสฺส อปถวิย’’นฺติ ปทจฺเฉโท. วิมติสฺสุภยตฺถาปีติ ปถวิอปถวิทฺวเยปิ เวมติกสฺส. ตตฺถ ชาตา ปถวี, อิตรา อปถวี.
๙๙๔. อิมนฺติ ¶ อาวาฏํ, มตฺติกํ, ปํสุํ วา.
ปถวีขณนกถาวณฺณนา.
มุสาวาทวคฺโค ปโม.
๙๙๕. ภวนฺตสฺสาติ ชายนฺตสฺส, วฑฺฒมานสฺส จ. ภูตสฺสาติ ชาตสฺส, วฑฺฒิตสฺส จาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภวนฺติ อหุวฺุจาติ ภูตา, ชายนฺติ วฑฺฒนฺติ, ชาตา วฑฺฒิตา จา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๐). เอตฺถ จ ‘‘ภวนฺตี’’ติ อิมินา วิรุฬฺหมูเล นีลภาวํ อาปชฺชิตฺวา วฑฺฒมานเก ตรุณคจฺเฉ ทสฺเสติ. ‘‘อหุวุ’’นฺติ อิมินา ปน วฑฺฒิตฺวา ิเต มหนฺเต รุกฺขคจฺฉาทิเก ¶ ทสฺเสติ. ‘‘ภวนฺตี’’ติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ชยนฺติ วฑฺฒนฺตี’’ติ, ‘‘อหุวุ’’นฺติ อิมสฺส ‘‘ชาตา วฑฺฒิตา’’ติ. เอวํ ภูต-สทฺโท ปจฺจุปฺปนฺนาตีตวิสโยติ ทสฺเสติ. ‘‘ภวนฺตสฺส ภูตสฺสา’’ติ อิมินา ปททฺวเยน ‘‘ภูตคามสฺสา’’ติ ปทสฺส ตุลฺยาธิกรณตาทสฺสเนน คาม-สทฺทสฺส ทิฏฺิคตวนนฺตาทิสทฺทานํ ทิฏฺิวนาทิสทฺทตฺเถ วิย ภูตสทฺทตฺเถ วุตฺติปกฺขมาห. ยถาห อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๐) ‘‘ภูตา เอว วา คาโม ภูตคาโม, ปติฏฺิตหริตติณรุกฺขาทีนเมตํ อธิวจน’’นฺติ. ภูตานํ เทวตานํ คาโม นิวาโสติ วา ภูตคาโม. ภูมิยํ ปติฏฺหิตฺวา หิ หริตภาวมาปนฺนา ติณรุกฺขคจฺฉาทโย เทวตาหิ ปริคยฺหนฺตีติ. ชายนฺตสฺส วฑฺฒนฺตสฺส วา สมฺปตฺตวุทฺธิมริยาทสฺส วา รุกฺขาทิโนติ อตฺโถ.
ปาตพฺยตานิมิตฺตนฺติ เอตฺถ ปาตพฺยภาโว ปาตพฺยตา, ‘‘เฉทนเภทนาทีหิ ยถารุจิ ปริภฺุชิตพฺพตาติ อตฺโถ’’ติ อฏฺกถาวจนโต ปาตพฺยตา-สทฺทสฺส ปริภฺุชิตพฺพตาติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ, สา นิมิตฺตํ เหตุ ยสฺส ปาจิตฺติยสฺส ตํ ปาตพฺยตานิมิตฺตํ. รุกฺขาทีนํ เฉทนผาลนาทิวเสน วิโกปนียตาสงฺขาตปาตพฺยตานิมิตฺตํ ปริภฺุชิตพฺพตาเหตุ ปาจิตฺติยํ อุทีริตํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
๙๙๖-๗. โสติ ภูตคาโม. ติลพีชาทิโกติ ติลพีชเมตฺถ สุขุมปณฺณเสวาลาทิโก. อาทิ-สทฺเทน จ ตาทิสา อิตรา เสวาลชาติ คหิตา. ‘‘อุปริ ขุทฺทานุขุทฺทกปณฺณงฺกุโร, เหฏฺา ขุทฺทานุขุทฺทกมูลงฺกุโร เสวาโล ติลพีชํ นามา’’ติ คณฺิปเท วุตฺตนฺติ. วิโกเปนฺตสฺส ตํ สพฺพนฺติ ภูมิยํ ปติฏฺาย อุทเก ชายมานกเสวาลาทึ ภูมิยา อุปฺปาฏนจฺเฉทนวเสน ชเล เอว ปติฏฺิตํ ¶ สุขุมปณฺณนีลิกาทึ อุทกโต อุทฺธรณจฺเฉทนวเสน ตํ สพฺพํ เสวาลํ วิโกเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
๙๙๘. หตฺเถน ¶ วิยูหิตฺวาติ ชลโต อโมเจตฺวา หตฺเถน ทูรโต อปเนตฺวา. ‘‘โหตี’’ติอาทิ ตสฺส เหตุสนฺทสฺสนตฺถํ. สกลํ อนวเสสํ สพฺพํ ชลํ ตสฺส ยสฺมา านํ โหติ, ตสฺมาติ อตฺโถ.
๙๙๙. เจจฺจาติ ชานนฺโต. ตํ เสวาลชาติกํ ชลา อุทฺธริตุํ อุทเกน วินา ภิกฺขุสฺส น วฏฺฏตีติ โยชนา. านสงฺกมนฺหิ ตนฺติ เหตุทสฺสนํ. ตํ ตถากรณํ ยสฺมา านสงฺกมนํ านโต จาวนํ, ตสฺมา ตํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๑๐๐๐. ยถาวุตฺตสฺส พฺยติเรกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุทเกนา’’ติอาทิ. ตตฺถ อุทเกนาติ สหตฺเถ กรณวจนํ. ตํ เสวาลชาติกํ. วาริสูติ เอตฺถ วาสํ วารยนฺตีติ วารี, เตสุ.
๑๐๐๑. ชเล วลฺลิติณาทีนีติ ชลมตฺถเก วลฺลิฺจ ชายมานกรวลฺลิติณาทีนิ จ. อุทฺธรนฺตสฺสาติ ภูมิยํ ปติฏฺิตํ ภูมิโต, อุทเก ปติฏฺิตํ อุทกโต จ อุทฺธรนฺตสฺส. ตตฺถ อนฺตปกฺขํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โตยโต’’ติ. วิโกเปนฺตสฺสาติ ขณฺฑนาทิวเสน โกเปนฺตสฺส. ตตฺถาติ ตสฺมึ อุทเก, เอว-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ ‘‘ตตฺเถวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒) อฏฺกถาวจนโต.
๑๐๐๒. เอตฺถาติ อุทเก เอว. วิโกเปนฺตสฺสาติ กปฺปิยํ อการาเปตฺวา เฉทนาทึ กโรนฺตสฺส. ตานีติ ตถา ปเรหิ อุปฺปาฏิตตฺตา ภูตคามภาวโต มุตฺตานิ วลฺลิติณาทีนิ. พีชคาเมนาติ มูลพีชคามาทิวเสน.
๑๐๐๓. เอวํ ¶ อุทกฏฺเ สงฺเขปโต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อิตรตฺราปิ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ถลฏฺเ’’ติอาทิ. หริตขาณุโกติ เอตฺถ ‘‘โย’’ติ เสโส. ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ, กกุธกรฺชาทีนํ ฉินฺนาวสิฏฺขาณุโกติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ภูตคาเมน สงฺคโห’’ติ อิมินา ตํวิโกปเน ปาจิตฺติยภาวํ ทีเปติ. เอวมุปริปิ.
๑๐๐๔. นาฬิเกราทิกานํ ¶ ขาณูติ เอตฺถาปิ ‘‘อุปริหริโต’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ‘‘พีชคาเมน สงฺคโห’’ติ อิมินา ทุกฺกฏวตฺถุตมาห. เอวมุปริปิ. กิฺจาปิ หิ ตาลนาฬิเกราทีนํ ขาณุ อุทฺธํ อวฑฺฒนโก ภูตคามสฺส การณํ น โหติ, ตถาปิ ภูตคามสงฺขาตนิพฺพตฺตปณฺณมูลพีชโต สมฺภูตตฺตา ภูตคามโต อุปฺปนฺโน นาม โหตีติ พีชคาเมน สงฺคหํ คจฺฉติ.
๑๐๐๕. ตถาปกาสิโตติ ‘‘พีชคาโม’’ติ วุตฺโต.
๑๐๐๖. ผลิตา กทลี ยาว นีลปณฺณา, ตาว สา จ ภูตคาโมติ ปกาสิตาติ โยชนา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กทลี ปน ผลิตา ยาว นีลปณฺณา, ตาว ภูตคาเมเนว สงฺคหิตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒). นฬนฺติ ขุทฺทกเวฬุ. เวฬูติ มหาเวฬุ. ติณาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สสฺสาทโย คหิตา.
๑๐๐๗. โย อยํ ปน เวฬุ อคฺคโต ปฏฺาย ยทา สุสฺสติ, ตทา โส พีชคาเมน สงฺคหิโต นาม โหตีติ โยชนา. พีชคาเมนาติ ผฬุพีชคาเมน. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กตรพีชคาเมน? ผฬุพีชคาเมนา’’ติ.
๑๐๐๘. อินฺทสาโล ¶ สลฺลกี. อาทิ-สทฺเทน โสภฺชนาทีนํ สงฺคโห. ตุ-สทฺเทน อฏฺกถายํ ‘‘กิฺจาปิ ราสิกตทณฺฑเกหิ รตนปฺปมาณาปิ สาขา นิกฺขมนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒) วุตฺตวิเสสํ โชเตติ. ฉินฺทิตฺวา ปิตทณฺฑเกสุ รตนมตฺตาสุปิ สาขาสุ อุฏฺิตาสุ ภูตคามํ อหุตฺวา พีชคามเมว โหติ อวิรุฬฺหมูลกตฺตาติ อยํ วินิจฺฉโย วินยฺุนา าโต กุกฺกุจฺจกานมุปการาย โหตีติ อาห ‘‘วิฺเยฺโย วินยฺุนา’’ติ. อิมเมวตฺถํ ‘‘มูลมตฺเตปิ วา’’ติอาทินา วกฺขติ.
๑๐๐๙. มณฺฑปาทีนมตฺถายาติ มณฺฑปวติปาการาทีนมตฺถาย. สเจ เต นิกฺขณนฺตีติ ยทิ เต อินฺทสาลาทิทณฺฑเก ภูมิยํ นิขณนฺติ. นิคฺคเต มูลปณฺณสฺมินฺติ ตถา นิขาตทณฺฑโต มูเล จ ปณฺเณ จ ชาเต. ภูตคาเมน สงฺคโหติ เอตฺถ ‘‘เตส’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, ‘‘วิฺเยฺโย’’ติ อธิกาโร.
๑๐๑๐. นิคฺคเตปีติ ¶ ตติเยน ปิ-สทฺเทน อติขุทฺทกตํ สูเจติ.
๑๐๑๑. สกนฺทา ตาลฏฺีติ สกนฺทตาลพีชํ. ปตฺตวฏฺฏีติ สูจิสณฺานา องฺกุรปตฺตวฏฺฏิ. น จ พีชคาโมติ วุจฺจตีติ โยชนา. ‘‘ภูตคาโม’’ติ อิทํ ยถาวุตฺตสฺส พฺยติเรกวเสน ทสฺเสติ.
๑๐๑๒. นาฬิเกรตจนฺติ นาฬิเกรผลฉลฺลึ. ทนฺตสูจีวาติ ทนฺตมยสูจิ อิว. โสปีติ นาฬิเกโรปิ. รุกฺขตจสทฺทานํ ผเลสุ วตฺตมานกาเลสุปิ ตํลิงฺคตา น วิรุชฺฌตีติ ‘‘โส’’ติ อาหาติ วิฺายติ.
๑๐๑๓. มิคสิงฺคสมานายาติ ¶ หริตวิสาณสทิสาย. ปตฺตวฏฺฏิยาติ องฺกุรปตฺตวฏฺฏิยา. สติยาติ วิชฺชมานาย. ภูตคาโมติ วุจฺจตีติ อมูลกภูตคาโมติ วุจฺจติ. อิทํ นาฬิเกรสฺส อาเวณิกํ กตฺวา วุตฺตํ.
จตุภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐๑๕-๖. อมฺพฏฺีติ อมฺพพีชํ. ชมฺพุฏฺีติ ชมฺพุพีชํ. อาทิ-สทฺเทน มธุกปนสาทิพีชานํ คหณํ. วนฺทากาติ รุกฺขาทนี. อฺํ วาติ ภณฺฑกทลิมโนรหํ วา. อสฺสาติ วนฺทากาทิโน. อมูลวลฺลีติ เอวํนามิกา วลฺลิ.
๑๐๑๘. ฆํสิตฺวาติ เยน เกนจิ ฆํสิตฺวา. ตํ เสวาลํ. ตสฺมาติ ตสฺมา ปาการา.
๑๐๑๙. เสวาเล อปนีเต. อนฺโตติ ปานียฆฏาทีนํ อนฺโตกุจฺฉิมฺหิ. กณฺณกํ อพฺโพหารนฺติ โยชนา. ปานียฆฏาทีนํ พหิ เสวาโล อุทเก อฏฺิตตฺตา, พีชคามานุโลมตฺตา จ ทุกฺกฏวตฺถูติ วทนฺติ. กณฺณกํ นีลวณฺณมฺปิ อพฺโพหาริกเมว.
๑๐๒๐. ปาสาณททฺทูติ ¶ มนุสฺสสรีเร โรคากาเรน ปาสาเณ ชายมานสฺเสตํ อธิวจนํ. เสวาลนฺติ ปาสาณเสวาลํ. เสเลยฺยกา นาม สิลาย สมฺภูตา เอกา สุคนฺธชาติ. อปตฺตานีติ ปณฺณรหิตานิ.
๑๐๒๑. ปุปฺผิตนฺติ วิกสิตํ. ตํ อหิจฺฉตฺตํ. มกุลนฺติ อวิกสิตํ.
๑๐๒๒. อลฺลสฺมึ ¶ รุกฺเข ตจํ วิโกเปตฺวา ยถา คเหตุํ น วฏฺฏติ, ตถา ปปฺปฏิกมฺปิ นิยฺยาสมฺปิ วิโกเปตฺวา คเหตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา, ปาจิตฺติยเมวาติ อธิปฺปาโย. ปปฺปฏิกมฺปีติ อลฺลตจมตฺถเก สุกฺขตจปฏลมฺปิ. ‘‘อลฺลสฺมิ’’นฺติ อิมินา พฺยติเรเกน มตรุกฺเข โทสาภาวํ ทีเปติ. ‘‘ตจํ วิโกเปตฺวา’’ติ วจนโต รุกฺขตจมฺปิ ปปฺปฏิกมฺปิ สาลกปิตฺถาทินิยฺยาสมฺปิ รุกฺเข อลฺลตจํ อวิโกเปตฺวา มตฺถกโต ฉินฺทิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ.
๑๐๒๓. อกฺขรจฺฉินฺทนารเหสุ นุหิกทลิอาทีสุ รุกฺเขสุ, ตตฺถชาเตสุ ตาลปณฺณาทิเกสุ วา อกฺขรํ ลิขโต ปาจิตฺติยมุทีรเยติ โยชนา. ‘‘ตตฺถชาเตสู’’ติ อิมินา รุกฺขโต อปนีตปณฺเณสุ ลิขิตุํ วฏฺฏตีติ พฺยติเรกโต ทีเปติ.
๑๐๒๔. ‘‘ปกฺกเมว วา’’ติ วิสุํ วจนโต ‘‘ผลํ วา’’ติ อิมินา อปกฺกํ ผลํ คหิตํ.
๑๐๒๕. ผลินึสาขนฺติ ขาทนารหผลวตึ ชมฺพุสาขาทิกํ สาขํ. คณฺหโต อนุปสมฺปนฺนสฺสาติ คเหตพฺพํ. สยํ ขาทิตุกาโม เจติ ตถา โอนมิตฺวา สาขโต โอจินิตฺวา ทินฺนผลํ สเจ สยํ ขาทิตุกาโม โหติ. เอวํ ทาตุนฺติ ยถาวุตฺตปฺปการํ นาเมตฺวา ทาตุํ.
๑๐๒๖. ปรํ กฺจิ อุกฺขิปิตฺวาติ อฺํ กฺจิ อนุปสมฺปนฺนํ อุกฺขิปิตฺวา. ปุปฺผานิ โอจินนฺเตสูติ กุสุมานิ ลุนนฺเตสุ. อยเมว วินิจฺฉโยติ สามฺนิทฺเทเสปิ เอตฺถ อตฺตโน นาเมตฺวา ทินฺนสาขาย ปุปฺผานิ ปานียวาสตฺถาย น คเหตพฺพานิ. อนุปสมฺปนฺนํ อุกฺขิปิตฺวา ปุปฺผานิ โอจินาเปตฺวา คหิตปุปฺผานิ คเหตพฺพานีติ อยเมตฺถ วิเสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เตหิ ¶ ปน ปุปฺเผหิ ปานียํ น วาเสตพฺพํ. ปานียวาสตฺถิเกน ¶ สามเณรํ อุกฺขิปิตฺวา โอจินาเปตพฺพานี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒).
๑๐๒๗. ‘‘สาขา’’ติ ภินฺทิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา โมจิตา วุจฺจติ. สาขีนนฺติ รุกฺขานํ. ตนฺติ ยถาวุตฺตรุกฺขโต โมจิตสาขํ. เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหติ, เตสํ สาขีนํ ตํ สาขํ กปฺปิยํ อการาเปตฺวา วิโกเปนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ‘‘เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหตี’’ติ วุตฺตตฺตา เยสํ สาขา น รุหติ, เตสํ ตสฺสา กปฺปิยกรณกิจฺจํ นตฺถีติ วทนฺติ.
๑๐๒๘. อลฺลสิงฺคิเวราทิเกสุปีติ อาทิ-สทฺเทน วจลสุณาทีนํ คหณํ.
๑๐๒๙. อนิยามโต วฏฺฏเตวาติ โยชนา. นิยามสรูปํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมํ รุกฺข’’นฺติอาทิวกฺขมานตฺตา อนิยามโตติ สามฺนิทฺเทเส ‘‘อิม’’นฺติ นิยามวจนาภาวโตติ คเหตพฺพํ.
๑๐๓๒. อุจฺฉุขณฺฑานนฺติ ปูรณโยเค สามิวจนํ, อุจฺฉุขณฺเฑหีติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพเมวาติ ปจฺฉิยํ ิตํ สพฺพํ ขณฺฑํ. กตํ โหตีติ กตํ กปฺปิยํ โหติ. เอกสฺมึ กปฺปิเย กเตติ ปจฺฉิยํ สพฺพขณฺเฑสุ ผุสิตฺวา ิเตสุ เอกสฺมึ ขณฺเฑ กปฺปิเย กเต. ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภฺุชิตุํ อคฺคิปริชิตํ สตฺถปริชิตํ นขปริชิตํ อพีชํ นิพฺพฏฺฏพีชํเยว ปฺจม’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๐) อิติ วุตฺเตสุ อคฺคิสตฺถนเขสุ อฺตเรน ตตฺต อโยขณฺเฑน วา ชลิตคฺคินา วา สูจิมุเขน วา นขจฺเฉทเนน วา สตฺถกธาราย วา มนุสฺสสีหาทีนํ อุปฺปาฏิตานุปฺปาฏิตอปูตินเขน วา วิชฺฌิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา กปฺปิยํ กาตพฺพํ. กโรนฺเตน จ อนุปสมฺปนฺเนน ¶ ภิกฺขุนา ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ วุตฺเตเยว ‘‘กปฺปิย’’นฺติ ปมํ วตฺวา ปจฺฉา อคฺคิปริชิตาทิ กากพฺพนฺติ คเหตพฺพํ. วกฺขติ จ ‘‘กปฺปิยนฺติ…เป… วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วจนํ ปน ยาย กายจิ วาจาย วตฺตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ปมํ อคฺคึ นิกฺขิปิตฺวา นขาทีหิ วา วิชฺฌิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา กปฺปิยํ กาตพฺพํ. กโรนฺเตน จ ตํ อนุทฺธริตฺวาว ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวา ปจฺฉา อุทฺธริตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ, ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺตุกาโม ‘‘กปฺป’’นฺติ เจ วทติ, วฏฺฏตีติ เกจิ.
๑๐๓๓. ทารุนฺติ ¶ อุจฺฉูหิ สทฺธึ เอกโตพทฺธทารุํ. ทารุํ วิชฺฌตีติ เอตฺถ ชานิตฺวาปิ วิชฺฌติ วา วิชฺฌาเปติ วา, วฏฺฏติเยว. ‘‘เอกสิตฺเถปี’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
๑๐๓๔. ตานิ อุจฺฉุทารูนิ. ตนฺติ วลฺลึ, รชฺชุํ วา.
๑๐๓๕. มริจปกฺเกหีติ ปริณเตหิ มริจปกฺเกหิ. อปริณตานํ ปน อพีชตฺตา กปฺปิเย อกเตปิ วฏฺฏติ. อิทฺจ เสตลสุณตจลสุณาทีหิ มิสฺสภตฺตสฺส อุปลกฺขณํ. เอตฺถ จ ภตฺตสิตฺถสมฺพนฺธวเสน เอกาพทฺธตา เวทิตพฺพา, น ผลาทีนเมว อฺมฺสมฺพนฺธวเสน.
๑๐๓๖. ติลตณฺฑุลกาทิสูติ กปฺปิยํ กาตพฺพติเลหิ มิสฺสตณฺฑุลาทีสุ. อาทิ-สทฺเทน กปฺปิยํ กาตพฺพวตฺถูหิ มิสฺสิตานิ อิตรวตฺถูนิ คหิตานิ. เอกาพทฺเธ กปิตฺเถปีติ กฏาเหน พทฺธพีเช ปริณตกปิตฺถผเลปิ. กฏาเหติ พทฺธมิฺเช กปาเล.
๑๐๓๗. กฏาหํ มฺุจิตฺวาติ สุกฺขตฺตา สมนฺตโต กฏาหํ มฺุจิตฺวา. มิฺชกนฺติ ปริณตกปิตฺถผลมิฺชํ. ตํ กปิตฺถํ ภินฺทาเปตฺวาติ กปิตฺถกฏาหํ ภินฺทาเปตฺวา, อิทํ พีชโต มุตฺตสฺส กฏาหสฺส ภาชนคติกตฺตา วุตฺตํ.
๑๐๓๘. ‘‘อภูตคามอพีเชสู’’ติ ¶ ปทจฺเฉโท, อภูตคาเม จ อพีเช จาติ อตฺโถ. นนุ จ ‘‘อพีเช พีชสฺี, เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๙๒) ปาํ วินา ‘‘อภูตคาเม ภูตคามสฺี’’ติ ปาโ นตฺถีติ อภูตคามคฺคหณํ กสฺมา กตนฺติ? วุจฺจเต – ตสฺมึ ปาเ พีชํ ภูตคามฺจ พีชคามํ พีชฺจ พีชพีชนฺติ วตฺตพฺเพ เอกเสสนเยน ‘‘พีช’’นฺติ คเหตฺวา วินิจฺฉิตนฺติ อุภยํ วิภชิตฺวา ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ตสฺมึ อภูตคามอพีชคามทฺวเย. อิมิสฺสา คาถาย ‘‘อภูตคาเม ภูตคามสฺิโน ทุกฺกฏํ, เวมติกสฺส ทุกฺกฏํ, อพีชคาเม พีชคามสฺิโน ทุกฺกฏํ, เวมติกสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ จตฺตาริ ทุกฺกฏานิ ทสฺสิตานิ. ตตฺถ อภูตคามนฺติ พีชคามํ คเหตพฺพํ. อพีชคามนฺติ โน พีชํ.
๑๐๓๙. ตตฺถ ตสฺมึ ภูตคามพีชคามทฺวเย. ‘‘อตถาสฺิโน’’ติอาทีสุ ‘‘ภูตคามํ วิโกเปนฺตสฺสา’’ติ ¶ เสโส, อนาปตฺติ ปกาสิตาติ สมฺพนฺโธ, อภูตคามํ, อพีชนฺติ วา สฺิโน ภูตคามํ พีชมฺปิ วิโกเปนฺตสฺส อนาปตฺติ ปกาสิตาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘พีเช อพีชสฺี ฉินฺทติ วา…เป… อนาปตฺตี’’ติ.
อสฺจิจฺจ ภูตคามํ วิโกเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เอวมุปริปิ โยเชตพฺพํ. คจฺฉนฺตสฺส ปาเทสุ คเหตฺวา วา อาลมฺพณกตฺตรยฏฺิยา ฆํสิตฺวา วา ติณาทีสุ ฉิชฺเชสุปิ ‘‘อิมํ ฉินฺทิสฺสามี’’ติ อมนสิกตตฺตา อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อสติสฺสาติ อฺวิหิตสติสฺส วา อฺเน กถยโต วา ปาทงฺคุฏฺาทีหิ ติณาทีนิ ฉินฺทนฺตสฺส. จ-กาเรน อิธ อวุตฺตํ ‘‘อชานนฺตสฺสา’’ติ อิทํ สมุจฺจิตํ. ‘‘อิมํ ภูตคาม’’นฺติ วา ‘‘อิมสฺมึ อคฺคิมฺหิ ปติเต อิมํ ฑยฺหตี’’ติ วา ‘‘อิมินา อิทํ ภิชฺชติ ฉิชฺชตี’’ติอาทึ วา อชานนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
๑๐๔๐. อิทํ ¶ จาติ อิทํ ภูตคามสิกฺขาปทฺจ. ติสมุฏฺานนฺติ กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตวเสน ติสมุฏฺานํ. เฉทนาทิกิริยาย อาปชฺชนโต กฺริยํ. ติจิตฺตนฺติ ปณฺณตฺตึ อชานิตฺวา เจติยาทีสุ ติณคหนาทิกํ กโรนฺตสฺส อขีณาสวสฺส กุสลํ, ขีณาสวสฺส กิริยํ, ผลปุปฺผาทิโลเภน วิโกเปนฺตานํ เสขปุถุชฺชนานํ อกุสลนฺติ ติจิตฺตํ.
ภูตคามกถาวณฺณนา.
๑๐๔๑. อฺวาทวิเหสเก กมฺมสฺมึ สงฺเฆน กเตติ โยชนา, อฺวาทกวิเหสกาโรปนกมฺเม ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ปจฺเจกํ สงฺเฆน กเตติ อตฺโถ. ‘‘อฺํ วทตีติ อฺวาทกํ, อฺเนฺํ ปฏิจรณสฺเสตํ นามํ. วิเหเสตีติ วิเหสกํ, ตุณฺหีภูตสฺเสตํ นาม’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๘) วจนโต สงฺฆมชฺเฌ วตฺถุนา, อาปตฺติยา วา โจทนาย กตาย ตํ อวตฺตุกาโม หุตฺวา ‘‘โก อาปนฺโน, กึ อาปนฺโน, กิสฺมึ อาปนฺโน’’ติอาทินา (ปาจิ. ๙๔) ปทภาชนานุกฺกเมน ปุจฺฉิตํ เปตฺวา อฺสฺส อวจนํ อฺเนฺํ ปฏิจรณํ, ตํ กโรนฺโต อฺวาทโก. อิธ ปน ภาวปฺปธานวเสน กิริยา คหิตา.
ตเถว ¶ โจทิยมาโน หุตฺวา ปุจฺฉิตํ อวตฺตุกาโม หุตฺวา อาปตฺติภีรุกตาย อฺเนฺํ ปฏิจรณํ อกตฺวา สงฺฆํ วิเหเสตุํ ตุณฺหีภูโต วิเหสโก นาม. เอตฺถาปิ ภาวปฺปธานวเสน กิริยาว คเหตพฺพา. อิธ ปน ตพฺภาวาโรปนกมฺมํ วุจฺจตีติ สํเขโป. ปุน ตถา กโรนฺตสฺสาติ ปุนปิ เตเนว ปกาเรน อฺวาทกวิเหสกานิ วิสุํ วิสุํ กโรนฺตสฺส. ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตีติ ปทภาชเน ‘‘โรปิเต อฺวาทเก’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๐) นเยน จ ¶ ‘‘โรปิเต วิเหสเก’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๐) นเยน จ วิสุํ วิสุํ ปาจิตฺติยสฺส วุตฺตตฺตา เอเกกสฺมึ วตฺถุมฺหิ เอเกกาย อาปตฺติยา สมฺภวโต ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตีติ คเหตพฺพํ.
๑๐๔๒. ธมฺเมติ เอตฺถ ‘‘กมฺเม’’ติ เสโส. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี, เวมติโก, อธมฺมกมฺมสฺีติ ตีสุ วิกปฺเปสุ. อธมฺเมติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กมฺเม อโรปิเตติ อฺวาทกกมฺมาโรปเน อกเต. เอวํ วทนฺตสฺสาติ ‘‘โก อาปนฺโน’’ติอาทีนิ วทนฺตสฺส. วทนฺตสฺส จาติ เอตฺถ จกาเรน กมฺเม อโรปิเต เอวํ วิเหสนฺตสฺส จ ทุกฺกฏนฺติ สมุจฺจิโนติ. อิมสฺมึ ปกฺเข กมฺเม อโรปิเตติ วิเหสกกาลมาห.
๑๐๔๓. อาปนฺนนฺติ อตฺตนา อาปนฺนํ. ภณฺฑนํ ภวิสฺสตีติ สฺิสฺสาติ มยา อิมสฺมึ วุตฺเต สงฺฆสฺส ภณฺฑนกลหาทโย โหนฺตีติ สฺาย ตุณฺหี ภวนฺตสฺส. คิลานสฺสาติ วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยมุขโรคาทิยุตฺตสฺส.
๑๐๔๔. กฺริยากฺริยนฺติ อฺเนฺปฏิจรณํ กฺริยํ. ตุณฺหีภาโว อกฺริยํ.
อฺวาทกกถาวณฺณนา.
๑๐๔๕-๖. สมฺมตสฺสาติ ขนฺธกาคตเสนาสนปฺาปกสมฺมุติอาทีสุ เตรสสุ สมฺมุตีสุ เอกํ วา กติปยา วา สพฺพา วา ทาตุํ สงฺเฆน ตฺตึ เปตฺวา กมฺมวาจํ วตฺวา ทินฺนสมฺมุติกสฺส. ‘‘อุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน สมฺมต’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๖) วจนโต ภิกฺขุโนติ อุปสมฺปนฺนมาห, อยสํ กตฺตุกาโมติ สมฺพนฺโธ. วทนฺโตติ ‘‘ฉนฺเทน อิตฺถนฺนาโม เสนาสนํ ปฺาเปติ, ฉนฺเทน ภตฺตานิ อุทฺทิสตี’’ติอาทึ ภณนฺโต. ‘‘อุปสมฺปนฺเน’’ติ ¶ อิทํ ‘‘อุชฺฌาเปตี’’ติ กิริยมเปกฺขิตฺวา กมฺมนิ อุปโยคพหุวจนํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – อุชฺฌาเปติ อวฺาย ¶ โอโลกาเปติ, ลามกโต วา จินฺตาเปติ, ขียตีติ ‘‘ฉนฺเทน อิตฺถนฺนาโม เสนาสนํ ปฺเปตี’’ติอาทึ กเถนฺโต ปกาเสตีติ. อิมสฺมึ ปกฺเข ‘‘อุปสมฺปนฺนาน’’นฺติ วตฺตพฺเพ สามิอตฺเถ อุปโยควเสน ‘‘อุปสมฺปนฺเน’’ติ วุตฺตํ, อุปสมฺปนฺนานํ สนฺติเก ปกาเสตีติ อตฺโถ.
‘‘ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตี’’ติ อิทํ ‘‘อุชฺฌาปนเก ขิยฺยนเก ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๕) ทฺวินฺนํ วตฺถูนํ เอกโต วุตฺตตฺตา อิธาปิ เอกโต วุตฺตํ, วิสุํ วิสุํ ปน คเหตพฺพํ. ธมฺเมติ เอตฺถ ‘‘กมฺเม’’ติ เสโส, อุปสมฺปนฺนสฺส สมฺมตสฺส สงฺเฆน ทินฺนสมฺมุติกมฺมํ สเจ ธมฺมกมฺมํ โหตีติ อตฺโถ. อธมฺเมติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
๑๐๔๗-๘. ภิกฺขุโนติ สมฺมตสฺส ภิกฺขุโน. อสมฺมตสฺส ภิกฺขุสฺส อวณฺณํ ภาสโตติ โยชนา. ยสฺส กสฺสจีติ เอตฺถ ‘‘สนฺติเก’’ติ เสโส, อุปสมฺปนฺนสฺส จ อนุปสมฺปนฺนสฺส จ ยสฺส กสฺสจิ สนฺติเกติ อตฺโถ. อุปสมฺปนฺนกาเล สมฺมตํ ปจฺฉา สามเณรภาวํ อุปคตํ สนฺธาย ‘‘สมฺมตสฺส สามเณรสฺสา’’ติ วุตฺตํ. อวณฺณํ วทโตติ โยชนา.
๑๐๔๙. กโรนฺตํ สมฺมตํ. ภณโตติ อุชฺฌาปยโต, ขียโต. อตฺโถ ปน วุตฺตนโยว. อุชฺฌาปนขียนกิริยาหิ อาปชฺชนโต กฺริยํ. ยสฺมา อุชฺฌาปนํ, ขียนฺจ มุสาวาทวเสเนว ปวตฺตํ, ตสฺมา ‘‘อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺตี’’ติ ปาจิตฺติยฏฺาเน, ทุกฺกฏฏฺาเน จ อิมินา จ อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เอวฺจ กตฺวา อุชฺฌาเปนฺตสฺส, ขียนฺตสฺส ¶ จ เอกกฺขเณ ทฺเว ทฺเว อาปตฺติโย โหนฺตีติ อาปนฺนํ.
อุชฺฌาปนกกถาวณฺณนา.
๑๐๕๐. สงฺฆสฺส มฺจาทินฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สงฺฆิกํ มฺจํ วา ปีํ วา ภิสึ วา โกจฺฉํ วา’’ติ ปาฬิยํ ทสฺสิตํ สงฺฆสนฺตกํ มฺจาทึ. เอตฺถ จ มฺโจ นาม ปาฬิยํ ‘‘จตฺตาโร มฺจา มสารโก พุนฺทิกาพทฺโธ กุฬีรปาทโก อาหจฺจปาทโก’’ติ (ปาจิ. ๑๑๑) จ ทสฺสิโต จตุพฺพิโธ มฺโจ. ตตฺถ มสารโก นาม มฺจปาเท วิชฺฌิตฺวา ตตฺถ อฏนิสิขาหิ อาวุณิตฺวา กตมฺโจ. โส อิทานิ วตฺตมาโน เวตฺตมฺโจ. พุนฺทิกาพทฺโธ นาม อฏนิสีเสสุ พุนฺทิกรนฺตรโต มฺจปาเท ฑํสาเปตฺวา กโต เวตฺตมฺจปทรมฺโจ ทฏฺพฺโพ. กุฬีรปาทโก นาม ปาทพุนฺเท ¶ อสฺสขุราทิอาการํ ทสฺเสตฺวา กกฺกฏปาเทหิ วิย วงฺกปาเทหิ โยชิตมฺโจ. อาหจฺจปาทโก นาม อฏนิโย วิชฺฌิตฺวา อฏนิฉิทฺเท ปาทสีเส สิขํ กตฺวา ตํ ปเวเสตฺวา อฏนิยา อุปริ นิกฺขนฺเต ปาทสิขามตฺถเก ติริยํ วิชฺฌิตฺวา อาณึ ปเวเสตฺวา กตมฺโจ.
ปีํ นาม เอวเมว กตํ ตนฺนามกเมว จตุพฺพิธํ;
ภิสิ นาม ‘‘ปฺจ ภิสิโย อุณฺณภิสิ โจฬภิสิ วากภิสิ ติณภิสิ ปณฺณภิสี’’ติ คพฺภวเสน ทสฺสิตา ปฺจ ภิสิโย. ตตฺถ อุณฺณา นาม มนุสฺสโลมํ เปตฺวา อวเสสโลมานิ. โจฬา นาม ปิโลติกา. วากํ นาม มกจิวากาทิกํ. ติณํ นาม ทพฺพติณาทิ. ปณฺณํ นาม ตมาลปณฺณํ เปตฺวา อวเสสปณฺณํ.
โกจฺฉนฺติ ¶ ปาฬิยํ ‘‘โกจฺฉํ นาม วากมยํ วา อุสีรมยํ วา มฺุชมยํ วา ปพฺพชมยํ วา อนฺโต สํเวเตฺวา พทฺธํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๑๑๑) ทสฺสิตํ วากํ วา อุสีรํ วา มฺุชติณํ วา เอฬกโลมานิ วา ปพฺพชติณํ วา อาทาย อุโภหิ โกฏีหิ วิตฺถตํ กตฺวา มชฺเฌ ปีเฬตฺวา สงฺกุจิตฺวา ตํ พนฺธิตฺวา สีหจมฺมาทีหิ เวนพนฺธนานิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปาทปฺุฉนี วิย นิสชฺชตฺถาย กตํ อาสนนฺติ วทนฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เหฏฺา จ อุปริ จ วิตฺถตํ, มชฺเฌ สํขิตฺตํ, ปณวสณฺานํ กตฺวา พทฺธํ โหติ, ตํ กิร มชฺเฌ สีหพฺยคฺฆจมฺมปริกฺขิตฺตมฺปิ กโรนฺติ. อกปฺปิยจมฺมํ นาเมตฺถ นตฺถี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๑). สนฺถราเปตฺวาติ อุปสมฺปนฺเนน วา อนุปสมฺปนฺเนน วา สนฺถราเปตฺวา. เอตฺถ วินิจฺฉยํ วกฺขติ. สนฺถริตฺวาติ สยํ สนฺถริตฺวา วา.
๑๐๕๑. เนวุทฺธเรยฺยาติ ปฺตฺตฏฺานโต อุทฺธริตฺวา น ปฏิสาเมยฺย. น อุทฺธราเปยฺย วาติ อฺเน วา ตถา น การาเปยฺย. ตนฺติ มฺจาทึ. ปกฺกมนฺโตติ เอตฺถ ‘‘โย ภิกฺขู’’ติ ลพฺภติ, มฺจาทีนํ อตฺถตฏฺานโต ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ถามปฺปมาเณน หตฺถํ ปสาเรตฺวา ขิตฺตปาสาณสฺส ปตนฏฺานํ อติกฺกมฺม คจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ.
๑๐๕๒. วสฺสิเก จตุโร มาเสติ อนฺโตวสฺสํ จาตุมาเส. สเจ เทโว น วสฺสตีติ เอตฺถ ‘‘กตฺถจิ ¶ ชนปเท’’ติ เสโส. เตเนว ‘‘สเจ’’ติ สาสงฺกมาห. ‘‘เยสุ ชนปเทสุ วสฺสกาเล น วสฺสติ, เตสุปิ จตฺตาโร มาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๐) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตถา จาปีติ เต จตฺตาโร มาเส อวสฺสนฺเตปิ.
๑๐๕๓. ยตฺถาติ ¶ ยสฺมึ ลงฺกาทีปสทิเส เทเส. ยตฺถ อปเรปิ เหมนฺเต จตฺตาโร มาเส เทโว วสฺสติ, ตตฺถ อฏฺ มาเส อชฺโฌกาเส มฺจาทึ เปตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. คิมฺหาเน ปน จตฺตาโร มาเส พหิ เปตุํ วฏฺฏตีติ พฺยติเรกโต ทสฺเสติ.
๑๐๕๔. นิวาสสฺมินฺติ รุกฺเข กุลาวกํ กตฺวา นิรนฺตรวาเส สติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺมึ ปน ธุวนิวาเสน กุลาวเก กตฺวา วสนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๐). กทาจิปีติ อโนวสฺสกาเลปิ.
๑๐๕๕-๖. สงฺฆิกํ ยํ กิฺจิ มฺจาทีติ โยชนา. สนฺถตํ ยทีติ อนาณตฺเตน ยทิ อตฺถตํ, ปฺตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยตฺถ กตฺถจิ าเนติ รุกฺขมูลมณฺฑปอพฺโภกาสาทิมฺหิ ยตฺถ กตฺถจิ าเน. เยน เกนจีติ สทฺธิวิหาริเกน วา อนฺเตวาสิเกน วา อฺเน วา. ภิกฺขุนาติ อุปสมฺปนฺเนน. โสติ ยสฺสตฺถาย ปฺตฺตํ, โส ภิกฺขุ.
๑๐๕๗. ตนฺติ ตํ สงฺฆิกํ เวตฺตมฺจาทึ. สนฺถราปิต-สทฺโท กตฺตุสาธโน, สนฺถริตุํ นิโยชกสฺเสว ภิกฺขุโนติ อตฺโถ.
๑๐๕๘. ภิกฺขุนาติ เอตฺถ ‘‘อาณาปโก’’ติ วกฺขมานตฺตา อาณตฺเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปนฺเนนาติ ลพฺภติ. ตสฺเสวาติ อาณตฺติยา อาสนปฺาปกสฺส ตสฺเสว ภิกฺขุโน. ‘‘นิสีทตี’’ติ วจนสฺส อุปลกฺขณตฺตา อาคนฺตฺวา ถวิกํ วา จีวรํ วา ยํ กิฺจิเทว เปติ, ‘‘มยฺหเมว ภาโร’’ติ วา วทติ, ปฺาปโก มุจฺจตีติ คเหตพฺโพ.
๑๐๕๙-๖๐. อนาปุจฺฉาติ เอตฺถ ‘‘โย ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี โหติ, อตฺตโน ปลิโพธํ ¶ วิย มฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๓) อฏฺกถาย วุตฺตสรูปํ ยํ กฺจิ อนาปุจฺฉาติ อตฺโถ. ‘‘ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี ¶ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๓) วุตฺตตฺตา อลชฺชึ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตุํ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ‘‘มยํ คมิสฺสามา’’ติ วตฺวา อนุมติคหณํ อาปุจฺฉนํ นาม, ตํ อนาปตฺติยา กถํ องฺคํ โหตีติ เจ? คมนสฺส อนุมติยา ลทฺธตฺตา. ‘‘กปฺปํ ลภิตฺวา คนฺตพฺพ’’นฺติ วจนโต อนุมติทายเกน วตฺตาวตฺตํ สมฺปฏิจฺฉิตํ วิย โหตีติ ลทฺธกปฺปตฺตา เอวํ คจฺฉติ เจ, วฏฺฏติ. อนิยฺยาเตตฺวาติ นิยฺยาตนํ อกตฺวา วตฺตาวตฺตํ อปฺปฏิยาเทตฺวา, อสมฺปฏิจฺฉาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วาเรติ ปทวาเร.
๑๐๖๒. ตสฺมา านาติ อตฺตนา ตฺวา อาณาปิตโภชนสาลโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘โภชนสาลโต นิกฺขมิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๑).
๑๐๖๓. สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺิเวมติกปุคฺคลิกสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ. ติกาตีเตนาติ อกุสลมูลตฺติกาทิโต สวาสนสมุจฺเฉทปฺปหานวเสน อติกฺกนฺเตน. ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี อฺสฺส ปุคฺคลิเก อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๒) วจนโต ทุกฺกฏตฺตยํ โหติ.
๑๐๖๔-๕. จิมิลิกํ นาม ปริกมฺมกตาย ภูมิยา ฉวิรกฺขนตฺถํ อตฺถริตพฺพปิโลติกํ. ตฏฺฏิกา นาม ตาลปณฺณาทีหิ กตตฏฺฏิกา. จมฺมํ สีหจมฺมาทิ. เสนาสนปริกฺขาเร อกปฺปิยจมฺมํ นาม นตฺถิ. ยถาห ‘‘อฏฺกถาสุ หิ เสนาสนปริโภเค ปฏิกฺขิตฺตจมฺมํ นาม น ทิสฺสติ, ตสฺมา ¶ สีหจมฺมาทีนํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๒). อิมสฺส จ อฏฺกถาปาสฺส สารตฺถทีปนิยา (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๑๒) เอวํ อตฺโถ วณฺณิโต –
‘‘สีหจมฺมาทีนํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ’’ติ อิมินา ‘‘น ภิกฺขเว มหาจมฺมานิ ธาเรตพฺพานิ สีหจมฺมํ พฺยคฺฆจมฺมํ ทีปิจมฺมํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ เอวํ วุตฺตาย ขนฺธกปาฬิยา อธิปฺปายํ วิภาเวติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อนฺโตปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺติ, พหิปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๕๕) อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา มฺจปีเสุ อตฺถริตฺวา ปริโภโคเยว ปฏิกฺขิตฺโต, ภูมตฺถรณวเสน ปริโภโค ปน อปฺปฏิกฺขิตฺโตติ. ยทิ เอวํ ‘‘ปริหรเณเยว ¶ ปฏิกฺเขโป’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ? ยถา ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว สพฺพํ ปาสาทปริโภค’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) วจนโต ปุคฺคลิเกปิ เสนาสเน เสนาสนปริโภควเสน นิยมิตํ สุวณฺณฆฏาทิกํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏมานมฺปิ เกวลํ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ, เอวมิทํ ภูมตฺถรณวเสน ปริภฺุชิยมานมฺปิ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ตํ ตํ วิหารํ หริตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตนฺติ.
‘‘ผลก’’นฺติ อิมินา ปาาคตํ ผลกปีเมว ทสฺสิตํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ผลกปีํ นาม ผลกมยํ ปี’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๒). ปาทปฺุฉนินฺติ กทลิวากาทีหิ กตํ ปาทปฺุฉนิกํ. ภูมตฺถรณํ นาม จิมิลิกาย สติ ตสฺสา อุปริ, อสติ สุทฺธภูมิยํ อตฺถริตพฺพา กฏสารกาทิวิกติ. อุตฺตรตฺถรณํ นาม สงฺฆิกมฺจปีาทีนํ อุปริ อตฺถริตพฺพปจฺจตฺถรณํ.
ปตฺตาธารกนฺติ ¶ ปตฺตวลยาธารกํ. ตํ ยถาวุตฺตปริกฺขารํ. คจฺฉโตติ เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมฺม คจฺฉโต. สเจ ปน ทายเกหิ ทานกาเลเยว สหสฺสคฺฆนกมฺปิ กมฺพลํ ‘‘ปาทปฺุฉนึ กตฺวา ปริภฺุชถา’’ติ ทินฺนํ, ตเถว ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา อิมํ มฺจปีาทิเสนาสนมฺปิ ‘‘อพฺโภกาเสปิ ยถาสุขํ ปริภฺุชถา’’ติ ทายเกหิ ทินฺนํ เจ, สพฺพสฺมิมฺปิ กาเล อพฺโภกาเส นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
๑๐๖๖. อารฺเกนาปิ สเจ คนฺตพฺพํ โหติ, อโนวสฺสเก โนสติ มฺจปีาทึ รุกฺขสฺมึ ลคฺเคตฺวา ยถาสุขํ คนฺตพฺพนฺติ โยชนา.
๑๐๖๗. อุปจิกาทีหีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มูสิกา คหิตา. น ลุชฺชตีติ น นสฺสติ. ตํ สพฺพนฺติ มฺจาทิกํ สกลํ.
๑๐๖๘. อตฺตโน สนฺตเกติ อตฺตโน ปุคฺคลิเก มฺจาทิวิสเย. รุทฺเธติ วุฑฺฒภิกฺขุนา วา อิสฺสราทีหิ วา ยกฺขสีหาทีหิ วา มฺจาทิเก รุทฺเธ อชฺฌาวุตฺเถ, อภิภวิตฺวา คหิเตติ อตฺโถ ¶ . อาปทาสุปีติ พฺรหฺมจริยนฺตรายาทีสุ จ สนฺเตสุ. คจฺฉโต ภิกฺขุโน อนาปตฺตีติ โยชนา.
๑๐๖๙. กายวาจโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺานํ กถินสมุฏฺานํ นาม. ปฺตฺตึ อชานิตฺวา สยํ อนุทฺธรนฺตสฺส กาเยน โหติ, อนาปุจฺฉนฺตสฺส วาจาย โหติ, ปฺตฺตึ ชานิตฺวา เอวํ อกโรนฺตสฺส สจิตฺตเกน เตเนว ทฺวเยน สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ. เลฑฺฑุปาตาติกฺกโม กฺริยํ. มฺจาทีนํ อนุทฺธรณาทิ อกฺริยํ.
ปมเสนาสนกถาวณฺณนา.
๑๐๗๐-๓. ภิสีติ ¶ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตปฺจปฺปการา อิมิสฺสา อฏฺกถาย ‘‘มฺจกภิสิ วา ปีกภิสิ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖) เอวํ ทสฺสิตภิสิ จ. ปจฺจตฺถรณํ นาม ปาวาโร โกชโว วา. ‘‘เอตฺตกเมว วุตฺตนฺติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ‘อิทฺจ อฏฺกถาสุ ตถาวุตฺตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อฺมฺปิ ตาทิสํ มฺจปีเสุ อตฺถริตพฺพํ ปจฺจตฺถรณเมวา’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺต’’นฺติ (สารตฺถ. อฏฺ. ปาจิตฺติย ๓.๑๑๖) สารตฺถทีปนิยา ลิขิตํ. นิสีทนนฺติ นิสีทนจีวรํ.
ติณสนฺถาโร เอรกาทีนิ ติณานิ ทฺวีสุ ตีสุ าเนสุ โคเปตฺวา กตสนฺถาโร. ปณฺณสนฺถาโร นาม นาฬิเกราทิปณฺเณ ตเถว โคเปตฺวา กตสนฺถาโร. สยนฺติ เอตฺถาติ เสยฺยา. ‘‘สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉนฺเน’’ติ อิทํ สหเสยฺยกถาย วุตฺตตฺถเมว.
ทสวิธํ เสยฺยนฺติ ทสวิธาสุ เสยฺยาสุ อฺตรนฺติ วุตฺตํ โหติ. สนฺถริตฺวาปิ วาติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, โส สนฺถราเปตฺวาปีติ อิมํ สมฺปิณฺเฑติ. วา-สทฺทํ ‘‘สยํ อนุทฺธริตฺวา’’ติ เอตฺถ ‘‘อนุทฺธริตฺวา วา’’ติ โยเชตฺวา ‘‘อนุทฺธราเปตฺวา วา’’ติ อยํ วิกปฺโป สงฺคยฺหติ. ตํ เสยฺยํ.
อารามสฺสูปจารนฺติ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจาโร นาม เสนาสนโต ทฺเว เลฑฺฑุปาตา’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ อุปจารมาห. อสฺสาติ วิหารสฺส ปริกฺขิตฺตสฺส.
๑๐๗๔. อุภเยสนฺติ ¶ เสนาสนเสยฺยานํ. อนฺโตคพฺเภ สนฺถริตฺวา คจฺฉโตติ สมฺพนฺโธ.
๑๐๗๕. อุปจาเร วิหารสฺสาติ เอตฺถ วิหาโร นาม อนฺโตคพฺภาทิสพฺพปริจฺฉนฺนคุตฺตเสนาสนํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วิหาโรติ อนฺโตคพฺโภ วา อฺํ วา สพฺพปริจฺฉนฺนํ คุตฺตเสนาสนํ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๗). ตตฺถ อุปจาโร นาม ¶ ตํสมีปํ านํ. ยถาห ‘‘อุปจาเรติ ตสฺส พหิ อาสนฺเน โอกาเส’’ติ. มณฺฑโป นาม ปริจฺฉนฺนาปริจฺฉนฺนสนฺนิปาตมณฺฑโป. ยถาห ‘‘มณฺฑเป วาติ อปริจฺฉนฺเน ปริจฺฉนฺเน วาปิ พหูนํ สนฺนิปาตมณฺฑเป’’ติ. อาทิ-สทฺเทน อุปฏฺานสาลารุกฺขมูลานิ สงฺคหิตานิ. อุปฏฺานสาลา นาม อคุตฺตา โภชนสาลา. ยถาห ‘‘อุปฏฺานสาลายํ วาติ โภชนสาลายํ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๗). อคุตฺตตา จ ‘‘านสฺส อคุตฺตตายา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๗) อฏฺกถาวจนโต เวทิตพฺพาติ.
