📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

วินยวินิจฺฉย-ฏีกา (ทุติโย ภาโค)

ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา

๑๘๓๐-๑. เอวํ นาติสงฺเขปวิตฺถารนเยน ทฺเวนวุติ ปาจิตฺติยานิ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ นิทฺทิฏฺเ ปาฏิเทสนีเย ทสฺเสตุมาห ‘‘โย จนฺตรฆร’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อนฺตรฆรนฺติ รถิกาทิมาห. ยถาห ‘‘อนฺตรฆรํ นาม รถิกา พฺยูหํ สิงฺฆาฏกํ ฆร’’นฺติ.

โย ปน ภิกฺขุ อนฺตรฆรํ ปวิฏฺาย อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต ยํ กิฺจิ ขาทนํ, โภชนมฺปิ วา สหตฺถา ปฏิคฺคณฺเหยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน คหเณ ทุกฺกฏํ, โภเค อชฺโฌหาเร ปาฏิเทสนียํ สิยาติ โยชนา.

อิโต ปฏฺาย จตสฺโส คาถา อุปฺปฏิปาฏิยา โปตฺถเกสุ ลิขิตา, ตาสํ อยํ ปฏิปาฏิ – ‘‘เอตฺถนฺตรฆร’’นฺติ ตติยา, ‘‘ตสฺมา ภิกฺขุนิยา’’ติ จตุตฺถี, ‘‘รถิกาทีสู’’ติ ปฺจมี, ‘‘รถิกายปิ วา’’ติ ฉฏฺี. ปฏิปาฏิ ปนายํ มาติกฏฺกถกฺกเมน เวทิตพฺพา. อิมาย ปฏิปาฏิยา ตาสํ อตฺถวณฺณนา โหติ –

๑๘๓๒-๓. ปุริมคาถาทฺวเยน ปทภาชนาคตสามฺวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อฏฺกถาคตํ วิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอตฺถาติ อิมสฺมึ ปมปาฏิเทสนียสิกฺขาปเท. ตสฺสาติ อฺาติกภิกฺขุนิยา. วากฺยโตติ ‘‘อนฺตรฆรํ ปวิฏฺายา’’ติ วจนโต. หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. ยสฺมา ภิกฺขุสฺส ิตฏฺานํ นปฺปมาณนฺติ อฏฺกถาย (ปาจิ. อฏฺ. ๕๕๓) วณฺณิตํ, ตสฺมา อารามาทีสุ ตฺวา เทนฺติยา ภิกฺขุนิยา หตฺถโต วีถิอาทีสุ ตฺวา โย ปฏิคฺคณฺเหยฺย เจ, เอวํ ปฏิคฺคณฺหโต ตสฺส ภิกฺขุโน น โทโสติ โยชนา. ปริโภคสฺส ปฏิคฺคหณมูลกตฺตา น โทโส. ‘‘ปฏิคฺคณฺหโต’’ติ อิมินา ปริโภเค ปาฏิเทสนียาภาโว จ ทีปิโต โหติ.

๑๘๓๔. สเจ ภิกฺขุนี รถิกาทีสุ ตฺวา โภชนํ เทติ, ภิกฺขุ อนฺตราราเม ตฺวา ปฏิคฺคณฺหาติ เจ, ตสฺส อาปตฺตีติ โยชนา. คาถาพนฺธวเสน ‘‘ภิกฺขุนิ โภชน’’นฺติ รสฺสตฺตํ. อาปตฺตีติ จ ปฏิคฺคหณปริโภเคสุ ทุกฺกฏปาฏิเทสนียาปตฺติโย สนฺธาย วุตฺตํ.

๑๘๓๕. รถิกาทีสุ ตฺวา ภิกฺขุนี โภชนํ เทติ เจ, ตํ รถิกายปิ วา…เป… อยํ นโยติ โยชนา. ตตฺถ รถิกาติ รจฺฉา. พฺยูหนฺติ อนิพฺพิชฺฌิตฺวา ิตา คตปจฺจาคตรจฺฉา. สนฺธิ นาม ฆรสนฺธิ. สิงฺฆาฏกนฺติ จตุกฺโกณํ วา ติโกณํ วา มคฺคสโมธานฏฺานํ. อยํ นโยติ ‘‘อาปตฺตี’’ติ อนนฺตรคาถาย วุตฺตนโย.

๑๘๓๗. อามิเสน อสมฺภินฺนรสํ สนฺธาย อิทํ ทุกฺกฏํ ภาสิตํ. อามิเสน สมฺภินฺเน เอกรเส ยามกาลิกาทิมฺหิ ปฏิคฺคเหตฺวา อชฺโฌหาเร ปาฏิเทสนียาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๑๘๓๘. เอกโตอุปสมฺปนฺนหตฺถโตติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย หตฺถโต. ยถาห ‘‘เอกโตอุปสมฺปนฺนายาติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนายา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๕๓). ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ยถาวตฺถุกเมวาติ.

๑๘๓๙. อฺาติกาย าติกสฺิสฺส, ตเถว วิมติสฺส จ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๑๘๔๐. อฺาติกาย ทาเปนฺติยา ภูมิยา นิกฺขิปิตฺวา ททมานาย วา อนฺตรารามาทีสุ ตฺวา เทนฺติยา ปฏิคฺคณฺหโต ภิกฺขุสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. อนฺตรารามาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ภิกฺขุนุปสฺสยติตฺถิยเสยฺยาปฏิกฺกมนาทึ สงฺคณฺหาติ. ปฏิกฺกมนํ นาม โภชนสาลา.

๑๘๔๑. คามโต พหิ นีหริตฺวา เทตีติ โยชนา.

๑๘๔๒. หตฺถโตติ เอตฺถ ‘‘คหเณ’’ติ เสโส. ตถาติ อนาปตฺติ. สมุฏฺานํ อิทํ สิกฺขาปทํ เอฬกโลเมน สมํ มตนฺติ โยชนา.

ปมปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.

๑๘๔๓-๔. อวุตฺเตติ วกฺขมานนเยน อวุตฺเต. เอเกนปิ จ ภิกฺขุนาติ สมฺพนฺโธ. อปสกฺกาติ อปคจฺฉ. อาทิ-อตฺถวาจินา อิติ-สทฺเทน ‘‘อปสกฺก ตาว, ภคินิ, ยาว ภิกฺขู ภุฺชนฺตี’’ติ วากฺยเสโส สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ. อิมินา อปสาทนากาโร สนฺทสฺสิโต. ‘‘เอเกนปิ จ ภิกฺขุนา’’ติ อิมินา อวกํโส ทสฺสิโต. อุกฺกํโส ปน ‘‘เตหิ ภิกฺขูหิ สา ภิกฺขุนี อปสาเทตพฺพา’’ติ ปาฬิโตปิ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อามิส’’นฺติ สามฺวจเนปิ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรสฺเสว คหณํ. ยถาห ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรนา’’ติ. โภเคติ จ เอกโตอุปสมฺปนฺนนฺติ จ วุตฺตตฺถเมว.

๑๘๔๕. ตเถวาติ ทุกฺกฏํ. ตตฺถาติ อนุปสมฺปนฺนาย.

๑๘๔๖. อตฺตโน ภตฺเต ทินฺเนปิ อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, ปุริมสิกฺขาปเทน ปน อาปตฺติสมฺภวา ‘‘น เทตี’’ติ วุตฺตํ. ยถาห ‘‘อตฺตโน ภตฺตํ ทาเปติ, น เทตีติ เอตฺถ สเจปิ อตฺตโน ภตฺตํ เทติ, อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติเยว, ปุริมสิกฺขาปเทน อาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๕๘). ตถาติ อนาปตฺติ. อุภยสิกฺขาปเทหิปิ อนาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปเทติ เจ’’ติ. ยถาห ‘‘อฺเสํ ภตฺตํ เทติ, น ทาเปตีติ เอตฺถ ปน สเจปิ ทาเปยฺย, อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติ ภเวยฺย, เทนฺติยา ปน เนว อิมินา, น ปุริเมน อาปตฺตี’’ติ.

๑๘๔๗. ภิกฺขุนี ยํ น ทินฺนํ, ตํ ทาเปติ, ยตฺถ วา น ทินฺนํ, ตตฺถ ทาเปติ, ตมฺปิ สพฺเพสํ มิตฺตามิตฺตานํ สมํ ทาเปติ, ตตฺถาปิ อนาปตฺติ.

๑๘๔๘. สิกฺขมานา วา สามเณริกา วา ‘‘อิธ สูปํ เทถ, โอทนํ เทถา’’ติ โวสาสนฺตี วิธานํ กโรนฺตี ิตา, ตํ อนปสาเทนฺตสฺส อนาปตฺติ. ปฺเจว โภชนานิ วินา อฺํ โวสาสนฺตึ ภิกฺขุนึ อนปสาเทนฺตสฺส อนาปตฺติ. อนปสาเทนฺตสฺส อุมฺมตฺตกาทิโนปิ อนาปตฺตีติ โยชนา.

๑๘๔๙. สมุฏฺานนฺติ เอตฺถ ‘‘อิมสฺสา’’ติ เสโส. โภชนํ กิริยํ, โวสาสนฺติยา อนิวารณํ อกิริยนฺติ เอวมิทํ กฺริยากฺริยํ.

ทุติยปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.

๑๘๕๐-๑. เสกฺขนฺติ สมฺมเตติ ‘‘เสกฺขสมฺมตํ นาม กุลํ ยํ กุลํ สทฺธาย วฑฺฒติ, โภเคน หายติ, เอวรูปสฺส กุลสฺส ตฺติทุติเยน กมฺเมน เสกฺขสมฺมุติ ทินฺนา โหตี’’ติ (ปาจิ. ๕๖๗) วุตฺตํ อิทํ กุลํ เสกฺขสมฺมตํ นาม. เตนาห ‘‘ลทฺธสมฺมุติเก กุเล’’ติ. ลทฺธา สมฺมุติ เยนาติ วิคฺคโห. ฆรูปจารํ โอกฺกนฺเต นิมนฺติโตปิ อนิมนฺติโตว โหตีติ อาห ‘‘ฆรูปจาโรกฺกมนา ปุพฺเพวา’’ติ. ยถาห ‘‘อนิมนฺติโต นาม อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา อนิมนฺติโต, ฆรูปจารํ โอกฺกมนฺเต นิมนฺเตติ, เอโส อนิมนฺติโต นามา’’ติ (ปาจิ. ๕๖๗).

‘‘อคิลาโน นาม โย สกฺโกติ ปิณฺฑาย จริตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ภิกฺขาย จริตุํ สมตฺโถ อคิลาโน นาม. คเหตฺวาติ สหตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา. ‘‘อามิส’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สหตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๕๖๗). คหเณติ เอตฺถ ‘‘อาหารตฺถายา’’ติ เสโส.

๑๘๕๓. ตตฺถาติ อเสกฺขสมฺมเต กุเล. ตเถว ปริทีปิตนฺติ ทุกฺกฏํ ปริทีปิตํ.

๑๘๕๔. นิมนฺติตสฺส วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน นิมนฺติตสฺส อวเสสํ คณฺหาติ. ยถาห ‘‘นิมนฺติตสฺส วา คิลานสฺส วา เสสกํ ภุฺชตี’’ติ. อฺเสํ ภิกฺขา ตตฺถ ทียตีติ โยชนา. ตตฺถาติ ตสฺมึ เสกฺขสมฺมเต กุเล.

๑๘๕๕. ยตฺถ กตฺถจีติ อาสนสาลาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ. นิจฺจภตฺตาทิเก วาปีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สลากภตฺตปกฺขิกอุโปสถิกปาฏิปทิกภตฺตานํ คหณํ.

๑๘๕๖. ทฺวาเรติ เอตฺถ ‘‘เปตฺวา’’ติ เสโส. สมฺปตฺเตติ เอตฺถ ‘‘ปจฺฉา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘สเจปิ อนาคเต ภิกฺขุมฺหิ ปมํเยว นีหริตฺวา ทฺวาเร เปตฺวา ปจฺฉา สมฺปตฺตสฺส เทนฺติ, วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๖๙).

๑๘๕๗. มหาปจฺจริยา(ปอาจิ. อฏฺ. ๕๖๙) คตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิกฺขุ’’นฺติอาทิ. สมุฏฺาเนฬกูปมนฺติ สมุฏฺานโต เอฬกโลมสิกฺขาปทสทิสนฺติ อตฺโถ.

ตติยปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.

๑๘๕๘-๙. ‘‘ปฺจนฺนํ ปฏิสํวิทิตํ, เอตํ อปฺปฏิสํวิทิตํ นามา’’ติ วจนโต จ อิธาปิ ‘‘สหธมฺมิกาปิต’’นฺติ วกฺขมานตฺตา จ อคหฏฺ-สทฺเทน ปริพฺพาชกานํ คหณํ. วุตฺตเมว นยํ โวหารนฺตเรน ทสฺเสตุมาห ‘‘อิตฺถิยา ปุริเสน วา’’ติ. ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ อารฺกานิ เสนาสนานี’’ติ (ปาจิ. ๕๗๓) วจนโต อารามนฺติ อารฺการามมาห. สเจ เอวมาโรจิตํ ปฏิสํวิทิตนฺติ หิ วุตฺตํ ปทภาชเนติ (ปาจิ. ๕๗๓) โยชนา. ปฏิสํวิทิตนฺติ ปเคว นิเวทิตํ.

๑๘๖๐. ปจฺฉา ยถาโรจิตํ ตเมว วา ตสฺส จ ปริวารํ กตฺวา อฺํ พหุํ วา อาหรียตุ, ตมฺปิ ปฏิสํเวทิตํ นามาติ โยชนา.

๑๘๖๑. ยาคุยา วิทิตํ กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ตํ เปตฺวา’’ติ อิทํ สามตฺถิยา ลพฺภติ. อิทมฺปิ วิทิตํ กุรุนฺทิยํ วฏฺฏตีติ วุตฺตนฺติ โยชนา.

๑๘๖๒. ปนาติ อปิ-สทฺทตฺโถ. อฺานิปิ กุลานีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘อสุกํ นาม กุลํ ปฏิสํเวทิตํ กตฺวา ขาทนียาทีนิ คเหตฺวา คจฺฉตีติ สุตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๗๓) อฏฺกถาเสโส. เตนาติ กตปฏิสํเวทิเตน. ตมฺปิ จ สพฺพํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๘๖๓. เอวํ ยํ อนาโรจิตนฺติ ‘‘อารามํ วา อุปจารํ วา ปวิสิตฺวา’’ติอาทินา นเยน ยํ ปมํ อนิเวทิตํ. ‘‘เอว’’นฺติ อิทํ ‘‘ยํ อารามมนาภต’’นฺติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. เอวนฺติ ‘‘ตสฺส ปริวารํ กตฺวา’’ติอาทินา ปกาเรน. ‘‘ตํ อสํวิทิตํ นามา’’ติ อิทํ ‘‘สหธมฺมิกาปิต’’นฺติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘ปฺจนฺนํ ปฏิสํวิทิตํ, เอตํ อปฺปฏิสํวิทิตํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๕๗๓). อฏฺกถายฺจ ‘‘ปฺจนฺนํ ปฏิสํวิทิตนฺติ ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ ยํ กิฺจิ เปเสตฺวา ‘ขาทนียํ วา โภชนียํ วา อาหริสฺสามา’ติ ปฏิสํวิทิตํ กตมฺปิ อปฺปฏิสํวิทิตเมวาติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๗๓) วุตฺตํ.

๑๘๖๔. การาเปตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปฏิสํวิทิต’’นฺติ เสโส.

๑๘๖๕. ภิกฺขุนา วา คนฺตฺวา อนฺตรามคฺเค คเหตพฺพนฺติ โยชนา. เอวมกตฺวาติ ‘‘พหิอารามํ เปเสตฺวา’’ติอาทินา วุตฺตวิธานํ อกตฺวา. อุปจารโตติ เอตฺถ ภุมฺมตฺเถ โต-ปจฺจโย เวทิตพฺโพ.

๑๘๖๘. ‘‘ปฏิสํวิทิเต’’ติอาทีนํ ปทานํ ‘‘อนาปตฺเต วา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปฏิสํวิทิเตติ เอตฺถ ‘‘คิลานสฺสา’’ติ เสโส. ปฏิสํวิทิเต อนาปตฺติ, คิลานสฺสาปิ อนาปตฺติ, อปฺปฏิสํวิทิเตปิ ตสฺส ปฏิสํวิทิตสฺส อวเสสเก วา คิลานสฺส อวเสสเก วา อนาปตฺติ เอวาติ สมฺพนฺโธ. ยถาห อนาปตฺติวาเร ‘‘ปฏิสํวิทิตสฺส วา คิลานสฺส วา เสสกํ ภุฺชตี’’ติ (ปาจิ. ๕๗๕). พหาราเม ปฏิคฺคเหตฺวา อนฺโตเยว ภุฺชโต อสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. คเหตฺวา วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท ‘‘ตสฺสา’’ติอาทีสุปิ โยเชตพฺโพ.

๑๘๖๙. ตตฺถาติ ตสฺมึ อารฺการาเม. ขาทโต อนาปตฺติ เอวาติ โยชนา, ตตฺถ ‘‘อฺเน กปฺปิยํ กตฺวา ทินฺนานี’’ติ เสโส.

จตุตฺถปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เสขิยกถาวณฺณนา

๑๘๗๐. เอวํ ปาฏิเทสนียวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ อุทฺทิฏฺานํ เสขิยานํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โย อนาทริเยเนวา’’ติอาทิ. โยติ เถโร วา นโว วา มชฺฌิโม วา. เอตฺถ อนาทริยํ นาม สฺจิจฺจ อาปตฺติอาปชฺชนํ, นิวาสนาทิวตฺถสฺส อุคฺคหเณ นิรุสฺสาหฺจ. ปจฺฉโตปิ วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘ปสฺสโตปิ วา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. ตสฺส จาติ เอตฺถ -สทฺโท วกฺขมานสมุจฺจโย.

๑๘๗๑. น เกวลํ วุตฺตนเยน นิวาเสนฺตสฺเสว โหติ, ขนฺธกาคตหตฺถิโสณฺฑาทิอากาเรนาปิ นิวาเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ อาห ‘‘หตฺถิโสณฺฑาที’’ติอาทิ. หตฺถิโสณฺฑาทินิวาสนํ ปรโต ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๘๐) อาวิ ภวิสฺสติ. ปริมณฺฑลนฺติ สมนฺตโต มณฺฑลํ กตฺวา. วตฺถพฺพนฺติ นิวตฺถพฺพํ นิวาเสตพฺพนฺติ อตฺโถ.

๑๘๗๒. ชาณุมณฺฑลโต เหฏฺาติ เอตฺถ ‘‘ชงฺฆฏฺิสีสโต ปฏฺายา’’ติ เสโส. อฏฺงฺคุลปฺปมาณกนฺติ วฑฺฒกิองฺคุเลน อฏฺงฺคุลมตฺตนฺติ อาจริยา. ‘‘โย ปน สุกฺขชงฺโฆ วา มหาปิณฺฑิกมํโส วา โหติ, ตสฺส สารุปฺปตฺถาย ชาณุมณฺฑลโต อฏฺงฺคุลาธิกมฺปิ โอตาเรตฺวา นิวาเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๗๖) อฏฺกถํ สงฺคณฺหิตุมาห ‘‘ตโต อูนํ น วฏฺฏตี’’ติ.

๑๘๗๓. อสฺจิจฺจ อปริมณฺฑลํ นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เอวมุปริปิ. อสฺจิจฺจาติ ‘‘อปริมณฺฑลํ นิวาเสสฺสามี’’ติ เอวํ อสฺจิจฺจ, อถ โข ‘‘ปริมณฺฑลํเยว นิวาเสสฺสามี’’ติ วิรชฺฌิตฺวา อปริมณฺฑลํ นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. อสติสฺสาปีติ อฺวิหิตสฺสาปิ ตถา นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. อชานนฺตสฺสาติ เกวลํ ปริมณฺฑลํ นิวาเสตุํ อชานนฺตสฺส อนาปตฺติ. อปิจ นิวาสนวตฺตํ อุคฺคเหตพฺพํ. อุคฺคหิตวตฺโตปิ สเจ ‘‘อารุฬฺห’’นฺติ วา ‘‘โอรุฬฺห’’นฺติ วา น ชานาติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติเยว. คิลานสฺสาติ ยสฺส ชงฺฆาย วา ปาเท วา วโณ โหติ, ตสฺส อุกฺขิปิตฺวา วา โอตาเรตฺวา วา นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. ปาโทติ เจตฺถ ปาทสมีปํ อธิปฺเปตํ. อาปทาสูติ วาฬา วา โจรา วา อนุพนฺธนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ.

ปริมณฺฑลกถาวณฺณนา.

๑๘๗๔. อุโภ โกเณ สมํ กตฺวาติ ปารุปนสฺส เอกํเส กตสฺส ปิฏฺิปสฺเส, อุทรปสฺเส จ โอลมฺพมาเน อุโภ กณฺเณ หตฺถิปิฏฺเ คณฺฑา วิย สมํ กตฺวา. ปริมณฺฑลํ กตฺวาติ เอตสฺเสว อตฺถปทํ. สาทรนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส. สาทรํ วา ปารุปิตพฺพนฺติ โยชนา, สาทรํ ปารุปนํ กตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. เอวํ อกโรนฺตสฺสาติ ปารุปนวตฺเต อาทรํ ชเนตฺวา เอวํ อปารุปนฺตสฺส.

๑๘๗๕. ‘‘ปริมณฺฑลํ นิวาเสสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา’’ติ (ปาจิ. ๕๗๖) วา ‘‘ปริมณฺฑลํ ปารุปิสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา’’ติ (ปาจิ. ๕๗๗) วา ‘‘อนฺตรฆเร’’ติ อวิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อวิเสเสน วุตฺต’’นฺติ. อิทํ สิกฺขาปททฺวยํ ยสฺมา อวิเสเสน วุตฺตํ, ตสฺมา ฆเร, วิหาเร วา กาตพฺพํ ปริมณฺฑลนฺติ โยชนา. ฆเรติ อนฺตรฆเร. วิหาเร วาติ พุทฺธุปฏฺานาทิกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริมณฺฑลํ กตฺตพฺพนฺติ ปริมณฺฑลเมว นิวาเสตพฺพํ ปารุปิตพฺพนฺติ อตฺโถ.

ทุติยํ.

๑๘๗๖. อุโภ โกเณ สมํ กตฺวาติ สมฺพนฺโธ. คีวเมว จ อนุวาเตน ฉาเทตฺวาติ โยชนา.

๑๘๗๗. ตถา อกตฺวาติ ยถาวุตฺตวิธานํ อกตฺวา. ชตฺตูนิปีติ อุโภ อํสกูฏานิปิ. อุรมฺปิ จาติ หทยมฺปิ. วิวริตฺวาติ อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา. ยถากามนฺติ อิจฺฉานุรูปํ. คจฺฉโตติ เอตฺถ ‘‘อนฺตรฆเร’’ติ เสโส. อนฺตรฆรํ นาม คาเม วา โหตุ วิหาเร วา, ปจิตฺวา ภุฺชิตฺวา คิหีนํ วสนฏฺานํ.

ตติยํ.

๑๘๗๘-๙. ‘‘มณิพนฺธโต’’ติ อิมินาปิ ‘‘เหฏฺา’’ติ โยเชตพฺพํ. วาสูปคสฺสาติ เอตฺถ ‘‘กายํ วิวริตฺวา นิสีทโต’’ติ เสโส. วาสูปโค นาม รตฺติวาสตฺถาย อุปคโต, เอเตน วาสตฺถาย อนฺตรฆรํ อุปคจฺฉนฺเตน สุปฺปฏิจฺฉนฺเนเนว อุปคนฺตพฺพนฺติ ทีปิตํ โหติ, เอเตเนว วาสูปคตสฺส สนฺติกํ อุปคตสฺส ยถากามํ คมเน น โทโสติ จ วุตฺตเมว โหติ. เตนาห คณฺิปเท ‘‘เอกทิวสมฺปิ วาสูปคตสฺส สนฺติกํ ยถาสุขํ คนฺตุํ วฏฺฏติ, โก ปน วาโท จตุปฺจาหํ วาสมธิฏฺาย วสิตภิกฺขูนํ สนฺติก’’นฺติ.

จตุตฺถํ.

๑๘๘๐. สุวินีเตนาติ หตฺถปาทานํ อกีฬาปเนเนว สุฏฺุ วินีเตน.

ปฺจมํ.

๑๘๘๑. คาถาพนฺธวเสน ‘‘สตีมตา’’ติ ทีโฆ กโต. อวิกาเรนาติ ตํตทวโลกาสหิเตน. ยุคํ มตฺตา ปมาณํ เอตสฺสาติ ยุคมตฺตํ, รถยุคํ จตุหตฺถปฺปมาณํ, ตตฺตกํ ปเทสํ. เปกฺขินาติ โอโลเกนฺเตน. ‘‘ภิกฺขุนา โอกฺขิตฺตจกฺขุนา’’ติ ปทจฺเฉโท.

๑๘๘๒. อนฺตรฆเร ยตฺถ กตฺถจิปิ เอกสฺมิมฺปิ าเน ตฺวาติ โยชนา. เอวํ วุตฺเตปิ ตถารูเป อนฺตราเย สติ คจฺฉโตปิ โอโลเกตุํ ลพฺภติ. เอกสฺมึ ปน าเน ตฺวาติ เอตฺถ คจฺฉนฺโตปิ ปริสฺสยาภาวํ โอโลเกตุํ ลพฺภติเยว. ‘‘ตถา คาเม ปูช’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ปิ-สทฺโท ปน-สทฺทตฺโถ, โอโลเกตุํ ปน วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๘๘๓. โอโลเกนฺโต ตหํ ตหนฺติ โย อนาทริยํ ปฏิจฺจ ตํ ตํ ทิสาภาคํ ปาสาทํ กูฏาคารํ วีถึ โอโลเกนฺโต.

สตฺตมํ.

๑๘๘๔. เอกโต วาปีติ เอกอํสกูฏโต วา. อุภโต วาปีติ อุภยํสกูฏโต วา. อินฺทขีลกโต อนฺโตติ คามทฺวารินฺทขีลโต อนฺโต, ฆเรติ วุตฺตํ โหติ.

นวมํ.

๑๘๘๕. ตถา นิสินฺนกาเลปีติ อินฺทขีลสฺส อนฺโต นิสินฺนกาเลปิ. กุณฺฑิกํ นีหรนฺเตน จ จีวรํ อนุกฺขิปิตฺวา ทาตพฺพา กุณฺฑิกาติ โยชนา. กุณฺฑิกนฺติ จ อุปลกฺขณมตฺตํ. ธมฺมกรณาทีสุปิ เอเสว นโย.

ทสมํ.

ปโม วคฺโค.

๑๘๘๖. คนฺตุฺเจว นิสีทิตุฺจ น วฏฺฏตีติ โยชนา. -สทฺโท กิริยาสมุจฺจโย. หสนียสฺมึ วตฺถุสฺมินฺติ หาสชนเก การเณ. สิตมตฺตนฺติ มนฺทหาสํ.

ปมทุติยานิ.

๑๘๘๗. อปฺปสทฺเทนาติ ‘‘กิตฺตาวตา อปฺปสทฺโท โหติ? ทฺวาทสหตฺเถ เคเห อาทิมฺหิ สงฺฆตฺเถโร, มชฺเฌ ทุติยตฺเถโร, อนฺเต ตติยตฺเถโรติ เอวํ นิสินฺเนสุยํ สงฺฆตฺเถโร ทุติยตฺเถเรน สทฺธึ มนฺเตติ, ทุติยตฺเถโร ตสฺส สทฺทฺเจว สุณาติ, กถฺจ ววตฺถเปติ. ตติยตฺเถโร ปน สทฺทเมว สุณาติ, กถํ น ววตฺถเปติ. เอตฺตาวตา อปฺปสทฺโท โหตี’’ติ (ปาจิ. ๕๘๘) วุตฺตอปฺปสทฺทยุตฺเตน. สเจ ปน ตติยตฺเถโร กถฺจ ววตฺถเปติ, มหาสทฺโท นาม โหตีติ.

ตติยํ.

๑๘๘๘. กายปฺปจาลกํ กตฺวาติ กายํ จาเลตฺวา จาเลตฺวา. อุปริปิ เอเสว นโย. หตฺถสฺส วุตฺตลกฺขณตฺตา ‘‘พาหู’’ติ มณิพนฺธโต ยาว อํสกูฏา คเหตพฺพา.

๑๘๘๙. อุชุํ ปคฺคเหตฺวาติ อุชุํ เปตฺวา. อาสิตพฺพนฺติ นิสีทิตพฺพํ. ‘‘สเมน อิริยาปเถน ตู’’ติ ปทจฺเฉโท.

๑๘๙๐. อิตฺถมฺภูเต กรณวจนํ. คมนปฏิสํยุตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ คมนสฺส อสมฺภโวติ อาห ‘‘นิสีทเนน ยุตฺเตสู’’ติ.

ปฺจมฉฏฺสตฺตมฏฺมนวมานิ.

ทุติโย วคฺโค.

๑๘๙๑. ขมฺภํ กตฺวาติ กฏิยา เอกปสฺเส วา ทฺวีสุ วา ปสฺเสสุ กปฺปรสนฺธิโต อาภุชิตฺวา หตฺถํ เปตฺวา. ยถาห – ‘‘ขมฺภกโต นาม กฏิยํ หตฺถํ เปตฺวา กตขมฺโภ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๙๖). อุกฺกุฏิกาย วา คจฺฉโตติ โยชนา. อุกฺกุฏิกา วุจฺจติ ปณฺหิโย อุกฺขิปิตฺวา อคฺคปาเทหิ วา อคฺคปาเท อุกฺขิปิตฺวา ปณฺหีหิ เอว วา ภูมึ ผุสนฺตสฺส คมนํ.

๑๘๙๒. ทุสฺสปลฺลตฺถิกายาติ อาโยคปลฺลตฺถิกาย. อนฺตรฆเร นิสีทนฺตสฺส ตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.

๑๘๙๓. ทุติเย จาติ ‘‘น ขมฺภกโต อนฺตรฆเร นิสีทิสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๕๙๗) สิกฺขาปเท จ. จตุตฺเถ จาติ ‘‘น โอคุณฺิโต อนฺตรฆเร นิสีทิสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๕๙๙) สิกฺขาปเท จ. ฉฏฺเติ ‘‘น ปลฺลตฺถิกาย อนฺตรฆเร’’อิจฺจาทิ (ปาจิ. ๖๐๑) สิกฺขาปเท จ. อิติ เอวํ สารุปฺปา สมณาจารานุจฺฉวิกา ฉพฺพีสติ สิกฺขาปทานิ ปกาสิตานิ.

ปมทุติยตติยจตุตฺถปฺจมฉฏฺานิ.

๑๘๙๔. วิฺุนา ภิกฺขุนา สกฺกจฺจํ สติยุตฺเตน, ปตฺตสฺินา จ หุตฺวา สมสูโปว ปิณฺฑปาโต คเหตพฺโพติ โยชนา. เอวํ เอตาย คาถาย สิกฺขาปทตฺตยํ สงฺคหิตํ. สกฺกจฺจนฺติ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. ‘‘สติยุตฺเตนา’’ติ อิทํ ‘‘สกฺกจฺจ’’นฺติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ‘‘สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๐๒) หิ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ปตฺเต สฺา ปตฺตสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ ปตฺตสฺี, อนฺวิหิเตน อตฺตโน ภาชเนเยว อุปนิพทฺธสฺินาติ อตฺโถ.

๑๘๙๕. ภตฺตจตุพฺภาโคติ ภตฺตสฺส จตุพฺภาคปฺปมาโณ. ตโต อธิกํ คณฺหโต ทุกฺกฏํ.

๑๘๙๖. ‘‘รสรเส’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘รเสรเส’’ติ คาถาพนฺธวเสน วุตฺตํ. ทฺเว สูเป เปตฺวา อวเสสานิ โอโลณิสากสูเปยฺยมจฺฉรสมํสรสาทีนิ รสรสาติ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ ‘‘โอโลณีติ ทธิกตํ โครส’’นฺติ เกจิ. ‘‘เอกา พฺยฺชนวิกตี’’ติ อปเร. ‘‘โย โกจิ สุทฺโธ กฺชิกตกฺกาทิรโส’’ติ อฺเ. สากสูเปยฺยคฺคหเณน ยา กาจิ สูเปยฺยสาเกหิ กตา พฺยฺชนวิกติ วุตฺตา. มํสรสาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อวเสสา สพฺพาปิ พฺยฺชนวิกติ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. าตกาทีนนฺติ เอตฺถ ‘‘สนฺตกํ คณฺหนฺตสฺสา’’ติ เสโส. อฺตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘กตํ คณฺหนฺตสฺสา’’ติ เสโส. ธเนนาติ เอตฺถ ‘‘อตฺตโน’’ติ จ ‘‘กีต’’นฺติ จ ‘‘คณฺหนฺตสฺสา’’ติ จ เสโส. าตกาทีนํ สนฺตกํ คณฺหนฺตสฺส, อฺตฺถาย กตํ คณฺหนฺตสฺส, อตฺตโน ธเนน กีตํ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.

สตฺตมฏฺมนวมานิ.

๑๘๙๗. อธิฏฺานูปคสฺส ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา อนฺโตเลขาปมาเณน ปูริโตว คเหตพฺโพติ โยชนา.

๑๘๙๘. อนาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตฺวา อาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถาติ อธิฏฺานูปเค ปตฺเต. ถูปีกตํ กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ทิยฺยมาน’’นฺติ เสโส. ยถาวุตฺตเลขาติกฺกโม ยถา โหติ, เอวํ ถูปีกตํ ทิยฺยมานํ คณฺหโต อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. อิมินา ปมํ ถูปีกตสฺส อธิฏฺานูปคปตฺตสฺส ปจฺฉา ปฏิคฺคหณฺจ ปมปฏิคฺคหิตปตฺเต ปจฺฉา โภชนสฺส ถูปีกตสฺส ปฏิคฺคหณฺจ นิวาริตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๘๙๙. กาลิกตฺตยเมว จ ถูปีกตํ วฏฺฏเตวาติ โยชนา. เสเสติ อนธิฏฺานูปเค ปตฺเต. สพฺพนฺติ จตุพฺพิธํ กาลิกํ ถูปีกตํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๙๐๐. เปเสตีติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ เสโส. ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ยทิ เปเสตีติ โยชนา. ‘‘วิหารํ เปเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๐๕) อฏฺกถาย อธิปฺปายํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ วจเนน ปฏิคฺคหณํ อวิชหิตฺวา ภิกฺขุนา เอว เปสิตํ คณฺหนฺตานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. อฺถา ‘‘ปูเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพนฺติ วิฺายติ.

๑๙๐๑. ปกฺขิปฺปมานนฺติ มุขวฏฺฏิโต อุจฺจํ กตฺวา มชฺเฌ ปกฺขิปิยมานํ. ผลาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน โอทนาทิมฺปิ สงฺคณฺหาติ. เหฏฺา โอโรหตีติ สมนฺตา โอกาสสมฺภวโต จาลิยมานํ มุขวฏฺฏิปฺปมาณโต เหฏฺา ภสฺสติ.

๑๙๐๒. ตกฺโกลกาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปูคผลาทีนํ สงฺคโห. เปตฺวาติ ภตฺตมตฺถเก นิกฺขิปิตฺวา. วฏํสกนฺติ อวฏํสกํ.

๑๙๐๓. ปูวสฺสาติ วิการสมฺพนฺเธ สามิวจนํ, ปูววฏํสกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปูวสฺส ยาวกาลิกตฺตา อาห ‘‘อิทํ ถูปีกตํ สิยา’’ติ.

๑๙๐๔. ปณฺณานํ วิสุํ ภาชนตฺตา อาห ‘‘วฏฺฏตี’’ติ.

๑๙๐๕. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. ตํ ตุ สพฺพนฺติ ‘‘ถูปีกตตฺตา น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ ตํ ปน สพฺพํ. คหิตํ สุคหิตนฺติ วิราเธตฺวา ปฏิคฺคหิตํ เจ, สุปฺปฏิคฺคหิตํ.

ทสมํ.

ตติโย วคฺโค.

๑๙๐๖. ‘‘อุปริ โอธิ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. อุปรีติ ภตฺตสฺส อุปริ. โอธินฺติ ปริจฺเฉทํ. ปฏิปาฏิยาติ อตฺตโน ทิสาย ปริยนฺตโต ปฏฺาย อนุกฺกเมน.

๑๙๐๗. อฺเสนฺติ เอตฺถ ‘‘เทนฺโต’’ติ เสโส. อตฺตโน ภตฺตํ อฺเสํ เทนฺโต อฺสฺส ภาชเน อากิรํ อากิรนฺโต ปน ปฏิปาฏึ วินาปิ ตหึ ตหึ โอมสติ เจ, นตฺถิ โทโสติ โยชนา. อุตฺตริภงฺคกํ ตถา อากิรนฺโต ตตฺถ ตตฺถ โอมสติ, นตฺถิ โทโสติ โยชนา. ภุฺชนตฺถาย คณฺหนฺโตปิ เจตฺถ วตฺตพฺโพ. อุตฺตริภงฺคํ นาม พฺยฺชนํ.

ตติยํ.

๑๙๐๘. มตฺถกํ โอมทฺทิตฺวา ปริภุฺชโต โทโสติ โยชนา. ‘‘ถูปกโตติ มตฺถกโต, เวมชฺฌโต’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๑๐) อฏฺกถาวจนโต มตฺถกนฺติ เอตฺถ ภตฺตมตฺถกมาห. โอมทฺทิตฺวาติ หตฺเถน ภตฺตํ อวมทฺทิตฺวา.

๑๙๐๙. เสสเก ปริตฺเตปิ จาติ อวสิฏฺเ อปฺปเกปิ จ. สํกฑฺฒิตฺวานาติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ิตํ สํหริตฺวา. เอกโต ปน มทฺทิตฺวา ภุฺชโต อนาปตฺตีติ โยชนา.

ปฺจมํ.

๑๙๑๐. ภิยฺโยกมฺยตาเหตูติ ปุน คณฺหิตุกามตาเหตุ. สูปํ วาติ มุคฺคาทิสูปํ วา. พฺยฺชนํ วาติ อุตฺตริภงฺคํ วา.

ฉฏฺํ.

๑๙๑๑. วิฺตฺติยนฺติ สูโปทนวิฺตฺติยํ. ‘‘าตกานํ วา ปวาริตานํ วา อฺสฺส อตฺถาย วา อตฺตโน ธเนน วา’’ติ อิทํ อนาปตฺติยํ อธิกํ. คิลาโนปิ หุตฺวา ปเรสํ ปตฺตํ อุชฺฌานสฺาย โอโลเกนฺตสฺส อาปตฺติ โหตีติ อาห ‘‘อุชฺฌาเน คิลาโนปิ น มุจฺจตี’’ติ. อุชฺฌาเนติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ.

๑๙๑๒. ทสฺสามีติ อิมสฺส ภตฺตํ โอโลเกตฺวา ‘‘ยํ ตตฺถ นตฺถิ, ตํ ทสฺสามี’’ติ วา ‘‘ทาเปสฺสามี’’ติ วา. อวมฺิตฺวา อุชฺฌายนจิตฺตํ อุชฺฌานํ, อุชฺฌาเน สฺา อุชฺฌานสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ วิคฺคโห. นอุชฺฌานสฺิโน จ อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา.

สตฺตมฏฺมานิ.

๑๙๑๓. ‘‘เตสํ มชฺฌปฺปมาเณนา’’ติ อิมินา อสารุปฺปวเสน ขุทฺทกปฏิกฺเขโป กโตติ เวทิตพฺโพ. ‘‘นาติมหนฺต’’นฺติ จ อติมหนฺตสฺเสว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ขุทฺทเก อาปตฺติ น ทิสฺสตีติ. กพโฬติ อาโลโป.

๑๙๑๔. มูลขาทนียาทิเก สพฺพตฺถ ขชฺชเก ปนาติ โยชนา. ผลาผเลติ ขุทฺทเก, มหนฺเต จ ผเล.

นวมํ.

๑๙๑๕. ทสเม นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพํ.

ทสมํ.

จตุตฺโถ วคฺโค.

๑๙๑๖. ‘‘อนาหเฏ’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ ‘‘มุขทฺวารํ อปฺปตฺเต’’ติ. ยถาห ‘‘อนาหเฏติ อนาหริเต, มุขทฺวารํ อสมฺปาปิเตติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๑๗). ‘‘มุขทฺวารํ วิวรนฺตสฺสา’’ติ เอตฺตเก วุตฺเต มุขทฺวาร-สทฺทสฺส สมฺพนฺธิสทฺทตฺตา กสฺสาติ อเปกฺขาย ‘‘มุขทฺวารํ วิวริสฺสามี’’ติ อตฺตโนปเทกวจเนน พฺยฺชิตเมวตฺถํ ปกาเสตุํ อตฺตโน-คหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. -สทฺโท เอวการตฺโถ, อปฺปตฺเต วาติ โยเชตพฺโพ, อสมฺปตฺเตเยวาติ อตฺโถ.

ปมํ.

๑๙๑๗. สกลํ หตฺถนฺติ เอตฺถ หตฺถ-สทฺโท ตเทกเทเสสุ องฺคุลีสุ ทฏฺพฺโพ. ‘‘หตฺถมุทฺทา’’ติอาทีสุ วิย สมุทาเย ปวตฺตโวหารสฺส อวยเวปิ ปวตฺตนโต เอกงฺคุลิมฺปิ มุเข ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ.

๑๙๑๘. อสฺสาติ ภิกฺขุโน. พฺยาหรนฺตสฺสาติ กเถนฺตสฺส.

ทุติยตติยานิ.

๑๙๒๐. ปิณฺฑุกฺเขปกนฺติ ปิณฺฑํ อุกฺขิปิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา. อิธาปิ ขชฺชกผลาผเลสุ อนาปตฺติ. กพฬจฺเฉทกมฺปิ วาติ กพฬํ ฉินฺทิตฺวา. อิธ ขชฺชกผลาผเลหิ สทฺธึ อุตฺตริภงฺเคปิ อนาปตฺติ. คณฺเฑ กตฺวาติ เอตฺถ ผลาผลมตฺเตเยว อนาปตฺติ.

จตุตฺถปฺจมฉฏฺานิ.

๑๙๒๑-๒. หตฺถํ นิทฺธุนิตฺวานาติ หตฺถํ นิทฺธุนิตฺวา ภตฺตํ ภุฺชโตติ จ สมฺพนฺโธ. สิตฺถาวการกนฺติ สิตฺถานิ อวกิริตฺวา อวกิริตฺวา. ชิวฺหานิจฺฉารกํ วาปีติ ชิวฺหํ นิจฺฉาเรตฺวา นิจฺฉาเรตฺวา. จปุ จปูติ วาติ ‘‘จปุ จปู’’ติ เอวํ สทฺทํ กตฺวา. สตฺตเมติ ‘‘น หตฺถนิทฺธุนก’’นฺติ สิกฺขาปเท. อฏฺเมติ ‘‘น สิตฺถาวการก’’นฺติ สิกฺขาปเท. กจวรุชฺฌเนติ กจวราปนยเน.

สตฺตมฏฺมนวมทสมานิ.

ปฺจโม วคฺโค.

๑๙๒๓. ‘‘สุรุ สุรู’’ติ เอวํ สทฺทํ กตฺวา น โภตฺตพฺพนฺติ โยชนา. หตฺถนิลฺเลหกํ วาปีติ หตฺถํ นิลฺเลหิตฺวา นิลฺเลหิตฺวา.

๑๙๒๔. ผาณิตํ, ฆนยาคุํ วา องฺคุลีหิ คเหตฺวา องฺคุลิโย มุเข ปเวเสตฺวาปิ ตํ โภตฺตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๙๒๕. เอกาย องฺคุลิกายปิ ปตฺโต น เลหิตพฺโพว. ชิวฺหาย เอกโอฏฺโปิ น นิลฺเลหิตพฺพโกติ โยชนา. พหิ โอฏฺฺจ ชิวฺหาย น เลหิตพฺพํ. โอฏฺเ ลคฺคํ สิตฺถาทึ ยํ กิฺจิ อุโภหิ โอฏฺมํเสหิเยว คเหตฺวา อนฺโต กาตุํ วฏฺฏติ.

ปมทุติยตติยจตุตฺถานิ.

๑๙๒๖-๘. จ คเหตพฺพํ, ปฏิกฺกูลวเสน ปฏิกฺขิตฺตนฺติ โยชนา. หิ-อิติ ‘‘ยสฺมา’’ติ เอตสฺส อตฺเถ, เตเนว วกฺขติ ‘‘ตสฺมา’’ติ. ‘‘ปานียถาลก’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ สงฺขาทีนมฺปิ ตถา นคเหตพฺพตฺตา. สราวํ วาติ ตฏฺฏกํ วา.

อนามิเสน หตฺเถนาติ อามิสรหิเตน หตฺเถกเทเสน. ยถาห ‘‘สเจ ปน หตฺถสฺส

เอกเทโส อามิสมกฺขิโต น โหติ, เตน ปเทเสน คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๓๑). อามิสมกฺขิเตเนว หตฺเถน ‘‘โธวิสฺสามี’’ติ วา ‘‘โธวาเปสฺสามี’’ติ วา คณฺหนฺตสฺส ปน อนาปตฺติ.

ปฺจมํ.

๑๙๒๙. อุทฺธริตฺวาติ สสิตฺถกา ปตฺตโธวนา สิตฺถกานิ อุทฺธริตฺวา ตํ ปตฺตโธวโนทกํ ฆรา พหิ อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. ภินฺทิตฺวาติ สสิตฺถเก ปตฺตโธวเน สิตฺถกานิ มทฺทิตฺวา อุทเกน สมฺภินฺทิตฺวา อุทกคติกาเนว กตฺวา ตํ อุทกํ ฆรา พหิ อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. คเหตฺวาติ สสิตฺถกํ ปตฺตโธวโนทกํ คเหตฺวา ปฏิคฺคเห ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. สสิตฺถกํ ปตฺตโธวโนทกํ ฆรา พหิ นีหริตฺวา อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อชฺฌาหารโยชนา เวทิตพฺพา. เอตฺถ ปฏิคฺคโห นาม เขฬมลฺลาทิโก อุจฺฉิฏฺหตฺถโธวนภาชนวิเสโส.

ฉฏฺํ.

๑๙๓๐. ฉตฺตํ ยํ กิฺจีติ ‘‘ฉตฺตํ นาม ตีณิ ฉตฺตานิ เสตจฺฉตฺตํ กิลฺชจฺฉตฺตํ ปณฺณจฺฉตฺตํ มณฺฑลพทฺธํ สลากพทฺธ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๓๔) วุตฺเตสุ ตีสุ ฉตฺเตสุ อฺตรํ. เอตฺถ จ เสตจฺฉตฺตนฺติ วตฺถปลิคุณฺิตํ ปณฺฑรจฺฉตฺตํ. กิลฺชจฺฉตฺตนฺติ วิลีวจฺฉตฺตํ. ปณฺณจฺฉตฺตนฺติ ตาลปณฺณาทีหิ เยหิ เกหิจิ กตํ. ‘‘มณฺฑลพทฺธํ สลากพทฺธ’’นฺติ อิทํ ปน ติณฺณมฺปิ ฉตฺตานํ ปฺชรทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตานิ หิ มณฺฑลพทฺธานิ เจว โหนฺติ สลากพทฺธานิ จ. ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ อนวเสสปริคฺคหวจเนน ‘‘ยมฺปิ จ ตตฺถชาตทณฺเฑน กตํ เอกปณฺณจฺฉตฺตํ โหติ, ตมฺปิ ฉตฺตเมวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๓๔) อฏฺกถาย วุตฺตํ ฉตฺตวิเสสํ คณฺหาติ. หตฺเถนาติ เอตฺถ ‘‘อมุฺจิตฺวา’’ติ เสโส. สรีราวยเวนาติ เอตฺถ ‘‘คเหตฺวา’’ติ เสโส. วา-สทฺโท อปิ-สทฺทตฺโถ. อํสกูฏาทิสรีราวยเวน คเหตฺวาปิ หตฺเถน อมุฺจิตฺวา ธาเรนฺตสฺสาติ อตฺโถ.

สเจ ปนสฺส อฺโ ฉตฺตํ ธาเรติ, ฉตฺตปาทุกาย วา ิตํ โหติ, ปสฺเส วา ิตํ โหติ,

หตฺถโต อปคตมตฺเต ฉตฺตปาณิ นาม น โหติ, ตสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏติ. ‘‘น ฉตฺตปาณิสฺส อคิลานสฺสา’’ติ วจนโต, อิธ ‘‘สพฺพตฺถ อคิลานสฺสา’’ติ วกฺขมานตฺตา จ เอตฺถ ‘‘อคิลานสฺสา’’ติ ลพฺภติ. ธมฺมปริจฺเฉโท เจตฺถ ปทโสธมฺเม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เอวมุปริปิ.

สตฺตมํ.

๑๙๓๑. ทณฺฑปาณิมฺหีติ เอตฺถ ทณฺโฑ ปาณิมฺหิ อสฺสาติ วิคฺคโห. กิตฺตกปฺปมาโณ ทณฺโฑติ อาห ‘‘จตุหตฺถปฺปมาโณ’’ติอาทิ. มชฺฌิมหตฺถโตติ ปมาณมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส หตฺถโต, โย ‘‘วฑฺฒกิหตฺโถ’’ติ วุจฺจติ.

อฏฺมํ.

๑๙๓๒. สตฺถปาณิสฺสาติ เอตฺถาปิ วิคฺคโห วุตฺตนโยว. วกฺขมานํ สกลํ ธนุวิกตึ, สรวิกติฺจ เปตฺวา อวเสสํ ขคฺคาทิ สตฺถํ นาม. ขคฺคํ สนฺนหิตฺวา ิโตปิ สตฺถปาณิ นุ โขติ อาสงฺกาย นิวตฺตนตฺถมาห ‘‘สตฺถปาณี’’ติอาทิ. ‘‘น โหติ อสิ’’นฺติ ปทจฺเฉโท.

นวมํ.

๑๙๓๓-๕. สเรน สทฺธึ ธนุํ วา สุทฺธธนุํ วา สุทฺธสรํ วา สชิยํ ธนุทณฺฑํ วา นิชิยํ ธนุทณฺฑํ วา คเหตฺวา ิตสฺสาปิ วา นิสินฺนสฺสาปิ วา นิปนฺนสฺสาปิ วา สเจ โย ตถา ปทโสธมฺเม วุตฺตลกฺขณํ สทฺธมฺมํ เทเสติ, ตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. สเจ ปนสฺส ธนุ ขนฺเธ ปฏิมุกฺกํ โหติ, ยาว น คณฺหาติ, ตาว วฏฺฏติ. ชิยาย สห วตฺตตีติ สชิยํ.

ทสมํ.

ฉฏฺโ วคฺโค.

๑๙๓๖. ปาทุการุฬฺหกสฺสาติ ปาทุกํ อารุฬฺโห ปาทุการุฬฺโห, โสเยว ปาทุการุฬฺหโก, ตสฺส. กถํ อารุฬฺหสฺสาติ อาห ‘‘อกฺกมิตฺวา’’ติอาทิ. อกฺกมิตฺวา ิตสฺสาติ ฉตฺตทณฺฑเก องฺคุลนฺตรํ อปฺปเวเสตฺวา เกวลํ ปาทุกํ อกฺกมิตฺวา ิตสฺส. ปฏิมุกฺกสฺส วาติ ปฏิมุฺจิตฺวา ิตสฺส. เอตํ ทฺวยมฺปิ ‘‘ปาทุการุฬฺหกสฺสา’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ยถาห ‘‘น ปาทุการุฬฺหสฺส อคิลานสฺส ธมฺโม เทเสตพฺโพ. โย อนาทริยํ ปฏิจฺจ อกฺกนฺตสฺส วา ปฏิมุกฺกสฺส วา โอมุกฺกสฺส วา อคิลานสฺส ธมฺมํ เทเสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๓๘).

ปมํ.

๑๙๓๗-๔๐. อุปาหนคตสฺสาปีติ อกฺกนฺตาทิอากาเรน อุปาหนารุฬฺหสฺส จ. ยถาห ‘‘อกฺกนฺตสฺส วา ปฏิมุกฺกสฺส วา’’ติ. สพฺพตฺถาติ ฉตฺตปาณิอาทีสุ สพฺพสิกฺขาปเทสุ. อคิลานสฺสาติ อิทํ โยเชตพฺพนฺติ เสโส. ยาเน วา คตสฺส อคิลานสฺส ธมฺมํ เทเสติ, ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ตตฺถ ยาเน วา คตสฺสาติ สเจ ทฺวีหิ ชเนหิ หตฺถสงฺฆาเตน คหิโต, สาฏเก วา เปตฺวา วํเสน วยฺหติ, อยุตฺเต วา วยฺหาทิเก ยาเน, วิสงฺขริตฺวา วา ปิเต จกฺกมตฺเตปิ นิสินฺโน โหติ, ยานคโตตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.

สยเนปิ วา อนฺตมโส กฏสารเก วา ฉมาย วา นิปนฺนสฺสาปิ อคิลานสฺสาติ โยชนา. ยถาห ‘‘สยนคตสฺสาติ อนฺตมโส กฏสารเกปิ ปกติภูมิยมฺปิ นิปนฺนสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๔๑). อุจฺเจ ปีเ วา อุจฺเจ มฺเจปิ วา นิสินฺเนน, ิเตน วา นิปนฺนสฺส เทเสตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘ตฺวา’’ติ อิมินา ‘‘นิสีทิตฺวา’’ติ อิทฺจ สงฺคหิตเมว. สยเนสุ คตสฺส จ เทเสนฺเตน สยเนสุ คเตนาปิ สมาเน วาปิ อุจฺเจ วา นิปนฺเนเนว วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๙๔๑. ‘‘ตเถว จา’’ติ อิมินา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ อิทํ คหิตํ.

ทุติยตติยจตุตฺถานิ.

๑๙๔๒. ‘‘ปลฺลตฺถิกาย นิสินฺนสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ยการสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘ปลฺลตฺถิกา นิสินฺนสฺสา’’ติ วุตฺตํ, อาโยคปลฺลตฺถิกาย วา หตฺถปลฺลตฺถิกาย วา ทุสฺสปลฺลตฺถิกาย วา ยาย กายจิ ปลฺลตฺถิกาย นิสินฺนสฺสาติ อตฺโถ. เวิตสีสสฺสาติ ทุสฺสเวเนน วา โมลิอาทีหิ วา ยถา เกสนฺโต น ทิสฺสติ, เอวํ เวิตสีสสฺส.

๑๙๔๓. ยทิ เกสนฺตํ วิวราเปตฺวา เทเสติ, วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘อยเมว วินิจฺฉโย’’ติ อิมินา ‘‘สีสํ วิวราเปตฺวา เทเสติ, วฏฺฏตี’’ติ อนาปตฺติวาโรปิ วุตฺโต โหติ.

ปฺจมฉฏฺสตฺตมานิ.

๑๙๔๔-๕. อฏฺเม ‘‘อาสเน นิสินฺนสฺสาติ อนฺตมโส วตฺถมฺปิ ติณานิปิ สนฺถริตฺวา นิสินฺนสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๔๕) อิทฺจ นวเม ‘‘อุจฺเจ อาสเนติ อนฺตมโส ภูมิปฺปเทเสปิ อุนฺนเต าเน นิสินฺนสฺส เทเสตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๔๗) อิทฺจ ทสเม ‘‘สเจปี’’ติอาทินา วกฺขมานวินิจฺฉยฺจ เปตฺวา วตฺตพฺพวิเสสาภาวา อาห ‘‘อฏฺเม นวเม วาปิ, ทสเม นตฺถิ กิฺจิปี’’ติ. เอตฺถ ‘‘วตฺตพฺพ’’นฺติ เสโส. เถรุปฏฺานํ คนฺตฺวาน ิตํ ทหรํ อาสเน นิสินฺโน เถโร เจ ปฺหํ ปุจฺฉตีติ อชฺฌาหารโยชนา. กเถตพฺพมุปายํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตสฺส ปสฺเส ปนฺสฺส, กเถตพฺพํ วิชานตา’’ติ. เอตฺถ ‘‘ิตสฺสา’’ติ เสโส. ตสฺส สมีปวตฺติโน กสฺสจิ อภาเว สชฺฌายํ อธิฏฺหิตฺวาปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

อฏฺมนวมทสมานิ.

สตฺตโม วคฺโค.

๑๙๔๖. คจฺฉโต ปุรโตติ เอตฺถ ‘‘ปจฺฉโต คจฺฉนฺเตนา’’ติ เสโส. ปจฺฉโต คจฺฉนฺเตน ปุรโต คจฺฉโต ปฺหํ น วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. สเจ ปุรโต คจฺฉนฺโต ปฺหํ ปุจฺฉติ, กึ กาตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปจฺฉิมสฺสา’’ติอาทิ.

๑๙๔๗. อุคฺคหิตํ ธมฺมํ ปุรโต คจฺฉนฺเตน สทฺธึ ปจฺฉโต คจฺฉนฺโต สชฺฌายติ, วฏฺฏตีติ โยชนา. สมเมว คจฺฉโต ยุคคฺคาหํ กเถตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ยุคคฺคาหนฺติ อฺมฺํ. อฺมฺ-สทฺทปริยาโย หิ ยุคคฺคาห-สทฺโท.

ปมํ.

๑๙๔๘. สกฏมคฺเค เอเกกสฺส จกฺกสฺส ปเถน คจฺฉนฺโต เอเกกสฺส จกฺกสฺส ปเถน สมํ คจฺฉโต ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏติ. อุปฺปเถนาปิ คจฺฉนฺโต อุปฺปเถน สมํ คจฺฉนฺตสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏตีติ อชฺฌาหารโยชนา. อุปฺปเถนาติ อมคฺเคน. เอวํ อนาปตฺติวิสเย ทสฺสิเต ตพฺพิปริยายโต อาปตฺติวิสโย ทสฺสิโตเยวาติ เวทิตพฺโพ.

ทุติยํ.

๑๙๔๙. ตติเย นตฺถิ วตฺตพฺพนฺติ ‘‘น ิโต อคิลาโน อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กริสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๖๕๑) เอตสฺส วินิจฺฉโย ยถารุตวเสน สุวิฺเยฺโยติ กตฺวา วุตฺตํ. สเจ ปฏิจฺฉนฺนํ านํ คจฺฉนฺตสฺส สหสา อุจฺจาโร วา ปสฺสาโว วา นิกฺขมติ, อสฺจิจฺจ กโต นาม, อนาปตฺติ. อยเมตฺถ วิเสโส ทฏฺพฺโพ. สิงฺฆาณิกาย เขเฬเนว สงฺคหิตตฺเตปิ พาตฺตึสโกฏฺาเสสุ วิสุํเยว ทสฺสิโต เอโก โกฏฺาโสติ สิกฺขาปเทสุ อวุตฺตมฺปิ สงฺคเหตฺวา อาห ‘‘อุจฺจาราทิจตุกฺก’’นฺติ.

๑๙๕๐. เอตฺถ หริตํ นาม อิทนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ชีวรุกฺขสฺสา’’ติอาทิ. รุกฺขสฺสาติ อุปลกฺขณํ ชีวมานกติณลตาทีนมฺปิ หริเตเยว สงฺคหิตตฺตา. ‘‘ทิสฺสมานํ คจฺฉตี’’ติ วจเนเนว อทิสฺสมานคตํ อหริตนฺติ พฺยติเรกโต วิฺายติ. สาขา วา ภูมิลคฺคา ทิสฺสมานา คจฺฉติ, ตํ สพฺพํ หริตเมวาติ โยชนา.

๑๙๕๑. สหสา วจฺจํ นิกฺขมเตวาติ สมฺพนฺโธ. อสฺส ภิกฺขุโน. วจฺจนฺติ อุปลกฺขณํ ปสฺสาวาทีนมฺปิ ทสฺสิตตฺตา. วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘คิลานฏฺาเน ิตตฺตา’’ติ เสโส.

๑๙๕๒. ปลาลณฺฑุปเก วาปีติ ปลาลจุมฺพฏเกปิ. เอตฺถ ‘‘อปฺปหริตํ อลภนฺเตนา’’ติ เสโส. กิสฺมิฺจีติ สุกฺขติณาทิมฺหิ กิสฺมิฺจิ. ตํ วจฺจํ ปจฺฉา หริตํ โอตฺถรติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๙๕๓. เอตีติ ปวิสติ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ‘‘เขเฬน เอว จา’’ติ ปทจฺเฉโท.

ตติยจตุตฺถานิ.

๑๙๕๔. วจฺจกุฏิสมุทฺทาทิอุทเกสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สพฺพํ อปริโภคชลํ สงฺคณฺหาติ. เตเนว ‘‘เตสํ อปริโภคตฺตา’’ติ อปริโภคตฺตเมว การณมาห.

๑๙๕๕. อุทโกเฆติ เอตฺถ ‘‘ชาเต’’ติ เสโส. อชลนฺติ อชลฏฺานํ. ชเลติ ปริโภคารหชเล. อิธาปิ ถลกโต อุทกํ โอตฺถรติ, อนาปตฺติ.

ปฺจมํ.

อฏฺโม วคฺโค.

๑๙๕๖-๗. ปกิณฺณกวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สมุฏฺานาทโย’’ติอาทิ. เยฺยาติ วกฺขมานนเยน เวทิตพฺพา. เอตฺถาติ เอเตสุ เสขิเยสุ. อุชฺชคฺฆิกา อาทิ เยสนฺติ วิคฺคโห, ตคฺคุณสํวิฺาโณยํ พาหิรตฺถสมาโส, อุชฺชคฺฆิกาอปฺปสทฺทปฏิสํยุตฺตานิ จตฺตาริ สิกฺขาปทานีติ อตฺโถ. ฉมา จ นีจาสนฺจ านฺจ ปจฺฉา จ อุปฺปโถ จ ฉมานีจาสนฏฺานปจฺฉาอุปฺปถา, เต สทฺทา เอเตสํ สิกฺขาปทานํ อตฺถีติ ตปฺปฏิสํยุตฺตานิ สิกฺขาปทานิ ฉมา…เป… อุปฺปถวา, ฉมาทิปทวนฺตานิ ปฺจ สิกฺขาปทานีติ อตฺโถ. เอตฺถ าน-สทฺเทน า-ธาตุสฺเสว รูปตฺตา สิกฺขาปทาคโต ิต-สทฺโท คหิโต. ‘‘ทสสู’’ติ วตฺตพฺเพ วณฺณโลเปน, วิภตฺติวิปลฺลาเสน วา ‘‘ทสา’’ติ วุตฺตํ. สมนุภาสเน สมุฏฺานาทีหิ เอเตสุ ทสสุ สิกฺขาปเทสุ สมุฏฺานาทโย ตุลฺยา วุตฺตาติ โยชนา.

กึ วุตฺตํ โหติ? อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ สมนุภาสนสมุฏฺานานิ, เอเกกเมตฺถ กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๑๙๕๘-๙. ‘‘ฉตฺต’’นฺติอาทีนิ สิกฺขาปทานํ อุปลกฺขณปทานิ. เอตานิ เอกาทส สิกฺขาปทานิ สมุฏฺานาทินา ปน ธมฺมเทสเนน ตุลฺยาว สทิสา เอวาติ โยชนา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิมานิ เอกาทส สิกฺขาปทานิ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานานิ, กิริยากิริยานิ, สฺาวิโมกฺขานิ, สจิตฺตกานิ, โลกวชฺชานิ, วจีกมฺมานิ, อกุสลจิตฺตานิ, ทุกฺขเวทนานีติ.

สูโปทเนน วิฺตฺตีติ สูโปทน-สทฺเทน ลกฺขิตํ วิฺตฺติสิกฺขาปทํ. วิฺตฺติสิกฺขาปทานํ พหุตฺตา อิทเมว วิเสสิตํ. เถยฺยสตฺถสมํ มตนฺติ สมุฏฺานาทีหิ เถยฺยสตฺถสิกฺขาปเทน สมานํ มตนฺติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปทํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

๑๙๖๐. อวเสสา ติปฺาสาติ อวเสสานิ เตปฺาสสิกฺขาปทานิ. สมานา ปเมน ตูติ ปเมน ปาราชิเกน สมุฏฺานาทิโต สมานานีติ อตฺโถ, ปมปาราชิกสทิสสมุฏฺานานีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อนาปตฺติ อาปทาสู’’ติ ปทจฺเฉโท. ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา, ปารุปิตฺวา จรนฺตานํ โจรุปทฺทวาทิ อาปทา นาม. อปิ-สทฺเทน นทิสนฺตรณาทึ สงฺคณฺหาติ. เสขิเยสุ สพฺเพสูติ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ.

๑๙๖๑. ‘‘น อุชฺฌานสฺี ปเรสํ ปตฺตํ โอโลเกสฺสามี’’ติอาทีนํ (ปาจิ. ๖๑๔) อิมสฺส อนาปตฺติวารสฺส อสมฺภวโต น ปนาคโตติ ปาฬิยํ น วุตฺโต. ตสฺสาปิ ยถาวตฺถุกาว อาปตฺติโย ทฏฺพฺพา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา

วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

เสขิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๙๖๒. โย อิมํ วินิจฺฉยํ วิทิตฺวา ิโต, โส หิ ยสฺมา วินเย วิสารโท โหติ, วินีตมานโส จ โหติ, ปเรหิ ทุปฺปธํสิโย จ โหติ, ตโต ตสฺมา การณา สมาหิโต สตตํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ สิกฺเขยฺยาติ โยชนา.

ตตฺถ อิมํ วินิจฺฉยํ วิทิตฺวาติ สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺตินิทานํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ อตฺถโต, คนฺถโต, วินิจฺฉยโต จ สกฺกจฺจํ ตฺวา. วิสารโทติ สารชฺชนํ สารโท, วิคโต สารโท อสฺสาติ วิสารโท, วินยปริยตฺติยา, อาปตฺตาทิวิภาเค จ นิพฺภโย นิราสงฺโกติ วุตฺตํ โหติ. น เกวลํ อิมสฺส ชานเน เอโสว อานิสํโส, อถ โข วินีตมานโส จ โหติ, สํยตจิตฺโต โหตีติ อตฺโถ. โสติ อิมํ วินิจฺฉยํ สกฺกจฺจํ วิทิตฺวา ิโต ภิกฺขุ. ปเรหีติ อิมํ อชานนฺเตหิ อฺเหิ. ทุปฺปธํสิโย จ โหตีติ อนภิภวนีโย จ โหติ.

ตโตติ ตสฺมา วินเย วิสารทตาทิสพฺพคุณสมฺปนฺนเหตุตฺตา. หีติ ยสฺมาติ อตฺโถ. สิกฺเขติ สชฺฌายนสวนาทิวเสน สิกฺเขยฺย, อุคฺคณฺเหยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘สตต’’นฺติ อิมินา สพฺพตฺถกกมฺมฏฺาเน วิย เอตฺถาปิ สตตาภิโยโค กาตพฺโพติ ทสฺเสติ. วิกฺขิตฺตสฺส ยถาภูตปฏิเวธาภาวโต ตปฺปฏิปกฺขาย เอกคฺคตาย นิโยเชนฺโต อาห ‘‘สมาหิโต’’ติ, สมฺมา วินยวินิจฺฉเย อาหิโต ปติฏฺิโต เอกคฺคจิตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘อวิกฺขิตฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม วิกฺขิตฺตสฺสา’’ติ.

๑๙๖๓. เอวํ อิมาย คาถาย วุตฺตเมวตฺถํ ปการนฺตเรนาปิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ. เตติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘เย’’ติ ลพฺภติ. เย เถรา วา นวา วา มชฺฌิมา วา. ปรมนฺติ อมตมหานิพฺพานปฺปตฺติยา มูลการณสฺส สีลสฺส ปกาสนโต อุตฺตมํ. อสํกรนฺติ นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ. สํกรนฺติ วุตฺตปฺปการคุโณเปตตฺตา กายจิตฺตสุขการณํ สมฺมุขํ กโรตีติ สํกรํ. สวนามตนฺติ สทฺทรสาทิโยเคน กณฺณรสายนํ. อมตนฺติ ตโตเยว อมตํ สุมธุรํ. อมตมหานิพฺพานาวหตฺตา วา ผลูปจาเรน อมตํ. อิมํ วินยวินิจฺฉยํ. อเวจฺจาติ สกฺกจฺจํ วิทิตฺวา. อธิเกติ อธิสีลาทิสิกฺขตฺตยปฺปกาสเนน อุกฺกฏฺเ. หิเตติ โลกิยโลกุตฺตรสุขเหตุตฺเตน หิเต. หิโนติ อตฺตโน ผลนฺติ ‘‘หิต’’นฺติ สุขเหตุ วุจฺจติ. กลิสาสเนติ โลภาทิกิเลสวิทฺธํสเน. สาสเนติ วินยปริยตฺติสงฺขาตสาสเนกเทเส. ปฏุตฺตนฺติ พฺยตฺตภาวํ. น ยนฺติ น คจฺฉนฺติ. เก เตติ กตเม เต. ‘‘น เกจิ สนฺติ จา’’ติ นิสฺสนฺเทเห อิมิสฺสา คาถาย อตฺโถ ลิขิโต.

เอวํ เอตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา – ปรมํ อุตฺตมํ อสํกรํ นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ สํกรํ สกลโลกิยโลกุตฺตรสุขาภินิปฺผาทกํ สวนามตํ โสตรสายนํ อิมํ วินิจฺฉยปฺปกรณํ อเวจฺจ สกฺกจฺจํ วิทิตฺวา อธิเก อธิสีลาทิสิกฺขตฺตยปฺปกาสเนน อุกฺกฏฺเ หิเต โลกิยโลกุตฺตรสุขเหตุภูเต กลิสาสเน สกลสํกิเลสวิทฺธํสเก สาสเน วินยปิฏกสงฺขาเต ปริยตฺติสาสเน เย ปฏุตฺตํ น ยนฺติ, เต เก นามาติ โยชนา, เย อิมํ ปกรณํ อเวจฺจ วิทิตฺวา ิตา, เต เอกํสโต วินยปิฏเก ปฏุตฺตํ ปาปุณนฺติ เยวาติ อธิปฺปาโย.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา

วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ภิกฺขุวิภงฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุนิวิภงฺโค

๑๙๖๔. เอวํ ภิกฺขุวิภงฺคปาฬิยา, อฏฺกถาย จ อาคตํ วินิจฺฉยสารํ นาติสงฺเขปวิตฺถารนเยน ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตราย ภิกฺขุนิวิภงฺคปาฬิยา, ตทฏฺกถาย จ อาคตวินิจฺฉยสารํ ทสฺเสตุมารภนฺโต อาห ‘‘ภิกฺขุนีน’’นฺติอาทิ. ตสฺมึ อปีติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท วุตฺตาเปกฺขายํ. ‘‘สมาเสนา’’ติ อิทํ คนฺถวเสน สงฺขิปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘กิฺจิมตฺต’’นฺติ อิทํ อตฺถวเสนาติ เวทิตพฺพํ.

ปาราชิกกถาวณฺณนา

๑๙๖๕. ฉนฺทโสติ เมถุนเสวนราคปฏิสํยุตฺเตน ฉนฺเทน. เอเตน ‘‘ฉนฺเท ปน อสติ พลกฺกาเรน ปธํสิตาย อนาปตฺตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. เมถุนธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา) อฏฺกถา สูจิตา โหติ. สา สมณี ปาราชิกา นาม โหตีติ ปวุจฺจตีติ โยชนา.

๑๙๖๖-๗. ‘‘สชีวสฺส อปิ อชีวสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘สนฺถตํ วา อสนฺถต’’นฺติ อิทํ ‘‘องฺคชาต’’นฺติ อิมสฺส วิเสสนํ. อตฺตโน ติวิเธ มคฺเคติ อตฺตโน วจฺจปสฺสาวมุขมคฺคานํ อฺตรสฺมึ มคฺเค. เอตฺถ ‘‘สนฺถเต วา อสนฺถเต วา’’ติ เสโส, ‘‘อลฺโลกาเส’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘เยภุยฺยอกฺขายิตาทิก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. อาทิ-สทฺเทน อกฺขายิตํ สงฺคณฺหาติ.

มนุสฺสปุริสาทีนํ นวนฺนํ สชีวสฺสปิ อชีวสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ สนฺถตํ วา อสนฺถตํ วา เยภุยฺยกฺขายิตาทิกํ องฺคชาตํ อตฺตโน สนฺถเต วา อสนฺถเต วา ติวิเธ มคฺเค อลฺโลกาเส ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺตี ปราชิตาติ โยชนา.

๑๙๖๘. สาธารณวินิจฺฉยนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ สาธารณสิกฺขาปทวินิจฺฉยํ.

๑๙๖๙-๗๐. อธกฺขกนฺติ เอตฺถ อกฺขกานํ อโธติ วิคฺคโห. อุพฺภชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลานํ อุพฺภนฺติ วิคฺคโห. อุพฺภ-สทฺโท อุทฺธํ-สทฺทปริยาโย. อิธ ‘‘อตฺตโน’’ติ เสโส. อวสฺสุตสฺสาติ กายสํสคฺคราเคน ตินฺตสฺส. อวสฺสุตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ยาติ วุตฺตตฺตา ‘‘สา’’ติ ลพฺภติ. สรีรนฺติ เอตฺถ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ เสโส. ปโรปกฺกมมูลกํ ปาราชิกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เตน วา ผุฏฺา’’ติ. เอตฺถ ‘‘ยถาปริจฺฉินฺเน กาเย’’ติ จ ‘‘สาทิเยยฺยา’’ติ จ วตฺตพฺพํ.

ยา ปน ภิกฺขุนี อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส มนุสฺสปุคฺคลสฺส ยํ กิฺจิ สรีรํ อตฺตโน อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ ยํ สรีรกํ, เตน สรีรเกน ฉุเปยฺย, เตน มนุสฺสปุริเสน ยถาปริจฺฉินฺเน กาเย ผุฏฺา สาทิเยยฺย วา, สา ปาราชิกา สิยาติ โยชนา.

๑๙๗๑-๒. ‘‘คหิตํ อุพฺภชาณุนา’’ติ อิมินา กปฺปรโต อุทฺธํ ปาราชิกกฺเขตฺตเมวาติ ทีเปติ. อตฺตโน ยถาวุตฺตปฺปกาเรน กาเยนาติ โยชนา, อตฺตโน ‘‘อธกฺขก’’นฺติอาทิวุตฺตปฺปกาเรน กาเยนาติ อตฺโถ. ตถา อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส ปุริสสฺส กายปฏิพทฺธํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ โหติ. อตฺตโน ยถาปริจฺฉินฺนกายปฏิพทฺเธน ตถา อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส ปุริสสฺส กายํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ โหติ.

๑๙๗๓. อตฺตโน อวเสเสน กาเยน อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส กายํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ โหติ. เอวํ อตฺตโน ปโยเค จ ปุริสสฺส ปโยเค จ ตสฺสา ภิกฺขุนิยาเยว ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา.

๑๙๗๔. ยกฺขเปตติรจฺฉานปณฺฑกานํ กายํ ‘‘อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑล’’นฺติ ยถาปริจฺฉินฺนํ ตเถว อตฺตโน กาเยน อุภโตอวสฺสเว สติ ผุสนฺติยา อสฺสา ภิกฺขุนิยา ถุลฺลจฺจยํ, ตเถว ยกฺขาทีนํ ปโยเคปิ ตสฺสาเยว ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา.

๑๙๗๕. เอกโตวสฺสเว จาปีติ ภิกฺขุนิยา วเสน เอกโตอวสฺสเว จาปิ. ถุลฺลจฺจยมุทีริตนฺติ ปาราชิกกฺเขตฺตภูเตน อตฺตโน กาเยน มนุสฺสปุริสสฺส กายํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖๒) วุตฺตนฺติ อตฺโถ. อวเสเส จ สพฺพตฺถาติ ยถาวุตฺตปาราชิกกฺเขตฺตโต อวเสเส ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต สพฺพตฺถ เอกโตอวสฺสเว สติ ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. กายปฏิพทฺเธน กายปฏิพทฺธามสนาทีสุ สพฺพตฺถ อุภโตอวสฺสเว วา เอกโตอวสฺสเว วา ทุกฺกฏเมว โหติ.

๑๙๗๖. ‘‘อุพฺภกฺขกมโธชาณุมณฺฑล’’นฺติ ยํ อปาราชิกกฺเขตฺตํ อิธ ทสฺสิตํ, เอตฺถ เอกโตอวสฺสเว ทุกฺกฏํ โหติ. กปฺปรสฺส จ เหฏฺาปิ เอตฺเถว อโธชาณุมณฺฑเล สงฺคหํ คตนฺติ โยชนา.

๑๙๗๗-๙. ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สเจ กายสํสคฺคํ เกลายติ เสวตีติ โยชนา. ภิกฺขุนิยา นาโส สิยาติ สีลวินาโส ปาราชิกาปตฺติ สิยาติ อตฺโถ. เคหเปมนฺติ เอตฺถ ‘‘เคหสิตเปม’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน สิต-สทฺทโลโป, อตฺโถ ปนสฺส ภิกฺขุวิภงฺเค วุตฺตนโยว.

๑๙๘๐. อวิเสเสนาติ ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ วา วิเสสํ อกตฺวา.

๑๙๘๑. ยสฺสาติ ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา. ยตฺถาติ ภิกฺขุนิยํ วา ภิกฺขุสฺมึ วา. มโนสุทฺธนฺติ กายสํสคฺคาทิราครหิตํ. ตสฺส ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ตตฺถ ภิกฺขุนิยํ วา ภิกฺขุสฺมึ วา วิสเย นโทสตา อนาปตฺตีติ อตฺโถ.

๑๙๘๒. ภินฺทิตฺวาติ สีลเภทํ กตฺวา. ภิกฺขุนิยา อปกตตฺตา อาห ‘‘เนว โหติ ภิกฺขุนิทูสโก’’ติ.

๑๙๘๓. อถาติ วากฺยารมฺเภ. น โหตาปตฺติ ภิกฺขุโนติ เอตฺถ ภิกฺขุนีหิ กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสมาห.

๑๙๘๔. ‘‘เขตฺเต’’ติ วกฺขมานํ ‘‘ผุฏฺา’’ติ อิมินา โยเชตฺวา ‘‘ปาราชิก’’นฺติอาทีหิ, ‘‘ถุลฺลจฺจยํ เขตฺเต’’ติอาทีหิ จ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘ปาราชิก’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ผุฏฺาติ เอตฺถ ‘‘ปาราชิกกฺเขตฺเต’’ติ เสโส.

๑๙๘๕. ตถาติ นิจฺจลาปิ สาทิยติ. เขตฺเตติ ถุลฺลจฺจยาทีนํ เขตฺเต. กาเยน นิจฺจลายปิ จิตฺเตน สาทิยนฺติยา อาปตฺติ กสฺมา วุตฺตาติ อาห ‘‘วุตฺตตฺตา…เป… สตฺถุนา’’ติ, ภิกฺขุปาติโมกฺเข วิย ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ อวตฺวา อิธ ‘‘กายสํสคฺคํ สาทิเยยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย.

๑๙๘๖. ตสฺสา อาปตฺติยา. กฺริยสมุฏฺานนฺติ กิริยาย สมุฏฺานํ. เอวํ สตีติ สาทิยนมตฺเตเนว อาปชฺชิตพฺพภาเว สติ. อิทนฺติ ‘‘กิริยสมุฏฺาน’’มิติวิธานํ. ตพฺพหุเลเนว นเยนาติ กิริยสมุฏฺานพาหุลฺเลน นเยน ขทิรวนาทิโวหาโร วิยาติ ทฏฺพฺพํ.

๑๙๘๗. ตสฺสา ภิกฺขุนิยา อสฺจิจฺจ วิรชฺฌิตฺวา อามสนฺติยา อนาปตฺติ, ‘‘อยํ ปุริโส’’ติ วา ‘‘อิตฺถี’’ติ วา อชานิตฺวา อามสนฺติยา อนาปตฺติ, ปุริสสฺส อามสเน สติ ผสฺสํ อสาทิยนฺติยา วา อนาปตฺตีติ โยชนา.

