📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

วินยวินิจฺฉย-ฏีกา (ทุติโย ภาโค)

ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา

๑๘๓๐-๑. เอวํ นาติสงฺเขปวิตฺถารนเยน ทฺเวนวุติ ปาจิตฺติยานิ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ นิทฺทิฏฺเ ปาฏิเทสนีเย ทสฺเสตุมาห ‘‘โย จนฺตรฆร’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อนฺตรฆรนฺติ รถิกาทิมาห. ยถาห ‘‘อนฺตรฆรํ นาม รถิกา พฺยูหํ สิงฺฆาฏกํ ฆร’’นฺติ.

โย ปน ภิกฺขุ อนฺตรฆรํ ปวิฏฺาย อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต ยํ กิฺจิ ขาทนํ, โภชนมฺปิ วา สหตฺถา ปฏิคฺคณฺเหยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน คหเณ ทุกฺกฏํ, โภเค อชฺโฌหาเร ปาฏิเทสนียํ สิยาติ โยชนา.

อิโต ปฏฺาย จตสฺโส คาถา อุปฺปฏิปาฏิยา โปตฺถเกสุ ลิขิตา, ตาสํ อยํ ปฏิปาฏิ – ‘‘เอตฺถนฺตรฆร’’นฺติ ตติยา, ‘‘ตสฺมา ภิกฺขุนิยา’’ติ จตุตฺถี, ‘‘รถิกาทีสู’’ติ ปฺจมี, ‘‘รถิกายปิ วา’’ติ ฉฏฺี. ปฏิปาฏิ ปนายํ มาติกฏฺกถกฺกเมน เวทิตพฺพา. อิมาย ปฏิปาฏิยา ตาสํ อตฺถวณฺณนา โหติ –

๑๘๓๒-๓. ปุริมคาถาทฺวเยน ปทภาชนาคตสามฺวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อฏฺกถาคตํ วิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอตฺถาติ อิมสฺมึ ปมปาฏิเทสนียสิกฺขาปเท. ตสฺสาติ อฺาติกภิกฺขุนิยา. วากฺยโตติ ‘‘อนฺตรฆรํ ปวิฏฺายา’’ติ วจนโต. หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. ยสฺมา ภิกฺขุสฺส ิตฏฺานํ นปฺปมาณนฺติ อฏฺกถาย (ปาจิ. อฏฺ. ๕๕๓) วณฺณิตํ, ตสฺมา อารามาทีสุ ตฺวา เทนฺติยา ภิกฺขุนิยา หตฺถโต วีถิอาทีสุ ตฺวา โย ปฏิคฺคณฺเหยฺย เจ, เอวํ ปฏิคฺคณฺหโต ตสฺส ภิกฺขุโน น โทโสติ โยชนา. ปริโภคสฺส ปฏิคฺคหณมูลกตฺตา น โทโส. ‘‘ปฏิคฺคณฺหโต’’ติ อิมินา ปริโภเค ปาฏิเทสนียาภาโว จ ทีปิโต โหติ.

๑๘๓๔. สเจ ภิกฺขุนี รถิกาทีสุ ตฺวา โภชนํ เทติ, ภิกฺขุ อนฺตราราเม ตฺวา ปฏิคฺคณฺหาติ เจ, ตสฺส อาปตฺตีติ โยชนา. คาถาพนฺธวเสน ‘‘ภิกฺขุนิ โภชน’’นฺติ รสฺสตฺตํ. อาปตฺตีติ จ ปฏิคฺคหณปริโภเคสุ ทุกฺกฏปาฏิเทสนียาปตฺติโย สนฺธาย วุตฺตํ.

๑๘๓๕. รถิกาทีสุ ตฺวา ภิกฺขุนี โภชนํ เทติ เจ, ตํ รถิกายปิ วา…เป… อยํ นโยติ โยชนา. ตตฺถ รถิกาติ รจฺฉา. พฺยูหนฺติ อนิพฺพิชฺฌิตฺวา ิตา คตปจฺจาคตรจฺฉา. สนฺธิ นาม ฆรสนฺธิ. สิงฺฆาฏกนฺติ จตุกฺโกณํ วา ติโกณํ วา มคฺคสโมธานฏฺานํ. อยํ นโยติ ‘‘อาปตฺตี’’ติ อนนฺตรคาถาย วุตฺตนโย.

๑๘๓๗. อามิเสน อสมฺภินฺนรสํ สนฺธาย อิทํ ทุกฺกฏํ ภาสิตํ. อามิเสน สมฺภินฺเน เอกรเส ยามกาลิกาทิมฺหิ ปฏิคฺคเหตฺวา อชฺโฌหาเร ปาฏิเทสนียาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๑๘๓๘. เอกโตอุปสมฺปนฺนหตฺถโตติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย หตฺถโต. ยถาห ‘‘เอกโตอุปสมฺปนฺนายาติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนายา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๕๓). ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ยถาวตฺถุกเมวาติ.

๑๘๓๙. อฺาติกาย าติกสฺิสฺส, ตเถว วิมติสฺส จ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๑๘๔๐. อฺาติกาย ทาเปนฺติยา ภูมิยา นิกฺขิปิตฺวา ททมานาย วา อนฺตรารามาทีสุ ตฺวา เทนฺติยา ปฏิคฺคณฺหโต ภิกฺขุสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. อนฺตรารามาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ภิกฺขุนุปสฺสยติตฺถิยเสยฺยาปฏิกฺกมนาทึ สงฺคณฺหาติ. ปฏิกฺกมนํ นาม โภชนสาลา.

๑๘๔๑. คามโต พหิ นีหริตฺวา เทตีติ โยชนา.

๑๘๔๒. หตฺถโตติ เอตฺถ ‘‘คหเณ’’ติ เสโส. ตถาติ อนาปตฺติ. สมุฏฺานํ อิทํ สิกฺขาปทํ เอฬกโลเมน สมํ มตนฺติ โยชนา.

ปมปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.

๑๘๔๓-๔. อวุตฺเตติ วกฺขมานนเยน อวุตฺเต. เอเกนปิ จ ภิกฺขุนาติ สมฺพนฺโธ. อปสกฺกาติ อปคจฺฉ. อาทิ-อตฺถวาจินา อิติ-สทฺเทน ‘‘อปสกฺก ตาว, ภคินิ, ยาว ภิกฺขู ภุฺชนฺตี’’ติ วากฺยเสโส สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ. อิมินา อปสาทนากาโร สนฺทสฺสิโต. ‘‘เอเกนปิ จ ภิกฺขุนา’’ติ อิมินา อวกํโส ทสฺสิโต. อุกฺกํโส ปน ‘‘เตหิ ภิกฺขูหิ สา ภิกฺขุนี อปสาเทตพฺพา’’ติ ปาฬิโตปิ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อามิส’’นฺติ สามฺวจเนปิ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรสฺเสว คหณํ. ยถาห ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรนา’’ติ. โภเคติ จ เอกโตอุปสมฺปนฺนนฺติ จ วุตฺตตฺถเมว.

๑๘๔๕. ตเถวาติ ทุกฺกฏํ. ตตฺถาติ อนุปสมฺปนฺนาย.

๑๘๔๖. อตฺตโน ภตฺเต ทินฺเนปิ อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, ปุริมสิกฺขาปเทน ปน อาปตฺติสมฺภวา ‘‘น เทตี’’ติ วุตฺตํ. ยถาห ‘‘อตฺตโน ภตฺตํ ทาเปติ, น เทตีติ เอตฺถ สเจปิ อตฺตโน ภตฺตํ เทติ, อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติเยว, ปุริมสิกฺขาปเทน อาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๕๘). ตถาติ อนาปตฺติ. อุภยสิกฺขาปเทหิปิ อนาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปเทติ เจ’’ติ. ยถาห ‘‘อฺเสํ ภตฺตํ เทติ, น ทาเปตีติ เอตฺถ ปน สเจปิ ทาเปยฺย, อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติ ภเวยฺย, เทนฺติยา ปน เนว อิมินา, น ปุริเมน อาปตฺตี’’ติ.

๑๘๔๗. ภิกฺขุนี ยํ น ทินฺนํ, ตํ ทาเปติ, ยตฺถ วา น ทินฺนํ, ตตฺถ ทาเปติ, ตมฺปิ สพฺเพสํ มิตฺตามิตฺตานํ สมํ ทาเปติ, ตตฺถาปิ อนาปตฺติ.

๑๘๔๘. สิกฺขมานา วา สามเณริกา วา ‘‘อิธ สูปํ เทถ, โอทนํ เทถา’’ติ โวสาสนฺตี วิธานํ กโรนฺตี ิตา, ตํ อนปสาเทนฺตสฺส อนาปตฺติ. ปฺเจว โภชนานิ วินา อฺํ โวสาสนฺตึ ภิกฺขุนึ อนปสาเทนฺตสฺส อนาปตฺติ. อนปสาเทนฺตสฺส อุมฺมตฺตกาทิโนปิ อนาปตฺตีติ โยชนา.

๑๘๔๙. สมุฏฺานนฺติ เอตฺถ ‘‘อิมสฺสา’’ติ เสโส. โภชนํ กิริยํ, โวสาสนฺติยา อนิวารณํ อกิริยนฺติ เอวมิทํ กฺริยากฺริยํ.

ทุติยปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.

๑๘๕๐-๑. เสกฺขนฺติ สมฺมเตติ ‘‘เสกฺขสมฺมตํ นาม กุลํ ยํ กุลํ สทฺธาย วฑฺฒติ, โภเคน หายติ, เอวรูปสฺส กุลสฺส ตฺติทุติเยน กมฺเมน เสกฺขสมฺมุติ ทินฺนา โหตี’’ติ (ปาจิ. ๕๖๗) วุตฺตํ อิทํ กุลํ เสกฺขสมฺมตํ นาม. เตนาห ‘‘ลทฺธสมฺมุติเก กุเล’’ติ. ลทฺธา สมฺมุติ เยนาติ วิคฺคโห. ฆรูปจารํ โอกฺกนฺเต นิมนฺติโตปิ อนิมนฺติโตว โหตีติ อาห ‘‘ฆรูปจาโรกฺกมนา ปุพฺเพวา’’ติ. ยถาห ‘‘อนิมนฺติโต นาม อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา อนิมนฺติโต, ฆรูปจารํ โอกฺกมนฺเต นิมนฺเตติ, เอโส อนิมนฺติโต นามา’’ติ (ปาจิ. ๕๖๗).

‘‘อคิลาโน นาม โย สกฺโกติ ปิณฺฑาย จริตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ภิกฺขาย จริตุํ สมตฺโถ อคิลาโน นาม. คเหตฺวาติ สหตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา. ‘‘อามิส’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สหตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๕๖๗). คหเณติ เอตฺถ ‘‘อาหารตฺถายา’’ติ เสโส.

๑๘๕๓. ตตฺถาติ อเสกฺขสมฺมเต กุเล. ตเถว ปริทีปิตนฺติ ทุกฺกฏํ ปริทีปิตํ.

๑๘๕๔. นิมนฺติตสฺส วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน นิมนฺติตสฺส อวเสสํ คณฺหาติ. ยถาห ‘‘นิมนฺติตสฺส วา คิลานสฺส วา เสสกํ ภุฺชตี’’ติ. อฺเสํ ภิกฺขา ตตฺถ ทียตีติ โยชนา. ตตฺถาติ ตสฺมึ เสกฺขสมฺมเต กุเล.

๑๘๕๕. ยตฺถ กตฺถจีติ อาสนสาลาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ. นิจฺจภตฺตาทิเก วาปีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สลากภตฺตปกฺขิกอุโปสถิกปาฏิปทิกภตฺตานํ คหณํ.

๑๘๕๖. ทฺวาเรติ เอตฺถ ‘‘เปตฺวา’’ติ เสโส. สมฺปตฺเตติ เอตฺถ ‘‘ปจฺฉา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘สเจปิ อนาคเต ภิกฺขุมฺหิ ปมํเยว นีหริตฺวา ทฺวาเร เปตฺวา ปจฺฉา สมฺปตฺตสฺส เทนฺติ, วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๖๙).

๑๘๕๗. มหาปจฺจริยา(ปอาจิ. อฏฺ. ๕๖๙) คตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิกฺขุ’’นฺติอาทิ. สมุฏฺาเนฬกูปมนฺติ สมุฏฺานโต เอฬกโลมสิกฺขาปทสทิสนฺติ อตฺโถ.

ตติยปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.

๑๘๕๘-๙. ‘‘ปฺจนฺนํ ปฏิสํวิทิตํ, เอตํ อปฺปฏิสํวิทิตํ นามา’’ติ วจนโต จ อิธาปิ ‘‘สหธมฺมิกาปิต’’นฺติ วกฺขมานตฺตา จ อคหฏฺ-สทฺเทน ปริพฺพาชกานํ คหณํ. วุตฺตเมว นยํ โวหารนฺตเรน ทสฺเสตุมาห ‘‘อิตฺถิยา ปุริเสน วา’’ติ. ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ อารฺกานิ เสนาสนานี’’ติ (ปาจิ. ๕๗๓) วจนโต อารามนฺติ อารฺการามมาห. สเจ เอวมาโรจิตํ ปฏิสํวิทิตนฺติ หิ วุตฺตํ ปทภาชเนติ (ปาจิ. ๕๗๓) โยชนา. ปฏิสํวิทิตนฺติ ปเคว นิเวทิตํ.

๑๘๖๐. ปจฺฉา ยถาโรจิตํ ตเมว วา ตสฺส จ ปริวารํ กตฺวา อฺํ พหุํ วา อาหรียตุ, ตมฺปิ ปฏิสํเวทิตํ นามาติ โยชนา.

๑๘๖๑. ยาคุยา วิทิตํ กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ตํ เปตฺวา’’ติ อิทํ สามตฺถิยา ลพฺภติ. อิทมฺปิ วิทิตํ กุรุนฺทิยํ วฏฺฏตีติ วุตฺตนฺติ โยชนา.

๑๘๖๒. ปนาติ อปิ-สทฺทตฺโถ. อฺานิปิ กุลานีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘อสุกํ นาม กุลํ ปฏิสํเวทิตํ กตฺวา ขาทนียาทีนิ คเหตฺวา คจฺฉตีติ สุตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๗๓) อฏฺกถาเสโส. เตนาติ กตปฏิสํเวทิเตน. ตมฺปิ จ สพฺพํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๘๖๓. เอวํ ยํ อนาโรจิตนฺติ ‘‘อารามํ วา อุปจารํ วา ปวิสิตฺวา’’ติอาทินา นเยน ยํ ปมํ อนิเวทิตํ. ‘‘เอว’’นฺติ อิทํ ‘‘ยํ อารามมนาภต’’นฺติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. เอวนฺติ ‘‘ตสฺส ปริวารํ กตฺวา’’ติอาทินา ปกาเรน. ‘‘ตํ อสํวิทิตํ นามา’’ติ อิทํ ‘‘สหธมฺมิกาปิต’’นฺติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘ปฺจนฺนํ ปฏิสํวิทิตํ, เอตํ อปฺปฏิสํวิทิตํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๕๗๓). อฏฺกถายฺจ ‘‘ปฺจนฺนํ ปฏิสํวิทิตนฺติ ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ ยํ กิฺจิ เปเสตฺวา ‘ขาทนียํ วา โภชนียํ วา อาหริสฺสามา’ติ ปฏิสํวิทิตํ กตมฺปิ อปฺปฏิสํวิทิตเมวาติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๗๓) วุตฺตํ.

๑๘๖๔. การาเปตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปฏิสํวิทิต’’นฺติ เสโส.

๑๘๖๕. ภิกฺขุนา วา คนฺตฺวา อนฺตรามคฺเค คเหตพฺพนฺติ โยชนา. เอวมกตฺวาติ ‘‘พหิอารามํ เปเสตฺวา’’ติอาทินา วุตฺตวิธานํ อกตฺวา. อุปจารโตติ เอตฺถ ภุมฺมตฺเถ โต-ปจฺจโย เวทิตพฺโพ.

๑๘๖๘. ‘‘ปฏิสํวิทิเต’’ติอาทีนํ ปทานํ ‘‘อนาปตฺเต วา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปฏิสํวิทิเตติ เอตฺถ ‘‘คิลานสฺสา’’ติ เสโส. ปฏิสํวิทิเต อนาปตฺติ, คิลานสฺสาปิ อนาปตฺติ, อปฺปฏิสํวิทิเตปิ ตสฺส ปฏิสํวิทิตสฺส อวเสสเก วา คิลานสฺส อวเสสเก วา อนาปตฺติ เอวาติ สมฺพนฺโธ. ยถาห อนาปตฺติวาเร ‘‘ปฏิสํวิทิตสฺส วา คิลานสฺส วา เสสกํ ภุฺชตี’’ติ (ปาจิ. ๕๗๕). พหาราเม ปฏิคฺคเหตฺวา อนฺโตเยว ภุฺชโต อสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. คเหตฺวา วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท ‘‘ตสฺสา’’ติอาทีสุปิ โยเชตพฺโพ.

๑๘๖๙. ตตฺถาติ ตสฺมึ อารฺการาเม. ขาทโต อนาปตฺติ เอวาติ โยชนา, ตตฺถ ‘‘อฺเน กปฺปิยํ กตฺวา ทินฺนานี’’ติ เสโส.

จตุตฺถปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เสขิยกถาวณฺณนา

๑๘๗๐. เอวํ ปาฏิเทสนียวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ อุทฺทิฏฺานํ เสขิยานํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โย อนาทริเยเนวา’’ติอาทิ. โยติ เถโร วา นโว วา มชฺฌิโม วา. เอตฺถ อนาทริยํ นาม สฺจิจฺจ อาปตฺติอาปชฺชนํ, นิวาสนาทิวตฺถสฺส อุคฺคหเณ นิรุสฺสาหฺจ. ปจฺฉโตปิ วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘ปสฺสโตปิ วา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. ตสฺส จาติ เอตฺถ -สทฺโท วกฺขมานสมุจฺจโย.

๑๘๗๑. น เกวลํ วุตฺตนเยน นิวาเสนฺตสฺเสว โหติ, ขนฺธกาคตหตฺถิโสณฺฑาทิอากาเรนาปิ นิวาเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ อาห ‘‘หตฺถิโสณฺฑาที’’ติอาทิ. หตฺถิโสณฺฑาทินิวาสนํ ปรโต ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๘๐) อาวิ ภวิสฺสติ. ปริมณฺฑลนฺติ สมนฺตโต มณฺฑลํ กตฺวา. วตฺถพฺพนฺติ นิวตฺถพฺพํ นิวาเสตพฺพนฺติ อตฺโถ.

๑๘๗๒. ชาณุมณฺฑลโต เหฏฺาติ เอตฺถ ‘‘ชงฺฆฏฺิสีสโต ปฏฺายา’’ติ เสโส. อฏฺงฺคุลปฺปมาณกนฺติ วฑฺฒกิองฺคุเลน อฏฺงฺคุลมตฺตนฺติ อาจริยา. ‘‘โย ปน สุกฺขชงฺโฆ วา มหาปิณฺฑิกมํโส วา โหติ, ตสฺส สารุปฺปตฺถาย ชาณุมณฺฑลโต อฏฺงฺคุลาธิกมฺปิ โอตาเรตฺวา นิวาเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๗๖) อฏฺกถํ สงฺคณฺหิตุมาห ‘‘ตโต อูนํ น วฏฺฏตี’’ติ.

๑๘๗๓. อสฺจิจฺจ อปริมณฺฑลํ นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เอวมุปริปิ. อสฺจิจฺจาติ ‘‘อปริมณฺฑลํ นิวาเสสฺสามี’’ติ เอวํ อสฺจิจฺจ, อถ โข ‘‘ปริมณฺฑลํเยว นิวาเสสฺสามี’’ติ วิรชฺฌิตฺวา อปริมณฺฑลํ นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. อสติสฺสาปีติ อฺวิหิตสฺสาปิ ตถา นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. อชานนฺตสฺสาติ เกวลํ ปริมณฺฑลํ นิวาเสตุํ อชานนฺตสฺส อนาปตฺติ. อปิจ นิวาสนวตฺตํ อุคฺคเหตพฺพํ. อุคฺคหิตวตฺโตปิ สเจ ‘‘อารุฬฺห’’นฺติ วา ‘‘โอรุฬฺห’’นฺติ วา น ชานาติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติเยว. คิลานสฺสาติ ยสฺส ชงฺฆาย วา ปาเท วา วโณ โหติ, ตสฺส อุกฺขิปิตฺวา วา โอตาเรตฺวา วา นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. ปาโทติ เจตฺถ ปาทสมีปํ อธิปฺเปตํ. อาปทาสูติ วาฬา วา โจรา วา อนุพนฺธนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ.

ปริมณฺฑลกถาวณฺณนา.

๑๘๗๔. อุโภ โกเณ สมํ กตฺวาติ ปารุปนสฺส เอกํเส กตสฺส ปิฏฺิปสฺเส, อุทรปสฺเส จ โอลมฺพมาเน อุโภ กณฺเณ หตฺถิปิฏฺเ คณฺฑา วิย สมํ กตฺวา. ปริมณฺฑลํ กตฺวาติ เอตสฺเสว อตฺถปทํ. สาทรนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส. สาทรํ วา ปารุปิตพฺพนฺติ โยชนา, สาทรํ ปารุปนํ กตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. เอวํ อกโรนฺตสฺสาติ ปารุปนวตฺเต อาทรํ ชเนตฺวา เอวํ อปารุปนฺตสฺส.

๑๘๗๕. ‘‘ปริมณฺฑลํ นิวาเสสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา’’ติ (ปาจิ. ๕๗๖) วา ‘‘ปริมณฺฑลํ ปารุปิสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา’’ติ (ปาจิ. ๕๗๗) วา ‘‘อนฺตรฆเร’’ติ อวิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อวิเสเสน วุตฺต’’นฺติ. อิทํ สิกฺขาปททฺวยํ ยสฺมา อวิเสเสน วุตฺตํ, ตสฺมา ฆเร, วิหาเร วา กาตพฺพํ ปริมณฺฑลนฺติ โยชนา. ฆเรติ อนฺตรฆเร. วิหาเร วาติ พุทฺธุปฏฺานาทิกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริมณฺฑลํ กตฺตพฺพนฺติ ปริมณฺฑลเมว นิวาเสตพฺพํ ปารุปิตพฺพนฺติ อตฺโถ.

ทุติยํ.

๑๘๗๖. อุโภ โกเณ สมํ กตฺวาติ สมฺพนฺโธ. คีวเมว จ อนุวาเตน ฉาเทตฺวาติ โยชนา.

๑๘๗๗. ตถา อกตฺวาติ ยถาวุตฺตวิธานํ อกตฺวา. ชตฺตูนิปีติ อุโภ อํสกูฏานิปิ. อุรมฺปิ จาติ หทยมฺปิ. วิวริตฺวาติ อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา. ยถากามนฺติ อิจฺฉานุรูปํ. คจฺฉโตติ เอตฺถ ‘‘อนฺตรฆเร’’ติ เสโส. อนฺตรฆรํ นาม คาเม วา โหตุ วิหาเร วา, ปจิตฺวา ภุฺชิตฺวา คิหีนํ วสนฏฺานํ.

ตติยํ.

๑๘๗๘-๙. ‘‘มณิพนฺธโต’’ติ อิมินาปิ ‘‘เหฏฺา’’ติ โยเชตพฺพํ. วาสูปคสฺสาติ เอตฺถ ‘‘กายํ วิวริตฺวา นิสีทโต’’ติ เสโส. วาสูปโค นาม รตฺติวาสตฺถาย อุปคโต, เอเตน วาสตฺถาย อนฺตรฆรํ อุปคจฺฉนฺเตน สุปฺปฏิจฺฉนฺเนเนว อุปคนฺตพฺพนฺติ ทีปิตํ โหติ, เอเตเนว วาสูปคตสฺส สนฺติกํ อุปคตสฺส ยถากามํ คมเน น โทโสติ จ วุตฺตเมว โหติ. เตนาห คณฺิปเท ‘‘เอกทิวสมฺปิ วาสูปคตสฺส สนฺติกํ ยถาสุขํ คนฺตุํ วฏฺฏติ, โก ปน วาโท จตุปฺจาหํ วาสมธิฏฺาย วสิตภิกฺขูนํ สนฺติก’’นฺติ.

จตุตฺถํ.

๑๘๘๐. สุวินีเตนาติ หตฺถปาทานํ อกีฬาปเนเนว สุฏฺุ วินีเตน.

ปฺจมํ.

๑๘๘๑. คาถาพนฺธวเสน ‘‘สตีมตา’’ติ ทีโฆ กโต. อวิกาเรนาติ ตํตทวโลกาสหิเตน. ยุคํ มตฺตา ปมาณํ เอตสฺสาติ ยุคมตฺตํ, รถยุคํ จตุหตฺถปฺปมาณํ, ตตฺตกํ ปเทสํ. เปกฺขินาติ โอโลเกนฺเตน. ‘‘ภิกฺขุนา โอกฺขิตฺตจกฺขุนา’’ติ ปทจฺเฉโท.

๑๘๘๒. อนฺตรฆเร ยตฺถ กตฺถจิปิ เอกสฺมิมฺปิ าเน ตฺวาติ โยชนา. เอวํ วุตฺเตปิ ตถารูเป อนฺตราเย สติ คจฺฉโตปิ โอโลเกตุํ ลพฺภติ. เอกสฺมึ ปน าเน ตฺวาติ เอตฺถ คจฺฉนฺโตปิ ปริสฺสยาภาวํ โอโลเกตุํ ลพฺภติเยว. ‘‘ตถา คาเม ปูช’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ปิ-สทฺโท ปน-สทฺทตฺโถ, โอโลเกตุํ ปน วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๘๘๓. โอโลเกนฺโต ตหํ ตหนฺติ โย อนาทริยํ ปฏิจฺจ ตํ ตํ ทิสาภาคํ ปาสาทํ กูฏาคารํ วีถึ โอโลเกนฺโต.

สตฺตมํ.

๑๘๘๔. เอกโต วาปีติ เอกอํสกูฏโต วา. อุภโต วาปีติ อุภยํสกูฏโต วา. อินฺทขีลกโต อนฺโตติ คามทฺวารินฺทขีลโต อนฺโต, ฆเรติ วุตฺตํ โหติ.

นวมํ.

๑๘๘๕. ตถา นิสินฺนกาเลปีติ อินฺทขีลสฺส อนฺโต นิสินฺนกาเลปิ. กุณฺฑิกํ นีหรนฺเตน จ จีวรํ อนุกฺขิปิตฺวา ทาตพฺพา กุณฺฑิกาติ โยชนา. กุณฺฑิกนฺติ จ อุปลกฺขณมตฺตํ. ธมฺมกรณาทีสุปิ เอเสว นโย.

ทสมํ.

ปโม วคฺโค.

๑๘๘๖. คนฺตุฺเจว นิสีทิตุฺจ น วฏฺฏตีติ โยชนา. -สทฺโท กิริยาสมุจฺจโย. หสนียสฺมึ วตฺถุสฺมินฺติ หาสชนเก การเณ. สิตมตฺตนฺติ มนฺทหาสํ.

ปมทุติยานิ.

๑๘๘๗. อปฺปสทฺเทนาติ ‘‘กิตฺตาวตา อปฺปสทฺโท โหติ? ทฺวาทสหตฺเถ เคเห อาทิมฺหิ สงฺฆตฺเถโร, มชฺเฌ ทุติยตฺเถโร, อนฺเต ตติยตฺเถโรติ เอวํ นิสินฺเนสุยํ สงฺฆตฺเถโร ทุติยตฺเถเรน สทฺธึ มนฺเตติ, ทุติยตฺเถโร ตสฺส สทฺทฺเจว สุณาติ, กถฺจ ววตฺถเปติ. ตติยตฺเถโร ปน สทฺทเมว สุณาติ, กถํ น ววตฺถเปติ. เอตฺตาวตา อปฺปสทฺโท โหตี’’ติ (ปาจิ. ๕๘๘) วุตฺตอปฺปสทฺทยุตฺเตน. สเจ ปน ตติยตฺเถโร กถฺจ ววตฺถเปติ, มหาสทฺโท นาม โหตีติ.

ตติยํ.

๑๘๘๘. กายปฺปจาลกํ กตฺวาติ กายํ จาเลตฺวา จาเลตฺวา. อุปริปิ เอเสว นโย. หตฺถสฺส วุตฺตลกฺขณตฺตา ‘‘พาหู’’ติ มณิพนฺธโต ยาว อํสกูฏา คเหตพฺพา.

๑๘๘๙. อุชุํ ปคฺคเหตฺวาติ อุชุํ เปตฺวา. อาสิตพฺพนฺติ นิสีทิตพฺพํ. ‘‘สเมน อิริยาปเถน ตู’’ติ ปทจฺเฉโท.

๑๘๙๐. อิตฺถมฺภูเต กรณวจนํ. คมนปฏิสํยุตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ คมนสฺส อสมฺภโวติ อาห ‘‘นิสีทเนน ยุตฺเตสู’’ติ.

ปฺจมฉฏฺสตฺตมฏฺมนวมานิ.

ทุติโย วคฺโค.

๑๘๙๑. ขมฺภํ กตฺวาติ กฏิยา เอกปสฺเส วา ทฺวีสุ วา ปสฺเสสุ กปฺปรสนฺธิโต อาภุชิตฺวา หตฺถํ เปตฺวา. ยถาห – ‘‘ขมฺภกโต นาม กฏิยํ หตฺถํ เปตฺวา กตขมฺโภ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๙๖). อุกฺกุฏิกาย วา คจฺฉโตติ โยชนา. อุกฺกุฏิกา วุจฺจติ ปณฺหิโย อุกฺขิปิตฺวา อคฺคปาเทหิ วา อคฺคปาเท อุกฺขิปิตฺวา ปณฺหีหิ เอว วา ภูมึ ผุสนฺตสฺส คมนํ.

๑๘๙๒. ทุสฺสปลฺลตฺถิกายาติ อาโยคปลฺลตฺถิกาย. อนฺตรฆเร นิสีทนฺตสฺส ตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.

๑๘๙๓. ทุติเย จาติ ‘‘น ขมฺภกโต อนฺตรฆเร นิสีทิสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๕๙๗) สิกฺขาปเท จ. จตุตฺเถ จาติ ‘‘น โอคุณฺิโต อนฺตรฆเร นิสีทิสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๕๙๙) สิกฺขาปเท จ. ฉฏฺเติ ‘‘น ปลฺลตฺถิกาย อนฺตรฆเร’’อิจฺจาทิ (ปาจิ. ๖๐๑) สิกฺขาปเท จ. อิติ เอวํ สารุปฺปา สมณาจารานุจฺฉวิกา ฉพฺพีสติ สิกฺขาปทานิ ปกาสิตานิ.

ปมทุติยตติยจตุตฺถปฺจมฉฏฺานิ.

๑๘๙๔. วิฺุนา ภิกฺขุนา สกฺกจฺจํ สติยุตฺเตน, ปตฺตสฺินา จ หุตฺวา สมสูโปว ปิณฺฑปาโต คเหตพฺโพติ โยชนา. เอวํ เอตาย คาถาย สิกฺขาปทตฺตยํ สงฺคหิตํ. สกฺกจฺจนฺติ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. ‘‘สติยุตฺเตนา’’ติ อิทํ ‘‘สกฺกจฺจ’’นฺติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ‘‘สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๐๒) หิ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ปตฺเต สฺา ปตฺตสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ ปตฺตสฺี, อนฺวิหิเตน อตฺตโน ภาชเนเยว อุปนิพทฺธสฺินาติ อตฺโถ.

๑๘๙๕. ภตฺตจตุพฺภาโคติ ภตฺตสฺส จตุพฺภาคปฺปมาโณ. ตโต อธิกํ คณฺหโต ทุกฺกฏํ.

๑๘๙๖. ‘‘รสรเส’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘รเสรเส’’ติ คาถาพนฺธวเสน วุตฺตํ. ทฺเว สูเป เปตฺวา อวเสสานิ โอโลณิสากสูเปยฺยมจฺฉรสมํสรสาทีนิ รสรสาติ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ ‘‘โอโลณีติ ทธิกตํ โครส’’นฺติ เกจิ. ‘‘เอกา พฺยฺชนวิกตี’’ติ อปเร. ‘‘โย โกจิ สุทฺโธ กฺชิกตกฺกาทิรโส’’ติ อฺเ. สากสูเปยฺยคฺคหเณน ยา กาจิ สูเปยฺยสาเกหิ กตา พฺยฺชนวิกติ วุตฺตา. มํสรสาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อวเสสา สพฺพาปิ พฺยฺชนวิกติ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. าตกาทีนนฺติ เอตฺถ ‘‘สนฺตกํ คณฺหนฺตสฺสา’’ติ เสโส. อฺตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘กตํ คณฺหนฺตสฺสา’’ติ เสโส. ธเนนาติ เอตฺถ ‘‘อตฺตโน’’ติ จ ‘‘กีต’’นฺติ จ ‘‘คณฺหนฺตสฺสา’’ติ จ เสโส. าตกาทีนํ สนฺตกํ คณฺหนฺตสฺส, อฺตฺถาย กตํ คณฺหนฺตสฺส, อตฺตโน ธเนน กีตํ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.

สตฺตมฏฺมนวมานิ.

๑๘๙๗. อธิฏฺานูปคสฺส ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา อนฺโตเลขาปมาเณน ปูริโตว คเหตพฺโพติ โยชนา.

๑๘๙๘. อนาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตฺวา อาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถาติ อธิฏฺานูปเค ปตฺเต. ถูปีกตํ กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ทิยฺยมาน’’นฺติ เสโส. ยถาวุตฺตเลขาติกฺกโม ยถา โหติ, เอวํ ถูปีกตํ ทิยฺยมานํ คณฺหโต อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. อิมินา ปมํ ถูปีกตสฺส อธิฏฺานูปคปตฺตสฺส ปจฺฉา ปฏิคฺคหณฺจ ปมปฏิคฺคหิตปตฺเต ปจฺฉา โภชนสฺส ถูปีกตสฺส ปฏิคฺคหณฺจ นิวาริตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๘๙๙. กาลิกตฺตยเมว จ ถูปีกตํ วฏฺฏเตวาติ โยชนา. เสเสติ อนธิฏฺานูปเค ปตฺเต. สพฺพนฺติ จตุพฺพิธํ กาลิกํ ถูปีกตํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๙๐๐. เปเสตีติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ เสโส. ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ยทิ เปเสตีติ โยชนา. ‘‘วิหารํ เปเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๐๕) อฏฺกถาย อธิปฺปายํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ วจเนน ปฏิคฺคหณํ อวิชหิตฺวา ภิกฺขุนา เอว เปสิตํ คณฺหนฺตานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. อฺถา ‘‘ปูเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพนฺติ วิฺายติ.

๑๙๐๑. ปกฺขิปฺปมานนฺติ มุขวฏฺฏิโต อุจฺจํ กตฺวา มชฺเฌ ปกฺขิปิยมานํ. ผลาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน โอทนาทิมฺปิ สงฺคณฺหาติ. เหฏฺา โอโรหตีติ สมนฺตา โอกาสสมฺภวโต จาลิยมานํ มุขวฏฺฏิปฺปมาณโต เหฏฺา ภสฺสติ.

๑๙๐๒. ตกฺโกลกาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปูคผลาทีนํ สงฺคโห. เปตฺวาติ ภตฺตมตฺถเก นิกฺขิปิตฺวา. วฏํสกนฺติ อวฏํสกํ.

๑๙๐๓. ปูวสฺสาติ วิการสมฺพนฺเธ สามิวจนํ, ปูววฏํสกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปูวสฺส ยาวกาลิกตฺตา อาห ‘‘อิทํ ถูปีกตํ สิยา’’ติ.

๑๙๐๔. ปณฺณานํ วิสุํ ภาชนตฺตา อาห ‘‘วฏฺฏตี’’ติ.

๑๙๐๕. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. ตํ ตุ สพฺพนฺติ ‘‘ถูปีกตตฺตา น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ ตํ ปน สพฺพํ. คหิตํ สุคหิตนฺติ วิราเธตฺวา ปฏิคฺคหิตํ เจ, สุปฺปฏิคฺคหิตํ.

ทสมํ.

ตติโย วคฺโค.

๑๙๐๖. ‘‘อุปริ โอธิ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. อุปรีติ ภตฺตสฺส อุปริ. โอธินฺติ ปริจฺเฉทํ. ปฏิปาฏิยาติ อตฺตโน ทิสาย ปริยนฺตโต ปฏฺาย อนุกฺกเมน.

๑๙๐๗. อฺเสนฺติ เอตฺถ ‘‘เทนฺโต’’ติ เสโส. อตฺตโน ภตฺตํ อฺเสํ เทนฺโต อฺสฺส ภาชเน อากิรํ อากิรนฺโต ปน ปฏิปาฏึ วินาปิ ตหึ ตหึ โอมสติ เจ, นตฺถิ โทโสติ โยชนา. อุตฺตริภงฺคกํ ตถา อากิรนฺโต ตตฺถ ตตฺถ โอมสติ, นตฺถิ โทโสติ โยชนา. ภุฺชนตฺถาย คณฺหนฺโตปิ เจตฺถ วตฺตพฺโพ. อุตฺตริภงฺคํ นาม พฺยฺชนํ.

ตติยํ.

๑๙๐๘. มตฺถกํ โอมทฺทิตฺวา ปริภุฺชโต โทโสติ โยชนา. ‘‘ถูปกโตติ มตฺถกโต, เวมชฺฌโต’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๑๐) อฏฺกถาวจนโต มตฺถกนฺติ เอตฺถ ภตฺตมตฺถกมาห. โอมทฺทิตฺวาติ หตฺเถน ภตฺตํ อวมทฺทิตฺวา.

๑๙๐๙. เสสเก ปริตฺเตปิ จาติ อวสิฏฺเ อปฺปเกปิ จ. สํกฑฺฒิตฺวานาติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ิตํ สํหริตฺวา. เอกโต ปน มทฺทิตฺวา ภุฺชโต อนาปตฺตีติ โยชนา.

ปฺจมํ.

๑๙๑๐. ภิยฺโยกมฺยตาเหตูติ ปุน คณฺหิตุกามตาเหตุ. สูปํ วาติ มุคฺคาทิสูปํ วา. พฺยฺชนํ วาติ อุตฺตริภงฺคํ วา.

ฉฏฺํ.

๑๙๑๑. วิฺตฺติยนฺติ สูโปทนวิฺตฺติยํ. ‘‘าตกานํ วา ปวาริตานํ วา อฺสฺส อตฺถาย วา อตฺตโน ธเนน วา’’ติ อิทํ อนาปตฺติยํ อธิกํ. คิลาโนปิ หุตฺวา ปเรสํ ปตฺตํ อุชฺฌานสฺาย โอโลเกนฺตสฺส อาปตฺติ โหตีติ อาห ‘‘อุชฺฌาเน คิลาโนปิ น มุจฺจตี’’ติ. อุชฺฌาเนติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ.

๑๙๑๒. ทสฺสามีติ อิมสฺส ภตฺตํ โอโลเกตฺวา ‘‘ยํ ตตฺถ นตฺถิ, ตํ ทสฺสามี’’ติ วา ‘‘ทาเปสฺสามี’’ติ วา. อวมฺิตฺวา อุชฺฌายนจิตฺตํ อุชฺฌานํ, อุชฺฌาเน สฺา อุชฺฌานสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ วิคฺคโห. นอุชฺฌานสฺิโน จ อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา.

สตฺตมฏฺมานิ.

๑๙๑๓. ‘‘เตสํ มชฺฌปฺปมาเณนา’’ติ อิมินา อสารุปฺปวเสน ขุทฺทกปฏิกฺเขโป กโตติ เวทิตพฺโพ. ‘‘นาติมหนฺต’’นฺติ จ อติมหนฺตสฺเสว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ขุทฺทเก อาปตฺติ น ทิสฺสตีติ. กพโฬติ อาโลโป.

๑๙๑๔. มูลขาทนียาทิเก สพฺพตฺถ ขชฺชเก ปนาติ โยชนา. ผลาผเลติ ขุทฺทเก, มหนฺเต จ ผเล.

นวมํ.

๑๙๑๕. ทสเม นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพํ.

ทสมํ.

จตุตฺโถ วคฺโค.

๑๙๑๖. ‘‘อนาหเฏ’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ ‘‘มุขทฺวารํ อปฺปตฺเต’’ติ. ยถาห ‘‘อนาหเฏติ อนาหริเต, มุขทฺวารํ อสมฺปาปิเตติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๑๗). ‘‘มุขทฺวารํ วิวรนฺตสฺสา’’ติ เอตฺตเก วุตฺเต มุขทฺวาร-สทฺทสฺส สมฺพนฺธิสทฺทตฺตา กสฺสาติ อเปกฺขาย ‘‘มุขทฺวารํ วิวริสฺสามี’’ติ อตฺตโนปเทกวจเนน พฺยฺชิตเมวตฺถํ ปกาเสตุํ อตฺตโน-คหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. -สทฺโท เอวการตฺโถ, อปฺปตฺเต วาติ โยเชตพฺโพ, อสมฺปตฺเตเยวาติ อตฺโถ.

ปมํ.

๑๙๑๗. สกลํ หตฺถนฺติ เอตฺถ หตฺถ-สทฺโท ตเทกเทเสสุ องฺคุลีสุ ทฏฺพฺโพ. ‘‘หตฺถมุทฺทา’’ติอาทีสุ วิย สมุทาเย ปวตฺตโวหารสฺส อวยเวปิ ปวตฺตนโต เอกงฺคุลิมฺปิ มุเข ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ.

๑๙๑๘. อสฺสาติ ภิกฺขุโน. พฺยาหรนฺตสฺสาติ กเถนฺตสฺส.

ทุติยตติยานิ.

๑๙๒๐. ปิณฺฑุกฺเขปกนฺติ ปิณฺฑํ อุกฺขิปิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา. อิธาปิ ขชฺชกผลาผเลสุ อนาปตฺติ. กพฬจฺเฉทกมฺปิ วาติ กพฬํ ฉินฺทิตฺวา. อิธ ขชฺชกผลาผเลหิ สทฺธึ อุตฺตริภงฺเคปิ อนาปตฺติ. คณฺเฑ กตฺวาติ เอตฺถ ผลาผลมตฺเตเยว อนาปตฺติ.

จตุตฺถปฺจมฉฏฺานิ.

๑๙๒๑-๒. หตฺถํ นิทฺธุนิตฺวานาติ หตฺถํ นิทฺธุนิตฺวา ภตฺตํ ภุฺชโตติ จ สมฺพนฺโธ. สิตฺถาวการกนฺติ สิตฺถานิ อวกิริตฺวา อวกิริตฺวา. ชิวฺหานิจฺฉารกํ วาปีติ ชิวฺหํ นิจฺฉาเรตฺวา นิจฺฉาเรตฺวา. จปุ จปูติ วาติ ‘‘จปุ จปู’’ติ เอวํ สทฺทํ กตฺวา. สตฺตเมติ ‘‘น หตฺถนิทฺธุนก’’นฺติ สิกฺขาปเท. อฏฺเมติ ‘‘น สิตฺถาวการก’’นฺติ สิกฺขาปเท. กจวรุชฺฌเนติ กจวราปนยเน.

สตฺตมฏฺมนวมทสมานิ.

ปฺจโม วคฺโค.

๑๙๒๓. ‘‘สุรุ สุรู’’ติ เอวํ สทฺทํ กตฺวา น โภตฺตพฺพนฺติ โยชนา. หตฺถนิลฺเลหกํ วาปีติ หตฺถํ นิลฺเลหิตฺวา นิลฺเลหิตฺวา.

๑๙๒๔. ผาณิตํ, ฆนยาคุํ วา องฺคุลีหิ คเหตฺวา องฺคุลิโย มุเข ปเวเสตฺวาปิ ตํ โภตฺตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๙๒๕. เอกาย องฺคุลิกายปิ ปตฺโต น เลหิตพฺโพว. ชิวฺหาย เอกโอฏฺโปิ น นิลฺเลหิตพฺพโกติ โยชนา. พหิ โอฏฺฺจ ชิวฺหาย น เลหิตพฺพํ. โอฏฺเ ลคฺคํ สิตฺถาทึ ยํ กิฺจิ อุโภหิ โอฏฺมํเสหิเยว คเหตฺวา อนฺโต กาตุํ วฏฺฏติ.

ปมทุติยตติยจตุตฺถานิ.

๑๙๒๖-๘. จ คเหตพฺพํ, ปฏิกฺกูลวเสน ปฏิกฺขิตฺตนฺติ โยชนา. หิ-อิติ ‘‘ยสฺมา’’ติ เอตสฺส อตฺเถ, เตเนว วกฺขติ ‘‘ตสฺมา’’ติ. ‘‘ปานียถาลก’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ สงฺขาทีนมฺปิ ตถา นคเหตพฺพตฺตา. สราวํ วาติ ตฏฺฏกํ วา.

อนามิเสน หตฺเถนาติ อามิสรหิเตน หตฺเถกเทเสน. ยถาห ‘‘สเจ ปน หตฺถสฺส

เอกเทโส อามิสมกฺขิโต น โหติ, เตน ปเทเสน คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๓๑). อามิสมกฺขิเตเนว หตฺเถน ‘‘โธวิสฺสามี’’ติ วา ‘‘โธวาเปสฺสามี’’ติ วา คณฺหนฺตสฺส ปน อนาปตฺติ.

ปฺจมํ.

๑๙๒๙. อุทฺธริตฺวาติ สสิตฺถกา ปตฺตโธวนา สิตฺถกานิ อุทฺธริตฺวา ตํ ปตฺตโธวโนทกํ ฆรา พหิ อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. ภินฺทิตฺวาติ สสิตฺถเก ปตฺตโธวเน สิตฺถกานิ มทฺทิตฺวา อุทเกน สมฺภินฺทิตฺวา อุทกคติกาเนว กตฺวา ตํ อุทกํ ฆรา พหิ อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. คเหตฺวาติ สสิตฺถกํ ปตฺตโธวโนทกํ คเหตฺวา ปฏิคฺคเห ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. สสิตฺถกํ ปตฺตโธวโนทกํ ฆรา พหิ นีหริตฺวา อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อชฺฌาหารโยชนา เวทิตพฺพา. เอตฺถ ปฏิคฺคโห นาม เขฬมลฺลาทิโก อุจฺฉิฏฺหตฺถโธวนภาชนวิเสโส.

ฉฏฺํ.

๑๙๓๐. ฉตฺตํ ยํ กิฺจีติ ‘‘ฉตฺตํ นาม ตีณิ ฉตฺตานิ เสตจฺฉตฺตํ กิลฺชจฺฉตฺตํ ปณฺณจฺฉตฺตํ มณฺฑลพทฺธํ สลากพทฺธ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๓๔) วุตฺเตสุ ตีสุ ฉตฺเตสุ อฺตรํ. เอตฺถ จ เสตจฺฉตฺตนฺติ วตฺถปลิคุณฺิตํ ปณฺฑรจฺฉตฺตํ. กิลฺชจฺฉตฺตนฺติ วิลีวจฺฉตฺตํ. ปณฺณจฺฉตฺตนฺติ ตาลปณฺณาทีหิ เยหิ เกหิจิ กตํ. ‘‘มณฺฑลพทฺธํ สลากพทฺธ’’นฺติ อิทํ ปน ติณฺณมฺปิ ฉตฺตานํ ปฺชรทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตานิ หิ มณฺฑลพทฺธานิ เจว โหนฺติ สลากพทฺธานิ จ. ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ อนวเสสปริคฺคหวจเนน ‘‘ยมฺปิ จ ตตฺถชาตทณฺเฑน กตํ เอกปณฺณจฺฉตฺตํ โหติ, ตมฺปิ ฉตฺตเมวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๓๔) อฏฺกถาย วุตฺตํ ฉตฺตวิเสสํ คณฺหาติ. หตฺเถนาติ เอตฺถ ‘‘อมุฺจิตฺวา’’ติ เสโส. สรีราวยเวนาติ เอตฺถ ‘‘คเหตฺวา’’ติ เสโส. วา-สทฺโท อปิ-สทฺทตฺโถ. อํสกูฏาทิสรีราวยเวน คเหตฺวาปิ หตฺเถน อมุฺจิตฺวา ธาเรนฺตสฺสาติ อตฺโถ.

สเจ ปนสฺส อฺโ ฉตฺตํ ธาเรติ, ฉตฺตปาทุกาย วา ิตํ โหติ, ปสฺเส วา ิตํ โหติ,

หตฺถโต อปคตมตฺเต ฉตฺตปาณิ นาม น โหติ, ตสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏติ. ‘‘น ฉตฺตปาณิสฺส อคิลานสฺสา’’ติ วจนโต, อิธ ‘‘สพฺพตฺถ อคิลานสฺสา’’ติ วกฺขมานตฺตา จ เอตฺถ ‘‘อคิลานสฺสา’’ติ ลพฺภติ. ธมฺมปริจฺเฉโท เจตฺถ ปทโสธมฺเม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เอวมุปริปิ.

สตฺตมํ.

๑๙๓๑. ทณฺฑปาณิมฺหีติ เอตฺถ ทณฺโฑ ปาณิมฺหิ อสฺสาติ วิคฺคโห. กิตฺตกปฺปมาโณ ทณฺโฑติ อาห ‘‘จตุหตฺถปฺปมาโณ’’ติอาทิ. มชฺฌิมหตฺถโตติ ปมาณมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส หตฺถโต, โย ‘‘วฑฺฒกิหตฺโถ’’ติ วุจฺจติ.

อฏฺมํ.

๑๙๓๒. สตฺถปาณิสฺสาติ เอตฺถาปิ วิคฺคโห วุตฺตนโยว. วกฺขมานํ สกลํ ธนุวิกตึ, สรวิกติฺจ เปตฺวา อวเสสํ ขคฺคาทิ สตฺถํ นาม. ขคฺคํ สนฺนหิตฺวา ิโตปิ สตฺถปาณิ นุ โขติ อาสงฺกาย นิวตฺตนตฺถมาห ‘‘สตฺถปาณี’’ติอาทิ. ‘‘น โหติ อสิ’’นฺติ ปทจฺเฉโท.

นวมํ.

๑๙๓๓-๕. สเรน สทฺธึ ธนุํ วา สุทฺธธนุํ วา สุทฺธสรํ วา สชิยํ ธนุทณฺฑํ วา นิชิยํ ธนุทณฺฑํ วา คเหตฺวา ิตสฺสาปิ วา นิสินฺนสฺสาปิ วา นิปนฺนสฺสาปิ วา สเจ โย ตถา ปทโสธมฺเม วุตฺตลกฺขณํ สทฺธมฺมํ เทเสติ, ตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. สเจ ปนสฺส ธนุ ขนฺเธ ปฏิมุกฺกํ โหติ, ยาว น คณฺหาติ, ตาว วฏฺฏติ. ชิยาย สห วตฺตตีติ สชิยํ.

ทสมํ.

ฉฏฺโ วคฺโค.

๑๙๓๖. ปาทุการุฬฺหกสฺสาติ ปาทุกํ อารุฬฺโห ปาทุการุฬฺโห, โสเยว ปาทุการุฬฺหโก, ตสฺส. กถํ อารุฬฺหสฺสาติ อาห ‘‘อกฺกมิตฺวา’’ติอาทิ. อกฺกมิตฺวา ิตสฺสาติ ฉตฺตทณฺฑเก องฺคุลนฺตรํ อปฺปเวเสตฺวา เกวลํ ปาทุกํ อกฺกมิตฺวา ิตสฺส. ปฏิมุกฺกสฺส วาติ ปฏิมุฺจิตฺวา ิตสฺส. เอตํ ทฺวยมฺปิ ‘‘ปาทุการุฬฺหกสฺสา’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ยถาห ‘‘น ปาทุการุฬฺหสฺส อคิลานสฺส ธมฺโม เทเสตพฺโพ. โย อนาทริยํ ปฏิจฺจ อกฺกนฺตสฺส วา ปฏิมุกฺกสฺส วา โอมุกฺกสฺส วา อคิลานสฺส ธมฺมํ เทเสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๓๘).

ปมํ.

๑๙๓๗-๔๐. อุปาหนคตสฺสาปีติ อกฺกนฺตาทิอากาเรน อุปาหนารุฬฺหสฺส จ. ยถาห ‘‘อกฺกนฺตสฺส วา ปฏิมุกฺกสฺส วา’’ติ. สพฺพตฺถาติ ฉตฺตปาณิอาทีสุ สพฺพสิกฺขาปเทสุ. อคิลานสฺสาติ อิทํ โยเชตพฺพนฺติ เสโส. ยาเน วา คตสฺส อคิลานสฺส ธมฺมํ เทเสติ, ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ตตฺถ ยาเน วา คตสฺสาติ สเจ ทฺวีหิ ชเนหิ หตฺถสงฺฆาเตน คหิโต, สาฏเก วา เปตฺวา วํเสน วยฺหติ, อยุตฺเต วา วยฺหาทิเก ยาเน, วิสงฺขริตฺวา วา ปิเต จกฺกมตฺเตปิ นิสินฺโน โหติ, ยานคโตตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.

สยเนปิ วา อนฺตมโส กฏสารเก วา ฉมาย วา นิปนฺนสฺสาปิ อคิลานสฺสาติ โยชนา. ยถาห ‘‘สยนคตสฺสาติ อนฺตมโส กฏสารเกปิ ปกติภูมิยมฺปิ นิปนฺนสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๔๑). อุจฺเจ ปีเ วา อุจฺเจ มฺเจปิ วา นิสินฺเนน, ิเตน วา นิปนฺนสฺส เทเสตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘ตฺวา’’ติ อิมินา ‘‘นิสีทิตฺวา’’ติ อิทฺจ สงฺคหิตเมว. สยเนสุ คตสฺส จ เทเสนฺเตน สยเนสุ คเตนาปิ สมาเน วาปิ อุจฺเจ วา นิปนฺเนเนว วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๙๔๑. ‘‘ตเถว จา’’ติ อิมินา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ อิทํ คหิตํ.

ทุติยตติยจตุตฺถานิ.

๑๙๔๒. ‘‘ปลฺลตฺถิกาย นิสินฺนสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ยการสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘ปลฺลตฺถิกา นิสินฺนสฺสา’’ติ วุตฺตํ, อาโยคปลฺลตฺถิกาย วา หตฺถปลฺลตฺถิกาย วา ทุสฺสปลฺลตฺถิกาย วา ยาย กายจิ ปลฺลตฺถิกาย นิสินฺนสฺสาติ อตฺโถ. เวิตสีสสฺสาติ ทุสฺสเวเนน วา โมลิอาทีหิ วา ยถา เกสนฺโต น ทิสฺสติ, เอวํ เวิตสีสสฺส.

๑๙๔๓. ยทิ เกสนฺตํ วิวราเปตฺวา เทเสติ, วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘อยเมว วินิจฺฉโย’’ติ อิมินา ‘‘สีสํ วิวราเปตฺวา เทเสติ, วฏฺฏตี’’ติ อนาปตฺติวาโรปิ วุตฺโต โหติ.

ปฺจมฉฏฺสตฺตมานิ.

๑๙๔๔-๕. อฏฺเม ‘‘อาสเน นิสินฺนสฺสาติ อนฺตมโส วตฺถมฺปิ ติณานิปิ สนฺถริตฺวา นิสินฺนสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๔๕) อิทฺจ นวเม ‘‘อุจฺเจ อาสเนติ อนฺตมโส ภูมิปฺปเทเสปิ อุนฺนเต าเน นิสินฺนสฺส เทเสตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๔๗) อิทฺจ ทสเม ‘‘สเจปี’’ติอาทินา วกฺขมานวินิจฺฉยฺจ เปตฺวา วตฺตพฺพวิเสสาภาวา อาห ‘‘อฏฺเม นวเม วาปิ, ทสเม นตฺถิ กิฺจิปี’’ติ. เอตฺถ ‘‘วตฺตพฺพ’’นฺติ เสโส. เถรุปฏฺานํ คนฺตฺวาน ิตํ ทหรํ อาสเน นิสินฺโน เถโร เจ ปฺหํ ปุจฺฉตีติ อชฺฌาหารโยชนา. กเถตพฺพมุปายํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตสฺส ปสฺเส ปนฺสฺส, กเถตพฺพํ วิชานตา’’ติ. เอตฺถ ‘‘ิตสฺสา’’ติ เสโส. ตสฺส สมีปวตฺติโน กสฺสจิ อภาเว สชฺฌายํ อธิฏฺหิตฺวาปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

อฏฺมนวมทสมานิ.

สตฺตโม วคฺโค.

๑๙๔๖. คจฺฉโต ปุรโตติ เอตฺถ ‘‘ปจฺฉโต คจฺฉนฺเตนา’’ติ เสโส. ปจฺฉโต คจฺฉนฺเตน ปุรโต คจฺฉโต ปฺหํ น วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. สเจ ปุรโต คจฺฉนฺโต ปฺหํ ปุจฺฉติ, กึ กาตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปจฺฉิมสฺสา’’ติอาทิ.

๑๙๔๗. อุคฺคหิตํ ธมฺมํ ปุรโต คจฺฉนฺเตน สทฺธึ ปจฺฉโต คจฺฉนฺโต สชฺฌายติ, วฏฺฏตีติ โยชนา. สมเมว คจฺฉโต ยุคคฺคาหํ กเถตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ยุคคฺคาหนฺติ อฺมฺํ. อฺมฺ-สทฺทปริยาโย หิ ยุคคฺคาห-สทฺโท.

ปมํ.

๑๙๔๘. สกฏมคฺเค เอเกกสฺส จกฺกสฺส ปเถน คจฺฉนฺโต เอเกกสฺส จกฺกสฺส ปเถน สมํ คจฺฉโต ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏติ. อุปฺปเถนาปิ คจฺฉนฺโต อุปฺปเถน สมํ คจฺฉนฺตสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏตีติ อชฺฌาหารโยชนา. อุปฺปเถนาติ อมคฺเคน. เอวํ อนาปตฺติวิสเย ทสฺสิเต ตพฺพิปริยายโต อาปตฺติวิสโย ทสฺสิโตเยวาติ เวทิตพฺโพ.

ทุติยํ.

๑๙๔๙. ตติเย นตฺถิ วตฺตพฺพนฺติ ‘‘น ิโต อคิลาโน อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กริสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๖๕๑) เอตสฺส วินิจฺฉโย ยถารุตวเสน สุวิฺเยฺโยติ กตฺวา วุตฺตํ. สเจ ปฏิจฺฉนฺนํ านํ คจฺฉนฺตสฺส สหสา อุจฺจาโร วา ปสฺสาโว วา นิกฺขมติ, อสฺจิจฺจ กโต นาม, อนาปตฺติ. อยเมตฺถ วิเสโส ทฏฺพฺโพ. สิงฺฆาณิกาย เขเฬเนว สงฺคหิตตฺเตปิ พาตฺตึสโกฏฺาเสสุ วิสุํเยว ทสฺสิโต เอโก โกฏฺาโสติ สิกฺขาปเทสุ อวุตฺตมฺปิ สงฺคเหตฺวา อาห ‘‘อุจฺจาราทิจตุกฺก’’นฺติ.

๑๙๕๐. เอตฺถ หริตํ นาม อิทนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ชีวรุกฺขสฺสา’’ติอาทิ. รุกฺขสฺสาติ อุปลกฺขณํ ชีวมานกติณลตาทีนมฺปิ หริเตเยว สงฺคหิตตฺตา. ‘‘ทิสฺสมานํ คจฺฉตี’’ติ วจเนเนว อทิสฺสมานคตํ อหริตนฺติ พฺยติเรกโต วิฺายติ. สาขา วา ภูมิลคฺคา ทิสฺสมานา คจฺฉติ, ตํ สพฺพํ หริตเมวาติ โยชนา.

๑๙๕๑. สหสา วจฺจํ นิกฺขมเตวาติ สมฺพนฺโธ. อสฺส ภิกฺขุโน. วจฺจนฺติ อุปลกฺขณํ ปสฺสาวาทีนมฺปิ ทสฺสิตตฺตา. วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘คิลานฏฺาเน ิตตฺตา’’ติ เสโส.

๑๙๕๒. ปลาลณฺฑุปเก วาปีติ ปลาลจุมฺพฏเกปิ. เอตฺถ ‘‘อปฺปหริตํ อลภนฺเตนา’’ติ เสโส. กิสฺมิฺจีติ สุกฺขติณาทิมฺหิ กิสฺมิฺจิ. ตํ วจฺจํ ปจฺฉา หริตํ โอตฺถรติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๙๕๓. เอตีติ ปวิสติ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ‘‘เขเฬน เอว จา’’ติ ปทจฺเฉโท.

ตติยจตุตฺถานิ.

๑๙๕๔. วจฺจกุฏิสมุทฺทาทิอุทเกสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สพฺพํ อปริโภคชลํ สงฺคณฺหาติ. เตเนว ‘‘เตสํ อปริโภคตฺตา’’ติ อปริโภคตฺตเมว การณมาห.

๑๙๕๕. อุทโกเฆติ เอตฺถ ‘‘ชาเต’’ติ เสโส. อชลนฺติ อชลฏฺานํ. ชเลติ ปริโภคารหชเล. อิธาปิ ถลกโต อุทกํ โอตฺถรติ, อนาปตฺติ.

ปฺจมํ.

อฏฺโม วคฺโค.

๑๙๕๖-๗. ปกิณฺณกวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สมุฏฺานาทโย’’ติอาทิ. เยฺยาติ วกฺขมานนเยน เวทิตพฺพา. เอตฺถาติ เอเตสุ เสขิเยสุ. อุชฺชคฺฆิกา อาทิ เยสนฺติ วิคฺคโห, ตคฺคุณสํวิฺาโณยํ พาหิรตฺถสมาโส, อุชฺชคฺฆิกาอปฺปสทฺทปฏิสํยุตฺตานิ จตฺตาริ สิกฺขาปทานีติ อตฺโถ. ฉมา จ นีจาสนฺจ านฺจ ปจฺฉา จ อุปฺปโถ จ ฉมานีจาสนฏฺานปจฺฉาอุปฺปถา, เต สทฺทา เอเตสํ สิกฺขาปทานํ อตฺถีติ ตปฺปฏิสํยุตฺตานิ สิกฺขาปทานิ ฉมา…เป… อุปฺปถวา, ฉมาทิปทวนฺตานิ ปฺจ สิกฺขาปทานีติ อตฺโถ. เอตฺถ าน-สทฺเทน า-ธาตุสฺเสว รูปตฺตา สิกฺขาปทาคโต ิต-สทฺโท คหิโต. ‘‘ทสสู’’ติ วตฺตพฺเพ วณฺณโลเปน, วิภตฺติวิปลฺลาเสน วา ‘‘ทสา’’ติ วุตฺตํ. สมนุภาสเน สมุฏฺานาทีหิ เอเตสุ ทสสุ สิกฺขาปเทสุ สมุฏฺานาทโย ตุลฺยา วุตฺตาติ โยชนา.

กึ วุตฺตํ โหติ? อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ สมนุภาสนสมุฏฺานานิ, เอเกกเมตฺถ กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๑๙๕๘-๙. ‘‘ฉตฺต’’นฺติอาทีนิ สิกฺขาปทานํ อุปลกฺขณปทานิ. เอตานิ เอกาทส สิกฺขาปทานิ สมุฏฺานาทินา ปน ธมฺมเทสเนน ตุลฺยาว สทิสา เอวาติ โยชนา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิมานิ เอกาทส สิกฺขาปทานิ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานานิ, กิริยากิริยานิ, สฺาวิโมกฺขานิ, สจิตฺตกานิ, โลกวชฺชานิ, วจีกมฺมานิ, อกุสลจิตฺตานิ, ทุกฺขเวทนานีติ.

สูโปทเนน วิฺตฺตีติ สูโปทน-สทฺเทน ลกฺขิตํ วิฺตฺติสิกฺขาปทํ. วิฺตฺติสิกฺขาปทานํ พหุตฺตา อิทเมว วิเสสิตํ. เถยฺยสตฺถสมํ มตนฺติ สมุฏฺานาทีหิ เถยฺยสตฺถสิกฺขาปเทน สมานํ มตนฺติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปทํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

๑๙๖๐. อวเสสา ติปฺาสาติ อวเสสานิ เตปฺาสสิกฺขาปทานิ. สมานา ปเมน ตูติ ปเมน ปาราชิเกน สมุฏฺานาทิโต สมานานีติ อตฺโถ, ปมปาราชิกสทิสสมุฏฺานานีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อนาปตฺติ อาปทาสู’’ติ ปทจฺเฉโท. ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา, ปารุปิตฺวา จรนฺตานํ โจรุปทฺทวาทิ อาปทา นาม. อปิ-สทฺเทน นทิสนฺตรณาทึ สงฺคณฺหาติ. เสขิเยสุ สพฺเพสูติ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ.

๑๙๖๑. ‘‘น อุชฺฌานสฺี ปเรสํ ปตฺตํ โอโลเกสฺสามี’’ติอาทีนํ (ปาจิ. ๖๑๔) อิมสฺส อนาปตฺติวารสฺส อสมฺภวโต น ปนาคโตติ ปาฬิยํ น วุตฺโต. ตสฺสาปิ ยถาวตฺถุกาว อาปตฺติโย ทฏฺพฺพา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา

วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

เสขิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๙๖๒. โย อิมํ วินิจฺฉยํ วิทิตฺวา ิโต, โส หิ ยสฺมา วินเย วิสารโท โหติ, วินีตมานโส จ โหติ, ปเรหิ ทุปฺปธํสิโย จ โหติ, ตโต ตสฺมา การณา สมาหิโต สตตํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ สิกฺเขยฺยาติ โยชนา.

ตตฺถ อิมํ วินิจฺฉยํ วิทิตฺวาติ สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺตินิทานํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ อตฺถโต, คนฺถโต, วินิจฺฉยโต จ สกฺกจฺจํ ตฺวา. วิสารโทติ สารชฺชนํ สารโท, วิคโต สารโท อสฺสาติ วิสารโท, วินยปริยตฺติยา, อาปตฺตาทิวิภาเค จ นิพฺภโย นิราสงฺโกติ วุตฺตํ โหติ. น เกวลํ อิมสฺส ชานเน เอโสว อานิสํโส, อถ โข วินีตมานโส จ โหติ, สํยตจิตฺโต โหตีติ อตฺโถ. โสติ อิมํ วินิจฺฉยํ สกฺกจฺจํ วิทิตฺวา ิโต ภิกฺขุ. ปเรหีติ อิมํ อชานนฺเตหิ อฺเหิ. ทุปฺปธํสิโย จ โหตีติ อนภิภวนีโย จ โหติ.

ตโตติ ตสฺมา วินเย วิสารทตาทิสพฺพคุณสมฺปนฺนเหตุตฺตา. หีติ ยสฺมาติ อตฺโถ. สิกฺเขติ สชฺฌายนสวนาทิวเสน สิกฺเขยฺย, อุคฺคณฺเหยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘สตต’’นฺติ อิมินา สพฺพตฺถกกมฺมฏฺาเน วิย เอตฺถาปิ สตตาภิโยโค กาตพฺโพติ ทสฺเสติ. วิกฺขิตฺตสฺส ยถาภูตปฏิเวธาภาวโต ตปฺปฏิปกฺขาย เอกคฺคตาย นิโยเชนฺโต อาห ‘‘สมาหิโต’’ติ, สมฺมา วินยวินิจฺฉเย อาหิโต ปติฏฺิโต เอกคฺคจิตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘อวิกฺขิตฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม วิกฺขิตฺตสฺสา’’ติ.

๑๙๖๓. เอวํ อิมาย คาถาย วุตฺตเมวตฺถํ ปการนฺตเรนาปิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ. เตติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘เย’’ติ ลพฺภติ. เย เถรา วา นวา วา มชฺฌิมา วา. ปรมนฺติ อมตมหานิพฺพานปฺปตฺติยา มูลการณสฺส สีลสฺส ปกาสนโต อุตฺตมํ. อสํกรนฺติ นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ. สํกรนฺติ วุตฺตปฺปการคุโณเปตตฺตา กายจิตฺตสุขการณํ สมฺมุขํ กโรตีติ สํกรํ. สวนามตนฺติ สทฺทรสาทิโยเคน กณฺณรสายนํ. อมตนฺติ ตโตเยว อมตํ สุมธุรํ. อมตมหานิพฺพานาวหตฺตา วา ผลูปจาเรน อมตํ. อิมํ วินยวินิจฺฉยํ. อเวจฺจาติ สกฺกจฺจํ วิทิตฺวา. อธิเกติ อธิสีลาทิสิกฺขตฺตยปฺปกาสเนน อุกฺกฏฺเ. หิเตติ โลกิยโลกุตฺตรสุขเหตุตฺเตน หิเต. หิโนติ อตฺตโน ผลนฺติ ‘‘หิต’’นฺติ สุขเหตุ วุจฺจติ. กลิสาสเนติ โลภาทิกิเลสวิทฺธํสเน. สาสเนติ วินยปริยตฺติสงฺขาตสาสเนกเทเส. ปฏุตฺตนฺติ พฺยตฺตภาวํ. น ยนฺติ น คจฺฉนฺติ. เก เตติ กตเม เต. ‘‘น เกจิ สนฺติ จา’’ติ นิสฺสนฺเทเห อิมิสฺสา คาถาย อตฺโถ ลิขิโต.

เอวํ เอตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา – ปรมํ อุตฺตมํ อสํกรํ นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ สํกรํ สกลโลกิยโลกุตฺตรสุขาภินิปฺผาทกํ สวนามตํ โสตรสายนํ อิมํ วินิจฺฉยปฺปกรณํ อเวจฺจ สกฺกจฺจํ วิทิตฺวา อธิเก อธิสีลาทิสิกฺขตฺตยปฺปกาสเนน อุกฺกฏฺเ หิเต โลกิยโลกุตฺตรสุขเหตุภูเต กลิสาสเน สกลสํกิเลสวิทฺธํสเก สาสเน วินยปิฏกสงฺขาเต ปริยตฺติสาสเน เย ปฏุตฺตํ น ยนฺติ, เต เก นามาติ โยชนา, เย อิมํ ปกรณํ อเวจฺจ วิทิตฺวา ิตา, เต เอกํสโต วินยปิฏเก ปฏุตฺตํ ปาปุณนฺติ เยวาติ อธิปฺปาโย.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา

วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ภิกฺขุวิภงฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุนิวิภงฺโค

๑๙๖๔. เอวํ ภิกฺขุวิภงฺคปาฬิยา, อฏฺกถาย จ อาคตํ วินิจฺฉยสารํ นาติสงฺเขปวิตฺถารนเยน ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตราย ภิกฺขุนิวิภงฺคปาฬิยา, ตทฏฺกถาย จ อาคตวินิจฺฉยสารํ ทสฺเสตุมารภนฺโต อาห ‘‘ภิกฺขุนีน’’นฺติอาทิ. ตสฺมึ อปีติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท วุตฺตาเปกฺขายํ. ‘‘สมาเสนา’’ติ อิทํ คนฺถวเสน สงฺขิปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘กิฺจิมตฺต’’นฺติ อิทํ อตฺถวเสนาติ เวทิตพฺพํ.

ปาราชิกกถาวณฺณนา

๑๙๖๕. ฉนฺทโสติ เมถุนเสวนราคปฏิสํยุตฺเตน ฉนฺเทน. เอเตน ‘‘ฉนฺเท ปน อสติ พลกฺกาเรน ปธํสิตาย อนาปตฺตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. เมถุนธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา) อฏฺกถา สูจิตา โหติ. สา สมณี ปาราชิกา นาม โหตีติ ปวุจฺจตีติ โยชนา.

๑๙๖๖-๗. ‘‘สชีวสฺส อปิ อชีวสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘สนฺถตํ วา อสนฺถต’’นฺติ อิทํ ‘‘องฺคชาต’’นฺติ อิมสฺส วิเสสนํ. อตฺตโน ติวิเธ มคฺเคติ อตฺตโน วจฺจปสฺสาวมุขมคฺคานํ อฺตรสฺมึ มคฺเค. เอตฺถ ‘‘สนฺถเต วา อสนฺถเต วา’’ติ เสโส, ‘‘อลฺโลกาเส’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘เยภุยฺยอกฺขายิตาทิก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. อาทิ-สทฺเทน อกฺขายิตํ สงฺคณฺหาติ.

มนุสฺสปุริสาทีนํ นวนฺนํ สชีวสฺสปิ อชีวสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ สนฺถตํ วา อสนฺถตํ วา เยภุยฺยกฺขายิตาทิกํ องฺคชาตํ อตฺตโน สนฺถเต วา อสนฺถเต วา ติวิเธ มคฺเค อลฺโลกาเส ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺตี ปราชิตาติ โยชนา.

๑๙๖๘. สาธารณวินิจฺฉยนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ สาธารณสิกฺขาปทวินิจฺฉยํ.

๑๙๖๙-๗๐. อธกฺขกนฺติ เอตฺถ อกฺขกานํ อโธติ วิคฺคโห. อุพฺภชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลานํ อุพฺภนฺติ วิคฺคโห. อุพฺภ-สทฺโท อุทฺธํ-สทฺทปริยาโย. อิธ ‘‘อตฺตโน’’ติ เสโส. อวสฺสุตสฺสาติ กายสํสคฺคราเคน ตินฺตสฺส. อวสฺสุตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ยาติ วุตฺตตฺตา ‘‘สา’’ติ ลพฺภติ. สรีรนฺติ เอตฺถ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ เสโส. ปโรปกฺกมมูลกํ ปาราชิกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เตน วา ผุฏฺา’’ติ. เอตฺถ ‘‘ยถาปริจฺฉินฺเน กาเย’’ติ จ ‘‘สาทิเยยฺยา’’ติ จ วตฺตพฺพํ.

ยา ปน ภิกฺขุนี อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส มนุสฺสปุคฺคลสฺส ยํ กิฺจิ สรีรํ อตฺตโน อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ ยํ สรีรกํ, เตน สรีรเกน ฉุเปยฺย, เตน มนุสฺสปุริเสน ยถาปริจฺฉินฺเน กาเย ผุฏฺา สาทิเยยฺย วา, สา ปาราชิกา สิยาติ โยชนา.

๑๙๗๑-๒. ‘‘คหิตํ อุพฺภชาณุนา’’ติ อิมินา กปฺปรโต อุทฺธํ ปาราชิกกฺเขตฺตเมวาติ ทีเปติ. อตฺตโน ยถาวุตฺตปฺปกาเรน กาเยนาติ โยชนา, อตฺตโน ‘‘อธกฺขก’’นฺติอาทิวุตฺตปฺปกาเรน กาเยนาติ อตฺโถ. ตถา อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส ปุริสสฺส กายปฏิพทฺธํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ โหติ. อตฺตโน ยถาปริจฺฉินฺนกายปฏิพทฺเธน ตถา อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส ปุริสสฺส กายํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ โหติ.

๑๙๗๓. อตฺตโน อวเสเสน กาเยน อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส กายํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ โหติ. เอวํ อตฺตโน ปโยเค จ ปุริสสฺส ปโยเค จ ตสฺสา ภิกฺขุนิยาเยว ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา.

๑๙๗๔. ยกฺขเปตติรจฺฉานปณฺฑกานํ กายํ ‘‘อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑล’’นฺติ ยถาปริจฺฉินฺนํ ตเถว อตฺตโน กาเยน อุภโตอวสฺสเว สติ ผุสนฺติยา อสฺสา ภิกฺขุนิยา ถุลฺลจฺจยํ, ตเถว ยกฺขาทีนํ ปโยเคปิ ตสฺสาเยว ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา.

๑๙๗๕. เอกโตวสฺสเว จาปีติ ภิกฺขุนิยา วเสน เอกโตอวสฺสเว จาปิ. ถุลฺลจฺจยมุทีริตนฺติ ปาราชิกกฺเขตฺตภูเตน อตฺตโน กาเยน มนุสฺสปุริสสฺส กายํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖๒) วุตฺตนฺติ อตฺโถ. อวเสเส จ สพฺพตฺถาติ ยถาวุตฺตปาราชิกกฺเขตฺตโต อวเสเส ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต สพฺพตฺถ เอกโตอวสฺสเว สติ ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. กายปฏิพทฺเธน กายปฏิพทฺธามสนาทีสุ สพฺพตฺถ อุภโตอวสฺสเว วา เอกโตอวสฺสเว วา ทุกฺกฏเมว โหติ.

๑๙๗๖. ‘‘อุพฺภกฺขกมโธชาณุมณฺฑล’’นฺติ ยํ อปาราชิกกฺเขตฺตํ อิธ ทสฺสิตํ, เอตฺถ เอกโตอวสฺสเว ทุกฺกฏํ โหติ. กปฺปรสฺส จ เหฏฺาปิ เอตฺเถว อโธชาณุมณฺฑเล สงฺคหํ คตนฺติ โยชนา.

๑๙๗๗-๙. ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สเจ กายสํสคฺคํ เกลายติ เสวตีติ โยชนา. ภิกฺขุนิยา นาโส สิยาติ สีลวินาโส ปาราชิกาปตฺติ สิยาติ อตฺโถ. เคหเปมนฺติ เอตฺถ ‘‘เคหสิตเปม’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน สิต-สทฺทโลโป, อตฺโถ ปนสฺส ภิกฺขุวิภงฺเค วุตฺตนโยว.

๑๙๘๐. อวิเสเสนาติ ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ วา วิเสสํ อกตฺวา.

๑๙๘๑. ยสฺสาติ ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา. ยตฺถาติ ภิกฺขุนิยํ วา ภิกฺขุสฺมึ วา. มโนสุทฺธนฺติ กายสํสคฺคาทิราครหิตํ. ตสฺส ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ตตฺถ ภิกฺขุนิยํ วา ภิกฺขุสฺมึ วา วิสเย นโทสตา อนาปตฺตีติ อตฺโถ.

๑๙๘๒. ภินฺทิตฺวาติ สีลเภทํ กตฺวา. ภิกฺขุนิยา อปกตตฺตา อาห ‘‘เนว โหติ ภิกฺขุนิทูสโก’’ติ.

๑๙๘๓. อถาติ วากฺยารมฺเภ. น โหตาปตฺติ ภิกฺขุโนติ เอตฺถ ภิกฺขุนีหิ กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสมาห.