๑๐๗๖. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี’’ติ วารตฺตเย ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ. ทสวตฺถูสุ ภวํ ตทนฺโตคธตฺตาติ ทสวตฺถุกํ, ทสนฺนํ วา วตฺถุ ทสวตฺถุ, ตํเยว ทสวตฺถุกนฺติ ภิสิอาทิกํ อฺตรํ เสยฺยาภณฺฑํ. ตสฺสาติ สนฺถารกสฺส. ‘‘ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี อฺสฺส ปุคฺคลิเก อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๗) ติกทุกฺกฏํ ทีปิตํ.
๑๐๗๗. อุทฺธริตฺวาติ อตฺถตเสยฺยํ ยถา อุปจิกาหิ น ขชฺชติ, ตถา ปฏิสาเมตฺวา, ‘‘คจฺฉโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อฺเน วุทฺธภิกฺขุอิสฺสราทินา. ปลิพุทฺเธติ เสนาสเน ปริพุทฺเธ นิวาริเต.
๑๐๗๘. สาเปกฺโขว จ คนฺตฺวาติ ‘‘อชฺเชว คนฺตฺวา อิทํ ปฏิสาเมสฺสามี’’ติ อเปกฺขาสหิโตว คามนฺตราทึ คนฺตฺวา. ยถาห ‘‘อชฺเชว อาคนฺตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสามี’ติ เอวํ สาเปกฺโข นทีปารํ วา คามนฺตรํ วา คนฺตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๘). ตตฺถ ตฺวาติ คตฏฺาเน ตฺวา, ตโต พหิ คจฺฉามีติ จิตฺเต อุปฺปนฺเนติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ยตฺถสฺส คมนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตตฺเถว ิโต’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๘). ตํ ปุจฺฉตีติ สมฺพนฺโธ. ตํ เสยฺยํ ¶ กฺจิ เปเสตฺวา อาปุจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘กฺจิ เปเสตฺวา อาปุจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๘). เอตฺถ ¶ จ ปุริมสิกฺขาปเท มฺจาทีนํ ปฺตฺตฏฺานโต อนฺโตวิหาเร วา โหตุ พหิ วา, เลฑฺฑุปาตาติกฺกเมน, อิธ อุปจาราติกฺกเมน ปาจิตฺติยนฺติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ.
อพฺโภกาสมฺหิ มฺจาทึ, วิหาเร เสยฺยมตฺตกํ;
หิตฺวา วชนฺตสฺส โทโส, เลฑฺฑุปาตูปจารโตติ.
ทุติยเสนาสนกถาวณฺณนา.
๑๐๗๙. โย ภิกฺขุ สงฺฆิกาวาเส ปุพฺพุปคตํ ภิกฺขุํ ชานํ อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺเปยฺย เจ, อสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. ปุพฺพุปคโต นาม วสฺสคฺเคน ปาเปตฺวา ทินฺนํ เสนาสนํ คเหตฺวา วสนฺโต. ชานนฺติ ‘‘อนุฏฺาปนีโย อย’’นฺติ ชานนฺโต. อนุฏฺาปนียา นาม วุทฺธาทโย. ยถาห ปทภาชเน ‘‘ชานาติ นาม วุฑฺโฒติ, คิลาโนติ, สงฺเฆน ทินฺโนติ ชานาตี’’ติ (ปาจิ. ๑๒๑). อนุปขชฺชาติ อนุปวิสิตฺวา, ตสฺส ปมํ ปฺตฺตํ มฺจาทีนํ อาสนฺนตรํ วกฺขมานลกฺขณํ อุปจารํ ปวิสิตฺวาติ อตฺโถ. เสยฺยํ กปฺเปยฺยาติ ทสวิธาสุ เสยฺยาสุ อฺตรํ อตฺถริตฺวา สยนํ กเรยฺย, นิปชฺเชยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. วกฺขติ จ ‘‘ทสสฺวฺตรํ เสยฺย’’นฺติอาทิ. ‘‘นิสชฺชํ วา’’ติ เสโส. ยถาห ปทภาชเน ‘‘อภินิสีทติ วา อภินิปชฺชติ วา’’ติ.
๑๐๘๐-๒. อุทฺทิฏฺมตฺถํ นิทฺทิสิตุกาโม ปมํ ‘‘อนุปขชฺชเสยฺยํ กปฺเปยฺยา’’ติ เอตฺถ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาทโธวนปาสาณา…เป… ทุกฺกฏ’’นฺติ. เสนาสนํ ปวิสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปาทโธวนปาสาณา ยาว ตํ มฺจํ วา ปีํ วา นิกฺขมนฺตสฺส ¶ ปน มฺจปีโต ยาว ปสฺสาวฏฺานํ, เอตฺถนฺตเร ตุ ยํ านํ, อิทเมว อุปจาโรติ วุจฺจตีติ โยชนา. ตตฺถ อุปจาเรติ โยชนา. พาเธตุกามสฺสาติ ‘‘ยสฺส สมฺพาโธ ภวิสฺสติ, โส ปกฺกมิสฺสตี’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนจิตฺตสฺส. สยนฺติ เอตฺถาติ วิคฺคโห.
๑๙๘๓. ‘‘ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ อุทฺเทสโต วุตฺตํ นิทฺทิสิตุมาห ‘‘นิสีทนฺตสฺสา’’ติอาทิ. ตตฺถาติ ตถา อนุปขชฺช อตฺถตาย เสยฺยาย. ‘‘ปาจิตฺติยทฺวย’’นฺติ อิทํ ‘‘ทฺเวปิ กโรนฺตสฺสา’’ติ ¶ อิมํ ปจฺฉิมวิกปฺปํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุริมวิกปฺปทฺวเย ปน ‘‘นิสีทนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ, นิปชฺชนฺตสฺส วา ปาจิตฺติย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. อิมสฺมึ วิกปฺปตฺตเย ปจฺเจกํ ‘‘ติกปาจิตฺติยํ ติกทุกฺกฏ’’นฺติ อุภยสฺสาปิ วตฺตพฺพตา อฏฺกถายํ วุตฺตา. กถํ? สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี นิสชฺชํ กปฺเปติ, ปาจิตฺติยนฺติ นิสชฺชาย ติกปาจิตฺติยํ, เอวํ เสยฺยาย ติกปาจิตฺติยํ, อุภยตฺถ ติกปาจิตฺติยทฺวยนฺติ เอวํ วิกปฺปทฺวเย ทฺวาทส ปาจิตฺติยานิ. ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี อฺสฺส ปุคฺคลิเก นิสชฺชํ กปฺเปติ, ทุกฺกฏนฺติ นิสชฺชาย ติกทุกฺกฏํ, เอวํ เสยฺยาย ติกทุกฺกฏํ, อุภยตฺถ ติกทุกฺกฏทฺวยนฺติ ทฺวาทส ทุกฺกฏานิ จ เวทิตพฺพานิ.
๑๐๘๔. กโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘นิสีทนาทิ’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี’’ติ วิกปฺปตฺตเย ติกปาจิตฺติยํ ปาฬิยํ (ปาจิ. ๑๒๒) วุตฺตํ. เอวํ ปุคฺคลิเกปิ ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ปุคฺคเล ติกทุกฺกฏ’’นฺติ. อิมินา ยถาวุตฺตปาจิตฺติยทุกฺกฏานิ สามฺเน ติเก ปกฺขิปิตฺวา เอวํ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพํ.
๑๐๘๕-๖. ‘‘วุตฺตูปจาร’’นฺติอาทิคาถาทฺวเย ¶ วิหารสฺส วุตฺตูปจารํ มฺุจิตฺวา อุปจาเร วา อพฺโภกาเสปิ วา สนฺถรโตปิ วา สนฺถราปยโตปิ วา ตตฺถ นิสีทโต วา ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพตฺเถว ตสฺส นิวาโส วาริโตติ โยชนา. ตตฺถ วิหารสฺสาติ ยถาวุตฺตเสนาสนสฺส. อุปจาเรติ อวิทูเร. อพฺโภกาเสติ ตสฺส เสนาสนสฺส นจฺจาสนฺเน องฺคณปฺปเทเส.
นิสีทโต วาติ วาคฺคหเณน นิปชฺชโต วา ทฺเวปิ กโรนฺตสฺส วาติ สงฺคณฺหาติ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘อภินิสีทติ วา อภินิปชฺชติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๒). ตตฺถาติ ตสฺมึ ปุพฺพูปคตสฺส ปตฺเต เสนาสเน. สพฺพตฺเถวาติ ยถาวุตฺตูปจารโต อนฺโต จ พหิ จ อนฺตมโส อชฺโฌกาเสปีติ สพฺพตฺเถว. ตสฺสาติ อนตฺตมนสฺส อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺปยโต ตสฺส วิสภาคปุคฺคลสฺส. นิวาโส วาริโต ปรวิเหเกน สหวาสสฺส มหานตฺถกรตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอวรูเปน หิ วิสภาคปุคฺคเลน เอกวิหาเร วา เอกงฺคเณ วา วสนฺเตน อตฺโถ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพตฺเถวสฺส นิวาโส วาริโต’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๒).
๑๐๘๗. ‘‘สีตาทิอุปปีฬิตสฺสา’’ติ ¶ ปทจฺเฉโท, สีตาทีหิ อุปปีฬิตสฺส พาธิตสฺสาติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อุณฺเหน วา’’ติอาทิกํ สงฺคณฺหาติ. ยถาห ‘‘สีเตน วา อุณฺเหน วา ปีฬิโต ปวิสตี’’ติ. เอตฺถ อาปทา นาม พหิ สยนฺตสฺส ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายาปชฺชนํ.
๑๐๘๘. อิทํ สิกฺขาปทํ ทุกฺขเวทนํ โหตีติ โยชนา.
อนุปขชฺชกถาวณฺณนา.
๑๐๘๙. นิกฺกฑฺเฒยฺยาติ ¶ นีหเรยฺย. นิกฺกฑฺฒาเปยฺย วาติ นีหราเปยฺย วา.
๑๙๙๐. พหู ภูมิโย วาลิกาตลสงฺขาตา ยสฺส โส พหุภูโม, ปาสาโท. สมาสนฺตวิธิวเสน ‘‘พหุภูโม’’ติ วุจฺจติ.
๑๐๙๑. เปตฺวา เปตฺวาติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน คตินิวตฺตึ กตฺวา กตฺวา.
๑๐๙๒. อยํ นโยติ ‘‘นิกฺขมา’ติ เอกวจเนน คจฺฉนฺเต อเนเกปิ ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกนฺเต อาณาปกสฺส เอกาว อาปตฺติ โหติ, ิตฏฺานโต ตฺวา ตฺวา นีหรนฺตสฺส ทฺวารโกฏฺคณนาย โหตี’’ติ อยํ นโย. อาณตฺติยา ขเณเยวาติ ‘‘อิมํ นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ อาณตฺติกฺขเณเยว.
๑๐๙๓. เอกาวาติ เอตฺถ ‘‘ปาจิตฺติ โหตี’’ติ วตฺตพฺโพ. พหุกานิ เจติ เอตฺถ ‘‘ทฺวารานี’’ติ วตฺตพฺพํ, อติกฺกาเมตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เอตฺตเก ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกมาเปตฺวา นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ จ ‘‘ยาว ปริยนฺตทฺวารโกฏฺกา นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ จ ‘‘พหู ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกาเมตฺวา นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ จ อาณตฺตตฺตา พหู ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกาเมตฺวา สเจ นิกฺกฑฺฒตีติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน เอตฺตกานิ ทฺวารานิ นิกฺกฑฺฒาหี’ติ วา ‘ยาว มหาทฺวารํ, ตาว นิกฺกฑฺฒาหี’ติ วา เอวํ นิยเมตฺวา อาณตฺโต โหติ, ทฺวารคณนาย ปาจิตฺติยานี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๖). พหูนิ ปาจิตฺติยานิ โหนฺตีติ โยชนา.
๑๐๙๔. อุปฏฺานสาลาทีติ ¶ เอตฺถ นิสฺสกฺกตฺเถ ปจฺจตฺตวจนโต อุปฏฺานสาลาทิโตติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ‘‘อุปจารโต’’ติ ¶ อิมินา สมานาธิกรณตฺตา วิหารสฺส อุปฏฺานสาลาทิโต อุปจารโตติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห คณฺิปเท ‘‘อุปจาโร นาม อุปฏฺานสาลาทิมตฺตเมวา’’ติ. กาเยนปิ วาจายปิ ตถา นิกฺกฑฺฒเน จ ทุกฺกฏนฺติ วกฺขมาเนน สห โยชนา. ตสฺสาติ อุปสมฺปนฺนสฺส. อาทิ-สทฺเทน มณฺฑปาทโย คหิตา. ยถาห ‘‘วิหารสฺส อุปจารา วา อุปฏฺานสาลาย วา มณฺฑปา วา รุกฺขมูลา วา อชฺโฌกาสา วา นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๗). ‘‘วาจายา’’ติ อิมินา ‘‘นิกฺขมา’’ติ จ ‘‘อิมํ นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ อาณาปนฺจ คหิตํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา เอเกน ปโยเคน เอกาปตฺติ, นานาปโยเคสุ ปโยคคณนาย, ทฺวารคณนาย วา โหตีติ วุตฺตเมว ปการํ อุปสํหรติ.
๑๐๙๕. ‘‘ตถา’’ติ อิทํ ‘‘อิตรํ นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. ยถา วิหารูปจารโต อุปฏฺานสาลาทิโต อุปสมฺปนฺนํ นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส, นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺส จ ทุกฺกฏํ โหติ, ตถา อนุปสมฺปนฺนสฺส วิหารโต จ วิหารูปจารโต จ นิกฺกฑฺฒนาทึ กโรนฺตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. ตถา วิหารสฺสูปจารา วา วิหารา วา สพฺเพสมฺปิ ปริกฺขารํ นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. สพฺเพสนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. ปริกฺขารนฺติ อนฺตมโส รชนฉลฺลิปิ สงฺคยฺหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตมโส รชนฉลฺลิมฺปี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๖).
๑๐๙๖. ‘‘อสมฺพทฺเธสู’’ติ อิมินา พฺยติเรกโต อสิถิลพทฺเธสุ ปริกฺขาเรสุ เอกิสฺสาเยว อาปตฺติยา สมฺภวํ ทสฺเสติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘คาฬฺหํ พนฺธิตฺวา ปิเตสุ ปน เอกาว อาปตฺตี’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๖). สิถิลพนฺธนํ ¶ ปน สมฺมา พนฺธนํ น โหตีติ อสมฺพทฺธวจเนน คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อสฺส ภิกฺขุสฺส วตฺถูนํ คณนาย ทุกฺกฏํ ปริทีปเยติ โยชนา, ปริกฺขารํ นีหรนฺตสฺส, นีหราเปนฺตสฺส จ อสฺส ภิกฺขุโนติ วุตฺตํ โหติ.
๑๐๙๗-๘. อนฺเตวาสินฺติ จ สทฺธิวิหาริกนฺติ จ เอตฺถ ‘‘อสมฺมาวตฺตนฺต’’นฺติ เสโส. ยถาห อนาปตฺติวาเร ‘‘อนฺเตวาสิกํ วา สทฺธิวิหาริกํ วา น สมฺมา วตฺตนฺตํ นิกฺกฑฺฒตี’’ติอาทิ ¶ (ปาจิ. ๑๒๘). นิกฺกฑฺฒนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺสา’’ติ เสโส. อสมฺมาวตฺตนฺตํ อนฺเตวาสึ วา อลชฺชึ วา ตถา อสมฺมาวตฺตนฺตํ สทฺธิวิหาริกํ วา อุมฺมตฺตกํ วา เตสํ อนฺเตวาสิอาทีนํ ปริกฺขารํ วา อตฺตโน วสนฏฺานา วา ตถา วิสฺสาสิกสฺส วสนฏฺานา วา นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส, นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺส วา อุปสมฺปนฺนํ วา อนุปสมฺปนฺนํ วา สงฺฆิกวิหารา นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส สยํ อุมฺมตฺตกสฺส วา อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
อฏฺกถายํ ‘‘อลชฺชีอาทโย ปน อตฺตโน วสนฏฺานโตเยว นิกฺกฑฺฒิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๘) วุตฺตํ, ปาฬิยฺจ ‘‘อตฺตโน ปุคฺคลิเก อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๒๗) วุตฺตํ, ‘‘อตฺตโน วิสฺสาสิกสฺส วสนฏฺานา’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? อิมสฺเสว ปาสฺส อนุโลมโต วุตฺตํ. อนฺเตวาสิกนฺติอาทีสุ ปมํ อสมฺมาวตฺตนาทิภาเวน ‘‘นิกฺกฑฺฒิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส จิตฺตลหุปริวตฺติตาย โกเป อุปฺปนฺเนปิ อนาปตฺติ.
๑๐๙๙. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘นิกฺกฑฺฒนฺตสฺสา’’ติ จ ตตฺเถว เสสํ ‘‘นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๖) จ ‘‘ตสฺส ปริกฺขารํ วา’’ติ จ ยถาวุตฺตํ ¶ อุปสํหรติ. ‘‘สงฺฆารามาปิ สพฺพสฺมา’’ติ อิทํ กลหการเกเนว โยเชตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภณฺฑนการกกลหการกเมว สกลสงฺฆารามโต นิกฺกฑฺฒิตุํ ลภติ. โส หิ ปกฺขํ ลภิตฺวา สงฺฆมฺปิ ภินฺเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๘). อิทํ ตูติ เอตฺถ วิเสสตฺถโชตเกน ตุ-สทฺเทน วุตฺตวิเสสนํ วินา อวเสสวินิจฺฉโย อนนฺตรสทิโสเยวาติ ทีเปติ. ติสมุฏฺานํ กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺานโตติ.
นิกฺกฑฺฒนกถาวณฺณนา.
๑๑๐๐-๑. มชฺฌิมาสีสฆฏฺฏายาติ สีสํ น ฆฏฺเฏตีติ อสีสฆฏฺฏา, มชฺฌิมสฺส อสีสฆฏฺฏา มชฺฌิมาสีสฆฏฺฏา, ตาย, ปมาณมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สีสาฆฏฺฏนปฺปมาณุพฺเพธเหฏฺิมตลายาติ อตฺโถ. เวหาสกุฏิยาติ ปทราทีหิ อุปริ อจฺฉนฺนตลาย ทฺวิภูมิกาทิเภทาย กุฏิยา. อุปรีติ มตฺถเก, อกตปทราทิอตฺถรณาย ตุลามตฺตยุตฺตาย อุปริมตเลติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยาหิ กาหิจิ อุปริ อจฺฉนฺนตลา ทฺวิภูมิกกุฏิ วา ติภูมิกาทิกุฏิ วา ‘เวหาสกุฏี’ติ วุจฺจติ, อิธ ปน อสีสฆฏฺฏา อธิปฺเปตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๑). อาหจฺจปาทเก ¶ มฺเจติ ‘‘อาหจฺจปาทโก นาม มฺโจ องฺเค วิชฺฌิตฺวา ิโต โหตี’’ติ ปาฬิยํ ทสฺสิเต อฏนิสีสานิ วิชฺฌิตฺวา ปาทสิขํ อาวุณิตฺวา อุปริสิขาย อนาโกฏิตอาณิมฺหิ ิตมฺเจติ อตฺโถ. อาหจฺจปาทเก ปีเติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘อาหจฺจปาทกํ นาม ปีํ องฺเค วิชฺฌิตฺวา ิตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๑๓๑). โสเยวตฺโถ.
ตสฺมึ ¶ อาหจฺจปาทเก มฺเจ วา ปีเ วา นิสีทนฺตสฺส วา นิปชฺชนฺตสฺส วา ตสฺส ภิกฺขุโน ปโยคคณนาย ปาจิตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา.
๑๑๐๒-๓. สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺิเวมติกปุคฺคลิกสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ. ปุคฺคเลติ ปุคฺคลิเก วิหาเร. เวหาสกุฏิยา…เป… คณนาเยว ตสฺส ติกทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสฺิเวมติกอฺปุคฺคลิกสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ.
เหฏฺา อปริโภเค วาติ ทารุสมฺภาราทีนํ วเสน เหฏฺิมตเล อวลฺเช วา. สีสฆฏฺฏาย วาติ สีสฆฏฺฏนปฺปมาณตลาย กุฏิยา วา. อเวหาสวิหาเร วาติ อเวหาสกุฏิยา ภูมิยํ กตปณฺณสาลาทีสุ. เอตฺถาปิ ‘‘วิสฺสาสิกวิหาเร’’ติ อิทํ ‘‘อตฺตโน ปุคฺคลิเก อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๓๒) อิมสฺส อนุโลมนโต วุตฺตํ.
๑๑๐๔. ยตฺถ ปฏาณิ วา ทินฺนาติ ยสฺมึ มฺเจ ปาทสีสานํ อุปริ อฏนิมตฺถกโต ติริยํ อาณิ ปเวสิตา โหติ, ตตฺถ อภินิสีทโต, อภินิปชฺชโต วา น โทโสติ โยชนา. ตตฺถาติ ปุพฺเพ วุตฺตอปเวสิตปฏาณิมฺหิ มฺเจ วา ปีเ วา. ‘‘ตฺวา’’ติ อิมินา นิปชฺชนํ นิวตฺเตติ. ลเคตีติ อุปริพทฺธองฺกุสสิกฺกาทีสุ ยํ กิฺจิ ปริกฺขารํ ลเคติ. อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานโต เอฬกโลเมน สิกฺขาปเทน สมํ มตนฺติ โยชนา.
เวหาสกุฏิกถาวณฺณนา.
๑๑๐๕. ยาว ทฺวารสฺส โกสมฺหาติ เอตฺถ ‘‘มหลฺลกสฺส วิหารสฺสา’’ติ เสโส, ‘‘มหลฺลโก นาม วิหาโร สสฺสามิโก ¶ วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๑๓๖) ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา การาเปตานํ ทายกานํ สมฺภวโต มหลฺลกสฺส ‘‘วิหาโร นาม อุลฺลิตฺโต วา โหติ อวลิตฺโต วา ¶ อุลฺลิตฺตาวลิตฺโต วา’’ติ ทสฺสิตเภทสฺส วิหารสฺส ทฺวารโกสสงฺขาตปิฏฺสงฺฆาฏสฺส ‘‘สมนฺตา หตฺถปาสา’’ติ (ปาจิ. ๑๓๖) ปาฬิยํ วุตฺตทฺวารกวาฏปุถุลปฺปมาณทฺวารพาหสมีปํ อวธึ กตฺวาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ทฺวารโกโส นาม ปิฏฺสงฺฆาฏสฺส สมนฺตา กวาฏวิตฺถารปฺปมาโณ โอกาโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕).
อคฺคฬฏฺปนายาติ เอตฺถ อคฺคฬสหจริเยน ตํสหิตทฺวารกวาเฏน ยุตฺตทฺวารพาหานเมว วุตฺตตฺตา ทฺวารพาหานํ นิจฺจลตฺถายาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สกวาฏสฺส ทฺวารพนฺธสฺส นิจฺจลภาวตฺถายาติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕). ลิมฺปิตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘ปุนปฺปุน’’นฺติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุนปฺปุนํ ลิมฺปิตพฺโพ วา เลปาเปตพฺโพ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕). ติณมตฺติกานํ อุปริ ปุนปฺปุนํ มตฺติกาเลโป กาตพฺโพติ อตฺโถ.
๑๑๐๖-๗. โย เยฺโย, อยํ นโยติ สมฺพนฺโธ, ‘‘ปุนปฺปุนํ ลิมฺปิตพฺพํ วา เลปาเปตพฺพเมว วา’’ติ โย วุตฺโต, อยํ นโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. อาโลกํ สนฺเธติ ปิเธตีติ อาโลกสนฺธิ, วาตปานกวาฏานเมตํ อธิวจนํ. ยถาห ‘‘อาโลกสนฺธีติ วาตปานกวาฏกา วุจฺจนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕). เอตฺถ กวาฏสฺส สามนฺตา กวาฏทฺวารผลกวิตฺถารปฺปมาณํ เลปฏฺานํ. ยถาห ‘‘สพฺพทิสาสุ กวาฏวิตฺถารปฺปมาโณ โอกาโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕).
เอตฺถายมธิปฺปาโย ¶ – วาตปานกวาฏสฺส สามนฺตา ทฺวารผลกวิตฺถารปฺปมาเณ าเน ติณฺณํ มตฺติกานํ อุปริปิ ยตฺตกํ พหลํ อิจฺฉติ, ตตฺตเก าเน อาโลกสนฺธิ ปริกมฺมตฺถาย ลิมฺปิตพฺโพ วา เลปาเปตพฺโพ วาติ. ‘‘ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปสิ ปุนปฺปุนํ เลปาเปสี’’ติ (ปาจิ. ๑๓๔) อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ อุปฺปนฺนโทเสน สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา เลปํ อนุชานนฺเตน จ ทฺวารพนฺธนสฺส สามนฺตา อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาเณเยว ปเทเส ปุนปฺปุนํ เลปสฺส อนฺุาตตฺตา ตโต อฺตฺถ ปุนปฺปุนํ ลิมฺเปนฺตสฺส วา ลิมฺปาเปนฺตสฺส วา ภิตฺติยํ มตฺติกาหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา ปุน จตุตฺถเลเป ทินฺเน ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพนฺติ วทนฺติ. คณฺิปเทสุ ปน ตีสุปิ ปุนปฺปุนํ เลปทานสฺส วุตฺตปฺปมาณโต อฺตฺถ ปฏิกฺขิตฺตมตฺตํ เปตฺวา ปาจิตฺติยสฺส อวุตฺตตฺตา ทุกฺกฏํ อนุรูปนฺติ วุตฺตํ.
ฉทนสฺสาติ ¶ ปทภาชเน วุตฺตานํ อิฏฺกาสิลาสุธาติณปณฺณจฺฉทนานํ อฺตรสฺส. ทฺวตฺติปริยายนฺติ เอตฺถ อฏฺกถายํ ‘‘ปริยาเยนาติ ปริกฺเขเปน, เอวํ ฉทนํ ปน ติณปณฺเณหิ ลพฺภตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖) วุตฺตตฺตา ปริยายนฺติ ติเณหิ วา ปณฺเณหิ วา ปริกฺขิปิตฺวา ฉทนเมว คเหตพฺพํ. อิฏฺกาย วา สิลาย วา สุธาย วา ฉทเน ลพฺภมานํ มคฺเคน ฉทนํ ปน อุปลกฺขณวเสน ลพฺภติ. ทฺวตฺติปริยาเยน ฉทนฺจ ‘‘สพฺพมฺปิ เจตํ ฉทนํ ฉทนูปริ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖) อฏฺกถาวจนโต อุปรูปริ ฉทนวเสน เวทิตพฺพํ. หริตํ นาม ปุพฺพณฺณาทิ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘หริตนฺติ เจตฺถ สตฺตธฺเภทํ ปุพฺพณฺณํ, มุคฺคมาสติลกุลตฺถอลาพุกุมฺภณฺฑาทิเภทฺจ อปรณฺณํ อธิปฺเปต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕). อิเมสุ อฺตรสฺสาภาเวน อหริตํ นาม.
อธิฏฺเยฺยนฺติ ¶ วิธาตพฺพํ. ตโต อุทฺธนฺติ ตีหิ ปริยาเยหิ วา ตีหิ มคฺเคหิ วา อุทฺธํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ติณฺณํ มคฺคานํ วา ปริยายานํ วา อุปรี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖). ปาจิตฺติยํ โหตีติ วกฺขมานทูรตาย ยุตฺเต อหริตฏฺาเน ตฺวา สํวิทหิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ฉาทาเปตฺวา ตติยวาเร ‘‘เอวํ กโรหี’’ติ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ. อปกฺกมนฺเตน ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ, ตโต อุตฺตริ จตุตฺถวาเร ฉทนตฺถํ วิทหนฺตสฺส อิฏฺกาทิคณนาย, ติเณสุ ติณคณนาย, ปณฺเณสุ ปณฺณคณนาย ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘มคฺเคน ฉาเทนฺตสฺส ทฺเว มคฺเค อธิฏฺหิตฺวา ตติยาย มคฺคํ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพ’’นฺติอาทิ (ปาจิ. ๑๓๖). ตติยาย มคฺคนฺติ เอตฺถ ตติยายาติ อุปโยคตฺเถ สมฺปทานวจนํ, ตติยํ มคฺคนฺติ อตฺโถ. ตตฺถาติ หริเต, ‘‘สเจ หริเต ิโต อธิฏฺาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๓๗) วจนโต อธิฏฺานาย ติฏฺโตติ ลพฺภติ. พีชโรปนโต ปฏฺาย ยาว สสฺสํ ติฏฺติ, ตาว หริตํ นาม. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺมิมฺปิ เขตฺเต วุตฺตํ พีชํ น ตาว สมฺปชฺชติ, วสฺเส ปน ปติเต สมฺปชฺชิสฺสตี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕).
๑๑๐๘-๙. อหริตฏฺาเนปิ ติฏฺโต ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปิฏฺิวํเส’’ติอาทิ. ‘‘ปิฏฺิวํเส’’ติ อิทํ วํสยุตฺตเสนาสนวเสน วุตฺตํ. กณฺณิกํ คาหาเปตฺวา กตเสนาสนสฺสาปิ อุปลกฺขณํ โหติ. ปิฏฺิวํเสติ จ ‘‘คงฺคายํ โฆโส’’ติอาทีสุ วิย สามีปิกาธาเร ภุมฺมํ. กุโตยํ วิเสโส ลพฺภตีติ? อฏฺกถายํ ‘‘ปิฏฺิวํสสฺส วา กูฏาคารกณฺณิกาย วา อุปริ, ถุปิกาย วา ปสฺเส นิสินฺโน โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕) วุตฺตวิธานโต ลพฺภติ. ‘‘นิสินฺโน’’ติ ¶ อฏฺกถาวจนโต ิโตติ เอตฺถ คตินิวตฺติสามฺเน ¶ นิสินฺโน จ วุตฺโตติ คเหตพฺโพ. ยสฺมึ าเนติ เอตฺถ ‘‘อหริเต’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘าตุ’’นฺติ อิทํ อธิฏฺานกรณตฺถาย านํ คเหตฺวา วุตฺตนฺติ ‘‘ตสฺส อนฺโต อหริเตปิ ตฺวา อธิฏฺาตุํ น ลพฺภตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖) อฏฺกถาวจนโต วิฺายติ.
ปตโนกาสโตติ เอตฺถ ปมตฺเถ โต-ปจฺจโย. ตฺหิ านํ วิหารสฺส ปตโนกาโสติ โยชนา. หีติ เหตุอตฺเถ วตฺตมานโต ยสฺมา อหริเต ปตนฺตสฺส วิหารสฺเสตํ านํ ปตโนกาโส, ตสฺมา ตตฺถ าตุํ น วฏฺฏตีติ คเหตพฺพํ.
๑๑๑๑. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อาโท ตาว วิหารปทสฺส ปทภาชเน ‘‘วิหาโร นาม อุลฺลิตฺโต วา’’ติอาทิวุตฺตตฺตา (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖) ตพฺพิปริยายโต ติเณเหว กตฉทนภิตฺติกา กุฏิ ติณกุฏิกาติ วิฺายตีติ ติณฉทนา กุฏิกา ติณกุฏิกา.
ทฺวตฺติปริยายกถาวณฺณนา.
๑๑๑๒. ชานนฺติ โตยสฺส สปฺปาณกภาวํ ชานนฺโต. สิฺเจยฺย สิฺจาเปยฺยาติ เอตฺถ ‘‘เตน อุทเกนา’’ติ วตฺตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เตน อุทเกน สยํ วา สิฺเจยฺยา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๐).
๑๑๑๓. โย ปน ธารํ อจฺฉินฺทิตฺวา สเจ มตฺติกํ สิฺเจยฺย, เอวํ สิฺจโต ตสฺสาติ โยชนา.
๑๑๑๔-๕. สนฺทมานกนฺติ โตยวาหินึ. มาติกํ อาฬึ. สมฺมุขํ กโรนฺตสฺสาติ อุทกํ นฺหายิตุมิจฺฉิตํ ยทิ, สยํ อภิมุขํ กโรนฺตสฺส. ตตฺถ ตตฺถ พนฺธโต อสฺส ภิกฺขุสฺส ¶ ปโยคคณนาย อาปตฺติ สิยาติ โยชนา. ปโยคคณนาติ ปโยคคณนาย, อุทกํ พนฺธิตฺวา พนฺธิตฺวา ยถิจฺฉิตทิสาภิมุขกรณปโยคานํ คณนายาติ อตฺโถ.
๑๑๑๖-๗. ยํ ชลํ ติณาทิมฺหิ ปกฺขิตฺเต สเจ ขยํ วา อาวิลตฺตํ วา คจฺฉติ, ตาทิเส ¶ อุทเก มตฺติกํ, ติณเมว วา สเจ สกฏปุณฺณมฺปิ เอกโต ปกฺขิเปยฺย, เอวํ ปกฺขิปนฺตสฺส เอกา ปาจิตฺติ. เอเกกํ มตฺติกํ, ติณเมว วา. วา-สทฺเทน กฏฺโคมยาทึ วา ปกฺขิปนฺตสฺส ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยนฺติ โยชนา. อาวิลตฺตนฺติ ปาณกา ยถา นสฺสนฺติ, ตถา อาลุฬิตภาวํ. อิมินา เอวํ อวินสฺสมานปาณเก มหาอุทเก ติณาทึ ปกฺขิปนฺตสฺส อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อิทํ ปน มหาอุทกํ…เป… สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๐).
๑๑๑๘. ทุกฺกฏํ โหตีติ อาณาปนปจฺจยา ทุกฺกฏํ โหติ. เอกา ปาจิตฺติ.
๑๑๑๙. สพฺพตฺถาติ สปฺปาณเก จ อปฺปาณเก จ. วิมติสฺสาติ สหจริเยน วิมติสหิตมาห.
๑๑๒๐. ‘‘สพฺพตฺถาปาณสฺิสฺสา’’ติอาทีสุ อธิการโต ลพฺภมานํ ‘‘สิฺจนาทีสุ ยํ กิฺจิ กโรนฺตสฺสา’’ติ อิทํ ปจฺเจกํ สมฺพนฺธนียํ. สพฺพตฺถาติ สปฺปาณเก, อปฺปาณเก จ. อปาณสฺิสฺสาติ เอวํ กเตน ปโยเคน นสฺสมานา ปาณกา น สนฺตีติสฺิสฺส. อสฺจิจฺจาติ ยถา ปาณกา น นสฺสนฺติ, เอวํ ฆฏาทีหิ คหิตํ สปฺปาณกอุทกํ อุทเกเยว โอสิฺจนฺตสฺส วา โอสิฺจาเปนฺตสฺส วา วฏฺฏิตฺวา ตสฺมึ อุทเก ติณาทิมฺหิ ปติเต อสฺจิจฺจ กตํ นาม โหติ. อสติสฺสาติ ¶ อสติยา กโรนฺตสฺส. อชานโตติ ปาณกานํ อตฺถิภาวํ อชานิตฺวา กโรนฺตสฺส.
๑๑๒๑-๒. วธกจิตฺเต สติ สตฺตเม สปฺปาณกวคฺเค ปมสิกฺขาปทสฺส วิสยภาวโต ตโต วิเสเสตุมาห ‘‘วินา วธกจิตฺเตนา’’ติ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปาฬิยํ (ปาจิ. ๑๔๐) ‘‘สปฺปาณกํ อุทก’’นฺติ อิมินา อฏฺกถาคตํ ปมงฺคฺจ ‘‘ชาน’’นฺติ อิมินา ทุติยงฺคฺจ ‘‘สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา’’ติ อิมินา จตุตฺถงฺคฺจ วุตฺตํ, น วุตฺตํ ตติยงฺคํ. ตฺจ โข วธกจิตฺตสฺส สตฺตมวคฺเค ปมสิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยวจนโต เอตฺถ ตทภาวลกฺขณํ ตติยงฺคํ วุตฺตเมว โหตีติอธิปฺปาเยน อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วินา วธกจิตฺเตนา’’ติ. เตเนวาห ‘‘จตฺตาเรวสฺส องฺคานิ, นิทฺทิฏฺานิ มเหสินา’’ติ. อสฺสาติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส.
๑๑๒๓. สปฺปาณกสฺิสฺส ¶ ‘‘ปริโภเคน ปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ปุพฺพภาเค ชานนฺตสฺสาปิ สิฺจนสิฺจาปนํ ‘‘ปทีเป นิปติตฺวา ปฏงฺคาทิปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ชานนฺตสฺส ปทีปุชฺชลนํ วิย วินาปิ วธกเจตนาย โหตีติ อาห ‘‘ปณฺณตฺติวชฺชํ ติจิตฺต’’นฺติ. เอตฺถ กิสฺมิฺจิ กุปิตสฺส วา กีฬาปสุตสฺส วา สิฺจโต อกุสลจิตฺตํ, มาลาคจฺฉาทึ สิฺจโต กุสลจิตฺตํ, ปณฺณตฺตึ อชานโต ขีณาสวสฺส อพฺยากตจิตฺตนฺติ ติจิตฺตํ เวทิตพฺพํ. ตสฺสาติ สตฺตมวคฺเค ปมสิกฺขาปทสฺส. อสฺส จาติ อิมสฺส สิฺจนสิกฺขาปทสฺส จ. อิทํ วิเสสนนฺติ อิทํ นานากรณํ. เอตฺถ อิมสฺมึ ปกรเณ นิทฺทิฏฺํ ปกาสิตนฺติ อตฺโถ. ตํ โลกวชฺชํ, อิทํ ปณฺณตฺติวชฺชํ. ตํ อกุสลจิตฺตํ, อิทํ ติจิตฺตํ. ตํ ทุกฺขเวทนํ, อิทํ ติเวทนนฺติ วุตฺตํ โหติ.
สตฺตมวคฺเค ¶ ทุติยสฺส อิมสฺส จ โก วิเสโสติ เจ? อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ‘‘สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา’’ติ พาหิรปริโภควเสน ปมํ ปฺตฺตตฺตา ‘‘สปฺปาณกํ อุทกํ ปริภฺุเชยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๓๘๘) สิกฺขาปทํ อตฺตโน นหานปานาทิปริโภควเสน ปฺตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมึ วา ปมํ ปฺตฺเตปิ อตฺตโน ปริโภควเสเนว ปฺตฺตตฺตา ปุน อิทํ สิกฺขาปทํ พาหิรปริโภควเสน ปฺตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
สปฺปาณกกถาวณฺณนา.
เสนาสนวคฺโค ทุติโย.
๑๑๒๔-๖. อฏฺงฺคยุตฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘สีลวา’’ติอาทิ เอกมงฺคํ, ‘‘พหุสฺสุโต’’ติอาทิ ทุติยํ, ‘‘อุภยานิ โข ปนสฺสา’’ติอาทิ ตติยํ, ‘‘กลฺยาณวาโจ โหตี’’ติอาทิ จตุตฺถํ, ‘‘เยภุยฺเยน ภิกฺขุนีนํ ปิโย โหติ มนาโป’’ติ ปฺจมํ, ‘‘ปฏิพโล โหติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุ’’นฺติ ฉฏฺํ, ‘‘น โข ปเนตํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺสา’’ติอาทิ สตฺตมํ, ‘‘วีสติวสฺโส วา โหติ อติเรกวีสติวสฺโส วา’’ติ อฏฺมนฺติ เอตานิ ปาาคตานิ อฏฺ องฺคานิ นาม. ภิกฺขุนีนํ โอวาโท, ตทตฺถาย สมฺมุตีติ วิคฺคโห. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ตฺติ จตุตฺถี ยสฺส กมฺมสฺสาติ วิคฺคโห. ‘‘กมฺเมนา’’ติ เสโส.
อฏฺงฺคยุตฺตสฺส ¶ ภิกฺขุสฺส มเหสินา ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน ยา ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ อิธ อนฺุาตา, ตาย อสมฺมโต โย ภิกฺขูติ โยชนา.
ครุธมฺเมหิ อฏฺหีติ ‘‘วสฺสสตูปสมฺปนฺนาย ภิกฺขุนิยา ตทหุปสมฺปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุปฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ ¶ สามีจิกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติอาทีหิ (ปาจิ. ๑๔๙) ปาฬิยํ อาคเตหิ อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ. เอกํ ภิกฺขุนึ, สมฺพหุลา วา ภิกฺขุนิโยติ อิทํ ปกรณโต ลพฺภติ. โอสาเรนฺโตวาติ ปาฬึ อุจฺจาเรนฺโตว. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘โอสาเรตพฺพาติ ปาฬิ วตฺตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๙). เต ธมฺเมติ ปุพฺเพ วุตฺเต เต อฏฺ ครุธมฺเม. โอวเทยฺยาติ อฏฺครุธมฺมปาฬิภาสนสงฺขาตํ โอวาทํ กเรยฺย.
กึ วุตฺตํ โหติ? ปาฏิปเท โอวาทตฺถาย อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนา ภิกฺขุนิโย ‘‘เตน ภิกฺขุนา’’ติอาทินา ปาาคตนเยน ‘‘สมคฺคตฺถ ภคินิโย’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สมคฺคมฺหยฺยา’’ติ ยทิ วเทยฺยุํ, ‘‘วตฺตนฺติ ภคินิโย อฏฺ ครุธมฺมา’’ติ ปุนปิ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘วตฺตนฺตยฺยา’’ติ ยทิ วเทยฺยุํ, ‘‘เอโส ภคินิโย โอวาโท’’ติ นิยฺยาเทยฺย. ‘‘น วตฺตนฺตยฺยา’’ติ ยทิ วเทยฺยุํ, ‘‘วสฺสสตูปสมฺปนฺนายา’’ติอาทินา อฏฺครุธมฺมปาฬิภาสนวเสน โอวาทํ กเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘โอสาเรนฺโตว เต ธมฺเม โอวเทยฺยา’’ติ.
๑๑๒๗. อฺเน ธมฺเมนาติ สุตฺตนฺเตน วา อภิธมฺเมน วา. เอกโตอุปสมฺปนฺนนฺติ ภิกฺขุนิสงฺเฆเยว อุปสมฺปนฺนํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก เอกโตอุปสมฺปนฺนายา’’ติ. ตถาติ โอวทนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ ทสฺเสติ.
๑๑๒๘. ภิกฺขูนํ สนฺติเกเยว อุปสมฺปนฺนนฺติ มหาปชาปติยา โคตมิยา สทฺธึ ปพฺพชิตา ปฺจสตา สากิยานิโย สงฺคณฺหาติ. ลิงฺควิปลฺลาเส อุปสมฺปนฺนภิกฺขุโน ลิงฺคปริวตฺตเน สติ ตถา ปาจิตฺติ เอว ปกาสิตาติ อตฺโถ.
๑๑๒๙. โอวาทํ ¶ อนิยฺยาเทตฺวาติ ‘‘วตฺตนฺติ ภคินิโย อฏฺ ครุธมฺมา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘วตฺตนฺตยฺยา’’ติ วุตฺเตติ เอตฺถาปิ โสเยวตฺโถ.
๑๑๓๐. ครุธมฺเมหิ ¶ โอวทโต ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๑๓๑. อคณฺหนฺตสฺส โอวาทนฺติ เอตฺถ โอวาทตฺถํ ยาจนสนฺเทโส ตทตฺถตาย โอวาโทติ คหิโตติ โอวาทสาสนํ อสมฺปฏิจฺฉนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อปจฺจาหรโตปิ ตนฺติ ตํ อตฺตนา คหิตํ โอวาทสาสนํ อุโปสถคฺเค อาโรเจตฺวา ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน ทินฺนํ ปฏิสาสนํ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส เนตฺวา อวทนฺตสฺสาปิ. พาลนฺติ สาสนสมฺปฏิจฺฉนฺจ อุโปสถคฺคํ เนตฺวา อาโรจนฺจ ปฏิสาสนํ หริตฺวา ปาฏิปเท ภิกฺขุนิสงฺฆคณปุคฺคลานํ ยถานุรูปํ ปจฺจาโรจนฺจ กาตุํ อชานนตาย พาลํ. คิลานนฺติ อุโปสถคฺคํ คนฺตฺวาปิ อาโรจนสฺส พาธเกน เคลฺเน สมนฺนาคตํ คิลานํ. คมิกนฺติ ปาฏิปทํ อนิสีทิตฺวา คนฺตพฺพํ อจฺจายิกคมนํ คมิกฺจ เปตฺวา ทุกฺกฏํ สิยาติ สมฺพนฺโธ.
๑๑๓๒. กมฺมสฺมินฺติ เอตฺถ กมฺม-สทฺเทน ภิกฺขุโนวาทกสฺส ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน ทินฺนํ สมฺมุติกมฺมํ อธิปฺเปตนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตฺตึ, กมฺมวาจฺจ ปริหาเปตฺวา, ปริวตฺเตตฺวา วา กตํ เจ, อธมฺมกมฺมํ นาม. วคฺเคติ ฉนฺทารหานํ ฉนฺทสฺส อนาหรเณน วา สนฺนิปติตานํ อุกฺโกเฏน วา วคฺเค สติ. ติกปาจิตฺติยํ สิยาติ ‘‘อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี โอวทติ, เวมติโก โอวทติ, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๐) อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺิปกฺเข วุตฺตปาจิตฺติยตฺตยํ โหติ.
๑๑๓๓. อธมฺเม ¶ ปน กมฺมสฺมึ เวมติกสฺสาปีติ โยชนา. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วคฺเค ภิกฺขุนิสงฺฆสฺมึ, ติกปาจิตฺติยํ สิยา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. กึ วุตฺตํ โหติ? อธมฺมกมฺเม เวมติกปกฺเข ‘‘วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๐) อธมฺมิกกมฺเมเยว วิมติวาเร วุตฺตติกปาจิตฺติยํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ธมฺมกมฺมนฺติ สฺิโน’’ติ อิมินาปิ ‘‘อธมฺเม ปน กมฺมสฺมิ’’นฺติ อิทํ โยเชตพฺพํ, ‘‘ตถา’’ติ สมฺพนฺโธ, เตน ‘‘วคฺเค’’ติอาทิกํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี โอวทติ, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๐) วุตฺตํ ติกปาจิตฺติยํ โหติ. เอวเมตา ปาจิตฺติโย สนฺธายาห ‘‘นว ปาจิตฺติโย วุตฺตา’’ติ.
อิมสฺมึ ¶ วิย อธมฺมกมฺมวาเร ‘‘สมคฺเค ภิกฺขุนิสงฺฆสฺมิ’’นฺติ วิกปฺเป จ เอวเมว นว ปาจิตฺติโย โหนฺตีติ อติทิสนฺโต ‘‘สมคฺเคปิ จ ตตฺตกา’’ติ อาห. ยถาห ‘‘อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อธมฺมกมฺเม เวมติโก สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๐).
๑๑๓๔. ทฺวินฺนํ นวกานํ วสาติ ยถาทสฺสิตํ วคฺคนวกํ, สมคฺคนวกนฺติ ทฺวินฺนํ นวกานํ วเสน. ตาติ ปาจิตฺติโย.
‘‘ธมฺมกมฺเม ¶ อธมฺมกมฺมสฺี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติโก วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วคฺคปกฺเข นว ทุกฺกฏานิ. ‘‘ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติโก สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ สมคฺคสฺี โอวทติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๕๑) เอตฺถ อนฺเต วุตฺตํ อนาปตฺติวารํ วินา อวเสเสสุ อฏฺสุ วาเรสุ สมคฺคปกฺเข อฏฺ ทุกฺกฏานิ. เอวํ ปุริมานิ นว, อิมานิ อฏฺาติ ธมฺมกมฺมปกฺเข สตฺตรส ทุกฺกฏานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘ทุกฺกฏํ ธมฺมกมฺเมปิ, สตฺตรสวิธํ สิยา’’ติ.
๑๑๓๕. ‘‘โอสาเรหี’’ติ วุตฺโต กเถติ วาติ โยชนา. ‘‘อฏฺครุธมฺมํ กเถหี’’ติ วุตฺโต ตํ กเถติ วา. ปฺหํ ปุฏฺโ กเถติ วาติ อฏฺครุธมฺมวิสเย ปฺหํ ปุฏฺโ ตเมว วทติ วา. สิกฺขมานาย กเถติ วาติ สมฺพนฺโธ. สิกฺขมานาย อฏฺครุธมฺเม กเถติ วา, เนว โทโสติ อตฺโถ. อุมฺมตฺตกาทิโน กถยโต เนว โทโสติ โยชนา.
๑๑๓๖. อิทานิ ¶ ติณฺณมฺปิ พหุสฺสุตานํ ลกฺขเณ เอกตฺถ ทสฺสิเต ภิกฺขุโนวาทกสฺส วิเสโส สุวิฺเยฺโย โหตีติ ¶ ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วาจุคฺคตาว กาตพฺพา’’ติอาทิ. ทฺเว มาติกา ปคุณา วาจุคฺคตา กาตพฺพาติ โยชนา. ภิกฺขุภิกฺขุนิวิภงฺเค มาติกา ปคุณา วาจุคฺคตาว กาตพฺพาติ โยชนา, ภิกฺขุภิกฺขุนิวิภงฺคมาติกา ปคุณา กตฺวา ตาสํ อฏฺกถํ อุคฺคเหตฺวา ปาฬิโต, อตฺถโต จ วจนปถารุฬฺหา โวหารกฺขมาเยว กาตพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. จตฺตาโร ภาณวารา ปคุณา วาจุคฺคตาว กาตพฺพาติ ปกาสิตาติ โยชนา. ‘‘ปคุณา’’ติ อิมินา ปาฬิยํ ปคุณํ กตฺวา ธาเรตฺวา ปริปุจฺฉิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘วาจุคฺคตาว กาตพฺพา’’ติ อิมินา ตทตฺถํ สุตฺวา ธาเรตฺวา ปริปุจฺฉิตพฺพเมวาติ ทสฺเสติ.
๑๑๓๗. ปริกถตฺถายาติ สมฺปตฺตานํ ธมฺมกถนตฺถาย. กถามคฺโคติ มหาสุทสฺสนกถามคฺโค. มงฺคล…เป… อนุโมทนาติ อคฺคสฺส ทานาทิมงฺคเลสุ ภตฺตานุโมทนาสงฺขาตา ทานกถา จ, กุมารมงฺคลาทีสุ มหามงฺคลสุตฺตาทิมงฺคลานุโมทนา จ, อมงฺคลํ นาม กาลกิริยา, ตตฺถ มตกภตฺตาทีสุ ติโรกุฏฺฏาทิกถา จาติ เอวํ ติสฺโสเยวานุโมทนา.
๑๑๓๘. อุโปสถาทิอตฺถายาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปวารณาทีนํ สงฺคโห. กมฺมากมฺมวินิจฺฉโยติ กมฺมวคฺเค วุตฺตวินิจฺฉโย, ปริวาเร กมฺมวคฺเค อาคตขุทฺทานุขุทฺทกกมฺมวินิจฺฉโยติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘กมฺมฏฺาน’’นฺติ อิมินา ‘‘อุตฺตมตฺถสฺส ปาปก’’นฺติ วกฺขมานตฺตา วิปสฺสนากมฺมฏฺานมาห. วิปสฺสนาวเสน อุคฺคณฺหนฺเตน จ ธาตุววตฺถานมุเขน อุคฺคเหตพฺพนฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อุตฺตมตฺถสฺสาติ อรหตฺตสฺส.
๑๑๓๙. เอตฺตกํ อุคฺคเหตฺวาน พหุสฺสุโตติ ยถาวุตฺตธมฺมานํ อุคฺคหิตตฺตา พหุสฺสุโต. ปฺจวสฺโสติ อุปสมฺปทโต ¶ ปฏฺาย ปริปุณฺณปฺจสํวจฺฉโร. ‘‘ทสวสฺโส’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สํวจฺฉรวเสน ปฺจวสฺเสสุ ปริปุณฺเณสุ วุตฺถวสฺสวเสน อปริปุณฺเณสุปิ ปฺจวสฺโสเยว. อิตรถา อูนปฺจวสฺโสติ เวทิตพฺโพ. ปริปุณฺณวีสติวสฺสูปสมฺปทาทีสุ วิย เกจิ สํวจฺฉรคณนํ อวิจาเรตฺวา ‘‘ปฺจวสฺโส’’ติวจนสามฺเน วุตฺถวสฺสคณนเมว คณฺหนฺติ, ตทยุตฺตํ. ตถา คหเณสุ ยุตฺติ วา มคฺคิตพฺพา. มฺุจิตฺวา นิสฺสยนฺติ นิสฺสยวาสํ ชหิตฺวา. อิสฺสโรติ นิสฺสยาจริยวิรเหน อิสฺสโร, อิมินา นิสฺสยมุตฺตลกฺขณํ ทสฺสิตํ.