๑๙๘๘. ขิตฺตจิตฺตายาติ ยกฺขุมฺมตฺตาย. อุมฺมตฺติกาย วาติ ปิตฺตโกเปน อุมฺมาทปฺปตฺตาย. อิทฺจ ‘‘อสุจี’’ติ วา ‘‘จนฺทน’’นฺติ วา วิเสสตํ อชานนเมว ปมาณํ.

อุพฺภชาณุมณฺฑลกถาวณฺณนา.

๑๙๘๙-๙๐. ‘‘ปาราชิกตฺตํ ชานนฺตี’’ติ อิมินา อวเสสาปตฺตึ ชานิตฺวา ฉาเทนฺติยา ปาราชิกาภาวํ ทีเปติ. สลิงฺเค ตุ ิตายาติ ปพฺพชฺชาลิงฺเคเยว ิตาย. อิติ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺตสฺมินฺติ โยชนา. อิติ-สทฺโท นิทสฺสเน. อิตราย ปุพฺเพเยว อาปนฺนตฺตา ตมเปกฺขิตฺวา ‘‘สา จา’’ติ อาห.

๑๙๙๑. วุตฺตาวิสิฏฺํ สพฺพํ วินิจฺฉยํ สงฺคเหตุมาห ‘‘เสส’’นฺติอาทิ. ตตฺถาติ ทุฏฺุลฺลปฏิจฺฉาทเน.

วชฺชปฏิจฺฉาทิกถาวณฺณนา.

๑๙๙๒-๕. สงฺเฆนาติ สมคฺเคน สงฺเฆน. อุกฺขิตฺตโกติ อาปตฺติยา อทสฺสนาทีสุ อุกฺขิตฺตโก. ‘‘อุกฺเขปเน ิโต’’ติ อิมินา อุกฺเขปนียกมฺมกตสฺส อโนสาริตภาวํ ทีเปติ. ยา ทิฏฺิ เอตสฺสาติ ยํทิฏฺิโก, โส อุกฺขิตฺตโก ภิกฺขุ ยาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ตสฺสา ทิฏฺิยา คหเณนา’’ติ อิมินา อนุวตฺตปฺปกาโร ทสฺสิโต. ตํ อุกฺขิตฺตกํ ภิกฺขุนฺติ โยชนา. สา ภิกฺขุนี อฺาหิ ภิกฺขุนีหิ วิสุมฺปิจ สงฺฆมชฺเฌปิ ‘‘เอโส โข อยฺเย ภิกฺขุ สมคฺเคน สงฺเฆน อุกฺขิตฺโต’’ติอาทินา (ปาจิ. ๖๖๙) นเยน ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมานาติ โยชนา. ตํ วตฺถุํ อจชนฺตี คเหตฺวา ยทิ ตเถว ติฏฺตีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺพา’’ติ เสโส. ตสฺส กมฺมสฺส โอสาเนติ ตติยาย กมฺมวาจาย ยฺยการปฺปตฺตวเสน อสฺส สมนุภาสนกมฺมสฺส ปริโยสาเน. อสากิยธีตราติ อสากิยธีตา, ปจฺจตฺเต กรณวจนํ. ‘‘ปุน อปฺปฏิสนฺเธยา’’ติ อิมินา ปุน เตเนว จ อตฺตภาเวน ภิกฺขุนิภาเว ปฏิสนฺธาตุํ อนรหตา วุตฺตา.

๑๙๙๖. ติกทุกฺกฏํ นิทฺทิฏฺนฺติ อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา, เวมติกา, ธมฺมกมฺมสฺาติ เอตาสํ วเสน ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ. สมนุภาสเน วุตฺตา สมุฏฺานาทโย สพฺเพ อิธ วตฺตพฺพาติ โยชนา.

อุกฺขิตฺตานุวตฺติกกถาวณฺณนา.

๑๙๙๗. ‘‘หตฺถคฺคหณํ วา สาทิเยยฺยาติ หตฺโถ นาม กปฺปรํ อุปาทาย ยาว อคฺคนขา. เอตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิเสวนตฺถาย อุพฺภกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ คหณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อปาราชิกเขตฺตสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘ต’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ย’’นฺติ ลพฺภติ. อปาราชิกกฺเขตฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ องฺคสฺส ยํ คหณํ, ตํ หตฺถคฺคหณนฺติ ปวุจฺจตีติ โยชนา. หตฺเถ คหณํ หตฺถคฺคหณํ.

๑๙๙๘. ยสฺส กสฺสจีติ วุตฺตปฺปกาเรน ยสฺส กสฺสจิ จีวรสฺส ยํ คหณนฺติ โยชนา.

๑๙๙๙. อสทฺธมฺม-สทฺเทน เมถุนสฺสาปิ วุจฺจมานตฺตา ตโต วิเสเสตุมาห ‘‘กายสํสคฺค …เป… การณา’’ติ. ภิกฺขุนี กายสํสคฺคสงฺขาตสฺส อสทฺธมฺมสฺส การณา ปุริสสฺส หตฺถปาสสฺมึ ติฏฺเยฺย วาติ โยชนา.

๒๐๐๐. ตโตติ ตสฺส อสทฺธมฺมสฺส การณา. ตตฺถาติ หตฺถปาเส. ปุริเสนาติ เอตฺถ ‘‘กต’’นฺติ เสโส, ‘‘สงฺเกต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘อาคมนํ อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. อิจฺเฉยฺยาติ วุตฺเตปิ น คมนิจฺฉามตฺเตน, อถ โข ภิกฺขุนิยา ปุริสสฺส หตฺถปาสํ, ปุริเสน จ ภิกฺขุนิยา หตฺถปาสํ โอกฺกนฺตกาเลเยว วตฺถุปูรณํ ทฏฺพฺพํ. ยถาห ‘‘สงฺเกตํ วา คจฺเฉยฺยาติ เอตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิเสวนตฺถาย ปุริเสน ‘อิตฺถนฺนามํ อาคจฺฉา’ติ วุตฺตา คจฺฉติ, ปเท ปเท อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ปุริสสฺส หตฺถปาสํ โอกฺกนฺตมตฺเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) จ ‘‘ปุริสสฺส อพฺภาคมนํ สาทิยติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. หตฺถปาสํ โอกฺกนฺตมตฺเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) จ. เอตฺถ จ อิตฺถนฺนามํ อาคจฺฉาติ อิตฺถนฺนามํ านํ อาคจฺฉาติ อตฺโถ.

๒๐๐๑. ตทตฺถายาติ ตสฺเสว กายสํสคฺคสงฺขาตอสทฺธมฺมสฺส เสวนตฺถาย. ปฏิจฺฉนฺนฏฺานฺจาติ วตฺถาทินา เยน เกนจิ ปฏิจฺฉนฺนโอกาสํ. ปุริสสฺส หตฺถปาเส ิตา ตทตฺถาย กายํ อุปสํหเรยฺย วาติ โยชนา.

๒๐๐๒. หตฺถคฺคหณาทีนํ วุตฺตปฺปการานํ อฏฺนฺนํ วตฺถูนํ ปูรเณน ‘‘อฏฺวตฺถุกา’’ติ สงฺขาตา อยํ ภิกฺขุนี วินฏฺา โหติ สีลวินาเสน, ตโตเยว อสฺสมณี โหติ อภิกฺขุนี โหตีติ โยชนา.

๒๐๐๓. อนุโลเมน วาติ หตฺถคฺคหณาทิปฏิปาฏิยา วา. ปฏิโลเมน วาติ ตพฺพิปริยโต ปฏิโลเมน วา. เอกนฺตริกาย วาติ เอกเมกํ อนฺตริตฺวา ปุน ตสฺสาปิ กรณวเสน เอกนฺตริกาย วา. อนุโลเมน วา ปฏิโลเมน วา ตเถกนฺตริกาย วา อฏฺมํ วตฺถุํ ปริปูเรนฺตี จุตาติ โยชนา.

๒๐๐๔. เอตเทว อตฺถํ พฺยติเรกมุเขน สมตฺเถตุมาห ‘‘อถาทิโต’’ติอาทิ. สตกฺขตฺตุมฺปีติ พหุกฺขตฺตุมฺปิ. สต-สทฺโท เหตฺถ พหุ-สทฺทปริยาโย. ปาราชิกา เนว สิยาติ โยชนา, อิมินา ตํตํวตฺถุมูลกํ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๐๐๕. ยา ปน อาปตฺติโย อาปนฺนา, เทเสตฺวา ตาหิ มุจฺจตีติ โยชนา. ธุรนิกฺเขปนํ กตฺวาติ ‘‘น ปุเนวํ กริสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา. เทสิตา คณนูปิกาติ เทสิตา เทสิตคณนเมว อุเปติ, ปาราชิกสฺส องฺคํ น โหตีติ อตฺโถ. ตสฺมา ยา เอกํ อาปนฺนา, ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา เทเสตฺวา ปุน กิเลสวเสน อาปชฺชติ, ปุน เทเสติ, เอวํ อฏฺ วตฺถูนิ ปูเรนฺตีปิ ปาราชิกา น โหติ.

๒๐๐๖. สอุสฺสาหาย เทสิตาติ ปุน อาปชฺชเน อนิกฺขิตฺตธุราย ภิกฺขุนิยา เทสิตาปิ อาปตฺติ เทสนาคณนํ น อุเปติ. กึ โหตีติ อาห ‘‘เทสิตาปิ อเทสิตา’’ติ, ตสฺมา ปาราชิกาปตฺติยา องฺคเมว โหตีติ อธิปฺปาโย.

๒๐๐๘. อยํ อตฺโถติ ‘‘อสทฺธมฺโม นาม กายสํสคฺโค’’ติ อยํ อตฺโถ. อุทฺทิสิโตติ ปกาสิโต.

๒๐๐๙. อยมตฺโถ เกน วจเนน อุทฺทิสิโตติ อาห ‘‘วิฺู…เป… สาธกํ วจนํ อิท’’นฺติ. อิทํ วจนนฺติ ‘‘วิฺู ปฏิพโล กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๗๖) อิทํ วจนํ. สาธกํ ปมาณํ.

อฏฺวตฺถุกกถาวณฺณนา.

๒๐๑๐. อวสฺสุตา, วชฺชปฏิจฺฉาทิกา, อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา, อฏฺวตฺถุกาติ อิมา จตสฺโส ปาราชิกาปตฺติโย มเหสินา อสาธารณา ภิกฺขุนีนเมว ปฺตฺตาติ โยชนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา

วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา

๒๐๑๑. เอวํ ภิกฺขุนิวิภงฺเค อาคตํ ปาราชิกวินิจฺฉยํ วตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรุทฺทิฏฺํ สงฺฆาทิเสสวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี’’ติอาทิ. อุสฺสยวาทาติ โกธุสฺสยมานุสฺสยวเสน วิวทมานา. ตโตเยว อฏฺฏํ กโรติ สีเลนาติ อฏฺฏการี. เอตฺถ จ ‘‘อฏฺโฏ’’ติ โวหาริกวินิจฺฉโย วุจฺจติ, ยํ ปพฺพชิตา ‘‘อธิกรณ’’นฺติปิ วทนฺติ. สพฺพตฺถ วตฺตพฺเพ มุขมสฺสา อตฺถีติ มุขรี, พหุภาณีติ อตฺโถ. เยน เกนจิ นเรน สทฺธินฺติ ‘‘คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๖๗๙) ทสฺสิเตน เยน เกนจิ มนุสฺเสน สทฺธึ. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. กิราติ ปทปูรเณ, อนุสฺสวเน วา.

๒๐๑๒. สกฺขึ วาติ ปจฺจกฺขโต ชานนกํ วา. อฏฺฏํ กาตุํ คจฺฉนฺติยา ปเท ปเท ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๐๑๓. โวหาริเกติ วินิจฺฉยามจฺเจ.

๒๐๑๔. อนนฺตรนฺติ ตสฺส วจนานนฺตรํ.

๒๐๑๕. อิตโรติ อฏฺฏการโก. ปุพฺพสทิโสว วินิจฺฉโยติ ปมาโรจเน ทุกฺกฏํ, ทุติยาโรจเน ถุลฺลจฺจยนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๒๐๑๖. ‘‘ตว, มมาปิ จ กถํ ตุวเมว อาโรเจหี’’ติ อิตเรน วุตฺตา ภิกฺขุนีติ โยชนา. ยถากามนฺติ ตสฺสา จ อตฺตโน จ วจเน ยํ ปมํ วตฺตุมิจฺฉติ, ตํ อิจฺฉานุรูปํ อาโรเจตุ.

๒๐๑๘-๙. อุภินฺนมฺปิ ยถา ตถา อาโรจิตกถํ สุตฺวาติ โยชนา. ยถา ตถาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน เกนจิ ปกาเรน. เตหีติ โวหาริเกหิ. อฏฺเฏ ปน จ นิฏฺิเตติ อฏฺฏการเกสุ เอกสฺมึ ปกฺเข ปราชิเต. ยถาห ‘‘ปราชิเต อฏฺฏการเก อฏฺฏปริโยสานํ นาม โหตี’’ติ. อฏฺฏสฺส ปริโยสาเนติ เอตฺถ ‘‘ตสฺสา’’ติ เสโส. ตสฺส อฏฺฏสฺส ปริโยสาเนติ โยชนา.

๒๐๒๐-๒๓. อนาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทูตํ วาปี’’ติอาทิ. ปจฺจตฺถิกมนุสฺเสหิ ทูตํ วาปิ ปหิณิตฺวา สยมฺปิ วา อาคนฺตฺวา ยา ปน อากฑฺฒียตีติ โยชนา. อฺเหีติ คามทารกาทีหิ อฺเหิ. กิฺจิ ปรํ อโนทิสฺสาติ โยชนา. อิมิสฺสา โอทิสฺส วุตฺเต เตหิ คหิตทณฺเฑ ตสฺสา จ คีวาติ สูจิตํ โหติ. ยา รกฺขํ ยาจติ, ตตฺถ ตสฺมึ รกฺขายาจเน ตสฺสา อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. อฺโต สุตฺวาติ โยชนา. อุมฺมตฺติกาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อาทิกมฺมิกา คหิตา.

สมุฏฺานํ กถิเนน ตุลฺยนฺติ โยชนา. เสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สกิริยํ อิท’’นฺติ. อิทํ สิกฺขาปทํ. กิริยาย สห วตฺตตีติ สกิริยํ อฏฺฏกรเณน อาปชฺชนโต. ‘‘สมุฏฺาน’’นฺติ อิมินา จ สมุฏฺานาทิวินิจฺฉโย อุปลกฺขิโตติ ทฏฺพฺโพ.

อฏฺฏการิกากถาวณฺณนา.

๒๐๒๔-๕. ชานนฺตีติ ‘‘สามํ วา ชานาติ, อฺเ วา ตสฺสา อาโรเจนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๖๘๔) วุตฺตนเยน ชานนฺตี. โจรินฺติ ยาย ปฺจมาสคฺฆนกโต ปฏฺาย ยํ กิฺจิ ปรสนฺตกํ อวหริตํ, อยํ โจรี นาม. วชฺฌํ วิทิตนฺติ ‘‘เตน กมฺเมน วธารหา อย’’นฺติ เอวํ วิทิตํ. สงฺฆนฺติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ. อนปโลเกตฺวาติ อนาปุจฺฉา. ราชานํ วาติ รฺา อนุสาสิตพฺพฏฺาเน ตํ ราชานํ วา. ยถาห ‘‘ราชา นาม ยตฺถ ราชา อนุสาสติ, ราชา อปโลเกตพฺโพ’’ติ. คณเมว วาติ ‘‘ตุมฺเหว ตตฺถ อนุสาสถา’’ติ ราชูหิ ทินฺนํ คามนิคมมลฺลคณาทิกํ คณํ วา. มลฺลคณํ นาม ปานียฏฺปนโปกฺขรณิขณนาทิปุฺกมฺมนิยุตฺโต ชนสมูโห. เอเตเนว เอวเมว ทินฺนคามวรา ปูคา จ เสนิโย จ สงฺคหิตา. วุฏฺาเปยฺยาติ อุปสมฺปาเทยฺย. กปฺปนฺติ จ วกฺขมานลกฺขณํ กปฺปํ. สา โจริวุฏฺาปนนฺติ สมฺพนฺโธ. อุปชฺฌายา หุตฺวา ยา โจรึ อุปสมฺปาเทติ, สา ภิกฺขุนีติ อตฺโถ. อุปชฺฌายสฺส ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ.

๒๐๒๖. ปฺจมาสคฺฆนนฺติ เอตฺถ ปฺจมาสฺจ ปฺจมาสคฺฆนกฺจ ปฺจมาสคฺฆนนฺติ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน ปฺจมาสสฺสาปิ คหณํ. อติเรกคฺฆนํ วาปีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

๒๐๒๗. ปพฺพชิตํ ปุพฺพํ ยาย สา ปพฺพชิตปุพฺพา. วุตฺตปฺปการํ โจรกมฺมํ กตฺวาปิ ติตฺถายตนาทีสุ ยา ปมํ ปพฺพชิตาติ อตฺโถ.

๒๐๒๘-๓๐. อิทานิ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏาทิอาปตฺติวิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วุฏฺาเปติ จ ยา โจริ’’นฺติอาทิ. อิธ ‘‘อุปชฺฌายา หุตฺวา’’ติ เสโส. อิทํ กปฺปํ เปตฺวาติ โยชนา. สีมํ สมฺมนฺนติ จาติ อภินวํ สีมํ สมฺมนฺนติ, พนฺธตีติ วุตฺตํ โหติ. อสฺสาติ ภเวยฺย. ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา จ ‘‘ถุลฺลจฺจยํ ทฺวย’’นฺติ อิมินา จ โยเชตพฺพํ.

กมฺมนฺเตติ อุปสมฺปทกมฺมสฺส ปริโยสาเน, ตติยาย กมฺมวาจาย ยฺยการปฺปตฺตายาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๐๓๑. อชานนฺตีติ โจรึ อชานนฺตี. (อิทํ สิกฺขาปทํ.)

๒๐๓๒. โจริวุฏฺาปนํ นามาติ อิทํ สิกฺขาปทํ โจริวุฏฺาปนสมุฏฺานํ นาม. วาจจิตฺตโตติ ขณฺฑสีมํ อคนฺตฺวา กโรนฺติยา วาจาจิตฺเตหิ. กายวาจาทิโต เจวาติ คนฺตฺวา กโรนฺติยา กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. ยถาห ‘‘เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกนฺตาสุ ภิกฺขุนีสุ อคนฺตฺวา ขณฺฑสีมํ วา นทึ วา ยถานิสินฺนฏฺาเนเยว อตฺตโน นิสฺสิตกปริสาย สทฺธึ วุฏฺาเปนฺติยา วาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, ขณฺฑสีมํ วา นทึ วา คนฺตฺวา วุฏฺาเปนฺติยา กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๘๓). กฺริยากฺริยนฺติ อนาปุจฺฉาวุฏฺาปนวเสน กิริยากิริยํ.

โจริวุฏฺาปนกถาวณฺณนา.

๒๐๓๓-๔. คามนฺตรนฺติ อฺํ คามํ. ยา เอกา สเจ คจฺเฉยฺยาติ สมฺพนฺโธ. นทีปารนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. นทิยา ปารํ นทีปารํ. ‘‘เอกา วา’’ติ อุปริปิ โยเชตพฺพํ. โอหีเยยฺยาติ วินา ภเวยฺย. อิธ ‘‘อรฺเ’’ติ เสโส. อรฺลกฺขณํ ‘‘อินฺทขีล’’อิจฺจาทินา วกฺขติ. ‘‘เอกา วา รตฺตึ วิปฺปวเสยฺย, เอกา วา คณมฺหา โอหีเยยฺยา’’ติ สิกฺขาปทกฺกโม, เอวํ สนฺเตปิ คาถาพนฺธวเสน ‘‘รตฺตึ วิปฺปวเสยฺยา’’ติ อนฺเต วุตฺตํ. เตเนว วิภาควินิจฺฉเย เทสนารุฬฺหกฺกเมเนว ‘‘ปุเรรุโณทยาเยวา’’ติอาทึ วกฺขติ. สา ปมาปตฺติกํ ครุกํ ธมฺมํ อาปนฺนา สิยาติ โยชนา. ปมํ อาปตฺติ เอตสฺสาติ ปมาปตฺติโก, วีติกฺกมกฺขเณเยว อาปชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ. ‘‘ครุกํ ธมฺม’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. สกคามา นิกฺขมนฺติยาติ ภิกฺขุนิยา อตฺตโน วสนคามโต นิกฺขมนฺติยา.

๒๐๓๕. ตโต สกคามโต.

๒๐๓๖-๗. เอเกน ปทวาเรน อิตรสฺส คามสฺส ปริกฺเขเป อติกฺกนฺเต, อุปจาโรกฺกเม วา ถุลฺลจฺจยนฺติ โยชนา. อติกฺกนฺเต โอกฺกนฺเตติ เอตฺถ ‘‘ปริกฺเขเป อุปจาเร’’ติ อธิการโต ลพฺภติ.

๒๐๓๘-๙. นิกฺขมิตฺวาติ อตฺตโน ปวิฏฺคามโต นิกฺขมิตฺวา. อยเมว นโยติ ‘‘เอเกน ปทวาเรน ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเยน ครุกาปตฺตี’’ติ อยํ นโย.

วติจฺฉิทฺเทน วา ขณฺฑปากาเรน วาติ โยชนา. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘ปากาเรนา’’ติ เอตฺถาปิ วา-สทฺทสฺส สมฺพนฺธนียตํ ทสฺเสติ. ‘‘ภิกฺขุวิหารสฺส ภูมิ ตาสมกปฺปิยา’’ติ วกฺขมานตฺตา วิหารสฺส ภูมินฺติ ภิกฺขุนิวิหารภูมิ คหิตา. ‘‘กปฺปิยนฺติ ปวิฏฺตฺตา’’ติ อิมินา วกฺขมานสฺส การณํ ทสฺเสติ. โกจิ โทโสติ ถุลฺลจฺจยสงฺฆาทิเสโส วุจฺจมาโน โย โกจิ โทโส.

๒๐๔๐. ตาสนฺติ ภิกฺขุนีนํ. ‘‘อกปฺปิยา’’ติ อิมินา ตตฺถาปิ ปวิฏฺาย คามนฺตรปจฺจยา อาปตฺติสมฺภวมาห.

๒๐๔๑. ‘‘ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺติยา’’ติ (ปาจิ. ๖๙๒) วุตฺตตฺตา ‘‘หตฺถิ…เป… อนาปตฺติ สิยาปตฺติ, ปทสา คมเน ปนา’’ติ วุตฺตํ.

๒๐๔๒. ‘‘ยํ กิฺจิ…เป… อาปตฺติ ปวิสนฺติยา’’ติ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส อุปสํหารตฺตา น ปุนรุตฺติโทโส.

๒๐๔๓-๔. ลกฺขเณนุปปนฺนายาติ ‘‘นที นาม ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนฺตรวาสโก เตมิยตี’’ติ (ปาจิ. ๖๙๒) วุตฺตลกฺขเณน สมนฺนาคตาย นทิยา. ยา ปารํ ตีรํ คจฺฉตีติ โยชนา.

ปมํ ปาทํ อุทฺธริตฺวาน ตีเร เปนฺติยาติ ‘‘อิทานิ ปทวาเรน อติกฺกมตี’’ติ วตฺตพฺพกาเล ปมํ ปาทํ อุกฺขิปิตฺวา ปรตีเร เปนฺติยา. ‘‘ทุติยปาทุทฺธาเร สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๙๒) อฏฺกถาวจนโต ‘‘อติกฺกเม’’ติ อิมินา อุทฺธาโร คหิโต.

๒๐๔๕. อนฺตรนทิยนฺติ นทิเวมชฺเฌ. ภณฺฑิตฺวาติ กลหํ กตฺวา. โอริมํ ตีรนฺติ อาคตทิสาย ตีรํ. ตถา ปเม ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเย ครุ โหตีติ อตฺโถ. อิมินา สกเลน วจเนน ‘‘อิตริสฺสา ปน อยํ ปกฺกนฺตฏฺาเน ิตา โหติ, ตสฺมา ปรตีรํ คจฺฉนฺติยาปิ อนาปตฺตี’’ติ อฏฺกถาปิ อุลฺลิงฺคิตา.

๒๐๔๖. รชฺชุยาติ วลฺลิอาทิกาย ยาย กายจิ รชฺชุยา.

๒๐๔๗. ปิวิตุนฺติ เอตฺถ ‘‘ปานีย’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน อปิ-สทฺเทน ภณฺฑโธวนาทึ สงฺคณฺหาติ. อถาติ วากฺยารมฺเภ นิปาโต. ‘‘นหานาทิกิจฺจํ สมฺปาเทตฺวา โอริมเมว ตีรํ อาคมิสฺสามี’’ติ อาลยสฺส วิชฺชมานตฺตา อาห ‘‘วฏฺฏตี’’ติ.

๒๐๔๘. ปทสานทึ โอตริตฺวานาติ โยชนา. เสตุํ อาโรหิตฺวา ตถา ปทสา อุตฺตรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.

๒๐๔๙. คนฺตฺวานาติ เอตฺถ ‘‘นทิ’’นฺติ เสโส. อุตฺตรณกาเล ปทสา ยาตีติ โยชนา.

๒๐๕๐. เวเคนาติ เอเกเนว เวเคน, อนฺตรา อนิวตฺติตฺวาติ อตฺโถ.

๒๐๕๑. ‘‘นิสีทิตฺวา’’ติ อิทํ ‘‘ขนฺเธ วา’’ติอาทีหิปิ โยเชตพฺพํ. ขนฺธาทโย เจตฺถ สภาคานเมว คเหตพฺพา. หตฺถสงฺฆาตเน วาติ อุโภหิ พทฺธหตฺถวลเย วา.

๒๐๕๒-๓. ปาสนฺติ หตฺถปาสํ. ‘‘อาโภคํ วินา’’ติ อิมินา ‘‘คมิสฺสามี’’ติ อาโภเค กเต อชานนฺติยา อรุเณ อุฏฺิเตปิ อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. ยถาห ‘‘สเจ สชฺฌายํ วา สวนํ วา อฺํ วา กิฺจิ กมฺมํ กุรุมานา ‘ปุเรอรุเณเยว ทุติยิกาย สนฺติกํ คมิสฺสามี’ติ อาโภคํ กโรติ, อชานนฺติยา เอว จสฺสา อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๙๒). นานาคพฺเภ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกคพฺเภปิ วา’’ติ. เอกคพฺเภปิ วา ทุติยิกาย หตฺถปาสํ อติกฺกมฺม อรุณํ อุฏฺเปนฺติยา ภิกฺขุนิยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๐๕๔. ทุติยาปาสนฺติ ทุติยิกาย หตฺถปาสํ. ‘‘คมิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คจฺฉนฺติยา สเจ อรุณํ อุฏฺเติ, น โทโสติ โยชนา.

๒๐๕๕-๖. อฺตฺถ ปฺจธนุสติกสฺส (ปารา. ๖๕๔) ปจฺฉิมสฺส อารฺกเสนาสนสฺส วุตฺตตฺตา ตโต นิวตฺเตตุมาห ‘‘อินฺทขีลมติกฺกมฺมา’’ติอาทิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ทีปิตนฺติ อฏฺกถาย ‘‘อรฺเติ เอตฺถ นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๙๒) เอวํ วุตฺตลกฺขณเมว อรฺํ ทสฺสิตนฺติ อตฺโถ.

ทุติยิกาย ทสฺสนูปจารํ วิชหนฺติยา ตสฺสาติ โยชนา. ‘‘ชหิเต’’ติ อิทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘อุปจาเร’’ติ วิภตฺติวิปริณาโม กาตพฺโพ.

๒๐๕๗. สาณิปาการปาการตรุอนฺตริเต าเน อสติ ทสฺสนูปจาเร สติปิ สวนูปจาเร อาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๐๕๘-๖๐. เอตฺถ กถนฺติ ยตฺถ ทูเรปิ ทสฺสนํ โหติ, เอวรูเป อชฺโฌกาเส อาปตฺตินิยโม กถํ กาตพฺโพติ อตฺโถ. อเนเกสุ าเนสุ ‘‘สวนูปจาราติกฺกเม’’ติ วุจฺจมานตฺตา ตตฺถ ลกฺขณํ เปตุมาห ‘‘มคฺค…เป… เอวรูปเก’’ติ. เอตฺถ ‘‘าเน’’ติ เสโส. กูชนฺติยาติ ยถาวณฺณววตฺถานํ น โหติ, เอวํ อพฺยตฺตสทฺทํ กโรนฺติยา.

เอวรูปเก าเน ธมฺมสฺสวนาโรจเน วิย จ มคฺคมูฬฺหสฺส สทฺเทน วิย จ ‘‘อยฺเย’’ติ กูชนฺติยา ตสฺสา สทฺทสฺส สวนาติกฺกเม ภิกฺขุนิยา ครุกา อาปตฺติ โหตีติ โยชนา. ‘‘ภิกฺขุนิยา ครุกา โหตี’’ติ อิทํ ‘‘ทุติยิกํ น ปาปุณิสฺสามี’’ติ นิรุสฺสาหวเสน เวทิตพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘โอหียิตฺวาถ คจฺฉนฺตี’’ติอาทิ. เอตฺถาติ ‘‘คณมฺหา โอหีเยยฺยา’’ติ อิมสฺมึ.

๒๐๖๑. อถ คจฺฉนฺตี โอหียิตฺวาติ โยชนา. ‘‘อิทานิ อหํ ปาปุณิสฺสามิ’’ อิติ เอวํ สอุสฺสาหา อนุพนฺธติ, วฏฺฏติ, ทุติโยปจาราติกฺกเมปิ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๐๖๒. ‘‘คจฺฉตุ อยํ’’ อิติ อุสฺสาหสฺสจฺเฉทํ กตฺวา โอหีนา เจ, ตสฺสา อาปตฺตีติ อชฺฌาหารโยชนา.

๒๐๖๓. อิตราปีติ คนฺตุํ สมตฺถาปิ. โอหียตุ อยนฺติ จาติ นิรุสฺสาหปฺปกาโร สนฺทสฺสิโต. วุตฺตตฺถเมว สมตฺถยิตุมาห ‘‘สอุสฺสาหา น โหติ เจ’’ติ.

๒๐๖๔-๕. ปุริมา เอกกํ มคฺคํ ยาตีติ โยชนา. เอกเมว เอกกํ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอกิสฺสา อิตรา ปกฺกนฺตฏฺาเน ติฏฺติ, ตสฺมา. ตตฺถาติ ตสฺมึ คณมฺหาโอหียเน. ปิ-สทฺโท เอวการตฺโถ. อนาปตฺติ เอว ปกาสิตาติ โยชนา.

๒๐๖๖-๗. คามนฺตรคตายาติ คามสีมคตาย. ‘‘นทิยา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อาปตฺติโยจตสฺโสปีติ รตฺติวิปฺปวาส คามนฺตรคมน นทิปารคมน คณมฺหาโอหียน สงฺขาตา จตสฺโส สงฺฆาทิเสสาปตฺติโย. คณมฺหาโอหียนมูลกาปตฺติยา คามโต พหิ อาปชฺชิตพฺพตฺเตปิ คามนฺตโรกฺกมนมูลกาปตฺติยา อนฺโตคาเม อาปชฺชิตพฺพตฺเตปิ เอกกฺขเณติ คามูปจารํ สนฺธายาห.

๒๐๖๘-๙. ยา สทฺธึ ยาตา ทุติยิกา, สา จ ปกฺกนฺตา วา สเจ โหติ, วิพฺภนฺตา วา โหติ, เปตานํ โลกํ ยาตา วา โหติ, กาลกตา วา โหตีติ อธิปฺปาโย, ปกฺขสงฺกนฺตา วา โหติ, ติตฺถายตนสงฺกนฺตา วา โหตีติ อธิปฺปาโย, นฏฺา วา โหติ, ปาราชิกาปนฺนา วา โหตีติ อธิปฺปาโย. เอวรูเป กาเล คามนฺตโรกฺกมนาทีนิ…เป… อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. อุมฺมตฺติกายปิ เอวํ จตฺตาริปิ กโรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.

๒๐๗๐. ‘‘อคามเก อรฺเ’’ติ อิทํ คามาภาเวน วุตฺตํ, น วิฺฌาฏวิสทิสตาย.

๒๐๗๑. คามภาวโต นทิปารคมนคณมฺหาโอหียนาปตฺติ น สมฺภวติ, ตสฺสาปิ สกคามตฺตา คามนฺตรคมนมูลิกาปตฺติ จ ทิวสภาคตฺตา รตฺติวิปฺปวาสมูลิกาปตฺติ จ น สมฺภวตีติ อาห ‘‘สกคาเม…เป… น วิชฺชเร’’ติ. ยถากามนฺติ ยถิจฺฉิตํ, ทุติยิกาย อสนฺติยาปีติ อตฺโถ.

๒๐๗๒. สมุฏฺานาทโย ปมนฺติมวตฺถุนา ตุลฺยาติ โยชนา.

คามนฺตรคมนกถาวณฺณนา.

๒๐๗๓. สีมาสมฺมุติยา เจวาติ ‘‘สมคฺเคน สงฺเฆน ธมฺเมน วินเยน อุกฺขิตฺตํ ภิกฺขุนึ การกสงฺฆํ อนาปุจฺฉา ตสฺเสว การกสงฺฆสฺส ฉนฺทํ อชานิตฺวา โอสาเรสฺสามี’’ติ นวสีมาสมฺมนฺนเน จ. ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ทุเว ถุลฺลจฺจยา โหนฺตีติ โยชนา.

๒๐๗๔. กมฺมสฺส ปริโยสาเนติ โอสารณกมฺมสฺส อวสาเน. ติกสงฺฆาทิเสสนฺติ ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติกา, ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๙๗) ติกสงฺฆาทิเสสํ วุตฺตํ. กมฺมนฺติ จ อุกฺเขปนียกมฺมํ. อธมฺเม ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมกมฺเม เวมติกา, อธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ.

๒๐๗๕. คณสฺสาติ ตสฺเสว การกคณสฺส. วตฺเต วา ปน วตฺตนฺตินฺติ เตจตฺตาลีสปฺปเภเท เนตฺตารวตฺเต วตฺตมานํ. เตจตฺตาลีสปฺปเภทํ ปน วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๗๖) อาวิ ภวิสฺสติ. เนตฺตารวตฺเตติ กมฺมโต นิตฺถรณสฺส เหตุภูเต วตฺเต.

๒๐๗๗. โอสารณํ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

จตุตฺถํ.

๒๐๗๘-๙. อวสฺสุตาติ เมถุนราเคน ตินฺตา. เอวมุปริปิ. ‘‘มนุสฺสปุคฺคลสฺสา’’ติ อิมินา ยกฺขาทีนํ ปฏิกฺเขโป. ‘‘อุทเก…เป… ทุกฺกฏ’’นฺติ วกฺขมานตฺตา อามิสนฺติ อฺตฺร ทนฺตโปนา อชฺโฌหรณียสฺส คหณํ. ปโยคโตติ ปโยคคณนาย.

๒๐๘๐. เอกโตวสฺสุเตติ ปุมิตฺถิยา สามฺเน ปุลฺลิงฺคนิทฺเทโส. กถเมตํ วิฺายตีติ? ‘‘เอกโตอวสฺสุเตติ เอตฺถ ภิกฺขุนิยา อวสฺสุตภาโว ทฏฺพฺโพติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปเนตํ น วุตฺตํ, ตํ ปาฬิยา สเมตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๐๑) วุตฺตตฺตา วิฺายติ. เอตฺถ จ เอตํ น วุตฺตนฺติ ‘‘ภิกฺขุนิยา อวสฺสุตภาโว ทฏฺพฺโพ’’ติ เอตํ นิยมนํ น วุตฺตํ. นฺติ ตํ นิยเมตฺวา อวจนํ. ปาฬิยา สเมตีติ ‘‘เอกโตอวสฺสุเต’’ติ (ปาจิ. ๗๐๑-๗๐๒) อวิเสเสตฺวา วุตฺตปาฬิยา, ‘‘อนวสฺสุโตติ ชานนฺตี ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ (ปาจิ. ๗๐๓) อิมาย จ ปาฬิยา สเมติ. ยทิ หิ ปุคฺคลสฺส อวสฺสุตภาโว นปฺปมาณํ, กึ ‘‘อนวสฺสุโตติ ชานนฺตี’’ติ อิมินา วจเนน. ‘‘อนาปตฺติ อุโภ อนวสฺสุตา โหนฺติ, อนวสฺสุตา ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ สิยา. อชฺโฌหารปโยเคสุ พหูสุ ถุลฺลจฺจยจโย ถุลฺลจฺจยานํ สมูโห สิยา, ปโยคคณนาย พหูนิ ถุลฺลจฺจยานิ โหนฺตีติ อธิปฺปาโย.

๒๐๘๑. สมฺภเว, พฺยภิจาเร จ วิเสสนํ สาตฺถกํ ภวตีติ ‘‘มนุสฺสวิคฺคหาน’’นฺติ อิทํ วิเสสนํ ยกฺขเปตติรจฺฉานปเทหิ โยเชตพฺพํ. อุภโตอวสฺสุเต สติ มนุสฺสวิคฺคหานํ ยกฺขเปตติรจฺฉานานํ หตฺถโต จ ปณฺฑกานํ หตฺถโต จ ตถาติ โยชนา. ตถา-สทฺเทเนตฺถ ‘‘ยํ กิฺจิ อามิสํ ปฏิคฺคณฺหาติ, ทุกฺกฏํ. อชฺโฌหารปโยเคสุ ถุลฺลจฺจยจโย สิยา’’ติ ยถาวุตฺตมติทิสติ.

๒๐๘๒. เอตฺถาติ อิเมสุ ยกฺขาทีสุ. เอกโตอวสฺสุเต สติ อามิสํ ปฏิคฺคณฺหนฺติยา ทุกฺกฏํ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ มนุสฺสามนุสฺเสสุ เอกโต, อุภโต วา อนวสฺสุเตสุ. อุทเก ทนฺตกฏฺเกติ อุทกสฺส, ทนฺตกฏฺสฺส จ คหเณ. ปริโภเค จาติ ปฏิคฺคหเณ เจว ปริโภเค จ.

๒๐๘๓-๔. อุภยาวสฺสุตาภาเวติ ภิกฺขุนิยา, ปุคฺคลสฺส จ อุภินฺนํ อวสฺสุตตฺเต อสติ ยทิ อามิสํ ปฏิคฺคณฺหาติ, น โทโสติ โยชนา. อยํ ปุริสปุคฺคโล. น จ อวสฺสุโตติ เนว อวสฺสุโตติ ตฺวา. ยา ปน อามิสํ ปฏิคฺคณฺหาติ, ตสฺสา จ อุมฺมตฺติกาทีนฺจ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. ‘‘ยา คณฺหาติ, ตสฺสา อนาปตฺตี’’ติ วุตฺเตปิ ปริภุฺชนฺติยาว อนาปตฺติภาโว ทฏฺพฺโพ.

ปฺจมํ.

๒๐๘๕. อุยฺโยชเนติ ‘‘กึ เต อยฺเย เอโส ปุริสปุคฺคโล กริสฺสติ อวสฺสุโต วา อนวสฺสุโต วา, ยโต ตฺวํ อนวสฺสุตา, อิงฺฆ อยฺเย ยํ เต เอโส ปุริสปุคฺคโล เทติ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา, ตํ ตฺวํ สหตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา ขาท วา ภุฺช วา’’ติ (ปาจิ. ๗๐๕) วุตฺตนเยน นิโยชเน. เอกิสฺสาติ อุยฺโยชิกาย. อิตริสฺสาติ อุยฺโยชิตาย. ปฏิคฺคเหติ อวสฺสุตสฺส หตฺถโต อามิสปฏิคฺคหเณ. ทุกฺกฏานิ จาติ อุยฺโยชิกาย ทุกฺกฏานิ. โภเคสูติ อุยฺโยชิตาย ตถา ปฏิคฺคหิตสฺส อามิสสฺส ปริโภเคสุ. ถุลฺลจฺจยคโณ สิยาติ อุยฺโยชิกาย ถุลฺลจฺจยสมูโห สิยาติ อตฺโถ.

๒๐๘๖-๗. โภชนสฺสาวสานสฺมินฺติ อุยฺโยชิตาย โภชนปริยนฺเต. สงฺฆาทิเสสตาติ อุยฺโยชิกาย สงฺฆาทิเสสาปตฺติ โหติ.

ยกฺขาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน เปตปณฺฑกติรจฺฉานคตา คหิตา. ตเถว ปุริสสฺส จาติ อวสฺสุตสฺส มนุสฺสปุริสสฺส. ‘‘คหเณ อุยฺโยชเน’’ติ ปทจฺเฉโท. คหเณติ อุยฺโยชิตาย คหเณ. อุยฺโยชเนติ อุยฺโยชิกาย อตฺตโน อุยฺโยชเน. เตสนฺติ อุทกทนฺตโปนานํ. ปริโภเคติ อุยฺโยชิตาย ปริภุฺชเน. ทุกฺกฏํ ปริกิตฺติตนฺติ อุยฺโยชิกาย ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.

๒๐๘๘. เสสสฺสาติ อุทกทนฺตโปนโต อฺสฺส ปริภุฺชิตพฺพามิสสฺส. ‘‘คหณุยฺโยชเน’’ติอาทิ วุตฺตนยเมว.

๒๐๘๙-๙๐. ยา ปน ภิกฺขุนี ‘‘อนวสฺสุโต’’ติ ตฺวา อุยฺโยเชติ, ‘‘กุปิตา วา น ปฏิคฺคณฺหตี’’ติ อุยฺโยเชติ, ‘‘กุลานุทฺทยตา วาปิ น ปฏิคฺคณฺหตี’’ติ อุยฺโยเชติ, ตสฺสา จ อุมฺมตฺติกาทีนฺจ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. ยถาห ‘‘อนาปตฺติ ‘อนวสฺสุโต’ติ ชานนฺตี อุยฺโยเชติ, ‘กุปิตา น ปฏิคฺคณฺหตี’ติ อุยฺโยเชติ, ‘กุลานุทฺทยตาย น ปฏิคฺคณฺหตี’ติ อุยฺโยเชตี’’ติอาทิ (ปาจิ. ๗๐๘).

ฉฏฺํ.

๒๐๙๑. สตฺตมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี กุปิตา อนตฺตมนา เอวํ วเทยฺย พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ (ปาจิ. ๗๑๐) สตฺตมสิกฺขาปทฺจ. อฏฺมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี กิสฺมิฺจิเทว อธิกรเณ ปจฺจากตา’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ (ปาจิ. ๗๑๖) อฏฺมสิกฺขาปทฺจ.

สตฺตมฏฺมานิ.

๒๐๙๒. นวเมติ ‘‘ภิกฺขุนิโย ปเนว สํสฏฺา วิหรนฺตี’’ติอาทิสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๗๒๒) จ. ทสเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี เอวํ วเทยฺย สํสฏฺาว อยฺเย ตุมฺเห วิหรถ, มา ตุมฺเห นานา วิหริตฺถา’’ติอาทิสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๗๒๘) จ.

นวมทสมานิ.

๒๐๙๓. เตน มหาวิภงฺคาคเตน ทุฏฺโทสทฺวเยน จ ตตฺเถว อาคเตน เตน สฺจริตฺตสิกฺขาปเทน จาติ อิเมหิ ตีหิ สทฺธึ อิธาคตานิ ฉ สิกฺขาปทานีติ เอวํ นว ปมาปตฺติกา. อิโต ภิกฺขุนิวิภงฺคโต จตฺตาริ ยาวตติยกานิ ตโต มหาวิภงฺคโต จตฺตาริ ยาวตติยกานีติ เอวํ อฏฺ ยาวตติยกานิ, ปุริมานิ นว จาติ สตฺตรส สงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทานิ มยา เจตฺถ ทสฺสิตานีติ อธิปฺปาโย.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา

๒๐๙๔-๕. เอวํ สตฺตรสสงฺฆาทิเสเส ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรานิ นิสฺสคฺคิยานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธิฏฺานุปคํ ปตฺต’’นฺติอาทิ. ‘‘อธิฏฺานุปคํ ปตฺต’’นฺติ อิมินา ปเทน เกนจิ การเณน อนธิฏฺานุปเค ปตฺเต อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. ‘‘ตสฺสา’’ติ ต-สทฺทาเปกฺขาย ภิกฺขุนีติ เอตฺถ ‘‘ยา’’ติ ลพฺภติ. ปตฺตสนฺนิธิการณาติ อนธิฏฺาย, อวิกปฺเปตฺวา เอกรตฺตมฺปิ ปตฺตสฺส นิกฺขิตฺตการณา.

๒๐๙๖. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท เสโส สพฺโพ วินิจฺฉโย กถามคฺโคติ โยชนา, อวเสสสพฺพวินิจฺฉยกถามคฺโคติ อตฺโถ. ปตฺตสิกฺขาปเทติ มหาวิภงฺคปมปตฺตสิกฺขาปเท.

๒๐๙๗. วิเสโสว วิเสสตา.

ปมํ.

๒๐๙๘. อกาเลติ ‘‘อนตฺถตกถิเน วิหาเร เอกาทส มาสา, อตฺถตกถิเน วิหาเร สตฺต มาสา’’ติ (ปาจิ. ๗๔๐ อตฺถโต สมานํ) เอวํ วุตฺเต อกาเล. วิกปฺปนฺตรํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทินฺนํ กาเลปิ เกนจี’’ติอาทิ. วุตฺตวิปริยาเยน กาลนิยโม เวทิตพฺโพ. เกนจิ อกาเล ยํ จีวรํ ทินฺนํ, กาเลปิ ยํ จีวรํ อาทิสฺส ทินฺนํ, ตํ อกาลจีวรํ นามาติ โยชนา. อาทิสฺส ทานปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สมฺปตฺตา ภาเชนฺตู’’ติ. นิยามิตนฺติ ‘‘สมฺปตฺตา ภาเชนฺตู’’ติ เอวํ วตฺวา ทินฺนฺจ ‘‘อิทํ คณสฺส, อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ วตฺวา วา ทาตุกามตาย ปาทมูเล เปตฺวา วา ทินฺนฺจ อาทิสฺส ทินฺนํ นามาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘สมฺปตฺตา ภาเชนฺตู’ติ วตฺวา วา ‘อิทํ คณสฺส, อิทํ ตุมฺหากํ ทมฺมี’ติ วตฺวา วา ทาตุกมฺยตาย ปาทมูเล เปตฺวา วา ทินฺนมฺปิ อาทิสฺส ทินฺนํ นาม โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๔๐).

๒๐๙๙. อกาลจีวรนฺติ วุตฺตปฺปการํ อกาลจีวรํ.

๒๑๐๐. อตฺตนา ปฏิลทฺธนฺติ ตโต ยํ จีวรํ อตฺตนา วสฺสคฺเคน ปฏิลทฺธํ. นิสฺสชฺชิตฺวา ปฏิลทฺธกาเล กตฺตพฺพวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ลภิตฺวา…เป… นิโยชเย’’ติ. ยถาทาเน นิโยชเยติ ยถา ทายเกน ทินฺนํ, ตถา อุปเนตพฺพํ, อกาลจีวรปกฺเขเยว เปตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๒๑๐๑. ตสฺสาติ ‘‘ยถาทาเน นิโยชเย’’ติ วจนสฺส. วินยกมฺมํ กตฺวา ปฏิลทฺธมฺปิ ตํ ปุน เสวิตุํ น จ วฏฺฏตีติ อยมธิปฺปาโยติ โยชนา.

๒๑๐๒. กาลจีวเร อกาลวตฺถสฺาย ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อุภยตฺถปีติ อกาลจีวเรปิ กาลจีวเรปิ. เวมติกาย ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๑๐๓. อุภยตฺถปิ จีวเร กาลจีวเร จ อกาลจีวเร จาติ อุภยจีวเรปิ กาลจีวรสฺาย ภาชาเปนฺติยา นโทโสติ โยชนา. สจิตฺตกสมุฏฺานตฺตยํ สนฺธายาห ‘‘ติสมุฏฺานตา’’ติ.

ทุติยํ.

๒๑๐๔. สเจ สยํ อจฺฉินฺทติ อฺาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ จีวรํ ปริวตฺเตตฺวา ปจฺฉา ‘‘ตุยฺหํ จีวรํ ตฺวเมว คณฺห, มยฺหํ จีวรํ เทหี’’ติ เอวํ ยทิ สยํ อจฺฉินฺทติ. เอตฺถ ‘‘สกสฺายา’’ติ เสโส. สกสฺาย คหิตตฺตา ปาจิตฺติยํ, ทุกฺกฏฺจ วุตฺตํ, อิตรถา ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ.

๒๑๐๕. อิตเรสูติ อพนฺธนฺจ อาณตฺติพหุตฺตฺจ สงฺคณฺหาติ. เตนาห ‘‘วตฺถูนํ ปโยคสฺส วสา สิยา’’ติ.

๒๑๐๖. ‘‘ติกปาจิตฺตี’’ติ อิทมเปกฺขิตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺา’’ติ สมฺพนฺธนียํ, อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺาติ เอตาสํ วเสน ติกปาจิตฺติ วุตฺตาติ อตฺโถ. อฺสฺมึ ปริกฺขาเรติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ อฺสฺมึ ปริกฺขาเร. อิตริสฺสาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺาเวมติกาอนุปสมฺปนฺนสฺานํ วเสน ติกทุกฺกฏํ อุทฺทิฏฺํ.

๒๑๐๗. ตาย วา ทียมานํ ตาย อฺาย ภิกฺขุนิยา ทุฏฺาย วา ตุฏฺาย วา ทียมานํ คณฺหนฺติยา, ตสฺสา วิสฺสาสเมว วา คณฺหนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. ‘‘ติสมุฏฺานตา มตา’’ติ อิทํ วุตฺตตฺถเมว.

ตติยํ.

๒๑๐๘. ยา ปน ภิกฺขุนี ‘‘กึ เต, อยฺเย, อผาสุ, กึ อาหรียตู’’ติ วุตฺตา อฺํ วิฺาเปตฺวา ตํ อาหฏํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตฺจ อฺฺจ คณฺหิตุกามา สเจ อฺํ วิฺาเปติ, ตสฺสา วิฺตฺติทุกฺกฏํ, ลาภา นิสฺสคฺคิยํ สิยาติ สาธิปฺปายโยชนา. วิฺตฺติยา ทุกฺกฏํ วิฺตฺติทุกฺกฏํ.

๒๑๐๙-๑๑. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อฺเ อฺสฺา, อฺเ เวมติกา, อฺเ อนฺสฺา อฺํ วิฺาเปตฺวา อฺํ วิฺาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๗๕๑) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. อนฺเ ทฺวิกทุกฺกฏนฺติ อนฺเ อฺสฺาย, เวมติกาย จ วเสน ทฺวิกทุกฺกฏํ. ‘‘อนฺเนฺสฺายา’’ติอาทินา อนาปตฺติวิสโย ทสฺสิโต. ‘‘อนฺเ อนฺสฺายา’’ติ ปทจฺเฉโท. อนฺเ อนฺสฺาย วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. ตสฺมึ ปมวิฺาปิเต อปฺปโหนฺเต วา ตฺเว วา วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. อฺเนปิ อตฺเถ สติ เตน สทฺธึ อฺํ วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ ปมํ สปฺปิ วิฺตฺตํ, ‘‘อามกมํสํ ปจิตพฺพ’’นฺติ จ เวชฺเชน วุตฺตตฺตา เตเลน อตฺโถ โหติ, ตโต ‘‘เตเลนาปิ เม อตฺโถ’’ติ เอวํ อฺฺจ วิฺาเปตีติ. อานิสํสฺจ ทสฺเสตฺวา ตโต อฺํ วิฺาเปนฺติยาปิ อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ กหาปณสฺส สปฺปิ อาภตํ โหติ, อิมินา มูเลน ทิคุณํ เตลํ ลพฺภติ, เตเลนาปิ จ อิทํ กิจฺจํ นิปฺปชฺชติ, ตสฺมา เตลมาหราติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา วิฺาเปตีติ.

จตุตฺถํ.

๒๑๑๒-๓. ปุพฺพํ อฺํ เจตาเปตฺวาติ โยชนา, อตฺตโน กปฺปิยภณฺเฑน ‘‘อิทํ นาม อาหรา’’ติ ปุพฺพํ อฺํ ปริวตฺตาเปตฺวาติ อตฺโถ. เอวนฺติ เอตฺถ ‘‘วุตฺเต’’ติ เสโส. ธเนน นิพฺพตฺตํ ธฺํ, อตฺตโน ธเนน นิปฺผาทิตตฺตา เตลาทิ อิธ ‘‘ธฺ’’นฺติ อธิปฺเปตํ, น วีหาทิ. เอวํ วุตฺเต มยฺหํ อฺํ ธฺํ อาเนตฺวา เทติ อิติ สฺาย ปจฺฉา อฺํ เจตาเปยฺยาติ โยชนา, น เม อิมินา อตฺโถ, อฺํ อาหราติ วุตฺเต อิทฺจ ทตฺวา อฺฺจ อาหริตฺวา เทตีติ สฺาย ‘‘น เม อิทํ รุจฺจติ, อฺํ อาหรา’’ติ ปจฺฉา อฺํ ปริวตฺตาเปยฺยาติ อตฺโถ. เจตาปนปโยเคนาติ อาณตฺตาย เจตาปนวเสน. มูลฏฺายาติ อาณาปิกาย. เตน จ อฺเน วา มูเลน อาภตํ โหตุ, ตสฺส ลาเภ นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ โยชนา.

๒๑๑๔. เสสนฺติ ติกปาจิตฺติยาทิกํ วินิจฺฉยวิเสสํ.

ปฺจมํ.

๒๑๑๕-๖. อฺทตฺถาย ทินฺเนนาติ อุปาสเกหิ ‘‘เอวรูปํ คเหตฺวา ภาเชตฺวา ปริภุฺชถา’’ติ อฺสฺสตฺถาย ทินฺเนน. ‘‘สงฺฆิเกน ปริกฺขาเรนา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปริกฺขาเรนาติ กปฺปิยภณฺเฑน. สงฺฆิเกนาติ สงฺฆสฺส ปริจฺจตฺเตน. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. ตสฺสาติ ยาย เจตาปิตํ. นิสฺสคฺคิยํ สิยาติ เอตฺถ นิสฺสฏฺปฏิลทฺธํ ยถาทาเน อุปเนตพฺพนฺติ วตฺตพฺพํ. ยถาห ‘‘นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวา ยถาทาเน อุปเนตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๗๖๑). อิทํ เหฏฺา วุตฺตตฺถาธิปฺปายเมว. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ‘‘อนฺทตฺถิเก อฺทตฺถิกสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนฺทตฺถิเก เวมติกา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อนฺทตฺถิเก นิทฺทิฏฺํ ทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ. อิมินา จ ‘‘อฺทตฺถิเก ติกปาจิตฺติย’’นฺติ อิทํ วุตฺตเมว. ‘‘อฺทตฺถิเก อฺทตฺถิกสฺา, เวมติกา, อนฺทตฺถิกสฺา อฺํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๗๖๑) หิ วุตฺตํ.

๒๑๑๗. เสสกนฺติ ยทตฺถาย ทินฺนํ, ตํ เจตาเปตฺวา อาหริตฺวา อติริตฺตํ มูลํ อฺทตฺถาย อุปเนนฺติยา อนาปตฺตีติ โยเชตพฺพํ. สามิเก ปุจฺฉิตฺวาติ ‘‘ตุมฺเหหิ จีวรตฺถาย ทินฺนํ, อมฺหากฺจ จีวรํ สํวิชฺชติ, เตลาทีหิ ปน อตฺโถ’’ติ เอวํ สามิเก ปุจฺฉิตฺวา. นฺติ ตํ เจตาปนฺนํ. อาปทาสูติ ภิกฺขุนีหิ วิหารํ ปหาย คมนารหมุปทฺทโว คหิโต. ยถาห ‘‘อาปทาสูติ ตถารูเปสุ อุปทฺทเวสุ ภิกฺขุนิโย วิหารํ ฉฑฺเฑตฺวา ปกฺกมนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ยํ วา ตํ วา เจตาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๖๒).

๒๑๑๘. สยํ ยาจิตกํ วินาติ ‘‘สํยาจิตก’’นฺติ ปทํ วินา, เอตฺตกเมว วิสทิสนฺติ วุตฺตํ โหติ.

ฉฏฺสตฺตมานิ.

๒๑๑๙. อธิกวจนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มหาชนิกสฺาจิเกนา’’ติ. ปทตาธิกาติ ปทเมว ปทตา. มหาชนิเกนาติ คณสฺส ปริจฺจตฺเตน. สฺาจิเกนาติ สยํ ยาจิตเกน.

๒๑๒๐. อนนฺตรสมา มตาติ อิธ ‘‘ปุคฺคลิเกนา’’ติ ปทํ วินา สมุฏฺานาทินา สทฺธึ สพฺเพ วินิจฺฉยา อนนฺตรสิกฺขาปทสทิสา มตาติ อตฺโถ. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อฺทตฺถิเกน ปริกฺขาเรน อฺุทฺทิสิเกน ปุคฺคลิเกนา’’ติ หิ สิกฺขาปทํ. ปุคฺคลิเกนาติ เอกภิกฺขุนิยา ปริจฺจตฺเตน. ‘‘กิฺจิปี’’ติ ลิขนฺติ. ‘‘โกจิปี’’ติ ปาโ สุนฺทโร ‘‘วิเสโส’’ติ อิมินา ตุลฺยาธิกรณตฺตา.

อฏฺมนวมทสมานิ.

ปโม วคฺโค.

๒๑๒๑-๒. จตฺตาริ กํสานิ สมาหฏานิ, จตุนฺนํ กํสานํ สมาหาโร วา จตุกฺกํสํ, จตุกฺกํสโต อติเรกํ อติเรกจตุกฺกํสํ, เตน อติเรกจตุกฺกํสคฺฆนกํ ปาวุรณมาห, อุปจาเรน ‘‘อติเรกจตุกฺกํส’’นฺติ วุตฺตํ. กํสปริมาณํ ปเนตฺถ สยเมว วกฺขติ ‘‘กหาปณจตุกฺกํ ตุ, กํโส นาม ปวุจฺจตี’’ติ. ตสฺมา อติเรกโสฬสกหาปณคฺฆนกนฺติ อตฺโถ. ครุปาวุรณนฺติ สีตกาเล ปารุปิตพฺพปาวุรณํ. เจตาเปยฺยาติ วิฺาเปยฺย. จตฺตาริ สจฺจานิ สมาหฏานิ, จตุนฺนํ วา สจฺจานํ สมาหาโร จตุสจฺจํ, ตํ ปกาเสติ สีเลนาติ จตุสจฺจปฺปกาสี, เตน, จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ นิทฺทิสเกน สมฺมาสมฺพุทฺเธน. ปโยเคติ ‘‘เทหี’’ติ เอวํ วิฺาปนปโยเค. ลาเภติ ปฏิลาเภ.

จตุนฺนํ สมูโห จตุกฺกํ, กหาปณานํ จตุกฺกํ กหาปณจตุกฺกํ. กหาปโณ เจตฺถ ตํตํกาเล, ตํตํปเทเส จ โวหารูปโค คเหตพฺโพ. อิมา วุตฺตปฺปการา นิสฺสคฺคิยาวสานาปตฺติโย ‘‘าตกานฺจ สนฺตเก’’ติ อนาปตฺติวิสเย วกฺขมานตฺตา ‘‘ยทา เยน อตฺโถ, ตทา ตํ วเทยฺยาถา’’ติ เอวํ นิจฺจปวารณํ อกตฺวา ตสฺมึ กาเล กิสฺมิฺจิ คุเณ ปสีทิตฺวา ‘‘วเทยฺยาถ เยน อตฺโถ’’ติ เอวํ ปวาริตฏฺาเน สมฺภวนฺตีติ ทฏฺพฺพา.

๒๑๒๓-๕. อูนกจตุกฺกํเส อติเรกสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อูนกจตุกฺกํเส เวมติกา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อูนเก ตุ จตุกฺกํเส, อุทฺทิฏฺํ ทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ. อิมินา ‘‘อติเรกจตุกฺกํเส อติเรกสฺา, เวมติกา, อูนกสฺา เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ ติกปาจิตฺติยฺจ ทสฺสิตํ โหติ.

ครุกนฺติ ครุปาวุรณํ. ตทูนํ วาติ จตุกฺกํสโต อูนกํ วา. าตกานฺจาติ เอตฺถ -สทฺเทน ปวาริตานํ สงฺคโห. ยถาห อนาปตฺติวาเร ‘‘าตกานํ, ปวาริตาน’’นฺติ (ปาจิ. ๗๘๗). เอตฺถ จ ‘‘อติเรกจตุกฺกํสมฺปี’’ติ วตฺตพฺพํ ‘‘ตทูนํ วา’’ติ อิมินา จตุกฺกํสูนสฺส วุตฺตตฺตา. ‘‘อปฺปเมว วา’’ติ อิมินา อติเรกจตุกฺกํเสปิ มหคฺฆตรํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เอกาทสมํ.

๒๑๒๖-๗. ‘‘ลหุปาวุรณํ ปน ภิกฺขุนิยา เจตาเปนฺติยา อฑฺฒเตยฺยกํสปรมํ เจตาเปตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๗๘๙) วจนโต ลหุปาวุรณนฺติ เอตฺถ ‘‘เจตาเปนฺติยา ภิกฺขุนิยา’’ติ จ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนนฺติ เอตฺถ ‘‘เจตาเปตพฺพ’’นฺติ จ เสโส. ลหุปาวุรณนฺติ อุณฺหกาเล ปาวุรณํ. ติณฺณํ ปูรโณ เตยฺโย, อฑฺโฒ เตยฺโย อสฺสาติ อฑฺฒเตยฺโย, อฑฺฒเตยฺโย จ โส กํโส จาติ อฑฺฒเตยฺยกํโส, ตํ อคฺฆตีติ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนํ, ทสกหาปณคฺฆนกนฺติ อตฺโถ. ตโตติ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกโต. ยํ ปน ปาวุรณํ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกํ, ตํ ลหุปาวุรณํ. ตโต อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกโต ลหุปาวุรณโต. อุตฺตรินฺติ อติเรกํ. อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกํ ยํ ปาวุรณํ ยา ภิกฺขุนี เจตาเปติ, ตสฺส ปาวุรณสฺส ปฏิลาเภ ตสฺสา ภิกฺขุนิยา นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยา วุตฺตาติ โยชนา.

‘‘อนนฺตรสมํ เสส’’นฺติ อิทํ สมตฺเถตุมาห ‘‘นตฺถิ กาจิ วิเสสตา’’ติ. วิเสโสเยว วิเสสตา.

ทฺวาทสมํ.

๒๑๒๘. อิทานิ ปาติโมกฺขุทฺเทเส อาคเตสุ สมตึสนิสฺสคฺคิเยสุ เกสฺจิ อตฺตโน อวจเน การณฺจ อวุตฺเตหิ สทฺธึ วุตฺตานํ คหณฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘สาธารณานี’’ติอาทิ. หิ ยสฺมา ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ สาธารณานิ ยานิ สิกฺขาปทานิ เสสานิ อิธ วุตฺเตหิ อฺานิ, ตานิ อฏฺารส สิกฺขาปทานิ เจว อิธ วุตฺตสรูปานิ ทฺวาทส สิกฺขาปทานิ เจติ อิจฺเจวํ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทานิ สมตึเสว โหนฺตีติ โยชนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา

๒๑๒๙-๓๐. เอวํ ตึส นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สุทฺธปาจิตฺติยานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ลสุณ’’นฺติอาทิ. ลสุณนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ‘‘ลสุณํ’’อิติ ภณฺฑิกํ วุตฺตํ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๓-๗๙๕). จตุปฺจมิฺชาทิปฺปเภทํ ภณฺฑิกํ ลสุณํ นาม, น ตโต อูนํ. เตนาห ‘‘น เอกทฺวิติมิฺชก’’นฺติ. ปกฺกลสุณโต, สีหฬทีปสมฺภวโต จ วิเสสมาห ‘‘อามกํ มาคธํเยวา’’ติ. มคเธสุ ชาตํ มาคธํ, ‘‘วุตฺต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘มคธรฏฺเ ชาตลสุณเมว หิ อิธ ลสุณนฺติ อธิปฺเปต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๕). ตํ ‘‘ขาทิสฺสามี’’ติ คณฺหตีติ สมฺพนฺโธ. วุตฺตปฺปการํ ปาจิตฺติยฺจ อชฺโฌหารวเสนาติ ทสฺเสตุมาห ‘‘อชฺโฌหารวเสเนว, ปาจิตฺตึ ปริทีปเย’’ติ.

๒๑๓๑. ตเทว วกฺขติ ‘‘ทฺเว ตโย’’ติอาทินา. สทฺธินฺติ เอกโต. สงฺขาทิตฺวาติ คลพิลํ อปฺปเวเสตฺวา ทนฺเตหิ สํจุณฺณิยนฺตี ขาทิตฺวา. อชฺโฌหรติ ปรคลํ กโรติ.

๒๑๓๒. ตตฺถาติ ตสฺมึ ภณฺฑิกลสุเณ. ‘‘มิฺชานํ คณนายา’’ติ อิมินา อชฺโฌหารปโยคคณนาเยว ทีปิตา. ยถาห ‘‘ภินฺทิตฺวา เอเกกํ มิฺชํ ขาทนฺติยา ปน ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยานี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๕).

๒๑๓๓. สภาวโต วฏฺฏนฺเตวาติ โยชนา.

๒๑๓๕. ยถาวุตฺตปลณฺฑุกาทีนํ นานตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกา มิฺชา’’ติอาทิ. อิธ มิฺชานํ วเสเนว นานตฺตํ ทสฺสิตํ. อฏฺกถายํ ปน วณฺณวเสนาปิ. ยถาห ‘‘ปลณฺฑุโก ปณฺฑุวณฺโณ โหติ. ภฺชนโก โลหิตวณฺโณ. หริตโก หริตปณฺณวณฺโณ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๗).

๒๑๓๖. ‘‘สาฬเว อุตฺตริภงฺคเก’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘พทรสาฬวาทีสู’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๗) อฏฺกถาวจนโต เอตฺถ พทร-สทฺโท เสโส. พทรสาฬวํ นาม พทรผลานิ สุกฺขาเปตฺวา จุณฺเณตฺวา กาตพฺพา ขาทนียวิกติ. อุมฺมตฺติกาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อาทิกมฺมิกา คหิตา. ยถาห ‘‘อุมฺมตฺติกาย อาทิกมฺมิกายา’’ติ (ปาจิ. ๗๙๗).

ปมํ.

๒๑๓๗. สมฺพาเธติ ปฏิจฺฉนฺโนกาเส. ตสฺส วิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปกจฺเฉสุ มุตฺตสฺส กรเณปิ วา’’ติ.

๒๑๓๘. อสฺสา ตถา ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘น โลมคณนายา’’ติ อิมินา ‘‘ปโยคคณนายา’’ติ อิทเมว สมตฺถยติ.

๒๑๓๙. อาพาเธติ กณฺฑุอาทิเก โรเค. ยถาห – ‘‘อาพาธปจฺจยาติ กณฺฑุกจฺฉุอาทิอาพาธปจฺจยา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๐๑). มคฺคสํวิธานสมา มตาติ ภิกฺขุนิยา สํวิธาย เอกทฺธานสิกฺขาปเทน สทิสา มตา าตาติ อตฺโถ.

ทุติยํ.

๒๑๔๐. ปทุมสฺส วา ปุณฺฑรีกสฺส วา อนฺตมโส เกสเรนาปิ กามราเคน มุตฺตกรณสฺส ตลฆาตเน มุตฺตกรณมฺปิ ปหารทาเน ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. เกสเรนาปีติ อปิ-สทฺเทน มหาปทุมปณฺเณหิ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทีเปติ. ยถาห – ‘‘อนฺตมโส อุปฺปลปตฺเตนาปีติ เอตฺถ ปตฺตํ ตาว มหนฺตํ, เกสเรนาปิ ปหารํ เทนฺติยา อาปตฺติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๐๓).

๒๑๔๑. ตตฺถาติ ตสฺมึ มุตฺตกรณตเล.

ตติยํ.

๒๑๔๒. ยา ปน ภิกฺขุนี กามราคปเรตา กามราเคน ปีฬิตา อตฺตโน พฺยฺชเน มุตฺตปเถ อุปฺปลปตฺตมฺปิ ปเวเสติ, น วฏฺฏติ ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. ปิ-สทฺเทน ‘‘เกสรมตฺตมฺปิ ปน ปเวเสนฺติยา อาปตฺติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๑๒) อฏฺกถา อุลฺลิงฺคิตา.

๒๑๔๓-๔. ยทฺเยวํ ‘‘ชตุมฏฺเก ปาจิตฺติย’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิทํ…เป… ชตุมฏฺก’’นฺติ. อิทํ ชตุมฏฺกํ วตฺถุวเสเนว วุตฺตนฺติ ‘‘อถ โข สา ภิกฺขุนี ชตุมฏฺกํ อาทิยิตฺวา โธวิตุํ วิสฺสริตฺวา เอกมนฺตํ ฉฑฺเฑสิ. ภิกฺขุนิโย มกฺขิกาหิ สมฺปริกิณฺณํ ปสฺสิตฺวา เอวมาหํสุ ‘กสฺสิทํ กมฺม’นฺติ. สา เอวมาห ‘มยฺหิทํ กมฺม’นฺติ. ยา ตา ภิกฺขุนิโย อปฺปิจฺฉา, ตา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ ‘กถฺหิ นาม ภิกฺขุนี ชตุมฏฺกํ อาทิยิสฺสตี’’ติ (ปาจิ. ๘๐๖) อาคตวตฺถุวเสเนว วุตฺตํ, น ตํ วินา อฺสฺส วฏฺฏกสฺส สมฺภวโตติ อธิปฺปาโย. ชตุมฏฺกํ นาม ชตุนา กโต มฏฺทณฺฑโก.

ทณฺฑนฺติ เอตฺถ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘อนฺตมโส อุปฺปลปตฺตมฺปิ มุตฺตกรณํ ปเวเสตี’’ติ (ปาจิ. ๘๐๘). เอตมฺปิ จ อติมหนฺตํ, เกสรมตฺตมฺปิ ปน ปเวเสนฺติยา อาปตฺติ เอว. เอฬาลุกนฺติ กกฺการิผลํ วา. ตสฺมินฺติ อตฺตโน มุตฺตกรเณ.

๒๑๔๕. อาพาธปจฺจยาติ มุตฺตกรณปฺปเทเส ชาตวณาทิมฺหิ วณฏฺานนิรุปนาทิปจฺจยา.

จตุตฺถํ.

๒๑๔๖. อคฺคปพฺพทฺวยาธิกนฺติ อคฺคปพฺพทฺวยโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อธิกํ. ยถาห ‘‘อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๘๑๒). ทกสุทฺธึ กโรนฺติยาติ มุตฺตกรณฏฺาเน โธวนํ กโรนฺติยา. ยถาห ‘‘อุทกสุทฺธิกํ นาม มุตฺตกรณสฺส โธวนา วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๘๑๒).

๒๑๔๗. ‘‘ตีณี’’ติ อิมินา เอกงฺคุลิยา ปพฺพทฺวยสฺส ปเวเสตฺวา โธวเน โทสาภาวํ ทีเปติ. ทีฆโตติ องฺคุลิยา ทีฆโต. ตีณิ ปพฺพานิ คมฺภีรโต มุตฺตกรเณ ปเวเสตฺวา อุทกสุทฺธึ อาทิยนฺติยา ปาจิตฺติยํ ภเวติ โยชนา.

๒๑๔๘. ติสฺโส, จตสฺโส วา องฺคุลิโย เอกโต กตฺวา วิตฺถาเรน ปเวสเน เอกปพฺเพปิ ปวิฏฺเ ‘‘ทฺวงฺคุลปพฺพปรม’’นฺติ นิยมิตปฺปมาณาติกฺกมโต อาห ‘‘เอกปพฺพมฺปิ ยา ปนา’’ติ. ยา ปน ภิกฺขุนี จตุนฺนํ วาปิ องฺคุลีนํ ติสฺสนฺนํ วาปิ องฺคุลีนํ เอกปพฺพมฺปิ วิตฺถารโต ปเวเสติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.

๒๑๔๙. อิตีติ เอวํ. สพฺพปฺปกาเรนาติ คมฺภีรปเวสนาทินา สพฺเพน ปกาเรน. อภิพฺยตฺตตรํ กตฺวาติ สุปากฏตรํ กตฺวา. อยมตฺโถติ ‘‘เอกิสฺสงฺคุลิยา ตีณี’’ติอาทินา วุตฺโต อยมตฺโถ.

๒๑๕๐. ทฺวงฺคุลปพฺเพ โทโส นตฺถีติ โยชนา. อุทกสุทฺธิปจฺจเย ปน สติปิ ผสฺสสาทิยเน ยถาวุตฺตปริจฺเฉเท อนาปตฺติ. อธิกมฺปีติ ทฺวงฺคุลปพฺพโต อธิกมฺปิ. อุทกสุทฺธึ กโรนฺติยา โทโส นตฺถีติ โยชนา.

๒๑๕๑. ตถา อุทกสุทฺธึ กโรนฺตีนํ อุมฺมตฺติกาทีนํ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.

ปฺจมํ.

๒๑๕๒. ภุฺชโต ปน ภิกฺขุสฺสาติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ ภุฺชโต ภิกฺขุสฺส. ยถาห ‘‘ภุฺชนฺตสฺสาติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ ภุฺชนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๘๑๗). ปานียํ วา วิธูปนํ วาติ วกฺขมานํ ปานียํ, พีชนียฺจ. อุปติฏฺเยฺยาติ ‘‘หตฺถปาเส ติฏฺตี’’ติ (ปาจิ. ๘๑๗) วจนโต เอตฺถ อุป-สทฺโท หตฺถปาสสงฺขาตํ สมีปํ วทตีติ เวทิตพฺพํ.

๒๑๕๓. วตฺถโกณาทิ ยา กาจิ ‘‘พีชนี’’ติ วุจฺจตีติ โยชนา, อิมินา ‘‘พีชนิกิจฺจํ สมฺปาเทสฺสามี’’ติ อธิฏฺาย คหิตจีวรโกณปฺปการํ ยํ กิฺจิ ‘‘พีชนี’’ติ วุจฺจตีติ อตฺโถ.

๒๑๕๔. ‘‘อถ โข สา ภิกฺขุนี ตสฺส ภิกฺขุโน ภุฺชนฺตสฺส ปานีเยน จ วิธูปเนน จ อุปติฏฺิตฺวา อจฺจาวทติ. อถ โข โส ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุนึ อปสาเทติ ‘มา, ภคินิ, เอวรูปํ อกาสิ, เนตํ กปฺปตี’ติ. ‘ปุพฺเพ มํ ตฺวํ เอวฺจ เอวฺจ กโรสิ, อิทานิ เอตฺตกํ น สหสี’ติ ปานียถาลกํ มตฺถเก อาสุมฺภิตฺวา วิธูปเนน ปหารํ อทาสี’’ติ (ปาจิ. ๘๑๕) อิมสฺมึ วตฺถุมฺหิ ภิกฺขูหิ อาโรจิเต ‘‘กถฺหิ นาม, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนี ภิกฺขุสฺส ปหารํ ทสฺสตี’’ติอาทีนิ (ปาจิ. ๘๑๕) วตฺวา ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ภิกฺขุสฺส ภุฺชนฺตสฺส ปานีเยน วา วิธูปเนน วา อุปติฏฺเยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๘๑๖) วุตฺตตฺตา ปหารปจฺจยา นุ โขติ อาสงฺกํ นิวตฺเตตุมาห ‘‘หตฺถปาเส อิธ านปจฺจยาปตฺติ ทีปิตา’’ติ. เอตฺถ จ อาสุมฺภิตฺวาติ ปาเตตฺวา. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสฺส ปหาโร ทาตพฺโพ. ยา ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๔๒๐) ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก วุตฺตํ คเหตฺวา อาห ‘‘ปหารปจฺจยา วุตฺตํ, ขนฺธเก ทุกฺกฏํ วิสุ’’นฺติ. อิมินา วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส การณํ ทสฺสิตํ โหติ.

๒๑๕๕. หตฺถปาสํ ชหิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘โภชนํ ภุฺชโต’’ติ จ ขาทนํ ขาทโตติ เอตฺถ ‘‘หตฺถปาเส’’ติ จ วตฺตพฺพํ. โภชนํ ภุฺชโต หตฺถปาสํ ชหิตฺวา อุปติฏฺนฺติยา วา ขาทนํ ขาทโต หตฺถปาเส อุปติฏฺนฺติยา วา โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๑๕๖. เทตีติ ปานียํ วา สูปาทึ วา ‘‘อิมํ ปิวถ, อิมินา ภุฺชถา’’ติ เทติ. ตาลวณฺฏํ ‘‘อิมินา พีชนฺตา ภุฺชถา’’ติ เทติ. ทาเปตีติ อฺเน อุภยมฺปิ ทาเปติ. อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานโต เอฬกโลเมน สมํ มตนฺติ โยชนา.

ฉฏฺํ.

๒๑๕๗. วิฺตฺวาติ สยํ วิฺตฺวา, อฺาย วา วิฺาเปตฺวา. ‘‘วิฺตฺวา วา วิฺาเปตฺวา วา’’ติ (ปาจิ. ๘๒๑) หิ สิกฺขาปทํ. อามกํ ธฺนฺติ อปกฺกํ อภฏฺํ สาลิอาทิกํ สตฺตวิธํ ธฺํ. ยถาห – ‘‘อามกธฺํ นาม สาลิ วีหิ ยโว โคธุโม กงฺคุ วรโก กุทฺรูสโก’’ติ (ปาจิ. ๘๒๒). โกฏฺเฏตฺวาติ มุสเลหิ โกฏฺเฏตฺวา. ยทิ ปริภุฺชตีติ โยชนา.

๒๑๕๘-๖๐. ‘‘ภุฺชิสฺสามีติ ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อิทํ ปโยคทุกฺกฏํ นาม, ตสฺมา น เกวลํ ปฏิคฺคหเณเยว ทุกฺกฏํ โหตี’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๒) อฏฺกถาคตํ วิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น เกวลํ ตุ ธฺาน’’นฺติอาทิ. ปนาติ อปิ-สทฺทตฺเถ, สุกฺขาปเนปีติ อตฺโถ. ภชฺชนตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘วทฺทลิทิวเส’’ติ เสโส. ‘‘กปลฺลสชฺชเน อุทฺธนสชฺชเน’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ทพฺพิสชฺชเนติ กฏจฺฉุสมฺปาทเน. ตตฺถ กปลฺลเก ธฺปกฺขิปเนติ โยชนา. ‘‘ฆฏฺฏนโกฏฺฏเน’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน น-การโลปํ กตฺวา ‘‘ฆฏฺฏโกฏฺฏเน’’ติ วุตฺตํ.

๒๑๖๑-๓. ปมาณ-สทฺทสฺส อาวตฺตลิงฺคสงฺขฺยตฺตา อาห ‘‘โภชนฺเจว วิฺตฺติปมาณ’’นฺติ. อาวตฺตลิงฺคสงฺขฺยตฺตํ นาม นิยตลิงฺเคกตฺตพหุตฺตํ. ตถา เหตฺถ ปมาณ-สทฺโท นิยตนปุํสกลิงฺเค นิยเตกตฺตํ วุจฺจติ. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท โภชนฺเจว วิฺตฺติ จาติ อิทํ ทฺวยํ หิ ยสฺมา ปมาณํ, ตสฺมา สยํ วิฺตฺวา วา อฺโต ภชฺชนาทีนิ การาเปตฺวา วา อฺาย ปน วิฺาเปตฺวา สยํ ภชฺชนาทีนิ กตฺวา วา ยา ปน ภิกฺขุนี อชฺโฌหรติ, ตสฺสา อชฺโฌหารปโยเคสุ ปาจิตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา.

มหาปจฺจริยํ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๓) วุตฺตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มาตรํ วา’’ติอาทิ. มาตรํ วาปิ ยาจิตฺวาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อตฺถนฺตรวิกปฺปเน. ปิ-สทฺโท สมฺภาวเน. มาตรํ วา ปิตรํ วา อฺํ วา าตกํ วา ปวาริตํ วา อามกธฺํ ยาจิตฺวา วา อฺาย การาเปตฺวา วา ยา ปริภุฺชติ, ตสฺสา ปาจิตฺตีติ โยชนา.