๑๙๘๔. ‘‘เขตฺเต’’ติ วกฺขมานํ ‘‘ผุฏฺา’’ติ อิมินา โยเชตฺวา ‘‘ปาราชิก’’นฺติอาทีหิ, ‘‘ถุลฺลจฺจยํ เขตฺเต’’ติอาทีหิ จ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘ปาราชิก’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ผุฏฺาติ เอตฺถ ‘‘ปาราชิกกฺเขตฺเต’’ติ เสโส.

๑๙๘๕. ตถาติ นิจฺจลาปิ สาทิยติ. เขตฺเตติ ถุลฺลจฺจยาทีนํ เขตฺเต. กาเยน นิจฺจลายปิ จิตฺเตน สาทิยนฺติยา อาปตฺติ กสฺมา วุตฺตาติ อาห ‘‘วุตฺตตฺตา…เป… สตฺถุนา’’ติ, ภิกฺขุปาติโมกฺเข วิย ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ อวตฺวา อิธ ‘‘กายสํสคฺคํ สาทิเยยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย.

๑๙๘๖. ตสฺสา อาปตฺติยา. กฺริยสมุฏฺานนฺติ กิริยาย สมุฏฺานํ. เอวํ สตีติ สาทิยนมตฺเตเนว อาปชฺชิตพฺพภาเว สติ. อิทนฺติ ‘‘กิริยสมุฏฺาน’’มิติวิธานํ. ตพฺพหุเลเนว นเยนาติ กิริยสมุฏฺานพาหุลฺเลน นเยน ขทิรวนาทิโวหาโร วิยาติ ทฏฺพฺพํ.

๑๙๘๗. ตสฺสา ภิกฺขุนิยา อสฺจิจฺจ วิรชฺฌิตฺวา อามสนฺติยา อนาปตฺติ, ‘‘อยํ ปุริโส’’ติ วา ‘‘อิตฺถี’’ติ วา อชานิตฺวา อามสนฺติยา อนาปตฺติ, ปุริสสฺส อามสเน สติ ผสฺสํ อสาทิยนฺติยา วา อนาปตฺตีติ โยชนา.

๑๙๘๘. ขิตฺตจิตฺตายาติ ยกฺขุมฺมตฺตาย. อุมฺมตฺติกาย วาติ ปิตฺตโกเปน อุมฺมาทปฺปตฺตาย. อิทฺจ ‘‘อสุจี’’ติ วา ‘‘จนฺทน’’นฺติ วา วิเสสตํ อชานนเมว ปมาณํ.

อุพฺภชาณุมณฺฑลกถาวณฺณนา.

๑๙๘๙-๙๐. ‘‘ปาราชิกตฺตํ ชานนฺตี’’ติ อิมินา อวเสสาปตฺตึ ชานิตฺวา ฉาเทนฺติยา ปาราชิกาภาวํ ทีเปติ. สลิงฺเค ตุ ิตายาติ ปพฺพชฺชาลิงฺเคเยว ิตาย. อิติ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺตสฺมินฺติ โยชนา. อิติ-สทฺโท นิทสฺสเน. อิตราย ปุพฺเพเยว อาปนฺนตฺตา ตมเปกฺขิตฺวา ‘‘สา จา’’ติ อาห.

๑๙๙๑. วุตฺตาวิสิฏฺํ สพฺพํ วินิจฺฉยํ สงฺคเหตุมาห ‘‘เสส’’นฺติอาทิ. ตตฺถาติ ทุฏฺุลฺลปฏิจฺฉาทเน.

วชฺชปฏิจฺฉาทิกถาวณฺณนา.

๑๙๙๒-๕. สงฺเฆนาติ สมคฺเคน สงฺเฆน. อุกฺขิตฺตโกติ อาปตฺติยา อทสฺสนาทีสุ อุกฺขิตฺตโก. ‘‘อุกฺเขปเน ิโต’’ติ อิมินา อุกฺเขปนียกมฺมกตสฺส อโนสาริตภาวํ ทีเปติ. ยา ทิฏฺิ เอตสฺสาติ ยํทิฏฺิโก, โส อุกฺขิตฺตโก ภิกฺขุ ยาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ตสฺสา ทิฏฺิยา คหเณนา’’ติ อิมินา อนุวตฺตปฺปกาโร ทสฺสิโต. ตํ อุกฺขิตฺตกํ ภิกฺขุนฺติ โยชนา. สา ภิกฺขุนี อฺาหิ ภิกฺขุนีหิ วิสุมฺปิจ สงฺฆมชฺเฌปิ ‘‘เอโส โข อยฺเย ภิกฺขุ สมคฺเคน สงฺเฆน อุกฺขิตฺโต’’ติอาทินา (ปาจิ. ๖๖๙) นเยน ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมานาติ โยชนา. ตํ วตฺถุํ อจชนฺตี คเหตฺวา ยทิ ตเถว ติฏฺตีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺพา’’ติ เสโส. ตสฺส กมฺมสฺส โอสาเนติ ตติยาย กมฺมวาจาย ยฺยการปฺปตฺตวเสน อสฺส สมนุภาสนกมฺมสฺส ปริโยสาเน. อสากิยธีตราติ อสากิยธีตา, ปจฺจตฺเต กรณวจนํ. ‘‘ปุน อปฺปฏิสนฺเธยา’’ติ อิมินา ปุน เตเนว จ อตฺตภาเวน ภิกฺขุนิภาเว ปฏิสนฺธาตุํ อนรหตา วุตฺตา.

๑๙๙๖. ติกทุกฺกฏํ นิทฺทิฏฺนฺติ อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา, เวมติกา, ธมฺมกมฺมสฺาติ เอตาสํ วเสน ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ. สมนุภาสเน วุตฺตา สมุฏฺานาทโย สพฺเพ อิธ วตฺตพฺพาติ โยชนา.

อุกฺขิตฺตานุวตฺติกกถาวณฺณนา.

๑๙๙๗. ‘‘หตฺถคฺคหณํ วา สาทิเยยฺยาติ หตฺโถ นาม กปฺปรํ อุปาทาย ยาว อคฺคนขา. เอตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิเสวนตฺถาย อุพฺภกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ คหณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อปาราชิกเขตฺตสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘ต’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ย’’นฺติ ลพฺภติ. อปาราชิกกฺเขตฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ องฺคสฺส ยํ คหณํ, ตํ หตฺถคฺคหณนฺติ ปวุจฺจตีติ โยชนา. หตฺเถ คหณํ หตฺถคฺคหณํ.

๑๙๙๘. ยสฺส กสฺสจีติ วุตฺตปฺปกาเรน ยสฺส กสฺสจิ จีวรสฺส ยํ คหณนฺติ โยชนา.

๑๙๙๙. อสทฺธมฺม-สทฺเทน เมถุนสฺสาปิ วุจฺจมานตฺตา ตโต วิเสเสตุมาห ‘‘กายสํสคฺค …เป… การณา’’ติ. ภิกฺขุนี กายสํสคฺคสงฺขาตสฺส อสทฺธมฺมสฺส การณา ปุริสสฺส หตฺถปาสสฺมึ ติฏฺเยฺย วาติ โยชนา.

๒๐๐๐. ตโตติ ตสฺส อสทฺธมฺมสฺส การณา. ตตฺถาติ หตฺถปาเส. ปุริเสนาติ เอตฺถ ‘‘กต’’นฺติ เสโส, ‘‘สงฺเกต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘อาคมนํ อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. อิจฺเฉยฺยาติ วุตฺเตปิ น คมนิจฺฉามตฺเตน, อถ โข ภิกฺขุนิยา ปุริสสฺส หตฺถปาสํ, ปุริเสน จ ภิกฺขุนิยา หตฺถปาสํ โอกฺกนฺตกาเลเยว วตฺถุปูรณํ ทฏฺพฺพํ. ยถาห ‘‘สงฺเกตํ วา คจฺเฉยฺยาติ เอตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิเสวนตฺถาย ปุริเสน ‘อิตฺถนฺนามํ อาคจฺฉา’ติ วุตฺตา คจฺฉติ, ปเท ปเท อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ปุริสสฺส หตฺถปาสํ โอกฺกนฺตมตฺเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) จ ‘‘ปุริสสฺส อพฺภาคมนํ สาทิยติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. หตฺถปาสํ โอกฺกนฺตมตฺเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) จ. เอตฺถ จ อิตฺถนฺนามํ อาคจฺฉาติ อิตฺถนฺนามํ านํ อาคจฺฉาติ อตฺโถ.

๒๐๐๑. ตทตฺถายาติ ตสฺเสว กายสํสคฺคสงฺขาตอสทฺธมฺมสฺส เสวนตฺถาย. ปฏิจฺฉนฺนฏฺานฺจาติ วตฺถาทินา เยน เกนจิ ปฏิจฺฉนฺนโอกาสํ. ปุริสสฺส หตฺถปาเส ิตา ตทตฺถาย กายํ อุปสํหเรยฺย วาติ โยชนา.

๒๐๐๒. หตฺถคฺคหณาทีนํ วุตฺตปฺปการานํ อฏฺนฺนํ วตฺถูนํ ปูรเณน ‘‘อฏฺวตฺถุกา’’ติ สงฺขาตา อยํ ภิกฺขุนี วินฏฺา โหติ สีลวินาเสน, ตโตเยว อสฺสมณี โหติ อภิกฺขุนี โหตีติ โยชนา.

๒๐๐๓. อนุโลเมน วาติ หตฺถคฺคหณาทิปฏิปาฏิยา วา. ปฏิโลเมน วาติ ตพฺพิปริยโต ปฏิโลเมน วา. เอกนฺตริกาย วาติ เอกเมกํ อนฺตริตฺวา ปุน ตสฺสาปิ กรณวเสน เอกนฺตริกาย วา. อนุโลเมน วา ปฏิโลเมน วา ตเถกนฺตริกาย วา อฏฺมํ วตฺถุํ ปริปูเรนฺตี จุตาติ โยชนา.

๒๐๐๔. เอตเทว อตฺถํ พฺยติเรกมุเขน สมตฺเถตุมาห ‘‘อถาทิโต’’ติอาทิ. สตกฺขตฺตุมฺปีติ พหุกฺขตฺตุมฺปิ. สต-สทฺโท เหตฺถ พหุ-สทฺทปริยาโย. ปาราชิกา เนว สิยาติ โยชนา, อิมินา ตํตํวตฺถุมูลกํ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๐๐๕. ยา ปน อาปตฺติโย อาปนฺนา, เทเสตฺวา ตาหิ มุจฺจตีติ โยชนา. ธุรนิกฺเขปนํ กตฺวาติ ‘‘น ปุเนวํ กริสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา. เทสิตา คณนูปิกาติ เทสิตา เทสิตคณนเมว อุเปติ, ปาราชิกสฺส องฺคํ น โหตีติ อตฺโถ. ตสฺมา ยา เอกํ อาปนฺนา, ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา เทเสตฺวา ปุน กิเลสวเสน อาปชฺชติ, ปุน เทเสติ, เอวํ อฏฺ วตฺถูนิ ปูเรนฺตีปิ ปาราชิกา น โหติ.

๒๐๐๖. สอุสฺสาหาย เทสิตาติ ปุน อาปชฺชเน อนิกฺขิตฺตธุราย ภิกฺขุนิยา เทสิตาปิ อาปตฺติ เทสนาคณนํ น อุเปติ. กึ โหตีติ อาห ‘‘เทสิตาปิ อเทสิตา’’ติ, ตสฺมา ปาราชิกาปตฺติยา องฺคเมว โหตีติ อธิปฺปาโย.

๒๐๐๘. อยํ อตฺโถติ ‘‘อสทฺธมฺโม นาม กายสํสคฺโค’’ติ อยํ อตฺโถ. อุทฺทิสิโตติ ปกาสิโต.

๒๐๐๙. อยมตฺโถ เกน วจเนน อุทฺทิสิโตติ อาห ‘‘วิฺู…เป… สาธกํ วจนํ อิท’’นฺติ. อิทํ วจนนฺติ ‘‘วิฺู ปฏิพโล กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๗๖) อิทํ วจนํ. สาธกํ ปมาณํ.

อฏฺวตฺถุกกถาวณฺณนา.

๒๐๑๐. อวสฺสุตา, วชฺชปฏิจฺฉาทิกา, อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา, อฏฺวตฺถุกาติ อิมา จตสฺโส ปาราชิกาปตฺติโย มเหสินา อสาธารณา ภิกฺขุนีนเมว ปฺตฺตาติ โยชนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา

วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา

๒๐๑๑. เอวํ ภิกฺขุนิวิภงฺเค อาคตํ ปาราชิกวินิจฺฉยํ วตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรุทฺทิฏฺํ สงฺฆาทิเสสวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี’’ติอาทิ. อุสฺสยวาทาติ โกธุสฺสยมานุสฺสยวเสน วิวทมานา. ตโตเยว อฏฺฏํ กโรติ สีเลนาติ อฏฺฏการี. เอตฺถ จ ‘‘อฏฺโฏ’’ติ โวหาริกวินิจฺฉโย วุจฺจติ, ยํ ปพฺพชิตา ‘‘อธิกรณ’’นฺติปิ วทนฺติ. สพฺพตฺถ วตฺตพฺเพ มุขมสฺสา อตฺถีติ มุขรี, พหุภาณีติ อตฺโถ. เยน เกนจิ นเรน สทฺธินฺติ ‘‘คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๖๗๙) ทสฺสิเตน เยน เกนจิ มนุสฺเสน สทฺธึ. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. กิราติ ปทปูรเณ, อนุสฺสวเน วา.

๒๐๑๒. สกฺขึ วาติ ปจฺจกฺขโต ชานนกํ วา. อฏฺฏํ กาตุํ คจฺฉนฺติยา ปเท ปเท ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๐๑๓. โวหาริเกติ วินิจฺฉยามจฺเจ.

๒๐๑๔. อนนฺตรนฺติ ตสฺส วจนานนฺตรํ.

๒๐๑๕. อิตโรติ อฏฺฏการโก. ปุพฺพสทิโสว วินิจฺฉโยติ ปมาโรจเน ทุกฺกฏํ, ทุติยาโรจเน ถุลฺลจฺจยนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๒๐๑๖. ‘‘ตว, มมาปิ จ กถํ ตุวเมว อาโรเจหี’’ติ อิตเรน วุตฺตา ภิกฺขุนีติ โยชนา. ยถากามนฺติ ตสฺสา จ อตฺตโน จ วจเน ยํ ปมํ วตฺตุมิจฺฉติ, ตํ อิจฺฉานุรูปํ อาโรเจตุ.

๒๐๑๘-๙. อุภินฺนมฺปิ ยถา ตถา อาโรจิตกถํ สุตฺวาติ โยชนา. ยถา ตถาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน เกนจิ ปกาเรน. เตหีติ โวหาริเกหิ. อฏฺเฏ ปน จ นิฏฺิเตติ อฏฺฏการเกสุ เอกสฺมึ ปกฺเข ปราชิเต. ยถาห ‘‘ปราชิเต อฏฺฏการเก อฏฺฏปริโยสานํ นาม โหตี’’ติ. อฏฺฏสฺส ปริโยสาเนติ เอตฺถ ‘‘ตสฺสา’’ติ เสโส. ตสฺส อฏฺฏสฺส ปริโยสาเนติ โยชนา.

๒๐๒๐-๒๓. อนาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทูตํ วาปี’’ติอาทิ. ปจฺจตฺถิกมนุสฺเสหิ ทูตํ วาปิ ปหิณิตฺวา สยมฺปิ วา อาคนฺตฺวา ยา ปน อากฑฺฒียตีติ โยชนา. อฺเหีติ คามทารกาทีหิ อฺเหิ. กิฺจิ ปรํ อโนทิสฺสาติ โยชนา. อิมิสฺสา โอทิสฺส วุตฺเต เตหิ คหิตทณฺเฑ ตสฺสา จ คีวาติ สูจิตํ โหติ. ยา รกฺขํ ยาจติ, ตตฺถ ตสฺมึ รกฺขายาจเน ตสฺสา อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. อฺโต สุตฺวาติ โยชนา. อุมฺมตฺติกาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อาทิกมฺมิกา คหิตา.

สมุฏฺานํ กถิเนน ตุลฺยนฺติ โยชนา. เสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สกิริยํ อิท’’นฺติ. อิทํ สิกฺขาปทํ. กิริยาย สห วตฺตตีติ สกิริยํ อฏฺฏกรเณน อาปชฺชนโต. ‘‘สมุฏฺาน’’นฺติ อิมินา จ สมุฏฺานาทิวินิจฺฉโย อุปลกฺขิโตติ ทฏฺพฺโพ.

อฏฺฏการิกากถาวณฺณนา.

๒๐๒๔-๕. ชานนฺตีติ ‘‘สามํ วา ชานาติ, อฺเ วา ตสฺสา อาโรเจนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๖๘๔) วุตฺตนเยน ชานนฺตี. โจรินฺติ ยาย ปฺจมาสคฺฆนกโต ปฏฺาย ยํ กิฺจิ ปรสนฺตกํ อวหริตํ, อยํ โจรี นาม. วชฺฌํ วิทิตนฺติ ‘‘เตน กมฺเมน วธารหา อย’’นฺติ เอวํ วิทิตํ. สงฺฆนฺติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ. อนปโลเกตฺวาติ อนาปุจฺฉา. ราชานํ วาติ รฺา อนุสาสิตพฺพฏฺาเน ตํ ราชานํ วา. ยถาห ‘‘ราชา นาม ยตฺถ ราชา อนุสาสติ, ราชา อปโลเกตพฺโพ’’ติ. คณเมว วาติ ‘‘ตุมฺเหว ตตฺถ อนุสาสถา’’ติ ราชูหิ ทินฺนํ คามนิคมมลฺลคณาทิกํ คณํ วา. มลฺลคณํ นาม ปานียฏฺปนโปกฺขรณิขณนาทิปุฺกมฺมนิยุตฺโต ชนสมูโห. เอเตเนว เอวเมว ทินฺนคามวรา ปูคา จ เสนิโย จ สงฺคหิตา. วุฏฺาเปยฺยาติ อุปสมฺปาเทยฺย. กปฺปนฺติ จ วกฺขมานลกฺขณํ กปฺปํ. สา โจริวุฏฺาปนนฺติ สมฺพนฺโธ. อุปชฺฌายา หุตฺวา ยา โจรึ อุปสมฺปาเทติ, สา ภิกฺขุนีติ อตฺโถ. อุปชฺฌายสฺส ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ.

๒๐๒๖. ปฺจมาสคฺฆนนฺติ เอตฺถ ปฺจมาสฺจ ปฺจมาสคฺฆนกฺจ ปฺจมาสคฺฆนนฺติ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน ปฺจมาสสฺสาปิ คหณํ. อติเรกคฺฆนํ วาปีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

๒๐๒๗. ปพฺพชิตํ ปุพฺพํ ยาย สา ปพฺพชิตปุพฺพา. วุตฺตปฺปการํ โจรกมฺมํ กตฺวาปิ ติตฺถายตนาทีสุ ยา ปมํ ปพฺพชิตาติ อตฺโถ.

๒๐๒๘-๓๐. อิทานิ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏาทิอาปตฺติวิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วุฏฺาเปติ จ ยา โจริ’’นฺติอาทิ. อิธ ‘‘อุปชฺฌายา หุตฺวา’’ติ เสโส. อิทํ กปฺปํ เปตฺวาติ โยชนา. สีมํ สมฺมนฺนติ จาติ อภินวํ สีมํ สมฺมนฺนติ, พนฺธตีติ วุตฺตํ โหติ. อสฺสาติ ภเวยฺย. ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา จ ‘‘ถุลฺลจฺจยํ ทฺวย’’นฺติ อิมินา จ โยเชตพฺพํ.

กมฺมนฺเตติ อุปสมฺปทกมฺมสฺส ปริโยสาเน, ตติยาย กมฺมวาจาย ยฺยการปฺปตฺตายาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๐๓๑. อชานนฺตีติ โจรึ อชานนฺตี. (อิทํ สิกฺขาปทํ.)

๒๐๓๒. โจริวุฏฺาปนํ นามาติ อิทํ สิกฺขาปทํ โจริวุฏฺาปนสมุฏฺานํ นาม. วาจจิตฺตโตติ ขณฺฑสีมํ อคนฺตฺวา กโรนฺติยา วาจาจิตฺเตหิ. กายวาจาทิโต เจวาติ คนฺตฺวา กโรนฺติยา กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. ยถาห ‘‘เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกนฺตาสุ ภิกฺขุนีสุ อคนฺตฺวา ขณฺฑสีมํ วา นทึ วา ยถานิสินฺนฏฺาเนเยว อตฺตโน นิสฺสิตกปริสาย สทฺธึ วุฏฺาเปนฺติยา วาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, ขณฺฑสีมํ วา นทึ วา คนฺตฺวา วุฏฺาเปนฺติยา กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๘๓). กฺริยากฺริยนฺติ อนาปุจฺฉาวุฏฺาปนวเสน กิริยากิริยํ.

โจริวุฏฺาปนกถาวณฺณนา.

๒๐๓๓-๔. คามนฺตรนฺติ อฺํ คามํ. ยา เอกา สเจ คจฺเฉยฺยาติ สมฺพนฺโธ. นทีปารนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. นทิยา ปารํ นทีปารํ. ‘‘เอกา วา’’ติ อุปริปิ โยเชตพฺพํ. โอหีเยยฺยาติ วินา ภเวยฺย. อิธ ‘‘อรฺเ’’ติ เสโส. อรฺลกฺขณํ ‘‘อินฺทขีล’’อิจฺจาทินา วกฺขติ. ‘‘เอกา วา รตฺตึ วิปฺปวเสยฺย, เอกา วา คณมฺหา โอหีเยยฺยา’’ติ สิกฺขาปทกฺกโม, เอวํ สนฺเตปิ คาถาพนฺธวเสน ‘‘รตฺตึ วิปฺปวเสยฺยา’’ติ อนฺเต วุตฺตํ. เตเนว วิภาควินิจฺฉเย เทสนารุฬฺหกฺกเมเนว ‘‘ปุเรรุโณทยาเยวา’’ติอาทึ วกฺขติ. สา ปมาปตฺติกํ ครุกํ ธมฺมํ อาปนฺนา สิยาติ โยชนา. ปมํ อาปตฺติ เอตสฺสาติ ปมาปตฺติโก, วีติกฺกมกฺขเณเยว อาปชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ. ‘‘ครุกํ ธมฺม’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. สกคามา นิกฺขมนฺติยาติ ภิกฺขุนิยา อตฺตโน วสนคามโต นิกฺขมนฺติยา.

๒๐๓๕. ตโต สกคามโต.

๒๐๓๖-๗. เอเกน ปทวาเรน อิตรสฺส คามสฺส ปริกฺเขเป อติกฺกนฺเต, อุปจาโรกฺกเม วา ถุลฺลจฺจยนฺติ โยชนา. อติกฺกนฺเต โอกฺกนฺเตติ เอตฺถ ‘‘ปริกฺเขเป อุปจาเร’’ติ อธิการโต ลพฺภติ.

๒๐๓๘-๙. นิกฺขมิตฺวาติ อตฺตโน ปวิฏฺคามโต นิกฺขมิตฺวา. อยเมว นโยติ ‘‘เอเกน ปทวาเรน ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเยน ครุกาปตฺตี’’ติ อยํ นโย.

วติจฺฉิทฺเทน วา ขณฺฑปากาเรน วาติ โยชนา. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘ปากาเรนา’’ติ เอตฺถาปิ วา-สทฺทสฺส สมฺพนฺธนียตํ ทสฺเสติ. ‘‘ภิกฺขุวิหารสฺส ภูมิ ตาสมกปฺปิยา’’ติ วกฺขมานตฺตา วิหารสฺส ภูมินฺติ ภิกฺขุนิวิหารภูมิ คหิตา. ‘‘กปฺปิยนฺติ ปวิฏฺตฺตา’’ติ อิมินา วกฺขมานสฺส การณํ ทสฺเสติ. โกจิ โทโสติ ถุลฺลจฺจยสงฺฆาทิเสโส วุจฺจมาโน โย โกจิ โทโส.

๒๐๔๐. ตาสนฺติ ภิกฺขุนีนํ. ‘‘อกปฺปิยา’’ติ อิมินา ตตฺถาปิ ปวิฏฺาย คามนฺตรปจฺจยา อาปตฺติสมฺภวมาห.

๒๐๔๑. ‘‘ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺติยา’’ติ (ปาจิ. ๖๙๒) วุตฺตตฺตา ‘‘หตฺถิ…เป… อนาปตฺติ สิยาปตฺติ, ปทสา คมเน ปนา’’ติ วุตฺตํ.

๒๐๔๒. ‘‘ยํ กิฺจิ…เป… อาปตฺติ ปวิสนฺติยา’’ติ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส อุปสํหารตฺตา น ปุนรุตฺติโทโส.

๒๐๔๓-๔. ลกฺขเณนุปปนฺนายาติ ‘‘นที นาม ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนฺตรวาสโก เตมิยตี’’ติ (ปาจิ. ๖๙๒) วุตฺตลกฺขเณน สมนฺนาคตาย นทิยา. ยา ปารํ ตีรํ คจฺฉตีติ โยชนา.

ปมํ ปาทํ อุทฺธริตฺวาน ตีเร เปนฺติยาติ ‘‘อิทานิ ปทวาเรน อติกฺกมตี’’ติ วตฺตพฺพกาเล ปมํ ปาทํ อุกฺขิปิตฺวา ปรตีเร เปนฺติยา. ‘‘ทุติยปาทุทฺธาเร สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๙๒) อฏฺกถาวจนโต ‘‘อติกฺกเม’’ติ อิมินา อุทฺธาโร คหิโต.

๒๐๔๕. อนฺตรนทิยนฺติ นทิเวมชฺเฌ. ภณฺฑิตฺวาติ กลหํ กตฺวา. โอริมํ ตีรนฺติ อาคตทิสาย ตีรํ. ตถา ปเม ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเย ครุ โหตีติ อตฺโถ. อิมินา สกเลน วจเนน ‘‘อิตริสฺสา ปน อยํ ปกฺกนฺตฏฺาเน ิตา โหติ, ตสฺมา ปรตีรํ คจฺฉนฺติยาปิ อนาปตฺตี’’ติ อฏฺกถาปิ อุลฺลิงฺคิตา.

๒๐๔๖. รชฺชุยาติ วลฺลิอาทิกาย ยาย กายจิ รชฺชุยา.

๒๐๔๗. ปิวิตุนฺติ เอตฺถ ‘‘ปานีย’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน อปิ-สทฺเทน ภณฺฑโธวนาทึ สงฺคณฺหาติ. อถาติ วากฺยารมฺเภ นิปาโต. ‘‘นหานาทิกิจฺจํ สมฺปาเทตฺวา โอริมเมว ตีรํ อาคมิสฺสามี’’ติ อาลยสฺส วิชฺชมานตฺตา อาห ‘‘วฏฺฏตี’’ติ.

๒๐๔๘. ปทสานทึ โอตริตฺวานาติ โยชนา. เสตุํ อาโรหิตฺวา ตถา ปทสา อุตฺตรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.

๒๐๔๙. คนฺตฺวานาติ เอตฺถ ‘‘นทิ’’นฺติ เสโส. อุตฺตรณกาเล ปทสา ยาตีติ โยชนา.

๒๐๕๐. เวเคนาติ เอเกเนว เวเคน, อนฺตรา อนิวตฺติตฺวาติ อตฺโถ.

๒๐๕๑. ‘‘นิสีทิตฺวา’’ติ อิทํ ‘‘ขนฺเธ วา’’ติอาทีหิปิ โยเชตพฺพํ. ขนฺธาทโย เจตฺถ สภาคานเมว คเหตพฺพา. หตฺถสงฺฆาตเน วาติ อุโภหิ พทฺธหตฺถวลเย วา.

๒๐๕๒-๓. ปาสนฺติ หตฺถปาสํ. ‘‘อาโภคํ วินา’’ติ อิมินา ‘‘คมิสฺสามี’’ติ อาโภเค กเต อชานนฺติยา อรุเณ อุฏฺิเตปิ อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. ยถาห ‘‘สเจ สชฺฌายํ วา สวนํ วา อฺํ วา กิฺจิ กมฺมํ กุรุมานา ‘ปุเรอรุเณเยว ทุติยิกาย สนฺติกํ คมิสฺสามี’ติ อาโภคํ กโรติ, อชานนฺติยา เอว จสฺสา อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๙๒). นานาคพฺเภ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกคพฺเภปิ วา’’ติ. เอกคพฺเภปิ วา ทุติยิกาย หตฺถปาสํ อติกฺกมฺม อรุณํ อุฏฺเปนฺติยา ภิกฺขุนิยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๐๕๔. ทุติยาปาสนฺติ ทุติยิกาย หตฺถปาสํ. ‘‘คมิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คจฺฉนฺติยา สเจ อรุณํ อุฏฺเติ, น โทโสติ โยชนา.

๒๐๕๕-๖. อฺตฺถ ปฺจธนุสติกสฺส (ปารา. ๖๕๔) ปจฺฉิมสฺส อารฺกเสนาสนสฺส วุตฺตตฺตา ตโต นิวตฺเตตุมาห ‘‘อินฺทขีลมติกฺกมฺมา’’ติอาทิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ทีปิตนฺติ อฏฺกถาย ‘‘อรฺเติ เอตฺถ นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๙๒) เอวํ วุตฺตลกฺขณเมว อรฺํ ทสฺสิตนฺติ อตฺโถ.

ทุติยิกาย ทสฺสนูปจารํ วิชหนฺติยา ตสฺสาติ โยชนา. ‘‘ชหิเต’’ติ อิทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘อุปจาเร’’ติ วิภตฺติวิปริณาโม กาตพฺโพ.

๒๐๕๗. สาณิปาการปาการตรุอนฺตริเต าเน อสติ ทสฺสนูปจาเร สติปิ สวนูปจาเร อาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๐๕๘-๖๐. เอตฺถ กถนฺติ ยตฺถ ทูเรปิ ทสฺสนํ โหติ, เอวรูเป อชฺโฌกาเส อาปตฺตินิยโม กถํ กาตพฺโพติ อตฺโถ. อเนเกสุ าเนสุ ‘‘สวนูปจาราติกฺกเม’’ติ วุจฺจมานตฺตา ตตฺถ ลกฺขณํ เปตุมาห ‘‘มคฺค…เป… เอวรูปเก’’ติ. เอตฺถ ‘‘าเน’’ติ เสโส. กูชนฺติยาติ ยถาวณฺณววตฺถานํ น โหติ, เอวํ อพฺยตฺตสทฺทํ กโรนฺติยา.

เอวรูปเก าเน ธมฺมสฺสวนาโรจเน วิย จ มคฺคมูฬฺหสฺส สทฺเทน วิย จ ‘‘อยฺเย’’ติ กูชนฺติยา ตสฺสา สทฺทสฺส สวนาติกฺกเม ภิกฺขุนิยา ครุกา อาปตฺติ โหตีติ โยชนา. ‘‘ภิกฺขุนิยา ครุกา โหตี’’ติ อิทํ ‘‘ทุติยิกํ น ปาปุณิสฺสามี’’ติ นิรุสฺสาหวเสน เวทิตพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘โอหียิตฺวาถ คจฺฉนฺตี’’ติอาทิ. เอตฺถาติ ‘‘คณมฺหา โอหีเยยฺยา’’ติ อิมสฺมึ.

๒๐๖๑. อถ คจฺฉนฺตี โอหียิตฺวาติ โยชนา. ‘‘อิทานิ อหํ ปาปุณิสฺสามิ’’ อิติ เอวํ สอุสฺสาหา อนุพนฺธติ, วฏฺฏติ, ทุติโยปจาราติกฺกเมปิ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๐๖๒. ‘‘คจฺฉตุ อยํ’’ อิติ อุสฺสาหสฺสจฺเฉทํ กตฺวา โอหีนา เจ, ตสฺสา อาปตฺตีติ อชฺฌาหารโยชนา.

๒๐๖๓. อิตราปีติ คนฺตุํ สมตฺถาปิ. โอหียตุ อยนฺติ จาติ นิรุสฺสาหปฺปกาโร สนฺทสฺสิโต. วุตฺตตฺถเมว สมตฺถยิตุมาห ‘‘สอุสฺสาหา น โหติ เจ’’ติ.

๒๐๖๔-๕. ปุริมา เอกกํ มคฺคํ ยาตีติ โยชนา. เอกเมว เอกกํ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอกิสฺสา อิตรา ปกฺกนฺตฏฺาเน ติฏฺติ, ตสฺมา. ตตฺถาติ ตสฺมึ คณมฺหาโอหียเน. ปิ-สทฺโท เอวการตฺโถ. อนาปตฺติ เอว ปกาสิตาติ โยชนา.

๒๐๖๖-๗. คามนฺตรคตายาติ คามสีมคตาย. ‘‘นทิยา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อาปตฺติโยจตสฺโสปีติ รตฺติวิปฺปวาส คามนฺตรคมน นทิปารคมน คณมฺหาโอหียน สงฺขาตา จตสฺโส สงฺฆาทิเสสาปตฺติโย. คณมฺหาโอหียนมูลกาปตฺติยา คามโต พหิ อาปชฺชิตพฺพตฺเตปิ คามนฺตโรกฺกมนมูลกาปตฺติยา อนฺโตคาเม อาปชฺชิตพฺพตฺเตปิ เอกกฺขเณติ คามูปจารํ สนฺธายาห.

๒๐๖๘-๙. ยา สทฺธึ ยาตา ทุติยิกา, สา จ ปกฺกนฺตา วา สเจ โหติ, วิพฺภนฺตา วา โหติ, เปตานํ โลกํ ยาตา วา โหติ, กาลกตา วา โหตีติ อธิปฺปาโย, ปกฺขสงฺกนฺตา วา โหติ, ติตฺถายตนสงฺกนฺตา วา โหตีติ อธิปฺปาโย, นฏฺา วา โหติ, ปาราชิกาปนฺนา วา โหตีติ อธิปฺปาโย. เอวรูเป กาเล คามนฺตโรกฺกมนาทีนิ…เป… อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. อุมฺมตฺติกายปิ เอวํ จตฺตาริปิ กโรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.

๒๐๗๐. ‘‘อคามเก อรฺเ’’ติ อิทํ คามาภาเวน วุตฺตํ, น วิฺฌาฏวิสทิสตาย.

๒๐๗๑. คามภาวโต นทิปารคมนคณมฺหาโอหียนาปตฺติ น สมฺภวติ, ตสฺสาปิ สกคามตฺตา คามนฺตรคมนมูลิกาปตฺติ จ ทิวสภาคตฺตา รตฺติวิปฺปวาสมูลิกาปตฺติ จ น สมฺภวตีติ อาห ‘‘สกคาเม…เป… น วิชฺชเร’’ติ. ยถากามนฺติ ยถิจฺฉิตํ, ทุติยิกาย อสนฺติยาปีติ อตฺโถ.

๒๐๗๒. สมุฏฺานาทโย ปมนฺติมวตฺถุนา ตุลฺยาติ โยชนา.

คามนฺตรคมนกถาวณฺณนา.

๒๐๗๓. สีมาสมฺมุติยา เจวาติ ‘‘สมคฺเคน สงฺเฆน ธมฺเมน วินเยน อุกฺขิตฺตํ ภิกฺขุนึ การกสงฺฆํ อนาปุจฺฉา ตสฺเสว การกสงฺฆสฺส ฉนฺทํ อชานิตฺวา โอสาเรสฺสามี’’ติ นวสีมาสมฺมนฺนเน จ. ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ทุเว ถุลฺลจฺจยา โหนฺตีติ โยชนา.

๒๐๗๔. กมฺมสฺส ปริโยสาเนติ โอสารณกมฺมสฺส อวสาเน. ติกสงฺฆาทิเสสนฺติ ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติกา, ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๙๗) ติกสงฺฆาทิเสสํ วุตฺตํ. กมฺมนฺติ จ อุกฺเขปนียกมฺมํ. อธมฺเม ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมกมฺเม เวมติกา, อธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ.

๒๐๗๕. คณสฺสาติ ตสฺเสว การกคณสฺส. วตฺเต วา ปน วตฺตนฺตินฺติ เตจตฺตาลีสปฺปเภเท เนตฺตารวตฺเต วตฺตมานํ. เตจตฺตาลีสปฺปเภทํ ปน วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๗๖) อาวิ ภวิสฺสติ. เนตฺตารวตฺเตติ กมฺมโต นิตฺถรณสฺส เหตุภูเต วตฺเต.

๒๐๗๗. โอสารณํ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

จตุตฺถํ.

๒๐๗๘-๙. อวสฺสุตาติ เมถุนราเคน ตินฺตา. เอวมุปริปิ. ‘‘มนุสฺสปุคฺคลสฺสา’’ติ อิมินา ยกฺขาทีนํ ปฏิกฺเขโป. ‘‘อุทเก…เป… ทุกฺกฏ’’นฺติ วกฺขมานตฺตา อามิสนฺติ อฺตฺร ทนฺตโปนา อชฺโฌหรณียสฺส คหณํ. ปโยคโตติ ปโยคคณนาย.

๒๐๘๐. เอกโตวสฺสุเตติ ปุมิตฺถิยา สามฺเน ปุลฺลิงฺคนิทฺเทโส. กถเมตํ วิฺายตีติ? ‘‘เอกโตอวสฺสุเตติ เอตฺถ ภิกฺขุนิยา อวสฺสุตภาโว ทฏฺพฺโพติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปเนตํ น วุตฺตํ, ตํ ปาฬิยา สเมตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๐๑) วุตฺตตฺตา วิฺายติ. เอตฺถ จ เอตํ น วุตฺตนฺติ ‘‘ภิกฺขุนิยา อวสฺสุตภาโว ทฏฺพฺโพ’’ติ เอตํ นิยมนํ น วุตฺตํ. นฺติ ตํ นิยเมตฺวา อวจนํ. ปาฬิยา สเมตีติ ‘‘เอกโตอวสฺสุเต’’ติ (ปาจิ. ๗๐๑-๗๐๒) อวิเสเสตฺวา วุตฺตปาฬิยา, ‘‘อนวสฺสุโตติ ชานนฺตี ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ (ปาจิ. ๗๐๓) อิมาย จ ปาฬิยา สเมติ. ยทิ หิ ปุคฺคลสฺส อวสฺสุตภาโว นปฺปมาณํ, กึ ‘‘อนวสฺสุโตติ ชานนฺตี’’ติ อิมินา วจเนน. ‘‘อนาปตฺติ อุโภ อนวสฺสุตา โหนฺติ, อนวสฺสุตา ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ สิยา. อชฺโฌหารปโยเคสุ พหูสุ ถุลฺลจฺจยจโย ถุลฺลจฺจยานํ สมูโห สิยา, ปโยคคณนาย พหูนิ ถุลฺลจฺจยานิ โหนฺตีติ อธิปฺปาโย.

๒๐๘๑. สมฺภเว, พฺยภิจาเร จ วิเสสนํ สาตฺถกํ ภวตีติ ‘‘มนุสฺสวิคฺคหาน’’นฺติ อิทํ วิเสสนํ ยกฺขเปตติรจฺฉานปเทหิ โยเชตพฺพํ. อุภโตอวสฺสุเต สติ มนุสฺสวิคฺคหานํ ยกฺขเปตติรจฺฉานานํ หตฺถโต จ ปณฺฑกานํ หตฺถโต จ ตถาติ โยชนา. ตถา-สทฺเทเนตฺถ ‘‘ยํ กิฺจิ อามิสํ ปฏิคฺคณฺหาติ, ทุกฺกฏํ. อชฺโฌหารปโยเคสุ ถุลฺลจฺจยจโย สิยา’’ติ ยถาวุตฺตมติทิสติ.

๒๐๘๒. เอตฺถาติ อิเมสุ ยกฺขาทีสุ. เอกโตอวสฺสุเต สติ อามิสํ ปฏิคฺคณฺหนฺติยา ทุกฺกฏํ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ มนุสฺสามนุสฺเสสุ เอกโต, อุภโต วา อนวสฺสุเตสุ. อุทเก ทนฺตกฏฺเกติ อุทกสฺส, ทนฺตกฏฺสฺส จ คหเณ. ปริโภเค จาติ ปฏิคฺคหเณ เจว ปริโภเค จ.

๒๐๘๓-๔. อุภยาวสฺสุตาภาเวติ ภิกฺขุนิยา, ปุคฺคลสฺส จ อุภินฺนํ อวสฺสุตตฺเต อสติ ยทิ อามิสํ ปฏิคฺคณฺหาติ, น โทโสติ โยชนา. อยํ ปุริสปุคฺคโล. น จ อวสฺสุโตติ เนว อวสฺสุโตติ ตฺวา. ยา ปน อามิสํ ปฏิคฺคณฺหาติ, ตสฺสา จ อุมฺมตฺติกาทีนฺจ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. ‘‘ยา คณฺหาติ, ตสฺสา อนาปตฺตี’’ติ วุตฺเตปิ ปริภุฺชนฺติยาว อนาปตฺติภาโว ทฏฺพฺโพ.

ปฺจมํ.

๒๐๘๕. อุยฺโยชเนติ ‘‘กึ เต อยฺเย เอโส ปุริสปุคฺคโล กริสฺสติ อวสฺสุโต วา อนวสฺสุโต วา, ยโต ตฺวํ อนวสฺสุตา, อิงฺฆ อยฺเย ยํ เต เอโส ปุริสปุคฺคโล เทติ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา, ตํ ตฺวํ สหตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา ขาท วา ภุฺช วา’’ติ (ปาจิ. ๗๐๕) วุตฺตนเยน นิโยชเน. เอกิสฺสาติ อุยฺโยชิกาย. อิตริสฺสาติ อุยฺโยชิตาย. ปฏิคฺคเหติ อวสฺสุตสฺส หตฺถโต อามิสปฏิคฺคหเณ. ทุกฺกฏานิ จาติ อุยฺโยชิกาย ทุกฺกฏานิ. โภเคสูติ อุยฺโยชิตาย ตถา ปฏิคฺคหิตสฺส อามิสสฺส ปริโภเคสุ. ถุลฺลจฺจยคโณ สิยาติ อุยฺโยชิกาย ถุลฺลจฺจยสมูโห สิยาติ อตฺโถ.

๒๐๘๖-๗. โภชนสฺสาวสานสฺมินฺติ อุยฺโยชิตาย โภชนปริยนฺเต. สงฺฆาทิเสสตาติ อุยฺโยชิกาย สงฺฆาทิเสสาปตฺติ โหติ.

ยกฺขาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน เปตปณฺฑกติรจฺฉานคตา คหิตา. ตเถว ปุริสสฺส จาติ อวสฺสุตสฺส มนุสฺสปุริสสฺส. ‘‘คหเณ อุยฺโยชเน’’ติ ปทจฺเฉโท. คหเณติ อุยฺโยชิตาย คหเณ. อุยฺโยชเนติ อุยฺโยชิกาย อตฺตโน อุยฺโยชเน. เตสนฺติ อุทกทนฺตโปนานํ. ปริโภเคติ อุยฺโยชิตาย ปริภุฺชเน. ทุกฺกฏํ ปริกิตฺติตนฺติ อุยฺโยชิกาย ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.

๒๐๘๘. เสสสฺสาติ อุทกทนฺตโปนโต อฺสฺส ปริภุฺชิตพฺพามิสสฺส. ‘‘คหณุยฺโยชเน’’ติอาทิ วุตฺตนยเมว.

๒๐๘๙-๙๐. ยา ปน ภิกฺขุนี ‘‘อนวสฺสุโต’’ติ ตฺวา อุยฺโยเชติ, ‘‘กุปิตา วา น ปฏิคฺคณฺหตี’’ติ อุยฺโยเชติ, ‘‘กุลานุทฺทยตา วาปิ น ปฏิคฺคณฺหตี’’ติ อุยฺโยเชติ, ตสฺสา จ อุมฺมตฺติกาทีนฺจ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. ยถาห ‘‘อนาปตฺติ ‘อนวสฺสุโต’ติ ชานนฺตี อุยฺโยเชติ, ‘กุปิตา น ปฏิคฺคณฺหตี’ติ อุยฺโยเชติ, ‘กุลานุทฺทยตาย น ปฏิคฺคณฺหตี’ติ อุยฺโยเชตี’’ติอาทิ (ปาจิ. ๗๐๘).

ฉฏฺํ.

๒๐๙๑. สตฺตมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี กุปิตา อนตฺตมนา เอวํ วเทยฺย พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ (ปาจิ. ๗๑๐) สตฺตมสิกฺขาปทฺจ. อฏฺมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี กิสฺมิฺจิเทว อธิกรเณ ปจฺจากตา’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ (ปาจิ. ๗๑๖) อฏฺมสิกฺขาปทฺจ.

สตฺตมฏฺมานิ.

๒๐๙๒. นวเมติ ‘‘ภิกฺขุนิโย ปเนว สํสฏฺา วิหรนฺตี’’ติอาทิสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๗๒๒) จ. ทสเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี เอวํ วเทยฺย สํสฏฺาว อยฺเย ตุมฺเห วิหรถ, มา ตุมฺเห นานา วิหริตฺถา’’ติอาทิสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๗๒๘) จ.

นวมทสมานิ.

๒๐๙๓. เตน มหาวิภงฺคาคเตน ทุฏฺโทสทฺวเยน จ ตตฺเถว อาคเตน เตน สฺจริตฺตสิกฺขาปเทน จาติ อิเมหิ ตีหิ สทฺธึ อิธาคตานิ ฉ สิกฺขาปทานีติ เอวํ นว ปมาปตฺติกา. อิโต ภิกฺขุนิวิภงฺคโต จตฺตาริ ยาวตติยกานิ ตโต มหาวิภงฺคโต จตฺตาริ ยาวตติยกานีติ เอวํ อฏฺ ยาวตติยกานิ, ปุริมานิ นว จาติ สตฺตรส สงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทานิ มยา เจตฺถ ทสฺสิตานีติ อธิปฺปาโย.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา

๒๐๙๔-๕. เอวํ สตฺตรสสงฺฆาทิเสเส ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรานิ นิสฺสคฺคิยานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธิฏฺานุปคํ ปตฺต’’นฺติอาทิ. ‘‘อธิฏฺานุปคํ ปตฺต’’นฺติ อิมินา ปเทน เกนจิ การเณน อนธิฏฺานุปเค ปตฺเต อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. ‘‘ตสฺสา’’ติ ต-สทฺทาเปกฺขาย ภิกฺขุนีติ เอตฺถ ‘‘ยา’’ติ ลพฺภติ. ปตฺตสนฺนิธิการณาติ อนธิฏฺาย, อวิกปฺเปตฺวา เอกรตฺตมฺปิ ปตฺตสฺส นิกฺขิตฺตการณา.

๒๐๙๖. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท เสโส สพฺโพ วินิจฺฉโย กถามคฺโคติ โยชนา, อวเสสสพฺพวินิจฺฉยกถามคฺโคติ อตฺโถ. ปตฺตสิกฺขาปเทติ มหาวิภงฺคปมปตฺตสิกฺขาปเท.

๒๐๙๗. วิเสโสว วิเสสตา.

ปมํ.

๒๐๙๘. อกาเลติ ‘‘อนตฺถตกถิเน วิหาเร เอกาทส มาสา, อตฺถตกถิเน วิหาเร สตฺต มาสา’’ติ (ปาจิ. ๗๔๐ อตฺถโต สมานํ) เอวํ วุตฺเต อกาเล. วิกปฺปนฺตรํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทินฺนํ กาเลปิ เกนจี’’ติอาทิ. วุตฺตวิปริยาเยน กาลนิยโม เวทิตพฺโพ. เกนจิ อกาเล ยํ จีวรํ ทินฺนํ, กาเลปิ ยํ จีวรํ อาทิสฺส ทินฺนํ, ตํ อกาลจีวรํ นามาติ โยชนา. อาทิสฺส ทานปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สมฺปตฺตา ภาเชนฺตู’’ติ. นิยามิตนฺติ ‘‘สมฺปตฺตา ภาเชนฺตู’’ติ เอวํ วตฺวา ทินฺนฺจ ‘‘อิทํ คณสฺส, อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ วตฺวา วา ทาตุกามตาย ปาทมูเล เปตฺวา วา ทินฺนฺจ อาทิสฺส ทินฺนํ นามาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘สมฺปตฺตา ภาเชนฺตู’ติ วตฺวา วา ‘อิทํ คณสฺส, อิทํ ตุมฺหากํ ทมฺมี’ติ วตฺวา วา ทาตุกมฺยตาย ปาทมูเล เปตฺวา วา ทินฺนมฺปิ อาทิสฺส ทินฺนํ นาม โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๔๐).

๒๐๙๙. อกาลจีวรนฺติ วุตฺตปฺปการํ อกาลจีวรํ.

๒๑๐๐. อตฺตนา ปฏิลทฺธนฺติ ตโต ยํ จีวรํ อตฺตนา วสฺสคฺเคน ปฏิลทฺธํ. นิสฺสชฺชิตฺวา ปฏิลทฺธกาเล กตฺตพฺพวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ลภิตฺวา…เป… นิโยชเย’’ติ. ยถาทาเน นิโยชเยติ ยถา ทายเกน ทินฺนํ, ตถา อุปเนตพฺพํ, อกาลจีวรปกฺเขเยว เปตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๒๑๐๑. ตสฺสาติ ‘‘ยถาทาเน นิโยชเย’’ติ วจนสฺส. วินยกมฺมํ กตฺวา ปฏิลทฺธมฺปิ ตํ ปุน เสวิตุํ น จ วฏฺฏตีติ อยมธิปฺปาโยติ โยชนา.

๒๑๐๒. กาลจีวเร อกาลวตฺถสฺาย ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อุภยตฺถปีติ อกาลจีวเรปิ กาลจีวเรปิ. เวมติกาย ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๑๐๓. อุภยตฺถปิ จีวเร กาลจีวเร จ อกาลจีวเร จาติ อุภยจีวเรปิ กาลจีวรสฺาย ภาชาเปนฺติยา นโทโสติ โยชนา. สจิตฺตกสมุฏฺานตฺตยํ สนฺธายาห ‘‘ติสมุฏฺานตา’’ติ.

ทุติยํ.

๒๑๐๔. สเจ สยํ อจฺฉินฺทติ อฺาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ จีวรํ ปริวตฺเตตฺวา ปจฺฉา ‘‘ตุยฺหํ จีวรํ ตฺวเมว คณฺห, มยฺหํ จีวรํ เทหี’’ติ เอวํ ยทิ สยํ อจฺฉินฺทติ. เอตฺถ ‘‘สกสฺายา’’ติ เสโส. สกสฺาย คหิตตฺตา ปาจิตฺติยํ, ทุกฺกฏฺจ วุตฺตํ, อิตรถา ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ.

๒๑๐๕. อิตเรสูติ อพนฺธนฺจ อาณตฺติพหุตฺตฺจ สงฺคณฺหาติ. เตนาห ‘‘วตฺถูนํ ปโยคสฺส วสา สิยา’’ติ.

๒๑๐๖. ‘‘ติกปาจิตฺตี’’ติ อิทมเปกฺขิตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺา’’ติ สมฺพนฺธนียํ, อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺาติ เอตาสํ วเสน ติกปาจิตฺติ วุตฺตาติ อตฺโถ. อฺสฺมึ ปริกฺขาเรติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ อฺสฺมึ ปริกฺขาเร. อิตริสฺสาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺาเวมติกาอนุปสมฺปนฺนสฺานํ วเสน ติกทุกฺกฏํ อุทฺทิฏฺํ.

๒๑๐๗. ตาย วา ทียมานํ ตาย อฺาย ภิกฺขุนิยา ทุฏฺาย วา ตุฏฺาย วา ทียมานํ คณฺหนฺติยา, ตสฺสา วิสฺสาสเมว วา คณฺหนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. ‘‘ติสมุฏฺานตา มตา’’ติ อิทํ วุตฺตตฺถเมว.

ตติยํ.

๒๑๐๘. ยา ปน ภิกฺขุนี ‘‘กึ เต, อยฺเย, อผาสุ, กึ อาหรียตู’’ติ วุตฺตา อฺํ วิฺาเปตฺวา ตํ อาหฏํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตฺจ อฺฺจ คณฺหิตุกามา สเจ อฺํ วิฺาเปติ, ตสฺสา วิฺตฺติทุกฺกฏํ, ลาภา นิสฺสคฺคิยํ สิยาติ สาธิปฺปายโยชนา. วิฺตฺติยา ทุกฺกฏํ วิฺตฺติทุกฺกฏํ.

๒๑๐๙-๑๑. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อฺเ อฺสฺา, อฺเ เวมติกา, อฺเ อนฺสฺา อฺํ วิฺาเปตฺวา อฺํ วิฺาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๗๕๑) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. อนฺเ ทฺวิกทุกฺกฏนฺติ อนฺเ อฺสฺาย, เวมติกาย จ วเสน ทฺวิกทุกฺกฏํ. ‘‘อนฺเนฺสฺายา’’ติอาทินา อนาปตฺติวิสโย ทสฺสิโต. ‘‘อนฺเ อนฺสฺายา’’ติ ปทจฺเฉโท. อนฺเ อนฺสฺาย วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. ตสฺมึ ปมวิฺาปิเต อปฺปโหนฺเต วา ตฺเว วา วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. อฺเนปิ อตฺเถ สติ เตน สทฺธึ อฺํ วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ ปมํ สปฺปิ วิฺตฺตํ, ‘‘อามกมํสํ ปจิตพฺพ’’นฺติ จ เวชฺเชน วุตฺตตฺตา เตเลน อตฺโถ โหติ, ตโต ‘‘เตเลนาปิ เม อตฺโถ’’ติ เอวํ อฺฺจ วิฺาเปตีติ. อานิสํสฺจ ทสฺเสตฺวา ตโต อฺํ วิฺาเปนฺติยาปิ อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ กหาปณสฺส สปฺปิ อาภตํ โหติ, อิมินา มูเลน ทิคุณํ เตลํ ลพฺภติ, เตเลนาปิ จ อิทํ กิจฺจํ นิปฺปชฺชติ, ตสฺมา เตลมาหราติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา วิฺาเปตีติ.

จตุตฺถํ.

๒๑๑๒-๓. ปุพฺพํ อฺํ เจตาเปตฺวาติ โยชนา, อตฺตโน กปฺปิยภณฺเฑน ‘‘อิทํ นาม อาหรา’’ติ ปุพฺพํ อฺํ ปริวตฺตาเปตฺวาติ อตฺโถ. เอวนฺติ เอตฺถ ‘‘วุตฺเต’’ติ เสโส. ธเนน นิพฺพตฺตํ ธฺํ, อตฺตโน ธเนน นิปฺผาทิตตฺตา เตลาทิ อิธ ‘‘ธฺ’’นฺติ อธิปฺเปตํ, น วีหาทิ. เอวํ วุตฺเต มยฺหํ อฺํ ธฺํ อาเนตฺวา เทติ อิติ สฺาย ปจฺฉา อฺํ เจตาเปยฺยาติ โยชนา, น เม อิมินา อตฺโถ, อฺํ อาหราติ วุตฺเต อิทฺจ ทตฺวา อฺฺจ อาหริตฺวา เทตีติ สฺาย ‘‘น เม อิทํ รุจฺจติ, อฺํ อาหรา’’ติ ปจฺฉา อฺํ ปริวตฺตาเปยฺยาติ อตฺโถ. เจตาปนปโยเคนาติ อาณตฺตาย เจตาปนวเสน. มูลฏฺายาติ อาณาปิกาย. เตน จ อฺเน วา มูเลน อาภตํ โหตุ, ตสฺส ลาเภ นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ โยชนา.

๒๑๑๔. เสสนฺติ ติกปาจิตฺติยาทิกํ วินิจฺฉยวิเสสํ.

ปฺจมํ.

๒๑๑๕-๖. อฺทตฺถาย ทินฺเนนาติ อุปาสเกหิ ‘‘เอวรูปํ คเหตฺวา ภาเชตฺวา ปริภุฺชถา’’ติ อฺสฺสตฺถาย ทินฺเนน. ‘‘สงฺฆิเกน ปริกฺขาเรนา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปริกฺขาเรนาติ กปฺปิยภณฺเฑน. สงฺฆิเกนาติ สงฺฆสฺส ปริจฺจตฺเตน. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. ตสฺสาติ ยาย เจตาปิตํ. นิสฺสคฺคิยํ สิยาติ เอตฺถ นิสฺสฏฺปฏิลทฺธํ ยถาทาเน อุปเนตพฺพนฺติ วตฺตพฺพํ. ยถาห ‘‘นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวา ยถาทาเน อุปเนตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๗๖๑). อิทํ เหฏฺา วุตฺตตฺถาธิปฺปายเมว. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ‘‘อนฺทตฺถิเก อฺทตฺถิกสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนฺทตฺถิเก เวมติกา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อนฺทตฺถิเก นิทฺทิฏฺํ ทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ. อิมินา จ ‘‘อฺทตฺถิเก ติกปาจิตฺติย’’นฺติ อิทํ วุตฺตเมว. ‘‘อฺทตฺถิเก อฺทตฺถิกสฺา, เวมติกา, อนฺทตฺถิกสฺา อฺํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๗๖๑) หิ วุตฺตํ.

๒๑๑๗. เสสกนฺติ ยทตฺถาย ทินฺนํ, ตํ เจตาเปตฺวา อาหริตฺวา อติริตฺตํ มูลํ อฺทตฺถาย อุปเนนฺติยา อนาปตฺตีติ โยเชตพฺพํ. สามิเก ปุจฺฉิตฺวาติ ‘‘ตุมฺเหหิ จีวรตฺถาย ทินฺนํ, อมฺหากฺจ จีวรํ สํวิชฺชติ, เตลาทีหิ ปน อตฺโถ’’ติ เอวํ สามิเก ปุจฺฉิตฺวา. นฺติ ตํ เจตาปนฺนํ. อาปทาสูติ ภิกฺขุนีหิ วิหารํ ปหาย คมนารหมุปทฺทโว คหิโต. ยถาห ‘‘อาปทาสูติ ตถารูเปสุ อุปทฺทเวสุ ภิกฺขุนิโย วิหารํ ฉฑฺเฑตฺวา ปกฺกมนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ยํ วา ตํ วา เจตาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๖๒).

๒๑๑๘. สยํ ยาจิตกํ วินาติ ‘‘สํยาจิตก’’นฺติ ปทํ วินา, เอตฺตกเมว วิสทิสนฺติ วุตฺตํ โหติ.

ฉฏฺสตฺตมานิ.

๒๑๑๙. อธิกวจนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มหาชนิกสฺาจิเกนา’’ติ. ปทตาธิกาติ ปทเมว ปทตา. มหาชนิเกนาติ คณสฺส ปริจฺจตฺเตน. สฺาจิเกนาติ สยํ ยาจิตเกน.

๒๑๒๐. อนนฺตรสมา มตาติ อิธ ‘‘ปุคฺคลิเกนา’’ติ ปทํ วินา สมุฏฺานาทินา สทฺธึ สพฺเพ วินิจฺฉยา อนนฺตรสิกฺขาปทสทิสา มตาติ อตฺโถ. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อฺทตฺถิเกน ปริกฺขาเรน อฺุทฺทิสิเกน ปุคฺคลิเกนา’’ติ หิ สิกฺขาปทํ. ปุคฺคลิเกนาติ เอกภิกฺขุนิยา ปริจฺจตฺเตน. ‘‘กิฺจิปี’’ติ ลิขนฺติ. ‘‘โกจิปี’’ติ ปาโ สุนฺทโร ‘‘วิเสโส’’ติ อิมินา ตุลฺยาธิกรณตฺตา.

อฏฺมนวมทสมานิ.

ปโม วคฺโค.

๒๑๒๑-๒. จตฺตาริ กํสานิ สมาหฏานิ, จตุนฺนํ กํสานํ สมาหาโร วา จตุกฺกํสํ, จตุกฺกํสโต อติเรกํ อติเรกจตุกฺกํสํ, เตน อติเรกจตุกฺกํสคฺฆนกํ ปาวุรณมาห, อุปจาเรน ‘‘อติเรกจตุกฺกํส’’นฺติ วุตฺตํ. กํสปริมาณํ ปเนตฺถ สยเมว วกฺขติ ‘‘กหาปณจตุกฺกํ ตุ, กํโส นาม ปวุจฺจตี’’ติ. ตสฺมา อติเรกโสฬสกหาปณคฺฆนกนฺติ อตฺโถ. ครุปาวุรณนฺติ สีตกาเล ปารุปิตพฺพปาวุรณํ. เจตาเปยฺยาติ วิฺาเปยฺย. จตฺตาริ สจฺจานิ สมาหฏานิ, จตุนฺนํ วา สจฺจานํ สมาหาโร จตุสจฺจํ, ตํ ปกาเสติ สีเลนาติ จตุสจฺจปฺปกาสี, เตน, จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ นิทฺทิสเกน สมฺมาสมฺพุทฺเธน. ปโยเคติ ‘‘เทหี’’ติ เอวํ วิฺาปนปโยเค. ลาเภติ ปฏิลาเภ.

จตุนฺนํ สมูโห จตุกฺกํ, กหาปณานํ จตุกฺกํ กหาปณจตุกฺกํ. กหาปโณ เจตฺถ ตํตํกาเล, ตํตํปเทเส จ โวหารูปโค คเหตพฺโพ. อิมา วุตฺตปฺปการา นิสฺสคฺคิยาวสานาปตฺติโย ‘‘าตกานฺจ สนฺตเก’’ติ อนาปตฺติวิสเย วกฺขมานตฺตา ‘‘ยทา เยน อตฺโถ, ตทา ตํ วเทยฺยาถา’’ติ เอวํ นิจฺจปวารณํ อกตฺวา ตสฺมึ กาเล กิสฺมิฺจิ คุเณ ปสีทิตฺวา ‘‘วเทยฺยาถ เยน อตฺโถ’’ติ เอวํ ปวาริตฏฺาเน สมฺภวนฺตีติ ทฏฺพฺพา.

๒๑๒๓-๕. อูนกจตุกฺกํเส อติเรกสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อูนกจตุกฺกํเส เวมติกา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อูนเก ตุ จตุกฺกํเส, อุทฺทิฏฺํ ทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ. อิมินา ‘‘อติเรกจตุกฺกํเส อติเรกสฺา, เวมติกา, อูนกสฺา เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ ติกปาจิตฺติยฺจ ทสฺสิตํ โหติ.

ครุกนฺติ ครุปาวุรณํ. ตทูนํ วาติ จตุกฺกํสโต อูนกํ วา. าตกานฺจาติ เอตฺถ -สทฺเทน ปวาริตานํ สงฺคโห. ยถาห อนาปตฺติวาเร ‘‘าตกานํ, ปวาริตาน’’นฺติ (ปาจิ. ๗๘๗). เอตฺถ จ ‘‘อติเรกจตุกฺกํสมฺปี’’ติ วตฺตพฺพํ ‘‘ตทูนํ วา’’ติ อิมินา จตุกฺกํสูนสฺส วุตฺตตฺตา. ‘‘อปฺปเมว วา’’ติ อิมินา อติเรกจตุกฺกํเสปิ มหคฺฆตรํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เอกาทสมํ.

๒๑๒๖-๗. ‘‘ลหุปาวุรณํ ปน ภิกฺขุนิยา เจตาเปนฺติยา อฑฺฒเตยฺยกํสปรมํ เจตาเปตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๗๘๙) วจนโต ลหุปาวุรณนฺติ เอตฺถ ‘‘เจตาเปนฺติยา ภิกฺขุนิยา’’ติ จ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนนฺติ เอตฺถ ‘‘เจตาเปตพฺพ’’นฺติ จ เสโส. ลหุปาวุรณนฺติ อุณฺหกาเล ปาวุรณํ. ติณฺณํ ปูรโณ เตยฺโย, อฑฺโฒ เตยฺโย อสฺสาติ อฑฺฒเตยฺโย, อฑฺฒเตยฺโย จ โส กํโส จาติ อฑฺฒเตยฺยกํโส, ตํ อคฺฆตีติ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนํ, ทสกหาปณคฺฆนกนฺติ อตฺโถ. ตโตติ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกโต. ยํ ปน ปาวุรณํ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกํ, ตํ ลหุปาวุรณํ. ตโต อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกโต ลหุปาวุรณโต. อุตฺตรินฺติ อติเรกํ. อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกํ ยํ ปาวุรณํ ยา ภิกฺขุนี เจตาเปติ, ตสฺส ปาวุรณสฺส ปฏิลาเภ ตสฺสา ภิกฺขุนิยา นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยา วุตฺตาติ โยชนา.

‘‘อนนฺตรสมํ เสส’’นฺติ อิทํ สมตฺเถตุมาห ‘‘นตฺถิ กาจิ วิเสสตา’’ติ. วิเสโสเยว วิเสสตา.

ทฺวาทสมํ.

๒๑๒๘. อิทานิ ปาติโมกฺขุทฺเทเส อาคเตสุ สมตึสนิสฺสคฺคิเยสุ เกสฺจิ อตฺตโน อวจเน การณฺจ อวุตฺเตหิ สทฺธึ วุตฺตานํ คหณฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘สาธารณานี’’ติอาทิ. หิ ยสฺมา ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ สาธารณานิ ยานิ สิกฺขาปทานิ เสสานิ อิธ วุตฺเตหิ อฺานิ, ตานิ อฏฺารส สิกฺขาปทานิ เจว อิธ วุตฺตสรูปานิ ทฺวาทส สิกฺขาปทานิ เจติ อิจฺเจวํ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทานิ สมตึเสว โหนฺตีติ โยชนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา

๒๑๒๙-๓๐. เอวํ ตึส นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สุทฺธปาจิตฺติยานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ลสุณ’’นฺติอาทิ. ลสุณนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ‘‘ลสุณํ’’อิติ ภณฺฑิกํ วุตฺตํ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๓-๗๙๕). จตุปฺจมิฺชาทิปฺปเภทํ ภณฺฑิกํ ลสุณํ นาม, น ตโต อูนํ. เตนาห ‘‘น เอกทฺวิติมิฺชก’’นฺติ. ปกฺกลสุณโต, สีหฬทีปสมฺภวโต จ วิเสสมาห ‘‘อามกํ มาคธํเยวา’’ติ. มคเธสุ ชาตํ มาคธํ, ‘‘วุตฺต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘มคธรฏฺเ ชาตลสุณเมว หิ อิธ ลสุณนฺติ อธิปฺเปต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๕). ตํ ‘‘ขาทิสฺสามี’’ติ คณฺหตีติ สมฺพนฺโธ. วุตฺตปฺปการํ ปาจิตฺติยฺจ อชฺโฌหารวเสนาติ ทสฺเสตุมาห ‘‘อชฺโฌหารวเสเนว, ปาจิตฺตึ ปริทีปเย’’ติ.

๒๑๓๑. ตเทว วกฺขติ ‘‘ทฺเว ตโย’’ติอาทินา. สทฺธินฺติ เอกโต. สงฺขาทิตฺวาติ คลพิลํ อปฺปเวเสตฺวา ทนฺเตหิ สํจุณฺณิยนฺตี ขาทิตฺวา. อชฺโฌหรติ ปรคลํ กโรติ.

๒๑๓๒. ตตฺถาติ ตสฺมึ ภณฺฑิกลสุเณ. ‘‘มิฺชานํ คณนายา’’ติ อิมินา อชฺโฌหารปโยคคณนาเยว ทีปิตา. ยถาห ‘‘ภินฺทิตฺวา เอเกกํ มิฺชํ ขาทนฺติยา ปน ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยานี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๕).

๒๑๓๓. สภาวโต วฏฺฏนฺเตวาติ โยชนา.

๒๑๓๕. ยถาวุตฺตปลณฺฑุกาทีนํ นานตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกา มิฺชา’’ติอาทิ. อิธ มิฺชานํ วเสเนว นานตฺตํ ทสฺสิตํ. อฏฺกถายํ ปน วณฺณวเสนาปิ. ยถาห ‘‘ปลณฺฑุโก ปณฺฑุวณฺโณ โหติ. ภฺชนโก โลหิตวณฺโณ. หริตโก หริตปณฺณวณฺโณ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๗).

๒๑๓๖. ‘‘สาฬเว อุตฺตริภงฺคเก’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘พทรสาฬวาทีสู’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๗) อฏฺกถาวจนโต เอตฺถ พทร-สทฺโท เสโส. พทรสาฬวํ นาม พทรผลานิ สุกฺขาเปตฺวา จุณฺเณตฺวา กาตพฺพา ขาทนียวิกติ. อุมฺมตฺติกาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อาทิกมฺมิกา คหิตา. ยถาห ‘‘อุมฺมตฺติกาย อาทิกมฺมิกายา’’ติ (ปาจิ. ๗๙๗).

ปมํ.

๒๑๓๗. สมฺพาเธติ ปฏิจฺฉนฺโนกาเส. ตสฺส วิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปกจฺเฉสุ มุตฺตสฺส กรเณปิ วา’’ติ.

๒๑๓๘. อสฺสา ตถา ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘น โลมคณนายา’’ติ อิมินา ‘‘ปโยคคณนายา’’ติ อิทเมว สมตฺถยติ.

๒๑๓๙. อาพาเธติ กณฺฑุอาทิเก โรเค. ยถาห – ‘‘อาพาธปจฺจยาติ กณฺฑุกจฺฉุอาทิอาพาธปจฺจยา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๐๑). มคฺคสํวิธานสมา มตาติ ภิกฺขุนิยา สํวิธาย เอกทฺธานสิกฺขาปเทน สทิสา มตา าตาติ อตฺโถ.

ทุติยํ.

๒๑๔๐. ปทุมสฺส วา ปุณฺฑรีกสฺส วา อนฺตมโส เกสเรนาปิ กามราเคน มุตฺตกรณสฺส ตลฆาตเน มุตฺตกรณมฺปิ ปหารทาเน ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. เกสเรนาปีติ อปิ-สทฺเทน มหาปทุมปณฺเณหิ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทีเปติ. ยถาห – ‘‘อนฺตมโส อุปฺปลปตฺเตนาปีติ เอตฺถ ปตฺตํ ตาว มหนฺตํ, เกสเรนาปิ ปหารํ เทนฺติยา อาปตฺติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๐๓).

๒๑๔๑. ตตฺถาติ ตสฺมึ มุตฺตกรณตเล.

ตติยํ.

๒๑๔๒. ยา ปน ภิกฺขุนี กามราคปเรตา กามราเคน ปีฬิตา อตฺตโน พฺยฺชเน มุตฺตปเถ อุปฺปลปตฺตมฺปิ ปเวเสติ, น วฏฺฏติ ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. ปิ-สทฺเทน ‘‘เกสรมตฺตมฺปิ ปน ปเวเสนฺติยา อาปตฺติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๑๒) อฏฺกถา อุลฺลิงฺคิตา.

๒๑๔๓-๔. ยทฺเยวํ ‘‘ชตุมฏฺเก ปาจิตฺติย’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิทํ…เป… ชตุมฏฺก’’นฺติ. อิทํ ชตุมฏฺกํ วตฺถุวเสเนว วุตฺตนฺติ ‘‘อถ โข สา ภิกฺขุนี ชตุมฏฺกํ อาทิยิตฺวา โธวิตุํ วิสฺสริตฺวา เอกมนฺตํ ฉฑฺเฑสิ. ภิกฺขุนิโย มกฺขิกาหิ สมฺปริกิณฺณํ ปสฺสิตฺวา เอวมาหํสุ ‘กสฺสิทํ กมฺม’นฺติ. สา เอวมาห ‘มยฺหิทํ กมฺม’นฺติ. ยา ตา ภิกฺขุนิโย อปฺปิจฺฉา, ตา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ ‘กถฺหิ นาม ภิกฺขุนี ชตุมฏฺกํ อาทิยิสฺสตี’’ติ (ปาจิ. ๘๐๖) อาคตวตฺถุวเสเนว วุตฺตํ, น ตํ วินา อฺสฺส วฏฺฏกสฺส สมฺภวโตติ อธิปฺปาโย. ชตุมฏฺกํ นาม ชตุนา กโต มฏฺทณฺฑโก.

ทณฺฑนฺติ เอตฺถ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘อนฺตมโส อุปฺปลปตฺตมฺปิ มุตฺตกรณํ ปเวเสตี’’ติ (ปาจิ. ๘๐๘). เอตมฺปิ จ อติมหนฺตํ, เกสรมตฺตมฺปิ ปน ปเวเสนฺติยา อาปตฺติ เอว. เอฬาลุกนฺติ กกฺการิผลํ วา. ตสฺมินฺติ อตฺตโน มุตฺตกรเณ.

๒๑๔๕. อาพาธปจฺจยาติ มุตฺตกรณปฺปเทเส ชาตวณาทิมฺหิ วณฏฺานนิรุปนาทิปจฺจยา.

จตุตฺถํ.

๒๑๔๖. อคฺคปพฺพทฺวยาธิกนฺติ อคฺคปพฺพทฺวยโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อธิกํ. ยถาห ‘‘อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๘๑๒). ทกสุทฺธึ กโรนฺติยาติ มุตฺตกรณฏฺาเน โธวนํ กโรนฺติยา. ยถาห ‘‘อุทกสุทฺธิกํ นาม มุตฺตกรณสฺส โธวนา วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๘๑๒).

๒๑๔๗. ‘‘ตีณี’’ติ อิมินา เอกงฺคุลิยา ปพฺพทฺวยสฺส ปเวเสตฺวา โธวเน โทสาภาวํ ทีเปติ. ทีฆโตติ องฺคุลิยา ทีฆโต. ตีณิ ปพฺพานิ คมฺภีรโต มุตฺตกรเณ ปเวเสตฺวา อุทกสุทฺธึ อาทิยนฺติยา ปาจิตฺติยํ ภเวติ โยชนา.

๒๑๔๘. ติสฺโส, จตสฺโส วา องฺคุลิโย เอกโต กตฺวา วิตฺถาเรน ปเวสเน เอกปพฺเพปิ ปวิฏฺเ ‘‘ทฺวงฺคุลปพฺพปรม’’นฺติ นิยมิตปฺปมาณาติกฺกมโต อาห ‘‘เอกปพฺพมฺปิ ยา ปนา’’ติ. ยา ปน ภิกฺขุนี จตุนฺนํ วาปิ องฺคุลีนํ ติสฺสนฺนํ วาปิ องฺคุลีนํ เอกปพฺพมฺปิ วิตฺถารโต ปเวเสติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.

๒๑๔๙. อิตีติ เอวํ. สพฺพปฺปกาเรนาติ คมฺภีรปเวสนาทินา สพฺเพน ปกาเรน. อภิพฺยตฺตตรํ กตฺวาติ สุปากฏตรํ กตฺวา. อยมตฺโถติ ‘‘เอกิสฺสงฺคุลิยา ตีณี’’ติอาทินา วุตฺโต อยมตฺโถ.

๒๑๕๐. ทฺวงฺคุลปพฺเพ โทโส นตฺถีติ โยชนา. อุทกสุทฺธิปจฺจเย ปน สติปิ ผสฺสสาทิยเน ยถาวุตฺตปริจฺเฉเท อนาปตฺติ. อธิกมฺปีติ ทฺวงฺคุลปพฺพโต อธิกมฺปิ. อุทกสุทฺธึ กโรนฺติยา โทโส นตฺถีติ โยชนา.

๒๑๕๑. ตถา อุทกสุทฺธึ กโรนฺตีนํ อุมฺมตฺติกาทีนํ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.

ปฺจมํ.

๒๑๕๒. ภุฺชโต ปน ภิกฺขุสฺสาติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ ภุฺชโต ภิกฺขุสฺส. ยถาห ‘‘ภุฺชนฺตสฺสาติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ ภุฺชนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๘๑๗). ปานียํ วา วิธูปนํ วาติ วกฺขมานํ ปานียํ, พีชนียฺจ. อุปติฏฺเยฺยาติ ‘‘หตฺถปาเส ติฏฺตี’’ติ (ปาจิ. ๘๑๗) วจนโต เอตฺถ อุป-สทฺโท หตฺถปาสสงฺขาตํ สมีปํ วทตีติ เวทิตพฺพํ.

๒๑๕๓. วตฺถโกณาทิ ยา กาจิ ‘‘พีชนี’’ติ วุจฺจตีติ โยชนา, อิมินา ‘‘พีชนิกิจฺจํ สมฺปาเทสฺสามี’’ติ อธิฏฺาย คหิตจีวรโกณปฺปการํ ยํ กิฺจิ ‘‘พีชนี’’ติ วุจฺจตีติ อตฺโถ.

๒๑๕๔. ‘‘อถ โข สา ภิกฺขุนี ตสฺส ภิกฺขุโน ภุฺชนฺตสฺส ปานีเยน จ วิธูปเนน จ อุปติฏฺิตฺวา อจฺจาวทติ. อถ โข โส ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุนึ อปสาเทติ ‘มา, ภคินิ, เอวรูปํ อกาสิ, เนตํ กปฺปตี’ติ. ‘ปุพฺเพ มํ ตฺวํ เอวฺจ เอวฺจ กโรสิ, อิทานิ เอตฺตกํ น สหสี’ติ ปานียถาลกํ มตฺถเก อาสุมฺภิตฺวา วิธูปเนน ปหารํ อทาสี’’ติ (ปาจิ. ๘๑๕) อิมสฺมึ วตฺถุมฺหิ ภิกฺขูหิ อาโรจิเต ‘‘กถฺหิ นาม, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนี ภิกฺขุสฺส ปหารํ ทสฺสตี’’ติอาทีนิ (ปาจิ. ๘๑๕) วตฺวา ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ภิกฺขุสฺส ภุฺชนฺตสฺส ปานีเยน วา วิธูปเนน วา อุปติฏฺเยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๘๑๖) วุตฺตตฺตา ปหารปจฺจยา นุ โขติ อาสงฺกํ นิวตฺเตตุมาห ‘‘หตฺถปาเส อิธ านปจฺจยาปตฺติ ทีปิตา’’ติ. เอตฺถ จ อาสุมฺภิตฺวาติ ปาเตตฺวา. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสฺส ปหาโร ทาตพฺโพ. ยา ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๔๒๐) ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก วุตฺตํ คเหตฺวา อาห ‘‘ปหารปจฺจยา วุตฺตํ, ขนฺธเก ทุกฺกฏํ วิสุ’’นฺติ. อิมินา วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส การณํ ทสฺสิตํ โหติ.