๑๑๔๐. ทฺเว ¶ วิภงฺคาติ ภิกฺขุภิกฺขุนิวิภงฺคทฺวยํ. อิธ ‘‘วาจุคฺคตา’’ติ อิทํ ปริปุจฺฉมฺปิ สนฺธายาหาติปิ วุตฺตํ. เตนาห สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ทฺเว วิภงฺคา ปคุณา วาจุคฺคตา กาตพฺพา’ติอิทํ ปริปุจฺฉาวเสน อุคฺคหณมฺปิ สนฺธาย วุตฺต’นฺติ วทนฺตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๔๕-๑๔๗). พฺยฺชนาทิโตติ เอตฺถ พฺยฺชนํ นาม ปทํ, อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตํ อนุพฺยฺชนํ นาม อกฺขรํ, ปทกฺขรานิ อปริหาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. จตูสฺวปิ นิกาเยสูติ ทีฆมชฺฌิมสํยุตฺต องฺคุตฺตรนิกาเยสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เอโก วา นิกาโย โปตฺถโกปิ จ เอโกติ โยชนา. อปิ-สทฺเทน ขุทฺทกนิกายสฺสาปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ‘‘ปิ วา’’ติ อิมินา ขุทฺทกนิกาเย ชาตกภาณเกน สาฏฺกถํ ชาตกํ อุคฺคเหตฺวาปิ ธมฺมปทํ สห วตฺถุนา อุคฺคเหตพฺพเมวาติ ทสฺสิเต ทฺเว โปตฺถเก สมุจฺจิโนติ, จตฺตาริ ขนฺธกวตฺตานิ วา.
๑๑๔๒. ทิสาปาโมกฺโข ยตฺถ ยตฺถ วสติ, ตสฺสา ตสฺสาทิสาย ปาโมกฺโข ปธาโน. เยนกามํคโมติ ยตฺถ กตฺถจิ ทิสาภาเค ยถากามํ วุตฺติโก โหตีติ อตฺโถ ¶ . ปริสํ อุปฏฺาเปตุํ กามํ ลภเต อิสฺสโรติ โยชนา, อิสฺสโร หุตฺวา ภิกฺขุปริสาย อตฺตานํ อุปฏฺาเปตุํ ยถารุจิยา ลภตีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา ปริสูปฏฺาปกลกฺขณํ วุตฺตํ.
๑๑๔๓. วาจุคฺคนฺติ วาจุคฺคตํ. เอตฺถ จ ‘‘อิทานิ อยํ ภณฺฑปาถาวิธิ น โหตีติ มิหกปริปุจฺฉนกถานุรูปโต อตฺถกรณํ น วาจุคฺคตกรณํ นามาติ วิฺายตี’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. อิมินา ยถาวุตฺตํ ทุติยงฺคเมว สงฺคหิตํ.
๑๑๔๔. อสฺสาติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส. อสมฺมตตาทีนิ ตีณิ องฺคานีติ อตฺตโน อสมฺมตตา, ภิกฺขุนิยา ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, โอวาทวเสน อฏฺครุธมฺมภณนนฺติ อิมานิ ตีณิ องฺคานิ.
โอวาทกถาวณฺณนา.
๑๑๔๖. ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อตฺถงฺคเต สูริเย อตฺถงฺคตสฺี, เวมติโก, อนตฺถงฺคตสฺี’’ติ วิกปฺปตฺตเย. เอกโตอุปสมฺปนฺนนฺติ ภิกฺขุนิสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนํ. ‘‘ภิกฺขุสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนํ ปน โอวทโต ปาจิตฺติยเมวา’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๑๑๔๘. อุทฺเทสาทินเยนาติ ¶ ‘‘อนาปตฺติ อุทฺเทสํ เทนฺโต, ปริปุจฺฉํ เทนฺโต’’ติอาทินา อนาปตฺติวารนเยน. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส.
อตฺถงฺคตสูริยกถาวณฺณนา.
๑๑๔๙. ‘‘สเจ อสมฺมโต’’ติ วกฺขมานตฺตา โอวทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘สมฺมตสฺสา’’ติ ลพฺภติ. ภิกฺขุนุปสฺสยนฺติ ภิกฺขุนิวิหารํ. อฺตฺร กาลาติ ‘‘ตตฺถายํ สมโย ¶ , คิลานา โหติ ภิกฺขุนี’’ติ วุตฺตกาลโต อฺตฺร. ‘‘คิลานา นาม ภิกฺขุนี น สกฺโกติ โอวาทาย วา สํวาสาย วา คนฺตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๖๑) ทสฺสิเต คิลานกาเล อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๑๕๐. ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตีติ ปมสิกฺขาปเทน, อิมินา จ สิกฺขาปเทน ทฺเว ปาจิตฺติยานิ โหนฺตีติ. ‘‘ตีณิปิ ปาจิตฺติยานี’’ติ โยเชตพฺพา, ปมทุติยตติเยหิ สิกฺขาปเทหิ ตีณิ ปาจิตฺติยานิ โหนฺตีติ อตฺโถ.
๑๑๕๑. อฺเน ธมฺเมนาติ ครุธมฺมโต อฺเน พุทฺธวจเนน. ทุกฺกฏทฺวยนฺติ อสมฺมตภิกฺขุนุปสฺสยคมนมูลกํ ทุกฺกฏทฺวยํ. ภิกฺขุโนติ อสมฺมตสฺส ‘‘สมฺมตสฺสาปี’’ติ วกฺขมานตฺตา. ‘‘อฏฺหิ วา ครุธมฺเมหิ อฺเน วา ธมฺเมน โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๕) อตฺถงฺคตสิกฺขาปเท วุตฺตตฺตา ‘‘รตฺติเหตุก’’นฺติ อาห, รตฺติโอวาทนมูลนฺติ อตฺโถ.
๑๑๕๒. ปาจิตฺติยทฺวยนฺติ ทุติยตติยมูลกํ. ครุธมฺเมน โอวาโท ครุธมฺโม, โส นิทานํ ยสฺส ปาจิตฺติยสฺสาติ วิคฺคโห. สมฺมตตฺตา ครุธมฺมนิทานสฺส ปาจิตฺติยสฺส อภาวโตติ สมฺพนฺโธ. อิมินา ปมสิกฺขาปเทน อนาปตฺติภาวํ ทสฺเสติ.
๑๑๕๓. ตสฺเสวาติ สมฺมตสฺเสว. ทุกฺกฏํ อิมินา ตติยสิกฺขาปเทน. อนาปตฺติ ปมสิกฺขาปเทน, เตเนวาห ‘‘สมฺมตตฺตา’’ติ. ปาจิตฺติ ทุติยสิกฺขาปเทน, เตเนวาห ‘‘รตฺติย’’นฺติ.
๑๑๕๔. ติกปาจิตฺติยํ ¶ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก, อนุปสมฺปนฺนสฺี ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา ¶ อฺตฺร สมยา โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๖๒) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. อิตรทฺวเยติ ‘‘อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺี, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุปสมฺปนฺนาย เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๖๒) ทสฺสิเต อิตรทฺวเย. โอวทนฺตสฺสาติ เยน เกนจิ โอวทนฺตสฺส.
๑๑๕๕. ติกปาจิตฺติยํ, ทุกฺกฏฏฺาเน ทุกฺกฏเมว โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตถา’’ติ. ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา อฺเน ธมฺเมน โอวทนฺตสฺส ตถาติ โยชนา.
ภิกฺขุนุปสฺสยกถาวณฺณนา.
๑๑๕๖. จีวราทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน ปิณฺฑปาตาทิอิตรปจฺจยตฺตยฺจ สกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนานิ จ สงฺคหิตานิ. สมฺมเตติ ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติยา สมฺมเต.
๑๑๕๗. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี, เวมติโก, อธมฺมกมฺมสฺี เอวํ วทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๖๗) ติกปาจิตฺติยํ ปาฬิยํ ทสฺสิตเมว. อิธ กมฺมํ นาม ยถาวุตฺตํ สมฺมุติกมฺมํ. อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺิเวมติกอธมฺมกมฺมสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ. วีสติวสฺโส วา อติเรกวีสติวสฺโส วาติ สมฺมุติยา องฺคานิ.
๑๑๕๘. ‘‘สมฺมตํ อนุปสมฺปนฺน’’นฺติ กํ สนฺธายาหาติ เจ? สมฺมเตน หุตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย สามเณรภาวมุปคตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อามิสตฺถายาติ จีวราทีนมตฺถาย.
อามิสกถาวณฺณนา.
๑๑๖๒. ภิกฺขุนิยา ทินฺนนฺติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ วตฺตพฺพํ. ภิกฺขุนา ทินฺนนฺติ โยชนา. ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ เสโส ¶ . ตตฺถาติ จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปเท. สูจิตาติ ปกาสิตา.
จีวรทานกถาวณฺณนา.
๑๑๖๓. อฺาติกาย ¶ ภิกฺขุนิยา จีวรนฺติ โยชนา.
๑๑๖๔. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท.
๑๑๖๕. สูจึ จีวรํ ปเวเสตฺวาติ สมฺพนฺโธ. สูจินีหรเณติ จีวรโต.
๑๑๖๖. ปโยคสฺส วสาติ เอกกฺขเณ พหู อาวุณิตฺวา สูจิยา นีหรณปโยคคณนาย. พหู ปาจิตฺติโยติ โยชนา, ปโยคปฺปมาณาปตฺติโย โหนฺตีติ อตฺโถ.
๑๑๖๙. อเนกา ปาจิตฺติยาปตฺตี โหนฺตีติ โยชนา. อารปเถติ สูจิมคฺเค. ทุติเย ปเถติ เอตฺถ อาร-สทฺโท คาถาพนฺธสุขตฺถํ ลุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
๑๑๗๐. กา หิ นาม กถาติ ‘‘อเนกาปตฺติโย โหนฺตี’’ติ เอตฺถ กึ วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อฺาติกาย อฺาติกสฺี, เวมติโก, าติกสฺี จีวรํ สิพฺพติ วา สิพฺพาเปติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๗๘) วุตฺตํ ติกปาจิตฺติยํ.
๑๑๗๒. อฺํ ปริกฺขารนฺติ อุปาหนตฺถวิกาทึ. สิพฺพโตติ เอตฺถ ‘‘สิพฺพาปยโต’’ติ อธิการโต ลพฺภติ. สิกฺขมานสามเณริโย สิกฺขมานาทิกา นาม.
๑๑๗๓. สิพฺพนกิริยาย อาปชฺชิตพฺพโต กฺริยํ.
จีวรสิพฺพนกถาวณฺณนา.
๑๑๗๔-๕. สํวิธายาติ ¶ ‘‘อชฺช ยาม, สฺเว ยามา’’ติอาทินา นเยน สํวิทหิตฺวา. ยถาห ‘‘อชฺช วา หิยฺโย วา ปเร วา คจฺฉามาติ สํวิทหตี’’ติ (ปาจิ. ๑๘๓). มคฺคนฺติ เอกทฺธานมคฺคํ, อนฺตมโส คามนฺตรมฺปิ. อฺตฺร สมยาติ ‘‘ตตฺถายํ สมโย, สตฺถคมนีโย โหติ มคฺโค สาสงฺกสมฺมโต สปฺปฏิภโย’’ติ (ปาจิ. ๑๘๒) วุตฺตกาลวิเสสา อฺตฺราติ ¶ วุตฺตํ โหติ. สตฺถวาเหหิ วินา อคมนีโย มคฺโค สตฺถคมนีโย นาม. โจรานํ สยิตนิสินฺนฏฺิตขาทิตปีตฏฺานานิ ยตฺถ ทิสฺสนฺติ, ตาทิโส มคฺโค สาสงฺโก นาม. โจเรหิ หตมาริตฆาตวิลุตฺตมนุสฺสา ยตฺถ ปฺายนฺติ, โส สปฺปฏิภโย นาม. อิธาติ อิมสฺมึ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ กตสํวิธานํ อวิราเธตฺวา ตาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺชนกาเลติ อตฺโถ.
อฺโ คาโม คามนฺตรํ, ตตฺถ โอกฺกมนํ อุปคมนํ คามนฺตโรกฺกโม, ตสฺมึ กเตติ อตฺโถ. อคามเก อรฺเ อทฺธโยชนาติกฺกเม วาติ โยชนา, คามรหิตํ อรฺมคฺคมฺปิ ทฺวิคาวุตํ อติกฺกนฺเต วาติ อตฺโถ.
๑๑๗๖. ‘‘อาปตฺติ โหตี’’ติ สามฺโต ทสฺสิตอาปตฺติยา เภทาเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปทวินิจฺฉเย, ปกรเณ วา. ทุกฺกฏํ ทีปิตนฺติ สมฺพนฺโธ. อกปฺปิยภูมฏฺโติ เอตฺถ อกปฺปิยา ภูมิ นาม อนฺโตคาเม ภิกฺขุนุปสฺสยทฺวารโกฏฺโกติ เอวมาทิ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน อนฺโตคาเม ภิกฺขุนุปสฺสยทฺวาเร รถิกาย, อฺเสุ วา จตุกฺกสิงฺฆาฏกหตฺถิสาลาทีสุ สํวิทหนฺติ, ภิกฺขุโน อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๒-๑๘๓). เอตฺถ จ จตุนฺนํ มคฺคานํ สมฺพนฺธฏฺานํ จตุกฺกํ. ติณฺณํ มคฺคานํ สมฺพนฺธฏฺานํ สิงฺฆาฏกํ.
๑๑๗๗. กปฺปิยภูมิ ¶ นาม ภิกฺขุนุปสฺสยาทิ. ยถาห ‘‘สเจ อุโภปิ ภิกฺขุนุปสฺสเย วา อนฺตราราเม วา อาสนสาลาย วา ติตฺถิยเสยฺยาย วา ตฺวา สํวิทหนฺติ, อนาปตฺติ. กปฺปิยภูมิ กิรายํ. ตสฺมา เอตฺถ สํวิทหนปจฺจยา ทุกฺกฏาปตฺตึ น วทนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๒-๑๘๓). เตเนวาห ‘‘น วทนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘น วทนฺติ อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท.
๑๑๗๘. อุภยตฺถาติ อกปฺปิยภูมิยํ ตฺวา สํวิธาย คมเน, กปฺปิยภูมิยํ ตฺวา สํวิธาย คมเน จาติ อุภยวิกปฺเป. คจฺฉนฺตสฺเสวาติ เอวกาเรน นิกฺขนฺตสฺส โชตกํ. ยถาห ‘‘นิกฺขมเน อนาปตฺตี’’ติ. ‘‘ภิกฺขุโน’’ติ อิมินา ภิกฺขุนิยา อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. อาปตฺติเขตฺตนิยมนตฺถมาห ‘‘อนนฺตรสฺสา’’ติอาทิ.
๑๑๗๙. ตตฺราปีติ ¶ กปฺปิยภูมิอุปจาโรกฺกมเนปิ. อุทีริตนฺติ มหาปจฺจริยํ. ยถาห ‘‘มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ.
๑๑๘๐. อนฺตราติ อตฺตโน นิกฺขนฺตคามสฺส, อนนฺตรคามสฺส จ เวมชฺเฌ. ยถาห ‘‘คามโต นิกฺขมิตฺวา ปน ยาว อนนฺตรคามสฺส อุปจารํ น โอกฺกมติ, เอตฺถนฺตเร สํวิทหิเตปิ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๒-๑๘๓). อิมสฺมึ สิกฺขาปเท กาลทฺวารมคฺคานํ วเสน ตโย สงฺเกตวิสงฺเกตาติ เตสุ มคฺคทฺวารวิสงฺเกเตปิ อาปตฺติ โหเตวาติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทฺวาร…เป… วุจฺจตี’’ติ. กาลวิสงฺเกเต ปน อนาปตฺตึ วกฺขติ. อาปตฺติ ปาจิตฺติ.
๑๑๘๑. อสํวิทหิเต กาเลติ ‘‘ปุเรภตฺตํ คมิสฺสามา’’ติอาทินา กตสํวิธานานํ ปจฺฉาภตฺตาทิ อสํวิทหิตกาลํ นาม, ตสฺมึ. ภิกฺขุสฺเสว วิธานสฺมินฺติ ภิกฺขุนิยา ¶ สํวิธานํ วินา ภิกฺขุสฺเสว วิธาเน สติ อาปตฺติ ทุกฺกฏํ.
๑๑๘๒. สมเย วิทหิตฺวา คจฺฉโต วา อสมเย วิทหิตฺวา วิสงฺเกเตน คจฺฉโต วา อาปทาสุ วิทหิตฺวา คจฺฉโต วา อนาปตฺตีติ โยชนา. ตถาติ ‘‘วิทหิตฺวา คจฺฉโต อนาปตฺตี’’ติ อิทํ อติทิสติ.
ตตฺถ สมโย นาม ยถาวุตฺตกาลวิเสโส. วิสงฺเกโต นาม กาลวิสงฺเกโต, ‘‘อสุกสฺมึ ทิวเส อสุกเวลาย คมิสฺสามา’’ติ สํวิทหิตฺวา คมนกาเล ตสฺส กาลสงฺเกตสฺส วิภวนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘กาลวิสงฺเกเตเยว อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๕). อาปทา นาม รฏฺเภเท ชนปทานํ ปลายนกาโล. ยถาห ‘‘รฏฺเภเท จกฺกสมารุฬฺหา ชนปทา ปริยายนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสู’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๕). เอตฺถ จ รฏฺเภเทติ รฏฺวิโลเป. จกฺกสมารุฬฺหาติ อิริยาปถจกฺกํ, สกฏจกฺกํ วา สมารุฬฺหา. อุมฺมตฺตกาทิโนติ อาทิ-สทฺเทน ขิตฺตจิตฺตาทโย คหิตา.
๑๑๘๓. กายวาจาทิกตฺตยาติ ¶ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน จิตฺตํ คหิตํ, กายวาจาจิตฺตาติ วุตฺตํ โหติ.
สํวิธานกถาวณฺณนา.
๑๑๘๔. อุทฺธํ ชวตีติ อุชฺชวนี, ปฏิโสตคามินี นาวา, ตํ. อโธ ชวนโต โอชวนี, อนุโสตคามินี นาวา, ตํ. อภิรุเหยฺยาติ เอตฺถ ‘‘สํวิธายา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาย เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๘๖). โลกสฺสาทสงฺขาตมิตฺตสนฺถเวน ตํ นาวํ อารุยฺห กีฬนจิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา อฺมฺํ สํวิธายาติ ¶ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสน กีฬาปุเรกฺขาโร สํวิทหิตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๘).
๑๑๘๕. สคามตีรปสฺเสน คมเน คามนฺตรวเสน วา ปาจิตฺติ, อคามตีรปสฺเสน คมเน อทฺธโยชเน ปาจิตฺติ อทฺธโยชนาติเรเก าเน คาเม วิชฺชมาเนปิ อวิชฺชมาเนปิ.
๑๑๘๖. โยชนปุถุลาย นทิยา มชฺเฌน คจฺฉโต อทฺธโยชนวเสน อาปตฺติทสฺสนตฺถมาห ‘‘ตถา’’ติอาทิ. ‘‘อูนโยชนปุถุลาย นทิยา มชฺฌํ อุภยภาคํ ภชตีติ ตาทิสิกาย นทิยา มชฺเฌน คจฺฉนฺตสฺส คามนฺตรคณนาย, อทฺธโยชนคณนาย จ อาปตฺตี’’ติ วทนฺติ.
๑๑๘๗. ยถาสุขํ สมุทฺทสฺมินฺติ เอตฺถ ‘‘คนฺตพฺพ’’นฺติ เสโส. ‘‘สพฺพอฏฺกถาสู’’ติอาทินา ยถาสุขคมนานฺุาย เหตุํ ทสฺเสติ. อิมินาว อสนฺทมาโนทเกสุ วาปิตฬากาทีสุ อนาปตฺตีติ วิฺายติ.
๑๑๘๘. ติตฺถสมฺปาทนตฺถายาติ ปรติตฺถํ ปาเปตุํ. ตํ นาวํ. ยุตฺตาติ นาวาปาชกา.
๑๑๘๙. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ อิมํ สงฺคณฺหาติ. อสํวิทหิตฺวา ภิกฺขุนิยา สทฺธึ เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺย วา, ติริยํ ตรณาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิทหิตฺวาปิ เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺย วา, อาปทาสุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิทหิตฺวาปิ เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺย วา, ตถา อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
‘‘อนนฺตรสโม’’ติ ¶ ¶ อิมินา ‘‘อสํวิทหิเต กาเล’’ติอาทินา วุตฺตวินิจฺฉยํ สงฺคณฺหาติ. อิธาปิ กาลวิสงฺเกเต อนาปตฺติ, ติตฺถนาวาวิสงฺเกเต อาปตฺติเยว. ยถาห ‘‘อิธาปิ กาลวิสงฺเกเตเนว อนาปตฺตี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๙๑). ‘‘โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสน กีฬาปุเรกฺขาโร สํวิทหิตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๘) วจนโต เกจิ ‘‘อิมํ สิกฺขาปทํ อกุสลจิตฺตํ โลกวชฺช’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. กีฬาปุเรกฺขารตาย หิ อภิรุหิตฺวา คามนฺตโรกฺกมเน, อทฺธโยชนาติกฺกเม วา กุสลาพฺยากตจิตฺตสมงฺคีปิ หุตฺวา อาปตฺตึ อาปชฺชติ. ยทิ หิ โส สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา อรหตฺตํ วา สจฺฉิกเรยฺย, นิทฺทํ วา โอกฺกเมยฺย, กมฺมฏฺานํ วา มนสิ กโรนฺโต คจฺเฉยฺย, กุโต ตสฺส อกุสลจิตฺตสมงฺคิตา, เยนิทํ สิกฺขาปทํ ‘‘อกุสลจิตฺตํ, โลกวชฺช’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺมา ปณฺณตฺติวชฺชํ, ติจิตฺตนฺติ สิทฺธํ.
นาวาภิรุหนกถาวณฺณนา.
๑๑๙๐. คิหิสมารมฺภํ หิตฺวา ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตํ ภตฺตํ ตฺวา ภฺุชโต ภิกฺขุโน ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. ปริปาจิตํ นาม ภิกฺขุโน สีลสุตาทิคุณํ กุลานํ วตฺวา นิปฺผาทิตํ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตํ, คุณปฺปกาสเนน นิปฺผาทิตํ ลทฺธพฺพํ กตนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๙๔). คิหิสมารมฺภนฺติ ภิกฺขุนิยา ปริปาจนโต ปุพฺเพเยว คิหิปฏิยตฺตํ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุนิยา ปริปาจนโต ปมเมว ยํ คิหีนํ ปฏิยาทิตํ ภตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๙๔). วกฺขติ หิ ‘‘คิหิสมฺปาทิตมฺปิ วา วินา’’ติ.
๑๑๙๑. ‘‘ตสฺสา’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ยํ โภชน’’นฺติ โยเชตพฺพํ. ตสฺสาติ ปฺจธา วุตฺตสฺส โภชนสฺส. สพฺเพสุ ¶ อชฺโฌหาเรสูติ สพฺเพสุ ปรคลกรณปฺปโยเคสุ.
๑๑๙๒. ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตํ ภฺุชโต โทโสติ โยชนา.
๑๑๙๓. อุโภสูติ ปริปาจิเตปิ อปริปาจิเตปิ. สพฺพตฺถาติ อิเมสุ ทฺวีสุ ปริภฺุชโต อชฺโฌหารวเสเนว ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๑๙๕. ปฺจโภชนํ ¶ เปตฺวา อฺํ ปน ยํ กิฺจิ ยาคุขชฺชผลาทิกํ ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา.
ปริปาจิตกถาวณฺณนา.
๑๑๙๗. อิทํ สพฺพํ ทสมํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานนยาทินา ทุติยานิยเตเนว สทิสํ มตนฺติ โยชนา. อิทํ สิกฺขาปทนฺติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กปฺเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๙๙) วุตฺตํ รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ.
รโหนิสชฺชกถาวณฺณนา.
ภิกฺขุนิวคฺโค ตติโย.
๑๑๙๘. เอโกติ เอกทิวสิโก. อาวสโถ ปิณฺโฑติ ปฺุตฺถิเกหิ เอกํ ปาสณฺฑํ อนุทฺทิสฺส ยาวทตฺถํ ทาตุํ สาลาทีสุ ปฺตฺตํ ปฺจสุ โภชเนสุ อฺตรํ โภชนํ. ยถาห ‘‘อาวสถปิณฺโฑ นาม ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ สาลาย วา มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา อชฺโฌกาเส วา อโนทิสฺส ยาวทตฺโถ ปฺตฺโต โหตี’’ติ ¶ (ปาจิ. ๒๐๖). อคิลาเนนาติ เอตฺถ ‘‘อคิลาโน นาม สกฺโกติ ตมฺหา อาวสถา ปกฺกมิตุ’’นฺติ วุตฺต ปทภาชนิยอฏฺกถายํ ‘‘อทฺธโยชนํ วา โยชนํ วา คนฺตุํ สกฺโกตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๐๖) วุตฺตตฺตา ตมฺหา อาวสถา อทฺธโยชนํ วา โยชนํ วา คนฺตุํ สมตฺเถน อคิลาเนนาติ อตฺโถ. ตโต อุทฺธนฺติ ทุติยทิวสโต อุตฺตริ.
๑๑๙๙. อโนทิสฺเสว ปฺตฺเต ปิณฺเฑติ โยชนา, ‘‘อิเมสํเยว วา’’ติ อฺตรํ ปาสณฺฑํ วา ‘‘เอตฺตกานํเยว วา’’ติ ตตฺถ ปุคฺคลปริจฺเฉทํ วา อกตฺวา สพฺพสาธารณํ กตฺวา ปฺตฺเต อาวสถปิณฺเฑติ อตฺโถ. ยาวทตฺเถ เอว ปิณฺเฑ ปฺตฺเตติ โยชนา, ยาวตา อตฺโถ กุจฺฉิปูรณาทิกํ ปโยชนเมตฺถ ปิณฺเฑติ วิคฺคโห, ‘‘เอตฺตกํ ทาตพฺพ’’นฺติ อปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ภฺุชนฺตานํ ยาวทตฺถํ ทาตพฺพ’’นฺติ ปฺตฺเต ปิณฺเฑ เอวาติ อตฺโถ. ภฺุชิตพฺพนฺติ กมฺมสาธนํ วา ภาวสาธนํ วา. ‘‘โภชน’’นฺติ อชฺฌาหรณียํ. สกินฺติ เอกวารํ. ตตฺถาติ อาวสเถ.
๑๒๐๐. ตสฺส ¶ ปิณฺฑสฺส. อชฺโฌหาเรสุ สพฺเพสูติ สพฺเพสุ อชฺโฌหารปฺปโยเคสุ กเตสุ. ตสฺส อชฺโฌหารกสฺส. ปาจิตฺติโย ปโยคคณนาย.
๑๒๐๑. ‘‘เอเกน กุเลน นาเนกฏฺานเภเทสุ ปฺตฺเต’’ติ, ‘‘นานากุเลหิ วา นาเนกฏฺานเภเทสุ ปฺตฺเต’’ติ จาติ โยชนา. ‘‘ปิณฺเฑ’’ติ อธิกาโร. นานา จ เอโก จ นาเนกา, านานํ เภทา านเภทา, นาเนกา จ เต านเภทา จาติ วิคฺคโห, เตสุ. เอกโภโคติ เอกปิณฺฑปริโภโค. เอวกาเรน ทุติยทิวสาทิปริโภคํ นิวตฺเตติ.
๑๒๐๔. คิลานสฺสาติ ¶ วุตฺตลกฺขเณน คิลาโน หุตฺวา ปุนปฺปุนํ ภฺุชนฺตสฺส คจฺฉโต วา อาคจฺฉนฺตสฺส วา อนาปตฺตีติ โยชนา, อนฺตมโส อทฺธโยชนมฺปิ คจฺฉโต, คนฺตฺวา อาคจฺฉโต วา อนฺตรามคฺเค จ คตฏฺาเน จ เอกสฺมึ ทิวเส ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘โย คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค เอกทิวสํ, คตฏฺาเน จ เอกทิวสํ ภฺุชติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติ. อาคจฺฉนฺเตปิ เอเสว นโย’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๐๘). โอทิสฺส ปฺตฺเตติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘ภิกฺขูนํเยว อตฺถาย อุทฺทิสิตฺวา ปฺตฺโต โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๐๘). ปริตฺเตติ อุทรปูรณาย อปฺปโหนเก โถเก โภชเน. ยถาห ‘‘ยาวทตฺถํ ปฺตฺโต น โหติ, โถกํ โถกํ ลพฺภติ, ตาทิสํ นิจฺจมฺปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๐๘). สกินฺติ ยาวทตฺถํ ปฺตฺตํ วุตฺตนเยน เอกวารํ ภฺุชโต อนาปตฺติ.
๑๒๐๕. ยาคุอาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ปฺจโภชนโต อฺเสํ อชฺโฌหรณียานํ คหณํ.
อาวสถกถาวณฺณนา.
๑๒๐๖. วุตฺตา สมยา อฺตฺราติ โยชนา, ‘‘ตตฺถายํ สมโย, คิลานสมโย จีวรทานสมโย จีวรการสมโย อทฺธานคมนสมโย นาวาภิรุหนสมโย มหาสมโย สมณภตฺตสมโย’’ติ (ปาจิ. ๒๑๗) วุตฺตา สตฺตวิธกาลา อฺตฺร.
ตตฺถ ยทา ปาทานํ ผลิตตฺตา น สกฺโกติ ปิณฺฑาย จริตุํ, อยํ คิลานสมโย. อตฺถตกถินานํ ปฺจ มาสา, อิตเรสํ กตฺติกมาโสติ อยํ จีวรทานสมโย. ยทา ¶ จีวเร กริยมาเน กิฺจิเทว จีวเร กตฺตพฺพํ กโรติ, อยํ จีวรการสมโย. ยทา อทฺธโยชนมฺปิ คนฺตุกาโม ¶ วา โหติ, คจฺฉติ วา, คโต วา, อยํ อทฺธานคมนสมโย. นาวาภิรุหนสมเยปิ เอเสว นโย. ยทา โคจรคาเม จตฺตาโร ภิกฺขู ปิณฺฑาย จริตฺวา น ยาเปนฺติ, อยํ มหาสมโย. ยทา โย โกจิ ปพฺพชิโต ภตฺเตน นิมนฺเตติ, อยํ สมณภตฺตสมโย. คโณ กตโมติ อาห ‘‘คโณ’’ติอาทิ.
๑๒๐๗. คณโภชนํ นาม กินฺติ อาห ‘‘ย’’นฺติอาทิ. ยํ ปฺจนฺนํ อฺตรํ นิมนฺตนโต, วิฺตฺติโต วา ลทฺธํ, ตํ อิธ โภชนนฺติ อธิปฺเปตํ โหตีติ โยชนา. นิมนฺตนโตติ ‘‘โภชนาน’’นฺติอาทินา วกฺขมานปฺปกาเรน กตํ อกปฺปิยนิมนฺตนมาห. วิฺตฺติโตปิ วาติ ‘‘สเจปี’’ติอาทินา วกฺขมานนเยน กตมกปฺปิยวิฺตฺติมาห.
๑๒๐๘-๑๑. โภชนานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ, ‘‘อฺตรสฺสา’’ติ เสโส, ‘‘โอทโน สตฺตุ กุมฺมาโส, มจฺโฉ มํสฺจ โภชน’’นฺติ สงฺคหิตานํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรสฺส. นามนฺติ วกฺขมานํ โอทนาทินามํ. ภิกฺขู นิมนฺเตตีติ เอตฺถ ‘‘เอกโต, นานโต วา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘เอกโต นิมนฺติตา. นานโต นิมนฺติตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๑๗-๒๑๘). เอกโต นิมนฺตนํ นาม สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ เอกโต ิตานํ นิมนฺตนํ. นานโต นิมนฺตนํ นาม ภิกฺขูนํ วิสุํ วิสุํ วสนฏฺานํ คนฺตฺวา วา เอกโต ิตฏฺานํ คนฺตฺวา วา อเนเกหิ นิมนฺตนํ. ยถาห ‘‘จตฺตาริ ปริเวณานิ วา วิหาเร วา คนฺตฺวา นานโต นิมนฺติตา, เอกฏฺาเน ิเตสุเยว วา เอโก ปุตฺเตน, เอโก ปิตราติ เอวมฺปิ นานโต นิมนฺติตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๑๗-๒๑๘).
เววจนํ ¶ นาม โอทนาทิสพฺพปทานํ, สมฺปฏิจฺฉถาติอาทิกิริยาปทานฺจ ปริยายวจนํ. ภาสนฺตรํ นาม มาคธวจนโต อฺํ สีหฬทมิฬาทิโวหารนฺตรํ. เววจเนหิ เอว วา ภาสนฺตเรน วา นิมนฺเตตีติ สมฺพนฺโธ.
ตโต นิมนฺตนานนฺตรํ. นิมนฺตนนฺติ ยถาวุตฺตํ อกปฺปิยนิมนฺตนํ. เอกโต คณฺหนฺตีติ อฺมฺสฺส ทฺวาทสหตฺถํ อมฺุจิตฺวา ิตา วา นิสินฺนา วา เอกโต คณฺหนฺติ.
‘‘คณโภชนการณ’’นฺติ ¶ อิทํ โภชนปจฺจยา ปาจิตฺติยํ เอวํ คหณมนฺตเรน น โหตีติ วุตฺตํ.
๑๒๑๒. เอกโต, นานโต วาปิ ยํ คมนํ, โภชนมฺปิ วา, ตํ คณโภชเน น การณนฺติปิ วิฺู ภณนฺตีติ โยชนา. เอกโต นานโต วาปีติ เอตฺถ ‘‘ิตา วา นิสินฺนา วา’’ติ เสโส.
๑๒๑๓-๔. วิฺาเปตฺวาติ ‘‘อมฺหากํ จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทหี’’ติอาทินา เอกโต วา ‘‘มยฺหํ เทหิ, มยฺหํ เทหี’’ติ ปาเฏกฺกํ วา วิฺาเปตฺวา. เอวมฺปีติ วิฺตฺติโตปิ.
๑๒๑๕. ทุวิธสฺสาติ นิมนฺตกสฺส, วิฺาปกสฺส จ.
๑๒๑๖. สตฺตสุปิ สมเยสุ ภฺุชตํ อนาปตฺตีติ โยชนา, ‘‘คณโภชน’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ, ยถาวุตฺเตสุ คิลานาทีสุ สตฺตสุ กาเลสุ เลสํ วินา ภฺุชนฺตานนฺติ อตฺโถ. ‘‘เอกโต’’ติ อิทํ ‘‘คเหตฺวา’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ. ภฺุชตนฺติ ภฺุชนฺตานํ. ตถาติ ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ.
๑๒๑๗. อนุปสมฺปนฺโน จ จารี จ ปตฺโต จ อนิมนฺติโต จ อนุปสมฺปนฺน…เป… นิมนฺติตา, เต จตุตฺเถ กตฺวาติ อตฺโถ ¶ , อนุปสมฺปนฺนํ วา ปิณฺฑจารึ วา จตุตฺถสฺส ปตฺตํ วา อนิมนฺติตํ วา จตุตฺถํ กตฺวา เอกโต คเหตฺวา ภฺุชนฺตานํ คณเภโท มุนินา ปกาสิโต, คณสฺส อปริปุณฺณตา ทีปิตาติ วุตฺตํ โหติ. ปิณฺฑาย จรติ สีเลนาติ ปิณฺฑจารี, โส อิธ ปุพฺพปทโลเปน ‘‘จารี’’ติ วุตฺโต, ปิณฺฑปาติโก. โส หิ นิมนฺตนํ อสาทิยนฺโต คณโภชนโก คณขาทโก น โหตีติ อธิปฺปาโย. ปตฺโต นาม วิหาเร นิสีทิตฺวา จตุตฺเถน อตฺตนา ลทฺธพฺพโภชนตฺถาย เปสิโต ปตฺโต. อนิมนฺติโต นาม ปมํ อกปฺปิยนิมนฺตนาย นิมนฺติเต อนนฺโตคโธ อุปสมฺปนฺโน. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. อปิ-สทฺโท เหฏฺา ทสฺสิตํ ทฺวินฺนํ, ติณฺณํ วา วเสน วุตฺตวินิจฺฉยํ อเปกฺขติ.
๑๒๑๘. สมยลทฺธานนฺติ คิลานาทโย สตฺตสมยา ลทฺธา เยหิ เต สมยลทฺธา, เตสํ, นิทฺธารเณ ¶ สามิวจนํ. ‘‘อฺตรสฺสา’’ติ เสโส, ‘‘วเสนา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เนว คณเภโทติ โยชนา. สมยลทฺธกสฺส อตฺตโน อนาปตฺติภาวมนฺตเรน ตํ จตุตฺถํ กตฺวา คณโภชนํ คณฺหนฺตานํ ปน อาปตฺติสมฺภวโต อาห ‘‘อาปตฺติ ปน เวทิตพฺพา’’ติ. ยถาห มหาปจฺจริยํ ‘‘สมยลทฺธโก สยเมว มุจฺจติ, เสสานํ คณปูรกตฺตา อาปตฺติกโร โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๒๐).
๑๒๑๙. ปฺจโภชเนสุ อฺตรสฺส นามํ คเหตฺวา นิมนฺเตตฺวา เตสุเยว อฺํ ทิยฺยมานํ คณฺหนฺตสฺส วิสงฺเกตาภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โภชนานฺจา’’ติอาทิ. โภชนานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ, อฺตรสฺส วเสนาติ วุตฺตํ โหติ. ตํ วิสงฺเกตํ, โอทนาทีนํ นาเมน นิมนฺเตตฺวา ¶ ทิยฺยมานํ ยาคุอาทึ คณฺหนฺตสฺส คณโภชนํ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๒๒๑. ‘‘นิจฺจภตฺต’’นฺติ ธุวภตฺตํ วุจฺจติ. ‘‘นิจฺจภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, พหูนมฺปิ เอกโต คเหตุํ วฏฺฏติ. สลากภตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย.
คณโภชนกถาวณฺณนา.
๑๒๒๓-๔. พหูหิ มนุสฺสเกหีติ วิสุํ วิสุํ นิมนฺติเตหิ อเนเกหิ มนุสฺเสหิ. ปฺจสุ ยสฺส กสฺสาติ เอตฺถ ‘‘สหธมฺมิเกสู’’ติ เสโส, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ, ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ ยสฺส กสฺสจีติ อตฺโถ. ‘‘หิตฺวา’’ติอาทินา กิมาหาติ? ยสฺส วิกปฺเปติ, ตสฺมึ สนฺนิหิเต ‘‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ สมฺมุขา วิกปฺปนวเสน วา ตสฺมึ อสนฺนิหิเต ตสฺส นามํ คเหตฺวา ‘‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ อสมฺมุขา วิกปฺปนวเสน วา ปมนิมนฺตนาย วิกปฺปนํ หิตฺวา, ตํ อวิกปฺเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
ภตฺตนฺติ เอตฺถ ‘‘โย ภฺุชตี’’ติ เสโส. นิมนฺติโต โย ปจฺฉา นิมนฺติตํ ภตฺตํ ภฺุชติ, ตสฺส ปาจิตฺติยนฺติ โยชนา. อุปฺปฏิปาฏิยา เอกสิตฺถมฺปิ ภฺุชโต ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนาติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ปจฺฉา นิมนฺติตานํ โภชนํ ปมํ ภฺุชิตฺวา ปมํ นิมนฺติตานํ โภชนํ ปจฺฉา ภฺุชนฺตสฺส จ เอกปตฺเตเยว เหฏฺา ปมํ นิมนฺติตานํ โภชนํ ปกฺขิปิตฺวา อิตรํ อุปริ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา หตฺถํ โอตาเรตฺวา เหฏฺา ิตโภชเน ¶ เอกสิตฺถมฺปิ ปมํ อภฺุชิตฺวา อุปริ ิตํ ปมํ ภฺุชนฺตสฺส จาติ วุตฺตํ โหติ. เตเนว ยถา อุปฺปฏิปาฏิ น โหติ, ตถา มิสฺสีกตํ โภชนํ ภฺุชนฺตสฺส น โทโสติ มหาปจฺจริยํ วินิจฺฉโย ¶ พฺยติเรกโต ทสฺสิโต โหติ. ยถาห ‘‘ทฺเว ตีณิ กุลานิ นิมนฺเตตฺวา เอกสฺมึ าเน นิสีทาเปตฺวา อิโต จิโต จ อาหริตฺวา ภตฺตํ อากิรนฺติ, สูปพฺยฺชนํ อากิรนฺติ, เอกมิสฺสกํ โหติ, เอตฺถ อนาปตฺตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๒๙).
๑๒๒๕-๖. ปรมฺปรโภชนสฺส สรูปํ ปทภาชเน วุตฺตนเยน ทสฺเสตุมาห ‘‘โภชนานมฺปี’’ติอาทิ. เตสเมว ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ ปริภฺุชตีติ โยชนา. มเหสินา ปริทีปิตนฺติ ปทภาชเน ‘‘ปรมฺปรโภชนํ นาม ปฺจนฺนํ โภชนาน’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๒๒๗) นเยน วุตฺตํ.
๑๒๒๗. ยตฺถาติ อเนเกหิ เอกภาชเน ปกฺขิตฺเต ยสฺมึ โภชเนติ วุตฺตํ โหติ เอเกเนว ทินฺเน วิจารณาภาวา. สพฺพเมกรสํ สิยาติ วิสุํ วิสุํ วิฺายมานรสํ อหุตฺวา เอกรสเมว โหติ.
๑๒๓๐. ‘‘คาเมนา’’ติ อิมินา คามฏฺาเยว วุตฺตา. ‘‘นิมนฺติตสฺส โทโส น วิชฺชตี’’ติ อิทํ คามปูคนิคเมหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. คาม-สทฺเทน ‘‘คามา วา อรฺา วา’’ติ (ปารา. ๙๑) เอตฺถ วิย นครมฺปิ สงฺคหิตํ. ปูโค นาม วิสุํ วิสุํ สมูหา หุตฺวา ปฺุการิโน ธมฺมิกมนุสฺสา. นิคโม นาม สาปโณ มหาคาโม. สกลคาเมน นิมนฺติโต หุตฺวา สมฺปตฺเต ยตฺถ กตฺถจิ เคเห ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. ปูคาทีสุปิ เอเสว นโย. ยถาห ‘‘สกเลน คาเมน เอกโต หุตฺวา นิมนฺติตสฺเสว ยตฺถ กตฺถจิ ภฺุชโต อนาปตฺติ. ปูเคปิ เอเสว นโย’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๒๙). นิจฺจภตฺเต โทโส น วิชฺชตีติ อเนกฏฺานโต ทิยฺยมานํ นิจฺจภตฺตมฺปิ อุปฺปฏิปาฏิยา ภฺุชนฺตสฺส น โทโสติ วุตฺตํ โหติ.
๑๒๓๑. กาโย ¶ ¶ วาจา กายวาจาจิตฺตนฺติ อิเมหิ อาปชฺชนํ กถินสมุฏฺานํ นาม. อิธ กฺริยํ นาม โภชนํ, อกฺริยํ นาม ปมนิมนฺตนสฺส อวิกปฺปนํ, อิทํ ทฺวยเมวาห ‘‘โภชนฺจาวิกปฺปน’’นฺติ.
ปรมฺปรโภชนกถาวณฺณนา.
๑๒๓๒-๓. ปูวาติ อติรสาทโย รสา. ปเหณกตฺถายาติ ปณฺณาการตฺถาย. ปฏิยตฺตาติ สมฺปาทิตา. ปาเถยฺยตฺถายาติ คมิกสฺส สมฺพลตฺถาย. ปฏิยตฺตา มนฺถา วาติ สมฺพนฺโธ. มนฺถา นาม พทฺธสตฺตุอพทฺธสตฺตุติลตณฺฑุลาทโย. ยถาห ‘‘พทฺธสตฺตุอพทฺธสตฺตุติลตณฺฑุลาทิ สพฺพํ อิธ มนฺโถตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓). เย ปูวา, มนฺถา วาติ โยชนา. หีติ นิปาตมตฺตํ. ตตฺถ ปฏิยตฺเตสุ เตสุ ปูเวสุ วา มนฺเถสุ วา. ภิกฺขุนาติ เอตฺถ ‘‘อากงฺขมาเนนา’’ติ เสโส.
ทฺวตฺติปตฺตาติ ทฺเว วา ตโย วา ปตฺตาติ วิคฺคโห. ปูราติ มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมราชิสมํ ปุณฺณา. ยถาห ‘‘มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมเลขาย สมปูเร ปตฺเต คเหตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓). ‘‘ทฺวตฺติปตฺตา ปูรา’’ติ เจตฺถ ปริมาณํ ทสฺสิตํ, ปริมาณปริเมยฺยานํ อเภโทปจาเรน ปูวมนฺถา คเหตพฺพา ยถา ‘‘ทฺเว ติสฺโส ตณฺฑุลนาฬิโย’’ติ. ปูเวหิ วา สตฺตูหิ วาติ โยชนา. สตฺตูติ พทฺธสตฺตุอพทฺธสตฺตูนํ คหณํ, อิมินาว ติลาทีนิ อุปลกฺขิตานิ. ตติยปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา เหฏฺาราชิยา อุทฺธํ กตฺวา ปกฺขิตฺตฺเจตํ ‘‘ตโต อุตฺตริ’’นฺติ อิมินา จ คยฺหติ. ยถาห ‘‘สเจ ตติยํ ปตฺตํ ถูปีกตํ คณฺหาติ, ปูวคณนาย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓).
๑๒๓๗. ตตฺถ ¶ เตสุ ปูเวสุ วา มนฺเถสุ วา ทฺเว เจ ปตฺตปูรา ลทฺธาติ โยชนา. เอโก ปตฺตปูโร ปทาตพฺโพติ โยชนา. เอกโตติ เอกปตฺตปูรโต น ปทาตพฺโพติ โยชนา, กิฺจิปิ อกามา น ทาตพฺพนฺติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘เยน เอโก คหิโต, น เตน กิฺจิ อกามา ทาตพฺพํ. ยถารุจิ กาตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓). เอวํ ททนฺเตน อาสนสาลาย วา อตฺตโน นิพทฺธวาสฏฺาเน วา ทิฏฺสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สาธารณํ กตฺวา ทานมนฺตเรน น มิตฺตานเมว ทาตพฺพํ. ยถาห ‘‘ยถามิตฺตํ ปน ทาตุํ น ลพฺภตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓).
๑๒๓๘-๙. อปเหณกํ ¶ อปาเถยฺยํ เทนฺตานนฺติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘น ปเหณกตฺถาย น ปาเถยฺยตฺถาย ปฏิยตฺตํ เทนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๕). ตโตติ ปเหณกปาเถยฺยโต. วา-สทฺเทน อิธ อวุตฺตํ ‘‘คมเน ปฏิปฺปสฺสทฺเธ เทนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๕) อนาปตฺติวาเร วุตฺตํ สงฺคณฺหาติ. ตทูนกนฺติ ตโต ทฺวตฺติปตฺตโต อูนกํ. ยถาห ‘‘อูนกทฺวตฺติปตฺตปูเร ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๕). อปาเถยฺยาทิอตฺถาย ปฏิยาทิตนฺติ สฺาย ปาเถยฺยาทึ คณฺหนฺตสฺสาปิ อาปตฺติเยว อจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส. อตฺตโนเยว คหณตฺถํ ‘‘อิมสฺส หตฺเถ เทหี’’ติ วจเนนาปิ อาปชฺชนโต วจีกมฺมํ.
กาณมาตุกถาวณฺณนา.
๑๒๔๐. อฺเนาติ ตทฺธิตโลเปน นิทฺเทโส, อฺตเรนาติ อตฺโถ, ปวาริโตติ สมฺพนฺโธ. โภชนานนฺติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ปวาริโตติ ‘‘คณฺหถ ภนฺเต ยาว อิจฺฉถา’ติ เอวํ ยาวทตฺถปวารณาย, สยฺจ ‘อลํ อาวุโส โถกํ โถกํ เทหี’ติ เอวํ ปฏิกฺเขปปวารณายา’’ติ อฏฺกถาย วุตฺตปฺปการทฺวเยน ปวาริโตติ อตฺโถ ¶ . วิกปฺปทฺวเย ปการทฺวเย ปวาริต-สทฺเท วร-ธาตุสฺส ปตฺถนวารณตฺถวเสนายมตฺโถ เวทิตพฺโพ, ‘‘ปาจิตฺติ อนติริตฺต’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อนติริตฺตํ โภชน’’นฺติ วิเสสิตพฺพมเปกฺขิตฺวา ‘‘อฺเนา’’ติ เอตฺถ วิภตฺตึ วิปริณาเมตฺวา ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชน’’นฺติ โยเชตพฺพํ, วกฺขมาเน อนติริตฺตกตโภชนนิทฺเทเส วุตฺเตสุ ปฺจสุ โภชเนสุ อฺตรํ โภชนนฺติ อตฺโถ. ‘‘ขาทนียํ วา โภชนียํ วา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๖, ๒๓๘) สห เทสิตตฺตา เอกโยคาเยน ‘‘ขาทนียํ วา’’ติ จ คเหตพฺพํ. ปฺจ โภชนานิ, กาลิกตฺตยฺจ เปตฺวา สพฺพํ ยาวกาลิกํ ขาทนียนฺติ วุตฺตํ.
๑๒๔๑. อสนนฺติ เอตฺถ วิปฺปกตโภชนํ ทิสฺสติ, ภฺุชมาโน เจ ปุคฺคโล โหติ, โภชนกิริยานุปจฺฉินฺนา วตฺตตีติ อตฺโถ. โภชนนฺติ ปวารณปโหนกโอทนาทิ หตฺถาทีสุ ทิสฺสติ. หตฺถปาโสติ ปวารณปโหนกํ โภชนํ ทาตุํ อภิหริตฺวา ิโตกาโส อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาโณ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อภิหรณํ อภิหาโร, โส เอว อภิหารตา, ตถา ทาตุํ ิตสฺส กาเยน กโต อภิหาโร ทิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติ. กายวาจาปฏิกฺเขโปติ ตถา อภิหเฏ โภชเน ปฏิคฺคาหกสฺส หตฺถวิการาทิโก กายิโก วา ‘‘อล’’นฺติอาทิโก วาจสิโก วา ปฏิกฺเขโป ปฺายตีติ อตฺโถ.
๑๒๔๒. นิปฺปปฺเจนาติ ¶ สห วาสนาย ปหีนตณฺหาทิปปฺจตฺตยรหิเตน ตถาคเตน.
๑๒๔๓. ตตฺถาติ โอทนาทีสุ. สตฺตนฺนนฺติ ‘‘สาลี’’ติอาทินา วกฺขมานานุรูปานํ.
๑๒๔๔. โอทโกติ ¶ อุทเก ภโว. เอตฺถาติ ปฺจงฺคปวารณาย. อยํนิจฺฉโยติ วกฺขมานวิธิปฺปการํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสติ.
๑๒๔๕. สาลีติ สพฺพสาลิชาติ. วีหีติ สพฺพวีหิชาติ. กงฺคูติ เสตรตฺตกาฬเภทา สพฺพา กงฺคุชาติ. วรโก เสตวรโก. ธฺเน สมฺภตปฺุสมฺภาเรน ภควตา.
๑๒๔๖. ติณนฺติ ติณพีชเมว วุตฺตํ. ทีปิตํ สงฺคหิตํ. วรกโจรโกติ สุขุมวรโก.
๑๒๔๘. องฺคสมฺปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘หตฺเถนา’’ติอาทิ.
๑๒๕๑-๒. ธฺรสาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ทธิอาทโย คหิตา. อาโรเปตฺวาติ อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา. ผลนฺติ เอลาฬุกาทิผลํ. ปณฺณนฺติ สูปสากํ. กฬีรนฺติ เวฬุอาทีนํ กฬีรํ. พหูนีติ เตสเมว วิเสสนํ. ตตฺถ จาติ ปกฺขิตฺตปณฺณาทิมฺหิ ตกฺกาทิเก. โอธึ ทสฺเสตีติ เอตฺถ ‘‘ปริโภคกาเล’’ติ เสโส. สฺชเนตีติ เอตฺถ ‘‘ผลาทิยาคู’’ติ ลพฺภติ.