๒๑๖๔. อวิฺตฺติยา ลทฺธํ สยํ วา ภชฺชนาทีนิ กตฺวา วา อฺาย การาเปตฺวา วา ยา ปริภุฺชติ, ตสฺสา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๑๖๕. อฺาย ปน วิฺตฺติยา ลทฺธํ ตาย การาเปตฺวาปิ สยํ กตฺวา วา อชฺโฌหรนฺติยา ตถา อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อิทฺจ มหาปจฺจริยาคตนยํ คเหตฺวา วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘อฺาย วิฺตฺตํ ภุฺชนฺติยา ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๒) วุตฺตตฺตา วิฺตฺติยาปิ อฺาย ลทฺธํ อามกํ ธฺํ ตาย การาเปตฺวา วา สยํ กตฺวา วา ปริภุฺชนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๒๑๖๖-๗. เสทกมฺมาทิอตฺถายาติ วาตโรคาทินา อาตุรานํ เสทนาทิปฏิการตฺถาย. อิธ ‘‘อฺาตกอปฺปวาริตฏฺาเนปี’’ติ เสโส. ภิกฺขูนมฺปิ เอเสว นโย. เปตฺวา สตฺต ธฺานิ าตกปวาริตฏฺาเน เสสวิฺตฺติยาปิ อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. เสสวิฺตฺติยาติ มุคฺคมาสอลาพุกุมฺภณฺฑกาทีนํ วุตฺตธฺาวเสสานํ วิฺตฺติยา.

สาลิอาทีนํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา, อนามาสตฺตา จ สพฺเพน สพฺพํ น วฏฺฏนฺตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘าตกานมฺปี’’ติอาทิ.

๒๑๖๘. ลทฺธนฺติ ลพฺภมานํ. นวกมฺเมสูติ นวกมฺมตฺถาย, นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. เอตฺถ ‘‘สมฺปฏิจฺฉิตุ’’นฺติ เสโส. ‘‘อวิฺตฺติยา ลพฺภมานํ ปน นวกมฺมตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๓) มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.

สตฺตมํ.

๒๑๖๙. สงฺการนฺติ กจวรํ. วิฆาสกํ วาติ อุจฺฉิฏฺกมจฺฉกณฺฏกมํสฏฺิจลกมุขโธวนาทิกํ ยํ กิฺจิ. ฉฑฺเฑยฺย วาติ เอตฺถ ‘‘สย’’นฺติ เสโส ‘‘ฉฑฺฑาเปยฺย ปเรหี’’ติ วกฺขมานตฺตา. กุฏฺฏสฺส ติโร ติโรกุฏฺฏํ, ตสฺมึ, กุฏฺฏสฺส ปรภาเคติ อตฺโถ. ‘‘ปากาเรปิ อยํ นโย’’ติ วกฺขมานตฺตา กุฏฺฏนฺติ วา พฺยติริตฺตา ภิตฺติ คเหตพฺพา.

๒๑๗๑. เอกาติ เอตฺถ อาปตฺตีติ เสโส. ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.

๒๑๗๒. ฉฑฺฑเนติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ทนฺตกฏฺสฺส ฉฑฺฑเนปิ ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.

๒๑๗๓-๔. สพฺพตฺถาติ วุตฺตปฺปกาเรสุ สพฺเพสุ วิกปฺเปสุ. อนาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อวลฺเชปี’’ติอาทิ. อวลฺเช าเน อโนโลเกตฺวา ฉฑฺเฑนฺติยาปิ วา วลฺเช าเน โอโลเกตฺวาปิ วา ปน ฉฑฺเฑนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. ฉฑฺฑนํ กฺริยํ. อโนโลกนํ อกฺริยํ.

อฏฺมํ.

๒๑๗๕-๖. ยา ปน ภิกฺขุนี เขตฺเต วา นาฬิเกราทิอาราเม วา ยตฺถ กตฺถจิ โรปิเม หริตฏฺาเน ตานิ วิฆาสุจฺจารสงฺการมุตฺตสงฺขาตานิ จตฺตาริ วตฺถูนิ สเจ สยํ ฉฑฺเฑติ วา, ตถา ปเร ฉฑฺฑาเปติ วา, ตสฺสา ภิกฺขุนิยา อาปตฺติวินิจฺฉโย วุตฺตนโย ‘‘เอเกก’’มิจฺจาทินา ยถาวุตฺตปกาโรติ โยชนา.

๒๑๗๗-๘. ยา ปน ภิกฺขุนี หริเต เขตฺเต นิสีทิตฺวา ภุฺชมานา วา ตถา หริเต ตตฺถ เขตฺเต อุจฺฉุอาทีนิ ขาทนฺติ ขาทมานา คจฺฉนฺตี วา ยทิ อุจฺฉิฏฺํ อุทกํ วา จลกาทึ วา ฉฑฺเฑติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา. จลกํ นาม วมิกรํ.

๒๑๗๙. ตาทิเส หริเต าเน อนฺตมโส มตฺถกฉินฺนํ นาฬิเกรมฺปิ ชลํ ปิวิตฺวา ฉฑฺเฑนฺติยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๑๘๐. สพฺเพสนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ.

๒๑๘๑. ลายิตมฺปิ เขตฺตํ ปุน โรหณตฺถาย มนุสฺสา รกฺขนฺติ เจ, ตตฺถ ตสฺมึ เขตฺเต วิฆาสุจฺจาราทีนิ ฉฑฺเฑนฺติยา อสฺสา ภิกฺขุนิยา ยถาวตฺถุกเมว หิ ปาจิตฺติยเมวาติ โยชนา. ‘‘อสฺสา ยถาวตฺถุก’’นฺติ อิมินา ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตเมว โหติ.

๒๑๘๒. ฉฑฺฑิเต เขตฺเตติ มนุสฺเสหิ อุทฺธฏสสฺเส เขตฺเต. ยถาห – ‘‘มนุสฺเสสุ สสฺสํ อุทฺธริตฺวา คเตสุ ฉฑฺฑิตเขตฺตํ นาม โหติ, ตตฺถ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๐). เอวํ อกเตปิ เขตฺเต สามิเก อาปุจฺฉิตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. ยถาห ‘‘สามิเก อปโลเกตฺวา ฉฑฺเฑตี’’ติ (ปาจิ. ๘๓๒). อิธ เขตฺตปาลกา, อารามาทิโคปกา จ สามิกา เอว. สงฺฆสฺส เขตฺเต, อาราเม จ สเจ ‘‘ตตฺถ กจวรํ น ฉฑฺเฑตพฺพ’’นฺติ กติกา นตฺถิ, ภิกฺขุสฺส ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ สงฺฆปริยาปนฺนตฺตา, น ภิกฺขุนีนํ. ตาสํ ปน ภิกฺขุสงฺเฆ วุตฺตนเยน น วฏฺฏติ, น ตสฺส ภิกฺขุสฺส, เอวํ สนฺเตปิ สารุปฺปวเสน กาตพฺพนฺติ. สพฺพนฺติ อุจฺจาราทิ จตุพฺพิธํ.

นวมํ.

๒๑๘๓. เอตฺถ ‘‘นจฺจํ นาม ยํ กิฺจิ นจฺจํ. คีตํ นาม ยํ กิฺจิ คีตํ. วาทิตํ นาม ยํ กิฺจิ วาทิต’’นฺติ (ปาจิ. ๘๓๕) วจนโต ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ เสโส. ยา ปน ภิกฺขุนี ยํ กิฺจิ นจฺจํ วา ยํ กิฺจิ คีตํ วา ยํ กิฺจิ วาทิตํ วา ทสฺสนตฺถาย คจฺเฉยฺยาติ โยชนา. ตตฺถ ยํ กิฺจิ นจฺจนฺติ นฏาทโย วา นจฺจนฺตุ โสณฺฑา วา, อนฺตมโส โมรสุกมกฺกฏาทโยปิ, สพฺพมฺเปตํ นจฺจเมว. ยํ กิฺจิ คีตนฺติ นฏาทีนํ วา คีตํ โหตุ อริยานํ ปรินิพฺพานกาเล รตนตฺตยคุณูปสํหิตํ สาธุกีฬิตคีตํ วา อสฺตภิกฺขูนํ ธมฺมภาณกคีตํ วา, สพฺพมฺเปตํ คีตเมว. ยํ กิฺจิ วาทิตนฺติ ฆนาทิวาทนียภณฺฑวาทิตํ วา โหตุ กุฏเภริวาทิตํ วา อนฺตมโส อุทรเภริวาทิตมฺปิ, สพฺพมฺเปตํ วาทิตเมว. ‘‘ทสฺสนสวนตฺถายา’’ติ วตฺตพฺเพ วิรูเปกเสสนเยน ‘‘ทสฺสนตฺถายา’’ติ วุตฺตํ. ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ ยถาสกํ วิสยสฺส อาโลจนสภาวตาย วา ‘‘ทสฺสนตฺถาย’’ อิจฺเจว วุตฺตํ.

๒๑๘๔. ปุพฺพปโยคทุกฺกเฏน สห ปาจิตฺติยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทสฺสนตฺถาย นจฺจสฺสา’’ติอาทิ. คีตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘วาทิตสฺสา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.

๒๑๘๕. เอกปโยเคนาติ เอกทิสาวโลกนปโยเคน. เตเนว วกฺขติ ‘‘อฺสฺมิมฺปิ…เป… สิยุ’’นฺติ. ปสฺสตีติ เอตฺถ ‘‘นจฺจ’’นฺติ เสโส. เตสนฺติ เยสํ นจฺจํ ปสฺสติ. ปิ-สทฺเทน วาทิตมฺปิ สมฺปิณฺเฑติ. ยถาห ‘‘เตสํเยว คีตวาทิตํ สุณาติ, เอกเมว ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๖).

๒๑๘๖. อฺโตติ อฺสฺมึ ทิสาภาเค.

๒๑๘๗. ‘‘วิสุํ ปาจิตฺติโย สิยุ’’นฺติ อิทเมว ปกาเสตุมาห ‘‘ปโยคคณนาเยตฺถ, อาปตฺติคณนา สิยา’’ติ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ นานาทิสาภาเค. นจฺจคีตวาทิตานํ ทสฺสนสวเน อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นจฺจิตุ’’นฺติอาทิ.

๒๑๘๘. ‘‘นจฺจ อิตี’’ติ ปทจฺเฉโท, ‘‘นจฺจาหี’’ติปิ ปาโ. อุปฏฺานนฺติ เภริสทฺทปูชํ. สมฺปฏิจฺฉิตุนฺติ ‘‘สาธู’’ติ อธิวาเสตุํ. อิมสฺส อุปลกฺขณวเสน วุตฺตตฺตา นจฺจคีเตปิ เอเสว นโย.

๒๑๘๙-๙๐. สพฺพตฺถาติ นจฺจนาทีสุ สพฺพตฺถ. อุปฏฺานํ กโรมาติ ตุมฺหากํ เจติยสฺส นจฺจาทีหิ อุปหารํ กโรมาติ. อุปฏฺานํ ปสตฺถนฺติ อุปฏฺานกรณํ นาม สุนฺทรนฺติ.

ยา อาราเมเยว จ ตฺวา ปสฺสติ วา สุณาติ วาติ โยชนา, อิธ ‘‘อนฺตราราเม วา’’ติอาทิ เสโส. ‘‘อาราเม ตฺวา อนฺตราราเม วา พหิอาราเม วา นจฺจาทีนิ ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๗) อฏฺกถาย วุตฺตํ. ‘‘ตฺวา’’ติ วุตฺเตปิ สพฺเพสุปิ อิริยาปเถสุ ลพฺภติ. อาราเม ตฺวาติ น เกวลํ ตฺวาว, ตโต คนฺตฺวาปิ สพฺพิริยาปเถหิปิ ลภติ. ‘‘อาราเม ิตา’’ติ (ปาจิ. ๘๓๗) ปน อารามปริยาปนฺนทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อิตรถา นิสินฺนาปิ น ลเภยฺยาติ คณฺิปทาทีสุ วุตฺตํ. ภิกฺขูนมฺปิ เอเสว นโย.

๒๑๙๑. ยา อตฺตโน ิโตกาสํ อาคนฺตฺวา ปโยชิตํ ปสฺสติ วา สุณาติ วาติ โยชนา. ิโตกาสนฺติ เอตฺถ คตินิวตฺติสามฺเน สยิตนิสินฺนมฺปิ คยฺหติ. ตถารูปา หิ การณา คนฺตฺวา ปสฺสนฺติยา วาปีติ โยชนา. การณํ นาม สลากภตฺตาทิการณํ. ยถาห ‘‘สติ กรณีเยติ สลากภตฺตาทีนํ วา อตฺถาย อฺเน วา เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา คตฏฺาเน ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๗).

๒๑๙๒. มคฺคํ คจฺฉนฺตี ปฏิปเถ นจฺจํ อฏฺตฺวา ปสฺสตีติ เอวํ ปสฺสนฺติยาปิ จ ตถา อนาปตฺตีติ อชฺฌาหารโยชนา. ปฏิปเถติ คมนมคฺคาภิมุเข. อาปทาสุปีติ ตาทิเสน อุปทฺทเวน อุปทฺทุตา สมชฺชฏฺานํ ปวิสติ, เอวํ ปวิสิตฺวา ปสฺสนฺติยา วา สุณนฺติยา วา อนาปตฺติ.

๒๑๙๓. อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานโต เอฬกโลมสิกฺขาปเทน สมํ มตํ ‘‘สมาน’’นฺติ วิฺาตํ.

ทสมํ.

ลสุณวคฺโค ปโม.

๒๑๙๔-๕. อิธ อิมสฺมึ สาสเน ยา ปน ภิกฺขุนี รตฺตนฺธการสฺมึ อปฺปทีเป ปุริเสน สทฺธึ เอกิกา สเจ สนฺติฏฺติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ โยชนา. รตฺตนฺธการสฺมินฺติ รตฺติยํ. รตฺติปริยาโย หิ รตฺตนฺธการ-สทฺโท. ยถาห ปทภาชเน ‘‘รตฺตนฺธกาเรติ โอคฺคเต สูริเย’’ติ (ปาจิ. ๘๔๐). อปฺปทีเปติ ปชฺโชตจนฺทสูริยอคฺคีสุ เอเกนาปิ อโนภาสิเต, อิมินา รตฺติกฺเขตฺตํ ทสฺเสติ. ‘‘สนฺติฏฺตี’’ติ อิมินา คมนนิสินฺนสยนสงฺขาตํ อิริยาปถตฺติกฺจ อุปลกฺขิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. วุตฺตฺหิ วชิรพุทฺธินา ‘‘สนฺติฏฺเยฺยาติ เอตฺถ านาปเทเสน จตุพฺพิโธปิ อิริยาปโถ สงฺคหิโต, ตสฺมา ปุริเสน สทฺธึ จงฺกมนาทีนิ กโรนฺติยาปิ ปาจิตฺติยฺจ อุปลพฺภตี’’ติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๘๓๙ โถกํ วิสทิสํ). ปุริเสน สทฺธินฺติ สนฺติฏฺิตุํ, สลฺลปิตุฺจ วิฺุนา มนุสฺสปุริเสน สทฺธึ.

รหสฺสาทวเสน ปุริสสฺส หตฺถปาสํ สมาคนฺตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺติยา วา ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.

๒๑๙๖-๗. ยา ปน ภิกฺขุนี สเจ มนุสฺสปุริสสฺส หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา สนฺติฏฺติ วา สลฺลปติ วา, ยกฺขเปตติรจฺฉานคตานํ หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา สนฺติฏฺติ วา สลฺลปติ วา, ตสฺสา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา.

วิฺุคฺคหเณน อวิฺู ปุริโส อนาปตฺตึ น กโรตีติ ทีเปติ.

๒๑๙๘. อฺวิหิตายาติ รโหอสฺสาทโต อฺํ จินฺเตนฺติยา. ยถาห ‘‘รโหอสฺสาทโต อฺวิหิตาว หุตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๔๑). จตุตฺเถน, ฉฏฺเน จ สมุฏฺาเนน สมุฏฺานโต เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. สนฺติฏฺนสลฺลปนวเสน กฺริยํ. สฺาย วิโมกฺโข เอตสฺมินฺติ สฺาวิโมกฺขกํ.

ปมํ.

๒๑๙๙. ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเสติ กุฏฺฏาทีสุ เยน เกนจิ ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส. อิทํ วจนํ.

ทุติยํ.

๒๒๐๐. ตติเย ‘‘อชฺโฌกาเส’’ติ จ จตุตฺเถ ‘‘รถิกาย, พฺยูเห, สิงฺฆาฏเก’’ติ ปทานิ จ วชฺเชตฺวา อวเสสํ สนฺธายาห ‘‘อปุพฺพํ นตฺถิ กิฺจิปี’’ติ. เอตฺถ ‘‘วตฺตพฺพ’’นฺติ เสโส. เอตฺถ รถิกายาติ รจฺฉาย. พฺยูเหติ อนิพฺพิทฺธรจฺฉาย. สิงฺฆาฏเกติ จจฺจเร โอกาเส, ติโกณํ วา จตุโกณํ วา มคฺคสโมธานฏฺาเนติ วุตฺตํ โหติ.

ตติยจตุตฺถานิ.

๒๒๐๑-๒. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปุเรภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา อาสเน นิสีทิตฺวา สามิเก อนาปุจฺฉา ปกฺกเมยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๘๕๕) วจนโต ยา ปน ภิกฺขุนี ปุเรภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา ฉทนนฺโต อาสเน นิสีทิตฺวา สามิเก อนาปุจฺฉา อโนวสฺสกปฺปเทสํ อติกฺกเมติ, ยา จ อชฺโฌกาเส วา นิสีทิตฺวา สเจ อุปจารํ อติกฺกเมติ, ตสฺสา ปเม ปเท ทุกฺกฏํ โหติ, ทุติเย ปเท ปาจิตฺติ ปริยาปุตาติ โยชนา. ‘‘อาสเน’’ติ อิมินา ปลฺลงฺกมาภุชิตฺวา นิสีทนารหมาสนํ อธิปฺเปตํ. ยถาห – ‘‘อาสนํ นาม ปลฺลงฺกสฺส โอกาโส วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๘๕๖). อโนวสฺสปฺปเทสนฺติ นิพฺพโกสพฺภนฺตรํ. อพฺโภกาเส อาปตฺติเขตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปจารมฺปิ วา สเจ’’ติ. อุปจารนฺติ ทฺวาทสหตฺถปฺปมาณํ ปเทสํ. ยถาห คณฺิปเท ‘‘อุปจาโร ทฺวาทสหตฺโถ’’ติ.

๒๒๐๓. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘ทุกฺกฏํ สมุทีริต’’นฺติ อิทํ ปจฺจามสติ. อาปุฏฺเ อนาปุฏฺสฺาย อาปุฏฺเ วิจิกิจฺฉโต ปกฺกมนฺติยา ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ สมฺพนฺธินิยา สมานตฺตา ‘‘วิจิกิจฺฉนฺติยา’’ติ วตฺตพฺเพ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน ‘‘วิจิกิจฺฉโต’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๒๒๐๔. คิลานายาติ ยา ตาทิเสน เคลฺเน อาปุจฺฉิตุํ น สกฺโกติ. อาปทาสูติ ฆเร อคฺคิ อุฏฺิโต โหติ โจรา วา, เอวรูเป อุปทฺทเว อนาปุจฺฉา ปกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ.

ปฺจมํ.

๒๒๐๕-๖. ‘‘คจฺฉนฺติยา วชนฺติยา’’ติ จ นิสีทนนิปชฺชนาวสานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปาจิตฺติยํ ปน ปจฺฉาภตฺตํ สามิเก ‘‘อิธ นิสีทาม วา สยาม วา’’ติ อนาปุจฺฉิตฺวา นิสินฺนนิปนฺนปจฺจยา โหตีติ เวทิตพฺพํ. ปจฺฉาภตฺตํ สามิเก อนาปุจฺฉา อาสเน นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺติยา เอกา ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. เอส นโย ‘‘นิปชฺชิตฺวา’’ติอาทีสุปิ.

ยถา ปน ตตฺถ อสํหาริเม อนาปตฺติ, เอวมิธ ธุวปฺตฺเต วา อนาปตฺตีติ.

ฉฏฺํ.

๒๒๐๗. ติสมุฏฺานนฺติ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺานโต.

อฏฺมํ.

๒๒๐๘. ยา ปน ภิกฺขุนี อตฺตานมฺปิ วา ปรมฺปิ วา นิรยพฺรหฺมจริเยหิ อภิสเปยฺย, ตสฺสา วาจโต วาจโต สิยา ปาจิตฺตีติ โยชนา. ตตฺถ อภิสเปยฺยาติ สปถํ กเรยฺย, ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตามิ, อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตามี’’ติ อตฺตานํ วา ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตตุ, อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตตู’’ติ ปรํ วา ‘‘คิหินี โหมิ, โอทาตวตฺถา โหมี’’ติ อตฺตานํ วา ‘‘คิหินี โหตุ, โอทาตวตฺถา โหตู’’ติ ปรํ วา อภิสเปยฺยาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๒๑๐. อกฺโกสติ อตฺตานํ วา ปรํ วาติ สมฺพนฺโธ. ติกปาจิตฺติยนฺติ อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺาเวมติกาอนุปสมฺปนฺนสฺาวเสน. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺา อกฺโกสติ, ทุกฺกฏนฺติ เอวํ ติกทุกฺกฏํ.

๒๒๑๑. อตฺถธมฺมานุสาสนึ ปุรกฺขตฺวา วทนฺตีนํ อนาปตฺตีติ โยชนา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อตฺถปุเรกฺขารายาติ อฏฺกถํ กเถนฺติยา. ธมฺมปุเรกฺขารายาติ ปาฬึ วาเจนฺติยา. อนุสาสนิปุเรกฺขารายาติ ‘อิทานิปิ ตฺวํ เอทิสา, สาธุ วิรมสฺสุ, โน เจ วิรมสิ, อทฺธา ปุน เอวรูปานิ กมฺมานิ กตฺวา นิรเย อุปฺปชฺชิสฺสสิ, ติรจฺฉานโยนิยา อุปฺปชฺชิสฺสสี’ติ เอวํ อนุสาสนิยํ ตฺวา วทนฺติยา อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๗๘).

นวมํ.

๒๒๑๒. วธิตฺวาติ สตฺถาทีหิ ปหริตฺวา. วธิตฺวา วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท ปาฬิยํ ‘‘วธิตฺวา วธิตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๘๘๐) วุตฺตํ อาเมฑิตํ สูเจติ.

๒๒๑๓. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. กายวาจาจิตฺตสมุฏฺานํ ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ นาม, สมนุภาสนสมุฏฺานนฺติปิ เอตสฺเสว นามํ.

ทสมํ.

อนฺธการวคฺโค ทุติโย.

๒๒๑๔. ยา ปน ภิกฺขุนี นคฺคา อนิวตฺถา อปารุตา หุตฺวา นหายติ, อสฺสา สพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ. ตสฺส นหานสฺส โวสาเน ปริโยสาเน สา ภิกฺขุนี ชินวุตฺตํ ชิเนน ภควตา ภิกฺขุนีนํ ปฺตฺตํ โทสํ ปาจิตฺติยาปตฺตึ สมุเปติ อาปชฺชตีติ โยชนา. ภิกฺขุนิ โทสนฺติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต.

๒๒๑๕. อจฺฉินฺนจีวราติ อจฺฉินฺนอุทกสาฏิกจีวรา. นฏฺจีวราติ โจราทีหิ นฏฺอุทกสาฏิกจีวรา. อาปทาสุ วาติ ‘‘มหคฺฆํ อิมํ ทิสฺวา โจราปิ หเรยฺยุ’’นฺติ เอวรูปาสุ อาปทาสุ วา นคฺคาย นหายนฺติยา น โทโส.

ปมํ.

๒๒๑๖. ทุติเยติ ‘‘อุทกสาฏิกํ ปน ภิกฺขุนิยา การยมานายา’’ติอาทิสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๘๘๘).

ทุติยํ.

๒๒๑๗-๘. ทุสฺสิพฺพิตํ จีวรนฺติ อสกฺกจฺจสิพฺพิตํ จีวรํ. วิสิพฺเพตฺวาติ ทุสฺสิพฺพิตํ ปุน สิพฺพนตฺถาย สยํ วา วิคตสิพฺพนํ กตฺวา. ‘‘วิสิพฺพาเปตฺวา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘วิสิพฺเพตฺวา วา วิสิพฺพาเปตฺวา วา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๓). อนนฺตรายาติ ทสสุ อนฺตราเยสุ อฺตรนฺตรายรหิตา. ตํ วิสิพฺพิตํ, วิสิพฺพาปิตํ วา จีวรํ. ‘‘อนนฺตรายา ตํ ปจฺฉา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต. น สิพฺเพยฺยาติ เอตฺถาปิ ‘‘น สิพฺพาเปยฺยา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘เนว สิพฺเพยฺย, น สิพฺพาปนาย อุสฺสุกฺกํ กเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๓).

จตุปฺจาหนฺติ เอตฺถ ‘‘อุตฺตริฉปฺปฺจวาจาหิ (ปาจิ. ๖๒-๖๔), อุตฺตริทิรตฺตติรตฺต’’นฺติอาทีสุ (ปาจิ. ๕๑-๕๒) วิย อปฺปสงฺขฺยาย พหุสงฺขฺยายํ อนฺโตคธตฺเตปิ อุภยวจนํ โลกโวหารวเสน วจนสิลิฏฺตายาติ ทฏฺพฺพํ. ธุเรติ สิพฺพนุสฺสาเห. นิกฺขิตฺตมตฺเตติ วิสฺสฏฺมตฺเต.

๒๒๑๙. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺาติ ตีสุ วาเรสุ ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ติกทุกฺกฏนฺติ วารตฺตเย ทุกฺกฏตฺตยํ.

๒๒๒๐. อุภินฺนนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. อฺสฺมินฺติ จีวรโต อฺสฺมึ. อนฺตราเยปิ วา สตีติ ราชโจราทิอนฺตรายานํ ทสนฺนํ อฺตเร สติ.

๒๒๒๑. ‘‘ธุรนิกฺเขปนํ นาม, สมุฏฺานมิทํ มต’’นฺติ อิทํ อฏฺกถาย ‘‘ธุรนิกฺเขปสมุฏฺาน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๙๓) วุตฺตเมว คเหตฺวา วุตฺตํ, เตรสสุ สมุฏฺานสีเสสุ ‘‘ธุรนิกฺเขปสมุฏฺาน’’นฺติ วิสุํ สมุฏฺานสีสํ นาม นตฺถิ. มาติกฏฺกถายฺจ ‘‘สมนุภาสนสมุฏฺาน’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา, อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ, ตํ สมุฏฺานสีเสสุ อนฺโตคธเมว. ตสฺมา ‘‘ธุรนิกฺเขปสมุฏฺาน’’นฺติ อิทํ สมนุภาสนสมุฏฺานสฺเสว ปริยาโยติ คเหตพฺพํ.

ตติยํ.

๒๒๒๒. ปฺจ อหานิ ปฺจาหํ, ปฺจาหเมว ปฺจาหิกํ. ‘‘อติกฺกเมยฺยา’’ติ กิริยาย ทฺวิกมฺมกตฺตา ‘‘ปฺจาหิก’’นฺติ จ ‘‘สงฺฆาฏิจาร’’นฺติ จ อุปโยคตฺเถ เอว อุปโยควจนํ. สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาฏิ, อิติ วกฺขมานานํ ปฺจนฺนํ จีวรานเมวาธิวจนํ, สงฺฆาฏีนํ จาโร สงฺฆาฏิจาโร, ปริโภควเสน วา โอตาปนวเสน วา ปริวตฺตนนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปฺจาหิกํ สงฺฆาฏิจารํ อติกฺกเมยฺยาติ ปฺจมํ ทิวสํ ปฺจ จีวรานิ เนว นิวาเสติ น ปารุปติ น โอตาเปติ ปฺจมํ ทิวสํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๙) วจนโต ปฺจทิวสพฺภนฺตเร ยํ กิฺจิ อกตฺวา อติกฺกาเมนฺติยา จีวรคณนาย ปาจิตฺติ โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยาติกฺกเมยฺยา’’ติอาทิ.

๒๒๒๓. ติจีวรนฺติ อนฺตรวาสกอุตฺตราสงฺคสงฺฆาฏิสงฺขาตํ ติจีวรฺจ. สํกจฺจีติ ถนเวนสงฺขาตํ จีวรฺจ. ทกสาฏีติ อุตุนิกาเล นิวาเสตพฺพอุทกสาฏิจีวรฺจ. อิติ อิเม ปฺจ. ปฺจ ตูติ ปฺจ จีวรานิ นาม.

๒๒๒๔-๕. ติกปาจิตฺตีติ ปฺจาหาติกฺกนฺตสฺา, เวมติกา, อนติกฺกนฺตสฺาติ วิกปฺปตฺตเย ปาจิตฺติยตฺตยํ โหติ. ปฺจาหานติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺาเวมติกานํ วเสน ทฺวิกทุกฺกฏํ.

‘‘ปฺจเม ทิวเส’’ติอาทิ อนาปตฺติวารสนฺทสฺสนํ. นิเสวตีติ นิวาเสติ วา ปารุปติ วา. โอตาเปตีติ เอตฺถ วา-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, โอตาเปติ วาติ อตฺโถ. อาปทาสุปีติ มหคฺฆํ จีวรํ, น สกฺกา โหติ โจรภยาทีสุ ปริภุฺชิตุํ, เอวรูเป อุปทฺทเว อนาปตฺติ.

จตุตฺถํ.

๒๒๒๖. อฺิสฺสา สงฺกเมตพฺพจีวรํ อนาปุจฺฉา คเหตฺวา ยา ปริภุฺชติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา, อฺิสฺสา อุปสมฺปนฺนาย สนฺตกํ ปฺจนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ ตสฺสา อวตฺวา อาทาย ปุน ตสฺสา ทาตพฺพํ, อทตฺวา ยา ภิกฺขุนี ปฏิเสวติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘สงฺกเมตพฺพจีวรํ สงฺกมนีย’’นฺติ ปริยายสทฺทา เอเต. ยถาห ‘‘จีวรสงฺกมนียนฺติ สงฺกเมตพฺพจีวรํ, อฺิสฺสา สนฺตกํ อนาปุจฺฉา คหิตํ ปุน ปฏิทาตพฺพจีวรนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๐๓).

๒๒๒๗. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา…เป… เวมติกา …เป… อนุปสมฺปนฺนสฺา จีวรสงฺกมนียํ ธาเรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๙๐๕) เอวํ ติกปาจิตฺติยํ ปาฬิยํ วุตฺตํ. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ‘‘ติกทุกฺกฏ’’นฺติ อิทฺจ วุตฺตนยเมว. อาปทาสูติ สเจ อปารุตํ วา อนิวตฺถํ วา โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ วา.

๒๒๒๘. เอตํ สมุฏฺานํ กถิเนน ตุลฺยนฺติ โยชนา. คหณํ, ปริโภโค จ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

ปฺจมํ.

๒๒๒๙. ลภิตพฺพํ ตุ จีวรนฺติ ลภิตพฺพํ วิกปฺปนุปคํ จีวรํ. นิวาเรตีติ ยถา เต ทาตุกามา น เทนฺติ, เอวํ อนฺตรายํ ปรกฺกมติ. ปาจิตฺตึ ปริทีปเยติ สเจ ตสฺสา วจเนน เต น เทนฺติ, ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยํ วเทยฺยาติ อตฺโถ.

๒๒๓๐. เอตฺถ ปมํ ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา คณสฺสาติ ทฺเว ตโยว คเหตพฺพา. ลาเภติ เอตฺถ ‘‘นิวาริเต’’ติ เสโส. สเจ อฺํ ปริกฺขารํ นิวาเรติ, ตเถว ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อฺนฺติ วิกปฺปนุปคจีวรโต อฺํ. ปริกฺขารนฺติ ยํ กิฺจิ ถาลกาทีนํ วา สปฺปิเตลาทีนํ วา อฺตรํ.

๒๒๓๑. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘กิตฺตกํ อคฺฆนกํ ทาตุกามตฺถาติ ปุจฺฉติ, ‘เอตฺตกํ นามา’ติ วทนฺติ, ‘อาคเมถ ตาว, อิทานิ วตฺถุ มหคฺฆํ, กติปาเหน กปฺปาเส อาคเต สมคฺฆํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา. น โทสตาติ น โทโส, อนาปตฺตีติ อตฺโถ.

ฉฏฺํ.

๒๒๓๒-๓. ธมฺมิกํ สมคฺเคน สงฺเฆน สนฺนิปติตฺวา กริยมานํ จีวรานํ วิภงฺคํ ภาชนํ ยา ภิกฺขุนี ปฏิเสเธยฺย ปฏิพาเหยฺย, ตสฺสา เอวํ ปฏิเสเธนฺติยา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา. อธมฺเม ธมฺมสฺาย ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา. อุโภ เวมติกาย วาติ อุโภสุ เวมติกาย. คาถาพนฺธวเสน สุ-สทฺทโลโป. ธมฺมิเก อธมฺมิเก จีวรวิภงฺเค เวมติกาย ปฏิพาหนฺติยา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา. ยถาห ‘‘ธมฺมิเก เวมติกา ปฏิพาหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมิเก เวมติกา ปฏิพาหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘เอกิสฺสา เอกํ สาฏกํ นปฺปโหติ, อาคเมถ ตาว, กติปาเหเนว อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตโต ภาเชสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๙๑๔) เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา.

สตฺตมํ.

๒๒๓๕-๖. นิวาสนุปคํ วา ตถา ปารุปนุปคํ วา กปฺปพินฺทุกตํ วา ยํ กิฺจิ จีวรํ ปฺจ สหธมฺมิเก จ มาตาปิตโรปิ มุฺจิตฺวา อฺสฺส ยสฺส กสฺสจิ คหฏฺสฺส วา ปริพฺพาชกสฺส วา ยทิ ทเทยฺย, ตสฺสาปิ ปาจิตฺติยํ ปริยาปุตนฺติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘ปิตโร’’ติ มาตา จ ปิตา จ มาตาปิตโรติ วตฺตพฺเพ วิรูเปกเสสวเสน นิทฺเทโส ทฏฺพฺโพ.

๒๒๓๗. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ตา ปน ปาจิตฺติโย จีวรานํ คณนาย วเสน คเณตพฺพาติ โยชนา.

๒๒๓๘. ตาว สมฺปฏิจฺฉิโต กาโล เอตสฺสาติ ตาวกาลิกํ, จีวรํ. ‘‘อฺสฺสา’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตสฺส ทูรตฺตา ปุนปิ ‘‘อฺเส’’นฺติ อาห, โสเยวตฺโถ.

อฏฺมํ.

๒๒๓๙. ยา ปน ภิกฺขุนี ‘‘สเจ มยํ สกฺโกม, ทสฺสาม กริสฺสามาติ เอวํ วาจา ภินฺนา โหตี’’ติ วุตฺตาย ทุพฺพลาย จีวรปจฺจาสาย จีวรสฺส วิภงฺคํ นิเสเธตฺวา จีวเร กาลํ อติกฺกเมยฺย, อสฺสา โทสตา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา. จีวเร กาลนฺติ ‘‘จีวรกาลสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจมาสา’’ติ (ปาจิ. ๙๒๒) ปทภาชเน วุตฺตํ จีวรกาลํ. อติกฺกเมยฺยาติ ‘‘อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิมํ ทิวสํ, อตฺถเต กถิเน กถินุทฺธารทิวสํ อติกฺกาเมตี’’ติ วุตฺตวิธึ อติกฺกาเมยฺย.

๒๒๔๐. ‘‘อทุพฺพลจีวเร ทุพฺพลจีวรสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วจนโต สุทุพฺพลนฺติ เจตสาติ เอตฺถ สุ-สทฺโท ปทปูรเณ. อุโภสูติ ทุพฺพเล, อทุพฺพเล จ. กงฺขิตาย วาติ เวมติกาย วา.

๒๒๔๑. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘กิฺจาปิ ‘น มยํ อยฺเย สกฺโกมา’ติ วทนฺติ, อิทานิ ปน เตสํ กปฺปาโส อาคมิสฺสติ, สทฺโธ ปสนฺโน ปุริโส อาคมิสฺสติ, อทฺธา ทสฺสตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒๑) เอวํ อฏฺกถาย วุตฺตนเยน อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา.

นวมํ.

๒๒๔๒. ธมฺมิกํ กถินุทฺธารนฺติ ‘‘ธมฺมิโก นาม กถินุทฺธาโร สมคฺโค ภิกฺขุนิสงฺโฆ สนฺนิปติตฺวา อุทฺธรตี’’ติ (ปาจิ. ๙๒๙) วุตฺตํ กถินุทฺธารํ.

๒๒๔๓. ยสฺสาติ ยสฺส กถินสฺส. อตฺถารมูลโก อานิสํโส นาม ‘‘โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโท, โส เนสํ ภวิสฺสตี’’ติ (มหาว. ๓๐๖) อนุฺาโต ตสฺมึ วิหาเร อุปฺปชฺชนกจีวรวตฺถานิสํโส. อุทฺธารมูลโก นาม อนฺตรุพฺภารํ การาเปนฺเตหิ อุปาสเกหิ ทิยฺยมานจีวรวตฺถานิสํโส.

๒๒๔๕. สมานิสํโสปีติ อตฺถารอานิสํเสน สมานิสํโสปิ อุพฺภาโร. สทฺธาปาลนกอารณาติ ปสาทานุรกฺขนตฺถาย ทาตพฺโพติ โยชนา. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ ชิณฺณจีวโร, กถินานิสํสมูลโก มหาลาโภ’’ติ เอวรูปํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา.

๒๒๔๖. สมุฏฺานาทินา สทฺธึ เสสํ ปน วินิจฺฉยชาตํ อเสเสน สพฺพากาเรน สตฺตเมน สิกฺขาปเทน สมํ มตํ ‘‘สทิส’’นฺติ วิฺาตํ. กิฺจิปิ อปฺปกมฺปิ อปุพฺพํ ตตฺถ วุตฺตนยโต อฺํ นตฺถีติ โยชนา.

ทสมํ.

นคฺควคฺโค ตติโย.

๒๒๔๗. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนิโย ทฺเว เอกมฺเจ ตุวฏฺเฏยฺยุํ, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๓๓) ปฺตฺตสิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกายา’’ติอาทิ. เอกายาติ เอกาย ภิกฺขุนิยา. อปราติ อฺา อุปสมฺปนฺนา. นิปชฺเชยฺยุนฺติ เอตฺถ ‘‘เอกมฺเจ’’ติ เสโส. ทฺเวติ ทฺเว ภิกฺขุนิโย.

๒๒๔๘-๙. ‘‘เอกาย จา’’ติอาทิ อนาปตฺติวารนิทฺเทโส. อุโภ วาปิ สมํ นิสีทนฺตีติ โยชนา. เอฬเกนาติ เอฬกโลมสิกฺขาปเทน.

ปมํ.

๒๒๕๐-๑. ปาวารกฏสาราทินฺติ เอตฺถ ภุมฺเมกวจนํ. ‘‘สํหาริเมสู’’ติ อิมินา สมานาธิกรณตฺตา พหุวจนปฺปสงฺเค วจนวิปลฺลาเสเนตฺถ เอกวจนนิทฺเทโสติ ทฏฺพฺโพ. ปาวาโร จ กฏสาโร จ เต อาทิ ยสฺสาติ วิคฺคโห, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมํ. เอกกนฺติ นิทฺธาริตพฺพนิทสฺสนํ. เอกเมว เอกกํ. สํหาริเมสุ ปาวาราทีสุ อฺตรนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปาวาโรติ โกชวาทโย’’ติ วทนฺติ. กฏสาโรติ กโฏเยว. อาทิ-สทฺเทน อตฺถริตฺวา สยนารหํ สพฺพํ สงฺคณฺหาติ. เตเนวาติ ยํ อตฺถตํ, เตเนว. ปารุปิตฺวา สเจ ยา ปน ทฺเว สเหว นิปชฺชนฺติ, ตาสํ ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. เอตฺถ จ อตฺถรณปาวุรณกิจฺเจ เอกสฺเสว นิทฺทิฏฺตฺตา เอกสฺส อนฺตสฺส อตฺถรณฺจ เอกสฺส อนฺตสฺส ปารุปนฺจ วิฺายติ. ยถาห ‘‘สํหาริมานํ ปาวารตฺถรณกฏสารกาทีนํ เอกํ อนฺตํ อตฺถริตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา ตุวฏฺเฏนฺตีนเมตํ อธิวจน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๓๗).

เอกสฺมึ เอกตฺถรเณ วา เอกปาวุรเณ วา นิปชฺชเน สติ ตาสํ ทฺวินฺนํ ภิกฺขุนีนํ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ทฺวิกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ ‘‘นานตฺถรณปาวุรเณ เอกตฺถรณปาวุรณสฺา…เป… เวมติกา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๙๓๙) วุตฺตํ ทุกฺกฏทฺวยํ.

๒๒๕๒. ววตฺถานํ นิทสฺเสตฺวาติ มชฺเฌ กาสาวํ วา กตฺตรยฏฺึ วา อนฺตมโส กายพนฺธนมฺปิ เปตฺวา นิปชฺชนฺติ, อนาปตฺตีติ อตฺโถ. เสสํ สมุฏฺานาทิวิธานํ. อาทินาติ อิมสฺมึเยว วคฺเค ปมสิกฺขาปเทน. ตุลฺยนฺติ สมานํ.

ทุติยํ.

๒๒๕๓. อฺิสฺสา ภิกฺขุนิยา. อผาสุการณาติ อผาสุกรณเหตุ. อนาปุจฺฉาติ อนาปุจฺฉิตฺวา. ตสฺสา ปุรโต จ จงฺกมนาทโย ยทิ กเรยฺย, เอวํ กโรนฺติยา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา. จงฺกมนาทโยติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ติฏฺติ วา นิสีทติ วา เสยฺยํ วา กปฺเปติ อุทฺทิสติ วา อุทฺทิสาเปติ วา สชฺฌายํ วา กโรตี’’ติ (ปาจิ. ๙๔๓) ปทภาชเน วุตฺตานํ สงฺคโห.

๒๒๕๔. นิวตฺตนานํ คณนายาติ จงฺกมนฺติยา จงฺกมสฺส อุภยโกฏึ ปตฺวา นิวตฺตนฺติยา นิวตฺตนคณนาย. ปโยคโตเยวาติ ปโยคคณนาเยว, อิริยาปถปริวตฺตนคณนาเยวาติ วุตฺตํ โหติ. โทสาติ ปาจิตฺติยาปตฺติโย.

๒๒๕๕. ปทานํ คณนาวสาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ยถาห ‘‘ปทาทิคณนายา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๔๓). ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺาติ วิกปฺปตฺตยสฺส วเสน ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย.

๒๒๕๖. จ อผาสุกามายาติ อาปุจฺฉิตฺวา ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ปุรโต จงฺกมนาทีนิ กโรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.

๒๒๕๗. กฺริยากฺริยนฺติ จงฺกมนาทิกรณํ กิริยํ. อาปุจฺฉาย อกรณํ อกิริยํ. ปาปมานสนฺติ อกุสลจิตฺตํ.

ตติยํ.

๒๒๕๘-๙. อนนฺตรายาติ วกฺขมาเนสุ ราชนฺตรายาทีสุ ทสสุ อนฺตราเยสุ อฺตรรหิตา ภิกฺขุนี. ทุกฺขิตนฺติ คิลานํ. ยถาห ‘‘ทุกฺขิตา นาม คิลานา วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๙๔๘). สหชีวินินฺติ สทฺธิวิหารินึ. ยถาห ‘‘สหชีวินี นาม สทฺธิวิหารินี วุจฺจตี’’ติ. อฺาย วา นุปฏฺาเปยฺยาติ อฺาย ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, สามเณริยา วา คิหินิยา วา อุปฏฺานํ น การาเปยฺย. นุปฏฺเยฺย สยมฺปิ วาติ ยา อุปฏฺานํ น กเรยฺย. ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺเต วาติ ‘‘เนว อุปฏฺเสฺสามิ, น อุปฏฺาปนาย อุสฺสุกฺกํ กริสฺสามี’’ติ ธุเร อุสฺสาเห นิกฺขิตฺตมตฺเตเยว. ตสฺสาติ อุปชฺฌายาย.

อนฺเตวาสินิยา วาปีติ ปพฺพชฺชาอุปสมฺปทาธมฺมนิสฺสยวเสน จตุพฺพิธาสุ อนฺเตวาสินีสุ อฺตราย. อิตรายาติ อนุปสมฺปนฺนาย.

๒๒๖๐. คิลานายาติ สยํ คิลานาย. ‘‘คเวสิตฺวา อลภนฺติยา’’ติ ปทจฺเฉโท, อฺํ อุปฏฺายิกํ ปริเยสิตฺวา อลภมานายาติ อตฺโถ. ‘‘อาปทาสุ อุมฺมตฺติกาทีน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. คาถาพนฺธวเสน วณฺณโลโปปิ ทฏฺพฺโพ. อาปทาสูติ ตถารูเป อุปทฺทเว สติ. ธุรนิกฺเขปโนทยนฺติ ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ. ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

จตุตฺถํ.

๒๒๖๑-๒. ปุคฺคลิกสฺส อตฺตายตฺตปรายตฺตวเสน อนิยมิตตฺตา ‘‘สก’’นฺติ อิมินา นิยเมติ. สกํ ปุคฺคลิกนฺติ อตฺตโน ปุคฺคลิกํ. ทตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ เสโส. สกวาฏนฺติ ปริวตฺตกทฺวารกวาฏสหิตํ. อุปสฺสยนฺติ เคหํ. ทฺวาราทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน คพฺภปมุขานํ สงฺคโห, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมํ. พหูนิปีติ นิทฺธาเรตพฺพนิทสฺสนํ. พหูนิปิ ทฺวารานิ วา พหู คพฺเภ วา พหูนิ ปมุขานิ วา. นฺติ ยสฺสา อุปสฺสโย ทินฺโน, ตํ ภิกฺขุนึ. นิกฺกฑฺฒนฺติยาติ อติกฺกาเมนฺติยา. ตสฺสาติ ยา นิกฺกฑฺฒติ, ตสฺสา.

๒๒๖๓. เอตฺถาติ นิกฺกฑฺฒเน. เอเสว นโยติ ‘‘ปโยคคณนาย อาปตฺตี’’ติ ทสฺสิตนโย. เอตฺถ ปโยโค นาม อาณาปนํ, อิมินา ‘‘เอกายาณตฺติยา อเนเกสุ ทฺวาเรสุ อติกฺกามิเตสุปิ เอกาว อาปตฺติ โหตี’’ติ เอวมาทิกํ อฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๔๓, ๙๕๒ อตฺถโต สมานํ) สงฺคณฺหาติ.

๒๒๖๔. เตสุ วินิจฺฉเยสุ เอกํ วินิจฺฉยวิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺตกาว อิมํ ทฺวารา’’ติอาทิ. ทฺวารคณนาย อาปตฺติโย ทฺวารคณนาปตฺติโย.

๒๒๖๕. อกวาฏมฺหาติ อกวาฏพนฺธโต อุปสฺสยา นิกฺกฑฺฒนฺติยา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺาย, เวมติกาย, อนุปสมฺปนฺนสฺาย จ วเสน ติกทุกฺกฏํ. อุภินฺนนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. ปริกฺขาเรสูติ ปตฺตจีวราทีสุ ปริกฺขาเรสุ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ ปโยเคสุ, นิกฺกฑฺฒิยมาเนสุ, นิกฺกฑฺฒาปิยมาเนสุ จาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๒๖๖. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท สมุฏฺานาทิวินิจฺฉเยน สห เสสํ วินิจฺฉยชาตํ อเสเสน สพฺพปฺปกาเรน สงฺฆิกา วิหารสฺมา นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปเทน สมํ มตํ ‘‘สทิส’’นฺติ สลฺลกฺขิตนฺติ โยชนา.

ปฺจมํ.

๒๒๖๗. ฉฏฺเติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี สํสฏฺา วิหเรยฺย คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา’’ติอาทิมาติกาย (ปาจิ. ๙๕๖) นิทฺทิฏฺเ ฉฏฺสิกฺขาปเท. อิธ วตฺตพฺพนฺติ อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย กเถตพฺพํ. อริฏฺสฺส สิกฺขาปเทนาติ อริฏฺสิกฺขาปเทน. วินิจฺฉโยติ สมุฏฺานาทิโก.

ฉฏฺํ.

๒๒๖๘. สาสงฺกสมฺมเตติ เอตฺถ ‘‘สปฺปฏิภเย’’ติ เสโส. อุภยมฺปิ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว. อนฺโตรฏฺเติ ยสฺส วิชิเต วิหรติ, ตสฺเสว รฏฺเ. สาสงฺกสมฺมเต สปฺปฏิภเย อนฺโตรฏฺเ สตฺเถน วินา จาริกํ จรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๒๖๙. เอวํ จรนฺติยา สคามกฏฺาเน คามนฺตรปฺปเวเส จ อคามเก อรฺเ อทฺธโยชเน จ วินยฺุนา ภิกฺขุนา ปาจิตฺติยนโย ปาจิตฺติยาปตฺติวิธานกฺกโม เยฺโย าตพฺโพติ โยชนา.

๒๒๗๐. สห สตฺเถน จรนฺติยา น โทโสติ โยชนา. เขมฏฺาเน จรนฺติยา, อาปทาสุ วา จรนฺติยา น โทโสติ โยชนา.

สตฺตมํ.

๒๒๗๑. อฏฺเม นวเม วาปีติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ติโรรฏฺเ’’ติอาทิเก (ปาจิ. ๙๖๖) อฏฺมสิกฺขาปเท จ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อนฺโตวสฺสํ จาริกํ จเรยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๗๐) วุตฺตนวมสิกฺขาปเท จ. อนุตฺตานํ น วิชฺชติ, สพฺพํ อุตฺตานเมว, ตสฺมา เอตฺถ มยา น วิจารียตีติ อธิปฺปาโย.

อฏฺมนวมานิ.

๒๒๗๒. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี วสฺสํวุตฺถา จาริกํ น ปกฺกเมยฺย อนฺตมโส ฉปฺปฺจโยชนานิปิ, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๗๔) วุตฺตสิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาจิตฺตี’’ติอาทิ. อหํ น คมิสฺสามิ น ปกฺกมิสฺสามีติ ธุรนิกฺเขเป กเต ปาจิตฺตีติ โยชนา. ตถาติ ปาจิตฺติ.

๒๒๗๓. วสฺสํวุตฺถาย ปวาเรตฺวา อนฺตมโส ปฺจ โยชนานิ คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ อปิ-สทฺทสฺส สมฺภาวนตฺถตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ฉสู’’ติอาทิ. อิธ อิมสฺมึ อนาปตฺติวาเร ฉสุ โยชเนสุ ยทตฺถิ วตฺตพฺพํ, ตํ กินฺนุ นาม สิยา, นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปวาเรตฺวา ฉ โยชนานิ คจฺฉนฺติยา อนาปตฺติภาโว อวุตฺตสิทฺโธวาติ ทีเปติ.

๒๒๗๔. ตีณิ โยชนานิ. เตเนวาติ เยน คตา, เตเนว มคฺเคน. อฺเน มคฺเคนาติ คตมคฺคโต อฺเน ปเถน.

๒๒๗๕. ทสวิเธ อนฺตรายสฺมึ สตีติ วกฺขมาเนสุ อนฺตราเยสุ อฺตรสฺมึ สติ. ตสฺสา อนาปตฺตีติ โยชนา. อาปทาสูติ อฏฺฏาทิการเณน เกนจิ ปลิพุทฺธาทิภาวสงฺขาตาสุ อาปทาสุ. คิลานายาติ สยํ คิลานาย. ทุติยาย ภิกฺขุนิยา อลาเภ วา อปกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ.

๒๒๗๖. ราชา จ โจรา จ อมนุสฺสา จ อคฺคิ จ โตยฺจ วาฬา จ สรีสปา จาติ วิคฺคโห. มนุสฺโสติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน ปุพฺพปทโลโป ‘‘ลาพูนิ สีทนฺตี’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๑.๗๗) วิย. ชีวิตฺจ พฺรหฺมจริยา จ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺติ สมาหารทฺวนฺเท สมาโส, ตสฺส ชีวิตพฺรหฺมจริยสฺส. อนฺตรายา เอว อนฺตรายิกา. เอเตสํ ทสนฺนํ อฺตรสฺมึ อปกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ. ยถาห ‘‘อนฺตราเยติ ทสวิเธ อนฺตราเย. ‘ปรํ คจฺฉิสฺสามี’ติ นิกฺขนฺตา, นทิปูโร ปน อาคโต, โจรา วา มคฺเค โหนฺติ, เมโฆ วา อุฏฺาติ, นิวตฺติตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๗๖).

๒๒๗๗. อปกฺกมนํ อกฺริยํ. อนาทริเยน อาปชฺชนโต อาห ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ.

ทสมํ.

ตุวฏฺฏวคฺโค จตุตฺโถ.

๒๒๗๘-๘๐. ราชาคารนฺติ รฺโ กีฬนฆรํ. จิตฺตาคารนฺติ กีฬนจิตฺตสาลํ. อารามนฺติ กีฬนอุปวนํ. กีฬุยฺยานนฺติ กีฬนตฺถาย กตํ อุยฺยานํ. กีฬาวาปินฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ ปาฬิยํ (ปาจิ. ๙๗๙) โปกฺขรณี วุตฺตา, สา ปน สพฺพชลาสยานํ กีฬาย กตานํ อุปลกฺขณวเสน วุตฺตาติ อาห ‘‘กีฬาวาปิ’’นฺติ, กีฬนตฺถาย กตวาปินฺติ อตฺโถ. ‘‘นานาการ’’นฺติ อิทํ ยถาวุตฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. สพฺพสงฺคาหิกวเสน ‘‘ตานี’’ติ วุตฺตํ. นานาการํ ราชาคารํ จิตฺตาคารํ อารามํ กีฬุยฺยานํ วา กีฬาวาปึ ทฏฺุํ คจฺฉนฺตีนํ ตานิ สพฺพานิ เอกโต ทฏฺุํ คจฺฉนฺตีนํ ตาสํ ภิกฺขุนีนํ ปเท ปเท ทุกฺกฏํ มุนินา นิทฺทิฏฺนฺติ โยชนา.

ปฺจปีติ ราชาคาราทีนิ ปฺจปิ. เอกาเยว ปาจิตฺติ อาปตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา. ตํ ตํ ทิสาภาคํ คนฺตฺวา ปสฺสนฺติ เจ, ปาเฏกฺกาปตฺติโย ปโยคคณนาย สิยุนฺติ โยชนา.

๒๒๘๑. คมนพาหุลฺเลน อาปตฺติพาหุลฺลํ ปกาเสตฺวา คีวาปริวตฺตนสงฺขาเตน ปโยคพาหุลฺเลนาปิ อาปตฺติพาหุลฺลํ ปกาเสตุมาห ‘‘ปโยคพหุตายาปิ, ปาจิตฺติพหุตา สิยา’’ติ. สพฺพตฺถาติ ยตฺถ ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, ตตฺถ สพฺพตฺถ.

๒๒๘๒. ‘‘อวเสโสปิ อนาปตฺตี’’ติ ปทจฺเฉโท. อนาปตฺติ จ กถามคฺโค จ อนาปตฺติกถามคฺโค, เตสํ วินิจฺฉโย อนาปตฺติกถามคฺควินิจฺฉโย, ‘‘อนาปตฺติ อาราเม ิตา ปสฺสตี’’ติอาทิโก (ปาจิ. ๙๘๑) อนาปตฺติวินิจฺฉโย จ อฏฺกถาคโต (ปาจิ. อฏฺ. ๙๘๑) อวเสสวินิจฺฉโย จาติ อตฺโถ. ‘‘อาราเม ิตา’’ติ เอเตน อชฺฌาราเม ราชาคาราทีนิ กโรนฺติ, ตานิ ปสฺสนฺติยา อนาปตฺตีติ อยมนาปตฺติวาโร ทสฺสิโต. เอเตเนว อนฺโตอาราเม ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา นจฺจาทีนิ วิย ราชาคาราทีนิปิ ปสฺสิตุํ ลภตีติปิ สิทฺธํ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย คจฺฉนฺติยา มคฺเค โหนฺติ, ตานิ ปสฺสติ, อนาปตฺติ. รฺโ สนฺติกํ เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา ปสฺสติ, อนาปตฺติ. เกนจิ อุปทฺทุตา ปวิสิตฺวา ปสฺสติ, อนาปตฺตี’’ติ เอเต อนาปตฺติวารา สงฺคหิตา. นจฺจทสฺสน…เป… สหาติ สมุฏฺานาทินา วินิจฺฉเยน สห นจฺจทสฺสนสิกฺขาปทสทิโสว.

ปมํ.

๒๒๘๓. มานโต ปมาณโต อตีตา อเปตา มานาตีตา, อาสนฺที, ตํ. วาเฬหิ อุเปโต วาฬูเปโต, ปลฺลงฺโก, ตํ. ‘‘อาสนฺที นาม อติกฺกนฺตปฺปมาณา วุจฺจตี’’ติ วจนโต เหฏฺา อฏฺฏนิยา วฑฺฒกิหตฺถโต อุจฺจตรปาโท อายามจตุรสฺโส มฺจปีวิเสโส อาสนฺที นาม สมจตุรสฺสานํ อติกฺกนฺตปฺปมาณานมฺปิ อนุฺาตตฺตา. ‘‘ปลฺลงฺโก นาม อาหริเมหิ วาเฬหิ กโต’’ติ (ปาจิ. ๙๘๔) วจนโต ปมาณยุตฺโตปิ เอวรูโป น วฏฺฏติ. อาหริตฺวา ยถานุรูปฏฺาเน เปตพฺพวาฬรูปานิ อาหริมวาฬา นาม, สํหริมวาฬรูปยุตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. มานาตีตํ อาสนฺทึ วา วาฬูเปตํ ปลฺลงฺกํ วา เสวนฺตีนํ อภินิสีทนฺตีนํ, อภินิปชฺชนฺตีนฺจ ยาสํ ภิกฺขุนีนํ สตฺถา ปาจิตฺติยาปตฺตึ อาห.

๒๒๘๔. ตาสํ นิสีทนสฺสาปิ นิปชฺชนสฺสาปิ ปโยคพาหุลฺลวเสน ปาจิตฺติยานํ คณนา โหติ อิติ เอวํ นิทฺทิฏฺา เอวํ อยํ คณนา อจฺจนฺตยเสน อนนฺตปริวาเรน ภควตา วุตฺตาติ โยชนา. เอตฺถ จ อิจฺเจวนฺติ นิปาตสมุทาโย, อิติ-สทฺโท นิทสฺสเน, เอวํ-สทฺโท อิทมตฺเถ ทฏฺพฺโพ.

๒๒๘๕. ปาเท อาสนฺทิยา เฉตฺวาติ อาสนฺทิยา ปาเท ปมาณโต อธิกฏฺานฉินฺทเนน เฉตฺวา. ปลฺลงฺกสฺส ปาเท วาฬกา ปลฺลงฺกวาฬกา, เต หิตฺวา อปเนตฺวา, อนาปตฺตีติ เสวนฺตีนํ อนาปตฺติ.

ทุติยํ.

๒๒๘๖-๗. ฉนฺนนฺติ โขมาทีนํ ฉนฺนํ, นิทฺธารเณ สามิวจนํ. อฺตรํ สุตฺตนฺติ นิทฺธาริตพฺพนิทสฺสนํ. หตฺถาติ หตฺเถน, กรณตฺเถ เจตํ นิสฺสกฺกวจนํ. อฺจิตนฺติ หตฺถายาเมน อากฑฺฒิตํ. ตสฺมินฺติ ตสฺมึ อฺฉิเต สุตฺตปฺปเทเส. ตกฺกมฺหีติ กนฺตนสูจิมฺหิ. เวิเตติ ปลิเวิเต.

สุตฺตกนฺตนโต สพฺพปุพฺพปโยเคสูติ สุตฺตกนฺตนโต ปุพฺเพสุ กปฺปาสวิจินนาทิสพฺพปโยเคสุ. หตฺถวารโตติ หตฺถวารคณนาย. ยถาห ‘‘กปฺปาสวิจินนํ อาทึ กตฺวา สพฺพปุพฺพปโยเคสุ หตฺถวารคณนาย ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๘๘).

๒๒๘๘. กนฺติตํ สุตฺตนฺติ ปมเมว กนฺติตํ ทสิกสุตฺตาทึ. ปุน กนฺตนฺติยาติ โกฏิยา โกฏึ สงฺฆาเฏตฺวา ปุน กนฺตนฺติยา.

ตติยํ.

๒๒๘๙. ตณฺฑุลานํ โกฏฺฏนํ ตุ อาทึ กตฺวา คิหีนํ เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺติยา สพฺพปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๒๙๐. ยาคุอาทิสุ นิปฺผาเทตพฺเพสุ ตทาธารานิ ภาชนานิ คเณตฺวาว ปาจิตฺตึ ปริทีปเย, ขชฺชกาทีสุ รูปานํ คณนาย ปาจิตฺตึ ปริทีปเยติ โยชนา. ยาคุอาทิสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ภตฺตสูปาทีนํ สงฺคโห. ขชฺชกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน มจฺฉมํสาทิอุตฺตริภงฺคานํ สงฺคโห.

๒๒๙๑. ‘‘สเจปิ มาตาปิตโร อาคจฺฉนฺติ, ยํกิฺจิ พีชนึ วา สมฺมชฺชนิทณฺฑํ วา การาเปตฺวา เวยฺยาวจฺจกรฏฺาเน เปตฺวาว ยํ กิฺจิ ปจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. สเจติ เอตฺถ ‘‘มาตาปิตโร อาคจฺฉนฺตี’’ติ เสโส. อตฺตโน เอวมาคตานํ มาตาปิตูนมฺปิ กิฺจิ กมฺมํ อกาเรตฺวา กิฺจิ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. อปิ-สทฺโท สมฺภาวเน, เตน อฺเสํ กถาเยว นตฺถีติ ทีเปติ.

๒๒๙๒-๓. สงฺฆสฺส ยาคุปาเน เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. ‘‘สงฺฆภตฺเตปี’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส วาติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘ยาคุปาเนติ มนุสฺเสหิ สงฺฆสฺสตฺถาย กริยมาเน ยาคุปาเน วา สงฺฆภตฺเต วา เตสํ สหายิกภาเวน ยํ กิฺจิ ปจนฺติยา อนาปตฺติ. เจติยปูชาย สหายิกา หุตฺวา คนฺธมาลาทีนิ ปูเชติ, วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๙๓).

จตุตฺถํ.

๒๒๙๔. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ‘เอหายฺเย อิมํ อธิกรณํ วูปสเมหี’ติ วุจฺจมานา ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา สา ปจฺฉา อนนฺตรายิกินี เนว วูปสเมยฺย น วูปสมาย อุสฺสุกฺกํ กเรยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๙๕) สิกฺขาปทสฺส วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาจิตฺติ ธุรนิกฺเขเป’’ติอาทิ. ธุรนิกฺเขเปติ น ทานิ ตํ วูปสเมสฺสามิ, อฺาหิ วา น วูปสมาเปสฺสามี’’ติ เอวํ ธุรสฺส อุสฺสาหสฺส นิกฺเขเป ปาจิตฺตีติ โยชนา. จีวรสิพฺพเน ยถา ปฺจาหปริหาโร ลพฺภติ, อิธ ปน ตถา เอกาหมฺปิ ปริหาโร น ลพฺภตีติ โยชนา.

๒๒๙๕. เสสนฺติ ‘‘ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา วินิจฺฉินนฺตี อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาว วินิจฺฉินาตี’’ติอาทิกํ วินิจฺฉยชาตํ. ตตฺถ จีวรสิพฺพเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ โยชนา.

ปฺจมํ.

๒๒๙๖-๗. ยา ปน ภิกฺขุนี คิหีนํ วา สหธมฺมิเก เปตฺวา อฺเสํ ปริพฺพาชกปริพฺพาชิกานํ วา ทนฺตโปโนทกํ วินา อฺํ ยํ กิฺจิ อชฺโฌหรณียํ ขาทนียํ, โภชนียํ วา กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา ททาติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.

๒๒๙๘-๙. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท มุนินา ทนฺตกฏฺโทเก ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา. ยา ปน ภิกฺขุนี กายาทีหิ สยํ น เทติ อฺเน ทาเปติ, ตสฺสา จ กายาทีหิ อทตฺวา ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา เทนฺติยาปิ ยา พาหิรเลปํ วา เทติ, ตสฺสาปิ อุมฺมตฺติกาย จ น โทโส อนาปตฺตีติ โยชนา.

ฉฏฺํ.

๒๓๐๐-๑. อาวสถจีวรนฺติ ‘‘อุตุนิโย ภิกฺขุนิโย ปริภุฺชนฺตู’’ติ ทินฺนํ จีวรํ. ยา ภิกฺขุนี ยํ ‘‘อาวสถจีวร’’นฺติ นิยมิตํ จีวรํ, ตํ จตุตฺเถ ทิวเส โธวิตฺวา อนฺตมโส อุตุนิยา สามเณราย วา อทตฺวา สเจ ปริภุฺเชยฺย, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ โยชนา. ติกปาจิตฺติยํ สิยาติ ‘‘อนิสฺสชฺชิเต อนิสฺสชฺชิตสฺา…เป… เวมติกา…เป… นิสฺสชฺชิตสฺา ปริภุฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๐๖) วุตฺตํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.

๒๓๐๒-๓. ตสฺมึ จีวเร นิสฺสชฺชิเต อนิสฺสชฺชิตสฺาย วา เวมติกาย วา ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ทฺวิกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา. อฺาสํ อุตุนีนํ อภาเว อทตฺวาปิ ปริภุฺชนฺติยา อนาปตฺติ. ปุน ปริยเยติ ปุน อุตุนิวาเร ยถากาลํ ปริภุฺชนฺติยา อนาปตฺติ. อจฺฉินฺนจีวราทีนฺจ อนาปตฺตีติ โยชนา. ปริยเยติ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ. อจฺฉินฺนจีวราทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นฏฺจีวราทีนํ สงฺคโห. อาปทาสุปีติ มหคฺฆจีวรํ สรีรโต โมเจตฺวา สุปฺปฏิสามิตมฺปิ โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ปริภุฺชนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.

สตฺตมํ.

๒๓๐๔. สกวาฏกํ วิหารนฺติ กวาฏพนฺธวิหารํ, ทฺวารกวาฏยุตฺตํ สุคุตฺตเสนาสนนฺติ วุตฺตํ โหติ. รกฺขนตฺถาย อทตฺวาติ ‘‘อิมํ ชคฺเคยฺยาสี’’ติ เอวํ อนาปุจฺฉิตฺวา.

๒๓๐๕-๖. ‘‘โหติ ปาจิตฺติยํ ตสฺสา, จาริกํ ปกฺกมนฺติยา’’ติ วุตฺตเมว ปกาเสตุมาห ‘‘อตฺตโน คามโต’’ติอาทิ. อตฺตโน คามโตติ อตฺตโน วสนกคามโต. ตถา อิตรสฺสาติ อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปํ อุปจารํ. นฺติอาทิปทตฺตเย ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ เวทิตพฺพํ. ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเป ปเมน ปเทน สมติกฺกนฺเต ทุกฺกฏํ, ตถา อิตรสฺส อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ตสฺมึ อุปจาเร อติกฺกนฺเต ทุกฺกฏํ. ทุติเยน ปเทน ปริกฺเขเป, อุปจาเร สมติกฺกนฺตมตฺเต ปาจิตฺตีติ โยชนา.

๒๓๐๗. อกวาฏพนฺธนสฺมึ กวาฏพนฺธรหิเต วิหาเร ตถา อนิสฺสชฺชนฺติยา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตํ. ชคฺคิกํ อลภนฺติยาติ เอตฺถ ‘‘ปริเยสิตฺวา’’ติ เสโส. ชคฺคิกนฺติ วิหารปฏิชคฺคิกํ.

๒๓๐๘. อาปทาสูติ รฏฺเ ภิชฺชนฺเต อาวาเส ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ. คิลานายาติ วจีเภทํ กาตุํ อสมตฺถายาติ.

อฏฺมํ.

๒๓๐๙-๑๐. หตฺถี จ อสฺโส จ รโถ จ หตฺถิอสฺสรถา, เต อาทิ เยสํ เต หตฺถิอสฺสรถาทโย, เตหิ. อาทิ-สทฺเทน ธนุ ถรูติ ปททฺวยํ คหิตํ. สํยุตฺตนฺติ ยถาวุตฺเตหิ หตฺถิอสฺสาทิปเทหิ สํโยชิตํ, ‘‘หตฺถีนํ สิปฺปํ หตฺถิสิปฺป’’นฺติอาทินา กตสมาสนฺติ อตฺโถ, ‘‘หตฺถิสิปฺปํ อสฺสสิปฺปํ รถสิปฺปํ ธนุสิปฺปํ ถรุสิปฺป’’นฺติ เอวํ วุตฺตํ ยํ กิฺจิ สิปฺปนฺติ วุตฺตํ โหติ. หตฺถิสิกฺขาทิสิปฺปํ สนฺทีปโก คนฺโถ วจฺจวาจกานํ อเภโทปจาเรน เอวํ วุตฺโตติ คเหตพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปทาทีนํ วเสนิธา’’ติ. ปรูปฆาตกํ มนฺตาคทโยคปฺปเภทกํ กิฺจีติ ปเรสํ อนฺตรายกรํ ขิลนวสีกรณโสสาปนาทิเภทํ อาถพฺพณมนฺตฺจ วิสโยคาทิปฺปเภทกฺจ ยํ กิฺจิ สิปฺปนฺติ อตฺโถ.

เอตฺถ ขิลนมนฺโต นาม ทารุสารขิลํ มนฺเตตฺวา ปถวิยํ ปเวเสตฺวา มารณมนฺโต. วสีกรณมนฺโต นาม ปรํ อตฺตโน วเส วตฺตาปนกมนฺโต. โสสาปนกมนฺโต นาม ปรสรีรํ รสาทิธาตุกฺขเยน สุกฺขภาวํ ปาปนกมนฺโต. อาทิ-สทฺเทน วิเทสฺสนาทิมนฺตานํ สงฺคโห. วิเทสฺสนํ นาม มิตฺตานํ อฺมฺสฺส เวริภาวาปาทนํ. อิธ อิมสฺมึ สาสเน ยา ภิกฺขุนี หตฺถิ…เป… กิฺจิ ยสฺส กสฺสจิ สนฺติเก ปทาทีนํ วเสน ปริยาปุเณยฺย อธีเยยฺย เจ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.

๒๓๑๑. เลเขติ ลิขิตสิปฺเป. ธารณาย จาติ ธารณสตฺเถ, ยสฺมึ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชนฺตา พหูนิปิ คนฺถานิ ธาเรนฺติ. คุตฺติยาติ อตฺตโน วา ปเรสํ วา คุตฺตตฺถาย. ปริตฺเตสุ จ สพฺเพสูติ ยกฺขปริตฺตโจรวาฬาทิสพฺเพสุ ปริตฺเตสุ จ.

นวมํ.

๒๓๑๒. ทสเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ติรจฺฉานวิชฺชํ วาเจยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๑๘) สมุทฺทิฏฺเ ทสมสิกฺขาปเท. อิทํ ทสมสิกฺขาปทํ.

ทสมํ.

จิตฺตาคารวคฺโค ปฺจโม.

๒๓๑๓. สภิกฺขุกํ อารามนฺติ ยตฺถ ภิกฺขู รุกฺขมูเลปิ วสนฺติ, ตํ ปเทสํ. ชานิตฺวาติ ‘‘สภิกฺขุก’’นฺติ ชานิตฺวา. ยํ กิฺจีติ ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา อารามิกํ วา ยํ กิฺจิ.

๒๓๑๔-๕. ‘‘สภิกฺขุโก นาม อาราโม ยตฺถ ภิกฺขู รุกฺขมูเลปิ วสนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๐๒๕) วจนโต อาห ‘‘สเจ อนฺตมโส’’ติอาทิ. ยา ปน ภิกฺขุนี อนฺตมโส รุกฺขมูลสฺสปิ อนาปุจฺฉา สเจ ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมติ, ตสฺสา ปเม ปาเท ทุกฺกฏํ, อปริกฺขิตฺเต ตสฺส วิหารสฺส อุปจาโรกฺกเม วาปิ ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏํ, ทุติเย ปาเท อติกฺกามิเต ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๓๑๖. อภิกฺขุเก อาราเม สภิกฺขูติ สฺาย อุโภสุปิ สภิกฺขุกาภิกฺขุเกสุ อาราเมสุ ชาตกงฺขาย สฺชาตวิจิกิจฺฉาย, เวมติกายาติ อตฺโถ. ตสฺสา อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.

๒๓๑๗. สีสานุโลกิกา ยา ภิกฺขุนี คจฺฉติ, ตสฺสา จ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. เอวมุปริปิ. ตา ภิกฺขุนิโย ยตฺถ สนฺนิปติตา โหนฺติ, ตาสํ สนฺติกํ ‘‘คจฺฉามี’’ติ คจฺฉติ. ยถาห ‘‘ยตฺถ ภิกฺขุนิโย ปมตรํ ปวิสิตฺวา สชฺฌายํ วา เจติยวนฺทนาทีนิ วา กโรนฺติ, ตตฺถ ตาสํ สนฺติกํ คจฺฉามีติ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๐๒๗).

๒๓๑๘. ‘‘สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา’’ติ วจเนเนว อภิกฺขุกํ อารามํ กิฺจิ อนาปุจฺฉา ปวิสนฺติยา อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. อารามมชฺฌโต วา มคฺโค โหติ, เตน คจฺฉนฺติยาปิ. อาปทาสูติ เยน เกนจิ อุปทฺทุตา โหติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ปวิสนฺติยา.

ปมํ.

๒๓๒๐. อกฺโกเสยฺยาติ ทสนฺนํ อกฺโกสวตฺถูนํ อฺตเรน สมฺมุขา, ปรมฺมุขา วา อกฺโกเสยฺย วา. ปริภาเสยฺย วาติ ภย’มสฺส อุปทํเสยฺย วา. ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺา…เป… เวมติกา…เป… อนุปสมฺปนฺนสฺา อกฺโกสติ วา ปริภาสติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๓๑) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสเสติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏํ ตสฺสา โหตีติ โยชนา.

๒๓๒๑. ‘‘ปุรกฺขตฺวา’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ‘‘อภิสเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๗๕) วุตฺตสิกฺขาปเท วุตฺตนยเมว.

ทุติยํ.

๒๓๒๒-๓. สงฺฆนฺติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ. ปริภาเสยฺยาติ ‘‘พาลา เอตา, อพฺยตฺตา เอตา, เนตา ชานนฺติ กมฺมํ วา กมฺมโทสํ วา กมฺมวิปตฺตึ วา กมฺมสมฺปตฺตึ วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๓๕) อาคตนเยน ปริภาเสยฺยาติ อตฺโถ. อิตรายาติ เอตฺถ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ. เอกํ ภิกฺขุนึ วา สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย วา ตเถว อิตรํ อนุปสมฺปนฺนํ วา ปริภาสนฺติยา ตสฺสา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา.

ตติยํ.

๒๓๒๔-๖. ยา นิมนฺตนปวารณา อุโภปิ คณโภชนสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๒๑๗-๒๑๙), ปวารณสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๒๓๘-๒๓๙) จ วุตฺตลกฺขณา, ตาหิ อุโภหิ นิมนฺตนปวารณาหิ ยา จ ภิกฺขุนี สเจ นิมนฺติตาปิ วา ปวาริตาปิ วา ภเวยฺย, สา ปุเรภตฺตํ ยาคุฺจ ยามกาลิกาทิกาลิกตฺตยฺจ เปตฺวา ยํ กิฺจิ อามิสํ ยาวกาลิกํ อชฺโฌหรณตฺถาย ปฏิคฺคณฺหาติ เจ, ตสฺสา คหเณ ทุกฺกฏํ สิยา, อชฺโฌหารวเสน เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.

เอตฺถ จ นิมนฺติตา นาม ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน โภชเนน นิมนฺติตา’’ติ คณโภชนสิกฺขาปเท วุตฺตลกฺขณา. ปวารณา จ ‘‘ปวาริโต นาม อสนํ ปฺายติ, โภชนํ ปฺายติ, หตฺถปาเส ิโต อภิหรติ, ปฏิกฺเขโป ปฺายตี’’ติ ปวารณสิกฺขาปเท วุตฺตลกฺขณาติ เวทิตพฺพา.

๒๓๒๗. กาลิกานิ จ ตีเณวาติ ยามกาลิกาทีนิ ตีณิ กาลิกานิ เอว.

๒๓๒๘-๙. นิมนฺติตปวาริตานํ ทฺวินฺนํ สาธารณาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อนาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘นิมนฺติตา’’ติอาทิ. อิธ อิมสฺมึ สาสเน ยา ปน ภิกฺขุนี นิมนฺติตา อปฺปวาริตา สเจ ยาคุํ ปิวติ, วฏฺฏติ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. สามิกสฺสาติ เยน นิมนฺติตา, ตสฺส นิมนฺตนสามิกสฺเสว. อฺโภชนนฺติ เยน นิมนฺติตา, ตโต อฺสฺส โภชนํ. สเจ สา ภุฺชติ, ตถา วฏฺฏตีติ โยชนา.

กาลิกานิ จ ตีเณวาติ ยามกาลิกาทีนิ ตีณิ กาลิกาเนว. ปจฺจเย สตีติ ปิปาสาทิปจฺจเย สติ.

๒๓๓๐. อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อิทํ สมุฏฺานํ อทฺธาเนน ตุลฺยนฺติ โยชนา. ปวาริตาย, อปฺปวาริตาย วา นิมนฺติตาย วเสน กิริยากิริยตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นิมนฺติตา’’ติอาทิ. นิมนฺติตา ปน สามิกํ อนาปุจฺฉา ภุฺชติ เจ, ตสฺสา วเสน อิทํ สิกฺขาปทํ กิริยากิริยํ โหติ. เอตฺถ ภุฺชนํ กฺริยํ. สามิกสฺส อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

๒๓๓๑. ‘‘กปฺปิยํ การาเปตฺวา’’ติอาทึ ปวาริตเมว สนฺธายาห. ยา ยทิ ปริภุฺชติ, ตสฺสา จ ปาจิตฺติ สิยา กิริยโต โหตีติ โยชนา. สิยาติ อวสฺสํ. ปวารณสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน กปฺปิยํ กาเรตฺวา วา อการาเปตฺวา วา ปริภุฺชนฺติยา ตสฺสา ปริโภเคเนว อิมินา สิกฺขาปเทน อวสฺสํ อาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ.

จตุตฺถํ.

๒๓๓๒. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี กุลมจฺฉรินี อสฺส, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๔๓) อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิกฺขุนีน’’นฺติอาทิ. กุลสนฺติเก ภิกฺขุนีนํ อวณฺณํ วทนฺติยา ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ, กุลสฺส สนฺติเก ‘‘ภิกฺขุนิโย ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา’’ติ ภิกฺขุนีนํ อวณฺณํ ภาสนฺติยาติ อตฺโถ. กุลสฺสาวณฺณนํ วาปีติ ‘‘ตํ กุลํ อสฺสทฺธํ อปฺปสนฺน’’นฺติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก กุลสฺส อวณฺณํ อคุณํ วทนฺติยา ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ.

๒๓๓๓. สนฺตํ ภาสนฺติยา โทสนฺติ อมจฺฉรายิตฺวา กุลสฺส วา ภิกฺขุนีนํ วา สนฺตํ โทสํ อาทีนวํ กเถนฺติยา.

ปฺจมํ.

๒๓๓๔-๕. โอวาททายโกติ อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ โอวาทํ เทนฺโต. วสฺสํ อุปคจฺฉนฺติยาติ วสฺสํ วสนฺติยา.

๒๓๓๖. ภิกฺขูติ โอวาททายกา ภิกฺขู.

ฉฏฺํ.

๒๓๓๘. ยา สา ภิกฺขุนี วสฺสํ วุตฺถา ปุริมํ วา ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ วุตฺถา ตโต อนนฺตรํ อุภโตสงฺเฆ ภิกฺขุนิสงฺเฆ จ ภิกฺขุสงฺเฆ จ ‘‘นาหํ ปวาเรสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ เจติ โยชนา.