๒๑๕๕. หตฺถปาสํ ชหิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘โภชนํ ภุฺชโต’’ติ จ ขาทนํ ขาทโตติ เอตฺถ ‘‘หตฺถปาเส’’ติ จ วตฺตพฺพํ. โภชนํ ภุฺชโต หตฺถปาสํ ชหิตฺวา อุปติฏฺนฺติยา วา ขาทนํ ขาทโต หตฺถปาเส อุปติฏฺนฺติยา วา โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๑๕๖. เทตีติ ปานียํ วา สูปาทึ วา ‘‘อิมํ ปิวถ, อิมินา ภุฺชถา’’ติ เทติ. ตาลวณฺฏํ ‘‘อิมินา พีชนฺตา ภุฺชถา’’ติ เทติ. ทาเปตีติ อฺเน อุภยมฺปิ ทาเปติ. อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานโต เอฬกโลเมน สมํ มตนฺติ โยชนา.

ฉฏฺํ.

๒๑๕๗. วิฺตฺวาติ สยํ วิฺตฺวา, อฺาย วา วิฺาเปตฺวา. ‘‘วิฺตฺวา วา วิฺาเปตฺวา วา’’ติ (ปาจิ. ๘๒๑) หิ สิกฺขาปทํ. อามกํ ธฺนฺติ อปกฺกํ อภฏฺํ สาลิอาทิกํ สตฺตวิธํ ธฺํ. ยถาห – ‘‘อามกธฺํ นาม สาลิ วีหิ ยโว โคธุโม กงฺคุ วรโก กุทฺรูสโก’’ติ (ปาจิ. ๘๒๒). โกฏฺเฏตฺวาติ มุสเลหิ โกฏฺเฏตฺวา. ยทิ ปริภุฺชตีติ โยชนา.

๒๑๕๘-๖๐. ‘‘ภุฺชิสฺสามีติ ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อิทํ ปโยคทุกฺกฏํ นาม, ตสฺมา น เกวลํ ปฏิคฺคหเณเยว ทุกฺกฏํ โหตี’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๒) อฏฺกถาคตํ วิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น เกวลํ ตุ ธฺาน’’นฺติอาทิ. ปนาติ อปิ-สทฺทตฺเถ, สุกฺขาปเนปีติ อตฺโถ. ภชฺชนตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘วทฺทลิทิวเส’’ติ เสโส. ‘‘กปลฺลสชฺชเน อุทฺธนสชฺชเน’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ทพฺพิสชฺชเนติ กฏจฺฉุสมฺปาทเน. ตตฺถ กปลฺลเก ธฺปกฺขิปเนติ โยชนา. ‘‘ฆฏฺฏนโกฏฺฏเน’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน น-การโลปํ กตฺวา ‘‘ฆฏฺฏโกฏฺฏเน’’ติ วุตฺตํ.

๒๑๖๑-๓. ปมาณ-สทฺทสฺส อาวตฺตลิงฺคสงฺขฺยตฺตา อาห ‘‘โภชนฺเจว วิฺตฺติปมาณ’’นฺติ. อาวตฺตลิงฺคสงฺขฺยตฺตํ นาม นิยตลิงฺเคกตฺตพหุตฺตํ. ตถา เหตฺถ ปมาณ-สทฺโท นิยตนปุํสกลิงฺเค นิยเตกตฺตํ วุจฺจติ. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท โภชนฺเจว วิฺตฺติ จาติ อิทํ ทฺวยํ หิ ยสฺมา ปมาณํ, ตสฺมา สยํ วิฺตฺวา วา อฺโต ภชฺชนาทีนิ การาเปตฺวา วา อฺาย ปน วิฺาเปตฺวา สยํ ภชฺชนาทีนิ กตฺวา วา ยา ปน ภิกฺขุนี อชฺโฌหรติ, ตสฺสา อชฺโฌหารปโยเคสุ ปาจิตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา.

มหาปจฺจริยํ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๓) วุตฺตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มาตรํ วา’’ติอาทิ. มาตรํ วาปิ ยาจิตฺวาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อตฺถนฺตรวิกปฺปเน. ปิ-สทฺโท สมฺภาวเน. มาตรํ วา ปิตรํ วา อฺํ วา าตกํ วา ปวาริตํ วา อามกธฺํ ยาจิตฺวา วา อฺาย การาเปตฺวา วา ยา ปริภุฺชติ, ตสฺสา ปาจิตฺตีติ โยชนา.

๒๑๖๔. อวิฺตฺติยา ลทฺธํ สยํ วา ภชฺชนาทีนิ กตฺวา วา อฺาย การาเปตฺวา วา ยา ปริภุฺชติ, ตสฺสา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๑๖๕. อฺาย ปน วิฺตฺติยา ลทฺธํ ตาย การาเปตฺวาปิ สยํ กตฺวา วา อชฺโฌหรนฺติยา ตถา อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อิทฺจ มหาปจฺจริยาคตนยํ คเหตฺวา วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘อฺาย วิฺตฺตํ ภุฺชนฺติยา ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๒) วุตฺตตฺตา วิฺตฺติยาปิ อฺาย ลทฺธํ อามกํ ธฺํ ตาย การาเปตฺวา วา สยํ กตฺวา วา ปริภุฺชนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๒๑๖๖-๗. เสทกมฺมาทิอตฺถายาติ วาตโรคาทินา อาตุรานํ เสทนาทิปฏิการตฺถาย. อิธ ‘‘อฺาตกอปฺปวาริตฏฺาเนปี’’ติ เสโส. ภิกฺขูนมฺปิ เอเสว นโย. เปตฺวา สตฺต ธฺานิ าตกปวาริตฏฺาเน เสสวิฺตฺติยาปิ อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. เสสวิฺตฺติยาติ มุคฺคมาสอลาพุกุมฺภณฺฑกาทีนํ วุตฺตธฺาวเสสานํ วิฺตฺติยา.

สาลิอาทีนํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา, อนามาสตฺตา จ สพฺเพน สพฺพํ น วฏฺฏนฺตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘าตกานมฺปี’’ติอาทิ.

๒๑๖๘. ลทฺธนฺติ ลพฺภมานํ. นวกมฺเมสูติ นวกมฺมตฺถาย, นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. เอตฺถ ‘‘สมฺปฏิจฺฉิตุ’’นฺติ เสโส. ‘‘อวิฺตฺติยา ลพฺภมานํ ปน นวกมฺมตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๓) มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.

สตฺตมํ.

๒๑๖๙. สงฺการนฺติ กจวรํ. วิฆาสกํ วาติ อุจฺฉิฏฺกมจฺฉกณฺฏกมํสฏฺิจลกมุขโธวนาทิกํ ยํ กิฺจิ. ฉฑฺเฑยฺย วาติ เอตฺถ ‘‘สย’’นฺติ เสโส ‘‘ฉฑฺฑาเปยฺย ปเรหี’’ติ วกฺขมานตฺตา. กุฏฺฏสฺส ติโร ติโรกุฏฺฏํ, ตสฺมึ, กุฏฺฏสฺส ปรภาเคติ อตฺโถ. ‘‘ปากาเรปิ อยํ นโย’’ติ วกฺขมานตฺตา กุฏฺฏนฺติ วา พฺยติริตฺตา ภิตฺติ คเหตพฺพา.

๒๑๗๑. เอกาติ เอตฺถ อาปตฺตีติ เสโส. ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.

๒๑๗๒. ฉฑฺฑเนติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ทนฺตกฏฺสฺส ฉฑฺฑเนปิ ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.

๒๑๗๓-๔. สพฺพตฺถาติ วุตฺตปฺปกาเรสุ สพฺเพสุ วิกปฺเปสุ. อนาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อวลฺเชปี’’ติอาทิ. อวลฺเช าเน อโนโลเกตฺวา ฉฑฺเฑนฺติยาปิ วา วลฺเช าเน โอโลเกตฺวาปิ วา ปน ฉฑฺเฑนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. ฉฑฺฑนํ กฺริยํ. อโนโลกนํ อกฺริยํ.

อฏฺมํ.

๒๑๗๕-๖. ยา ปน ภิกฺขุนี เขตฺเต วา นาฬิเกราทิอาราเม วา ยตฺถ กตฺถจิ โรปิเม หริตฏฺาเน ตานิ วิฆาสุจฺจารสงฺการมุตฺตสงฺขาตานิ จตฺตาริ วตฺถูนิ สเจ สยํ ฉฑฺเฑติ วา, ตถา ปเร ฉฑฺฑาเปติ วา, ตสฺสา ภิกฺขุนิยา อาปตฺติวินิจฺฉโย วุตฺตนโย ‘‘เอเกก’’มิจฺจาทินา ยถาวุตฺตปกาโรติ โยชนา.

๒๑๗๗-๘. ยา ปน ภิกฺขุนี หริเต เขตฺเต นิสีทิตฺวา ภุฺชมานา วา ตถา หริเต ตตฺถ เขตฺเต อุจฺฉุอาทีนิ ขาทนฺติ ขาทมานา คจฺฉนฺตี วา ยทิ อุจฺฉิฏฺํ อุทกํ วา จลกาทึ วา ฉฑฺเฑติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา. จลกํ นาม วมิกรํ.

๒๑๗๙. ตาทิเส หริเต าเน อนฺตมโส มตฺถกฉินฺนํ นาฬิเกรมฺปิ ชลํ ปิวิตฺวา ฉฑฺเฑนฺติยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๑๘๐. สพฺเพสนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ.

๒๑๘๑. ลายิตมฺปิ เขตฺตํ ปุน โรหณตฺถาย มนุสฺสา รกฺขนฺติ เจ, ตตฺถ ตสฺมึ เขตฺเต วิฆาสุจฺจาราทีนิ ฉฑฺเฑนฺติยา อสฺสา ภิกฺขุนิยา ยถาวตฺถุกเมว หิ ปาจิตฺติยเมวาติ โยชนา. ‘‘อสฺสา ยถาวตฺถุก’’นฺติ อิมินา ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตเมว โหติ.

๒๑๘๒. ฉฑฺฑิเต เขตฺเตติ มนุสฺเสหิ อุทฺธฏสสฺเส เขตฺเต. ยถาห – ‘‘มนุสฺเสสุ สสฺสํ อุทฺธริตฺวา คเตสุ ฉฑฺฑิตเขตฺตํ นาม โหติ, ตตฺถ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๐). เอวํ อกเตปิ เขตฺเต สามิเก อาปุจฺฉิตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. ยถาห ‘‘สามิเก อปโลเกตฺวา ฉฑฺเฑตี’’ติ (ปาจิ. ๘๓๒). อิธ เขตฺตปาลกา, อารามาทิโคปกา จ สามิกา เอว. สงฺฆสฺส เขตฺเต, อาราเม จ สเจ ‘‘ตตฺถ กจวรํ น ฉฑฺเฑตพฺพ’’นฺติ กติกา นตฺถิ, ภิกฺขุสฺส ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ สงฺฆปริยาปนฺนตฺตา, น ภิกฺขุนีนํ. ตาสํ ปน ภิกฺขุสงฺเฆ วุตฺตนเยน น วฏฺฏติ, น ตสฺส ภิกฺขุสฺส, เอวํ สนฺเตปิ สารุปฺปวเสน กาตพฺพนฺติ. สพฺพนฺติ อุจฺจาราทิ จตุพฺพิธํ.

นวมํ.

๒๑๘๓. เอตฺถ ‘‘นจฺจํ นาม ยํ กิฺจิ นจฺจํ. คีตํ นาม ยํ กิฺจิ คีตํ. วาทิตํ นาม ยํ กิฺจิ วาทิต’’นฺติ (ปาจิ. ๘๓๕) วจนโต ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ เสโส. ยา ปน ภิกฺขุนี ยํ กิฺจิ นจฺจํ วา ยํ กิฺจิ คีตํ วา ยํ กิฺจิ วาทิตํ วา ทสฺสนตฺถาย คจฺเฉยฺยาติ โยชนา. ตตฺถ ยํ กิฺจิ นจฺจนฺติ นฏาทโย วา นจฺจนฺตุ โสณฺฑา วา, อนฺตมโส โมรสุกมกฺกฏาทโยปิ, สพฺพมฺเปตํ นจฺจเมว. ยํ กิฺจิ คีตนฺติ นฏาทีนํ วา คีตํ โหตุ อริยานํ ปรินิพฺพานกาเล รตนตฺตยคุณูปสํหิตํ สาธุกีฬิตคีตํ วา อสฺตภิกฺขูนํ ธมฺมภาณกคีตํ วา, สพฺพมฺเปตํ คีตเมว. ยํ กิฺจิ วาทิตนฺติ ฆนาทิวาทนียภณฺฑวาทิตํ วา โหตุ กุฏเภริวาทิตํ วา อนฺตมโส อุทรเภริวาทิตมฺปิ, สพฺพมฺเปตํ วาทิตเมว. ‘‘ทสฺสนสวนตฺถายา’’ติ วตฺตพฺเพ วิรูเปกเสสนเยน ‘‘ทสฺสนตฺถายา’’ติ วุตฺตํ. ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ ยถาสกํ วิสยสฺส อาโลจนสภาวตาย วา ‘‘ทสฺสนตฺถาย’’ อิจฺเจว วุตฺตํ.

๒๑๘๔. ปุพฺพปโยคทุกฺกเฏน สห ปาจิตฺติยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทสฺสนตฺถาย นจฺจสฺสา’’ติอาทิ. คีตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘วาทิตสฺสา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.

๒๑๘๕. เอกปโยเคนาติ เอกทิสาวโลกนปโยเคน. เตเนว วกฺขติ ‘‘อฺสฺมิมฺปิ…เป… สิยุ’’นฺติ. ปสฺสตีติ เอตฺถ ‘‘นจฺจ’’นฺติ เสโส. เตสนฺติ เยสํ นจฺจํ ปสฺสติ. ปิ-สทฺเทน วาทิตมฺปิ สมฺปิณฺเฑติ. ยถาห ‘‘เตสํเยว คีตวาทิตํ สุณาติ, เอกเมว ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๖).

๒๑๘๖. อฺโตติ อฺสฺมึ ทิสาภาเค.

๒๑๘๗. ‘‘วิสุํ ปาจิตฺติโย สิยุ’’นฺติ อิทเมว ปกาเสตุมาห ‘‘ปโยคคณนาเยตฺถ, อาปตฺติคณนา สิยา’’ติ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ นานาทิสาภาเค. นจฺจคีตวาทิตานํ ทสฺสนสวเน อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นจฺจิตุ’’นฺติอาทิ.

๒๑๘๘. ‘‘นจฺจ อิตี’’ติ ปทจฺเฉโท, ‘‘นจฺจาหี’’ติปิ ปาโ. อุปฏฺานนฺติ เภริสทฺทปูชํ. สมฺปฏิจฺฉิตุนฺติ ‘‘สาธู’’ติ อธิวาเสตุํ. อิมสฺส อุปลกฺขณวเสน วุตฺตตฺตา นจฺจคีเตปิ เอเสว นโย.

๒๑๘๙-๙๐. สพฺพตฺถาติ นจฺจนาทีสุ สพฺพตฺถ. อุปฏฺานํ กโรมาติ ตุมฺหากํ เจติยสฺส นจฺจาทีหิ อุปหารํ กโรมาติ. อุปฏฺานํ ปสตฺถนฺติ อุปฏฺานกรณํ นาม สุนฺทรนฺติ.

ยา อาราเมเยว จ ตฺวา ปสฺสติ วา สุณาติ วาติ โยชนา, อิธ ‘‘อนฺตราราเม วา’’ติอาทิ เสโส. ‘‘อาราเม ตฺวา อนฺตราราเม วา พหิอาราเม วา นจฺจาทีนิ ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๗) อฏฺกถาย วุตฺตํ. ‘‘ตฺวา’’ติ วุตฺเตปิ สพฺเพสุปิ อิริยาปเถสุ ลพฺภติ. อาราเม ตฺวาติ น เกวลํ ตฺวาว, ตโต คนฺตฺวาปิ สพฺพิริยาปเถหิปิ ลภติ. ‘‘อาราเม ิตา’’ติ (ปาจิ. ๘๓๗) ปน อารามปริยาปนฺนทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อิตรถา นิสินฺนาปิ น ลเภยฺยาติ คณฺิปทาทีสุ วุตฺตํ. ภิกฺขูนมฺปิ เอเสว นโย.

๒๑๙๑. ยา อตฺตโน ิโตกาสํ อาคนฺตฺวา ปโยชิตํ ปสฺสติ วา สุณาติ วาติ โยชนา. ิโตกาสนฺติ เอตฺถ คตินิวตฺติสามฺเน สยิตนิสินฺนมฺปิ คยฺหติ. ตถารูปา หิ การณา คนฺตฺวา ปสฺสนฺติยา วาปีติ โยชนา. การณํ นาม สลากภตฺตาทิการณํ. ยถาห ‘‘สติ กรณีเยติ สลากภตฺตาทีนํ วา อตฺถาย อฺเน วา เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา คตฏฺาเน ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๗).

๒๑๙๒. มคฺคํ คจฺฉนฺตี ปฏิปเถ นจฺจํ อฏฺตฺวา ปสฺสตีติ เอวํ ปสฺสนฺติยาปิ จ ตถา อนาปตฺตีติ อชฺฌาหารโยชนา. ปฏิปเถติ คมนมคฺคาภิมุเข. อาปทาสุปีติ ตาทิเสน อุปทฺทเวน อุปทฺทุตา สมชฺชฏฺานํ ปวิสติ, เอวํ ปวิสิตฺวา ปสฺสนฺติยา วา สุณนฺติยา วา อนาปตฺติ.

๒๑๙๓. อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานโต เอฬกโลมสิกฺขาปเทน สมํ มตํ ‘‘สมาน’’นฺติ วิฺาตํ.

ทสมํ.

ลสุณวคฺโค ปโม.

๒๑๙๔-๕. อิธ อิมสฺมึ สาสเน ยา ปน ภิกฺขุนี รตฺตนฺธการสฺมึ อปฺปทีเป ปุริเสน สทฺธึ เอกิกา สเจ สนฺติฏฺติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ โยชนา. รตฺตนฺธการสฺมินฺติ รตฺติยํ. รตฺติปริยาโย หิ รตฺตนฺธการ-สทฺโท. ยถาห ปทภาชเน ‘‘รตฺตนฺธกาเรติ โอคฺคเต สูริเย’’ติ (ปาจิ. ๘๔๐). อปฺปทีเปติ ปชฺโชตจนฺทสูริยอคฺคีสุ เอเกนาปิ อโนภาสิเต, อิมินา รตฺติกฺเขตฺตํ ทสฺเสติ. ‘‘สนฺติฏฺตี’’ติ อิมินา คมนนิสินฺนสยนสงฺขาตํ อิริยาปถตฺติกฺจ อุปลกฺขิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. วุตฺตฺหิ วชิรพุทฺธินา ‘‘สนฺติฏฺเยฺยาติ เอตฺถ านาปเทเสน จตุพฺพิโธปิ อิริยาปโถ สงฺคหิโต, ตสฺมา ปุริเสน สทฺธึ จงฺกมนาทีนิ กโรนฺติยาปิ ปาจิตฺติยฺจ อุปลพฺภตี’’ติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๘๓๙ โถกํ วิสทิสํ). ปุริเสน สทฺธินฺติ สนฺติฏฺิตุํ, สลฺลปิตุฺจ วิฺุนา มนุสฺสปุริเสน สทฺธึ.

รหสฺสาทวเสน ปุริสสฺส หตฺถปาสํ สมาคนฺตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺติยา วา ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.

๒๑๙๖-๗. ยา ปน ภิกฺขุนี สเจ มนุสฺสปุริสสฺส หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา สนฺติฏฺติ วา สลฺลปติ วา, ยกฺขเปตติรจฺฉานคตานํ หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา สนฺติฏฺติ วา สลฺลปติ วา, ตสฺสา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา.

วิฺุคฺคหเณน อวิฺู ปุริโส อนาปตฺตึ น กโรตีติ ทีเปติ.

๒๑๙๘. อฺวิหิตายาติ รโหอสฺสาทโต อฺํ จินฺเตนฺติยา. ยถาห ‘‘รโหอสฺสาทโต อฺวิหิตาว หุตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๔๑). จตุตฺเถน, ฉฏฺเน จ สมุฏฺาเนน สมุฏฺานโต เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. สนฺติฏฺนสลฺลปนวเสน กฺริยํ. สฺาย วิโมกฺโข เอตสฺมินฺติ สฺาวิโมกฺขกํ.

ปมํ.

๒๑๙๙. ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเสติ กุฏฺฏาทีสุ เยน เกนจิ ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส. อิทํ วจนํ.

ทุติยํ.

๒๒๐๐. ตติเย ‘‘อชฺโฌกาเส’’ติ จ จตุตฺเถ ‘‘รถิกาย, พฺยูเห, สิงฺฆาฏเก’’ติ ปทานิ จ วชฺเชตฺวา อวเสสํ สนฺธายาห ‘‘อปุพฺพํ นตฺถิ กิฺจิปี’’ติ. เอตฺถ ‘‘วตฺตพฺพ’’นฺติ เสโส. เอตฺถ รถิกายาติ รจฺฉาย. พฺยูเหติ อนิพฺพิทฺธรจฺฉาย. สิงฺฆาฏเกติ จจฺจเร โอกาเส, ติโกณํ วา จตุโกณํ วา มคฺคสโมธานฏฺาเนติ วุตฺตํ โหติ.

ตติยจตุตฺถานิ.

๒๒๐๑-๒. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปุเรภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา อาสเน นิสีทิตฺวา สามิเก อนาปุจฺฉา ปกฺกเมยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๘๕๕) วจนโต ยา ปน ภิกฺขุนี ปุเรภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา ฉทนนฺโต อาสเน นิสีทิตฺวา สามิเก อนาปุจฺฉา อโนวสฺสกปฺปเทสํ อติกฺกเมติ, ยา จ อชฺโฌกาเส วา นิสีทิตฺวา สเจ อุปจารํ อติกฺกเมติ, ตสฺสา ปเม ปเท ทุกฺกฏํ โหติ, ทุติเย ปเท ปาจิตฺติ ปริยาปุตาติ โยชนา. ‘‘อาสเน’’ติ อิมินา ปลฺลงฺกมาภุชิตฺวา นิสีทนารหมาสนํ อธิปฺเปตํ. ยถาห – ‘‘อาสนํ นาม ปลฺลงฺกสฺส โอกาโส วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๘๕๖). อโนวสฺสปฺปเทสนฺติ นิพฺพโกสพฺภนฺตรํ. อพฺโภกาเส อาปตฺติเขตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปจารมฺปิ วา สเจ’’ติ. อุปจารนฺติ ทฺวาทสหตฺถปฺปมาณํ ปเทสํ. ยถาห คณฺิปเท ‘‘อุปจาโร ทฺวาทสหตฺโถ’’ติ.

๒๒๐๓. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘ทุกฺกฏํ สมุทีริต’’นฺติ อิทํ ปจฺจามสติ. อาปุฏฺเ อนาปุฏฺสฺาย อาปุฏฺเ วิจิกิจฺฉโต ปกฺกมนฺติยา ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ สมฺพนฺธินิยา สมานตฺตา ‘‘วิจิกิจฺฉนฺติยา’’ติ วตฺตพฺเพ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน ‘‘วิจิกิจฺฉโต’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๒๒๐๔. คิลานายาติ ยา ตาทิเสน เคลฺเน อาปุจฺฉิตุํ น สกฺโกติ. อาปทาสูติ ฆเร อคฺคิ อุฏฺิโต โหติ โจรา วา, เอวรูเป อุปทฺทเว อนาปุจฺฉา ปกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ.

ปฺจมํ.

๒๒๐๕-๖. ‘‘คจฺฉนฺติยา วชนฺติยา’’ติ จ นิสีทนนิปชฺชนาวสานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปาจิตฺติยํ ปน ปจฺฉาภตฺตํ สามิเก ‘‘อิธ นิสีทาม วา สยาม วา’’ติ อนาปุจฺฉิตฺวา นิสินฺนนิปนฺนปจฺจยา โหตีติ เวทิตพฺพํ. ปจฺฉาภตฺตํ สามิเก อนาปุจฺฉา อาสเน นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺติยา เอกา ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. เอส นโย ‘‘นิปชฺชิตฺวา’’ติอาทีสุปิ.

ยถา ปน ตตฺถ อสํหาริเม อนาปตฺติ, เอวมิธ ธุวปฺตฺเต วา อนาปตฺตีติ.

ฉฏฺํ.

๒๒๐๗. ติสมุฏฺานนฺติ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺานโต.

อฏฺมํ.

๒๒๐๘. ยา ปน ภิกฺขุนี อตฺตานมฺปิ วา ปรมฺปิ วา นิรยพฺรหฺมจริเยหิ อภิสเปยฺย, ตสฺสา วาจโต วาจโต สิยา ปาจิตฺตีติ โยชนา. ตตฺถ อภิสเปยฺยาติ สปถํ กเรยฺย, ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตามิ, อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตามี’’ติ อตฺตานํ วา ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตตุ, อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตตู’’ติ ปรํ วา ‘‘คิหินี โหมิ, โอทาตวตฺถา โหมี’’ติ อตฺตานํ วา ‘‘คิหินี โหตุ, โอทาตวตฺถา โหตู’’ติ ปรํ วา อภิสเปยฺยาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๒๑๐. อกฺโกสติ อตฺตานํ วา ปรํ วาติ สมฺพนฺโธ. ติกปาจิตฺติยนฺติ อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺาเวมติกาอนุปสมฺปนฺนสฺาวเสน. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺา อกฺโกสติ, ทุกฺกฏนฺติ เอวํ ติกทุกฺกฏํ.

๒๒๑๑. อตฺถธมฺมานุสาสนึ ปุรกฺขตฺวา วทนฺตีนํ อนาปตฺตีติ โยชนา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อตฺถปุเรกฺขารายาติ อฏฺกถํ กเถนฺติยา. ธมฺมปุเรกฺขารายาติ ปาฬึ วาเจนฺติยา. อนุสาสนิปุเรกฺขารายาติ ‘อิทานิปิ ตฺวํ เอทิสา, สาธุ วิรมสฺสุ, โน เจ วิรมสิ, อทฺธา ปุน เอวรูปานิ กมฺมานิ กตฺวา นิรเย อุปฺปชฺชิสฺสสิ, ติรจฺฉานโยนิยา อุปฺปชฺชิสฺสสี’ติ เอวํ อนุสาสนิยํ ตฺวา วทนฺติยา อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๗๘).

นวมํ.

๒๒๑๒. วธิตฺวาติ สตฺถาทีหิ ปหริตฺวา. วธิตฺวา วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท ปาฬิยํ ‘‘วธิตฺวา วธิตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๘๘๐) วุตฺตํ อาเมฑิตํ สูเจติ.

๒๒๑๓. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. กายวาจาจิตฺตสมุฏฺานํ ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ นาม, สมนุภาสนสมุฏฺานนฺติปิ เอตสฺเสว นามํ.

ทสมํ.

อนฺธการวคฺโค ทุติโย.

๒๒๑๔. ยา ปน ภิกฺขุนี นคฺคา อนิวตฺถา อปารุตา หุตฺวา นหายติ, อสฺสา สพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ. ตสฺส นหานสฺส โวสาเน ปริโยสาเน สา ภิกฺขุนี ชินวุตฺตํ ชิเนน ภควตา ภิกฺขุนีนํ ปฺตฺตํ โทสํ ปาจิตฺติยาปตฺตึ สมุเปติ อาปชฺชตีติ โยชนา. ภิกฺขุนิ โทสนฺติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต.

๒๒๑๕. อจฺฉินฺนจีวราติ อจฺฉินฺนอุทกสาฏิกจีวรา. นฏฺจีวราติ โจราทีหิ นฏฺอุทกสาฏิกจีวรา. อาปทาสุ วาติ ‘‘มหคฺฆํ อิมํ ทิสฺวา โจราปิ หเรยฺยุ’’นฺติ เอวรูปาสุ อาปทาสุ วา นคฺคาย นหายนฺติยา น โทโส.

ปมํ.

๒๒๑๖. ทุติเยติ ‘‘อุทกสาฏิกํ ปน ภิกฺขุนิยา การยมานายา’’ติอาทิสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๘๘๘).

ทุติยํ.

๒๒๑๗-๘. ทุสฺสิพฺพิตํ จีวรนฺติ อสกฺกจฺจสิพฺพิตํ จีวรํ. วิสิพฺเพตฺวาติ ทุสฺสิพฺพิตํ ปุน สิพฺพนตฺถาย สยํ วา วิคตสิพฺพนํ กตฺวา. ‘‘วิสิพฺพาเปตฺวา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘วิสิพฺเพตฺวา วา วิสิพฺพาเปตฺวา วา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๓). อนนฺตรายาติ ทสสุ อนฺตราเยสุ อฺตรนฺตรายรหิตา. ตํ วิสิพฺพิตํ, วิสิพฺพาปิตํ วา จีวรํ. ‘‘อนนฺตรายา ตํ ปจฺฉา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต. น สิพฺเพยฺยาติ เอตฺถาปิ ‘‘น สิพฺพาเปยฺยา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘เนว สิพฺเพยฺย, น สิพฺพาปนาย อุสฺสุกฺกํ กเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๓).

จตุปฺจาหนฺติ เอตฺถ ‘‘อุตฺตริฉปฺปฺจวาจาหิ (ปาจิ. ๖๒-๖๔), อุตฺตริทิรตฺตติรตฺต’’นฺติอาทีสุ (ปาจิ. ๕๑-๕๒) วิย อปฺปสงฺขฺยาย พหุสงฺขฺยายํ อนฺโตคธตฺเตปิ อุภยวจนํ โลกโวหารวเสน วจนสิลิฏฺตายาติ ทฏฺพฺพํ. ธุเรติ สิพฺพนุสฺสาเห. นิกฺขิตฺตมตฺเตติ วิสฺสฏฺมตฺเต.

๒๒๑๙. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺาติ ตีสุ วาเรสุ ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ติกทุกฺกฏนฺติ วารตฺตเย ทุกฺกฏตฺตยํ.

๒๒๒๐. อุภินฺนนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. อฺสฺมินฺติ จีวรโต อฺสฺมึ. อนฺตราเยปิ วา สตีติ ราชโจราทิอนฺตรายานํ ทสนฺนํ อฺตเร สติ.

๒๒๒๑. ‘‘ธุรนิกฺเขปนํ นาม, สมุฏฺานมิทํ มต’’นฺติ อิทํ อฏฺกถาย ‘‘ธุรนิกฺเขปสมุฏฺาน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๙๓) วุตฺตเมว คเหตฺวา วุตฺตํ, เตรสสุ สมุฏฺานสีเสสุ ‘‘ธุรนิกฺเขปสมุฏฺาน’’นฺติ วิสุํ สมุฏฺานสีสํ นาม นตฺถิ. มาติกฏฺกถายฺจ ‘‘สมนุภาสนสมุฏฺาน’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา, อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ, ตํ สมุฏฺานสีเสสุ อนฺโตคธเมว. ตสฺมา ‘‘ธุรนิกฺเขปสมุฏฺาน’’นฺติ อิทํ สมนุภาสนสมุฏฺานสฺเสว ปริยาโยติ คเหตพฺพํ.

ตติยํ.

๒๒๒๒. ปฺจ อหานิ ปฺจาหํ, ปฺจาหเมว ปฺจาหิกํ. ‘‘อติกฺกเมยฺยา’’ติ กิริยาย ทฺวิกมฺมกตฺตา ‘‘ปฺจาหิก’’นฺติ จ ‘‘สงฺฆาฏิจาร’’นฺติ จ อุปโยคตฺเถ เอว อุปโยควจนํ. สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาฏิ, อิติ วกฺขมานานํ ปฺจนฺนํ จีวรานเมวาธิวจนํ, สงฺฆาฏีนํ จาโร สงฺฆาฏิจาโร, ปริโภควเสน วา โอตาปนวเสน วา ปริวตฺตนนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปฺจาหิกํ สงฺฆาฏิจารํ อติกฺกเมยฺยาติ ปฺจมํ ทิวสํ ปฺจ จีวรานิ เนว นิวาเสติ น ปารุปติ น โอตาเปติ ปฺจมํ ทิวสํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๙) วจนโต ปฺจทิวสพฺภนฺตเร ยํ กิฺจิ อกตฺวา อติกฺกาเมนฺติยา จีวรคณนาย ปาจิตฺติ โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยาติกฺกเมยฺยา’’ติอาทิ.

๒๒๒๓. ติจีวรนฺติ อนฺตรวาสกอุตฺตราสงฺคสงฺฆาฏิสงฺขาตํ ติจีวรฺจ. สํกจฺจีติ ถนเวนสงฺขาตํ จีวรฺจ. ทกสาฏีติ อุตุนิกาเล นิวาเสตพฺพอุทกสาฏิจีวรฺจ. อิติ อิเม ปฺจ. ปฺจ ตูติ ปฺจ จีวรานิ นาม.

๒๒๒๔-๕. ติกปาจิตฺตีติ ปฺจาหาติกฺกนฺตสฺา, เวมติกา, อนติกฺกนฺตสฺาติ วิกปฺปตฺตเย ปาจิตฺติยตฺตยํ โหติ. ปฺจาหานติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺาเวมติกานํ วเสน ทฺวิกทุกฺกฏํ.

‘‘ปฺจเม ทิวเส’’ติอาทิ อนาปตฺติวารสนฺทสฺสนํ. นิเสวตีติ นิวาเสติ วา ปารุปติ วา. โอตาเปตีติ เอตฺถ วา-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, โอตาเปติ วาติ อตฺโถ. อาปทาสุปีติ มหคฺฆํ จีวรํ, น สกฺกา โหติ โจรภยาทีสุ ปริภุฺชิตุํ, เอวรูเป อุปทฺทเว อนาปตฺติ.

จตุตฺถํ.

๒๒๒๖. อฺิสฺสา สงฺกเมตพฺพจีวรํ อนาปุจฺฉา คเหตฺวา ยา ปริภุฺชติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา, อฺิสฺสา อุปสมฺปนฺนาย สนฺตกํ ปฺจนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ ตสฺสา อวตฺวา อาทาย ปุน ตสฺสา ทาตพฺพํ, อทตฺวา ยา ภิกฺขุนี ปฏิเสวติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘สงฺกเมตพฺพจีวรํ สงฺกมนีย’’นฺติ ปริยายสทฺทา เอเต. ยถาห ‘‘จีวรสงฺกมนียนฺติ สงฺกเมตพฺพจีวรํ, อฺิสฺสา สนฺตกํ อนาปุจฺฉา คหิตํ ปุน ปฏิทาตพฺพจีวรนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๐๓).

๒๒๒๗. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา…เป… เวมติกา …เป… อนุปสมฺปนฺนสฺา จีวรสงฺกมนียํ ธาเรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๙๐๕) เอวํ ติกปาจิตฺติยํ ปาฬิยํ วุตฺตํ. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ‘‘ติกทุกฺกฏ’’นฺติ อิทฺจ วุตฺตนยเมว. อาปทาสูติ สเจ อปารุตํ วา อนิวตฺถํ วา โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ วา.

๒๒๒๘. เอตํ สมุฏฺานํ กถิเนน ตุลฺยนฺติ โยชนา. คหณํ, ปริโภโค จ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

ปฺจมํ.

๒๒๒๙. ลภิตพฺพํ ตุ จีวรนฺติ ลภิตพฺพํ วิกปฺปนุปคํ จีวรํ. นิวาเรตีติ ยถา เต ทาตุกามา น เทนฺติ, เอวํ อนฺตรายํ ปรกฺกมติ. ปาจิตฺตึ ปริทีปเยติ สเจ ตสฺสา วจเนน เต น เทนฺติ, ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยํ วเทยฺยาติ อตฺโถ.

๒๒๓๐. เอตฺถ ปมํ ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา คณสฺสาติ ทฺเว ตโยว คเหตพฺพา. ลาเภติ เอตฺถ ‘‘นิวาริเต’’ติ เสโส. สเจ อฺํ ปริกฺขารํ นิวาเรติ, ตเถว ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อฺนฺติ วิกปฺปนุปคจีวรโต อฺํ. ปริกฺขารนฺติ ยํ กิฺจิ ถาลกาทีนํ วา สปฺปิเตลาทีนํ วา อฺตรํ.

๒๒๓๑. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘กิตฺตกํ อคฺฆนกํ ทาตุกามตฺถาติ ปุจฺฉติ, ‘เอตฺตกํ นามา’ติ วทนฺติ, ‘อาคเมถ ตาว, อิทานิ วตฺถุ มหคฺฆํ, กติปาเหน กปฺปาเส อาคเต สมคฺฆํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา. น โทสตาติ น โทโส, อนาปตฺตีติ อตฺโถ.

ฉฏฺํ.

๒๒๓๒-๓. ธมฺมิกํ สมคฺเคน สงฺเฆน สนฺนิปติตฺวา กริยมานํ จีวรานํ วิภงฺคํ ภาชนํ ยา ภิกฺขุนี ปฏิเสเธยฺย ปฏิพาเหยฺย, ตสฺสา เอวํ ปฏิเสเธนฺติยา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา. อธมฺเม ธมฺมสฺาย ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา. อุโภ เวมติกาย วาติ อุโภสุ เวมติกาย. คาถาพนฺธวเสน สุ-สทฺทโลโป. ธมฺมิเก อธมฺมิเก จีวรวิภงฺเค เวมติกาย ปฏิพาหนฺติยา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา. ยถาห ‘‘ธมฺมิเก เวมติกา ปฏิพาหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมิเก เวมติกา ปฏิพาหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘เอกิสฺสา เอกํ สาฏกํ นปฺปโหติ, อาคเมถ ตาว, กติปาเหเนว อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตโต ภาเชสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๙๑๔) เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา.

สตฺตมํ.

๒๒๓๕-๖. นิวาสนุปคํ วา ตถา ปารุปนุปคํ วา กปฺปพินฺทุกตํ วา ยํ กิฺจิ จีวรํ ปฺจ สหธมฺมิเก จ มาตาปิตโรปิ มุฺจิตฺวา อฺสฺส ยสฺส กสฺสจิ คหฏฺสฺส วา ปริพฺพาชกสฺส วา ยทิ ทเทยฺย, ตสฺสาปิ ปาจิตฺติยํ ปริยาปุตนฺติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘ปิตโร’’ติ มาตา จ ปิตา จ มาตาปิตโรติ วตฺตพฺเพ วิรูเปกเสสวเสน นิทฺเทโส ทฏฺพฺโพ.

๒๒๓๗. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ตา ปน ปาจิตฺติโย จีวรานํ คณนาย วเสน คเณตพฺพาติ โยชนา.

๒๒๓๘. ตาว สมฺปฏิจฺฉิโต กาโล เอตสฺสาติ ตาวกาลิกํ, จีวรํ. ‘‘อฺสฺสา’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตสฺส ทูรตฺตา ปุนปิ ‘‘อฺเส’’นฺติ อาห, โสเยวตฺโถ.

อฏฺมํ.

๒๒๓๙. ยา ปน ภิกฺขุนี ‘‘สเจ มยํ สกฺโกม, ทสฺสาม กริสฺสามาติ เอวํ วาจา ภินฺนา โหตี’’ติ วุตฺตาย ทุพฺพลาย จีวรปจฺจาสาย จีวรสฺส วิภงฺคํ นิเสเธตฺวา จีวเร กาลํ อติกฺกเมยฺย, อสฺสา โทสตา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา. จีวเร กาลนฺติ ‘‘จีวรกาลสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจมาสา’’ติ (ปาจิ. ๙๒๒) ปทภาชเน วุตฺตํ จีวรกาลํ. อติกฺกเมยฺยาติ ‘‘อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิมํ ทิวสํ, อตฺถเต กถิเน กถินุทฺธารทิวสํ อติกฺกาเมตี’’ติ วุตฺตวิธึ อติกฺกาเมยฺย.

๒๒๔๐. ‘‘อทุพฺพลจีวเร ทุพฺพลจีวรสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วจนโต สุทุพฺพลนฺติ เจตสาติ เอตฺถ สุ-สทฺโท ปทปูรเณ. อุโภสูติ ทุพฺพเล, อทุพฺพเล จ. กงฺขิตาย วาติ เวมติกาย วา.

๒๒๔๑. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘กิฺจาปิ ‘น มยํ อยฺเย สกฺโกมา’ติ วทนฺติ, อิทานิ ปน เตสํ กปฺปาโส อาคมิสฺสติ, สทฺโธ ปสนฺโน ปุริโส อาคมิสฺสติ, อทฺธา ทสฺสตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒๑) เอวํ อฏฺกถาย วุตฺตนเยน อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา.

นวมํ.

๒๒๔๒. ธมฺมิกํ กถินุทฺธารนฺติ ‘‘ธมฺมิโก นาม กถินุทฺธาโร สมคฺโค ภิกฺขุนิสงฺโฆ สนฺนิปติตฺวา อุทฺธรตี’’ติ (ปาจิ. ๙๒๙) วุตฺตํ กถินุทฺธารํ.

๒๒๔๓. ยสฺสาติ ยสฺส กถินสฺส. อตฺถารมูลโก อานิสํโส นาม ‘‘โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโท, โส เนสํ ภวิสฺสตี’’ติ (มหาว. ๓๐๖) อนุฺาโต ตสฺมึ วิหาเร อุปฺปชฺชนกจีวรวตฺถานิสํโส. อุทฺธารมูลโก นาม อนฺตรุพฺภารํ การาเปนฺเตหิ อุปาสเกหิ ทิยฺยมานจีวรวตฺถานิสํโส.

๒๒๔๕. สมานิสํโสปีติ อตฺถารอานิสํเสน สมานิสํโสปิ อุพฺภาโร. สทฺธาปาลนกอารณาติ ปสาทานุรกฺขนตฺถาย ทาตพฺโพติ โยชนา. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ ชิณฺณจีวโร, กถินานิสํสมูลโก มหาลาโภ’’ติ เอวรูปํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา.

๒๒๔๖. สมุฏฺานาทินา สทฺธึ เสสํ ปน วินิจฺฉยชาตํ อเสเสน สพฺพากาเรน สตฺตเมน สิกฺขาปเทน สมํ มตํ ‘‘สทิส’’นฺติ วิฺาตํ. กิฺจิปิ อปฺปกมฺปิ อปุพฺพํ ตตฺถ วุตฺตนยโต อฺํ นตฺถีติ โยชนา.

ทสมํ.

นคฺควคฺโค ตติโย.

๒๒๔๗. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนิโย ทฺเว เอกมฺเจ ตุวฏฺเฏยฺยุํ, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๓๓) ปฺตฺตสิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกายา’’ติอาทิ. เอกายาติ เอกาย ภิกฺขุนิยา. อปราติ อฺา อุปสมฺปนฺนา. นิปชฺเชยฺยุนฺติ เอตฺถ ‘‘เอกมฺเจ’’ติ เสโส. ทฺเวติ ทฺเว ภิกฺขุนิโย.

๒๒๔๘-๙. ‘‘เอกาย จา’’ติอาทิ อนาปตฺติวารนิทฺเทโส. อุโภ วาปิ สมํ นิสีทนฺตีติ โยชนา. เอฬเกนาติ เอฬกโลมสิกฺขาปเทน.

ปมํ.

๒๒๕๐-๑. ปาวารกฏสาราทินฺติ เอตฺถ ภุมฺเมกวจนํ. ‘‘สํหาริเมสู’’ติ อิมินา สมานาธิกรณตฺตา พหุวจนปฺปสงฺเค วจนวิปลฺลาเสเนตฺถ เอกวจนนิทฺเทโสติ ทฏฺพฺโพ. ปาวาโร จ กฏสาโร จ เต อาทิ ยสฺสาติ วิคฺคโห, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมํ. เอกกนฺติ นิทฺธาริตพฺพนิทสฺสนํ. เอกเมว เอกกํ. สํหาริเมสุ ปาวาราทีสุ อฺตรนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปาวาโรติ โกชวาทโย’’ติ วทนฺติ. กฏสาโรติ กโฏเยว. อาทิ-สทฺเทน อตฺถริตฺวา สยนารหํ สพฺพํ สงฺคณฺหาติ. เตเนวาติ ยํ อตฺถตํ, เตเนว. ปารุปิตฺวา สเจ ยา ปน ทฺเว สเหว นิปชฺชนฺติ, ตาสํ ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. เอตฺถ จ อตฺถรณปาวุรณกิจฺเจ เอกสฺเสว นิทฺทิฏฺตฺตา เอกสฺส อนฺตสฺส อตฺถรณฺจ เอกสฺส อนฺตสฺส ปารุปนฺจ วิฺายติ. ยถาห ‘‘สํหาริมานํ ปาวารตฺถรณกฏสารกาทีนํ เอกํ อนฺตํ อตฺถริตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา ตุวฏฺเฏนฺตีนเมตํ อธิวจน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๓๗).

เอกสฺมึ เอกตฺถรเณ วา เอกปาวุรเณ วา นิปชฺชเน สติ ตาสํ ทฺวินฺนํ ภิกฺขุนีนํ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ทฺวิกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ ‘‘นานตฺถรณปาวุรเณ เอกตฺถรณปาวุรณสฺา…เป… เวมติกา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๙๓๙) วุตฺตํ ทุกฺกฏทฺวยํ.

๒๒๕๒. ววตฺถานํ นิทสฺเสตฺวาติ มชฺเฌ กาสาวํ วา กตฺตรยฏฺึ วา อนฺตมโส กายพนฺธนมฺปิ เปตฺวา นิปชฺชนฺติ, อนาปตฺตีติ อตฺโถ. เสสํ สมุฏฺานาทิวิธานํ. อาทินาติ อิมสฺมึเยว วคฺเค ปมสิกฺขาปเทน. ตุลฺยนฺติ สมานํ.

ทุติยํ.

๒๒๕๓. อฺิสฺสา ภิกฺขุนิยา. อผาสุการณาติ อผาสุกรณเหตุ. อนาปุจฺฉาติ อนาปุจฺฉิตฺวา. ตสฺสา ปุรโต จ จงฺกมนาทโย ยทิ กเรยฺย, เอวํ กโรนฺติยา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา. จงฺกมนาทโยติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ติฏฺติ วา นิสีทติ วา เสยฺยํ วา กปฺเปติ อุทฺทิสติ วา อุทฺทิสาเปติ วา สชฺฌายํ วา กโรตี’’ติ (ปาจิ. ๙๔๓) ปทภาชเน วุตฺตานํ สงฺคโห.

๒๒๕๔. นิวตฺตนานํ คณนายาติ จงฺกมนฺติยา จงฺกมสฺส อุภยโกฏึ ปตฺวา นิวตฺตนฺติยา นิวตฺตนคณนาย. ปโยคโตเยวาติ ปโยคคณนาเยว, อิริยาปถปริวตฺตนคณนาเยวาติ วุตฺตํ โหติ. โทสาติ ปาจิตฺติยาปตฺติโย.

๒๒๕๕. ปทานํ คณนาวสาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ยถาห ‘‘ปทาทิคณนายา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๔๓). ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺาติ วิกปฺปตฺตยสฺส วเสน ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย.

๒๒๕๖. จ อผาสุกามายาติ อาปุจฺฉิตฺวา ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ปุรโต จงฺกมนาทีนิ กโรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.

๒๒๕๗. กฺริยากฺริยนฺติ จงฺกมนาทิกรณํ กิริยํ. อาปุจฺฉาย อกรณํ อกิริยํ. ปาปมานสนฺติ อกุสลจิตฺตํ.

ตติยํ.

๒๒๕๘-๙. อนนฺตรายาติ วกฺขมาเนสุ ราชนฺตรายาทีสุ ทสสุ อนฺตราเยสุ อฺตรรหิตา ภิกฺขุนี. ทุกฺขิตนฺติ คิลานํ. ยถาห ‘‘ทุกฺขิตา นาม คิลานา วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๙๔๘). สหชีวินินฺติ สทฺธิวิหารินึ. ยถาห ‘‘สหชีวินี นาม สทฺธิวิหารินี วุจฺจตี’’ติ. อฺาย วา นุปฏฺาเปยฺยาติ อฺาย ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, สามเณริยา วา คิหินิยา วา อุปฏฺานํ น การาเปยฺย. นุปฏฺเยฺย สยมฺปิ วาติ ยา อุปฏฺานํ น กเรยฺย. ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺเต วาติ ‘‘เนว อุปฏฺเสฺสามิ, น อุปฏฺาปนาย อุสฺสุกฺกํ กริสฺสามี’’ติ ธุเร อุสฺสาเห นิกฺขิตฺตมตฺเตเยว. ตสฺสาติ อุปชฺฌายาย.

อนฺเตวาสินิยา วาปีติ ปพฺพชฺชาอุปสมฺปทาธมฺมนิสฺสยวเสน จตุพฺพิธาสุ อนฺเตวาสินีสุ อฺตราย. อิตรายาติ อนุปสมฺปนฺนาย.

๒๒๖๐. คิลานายาติ สยํ คิลานาย. ‘‘คเวสิตฺวา อลภนฺติยา’’ติ ปทจฺเฉโท, อฺํ อุปฏฺายิกํ ปริเยสิตฺวา อลภมานายาติ อตฺโถ. ‘‘อาปทาสุ อุมฺมตฺติกาทีน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. คาถาพนฺธวเสน วณฺณโลโปปิ ทฏฺพฺโพ. อาปทาสูติ ตถารูเป อุปทฺทเว สติ. ธุรนิกฺเขปโนทยนฺติ ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ. ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

จตุตฺถํ.

๒๒๖๑-๒. ปุคฺคลิกสฺส อตฺตายตฺตปรายตฺตวเสน อนิยมิตตฺตา ‘‘สก’’นฺติ อิมินา นิยเมติ. สกํ ปุคฺคลิกนฺติ อตฺตโน ปุคฺคลิกํ. ทตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ เสโส. สกวาฏนฺติ ปริวตฺตกทฺวารกวาฏสหิตํ. อุปสฺสยนฺติ เคหํ. ทฺวาราทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน คพฺภปมุขานํ สงฺคโห, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมํ. พหูนิปีติ นิทฺธาเรตพฺพนิทสฺสนํ. พหูนิปิ ทฺวารานิ วา พหู คพฺเภ วา พหูนิ ปมุขานิ วา. นฺติ ยสฺสา อุปสฺสโย ทินฺโน, ตํ ภิกฺขุนึ. นิกฺกฑฺฒนฺติยาติ อติกฺกาเมนฺติยา. ตสฺสาติ ยา นิกฺกฑฺฒติ, ตสฺสา.

๒๒๖๓. เอตฺถาติ นิกฺกฑฺฒเน. เอเสว นโยติ ‘‘ปโยคคณนาย อาปตฺตี’’ติ ทสฺสิตนโย. เอตฺถ ปโยโค นาม อาณาปนํ, อิมินา ‘‘เอกายาณตฺติยา อเนเกสุ ทฺวาเรสุ อติกฺกามิเตสุปิ เอกาว อาปตฺติ โหตี’’ติ เอวมาทิกํ อฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๔๓, ๙๕๒ อตฺถโต สมานํ) สงฺคณฺหาติ.

๒๒๖๔. เตสุ วินิจฺฉเยสุ เอกํ วินิจฺฉยวิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺตกาว อิมํ ทฺวารา’’ติอาทิ. ทฺวารคณนาย อาปตฺติโย ทฺวารคณนาปตฺติโย.

๒๒๖๕. อกวาฏมฺหาติ อกวาฏพนฺธโต อุปสฺสยา นิกฺกฑฺฒนฺติยา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺาย, เวมติกาย, อนุปสมฺปนฺนสฺาย จ วเสน ติกทุกฺกฏํ. อุภินฺนนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. ปริกฺขาเรสูติ ปตฺตจีวราทีสุ ปริกฺขาเรสุ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ ปโยเคสุ, นิกฺกฑฺฒิยมาเนสุ, นิกฺกฑฺฒาปิยมาเนสุ จาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๒๖๖. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท สมุฏฺานาทิวินิจฺฉเยน สห เสสํ วินิจฺฉยชาตํ อเสเสน สพฺพปฺปกาเรน สงฺฆิกา วิหารสฺมา นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปเทน สมํ มตํ ‘‘สทิส’’นฺติ สลฺลกฺขิตนฺติ โยชนา.

ปฺจมํ.

๒๒๖๗. ฉฏฺเติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี สํสฏฺา วิหเรยฺย คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา’’ติอาทิมาติกาย (ปาจิ. ๙๕๖) นิทฺทิฏฺเ ฉฏฺสิกฺขาปเท. อิธ วตฺตพฺพนฺติ อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย กเถตพฺพํ. อริฏฺสฺส สิกฺขาปเทนาติ อริฏฺสิกฺขาปเทน. วินิจฺฉโยติ สมุฏฺานาทิโก.

ฉฏฺํ.

๒๒๖๘. สาสงฺกสมฺมเตติ เอตฺถ ‘‘สปฺปฏิภเย’’ติ เสโส. อุภยมฺปิ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว. อนฺโตรฏฺเติ ยสฺส วิชิเต วิหรติ, ตสฺเสว รฏฺเ. สาสงฺกสมฺมเต สปฺปฏิภเย อนฺโตรฏฺเ สตฺเถน วินา จาริกํ จรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๒๖๙. เอวํ จรนฺติยา สคามกฏฺาเน คามนฺตรปฺปเวเส จ อคามเก อรฺเ อทฺธโยชเน จ วินยฺุนา ภิกฺขุนา ปาจิตฺติยนโย ปาจิตฺติยาปตฺติวิธานกฺกโม เยฺโย าตพฺโพติ โยชนา.

๒๒๗๐. สห สตฺเถน จรนฺติยา น โทโสติ โยชนา. เขมฏฺาเน จรนฺติยา, อาปทาสุ วา จรนฺติยา น โทโสติ โยชนา.

สตฺตมํ.

๒๒๗๑. อฏฺเม นวเม วาปีติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ติโรรฏฺเ’’ติอาทิเก (ปาจิ. ๙๖๖) อฏฺมสิกฺขาปเท จ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อนฺโตวสฺสํ จาริกํ จเรยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๗๐) วุตฺตนวมสิกฺขาปเท จ. อนุตฺตานํ น วิชฺชติ, สพฺพํ อุตฺตานเมว, ตสฺมา เอตฺถ มยา น วิจารียตีติ อธิปฺปาโย.

อฏฺมนวมานิ.

๒๒๗๒. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี วสฺสํวุตฺถา จาริกํ น ปกฺกเมยฺย อนฺตมโส ฉปฺปฺจโยชนานิปิ, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๗๔) วุตฺตสิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาจิตฺตี’’ติอาทิ. อหํ น คมิสฺสามิ น ปกฺกมิสฺสามีติ ธุรนิกฺเขเป กเต ปาจิตฺตีติ โยชนา. ตถาติ ปาจิตฺติ.

๒๒๗๓. วสฺสํวุตฺถาย ปวาเรตฺวา อนฺตมโส ปฺจ โยชนานิ คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ อปิ-สทฺทสฺส สมฺภาวนตฺถตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ฉสู’’ติอาทิ. อิธ อิมสฺมึ อนาปตฺติวาเร ฉสุ โยชเนสุ ยทตฺถิ วตฺตพฺพํ, ตํ กินฺนุ นาม สิยา, นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปวาเรตฺวา ฉ โยชนานิ คจฺฉนฺติยา อนาปตฺติภาโว อวุตฺตสิทฺโธวาติ ทีเปติ.

๒๒๗๔. ตีณิ โยชนานิ. เตเนวาติ เยน คตา, เตเนว มคฺเคน. อฺเน มคฺเคนาติ คตมคฺคโต อฺเน ปเถน.

๒๒๗๕. ทสวิเธ อนฺตรายสฺมึ สตีติ วกฺขมาเนสุ อนฺตราเยสุ อฺตรสฺมึ สติ. ตสฺสา อนาปตฺตีติ โยชนา. อาปทาสูติ อฏฺฏาทิการเณน เกนจิ ปลิพุทฺธาทิภาวสงฺขาตาสุ อาปทาสุ. คิลานายาติ สยํ คิลานาย. ทุติยาย ภิกฺขุนิยา อลาเภ วา อปกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ.

๒๒๗๖. ราชา จ โจรา จ อมนุสฺสา จ อคฺคิ จ โตยฺจ วาฬา จ สรีสปา จาติ วิคฺคโห. มนุสฺโสติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน ปุพฺพปทโลโป ‘‘ลาพูนิ สีทนฺตี’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๑.๗๗) วิย. ชีวิตฺจ พฺรหฺมจริยา จ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺติ สมาหารทฺวนฺเท สมาโส, ตสฺส ชีวิตพฺรหฺมจริยสฺส. อนฺตรายา เอว อนฺตรายิกา. เอเตสํ ทสนฺนํ อฺตรสฺมึ อปกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ. ยถาห ‘‘อนฺตราเยติ ทสวิเธ อนฺตราเย. ‘ปรํ คจฺฉิสฺสามี’ติ นิกฺขนฺตา, นทิปูโร ปน อาคโต, โจรา วา มคฺเค โหนฺติ, เมโฆ วา อุฏฺาติ, นิวตฺติตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๗๖).

๒๒๗๗. อปกฺกมนํ อกฺริยํ. อนาทริเยน อาปชฺชนโต อาห ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ.

ทสมํ.

ตุวฏฺฏวคฺโค จตุตฺโถ.

๒๒๗๘-๘๐. ราชาคารนฺติ รฺโ กีฬนฆรํ. จิตฺตาคารนฺติ กีฬนจิตฺตสาลํ. อารามนฺติ กีฬนอุปวนํ. กีฬุยฺยานนฺติ กีฬนตฺถาย กตํ อุยฺยานํ. กีฬาวาปินฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ ปาฬิยํ (ปาจิ. ๙๗๙) โปกฺขรณี วุตฺตา, สา ปน สพฺพชลาสยานํ กีฬาย กตานํ อุปลกฺขณวเสน วุตฺตาติ อาห ‘‘กีฬาวาปิ’’นฺติ, กีฬนตฺถาย กตวาปินฺติ อตฺโถ. ‘‘นานาการ’’นฺติ อิทํ ยถาวุตฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. สพฺพสงฺคาหิกวเสน ‘‘ตานี’’ติ วุตฺตํ. นานาการํ ราชาคารํ จิตฺตาคารํ อารามํ กีฬุยฺยานํ วา กีฬาวาปึ ทฏฺุํ คจฺฉนฺตีนํ ตานิ สพฺพานิ เอกโต ทฏฺุํ คจฺฉนฺตีนํ ตาสํ ภิกฺขุนีนํ ปเท ปเท ทุกฺกฏํ มุนินา นิทฺทิฏฺนฺติ โยชนา.

ปฺจปีติ ราชาคาราทีนิ ปฺจปิ. เอกาเยว ปาจิตฺติ อาปตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา. ตํ ตํ ทิสาภาคํ คนฺตฺวา ปสฺสนฺติ เจ, ปาเฏกฺกาปตฺติโย ปโยคคณนาย สิยุนฺติ โยชนา.

๒๒๘๑. คมนพาหุลฺเลน อาปตฺติพาหุลฺลํ ปกาเสตฺวา คีวาปริวตฺตนสงฺขาเตน ปโยคพาหุลฺเลนาปิ อาปตฺติพาหุลฺลํ ปกาเสตุมาห ‘‘ปโยคพหุตายาปิ, ปาจิตฺติพหุตา สิยา’’ติ. สพฺพตฺถาติ ยตฺถ ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, ตตฺถ สพฺพตฺถ.

๒๒๘๒. ‘‘อวเสโสปิ อนาปตฺตี’’ติ ปทจฺเฉโท. อนาปตฺติ จ กถามคฺโค จ อนาปตฺติกถามคฺโค, เตสํ วินิจฺฉโย อนาปตฺติกถามคฺควินิจฺฉโย, ‘‘อนาปตฺติ อาราเม ิตา ปสฺสตี’’ติอาทิโก (ปาจิ. ๙๘๑) อนาปตฺติวินิจฺฉโย จ อฏฺกถาคโต (ปาจิ. อฏฺ. ๙๘๑) อวเสสวินิจฺฉโย จาติ อตฺโถ. ‘‘อาราเม ิตา’’ติ เอเตน อชฺฌาราเม ราชาคาราทีนิ กโรนฺติ, ตานิ ปสฺสนฺติยา อนาปตฺตีติ อยมนาปตฺติวาโร ทสฺสิโต. เอเตเนว อนฺโตอาราเม ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา นจฺจาทีนิ วิย ราชาคาราทีนิปิ ปสฺสิตุํ ลภตีติปิ สิทฺธํ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย คจฺฉนฺติยา มคฺเค โหนฺติ, ตานิ ปสฺสติ, อนาปตฺติ. รฺโ สนฺติกํ เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา ปสฺสติ, อนาปตฺติ. เกนจิ อุปทฺทุตา ปวิสิตฺวา ปสฺสติ, อนาปตฺตี’’ติ เอเต อนาปตฺติวารา สงฺคหิตา. นจฺจทสฺสน…เป… สหาติ สมุฏฺานาทินา วินิจฺฉเยน สห นจฺจทสฺสนสิกฺขาปทสทิโสว.

ปมํ.

๒๒๘๓. มานโต ปมาณโต อตีตา อเปตา มานาตีตา, อาสนฺที, ตํ. วาเฬหิ อุเปโต วาฬูเปโต, ปลฺลงฺโก, ตํ. ‘‘อาสนฺที นาม อติกฺกนฺตปฺปมาณา วุจฺจตี’’ติ วจนโต เหฏฺา อฏฺฏนิยา วฑฺฒกิหตฺถโต อุจฺจตรปาโท อายามจตุรสฺโส มฺจปีวิเสโส อาสนฺที นาม สมจตุรสฺสานํ อติกฺกนฺตปฺปมาณานมฺปิ อนุฺาตตฺตา. ‘‘ปลฺลงฺโก นาม อาหริเมหิ วาเฬหิ กโต’’ติ (ปาจิ. ๙๘๔) วจนโต ปมาณยุตฺโตปิ เอวรูโป น วฏฺฏติ. อาหริตฺวา ยถานุรูปฏฺาเน เปตพฺพวาฬรูปานิ อาหริมวาฬา นาม, สํหริมวาฬรูปยุตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. มานาตีตํ อาสนฺทึ วา วาฬูเปตํ ปลฺลงฺกํ วา เสวนฺตีนํ อภินิสีทนฺตีนํ, อภินิปชฺชนฺตีนฺจ ยาสํ ภิกฺขุนีนํ สตฺถา ปาจิตฺติยาปตฺตึ อาห.

๒๒๘๔. ตาสํ นิสีทนสฺสาปิ นิปชฺชนสฺสาปิ ปโยคพาหุลฺลวเสน ปาจิตฺติยานํ คณนา โหติ อิติ เอวํ นิทฺทิฏฺา เอวํ อยํ คณนา อจฺจนฺตยเสน อนนฺตปริวาเรน ภควตา วุตฺตาติ โยชนา. เอตฺถ จ อิจฺเจวนฺติ นิปาตสมุทาโย, อิติ-สทฺโท นิทสฺสเน, เอวํ-สทฺโท อิทมตฺเถ ทฏฺพฺโพ.

๒๒๘๕. ปาเท อาสนฺทิยา เฉตฺวาติ อาสนฺทิยา ปาเท ปมาณโต อธิกฏฺานฉินฺทเนน เฉตฺวา. ปลฺลงฺกสฺส ปาเท วาฬกา ปลฺลงฺกวาฬกา, เต หิตฺวา อปเนตฺวา, อนาปตฺตีติ เสวนฺตีนํ อนาปตฺติ.

ทุติยํ.

๒๒๘๖-๗. ฉนฺนนฺติ โขมาทีนํ ฉนฺนํ, นิทฺธารเณ สามิวจนํ. อฺตรํ สุตฺตนฺติ นิทฺธาริตพฺพนิทสฺสนํ. หตฺถาติ หตฺเถน, กรณตฺเถ เจตํ นิสฺสกฺกวจนํ. อฺจิตนฺติ หตฺถายาเมน อากฑฺฒิตํ. ตสฺมินฺติ ตสฺมึ อฺฉิเต สุตฺตปฺปเทเส. ตกฺกมฺหีติ กนฺตนสูจิมฺหิ. เวิเตติ ปลิเวิเต.

สุตฺตกนฺตนโต สพฺพปุพฺพปโยเคสูติ สุตฺตกนฺตนโต ปุพฺเพสุ กปฺปาสวิจินนาทิสพฺพปโยเคสุ. หตฺถวารโตติ หตฺถวารคณนาย. ยถาห ‘‘กปฺปาสวิจินนํ อาทึ กตฺวา สพฺพปุพฺพปโยเคสุ หตฺถวารคณนาย ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๘๘).

๒๒๘๘. กนฺติตํ สุตฺตนฺติ ปมเมว กนฺติตํ ทสิกสุตฺตาทึ. ปุน กนฺตนฺติยาติ โกฏิยา โกฏึ สงฺฆาเฏตฺวา ปุน กนฺตนฺติยา.

ตติยํ.

๒๒๘๙. ตณฺฑุลานํ โกฏฺฏนํ ตุ อาทึ กตฺวา คิหีนํ เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺติยา สพฺพปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๒๙๐. ยาคุอาทิสุ นิปฺผาเทตพฺเพสุ ตทาธารานิ ภาชนานิ คเณตฺวาว ปาจิตฺตึ ปริทีปเย, ขชฺชกาทีสุ รูปานํ คณนาย ปาจิตฺตึ ปริทีปเยติ โยชนา. ยาคุอาทิสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ภตฺตสูปาทีนํ สงฺคโห. ขชฺชกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน มจฺฉมํสาทิอุตฺตริภงฺคานํ สงฺคโห.

๒๒๙๑. ‘‘สเจปิ มาตาปิตโร อาคจฺฉนฺติ, ยํกิฺจิ พีชนึ วา สมฺมชฺชนิทณฺฑํ วา การาเปตฺวา เวยฺยาวจฺจกรฏฺาเน เปตฺวาว ยํ กิฺจิ ปจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. สเจติ เอตฺถ ‘‘มาตาปิตโร อาคจฺฉนฺตี’’ติ เสโส. อตฺตโน เอวมาคตานํ มาตาปิตูนมฺปิ กิฺจิ กมฺมํ อกาเรตฺวา กิฺจิ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. อปิ-สทฺโท สมฺภาวเน, เตน อฺเสํ กถาเยว นตฺถีติ ทีเปติ.

๒๒๙๒-๓. สงฺฆสฺส ยาคุปาเน เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. ‘‘สงฺฆภตฺเตปี’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส วาติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘ยาคุปาเนติ มนุสฺเสหิ สงฺฆสฺสตฺถาย กริยมาเน ยาคุปาเน วา สงฺฆภตฺเต วา เตสํ สหายิกภาเวน ยํ กิฺจิ ปจนฺติยา อนาปตฺติ. เจติยปูชาย สหายิกา หุตฺวา คนฺธมาลาทีนิ ปูเชติ, วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๙๓).

จตุตฺถํ.

๒๒๙๔. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ‘เอหายฺเย อิมํ อธิกรณํ วูปสเมหี’ติ วุจฺจมานา ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา สา ปจฺฉา อนนฺตรายิกินี เนว วูปสเมยฺย น วูปสมาย อุสฺสุกฺกํ กเรยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๙๕) สิกฺขาปทสฺส วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาจิตฺติ ธุรนิกฺเขเป’’ติอาทิ. ธุรนิกฺเขเปติ น ทานิ ตํ วูปสเมสฺสามิ, อฺาหิ วา น วูปสมาเปสฺสามี’’ติ เอวํ ธุรสฺส อุสฺสาหสฺส นิกฺเขเป ปาจิตฺตีติ โยชนา. จีวรสิพฺพเน ยถา ปฺจาหปริหาโร ลพฺภติ, อิธ ปน ตถา เอกาหมฺปิ ปริหาโร น ลพฺภตีติ โยชนา.

๒๒๙๕. เสสนฺติ ‘‘ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา วินิจฺฉินนฺตี อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาว วินิจฺฉินาตี’’ติอาทิกํ วินิจฺฉยชาตํ. ตตฺถ จีวรสิพฺพเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ โยชนา.

ปฺจมํ.

๒๒๙๖-๗. ยา ปน ภิกฺขุนี คิหีนํ วา สหธมฺมิเก เปตฺวา อฺเสํ ปริพฺพาชกปริพฺพาชิกานํ วา ทนฺตโปโนทกํ วินา อฺํ ยํ กิฺจิ อชฺโฌหรณียํ ขาทนียํ, โภชนียํ วา กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา ททาติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.

๒๒๙๘-๙. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท มุนินา ทนฺตกฏฺโทเก ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา. ยา ปน ภิกฺขุนี กายาทีหิ สยํ น เทติ อฺเน ทาเปติ, ตสฺสา จ กายาทีหิ อทตฺวา ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา เทนฺติยาปิ ยา พาหิรเลปํ วา เทติ, ตสฺสาปิ อุมฺมตฺติกาย จ น โทโส อนาปตฺตีติ โยชนา.

ฉฏฺํ.

๒๓๐๐-๑. อาวสถจีวรนฺติ ‘‘อุตุนิโย ภิกฺขุนิโย ปริภุฺชนฺตู’’ติ ทินฺนํ จีวรํ. ยา ภิกฺขุนี ยํ ‘‘อาวสถจีวร’’นฺติ นิยมิตํ จีวรํ, ตํ จตุตฺเถ ทิวเส โธวิตฺวา อนฺตมโส อุตุนิยา สามเณราย วา อทตฺวา สเจ ปริภุฺเชยฺย, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ โยชนา. ติกปาจิตฺติยํ สิยาติ ‘‘อนิสฺสชฺชิเต อนิสฺสชฺชิตสฺา…เป… เวมติกา…เป… นิสฺสชฺชิตสฺา ปริภุฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๐๖) วุตฺตํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.

๒๓๐๒-๓. ตสฺมึ จีวเร นิสฺสชฺชิเต อนิสฺสชฺชิตสฺาย วา เวมติกาย วา ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ทฺวิกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา. อฺาสํ อุตุนีนํ อภาเว อทตฺวาปิ ปริภุฺชนฺติยา อนาปตฺติ. ปุน ปริยเยติ ปุน อุตุนิวาเร ยถากาลํ ปริภุฺชนฺติยา อนาปตฺติ. อจฺฉินฺนจีวราทีนฺจ อนาปตฺตีติ โยชนา. ปริยเยติ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ. อจฺฉินฺนจีวราทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นฏฺจีวราทีนํ สงฺคโห. อาปทาสุปีติ มหคฺฆจีวรํ สรีรโต โมเจตฺวา สุปฺปฏิสามิตมฺปิ โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ปริภุฺชนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.

สตฺตมํ.

๒๓๐๔. สกวาฏกํ วิหารนฺติ กวาฏพนฺธวิหารํ, ทฺวารกวาฏยุตฺตํ สุคุตฺตเสนาสนนฺติ วุตฺตํ โหติ. รกฺขนตฺถาย อทตฺวาติ ‘‘อิมํ ชคฺเคยฺยาสี’’ติ เอวํ อนาปุจฺฉิตฺวา.

๒๓๐๕-๖. ‘‘โหติ ปาจิตฺติยํ ตสฺสา, จาริกํ ปกฺกมนฺติยา’’ติ วุตฺตเมว ปกาเสตุมาห ‘‘อตฺตโน คามโต’’ติอาทิ. อตฺตโน คามโตติ อตฺตโน วสนกคามโต. ตถา อิตรสฺสาติ อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปํ อุปจารํ. นฺติอาทิปทตฺตเย ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ เวทิตพฺพํ. ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเป ปเมน ปเทน สมติกฺกนฺเต ทุกฺกฏํ, ตถา อิตรสฺส อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ตสฺมึ อุปจาเร อติกฺกนฺเต ทุกฺกฏํ. ทุติเยน ปเทน ปริกฺเขเป, อุปจาเร สมติกฺกนฺตมตฺเต ปาจิตฺตีติ โยชนา.

๒๓๐๗. อกวาฏพนฺธนสฺมึ กวาฏพนฺธรหิเต วิหาเร ตถา อนิสฺสชฺชนฺติยา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตํ. ชคฺคิกํ อลภนฺติยาติ เอตฺถ ‘‘ปริเยสิตฺวา’’ติ เสโส. ชคฺคิกนฺติ วิหารปฏิชคฺคิกํ.

๒๓๐๘. อาปทาสูติ รฏฺเ ภิชฺชนฺเต อาวาเส ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ. คิลานายาติ วจีเภทํ กาตุํ อสมตฺถายาติ.

อฏฺมํ.

๒๓๐๙-๑๐. หตฺถี จ อสฺโส จ รโถ จ หตฺถิอสฺสรถา, เต อาทิ เยสํ เต หตฺถิอสฺสรถาทโย, เตหิ. อาทิ-สทฺเทน ธนุ ถรูติ ปททฺวยํ คหิตํ. สํยุตฺตนฺติ ยถาวุตฺเตหิ หตฺถิอสฺสาทิปเทหิ สํโยชิตํ, ‘‘หตฺถีนํ สิปฺปํ หตฺถิสิปฺป’’นฺติอาทินา กตสมาสนฺติ อตฺโถ, ‘‘หตฺถิสิปฺปํ อสฺสสิปฺปํ รถสิปฺปํ ธนุสิปฺปํ ถรุสิปฺป’’นฺติ เอวํ วุตฺตํ ยํ กิฺจิ สิปฺปนฺติ วุตฺตํ โหติ. หตฺถิสิกฺขาทิสิปฺปํ สนฺทีปโก คนฺโถ วจฺจวาจกานํ อเภโทปจาเรน เอวํ วุตฺโตติ คเหตพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปทาทีนํ วเสนิธา’’ติ. ปรูปฆาตกํ มนฺตาคทโยคปฺปเภทกํ กิฺจีติ ปเรสํ อนฺตรายกรํ ขิลนวสีกรณโสสาปนาทิเภทํ อาถพฺพณมนฺตฺจ วิสโยคาทิปฺปเภทกฺจ ยํ กิฺจิ สิปฺปนฺติ อตฺโถ.

เอตฺถ ขิลนมนฺโต นาม ทารุสารขิลํ มนฺเตตฺวา ปถวิยํ ปเวเสตฺวา มารณมนฺโต. วสีกรณมนฺโต นาม ปรํ อตฺตโน วเส วตฺตาปนกมนฺโต. โสสาปนกมนฺโต นาม ปรสรีรํ รสาทิธาตุกฺขเยน สุกฺขภาวํ ปาปนกมนฺโต. อาทิ-สทฺเทน วิเทสฺสนาทิมนฺตานํ สงฺคโห. วิเทสฺสนํ นาม มิตฺตานํ อฺมฺสฺส เวริภาวาปาทนํ. อิธ อิมสฺมึ สาสเน ยา ภิกฺขุนี หตฺถิ…เป… กิฺจิ ยสฺส กสฺสจิ สนฺติเก ปทาทีนํ วเสน ปริยาปุเณยฺย อธีเยยฺย เจ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.

๒๓๑๑. เลเขติ ลิขิตสิปฺเป. ธารณาย จาติ ธารณสตฺเถ, ยสฺมึ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชนฺตา พหูนิปิ คนฺถานิ ธาเรนฺติ. คุตฺติยาติ อตฺตโน วา ปเรสํ วา คุตฺตตฺถาย. ปริตฺเตสุ จ สพฺเพสูติ ยกฺขปริตฺตโจรวาฬาทิสพฺเพสุ ปริตฺเตสุ จ.

นวมํ.

๒๓๑๒. ทสเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ติรจฺฉานวิชฺชํ วาเจยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๑๘) สมุทฺทิฏฺเ ทสมสิกฺขาปเท. อิทํ ทสมสิกฺขาปทํ.

ทสมํ.

จิตฺตาคารวคฺโค ปฺจโม.

๒๓๑๓. สภิกฺขุกํ อารามนฺติ ยตฺถ ภิกฺขู รุกฺขมูเลปิ วสนฺติ, ตํ ปเทสํ. ชานิตฺวาติ ‘‘สภิกฺขุก’’นฺติ ชานิตฺวา. ยํ กิฺจีติ ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา อารามิกํ วา ยํ กิฺจิ.

๒๓๑๔-๕. ‘‘สภิกฺขุโก นาม อาราโม ยตฺถ ภิกฺขู รุกฺขมูเลปิ วสนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๐๒๕) วจนโต อาห ‘‘สเจ อนฺตมโส’’ติอาทิ. ยา ปน ภิกฺขุนี อนฺตมโส รุกฺขมูลสฺสปิ อนาปุจฺฉา สเจ ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมติ, ตสฺสา ปเม ปาเท ทุกฺกฏํ, อปริกฺขิตฺเต ตสฺส วิหารสฺส อุปจาโรกฺกเม วาปิ ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏํ, ทุติเย ปาเท อติกฺกามิเต ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๓๑๖. อภิกฺขุเก อาราเม สภิกฺขูติ สฺาย อุโภสุปิ สภิกฺขุกาภิกฺขุเกสุ อาราเมสุ ชาตกงฺขาย สฺชาตวิจิกิจฺฉาย, เวมติกายาติ อตฺโถ. ตสฺสา อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.

๒๓๑๗. สีสานุโลกิกา ยา ภิกฺขุนี คจฺฉติ, ตสฺสา จ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. เอวมุปริปิ. ตา ภิกฺขุนิโย ยตฺถ สนฺนิปติตา โหนฺติ, ตาสํ สนฺติกํ ‘‘คจฺฉามี’’ติ คจฺฉติ. ยถาห ‘‘ยตฺถ ภิกฺขุนิโย ปมตรํ ปวิสิตฺวา สชฺฌายํ วา เจติยวนฺทนาทีนิ วา กโรนฺติ, ตตฺถ ตาสํ สนฺติกํ คจฺฉามีติ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๐๒๗).

๒๓๑๘. ‘‘สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา’’ติ วจเนเนว อภิกฺขุกํ อารามํ กิฺจิ อนาปุจฺฉา ปวิสนฺติยา อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. อารามมชฺฌโต วา มคฺโค โหติ, เตน คจฺฉนฺติยาปิ. อาปทาสูติ เยน เกนจิ อุปทฺทุตา โหติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ปวิสนฺติยา.