๑๒๕๓-๔. รเสติ มํสาทิรเส. ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วา ‘‘ยาคุ’’นฺติ วา วตฺวาติ โยเชตพฺพา. ยาคุ สงฺคหิตาติ เอตฺถ โอธิปฺายนอปฺายนวิกปฺปทฺวเย ยาคุยา สโม วินิจฺฉโยติ อธิปฺปาโย.
๑๒๕๕. ฉุปนฺตีติ ¶ สมฺผุสนฺติ. ฉุป สมฺผสฺเสติ ธาตุ, ปกฺขิปนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ¶ ‘‘ยตฺถ มจฺฉมํสํ ปกฺขิปนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙). สาสปมตฺตมฺปิ มจฺฉมํสํ วา สเจ ปฺายตีติ โยชนา. ปวารณนฺติ เอตฺถ ‘‘ชเนตี’’ติ เสโส. ยาคุยาติ ปทํ ปจฺจตฺตวเสน วิปริณาเมตฺวา ยาคุ ชเนตีติ โยเชตพฺพํ.
๑๒๕๖. สํสฏฺโติ ปริสฺสาวิโต น สฺชเนตีติ โยชนา.
๑๒๕๗. สพฺพโส เปตฺวาติ สมฺพนฺโธ. มํสาทิปกฺขิตฺตโอทนาทิปฺปกรณาวเสสโต องฺคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สพฺพโส’’ติ. สพฺพโส น ปวาเรตีติ โยชนา. เวฬุตณฺฑุลนฺติ เวฬุวีหีนํ ตณฺฑุลํ. อาทิ-สทฺเทน กนฺทมูลํ สงฺคหิตํ. ยถาห ‘‘เวณุตณฺฑุลาทีหิ วา กนฺทมูลผเลหิ วา เยหิ เกหิจิ กตภตฺต’’นฺติ.
๑๒๕๘. ตโตติ สาลิอาทิโต, เวฬุอาทิโต จ, ตโต นิพฺพตฺตา ปุถุกา วาติ อตฺโถ. ตาหีติ ปุถุกาหิ. สุทฺธาติ ปุถุกาทีหิ อมิสฺสา น ปวาเรนฺตีติ สมฺพนฺโธ.
๑๒๕๙. ภฏฺานนฺติ ภชฺชิตานํ. สตฺตูหิ สงฺคหิตํ สตฺตุสงฺคหิตํ.
๑๒๖๑. สตฺตูนํ โมทโกติ สตฺตุพทฺธํ, พทฺธสตฺตูติ อตฺโถ.
๑๒๖๓. เตเหวาติ ลาเชหิ เอว. สุทฺธํ ขชฺชกํ วาติ วกฺขมานนเยน มจฺฉาทีหิ อสมฺมิสฺสํ ขชฺชกํ.
๑๒๖๔. ‘‘ปูริต’’นฺติอาทินา ¶ ตพฺพิปริยายํ ทสฺเสติ. ตนฺติ กุณฺฑกาทิ.
๑๒๖๖. อกปฺปิยํ มํสํ. อวตฺถุตฺตาติ อกปฺปิยมํสานํ วาเรตพฺพตฺตา ปวารณาย อวตฺถุตฺตา.
๑๒๖๗. วตฺถุกตฺตาติ กปฺปิยมํสสฺส ปวารณาย วตฺถุภูตตฺตา. ปวาเรตีติ เอตฺถ ‘‘ขาทิยมานสฺส จ มํสตฺตา’’ติ เสโส ทฏฺพฺโพ. ยถาห ‘‘ยํ ปน ขาทติ, ตํ กิฺจาปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ¶ ิตํ, ขาทิยมานํ ปน มํสภาวํ น ชหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙).
๑๒๖๘. กิฺจิ กปฺปิยโภชนนฺติ ปฺจสุ โภชเนสุ ยํ กิฺจิ กปฺปิยโภชนํ.
๑๒๖๙. อกปฺปิยํ มํสํ อฺนฺติ อกปฺปิยมํสโต อวเสสํ กุลทูสนาทิวเสน อุปฺปนฺนโภชนํ คหิตํ. ยถาห ‘‘กุลทูสนเวชฺชกมฺมอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนสาทิตรูปิยาทีหิ นิพฺพตฺตํ พุทฺธปฏิกุฏฺํ อเนสนาย อุปฺปนฺนํ อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตี’’ติ.
๑๒๗๐-๑. อสนํ โภชนนฺติ องฺคทฺวเย วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ อชฺโฌหฏ’’นฺติอาทิ. อชฺโฌหฏนฺติ ปรคลคตํ โหติ. ‘‘ปตฺเต’’ติ อิมินา ถาลกาทิภาชนฺจ คหิตํ. กตฺถจิ โภชนํ นตฺถีติ โยชนา. ปตฺเต, หตฺเถ, มุเข วา ยตฺถ กตฺถจิ ปฺจนฺนํ โภชนานํ กิฺจิ น วิชฺชติ, คนฺธมตฺตํ ปฺายตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๒๗๒. อาทายาติ เอตฺถ ‘‘อฺตฺร ภฺุชิตุ’’นฺติ เสโส. ‘‘โยปิ อฺตฺร คนฺตฺวา ภฺุชิตุกาโม มุเข ภตฺตํ คิลิตฺวา เสสํ ¶ อาทายา’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) มหาปจฺจริยฏฺกถายํ วุตฺตวจนสฺส ปมาณตฺตา อาห ‘‘น ปวาเรตี’’ติ.
๑๒๗๓. ‘‘มุเข ภตฺตํ คิลิตํ, หตฺเถ ภตฺตํ วิฆาสาทสฺส ทาตุกาโม, ปตฺเต ภตฺตํ ภิกฺขุสฺส ทาตุกาโม, สเจ ตสฺมึ ขเณ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) เอวมาคตํ กุรุนฺทฏฺกถํ สงฺคเหตุํ ‘‘มุเข จ ภตฺต’’นฺติอาทิวจนโต จ ‘‘อสนสฺส อุปจฺเฉทา’’ติอาทินา วกฺขมานาย ยุตฺติยา อสนาวสาเน ยุชฺชมานตฺตา จ อิมิสฺสา คาถาย ‘‘โภตฺตุกาโม’’ติ ปาํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ทาตุกาโม’’ติ ปาโ คเหตพฺโพ.
๑๒๗๔. ‘‘อสนสฺส อุปจฺเฉทา’’ติ อิมินา ตสฺมึเยว อาสเน ยถานิสินฺเนเนว กาตพฺเพ อสเน อาสาวจฺเฉโท ทีปิโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺมึ ปน อาสเน น ภฺุชิตุกาโม, วิหารํ ปวิสิตฺวา ภฺุชิตุกาโม, อฺสฺส วา ทาตุกาโม’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙). กุรุนฺทฏฺกถายํ ตสฺส วินิจฺฉยสฺส ทสฺสิตตฺตา ‘‘มหาปฺา’’ติ กุรุนฺทฏฺกถาจริยํ ¶ สนฺธายาห. การณาการณฺุโนติ ‘‘ปวารณสฺส อิทํ การณํ, อิทํ อการณ’’นฺติ ชานนฺตา. ‘‘การณาการณฺุนา’’ติ กตฺถจิ โปตฺถเก ลิขนฺติ. ตตฺถ มหาปฺา การณาการณฺุโน อาจริยา อสนสฺส…เป… โสติ หิ การณํ กถยนฺตีติ โยชนา.
๑๒๗๕. หตฺถปาสงฺเค วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘คณฺหโต…เป… ปสาริต’’นฺติ. คณฺหโตติ เยน อิริยาปเถน สมนฺนาคโต หุตฺวา คณฺหาติ, เอวํ คณฺหโต. ปจฺฉิมํ องฺคนฺติ ทายเกน ทินฺนสฺส ปฏิคฺคาหกสฺส โย อวยโว ปรภาเค โหติ ¶ , ตํ านาทิอิริยาปถสมนฺนาคตสฺส ปฏิคฺคาหกสฺส ปณฺหิอาทึ ปจฺฉิมํ องฺคํ. ททโต ปสาริตํ หตฺถํ วินา ปุริมํ องฺคนฺติ โยชนา. ปสาริตํ หตฺถนฺติ เอตฺถ ‘‘ทาตุ’’นฺติ เสโส. อุภินฺนนฺติ เอตฺถ ‘‘อนฺตเร’’ติ เสโส. ปฏิคฺคาหกทายกานํ ปจฺฉิมปุริมานํ อุภินฺนํ องฺคานํ อนฺตเร โอกาเส. อฑฺฒํ อุปฑฺฒํ หตฺถํ เตยฺยํ ตติยํ ยสฺสาติ วิคฺคโห, อติเรกวิทตฺถิทฺวิรตนปฺปมาณนฺติ อตฺโถ.
๑๒๗๖. อภิหารงฺเค วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตสฺมิ’’นฺติอาทิ. อฑฺฒเตยฺเย ตสฺมึ าเน ตฺวาติ โยชนา, ทฺวิรตนวิทตฺถิปมาเณ ตสฺมึ าเน ตฺวาติ อตฺโถ. อภิหฏนฺติ อุปนีตํ. ตาทิสนฺติ อภิหฏสทิสํ, ปวารณปโหนกานํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรนฺติ อตฺโถ.
๑๒๗๗-๘. อาธารเก วาปีติ วลยาทิปตฺตาธารเกปิ. อูรูสูติ ทฺวินฺนํ อูรูนํ มชฺเฌ, องฺเกติ อตฺโถ. อาหริตฺวาติ อภิหริตฺวา. ภตฺตํ คณฺหาตีติ เอตฺถ ‘‘อิโต’’ติ เสโส, ‘‘อิโต ภตฺตํ คณฺหา’’ติ อนนฺตเร นิสินฺโน จ ภาสตีติ โยชนา. ภตฺตนฺติ อุปลกฺขณํ, ปฺจสุ โภชเนสุ ยํ กิฺจีติ อตฺโถ. ตนฺติ ตถา คณฺหิตุํ วุตฺตภตฺตาทิโภชนํ. อภิหารสฺส จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท ปทปูรณตฺโถ, เอวการตฺโถ วา, อภาวา เอวาติ โยชนา.
๑๒๗๙. ‘‘ภตฺตปจฺฉิ’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณํ.
๑๒๘๐. ทียมาเนติ เอตฺถ ‘‘โภชเน’’ติ เสโส. อิตโรติ หตฺถปาเส นิสินฺโน. อภิหารงฺคสฺส อภาวา โส น ปวาริโตติ.
๑๒๘๑. ปฏิกฺเขปงฺเค ¶ ¶ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘กาเยนา’’ติอาทิ. วาจาภิหารสฺส อนงฺคตฺตา อาห ‘‘กาเยนาภิหฏ’’นฺติ. ยถาห ‘‘วาจาย อภิหฏํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙). อภิหฏโภชนํ ปฏิกฺขิปิตุํ องฺคุลิโย วา หตฺถํ วา หตฺถคตสฺส กสฺสจิ จลนาทึ ยํ กฺจิ กายวิการํ กโรนฺโต, ภมุํ อุกฺขิปนฺโต, กุชฺฌิตฺวา โอโลเกนฺโต วา กาเยน ปฏิกฺขิปตีติ วุจฺจติ. ‘‘อล’’นฺติ วา ‘‘น คณฺหามี’’ติ วา ‘‘อาคเมหี’’ติ วา ‘‘อธิวาเสหี’’ติ วา ‘‘มา อากิรา’’ติ วา ‘‘อปคจฺฉาหี’’ติ วา เอวมาทิกํ วทนฺโต วาจาย ปฏิกฺขิปตีติ วุจฺจติ.
๑๒๘๒-๓. อากิราติ เอตฺถาปิ ‘‘อิติ จา’’ติ โยเชตพฺพํ. เอวํ วทนฺตสฺส นิวาเรตุกามตาจิตฺเต สติปิ นิวารณวจเนน โหนฺตํ ปวารณํ อากิราติอาทิวิธิวจเน น โหตีติ อาห ‘‘น ปน’นฺติ ปวารณา’’ติ. ปวารณา ปน น อตฺถีติ โยชนา.
๑๒๘๔. ‘‘รสํ คณฺหถา’’ติ วเทติ สมฺพนฺโธ. ตํ สุตฺวาติ ตํ วจนํ สุตฺวา.
๑๒๘๕. ‘‘สาร’’นฺติ อิทํ วณฺณภณนมตฺตํ. ‘‘อิท’’นฺติ สามฺเน มจฺฉมํสํ วทติ, ปวารณงฺคํ โหติ. มจฺฉรสํ มํสรสนฺติ เอตฺถ ทฺวนฺทสมาสสฺสปิ สมฺภวโต ‘‘มจฺฉํ, มํสํ คณฺหา’’ติ จ วุตฺตํ โหติ, ตฺจ องฺคํ โหติ.
๑๒๘๖. ‘‘รสํ คณฺหา’’ติ วุตฺเต ปนสฺส วิกปฺปสฺส อภาวา ปวารณสฺส องฺคํ น โหติ. เตเนวาห ‘‘อตฺถิ จ มํสํ เจ’’ติ.
๑๒๘๗. มุหุตฺตํ ¶ อาคเมหีติ กฺจิ กาลํ โอโลเกหิ.
๑๒๘๘. ปนสาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน เวตฺตงฺคาทีนํ คหณํ.
๑๒๙๐. มจฺฉสูปํ มํสสูปนฺติ เอตฺถ สมาสวิกปฺปา ‘‘มจฺฉรสํ มํสรส’’นฺติ เอตฺถ วิย ทฏฺพฺพา.
๑๒๙๑. กรมฺพกนฺติ ¶ มจฺฉมํเสน วา อฺเน วา มิสฺสสฺเสว สูปวิเสสสฺส นามํ. เตเนว จ ‘‘มํสกรมฺพกํ คณฺหถ, มจฺฉกรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต นิเสเธน ปวารณา โหติ, ‘‘กรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต อนิยตวจนตฺตา น โหติ. กฬีรสูปาทีหิ สมานวินิจฺฉยภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอเสว นโย วุตฺโต’’ติ.
๑๒๙๓. เยนาติ ภตฺเตน. อาปุจฺฉิโตติ ‘‘คณฺหถา’’ติ วุตฺโต. ตสฺส ภตฺตสฺส. อตฺถิตาย ยาคุยา วิชฺชมานตฺตา. อิติ การณนฺติ อิทํ ปวารณการณํ.
๑๒๙๔. ‘‘ยาคุมิสฺสกํ คณฺหา’’ติ วุตฺเต สา ยาคุ ตตฺถ ตสฺมึ อภิหเฏ ภาชเน ปกฺขิตฺตภตฺเตน สมา วา พหุตรา วา เจ โหติ, โส เอวํ วตฺวา อภิหฏํ ปฏิกฺเขปํ ภิกฺขุ น ปวาเรติ กิราติ โยชนา. กิราติ อรุจึ สูเจติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘การณํ ปน ทุทฺทส’’นฺติ.
๑๒๙๕. สพฺพตฺถาติ สพฺพอฏฺกถาสุ.
๑๒๙๖. วิสุํ กตฺวาติ เอกสิตฺถมฺปิ ยถา น โหติ, ตถา รสํ วา ขีรํ วา ภตฺตโต วิโยเชตฺวา.
๑๒๙๗. คจฺฉนฺเตเนวาติ ยาว โภชนนิฏฺานํ, ตาว คจฺฉนฺเตเนว. ยถาห ‘‘คจฺฉนฺเตน นทิปูรํ ปตฺเตนปิ อฏฺตฺวา นทิตีเร ¶ คุมฺพํ ปริกฺขิปิตฺวา วิจรนฺเตน นาวํ วา เสตุํ วา อารุฬฺเหน อฏฺตฺวา วฏฺเฏตฺวา วิจรนฺเตนา’’ติ.
๑๒๙๘. โสติ คจฺฉนฺโต. ตโตติ านโต, คมนอิริยาปถสฺส วิโกปิตตฺตาติ อธิปฺปาโย.
๑๒๙๙. อาสนํ ¶ อวิจาเลตฺวาติ นิสชฺชาวเสน ผุฏฺฏฺานํ อจาเลตฺวา, อนุฏฺหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อทินฺนาทาเน วิย านาจาวนํ คเหตพฺพ’’นฺติ คณฺิปเท วุตฺตํ.
๑๓๐๐. ตโตติ ปวาริตกาลโต อุทฺธํ, ตโต นิสินฺนฏฺานโต วา. อิโต, เอตฺโต วา. อีสกมฺปิ สํสริตุนฺติ นิสินฺนฏฺานโต อิโต จิโต จ โถกมฺปิ สํสริตุํ, อปคนฺตุนฺติ อตฺโถ.
๑๓๐๑. สพฺพตฺถาติ ปีกาทิสํหาริเม สพฺพสฺมึ อาสเน. ‘‘วินยฺุนา’’ติ อิมินา ‘‘สเจ ปน นํ สห มฺเจน อุกฺขิปิตฺวา อฺตฺร เนนฺติ, วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) อฏฺกถายํ ‘‘ปีกาทีสุปิ อยเมว วินิจฺฉโย’’ติ วุตฺตภาวํ ชานนฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๐๒. นิปชฺชิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปริวตฺตนฺเตน เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส านํ นาติกฺกเมตพฺพ’’นฺติ วจนโต ปุพฺพสยิตฏฺานํ อวิชหิตฺวา สยิตฺวาเยวาติ อตฺโถ. ตเถวาติ อุกฺกุฏิโก หุตฺวาวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตสฺส ปน เหฏฺา ปลาลปีํ วา กิฺจิ วา นิสีทนกํ ทาตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๑๓๐๓. อติริตฺตํ กโรนฺเตน สิกฺขุนา ภาชนํ โอนเมตฺวาน โภชเน ทสฺสิเต อถ ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพนฺติ ¶ โยชนา. ตตฺถ อติริตฺตํ กโรนฺเตนาติ ‘‘อติริตฺตํ นาม กปฺปิยกตํ โหติ, ปฏิคฺคหิตกตํ โหติ, อุจฺจาริตกตํ โหติ, หตฺถปาเส กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา อวุฏฺิเตน กตํ โหติ, ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ วุตฺตํ โหติ, คิลานาติริตฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙) วุตฺเตสุ อฏฺสุ อากาเรสุ อนฺตํ วินา ปุริเมหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ อติริตฺตํ กโรนฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘อิเมหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ ยํ อติริตฺต’’นฺติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙).
อิธ อติริตฺตํ กาตุํ อภิหฏโภชนํ กปฺปิยฺจ นาม โหติ, กปฺปิยกเตน สิงฺคิเวรลสุณาทิวตฺถุนา ยุตฺตตาย จ อกปฺปิยมํสาภาเวน จ กุลทูสนาทีหิ อนุปฺปนฺนภาเวน จ กตฺจ นาม โหติ. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อติริตฺตกตภาวโต เอวํ กปฺปิยฺจ ตํ กตํ จาติ กปฺปิยกตนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวมุปริปิ กต-สทฺทสฺส อตฺโถ จ สมาสวิคฺคโห จ เวทิตพฺโพ ¶ . อวสิฏฺปเทสุ ภิกฺขุนา ปฏิคฺคหิตํ ปฏิคฺคหิตํ นาม. ตํ การาเปตฺวา อาคเตน ภิกฺขุนา โถกํ อุจฺจาเรตฺวา, โอตาเรตฺวา วา ทสฺสิตํ อุจฺจาริตกตํ นาม. กปฺปิยํ การาเปตุมาคตสฺส อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาณหตฺถปาสพฺภนฺตรคเตน อติริตฺตกตํ ‘‘หตฺถปาเส กต’’นฺติ วุจฺจติ. อนฺตมโส ปวารณชนกํ ยํ กิฺจิ โภชนํ กุสคฺเคนาปิ คเหตฺวา ภุตฺตตฺตา ภุตฺตาวินา. ยถาห ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ อนฺตมโส กุสคฺเคนาปิ ภุตฺตํ โหตี’’ติ. ภฺุชนฺโต ปวาริโต หุตฺวา โย อาสนํ น โกเปติ, โส ภุตฺตาวี ปวาริโต ‘‘อาสนา อวุฏฺิโต’’ติ วุจฺจติ, เตน กตํ ‘‘ภุตฺตาวินา…เป… อวุฏฺิเตน กต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ วจีเภทํ กตฺวา ¶ วุตฺตํ ‘‘อลเมตํ สพฺพนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ ทสฺสิตํ. อยํ สตฺตวิโธ วินยกมฺมากาโร นาม.
คิลานาติริตฺตกํ ปน อิมิสฺสา คาถาย อวุตฺตมฺปิ อนติริตฺตสนฺทสฺสนตฺถํ วกฺขมานาย ‘‘กต’’นฺติอาทิคาถาย ‘‘น คิลานาติริตฺตฺจา’’ติ อิมสฺส วิปริยายโต เวทิตพฺพํ. คิลานโต อติริตฺตํ, ตสฺส อฺทิเนสุ ภฺุชนตฺถาย อุปฏฺาปิตมฺปิ คิลานาติริตฺตํ นาม.
‘‘เตน ภิกฺขุนา’’ติ อิมินา ‘‘ภุตฺตาวินา’’ติ จ ‘‘ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตนา’’ติ จ วุตฺตปฺปกาเรน วิสิฏฺํ เตเนว ปากฏํ ภิกฺขุํ ปรามสติ, ปวารณชนกานํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ อปฺปมตฺตกมฺปิ ภุตฺตาวินา, ภุตฺตาวี ปวาริโตปิ หุตฺวา อาสนา อวุฏฺิเตน วา ภิกฺขุนาติ วุตฺตํ โหติ. โอนมิตฺวาน ภาชเนติ เอตฺถ ‘‘ทสฺสิเต โภชเน’’ติ เสโส, ‘‘อถา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. กปฺปิยกรณารหานิ สิงฺคิเวราทีนิ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฏิคฺคหาเปตฺวา อาคนฺตฺวา หตฺถปาสพฺภนฺตเร ปตฺวา อติริตฺตํ การาเปนฺเตน ภิกฺขุนา ภาชนํ โถกํ โอนาเมตฺวา อุจฺจาเรตฺวา ทสฺสิตกาลานนฺตราติ วุตฺตํ โหติ. อุตฺตริ กาตพฺพํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อล’’นฺติอาทิ.
เอตฺตาวตา ‘‘เตน ภิกฺขุนา’’ติ อิมินา ‘‘ภุตฺตาวินา กตํ, ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา อวุฏฺิเตน กต’’นฺติ องฺคทฺวยํ สงฺคหิตํ. ‘‘โอนเมตฺวาน ภาชน’’นฺติ อิมินา ‘‘อุจฺจาริตกตํ โหตี’’ติ อิทํ สงฺคหิตํ. ‘‘กปฺปิยกตํ, ปฏิคฺคหิตกตํ, หตฺถปาเสกต’’นฺติ อิทํ ตยํ อนนฺตริยวาจินา อถ-สทฺเทน สงฺคหิตํ. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อิทํ ปเนตฺถ สรูเปเนว ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๑๓๐๔. ปตฺเต ¶ ¶ ิตโภชนเมว อติริตฺตํ กาตพฺพนฺติ นตฺถิ, ปจฺฉิอาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ภาชเน ิตมฺปิ กาตพฺพนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘กปฺปิยํ ปนา’’ติ. กุณฺเฑติ ภณฺฑุกฺขลิยํ. ภาชเนติ ยํ กิฺจิ ภาชนํ คหิตํ.
๑๓๐๕. เอตนฺติ อติริตฺตกตํ เอตํ โภชนํ. ตํ เอกเมว เปตฺวาติ โยชนา. ‘‘วฏฺฏเตวา’’ติ วุตฺเตปิ อพฺภงฺคาทีนมตฺถายาติ คณฺเหยฺยุนฺติ อาห ‘‘ภฺุชิตพฺพ’’นฺติ, ตเมกํ วินา ปเรหิ ปริภฺุชิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๑๓๐๖-๗. กปฺปิยํ กาเรตฺวาติ อติริตฺตํ กาเรตฺวา. อากิรนฺติ เจติ ยทิ ปกฺขิปนฺติ. ปุน ตถา อติริตฺตํ กาเรตฺวา ภฺุชิตพฺพนฺติ โยชนา.
ตํ เกน อติริตฺตํ กาตพฺพนฺติ อาห ‘‘เยนา’’ติอาทิ. ตนฺติ อติริตฺตกตํ โภชนํ. เยน อกตนฺติ เยน ภิกฺขุนา ปมํ อติริตฺตํ น กตํ, เตน กาตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘เยน อกตนฺติ อฺเน ภิกฺขุนา เยน ปมํ น กตํ, เตน กาตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙). ยํ วา อกตํ, ตํ วิสุํ เตน วา กาตพฺพนฺติ โยชนา. ยํ วา อกตนฺติ ตสฺมึ อติริตฺตกตโภชเน อปกฺขิตฺตํ ยํ โภชนํ อติริตฺตํ น กตํ. ตํ วิสุํ เตน วา กาตพฺพนฺติ ปจฺฉา ปกฺขิตฺตํ โภชนํ อติริตฺตํ กเตน ยถา อมิสฺสํ โหติ, ตถา อฺสฺส ภาชนสฺส คหณวเสน วิสุํ กาเรตฺวา เตน ปมํ กตาติริตฺเตนาปิ อติริตฺตํ กาตพฺพํ. ยถาห – ‘‘ยฺจ อกตนฺติ เยน ปมํ กปฺปิยํ กตํ, เตนาปิ ยํ อกตํ, ตํ กาตพฺพํ. ปมภาชเน ปน กาตุํ น ลพฺภติ. ตตฺถ หิ กริยมานํ ปมํ กเตน สทฺธึ กตํ โหติ, ตสฺมา อฺสฺมึ ภาชเน กาตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย’’ติ.
๑๓๐๘. อกปฺปิยาทีหิ ¶ สตฺตหีติ ‘‘อนติริตฺตํ นาม อกปฺปิยกตํ โหติ, อปฺปฏิคฺคหิตกตํ โหติ, อนุจฺจาริตกตํ โหติ, อหตฺถปาเส กตํ โหติ, อภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา จ ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน กตํ โหติ, ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ อวุตฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙) วุตฺเตหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ. อติริตฺตํ กตนฺติ โยชนา. ‘‘โหติ อนติริตฺตก’’นฺติ ปทจฺเฉโท.
๑๓๐๙. อุปกฏฺเวลายปิ ¶ อติริตฺตํ กโรนฺเตน ‘‘อหํ ปาโตว ภฺุชิ’’นฺติ วา ‘‘โถกํ ปริภฺุชิ’’นฺติ วา อจินฺเตตฺวา กาตพฺพนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘โยปี’’ติอาทิ. อุปกฏฺูปนีตมฺปีติ อุปกฏฺเวลาย อุปนีตมฺปิ โภชนํ.
๑๓๑๐. ยามาทิกาลิกนฺติ ยามสตฺตาหยาวชีวิกกาลิกํ. อนามิสฺสนฺติ อามิเสน อมิสฺสํ. ตํ ยามาทิกาลิกํ ปริภฺุชโตติ สมฺพนฺโธ.
๑๓๑๒. คิลานสฺส ภุตฺตาติริตฺตํ วิย กทาจิ ภฺุชิสฺสตีติ อุทฺทิสฺส ปิตมฺปิ คิลานาติริตฺตํ นามาติ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. ‘‘วิหาราทีสุ คิลานสฺส ปาปุณนโกฏฺาสมฺปิ คิลานาติริตฺตํ นามา’’ติ วทนฺติ.
ปมปวารณกถาวณฺณนา.
๑๓๑๔. อนติริตฺเตนาติ เอตฺถ ‘‘ขาทนีเยน วา โภชนีเยน วา’’ติ เสโส. เอตฺถ ‘‘ขาทนียํ นาม ปฺจโภชนานิ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ เปตฺวา อวเสส’’นฺติ ¶ (ปาจิ. ๒๓๙) วุตฺตํ ปฺจโภชนโต อฺํ สพฺพํ ยาวกาลิกํ ขาทนียํ นาม. ‘‘โภชนียํ นาม ปฺจ โภชนานิ โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํส’’นฺติ (ปาจิ. ๒๓๙) วุตฺตํ. เอตฺถ วินิจฺฉโย อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺโต. ปวาเรยฺยาติ เอตฺถ ‘‘อภิหฏฺุ’’นฺติ เสโส. อภิหฏฺุํ ปวาเรยฺยาติ อภิหริตฺวา ‘‘หนฺท ภิกฺขุ ยาวตกํ อิจฺฉสิ, ตาวตกํ คเหตฺวา ขาท วา ภฺุช วา’’ติ เอวํ ปวาเรยฺย. ‘‘ปวาริต’’นฺติปทํ วุตฺตตฺถเมว. ชานนฺติ สุตฺวา วา ทิสฺวา วา ตสฺส ปวาริตภาวํ ชานนฺโต. อาสาทนาเปกฺโขติ อาสาทนํ โจทนํ มงฺกุกรณภาวํ อเปกฺขมาโน. ภุตฺเตติ ตสฺส ปโยเคน อิตเรน ภฺุชิตฺวา ปริโยสาปิเต. ตสฺสาติ โย ตสฺส ปวาริตภาวํ ตฺวา ‘‘ภฺุชา’’ติ นิโยเชสิ, ตสฺส.
๑๓๑๕-๖. เอกสฺส ภฺุชเนน อฺสฺส ปาจิตฺติ โหตีติ กถเมตนฺติ อาสงฺกาย ตถา วุตฺตตฺตา ปริหริตุมาห ‘‘ทุกฺกฏํ…เป… ทสฺสิต’’นฺติ. อิตรสฺส คหเณติ ปวาริตภิกฺขุโน ภฺุชนตฺถาย ¶ ปฏิคฺคหเณ. อชฺโฌหารปโยเคสุ จาติ เอตฺถาปิ ‘‘อิตรสฺสา’’ติ สมฺพนฺโธ. สพฺพํ ทุกฺกฏํ, ปาจิตฺติยฺจ. ทสฺสิตนฺติ ‘‘อภิหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ตสฺส วจเนน ‘ขาทิสฺสามิ ภฺุชิสฺสามี’ติ ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. โภชนปริโยสาเน อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๒๔๔) เทสิตํ ภควตาติ อตฺโถ.
๑๓๑๗. อุภยตฺถาปิ วิมติสฺสาติ ปวาริเต จ อปวาริเต จ วิมติสฺส. ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ ‘‘ปวาริเต เวมติโก. อปฺปวาริเต เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๒๔๕) เทสิตํ.
๑๓๑๘. การาเปตฺวาติ ¶ เอตฺถ ‘‘ภฺุชาหี’’ติ เสโส. อฺสฺสตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘อภิหรนฺโต คจฺฉาหี’’ติ เสโส.
๑๓๑๙. โอมสวาทตุลฺยาวาติ อิทํ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ สนฺธายาห.
ทุติยปวารณกถาวณฺณนา.
๑๓๒๐. ขาทนียํ วาติ ปฺจ โภชนานิ จ กาลิกตฺตยฺจ วินา อวเสเสสุ ยํ กิฺจิ วา. โภชนียํ วาติ ปฺจสุ โภชเนสุ อฺตรมฺปิ. วิกาเลติ วิคเต กาเล. กาโล นาม อรุณุคฺคมนโต ยาว มชฺฌนฺติกา, ตทฺโ วิกาโล. ยถาห ‘‘วิกาโล นาม มชฺฌนฺติเก วีติวตฺเต ยาว อรุณุคฺคมนา’’ติ (ปาจิ. ๒๔๙). ิตมชฺฌนฺติโกปิ กาเลเยว สงฺคยฺหติ. ยถาห ‘‘ิตมชฺฌนฺติโกปิ กาลสงฺคหํ คจฺฉติ. ตโต ปฏฺาย ปน ขาทิตุํ วา ภฺุชิตุํ วา น สกฺกา, สหสา ปิวิตุํ ปน สกฺกา ภเวยฺย. กุกฺกุจฺจเกน ปน น กาตพฺพํ. กาลปริจฺเฉทชานนตฺถฺจ กาลตฺถมฺโภ โยเชตพฺโพ, กาลพฺภนฺตเรว ภตฺตกิจฺจํ กาตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๔๘-๒๔๙). โทสนฺติ ปาจิตฺติยํ.
๑๓๒๑. ‘‘ขาทนียํ วา โภชนียํ วา’’ติ เอตฺถ โภชนียสฺส ปวารณสิกฺขาปเท ทสฺสิตสรูปตฺตา ขาทนียํ ตาว สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ยมามิสคต’’นฺติอาทิ. เอตฺถาติ เอเตสุ ¶ ขาทนียโภชนีเยสุ. ยํ ปน วนมูลผลาทิกํ อามิสคตํ อามิเส ยาวกาลิเก ปริยาปนฺนํ, ตํ ขาทนียนฺติ โยชนา. กาลิเกสฺวสโมหตฺถนฺติ เอตฺถ ¶ คาถาพนฺธวเสน ม-การโลโป, อสมฺโมหตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิทนฺติ วกฺขมานํ สนฺธายาห.
๑๓๒๒. มูลนฺติ ยํ กิฺจิ รุกฺขลตานํ มูลํ. กนฺทนฺติ รุกฺขลตานเมว กนฺทํ. มุฬาลนฺติ ปทุมคจฺฉมูลกนฺทํ. มตฺถกนฺติ ตาลนาฬิเกราทีนํ มตฺถกํ, เวฬุกฬีรปลฺลวงฺกุรานฺจ เอตฺเถว สงฺคโห. ขนฺธกนฺติ อุจฺฉุอาทิขนฺธกํ. ตจนฺติ ฉลฺลิ. ปตฺตนฺติ ปณฺณํ. ปุปฺผนฺติ กุสุมํ. ผลนฺติ รุกฺขลตาทีนํ ผลํ. อฏฺีติ รุกฺขลตาทิพีชํ. ปิฏฺนฺติ ธฺาทิปิฏฺํ. นิยฺยาสนฺติ สิเลสํ. ‘‘ขาทนีย’’นฺติ สพฺพตฺถ ปกรณโต ลพฺภติ.
๑๓๒๓. เอวํ ขาทนียานํ มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา เต สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘มูลขาทนียาทีน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ รุกฺขมูลเมว ขาทนียํ, ตํ อาทิ เยสนฺติ วิคฺคโห. มุขมตฺตนิทสฺสนํ นิโพธถาติ เอตฺถ ‘‘มยา กริยมาน’’นฺติ เสโส. มุขมตฺตนฺติ ปเวสทฺวารมตฺตํ, นิรวเสสโต ทสฺสเน ปปฺจภีรุกานํ ปุพฺเพ ภยํ โหตีติ สงฺเขปโต ขาทนียานิ ทสฺสิสฺสนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถา ทสฺสเน ปโยชนมาห ‘‘นามตฺเถสุ ภิกฺขูนํ ปาฏวตฺถายา’’ติ, มูลขาทนียาทีนํ นาเมสุ จ ตทตฺเถสุ จ ภิกฺขูนํ ปาฏวุปฺปาทนตฺถนฺติ อตฺโถ.
๑๓๒๔-๕. มูลกมูลาทีนิ อุปเทสโตเยว เวทิตพฺพานิ. น หิ ตานิ ปริยายนฺตเรน วุจฺจมานานิปิ สกฺกา วิฺาตุํ. ปริยายนฺตเรนปิ หิ วุจฺจมาเน ตํ ตํ นามํ อชานนฺตานํ สมฺโมโหเยว สิยา, ตสฺมา ตตฺถ น กิฺจิ วกฺขาม. สากานนฺติ สูเปยฺยปณฺณานํ. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. อาหารตฺถนฺติ อาหาเรน กตฺตพฺพปโยชนํ, อาหารกิจฺจนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อามิสตฺถ’’นฺติปิ ลิขนฺติ. ผรนฺตีติ วิตฺถาเรนฺติ.
๑๓๒๖. ชรฏฺนฺติ ¶ ปุราณกนฺทํ. ยํ ตํ ชรฏฺนฺติ สมฺพนฺโธ. เสสานํ ชรฏฺํ ยาวกาลิกนฺติ โยชนา. เสสานนฺติ มูลกาทีนิ วุตฺตานิ. ยถาห ‘‘มูลกขารกชชฺฌรีมูลานํ ปน ชรฏฺานิปิ อามิสคติกาเนวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๔๘-๒๔๙).
๑๓๓๑. โธโตติ นิพฺพตฺติตปิฏฺโ.
๑๓๓๒. อโธโต ¶ ขีรวลฺลิยา กนฺโทติ โยชนา. วากฺยปถาตีตาติ ‘‘อสุโก วา อสุโก วา’’ติ วตฺวา ปริยนฺตํ ปาเปตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา วจนปถาตีตา.
๑๓๓๓. ปุณฺฑรีกํ เสตํ. ปทุมํ รตฺตํ.
๑๓๓๘. ชรฏฺพุนฺโทติ กนฺทสฺส เหฏฺา อตีว ปริณตฏฺานํ.
๑๓๓๙. ปถวิยํ คโตติ อนฺโตปถวิยํ คโต, ปถวิยํ นิมุชฺชิตฺวา คตตรุณทณฺโฑติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๔๐. เอวํ อนฺโตภูมิยํ คโต. ‘‘ปณฺณทณฺโฑ อุปฺปลาทีน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. สพฺโพติ ตรุโณปิ ปริณโตปิ. อุปฺปลาทีนํ, ปทุมชาติยา จ สพฺโพ ปณฺณทณฺโฑ ยาวกาลิโกติ โยชนา.
๑๓๔๕. ปตฺตขาทนียํนามาติ ปตฺตสงฺขาตํ ขาทนียํ นาม.
๑๓๔๘. มูลกาทีนนฺติ ‘‘มูลกํ ขารกฺเจวา’’ติอาทิกาย คาถาย วุตฺตมูลกาทีนํ.
๑๓๖๐. เกตกาทีนนฺติ ¶ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ติมฺพรุสกํ คหิตํ. ตาลผลฏฺีติ ตรุณผลานํ อฏฺิ.
๑๓๖๑. ‘‘ปุนฺนาคมธุกฏฺีนี’’ติ จ ‘‘ปุนฺนาคมธุกฏฺิจา’’ติ จ โปตฺถเกสุ อุภยถา ปาโ ทิสฺสติ, อตฺโถ ปน เอโกเยว. ‘‘เสลุ อฏฺี’’ติ ปทจฺเฉโท. อนามิเสติ ยาวชีวิเก.
๑๓๖๓. โธตํ ¶ ตาลปิฏฺนฺติ ตาลเผคฺคุํ โกฏฺเฏตฺวา อุทเก มทฺทิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา กลเล ภาชนตลํ โอติณฺเณ ปสนฺโนทกํ อปเนตฺวา คหิตตาลปิฏฺนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถา ขีรวลฺลิยา ปิฏฺนฺติ โยชนา, ตเถว โกฏฺเฏตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา คหิตขีรวลฺลิยา ปิฏฺนฺติ อตฺโถ.
๑๓๖๔. อโธตํ วุตฺตวิปริยายโต คเหตพฺพํ. ‘‘อาหารตฺถมสาเธนฺตํ, สพฺพํ ตํ ยาวชีวิก’’นฺติ วจนโต เตสุ เตสุ ชนปเทสุ มนุสฺสานํ อาหารกิจฺจํ อกโรนฺตํ มูลาทิ ยาวชีวิกํ, ตทฺํ ยาวกาลิกนฺติ สงฺเขปลกฺขณํ กาตพฺพนฺติ.
วิกาลโภชนกถาวณฺณนา.
๑๓๖๙. โภชนํ สนฺนิธึ กตฺวา ขาทนํ วาติ เอตฺถ โภชนขาทนียานิ ยถาวุตฺตเภทสรูปาเนว. สนฺนิธึ กตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตมฺปิ อติกฺกาเมตฺวา, สนฺนิทหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตมฺปิ วีตินามิตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓). ตเทว วกฺขติ ‘‘สย’’นฺติอาทินา. ขาทนนฺติ กมฺมสาธโนยํ, ‘‘ขชฺช’’นฺติ อิมินา สมานตฺโถ.
๑๓๗๑. ‘‘สนฺนิธึ ¶ กตฺวา’’ติ เอตฺถ นิทฺเทสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สย’’นฺติอาทิ.
๑๓๗๒. ‘‘ตํ น วฏฺฏตี’’ติ เอตฺถ อตฺถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตโต’’ติอาทิ. ตโตติ สนฺนิธิกตโภชนโต. สุทฺธจิตฺเตนาติ สวาสนสกลกิเลสปฺปหานโต นิมฺมลจิตฺเตน. ตาทินาติ อฏฺสุ โลกธมฺเมสุ นิพฺพิการภาเวน ตาทินา. อถ วา ยาทิสา ปุริมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา รูปารูปคุเณหิ อเหสุํ, ตาทิเสน ภควตา.
๑๓๗๓. โอทนาทีสุ ปฺจสุ โภชเนสุ ตาว อกปฺปิยมํเสน สนฺนิธิวเสน ปาจิตฺติยฺจ อาปตฺติวิเสสฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘อกปฺปิเยสู’’ติอาทิ. ปาจิตฺตีติ สนฺนิธิปาจิตฺติยมาห. อิตเรติ สีหาทิมํสมฺหิ. ทุกฺกเฏน สห ปาจิตฺตีติ โยชนา.
๑๓๗๔. ยามกาลิกสงฺขาตํ ปริภฺุชโตติ เอตฺถ ‘‘สนฺนิธึ กตฺวา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ ¶ . ‘‘ทุกฺกเฏน สหา’’ติ อวตฺวา ‘‘ปาจิตฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา สติ ปจฺจเย ปริภฺุชโตติ คเหตพฺพํ. ยถาห ‘‘ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย อชฺโฌหารโต ปาจิตฺติยํ. อาหารตฺถาย อชฺโฌหารโต ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓).
๑๓๗๕. อนฺนนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘สนฺนิธิกต’’นฺติ อิทํ ปุเร วิย ลพฺภติ, ‘‘ปกติ’’นฺติ อิทํ ‘‘อนฺน’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ, มนุสฺสมํสาทีหิ อสมฺมิสฺสํ นาติริตฺตกตํ อนฺนมตฺตนฺติ อตฺโถ. ปาจิตฺติยทฺวยนฺติ อนติริตฺตปจฺจยา จ สนฺนิธิปจฺจยา จ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ.
๑๓๗๖. ‘‘ทฺเว ¶ , ทฺวย’’นฺติ อุภยตฺถาปิ อยเมวตฺโถ.
๑๓๗๗. สามิเสน มุเขน ทฺเวติ เอตฺถ ‘‘ปฺจ โภชนานิ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ เปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๕๔) วุตฺตตฺตา ขาทนียาสงฺคหิเตน ยามกาลิเกน จ เตน สมฺมิสฺสตฺตา สนฺนิธินาเมน มุขคตอามิสมูลเกน จ สนฺนิธิปาจิตฺติยานิ ทฺเว โหนฺตีติ อตฺโถ. สามิเสน มุเขนาติ อุปลกฺขณตฺตา ยถากถฺจิ อามิเส มิสฺสีภูเต เอตฺตกา อาปตฺติโยติ ทฏฺพฺพํ. นิรามิสํ ยามกาลิกํ ภฺุชโต เอกเมว ปาจิตฺติยนฺติ โยชนา, เยน เกนจิ อากาเรน อสมฺมิสฺสํ ยามกาลิกํ ปริภฺุชโต เอกเมว ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ.
๑๓๗๘. ตเมวาติ สนฺนิหิตเมว กาลิกํ. เตสุ ทฺวีสุ วิกปฺเปสูติ สามิสนิรามิสวิกปฺปทฺวเย. เกวลํ ทุกฺกฏํ วฑฺฒตีติ ปมวิกปฺเป ทฺวีหิ ปาจิตฺติเยหิ สทฺธึ ทุกฺกฏํ, ทุติยวิกปฺเป ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๗๙. สุทฺธนฺติ เอตฺถ ‘‘สนฺนิธิกตํ โภชน’’นฺติ เสโส. อิทํ ‘‘ปกติโภชเน’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓) อฏฺกถายํ, อิธ จ ‘‘น โทโส ยามกาลิเก’’ติ ยามกาลิกสฺส วิสุํ วกฺขมานตฺตา วิฺายติ, อกปฺปิยมํสยามกาลิเกหิ อมิสฺสํ โภชนนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๘๐. มํเสติ เอตฺถ ‘‘อกปฺปิเย’’ติ อิทํ ถุลฺลจฺจยาทิวจเนเนว ลพฺภติ. วฑฺฒตีติ ปุพฺเพ วุตฺเตหิ ปาจิตฺติยทฺวเยหิ สทฺธึ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจยฺจ สีหาทิมํเส ทุกฺกฏฺจ วฑฺฒติ. มนุสฺสมํเส ¶ จ เสเส สีหมํสาทิเก อกปฺปิยมํเส จ ยถานุกฺกมโต ¶ ถุลฺลจฺจยฺเจว ทุกฺกฏฺจาติ ทฺวยํ วฑฺฒตีติ โยชนา.
๑๓๘๑. อนติริตฺตมฺปิ โภชนํ วิกาเล ปริภฺุชโต ภิกฺขุโน ตนฺนิมิตฺตโก โทโส ยถาวุตฺเตสุ สพฺพวิกปฺเปสุ นตฺถีติ โยชนา. ‘‘วิกาล…เป… กาลิเก’’ติ ยามกาลิกสฺส วิสุํ วกฺขมานตฺตา จ อติริตฺตการาปนฺจ โภชเนเยว สมฺภวตีติ อนติริตฺตนฺติ เอตฺถ ‘‘นิหิตโภชน’’นฺติ เสโส. ‘‘อนติริตฺตปจฺจยา ปน วิกาเล สพฺพวิกปฺเปสุ อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓) อฏฺกถาวจนโต โทโสติ อนติริตฺตปจฺจยา ปาจิตฺติยมาห. เตเนว วกฺขติ ‘‘ตนฺนิมิตฺตโก’’ติ, อนติริตฺตนิมิตฺตโกติ อตฺโถ. สพฺพวิกปฺเปสูติ ‘‘สุทฺธํ วา มนุสฺสมํสมิสฺสํ วา สีหาทิมํสมิสฺสํ วา ยามกาลิกมิสฺสํ วา’’ติ สพฺเพสุ วิกปฺเปสุ. ‘‘ตนฺนิมิตฺตโก’’ติ วจเนเนว วาริตวิกาลาทินิมิตฺตสฺส โทสสฺส สมฺภวํ ทสฺเสติ.
๑๓๘๒-๓. วิกาลปจฺจยา วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘อนติริตฺตปจฺจยา’’ติ อิทํ สมุจฺจิตํ. อปิ-สทฺโท ‘‘ยามกาลิเกปี’’ติ โยเชตพฺโพ. สตฺตาหกาลิกํ, ยาวชีวิกํ อาหารสฺเสว อตฺถาย ปฏิคฺคณฺหโต คหเณ, ยถาวุตฺตสฺส สตฺตาหกาลิกยาวชีวิกเภเทน ทุวิธสฺส ตุ อชฺโฌหารปโยเคสุ นิรามิเส วา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ตุ-สทฺโท เอว-การตฺโถ.
๑๓๘๔. อถาติ วากฺยารมฺเภ นิปาโต. อามิสสํสฏฺํ สตฺตาหกาลิกํ, ยาวชีวิกํ วาติ โยชนา. คเหตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา. ปิตนฺติ อรุณํ อติกฺกาเมตฺวา ปิตํ. ปาจิตฺตีติ สนฺนิธิปาจิตฺติ.
๑๓๘๕. กาโลติ ¶ อรุณุคฺคมนาทิมชฺฌนฺติกาวสาโน กาโล. ยาโมติ มชฺฌนฺติกาทิทุติยอรุณุคฺคมนาวสาโน. ตํ ตํ กาลํ กาลิกํ อติกฺกามยโต ตุ โทโสติ โยชนา. ตุ-สทฺโท เอวการตฺโถ. ตํ วา กาลิกนฺติ ยถากฺกมํ ยาวกาลิกํ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๘๖. ยาวกาลิกํ อตฺตนา สมฺภินฺนานิ อิตรานิ ตีณิ กาลิกานิ อตฺตโนเยว สภาวํ อุปเนตีติ โยชนา. สโก ภาโว สภาโว, ตํ.
๑๓๘๗-๘. เอวเมว ¶ วินิทฺทิเสติ ‘‘ปุริมํ ปุริมํ กาลิกํ อตฺตนา สมฺมิสฺสํ ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อตฺตโน สภาวเมว คาหาเปตี’’ติ กเถยฺยาติ วุตฺตํ โหติ.
อิเมสูติอาทีสุ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. อนฺโตวุตฺถํ โหตีติ อกปฺปิยกุฏิยํ เปตฺวา อรุณุฏฺาปเนน อนฺโตวุตฺถํ นาม โหติ. สนฺนิธิ จ โหตีติ ปฏิคฺคเหตฺวา ปฏิคฺคหณํ อวิชหิตฺวา อรุณุฏฺาปเนน สนฺนิธิ จ นาม โหติ. โปตฺถเกสุ ‘‘สนฺนิธิ’’นฺติ สานุนาสิโก ปาโ ทิสฺสติ, ‘‘โหตี’’ติ กิริยาย สมฺพนฺธตฺตา สนฺนิธิ-สทฺโท ปเมกวจนนฺโตติ อนุนาสิโก อาคมสนฺธิโชติ เวทิตพฺโพ. อุภยมฺปีติ ยถาวุตฺตํ อนฺโตวุตฺถํ, สนฺนิธิ จาติ อุภยมฺปิ. น โหเตวาติ ปุริมกาลิกทฺวเยน อมิสฺสํ น โหเตว.
๑๓๘๙. กปฺปิยกุฏินาเมน อกตํ, อสมฺมตํ, อปริคฺคหํ, ปาการาทีหิ ปริกฺขิตฺตํ เสนาสนํ อกปฺปิยกุฏิ นามาติ สงฺเขปโต คเหตพฺพํ. อนฺตทฺวเยนาติ สตฺตาหกาลิกยาวชีวิเกน, สหตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘มิสฺสิต’’นฺติ เสโส. คหิตนฺติ ปฏิคฺคหิตํ. ตํ ปุพฺพํ ทฺวยนฺติ ยาวกาลิกยามกาลิกทฺวยํ. ปุริมกาลิกทฺวเย ยํ กิฺจิ ตทหุปฏิคฺคหิตมฺปิ ¶ อกปฺปิยกุฏิยาเยว เปตฺวา อรุณํ อุฏฺาปิเตน ปจฺฉิมกาลิกทฺวเย เยน เกนจิ สมฺมิสฺสํ อนฺโตวุตฺถํ นาม โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๙๐. อนฺโตวุตฺเถน ปจฺฉิมกาลิกทฺวเยน สํสฏฺํ ยทิทํ ปุริมกาลิกทฺวยํ, อยํ มุขสนฺนิธิ นาม โหตีติ อฏฺกถายํ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน อนฺโตวุตฺถํ โหติ, น กปฺปติ อิติ ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตนฺติ โยชนา.
ตตฺถ ‘‘มุขสนฺนิธี’’ติ จ ‘‘อนฺโตวุตฺถ’’นฺติ จ นามมตฺตเมว นานากรณํ, โสเยวตฺโถติ อุภินฺนํ อฏฺกถาวจนานํ อนตฺถนฺตรตา เวทิตพฺพา. ตถา หิ มุข-สทฺโท อนฺโต-สทฺทปริยาโย, สนฺนิธิ-สทฺโท ปริวุตฺถ-สทฺทปริยาโย. มุเข สนฺนิธิ มุขสนฺนิธีติ กมฺมสาธนํ. พหิ สนฺนิธินิวตฺตนตฺถํ อฏฺกถาสุ มุข-คฺคหณํ, อนฺโต-คหณฺจ กตํ. พหีติ จ ปฏิคฺคเหตฺวา อกปฺปิยกุฏิยา พหิ ยตฺถ กตฺถจิ ปริวุตฺถํ ปจฺฉิมกาลิกทฺวยํ ปุริเมน กาลิกทฺวเยน สํสฏฺํ อธิปฺเปตํ. มุขสนฺนิธิอนฺโตวุตฺถปทานํ อนตฺถนฺตรภาโว สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต.