สตฺตมํ.

๒๓๔๑. โอวาทาทีนมตฺถายาติ อฏฺครุธมฺมสฺสวนาทีนมตฺถาย. อาทิ-สทฺเทน อุโปสถปุจฺฉนปวารณานํ คหณํ.

๒๓๔๒. โอวาทาทีนมตฺถาย อคมเนน อกฺริยํ. กายิกนฺติ กายกมฺมํ.

อฏฺมํ.

๒๓๔๓. ‘‘อนฺวทฺธมาสํ ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสงฺฆโต ทฺเว ธมฺมา ปจฺจาสีสิตพฺพา อุโปสถปุจฺฉนฺจ โอวาทูปสงฺกมนฺจ, ตํ อติกฺกาเมนฺติยา ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๕๙) อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น ยาจิสฺสามี’’ติอาทิ. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.

นวมํ.

๒๓๔๖-๗. ปสาโข นาม นาภิยา เหฏฺา, ชาณุมณฺฑลานํ อุปริ ปเทโส. ตถา หิ ยสฺมา รุกฺขสฺส สาขา วิย อุโภ อูรู ปภิชฺชิตฺวา คตา, ตสฺมา โส ปสาโขติ วุจฺจติ, ตสฺมึ ปสาเข. สฺชาตนฺติ อุฏฺิตํ. คณฺฑนฺติ ยํ กิฺจิ คณฺฑํ. รุธิตนฺติ ยํ กิฺจิ วณํ. สงฺฆํ วาติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วา. คณํ วาติ สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย วา. เอเกนาติ เอตฺถ ‘‘ปุริเสนา’’ติ เสโส, สหตฺเถ อิทํ กรณวจนํ. ยถาห ‘‘ปุริเสน สทฺธึ เอเกเนกา’’ติ. ปุริโสติ จ มนุสฺสปุริโสว คเหตพฺโพ.

โธวาติ เอตฺถ อาทิ-อตฺเถ วตฺตมาเนน อิติ-สทฺเทน ‘‘อาลิมฺปาเปยฺย วา พนฺธาเปยฺย วา โมจาเปยฺย วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๖๓) สิกฺขาปทาคตานํ อิตเรสํ ติณฺณํ สงฺคณฺหนโต ‘‘อาลิมฺป พนฺธ โมเจหี’’ติ อาณตฺติตฺตยํ สงฺคหิตํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ทุกฺกฏานิจฺฉ ปาจิตฺติโย ฉ จา’’ติ.

ยา ปน ภิกฺขุนี ปสาเข ชาตํ คณฺฑํ วา รุธิตํ วา สงฺฆํ วา คณํ วา อนาปุจฺฉิตฺวา เอเกน ปุริเสน เอกิกา ‘‘ภินฺท ผาเลหิ โธว อาลิมฺป พนฺธ โมเจหี’’ติ สพฺพานิ กาตพฺพานิ อาณาเปติ, ตสฺสา ฉ ทุกฺกฏานิ, กเตสุ ภินฺทนาทีสุ ฉสุ กิจฺเจสุ ตสฺสา ฉ ปาจิตฺติโย โหนฺตีติ โยชนา.

๒๓๔๘-๙. เอตฺถาติ คณฺเฑ วา วเณ วา. ‘‘ยํ กาตพฺพํ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ ตฺวํ กโรหิ’’อิติ สเจ เอวํ ยา อาณาเปตีติ โยชนา. ตสฺสา เอกาย อาณาปนวาจาย ฉ ทุกฺกฏานิ จ ปาจิตฺติยจฺฉกฺกฺเจติ ทฺวาทสาปตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา.

๒๓๕๑. อาปุจฺฉิตฺวา วาติ สงฺฆํ วา คณํ วา อาปุจฺฉิตฺวา. ทุติยนฺติ ทุติยิกํ. วิฺุํ ทุติยํ คเหตฺวาปิ วาติ โยชนา.

ทสมํ.

อารามวคฺโค ฉฏฺโ.

๒๓๕๓. ‘‘คณปริเยสนาทิสฺมิ’’นฺติ วตฺตพฺเพ ฉนฺทานุรกฺขนตฺถํ นิคฺคหิตาคโม. คพฺภินินฺติ อาปนฺนสตฺตํ, กุจฺฉิปวิฏฺสตฺตนฺติ อตฺโถ. วุฏฺาเปนฺติยาติ อุปสมฺปาเทนฺติยา. กมฺมวาจาหีติ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ.

๒๓๕๔-๕. กมฺมวาจาย โอสาเนติ ตติยกมฺมวาจาย ปริโยสาเน, ยฺยการปฺปตฺเตติ อตฺโถ. คพฺภินิสฺาย น จ คพฺภินิยาติ อคพฺภินิยา คพฺภินิสฺาย จ. อุโภ สฺชาตกงฺขายาติ อุโภสุ สมุปฺปนฺนสํสยาย, คพฺภินิยา, อคพฺภินิยา จ เวมติกายาติ อตฺโถ. คาถาพนฺธวเสเนตฺถ สุ-สทฺทโลโป. ตถา วุฏฺาเปนฺติยา อุปชฺฌายาย อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. อาจรินิยา ตสฺสาติ อุปชฺฌายา คพฺภินึ วุฏฺาเปติ, ตสฺสา กมฺมวาจํ สาเวนฺติยา อาจรินิยา จ. คณสฺสาติ อุปชฺฌายาจรินีหิ อฺสฺส ภิกฺขุนิคณสฺส จ. ตถา ทุกฺกฏํ ทีปิตนฺติ โยชนา.

๒๓๕๖. ‘‘ทฺวีสุ อคพฺภินิสฺายา’’ติ ปทจฺเฉโท. ทฺวีสูติ คพฺภินิยา, อคพฺภินิยา จ.

ปมํ.

๒๓๕๗. ทุติเยติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปายนฺตึ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๗๓) สิกฺขาปเท. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปายนฺตี นาม มาตา วา โหติ ธาติ วาติ อยํ วิเสโส.

ทุติยํ.

๒๓๕๘. ยา ปน ภิกฺขุนี ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ อสิกฺขิตสิกฺขํ สิกฺขมานํ สเจ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา. ตตฺถ ทฺเว วสฺสานีติ ปวารณวเสน ทฺเว สํวจฺฉรานิ. ฉสุ ธมฺเมสูติ ปาณาติปาตาเวรมณิอาทีสุ วิกาลโภชนาเวรมณิปริโยสาเนสุ ฉสุ ธมฺเมสุ. อสิกฺขิตสิกฺขนฺติ ‘‘ปาณาติปาตาเวรมณึ ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมฺม สมาทานํ สมาทิยามี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๗๙) นเยน อนาทินฺนสิกฺขาปทํ วา เอวํ สมาทิยิตฺวาปิ กุปิตสิกฺขํ วา. สิกฺขมานํ เตสุ ฉสุ ธมฺเมสุ สิกฺขนโต วา เต วา สิกฺขาสงฺขาเต ธมฺเม มานนโต เอวํ ลทฺธนามํ อนุปสมฺปนฺนํ. วุฏฺาเปยฺยาติ อุปสมฺปาเทยฺย. อาปตฺติ สิยาติ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจาปริโยสาเน ปาจิตฺติ อาปตฺติ สิยา, ปาจิตฺติ โหตีติ อตฺโถ.

๒๓๕๙. ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติกา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ เอวํ ธมฺมกมฺเม สตฺถุนา ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมกมฺเม เวมติกา อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๘๒) เอวํ อธมฺเม ปน กมฺมสฺมึ สตฺถุนา ติกทุกฺกฏํ ทีปิตํ.

๒๓๖๐. อขณฺฑโต ขณฺฑํ อกตฺวา.

๒๓๖๑. สเจ อุปสมฺปทาเปกฺขา ปพฺพชฺชาย สฏฺิวสฺสาปิ โหติ, ตสฺสา อิมา ฉ สิกฺขาโย ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมนียา ปทาตพฺพา, อิมา อทตฺวา น การเย เนว วุฏฺาเปยฺยาติ โยชนา.

ตติยํ.

๒๓๖๒. จตุตฺเถ นตฺถิ วตฺตพฺพนฺติ วกฺขมานวิเสสโต อฺํ วตฺตพฺพํ นตฺถีติ ยถาวุตฺตนยเมวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิธา’’ติอาทินา อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสติ. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท สงฺเฆน สมฺมตํ ตํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๓๖๓. ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ สิกฺขิตสิกฺขาย สิกฺขมานาย ภิกฺขุนิสงฺเฆน อุปสมฺปทโต ปมํ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ยา วุฏฺานสมฺมุติ ทาตพฺพา โหติ, สา วุฏฺานสมฺมุติ สเจ ปมํ อทินฺนา โหติ. ตตฺถ ตสฺมึ อุปสมฺปทมาฬเกปิ ปทาตพฺพาเยวาติ โยชนา.

๒๓๖๔. ตติยฺจาติ ตติยสิกฺขาปทฺจ. จตุตฺถฺจาติ อิทํ จตุตฺถสิกฺขาปทฺจ. ปเมน สมํ เยฺยนฺติ ปเมน สิกฺขาปเทน สมุฏฺานาทินา วินิจฺฉเยน สมานนฺติ าตพฺพํ. จตุตฺถํ ปน สิกฺขาปทํ วุฏฺาปนสมฺมุตึ อทาเปตฺวา วุฏฺาปนวเสน กฺริยากฺริยํ โหติ.

จตุตฺถํ.

๒๓๖๕. คิหิคตนฺติ ปุริสนฺตรคตํ, ปุริสสมาคมปฺปตฺตนฺติ อตฺโถ. ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา ปริปุณฺณา อุตฺตรปทโลเปน. กิฺจาปิ น โทโสติ โยชนา. วุฏฺาเปนฺติยาติ อุปชฺฌายา หุตฺวา อุปสมฺปาเทนฺติยา.

๒๓๖๖. เสสนฺติ วุตฺตํ. อเสเสน สพฺพโส.

ปฺจมํ.

๒๓๖๘. ทุกฺขิตํ สหชีวินินฺติ เอตฺถ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ เสโส. ตุวฏฺฏกวคฺคสฺมึ ‘‘ทุกฺขิตํ สหชีวินิ’’นฺติ อิเมหิ ปเทหิ ยุตฺตํ ยํ สิกฺขาปทํ วุตฺตํ, เตน สิกฺขาปเทน อฏฺมํ สมํ เยฺยํ, น วิเสสตา วิเสโส นตฺถีติ โยชนา. อฏฺมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี สหชีวินึ วุฏฺาเปตฺวา ทฺเว วสฺสานิ เนว อนุคฺคณฺเหยฺย น อนุคฺคณฺหาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๐๘) วุตฺตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ สหชีวินินฺติ สทฺธิวิหารินึ. เนว อนุคฺคณฺเหยฺยาติ สยํ อุทฺเทสาทีหิ นานุคฺคณฺเหยฺย. น อนุคฺคณฺหาเปยฺยาติ ‘‘อิมิสฺสา อยฺเย อุทฺเทสาทีนิ เทหี’’ติ เอวํ น อฺาย อนุคฺคณฺหาเปยฺย. ปาจิตฺติยนฺติ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺเต ปาจิตฺติยํ.

อฏฺมํ.

๒๓๖๙. ยา กาจิ ภิกฺขุนี วุฏฺาปิตปวตฺตินึ ทฺเว วสฺสานิ นานุพนฺเธยฺย เจ, ตสฺสา ปาจิตฺติ ปริยาปุตา กถิตาติ โยชนา. วุฏฺาเปตีติ วุฏฺาปิตา, ปวตฺเตติ สุสิกฺขาเปตีติ ปวตฺตินี, วุฏฺาปิตา จ สา ปวตฺตินี จาติ วุฏฺาปิตปวตฺตินี, อุปชฺฌายาเยตํ อธิวจนํ, ตํ, อุปชฺฌายํ. นานุพนฺเธยฺยาติ จุณฺเณน, มตฺติกาย, ทนฺตกฏฺเน, มุโขทเกนาติ เอวํ เตน เตน กรณีเยน อุปฏฺเหยฺย.

๒๓๗๐. ‘‘ทฺเว วสฺสานิ อหํ นานุพนฺธิสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ เจ, เอวํ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺตสฺมึ ปน ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.

๒๓๗๑. ยา ปน ภิกฺขุนี อุปชฺฌายํ พาลํ วา อลชฺชึ วา นานุพนฺธติ, ตสฺสา, คิลานาย วา อาปทาสุ วา อุมฺมตฺติกาย วา นานุพนฺธนฺติยา น โทโสติ โยชนา.

๒๓๗๒. อนุปฏฺาเนน โหตีติ อาห ‘‘อกฺริยํ วุตฺต’’นฺติ.

นวมํ.

๒๓๗๓-๕. ยา กาจิ ภิกฺขุนี สหชีวินึ สทฺธิวิหารินึ วุฏฺาเปตฺวา อุปสมฺปาเทตฺวา ตํ คเหตฺวา อนฺตมโส ฉปฺปฺจโยชนานิปิ น คจฺเฉยฺย น จฺํ อาณาเปยฺย ‘‘อิมํ, อยฺเย, คเหตฺวา คจฺฉา’’ติ อฺฺจ น นิโยเชยฺย เจ, ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺตสฺมึ ‘‘น ทานิ คจฺฉิสฺสามิ, อฺฺจ คเหตฺวา คนฺตุํ น นิโยเชสฺสามี’’ติ อุสฺสาเห วิสฺสฏฺมตฺเต ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.

อนฺตรายสฺมึ สติ วา ทุติยํ อลภนฺติยา วา อาปทาสุ วา คิลานาย วา อุมฺมตฺติกาย วา น โทโสติ โยชนา.

ทสมํ.

คพฺภินิวคฺโค สตฺตโม.

๒๓๗๖. คิหิคเตหิ ตีเหวาติ อนนฺตเร คพฺภินิวคฺเค คิหิคตปทยุตฺเตหิ ปฺจมฉฏฺสตฺตเมหิ ตีเหว สิกฺขาปเทหิ. สทิสานีติ อิธ วีสติวสฺสวจนฺจ กุมาริภูตวจนฺจ ตตฺถ ทฺวาทสวสฺสวจนฺจ คิหิคตวจนฺจ เปตฺวา อวเสเสหิ วินิจฺฉเยหิ ยถากฺกมํ สทิสาเนวาติ.

๒๓๗๗. มหูปปทาติ มหา อุปปโท ยาสํ สิกฺขมานานํ ตา มหูปปทา. อุปปทํ นาม ปทานเมว ยุชฺชติ, น อตฺถานนฺติ ‘‘ยาส’’นฺติ อฺปเทน สิกฺขมานาทิปทานํ คหณํ, สทฺทตฺถานมเภโทปจารสฺส ปน อิจฺฉิตตฺตา สิกฺขมานปทคหิตานเมตฺถ คหณํ เวทิตพฺพํ, มหาสิกฺขมานาติ วุตฺตํ โหติ. อาทิโตติ เอตฺถ ‘‘วุตฺตา’’ติ เสโส, คพฺภินิวคฺเค ติสฺสนฺนํ คิหิคตานํ ปุริเมสุ ตติยจตุตฺถสิกฺขาปเทสุ อาคตา ทฺเว สิกฺขมานาติ อตฺโถ. คิหิคตาย ‘‘ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา’’ติ จ กุมาริภูตาย ‘‘ปริปุณฺณวีสติวสฺสา’’ติ จ วสฺสวเสน นานากรณสฺส วุตฺตตฺตา ตาหิ ทฺวีหิ มหาสิกฺขมานาย วสฺสวเสเนว นานากรณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘คตา วีสติวสฺสาติ, วิฺาตพฺพา วิภาวินา’’ติ, อติกฺกนฺตวีสติวสฺสา มหาสิกฺขมานา นาม โหตีติ อตฺโถ.

๒๓๗๘. ตา ทฺเว มหาสิกฺขมานา สเจ คิหิคตา วา โหนฺตุ, น จ ปุริสคตา วา โหนฺตุ, สมฺมุติอาทิสุ กมฺมวาจาย ‘‘สิกฺขมานา’’ติ วตฺตพฺพาติ โยชนา. เอตฺถ จ สมฺมุติ นาม ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย กาตพฺพาย สิกฺขาย สมฺมุติ เจว วุฏฺานสมฺมุติ จ. อาทิ-สทฺเทน อุปสมฺปทากมฺมํ คหิตํ.

๒๓๗๙. อิมาสํ ทฺวินฺนํ สมฺมุติทานาทีสุ ตฺติยา จ กมฺมวาจาย จ วตฺตพฺพํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวตฺตพฺพํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น ตา’’ติอาทิ. ตา เอตา อุโภปิ มหาสิกฺขมานา ‘‘กุมาริภูตา’’ติ วา ตถา ‘‘คิหิคตา’’ติ วา กมฺมวาจาย น วตฺตพฺพา ยสฺมา, ตสฺมา เอวํ วตฺตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘น วตฺตพฺพา’’ติ อิมินา ตถา เจ กมฺมวาจา วุจฺเจยฺย, ตํ กมฺมํ กุปฺปตีติ ทีเปติ. อิธ ปน-สทฺโท ยสฺมา-ปทตฺโถติ ตทตฺถวเสน โยชนา ทสฺสิตา.

๒๓๘๐. สมฺมุตินฺติ สิกฺขมานสมฺมุตึ. ทสวสฺสายาติ เอตฺถ ‘‘คิหิคตายา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘คิหิคตาย ทสวสฺสกาเล สิกฺขาสมฺมุตึ ทตฺวา ทฺวาทสวสฺสกาเล อุปสมฺปทา กาตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๑๙). เสสาสุปีติ เอกาทสวสฺสกาเล ทตฺวา เตรสวสฺสกาเล กาตพฺพา, ทฺวาทส, เตรส, จุทฺทส, ปนฺนรส, โสฬส, สตฺตรส, อฏฺารสวสฺสกาเล สิกฺขาสมฺมุตึ ทตฺวา วีสติวสฺสกาเล กาตพฺพาติ เอวํ อฏฺารสวสฺสปริยนฺตาสุ เสสาสุปิ สิกฺขมานาสุ. อยํ นโยติ ‘‘สมฺมุติยา ทินฺนสํวจฺฉรโต อาคามินิ ทุติเย สํวจฺฉเร อุปสมฺปาเทตพฺพา’’ติ อยํ นโย. เตเนว วุตฺตํ ‘‘เอกาทสวสฺสกาเล ทตฺวา เตรสวสฺสกาเล กาตพฺพา’’ติอาทิ.

๒๓๘๑. ‘‘กุมาริภูตา’’ติปิ ‘‘คิหิคตา’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ วุตฺตาติ โยชนา.

๒๓๘๒. ยา ปน ปริปุณฺณวีสติวสฺสา สามเณรี ‘‘กุมาริภูตา’’ติ วุตฺตา, สา กมฺมวาจาย ‘‘กุมาริภูตา’’อิจฺเจว วตฺตพฺพา, อฺถา ปน น วตฺตพฺพา ‘‘คิหิคตา’’ติ วา ‘‘ปุริสนฺตรคตา’’ติ วา น วตฺตพฺพาติ โยชนา. ยถาห ‘‘กุมาริภูตา ปน ‘คิหิคตา’ติ น วตฺตพฺพา, ‘กุมาริภูตา’อิจฺเจว วตฺตพฺพา’’ติ.

๒๓๘๓. เอตา ตุ ปน ติสฺโสปีติ มหาสิกฺขมานา คิหิคตา, กุมาริภูตาติ วุตฺตา ปน เอตา ติสฺโสปิ. อปิ-สทฺเทน คิหิคตา กุมาริภูตา ทฺเว สกสกนาเมนาปิ วตฺตุํ วฏฺฏนฺตีติ ทีเปติ. ‘‘กุมาริภูตสิกฺขมานายา’’ติ ปาฬิยํ อวุตฺตตฺตา น วฏฺฏตีติ โกจิ มฺเยฺยาติ อาห ‘‘น สํสโย’’ติ. ตถา วตฺตพฺพตาเหตุทสฺสนตฺถมาห ‘‘สิกฺขาสมฺมุติทานโต’’ติ.

ปมทุติยตติยานิ.

๒๓๘๔-๕. ยา ปน ภิกฺขุนี อูนทฺวาทสวสฺสาว อุปสมฺปทาวเสน อปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา เอว สยํ อุปชฺฌายา หุตฺวา ปรํ สิกฺขมานํ สเจ วุฏฺาเปติ, ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว คณปริเยสนาทิทุติยานุสฺสาวนปริโยสาเนสุ อาปนฺนานํ ทุกฺกฏานํ อนนฺตรํ กมฺมวาจานํ โอสาเน ตติยานุสฺสาวนาย ยฺยตารปฺปตฺตาย ตสฺสา ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.

จตุตฺถํ.

๒๓๘๖. ปฺจเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา สงฺเฆน อสมฺมตา วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๔๒) สิกฺขาปเท. กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตวเสน ติสมุฏฺานํ. กฺริยากฺริยนฺติ วุฏฺาปนํ กิริยํ, สงฺฆสมฺมุติยา อคฺคหณํ อกิริยํ.

ปฺจมํ.

๒๓๘๗. สงฺเฆนาติ ภิกฺขุนิสงฺเฆน. อุปปริกฺขิตฺวาติ อลชฺชิภาวาทึ อุปปริกฺขิตฺวา. อลํ ตาวาติ เอตฺถ ‘‘เต อยฺเย’’ติ เสโส. วาริตาติ เอตฺถ ‘‘สาธูติ ปฏิสฺสุณิตฺวา’’ติ เสโส. ‘‘อลํ ตาว เต, อยฺเย, อุปสมฺปาทิเตนา’’ติ วาริตา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา เอตฺถ เอตสฺมึ ปวารเณ ปจฺฉา ขียติ ‘‘อหเมว นูน พาลา, อหเมว นูน อลชฺชินี’’ติอาทินา อวณฺณํ ปกาเสติ, โทสตา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๓๘๘. ฉนฺทโทสาทีหิ กโรนฺติยาติ เอตฺถ ‘‘ปกติยา’’ติ เสโส. ปกติยา ฉนฺทโทสาทีหิ อคติคมเนหิ นิวารณํ กโรนฺติยา สเจ อุชฺฌายติ, น โทโสติ โยชนา.

ฉฏฺํ.

๒๓๘๙-๙๐. ลทฺเธ จีวเรติ สิกฺขามานาย ‘‘สเจ เม ตฺวํ, อยฺเย, จีวรํ ทสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติ วตฺวา ยาจิเต ตสฺมึ จีวเร ลทฺเธ. ปจฺฉาติ จีวรลาภโต ปจฺฉา. อสนฺเต อนฺตรายิเกติ ทสนฺนํ อนฺตรายานํ อฺตรสฺมึ อนฺตราเย อวิชฺชมาเน. วุฏฺาเปสฺสามินาหนฺติ อหํ ตํ น สมุฏฺาเปสฺสามีติ ธุรนิกฺเขปเน ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.

๒๓๙๑. อิทนฺติ อิทํ สิกฺขาปทํ. อวุฏฺาปเนน อกฺริยํ.

สตฺตมํ.

๒๓๙๒. อฏฺมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี สิกฺขมานํ ‘สเจ มํ ตฺวํ, อยฺเย, ทฺเว วสฺสานิ อนุพนฺธิสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติอาทิ (ปาจิ. ๑๑๕๕) สิกฺขาปทํ. นวเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปุริสสํสฏฺํ กุมารกสํสฏฺํ จณฺฑึ โสกาวาสํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๕๙) วุตฺตสิกฺขาปเท. ‘‘วตฺตพฺพํ นตฺถี’’ติ อิทํ สทฺทตฺถวิเสสมนฺตเรน วินิจฺฉยสฺส สุวิฺเยฺยตฺตา วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อุตฺตานเมวิท’’นฺติ.

สทฺทตฺโถ ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – ปุริสสํสฏฺนฺติ ปริปุณฺณวีสติวสฺเสน ปุริเสน อนนุโลมิเกน กายวจีกมฺเมน สํสฏฺํ. กุมารกสํสฏฺนฺติ อูนวีสติวสฺเสน กุมาเรน ตเถว สํสฏฺํ. จณฺฑินฺติ โกธนํ. โสกาวาสนฺติ สงฺเกตํ กตฺวา อาคจฺฉมานา ปุริสานํ อนฺโต โสกํ ปเวเสตีติ โสกาวาสา, ตํ โสกาวาสํ. อถ วา ฆรํ วิย ฆรสามิกา, อยมฺปิ ปุริสสมาคมํ อลภมานา โสกํ อาวิสติ, อิติ ยํ อาวิสติ, สฺวาสฺสา อาวาโส โหตีติ โสกาวาสา. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘โสกาวาสา นาม ปเรสํ ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, โสกํ อาวิสตี’’ติ (ปาจิ. ๑๑๖๐) ทฺเวธา อตฺโถ วุตฺโต. ปาจิตฺติยนฺติ เอวรูปํ วุฏฺาเปนฺติยา วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจาปริโยสาเน อุปชฺฌายาย ปาจิตฺติยํ.

๒๓๙๓. ‘‘นตฺถิ อชานนฺติยา’’ติ ปจฺเฉโท, สิกฺขมานาย ปุริสสํสฏฺาทิภาวํ อชานนฺติยาติ อตฺโถ.

อฏฺมนวมานิ.

๒๓๙๔. วิชาตมาตรา วา ชนกปิตรา วา สามินา ปริคฺคาหกสามินา วา นานุฺาตํ อุปสมฺปทตฺถาย อนนุฺาตํ ตํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปนฺติยา ตสฺสา ปาจิตฺติยาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๓๙๕. น ภิกฺขุนาติ ภิกฺขุนา ทฺวิกฺขตฺตุํ น ปุจฺฉิตพฺพํ, สกิเมว ปุจฺฉิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุนีหิ ทฺวิกฺขตฺตุํ อาปุจฺฉิตพฺพํ ปพฺพชฺชากาเล จ อุปสมฺปทากาเล จ, ภิกฺขูนํ ปน สกึ อาปุจฺฉิเตปิ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖๒).

๒๓๙๖-๗. อตฺถิตนฺติ อตฺถิภาวํ. จตูหิ สมุฏฺาติ, จตฺตาริ วา สมุฏฺานานิ เอตสฺสาติ จตุสมุฏฺานํ. กตเมหิ จตูหิ สมุฏฺาตีติ อาห ‘‘วาจโต…เป… กายวาจาทิโตปิ จา’’ติ. กถํ วาจาทีหิ จตูหิ สมุฏฺาติ? อพฺภานกมฺมาทีสุ เกนจิเทว กรณีเยน ขณฺฑสีมายํ นิสินฺนา ‘‘ปกฺโกสถ สิกฺขมานํ, อิเธว นํ อุปสมฺปาเทสฺสามา’’ติ อุปสมฺปาเทติ, เอวํ วาจโต สมุฏฺาติ. ‘‘อุปสฺสยโต ปฏฺาย อุปสมฺปาเทสฺสามี’’ติ วตฺวา ขณฺฑสีมํ คจฺฉนฺติยา กายวาจโต สมุฏฺาติ. ทฺวีสุปิ าเนสุ ปณฺณตฺตึ ชานิตฺวา วีติกฺกมํ กโรนฺติยา วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. อุปสมฺปาทนํ กฺริยํ, อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

ทสมํ.

๒๓๙๘. เอตฺถ อิมสฺมึ สาสเน ยา ภิกฺขุนี ปาริวาสิเกน ฉนฺททาเนน สิกฺขมานํ สเจ วุฏฺาเปติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. ตตฺถ ปาริวาสิเกน ฉนฺททาเนนาติ จตุพฺพิธํ ปาริวาสิยํ ปริสปาริวาสิยํ, รตฺติปาริวาสิยํ, ฉนฺทปาริวาสิยํ, อชฺฌาสยปาริวาสิยนฺติ.

ตตฺถ ปริสปาริวาสิยํ นาม ภิกฺขู เกนจิเทว กรณีเยน สนฺนิปติตา โหนฺติ, อถ เมโฆ วา อุฏฺหติ, อุสฺสารณา วา กรียติ, มนุสฺสา วา อชฺโฌตฺถรนฺตา อาคจฺฉนฺติ, ภิกฺขู ‘‘อโนกาโส อยํ, อฺตฺร คจฺฉามา’’ติ ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว อุฏฺหนฺติ. อิทํ ปริสปาริวาสิยํ. กิฺจาปิ ปริสปาริวาสิยํ, ฉนฺทสฺส ปน อวิสฺสฏฺตฺตา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.

ปุน ภิกฺขู ‘‘อุโปสถาทีนิ กริสฺสามา’’ติ รตฺตึ สนฺนิปติตฺวา ‘‘ยาว สพฺเพ สนฺนิปตนฺติ, ตาว ธมฺมํ สุณิสฺสามา’’ติ เอกํ อชฺเฌสนฺติ, ตสฺมึ ธมฺมกถํ กเถนฺเตเยว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ. สเจ ‘‘จาตุทฺทสิกํ อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา, ‘‘ปนฺนรโส’’ติ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปนฺนรสิกํ กาตุํ นิสินฺนา, ปาฏิปเท อนุโปสเถ อุโปสถํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อฺํ ปน สงฺฆกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. อิทํ ปน รตฺติปาริวาสิยํ นาม.

ปุน ภิกฺขู ‘‘กิฺจิเทว อพฺภานาทิสงฺฆกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา โหนฺติ, ตตฺเรโก นกฺขตฺตปาโก ภิกฺขุ เอวํ วทติ ‘‘อชฺช นกฺขตฺตํ ทารุณํ, มา อิทํ กมฺมํ กโรถา’’ติ, เต ตสฺส วจเนน ฉนฺทํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตตฺเถว นิสินฺนา โหนฺติ, อถฺโ อาคนฺตฺวา –

‘‘นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ, อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา’’ติ. (ชา. ๑.๑.๔๙) –

วตฺวา ‘‘กึ นกฺขตฺเตน, กโรถา’’ติ วทติ. อิทํ ฉนฺทปาริวาสิยฺเจว อชฺฌาสยปาริวาสิยฺจ. เอตสฺมึ ปาริวาสิเย ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อนาหริตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปาริวาสิเกน ฉนฺททาเนนา’’ติ.

ปาจิตฺติยํ สิยาติ เอวํ วุฏฺาเปนฺติยา วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจาปริโยสาเน ปาจิตฺติยํ สิยาติ อตฺโถ.

๒๓๙๙. ฉนฺทํ อวิหาย วา อวิสฺสชฺเชตฺวาว อวุฏฺิตาย ปริสาย ตุ ยถานิสินฺนาย ปริสาย วุฏฺาเปนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. วา-สทฺโท เอวการตฺโถ.

เอกาทสมํ.

๒๔๐๐. ทฺวาทเสติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อนุวสฺสํ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๗๑) สิกฺขาปเท. เตรเสติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี เอกํ วสฺสํ ทฺเว วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๗๕) สิกฺขาปเท.

ทฺวาทสมเตรสมานิ.

กุมาริภูตวคฺโค อฏฺโม.

๒๔๐๑. อคิลานาติ ฉตฺตุปาหเนน วูปสเมตพฺพโรครหิตา. ยถาห ‘‘อคิลานา นาม ยสฺสา วินา ฉตฺตุปาหนา ผาสุ โหตี’’ติ. ฉตฺตฺจ อุปาหนา จ ฉตฺตุปาหนํ. ตตฺถ ฉตฺตํ วุตฺตลกฺขณํ, อุปาหนา วกฺขมานลกฺขณา. ธาเรยฺยาติ อุภยํ เอกโต ธาเรยฺย. วิสุํ ธาเรนฺติยา หิ ทุกฺกฏํ วกฺขติ.

๒๔๐๒. ทิวสนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. สเจ ธาเรตีติ โยชนา.

๒๔๐๓. กทฺทมาทีนีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มหาวาลุกาทีนํ คหณํ.

๒๔๐๔. สเจ คจฺฉตีติ สมฺพนฺโธ. ทิสฺวา คจฺฉาทิกนฺติ ฉตฺเต ลคฺคนโยคฺคํ นีจตรํ คจฺฉาทิกํ ทิสฺวา. อาทิ-สทฺเทน คุมฺพาทีนํ คหณํ. ทุกฺกฏนฺติ อุปาหนมตฺตสฺเสว ธารเณ ทุกฺกฏํ.

๒๔๐๕. อปนาเมตฺวาติ สีสโต อปนาเมตฺวา. โอมุฺจิตฺวาติ ปาทโต โอมุฺจิตฺวา. โหติ ปาจิตฺติยนฺติ ปุน ปาจิตฺติยํ โหติ.

๒๔๐๖. ปโยคคณนาเยวาติ ฉตฺตุปาหนสฺส อปเนตฺวา อปเนตฺวา เอกโต ธารณปโยคคณนาย. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อคิลานา อคิลานสฺา, เวมติกา, คิลานสฺา ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๘๑) เอวํ ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ‘‘คิลานา อคิลานสฺา, คิลานา เวมติกา, ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๘๒) เอวํ ทฺวิกทุกฺกฏํ ตเถว วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.

๒๔๐๗. ยตฺถ ภิกฺขู วา ภิกฺขุนิโย วา นิวสนฺติ, ตสฺมึ อาราเม วา อุปจาเร วา อปริกฺขิตฺตสฺส อารามสฺส อุปจาเร วา. อาปทาสูติ รฏฺเภทาทิอาปทาสุ.

ปมํ.

๒๔๐๘. ภิกฺขุนิยาติ เอตฺถ ‘‘อคิลานายา’’ติ เสโส, ปาเทน คนฺตุํ สมตฺถาย อคิลานาย ภิกฺขุนิยาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘อคิลานา นาม สกฺโกติ ปทสา คนฺตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๘๗). ยานํ นาม รถาทิ, ตํ เหฏฺา วุตฺตสรูปเมว.

๒๔๐๙. อาปทาสูติ รฏฺเภทาทิอาปทาสุ. ฉตฺตุปาหนสิกฺขาปเท อาราเม, อารามูปจาเร จ อนาปตฺติ วุตฺตา, อิธ ตถา อวุตฺตตฺตา สพฺพตฺถาปิ อาปตฺติเยว เวทิตพฺพา.

ทุติยํ.

๒๔๑๐. ‘‘ยํ กิฺจิปิ กฏูปิย’’นฺติ อิทํ ‘‘สงฺฆาณิ’’นฺติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ยถาห – ‘‘สงฺฆาณิ นาม ยา กาจิ กฏูปคา’’ติ. สงฺฆาณิ นาม เมขลาทิกฏิปิฬนฺธนํ. กฏูปิยนฺติ กฏิปฺปเทโสปคํ.

๒๔๑๒. กฏิสุตฺตํ นาม กฏิยํ ปิฬนฺธนรชฺชุสุตฺตกํ.

๒๔๑๓. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท จิตฺตํ อกุสลํ, อิทํ ปน สิกฺขาปทํ โลกวชฺชํ, อิติ อิทํ อุภยเมว วิเสสตา ปุริมสิกฺขาปทโต อิมสฺส นานากรณํ.

ตติยํ.

๒๔๑๔. สีสูปคาทิสุ ยํ กิฺจิ สเจ ยา ธาเรติ, ตสฺสา ตสฺส วตฺถุสฺส คณนาย อาปตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา. สีสํ อุปคจฺฉตีติ สีสูปคํ, สีเส ปิฬนฺธนารหนฺติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน คีวูปคาทีนํ คหณํ. ยถาห – ‘‘อิตฺถาลงฺกาโร นาม สีสูปโค คีวูปโค หตฺถูปโค ปาทูปโค กฏูปโค’’ติ.

๒๔๑๕. น จ โทโสติ โยชนา. ‘‘สทิสนฺติ ปริทีปิต’’นฺติ วตฺตพฺเพ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ.

จตุตฺถํ.

๒๔๑๖. เยน เกนจิ คนฺเธนาติ จนฺทนตคราทินา เยน เกนจิ คนฺธกกฺเกน. สวณฺณาวณฺณเกน จาติ วณฺเณน สห วตฺตตีติ สวณฺณกํ, หลิทฺทิกกฺกาทิ, นตฺถิ เอตสฺส อุพฺพฏฺฏนปจฺจยา ทิสฺสมาโน วณฺณวิเสโสติ อวณฺณกํ, สาสปกกฺกาทิ, สวณฺณกฺจ อวณฺณกฺจ สวณฺณาวณฺณกํ, เตน สวณฺณาวณฺณเกน จ. อุพฺพฏฺเฏตฺวา นฺหายนฺติยา นฺหาโนสาเน ปาจิตฺติยาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.

๒๔๑๗. สพฺพปโยเคติ สพฺพสฺมึ ปุพฺพปโยเค. อาพาธปจฺจยาติ ททฺทุกุฏฺาทิโรคปจฺจยา.

๒๔๑๘. ฉฏฺนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี วาสิตเกน ปิฺาเกน นหาเยยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๒๐๓) สิกฺขาปทํ.

ปฺจมฉฏฺานิ.

๒๔๑๙. ยา ปน ภิกฺขุนี อฺาย ภิกฺขุนิยา สเจ อุพฺพฏฺฏาเปยฺย วา สมฺพาหาเปยฺย วา, ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ตถา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๔๒๐. เอตฺถ อิมสฺมึ อุพฺพฏฺฏเน, สมฺพาหเน จ หตฺถํ อโมเจตฺวา อุพฺพฏฺฏเน เอกา อาปตฺติ สิยา, หตฺถํ โมเจตฺวา โมเจตฺวา อุพฺพฏฺฏเน ปโยคคณนาย สิยาติ โยชนา.

๒๔๒๑. อาปทาสูติ โจรภยาทีหิ สรีรกมฺปนาทีสุ. คิลานายาติ อนฺตมโส มคฺคคมนปริสฺสเมนาปิ อาพาธิกาย.

๒๔๒๒. อฏฺมสิกฺขาปเท ‘‘สิกฺขมานายา’’ติ จ นวมสิกฺขาปเท ‘‘สามเณริยา’’ติ จ ทสมสิกฺขาปเท ‘‘คิหินิยา’’ติ จ วิเสสํ วชฺเชตฺวา อวเสสวินิจฺฉโย สตฺตเมเนว สมาโนติ ทสฺเสตุมาห ‘‘อฏฺมาทีนิ ตีณิปี’’ติ.

สตฺตมฏฺมนวมทสมานิ.

๒๔๒๓. อนฺโตอุปจารสฺมินฺติ ทฺวาทสรตนพฺภนฺตเร. ‘‘ภิกฺขุสฺส ปุรโต’’ติ อิทํ อุปลกฺขณํ. ตสฺมา ปุรโต วา โหตุ ปจฺฉโต วา ปสฺสโต วา, สมนฺตโต ทฺวาทสรตนพฺภนฺตเรติ นิทสฺสนปทเมตํ. ฉมายปีติ อนนฺตรหิตาย ภูมิยาปิ. ยา นิสีเทยฺยาติ สมฺพนฺโธ. น วฏฺฏติ ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ.

๒๔๒๔. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ อนาปุจฺฉิเต อนาปุจฺฉิตสฺา, เวมติกา, อาปุจฺฉิตสฺาติ ตีสุ วิกปฺเปสุ ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ. อาปุจฺฉิเต อนาปุจฺฉิตสฺา, เวมติกา วา ภิกฺขุสฺส ปุรโต นิสีเทยฺยาติ วิกปฺปทฺวเย ทุกฺกฏทฺวยํ โหติ. อาปทาสูติ รฏฺเภทาทิอาปทาสุ. อาปุจฺฉิตุฺจ าตุฺจ อสกฺโกนฺติยา คิลานาย.

๒๔๒๕. นิปชฺชนํ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

เอกาทสมํ.

๒๔๒๖. โอกาโส กโต เยน โส โอกาสกโต, น โอกาสกโต อโนกาสกโต, ตํ, อกโตกาสนฺติ อตฺโถ, ‘‘อสุกสฺมึ นาม าเน ปุจฺฉามี’’ติ อตฺตนา ปุจฺฉิตพฺพวินยาทีนํ นามํ คเหตฺวา โอกาสํ การาปนกาเล อธิวาสนวเสน อกโตกาสนฺติ วุตฺตํ โหติ. โทสตาติ ปาจิตฺติยาปตฺติ. เอกสฺมึ ปิฏเก โอกาสํ การาเปตฺวา อฺสฺมึ ปิฏเก ปฺหํ ปุจฺฉนฺติยาปิ ปาจิตฺติยํ โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘วินเย จา’’ติอาทิ.

ปุจฺฉนฺติยาปิ จาติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ‘‘อภิธมฺมํ ปุจฺฉนฺติยาปี’’ติ อิทฺจ อนุตฺตสมุจฺจยตฺเถน -สทฺเทน ‘‘สุตฺตนฺเต โอกาสํ การาเปตฺวา วินยํ วา อภิธมฺมํ วา ปุจฺฉติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อภิธมฺเม โอกาสํ การาเปตฺวา สุตฺตนฺตํ วา วินยํ วา ปุจฺฉติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ อิทฺจ สงฺคหิตํ.

๒๔๒๗. อโนทิสฺสาติ ‘‘อสุกสฺมึ นาม ปุจฺฉามี’’ติ เอวํ อนิยเมตฺวา เกวลํ ‘‘ปุจฺฉิตพฺพํ อตฺถิ, ปุจฺฉามิ อยฺยา’’ติ เอวํ วตฺวา.

ทฺวาทสมํ.

๒๔๒๘-๙. สํกจฺจิกนฺติ ถนเวนจีวรํ, ตํ ปน ปารุปนฺติยา อธกฺขกํ อุพฺภนาภิมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺติยา ปารุปิตพฺพํ. เตนาห มาติกฏฺกถายํ ‘‘อสํกจฺจิกาติ อธกฺขกอุพฺภนาภิมณฺฑลสงฺขาตสฺส สรีรสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถํ อนุฺาตสํกจฺจิกจีวรรหิตา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. อสํกจฺจิกสิกฺขาปทวณฺณนา). ‘‘สํกจฺจิกาย ปมาณํ ติริยํ ทิยฑฺฒหตฺถนฺติ โปราณคณฺิปเท วุตฺต’’นฺติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๑๒๒๔-๑๒๒๖) วชิรพุทฺธิตฺเถโร. ปริกฺเขโปกฺกเมติ ปริกฺเขปสฺส อนฺโตปเวสเน. อุปจาโรกฺกเมปีติ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ทุติยเลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรปเวสเนปิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. เอเสว นโยติ ‘‘ปเม ปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติเย ปาจิตฺติย’’นฺติ ยถาวุตฺโตเยว นโย มโต วิฺาโตติ อตฺโถ.

๒๔๓๐. อาปทาสุปีติ มหคฺฆํ โหติ สํกจฺจิกํ, ปารุปิตฺวา คจฺฉนฺติยา จ อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ.

๒๔๓๑. เสสนฺติ อิธ สรูปโต อทสฺสิตฺจ. วุตฺตนเยเนวาติ มาติกาปทภาชนาทีสุ วุตฺตนเยเนว. สุนิปุณสฺมึ ธมฺมชาตํ, อตฺถชาตฺจ วิภาเวติ วิวิเธนากาเรน ปกาเสตีติ วิภาวี, เตน วิภาวินา.

เตรสมํ.

ฉตฺตุปาหนวคฺโค นวโม.

เอวํ นวหิ วคฺเคหิ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ฉนฺนวุติ สิกฺขาปทานิ ทสฺเสตฺวา อิโต ปเรสุ มุสาวาทวคฺคาทีสุ สตฺตสุ วคฺเคสุ ภิกฺขูหิ สาธารณสิกฺขาปทานิ ภิกฺขุปาติโมกฺขวินิจฺฉยกถาย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานีติ ตานิ อิธ น ทสฺสิตานิ.

สพฺพาเนว ภิกฺขุนีนํ ขุทฺทเกสุ ฉนฺนวุติ, ภิกฺขูนํ ทฺเวนวุตีติ อฏฺาสีติสตํ สิกฺขาปทานิ. ตโต ปรํ สกลํ ภิกฺขุนิวคฺคํ, ปรมฺปรโภชนํ, อนติริตฺตโภชนํ, อนติริตฺเตน อภิหฏฺุํ ปวารณํ, ปณีตโภชนวิฺตฺติ, อเจลกสิกฺขาปทํ, ทุฏฺุลฺลปอจฺฉาทนํ, อูนวีสติวสฺสอุปสมฺปาทนํ, มาตุคาเมน สทฺธึ สํวิธาย อทฺธานคมนํ, ราชนฺเตปุรปฺปเวสนํ, สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา วิกาเล คามปฺปเวสนํ, นิสีทนํ, วสฺสิกสาฏิกนฺติ อิมานิ พาวีสติ สิกฺขาปทานิ อปเนตฺวา เสสานิ สตฺจ ฉสฏฺิ จ สิกฺขาปทานิ ภิกฺขุนิปาติโมกฺขุทฺเทสมคฺเคน อุทฺทิฏฺานีติ เวทิตพฺพานิ.

ตตฺรายํ สงฺเขปโต อสาธารณสิกฺขาปเทสุ สมุฏฺานวินิจฺฉโย – คิรคฺคสมชฺชา, จิตฺตาคารสิกฺขาปทํ, สงฺฆาณิ, อิตฺถาลงฺกาโร, คนฺธวณฺณโก, วาสิตกปิฺาโก, ภิกฺขุนิอาทีหิ อุมฺมทฺทนปริมทฺทนานีติ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ อจิตฺตกานิ, โลกวชฺชานิ, อกุสลจิตฺตานิ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จ. อวเสสานิ อจิตฺตกานิ ปณฺณตฺติวชฺชาเนว. โจริวุฏฺาปนํ, คามนฺตรํ, อารามสิกฺขาปทํ, คพฺภินิวคฺเค อาทิโต ปฏฺาย สตฺต, กุมาริภูตวคฺเค อาทิโต ปฏฺาย ปฺจ, ปุริสสํสฏฺํ, ปาริวาสิยฉนฺททานํ, อนุวสฺสวุฏฺาปนํ, เอกนฺตริกวุฏฺาปนนฺติ อิมานิ เอกูนวีสติ สิกฺขาปทานิ สจิตฺตกานิ, ปณฺณตฺติวชฺชานิ. อวเสสานิ สจิตฺตกานิ โลกวชฺชาเนวาติ.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา

๒๔๓๒. เอวํ ปาจิตฺติยวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปาฏิเทสนียํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อคิลานา’’ติอาทิ. ยา ปน ภิกฺขุนี อคิลานา สยํ อตฺตนา วิฺตฺติยา ลทฺธํ สปฺปึ สเจ ‘‘ภุฺชิสฺสามี’’ติ คณฺหติ, ตสฺสา เอวํ คหเณ ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา. ตตฺถ ยสฺสา วินา สปฺปินา ผาสุ โหติ, สา อคิลานา นาม. สปฺปินฺติ ปุพฺเพ วุตฺตวินิจฺฉยํ ปาฬิอาคตํ โคสปฺปิอาทิกเมว.

๒๔๓๓. ติปาฏิเทสนียนฺติ อคิลานา อคิลานสฺา, เวมติกา, คิลานสฺาติ ตีสุ วิกปฺเปสุ ตีณิ ปาฏิเทสนียานิ. คิลานา ทฺวิกทุกฺกฏนฺติ คิลานาย ทฺวิกทุกฺกฏํ. คิลานา อคิลานสฺา, เวมติกา วาติ ทฺวีสุ วิกปฺเปสุ ทฺเว ทุกฺกฏานิ.

๒๔๓๔-๕. คิลานา หุตฺวา สปฺปึ วิฺาเปตฺวา ปจฺฉา วูปสนฺตเคลฺา หุตฺวา เสวนฺติยา ปริภุฺชนฺติยาปิ จ คิลานาย อวเสสํ ปริภุฺชนฺติยา วา าตกาทิโต าตกปวาริตฏฺานโต วิฺตฺตํ ภุฺชนฺติยา วา อฺสฺสตฺถาย วิฺตฺตํ ปริภุฺชนฺติยา วา อตฺตโน ธเนน คหิตํ ภุฺชนฺติยา วา อุมฺมตฺติกาย วา อนาปตฺตีติ โยชนา.

ปมํ.

๒๔๓๖. เสเสสุ ทุติยาทีสูติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อคิลานา เตลํ…เป… มธุํ…เป… ผาณิตํ…เป… มจฺฉํ…เป… มํสํ…เป… ขีรํ…เป… ทธึ วิฺาเปตฺวา ภุฺเชยฺย, ปฏิเทเสตพฺพํ ตาย ภิกฺขุนิยา คารยฺหํ อยฺเย ธมฺมํ อาปชฺชึ อสปฺปายํ ปาฏิเทสนียํ, ตํ ปฏิเทเสมี’’ติ (ปาจิ. ๑๒๓๖) เอวํ ทุติยาทีสุ สตฺตสุ ปาฏิเทสนีเยสุ. นตฺถิ กาจิ วิเสสตาติ เตลาทิปทานิ วินา อฺโ โกจิ วิเสโส นตฺถีติ อตฺโถ.

๒๔๓๗. ปาฬิยํ อนาคเตสุ สพฺเพสุ สปฺปิอาทีสุ อฏฺสุ อฺตรํ วิฺาเปตฺวา ภุฺชนฺติยาปิ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สิกฺขากรณียกถาวณฺณนา

๒๔๓๘. ปาฏิเทสนียานนฺตรํ อุทฺทิฏฺานิ ปฺจสตฺตติ เสขิยานิ มหาวิภงฺเค วุตฺตวินิจฺฉยาเนวาติ ตเทว อติทิสนฺโต อาห ‘‘เสขิยา ปน เย ธมฺมา’’ติอาทิ. เย ปน ปฺจสตฺตติ เสขิยา ธมฺมา ปาฏิเทสนียานนฺตรํ อุทฺทิฏฺา, เตสํ อตฺถวินิจฺฉโย มหาวิภงฺเค วุตฺโตวาติ โยชนา, อตฺถิเกหิ ตโตว คเหตพฺโพ, น ปุน อิธ ทสฺเสสฺสามีติ อธิปฺปาโย.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

สิกฺขากรณียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๔๓๙-๔๐. สวิภงฺคานํ อุภโตวิภงฺคสหิตานํ อุภโตปาติโมกฺขานํ ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีนฺจ ปาติโมกฺขานํ อฏฺกถาสาโร สพฺพฏฺกถานํ สารภูโต โย โส อตฺโถ วิเสสโต สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต. ตํ สพฺพํ สารภูตํ อตฺถํ สมาทาย โย วินยสฺสวินิจฺฉโย ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีนฺจ หิตตฺถาย มยา กโต วิรจิโตติ สมฺพนฺโธ.

๒๔๔๑. โน อมฺหากํ ปฏิภาณชํ ปฏิภาณโต ชาตํ อิมํ ตุ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ ปน เย ชนฺตุโน สตฺตา สุณนฺติ, เต ชนฺตุโน ชนสฺส สตฺตโลกสฺส หิเต อธิสีลสิกฺขาปกาสกตฺตา อุปการเก สุมตสฺส โสภณนฺติ พุทฺธาทีหิ มตสฺส, โสภเณหิ วา พุทฺธาทีหิ มตสฺส ปฏิวิทฺธสฺส อมตมหานิพฺพานสฺส อยเน อฺชสภูเต ชนสฺส ตายเน กายิกวาจสิกวีติกฺกมปฏิปกฺขตฺตา อปายภยนิวารณฏฺเน ตาณภูเต วินเย วินยปิฏเก ปกตฺุโน ยถาสภาวํ ชานนฺตา ตฺุโน ภวนฺติ ตํ ตํ กปฺปิยากปฺปิยํ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพํ ชานนฺตา ภวนฺเตวาติ อตฺโถ.

๒๔๔๒. พหโว สารภูตา นยา เอตฺถาติ พหุสารนโย, ตสฺมึ พหุสารนเย. ปรเม อุตฺตเม วินเย วินยปิฏเก วิสารทตํ เวสารชฺชํ อสํหีราณํ อภิปตฺถยตา วิเสสโต อิจฺฉนฺเตน พุทฺธิมตา าณาติสยมนฺเตน ยตินา สพฺพกาลํ ติวิธสิกฺขาปริปูรเณ อสิถิลปวตฺตสมฺมาวายาเมน ภิกฺขุนา อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย ปรมา อุตฺตริตรา มหตี อาทรตา กรณียตมา วิเสเสน กาตพฺพาเยวาติ อตฺโถ.

๒๔๔๓. อิจฺเจวํ สีลวิสุทฺธิสาธเน วินยปิฏเก เวสารชฺชเหตุตาย อิมสฺส วินยวินิจฺฉยสฺส สีลวิสุทฺธิอาทิสตฺตวิสุทฺธิปรมฺปราย อธิคนฺตพฺพสฺส อมตมหานิพฺพานสฺส ปตฺติยาปิ มูลภูตตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อวคจฺฉตี’’ติอาทิ.

โย ปน ภิกฺขุ อตฺถยุตฺตํ มหตา ปโยชนตฺเถน, อภิเธยฺยตฺเถน จ สมนฺนาคตํ อิมํ วินยสฺสวินิจฺฉยํ อวคจฺฉติ อเวจฺจ ยาถาวโต ชานาติ, โส อปรมฺปรํ มรณาภาวา อมรํ ชรายาภาวา อชรํ ราคาทิกิเลสรชปฏิปกฺขตฺตา อรชํ อเนกปฺปการโรคานํ อปฺปวตฺติเหตุตฺตา อรุชํ สนฺติปทํ สพฺพกิเลสทรถปริฬาหานํ วูปสมเหตุตฺตา สนฺติสงฺขาตํ นิพฺพานปทํ อธิคจฺฉติ สีลวิสุทฺธิอาทิสตฺตวิสุทฺธิปรมฺปราย คนฺตฺวา ปฏิวิชฺฌตีติ โยชนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ภิกฺขุนิวิภงฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ขนฺธกกถา

มหาวคฺโค

มหาขนฺธกกถา

ปพฺพชฺชากถาวณฺณนา

๒๔๔๔. อิจฺเจวํ นาติสงฺเขปวิตฺถารวเสน วิภงฺคทฺวเย, ตทฏฺกถาย จ อาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ขนฺธกาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมารภนฺโต อาห ‘‘สีลกฺขนฺธาที’’ติอาทิ. ตตฺถ สีลกฺขนฺธาทิยุตฺเตนาติ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสงฺขาเตหิ ปฺจหิ ขนฺเธหิ คุณราสีหิ ยุตฺเตน สมนฺนาคเตน. สุภกฺขนฺเธนาติ สุวณฺณาลิงฺคสทิสวฏฺฏกฺขนฺธตาย สุโภ สุนฺทโร ขนฺโธ เอตสฺสาติ สุภกฺขนฺโธ, ภควา, เตน. อิมินา พาตฺตึสลกฺขณานเมกเทสภูตสฺส สมวฏฺฏกฺขนฺธตาลกฺขณสฺส ปริทีปเกน วจเนน ลกฺขณาหารนเยน พาตฺตึสลกฺขณาทิกา สพฺพาปิ รูปกายสิรี สนฺทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.

ขนฺธเกติ ขนฺธานํ สมูโห ขนฺธโก, ขนฺธานํ วา กายนโต ทีปนโต ขนฺธโก. ‘‘ขนฺธา’’ติ เจตฺถ ปพฺพชฺชูปสมฺปทาทิวินยกมฺมสงฺขาตา, จาริตฺตวาริตฺตสิกฺขาปทสงฺขาตา จ ปฺตฺติโย อธิปฺเปตา. ปพฺพชฺชาทีนิ หิ ภควตา ปฺตฺตตฺตา ‘‘ปฺตฺติโย’’ติ วุจฺจนฺติ. ปฺตฺติยฺจ ขนฺธ-สทฺโท ทิสฺสติ ‘‘ทารุกฺขนฺโธ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑) อคฺคิกฺขนฺโธ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๖) อุทกกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๖.๓๗) วิย. อปิจ ภาคราสตฺถตา เจตฺถ ยุชฺชติเยว ตาสํ ปฺตฺตีนํ ภาคโส, ราสิโต จ วิภตฺตตฺตา. ตสฺมึ ขนฺธเก. ปิ-สทฺโท วุตฺตาเปกฺขาย ปฺจสติกสตฺตสติกกฺขนฺธเก ทฺเว วชฺเชตฺวา ปพฺพชฺชกฺขนฺธกาทิเก ภิกฺขุนิขนฺธกปริโยสาเน วีสติวิเธ ขนฺธเก วุตฺตวินิจฺฉยสฺส อิธ วกฺขมานตฺตา. ตเทว สนฺธายาห ‘‘ขนฺธเกปิ ปวกฺขามิ, สมาเสน วินิจฺฉย’’นฺติ.

๒๔๔๕. ‘‘มาตรา ปิตรา’’ติ อิมินา ชนกาเยว อธิปฺเปตา. ‘‘ภณฺฑุกมฺมํ, สมณกรณํ, ปพฺพาชนนฺติ จ ปริยาย-สทฺทา’’ติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆํ อปโลเกตุํ ภณฺฑุกมฺมายา’’ติ (มหาว. ๙๘) อิมิสฺสา ปาฬิยา อฏฺกถาย (มหาว. อฏฺ. ๙๘) วุตฺตํ. อาปุจฺฉิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘สงฺฆ’’นฺติ เสโส.

๒๔๔๖. วาวโฏติ ปสุโต, ยุตฺตปยุตฺโตติ อตฺโถ. ‘‘ปพฺพาเชตฺวา อานย อิติ จา’’ติ ปทจฺเฉโท. เอตฺถ จ ติธา ปพฺพาชนํ เวทิตพฺพํ เกสจฺเฉทนํ, กาสายอจฺฉาทนํ, สรณทานนฺติ, อิมานิ ตีณิ กโรนฺโต ‘‘ปพฺพาเชตี’’ติ วุจฺจติ. เตสุ เอกํ, ทฺเว วาปิ กโรนฺโต ตถา โวหรียติเยว. ตสฺมา ‘‘ปพฺพาเชตฺวานยา’’ติ อิมินา เกเส ฉินฺทิตฺวา กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา อาเนหีติ อยมตฺโถ ทีปิโตติ ทฏฺพฺโพ.

๒๔๔๗. อวุตฺโตติ อุปชฺฌาเยน อนุยฺโยชิโต. โส ทหโร สเจ ตํ สยเมว เกสจฺเฉทนกาสายจฺฉาทเนหิ ปพฺพาเชติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๔๔๘. ตตฺถาติ อตฺตโน สมีเป. ขณฺฑสีมํ เนตฺวาติ ภณฺฑุกมฺมาโรจนปริหารตฺถํ วุตฺตํ. เตน สภิกฺขุเก วิหาเร อฺมฺปิ ภิกฺขุํ ‘‘เอตสฺส เกเส ฉินฺทา’’ติ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. ปพฺพาเชตฺวาติ เกสจฺเฉทนํ สนฺธาย วทติ.

๒๔๕๐. ‘‘ปุริสํ ภิกฺขุโต อฺโ, ปพฺพาเชติ น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ สรณทานํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘สามเณโร’’ติอาทิ.

๒๔๕๑. อุภินฺนมฺปิ เถรเถรีนํ ‘‘อิเมหิ จีวเรหิ อิมํ อจฺฉาเทหี’’ติ อาณตฺติยา สามเณโรปิ วา โหตุ, ตถา สามเณรี วา โหตุ, เต อุโภ สามเณรสามเณรี กาสายานิ ทาตุํ ลภนฺตีติ โยชนา.

๒๔๕๒-๔. ปพฺพาเชนฺเตน ภิกฺขุนาติ เอตฺถ ‘‘ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ ทตฺวา’’ติ วตฺตพฺพํ เอวฺหิ กตฺวา เกสาปนยนสฺส อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘อาวุโส, สุฏฺุ อุปธาเรหิ, สตึ อุปฏฺาเปหีติ วตฺวา ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตพฺพํ. อาจิกฺขนฺเตน จ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน อสุจิเชคุจฺฉปฏิกฺกูลภาวํ, นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวํ วา ปากฏํ กโรนฺเตน อาจิกฺขิตพฺพ’’นฺติอาทิ. กิมตฺถเมวํ กรียตีติ เจ? สเจ อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน โหติ, ตสฺส ขุรคฺเคเยว อรหตฺตปาปุณนตฺถํ. วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ

‘‘เย หิ เกจิ ขุรคฺเค อรหตฺตํ ปตฺตา, สพฺเพ เต เอวรูปํ สวนํ ลภิตฺวา กลฺยาณมิตฺเตน อาจริเยน ทินฺนนยํ นิสฺสาย, โน อนิสฺสาย, ตสฺมาสฺส อาทิโตว เอวรูปี กถา กเถตพฺพา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔).

เอเตเนว พฺยติเรกโต อิโต อฺา อนิยฺยานิกกถา น กเถตพฺพาติ ทีปิตํ โหติ. โคมยาทินาติ โคมยจุณฺณาทินา. อาทิ-สทฺเทน มตฺติกาทีนํ คหณํ. ปีฬกา วาติ ถุลฺลปีฬกา วา. กจฺฉุ วาติ สุขุมกจฺฉุ วา. นิยํปุตฺตนฺติ อตฺตโน ปุตฺตํ. ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ อิมสฺส ปทสฺส ทูรตฺตา ‘‘ยตินา’’ติ อาห.

๒๔๕๕-๖. กสฺมา ปน เอวํ นหาเปตพฺโพติ อาห ‘‘เอตฺตเกนาปี’’ติอาทิ. โสติ ปพฺพชฺชาเปกฺโข. อุปชฺฌายกาทิสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อาจริยสมานุปชฺฌายกาทีนํ คหณํ. ปาปุณนฺติ หีติ เอตฺถ หิ-สทฺโท ยสฺมา-ปทตฺเถ วตฺตติ. ยสฺมา เอตฺตเกนาปิ อุปชฺฌายาทีสุ สคารโว โหติ, ยสฺมา จ เอวรูปํ อุปการํ ลภิตฺวา กุลปุตฺตา อุปฺปนฺนํ อนภิรตึ ปฏิวิโนเทตฺวา สิกฺขาโย ปริปูเรตฺวา นิพฺพานํ ปาปุณิสฺสนฺติ, ตสฺมา เอวรูโป อุปกาโร กาตพฺโพติ อตฺโถ.

๒๔๕๘. เอกโตติ สพฺพานิ จีวรานิ เอกโต กตฺวา.

๒๔๕๙. อถาติ อธิการนฺตรารมฺเภ นิปาโต. ตสฺส หตฺเถ อทตฺวาปิ อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วาปิ สยเมว ตํ ปพฺพชฺชาเปกฺขํ อจฺฉาเทติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๔๖๐. อทินฺนจีวรสฺส อคฺคเหตพฺพตฺตา อาห ‘‘อปเนตฺวา ตโต สพฺพํ, ปุน ทาตพฺพเมว ต’’นฺติ. ตโตติ ตสฺส สรีรโต. นฺติ จีวรํ.

๒๔๖๑-๒. เอตเทว อาห ‘‘ภิกฺขุนา’’ติอาทินา. อทินฺนํ น วฏฺฏตีติ เอตฺถ ปพฺพชฺชา น รุหตีติ วทนฺติ. ตสฺเสว สนฺตกํ วาปิ จีวรํ อทินฺนํ น วฏฺฏติ อตฺตสนฺตเก อาจริยุปชฺฌายานํ อตฺตโน สนฺตเก จีวเร กา กถา วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อตฺโถ. ภิกฺขูติ เย ตตฺถ สนฺนิปติตา. การาเปตฺวาน อุกฺกุฏินฺติ เอตฺถ สพฺพธาตฺวตฺถานุคโต กโรติ-สทฺโท คหิโตติ อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ, ‘‘อุกฺกุฏิก’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔) อฏฺกถาปาโ คาถาพนฺธสุขตฺถํ อิธ ก-การโลเปน นิทฺทิฏฺโ.

๒๔๖๔. เอกปทํ วาปีติ พุทฺธมิจฺจาทิกํ เอกมฺปิ วา ปทํ. เอกกฺขรมฺปิ วาติ พุการาทิอกฺขเรสุ เอกมฺปิ วา อกฺขรํ. ปฏิปาฏินฺติ ‘‘พุทฺธ’’มิจฺจาทิกํ ปทปนฺตึ.

๒๔๖๕. อกตฺตพฺพปฺปการนฺตรํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ติกฺขตฺตุํ ยทิ วา’’ติอาทิ. ตถา เสเสสูติ ยทิ วา ‘‘ธมฺมํ สรณ’’นฺติ ติกฺขตฺตุํ เทติ, ‘‘สงฺฆํ สรณ’’นฺติ ยทิ วา ติกฺขตฺตุํ เทติ, เอวมฺปิ ตีณิ สรณานิ อทินฺนาเนว โหนฺติ.

๒๔๖๖. อนุนาสิกนฺตานิ กตฺวา ทาตพฺพานีติ สมฺพนฺโธ. อนุนาสิกนฺตํ กตฺวา ทานกาเล อนฺตราวิจฺเฉทํ อกตฺวา ทาตพฺพานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกาพทฺธานิ วา ปนา’’ติ วุตฺตํ. วิจฺฉินฺทิตฺวา ปทปฏิปาฏิโต ม-การนฺตํ กตฺวา ทานสมเย วิจฺเฉทํ กตฺวา. มนฺตานีติ ‘‘พุทฺธํ สรณํ อิจฺจาทินา ม-การนฺตานิ. ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติอาทินา นเยน นิคฺคหิตนฺตเมว กตฺวา น ทาตพฺพนฺติ ‘‘อถา’’ติ อาห.

๒๔๖๗. สุทฺธิ นาม อาจริยสฺส ตฺติยา, กมฺมวาจาย จ อุจฺจารณวิสุทฺธิ. ปพฺพชฺชาติ สามเณรสามเณริปพฺพชฺชา. อุภโตสุทฺธิยา วินาติ อุภโตสุทฺธึ วินา อาจริยนฺเตวาสีนํ อุภินฺนํ ตีสุ สรณตฺตยทานคฺคหเณสุ อุจฺจารณสุทฺธึ วินา, เอกสฺสาปิ อกฺขรสฺส วิปตฺติสพฺภาเว น โหตีติ อตฺโถ.

๒๔๖๘-๙. ‘‘ปพฺพชฺชาคุณมิจฺฉตา’’ติ อิทํ ‘‘อาจริเยน, อนฺเตวาสิเกนา’’ติ ปททฺวยสฺส วิเสสนํ ทฏฺพฺพํ, อนฺเตวาสิกสฺส ปพฺพชฺชาคุณํ อิจฺฉนฺเตน อาจริเยน, อตฺตโน ปพฺพชฺชาคุณํ อิจฺฉนฺเตน อนฺเตวาสิเกน จ พุ-ทฺธ-การาทโย วณฺณา พุ-การ ธ-การาทโย วณฺณา อกฺขรา านกรณสมฺปทํ กณฺตาลุมุทฺธทนฺตโอฏฺนาสิกาเภทํ านสมฺปทฺจ อกฺขรุปฺปตฺติสาธกตมชิวฺหามชฺฌาทิกรณสมฺปทฺจ อหาเปนฺเตน อปริหาเปนฺเตน วตฺตพฺพาติ โยชนา. กสฺมา อิทเมว ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เอกวณฺณวินาเสนา’’ติอาทิ. หิ-สทฺโท ยสฺมา-ปทตฺเถ, ยสฺมา เอกสฺสาปิ วณฺณสฺส วินาเสน อนุจฺจารเณน วา ทุรุจฺจารเณน วา ปพฺพชฺชา น รุหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.

๒๔๗๐. ยทิ สิทฺธาติ สาสงฺกวจเนน อุภโตอุจฺจารณสุทฺธิยา ทุกฺกรตฺตํ ทีเปตฺวา ‘‘อปฺปมตฺเตหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ อุภินฺนํ อาจริยนฺเตวาสิกานํ อนุสิฏฺิ ทินฺนา โหติ. สรณคมนโตวาติ อวธารเณน สามเณรปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา วิย ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน น โหติ, อิทานิปิ สรณคมเนเนว สิชฺฌตีติ ทีเปติ. หิ-สทฺโท ปสิทฺธิยํ. ยถาห –

‘‘ยสฺมา สรณคมเนน อุปสมฺปทา ปรโต ปฏิกฺขิตฺตา, ตสฺมา สา เอตรหิ สรณคมนมตฺเตเนว น รุหติ. สามเณรสฺส ปพฺพชฺชา ปน ยสฺมา ปรโตปิ ‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ตีหิ สรณคมเนหิ สามเณรปพฺพชฺช’นฺติ (มหาว. ๑๐๕) อนุฺาตา เอว, ตสฺมา สา เอตรหิปิ สรณคมนมตฺเตเนว รุหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔).

สรณคมนโต เอว ปพฺพชฺชา ยทิปิ กิฺจาปิ สิทฺธา นิปฺผนฺนา, ตถาปิ อสฺส สามเณรสฺส ‘‘อิทฺจิทฺจ มยา ปูเรตพฺพํ สีล’’นฺติ ตฺวา ปริปูรณตฺถาย ภิกฺขุนา ทส สีลานิ ทาตพฺพานีติ โยชนา. ยถาห ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามเณรานํ ทส สิกฺขาปทานิ, เตสุ จ สามเณเรหิ สิกฺขิตุํ. ปาณาติปาตา เวรมณี’’ติอาทิ (มหาว. ๑๐๖).

ปพฺพชฺชากถาวณฺณนา.

๒๔๗๑. อุปชฺฌายนฺติ วชฺชาวชฺเช อุปนิชฺฌายตีติ อุปชฺฌาโย, ตํ, ภควตา วุตฺเตหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต ปริปุณฺณทสวสฺโส ปุคฺคโล. นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ สิรสิ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา อตฺตโน อภิมุเข อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา ‘‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, โหหี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา อายาจนาย กตาย ‘‘สาหุ, ลหุ, โอปายิกํ, ปฏิรูปํ, ปาสาทิเกน สมฺปาเทหี’’ติ อิเมสุ ปฺจสุ ปเทสุ อฺตรํ กาเยน วา วาจาย วา อุภเยน วา วิฺาเปตฺวา ตสฺมึ สมฺปฏิจฺฉิเต ปิตุฏฺาเน ตฺวา อตฺรชมิว ตํ คเหตฺวา วชฺชาวชฺชํ อุปปริกฺขิตฺวา โทเสน นิคฺคณฺหิตฺวา สทฺธิวิหาริเก สิกฺขาเปนฺโต อุปชฺฌาโย นาม.

วิชฺชาสิปฺปํ, อาจารสมาจารํ วา สิกฺขิตุกาเมหิ อาทเรน จริตพฺโพ อุปฏฺาตพฺโพติ อาจริโย, ตํ, อุปชฺฌาเย วุตฺตลกฺขณสมนฺนาคโตเยว ปุคฺคโล. วุตฺตนเยเนว นิสีทิตฺวา ‘‘อาจริโย เม, ภนฺเต, โหหิ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา อายาจนาย กตาย ‘‘สาหู’’ติอาทีสุ ปฺจสุ อฺตรํ วตฺวา ตสฺมึ สมฺปฏิจฺฉิเต ปิตุฏฺาเน ตฺวา ปุตฺตฏฺานิยํ อนฺเตวาสึ สิกฺขาเปนฺโต อาจริโย นาม.

เอตฺถ จ สาหูติ สาธุ. ลหูติ อครุ, มม ตุยฺหํ อุปชฺฌายภาเว ภาริยํ นตฺถีติ อตฺโถ. โอปายิกนฺติ อุปายปฏิสํยุตฺตํ, ตํ อุปชฺฌายคฺคหณํ อิมินา อุปาเยน ตฺวํ เม อิโต ปฏฺาย ภาโร ชาโตสีติ วุตฺตํ โหติ. ปฏิรูปนฺติ อนุรูปํ เต อุปชฺฌายคฺคหณนฺติ อตฺโถ. ปาสาทิเกนาติ ปสาทาวเหน กายวจีปโยเคน. สมฺปาเทหีติ ติวิธํ สิกฺขํ นิปฺผาเทหีติ อตฺโถ. กาเยน วาติ หตฺถมุทฺทาทึ ทสฺเสนฺโต กาเยน วา. นามวิเสสํ วินา ปูเรตพฺพวตฺตานํ สมตาย อุโภปิ เอกโต วุตฺตา.

เอตานิ วตฺตานิ อุปชฺฌายสฺส สทฺธิวิหาริเกน, อาจริยสฺส อนฺเตวาสิเกนาปิ เอวเมว กาตพฺพาเนวาติ. วสตาติ วสนฺเตน. ปิยสีเลนาติ ปิยํ สีลเมตสฺสาติ ปิยสีโล, เตน, สีลํ ปริปูริตุกาเมนาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๔๗๒-๓. อาสนํ ปฺเปตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘กาลสฺเสว วุฏฺาย อุปาหนา โอมุฺจิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา’’ติ (มหาว. ๖๖) วุตฺตา ปุพฺพกิริยา วตฺตพฺพา. อาสนํ ปฺเปตพฺพนฺติ ทนฺตกฏฺขาทนฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา นิสีทนตฺถาย อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. อิมินา จ ยาคุปานฏฺานาทีสุปิ อาสนานิ ปฺเปตพฺพาเนวาติ ทสฺสิตํ โหติ.

ทนฺตกฏฺํ ทาตพฺพนฺติ มหนฺตํ, มชฺฌิมํ, ขุทฺทกนฺติ ตีณิ ทนฺตกฏฺานิ อุปเนตฺวา ตโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ คณฺหาติ, จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสเมว ทาตพฺพํ. สเจ อนิยมํ กตฺวา ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, อถ ยาทิสํ ลภติ, ตาทิสํ ทาตพฺพํ.

มุโขทกํ ทาตพฺพนฺติ มุขโธวโนทกํ มุโขทกนฺติ มชฺเฌปทโลปีสมาโส, ตํ เทนฺเตน สีตฺจ อุณฺหฺจ อุทกํ อุปเนตฺวา ตโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ วฬฺเชติ, จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสเมว มุขโธวโนทกํ ทาตพฺพํ. สเจ อนิยมํ กตฺวา ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, อถ ยาทิสํ ลภติ, ตาทิสํ ทาตพฺพํ. สเจ ทุวิธมฺปิ วฬฺเชติ, ทุวิธมฺปิ อุปเนตพฺพํ. ‘‘มุโขทกํ มุขโธวนฏฺาเน เปตฺวา อวเสสฏฺานานิ สมฺมชฺชิตพฺพานิ. สมฺมชฺชนฺเตน จ วจฺจกุฏิโต ปฏฺาย สมฺมชฺชิตพฺพํ. เถเร วจฺจกุฏึ คเต ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, เอวํ ปริเวณํ อสุฺํ โหตี’’ติ อฏฺกถายํ (มหาว. อฏฺ. ๖๔ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตนเยเนว สมฺมชฺชิตพฺพํ.

ตโต อุตฺตรึ กตฺตพฺพํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตสฺส กาเลนา’’ติอาทิ. ตสฺสาติ อุปชฺฌายสฺส วา อาจริยสฺส วา. กาเลนาติ ยาคุปานกาเล. อิธาปิ ‘‘อาสนํ ปฺเปตพฺพ’’นฺติ เสโส. ยถาห ‘‘เถเร วจฺจกุฏิโต อนิกฺขนฺเตเยว อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. สรีรกิจฺจํ กตฺวา อาคนฺตฺวา ตสฺมึ นิสินฺนสฺส ‘สเจ ยาคุ โหตี’ติอาทินา นเยน วุตฺตํ วตฺตํ กาตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๖๔).

ยาคุ ตสฺสุปเนตพฺพาติ เอตฺถ ‘‘ภาชนํ โธวิตฺวา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘ภาชนํ โธวิตฺวา ยาคุ อุปนาเมตพฺพา’’ติ (มหาว. ๖๖). สงฺฆโต วาติ สลากาทิวเสน สงฺฆโต ลพฺภมานา วา. กุลโตปิ วาติ อุปาสกาทิกุลโต วา.

‘‘ปตฺเต วตฺตฺจ กาตพฺพ’’นฺติ อิทํ ‘‘ยาคุํ ปีตสฺส อุทกํ ทตฺวา ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา ปฏิสาเมตพฺพํ, อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ. สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, โส เทโส สมฺมชฺชิตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๖๖) อาคตวตฺตํ สนฺธายาห. ทิวา ภุตฺตปตฺเตปิ กาตพฺพํ เอเตเนว ทสฺสิตํ โหติ.

วตฺตํ ‘‘คามปฺปเวสเน’’ติ อิทํ ‘‘สเจ อุปชฺฌาโย คามํ ปวิสิตุกาโม โหติ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (มหาว. ๖๖) วตฺตํ สนฺธายาห. ‘‘กาตพฺพ’’นฺติ อิทํ สพฺพปเทหิ โยเชตพฺพํ.

๒๔๗๔. จีวเร ยานิ วตฺตานีติ คามํ ปวิสิตุกามสฺส จีวรทาเน, ปฏินิวตฺตสฺส จีวรคฺคหณสงฺฆรณปฏิสามเนสุ มเหสินา ยานิ วตฺตานิ วุตฺตานิ, ตานิ จ กาตพฺพานิ. เสนาสเน ตถาติ ‘‘ยสฺมึ วิหาเร อุปชฺฌาโย วิหรตี’’ติอาทินา (มหาว. ๖๖) วุตฺตนเยน ‘‘เสนาสเน กตฺตพฺพ’’นฺติ ทสฺสิตํ เสนาสนวตฺตฺจ.

ปาทปีกถลิกาทีสุ ตถาติ โยชนา. อุปชฺฌาเย คามโต ปฏินิวตฺเต จ ชนฺตาฆเร จ ‘‘ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๖๖) เอวมาคตํ วตฺตฺจ กาตพฺพํ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อุปชฺฌาโย ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ’’ติอาทิวตฺตํ (มหาว. ๖๖) สงฺคณฺหาติ.

๒๔๗๕. เอวํ สพฺพตฺถ วตฺเตสุ ปาฏิเยกฺกํ ทสฺสิยมาเนสุ ปปฺโจติ ขนฺธกํ โอโลเกตฺวา สุขคฺคหณตฺถาย คณนํ ทสฺเสตุกาโม อาห ‘‘เอวมาทีนี’’ติอาทิ. โรคโต วุฏฺานาคมนนฺตานีติ อาจริยุปชฺฌายานํ โรคโต วุฏฺานาคมนปริโยสานานิ. สตฺตตึสสตํ สิยุนฺติ สตฺตตึสาธิกสตวตฺตานีติ อตฺโถ.