ปมํ.

๒๓๒๐. อกฺโกเสยฺยาติ ทสนฺนํ อกฺโกสวตฺถูนํ อฺตเรน สมฺมุขา, ปรมฺมุขา วา อกฺโกเสยฺย วา. ปริภาเสยฺย วาติ ภย’มสฺส อุปทํเสยฺย วา. ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺา…เป… เวมติกา…เป… อนุปสมฺปนฺนสฺา อกฺโกสติ วา ปริภาสติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๓๑) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสเสติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏํ ตสฺสา โหตีติ โยชนา.

๒๓๒๑. ‘‘ปุรกฺขตฺวา’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ‘‘อภิสเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๗๕) วุตฺตสิกฺขาปเท วุตฺตนยเมว.

ทุติยํ.

๒๓๒๒-๓. สงฺฆนฺติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ. ปริภาเสยฺยาติ ‘‘พาลา เอตา, อพฺยตฺตา เอตา, เนตา ชานนฺติ กมฺมํ วา กมฺมโทสํ วา กมฺมวิปตฺตึ วา กมฺมสมฺปตฺตึ วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๓๕) อาคตนเยน ปริภาเสยฺยาติ อตฺโถ. อิตรายาติ เอตฺถ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ. เอกํ ภิกฺขุนึ วา สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย วา ตเถว อิตรํ อนุปสมฺปนฺนํ วา ปริภาสนฺติยา ตสฺสา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา.

ตติยํ.

๒๓๒๔-๖. ยา นิมนฺตนปวารณา อุโภปิ คณโภชนสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๒๑๗-๒๑๙), ปวารณสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๒๓๘-๒๓๙) จ วุตฺตลกฺขณา, ตาหิ อุโภหิ นิมนฺตนปวารณาหิ ยา จ ภิกฺขุนี สเจ นิมนฺติตาปิ วา ปวาริตาปิ วา ภเวยฺย, สา ปุเรภตฺตํ ยาคุฺจ ยามกาลิกาทิกาลิกตฺตยฺจ เปตฺวา ยํ กิฺจิ อามิสํ ยาวกาลิกํ อชฺโฌหรณตฺถาย ปฏิคฺคณฺหาติ เจ, ตสฺสา คหเณ ทุกฺกฏํ สิยา, อชฺโฌหารวเสน เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.

เอตฺถ จ นิมนฺติตา นาม ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน โภชเนน นิมนฺติตา’’ติ คณโภชนสิกฺขาปเท วุตฺตลกฺขณา. ปวารณา จ ‘‘ปวาริโต นาม อสนํ ปฺายติ, โภชนํ ปฺายติ, หตฺถปาเส ิโต อภิหรติ, ปฏิกฺเขโป ปฺายตี’’ติ ปวารณสิกฺขาปเท วุตฺตลกฺขณาติ เวทิตพฺพา.

๒๓๒๗. กาลิกานิ จ ตีเณวาติ ยามกาลิกาทีนิ ตีณิ กาลิกานิ เอว.

๒๓๒๘-๙. นิมนฺติตปวาริตานํ ทฺวินฺนํ สาธารณาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อนาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘นิมนฺติตา’’ติอาทิ. อิธ อิมสฺมึ สาสเน ยา ปน ภิกฺขุนี นิมนฺติตา อปฺปวาริตา สเจ ยาคุํ ปิวติ, วฏฺฏติ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. สามิกสฺสาติ เยน นิมนฺติตา, ตสฺส นิมนฺตนสามิกสฺเสว. อฺโภชนนฺติ เยน นิมนฺติตา, ตโต อฺสฺส โภชนํ. สเจ สา ภุฺชติ, ตถา วฏฺฏตีติ โยชนา.

กาลิกานิ จ ตีเณวาติ ยามกาลิกาทีนิ ตีณิ กาลิกาเนว. ปจฺจเย สตีติ ปิปาสาทิปจฺจเย สติ.

๒๓๓๐. อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อิทํ สมุฏฺานํ อทฺธาเนน ตุลฺยนฺติ โยชนา. ปวาริตาย, อปฺปวาริตาย วา นิมนฺติตาย วเสน กิริยากิริยตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นิมนฺติตา’’ติอาทิ. นิมนฺติตา ปน สามิกํ อนาปุจฺฉา ภุฺชติ เจ, ตสฺสา วเสน อิทํ สิกฺขาปทํ กิริยากิริยํ โหติ. เอตฺถ ภุฺชนํ กฺริยํ. สามิกสฺส อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

๒๓๓๑. ‘‘กปฺปิยํ การาเปตฺวา’’ติอาทึ ปวาริตเมว สนฺธายาห. ยา ยทิ ปริภุฺชติ, ตสฺสา จ ปาจิตฺติ สิยา กิริยโต โหตีติ โยชนา. สิยาติ อวสฺสํ. ปวารณสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน กปฺปิยํ กาเรตฺวา วา อการาเปตฺวา วา ปริภุฺชนฺติยา ตสฺสา ปริโภเคเนว อิมินา สิกฺขาปเทน อวสฺสํ อาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ.

จตุตฺถํ.

๒๓๓๒. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี กุลมจฺฉรินี อสฺส, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๔๓) อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิกฺขุนีน’’นฺติอาทิ. กุลสนฺติเก ภิกฺขุนีนํ อวณฺณํ วทนฺติยา ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ, กุลสฺส สนฺติเก ‘‘ภิกฺขุนิโย ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา’’ติ ภิกฺขุนีนํ อวณฺณํ ภาสนฺติยาติ อตฺโถ. กุลสฺสาวณฺณนํ วาปีติ ‘‘ตํ กุลํ อสฺสทฺธํ อปฺปสนฺน’’นฺติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก กุลสฺส อวณฺณํ อคุณํ วทนฺติยา ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ.

๒๓๓๓. สนฺตํ ภาสนฺติยา โทสนฺติ อมจฺฉรายิตฺวา กุลสฺส วา ภิกฺขุนีนํ วา สนฺตํ โทสํ อาทีนวํ กเถนฺติยา.

ปฺจมํ.

๒๓๓๔-๕. โอวาททายโกติ อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ โอวาทํ เทนฺโต. วสฺสํ อุปคจฺฉนฺติยาติ วสฺสํ วสนฺติยา.

๒๓๓๖. ภิกฺขูติ โอวาททายกา ภิกฺขู.

ฉฏฺํ.

๒๓๓๘. ยา สา ภิกฺขุนี วสฺสํ วุตฺถา ปุริมํ วา ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ วุตฺถา ตโต อนนฺตรํ อุภโตสงฺเฆ ภิกฺขุนิสงฺเฆ จ ภิกฺขุสงฺเฆ จ ‘‘นาหํ ปวาเรสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ เจติ โยชนา.

สตฺตมํ.

๒๓๔๑. โอวาทาทีนมตฺถายาติ อฏฺครุธมฺมสฺสวนาทีนมตฺถาย. อาทิ-สทฺเทน อุโปสถปุจฺฉนปวารณานํ คหณํ.

๒๓๔๒. โอวาทาทีนมตฺถาย อคมเนน อกฺริยํ. กายิกนฺติ กายกมฺมํ.

อฏฺมํ.

๒๓๔๓. ‘‘อนฺวทฺธมาสํ ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสงฺฆโต ทฺเว ธมฺมา ปจฺจาสีสิตพฺพา อุโปสถปุจฺฉนฺจ โอวาทูปสงฺกมนฺจ, ตํ อติกฺกาเมนฺติยา ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๕๙) อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น ยาจิสฺสามี’’ติอาทิ. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.

นวมํ.

๒๓๔๖-๗. ปสาโข นาม นาภิยา เหฏฺา, ชาณุมณฺฑลานํ อุปริ ปเทโส. ตถา หิ ยสฺมา รุกฺขสฺส สาขา วิย อุโภ อูรู ปภิชฺชิตฺวา คตา, ตสฺมา โส ปสาโขติ วุจฺจติ, ตสฺมึ ปสาเข. สฺชาตนฺติ อุฏฺิตํ. คณฺฑนฺติ ยํ กิฺจิ คณฺฑํ. รุธิตนฺติ ยํ กิฺจิ วณํ. สงฺฆํ วาติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วา. คณํ วาติ สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย วา. เอเกนาติ เอตฺถ ‘‘ปุริเสนา’’ติ เสโส, สหตฺเถ อิทํ กรณวจนํ. ยถาห ‘‘ปุริเสน สทฺธึ เอเกเนกา’’ติ. ปุริโสติ จ มนุสฺสปุริโสว คเหตพฺโพ.

โธวาติ เอตฺถ อาทิ-อตฺเถ วตฺตมาเนน อิติ-สทฺเทน ‘‘อาลิมฺปาเปยฺย วา พนฺธาเปยฺย วา โมจาเปยฺย วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๖๓) สิกฺขาปทาคตานํ อิตเรสํ ติณฺณํ สงฺคณฺหนโต ‘‘อาลิมฺป พนฺธ โมเจหี’’ติ อาณตฺติตฺตยํ สงฺคหิตํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ทุกฺกฏานิจฺฉ ปาจิตฺติโย ฉ จา’’ติ.

ยา ปน ภิกฺขุนี ปสาเข ชาตํ คณฺฑํ วา รุธิตํ วา สงฺฆํ วา คณํ วา อนาปุจฺฉิตฺวา เอเกน ปุริเสน เอกิกา ‘‘ภินฺท ผาเลหิ โธว อาลิมฺป พนฺธ โมเจหี’’ติ สพฺพานิ กาตพฺพานิ อาณาเปติ, ตสฺสา ฉ ทุกฺกฏานิ, กเตสุ ภินฺทนาทีสุ ฉสุ กิจฺเจสุ ตสฺสา ฉ ปาจิตฺติโย โหนฺตีติ โยชนา.

๒๓๔๘-๙. เอตฺถาติ คณฺเฑ วา วเณ วา. ‘‘ยํ กาตพฺพํ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ ตฺวํ กโรหิ’’อิติ สเจ เอวํ ยา อาณาเปตีติ โยชนา. ตสฺสา เอกาย อาณาปนวาจาย ฉ ทุกฺกฏานิ จ ปาจิตฺติยจฺฉกฺกฺเจติ ทฺวาทสาปตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา.

๒๓๕๑. อาปุจฺฉิตฺวา วาติ สงฺฆํ วา คณํ วา อาปุจฺฉิตฺวา. ทุติยนฺติ ทุติยิกํ. วิฺุํ ทุติยํ คเหตฺวาปิ วาติ โยชนา.

ทสมํ.

อารามวคฺโค ฉฏฺโ.

๒๓๕๓. ‘‘คณปริเยสนาทิสฺมิ’’นฺติ วตฺตพฺเพ ฉนฺทานุรกฺขนตฺถํ นิคฺคหิตาคโม. คพฺภินินฺติ อาปนฺนสตฺตํ, กุจฺฉิปวิฏฺสตฺตนฺติ อตฺโถ. วุฏฺาเปนฺติยาติ อุปสมฺปาเทนฺติยา. กมฺมวาจาหีติ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ.

๒๓๕๔-๕. กมฺมวาจาย โอสาเนติ ตติยกมฺมวาจาย ปริโยสาเน, ยฺยการปฺปตฺเตติ อตฺโถ. คพฺภินิสฺาย น จ คพฺภินิยาติ อคพฺภินิยา คพฺภินิสฺาย จ. อุโภ สฺชาตกงฺขายาติ อุโภสุ สมุปฺปนฺนสํสยาย, คพฺภินิยา, อคพฺภินิยา จ เวมติกายาติ อตฺโถ. คาถาพนฺธวเสเนตฺถ สุ-สทฺทโลโป. ตถา วุฏฺาเปนฺติยา อุปชฺฌายาย อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. อาจรินิยา ตสฺสาติ อุปชฺฌายา คพฺภินึ วุฏฺาเปติ, ตสฺสา กมฺมวาจํ สาเวนฺติยา อาจรินิยา จ. คณสฺสาติ อุปชฺฌายาจรินีหิ อฺสฺส ภิกฺขุนิคณสฺส จ. ตถา ทุกฺกฏํ ทีปิตนฺติ โยชนา.

๒๓๕๖. ‘‘ทฺวีสุ อคพฺภินิสฺายา’’ติ ปทจฺเฉโท. ทฺวีสูติ คพฺภินิยา, อคพฺภินิยา จ.

ปมํ.

๒๓๕๗. ทุติเยติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปายนฺตึ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๗๓) สิกฺขาปเท. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปายนฺตี นาม มาตา วา โหติ ธาติ วาติ อยํ วิเสโส.

ทุติยํ.

๒๓๕๘. ยา ปน ภิกฺขุนี ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ อสิกฺขิตสิกฺขํ สิกฺขมานํ สเจ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา. ตตฺถ ทฺเว วสฺสานีติ ปวารณวเสน ทฺเว สํวจฺฉรานิ. ฉสุ ธมฺเมสูติ ปาณาติปาตาเวรมณิอาทีสุ วิกาลโภชนาเวรมณิปริโยสาเนสุ ฉสุ ธมฺเมสุ. อสิกฺขิตสิกฺขนฺติ ‘‘ปาณาติปาตาเวรมณึ ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมฺม สมาทานํ สมาทิยามี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๗๙) นเยน อนาทินฺนสิกฺขาปทํ วา เอวํ สมาทิยิตฺวาปิ กุปิตสิกฺขํ วา. สิกฺขมานํ เตสุ ฉสุ ธมฺเมสุ สิกฺขนโต วา เต วา สิกฺขาสงฺขาเต ธมฺเม มานนโต เอวํ ลทฺธนามํ อนุปสมฺปนฺนํ. วุฏฺาเปยฺยาติ อุปสมฺปาเทยฺย. อาปตฺติ สิยาติ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจาปริโยสาเน ปาจิตฺติ อาปตฺติ สิยา, ปาจิตฺติ โหตีติ อตฺโถ.

๒๓๕๙. ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติกา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ เอวํ ธมฺมกมฺเม สตฺถุนา ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมกมฺเม เวมติกา อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๘๒) เอวํ อธมฺเม ปน กมฺมสฺมึ สตฺถุนา ติกทุกฺกฏํ ทีปิตํ.

๒๓๖๐. อขณฺฑโต ขณฺฑํ อกตฺวา.

๒๓๖๑. สเจ อุปสมฺปทาเปกฺขา ปพฺพชฺชาย สฏฺิวสฺสาปิ โหติ, ตสฺสา อิมา ฉ สิกฺขาโย ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมนียา ปทาตพฺพา, อิมา อทตฺวา น การเย เนว วุฏฺาเปยฺยาติ โยชนา.

ตติยํ.

๒๓๖๒. จตุตฺเถ นตฺถิ วตฺตพฺพนฺติ วกฺขมานวิเสสโต อฺํ วตฺตพฺพํ นตฺถีติ ยถาวุตฺตนยเมวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิธา’’ติอาทินา อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสติ. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท สงฺเฆน สมฺมตํ ตํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๓๖๓. ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ สิกฺขิตสิกฺขาย สิกฺขมานาย ภิกฺขุนิสงฺเฆน อุปสมฺปทโต ปมํ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ยา วุฏฺานสมฺมุติ ทาตพฺพา โหติ, สา วุฏฺานสมฺมุติ สเจ ปมํ อทินฺนา โหติ. ตตฺถ ตสฺมึ อุปสมฺปทมาฬเกปิ ปทาตพฺพาเยวาติ โยชนา.

๒๓๖๔. ตติยฺจาติ ตติยสิกฺขาปทฺจ. จตุตฺถฺจาติ อิทํ จตุตฺถสิกฺขาปทฺจ. ปเมน สมํ เยฺยนฺติ ปเมน สิกฺขาปเทน สมุฏฺานาทินา วินิจฺฉเยน สมานนฺติ าตพฺพํ. จตุตฺถํ ปน สิกฺขาปทํ วุฏฺาปนสมฺมุตึ อทาเปตฺวา วุฏฺาปนวเสน กฺริยากฺริยํ โหติ.

จตุตฺถํ.

๒๓๖๕. คิหิคตนฺติ ปุริสนฺตรคตํ, ปุริสสมาคมปฺปตฺตนฺติ อตฺโถ. ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา ปริปุณฺณา อุตฺตรปทโลเปน. กิฺจาปิ น โทโสติ โยชนา. วุฏฺาเปนฺติยาติ อุปชฺฌายา หุตฺวา อุปสมฺปาเทนฺติยา.

๒๓๖๖. เสสนฺติ วุตฺตํ. อเสเสน สพฺพโส.

ปฺจมํ.

๒๓๖๘. ทุกฺขิตํ สหชีวินินฺติ เอตฺถ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ เสโส. ตุวฏฺฏกวคฺคสฺมึ ‘‘ทุกฺขิตํ สหชีวินิ’’นฺติ อิเมหิ ปเทหิ ยุตฺตํ ยํ สิกฺขาปทํ วุตฺตํ, เตน สิกฺขาปเทน อฏฺมํ สมํ เยฺยํ, น วิเสสตา วิเสโส นตฺถีติ โยชนา. อฏฺมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี สหชีวินึ วุฏฺาเปตฺวา ทฺเว วสฺสานิ เนว อนุคฺคณฺเหยฺย น อนุคฺคณฺหาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๐๘) วุตฺตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ สหชีวินินฺติ สทฺธิวิหารินึ. เนว อนุคฺคณฺเหยฺยาติ สยํ อุทฺเทสาทีหิ นานุคฺคณฺเหยฺย. น อนุคฺคณฺหาเปยฺยาติ ‘‘อิมิสฺสา อยฺเย อุทฺเทสาทีนิ เทหี’’ติ เอวํ น อฺาย อนุคฺคณฺหาเปยฺย. ปาจิตฺติยนฺติ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺเต ปาจิตฺติยํ.

อฏฺมํ.

๒๓๖๙. ยา กาจิ ภิกฺขุนี วุฏฺาปิตปวตฺตินึ ทฺเว วสฺสานิ นานุพนฺเธยฺย เจ, ตสฺสา ปาจิตฺติ ปริยาปุตา กถิตาติ โยชนา. วุฏฺาเปตีติ วุฏฺาปิตา, ปวตฺเตติ สุสิกฺขาเปตีติ ปวตฺตินี, วุฏฺาปิตา จ สา ปวตฺตินี จาติ วุฏฺาปิตปวตฺตินี, อุปชฺฌายาเยตํ อธิวจนํ, ตํ, อุปชฺฌายํ. นานุพนฺเธยฺยาติ จุณฺเณน, มตฺติกาย, ทนฺตกฏฺเน, มุโขทเกนาติ เอวํ เตน เตน กรณีเยน อุปฏฺเหยฺย.

๒๓๗๐. ‘‘ทฺเว วสฺสานิ อหํ นานุพนฺธิสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ เจ, เอวํ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺตสฺมึ ปน ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.

๒๓๗๑. ยา ปน ภิกฺขุนี อุปชฺฌายํ พาลํ วา อลชฺชึ วา นานุพนฺธติ, ตสฺสา, คิลานาย วา อาปทาสุ วา อุมฺมตฺติกาย วา นานุพนฺธนฺติยา น โทโสติ โยชนา.

๒๓๗๒. อนุปฏฺาเนน โหตีติ อาห ‘‘อกฺริยํ วุตฺต’’นฺติ.

นวมํ.

๒๓๗๓-๕. ยา กาจิ ภิกฺขุนี สหชีวินึ สทฺธิวิหารินึ วุฏฺาเปตฺวา อุปสมฺปาเทตฺวา ตํ คเหตฺวา อนฺตมโส ฉปฺปฺจโยชนานิปิ น คจฺเฉยฺย น จฺํ อาณาเปยฺย ‘‘อิมํ, อยฺเย, คเหตฺวา คจฺฉา’’ติ อฺฺจ น นิโยเชยฺย เจ, ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺตสฺมึ ‘‘น ทานิ คจฺฉิสฺสามิ, อฺฺจ คเหตฺวา คนฺตุํ น นิโยเชสฺสามี’’ติ อุสฺสาเห วิสฺสฏฺมตฺเต ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.

อนฺตรายสฺมึ สติ วา ทุติยํ อลภนฺติยา วา อาปทาสุ วา คิลานาย วา อุมฺมตฺติกาย วา น โทโสติ โยชนา.

ทสมํ.

คพฺภินิวคฺโค สตฺตโม.

๒๓๗๖. คิหิคเตหิ ตีเหวาติ อนนฺตเร คพฺภินิวคฺเค คิหิคตปทยุตฺเตหิ ปฺจมฉฏฺสตฺตเมหิ ตีเหว สิกฺขาปเทหิ. สทิสานีติ อิธ วีสติวสฺสวจนฺจ กุมาริภูตวจนฺจ ตตฺถ ทฺวาทสวสฺสวจนฺจ คิหิคตวจนฺจ เปตฺวา อวเสเสหิ วินิจฺฉเยหิ ยถากฺกมํ สทิสาเนวาติ.

๒๓๗๗. มหูปปทาติ มหา อุปปโท ยาสํ สิกฺขมานานํ ตา มหูปปทา. อุปปทํ นาม ปทานเมว ยุชฺชติ, น อตฺถานนฺติ ‘‘ยาส’’นฺติ อฺปเทน สิกฺขมานาทิปทานํ คหณํ, สทฺทตฺถานมเภโทปจารสฺส ปน อิจฺฉิตตฺตา สิกฺขมานปทคหิตานเมตฺถ คหณํ เวทิตพฺพํ, มหาสิกฺขมานาติ วุตฺตํ โหติ. อาทิโตติ เอตฺถ ‘‘วุตฺตา’’ติ เสโส, คพฺภินิวคฺเค ติสฺสนฺนํ คิหิคตานํ ปุริเมสุ ตติยจตุตฺถสิกฺขาปเทสุ อาคตา ทฺเว สิกฺขมานาติ อตฺโถ. คิหิคตาย ‘‘ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา’’ติ จ กุมาริภูตาย ‘‘ปริปุณฺณวีสติวสฺสา’’ติ จ วสฺสวเสน นานากรณสฺส วุตฺตตฺตา ตาหิ ทฺวีหิ มหาสิกฺขมานาย วสฺสวเสเนว นานากรณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘คตา วีสติวสฺสาติ, วิฺาตพฺพา วิภาวินา’’ติ, อติกฺกนฺตวีสติวสฺสา มหาสิกฺขมานา นาม โหตีติ อตฺโถ.

๒๓๗๘. ตา ทฺเว มหาสิกฺขมานา สเจ คิหิคตา วา โหนฺตุ, น จ ปุริสคตา วา โหนฺตุ, สมฺมุติอาทิสุ กมฺมวาจาย ‘‘สิกฺขมานา’’ติ วตฺตพฺพาติ โยชนา. เอตฺถ จ สมฺมุติ นาม ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย กาตพฺพาย สิกฺขาย สมฺมุติ เจว วุฏฺานสมฺมุติ จ. อาทิ-สทฺเทน อุปสมฺปทากมฺมํ คหิตํ.

๒๓๗๙. อิมาสํ ทฺวินฺนํ สมฺมุติทานาทีสุ ตฺติยา จ กมฺมวาจาย จ วตฺตพฺพํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวตฺตพฺพํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น ตา’’ติอาทิ. ตา เอตา อุโภปิ มหาสิกฺขมานา ‘‘กุมาริภูตา’’ติ วา ตถา ‘‘คิหิคตา’’ติ วา กมฺมวาจาย น วตฺตพฺพา ยสฺมา, ตสฺมา เอวํ วตฺตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘น วตฺตพฺพา’’ติ อิมินา ตถา เจ กมฺมวาจา วุจฺเจยฺย, ตํ กมฺมํ กุปฺปตีติ ทีเปติ. อิธ ปน-สทฺโท ยสฺมา-ปทตฺโถติ ตทตฺถวเสน โยชนา ทสฺสิตา.

๒๓๘๐. สมฺมุตินฺติ สิกฺขมานสมฺมุตึ. ทสวสฺสายาติ เอตฺถ ‘‘คิหิคตายา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘คิหิคตาย ทสวสฺสกาเล สิกฺขาสมฺมุตึ ทตฺวา ทฺวาทสวสฺสกาเล อุปสมฺปทา กาตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๑๙). เสสาสุปีติ เอกาทสวสฺสกาเล ทตฺวา เตรสวสฺสกาเล กาตพฺพา, ทฺวาทส, เตรส, จุทฺทส, ปนฺนรส, โสฬส, สตฺตรส, อฏฺารสวสฺสกาเล สิกฺขาสมฺมุตึ ทตฺวา วีสติวสฺสกาเล กาตพฺพาติ เอวํ อฏฺารสวสฺสปริยนฺตาสุ เสสาสุปิ สิกฺขมานาสุ. อยํ นโยติ ‘‘สมฺมุติยา ทินฺนสํวจฺฉรโต อาคามินิ ทุติเย สํวจฺฉเร อุปสมฺปาเทตพฺพา’’ติ อยํ นโย. เตเนว วุตฺตํ ‘‘เอกาทสวสฺสกาเล ทตฺวา เตรสวสฺสกาเล กาตพฺพา’’ติอาทิ.

๒๓๘๑. ‘‘กุมาริภูตา’’ติปิ ‘‘คิหิคตา’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ วุตฺตาติ โยชนา.

๒๓๘๒. ยา ปน ปริปุณฺณวีสติวสฺสา สามเณรี ‘‘กุมาริภูตา’’ติ วุตฺตา, สา กมฺมวาจาย ‘‘กุมาริภูตา’’อิจฺเจว วตฺตพฺพา, อฺถา ปน น วตฺตพฺพา ‘‘คิหิคตา’’ติ วา ‘‘ปุริสนฺตรคตา’’ติ วา น วตฺตพฺพาติ โยชนา. ยถาห ‘‘กุมาริภูตา ปน ‘คิหิคตา’ติ น วตฺตพฺพา, ‘กุมาริภูตา’อิจฺเจว วตฺตพฺพา’’ติ.

๒๓๘๓. เอตา ตุ ปน ติสฺโสปีติ มหาสิกฺขมานา คิหิคตา, กุมาริภูตาติ วุตฺตา ปน เอตา ติสฺโสปิ. อปิ-สทฺเทน คิหิคตา กุมาริภูตา ทฺเว สกสกนาเมนาปิ วตฺตุํ วฏฺฏนฺตีติ ทีเปติ. ‘‘กุมาริภูตสิกฺขมานายา’’ติ ปาฬิยํ อวุตฺตตฺตา น วฏฺฏตีติ โกจิ มฺเยฺยาติ อาห ‘‘น สํสโย’’ติ. ตถา วตฺตพฺพตาเหตุทสฺสนตฺถมาห ‘‘สิกฺขาสมฺมุติทานโต’’ติ.

ปมทุติยตติยานิ.

๒๓๘๔-๕. ยา ปน ภิกฺขุนี อูนทฺวาทสวสฺสาว อุปสมฺปทาวเสน อปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา เอว สยํ อุปชฺฌายา หุตฺวา ปรํ สิกฺขมานํ สเจ วุฏฺาเปติ, ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว คณปริเยสนาทิทุติยานุสฺสาวนปริโยสาเนสุ อาปนฺนานํ ทุกฺกฏานํ อนนฺตรํ กมฺมวาจานํ โอสาเน ตติยานุสฺสาวนาย ยฺยตารปฺปตฺตาย ตสฺสา ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.

จตุตฺถํ.

๒๓๘๖. ปฺจเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา สงฺเฆน อสมฺมตา วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๔๒) สิกฺขาปเท. กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตวเสน ติสมุฏฺานํ. กฺริยากฺริยนฺติ วุฏฺาปนํ กิริยํ, สงฺฆสมฺมุติยา อคฺคหณํ อกิริยํ.

ปฺจมํ.

๒๓๘๗. สงฺเฆนาติ ภิกฺขุนิสงฺเฆน. อุปปริกฺขิตฺวาติ อลชฺชิภาวาทึ อุปปริกฺขิตฺวา. อลํ ตาวาติ เอตฺถ ‘‘เต อยฺเย’’ติ เสโส. วาริตาติ เอตฺถ ‘‘สาธูติ ปฏิสฺสุณิตฺวา’’ติ เสโส. ‘‘อลํ ตาว เต, อยฺเย, อุปสมฺปาทิเตนา’’ติ วาริตา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา เอตฺถ เอตสฺมึ ปวารเณ ปจฺฉา ขียติ ‘‘อหเมว นูน พาลา, อหเมว นูน อลชฺชินี’’ติอาทินา อวณฺณํ ปกาเสติ, โทสตา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๓๘๘. ฉนฺทโทสาทีหิ กโรนฺติยาติ เอตฺถ ‘‘ปกติยา’’ติ เสโส. ปกติยา ฉนฺทโทสาทีหิ อคติคมเนหิ นิวารณํ กโรนฺติยา สเจ อุชฺฌายติ, น โทโสติ โยชนา.

ฉฏฺํ.

๒๓๘๙-๙๐. ลทฺเธ จีวเรติ สิกฺขามานาย ‘‘สเจ เม ตฺวํ, อยฺเย, จีวรํ ทสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติ วตฺวา ยาจิเต ตสฺมึ จีวเร ลทฺเธ. ปจฺฉาติ จีวรลาภโต ปจฺฉา. อสนฺเต อนฺตรายิเกติ ทสนฺนํ อนฺตรายานํ อฺตรสฺมึ อนฺตราเย อวิชฺชมาเน. วุฏฺาเปสฺสามินาหนฺติ อหํ ตํ น สมุฏฺาเปสฺสามีติ ธุรนิกฺเขปเน ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.

๒๓๙๑. อิทนฺติ อิทํ สิกฺขาปทํ. อวุฏฺาปเนน อกฺริยํ.

สตฺตมํ.

๒๓๙๒. อฏฺมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี สิกฺขมานํ ‘สเจ มํ ตฺวํ, อยฺเย, ทฺเว วสฺสานิ อนุพนฺธิสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติอาทิ (ปาจิ. ๑๑๕๕) สิกฺขาปทํ. นวเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปุริสสํสฏฺํ กุมารกสํสฏฺํ จณฺฑึ โสกาวาสํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๕๙) วุตฺตสิกฺขาปเท. ‘‘วตฺตพฺพํ นตฺถี’’ติ อิทํ สทฺทตฺถวิเสสมนฺตเรน วินิจฺฉยสฺส สุวิฺเยฺยตฺตา วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อุตฺตานเมวิท’’นฺติ.

สทฺทตฺโถ ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – ปุริสสํสฏฺนฺติ ปริปุณฺณวีสติวสฺเสน ปุริเสน อนนุโลมิเกน กายวจีกมฺเมน สํสฏฺํ. กุมารกสํสฏฺนฺติ อูนวีสติวสฺเสน กุมาเรน ตเถว สํสฏฺํ. จณฺฑินฺติ โกธนํ. โสกาวาสนฺติ สงฺเกตํ กตฺวา อาคจฺฉมานา ปุริสานํ อนฺโต โสกํ ปเวเสตีติ โสกาวาสา, ตํ โสกาวาสํ. อถ วา ฆรํ วิย ฆรสามิกา, อยมฺปิ ปุริสสมาคมํ อลภมานา โสกํ อาวิสติ, อิติ ยํ อาวิสติ, สฺวาสฺสา อาวาโส โหตีติ โสกาวาสา. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘โสกาวาสา นาม ปเรสํ ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, โสกํ อาวิสตี’’ติ (ปาจิ. ๑๑๖๐) ทฺเวธา อตฺโถ วุตฺโต. ปาจิตฺติยนฺติ เอวรูปํ วุฏฺาเปนฺติยา วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจาปริโยสาเน อุปชฺฌายาย ปาจิตฺติยํ.

๒๓๙๓. ‘‘นตฺถิ อชานนฺติยา’’ติ ปจฺเฉโท, สิกฺขมานาย ปุริสสํสฏฺาทิภาวํ อชานนฺติยาติ อตฺโถ.

อฏฺมนวมานิ.

๒๓๙๔. วิชาตมาตรา วา ชนกปิตรา วา สามินา ปริคฺคาหกสามินา วา นานุฺาตํ อุปสมฺปทตฺถาย อนนุฺาตํ ตํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปนฺติยา ตสฺสา ปาจิตฺติยาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๓๙๕. น ภิกฺขุนาติ ภิกฺขุนา ทฺวิกฺขตฺตุํ น ปุจฺฉิตพฺพํ, สกิเมว ปุจฺฉิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุนีหิ ทฺวิกฺขตฺตุํ อาปุจฺฉิตพฺพํ ปพฺพชฺชากาเล จ อุปสมฺปทากาเล จ, ภิกฺขูนํ ปน สกึ อาปุจฺฉิเตปิ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖๒).

๒๓๙๖-๗. อตฺถิตนฺติ อตฺถิภาวํ. จตูหิ สมุฏฺาติ, จตฺตาริ วา สมุฏฺานานิ เอตสฺสาติ จตุสมุฏฺานํ. กตเมหิ จตูหิ สมุฏฺาตีติ อาห ‘‘วาจโต…เป… กายวาจาทิโตปิ จา’’ติ. กถํ วาจาทีหิ จตูหิ สมุฏฺาติ? อพฺภานกมฺมาทีสุ เกนจิเทว กรณีเยน ขณฺฑสีมายํ นิสินฺนา ‘‘ปกฺโกสถ สิกฺขมานํ, อิเธว นํ อุปสมฺปาเทสฺสามา’’ติ อุปสมฺปาเทติ, เอวํ วาจโต สมุฏฺาติ. ‘‘อุปสฺสยโต ปฏฺาย อุปสมฺปาเทสฺสามี’’ติ วตฺวา ขณฺฑสีมํ คจฺฉนฺติยา กายวาจโต สมุฏฺาติ. ทฺวีสุปิ าเนสุ ปณฺณตฺตึ ชานิตฺวา วีติกฺกมํ กโรนฺติยา วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. อุปสมฺปาทนํ กฺริยํ, อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

ทสมํ.

๒๓๙๘. เอตฺถ อิมสฺมึ สาสเน ยา ภิกฺขุนี ปาริวาสิเกน ฉนฺททาเนน สิกฺขมานํ สเจ วุฏฺาเปติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. ตตฺถ ปาริวาสิเกน ฉนฺททาเนนาติ จตุพฺพิธํ ปาริวาสิยํ ปริสปาริวาสิยํ, รตฺติปาริวาสิยํ, ฉนฺทปาริวาสิยํ, อชฺฌาสยปาริวาสิยนฺติ.

ตตฺถ ปริสปาริวาสิยํ นาม ภิกฺขู เกนจิเทว กรณีเยน สนฺนิปติตา โหนฺติ, อถ เมโฆ วา อุฏฺหติ, อุสฺสารณา วา กรียติ, มนุสฺสา วา อชฺโฌตฺถรนฺตา อาคจฺฉนฺติ, ภิกฺขู ‘‘อโนกาโส อยํ, อฺตฺร คจฺฉามา’’ติ ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว อุฏฺหนฺติ. อิทํ ปริสปาริวาสิยํ. กิฺจาปิ ปริสปาริวาสิยํ, ฉนฺทสฺส ปน อวิสฺสฏฺตฺตา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.

ปุน ภิกฺขู ‘‘อุโปสถาทีนิ กริสฺสามา’’ติ รตฺตึ สนฺนิปติตฺวา ‘‘ยาว สพฺเพ สนฺนิปตนฺติ, ตาว ธมฺมํ สุณิสฺสามา’’ติ เอกํ อชฺเฌสนฺติ, ตสฺมึ ธมฺมกถํ กเถนฺเตเยว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ. สเจ ‘‘จาตุทฺทสิกํ อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา, ‘‘ปนฺนรโส’’ติ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปนฺนรสิกํ กาตุํ นิสินฺนา, ปาฏิปเท อนุโปสเถ อุโปสถํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อฺํ ปน สงฺฆกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. อิทํ ปน รตฺติปาริวาสิยํ นาม.

ปุน ภิกฺขู ‘‘กิฺจิเทว อพฺภานาทิสงฺฆกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา โหนฺติ, ตตฺเรโก นกฺขตฺตปาโก ภิกฺขุ เอวํ วทติ ‘‘อชฺช นกฺขตฺตํ ทารุณํ, มา อิทํ กมฺมํ กโรถา’’ติ, เต ตสฺส วจเนน ฉนฺทํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตตฺเถว นิสินฺนา โหนฺติ, อถฺโ อาคนฺตฺวา –

‘‘นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ, อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา’’ติ. (ชา. ๑.๑.๔๙) –

วตฺวา ‘‘กึ นกฺขตฺเตน, กโรถา’’ติ วทติ. อิทํ ฉนฺทปาริวาสิยฺเจว อชฺฌาสยปาริวาสิยฺจ. เอตสฺมึ ปาริวาสิเย ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อนาหริตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปาริวาสิเกน ฉนฺททาเนนา’’ติ.

ปาจิตฺติยํ สิยาติ เอวํ วุฏฺาเปนฺติยา วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจาปริโยสาเน ปาจิตฺติยํ สิยาติ อตฺโถ.

๒๓๙๙. ฉนฺทํ อวิหาย วา อวิสฺสชฺเชตฺวาว อวุฏฺิตาย ปริสาย ตุ ยถานิสินฺนาย ปริสาย วุฏฺาเปนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. วา-สทฺโท เอวการตฺโถ.

เอกาทสมํ.

๒๔๐๐. ทฺวาทเสติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อนุวสฺสํ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๗๑) สิกฺขาปเท. เตรเสติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี เอกํ วสฺสํ ทฺเว วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๗๕) สิกฺขาปเท.

ทฺวาทสมเตรสมานิ.

กุมาริภูตวคฺโค อฏฺโม.

๒๔๐๑. อคิลานาติ ฉตฺตุปาหเนน วูปสเมตพฺพโรครหิตา. ยถาห ‘‘อคิลานา นาม ยสฺสา วินา ฉตฺตุปาหนา ผาสุ โหตี’’ติ. ฉตฺตฺจ อุปาหนา จ ฉตฺตุปาหนํ. ตตฺถ ฉตฺตํ วุตฺตลกฺขณํ, อุปาหนา วกฺขมานลกฺขณา. ธาเรยฺยาติ อุภยํ เอกโต ธาเรยฺย. วิสุํ ธาเรนฺติยา หิ ทุกฺกฏํ วกฺขติ.

๒๔๐๒. ทิวสนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. สเจ ธาเรตีติ โยชนา.

๒๔๐๓. กทฺทมาทีนีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มหาวาลุกาทีนํ คหณํ.

๒๔๐๔. สเจ คจฺฉตีติ สมฺพนฺโธ. ทิสฺวา คจฺฉาทิกนฺติ ฉตฺเต ลคฺคนโยคฺคํ นีจตรํ คจฺฉาทิกํ ทิสฺวา. อาทิ-สทฺเทน คุมฺพาทีนํ คหณํ. ทุกฺกฏนฺติ อุปาหนมตฺตสฺเสว ธารเณ ทุกฺกฏํ.

๒๔๐๕. อปนาเมตฺวาติ สีสโต อปนาเมตฺวา. โอมุฺจิตฺวาติ ปาทโต โอมุฺจิตฺวา. โหติ ปาจิตฺติยนฺติ ปุน ปาจิตฺติยํ โหติ.

๒๔๐๖. ปโยคคณนาเยวาติ ฉตฺตุปาหนสฺส อปเนตฺวา อปเนตฺวา เอกโต ธารณปโยคคณนาย. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อคิลานา อคิลานสฺา, เวมติกา, คิลานสฺา ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๘๑) เอวํ ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ‘‘คิลานา อคิลานสฺา, คิลานา เวมติกา, ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๘๒) เอวํ ทฺวิกทุกฺกฏํ ตเถว วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.

๒๔๐๗. ยตฺถ ภิกฺขู วา ภิกฺขุนิโย วา นิวสนฺติ, ตสฺมึ อาราเม วา อุปจาเร วา อปริกฺขิตฺตสฺส อารามสฺส อุปจาเร วา. อาปทาสูติ รฏฺเภทาทิอาปทาสุ.

ปมํ.

๒๔๐๘. ภิกฺขุนิยาติ เอตฺถ ‘‘อคิลานายา’’ติ เสโส, ปาเทน คนฺตุํ สมตฺถาย อคิลานาย ภิกฺขุนิยาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘อคิลานา นาม สกฺโกติ ปทสา คนฺตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๘๗). ยานํ นาม รถาทิ, ตํ เหฏฺา วุตฺตสรูปเมว.

๒๔๐๙. อาปทาสูติ รฏฺเภทาทิอาปทาสุ. ฉตฺตุปาหนสิกฺขาปเท อาราเม, อารามูปจาเร จ อนาปตฺติ วุตฺตา, อิธ ตถา อวุตฺตตฺตา สพฺพตฺถาปิ อาปตฺติเยว เวทิตพฺพา.

ทุติยํ.

๒๔๑๐. ‘‘ยํ กิฺจิปิ กฏูปิย’’นฺติ อิทํ ‘‘สงฺฆาณิ’’นฺติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ยถาห – ‘‘สงฺฆาณิ นาม ยา กาจิ กฏูปคา’’ติ. สงฺฆาณิ นาม เมขลาทิกฏิปิฬนฺธนํ. กฏูปิยนฺติ กฏิปฺปเทโสปคํ.

๒๔๑๒. กฏิสุตฺตํ นาม กฏิยํ ปิฬนฺธนรชฺชุสุตฺตกํ.

๒๔๑๓. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท จิตฺตํ อกุสลํ, อิทํ ปน สิกฺขาปทํ โลกวชฺชํ, อิติ อิทํ อุภยเมว วิเสสตา ปุริมสิกฺขาปทโต อิมสฺส นานากรณํ.

ตติยํ.

๒๔๑๔. สีสูปคาทิสุ ยํ กิฺจิ สเจ ยา ธาเรติ, ตสฺสา ตสฺส วตฺถุสฺส คณนาย อาปตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา. สีสํ อุปคจฺฉตีติ สีสูปคํ, สีเส ปิฬนฺธนารหนฺติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน คีวูปคาทีนํ คหณํ. ยถาห – ‘‘อิตฺถาลงฺกาโร นาม สีสูปโค คีวูปโค หตฺถูปโค ปาทูปโค กฏูปโค’’ติ.

๒๔๑๕. น จ โทโสติ โยชนา. ‘‘สทิสนฺติ ปริทีปิต’’นฺติ วตฺตพฺเพ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ.

จตุตฺถํ.

๒๔๑๖. เยน เกนจิ คนฺเธนาติ จนฺทนตคราทินา เยน เกนจิ คนฺธกกฺเกน. สวณฺณาวณฺณเกน จาติ วณฺเณน สห วตฺตตีติ สวณฺณกํ, หลิทฺทิกกฺกาทิ, นตฺถิ เอตสฺส อุพฺพฏฺฏนปจฺจยา ทิสฺสมาโน วณฺณวิเสโสติ อวณฺณกํ, สาสปกกฺกาทิ, สวณฺณกฺจ อวณฺณกฺจ สวณฺณาวณฺณกํ, เตน สวณฺณาวณฺณเกน จ. อุพฺพฏฺเฏตฺวา นฺหายนฺติยา นฺหาโนสาเน ปาจิตฺติยาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.

๒๔๑๗. สพฺพปโยเคติ สพฺพสฺมึ ปุพฺพปโยเค. อาพาธปจฺจยาติ ททฺทุกุฏฺาทิโรคปจฺจยา.

๒๔๑๘. ฉฏฺนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี วาสิตเกน ปิฺาเกน นหาเยยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๒๐๓) สิกฺขาปทํ.

ปฺจมฉฏฺานิ.

๒๔๑๙. ยา ปน ภิกฺขุนี อฺาย ภิกฺขุนิยา สเจ อุพฺพฏฺฏาเปยฺย วา สมฺพาหาเปยฺย วา, ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ตถา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๔๒๐. เอตฺถ อิมสฺมึ อุพฺพฏฺฏเน, สมฺพาหเน จ หตฺถํ อโมเจตฺวา อุพฺพฏฺฏเน เอกา อาปตฺติ สิยา, หตฺถํ โมเจตฺวา โมเจตฺวา อุพฺพฏฺฏเน ปโยคคณนาย สิยาติ โยชนา.

๒๔๒๑. อาปทาสูติ โจรภยาทีหิ สรีรกมฺปนาทีสุ. คิลานายาติ อนฺตมโส มคฺคคมนปริสฺสเมนาปิ อาพาธิกาย.

๒๔๒๒. อฏฺมสิกฺขาปเท ‘‘สิกฺขมานายา’’ติ จ นวมสิกฺขาปเท ‘‘สามเณริยา’’ติ จ ทสมสิกฺขาปเท ‘‘คิหินิยา’’ติ จ วิเสสํ วชฺเชตฺวา อวเสสวินิจฺฉโย สตฺตเมเนว สมาโนติ ทสฺเสตุมาห ‘‘อฏฺมาทีนิ ตีณิปี’’ติ.

สตฺตมฏฺมนวมทสมานิ.

๒๔๒๓. อนฺโตอุปจารสฺมินฺติ ทฺวาทสรตนพฺภนฺตเร. ‘‘ภิกฺขุสฺส ปุรโต’’ติ อิทํ อุปลกฺขณํ. ตสฺมา ปุรโต วา โหตุ ปจฺฉโต วา ปสฺสโต วา, สมนฺตโต ทฺวาทสรตนพฺภนฺตเรติ นิทสฺสนปทเมตํ. ฉมายปีติ อนนฺตรหิตาย ภูมิยาปิ. ยา นิสีเทยฺยาติ สมฺพนฺโธ. น วฏฺฏติ ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ.

๒๔๒๔. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ อนาปุจฺฉิเต อนาปุจฺฉิตสฺา, เวมติกา, อาปุจฺฉิตสฺาติ ตีสุ วิกปฺเปสุ ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ. อาปุจฺฉิเต อนาปุจฺฉิตสฺา, เวมติกา วา ภิกฺขุสฺส ปุรโต นิสีเทยฺยาติ วิกปฺปทฺวเย ทุกฺกฏทฺวยํ โหติ. อาปทาสูติ รฏฺเภทาทิอาปทาสุ. อาปุจฺฉิตุฺจ าตุฺจ อสกฺโกนฺติยา คิลานาย.

๒๔๒๕. นิปชฺชนํ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

เอกาทสมํ.

๒๔๒๖. โอกาโส กโต เยน โส โอกาสกโต, น โอกาสกโต อโนกาสกโต, ตํ, อกโตกาสนฺติ อตฺโถ, ‘‘อสุกสฺมึ นาม าเน ปุจฺฉามี’’ติ อตฺตนา ปุจฺฉิตพฺพวินยาทีนํ นามํ คเหตฺวา โอกาสํ การาปนกาเล อธิวาสนวเสน อกโตกาสนฺติ วุตฺตํ โหติ. โทสตาติ ปาจิตฺติยาปตฺติ. เอกสฺมึ ปิฏเก โอกาสํ การาเปตฺวา อฺสฺมึ ปิฏเก ปฺหํ ปุจฺฉนฺติยาปิ ปาจิตฺติยํ โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘วินเย จา’’ติอาทิ.

ปุจฺฉนฺติยาปิ จาติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ‘‘อภิธมฺมํ ปุจฺฉนฺติยาปี’’ติ อิทฺจ อนุตฺตสมุจฺจยตฺเถน -สทฺเทน ‘‘สุตฺตนฺเต โอกาสํ การาเปตฺวา วินยํ วา อภิธมฺมํ วา ปุจฺฉติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อภิธมฺเม โอกาสํ การาเปตฺวา สุตฺตนฺตํ วา วินยํ วา ปุจฺฉติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ อิทฺจ สงฺคหิตํ.

๒๔๒๗. อโนทิสฺสาติ ‘‘อสุกสฺมึ นาม ปุจฺฉามี’’ติ เอวํ อนิยเมตฺวา เกวลํ ‘‘ปุจฺฉิตพฺพํ อตฺถิ, ปุจฺฉามิ อยฺยา’’ติ เอวํ วตฺวา.

ทฺวาทสมํ.

๒๔๒๘-๙. สํกจฺจิกนฺติ ถนเวนจีวรํ, ตํ ปน ปารุปนฺติยา อธกฺขกํ อุพฺภนาภิมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺติยา ปารุปิตพฺพํ. เตนาห มาติกฏฺกถายํ ‘‘อสํกจฺจิกาติ อธกฺขกอุพฺภนาภิมณฺฑลสงฺขาตสฺส สรีรสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถํ อนุฺาตสํกจฺจิกจีวรรหิตา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. อสํกจฺจิกสิกฺขาปทวณฺณนา). ‘‘สํกจฺจิกาย ปมาณํ ติริยํ ทิยฑฺฒหตฺถนฺติ โปราณคณฺิปเท วุตฺต’’นฺติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๑๒๒๔-๑๒๒๖) วชิรพุทฺธิตฺเถโร. ปริกฺเขโปกฺกเมติ ปริกฺเขปสฺส อนฺโตปเวสเน. อุปจาโรกฺกเมปีติ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ทุติยเลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรปเวสเนปิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. เอเสว นโยติ ‘‘ปเม ปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติเย ปาจิตฺติย’’นฺติ ยถาวุตฺโตเยว นโย มโต วิฺาโตติ อตฺโถ.

๒๔๓๐. อาปทาสุปีติ มหคฺฆํ โหติ สํกจฺจิกํ, ปารุปิตฺวา คจฺฉนฺติยา จ อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ.

๒๔๓๑. เสสนฺติ อิธ สรูปโต อทสฺสิตฺจ. วุตฺตนเยเนวาติ มาติกาปทภาชนาทีสุ วุตฺตนเยเนว. สุนิปุณสฺมึ ธมฺมชาตํ, อตฺถชาตฺจ วิภาเวติ วิวิเธนากาเรน ปกาเสตีติ วิภาวี, เตน วิภาวินา.

เตรสมํ.

ฉตฺตุปาหนวคฺโค นวโม.

เอวํ นวหิ วคฺเคหิ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ฉนฺนวุติ สิกฺขาปทานิ ทสฺเสตฺวา อิโต ปเรสุ มุสาวาทวคฺคาทีสุ สตฺตสุ วคฺเคสุ ภิกฺขูหิ สาธารณสิกฺขาปทานิ ภิกฺขุปาติโมกฺขวินิจฺฉยกถาย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานีติ ตานิ อิธ น ทสฺสิตานิ.

สพฺพาเนว ภิกฺขุนีนํ ขุทฺทเกสุ ฉนฺนวุติ, ภิกฺขูนํ ทฺเวนวุตีติ อฏฺาสีติสตํ สิกฺขาปทานิ. ตโต ปรํ สกลํ ภิกฺขุนิวคฺคํ, ปรมฺปรโภชนํ, อนติริตฺตโภชนํ, อนติริตฺเตน อภิหฏฺุํ ปวารณํ, ปณีตโภชนวิฺตฺติ, อเจลกสิกฺขาปทํ, ทุฏฺุลฺลปอจฺฉาทนํ, อูนวีสติวสฺสอุปสมฺปาทนํ, มาตุคาเมน สทฺธึ สํวิธาย อทฺธานคมนํ, ราชนฺเตปุรปฺปเวสนํ, สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา วิกาเล คามปฺปเวสนํ, นิสีทนํ, วสฺสิกสาฏิกนฺติ อิมานิ พาวีสติ สิกฺขาปทานิ อปเนตฺวา เสสานิ สตฺจ ฉสฏฺิ จ สิกฺขาปทานิ ภิกฺขุนิปาติโมกฺขุทฺเทสมคฺเคน อุทฺทิฏฺานีติ เวทิตพฺพานิ.

ตตฺรายํ สงฺเขปโต อสาธารณสิกฺขาปเทสุ สมุฏฺานวินิจฺฉโย – คิรคฺคสมชฺชา, จิตฺตาคารสิกฺขาปทํ, สงฺฆาณิ, อิตฺถาลงฺกาโร, คนฺธวณฺณโก, วาสิตกปิฺาโก, ภิกฺขุนิอาทีหิ อุมฺมทฺทนปริมทฺทนานีติ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ อจิตฺตกานิ, โลกวชฺชานิ, อกุสลจิตฺตานิ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จ. อวเสสานิ อจิตฺตกานิ ปณฺณตฺติวชฺชาเนว. โจริวุฏฺาปนํ, คามนฺตรํ, อารามสิกฺขาปทํ, คพฺภินิวคฺเค อาทิโต ปฏฺาย สตฺต, กุมาริภูตวคฺเค อาทิโต ปฏฺาย ปฺจ, ปุริสสํสฏฺํ, ปาริวาสิยฉนฺททานํ, อนุวสฺสวุฏฺาปนํ, เอกนฺตริกวุฏฺาปนนฺติ อิมานิ เอกูนวีสติ สิกฺขาปทานิ สจิตฺตกานิ, ปณฺณตฺติวชฺชานิ. อวเสสานิ สจิตฺตกานิ โลกวชฺชาเนวาติ.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา

๒๔๓๒. เอวํ ปาจิตฺติยวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปาฏิเทสนียํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อคิลานา’’ติอาทิ. ยา ปน ภิกฺขุนี อคิลานา สยํ อตฺตนา วิฺตฺติยา ลทฺธํ สปฺปึ สเจ ‘‘ภุฺชิสฺสามี’’ติ คณฺหติ, ตสฺสา เอวํ คหเณ ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา. ตตฺถ ยสฺสา วินา สปฺปินา ผาสุ โหติ, สา อคิลานา นาม. สปฺปินฺติ ปุพฺเพ วุตฺตวินิจฺฉยํ ปาฬิอาคตํ โคสปฺปิอาทิกเมว.

๒๔๓๓. ติปาฏิเทสนียนฺติ อคิลานา อคิลานสฺา, เวมติกา, คิลานสฺาติ ตีสุ วิกปฺเปสุ ตีณิ ปาฏิเทสนียานิ. คิลานา ทฺวิกทุกฺกฏนฺติ คิลานาย ทฺวิกทุกฺกฏํ. คิลานา อคิลานสฺา, เวมติกา วาติ ทฺวีสุ วิกปฺเปสุ ทฺเว ทุกฺกฏานิ.

๒๔๓๔-๕. คิลานา หุตฺวา สปฺปึ วิฺาเปตฺวา ปจฺฉา วูปสนฺตเคลฺา หุตฺวา เสวนฺติยา ปริภุฺชนฺติยาปิ จ คิลานาย อวเสสํ ปริภุฺชนฺติยา วา าตกาทิโต าตกปวาริตฏฺานโต วิฺตฺตํ ภุฺชนฺติยา วา อฺสฺสตฺถาย วิฺตฺตํ ปริภุฺชนฺติยา วา อตฺตโน ธเนน คหิตํ ภุฺชนฺติยา วา อุมฺมตฺติกาย วา อนาปตฺตีติ โยชนา.

ปมํ.

๒๔๓๖. เสเสสุ ทุติยาทีสูติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อคิลานา เตลํ…เป… มธุํ…เป… ผาณิตํ…เป… มจฺฉํ…เป… มํสํ…เป… ขีรํ…เป… ทธึ วิฺาเปตฺวา ภุฺเชยฺย, ปฏิเทเสตพฺพํ ตาย ภิกฺขุนิยา คารยฺหํ อยฺเย ธมฺมํ อาปชฺชึ อสปฺปายํ ปาฏิเทสนียํ, ตํ ปฏิเทเสมี’’ติ (ปาจิ. ๑๒๓๖) เอวํ ทุติยาทีสุ สตฺตสุ ปาฏิเทสนีเยสุ. นตฺถิ กาจิ วิเสสตาติ เตลาทิปทานิ วินา อฺโ โกจิ วิเสโส นตฺถีติ อตฺโถ.

๒๔๓๗. ปาฬิยํ อนาคเตสุ สพฺเพสุ สปฺปิอาทีสุ อฏฺสุ อฺตรํ วิฺาเปตฺวา ภุฺชนฺติยาปิ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สิกฺขากรณียกถาวณฺณนา

๒๔๓๘. ปาฏิเทสนียานนฺตรํ อุทฺทิฏฺานิ ปฺจสตฺตติ เสขิยานิ มหาวิภงฺเค วุตฺตวินิจฺฉยาเนวาติ ตเทว อติทิสนฺโต อาห ‘‘เสขิยา ปน เย ธมฺมา’’ติอาทิ. เย ปน ปฺจสตฺตติ เสขิยา ธมฺมา ปาฏิเทสนียานนฺตรํ อุทฺทิฏฺา, เตสํ อตฺถวินิจฺฉโย มหาวิภงฺเค วุตฺโตวาติ โยชนา, อตฺถิเกหิ ตโตว คเหตพฺโพ, น ปุน อิธ ทสฺเสสฺสามีติ อธิปฺปาโย.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

สิกฺขากรณียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๔๓๙-๔๐. สวิภงฺคานํ อุภโตวิภงฺคสหิตานํ อุภโตปาติโมกฺขานํ ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีนฺจ ปาติโมกฺขานํ อฏฺกถาสาโร สพฺพฏฺกถานํ สารภูโต โย โส อตฺโถ วิเสสโต สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต. ตํ สพฺพํ สารภูตํ อตฺถํ สมาทาย โย วินยสฺสวินิจฺฉโย ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีนฺจ หิตตฺถาย มยา กโต วิรจิโตติ สมฺพนฺโธ.

๒๔๔๑. โน อมฺหากํ ปฏิภาณชํ ปฏิภาณโต ชาตํ อิมํ ตุ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ ปน เย ชนฺตุโน สตฺตา สุณนฺติ, เต ชนฺตุโน ชนสฺส สตฺตโลกสฺส หิเต อธิสีลสิกฺขาปกาสกตฺตา อุปการเก สุมตสฺส โสภณนฺติ พุทฺธาทีหิ มตสฺส, โสภเณหิ วา พุทฺธาทีหิ มตสฺส ปฏิวิทฺธสฺส อมตมหานิพฺพานสฺส อยเน อฺชสภูเต ชนสฺส ตายเน กายิกวาจสิกวีติกฺกมปฏิปกฺขตฺตา อปายภยนิวารณฏฺเน ตาณภูเต วินเย วินยปิฏเก ปกตฺุโน ยถาสภาวํ ชานนฺตา ตฺุโน ภวนฺติ ตํ ตํ กปฺปิยากปฺปิยํ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพํ ชานนฺตา ภวนฺเตวาติ อตฺโถ.

๒๔๔๒. พหโว สารภูตา นยา เอตฺถาติ พหุสารนโย, ตสฺมึ พหุสารนเย. ปรเม อุตฺตเม วินเย วินยปิฏเก วิสารทตํ เวสารชฺชํ อสํหีราณํ อภิปตฺถยตา วิเสสโต อิจฺฉนฺเตน พุทฺธิมตา าณาติสยมนฺเตน ยตินา สพฺพกาลํ ติวิธสิกฺขาปริปูรเณ อสิถิลปวตฺตสมฺมาวายาเมน ภิกฺขุนา อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย ปรมา อุตฺตริตรา มหตี อาทรตา กรณียตมา วิเสเสน กาตพฺพาเยวาติ อตฺโถ.

๒๔๔๓. อิจฺเจวํ สีลวิสุทฺธิสาธเน วินยปิฏเก เวสารชฺชเหตุตาย อิมสฺส วินยวินิจฺฉยสฺส สีลวิสุทฺธิอาทิสตฺตวิสุทฺธิปรมฺปราย อธิคนฺตพฺพสฺส อมตมหานิพฺพานสฺส ปตฺติยาปิ มูลภูตตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อวคจฺฉตี’’ติอาทิ.

โย ปน ภิกฺขุ อตฺถยุตฺตํ มหตา ปโยชนตฺเถน, อภิเธยฺยตฺเถน จ สมนฺนาคตํ อิมํ วินยสฺสวินิจฺฉยํ อวคจฺฉติ อเวจฺจ ยาถาวโต ชานาติ, โส อปรมฺปรํ มรณาภาวา อมรํ ชรายาภาวา อชรํ ราคาทิกิเลสรชปฏิปกฺขตฺตา อรชํ อเนกปฺปการโรคานํ อปฺปวตฺติเหตุตฺตา อรุชํ สนฺติปทํ สพฺพกิเลสทรถปริฬาหานํ วูปสมเหตุตฺตา สนฺติสงฺขาตํ นิพฺพานปทํ อธิคจฺฉติ สีลวิสุทฺธิอาทิสตฺตวิสุทฺธิปรมฺปราย คนฺตฺวา ปฏิวิชฺฌตีติ โยชนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ภิกฺขุนิวิภงฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ขนฺธกกถา

มหาวคฺโค

มหาขนฺธกกถา

ปพฺพชฺชากถาวณฺณนา

๒๔๔๔. อิจฺเจวํ นาติสงฺเขปวิตฺถารวเสน วิภงฺคทฺวเย, ตทฏฺกถาย จ อาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ขนฺธกาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมารภนฺโต อาห ‘‘สีลกฺขนฺธาที’’ติอาทิ. ตตฺถ สีลกฺขนฺธาทิยุตฺเตนาติ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสงฺขาเตหิ ปฺจหิ ขนฺเธหิ คุณราสีหิ ยุตฺเตน สมนฺนาคเตน. สุภกฺขนฺเธนาติ สุวณฺณาลิงฺคสทิสวฏฺฏกฺขนฺธตาย สุโภ สุนฺทโร ขนฺโธ เอตสฺสาติ สุภกฺขนฺโธ, ภควา, เตน. อิมินา พาตฺตึสลกฺขณานเมกเทสภูตสฺส สมวฏฺฏกฺขนฺธตาลกฺขณสฺส ปริทีปเกน วจเนน ลกฺขณาหารนเยน พาตฺตึสลกฺขณาทิกา สพฺพาปิ รูปกายสิรี สนฺทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.

ขนฺธเกติ ขนฺธานํ สมูโห ขนฺธโก, ขนฺธานํ วา กายนโต ทีปนโต ขนฺธโก. ‘‘ขนฺธา’’ติ เจตฺถ ปพฺพชฺชูปสมฺปทาทิวินยกมฺมสงฺขาตา, จาริตฺตวาริตฺตสิกฺขาปทสงฺขาตา จ ปฺตฺติโย อธิปฺเปตา. ปพฺพชฺชาทีนิ หิ ภควตา ปฺตฺตตฺตา ‘‘ปฺตฺติโย’’ติ วุจฺจนฺติ. ปฺตฺติยฺจ ขนฺธ-สทฺโท ทิสฺสติ ‘‘ทารุกฺขนฺโธ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑) อคฺคิกฺขนฺโธ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๖) อุทกกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๖.๓๗) วิย. อปิจ ภาคราสตฺถตา เจตฺถ ยุชฺชติเยว ตาสํ ปฺตฺตีนํ ภาคโส, ราสิโต จ วิภตฺตตฺตา. ตสฺมึ ขนฺธเก. ปิ-สทฺโท วุตฺตาเปกฺขาย ปฺจสติกสตฺตสติกกฺขนฺธเก ทฺเว วชฺเชตฺวา ปพฺพชฺชกฺขนฺธกาทิเก ภิกฺขุนิขนฺธกปริโยสาเน วีสติวิเธ ขนฺธเก วุตฺตวินิจฺฉยสฺส อิธ วกฺขมานตฺตา. ตเทว สนฺธายาห ‘‘ขนฺธเกปิ ปวกฺขามิ, สมาเสน วินิจฺฉย’’นฺติ.

๒๔๔๕. ‘‘มาตรา ปิตรา’’ติ อิมินา ชนกาเยว อธิปฺเปตา. ‘‘ภณฺฑุกมฺมํ, สมณกรณํ, ปพฺพาชนนฺติ จ ปริยาย-สทฺทา’’ติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆํ อปโลเกตุํ ภณฺฑุกมฺมายา’’ติ (มหาว. ๙๘) อิมิสฺสา ปาฬิยา อฏฺกถาย (มหาว. อฏฺ. ๙๘) วุตฺตํ. อาปุจฺฉิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘สงฺฆ’’นฺติ เสโส.

๒๔๔๖. วาวโฏติ ปสุโต, ยุตฺตปยุตฺโตติ อตฺโถ. ‘‘ปพฺพาเชตฺวา อานย อิติ จา’’ติ ปทจฺเฉโท. เอตฺถ จ ติธา ปพฺพาชนํ เวทิตพฺพํ เกสจฺเฉทนํ, กาสายอจฺฉาทนํ, สรณทานนฺติ, อิมานิ ตีณิ กโรนฺโต ‘‘ปพฺพาเชตี’’ติ วุจฺจติ. เตสุ เอกํ, ทฺเว วาปิ กโรนฺโต ตถา โวหรียติเยว. ตสฺมา ‘‘ปพฺพาเชตฺวานยา’’ติ อิมินา เกเส ฉินฺทิตฺวา กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา อาเนหีติ อยมตฺโถ ทีปิโตติ ทฏฺพฺโพ.

๒๔๔๗. อวุตฺโตติ อุปชฺฌาเยน อนุยฺโยชิโต. โส ทหโร สเจ ตํ สยเมว เกสจฺเฉทนกาสายจฺฉาทเนหิ ปพฺพาเชติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๔๔๘. ตตฺถาติ อตฺตโน สมีเป. ขณฺฑสีมํ เนตฺวาติ ภณฺฑุกมฺมาโรจนปริหารตฺถํ วุตฺตํ. เตน สภิกฺขุเก วิหาเร อฺมฺปิ ภิกฺขุํ ‘‘เอตสฺส เกเส ฉินฺทา’’ติ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. ปพฺพาเชตฺวาติ เกสจฺเฉทนํ สนฺธาย วทติ.

๒๔๕๐. ‘‘ปุริสํ ภิกฺขุโต อฺโ, ปพฺพาเชติ น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ สรณทานํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘สามเณโร’’ติอาทิ.

๒๔๕๑. อุภินฺนมฺปิ เถรเถรีนํ ‘‘อิเมหิ จีวเรหิ อิมํ อจฺฉาเทหี’’ติ อาณตฺติยา สามเณโรปิ วา โหตุ, ตถา สามเณรี วา โหตุ, เต อุโภ สามเณรสามเณรี กาสายานิ ทาตุํ ลภนฺตีติ โยชนา.

๒๔๕๒-๔. ปพฺพาเชนฺเตน ภิกฺขุนาติ เอตฺถ ‘‘ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ ทตฺวา’’ติ วตฺตพฺพํ เอวฺหิ กตฺวา เกสาปนยนสฺส อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘อาวุโส, สุฏฺุ อุปธาเรหิ, สตึ อุปฏฺาเปหีติ วตฺวา ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตพฺพํ. อาจิกฺขนฺเตน จ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน อสุจิเชคุจฺฉปฏิกฺกูลภาวํ, นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวํ วา ปากฏํ กโรนฺเตน อาจิกฺขิตพฺพ’’นฺติอาทิ. กิมตฺถเมวํ กรียตีติ เจ? สเจ อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน โหติ, ตสฺส ขุรคฺเคเยว อรหตฺตปาปุณนตฺถํ. วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ

‘‘เย หิ เกจิ ขุรคฺเค อรหตฺตํ ปตฺตา, สพฺเพ เต เอวรูปํ สวนํ ลภิตฺวา กลฺยาณมิตฺเตน อาจริเยน ทินฺนนยํ นิสฺสาย, โน อนิสฺสาย, ตสฺมาสฺส อาทิโตว เอวรูปี กถา กเถตพฺพา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔).

เอเตเนว พฺยติเรกโต อิโต อฺา อนิยฺยานิกกถา น กเถตพฺพาติ ทีปิตํ โหติ. โคมยาทินาติ โคมยจุณฺณาทินา. อาทิ-สทฺเทน มตฺติกาทีนํ คหณํ. ปีฬกา วาติ ถุลฺลปีฬกา วา. กจฺฉุ วาติ สุขุมกจฺฉุ วา. นิยํปุตฺตนฺติ อตฺตโน ปุตฺตํ. ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ อิมสฺส ปทสฺส ทูรตฺตา ‘‘ยตินา’’ติ อาห.

๒๔๕๕-๖. กสฺมา ปน เอวํ นหาเปตพฺโพติ อาห ‘‘เอตฺตเกนาปี’’ติอาทิ. โสติ ปพฺพชฺชาเปกฺโข. อุปชฺฌายกาทิสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อาจริยสมานุปชฺฌายกาทีนํ คหณํ. ปาปุณนฺติ หีติ เอตฺถ หิ-สทฺโท ยสฺมา-ปทตฺเถ วตฺตติ. ยสฺมา เอตฺตเกนาปิ อุปชฺฌายาทีสุ สคารโว โหติ, ยสฺมา จ เอวรูปํ อุปการํ ลภิตฺวา กุลปุตฺตา อุปฺปนฺนํ อนภิรตึ ปฏิวิโนเทตฺวา สิกฺขาโย ปริปูเรตฺวา นิพฺพานํ ปาปุณิสฺสนฺติ, ตสฺมา เอวรูโป อุปกาโร กาตพฺโพติ อตฺโถ.

๒๔๕๘. เอกโตติ สพฺพานิ จีวรานิ เอกโต กตฺวา.

๒๔๕๙. อถาติ อธิการนฺตรารมฺเภ นิปาโต. ตสฺส หตฺเถ อทตฺวาปิ อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วาปิ สยเมว ตํ ปพฺพชฺชาเปกฺขํ อจฺฉาเทติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๔๖๐. อทินฺนจีวรสฺส อคฺคเหตพฺพตฺตา อาห ‘‘อปเนตฺวา ตโต สพฺพํ, ปุน ทาตพฺพเมว ต’’นฺติ. ตโตติ ตสฺส สรีรโต. นฺติ จีวรํ.

๒๔๖๑-๒. เอตเทว อาห ‘‘ภิกฺขุนา’’ติอาทินา. อทินฺนํ น วฏฺฏตีติ เอตฺถ ปพฺพชฺชา น รุหตีติ วทนฺติ. ตสฺเสว สนฺตกํ วาปิ จีวรํ อทินฺนํ น วฏฺฏติ อตฺตสนฺตเก อาจริยุปชฺฌายานํ อตฺตโน สนฺตเก จีวเร กา กถา วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อตฺโถ. ภิกฺขูติ เย ตตฺถ สนฺนิปติตา. การาเปตฺวาน อุกฺกุฏินฺติ เอตฺถ สพฺพธาตฺวตฺถานุคโต กโรติ-สทฺโท คหิโตติ อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ, ‘‘อุกฺกุฏิก’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔) อฏฺกถาปาโ คาถาพนฺธสุขตฺถํ อิธ ก-การโลเปน นิทฺทิฏฺโ.

๒๔๖๔. เอกปทํ วาปีติ พุทฺธมิจฺจาทิกํ เอกมฺปิ วา ปทํ. เอกกฺขรมฺปิ วาติ พุการาทิอกฺขเรสุ เอกมฺปิ วา อกฺขรํ. ปฏิปาฏินฺติ ‘‘พุทฺธ’’มิจฺจาทิกํ ปทปนฺตึ.

๒๔๖๕. อกตฺตพฺพปฺปการนฺตรํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ติกฺขตฺตุํ ยทิ วา’’ติอาทิ. ตถา เสเสสูติ ยทิ วา ‘‘ธมฺมํ สรณ’’นฺติ ติกฺขตฺตุํ เทติ, ‘‘สงฺฆํ สรณ’’นฺติ ยทิ วา ติกฺขตฺตุํ เทติ, เอวมฺปิ ตีณิ สรณานิ อทินฺนาเนว โหนฺติ.

๒๔๖๖. อนุนาสิกนฺตานิ กตฺวา ทาตพฺพานีติ สมฺพนฺโธ. อนุนาสิกนฺตํ กตฺวา ทานกาเล อนฺตราวิจฺเฉทํ อกตฺวา ทาตพฺพานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกาพทฺธานิ วา ปนา’’ติ วุตฺตํ. วิจฺฉินฺทิตฺวา ปทปฏิปาฏิโต ม-การนฺตํ กตฺวา ทานสมเย วิจฺเฉทํ กตฺวา. มนฺตานีติ ‘‘พุทฺธํ สรณํ อิจฺจาทินา ม-การนฺตานิ. ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติอาทินา นเยน นิคฺคหิตนฺตเมว กตฺวา น ทาตพฺพนฺติ ‘‘อถา’’ติ อาห.

๒๔๖๗. สุทฺธิ นาม อาจริยสฺส ตฺติยา, กมฺมวาจาย จ อุจฺจารณวิสุทฺธิ. ปพฺพชฺชาติ สามเณรสามเณริปพฺพชฺชา. อุภโตสุทฺธิยา วินาติ อุภโตสุทฺธึ วินา อาจริยนฺเตวาสีนํ อุภินฺนํ ตีสุ สรณตฺตยทานคฺคหเณสุ อุจฺจารณสุทฺธึ วินา, เอกสฺสาปิ อกฺขรสฺส วิปตฺติสพฺภาเว น โหตีติ อตฺโถ.

๒๔๖๘-๙. ‘‘ปพฺพชฺชาคุณมิจฺฉตา’’ติ อิทํ ‘‘อาจริเยน, อนฺเตวาสิเกนา’’ติ ปททฺวยสฺส วิเสสนํ ทฏฺพฺพํ, อนฺเตวาสิกสฺส ปพฺพชฺชาคุณํ อิจฺฉนฺเตน อาจริเยน, อตฺตโน ปพฺพชฺชาคุณํ อิจฺฉนฺเตน อนฺเตวาสิเกน จ พุ-ทฺธ-การาทโย วณฺณา พุ-การ ธ-การาทโย วณฺณา อกฺขรา านกรณสมฺปทํ กณฺตาลุมุทฺธทนฺตโอฏฺนาสิกาเภทํ านสมฺปทฺจ อกฺขรุปฺปตฺติสาธกตมชิวฺหามชฺฌาทิกรณสมฺปทฺจ อหาเปนฺเตน อปริหาเปนฺเตน วตฺตพฺพาติ โยชนา. กสฺมา อิทเมว ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เอกวณฺณวินาเสนา’’ติอาทิ. หิ-สทฺโท ยสฺมา-ปทตฺเถ, ยสฺมา เอกสฺสาปิ วณฺณสฺส วินาเสน อนุจฺจารเณน วา ทุรุจฺจารเณน วา ปพฺพชฺชา น รุหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.

๒๔๗๐. ยทิ สิทฺธาติ สาสงฺกวจเนน อุภโตอุจฺจารณสุทฺธิยา ทุกฺกรตฺตํ ทีเปตฺวา ‘‘อปฺปมตฺเตหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ อุภินฺนํ อาจริยนฺเตวาสิกานํ อนุสิฏฺิ ทินฺนา โหติ. สรณคมนโตวาติ อวธารเณน สามเณรปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา วิย ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน น โหติ, อิทานิปิ สรณคมเนเนว สิชฺฌตีติ ทีเปติ. หิ-สทฺโท ปสิทฺธิยํ. ยถาห –

‘‘ยสฺมา สรณคมเนน อุปสมฺปทา ปรโต ปฏิกฺขิตฺตา, ตสฺมา สา เอตรหิ สรณคมนมตฺเตเนว น รุหติ. สามเณรสฺส ปพฺพชฺชา ปน ยสฺมา ปรโตปิ ‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ตีหิ สรณคมเนหิ สามเณรปพฺพชฺช’นฺติ (มหาว. ๑๐๕) อนุฺาตา เอว, ตสฺมา สา เอตรหิปิ สรณคมนมตฺเตเนว รุหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔).

สรณคมนโต เอว ปพฺพชฺชา ยทิปิ กิฺจาปิ สิทฺธา นิปฺผนฺนา, ตถาปิ อสฺส สามเณรสฺส ‘‘อิทฺจิทฺจ มยา ปูเรตพฺพํ สีล’’นฺติ ตฺวา ปริปูรณตฺถาย ภิกฺขุนา ทส สีลานิ ทาตพฺพานีติ โยชนา. ยถาห ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามเณรานํ ทส สิกฺขาปทานิ, เตสุ จ สามเณเรหิ สิกฺขิตุํ. ปาณาติปาตา เวรมณี’’ติอาทิ (มหาว. ๑๐๖).

ปพฺพชฺชากถาวณฺณนา.

๒๔๗๑. อุปชฺฌายนฺติ วชฺชาวชฺเช อุปนิชฺฌายตีติ อุปชฺฌาโย, ตํ, ภควตา วุตฺเตหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต ปริปุณฺณทสวสฺโส ปุคฺคโล. นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ สิรสิ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา อตฺตโน อภิมุเข อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา ‘‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, โหหี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา อายาจนาย กตาย ‘‘สาหุ, ลหุ, โอปายิกํ, ปฏิรูปํ, ปาสาทิเกน สมฺปาเทหี’’ติ อิเมสุ ปฺจสุ ปเทสุ อฺตรํ กาเยน วา วาจาย วา อุภเยน วา วิฺาเปตฺวา ตสฺมึ สมฺปฏิจฺฉิเต ปิตุฏฺาเน ตฺวา อตฺรชมิว ตํ คเหตฺวา วชฺชาวชฺชํ อุปปริกฺขิตฺวา โทเสน นิคฺคณฺหิตฺวา สทฺธิวิหาริเก สิกฺขาเปนฺโต อุปชฺฌาโย นาม.

วิชฺชาสิปฺปํ, อาจารสมาจารํ วา สิกฺขิตุกาเมหิ อาทเรน จริตพฺโพ อุปฏฺาตพฺโพติ อาจริโย, ตํ, อุปชฺฌาเย วุตฺตลกฺขณสมนฺนาคโตเยว ปุคฺคโล. วุตฺตนเยเนว นิสีทิตฺวา ‘‘อาจริโย เม, ภนฺเต, โหหิ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา อายาจนาย กตาย ‘‘สาหู’’ติอาทีสุ ปฺจสุ อฺตรํ วตฺวา ตสฺมึ สมฺปฏิจฺฉิเต ปิตุฏฺาเน ตฺวา ปุตฺตฏฺานิยํ อนฺเตวาสึ สิกฺขาเปนฺโต อาจริโย นาม.