ยถาห ¶ ‘‘สามเณโร ภิกฺขุสฺส ตณฺฑุลาทิกํ อามิสํ อาหริตฺวา กปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปุนทิวเส ปจิตฺวา เทติ, อนฺโตวุตฺถํ น โหติ. ตตฺถ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิตฺตสปฺปิอาทีสุ ยํ กิฺจิ ปกฺขิปิตฺวา เทติ, มุขสนฺนิธิ นาม โหติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘อนฺโตวุตฺถํ โหตี’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ นามมตฺตเมว นานากรณ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕). นิสฺสนฺเทเห ปน อฺถา วุตฺโต วิย วิฺายติ, ตตฺถปิ อยเมว นโย เวทิตพฺโพ.
๑๓๙๑. น ¶ โทโสติ สนฺนิธิโทโส น โหติ. นิทหิตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา ปฏิคฺคหณํ อวิชหิตฺวา สกสกกาลพฺภนฺตเรเยว นิทหิตฺวา. เอตฺถ จ เหฏฺิมนฺตโต สนฺนิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ปตฺตํ โธวิตฺวา ปุน ตตฺถ อจฺโฉทกํ วา อาสิฺจิตฺวา องฺคุลิยา วา ฆํสิตฺวา นิสฺเนหภาโว ชานิตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. เอเตน นิรเปกฺเขน ปฏิคฺคหณํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว สยํ วา อฺเน วา ตุจฺฉํ กตฺวาน สมฺมา โธวิตฺวา นิฏฺาปิเต ปตฺเต ลคฺคมฺปิ อวิชหิตปฏิคฺคหิตเมว โหตีติ ตตฺถ อาปตฺติ วุตฺตาติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เอเตน นิรเปกฺเขน ปฏิคฺคหเณ วิสฺสฏฺเ ตาทิเสปิ ปตฺเต โทโส นตฺถีติ สิทฺธํ.
สนฺนิธิกถาวณฺณนา.
๑๓๙๓. ปณีตานิ โภชนานีติ ปาฬิยํ ‘‘เสยฺยถิทํ? สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ มจฺโฉ มํสํ ขีรํ ทธี’’ติ (ปาจิ. ๒๕๙) อุทฺทิสิตฺวา –
‘‘สปฺปิ นาม โคสปฺปิ วา อชิกาสปฺปิ วา มหึสสปฺปิ วา, เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปิ. นวนีตํ นาม เตสฺเว นวนีตํ. เตลํ นาม ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑกเตลํ วสาเตลํ. มธุ นาม มกฺขิกามธุ. ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตํ. มจฺโฉ นาม โอทโก วุจฺจติ. มํสํ นาม เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ มํสํ. ขีรํ นาม โคขีรํ วา อชิกาขีรํ วา มหึสขีรํ วา, เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ ขีรํ. ทธิ นาม เตสฺเว ทธี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) –
นิทฺทิฏฺานิ นว ปณีตโภชนานีติ อตฺโถ. อคิลาโนติ ‘‘อคิลาโน นาม ยสฺส วินา ปณีตโภชนานิ ¶ ผาสุ ¶ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) วุตฺโต. อคิลาโนติ เอตฺถ ‘‘หุตฺวา’’ติ เสโส.
๑๓๙๔. สปฺปินา เทหีติอาทิ วิฺาปนปฺปกาโร. สปฺปิภตฺตนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ สปฺปิสํสฏฺํ ภตฺตํ, สปฺปิ จ ภตฺตฺจ สปฺปิภตฺตนฺติ วิฺายติ, อฏฺกถาสุ ปน ‘‘สาลิภตฺตํ วิย สปฺปิภตฺตํ นาม นตฺถี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙) การณํ วตฺวา ทุกฺกฏสฺเสว ทฬฺหตรํ กตฺวา วุตฺตตฺตา น สกฺกา อฺํ วตฺตุํ. อฏฺกถาจริยา เอว หิ อีทิเสสุ าเนสุ ปมาณํ.
๑๓๙๕. ปาจิตฺติ ปริยาปุตาติ ‘‘อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) เอวํ อชฺโฌหารคณนาย ปาจิตฺติ วุตฺตา.
๑๓๙๖. สุทฺธานีติ อนฺเนน อมิสฺสานิ. เสขิเยสูติ สิกฺขากรณีเย วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
๑๓๙๗. ยสฺมา สุทฺธานํ ปณีตโภชนานํ วิฺาเปตฺวา ปริภฺุชนํ ทุกฺกฏวิสยํ, ตสฺมา. สตฺตธฺมยนฺติ สาลิอาทีนํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ อฺตรสฺส วิการภูตํ.
๑๓๙๘. สเจ ททาตีติ โยชนา. วิสงฺเกตนฺติ อนาปตฺติ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๓๙๙. เทติ เจติ สมฺพนฺโธ. อฺตเรนาติ สหตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘ภตฺต’’นฺติ อธิการโต ลพฺภติ. อสฺส ภิกฺขุสฺส. วิสงฺเกตนฺติ อฺํ ยาจิตสฺส อฺสฺส ทินฺนตฺตา สงฺเกตสฺส วิราธเนน อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๔๐๐. เยน เยน หีติ เอตฺถาปิ ตเถว กรณวจนํ. ‘‘วิฺตฺต’’นฺติ อิทํ อธิกตสฺส ‘‘ภตฺต’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ. เยน ¶ เยนาติ อนิยเมน ปณีเตน. เตน สปฺปิอาทิ วิสุํ วิสุํ คหิตเมว, สปฺปิอาทีนํ โคสปฺปิอาทิเภโท จ สงฺคหิโต. ตสฺมึ ลทฺเธปีติ ยาจิเตเยว ลทฺเธ สติ. ตสฺส ตสฺส มูเลปิ ลทฺเธติ วิจฺฉาวเสน โยชนา.
กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘สปฺปินา ภตฺตํ เทหี’’ติ สามฺเน วิฺาเปนฺตสฺส ตเมว วา ‘‘อิมินา ¶ สปฺปึ กตฺวา คณฺหถา’’ติ นวนีตาทีสุ อฺตรํ วา เธนุํ วา มูลํ วา เทติ เจ, ‘‘โคสปฺปินา ภตฺตํ เทหี’’ติ วิเสสยุตฺตํ กตฺวา วิฺาเปนฺตสฺส ตเมว วา โคนวนีตาทีนิ วา คาวึ วา ‘‘อิทํ ทตฺวา สปฺปึ คณฺหถา’’ติ มูลํ วา สเจ เทติ, วิสงฺเกตํ น โหติ, ยถาวตฺถุกเมว อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.
น อฺถาติ สปฺปึ ยาจิตวโต ‘‘อิมํ คเหตฺวา สปฺปึ กตฺวา คณฺหถา’’ติ อวตฺวา ‘‘สปฺปิ นตฺถิ, อิทํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา วา ตุณฺหีภูเตน วา นวนีตาทีสุ กิสฺมิฺจิ ทินฺเน วิเสสวิฺาปกสฺส ตทฺทาเนปิ วิสงฺเกตเมว โหตีติ อตฺโถ. ปาฬิยา อนาคเตปิ ทินฺเน วิสงฺเกตเมว โหติ. ‘‘สเจ ปน อฺํ ปาฬิยา อาคตํ วา อนาคตํ วา เทติ, วิสงฺเกต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๑๔๐๑. ปาฬิยนฺติ ปุพฺเพ ทสฺสิตํ ‘‘สปฺปิ นาม โคสปฺปี’’ติอาทึ นิทฺเทสปาฬิมาห. ยถาห ‘‘ปาฬิยํ อาคตนวนีตาทีนิ เปตฺวา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙). อฺเหิ นวนีตาทีหิ. สหตฺเถ กรณวจนํ.
๑๔๐๒. ‘‘วิฺาเปตฺวา’’ติ อิมสฺส กมฺมภูตํ ‘‘ภตฺต’’นฺติ อธิกตํ. คาถาพนฺธวเสน วา-สทฺทสฺส รสฺโส กโต. เอกโต วาติ โยชนา, ‘‘นานโต’’ติปิ คหิตเมว, เอกฏฺานโต วา นานฏฺานโต วาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ¶ ‘‘สเจ ปน สพฺเพหิปิ สปฺปิอาทีหิ เอกฏฺาเน วา นานฏฺาเน วา วิฺาเปตฺวา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙). เตเนว ภฺุชตีติ เอตฺถ ปริกปฺปสูจกํ ‘‘เจ’’ติ อิทฺจ อวกํสสนฺทสฺสนตฺถํ ‘‘กุสคฺเคน เอกพินฺทุมฺปี’’ติ อิทฺจ อชฺฌาหริตพฺพํ. มตาติ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙) วุตฺตํ สนฺธายาห. เอกโต วา นานโต วา านา ภตฺตํ วิฺาเปตฺวา เอกรสํ กตฺวา อนฺตมโส กุสคฺเคน เอกพินฺทุมฺปิ ภฺุชติ เจ, นว ปาจิตฺติโย มตาติ โยชนา.
๑๔๐๓. อกปฺปิเยน สปฺปินา เทหีติ วุตฺเตปีติ โยชนา, สหตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘ภตฺต’’นฺติ อธิกตํ. ‘‘เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) วุตฺตปฺปการสฺส วิปริยายโต อกปฺปิยํ ทฏฺพฺพํ. เตน เจ เทตีติ ยทิ เตน ยาจิเตน เตเนว อกปฺปิเยน สทฺธึ โอทนํ เทตีติ.
๑๔๐๔. ตถาสฺิสฺสาติ ¶ ตถาสฺิโน, คิลาโนมฺหีติสฺิโนติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘คิลาโน คิลานสฺี, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๑).
๑๔๐๕. คิลานกาเล วิฺตฺตํ อคิลานสฺส ภฺุชโต อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. เอวมิตเรหิปิ ทฺวีหิ ปเทหิ โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘อนาปตฺติ คิลาโน หุตฺวา วิฺาเปตฺวา อคิลาโน ภฺุชตี’’ติอาทิ (ปาจิ. ๒๖๒). าตกาทีนนฺติ เอตฺถ ‘‘อายตฺต’’นฺติ เสโส. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปวาริตานํ อฺสฺสตฺถาย อตฺตโน ธเนน อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาตีติ.
๑๔๐๖. จตฺตาริ สมุฏฺานานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘กายโต’’ติอาทิ.
ปณีตโภชนกถาวณฺณนา.
๑๔๐๗. ‘‘อทินฺน’’นฺติ ¶ อิมินา อทินฺนาทานสิกฺขาปเท (ปารา. ๙๑ อาทโย) วิย ปรปริคฺคหิตํ อวตฺวา อปฺปฏิคฺคหิตเมว วตฺตพฺพํ. ยถาห ‘‘อทินฺนํ นาม อปฺปฏิคฺคหิตกํ วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๖). มุขทฺวารนฺติ มุเข ทฺวารํ มุขทฺวารํ, คลนาฬิกา, อิมินา ปน วจเนน ยํ กิฺจิ อชฺโฌหรณียํ, ตํ มุเขน วา ปวิสตุ นาสิกาย วา, คลพิลํ ปวิฏฺเมว อาปตฺติกรนฺติ ทีเปติ. อาหารนฺติ อุทกทนฺตโปเนหิ อฺํ อชฺโฌหริตพฺพํ ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกาทึ. ยถาห ‘‘อาหาโร นาม อุทกทนฺตโปนํ เปตฺวา ยํ กิฺจิ อชฺโฌหรณีย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๖๖).
อาหเรยฺยาติ มุขทฺวารํ ปเวเสยฺย, อิมินา ปรคลํ อกตฺวา มุเขน ปฏิคฺคหิตคฺคหเณปิ นตฺถิ โทโสติ สูจิตํ. เตเนวาห ‘‘ทนฺตโปโนทกํ หิตฺวา’’ติ. เตเนว วุตฺตํ คณฺิปเท ‘‘ภควโต ทนฺตกฏฺสฺส มุขทฺวารปเน อนาปตฺติวจเนเนว ยํ กิฺจิ วตฺถุํ ปรคลํ อกตฺวา มุเข ปเน อนาปตฺติภาโว วุตฺโต’’ติ. อุทกฺหิ ยถาสุขํ ปาตุํ, ทนฺตกฏฺฺจ ทนฺตโปนปริโภเคน ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺส ปน รสํ คิลิตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิ ทนฺตกฏฺรโส อชานนฺตสฺส อนฺโต ปวิสติ, ปาจิตฺติยเมว. ทนฺเต ปุนนฺติ นิมฺมเล กโรนฺติ เอเตนาติ ทนฺตโปนํ.
๑๔๐๘-๙. พฺยติเรกมุเขน ¶ อทินฺนลกฺขณํ, ปทภาชเน จ วุตฺตนเยน ปมํ ทินฺนลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘หตฺถปาโส’’ติอาทิ. หตฺถปาโสติ ปวารณสิกฺขาปเท –
‘‘คณฺหโต ปจฺฉิมํ องฺคํ, ททโต ปุริมํ ปน;
อุภินฺนํ อฑฺฒเตยฺยํ เจ, วินา หตฺถํ ปสาริต’’นฺติ. (วิ. วิ. ๑๒๗๕) –
วุตฺตลกฺขโณ ¶ หตฺถปาโส. อภินีหาโรติ ตตฺเถว วุตฺตนเยน อภิมุขํ กตฺวา หรณฺจ. มชฺฌิมุจฺจารณกฺขโมติ ปฏิคฺคเหตพฺพภารสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน อุกฺขิปนารหตา. ภาวปฺปธาโนยํ นิทฺเทโส. อวกํโส ปน ‘‘อนฺตมโส รถเรณุมตฺตมฺปี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๙) อฏฺกถาวจนโต เวทิตพฺโพ. อุจฺจารณํ อุกฺขิปนํ. ‘‘อมนุสฺโส’’ติ อิมินา ตทฺสตฺตสามฺเน ติรจฺฉานคตาปิ เวทิตพฺพา. ‘‘ปกฺขี วา’’ติอาทิวกฺขมาเนน วา เวทิตพฺพา. กายาทินาติ กายกายปฏิพทฺธนิสฺสคฺคิยานํ อฺตเรน. เตเนวาห ‘‘ติธา’’ติ.
ทฺวิธาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา. ปฺจงฺคสํโยเคติ เอตฺถ ‘‘หตฺถปาโส’’ติ ปมงฺคํ, ‘‘อภินีหาโร’’ติ ทุติยํ, ‘‘มชฺฌิมุจฺจารณกฺขโม’’ติ ตติยํ, ‘‘มนุสฺโส…เป… ติธา’’ติ จตุตฺถํ, ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ…เป… ทฺวิธา’’ติ ปฺจมนฺติ อิมานิ ปฺจ องฺคานิ, ปฺจนฺนํ องฺคานํ สํโยโค สมาคโม สนฺนิปาโต ปฺจงฺคสํโยโค, ตสฺมึ. คหณนฺติ ปฏิคฺคหณํ. ตสฺส ภิกฺขุโน. รูหติ สมฺปชฺชติ.
๑๔๑๐-๑๒. อิตโรติ ปฏิคฺคาหโก. ตสฺส องฺคสฺส. น คจฺฉตีติ นโค, ‘‘นโค’’ติ รุกฺโขปิ ปพฺพโตปิ วุจฺจติ. เอวรูเปติ อีทิเส อุจฺจนีจฏฺาเน.
๑๔๑๕-๖. อีสกํ โอนตฺวา โถกํ นาเมตฺวา เตน ภิกฺขุนา ตํ เหฏฺิมํ ภาชนํ เอกเทเสนาปิ ปฏิจฺฉิตพฺพนฺติ โยชนา.
๑๔๑๗. อุคฺฆาเฏตฺวา ¶ อุจฺจาเรตฺวา, ภาชนานิ วิสุํ วิสุํ โอโรเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๔๑๘. กาชภตฺตนฺติ ¶ ภตฺตกาชํ, ภตฺตภริตํ ปิฏกนฺติ วุตฺตํ โหติ. โอนตฺวา เทตีติ สยํ โอนมิตฺวา พฺยาภงฺคึ เทติ.
๑๔๑๙. ‘‘ตึสหตฺโถ’’ติ อิทํ ตึสรตนมตฺโต เจ โหติ, ‘‘ทูร’’นฺติ น ปริสงฺกิตพฺโพติ ทสฺสนตฺถมาห. คหิเตกสฺมินฺติ อุภยโกฏีสุ ปิเต ทฺเว ฆเฏ ปฏิคฺคหาเปตุํ หตฺถปาเส ิเตน ทายเกน ทิยฺยมานํ ตึสหตฺถเวณุํ ปฏิคฺคณฺหนฺเตน เยน เกนจิ กายปฺปเทเสน วา กายปฏิพทฺเธน วา ‘‘อิมํ คณฺหามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา มฺจาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ผุสิตฺวา ปฏิคฺคหิเตติ วุตฺตํ โหติ. ตํ สพฺพนฺติ เตสุ ทฺวีสุ ฆเฏสุ ปกฺขิตฺตํ สพฺพเมว. คหิตเมวาติ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ, ทายกสฺส หตฺถปาสพฺภนฺตเร คตตฺตา อิทํ ตสฺส กายปฏิพทฺธนฺติ ‘‘ทูร’’นฺติ สงฺกา น กาตพฺพาติ เอวกาเรน ทีเปติ. ‘‘ทฺวีสุ ฆเฏสุ ภูมิยํ ปิเตสุปิ ตตฺถ พนฺธนเวฬุยํ ปฏิคฺคณฺหนมตฺเตเนว ปฏิคฺคหิตํ โหตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ.
๑๔๒๐-๒๔. ‘‘กฏสารเก’’ติ อิมินา โทณิผลกาทโย อุปลกฺขิตา. ‘‘นิสีทตี’’ติ อิทํ ‘‘ติฏฺตี’’ติอาทีนํ อุปลกฺขณํ. มฺจาทีนิ ผุสิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘องฺคุลิยาปี’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘ปฏิคฺคหณสฺาย มฺจาทีนิ องฺคุลิยาปิ ผุสิตฺวา ิเตน วา นิสินฺเนน วา นิปนฺเนน วา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). ปตฺเตสูติ ตถา ปิเตสุ สพฺเพสุ ปตฺเตสุเยว. ยฺจ ทียตีติ เอตฺถ ‘‘ตถา ิเตนา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
มฺจาทีสุ องฺคุลิอาทินา เยน เกนจิ ผุฏฺมตฺเตปิ ปฏิคฺคหณสฺส รุหณภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทาโรหเณนาปิ สิชฺฌตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปฏิคฺคเหสฺสามี’’ติอาทิ. สเจ ปน ¶ ปฏิคฺคเหสฺสามิจฺเจว มฺจาทีนิ อารุหิตฺวา นิสีทติ, ทายโกปิ หตฺถปาเส ตฺวาน เทติ เจ, ตํ สพฺพํ คหิตํ โหตีติ โยชนา.
กุจฺฉิยา กุจฺฉึ อาหจฺจ เย ปตฺตา ภูมิยํ ิตา, เตสุ ยํ ยํ ปตฺตํ องฺคุลิยาปิ วา สูจิยาปิ วา ผุสิตฺวา นิสินฺโน, ตตฺถ ตตฺเถว ทียมานมฺปิ ปฏิคฺคณฺหาติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.
๑๔๒๕. กฏสาราทโย ¶ สเจ มหนฺตา, ปฏิคฺคหณํ น รุเหยฺยาติ วิกปฺโป สิยาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถมาห ‘‘กฏสารเก’’ติอาทิ. ‘‘มหนฺตสฺมิ’’นฺติ อิมินา กฏสารกสฺส ปุน วจเน เหตุมาห. หตฺถตฺถรํ นาม หตฺถิปิฏฺเ อตฺถริตพฺพํ อตฺถรณํ. อาทิ-สทฺเทน อสฺสตฺถรรถตฺถราทึ สงฺคณฺหาติ. ิตปตฺเตสุ ทิยฺยมานํ คณฺหโต ปฏิคฺคหณรุหณเหตุํ ทสฺเสติ ‘‘หตฺถปาสสฺมึ วิชฺชมาเน ตู’’ติ. ตุ-สทฺโท วุตฺตวิเสสเมว โชเตติ.
๑๔๒๖. ตตฺถชาตกปณฺเณสูติ รุกฺเขเยว ิเตสุ ปณฺเณสุ. คเหตุนฺติ ปฏิคฺคเหตุํ. ‘‘น ปเนตานี’’ติอาทิ เยน เหตุนา น วฏฺฏติ, ตสฺส ทสฺสนํ. หิ-สทฺโท ปสิทฺธึ สูเจติ.
๑๔๒๗. ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน อุกฺขิปิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อสํหาริยํ. ตาทิเสติ ตถารูเป, อสํหาริเยติ วุตฺตํ โหติ. ขาณุพทฺเธติ ภูมิยํ นิขาตขาณุเก พทฺเธ.
๑๔๒๘. ตินฺติณิกาติ จิฺจา. อาทิ-สทฺเทน ตถา ขุทฺทกานํ กทมฺพปุปฺผปณฺณาทีนํ คหณํ. ‘‘ตินฺติณิกาทิปณฺเณสู’’ติ วจนโต สาขาสุ ปฏิคฺคหณํ รุหตีติ ทฏฺพฺพํ. ภูมิยํ ปตฺถเฏสูติ โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘ภูมิยํ อตฺถเตสุ สุขุเมสุ ตินฺติณิกาทิปณฺเณสุปิ ปฏิคฺคหณํ น รุหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).
๑๔๒๙. ปริเวสโกติ ¶ ทายโก.
๑๔๓๐. อเสสโต ปฺุฉิตฺวาติ โยชนา.
๑๔๓๑. ปฏิคฺคเหตฺวาวาติ ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวาว. ภิกฺขา คเหตพฺพาติ สมฺพนฺโธ.
๑๔๓๒. อปฏิคฺคหิเตติ เอตฺถ ‘‘ปตฺเต’’ติ เสโส. ตํ ปจฺฉา ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชโต อนาปตฺตีติ โยชนา.
๑๔๓๓. อนาทิยิตฺวาติ อคฺคเหตฺวา, ตสฺมึ วจเน อาทรํ อกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๔๓๕. อฺสฺส ¶ อนุปสมฺปนฺนสฺส.
๑๔๓๖. ปุพฺพาโภคสฺส อนุรูปวเสน ‘‘สามเณรสฺส ตํ ทตฺวา…เป… ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ตํ ‘‘อฺสฺส ทสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน ปรสนฺตกํ นาม น โหติ, ตสฺมา ตสฺส อทตฺวาปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
๑๔๓๗-๙. ภิกฺขุโนติ อฺสฺส ภิกฺขุสฺส. ภตฺตสฺสาติ กฺชิกาทิทฺรวมิสฺสภตฺตมาห. อุปฺลวตีติ อุปริ ปฺลวติ. กฺชิกนฺติ อารนาลํ, อิมสฺส อุปลกฺขณตฺตา ขีรตกฺกาทิทฺรวํ สงฺคหิตํ. ปวาเหตฺวาติ มตฺถกโต ปลาเปตฺวา. อนฺโต ปวิฏฺํ สเจ ตนฺติ ตํ รชํ ยทิ ภตฺตสฺส อนฺโต ปวิฏฺํ โหติ. ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อสติ หตฺถโต อโมเจนฺเตเนว ยตฺถ อนุปสมฺปนฺโน อตฺถิ, ตํ ตตฺถ เนตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพํ.
๑๔๔๐. อปนียาวาติ เอตฺถ ‘‘ถูล’’นฺติ อิทํ ‘‘สุขุมํ เจ’’ติ วกฺขมานวิปริยายโต ลพฺภติ. สภตฺตํ อปนียาติ ¶ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘อุปริภตฺเตน สทฺธึ อปเนตพฺพํ, ปฏิคฺคเหตฺวา วา ภฺุชิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).
๑๔๔๑. เถโวติ พินฺทุ. เถโว…เป… วฏฺฏตีติ เอตฺถ ยถา ปมตรํ ปติตเถเว โทโส นตฺถิ, ตถา อากิริตฺวา อปเนนฺตานํ ปจฺฉา ปติตเถเวปิ อภิหฏตฺตา เนวตฺถิ โทโส.
๑๔๔๒-๔. จรุเกนาติ ขุทฺทกอุกฺขลิยา. ตโต จรุกโต. มสีติ ชลฺลิกาอาทิกา ภสฺมา. ภาชเนติ ภาชนปตฺตาทิภาชเน. ตสฺส จาติ ตสฺส มสิอาทิโน จ.
อนนฺตรสฺส ภิกฺขุสฺส ทียมานํ ยํ ปตฺตโต อุปฺปติตฺวา อิตรสฺส ภิกฺขุโน ปตฺเต สเจ ปตติ, ตํ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ, ตสฺมา วฏฺฏเตวาติ โยชนา. ‘‘ทียมาน’’นฺติ เอตฺถ ‘‘ภตฺตาทิกํ ยํ กิฺจี’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. วฏฺฏเตวา ยนฺติ เอตฺถ ‘‘วฏฺฏเตว อย’’นฺติ ปทจฺเฉโท น กาตพฺโพ ‘‘อย’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺธนียสฺส อภาวโต. ตสฺมา ว-กาโร คาถาฉนฺทวเสน ทีฆํ กตฺวา วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
๑๔๔๕-๖. ปายาสสฺสาติ ¶ เอตฺถ ปูรณโยเค สามิวจนํ, ปายาเสนาติ วุตฺตํ โหติ. อุณฺหโตติ อุณฺหตฺตา. น สกฺกตีติ น สกฺโกติ. มุขวฏฺฏิยํ วฏฺฏตีติ มุขวฏฺฏึ อุกฺขิปิตฺวา หตฺเถ ผุสาปิเต คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. ตถา มุขวฏฺฏิยา คเหตุํ น สกฺกา เจ, อาธารเกนปิ คเหตพฺโพติ โยชนา.
๑๔๔๗-๘. อาหริยมานํ วา เนว ชานาติ, ทียมานํ วา น ชานาตีติ โยชนา. คาถาพนฺธวเสน ‘‘ชานตี’’ติ รสฺโส กโต. อาโภคนฺติ ‘‘คณฺหามี’’ติ อาโภคํ. ยถาห ¶ มหาปจฺจริยํ ‘‘อาโภคมตฺตเมว หิ เอตฺถ ปมาณ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). ‘‘กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) วุตฺตตฺตา ปตฺตํ คเหตฺวา นิสินฺนตฺตา ‘‘กายปฏิพทฺเธน คณฺหิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวาติปิ ยุชฺชเตว.
๑๔๔๙. ‘‘หตฺเถน มฺุจิตฺวา’’ติ อิทํ ‘‘อาธารกมฺปิ วา’’ติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. ‘‘ปาเทน เปลฺเลตฺวา’’ติ อิมินา ปน ‘‘อาธารก’’นฺติ อิทเมว โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘หตฺเถน อาธารกํ มฺุจิตฺวา ปาเทน เปลฺเลตฺวา นิทฺทายตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). เปลฺเลตฺวาติ ปีเฬตฺวา, อกฺกมิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๔๕๐. กมิ-ธาตุสฺส มชฺเฌ ‘‘อกฺก’’อิติ ปทจฺเฉโท ยติหีนโทโสติ.
‘‘สิโลเก นิยตฏฺานํ, ปทจฺเฉทํ ยตึ วิทู;
ตทเปตํ ยติพฺภฏฺํ, สวนุพฺเพชนํ ยถา’’ติ. –
ทณฺฑินา วุตฺตลกฺขณโต สิทฺธตาย โทโส ยถา น โหติ, ตถา วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ. เกจิ ปเนตฺถ อิ-การาคมสฺส ปจฺจยภาวตฺตา ตํสหิโต ม-กาโร ตคฺคหเณน สงฺคยฺหตีติ อุภยปกฺขภาคีติ ธาตุปจฺจยานํ มชฺเฌ ยติยา อิจฺฉิตตฺตา น โทโสติ ปริหรนฺติ. ชาครสฺสาปีติ อนิทฺทายนฺตสฺสาปิ. อนาทโรติ อนาทรภาโว.
๑๔๕๑. ตสฺมาติ ตถา คหณสฺส อนาทรภาวโต. ตนฺติ ตํ อาธารกํ ปาเทน อกฺกมิตฺวา ปฏิคฺคหณฺจ. ทียมานนฺติ ทายเกน ปฏิคฺคหาปิยมานํ. ปตตีติ ปฏิคฺคาหกสฺส ¶ หตฺถํ อผุสิตฺวา รโชรหิตาย สุทฺธภูมิยา วา ปทุมินิปณฺณาทีสุ วา ปตติ. ยถาห ‘‘ยํ ทิยฺยมานํ ทายกสฺส หตฺถโต ¶ ปริคฬิตฺวา สุทฺธาย ภูมิยา วา ปทุมินิปณฺณวตฺถกฏสารกาทีสุ วา ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). สรชาย ภูมิยา ปติเต รชํ ปฺุฉิตฺวา วา โธวิตฺวา วา ปฏิคฺคหาเปตฺวา วา ปริภฺุชิตพฺพนฺติ อิทํ อฏฺกถายํ ปน ‘‘สรชาย ภูมิยํ ปตตี’’ติอาทินา ทสฺสิตํ. คเหตุนฺติ เอตฺถ ‘‘ภฺุชิตุ’’นฺติ จ วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘ปริจฺจตฺตํ ทายเกหี’’ติ จ เสโส. ยถาห ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ยํ ทิยฺยมานํ ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ. ปริจฺจตฺตํ ตํ ภิกฺขเว ทายเกหี’’ติ (จูฬว. ๒๗๓). ‘‘ยํ ทิยฺยมานํ ปตตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา จตูสุปิ กาลิเกสุ อยํ นโย เวทิตพฺโพ.
๑๔๕๒. อพฺโพหาริกนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภฺุชนฺตาน’’นฺติ.
๑๔๕๓-๔. ตํ มลํ. เตสูติ อุจฺฉุอาทีสุ วตฺถูสุ. ตนฺติ มลมิสฺสกํ อุจฺฉุอาทิกํ วตฺถุ. น ปฺายตีติ น ปน ปฺายติ. ตสฺมินฺติ อุจฺฉุอาทิวตฺถุสฺมึ.
๑๔๕๕. นิสโททุกฺขลาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน นิสทโปตมุสลาทีนํ คหณํ.
๑๔๕๖. วาสิยา อุปลกฺขณตฺตา ตชฺชาติกํ ยํ กิฺจิ สตฺถมฺปิ คเหตพฺพํ. ขีเรติ อนุปสมฺปนฺเนน ตาปิตขีเร, อิทํ อุปริ อามกสฺส วิสุํ คหเณน วิฺายติ. นีลิกาติ นีลวณฺณํ. สตฺถเก วิย นิจฺฉโยติ สตฺเถน อุฏฺิตมเล อุจฺฉุขณฺเฑ วิย ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตพฺพนฺติ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
๑๔๕๗. ตนฺติ ตํ อคฺคิสนฺตตฺตวาสิอาทึ, ตาปวตฺถุโต วาสิ คเหตพฺพา.
๑๔๕๙. ตนฺติ ¶ ตํ หตฺถาทิกายาวยวํ วา จีวรํ วา โธวิตฺวา ปติตกิลิฏฺชลมิสฺสโมทนํ. รุกฺขมูลาทีสุ นิสีทิตฺวา ภฺุชนฺตสฺส ปตฺตาทีสุ รุกฺขปณฺณาทึ โธวิตฺวา ปติตกิลิฏฺโทเกปิ เอเสว วินิจฺฉโยติ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอเสวา’’ติอาทิ.
๑๔๖๐. ชลํ ¶ สเจ สุทฺธํ ปตติ, วฏฺฏตีติ โยชนา, ‘‘รุกฺขโต’’ติ ลพฺภติ. อพฺโภกาเส จ สเจ สุทฺธํ โตยํ ปตติ, วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘อากาสโต’’ติ ลพฺภติ. อุภยตฺถาปิ รุกฺขปณฺเณสุ, อากาเส จ รชสฺส ปมเมว วสฺโสทเกน โธวิตตฺตา อาห ‘‘สุทฺธ’’นฺติ.
๑๔๖๑. อจฺฉุปนฺเตนาติ อผุสนฺเตน. ตสฺส สามเณรสฺส.
๑๔๖๒. ปตฺตนฺติ อนุปสมฺปนฺนสฺส ปตฺตํ. ฉุปิตฺวาติ อนุปสมฺปนฺนปตฺตคโตทนํ ผุสิตฺวา. ตํ อตฺตโน ปตฺเต ภตฺตํ. ยถาห ‘‘อปฺปฏิคฺคหิเต โอทนํ ฉุปิตฺวา ปุน อตฺตโน ปตฺเต โอทนํ คณฺหนฺตสฺส อุคฺคหิตโก โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).
๑๔๖๔. ปจฺฉาติ ตสฺมึ คหิเตปิ อคหิเตปิ ปจฺฉา. ตํ ปฏิคฺคหิตโภชนํ.
๑๔๖๗. ตสฺส อตฺตโน ปตฺตคตสฺส ภตฺตสฺส.
๑๔๖๘. ปเรนาติ อปฺปฏิคฺคหิตปตฺเตน.
๑๔๖๙-๗๐. ‘‘ยาคุอาทีนํ ปจเน ภิกฺขูนํ ภาชเน’’ติ สมฺพนฺโธ. ปจนฺติ เอตฺถาติ ปจนํ, ภาชนํ. ภาชนูปริ หตฺเถสุ สามเณรสฺสาติ ภาชนสฺส อุปริ กเตสุ สามเณรสฺส หตฺเถสุ. ปติตํ หตฺถโต ตสฺมินฺติ ตสฺส สามเณรสฺส ¶ หตฺถโต ปริคฬิตฺวา ตสฺมึ ภาชเน ปติตํ.
๑๔๗๑. ‘‘น กโรติ อกปฺปิย’’นฺติ เอตฺถ การณมาห ‘‘ปริจฺจตฺตฺหิ ต’’นฺติ. ตฺหิ ยสฺมา ปริจฺจตฺตํ, ตสฺมา อกปฺปิยํ น กโรตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ อกตฺวาติ ยถาวุตฺตปกาเรน อกตฺวา. อากิรเตว เจติ สเจ ภาชเน อากิรติ เอว. ตํ ตถา ปกฺขิตฺตํ ภตฺตภาชนํ. นิรามิสํ กตฺวาติ ตตฺถ ปติตํ อามิสํ ยถา น ติฏฺติ, เอวํ โธวิตฺวา ภฺุชิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ.
๑๔๗๒-๓. กุฏนฺติ ¶ ฆฏํ. อาวชฺเชตีติ กุฏํ นาเมตฺวา ยาคุํ อาสิฺจติ.
๑๔๗๔. หตฺเถติ ทฺเว หตฺเถ. ตตฺถาติ ตตฺถ ภูมิยํ ปิเตสุ ทฺวีสุ หตฺถตเลสุ.
๑๔๗๕-๖. เอกสฺส คหณูปคํ เจ ภารนฺติ ถามมชฺฌิเมน เอเกน ปุริเสน อุกฺขิปนปฺปมาณํ ภารํ สเจ ภเวยฺย. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘เอกสฺส คหณูปคํ ภาร’’นฺติ อิทํ ปจฺจามสติ.
๑๔๗๗. ลคฺเคนฺตีติ โอลมฺพนฺติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ มฺจปีเ. วฏฺฏเตวาติ อุคฺคหิตกํ น โหตีติ ทีเปติ.
๑๔๗๘. สมฺมุชฺชนฺโตติ สมฺมชฺชนฺโต. ฆฏฺเฏตีติ อสฺจิจฺจ สมฺมชฺชนิยา ผุสติ.
๑๔๗๙. ตํ ตฺวาติ ปฏิคฺคหิตภาวํ ตฺวา. เปตุํ วฏฺฏติ อุคฺคหิตกํ น โหตีติ อธิปฺปาโย.
๑๔๘๐. ตนฺติ ปฏิคฺคหิตสฺาย คหิตํ ตํ อปฺปฏิคฺคหิตํ. อฺถา ปน น กตฺตพฺพนฺติ อปิหิตํ ปิธาตฺุจ ปิหิตํ วิวริตฺุจ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
๑๔๘๑. พหิ ¶ เปติ เจติ ยทิ ปุพฺเพ ปิตฏฺานโต พหิ เปติ. เตนาติ พหิ เปตฺวา มุตฺตหตฺเถน เตน ภิกฺขุนา. ตนฺติ พหิ ปิตํ หตฺถโต มุตฺตํ. ตฺวาติ อปฺปฏิคฺคหิตภาวํ ตฺวา. ตํ ตถา ตฺวา ปิตํ.
๑๔๘๒-๓. อุฏฺเติ ยทิ กณฺณิกาติ สเจ กณฺณิกา สฺชายติ. สิงฺคิเวราทิเกติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปิปฺผลิอาทีนํ คหณํ. มูเลติ ปฺจมูลาทิเก มูเล. ฆุณจุณฺณนฺติ ฆุณปาณเกหิ อุปฺปาทิตจุณฺณํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อุฏฺเตี’’ติ กิริยํ ปจฺจามสติ. ตํสมุฏฺานโตติ ปฏิคฺคหิตเตลาทีสุ สมุปฺปนฺนตฺตา. ตฺเวาติ ปวุจฺจตีติ ปมปฏิคฺคหิตํ ตเมว เตลาทิกนฺติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘ปฏิคฺคหณ…เป… น วิชฺชตี’’ติ.
๑๔๘๔-๕. โกจิ ¶ ปุคฺคโลติ สามเณรคมิกาทีสุปิ โย โกจิ สตฺโต. ตาลปิณฺฑินฺติ ตาลกณฺณิกํ ผลํ. อฺโ ภูมฏฺโติ ภูมิยํ ิโต อฺโ โกจิ ปุคฺคโล อิตฺถี วา ปุริโส วา.
๑๔๘๖. ฉินฺทิตฺวาติ ฉินฺทํ กตฺวา. วตินฺติ หตฺถปาสปฺปโหนกพหลวตึ. ยถาห ‘‘หตฺถปาเส สตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). ทณฺฑเก อผุสิตฺวาวาติ ยตฺตเกน คมนเวโค นิพฺพายติ, เอตฺตกํ, ปหรณโต วติทณฺฑเก วา อปฺปหริตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปหริตฺวา ตฺวา คจฺฉติ เจ, น วฏฺฏติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘มยํ ปน ‘ยํ านํ ปหฏํ, ตโต สยํ ปติตมิว โหตี’ติ ตกฺกยาม. ตสฺมิมฺปิ อฏฺตฺวา คจฺฉนฺเต ยุชฺชติ สุงฺกฆาตกโต ปวฏฺเฏตฺวา พหิ ปติตภณฺฑํ วิยา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).
๑๔๘๗-๘. ปากาโรติ ¶ เอตฺถ ‘‘วตึ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) อฏฺกถายํ อาคตตฺตา อิทํ อธิการโต คเหตพฺพํ. ‘‘น ปุถุโล’’ติ เอตฺถ อธิปฺเปตปฺปมาณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนฺโต…เป… ปโหติ เจ’’ติ. ‘‘อุทฺธํ หตฺถสตํ คนฺตฺวา’’ติ อิมินา ทายกสฺส ทาตุมิจฺฉาย อากาสํ ตํ อุกฺขิปิตฺวา วิสฺสฏฺภาวํ าเปติ. สมฺปตฺตนฺติ หตฺถปฺปตฺตํ. คณฺหโตติ ปฏิคฺคหณสฺาย คณฺหโต.
๑๔๘๙. ‘‘สามเณร’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณนฺติ คิหิโนปิ คหณํ. ตตฺเถวาติ ขนฺเธ เอว. นิสินฺโน สามเณโร.
๑๔๙๑-๒. ผลินึ สาขนฺติ ผลวตึ สาขํ. ‘‘ขาทิตุ’’นฺติ อิทํ ‘‘จิตฺเต สมุปฺปนฺเน’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ. สเจ ผลํ ขาทติ, เอวํ ขาทิตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. มกฺขิกานํ นิวารตฺถนฺติ มกฺขิกานํ นิวาเรตุํ.
๑๔๙๓. ฉายตฺถฺจ มกฺขิกา นิวาเรตฺุจ คยฺหมานา ผลสาขา สุขปริโภคตฺถาย กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคหิตา เจ, ขาทิตุมิจฺฉาย สติ ปุน อปฺปฏิคฺคหิตาปิ วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘กปฺปิยํ ปน กาเรตฺวา’’ติอาทิ.
๑๔๙๔-๕. ‘‘ตํ ¶ โส ปฏิคฺคหาเปตฺวา’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘คเหตฺวา’’ติ อิทํ อปฺปฏิคฺคหาเปตฺวา คหณํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ตํ ปฏิคฺคหิตนฺติ เอตฺถ ‘‘เจ ปุพฺพเมวา’’ติ เสโส.
๑๔๙๖-๙. ภิกฺขุสฺส ปาเถยฺยตณฺฑุเลติ สมฺพนฺโธ. โสติ สามเณโร. อิตเรหีติ ภิกฺขุนา คหิเตหิ อตฺตโน ตณฺฑุเลหิ.
ทฺวีสุ ปตฺเตสูติ อุปลกฺขณํ. พหูสุปิ เอเสว นโย. อตฺตนา ลทฺธํ ภิกฺขูนํ ทตฺวา เตหิ ลทฺธํ อตฺตนา คเหตฺวา อฺเสํ ¶ ทานวเสน พหุนฺนมฺปิ ทาตุํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ ตเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘ยาคุํ ภิกฺขุสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘อาวุโส ตุยฺหํ ยาคุํ มยฺหํ เทหี’ติ เอวํ เถเรหิ ปฏิปาฏิยา ยาจิตฺวาปิ ปิวิตุํ วฏฺฏติ, สพฺเพหิ สามเณรสฺส สนฺตกเมว ภุตฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. สามเณรสฺส ปีตตฺตาติ เอตฺถ ‘‘ยาคุยา’’ติอิทํ อธิการโต ลพฺภติ.
๑๕๐๐. อิมสฺสาติ ปาเถยฺยตณฺฑุลหารกสฺส. ‘‘น วิเสสตา’’ติ อิมินา วิสุํ อวตฺตพฺพตํ ทีเปติ.
๑๕๐๑. อสฺส วิเสสสฺสาติ ยถาวุตฺตวินิจฺฉยวิเสสสฺส วิสุํ วตฺตพฺพภาเวติ เสโส. ตสฺสาติ สามเณรตณฺฑุลหารกสฺส ภิกฺขุสฺส. สาลยภาวนฺติ อตฺตนา หฏตณฺฑุเลสุ ปริกฺขีเณสุ ‘‘อิทํ อมฺหากมฺปิ ปทสฺสตี’’ติ สาลยภาโว. ฉายาทีนมตฺถาย คยฺหมานาย สาขาย อิมิสฺสา ผลํ ขาทิตุกามตาย สติ ขาทนารหนฺติ อาลยสฺส กาตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา อยมฺปิ อวิเสโสติ วิฺายติ, ตตฺถ สมฺภวนฺตํ ปน วิเสสํ ทสฺเสตุมาหาติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.
๑๕๐๒-๔. นิจฺจาเลตุํ น สกฺโกตีติ นิจฺจาเลตฺวา สกฺขรา อปเนตุํ น สกฺโกติ. เจลโกติ จูฬสามเณโร. ปกฺกกาลสฺมึ วิวริตฺวา ปกฺกตา าตพฺพาติ โยชนา. ปิ-สทฺโท ปน-สทฺทตฺเถ. โอโรเปตฺวาติ อุทฺธนโต โอโรเปตฺวา. ปุพฺพตณฺฑุลโธวนตฺถาย กตปฏิคฺคหณสฺเสว ปมาณตฺตา อาห ‘‘น ปจฺฉสฺส ปฏิคฺคหณการณ’’นฺติ. อสฺสาติ โภชนสฺส.
๑๕๐๕. การิตนฺตสฺส ¶ ¶ ทฺวิกมฺมกตฺตา อาห ‘‘อุทฺธนํ สุทฺธภาชน’’นฺติ, อุทฺธเนติ วุตฺตํ โหติ.
๑๕๐๖. โกจีติ อนุปสมฺปนฺโน. เตน ภิกฺขุนาติ อุทฺธนํ สุทฺธภาชนํ อาโรเปตฺวา เยน อคฺคิ กโต, เตน ภิกฺขุนา. อิทฺจ อุปลกฺขณํ อฺเนปิ น กาตพฺพตฺตา.
๑๕๐๗. ปจฺฉาติ ตณฺฑุลปกฺเขปโต ปจฺฉา. ตํ ยาคุํ. สเจ ปจตีติ อคฺคึ กโรนฺโต ปจติ. สามปากา น มุจฺจตีติ ตํ ยาคุํ ปิวนฺโต สามปากทุกฺกฏโต น มุจฺจติ.
๑๕๐๘. วลฺลิยา สห ตตฺถ วลฺลิยํ ชาตํ ผลํ กิฺจิ อีสกมฺปิ จาเลติ, ตโต ลทฺธํ กิฺจิ ผลํ ตสฺเสว ภิกฺขุโน น วฏฺฏตีติ โยชนา, ตํ ปริภฺุชโต ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ โหตีติ อธิปฺปาโย. ตสฺเสวาติ เอวกาเรน อฺเสํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ.
๑๕๐๙. ปรามฏฺุนฺติ อามสิตุํ. อปสฺสยิตุนฺติ อวลมฺพิตุํ, อปสฺสนํ วา กาตุํ. ‘‘กิรา’’ติ อิมินา เกวลํ มหาปจฺจริยํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) วุตฺตภาวํ สูเจติ.
๑๕๑๐-๑. ตตฺถาติ ตสฺมึ เตเล. หตฺเถน สณฺฑาสคฺคหณํ อมฺุจนฺเตน. ตํ เตลํ.
๑๕๑๕-๖. โลณกิจฺจนฺติ อลวณฏฺาเน โลเณน กาตพฺพกิจฺจํ. สนฺนิหิตเสสกาลิกสมฺมิสฺสํ ยาวชีวิกํ วิย สมุทฺโททกสฺส อสนฺนิธิภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยาวชีวิกสงฺขาต’’นฺติอาทิ. กาลวินิมฺมุตฺตนฺติ อกาลิกํ, จตูสุ กาลิเกสุ อสงฺคหิตนฺติ อตฺโถ.
๑๕๑๗. หิมสฺส กรกาติ หิโมทกสฺส มุตฺตา วิย ปตฺถินสกฺขรา. พหลมฺปิ จาติ ปกฺขิตฺตฏฺาเน มุเข วา กทฺทมวณฺณสฺส ¶ อปฺายนปฺปมาณพหลํ ปานียฺจ. อปฺปฏิคฺคหิตํ วฏฺฏติ. สเจ กทฺทมวณฺณํ ปฺายติ, น วฏฺฏตีติ. ยถาห ‘‘สเจ ปน มุเข จ หตฺเถ จ ลคฺคติ, น วฏฺฏติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).
๑๕๑๘. กสิตฏฺาเนติ ¶ กฏฺฏฺาเน. น วฏฺฏติ อปฺปฏิคฺคหิตํ. เอวํ สพฺพตฺถ.
๑๕๑๙. โสพฺโภ ทุกฺโขคาหนชลาสโย. ‘‘อาวาโฏ’’ติ เกจิ. กกุโธติ อชฺชุโน.
๑๕๒๐. ปานียสฺส ฆเฏติ ปานียฆเฏ. ตํ ปานียฆฏํ.
๑๕๒๑. วาสตฺถาย ปุปฺผานิ วาสปุปฺผานิ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปานียฆเฏ. กมลฺลิกาสูติ ปาฏลิกุสุมาทีหิปิ สห กณฺฏกมลฺลิกาสุ. ทินฺนาสูติ ปานีเย ปกฺขิตฺตาสุ.
๑๕๒๒. วิสตีติ อนฺโตคลํ ปวิสติ. เตเนว อฏฺกถายํ ‘‘อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) วุตฺตํ. อิทํ อฏฺกถาวจนํ ‘‘อฺตฺร อุทกทนฺตโปนา’’ติ (ปาจิ. ๒๖๖) ปาฬิยา วิรุชฺฌตีติ เจ? น วิรุชฺฌติ. สา หิ เกวลํ ทนฺตกิจฺจํ สนฺธาย วุตฺตา, อิทํ รสํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ. เตเนว ตทนนฺตรํ ‘‘อชานนฺตสฺส รเส ปวิฏฺเปิ อาปตฺติเยว. อจิตฺตกฺหิ อิทํ สิกฺขาปท’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) วุตฺตํ. ตสฺส สิกฺขาปทสฺส อจิตฺตกตา ‘‘อปฺปฏิคฺคหิตเก ปฏิคฺคหิตสฺี’’ติอาทิกาย ปาฬิยา กปฺปิยสฺิโนปิ ปาจิตฺติยสฺส วุตฺตตฺตา วิฺายติ. ปสนฺโนทกสฺส ปน อปฺปฏิคฺคเหตฺวาปิ ปาตพฺพตาย ทนฺตกฏฺเน สทิสตฺตา เอกโยคนิทฺทิฏฺานํ สเหว ปวตฺตีติ วิฺายติ. อุทกสฺส จ ทนฺตโปนสฺส จ ตุลฺยโทเสน ภวิตพฺพนฺติ.
๑๕๒๓. มุตฺโตทกสิงฺฆาณิกาทิทฺรวอสฺสุขีราทิทฺรวสฺส ¶ อาโปธาตุปฺปการตฺตา, กณฺณมลาทิโน ฆนทพฺพสฺส ปถวิธาตุปฺปการตฺตา ‘‘สรีรฏฺเสุ ภูเตสู’’ติ อิมินา ขีราทิมาห. ‘‘กิ’’นฺติ อิทํ น วฏฺฏตีติ ปเทนปิ โยเชตพฺพํ. กปฺปากปฺปิยมํสานนฺติ เอตฺถ ‘‘สตฺตาน’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
๑๕๒๔. โลณนฺติ เอตฺถ ‘‘เอตํ สพฺพมฺปี’’ติ อิทํ อธิการโต ลพฺภติ.
๑๕๒๕. เอตฺถาติ เอเตสุ ยถาวุตฺเตสุ กณฺณมลาทีสุ.
๑๕๒๘. จตฺตาริ ¶ วิกฏานีติ มหาวิกฏํ นาม คูถํ, มตฺติกา, มุตฺตํ, ฉาริกา จาติ วุตฺตานิ จตฺตาริ วิกฏานิ. ตานิ หิ วิรุทฺธานิ สปฺปวิสานิ กตานิ วิหตานีติ ‘‘วิกฏานี’’ติ วุจฺจนฺติ. นตฺถิ ทายโก เอตฺถาติ นทายกํ, านํ, ตสฺมึ. ‘‘น อ โน มา อลํ ปฏิเสเธ’’ติ วุตฺตตฺตา ปฏิเสธวาจินา น-สทฺเทน สมาโส, ‘‘อทายเก’’ติ อิมินา อนตฺถนฺตรํ. อิธ ทุพฺพโจ จ อสมตฺโถ จ อสนฺโต นามาติ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕; กงฺขา. อฏฺ. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา, อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. อิทํ กาโลทิสฺสํ นาม.
๑๕๒๙. ปถวินฺติ อกปฺปิยปถวึ. ตรุนฺติ อลฺลรุกฺขํ. อิมินา สปฺปทฏฺกาเล อสติ กปฺปิยการเก วิกฏตฺถาย อตฺตนา จ กตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
๑๕๓๐. อจฺเฉทคาหโตติ วิลุมฺปิตฺวา คณฺหนโต. ‘‘ตสฺสา’’ติ อิทํ สพฺเพหิ เหตุปเทหิ ยุชฺชติ. ตสฺสาติ อปฺปฏิคฺคหิตสฺสาติ อตฺโถ. อปรสฺส อภิกฺขุกสฺส ทาเนน จาติ โยชนา. ‘‘อภิกฺขุกสฺสา’’ติ ปน วิเสสเนน อุปสมฺปนฺนสฺส ¶ ทินฺเน ปฏิคฺคหณํ น วิชหตีติ ทีเปติ. สพฺพนฺติ ยถาวุตฺตํ กาเยน คหณาทิปฺปการสฺส กลฺยํ คหิตํ. เอวนฺติ อิมินา นิยาเมน.