ตานิ ปน วตฺตานิ ขนฺธกปาฬิยา (มหาว. ๖๖) อาคตกฺกเมน เอวํ ยถาวุตฺตคณนาย สมาเนตพฺพานิ – ทนฺตกฏฺทานํ, มุโขทกทานํ, อาสนปฺาปนํ, สเจ ยาคุ โหติ, ภาชนํ โธวิตฺวา ยาคุยา อุปนามนํ, ยาคุํ ปีตสฺส อุทกํ ทตฺวา ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา ปฏิสามนํ, อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนสฺส อุทฺธรณํ, สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, ตสฺส สมฺมชฺชนํ, สเจ อุปชฺฌาโย คามํ ปวิสิตุกาโม โหติ, ตสฺส นิวาสนทานํ, ปฏินิวาสนปฏิคฺคหณํ, กายพนฺธนทานํ, สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิทานํ, โธวิตฺวา โสทกปตฺตสฺส ทานํ, สเจ อุปชฺฌาโย ปจฺฉาสมณํ อากงฺขติ, ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ปารุปิตฺวา คณฺิกํ ปริมุฺจิตฺวา โธวิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา อุปชฺฌายสฺส ปจฺฉาสมเณน คมนํ, นาติทูรนจฺจาสนฺเน คมนํ, ปตฺตปริยาปนฺนสฺส ปฏิคฺคหณํ, น อุปชฺฌายสฺส ภณมานสฺส อนฺตรนฺตรา กถาโอปาตนํ, อุปชฺฌายสฺส อาปตฺติสามนฺตา ภณมานสฺส จ นิวารณํ, นิวตฺตนฺเตน ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนปฺาปนํ, ปาโททกปาทปีปาทกถลิกานํ อุปนิกฺขิปนํ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรปฏิคฺคหณํ, ปฏินิวาสนทานํ, นิวาสนปฏิคฺคหณํ, สเจ จีวรํ สินฺนํ โหติ, มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาปนํ, เนว อุณฺเห จีวรสฺส นิทหนํ, มชฺเฌ ยถา ภงฺโค น โหติ, เอวํ จตุรงฺคุลํ กณฺณํ อุสฺสาเรตฺวา จีวรสฺส สงฺฆรณํ, โอโภเค กายพนฺธนสฺส กรณํ, สเจ ปิณฺฑปาโต โหติ, อุปชฺฌาโย จ ภุฺชิตุกาโม โหติ, อุทกํ ทตฺวา ปิณฺฑปาตสฺส อุปนามนํ, อุปชฺฌายสฺส ปานีเยน ปุจฺฉนํ, ภุตฺตาวิสฺส อุทกํ ทตฺวา ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา โวทกํ กตฺวา มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาปนํ, น จ อุณฺเห ปตฺตสฺส นิทหนํ, ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ –

ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺตสฺส นิกฺขิปนํ, น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺตสฺส นิกฺขิปนํ, จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรสฺส นิกฺขิปนํ, อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนสฺส อุทฺธรณํ, ปาโททกปาทปีปาทกถลิกานํ ปฏิสามนํ, สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, ตสฺส สมฺมชฺชนํ, สเจ อุปชฺฌาโย นฺหายิตุกาโม โหติ, นฺหานสฺส ปฏิยาทนํ, สเจ สีเตน อตฺโถ โหติ, สีตสฺส สเจ อุณฺเหน อตฺโถ โหติ, อุณฺหสฺส ปฏิยาทนํ, สเจ อุปชฺฌาโย ชนฺตาฆรํ ปวิสิตุกาโม โหติ, จุณฺณสฺส สนฺนยนํ, มตฺติกาเตมนํ, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย อุปชฺฌายสฺส ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คนฺตฺวา ชนฺตาฆรปีํ ทตฺวา จีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, จุณฺณทานํ, มตฺติกาทานํ, สเจ อุสฺสหติ, ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ –

ชนฺตาฆรํ ปวิสนฺเตน มตฺติกาย มุขํ มกฺเขตฺวา ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรปฺปเวโส, น เถรานํ ภิกฺขูนํ อนุปขชฺช นิสีทนํ, น นวานํ ภิกฺขูนํ อาสเนน ปฏิพาหนํ, ชนฺตาฆเร อุปชฺฌายสฺส ปริกมฺมสฺส กรณํ, ชนฺตาฆรา นิกฺขมนฺเตน ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรา นิกฺขมนํ, อุทเกปิ อุปชฺฌายสฺส ปริกมฺมกรณํ, นฺหาเตน ปมตรํ อุตฺตริตฺวา อตฺตโน คตฺตํ โวทกํ กตฺวา นิวาเสตฺวา อุปชฺฌายสฺส คตฺตโต อุทกสฺส ปมชฺชนํ, นิวาสนทานํ, สงฺฆาฏิทานํ, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนสฺส ปฺาปนํ, ปาโททกปาทปีปาทกถลิกานํ อุปนิกฺขิปนํ, อุปชฺฌายสฺส ปานีเยน ปุจฺฉนํ, สเจ อุทฺทิสาเปตุกาโม โหติ, อุทฺทิสาปนํ, สเจ ปริปุจฺฉิตุกาโม โหติ, ปริปุจฺฉนํ, ยสฺมึ วิหาเร อุปชฺฌาโย วิหรติ, สเจ โส วิหาโร อุกฺลาโป โหติ, สเจ อุสฺสหติ, ตสฺส โสธนํ, วิหารํ โสเธนฺเตน ปมํ ปตฺตจีวรสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, นิสีทนปจฺจตฺถรณสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, ภิสิพิพฺโพหนสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, มฺจสฺส นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, ปีสฺส นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, มฺจปฏิปาทกานํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, เขฬมลฺลกสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, อปสฺเสนผลกสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, ภูมตฺถรณสฺส ยถาปฺตฺตสฺส สลฺลกฺเขตฺวา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, สเจ วิหาเร สนฺตานกํ โหติ, อุลฺโลกา ปมํ โอหารณํ, อาโลกสนฺธิกณฺณภาคานํ ปมชฺชนํ, สเจ เครุกปริกมฺมกตา ภิตฺติ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชนํ, สเจ กาฬวณฺณกตา ภูมิ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชนํ, สเจ อกตา โหติ ภูมิ, อุทเกน ปริปฺโผสิตฺวา ปมชฺชนํ ‘‘มา วิหาโร รเชน อุหฺี’’ติ, สงฺการํ วิจินิตฺวา เอกมนฺตํ ฉฑฺฑนํ, ภูมตฺถรณสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, มฺจปฏิปาทกานํ โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาฏฺาเน ปนํ, มฺจสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, ปีสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, ภิสิพิพฺโพหนสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, นิสีทนปจฺจตฺถรณสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, เขฬมลฺลกสฺส โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาฏฺาเน ปนํ, อปสฺเสนผลกสฺส โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาฏฺาเน ปนํ, ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ –

ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺตสฺส นิกฺขิปนํ, น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺตสฺส นิกฺขิปนํ, จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรสฺส นิกฺขิปนํ, สเจ ปุรตฺถิมาย สรชา วาตา วายนฺติ, ปุรตฺถิมานํ วาตปานานํ ถกนํ, ตถา ปจฺฉิมานํ, ตถา อุตฺตรานํ, ตถา ทกฺขิณานํ วาตปานานํ ถกนํ, สเจ สีตกาโล โหติ, ทิวา วาตปานานํ วิวรณํ, รตฺตึ ถกนํ, สเจ อุณฺหกาโล โหติ, ทิวา วาตปานานํ ถกนํ, รตฺตึ วิวรณํ, สเจ ปริเวณํ อุกฺลาปํ โหติ, ปริเวณสฺส สมฺมชฺชนํ, สเจ โกฏฺโก อุกฺลาโป โหติ, โกฏฺกสฺส สมฺมชฺชนํ, สเจ อุปฏฺานสาลา อุกฺลาปา โหติ, ตสฺสา สมฺมชฺชนํ, สเจ อคฺคิสาลา อุกฺลาปา โหติ, ตสฺสา สมฺมชฺชนํ, สเจ วจฺจกุฏิ อุกฺลาปา โหติ, ตสฺสา สมฺมชฺชนํ, สเจ ปานียํ น โหติ, ปานียสฺส อุปฏฺาปนํ, สเจ ปริโภชนียํ น โหติ, ปริโภชนียสฺส อุปฏฺาปนํ, สเจ อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ น โหติ, อาจมนกุมฺภิยา อุทกสฺส อาสิฺจนํ, สเจ อุปชฺฌายสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วูปกาสนํ วูปกาสาปนํ วา, ธมฺมกถาย วา ตสฺส กรณํ, สเจ อุปชฺฌายสฺส กุกฺกุจฺจํ อุปฺปนฺนํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วิโนทนํ วิโนทาปนํ วา, ธมฺมกถาย วา ตสฺส กรณํ, สเจ อุปชฺฌายสฺส ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วิเวจนํ วิเวจาปนํ วา, ธมฺมกถาย วา ตสฺส กรณํ, สเจ อุปชฺฌาโย ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส ปริวาสํ ทเทยฺยา’’ติ, สเจ อุปชฺฌาโย มูลายปฏิกสฺสนารโห โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายํ มูลาย ปฏิกสฺเสยฺยา’’ติ, สเจ อุปชฺฌาโย มานตฺตารโห โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส มานตฺตํ ทเทยฺยา’’ติ, สเจ อุปชฺฌาโย อพฺภานารโห โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายํ อพฺเภยฺยา’’ติ, สเจ สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ กตฺตุกาโม โหติ ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ น กเรยฺย, ลหุกาย วา ปริณาเมยฺยา’’ติ, กตํ วา ปนสฺส โหติ สงฺเฆน กมฺมํ ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌาโย สมฺมา วตฺเตยฺย, โลมํ ปาเตยฺย, เนตฺถารํ วตฺเตยฺย, สงฺโฆ ตํ กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยา’’ติ, สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ โธวิตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน โธวนํ อุสฺสุกฺกกรณํ วา ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ โธวิเยถา’’ติ, สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ กาตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน กรณํ อุสฺสุกฺกกรณํ วา ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ กริเยถา’’ติ, สเจ อุปชฺฌายสฺส รชนํ ปจิตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน ปจนํ อุสฺสุกฺกกรณํ วา ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส รชนํ ปจิเยถา’’ติ, สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ รเชตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน รชนํ อุสฺสุกฺกกรณํ วา ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ รชิเยถา’’ติ, จีวรํ รชนฺเตน สาธุกํ สมฺปริวตฺตกํ สมฺปริวตฺตกํ รชนํ, น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมนํ, อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา น เอกจฺจสฺส ปตฺตทานํ, น เอกจฺจสฺส ปตฺตปฏิคฺคหณํ, น เอกจฺจสฺส จีวรทานํ, น เอกจฺจสฺส จีวรปฏิคฺคหณํ, น เอกจฺจสฺส ปริกฺขารทานํ, น เอกจฺจสฺส ปริกฺขารปฏิคฺคหณํ, น เอกจฺจสฺส เกสจฺเฉทนํ, น เอกจฺเจน เกสานํ เฉทาปนํ, น เอกจฺจสฺส ปริกมฺมกรณํ, น เอกจฺเจน ปริกมฺมสฺส การาปนํ, น เอกจฺจสฺส เวยฺยาวจฺจกรณํ, น เอกจฺเจน เวยฺยาวจฺจสฺส การาปนํ, น เอกจฺจสฺส ปจฺฉาสมเณน คมนํ, น เอกจฺจสฺส ปจฺฉาสมณสฺส อาทานํ, น เอกจฺจสฺส ปิณฺฑปาตสฺส นีหรณํ, น เอกจฺเจน ปิณฺฑปาตนีหราปนํ, น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา คามปฺปเวสนํ, น สุสานคมนํ, น ทิสาปกฺกมนํ, สเจ อุปชฺฌาโย คิลาโน โหติ, ยาวชีวํ อุปฏฺานํ, วุฏฺานมสฺส อาคมนนฺติ เตสุ กานิจิ วตฺตานิ สวิภตฺติกานิ, กานิจิ อวิภตฺติกานิ, เตสุ อวิภตฺติกานํ วิภาเค วุจฺจมาเน ยถาวุตฺตคณนาย อติเรกตรานิ โหนฺติ, ตํ ปน วิภาคํ อนามสิตฺวา ปิณฺฑวเสน คเหตฺวา ยถา อยํ คณนา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.

๒๔๗๖. อกโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘วตฺต’’นฺติ เสโส. อนาทรวเสเนว วตฺตํ อกโรนฺตสฺส ภิกฺขุโน เตน วตฺตเภเทน วตฺตากรเณน สพฺพตฺถ สตฺตตึสาธิกสตปฺปเภทฏฺาเน ตตฺตกํเยว ทุกฺกฏํ ปกาสิตนฺติ โยชนา.

อุปชฺฌายาจริยวตฺตกถาวณฺณนา.

๒๔๗๗. เอวํ อุปชฺฌายาจริยวตฺตานิ สงฺเขเปน ทสฺเสตฺวา อุปชฺฌายาจริเยหิ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสีนํ กาตพฺพวตฺตานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปชฺฌายสฺส วตฺตานี’’ติอาทิ. อุปชฺฌายสฺส วตฺตานีติ อุปชฺฌาเยน สทฺธิวิหาริกสฺส ยุตฺตปตฺตกาเล กตฺตพฺพตฺตา อุปชฺฌายายตฺตวตฺตานีติ อตฺโถ. ตถา สทฺธิวิหาริเกติ ยถา สทฺธิวิหาริเกน อุปชฺฌายสฺส กาตพฺพานิ, ตถา อุปชฺฌาเยน สทฺธิวิหาริเก กาตพฺพานิ.

อุปชฺฌายาจริยวตฺเตสุ คามปฺปเวเส ปจฺฉาสมเณน หุตฺวา นาติทูรนจฺจาสนฺนคมนํ, น อนฺตรนฺตรา กถาโอปาตนํ, อาปตฺติสามนฺตา ภณมานสฺส นิวารณํ, ปตฺตปริยาปนฺนปฏิคฺคหณนฺติ จตฺตาริ วตฺตานิ, น เอกจฺจสฺส ปตฺตทานาทิอนาปุจฺฉาทิสาปกฺกมนาวสานานิ วีสติ ปฏิกฺเขปา เจติ เอตานิ จตุวีสติ วตฺตานิ เปตฺวา อวเสสานิ เตรสาธิกสตวตฺตานิ สนฺธายาห ‘‘สตํ เตรส โหนฺเตวา’’ติ, เตรสาธิกสตวตฺตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ. อาจริเยน อนฺเตวาสิเกปิ จ กาตพฺพวตฺตานิ ตถา ตตฺตกาเนวาติ อตฺโถ.

สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา.

๒๔๗๘. อุปชฺฌายาจริเยหิ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิกานํ นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปกฺกนฺเต วาปี’’ติอาทิ. ปกฺกนฺเต วาปิ วิพฺภนฺเต วาปิ ปกฺขสงฺกนฺเต วาปิ มเต วาปิ อาณตฺติยา วาปิ เอวํ ปฺจธา อุปชฺฌายา สทฺธิวิหาริเกน คหิโต นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ โยชนา. ปกฺกนฺเตติ ตทหุ อปจฺจาคนฺตุกามตาย ทิสํ คเต. วิพฺภนฺเตติ คิหิภาวํ ปตฺเต. ปกฺขสงฺกนฺตเกติ ติตฺถิยายตนํ คเต. มเตติ กาลกเต. อาณตฺติยาติ นิสฺสยปณามเนน.

๒๔๗๙-๘๐. อาจริยมฺหาปิ อนฺเตวาสิเกน คหิตนิสฺสยสฺส เภทนํ ฉธา ฉปฺปกาเรน โหตีติ โยชนา. กถนฺติ อาห ‘‘ปกฺกนฺเต จา’’ติอาทิ. ตํ อุปชฺฌายโต นิสฺสยเภเท วุตฺตนยเมว. วิเสสํ ปน สยเมว วกฺขติ ‘‘อาณตฺติย’’นฺติอาทินา. อาณตฺติยนฺติ เอตฺถ วิเสสตฺถโชตโก ปน-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. อุภินฺนมฺปิ ธุรนิกฺเขปเนปิ จาติ อาจริยสฺส นิสฺสยปณามเน ปน อุภินฺนํ อาจริยนฺเตวาสิกานํเยว อฺมฺนิราลยภาเว สติ นิสฺสยเภโท โหติ, น เอกสฺสาติ อตฺโถ. ตเมวตฺถํ พฺยติเรกโต ทฬฺหีกโรติ ‘‘เอเกกสฺสา’’ติอาทินา. เอเกกสฺส วา อุภินฺนํ วา อาลเย สติ น ภิชฺชตีติ โยชนา. ยถาห –

‘‘อาณตฺติยํ ปน สเจปิ อาจริโย มุฺจิตุกาโมว หุตฺวา นิสฺสยปณามนาย ปณาเมติ, อนฺเตวาสิโก จ ‘กิฺจาปิ มํ อาจริโย ปณาเมติ, อถ โข หทเยน มุทุโก’ติ สาลโยว โหติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว. สเจปิ อาจริโย สาลโย, อนฺเตวาสิโก นิราลโย ‘น ทานิ อิมํ นิสฺสาย วสิสฺสามี’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, เอวมฺปิ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุภินฺนํ สาลยภาเว ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว. อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๘๓).

อยํ ปน วิเสโส อาจริยาณตฺติยา นิสฺสยเภเทเยว ทสฺสิโต, น อุปชฺฌายาณตฺติยา. สารตฺถทีปนิยํ ปน ‘‘สเจปิ อาจริโย มุฺจิตุกาโมว หุตฺวา นิสฺสยปณามนาย ปณาเมตีติอาทิ สพฺพํ อุปชฺฌายสฺส อาณตฺติยมฺปิ เวทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

๒๔๘๑. เอวํ ปฺจ สาธารณงฺคานิ ทสฺเสตฺวา อสาธารณงฺคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปชฺฌายสโมธาน-คตสฺสาปิ จ ภิชฺชตี’’ติ. ตตฺถ สโมธานคมนํ สรูปโต, ปเภทโต จ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทสฺสนํ สวนฺจาติ, สโมธานํ ทฺวิธา มต’’นฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ (มหาว. อฏฺ. ๘๓) คเหตพฺโพ. คนฺถวิตฺถารภีรูนํ อนุคฺคหาย ปน อิธ น วิตฺถาริโต.

๒๔๘๒-๓. สภาเค ทายเก อสนฺเต อทฺธิกสฺส จ คิลานสฺส จ ‘‘คิลาเนน มํ อุปฏฺหา’’ติ ยาจิตสฺส คิลานุปฏฺากสฺส จ นิสฺสยํ วินา วสิตุํ โทโส นตฺถีติ โยชนา. ‘‘คิลานุปฏฺากสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ. อิมินา สภาเค นิสฺสยทายเก สนฺเต เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร น ลพฺภตีติ ทีเปติ. อตฺตโน วเน ผาสุวิหารตํ ชานตาติ อตฺตโน สมถวิปสฺสนาปฏิลาภสฺส วเน ผาสุวิหารํ ชานนฺเตนปิ. ‘‘สภาเค ทายเก อสนฺเต’’ติ ปทจฺเฉโท. สพฺพเมตํ วิธานํ อนฺโตวสฺสโต อฺสฺมึ กาเล เวทิตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกาย คเหตพฺโพ.

นิสฺสยปฏิปฺปสฺสมฺภนกถาวณฺณนา.

๒๔๘๔. กุฏฺมสฺส อตฺถีติ กุฏฺี, ตํ. ‘‘คณฺฑิ’’นฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. รตฺตเสตาทิเภเทน เยน เกนจิ กุฏฺเน เววณฺณิยํ ปตฺตสรีรนฺติ อตฺโถ. ยถาห –

‘‘รตฺตกุฏฺํ วา โหตุ กาฬกุฏฺํ วา, ยํ กิฺจิ กิฏิภททฺทุกจฺฉุอาทิปฺปเภทมฺปิ สพฺพํ กุฏฺเมวาติ วุตฺตํ. ตฺเจ นขปิฏฺิปฺปมาณมฺปิ วฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน นิวาสนปารุปเนหิ ปกติปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นขปิฏฺิปฺปมาณํ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, วฏฺฏติ. มุเข, ปน หตฺถปาทปิฏฺเสุ วา สเจปิ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ นขปิฏฺิโต ขุทฺทกปมาณมฺปิ น วฏฺฏติเยวาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ตํ ติกิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชนฺเตนาปิ ปกติวณฺเณ ชาเตเยว ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๘๘).

นขปิฏฺิปฺปมาณนฺติ เอตฺถ ‘‘กนิฏฺงฺคุลินขปิฏฺิ อธิปฺเปตา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.

คณฺฑินฺติ เมทคณฺฑาทิคณฺฑเภทวนฺตํ. ยถาห ‘‘เมทคณฺโฑ วา โหตุ อฺโ วา, โย โกจิ โกลฏฺิมตฺตโกปิ เจ วฑฺฒนกปกฺเข ิโต คณฺโฑ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติอาทิ (มหาว. อฏฺ. ๘๘). โกลฏฺีติ พทรฏฺิ. กิลาสินฺติ กิลาสวนฺตํ. ยถาห – ‘‘กิลาโสติ นภิชฺชนกํ นปคฺฆรณกํ ปทุมปุณฺฑรีกปตฺตวณฺณํ กุฏฺํ, เยน คุนฺนํ วิย สพลํ สรีรํ โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๘๘). -สทฺโท สพฺเพหิ อุปโยควนฺเตหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. โสสินฺติ ขยโรควนฺตํ. ยถาห – ‘‘โสโสติ โสสพฺยาธิ. ตสฺมึ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๘๘). อปมาริกนฺติ อปมารวนฺตํ. ยถาห – ‘‘อปมาโรติ ปิตฺตุมฺมาโร วา ยกฺขุมฺมาโร วา. ตตฺถ ปุพฺพเวริเกน อมนุสฺเสน คหิโต ทุตฺติกิจฺโฉ โหติ, อปฺปมตฺตเกปิ ปน อปมาเร สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ.

ราชภฏนฺติ รฺโ ภตฺตเวตนภฏํ วา านนฺตรํ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา ราชปุริสํ. ยถาห – ‘‘อมจฺโจ วา โหตุ มหามตฺโต วา เสวโก วา กิฺจิ านนฺตรํ ปตฺโต วา อปฺปตฺโต วา, โย โกจิ รฺโ ภตฺตเวตนภโฏ. สพฺโพ ‘ราชภโฏ’ติ สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติ. โจรนฺติ มนุสฺเสหิ อปฺปมาทนํ คามฆาตปนฺถฆาตาทิกมฺเมน ปากฏํ โจรฺจ. ลิขิตกนฺติ ยํ กฺจิ โจริกํ วา อฺํ วา ครุํ ราชาปราธํ กตฺวา ปลาตํ, ราชา จ นํ ปณฺเณ วา โปตฺถเก วา ‘‘อิตฺถนฺนาโม ยตฺถ ทิสฺสติ, ตตฺถ คเหตฺวา มาเรตพฺโพ’’ติ วา ‘‘หตฺถปาทาทีนิสฺส ฉินฺทิตพฺพานี’’ติ วา ‘‘เอตฺตกํ นาม ทณฺฑํ หราเปตพฺโพ’’ติ วา ลิขาเปติ, เอวรูปํ ลิขิตกํ.

‘‘การเภทก’’นฺติ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต. การเภทกนฺติ ทาตพฺพกรสฺส วา กตโจรกมฺมสฺส วา การณา การาฆเร ปกฺขิตฺโต วา นิคฬพนฺธนาทีหิ พทฺโธ วา, ตโต โส มุจฺจิตฺวา ปลายติ, เอวรูปํ การาเภทกฺจ. ยถาห – ‘‘การา วุจฺจติ พนฺธนาคารํ, อิธ ปน อนฺทุพนฺธนํ วา โหตุ สงฺขลิกพนฺธนํ วา รชฺชุพนฺธนํ วา คามพนฺธนํ วา นิคมพนฺธนํ วา นครพนฺธนํ วา ปุริสคุตฺติ วา ชนปทพนฺธนํ วา ทีปพนฺธนํ วา, โย เอเตสุ ยํ กิฺจิ พนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา ภินฺทิตฺวา มุฺจิตฺวา วิวริตฺวา วา ปสฺสมานานํ วา อปสฺสมานานํ วา ปลายติ, โส ‘การาเภทโก’ติ สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๙๒).

๒๔๘๕. กสาหตนฺติ อิณํ คเหตฺวา ทาตุํ อสมตฺถตฺตา ‘‘อยเมว เต ทณฺโฑ โหตู’’ติ กสาทินา ทินฺนปฺปหารํ อวูปสนฺตวณํ. ยถาห –

‘‘โย วจนเปสนาทีนิ อกโรนฺโต หฺติ, น โส กตทณฺฑกมฺโม. โย ปน เกณิยา วา อฺถา วา กิฺจิ คเหตฺวา ขาทิตฺวา ปุน ทาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘อยเมว เต ทณฺโฑ โหตู’ติ กสาหิ หฺติ, อยํ กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม. โย จ กสาหิ วา หโต โหตุ อทฺธทณฺฑกาทีนํ วา อฺตเรน, ยาว อลฺลวโณ โหติ, ตาว น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๙๔).

ลกฺขณาหตนฺติ เอกํสํ กตฺวา ปารุเตน อุตฺตราสงฺเคน อปฺปฏิจฺฉาทนียฏฺาเน ตตฺเตน โลเหน อาหตํ อสจฺฉวิภูตลกฺขเณน สมนฺนาคตํ. ยถาห –

‘‘ยสฺส ปน นลาเฏ วา อุราทีสุ วา ตตฺเตน โลเหน ลกฺขณํ อาหตํ โหติ, โส สเจ ภุชิสฺโส, ยาว อลฺลวโณ โหติ, ตาว น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิสฺส วณา รุฬฺหา โหนฺติ ฉวิยา สมปริจฺเฉทา, ลกฺขณํ ปน ปฺายติ, ติมณฺฑลํ นิวตฺถสฺส อุตฺตราสงฺเค กเต ปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ โหติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อปฺปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ, น วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๙๕).

อิณายิกฺจาติ มาตาปิตุปิตามหาทีหิ วา อตฺตนา วา คหิตอิณํ. ยถาห –

‘‘อิณายิโก นาม ยสฺส ปิติปิตามเหหิ วา อิณํ คหิตํ โหติ, สยํ วา อิณํ คหิตํ โหติ, ยํ วา อาเปตฺวา มาตาปิตูหิ กิฺจิ คหิตํ โหติ, โส ตํ อิณํ ปเรสํ ธาเรตีติ อิณายิโก. ยํ ปน อฺเ าตกา อาเปตฺวา กิฺจิ คณฺหนฺติ, โส น อิณายิโก. น หิ เต ตํ อาเปตุํ อิสฺสรา. ตสฺมา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๙๖).

ทาสนฺติ อนฺโตชาโต, ธนกฺกีโต, กรมรานีโต, สยํ วา ทาสพฺยํ อุปคโตติ จตุนฺนํ ทาสานํ อฺตรํ. ทาสวินิจฺฉโย ปเนตฺถ สมนฺตปาสาทิกาย (มหาว. อฏฺ. ๙๗) วิตฺถารโต คเหตพฺโพ. ปพฺพาเชนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ ‘‘กุฏฺิ’’นฺติอาทีหิ อุปโยควนฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ.

๒๔๘๖. หตฺถจฺฉินฺนนฺติ หตฺถตเล วา มณิพนฺเธ วา กปฺปเร วา ยตฺถ กตฺถจิ ฉินฺนหตฺถํ. อฏฺจฺฉินฺนนฺติ ยถา นขํ น ปฺายติ, เอวํ จตูสุ องฺคุฏฺเกสุ อฺตรํ วา สพฺเพ วา ยสฺส ฉินฺนา โหนฺติ, เอวรูปํ. ปาทจฺฉินฺนนฺติ ยสฺส อคฺคปาเทสุ วา โคปฺผเกสุ วา ชงฺฆาย วา ยตฺถ กตฺถจิ เอโก วา ทฺเว วา ปาทา ฉินฺนา โหนฺติ. หตฺถปาทฉินฺนสฺสาปิ ปาฬิยํ (มหาว. ๑๑๙) อาคตตฺตา โสปิ อิธ วตฺตพฺโพ, ยถาวุตฺตนเยเนว ตสฺส ทุกฺกฏวตฺถุตา ปฺายตีติ น วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ.

กณฺณนาสงฺคุลิจฺฉินฺนนฺติ เอตฺถ ‘‘กณฺณจฺฉินฺนํ นาสจฺฉินฺนํ กณฺณนาสจฺฉินฺนํ องฺคุลิจฺฉินฺน’’นฺติ โยชนา. กณฺณจฺฉินฺนนฺติ ยสฺส กณฺณมูเล วา กณฺณสกฺขลิกาย วา เอโก วา ทฺเว วา กณฺณา ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน กณฺณาวฏฺเฏ ฉินฺนา โหนฺติ, สกฺกา จ โหนฺติ สงฺฆาเฏตุํ, โส กณฺณํ สงฺฆาเฏตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. นาสจฺฉินฺนนฺติ ยสฺส อชปทเก วา อคฺเค วา เอกปุเฏ วา ยตฺถ กตฺถจิ นาสา ฉินฺนา โหติ. ยสฺส ปน นาสิกา สกฺกา โหติ สนฺเธตุํ, โส ตํ ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. กณฺณนาสจฺฉินฺนนฺติ ตทุภยจฺฉินฺนํ. องฺคุลิจฺฉินฺนนฺติ ยสฺส นขเสสํ อทสฺเสตฺวา เอกา วา พหู วา องฺคุลิโย ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน สุตฺตตนฺตุมตฺตมฺปิ นขเสสํ ปฺายติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. กณฺฑรจฺฉินฺนเมว จาติ ยสฺส กณฺฑรนามกา มหานฺหารู ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ฉินฺนา โหนฺติ, เยสุ เอกสฺสาปิ ฉินฺนตฺตา อคฺคปาเทน วา จงฺกมติ, มูเลน วา จงฺกมติ, น วา ปาทํ ปติฏฺาเปตุํ สกฺโกติ.

๒๔๘๗. กาณนฺติ ปสนฺนนฺโธ วา โหตุ ปุปฺผาทีหิ วา อุปหตปสาโท, โย ทฺวีหิ วา เอเกน วา อกฺขินา น ปสฺสติ, ตํ กาณํ. กุณินฺติ หตฺถกุณี วา ปาทกุณี วา องฺคุลิกุณี วา, ยสฺส เอเตสุ หตฺถาทีสุ ยํ กิฺจิ วงฺกํ ปฺายติ, โส กุณี. ขุชฺชฺจาติ โย อุรสฺส วา ปิฏฺิยา วา ปสฺสสฺส วา นิกฺขนฺตตฺตา ขุชฺชสรีโร, ตํ ขุชฺชํ. ยสฺส ปน กิฺจิ กิฺจิ องฺคปจฺจงฺคํ อีสกํ วงฺกํ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มหาปุริโส เอว หิ พฺรหฺมุชุคตฺโต, อวเสโส สตฺโต อขุชฺโช นาม นตฺถิ.

วามนนฺติ โย ชงฺฆวามโน วา กฏิวามโน วา อุภยวามโน วา, ตํ. ตตฺถ ชงฺฆวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย เหฏฺิมกาโย รสฺโส โหติ, อุปริมกาโย ปริปุณฺโณ. กฏิวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย อุปริมกาโย รสฺโส โหติ, เหฏฺิมกาโย ปริปุณฺโณ โหติ. อุภยวามนสฺส อุโภปิ กายา รสฺสา โหนฺติ. เยสํ กายรสฺสตฺตา ภูตานํ วิย ปริวฏุโม มหากุจฺฉิฆฏสทิโส อตฺตภาโว โหติ. ตํ ติวิธมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ.

ผณหตฺถกนฺติ ยสฺส วคฺคุลิปกฺขกา วิย องฺคุลิโย สมฺพทฺธา โหนฺติ, ตํ. เอตํ ปพฺพาเชตุกาเมน องฺคุลนฺตริกาโย ผาเลตฺวา สพฺพํ อนฺตรจมฺมํ อปเนตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺสาปิ ฉ องฺคุลิโย โหนฺติ, ตํ ปพฺพาเชตุกาเมน อธิกํ องฺคุลึ ฉินฺทิตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ.

ขฺชนฺติ โย นตชาณุโก วา ภินฺนชงฺโฆ วา มชฺเฌ สํกุฏิตปาทตฺตา กุณฺฑปาทโก วา ปิฏฺิปาทมชฺเฌน จงฺกมนฺโต อคฺเค สํกุฏิตปาทตฺตา กุณฺฑปาทโก วา ปิฏฺิปาทคฺเคน จงฺกมนฺโต อคฺคปาเทเนว จงฺกมนขฺโช วา ปณฺหิกาย จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส พาหิรนฺเตน จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส อพฺภนฺตรนฺเตน จงฺกมนขฺโช วา โคปฺผกานํ อุปริ ภคฺคตฺตา สกเลน ปิฏฺิปาเทน จงฺกมนขฺโช วา, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. เอตฺถ นตชาณุโกติ อนฺโตปวิฏฺอานตปาโท. ปกฺขหตนฺติ ยสฺส เอโก หตฺโถ วา ปาโท วา อฑฺฒสรีรํ วา สุขํ น วหติ.

สีปทินฺติ ภารปาทํ. ยสฺส ปาโท ถูโล โหติ สฺชาตปีฬโก ขโร, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺส ปน น ตาว ขรภาวํ คณฺหาติ, สกฺกา โหติ อุปนาหํ พนฺธิตฺวา อุทกอาวาเฏ ปเวเสตฺวา อุทกวาลิกาย ปูเรตฺวา ยถา สิรา ปฺายนฺติ, ชงฺฆา จ เตลนาฬิกา วิย โหนฺติ, เอวํ มิลาเปตุํ สกฺกา, ตสฺส ปาทํ อีทิสํ กตฺวา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปุน วฑฺฒติ, อุปสมฺปาเทนฺเตนาปิ ตถา กตฺวาว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. ปาปโรคินนฺติ โย อริสภคนฺทรปิตฺตเสมฺหกาสโสสาทีสุ เยน เกนจิ โรเคน นิจฺจาตุโร อเตกิจฺฉโรโค เชคุจฺโฉ อมนาโป, ตํ.

๒๔๘๘. ชราย ทุพฺพลนฺติ โย ชิณฺณภาเวน ทุพฺพโล อตฺตโน จีวรรชนาทิกมฺมมฺปิ กาตุํ อสมตฺโถ, ตํ. โย ปน มหลฺลโกปิ พลวา โหติ อตฺตานํ ปฏิชคฺคิตุํ สกฺโกติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. อนฺธนฺติ ชจฺจนฺธํ. ปธิรฺเจวาติ โย สพฺเพน สพฺพํ น สุณาติ, ตํ. โย ปน มหาสทฺทํ สุณาติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มมฺมนนฺติ ยสฺส วจีเภโท วตฺตติ, สรณคมนํ ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ น สกฺโกติ, ตาทิสํ มมฺมนมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. โย ปน สรณคมนมตฺตํ ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ สกฺโกติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อถ วา มมฺมนนฺติ ขลิตวจนํ, โย เอกเมว อกฺขรํ จตุปฺจกฺขตฺตุํ วทติ, ตสฺเสตมธิวจนํ. ปีสปฺปินฺติ ฉินฺนิริยาปถํ. มูคนฺติ ยสฺส วจีเภโท นปฺปวตฺตติ.

๒๔๘๙. อตฺตโน วิรูปภาเวน ปริสํ ทูเสนฺเตน ปริสทูสเก (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙) ทสฺเสตุมาห ‘‘อติทีโฆ’’ติอาทิ. อติทีโฆติ อฺเสํ สีสปฺปมาณนาภิปฺปเทโส. อติรสฺโสติ วุตฺตปฺปกาโร อุภยวามโน วิย อติรสฺโส. อติกาโฬ วาติ ฌาปิตเขตฺเต ขาณุโก วิย อติกาฬวณฺโณ. มฏฺตมฺพโลหนิทสฺสโน อจฺโจทาโตปิ วาติ สมฺพนฺโธ, ทธิตกฺกาทีหิ มชฺชิตมฏฺตมฺพโลหวณฺโณ อตีว โอทาตสรีโรติ อตฺโถ.

๒๔๙๐. อติถูโล วาติ ภาริยมํโส มโหทโร มหาภูตสทิโส. อติกิโสติ มนฺทมํสโลหิโต อฏฺิสิราจมฺมสรีโร วิย. อติมหาสีโส วาติ โยชนา. อติมหาสีโส วาติ ปจฺฉึ สีเส กตฺวา ิโต วิย. ‘‘อติขุทฺทกสีเสน อสหิเตนา’’ติ ปทจฺเฉโท. อสหิเตนาติ สรีรสฺส อนนุรูเปน. ‘‘อติขุทฺทกสีเสนา’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ. อสหิเตน อติขุทฺทกสีเสน สมนฺนาคโตติ โยชนา. ยถาห – ‘‘อติขุทฺทกสีโส วา สรีรสฺส อนนุรูเปน อติขุทฺทเกน สีเสน สมนฺนาคโต’’ติ.

๒๔๙๑. กุฏกุฏกสีโสติ ตาลผลปิณฺฑิสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต. สิขรสีสโกติ อุทฺธํ อนุปุพฺพตนุเกน สีเสน สมนฺนาคโต, มตฺถกโต สํกุฏิโก มูลโต วิตฺถโต หุตฺวา ิตปพฺพตสิขรสทิสสีโสติ อตฺโถ. เวฬุนาฬิสมาเนนาติ มหาเวฬุปพฺพสทิเสน. สีเสนาติ ทีฆสีเสน. ยถาห – ‘‘นาฬิสีโส วา มหาเวฬุปพฺพสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙).

๒๔๙๒. กปฺปสีโสปีติ มชฺเฌ ทิสฺสมานอาวาเฏน หตฺถิกุมฺภสทิเสน ทฺวิธาภูตสีเสน สมนฺนาคโต. ปพฺภารสีโส วาติ จตูสุ ปสฺเสสุ เยน เกนจิ ปสฺเสน โอณเตน สีเสน สมนฺนาคโต. วณสีสโกติ วเณหิ สมนฺนาคตสีโส. กณฺณิกเกโส วาติ ปาณเกหิ ขายิตเกทาเร สสฺสสทิเสหิ ตหึ ตหึ อุฏฺิเตหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต. ถูลเกโสปิ วาติ ตาลหีรสทิเสหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต.

๒๔๙๓. ปูติสีโสติ ทุคฺคนฺธสีโส. นิลฺโลมสีโส วาติ โลมรหิตสีโส. ชาติปณฺฑรเกสโกติ ชาติผลิเตหิ ปณฺฑรเกโส วา. ชาติยา ตมฺพเกโส วาติ อาทิตฺเตหิ วิย ตมฺพวณฺเณหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต. อาวฏฺฏสีสโกติ คุนฺนํ สรีเร อาวฏฺฏสทิเสหิ อุทฺธคฺเคหิ เกสาวฏฺเฏหิ สมนฺนาคโต.

๒๔๙๔. สีสโลเมกพทฺเธหิ ภมุเกหิ ยุโตปีติ สีสโลเมหิ สทฺธึ เอกาพทฺธโลเมหิ ภมุเกหิ สมนฺนาคโต. สมฺพทฺธภมุโก วาติ เอกาพทฺธอุภยภมุโก, มชฺเฌ สฺชาตโลเมหิ ภมุเกหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. นิลฺโลมภมุโกปิ วาติ ภมุโลมรหิโต. นิลฺโลมภมุโกปิ วาติ ปิ-สทฺเทน อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน มกฺกฏภมุโก สงฺคหิโต.

๒๔๙๕. มหนฺตขุทฺทเนตฺโต วาติ เอตฺถ เนตฺต-สทฺโท มหนฺตขุทฺท-สทฺเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ, มหนฺตเนตฺโต วา ขุทฺทกเนตฺโต วาติ อตฺโถ. มหนฺตเนตฺโต วาติ อติมหนฺเตหิ เนตฺเตหิ สมนฺนาคโต. ขุทฺทกเนตฺโต วาติ มหึสจมฺเม วาสิโกเณน ปหริตฺวา กตฉิทฺทสทิเสหิ อติขุทฺทกกฺขีหิ สมนฺนาคโต. วิสมโลจโนติ เอเกน มหนฺเตน, เอเกน ขุทฺทเกน อกฺขินา สมนฺนาคโต. เกกโร วาปีติ ติริยํ ปสฺสนฺโต. เอตฺถ อปิ-สทฺเทน นิกฺขนฺตกฺขึ สมฺปิณฺเฑติ, ยสฺส กกฺกฏกสฺเสว อกฺขิตารกา นิกฺขนฺตา โหนฺติ. คมฺภีรเนตฺโตติ ยสฺส คมฺภีเร อุทปาเน อุทกตารกา วิย อกฺขิตารกา ปฺายนฺติ. เอตฺถ จ อุทกตารกา นาม อุทกปุพฺพุฬํ. อกฺขิตารกาติ อกฺขิเคณฺฑกา. วิสมจกฺกโลติ เอเกน อุทฺธํ, เอเกน อโธติ เอวํ วิสมชาเตหิ อกฺขิจกฺเกหิ สมนฺนาคโต.

๒๔๙๖. ชตุกณฺโณ วาติ อติขุทฺทิกาหิ กณฺณสกฺขลีหิ สมนฺนาคโต. มูสิกกณฺโณ วาติ มูสิกานํ กณฺณสทิเสหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโต. หตฺถิกณฺโณปิ วาติ อนนุรูปาหิ มหนฺตาหิ หตฺถิกณฺณสทิสาหิ กณฺณสกฺขลีหิ สมนฺนาคโต. ฉิทฺทมตฺตกกณฺโณ วาติ ยสฺส วินา กณฺณสกฺขลีหิ กณฺณจฺฉิทฺทเมว โหติ. อวิทฺธกณฺณโกติ กณฺณพนฺธตฺถาย อวิทฺเธน กณฺเณน สมนฺนาคโต.

๒๔๙๗. ฏงฺกิตกณฺโณ วาติ โคภตฺตนาฬิกาย อคฺคสทิเสหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโต, โคหนุโกฏิสณฺาเนหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. ปูติกณฺโณปิ วาติ สทา ปคฺฆริตปุพฺเพน กณฺเณน สมนฺนาคโต. ปูติกณฺโณปีติ อปิ-สทฺเทน กณฺณภคนฺทริโก คหิโต. กณฺณภคนฺทริโกติ นิจฺจปูตินา กณฺเณน สมนฺนาคโต. อวิทฺธกณฺโณ ปริสทูสโก วุตฺโต, กถํ โยนกชาตีนํ ปพฺพชฺชาติ อาห ‘‘โยนกาทิปฺปเภโทปิ, นายํ ปริสทูสโก’’ติ, กณฺณาเวธนํ โยนกานํ สภาโว, อยํ โยนกาทิปฺปเภโท ปริสทูสโก น โหตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๔๙๘. อติปิงฺคลเนตฺโตติ อติสเยน ปิงฺคเลหิ เนตฺเตหิ สมนฺนาคโต. มธุปิงฺคลํ ปน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. นิปฺปขุมกฺขิ วาติ อกฺขิทลโรเมหิ วิรหิตอกฺขิโก. ปขุม-สทฺโท หิ โลเก อกฺขิทลโรเมสุ นิรุฬฺโห. อสฺสุปคฺฆรเนตฺโต วาติ ปคฺฆรณสฺสูหิ เนตฺเตหิ สมนฺนาคโต. ปกฺกปุปฺผิตโลจโนติ ปกฺกโลจโน ปุปฺผิตโลจโนติ โยชนา. ปริปกฺกเนตฺโต สฺชาตปุปฺผเนตฺโตติ อตฺโถ.

๒๔๙๙. มหานาโสติ สรีรสฺส อนนุรูปาย มหติยา นาสาย สมนฺนาคโต. อติขุทฺทกนาสิโกติ ตถา อติขุทฺทิกาย นาสาย สมนฺนาคโต. จิปิฏนาโส วาติ จิปิฏาย อนฺโต ปวิฏฺาย วิย อลฺลินาสาย สมนฺนาคโต. จิปิฏนาโส วาติ อวุตฺตวิกปฺปตฺเถน วา-สทฺเทน ทีฆนาสิโก สงฺคยฺหติ. โส จ สุกตุณฺฑสทิสาย ชิวฺหาย เลหิตุํ สกฺกุเณยฺยาย นาสิกาย สมนฺนาคโต. กุฏิลนาสิโกติ มุขมชฺเฌ อปฺปติฏฺหิตฺวา เอกปสฺเส ิตนาสิโก.

๒๕๐๐. นิจฺจวิสฺสวนาโส วาติ นิจฺจปคฺฆริตสิงฺฆาณิกนาโส วา. มหามุโขติ ยสฺส ปฏงฺคมณฺฑุกสฺเสว มุขนิมิตฺตํเยว มหนฺตํ โหติ, มุขํ ปน ลาพุสทิสํ อติขุทฺทกํ. ปฏงฺคมณฺฑุโก นาม มหามุขมณฺฑุโก. วงฺกภินฺนมุโข วาปีติ เอตฺถ ‘‘วงฺกมุโข วา ภินฺนมุโข วาปี’’ติ โยชนา. วงฺกมุโขติ ภมุกสฺส, นลาตสฺส วา เอกปสฺเส นินฺนตาย วงฺกมุโข. ภินฺนมุโข วาติ มกฺกฏสฺเสว ภินฺนมุโข. มหาโอฏฺโปิ วาติ อุกฺขลิมุขวฏฺฏิสทิเสหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต.

๒๕๐๑. ตนุกโอฏฺโ วาติ เภริจมฺมสทิเสหิ ทนฺเต ปิทหิตุํ อสมตฺเถหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต. เภริจมฺมสทิเสหีติ เภริมุขจมฺมสทิเสหิ. ตนุกโอฏฺโ วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน มหาธโรฏฺโ วา ตนุกอุตฺตโรฏฺโ วา ตนุกอธโรฏฺโ วาติ ตโย วิกปฺปา สงฺคหิตา. วิปุลุตฺตรโอฏฺโกติ มหาอุตฺตโรฏฺโ. โอฏฺฉินฺโนติ ยสฺส เอโก วา ทฺเว วา โอฏฺา ฉินฺนา โหนฺติ. อุปฺปกฺกมุโขติ ปกฺกมุโข. เอฬมุโขปิ วาติ นิจฺจปคฺฆรณมุโข.

๒๕๐๒-๓. สงฺขตุณฺโฑปีติ พหิ เสเตหิ อนฺโต อติรตฺเตหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต. ทุคฺคนฺธมุโขติ ทุคฺคนฺธกุณปมุโข. มหาทนฺโตปีติ อฏฺกทนฺตสทิเสหิ สมนฺนาคโต. อจฺจนฺตนฺติ อติสเยน. ‘‘เหฏฺา อุปริโต วาปิ, พหิ นิกฺขนฺตทนฺตโก’’ติ อิทํ ‘‘อสุรทนฺตโก’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ. อสุโรติ ทานโว. ‘‘สิปฺปิทนฺโต วา โอฏฺทนฺโต วา’’ติ คณฺิปเท ลิขิโต. ยสฺส ปน สกฺกา โหนฺติ โอฏฺเหิ ปิทหิตุํ, กเถนฺตสฺเสว ปฺายติ, โน อกเถนฺตสฺส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อทนฺโตติ ทนฺตรหิโต. ปูติทนฺโตติ ปูติภูเตหิ ทนฺเตหิ สมนฺนาคโต.

๒๕๐๔. ‘‘อติขุทฺทกทนฺตโก’’ติ อิมสฺส ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิ อปวาโท. ยสฺส ทนฺตนฺตเร กาฬกทนฺตสนฺนิโภ กลนฺทกทนฺตสทิโส ทนฺโต สุขุโมว ิโต เจ, ตํ ตุ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ปพฺพาเชตุมฺปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ตุ-สทฺทตฺโถ.

๒๕๐๕. โย โปโสติ สมฺพนฺโธ. มหาหนุโกติ โคหนุสทิเสน หนุนา สมนฺนาคโต. ‘‘รสฺเสน หนุนา ยุโต’’ติ อิทํ ‘‘จิปิฏหนุโก วา’’ติ อิมสฺส อตฺถปทํ. ยถาห – ‘‘จิปิฏหนุโก วา อนฺโตปวิฏฺเน วิย อติรสฺเสน หนุเกน สมนฺนาคโต’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙). จิปิฏหนุโก วาปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ‘‘ภินฺนหนุโก วา วงฺกหนุโก วา’’ติ วิกปฺปทฺวยํ สงฺคณฺหาติ.

๒๕๐๖. นิมฺมสฺสุทาิโก วาปีติ ภิกฺขุนิสทิสมุโข. อติทีฆคโลปิ วาติ พกคลสทิเสน คเลน สมนฺนาคโต. อติรสฺสคโลปิ วาติ อนฺโตปวิฏฺเน วิย คเลน สมนฺนาคโต. ภินฺนคโล วา คณฺฑคโลปิ วาติ โยชนา, ภินฺนคลฏฺิโก วา คณฺเฑน สมนฺนาคตคโลปิ วาติ อตฺโถ.

๒๕๐๗. ภฏฺํสกูโฏ วาติ มาตุคามสฺส วิย ภฏฺเน อํสกูเฏน สมนฺนาคโต. ภินฺนปิฏฺิ วา ภินฺนอุโรปิ วาติ โยชนา, สุทีฆหตฺโถ วา สุรสฺสหตฺโถ วาติ โยชนา, อติทีฆหตฺโถ วา อติรสฺสหตฺโถ วาติ อตฺโถ. วา-สทฺเทน อหตฺถเอกหตฺถานํ คหณํ. กจฺฉุสมายุโต วา กณฺฑุสมายุโต วาติ โยชนา. วา-สทฺเทน ‘‘ททฺทุคตฺโต วา โคธาคตฺโต วา’’ติ อิเม ทฺเว สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ โคธาคตฺโต วาติ ยสฺส โคธาย วิย คตฺตโต จุณฺณานิ ปตนฺติ.

๒๕๐๘. มหานิสทมํโสติ อิมสฺส อตฺถปทํ ‘‘อุทฺธนคฺคุปมายุโต’’ติ. ยถาห – ‘‘มหาอานิสโท วา อุทฺธนกูฏสทิเสหิ อานิสทมํเสหิ อจฺจุคฺคเตหิ สมนฺนาคโต’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙). มหานิสทมํโส วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ภฏฺกฏิโก สงฺคหิโต. วาตณฺฑิโกติ อณฺฑโกเสสุ วุทฺธิโรเคน สมนฺนาคโต. มหาอูรูติ สรีรสฺส อนนุรูเปหิ มหนฺเตหิ สตฺตีหิ สมนฺนาคโต. สงฺฆฏฺฏนกชาณุโกติ อฺมฺํ สงฺฆฏฺเฏหิ ชาณูหิ สมนฺนาคโต.

๒๕๐๙. ภินฺนชาณูติ ยสฺส เอโก วา ทฺเว วา ชาณู ภินฺนา โหนฺติ. มหาชาณูติ มหนฺเตน ชาณุนา สมนฺนาคโต. ทีฆชงฺโฆติ ยฏฺิสทิสชงฺโฆ. วิกโฏ วาติ ติริยํ คมนปาเทหิ สมนฺนาคโต, ยสฺส จงฺกมโต ชาณุกา พหิ นิคฺคจฺฉนฺติ. ปณฺโห วาติ ปจฺฉโต ปริวตฺตปาเทหิ สมนฺนาคโต, ยสฺส จงฺกมโต ชาณุกา อนฺโต ปวิสนฺติ. ‘‘ปนฺโต’’ติ จ ‘‘สณฺโห’’ติ จ เอตสฺเสว เววจนานิ. อุพฺพทฺธปิณฺฑิโกติ เหฏฺา โอรุฬฺหาหิ วา อุปริ อารุฬฺหาหิ วา มหตีหิ ชงฺฆปิณฺฑิกาหิ สมนฺนาคโต.

๒๕๑๐. ยฏฺิชงฺโฆติ ยฏฺิสทิสาย ชงฺฆาย สมนฺนาคโต. มหาชงฺโฆติ สรีรสฺส อนนุรูปาย มหติยา ชงฺฆาย สมนฺนาคโต. มหาปาโทปิ วาติ สรีรสฺส อนนุรูเปหิ มหนฺเตหิ ปาเทหิ สมนฺนาคโต. อปิ-สทฺเทน ถูลชงฺฆปิณฺฑิโก สงฺคหิโต, ภตฺตปุฏสทิสาย ถูลาย ชงฺฆปิณฺฑิยา สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. ปิฏฺิกปาโท วาติ ปาทเวมชฺฌโต อุฏฺิตชงฺโฆ. มหาปณฺหิปิ วาติ อนนุรูเปหิ อติมหนฺเตหิ ปณฺหีหิ สมนฺนาคโต.

๒๕๑๑. วงฺกปาโทติ อนฺโต วา พหิ วา ปริวตฺตปาทวเสน ทุวิโธ วงฺกปาโท. คณฺิกงฺคุลิโกติ สิงฺคิเวรผณสทิสาหิ องฺคุลีหิ สมนฺนาคโต. ‘‘อนฺธนโข วาปี’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ ‘‘กาฬปูตินโขปิ จา’’ติ. ยถาห – ‘‘อนฺธนโข วา กาฬวณฺเณหิ ปูตินเขหิ สมนฺนาคโต’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙).

๒๕๑๒. อิจฺเจวนฺติ ยถาวุตฺตวจนียนิทสฺสนตฺโถยํ นิปาตสมุทาโย. องฺคเวกลฺลตาย พหุวิธตฺตา อนวเสสํ เวกลฺลปฺปการํ สงฺคณฺหิตุมาห ‘‘อิจฺเจวมาทิก’’นฺติ.

ปริสทูสกกถาวณฺณนา.

๒๕๑๔. ปตฺตจีวรนฺติ เอตฺถ ‘‘สามเณรสฺสา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ. อนฺโต นิกฺขิปโตติ โอวรกาทีนํ อนฺโต นิกฺขิปนฺตสฺส. สพฺพปโยเคสูติ ปตฺตจีวรสฺส อามสนาทิสพฺพปโยเคสุ.

๒๕๑๕-๖. ทณฺฑกมฺมํ กตฺวาติ ทณฺฑกมฺมํ โยเชตฺวา. ทณฺเฑนฺติ วิเนนฺติ เอเตนาติ ทณฺโฑ, โสเยว กตฺตพฺพตฺตา กมฺมนฺติ ทณฺฑกมฺมํ, อาวรณาทิ. อนาจารสฺส ทุพฺพจสามเณรสฺส เกวลํ หิตกาเมน ภิกฺขุนา ทณฺฑกมฺมํ กตฺวา ทณฺฑกมฺมํ โยเชตฺวา ยาคุํ วา ภตฺตํ วา วา-สทฺเทน ปตฺตํ วา จีวรํ วา ทสฺเสตฺวา ‘‘ทณฺฑกมฺเม อาหเฏ ตฺวํ อิทํ ลจฺฉสิ’’ อิติ ภาสิตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. กิราติ ปทปูรณตฺเถ นิปาโต.

๒๕๑๗. ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตทณฺฑกมฺมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อปราธานุรูเปนา’’ติอาทิ. ตํ อปราธานุรูปทณฺฑกมฺมํ นาม วาลิกาสลิลาทีนํ อาหราปนเมวาติ โยเชตพฺพํ. อาทิ-สทฺเทน ทารุอาทีนํ อาหราปนํ คณฺหาติ. ตฺจ โข ‘‘โอรมิสฺสตี’’ติ อนุกมฺปาย, น ‘‘นสฺสิสฺสติ วิพฺภมิสฺสตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน ปาปชฺฌาสเยน.

๒๕๑๘-๙. อกตฺตพฺพํ ทณฺฑกมฺมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สีเส วา’’ติอาทิ. สีเส วาติ เอตฺถ ‘‘สามเณรสฺสา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ. ปาสาณาทีนีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อิฏฺกาทีนํ คหณํ. สามเณรํ อุณฺเห ปาสาเณ นิปชฺชาเปตุํ วา อุณฺหาย ภูมิยา นิปชฺชาเปตุํ วา อุทกํ ปเวเสตุํ วา ภิกฺขุโน น วฏฺฏตีติ โยชนา.

ภควตา อนุฺาตทณฺฑกมฺมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อิธา’’ติอาทิ. อิธาติ อิมสฺมึ ทณฺฑกมฺมาธิกาเร. อาวรณมตฺตนฺติ ‘‘มา อิธ ปาวิสี’’ติ นิวารณมตฺตํ. ปกาสิตนฺติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยตฺถ วา วสติ, ยตฺถ วา ปฏิกฺกมติ, ตตฺถ อาวรณํ กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๐๗) ภาสิตํ.

‘‘ยตฺถ วา วสติ, ยตฺถ วา ปฏิกฺกมตีติ ยตฺถ วสติ วา ปวิสติ วา, อุภเยนาปิ อตฺตโน ปริเวณฺจ วสฺสคฺเคน ปตฺตเสนาสนฺจ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๗) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา ยาว โยชิตํ ทณฺฑกมฺมํ กโรนฺติ, ตาว อตฺตโน ปุคฺคลิกปริเวณํ วา วสฺสคฺเคน ปตฺตเสนาสนํ วา ปวิสิตุํ อทตฺวา นิวารณํ อาวรณํ นาม. อฏฺกถายํ ‘‘อตฺตโน’’ติ วจนํ เย อาวรณํ กโรนฺติ, เต อาจริยุปชฺฌาเย สนฺธาย วุตฺตนฺติ วิฺายติ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘อตฺตโน’’ติ อิทํ ยสฺส อาวรณํ กโรนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตฺวา ตตฺถ วินิจฺฉยํ วทนฺติ. เกจิ อุภยถาปิ อตฺถํ คเหตฺวา อุภยตฺถาปิ อาวรณํ กาตพฺพนฺติ วทนฺติ. วีมํสิตฺวา ยเมตฺถ ยุตฺตตรํ, ตํ คเหตพฺพํ.

นิวารณกถาวณฺณนา.

๒๕๒๐. ปกฺโข จ โอปกฺกมิโก จ อาสิตฺโต จาติ วิคฺคโห. เอตฺถ จ ‘‘อนุโปสเถ อุโปสถํ กโรตี’’ติอาทีสุ ยถา อุโปสถทิเน กตฺตพฺพกมฺมํ ‘‘อุโปสโถ’’ติ วุจฺจติ, ตถา มาสสฺส ปกฺเข ปณฺฑกภาวมาปชฺชนฺโต ‘‘ปกฺโข’’ติ วุตฺโต. อถ วา ปกฺขปณฺฑโก ปกฺโข อุตฺตรปทโลเปน ยถา ‘‘ภีมเสโน ภีโม’’ติ. อิทฺจ ปาปานุภาเวน กณฺหปกฺเขเยว ปณฺฑกภาวมาปชฺชนฺตสฺส อธิวจนํ. ยถาห ‘‘อกุสลวิปากานุภาเวน กาฬปกฺเข กาฬปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ชุณฺหปกฺเข ปนสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ ปกฺขปณฺฑโก’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๙).

ยสฺส อุปกฺกเมน พีชานิ อปนีตานิ, อยํ โอปกฺกมิกปณฺฑโก. ยสฺส ปเรสํ องฺคชาตํ มุเขน คเหตฺวา อสุจินา อาสิตฺตสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อาสิตฺตปณฺฑโก. อุสูยโกติ ยสฺส ปเรสํ อชฺฌาจารํ ปสฺสโต อุสูยาย อุปฺปนฺนาย ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อุสูยปณฺฑโก. โย ปฏิสนฺธิยํเยว อภาวโก อุปฺปนฺโน, อยํ นปุํสกปณฺฑโก.

๒๕๒๑. เตสูติ เตสุ ปฺจสุ ปณฺฑเกสุ. ‘‘ปกฺขปณฺฑกสฺส ยสฺมึปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ตสฺมึเยวสฺส ปกฺเข ปพฺพชฺชา วาริตา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๙) กุรุนฺทิยํ วุตฺตตฺตา ‘‘ติณฺณํ นิวาริตา’’ติ อิทํ ตสฺส ปณฺฑกสฺส ปณฺฑกปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.

๒๕๒๒. ‘‘นาเสตพฺโพ’’ติ อิทํ ลิงฺคนาสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถาห ‘‘โสปิ ลิงฺคนาสเนเนว นาเสตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๙). เอส นโย อุปริปิ อีทิเสสุ าเนสุ.

ปณฺฑกกถาวณฺณนา.

๒๕๒๓. เถเนตีติ เถโน, ลิงฺคสฺส ปพฺพชิตเวสสฺส เถโน ลิงฺคเถโน. สํวาสสฺส ภิกฺขุวสฺสคณนาทิกสฺส เถโน สํวาสเถโน. ตทุภยสฺส จาติ ตสฺส ลิงฺคสฺส, สํวาสสฺส จ อุภยสฺส เถโนติ สมฺพนฺโธ. เอส ติวิโธปิ เถยฺยสํวาสโก นาม ปวุจฺจตีติ โยชนา.

๒๕๒๔-๖. ตตฺถ เตสุ ตีสุ เถยฺยสํวาสเกสุ โย สยเมว ปพฺพชิตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ น คณฺหติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนมฺปิ เนว คณฺหติ, อปิ-สทฺเทน อาสเนน เนว ปฏิพาหติ อุโปสถปวารณาทีสุ เนว สนฺทิสฺสตีติ สงฺคณฺหนโต ตทุภยมฺปิ น กโรติ, อยํ ลิงฺคมตฺตสฺส ปพฺพชิตเวสมตฺตสฺส เถนโต โจริกาย คหณโต ลิงฺคตฺเถโน สิยาติ โยชนา.

โย จ ปพฺพชิโต หุตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คณฺหติ, โส ยถาวุฑฺฒวนฺทนาทิกํ สํวาสํ สาทิยนฺโตว สํวาสตฺเถนโก มโตติ โยชนา. ยถาห – ‘‘ภิกฺขุวสฺสคณนาทิโก หิ สพฺโพปิ กิริยเภโท อิมสฺมึ อตฺเถ ‘สํวาโส’ติ เวทิตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐).

วุตฺตนโยเยวาติ อุภินฺนํ ปจฺเจกํ วุตฺตลกฺขณเมว เอตสฺส ลกฺขณนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. อยํ ติวิโธปิ เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ, ปุน ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโตปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. พฺยติเรกมุเขน เถยฺยสํวาสลกฺขณํ นิยเมตุํ อฏฺกถาย (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐) วุตฺตคาถาทฺวยํ อุทาหรนฺโต อาห ‘‘ยถาห จา’’ติ. ยถา อฏฺกถาจริโย ราชทุพฺภิกฺขาทิคาถาทฺวยมาห, ตถายมตฺโถ พฺยติเรกโต เวทิตพฺโพติ อธิปฺปาโย.

๒๕๒๗-๘. ราชทุพฺภิกฺขกนฺตาร-โรคเวริภเยหิ วาติ เอตฺถ ภย-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ ‘‘ราชภเยน ทุพฺภิกฺขภเยนา’’ติอาทินา. จีวราหรณตฺถํ วาติ อตฺตนา ปริจฺจตฺตจีวรํ ปุน วิหารํ อาหรณตฺถาย. อิธ อิมสฺมึ สาสเน. สํวาสํ นาธิวาเสติ, ยาว โส สุทฺธมานโสติ ราชภยาทีหิ คหิตลิงฺคตาย โส สุทฺธมานโส ยาว สํวาสํ นาธิวาเสตีติ อตฺโถ.

โย หิ ราชภยาทีหิ วินา เกวลํ ภิกฺขู วฺเจตฺวา เตหิ สทฺธึ วสิตุกามตาย ลิงฺคํ คณฺหาติ, โส อสุทฺธจิตฺตตาย ลิงฺคคฺคหเณเนว เถยฺยสํวาสโก นาม โหติ. อยํ ปน ตาทิเสน อสุทฺธจิตฺเตน ภิกฺขู วฺเจตุกามตาย อภาวโต ยาว สํวาสํ นาธิวาเสติ, ตาว เถยฺยสํวาสโก นาม น โหติ. เตเนว ‘‘ราชภยาทีหิ คหิตลิงฺคานํ ‘คิหี มํ สมโณติ ชานนฺตู’ติ วฺจนาจิตฺเต สติปิ ภิกฺขูนํ วฺเจตุกามตาย อภาวา โทโส น ชาโต’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.

เกจิ ปน ‘‘วูปสนฺตภยตา อิธ สุทฺธจิตฺตตา’’ติ วทนฺติ, เอวฺจ สติ โส วูปสนฺตภโย ยาว สํวาสํ นาธิวาเสติ, ตาว เถยฺยสํวาสโก นาม น โหตีติ อยมตฺโถ วิฺายติ. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ วิฺายมาเน อวูปสนฺตภยสฺส สํวาสสาทิยเนปิ เถยฺยสํวาสกตา น โหตีติ อาปชฺเชยฺย, น จ อฏฺกถายํ อวูปสนฺตภยสฺส สํวาสสาทิยเน อเถยฺยสํวาสกตา ทสฺสิตา. ‘‘สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภุฺชนฺโต’’ติ จ อิมินา อวูปสนฺตภเยนาปิ สํวาสํ อสาทิยนฺเตเนว วสิตพฺพนฺติ ทีเปติ. เตเนว ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ ‘‘ยสฺมา วิหารํ อาคนฺตฺวา สงฺฆิกํ คณฺหนฺตสฺส สํวาสํ ปริหริตุํ ทุกฺกรํ, ตสฺมา ‘สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภุฺชนฺโต’ติ อิทํ วุตฺต’’นฺติ. ตสฺมา ราชภยาทีหิ คหิตลิงฺคตา เจตฺถ สุทฺธจิตฺตตาติ คเหตพฺพํ.

ตาว เอส เถยฺยสํวาสโก นาม น วุจฺจตีติ โยชนา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ‘‘ตตฺรายํ วิตฺถารนโย’’ติ อฏฺกถายํ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐) อาคตนเยน เวทิตพฺโพ.

เถยฺยสํวาสกกถาวณฺณนา.

๒๕๒๙-๓๐. โย อุปสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ‘‘อหํ ติตฺถิโย ภวิสฺส’’นฺติ สลิงฺเคเนว อตฺตโน ภิกฺขุเวเสเนว ติตฺถิยานํ อุปสฺสยํ ยาติ เจติ สมฺพนฺโธ. ติตฺถิเยสุ ปกฺกนฺตโก ปวิฏฺโ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก. เตสํ ลิงฺเค นิสฺสิเตติ เตสํ ติตฺถิยานํ เวเส คหิเต.

๒๕๓๑. ‘‘อหํ ติตฺถิโย ภวิสฺส’’นฺติ กุสจีราทิกํ โย สยเมว นิวาเสติ, โสปิ ปกฺกนฺตโก ติตฺถิยปกฺกนฺตโก สิยาติ โยชนา.

๒๕๓๒-๔. นคฺโค เตสํ อาชีวกาทีนํ อุปสฺสยํ คนฺตฺวาติ โยชนา. เกเส ลุฺจาเปตีติ อตฺตโน เกเส ลุฺจาเปติ. เตสํ วตานิ อาทิยติ วาติ โยชนา. วตานิ อาทิยตีติ อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีนิ วา วตานิ อาทิยติ. เตสํ ติตฺถิยานํ โมรปิฺฉาทิกํ ลิงฺคํ สฺาณํ สเจ คณฺหาติ วา เตสํ ปพฺพชฺชํ, ลทฺธิเมว วา สารโต วา เอติ อุปคจฺฉติ วาติ โยชนา. ‘‘อยํ ปพฺพชฺชา เสฏฺาติ เสฏฺภาวํ วา อุปคจฺฉตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐ ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถา) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. เอส ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ เอว, น ปน วิมุจฺจติ ติตฺถิยปกฺกนฺตภาวโต. นคฺคสฺส คจฺฉโตติ ‘‘อาชีวโก ภวิสฺส’’นฺติ กาสายาทีนิ อนาทาย นคฺคสฺส อาชีวกานํ อุปสํคจฺฉโต.

๒๕๓๕. เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺนวเสน วุตฺโต, โน อุปสมฺปนฺนวเสน. อิมินา ‘‘อุปสมฺปนฺโน ภิกฺขุ กูฏวสฺสํ คณฺหนฺโตปิ อสฺสมโณ น โหติ. ลิงฺเค สอุสฺสาโห ปาราชิกํ อาปชฺชิตฺวา ภิกฺขุวสฺสาทีนิ คเณนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหตี’’ติ อฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ ทีเปติ. ตถา วุตฺโตติ โยชนา. ‘‘อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนา’’ติ อิมินา อนุปสมฺปนฺนํ นิวตฺเตติ. เตน จ ‘‘สามเณโร สลิงฺเคน ติตฺถายตนํ คโตปิ ปุน ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภตี’’ติ กุรุนฺทฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสติ.

ติตฺถิยปกฺกนฺตกสฺส กึ กาตพฺพนฺติ? น ปพฺพาเชตพฺโพ, ปพฺพาชิโตปิ น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปาทิโต จ กาสายานิ อปเนตฺวา เสตกานิ ทตฺวา คิหิภาวํ อุปเนตพฺโพ. อยมตฺโถ จ ‘‘ติตฺถิยปกฺกนฺตโก ภิกฺขเว อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๑๐) ปาฬิโต จ ‘‘โส น เกวลํ น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อถ โข น ปพฺพาเชตพฺโพปี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐ ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถา) อฏฺกถาวจนโต จ เวทิตพฺโพ.

ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถาวณฺณนา.

๒๕๓๖. อิธาติ อิมสฺมึ ปพฺพชฺชูปสมฺปทาธิกาเร. มนุสฺสชาติกโต อฺสฺส ติรจฺฉานคเตเยว อนฺโตคธตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยกฺโข สกฺโกปิ วา’’ติ. ติรจฺฉานคโต วุตฺโตติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ‘‘ติรจฺฉานคโต, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๑๑) วจนโต ปพฺพชฺชาปิ อุปลกฺขณโต นิวาริตาเยวาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏตี’’ติ. เตน ติรจฺฉานคโต จ ภควโต อธิปฺปายฺูหิ อฏฺกถาจริเยหิ น ปพฺพาเชตพฺโพติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๑) วุตฺตํ.

ติรจฺฉานกถาวณฺณนา.

๒๕๓๗. ปฺจานนฺตริเก โปเสติ มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, โลหิตุปฺปาทโก, สงฺฆเภทโกติ อานนฺตริยกมฺเมหิ สมนฺนาคเต ปฺจ ปุคฺคเล.

ตตฺถ มาตุฆาตโก (มหาว. อฏฺ. ๑๑๒) นาม เยน มนุสฺสิตฺถิภูตา ชนิกา มาตา สยมฺปิ มนุสฺสชาติเกเนว สตา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรปิตา, อยํ อานนฺตริเยน มาตุฆาตกกมฺเมน มาตุฆาตโก, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ ปฏิกฺขิตฺตา. เยน ปน มนุสฺสิตฺถิภูตาปิ อชนิกา โปสาวนิกมาตา วา จูฬมาตา วา มหามาตา วา ชนิกาปิ วา นมนุสฺสิตฺถิภูตา มาตาฆาติตา, ตสฺส ปพฺพชฺชา น วาริตา, น จ อานนฺตริโย โหติ. เยน สยํ ติรจฺฉานภูเตน มนุสฺสิตฺถิภูตา มาตา ฆาติตา, โสปิ อานนฺตริโย น โหติ, ติรจฺฉานคตตฺตา ปนสฺส ปพฺพชฺชา ปฏิกฺขิตฺตาว. ปิตุฆาตเกปิ เอเสว นโย. สเจปิ หิ เวสิยา ปุตฺโต โหติ, ‘‘อยํ เม ปิตา’’ติ น ชานาติ, ยสฺส สมฺภเวน นิพฺพตฺโต, โส เจ อเนน ฆาติโต, ‘‘ปิตุฆาตโก’’ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ.

อรหนฺตฆาตโกปิ มนุสฺสอรหนฺตวเสเนว เวทิตพฺโพ. มนุสฺสชาติยฺหิ อนฺตมโส อปพฺพชิตมฺปิ ขีณาสวํ ทารกํ วา ทาริกํ วา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรเปนฺโต อรหนฺตฆาตโกว โหติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปพฺพชฺชา จสฺส วาริตา. อมนุสฺสชาติกํ ปน อรหนฺตํ, มนุสฺสชาติกํ วา อวเสสํ อริยปุคฺคลํ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโย น โหติ, ปพฺพชฺชาปิสฺส น วาริตา, กมฺมํ ปน พลวํ โหติ. ติรจฺฉาโน มนุสฺสอรหนฺตมฺปิ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโย น โหติ, กมฺมํ ปน ภาริยํ.

โย เทวทตฺโต วิย ทุฏฺจิตฺเตน วธกจิตฺเตน ตถาคตสฺส ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนกมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทติ, อยํ โลหิตุปฺปาทโก นาม, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน โรควูปสมนตฺถํ ชีวโก วิย สตฺเถน ผาเลตฺวา ปูติมํสฺจ โลหิตฺจ นีหริตฺวา ผาสุํ กโรติ, พหุํ โส ปุฺํ ปสวติ.

โย เทวทตฺโต วิย สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กตฺวา จตุนฺนํ กมฺมานํ อฺตรวเสน สงฺฆํ ภินฺทติ, อยํ สงฺฆเภทโก นาม, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. ‘‘มาตุฆาตโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติอาทิกาย (มหาว. ๑๑๒) ปาฬิยา อุปสมฺปทาปฏิกฺเขโป ปพฺพชฺชาปฏิกฺเขปสฺส อุปลกฺขณนฺติ อาห ‘‘ปพฺพาเชนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ.

อุภโตพฺยฺชนฺเจว ภิกฺขุนิทูสกฺจ ตถา ปพฺพาเชนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. อุภโตพฺยฺชนนฺติ ก-การโลเปน นิทฺเทโส. อิตฺถินิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ ปุริสนิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ อุภโต พฺยฺชนมสฺส อตฺถีติ อุภโตพฺยฺชนโก. โส ทุวิโธ โหติ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก, ปุริสอุภโตพฺยฺชนโกติ.

ตตฺถ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส (มหาว. อฏฺ. ๑๑๖) อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถีสุ ปุริสตฺตํ กโรนฺตสฺส อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสานํ อิตฺถิภาวํ อุปคจฺฉนฺตสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก สยฺจ คพฺภํ คณฺหาติ, ปรฺจ คพฺภํ คณฺหาเปติ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนโก สยํ น คณฺหาติ, ปรํ คณฺหาเปตีติ อิทเมเตสํ นานากรณํ. อิมสฺส ปน ทุวิธสฺสาปิ อุภโตพฺยฺชนกสฺสเนว ปพฺพชฺชา อตฺถิ, น อุปสมฺปทาติ อิทมิธ สนฺนิฏฺานํ เวทิตพฺพํ.

โย ปกตตฺตํ ภิกฺขุนึ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๕) ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ ทูเสติ, อยํ ภิกฺขุนิทูสโก นาม, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน กายสํสคฺเคน สีลวินาสํ ปาเปติ, ตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ น วาริตา. พลกฺกาเรน ปน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อนิจฺฉมานํเยว ทูเสนฺโตปิ ภิกฺขุนิทูสโกเยว. พลกฺกาเรน ปน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อิจฺฉมานํ ทูเสนฺโต ภิกฺขุนิทูสโก น โหติ. กสฺมา? ยสฺมา คิหิภาเว สมฺปฏิจฺฉิตมตฺเตเยว สา อภิกฺขุนี โหติ. สกึ สีลวิปนฺนํ ปน ปจฺฉา ทูเสนฺโต เนว ภิกฺขุนิทูสโก โหติ, ปพฺพชฺชมฺปิ อุปสมฺปทมฺปิ ลภติ.

๒๕๓๘. ปาฬิอฏฺกถาวิมุตฺตํ อาจริยปรมฺปราภตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกโต’’ติอาทิ. ‘‘เอกโต’’ติ อิมินา ภิกฺขุสงฺฆสฺสาปิ คหณํ ภเวยฺยาติ ตํ ปริวชฺเชตุํ ‘‘ภิกฺขุนีนํ ตุ สนฺติเก’’ติ วุตฺตํ. เอเตน ตํทูสกสฺส ภพฺพตํ ทีเปติ. โส เนว ภิกฺขุนิทูสโก สิยา, ‘‘อุปสมฺปทํ ลภเตว จ ปพฺพชฺชํ, สา จ เนว ปราชิตา’’ติ อิทํ ทุติยคาถาย อิธาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. เกวลํ ภิกฺขุนิสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนา นาม น โหตีติ อธิปฺปาเยเนว วุตฺตํ. ‘‘สา จ เนว ปราชิตา’’ติ อิมินา ตสฺสา จ ปุน ปพฺพชฺชูปสมฺปทาย ภพฺพตํ ทีเปติ. อยมตฺโถ อฏฺกถาคณฺิปเทปิ วุตฺโตเยว ‘‘ภิกฺขุนีนํ วเสน เอกโตอุปสมฺปนฺนํ ทูเสตฺวา ภิกฺขุนิทูสโก น โหติ, ปพฺพชฺชาทีนิ ลภติ, สา จ ปาราชิกา น โหตีติ วินิจฺฉโย’’ติ.

๒๕๓๙. ‘‘สิกฺขมานาสามเณรีสุ จ วิปฺปฏิปชฺชนฺโต เนว ภิกฺขุนิทูสโก โหติ, ปพฺพชฺชมฺปิ อุปสมฺปทมฺปิ ลภตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๕) อฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ อนุปสมฺปนฺนทูสโก’’ติ. ‘‘อุปสมฺปทํ ลภเตว จ ปพฺพชฺช’’นฺติ อิทํ ยถาาเนปิ โยเชตพฺพํ. สา จ เนว ปราชิตาติ อิทํ ปน อฏฺกถาย อนาคตตฺตา จ อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนวิกปฺปาภาวา จ น โยเชตพฺพํ. อสติ หิ อุปสมฺปนฺนวิกปฺเป ปราชิตวิกปฺปาสงฺคโห ปฏิเสโธ นิรตฺถโกติ สา ปพฺพชฺชูปสมฺปทานํ ภพฺพาเยวาติ ทฏฺพฺพา. อิเม ปน ปณฺฑกาทโย เอกาทส ปุคฺคลา ‘‘ปณฺฑโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติอาทิวจนโต (มหาว. ๑๐๙) อภพฺพาเยว, เนสํ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ น รุหติ, ตสฺมา น ปพฺพาเชตพฺพา. ชานิตฺวา ปพฺพาเชนฺโต, อุปสมฺปาเทนฺโต จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อชานิตฺวาปิ ปพฺพาชิตา, อุปสมฺปาทิตา จ ชานิตฺวา ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺพา.

เอกาทสอภพฺพปุคฺคลกถาวณฺณนา.

๒๕๔๐. นูปสมฺปาทนีโยวาติ น อุปสมฺปาเทตพฺโพว. อนุปชฺฌายโกติ อสนฺนิหิตอุปชฺฌาโย วา อคฺคหิตอุปชฺฌายคฺคหโณ วา. กโรโตติ อนุปชฺฌายกํ อุปสมฺปาทยโต. ทุกฺกฏํ โหตีติ อาจริยสฺส จ คณสฺส จ ทุกฺกฏาปตฺติ โหติ. น กุปฺปติ สเจ กตนฺติ สเจ อนุปชฺฌายกสฺส อุปสมฺปทากมฺมํ กตํ ภเวยฺย, ตํ น กุปฺปติ สมคฺเคน สงฺเฆน อกุปฺเปน านารเหน กตตฺตา.

๒๕๔๑. เอเกติ อภยคิริวาสิโน. ‘‘น คเหตพฺพเมวา’’ติ อฏฺกถาย ทฬฺหํ วุตฺตตฺตา วุตฺตํ. ตํ วจนํ. เอตฺถ จ อุปชฺฌาเย อสนฺนิหิเตปิ อุปชฺฌายคฺคหเณ อกเตปิ กมฺมวาจายํ ปน อุปชฺฌายกิตฺตนํ กตํเยวาติ ทฏฺพฺพํ. อฺถา ‘‘ปุคฺคลํ น ปรามสตี’’ติ วุตฺตาย กมฺมวิปตฺติยา สมฺภวโต กมฺมํ กุปฺเปยฺย. เตเนว ‘‘อุปชฺฌายํ อกิตฺเตตฺวา’’ติ อวตฺวา ‘‘อุปชฺฌํ อคฺคาหาเปตฺวา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๗) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ยถา จ อปริปุณฺณปตฺตจีวรสฺส อุปสมฺปทากาเล กมฺมวาจายํ ‘‘ปริปุณฺณสฺส ปตฺตจีวร’’นฺติ อสนฺตํ วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา กมฺมวาจาย กตายปิ อุปสมฺปทา รุหติ, เอวํ ‘‘อยํ พุทฺธรกฺขิโต อายสฺมโต ธมฺมรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ อสนฺตํ ปุคฺคลํ กิตฺเตตฺวา เกวลํ สนฺตปทนีหาเรน กมฺมวาจาย กตาย อุปสมฺปทา รุหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘น กุปฺปติ สเจ กต’’นฺติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, อนุปชฺฌายโก อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๑๗) เอตฺตกเมว วตฺวา ‘‘โส จ ปุคฺคโล อนุปสมฺปนฺโน’’ติ อวุตฺตตฺตา, กมฺมวิปตฺติลกฺขณสฺส จ อสมฺภวโต ‘‘น คเหตพฺพเมว ต’’นฺติ วุตฺตํ.