เอตฺถ จ สาหูติ สาธุ. ลหูติ อครุ, มม ตุยฺหํ อุปชฺฌายภาเว ภาริยํ นตฺถีติ อตฺโถ. โอปายิกนฺติ อุปายปฏิสํยุตฺตํ, ตํ อุปชฺฌายคฺคหณํ อิมินา อุปาเยน ตฺวํ เม อิโต ปฏฺาย ภาโร ชาโตสีติ วุตฺตํ โหติ. ปฏิรูปนฺติ อนุรูปํ เต อุปชฺฌายคฺคหณนฺติ อตฺโถ. ปาสาทิเกนาติ ปสาทาวเหน กายวจีปโยเคน. สมฺปาเทหีติ ติวิธํ สิกฺขํ นิปฺผาเทหีติ อตฺโถ. กาเยน วาติ หตฺถมุทฺทาทึ ทสฺเสนฺโต กาเยน วา. นามวิเสสํ วินา ปูเรตพฺพวตฺตานํ สมตาย อุโภปิ เอกโต วุตฺตา.

เอตานิ วตฺตานิ อุปชฺฌายสฺส สทฺธิวิหาริเกน, อาจริยสฺส อนฺเตวาสิเกนาปิ เอวเมว กาตพฺพาเนวาติ. วสตาติ วสนฺเตน. ปิยสีเลนาติ ปิยํ สีลเมตสฺสาติ ปิยสีโล, เตน, สีลํ ปริปูริตุกาเมนาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๔๗๒-๓. อาสนํ ปฺเปตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘กาลสฺเสว วุฏฺาย อุปาหนา โอมุฺจิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา’’ติ (มหาว. ๖๖) วุตฺตา ปุพฺพกิริยา วตฺตพฺพา. อาสนํ ปฺเปตพฺพนฺติ ทนฺตกฏฺขาทนฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา นิสีทนตฺถาย อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. อิมินา จ ยาคุปานฏฺานาทีสุปิ อาสนานิ ปฺเปตพฺพาเนวาติ ทสฺสิตํ โหติ.

ทนฺตกฏฺํ ทาตพฺพนฺติ มหนฺตํ, มชฺฌิมํ, ขุทฺทกนฺติ ตีณิ ทนฺตกฏฺานิ อุปเนตฺวา ตโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ คณฺหาติ, จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสเมว ทาตพฺพํ. สเจ อนิยมํ กตฺวา ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, อถ ยาทิสํ ลภติ, ตาทิสํ ทาตพฺพํ.

มุโขทกํ ทาตพฺพนฺติ มุขโธวโนทกํ มุโขทกนฺติ มชฺเฌปทโลปีสมาโส, ตํ เทนฺเตน สีตฺจ อุณฺหฺจ อุทกํ อุปเนตฺวา ตโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ วฬฺเชติ, จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสเมว มุขโธวโนทกํ ทาตพฺพํ. สเจ อนิยมํ กตฺวา ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, อถ ยาทิสํ ลภติ, ตาทิสํ ทาตพฺพํ. สเจ ทุวิธมฺปิ วฬฺเชติ, ทุวิธมฺปิ อุปเนตพฺพํ. ‘‘มุโขทกํ มุขโธวนฏฺาเน เปตฺวา อวเสสฏฺานานิ สมฺมชฺชิตพฺพานิ. สมฺมชฺชนฺเตน จ วจฺจกุฏิโต ปฏฺาย สมฺมชฺชิตพฺพํ. เถเร วจฺจกุฏึ คเต ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, เอวํ ปริเวณํ อสุฺํ โหตี’’ติ อฏฺกถายํ (มหาว. อฏฺ. ๖๔ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตนเยเนว สมฺมชฺชิตพฺพํ.

ตโต อุตฺตรึ กตฺตพฺพํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตสฺส กาเลนา’’ติอาทิ. ตสฺสาติ อุปชฺฌายสฺส วา อาจริยสฺส วา. กาเลนาติ ยาคุปานกาเล. อิธาปิ ‘‘อาสนํ ปฺเปตพฺพ’’นฺติ เสโส. ยถาห ‘‘เถเร วจฺจกุฏิโต อนิกฺขนฺเตเยว อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. สรีรกิจฺจํ กตฺวา อาคนฺตฺวา ตสฺมึ นิสินฺนสฺส ‘สเจ ยาคุ โหตี’ติอาทินา นเยน วุตฺตํ วตฺตํ กาตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๖๔).

ยาคุ ตสฺสุปเนตพฺพาติ เอตฺถ ‘‘ภาชนํ โธวิตฺวา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘ภาชนํ โธวิตฺวา ยาคุ อุปนาเมตพฺพา’’ติ (มหาว. ๖๖). สงฺฆโต วาติ สลากาทิวเสน สงฺฆโต ลพฺภมานา วา. กุลโตปิ วาติ อุปาสกาทิกุลโต วา.

‘‘ปตฺเต วตฺตฺจ กาตพฺพ’’นฺติ อิทํ ‘‘ยาคุํ ปีตสฺส อุทกํ ทตฺวา ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา ปฏิสาเมตพฺพํ, อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ. สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, โส เทโส สมฺมชฺชิตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๖๖) อาคตวตฺตํ สนฺธายาห. ทิวา ภุตฺตปตฺเตปิ กาตพฺพํ เอเตเนว ทสฺสิตํ โหติ.

วตฺตํ ‘‘คามปฺปเวสเน’’ติ อิทํ ‘‘สเจ อุปชฺฌาโย คามํ ปวิสิตุกาโม โหติ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (มหาว. ๖๖) วตฺตํ สนฺธายาห. ‘‘กาตพฺพ’’นฺติ อิทํ สพฺพปเทหิ โยเชตพฺพํ.

๒๔๗๔. จีวเร ยานิ วตฺตานีติ คามํ ปวิสิตุกามสฺส จีวรทาเน, ปฏินิวตฺตสฺส จีวรคฺคหณสงฺฆรณปฏิสามเนสุ มเหสินา ยานิ วตฺตานิ วุตฺตานิ, ตานิ จ กาตพฺพานิ. เสนาสเน ตถาติ ‘‘ยสฺมึ วิหาเร อุปชฺฌาโย วิหรตี’’ติอาทินา (มหาว. ๖๖) วุตฺตนเยน ‘‘เสนาสเน กตฺตพฺพ’’นฺติ ทสฺสิตํ เสนาสนวตฺตฺจ.

ปาทปีกถลิกาทีสุ ตถาติ โยชนา. อุปชฺฌาเย คามโต ปฏินิวตฺเต จ ชนฺตาฆเร จ ‘‘ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๖๖) เอวมาคตํ วตฺตฺจ กาตพฺพํ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อุปชฺฌาโย ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ’’ติอาทิวตฺตํ (มหาว. ๖๖) สงฺคณฺหาติ.

๒๔๗๕. เอวํ สพฺพตฺถ วตฺเตสุ ปาฏิเยกฺกํ ทสฺสิยมาเนสุ ปปฺโจติ ขนฺธกํ โอโลเกตฺวา สุขคฺคหณตฺถาย คณนํ ทสฺเสตุกาโม อาห ‘‘เอวมาทีนี’’ติอาทิ. โรคโต วุฏฺานาคมนนฺตานีติ อาจริยุปชฺฌายานํ โรคโต วุฏฺานาคมนปริโยสานานิ. สตฺตตึสสตํ สิยุนฺติ สตฺตตึสาธิกสตวตฺตานีติ อตฺโถ.

ตานิ ปน วตฺตานิ ขนฺธกปาฬิยา (มหาว. ๖๖) อาคตกฺกเมน เอวํ ยถาวุตฺตคณนาย สมาเนตพฺพานิ – ทนฺตกฏฺทานํ, มุโขทกทานํ, อาสนปฺาปนํ, สเจ ยาคุ โหติ, ภาชนํ โธวิตฺวา ยาคุยา อุปนามนํ, ยาคุํ ปีตสฺส อุทกํ ทตฺวา ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา ปฏิสามนํ, อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนสฺส อุทฺธรณํ, สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, ตสฺส สมฺมชฺชนํ, สเจ อุปชฺฌาโย คามํ ปวิสิตุกาโม โหติ, ตสฺส นิวาสนทานํ, ปฏินิวาสนปฏิคฺคหณํ, กายพนฺธนทานํ, สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิทานํ, โธวิตฺวา โสทกปตฺตสฺส ทานํ, สเจ อุปชฺฌาโย ปจฺฉาสมณํ อากงฺขติ, ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ปารุปิตฺวา คณฺิกํ ปริมุฺจิตฺวา โธวิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา อุปชฺฌายสฺส ปจฺฉาสมเณน คมนํ, นาติทูรนจฺจาสนฺเน คมนํ, ปตฺตปริยาปนฺนสฺส ปฏิคฺคหณํ, น อุปชฺฌายสฺส ภณมานสฺส อนฺตรนฺตรา กถาโอปาตนํ, อุปชฺฌายสฺส อาปตฺติสามนฺตา ภณมานสฺส จ นิวารณํ, นิวตฺตนฺเตน ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนปฺาปนํ, ปาโททกปาทปีปาทกถลิกานํ อุปนิกฺขิปนํ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรปฏิคฺคหณํ, ปฏินิวาสนทานํ, นิวาสนปฏิคฺคหณํ, สเจ จีวรํ สินฺนํ โหติ, มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาปนํ, เนว อุณฺเห จีวรสฺส นิทหนํ, มชฺเฌ ยถา ภงฺโค น โหติ, เอวํ จตุรงฺคุลํ กณฺณํ อุสฺสาเรตฺวา จีวรสฺส สงฺฆรณํ, โอโภเค กายพนฺธนสฺส กรณํ, สเจ ปิณฺฑปาโต โหติ, อุปชฺฌาโย จ ภุฺชิตุกาโม โหติ, อุทกํ ทตฺวา ปิณฺฑปาตสฺส อุปนามนํ, อุปชฺฌายสฺส ปานีเยน ปุจฺฉนํ, ภุตฺตาวิสฺส อุทกํ ทตฺวา ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา โวทกํ กตฺวา มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาปนํ, น จ อุณฺเห ปตฺตสฺส นิทหนํ, ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ –

ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺตสฺส นิกฺขิปนํ, น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺตสฺส นิกฺขิปนํ, จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรสฺส นิกฺขิปนํ, อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนสฺส อุทฺธรณํ, ปาโททกปาทปีปาทกถลิกานํ ปฏิสามนํ, สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, ตสฺส สมฺมชฺชนํ, สเจ อุปชฺฌาโย นฺหายิตุกาโม โหติ, นฺหานสฺส ปฏิยาทนํ, สเจ สีเตน อตฺโถ โหติ, สีตสฺส สเจ อุณฺเหน อตฺโถ โหติ, อุณฺหสฺส ปฏิยาทนํ, สเจ อุปชฺฌาโย ชนฺตาฆรํ ปวิสิตุกาโม โหติ, จุณฺณสฺส สนฺนยนํ, มตฺติกาเตมนํ, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย อุปชฺฌายสฺส ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คนฺตฺวา ชนฺตาฆรปีํ ทตฺวา จีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, จุณฺณทานํ, มตฺติกาทานํ, สเจ อุสฺสหติ, ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ –

ชนฺตาฆรํ ปวิสนฺเตน มตฺติกาย มุขํ มกฺเขตฺวา ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรปฺปเวโส, น เถรานํ ภิกฺขูนํ อนุปขชฺช นิสีทนํ, น นวานํ ภิกฺขูนํ อาสเนน ปฏิพาหนํ, ชนฺตาฆเร อุปชฺฌายสฺส ปริกมฺมสฺส กรณํ, ชนฺตาฆรา นิกฺขมนฺเตน ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรา นิกฺขมนํ, อุทเกปิ อุปชฺฌายสฺส ปริกมฺมกรณํ, นฺหาเตน ปมตรํ อุตฺตริตฺวา อตฺตโน คตฺตํ โวทกํ กตฺวา นิวาเสตฺวา อุปชฺฌายสฺส คตฺตโต อุทกสฺส ปมชฺชนํ, นิวาสนทานํ, สงฺฆาฏิทานํ, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนสฺส ปฺาปนํ, ปาโททกปาทปีปาทกถลิกานํ อุปนิกฺขิปนํ, อุปชฺฌายสฺส ปานีเยน ปุจฺฉนํ, สเจ อุทฺทิสาเปตุกาโม โหติ, อุทฺทิสาปนํ, สเจ ปริปุจฺฉิตุกาโม โหติ, ปริปุจฺฉนํ, ยสฺมึ วิหาเร อุปชฺฌาโย วิหรติ, สเจ โส วิหาโร อุกฺลาโป โหติ, สเจ อุสฺสหติ, ตสฺส โสธนํ, วิหารํ โสเธนฺเตน ปมํ ปตฺตจีวรสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, นิสีทนปจฺจตฺถรณสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, ภิสิพิพฺโพหนสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, มฺจสฺส นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, ปีสฺส นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, มฺจปฏิปาทกานํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, เขฬมลฺลกสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, อปสฺเสนผลกสฺส นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, ภูมตฺถรณสฺส ยถาปฺตฺตสฺส สลฺลกฺเขตฺวา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปนํ, สเจ วิหาเร สนฺตานกํ โหติ, อุลฺโลกา ปมํ โอหารณํ, อาโลกสนฺธิกณฺณภาคานํ ปมชฺชนํ, สเจ เครุกปริกมฺมกตา ภิตฺติ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชนํ, สเจ กาฬวณฺณกตา ภูมิ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชนํ, สเจ อกตา โหติ ภูมิ, อุทเกน ปริปฺโผสิตฺวา ปมชฺชนํ ‘‘มา วิหาโร รเชน อุหฺี’’ติ, สงฺการํ วิจินิตฺวา เอกมนฺตํ ฉฑฺฑนํ, ภูมตฺถรณสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, มฺจปฏิปาทกานํ โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาฏฺาเน ปนํ, มฺจสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, ปีสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, ภิสิพิพฺโพหนสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, นิสีทนปจฺจตฺถรณสฺส โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาปนํ, เขฬมลฺลกสฺส โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาฏฺาเน ปนํ, อปสฺเสนผลกสฺส โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาฏฺาเน ปนํ, ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ –

ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺตสฺส นิกฺขิปนํ, น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺตสฺส นิกฺขิปนํ, จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรสฺส นิกฺขิปนํ, สเจ ปุรตฺถิมาย สรชา วาตา วายนฺติ, ปุรตฺถิมานํ วาตปานานํ ถกนํ, ตถา ปจฺฉิมานํ, ตถา อุตฺตรานํ, ตถา ทกฺขิณานํ วาตปานานํ ถกนํ, สเจ สีตกาโล โหติ, ทิวา วาตปานานํ วิวรณํ, รตฺตึ ถกนํ, สเจ อุณฺหกาโล โหติ, ทิวา วาตปานานํ ถกนํ, รตฺตึ วิวรณํ, สเจ ปริเวณํ อุกฺลาปํ โหติ, ปริเวณสฺส สมฺมชฺชนํ, สเจ โกฏฺโก อุกฺลาโป โหติ, โกฏฺกสฺส สมฺมชฺชนํ, สเจ อุปฏฺานสาลา อุกฺลาปา โหติ, ตสฺสา สมฺมชฺชนํ, สเจ อคฺคิสาลา อุกฺลาปา โหติ, ตสฺสา สมฺมชฺชนํ, สเจ วจฺจกุฏิ อุกฺลาปา โหติ, ตสฺสา สมฺมชฺชนํ, สเจ ปานียํ น โหติ, ปานียสฺส อุปฏฺาปนํ, สเจ ปริโภชนียํ น โหติ, ปริโภชนียสฺส อุปฏฺาปนํ, สเจ อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ น โหติ, อาจมนกุมฺภิยา อุทกสฺส อาสิฺจนํ, สเจ อุปชฺฌายสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วูปกาสนํ วูปกาสาปนํ วา, ธมฺมกถาย วา ตสฺส กรณํ, สเจ อุปชฺฌายสฺส กุกฺกุจฺจํ อุปฺปนฺนํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วิโนทนํ วิโนทาปนํ วา, ธมฺมกถาย วา ตสฺส กรณํ, สเจ อุปชฺฌายสฺส ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วิเวจนํ วิเวจาปนํ วา, ธมฺมกถาย วา ตสฺส กรณํ, สเจ อุปชฺฌาโย ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส ปริวาสํ ทเทยฺยา’’ติ, สเจ อุปชฺฌาโย มูลายปฏิกสฺสนารโห โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายํ มูลาย ปฏิกสฺเสยฺยา’’ติ, สเจ อุปชฺฌาโย มานตฺตารโห โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส มานตฺตํ ทเทยฺยา’’ติ, สเจ อุปชฺฌาโย อพฺภานารโห โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายํ อพฺเภยฺยา’’ติ, สเจ สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ กตฺตุกาโม โหติ ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ น กเรยฺย, ลหุกาย วา ปริณาเมยฺยา’’ติ, กตํ วา ปนสฺส โหติ สงฺเฆน กมฺมํ ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกกรณํ ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌาโย สมฺมา วตฺเตยฺย, โลมํ ปาเตยฺย, เนตฺถารํ วตฺเตยฺย, สงฺโฆ ตํ กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยา’’ติ, สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ โธวิตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน โธวนํ อุสฺสุกฺกกรณํ วา ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ โธวิเยถา’’ติ, สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ กาตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน กรณํ อุสฺสุกฺกกรณํ วา ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ กริเยถา’’ติ, สเจ อุปชฺฌายสฺส รชนํ ปจิตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน ปจนํ อุสฺสุกฺกกรณํ วา ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส รชนํ ปจิเยถา’’ติ, สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ รเชตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน รชนํ อุสฺสุกฺกกรณํ วา ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ รชิเยถา’’ติ, จีวรํ รชนฺเตน สาธุกํ สมฺปริวตฺตกํ สมฺปริวตฺตกํ รชนํ, น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมนํ, อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา น เอกจฺจสฺส ปตฺตทานํ, น เอกจฺจสฺส ปตฺตปฏิคฺคหณํ, น เอกจฺจสฺส จีวรทานํ, น เอกจฺจสฺส จีวรปฏิคฺคหณํ, น เอกจฺจสฺส ปริกฺขารทานํ, น เอกจฺจสฺส ปริกฺขารปฏิคฺคหณํ, น เอกจฺจสฺส เกสจฺเฉทนํ, น เอกจฺเจน เกสานํ เฉทาปนํ, น เอกจฺจสฺส ปริกมฺมกรณํ, น เอกจฺเจน ปริกมฺมสฺส การาปนํ, น เอกจฺจสฺส เวยฺยาวจฺจกรณํ, น เอกจฺเจน เวยฺยาวจฺจสฺส การาปนํ, น เอกจฺจสฺส ปจฺฉาสมเณน คมนํ, น เอกจฺจสฺส ปจฺฉาสมณสฺส อาทานํ, น เอกจฺจสฺส ปิณฺฑปาตสฺส นีหรณํ, น เอกจฺเจน ปิณฺฑปาตนีหราปนํ, น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา คามปฺปเวสนํ, น สุสานคมนํ, น ทิสาปกฺกมนํ, สเจ อุปชฺฌาโย คิลาโน โหติ, ยาวชีวํ อุปฏฺานํ, วุฏฺานมสฺส อาคมนนฺติ เตสุ กานิจิ วตฺตานิ สวิภตฺติกานิ, กานิจิ อวิภตฺติกานิ, เตสุ อวิภตฺติกานํ วิภาเค วุจฺจมาเน ยถาวุตฺตคณนาย อติเรกตรานิ โหนฺติ, ตํ ปน วิภาคํ อนามสิตฺวา ปิณฺฑวเสน คเหตฺวา ยถา อยํ คณนา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.

๒๔๗๖. อกโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘วตฺต’’นฺติ เสโส. อนาทรวเสเนว วตฺตํ อกโรนฺตสฺส ภิกฺขุโน เตน วตฺตเภเทน วตฺตากรเณน สพฺพตฺถ สตฺตตึสาธิกสตปฺปเภทฏฺาเน ตตฺตกํเยว ทุกฺกฏํ ปกาสิตนฺติ โยชนา.

อุปชฺฌายาจริยวตฺตกถาวณฺณนา.

๒๔๗๗. เอวํ อุปชฺฌายาจริยวตฺตานิ สงฺเขเปน ทสฺเสตฺวา อุปชฺฌายาจริเยหิ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสีนํ กาตพฺพวตฺตานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปชฺฌายสฺส วตฺตานี’’ติอาทิ. อุปชฺฌายสฺส วตฺตานีติ อุปชฺฌาเยน สทฺธิวิหาริกสฺส ยุตฺตปตฺตกาเล กตฺตพฺพตฺตา อุปชฺฌายายตฺตวตฺตานีติ อตฺโถ. ตถา สทฺธิวิหาริเกติ ยถา สทฺธิวิหาริเกน อุปชฺฌายสฺส กาตพฺพานิ, ตถา อุปชฺฌาเยน สทฺธิวิหาริเก กาตพฺพานิ.

อุปชฺฌายาจริยวตฺเตสุ คามปฺปเวเส ปจฺฉาสมเณน หุตฺวา นาติทูรนจฺจาสนฺนคมนํ, น อนฺตรนฺตรา กถาโอปาตนํ, อาปตฺติสามนฺตา ภณมานสฺส นิวารณํ, ปตฺตปริยาปนฺนปฏิคฺคหณนฺติ จตฺตาริ วตฺตานิ, น เอกจฺจสฺส ปตฺตทานาทิอนาปุจฺฉาทิสาปกฺกมนาวสานานิ วีสติ ปฏิกฺเขปา เจติ เอตานิ จตุวีสติ วตฺตานิ เปตฺวา อวเสสานิ เตรสาธิกสตวตฺตานิ สนฺธายาห ‘‘สตํ เตรส โหนฺเตวา’’ติ, เตรสาธิกสตวตฺตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ. อาจริเยน อนฺเตวาสิเกปิ จ กาตพฺพวตฺตานิ ตถา ตตฺตกาเนวาติ อตฺโถ.

สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา.

๒๔๗๘. อุปชฺฌายาจริเยหิ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิกานํ นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปกฺกนฺเต วาปี’’ติอาทิ. ปกฺกนฺเต วาปิ วิพฺภนฺเต วาปิ ปกฺขสงฺกนฺเต วาปิ มเต วาปิ อาณตฺติยา วาปิ เอวํ ปฺจธา อุปชฺฌายา สทฺธิวิหาริเกน คหิโต นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ โยชนา. ปกฺกนฺเตติ ตทหุ อปจฺจาคนฺตุกามตาย ทิสํ คเต. วิพฺภนฺเตติ คิหิภาวํ ปตฺเต. ปกฺขสงฺกนฺตเกติ ติตฺถิยายตนํ คเต. มเตติ กาลกเต. อาณตฺติยาติ นิสฺสยปณามเนน.

๒๔๗๙-๘๐. อาจริยมฺหาปิ อนฺเตวาสิเกน คหิตนิสฺสยสฺส เภทนํ ฉธา ฉปฺปกาเรน โหตีติ โยชนา. กถนฺติ อาห ‘‘ปกฺกนฺเต จา’’ติอาทิ. ตํ อุปชฺฌายโต นิสฺสยเภเท วุตฺตนยเมว. วิเสสํ ปน สยเมว วกฺขติ ‘‘อาณตฺติย’’นฺติอาทินา. อาณตฺติยนฺติ เอตฺถ วิเสสตฺถโชตโก ปน-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. อุภินฺนมฺปิ ธุรนิกฺเขปเนปิ จาติ อาจริยสฺส นิสฺสยปณามเน ปน อุภินฺนํ อาจริยนฺเตวาสิกานํเยว อฺมฺนิราลยภาเว สติ นิสฺสยเภโท โหติ, น เอกสฺสาติ อตฺโถ. ตเมวตฺถํ พฺยติเรกโต ทฬฺหีกโรติ ‘‘เอเกกสฺสา’’ติอาทินา. เอเกกสฺส วา อุภินฺนํ วา อาลเย สติ น ภิชฺชตีติ โยชนา. ยถาห –

‘‘อาณตฺติยํ ปน สเจปิ อาจริโย มุฺจิตุกาโมว หุตฺวา นิสฺสยปณามนาย ปณาเมติ, อนฺเตวาสิโก จ ‘กิฺจาปิ มํ อาจริโย ปณาเมติ, อถ โข หทเยน มุทุโก’ติ สาลโยว โหติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว. สเจปิ อาจริโย สาลโย, อนฺเตวาสิโก นิราลโย ‘น ทานิ อิมํ นิสฺสาย วสิสฺสามี’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, เอวมฺปิ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุภินฺนํ สาลยภาเว ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว. อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๘๓).

อยํ ปน วิเสโส อาจริยาณตฺติยา นิสฺสยเภเทเยว ทสฺสิโต, น อุปชฺฌายาณตฺติยา. สารตฺถทีปนิยํ ปน ‘‘สเจปิ อาจริโย มุฺจิตุกาโมว หุตฺวา นิสฺสยปณามนาย ปณาเมตีติอาทิ สพฺพํ อุปชฺฌายสฺส อาณตฺติยมฺปิ เวทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

๒๔๘๑. เอวํ ปฺจ สาธารณงฺคานิ ทสฺเสตฺวา อสาธารณงฺคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปชฺฌายสโมธาน-คตสฺสาปิ จ ภิชฺชตี’’ติ. ตตฺถ สโมธานคมนํ สรูปโต, ปเภทโต จ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทสฺสนํ สวนฺจาติ, สโมธานํ ทฺวิธา มต’’นฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ (มหาว. อฏฺ. ๘๓) คเหตพฺโพ. คนฺถวิตฺถารภีรูนํ อนุคฺคหาย ปน อิธ น วิตฺถาริโต.

๒๔๘๒-๓. สภาเค ทายเก อสนฺเต อทฺธิกสฺส จ คิลานสฺส จ ‘‘คิลาเนน มํ อุปฏฺหา’’ติ ยาจิตสฺส คิลานุปฏฺากสฺส จ นิสฺสยํ วินา วสิตุํ โทโส นตฺถีติ โยชนา. ‘‘คิลานุปฏฺากสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ. อิมินา สภาเค นิสฺสยทายเก สนฺเต เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร น ลพฺภตีติ ทีเปติ. อตฺตโน วเน ผาสุวิหารตํ ชานตาติ อตฺตโน สมถวิปสฺสนาปฏิลาภสฺส วเน ผาสุวิหารํ ชานนฺเตนปิ. ‘‘สภาเค ทายเก อสนฺเต’’ติ ปทจฺเฉโท. สพฺพเมตํ วิธานํ อนฺโตวสฺสโต อฺสฺมึ กาเล เวทิตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกาย คเหตพฺโพ.

นิสฺสยปฏิปฺปสฺสมฺภนกถาวณฺณนา.

๒๔๘๔. กุฏฺมสฺส อตฺถีติ กุฏฺี, ตํ. ‘‘คณฺฑิ’’นฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. รตฺตเสตาทิเภเทน เยน เกนจิ กุฏฺเน เววณฺณิยํ ปตฺตสรีรนฺติ อตฺโถ. ยถาห –

‘‘รตฺตกุฏฺํ วา โหตุ กาฬกุฏฺํ วา, ยํ กิฺจิ กิฏิภททฺทุกจฺฉุอาทิปฺปเภทมฺปิ สพฺพํ กุฏฺเมวาติ วุตฺตํ. ตฺเจ นขปิฏฺิปฺปมาณมฺปิ วฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน นิวาสนปารุปเนหิ ปกติปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นขปิฏฺิปฺปมาณํ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, วฏฺฏติ. มุเข, ปน หตฺถปาทปิฏฺเสุ วา สเจปิ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ นขปิฏฺิโต ขุทฺทกปมาณมฺปิ น วฏฺฏติเยวาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ตํ ติกิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชนฺเตนาปิ ปกติวณฺเณ ชาเตเยว ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๘๘).

นขปิฏฺิปฺปมาณนฺติ เอตฺถ ‘‘กนิฏฺงฺคุลินขปิฏฺิ อธิปฺเปตา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.

คณฺฑินฺติ เมทคณฺฑาทิคณฺฑเภทวนฺตํ. ยถาห ‘‘เมทคณฺโฑ วา โหตุ อฺโ วา, โย โกจิ โกลฏฺิมตฺตโกปิ เจ วฑฺฒนกปกฺเข ิโต คณฺโฑ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติอาทิ (มหาว. อฏฺ. ๘๘). โกลฏฺีติ พทรฏฺิ. กิลาสินฺติ กิลาสวนฺตํ. ยถาห – ‘‘กิลาโสติ นภิชฺชนกํ นปคฺฆรณกํ ปทุมปุณฺฑรีกปตฺตวณฺณํ กุฏฺํ, เยน คุนฺนํ วิย สพลํ สรีรํ โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๘๘). -สทฺโท สพฺเพหิ อุปโยควนฺเตหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. โสสินฺติ ขยโรควนฺตํ. ยถาห – ‘‘โสโสติ โสสพฺยาธิ. ตสฺมึ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๘๘). อปมาริกนฺติ อปมารวนฺตํ. ยถาห – ‘‘อปมาโรติ ปิตฺตุมฺมาโร วา ยกฺขุมฺมาโร วา. ตตฺถ ปุพฺพเวริเกน อมนุสฺเสน คหิโต ทุตฺติกิจฺโฉ โหติ, อปฺปมตฺตเกปิ ปน อปมาเร สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ.

ราชภฏนฺติ รฺโ ภตฺตเวตนภฏํ วา านนฺตรํ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา ราชปุริสํ. ยถาห – ‘‘อมจฺโจ วา โหตุ มหามตฺโต วา เสวโก วา กิฺจิ านนฺตรํ ปตฺโต วา อปฺปตฺโต วา, โย โกจิ รฺโ ภตฺตเวตนภโฏ. สพฺโพ ‘ราชภโฏ’ติ สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติ. โจรนฺติ มนุสฺเสหิ อปฺปมาทนํ คามฆาตปนฺถฆาตาทิกมฺเมน ปากฏํ โจรฺจ. ลิขิตกนฺติ ยํ กฺจิ โจริกํ วา อฺํ วา ครุํ ราชาปราธํ กตฺวา ปลาตํ, ราชา จ นํ ปณฺเณ วา โปตฺถเก วา ‘‘อิตฺถนฺนาโม ยตฺถ ทิสฺสติ, ตตฺถ คเหตฺวา มาเรตพฺโพ’’ติ วา ‘‘หตฺถปาทาทีนิสฺส ฉินฺทิตพฺพานี’’ติ วา ‘‘เอตฺตกํ นาม ทณฺฑํ หราเปตพฺโพ’’ติ วา ลิขาเปติ, เอวรูปํ ลิขิตกํ.

‘‘การเภทก’’นฺติ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต. การเภทกนฺติ ทาตพฺพกรสฺส วา กตโจรกมฺมสฺส วา การณา การาฆเร ปกฺขิตฺโต วา นิคฬพนฺธนาทีหิ พทฺโธ วา, ตโต โส มุจฺจิตฺวา ปลายติ, เอวรูปํ การาเภทกฺจ. ยถาห – ‘‘การา วุจฺจติ พนฺธนาคารํ, อิธ ปน อนฺทุพนฺธนํ วา โหตุ สงฺขลิกพนฺธนํ วา รชฺชุพนฺธนํ วา คามพนฺธนํ วา นิคมพนฺธนํ วา นครพนฺธนํ วา ปุริสคุตฺติ วา ชนปทพนฺธนํ วา ทีปพนฺธนํ วา, โย เอเตสุ ยํ กิฺจิ พนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา ภินฺทิตฺวา มุฺจิตฺวา วิวริตฺวา วา ปสฺสมานานํ วา อปสฺสมานานํ วา ปลายติ, โส ‘การาเภทโก’ติ สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๙๒).

๒๔๘๕. กสาหตนฺติ อิณํ คเหตฺวา ทาตุํ อสมตฺถตฺตา ‘‘อยเมว เต ทณฺโฑ โหตู’’ติ กสาทินา ทินฺนปฺปหารํ อวูปสนฺตวณํ. ยถาห –

‘‘โย วจนเปสนาทีนิ อกโรนฺโต หฺติ, น โส กตทณฺฑกมฺโม. โย ปน เกณิยา วา อฺถา วา กิฺจิ คเหตฺวา ขาทิตฺวา ปุน ทาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘อยเมว เต ทณฺโฑ โหตู’ติ กสาหิ หฺติ, อยํ กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม. โย จ กสาหิ วา หโต โหตุ อทฺธทณฺฑกาทีนํ วา อฺตเรน, ยาว อลฺลวโณ โหติ, ตาว น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๙๔).

ลกฺขณาหตนฺติ เอกํสํ กตฺวา ปารุเตน อุตฺตราสงฺเคน อปฺปฏิจฺฉาทนียฏฺาเน ตตฺเตน โลเหน อาหตํ อสจฺฉวิภูตลกฺขเณน สมนฺนาคตํ. ยถาห –

‘‘ยสฺส ปน นลาเฏ วา อุราทีสุ วา ตตฺเตน โลเหน ลกฺขณํ อาหตํ โหติ, โส สเจ ภุชิสฺโส, ยาว อลฺลวโณ โหติ, ตาว น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิสฺส วณา รุฬฺหา โหนฺติ ฉวิยา สมปริจฺเฉทา, ลกฺขณํ ปน ปฺายติ, ติมณฺฑลํ นิวตฺถสฺส อุตฺตราสงฺเค กเต ปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ โหติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อปฺปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ, น วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๙๕).

อิณายิกฺจาติ มาตาปิตุปิตามหาทีหิ วา อตฺตนา วา คหิตอิณํ. ยถาห –

‘‘อิณายิโก นาม ยสฺส ปิติปิตามเหหิ วา อิณํ คหิตํ โหติ, สยํ วา อิณํ คหิตํ โหติ, ยํ วา อาเปตฺวา มาตาปิตูหิ กิฺจิ คหิตํ โหติ, โส ตํ อิณํ ปเรสํ ธาเรตีติ อิณายิโก. ยํ ปน อฺเ าตกา อาเปตฺวา กิฺจิ คณฺหนฺติ, โส น อิณายิโก. น หิ เต ตํ อาเปตุํ อิสฺสรา. ตสฺมา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๙๖).

ทาสนฺติ อนฺโตชาโต, ธนกฺกีโต, กรมรานีโต, สยํ วา ทาสพฺยํ อุปคโตติ จตุนฺนํ ทาสานํ อฺตรํ. ทาสวินิจฺฉโย ปเนตฺถ สมนฺตปาสาทิกาย (มหาว. อฏฺ. ๙๗) วิตฺถารโต คเหตพฺโพ. ปพฺพาเชนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ ‘‘กุฏฺิ’’นฺติอาทีหิ อุปโยควนฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ.

๒๔๘๖. หตฺถจฺฉินฺนนฺติ หตฺถตเล วา มณิพนฺเธ วา กปฺปเร วา ยตฺถ กตฺถจิ ฉินฺนหตฺถํ. อฏฺจฺฉินฺนนฺติ ยถา นขํ น ปฺายติ, เอวํ จตูสุ องฺคุฏฺเกสุ อฺตรํ วา สพฺเพ วา ยสฺส ฉินฺนา โหนฺติ, เอวรูปํ. ปาทจฺฉินฺนนฺติ ยสฺส อคฺคปาเทสุ วา โคปฺผเกสุ วา ชงฺฆาย วา ยตฺถ กตฺถจิ เอโก วา ทฺเว วา ปาทา ฉินฺนา โหนฺติ. หตฺถปาทฉินฺนสฺสาปิ ปาฬิยํ (มหาว. ๑๑๙) อาคตตฺตา โสปิ อิธ วตฺตพฺโพ, ยถาวุตฺตนเยเนว ตสฺส ทุกฺกฏวตฺถุตา ปฺายตีติ น วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ.

กณฺณนาสงฺคุลิจฺฉินฺนนฺติ เอตฺถ ‘‘กณฺณจฺฉินฺนํ นาสจฺฉินฺนํ กณฺณนาสจฺฉินฺนํ องฺคุลิจฺฉินฺน’’นฺติ โยชนา. กณฺณจฺฉินฺนนฺติ ยสฺส กณฺณมูเล วา กณฺณสกฺขลิกาย วา เอโก วา ทฺเว วา กณฺณา ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน กณฺณาวฏฺเฏ ฉินฺนา โหนฺติ, สกฺกา จ โหนฺติ สงฺฆาเฏตุํ, โส กณฺณํ สงฺฆาเฏตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. นาสจฺฉินฺนนฺติ ยสฺส อชปทเก วา อคฺเค วา เอกปุเฏ วา ยตฺถ กตฺถจิ นาสา ฉินฺนา โหติ. ยสฺส ปน นาสิกา สกฺกา โหติ สนฺเธตุํ, โส ตํ ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. กณฺณนาสจฺฉินฺนนฺติ ตทุภยจฺฉินฺนํ. องฺคุลิจฺฉินฺนนฺติ ยสฺส นขเสสํ อทสฺเสตฺวา เอกา วา พหู วา องฺคุลิโย ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน สุตฺตตนฺตุมตฺตมฺปิ นขเสสํ ปฺายติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. กณฺฑรจฺฉินฺนเมว จาติ ยสฺส กณฺฑรนามกา มหานฺหารู ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ฉินฺนา โหนฺติ, เยสุ เอกสฺสาปิ ฉินฺนตฺตา อคฺคปาเทน วา จงฺกมติ, มูเลน วา จงฺกมติ, น วา ปาทํ ปติฏฺาเปตุํ สกฺโกติ.

๒๔๘๗. กาณนฺติ ปสนฺนนฺโธ วา โหตุ ปุปฺผาทีหิ วา อุปหตปสาโท, โย ทฺวีหิ วา เอเกน วา อกฺขินา น ปสฺสติ, ตํ กาณํ. กุณินฺติ หตฺถกุณี วา ปาทกุณี วา องฺคุลิกุณี วา, ยสฺส เอเตสุ หตฺถาทีสุ ยํ กิฺจิ วงฺกํ ปฺายติ, โส กุณี. ขุชฺชฺจาติ โย อุรสฺส วา ปิฏฺิยา วา ปสฺสสฺส วา นิกฺขนฺตตฺตา ขุชฺชสรีโร, ตํ ขุชฺชํ. ยสฺส ปน กิฺจิ กิฺจิ องฺคปจฺจงฺคํ อีสกํ วงฺกํ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มหาปุริโส เอว หิ พฺรหฺมุชุคตฺโต, อวเสโส สตฺโต อขุชฺโช นาม นตฺถิ.

วามนนฺติ โย ชงฺฆวามโน วา กฏิวามโน วา อุภยวามโน วา, ตํ. ตตฺถ ชงฺฆวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย เหฏฺิมกาโย รสฺโส โหติ, อุปริมกาโย ปริปุณฺโณ. กฏิวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย อุปริมกาโย รสฺโส โหติ, เหฏฺิมกาโย ปริปุณฺโณ โหติ. อุภยวามนสฺส อุโภปิ กายา รสฺสา โหนฺติ. เยสํ กายรสฺสตฺตา ภูตานํ วิย ปริวฏุโม มหากุจฺฉิฆฏสทิโส อตฺตภาโว โหติ. ตํ ติวิธมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ.

ผณหตฺถกนฺติ ยสฺส วคฺคุลิปกฺขกา วิย องฺคุลิโย สมฺพทฺธา โหนฺติ, ตํ. เอตํ ปพฺพาเชตุกาเมน องฺคุลนฺตริกาโย ผาเลตฺวา สพฺพํ อนฺตรจมฺมํ อปเนตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺสาปิ ฉ องฺคุลิโย โหนฺติ, ตํ ปพฺพาเชตุกาเมน อธิกํ องฺคุลึ ฉินฺทิตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ.

ขฺชนฺติ โย นตชาณุโก วา ภินฺนชงฺโฆ วา มชฺเฌ สํกุฏิตปาทตฺตา กุณฺฑปาทโก วา ปิฏฺิปาทมชฺเฌน จงฺกมนฺโต อคฺเค สํกุฏิตปาทตฺตา กุณฺฑปาทโก วา ปิฏฺิปาทคฺเคน จงฺกมนฺโต อคฺคปาเทเนว จงฺกมนขฺโช วา ปณฺหิกาย จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส พาหิรนฺเตน จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส อพฺภนฺตรนฺเตน จงฺกมนขฺโช วา โคปฺผกานํ อุปริ ภคฺคตฺตา สกเลน ปิฏฺิปาเทน จงฺกมนขฺโช วา, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. เอตฺถ นตชาณุโกติ อนฺโตปวิฏฺอานตปาโท. ปกฺขหตนฺติ ยสฺส เอโก หตฺโถ วา ปาโท วา อฑฺฒสรีรํ วา สุขํ น วหติ.

สีปทินฺติ ภารปาทํ. ยสฺส ปาโท ถูโล โหติ สฺชาตปีฬโก ขโร, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺส ปน น ตาว ขรภาวํ คณฺหาติ, สกฺกา โหติ อุปนาหํ พนฺธิตฺวา อุทกอาวาเฏ ปเวเสตฺวา อุทกวาลิกาย ปูเรตฺวา ยถา สิรา ปฺายนฺติ, ชงฺฆา จ เตลนาฬิกา วิย โหนฺติ, เอวํ มิลาเปตุํ สกฺกา, ตสฺส ปาทํ อีทิสํ กตฺวา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปุน วฑฺฒติ, อุปสมฺปาเทนฺเตนาปิ ตถา กตฺวาว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. ปาปโรคินนฺติ โย อริสภคนฺทรปิตฺตเสมฺหกาสโสสาทีสุ เยน เกนจิ โรเคน นิจฺจาตุโร อเตกิจฺฉโรโค เชคุจฺโฉ อมนาโป, ตํ.

๒๔๘๘. ชราย ทุพฺพลนฺติ โย ชิณฺณภาเวน ทุพฺพโล อตฺตโน จีวรรชนาทิกมฺมมฺปิ กาตุํ อสมตฺโถ, ตํ. โย ปน มหลฺลโกปิ พลวา โหติ อตฺตานํ ปฏิชคฺคิตุํ สกฺโกติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. อนฺธนฺติ ชจฺจนฺธํ. ปธิรฺเจวาติ โย สพฺเพน สพฺพํ น สุณาติ, ตํ. โย ปน มหาสทฺทํ สุณาติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มมฺมนนฺติ ยสฺส วจีเภโท วตฺตติ, สรณคมนํ ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ น สกฺโกติ, ตาทิสํ มมฺมนมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. โย ปน สรณคมนมตฺตํ ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ สกฺโกติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อถ วา มมฺมนนฺติ ขลิตวจนํ, โย เอกเมว อกฺขรํ จตุปฺจกฺขตฺตุํ วทติ, ตสฺเสตมธิวจนํ. ปีสปฺปินฺติ ฉินฺนิริยาปถํ. มูคนฺติ ยสฺส วจีเภโท นปฺปวตฺตติ.

๒๔๘๙. อตฺตโน วิรูปภาเวน ปริสํ ทูเสนฺเตน ปริสทูสเก (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙) ทสฺเสตุมาห ‘‘อติทีโฆ’’ติอาทิ. อติทีโฆติ อฺเสํ สีสปฺปมาณนาภิปฺปเทโส. อติรสฺโสติ วุตฺตปฺปกาโร อุภยวามโน วิย อติรสฺโส. อติกาโฬ วาติ ฌาปิตเขตฺเต ขาณุโก วิย อติกาฬวณฺโณ. มฏฺตมฺพโลหนิทสฺสโน อจฺโจทาโตปิ วาติ สมฺพนฺโธ, ทธิตกฺกาทีหิ มชฺชิตมฏฺตมฺพโลหวณฺโณ อตีว โอทาตสรีโรติ อตฺโถ.

๒๔๙๐. อติถูโล วาติ ภาริยมํโส มโหทโร มหาภูตสทิโส. อติกิโสติ มนฺทมํสโลหิโต อฏฺิสิราจมฺมสรีโร วิย. อติมหาสีโส วาติ โยชนา. อติมหาสีโส วาติ ปจฺฉึ สีเส กตฺวา ิโต วิย. ‘‘อติขุทฺทกสีเสน อสหิเตนา’’ติ ปทจฺเฉโท. อสหิเตนาติ สรีรสฺส อนนุรูเปน. ‘‘อติขุทฺทกสีเสนา’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ. อสหิเตน อติขุทฺทกสีเสน สมนฺนาคโตติ โยชนา. ยถาห – ‘‘อติขุทฺทกสีโส วา สรีรสฺส อนนุรูเปน อติขุทฺทเกน สีเสน สมนฺนาคโต’’ติ.

๒๔๙๑. กุฏกุฏกสีโสติ ตาลผลปิณฺฑิสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต. สิขรสีสโกติ อุทฺธํ อนุปุพฺพตนุเกน สีเสน สมนฺนาคโต, มตฺถกโต สํกุฏิโก มูลโต วิตฺถโต หุตฺวา ิตปพฺพตสิขรสทิสสีโสติ อตฺโถ. เวฬุนาฬิสมาเนนาติ มหาเวฬุปพฺพสทิเสน. สีเสนาติ ทีฆสีเสน. ยถาห – ‘‘นาฬิสีโส วา มหาเวฬุปพฺพสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙).

๒๔๙๒. กปฺปสีโสปีติ มชฺเฌ ทิสฺสมานอาวาเฏน หตฺถิกุมฺภสทิเสน ทฺวิธาภูตสีเสน สมนฺนาคโต. ปพฺภารสีโส วาติ จตูสุ ปสฺเสสุ เยน เกนจิ ปสฺเสน โอณเตน สีเสน สมนฺนาคโต. วณสีสโกติ วเณหิ สมนฺนาคตสีโส. กณฺณิกเกโส วาติ ปาณเกหิ ขายิตเกทาเร สสฺสสทิเสหิ ตหึ ตหึ อุฏฺิเตหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต. ถูลเกโสปิ วาติ ตาลหีรสทิเสหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต.

๒๔๙๓. ปูติสีโสติ ทุคฺคนฺธสีโส. นิลฺโลมสีโส วาติ โลมรหิตสีโส. ชาติปณฺฑรเกสโกติ ชาติผลิเตหิ ปณฺฑรเกโส วา. ชาติยา ตมฺพเกโส วาติ อาทิตฺเตหิ วิย ตมฺพวณฺเณหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต. อาวฏฺฏสีสโกติ คุนฺนํ สรีเร อาวฏฺฏสทิเสหิ อุทฺธคฺเคหิ เกสาวฏฺเฏหิ สมนฺนาคโต.

๒๔๙๔. สีสโลเมกพทฺเธหิ ภมุเกหิ ยุโตปีติ สีสโลเมหิ สทฺธึ เอกาพทฺธโลเมหิ ภมุเกหิ สมนฺนาคโต. สมฺพทฺธภมุโก วาติ เอกาพทฺธอุภยภมุโก, มชฺเฌ สฺชาตโลเมหิ ภมุเกหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. นิลฺโลมภมุโกปิ วาติ ภมุโลมรหิโต. นิลฺโลมภมุโกปิ วาติ ปิ-สทฺเทน อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน มกฺกฏภมุโก สงฺคหิโต.

๒๔๙๕. มหนฺตขุทฺทเนตฺโต วาติ เอตฺถ เนตฺต-สทฺโท มหนฺตขุทฺท-สทฺเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ, มหนฺตเนตฺโต วา ขุทฺทกเนตฺโต วาติ อตฺโถ. มหนฺตเนตฺโต วาติ อติมหนฺเตหิ เนตฺเตหิ สมนฺนาคโต. ขุทฺทกเนตฺโต วาติ มหึสจมฺเม วาสิโกเณน ปหริตฺวา กตฉิทฺทสทิเสหิ อติขุทฺทกกฺขีหิ สมนฺนาคโต. วิสมโลจโนติ เอเกน มหนฺเตน, เอเกน ขุทฺทเกน อกฺขินา สมนฺนาคโต. เกกโร วาปีติ ติริยํ ปสฺสนฺโต. เอตฺถ อปิ-สทฺเทน นิกฺขนฺตกฺขึ สมฺปิณฺเฑติ, ยสฺส กกฺกฏกสฺเสว อกฺขิตารกา นิกฺขนฺตา โหนฺติ. คมฺภีรเนตฺโตติ ยสฺส คมฺภีเร อุทปาเน อุทกตารกา วิย อกฺขิตารกา ปฺายนฺติ. เอตฺถ จ อุทกตารกา นาม อุทกปุพฺพุฬํ. อกฺขิตารกาติ อกฺขิเคณฺฑกา. วิสมจกฺกโลติ เอเกน อุทฺธํ, เอเกน อโธติ เอวํ วิสมชาเตหิ อกฺขิจกฺเกหิ สมนฺนาคโต.

๒๔๙๖. ชตุกณฺโณ วาติ อติขุทฺทิกาหิ กณฺณสกฺขลีหิ สมนฺนาคโต. มูสิกกณฺโณ วาติ มูสิกานํ กณฺณสทิเสหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโต. หตฺถิกณฺโณปิ วาติ อนนุรูปาหิ มหนฺตาหิ หตฺถิกณฺณสทิสาหิ กณฺณสกฺขลีหิ สมนฺนาคโต. ฉิทฺทมตฺตกกณฺโณ วาติ ยสฺส วินา กณฺณสกฺขลีหิ กณฺณจฺฉิทฺทเมว โหติ. อวิทฺธกณฺณโกติ กณฺณพนฺธตฺถาย อวิทฺเธน กณฺเณน สมนฺนาคโต.

๒๔๙๗. ฏงฺกิตกณฺโณ วาติ โคภตฺตนาฬิกาย อคฺคสทิเสหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโต, โคหนุโกฏิสณฺาเนหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. ปูติกณฺโณปิ วาติ สทา ปคฺฆริตปุพฺเพน กณฺเณน สมนฺนาคโต. ปูติกณฺโณปีติ อปิ-สทฺเทน กณฺณภคนฺทริโก คหิโต. กณฺณภคนฺทริโกติ นิจฺจปูตินา กณฺเณน สมนฺนาคโต. อวิทฺธกณฺโณ ปริสทูสโก วุตฺโต, กถํ โยนกชาตีนํ ปพฺพชฺชาติ อาห ‘‘โยนกาทิปฺปเภโทปิ, นายํ ปริสทูสโก’’ติ, กณฺณาเวธนํ โยนกานํ สภาโว, อยํ โยนกาทิปฺปเภโท ปริสทูสโก น โหตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๔๙๘. อติปิงฺคลเนตฺโตติ อติสเยน ปิงฺคเลหิ เนตฺเตหิ สมนฺนาคโต. มธุปิงฺคลํ ปน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. นิปฺปขุมกฺขิ วาติ อกฺขิทลโรเมหิ วิรหิตอกฺขิโก. ปขุม-สทฺโท หิ โลเก อกฺขิทลโรเมสุ นิรุฬฺโห. อสฺสุปคฺฆรเนตฺโต วาติ ปคฺฆรณสฺสูหิ เนตฺเตหิ สมนฺนาคโต. ปกฺกปุปฺผิตโลจโนติ ปกฺกโลจโน ปุปฺผิตโลจโนติ โยชนา. ปริปกฺกเนตฺโต สฺชาตปุปฺผเนตฺโตติ อตฺโถ.

๒๔๙๙. มหานาโสติ สรีรสฺส อนนุรูปาย มหติยา นาสาย สมนฺนาคโต. อติขุทฺทกนาสิโกติ ตถา อติขุทฺทิกาย นาสาย สมนฺนาคโต. จิปิฏนาโส วาติ จิปิฏาย อนฺโต ปวิฏฺาย วิย อลฺลินาสาย สมนฺนาคโต. จิปิฏนาโส วาติ อวุตฺตวิกปฺปตฺเถน วา-สทฺเทน ทีฆนาสิโก สงฺคยฺหติ. โส จ สุกตุณฺฑสทิสาย ชิวฺหาย เลหิตุํ สกฺกุเณยฺยาย นาสิกาย สมนฺนาคโต. กุฏิลนาสิโกติ มุขมชฺเฌ อปฺปติฏฺหิตฺวา เอกปสฺเส ิตนาสิโก.

๒๕๐๐. นิจฺจวิสฺสวนาโส วาติ นิจฺจปคฺฆริตสิงฺฆาณิกนาโส วา. มหามุโขติ ยสฺส ปฏงฺคมณฺฑุกสฺเสว มุขนิมิตฺตํเยว มหนฺตํ โหติ, มุขํ ปน ลาพุสทิสํ อติขุทฺทกํ. ปฏงฺคมณฺฑุโก นาม มหามุขมณฺฑุโก. วงฺกภินฺนมุโข วาปีติ เอตฺถ ‘‘วงฺกมุโข วา ภินฺนมุโข วาปี’’ติ โยชนา. วงฺกมุโขติ ภมุกสฺส, นลาตสฺส วา เอกปสฺเส นินฺนตาย วงฺกมุโข. ภินฺนมุโข วาติ มกฺกฏสฺเสว ภินฺนมุโข. มหาโอฏฺโปิ วาติ อุกฺขลิมุขวฏฺฏิสทิเสหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต.

๒๕๐๑. ตนุกโอฏฺโ วาติ เภริจมฺมสทิเสหิ ทนฺเต ปิทหิตุํ อสมตฺเถหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต. เภริจมฺมสทิเสหีติ เภริมุขจมฺมสทิเสหิ. ตนุกโอฏฺโ วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน มหาธโรฏฺโ วา ตนุกอุตฺตโรฏฺโ วา ตนุกอธโรฏฺโ วาติ ตโย วิกปฺปา สงฺคหิตา. วิปุลุตฺตรโอฏฺโกติ มหาอุตฺตโรฏฺโ. โอฏฺฉินฺโนติ ยสฺส เอโก วา ทฺเว วา โอฏฺา ฉินฺนา โหนฺติ. อุปฺปกฺกมุโขติ ปกฺกมุโข. เอฬมุโขปิ วาติ นิจฺจปคฺฆรณมุโข.

๒๕๐๒-๓. สงฺขตุณฺโฑปีติ พหิ เสเตหิ อนฺโต อติรตฺเตหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต. ทุคฺคนฺธมุโขติ ทุคฺคนฺธกุณปมุโข. มหาทนฺโตปีติ อฏฺกทนฺตสทิเสหิ สมนฺนาคโต. อจฺจนฺตนฺติ อติสเยน. ‘‘เหฏฺา อุปริโต วาปิ, พหิ นิกฺขนฺตทนฺตโก’’ติ อิทํ ‘‘อสุรทนฺตโก’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ. อสุโรติ ทานโว. ‘‘สิปฺปิทนฺโต วา โอฏฺทนฺโต วา’’ติ คณฺิปเท ลิขิโต. ยสฺส ปน สกฺกา โหนฺติ โอฏฺเหิ ปิทหิตุํ, กเถนฺตสฺเสว ปฺายติ, โน อกเถนฺตสฺส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อทนฺโตติ ทนฺตรหิโต. ปูติทนฺโตติ ปูติภูเตหิ ทนฺเตหิ สมนฺนาคโต.

๒๕๐๔. ‘‘อติขุทฺทกทนฺตโก’’ติ อิมสฺส ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิ อปวาโท. ยสฺส ทนฺตนฺตเร กาฬกทนฺตสนฺนิโภ กลนฺทกทนฺตสทิโส ทนฺโต สุขุโมว ิโต เจ, ตํ ตุ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ปพฺพาเชตุมฺปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ตุ-สทฺทตฺโถ.

๒๕๐๕. โย โปโสติ สมฺพนฺโธ. มหาหนุโกติ โคหนุสทิเสน หนุนา สมนฺนาคโต. ‘‘รสฺเสน หนุนา ยุโต’’ติ อิทํ ‘‘จิปิฏหนุโก วา’’ติ อิมสฺส อตฺถปทํ. ยถาห – ‘‘จิปิฏหนุโก วา อนฺโตปวิฏฺเน วิย อติรสฺเสน หนุเกน สมนฺนาคโต’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙). จิปิฏหนุโก วาปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ‘‘ภินฺนหนุโก วา วงฺกหนุโก วา’’ติ วิกปฺปทฺวยํ สงฺคณฺหาติ.

๒๕๐๖. นิมฺมสฺสุทาิโก วาปีติ ภิกฺขุนิสทิสมุโข. อติทีฆคโลปิ วาติ พกคลสทิเสน คเลน สมนฺนาคโต. อติรสฺสคโลปิ วาติ อนฺโตปวิฏฺเน วิย คเลน สมนฺนาคโต. ภินฺนคโล วา คณฺฑคโลปิ วาติ โยชนา, ภินฺนคลฏฺิโก วา คณฺเฑน สมนฺนาคตคโลปิ วาติ อตฺโถ.

๒๕๐๗. ภฏฺํสกูโฏ วาติ มาตุคามสฺส วิย ภฏฺเน อํสกูเฏน สมนฺนาคโต. ภินฺนปิฏฺิ วา ภินฺนอุโรปิ วาติ โยชนา, สุทีฆหตฺโถ วา สุรสฺสหตฺโถ วาติ โยชนา, อติทีฆหตฺโถ วา อติรสฺสหตฺโถ วาติ อตฺโถ. วา-สทฺเทน อหตฺถเอกหตฺถานํ คหณํ. กจฺฉุสมายุโต วา กณฺฑุสมายุโต วาติ โยชนา. วา-สทฺเทน ‘‘ททฺทุคตฺโต วา โคธาคตฺโต วา’’ติ อิเม ทฺเว สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ โคธาคตฺโต วาติ ยสฺส โคธาย วิย คตฺตโต จุณฺณานิ ปตนฺติ.

๒๕๐๘. มหานิสทมํโสติ อิมสฺส อตฺถปทํ ‘‘อุทฺธนคฺคุปมายุโต’’ติ. ยถาห – ‘‘มหาอานิสโท วา อุทฺธนกูฏสทิเสหิ อานิสทมํเสหิ อจฺจุคฺคเตหิ สมนฺนาคโต’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙). มหานิสทมํโส วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ภฏฺกฏิโก สงฺคหิโต. วาตณฺฑิโกติ อณฺฑโกเสสุ วุทฺธิโรเคน สมนฺนาคโต. มหาอูรูติ สรีรสฺส อนนุรูเปหิ มหนฺเตหิ สตฺตีหิ สมนฺนาคโต. สงฺฆฏฺฏนกชาณุโกติ อฺมฺํ สงฺฆฏฺเฏหิ ชาณูหิ สมนฺนาคโต.

๒๕๐๙. ภินฺนชาณูติ ยสฺส เอโก วา ทฺเว วา ชาณู ภินฺนา โหนฺติ. มหาชาณูติ มหนฺเตน ชาณุนา สมนฺนาคโต. ทีฆชงฺโฆติ ยฏฺิสทิสชงฺโฆ. วิกโฏ วาติ ติริยํ คมนปาเทหิ สมนฺนาคโต, ยสฺส จงฺกมโต ชาณุกา พหิ นิคฺคจฺฉนฺติ. ปณฺโห วาติ ปจฺฉโต ปริวตฺตปาเทหิ สมนฺนาคโต, ยสฺส จงฺกมโต ชาณุกา อนฺโต ปวิสนฺติ. ‘‘ปนฺโต’’ติ จ ‘‘สณฺโห’’ติ จ เอตสฺเสว เววจนานิ. อุพฺพทฺธปิณฺฑิโกติ เหฏฺา โอรุฬฺหาหิ วา อุปริ อารุฬฺหาหิ วา มหตีหิ ชงฺฆปิณฺฑิกาหิ สมนฺนาคโต.

๒๕๑๐. ยฏฺิชงฺโฆติ ยฏฺิสทิสาย ชงฺฆาย สมนฺนาคโต. มหาชงฺโฆติ สรีรสฺส อนนุรูปาย มหติยา ชงฺฆาย สมนฺนาคโต. มหาปาโทปิ วาติ สรีรสฺส อนนุรูเปหิ มหนฺเตหิ ปาเทหิ สมนฺนาคโต. อปิ-สทฺเทน ถูลชงฺฆปิณฺฑิโก สงฺคหิโต, ภตฺตปุฏสทิสาย ถูลาย ชงฺฆปิณฺฑิยา สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. ปิฏฺิกปาโท วาติ ปาทเวมชฺฌโต อุฏฺิตชงฺโฆ. มหาปณฺหิปิ วาติ อนนุรูเปหิ อติมหนฺเตหิ ปณฺหีหิ สมนฺนาคโต.

๒๕๑๑. วงฺกปาโทติ อนฺโต วา พหิ วา ปริวตฺตปาทวเสน ทุวิโธ วงฺกปาโท. คณฺิกงฺคุลิโกติ สิงฺคิเวรผณสทิสาหิ องฺคุลีหิ สมนฺนาคโต. ‘‘อนฺธนโข วาปี’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ ‘‘กาฬปูตินโขปิ จา’’ติ. ยถาห – ‘‘อนฺธนโข วา กาฬวณฺเณหิ ปูตินเขหิ สมนฺนาคโต’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๙).

๒๕๑๒. อิจฺเจวนฺติ ยถาวุตฺตวจนียนิทสฺสนตฺโถยํ นิปาตสมุทาโย. องฺคเวกลฺลตาย พหุวิธตฺตา อนวเสสํ เวกลฺลปฺปการํ สงฺคณฺหิตุมาห ‘‘อิจฺเจวมาทิก’’นฺติ.

ปริสทูสกกถาวณฺณนา.

๒๕๑๔. ปตฺตจีวรนฺติ เอตฺถ ‘‘สามเณรสฺสา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ. อนฺโต นิกฺขิปโตติ โอวรกาทีนํ อนฺโต นิกฺขิปนฺตสฺส. สพฺพปโยเคสูติ ปตฺตจีวรสฺส อามสนาทิสพฺพปโยเคสุ.

๒๕๑๕-๖. ทณฺฑกมฺมํ กตฺวาติ ทณฺฑกมฺมํ โยเชตฺวา. ทณฺเฑนฺติ วิเนนฺติ เอเตนาติ ทณฺโฑ, โสเยว กตฺตพฺพตฺตา กมฺมนฺติ ทณฺฑกมฺมํ, อาวรณาทิ. อนาจารสฺส ทุพฺพจสามเณรสฺส เกวลํ หิตกาเมน ภิกฺขุนา ทณฺฑกมฺมํ กตฺวา ทณฺฑกมฺมํ โยเชตฺวา ยาคุํ วา ภตฺตํ วา วา-สทฺเทน ปตฺตํ วา จีวรํ วา ทสฺเสตฺวา ‘‘ทณฺฑกมฺเม อาหเฏ ตฺวํ อิทํ ลจฺฉสิ’’ อิติ ภาสิตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. กิราติ ปทปูรณตฺเถ นิปาโต.

๒๕๑๗. ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตทณฺฑกมฺมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อปราธานุรูเปนา’’ติอาทิ. ตํ อปราธานุรูปทณฺฑกมฺมํ นาม วาลิกาสลิลาทีนํ อาหราปนเมวาติ โยเชตพฺพํ. อาทิ-สทฺเทน ทารุอาทีนํ อาหราปนํ คณฺหาติ. ตฺจ โข ‘‘โอรมิสฺสตี’’ติ อนุกมฺปาย, น ‘‘นสฺสิสฺสติ วิพฺภมิสฺสตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน ปาปชฺฌาสเยน.

๒๕๑๘-๙. อกตฺตพฺพํ ทณฺฑกมฺมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สีเส วา’’ติอาทิ. สีเส วาติ เอตฺถ ‘‘สามเณรสฺสา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ. ปาสาณาทีนีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อิฏฺกาทีนํ คหณํ. สามเณรํ อุณฺเห ปาสาเณ นิปชฺชาเปตุํ วา อุณฺหาย ภูมิยา นิปชฺชาเปตุํ วา อุทกํ ปเวเสตุํ วา ภิกฺขุโน น วฏฺฏตีติ โยชนา.

ภควตา อนุฺาตทณฺฑกมฺมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อิธา’’ติอาทิ. อิธาติ อิมสฺมึ ทณฺฑกมฺมาธิกาเร. อาวรณมตฺตนฺติ ‘‘มา อิธ ปาวิสี’’ติ นิวารณมตฺตํ. ปกาสิตนฺติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยตฺถ วา วสติ, ยตฺถ วา ปฏิกฺกมติ, ตตฺถ อาวรณํ กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๐๗) ภาสิตํ.

‘‘ยตฺถ วา วสติ, ยตฺถ วา ปฏิกฺกมตีติ ยตฺถ วสติ วา ปวิสติ วา, อุภเยนาปิ อตฺตโน ปริเวณฺจ วสฺสคฺเคน ปตฺตเสนาสนฺจ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๗) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา ยาว โยชิตํ ทณฺฑกมฺมํ กโรนฺติ, ตาว อตฺตโน ปุคฺคลิกปริเวณํ วา วสฺสคฺเคน ปตฺตเสนาสนํ วา ปวิสิตุํ อทตฺวา นิวารณํ อาวรณํ นาม. อฏฺกถายํ ‘‘อตฺตโน’’ติ วจนํ เย อาวรณํ กโรนฺติ, เต อาจริยุปชฺฌาเย สนฺธาย วุตฺตนฺติ วิฺายติ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘อตฺตโน’’ติ อิทํ ยสฺส อาวรณํ กโรนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตฺวา ตตฺถ วินิจฺฉยํ วทนฺติ. เกจิ อุภยถาปิ อตฺถํ คเหตฺวา อุภยตฺถาปิ อาวรณํ กาตพฺพนฺติ วทนฺติ. วีมํสิตฺวา ยเมตฺถ ยุตฺตตรํ, ตํ คเหตพฺพํ.

นิวารณกถาวณฺณนา.

๒๕๒๐. ปกฺโข จ โอปกฺกมิโก จ อาสิตฺโต จาติ วิคฺคโห. เอตฺถ จ ‘‘อนุโปสเถ อุโปสถํ กโรตี’’ติอาทีสุ ยถา อุโปสถทิเน กตฺตพฺพกมฺมํ ‘‘อุโปสโถ’’ติ วุจฺจติ, ตถา มาสสฺส ปกฺเข ปณฺฑกภาวมาปชฺชนฺโต ‘‘ปกฺโข’’ติ วุตฺโต. อถ วา ปกฺขปณฺฑโก ปกฺโข อุตฺตรปทโลเปน ยถา ‘‘ภีมเสโน ภีโม’’ติ. อิทฺจ ปาปานุภาเวน กณฺหปกฺเขเยว ปณฺฑกภาวมาปชฺชนฺตสฺส อธิวจนํ. ยถาห ‘‘อกุสลวิปากานุภาเวน กาฬปกฺเข กาฬปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ชุณฺหปกฺเข ปนสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ ปกฺขปณฺฑโก’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๙).

ยสฺส อุปกฺกเมน พีชานิ อปนีตานิ, อยํ โอปกฺกมิกปณฺฑโก. ยสฺส ปเรสํ องฺคชาตํ มุเขน คเหตฺวา อสุจินา อาสิตฺตสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อาสิตฺตปณฺฑโก. อุสูยโกติ ยสฺส ปเรสํ อชฺฌาจารํ ปสฺสโต อุสูยาย อุปฺปนฺนาย ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อุสูยปณฺฑโก. โย ปฏิสนฺธิยํเยว อภาวโก อุปฺปนฺโน, อยํ นปุํสกปณฺฑโก.

๒๕๒๑. เตสูติ เตสุ ปฺจสุ ปณฺฑเกสุ. ‘‘ปกฺขปณฺฑกสฺส ยสฺมึปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ตสฺมึเยวสฺส ปกฺเข ปพฺพชฺชา วาริตา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๙) กุรุนฺทิยํ วุตฺตตฺตา ‘‘ติณฺณํ นิวาริตา’’ติ อิทํ ตสฺส ปณฺฑกสฺส ปณฺฑกปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.

๒๕๒๒. ‘‘นาเสตพฺโพ’’ติ อิทํ ลิงฺคนาสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถาห ‘‘โสปิ ลิงฺคนาสเนเนว นาเสตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๙). เอส นโย อุปริปิ อีทิเสสุ าเนสุ.

ปณฺฑกกถาวณฺณนา.

๒๕๒๓. เถเนตีติ เถโน, ลิงฺคสฺส ปพฺพชิตเวสสฺส เถโน ลิงฺคเถโน. สํวาสสฺส ภิกฺขุวสฺสคณนาทิกสฺส เถโน สํวาสเถโน. ตทุภยสฺส จาติ ตสฺส ลิงฺคสฺส, สํวาสสฺส จ อุภยสฺส เถโนติ สมฺพนฺโธ. เอส ติวิโธปิ เถยฺยสํวาสโก นาม ปวุจฺจตีติ โยชนา.

๒๕๒๔-๖. ตตฺถ เตสุ ตีสุ เถยฺยสํวาสเกสุ โย สยเมว ปพฺพชิตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ น คณฺหติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนมฺปิ เนว คณฺหติ, อปิ-สทฺเทน อาสเนน เนว ปฏิพาหติ อุโปสถปวารณาทีสุ เนว สนฺทิสฺสตีติ สงฺคณฺหนโต ตทุภยมฺปิ น กโรติ, อยํ ลิงฺคมตฺตสฺส ปพฺพชิตเวสมตฺตสฺส เถนโต โจริกาย คหณโต ลิงฺคตฺเถโน สิยาติ โยชนา.

โย จ ปพฺพชิโต หุตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คณฺหติ, โส ยถาวุฑฺฒวนฺทนาทิกํ สํวาสํ สาทิยนฺโตว สํวาสตฺเถนโก มโตติ โยชนา. ยถาห – ‘‘ภิกฺขุวสฺสคณนาทิโก หิ สพฺโพปิ กิริยเภโท อิมสฺมึ อตฺเถ ‘สํวาโส’ติ เวทิตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐).

วุตฺตนโยเยวาติ อุภินฺนํ ปจฺเจกํ วุตฺตลกฺขณเมว เอตสฺส ลกฺขณนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. อยํ ติวิโธปิ เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ, ปุน ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโตปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. พฺยติเรกมุเขน เถยฺยสํวาสลกฺขณํ นิยเมตุํ อฏฺกถาย (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐) วุตฺตคาถาทฺวยํ อุทาหรนฺโต อาห ‘‘ยถาห จา’’ติ. ยถา อฏฺกถาจริโย ราชทุพฺภิกฺขาทิคาถาทฺวยมาห, ตถายมตฺโถ พฺยติเรกโต เวทิตพฺโพติ อธิปฺปาโย.

๒๕๒๗-๘. ราชทุพฺภิกฺขกนฺตาร-โรคเวริภเยหิ วาติ เอตฺถ ภย-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ ‘‘ราชภเยน ทุพฺภิกฺขภเยนา’’ติอาทินา. จีวราหรณตฺถํ วาติ อตฺตนา ปริจฺจตฺตจีวรํ ปุน วิหารํ อาหรณตฺถาย. อิธ อิมสฺมึ สาสเน. สํวาสํ นาธิวาเสติ, ยาว โส สุทฺธมานโสติ ราชภยาทีหิ คหิตลิงฺคตาย โส สุทฺธมานโส ยาว สํวาสํ นาธิวาเสตีติ อตฺโถ.

โย หิ ราชภยาทีหิ วินา เกวลํ ภิกฺขู วฺเจตฺวา เตหิ สทฺธึ วสิตุกามตาย ลิงฺคํ คณฺหาติ, โส อสุทฺธจิตฺตตาย ลิงฺคคฺคหเณเนว เถยฺยสํวาสโก นาม โหติ. อยํ ปน ตาทิเสน อสุทฺธจิตฺเตน ภิกฺขู วฺเจตุกามตาย อภาวโต ยาว สํวาสํ นาธิวาเสติ, ตาว เถยฺยสํวาสโก นาม น โหติ. เตเนว ‘‘ราชภยาทีหิ คหิตลิงฺคานํ ‘คิหี มํ สมโณติ ชานนฺตู’ติ วฺจนาจิตฺเต สติปิ ภิกฺขูนํ วฺเจตุกามตาย อภาวา โทโส น ชาโต’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.

เกจิ ปน ‘‘วูปสนฺตภยตา อิธ สุทฺธจิตฺตตา’’ติ วทนฺติ, เอวฺจ สติ โส วูปสนฺตภโย ยาว สํวาสํ นาธิวาเสติ, ตาว เถยฺยสํวาสโก นาม น โหตีติ อยมตฺโถ วิฺายติ. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ วิฺายมาเน อวูปสนฺตภยสฺส สํวาสสาทิยเนปิ เถยฺยสํวาสกตา น โหตีติ อาปชฺเชยฺย, น จ อฏฺกถายํ อวูปสนฺตภยสฺส สํวาสสาทิยเน อเถยฺยสํวาสกตา ทสฺสิตา. ‘‘สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภุฺชนฺโต’’ติ จ อิมินา อวูปสนฺตภเยนาปิ สํวาสํ อสาทิยนฺเตเนว วสิตพฺพนฺติ ทีเปติ. เตเนว ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ ‘‘ยสฺมา วิหารํ อาคนฺตฺวา สงฺฆิกํ คณฺหนฺตสฺส สํวาสํ ปริหริตุํ ทุกฺกรํ, ตสฺมา ‘สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภุฺชนฺโต’ติ อิทํ วุตฺต’’นฺติ. ตสฺมา ราชภยาทีหิ คหิตลิงฺคตา เจตฺถ สุทฺธจิตฺตตาติ คเหตพฺพํ.

ตาว เอส เถยฺยสํวาสโก นาม น วุจฺจตีติ โยชนา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ‘‘ตตฺรายํ วิตฺถารนโย’’ติ อฏฺกถายํ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐) อาคตนเยน เวทิตพฺโพ.

เถยฺยสํวาสกกถาวณฺณนา.

๒๕๒๙-๓๐. โย อุปสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ‘‘อหํ ติตฺถิโย ภวิสฺส’’นฺติ สลิงฺเคเนว อตฺตโน ภิกฺขุเวเสเนว ติตฺถิยานํ อุปสฺสยํ ยาติ เจติ สมฺพนฺโธ. ติตฺถิเยสุ ปกฺกนฺตโก ปวิฏฺโ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก. เตสํ ลิงฺเค นิสฺสิเตติ เตสํ ติตฺถิยานํ เวเส คหิเต.

๒๕๓๑. ‘‘อหํ ติตฺถิโย ภวิสฺส’’นฺติ กุสจีราทิกํ โย สยเมว นิวาเสติ, โสปิ ปกฺกนฺตโก ติตฺถิยปกฺกนฺตโก สิยาติ โยชนา.

๒๕๓๒-๔. นคฺโค เตสํ อาชีวกาทีนํ อุปสฺสยํ คนฺตฺวาติ โยชนา. เกเส ลุฺจาเปตีติ อตฺตโน เกเส ลุฺจาเปติ. เตสํ วตานิ อาทิยติ วาติ โยชนา. วตานิ อาทิยตีติ อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีนิ วา วตานิ อาทิยติ. เตสํ ติตฺถิยานํ โมรปิฺฉาทิกํ ลิงฺคํ สฺาณํ สเจ คณฺหาติ วา เตสํ ปพฺพชฺชํ, ลทฺธิเมว วา สารโต วา เอติ อุปคจฺฉติ วาติ โยชนา. ‘‘อยํ ปพฺพชฺชา เสฏฺาติ เสฏฺภาวํ วา อุปคจฺฉตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐ ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถา) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. เอส ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ เอว, น ปน วิมุจฺจติ ติตฺถิยปกฺกนฺตภาวโต. นคฺคสฺส คจฺฉโตติ ‘‘อาชีวโก ภวิสฺส’’นฺติ กาสายาทีนิ อนาทาย นคฺคสฺส อาชีวกานํ อุปสํคจฺฉโต.

๒๕๓๕. เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺนวเสน วุตฺโต, โน อุปสมฺปนฺนวเสน. อิมินา ‘‘อุปสมฺปนฺโน ภิกฺขุ กูฏวสฺสํ คณฺหนฺโตปิ อสฺสมโณ น โหติ. ลิงฺเค สอุสฺสาโห ปาราชิกํ อาปชฺชิตฺวา ภิกฺขุวสฺสาทีนิ คเณนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหตี’’ติ อฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ ทีเปติ. ตถา วุตฺโตติ โยชนา. ‘‘อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนา’’ติ อิมินา อนุปสมฺปนฺนํ นิวตฺเตติ. เตน จ ‘‘สามเณโร สลิงฺเคน ติตฺถายตนํ คโตปิ ปุน ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภตี’’ติ กุรุนฺทฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสติ.

ติตฺถิยปกฺกนฺตกสฺส กึ กาตพฺพนฺติ? น ปพฺพาเชตพฺโพ, ปพฺพาชิโตปิ น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปาทิโต จ กาสายานิ อปเนตฺวา เสตกานิ ทตฺวา คิหิภาวํ อุปเนตพฺโพ. อยมตฺโถ จ ‘‘ติตฺถิยปกฺกนฺตโก ภิกฺขเว อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๑๐) ปาฬิโต จ ‘‘โส น เกวลํ น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อถ โข น ปพฺพาเชตพฺโพปี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐ ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถา) อฏฺกถาวจนโต จ เวทิตพฺโพ.

ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถาวณฺณนา.

๒๕๓๖. อิธาติ อิมสฺมึ ปพฺพชฺชูปสมฺปทาธิกาเร. มนุสฺสชาติกโต อฺสฺส ติรจฺฉานคเตเยว อนฺโตคธตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยกฺโข สกฺโกปิ วา’’ติ. ติรจฺฉานคโต วุตฺโตติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ‘‘ติรจฺฉานคโต, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๑๑) วจนโต ปพฺพชฺชาปิ อุปลกฺขณโต นิวาริตาเยวาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏตี’’ติ. เตน ติรจฺฉานคโต จ ภควโต อธิปฺปายฺูหิ อฏฺกถาจริเยหิ น ปพฺพาเชตพฺโพติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๑) วุตฺตํ.

ติรจฺฉานกถาวณฺณนา.

๒๕๓๗. ปฺจานนฺตริเก โปเสติ มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, โลหิตุปฺปาทโก, สงฺฆเภทโกติ อานนฺตริยกมฺเมหิ สมนฺนาคเต ปฺจ ปุคฺคเล.