๑๕๓๑. ทุรุปจิณฺเณติ ทุฏฺุ อุปจิณฺเณ ทุรามฏฺเ, อปฺปฏิคฺคหิตสฺส อามิสภตฺตภาชนาทิโน กีฬาวเสน หตฺเถน ปรามสเน จ ตตฺถชาตกผลินึ สาขาย วา วลฺลิยา วา คเหตฺวา จาลเน จาติ อตฺโถ. อุคฺคหิตสฺส คหเณติ อปฺปฏิคฺคหิตภาวํ ตฺวาว คหิตสฺส กสฺสจิ วตฺถุโน ปฏิคฺคหเณ จ. อนฺโตวุตฺเถ จาติ อกปฺปิยกุฏิยา อนฺโต เปตฺวา อรุณํ อุฏฺาปิเต จ. สยํปกฺเก จาติ ยตฺถ กตฺถจิ อตฺตนา ปกฺเก จ. อนฺโตปกฺเก จาติ อกปฺปิยกุฏิยา อนฺโตเยว ปกฺเก จ. ทุกฺกฏํ นิทฺทิฏฺนฺติ สมฺพนฺโธ.
๑๕๓๒-๓. ปฏิคฺคหิตเก ตสฺมึ ปฏิคฺคหิตสฺิสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ทนฺตโปนํ ทนฺตกฏฺํ.
๑๕๓๔. ภิกฺขุนีนนฺติ ภิกฺขุโน จ ภิกฺขุนิยา จ ภิกฺขุนีนํ, เอกเทสสรูเปกเสโส. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. วินิจฺฉโย นวมชฺฌิมเถรภิกฺขุนีนํ ยโต อวิเสเสน ¶ อิจฺฉิตพฺพโก, ตโต ตสฺมา เหตุนา สกโล อยํ วินิจฺฉโย อสมาสโต มยา กถิโตติ โยชนา. กุสลตฺติกาทีสุ วิย อตฺถสากลฺยสฺส อตฺถสงฺเขปโตว วตฺตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา ‘‘สกโล’’ติ วตฺวาปิ กถาย วิตฺถาริตภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อสมาสโต’’ติ.
ทนฺตโปนกถาวณฺณนา.
โภชนวคฺโค จตุตฺโถ.
๑๕๓๕. ‘‘อเจลกาทีน’’นฺติอาทีสุ ¶ ‘‘อเจลโก นาม โย โกจิ ปริพฺพาชกสมาปนฺโน นคฺโค’’ติ (ปาจิ. ๒๗๑) ปทภาชเน วุตฺตํ, ตทฏฺกถาย ‘‘ปริพฺพาชกสมาปนฺโนติ ปพฺพชฺชํ สมาปนฺโน’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๙) วุตฺตํ, ตสฺมา อเจลกปพฺพชฺชมุปคโตเยเวตฺถ อเจลโก นาม. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๐) มาติกา-คเต ทฺเว สงฺคณฺหาติ. อิเมสุ จ ทฺวีสุ ‘‘ปริพฺพาชโก นาม ภิกฺขฺุจ สามเณรฺจ เปตฺวา โย โกจิ ปริพฺพาชกสมาปนฺโน’’ติ (ปาจิ. ๒๗๑) วุตฺโต ปริพฺพาชโก นาม. ‘‘ภิกฺขุนิฺจ สิกฺขมานฺจ สามเณริฺจ เปตฺวา ยา กาจิ ปริพฺพาชิกสมาปนฺนา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๑) วุตฺตา ปริพฺพาชิกา นามาติ คเหตพฺพา. ปริพฺพาชกา ปเนตฺถ ฉนฺนาเยว คเหตพฺพา. เทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ, เอตฺถ ‘‘กายาทินา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘ทเทยฺยาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา เทตี’’ติ (ปาจิ. ๒๗๑).
๑๕๓๖. ติกปาจิตฺติยนฺติ ติตฺถิเย ติตฺถิยสฺี, เวมติโก, อติตฺถิยสฺีติ ติเก ปาจิตฺติยตฺตยํ.
๑๕๓๗. อติตฺถิเย ติตฺถิยสฺิสฺส, เวมติกสฺส จ ตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๕๓๘-๙. เตสนฺติ ติตฺถิยานํ. พหิเลปนนฺติ พหิสรีเร ลิมฺปิตพฺพํ กิฺจิ เทนฺตสฺส. เตสํ ติตฺถิยานํ สนฺติเก สมีเป อตฺตโน ภตฺตปตฺตาทิกํ โภชนํ เปตฺวา ‘‘โภชนํ คณฺหถา’’ติ วทนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ โยชนา. ‘‘สมุฏฺานํ เอฬกูปม’’นฺติ ปทจฺเฉโท.
อเจลกกถาวณฺณนา.
๑๕๔๐-๒. ภิกฺขุ ¶ ¶ ภิกฺขุโน ยํ กิฺจิ อามิสํ ทาเปตฺวา วา อทาเปตฺวา วาติ โยชนา. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘เอหาวุโส, คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๕) สิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว วตฺวา เยน สทฺธึ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ, ตสฺส ภิกฺขุสฺส ขาทนียาทิเภทํ ยํ กิฺจิ อามิสํ ทาเปตฺวา วา อทาเปตฺวา วาติ.
ตํ ภิกฺขุํ ‘‘คจฺฉา’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชตีติ โยชนา. กึ วุตฺตํ โหติ? เอวํ โย ภิกฺขุ เตน สทฺธึ คามํ ปวิฏฺโ, ตํ ‘‘คจฺฉาวุโส, น เม ตยา สทฺธึ กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหติ, เอกกสฺส เม กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๗๕) วตฺวา ตปฺปจฺจยา เตสํ อิตฺถิยาสทฺธึ วจนาทีนํ อนาจารานํ ปจฺจยา คนฺตุํ นิโยเชตีติ. ตปฺปจฺจยาติ ‘‘อุยฺโยชนมตฺตสฺมิ’’นฺติ วิเสสนํ. ปเมน จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต ‘‘อุยฺโยชนมตฺตสฺมิฺจา’’ติ โยเชตพฺโพ. ตสฺสาติ อุยฺโยชกสฺส.
อสฺสาติ อุยฺโยชิตสฺส, อวยวสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. อุปจารสฺมึ อติกฺกนฺเตติ วกฺขมานลกฺขเณ ทสฺสนูปจาเร วา สวนูปจาเร วา อติกฺกนฺเตติ อตฺโถ, ภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ. ปุน อสฺสาติ อุปจารสฺส. ทฺวาทสรตนปริโยสานํ, ตทนฺโตคธํ ปาการาทิ เอว วา อุปจารสฺส สีมา นาม.
๑๕๔๓. ตํ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ทสฺสเน’’ติอาทิ. อชฺโฌกาเส ทสฺสเน อุปจารสฺส ทฺวาทส หตฺถา ปมาณํ เทสิตาติ โยชนา. สวเน จ อชฺโฌกาเส เอวํ สวนูปจารสฺส อชฺโฌกาเส ทฺวาทส หตฺถา ปมาณํ เทสิตาติ โยชนา, สวเน จ อุปจารสฺส อวธิ ทฺวาทสหตฺถปฺปมาณเมวาติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. น เจตเรติ อิตรสฺมึ ¶ อนชฺโฌกาเส เอวํ อุปจารสฺส ปมาณํ ทฺวาทสหตฺถา น จ เทสิตา, กึ นุ พฺยาวธากรา กุฏฺฏาทโย อุปจารสฺส ปมาณนฺติ เทสิตาติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน อนฺตรา กุฏฺฏทฺวารปาการาทโย โหนฺติ, เตหิ อนฺตริตภาโวเยว ทสฺสนูปจาราติกฺกโม, ตสฺส วเสน อาปตฺติ เวทิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๗๖). อิธ อุปจารทฺวเย สมาเนปิ อุยฺโยชิตมวธิอนฺตํ สนฺธาย อสวนูปจารํ วุตฺตนฺติ วิฺายติ.
๑๕๔๔. ‘‘ติกปาจิตฺตีติ อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีหิ ติกปาจิตฺติยํ ¶ . อิตเรติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ. ‘‘อิตเรติ สามเณเรเยวา’’ติ นิสฺสนฺเทเห ลิขิตํ. เอตสฺเสวตฺถสฺส วชิรพุทฺธินาปิ วุตฺตภาโว ทสฺสิโต. ตถาทสฺสนํ ปฺจสหธมฺมิเกสุ อิธาธิปฺเปตมนุปสมฺปนฺนํ สนฺธาย วุตฺตํ เจ, ยุชฺชติ. อฺถา ปาฬิอฏฺกถาสุ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน’’ติ สามฺเน นิทฺทิฏฺตฺตา คหฏฺานุปสมฺปนฺนมฺปิ ตถา อุยฺโยเชนฺตสฺส อนาปตฺติ น วตฺตพฺพาติ อมฺหากํ ขนฺติ.
อุภินฺนนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. นิสฺสนฺเทเห ปน ‘‘ภิกฺขุสามเณราน’’นฺติ ลิขิตํ. กลิสาสนาโรปเนติ เอตฺถ กลีติ โกโธ, ตสฺส สาสนํ อาณา กลิสาสนํ, ตสฺส อาโรปนํ ปวตฺตนํ กลิสาสนาโรปนํ, ตสฺมึ, โกธวเสน านนิสชฺชาทีสุ โทสํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ปสฺสถ โภ อิมสฺส านํ นิสชฺชํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ, ขาณุโก วิย ติฏฺติ, สุนโข วิย นิสีทติ, มกฺกโฏ วิย อิโต จิโต จ วิโลเกตี’’ติ เอวํ ‘‘อปฺเปว นาม อิมินาปิ อุพฺพาฬฺโห ปกฺกเมยฺยา’’ติ อมนาปวจนสฺส ภณเนติ วุตฺตํ โหติ.
๑๕๔๕. อุยฺโยเชนฺตสฺส ¶ กิจฺเจนาติ วิหารปาลกาทีนํ โภชนหรณาทิกิจฺเจน เปเสนฺตสฺส, อิมสฺส อุปลกฺขณตฺตา ‘‘อนาปตฺติ ‘อุโภ เอกโต น ยาเปสฺสามา’ติ อุยฺโยเชตี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๒๗๘) อนาปตฺติวาราคตา สพฺเพปิ ปการา คเหตพฺพา.
อุยฺโยชนกถาวณฺณนา.
๑๕๔๖. ขุทฺทเกติ เอตฺถ ‘‘สยนิฆเร’’ติ เสโส อุปริ ‘‘อสยนิฆเร ตสฺส, สยนิฆรสฺิโน’’ติ วกฺขมานตฺตา ลพฺภติ. ‘‘มหลฺลเก’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปิฏฺิสงฺฆาฏโต อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาณํ ยสฺส เวมชฺเฌ โหติ, อีทิเส ขุทฺทเก สยนิฆเรติ อตฺโถ. ปิฏฺิวํสนฺติ ปิฏฺิวํเสน นิยมิตํ เคหมชฺฌํ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ปิฏฺิวํสํ อติกฺกมิตฺวา’ติ อิมินา มชฺฌาติกฺกมํ ทสฺเสตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๘๐). สโภชเนติ สห โภชเนหีติ สโภชนํ, ตสฺมึ สโภชเน. อถ วา สโภชเนติ สโภเค. ราคปริยุฏฺิตสฺส ปุริสสฺส หิ อิตฺถี โภโค, อิตฺถิยา จ ปุริโส, เมถุนราเคน สารตฺตปุริสิตฺถิสหิเตติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘สโภชนํ นาม กุลํ อิตฺถี เจว โหติ ปุริโส จ, อิตฺถี จ ปุริโส จ อุโภ อนิกฺขนฺตา ¶ โหนฺติ, อุโภ อวีตราคา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๘๑). อิมินา ปริยุฏฺิตสฺส เมถุนราคคฺคิโน ตงฺขเณ นิพฺพตฺตภาโว ทีปิโต. กุเลติ ฆเร.
๑๕๔๗. หตฺถปาสนฺติ อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณเทสํ. ปิฏฺิสงฺฆาฏกสฺส จาติ ทฺวารสพนฺธสฺส จ. สยนสฺสาติ สยนฺติ เอตฺถาติ สยนํ, ตสฺส, อาสนฺเน าเน โย นิสีทติ สโภชเน กุเล, ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ, สยนสฺส ¶ สมีเป าเน โย นิสีทตีติ อตฺโถ. มหลฺลเกติ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปมาณโต มหนฺเต สยนิฆเร. ‘‘อีทิสฺจ สยนิฆรํ มหาจตุสาลาทีสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๘๐) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๑๕๔๘. สยนเมตสฺส อตฺถีติ สยนี, สยนี จ ตํ ฆรฺจาติ วิคฺคโห. ตตฺถาติ สยนิฆเร.
๑๕๔๙-๕๐. ทุติเย สตีติ ทุติเย ภิกฺขุมฺหิ สติ. ยถาห อนาปตฺติวาเร ‘‘ภิกฺขุ ทุติโย โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๘๓). วีตราเคสูติ วีตราคปริยุฏฺาเนสุ. วุตฺตลกฺขณํ ปเทสนฺติ ขุทฺทกมหนฺตเสนาสเน วุตฺตลกฺขณปเทส. อนติกฺกมฺม นิสินฺนสฺสาติ อนติกฺกมิตฺวา นิสีทโต.
สโภชนกถาวณฺณนา.
๑๕๕๒. เตสนฺติ ทฺวินฺนํ อนิยตสิกฺขาปทานํ. เอสนฺติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ รโหปฏิจฺฉนฺนรโหนิสชฺชสิกฺขาปทานํ, อยเมว วิเสโสติ อนนฺตรสิกฺขาปเทน สมุฏฺานภาวสงฺขาโต อยํ วิเสโส ทีปิโตติ โยชนา.
รโหปฏิจฺฉนฺนรโหนิสชฺชกถาวณฺณนา.
๑๕๕๓-๖. วุตฺโตติ นิมนฺติโต. สนฺตํ ภิกฺขุนฺติ ‘‘กุลํ อุปสงฺกมิสฺสามี’’ติ ยสฺมึ ปเทเส จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺส สามนฺตา ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ิตํ ภิกฺขุนฺติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ยตฺถ ิตสฺส กุลานิ ปยิรุปาสนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตโต ปฏฺาย ยํ ปสฺเส วา อภิมุเข วา ปสฺสติ, ยสฺส จ สกฺกา โหติ ปกติวจเนน อาโรเจตุํ, อยํ สนฺโต นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๙๘). เอตฺถ ¶ ยํ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ิเตน โสตุํ สกฺกา ภเวยฺย, ตํ ¶ ปกติวจนํ นาม. อนาปุจฺฉาติ ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ฆรํ คจฺฉามี’’ติ วา ‘‘จาริตฺตํ อาปุจฺฉามี’’ติ วา อีทิเสน วจเนน อนาปุจฺฉิตฺวา. จาริตฺตํ อาปชฺเชยฺย เจติ ยทิ สฺจเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. อฺตฺร สมยาติ ‘‘ตตฺถายํ สมโย, จีวรทานสมโย จีวรการสมโย’’ติ (ปาจิ. ๒๙๙) สิกฺขาปเท อนุปฺตฺติวเสน วุตฺตา ทุวิธา สมยา อฺสฺมึ กาเล.
อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เปตฺวา’’ติอาทิ. ‘‘อวีติวตฺเต มชฺฌนฺเห’’ติ อิมินา ปุเรภตฺตํ, ปจฺฉาภตฺตฺจ สงฺคหิตํ. เอตฺถ จ ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตนฺติ เยน ภตฺเตน นิมนฺติโต, ตสฺมึ อภุตฺเต วา ภุตฺเต วาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ปุเรภตฺตํ นาม เยน นิมนฺติโต, ตํ อภุตฺตาวี. ปจฺฉาภตฺตํ นาม เยน นิมนฺติโต, ตํ อนฺตมโส กุสคฺเคนปิ ภุตฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๓๐๐) ปทภาชเน วุตฺตํ. อฺสฺส ฆรนฺติ นิมนฺติตโต อฺสฺส เคหํ. ฆรูปจาโรกฺกมเน ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ, อตฺตนา คตเคหสฺส อุปจาโรกฺกมเน ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. ปเมน ปาเทนาติ สมฺพนฺโธ.
ฆรุมฺมาเรติ อฺสฺส เคหุมฺมาเร. ฆรูปจาเร ทุกฺกฏํ สนฺธาย ‘‘อปรมฺปิ จา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สมติกฺกเม’’ติ อิมินา สห ‘‘ฆรุมฺมาเร’’ติ ปทํ ‘‘ฆรุมฺมารสฺสา’’ติ วิภตฺติวิปริณาเมน โยเชตพฺพํ.
๑๕๕๗. ิตฏฺาเนติ ยตฺถ ิตสฺส คมนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมึ าเน ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเรติ อิทํ ยถาวุตฺตนิยาเมเนว คเหตพฺพํ. โอโลเกตฺวาติ อุภยปสฺสํ, อภิมุขฺจ โอโลเกตฺวา. ‘‘ยํ ปสฺเส วา อภิมุเข วา ปสฺสตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๙๘) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๑๕๕๘. ทูเรติ ¶ ทฺวาทสหตฺถโต ทูรเมวาห. อิโต จิโต จ คเวสิตฺวา อาโรจเน กิจฺจํ นตฺถีติ โยชนา.
๑๕๕๙. น โทโสติ อนาปตฺติ. สมเยติ เอตฺถ ‘‘อนาปุจฺฉโต’’ติ เสโส. เอตฺถ จ อุปริ จ ‘‘น โทโส’’ติ ปจฺเจกํ ยุชฺชติ. สนฺตํ ภิกฺขุนฺติ สมฺพนฺโธ. ฆเรนาติ อฺสฺส ฆเรน, เอตฺถ ‘‘ฆรูปจาเรน จา’’ติ เสโส. อารามํ คจฺฉโตติ เอตฺถ เตน มคฺเคนาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๕๖๐. ‘‘เตน ¶ มคฺเคนา’’ติ จ ‘‘คจฺฉโต’’ติ จ ปททฺวยํ ‘‘ติตฺถิยานํ ปสฺสย’’นฺติ จ ‘‘ภิกฺขุนิปสฺสย’’นฺติ จ อุภยตฺถ ตถา-สทฺเทน ลพฺภติ. เตน ฆเรน, ฆรูปจาเรน วา คนฺตพฺพมคฺเคน ติตฺถิยารามํ วา ภิกฺขุนิปสฺสยํ วา คจฺฉโต อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อาปทาย คจฺฉตีติ โยชนา. ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายา อาปทา. อาสนสาลํ วาติ สีหฬทีเป วิย ภิกฺขูนํ ภฺุชนตฺถาย ยตฺถ ทานปตีหิ อาสนานิ ปฺาปียนฺติ, ตํ อาสนสาลํ วา, โภชนสาลนฺติ อตฺโถ. ‘‘อาปทายาสนสาล’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ยการโลโป. ภตฺติยสฺส ฆรนฺติ นิมนฺติตฆรํ วา สลากภตฺตทายกานํ วา ฆรํ.
๑๕๖๑. ปเวสนํ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ. อจิตฺตกสมุฏฺานมิสฺสกตฺตา ‘‘อจิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. กุสลากุสลาพฺยากตานํ อฺตรจิตฺตสมงฺคินา อาปชฺชิตพฺพํ สนฺธาย ‘‘ติจิตฺตฺจา’’ติ วุตฺตํ.
จาริตฺตกถาวณฺณนา.
๑๕๖๒. ‘‘สพฺพา’’ติ อิทํ วิวรนฺโต ‘‘จตุมาสปวารณา ปุนปวารณา นิจฺจปวารณา’’ติ ปวารณตฺตยํ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ ¶ ‘‘จตุมาสปจฺจยปวารณา สาทิตพฺพาติ คิลานปจฺจยปวารณา สาทิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. ๓๐๗) ปทภาชเน วุตฺตํ. ปุนปวารณา จ จตฺตาโรเยว มาเส เภสชฺเชน ปวารณํ. เตนาห อฏฺุปฺปตฺติยํ ‘‘เตน หิ ตฺวํ มหานาม สงฺฆํ อปรมฺปิ จตุมาสํ เภสชฺเชน ปวาเรหี’’ติ. นิจฺจปวารณา นาม ยาวชีวํ เภสชฺเชเหว ปวารณา. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา อฏฺุปฺปตฺติยํ ‘‘เตน หิ ตฺวํ มหานาม สงฺฆํ ยาวชีวํ เภสชฺเชน ปวาเรหี’’ติ (ปาจิ. ๓๐๓).
สพฺพา เจตา ปวารณา เภสชฺชปริยนฺตรตฺติปริยนฺตตทุภยปริยนฺตอปริยนฺตวเสน จตุพฺพิธา โหนฺติ. ยถาห –
‘‘เภสชฺชปริยนฺตา นาม เภสชฺชานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ ‘เอตฺตเกหิ เภสชฺเชหิ ปวาเรมี’ติ. รตฺติปริยนฺตา นาม รตฺติโย ปริคฺคหิตาโย โหนฺติ ‘เอตฺตกาสุ รตฺตีสุ ปวาเรมี’ติ. เภสชฺชปริยนฺตา จ รตฺติปริยนฺตา จ นาม เภสชฺชานิ จ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ รตฺติโย จ ปริคฺคหิตาโย โหนฺติ ‘เอตฺตเกหิ เภสชฺเชหิ เอตฺตกาสุ รตฺตีสุ ¶ ปวาเรมี’ติ. เนวเภสชฺชปริยนฺตา นรตฺติปริยนฺตา นาม เภสชฺชานิ จ อปริคฺคหิตานิ โหนฺติ รตฺติโย จ อปริคฺคหิตาโย โหนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๐๗).
๑๕๖๓. ‘‘สาทิตพฺพา’’ติ วุตฺเต สาทิยนปฺปกาเร ทสฺเสตุมาห ‘‘วิฺาเปสฺสามี’’ติอาทิ. เภสชฺชมฺปิ สติ เม ปจฺจเย วิฺาเปสฺสามีติ โยชนา, ‘‘สาทิตพฺพา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตเทว พฺยติเรกโต ทสฺเสตุมาห ‘‘น ปฏิกฺขิปิตพฺพา’’ติ. ปฏิกฺเขปการณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โรโคทานิ น เมติ จา’’ติ. สา ติวิธา ปวารณา.
๑๕๖๔. ติกปาจิตฺติยํ ¶ วุตฺตนฺติ ‘‘ตตุตฺตริ ตตุตฺตริสฺี, เวมติโก, นตตุตฺตริสฺี เภสชฺชํ วิฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๐๙) วุตฺตํ ปาจิตฺติยตฺตยํ. อิธ ตตุตฺตรีติ เอตฺถ เยหิ เภสชฺเชหิ ปวาริโต, ยาสุ จ รตฺตีสุ ปวาริโต, ตโต เจ อุตฺตริ อธิกนฺติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘เภสชฺชปริยนฺเต เยหิ เภสชฺเชหิ ปวาริโต โหติ, ตานิ เภสชฺชานิ เปตฺวา อฺานิ เภสชฺชานิ วิฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ จ ‘‘รตฺติปริยนฺเต ยาสุ รตฺตีสุ ปวาริโต โหติ, ตา รตฺติโย เปตฺวา อฺาสุ รตฺตีสุ วิฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๐๘) จ. ตตฺถ เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๑๕๖๕. ตโต จตุมาสโต อุตฺตริ อติเรกํ ตตุตฺตริ, ตตุตฺตริ น โหตีติ นตตุตฺตริ, นตตุตฺตรีติ สฺา อสฺส อตฺถีติ นตตุตฺตริสฺี, ภิกฺขุ, ตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เยหิ เภสชฺเชหิ ปวาริโต, ตานิ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ สห เสเสน โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘อนาปตฺติ เยหิ เภสชฺเชหิ ปวาริโต โหติ, ตานิ เภสชฺชานิ วิฺาเปตี’’ติ (ปาจิ. ๓๑๐). เยน วา เยหิ เภสชฺเชหิ ยาสุ วา รตฺตีสุ ปวาริโต, ตโต อฺมฺปิ ยถาตถํ อาจิกฺขิตฺวา ภิยฺโย วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ สห เสเสน โยเชตพฺพํ. ยถาตถํ อาจิกฺขิตฺวา ภิยฺโย วิฺาเปนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อิเมหิ ตยา เภสชฺเชหิ ปวาริตมฺห, อมฺหากฺจ อิมินา จ อิมินา จ เภสชฺเชน อตฺโถ’ติ อาจิกฺขิตฺวา วิฺาเปติ, ‘ยาสุ ตยา รตฺตีสุ ปวาริตมฺห, ตาโย จ รตฺติโย วีติวตฺตา, อมฺหากฺจ เภสชฺเชน อตฺโถ’ติ อาจิกฺขิตฺวา วิฺาเปตี’’ติ (ปาจิ. ๓๑๐) วจนโต ยถาตถํ วตฺวา อธิกํ วิฺาเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
๑๕๖๖. อฺสฺส ¶ ¶ ภิกฺขุสฺส อตฺถาย วา วิฺาเปนฺตสฺส ภิกฺขุสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. าตกานํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอตฺถ าตกานํ สนฺตกํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อตฺตโน วา ธเนน วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เอตฺถ ธนํ นาม ตณฺฑุลาทิ กปฺปิยวตฺถุ.
๑๕๖๗. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วิฺาเปนฺตสฺสา’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ. อุมฺมตฺตกาทีนนฺติ วิเสสิตพฺพมเปกฺขิตฺวา ‘‘วิฺาเปนฺตาน’’นฺติ พหุวจนํ กาตพฺพํ.
เภสชฺชกถาวณฺณนา.
๑๕๖๘. อุยฺยุตฺตนฺติ สงฺคามตฺถาย กตอุยฺโยคํ, คามโต นิกฺขมฺม คจฺฉนฺตํ วา เอกตฺถ สนฺนิวิฏฺํ วา. ยถาห ‘‘อุยฺยุตฺตา นาม เสนา คามโต นิกฺขมิตฺวา นิวิฏฺา วา โหติ ปยาตา วา’’ติ (ปาจิ. ๓๑๔). อฺตฺร ปจฺจยาติ เปตฺวา ตถารูปปจฺจยํ.
๑๕๖๙. ทสฺสนสฺสุปจารสฺมินฺติ เอตฺถ ทสฺสนูปจารํ นาม ยสฺมึ าเน ิตสฺส เสนา ปฺายติ, ตํ านํ. ยถาห ‘‘ยตฺถ ิโต ปสฺสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๑๔). อุปจารํ วิมฺุจิตฺวา ปสฺสนฺตสฺสาติ ยถาวุตฺตทสฺสโนปจารฏฺานํ เอตฺถ ตฺวา โอโลเกตุํ น สุกรนฺติอาทินา การเณน ตํ านํ ปหาย อฺตฺถ วิโลเกนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. เกนจิ ปฏิจฺฉนฺนํ หุตฺวา อทิสฺสมานมฺปิ นินฺนํ านํ โอติณฺณํ อปฺายมานมฺปิ ปฺายนฺตมฺปิ โอโลเกตุํ น สกฺกา เอวเมว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ยถาห ‘‘เกนจิ อนฺตริตา วา นินฺนํ โอรุฬฺหา วา น ทิสฺสตี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๑๔). ปโยคโตติ ยถาวุตฺตทสฺสนปโยคคณนาย.
๑๕๗๐. อิทานิ ¶ จตุรงฺคเสนาลกฺขณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาโรหา ปน จตฺตาโร’’ติอาทิ. อาโรหาติ เอตฺถ หตฺถาโรหา ทฏฺพฺพา. ตปฺปาทรกฺขกาติ ตสฺส ปาทรกฺขกาติ วิคฺคโห. ทฺเว ทฺเวติ เอเกกํ ปาทํ รกฺขนฺตา ทฺเว ทฺเว. ทฺวาทสโปโสติ ทฺวาทส โปสา เอตสฺสาติ วิคฺคโห. ทฺวาทสปุริสยุตฺโต เอโก หตฺถี นาม.
๑๕๗๑. อาโรโหติ ¶ เอตฺถ อสฺสาโรโห วุจฺจติ. ติปุริโสติ ตโย ปุริสา อสฺสาติ วิคฺคโห. หโยติ อสฺโส. เอโก สารถีติ รถจาริโก. ‘‘โยโธ เอโก’’ติ ปทจฺเฉโท. อาณิรกฺขาติ รถจกฺกทฺวยสฺส อคฬนตฺถํ อกฺขกสฺส อุโภสุ โกฏีสุ อาโกฏิตา ทฺเว อาณิโย รกฺขนกา.
๑๕๗๒. จตุโปโสติ จตฺตาโร โปสา ยสฺสาติ วิคฺคโห. จตุสจฺจวิภาวินาติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ เทสเกน ภควตา. ปทหตฺถาติ อาวุธหตฺถา. ปชฺชเต คมฺยเต อเนน ปเร หนิตุนฺติ ปทํ, อาวุธํ, ปทานิ หตฺเถสุ เยสํ เต ปทหตฺถาติ ภินฺนาธิกรโณ พาหิรตฺถสมาโส ยถา ‘‘วชิรปาณี’’ติ. ปตฺติปทาติ-สทฺโท อนตฺถนฺตรา, มนุสฺสเสนาย อธิวจนํ.
๑๕๗๓. จตุรงฺคสมายุตฺตาติ จตูหิ องฺเคหิ อวยเวหิ สมายุตฺตาติ วิคฺคโห.
๑๕๗๔. หตฺถิอาทีสูติ ยถาวุตฺตลกฺขณหตฺถิอสฺสรถปทาตินามเกสุ จตูสุ องฺเคสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เอเกกนฺติ เอเกกํ องฺคํ. เอเตสุ อวกํสโต เอกํ ปุริสารุฬฺหมปิ หตฺถิฺจ ตถา อสฺสฺจ เอกํ ปทหตฺถปุริสฺจ เอกเมกํ ¶ กตฺวา อาห ‘‘เอเกกํ ทสฺสนตฺถาย คจฺฉโต’’ติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตมโส เอกปุริสารุฬฺหํ เอกมฺปิ หตฺถิมฺปี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๑๕). อนุยฺยุตฺเตปีติ สงฺคามํ วินา อฺเน การเณน นิกฺขนฺเต. ยถาห ‘‘อนุยฺยุตฺตา นาม ราชา อุยฺยานํ วา นทึ วา คจฺฉติ, เอวํ อนุยฺยุตฺตา โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๑๕).
๑๕๗๕. สมฺปตฺตนฺติ เอตฺถ ‘‘เสน’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. อาปทาสูติ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตราเย สติ ‘‘เอตฺถ คโต มุจฺจิสฺสามี’’ติ คจฺฉโต อนาปตฺติ. ตถารูเป ปจฺจเย คิลานาวโลกนาทิเก คมนานุรูปปจฺจเย สติ อนาปตฺตีติ โยชนา.
อุยฺยุตฺตกถาวณฺณนา.
๑๕๗๖-๗. ‘‘สิยา จ ตสฺส ภิกฺขุโน โกจิเทว ปจฺจโย เสนํ คมนาย, ทิรตฺตติรตฺตํ เตน ภิกฺขุนา เสนาย วสิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๑๘) อนฺุาตตฺตา เกนจิ กรณีเยน ¶ สงฺคามตฺถํ อุยฺยุตฺตาย เสนาย ทิรตฺตติรตฺตํ ปฏิปาฏิยา วสิตฺวา จตุตฺถรตฺติยํ วสนฺตสฺส ปน ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘จตุตฺเถ’’ติอาทิ. อนาปตฺติวาเร ‘‘คิลาโน วสตี’’ติ (ปาจิ. ๓๒๑) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อโรควา’’ติ. เสนายาติ เอตฺถ ปริกฺเขปารหฏฺาเนน วา สฺจรณปริยนฺเตน วา เสนา ปริจฺฉินฺทิตพฺพา, เอวํ ปริจฺฉินฺนาย เสนาย อนฺโตวาติ อตฺโถ.
ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อติเรกติรตฺเต อติเรกสฺี, เวมติโก, อูนกสฺี เสนาย วสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๒๐) ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ.
เสนาวาสกถาวณฺณนา.
๑๕๘๐. อุยฺโยธิกํ ¶ นาม สงฺคามฏฺานํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อุคฺคนฺตฺวา อุคฺคนฺตฺวา เอตฺถ ยุชฺฌนฺตีติ อุยฺโยธิกํ, สมฺปหารฏฺานสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๒). พลคฺคนฺติ ‘‘เอตฺตกา หตฺถี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๓๒๔) ปทภาชนาคตนเยน พลสฺส คณนฏฺานํ พลคฺคํ. ยถาห ‘‘พลสฺส อคฺคํ ชานนฺติ เอตฺถาติ พลคฺคํ, พลคณนฏฺานนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๒). เสนาพฺยูหนฺติ ‘‘อิโต หตฺถี โหนฺตุ, อิโต อสฺสา, อิโต รถา, อิโต ปตฺตี โหนฺตู’’ติ (ปาจิ. ๓๒๔) ปทภาชเน วุตฺตเสนาสนฺนิเวสฏฺานํ เสนาพฺยูหํ. ยถาห ‘‘เสนาย วิยูหํ เสนาพฺยูหํ, เสนาสนฺนิเวสสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๒).
๑๕๘๑. ปุริเมติ อนนฺตรสิกฺขาปเท. ‘‘ทฺวาทสปุริโส หตฺถี’’อิติ โย หตฺถี วุตฺโตติ โยชนา. เตนาติ เตน หตฺถินา เหตุภูเตน.
๑๕๘๒. ‘‘เสเสสู’’ติ อิมินา อสฺสานีกรถานีกปตฺตานีกา คหิตา. ปตฺตานีกํ นาม ‘‘จตฺตาโร ปุริสา ปทหตฺถา ปตฺตี ปจฺฉิมํ ปตฺตานีก’’นฺติ (ปาจิ. ๓๒๔) เสนงฺเคสุ ปฏินิทฺเทเสน นิพฺพิเสสํ กตฺวา วุตฺตํ. ติณฺณนฺติ เอเตสํ อุยฺยุตฺตาทีนํ.
อุยฺโยธิกกถาวณฺณนา.
อเจลกวคฺโค ปฺจโม.
๑๕๘๓. ปิฏฺาทีหีติ ¶ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปูวาทึ สงฺคณฺหาติ. ยถาห ‘‘สุรา นาม ปิฏฺสุรา ปูวสุรา โอทนสุรา กิณฺณปกฺขิตฺตา สมฺภารสํยุตฺตา’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘). เอตฺถ จ ปิฏฺํ ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ตชฺชํ อุทกํ ทตฺวา ปกฺขิปิตฺวา กตา ปิฏฺสุรา. เอวํ ¶ ปูเว, โอทเน จ ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ตชฺชํ อุทกํ ทตฺวา มทฺทิตฺวา กตา ‘‘ปูวสุรา, โอทนสุรา’’ติ วุจฺจติ. ‘‘กิณฺณา’’ติ ปน ตสฺสา สุราย พีชํ วุจฺจติ, เย ‘‘สุราโมทกา’’ติปิ วุจฺจนฺติ, เต ปกฺขิปิตฺวา กตา กิณฺณปกฺขิตฺตา. หรีตกิสาสปาทินานาสมฺภาเรหิ สํโยชิตา สมฺภารสํยุตฺตา.
ปุปฺผาทีหีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ผลาทีนํ คหณํ. ยถาห ‘‘เมรโย นาม ปุปฺผาสโว ผลาสโว มธฺวาสโว คุฬาสโว สมฺภารสํยุตฺโต’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘). ตตฺถ จ ปุปฺผาสโว นาม มธุกปุปฺผาทีนํ ชาติรสกโต เจว ตาลนาฬิเกรปุปฺผานฺจ รโส จิรปริวาสิโต. ผลาสโว ปน มุทฺทิกาปนสผลาทีนิ มทฺทิตฺวา เตสํ รเสน กโต. มธฺวาสโว นาม มุทฺทิกานํ ชาติรเสน กโต. มกฺขิกามธุนาปิ กรียตีติ วทนฺติ. อุจฺฉุรโส คุฬาสโว. หรีตกามลกกฏุกภณฺฑาทินานาสมฺภารานํ รโส จิรปริวาสิโต สมฺภารสํยุตฺโต. อาสโว เมรยํ โหตีติ โยชนา.
๑๕๘๔. พีชโต ปฏฺายาติ สมฺภาเร ปฏิยาทิตฺวา จาฏิยํ ปกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ตาลนาฬิเกราทีนํ ปุปฺผรเส ปุปฺผโต คฬิตาภินวกาลโตเยว จ ปฏฺาย. ปิวนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘กุสคฺเคนา’’ติปิ เสโส. อุภยมฺปิ จาติ สุรํ, เมรยฺจาติ อุภยมฺปิ. พีชโต ปน ปฏฺาย กุสคฺเคน ปิวนฺตสฺสปิ ภิกฺขุโน ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยเชตพฺพํ. ปโยคพาหุลฺเลน อาปตฺติพาหุลฺลํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปโยเค จ ปโยเค จา’’ติ. อิทฺจ วิจฺฉินฺทิตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ปิวนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปโยเค จ ปโยเค จ ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘วิจฺฉินฺทิตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ปิวโต ปโยคคณนาย อาปตฺติโย’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๘). เอเกเนว ปโยเคน พหุมฺปิ ปิวนฺตสฺส เอกํ เอว ¶ อาปตฺตึ พฺยติเรกโต ทีเปติ. ยถาห ‘‘เอเกน ปน ปโยเคน พหุมฺปิ ปิวนฺตสฺส เอกา อาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๘).
๑๕๘๕. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘มชฺเช มชฺชสฺี, มชฺเช เวมติโก, มชฺเช อมชฺชสฺี ปิวติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ.
๑๕๘๖. ‘‘อนาปตฺติ ¶ นมชฺชํ โหติ มชฺชวณฺณํ มชฺชคนฺธํ มชฺชรสํ, ตํ ปิวตี’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อมชฺชํ มชฺชวณฺณ’’นฺติอาทิ. อริฏฺํ นาม อามลกผลรสาทีหิ กโต อาสววิเสโส. โลณโสวีรกํ นาม อฏฺกถายํ –
‘‘หรีตกามลกวิภีตกกสาเว, สพฺพธฺานิ, สพฺพอปรณฺณานิ, สตฺตนฺนมฺปิ ธฺานํ โอทนํ, กทลิผลาทีนิ สพฺพผลานิ, เวตฺตเกตกขชฺชูริกฬีราทโย สพฺพกฬีเร, มจฺฉมํสขณฺฑานิ, อเนกานิ จ มธุผาณิตสินฺธวโลณติกฏุกาทีนิ เภสชฺชานิ ปกฺขิปิตฺวา กุมฺภิมุขํ ลิมฺปิตฺวา เอกํ วา ทฺเว วา ตีณิ วา สํวจฺฉรานิ เปนฺติ, ตํ ปริปจฺจิตฺวา ชมฺพุรสวณฺณํ โหติ. วาตกาสกุฏฺปณฺฑุภคนฺทลาทีนฺจ สินิทฺธโภชนภุตฺตานฺจ อุตฺตรปานํ ภตฺตชีรณกเภสชฺชํ ตาทิสํ นตฺถิ. ตํ ปเนตํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ วฏฺฏติ, คิลานานํ ปากติกเมว. อคิลานานํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ ปานปริโภเคนา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๙๒) –
วิภาวิโต เภสชฺชวิเสโส. สุตฺตํ นาม อเนเกหิ เภสชฺเชหิ อภิสงฺขโต อมชฺชภูโต อาสววิเสโส.
๑๕๘๗. วาสคาหาปนตฺถายาติ ¶ สุคนฺธิภาวคาหาปนตฺถํ. อีสกนฺติ มชฺชวณฺณคนฺธรสา ยถา น ปฺายนฺติ, เอวํ อปฺปมตฺตกํ. ยถาห ‘‘อนติกฺขิตฺตมชฺเชเยว อนาปตฺติ. ยํ ปน อติกฺขิตฺตมชฺชํ โหติ, ยตฺถ มชฺชสฺส วณฺณคนฺธรสา ปฺายนฺติ, ตสฺมึ อาปตฺติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙). สูปาทีนํ ตุ ปาเกติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มํสปากาทโย สงฺคหิตา. ยถาห ‘‘สูปสมฺปาเก มํสสมฺปาเก เตลสมฺปาเก’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘).
๑๕๘๘. วตฺถุอชานนา อจิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘วตฺถุอชานนตาย เจตฺถ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙). วตฺถุอชานนตา จ นาม ‘‘มชฺช’’นฺติ อชานนภาโว. อิทนฺติ อิทํ สิกฺขาปทํ. จ-สทฺเทน อฺานิ จ คิรคฺคสมชฺชาทิสิกฺขาปทานิ สมุจฺจิโนติ. อกุสเลเนวาติ อกุสลจิตฺเตเนว. ปานโตติ ปาตพฺพโต. โลกวชฺชกนฺติ สาธุโลเกน วชฺเชตพฺพนฺติ อตฺโถ. โลกวชฺชเมว โลกวชฺชกํ.
นนุ ¶ เจตฺถ วตฺถุอชานนตาย อจิตฺตกตฺเต ตํวตฺถุอชานนํ กุสลาพฺยากตจิตฺตสมงฺคิโนปิ สมฺภวติ, กสฺมา ‘‘อกุสเลเนว ปานโต โลกวชฺชก’’นฺติ วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – ยสฺมา อมชฺชสฺาย ปิวโต, มชฺชสฺาย จ ปิวโต มชฺชํ วตฺถุนิยาเมน กิเลสุปฺปตฺติยาว ปจฺจโย โหติ, ยถา มชฺชํ ปีตํ อชานนฺตสฺสาปิ อกุสลานเมว ปจฺจโย โหติ, น กุสลานํ, ตถา อชฺโฌหรณกาเลปิ วตฺถุนิยาเมน อกุสลสฺเสว ปจฺจโย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อกุสเลเนว ปานโต โลกวชฺชก’’นฺติ. ยถา ตํ นิฬินิชาตเก (ชา. ๒.๑๘.๑ อาทโย; ชา. อฏฺ. ๕.๑๘.๑ อาทโย) เภสชฺชสฺาย อิตฺถิยา มคฺเค องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส กุมารสฺส ‘‘อิตฺถี’’ติ วา ‘‘ตสฺสา มคฺเค เมถุนํ ปฏิเสวามี’’ติ วา สฺาย ¶ อภาเวปิ กามราคุปฺปตฺติยา สีลาทิคุณปริหานิ วตฺถุนิยามโต จ อโหสิ, เอวมิธาปิ ทฏฺพฺโพ.
เกจิ ปน ‘‘อกุสเลเนว ปานโต’’ติ อิทํ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส สจิตฺตกปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ, อฺถา ปาณาติปาตาทีสุปิ อติปฺปสงฺโคติ มฺมานา พหุการณํ, นิยมนฺจ ทสฺเสสุํ. วินยฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙), ปน ขุทฺทกปาฏฺกถายํ (ขุ. ปา. อฏฺ. สิกฺขาปทวณฺณนา), วิภงฺคฏฺกถาทีสุ จ ‘‘ติจิตฺต’’นฺติ อวตฺวา ‘‘อกุสลจิตฺต’’มิจฺเจว วุตฺตตฺตา, สิกฺขาปทสฺส สามฺลกฺขณํ ทสฺเสนฺเตน ปกฺขนฺตรลกฺขณทสฺสนสฺส อยุตฺตตฺตา จ อฏฺกถาสุ ยถารุตวเสเนว อตฺถคฺคหเณ จ กสฺสจิ วิโรธสฺส อสมฺภวโต สจิตฺตกปกฺขเมว สนฺธาย อกุสลจิตฺตตา, โลกวชฺชตา เจตฺถ น วตฺตพฺพา. ‘‘วตฺถุํ ชานิตฺวาปิ อชานิตฺวาปิ มชฺชํ ปิวโต ภิกฺขุสฺส ปาจิตฺติยํ. สามเณรสฺส ปน ชานิตฺวาว ปิวโต สีลเภโท, น อชานิตฺวา’’ติ (มาหาว. อฏฺ. ๑๐๘ อตฺถโต สมานํ) ยํ วุตฺตํ, ตตฺถ การณํ มคฺคิตพฺพํ. สิกฺขาปทปฺตฺติยา พุทฺธานเมว วิสยตฺตา น ตํ มคฺคิตพฺพํ, ยถาปฺตฺเตเยว วตฺติตพฺพํ. อิทํ ปน สิกฺขาปทํ อกุสลจิตฺตํ, สุโขเปกฺขาเวทนานํ วเสน ทุเวทนฺจ โหติ. วินยฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙), ปน มาติกฏฺกถายฺจ (กงฺขา. อฏฺ. สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ติเวทน’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, ขุทฺทกปาวณฺณนาย (ขุ. ปา. อฏฺ. สิกฺขาปทวณฺณนา), วิภงฺคฏฺกถาทีสุ (วิภ. อฏฺ. ๗๐๓ อาทโย) จ ‘‘สุขมชฺฌตฺตเวทนาวเสน ทุเวทน’’นฺติ จ ‘‘โลภโมหมูลวเสน ทฺวิมูลก’’นฺติ จ วุตฺตตฺตา โส ‘‘ปมาทปาโ’’ติ คเหตพฺโพ.
สุราปานกถาวณฺณนา.
๑๕๘๙. เยน ¶ ¶ เกนจิ องฺเคนาติ องฺคุลิอาทินา เยน เกนจิ สรีราวยเวน. หสาธิปฺปายิโนติ หเส อธิปฺปาโย หสาธิปฺปาโย, โส เอตสฺส อตฺถีติ วิคฺคโห, ตสฺส, อิมินา กีฬาธิปฺปายรหิตสฺส อนาปตฺตึ พฺยติเรกโต ทีเปติ. วกฺขติ จ ‘‘อนาปตฺติ นหสาธิปฺปายสฺสา’’ติ. ผุสโต ผุสนฺตสฺส.
๑๕๙๐. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺเนสุ. กายปฏิพทฺธาทิเก นเยติ ‘‘กาเยน กายปฏิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติเอวมาทินา (ปาจิ. ๓๓๒) ทสฺสิเต นเย. อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ตีณิ ทุกฺกฏานิ วุตฺตานีติ อาห ‘‘ตเถวานุปสมฺปนฺเน, ทีปิตํ ติกทุกฺกฏ’’นฺติ. เอตฺถ จ ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยสฺส วุตฺตภาโว ทีปิโต โหติ. ยถา อุปสมฺปนฺเน ติกปาจิตฺติยํ ทีปิตํ, ตเถว อนุปสมฺปนฺเน ติกทุกฺกฏํ ทีปิตนฺติ โยชนา.
๑๕๙๑. เอตฺถ…เป… ภิกฺขุนีติ เอตฺถ ภิกฺขุปิ ภิกฺขุนิยา อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ิโตติ เวทิตพฺโพ.
๑๕๙๒. นหสาธิปฺปายสฺส ผุสโตติ หสาธิปฺปายํ วินา วนฺทนาทีสุ ปาทาทิสรีราวยเวน ปรํ ผุสนฺตสฺส. กิจฺเจ สตีติ ปิฏฺิปริกมฺมาทิกิจฺเจ สติ.
องฺคุลิปโตทกกถาวณฺณนา.
๑๕๙๓. ชเลติ เอตฺถ ‘‘อุปริโคปฺผเก’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘อุปริโคปฺผเก อุทเก’’ติ (ปาจิ. ๓๓๗). นิมุชฺชนาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อุมฺมุชฺชนปฺลวนานิ คหิตานิ. ยถาห ‘‘อุปริโคปฺผเก อุทเก หสาธิปฺปาโย นิมุชฺชติ วา อุมฺมุชฺชติ วา ปลวติ ¶ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๓๗). ‘‘เกวล’’นฺติ อิมินา นหานาทิกิจฺเจน โอตรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ ทีเปติ.
๑๕๙๔. อุปริโคปฺผเก ชเลติ โคปฺผกานํ อุปริภาคปฺปมาเณ ชเล. นิมุชฺเชยฺยปิ วาติ อนฺโตชลํ ปวิสนฺโต นิมุชฺเชยฺย วา. ตเรยฺย วาติ ปฺลเวยฺย วา.
๑๕๙๕-๖. อนฺโตเยโวทเก ¶ นิมุชฺชิตฺวาน คจฺฉโต ตสฺส หตฺถปาทปโยเคหิ ปาจิตฺตึ ปริทีปเยติ โยชนา.
๑๕๙๗. หตฺถาทิสกลสรีราวยวํ สงฺคณฺหิตุํ ‘‘เยน เยนา’’ติ อนิยมาเมฑิตมาห. ชลํ ตรโต ภิกฺขุโน เยน เยน ปน องฺเคน ตรณํ โหตีติ โยชนา.
๑๕๙๘. ตรุโต วาปีติ รุกฺขโตปิ วา. ติกปาจิตฺติยนฺติ อุทเก หสธมฺเม หสธมฺมสฺิเวมติกอหสธมฺมสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ. ‘‘ติกทุกฺกฏ’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, ‘‘อุทเก อหสธมฺเม หสธมฺมสฺี, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อุทเก อหสธมฺเม เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๓๘) วตฺวา ‘‘อุทเก อหสธมฺเม อหสธมฺมสฺี, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๓๘) ตติยวิกปฺเป ปาฬิยํ อนาปตฺติ วุตฺตาติ โส ปมาทปาโ, ‘‘ทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ ปาโเยว คเหตพฺโพ.
๑๕๙๙. นาวํ ตีเร อุสฺสาเรนฺโตปิ วาติ สมฺพนฺโธ. อุสฺสาเรนฺโตติ ตีรมาโรเปนฺโต. ‘‘กีฬตี’’ติ อิทํ ‘‘ปาเชนฺโต’’ติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ.
๑๖๐๐. กถลาย วาติ ขุทฺทกกปาลิกาย วา. อุทกนฺติ เอตฺถ ‘‘ภาชนคตํ วา’’ติ เสโส. ‘‘ภาชนคตํ อุทกํ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๓๘) หิ ปทภาชเน วุตฺตํ.
๑๖๐๑. กฺจิกํ ¶ วาติ ธฺรสํ วา. อปิ-สทฺโท ‘‘ขีรํ วา ตกฺกํ วา รชนํ วา ปสฺสาวํ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๓๘) ปาฬิยํ อาคเต สมฺปิณฺเฑติ. จิกฺขลฺลํ วาปีติ อุทกกทฺทมํ วา. เอตฺถ วิเสสโชตเกน อปิ-สทฺเทน ‘‘อปิจ อุปริโคปฺผเก วุตฺตานิ อุมฺมุชฺชนาทีนิ เปตฺวา อฺเน เยน เกนจิ อากาเรน อุทกํ โอตริตฺวา วา อโนตริตฺวา วา ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ อุทกํ อนฺตมโส พินฺทุํ คเหตฺวา ขิปนกีฬายปิ กีฬนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๓๖) อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยวิเสสํ สมฺปิณฺเฑติ. วิกฺขิปนฺติ วิกฺขิปิตฺวา.
๑๖๐๒. สติ ¶ กิจฺเจ ชลํ วิคาหิตฺวา นิมุชฺชนาทิกํ กโรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. กิจฺจํ นาม นหานาทิกํ.
๑๖๐๓. อนนฺตรสฺสาติ องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทสฺส. วิเสโสว วิเสสตา, โกจิ วิเสโส นตฺถีติ อตฺโถ.
หสธมฺมกถาวณฺณนา.
๑๖๐๔-๕. โย ภิกฺขุ ภิกฺขุนา ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน อสฺส วจนํ อกตฺตุกามตาย อาทรํ ปน สเจ น กโรติ, ตสฺส ตสฺมึ อนาทริเย ปาจิตฺติยมุทีรเยติ โยชนา, อิมินา วากฺเยน ปุคฺคลานาทรมูลกํ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ยถาห ‘‘อนาทริยํ นาม ทฺเว อนาทริยานิ ปุคฺคลานาทริยฺจ ธมฺมานาทริยฺจา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๒), ‘‘ปุคฺคลานาทริยํ นาม อุปสมฺปนฺเนน ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน ‘อยํ อุกฺขิตฺตโก วา วมฺภิโต วา ครหิโต วา อิมสฺส วจนํ อกตํ ภวิสฺสตี’ติ อนาทริยํ กโรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๒) จ.
ธมฺมเมว วา อสิกฺขิตุกาโม โย ภิกฺขุ ภิกฺขุนา ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน อสฺส วจนํ อกตฺตุกามตาย อาทรํ ¶ ปน สเจ น กโรติ, ตสฺส ตสฺมึ อนาทริเย ปาจิตฺติยมุทีรเยติ โยชนา, อิมินา ธมฺมานาทริยมูลกํ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ยถาห ‘‘ธมฺมานาทริยํ นาม อุปสมฺปนฺเนน ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน กถายํ นสฺเสยฺย วา วินสฺเสยฺย วา อนฺตรธาเยยฺย วา, ตํ นสิกฺขิตุกาโม อนาทริยํ กโรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๒). อนาทริเยติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ.