เสเสสุ สพฺพตฺถปีติ สงฺฆคณปณฺฑกเถยฺยสํวาสกติตฺถิยปกฺกนฺตกติรจฺฉานคตมาตุปิตุอรหนฺตฆาตกภิกฺขุนิทูสกสงฺฆเภทกโลหิตุปฺปาทกอุภโตพฺยฺชนกสงฺขาเตหิ อุปชฺฌาเยหิ อุปสมฺปาทิเตสุ สพฺเพสุ เตรสสุ วิกปฺเปสุ. วุตฺตฺหิ ภควตา ‘‘น, ภิกฺขเว, สงฺเฆน อุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ. น เกวลํ เอเตสุเยว เตรสสุ, อถ ‘‘อปตฺตกอจีวรกอจีวรปตฺตกยาจิตกปตฺตยาจิตกจีวรยาจิตกปตฺตจีวรกา’’ติ เอเตสุ ฉสุ วิกปฺเปสุ อยํ นโย โยเชตพฺโพติ. เสส-คฺคหเณน เอเตสมฺปิ สงฺคโห. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘น, ภิกฺขเว, อปตฺตโก อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ (มหาว. ๑๑๘). อยํ นโยติ ‘‘น กุปฺปติ สเจ กต’’นฺติ วุตฺตนโย.

๒๕๔๒. ปฺจวีสตีติ จตุวีสติ ปาราชิกา, อูนวีสติวสฺโส จาติ ปฺจวีสติ. วุตฺตฺหิ ‘‘น, ภิกฺขเว, ชานํ อูนวีสติวสฺโส ปุคฺคโล อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๙๙). โอสาโรติ อุปสมฺปทาสงฺขาโต โอสาโร. เตเนว จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก ‘‘ตฺเจ สงฺโฆ โอสาเรติ, เอกจฺโจ โสสาริโต’’ติอาทิปาสฺส (มหาว. ๓๙๖) อฏฺกถายํ ‘‘โอสาเรตีติ อุปสมฺปทากมฺมวเสน ปเวเสตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๙๖) วุตฺตํ. ‘‘นาสนารโห’’ติ อิมินา ‘‘ปณฺฑโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติอาทิวจนโต (มหาว. ๑๐๙) อุปสมฺปาทิตสฺสาปิ เสตกานิ ทตฺวา คิหิภาวํ ปาเปตพฺพตํ ทีเปติ.

๒๕๔๓. หตฺถจฺฉินฺนาทิ พาตฺตึสาติ จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก

‘‘หตฺถจฺฉินฺโน, ภิกฺขเว, อปฺปตฺโต โอสารณํ, ตฺเจ สงฺโฆ โอสาเรติ, โสสาริโต. ปาทจฺฉินฺโน…เป… หตฺถปาทจฺฉินฺโน… กณฺณจฺฉินฺโน… นาสจฺฉินฺโน… กณฺณนาสจฺฉินฺโน… องฺคุลิจฺฉินฺโน… อฬจฺฉินฺโน… กณฺฑรจฺฉินฺโน… ผณหตฺถโก… ขุชฺโช… วามโน… คลคณฺฑี… ลกฺขณาหโต… กสาหโต… ลิขิตโก… สีปทิโก… ปาปโรคี… ปริสทูสโก… กาโณ… กุณี… ขฺโช… ปกฺขหโต… ฉินฺนิริยาปโถ… ชราทุพฺพโล… อนฺโธ… มูโค… ปธิโร… อนฺธมูโค… อนฺธปธิโร… มูคปธิโร… อนฺธมูคปธิโร, ภิกฺขเว, อปฺปตฺโต โอสารณํ, ตฺเจ สงฺโฆ โอสาเรติ, โสสาริโต’’ติ (มหาว. ๓๙๖) พาตฺตึส.

กุฏฺิอาทิ จ เตรสาติ มหาขนฺธเก อาคตา –

‘‘กุฏฺึ คณฺฑึ กิลาสิฺจ, โสสิฺจ อปมาริกํ;

ตถา ราชภฏํ โจรํ, ลิขิตํ การเภทกํ.

‘‘กสาหตํ นรฺเจว, ปุริสํ ลกฺขณาหตํ;

อิณายิกฺจ ทาสฺจ, ปพฺพาเชนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ. –

ยถาวุตฺตา เตรส.

เอวเมเต ปฺจจตฺตาลีส วุตฺตา. เตสุ กสาหตลกฺขณาหตลิขิตกานํ ติณฺณํ อุภยตฺถ อาคตตฺตา อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาจตฺตาลีเสว ทฏฺพฺพา.

‘‘หตฺถจฺฉินฺนาทิพาตฺตึส, กุฏฺิอาทิ จ เตรสา’’ติ เย ปุคฺคลา วุตฺตา, เตสํ. โอสาโร อปฺปตฺโตติ อุปสมฺปทาอนนุรูปาติ อตฺโถ. กโต เจติ อกตฺตพฺพภาวมสลฺลกฺขนฺเตหิ ภิกฺขูหิ ยทิ อุปสมฺปทาสงฺขาโต โอสาโร กโต ภเวยฺย. รูหตีติ สิชฺฌติ, เต ปุคฺคลา อุปสมฺปนฺนาเยวาติ อธิปฺปาโย. อาจริยาทโย ปน อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ. ยถาห จมฺเปยฺยกฺขนฺธกฏฺกถายํ – ‘‘หตฺถจฺฉินฺนาทโย ปน ทฺวตฺตึส สุโอสาริตา, อุปสมฺปาทิตา อุปสมฺปนฺนาว โหนฺติ, น เต ลพฺภา กิฺจิ วตฺตุํ. อาจริยุปชฺฌายา, ปน การกสงฺโฆ จ สาติสารา, น โกจิ อาปตฺติโต มุจฺจตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๙๖).

๒๕๔๔-๕. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุํ, ตฺจ โข เอเกน อุปชฺฌาเยนา’’ติ (มหาว. ๑๒๓) วจนโต สเจ ตโย อาจริยา เอกสีมายํ นิสินฺนา เอกสฺส อุปชฺฌายสฺส นามํ คเหตฺวา ติณฺณํ อุปสมฺปทาเปกฺขานํ วิสุํ วิสุํเยว กมฺมวาจํ เอกกฺขเณ วตฺวา ตโย อุปสมฺปาเทนฺติ, วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกูปชฺฌายโก โหตี’’ติอาทิ.

‘‘ตโย’’ติ อิทํ อฏฺุปฺปตฺติยํ ‘‘สมฺพหุลานํ เถราน’’นฺติ (มหาว. ๑๒๓) อาคตตฺตา วุตฺตํ. เอกโตติ เอกกฺขเณ. อนุสาวนนฺติ กมฺมวาจํ. โอสาเรตฺวาติ วตฺวา. กมฺมนฺติ อุปสมฺปทากมฺมํ. น จ กุปฺปตีติ น วิปชฺชติ. กปฺปตีติ อวิปชฺชนโต เอวํ กาตุํ วฏฺฏติ.

๒๕๔๖-๗. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๒๓) วจนโต สเจ เอโก อาจริโย ‘‘พุทฺธรกฺขิโต จ ธมฺมรกฺขิโต จ สงฺฆรกฺขิโต จ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ อุปสมฺปทาเปกฺขานํ ปจฺเจกํ นามํ คเหตฺวา กมฺมวาจํ วตฺวา ทฺเว ตโยปิ อุปสมฺปาเทติ, วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกูปชฺฌายโก โหตี’’ติอาทิ.

อุปสมฺปทํ อเปกฺขนฺตีติ ‘‘อุปสมฺปทาเปกฺขา’’ติ อุปสมฺปชฺชนกา วุจฺจนฺติ. เตสํ นามนฺติ เตสํ อุปสมฺปชฺชนฺตานฺเจว อุปชฺฌายานฺจ นามํ. อนุปุพฺเพน สาเวตฺวาติ โยชนา, ‘‘พุทฺธรกฺขิโต’’ติอาทินา ยถาวุตฺตนเยน กมฺมวาจายํ สกฏฺาเน วตฺวา สาเวตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาติ เอเกน อาจริเยน. เอกโตติ ทฺเว ตโย ชเน เอกโต กตฺวา. อนุสาเวตฺวาติ กมฺมวาจํ วตฺวา. กตํ อุปสมฺปทากมฺมํ.

๒๕๔๘. อฺมฺานุสาเวตฺวาติ อฺมฺสฺส นามํ อนุสาเวตฺวา, คเหตฺวาติ อตฺโถ, อฺมฺสฺส นามํ คเหตฺวา กมฺมวาจํ วตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๕๔๙. ตํ วิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘สุมโน’’ติอาทิ. สุมโนติ อาจริโย. ติสฺสเถรสฺส อุปชฺฌายสฺส. สิสฺสกํ สทฺธิวิหาริกํ. อนุสาเวตีติ กมฺมวาจํ สาเวติ. ติสฺโสติ ปมํ อุปชฺฌายภูตสฺส คหณํ. สุมนเถรสฺสาติ ปมํ อาจริยตฺเถรมาห. อิเม ทฺเว เอกสีมายํ นิสีทิตฺวา เอกกฺขเณ อฺมฺสฺส สทฺธิวิหาริกานํ กมฺมวาจํ วทนฺตา อตฺตโน อตฺตโน สทฺธิวิหาริกํ ปฏิจฺจ อุปชฺฌายาปิ โหนฺติ, อนฺเตวาสิเก ปฏิจฺจ อาจริยาปิ โหนฺติ, อฺมฺสฺส คณปูรกา จ โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห –

‘‘สเจ ปน นานาจริยา นานาอุปชฺฌายา โหนฺติ, ติสฺสตฺเถโร สุมนตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ, สุมนตฺเถโร ติสฺสตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ อนุสฺสาเวติ, อฺมฺฺจ คณปูรกา โหนฺติ, วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๒๓).

๒๕๕๐. อิธาติ อิมสฺมึ อุปสมฺปทาธิกาเร. ปฏิกฺขิตฺตาติ ‘‘น ตฺเวว นานุปชฺฌาเยนา’’ติ (มหาว. ๑๒๓) ปฏิสิทฺธา. โลกิเยหิ อาทิจฺจปุตฺโต มนูติ โย ปมกปฺปิโก มนุสฺสานํ อาทิราชา วุจฺจติ, ตสฺส วํเส ชาตตฺตา อาทิจฺโจ พนฺธุ เอตสฺสาติ อาทิจฺจพนฺธุ, ภควา, เตน.

มหาขนฺธกกถาวณฺณนา.

อุโปสถกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๕๕๑-๒. ยา เอกาทสหิ สีมาวิปตฺตีหิ วชฺชิตา ติสมฺปตฺติสํยุตา นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆเฏตฺวา สมฺมตา, สา อยํ พทฺธสีมา นาม สิยาติ โยชนา. ตตฺถ อติขุทฺทกา, อติมหตี, ขณฺฑนิมิตฺตา, ฉายานิมิตฺตา, อนิมิตฺตา, พหิสีเม ิตสมฺมตา, นทิยา สมฺมตา, สมุทฺเท สมฺมตา, ชาตสฺสเร สมฺมตา, สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา, สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตาติ ‘‘อิเมหิ เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺตี’’ติ (ปริ. ๔๘๖) วจนโต อิมา เอกาทส วิปตฺติสีมาโย นาม, วิปนฺนสีมาติ วุตฺตํ โหติ.

ตตฺถ อติขุทฺทกา นาม ยตฺถ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ น สกฺโกนฺติ. อติมหตี นาม ยา อนฺตมโส เกสคฺคมตฺเตนาปิ ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา สมฺมตา. ขณฺฑนิมิตฺตา นาม อฆฏิตนิมิตฺตา วุจฺจติ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา อนุกฺกเมเนว ทกฺขิณาย, ปจฺฉิมาย, อุตฺตราย ทิสาย กิตฺเตตฺวา ปุน ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปุพฺพกิตฺติตํ ปฏิกิตฺเตตฺวา เปตุํ วฏฺฏติ, เอวํ อขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. สเจ ปน อนุกฺกเมน อาหริตฺวา อุตฺตราย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตตฺเถว เปติ, ขณฺฑนิมิตฺตา นาม โหติ. อปราปิ ขณฺฑนิมิตฺตา นาม ยา อนิมิตฺตุปคํ ตจสารรุกฺขํ วา ขาณุกํ วา ปํสุปุฺชวาลิกาปุฺชานํ วา อฺตรํ อนฺตรา เอกํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา. ฉายานิมิตฺตา นาม ปพฺพตจฺฉายาทีนํ ยํ กิฺจิ ฉายํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา. อนิมิตฺตา นาม สพฺเพน สพฺพํ นิมิตฺตานิ อกิตฺเตตฺวา สมฺมตา. พหิสีเม ิตสมฺมตา นาม นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา นิมิตฺตานํ พหิ ิเตน สมฺมตา.

นทิยา สมุทฺเท ชาตสฺสเร สมฺมตา นาม เอเตสุ นทิอาทีสุ สมฺมตา. สา หิ เอวํ สมฺมตาปิ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๘) วจนโต อสมฺมตาว โหติ. สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา นาม อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา. สเจ หิ โปราณกสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อมฺโพ เจว ชมฺพู จาติ ทฺเว รุกฺขา อฺมฺํ สํสฏฺวิฏปา โหนฺติ, เตสุ อมฺพสฺส ปจฺฉิมทิสาภาเค ชมฺพู, วิหารสีมา จ ชมฺพุํ อนฺโต กตฺวา อมฺพํ กิตฺเตตฺวา พทฺธา โหติ, อถ ปจฺฉา ตสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย วิหาเร กเต สีมํ พนฺธนฺตา ภิกฺขู ตํ อมฺพํ อนฺโต กตฺวา ชมฺพุํ กิตฺเตตฺวา พนฺธนฺติ, สีมาย สีมํ สมฺภินฺนา โหติ. สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตา นาม อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตา. สเจ หิ ปเรสํ พทฺธสีมํ สกลํ วา ตสฺสา ปเทสํ วา อนฺโต กตฺวา อตฺตโน สีมํ สมฺมนฺนติ, สีมาย สีมา อชฺโฌตฺถริตา นาม โหตีติ. อิติ อิมาหิ เอกาทสหิ วิปตฺติสีมาหิ วชฺชิตาติ อตฺโถ.

ติสมฺปตฺติสํยุตาติ นิมิตฺตสมฺปตฺติ, ปริสาสมฺปตฺติ, กมฺมวาจาสมฺปตฺตีติ อิมาหิ ตีหิ สมฺปตฺตีหิ สมนฺนาคตา. ตตฺถ นิมิตฺตสมฺปตฺติยุตฺตา นาม ‘‘ปพฺพตนิมิตฺตํ, ปาสาณนิมิตฺตํ, วนนิมิตฺตํ, รุกฺขนิมิตฺตํ, มคฺคนิมิตฺตํ, วมฺมิกนิมิตฺตํ, นทินิมิตฺตํ, อุทกนิมิตฺต’’นฺติ (มหาว. ๑๓๘) เอวํ วุตฺเตสุ อฏฺสุ นิมิตฺเตสุ ตสฺมึ ตสฺมึ ทิสาภาเค ยถาลทฺธานิ นิมิตฺตุปคานิ นิมิตฺตานิ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺตํ? ปพฺพโต, ภนฺเต, เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติอาทินา นเยน สมฺมา กิตฺเตตฺวา สมฺมตา.

ปริสาสมฺปตฺติยุตฺตา นาม สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน จตูหิ ภิกฺขูหิ สนฺนิปติตฺวา ยาวติกา ตสฺมึ คามเขตฺเต พทฺธสีมํ วา นทิสมุทฺทชาตสฺสเร วา อโนกฺกมิตฺวา ิตา ภิกฺขู, เต สพฺเพ หตฺถปาเส วา กตฺวา, ฉนฺทํ วา อาหริตฺวา สมฺมตา.

กมฺมวาจาสมฺปตฺติยุตฺตา นาม ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, ยาวตา สมนฺตา นิมิตฺตา กิตฺติตา’’ติอาทินา (มหาว. ๑๓๙) นเยน วุตฺตาย ปริสุทฺธาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมตา. เอวํ เอกาทส วิปตฺติสีมาโย อติกฺกมิตฺวา ติวิธสมฺปตฺติยุตฺตา นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆเฏตฺวา สมฺมตา สีมา พทฺธสีมาติ เวทิตพฺพา.

๒๕๕๓-๔. ขณฺฑสมานสํวาสอวิปฺปวาสา อาทโย อาทิภูตา, อาทิมฺหิ วา ยาสํ สีมานํ ตา ขณฺฑสมานสํวาสาวิปฺปวาสาที, ตาสํ, ตาหิ วา ปเภโท ขณฺฑสมานสํวาสาทิเภโท, ตโต ขณฺฑสมานสํวาสาทิเภทโต, ขณฺฑสีมา, สมานสํวาสสีมา, อวิปฺปวาสสีมาติ อิมาสํ สีมานํ เอตาหิ วา กรณภูตาหิ, เหตุภูตาหิ วา ชาเตน วิภาเคนาติ วุตฺตํ โหติ. สมานสํวาสาวิปฺปวาสานมนฺตเร ขณฺฑา ปริจฺฉินฺนา ตาหิ อสงฺกรา สีมา ขณฺฑสีมา นาม. สมานสํวาเสหิ ภิกฺขูหิ เอกโต อุโปสถาทิโก สํวาโส เอตฺถ กรียตีติ สมานสํวาสา นาม. อวิปฺปวาสาย ลกฺขณํ ‘‘พนฺธิตฺวา’’ติอาทินา วกฺขติ. อิติ พทฺธา ติธา วุตฺตาติ เอวํ พทฺธสีมา ติปฺปเภทา วุตฺตา.

อุทกุกฺเขปาติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนํ. สตฺตนฺนํ อพฺภนฺตรานํ สมาหารา สตฺตพฺภนฺตรา, ตโตปิ จ. อพทฺธาปิ ติวิธาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถาติ ตาสุ ตีสุ อพทฺธสีมาสุ. คามปริจฺเฉโทติ สพฺพทิสาสุ สีมํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อิมสฺส ปเทสสฺส เอตฺตโก กโร’’ติ เอวํ กเรน นิยมิโต คามปฺปเทโส. ยถาห – ‘‘ยตฺตเก ปเทเส ตสฺส คามสฺส โภชกา พลึ หรนฺติ, โส ปเทโส อปฺโป วา โหตุ มหนฺโต วา, ‘คามสีมา’ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ยมฺปิ เอกสฺมึเยว คามกฺเขตฺเต เอกํ ปเทสํ ‘อยํ วิสุํ คาโม โหตู’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ราชา กสฺสจิ เทติ, โสปิ วิสุํคามสีมา โหติเยวา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗).

‘‘คามปริจฺเฉโท’’ติ อิมินา จ นครปริจฺเฉโท จ สงฺคหิโต. ยถาห – ‘‘คามคฺคหเณน เจตฺถ นครมฺปิ คหิตเมว โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗). นิคมสีมาย วิสุํเยว วุตฺตตฺตา ตสฺสา อิธ สงฺคโห น วตฺตพฺโพ. วุตฺตฺหิ ปาฬิยํ ‘‘ยํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรติ. ยา ตสฺส วา คามสฺส คามสีมา, นิคมสฺส วา นิคมสีมา, อยํ ตตฺถ สมานสํวาสา เอกุโปสถา’’ติ (มหาว. ๑๔๗). อิมิสฺสา วิสุํเยว ลกฺขณสฺส วุตฺตตฺตา คามสีมาลกฺขเณเนว อุปลกฺขิตา.

๒๕๕๕. ‘‘ชาตสฺสเร’’ติอาทีสุ ชาตสฺสราทีนํ ลกฺขณํ เอวํ เวทิตพฺพํ – โย ปน เกนจิ ขณิตฺวา อกโต สยํชาโต โสพฺโภ สมนฺตโต อาคเตน อุทเกน ปูริโต ติฏฺติ, ยตฺถ นทิยํ วกฺขมานปฺปกาเร วสฺสกาเล อุทกํ สนฺติฏฺติ, อยํ ชาตสฺสโร นาม. โยปิ นทึ วา สมุทฺทํ วา ภินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตอุทเกน ขณิโต โสพฺโภ เอตํ ลกฺขณํ ปาปุณาติ, อยมฺปิ ชาตสฺสโรเยว. สมุทฺโท ปากโฏเยว.

ยสฺสา ธมฺมิกานํ ราชูนํ กาเล อนฺวฑฺฒมาสํ อนุทสาหํ อนุปฺจาหํ อนติกฺกมิตฺวา เทเว วสฺสนฺเต วลาหเกสุ วิคตมตฺเตสุ โสตํ ปจฺฉิชฺชติ, อยํ นทิสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ยสฺสา ปน อีทิเส สุวุฏฺิกาเล วสฺสานสฺส จตุมาเส โสตํ น ปจฺฉิชฺชติ, ยตฺถ ติตฺเถน วา อติตฺเถน วา สิกฺขากรณีเย อาคตลกฺขเณน ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อนฺตรวาสกํ อนุกฺขิปิตฺวา อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา เอกทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ อนฺตรวาสโก เตมิยติ, อยํ สมุทฺทํ วา ปวิสตุ ตฬากํ วา, ปภวโต ปฏฺาย นที นาม.

สมนฺตโตติ สมนฺตา. มชฺฌิมสฺสาติ ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส. อุทกุกฺเขโปติ วกฺขมาเนน นเยน ถามปฺปมาเณน ขิตฺตสฺส อุทกสฺส วา วาลุกาย วา ปติตฏฺาเนน ปริจฺฉินฺโน อนฺโตปเทโส. ยถา อกฺขธุตฺตา ทารุคุฬํ ขิปนฺติ, เอวํ อุทกํ วา วาลุกํ วา หตฺเถน คเหตฺวา ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน สพฺพถาเมน ขิปิตพฺพํ, ตตฺถ ยตฺถ เอวํ ขิตฺตํ อุทกํ วา วาลุกา วา ปตติ, อยํ อุทกุกฺเขโป นามาติ. อุทกุกฺเขปสฺิโตติ ‘‘อุทกุกฺเขโป’’ติ สลฺลกฺขิโต.

๒๕๕๖. อคามเก อรฺเติ วิฺฌาฏวิสทิเส คามรหิเต มหาอรฺเ. สมนฺตโต สตฺเตวพฺภนฺตราติ อตฺตโน ิตฏฺานโต ปริกฺขิปิตฺวา สตฺเตว อพฺภนฺตรา ยสฺสา สีมาย ปริจฺเฉโท, อยํ สตฺตพฺภนฺตรนามิกา สีมา นาม.

๒๕๕๗. คุฬุกฺเขปนเยนาติ อกฺขธุตฺตกานํ ทารุคุฬุกฺขิปนากาเรน. อุทกุกฺเขปกาติ อุทกุกฺเขปสทิสวเสน.

๒๕๕๘. อิมาสํ ทฺวินฺนํ สีมานํ วฑฺฒนกฺกมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อพฺภนฺตรูทกุกฺเขปา, ิโตกาสา ปรํ สิยุ’’นฺติ. ิโตกาสา ปรนฺติ ปริสาย ิตฏฺานโต ปรํ, ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย สตฺตพฺภนฺตรา จ มินิตพฺพา, อุทกุกฺเขโป จ กาตพฺโพติ อตฺโถ.

๒๕๕๙-๖๐. อนฺโตปริจฺเฉเทติ อุทกุกฺเขเปน วา สตฺตพฺภนฺตเรหิ วา ปริจฺฉินฺโนกาสสฺส อนฺโต. หตฺถปาสํ วิหาย ิโต วา ปรํ ตตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อนติกฺกมฺม ิโต วาติ โยชนา, สีมนฺตริกตฺถาย เปตพฺพํ เอกํ อุทกุกฺเขปํ วา สตฺตพฺภนฺตรํ เอว วา อนติกฺกมฺม ิโตติ อตฺโถ.

กมฺมํ วิโกเปตีติ อนฺโต ิโต กมฺมสฺส วคฺคภาวกรณโต, พหิ ตตฺตกํ ปเทสํ อนติกฺกมิตฺวา ิโต อฺสฺส สงฺฆสฺส คณปูรณภาวํ คจฺฉนฺโต สีมาย สงฺกรภาวกรเณน กมฺมํ วิโกเปติ. อิติ ยสฺมา อฏฺกถานโย, ตสฺมา โส อนฺโตสีมาย หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิโต หตฺถปาเส วา กาตพฺโพ, สีมนฺตริกตฺถาย ปริจฺฉินฺโนกาสโต พหิ วา กาตพฺโพ. ตตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อนติกฺกมิตฺวา ิโต ยถาิโตว สเจ อฺสฺส กมฺมสฺส คณปูรโก น โหติ, กมฺมํ น โกเปตีติ คเหตพฺพํ.

๒๕๖๑-๒. สณฺานนฺติ ติโกฏิสณฺานํ. นิมิตฺตนฺติ ปพฺพตาทินิมิตฺตํ. ทิสกิตฺตนนฺติ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’’นฺติอาทินา ทิสากิตฺตนํ. ปมาณนฺติ ติโยชนปรมํ ปมาณํ. โสเธตฺวาติ ยสฺมึ คามกฺเขตฺเต สีมํ พนฺธติ, ตตฺถ วสนฺเต อุปสมฺปนฺนภิกฺขู พทฺธสีมวิหาเร วสนฺเต สีมาย พหิ คนฺตุํ อทตฺวา, อพทฺธสีมวิหาเร วสนฺเต หตฺถปาสํ อุปเนตพฺเพ หตฺถปาสํ เนตฺวา อวเสเส พหิสีมาย กตฺวา สพฺพมคฺเคสุ อารกฺขํ วิทหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. สีมนฺติ ขณฺฑสีมํ.

กีทิสนฺติ อาห ‘‘ติโกณ’’นฺติอาทิ. ปณวูปมนฺติ ปณวสณฺานํ มชฺเฌ สํขิตฺตํ อุภยโกฏิยา วิตฺถตํ. ‘‘วิตานาการํ ธนุกาการ’’นฺติ อาการ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ธนุกาการนฺติ อาโรปิตธนุสณฺานํ, ‘‘มุทิงฺคูปมํ สกฏูปม’’นฺติ อุปมา-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. มุทิงฺคูปมนฺติ มชฺเฌ วิตฺถตํ อุภยโกฏิยา ตนุกํ ตุริยวิเสสํ มุทิงฺคนฺติ วทนฺติ, ตาทิสนฺติ อตฺโถ. สีมํ พนฺเธยฺยาติ โยชนา.

๒๕๖๓. ปพฺพตาทินิมิตฺตุปคนิมิตฺตานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปพฺพต’’นฺติอาทิ. อิติ อฏฺ นิมิตฺตานิ ทีปเยติ โยชนา. ตตฺเรวํ สงฺเขปโต นิมิตฺตุปคตา เวทิตพฺพา – สุทฺธปํสุสุทฺธปาสาณอุภยมิสฺสกวเสน (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา; มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) ติวิโธปิ หิ ปพฺพโต หตฺถิปฺปมาณโต ปฏฺาย อุทฺธํ นิมิตฺตุปโค, ตโต โอมกตโร น วฏฺฏติ. อนฺโตสาเรหิ วา อนฺโตสารมิสฺสเกหิ วา รุกฺเขหิ จตุปฺจรุกฺขมตฺตมฺปิ วนํ นิมิตฺตุปคํ, ตโต อูนตรํ น วฏฺฏติ. ปาสาณนิมิตฺเต อยคุฬมฺปิ ปาสาณสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตสฺมา โย โกจิ ปาสาโณ อุกฺกํเสน หตฺถิปฺปมาณโต โอมกตรํ อาทึ กตฺวา เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ทฺวตฺตึสปลคุฬปิณฺฑปริมาโณ นิมิตฺตุปโค, น ตโต ขุทฺทกตโร. ปิฏฺิปาสาโณ ปน อติมหนฺโตปิ วฏฺฏติ. รุกฺโข ชีวนฺโตเยว อนฺโตสาโร ภูมิยํ ปติฏฺิโต อนฺตมโส อุพฺเพธโต อฏฺงฺคุโล ปริณาหโต สูจิทณฺฑปฺปมาโณปิ นิมิตฺตุปโค, น ตโต โอรํ วฏฺฏติ. มคฺโค ชงฺฆมคฺโค วา โหตุ สกฏมคฺโค วา, โย วินิวิชฺฌิตฺวา ทฺเว ตีณิ คามกฺเขตฺตานิ คจฺฉติ, ตาทิโส ชงฺฆสกฏสตฺเถหิ วฬฺชิยมาโนเยว นิมิตฺตุปโค, อวฬฺโช น วฏฺฏติ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ตํทิวสํ ชาโต อฏฺงฺคุลุพฺเพโธ โควิสาณมตฺโตปิ วมฺมิโก นิมิตฺตุปโค, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ. อุทกํ ยํ อสนฺทมานํ อาวาฏโปกฺขรณิตฬากชาตสฺสรโลณิสมุทฺทาทีสุ ิตํ, ตํ อาทึ กตฺวา อนฺตมโส ตงฺขณํเยว ปถวิยํ ขเต อาวาเฏ ฆเฏหิ อาหริตฺวา ปูริตมฺปิ ยาว กมฺมวาจาปริโยสานา สณฺหนกํ นิมิตฺตุปคํ, อิตรํ สนฺทมานกํ, วุตฺตปริจฺเฉทกาลํ อติฏฺนฺตํ, ภาชนคตํ วา น วฏฺฏติ. ยา อพทฺธสีมาลกฺขเณ นที วุตฺตา, สา นิมิตฺตุปคา, อฺา น วฏฺฏตีติ.

๒๕๖๔. เตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ตีณีติ นิทฺธาริตพฺพทสฺสนํ, อิมินา เอกํ วา ทฺเว วา นิมิตฺตานิ น วฏฺฏนฺตีติ ทสฺเสติ. ยถาห – ‘‘สา เอวํ สมฺมนฺนิตฺวา พชฺฌมานา เอเกน, ทฺวีหิ วา นิมิตฺเตหิ อพทฺธา โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘). สเตนาปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท สมฺภาวนายํ ทฏฺพฺโพ, เตน วีสติยา, ตึสาย วา นิมิตฺเตหิ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทีเปติ.

๒๕๖๕. ติโยชนํ ปรํ อุกฺกฏฺโ ปริจฺเฉโท เอติสฺสาติ ติโยชนปรา. ‘‘วีสตี’’ติอาทีนํ สงฺขฺยาเน, สงฺขฺเยยฺเย จ วตฺตนโต อิธ สงฺขฺยาเน วตฺตมานํ วีสติ-สทฺทํ คเหตฺวา เอกวีสติ ภิกฺขูนนฺติ ภินฺนาธิกรณนิทฺเทโส กโตติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘เอกวีสติ’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน นิคฺคหีตโลโป, วีสติวคฺคกรณียปรมตฺตา สงฺฆกมฺมสฺส กมฺมารเหน สทฺธึ ภิกฺขูนํ เอกวีสตึ คณฺหนฺตีติ อตฺโถ, อิทฺจ นิสินฺนานํ วเสน วุตฺตํ. เหฏฺิมนฺตโต หิ ยตฺถ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ สกฺโกนฺติ, ตตฺตเก ปเทเส สีมํ พนฺธิตุํ วฏฺฏตีติ.

๒๕๖๖. ยา อุกฺกฏฺายปิ ยา จ เหฏฺิมายปิ เกสคฺคมตฺตโตปิ อธิกา วา อูนา วา, เอตา ทฺเวปิ สีมาโย ‘‘อสีมา’’ติ อาทิจฺจพนฺธุนา วุตฺตาติ โยชนา.

๒๕๖๗. สมนฺตโต สพฺพเมว นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวาติ ปุพฺพทิสานุทิสาทีสุ ปริโต สพฺพทิสาสุ ยถาลทฺธํ นิมิตฺโตปคํ สพฺพนิมิตฺตํ ‘‘วินยธเรน ปุจฺฉิตพฺพํ ‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’นฺติ? ‘ปพฺพโต, ภนฺเต’ติ. ปุน วินยธเรน ‘เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติอาทินา (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆเฏตฺวา กิตฺเตตฺวา. ตฺติ ทุติยา ยสฺสาติ วิคฺคโห, ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, ยาวตา สมนฺตา นิมิตฺตา กิตฺติตา’’ติอาทินา (มหาว. ๑๓๙) ปทภาชเน วุตฺเตน ตฺติทุติเยน กมฺเมนาติ อตฺโถ. อรหติ ปโหติ วินยธโรติ อธิปฺปาโย.

๒๕๖๘. พนฺธิตฺวาติ ยถาวุตฺตลกฺขณนเยน สมานสํวาสสีมํ ปมํ พนฺธิตฺวา. อนนฺตรนฺติ กิจฺจนฺตเรน พฺยวหิตํ อกตฺวา, กาลกฺเขปํ อกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ, สีมํ สมูหนิตุกามานํ ปจฺจตฺติกานํ โอกาสํ อทตฺวาติ อธิปฺปาโย. ปจฺฉาติ สมานสํวาสสมฺมุติโต ปจฺฉา. จีวราวิปฺปวาสกํ สมฺมนฺนิตฺวาน ยา พทฺธา, สา ‘‘อวิปฺปวาสา’’ติ วุจฺจตีติ โยชนา.

ตตฺถ จีวราวิปฺปวาสกํ สมฺมนฺนิตฺวาน ยา พทฺธาติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกุโปสถา…เป… เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๔๔) วุตฺตนเยน จีวเรน อวิปฺปวาสํ สมฺมนฺนิตฺวา ยา พทฺธา. สา อวิปฺปวาสาติ วุจฺจตีติ ตตฺถ วสนฺตานํ ภิกฺขูนํ จีวเรน วิปฺปวาสนิมิตฺตาปตฺติยา อภาวโต ตถา วุจฺจติ, ‘‘อวิปฺปวาสสีมา’’ติ วุจฺจตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๕๖๙. ‘‘ยา กาจิ นทิลกฺขณปฺปตฺตา นที นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ‘เอตํ พทฺธสีมํ กโรมา’ติ กตาปิ อสีมาว โหตี’’ติอาทิกํ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗) อฏฺกถานยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นที…เป… น โวตฺถรตี’’ติ, น ปตฺถรติ สีมาภาเวน พฺยาปินี น โหตีติ อตฺโถ. เตเนวาติ เยน น โวตฺถรติ, เตเนว การเณน. อพฺรวีติ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๗) อโวจ.

สีมากถาวณฺณนา.

๒๕๗๐. อฏฺมิยาปิ อุโปสถโวหารตฺตา ทินวเสน อุโปสถานํ อติเรกตฺเตปิ อิธ อธิปฺเปเตเยว อุโปสเถ คเหตฺวา อาห ‘‘นเววา’’ติ.

๒๕๗๑-๓. เต สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘จาตุทฺทโส…เป… กมฺเมนุโปสถา’’ติ. จตุทฺทสนฺนํ ปูรโณ จาตุทฺทโส. ปนฺนรสนฺนํ ปูรโณ ปนฺนรโส. ยทา ปน โกสมฺพกฺขนฺธเก (มหาว. ๔๕๑ อาทโย) อาคตนเยน ภินฺเน สงฺเฆ โอสาริเต ตสฺมึ ภิกฺขุสฺมึ สงฺโฆ ตสฺส วตฺถุสฺส วูปสมาย สงฺฆสามคฺคึ กโรติ, ตทา ‘‘ตาวเทว อุโปสโถ กาตพฺโพ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๔๗๕) วจนโต เปตฺวา จาตุทฺทสปนฺนรเส อฺโปิ โย โกจิ ทิวโส สามคฺคี อุโปสโถติ. เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. จาตุทฺทโส, ปนฺนรโส, สามคฺคี จ อุโปสโถติ เอเต ตโยปิ อุโปสถา ทิวเสเนว นิทฺทิฏฺา ทิวเสเนว วุตฺตาติ โยชนา.

สงฺเฆอุโปสโถติ สงฺเฆน กาตพฺพอุโปสโถ. คเณปุคฺคลุโปสโถติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สาธฺยสาธนลกฺขณสฺส สมฺพนฺธสฺส ลพฺภมานตฺตา ‘‘สงฺเฆ’’ติอาทีสุ สามิวจนปฺปสงฺเค ภุมฺมนิทฺเทโส. อุโปสโถ สาธฺโย กมฺมภาวโต, สงฺฆคณปุคฺคลา สาธนํ การกภาวโต.

สุตฺตสฺส อุทฺเทโส สุตฺตุทฺเทโส, สุตฺตุทฺเทโสติ อภิธานํ นามํ ยสฺส โส สุตฺตุทฺเทสาภิธาโน. กมฺเมนาติ กิจฺจวเสน.

๒๕๗๔. ‘‘อธิฏฺาน’’นฺติ วาจฺจลิงฺคมเปกฺขิตฺวา ‘‘นิทฺทิฏฺ’’นฺติ นปุํสกนิทฺเทโส. วาจฺจลิงฺคา หิ ตพฺพาทโยติ ปาติโมกฺโข นิทฺทิฏฺโ, ปาริสุทฺธิ นิทฺทิฏฺาติ ปุมิตฺถิลิงฺเคน โยเชตพฺพา.

๒๕๗๕. วุตฺตาติ ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ปาติโมกฺขุทฺเทสา, นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ปโม ปาติโมกฺขุทฺเทโส’’ติอาทินา (มหาว. ๑๕๐) เทสิตา, สยฺจ เตสฺจ อุทฺเทเส สงฺเขปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘นิทาน’’นฺติอาทิ. สาเวตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘สุเตนา’’ติ เสโส. เสสกนฺติ อนุทฺทิฏฺฏฺานํ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ…เป… อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตีติ อิมํ นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา ‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ, ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามิ กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา, ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ…เป… เอวเมตํ ธารยามี’ติ วตฺวา ‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ. สุตา โข ปนายสฺมนฺเตหิ จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา…เป… อวิวทมาเนหิ สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๐) –

อฏฺกถาย วุตฺตนเยน อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ.

๒๕๗๖. เสเสสุปีติ อุทฺทิฏฺาเปกฺขาย เสเสสุ ปาราชิกุทฺเทสาทีสุปิ. ‘‘อยเมว นโย เยฺโย’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ ‘‘วิตฺถาเรเนว ปฺจโม’’ติ วจนโต วิตฺถารุทฺเทเส ‘‘สาเวตพฺพํ ตุ เสสก’’นฺติ อยํ นโย น ลพฺภติ. ‘‘สาเวตพฺพํ ตุ เสสก’’นฺติ วจนโต ปาราชิกุทฺเทสาทีสุ ยสฺมึ วิปฺปกเต อนฺตราโย อุปฺปชฺชติ, เตน สทฺธึ อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ. นิทานุทฺเทเส ปน อนุทฺทิฏฺเ สุเตน สาเวตพฺพํ นาม นตฺถิ. ภิกฺขุนิปาติโมกฺเข อนิยตุทฺเทสสฺส ปริหีนตฺตา ‘‘ภิกฺขุนีนฺจ จตฺตาโร’’ติ วุตฺตํ. อุทฺเทสา นวิเม ปนาติ ภิกฺขูนํ ปฺจ, ภิกฺขุนีนํ จตฺตาโรติ อุภโตปาติโมกฺเข อิเม นว อุทฺเทสา วุตฺตาติ อตฺโถ.

๒๕๗๗. อุโปสเถติ สงฺฆุโปสเถ. อนฺตรายนฺติ ราชนฺตรายาทิกํ ทสวิธํ อนฺตรายํ. ยถาห – ‘‘ราชนฺตราโย โจรนฺตราโย อคฺยนฺตราโย อุทกนฺตราโย มนุสฺสนฺตราโย อมนุสฺสนฺตราโย วาฬนฺตราโย สรีสปนฺตราโย ชีวิตนฺตราโย พฺรหฺมจริยนฺตราโย’’ติ (มหาว. ๑๕๐).

ตตฺถ สเจ ภิกฺขูสุ ‘‘อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๐) นิสินฺเนสุ ราชา อาคจฺฉติ, อยํ ราชนฺตราโย. โจรา อาคจฺฉนฺติ, อยํ โจรนฺตราโย. ทวทาโห อาคจฺฉติ วา, อาวาเส วา อคฺคิ อุฏฺหติ, อยํ อคฺยนฺตราโย. เมโฆ วา อุฏฺเติ, โอโฆ วา อาคจฺฉติ, อยํ อุทกนฺตราโย. พหู มนุสฺสา อาคจฺฉนฺติ, อยํ มนุสฺสนฺตราโย. ภิกฺขุํ ยกฺโข คณฺหาติ, อยํ อมนุสฺสนฺตราโย. พฺยคฺฆาทโย จณฺฑมิคา อาคจฺฉนฺติ, อยํ วาฬนฺตราโย. ภิกฺขุํ สปฺปาทโย ฑํสนฺติ, อยํ สรีสปนฺตราโย. ภิกฺขุ คิลาโน วา โหติ, กาลํ วา กโรติ, เวริโน วา ตํ มาเรตุํ คณฺหนฺติ, อยํ ชีวิตนฺตราโย. มนุสฺสา เอกํ วา พหุํ วา ภิกฺขู พฺรหฺมจริยา จาเวตุกามา คณฺหนฺติ, อยํ พฺรหฺมจริยนฺตราโย.

‘‘เจวา’’ติ อิมินา อนฺตราเยว อนฺตรายสฺินา วิตฺถารุทฺเทเส อกเตปิ อนาปตฺตีติ ทีเปติ. อนุทฺเทโสติ วิตฺถาเรน อนุทฺเทโส. นิวาริโตติ ‘‘น, ภิกฺขเว, อสติ อนฺตราเย สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๕๐) ปฏิสิทฺโธ. อิมินา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สติ อนฺตราเย สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๕๐) อิทมฺปิ วิภาวิตํ โหติ.

๒๕๗๘. ตสฺสาติ ปาติโมกฺขสฺส. อิสฺสรณสฺส เหตุมาห ‘‘‘เถราเธยฺย’นฺติ ปาโต’’ติ. เถราเธยฺยนฺติ เถราธีนํ, เถรายตฺตนฺติ อตฺโถ. ปาโตติ ปาฬิวจนโต. ‘‘โย ตตฺถ ภิกฺขุ พฺยตฺโต ปฏิพโล, ตสฺสาเธยฺยํ ปาติโมกฺข’’นฺติ (มหาว. ๑๕๕) วจนโต อาห ‘‘อวตฺตนฺเตนา’’ติอาทิ. อวตฺตนฺเตนาติ อนฺตมโส ทฺเวปิ อุทฺเทเส อุทฺทิสิตุํ อสกฺโกนฺเตน. เถเรน โย อชฺฌิฏฺโ, เอวมชฺฌิฏฺสฺส ยสฺส ปน เถรสฺส, นวสฺส, มชฺฌิมสฺส วา โส ปาติโมกฺโข วตฺตติ ปคุโณ โหติ, โส อิสฺสโรติ สมฺพนฺโธ.

อชฺฌิฏฺโติ ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสา’’ติ อาณตฺโต, อิมินา อนาณตฺตสฺส อุทฺทิสิตุํ สามตฺถิยา สติปิ อนิสฺสรภาโว ทีปิโต โหติ. ยถาห – ‘‘สเจ เถรสฺส ปฺจ วา จตฺตาโร วา ตโย วา ปาติโมกฺขุทฺเทสา นาคจฺฉนฺติ, ทฺเว ปน อขณฺฑา สุวิสทา วาจุคฺคตา โหนฺติ, เถรายตฺโตว ปาติโมกฺโข. สเจ ปน เอตฺตกมฺปิ วิสทํ กาตุํ น สกฺโกติ, พฺยตฺตสฺส ภิกฺขุโน อายตฺโต โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๕).

๒๕๗๙. อุทฺทิสนฺเตติ ปาติโมกฺขุทฺเทสเก ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺเต. สมา วาติ อาวาสิเกหิ คณเนน สมา วา. อปฺปา วาติ อูนา วา. อาคจฺฉนฺติ สเจ ปนาติ สเจ ปน อาคนฺตุกา ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ. เสสกนฺติ อนุทฺทิฏฺฏฺานํ.

๒๕๘๐. อุทฺทิฏฺมตฺเตติ อุทฺทิฏฺกฺขเณเยว กถารมฺภโต ปุพฺพเมว. ‘‘วา’’ติ อิทํ เอตฺถาปิ โยเชตพฺพํ, อิมินา อวุตฺตํ ‘‘อวุฏฺิตาย วา’’ติ อิมํ วิกปฺปํ สมฺปิณฺเฑติ. อวุฏฺิตาย ปริสายาติ จ ภิกฺขุปริสาย อฺมฺํ สุขกถาย นิสินฺนายเยวาติ อตฺโถ. ปริสายาติ เอตฺถ ‘‘เอกจฺจายา’’ติ จ ‘‘สพฺพายา’’ติ จ เสโส. ภิกฺขูนํ เอกจฺจาย ปริสาย วุฏฺิตาย วา สพฺพาย ปริสาย วุฏฺิตาย วาติ โยชนา. เตสนฺติ วุตฺตปฺปการานํ อาวาสิกานํ. มูเลติ สนฺติเก. ปาริสุทฺธิ กาตพฺพาติ โยชนา. ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว…เป… อาคจฺฉนฺติ พหุตรา, เตหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ปุน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ พหู’’ติ. เอตฺถ ‘‘ปุน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ เสโส. สพฺพวิกปฺเปสุ ปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา ปุน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ อตฺโถ. อยํ ปเนตฺถ เสสวินิจฺฉโย –

‘‘ปนฺนรโสวาสิกานํ, อิตรานํ สเจตโร;

สมาเนตเรนุวตฺตนฺตุ, ปุริมานํ สเจธิกา;

ปุริมา อนุวตฺตนฺตุ, เตสํ เสเสปฺยยํ นโย.

‘‘ปาฏิปโทวาสิกานํ,

อิตรานํ อุโปสโถ;

สมโถกานํ สามคฺคึ,

มูลฏฺา เทนฺตุ กามโต.

พหิ คนฺตฺวาน กาตพฺโพ,

โน เจ เทนฺติ อุโปสโถ;

เทยฺยานิจฺฉาย สามคฺคี,

พหูสุ พหิ วา วเช.

‘‘ปาฏิปเทคนฺตุกานํ, เอวเมว อยํ นโย;

สาเวยฺย สุตฺตํ สฺจิจฺจ, อสฺสาเวนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ.

๒๕๘๑. วินิทฺทิฏฺสฺสาติ อาณตฺตสฺส, อิมินา อิตเรสํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ. อิธ ‘‘อคิลานสฺสา’’ติ เสโส. เถเรน อาณาเปนฺเตน ‘‘กิฺจิ กมฺมํ กโรนฺโต วา สทากาลเมว เอโก วา ภารนิตฺถรณโก วา สรภาณกธมฺมกถิกาทีสุ อฺตโร วา น อุโปสถาคารสมฺมชฺชนตฺถํ อาณาเปตพฺโพ, อวเสสา ปน วาเรน อาณาเปตพฺพา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๙) อฏฺกถาย วุตฺตวิธินา อาณาเปตพฺโพ. สเจ อาณตฺโต สมฺมชฺชนึ ตาวกาลิกมฺปิ น ลภติ, สาขาภงฺคํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ.

อาสนปฺาปนาณตฺติยมฺปิ วุตฺตนเยเนว อาณาเปตพฺโพ. อาณาเปนฺเตน จ สเจ อุโปสถาคาเร อาสนานิ นตฺถิ, สงฺฆิกาวาสโตปิ อาหริตฺวา ปฺเปตฺวา ปุน อาหริตพฺพานิ. อาสเนสุ อสติ กฏสารเกปิ ตฏฺฏิกาโยปิ ปฺเปตุํ วฏฺฏติ, ตฏฺฏิกาสุปิ อสติ สาขาภงฺคานิ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฺเปตพฺพานิ, กปฺปิยการกํ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ.

ปทีปกรเณปิ วุตฺตนเยเนว อาณาเปตพฺโพ. อาณาเปนฺเตน จ ‘‘อสุกสฺมึ นาม โอกาเส เตลํ วา วฏฺฏิ วา กปลฺลิกา วา อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ เตลาทีนิ นตฺถิ, ภิกฺขาจาเรนปิ ปริเยสิตพฺพานิ. ปริเยสิตฺวา อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ. อปิจ กปาเล อคฺคิปิ ชาเลตพฺโพ.

๒๕๘๒. ทีปนฺติ เอตฺถ ‘‘ชาเลตฺวา’’ติ เสโส. อถ วา ‘‘กตฺวา’’ติ อิมินา จ โยเชตพฺพํ. คณตฺตึ เปตฺวาติ ‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺตา, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อฺมฺํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยามา’’ติ เอวํ คณตฺตึ นิกฺขิปิตฺวา. กตฺตพฺโพ ตีหุโปสโถติ ตีหิ ภิกฺขูหิ อุโปสโถ กาตพฺโพ. ตีสุ เถเรน เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ทฺเว เอวํ ติกฺขตฺตุเมว วตฺตพฺโพ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส, ‘ปริสุทฺโธ’ติ มํ ธาเรถา’’ติ (มหาว. ๑๖๘). ทุติเยน, ตติเยน จ ยถากฺกมํ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, ภนฺเต, ‘ปริสุทฺโธ’ติ มํ ธาเรถา’’ติ ติกฺขตฺตุเมว วตฺตพฺพํ.

๒๕๘๓. ปุพฺพกิจฺจาทีนิ กตฺวา ตฺตึ อฏฺเปตฺวา เถเรน นโว เอวํ ติกฺขตฺตุเมว วตฺตพฺโพ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส, ‘ปริสุทฺโธ’ติ มํ ธาเรหี’’ติ (มหาว. ๑๖๘), นเวน เถโรปิ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, ภนฺเต, ‘ปริสุทฺโธ’ติ มํ ธาเรถา’’ติ (มหาว. ๑๖๘) ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺโพ. อิมสฺมึ ปน วาเร ตฺติยา อฏฺปนฺจ ‘‘ธาเรหี’’ติ เอกวจนนิทฺเทโส จาติ เอตฺตโกว วิเสโสติ ตํ อนาทิยิตฺวา ปุคฺคเลน กาตพฺพํ อุโปสถวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุพฺพกิจฺจํ สมาเปตฺวา, อธิฏฺเยฺย ปเนกโก’’ติ. อธิฏฺเยฺยาติ ‘‘อชฺช เม อุโปสโถ, ปนฺนรโส’ติ วา ‘จาตุทฺทโส’ติ วา อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺเยฺย. อสฺสาติ อวสาเน วุตฺตปุคฺคลํ สนฺธาย เอกวจนนิทฺเทโส. ยถาวุตฺโต สงฺโฆปิ ตโยปิ ทฺเวปิ อตฺตโน อตฺตโน อนุฺาตํ อุโปสถํ อนฺตรายํ วินา สเจ น กโรนฺติ, เอวเมว อาปตฺติมาปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺโพ.

๒๕๘๔-๕. อิทานิ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อุโปสถกมฺมานิ, อธมฺเมน วคฺคํ อุโปสถกมฺม’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๔๙) นเยน วุตฺตํ กมฺมจตุกฺกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธมฺเมน จ วคฺเคนา’’ติอาทิ. อธมฺเมน วคฺเคน กมฺมํ, อธมฺมโต สมคฺเคน กมฺมํ, ธมฺเมน วคฺเคน กมฺมํ, ธมฺมโต สมคฺเคน กมฺมนฺติ เอตานิ จตฺตาริ อุโปสถสฺส กมฺมานีติ ชิโน อพฺรวีติ โยชนา. จตูสฺวปิ ปเนเตสูติ เอเตสุ จตูสุ กมฺเมสุ ปน. จตุตฺถนฺติ ‘‘สมคฺเคน จ ธมฺมโต’’ติ วุตฺตํ จตุตฺถํ อุโปสถกมฺมํ ‘‘ธมฺมกมฺม’’นฺติ อธิปฺเปตํ.

๒๕๘๖-๗. ตานิ กมฺมานิ วิภาเวตุมาห ‘‘อธมฺเมนิธา’’ติอาทิ. อิธ อิมสฺมึ สาสเน เอตฺถ เอเตสุ จตูสุ อุโปสเถสุ. อธมฺเมน วคฺโค อุโปสโถ กตโมติ กเถตุกามตาปุจฺฉา. ยตฺถ ยสฺสํ เอกสีมายํ ภิกฺขุโน จตฺตาโร วสนฺตีติ โยชนา.

ตตฺร เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อานยิตฺวา เต ตโย ชนา ปาริสุทฺธึ อุโปสถํ กโรนฺติ เจ, เอวํ กโต อุโปสโถ อธมฺโม วคฺคุโปสโถ นามาติ โยชนา, เอกสีมฏฺเหิ จตูหิ สงฺฆุโปสเถ กาตพฺเพ คณุโปสถสฺส กตตฺตา อธมฺโม จ สงฺฆมชฺฌํ วินา คณมชฺฌํ ปาริสุทฺธิยา อคมนโต ตสฺส หตฺถปาสํ อนุปคมเนน วคฺโค จ โหตีติ อตฺโถ.

๒๕๘๘. อธมฺเมน สมคฺโคติ เอตฺถ ‘‘อุโปสโถ กตโม’’ติ อนุวตฺเตตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขุโน เอกโต’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘โหติ อธมฺมิโก’’ติ ปทจฺเฉโท. จตูหิ สมคฺเคหิ สงฺฆุโปสเถ กาตพฺเพ คณุโปสถกรณํ อธมฺโม, หตฺถปาสุปคมนโต สมคฺโค โหติ.

๒๕๘๙-๙๐. โย อุโปสโถ ธมฺเมน วคฺโค โหติ, โส กตโมติ โยชนา. ยตฺถ ยสฺสํ เอกสีมายํ จตฺตาโร ภิกฺขุโน วสนฺติ, ตตฺร เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อานยิตฺวา เต ตโย ชนา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺเต เจ, ธมฺเมน วคฺโค อุโปสโถ โหตีติ โยชนา. เอกสีมฏฺเหิ จตูหิ สงฺฆุโปสถสฺส กตตฺตา ธมฺโม, เอกสฺส หตฺถปาสํ อนุปคมเนน วคฺโค จ โหตีติ อตฺโถ.

๒๕๙๑. โย ธมฺมโต สมคฺโค, โส กตโมติ โยชนา. อิธ อิมสฺมึ สาสเน จตฺตาโร ภิกฺขุโน เอกโต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ เจ, อยํ ธมฺมโต สมคฺโค อุโปสโถติ มโต อธิปฺเปโตติ โยชนา. จตูหิ สงฺฆุโปสถสฺส กตตฺตา ธมฺโม, เอกสฺสาปิ หตฺถปาสํ อวิชหเนน สมคฺโคติ อธิปฺปาโย.

๒๕๙๒. วคฺเค สงฺเฆ วคฺโคติ สฺิโน, สมคฺเค จ สงฺเฆ วคฺโคติ สฺิโน อุภยตฺถ วิมติสฺส วา อุโปสถํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ อาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๕๙๓. เภทาธิปฺปายโตติ ‘‘นสฺสนฺเตเต, วินสฺสนฺเตเต, โก เตหิ อตฺโถ’’ติ เอวํ เภทปุเรกฺขารตาย ‘‘อุโปสถํ กโรนฺตสฺสา’’ติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. ตสฺส ภิกฺขุโน ถุลฺลจฺจยํ โหติ อกุสลพลวตาย จ ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ. ยถาห – ‘‘เภทปุเรกฺขารปนฺนรสเก อกุสลพลวตาย ถุลฺลจฺจยํ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๑๗๖). วคฺเค วา สมคฺเค วา สงฺเฆ สมคฺโค อิติ สฺิโน อุโปสถํ กโรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. อวเสโส ปเนตฺถ วตฺตพฺพวินิจฺฉโย ปวารณวินิจฺฉยาวสาเน ‘‘ปาริสุทฺธิปฺปทาเนนา’’ติอาทีหิ (วิ. วิ. ๒๖๔๒) เอกโต วตฺตุมิจฺฉนฺเตน น วุตฺโต.

๒๕๙๔-๕. ‘‘อุกฺขิตฺเตนา’’ติอาทิกานิ กรณวจนนฺตานิ ปทานิ ‘‘สหา’’ติ อิมินา สทฺธึ ‘‘อุโปสโถ น กาตพฺโพ’’ติ ปเทน ปจฺเจกํ โยเชตพฺพานิ. อุกฺขิตฺเตนาติ อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิตฺตโก, อาปตฺติยา อปฺปฏิกมฺเม อุกฺขิตฺตโก, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺขิตฺตโกติ ติวิเธน อุกฺขิตฺเตน. เอเตสุ หิ ติวิเธ อุกฺขิตฺตเก สติ อุโปสถํ กโรนฺโต สงฺโฆ ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ.

‘‘คหฏฺเนา’’ติ อิมินา ติตฺถิโยปิ สงฺคหิโต. เสเสหิ สหธมฺมิหีติ ภิกฺขุนี, สิกฺขมานา, สามเณโร, สามเณรีติ จตูหิ สหธมฺมิเกหิ. จุตนิกฺขิตฺตสิกฺเขหีติ เอตฺถ จุโต จ นิกฺขิตฺตสิกฺโข จาติ วิคฺคโห. จุโต นาม อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนโก. นิกฺขิตฺตสิกฺโข นาม สิกฺขาปจฺจกฺขาตโก.

เอกาทสหีติ ปณฺฑโก, เถยฺยสํวาสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, ติรจฺฉานคโต, มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, ภิกฺขุนิทูสโก, สงฺฆเภทโก, โลหิตุปฺปาทโก, อุภโตพฺยฺชนโกติ อิเมหิ เอกาทสหิ อภพฺเพหิ.

สภาคาปตฺติเกน วา สห อุโปสโถ น กาตพฺโพ, ปาริวุตฺเถน ฉนฺเทน อุโปสโถ น กาตพฺโพ, กโรโต ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. เอวํ อุกฺขิตฺตวชฺชิเตสุ สพฺพวิกปฺเปสุ ทุกฺกฏเมว เวทิตพฺพํ. ‘‘ยํ ทฺเวปิ ชนา วิกาลโภชนาทินา สภาควตฺถุนา อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, เอวรูปา วตฺถุสภาคา ‘สภาคา’ติ วุจฺจตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๖๙) วจนโต ‘‘สภาคาปตฺตี’’ติ วตฺถุสภาคาปตฺติเยว คเหตพฺพา.

อุโปสถทิวเส สพฺโพว สงฺโฆ สเจ สภาคาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ,

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, อฺตรสฺมึ อาวาเส ตทหุโปสเถ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคํ อาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ, เตหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ เอโก ภิกฺขุ สามนฺตา อาวาสา สชฺชุกํ ปาเหตพฺโพ ‘คจฺฉาวุโส, ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริตฺวา อาคจฺฉ, มยํ เต สนฺติเก ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามา’ติ. เอวฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ – ‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ยทา อฺํ ภิกฺขุํ สุทฺธํ อนาปตฺติกํ ปสฺสิสฺสติ, ตทา ตสฺส สนฺติเก ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสตี’’ติ (มหาว. ๑๗๑) จ,

เวมติโก เจ โหติ,

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสติ, ตทา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสตี’’ติ (มหาว. ๑๗๑) จ,

วุตฺตนเยน อุโปสโถ กาตพฺโพ.

เอตฺถ จ สชฺฌุกนฺติ ตทเหวาคมนตฺถาย. คณุโปสถาทีสุปิ เอเสว นโย. วุตฺตฺหิ อฏฺกถาคณฺิปเท ‘‘ยถา สงฺโฆ สภาคํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา สุทฺธํ อลภิตฺวา ‘ยทา สุทฺธํ ปสฺสิสฺสติ, ตทา ตสฺส สนฺติเก ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสตี’ติ วตฺวา อุโปสถํ กาตุํ ลภติ, เอวํ ทฺวีหิปิ อฺมฺํ อาโรเจตฺวา อุโปสถํ กาตุํ วฏฺฏติ. เอเกนาปิ ‘ปริสุทฺธํ ลภิตฺวา ปฏิกริสฺสามี’ติ อาโภคํ กตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ กิรา’’ติ. กิราติ เจตฺถ อนุสฺสวตฺเถ ทฏฺพฺโพ, น ปนารุจิยํ.

ปาริวุตฺเถน ฉนฺเทนาติ ฉนฺทํ อาหริตฺวา กมฺมํ กาตุํ นิสินฺเนนปิ ‘‘อสุภลกฺขณตาทินา เกนจิ การเณน น กริสฺสามี’’ติ วิสฺสฏฺเ ฉนฺเท สเจ ปุน กริสฺสติ, ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา กาตพฺพํ. ยถาห – ‘‘เอตสฺมึ ปาริวาสิเย ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อนาเนตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๖๗).

๒๕๙๖. อเทเสตฺวา ปนาปตฺตินฺติ อาปนฺนํ อาปตฺตึ อเทเสตฺวา. นาวิกตฺวาน เวมตินฺติ ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสามิ, ตทา ตา อาปตฺติโย ปฏิกริสฺสามี’’ติ วิมตึ อนาโรเจตฺวา. ‘‘ยทา นิพฺเพมติโกติ เอตฺถ สเจ ปเนส นิพฺเพมติโก น โหติ, วตฺถุํ กิตฺเตตฺวาว เทเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๖๙) อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ เทสนาวิธิ – สเจ เมฆจฺฉนฺเน สูริเย ‘‘กาโล นุ โข, วิกาโล’’ติ เวมติโก ภุฺชติ, เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ, ภนฺเต, เวมติโก ภุฺชึ, สเจ กาโล อตฺถิ, สมฺพหุลา ทุกฺกฏา อาปตฺติโย อาปนฺโนมฺหิ. โน เจ อตฺถิ, สมฺพหุลา ปาจิตฺติยาปตฺติโย อาปนฺโนมฺหี’’ติ เอวํ วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ยา ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ สมฺพหุลา ทุกฺกฏา วา ปาจิตฺติยา วา อาปตฺติโย อาปนฺโน, ตา ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เอเสว นโย สพฺพาปตฺตีสูติ.

คณฺิปเทสุ ปเนวํ วินิจฺฉโย วุตฺโต – ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสามิ, ตทา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามี’ติ วตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ, ปาติโมกฺขํ โสตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๑๗๐) วจนโต ยาว นิพฺเพมติโก น โหติ, ตาว สภาคาปตฺตึ ปฏิคฺคเหตุํ น ลภติ. อฺเสฺจ กมฺมานํ ปริสุทฺโธ นาม โหติ. ‘‘ปุน นิพฺเพมติโก หุตฺวา เทเสตพฺพเมวา’’ติ (กงฺขา. อภิ. ฏี. นิทานวณฺณนา) เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถายํ อตฺถิ, เทสิเต ปน น โทโส. ‘‘อิโต วุฏฺหิตฺวา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามี’’ติ (มหาว. ๑๗๐) เอตฺถาปิ เอเสว นโยติ.

๒๕๙๗. อุโปสเถติ ทินการกกตฺตพฺพาการวเสน ปนฺนรสี, สงฺฆุโปสโถ, สุตฺตุทฺเทโสติ อิเมหิ ตีหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคเต อุโปสเถ. สภิกฺขุมฺหา จ อาวาสาติ ‘‘ยสฺมึ อุโปสเถ กิจฺจ’’นฺติอาทินา วกฺขมานปฺปการา สภิกฺขุกา อาวาสา. อิธ ‘‘อนาวาสา’’ติ เสโส. อาวาโส วา อนาวาโส วาติ เอตฺถ ‘‘อภิกฺขุโก วา นานาสํวาสเกหิ สภิกฺขุโก วา’’ติ จ น คนฺตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘อฺตฺร สงฺเฆน อฺตฺร อนฺตรายา’’ติ จ เสโส. ‘‘อนาวาโส’’ติ อุโทสิตาทโย วุตฺตา. ภิกฺขุนา อุโปสเถ สภิกฺขุมฺหา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก วา นานาสํวาสเกหิ สภิกฺขุโก วา อาวาโส วา อนาวาโส วา อฺตฺร สงฺเฆน อฺตฺร อนฺตรายา กุทาจนํ กทาจิปิ น คนฺตพฺโพติ โยชนา.

๒๕๙๘. ยสฺมึ อาวาเส ปน อุโปสเถ กิจฺจํ สเจ วตฺตติ, โส อาวาโส ‘‘สภิกฺขุโก นามา’’ติ ปกาสิโตติ โยชนา, อิมินา สเจ ยตฺถ อุโปสโถ น วตฺตติ, โส สนฺเตสุปิ ภิกฺขูสุ อภิกฺขุโก นามาติ ทีเปติ.

๒๕๙๙. อุโปสถสฺส ปโยชนํ, ตปฺปสงฺเคน ปวารณาย จ นิทฺธาเรตุกามตายาห ‘‘อุโปสโถ กิมตฺถายา’’ติอาทิ.

๒๖๐๐. ปฏิกฺโกเสยฺยาติ นิวาเรยฺย. อเทนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ ‘‘โกเปตุํ ธมฺมิกํ กมฺม’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ.

๒๖๐๑. โส จาติ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) จตุวคฺคาทิปฺปเภเทน ปฺจวิโธ โส สงฺโฆ จ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน กตฺตพฺพกมฺมานํ วเสน ปริทีปิโต, น ฉพฺพคฺคาทีนํ กาตุํ อยุตฺตตาทสฺสนวเสน.

๒๖๐๒. จตุวคฺคาทิเภทนิพนฺธนํ กมฺมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปวารณ’’นฺติอาทิ. ปวารณฺจ ตถา อพฺภานฺจ อุปสมฺปทฺจ เปตฺวา จตุวคฺเคน อกตฺตพฺพํ กมฺมํ น วิชฺชตีติ โยชนา.

๒๖๐๓. มชฺฌเทเส อุปสมฺปทา มชฺฌเทสูปสมฺปทา, ตํ. อพฺภานํ, มชฺฌเทสูปสมฺปทฺจ วินา ปฺจวคฺเคน สพฺพํ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๖๐๔. กิฺจิปิ กมฺมํ น น กตฺตพฺพนฺติ โยชนา, สพฺพมฺปิ กมฺมํ กตฺตพฺพเมวาติ อตฺโถ. ทฺเว ปฏิเสธา ปกตตฺถํ คมยนฺตีติ. วีสติวคฺเคน สงฺเฆน สพฺเพสมฺปิ กมฺมานํ กตฺตพฺพภาเว กิมตฺถํ อติเรกวีสติวคฺคสฺส คหณนฺติ อาห ‘‘อูเน โทโสติ าเปตุํ, นาธิเก อติเรกตา’’ติ. ยถาวุตฺเต จตุพฺพิเธ สงฺเฆ คณนโต อูเน โทโส โหติ, อธิเก โทโส น โหตีติ าเปตุํ อติเรกตา ทสฺสิตา, อติเรกวีสติวคฺคสงฺโฆ ทสฺสิโตติ อธิปฺปาโย.

๒๖๐๕. จตุวคฺเคน กตฺตพฺเพ ปกตตฺตาว จตฺตาโร กมฺมปฺปตฺตาติ ทีปิตาติ โยชนา. เสสา ปกตตฺตา ฉนฺทารหาติ เสโส. ปกตตฺตาติ อนุกฺขิตฺตา เจว อนฺติมวตฺถุํ อนชฺฌาปนฺนา จ คเหตพฺพา. เสเสสุ จาติ ปฺจวคฺคาทีสุปิ.

๒๖๐๖. จตุวคฺคาทิกตฺตพฺพกมฺมํ อสํวาสปุคฺคลํ คณปูรํ กตฺวา กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหติ. น เกวลํ ทุกฺกฏเมว, กตฺจ กมฺมํ กุปฺปตีติ โยชนา.

๒๖๐๗. ปริวาสาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มูลายปฏิกสฺสนาทีนํ คหณํ. ตตฺรฏฺนฺติ ปริวาสาทีสุ ิตํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘กตํ กุปฺปติ ทุกฺกฏ’’นฺติ อิทํ อนุวตฺเตติ. เสสํ ตูติ ปริวาสาทิกมฺมโต อฺํ ปน อุโปสถาทิกมฺมํ. วฏฺฏตีติ เต ปาริวาสิกาทโย คณปูรเก กตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ.

อุโปสถกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๖๐๘. วสฺสูปนายิกา วุตฺตาติ เสโส. ปจฺฉิมา จาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท นิทสฺสเน. วสฺสูปนายิกาติ วสฺสูปคมนา. อาลโย, วจีเภโท วา กาตพฺโพ อุปคจฺฉตาติ อิมินา วสฺสูปคมนปฺปกาโร ทสฺสิโต. อุปคจฺฉตา อาลโย กตฺตพฺโพ, วจีเภโท วา กตฺตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. อุปคจฺฉนฺเตน จ เสนาสเน อสติ ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺตํ วา กาตพฺพํ, เสนาสเน สติ ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ จ ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ จ วจีเภโท วา กาตพฺโพติ อตฺโถ.

๒๖๐๙. ชานํ วสฺสูปคมนํ อนุปคจฺฉโต วาปีติ โยชนา. เตมาสนฺติ เอตฺถ ‘‘ปุริมํ วา ปจฺฉิมํ วา’’ติ เสโส. จรนฺตสฺสาปีติ เอตฺถ ‘‘จาริก’’นฺติ เสโส. ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวาว จาริกํ จรนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เตมาสนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวา จาริกา ปกฺกมิตพฺพา, โย ปกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๘๕).

๒๖๑๐. รุกฺขสฺส สุสิเรติ เอตฺถ ‘‘สุทฺเธ’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘รุกฺขสุสิเรติ เอตฺถ สุทฺเธ รุกฺขสุสิเรเยว น วฏฺฏติ, มหนฺตสฺส ปน รุกฺขสุสิรสฺส อนฺโต ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวา ปวิสนทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘รุกฺขสฺส สุสิเร’’ติ อิมินา รุกฺเขกเทโส วิฏโปปิ สงฺคหิโต, โสปิ สุทฺโธว น วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘รุกฺขวิฏภิยาติ เอตฺถาปิ สุทฺเธ วิฏปมตฺเต น วฏฺฏติ, มหาวิฏเป ปน อฏฺฏกํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๓).

‘‘ฉตฺเตติ เอตฺถาปิ จตูสุ ถมฺเภสุ ฉตฺตํ เปตฺวา อาวรณํ กตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ, ฉตฺตกุฏิกา นาเมสา โหติ. จาฏิยาติ เอตฺถาปิ มหนฺเตน กปลฺเลน ฉตฺเต วุตฺตนเยน กุฏึ กตฺวาว อุปคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถาวจนโต เอวมกตาสุ สุทฺธฉตฺตจาฏีสุ นิวารณํ เวทิตพฺพํ. ฉวกุฏีติ ฏงฺกิตมฺจาทโย วุตฺตา. ยถาห – ‘‘ฉวกุฏิกา นาม ฏงฺกิตมฺจาทิเภทา กุฏิ, ตตฺถ อุปคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๓).

สุสาเน ปน อฺํ กุฏิกํ กตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ฉวสรีรํ ฌาเปตฺวา ฉาริกาย, อฏฺิกานฺจ อตฺถาย กุฏิกา กรียตี’’ติ อนฺธกฏฺกถายํ ฉวกุฏิ วุตฺตา. ‘‘ฏงฺกิตมฺโจติ กสิกุฏิกาปาสาณฆรนฺติ ลิขิต’’นฺติ (วชิร. ฏี. มหาวคฺค ๒๐๓) วชิรพุทฺธิตฺเถโร. จตุนฺนํ ปาสาณานํ อุปริ ปาสาณํ อตฺถริตฺวา กโต เคโหปิ ‘‘ฏงฺกิตมฺโจ’’ติ วุจฺจติ. ทีเฆ มฺจปาเท มชฺเฌ วิชฺฌิตฺวา อฏนิโย ปเวเสตฺวา มฺจํ กโรนฺตีติ ตสฺส อิทํ อุปริ, อิทํ เหฏฺาติ นตฺถิ, ปริวตฺเตตฺวา อตฺถโตปิ ตาทิโสว โหติ, ตํ สุสาเน, เทวฏฺาเน จ เปนฺติ, อยมฺปิ ฏงฺกิตมฺโจ นาม.

๒๖๑๑. ‘‘สติ ปจฺจยเวกลฺเล, สรีราผาสุตาย วา’’ติ อวเสสนฺตรายานํ วกฺขมานตฺตา ‘‘อนฺตราโย’’ติ อิมินา ราชนฺตรายาทิ ทสวิโธ คเหตพฺโพ.

๒๖๑๒-๔. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺตนฺนํ สตฺตาหกรณีเยน อปฺปหิเตปิ คนฺตุํ, ปเคว ปหิเต ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยา มาตุยา จ ปิตุสฺส จา’’ติ (มหาว. ๑๙๘) วุตฺตนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มาตาปิตูน’’นฺติอาทิ.

มาตาปิตูนํ ทสฺสนตฺถํ, ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ ทสฺสนตฺถํ วา เนสํ อตฺเถ สติ วา เนสํ อนฺตเร คิลานํ ทฏฺุํ วา ตทุปฏฺากานํ ภตฺตาทึ ปริเยสนตฺถํ วา เนสํ ภตฺตาทึ ปริเยสนตฺถํ วา ตถา เนสํ ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ อฺตรํ อนภิรตํ อุกฺกณฺิตํ อหํ คนฺตฺวา วูปกาเสสฺสํ วา วูปกาสาเปสฺสามิ วา ธมฺมกถมสฺส กริสฺสามีติ วา ตสฺส ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ อฺตรสฺส อุฏฺิตํ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺึ วิเวเจสฺสามิ วา วิเวจาเปสฺสามิ วา ธมฺมกถมสฺส กริสฺสามีติ วา ตถา อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ วิโนเทสฺสามีติ วา วิโนทาเปสฺสามีติ วา ธมฺมกถมสฺส กริสฺสามีติ วา เอวํ วินยฺุนา ภิกฺขุนา สตฺตาหกิจฺเจน อเปสิเตปิ คนฺตพฺพํ, ปเคว ปหิเตติ โยชนา.

ภตฺตาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน เภสชฺชปริเยสนาทึ สงฺคณฺหาติ. ยถาห – ‘‘คิลานภตฺตํ วา ปริเยสิสฺสามิ, คิลานุปฏฺากภตฺตํ วา ปริเยสิสฺสามิ, คิลานเภสชฺชํ วา ปริเยสิสฺสามิ, ปุจฺฉิสฺสามิ วา อุปฏฺหิสฺสามิ วา’’ติ. วูปกาเสสฺสนฺติ ยตฺถ อนภิรติ อุปฺปนฺนา, ตโต อฺตฺถ คเหตฺวา คมิสฺสามีติ อตฺโถ.

วิโนเทสฺสามหนฺติ วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห, โส เจ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ ปหิเณยฺย ‘อหฺหิ ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน ปริวาสารโห, อาคจฺฉนฺตุ ภิกฺขู, อิจฺฉามิ ภิกฺขูนํ อาคต’นฺติ. คนฺตพฺพํ, ภิกฺขเว, สตฺตาหกรณีเยน อปฺปหิเตปิ, ปเคว ปหิเต ‘ปริวาสทานํ อุสฺสุกฺกํ กริสฺสามิ วา อนุสฺสาเวสฺสามิ วา คณปูรโก วา ภวิสฺสามี’’ติอาทินยํ (มหาว. ๑๙๓) สงฺคณฺหาติ. เอวํ สตฺตาหกิจฺเจน คจฺฉนฺเตน อนฺโตอุปจารสีมาย ิเตเนว ‘‘อนฺโตสตฺตาเห อาคจฺฉิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ อาโภคํ อกตฺวา อุปจารสีมํ อติกฺกมติ, ฉินฺนวสฺโส โหตีติ วทนฺติ.

๒๖๑๕. ‘‘อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตกรตฺติจฺเฉทวินิจฺฉโย’’ติ อฏฺกถาคตํ รตฺติจฺเฉทวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วสฺสํ อุปคเตเนตฺถา’’ติอาทิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สตฺตาหกิจฺจาธิกาเร. อยํ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ.

๒๖๑๖. ‘‘อสุกํ นาม ทิวส’’นฺติอาทินา นิมนฺตนาการํ วกฺขติ. ปุพฺพนฺติ ปมํ. วฏฺฏตีติ สตฺตาหกิจฺเจน คนฺตุํ วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘สเจ เอกสฺมึ มหาวาเส ปมํเยว กติกา กตา โหติ ‘อสุกทิวสํ นาม สนฺนิปติตพฺพ’นฺติ, นิมนฺติโตเยว นาม โหติ, คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๙๙). ‘‘อุปาสเกหิ ‘อิมสฺมึ นาม ทิวเส ทานาทีนิ กโรม, สพฺเพ เอว สนฺนิปตนฺตู’ติ กติกายปิ กตาย คนฺตุํ วฏฺฏติ, นิมนฺติโตเยว นาม โหตี’’ติ เกจิ.

๒๖๑๗. ภณฺฑกนฺติ อตฺตโน จีวรภณฺฑํ. น วฏฺฏตีติ สตฺตาหกิจฺเจน คนฺตุํ น วฏฺฏติ. ปหิณนฺตีติ จีวรโธวนาทิกมฺเมน ปหิณนฺติ. อาจริยุปชฺฌายานํ อาณตฺติเยน เกนจิ อนวชฺชกิจฺเจน สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุํ วฏฺฏตีติ อิมินาว ทีปิตํ โหติ.

๒๖๑๘. อุทฺเทสาทีนมตฺถายาติ ปาฬิวาจนานิ สนฺธาย. อาทิ-สทฺเทน ปริปุจฺฉาทึ สงฺคณฺหาติ. ครูนนฺติ อคิลานานมฺปิ อาจริยุปชฺฌายานํ. คนฺตุํ ลภตีติ สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุํ ลภติ. ปุคฺคโลติ ปกรณโต ภิกฺขุํเยว คณฺหาติ.

๒๖๑๙. อาจริโยติ นิทสฺสนมตฺตํ, อุปชฺฌาเยน นิวาริเตปิ เอเสว นโย. ‘‘สเจ ปน นํ อาจริโย ‘อชฺช มา คจฺฉา’ติ วทติ, วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๙๙) อฏฺกถานยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘รตฺติจฺเฉเท อนาปตฺติ, โหตีติ ปริทีปิตา’’ติ. รตฺติจฺเฉเทติ วสฺสจฺเฉทนิมิตฺตํ. ‘‘รตฺติจฺเฉเท’’ติ สพฺพตฺถ วสฺสจฺเฉโทติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา วทนฺติ, เอวํ สตฺตาหกรณีเยน คตํ นํ อนฺโตสตฺตาเหเยว ปุน อาคจฺฉนฺตํ สเจ อาจริโย วา อุปชฺฌาโย วา ‘‘อชฺช มา คจฺฉา’’ติ วทติ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย, วสฺสจฺเฉโท ปน โหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ สตฺตาหสฺส พหิทฺธา วีตินามิตตฺตา.

๒๖๒๐. ยสฺส กสฺสจิ าติสฺสาติ มาตาปิตูหิ อฺสฺส าติชนสฺส. ‘‘คจฺฉโต ทสฺสนตฺถายา’’ติ อิมินา เสสาติเกหิ ‘‘มยํ คิลานา ภทนฺตานํ อาคมนํ อิจฺฉามา’’ติ จ ‘‘อุปฏฺากกุเลหิ ทานํ ทสฺสาม, ธมฺมํ โสสฺสาม, ภิกฺขูนํ ทสฺสนํ อิจฺฉามา’’ติ จ เอวํ กตฺตพฺพํ นิทฺทิสิตฺวา ทูเต วา เปสิเต สตฺตาหกรณีเยน คจฺฉโต รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏฺจ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสฺส าตโก คิลาโน โหติ…เป… คนฺตพฺพํ, ภิกฺขเว, สตฺตาหกรณีเยน ปหิเต, น ตฺเวว อปฺปหิเต’’ติ (มหาว. ๑๙๙) จ ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, อุปาสเกน สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหาโร การาปิโต โหติ…เป… อิจฺฉามิ ทานฺจ ทาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ ภิกฺขู จ ปสฺสิตุนฺติ. คนฺตพฺพํ, ภิกฺขเว, สตฺตาหกรณีเยน ปหิเต, น ตฺเวว อปฺปหิเต’’ติ (มหาว. ๑๘๘) จ.

๒๖๒๑. ‘‘อหํ คามกํ คนฺตฺวา อชฺเชว อาคมิสฺสามี’’ติ อาคจฺฉํ อาคจฺฉนฺโต สเจ ปาปุณิตุํ น สกฺโกเตว, วฏฺฏตีติ โยชนา. วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘อชฺเชว อาคมิสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺส อนฺตรามคฺเค สเจ อรุณุคฺคมนํ โหติ, วสฺสจฺเฉโทปิ น โหติ, รตฺติจฺเฉททุกฺกฏฺจ นตฺถีติ อธิปฺปาโย.