ตตฺถ มาตุฆาตโก (มหาว. อฏฺ. ๑๑๒) นาม เยน มนุสฺสิตฺถิภูตา ชนิกา มาตา สยมฺปิ มนุสฺสชาติเกเนว สตา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรปิตา, อยํ อานนฺตริเยน มาตุฆาตกกมฺเมน มาตุฆาตโก, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ ปฏิกฺขิตฺตา. เยน ปน มนุสฺสิตฺถิภูตาปิ อชนิกา โปสาวนิกมาตา วา จูฬมาตา วา มหามาตา วา ชนิกาปิ วา นมนุสฺสิตฺถิภูตา มาตาฆาติตา, ตสฺส ปพฺพชฺชา น วาริตา, น จ อานนฺตริโย โหติ. เยน สยํ ติรจฺฉานภูเตน มนุสฺสิตฺถิภูตา มาตา ฆาติตา, โสปิ อานนฺตริโย น โหติ, ติรจฺฉานคตตฺตา ปนสฺส ปพฺพชฺชา ปฏิกฺขิตฺตาว. ปิตุฆาตเกปิ เอเสว นโย. สเจปิ หิ เวสิยา ปุตฺโต โหติ, ‘‘อยํ เม ปิตา’’ติ น ชานาติ, ยสฺส สมฺภเวน นิพฺพตฺโต, โส เจ อเนน ฆาติโต, ‘‘ปิตุฆาตโก’’ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ.

อรหนฺตฆาตโกปิ มนุสฺสอรหนฺตวเสเนว เวทิตพฺโพ. มนุสฺสชาติยฺหิ อนฺตมโส อปพฺพชิตมฺปิ ขีณาสวํ ทารกํ วา ทาริกํ วา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรเปนฺโต อรหนฺตฆาตโกว โหติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปพฺพชฺชา จสฺส วาริตา. อมนุสฺสชาติกํ ปน อรหนฺตํ, มนุสฺสชาติกํ วา อวเสสํ อริยปุคฺคลํ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโย น โหติ, ปพฺพชฺชาปิสฺส น วาริตา, กมฺมํ ปน พลวํ โหติ. ติรจฺฉาโน มนุสฺสอรหนฺตมฺปิ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโย น โหติ, กมฺมํ ปน ภาริยํ.

โย เทวทตฺโต วิย ทุฏฺจิตฺเตน วธกจิตฺเตน ตถาคตสฺส ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนกมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทติ, อยํ โลหิตุปฺปาทโก นาม, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน โรควูปสมนตฺถํ ชีวโก วิย สตฺเถน ผาเลตฺวา ปูติมํสฺจ โลหิตฺจ นีหริตฺวา ผาสุํ กโรติ, พหุํ โส ปุฺํ ปสวติ.

โย เทวทตฺโต วิย สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กตฺวา จตุนฺนํ กมฺมานํ อฺตรวเสน สงฺฆํ ภินฺทติ, อยํ สงฺฆเภทโก นาม, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. ‘‘มาตุฆาตโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติอาทิกาย (มหาว. ๑๑๒) ปาฬิยา อุปสมฺปทาปฏิกฺเขโป ปพฺพชฺชาปฏิกฺเขปสฺส อุปลกฺขณนฺติ อาห ‘‘ปพฺพาเชนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ.

อุภโตพฺยฺชนฺเจว ภิกฺขุนิทูสกฺจ ตถา ปพฺพาเชนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. อุภโตพฺยฺชนนฺติ ก-การโลเปน นิทฺเทโส. อิตฺถินิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ ปุริสนิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ อุภโต พฺยฺชนมสฺส อตฺถีติ อุภโตพฺยฺชนโก. โส ทุวิโธ โหติ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก, ปุริสอุภโตพฺยฺชนโกติ.

ตตฺถ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส (มหาว. อฏฺ. ๑๑๖) อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถีสุ ปุริสตฺตํ กโรนฺตสฺส อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสานํ อิตฺถิภาวํ อุปคจฺฉนฺตสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก สยฺจ คพฺภํ คณฺหาติ, ปรฺจ คพฺภํ คณฺหาเปติ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนโก สยํ น คณฺหาติ, ปรํ คณฺหาเปตีติ อิทเมเตสํ นานากรณํ. อิมสฺส ปน ทุวิธสฺสาปิ อุภโตพฺยฺชนกสฺสเนว ปพฺพชฺชา อตฺถิ, น อุปสมฺปทาติ อิทมิธ สนฺนิฏฺานํ เวทิตพฺพํ.

โย ปกตตฺตํ ภิกฺขุนึ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๕) ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ ทูเสติ, อยํ ภิกฺขุนิทูสโก นาม, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน กายสํสคฺเคน สีลวินาสํ ปาเปติ, ตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ น วาริตา. พลกฺกาเรน ปน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อนิจฺฉมานํเยว ทูเสนฺโตปิ ภิกฺขุนิทูสโกเยว. พลกฺกาเรน ปน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อิจฺฉมานํ ทูเสนฺโต ภิกฺขุนิทูสโก น โหติ. กสฺมา? ยสฺมา คิหิภาเว สมฺปฏิจฺฉิตมตฺเตเยว สา อภิกฺขุนี โหติ. สกึ สีลวิปนฺนํ ปน ปจฺฉา ทูเสนฺโต เนว ภิกฺขุนิทูสโก โหติ, ปพฺพชฺชมฺปิ อุปสมฺปทมฺปิ ลภติ.

๒๕๓๘. ปาฬิอฏฺกถาวิมุตฺตํ อาจริยปรมฺปราภตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกโต’’ติอาทิ. ‘‘เอกโต’’ติ อิมินา ภิกฺขุสงฺฆสฺสาปิ คหณํ ภเวยฺยาติ ตํ ปริวชฺเชตุํ ‘‘ภิกฺขุนีนํ ตุ สนฺติเก’’ติ วุตฺตํ. เอเตน ตํทูสกสฺส ภพฺพตํ ทีเปติ. โส เนว ภิกฺขุนิทูสโก สิยา, ‘‘อุปสมฺปทํ ลภเตว จ ปพฺพชฺชํ, สา จ เนว ปราชิตา’’ติ อิทํ ทุติยคาถาย อิธาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. เกวลํ ภิกฺขุนิสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนา นาม น โหตีติ อธิปฺปาเยเนว วุตฺตํ. ‘‘สา จ เนว ปราชิตา’’ติ อิมินา ตสฺสา จ ปุน ปพฺพชฺชูปสมฺปทาย ภพฺพตํ ทีเปติ. อยมตฺโถ อฏฺกถาคณฺิปเทปิ วุตฺโตเยว ‘‘ภิกฺขุนีนํ วเสน เอกโตอุปสมฺปนฺนํ ทูเสตฺวา ภิกฺขุนิทูสโก น โหติ, ปพฺพชฺชาทีนิ ลภติ, สา จ ปาราชิกา น โหตีติ วินิจฺฉโย’’ติ.

๒๕๓๙. ‘‘สิกฺขมานาสามเณรีสุ จ วิปฺปฏิปชฺชนฺโต เนว ภิกฺขุนิทูสโก โหติ, ปพฺพชฺชมฺปิ อุปสมฺปทมฺปิ ลภตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๕) อฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ อนุปสมฺปนฺนทูสโก’’ติ. ‘‘อุปสมฺปทํ ลภเตว จ ปพฺพชฺช’’นฺติ อิทํ ยถาาเนปิ โยเชตพฺพํ. สา จ เนว ปราชิตาติ อิทํ ปน อฏฺกถาย อนาคตตฺตา จ อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนวิกปฺปาภาวา จ น โยเชตพฺพํ. อสติ หิ อุปสมฺปนฺนวิกปฺเป ปราชิตวิกปฺปาสงฺคโห ปฏิเสโธ นิรตฺถโกติ สา ปพฺพชฺชูปสมฺปทานํ ภพฺพาเยวาติ ทฏฺพฺพา. อิเม ปน ปณฺฑกาทโย เอกาทส ปุคฺคลา ‘‘ปณฺฑโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติอาทิวจนโต (มหาว. ๑๐๙) อภพฺพาเยว, เนสํ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ น รุหติ, ตสฺมา น ปพฺพาเชตพฺพา. ชานิตฺวา ปพฺพาเชนฺโต, อุปสมฺปาเทนฺโต จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อชานิตฺวาปิ ปพฺพาชิตา, อุปสมฺปาทิตา จ ชานิตฺวา ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺพา.

เอกาทสอภพฺพปุคฺคลกถาวณฺณนา.

๒๕๔๐. นูปสมฺปาทนีโยวาติ น อุปสมฺปาเทตพฺโพว. อนุปชฺฌายโกติ อสนฺนิหิตอุปชฺฌาโย วา อคฺคหิตอุปชฺฌายคฺคหโณ วา. กโรโตติ อนุปชฺฌายกํ อุปสมฺปาทยโต. ทุกฺกฏํ โหตีติ อาจริยสฺส จ คณสฺส จ ทุกฺกฏาปตฺติ โหติ. น กุปฺปติ สเจ กตนฺติ สเจ อนุปชฺฌายกสฺส อุปสมฺปทากมฺมํ กตํ ภเวยฺย, ตํ น กุปฺปติ สมคฺเคน สงฺเฆน อกุปฺเปน านารเหน กตตฺตา.

๒๕๔๑. เอเกติ อภยคิริวาสิโน. ‘‘น คเหตพฺพเมวา’’ติ อฏฺกถาย ทฬฺหํ วุตฺตตฺตา วุตฺตํ. ตํ วจนํ. เอตฺถ จ อุปชฺฌาเย อสนฺนิหิเตปิ อุปชฺฌายคฺคหเณ อกเตปิ กมฺมวาจายํ ปน อุปชฺฌายกิตฺตนํ กตํเยวาติ ทฏฺพฺพํ. อฺถา ‘‘ปุคฺคลํ น ปรามสตี’’ติ วุตฺตาย กมฺมวิปตฺติยา สมฺภวโต กมฺมํ กุปฺเปยฺย. เตเนว ‘‘อุปชฺฌายํ อกิตฺเตตฺวา’’ติ อวตฺวา ‘‘อุปชฺฌํ อคฺคาหาเปตฺวา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๗) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ยถา จ อปริปุณฺณปตฺตจีวรสฺส อุปสมฺปทากาเล กมฺมวาจายํ ‘‘ปริปุณฺณสฺส ปตฺตจีวร’’นฺติ อสนฺตํ วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา กมฺมวาจาย กตายปิ อุปสมฺปทา รุหติ, เอวํ ‘‘อยํ พุทฺธรกฺขิโต อายสฺมโต ธมฺมรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ อสนฺตํ ปุคฺคลํ กิตฺเตตฺวา เกวลํ สนฺตปทนีหาเรน กมฺมวาจาย กตาย อุปสมฺปทา รุหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘น กุปฺปติ สเจ กต’’นฺติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, อนุปชฺฌายโก อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๑๗) เอตฺตกเมว วตฺวา ‘‘โส จ ปุคฺคโล อนุปสมฺปนฺโน’’ติ อวุตฺตตฺตา, กมฺมวิปตฺติลกฺขณสฺส จ อสมฺภวโต ‘‘น คเหตพฺพเมว ต’’นฺติ วุตฺตํ.

เสเสสุ สพฺพตฺถปีติ สงฺฆคณปณฺฑกเถยฺยสํวาสกติตฺถิยปกฺกนฺตกติรจฺฉานคตมาตุปิตุอรหนฺตฆาตกภิกฺขุนิทูสกสงฺฆเภทกโลหิตุปฺปาทกอุภโตพฺยฺชนกสงฺขาเตหิ อุปชฺฌาเยหิ อุปสมฺปาทิเตสุ สพฺเพสุ เตรสสุ วิกปฺเปสุ. วุตฺตฺหิ ภควตา ‘‘น, ภิกฺขเว, สงฺเฆน อุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ. น เกวลํ เอเตสุเยว เตรสสุ, อถ ‘‘อปตฺตกอจีวรกอจีวรปตฺตกยาจิตกปตฺตยาจิตกจีวรยาจิตกปตฺตจีวรกา’’ติ เอเตสุ ฉสุ วิกปฺเปสุ อยํ นโย โยเชตพฺโพติ. เสส-คฺคหเณน เอเตสมฺปิ สงฺคโห. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘น, ภิกฺขเว, อปตฺตโก อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ (มหาว. ๑๑๘). อยํ นโยติ ‘‘น กุปฺปติ สเจ กต’’นฺติ วุตฺตนโย.

๒๕๔๒. ปฺจวีสตีติ จตุวีสติ ปาราชิกา, อูนวีสติวสฺโส จาติ ปฺจวีสติ. วุตฺตฺหิ ‘‘น, ภิกฺขเว, ชานํ อูนวีสติวสฺโส ปุคฺคโล อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๙๙). โอสาโรติ อุปสมฺปทาสงฺขาโต โอสาโร. เตเนว จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก ‘‘ตฺเจ สงฺโฆ โอสาเรติ, เอกจฺโจ โสสาริโต’’ติอาทิปาสฺส (มหาว. ๓๙๖) อฏฺกถายํ ‘‘โอสาเรตีติ อุปสมฺปทากมฺมวเสน ปเวเสตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๙๖) วุตฺตํ. ‘‘นาสนารโห’’ติ อิมินา ‘‘ปณฺฑโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติอาทิวจนโต (มหาว. ๑๐๙) อุปสมฺปาทิตสฺสาปิ เสตกานิ ทตฺวา คิหิภาวํ ปาเปตพฺพตํ ทีเปติ.

๒๕๔๓. หตฺถจฺฉินฺนาทิ พาตฺตึสาติ จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก

‘‘หตฺถจฺฉินฺโน, ภิกฺขเว, อปฺปตฺโต โอสารณํ, ตฺเจ สงฺโฆ โอสาเรติ, โสสาริโต. ปาทจฺฉินฺโน…เป… หตฺถปาทจฺฉินฺโน… กณฺณจฺฉินฺโน… นาสจฺฉินฺโน… กณฺณนาสจฺฉินฺโน… องฺคุลิจฺฉินฺโน… อฬจฺฉินฺโน… กณฺฑรจฺฉินฺโน… ผณหตฺถโก… ขุชฺโช… วามโน… คลคณฺฑี… ลกฺขณาหโต… กสาหโต… ลิขิตโก… สีปทิโก… ปาปโรคี… ปริสทูสโก… กาโณ… กุณี… ขฺโช… ปกฺขหโต… ฉินฺนิริยาปโถ… ชราทุพฺพโล… อนฺโธ… มูโค… ปธิโร… อนฺธมูโค… อนฺธปธิโร… มูคปธิโร… อนฺธมูคปธิโร, ภิกฺขเว, อปฺปตฺโต โอสารณํ, ตฺเจ สงฺโฆ โอสาเรติ, โสสาริโต’’ติ (มหาว. ๓๙๖) พาตฺตึส.

กุฏฺิอาทิ จ เตรสาติ มหาขนฺธเก อาคตา –

‘‘กุฏฺึ คณฺฑึ กิลาสิฺจ, โสสิฺจ อปมาริกํ;

ตถา ราชภฏํ โจรํ, ลิขิตํ การเภทกํ.

‘‘กสาหตํ นรฺเจว, ปุริสํ ลกฺขณาหตํ;

อิณายิกฺจ ทาสฺจ, ปพฺพาเชนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ. –

ยถาวุตฺตา เตรส.

เอวเมเต ปฺจจตฺตาลีส วุตฺตา. เตสุ กสาหตลกฺขณาหตลิขิตกานํ ติณฺณํ อุภยตฺถ อาคตตฺตา อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาจตฺตาลีเสว ทฏฺพฺพา.

‘‘หตฺถจฺฉินฺนาทิพาตฺตึส, กุฏฺิอาทิ จ เตรสา’’ติ เย ปุคฺคลา วุตฺตา, เตสํ. โอสาโร อปฺปตฺโตติ อุปสมฺปทาอนนุรูปาติ อตฺโถ. กโต เจติ อกตฺตพฺพภาวมสลฺลกฺขนฺเตหิ ภิกฺขูหิ ยทิ อุปสมฺปทาสงฺขาโต โอสาโร กโต ภเวยฺย. รูหตีติ สิชฺฌติ, เต ปุคฺคลา อุปสมฺปนฺนาเยวาติ อธิปฺปาโย. อาจริยาทโย ปน อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ. ยถาห จมฺเปยฺยกฺขนฺธกฏฺกถายํ – ‘‘หตฺถจฺฉินฺนาทโย ปน ทฺวตฺตึส สุโอสาริตา, อุปสมฺปาทิตา อุปสมฺปนฺนาว โหนฺติ, น เต ลพฺภา กิฺจิ วตฺตุํ. อาจริยุปชฺฌายา, ปน การกสงฺโฆ จ สาติสารา, น โกจิ อาปตฺติโต มุจฺจตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๙๖).

๒๕๔๔-๕. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุํ, ตฺจ โข เอเกน อุปชฺฌาเยนา’’ติ (มหาว. ๑๒๓) วจนโต สเจ ตโย อาจริยา เอกสีมายํ นิสินฺนา เอกสฺส อุปชฺฌายสฺส นามํ คเหตฺวา ติณฺณํ อุปสมฺปทาเปกฺขานํ วิสุํ วิสุํเยว กมฺมวาจํ เอกกฺขเณ วตฺวา ตโย อุปสมฺปาเทนฺติ, วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกูปชฺฌายโก โหตี’’ติอาทิ.

‘‘ตโย’’ติ อิทํ อฏฺุปฺปตฺติยํ ‘‘สมฺพหุลานํ เถราน’’นฺติ (มหาว. ๑๒๓) อาคตตฺตา วุตฺตํ. เอกโตติ เอกกฺขเณ. อนุสาวนนฺติ กมฺมวาจํ. โอสาเรตฺวาติ วตฺวา. กมฺมนฺติ อุปสมฺปทากมฺมํ. น จ กุปฺปตีติ น วิปชฺชติ. กปฺปตีติ อวิปชฺชนโต เอวํ กาตุํ วฏฺฏติ.

๒๕๔๖-๗. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๒๓) วจนโต สเจ เอโก อาจริโย ‘‘พุทฺธรกฺขิโต จ ธมฺมรกฺขิโต จ สงฺฆรกฺขิโต จ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ อุปสมฺปทาเปกฺขานํ ปจฺเจกํ นามํ คเหตฺวา กมฺมวาจํ วตฺวา ทฺเว ตโยปิ อุปสมฺปาเทติ, วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกูปชฺฌายโก โหตี’’ติอาทิ.

อุปสมฺปทํ อเปกฺขนฺตีติ ‘‘อุปสมฺปทาเปกฺขา’’ติ อุปสมฺปชฺชนกา วุจฺจนฺติ. เตสํ นามนฺติ เตสํ อุปสมฺปชฺชนฺตานฺเจว อุปชฺฌายานฺจ นามํ. อนุปุพฺเพน สาเวตฺวาติ โยชนา, ‘‘พุทฺธรกฺขิโต’’ติอาทินา ยถาวุตฺตนเยน กมฺมวาจายํ สกฏฺาเน วตฺวา สาเวตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาติ เอเกน อาจริเยน. เอกโตติ ทฺเว ตโย ชเน เอกโต กตฺวา. อนุสาเวตฺวาติ กมฺมวาจํ วตฺวา. กตํ อุปสมฺปทากมฺมํ.

๒๕๔๘. อฺมฺานุสาเวตฺวาติ อฺมฺสฺส นามํ อนุสาเวตฺวา, คเหตฺวาติ อตฺโถ, อฺมฺสฺส นามํ คเหตฺวา กมฺมวาจํ วตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๕๔๙. ตํ วิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘สุมโน’’ติอาทิ. สุมโนติ อาจริโย. ติสฺสเถรสฺส อุปชฺฌายสฺส. สิสฺสกํ สทฺธิวิหาริกํ. อนุสาเวตีติ กมฺมวาจํ สาเวติ. ติสฺโสติ ปมํ อุปชฺฌายภูตสฺส คหณํ. สุมนเถรสฺสาติ ปมํ อาจริยตฺเถรมาห. อิเม ทฺเว เอกสีมายํ นิสีทิตฺวา เอกกฺขเณ อฺมฺสฺส สทฺธิวิหาริกานํ กมฺมวาจํ วทนฺตา อตฺตโน อตฺตโน สทฺธิวิหาริกํ ปฏิจฺจ อุปชฺฌายาปิ โหนฺติ, อนฺเตวาสิเก ปฏิจฺจ อาจริยาปิ โหนฺติ, อฺมฺสฺส คณปูรกา จ โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห –

‘‘สเจ ปน นานาจริยา นานาอุปชฺฌายา โหนฺติ, ติสฺสตฺเถโร สุมนตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ, สุมนตฺเถโร ติสฺสตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ อนุสฺสาเวติ, อฺมฺฺจ คณปูรกา โหนฺติ, วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๒๓).

๒๕๕๐. อิธาติ อิมสฺมึ อุปสมฺปทาธิกาเร. ปฏิกฺขิตฺตาติ ‘‘น ตฺเวว นานุปชฺฌาเยนา’’ติ (มหาว. ๑๒๓) ปฏิสิทฺธา. โลกิเยหิ อาทิจฺจปุตฺโต มนูติ โย ปมกปฺปิโก มนุสฺสานํ อาทิราชา วุจฺจติ, ตสฺส วํเส ชาตตฺตา อาทิจฺโจ พนฺธุ เอตสฺสาติ อาทิจฺจพนฺธุ, ภควา, เตน.

มหาขนฺธกกถาวณฺณนา.

อุโปสถกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๕๕๑-๒. ยา เอกาทสหิ สีมาวิปตฺตีหิ วชฺชิตา ติสมฺปตฺติสํยุตา นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆเฏตฺวา สมฺมตา, สา อยํ พทฺธสีมา นาม สิยาติ โยชนา. ตตฺถ อติขุทฺทกา, อติมหตี, ขณฺฑนิมิตฺตา, ฉายานิมิตฺตา, อนิมิตฺตา, พหิสีเม ิตสมฺมตา, นทิยา สมฺมตา, สมุทฺเท สมฺมตา, ชาตสฺสเร สมฺมตา, สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา, สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตาติ ‘‘อิเมหิ เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺตี’’ติ (ปริ. ๔๘๖) วจนโต อิมา เอกาทส วิปตฺติสีมาโย นาม, วิปนฺนสีมาติ วุตฺตํ โหติ.

ตตฺถ อติขุทฺทกา นาม ยตฺถ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ น สกฺโกนฺติ. อติมหตี นาม ยา อนฺตมโส เกสคฺคมตฺเตนาปิ ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา สมฺมตา. ขณฺฑนิมิตฺตา นาม อฆฏิตนิมิตฺตา วุจฺจติ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา อนุกฺกเมเนว ทกฺขิณาย, ปจฺฉิมาย, อุตฺตราย ทิสาย กิตฺเตตฺวา ปุน ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปุพฺพกิตฺติตํ ปฏิกิตฺเตตฺวา เปตุํ วฏฺฏติ, เอวํ อขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. สเจ ปน อนุกฺกเมน อาหริตฺวา อุตฺตราย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตตฺเถว เปติ, ขณฺฑนิมิตฺตา นาม โหติ. อปราปิ ขณฺฑนิมิตฺตา นาม ยา อนิมิตฺตุปคํ ตจสารรุกฺขํ วา ขาณุกํ วา ปํสุปุฺชวาลิกาปุฺชานํ วา อฺตรํ อนฺตรา เอกํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา. ฉายานิมิตฺตา นาม ปพฺพตจฺฉายาทีนํ ยํ กิฺจิ ฉายํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา. อนิมิตฺตา นาม สพฺเพน สพฺพํ นิมิตฺตานิ อกิตฺเตตฺวา สมฺมตา. พหิสีเม ิตสมฺมตา นาม นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา นิมิตฺตานํ พหิ ิเตน สมฺมตา.

นทิยา สมุทฺเท ชาตสฺสเร สมฺมตา นาม เอเตสุ นทิอาทีสุ สมฺมตา. สา หิ เอวํ สมฺมตาปิ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๘) วจนโต อสมฺมตาว โหติ. สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา นาม อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา. สเจ หิ โปราณกสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อมฺโพ เจว ชมฺพู จาติ ทฺเว รุกฺขา อฺมฺํ สํสฏฺวิฏปา โหนฺติ, เตสุ อมฺพสฺส ปจฺฉิมทิสาภาเค ชมฺพู, วิหารสีมา จ ชมฺพุํ อนฺโต กตฺวา อมฺพํ กิตฺเตตฺวา พทฺธา โหติ, อถ ปจฺฉา ตสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย วิหาเร กเต สีมํ พนฺธนฺตา ภิกฺขู ตํ อมฺพํ อนฺโต กตฺวา ชมฺพุํ กิตฺเตตฺวา พนฺธนฺติ, สีมาย สีมํ สมฺภินฺนา โหติ. สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตา นาม อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตา. สเจ หิ ปเรสํ พทฺธสีมํ สกลํ วา ตสฺสา ปเทสํ วา อนฺโต กตฺวา อตฺตโน สีมํ สมฺมนฺนติ, สีมาย สีมา อชฺโฌตฺถริตา นาม โหตีติ. อิติ อิมาหิ เอกาทสหิ วิปตฺติสีมาหิ วชฺชิตาติ อตฺโถ.

ติสมฺปตฺติสํยุตาติ นิมิตฺตสมฺปตฺติ, ปริสาสมฺปตฺติ, กมฺมวาจาสมฺปตฺตีติ อิมาหิ ตีหิ สมฺปตฺตีหิ สมนฺนาคตา. ตตฺถ นิมิตฺตสมฺปตฺติยุตฺตา นาม ‘‘ปพฺพตนิมิตฺตํ, ปาสาณนิมิตฺตํ, วนนิมิตฺตํ, รุกฺขนิมิตฺตํ, มคฺคนิมิตฺตํ, วมฺมิกนิมิตฺตํ, นทินิมิตฺตํ, อุทกนิมิตฺต’’นฺติ (มหาว. ๑๓๘) เอวํ วุตฺเตสุ อฏฺสุ นิมิตฺเตสุ ตสฺมึ ตสฺมึ ทิสาภาเค ยถาลทฺธานิ นิมิตฺตุปคานิ นิมิตฺตานิ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺตํ? ปพฺพโต, ภนฺเต, เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติอาทินา นเยน สมฺมา กิตฺเตตฺวา สมฺมตา.

ปริสาสมฺปตฺติยุตฺตา นาม สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน จตูหิ ภิกฺขูหิ สนฺนิปติตฺวา ยาวติกา ตสฺมึ คามเขตฺเต พทฺธสีมํ วา นทิสมุทฺทชาตสฺสเร วา อโนกฺกมิตฺวา ิตา ภิกฺขู, เต สพฺเพ หตฺถปาเส วา กตฺวา, ฉนฺทํ วา อาหริตฺวา สมฺมตา.

กมฺมวาจาสมฺปตฺติยุตฺตา นาม ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, ยาวตา สมนฺตา นิมิตฺตา กิตฺติตา’’ติอาทินา (มหาว. ๑๓๙) นเยน วุตฺตาย ปริสุทฺธาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมตา. เอวํ เอกาทส วิปตฺติสีมาโย อติกฺกมิตฺวา ติวิธสมฺปตฺติยุตฺตา นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆเฏตฺวา สมฺมตา สีมา พทฺธสีมาติ เวทิตพฺพา.

๒๕๕๓-๔. ขณฺฑสมานสํวาสอวิปฺปวาสา อาทโย อาทิภูตา, อาทิมฺหิ วา ยาสํ สีมานํ ตา ขณฺฑสมานสํวาสาวิปฺปวาสาที, ตาสํ, ตาหิ วา ปเภโท ขณฺฑสมานสํวาสาทิเภโท, ตโต ขณฺฑสมานสํวาสาทิเภทโต, ขณฺฑสีมา, สมานสํวาสสีมา, อวิปฺปวาสสีมาติ อิมาสํ สีมานํ เอตาหิ วา กรณภูตาหิ, เหตุภูตาหิ วา ชาเตน วิภาเคนาติ วุตฺตํ โหติ. สมานสํวาสาวิปฺปวาสานมนฺตเร ขณฺฑา ปริจฺฉินฺนา ตาหิ อสงฺกรา สีมา ขณฺฑสีมา นาม. สมานสํวาเสหิ ภิกฺขูหิ เอกโต อุโปสถาทิโก สํวาโส เอตฺถ กรียตีติ สมานสํวาสา นาม. อวิปฺปวาสาย ลกฺขณํ ‘‘พนฺธิตฺวา’’ติอาทินา วกฺขติ. อิติ พทฺธา ติธา วุตฺตาติ เอวํ พทฺธสีมา ติปฺปเภทา วุตฺตา.

อุทกุกฺเขปาติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนํ. สตฺตนฺนํ อพฺภนฺตรานํ สมาหารา สตฺตพฺภนฺตรา, ตโตปิ จ. อพทฺธาปิ ติวิธาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถาติ ตาสุ ตีสุ อพทฺธสีมาสุ. คามปริจฺเฉโทติ สพฺพทิสาสุ สีมํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อิมสฺส ปเทสสฺส เอตฺตโก กโร’’ติ เอวํ กเรน นิยมิโต คามปฺปเทโส. ยถาห – ‘‘ยตฺตเก ปเทเส ตสฺส คามสฺส โภชกา พลึ หรนฺติ, โส ปเทโส อปฺโป วา โหตุ มหนฺโต วา, ‘คามสีมา’ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ยมฺปิ เอกสฺมึเยว คามกฺเขตฺเต เอกํ ปเทสํ ‘อยํ วิสุํ คาโม โหตู’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ราชา กสฺสจิ เทติ, โสปิ วิสุํคามสีมา โหติเยวา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗).

‘‘คามปริจฺเฉโท’’ติ อิมินา จ นครปริจฺเฉโท จ สงฺคหิโต. ยถาห – ‘‘คามคฺคหเณน เจตฺถ นครมฺปิ คหิตเมว โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗). นิคมสีมาย วิสุํเยว วุตฺตตฺตา ตสฺสา อิธ สงฺคโห น วตฺตพฺโพ. วุตฺตฺหิ ปาฬิยํ ‘‘ยํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรติ. ยา ตสฺส วา คามสฺส คามสีมา, นิคมสฺส วา นิคมสีมา, อยํ ตตฺถ สมานสํวาสา เอกุโปสถา’’ติ (มหาว. ๑๔๗). อิมิสฺสา วิสุํเยว ลกฺขณสฺส วุตฺตตฺตา คามสีมาลกฺขเณเนว อุปลกฺขิตา.

๒๕๕๕. ‘‘ชาตสฺสเร’’ติอาทีสุ ชาตสฺสราทีนํ ลกฺขณํ เอวํ เวทิตพฺพํ – โย ปน เกนจิ ขณิตฺวา อกโต สยํชาโต โสพฺโภ สมนฺตโต อาคเตน อุทเกน ปูริโต ติฏฺติ, ยตฺถ นทิยํ วกฺขมานปฺปกาเร วสฺสกาเล อุทกํ สนฺติฏฺติ, อยํ ชาตสฺสโร นาม. โยปิ นทึ วา สมุทฺทํ วา ภินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตอุทเกน ขณิโต โสพฺโภ เอตํ ลกฺขณํ ปาปุณาติ, อยมฺปิ ชาตสฺสโรเยว. สมุทฺโท ปากโฏเยว.

ยสฺสา ธมฺมิกานํ ราชูนํ กาเล อนฺวฑฺฒมาสํ อนุทสาหํ อนุปฺจาหํ อนติกฺกมิตฺวา เทเว วสฺสนฺเต วลาหเกสุ วิคตมตฺเตสุ โสตํ ปจฺฉิชฺชติ, อยํ นทิสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ยสฺสา ปน อีทิเส สุวุฏฺิกาเล วสฺสานสฺส จตุมาเส โสตํ น ปจฺฉิชฺชติ, ยตฺถ ติตฺเถน วา อติตฺเถน วา สิกฺขากรณีเย อาคตลกฺขเณน ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อนฺตรวาสกํ อนุกฺขิปิตฺวา อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา เอกทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ อนฺตรวาสโก เตมิยติ, อยํ สมุทฺทํ วา ปวิสตุ ตฬากํ วา, ปภวโต ปฏฺาย นที นาม.

สมนฺตโตติ สมนฺตา. มชฺฌิมสฺสาติ ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส. อุทกุกฺเขโปติ วกฺขมาเนน นเยน ถามปฺปมาเณน ขิตฺตสฺส อุทกสฺส วา วาลุกาย วา ปติตฏฺาเนน ปริจฺฉินฺโน อนฺโตปเทโส. ยถา อกฺขธุตฺตา ทารุคุฬํ ขิปนฺติ, เอวํ อุทกํ วา วาลุกํ วา หตฺเถน คเหตฺวา ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน สพฺพถาเมน ขิปิตพฺพํ, ตตฺถ ยตฺถ เอวํ ขิตฺตํ อุทกํ วา วาลุกา วา ปตติ, อยํ อุทกุกฺเขโป นามาติ. อุทกุกฺเขปสฺิโตติ ‘‘อุทกุกฺเขโป’’ติ สลฺลกฺขิโต.

๒๕๕๖. อคามเก อรฺเติ วิฺฌาฏวิสทิเส คามรหิเต มหาอรฺเ. สมนฺตโต สตฺเตวพฺภนฺตราติ อตฺตโน ิตฏฺานโต ปริกฺขิปิตฺวา สตฺเตว อพฺภนฺตรา ยสฺสา สีมาย ปริจฺเฉโท, อยํ สตฺตพฺภนฺตรนามิกา สีมา นาม.

๒๕๕๗. คุฬุกฺเขปนเยนาติ อกฺขธุตฺตกานํ ทารุคุฬุกฺขิปนากาเรน. อุทกุกฺเขปกาติ อุทกุกฺเขปสทิสวเสน.

๒๕๕๘. อิมาสํ ทฺวินฺนํ สีมานํ วฑฺฒนกฺกมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อพฺภนฺตรูทกุกฺเขปา, ิโตกาสา ปรํ สิยุ’’นฺติ. ิโตกาสา ปรนฺติ ปริสาย ิตฏฺานโต ปรํ, ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย สตฺตพฺภนฺตรา จ มินิตพฺพา, อุทกุกฺเขโป จ กาตพฺโพติ อตฺโถ.

๒๕๕๙-๖๐. อนฺโตปริจฺเฉเทติ อุทกุกฺเขเปน วา สตฺตพฺภนฺตเรหิ วา ปริจฺฉินฺโนกาสสฺส อนฺโต. หตฺถปาสํ วิหาย ิโต วา ปรํ ตตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อนติกฺกมฺม ิโต วาติ โยชนา, สีมนฺตริกตฺถาย เปตพฺพํ เอกํ อุทกุกฺเขปํ วา สตฺตพฺภนฺตรํ เอว วา อนติกฺกมฺม ิโตติ อตฺโถ.

กมฺมํ วิโกเปตีติ อนฺโต ิโต กมฺมสฺส วคฺคภาวกรณโต, พหิ ตตฺตกํ ปเทสํ อนติกฺกมิตฺวา ิโต อฺสฺส สงฺฆสฺส คณปูรณภาวํ คจฺฉนฺโต สีมาย สงฺกรภาวกรเณน กมฺมํ วิโกเปติ. อิติ ยสฺมา อฏฺกถานโย, ตสฺมา โส อนฺโตสีมาย หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิโต หตฺถปาเส วา กาตพฺโพ, สีมนฺตริกตฺถาย ปริจฺฉินฺโนกาสโต พหิ วา กาตพฺโพ. ตตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อนติกฺกมิตฺวา ิโต ยถาิโตว สเจ อฺสฺส กมฺมสฺส คณปูรโก น โหติ, กมฺมํ น โกเปตีติ คเหตพฺพํ.

๒๕๖๑-๒. สณฺานนฺติ ติโกฏิสณฺานํ. นิมิตฺตนฺติ ปพฺพตาทินิมิตฺตํ. ทิสกิตฺตนนฺติ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’’นฺติอาทินา ทิสากิตฺตนํ. ปมาณนฺติ ติโยชนปรมํ ปมาณํ. โสเธตฺวาติ ยสฺมึ คามกฺเขตฺเต สีมํ พนฺธติ, ตตฺถ วสนฺเต อุปสมฺปนฺนภิกฺขู พทฺธสีมวิหาเร วสนฺเต สีมาย พหิ คนฺตุํ อทตฺวา, อพทฺธสีมวิหาเร วสนฺเต หตฺถปาสํ อุปเนตพฺเพ หตฺถปาสํ เนตฺวา อวเสเส พหิสีมาย กตฺวา สพฺพมคฺเคสุ อารกฺขํ วิทหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. สีมนฺติ ขณฺฑสีมํ.

กีทิสนฺติ อาห ‘‘ติโกณ’’นฺติอาทิ. ปณวูปมนฺติ ปณวสณฺานํ มชฺเฌ สํขิตฺตํ อุภยโกฏิยา วิตฺถตํ. ‘‘วิตานาการํ ธนุกาการ’’นฺติ อาการ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ธนุกาการนฺติ อาโรปิตธนุสณฺานํ, ‘‘มุทิงฺคูปมํ สกฏูปม’’นฺติ อุปมา-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. มุทิงฺคูปมนฺติ มชฺเฌ วิตฺถตํ อุภยโกฏิยา ตนุกํ ตุริยวิเสสํ มุทิงฺคนฺติ วทนฺติ, ตาทิสนฺติ อตฺโถ. สีมํ พนฺเธยฺยาติ โยชนา.

๒๕๖๓. ปพฺพตาทินิมิตฺตุปคนิมิตฺตานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปพฺพต’’นฺติอาทิ. อิติ อฏฺ นิมิตฺตานิ ทีปเยติ โยชนา. ตตฺเรวํ สงฺเขปโต นิมิตฺตุปคตา เวทิตพฺพา – สุทฺธปํสุสุทฺธปาสาณอุภยมิสฺสกวเสน (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา; มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) ติวิโธปิ หิ ปพฺพโต หตฺถิปฺปมาณโต ปฏฺาย อุทฺธํ นิมิตฺตุปโค, ตโต โอมกตโร น วฏฺฏติ. อนฺโตสาเรหิ วา อนฺโตสารมิสฺสเกหิ วา รุกฺเขหิ จตุปฺจรุกฺขมตฺตมฺปิ วนํ นิมิตฺตุปคํ, ตโต อูนตรํ น วฏฺฏติ. ปาสาณนิมิตฺเต อยคุฬมฺปิ ปาสาณสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตสฺมา โย โกจิ ปาสาโณ อุกฺกํเสน หตฺถิปฺปมาณโต โอมกตรํ อาทึ กตฺวา เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ทฺวตฺตึสปลคุฬปิณฺฑปริมาโณ นิมิตฺตุปโค, น ตโต ขุทฺทกตโร. ปิฏฺิปาสาโณ ปน อติมหนฺโตปิ วฏฺฏติ. รุกฺโข ชีวนฺโตเยว อนฺโตสาโร ภูมิยํ ปติฏฺิโต อนฺตมโส อุพฺเพธโต อฏฺงฺคุโล ปริณาหโต สูจิทณฺฑปฺปมาโณปิ นิมิตฺตุปโค, น ตโต โอรํ วฏฺฏติ. มคฺโค ชงฺฆมคฺโค วา โหตุ สกฏมคฺโค วา, โย วินิวิชฺฌิตฺวา ทฺเว ตีณิ คามกฺเขตฺตานิ คจฺฉติ, ตาทิโส ชงฺฆสกฏสตฺเถหิ วฬฺชิยมาโนเยว นิมิตฺตุปโค, อวฬฺโช น วฏฺฏติ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ตํทิวสํ ชาโต อฏฺงฺคุลุพฺเพโธ โควิสาณมตฺโตปิ วมฺมิโก นิมิตฺตุปโค, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ. อุทกํ ยํ อสนฺทมานํ อาวาฏโปกฺขรณิตฬากชาตสฺสรโลณิสมุทฺทาทีสุ ิตํ, ตํ อาทึ กตฺวา อนฺตมโส ตงฺขณํเยว ปถวิยํ ขเต อาวาเฏ ฆเฏหิ อาหริตฺวา ปูริตมฺปิ ยาว กมฺมวาจาปริโยสานา สณฺหนกํ นิมิตฺตุปคํ, อิตรํ สนฺทมานกํ, วุตฺตปริจฺเฉทกาลํ อติฏฺนฺตํ, ภาชนคตํ วา น วฏฺฏติ. ยา อพทฺธสีมาลกฺขเณ นที วุตฺตา, สา นิมิตฺตุปคา, อฺา น วฏฺฏตีติ.

๒๕๖๔. เตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ตีณีติ นิทฺธาริตพฺพทสฺสนํ, อิมินา เอกํ วา ทฺเว วา นิมิตฺตานิ น วฏฺฏนฺตีติ ทสฺเสติ. ยถาห – ‘‘สา เอวํ สมฺมนฺนิตฺวา พชฺฌมานา เอเกน, ทฺวีหิ วา นิมิตฺเตหิ อพทฺธา โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘). สเตนาปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท สมฺภาวนายํ ทฏฺพฺโพ, เตน วีสติยา, ตึสาย วา นิมิตฺเตหิ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทีเปติ.

๒๕๖๕. ติโยชนํ ปรํ อุกฺกฏฺโ ปริจฺเฉโท เอติสฺสาติ ติโยชนปรา. ‘‘วีสตี’’ติอาทีนํ สงฺขฺยาเน, สงฺขฺเยยฺเย จ วตฺตนโต อิธ สงฺขฺยาเน วตฺตมานํ วีสติ-สทฺทํ คเหตฺวา เอกวีสติ ภิกฺขูนนฺติ ภินฺนาธิกรณนิทฺเทโส กโตติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘เอกวีสติ’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน นิคฺคหีตโลโป, วีสติวคฺคกรณียปรมตฺตา สงฺฆกมฺมสฺส กมฺมารเหน สทฺธึ ภิกฺขูนํ เอกวีสตึ คณฺหนฺตีติ อตฺโถ, อิทฺจ นิสินฺนานํ วเสน วุตฺตํ. เหฏฺิมนฺตโต หิ ยตฺถ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ สกฺโกนฺติ, ตตฺตเก ปเทเส สีมํ พนฺธิตุํ วฏฺฏตีติ.

๒๕๖๖. ยา อุกฺกฏฺายปิ ยา จ เหฏฺิมายปิ เกสคฺคมตฺตโตปิ อธิกา วา อูนา วา, เอตา ทฺเวปิ สีมาโย ‘‘อสีมา’’ติ อาทิจฺจพนฺธุนา วุตฺตาติ โยชนา.

๒๕๖๗. สมนฺตโต สพฺพเมว นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวาติ ปุพฺพทิสานุทิสาทีสุ ปริโต สพฺพทิสาสุ ยถาลทฺธํ นิมิตฺโตปคํ สพฺพนิมิตฺตํ ‘‘วินยธเรน ปุจฺฉิตพฺพํ ‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’นฺติ? ‘ปพฺพโต, ภนฺเต’ติ. ปุน วินยธเรน ‘เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติอาทินา (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆเฏตฺวา กิตฺเตตฺวา. ตฺติ ทุติยา ยสฺสาติ วิคฺคโห, ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, ยาวตา สมนฺตา นิมิตฺตา กิตฺติตา’’ติอาทินา (มหาว. ๑๓๙) ปทภาชเน วุตฺเตน ตฺติทุติเยน กมฺเมนาติ อตฺโถ. อรหติ ปโหติ วินยธโรติ อธิปฺปาโย.

๒๕๖๘. พนฺธิตฺวาติ ยถาวุตฺตลกฺขณนเยน สมานสํวาสสีมํ ปมํ พนฺธิตฺวา. อนนฺตรนฺติ กิจฺจนฺตเรน พฺยวหิตํ อกตฺวา, กาลกฺเขปํ อกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ, สีมํ สมูหนิตุกามานํ ปจฺจตฺติกานํ โอกาสํ อทตฺวาติ อธิปฺปาโย. ปจฺฉาติ สมานสํวาสสมฺมุติโต ปจฺฉา. จีวราวิปฺปวาสกํ สมฺมนฺนิตฺวาน ยา พทฺธา, สา ‘‘อวิปฺปวาสา’’ติ วุจฺจตีติ โยชนา.

ตตฺถ จีวราวิปฺปวาสกํ สมฺมนฺนิตฺวาน ยา พทฺธาติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกุโปสถา…เป… เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๔๔) วุตฺตนเยน จีวเรน อวิปฺปวาสํ สมฺมนฺนิตฺวา ยา พทฺธา. สา อวิปฺปวาสาติ วุจฺจตีติ ตตฺถ วสนฺตานํ ภิกฺขูนํ จีวเรน วิปฺปวาสนิมิตฺตาปตฺติยา อภาวโต ตถา วุจฺจติ, ‘‘อวิปฺปวาสสีมา’’ติ วุจฺจตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๕๖๙. ‘‘ยา กาจิ นทิลกฺขณปฺปตฺตา นที นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ‘เอตํ พทฺธสีมํ กโรมา’ติ กตาปิ อสีมาว โหตี’’ติอาทิกํ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗) อฏฺกถานยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นที…เป… น โวตฺถรตี’’ติ, น ปตฺถรติ สีมาภาเวน พฺยาปินี น โหตีติ อตฺโถ. เตเนวาติ เยน น โวตฺถรติ, เตเนว การเณน. อพฺรวีติ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๗) อโวจ.

สีมากถาวณฺณนา.

๒๕๗๐. อฏฺมิยาปิ อุโปสถโวหารตฺตา ทินวเสน อุโปสถานํ อติเรกตฺเตปิ อิธ อธิปฺเปเตเยว อุโปสเถ คเหตฺวา อาห ‘‘นเววา’’ติ.

๒๕๗๑-๓. เต สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘จาตุทฺทโส…เป… กมฺเมนุโปสถา’’ติ. จตุทฺทสนฺนํ ปูรโณ จาตุทฺทโส. ปนฺนรสนฺนํ ปูรโณ ปนฺนรโส. ยทา ปน โกสมฺพกฺขนฺธเก (มหาว. ๔๕๑ อาทโย) อาคตนเยน ภินฺเน สงฺเฆ โอสาริเต ตสฺมึ ภิกฺขุสฺมึ สงฺโฆ ตสฺส วตฺถุสฺส วูปสมาย สงฺฆสามคฺคึ กโรติ, ตทา ‘‘ตาวเทว อุโปสโถ กาตพฺโพ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๔๗๕) วจนโต เปตฺวา จาตุทฺทสปนฺนรเส อฺโปิ โย โกจิ ทิวโส สามคฺคี อุโปสโถติ. เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. จาตุทฺทโส, ปนฺนรโส, สามคฺคี จ อุโปสโถติ เอเต ตโยปิ อุโปสถา ทิวเสเนว นิทฺทิฏฺา ทิวเสเนว วุตฺตาติ โยชนา.

สงฺเฆอุโปสโถติ สงฺเฆน กาตพฺพอุโปสโถ. คเณปุคฺคลุโปสโถติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สาธฺยสาธนลกฺขณสฺส สมฺพนฺธสฺส ลพฺภมานตฺตา ‘‘สงฺเฆ’’ติอาทีสุ สามิวจนปฺปสงฺเค ภุมฺมนิทฺเทโส. อุโปสโถ สาธฺโย กมฺมภาวโต, สงฺฆคณปุคฺคลา สาธนํ การกภาวโต.

สุตฺตสฺส อุทฺเทโส สุตฺตุทฺเทโส, สุตฺตุทฺเทโสติ อภิธานํ นามํ ยสฺส โส สุตฺตุทฺเทสาภิธาโน. กมฺเมนาติ กิจฺจวเสน.

๒๕๗๔. ‘‘อธิฏฺาน’’นฺติ วาจฺจลิงฺคมเปกฺขิตฺวา ‘‘นิทฺทิฏฺ’’นฺติ นปุํสกนิทฺเทโส. วาจฺจลิงฺคา หิ ตพฺพาทโยติ ปาติโมกฺโข นิทฺทิฏฺโ, ปาริสุทฺธิ นิทฺทิฏฺาติ ปุมิตฺถิลิงฺเคน โยเชตพฺพา.

๒๕๗๕. วุตฺตาติ ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ปาติโมกฺขุทฺเทสา, นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ปโม ปาติโมกฺขุทฺเทโส’’ติอาทินา (มหาว. ๑๕๐) เทสิตา, สยฺจ เตสฺจ อุทฺเทเส สงฺเขปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘นิทาน’’นฺติอาทิ. สาเวตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘สุเตนา’’ติ เสโส. เสสกนฺติ อนุทฺทิฏฺฏฺานํ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ…เป… อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตีติ อิมํ นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา ‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ, ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามิ กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา, ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ…เป… เอวเมตํ ธารยามี’ติ วตฺวา ‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ. สุตา โข ปนายสฺมนฺเตหิ จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา…เป… อวิวทมาเนหิ สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๐) –

อฏฺกถาย วุตฺตนเยน อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ.

๒๕๗๖. เสเสสุปีติ อุทฺทิฏฺาเปกฺขาย เสเสสุ ปาราชิกุทฺเทสาทีสุปิ. ‘‘อยเมว นโย เยฺโย’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ ‘‘วิตฺถาเรเนว ปฺจโม’’ติ วจนโต วิตฺถารุทฺเทเส ‘‘สาเวตพฺพํ ตุ เสสก’’นฺติ อยํ นโย น ลพฺภติ. ‘‘สาเวตพฺพํ ตุ เสสก’’นฺติ วจนโต ปาราชิกุทฺเทสาทีสุ ยสฺมึ วิปฺปกเต อนฺตราโย อุปฺปชฺชติ, เตน สทฺธึ อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ. นิทานุทฺเทเส ปน อนุทฺทิฏฺเ สุเตน สาเวตพฺพํ นาม นตฺถิ. ภิกฺขุนิปาติโมกฺเข อนิยตุทฺเทสสฺส ปริหีนตฺตา ‘‘ภิกฺขุนีนฺจ จตฺตาโร’’ติ วุตฺตํ. อุทฺเทสา นวิเม ปนาติ ภิกฺขูนํ ปฺจ, ภิกฺขุนีนํ จตฺตาโรติ อุภโตปาติโมกฺเข อิเม นว อุทฺเทสา วุตฺตาติ อตฺโถ.

๒๕๗๗. อุโปสเถติ สงฺฆุโปสเถ. อนฺตรายนฺติ ราชนฺตรายาทิกํ ทสวิธํ อนฺตรายํ. ยถาห – ‘‘ราชนฺตราโย โจรนฺตราโย อคฺยนฺตราโย อุทกนฺตราโย มนุสฺสนฺตราโย อมนุสฺสนฺตราโย วาฬนฺตราโย สรีสปนฺตราโย ชีวิตนฺตราโย พฺรหฺมจริยนฺตราโย’’ติ (มหาว. ๑๕๐).

ตตฺถ สเจ ภิกฺขูสุ ‘‘อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๐) นิสินฺเนสุ ราชา อาคจฺฉติ, อยํ ราชนฺตราโย. โจรา อาคจฺฉนฺติ, อยํ โจรนฺตราโย. ทวทาโห อาคจฺฉติ วา, อาวาเส วา อคฺคิ อุฏฺหติ, อยํ อคฺยนฺตราโย. เมโฆ วา อุฏฺเติ, โอโฆ วา อาคจฺฉติ, อยํ อุทกนฺตราโย. พหู มนุสฺสา อาคจฺฉนฺติ, อยํ มนุสฺสนฺตราโย. ภิกฺขุํ ยกฺโข คณฺหาติ, อยํ อมนุสฺสนฺตราโย. พฺยคฺฆาทโย จณฺฑมิคา อาคจฺฉนฺติ, อยํ วาฬนฺตราโย. ภิกฺขุํ สปฺปาทโย ฑํสนฺติ, อยํ สรีสปนฺตราโย. ภิกฺขุ คิลาโน วา โหติ, กาลํ วา กโรติ, เวริโน วา ตํ มาเรตุํ คณฺหนฺติ, อยํ ชีวิตนฺตราโย. มนุสฺสา เอกํ วา พหุํ วา ภิกฺขู พฺรหฺมจริยา จาเวตุกามา คณฺหนฺติ, อยํ พฺรหฺมจริยนฺตราโย.

‘‘เจวา’’ติ อิมินา อนฺตราเยว อนฺตรายสฺินา วิตฺถารุทฺเทเส อกเตปิ อนาปตฺตีติ ทีเปติ. อนุทฺเทโสติ วิตฺถาเรน อนุทฺเทโส. นิวาริโตติ ‘‘น, ภิกฺขเว, อสติ อนฺตราเย สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๕๐) ปฏิสิทฺโธ. อิมินา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สติ อนฺตราเย สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๕๐) อิทมฺปิ วิภาวิตํ โหติ.

๒๕๗๘. ตสฺสาติ ปาติโมกฺขสฺส. อิสฺสรณสฺส เหตุมาห ‘‘‘เถราเธยฺย’นฺติ ปาโต’’ติ. เถราเธยฺยนฺติ เถราธีนํ, เถรายตฺตนฺติ อตฺโถ. ปาโตติ ปาฬิวจนโต. ‘‘โย ตตฺถ ภิกฺขุ พฺยตฺโต ปฏิพโล, ตสฺสาเธยฺยํ ปาติโมกฺข’’นฺติ (มหาว. ๑๕๕) วจนโต อาห ‘‘อวตฺตนฺเตนา’’ติอาทิ. อวตฺตนฺเตนาติ อนฺตมโส ทฺเวปิ อุทฺเทเส อุทฺทิสิตุํ อสกฺโกนฺเตน. เถเรน โย อชฺฌิฏฺโ, เอวมชฺฌิฏฺสฺส ยสฺส ปน เถรสฺส, นวสฺส, มชฺฌิมสฺส วา โส ปาติโมกฺโข วตฺตติ ปคุโณ โหติ, โส อิสฺสโรติ สมฺพนฺโธ.

อชฺฌิฏฺโติ ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสา’’ติ อาณตฺโต, อิมินา อนาณตฺตสฺส อุทฺทิสิตุํ สามตฺถิยา สติปิ อนิสฺสรภาโว ทีปิโต โหติ. ยถาห – ‘‘สเจ เถรสฺส ปฺจ วา จตฺตาโร วา ตโย วา ปาติโมกฺขุทฺเทสา นาคจฺฉนฺติ, ทฺเว ปน อขณฺฑา สุวิสทา วาจุคฺคตา โหนฺติ, เถรายตฺโตว ปาติโมกฺโข. สเจ ปน เอตฺตกมฺปิ วิสทํ กาตุํ น สกฺโกติ, พฺยตฺตสฺส ภิกฺขุโน อายตฺโต โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๕).

๒๕๗๙. อุทฺทิสนฺเตติ ปาติโมกฺขุทฺเทสเก ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺเต. สมา วาติ อาวาสิเกหิ คณเนน สมา วา. อปฺปา วาติ อูนา วา. อาคจฺฉนฺติ สเจ ปนาติ สเจ ปน อาคนฺตุกา ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ. เสสกนฺติ อนุทฺทิฏฺฏฺานํ.

๒๕๘๐. อุทฺทิฏฺมตฺเตติ อุทฺทิฏฺกฺขเณเยว กถารมฺภโต ปุพฺพเมว. ‘‘วา’’ติ อิทํ เอตฺถาปิ โยเชตพฺพํ, อิมินา อวุตฺตํ ‘‘อวุฏฺิตาย วา’’ติ อิมํ วิกปฺปํ สมฺปิณฺเฑติ. อวุฏฺิตาย ปริสายาติ จ ภิกฺขุปริสาย อฺมฺํ สุขกถาย นิสินฺนายเยวาติ อตฺโถ. ปริสายาติ เอตฺถ ‘‘เอกจฺจายา’’ติ จ ‘‘สพฺพายา’’ติ จ เสโส. ภิกฺขูนํ เอกจฺจาย ปริสาย วุฏฺิตาย วา สพฺพาย ปริสาย วุฏฺิตาย วาติ โยชนา. เตสนฺติ วุตฺตปฺปการานํ อาวาสิกานํ. มูเลติ สนฺติเก. ปาริสุทฺธิ กาตพฺพาติ โยชนา. ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว…เป… อาคจฺฉนฺติ พหุตรา, เตหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ปุน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ พหู’’ติ. เอตฺถ ‘‘ปุน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ เสโส. สพฺพวิกปฺเปสุ ปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา ปุน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ อตฺโถ. อยํ ปเนตฺถ เสสวินิจฺฉโย –

‘‘ปนฺนรโสวาสิกานํ, อิตรานํ สเจตโร;

สมาเนตเรนุวตฺตนฺตุ, ปุริมานํ สเจธิกา;

ปุริมา อนุวตฺตนฺตุ, เตสํ เสเสปฺยยํ นโย.

‘‘ปาฏิปโทวาสิกานํ,

อิตรานํ อุโปสโถ;

สมโถกานํ สามคฺคึ,

มูลฏฺา เทนฺตุ กามโต.

พหิ คนฺตฺวาน กาตพฺโพ,

โน เจ เทนฺติ อุโปสโถ;

เทยฺยานิจฺฉาย สามคฺคี,

พหูสุ พหิ วา วเช.

‘‘ปาฏิปเทคนฺตุกานํ, เอวเมว อยํ นโย;

สาเวยฺย สุตฺตํ สฺจิจฺจ, อสฺสาเวนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ.

๒๕๘๑. วินิทฺทิฏฺสฺสาติ อาณตฺตสฺส, อิมินา อิตเรสํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ. อิธ ‘‘อคิลานสฺสา’’ติ เสโส. เถเรน อาณาเปนฺเตน ‘‘กิฺจิ กมฺมํ กโรนฺโต วา สทากาลเมว เอโก วา ภารนิตฺถรณโก วา สรภาณกธมฺมกถิกาทีสุ อฺตโร วา น อุโปสถาคารสมฺมชฺชนตฺถํ อาณาเปตพฺโพ, อวเสสา ปน วาเรน อาณาเปตพฺพา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๙) อฏฺกถาย วุตฺตวิธินา อาณาเปตพฺโพ. สเจ อาณตฺโต สมฺมชฺชนึ ตาวกาลิกมฺปิ น ลภติ, สาขาภงฺคํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ.

อาสนปฺาปนาณตฺติยมฺปิ วุตฺตนเยเนว อาณาเปตพฺโพ. อาณาเปนฺเตน จ สเจ อุโปสถาคาเร อาสนานิ นตฺถิ, สงฺฆิกาวาสโตปิ อาหริตฺวา ปฺเปตฺวา ปุน อาหริตพฺพานิ. อาสเนสุ อสติ กฏสารเกปิ ตฏฺฏิกาโยปิ ปฺเปตุํ วฏฺฏติ, ตฏฺฏิกาสุปิ อสติ สาขาภงฺคานิ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฺเปตพฺพานิ, กปฺปิยการกํ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ.

ปทีปกรเณปิ วุตฺตนเยเนว อาณาเปตพฺโพ. อาณาเปนฺเตน จ ‘‘อสุกสฺมึ นาม โอกาเส เตลํ วา วฏฺฏิ วา กปลฺลิกา วา อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ เตลาทีนิ นตฺถิ, ภิกฺขาจาเรนปิ ปริเยสิตพฺพานิ. ปริเยสิตฺวา อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ. อปิจ กปาเล อคฺคิปิ ชาเลตพฺโพ.

๒๕๘๒. ทีปนฺติ เอตฺถ ‘‘ชาเลตฺวา’’ติ เสโส. อถ วา ‘‘กตฺวา’’ติ อิมินา จ โยเชตพฺพํ. คณตฺตึ เปตฺวาติ ‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺตา, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อฺมฺํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยามา’’ติ เอวํ คณตฺตึ นิกฺขิปิตฺวา. กตฺตพฺโพ ตีหุโปสโถติ ตีหิ ภิกฺขูหิ อุโปสโถ กาตพฺโพ. ตีสุ เถเรน เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ทฺเว เอวํ ติกฺขตฺตุเมว วตฺตพฺโพ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส, ‘ปริสุทฺโธ’ติ มํ ธาเรถา’’ติ (มหาว. ๑๖๘). ทุติเยน, ตติเยน จ ยถากฺกมํ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, ภนฺเต, ‘ปริสุทฺโธ’ติ มํ ธาเรถา’’ติ ติกฺขตฺตุเมว วตฺตพฺพํ.

๒๕๘๓. ปุพฺพกิจฺจาทีนิ กตฺวา ตฺตึ อฏฺเปตฺวา เถเรน นโว เอวํ ติกฺขตฺตุเมว วตฺตพฺโพ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส, ‘ปริสุทฺโธ’ติ มํ ธาเรหี’’ติ (มหาว. ๑๖๘), นเวน เถโรปิ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, ภนฺเต, ‘ปริสุทฺโธ’ติ มํ ธาเรถา’’ติ (มหาว. ๑๖๘) ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺโพ. อิมสฺมึ ปน วาเร ตฺติยา อฏฺปนฺจ ‘‘ธาเรหี’’ติ เอกวจนนิทฺเทโส จาติ เอตฺตโกว วิเสโสติ ตํ อนาทิยิตฺวา ปุคฺคเลน กาตพฺพํ อุโปสถวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุพฺพกิจฺจํ สมาเปตฺวา, อธิฏฺเยฺย ปเนกโก’’ติ. อธิฏฺเยฺยาติ ‘‘อชฺช เม อุโปสโถ, ปนฺนรโส’ติ วา ‘จาตุทฺทโส’ติ วา อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺเยฺย. อสฺสาติ อวสาเน วุตฺตปุคฺคลํ สนฺธาย เอกวจนนิทฺเทโส. ยถาวุตฺโต สงฺโฆปิ ตโยปิ ทฺเวปิ อตฺตโน อตฺตโน อนุฺาตํ อุโปสถํ อนฺตรายํ วินา สเจ น กโรนฺติ, เอวเมว อาปตฺติมาปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺโพ.

๒๕๘๔-๕. อิทานิ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อุโปสถกมฺมานิ, อธมฺเมน วคฺคํ อุโปสถกมฺม’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๔๙) นเยน วุตฺตํ กมฺมจตุกฺกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธมฺเมน จ วคฺเคนา’’ติอาทิ. อธมฺเมน วคฺเคน กมฺมํ, อธมฺมโต สมคฺเคน กมฺมํ, ธมฺเมน วคฺเคน กมฺมํ, ธมฺมโต สมคฺเคน กมฺมนฺติ เอตานิ จตฺตาริ อุโปสถสฺส กมฺมานีติ ชิโน อพฺรวีติ โยชนา. จตูสฺวปิ ปเนเตสูติ เอเตสุ จตูสุ กมฺเมสุ ปน. จตุตฺถนฺติ ‘‘สมคฺเคน จ ธมฺมโต’’ติ วุตฺตํ จตุตฺถํ อุโปสถกมฺมํ ‘‘ธมฺมกมฺม’’นฺติ อธิปฺเปตํ.

๒๕๘๖-๗. ตานิ กมฺมานิ วิภาเวตุมาห ‘‘อธมฺเมนิธา’’ติอาทิ. อิธ อิมสฺมึ สาสเน เอตฺถ เอเตสุ จตูสุ อุโปสเถสุ. อธมฺเมน วคฺโค อุโปสโถ กตโมติ กเถตุกามตาปุจฺฉา. ยตฺถ ยสฺสํ เอกสีมายํ ภิกฺขุโน จตฺตาโร วสนฺตีติ โยชนา.

ตตฺร เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อานยิตฺวา เต ตโย ชนา ปาริสุทฺธึ อุโปสถํ กโรนฺติ เจ, เอวํ กโต อุโปสโถ อธมฺโม วคฺคุโปสโถ นามาติ โยชนา, เอกสีมฏฺเหิ จตูหิ สงฺฆุโปสเถ กาตพฺเพ คณุโปสถสฺส กตตฺตา อธมฺโม จ สงฺฆมชฺฌํ วินา คณมชฺฌํ ปาริสุทฺธิยา อคมนโต ตสฺส หตฺถปาสํ อนุปคมเนน วคฺโค จ โหตีติ อตฺโถ.

๒๕๘๘. อธมฺเมน สมคฺโคติ เอตฺถ ‘‘อุโปสโถ กตโม’’ติ อนุวตฺเตตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขุโน เอกโต’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘โหติ อธมฺมิโก’’ติ ปทจฺเฉโท. จตูหิ สมคฺเคหิ สงฺฆุโปสเถ กาตพฺเพ คณุโปสถกรณํ อธมฺโม, หตฺถปาสุปคมนโต สมคฺโค โหติ.

๒๕๘๙-๙๐. โย อุโปสโถ ธมฺเมน วคฺโค โหติ, โส กตโมติ โยชนา. ยตฺถ ยสฺสํ เอกสีมายํ จตฺตาโร ภิกฺขุโน วสนฺติ, ตตฺร เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อานยิตฺวา เต ตโย ชนา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺเต เจ, ธมฺเมน วคฺโค อุโปสโถ โหตีติ โยชนา. เอกสีมฏฺเหิ จตูหิ สงฺฆุโปสถสฺส กตตฺตา ธมฺโม, เอกสฺส หตฺถปาสํ อนุปคมเนน วคฺโค จ โหตีติ อตฺโถ.

๒๕๙๑. โย ธมฺมโต สมคฺโค, โส กตโมติ โยชนา. อิธ อิมสฺมึ สาสเน จตฺตาโร ภิกฺขุโน เอกโต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ เจ, อยํ ธมฺมโต สมคฺโค อุโปสโถติ มโต อธิปฺเปโตติ โยชนา. จตูหิ สงฺฆุโปสถสฺส กตตฺตา ธมฺโม, เอกสฺสาปิ หตฺถปาสํ อวิชหเนน สมคฺโคติ อธิปฺปาโย.

๒๕๙๒. วคฺเค สงฺเฆ วคฺโคติ สฺิโน, สมคฺเค จ สงฺเฆ วคฺโคติ สฺิโน อุภยตฺถ วิมติสฺส วา อุโปสถํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ อาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๕๙๓. เภทาธิปฺปายโตติ ‘‘นสฺสนฺเตเต, วินสฺสนฺเตเต, โก เตหิ อตฺโถ’’ติ เอวํ เภทปุเรกฺขารตาย ‘‘อุโปสถํ กโรนฺตสฺสา’’ติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. ตสฺส ภิกฺขุโน ถุลฺลจฺจยํ โหติ อกุสลพลวตาย จ ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ. ยถาห – ‘‘เภทปุเรกฺขารปนฺนรสเก อกุสลพลวตาย ถุลฺลจฺจยํ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๑๗๖). วคฺเค วา สมคฺเค วา สงฺเฆ สมคฺโค อิติ สฺิโน อุโปสถํ กโรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. อวเสโส ปเนตฺถ วตฺตพฺพวินิจฺฉโย ปวารณวินิจฺฉยาวสาเน ‘‘ปาริสุทฺธิปฺปทาเนนา’’ติอาทีหิ (วิ. วิ. ๒๖๔๒) เอกโต วตฺตุมิจฺฉนฺเตน น วุตฺโต.

๒๕๙๔-๕. ‘‘อุกฺขิตฺเตนา’’ติอาทิกานิ กรณวจนนฺตานิ ปทานิ ‘‘สหา’’ติ อิมินา สทฺธึ ‘‘อุโปสโถ น กาตพฺโพ’’ติ ปเทน ปจฺเจกํ โยเชตพฺพานิ. อุกฺขิตฺเตนาติ อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิตฺตโก, อาปตฺติยา อปฺปฏิกมฺเม อุกฺขิตฺตโก, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺขิตฺตโกติ ติวิเธน อุกฺขิตฺเตน. เอเตสุ หิ ติวิเธ อุกฺขิตฺตเก สติ อุโปสถํ กโรนฺโต สงฺโฆ ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ.

‘‘คหฏฺเนา’’ติ อิมินา ติตฺถิโยปิ สงฺคหิโต. เสเสหิ สหธมฺมิหีติ ภิกฺขุนี, สิกฺขมานา, สามเณโร, สามเณรีติ จตูหิ สหธมฺมิเกหิ. จุตนิกฺขิตฺตสิกฺเขหีติ เอตฺถ จุโต จ นิกฺขิตฺตสิกฺโข จาติ วิคฺคโห. จุโต นาม อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนโก. นิกฺขิตฺตสิกฺโข นาม สิกฺขาปจฺจกฺขาตโก.

เอกาทสหีติ ปณฺฑโก, เถยฺยสํวาสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, ติรจฺฉานคโต, มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, ภิกฺขุนิทูสโก, สงฺฆเภทโก, โลหิตุปฺปาทโก, อุภโตพฺยฺชนโกติ อิเมหิ เอกาทสหิ อภพฺเพหิ.

สภาคาปตฺติเกน วา สห อุโปสโถ น กาตพฺโพ, ปาริวุตฺเถน ฉนฺเทน อุโปสโถ น กาตพฺโพ, กโรโต ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. เอวํ อุกฺขิตฺตวชฺชิเตสุ สพฺพวิกปฺเปสุ ทุกฺกฏเมว เวทิตพฺพํ. ‘‘ยํ ทฺเวปิ ชนา วิกาลโภชนาทินา สภาควตฺถุนา อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, เอวรูปา วตฺถุสภาคา ‘สภาคา’ติ วุจฺจตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๖๙) วจนโต ‘‘สภาคาปตฺตี’’ติ วตฺถุสภาคาปตฺติเยว คเหตพฺพา.

อุโปสถทิวเส สพฺโพว สงฺโฆ สเจ สภาคาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ,

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, อฺตรสฺมึ อาวาเส ตทหุโปสเถ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคํ อาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ, เตหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ เอโก ภิกฺขุ สามนฺตา อาวาสา สชฺชุกํ ปาเหตพฺโพ ‘คจฺฉาวุโส, ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริตฺวา อาคจฺฉ, มยํ เต สนฺติเก ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามา’ติ. เอวฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ – ‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ยทา อฺํ ภิกฺขุํ สุทฺธํ อนาปตฺติกํ ปสฺสิสฺสติ, ตทา ตสฺส สนฺติเก ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสตี’’ติ (มหาว. ๑๗๑) จ,

เวมติโก เจ โหติ,

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสติ, ตทา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสตี’’ติ (มหาว. ๑๗๑) จ,

วุตฺตนเยน อุโปสโถ กาตพฺโพ.

เอตฺถ จ สชฺฌุกนฺติ ตทเหวาคมนตฺถาย. คณุโปสถาทีสุปิ เอเสว นโย. วุตฺตฺหิ อฏฺกถาคณฺิปเท ‘‘ยถา สงฺโฆ สภาคํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา สุทฺธํ อลภิตฺวา ‘ยทา สุทฺธํ ปสฺสิสฺสติ, ตทา ตสฺส สนฺติเก ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสตี’ติ วตฺวา อุโปสถํ กาตุํ ลภติ, เอวํ ทฺวีหิปิ อฺมฺํ อาโรเจตฺวา อุโปสถํ กาตุํ วฏฺฏติ. เอเกนาปิ ‘ปริสุทฺธํ ลภิตฺวา ปฏิกริสฺสามี’ติ อาโภคํ กตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ กิรา’’ติ. กิราติ เจตฺถ อนุสฺสวตฺเถ ทฏฺพฺโพ, น ปนารุจิยํ.

ปาริวุตฺเถน ฉนฺเทนาติ ฉนฺทํ อาหริตฺวา กมฺมํ กาตุํ นิสินฺเนนปิ ‘‘อสุภลกฺขณตาทินา เกนจิ การเณน น กริสฺสามี’’ติ วิสฺสฏฺเ ฉนฺเท สเจ ปุน กริสฺสติ, ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา กาตพฺพํ. ยถาห – ‘‘เอตสฺมึ ปาริวาสิเย ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อนาเนตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๖๗).

๒๕๙๖. อเทเสตฺวา ปนาปตฺตินฺติ อาปนฺนํ อาปตฺตึ อเทเสตฺวา. นาวิกตฺวาน เวมตินฺติ ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสามิ, ตทา ตา อาปตฺติโย ปฏิกริสฺสามี’’ติ วิมตึ อนาโรเจตฺวา. ‘‘ยทา นิพฺเพมติโกติ เอตฺถ สเจ ปเนส นิพฺเพมติโก น โหติ, วตฺถุํ กิตฺเตตฺวาว เทเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๖๙) อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ เทสนาวิธิ – สเจ เมฆจฺฉนฺเน สูริเย ‘‘กาโล นุ โข, วิกาโล’’ติ เวมติโก ภุฺชติ, เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ, ภนฺเต, เวมติโก ภุฺชึ, สเจ กาโล อตฺถิ, สมฺพหุลา ทุกฺกฏา อาปตฺติโย อาปนฺโนมฺหิ. โน เจ อตฺถิ, สมฺพหุลา ปาจิตฺติยาปตฺติโย อาปนฺโนมฺหี’’ติ เอวํ วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ยา ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ สมฺพหุลา ทุกฺกฏา วา ปาจิตฺติยา วา อาปตฺติโย อาปนฺโน, ตา ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เอเสว นโย สพฺพาปตฺตีสูติ.

คณฺิปเทสุ ปเนวํ วินิจฺฉโย วุตฺโต – ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสามิ, ตทา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามี’ติ วตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ, ปาติโมกฺขํ โสตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๑๗๐) วจนโต ยาว นิพฺเพมติโก น โหติ, ตาว สภาคาปตฺตึ ปฏิคฺคเหตุํ น ลภติ. อฺเสฺจ กมฺมานํ ปริสุทฺโธ นาม โหติ. ‘‘ปุน นิพฺเพมติโก หุตฺวา เทเสตพฺพเมวา’’ติ (กงฺขา. อภิ. ฏี. นิทานวณฺณนา) เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถายํ อตฺถิ, เทสิเต ปน น โทโส. ‘‘อิโต วุฏฺหิตฺวา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามี’’ติ (มหาว. ๑๗๐) เอตฺถาปิ เอเสว นโยติ.

๒๕๙๗. อุโปสเถติ ทินการกกตฺตพฺพาการวเสน ปนฺนรสี, สงฺฆุโปสโถ, สุตฺตุทฺเทโสติ อิเมหิ ตีหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคเต อุโปสเถ. สภิกฺขุมฺหา จ อาวาสาติ ‘‘ยสฺมึ อุโปสเถ กิจฺจ’’นฺติอาทินา วกฺขมานปฺปการา สภิกฺขุกา อาวาสา. อิธ ‘‘อนาวาสา’’ติ เสโส. อาวาโส วา อนาวาโส วาติ เอตฺถ ‘‘อภิกฺขุโก วา นานาสํวาสเกหิ สภิกฺขุโก วา’’ติ จ น คนฺตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘อฺตฺร สงฺเฆน อฺตฺร อนฺตรายา’’ติ จ เสโส. ‘‘อนาวาโส’’ติ อุโทสิตาทโย วุตฺตา. ภิกฺขุนา อุโปสเถ สภิกฺขุมฺหา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก วา นานาสํวาสเกหิ สภิกฺขุโก วา อาวาโส วา อนาวาโส วา อฺตฺร สงฺเฆน อฺตฺร อนฺตรายา กุทาจนํ กทาจิปิ น คนฺตพฺโพติ โยชนา.

๒๕๙๘. ยสฺมึ อาวาเส ปน อุโปสเถ กิจฺจํ สเจ วตฺตติ, โส อาวาโส ‘‘สภิกฺขุโก นามา’’ติ ปกาสิโตติ โยชนา, อิมินา สเจ ยตฺถ อุโปสโถ น วตฺตติ, โส สนฺเตสุปิ ภิกฺขูสุ อภิกฺขุโก นามาติ ทีเปติ.

๒๕๙๙. อุโปสถสฺส ปโยชนํ, ตปฺปสงฺเคน ปวารณาย จ นิทฺธาเรตุกามตายาห ‘‘อุโปสโถ กิมตฺถายา’’ติอาทิ.

๒๖๐๐. ปฏิกฺโกเสยฺยาติ นิวาเรยฺย. อเทนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ ‘‘โกเปตุํ ธมฺมิกํ กมฺม’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ.

๒๖๐๑. โส จาติ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) จตุวคฺคาทิปฺปเภเทน ปฺจวิโธ โส สงฺโฆ จ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน กตฺตพฺพกมฺมานํ วเสน ปริทีปิโต, น ฉพฺพคฺคาทีนํ กาตุํ อยุตฺตตาทสฺสนวเสน.

๒๖๐๒. จตุวคฺคาทิเภทนิพนฺธนํ กมฺมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปวารณ’’นฺติอาทิ. ปวารณฺจ ตถา อพฺภานฺจ อุปสมฺปทฺจ เปตฺวา จตุวคฺเคน อกตฺตพฺพํ กมฺมํ น วิชฺชตีติ โยชนา.

๒๖๐๓. มชฺฌเทเส อุปสมฺปทา มชฺฌเทสูปสมฺปทา, ตํ. อพฺภานํ, มชฺฌเทสูปสมฺปทฺจ วินา ปฺจวคฺเคน สพฺพํ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๖๐๔. กิฺจิปิ กมฺมํ น น กตฺตพฺพนฺติ โยชนา, สพฺพมฺปิ กมฺมํ กตฺตพฺพเมวาติ อตฺโถ. ทฺเว ปฏิเสธา ปกตตฺถํ คมยนฺตีติ. วีสติวคฺเคน สงฺเฆน สพฺเพสมฺปิ กมฺมานํ กตฺตพฺพภาเว กิมตฺถํ อติเรกวีสติวคฺคสฺส คหณนฺติ อาห ‘‘อูเน โทโสติ าเปตุํ, นาธิเก อติเรกตา’’ติ. ยถาวุตฺเต จตุพฺพิเธ สงฺเฆ คณนโต อูเน โทโส โหติ, อธิเก โทโส น โหตีติ าเปตุํ อติเรกตา ทสฺสิตา, อติเรกวีสติวคฺคสงฺโฆ ทสฺสิโตติ อธิปฺปาโย.

๒๖๐๕. จตุวคฺเคน กตฺตพฺเพ ปกตตฺตาว จตฺตาโร กมฺมปฺปตฺตาติ ทีปิตาติ โยชนา. เสสา ปกตตฺตา ฉนฺทารหาติ เสโส. ปกตตฺตาติ อนุกฺขิตฺตา เจว อนฺติมวตฺถุํ อนชฺฌาปนฺนา จ คเหตพฺพา. เสเสสุ จาติ ปฺจวคฺคาทีสุปิ.

๒๖๐๖. จตุวคฺคาทิกตฺตพฺพกมฺมํ อสํวาสปุคฺคลํ คณปูรํ กตฺวา กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหติ. น เกวลํ ทุกฺกฏเมว, กตฺจ กมฺมํ กุปฺปตีติ โยชนา.