๑๖๐๖. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก, อนุปสมฺปนฺนสฺี อนาทริยํ กโรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๓) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ติกาตีเตนาติ โลกตฺติกมติกฺกนฺเตน. อนุปสมฺปนฺนานาทเร ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ.
๑๖๐๗. สุตฺเตเนวาภิธมฺเมนาติ เอตฺถ เอวกาโร ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา โยเชตพฺโพ. ‘‘สุตฺเตน ¶ อภิธมฺเมนา’’ติ ปททฺวเยน อเภโทปจารโต สุตฺตาภิธมฺมาคโต ปริยตฺติธมฺโม วุตฺโต. อปฺตฺเตนาติ ปฺตฺตสงฺขาตวินยโต อฺตฺตา อปฺตฺเตน. ‘‘อปฺตฺเตนา’’ติ อิทํ ‘‘สุตฺเตน อภิธมฺเมนา’’ติ ปททฺวยวิเสสนํ. ภิกฺขุนา วุตฺตสฺส ตสฺมึ ภิกฺขุมฺหิ วา ธมฺเม วา อนาทรํ กโรโต ทุกฺกฏเมว. สามเณเรน อุภเยนปิ ปฺตฺเตน วา อปฺตฺเตน วา วุตฺตสฺส ตสฺมึ สามเณเร วา ปฺตฺเต วา อปฺตฺเต วา ธมฺเม อนาทรํ กโรโต ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏเมวาติ โยชนา.
๑๖๐๘. โทโสติ ปาจิตฺติยทุกฺกฏสงฺขาโต โกจิ โทโส.
๑๖๐๙. เอตฺถาติ ¶ อิมสฺมึ อาจริยานํ คาเห. คารยฺโห อาจริยุคฺคโห เนว คเหตพฺโพติ โยชนา. คารยฺโห อาจริยุคฺคโหติ เอตฺถ ‘‘ยสฺมา อุจฺฉุรโส สตฺตาหกาลิโก, ตสฺส กสโฏ ยาวชีวิโก, ทฺวินฺนํเยว สมวาโย อุจฺฉุยฏฺิ, ตสฺมา วิกาเล อุจฺฉุยฏฺึ ขาทิตุํ วฏฺฏติ คุฬหรีตเก วิยา’’ติ เอวมาทิโก สมฺปติ นิพฺพตฺโต คารยฺหาจริยวาโท. กตโร ปน คเหตพฺโพติ? ปเวณิยา อาคโต อาจริยุคฺคโหว คเหตพฺโพ.
กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘โลกวชฺเช อาจริยุคฺคโห น วฏฺฏติ, ปณฺณตฺติวชฺเช ปน วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๔๔) วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ‘‘สุตฺตํ, สุตฺตานุโลมฺจ อุคฺคหิตกานํเยว อาจริยานํ อุคฺคโห ปมาณํ, อชานนฺตานํ กถา อปฺปมาณ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๔๔) วุตฺตํ. ‘‘ตํ สพฺพํ ปเวณิยา อาคเต สโมธานํ คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๔๔) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. เอตฺถ โลกวชฺเช อาจริยุคฺคโห น วฏฺฏตีติ โลกวชฺชสิกฺขาปเท อาปตฺติฏฺาเน โย อาจริยวาโท, โส น คเหตพฺโพ, โลกวชฺชมติกฺกมิตฺวา ‘‘อิทํ อมฺหากํ อาจริยุคฺคโห’’ติ วทนฺตสฺส อุคฺคโห น วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. สุตฺตานุโลมํ นาม อฏฺกถา. ปเวณิยา อาคเต สโมธานํ คจฺฉตีติ ‘‘ปเวณิยา อาคโต อาจริยุคฺคโหว คเหตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๔๔) เอวํ วุตฺเต มหาอฏฺกถาวาเทเยว สงฺคหํ คจฺฉตีติ อธิปฺปาโย.
อนาทริยกถาวณฺณนา.
๑๖๑๐-๑. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ภึสาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๓๔๖) มาติกาวจนโต ¶ ภยสฺชนนตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ เสโส. เตเนว วกฺขติ ‘‘อิตรสฺส ตุ ภิกฺขุสฺสา’’ติ. รูปาทินฺติ รูปสทฺทคนฺธาทึ. อุปสํหเรติ อุปฏฺเปติ ¶ , ทสฺเสตีติ วุตฺตํ โหติ. ภยานกํ กถนฺติ โจรกนฺตาราทิกถํ. ยถาห ‘‘โจรกนฺตารํ วา วาฬกนฺตารํ วา ปิสาจกนฺตารํ วา อาจิกฺขตี’’ติ (ปาจิ. ๓๔๘). ปรสนฺติเกติ เอตฺถ ‘‘ปโร’’ติ วุตฺตนเยน ลพฺภมาโน อุปสมฺปนฺโน คเหตพฺโพ.
ทิสฺวา วาติ อุปฏฺาปิตํ ตํ รูปาทึ ทิสฺวา วา. สุตฺวา วาติ ตํ ภยานกํ กถํ สุตฺวา วา. ยสฺส ภยทสฺสนตฺถาย ตํ อุปฏฺาเปสิ, โส ภายตุ วา มา วา ภายตุ. อิตรสฺสาติ ตทุปฏฺาปกสฺส ภิกฺขุสฺส. ตงฺขเณติ อุปฏฺาปิตกฺขเณ.
๑๖๑๒. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก, อนุปสมฺปนฺนสฺี ภึสาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๘) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ. ‘‘อนุปสมฺปนฺนํ ภึสาเปตุกาโม’’ติอาทิเก ทุกฺกฏวาเร อนุปสมฺปนฺนคฺคหเณน คิหิโนปิ สงฺคยฺหมานตฺตา ‘‘สามเณรํ คหฏฺํ วา’’ติ อาห. สามเณรํ…เป… ภิกฺขุโน ตเถว ภึสาเปนฺตสฺส ติกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
ภึสาปนกถาวณฺณนา.
๑๖๑๔. โชตินฺติ อคฺคึ. ตปฺเปตุกาโมติ วิสิพฺเพตุกาโม. ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ปทีเปปิ โชติเกปิ ชนฺตาฆเรปิ กุกฺกุจฺจายนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๕๒) อุปฺปนฺนวตฺถุมฺหิ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ตถารูปปจฺจยา โชตึ สมาทหิตุํ สมาทหาเปตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๕๒) วุตฺตตฺตา เอตฺถ ‘‘ตถารูปํ ปจฺจย’’นฺติ อิมินา ¶ ปทีปุชฺชลนฺจ ปตฺตปจนสรีรเสทนาทิกมฺมฺจ ชนฺตาฆรวตฺตฺจ คเหตพฺพํ. เอตฺถ จ โชติเกปีติ ปตฺตปจนเสทนกมฺมาทีสุ โชติกรเณติ อตฺโถ.
๑๖๑๕. สยํสมาทหนฺตสฺสาติ อตฺตนา ชาเลนฺตสฺส.
๑๖๑๖. ชาลาเปนฺตสฺส ¶ …เป… ทุกฺกฏนฺติ อาณตฺติยา อาปชฺชิตพฺพํ ทุกฺกฏํ สนฺธายาห. อาณตฺติยา ชลิเต อาปชฺชิตพฺพาปตฺติ ‘‘ชาลุฏฺาเน ปนาปตฺติ, ปาจิตฺติ ปริกิตฺติตา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา สิทฺธาติ วิสุํ น วุตฺตา.
๑๖๑๗. คิลานสฺสาติ ‘‘คิลาโน นาม ยสฺส วินา อคฺคินา น ผาสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๓๕๔) วุตฺตสฺส คิลานสฺส. อวิชฺฌาตํ อลาตํ อุกฺขิปนฺตสฺสาติ คหเณน ภฏฺํ อนิพฺพุตาลาตํ อคฺคิโน สมีปํ กโรนฺตสฺส, ยถาาเน เปนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๖๑๘-๙. วิชฺฌาตํ อลาตนฺติ นิพฺพุตาลาตํ. ยถาวตฺถุกํ ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ. อฺเน วา กตํ วิสิพฺเพนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. วิสิพฺเพนฺตสฺสาติ ตปฺเปนฺตสฺส. องฺคารนฺติ วีตจฺจิกํ องฺคารํ. ปทีปุชฺชลนาทิเกติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘โชติเก ชนฺตาฆเร ตถารูปปจฺจยา’’ติ (ปาจิ. ๓๕๒) อาคตํ สงฺคณฺหาติ. เอตฺถ จ ตถารูปปจฺจยาติ เปตฺวา ปทีปาทีนิ อฺเนปิ ตถารูเปน ปจฺจเยน.
โชติสมาทหนกถาวณฺณนา.
๑๖๒๐-๑. มชฺฌิเม เทเสติ ชมฺพุทีเป ยตฺถ โพธิมณฺฑลํ โหติ, ตสฺมึ นวโยชนสตาวฏฺเฏ มชฺฌิมมณฺฑเล, อิมินา อิทํ ¶ สิกฺขาปทํ ตตฺเถว เทโสทิสฺสกตาย นิยตนฺติ ทสฺเสติ. เตเนว วกฺขติ อนาปตฺติวาเร ‘‘ปจฺจนฺติเมปิ วา เทเส’’ติ. จุณฺณนฺติ สิรีสจุณฺณาทิกํ จุณฺณํ. อภิสงฺขรโตติ ปฏิยาเทนฺตสฺส.
๑๖๒๒-๓. ‘‘มาเส อูนสฺิโน’’ติ ปทจฺเฉโท. อติเรกทฺธมาเส อูนสฺิโน วา อติเรกทฺธมาเส วิมติสฺส วา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อติเรกทฺธมาเส นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. สมเยสุ จ นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอตฺถ ‘‘อุณฺหสมโย ปริฬาหสมโย คิลานสมโย กมฺมสมโย อทฺธานคมนสมโย วาตวุฏฺิสมโย’’ติ (ปาจิ. ๓๖๓) ทสฺสิเตสุ ฉสุ สมเยสุ อฺตเร สมฺปตฺเต สมเย สตึ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อูนมาเสปิ นหายนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
ตตฺถ ¶ เชฏฺมาโส จ อาสาฬฺหิมาสสฺส ปุริมปกฺโข จาติ ทิยฑฺฒมาโส อุณฺหสมโย นาม. ยถาห ‘‘อุณฺหสมโย นาม ทิยฑฺโฒ มาโส เสโส คิมฺหาน’’นฺติ (ปาจิ. ๓๖๔), วสฺสานสฺส ปโม มาโส ปริฬาหสมโย นาม. ยถาห ‘‘ปริฬาหสมโย นาม วสฺสานสฺส ปโม มาโส’’ติ (ปาจิ. ๓๖๔). ‘‘ยสฺส วินา นหานา น ผาสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๔) วุตฺโต สมโย คิลานสมโย นาม. ‘‘อนฺตมโส ปริเวณมฺปิ สมฺมฏฺํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๔) วุตฺโต กมฺมสมโย นาม. ‘‘อทฺธโยชนํ คจฺฉิสฺสามี’ติ นหายิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๖๔) วุตฺโต อทฺธานคมนสมโย นาม. ‘‘ภิกฺขู สรเชน วาเตน โอกิณฺณา โหนฺติ, ทฺเว วา ตีณิ วา อุทกผุสิตานิ กาเย ปติตานิ โหนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๔) วุตฺโต วาตวุฏฺิสมโย นาม.
นทีปารํ คจฺฉโตปิ อูนกทฺธมาเส นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. วาลิกํ อุกฺกิริตฺวานาติ เอตฺถ สุกฺขาย นทิยา ¶ วาลิกํ อุกฺกิริตฺวา. กตาวาเฏสุปิ อูนกทฺธมาเส นฺหายนฺตสฺสปิ อนาปตฺตีติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ.
๑๖๒๔. ปจฺจนฺติเมปิ วา เทเสติ ชมฺพุทีเป ยถาวุตฺตมชฺฌิมเทสโต พหิ ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ, ขุทฺทเกสุ จ ทีเปสุ. สพฺเพสนฺติ ลทฺธสมยานํ, อลทฺธสมยานฺจ สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ. อาปทาสูติ ภมรอนุพนฺธาทิอาปทาสุ. ยถาห ‘‘ภมราทีหิ อนุพทฺธสฺส อุทเก นิมุชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๖). กายจิตฺตสมุฏฺานํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ นาม.
นฺหานกถาวณฺณนา.
๑๖๒๕-๗. ‘‘นวํ นาม อกตกปฺปํ วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๙) ปาฬิวจนโต จ ‘‘ปฏิลทฺธนวจีวเรนาติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) อฏฺกถาวจนโต จ จีวรนฺติ เอตฺถ ‘‘นว’’นฺติ เสโส. กปฺปิยํ พินฺทุํ อทตฺวา นวํ จีวรํ ภิกฺขุ ปริภฺุชติ, ตสฺเสวํ ปริภฺุชโต ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ฉนฺนนฺติ โขมาทีนํ, นิทฺธารเณ สามิวจนํ. อฺตรํ นวํ จีวรนฺติ นิทฺธาเรตพฺพํ. ยตฺถ กตฺถจีติ ‘‘จตูสุ วา โกเณสุ ตีสุ วา ทฺวีสุ วา เอกสฺมึ วา โกเณ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) อฏฺกถาวจนโต จีวรโกเณสุ ยตฺถ กตฺถจิ.
กํสนีเลนาติ ¶ จมฺมการนีเลน. จมฺมการนีลํ นาม ปกตินีลํ. คณฺิปเท ปน ‘‘จมฺมการา อุทเก ติผลํ, อโยคูถฺจ ปกฺขิปิตฺวา จมฺมํ กาฬํ กโรนฺติ, ตํ จมฺมการนีล’’นฺติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อโยมลํ โลหมลํ, เอตํ กํสนีลํ นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) วุตฺตํ. ปตฺตนีเลน วาติ ‘‘โย โกจิ นีลวณฺโณ ปณฺณรโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) อฏฺกถาย วุตฺเตน นีลปณฺณรเสน. เยน เกนจิ กาเฬนาติ องฺคารชลฺลิกาทีสุ อฺตเรน เยน เกนจิ กาฬวณฺเณน. ‘‘กทฺทโม นาม ¶ โอทโก วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๙) วุตฺตตฺตา กทฺทเมนาติ อุทกานุกทฺทมสุกฺขกทฺทมาทึ สงฺคณฺหาติ.
‘‘มงฺคุลสฺส ปิฏฺิปฺปมาณกํ มยูรสฺส อกฺขิปฺปมาณก’’นฺติ ยถากฺกเมน โยชนา.
๑๖๒๘. ‘‘ปาฬิกปฺโป กณฺณิกากปฺโป’’ติ โยชนา, มุตฺตาวลิ วิย ปาฬึ กตฺวา อปฺปิตกปฺโป จ กณฺณิกากาเรน อปฺปิตกปฺโป จาติ อตฺโถ. กตฺถจีติ เอตฺถ ‘‘ยถาวุตฺตปฺปเทเส’’ติ เสโส. ‘‘จตูสุ วา โกเณสุ ตีสุ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) วุตฺตตฺตา ‘‘อเนกํ วา’’ติ อาห. วฏฺฏเมว วฏฺฏกํ, อิมินา อฺํ วิการํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ยถาห ‘‘เปตฺวา เอกํ วฏฺฏพินฺทุํ อฺเน เกนจิปิ วิกาเรน กปฺโป น กาตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. ๓๖๘).
๑๖๒๙. ‘‘อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ อิทํ ‘‘วิมติสฺสจา’’ติ เอตฺถ จ-สทฺเทน สมุจฺจิตํ ‘‘อาทินฺเน อาทินฺนสฺิโน’’ติ ตติยวิกปฺปํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถาห ‘‘อาทินฺเน อาทินฺนสฺี, อนาปตฺตี’’ติ.
๑๖๓๐. ‘‘กปฺเป นฏฺเปิ วา’’ติอาทีหิ จ โยเชตพฺพํ. ปิ-สทฺเทน ‘‘กปฺปกโตกาเส ชิณฺเณ’’ติ อิทํ สมฺปิณฺเฑติ. ยถาห ‘‘กปฺปกโตกาโส ชิณฺโณ โหตี’’ติ. เตน กปฺปกเตนาติ สหตฺเถ กรณวจนํ. สํสิพฺพิเตสูติ เอตฺถ ‘‘อกปฺปกเตสู’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘กปฺปกเตน อกปฺปกตํ สํสิพฺพิตํ โหตี’’ติ. นิวาสนปารุปนํ กฺริยํ. กปฺปพินฺทุอนาทานํ อกฺริยํ.
ทุพฺพณฺณกรณกถาวณฺณนา.
๑๖๓๑-๔. ‘‘วิกปฺปนา ¶ ¶ นาม ทฺเว วิกปฺปนา สมฺมุขาวิกปฺปนา จ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จา’’ติ (ปาจิ. ๓๗๔) วุตฺตตฺตา ‘‘วิกปฺปนา ทุเว’’ติอาทิมาห. อิตีติ นิทสฺสเน, เอวนฺติ อตฺโถ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหตีติ อาห ‘‘สมฺมุขาย…เป… นิทฺทิเส’’ติ. เอกสฺสาติ เอตฺถ ‘‘พฺยตฺตสฺสา’’ติ เสโส. อิธ พฺยตฺโต นาม วิกปฺปนปจฺจุทฺธารณวิธึ ชานนฺโต.
ยถาวจนโยคโตติ ‘‘อิมํ จีวร’นฺติ วา, ‘อิมานิ จีวรานี’ติ วา, ‘เอตํ จีวร’นฺติ วา, ‘เอตานิ จีวรานี’ติ วา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อฏฺกถาย วุตฺตํ อนติกฺกมฺม, วจนสมฺพนฺธกฺกเมนาติ อตฺโถ. ตเทกเทสสรูปํ ทสฺเสติ ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ.
‘‘อปจฺจุทฺธฏโต’’ติ อิมินา ‘‘น กปฺปตี’’ติ เอตสฺส เหตุํ ทสฺเสติ.
๑๖๓๕. ‘‘สนฺตก’’มิจฺจาทิ ปจฺจุทฺธรณปฺปกาโร. ยถาปจฺจยํ กโรหีติ ตุยฺหํ รุจฺจนกํ กโรหีติ อตฺโถ.
๑๖๓๖. สมฺมุขาวิกปฺปนฺตรํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อปรา สมฺมุขา วุตฺตา’’ติอาทิ. อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวาติ โยชนา. สหธมฺมินนฺติ เอตฺถ ‘‘ปฺจนฺน’’นฺติ เสโส, นิทฺธารเณ สามิวจนํ.
๑๖๓๙. เอวนฺติ วกฺขมานาเปกฺขํ. อปิ-สทฺโท ปน สทฺทสฺสตฺเถ.
๑๖๔๐. มิตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต, ‘‘เตน วตฺตพฺพํ ‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๗๔) วจนโต อิทํ อุปลกฺขณํ. ปุน เตนปิ ภิกฺขุนา วตฺตพฺพนฺติ โยชนา.
๑๖๔๑-๒. ‘‘อหํ ¶ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมี’ติ วา…เป… ‘ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’ติ วา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) เสสอฏฺกถาปาเน ‘‘อิท’’มิจฺจาทิปาโ โยเชตพฺโพ.
๑๖๔๓. ทฺวีสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ, เอตฺถ ‘‘วิกปฺปนาสู’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.
๑๖๔๔-๕. อิธ ¶ ปน อิมสฺมึ สาสเน เยน ปน ภิกฺขุนา สห จีวรสามิเกน ตํ วินยกมฺมํ กตํ, ตสฺส อวิสฺสาเสน วิสฺสาสภาวํ วินา โส วินยกมฺมกโต ภิกฺขุ ตํ จีวรํ ปริภฺุเชยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺตีติ โยชนา. ฉนฺทานุรกฺขนตฺถํ ‘‘วินยํกมฺม’’นฺติ อนุสฺสาราคโม เวทิตพฺโพ, วินยกมฺมนฺติ อตฺโถ. ตํ จีวรํ อธิฏฺหนฺตสฺส วา วิสฺสชฺชนฺตสฺส วา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๖๔๖. ปจฺจุทฺธารกวตฺเถสูติ ปจฺจุทฺธฏวตฺเถสุ. อปจฺจุทฺธารสฺิโนติ อปจฺจุทฺธฏสฺิโน. ตตฺถาติ อปจฺจุทฺธฏวตฺเถสุ. เวมติกสฺสาติ ‘‘ปจฺจุทฺธฏานิ นุ โข มยา, อปจฺจุทฺธฏานี’’ติ สํสยาปนฺนสฺส.
๑๖๔๗. ปจฺจุทฺธารณสฺิสฺสาติ ปจฺจุทฺธฏมิทนฺติ สฺิสฺส. วิสฺสาสาติ ยสฺส วา จีวรํ วิกปฺเปสิ, เตน อปจฺจุทฺธฏมฺปิ ตสฺส วิสฺสาสา ปริภฺุชโต จ. ยถาห ‘‘ตสฺส วา วิสฺสสนฺโต ปริภฺุชตี’’ติ (ปาจิ. ๓๗๖).
วิกปฺปนกถาวณฺณนา.
๑๖๔๘-๙. ‘‘ปตฺโต นาม ทฺเว ปตฺตา อโยปตฺโต มตฺติกาปตฺโต’’ติ (ปาจิ. ๓๗๙) ชาติยา กปฺปิยปตฺตานํ วุตฺตตฺตา อาห ¶ ‘‘อธิฏฺานุปคํ ปตฺต’’นฺติ. ตาทิสนฺติ อธิฏฺานุปคํ. สูจิฆรํ นาม สสูจิกํ วา อสูจิกํ วา. กายพนฺธนํ นาม ปฏฺฏิกา วา สูกรนฺตกํ วา. นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจติ.
‘‘ปตฺตํ วา’’ติอาทีหิ อุปโยคนฺตปเทหิ ‘‘อปเนตฺวา นิเธนฺตสฺสา’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. นิเธนฺตสฺสาติ เอตสฺส ‘‘หสาเปกฺขสฺสา’’ติ วิเสสนํ. ยถาห ‘‘หสาเปกฺโขปีติ กีฬาธิปฺปาโย’’ติ (ปาจิ. ๓๗๙). ‘‘เกวล’’นฺติ อิมินา ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺส ปฏิสามนาธิปฺปายาทิอฺาธิปฺปายาภาวํ ทีเปติ. วกฺขติ จ ‘‘ทุนฺนิกฺขิตฺตมนาปตฺติ, ปฏิสามยโต ปนา’’ติ.
๑๖๕๐. เตนาปีติ อาณตฺเตน. ตสฺสาติ อาณาปกสฺส. ติกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ อนุปสมฺปนฺเน ¶ อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ, อิมินา จ อุปสมฺปนฺนสนฺตเก ติกปาจิตฺติยนฺติ อิทฺจ วุตฺตเมว โหติ.
๑๖๕๑. อฺนฺติ ปาฬิยํ อนาคตํ ปตฺตตฺถวิกาทิปริกฺขารํ.
๑๖๕๒. สพฺเพสูติ ปาฬิยํ อาคเตสุ จ อนาคเตสุ จ สพฺเพสุ ปริกฺขาเรสุ.
๑๖๕๓. ธมฺมกถํ กตฺวาติ ‘‘สมเณน นาม อนิหิตปริกฺขาเรน ภวิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๗๗) อฏฺกถาคตนเยน ธมฺมกถํ กตฺวา. อนิหิตปริกฺขาเรนาติ อปฺปฏิสามิตปริกฺขาเรน. นิเธติ เจ, ตถา อนาปตฺตีติ โยชนา. อวิเหเสตุกามสฺสาติ วิเหสาธิปฺปายรหิตสฺส. อกีฬสฺสาติ กีฬาธิปฺปายรหิตสฺส เกวลํ วตฺตสีเสน ‘‘ปฏิสาเมตฺวา ทสฺสามี’’ติ อปนิเธนฺตสฺส.
๑๖๕๔. อทินฺนาทานสมุฏฺานาปตฺตีนํ ¶ อกุสลาทิวเสนปิ สจิตฺตกตฺตา อาห ‘‘อิทํ อกุสเลเนว สจิตฺต’’นฺติ.
จีวราปนิธานกถาวณฺณนา.
สุราปานวคฺโค ฉฏฺโ.
๑๖๕๕. ‘‘ติรจฺฉานคตํ ปาณ’’นฺติ อิมินา ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๓๘๓) อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อธิปฺเปตํ ปาณํ ทสฺเสติ. อาปตฺตินานตฺตาภาวา อาห ‘‘มหนฺตํ ขุทฺทกมฺปิ วา’’ติ. ยถาห ‘‘อิมสฺมิฺจ สิกฺขาปเท ติรจฺฉานคโตเยว ‘ปาโณ’ติ เวทิตพฺโพ, ตํ ขุทฺทกมฺปิ มหนฺตมฺปิ มาเรนฺตสฺส อาปตฺตินานากรณํ นตฺถิ, มหนฺเต ปน อุปกฺกมมหนฺตตฺตา อกุสลํ มหนฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘๒). ‘‘มาเรนฺตสฺส อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘ขุทฺทกมฺปิ วา มาเรนฺตสฺสา’’ติ อิมินา อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตมโส มฺจปีํ โสเธนฺโต มงฺคุลพีชเกปิ ปาณสฺี นิกฺการุณิกตาย ตํ ภินฺทนฺโต อปเนติ, ปาจิตฺติยํ. ตสฺมา เอวรูเปสุ าเนสุ การฺุํ อุปฏฺเปตฺวา อปฺปมตฺเตน วตฺตํ กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตวินิจฺฉโยปิ สงฺคหิโต.
๑๖๕๖. อุภยตฺถ ¶ จาติ ปาเณ วา อปาเณ วาติ อุภยตฺถาปิ. อวเสสวินิจฺฉโย ปเนตฺถ มนุสฺสวิคฺคเห วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
สฺจิจฺจปาณกถาวณฺณนา.
๑๖๕๘. สปฺปาณกนฺติ สห ปาณเกหีติ สปฺปาณกํ. เย ปริโภเคน มรนฺติ, เอวรูปา อิธ ‘‘ปาณกา’’ติ อธิปฺเปตา. อสฺสาติ ภิกฺขุโน.
๑๖๕๙. ‘‘อวิจฺฉิชฺชา’’ติ ¶ อิมินา วิจฺเฉเทเนว ปโยคนานตฺตํ โหตีติ ทีเปติ. ปตฺตปูรมฺปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท พฺยติเรเก.
๑๖๖๐-๑. อสฺส ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ สมฺพนฺโธ. ตาทิเสนาติ สปฺปาณเกน. อาวิฺฉิตฺวานาติ ปริพฺภมิตฺวา. ยาคุโยติ เอตฺถ ‘‘อุณฺหา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. อิทฺจ ปาณีนํ มารณตฺถํ ยํ กิฺจิ อุณฺหวตฺถุํ สปฺปาณเกน อุทเกน อนิพฺพาเปตุํ อุปลกฺขณํ. ตํ สปฺปาณกํ อุทกํ. นฺหายโตปิ วาติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน อฏฺกถายํ –
‘‘อุทกโสณฺฑึ วา โปกฺขรณึ วา ปวิสิตฺวา พหิ นิกฺขมนตฺถาย วีจึ อุฏฺาปยโตปิ. โสณฺฑึ วา โปกฺขรณึ วา โสเธนฺเตหิ ตโต คหิตอุทกํ อุทเกเยว อาสิฺจิตพฺพํ. สมีปมฺหิ อุทเก อสติ กปฺปิยอุทกสฺส อฏฺ วา ทส วา ฆเฏ อุทกสณฺานกปฺปเทเส อาสิฺจิตฺวา ตตฺถ อาสิฺจิตพฺพํ. ‘ปวฏฺฏิตฺวา อุทเก ปติสฺสตี’ติ อุณฺหปาสาเณ อุทกํ นาสิฺจิตพฺพํ. กปฺปิยอุทเกน ปน ปาสาณํ นิพฺพาเปตฺวา อาสิฺจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘๗) –
วุตฺตวินิจฺฉยํ สมฺปิณฺเฑติ.
๑๖๖๒. อุภยตฺถปีติ สปฺปาณเกปิ อปฺปาณเกปีติ อุภยตฺเถว.
๑๖๖๔-๖. ปาณปฏิพทฺธตาย การณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปตน’’นฺติอาทิ. สลภาทีนนฺติ ปฏงฺคาทีนํ ¶ . ตฺวาติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. เอวมุปริปิ. ปทีปุชฺชลนนฺติ เอตฺถ ‘‘วิยา’’ติ เสโส. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. สปฺปาณภาโวว สปฺปาณภาวตา, ตํ. ภฺุชโตติ ภฺุชิตพฺพโต.
สลภาทีนํ ¶ ปตนํ ตฺวาปิ สุทฺเธน เจตสา ปทีปุชฺชลนํ วิย สปาณภาวํ ตฺวาปิ ชลสฺาย ภฺุชิตพฺพโต เอตฺถ ปณฺณตฺติวชฺชตา เยฺยาติ โยชนา.
เอวํ สนฺเต สิฺจนสปฺปาณกสิกฺขาปทานํ อุภินฺนมฺปิ โก วิเสโสติ อาห ‘‘สิฺจเน’’ติอาทิ. สิฺจนํ สิฺจนสิกฺขาปทํ สิฺจเน วุตฺตํ สิฺจนวิสเย ปฺตฺตํ, อิทํ ปน สปฺปาณกสิกฺขาปทํ ปริโภเค วุตฺตํ อชฺโฌหารวิสเย ปฺตฺตนฺติ อยเมว ตสฺส เจว อสฺส จ วิเสโสติ โยชนา.
สปฺปาณกกถาวณฺณนา.
๑๖๖๗. ยถาธมฺมนฺติ โย ยสฺส อธิกรณสฺส วูปสมนาย ธมฺโม วุตฺโต, เตเนว ธมฺเมนาติ อตฺโถ. ‘‘กิจฺจาธิกรณ’’นฺติ อิมินา อิตรานิ อธิกรณานิ อุปลกฺขิตานิ. ยถาห ‘‘อธิกรณํ นาม จตฺตาริ อธิกรณานิ วิวาทาธิกรณํ อนุวาทาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณํ กิจฺจาธิกรณ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๙๔). อปโลกนกมฺมาทีนิ จตฺตาริ สงฺฆกิจฺจํ นาม, ตเทว สมเถหิ อธิกรณียตฺตา วูปสเมตพฺพตฺตา อธิกรณนฺติ กิจฺจาธิกรณํ. ปุน นีหาตพฺพนฺติ ปุน นีหริตพฺพํ, วูปสเมตพฺพนฺติ อตฺโถ. อิมินา ‘‘อกตํ กมฺม’’นฺติอาทินา ปาฬิยํ ทสฺสิตา ทฺวาทส อุกฺโกฏา อุปลกฺขิตาติ ทฏฺพฺพา. อุกฺโกเฏนฺตสฺสาติ ตสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อกตํ กมฺม’’นฺติอาทีนิ วตฺวา อุจฺจาเลนฺตสฺส ยถาปติฏฺิตภาเวน ปติฏฺาตุํ น เทนฺตสฺส. เอตฺถ จ ปติฏฺาตุํ น เทนฺตสฺสาติ ตสฺส ปวตฺติอาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ยํ ปน ธมฺเมน อธิกรณํ นิหฏํ, ตํ สุนิหฏเมว.
๑๖๖๘. ‘‘อกตํ กมฺมํ, ทุกฺกฏํ กมฺมํ, ปุน กาตพฺพํ กมฺม’’นฺติ วทตา วทนฺเตน ภิกฺขุนา ตํ กมฺมํ อุจฺจาเลตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๑๖๖๙. วิปฺปกเตติ ¶ ¶ อารทฺธานิฏฺิเต. ตนฺติ ปฏิกฺโกสนฺตํ. สฺาเปตฺวาติ กตกมฺมสฺส อนวชฺชภาวํ าเปตฺวา. น ปนฺถาติ ตถา อสฺาเปตฺวา.
๑๖๗๐. อธมฺเม ปน กมฺมสฺมินฺติ ยถาปาฬิอาคเต กมฺมสฺมึ. อุภยตฺถาปีติ ธมฺมกมฺเม, อธมฺมกมฺเม วาติ อุภยตฺถ.
๑๖๗๑. น จ กมฺมารหสฺส วาติ เอตฺถ จ-สทฺโท ‘‘วคฺเคน จา’’ติ โยเชตพฺโพ. จ-สทฺโท วา-สทฺทตฺเถ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อธมฺเมน, วคฺเคน วา น กมฺมารหสฺส วา กต’’นฺติ ชานโต อุกฺโกฏเน โทโส นตฺถีติ โยชนา.
อุกฺโกฏนกถาวณฺณนา.
๑๖๗๓. ‘‘ทุฏฺุลฺลา นาม อาปตฺติ จตฺตาริ จ ปาราชิกานิ เตรส จ สงฺฆาทิเสสา’’ติ (ปาจิ. ๓๙๙) วจนโต ปาราชิกานมฺปิ ทุฏฺุลฺลตฺตา, อิธ จ ปาราชิกสฺส อนธิปฺเปตตฺตา อิธาธิปฺเปตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺฆาทิเสส’’นฺติ อิมินา ทุฏฺุลฺล-ปทํ วิเสสิตํ. ยถาห ‘‘เอตฺถ จตฺตาริ ปาราชิกานิ อตฺถุทฺธารวเสน ทสฺสิตานิ, สงฺฆาทิเสสาปตฺติ ปน อธิปฺเปตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๙๙). ตฺวาติ สามํ วา อฺโต วา ชานิตฺวา. ฉาทยโต ตสฺส ปริยาปุตาติ ‘‘อิมํ ชานิตฺวา โจเทสฺสนฺติ, สาเรสฺสนฺติ, นาโรเจสฺสามี’’ติ ปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส ตสฺส ปริยาปุตา เทสิตา.
๑๖๗๔-๕. ธุรํ นิกฺขิปิตฺวาติ ‘‘อฺสฺส น อาโรเจสฺสามี’’ติ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา. ตสฺสาติ ทุฏฺุลฺลสฺส. ปฏิจฺฉาทนํ เหตุ การณํ ยสฺส อาโรจนสฺสาติ วิคฺคโห. ปฏิจฺฉาทนเหตุกนฺติ อาโรจนกิริยาย วิเสสนํ, ‘‘อิตฺถนฺนาโม ¶ อิตฺถนฺนามํ สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน, อฺสฺส น อาโรเจหี’’ติ วตฺวา อาโรจนํ กโรตีติ วุตฺตํ โหติ. อิตีติ วุตฺตนิทสฺสเน, หีติ เอวการตฺเถ, เอวเมว วทตีติ อตฺโถ.
ยาว โกฏิ น ฉิชฺชติ, ตาว เอวํ ภิกฺขูนํ สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ ตํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ เอวาติ โยชนา.
๑๖๗๖. มูเลนาติ ¶ สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺนปุคฺคเลน. อาโรจิตสฺส ทุติยสฺสาติ สมานาธิกรณํ. มูเลน ‘‘มม อาปตฺตึ อาปนฺนภาวํ อฺสฺส น อาโรเจหี’’ติ อาโรจิตสฺส ทุติยภิกฺขุสฺส สนฺติกา สุณนฺเตน ตติเยน นิวตฺติตฺวา ตสฺเสว ทุติยสฺส ปกาสิเต อาโรจนสฺส โกฏิ ฉินฺนาติ วุจฺจตีติ โยชนา. โกฏีติ อาโรจนกิริยาวสานํ วุจฺจติ.
๑๖๗๗. ทุฏฺุลฺลาย จ ทุฏฺุลฺลสฺีติ เอตฺถ ‘‘อาโรเจนฺโต’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อิตเรสุ ปน ทฺวีสูติ ทุฏฺุลฺลาย เวมติโก, อทุฏฺุลฺลสฺีติ ทฺวีสุ.
๑๖๗๘. อทุฏฺุลฺลายาติ ปฺจวิธาย ลหุกาปตฺติยา. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ วิกปฺเปสุ. ติกทุกฺกฏํ นิทฺทิฏฺนฺติ อทุฏฺุลฺลาย ทุฏฺุลฺลสฺิเวมติกอทุฏฺุลฺลสฺีนํ วเสน ทุกฺกฏตฺตยํ ปาฬิยํ (ปาจิ. ๔๐๐) ทสฺสิตนฺติ อตฺโถ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ. อนุปสมฺปนฺนวาเรสูติ ตีสุ อนุปสมฺปนฺนวิกปฺเปสุ. ทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
๑๖๗๙-๘๐. ‘‘สงฺฆสฺส เภทนาทีนิ ภวิสฺสนฺตี’’ติอาทีหิ สพฺเพหิ ปเทหิ ‘‘น อาโรเจติ เจ, โทโส นตฺถี’’ติ อิทํ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. สภาคํ วา น ปสฺสตีติ ตถา ¶ อปสฺสนฺโต น อาโรเจติ เจ, โทโส นตฺถิ. กกฺขโฬ อยนฺติ น อาโรเจติ เจ, โทโส นตฺถิ.
๑๖๘๑. อฺสฺส อนาโรจเนน อาปชฺชิตพฺพโต ‘‘อกฺริย’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อาโรเจตพฺพ’’นฺติ อนฺุาตสฺส อนาโรจนํ อนาทรมนฺตเรน น โหตีติ อาห ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ. เอตฺถ จ มาติกฏฺกถายํ ‘‘สมนุภาสนสทิสาเนวา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุฏฺลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ, อิธ ‘‘ธุรนิกฺเขปตุลฺยาวา’’ติ, อุภยตฺถ นามมตฺตเมว วิเสโส, เอกเมว สมุฏฺานนฺติ เวทิตพฺพํ.
ทุฏฺุลฺลกถาวณฺณนา.
๑๖๘๒. อูนวีสติวสฺสนฺติ เอตฺถ ‘‘ชาน’’นฺติ เสโส, ‘‘อูนวีสติวสฺโส’’ติ ชานนฺโตติ อตฺโถ. อูนวีสติวสฺโส นาม ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย อปริปุณฺณวีสติสํวจฺฉโร. โยติ ¶ โย ภิกฺขุ อุปชฺฌาโย หุตฺวา. กเรยฺยาติ การาเปยฺย. อุปสมฺปชฺชตีติ อุปสมฺปโท, ตํ. โย ชานํ อูนวีสติวสฺสํ ปุคฺคลํ อุปสมฺปทํ อุปสมฺปนฺนํ กเรยฺย, ตสฺส เอวํ อุปสมฺปาเทนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา. เสสานนฺติ ‘‘คณสฺส จ อาจริยสฺส จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๐๔) ปาฬิยํ ทสฺสิตานํ คหณํ.
๑๖๘๓. อูนวีสติวสฺสภาวํ ชานตา วา อชานตา วา ภิกฺขุนา โย ปุคฺคโล เจ อุปสมฺปาทิโต, โส อนุปสมฺปนฺโนว โหติ, ปุน โส ปริปุณฺณวีสติวสฺโส สมาโน อุปสมฺปนฺโน กาตพฺโพ อุปสมฺปาเทตพฺโพเยวาติ โยชนา.
๑๖๘๔. ทสวสฺสจฺจเยน ปริปุณฺณทสวสฺโส หุตฺวา อุปชฺฌายสฺส สโต อสฺส ภิกฺขุปฏิฺสฺส อฺเสํ อุปสมฺปาทเน ¶ โกจิ โทโส เจ เอกํเสน นตฺถิ น วิชฺชตีติ โยชนา.
๑๖๘๕. ตํ ภิกฺขุนฺติ อูนวีสติวสฺโส หุตฺวา อุปสมฺปชฺชิตฺวา ปริปุณฺณทสวสฺโส อุปชฺฌาโย หุตฺวา อุปสมฺปาเทนฺตํ ตํ ภิกฺขุปฏิฺํ. คโณ เจ ปริปูรตีติ มชฺฌิมเทเส ทสวคฺโค, ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ปฺจวคฺโค คโณ สเจ อนูโน โหติ. เตติ อุปสมฺปาทิตา. สูปสมฺปนฺนาติ สุฏฺุ อุปสมฺปนฺนา.
๑๖๘๖-๗. โย ภิกฺขุ อุปชฺฌาโย หุตฺวา ‘‘อูนวีสติวสฺสปุคฺคลํ อุปสมฺปาทยิสฺสามิ’’อิติ คณมฺปิ วา อาจริยมฺปิ วา ปตฺตมฺปิ วา ปริเยสติ, มาฬกฺจ สมฺมนฺนติ พทฺธสีมํ พนฺธติ, ตสฺส สพฺเพสุ ปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. ตถา ตฺติยา ทุกฺกฏํ. ตถา ทฺวีสุ กมฺมวาจาสุปิ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๖๘๘-๙. วีสติ จ ตานิ วสฺสานิ จาติ วีสติวสฺสานิ, อูนานิ วีสติวสฺสานิ ยสฺส โส อูนวีสติวสฺโส, อูนวีสติวสฺโสติ สฺา อูนวีสติวสฺสสฺา, สา เอตสฺส อตฺถีติ ‘‘อูนวีสติวสฺสสฺี’’อิติ วตฺตพฺเพ นิปาตนลกฺขเณน วสฺส-สทฺทโลปํ กตฺวา ‘‘อูนวีสติสฺี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺส อูนวีสติสฺิสฺส. ปริปุณฺณานิ วีสติวสฺสานิ เอตสฺสาติ ‘‘ปริปุณฺณวีสติวสฺโส’’ติ วตฺตพฺเพ นิปาตนลกฺขเณน วีสติวสฺส-สทฺทโลปํ ¶ กตฺวา ‘‘ปริปุณฺโณ’’ติ ปุคฺคโล วุจฺจติ, ตสฺมึ ปริปุณฺเณ, ปริปุณฺณวีสติวสฺเส ปุคฺคเลติ อตฺโถ. อุภยตฺถาติ อูนวีสติปริปุณฺณวีสติวสฺเสสุ อุโภสุ ปุคฺคเลสุ.
อูนวีสติวสฺสกถาวณฺณนา.
๑๖๙๑. เถยฺยสตฺเถน ¶ สทฺธินฺติ ‘‘เถยฺยสตฺโถ นาม โจรา กตกมฺมา วา โหนฺติ อกตกมฺมา วา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๐๙) ปทภาชเน วุตฺตสรูเปน สตฺถสงฺขาเตน ชนสมูเหน สหาติ วุตฺตํ โหติ. สหาทิโยเค กรณวจนํ. ชานนฺโตติ ‘‘เถยฺยสตฺโถ’’ติ ชานนฺโต. สํวิธายาติ ‘‘คจฺฉามาวุโส, คจฺฉาม ภนฺเต, คจฺฉามาวุโส, อชฺช วา หิยฺโย วา ปเร วา อปเร วา คจฺฉามา’’ติ ปทภาชเน วุตฺตนเยน สํวิทหิตฺวาติ อตฺโถ. มคฺคนฺติ เอกทฺธานมคฺคํ, เอตฺถ ‘‘อนฺตมโส คามนฺตรมฺปี’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺเชยฺย อนฺตมโส คามนฺตรมฺปี’’ติ. ปาจิตฺติยํ สิยาติ ‘‘คาเม คามนฺตเร คามนฺตเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อคามเก อรฺเ อทฺธโยชเน อทฺธโยชเน อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ วุตฺตปฺปการํ ปาจิตฺติยํ ภเวยฺย.
๑๖๙๒. น อุทฺธโฏติ อิธ น วุตฺโต.
๑๖๙๓-๔. มคฺคาฏวิวิสงฺเกเตติ มคฺควิสงฺเกเต, อฏวิวิสงฺเกเต จ. ยถาวตฺถุกเมวาติ ปาจิตฺติยเมว. เตสูติ สตฺถิเกสุ. อสํวิทหนฺเตสูติ สํวิธานํ อกโรนฺเตสุ. สยํ วิทหโตปิ จาติ อตฺตนา สํวิทหนฺตสฺส จ. อุภยตฺถาติ เถยฺยสตฺเถ วา อเถยฺยสตฺเถ วาติ ทฺวีสุ.
๑๖๙๕. อเถยฺยสตฺถสฺิสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อุภยตฺถา’’ติ อนุวตฺเตตพฺพํ. กาลสฺสายนฺติ กาลิโก, วิสงฺเกโต, ตสฺมึ, กาลสมฺพนฺธินิ วิสงฺเกเต จ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. ‘‘กาลิเก’’ติ อิมินา วิสงฺเกตวิเสสเนน มคฺคาฏวิวิสงฺเกเตปิ อาปตฺติเยวาติ ทีเปติ.
๑๖๙๖. กายจิตฺตโต ¶ , กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺานโต อิทํ สิกฺขาปทํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ กถิตนฺติ โยชนา.
เถยฺยสตฺถกถาวณฺณนา.
๑๖๙๗. สตฺตมนฺติ ¶ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สทฺธึ สํวิธายา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๑๓) อุทฺทิฏฺํ สตฺตมสิกฺขาปทํ. ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาเนนาติ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธานสิกฺขาปเทน. สมุฏฺานาทินาติ สมุฏฺานาทินา วินิจฺฉเยน. ตุลฺยนฺติ สทิสํ. โกจิปีติ อปฺปมตฺตโกปิ.
สํวิธานกถาวณฺณนา.
๑๖๙๘. เอเต ปฺจ ธมฺมา อนฺตรายกราติ ปกาสิตาติ โยชนา. อิธ อยํ อนฺตรายกร-สทฺโท ปาฬิยํ อาคเตน อนฺตรายิก-สทฺเทน สมานตฺโถ. ตสฺมา กมฺมนฺตรายิกา, กิเลสนฺตรายิกา, วิปากนฺตรายิกา, อุปวาทนฺตรายิกา, อาณาวีติกฺกมนฺตรายิกาติ อิเม ปฺจ อนฺตรายิกา ธมฺมา ภควตา ปกาสิตาติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ ตํตํสมฺปตฺติยา วิพนฺธนวเสน สตฺตสนฺตานสฺส อนฺตเร เวมชฺเฌ เอติ อาคจฺฉตีติ อนฺตราโย, ทิฏฺธมฺมิกาทิอนตฺโถ, อนติกฺกมนฏฺเน ตสฺมึ อนฺตราเย นิยุตฺตา, อนฺตรายํ วา ผลํ อรหนฺติ, อนฺตรายสฺส วา กรณสีลาติ อนฺตรายิกา (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๔๑๗; กงฺขา. อภิ. ฏี. อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา).
ปฺจานนฺตริยกมฺมาเนว กมฺมนฺตรายิกา, ตถา ภิกฺขุนิทูสกกมฺมํ. ตํ ปน โมกฺขสฺเสว อนฺตรายํ กโรติ, น สคฺคสฺส. อิทฺจ มิจฺฉาจารลกฺขณสฺส อภาวโต วุตฺตํ. น หิ ¶ ภิกฺขุนิยา ธมฺมรกฺขิตภาโว อตฺถิ. ปากติกภิกฺขุนิวเสน เจตํ วุตฺตํ. อริยาย ปน ปวตฺตํ อปายสํวตฺตนิกเมว. นนฺทมาณวโก (ม. นิ. อฏฺ. ๓.๗; ธ. ป. อฏฺ. ๑.๖๘ อุปฺปลวณฺณตฺเถรีวตฺถุ; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๓๔) เจตฺถ นิทสฺสนํ. อุภินฺนํ สมานจฺฉนฺทตาวเสน วา น สคฺคนฺตรายิกตา, โมกฺขนฺตรายิกตา ปน โมกฺขตฺถาย ปฏิปตฺติยา วิทูสนโต. อภิภวิตฺวา ปน ปวตฺติยา สคฺคนฺตรายิกตาปิ น สกฺกา นิวาเรตุนฺติ วทนฺติ.
อเหตุกทิฏฺิอกิริยทิฏฺินตฺถิกทิฏฺิสงฺขาตา มิจฺฉาทิฏฺิธมฺมา นิยตภาวปฺปตฺตา กิเลสนฺตรายิกา นาม. ปณฺฑกติรจฺฉานคตอุภโตพฺยฺชนกานํ ปฏิสนฺธิจิตฺตุปฺปาทธมฺมา วิปากนฺตรายิกา นาม. ปณฺฑกาทิคฺคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ สพฺพายปิ อเหตุกปฏิสนฺธิยา วิปากนฺตรายิกภาวโต ¶ . อริยูปวาทา อุปวาทนฺตรายิกา นาม. เต ปน ยาว อริเย น ขมาเปนฺติ, ตาวเทว, น ตโต ปรํ. สฺจิจฺจ อาปนฺนา สตฺตาปตฺติกฺขนฺธา อาณาวีติกฺกมนฺตรายิกา นาม. เตปิ ยาว ภิกฺขุภาวํ วา ปฏิชานาติ, น วุฏฺาติ วา น เทเสติ วา, ตาวเทว, น ตโต ปรํ.
‘‘อนนฺตรายิกา เอเต;
ยถา โหนฺติ ตถา อหํ;
เทสิตํ มุนินา ธมฺมํ;
อาชานามีติ โย วเท’’ติ. –
เอวํ ทุติยคาถา วตฺตพฺพา. ตถา อวุตฺเต ‘‘ติกฺขตฺตุ’’นฺติอาทิคาถา ปมคาถาย สทฺธึ ฆฏนา เอว น สิยา. ตสฺมา เอตฺถายํ คาถา ปริหีนาติ วิฺายติ.
เอเตติ ‘‘อนฺตรายิกา’’ติ ภควตา ปกาสิตา ปฺจ ธมฺมา ‘‘ยถา อนนฺตรายิกา โหนฺติ, ตถา อหํ มุนินา เทสิตํ ธมฺมํ อาชานามี’’ติ โย ภิกฺขุ วเทยฺย, โส ปน ¶ ภิกฺขุ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. เกหิ กถํ วตฺตพฺโพติ อาห ‘‘เย ปสฺสนฺตี’’ติอาทิ. เย ตถาวาทิตํ ภิกฺขุํ ปสฺสนฺติ, ‘‘อสุโก อายสฺมา เอวํวาที’’ติ ปรโต สุณนฺติ จ, เตหิ. โส ปน ภิกฺขุ ‘‘มา อายสฺมา เอวํ อวจา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺโพติ โยชนา.
๑๗๐๑. อวทนฺตสฺสาติ ตํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ยถาวุตฺตนเยน อวทนฺตสฺส. ทุกฺกฏนฺติ าตทุกฺกฏํ. ตํ ทุลทฺธึ. อนิสฺสชโตติ ภิกฺขูหิ เอวํ วุตฺเตปิ อนิสฺสชนฺตสฺส. ตถา ทุกฺกฏนฺติ อติทิสติ.
๑๗๐๒. กมฺมวาจายาติ ตติยาย กมฺมวาจาย. โอสาเนติ ปริโยสาเน, ยฺยกาเร ปตฺเตติ อธิปฺปาโย. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี น ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติโก น ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี น ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๑) ติกปาจิตฺติยํ ¶ วุตฺตํ. อธมฺเม ติกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺิเวมติกอธมฺมกมฺมสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ.
๑๗๐๓. ‘‘อนาปตฺติ อกตกมฺมสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. กมฺมํ นาม สมนุภาสนกมฺมํ. ยถาห ‘‘อนาปตฺติ อสมนุภาสนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๒).
อริฏฺกถาวณฺณนา.
๑๗๐๔. ตฺวาติ อโนสาริตภาวํ สยเมว วา ปรโต วา ตสฺส วา สนฺติกา ตฺวา. อกตานุธมฺเมนาติ อกโต โอสารณสงฺขาโต อนุธมฺโม ยสฺส โส ¶ อกตานุธมฺโม, เตน, สหโยเค กรณวจนํ. ตถาวาทิกภิกฺขุนาติ ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามี’’ติอาทึ วทนฺเตน ภิกฺขุนา. ‘‘อกตานุธมฺเมนา’’ติ อิมินา สมานาธิกรณํ. สํวเสยฺยาติ อุโปสถาทิกํ สงฺฆกมฺมํ กเรยฺย. ภฺุเชยฺย จาติ อามิสสมฺโภคํ วา ธมฺมสมฺโภคํ วา กเรยฺย. สห เสยฺย วาติ นานูปจาเรปิ เอกจฺฉนฺเน นิปชฺเชยฺย.