๒๖๒๒. วเชติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๓) โคปาลกานํ นิวาสนฏฺาเน. สตฺเถติ ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺถานํ สนฺนิวิฏฺโกาเส. ตีสุ าเนสุ ภิกฺขุโน, วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺตีติ เตหิ สทฺธึ คจฺฉนฺตสฺเสว นตฺถิ อาปตฺติ, เตหิ วิยุฺชิตฺวา คมเน ปน อาปตฺติเยว, ปวาเรตุฺจ น ลภติ.

วชาทีสุ วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตน วสฺสูปนายิกทิวเส เตน ภิกฺขุนา อุปาสกา วตฺตพฺพา ‘‘กุฏิกา ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ กริตฺวา เทนฺติ, ตตฺถ ปวิสิตฺวา ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, สาลาสงฺเขเปน ิตสกฏสฺส เหฏฺา อุปคนฺตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺเตน อาลโย กาตพฺโพ. สตฺเถ ปน กุฏิกาทีนํ อภาเว ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ วจีเภทํ กตฺวา อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ, อาลยกรณมตฺตเมว วฏฺฏติ. อาลโย นาม ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺตํ.

สเจ มคฺคปฺปฏิปนฺเนเยว สตฺเถ ปวารณทิวโส โหติ, ตตฺเถว ปวาเรตพฺพํ. อถ สตฺโถ อนฺโตวสฺเสเยว ภิกฺขุนา ปตฺถิตฏฺานํ ปตฺวา อติกฺกมติ. ปตฺถิตฏฺาเน วสิตฺวา ตตฺถ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. อถาปิ สตฺโถ อนฺโตวสฺเสเยว อนฺตรา เอกสฺมึ คาเม ติฏฺติ วา วิปฺปกิรติ วา, ตสฺมึเยว คาเม ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสิตฺวา ปวาเรตพฺพํ, อปฺปวาเรตฺวา ตโต ปรํ คนฺตุํ น วฏฺฏติ.

นาวาย วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตนาปิ กุฏิยํเยว อุปคนฺตพฺพํ. ปริเยสิตฺวา อลภนฺเต อาลโย กาตพฺโพ. สเจ อนฺโตเตมาสํ นาวา สมุทฺเทเยว โหติ, ตตฺเถว ปวาเรตพฺพํ. อถ นาวา กูลํ ลภติ, สยฺจ ปรโต คนฺตุกาโม โหติ, คนฺตุํ น วฏฺฏติ. นาวาย ลทฺธคาเมเยว วสิตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. สเจปิ นาวา อนุตีรเมว อฺตฺถ คจฺฉติ, ภิกฺขุ จ ปมํ ลทฺธคาเมเยว วสิตุกาโม, นาวา คจฺฉตุ, ภิกฺขุนา ตตฺเถว วสิตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ.

อิติ วเช, สตฺเถ, นาวายนฺติ ตีสุ าเนสุ นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺติ, ปวาเรตุฺจ ลภติ.

๒๖๒๓. สติ ปจฺจยเวกลฺเลติ ปิณฺฑปาตาทีนํ ปจฺจยานํ อูนตฺเต สติ. สรีราผาสุตาย วาติ สรีรสฺส อผาสุตาย อาพาเธ วา สติ. วสฺสํ เฉตฺวาปิ ปกฺกเมติ วสฺสจฺเฉทํ กตฺวาปิ ยถาผาสุกฏฺานํ คจฺเฉยฺย. อปิ-สทฺเทน วสฺสํ อเฉตฺวา วสฺสจฺเฉทการเณ สติ สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุมฺปิ วฏฺฏตีติ ทีเปติ.

๒๖๒๔. เยน เกนนฺตราเยนาติ ราชนฺตรายาทีสุ เยน เกนจิ อนฺตราเยน. โย ภิกฺขุ วสฺสํ โนปคโต, เตนาปิ ฉินฺนวสฺเสน วาปิ ทุติยา วสฺสูปนายิกา อุปคนฺตพฺพาติ โยชนา.

๒๖๒๕-๖. สตฺตาหนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ‘‘วีตินาเมตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อุปคนฺตฺวาปิ วา พหิทฺธา เอว สตฺตาหํ วีตินาเมติ เจ. โย คจฺฉติ, โย จ วีตินาเมติ, ตสฺส ภิกฺขุสฺส. ปุริมาปิ น วิชฺชตีติ อนุปคตตฺตา, ฉินฺนวสฺสตฺตา จ ปุริมาปิ วสฺสูปนายิกา น วิชฺชติ น ลภติ. อิเมสํ ทฺวินฺนํ ยถากฺกมํ อุปจาราติกฺกเม, สตฺตาหาติกฺกเม จ อาปตฺติ เวทิตพฺพา.

ปฏิสฺสเว จ ภิกฺขุสฺส, โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ ‘‘อิธ วสฺสํ วสถา’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ตสฺส วิสํวาเท อสจฺจาปเน อาปตฺติ โหติ. กตมาติ อาห ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ. น เกวลํ เอตสฺเสว วิสํวาเท อาปตฺติ โหติ, อถ โข อิตเรสมฺปิ ปฏิสฺสวานํ วิสํวาเท อาปตฺติ เวทิตพฺพา. ยถาห – ‘‘ปฏิสฺสเว จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ น เกวลํ ‘อิมํ เตมาสํ อิธ วสฺสํ วสถา’ติ เอตสฺเสว ปฏิสฺสวสฺส วิสํวาเท อาปตฺติ, ‘อิมํ เตมาสํ ภิกฺขํ คณฺหถ, อุโภปิ มยํ อิธ วสฺสํ วสิสฺสาม, เอกโตว อุทฺทิสาเปสฺสามา’ติ เอวมาทินาปิ ตสฺส ตสฺส ปฏิสฺสวสฺส วิสํวาเท ทุกฺกฏ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๗). ตฺจ โข ปฏิสฺสวกาเล สุทฺธจิตฺตสฺส ปจฺฉา วิสํวาทนปจฺจยา โหติ. ปมํ อสุทฺธจิตฺตสฺส ปน ปฏิสฺสเว ปาจิตฺติยํ, วิสํวาเทน ทุกฺกฏนฺติ ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ ยุชฺชติ.

๒๖๒๗. ‘‘วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปน อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวา ตทเหว สตฺตาหกรณีเยน ปกฺกมนฺตสฺสาปิ อนฺโตสตฺตาเห นิวตฺตนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๗) อฏฺกถาวจนโต, ‘‘โก วาโท วสิตฺวา พหิ คจฺฉโต’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘นุฏฺาเปตฺวา ปนารุณ’’นฺติ ปาโ คเหตพฺโพ. กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ‘‘อุฏฺาเปตฺวา ปนารุณ’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, โส น คเหตพฺโพ.

๒๖๒๘. วสิตฺวาติ ทฺวีหตีหํ วสิตฺวา. ยถา วสฺสํ วสิตฺวา อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวาว สตฺตาหกรณีเยน คจฺฉโต อนาปตฺติ, ตถา คตฏฺานโต อนฺโตสตฺตาเห อาคนฺตฺวา ปุนปิ อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวาว สตฺตาหกรณีเยน คจฺฉโต อนาปตฺติ. ‘‘สตฺตาหวาเรน อรุโณ อุฏฺาเปตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๑) อฏฺกถาวจนํ สตฺตมารุเณน ปฏิพทฺธทิวสํ สตฺตเมน อรุเณเนว สงฺคเหตฺวา สตฺตมอรุณพฺภนฺตเร อนาคนฺตฺวา อฏฺมํ อรุณํ พหิ อุฏฺาเปนฺตสฺส รตฺติจฺเฉททสฺสนปรํ, น สตฺตมอรุณสฺเสว ตตฺถ อุฏฺาเปตพฺพภาวทสฺสนปรนฺติ คเหตพฺพํ สิกฺขาภาชนอฏฺกถาย, สีหฬคณฺิปเทสุ จ ตถา วินิจฺฉิตตฺตา.

๒๖๒๙. ‘‘โนเปติ อสติยา’’ติ ปทจฺเฉโท, โนเปตีติ ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ วจีเภเทน น อุปคจฺฉติ.

๒๖๓๐. วุตฺตเมวตฺถํ สมตฺเถตุมาห ‘‘น โทโส โกจิ วิชฺชตี’’ติ.

๒๖๓๑. ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วจเน นิจฺฉาริเต เอว วสฺสํ อุปคโต สิยาติ โยชนา. ‘‘นิจฺฉาริเตว ติกฺขตฺตุ’’นฺติ อิทํ อุกฺกํสวเสน วุตฺตํ, สกึ, ทฺวิกฺขตฺตุํ วา นิจฺฉาริเตปิ วสฺสูปคโต นาม โหตีติ. ยถาห – ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมีติ สกึ วา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ วา วาจํ นิจฺฉาเรตฺวาว วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๑๘๔).

๒๖๓๒. นวมิโต ปฏฺาย คนฺตุํ วฏฺฏติ, อาคจฺฉตุ วา มา วา, อนาปตฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๗) อฏฺกถานยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาทึ ตุ นวมึ กตฺวา’’ติอาทิ. นวมึ ปภุติ อาทึ กตฺวา, นวมิโต ปฏฺายาติ วุตฺตํ โหติ. คนฺตุํ วฏฺฏตีติ สตฺตาหกรณีเยเนว คนฺตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ปวารณทิวเสปิ ตทเหว อาคนฺตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺานํ ปวารณตฺถาย คจฺฉนฺเตน ลพฺภมาเนน สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ปวาเรตฺวา ปน คนฺตุํ วฏฺฏติ ปวารณาย ตํทิวสสนฺนิสฺสิตตฺตา’’ติ (วชิร. ฏี. มหาวคฺค ๒๐๗) หิ วชิรพุทฺธิตฺเถโร. โส ปจฺฉา อาคจฺฉตุ วา มา วา, โทโส น วิชฺชตีติ โยชนา.

วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

ปวารณกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๖๓๓. ‘‘ปวารณา’’ติ อิทํ ‘‘จาตุทฺทสี’’ติอาทีหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ตสฺมึ ตสฺมึ ทิเน กาตพฺพา ปวารณา อเภโทปจาเรน ตถา วุตฺตา. สามคฺคี อุโปสถกฺขนฺธกกถาวณฺณนาย วุตฺตสรูปาว. สามคฺคิปวารณํ กโรนฺเตหิ จ ปมํ ปวารณํ เปตฺวา ปาฏิปทโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกจาตุมาสิปุณฺณมา เอตฺถนฺตเร กาตพฺพา, ตโต ปจฺฉา วา ปุเร วา น วฏฺฏติ. เตวาจี ทฺเวกวาจีติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต…เป… เตวาจิกํ ปวาเรยฺย, ทฺเววาจิกํ ปวาเรยฺย, เอกวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ ตํ ตํ ตฺตึ เปตฺวา กาตพฺพา ปวารณา วุจฺจติ.

๒๖๓๔. ตีณิ กมฺมานิ มุฺจิตฺวา, อนฺเตเนว ปวารเยติ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ปวารณกมฺมานิ, อธมฺเมน วคฺคํ ปวารณกมฺมํ…เป… ธมฺเมน สมคฺคํ ปวารณกมฺม’’นฺติ (มหาว. ๒๑๒) วตฺวา ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยทิทํ อธมฺเมน วคฺคํ ปวารณกมฺมํ, น, ภิกฺขเว, เอวรูปํ ปวารณกมฺมํ กาตพฺพํ…เป… ตตฺร, ภิกฺขเว, ยทิทํ ธมฺเมน สมคฺคํ ปวารณกมฺมํ, เอวรูปํ, ภิกฺขเว, ปวารณกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติอาทิวจนโต (มหาว. ๒๑๒) ตีณิ อกตฺตพฺพานิ ปวารณกมฺมานิ มุฺจิตฺวา กาตุํ อนุฺาเตน จตุตฺเถน ปวารณกมฺเมน ปวาเรยฺยาติ อตฺโถ. ตสฺส วิภาเคกเทสํ ‘‘ปฺจ ยสฺมึ ปนาวาเส’’ติอาทินา วกฺขติ.

๒๖๓๕. ปุพฺพกิจฺจํ สมาเปตฺวาติ –

‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป จ, อุทกํ อาสเนน จ;

ปวารณาย เอตานิ, ‘ปุพฺพกรณ’นฺติ วุจฺจติ.

‘‘ฉนฺทปาริสุทฺธิอุตุกฺขานํ, ภิกฺขุคณนา จ โอวาโท;

ปวารณาย เอตานิ, ‘ปุพฺพกิจฺจ’นฺติ วุจฺจตี’’ติ. –

วุตฺตํ นววิธํ ปุพฺพกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา.

ปตฺตกลฺเล สมานิเตติ –

‘‘ปวารณา ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา,

สภาคาปตฺติโย จ น วิชฺชนฺติ;

วชฺชนียา จ ปุคฺคลา ตสฺมึ น โหนฺติ,

‘ปตฺตกลฺล’นฺติ วุจฺจตี’’ติ. –

วุตฺเต จตุพฺพิเธ ปตฺตกลฺเล สโมธานิเต ปริสมาปิเต.

ตฺตึ เปตฺวาติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ (มหาว. ๒๑๐) เอวํ สพฺพสงฺคาหิกวเสน จ ‘‘เตวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ จ ทานาทิกรเณน เยภุยฺเยน รตฺติยา เขปิตาย จ ราชาทิอนฺตราเย สติ จ ตทนุรูปโต ‘‘ทฺเววาจิกํ, เอกวาจิกํ, สมานวสฺสิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ จ ตฺตึ เปตฺวา, ตาสํ วิเสโส อฏฺกถายํ ทสฺสิโตเยว. ยถาห –

‘‘เอวฺหิ วุตฺเต เตวาจิกฺจ ทฺเววาจิกฺจ เอกวาจิกฺจ ปวาเรตุํ วฏฺฏติ, สมานวสฺสิกํ น วฏฺฏติ. ‘เตวาจิกํ ปวาเรยฺยา’ติ วุตฺเต ปน เตวาจิกเมว วฏฺฏติ, อฺํ น วฏฺฏติ, ‘ทฺเววาจิกํ ปวาเรยฺยา’ติ วุตฺเต ทฺเววาจิกฺจ เตวาจิกฺจ วฏฺฏติ, เอกวาจิกฺจ สมานวสฺสิกฺจ น วฏฺฏติ. ‘เอกวาจิกํ ปวาเรยฺยา’ติ วุตฺเต ปน เอกวาจิกทฺเววาจิกเตวาจิกานิ วฏฺฏนฺติ, สมานวสฺสิกเมว น วฏฺฏติ. ‘สมานวสฺสิก’นฺติ วุตฺเต สพฺพํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๑๐).

กาตพฺพาติ เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย ‘‘สงฺฆํ, อาวุโส, ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา…เป… ตติยมฺปิ อาวุโส, สงฺฆํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา…เป… ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ (มหาว. ๒๑๐) วุตฺตนเยน กาตพฺพา. นวเกน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา…เป… ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา…เป… ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามีติ (มหาว. ๒๑๐) วุตฺตนเยน กาตพฺพา.

๒๖๓๖. เถเรสุ ปวาเรนฺเตสุ โย ปน นโว, โส สยํ ยาว ปวาเรติ, ตาว อุกฺกุฏิกํ นิสีเทยฺยาติ โยชนา.

๒๖๓๗. จตฺตาโร วา ตโยปิ วา เอกาวาเส เอกสีมายํ วสนฺติ เจ, ตฺตึ วตฺวา ‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺโต, อชฺช ปวารณา, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อฺมฺํ ปวาเรยฺยามา’’ติ (มหาว. ๒๑๖) คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรยฺยุนฺติ โยชนา.

ปวาเรยฺยุนฺติ เอตฺถ เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เต ตโย วา ทฺเว วา ภิกฺขู เอวมสฺสุ วจนียา ‘‘อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ (มหาว. ๒๑๖) ปวาเรตพฺพํ. นเวนปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ ปวาเรตพฺพํ.

๒๖๓๘. อฺมฺํ ปวาเรยฺยุํ, วินา ตฺตึ ทุเว ชนา. เตสุ เถเรน ‘‘อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ…เป… ปฏิกริสฺสามี’’ติ (มหาว. ๒๑๗) ปวาเรตพฺพํ. นเวนปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ…เป… วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ…เป… ปฏิกริสฺสามี’’ติ ปวาเรตพฺพํ.

อธิฏฺเยฺยาติ ปุพฺพกิจฺจํ สมาเปตฺวา ‘‘อชฺช เม ปวารณา จาตุทฺทสี’’ติ วา ‘‘ปนฺนรสี’’ติ วา วตฺวา ‘‘อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺเยฺย. ยถาห ‘‘อชฺช เม ปวารณาติ เอตฺถ สเจ จาตุทฺทสิกา โหติ, ‘อชฺช เม ปวารณา จาตุทฺทสี’ติ, สเจ ปนฺนรสิกา, ‘อชฺช เม ปวารณา ปนฺนรสี’ติ เอวํ อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๑๘), อิมินา สพฺพสงฺคาหาทิตฺตีสุ จ ตสฺมึ ตสฺมึ ทิวเส โส โส โวหาโร กาตพฺโพติ ทีปิตเมว.

เสสา สงฺฆปวารณาติ ปฺจหิ, อติเรเกหิ วา ภิกฺขูหิ กตฺตพฺพา ปวารณา สงฺฆปวารณา.

๒๖๓๙. ปวาริเตติ ปมปวารณาย ปวาริเต. อนาคโตติ เกนจิ อนฺตราเยน ปุริมิกาย จ ปจฺฉิมิกาย จ วสฺสูปนายิกาย วสฺสํ อนุปคโต. อวุตฺโถติ ปจฺฉิมิกาย อุปคโต. วุตฺตฺหิ ขุทฺทสิกฺขาวณฺณนาย ‘‘อวุตฺโถติ ปจฺฉิมิกาย อุปคโต อปรินิฏฺิตตฺตา ‘อวุตฺโถ’ติ วุจฺจตี’’ติ. ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยาติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘เตสํ สนฺติเก’’ติ เสโส.

๒๖๔๐-๑. ยสฺมึ ปนาวาเส ปฺจ วา จตฺตาโร วา ตโย วา สมณา วสนฺติ, เต ตตฺถ เอเกกสฺส ปวารณํ หริตฺวาน สเจ อฺมฺํ ปวาเรนฺติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

เสสนฺติ ‘‘อธมฺเมน สมคฺค’’นฺติอาทิกํ วินิจฺฉยํ. อิธาติ อิมสฺมึ ปวารณาธิกาเร. พุโธติ วินยธโร. อุโปสเถ วุตฺตนเยนาติ อุโปสถวินิจฺฉเย วุตฺตกฺกเมน. นเยติ ชาเนยฺย.

๒๖๔๒. สมฺปาเทตตฺตโน สุจินฺติ อตฺตโน อุโปสถํ สมฺปาเทติ. สพฺพํ สาเธตีติ อุโปสถาทิสพฺพํ กมฺมํ นิปฺผาเทติ. นตฺตโนติ อตฺตโน อุโปสถํ น นิปฺผาเทติ.

๒๖๔๓. ตสฺมาติ ยสฺมา อตฺตโน สุจึ น สาเธติ, ตสฺมา. อุภินฺนนฺติ อตฺตโน จ สงฺฆสฺส จ. กิจฺจสิทฺธตฺถเมวิธาติ อุโปสถาทิกมฺมนิปฺปชฺชนตฺถํ อิธ อิมสฺมึ อุโปสถกมฺมาทิปกรเณ. ปาริสุทฺธิปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ปวารณา สงฺคหิตา. เตเนว วกฺขติ ‘‘ฉนฺทํ วา ปาริสุทฺธึ วา, คเหตฺวา วา ปวารณ’’นฺติ.

ฉนฺทปาริสุทฺธิปวารณํ เทนฺเตน สเจ สาปตฺติโก โหติ, อาปตฺตึ เทเสตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ฉนฺทาทิหารโก ภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘ฉนฺทํ ทมฺมิ, ฉนฺทํ เม หร, ฉนฺทํ เม อาโรเจหี’’ติ (มหาว. ๑๖๕), ‘‘ปาริสุทฺธึ ทมฺมิ, ปาริสุทฺธึ เม หร, ปาริสุทฺธึ เม อาโรเจหี’’ติ (มหาว. ๑๖๔), ‘‘ปวารณํ ทมฺมิ, ปวารณํ เม หร, ปวารณํ เม อาโรเจหิ, มมตฺถาย ปวาเรหี’’ติ (มหาว. ๒๑๓).

๒๖๔๔. ‘‘ฉนฺโท เอเกนา’’ติ ปทจฺเฉโท. เอเกน พหูนมฺปิ ฉนฺโท หาตพฺโพ, ตถา ปาริสุทฺธิ หาตพฺพา. ปิ-สทฺเทน ปวารณา หาตพฺพาติ โยชนา. ปรมฺปราหโฏ ฉนฺโทติ พหูนํ วา เอกสฺส วา ฉนฺทาทิหารกสฺส หตฺถโต อนฺตรา อฺเน คหิตา ฉนฺทปาริสุทฺธิปวารณา. วิสุทฺธิยา น คจฺฉติ อนวชฺชภาวาย น ปาปุณาติ พิฬาลสงฺขลิกฉนฺทาทีนํ สงฺฆมชฺฌํ อคมเนน วคฺคภาวกรณโต.

เอตฺถ จ ยถา พิฬาลสงฺขลิกาย ปมวลยํ ทุติยวลยํ ปาปุณาติ, น ตติยํ, เอวมิเมปิ ฉนฺทาทโย ทายเกน ยสฺส ทินฺนา, ตโต อฺตฺถ น คจฺฉตีติ พิฬาลสงฺขลิกาสทิสตฺตา ‘‘พิฬาลสงฺขลิกา’’ติ วุตฺตา. พิฬาลสงฺขลิกาคฺคหณฺเจตฺถ ยาสํ กาสฺจิ สงฺขลิกานํ อุปลกฺขณมตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๒๖๔๕-๖. ฉนฺทํ วา ปาริสุทฺธึ วา ปวารณํ วา คเหตฺวา ฉนฺทาทิหารโก สงฺฆมปฺปตฺวา สเจ สามเณราทิภาวํ ปฏิชาเนยฺย วา วิพฺภเมยฺย วา มเรยฺย วา, ตํ สพฺพํ ฉนฺทาทิภาวํ นาหฏํ โหติ, สงฺฆํ ปตฺวา เอวํ สิยา สามเณราทิภาวํ ปฏิชานนฺโต, วิพฺภนฺโต, กาลกโต วา ภเวยฺย, ตํ สพฺพํ หฏํ อานีตํ โหตีติ โยชนา.

ตตฺถ สามเณราทิภาวํ วา ปฏิชาเนยฺยาติ ‘‘อหํ สามเณโร’’ติอาทินา ภูตํ สามเณราทิภาวํ กเถยฺย, ปจฺฉา สามเณรภูมิยํ ปติฏฺเหยฺยาติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺโน คหิโต.

๒๖๔๗. สงฺฆํ ปตฺวาติ อนฺตมโส ตํตํกมฺมปฺปตฺตสฺส จตุวคฺคาทิสงฺฆสฺส หตฺถปาสํ ปตฺวาติ อตฺโถ. ปมตฺโตติ ปมาทํ สติสมฺโมสํ ปตฺโต. สุตฺโตติ นิทฺทูปคโต. ขิตฺตจิตฺตโกติ ยกฺขาทีหิ วิกฺเขปมาปาทิตจิตฺโต. นาโรเจตีติ อตฺตโน ฉนฺทาทีนํ อาหฏภาวํ เอกสฺสาปิ ภิกฺขุโน น กเถติ. สฺจิจฺจาติ สฺเจเตตฺวา ชานนฺโตเยว อนาทริโย นาโรเจติ, ทุกฺกฏํ โหติ.

๒๖๔๘. เย เตติ เย เต ภิกฺขู เถรา วา นวา วา มชฺฌิมา วา. วิปสฺสนาติ สหจริเยน สมโถปิ คยฺหติ. สมถวิปสฺสนา จ อิธ ตรุณาเยว อธิปฺเปตา, ตสฺมา วิปสฺสนายุตฺตาติ เอตฺถ ตรุณาหิ สมถวิปสฺสนาหิ สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. รตฺตินฺทิวนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. อตนฺทิตาติ อนลสา.

‘‘รตฺตินฺทิว’’นฺติ เอตฺถ รตฺติ-สทฺเทน รตฺติยาเยว คหณํ, อุทาหุ เอกเทสสฺสาติ อาห ‘‘ปุพฺพรตฺตาปรรตฺต’’นฺติ. ปุพฺพา จ สา รตฺติ จาติ ปุพฺพรตฺติ, ปมยาโม, อปรา จ สา รตฺติ จาติ อปรรตฺติ, ปจฺฉิมยาโม, ปุพฺพรตฺติ จ อปรรตฺติ จาติ สมาหารทฺวนฺเท สมาสนฺเต อ-การปจฺจยํ กตฺวา ‘‘ปุพฺพรตฺตาปรรตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อิธาปิ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. มชฺฌิมยาเม กายทรถวูปสมนตฺถาย สุปนํ อนุฺาตนฺติ ตํ วชฺเชตฺวา ปุริมปจฺฉิมยาเมสุ นิรนฺตรภาวนานุโยโค กาตพฺโพติ ทสฺสนตฺถเมว วุตฺตํ. วิปสฺสนา ปรายนา สมถวิปสฺสนาว ปรํ อยนํ ปติฏฺา เอเตสนฺติ วิปสฺสนาปรายนา, สมถวิปสฺสนาย ยุตฺตปยุตฺตา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๖๔๙. ลทฺโธ ผาสุวิหาโร เยหิ เต ลทฺธผาสุวิหารา, เตสํ. ผาสุวิหาโรติ จ สุขวิหารสฺส มูลการณตฺตา ตรุณา สมถวิปสฺสนา อธิปฺเปตา, ปฏิลทฺธตรุณสมถวิปสฺสนานนฺติ อตฺโถ. สิยา น ปริหานิติ ปริหานิ นาม เอวํ กเต น ภเวยฺย.

กตฺติกมาสเกติ จีวรมาสสงฺขาเต กตฺติกมาเส ปวารณาย สงฺคโห วุตฺโตติ โยชนา. คาถาพนฺธวเสน ‘‘สงฺคาโห’’ติ ทีโฆ กโต, ปวารณาสงฺคโห วุตฺโตติ อตฺโถ. ยถาห –

‘‘ปวารณาสงฺคโห จ นามายํ วิสฺสฏฺกมฺมฏฺานานํ ถามคตสมถวิปสฺสนานํ โสตาปนฺนาทีนฺจ น ทาตพฺโพ. ตรุณสมถวิปสฺสนาลาภิโน ปน สพฺเพ วา โหนฺตุ, อุปฑฺฒา วา, เอกปุคฺคโล วา, เอกสฺสปิ วเสน ทาตพฺโพเยว. ทินฺเน ปวารณาสงฺคเห อนฺโตวสฺเส ปริหาโรว โหติ, อาคนฺตุกา เตสํ เสนาสนํ คเหตุํ น ลภนฺติ. เตหิปิ ฉินฺนวสฺเสหิ น ภวิตพฺพํ, ปวาเรตฺวา ปน อนฺตราปิ จาริกํ ปกฺกมิตุํ ลภนฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๑).

ปวารณาสงฺคหสฺส ทานปฺปกาโร ปน ปาฬิโต คเหตพฺโพ.

ปวารณกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

จมฺมกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๖๕๐. เอฬกา จ อชา จ มิคา จาติ วิคฺคโห. ปสูนํ ทฺวนฺเท เอกตฺตนปุํสกตฺตสฺส วิภาสิตตฺตา พหุวจนนิทฺเทโส. เอฬกานฺจ อชานฺจ มิคานํ โรหิเตณิกุรุงฺคานฺจ. ปสทา จ มิคมาตา จ ปสทมิคมาตา, ‘‘ปสทมิคมาตุยา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ‘‘ปสท’’นฺติ นิคฺคหิตาคโม. ปสทมิคมาตุยา จ จมฺมํ ภิกฺขุโน วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘มิคาน’’นฺติ อิมินา คหิตานเมเวตฺถ วิภาคทสฺสนํ ‘‘โรหิเตณี’’ติอาทิ. โรหิตาทโย มิควิภาควิเสสา.

๒๖๕๑. เอเตสํ ยถาวุตฺตสตฺตานํ จมฺมํ เปตฺวา อฺํ จมฺมํ ทุกฺกฏาปตฺติยา วตฺถุภูตนฺติ อตฺโถ. อฺนฺติ จ –

‘‘มกฺกโฏ กาฬสีโห จ, สรโภ กทลีมิโค;

เย จ วาฬมิคา โหนฺติ, เตสํ จมฺมํ น วฏฺฏตี’’ติ. (มหาว. อฏฺ. ๒๕๙) –

อฏฺกถาย ปฏิกฺขิตฺตํ จมฺมมาห. มกฺกโฏ นาม สาขมิโค. กาฬสีโห นาม มหามุขวานรชาติโก. วาฬมิคา นาม สีหพฺยคฺฆาทโย. ยถาห – ‘‘ตตฺถ วาฬมิคาติ สีหพฺยคฺฆอจฺฉตรจฺฉา, น เกวลฺจ เอเตเยว, เยสํ ปน จมฺมํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ, เต เปตฺวา อวเสสา อนฺตมโส โคมหึสสฺสมิฬาราทโยปิ สพฺเพ อิมสฺมึ อตฺเถ ‘วาฬมิคา’ตฺเวว เวทิตพฺพา’’ติ.

ถวิกา จ อุปาหนา จ ถวิโกปาหนํ. อมานุสํ มนุสฺสจมฺมรหิตํ สพฺพํ จมฺมํ ถวิโกปาหเน วฏฺฏตีติ โยชนา. เอตฺถ ถวิกาติ อุปาหนาทิโกสกสฺส คหณํ. ยถาห ‘‘มนุสฺสจมฺมํ เปตฺวา เยน เกนจิ จมฺเมน อุปาหนา วฏฺฏติ. อุปาหนาโกสกสตฺถกโกสกกุฺชิกาโกสเกสุปิ เอเสว นโย’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๕๙).

๒๖๕๒. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ คุณงฺคุณูปาหน’’นฺติ (มหาว. ๒๕๙) วจนโต ‘‘วฏฺฏนฺติ มชฺฌิเม เทเส, น คุณงฺคุณูปาหนา’’ติ วุตฺตํ. มชฺฌิเม เทเสติ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย คชงฺคลํ นาม นิคโม’’ติอาทินา (มหาว. ๒๕๙) วุตฺตสีมาปริจฺเฉเท มชฺฌิมเทเส. คุณงฺคุณูปาหนาติ จตุปฏลโต ปฏฺาย พหุปฏลา อุปาหนา. ยถาห – ‘‘คุณงฺคุณูปาหนาติ จตุปฏลโต ปฏฺาย วุจฺจตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๕). มชฺฌิมเทเส คุณงฺคุณูปาหนา น วฏฺฏนฺตีติ โยชนา. อนฺโตอาราเมติ เอตฺถ ปกรณโต ‘‘สพฺเพส’’นฺติ ลพฺภติ, คิลานานมิตเรสฺจ สพฺเพสนฺติ อตฺโถ. สพฺพตฺถาปิ จาติ อนฺโตอาราเม, พหิ จาติ สพฺพตฺถาปิ. โรคิโนติ คิลานสฺส วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.

๒๖๕๓. ปุฏพทฺธา ขลฺลกพทฺธาจาติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. วิเสโส ปเนตาสํ อฏฺกถายเมว วุตฺโต ‘‘ปุฏพทฺธาติ โยนกอุปาหนา วุจฺจติ, ยา ยาวชงฺฆโต สพฺพปาทํ ปฏิจฺฉาเทติ. ขลฺลกพทฺธาติ ปณฺหิปิธานตฺถํ ตเล ขลฺลกํ พนฺธิตฺวา กตา’’ติ. ปาลิคุณฺิมา จ ‘‘ปลิคุณฺิตฺวา กตา, ยา อุปริ ปาทมตฺตเมว ปฏิจฺฉาเทติ, น ชงฺฆ’’นฺติ อฏฺกถายํ ทสฺสิตาว. ตูลปุณฺณาติ ตูลปิจุนา ปูเรตฺวา กตา.

สพฺพาว นีลา สพฺพนีลา, สา อาทิ ยาสํ ตา สพฺพนีลาทโย. อาทิ-สทฺเทน มหานามรตฺตปริยนฺตานํ คหณํ. เอตาสํ สรูปํ อฏฺกถายเมว วุตฺตํ ‘‘นีลิกา อุมาปุปฺผวณฺณา โหติ, ปีติกา กณิการปุปฺผวณฺณา, โลหิติกา ชยสุมนปุปฺผวณฺณา, มฺชิฏฺิกา มฺชิฏฺวณฺณา เอว, กณฺหา อทฺทาริฏฺกวณฺณา, มหารงฺครตฺตา สตปทิปิฏฺิวณฺณา, มหานามรตฺตา สมฺภินฺนวณฺณา โหติ ปณฺฑุปลาสวณฺณา. กุรุนฺทิยํ ปน ‘ปทุมปุปฺผวณฺณา’ติ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๖). สพฺพนีลาทโยปิ จาติ อปิ-สทฺเทน นีลาทิวทฺธิกานํ คหณํ.

๒๖๕๔. จิตฺราติ วิจิตฺรา. เมณฺฑวิสาณูปมวทฺธิกาติ เมณฺฑานํ วิสาณสทิสวทฺธิกา, กณฺณิกฏฺาเน เมณฺฑสิงฺคสณฺาเน วทฺเธ โยเชตฺวา กตาติ อตฺโถ. ‘‘เมณฺฑวิสาณูปมวทฺธิกา’’ติ อิทํ อชวิสาณูปมวทฺธิกานํ อุปลกฺขณํ. โมรสฺส ปิฺเฉน ปริสิพฺพิตาติ ตเลสุ วา วทฺเธสุ วา โมรปิฺเฉหิ สุตฺตกสทิเสหิ ปริสิพฺพิตา. อุปาหนา น จ วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.

๒๖๕๕. มชฺชาราติ พิฬารา. กาฬกา รุกฺขกณฺฏกา. อูลูกา ปกฺขิพิฬาลา. สีหาติ เกสรสีหาทโย สีหา. อุทฺทาติ จตุปฺปทชาติกา. ทีปี สทฺทลา. อชินสฺสาติ เอวํนามิกสฺส. ปริกฺขฏาติ อุปาหนปริยนฺเต จีวเร อนุวาตํ วิย วุตฺตปฺปการํ จมฺมํ โยเชตฺวา กตา.

๒๖๕๖. สเจ อีทิสา อุปาหนา ลภนฺติ, ตาสํ วฬฺชนปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุฏาทึ อปเนตฺวา’’ติอาทิ. ปุฏาทึ สพฺพโส ฉินฺทิตฺวา วา อปเนตฺวา วา อุปาหนา ธาเรตพฺพาติ โยชนา. เอวมกตฺวา ลทฺธนีหาเรเนว ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ยถาห – ‘‘เอตาสุ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา สเจ ตานิ ขลฺลกาทีนิ อปเนตฺวา สกฺกา โหนฺติ วฬฺชิตุํ, วฬฺเชตพฺพา, เตสุ ปน สติ วฬฺชนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๖).

วณฺณเภทํ ตถา กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘เอกเทเสนา’’ติ เสโส. ‘‘สพฺพโส วา’’ติ อาหริตฺวา สพฺพโส วา เอกเทเสน วา วณฺณเภทํ กตฺวา สพฺพนีลาทโย อุปาหนา ธาเรตพฺพาติ โยชนา. ตถา อกตฺวา ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ยถาห ‘‘เอตาสุ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา รชนํ โจฬเกน ปุฺฉิตฺวา วณฺณํ ภินฺทิตฺวา ธาเรตุํ วฏฺฏติ. อปฺปมตฺตเกปิ ภินฺเน วฏฺฏติเยวา’’ติ. นีลวทฺธิกาทโยปิ วณฺณเภทํ กตฺวา ธาเรตพฺพา.

๒๖๕๗. ตตฺถ าเน ปสฺสาวปาทุกา, วจฺจปาทุกา, อาจมนปาทุกาติ ติสฺโส ปาทุกาโย เปตฺวา สพฺพาปิ ปาทุกา ตาลปตฺติกาทิเภทา สพฺพาปิ สงฺกมนียา ปาทุกา ธาเรตุํ น วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.

๒๖๕๘. อติกฺกนฺตปมาณํ อุจฺจาสยนสฺิตํ อาสนฺทิฺเจว ปลฺลงฺกฺจ เสวมานสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อาสนฺที วุตฺตลกฺขณาว. ปลฺลงฺโกติ ปาเทสุ อาหริมานิ วาฬรูปานิ เปตฺวา กโต, เอกสฺมึเยว ทารุมฺหิ กฏฺกมฺมวเสน ฉินฺทิตฺวา กตานิ อสํหาริมานิ ตตฺรฏฺาเนว วาฬรูปานิ ยสฺส ปาเทสุ สนฺติ, เอวรูโป ปลฺลงฺโก กปฺปตีติ ‘‘อาหริเมนา’’ติ อิมินาว ทีปิตํ. ‘‘อกปฺปิยรูปกโต อกปฺปิยมฺโจ ปลฺลงฺโก’’ติ หิ สารสมาเส วุตฺตํ.

๒๖๕๙. โคนกนฺติ ทีฆโลมกมหาโกชวํ. จตุรงฺคุลาธิกานิ กิร ตสฺส โลมานิ, กาฬวณฺณฺจ โหติ. ‘‘จตุรงฺคุลโต อูนกปฺปมาณโลโม โกชโว วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. กุตฺตกนฺติ โสฬสนฺนํ นาฏกิตฺถีนํ ตฺวา นจฺจนโยคฺคํ อุณฺณามยตฺถรณํ. จิตฺตนฺติ ภิตฺติจฺฉิทฺทาทิกวิจิตฺรํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ปฏิกนฺติ อุณฺณามยํ เสตตฺถรณํ. ปฏลิกนฺติ ฆนปุปฺผกํ อุณฺณามยํ โลหิตตฺถรณํ, โย ‘‘อามลกปตฺโต’’ติปิ วุจฺจติ.

เอกนฺตโลมินฺติ อุภโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ. วิกตินฺติ สีหพฺยคฺฆาทิรูปวิจิตฺรํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ‘‘เอกนฺตโลมีติ เอกโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณ’’นฺติ ทีฆนิกา. ตูลิกนฺติ รุกฺขตูลลตาตูลโปฏกิตูลสงฺขาตานํ ติณฺณํ ตูลานํ อฺตรปุณฺณํ ปกติตูลิกํ. อุทฺทโลมิกนฺติ เอกโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ‘‘อุทฺทโลมีติ อุภโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณํ. เอกนฺตโลมีติ เอกโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณ’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) ทีฆนิกายฏฺกถายํ วุตฺตํ. สารสมาเส ปน ‘‘อุทฺทโลมีติ เอกโต อุคฺคตปุปฺผํ. เอกนฺตโลมีติ อุภโต อุคฺคตปุปฺผ’’นฺติ วุตฺตํ.

๒๖๖๐. กฏฺฏิสฺสนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยํ ปจฺจตฺถรณํ. ‘‘โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยนฺติ โกเสยฺยกสฏมย’’นฺติ (ที. นิ. ฏี. ๑.๑๕) อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ, กนฺติตโกเสยฺยปุฏมยนฺติ อตฺโถ. โกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกสิยสุตฺตมยํ ปจฺจตฺถรณํ. รตนปริสิพฺพนรหิตํ สุทฺธโกเสยฺยํ ปน วฏฺฏติ.

ทีฆนิกายฏฺกถายํ ปเนตฺถ ‘‘เปตฺวา ตูลิกํ สพฺพาเนว โคนกาทีนิ รตนปริสิพฺพิตานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘เปตฺวา ตูลิก’’นฺติ เอเตน รตนปริสิพฺพนรหิตาปิ ตูลิกา น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ‘‘รตนปริสิพฺพิตานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ อิมินา ปน ยานิ รตนปริสิพฺพิตานิ, ตานิ ภูมตฺถรณวเสน ยถานุรูปํ มฺจาทีสุ จ อุปเนตุํ วฏฺฏตีติ ทีปิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ วินยปริยายํ ปตฺวา ครุเก าตพฺพตฺตา อิธ วุตฺตนเยเนเวตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. สุตฺตนฺติกเทสนายํ ปน คหฏฺานมฺปิ วเสน วุตฺตตฺตา เนสํ สงฺคณฺหนตฺถํ ‘‘เปตฺวา ตูลิกํ…เป… วฏฺฏนฺตีติ วุตฺต’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) อปเร.

หตฺถิอสฺสรถตฺถรนฺติ หตฺถิปิฏฺเ อตฺถริตํ อตฺถรณํ หตฺถตฺถรณํ นาม. อสฺสรถตฺถเรปิ เอเสว นโย. กทลิมิคปวร-ปจฺจตฺถรณกมฺปิ จาติ กทลิมิคจมฺมํ นาม อตฺถิ, เตน กตํ ปวรปจฺจตฺถรณนฺติ อตฺโถ. ตํ กิร เสตวตฺถสฺส อุปริ กทลิมิคจมฺมํ ปตฺถริตฺวา สิพฺเพตฺวา กโรนฺติ. ปิ-สทฺเทน อชินปฺปเวณี คหิตา. อชินปฺปเวณี นาม อชินจมฺเมหิ มฺจปมาเณน สิพฺเพตฺวา กตา ปเวณี. ตานิ กิร จมฺมานิ สุขุมตรานิ, ตสฺมา ทุปฏฺฏติปฏฺฏานิ กตฺวา สิพฺพนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อชินปฺปเวณี’’ติ.

๒๖๖๑. รตฺตวิตานสฺส เหฏฺาติ กุสุมฺภาทิรตฺตสฺส โลหิตวิตานสฺส เหฏฺา กปฺปิยปจฺจตฺถรเณหิ อตฺถตํ สยนาสนฺจ. กสาวรตฺตวิตานสฺส ปน เหฏฺา กปฺปิยปจฺจตฺถรเณน อตฺถตํ วฏฺฏติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘เหฏฺา อกปฺปิเย’’ติอาทิ.

ทฺวิธา รตฺตูปธานกนฺติ สีสปสฺเส, ปาทปสฺเส จาติ อุภโตปสฺเส ปฺตฺตรตฺตพิพฺโพหนวนฺตฺจ สยนาสนํ. อิทํ สพฺพํ อกปฺปิยํ ปริภุฺชโต ทุกฺกฏํ โหติ. ‘‘ยํ ปน เอกเมว อุปธานํ อุโภสุ ปสฺเสสุ รตฺตํ วา โหติ ปทุมวณฺณํ วา วิจิตฺรํ วา, สเจ ปมาณยุตฺตํ, วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๕๔) อฏฺกถาวินิจฺฉโย เอเตเนว พฺยติเรกโต วุตฺโต โหติ. ‘‘เยภุยฺยรตฺตานิปิ ทฺเว พิพฺโพหนานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. เตเนว เยภุยฺเยน รตฺตวิตานมฺปิ น วฏฺฏตีติ วิฺายติ.

เอตฺถ จ กิฺจาปิ ทีฆนิกายฏฺกถายํ ‘‘อโลหิตกานิ ทฺเวปิ วฏฺฏนฺติเยว, ตโต อุตฺตริ ลภิตฺวา อฺเสํ ทาตพฺพานิ, ทาตุํ อสกฺโกนฺโต มฺเจ ติริยํ อตฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ ลภตี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) อวิเสเสน วุตฺตํ. เสนาสนกฺขนฺธกสํวณฺณนายํ ปน ‘‘อคิลานสฺส สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ ทฺวยเมว วฏฺฏติ, คิลานสฺส พิพฺโพหนานิ สนฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗) วุตฺตตฺตา คิลาโนเยว มฺเจ ติริยํ อตฺถริตฺวา นิปชฺชิตุํ ลภตีติ เวทิตพฺพํ.

๒๖๖๒. อุทฺธํ เสตวิตานมฺปิ เหฏฺา อกปฺปิเย ปจฺจตฺถรเณ สติ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ตสฺมินฺติ อกปฺปิยปจฺจตฺถรเณ.

๒๖๖๓. ‘‘เปตฺวา’’ติ อิมินา อาสนฺทาทิตฺตยสฺส วฏฺฏนากาโร นตฺถีติ ทีเปติ. เสสํ สพฺพนฺติ โคนกาทิ ทฺวิธารตฺตูปธานกปริยนฺตํ สพฺพํ. คิหิสนฺตกนฺติ คิหีนํ สนฺตกํ เตหิเยว ปฺตฺตํ, อิมินา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตเรน วา เตสํ อาณตฺติยา วา ปฺตฺตํ น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ลภเตติ นิสีทิตุํ ลภติ.

๒๖๖๔. ตํ กตฺถ ลภตีติ ปเทสนิยมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ธมฺมาสเน’’ติอาทิ. ธมฺมาสเนติ เอตฺถ อฏฺกถายํ ‘‘ยทิ ธมฺมาสเน สงฺฆิกมฺปิ โคนกาทึ ภิกฺขูหิ อนาณตฺตา อารามิกาทโย สยเมว ปฺาเปนฺติ เจว นีหรนฺติ จ, เอตํ คิหิวิกตนีหารํ นาม. อิมินา คิหิวิกตนีหาเรน วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐; วิ. สงฺค. อฏฺ. ปกิณฺณกวินิจฺฉยกถา ๕๖ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. ภตฺตคฺเค วาติ วิหาเร นิสีทาเปตฺวา ปริเวสนฏฺาเน วา โภชนสาลายํ วา. อปิสทฺเทน คิหีนํ เคเหปิ เตหิ ปฺตฺเต โคนกาทิมฺหิ นิสีทิตุํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ. ธมฺมาสนาทิปเทสนิยมเนน ตโต อฺตฺถ คิหิปฺตฺเตปิ ตตฺถ นิสีทิตุํ น วฏฺฏตีติ พฺยติเรกโต วิฺายติ.

ภูมตฺถรณเกติ เอตฺถ ‘‘กเต’’ติ เสโส. ตตฺถาติ สงฺฆิเก วา คิหิสนฺตเก วา โคนกาทิมฺหิ สหธมฺมิเกหิ อนาณตฺเตหิ คิหีหิ เอว ภูมตฺถรเณ กเต. สยิตุนฺติ อุปริ อตฺตโน ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. อปิ-สทฺเทน นิสีทิตุมฺปิ วาติ สมุจฺจิโนติ. ‘‘ภูมตฺถรณเก’’ติ อิมินา คิหีหิ เอว มฺจาทีสุ สยนตฺถํ อตฺถเต อุปริ อตฺตโน ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา สยิตุํ วา นิสีทิตุํ วา น วฏฺฏตีติ ทีเปติ.

จมฺมกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

เภสชฺชกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๖๖๕. คหปติสฺส ภูมิ, สมฺมุติภูมิ, อุสฺสาวนนฺติกาภูมิ, โคนิสาทิภูมีติ กปฺปิยภูมิโย จตสฺโส โหนฺตีติ วุตฺตา ภควตาติ โยชนา.

๒๖๖๖. กถํ กปฺปิยํ กตฺตพฺพนฺติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตสฺโส กปฺปิยภูมิโย อุสฺสาวนนฺติกํ โคนิสาทิกํ คหปตึ สมฺมุติ’’นฺติ (มหาว. ๒๙๕) เอวํ จตสฺโส ภูมิโย อุทฺธริตฺวา ตาสํ สามฺลกฺขณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติอาทิ. สงฺฆสฺส สนฺตกํ วาสตฺถาย กตํ เคหํ วา ภิกฺขุโน สนฺตกํ วาสตฺถาย กตํ เคหํ วาติ โยชนา. กปฺปิยํ กตฺตพฺพนฺติ กปฺปิยฏฺานํ กตฺตพฺพํ. สหเสยฺยปฺปโหนกนฺติ สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉนฺนาทิลกฺขเณน สหเสยฺยารหํ.

๒๖๖๗. อิทานิ จตสฺโสปิ ภูมิโย สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘เปตฺวา’’ติอาทิ. ภิกฺขุํ เปตฺวา อฺเหิ กปฺปิยภูมิยา อตฺถาย ทินฺนํ วา เตสํ สนฺตกํ วา ยํ เคหํ, อิทํ เอว คหปติภูมิ นามาติ โยชนา.

๒๖๖๘. ยา ปน กุฏิ สงฺเฆน สมฺมตา ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย, สา สมฺมุติกา นาม. ตสฺสา สมฺมนฺนนกาเล กมฺมวาจํ อวตฺวา อปโลกนํ วา กาตุํ วฏฺฏเตวาติ โยชนา.

๒๖๖๙-๗๐. ปมอิฏฺกาย วา ปมปาสาณสฺส วา ปมตฺถมฺภสฺส วา อาทิ-คฺคหเณน ปมภิตฺติปาทสฺส วา ปเน ปเรสุ มนุสฺเสสุ อุกฺขิปิตฺวา เปนฺเตสุ สมนฺตโต ปริวาเรตฺวา ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรม, กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ อภิกฺขณํ วทนฺเตหิ อามสิตฺวา วา สยเมว อุกฺขิปิตฺวา วา อิฏฺกา เปยฺย ปาสาโณ วา ถมฺโภ วา ภิตฺติปาโท วา เปยฺย เปตพฺโพ, อยํ อุสฺสาวนนฺติกา กุฏีติ โยชนา.

๒๖๗๑. อิฏฺกาทิปติฏฺานนฺติ ปมิฏฺกาทีนํ ภูมิยํ ปติฏฺานํ. วทตนฺติ ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรม, กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ วทนฺตานํ. สมกาลํ ตุ วฏฺฏตีติ เอกกาลํ วฏฺฏติ, อิมินา ‘‘สเจ หิ อนิฏฺิเต วจเน ถมฺโภ ปติฏฺาติ, อปฺปติฏฺิเต วา ตสฺมึ วจนํ นิฏฺาติ, อกตา โหติ กปฺปิยกุฏี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕) อฏฺกถาวินิจฺฉโย สูจิโต.

๒๖๗๒. อาราโม สกโล อปริกฺขิตฺโต วา เยภุยฺยโต อปริกฺขิตฺโต วาติ ทุวิโธปิ วิฺูหิ วินยธเรหิ ‘‘โคนิสาที’’ติ วุจฺจติ. ปเวสนิวารณาภาเวน ปวิฏฺานํ คุนฺนํ นิสชฺชาโยคโต ตถา วุจฺจตีติ โยชนา.

๒๖๗๓. ปโยชนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺถ ปกฺกฺจา’’ติอาทิ. อามิสนฺติ ปุริมกาลิกทฺวยํ. ‘‘อามิส’’นฺติ อิมินา นิรามิสํ อิตรกาลิกทฺวยํ อกปฺปิยกุฏิยํ วุตฺถมฺปิ ปกฺกมฺปิ กปฺปตีติ ทีเปติ.

๒๖๗๔-๕. อิมา กปฺปิยกุฏิโย กทา ชหิตวตฺถุกา โหนฺตีติ อาห ‘‘อุสฺสาวนนฺติกา ยา สา’’ติอาทิ. ยา อุสฺสาวนนฺติกา เยสุ ถมฺภาทีสุ อธิฏฺิตา, สา เตสุ ถมฺภาทีสุ อปนีเตสุ ตทฺเสุปิ ถมฺภาทีสุ ติฏฺตีติ โยชนา.

สพฺเพสุ ถมฺภาทีสุ อปนีเตสุ สา ชหิตวตฺถุกา สิยาติ โยชนา. โคนิสาทิกุฏิ ปริกฺขิตฺตา วติอาทีหิ ชหิตวตฺถุกา สิยา. ปริกฺขิตฺตาติ จ ‘‘อาราโม ปน อุปฑฺฒปริกฺขิตฺโตปิ พหุตรํ ปริกฺขิตฺโตปิ ปริกฺขิตฺโตเยว นามา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕) กุรุนฺทิมหาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตตฺตา น เกวลํ สพฺพปริกฺขิตฺตาว, อุปฑฺฒปริกฺขิตฺตาปิ เยภุยฺยปริกฺขิตฺตาปิ คเหตพฺพา.

เสสาติ คหปติสมฺมุติกุฏิโย. ฉทนนาสโต ชหิตวตฺถุกา สิยุนฺติ โยชนา. ฉทนนาสโตติ เอตฺถ ‘‘โคปานสิมตฺตํ เปตฺวา’’ติ เสโส. สเจ โคปานสีนํ อุปริ เอกมฺปิ ปกฺขปาสมณฺฑลํ อตฺถิ, รกฺขติ. ยตฺร ปนิมา จตสฺโสปิ กปฺปิยภูมิโย นตฺถิ, ตตฺถ กึ กาตพฺพํ? อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา ตสฺส สนฺตกํ กตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ.

๒๖๗๖. ภิกฺขุํ เปตฺวา อฺเสํ หตฺถโต ปฏิคฺคโห จ เตสํ สนฺนิธิ จ เตสํ อนฺโตวุตฺถฺจ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๖๗๗. ภิกฺขุสฺส สนฺตกํ สงฺฆิกมฺปิ วา อกปฺปิยภูมิยํ สหเสยฺยปฺปโหนเก เคเห อนฺโตวุตฺถฺจ อนฺโตปกฺกฺจ ภิกฺขุสฺส น วฏฺฏติ. ภิกฺขุนิยา สนฺตกํ สงฺฆิกมฺปิ วา อกปฺปิยภูมิยํ สหเสยฺยปฺปโหนเก เคเห อนฺโตวุตฺถฺจ อนฺโตปกฺกฺจ ภิกฺขุนิยา น วฏฺฏตีติ เอวํ อุภินฺนํ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๖๗๘. อกปฺปกุฏิยาติ อกปฺปิยกุฏิยา, ‘‘อกปฺปิยภูมิยํ สหเสยฺยปฺปโหนเก เคเห’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตาย อกปฺปิยภูมิยาติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน นวนีตเตลมธุผาณิตานํ คหณํ.

๒๖๗๙. เตเหว อนฺโตวุตฺเถหิ สปฺปิอาทีหิ สตฺตาหกาลิเกหิ สห ภิกฺขุนา ปกฺกํ ตํ ยาวชีวิกํ นิรามิสํ สตฺตาหํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏเตวาติ โยชนา.

๒๖๘๐. ปกฺกํ สามํปกฺกํ ตํ ยาวชีวิกํ สเจ อามิสสํสฏฺํ ปริภุฺชติ, อนฺโตวุตฺถฺจ ภุฺชติ, กิฺจ ภิยฺโย สามํปกฺกฺจ ภุฺชตีติ โยชนา. ยาวชีวิกสฺส อามิสสํสฏฺสฺส อามิสคติกตฺตา ‘‘อนฺโตวุตฺถ’’นฺติ วุตฺตํ.

๒๖๘๒. อุทกํ น โหติ กาลิกํ จตูสุ กาลิเกสุ อสงฺคหิตตฺตา.

๒๖๘๓. ติกาลิกา ยาวกาลิกา ยามกาลิกา สตฺตาหกาลิกาติ ตโย กาลิกา ปฏิคฺคหวเสเนว อตฺตโน อตฺตโน กาลํ อติกฺกมิตฺวา ภุตฺตา โทสกรา โหนฺติ, ตติยํ สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยวตฺถุตฺตา อภุตฺตมฺปิ โทสกรนฺติ โยชนา.

‘‘ภุตฺตา โทสกรา’’ติ อิมินา ปุริมกาลิกทฺวยํ ปฏิคฺคเหตฺวา กาลาติกฺกมนมตฺเตน อาปตฺติยา การณํ น โหติ, ภุตฺตเมว โหติ. สตฺตาหกาลิกํ กาลาติกฺกเมน อปริภุตฺตมฺปิ อาปตฺติยา การณํ โหตีติ ทีเปติ. เตสุ สตฺตาหกาลิเกเยว วิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อภุตฺตํ ตติยมฺปิ จา’’ติ. -สทฺโท ตุ-สทฺทตฺเถ. ยาวชีวิกํ ปน ปฏิคฺคเหตฺวา ยาวชีวํ ปริภุฺชิยมานํ อิตรกาลิกสํสคฺคํ วินา โทสกรํ น โหตีติ น คหิตํ.

๒๖๘๔. อมฺพาทโย สทฺทา รุกฺขานํ นามภูตา ตํตํผเลปิ วตฺตมานา อิธ อุปจารวเสน ตชฺเช ปานเก วุตฺตา, เตเนวาห ‘‘ปานกํ มต’’นฺติ. โจจํ อฏฺิกกทลิปานํ. โมจํ อิตรกทลิปานํ. มธูติ มุทฺทิกผลานํ รสํ. มุทฺทิกาติ สีโตทเก มทฺทิตานํ มุทฺทิกผลานํ ปานํ. ‘‘สาลูกปานนฺติ รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ สาลูเก มทฺทิตฺวา กตปาน’’นฺติ ปาฬิยํ, อฏฺกถาย (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) จ สาลูก-สทฺทสฺส ทีฆวเสน สํโยคทสฺสนโต ‘‘สาลุ ผารุสกฺจา’’ติ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต.

สาลูกํ กุมุทุปฺปลานํ ผลรสํ. ขุทฺทสิกฺขาวณฺณนายํ ปน ‘‘สาลูกปานํ นาม รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ กิฺชกฺขเรณูหิ กตปาน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ผารุสก’นฺติอาทีสุ เอโก รุกฺโข’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. ตสฺส ผลรโส ผารุสกํ นาม. เอเตสํ อฏฺนฺนํ ผลานํ รโส อุทกสมฺภินฺโน วฏฺฏติ, สีตุทเก มทฺทิโต ปสนฺโน นิกฺกสโฏว วฏฺฏติ, อุทเกน ปน อสมฺภินฺโน รโส ยาวกาลิโก.

๒๖๘๕. ผลนฺติ อมฺพาทิผลํ. สวตฺถุกปฏิคฺคโหติ ปานวตฺถุกานํ ผลานํ ปฏิคฺคโห. วสติ เอตฺถ ปานนฺติ วตฺถุ, ผลํ, วตฺถุนา สห วฏฺฏตีติ สวตฺถุกํ, ปานํ, สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคโห สวตฺถุกปฏิคฺคโห. สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคหํ นาม วตฺถุปฏิคฺคหณเมวาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปานวตฺถุกานํ ผลานํ ปฏิคฺคโห’’ติ.

๒๖๘๖. ‘‘สุโกฏฺเฏตฺวา’’ติ วุจฺจมานตฺตา ‘‘อมฺพปกฺก’’นฺติ อามกเมว อมฺพผลํ วุจฺจติ. อุทเกติ สีโตทเก. ปริสฺสวํ ปริสฺสาวิตํ. กตฺวาติ มธุอาทีหิ อภิสงฺขริตฺวา. ยถาห – ‘‘ตทหุปฏิคฺคหิเตหิ มธุสกฺกรกปฺปูราทีหิ โยเชตฺวา กาตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐). ปาตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺถ วินิจฺฉโย ‘‘เอวํ กตํ ปุเรภตฺตเมว กปฺปติ, อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ลภิตฺวา ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภเคนาปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตํ นิรามิสปริโภเคน ยาว อรุณุคฺคมนา วฏฺฏติเยว. เอส นโย สพฺพปาเนสู’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺโต.

๒๖๘๗. เสสปานเกสุปีติ ชมฺพุปานกาทีสุปิ.

๒๖๘๘. อุจฺฉุรโส อนฺโตคธตฺตา อิธ วุตฺโต, น ปน ยามกาลิกตฺตา, โส ปน สตฺตาหกาลิโกเยว.

๒๖๘๙. มธุกสฺส รสนฺติ มธุกปุปฺผสฺส รสํ. เอตฺถ มธุกปุปฺผรโส อคฺคิปาโก วา โหตุ อาทิจฺจปาโก วา, ปจฺฉาภตฺตํ น วฏฺฏติ. ปุเรภตฺตมฺปิ ยํ ปานํ คเหตฺวา มชฺชํ กโรนฺติ, โส อาทิโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ. มธุกปุปฺผํ ปน อลฺลํ วา สุกฺขํ วา ภชฺชิตํ วา เตน กตผาณิตํ วา ยโต ปฏฺาย มชฺชํ น กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ ปุเรภตฺตํ วฏฺฏติ.

ปกฺกฑากรสนฺติ ปกฺกสฺส ยาวกาลิกสฺส รสํ. สพฺโพ ปตฺตรโส ยามกาลิโก วุตฺโตติ โยชนา. อฏฺกถายํ ‘‘ยาวกาลิกปตฺตานฺหิ ปุเรภตฺตํเยว รโส กปฺปตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) อิมเมว สนฺธาย วุตฺตํ.

๒๖๙๐. สานุโลมานํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ผลชํ รสํ เปตฺวา สพฺโพ ผลโช รโส วิกาเล ยามสฺิเต อนุโลมโต ปริภุฺชิตุํ อนุฺาโตติ โยชนา.

๒๖๙๑. ยาวกาลิกปตฺตานํ สีตุทเก มทฺทิตฺวา กโต รโสปิ อปกฺโก, อาทิจฺจปาโกปิ วิกาเล ปน วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๖๙๒-๓. สตฺตธฺานุโลมานิ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ตาลฺจนาฬิเกรฺจา’’ติอาทิ. อปรณฺณํ มุคฺคาทิ. ‘‘สตฺตธฺานุโลมิก’’นฺติ อิมินา เอเตสํ รโส ยาวกาลิโก ยามกาลสงฺขาเต วิกาเล ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ.

๒๖๙๕. เอวมาทีนํ ขุทฺทกานํ ผลานํ รโส ปน อฏฺปานานุโลมตฺตา อนุโลมิเก ยามกาลิกานุโลมิเก นิทฺทิฏฺโ กถิโตติ โยชนา.

๒๖๙๖. อิธ อิมสฺมึ โลเก สานุโลมสฺส ธฺสฺส ผลชํ รสํ เปตฺวา อยามกาลิโก อฺโ ผลรโส นตฺถีติ โยชนา, สพฺโพ ยามกาลิโกเยวาติ ทีเปติ.

เภสชฺชกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

กถินกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๖๙๗. วุตฺถวสฺสานํ ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ยาว มหาปวารณา, ตาว รตฺติจฺเฉทํ อกตฺวา วุตฺถวสฺสานํ ภิกฺขูนํ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ ติณฺณํ จตุนฺนํ ปฺจนฺนํ อติเรกานํ วา ภิกฺขูนํ ปฺจนฺนํ อานิสํสานํ วกฺขมานานํ อนามนฺตจาราทีนํ ปฺจนฺนํ อานิสํสานํ ปฏิลาภการณา มุนิปุงฺคโว สพฺเพสํ อคาริกาทิมุนีนํ สกลคุณคเณหิ อุตฺตโม ภควา กถินตฺถารํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺถานํ ภิกฺขูนํ กถินํ อตฺถริตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๐๖) อพฺรฺวิ กเถสีติ โยชนา.

เอตฺถายํ วินิจฺฉโย – ‘‘กถินตฺถารํ เก ลภนฺติ, เก น ลภนฺตีติ? คณนวเสน ตาว ปจฺฉิมโกฏิยา ปฺจ ชนา ลภนฺติ, อุทฺธํ สตสหสฺสมฺปิ, ปฺจนฺนํ เหฏฺา น ลภนฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖) อิทํ อฏฺกถาย อตฺถารกสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆสฺส กถินทุสฺสทานกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘วุตฺถวสฺสวเสน ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปมปวารณาย ปวาริตา ลภนฺติ, ฉินฺนวสฺสา วา ปจฺฉิมิกาย อุปคตา วา น ลภนฺติ. อฺสฺมึ วิหาเร วุตฺถวสฺสาปิ น ลภนฺตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖) อิทํ อฏฺกถาย อานิสํสลาภํ สนฺธาย วุตฺตํ, น กมฺมํ.

อิทานิ ตทุภยํ วิภชิตฺวา ทสฺเสติ –

‘‘ปุริมิกาย อุปคตานํ ปน สพฺเพ คณปูรกา โหนฺติ, อานิสํสํ น ลภนฺติ, อานิสํโส อิตเรสํเยว โหติ. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา จตฺตาโร วา โหนฺติ, ตโย วา ทฺเว วา เอโก วา, อิตเร คณปูรเก กตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. อถ จตฺตาโร ภิกฺขู อุปคตา, เอโก ปริปุณฺณวสฺโส สามเณโร, โส เจ ปจฺฉิมิกาย อุปสมฺปชฺชติ, คณปูรโก เจว โหติ, อานิสํสฺจ ลภติ. ตโย ภิกฺขู ทฺเว สามเณรา, ทฺเว ภิกฺขู ตโย สามเณรา, เอโก ภิกฺขุ จตฺตาโร สามเณราติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา กถินตฺถารกุสลา น โหนฺติ, อตฺถารกุสลา ขนฺธกภาณกตฺเถรา ปริเยสิตฺวา อาเนตพฺพา, กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กถินํ อตฺถราเปตฺวา ทานฺจ ภุฺชิตฺวา คมิสฺสนฺติ, อานิสํโส ปน อิตเรสํเยว โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖).

กถินํ เกน ทินฺนํ วฏฺฏตีติ? เยน เกนจิ เทเวน วา มนุสฺเสน วา ปฺจนฺนํ วา สหธมฺมิกานํ อฺตเรน ทินฺนํ วฏฺฏติ. กถินทายกสฺส วตฺตํ อตฺถิ, สเจ โส ตํ อชานนฺโต ปุจฺฉติ ‘‘ภนฺเต, กถํ กถินํ ทาตพฺพ’’นฺติ, ตสฺส เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ ‘‘ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรปฺปโหนกํ สูริยุคฺคมนสมเย วตฺถํ ‘กถินจีวรํ เทมา’ติ ทาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺส ปริกมฺมตฺถํ เอตฺตกา นาม สูจิโย, เอตฺตกํ สุตฺตํ, เอตฺตกํ รชนํ, ปริกมฺมํ กโรนฺตานํ เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ ยาคุภตฺตฺจ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ.

กถินตฺถารเกนาปิ ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนํ กถินํ อตฺถรนฺเตน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตนฺตวายเคหโต หิ อาภตสนฺตาเนเนว ขลิมกฺขิตสาฏโกปิ น วฏฺฏติ, มลีนสาฏโกปิ น วฏฺฏติ, ตสฺมา กถินตฺถารสาฏกํ ลภิตฺวา สุทฺธํ โธวิตฺวา สูจิอาทีนิ จีวรกมฺมูปกรณานิ สชฺเชตฺวา พหูหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ตทเหว สิพฺพิตฺวา นิฏฺิตสูจิกมฺมํ รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. สเจ ตสฺมึ อนตฺถเตเยว อฺโ กถินสาฏกํ อตฺถริตพฺพกํ อาหรติ, อฺานิ จ พหูนิ กถินานิสํสวตฺถานิ เทติ, โย อานิสํสํ พหุํ เทติ, ตสฺส สนฺตเกเนว อตฺถริตพฺพํ. อิตโร ยถา ตถา โอวทิตฺวา สฺาเปตพฺโพ.

กถินํ ปน เกน อตฺถริตพฺพํ? ยสฺส สงฺโฆ กถินจีวรํ เทติ. สงฺเฆน ปน กสฺส ทาตพฺพํ? โย ชิณฺณจีวโร โหติ. สเจ พหู ชิณฺณจีวรา โหนฺติ, วุฑฺฒสฺส ทาตพฺพํ. วุฑฺเฒสุปิ โย มหาปริวาโร ตทเหว จีวรํ กตฺวา อตฺถริตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. สเจ วุฑฺโฒ น สกฺโกติ, นวกตโร สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. อปิ จ สงฺเฆน มหาเถรสฺส สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, คณฺหถ, มยํ กตฺวา ทสฺสามา’’ติ วตฺตพฺพํ.

ตีสุ จีวเรสุ ยํ ชิณฺณํ โหติ, ตทตฺถาย ทาตพฺพํ. ปกติยา ทุปฏฺฏจีวรสฺส ทุปฏฺฏตฺถาเยว ทาตพฺพํ. สเจปิสฺส เอกปฏฺฏจีวรํ ฆนํ โหติ, กถินสาฏโก จ เปลโว, สารุปฺปตฺถาย ทุปฏฺฏปฺปโหนกเมว ทาตพฺพํ. ‘‘อหํ อลภนฺโต เอกปฏฺฏํ ปารุปามี’’ติ วทนฺตสฺสาปิ ทุปฏฺฏํ ทาตุํ วฏฺฏติ. โย ปน โลภปกติโก โหติ, ตสฺส น ทาตพฺพํ. เตนาปิ กถินํ อตฺถริตฺวา ‘‘ปจฺฉา วิสิพฺพิตฺวา ทฺเว จีวรานิ กริสฺสามี’’ติ น คเหตพฺพํ.

ยสฺส ปน ทิยฺยติ, ตสฺส –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺย กถินํ อตฺถริตุํ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ, สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทติ กถินํ อตฺถริตุํ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิมสฺส กถินทุสฺสสฺส อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทานํ กถินํ อตฺถริตุํ, โส ตุณฺหสฺส, ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทินฺนํ อิทํ สงฺเฆน กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน กถินํ อตฺถริตุํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๓๐๗) –

เอวํ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ทาตพฺพนฺติ เอวํ ทินฺนํ.

๒๖๙๘-๙. น อุลฺลิขิตมตฺตาทิ-จตุวีสติวชฺชิตนฺติ ปาฬิยํ อาคเตหิ ‘‘น อุลฺลิขิตมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถิน’’นฺติ (มหาว. ๓๐๘) อุลฺลิขิตมตฺตาทีหิ จตุวีสติยา อากาเรหิ วชฺชิตํ. จีวรนฺติ ‘‘อหเตน อตฺถตํ โหติ กถิน’’นฺติ (มหาว. ๓๐๙) ปาฬิยํ อาคตานํ โสฬสนฺนํ อาการานํ อฺตเรน ยุตฺตํ กตปริโยสิตํ ทินฺนํ กปฺปพินฺทุํ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรจีวรํ. เต ปน จตุวีสติ อาการา, โสฬสาการา จ ปาฬิโต (มหาว. ๓๐๘), อฏฺกถาโต (มหาว. อฏฺ. ๓๐๘) จ คเหตพฺพา. คนฺถคารวปริหารตฺถมิธ น วุตฺตา.

ภิกฺขุนา วกฺขมาเน อฏฺธมฺเม ชานนฺเตน อตฺถรเกน อาทาย คเหตฺวา ปุราณกํ อตฺตนา ปริภุฺชิยมานํ อตฺถริตพฺพจีวเรน เอกนามกํ ปุราณจีวรํ อุทฺธริตฺวา ปจฺจุทฺธริตฺวา นวํ อตฺถริตพฺพํ จีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปุราณปจฺจุทฺธฏจีวรสฺส นาเมน อธิฏฺหิตฺวาว ตํ อนฺตรวาสกํ เจ, ‘‘อิมินา อนฺตรวาสเกน กถินํ อตฺถรามิ’’อิติ วจสา วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. สเจ อุตฺตราสงฺโค โหติ, ‘‘อิมินา อุตฺตราสงฺเคน กถินํ อตฺถรามิ’’, สเจ สงฺฆาฏิ โหติ, ‘‘อิมาย สงฺฆาฏิยา กถินํ อตฺถรามี’’ติ วตฺตพฺพํ.

๒๗๐๐-๑. อิจฺเจวํ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ โหตีติ โยชนา. เตน ปน ภิกฺขุนา นวเกน กถินจีวรํ อาทาย สงฺฆํ อุปสงฺกมฺม ‘‘อตฺถตํ, ภนฺเต, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทถ’’อิติ วตฺตพฺพนฺติ โยชนา.

๒๗๐๒. อนุโมทเกสุ จ เถเรหิ ‘‘อตฺถตํ, อาวุโส, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามา’’ติ วตฺตพฺพํ, นเวน ปน ‘‘อตฺถตํ, ภนฺเต, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามี’’ติ อิติ ปุน อีรเย กเถยฺยาติ โยชนา. คาถาย ปน อนุโมทนปาสฺส อตฺถทสฺสนมุเขน ‘‘สุอตฺถตํ ตยา ภนฺเต’’ติ วุตฺตํ, น ปากฺกมทสฺสนวเสนาติ เวทิตพฺพํ.

อตฺถารเกสุ จ อนุโมทเกสุ จ นเวหิ วุฑฺฒานํ วจนกฺกโม วุตฺโต, วุฑฺเฒหิ นวานํ วจนกฺกโม ปน ตทนุสาเรน ยถารหํ โยเชตฺวา วตฺตพฺโพติ คาถาสุ น วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. อตฺถารเกน เถเรน วา นเวน วา คณปุคฺคลานํ วจนกฺกโม จ คณปุคฺคเลหิ อตฺถารกสฺส วจนกฺกโม จ วุตฺตนเยน ยถารหํ โยเชตุํ สกฺกาติ น วุตฺโต.

เอวํ อตฺถเต ปน กถิเน สเจ กถินจีวเรน สทฺธึ อาภตํ อานิสํสํ ทายกา ‘‘เยน อมฺหากํ กถินํ คหิตํ, ตสฺเสว จ เทมา’’ติ เทนฺติ, ภิกฺขุสงฺโฆ อนิสฺสโร. อถ อวิจาเรตฺวาว ทตฺวา คจฺฉนฺติ, ภิกฺขุสงฺโฆ อิสฺสโร. ตสฺมา สเจ กถินตฺถารกสฺส เสสจีวรานิปิ ทุพฺพลานิ โหนฺติ, สงฺเฆน อปโลเกตฺวา เตสมฺปิ อตฺถาย วตฺถานิ ทาตพฺพานิ, กมฺมวาจาย ปน เอกาเยว วฏฺฏติ. อวเสเส กถินานิสํเส พลววตฺถานิ วสฺสาวาสิกิติกาย ทาตพฺพานิ, ิติกาย อภาเว เถราสนโต ปฏฺาย ทาตพฺพานิ, ครุภณฺฑํ น ภาเชตพฺพํ. สเจ ปน เอกสีมาย พหู วิหารา โหนฺติ, สพฺเพ ภิกฺขู สนฺนิปาเตตฺวา เอกตฺถ กถินํ อตฺถริตพฺพํ, วิสุํ วิสุํ อตฺถริตุํ น วฏฺฏติ.

๒๗๐๓. ‘‘กถินสฺส จ กึ มูล’’นฺติอาทีนิ สยเมว วิวริสฺสติ.

๒๗๐๖. อฏฺธมฺมุทฺเทสคาถาย ปุพฺพกิจฺจํ ปุพฺพ-วจเนเนว อุตฺตรปทโลเปน วุตฺตํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปุพฺพกิจฺจนฺติ วุจฺจตี’’ติ. ‘‘ปจฺจุทฺธาร’’อิติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปจฺจุทฺธร’’อิติ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปจฺจุทฺธาโร’’ติ. อธิฏฺหนํ อธิฏฺานํ. ปจฺจุทฺธาโร จ อธิฏฺานฺจ ปจฺจุทฺธราธิฏฺานา. อิตรีตรโยเคน ทฺวนฺทสมาโส. อตฺถาโรติ เอตฺถ ‘‘กถินตฺถาโร’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.

‘‘มาติกา’’ติ อิมินา ‘‘อฏฺ กถินุพฺภารมาติกา’’ติ ปกรณโต วิฺายติ. ยถาห – ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, มาติกา กถินสฺส อุพฺภารายา’’ติ (มหาว. ๓๑๐). มาติกาติ มาตโร ชเนตฺติโย, กถินุพฺภารํ เอตา อฏฺ ชเนนฺตีติ อตฺโถ. อุทฺธาโรติ กถินสฺส อุทฺธาโร. อานิสํสาติ เอตฺถ ‘‘กถินสฺสา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. กถินสฺส อานิสํสาติ อิเม อฏฺ ธมฺมาติ โยชนา. ยถาห ‘‘อตฺถตกถินานํ โว, ภิกฺขเว, ปฺจ กปฺปิสฺสนฺตี’’ติอาทิ (มหาว. ๓๐๖). ‘‘อานิสํเสนา’’ติปิ ปาโ. อานิสํเสน สห อิเม อฏฺ ธมฺมาติ โยชนา.

๒๗๐๗. ‘‘น อุลฺลิขิตมตฺตาทิ-จตุวีสติวชฺชิต’’นฺติอาทินา กถินํ อตฺถริตุํ กตปริโยสิตํ จีวรํ เจ ลทฺธํ, ตตฺถ ปฏิปชฺชนวิธึ ทสฺเสตฺวา สเจ อกตสิพฺพนาทิกมฺมํ วตฺถเมว ลทฺธํ, ตตฺถ ปฏิปชฺชนวิธึ ปุพฺพกิจฺจวเสน ทสฺเสตุมาห ‘‘โธวน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ โธวนนฺติ กถินทุสฺสสฺส เสตภาวกรณํ. วิจาโรติ ‘‘ปฺจกํ วา สตฺตกํ วา นวกํ วา เอกาทสกํ วา โหตู’’ติ วิจารณํ. เฉทนนฺติ ยถาวิจาริตสฺส วตฺถสฺส เฉทนํ. พนฺธนนฺติ โมฆสุตฺตกาโรปนํ. สิพฺพนนฺติ สพฺพสูจิกมฺมํ. รชนนฺติ รชนกมฺมํ. กปฺปนฺติ กปฺปพินฺทุทานํ. ‘‘ปุพฺพกิจฺจ’’นฺติ วุจฺจติ อิทํ สพฺพํ กถินตฺถารสฺส ปมเมว กตฺตพฺพตฺตา.

๒๗๐๘. อนฺตรวาสโกติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. สงฺฆาฏิ, อุตฺตราสงฺโค, อโถ อนฺตรวาสโกติ เอสเมว ตุ ปจฺจุทฺธาโรปิ อธิฏฺานมฺปิ อตฺถาโรปิ วุตฺโตติ โยชนา.

๒๗๐๙. อฏฺมาติกา (มหาว. ๓๑๐-๓๑๑; ปริ. ๔๑๕; มหาว. อฏฺ. ๓๑๐-๓๑๑) ทสฺเสตุมาห ‘‘ปกฺกมนฺจา’’ติอาทิ. ปกฺกมนํ อนฺโต เอตสฺสาติ ปกฺกมนนฺติกาติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘ปกฺกมน’’นฺติ วุตฺตํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อฏฺิมาติ เอตฺถ ‘‘มาติกา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อิมา อฏฺ มาติกาติ โยชนา.

๒๗๑๐. อุทฺเทสานุกฺกเมน นิทฺทิสิตุมาห ‘‘กตจีวรมาทายา’’ติอาทิ. ‘‘กตจีวรมาทายา’’ติ อิมินา จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. ‘‘อาวาเส นิรเปกฺขโก’’ติ อิมินา ทุติโย อาวาสปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. เอตฺถ สพฺพวากฺเยสุ ‘‘อตฺถตกถิโน โย ภิกฺขุ สเจ ปกฺกมตี’’ติ เสโส. อติกฺกนฺตาย สีมายาติ วิหารสีมาย อติกฺกนฺตาย. โหติ ปกฺกมนนฺติกาติ เอตฺถ ‘‘ตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ เสโส, ตสฺส ภิกฺขุโน ปกฺกมนนฺติกา นาม มาติกา โหตีติ อตฺโถ.

๒๗๑๑-๒. อานิสํสํ นาม วุตฺถวสฺเสน ลทฺธํ อกตสูจิกมฺมวตฺถํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘กโรตี’’ติอาทิ. ‘‘วิหาเร อนเปกฺขโก’’ติ อิมินา เอตฺถ ปมํ อาวาสปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. สุขวิหรณํ ปโยชนมสฺสาติ สุขวิหาริโก, วิหาโรติ. ตตฺถ ตสฺมึ วิหาเร วิหรนฺโตว ตํ จีวรํ ยทิ กโรติ, ตสฺมึ จีวเร นิฏฺิเต นิฏฺานนฺตา นิฏฺานนฺติกาติ วุจฺจตีติ โยชนา. ‘‘นิฏฺิเตจีวเร’’ติ อิมินา จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต.