๒๖๐๗. ปริวาสาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มูลายปฏิกสฺสนาทีนํ คหณํ. ตตฺรฏฺนฺติ ปริวาสาทีสุ ิตํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘กตํ กุปฺปติ ทุกฺกฏ’’นฺติ อิทํ อนุวตฺเตติ. เสสํ ตูติ ปริวาสาทิกมฺมโต อฺํ ปน อุโปสถาทิกมฺมํ. วฏฺฏตีติ เต ปาริวาสิกาทโย คณปูรเก กตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ.

อุโปสถกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๖๐๘. วสฺสูปนายิกา วุตฺตาติ เสโส. ปจฺฉิมา จาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท นิทสฺสเน. วสฺสูปนายิกาติ วสฺสูปคมนา. อาลโย, วจีเภโท วา กาตพฺโพ อุปคจฺฉตาติ อิมินา วสฺสูปคมนปฺปกาโร ทสฺสิโต. อุปคจฺฉตา อาลโย กตฺตพฺโพ, วจีเภโท วา กตฺตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. อุปคจฺฉนฺเตน จ เสนาสเน อสติ ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺตํ วา กาตพฺพํ, เสนาสเน สติ ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ จ ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ จ วจีเภโท วา กาตพฺโพติ อตฺโถ.

๒๖๐๙. ชานํ วสฺสูปคมนํ อนุปคจฺฉโต วาปีติ โยชนา. เตมาสนฺติ เอตฺถ ‘‘ปุริมํ วา ปจฺฉิมํ วา’’ติ เสโส. จรนฺตสฺสาปีติ เอตฺถ ‘‘จาริก’’นฺติ เสโส. ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวาว จาริกํ จรนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เตมาสนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวา จาริกา ปกฺกมิตพฺพา, โย ปกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๘๕).

๒๖๑๐. รุกฺขสฺส สุสิเรติ เอตฺถ ‘‘สุทฺเธ’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘รุกฺขสุสิเรติ เอตฺถ สุทฺเธ รุกฺขสุสิเรเยว น วฏฺฏติ, มหนฺตสฺส ปน รุกฺขสุสิรสฺส อนฺโต ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวา ปวิสนทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘รุกฺขสฺส สุสิเร’’ติ อิมินา รุกฺเขกเทโส วิฏโปปิ สงฺคหิโต, โสปิ สุทฺโธว น วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘รุกฺขวิฏภิยาติ เอตฺถาปิ สุทฺเธ วิฏปมตฺเต น วฏฺฏติ, มหาวิฏเป ปน อฏฺฏกํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๓).

‘‘ฉตฺเตติ เอตฺถาปิ จตูสุ ถมฺเภสุ ฉตฺตํ เปตฺวา อาวรณํ กตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ, ฉตฺตกุฏิกา นาเมสา โหติ. จาฏิยาติ เอตฺถาปิ มหนฺเตน กปลฺเลน ฉตฺเต วุตฺตนเยน กุฏึ กตฺวาว อุปคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถาวจนโต เอวมกตาสุ สุทฺธฉตฺตจาฏีสุ นิวารณํ เวทิตพฺพํ. ฉวกุฏีติ ฏงฺกิตมฺจาทโย วุตฺตา. ยถาห – ‘‘ฉวกุฏิกา นาม ฏงฺกิตมฺจาทิเภทา กุฏิ, ตตฺถ อุปคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๓).

สุสาเน ปน อฺํ กุฏิกํ กตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ฉวสรีรํ ฌาเปตฺวา ฉาริกาย, อฏฺิกานฺจ อตฺถาย กุฏิกา กรียตี’’ติ อนฺธกฏฺกถายํ ฉวกุฏิ วุตฺตา. ‘‘ฏงฺกิตมฺโจติ กสิกุฏิกาปาสาณฆรนฺติ ลิขิต’’นฺติ (วชิร. ฏี. มหาวคฺค ๒๐๓) วชิรพุทฺธิตฺเถโร. จตุนฺนํ ปาสาณานํ อุปริ ปาสาณํ อตฺถริตฺวา กโต เคโหปิ ‘‘ฏงฺกิตมฺโจ’’ติ วุจฺจติ. ทีเฆ มฺจปาเท มชฺเฌ วิชฺฌิตฺวา อฏนิโย ปเวเสตฺวา มฺจํ กโรนฺตีติ ตสฺส อิทํ อุปริ, อิทํ เหฏฺาติ นตฺถิ, ปริวตฺเตตฺวา อตฺถโตปิ ตาทิโสว โหติ, ตํ สุสาเน, เทวฏฺาเน จ เปนฺติ, อยมฺปิ ฏงฺกิตมฺโจ นาม.

๒๖๑๑. ‘‘สติ ปจฺจยเวกลฺเล, สรีราผาสุตาย วา’’ติ อวเสสนฺตรายานํ วกฺขมานตฺตา ‘‘อนฺตราโย’’ติ อิมินา ราชนฺตรายาทิ ทสวิโธ คเหตพฺโพ.

๒๖๑๒-๔. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺตนฺนํ สตฺตาหกรณีเยน อปฺปหิเตปิ คนฺตุํ, ปเคว ปหิเต ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยา มาตุยา จ ปิตุสฺส จา’’ติ (มหาว. ๑๙๘) วุตฺตนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มาตาปิตูน’’นฺติอาทิ.

มาตาปิตูนํ ทสฺสนตฺถํ, ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ ทสฺสนตฺถํ วา เนสํ อตฺเถ สติ วา เนสํ อนฺตเร คิลานํ ทฏฺุํ วา ตทุปฏฺากานํ ภตฺตาทึ ปริเยสนตฺถํ วา เนสํ ภตฺตาทึ ปริเยสนตฺถํ วา ตถา เนสํ ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ อฺตรํ อนภิรตํ อุกฺกณฺิตํ อหํ คนฺตฺวา วูปกาเสสฺสํ วา วูปกาสาเปสฺสามิ วา ธมฺมกถมสฺส กริสฺสามีติ วา ตสฺส ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ อฺตรสฺส อุฏฺิตํ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺึ วิเวเจสฺสามิ วา วิเวจาเปสฺสามิ วา ธมฺมกถมสฺส กริสฺสามีติ วา ตถา อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ วิโนเทสฺสามีติ วา วิโนทาเปสฺสามีติ วา ธมฺมกถมสฺส กริสฺสามีติ วา เอวํ วินยฺุนา ภิกฺขุนา สตฺตาหกิจฺเจน อเปสิเตปิ คนฺตพฺพํ, ปเคว ปหิเตติ โยชนา.

ภตฺตาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน เภสชฺชปริเยสนาทึ สงฺคณฺหาติ. ยถาห – ‘‘คิลานภตฺตํ วา ปริเยสิสฺสามิ, คิลานุปฏฺากภตฺตํ วา ปริเยสิสฺสามิ, คิลานเภสชฺชํ วา ปริเยสิสฺสามิ, ปุจฺฉิสฺสามิ วา อุปฏฺหิสฺสามิ วา’’ติ. วูปกาเสสฺสนฺติ ยตฺถ อนภิรติ อุปฺปนฺนา, ตโต อฺตฺถ คเหตฺวา คมิสฺสามีติ อตฺโถ.

วิโนเทสฺสามหนฺติ วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห, โส เจ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ ปหิเณยฺย ‘อหฺหิ ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน ปริวาสารโห, อาคจฺฉนฺตุ ภิกฺขู, อิจฺฉามิ ภิกฺขูนํ อาคต’นฺติ. คนฺตพฺพํ, ภิกฺขเว, สตฺตาหกรณีเยน อปฺปหิเตปิ, ปเคว ปหิเต ‘ปริวาสทานํ อุสฺสุกฺกํ กริสฺสามิ วา อนุสฺสาเวสฺสามิ วา คณปูรโก วา ภวิสฺสามี’’ติอาทินยํ (มหาว. ๑๙๓) สงฺคณฺหาติ. เอวํ สตฺตาหกิจฺเจน คจฺฉนฺเตน อนฺโตอุปจารสีมาย ิเตเนว ‘‘อนฺโตสตฺตาเห อาคจฺฉิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ อาโภคํ อกตฺวา อุปจารสีมํ อติกฺกมติ, ฉินฺนวสฺโส โหตีติ วทนฺติ.

๒๖๑๕. ‘‘อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตกรตฺติจฺเฉทวินิจฺฉโย’’ติ อฏฺกถาคตํ รตฺติจฺเฉทวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วสฺสํ อุปคเตเนตฺถา’’ติอาทิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สตฺตาหกิจฺจาธิกาเร. อยํ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ.

๒๖๑๖. ‘‘อสุกํ นาม ทิวส’’นฺติอาทินา นิมนฺตนาการํ วกฺขติ. ปุพฺพนฺติ ปมํ. วฏฺฏตีติ สตฺตาหกิจฺเจน คนฺตุํ วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘สเจ เอกสฺมึ มหาวาเส ปมํเยว กติกา กตา โหติ ‘อสุกทิวสํ นาม สนฺนิปติตพฺพ’นฺติ, นิมนฺติโตเยว นาม โหติ, คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๙๙). ‘‘อุปาสเกหิ ‘อิมสฺมึ นาม ทิวเส ทานาทีนิ กโรม, สพฺเพ เอว สนฺนิปตนฺตู’ติ กติกายปิ กตาย คนฺตุํ วฏฺฏติ, นิมนฺติโตเยว นาม โหตี’’ติ เกจิ.

๒๖๑๗. ภณฺฑกนฺติ อตฺตโน จีวรภณฺฑํ. น วฏฺฏตีติ สตฺตาหกิจฺเจน คนฺตุํ น วฏฺฏติ. ปหิณนฺตีติ จีวรโธวนาทิกมฺเมน ปหิณนฺติ. อาจริยุปชฺฌายานํ อาณตฺติเยน เกนจิ อนวชฺชกิจฺเจน สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุํ วฏฺฏตีติ อิมินาว ทีปิตํ โหติ.

๒๖๑๘. อุทฺเทสาทีนมตฺถายาติ ปาฬิวาจนานิ สนฺธาย. อาทิ-สทฺเทน ปริปุจฺฉาทึ สงฺคณฺหาติ. ครูนนฺติ อคิลานานมฺปิ อาจริยุปชฺฌายานํ. คนฺตุํ ลภตีติ สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุํ ลภติ. ปุคฺคโลติ ปกรณโต ภิกฺขุํเยว คณฺหาติ.

๒๖๑๙. อาจริโยติ นิทสฺสนมตฺตํ, อุปชฺฌาเยน นิวาริเตปิ เอเสว นโย. ‘‘สเจ ปน นํ อาจริโย ‘อชฺช มา คจฺฉา’ติ วทติ, วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๙๙) อฏฺกถานยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘รตฺติจฺเฉเท อนาปตฺติ, โหตีติ ปริทีปิตา’’ติ. รตฺติจฺเฉเทติ วสฺสจฺเฉทนิมิตฺตํ. ‘‘รตฺติจฺเฉเท’’ติ สพฺพตฺถ วสฺสจฺเฉโทติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา วทนฺติ, เอวํ สตฺตาหกรณีเยน คตํ นํ อนฺโตสตฺตาเหเยว ปุน อาคจฺฉนฺตํ สเจ อาจริโย วา อุปชฺฌาโย วา ‘‘อชฺช มา คจฺฉา’’ติ วทติ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย, วสฺสจฺเฉโท ปน โหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ สตฺตาหสฺส พหิทฺธา วีตินามิตตฺตา.

๒๖๒๐. ยสฺส กสฺสจิ าติสฺสาติ มาตาปิตูหิ อฺสฺส าติชนสฺส. ‘‘คจฺฉโต ทสฺสนตฺถายา’’ติ อิมินา เสสาติเกหิ ‘‘มยํ คิลานา ภทนฺตานํ อาคมนํ อิจฺฉามา’’ติ จ ‘‘อุปฏฺากกุเลหิ ทานํ ทสฺสาม, ธมฺมํ โสสฺสาม, ภิกฺขูนํ ทสฺสนํ อิจฺฉามา’’ติ จ เอวํ กตฺตพฺพํ นิทฺทิสิตฺวา ทูเต วา เปสิเต สตฺตาหกรณีเยน คจฺฉโต รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏฺจ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสฺส าตโก คิลาโน โหติ…เป… คนฺตพฺพํ, ภิกฺขเว, สตฺตาหกรณีเยน ปหิเต, น ตฺเวว อปฺปหิเต’’ติ (มหาว. ๑๙๙) จ ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, อุปาสเกน สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหาโร การาปิโต โหติ…เป… อิจฺฉามิ ทานฺจ ทาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ ภิกฺขู จ ปสฺสิตุนฺติ. คนฺตพฺพํ, ภิกฺขเว, สตฺตาหกรณีเยน ปหิเต, น ตฺเวว อปฺปหิเต’’ติ (มหาว. ๑๘๘) จ.

๒๖๒๑. ‘‘อหํ คามกํ คนฺตฺวา อชฺเชว อาคมิสฺสามี’’ติ อาคจฺฉํ อาคจฺฉนฺโต สเจ ปาปุณิตุํ น สกฺโกเตว, วฏฺฏตีติ โยชนา. วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘อชฺเชว อาคมิสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺส อนฺตรามคฺเค สเจ อรุณุคฺคมนํ โหติ, วสฺสจฺเฉโทปิ น โหติ, รตฺติจฺเฉททุกฺกฏฺจ นตฺถีติ อธิปฺปาโย.

๒๖๒๒. วเชติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๓) โคปาลกานํ นิวาสนฏฺาเน. สตฺเถติ ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺถานํ สนฺนิวิฏฺโกาเส. ตีสุ าเนสุ ภิกฺขุโน, วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺตีติ เตหิ สทฺธึ คจฺฉนฺตสฺเสว นตฺถิ อาปตฺติ, เตหิ วิยุฺชิตฺวา คมเน ปน อาปตฺติเยว, ปวาเรตุฺจ น ลภติ.

วชาทีสุ วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตน วสฺสูปนายิกทิวเส เตน ภิกฺขุนา อุปาสกา วตฺตพฺพา ‘‘กุฏิกา ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ กริตฺวา เทนฺติ, ตตฺถ ปวิสิตฺวา ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, สาลาสงฺเขเปน ิตสกฏสฺส เหฏฺา อุปคนฺตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺเตน อาลโย กาตพฺโพ. สตฺเถ ปน กุฏิกาทีนํ อภาเว ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ วจีเภทํ กตฺวา อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ, อาลยกรณมตฺตเมว วฏฺฏติ. อาลโย นาม ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺตํ.

สเจ มคฺคปฺปฏิปนฺเนเยว สตฺเถ ปวารณทิวโส โหติ, ตตฺเถว ปวาเรตพฺพํ. อถ สตฺโถ อนฺโตวสฺเสเยว ภิกฺขุนา ปตฺถิตฏฺานํ ปตฺวา อติกฺกมติ. ปตฺถิตฏฺาเน วสิตฺวา ตตฺถ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. อถาปิ สตฺโถ อนฺโตวสฺเสเยว อนฺตรา เอกสฺมึ คาเม ติฏฺติ วา วิปฺปกิรติ วา, ตสฺมึเยว คาเม ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสิตฺวา ปวาเรตพฺพํ, อปฺปวาเรตฺวา ตโต ปรํ คนฺตุํ น วฏฺฏติ.

นาวาย วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตนาปิ กุฏิยํเยว อุปคนฺตพฺพํ. ปริเยสิตฺวา อลภนฺเต อาลโย กาตพฺโพ. สเจ อนฺโตเตมาสํ นาวา สมุทฺเทเยว โหติ, ตตฺเถว ปวาเรตพฺพํ. อถ นาวา กูลํ ลภติ, สยฺจ ปรโต คนฺตุกาโม โหติ, คนฺตุํ น วฏฺฏติ. นาวาย ลทฺธคาเมเยว วสิตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. สเจปิ นาวา อนุตีรเมว อฺตฺถ คจฺฉติ, ภิกฺขุ จ ปมํ ลทฺธคาเมเยว วสิตุกาโม, นาวา คจฺฉตุ, ภิกฺขุนา ตตฺเถว วสิตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ.

อิติ วเช, สตฺเถ, นาวายนฺติ ตีสุ าเนสุ นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺติ, ปวาเรตุฺจ ลภติ.

๒๖๒๓. สติ ปจฺจยเวกลฺเลติ ปิณฺฑปาตาทีนํ ปจฺจยานํ อูนตฺเต สติ. สรีราผาสุตาย วาติ สรีรสฺส อผาสุตาย อาพาเธ วา สติ. วสฺสํ เฉตฺวาปิ ปกฺกเมติ วสฺสจฺเฉทํ กตฺวาปิ ยถาผาสุกฏฺานํ คจฺเฉยฺย. อปิ-สทฺเทน วสฺสํ อเฉตฺวา วสฺสจฺเฉทการเณ สติ สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุมฺปิ วฏฺฏตีติ ทีเปติ.

๒๖๒๔. เยน เกนนฺตราเยนาติ ราชนฺตรายาทีสุ เยน เกนจิ อนฺตราเยน. โย ภิกฺขุ วสฺสํ โนปคโต, เตนาปิ ฉินฺนวสฺเสน วาปิ ทุติยา วสฺสูปนายิกา อุปคนฺตพฺพาติ โยชนา.

๒๖๒๕-๖. สตฺตาหนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ‘‘วีตินาเมตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อุปคนฺตฺวาปิ วา พหิทฺธา เอว สตฺตาหํ วีตินาเมติ เจ. โย คจฺฉติ, โย จ วีตินาเมติ, ตสฺส ภิกฺขุสฺส. ปุริมาปิ น วิชฺชตีติ อนุปคตตฺตา, ฉินฺนวสฺสตฺตา จ ปุริมาปิ วสฺสูปนายิกา น วิชฺชติ น ลภติ. อิเมสํ ทฺวินฺนํ ยถากฺกมํ อุปจาราติกฺกเม, สตฺตาหาติกฺกเม จ อาปตฺติ เวทิตพฺพา.

ปฏิสฺสเว จ ภิกฺขุสฺส, โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ ‘‘อิธ วสฺสํ วสถา’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ตสฺส วิสํวาเท อสจฺจาปเน อาปตฺติ โหติ. กตมาติ อาห ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ. น เกวลํ เอตสฺเสว วิสํวาเท อาปตฺติ โหติ, อถ โข อิตเรสมฺปิ ปฏิสฺสวานํ วิสํวาเท อาปตฺติ เวทิตพฺพา. ยถาห – ‘‘ปฏิสฺสเว จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ น เกวลํ ‘อิมํ เตมาสํ อิธ วสฺสํ วสถา’ติ เอตสฺเสว ปฏิสฺสวสฺส วิสํวาเท อาปตฺติ, ‘อิมํ เตมาสํ ภิกฺขํ คณฺหถ, อุโภปิ มยํ อิธ วสฺสํ วสิสฺสาม, เอกโตว อุทฺทิสาเปสฺสามา’ติ เอวมาทินาปิ ตสฺส ตสฺส ปฏิสฺสวสฺส วิสํวาเท ทุกฺกฏ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๗). ตฺจ โข ปฏิสฺสวกาเล สุทฺธจิตฺตสฺส ปจฺฉา วิสํวาทนปจฺจยา โหติ. ปมํ อสุทฺธจิตฺตสฺส ปน ปฏิสฺสเว ปาจิตฺติยํ, วิสํวาเทน ทุกฺกฏนฺติ ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ ยุชฺชติ.

๒๖๒๗. ‘‘วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปน อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวา ตทเหว สตฺตาหกรณีเยน ปกฺกมนฺตสฺสาปิ อนฺโตสตฺตาเห นิวตฺตนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๗) อฏฺกถาวจนโต, ‘‘โก วาโท วสิตฺวา พหิ คจฺฉโต’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘นุฏฺาเปตฺวา ปนารุณ’’นฺติ ปาโ คเหตพฺโพ. กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ‘‘อุฏฺาเปตฺวา ปนารุณ’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, โส น คเหตพฺโพ.

๒๖๒๘. วสิตฺวาติ ทฺวีหตีหํ วสิตฺวา. ยถา วสฺสํ วสิตฺวา อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวาว สตฺตาหกรณีเยน คจฺฉโต อนาปตฺติ, ตถา คตฏฺานโต อนฺโตสตฺตาเห อาคนฺตฺวา ปุนปิ อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวาว สตฺตาหกรณีเยน คจฺฉโต อนาปตฺติ. ‘‘สตฺตาหวาเรน อรุโณ อุฏฺาเปตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๑) อฏฺกถาวจนํ สตฺตมารุเณน ปฏิพทฺธทิวสํ สตฺตเมน อรุเณเนว สงฺคเหตฺวา สตฺตมอรุณพฺภนฺตเร อนาคนฺตฺวา อฏฺมํ อรุณํ พหิ อุฏฺาเปนฺตสฺส รตฺติจฺเฉททสฺสนปรํ, น สตฺตมอรุณสฺเสว ตตฺถ อุฏฺาเปตพฺพภาวทสฺสนปรนฺติ คเหตพฺพํ สิกฺขาภาชนอฏฺกถาย, สีหฬคณฺิปเทสุ จ ตถา วินิจฺฉิตตฺตา.

๒๖๒๙. ‘‘โนเปติ อสติยา’’ติ ปทจฺเฉโท, โนเปตีติ ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ วจีเภเทน น อุปคจฺฉติ.

๒๖๓๐. วุตฺตเมวตฺถํ สมตฺเถตุมาห ‘‘น โทโส โกจิ วิชฺชตี’’ติ.

๒๖๓๑. ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วจเน นิจฺฉาริเต เอว วสฺสํ อุปคโต สิยาติ โยชนา. ‘‘นิจฺฉาริเตว ติกฺขตฺตุ’’นฺติ อิทํ อุกฺกํสวเสน วุตฺตํ, สกึ, ทฺวิกฺขตฺตุํ วา นิจฺฉาริเตปิ วสฺสูปคโต นาม โหตีติ. ยถาห – ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมีติ สกึ วา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ วา วาจํ นิจฺฉาเรตฺวาว วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๑๘๔).

๒๖๓๒. นวมิโต ปฏฺาย คนฺตุํ วฏฺฏติ, อาคจฺฉตุ วา มา วา, อนาปตฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๗) อฏฺกถานยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาทึ ตุ นวมึ กตฺวา’’ติอาทิ. นวมึ ปภุติ อาทึ กตฺวา, นวมิโต ปฏฺายาติ วุตฺตํ โหติ. คนฺตุํ วฏฺฏตีติ สตฺตาหกรณีเยเนว คนฺตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ปวารณทิวเสปิ ตทเหว อาคนฺตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺานํ ปวารณตฺถาย คจฺฉนฺเตน ลพฺภมาเนน สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ปวาเรตฺวา ปน คนฺตุํ วฏฺฏติ ปวารณาย ตํทิวสสนฺนิสฺสิตตฺตา’’ติ (วชิร. ฏี. มหาวคฺค ๒๐๗) หิ วชิรพุทฺธิตฺเถโร. โส ปจฺฉา อาคจฺฉตุ วา มา วา, โทโส น วิชฺชตีติ โยชนา.

วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

ปวารณกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๖๓๓. ‘‘ปวารณา’’ติ อิทํ ‘‘จาตุทฺทสี’’ติอาทีหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ตสฺมึ ตสฺมึ ทิเน กาตพฺพา ปวารณา อเภโทปจาเรน ตถา วุตฺตา. สามคฺคี อุโปสถกฺขนฺธกกถาวณฺณนาย วุตฺตสรูปาว. สามคฺคิปวารณํ กโรนฺเตหิ จ ปมํ ปวารณํ เปตฺวา ปาฏิปทโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกจาตุมาสิปุณฺณมา เอตฺถนฺตเร กาตพฺพา, ตโต ปจฺฉา วา ปุเร วา น วฏฺฏติ. เตวาจี ทฺเวกวาจีติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต…เป… เตวาจิกํ ปวาเรยฺย, ทฺเววาจิกํ ปวาเรยฺย, เอกวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ ตํ ตํ ตฺตึ เปตฺวา กาตพฺพา ปวารณา วุจฺจติ.

๒๖๓๔. ตีณิ กมฺมานิ มุฺจิตฺวา, อนฺเตเนว ปวารเยติ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ปวารณกมฺมานิ, อธมฺเมน วคฺคํ ปวารณกมฺมํ…เป… ธมฺเมน สมคฺคํ ปวารณกมฺม’’นฺติ (มหาว. ๒๑๒) วตฺวา ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยทิทํ อธมฺเมน วคฺคํ ปวารณกมฺมํ, น, ภิกฺขเว, เอวรูปํ ปวารณกมฺมํ กาตพฺพํ…เป… ตตฺร, ภิกฺขเว, ยทิทํ ธมฺเมน สมคฺคํ ปวารณกมฺมํ, เอวรูปํ, ภิกฺขเว, ปวารณกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติอาทิวจนโต (มหาว. ๒๑๒) ตีณิ อกตฺตพฺพานิ ปวารณกมฺมานิ มุฺจิตฺวา กาตุํ อนุฺาเตน จตุตฺเถน ปวารณกมฺเมน ปวาเรยฺยาติ อตฺโถ. ตสฺส วิภาเคกเทสํ ‘‘ปฺจ ยสฺมึ ปนาวาเส’’ติอาทินา วกฺขติ.

๒๖๓๕. ปุพฺพกิจฺจํ สมาเปตฺวาติ –

‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป จ, อุทกํ อาสเนน จ;

ปวารณาย เอตานิ, ‘ปุพฺพกรณ’นฺติ วุจฺจติ.

‘‘ฉนฺทปาริสุทฺธิอุตุกฺขานํ, ภิกฺขุคณนา จ โอวาโท;

ปวารณาย เอตานิ, ‘ปุพฺพกิจฺจ’นฺติ วุจฺจตี’’ติ. –

วุตฺตํ นววิธํ ปุพฺพกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา.

ปตฺตกลฺเล สมานิเตติ –

‘‘ปวารณา ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา,

สภาคาปตฺติโย จ น วิชฺชนฺติ;

วชฺชนียา จ ปุคฺคลา ตสฺมึ น โหนฺติ,

‘ปตฺตกลฺล’นฺติ วุจฺจตี’’ติ. –

วุตฺเต จตุพฺพิเธ ปตฺตกลฺเล สโมธานิเต ปริสมาปิเต.

ตฺตึ เปตฺวาติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ (มหาว. ๒๑๐) เอวํ สพฺพสงฺคาหิกวเสน จ ‘‘เตวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ จ ทานาทิกรเณน เยภุยฺเยน รตฺติยา เขปิตาย จ ราชาทิอนฺตราเย สติ จ ตทนุรูปโต ‘‘ทฺเววาจิกํ, เอกวาจิกํ, สมานวสฺสิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ จ ตฺตึ เปตฺวา, ตาสํ วิเสโส อฏฺกถายํ ทสฺสิโตเยว. ยถาห –

‘‘เอวฺหิ วุตฺเต เตวาจิกฺจ ทฺเววาจิกฺจ เอกวาจิกฺจ ปวาเรตุํ วฏฺฏติ, สมานวสฺสิกํ น วฏฺฏติ. ‘เตวาจิกํ ปวาเรยฺยา’ติ วุตฺเต ปน เตวาจิกเมว วฏฺฏติ, อฺํ น วฏฺฏติ, ‘ทฺเววาจิกํ ปวาเรยฺยา’ติ วุตฺเต ทฺเววาจิกฺจ เตวาจิกฺจ วฏฺฏติ, เอกวาจิกฺจ สมานวสฺสิกฺจ น วฏฺฏติ. ‘เอกวาจิกํ ปวาเรยฺยา’ติ วุตฺเต ปน เอกวาจิกทฺเววาจิกเตวาจิกานิ วฏฺฏนฺติ, สมานวสฺสิกเมว น วฏฺฏติ. ‘สมานวสฺสิก’นฺติ วุตฺเต สพฺพํ วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๑๐).

กาตพฺพาติ เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย ‘‘สงฺฆํ, อาวุโส, ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา…เป… ตติยมฺปิ อาวุโส, สงฺฆํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา…เป… ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ (มหาว. ๒๑๐) วุตฺตนเยน กาตพฺพา. นวเกน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา…เป… ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา…เป… ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามีติ (มหาว. ๒๑๐) วุตฺตนเยน กาตพฺพา.

๒๖๓๖. เถเรสุ ปวาเรนฺเตสุ โย ปน นโว, โส สยํ ยาว ปวาเรติ, ตาว อุกฺกุฏิกํ นิสีเทยฺยาติ โยชนา.

๒๖๓๗. จตฺตาโร วา ตโยปิ วา เอกาวาเส เอกสีมายํ วสนฺติ เจ, ตฺตึ วตฺวา ‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺโต, อชฺช ปวารณา, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อฺมฺํ ปวาเรยฺยามา’’ติ (มหาว. ๒๑๖) คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรยฺยุนฺติ โยชนา.

ปวาเรยฺยุนฺติ เอตฺถ เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เต ตโย วา ทฺเว วา ภิกฺขู เอวมสฺสุ วจนียา ‘‘อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ (มหาว. ๒๑๖) ปวาเรตพฺพํ. นเวนปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ ปวาเรตพฺพํ.

๒๖๓๘. อฺมฺํ ปวาเรยฺยุํ, วินา ตฺตึ ทุเว ชนา. เตสุ เถเรน ‘‘อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ…เป… ปฏิกริสฺสามี’’ติ (มหาว. ๒๑๗) ปวาเรตพฺพํ. นเวนปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ…เป… วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ…เป… ปฏิกริสฺสามี’’ติ ปวาเรตพฺพํ.

อธิฏฺเยฺยาติ ปุพฺพกิจฺจํ สมาเปตฺวา ‘‘อชฺช เม ปวารณา จาตุทฺทสี’’ติ วา ‘‘ปนฺนรสี’’ติ วา วตฺวา ‘‘อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺเยฺย. ยถาห ‘‘อชฺช เม ปวารณาติ เอตฺถ สเจ จาตุทฺทสิกา โหติ, ‘อชฺช เม ปวารณา จาตุทฺทสี’ติ, สเจ ปนฺนรสิกา, ‘อชฺช เม ปวารณา ปนฺนรสี’ติ เอวํ อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๑๘), อิมินา สพฺพสงฺคาหาทิตฺตีสุ จ ตสฺมึ ตสฺมึ ทิวเส โส โส โวหาโร กาตพฺโพติ ทีปิตเมว.

เสสา สงฺฆปวารณาติ ปฺจหิ, อติเรเกหิ วา ภิกฺขูหิ กตฺตพฺพา ปวารณา สงฺฆปวารณา.

๒๖๓๙. ปวาริเตติ ปมปวารณาย ปวาริเต. อนาคโตติ เกนจิ อนฺตราเยน ปุริมิกาย จ ปจฺฉิมิกาย จ วสฺสูปนายิกาย วสฺสํ อนุปคโต. อวุตฺโถติ ปจฺฉิมิกาย อุปคโต. วุตฺตฺหิ ขุทฺทสิกฺขาวณฺณนาย ‘‘อวุตฺโถติ ปจฺฉิมิกาย อุปคโต อปรินิฏฺิตตฺตา ‘อวุตฺโถ’ติ วุจฺจตี’’ติ. ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยาติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘เตสํ สนฺติเก’’ติ เสโส.

๒๖๔๐-๑. ยสฺมึ ปนาวาเส ปฺจ วา จตฺตาโร วา ตโย วา สมณา วสนฺติ, เต ตตฺถ เอเกกสฺส ปวารณํ หริตฺวาน สเจ อฺมฺํ ปวาเรนฺติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

เสสนฺติ ‘‘อธมฺเมน สมคฺค’’นฺติอาทิกํ วินิจฺฉยํ. อิธาติ อิมสฺมึ ปวารณาธิกาเร. พุโธติ วินยธโร. อุโปสเถ วุตฺตนเยนาติ อุโปสถวินิจฺฉเย วุตฺตกฺกเมน. นเยติ ชาเนยฺย.

๒๖๔๒. สมฺปาเทตตฺตโน สุจินฺติ อตฺตโน อุโปสถํ สมฺปาเทติ. สพฺพํ สาเธตีติ อุโปสถาทิสพฺพํ กมฺมํ นิปฺผาเทติ. นตฺตโนติ อตฺตโน อุโปสถํ น นิปฺผาเทติ.

๒๖๔๓. ตสฺมาติ ยสฺมา อตฺตโน สุจึ น สาเธติ, ตสฺมา. อุภินฺนนฺติ อตฺตโน จ สงฺฆสฺส จ. กิจฺจสิทฺธตฺถเมวิธาติ อุโปสถาทิกมฺมนิปฺปชฺชนตฺถํ อิธ อิมสฺมึ อุโปสถกมฺมาทิปกรเณ. ปาริสุทฺธิปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ปวารณา สงฺคหิตา. เตเนว วกฺขติ ‘‘ฉนฺทํ วา ปาริสุทฺธึ วา, คเหตฺวา วา ปวารณ’’นฺติ.

ฉนฺทปาริสุทฺธิปวารณํ เทนฺเตน สเจ สาปตฺติโก โหติ, อาปตฺตึ เทเสตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ฉนฺทาทิหารโก ภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘ฉนฺทํ ทมฺมิ, ฉนฺทํ เม หร, ฉนฺทํ เม อาโรเจหี’’ติ (มหาว. ๑๖๕), ‘‘ปาริสุทฺธึ ทมฺมิ, ปาริสุทฺธึ เม หร, ปาริสุทฺธึ เม อาโรเจหี’’ติ (มหาว. ๑๖๔), ‘‘ปวารณํ ทมฺมิ, ปวารณํ เม หร, ปวารณํ เม อาโรเจหิ, มมตฺถาย ปวาเรหี’’ติ (มหาว. ๒๑๓).

๒๖๔๔. ‘‘ฉนฺโท เอเกนา’’ติ ปทจฺเฉโท. เอเกน พหูนมฺปิ ฉนฺโท หาตพฺโพ, ตถา ปาริสุทฺธิ หาตพฺพา. ปิ-สทฺเทน ปวารณา หาตพฺพาติ โยชนา. ปรมฺปราหโฏ ฉนฺโทติ พหูนํ วา เอกสฺส วา ฉนฺทาทิหารกสฺส หตฺถโต อนฺตรา อฺเน คหิตา ฉนฺทปาริสุทฺธิปวารณา. วิสุทฺธิยา น คจฺฉติ อนวชฺชภาวาย น ปาปุณาติ พิฬาลสงฺขลิกฉนฺทาทีนํ สงฺฆมชฺฌํ อคมเนน วคฺคภาวกรณโต.

เอตฺถ จ ยถา พิฬาลสงฺขลิกาย ปมวลยํ ทุติยวลยํ ปาปุณาติ, น ตติยํ, เอวมิเมปิ ฉนฺทาทโย ทายเกน ยสฺส ทินฺนา, ตโต อฺตฺถ น คจฺฉตีติ พิฬาลสงฺขลิกาสทิสตฺตา ‘‘พิฬาลสงฺขลิกา’’ติ วุตฺตา. พิฬาลสงฺขลิกาคฺคหณฺเจตฺถ ยาสํ กาสฺจิ สงฺขลิกานํ อุปลกฺขณมตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๒๖๔๕-๖. ฉนฺทํ วา ปาริสุทฺธึ วา ปวารณํ วา คเหตฺวา ฉนฺทาทิหารโก สงฺฆมปฺปตฺวา สเจ สามเณราทิภาวํ ปฏิชาเนยฺย วา วิพฺภเมยฺย วา มเรยฺย วา, ตํ สพฺพํ ฉนฺทาทิภาวํ นาหฏํ โหติ, สงฺฆํ ปตฺวา เอวํ สิยา สามเณราทิภาวํ ปฏิชานนฺโต, วิพฺภนฺโต, กาลกโต วา ภเวยฺย, ตํ สพฺพํ หฏํ อานีตํ โหตีติ โยชนา.

ตตฺถ สามเณราทิภาวํ วา ปฏิชาเนยฺยาติ ‘‘อหํ สามเณโร’’ติอาทินา ภูตํ สามเณราทิภาวํ กเถยฺย, ปจฺฉา สามเณรภูมิยํ ปติฏฺเหยฺยาติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺโน คหิโต.

๒๖๔๗. สงฺฆํ ปตฺวาติ อนฺตมโส ตํตํกมฺมปฺปตฺตสฺส จตุวคฺคาทิสงฺฆสฺส หตฺถปาสํ ปตฺวาติ อตฺโถ. ปมตฺโตติ ปมาทํ สติสมฺโมสํ ปตฺโต. สุตฺโตติ นิทฺทูปคโต. ขิตฺตจิตฺตโกติ ยกฺขาทีหิ วิกฺเขปมาปาทิตจิตฺโต. นาโรเจตีติ อตฺตโน ฉนฺทาทีนํ อาหฏภาวํ เอกสฺสาปิ ภิกฺขุโน น กเถติ. สฺจิจฺจาติ สฺเจเตตฺวา ชานนฺโตเยว อนาทริโย นาโรเจติ, ทุกฺกฏํ โหติ.

๒๖๔๘. เย เตติ เย เต ภิกฺขู เถรา วา นวา วา มชฺฌิมา วา. วิปสฺสนาติ สหจริเยน สมโถปิ คยฺหติ. สมถวิปสฺสนา จ อิธ ตรุณาเยว อธิปฺเปตา, ตสฺมา วิปสฺสนายุตฺตาติ เอตฺถ ตรุณาหิ สมถวิปสฺสนาหิ สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. รตฺตินฺทิวนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. อตนฺทิตาติ อนลสา.

‘‘รตฺตินฺทิว’’นฺติ เอตฺถ รตฺติ-สทฺเทน รตฺติยาเยว คหณํ, อุทาหุ เอกเทสสฺสาติ อาห ‘‘ปุพฺพรตฺตาปรรตฺต’’นฺติ. ปุพฺพา จ สา รตฺติ จาติ ปุพฺพรตฺติ, ปมยาโม, อปรา จ สา รตฺติ จาติ อปรรตฺติ, ปจฺฉิมยาโม, ปุพฺพรตฺติ จ อปรรตฺติ จาติ สมาหารทฺวนฺเท สมาสนฺเต อ-การปจฺจยํ กตฺวา ‘‘ปุพฺพรตฺตาปรรตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อิธาปิ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. มชฺฌิมยาเม กายทรถวูปสมนตฺถาย สุปนํ อนุฺาตนฺติ ตํ วชฺเชตฺวา ปุริมปจฺฉิมยาเมสุ นิรนฺตรภาวนานุโยโค กาตพฺโพติ ทสฺสนตฺถเมว วุตฺตํ. วิปสฺสนา ปรายนา สมถวิปสฺสนาว ปรํ อยนํ ปติฏฺา เอเตสนฺติ วิปสฺสนาปรายนา, สมถวิปสฺสนาย ยุตฺตปยุตฺตา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๖๔๙. ลทฺโธ ผาสุวิหาโร เยหิ เต ลทฺธผาสุวิหารา, เตสํ. ผาสุวิหาโรติ จ สุขวิหารสฺส มูลการณตฺตา ตรุณา สมถวิปสฺสนา อธิปฺเปตา, ปฏิลทฺธตรุณสมถวิปสฺสนานนฺติ อตฺโถ. สิยา น ปริหานิติ ปริหานิ นาม เอวํ กเต น ภเวยฺย.

กตฺติกมาสเกติ จีวรมาสสงฺขาเต กตฺติกมาเส ปวารณาย สงฺคโห วุตฺโตติ โยชนา. คาถาพนฺธวเสน ‘‘สงฺคาโห’’ติ ทีโฆ กโต, ปวารณาสงฺคโห วุตฺโตติ อตฺโถ. ยถาห –

‘‘ปวารณาสงฺคโห จ นามายํ วิสฺสฏฺกมฺมฏฺานานํ ถามคตสมถวิปสฺสนานํ โสตาปนฺนาทีนฺจ น ทาตพฺโพ. ตรุณสมถวิปสฺสนาลาภิโน ปน สพฺเพ วา โหนฺตุ, อุปฑฺฒา วา, เอกปุคฺคโล วา, เอกสฺสปิ วเสน ทาตพฺโพเยว. ทินฺเน ปวารณาสงฺคเห อนฺโตวสฺเส ปริหาโรว โหติ, อาคนฺตุกา เตสํ เสนาสนํ คเหตุํ น ลภนฺติ. เตหิปิ ฉินฺนวสฺเสหิ น ภวิตพฺพํ, ปวาเรตฺวา ปน อนฺตราปิ จาริกํ ปกฺกมิตุํ ลภนฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๑).

ปวารณาสงฺคหสฺส ทานปฺปกาโร ปน ปาฬิโต คเหตพฺโพ.

ปวารณกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

จมฺมกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๖๕๐. เอฬกา จ อชา จ มิคา จาติ วิคฺคโห. ปสูนํ ทฺวนฺเท เอกตฺตนปุํสกตฺตสฺส วิภาสิตตฺตา พหุวจนนิทฺเทโส. เอฬกานฺจ อชานฺจ มิคานํ โรหิเตณิกุรุงฺคานฺจ. ปสทา จ มิคมาตา จ ปสทมิคมาตา, ‘‘ปสทมิคมาตุยา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ‘‘ปสท’’นฺติ นิคฺคหิตาคโม. ปสทมิคมาตุยา จ จมฺมํ ภิกฺขุโน วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘มิคาน’’นฺติ อิมินา คหิตานเมเวตฺถ วิภาคทสฺสนํ ‘‘โรหิเตณี’’ติอาทิ. โรหิตาทโย มิควิภาควิเสสา.

๒๖๕๑. เอเตสํ ยถาวุตฺตสตฺตานํ จมฺมํ เปตฺวา อฺํ จมฺมํ ทุกฺกฏาปตฺติยา วตฺถุภูตนฺติ อตฺโถ. อฺนฺติ จ –

‘‘มกฺกโฏ กาฬสีโห จ, สรโภ กทลีมิโค;

เย จ วาฬมิคา โหนฺติ, เตสํ จมฺมํ น วฏฺฏตี’’ติ. (มหาว. อฏฺ. ๒๕๙) –

อฏฺกถาย ปฏิกฺขิตฺตํ จมฺมมาห. มกฺกโฏ นาม สาขมิโค. กาฬสีโห นาม มหามุขวานรชาติโก. วาฬมิคา นาม สีหพฺยคฺฆาทโย. ยถาห – ‘‘ตตฺถ วาฬมิคาติ สีหพฺยคฺฆอจฺฉตรจฺฉา, น เกวลฺจ เอเตเยว, เยสํ ปน จมฺมํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ, เต เปตฺวา อวเสสา อนฺตมโส โคมหึสสฺสมิฬาราทโยปิ สพฺเพ อิมสฺมึ อตฺเถ ‘วาฬมิคา’ตฺเวว เวทิตพฺพา’’ติ.

ถวิกา จ อุปาหนา จ ถวิโกปาหนํ. อมานุสํ มนุสฺสจมฺมรหิตํ สพฺพํ จมฺมํ ถวิโกปาหเน วฏฺฏตีติ โยชนา. เอตฺถ ถวิกาติ อุปาหนาทิโกสกสฺส คหณํ. ยถาห ‘‘มนุสฺสจมฺมํ เปตฺวา เยน เกนจิ จมฺเมน อุปาหนา วฏฺฏติ. อุปาหนาโกสกสตฺถกโกสกกุฺชิกาโกสเกสุปิ เอเสว นโย’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๕๙).

๒๖๕๒. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ คุณงฺคุณูปาหน’’นฺติ (มหาว. ๒๕๙) วจนโต ‘‘วฏฺฏนฺติ มชฺฌิเม เทเส, น คุณงฺคุณูปาหนา’’ติ วุตฺตํ. มชฺฌิเม เทเสติ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย คชงฺคลํ นาม นิคโม’’ติอาทินา (มหาว. ๒๕๙) วุตฺตสีมาปริจฺเฉเท มชฺฌิมเทเส. คุณงฺคุณูปาหนาติ จตุปฏลโต ปฏฺาย พหุปฏลา อุปาหนา. ยถาห – ‘‘คุณงฺคุณูปาหนาติ จตุปฏลโต ปฏฺาย วุจฺจตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๕). มชฺฌิมเทเส คุณงฺคุณูปาหนา น วฏฺฏนฺตีติ โยชนา. อนฺโตอาราเมติ เอตฺถ ปกรณโต ‘‘สพฺเพส’’นฺติ ลพฺภติ, คิลานานมิตเรสฺจ สพฺเพสนฺติ อตฺโถ. สพฺพตฺถาปิ จาติ อนฺโตอาราเม, พหิ จาติ สพฺพตฺถาปิ. โรคิโนติ คิลานสฺส วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.

๒๖๕๓. ปุฏพทฺธา ขลฺลกพทฺธาจาติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. วิเสโส ปเนตาสํ อฏฺกถายเมว วุตฺโต ‘‘ปุฏพทฺธาติ โยนกอุปาหนา วุจฺจติ, ยา ยาวชงฺฆโต สพฺพปาทํ ปฏิจฺฉาเทติ. ขลฺลกพทฺธาติ ปณฺหิปิธานตฺถํ ตเล ขลฺลกํ พนฺธิตฺวา กตา’’ติ. ปาลิคุณฺิมา จ ‘‘ปลิคุณฺิตฺวา กตา, ยา อุปริ ปาทมตฺตเมว ปฏิจฺฉาเทติ, น ชงฺฆ’’นฺติ อฏฺกถายํ ทสฺสิตาว. ตูลปุณฺณาติ ตูลปิจุนา ปูเรตฺวา กตา.

สพฺพาว นีลา สพฺพนีลา, สา อาทิ ยาสํ ตา สพฺพนีลาทโย. อาทิ-สทฺเทน มหานามรตฺตปริยนฺตานํ คหณํ. เอตาสํ สรูปํ อฏฺกถายเมว วุตฺตํ ‘‘นีลิกา อุมาปุปฺผวณฺณา โหติ, ปีติกา กณิการปุปฺผวณฺณา, โลหิติกา ชยสุมนปุปฺผวณฺณา, มฺชิฏฺิกา มฺชิฏฺวณฺณา เอว, กณฺหา อทฺทาริฏฺกวณฺณา, มหารงฺครตฺตา สตปทิปิฏฺิวณฺณา, มหานามรตฺตา สมฺภินฺนวณฺณา โหติ ปณฺฑุปลาสวณฺณา. กุรุนฺทิยํ ปน ‘ปทุมปุปฺผวณฺณา’ติ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๖). สพฺพนีลาทโยปิ จาติ อปิ-สทฺเทน นีลาทิวทฺธิกานํ คหณํ.

๒๖๕๔. จิตฺราติ วิจิตฺรา. เมณฺฑวิสาณูปมวทฺธิกาติ เมณฺฑานํ วิสาณสทิสวทฺธิกา, กณฺณิกฏฺาเน เมณฺฑสิงฺคสณฺาเน วทฺเธ โยเชตฺวา กตาติ อตฺโถ. ‘‘เมณฺฑวิสาณูปมวทฺธิกา’’ติ อิทํ อชวิสาณูปมวทฺธิกานํ อุปลกฺขณํ. โมรสฺส ปิฺเฉน ปริสิพฺพิตาติ ตเลสุ วา วทฺเธสุ วา โมรปิฺเฉหิ สุตฺตกสทิเสหิ ปริสิพฺพิตา. อุปาหนา น จ วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.

๒๖๕๕. มชฺชาราติ พิฬารา. กาฬกา รุกฺขกณฺฏกา. อูลูกา ปกฺขิพิฬาลา. สีหาติ เกสรสีหาทโย สีหา. อุทฺทาติ จตุปฺปทชาติกา. ทีปี สทฺทลา. อชินสฺสาติ เอวํนามิกสฺส. ปริกฺขฏาติ อุปาหนปริยนฺเต จีวเร อนุวาตํ วิย วุตฺตปฺปการํ จมฺมํ โยเชตฺวา กตา.

๒๖๕๖. สเจ อีทิสา อุปาหนา ลภนฺติ, ตาสํ วฬฺชนปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุฏาทึ อปเนตฺวา’’ติอาทิ. ปุฏาทึ สพฺพโส ฉินฺทิตฺวา วา อปเนตฺวา วา อุปาหนา ธาเรตพฺพาติ โยชนา. เอวมกตฺวา ลทฺธนีหาเรเนว ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ยถาห – ‘‘เอตาสุ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา สเจ ตานิ ขลฺลกาทีนิ อปเนตฺวา สกฺกา โหนฺติ วฬฺชิตุํ, วฬฺเชตพฺพา, เตสุ ปน สติ วฬฺชนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๖).

วณฺณเภทํ ตถา กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘เอกเทเสนา’’ติ เสโส. ‘‘สพฺพโส วา’’ติ อาหริตฺวา สพฺพโส วา เอกเทเสน วา วณฺณเภทํ กตฺวา สพฺพนีลาทโย อุปาหนา ธาเรตพฺพาติ โยชนา. ตถา อกตฺวา ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ยถาห ‘‘เอตาสุ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา รชนํ โจฬเกน ปุฺฉิตฺวา วณฺณํ ภินฺทิตฺวา ธาเรตุํ วฏฺฏติ. อปฺปมตฺตเกปิ ภินฺเน วฏฺฏติเยวา’’ติ. นีลวทฺธิกาทโยปิ วณฺณเภทํ กตฺวา ธาเรตพฺพา.

๒๖๕๗. ตตฺถ าเน ปสฺสาวปาทุกา, วจฺจปาทุกา, อาจมนปาทุกาติ ติสฺโส ปาทุกาโย เปตฺวา สพฺพาปิ ปาทุกา ตาลปตฺติกาทิเภทา สพฺพาปิ สงฺกมนียา ปาทุกา ธาเรตุํ น วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.

๒๖๕๘. อติกฺกนฺตปมาณํ อุจฺจาสยนสฺิตํ อาสนฺทิฺเจว ปลฺลงฺกฺจ เสวมานสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อาสนฺที วุตฺตลกฺขณาว. ปลฺลงฺโกติ ปาเทสุ อาหริมานิ วาฬรูปานิ เปตฺวา กโต, เอกสฺมึเยว ทารุมฺหิ กฏฺกมฺมวเสน ฉินฺทิตฺวา กตานิ อสํหาริมานิ ตตฺรฏฺาเนว วาฬรูปานิ ยสฺส ปาเทสุ สนฺติ, เอวรูโป ปลฺลงฺโก กปฺปตีติ ‘‘อาหริเมนา’’ติ อิมินาว ทีปิตํ. ‘‘อกปฺปิยรูปกโต อกปฺปิยมฺโจ ปลฺลงฺโก’’ติ หิ สารสมาเส วุตฺตํ.

๒๖๕๙. โคนกนฺติ ทีฆโลมกมหาโกชวํ. จตุรงฺคุลาธิกานิ กิร ตสฺส โลมานิ, กาฬวณฺณฺจ โหติ. ‘‘จตุรงฺคุลโต อูนกปฺปมาณโลโม โกชโว วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. กุตฺตกนฺติ โสฬสนฺนํ นาฏกิตฺถีนํ ตฺวา นจฺจนโยคฺคํ อุณฺณามยตฺถรณํ. จิตฺตนฺติ ภิตฺติจฺฉิทฺทาทิกวิจิตฺรํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ปฏิกนฺติ อุณฺณามยํ เสตตฺถรณํ. ปฏลิกนฺติ ฆนปุปฺผกํ อุณฺณามยํ โลหิตตฺถรณํ, โย ‘‘อามลกปตฺโต’’ติปิ วุจฺจติ.

เอกนฺตโลมินฺติ อุภโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ. วิกตินฺติ สีหพฺยคฺฆาทิรูปวิจิตฺรํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ‘‘เอกนฺตโลมีติ เอกโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณ’’นฺติ ทีฆนิกา. ตูลิกนฺติ รุกฺขตูลลตาตูลโปฏกิตูลสงฺขาตานํ ติณฺณํ ตูลานํ อฺตรปุณฺณํ ปกติตูลิกํ. อุทฺทโลมิกนฺติ เอกโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ‘‘อุทฺทโลมีติ อุภโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณํ. เอกนฺตโลมีติ เอกโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณ’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) ทีฆนิกายฏฺกถายํ วุตฺตํ. สารสมาเส ปน ‘‘อุทฺทโลมีติ เอกโต อุคฺคตปุปฺผํ. เอกนฺตโลมีติ อุภโต อุคฺคตปุปฺผ’’นฺติ วุตฺตํ.

๒๖๖๐. กฏฺฏิสฺสนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยํ ปจฺจตฺถรณํ. ‘‘โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยนฺติ โกเสยฺยกสฏมย’’นฺติ (ที. นิ. ฏี. ๑.๑๕) อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ, กนฺติตโกเสยฺยปุฏมยนฺติ อตฺโถ. โกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกสิยสุตฺตมยํ ปจฺจตฺถรณํ. รตนปริสิพฺพนรหิตํ สุทฺธโกเสยฺยํ ปน วฏฺฏติ.

ทีฆนิกายฏฺกถายํ ปเนตฺถ ‘‘เปตฺวา ตูลิกํ สพฺพาเนว โคนกาทีนิ รตนปริสิพฺพิตานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘เปตฺวา ตูลิก’’นฺติ เอเตน รตนปริสิพฺพนรหิตาปิ ตูลิกา น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ‘‘รตนปริสิพฺพิตานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ อิมินา ปน ยานิ รตนปริสิพฺพิตานิ, ตานิ ภูมตฺถรณวเสน ยถานุรูปํ มฺจาทีสุ จ อุปเนตุํ วฏฺฏตีติ ทีปิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ วินยปริยายํ ปตฺวา ครุเก าตพฺพตฺตา อิธ วุตฺตนเยเนเวตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. สุตฺตนฺติกเทสนายํ ปน คหฏฺานมฺปิ วเสน วุตฺตตฺตา เนสํ สงฺคณฺหนตฺถํ ‘‘เปตฺวา ตูลิกํ…เป… วฏฺฏนฺตีติ วุตฺต’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) อปเร.

หตฺถิอสฺสรถตฺถรนฺติ หตฺถิปิฏฺเ อตฺถริตํ อตฺถรณํ หตฺถตฺถรณํ นาม. อสฺสรถตฺถเรปิ เอเสว นโย. กทลิมิคปวร-ปจฺจตฺถรณกมฺปิ จาติ กทลิมิคจมฺมํ นาม อตฺถิ, เตน กตํ ปวรปจฺจตฺถรณนฺติ อตฺโถ. ตํ กิร เสตวตฺถสฺส อุปริ กทลิมิคจมฺมํ ปตฺถริตฺวา สิพฺเพตฺวา กโรนฺติ. ปิ-สทฺเทน อชินปฺปเวณี คหิตา. อชินปฺปเวณี นาม อชินจมฺเมหิ มฺจปมาเณน สิพฺเพตฺวา กตา ปเวณี. ตานิ กิร จมฺมานิ สุขุมตรานิ, ตสฺมา ทุปฏฺฏติปฏฺฏานิ กตฺวา สิพฺพนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อชินปฺปเวณี’’ติ.

๒๖๖๑. รตฺตวิตานสฺส เหฏฺาติ กุสุมฺภาทิรตฺตสฺส โลหิตวิตานสฺส เหฏฺา กปฺปิยปจฺจตฺถรเณหิ อตฺถตํ สยนาสนฺจ. กสาวรตฺตวิตานสฺส ปน เหฏฺา กปฺปิยปจฺจตฺถรเณน อตฺถตํ วฏฺฏติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘เหฏฺา อกปฺปิเย’’ติอาทิ.

ทฺวิธา รตฺตูปธานกนฺติ สีสปสฺเส, ปาทปสฺเส จาติ อุภโตปสฺเส ปฺตฺตรตฺตพิพฺโพหนวนฺตฺจ สยนาสนํ. อิทํ สพฺพํ อกปฺปิยํ ปริภุฺชโต ทุกฺกฏํ โหติ. ‘‘ยํ ปน เอกเมว อุปธานํ อุโภสุ ปสฺเสสุ รตฺตํ วา โหติ ปทุมวณฺณํ วา วิจิตฺรํ วา, สเจ ปมาณยุตฺตํ, วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๕๔) อฏฺกถาวินิจฺฉโย เอเตเนว พฺยติเรกโต วุตฺโต โหติ. ‘‘เยภุยฺยรตฺตานิปิ ทฺเว พิพฺโพหนานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. เตเนว เยภุยฺเยน รตฺตวิตานมฺปิ น วฏฺฏตีติ วิฺายติ.

เอตฺถ จ กิฺจาปิ ทีฆนิกายฏฺกถายํ ‘‘อโลหิตกานิ ทฺเวปิ วฏฺฏนฺติเยว, ตโต อุตฺตริ ลภิตฺวา อฺเสํ ทาตพฺพานิ, ทาตุํ อสกฺโกนฺโต มฺเจ ติริยํ อตฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ ลภตี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) อวิเสเสน วุตฺตํ. เสนาสนกฺขนฺธกสํวณฺณนายํ ปน ‘‘อคิลานสฺส สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ ทฺวยเมว วฏฺฏติ, คิลานสฺส พิพฺโพหนานิ สนฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗) วุตฺตตฺตา คิลาโนเยว มฺเจ ติริยํ อตฺถริตฺวา นิปชฺชิตุํ ลภตีติ เวทิตพฺพํ.

๒๖๖๒. อุทฺธํ เสตวิตานมฺปิ เหฏฺา อกปฺปิเย ปจฺจตฺถรเณ สติ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ตสฺมินฺติ อกปฺปิยปจฺจตฺถรเณ.

๒๖๖๓. ‘‘เปตฺวา’’ติ อิมินา อาสนฺทาทิตฺตยสฺส วฏฺฏนากาโร นตฺถีติ ทีเปติ. เสสํ สพฺพนฺติ โคนกาทิ ทฺวิธารตฺตูปธานกปริยนฺตํ สพฺพํ. คิหิสนฺตกนฺติ คิหีนํ สนฺตกํ เตหิเยว ปฺตฺตํ, อิมินา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตเรน วา เตสํ อาณตฺติยา วา ปฺตฺตํ น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ลภเตติ นิสีทิตุํ ลภติ.

๒๖๖๔. ตํ กตฺถ ลภตีติ ปเทสนิยมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ธมฺมาสเน’’ติอาทิ. ธมฺมาสเนติ เอตฺถ อฏฺกถายํ ‘‘ยทิ ธมฺมาสเน สงฺฆิกมฺปิ โคนกาทึ ภิกฺขูหิ อนาณตฺตา อารามิกาทโย สยเมว ปฺาเปนฺติ เจว นีหรนฺติ จ, เอตํ คิหิวิกตนีหารํ นาม. อิมินา คิหิวิกตนีหาเรน วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐; วิ. สงฺค. อฏฺ. ปกิณฺณกวินิจฺฉยกถา ๕๖ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. ภตฺตคฺเค วาติ วิหาเร นิสีทาเปตฺวา ปริเวสนฏฺาเน วา โภชนสาลายํ วา. อปิสทฺเทน คิหีนํ เคเหปิ เตหิ ปฺตฺเต โคนกาทิมฺหิ นิสีทิตุํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ. ธมฺมาสนาทิปเทสนิยมเนน ตโต อฺตฺถ คิหิปฺตฺเตปิ ตตฺถ นิสีทิตุํ น วฏฺฏตีติ พฺยติเรกโต วิฺายติ.

ภูมตฺถรณเกติ เอตฺถ ‘‘กเต’’ติ เสโส. ตตฺถาติ สงฺฆิเก วา คิหิสนฺตเก วา โคนกาทิมฺหิ สหธมฺมิเกหิ อนาณตฺเตหิ คิหีหิ เอว ภูมตฺถรเณ กเต. สยิตุนฺติ อุปริ อตฺตโน ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. อปิ-สทฺเทน นิสีทิตุมฺปิ วาติ สมุจฺจิโนติ. ‘‘ภูมตฺถรณเก’’ติ อิมินา คิหีหิ เอว มฺจาทีสุ สยนตฺถํ อตฺถเต อุปริ อตฺตโน ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา สยิตุํ วา นิสีทิตุํ วา น วฏฺฏตีติ ทีเปติ.

จมฺมกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

เภสชฺชกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๖๖๕. คหปติสฺส ภูมิ, สมฺมุติภูมิ, อุสฺสาวนนฺติกาภูมิ, โคนิสาทิภูมีติ กปฺปิยภูมิโย จตสฺโส โหนฺตีติ วุตฺตา ภควตาติ โยชนา.

๒๖๖๖. กถํ กปฺปิยํ กตฺตพฺพนฺติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตสฺโส กปฺปิยภูมิโย อุสฺสาวนนฺติกํ โคนิสาทิกํ คหปตึ สมฺมุติ’’นฺติ (มหาว. ๒๙๕) เอวํ จตสฺโส ภูมิโย อุทฺธริตฺวา ตาสํ สามฺลกฺขณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติอาทิ. สงฺฆสฺส สนฺตกํ วาสตฺถาย กตํ เคหํ วา ภิกฺขุโน สนฺตกํ วาสตฺถาย กตํ เคหํ วาติ โยชนา. กปฺปิยํ กตฺตพฺพนฺติ กปฺปิยฏฺานํ กตฺตพฺพํ. สหเสยฺยปฺปโหนกนฺติ สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉนฺนาทิลกฺขเณน สหเสยฺยารหํ.

๒๖๖๗. อิทานิ จตสฺโสปิ ภูมิโย สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘เปตฺวา’’ติอาทิ. ภิกฺขุํ เปตฺวา อฺเหิ กปฺปิยภูมิยา อตฺถาย ทินฺนํ วา เตสํ สนฺตกํ วา ยํ เคหํ, อิทํ เอว คหปติภูมิ นามาติ โยชนา.

๒๖๖๘. ยา ปน กุฏิ สงฺเฆน สมฺมตา ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย, สา สมฺมุติกา นาม. ตสฺสา สมฺมนฺนนกาเล กมฺมวาจํ อวตฺวา อปโลกนํ วา กาตุํ วฏฺฏเตวาติ โยชนา.

๒๖๖๙-๗๐. ปมอิฏฺกาย วา ปมปาสาณสฺส วา ปมตฺถมฺภสฺส วา อาทิ-คฺคหเณน ปมภิตฺติปาทสฺส วา ปเน ปเรสุ มนุสฺเสสุ อุกฺขิปิตฺวา เปนฺเตสุ สมนฺตโต ปริวาเรตฺวา ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรม, กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ อภิกฺขณํ วทนฺเตหิ อามสิตฺวา วา สยเมว อุกฺขิปิตฺวา วา อิฏฺกา เปยฺย ปาสาโณ วา ถมฺโภ วา ภิตฺติปาโท วา เปยฺย เปตพฺโพ, อยํ อุสฺสาวนนฺติกา กุฏีติ โยชนา.

๒๖๗๑. อิฏฺกาทิปติฏฺานนฺติ ปมิฏฺกาทีนํ ภูมิยํ ปติฏฺานํ. วทตนฺติ ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรม, กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ วทนฺตานํ. สมกาลํ ตุ วฏฺฏตีติ เอกกาลํ วฏฺฏติ, อิมินา ‘‘สเจ หิ อนิฏฺิเต วจเน ถมฺโภ ปติฏฺาติ, อปฺปติฏฺิเต วา ตสฺมึ วจนํ นิฏฺาติ, อกตา โหติ กปฺปิยกุฏี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕) อฏฺกถาวินิจฺฉโย สูจิโต.

๒๖๗๒. อาราโม สกโล อปริกฺขิตฺโต วา เยภุยฺยโต อปริกฺขิตฺโต วาติ ทุวิโธปิ วิฺูหิ วินยธเรหิ ‘‘โคนิสาที’’ติ วุจฺจติ. ปเวสนิวารณาภาเวน ปวิฏฺานํ คุนฺนํ นิสชฺชาโยคโต ตถา วุจฺจตีติ โยชนา.

๒๖๗๓. ปโยชนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺถ ปกฺกฺจา’’ติอาทิ. อามิสนฺติ ปุริมกาลิกทฺวยํ. ‘‘อามิส’’นฺติ อิมินา นิรามิสํ อิตรกาลิกทฺวยํ อกปฺปิยกุฏิยํ วุตฺถมฺปิ ปกฺกมฺปิ กปฺปตีติ ทีเปติ.

๒๖๗๔-๕. อิมา กปฺปิยกุฏิโย กทา ชหิตวตฺถุกา โหนฺตีติ อาห ‘‘อุสฺสาวนนฺติกา ยา สา’’ติอาทิ. ยา อุสฺสาวนนฺติกา เยสุ ถมฺภาทีสุ อธิฏฺิตา, สา เตสุ ถมฺภาทีสุ อปนีเตสุ ตทฺเสุปิ ถมฺภาทีสุ ติฏฺตีติ โยชนา.

สพฺเพสุ ถมฺภาทีสุ อปนีเตสุ สา ชหิตวตฺถุกา สิยาติ โยชนา. โคนิสาทิกุฏิ ปริกฺขิตฺตา วติอาทีหิ ชหิตวตฺถุกา สิยา. ปริกฺขิตฺตาติ จ ‘‘อาราโม ปน อุปฑฺฒปริกฺขิตฺโตปิ พหุตรํ ปริกฺขิตฺโตปิ ปริกฺขิตฺโตเยว นามา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕) กุรุนฺทิมหาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตตฺตา น เกวลํ สพฺพปริกฺขิตฺตาว, อุปฑฺฒปริกฺขิตฺตาปิ เยภุยฺยปริกฺขิตฺตาปิ คเหตพฺพา.

เสสาติ คหปติสมฺมุติกุฏิโย. ฉทนนาสโต ชหิตวตฺถุกา สิยุนฺติ โยชนา. ฉทนนาสโตติ เอตฺถ ‘‘โคปานสิมตฺตํ เปตฺวา’’ติ เสโส. สเจ โคปานสีนํ อุปริ เอกมฺปิ ปกฺขปาสมณฺฑลํ อตฺถิ, รกฺขติ. ยตฺร ปนิมา จตสฺโสปิ กปฺปิยภูมิโย นตฺถิ, ตตฺถ กึ กาตพฺพํ? อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา ตสฺส สนฺตกํ กตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ.

๒๖๗๖. ภิกฺขุํ เปตฺวา อฺเสํ หตฺถโต ปฏิคฺคโห จ เตสํ สนฺนิธิ จ เตสํ อนฺโตวุตฺถฺจ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๖๗๗. ภิกฺขุสฺส สนฺตกํ สงฺฆิกมฺปิ วา อกปฺปิยภูมิยํ สหเสยฺยปฺปโหนเก เคเห อนฺโตวุตฺถฺจ อนฺโตปกฺกฺจ ภิกฺขุสฺส น วฏฺฏติ. ภิกฺขุนิยา สนฺตกํ สงฺฆิกมฺปิ วา อกปฺปิยภูมิยํ สหเสยฺยปฺปโหนเก เคเห อนฺโตวุตฺถฺจ อนฺโตปกฺกฺจ ภิกฺขุนิยา น วฏฺฏตีติ เอวํ อุภินฺนํ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๖๗๘. อกปฺปกุฏิยาติ อกปฺปิยกุฏิยา, ‘‘อกปฺปิยภูมิยํ สหเสยฺยปฺปโหนเก เคเห’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตาย อกปฺปิยภูมิยาติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน นวนีตเตลมธุผาณิตานํ คหณํ.

๒๖๗๙. เตเหว อนฺโตวุตฺเถหิ สปฺปิอาทีหิ สตฺตาหกาลิเกหิ สห ภิกฺขุนา ปกฺกํ ตํ ยาวชีวิกํ นิรามิสํ สตฺตาหํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏเตวาติ โยชนา.

๒๖๘๐. ปกฺกํ สามํปกฺกํ ตํ ยาวชีวิกํ สเจ อามิสสํสฏฺํ ปริภุฺชติ, อนฺโตวุตฺถฺจ ภุฺชติ, กิฺจ ภิยฺโย สามํปกฺกฺจ ภุฺชตีติ โยชนา. ยาวชีวิกสฺส อามิสสํสฏฺสฺส อามิสคติกตฺตา ‘‘อนฺโตวุตฺถ’’นฺติ วุตฺตํ.

๒๖๘๒. อุทกํ น โหติ กาลิกํ จตูสุ กาลิเกสุ อสงฺคหิตตฺตา.

๒๖๘๓. ติกาลิกา ยาวกาลิกา ยามกาลิกา สตฺตาหกาลิกาติ ตโย กาลิกา ปฏิคฺคหวเสเนว อตฺตโน อตฺตโน กาลํ อติกฺกมิตฺวา ภุตฺตา โทสกรา โหนฺติ, ตติยํ สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยวตฺถุตฺตา อภุตฺตมฺปิ โทสกรนฺติ โยชนา.

‘‘ภุตฺตา โทสกรา’’ติ อิมินา ปุริมกาลิกทฺวยํ ปฏิคฺคเหตฺวา กาลาติกฺกมนมตฺเตน อาปตฺติยา การณํ น โหติ, ภุตฺตเมว โหติ. สตฺตาหกาลิกํ กาลาติกฺกเมน อปริภุตฺตมฺปิ อาปตฺติยา การณํ โหตีติ ทีเปติ. เตสุ สตฺตาหกาลิเกเยว วิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อภุตฺตํ ตติยมฺปิ จา’’ติ. -สทฺโท ตุ-สทฺทตฺเถ. ยาวชีวิกํ ปน ปฏิคฺคเหตฺวา ยาวชีวํ ปริภุฺชิยมานํ อิตรกาลิกสํสคฺคํ วินา โทสกรํ น โหตีติ น คหิตํ.

๒๖๘๔. อมฺพาทโย สทฺทา รุกฺขานํ นามภูตา ตํตํผเลปิ วตฺตมานา อิธ อุปจารวเสน ตชฺเช ปานเก วุตฺตา, เตเนวาห ‘‘ปานกํ มต’’นฺติ. โจจํ อฏฺิกกทลิปานํ. โมจํ อิตรกทลิปานํ. มธูติ มุทฺทิกผลานํ รสํ. มุทฺทิกาติ สีโตทเก มทฺทิตานํ มุทฺทิกผลานํ ปานํ. ‘‘สาลูกปานนฺติ รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ สาลูเก มทฺทิตฺวา กตปาน’’นฺติ ปาฬิยํ, อฏฺกถาย (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) จ สาลูก-สทฺทสฺส ทีฆวเสน สํโยคทสฺสนโต ‘‘สาลุ ผารุสกฺจา’’ติ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต.

สาลูกํ กุมุทุปฺปลานํ ผลรสํ. ขุทฺทสิกฺขาวณฺณนายํ ปน ‘‘สาลูกปานํ นาม รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ กิฺชกฺขเรณูหิ กตปาน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ผารุสก’นฺติอาทีสุ เอโก รุกฺโข’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. ตสฺส ผลรโส ผารุสกํ นาม. เอเตสํ อฏฺนฺนํ ผลานํ รโส อุทกสมฺภินฺโน วฏฺฏติ, สีตุทเก มทฺทิโต ปสนฺโน นิกฺกสโฏว วฏฺฏติ, อุทเกน ปน อสมฺภินฺโน รโส ยาวกาลิโก.

๒๖๘๕. ผลนฺติ อมฺพาทิผลํ. สวตฺถุกปฏิคฺคโหติ ปานวตฺถุกานํ ผลานํ ปฏิคฺคโห. วสติ เอตฺถ ปานนฺติ วตฺถุ, ผลํ, วตฺถุนา สห วฏฺฏตีติ สวตฺถุกํ, ปานํ, สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคโห สวตฺถุกปฏิคฺคโห. สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคหํ นาม วตฺถุปฏิคฺคหณเมวาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปานวตฺถุกานํ ผลานํ ปฏิคฺคโห’’ติ.

๒๖๘๖. ‘‘สุโกฏฺเฏตฺวา’’ติ วุจฺจมานตฺตา ‘‘อมฺพปกฺก’’นฺติ อามกเมว อมฺพผลํ วุจฺจติ. อุทเกติ สีโตทเก. ปริสฺสวํ ปริสฺสาวิตํ. กตฺวาติ มธุอาทีหิ อภิสงฺขริตฺวา. ยถาห – ‘‘ตทหุปฏิคฺคหิเตหิ มธุสกฺกรกปฺปูราทีหิ โยเชตฺวา กาตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐). ปาตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺถ วินิจฺฉโย ‘‘เอวํ กตํ ปุเรภตฺตเมว กปฺปติ, อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ลภิตฺวา ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภเคนาปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตํ นิรามิสปริโภเคน ยาว อรุณุคฺคมนา วฏฺฏติเยว. เอส นโย สพฺพปาเนสู’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺโต.

๒๖๘๗. เสสปานเกสุปีติ ชมฺพุปานกาทีสุปิ.

๒๖๘๘. อุจฺฉุรโส อนฺโตคธตฺตา อิธ วุตฺโต, น ปน ยามกาลิกตฺตา, โส ปน สตฺตาหกาลิโกเยว.

๒๖๘๙. มธุกสฺส รสนฺติ มธุกปุปฺผสฺส รสํ. เอตฺถ มธุกปุปฺผรโส อคฺคิปาโก วา โหตุ อาทิจฺจปาโก วา, ปจฺฉาภตฺตํ น วฏฺฏติ. ปุเรภตฺตมฺปิ ยํ ปานํ คเหตฺวา มชฺชํ กโรนฺติ, โส อาทิโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ. มธุกปุปฺผํ ปน อลฺลํ วา สุกฺขํ วา ภชฺชิตํ วา เตน กตผาณิตํ วา ยโต ปฏฺาย มชฺชํ น กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ ปุเรภตฺตํ วฏฺฏติ.

ปกฺกฑากรสนฺติ ปกฺกสฺส ยาวกาลิกสฺส รสํ. สพฺโพ ปตฺตรโส ยามกาลิโก วุตฺโตติ โยชนา. อฏฺกถายํ ‘‘ยาวกาลิกปตฺตานฺหิ ปุเรภตฺตํเยว รโส กปฺปตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) อิมเมว สนฺธาย วุตฺตํ.

๒๖๙๐. สานุโลมานํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ผลชํ รสํ เปตฺวา สพฺโพ ผลโช รโส วิกาเล ยามสฺิเต อนุโลมโต ปริภุฺชิตุํ อนุฺาโตติ โยชนา.

๒๖๙๑. ยาวกาลิกปตฺตานํ สีตุทเก มทฺทิตฺวา กโต รโสปิ อปกฺโก, อาทิจฺจปาโกปิ วิกาเล ปน วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๖๙๒-๓. สตฺตธฺานุโลมานิ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ตาลฺจนาฬิเกรฺจา’’ติอาทิ. อปรณฺณํ มุคฺคาทิ. ‘‘สตฺตธฺานุโลมิก’’นฺติ อิมินา เอเตสํ รโส ยาวกาลิโก ยามกาลสงฺขาเต วิกาเล ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ.

๒๖๙๕. เอวมาทีนํ ขุทฺทกานํ ผลานํ รโส ปน อฏฺปานานุโลมตฺตา อนุโลมิเก ยามกาลิกานุโลมิเก นิทฺทิฏฺโ กถิโตติ โยชนา.

๒๖๙๖. อิธ อิมสฺมึ โลเก สานุโลมสฺส ธฺสฺส ผลชํ รสํ เปตฺวา อยามกาลิโก อฺโ ผลรโส นตฺถีติ โยชนา, สพฺโพ ยามกาลิโกเยวาติ ทีเปติ.

เภสชฺชกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

กถินกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๖๙๗. วุตฺถวสฺสานํ ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ยาว มหาปวารณา, ตาว รตฺติจฺเฉทํ อกตฺวา วุตฺถวสฺสานํ ภิกฺขูนํ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ ติณฺณํ จตุนฺนํ ปฺจนฺนํ อติเรกานํ วา ภิกฺขูนํ ปฺจนฺนํ อานิสํสานํ วกฺขมานานํ อนามนฺตจาราทีนํ ปฺจนฺนํ อานิสํสานํ ปฏิลาภการณา มุนิปุงฺคโว สพฺเพสํ อคาริกาทิมุนีนํ สกลคุณคเณหิ อุตฺตโม ภควา กถินตฺถารํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺถานํ ภิกฺขูนํ กถินํ อตฺถริตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๐๖) อพฺรฺวิ กเถสีติ โยชนา.

เอตฺถายํ วินิจฺฉโย – ‘‘กถินตฺถารํ เก ลภนฺติ, เก น ลภนฺตีติ? คณนวเสน ตาว ปจฺฉิมโกฏิยา ปฺจ ชนา ลภนฺติ, อุทฺธํ สตสหสฺสมฺปิ, ปฺจนฺนํ เหฏฺา น ลภนฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖) อิทํ อฏฺกถาย อตฺถารกสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆสฺส กถินทุสฺสทานกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘วุตฺถวสฺสวเสน ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปมปวารณาย ปวาริตา ลภนฺติ, ฉินฺนวสฺสา วา ปจฺฉิมิกาย อุปคตา วา น ลภนฺติ. อฺสฺมึ วิหาเร วุตฺถวสฺสาปิ น ลภนฺตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖) อิทํ อฏฺกถาย อานิสํสลาภํ สนฺธาย วุตฺตํ, น กมฺมํ.

อิทานิ ตทุภยํ วิภชิตฺวา ทสฺเสติ –

‘‘ปุริมิกาย อุปคตานํ ปน สพฺเพ คณปูรกา โหนฺติ, อานิสํสํ น ลภนฺติ, อานิสํโส อิตเรสํเยว โหติ. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา จตฺตาโร วา โหนฺติ, ตโย วา ทฺเว วา เอโก วา, อิตเร คณปูรเก กตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. อถ จตฺตาโร ภิกฺขู อุปคตา, เอโก ปริปุณฺณวสฺโส สามเณโร, โส เจ ปจฺฉิมิกาย อุปสมฺปชฺชติ, คณปูรโก เจว โหติ, อานิสํสฺจ ลภติ. ตโย ภิกฺขู ทฺเว สามเณรา, ทฺเว ภิกฺขู ตโย สามเณรา, เอโก ภิกฺขุ จตฺตาโร สามเณราติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา กถินตฺถารกุสลา น โหนฺติ, อตฺถารกุสลา ขนฺธกภาณกตฺเถรา ปริเยสิตฺวา อาเนตพฺพา, กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กถินํ อตฺถราเปตฺวา ทานฺจ ภุฺชิตฺวา คมิสฺสนฺติ, อานิสํโส ปน อิตเรสํเยว โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖).