๑๗๐๕. อิทานิ ยถาวุตฺตปาจิตฺติยสฺส เขตฺตนิยมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุโปสถาทิกํ กมฺม’’นฺติอาทิ. อาทิ-สทฺเทน ปวารณํ คหิตํ. ยถาห ‘‘อุโปสถํ วา ปวารณํ วา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๕). เตน สหาติ อุกฺขิตฺตเกน สห. ‘‘กมฺมสฺส ปริโยสาเน’’ติ อิทํ สํวาเสน อาปตฺติเขตฺตนิทสฺสนํ.
๑๗๐๖. เอเกเนว ปโยเคน พหุํ ยามกาลิกาทิอามิสํ คณฺหโต เอกํ ปาจิตฺติยํ. ตถา เอเกเนว ปโยเคน พหุํ อามิสํ ททโตปิ เอกํ ปาจิตฺติยํ. พหูสุ ปโยเคสุ พหูนิ ปาจิตฺติยานีติ โยชนา. อิมินา จ อามิสสมฺโภเคน ตุลฺยผลํ ธมฺมสมฺโภคมฺปิ สหจริเยน อาหาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ปน ปทาทีหิ อุทฺทิสนฺตสฺส วา อุทฺทิสาเปนฺตสฺส วา ปทโสธมฺเม วุตฺตนเยน อาปตฺติ เวทิตพฺพา.
๑๗๐๗. อิตโรติ ปกตตฺโต. อิตรสฺมินฺติ อุกฺขิตฺตเก. ปโรติ ปกตตฺโต. อุโภปิ วาติ ¶ ปกตตฺตอุกฺขิตฺตา ทฺเวปิ วา. ‘‘เอกตฺถ เอกโต นิปชฺชนฺตี’’ติ เสโส. อิเมสุ ตีสุปิ าเนสุ ‘‘ปาจิตฺตี’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.
๑๗๐๘. อุฏฺหิตฺวา ปุนปฺปุนํ นิปชฺชนฺตสฺส นิปชฺชนปโยคานํ วเสน อาปตฺติโย สิยุนฺติ อชฺฌาหารโยชนา กาตพฺพา. ‘‘อุกฺขิตฺตเก นิปนฺนสฺมิ’’นฺติอาทินา วุตฺตาปตฺติวินิจฺฉโย กตฺถ ¶ โหตีติ อาห ‘‘เอกนานูปจาเรสุ, เอกจฺฉนฺเน วินิจฺฉโย’’ติ. นานูปจาเรสูติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท จ ‘‘วินิจฺฉโย’’ติ เอตฺถ อยนฺติ จ โยเชตพฺโพ. เอโก อุปจาโร อสฺสาติ เอกูปจารํ, นานา อุปจาโร อสฺสาติ นานูปจารํ, เอกูปจารฺจ นานูปจารฺจ เอกนานูปจารานิ เอกเทสสรูเปกเสเสน, เตสุ. เอกโต ฉนฺนานิ เอกจฺฉนฺนานิ, เตสุ เอกจฺฉนฺเนสูติ วตฺตพฺเพ วณฺณโลเปน วา วจนวิปลฺลาเสน วา ‘‘เอกจฺฉนฺเน’’ติ วุตฺตํ. เอกนานูปจาเรสุปิ เสนาสเนสุ เอกจฺฉนฺเนสุ อยํ ยถาวุตฺตอาปตฺติวินิจฺฉโย ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ.
๑๗๐๙. อุภยตฺถาปีติ อุกฺขิตฺตานุกฺขิตฺเตสุ ทฺวีสุปิ.
๑๗๑๐. ‘‘สฺิสฺส โอสาริโตติ จา’’ติ ปทจฺเฉโท.
อุกฺขิตฺตกถาวณฺณนา.
๑๗๑๒. ตถา วินาสิตนฺติ ‘‘อชฺชตคฺเค เต อาวุโส สมณุทฺเทส น เจว โส ภควา สตฺถา อปทิสิตพฺโพ, ยมฺปิ จฺเ สมณุทฺเทสา ลภนฺติ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ, สาปิ เต นตฺถิ, จร ปิเร วินสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๙) วุตฺตนเยน นาสิตํ. ‘‘ตถา นาสิตํ สมณุทฺเทส’’นฺติ (ปาจิ. ๔๒๘) วจนโต ‘‘สมณุทฺเทส’’นฺติ เสโส. ชานนฺติ วุตฺตนเยน ‘‘นาสิโต อย’’นฺติ ชานนฺโต. อุปลาเปยฺยาติ ‘‘อุปลาเปยฺย วาติ ตสฺส ปตฺตํ วา จีวรํ วา อุทฺเทสํ วา ปริปุจฺฉํ วา ทสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๔๓๐) ปทภาชเน อาคตนเยน สงฺคณฺเหยฺย. เตนาติ นาสิเตน. อุปฏฺาเปยฺย วาติ เตน ทิยฺยมานานิ จุณฺณมตฺติกาทีนิ สาทิยนฺโต เตน อตฺตโน อุปฏฺานํ การาเปยฺย วา. ‘‘เตนา’’ติ อิทํ สหตฺเถ กรณวเสน ‘‘สมฺภฺุเชยฺยา’’ติอาทีหิ จ โยเชตพฺพํ. วาติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน ¶ รสฺโส. สมฺโภคสหเสยฺยา ¶ อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺตนยา เอว. ตสฺมา อาปตฺติปริจฺเฉโทเปตฺถ ตสฺมึ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๑๗๑๓. อตฺถุทฺธารวเสน อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๒๘) วุตฺตา ติสฺโส นาสนา ทสฺเสตุมาห ‘‘สํวาเสน…เป… ติสฺโส’’ติ. ตตฺถ ตีสุ กตมา อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิ. ทณฺฑกมฺเมน นาสนา เอตฺถ อธิปฺเปตาติ โยชนา. เอตาสํ วิภาโค จ ‘‘ตตฺถ อาปตฺติยา อทสฺสนาทีสุ อุกฺเขปนา สํวาสนาสนา นาม. ‘ทูสโก นาเสตพฺโพ, เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’ติ อยํ ลิงฺคนาสนา นาม. ‘อชฺชตคฺเค เต อาวุโส สมณุทฺเทส น เจว โส ภควา สตฺถา อปทิสิตพฺโพ’ติ อยํ ทณฺฑกมฺมนาสนา นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๒๘) อฏฺกถาย วุตฺโต.
๑๗๑๕. ‘‘วุตฺตา สมนุภาสเน’’ติ (วิ. วิ. ๑๗๐๓) ตตฺถ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อริฏฺเน สมา มตา’’ติ.
กณฺฏกกถาวณฺณนา.
สปฺปาณกวคฺโค สตฺตโม.
๑๗๑๖-๗. โย ภิกฺขุ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมนฺโต ตํ วีติกฺกมํ เย ปสฺสนฺติ, สุณนฺติ จ, เตหิ ภิกฺขูหิ สิกฺขาปเทน วุจฺจมาโน ‘‘มาวุโส เอวํ อกาสิ, น กปฺปติ เอตํ ภิกฺขุสฺสา’’ติ สิกฺขาปเท วุตฺตนเยน วุจฺจมาโน ‘‘เอตสฺมึ สิกฺขาปเท เยน มํ ตุมฺเห วเทถ, เอตสฺมึ สิกฺขาปทตฺเถ ยาว อฺํ วิยตฺตํ พหุสฺสุตํ ปกตฺุํ วินยธรํ น ปุจฺฉามิ, ตาว อหํ น สิกฺขิสฺสามี’’ติ ภณติ, ตสฺส เอวํ ภณนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ สาธิปฺปายโยชนา.
๑๗๑๘-๙. อนุปสมฺปนฺเน ¶ อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน อนุปสมฺปนฺเน สตฺถุนา ติกทุกฺกฏํ ทีปิตนฺติ โยชนา, อิมินา จ อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน อุปสมฺปนฺเน ติกปาจิตฺติยํ ทีปิตํ โหติ. อปฺตฺเตน โอวทนปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น สลฺเลขายิทํ โหตี’’ติ. อุโภหิปิ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺเนหิ ¶ . ‘‘อิทํ สลฺเลขาย น โหตี’’ติ อปฺตฺเตน วุจฺจมานสฺส ‘‘น ตาวาห’’นฺติอาทีนิ วทโต ตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. ‘‘น โทโส อุมฺมตฺตกาทีน’’นฺติ ปทจฺเฉโท.
สหธมฺมิกกถาวณฺณนา.
๑๗๒๐. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน เอวํ วเทยฺยา’’ติอาทิสิกฺขาปทปาโต (ปาจิ. ๔๓๙) อุทฺทิฏฺเหีติ เอตฺถ ‘‘ขุทฺทานุขุทฺทเกหิ สิกฺขาปเทหี’’ติ เสโส. ปาราชิกํ เปตฺวา อวเสสา อุปาทายุปาทาย ขุทฺทานุขุทฺทกาติ นิทฺทิฏฺา. เอตฺถ กินฺติ ปฏิกฺเขเป, เอเตหิ กึ, ปโยชนํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. เอเตหีติ สมีปตฺเถ วจนสามฺเน ‘‘อิเมหี’’ติ เอตสฺส ปริยาโย. ‘‘กึ ปนิเมหี’’ติ (ปาจิ. ๔๓๙) สิกฺขาปทปาเ ปฏิกฺเขปสฺส การณํ ทสฺเสติ ‘‘กุกฺกุจฺจาทินิทานโต’’ติ. เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน วิเหสาวิเลขา คหิตา. เอตฺถ กุกฺกุจฺจํ นาม ‘‘กปฺปติ นุ โข, น กปฺปติ นุ โข’’ติ กุกฺกุจฺจกรณํ. วิเหสา นาม วิปฺปฏิสาโร. วิเลขา นาม วิจิกิจฺฉาสงฺขาตา มโนวิเลขตา มโนวิเลขา, อิเมหิ สกเลหิ ปเทหิ สิกฺขาปทวิวณฺณกปฺปกาโร ทสฺสิโต. ‘‘อิติ สิกฺขาปทวิวณฺณเน’’ติ อิติ-สทฺโท อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺโพ. วิวณฺณเนติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ.
กุกฺกุจฺจาทินิทานโต ¶ เอเตหิ ขุทฺทานุขุทฺทเกหิ สิกฺขาปเทหิ อุทฺทิฏฺเหิ กึ อิติ สิกฺขาปทวิวณฺณเน ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๑๗๒๑. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี วินยํ วิวณฺเณติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อุปสมฺปนฺเน เวมติโก…เป… อนุปสมฺปนฺนสฺี…เป… ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๔๑) ตีณิ ปาจิตฺติยานิ วุตฺตานิ. ตํ วินยํ สเจ ปน อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก วิวณฺเณติ, ติกทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๗๒๒-๔. อุภินฺนมฺปีติ อุปสมฺปนฺนานํ, อนุปสมฺปนฺนานํ อุภินฺนมฺปิ, ‘‘สนฺติเก’’ติ เสโส. อฺธมฺมวิวณฺณเนติ วินยโต อฺเสํ สุตฺตาภิธมฺมานํ วิวณฺณเน.
อนาปตฺติวิสยํ ¶ ทสฺเสตุมาห ‘‘นวิวณฺเณตุกามสฺสา’’ติอาทิ. นวิวณฺเณตุกามสฺส ‘‘หนฺท สุตฺตนฺตํ ปริยาปุณ, ปจฺฉาปิ วินยํ ปริยาปุณิสฺสสิ’’ อิติ เอวํ วทนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. สทิสา เอว สาทิสา.
วิเลขนกถาวณฺณนา.
‘‘อนฺวฑฺฒมาสํ โย ภิกฺขุ;
ปาติโมกฺเข อเสสโต;
อุทฺทิสฺสมาเน อฺาณ-
ตาย ปุจฺฉติ อตฺตโน’’ติ. –
ปมคาถาย ภวิตพฺพํ. เอวฺหิ สติ ‘‘อฺาเณนา’’ติอาทิคาถา ปริปุณฺณสมฺพนฺธา สิยาติ วิฺายติ.
อฺาเณนาติ เอตฺถ วา ‘‘อาปนฺนตฺตา’’ติ เสโส. อาปตฺติโมกฺโขติ อาปตฺติยา โมกฺโข. อฺาเณน อาปนฺนตฺตา ¶ อาปตฺติโมกฺโข เนว วิชฺชตีติ โยชนา. กึ กาตพฺพนฺติ อาห ‘‘กาเรตพฺโพ’’ติอาทิ. ยถา ธมฺโม ิโต, ตถา ภิกฺขุ กาเรตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. ธมฺม-สทฺโท ปาฬิวาจโก, ปาฬิยํ ยถา วุตฺตํ, ตถา กาเรตพฺโพติ อตฺโถ, เทสนาคามินี อาปตฺติ เจ, เทสาเปตพฺโพ, วุฏฺานคามินี เจ, วุฏฺาเปตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. ๔๔๔). อฺาเณน อาปนฺนตฺตา ตสฺส อาปตฺติยา โมกฺโข นตฺถิ. ยถา ปน ธมฺโม จ วินโย จ ิโต, ตถา ภิกฺขุ กาเรตพฺโพ, เทสนาคามินึ เจ อาปนฺโน โหติ, เทสาเปตพฺโพ, วุฏฺานคามินึ เจ, วุฏฺาเปตพฺโพติ อตฺโถ.
๑๗๒๖. อุตฺตรินฺติ ยถาธมฺมกรณโต อุตฺตรึ. ทุติเยเนวาติ ตฺติทุติเยเนว. นินฺทิตฺวาติ ‘‘ตสฺส เต อาวุโส อลาภา’’ติอาทินา ครหิตฺวา.
๑๗๒๗. เอวํ ¶ อาโรปิเต โมเหติ ยถาธมฺมกรณโต อุปริ ยถาวุตฺตนเยน ตํ ปุคฺคลํ ครหิตฺวา ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ตสฺส เอวํ โมเห อาโรปิเต. ปุน ยทิ โมเหตีติ โยชนา. ตสฺมึ โมหนเก ปุคฺคเล ปาจิตฺติ วุตฺตาติ โยชนา.
๑๗๒๘. ทีปิตํ ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี โมเหติ, เวมติโก, อธมฺมกมฺมสฺี โมเหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๔๗) ติกทุกฺกฏํ ทสฺสิตํ. เอตสฺส วิปริยายโต ติกปาจิตฺติยํ เวทิตพฺพํ. ยถาห ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี โมเหติ, เวมติโก, อธมฺมกมฺมสฺี โมเหติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๔๗). เอตฺถ กมฺมนฺติ โมหาโรปนกมฺมํ ¶ อธิปฺเปตํ. ยถาห ‘‘ธมฺมกมฺเมติอาทีสุ โมหาโรปนกมฺมํ อธิปฺเปต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๔๗).
๑๗๒๙-๓๐. ‘‘น จ โมเหตุกามสฺสา’’ติอาทีหิ ‘‘อนาปตฺตีติ วิฺเยฺย’’นฺติ อิทํ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ‘‘วิตฺถาเรน อสุตสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. เอตฺถ ‘‘ปาติโมกฺข’’นฺติ กมฺมปทํ อเปกฺขิตพฺพํ. วิตฺถาเรน อูนกทฺวตฺติกฺขตฺตุํ สุตสฺส จาติ โยชนา. ตถาติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตีติ วิฺเยฺย’’นฺติ อิทํ ปจฺจามสติ.
โมหนกถาวณฺณนา.
๑๗๓๑-๒. กุทฺโธติ กุปิโต. ปหารํ เทตีติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา อนฺตมโส อุปฺปลปตฺเตนาปิ ปหารํ เทติ. ยถาห ‘‘ปหารํ ทเทยฺยาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา อนฺตมโส อุปฺปลปตฺเตนาปิ ปหารํ เทตี’’ติ (ปาจิ. ๔๕๑). เอตฺถ ‘‘อฺสฺส ภิกฺขุสฺสา’’ติ เสโส. ตสฺสาติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘โย’’ติ ลพฺภติ.
อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สมฺปหริตุกาเมนา’’ติอาทิ, อิมินา มรณาธิปฺปาเยน ปหเฏ ปาราชิกนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๑๗๓๓. ‘‘อิติ เอวํ กเต อยํ สงฺฆมชฺเฌน วิโรจตี’’ติ วิรูปกรณาเปกฺโข วิรูปกรเณ อเปกฺขวา ตสฺส จ อเปกฺขิตสฺส ภิกฺขุสฺส กณฺณํ วา นาสํ วา ยทิ ฉินฺทติ, ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๗๓๔. อนุปสมฺปนฺเนติ ¶ ¶ สามิวจนตฺเถ ภุมฺมํ. ‘‘อิตฺถิยา’’ติอาทีหิ ปเทหิ ยถารหํ โยเชตพฺพํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนาย อิตฺถิยา อนุปสมฺปนฺนสฺส ปุริสสฺสา’’ติ. ติรจฺฉานคตสฺสปีติ เอตฺถ ‘‘อนฺตมโส’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘อนฺตมโส ติรจฺฉานคตสฺสปี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕๒).
๑๗๓๕. ‘‘สเจ ปหรติ อิตฺถิฺจา’’ติ ปทจฺเฉโท. รตฺเตน เจตสาติ กายสํสคฺคราเคน รตฺเตน จิตฺเตน. วินิทฺทิฏฺาติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ โอติณฺโณ วิปริณเตน จิตฺเตน มาตุคาเมน สทฺธึ กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติอาทินา (ปารา. ๒๗๐) ทสฺสิตา.
๑๗๓๖. โมกฺขาธิปฺปาโยติ ตโต อตฺตโน โมกฺขํ ปตฺเถนฺโต. โทโส น วิชฺชตีติ ทุกฺกฏาทิโกปิ โทโส นตฺถิ.
๑๗๓๗-๙. เหเตุกามมายนฺตํ โจรมฺปิ วา ปจฺจตฺถิกมฺปิ วา อนฺตรามคฺเค ปสฺสิตฺวาติ โยชนา. ทิสฺวา กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ อาห ‘‘มา อิธาคจฺฉุปาสกา’’ติอาทิ, อาคมนปฏิกฺเขเปน ตตฺเถว ติฏฺาติ วุตฺตํ โหติ. อายนฺตนฺติ เอวํ วุตฺเต ตํ อนาทิยิตฺวา อาคจฺฉนฺตํ. ยถาห ‘‘วจนํ อนาทิยิตฺวา อาคจฺฉนฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕๓).
เอเสว นโยติ ‘‘มา อาคจฺฉา’ติ วุตฺเตปิ อาคจฺฉนฺตํ ปหเฏ มเตปิ อนาปตฺตี’’ติ อยํ นโย.
๑๗๔๐. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก, อนุปสมฺปนฺนสฺี ปหารํ เทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๕๒) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสเสติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก ¶ , อนุปสมฺปนฺนสฺี ปหารํ เทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๕๒) ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อนาณตฺติกตฺตา อาห ‘‘กายจิตฺตสมุฏฺาน’’นฺติ. กายจิตฺตานํ สุโขเปกฺขาปิ สมฺภวนฺตีติ ตโต วิเสเสตุมาห ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ.
ปหารกถาวณฺณนา.
๑๗๔๑. กายนฺติ ¶ กาเยกเทสํ หตฺถาทิอวยวมาห. วาติ ทุติยตฺถสมฺปิณฺฑเน. กายพทฺธนฺติ กายปฏิพทฺธํ ปหรณโยคฺคาโยคฺเคสุ กตฺตรยฏฺิสตฺถาทีสุ อฺตรํ. สเจ อุจฺจาเรยฺยาติ สเจ ปหรณาการํ ทสฺเสตฺวา อุกฺขิเปยฺย, อิทํ ‘‘กายํ วา กายปฏิพทฺธํ วา’’ติ อิเมหิ ปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ตสฺสาติ อุจฺจาริตกายาทิกสฺส. อุคฺคิรณปจฺจยาติ อุกฺขิปนการณา.
๑๗๔๒. อสมฺปหริตุกาเมนาติ ปหารทานํ อนิจฺฉนฺเตน. ทินฺนตฺตาติ ปหารสฺส ทินฺนตฺตา. อปฺปหริตุกามตฺตา ปุริมสิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยํ น โหติ, อุคฺคิริตุกามตาย กตปโยคสฺส อุคฺคิรณมตฺเต อฏฺตฺวา ปหารสฺส ทินฺนตฺตา อิมินาปิ ปาจิตฺติยํ น โหติ, อชฺฌาสยสฺส, ปโยคสฺส จ อสุทฺธตฺตา อนาปตฺติยาปิ น ภวิตพฺพนฺติ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.
๑๗๔๓. สเจ เตน ปหาเรน ภิกฺขุโน หตฺถาทีสุปิ ยํ กิฺจิ องฺคํ ภิชฺชติ, ปหฏสฺส ปหารทายกสฺส ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ.
๑๗๔๔. เสโส วินิจฺฉโย ‘‘โมกฺขาธิปฺปาโย’’ติอาทิโก อิธ อวุตฺโต วินิจฺฉโย สมุฏฺานาทินา สทฺธึ อนนฺตเร วุตฺตนเยน วินยฺุนา เวทิตพฺโพติ โยชนา. ‘‘ติรจฺฉานาทีนํ ¶ วจฺจกรณาทึ ทิสฺวาน ปลาเปตุกามตาย กุชฺฌิตฺวาปิ อุคฺคิรนฺตสฺส โมกฺขาธิปฺปาโย เอวา’’ติ วทนฺติ.
ตลสตฺติกถาวณฺณนา.
๑๗๔๕. อมูลเกนาติ ทิฏฺาทิมูลวิรหิเตน, เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุ’’นฺติ เสโส. สงฺฆาทิเสเสนาติ เตรสนฺนํ อฺตเรน. ตสฺสาติ โจทกสฺส, โจทาปกสฺส วา ปาปภิกฺขุโน. สเจ จุทิตโก ตสฺมึ ขเณ ‘‘เอส มํ โจเทตี’’ติ ชานาติ, ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา, อิมินา ‘‘สเจ เอวํ น ชานาติ, จิเรน วา ชานาติ, ทุกฺกฏํ โหตี’’ติ สิทฺธํ.
๑๗๔๖. ตตฺถาติ อุปสมฺปนฺเน. ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํเสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. เวมติโก…เป… อนุปสมฺปนฺนสฺี อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํเสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๖๒) ติกปาจิตฺติยํ ¶ . ทิฏฺาจารวิปตฺติยา โจทโก ทุกฺกฏาปตฺตีติ อมูลิกาย ทิฏฺิวิปตฺติยา วา อาจารวิปตฺติยา วา อนุทฺธํเสนฺตสฺส ทุกฺกฏาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ. เสเส จาติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ตีณิ ทุกฺกฏานิ โหนฺตีติ อตฺโถ.
๑๗๔๗. ‘‘ตถาสฺิสฺส อนาปตฺตี’’ติ ปทจฺเฉโท. ตถาสฺิสฺสาติ สมูลกสฺิสฺส.
อมูลกกถาวณฺณนา.
๑๗๔๘-๙. สฺจิจฺจาติ ตสฺส ปริปุณฺณวีสติวสฺสาทิภาวํ ชานนฺโตเยว. ภิกฺขุโนติ เอตฺถ ‘‘อฺสฺสา’’ติ เสโส ¶ . อูนวีสติวสฺโส ตฺวํ มฺเติ เอตฺถ ‘‘มฺเ’’ติ อิมินา ปริกปฺปตฺถวาจินา นิปาเตน ‘‘อุทกํ มฺเ อาทิตฺต’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๓๘๓) วิย มุสาวาทาปตฺติยา อวิสยตํ ทีเปติ. หิเตสิตาย อนุสิฏฺิทานาทิเก ตถารูเป อฺสฺมึ ปจฺจเย การเณ อสติ ‘‘อูนวีสติวสฺโส ตฺวํ มฺเ’’ อิติ เอวมาทินา อฺสฺส ภิกฺขุโน โย ภิกฺขุ สเจ สฺจิจฺจ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทยฺย, ตสฺส เอวํ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทนฺตสฺส ภิกฺขุโน วาจาย วาจาย ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา.
๑๗๕๐. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี สฺจิจฺจ กุกฺกุจฺจํ อุปทหติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. เวมติโก…เป… อนุปสมฺปนฺนสฺี สฺจิจฺจ กุกฺกุจฺจํ อุปทหติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๖๗) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสเส จาติ อนุปสมฺปนฺเน จ. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ. วชฺชเมว วชฺชตา.
๑๗๕๑. หิเตสิตาย ภาสโตติ สมฺพนฺโธ. มา เอวนฺติ เอตฺถ ‘‘กโรหี’’ติ เสโส, ปุนปิ มา เอวํ กโรหีติ อตฺโถ. ‘‘อหํ ตํ อิตฺถิยา สห นิสินฺนํ มฺเ, ตยา วิกาเล ภุตฺตํ มฺเ, ปุน มา เอวํ กโรหิ’’ อิติ หิเตสิตาย ภาสโต อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
สฺจิจฺจกถาวณฺณนา.
๑๗๕๓. ภณฺฑนํ ¶ นาม กลโห, ภณฺฑนํ ชาตํ เยสนฺติ วิคฺคโห, ชาตภณฺฑนานนฺติ อตฺโถ, ‘‘วจน’’นฺติ เสโส. โสตุํ อุปสฺสุตึ ติฏฺเยฺยาติ โยชนา. อุเปจฺจ สุยฺยติ เอตฺถาติ หิ อุปสฺสุติ, านํ, ยํ านํ อุปคเตน สกฺกา โหติ กเถนฺตานํ สทฺทํ โสตุํ, ตตฺถาติ อตฺโถ. โย ¶ ปน ภิกฺขุ ภณฺฑนชาตานํ ภิกฺขูนํ วจนํ โสตุํ อุปสฺสุตึ สเจ ติฏฺเยฺย, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.
๑๗๕๔. โจเทตุกามตาย คจฺฉโต อสฺสาติ โยชนา.
๑๗๕๕. โสตุนฺติ ปจฺฉโต คจฺฉนฺตานํ ภณฺฑนชาตานํ วจนํ โสตุํ. โอหียนฺตสฺสาติ ปกติคมนํ หาเปตฺวา โอสกฺกนฺตสฺส. ปุรโต คจฺฉโต ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. คจฺฉโต ตุริตํ วาปีติ ปุรโต คจฺฉนฺตานํ ภณฺฑนชาตานํ วจนํ โสตุํ ปจฺฉโต สีฆํ คจฺฉนฺตสฺสาปิ. อยเมว วินิจฺฉโยติ ปเท ปเท อยํ เอว วินิจฺฉโย.
๑๗๕๖. อตฺตโน ิโตกาสนฺติ สมฺพนฺโธ. อุกฺกาสิตฺวาปิ วาติ อุกฺกาสิตสทฺทํ กตฺวา วา. เอตฺถ อหนฺติ วา วตฺวา าเปตพฺพนฺติ โยชนา.
๑๗๕๗. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน. เสเส จาติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏํ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน.
๑๗๕๘. โอรมิสฺสนฺติ มยา คหิตทุคฺคาหโต วิรมิสฺสามิ.
๑๗๕๙. กายจิตฺตโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺานโต เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. สิยา กิริยํ โสตุกามตาย คมนวเสน, สิยา อกิริยํ ิตฏฺานํ อาคนฺตฺวา มนฺตยมานํ อชานาปนวเสน, เตนาห ‘‘อิทํ โหติ กฺริยากฺริย’’นฺติ. คมเนน สิชฺฌนโต กายกมฺมํ ¶ . ตุณฺหีภาเวน สิชฺฌนโต วจีกมฺมํ. สโทสนฺติ สาวชฺชํ, อกุสลจิตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อุปสฺสุติกถาวณฺณนา.
๑๗๖๐. ธมฺมิกานนฺติ ¶ ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน กตานํ. กมฺมานนฺติ อปโลกนกมฺมํ, ตฺติกมฺมํ, ตฺติทุติยกมฺมํ, ตฺติจตุตฺถกมฺมนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ กมฺมานํ. ขียตีติ อรุจึ ปกาเสติ.
๑๗๖๑. อุภยตฺถาติ อธมฺเม, ธมฺเม จ.
๑๗๖๒. อธมฺเมนาติ เอตฺถ ‘‘กมฺเมนา’’ติ เสโส, ธมฺมวิรุทฺเธน กมฺเมนาติ อตฺโถ. ‘‘กมฺมสฺมิ’’นฺติ อิทํ วิภตฺตึ วิปริณาเมตฺวา ‘‘กมฺเมนา’’ติ อนุวตฺเตตพฺพํ. วคฺเคนาติ ‘‘ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา น ปฏิกฺโกสนฺตี’’ติ (มหาว. ๓๘๗) วุตฺตสามคฺคิลกฺขณสฺส วิรุทฺธตฺตา อสมคฺเคน, เอตฺถ ‘‘สงฺเฆนา’’ติ เสโส. ‘‘ตถา อกมฺมารหสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อธมฺเมน กมฺเมน อิเม กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ จ ‘‘อสมคฺเคน สงฺเฆน อิเม กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ จ ‘‘อธมฺเมน กมฺเมน วคฺเคน สงฺเฆน อิเม กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ จ ตถา ‘‘อกมฺมารหสฺส อิเม กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ จ ตฺวา โย ขียติ, ตสฺส จ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
กมฺมปฏิพาหนกถาวณฺณนา.
๑๗๖๔-๕. อาโรจิตํ วตฺถุ ยาว น วินิจฺฉิตํ วาติ โยชนา, ‘‘โจทเกน จ จุทิตเกน จ อตฺตโน กถา กถิตา, อนุวิชฺชโก สมฺมโต, เอตฺตาวตาปิ วตฺถุเมว อาโรจิตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๘๑) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา อาโรจิตํ วตฺถุ ยาว น วินิจฺฉิตํ โหตีติ อตฺโถ. ตฺติ วา ปิตา ¶ , กมฺมวาจา นิฏฺํ ยาว น คจฺฉติ, เอตสฺมึ…เป…โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๗๖๖. ฉนฺทํ อทตฺวา หตฺถปาเส ชหิเต ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.
๑๗๖๗-๙. อธมฺเมปิ กมฺมสฺมึ ธมฺมกมฺมนฺติ สฺิโน ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ธมฺมกมฺเม จ อธมฺมกมฺมสฺิโน อนาปตฺติ อิธ น วุตฺตา, ปาฬิยํ ปน วุตฺตตฺตา อิธาปิ โยเชตพฺพา. ‘‘สงฺฆสฺส ภณฺฑนาทีนิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ สฺิโน คจฺฉโต จ โย วา คิลาโน โหติ, ตสฺส คจฺฉโต ¶ จ คิลานสฺส กรณีเย สติ คจฺฉโต จ กมฺมํ นโกเปตุกามสฺส คจฺฉโต จ ปสฺสาวนาทินา ปีฬิตสฺส คจฺฉโต จ ‘‘อาคมิสฺสามิ’’อิติ เอวํ คจฺฉโตปิ น โทสตาติ โยชนา. ตตฺถ โทโส เอว โทสตา, อาปตฺติ, นโทสตา อนาปตฺติ. หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา คมเนน, ฉนฺทสฺส อทาเนน จ อาปชฺชนโต กฺริยากฺริยํ.
ฉนฺทํอทตฺวาคมนกถาวณฺณนา.
๑๗๗๐-๑. สมคฺเคน สงฺเฆน สทฺธินฺติ สมานสํวาสเกน สมานสีมายํ ิเตน สงฺเฆน สทฺธึ. วุตฺตฺหิ ‘‘สมคฺโค นาม สงฺโฆ สมานสํวาสโก สมานสีมายํ ิโต’’ติ (ปาจิ. ๔๘๖). จีวรนฺติ วิกปฺปนุปคมาห. ยถาห ‘‘จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปาจิ. ๔๘๖). สมฺมตสฺสาติ เสนาสนปฺาปกาทิสมฺมุตึ ปตฺเตสุ อฺตรสฺส. ขียตีติ ‘‘โย โย มิตฺโต, ตสฺส ตสฺส เทนฺตี’’ติอาทินา นเยน อวณฺณํ ภณติ.
ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺิเวมติกอธมฺมกมฺมสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ.
๑๗๗๒-๔. สงฺเฆนาสมฺมตสฺสาปิ ¶ จีวรํ, อฺเมว วา ตเถว สมคฺเคน สงฺเฆน ทตฺวา ขียติ, ตสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อนุปสมฺปนฺเน ตเถว สมคฺเคน สงฺเฆน ทินฺเน สพฺพตฺถ จีวเร, อฺปริกฺขาเร จ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อนุปสมฺปนฺเนติ สมฺปทานตฺเถ ภุมฺมํ, อนุปสมฺปนฺนสฺสาติ อตฺโถ.
สภาวโต ฉนฺทาทีนํ วเสเนว กโรนฺตํ ขียนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ โยชนา. นยา วินิจฺฉยกฺกมา.
ทุพฺพลกถาวณฺณนา.
๑๗๗๕. อิทํ ทฺวาทสมนฺติ สมฺพนฺโธ, ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ปุคฺคลสฺส ปริณาเมยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๔๙๐) อิมํ ทฺวาทสมํ สิกฺขาปทนฺติ อตฺโถ. ตึสกกณฺฑสฺมึ นิสฺสคฺคิยกณฺเฑ. อนฺติเมนาติ เอตฺถ ‘‘สิกฺขาปเทนา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. จ-สทฺโท ¶ เอวการตฺโถ. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ อตฺตโน ปริณาเมยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๖๕๘) อิมินา อนฺติเมเนว สิกฺขาปเทน สพฺพถา สพฺพํ วตฺตพฺพํ ตุลฺยนฺติ โยชนา. อยเมว วิเสสตาติ เอตฺถ วิเสโสเยว วิเสสตา, อยเมว วิเสโสติ อตฺโถ.
๑๗๗๖. ตตฺถาติ ตสฺมึ นิสฺสคฺคิยาวสาเน สิกฺขาปเท. อตฺตโน ปริณามนาติ อตฺตโน ปริณามนเหตุ.
ปริณามนกถาวณฺณนา.
สหธมฺมิกวคฺโค อฏฺโม.
๑๗๗๗-๘. โย ¶ ปน ภิกฺขุ เทวิยา วาปิ รฺโ วาปิ อวิทิตาคมโน อปฺปฏิสํวิทิตาคมโน สยนียฆรา ราชสฺมึ อนิกฺขนฺเต, เทวิยา อนิกฺขนฺตาย ตสฺส สยนียฆรสฺส อุมฺมารํ อินฺทขีลํ สเจ อติกฺกเมยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน ปเม ปาเท ทุกฺกฏํ สิยา, ทุติเย ปาเท ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.
๑๗๗๙. ปฏิสํวิทิเตติ อตฺตโน อาคมเน นิเวทิเต. เนวปฏิสํวิทิตสฺิโนติ อนิเวทิตสฺิโน. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปฏิสํวิทิตาคมเน. เวมติกสฺสาติ ‘‘ปฏิสํวิทิตํ นุ โข, น ปฏิสํวิทิตํ นุ โข’’ติ สํสยมาปนฺนสฺส.
๑๗๘๐-๑. เนว ขตฺติยสฺส อปฺปฏิสํวิทิเตปิ วา น ขตฺติยาภิเสเกน อภิสิตฺตสฺส อปฺปฏิสํวิทิเตปิ วา ปวิสโต น โทโสติ โยชนา, เอวรูปานํ อนิเวทิเตปิ ปวิสนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
อุโภสุ ราชินิ จ เทวิยา จ สยนิฆรโต พหิ นิกฺขนฺเตสุ ปวิสโตปิ วา อุภินฺนํ อฺตรสฺมึ นิกฺขนฺเต ปวิสโตปิ วา น โทโสติ โยชนา. กถิเนนาติ เอตฺถ ‘‘สมุฏฺานาทินา สม’’นฺติ เสโส, อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานาทิวเสน กถินสิกฺขาปเทน สมานนฺติ วุตฺตํ โหติ. สยนียฆรปฺปเวโส กฺริยํ. อปฺปฏิสํเวทนํ อกฺริยํ.
อนฺเตปุรกถาวณฺณนา.
๑๗๘๒. รชตํ ¶ , ชาตรูปํ วา อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคณฺหนฺตสฺส, อุคฺคณฺหาปยโตปิ วา ตสฺส นิสฺสคฺคิยาปตฺตีติ โยชนา.
๑๗๘๓. คณปุคฺคลสงฺฆานํ อตฺถาย เจติเย นวกมฺมสฺส อตฺถาย อุคฺคณฺหาปยโต, อุคฺคณฺหโตปิ วา ทุกฺกฏํ โหตีติ ¶ โยชนา. ชาตรูปรชตานํ สรูปํ นิสฺสคฺคิเย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๑๗๘๔. มุตฺตาทิรตนมฺปิ วุตฺตสรูปเมว. สงฺฆาทีนมฺปีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน คณปุคฺคลเจติยานํ สงฺคโห.
๑๗๘๕-๖. ยํ กิฺจิ คิหิสนฺตกํ สเจ กปฺปิยวตฺถุ วา โหตุ, อกปฺปิยวตฺถุ วาปิ โหตุ, มาตุกณฺณปิฬนฺธนํ ตาลปณฺณมฺปิ วา โหตุ, ภณฺฑาคาริกสีเสน ปฏิสามยโต ตสฺส ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๑๗๘๗. น นิเธตพฺพเมวาติ น ปฏิสาเมตพฺพเมว.
๑๗๘๘. เอโส หิ ยสฺมา ปลิโพโธ นาม, ตสฺมา เปตุํ ปน วฏฺฏตีติ โยชนา.
๑๗๘๙. อนฺุาเต าเนติ เอตฺถ ‘‘ปติต’’นฺติ เสโส. เอตฺถ อนฺุาตฏฺานํ นาม อชฺฌาราโม วา อชฺฌาวสโถ วา. ยถาห ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว รตนํ วา รตนสมฺมตํ วา อชฺฌาราเม วา อชฺฌาวสเถ วา อุคฺคเหตฺวา วา อุคฺคหาเปตฺวา วา นิกฺขิปิตุํ ‘ยสฺส ภวิสฺสติ, โส หริสฺสตี’’ติ (ปาจิ. ๕๐๔). เอตฺถ จ อชฺฌาราโม นาม ปริกฺขิตฺตสฺส อนฺโตปริกฺเขโป, อปริกฺขิตฺตสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต. อชฺฌาวสโถ นาม ปริกฺขิตฺตสฺส อนฺโตปริกฺเขโป, อปริกฺขิตฺตสฺส มุสลปาตพฺภนฺตรํ. ‘‘อุคฺคเหตฺวา’’ติ อิทํ อุปลกฺขณํ, อุคฺคหาเปตฺวาติปิ วุตฺตํ โหติ.
๑๗๙๐-๑. อนฺุาเต ปน าเน ยถาวุตฺตอชฺฌารามาทิเก าเน รตนํ วา รตนสมฺมตํ วา มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ วา สยนภณฺฑํ วา คเหตฺวา นิกฺขิปนฺตสฺส, รตนสมฺมตํ ¶ วิสฺสาสํ ¶ คณฺหนฺตสฺส จ ตาวกาลิกเมว วา คณฺหนฺตสฺส อุภยตฺถ อุมฺมตฺตกาทีนฺจ น โทโสติ โยชนา.
สฺจริตฺตสโมทยนฺติ เอตฺถ ‘‘สมุฏฺานาทินา อิทํ สิกฺขาปท’’นฺติ วตฺตพฺพํ, อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานาทินา สฺจริตฺตสมชาติกนฺติ อตฺโถ.
รตนกถาวณฺณนา.
๑๗๙๓-๔. สนฺตนฺติ จาริตฺตสิกฺขาปเท วุตฺตสรูปํ. อนาปุจฺฉาติ ‘‘วิกาเล คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามี’’ติ อนาปุจฺฉิตฺวา. ปจฺจยํ วินาติ ตาทิสํ อจฺจายิกํ กรณียํ วินา. ปริกฺเขโปกฺกเมติ ปริกฺเขปสฺส อนฺโตปเวเส. อุปจาโรกฺกเมติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
๑๗๙๖. ตโต อฺนฺติ ปมํ วิกาเล คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉิตฺวา ตโต ปวิฏฺคามโต อฺํ คามํ. ปุน ตโตติ ทุติยคามมาห. กตฺถจิ โปตฺถเก ‘‘อาปุจฺฉเน กิจฺจ’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, ‘‘อาปุจฺฉนกิจฺจ’’นฺติ ปาโเยว ปน ยุตฺตตโร. ยถาอากงฺขิตปมาณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘คามสเตปิ วา’’ติ.
๑๗๙๗. ปสฺสมฺเภตฺวานาติ ปฏิวิโนเทตฺวา. อนฺตรา อฺํ คามํ ปวิสนฺติ เจติ โยชนา.
๑๗๙๘-๙. กุลฆเร วา อฺตฺถ อาสนสาลาย วา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา โย ภิกฺขุ สปฺปิภิกฺขาย วา เตลภิกฺขาย วา สเจ จริตุกาโม สิยาติ โยชนา.
ปสฺเสติ ¶ ปกติวจนสวนารเห อตฺตโน สมีเป, เอเตเนว เอตฺตกา านา ทูรีภูโต อสนฺโต ¶ นาม โหตีติ พฺยติเรกโต ลพฺภตีติ ทสฺเสติ. อสนฺเตติ อวิชฺชมาเน วา วุตฺตปฺปมาณโต ทูรีภูเต วา. นตฺถีติ เอตฺถ ‘‘จินฺเตตฺวา’’ติ เสโส.
๑๘๐๒. อโนกฺกมฺมาติ อนุปสกฺกิตฺวา. มคฺคาติ คนฺตพฺพมคฺคา.
๑๘๐๓. ติกปาจิตฺติยนฺติ วิกาเล วิกาลสฺิเวมติกกาลสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ.
๑๘๐๔. อจฺจายิเก กิจฺเจ วาปีติ สปฺปทฏฺาทีนํ เภสชฺชปริเยสนาทิเก อจิรายิตพฺพกิจฺเจ สติ คจฺฉโต.
๑๘๐๕. อนฺตรารามนฺติ คามพฺภนฺตเร สงฺฆารามํ. ภิกฺขุนีนํ อุปสฺสยนฺติ ภิกฺขุนิวิหารํ. ติตฺถิยานํ อุปสฺสยนฺติ ติตฺถิยารามํ.
๑๘๐๖-๗. อนฺตรารามาทิคมเน น เกวลํ อนาปุจฺฉา คจฺฉโตเยว, กายพนฺธนํ อพนฺธิตฺวา, สงฺฆาฏึ อปารุปิตฺวา คจฺฉนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ.
อาปทาสุปีติ สีโห วา พฺยคฺโฆ วา อาคจฺฉติ, เมโฆ วา อุฏฺเติ, อฺโ วา โกจิ อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุปิ พหิคามโต อนฺโตคามํ คจฺฉโต อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
วิกาลคามปฺปเวสนกถาวณฺณนา.
๑๘๐๘. อฏฺิทนฺตมยํ วาปิ วิสาณชํ วาปิ สูจิฆรนฺติ โยชนา. อฏฺิ นาม ยํ กิฺจิ อฏฺิ. ทนฺโตติ หตฺถิทนฺโต. วิสาณํ นาม ยํ กิฺจิ วิสาณํ.
๑๘๐๙. ลาเภติ ¶ ปฏิลาเภ. เภทนกนฺติ เภทนเมว เภทนกํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ เภทนกํ, ปมํ ภินฺทิตฺวา ปจฺฉา เทเสตพฺพตฺตา ตํ เภทนกํ อสฺส ปาจิตฺติยสฺส อตฺถีติ เภทนกํ, ปาจิตฺติยํ, อสฺสตฺถิอตฺเถ อ-การปจฺจโย.
๑๘๑๐-๑. ‘‘อนาปตฺติ ¶ อรณิเก’’ติ ปทจฺเฉโท. อรณิเกติ อรณิธนุเก. วิเธติ กายพนฺธนสฺส วิธเก. อฺชนิกาติ อฺชนินาฬิกา. ทกปฺุฉนิยาติ นหาตสฺส คตฺเต อุทกปฺุฉนเปสิกาย. วาสิชเฏติ วาสิทณฺฑเก.
สูจิฆรกถาวณฺณนา.
๑๘๑๒-๓. มฺจปีสรูปํ ทุติเย ภูตคามวคฺเค จตุตฺถสิกฺขาปเท วุตฺตเมว. ‘‘สุคตงฺคุเลน อฏฺงฺคุลปาทก’’นฺติ อฏฺงฺคุลปาทกสฺส อาคตตฺตา ‘‘อฏฺงฺคุลปฺปมาเณนา’’ติ เอตฺถ ‘‘ปาเทนา’’ติ เสโส.
เหฏฺิมาฏนินฺติ อฏนิยา เหฏฺิมตลํ. อฏนิยา เหฏฺิมํ เหฏฺิมาฏนี, ตํ เปตฺวา, อฺตฺร เหฏฺิมาย อฏนิยาติ วุตฺตํ โหติ. เทสนาปุพฺพภาคิเยน มฺจปาทจฺเฉเทน สห วตฺตตีติ สจฺเฉทา. ตํ ปมาณํ. อติกฺกมโตติ อติกฺกามยโต, คาถาพนฺธวเสน ย-การโลโป.
๑๘๑๕. ปมาเณน กโรนฺตสฺสาติ อฏนิยา เหฏฺา วฑฺฒกิรตนปฺปมาเณน ปาเทน โยเชตฺวา กโรนฺตสฺส, เอเตเนว ‘‘อูนกํ กโรนฺตสฺสา’’ติ อิทํ อุปลกฺขิตํ. ตสฺสาติ ตสฺส อปฺปมาณิกสฺส. ฉินฺทิตฺวาติ อฏนิโต เหฏฺา วฑฺฒกิรตนาติริตฺตํ านํ ฉินฺทิตฺวา.
๑๘๑๖. ปมาณโต นิขณิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อธิก’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, ปมาณโต อธิกํ านํ นิขณิตฺวา, อนฺโตภูมึ ¶ ปเวเสตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุตฺตานํ วาปีติ อุทฺธํ ปาทํ กตฺวา ภูมิยํ วา ทารุฆฏิกาสุ วา เปตฺวา. อฏฺฏํ วา พนฺธิตฺวา ปริภฺุชโตติ อุกฺขิปิตฺวา ตุลาสงฺฆาเฏ เปตฺวา อฏฺฏํ พนฺธิตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ.
มฺจกถาวณฺณนา.
๑๘๑๗. ตูลํ โอนทฺธเมตฺถาติ ตูโลนทฺธํ, ตูลํ ปกฺขิปิตฺวา อุปริ จิมิลิกาย โอนทฺธํ, ‘‘ตูลํ นาม ตีณิ ตูลานิ รุกฺขตูลํ ลตาตูลํ โปฏกิตูล’’นฺติ (ปาจิ. ๕๒๘) วุตฺตตูลานํ ¶ อฺตรํ ปกฺขิปิตฺวา อุปริ ปิโลติกาย สิพฺพิตฺวา กตนฺติ วุตฺตํ โหติ. โปฏกิตูลนฺติ เอรกตูลาทิ ยํ กิฺจิ ติณชาตีนํ ตูลํ. อุทฺทาลนเมว อุทฺทาลนกํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ อุทฺทาลนกนฺติ วุตฺตนยเมว. อติกฺกนฺตา อีติ อุปทฺทโว เยน โส อนีติ, ภควา, เตน อนีตินา.
๑๘๑๘. อาโยเคติ อาโยคปตฺเต. พนฺธเนติ กายพนฺธเน. อํสพทฺธเกติ อํสพนฺธนเก. พิพฺโพหเนติ อุปธาเน. ถวิกาติ ปตฺตถวิกา. ถวิกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน สิปาฏิกาทีนํ สงฺคโห. ถวิกาทีสุ ตูโลนทฺเธสุ ปริภุตฺเตสุ ภิกฺขุโน อนาปตฺตีติ โยชนา.
๑๘๑๙. อฺเน จ กตนฺติ เอตฺถ ‘‘มฺจํ วา ปีํ วา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อุทฺทาเลตฺวาติ ปิโลติกํ อุปฺปาเฏตฺวา ตูลํ อปเนตฺวา. นยาติ สมุฏฺานาทโย.
ตูโลนทฺธกถาวณฺณนา.
๑๘๒๐. นิสีทนนฺติ นิสีทนจีวรํ. ปมาณโตติ ‘‘ตตฺริทํ ปมาณํ, ทีฆโส ทฺเว วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ ทิยฑฺฒํ ¶ , ทสา วิทตฺถี’’ติ (ปาจิ. ๕๓๑) วุตฺตปมาณโต. ปมาณาติกฺกเม ปโยเค ตสฺส ทุกฺกฏํ สิยาติ โยชนา.
๑๘๒๑. สจฺเฉทนฺติ ปมาณโต อติริตฺตปเทสสฺส เฉทนกิริยาสหิตปฏิกมฺมํ ปาจิตฺติยมุทีริตนฺติ อตฺโถ. ตสฺสาติ นิสีทนสฺส. ทฺวีสุ าเนสุ ผาเลตฺวา ติสฺโส ทสา กาตพฺพา สิยุนฺติ โยชนา.
๑๘๒๒. ตทูนกนฺติ ตโต ปมาณโต อูนกํ. วิตานาทึ กโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อตฺถรณสาณิปาการภิสิพิพฺโพหนานํ สงฺคโห. ‘‘สฺจริตฺตสมา นยา’’ติ อิทํ วุตฺตตฺถเมว.
นิสีทนกถาวณฺณนา.
๑๘๒๓. โรเคติ กณฺฑุปิฬกาทิโรเค สติ. ยถาห ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ยสฺส กณฺฑุ ¶ วา ปิฬกาวา อสฺสาโว วา ถุลฺลกจฺฉุ วา อาพาโธ, ตสฺส กณฺฑุปฏิจฺฉาทิ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๔). เอตฺถ กณฺฑูติ กจฺฉุ. ปิฬกาติ โลหิตตุณฺฑิกา สุขุมปิฬกา. อสฺสาโวติ อริสภคนฺทลมธุเมหาทิวเสน อสุจิปคฺฆรณํ. ถุลฺลกจฺฉุ วา อาพาโธติ มหาปิฬกาพาโธ วุจฺจติ. ปมาณโตติ ‘‘ตตฺริทํ ปมาณํ, ทีฆโส จตสฺโส วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติ (ปาจิ. ๕๓๘) วุตฺตปฺปมาณโต.
กณฺฑุปฏิจฺฉาทิกถาวณฺณนา.
๑๘๒๕. ปมาเณเนวาติ ‘‘ตตฺริทํ ปมาณํ, ทีฆโส ฉ วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ อฑฺฒเตยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๕๔๓) วุตฺตปฺปมาเณเนว. ปมาณาติกฺกเมติ วสฺสิกสาฏิกาย ยถาวุตฺตปมาณโต ¶ อติกฺกมเน, นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมํ. ตสฺส ภิกฺขุสฺส. นโยติ เฉทนปาจิตฺติยาทิโก วินิจฺฉยนโย.
วสฺสิกสาฏิกกถาวณฺณนา.
๑๘๒๖. สุคตสฺส จีวเรน ตุลฺยปฺปมาณํ จีวรํ โย ภิกฺขุ สเจ กาเรยฺย, ตสฺส จีวรสฺส กรเณ ตสฺส ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ สิยาติ โยชนา. ตุลฺยํ ปมาณํ ยสฺสาติ วิคฺคโห.
๑๘๒๗. อตฺตโน วตฺถานํ กรณการาปนํ วินา อฺโต ปฏิลาโภ นาม นตฺถิ, สูจิกมฺมปริโยสาเน จีวรสรูปสฺส ปฏิลาโภเยเวตฺถ ปฏิลาโภติ วิฺายติ.
๑๘๒๘. ตสฺสาติ ยํ ‘‘สุคตสฺส จีวเรนา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺส สุคตจีวรสฺส. ทีฆโส ปมาเณน สุคตสฺส วิทตฺถิยา นว วิทตฺถิโย, ติริยํ ปมาเณน ฉ วิทตฺถิโย วินิทฺทิฏฺา สิกฺขาปเทเยว กถิตาติ โยชนา.
นนฺทกถาวณฺณนา.
ราชวคฺโค นวโม.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปโม ภาโค นิฏฺิโต.