๒๗๑๓. ตมสฺสมนฺติ ตํ วุตฺถวสฺสาวาสํ. ธุรนิกฺเขเปติ อุภยธุรนิกฺเขปวเสน จิตฺตปฺปวตฺตกฺขเณ. สนฺนิฏฺานํ นาม ธุรนิกฺเขโป. เอตฺถ ปลิโพธทฺวยสฺส เอกกฺขเณเยว อุปจฺเฉโท อฏฺกถายํ วุตฺโต ‘‘สนฺนิฏฺานนฺติเก ทฺเวปิ ปลิโพธา ‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’นฺติ จินฺติตมตฺเตเยว เอกโต ฉิชฺชนฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๑).

๒๗๑๔. กถินจฺฉาทนนฺติ กถินานิสํสํ จีวรวตฺถุํ. น ปจฺเจสฺสนฺติ น ปจฺจาคมิสฺสามิ. กโรนฺตสฺเสวาติ เอตฺถ ‘‘จีวร’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘กถินจฺฉาทน’’นฺติ อิทํ วา สมฺพนฺธนียํ. กโรนฺตสฺสาติ อนาทเร สามิวจนํ. นฏฺนฺติ โจเรหิ หฏตฺตา วา อุปจิกาทีหิ ขาทิตตฺตา วา นฏฺํ. ทฑฺฒํ วาติ อคฺคินา ทฑฺฒํ วา. นาสนนฺติกาติ เอวํ จีวรสฺส นาสนนฺเต ลพฺภมานา อยํ มาติกา นาสนนฺติกา นามาติ อตฺโถ. เอตฺถ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ อิมินา ปมํ อาวาสปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. ‘‘กโรนฺตสฺเสวา’’ติ อิมินา ทุติยํ จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต.

๒๗๑๕. ลทฺธานิสํโสติ ลทฺธกถินานิสํสจีวโร. อานิสํเส จีวเร สาเปกฺโข อเปกฺขวา พหิสีมคโต วสฺสํวุตฺถสีมาย พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กโรติ, โส กตจีวโร อนฺตรุพฺภารํ อนฺตรา อุพฺภารํ สุณาติ เจ, สวนนฺติกา นาม โหตีติ โยชนา. ‘‘พหิสีมคโต’’ติอาทินา ทุติยปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. เอตฺถ ‘‘กตจีวโร’’ติ วุตฺตตฺตา จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ปมํ โหติ, อิตโร ปน ‘‘สห สวเนน อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๑) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา ปจฺฉา โหติ.

๒๗๑๖-๗. จีวราสาย วสฺสํวุตฺโถ อาวาสโต ปกฺกนฺโต ‘‘ตุยฺหํ จีวรํ ทสฺสามี’’ติ เกนจิ วุตฺโต พหิสีมคโต ปน สวติ, ปุน ‘‘ตว จีวรํ ทาตุํ น สกฺโกมี’’ติ วุตฺโต อาสาย ฉินฺนมตฺตาย จีวเร ปจฺจาสาย อุปจฺฉินฺนมตฺตาย อาสาวจฺเฉทิกา นาม มาติกาติ มตา าตาติ โยชนา. อาสาวจฺฉาทิเก กถินุพฺภาเร อาวาสปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, จีวราสาย อุปจฺฉินฺนาย จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชติ.

๒๗๑๘-๒๐. โย วสฺสํวุตฺถวิหารมฺหา อฺํ วิหารํ คโต โหติ, โส อาคจฺฉํ อาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค กถินุทฺธารํ อติกฺกเมยฺย, ตสฺส โส กถินุทฺธาโร สีมาติกฺกนฺติโก มโตติ โยชนา. ตตฺถ สีมาติกฺกนฺติเก กถินุพฺภาเร จีวรปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, ตสฺส พหิสีเม อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชติ.

เอตฺถ จ ‘‘สีมาติกฺกนฺติโก นาม จีวรกาลสีมาติกฺกนฺติโก’’ติ เกนจิ วุตฺตํ. ‘‘พหิสีมายํ จีวรกาลสมยสฺส อติกฺกนฺตตฺตา สีมาติกฺกนฺติโก’’ติ (สารตฺถ. ฏี. มหาว. ๓๑๑) สารตฺถทีปนิยํ วุตฺตํ. ‘‘อาคจฺฉํ อนฺตรามคฺเค, ตทุทฺธารมติกฺกเม’’ติ วุตฺตตฺตา ปน สงฺเฆน กริยมานํ อนฺตรุพฺภารํ อาคจฺฉนฺโต วิหารสีมํ อสมฺปตฺเตเยว กถินุพฺภารสฺส ชาตตฺตา ตํ น สมฺภุเณยฺย, ตสฺเสวํ สีมมติกฺกนฺตสฺเสว สโต ปุน อาคจฺฉโต อนฺตรามคฺเค ชาโต กถินุพฺภาโร สีมาติกฺกนฺติโกติ อมฺหากํ ขนฺติ.

กถินานิสํสจีวรํ อาทาย สเจ อาวาเส สาเปกฺโขว คโต โหติ, ปุน อาคนฺตฺวา กถินุทฺธารํ กถินสฺส อนฺตรุพฺภารเมว สมฺภุณาติ เจ ยทิ ปาปุเณยฺย, ตสฺส โส กถินุทฺธาโร โหติ, โส ‘‘สหุพฺภาโร’’ติ วุจฺจตีติ โยชนา. สหุพฺภาเร ทฺเว ปลิโพธา อปุพฺพํ อจริมํ ฉิชฺชนฺติ.

๒๗๒๑. ‘‘สีมาติกฺกนฺติเกนา’’ติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘สีมโต’’ติ วุตฺตํ. ปกฺกมนฺจ นิฏฺานฺจ สนฺนิฏฺานฺจ สีมโต สีมาติกฺกนฺติเกน สห อิเม จตฺตาโร กถินุพฺภารา ปุคฺคลาธีนา ปุคฺคลายตฺตา สหุพฺภารสงฺขาโต อนฺตรุพฺภาโร สงฺฆาธีโนติ โยชนา. ‘‘อนฺตรุพฺภโร’’ติ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ.

๒๗๒๒. นาสนนฺติ นาสนนฺติโก. สวนนฺติ สวนนฺติโก. อาสาวจฺเฉทิกาปิ จาติ ตโยปิ กถินุพฺภารา. น ตุ สงฺฆา น ภิกฺขุโตติ สงฺฆโตปิ น โหนฺติ, ปุคฺคลโตปิ น โหนฺตีติ อตฺโถ. จีวรสฺส วินาโส สงฺฆสฺส วา จีวรสามิกสฺส วา ปโยเคน น ชาโตติ นาสนโก ตาว กถินุพฺภาโร อุภโตปิ น โหตีติ วุตฺโต. สวนฺจ อุภเยสํ ปโยคโต น ชาตนฺติ ตถา วุตฺตํ. ตถา อาสาวจฺเฉทิกาปิ.

๒๗๒๓. อาวาโสเยว ปลิโพโธติ วิคฺคโห. ปลิโพโธ จ จีวเรติ เอตฺถ จีวเรติ เภทวจนิจฺฉาย นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, จีวรนิมิตฺตปลิโพโธติ อตฺโถ, จีวรสงฺขาโต ปลิโพโธติ วุตฺตํ โหติ. สจฺจาทิคุณยุตฺตํ มุสาวาทาทิโทสวิมุตฺตํ อตฺถํ วทติ สีเลนาติ ยุตฺตมุตฺตตฺถวาที, เตน.

๒๗๒๔. อฏฺนฺนํ มาติกานนฺติ พหิสีมคตานํ วเสน วุตฺตา ปกฺกมนนฺติกาทโย สตฺต มาติกา, พหิสีมํ คนฺตฺวา อนฺตรุพฺภารํ สมฺภุณนฺตสฺส วเสน วุตฺโต สหุพฺภาโรติ อิมาสํ อฏฺนฺนํ มาติกานํ วเสน จ. อนฺตรุพฺภารโตปิ วาติ พหิสีมํ อคนฺตฺวา ตตฺเถว วสิตฺวา กถินุพฺภารกมฺเมน อุพฺภารกถินานํ วเสน ลพฺภนโต อนฺตรุพฺภารโต จาติ มเหสินา กถินสฺส ทุเว อุพฺภาราปิ วุตฺตาติ โยชนา. พหิสีมํ คนฺตฺวา อาคตสฺส วเสน สหุพฺภาโร, พหิสีมํ อาคตานํ วเสน อนฺตรุพฺภาโรติ เอโกเยว อุพฺภาโร ทฺวิธา วุตฺโต, ตสฺมา อนฺตรุพฺภารํ วิสุํ อคฺคเหตฺวา อฏฺเว มาติกา ปาฬิยํ (มหาว. ๓๑๐) วิภตฺตาติ เวทิตพฺพา.

๒๗๒๕. อนามนฺตจาโร อุตฺตรปทโลปวเสน ‘‘อนามนฺตา’’ อิติ วุตฺโต. ยาว กถินํ น อุทฺธรียติ, ตาว อนามนฺเตตฺวา จรณํ กปฺปิสฺสติ, จาริตฺตสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.

อสมาทานจาโร ‘‘อสมาทาน’’นฺติ อุตฺตรปทโลเปน วุตฺโต. อสมาทานจาโรติ ติจีวรํ อสมาทาย จรณํ, จีวรวิปฺปวาโส กปฺปิสฺสตีติ อตฺโถ.

‘‘คณโต’’ติ อิมินา อุตฺตรปทโลเปน คณโภชนํ ทสฺสิตํ. คณโภชนมฺปิ กปฺปิสฺสติ, ตํ สรูปโต ปาจิตฺติยกณฺเฑ วุตฺตํ.

‘‘ยาวทตฺถิก’’นฺติ อิมินา ยาวทตฺถจีวรํ วุตฺตํ. ยาวทตฺถจีวรนฺติ ยาวตเกน จีวเรน อตฺโถ, ตาวตกํ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ กปฺปิสฺสตีติ อตฺโถ.

‘‘ตตฺถ โย จีวรุปฺปาโท’’ติ อิมินา ‘‘โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโท’’ติ (มหาว. ๓๐๖) วุตฺโต อานิสํโส ทสฺสิโต. โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโทติ ตตฺถ กถินตฺถตสีมายํ มตกจีวรํ วา โหตุ สงฺฆสฺส อุทฺทิสฺส ทินฺนํ วา สงฺฆิเกน ตตฺรุปฺปาเทน อาภตํ วา, เยน เกนจิ อากาเรน ยํ สงฺฆิกํ จีวรํ อุปฺปชฺชติ, ตํ เตสํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อิเม ปฺจ กถินานิสํสา จ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ.

กถินกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

จีวรกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๗๒๖-๗. จีวรํ อุปฺปชฺชติ เอตาสูติ ‘‘อุปฺปาทา’’ติ ชนิกาว วุจฺจนฺติ, จีวรวตฺถปริลาภกฺเขตฺตนฺติ อตฺโถ. ยถาห – ‘‘ยถาวุตฺตานํ จีวรานํ ปฏิลาภาย เขตฺตํ ทสฺเสตุํ อฏฺิมา ภิกฺขเว มาติกาติอาทิมาหา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙). จีวรมาติกาติ จีวรุปฺปาทเหตุภูตมาตโร. เตนาห กถินกฺขนฺธกวณฺณนายํ ‘‘มาติกาติ มาตโร, ชเนตฺติโยติ อตฺโถ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๐). มาติกาติ เจตฺถ จีวรทานมธิปฺเปตํ. ยถาห ‘‘สีมาย ทานํ เอกา มาติกา, กติกาย ทานํ ทุติยา’’ติอาทิ. สีมาย เทติ, กติกาย เทติ, ภิกฺขาปฺตฺติยา เทติ, สงฺฆสฺส เทติ, อุภโตสงฺเฆ เทติ, วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส เทติ, อาทิสฺส เทติ, ปุคฺคลสฺส เทติ. ‘‘อิมา ปน อฏฺ มาติกา’’ติ วุตฺตเมว นิคมนวเสน วุตฺตํ.

๒๗๒๘. ตตฺถาติ ตาสุ อฏฺมาติกาสุ. สีมาย เทตีติ ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ เอวํ สีมํ ปรามสิตฺวา เทนฺโต สีมาย เทติ, เอวํ ทินฺนํ อนฺโตสีมคเตหิ ภิกฺขูหิ ภาเชตพฺพนฺติ วณฺณิตนฺติ โยชนา. ตตฺถ อนฺโตสีมคเตหีติ ทายโก ยํ สีมํ อเปกฺขิตฺวา เอวมาห, ตสฺสา สีมาย อนฺโตคเตหิ สพฺเพหิ. ภาเชตพฺพนฺติ ตํ จีวรํ ภาเชตพฺพํ. วรวณฺณินาติ ‘‘อิติปิ โส ภควา อรห’’นฺติอาทินา สกลโลกพฺยาปิคุณาติสยยุตฺเตน พฺยามปฺปภาย, ฉพฺพณฺณานํ รํสีนฺจ วเสน อุตฺตมปฺปภาติสยยุตฺเตน วรวณฺณินา วณฺณิตํ กถิตํ. อยเมตฺถ ปทวณฺณนา, อยํ ปน วินิจฺฉโย – สีมาย เทตีติ เอตฺถ ตาว ขณฺฑสีมา อุปจารสีมา สมานสํวาสสีมา อวิปฺปวาสสีมา ลาภสีมา คามสีมา นิคมสีมา นครสีมา อพฺภนฺตรสีมา อุทกุกฺเขปสีมา ชนปทสีมา รฏฺสีมา รชฺชสีมา ทีปสีมา จกฺกวาฬสีมา อิติ ปนฺนรส สีมา เวทิตพฺพา.

ตตฺถ ขณฺฑสีมา สีมากถายํ วุตฺตา. อุปจารสีมา ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเปน, อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปารหฏฺาเนน ปริจฺฉินฺนา โหติ. อปิจ ภิกฺขูนํ ธุวสนฺนิปาตฏฺานโต วา ปริยนฺเต ิตโภชนสาลโต วา นิพทฺธวสนกอาวาสโต วา ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต อุปจารสีมา เวทิตพฺพา. สา ปน อาวาเสสุ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒติ, ปริหายนฺเตสุ ปริหายติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ภิกฺขูสุปิ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) วุตฺตํ. ตสฺมา สเจ วิหาเร สนฺนิปติตภิกฺขูหิ สทฺธึ เอกาพทฺธา หุตฺวา โยชนสตมฺปิ ปูเรตฺวา นิสีทนฺติ, โยชนสตมฺปิ อุปจารสีมาว โหติ, สพฺเพสํ ลาโภ ปาปุณาติ. สมานสํวาสอวิปฺปวาสสีมาทฺวยมฺปิ วุตฺตเมว.

ลาภสีมา นาม เนว สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนุฺาตา, น ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตา, อปิจ โข ราชราชมหามตฺตา วิหารํ กาเรตฺวา คาวุตํ วา อฑฺฒโยชนํ วา โยชนํ วา สมนฺตโต ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อยํ อมฺหากํ วิหารสฺส ลาภสีมา’’ติ นามลิขิตเก ถมฺเภ นิขณิตฺวา ‘‘ยํ เอตฺถนฺตเร อุปฺปชฺชติ, สพฺพํ ตํ อมฺหากํ วิหารสฺส เทมา’’ติ สีมํ เปนฺติ, อยํ ลาภสีมา นาม. คามนิคมนครอพฺภนฺตรอุทกุกฺเขปสีมาปิ วุตฺตา เอว.

ชนปทสีมา นาม กาสิโกสลรฏฺาทีนํ อนฺโต พหู ชนปทา โหนฺติ, เอตฺถ เอเกโก ชนปทปริจฺเฉโท ชนปทสีมา. รฏฺสีมา นาม กาสิโกสลาทิรฏฺปริจฺเฉโท. รชฺชสีมา นาม มหาโจฬโภโค เกรฬโภโคติ เอวํ เอเกกสฺส รฺโ อาณาปวตฺติฏฺานํ. ทีปสีมา นาม สมุทฺทนฺเตน สมุจฺฉินฺนมหาทีปา จ อนฺตรทีปา จ. จกฺกวาฬสีมา นาม จกฺกวาฬปพฺพเตเนว ปริจฺฉินฺนา.

เอวเมตาสุ สีมาสุ ขณฺฑสีมาย เกนจิ กมฺเมน สนฺนิปติตํ สงฺฆํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺเถว สีมาย สงฺฆสฺส เทมี’’ติ วุตฺเต ยาวติกา ภิกฺขู อนฺโตขณฺฑสีมคตา, เตหิ ภาเชตพฺพํ. เตสํเยว หิ ตํ ปาปุณาติ, อฺเสํ สีมนฺตริกาย วา อุปจารสีมาย วา ิตานมฺปิ น ปาปุณาติ. ขณฺฑสีมาย ิเต ปน รุกฺเข วา ปพฺพเต วา ิตสฺส เหฏฺา วา ปถวิยา เวมชฺฌํ คตสฺส ปาปุณาติเยว.

‘‘อิมิสฺสา อุปจารสีมาย สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ิตานมฺปิ ปาปุณาติ. ‘‘สมานสํวาสสีมาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ิตานํ น ปาปุณาติ. อวิปฺปวาสสีมาลาภสีมาสุ ทินฺนํ ตาสุ สีมาสุ อนฺโตคตานํเยว ปาปุณาติ. คามสีมาทีสุ ทินฺนํ ตาสํ สีมานํ อพฺภนฺตเร พทฺธสีมาย ิตานมฺปิ ปาปุณาติ. อพฺภนฺตรสีมาอุทกุกฺเขปสีมาสุ ทินฺนํ ตตฺถ อนฺโตคตานํเยว ปาปุณาติ. ชนปทรฏฺรชฺชทีปจกฺกวาฬสีมาสุปิ คามสีมาทีสุ วุตฺตสทิโสเยว วินิจฺฉโย.

สเจ ปน ชมฺพุทีเป ิโต ‘‘ตมฺพปณฺณิทีเป สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, ตมฺพปณฺณิทีปโต เอโกปิ คนฺตฺวา สพฺเพสํ คณฺหิตุํ ลภติ. สเจปิ ตตฺเรว เอโก สภาคภิกฺขุ สภาคานํ ภาคํ คณฺหาติ, น วาเรตพฺโพ. เอวํ ตาว โย สีมํ ปรามสิตฺวา เทติ, ตสฺส ทาเน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

โย ปน ‘‘อสุกสีมายา’’ติ วตฺตุํ น ชานาติ, เกวลํ ‘‘สีมา’’ติ วจนมตฺตเมว ชานนฺโต วิหารํ อาคนฺตฺวา ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ วา ‘‘สีมฏฺกสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วา ภณติ, โส ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สีมา นาม พหุวิธา, กตรํ สีมํ สนฺธาย ภณสี’’ติ, สเจ วทติ ‘‘อหํ ‘อสุกสีมา’ติ น ชานามิ, สีมฏฺกสงฺโฆ ภาเชตฺวา คณฺหตู’’ติ, กตรสีมาย ภาเชตพฺพํ? มหาสีวตฺเถโร กิราห ‘‘อวิปฺปวาสสีมายา’’ติ. ตโต นํ อาหํสุ ‘‘อวิปฺปวาสสีมา นาม ติโยชนาปิ โหติ, เอวํ สนฺเต ติโยชเน ิตา ลาภํ คณฺหิสฺสนฺติ, ติโยชเน ตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ ปูเรตฺวา อารามํ ปวิสิตพฺพํ ภวิสฺสติ, คมิโก ติโยชนํ คนฺตฺวา เสนาสนํ อาปุจฺฉิสฺสติ, นิสฺสยปฏิปนฺนสฺส ติโยชนาติกฺกเม นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภิสฺสติ, ปาริวาสิเกน ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ ภวิสฺสติ, ภิกฺขุนิยา ติโยชเน ตฺวา อารามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉิตพฺพํ ภวิสฺสติ, สพฺพมฺเปตํ อุปจารสีมาปริจฺเฉทวเสเนว กตฺตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา อุปจารสีมายเมว ภาเชตพฺพ’’นฺติ.

๒๗๒๙. เย วิหารา สงฺเฆน กติกาย เอกลาภกา สมานลาภกา เอตฺถ เอเตสุ วิหาเรสุ ทินฺนํ ‘‘กติกาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ สพฺเพหิ ภิกฺขูหิ สห ภาเชตพฺพํ จีวรํ กติกาย วุจฺจตีติ โยชนา.

อยเมตฺถ วินิจฺฉโย – กติกา นาม สมานลาภกติกา, ตตฺเรวํ กติกา กาตพฺพา – เอกสฺมึ วิหาเร สนฺนิปติเตหิ ภิกฺขูหิ ยํ วิหารํ สงฺคณฺหิตุกามา สมานลาภํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ, อสฺส นามํ คเหตฺวา ‘‘อสุโก นาม วิหาโร โปราณโก’’ติ วา ‘‘พุทฺธาธิวุตฺโถ’’ติ วา ‘‘อปฺปลาโภ’’ติ วา ยํ กิฺจิ การณํ วตฺวา ‘‘ตํ วิหารํ อิมินา วิหาเรน สทฺธึ เอกลาภํ กาตุํ สงฺฆสฺส รุจฺจตี’’ติ ติกฺขตฺตุํ สาเวตพฺพํ. เอตฺตาวตา ตสฺมึ วิหาเร นิสินฺโนปิ อิธ นิสินฺโนว โหติ. ตสฺมึ วิหาเรปิ สงฺเฆน เอวเมว กาตพฺพํ. เอตฺตาวตา อิธ นิสินฺโนปิ ตสฺมึ วิหาเร นิสินฺโนว โหติ. เอกสฺมึ ลาเภ ภาชิยมาเน อิตรสฺมึ ิตสฺส ภาคํ คเหตุํ วฏฺฏติ. เอวํ เอเกน วิหาเรน สทฺธึ พหูปิ อาวาสา เอกลาภา กาตพฺพาติ.

๒๗๓๐. จีวรทายเกน ธุวการา ปากวตฺตาทินิจฺจสกฺการา ยตฺถ สงฺฆสฺส กฺรียนฺติ กรียนฺติ ตตฺถ ตสฺมึ วิหาเร เตเนว ทายเกน สงฺฆสฺส ทินฺนํ วิหารํ ‘‘ภิกฺขาปฺตฺติยา ทินฺน’’นฺติ มเหสินา วุตฺตนฺติ โยชนา.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ยสฺมึ วิหาเร อิมสฺส จีวรทายกสฺส สนฺตกํ สงฺฆสฺส ปากวตฺตํ วา วตฺตติ, ยสฺมึ วา วิหาเร ภิกฺขู อตฺตโน ภารํ กตฺวา สทา เคเห โภเชติ, ยตฺถ วา เตน อาวาโส การิโต, สลากภตฺตาทีนิ วา นิพทฺธานิ, เยน ปน สกโลปิ วิหาโร ปติฏฺาปิโต, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, อิเม ธุวการา นาม. ตสฺมา สเจ โส ‘‘ยตฺถ มยฺหํ ธุวการา กรียนฺติ, เอตฺถ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘ตตฺถ เทถา’’ติ วา ภณติ, พหูสุ เจปิ าเนสุ ธุวการา โหนฺติ, สพฺพตฺถ ทินฺนเมว โหติ.

สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู พหุตรา โหนฺติ, เตหิ วตฺตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ ธุวกาเร เอกตฺถ ภิกฺขู พหู, เอกตฺถ อปฺปกา’’ติ, สเจ ‘‘ภิกฺขุคณนาย คณฺหถา’’ติ ภณติ, ตถา ภาเชตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ วตฺถเภสชฺชาทิ อปฺปกมฺปิ สุเขน ภาชียติ, ยทิ ปน มฺโจ วา ปีกํ วา เอกเมว โหติ, ตํ ปุจฺฉิตฺวา ยสฺส วา วิหารสฺส เอกวิหาเรปิ วา ยสฺส เสนาสนสฺส โส วิจาเรติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจ ‘‘อสุกภิกฺขุ คณฺหตู’’ติ วทติ, วฏฺฏติ.

อถ ‘‘มยฺหํ ธุวกาเร เทถา’’ติ วตฺวา อวิจาเรตฺวาว คจฺฉติ, สงฺฆสฺสปิ วิจาเรตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ปน วิจาเรตพฺพํ – ‘‘สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน เทถา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ตตฺถ เสนาสนํ ปริปุณฺณํ โหติ. ยตฺถ นปฺปโหติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจ เอโก ภิกฺขุ ‘‘มยฺหํ วสนฏฺาเน เสนาสนปริโภคภณฺฑํ นตฺถี’’ติ วทติ, ตตฺถ ทาตพฺพนฺติ.

๒๗๓๑. สงฺฆสฺส ปน ยํ ทินฺนนฺติ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ยํ จีวรํ ทินฺนํ. ‘‘สมฺมุขีภูเตนา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺเธน รสฺสตฺตํ. สมฺมุขิภูเตนาติ จ อุปจารสีมาย ิเตน. ภาเชตพฺพนฺติ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา กาลํ โฆเสตฺวา ภาเชตพฺพํ. อิทเมตฺถ มุขมตฺตทสฺสนํ. วินิจฺฉโย อฏฺกถาย (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ – จีวรทายเกน วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺเนสุ ภาชิยมาเนสุ สีมฏฺสฺส อสมฺปตฺตสฺสปิ ภาคํ คณฺหนฺโต น วาเรตพฺโพ. วิหาโร มหา โหติ, เถราสนโต ปฏฺาย วตฺเถสุ ทิยฺยมาเนสุ อลสชาติกา มหาเถรา ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต, วีสติวสฺสานํ ทิยฺยติ, ตุมฺหากํ ิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา, ิติกํ เปตฺวา เตสํ ทตฺวา ปจฺฉา ิติกาย ทาตพฺพํ.

‘‘อสุกวิหาเร กิร พหุํ จีวรํ อุปฺปนฺน’’นฺติ สุตฺวา โยชนนฺตริกวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ ิตฏฺานโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ. อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมํ ปวิฏฺานํ อนฺเตวาสิกาทีสุ คณฺหนฺเตสุ ทาตพฺพเมว. ‘‘พหิ อุปจารสีมาย ิตานํ เทถา’’ติ วทนฺติ, น ทาตพฺพํ. สเจ ปน อุปจารสีมํ โอกฺกนฺเตหิ เอกาพทฺธา หุตฺวา อตฺตโน วิหารทฺวาเร วา อนฺโตวิหาเรเยว วา โหนฺติ, ปริสวเสน วฑฺฒิตา นาม สีมา โหติ, ตสฺมา ทาตพฺพํ. สงฺฆนวกสฺส ทินฺเนปิ ปจฺฉา อาคตานํ ทาตพฺพเมว. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเห อาคตานํ ปมภาโค น ปาปุณาติ, ทุติยภาคโต วสฺสคฺเคน ทาตพฺพํ.

เอกสฺมึ วิหาเร ทส ภิกฺขู โหนฺติ, ทส วตฺถานิ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ เทนฺติ, ปาเฏกฺกํ ภาเชตพฺพานิ. สเจ ‘‘สพฺพาเนว อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ทุปฺปาปิตานิ เจว ทุคฺคหิตานิ จ, คตคตฏฺาเน สงฺฆิกาเนว โหนฺติ. เอกํ ปน อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ทตฺวา เสสานิ ‘‘อิมานิ อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ.

เอกเมว วตฺถํ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ อาหรนฺติ, อภาเชตฺวาว ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, ทุปฺปาปิตฺเจว ทุคฺคหิตฺจ, สตฺถเกน, ปน หลิทฺทิอาทินา วา เลขํ กตฺวา เอกํ โกฏฺาสํ ‘‘อิมํ านํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ปาเปตฺวา เสสํ ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. ยํ ปน วตฺถสฺเสว ปุปฺผํ วา วลิ วา, เตน ปริจฺเฉทํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ เอกํ ตนฺตํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ านํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ทตฺวา เสสํ ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, วฏฺฏติ. ขณฺฑํ ขณฺฑํ ฉินฺทิตฺวา ภาชิยมานํ วฏฺฏติเยว.

เอกภิกฺขุเก วิหาเร สงฺฆสฺส จีวเรสุ อุปฺปนฺเนสุ สเจ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว โส ภิกฺขุ ‘‘สพฺพานิ มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตานิ, ิติกา ปน น ติฏฺติ. สเจ เอเกกํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหาติ, ิติกา ติฏฺติ. ตตฺถ ิติกาย อฏฺิตาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ เอโก ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา ทฺวีหิปิ คเหตพฺพํ. ิตาย ิติกาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ นวกตโร อาคจฺฉติ, ิติกา เหฏฺา โอโรหติ. สเจ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, ิติกา อุทฺธํ อาโรหติ. อถ อฺโ นตฺถิ, ปุน อตฺตโน ปาเปตฺวา คเหตพฺพํ.

‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน สงฺฆํ อามสิตฺวา ทินฺนํ ปน ปํสุกูลิกานํ น วฏฺฏติ ‘‘คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปามิ, ปํสุกูลิกงฺคํ สมาทิยามี’’ติ วุตฺตตฺตา, น ปน อกปฺปิยตฺตา. ภิกฺขุสงฺเฆน อปโลเกตฺวา ทินฺนมฺปิ น คเหตพฺพํ. ยํ ปน ภิกฺขุ อตฺตโน สนฺตกํ เทติ, ตํ ภิกฺขุทตฺติยํ นาม วฏฺฏติ. ปํสุกูลํ ปน น โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ธุตงฺคํ น ภิชฺชติ. ‘‘ภิกฺขูนํ เทม, เถรานํ เทมา’’ติ วุตฺเต ปน ปํสุกูลิกานมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อิทํ วตฺถํ สงฺฆสฺส เทม, อิมินา อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกอาโยคอํสพทฺธกาทีนิ กโรถา’’ติ ทินฺนมฺปิ วฏฺฏติ.

ปตฺตตฺถวิกาทีนํ อตฺถาย ทินฺนานิ พหูนิปิ โหนฺติ, จีวรตฺถายปิ ปโหนฺติ, ตโต จีวรํ กตฺวา ปารุปิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน สงฺโฆ ภาชิตาติริตฺตานิ วตฺถานิ ฉินฺทิตฺวา อุปาหนตฺถวิกาทีนํ อตฺถาย ภาเชติ, ตโต คเหตุํ น วฏฺฏติ. สามิเกหิ วิจาริตเมว หิ วฏฺฏติ, น อิตรํ.

‘‘ปํสุกูลิกสงฺฆสฺส ธมฺมกรณอํสพทฺธาทีนํ อตฺถาย เทมา’’ติ วุตฺเตปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. ปริกฺขาโร นาม ปํสุกูลิกานมฺปิ อิจฺฉิตพฺโพ. ยํ ตตฺถ อติเรกํ โหติ, ตํ จีวเรปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. สุตฺตํ สงฺฆสฺส เทนฺติ, ปํสุกูลิเกหิปิ คเหตพฺพํ. อยํ ตาว วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺเนสุ วินิจฺฉโย.

สเจ ปน พหิ อุปจารสีมาย อทฺธานปฏิปนฺเน ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส วา สงฺฆนวกสฺส วา อาโรเจติ, สเจปิ โยชนํ ผริตฺวา ปริสา ิตา โหติ, เอกาพทฺธา เจ, สพฺเพสํ ปาปุณาติ. เย ปน ทฺวาทสหิ หตฺเถหิ ปริสํ อสมฺปตฺตา, เตสํ น ปาปุณาตีติ.

๒๗๓๒. อิทานิ ‘‘อุภโตสงฺเฆ เทตี’’ติ มาติกํ วิวรนฺโต อาห ‘‘อุภโตสงฺฆมุทฺทิสฺสา’’ติอาทิ. อุภโตสงฺฆมุทฺทิสฺสาติ ภิกฺขุสงฺฆํ, ภิกฺขุนิสงฺฆฺจ อุทฺทิสิตฺวา. เทตีติ ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส เทมี’’ติ เทติ. ‘‘พหุ วา’’ติ เอตฺถ ‘‘พหู วา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ. ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขู โถกา วา โหนฺตุ พหู วา, ปุคฺคลคฺเคน อกตฺวา อุภโตสงฺฆวเสน สมภาโคว กาตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘ทฺเวธาสงฺฆสฺส ทมฺมิ, ทฺวินฺนํ สงฺฆานํ ทมฺมิ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ อุภโตสงฺฆสฺส ทินฺนเมว โหติ, ทฺเว ภาเค สเม กตฺวา เอโก ทาตพฺโพ.

‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต สเจ ทส ทส ภิกฺขู, ภิกฺขุนิโย จ โหนฺติ, เอกวีสติ ปฏิวีเส กตฺวา เอโก ปุคฺคลสฺส ทาตพฺโพ, ทส ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ทส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส. เยน ปุคฺคลิโก ลทฺโธ, โส สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน คเหตุํ ลภติ. กสฺมา? อุภโตสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา.

‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. อิธ ปน เจติยสฺส สงฺฆโต ปาปุณนโกฏฺาโส นาม นตฺถิ, เอกปุคฺคลสฺส ปตฺตโกฏฺาสสโมว โกฏฺาโส โหติ.

‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน ทฺวาวีสติ โกฏฺาเส กตฺวา ทส ภิกฺขูนํ, ทส ภิกฺขุนีนํ, เอโก ปุคฺคลสฺส, เอโก เจติยสฺส ทาตพฺโพ. ตตฺถ ปุคฺคโล สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน ปุน คเหตุํ ลภติ. เจติยสฺส เอโกเยว.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา น ทาตพฺพํ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ทาตพฺพํ.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปน ปุคฺคโล วิสุํ น ลภติ, ปาปุณนฏฺานโต เอกเมว ลภติ. กสฺมา? ภิกฺขุสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ. ตสฺมา เอกํ เจติยสฺส ทตฺวา อวเสสํ ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ภาเชตพฺพํ.

‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ น มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทาตพฺพํ, ปุคฺคลคณนาย เอว วิภชิตพฺพํ.

‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ เอวํ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ นตฺถิ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา เอว ภาเชตพฺพํ. ยถา จ ภิกฺขุสงฺฆํ อาทึ กตฺวา นโย นีโต, เอวํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เนตพฺโพ.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ, วสฺสคฺเคเนว คเหตพฺพํ.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส วิสุํ ปฏิวีโส ลพฺภติ.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส.

‘‘ภิกฺขูนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเตปิ วิสุํ น ลพฺภติ.

‘‘ภิกฺขูนฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส ลพฺภติ.

‘‘ภิกฺขูนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว วิสุํ ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส. ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ.

ปุพฺเพ พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ภควา มชฺเฌ นิสีทติ, ทกฺขิณโต ภิกฺขู, วามโต ภิกฺขุนิโย นิสีทนฺติ, ภควา อุภินฺนํ สงฺฆตฺเถโร, ตทา ภควา อตฺตโน ลทฺธปจฺจเย อตฺตนาปิ ปริภุฺชติ, ภิกฺขูนมฺปิ ทาเปติ. เอตรหิ ปน ปณฺฑิตมนุสฺสา สธาตุกํ ปฏิมํ วา เจติยํ วา เปตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ปฏิมาย วา เจติยสฺส วา ปุรโต อาธารเก ปตฺตํ เปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ‘‘พุทฺธานํ เทมา’’ติ ตตฺถ ยํ ปมํ ขาทนียํ โภชนียํ เทนฺติ, วิหารํ วา อาหริตฺวา ‘‘อิทํ เจติยสฺส เทมา’’ติ ปิณฺฑปาตฺจ มาลาคนฺธาทีนิ จ เทนฺติ, ตตฺถ กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? มาลาคนฺธาทีนิ ตาว เจติเย อาโรเปตพฺพานิ, วตฺเถหิ ปฏากา, เตเลน ปทีปา กาตพฺพา. ปิณฺฑปาตมธุผาณิตาทีนิ ปน โย นิพทฺธํ เจติยสฺส ชคฺคโก โหติ ปพฺพชิโต วา คหฏฺโ วา, ตสฺส ทาตพฺพานิ. นิพทฺธชคฺคเก อสติ อาหฏปตฺตํ เปตฺวา วตฺตํ กตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อุปกฏฺเ กาเล ภุฺชิตฺวา ปจฺฉาปิ วตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติเยว.

มาลาคนฺธาทีสุ จ ยํ กิฺจิ ‘‘อิทํ หริตฺวา เจติยสฺส ปูชํ กโรถา’’ติ วุตฺเต ทูรมฺปิ หริตฺวา ปูเชตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขํ สงฺฆสฺส หรา’’ติ วุตฺเตปิ หริตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อหํ ปิณฺฑาย จรามิ, อาสนสาลาย ภิกฺขู อตฺถิ, เต หริสฺสนฺตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ภนฺเต, ตุยฺหํเยว ทมฺมี’’ติ วทติ, ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อถ ปน ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทสฺสามี’’ติ หรนฺตสฺส คจฺฉโต อนฺตราว กาโล อุปกฏฺโ โหติ, อตฺตโน ปาเปตฺวา ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

๒๗๓๓. ยํ ปน จีวรํ ‘‘ยสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุตฺถสฺส สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ, ตสฺมึเยว อาวาเส วุตฺถวสฺเสน สงฺเฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วา ตํ จีวรํ ภาเชตพฺพนฺติ วณฺณิตํ เทสิตนฺติ โยชนา.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ, ยาวติกา ภิกฺขู ตสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุตฺถา, ยตฺตกา วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา ปุริมวสฺสํวุตฺถา, เตหิ ภาเชตพฺพํ, อฺเสํ น ปาปุณาติ. ทิสาปกฺกนฺตสฺสาปิ สติ คาหเก ยาว กถินสฺส อุพฺภารา ทาตพฺพํ. อนตฺถเต ปน กถิเน อนฺโตเหมนฺเต เอวฺจ วตฺวา ทินฺนํ ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺถานมฺปิ ปาปุณาตีติ ลกฺขณฺู วทนฺติ. อฏฺกถาสุ ปเนตํ อวิจาริตํ.

สเจ ปน พหิ อุปจารสีมายํ ิโต ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, สมฺปตฺตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. อถ ‘‘อสุกวิหาเร วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺสา’’ติ วทติ, ตตฺร วสฺสํวุตฺถานเมว ยาว กถินสฺสุพฺภารา ปาปุณาติ. สเจ ปน คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย เอวํ วทติ, ตตฺร สมฺมุขีภูตานํเยว สพฺเพสํ ปาปุณาติ. กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา. อนฺโตวสฺเสเยว ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ฉินฺนวสฺสา น ลภนฺติ, วสฺสํ วสนฺตาว ลภนฺติ. จีวรมาเส ปน ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปคตานํเยว ปาปุณาติ, ปุริมิกาย วสฺสูปคตานฺจ ฉินฺนวสฺสานฺจ น ปาปุณาติ.

จีวรมาสโต ปฏฺาย ยาว เหมนฺตสฺส ปจฺฉิโม ทิวโส, ตาว ‘‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ วา โหตุ อนตฺถตํ วา, อตีตวสฺสํวุตฺถานเมว ปาปุณาติ. คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย วุตฺเต ปน มาติกา อาโรเปตพฺพา ‘‘อตีตวสฺสาวาสสฺส ปฺจ มาสา อภิกฺกนฺตา, อนาคเต จาตุมาสจฺจเยน ภวิสฺสติ, กตรวสฺสาวาสสฺส เทสี’’ติ. สเจ ‘‘อตีตวสฺสํวุตฺถานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ อนฺโตวสฺสํ วุตฺถานเมว ปาปุณาติ. ทิสาปกฺกนฺตานมฺปิ สภาคา คณฺหิตุํ ลภนฺติ.

สเจ ‘‘อนาคเต วสฺสาวาสิกํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ เปตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส คเหตพฺพํ. อถ ‘‘อคุตฺโต วิหาโร, โจรภยํ อตฺถิ, น สกฺกา เปตุํ, คณฺหิตฺวา วา อาหิณฺฑิตุ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘สมฺปตฺตานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ภาเชตฺวา คเหตพฺพํ. สเจ วทติ ‘‘อิโต เม, ภนฺเต, ตติเย วสฺเส วสฺสาวาสิกํ น ทินฺนํ, ตํ ทมฺมี’’ติ, ตสฺมึ อนฺโตวสฺเส วุตฺถภิกฺขูนํ ปาปุณาติ. สเจ เต ทิสาปกฺกนฺตา, อฺโ วิสฺสาสิโก คณฺหาติ, ทาตพฺพํ. อถ เอโกเยว อวสิฏฺโ, เสสา กาลกตา, สพฺพํ เอกสฺเสว ปาปุณาติ. สเจ เอโกปิ นตฺถิ, สงฺฆิกํ โหติ, สมฺมุขีภูเตหิ ภาเชตพฺพนฺติ.

๒๗๓๔. ยาคุยา ปน ปีตาย วา ภตฺเต วา ภุตฺเต สเจ ปน อาทิสฺส ‘‘เยน เม ยาคุ ปีตา, ตสฺส ทมฺมิ, เยน เม ภตฺตํ ภุตฺตํ, ตสฺส ทมฺมี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา จีวรํ เทติ, วินยธเรน ตตฺถ ตตฺเถว ทานํ ทาตพฺพนฺติ โยชนา. เอส นโย ขาทนียจีวรเสนาสนเภสชฺชาทีสุ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ภิกฺขู อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา ยาคุยา นิมนฺเตตฺวา เตสํ ฆรํ ปวิฏฺานํ ยาคุํ เทติ, ยาคุํ ทตฺวา ปีตาย ยาคุยา ‘‘อิมานิ จีวรานิ เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, เตสํ ทมฺมี’’ติ เทติ, เยหิ นิมนฺติเตหิ ยาคุ ปีตา, เตสํเยว ปาปุณนฺติ, เยหิ ปน ภิกฺขาจารวตฺเตน ฆรทฺวาเรน คจฺฉนฺเตหิ วา ฆรํ ปวิฏฺเหิ วา ยาคุ ลทฺธา, เยสํ วา อาสนสาลโต ปตฺตํ อาหริตฺวา มนุสฺเสหิ นีตา, เย วา เถเรหิ เปสิตา, เตสํ น ปาปุณนฺติ.

สเจ ปน นิมนฺติตภิกฺขูหิ สทฺธึ อฺเปิ พหู อาคนฺตฺวา อนฺโตเคหฺจ พหิเคหฺจ ปูเรตฺวา นิสินฺนา, ทายโก จ เอวํ วทติ ‘‘นิมนฺติตา วา โหนฺตุ อนิมนฺติตา วา, เยสํ มยา ยาคุ ทินฺนา, สพฺเพสํ อิมานิ วตฺถานิ โหนฺตู’’ติ, สพฺเพสํ ปาปุณนฺติ. เยหิ ปน เถรานํ หตฺถโต ยาคุ ลทฺธา, เตสํ น ปาปุณนฺติ. อถ โส ‘‘เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, สพฺเพสํ โหนฺตู’’ติ วทติ, สพฺเพสํ ปาปุณนฺติ. ภตฺตขาทนีเยสุปิ เอเสว นโย.

จีวเร วาติ ปุพฺเพปิ เยน วสฺสํ วาเสตฺวา ภิกฺขูนํ จีวรํ ทินฺนปุพฺพํ โหติ, โส เจ ภิกฺขู โภเชตฺวา วทติ ‘‘เยสํ มยา ปุพฺเพ จีวรํ ทินฺนํ, เตสํเยว อิมํ จีวรํ วา สุตฺตํ วา สปฺปิมธุผาณิตาทีนิ วา โหนฺตู’’ติ, สพฺพํ เตสํเยว ปาปุณาติ.

เสนาสเน วาติ ‘‘โย มยา การิเต วิหาเร วา ปริเวเณ วา วสติ, ตสฺสิทํ โหตู’’ติ วุตฺเต ตสฺเสว โหติ.

เภสชฺเช วาติ ‘‘มยํ กาเลน กาลํ เถรานํ สปฺปิอาทีนิ เภสชฺชานิ เทม, เยหิ ตานิ ลทฺธานิ, เตสํเยวิทํ โหตู’’ติ วุตฺเต เตสํเยว โหตีติ.

๒๗๓๕. ทียเตติ ทานนฺติ กมฺมสาธเนน จีวรํ วุจฺจติ. ยํ-สทฺเทน จีวรสฺส ปรามฏฺตฺตา ตํ-สทฺเทนาปิ ตเทว ปรามสิตพฺพนฺติ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ เอวํ ปรมฺมุขา วา ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ทมฺมี’’ติ เอวํ สมฺมุขา วา ปาทมูเล เปตฺวา วา เทติ, ตํ ตสฺเสว โหติ. สเจ ปน ‘‘อิทํ ตุมฺหากฺจ ตุมฺหากํ อนฺเตวาสิกานฺจ ทมฺมี’’ติ เอวํ วทติ, เถรสฺส จ อนฺเตวาสิกานฺจ ปาปุณาติ. อุทฺเทสํ คเหตุํ อาคโต คเหตฺวา คจฺฉนฺโต จ อตฺถิ, ตสฺสาปิ ปาปุณาติ. ‘‘ตุมฺเหหิ สทฺธึ นิพทฺธจาริกภิกฺขูนํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต อุทฺเทสนฺเตวาสิกานํ วตฺตํ กตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ คเหตฺวา วิจรนฺตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาตีติ.

๒๗๓๗. วทติจฺเจวเมว เจติ อิจฺเจวํ ยถาวุตฺตนเยน วทติ เจ. นฺติ ตํ ปริกฺขารํ. เตสนฺติ มาตุอาทีนํ. สงฺฆสฺเสว สนฺตกํ โหตีติ โยชนา.

๒๗๓๘. ‘‘ปฺจนฺนํ…เป… โหตี’’ติ อิมินา ปุริมคาถาทฺวเยน วิตฺถาริตเมวตฺถํ สํขิปิตฺวา ทสฺเสติ. ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ. อจฺจเยติ กาลกิริยาย. ทานนฺติ ‘‘มยิ กาลกเต อิมํ ปริกฺขารํ ตุยฺหํ โหตุ, ตว สนฺตกํ กโรหี’’ติอาทินา ปริจฺจชนํ. กิฺจิปีติ อนฺตมโส ทนฺตกฏฺมฺปิ. คิหีนํ ปน ทานํ ตถา ทายกานํ คิหีนเมว อจฺจเย รูหตีติ โยชนา.

๒๗๓๙. ภิกฺขุ วา สามเณโร วา ภิกฺขุนิอุปสฺสเย กาลํ กโรติ, อสฺส ภิกฺขุสฺส วา สามเณรสฺส วา ปริกฺขารา ภิกฺขูนํเยว สนฺตกา ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว สนฺตกาติ โยชนา. ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว สนฺตกา กาลกตสฺส ภิกฺขุสงฺฆปริยาปนฺนตฺตา.

๒๗๔๐. สามเณรี วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘สิกฺขมานา วา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. วิหารสฺมึ ภิกฺขูนํ นิวาสนฏฺาเน. ตสฺสาติ ภิกฺขุนิยา วา สามเณริยา วา สิกฺขมานาย วา ปริกฺขารา ภิกฺขุนีนํ สนฺตกา โหนฺตีติ โยชนา. สนฺตกาติ เอตฺถาปิ ภิกฺขูสุ วุตฺตนเยเนวตฺโถ คเหตพฺโพ.

๒๗๔๑. เทหิ เนตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘อิมํ จีวรํ เนตฺวา อสุกสฺส เทหี’’ติ ยํ จีวรํ ทินฺนํ, ตํ ตสฺส ปุริมสฺเสว สนฺตกํ โหติ. ‘‘อิทํ จีวรํ อสุกสฺส ทมฺมี’’ติ ยํ จีวรํ ทินฺนํ, ตํ ยสฺส ปหิยฺยติ, ตสฺส ปจฺฉิมสฺเสว สนฺตกํ โหตีติ โยชนา.

๒๗๔๒. ยถาวุตฺตวจนปฺปการานุรูเปน สามิเก ตฺวา สามิเกสุ วิสฺสาเสน วา เตสุ มเตสุ มตกจีวรมฺปิ คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุํ อาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. ‘‘มตสฺส วา อมตสฺส วา’’ติ ปทจฺเฉโท. วิสฺสาสํ วาปิ คณฺเหยฺยาติ ชีวนฺตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาสคฺคาหํ คณฺเหยฺย. คณฺเห มตกจีวรนฺติ มตสฺส จีวรํ มตกปริกฺขารนีหาเรน ปาเปตฺวา คณฺเหยฺย.

๒๗๔๓. รชเต อเนนาติ รชนนฺติ มูลาทิสพฺพมาห. วนฺตโทเสนาติ สวาสนสมุจฺฉินฺนราคาทิโทเสน. ตาทินาติ รูปาทีสุ ฉฬารมฺมเณสุ ราคาทีนํ อนุปฺปตฺติยา อฏฺสุ โลกธมฺเมสุ นิพฺพิการตาย เอกสทิเสน.

๒๗๔๔-๕. ‘‘มูเล’’ติอาทีสุ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. มูลรชเน หลิทฺทึ เปตฺวา สพฺพํ มูลรชนํ วฏฺฏติ. ขนฺเธสุ รชเนสุ มฺเชฏฺฺจ ตุงฺคหารกฺจ เปตฺวา สพฺพํ ขนฺธรชนํ วฏฺฏติ. ปตฺเตสุ รชเนสุ อลฺลิยา ปตฺตํ ตถา นีลิยา ปตฺตฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปตฺตรชนํ วฏฺฏติ. ปุปฺผรชเนสุ กุสุมฺภฺจ กึสุกฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปุปฺผรชนํ วฏฺฏติ. ตจรชเน โลทฺทฺจ กณฺฑุลฺจ เปตฺวา สพฺพํ ตจรชนํ วฏฺฏติ. ผลรชนํ สพฺพมฺปิ วฏฺฏตีติ โยชนา.

มฺเชฏฺนฺติ เอโก สกณฺฏกรุกฺโข, วลฺลิวิเสโส จ, ยสฺส รชนํ มฺเชฏฺพีชวณฺณํ โหติ. มฺเชฏฺรุกฺขสฺส ขนฺโธ เสตวณฺโณติ โส อิธ น คเหตพฺโพ รชนาธิการตฺตา. ตุงฺคหารโก นาม เอโก สกณฺฏกรุกฺโข, ยสฺส รชนํ หริตาลวณฺณํ โหติ. อลฺลีติ จุลฺลตาปิฺฉรุกฺโข, ยสฺส ปณฺณรชนํ หลิทฺทิวณฺณํ โหติ. นีลีติ คจฺฉวิเสโส, ยสฺส ปน รชนํ นีลวณฺณํ โหติ. กึสุกํ นาม วลฺลิกึสุกปุปฺผํ, ยสฺส รชนํ โลหิตวณฺณํ โหติ.

๒๗๔๖. กิลิฏฺสาฏกนฺติ มลีนสาฏกํ. โธวิตุนฺติ เอกวารํ โธวิตุํ. อลฺลิยา โธตํ กิร สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺหาติ.

๒๗๔๗. จีวรานํ กถา เสสาติ เภทการณปฺปการกถาทิกา อิธ อวุตฺตกถา. ปเม กถิเน วุตฺตาติ เสโส. วิภาวินาติ ขนฺธกภาณเกน.

จีวรกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

มหาวคฺควินิจฺฉยวณฺณนา นิฏฺิตา.

จูฬวคฺโค

ปาริวาสิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๗๔๘. เอวํ มหาวคฺควินิจฺฉยํ สงฺเขเปน ทสฺเสตฺวา จูฬวคฺคาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตชฺชนีย’’นฺติอาทิ. ตชฺชนียนฺติ กลหการกานํ ภิกฺขูนํ ตโต วิรมนตฺถาย นิคฺคหวเสน อนุฺาตํ ตฺติจตุตฺถํ ตชฺชนียกมฺมฺจ. นิยสฺสนฺติ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส อาปตฺติพหุลสฺส อนปทานสฺส อนนุโลมิเกหิ คิหิสํสคฺเคหิ สํสฏฺสฺส วิหรโต ภิกฺขุโน นิคฺคหวเสน นิสฺสาย วสนตฺถาย กาตุํ อนุฺาตํ ตฺติจตุตฺถํ นิยสฺสกมฺมฺจ.

ปพฺพาชนฺติ กุลทูสกสฺส ภิกฺขุโน ยตฺถ เตน กุลทูสนํ กตํ, ตตฺถ น ลภิตพฺพอาวาสตฺถาย นิคฺคหวเสน อนุฺาตํ ตฺติจตุตฺถํ ปพฺพาชนียกมฺมฺจ. ปฏิสารณนฺติ สทฺธสฺส อุปาสกสฺส ทายกสฺส การกสฺส สงฺฆุปฏฺากสฺส ชาติอาทีหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสกสฺส ภิกฺขุโน ตํขมาปนตฺถาย นิคฺคหวเสน อนุฺาตํ ตฺติจตุตฺถํ ปฏิสารณียกมฺมฺจ.

ติวิธุกฺเขปนนฺติ อาปตฺติยา อทสฺสเน, อาปตฺติยา อปฺปฏิกมฺเม, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค จ ตโต โอรมิตุํ นิคฺคหวเสน อนุฺาตํ ตฺติจตุตฺถํ ติวิธํ อุกฺเขปนียกมฺมฺจาติ. ทีปเยติ ปาฬิยา, อฏฺกถาย จ วุตฺตนเยน ปกาเสยฺยาติ อตฺโถ.

ตชฺชนียาทิกมฺมานํ โอสารณนิสฺสารณวเสน ปจฺเจกํ ทุวิธตฺเตปิ ตํ เภทํ อนามสิตฺวา เกวลํ ชาติวเสน ‘‘สตฺต กมฺมานี’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา ทสฺสิโต ปเนเตสํ วิเสโส อตฺถุปฺปตฺติวเสนาติ ทฏฺพฺโพ. วิตฺถาโร ปเนสํ กมฺมกฺขนฺธกโต เวทิตพฺโพ.

๒๗๔๙. ขนฺธเก กมฺมสงฺขาเต ขนฺธเก อาคตานิ เตจตฺตาลีส วตฺตานิ. ตทนนฺตเรติ ตสฺส กมฺมกฺขนฺธกสฺส อนนฺตเร. ขนฺธเกติ ปาริวาสิกกฺขนฺธเก. นว อธิกานิ เยสํ เต นวาธิกานิ ตึเสว วตฺตานิ, เอกูนจตฺตาลีส วตฺตานีติ วุตฺตํ โหติ.

กมฺมกฺขนฺธเก ตาว –

‘‘อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺเขปนียกมฺมกเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา สมฺมา วตฺติตพฺพํ. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนา – น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ, น ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ สาทิตพฺพา, สมฺมเตนาปิ ภิกฺขุนิโย น โอวทิตพฺพา, ยาย อาปตฺติยา สงฺเฆน อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺเขปนียกมฺมํ กตํ โหติ, สา อาปตฺติ น อาปชฺชิตพฺพา, อฺา วา ตาทิสิกา, ตโต วา ปาปิฏฺตรา, กมฺมํ น ครหิตพฺพํ, กมฺมิกา น ครหิตพฺพา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ อาสนาภิหาโร เสยฺยาภิหาโร ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ ปตฺตจีวรปฏิคฺคหณํ นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพํ, น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ, น อาจารวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ, น ทิฏฺิวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ, น อาชีววิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ, น ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ เภเทตพฺโพ, น คิหิทฺธโช ธาเรตพฺโพ, น ติตฺถิยทฺธโช ธาเรตพฺโพ, น ติตฺถิยา เสวิตพฺพา, ภิกฺขู เสวิตพฺพา, ภิกฺขุสิกฺขาย สิกฺขิตพฺพํ, น ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อนาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ, ปกตตฺตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาตพฺพํ, น ปกตตฺโต ภิกฺขุ อาสาเทตพฺโพ อนฺโต วา พหิ วา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อุโปสโถ เปตพฺโพ, น ปวารณา เปตพฺพา, น สวจนียํ กาตพฺพํ, น อนุวาโท ปฏฺเปตพฺโพ, น โอกาโส กาเรตพฺโพ, น โจเทตพฺโพ, น สาเรตพฺโพ, น ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๕๑) –

เอวํ เจตานิ เตจตฺตาลีส วตฺตานิ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เตจตฺตาลีส วตฺตานิ, ขนฺธเก กมฺมสฺิเต’’ติ.

ปาริวาสิกกฺขนฺธเก (จูฬว. ๗๖-๘๒) –

‘‘ปาริวาสิเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา สมฺมา วตฺติตพฺพํ. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนา – น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ, น ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ สาทิตพฺพา, สมฺมเตนปิ ภิกฺขุนิโย น โอวทิตพฺพา, ยาย อาปตฺติยา สงฺเฆน ปริวาโส ทินฺโน โหติ, สา อาปตฺติ น อาปชฺชิตพฺพา, อฺา วา ตาทิสิกา, ตโต วา ปาปิฏฺตรา, กมฺมํ น ครหิตพฺพํ, กมฺมิกา น ครหิตพฺพา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อุโปสโถ เปตพฺโพ, น ปวารณา เปตพฺพา, น สวจนียํ กาตพฺพํ, น อนุวาโท ปฏฺเปตพฺโพ, น โอกาโส กาเรตพฺโพ, น โจเทตพฺโพ, น สาเรตพฺโพ, น ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชตพฺพํ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน ปุรโต คนฺตพฺพํ, น ปุรโต นิสีทิตพฺพํ, โย โหติ สงฺฆสฺส อาสนปริยนฺโต เสยฺยาปริยนฺโต วิหารปริยนฺโต, โส ตสฺส ปทาตพฺโพ, เตน จ โส สาทิตพฺโพ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน ปุเรสมเณน วา ปจฺฉาสมเณน วา กุลานิ อุปสงฺกมิตพฺพานิ, น อารฺิกงฺคํ สมาทาตพฺพํ, น ปิณฺฑปาติกงฺคํ สมาทาตพฺพํ, น จ ตปฺปจฺจยา ปิณฺฑปาโต นีหราเปตพฺโพ ‘มา มํ ชานึสู’ติ.

‘‘ปาริวาสิเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อาคนฺตุเกน อาโรเจตพฺพํ, อาคนฺตุกสฺส อาโรเจตพฺพํ, อุโปสเถ อาโรเจตพฺพํ, ปวารณาย อาโรเจตพฺพํ, สเจ คิลาโน โหติ, ทูเตนปิ อาโรเจตพฺพํ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา อภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา อภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อนาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อนาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ, ปกตตฺตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาตพฺพํ, ปกตตฺโต ภิกฺขุ อาสเนน นิมนฺเตตพฺโพ, น ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกาสเน นิสีทิตพฺพํ, น นีเจ อาสเน นิสินฺเน อุจฺเจ อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น ฉมายํ นิสินฺเน อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น เอกจงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิเกน วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ…เป… มูลายปฏิกสฺสนารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ…เป… มานตฺตารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ…เป… มานตฺตจาริเกน ภิกฺขุนา สทฺธึ…เป… อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อนาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ, น เอกาสเน นิสีทิตพฺพํ, น นีเจ อาสเน นิสินฺเน อุจฺเจ อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น ฉมายํ นิสินฺเน อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น เอกจงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ.

‘‘ปาริวาสิกจตุตฺโถ เจ, ภิกฺขเว, ปริวาสํ ทเทยฺย, มูลาย ปฏิกสฺเสยฺย, มานตฺตํ ทเทยฺย, ตํวีโส อพฺเภยฺย, อกมฺมํ น จ กรณีย’’นฺติ (จูฬว. ๗๖-๘๒) –

เอวํ ปาริวาสิกานํ จตุนวุติ วตฺตานิ.

สา จ เนสํ จตุนวุติสงฺขา เอวํ เวทิตพฺพา – นอุปสมฺปาทนาทินกมฺมิกครหปริโยสานานิ นว วตฺตานิ, ตโต ปกตตฺตสฺส อุโปสถฏฺปนาทิภิกฺขูหิสมฺปโยชนปริโยสานานิ อฏฺ, ตโต นปุรโตคมนาที ปฺจ, นปุเรคมนาที จตฺตาริ, อาคนฺตุเกน อาโรจนาที จตฺตารีติ ตึส, สภิกฺขุกาวาสาทิโต อภิกฺขุกาวาสาทิคมนปอสํยุตฺตานิ ตีณิ นวกานิ จาติ สตฺตปฺาส, ตโต นปกตตฺเตน สทฺธึ เอกจฺฉนฺนวาสาทิปฏิสํยุตฺตานิ เอกาทส, ตโต นปาริวาสิกวุฑฺฒตรมูลายปฏิกสฺสนารหมานตฺตารหมานตฺตจาริกอพฺภานารเหหิ สทฺธึ เอกจฺฉนฺนวาสาทิปฏิสํยุตฺตานิ ปจฺเจกํ เอกาทส กตฺวา ปฺจปฺาสาย วตฺเตสุ ปาริวาสิกวุฑฺฒตรมูลายปฏิกสฺสนารหมานตฺตารหานํ ติณฺณํ สมานตฺตา เตสุ เอกํ เอกาทสกํ, มานตฺตจาริกอพฺภานารหานํ ทฺวินฺนํ สมานตฺตา เตสุ เอกํ เอกาทสกนฺติ ทุเว เอกาทสกานิ, อนฺเต ปาริวาสิกจตุตฺถสฺส สงฺฆสฺส ปริวาสาทิทานจตุกฺเก คณปูรณตฺถโทสโต นิวตฺติวเสน จตฺตาริ จตฺตารีติ จตุนวุติ วตฺตานิ. ตานิ อคฺคหิตคฺคหเณน เอกูนจตฺตาลีสวตฺตานิ นาม. อาทิโต นว, อุโปสถฏฺปนาทีนิ อฏฺ, ปกตตฺเตน เอกจฺฉนฺนวาสาที จตฺตาริ จาติ เอกวีสติ วตฺตานิ กมฺมกฺขนฺธเก คหิตตฺตา อิธ คณนาย อคฺคเหตฺวา ตโต เสเสสุ เตสตฺตติยา วตฺเตสุ ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีหิ เอกจฺฉนฺเน วาสาทิปฏิสํยุตฺตานิ ทฺวาวีสติ วตฺตานิ ปกตตฺเตหิ สมานตฺตา ตานิ จ ‘‘คนฺตพฺโพ ภิกฺขเว’’ติอาทิกํ นวกํ ตถา คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺติทสฺสนปรํ, น อาวาสโต คจฺฉนฺตสฺส อาปตฺติทสฺสนปรนฺติ ตฺจ อคฺคเหตฺวา อวเสเสสุ ทฺวาจตฺตาลีสวตฺเตสุ ปาริวาสิกจตอุตฺถาทิกมฺมจตุกฺกํ ครุกาปตฺติวุฏฺานาย คณปูรณตฺถสามฺเน เอกํ กตฺวา ตโย อปเนตฺวา คณิตานิ เอกูนจตฺตาลีสานิ โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘นวาธิกานิ ตึเสว, ขนฺธเก ตทนนฺตเร’’ติ.

๒๗๕๐. อิมานิ เอกูนจตฺตาลีส วตฺตานิ ปุริเมหิ เตจตฺตาลีสวตฺเตหิ สทฺธึ ทฺวาสีติ โหนฺตีติ อาห ‘‘เอวํ สพฺพานิ…เป… คหิตาคหเณน ตู’’ติ.

เอวํ กมฺมกฺขนฺธกปาริวาสิกกฺขนฺธเกสุ มเหสินา วุตฺตานิ ขนฺธกวตฺตานิ คหิตาคหเณน ทฺวาสีติ เอว โหนฺตีติ โยชนา. เอวเมตฺถ ทฺวาสีติกฺขนฺธกวตฺตานิ ทสฺสิตานิ.

อาคมฏฺกถาวณฺณนายํ ปน –

‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปฺเปสฺสามีติ (จูฬว. ๗๕) อารภิตฺวา ‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ…เป… น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’นฺติ (จูฬว. ๗๖-๘๑) วุตฺตาวสานานิ ฉสฏฺิ, ตโต ปรํ ‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิเกน วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ, มูลายปฏิกสฺสนารเหน, มานตฺตารเหน, มานตฺตจาริเกน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพ’นฺติอาทีนํ (จูฬว. ๘๒) ปกตตฺเต จริตพฺเพหิ อนฺตฺตา วิสุํ เต อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิณฺเฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คณิตานิ ปฺจาติ เอกสตฺตติ วตฺตานิ, อุกฺเขปนียกมฺมกตวตฺเตสุ วตฺตปฺาปนวเสน วุตฺตํ ‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ …เป… นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’นฺติ (จูฬว. ๕๑) อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสาทิยนํ เอกํ, ‘น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ’ติอาทีนิ จ ทสาติ เอวเมตานิ ทฺวาสีติ โหนฺติ. เอเตสฺเวว กานิจิ ตชฺชนียกมฺมาทิวตฺตานิ, กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาสีติ เอวา’’ติ (ม. นิ. ฏี. ๒.๒๕; สารตฺถ. ฏี. ๒.๓๙; วิ. วิ. ฏี. ๑.๓๙) –

วุตฺตํ. เอตานิ ปน วตฺตานิ กทาจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเล, ปาริวาสิกาทิกาเล จ จริตพฺพานิ ขุทฺทกวตฺตานีติ คเหตพฺพานิ อาคนฺตุกวตฺตาทีนํ จุทฺทสมหาวตฺตานํ วกฺขมานตฺตา.

๒๗๕๑. อิทานิ ปาริวาสิกสฺส ภิกฺขุโน รตฺติจฺเฉทํ, วตฺตเภทฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปริวาสฺจ วตฺตฺจา’’ติอาทิ. ปริวาสฺจ วตฺตฺจ สมาทินฺนสฺสาติ ‘‘ปริวาสํ สมาทิยามี’’ติ ปริวาสฺจ ‘‘วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ วตฺตฺจ ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา วจีเภทํ กตฺวา สมาทินฺนสฺส. ภิกฺขุโนติ ปาริวาสิกสฺส ภิกฺขุโน.

๒๗๕๒. สหวาสาทโย ‘‘เอกจฺฉนฺเน’’ติอาทินา สยเมว วกฺขติ. สหวาโส, วินาวาโส, อนาโรจนเมว จาติ อิเมหิ ตีหิ ปาริวาสิกภิกฺขุสฺส รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏฺจ โหตีติ โยชนา.

๒๗๕๓. อุทกปาเตน สมนฺตา นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺาเนน. เอกจฺฉนฺเนติ เอกจฺฉนฺเน ปริจฺฉนฺเน วา อปริจฺฉนฺเน วา อาวาเส. ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สห อุกฺขิตฺตสฺส นิวาโส นิวาริโตติ โยชนา. ‘‘นิวาริโต’’ติ อิมินา ทุกฺกฏํ โหตีติ ทีเปติ.

๒๗๕๔. อนฺโตเยวาติ เอกจฺฉนฺนสฺส อาวาสปริจฺเฉทสฺส อนฺโตเยว. ‘‘น ลพฺภตี’’ติ อิมินา รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏฺจ โหตีติ ทีเปติ.

๒๗๕๕. มหาอฏฺกถาทิสูติ อาทิ-สทฺเทน กุรุนฺทฏฺกถาทึ สงฺคณฺหาติ. อุภินฺนนฺติ อุกฺขิตฺตกปาริวาสิกานํ. อิติ อวิเสเสน นิทฺทิฏฺนฺติ โยชนา.

๒๗๕๖. อิมินา สหวาเสน รตฺติจฺเฉทฺจ ทุกฺกฏฺจ ทสฺเสตฺวา วินาวาเสน ทสฺเสตุมาห ‘‘อภิกฺขุเก ปนาวาเส’’ติ. อาวาเสติ วสนตฺถาย กตเสนาสเน. อนาวาเสติ วาสตฺถาย อกเต เจติยฆเร วา โพธิฆเร วา สมฺมชฺชนิอฏฺฏเก วา ทารุอฏฺฏเก วา ปานียมาเฬ วา วจฺจกุฏิยํ วา ทฺวารโกฏฺเก วา อฺตฺร วา ยตฺถ กตฺถจิ เอวรูเป าเน. วิปฺปวาสํ วสนฺตสฺสาติ ปกตตฺเตน วินา วาสํ กปฺเปนฺตสฺส. รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏนฺติ รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภททุกฺกฏฺจ โหติ.

๒๗๕๗. เอวํ วิปฺปวาเสน รตฺติจฺเฉททุกฺกฏานิ ทสฺเสตฺวา อนาโรจเนน ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาริวาสิกภิกฺขุสฺสา’’ติอาทิ. ภิกฺขุํ ทิสฺวานาติ อากาเสนาปิ คจฺฉนฺตํ สมานสํวาสกํ อาคนฺตุกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา. ตงฺขเณติ ตสฺมึ ทิฏฺกฺขเณเยว. ‘‘อนาโรเจนฺตสฺส เอว เอตสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. เอวกาเรน รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏฺจาติ อุภยํ เอตสฺส โหตีติ ทีเปนฺเตน อทิฏฺโ เจ, รตฺติจฺเฉโทว โหตีติ าเปติ. ยถาห – ‘‘โสปิสฺส รตฺติจฺเฉทํ กโรติ, อฺาตตฺตา ปน วตฺตเภททุกฺกฏํ นตฺถี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๗๕). นานาสํวาสเกน สห วินยกมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺส อนาโรจเนปิ รตฺติจฺเฉโท น โหติ.

๒๗๕๘-๙. ปาริวาสิโก ภิกฺขุ ยตฺถ สงฺฆนวกฏฺาเน ิโต, ตตฺเถว ตสฺมึเยว าเน ตฺวา ยถาวุฑฺฒํ ปกตตฺเตหิปิ สทฺธึ วุฑฺฒปฏิปาฏิยา ปฺจ กิจฺจานิ กาตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

ตานิ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘อุโปสถปวารณ’’นฺติอาทิ. อุโปสถปวารณํ ยถาวุฑฺฒํ กาตุํ ลภตีติ โยชนา. เทนฺตีติ เอตฺถ ‘‘ฆณฺฏึ ปหริตฺวา’’ติ เสโส. สงฺฆทายกาติ กมฺมธารยสมาโส. สงฺฆสฺส เอกตฺเตปิ ครูสุ พหุวจนนิทฺเทโส. ‘‘เทติ เจ สงฺฆทายโก’’ติปิ ปาโ. ตตฺถ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาเชตฺวา เทนฺโต สงฺโฆ วสฺสิกสาฏิกํ เทติ เจ, ปาริวาสิโก ยถาวุฑฺฒํ อตฺตโน ปตฺตฏฺาเน ลภตีติ โยชนา.

โอโณชนนฺติ วิสฺสชฺชนํ, สงฺฆโต อตฺตโน ปตฺตานํ ทฺวินฺนํ, ติณฺณํ วา อุทฺเทสภตฺตาทีนํ อตฺตโน ปุคฺคลิกภตฺตปจฺจาสาย ปฏิคฺคเหตฺวา ‘‘มยฺหํ อชฺช ภตฺตปจฺจาสา อตฺถิ, สฺเว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา สงฺฆวิสฺสชฺชนํ ลภตีติ วุตฺตํ โหติ. ภตฺตนฺติ อาคตาคเตหิ วุฑฺฒปฏิปาฏิยา คเหตฺวา คนฺตพฺพํ วิหาเร สงฺฆสฺส จตุสฺสาลภตฺตํ. ตถา ปาริวาสิโก ยถาวุฑฺฒํ ลภตีติ โยชนา. อิเม ปฺจาติ วุตฺตเมวตฺถํ นิคมยติ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (จูฬว. อฏฺ. ๗๕) – อุโปสถปวารเณ ตาว ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน หตฺถปาเส นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ปาฬิยา อนิสีทิตฺวา ปาฬึ วิหาย หตฺถปาสํ อมุฺจนฺเตน นิสีทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ปาริสุทฺธิอุโปสเถ กริยมาเน สงฺฆนวกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ตตฺเถว นิสินฺเนน อตฺตโน ปาฬิยา ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพว. ปวารณายปิ สงฺฆนวกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ตตฺเถว นิสินฺเนน อตฺตโน ปาฬิยา ปวาเรตพฺพํ. สงฺเฆน ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาชิยมานํ วสฺสิกสาฏิกมฺปิ อตฺตโน ปตฺตฏฺาเน คเหตุํ วฏฺฏติ.

โอโณชเน สเจ ปาริวาสิกสฺส ทฺเว ตีณิ อุทฺเทสภตฺตาทีนิ ปาปุณนฺติ, อฺา จสฺส ปุคฺคลิกภตฺตปจฺจาสา โหติ, ตานิ ปฏิปาฏิยา คเหตฺวา ‘‘ภนฺเต, เหฏฺา คาเหถ, อชฺช มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสา อตฺถิ, สฺเวว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺพานิ, เอวํ ตานิ ปุนทิวเสสุ คณฺหิตุํ ลภติ. ‘‘ปุนทิวเส สพฺพปมํ เอตสฺส ทาตพฺพ’’นฺติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ยทิ ปน น คณฺหาติ น วิสฺสชฺเชติ, ปุนทิวเส น ลภติ. อิทํ โอโณชนํ นาม ปาริวาสิกสฺเสว โอทิสฺส อนุฺาตํ. กสฺมา? ตสฺส หิ สงฺฆนวกฏฺาเน นิสินฺนสฺส ภตฺตคฺเค ยาคุขชฺชกาทีนิ ปาปุณนฺติ วา น วา, ตสฺมา ‘‘โส ภิกฺขาหาเรน มา กิลมิตฺถา’’ติ อิทมสฺส สงฺคหกรณตฺถาย โอทิสฺส อนุฺาตํ.

ภตฺเต จตุสฺสาลภตฺตํ ยถาวุฑฺฒํ ลภติ, ปาฬิยา ปน คนฺตุํ วา าตุํ วา น ลภติ. ตสฺมา ปาฬิโต โอสกฺกิตฺวา หตฺถปาเส ิเตน หตฺถํ ปสาเรตฺวา ยถา เสโน นิปติตฺวา คณฺหาติ, เอวํ คณฺหิตพฺพํ. อารามิกสมณุทฺเทเสหิ อาหราเปตุํ น ลภติ. สเจ สยเมว อาหรนฺติ, วฏฺฏติ. รฺโ มหาเปฬภตฺเตปิ เอเสว นโย. จตุสฺสาลภตฺเต ปน สเจ โอโณชนํ กตฺตุกาโม โหติ, อตฺตโน อตฺถาย อุกฺขิตฺเต ปิณฺเฑ ‘‘อชฺช เม ภตฺตํ อตฺถิ, สฺเวว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘ปุนทิวเส ทฺเว ปิณฺเฑ ลภตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๗๕) มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. อุทฺเทสภตฺตาทีนิปิ ปาฬิโต โอสกฺกิตฺวาว คเหตพฺพานิ. ยตฺถ ปน นิสีทาเปตฺวา ปริวิสนฺติ, ตตฺถ สามเณรานํ เชฏฺเกน ภิกฺขูนํ สงฺฆนวเกน หุตฺวา นิสีทิตพฺพนฺติ.

ปาริวาสิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

สมถกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๗๖๐. อิทานิ สมถวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุํ เยสุ อธิกรเณสุ สนฺเตสุ สมเถหิ ภวิตพฺพํ, ตานิ ตาว ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิวาทาธารตา’’ติอาทิ. วิวาทาธารตาติ วิวาทาธิกรณํ. อาปตฺตาธารตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อาธารตาติ อธิกรณปริยาโย. อาธารียติ อภิภุยฺยติ วูปสมฺมติ สมเถหีติ อาธาโร, วิวาโท จ โส อาธาโร จาติ วิวาทาธาโร, โส เอว วิวาทาธารตา. เอวมาธาราธิกรณ-สทฺทานํ วิวาทาทิสทฺเทหิ สห กมฺมธารยสมาโส ทฏฺพฺโพ. อธิกรียติ อภิภุยฺยติ วูปสมฺมติ สมเถหีติ อธิกรณนฺติ วิวาทาทิจตุพฺพิธเมว ปาฬิยํ ทสฺสิตํ. อยมตฺโถ ‘‘เอเตสํ ตุ จตุนฺนมฺปิ, สมตฺตา สมถา มตา’’ติ วกฺขมาเนน วิฺายติ.

๒๗๖๑. เอตานิ จตฺตาริ อธิกรณานิ จ ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขู วิวทนฺติ ‘ธมฺโม’ติ วา ‘อธมฺโม’ติ วา’’ติ (จูฬว. ๒๑๕) อฏฺารส เภทการกวตฺถูนิ จ มเหสินา วุตฺตานิ. ตตฺถ เตสุ จตูสุ อธิกรเณสุ วิวาโท อธิกรณสงฺขาโต เอตานิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสิโต นิสฺสาย ปวตฺโตติ โยชนา.

๒๗๖๒. วิปตฺติโย จตสฺโสวาติ ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อนุวทนฺติ สีลวิปตฺติยา วา อาจารวิปตฺติยา วา ทิฏฺิวิปตฺติยา วา อาชีววิปตฺติยา วา’’ติ (จูฬว. ๒๑๕) วุตฺตา จตสฺโส วิปตฺติโย. ทิฏฺาทีนํ อนุคนฺตฺวา สีลวิปตฺติอาทีหิ วทนํ โจทนา อนุวาโท. อุปาคโตติ นิสฺสิโต, อนุวาโท จตสฺโส วิปตฺติโย นิสฺสาย ปวตฺโตติ อตฺโถ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ปมเมว นิทฺธารณสฺส วุตฺตตฺตา อิธ ปุนวจเน ปโยชนํ น ทิสฺสติ, ‘‘สมฺภวา’’ติ วจนสฺสาปิ น โกจิ อตฺถวิเสโส ทิสฺสติ. ตสฺมา ‘‘อาปตฺตาธารตา ตตฺถ, สตฺตอาปตฺติสมฺภวา’’ติ ปาโ น ยุชฺชติ, ‘‘อาปตฺตาธารตา นาม, สตฺต อาปตฺติโย มตา’’ติ ปาโ ยุตฺตตโร, อาปตฺตาธารตา นาม อาปตฺตาธิกรณํ นาม สตฺต อาปตฺติโย มตา สตฺต อาปตฺติโยว อธิปฺเปตาติ อตฺโถ.

๒๗๖๓. สงฺฆกิจฺจานิ นิสฺสายาติ อปโลกนกมฺมาทีนิ จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ อุปาทาย กิจฺจาธิกรณาภิธานํ สิยา, กิจฺจาธิกรณํ นาม จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานีติ อตฺโถ. เอเตสํ ตุ จตุนฺนมฺปีติ เอเตสํ ปน จตุนฺนมฺปิ อธิกรณานํ. สมตฺตาติ วูปสมเหตุตฺตา. สมถา มตาติ สมฺมุขาวินยาทโย สตฺต อธิกรณสมถาติ อธิปฺเปตา. อธิกรณานิ สเมนฺติ, สมฺมนฺติ วา เอเตหีติ ‘‘สมถา’’ติ วุจฺจนฺตีติ ‘‘สมตฺตา สมถา มตา’’ติ อิมินา สมถ-สทฺทสฺส อนฺวตฺถํ ทีเปติ.

๒๗๖๔-๕. เต สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘สมฺมุขา’’ติอาทิ. ‘‘วินโย’’ติ อิทํ สมฺมุขาทิปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ ‘‘สมฺมุขาวินโย สติวินโย อมูฬฺหวินโย’’ติ. ‘‘ปฏิฺาวินโย’’ติ จ ปฏิฺาตกรณํ วุตฺตํ. สตฺตโม วินโยติ สมโถ อธิปฺเปโต. ติณวตฺถารโกติ อิเม สตฺต สมถา พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา วุตฺตาติ โยชนา.

๒๗๖๖. จตูสุ อธิกรเณสุ ยํ อธิกรณํ ยตฺตเกหิ สมเถหิ สมฺมติ, เต สงฺคเหตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิวาโท’’ติอาทิ.

๒๗๖๗-๙. ‘‘วิวาโท’’ติอาทินา อุทฺทิฏฺมตฺถํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘ฉฏฺเนา’’ติอาทิ. เอตฺถ เอเตสุ จตูสุ อธิกรเณสุ, สมเถสุ จ กึ เกน สมฺมตีติ เจ? วิวาโท วิวาทาธิกรณํ ฉฏฺเน เยภุยฺยสิกาย, ปเมน สมเถน สมฺมุขาวินเยน จาติ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ. ยสฺสา กิริยาย ธมฺมวาทิโน พหุตรา, เอสา เยภุยฺยสิกา. ‘‘สงฺฆสมฺมุขตา, ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