กถินํ เกน ทินฺนํ วฏฺฏตีติ? เยน เกนจิ เทเวน วา มนุสฺเสน วา ปฺจนฺนํ วา สหธมฺมิกานํ อฺตเรน ทินฺนํ วฏฺฏติ. กถินทายกสฺส วตฺตํ อตฺถิ, สเจ โส ตํ อชานนฺโต ปุจฺฉติ ‘‘ภนฺเต, กถํ กถินํ ทาตพฺพ’’นฺติ, ตสฺส เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ ‘‘ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรปฺปโหนกํ สูริยุคฺคมนสมเย วตฺถํ ‘กถินจีวรํ เทมา’ติ ทาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺส ปริกมฺมตฺถํ เอตฺตกา นาม สูจิโย, เอตฺตกํ สุตฺตํ, เอตฺตกํ รชนํ, ปริกมฺมํ กโรนฺตานํ เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ ยาคุภตฺตฺจ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ.

กถินตฺถารเกนาปิ ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนํ กถินํ อตฺถรนฺเตน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตนฺตวายเคหโต หิ อาภตสนฺตาเนเนว ขลิมกฺขิตสาฏโกปิ น วฏฺฏติ, มลีนสาฏโกปิ น วฏฺฏติ, ตสฺมา กถินตฺถารสาฏกํ ลภิตฺวา สุทฺธํ โธวิตฺวา สูจิอาทีนิ จีวรกมฺมูปกรณานิ สชฺเชตฺวา พหูหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ตทเหว สิพฺพิตฺวา นิฏฺิตสูจิกมฺมํ รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. สเจ ตสฺมึ อนตฺถเตเยว อฺโ กถินสาฏกํ อตฺถริตพฺพกํ อาหรติ, อฺานิ จ พหูนิ กถินานิสํสวตฺถานิ เทติ, โย อานิสํสํ พหุํ เทติ, ตสฺส สนฺตเกเนว อตฺถริตพฺพํ. อิตโร ยถา ตถา โอวทิตฺวา สฺาเปตพฺโพ.

กถินํ ปน เกน อตฺถริตพฺพํ? ยสฺส สงฺโฆ กถินจีวรํ เทติ. สงฺเฆน ปน กสฺส ทาตพฺพํ? โย ชิณฺณจีวโร โหติ. สเจ พหู ชิณฺณจีวรา โหนฺติ, วุฑฺฒสฺส ทาตพฺพํ. วุฑฺเฒสุปิ โย มหาปริวาโร ตทเหว จีวรํ กตฺวา อตฺถริตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. สเจ วุฑฺโฒ น สกฺโกติ, นวกตโร สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. อปิ จ สงฺเฆน มหาเถรสฺส สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, คณฺหถ, มยํ กตฺวา ทสฺสามา’’ติ วตฺตพฺพํ.

ตีสุ จีวเรสุ ยํ ชิณฺณํ โหติ, ตทตฺถาย ทาตพฺพํ. ปกติยา ทุปฏฺฏจีวรสฺส ทุปฏฺฏตฺถาเยว ทาตพฺพํ. สเจปิสฺส เอกปฏฺฏจีวรํ ฆนํ โหติ, กถินสาฏโก จ เปลโว, สารุปฺปตฺถาย ทุปฏฺฏปฺปโหนกเมว ทาตพฺพํ. ‘‘อหํ อลภนฺโต เอกปฏฺฏํ ปารุปามี’’ติ วทนฺตสฺสาปิ ทุปฏฺฏํ ทาตุํ วฏฺฏติ. โย ปน โลภปกติโก โหติ, ตสฺส น ทาตพฺพํ. เตนาปิ กถินํ อตฺถริตฺวา ‘‘ปจฺฉา วิสิพฺพิตฺวา ทฺเว จีวรานิ กริสฺสามี’’ติ น คเหตพฺพํ.

ยสฺส ปน ทิยฺยติ, ตสฺส –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺย กถินํ อตฺถริตุํ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ, สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทติ กถินํ อตฺถริตุํ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิมสฺส กถินทุสฺสสฺส อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทานํ กถินํ อตฺถริตุํ, โส ตุณฺหสฺส, ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทินฺนํ อิทํ สงฺเฆน กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน กถินํ อตฺถริตุํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๓๐๗) –

เอวํ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ทาตพฺพนฺติ เอวํ ทินฺนํ.

๒๖๙๘-๙. น อุลฺลิขิตมตฺตาทิ-จตุวีสติวชฺชิตนฺติ ปาฬิยํ อาคเตหิ ‘‘น อุลฺลิขิตมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถิน’’นฺติ (มหาว. ๓๐๘) อุลฺลิขิตมตฺตาทีหิ จตุวีสติยา อากาเรหิ วชฺชิตํ. จีวรนฺติ ‘‘อหเตน อตฺถตํ โหติ กถิน’’นฺติ (มหาว. ๓๐๙) ปาฬิยํ อาคตานํ โสฬสนฺนํ อาการานํ อฺตเรน ยุตฺตํ กตปริโยสิตํ ทินฺนํ กปฺปพินฺทุํ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรจีวรํ. เต ปน จตุวีสติ อาการา, โสฬสาการา จ ปาฬิโต (มหาว. ๓๐๘), อฏฺกถาโต (มหาว. อฏฺ. ๓๐๘) จ คเหตพฺพา. คนฺถคารวปริหารตฺถมิธ น วุตฺตา.

ภิกฺขุนา วกฺขมาเน อฏฺธมฺเม ชานนฺเตน อตฺถรเกน อาทาย คเหตฺวา ปุราณกํ อตฺตนา ปริภุฺชิยมานํ อตฺถริตพฺพจีวเรน เอกนามกํ ปุราณจีวรํ อุทฺธริตฺวา ปจฺจุทฺธริตฺวา นวํ อตฺถริตพฺพํ จีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปุราณปจฺจุทฺธฏจีวรสฺส นาเมน อธิฏฺหิตฺวาว ตํ อนฺตรวาสกํ เจ, ‘‘อิมินา อนฺตรวาสเกน กถินํ อตฺถรามิ’’อิติ วจสา วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. สเจ อุตฺตราสงฺโค โหติ, ‘‘อิมินา อุตฺตราสงฺเคน กถินํ อตฺถรามิ’’, สเจ สงฺฆาฏิ โหติ, ‘‘อิมาย สงฺฆาฏิยา กถินํ อตฺถรามี’’ติ วตฺตพฺพํ.

๒๗๐๐-๑. อิจฺเจวํ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ โหตีติ โยชนา. เตน ปน ภิกฺขุนา นวเกน กถินจีวรํ อาทาย สงฺฆํ อุปสงฺกมฺม ‘‘อตฺถตํ, ภนฺเต, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทถ’’อิติ วตฺตพฺพนฺติ โยชนา.

๒๗๐๒. อนุโมทเกสุ จ เถเรหิ ‘‘อตฺถตํ, อาวุโส, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามา’’ติ วตฺตพฺพํ, นเวน ปน ‘‘อตฺถตํ, ภนฺเต, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามี’’ติ อิติ ปุน อีรเย กเถยฺยาติ โยชนา. คาถาย ปน อนุโมทนปาสฺส อตฺถทสฺสนมุเขน ‘‘สุอตฺถตํ ตยา ภนฺเต’’ติ วุตฺตํ, น ปากฺกมทสฺสนวเสนาติ เวทิตพฺพํ.

อตฺถารเกสุ จ อนุโมทเกสุ จ นเวหิ วุฑฺฒานํ วจนกฺกโม วุตฺโต, วุฑฺเฒหิ นวานํ วจนกฺกโม ปน ตทนุสาเรน ยถารหํ โยเชตฺวา วตฺตพฺโพติ คาถาสุ น วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. อตฺถารเกน เถเรน วา นเวน วา คณปุคฺคลานํ วจนกฺกโม จ คณปุคฺคเลหิ อตฺถารกสฺส วจนกฺกโม จ วุตฺตนเยน ยถารหํ โยเชตุํ สกฺกาติ น วุตฺโต.

เอวํ อตฺถเต ปน กถิเน สเจ กถินจีวเรน สทฺธึ อาภตํ อานิสํสํ ทายกา ‘‘เยน อมฺหากํ กถินํ คหิตํ, ตสฺเสว จ เทมา’’ติ เทนฺติ, ภิกฺขุสงฺโฆ อนิสฺสโร. อถ อวิจาเรตฺวาว ทตฺวา คจฺฉนฺติ, ภิกฺขุสงฺโฆ อิสฺสโร. ตสฺมา สเจ กถินตฺถารกสฺส เสสจีวรานิปิ ทุพฺพลานิ โหนฺติ, สงฺเฆน อปโลเกตฺวา เตสมฺปิ อตฺถาย วตฺถานิ ทาตพฺพานิ, กมฺมวาจาย ปน เอกาเยว วฏฺฏติ. อวเสเส กถินานิสํเส พลววตฺถานิ วสฺสาวาสิกิติกาย ทาตพฺพานิ, ิติกาย อภาเว เถราสนโต ปฏฺาย ทาตพฺพานิ, ครุภณฺฑํ น ภาเชตพฺพํ. สเจ ปน เอกสีมาย พหู วิหารา โหนฺติ, สพฺเพ ภิกฺขู สนฺนิปาเตตฺวา เอกตฺถ กถินํ อตฺถริตพฺพํ, วิสุํ วิสุํ อตฺถริตุํ น วฏฺฏติ.

๒๗๐๓. ‘‘กถินสฺส จ กึ มูล’’นฺติอาทีนิ สยเมว วิวริสฺสติ.

๒๗๐๖. อฏฺธมฺมุทฺเทสคาถาย ปุพฺพกิจฺจํ ปุพฺพ-วจเนเนว อุตฺตรปทโลเปน วุตฺตํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปุพฺพกิจฺจนฺติ วุจฺจตี’’ติ. ‘‘ปจฺจุทฺธาร’’อิติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปจฺจุทฺธร’’อิติ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปจฺจุทฺธาโร’’ติ. อธิฏฺหนํ อธิฏฺานํ. ปจฺจุทฺธาโร จ อธิฏฺานฺจ ปจฺจุทฺธราธิฏฺานา. อิตรีตรโยเคน ทฺวนฺทสมาโส. อตฺถาโรติ เอตฺถ ‘‘กถินตฺถาโร’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.

‘‘มาติกา’’ติ อิมินา ‘‘อฏฺ กถินุพฺภารมาติกา’’ติ ปกรณโต วิฺายติ. ยถาห – ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, มาติกา กถินสฺส อุพฺภารายา’’ติ (มหาว. ๓๑๐). มาติกาติ มาตโร ชเนตฺติโย, กถินุพฺภารํ เอตา อฏฺ ชเนนฺตีติ อตฺโถ. อุทฺธาโรติ กถินสฺส อุทฺธาโร. อานิสํสาติ เอตฺถ ‘‘กถินสฺสา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. กถินสฺส อานิสํสาติ อิเม อฏฺ ธมฺมาติ โยชนา. ยถาห ‘‘อตฺถตกถินานํ โว, ภิกฺขเว, ปฺจ กปฺปิสฺสนฺตี’’ติอาทิ (มหาว. ๓๐๖). ‘‘อานิสํเสนา’’ติปิ ปาโ. อานิสํเสน สห อิเม อฏฺ ธมฺมาติ โยชนา.

๒๗๐๗. ‘‘น อุลฺลิขิตมตฺตาทิ-จตุวีสติวชฺชิต’’นฺติอาทินา กถินํ อตฺถริตุํ กตปริโยสิตํ จีวรํ เจ ลทฺธํ, ตตฺถ ปฏิปชฺชนวิธึ ทสฺเสตฺวา สเจ อกตสิพฺพนาทิกมฺมํ วตฺถเมว ลทฺธํ, ตตฺถ ปฏิปชฺชนวิธึ ปุพฺพกิจฺจวเสน ทสฺเสตุมาห ‘‘โธวน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ โธวนนฺติ กถินทุสฺสสฺส เสตภาวกรณํ. วิจาโรติ ‘‘ปฺจกํ วา สตฺตกํ วา นวกํ วา เอกาทสกํ วา โหตู’’ติ วิจารณํ. เฉทนนฺติ ยถาวิจาริตสฺส วตฺถสฺส เฉทนํ. พนฺธนนฺติ โมฆสุตฺตกาโรปนํ. สิพฺพนนฺติ สพฺพสูจิกมฺมํ. รชนนฺติ รชนกมฺมํ. กปฺปนฺติ กปฺปพินฺทุทานํ. ‘‘ปุพฺพกิจฺจ’’นฺติ วุจฺจติ อิทํ สพฺพํ กถินตฺถารสฺส ปมเมว กตฺตพฺพตฺตา.

๒๗๐๘. อนฺตรวาสโกติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. สงฺฆาฏิ, อุตฺตราสงฺโค, อโถ อนฺตรวาสโกติ เอสเมว ตุ ปจฺจุทฺธาโรปิ อธิฏฺานมฺปิ อตฺถาโรปิ วุตฺโตติ โยชนา.

๒๗๐๙. อฏฺมาติกา (มหาว. ๓๑๐-๓๑๑; ปริ. ๔๑๕; มหาว. อฏฺ. ๓๑๐-๓๑๑) ทสฺเสตุมาห ‘‘ปกฺกมนฺจา’’ติอาทิ. ปกฺกมนํ อนฺโต เอตสฺสาติ ปกฺกมนนฺติกาติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘ปกฺกมน’’นฺติ วุตฺตํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อฏฺิมาติ เอตฺถ ‘‘มาติกา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อิมา อฏฺ มาติกาติ โยชนา.

๒๗๑๐. อุทฺเทสานุกฺกเมน นิทฺทิสิตุมาห ‘‘กตจีวรมาทายา’’ติอาทิ. ‘‘กตจีวรมาทายา’’ติ อิมินา จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. ‘‘อาวาเส นิรเปกฺขโก’’ติ อิมินา ทุติโย อาวาสปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. เอตฺถ สพฺพวากฺเยสุ ‘‘อตฺถตกถิโน โย ภิกฺขุ สเจ ปกฺกมตี’’ติ เสโส. อติกฺกนฺตาย สีมายาติ วิหารสีมาย อติกฺกนฺตาย. โหติ ปกฺกมนนฺติกาติ เอตฺถ ‘‘ตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ เสโส, ตสฺส ภิกฺขุโน ปกฺกมนนฺติกา นาม มาติกา โหตีติ อตฺโถ.

๒๗๑๑-๒. อานิสํสํ นาม วุตฺถวสฺเสน ลทฺธํ อกตสูจิกมฺมวตฺถํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘กโรตี’’ติอาทิ. ‘‘วิหาเร อนเปกฺขโก’’ติ อิมินา เอตฺถ ปมํ อาวาสปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. สุขวิหรณํ ปโยชนมสฺสาติ สุขวิหาริโก, วิหาโรติ. ตตฺถ ตสฺมึ วิหาเร วิหรนฺโตว ตํ จีวรํ ยทิ กโรติ, ตสฺมึ จีวเร นิฏฺิเต นิฏฺานนฺตา นิฏฺานนฺติกาติ วุจฺจตีติ โยชนา. ‘‘นิฏฺิเตจีวเร’’ติ อิมินา จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต.

๒๗๑๓. ตมสฺสมนฺติ ตํ วุตฺถวสฺสาวาสํ. ธุรนิกฺเขเปติ อุภยธุรนิกฺเขปวเสน จิตฺตปฺปวตฺตกฺขเณ. สนฺนิฏฺานํ นาม ธุรนิกฺเขโป. เอตฺถ ปลิโพธทฺวยสฺส เอกกฺขเณเยว อุปจฺเฉโท อฏฺกถายํ วุตฺโต ‘‘สนฺนิฏฺานนฺติเก ทฺเวปิ ปลิโพธา ‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’นฺติ จินฺติตมตฺเตเยว เอกโต ฉิชฺชนฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๑).

๒๗๑๔. กถินจฺฉาทนนฺติ กถินานิสํสํ จีวรวตฺถุํ. น ปจฺเจสฺสนฺติ น ปจฺจาคมิสฺสามิ. กโรนฺตสฺเสวาติ เอตฺถ ‘‘จีวร’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘กถินจฺฉาทน’’นฺติ อิทํ วา สมฺพนฺธนียํ. กโรนฺตสฺสาติ อนาทเร สามิวจนํ. นฏฺนฺติ โจเรหิ หฏตฺตา วา อุปจิกาทีหิ ขาทิตตฺตา วา นฏฺํ. ทฑฺฒํ วาติ อคฺคินา ทฑฺฒํ วา. นาสนนฺติกาติ เอวํ จีวรสฺส นาสนนฺเต ลพฺภมานา อยํ มาติกา นาสนนฺติกา นามาติ อตฺโถ. เอตฺถ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ อิมินา ปมํ อาวาสปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. ‘‘กโรนฺตสฺเสวา’’ติ อิมินา ทุติยํ จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต.

๒๗๑๕. ลทฺธานิสํโสติ ลทฺธกถินานิสํสจีวโร. อานิสํเส จีวเร สาเปกฺโข อเปกฺขวา พหิสีมคโต วสฺสํวุตฺถสีมาย พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กโรติ, โส กตจีวโร อนฺตรุพฺภารํ อนฺตรา อุพฺภารํ สุณาติ เจ, สวนนฺติกา นาม โหตีติ โยชนา. ‘‘พหิสีมคโต’’ติอาทินา ทุติยปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. เอตฺถ ‘‘กตจีวโร’’ติ วุตฺตตฺตา จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ปมํ โหติ, อิตโร ปน ‘‘สห สวเนน อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๑) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา ปจฺฉา โหติ.

๒๗๑๖-๗. จีวราสาย วสฺสํวุตฺโถ อาวาสโต ปกฺกนฺโต ‘‘ตุยฺหํ จีวรํ ทสฺสามี’’ติ เกนจิ วุตฺโต พหิสีมคโต ปน สวติ, ปุน ‘‘ตว จีวรํ ทาตุํ น สกฺโกมี’’ติ วุตฺโต อาสาย ฉินฺนมตฺตาย จีวเร ปจฺจาสาย อุปจฺฉินฺนมตฺตาย อาสาวจฺเฉทิกา นาม มาติกาติ มตา าตาติ โยชนา. อาสาวจฺฉาทิเก กถินุพฺภาเร อาวาสปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, จีวราสาย อุปจฺฉินฺนาย จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชติ.

๒๗๑๘-๒๐. โย วสฺสํวุตฺถวิหารมฺหา อฺํ วิหารํ คโต โหติ, โส อาคจฺฉํ อาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค กถินุทฺธารํ อติกฺกเมยฺย, ตสฺส โส กถินุทฺธาโร สีมาติกฺกนฺติโก มโตติ โยชนา. ตตฺถ สีมาติกฺกนฺติเก กถินุพฺภาเร จีวรปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, ตสฺส พหิสีเม อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชติ.

เอตฺถ จ ‘‘สีมาติกฺกนฺติโก นาม จีวรกาลสีมาติกฺกนฺติโก’’ติ เกนจิ วุตฺตํ. ‘‘พหิสีมายํ จีวรกาลสมยสฺส อติกฺกนฺตตฺตา สีมาติกฺกนฺติโก’’ติ (สารตฺถ. ฏี. มหาว. ๓๑๑) สารตฺถทีปนิยํ วุตฺตํ. ‘‘อาคจฺฉํ อนฺตรามคฺเค, ตทุทฺธารมติกฺกเม’’ติ วุตฺตตฺตา ปน สงฺเฆน กริยมานํ อนฺตรุพฺภารํ อาคจฺฉนฺโต วิหารสีมํ อสมฺปตฺเตเยว กถินุพฺภารสฺส ชาตตฺตา ตํ น สมฺภุเณยฺย, ตสฺเสวํ สีมมติกฺกนฺตสฺเสว สโต ปุน อาคจฺฉโต อนฺตรามคฺเค ชาโต กถินุพฺภาโร สีมาติกฺกนฺติโกติ อมฺหากํ ขนฺติ.

กถินานิสํสจีวรํ อาทาย สเจ อาวาเส สาเปกฺโขว คโต โหติ, ปุน อาคนฺตฺวา กถินุทฺธารํ กถินสฺส อนฺตรุพฺภารเมว สมฺภุณาติ เจ ยทิ ปาปุเณยฺย, ตสฺส โส กถินุทฺธาโร โหติ, โส ‘‘สหุพฺภาโร’’ติ วุจฺจตีติ โยชนา. สหุพฺภาเร ทฺเว ปลิโพธา อปุพฺพํ อจริมํ ฉิชฺชนฺติ.

๒๗๒๑. ‘‘สีมาติกฺกนฺติเกนา’’ติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘สีมโต’’ติ วุตฺตํ. ปกฺกมนฺจ นิฏฺานฺจ สนฺนิฏฺานฺจ สีมโต สีมาติกฺกนฺติเกน สห อิเม จตฺตาโร กถินุพฺภารา ปุคฺคลาธีนา ปุคฺคลายตฺตา สหุพฺภารสงฺขาโต อนฺตรุพฺภาโร สงฺฆาธีโนติ โยชนา. ‘‘อนฺตรุพฺภโร’’ติ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ.

๒๗๒๒. นาสนนฺติ นาสนนฺติโก. สวนนฺติ สวนนฺติโก. อาสาวจฺเฉทิกาปิ จาติ ตโยปิ กถินุพฺภารา. น ตุ สงฺฆา น ภิกฺขุโตติ สงฺฆโตปิ น โหนฺติ, ปุคฺคลโตปิ น โหนฺตีติ อตฺโถ. จีวรสฺส วินาโส สงฺฆสฺส วา จีวรสามิกสฺส วา ปโยเคน น ชาโตติ นาสนโก ตาว กถินุพฺภาโร อุภโตปิ น โหตีติ วุตฺโต. สวนฺจ อุภเยสํ ปโยคโต น ชาตนฺติ ตถา วุตฺตํ. ตถา อาสาวจฺเฉทิกาปิ.

๒๗๒๓. อาวาโสเยว ปลิโพโธติ วิคฺคโห. ปลิโพโธ จ จีวเรติ เอตฺถ จีวเรติ เภทวจนิจฺฉาย นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, จีวรนิมิตฺตปลิโพโธติ อตฺโถ, จีวรสงฺขาโต ปลิโพโธติ วุตฺตํ โหติ. สจฺจาทิคุณยุตฺตํ มุสาวาทาทิโทสวิมุตฺตํ อตฺถํ วทติ สีเลนาติ ยุตฺตมุตฺตตฺถวาที, เตน.

๒๗๒๔. อฏฺนฺนํ มาติกานนฺติ พหิสีมคตานํ วเสน วุตฺตา ปกฺกมนนฺติกาทโย สตฺต มาติกา, พหิสีมํ คนฺตฺวา อนฺตรุพฺภารํ สมฺภุณนฺตสฺส วเสน วุตฺโต สหุพฺภาโรติ อิมาสํ อฏฺนฺนํ มาติกานํ วเสน จ. อนฺตรุพฺภารโตปิ วาติ พหิสีมํ อคนฺตฺวา ตตฺเถว วสิตฺวา กถินุพฺภารกมฺเมน อุพฺภารกถินานํ วเสน ลพฺภนโต อนฺตรุพฺภารโต จาติ มเหสินา กถินสฺส ทุเว อุพฺภาราปิ วุตฺตาติ โยชนา. พหิสีมํ คนฺตฺวา อาคตสฺส วเสน สหุพฺภาโร, พหิสีมํ อาคตานํ วเสน อนฺตรุพฺภาโรติ เอโกเยว อุพฺภาโร ทฺวิธา วุตฺโต, ตสฺมา อนฺตรุพฺภารํ วิสุํ อคฺคเหตฺวา อฏฺเว มาติกา ปาฬิยํ (มหาว. ๓๑๐) วิภตฺตาติ เวทิตพฺพา.

๒๗๒๕. อนามนฺตจาโร อุตฺตรปทโลปวเสน ‘‘อนามนฺตา’’ อิติ วุตฺโต. ยาว กถินํ น อุทฺธรียติ, ตาว อนามนฺเตตฺวา จรณํ กปฺปิสฺสติ, จาริตฺตสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.

อสมาทานจาโร ‘‘อสมาทาน’’นฺติ อุตฺตรปทโลเปน วุตฺโต. อสมาทานจาโรติ ติจีวรํ อสมาทาย จรณํ, จีวรวิปฺปวาโส กปฺปิสฺสตีติ อตฺโถ.

‘‘คณโต’’ติ อิมินา อุตฺตรปทโลเปน คณโภชนํ ทสฺสิตํ. คณโภชนมฺปิ กปฺปิสฺสติ, ตํ สรูปโต ปาจิตฺติยกณฺเฑ วุตฺตํ.

‘‘ยาวทตฺถิก’’นฺติ อิมินา ยาวทตฺถจีวรํ วุตฺตํ. ยาวทตฺถจีวรนฺติ ยาวตเกน จีวเรน อตฺโถ, ตาวตกํ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ กปฺปิสฺสตีติ อตฺโถ.

‘‘ตตฺถ โย จีวรุปฺปาโท’’ติ อิมินา ‘‘โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโท’’ติ (มหาว. ๓๐๖) วุตฺโต อานิสํโส ทสฺสิโต. โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโทติ ตตฺถ กถินตฺถตสีมายํ มตกจีวรํ วา โหตุ สงฺฆสฺส อุทฺทิสฺส ทินฺนํ วา สงฺฆิเกน ตตฺรุปฺปาเทน อาภตํ วา, เยน เกนจิ อากาเรน ยํ สงฺฆิกํ จีวรํ อุปฺปชฺชติ, ตํ เตสํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อิเม ปฺจ กถินานิสํสา จ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ.

กถินกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

จีวรกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๗๒๖-๗. จีวรํ อุปฺปชฺชติ เอตาสูติ ‘‘อุปฺปาทา’’ติ ชนิกาว วุจฺจนฺติ, จีวรวตฺถปริลาภกฺเขตฺตนฺติ อตฺโถ. ยถาห – ‘‘ยถาวุตฺตานํ จีวรานํ ปฏิลาภาย เขตฺตํ ทสฺเสตุํ อฏฺิมา ภิกฺขเว มาติกาติอาทิมาหา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙). จีวรมาติกาติ จีวรุปฺปาทเหตุภูตมาตโร. เตนาห กถินกฺขนฺธกวณฺณนายํ ‘‘มาติกาติ มาตโร, ชเนตฺติโยติ อตฺโถ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๐). มาติกาติ เจตฺถ จีวรทานมธิปฺเปตํ. ยถาห ‘‘สีมาย ทานํ เอกา มาติกา, กติกาย ทานํ ทุติยา’’ติอาทิ. สีมาย เทติ, กติกาย เทติ, ภิกฺขาปฺตฺติยา เทติ, สงฺฆสฺส เทติ, อุภโตสงฺเฆ เทติ, วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส เทติ, อาทิสฺส เทติ, ปุคฺคลสฺส เทติ. ‘‘อิมา ปน อฏฺ มาติกา’’ติ วุตฺตเมว นิคมนวเสน วุตฺตํ.

๒๗๒๘. ตตฺถาติ ตาสุ อฏฺมาติกาสุ. สีมาย เทตีติ ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ เอวํ สีมํ ปรามสิตฺวา เทนฺโต สีมาย เทติ, เอวํ ทินฺนํ อนฺโตสีมคเตหิ ภิกฺขูหิ ภาเชตพฺพนฺติ วณฺณิตนฺติ โยชนา. ตตฺถ อนฺโตสีมคเตหีติ ทายโก ยํ สีมํ อเปกฺขิตฺวา เอวมาห, ตสฺสา สีมาย อนฺโตคเตหิ สพฺเพหิ. ภาเชตพฺพนฺติ ตํ จีวรํ ภาเชตพฺพํ. วรวณฺณินาติ ‘‘อิติปิ โส ภควา อรห’’นฺติอาทินา สกลโลกพฺยาปิคุณาติสยยุตฺเตน พฺยามปฺปภาย, ฉพฺพณฺณานํ รํสีนฺจ วเสน อุตฺตมปฺปภาติสยยุตฺเตน วรวณฺณินา วณฺณิตํ กถิตํ. อยเมตฺถ ปทวณฺณนา, อยํ ปน วินิจฺฉโย – สีมาย เทตีติ เอตฺถ ตาว ขณฺฑสีมา อุปจารสีมา สมานสํวาสสีมา อวิปฺปวาสสีมา ลาภสีมา คามสีมา นิคมสีมา นครสีมา อพฺภนฺตรสีมา อุทกุกฺเขปสีมา ชนปทสีมา รฏฺสีมา รชฺชสีมา ทีปสีมา จกฺกวาฬสีมา อิติ ปนฺนรส สีมา เวทิตพฺพา.

ตตฺถ ขณฺฑสีมา สีมากถายํ วุตฺตา. อุปจารสีมา ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเปน, อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปารหฏฺาเนน ปริจฺฉินฺนา โหติ. อปิจ ภิกฺขูนํ ธุวสนฺนิปาตฏฺานโต วา ปริยนฺเต ิตโภชนสาลโต วา นิพทฺธวสนกอาวาสโต วา ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต อุปจารสีมา เวทิตพฺพา. สา ปน อาวาเสสุ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒติ, ปริหายนฺเตสุ ปริหายติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ภิกฺขูสุปิ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) วุตฺตํ. ตสฺมา สเจ วิหาเร สนฺนิปติตภิกฺขูหิ สทฺธึ เอกาพทฺธา หุตฺวา โยชนสตมฺปิ ปูเรตฺวา นิสีทนฺติ, โยชนสตมฺปิ อุปจารสีมาว โหติ, สพฺเพสํ ลาโภ ปาปุณาติ. สมานสํวาสอวิปฺปวาสสีมาทฺวยมฺปิ วุตฺตเมว.

ลาภสีมา นาม เนว สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนุฺาตา, น ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตา, อปิจ โข ราชราชมหามตฺตา วิหารํ กาเรตฺวา คาวุตํ วา อฑฺฒโยชนํ วา โยชนํ วา สมนฺตโต ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อยํ อมฺหากํ วิหารสฺส ลาภสีมา’’ติ นามลิขิตเก ถมฺเภ นิขณิตฺวา ‘‘ยํ เอตฺถนฺตเร อุปฺปชฺชติ, สพฺพํ ตํ อมฺหากํ วิหารสฺส เทมา’’ติ สีมํ เปนฺติ, อยํ ลาภสีมา นาม. คามนิคมนครอพฺภนฺตรอุทกุกฺเขปสีมาปิ วุตฺตา เอว.

ชนปทสีมา นาม กาสิโกสลรฏฺาทีนํ อนฺโต พหู ชนปทา โหนฺติ, เอตฺถ เอเกโก ชนปทปริจฺเฉโท ชนปทสีมา. รฏฺสีมา นาม กาสิโกสลาทิรฏฺปริจฺเฉโท. รชฺชสีมา นาม มหาโจฬโภโค เกรฬโภโคติ เอวํ เอเกกสฺส รฺโ อาณาปวตฺติฏฺานํ. ทีปสีมา นาม สมุทฺทนฺเตน สมุจฺฉินฺนมหาทีปา จ อนฺตรทีปา จ. จกฺกวาฬสีมา นาม จกฺกวาฬปพฺพเตเนว ปริจฺฉินฺนา.

เอวเมตาสุ สีมาสุ ขณฺฑสีมาย เกนจิ กมฺเมน สนฺนิปติตํ สงฺฆํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺเถว สีมาย สงฺฆสฺส เทมี’’ติ วุตฺเต ยาวติกา ภิกฺขู อนฺโตขณฺฑสีมคตา, เตหิ ภาเชตพฺพํ. เตสํเยว หิ ตํ ปาปุณาติ, อฺเสํ สีมนฺตริกาย วา อุปจารสีมาย วา ิตานมฺปิ น ปาปุณาติ. ขณฺฑสีมาย ิเต ปน รุกฺเข วา ปพฺพเต วา ิตสฺส เหฏฺา วา ปถวิยา เวมชฺฌํ คตสฺส ปาปุณาติเยว.

‘‘อิมิสฺสา อุปจารสีมาย สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ิตานมฺปิ ปาปุณาติ. ‘‘สมานสํวาสสีมาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ิตานํ น ปาปุณาติ. อวิปฺปวาสสีมาลาภสีมาสุ ทินฺนํ ตาสุ สีมาสุ อนฺโตคตานํเยว ปาปุณาติ. คามสีมาทีสุ ทินฺนํ ตาสํ สีมานํ อพฺภนฺตเร พทฺธสีมาย ิตานมฺปิ ปาปุณาติ. อพฺภนฺตรสีมาอุทกุกฺเขปสีมาสุ ทินฺนํ ตตฺถ อนฺโตคตานํเยว ปาปุณาติ. ชนปทรฏฺรชฺชทีปจกฺกวาฬสีมาสุปิ คามสีมาทีสุ วุตฺตสทิโสเยว วินิจฺฉโย.

สเจ ปน ชมฺพุทีเป ิโต ‘‘ตมฺพปณฺณิทีเป สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, ตมฺพปณฺณิทีปโต เอโกปิ คนฺตฺวา สพฺเพสํ คณฺหิตุํ ลภติ. สเจปิ ตตฺเรว เอโก สภาคภิกฺขุ สภาคานํ ภาคํ คณฺหาติ, น วาเรตพฺโพ. เอวํ ตาว โย สีมํ ปรามสิตฺวา เทติ, ตสฺส ทาเน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

โย ปน ‘‘อสุกสีมายา’’ติ วตฺตุํ น ชานาติ, เกวลํ ‘‘สีมา’’ติ วจนมตฺตเมว ชานนฺโต วิหารํ อาคนฺตฺวา ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ วา ‘‘สีมฏฺกสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วา ภณติ, โส ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สีมา นาม พหุวิธา, กตรํ สีมํ สนฺธาย ภณสี’’ติ, สเจ วทติ ‘‘อหํ ‘อสุกสีมา’ติ น ชานามิ, สีมฏฺกสงฺโฆ ภาเชตฺวา คณฺหตู’’ติ, กตรสีมาย ภาเชตพฺพํ? มหาสีวตฺเถโร กิราห ‘‘อวิปฺปวาสสีมายา’’ติ. ตโต นํ อาหํสุ ‘‘อวิปฺปวาสสีมา นาม ติโยชนาปิ โหติ, เอวํ สนฺเต ติโยชเน ิตา ลาภํ คณฺหิสฺสนฺติ, ติโยชเน ตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ ปูเรตฺวา อารามํ ปวิสิตพฺพํ ภวิสฺสติ, คมิโก ติโยชนํ คนฺตฺวา เสนาสนํ อาปุจฺฉิสฺสติ, นิสฺสยปฏิปนฺนสฺส ติโยชนาติกฺกเม นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภิสฺสติ, ปาริวาสิเกน ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ ภวิสฺสติ, ภิกฺขุนิยา ติโยชเน ตฺวา อารามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉิตพฺพํ ภวิสฺสติ, สพฺพมฺเปตํ อุปจารสีมาปริจฺเฉทวเสเนว กตฺตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา อุปจารสีมายเมว ภาเชตพฺพ’’นฺติ.

๒๗๒๙. เย วิหารา สงฺเฆน กติกาย เอกลาภกา สมานลาภกา เอตฺถ เอเตสุ วิหาเรสุ ทินฺนํ ‘‘กติกาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ สพฺเพหิ ภิกฺขูหิ สห ภาเชตพฺพํ จีวรํ กติกาย วุจฺจตีติ โยชนา.

อยเมตฺถ วินิจฺฉโย – กติกา นาม สมานลาภกติกา, ตตฺเรวํ กติกา กาตพฺพา – เอกสฺมึ วิหาเร สนฺนิปติเตหิ ภิกฺขูหิ ยํ วิหารํ สงฺคณฺหิตุกามา สมานลาภํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ, อสฺส นามํ คเหตฺวา ‘‘อสุโก นาม วิหาโร โปราณโก’’ติ วา ‘‘พุทฺธาธิวุตฺโถ’’ติ วา ‘‘อปฺปลาโภ’’ติ วา ยํ กิฺจิ การณํ วตฺวา ‘‘ตํ วิหารํ อิมินา วิหาเรน สทฺธึ เอกลาภํ กาตุํ สงฺฆสฺส รุจฺจตี’’ติ ติกฺขตฺตุํ สาเวตพฺพํ. เอตฺตาวตา ตสฺมึ วิหาเร นิสินฺโนปิ อิธ นิสินฺโนว โหติ. ตสฺมึ วิหาเรปิ สงฺเฆน เอวเมว กาตพฺพํ. เอตฺตาวตา อิธ นิสินฺโนปิ ตสฺมึ วิหาเร นิสินฺโนว โหติ. เอกสฺมึ ลาเภ ภาชิยมาเน อิตรสฺมึ ิตสฺส ภาคํ คเหตุํ วฏฺฏติ. เอวํ เอเกน วิหาเรน สทฺธึ พหูปิ อาวาสา เอกลาภา กาตพฺพาติ.

๒๗๓๐. จีวรทายเกน ธุวการา ปากวตฺตาทินิจฺจสกฺการา ยตฺถ สงฺฆสฺส กฺรียนฺติ กรียนฺติ ตตฺถ ตสฺมึ วิหาเร เตเนว ทายเกน สงฺฆสฺส ทินฺนํ วิหารํ ‘‘ภิกฺขาปฺตฺติยา ทินฺน’’นฺติ มเหสินา วุตฺตนฺติ โยชนา.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ยสฺมึ วิหาเร อิมสฺส จีวรทายกสฺส สนฺตกํ สงฺฆสฺส ปากวตฺตํ วา วตฺตติ, ยสฺมึ วา วิหาเร ภิกฺขู อตฺตโน ภารํ กตฺวา สทา เคเห โภเชติ, ยตฺถ วา เตน อาวาโส การิโต, สลากภตฺตาทีนิ วา นิพทฺธานิ, เยน ปน สกโลปิ วิหาโร ปติฏฺาปิโต, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, อิเม ธุวการา นาม. ตสฺมา สเจ โส ‘‘ยตฺถ มยฺหํ ธุวการา กรียนฺติ, เอตฺถ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘ตตฺถ เทถา’’ติ วา ภณติ, พหูสุ เจปิ าเนสุ ธุวการา โหนฺติ, สพฺพตฺถ ทินฺนเมว โหติ.

สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู พหุตรา โหนฺติ, เตหิ วตฺตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ ธุวกาเร เอกตฺถ ภิกฺขู พหู, เอกตฺถ อปฺปกา’’ติ, สเจ ‘‘ภิกฺขุคณนาย คณฺหถา’’ติ ภณติ, ตถา ภาเชตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ วตฺถเภสชฺชาทิ อปฺปกมฺปิ สุเขน ภาชียติ, ยทิ ปน มฺโจ วา ปีกํ วา เอกเมว โหติ, ตํ ปุจฺฉิตฺวา ยสฺส วา วิหารสฺส เอกวิหาเรปิ วา ยสฺส เสนาสนสฺส โส วิจาเรติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจ ‘‘อสุกภิกฺขุ คณฺหตู’’ติ วทติ, วฏฺฏติ.

อถ ‘‘มยฺหํ ธุวกาเร เทถา’’ติ วตฺวา อวิจาเรตฺวาว คจฺฉติ, สงฺฆสฺสปิ วิจาเรตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ปน วิจาเรตพฺพํ – ‘‘สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน เทถา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ตตฺถ เสนาสนํ ปริปุณฺณํ โหติ. ยตฺถ นปฺปโหติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจ เอโก ภิกฺขุ ‘‘มยฺหํ วสนฏฺาเน เสนาสนปริโภคภณฺฑํ นตฺถี’’ติ วทติ, ตตฺถ ทาตพฺพนฺติ.

๒๗๓๑. สงฺฆสฺส ปน ยํ ทินฺนนฺติ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ยํ จีวรํ ทินฺนํ. ‘‘สมฺมุขีภูเตนา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺเธน รสฺสตฺตํ. สมฺมุขิภูเตนาติ จ อุปจารสีมาย ิเตน. ภาเชตพฺพนฺติ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา กาลํ โฆเสตฺวา ภาเชตพฺพํ. อิทเมตฺถ มุขมตฺตทสฺสนํ. วินิจฺฉโย อฏฺกถาย (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ – จีวรทายเกน วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺเนสุ ภาชิยมาเนสุ สีมฏฺสฺส อสมฺปตฺตสฺสปิ ภาคํ คณฺหนฺโต น วาเรตพฺโพ. วิหาโร มหา โหติ, เถราสนโต ปฏฺาย วตฺเถสุ ทิยฺยมาเนสุ อลสชาติกา มหาเถรา ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต, วีสติวสฺสานํ ทิยฺยติ, ตุมฺหากํ ิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา, ิติกํ เปตฺวา เตสํ ทตฺวา ปจฺฉา ิติกาย ทาตพฺพํ.

‘‘อสุกวิหาเร กิร พหุํ จีวรํ อุปฺปนฺน’’นฺติ สุตฺวา โยชนนฺตริกวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ ิตฏฺานโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ. อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมํ ปวิฏฺานํ อนฺเตวาสิกาทีสุ คณฺหนฺเตสุ ทาตพฺพเมว. ‘‘พหิ อุปจารสีมาย ิตานํ เทถา’’ติ วทนฺติ, น ทาตพฺพํ. สเจ ปน อุปจารสีมํ โอกฺกนฺเตหิ เอกาพทฺธา หุตฺวา อตฺตโน วิหารทฺวาเร วา อนฺโตวิหาเรเยว วา โหนฺติ, ปริสวเสน วฑฺฒิตา นาม สีมา โหติ, ตสฺมา ทาตพฺพํ. สงฺฆนวกสฺส ทินฺเนปิ ปจฺฉา อาคตานํ ทาตพฺพเมว. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเห อาคตานํ ปมภาโค น ปาปุณาติ, ทุติยภาคโต วสฺสคฺเคน ทาตพฺพํ.

เอกสฺมึ วิหาเร ทส ภิกฺขู โหนฺติ, ทส วตฺถานิ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ เทนฺติ, ปาเฏกฺกํ ภาเชตพฺพานิ. สเจ ‘‘สพฺพาเนว อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ทุปฺปาปิตานิ เจว ทุคฺคหิตานิ จ, คตคตฏฺาเน สงฺฆิกาเนว โหนฺติ. เอกํ ปน อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ทตฺวา เสสานิ ‘‘อิมานิ อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ.

เอกเมว วตฺถํ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ อาหรนฺติ, อภาเชตฺวาว ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, ทุปฺปาปิตฺเจว ทุคฺคหิตฺจ, สตฺถเกน, ปน หลิทฺทิอาทินา วา เลขํ กตฺวา เอกํ โกฏฺาสํ ‘‘อิมํ านํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ปาเปตฺวา เสสํ ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. ยํ ปน วตฺถสฺเสว ปุปฺผํ วา วลิ วา, เตน ปริจฺเฉทํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ เอกํ ตนฺตํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ านํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ทตฺวา เสสํ ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, วฏฺฏติ. ขณฺฑํ ขณฺฑํ ฉินฺทิตฺวา ภาชิยมานํ วฏฺฏติเยว.

เอกภิกฺขุเก วิหาเร สงฺฆสฺส จีวเรสุ อุปฺปนฺเนสุ สเจ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว โส ภิกฺขุ ‘‘สพฺพานิ มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตานิ, ิติกา ปน น ติฏฺติ. สเจ เอเกกํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหาติ, ิติกา ติฏฺติ. ตตฺถ ิติกาย อฏฺิตาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ เอโก ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา ทฺวีหิปิ คเหตพฺพํ. ิตาย ิติกาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ นวกตโร อาคจฺฉติ, ิติกา เหฏฺา โอโรหติ. สเจ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, ิติกา อุทฺธํ อาโรหติ. อถ อฺโ นตฺถิ, ปุน อตฺตโน ปาเปตฺวา คเหตพฺพํ.

‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน สงฺฆํ อามสิตฺวา ทินฺนํ ปน ปํสุกูลิกานํ น วฏฺฏติ ‘‘คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปามิ, ปํสุกูลิกงฺคํ สมาทิยามี’’ติ วุตฺตตฺตา, น ปน อกปฺปิยตฺตา. ภิกฺขุสงฺเฆน อปโลเกตฺวา ทินฺนมฺปิ น คเหตพฺพํ. ยํ ปน ภิกฺขุ อตฺตโน สนฺตกํ เทติ, ตํ ภิกฺขุทตฺติยํ นาม วฏฺฏติ. ปํสุกูลํ ปน น โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ธุตงฺคํ น ภิชฺชติ. ‘‘ภิกฺขูนํ เทม, เถรานํ เทมา’’ติ วุตฺเต ปน ปํสุกูลิกานมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อิทํ วตฺถํ สงฺฆสฺส เทม, อิมินา อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกอาโยคอํสพทฺธกาทีนิ กโรถา’’ติ ทินฺนมฺปิ วฏฺฏติ.

ปตฺตตฺถวิกาทีนํ อตฺถาย ทินฺนานิ พหูนิปิ โหนฺติ, จีวรตฺถายปิ ปโหนฺติ, ตโต จีวรํ กตฺวา ปารุปิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน สงฺโฆ ภาชิตาติริตฺตานิ วตฺถานิ ฉินฺทิตฺวา อุปาหนตฺถวิกาทีนํ อตฺถาย ภาเชติ, ตโต คเหตุํ น วฏฺฏติ. สามิเกหิ วิจาริตเมว หิ วฏฺฏติ, น อิตรํ.

‘‘ปํสุกูลิกสงฺฆสฺส ธมฺมกรณอํสพทฺธาทีนํ อตฺถาย เทมา’’ติ วุตฺเตปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. ปริกฺขาโร นาม ปํสุกูลิกานมฺปิ อิจฺฉิตพฺโพ. ยํ ตตฺถ อติเรกํ โหติ, ตํ จีวเรปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. สุตฺตํ สงฺฆสฺส เทนฺติ, ปํสุกูลิเกหิปิ คเหตพฺพํ. อยํ ตาว วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺเนสุ วินิจฺฉโย.

สเจ ปน พหิ อุปจารสีมาย อทฺธานปฏิปนฺเน ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส วา สงฺฆนวกสฺส วา อาโรเจติ, สเจปิ โยชนํ ผริตฺวา ปริสา ิตา โหติ, เอกาพทฺธา เจ, สพฺเพสํ ปาปุณาติ. เย ปน ทฺวาทสหิ หตฺเถหิ ปริสํ อสมฺปตฺตา, เตสํ น ปาปุณาตีติ.

๒๗๓๒. อิทานิ ‘‘อุภโตสงฺเฆ เทตี’’ติ มาติกํ วิวรนฺโต อาห ‘‘อุภโตสงฺฆมุทฺทิสฺสา’’ติอาทิ. อุภโตสงฺฆมุทฺทิสฺสาติ ภิกฺขุสงฺฆํ, ภิกฺขุนิสงฺฆฺจ อุทฺทิสิตฺวา. เทตีติ ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส เทมี’’ติ เทติ. ‘‘พหุ วา’’ติ เอตฺถ ‘‘พหู วา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ. ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขู โถกา วา โหนฺตุ พหู วา, ปุคฺคลคฺเคน อกตฺวา อุภโตสงฺฆวเสน สมภาโคว กาตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘ทฺเวธาสงฺฆสฺส ทมฺมิ, ทฺวินฺนํ สงฺฆานํ ทมฺมิ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ อุภโตสงฺฆสฺส ทินฺนเมว โหติ, ทฺเว ภาเค สเม กตฺวา เอโก ทาตพฺโพ.

‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต สเจ ทส ทส ภิกฺขู, ภิกฺขุนิโย จ โหนฺติ, เอกวีสติ ปฏิวีเส กตฺวา เอโก ปุคฺคลสฺส ทาตพฺโพ, ทส ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ทส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส. เยน ปุคฺคลิโก ลทฺโธ, โส สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน คเหตุํ ลภติ. กสฺมา? อุภโตสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา.

‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. อิธ ปน เจติยสฺส สงฺฆโต ปาปุณนโกฏฺาโส นาม นตฺถิ, เอกปุคฺคลสฺส ปตฺตโกฏฺาสสโมว โกฏฺาโส โหติ.

‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน ทฺวาวีสติ โกฏฺาเส กตฺวา ทส ภิกฺขูนํ, ทส ภิกฺขุนีนํ, เอโก ปุคฺคลสฺส, เอโก เจติยสฺส ทาตพฺโพ. ตตฺถ ปุคฺคโล สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน ปุน คเหตุํ ลภติ. เจติยสฺส เอโกเยว.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา น ทาตพฺพํ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ทาตพฺพํ.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปน ปุคฺคโล วิสุํ น ลภติ, ปาปุณนฏฺานโต เอกเมว ลภติ. กสฺมา? ภิกฺขุสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ. ตสฺมา เอกํ เจติยสฺส ทตฺวา อวเสสํ ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ภาเชตพฺพํ.

‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ น มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทาตพฺพํ, ปุคฺคลคณนาย เอว วิภชิตพฺพํ.

‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ เอวํ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ นตฺถิ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา เอว ภาเชตพฺพํ. ยถา จ ภิกฺขุสงฺฆํ อาทึ กตฺวา นโย นีโต, เอวํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เนตพฺโพ.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ, วสฺสคฺเคเนว คเหตพฺพํ.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส วิสุํ ปฏิวีโส ลพฺภติ.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส.

‘‘ภิกฺขูนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเตปิ วิสุํ น ลพฺภติ.

‘‘ภิกฺขูนฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส ลพฺภติ.

‘‘ภิกฺขูนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว วิสุํ ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส. ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ.

ปุพฺเพ พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ภควา มชฺเฌ นิสีทติ, ทกฺขิณโต ภิกฺขู, วามโต ภิกฺขุนิโย นิสีทนฺติ, ภควา อุภินฺนํ สงฺฆตฺเถโร, ตทา ภควา อตฺตโน ลทฺธปจฺจเย อตฺตนาปิ ปริภุฺชติ, ภิกฺขูนมฺปิ ทาเปติ. เอตรหิ ปน ปณฺฑิตมนุสฺสา สธาตุกํ ปฏิมํ วา เจติยํ วา เปตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ปฏิมาย วา เจติยสฺส วา ปุรโต อาธารเก ปตฺตํ เปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ‘‘พุทฺธานํ เทมา’’ติ ตตฺถ ยํ ปมํ ขาทนียํ โภชนียํ เทนฺติ, วิหารํ วา อาหริตฺวา ‘‘อิทํ เจติยสฺส เทมา’’ติ ปิณฺฑปาตฺจ มาลาคนฺธาทีนิ จ เทนฺติ, ตตฺถ กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? มาลาคนฺธาทีนิ ตาว เจติเย อาโรเปตพฺพานิ, วตฺเถหิ ปฏากา, เตเลน ปทีปา กาตพฺพา. ปิณฺฑปาตมธุผาณิตาทีนิ ปน โย นิพทฺธํ เจติยสฺส ชคฺคโก โหติ ปพฺพชิโต วา คหฏฺโ วา, ตสฺส ทาตพฺพานิ. นิพทฺธชคฺคเก อสติ อาหฏปตฺตํ เปตฺวา วตฺตํ กตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อุปกฏฺเ กาเล ภุฺชิตฺวา ปจฺฉาปิ วตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติเยว.

มาลาคนฺธาทีสุ จ ยํ กิฺจิ ‘‘อิทํ หริตฺวา เจติยสฺส ปูชํ กโรถา’’ติ วุตฺเต ทูรมฺปิ หริตฺวา ปูเชตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขํ สงฺฆสฺส หรา’’ติ วุตฺเตปิ หริตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อหํ ปิณฺฑาย จรามิ, อาสนสาลาย ภิกฺขู อตฺถิ, เต หริสฺสนฺตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ภนฺเต, ตุยฺหํเยว ทมฺมี’’ติ วทติ, ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อถ ปน ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทสฺสามี’’ติ หรนฺตสฺส คจฺฉโต อนฺตราว กาโล อุปกฏฺโ โหติ, อตฺตโน ปาเปตฺวา ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

๒๗๓๓. ยํ ปน จีวรํ ‘‘ยสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุตฺถสฺส สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ, ตสฺมึเยว อาวาเส วุตฺถวสฺเสน สงฺเฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วา ตํ จีวรํ ภาเชตพฺพนฺติ วณฺณิตํ เทสิตนฺติ โยชนา.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ, ยาวติกา ภิกฺขู ตสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุตฺถา, ยตฺตกา วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา ปุริมวสฺสํวุตฺถา, เตหิ ภาเชตพฺพํ, อฺเสํ น ปาปุณาติ. ทิสาปกฺกนฺตสฺสาปิ สติ คาหเก ยาว กถินสฺส อุพฺภารา ทาตพฺพํ. อนตฺถเต ปน กถิเน อนฺโตเหมนฺเต เอวฺจ วตฺวา ทินฺนํ ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺถานมฺปิ ปาปุณาตีติ ลกฺขณฺู วทนฺติ. อฏฺกถาสุ ปเนตํ อวิจาริตํ.

สเจ ปน พหิ อุปจารสีมายํ ิโต ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, สมฺปตฺตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. อถ ‘‘อสุกวิหาเร วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺสา’’ติ วทติ, ตตฺร วสฺสํวุตฺถานเมว ยาว กถินสฺสุพฺภารา ปาปุณาติ. สเจ ปน คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย เอวํ วทติ, ตตฺร สมฺมุขีภูตานํเยว สพฺเพสํ ปาปุณาติ. กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา. อนฺโตวสฺเสเยว ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ฉินฺนวสฺสา น ลภนฺติ, วสฺสํ วสนฺตาว ลภนฺติ. จีวรมาเส ปน ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปคตานํเยว ปาปุณาติ, ปุริมิกาย วสฺสูปคตานฺจ ฉินฺนวสฺสานฺจ น ปาปุณาติ.

จีวรมาสโต ปฏฺาย ยาว เหมนฺตสฺส ปจฺฉิโม ทิวโส, ตาว ‘‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ วา โหตุ อนตฺถตํ วา, อตีตวสฺสํวุตฺถานเมว ปาปุณาติ. คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย วุตฺเต ปน มาติกา อาโรเปตพฺพา ‘‘อตีตวสฺสาวาสสฺส ปฺจ มาสา อภิกฺกนฺตา, อนาคเต จาตุมาสจฺจเยน ภวิสฺสติ, กตรวสฺสาวาสสฺส เทสี’’ติ. สเจ ‘‘อตีตวสฺสํวุตฺถานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ อนฺโตวสฺสํ วุตฺถานเมว ปาปุณาติ. ทิสาปกฺกนฺตานมฺปิ สภาคา คณฺหิตุํ ลภนฺติ.

สเจ ‘‘อนาคเต วสฺสาวาสิกํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ เปตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส คเหตพฺพํ. อถ ‘‘อคุตฺโต วิหาโร, โจรภยํ อตฺถิ, น สกฺกา เปตุํ, คณฺหิตฺวา วา อาหิณฺฑิตุ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘สมฺปตฺตานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ภาเชตฺวา คเหตพฺพํ. สเจ วทติ ‘‘อิโต เม, ภนฺเต, ตติเย วสฺเส วสฺสาวาสิกํ น ทินฺนํ, ตํ ทมฺมี’’ติ, ตสฺมึ อนฺโตวสฺเส วุตฺถภิกฺขูนํ ปาปุณาติ. สเจ เต ทิสาปกฺกนฺตา, อฺโ วิสฺสาสิโก คณฺหาติ, ทาตพฺพํ. อถ เอโกเยว อวสิฏฺโ, เสสา กาลกตา, สพฺพํ เอกสฺเสว ปาปุณาติ. สเจ เอโกปิ นตฺถิ, สงฺฆิกํ โหติ, สมฺมุขีภูเตหิ ภาเชตพฺพนฺติ.

๒๗๓๔. ยาคุยา ปน ปีตาย วา ภตฺเต วา ภุตฺเต สเจ ปน อาทิสฺส ‘‘เยน เม ยาคุ ปีตา, ตสฺส ทมฺมิ, เยน เม ภตฺตํ ภุตฺตํ, ตสฺส ทมฺมี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา จีวรํ เทติ, วินยธเรน ตตฺถ ตตฺเถว ทานํ ทาตพฺพนฺติ โยชนา. เอส นโย ขาทนียจีวรเสนาสนเภสชฺชาทีสุ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ภิกฺขู อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา ยาคุยา นิมนฺเตตฺวา เตสํ ฆรํ ปวิฏฺานํ ยาคุํ เทติ, ยาคุํ ทตฺวา ปีตาย ยาคุยา ‘‘อิมานิ จีวรานิ เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, เตสํ ทมฺมี’’ติ เทติ, เยหิ นิมนฺติเตหิ ยาคุ ปีตา, เตสํเยว ปาปุณนฺติ, เยหิ ปน ภิกฺขาจารวตฺเตน ฆรทฺวาเรน คจฺฉนฺเตหิ วา ฆรํ ปวิฏฺเหิ วา ยาคุ ลทฺธา, เยสํ วา อาสนสาลโต ปตฺตํ อาหริตฺวา มนุสฺเสหิ นีตา, เย วา เถเรหิ เปสิตา, เตสํ น ปาปุณนฺติ.

สเจ ปน นิมนฺติตภิกฺขูหิ สทฺธึ อฺเปิ พหู อาคนฺตฺวา อนฺโตเคหฺจ พหิเคหฺจ ปูเรตฺวา นิสินฺนา, ทายโก จ เอวํ วทติ ‘‘นิมนฺติตา วา โหนฺตุ อนิมนฺติตา วา, เยสํ มยา ยาคุ ทินฺนา, สพฺเพสํ อิมานิ วตฺถานิ โหนฺตู’’ติ, สพฺเพสํ ปาปุณนฺติ. เยหิ ปน เถรานํ หตฺถโต ยาคุ ลทฺธา, เตสํ น ปาปุณนฺติ. อถ โส ‘‘เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, สพฺเพสํ โหนฺตู’’ติ วทติ, สพฺเพสํ ปาปุณนฺติ. ภตฺตขาทนีเยสุปิ เอเสว นโย.

จีวเร วาติ ปุพฺเพปิ เยน วสฺสํ วาเสตฺวา ภิกฺขูนํ จีวรํ ทินฺนปุพฺพํ โหติ, โส เจ ภิกฺขู โภเชตฺวา วทติ ‘‘เยสํ มยา ปุพฺเพ จีวรํ ทินฺนํ, เตสํเยว อิมํ จีวรํ วา สุตฺตํ วา สปฺปิมธุผาณิตาทีนิ วา โหนฺตู’’ติ, สพฺพํ เตสํเยว ปาปุณาติ.

เสนาสเน วาติ ‘‘โย มยา การิเต วิหาเร วา ปริเวเณ วา วสติ, ตสฺสิทํ โหตู’’ติ วุตฺเต ตสฺเสว โหติ.

เภสชฺเช วาติ ‘‘มยํ กาเลน กาลํ เถรานํ สปฺปิอาทีนิ เภสชฺชานิ เทม, เยหิ ตานิ ลทฺธานิ, เตสํเยวิทํ โหตู’’ติ วุตฺเต เตสํเยว โหตีติ.

๒๗๓๕. ทียเตติ ทานนฺติ กมฺมสาธเนน จีวรํ วุจฺจติ. ยํ-สทฺเทน จีวรสฺส ปรามฏฺตฺตา ตํ-สทฺเทนาปิ ตเทว ปรามสิตพฺพนฺติ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ เอวํ ปรมฺมุขา วา ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ทมฺมี’’ติ เอวํ สมฺมุขา วา ปาทมูเล เปตฺวา วา เทติ, ตํ ตสฺเสว โหติ. สเจ ปน ‘‘อิทํ ตุมฺหากฺจ ตุมฺหากํ อนฺเตวาสิกานฺจ ทมฺมี’’ติ เอวํ วทติ, เถรสฺส จ อนฺเตวาสิกานฺจ ปาปุณาติ. อุทฺเทสํ คเหตุํ อาคโต คเหตฺวา คจฺฉนฺโต จ อตฺถิ, ตสฺสาปิ ปาปุณาติ. ‘‘ตุมฺเหหิ สทฺธึ นิพทฺธจาริกภิกฺขูนํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต อุทฺเทสนฺเตวาสิกานํ วตฺตํ กตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ คเหตฺวา วิจรนฺตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาตีติ.

๒๗๓๗. วทติจฺเจวเมว เจติ อิจฺเจวํ ยถาวุตฺตนเยน วทติ เจ. นฺติ ตํ ปริกฺขารํ. เตสนฺติ มาตุอาทีนํ. สงฺฆสฺเสว สนฺตกํ โหตีติ โยชนา.

๒๗๓๘. ‘‘ปฺจนฺนํ…เป… โหตี’’ติ อิมินา ปุริมคาถาทฺวเยน วิตฺถาริตเมวตฺถํ สํขิปิตฺวา ทสฺเสติ. ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ. อจฺจเยติ กาลกิริยาย. ทานนฺติ ‘‘มยิ กาลกเต อิมํ ปริกฺขารํ ตุยฺหํ โหตุ, ตว สนฺตกํ กโรหี’’ติอาทินา ปริจฺจชนํ. กิฺจิปีติ อนฺตมโส ทนฺตกฏฺมฺปิ. คิหีนํ ปน ทานํ ตถา ทายกานํ คิหีนเมว อจฺจเย รูหตีติ โยชนา.

๒๗๓๙. ภิกฺขุ วา สามเณโร วา ภิกฺขุนิอุปสฺสเย กาลํ กโรติ, อสฺส ภิกฺขุสฺส วา สามเณรสฺส วา ปริกฺขารา ภิกฺขูนํเยว สนฺตกา ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว สนฺตกาติ โยชนา. ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว สนฺตกา กาลกตสฺส ภิกฺขุสงฺฆปริยาปนฺนตฺตา.

๒๗๔๐. สามเณรี วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘สิกฺขมานา วา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. วิหารสฺมึ ภิกฺขูนํ นิวาสนฏฺาเน. ตสฺสาติ ภิกฺขุนิยา วา สามเณริยา วา สิกฺขมานาย วา ปริกฺขารา ภิกฺขุนีนํ สนฺตกา โหนฺตีติ โยชนา. สนฺตกาติ เอตฺถาปิ ภิกฺขูสุ วุตฺตนเยเนวตฺโถ คเหตพฺโพ.

๒๗๔๑. เทหิ เนตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘อิมํ จีวรํ เนตฺวา อสุกสฺส เทหี’’ติ ยํ จีวรํ ทินฺนํ, ตํ ตสฺส ปุริมสฺเสว สนฺตกํ โหติ. ‘‘อิทํ จีวรํ อสุกสฺส ทมฺมี’’ติ ยํ จีวรํ ทินฺนํ, ตํ ยสฺส ปหิยฺยติ, ตสฺส ปจฺฉิมสฺเสว สนฺตกํ โหตีติ โยชนา.

๒๗๔๒. ยถาวุตฺตวจนปฺปการานุรูเปน สามิเก ตฺวา สามิเกสุ วิสฺสาเสน วา เตสุ มเตสุ มตกจีวรมฺปิ คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุํ อาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. ‘‘มตสฺส วา อมตสฺส วา’’ติ ปทจฺเฉโท. วิสฺสาสํ วาปิ คณฺเหยฺยาติ ชีวนฺตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาสคฺคาหํ คณฺเหยฺย. คณฺเห มตกจีวรนฺติ มตสฺส จีวรํ มตกปริกฺขารนีหาเรน ปาเปตฺวา คณฺเหยฺย.

๒๗๔๓. รชเต อเนนาติ รชนนฺติ มูลาทิสพฺพมาห. วนฺตโทเสนาติ สวาสนสมุจฺฉินฺนราคาทิโทเสน. ตาทินาติ รูปาทีสุ ฉฬารมฺมเณสุ ราคาทีนํ อนุปฺปตฺติยา อฏฺสุ โลกธมฺเมสุ นิพฺพิการตาย เอกสทิเสน.

๒๗๔๔-๕. ‘‘มูเล’’ติอาทีสุ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. มูลรชเน หลิทฺทึ เปตฺวา สพฺพํ มูลรชนํ วฏฺฏติ. ขนฺเธสุ รชเนสุ มฺเชฏฺฺจ ตุงฺคหารกฺจ เปตฺวา สพฺพํ ขนฺธรชนํ วฏฺฏติ. ปตฺเตสุ รชเนสุ อลฺลิยา ปตฺตํ ตถา นีลิยา ปตฺตฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปตฺตรชนํ วฏฺฏติ. ปุปฺผรชเนสุ กุสุมฺภฺจ กึสุกฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปุปฺผรชนํ วฏฺฏติ. ตจรชเน โลทฺทฺจ กณฺฑุลฺจ เปตฺวา สพฺพํ ตจรชนํ วฏฺฏติ. ผลรชนํ สพฺพมฺปิ วฏฺฏตีติ โยชนา.

มฺเชฏฺนฺติ เอโก สกณฺฏกรุกฺโข, วลฺลิวิเสโส จ, ยสฺส รชนํ มฺเชฏฺพีชวณฺณํ โหติ. มฺเชฏฺรุกฺขสฺส ขนฺโธ เสตวณฺโณติ โส อิธ น คเหตพฺโพ รชนาธิการตฺตา. ตุงฺคหารโก นาม เอโก สกณฺฏกรุกฺโข, ยสฺส รชนํ หริตาลวณฺณํ โหติ. อลฺลีติ จุลฺลตาปิฺฉรุกฺโข, ยสฺส ปณฺณรชนํ หลิทฺทิวณฺณํ โหติ. นีลีติ คจฺฉวิเสโส, ยสฺส ปน รชนํ นีลวณฺณํ โหติ. กึสุกํ นาม วลฺลิกึสุกปุปฺผํ, ยสฺส รชนํ โลหิตวณฺณํ โหติ.

๒๗๔๖. กิลิฏฺสาฏกนฺติ มลีนสาฏกํ. โธวิตุนฺติ เอกวารํ โธวิตุํ. อลฺลิยา โธตํ กิร สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺหาติ.

๒๗๔๗. จีวรานํ กถา เสสาติ เภทการณปฺปการกถาทิกา อิธ อวุตฺตกถา. ปเม กถิเน วุตฺตาติ เสโส. วิภาวินาติ ขนฺธกภาณเกน.

จีวรกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

มหาวคฺควินิจฺฉยวณฺณนา นิฏฺิตา.

จูฬวคฺโค

ปาริวาสิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๗๔๘. เอวํ มหาวคฺควินิจฺฉยํ สงฺเขเปน ทสฺเสตฺวา จูฬวคฺคาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตชฺชนีย’’นฺติอาทิ. ตชฺชนียนฺติ กลหการกานํ ภิกฺขูนํ ตโต วิรมนตฺถาย นิคฺคหวเสน อนุฺาตํ ตฺติจตุตฺถํ ตชฺชนียกมฺมฺจ. นิยสฺสนฺติ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส อาปตฺติพหุลสฺส อนปทานสฺส อนนุโลมิเกหิ คิหิสํสคฺเคหิ สํสฏฺสฺส วิหรโต ภิกฺขุโน นิคฺคหวเสน นิสฺสาย วสนตฺถาย กาตุํ อนุฺาตํ ตฺติจตุตฺถํ นิยสฺสกมฺมฺจ.

ปพฺพาชนฺติ กุลทูสกสฺส ภิกฺขุโน ยตฺถ เตน กุลทูสนํ กตํ, ตตฺถ น ลภิตพฺพอาวาสตฺถาย นิคฺคหวเสน อนุฺาตํ ตฺติจตุตฺถํ ปพฺพาชนียกมฺมฺจ. ปฏิสารณนฺติ สทฺธสฺส อุปาสกสฺส ทายกสฺส การกสฺส สงฺฆุปฏฺากสฺส ชาติอาทีหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสกสฺส ภิกฺขุโน ตํขมาปนตฺถาย นิคฺคหวเสน อนุฺาตํ ตฺติจตุตฺถํ ปฏิสารณียกมฺมฺจ.

ติวิธุกฺเขปนนฺติ อาปตฺติยา อทสฺสเน, อาปตฺติยา อปฺปฏิกมฺเม, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค จ ตโต โอรมิตุํ นิคฺคหวเสน อนุฺาตํ ตฺติจตุตฺถํ ติวิธํ อุกฺเขปนียกมฺมฺจาติ. ทีปเยติ ปาฬิยา, อฏฺกถาย จ วุตฺตนเยน ปกาเสยฺยาติ อตฺโถ.

ตชฺชนียาทิกมฺมานํ โอสารณนิสฺสารณวเสน ปจฺเจกํ ทุวิธตฺเตปิ ตํ เภทํ อนามสิตฺวา เกวลํ ชาติวเสน ‘‘สตฺต กมฺมานี’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา ทสฺสิโต ปเนเตสํ วิเสโส อตฺถุปฺปตฺติวเสนาติ ทฏฺพฺโพ. วิตฺถาโร ปเนสํ กมฺมกฺขนฺธกโต เวทิตพฺโพ.

๒๗๔๙. ขนฺธเก กมฺมสงฺขาเต ขนฺธเก อาคตานิ เตจตฺตาลีส วตฺตานิ. ตทนนฺตเรติ ตสฺส กมฺมกฺขนฺธกสฺส อนนฺตเร. ขนฺธเกติ ปาริวาสิกกฺขนฺธเก. นว อธิกานิ เยสํ เต นวาธิกานิ ตึเสว วตฺตานิ, เอกูนจตฺตาลีส วตฺตานีติ วุตฺตํ โหติ.

กมฺมกฺขนฺธเก ตาว –

‘‘อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺเขปนียกมฺมกเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา สมฺมา วตฺติตพฺพํ. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนา – น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ, น ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ สาทิตพฺพา, สมฺมเตนาปิ ภิกฺขุนิโย น โอวทิตพฺพา, ยาย อาปตฺติยา สงฺเฆน อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺเขปนียกมฺมํ กตํ โหติ, สา อาปตฺติ น อาปชฺชิตพฺพา, อฺา วา ตาทิสิกา, ตโต วา ปาปิฏฺตรา, กมฺมํ น ครหิตพฺพํ, กมฺมิกา น ครหิตพฺพา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ อาสนาภิหาโร เสยฺยาภิหาโร ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ ปตฺตจีวรปฏิคฺคหณํ นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพํ, น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ, น อาจารวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ, น ทิฏฺิวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ, น อาชีววิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ, น ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ เภเทตพฺโพ, น คิหิทฺธโช ธาเรตพฺโพ, น ติตฺถิยทฺธโช ธาเรตพฺโพ, น ติตฺถิยา เสวิตพฺพา, ภิกฺขู เสวิตพฺพา, ภิกฺขุสิกฺขาย สิกฺขิตพฺพํ, น ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อนาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ, ปกตตฺตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาตพฺพํ, น ปกตตฺโต ภิกฺขุ อาสาเทตพฺโพ อนฺโต วา พหิ วา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อุโปสโถ เปตพฺโพ, น ปวารณา เปตพฺพา, น สวจนียํ กาตพฺพํ, น อนุวาโท ปฏฺเปตพฺโพ, น โอกาโส กาเรตพฺโพ, น โจเทตพฺโพ, น สาเรตพฺโพ, น ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๕๑) –

เอวํ เจตานิ เตจตฺตาลีส วตฺตานิ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เตจตฺตาลีส วตฺตานิ, ขนฺธเก กมฺมสฺิเต’’ติ.

ปาริวาสิกกฺขนฺธเก (จูฬว. ๗๖-๘๒) –

‘‘ปาริวาสิเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา สมฺมา วตฺติตพฺพํ. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนา – น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ, น ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ สาทิตพฺพา, สมฺมเตนปิ ภิกฺขุนิโย น โอวทิตพฺพา, ยาย อาปตฺติยา สงฺเฆน ปริวาโส ทินฺโน โหติ, สา อาปตฺติ น อาปชฺชิตพฺพา, อฺา วา ตาทิสิกา, ตโต วา ปาปิฏฺตรา, กมฺมํ น ครหิตพฺพํ, กมฺมิกา น ครหิตพฺพา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อุโปสโถ เปตพฺโพ, น ปวารณา เปตพฺพา, น สวจนียํ กาตพฺพํ, น อนุวาโท ปฏฺเปตพฺโพ, น โอกาโส กาเรตพฺโพ, น โจเทตพฺโพ, น สาเรตพฺโพ, น ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชตพฺพํ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน ปุรโต คนฺตพฺพํ, น ปุรโต นิสีทิตพฺพํ, โย โหติ สงฺฆสฺส อาสนปริยนฺโต เสยฺยาปริยนฺโต วิหารปริยนฺโต, โส ตสฺส ปทาตพฺโพ, เตน จ โส สาทิตพฺโพ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน ปุเรสมเณน วา ปจฺฉาสมเณน วา กุลานิ อุปสงฺกมิตพฺพานิ, น อารฺิกงฺคํ สมาทาตพฺพํ, น ปิณฺฑปาติกงฺคํ สมาทาตพฺพํ, น จ ตปฺปจฺจยา ปิณฺฑปาโต นีหราเปตพฺโพ ‘มา มํ ชานึสู’ติ.

‘‘ปาริวาสิเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อาคนฺตุเกน อาโรเจตพฺพํ, อาคนฺตุกสฺส อาโรเจตพฺพํ, อุโปสเถ อาโรเจตพฺพํ, ปวารณาย อาโรเจตพฺพํ, สเจ คิลาโน โหติ, ทูเตนปิ อาโรเจตพฺพํ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา อภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา อภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อนาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘คนฺตพฺโพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชฺา ‘สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุ’นฺติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อนาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ, ปกตตฺตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาตพฺพํ, ปกตตฺโต ภิกฺขุ อาสเนน นิมนฺเตตพฺโพ, น ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกาสเน นิสีทิตพฺพํ, น นีเจ อาสเน นิสินฺเน อุจฺเจ อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น ฉมายํ นิสินฺเน อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น เอกจงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิเกน วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ…เป… มูลายปฏิกสฺสนารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ…เป… มานตฺตารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ…เป… มานตฺตจาริเกน ภิกฺขุนา สทฺธึ…เป… อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อนาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ, น เอกาสเน นิสีทิตพฺพํ, น นีเจ อาสเน นิสินฺเน อุจฺเจ อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น ฉมายํ นิสินฺเน อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น เอกจงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ.

‘‘ปาริวาสิกจตุตฺโถ เจ, ภิกฺขเว, ปริวาสํ ทเทยฺย, มูลาย ปฏิกสฺเสยฺย, มานตฺตํ ทเทยฺย, ตํวีโส อพฺเภยฺย, อกมฺมํ น จ กรณีย’’นฺติ (จูฬว. ๗๖-๘๒) –

เอวํ ปาริวาสิกานํ จตุนวุติ วตฺตานิ.

สา จ เนสํ จตุนวุติสงฺขา เอวํ เวทิตพฺพา – นอุปสมฺปาทนาทินกมฺมิกครหปริโยสานานิ นว วตฺตานิ, ตโต ปกตตฺตสฺส อุโปสถฏฺปนาทิภิกฺขูหิสมฺปโยชนปริโยสานานิ อฏฺ, ตโต นปุรโตคมนาที ปฺจ, นปุเรคมนาที จตฺตาริ, อาคนฺตุเกน อาโรจนาที จตฺตารีติ ตึส, สภิกฺขุกาวาสาทิโต อภิกฺขุกาวาสาทิคมนปอสํยุตฺตานิ ตีณิ นวกานิ จาติ สตฺตปฺาส, ตโต นปกตตฺเตน สทฺธึ เอกจฺฉนฺนวาสาทิปฏิสํยุตฺตานิ เอกาทส, ตโต นปาริวาสิกวุฑฺฒตรมูลายปฏิกสฺสนารหมานตฺตารหมานตฺตจาริกอพฺภานารเหหิ สทฺธึ เอกจฺฉนฺนวาสาทิปฏิสํยุตฺตานิ ปจฺเจกํ เอกาทส กตฺวา ปฺจปฺาสาย วตฺเตสุ ปาริวาสิกวุฑฺฒตรมูลายปฏิกสฺสนารหมานตฺตารหานํ ติณฺณํ สมานตฺตา เตสุ เอกํ เอกาทสกํ, มานตฺตจาริกอพฺภานารหานํ ทฺวินฺนํ สมานตฺตา เตสุ เอกํ เอกาทสกนฺติ ทุเว เอกาทสกานิ, อนฺเต ปาริวาสิกจตุตฺถสฺส สงฺฆสฺส ปริวาสาทิทานจตุกฺเก คณปูรณตฺถโทสโต นิวตฺติวเสน จตฺตาริ จตฺตารีติ จตุนวุติ วตฺตานิ. ตานิ อคฺคหิตคฺคหเณน เอกูนจตฺตาลีสวตฺตานิ นาม. อาทิโต นว, อุโปสถฏฺปนาทีนิ อฏฺ, ปกตตฺเตน เอกจฺฉนฺนวาสาที จตฺตาริ จาติ เอกวีสติ วตฺตานิ กมฺมกฺขนฺธเก คหิตตฺตา อิธ คณนาย อคฺคเหตฺวา ตโต เสเสสุ เตสตฺตติยา วตฺเตสุ ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีหิ เอกจฺฉนฺเน วาสาทิปฏิสํยุตฺตานิ ทฺวาวีสติ วตฺตานิ ปกตตฺเตหิ สมานตฺตา ตานิ จ ‘‘คนฺตพฺโพ ภิกฺขเว’’ติอาทิกํ นวกํ ตถา คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺติทสฺสนปรํ, น อาวาสโต คจฺฉนฺตสฺส อาปตฺติทสฺสนปรนฺติ ตฺจ อคฺคเหตฺวา อวเสเสสุ ทฺวาจตฺตาลีสวตฺเตสุ ปาริวาสิกจตอุตฺถาทิกมฺมจตุกฺกํ ครุกาปตฺติวุฏฺานาย คณปูรณตฺถสามฺเน เอกํ กตฺวา ตโย อปเนตฺวา คณิตานิ เอกูนจตฺตาลีสานิ โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘นวาธิกานิ ตึเสว, ขนฺธเก ตทนนฺตเร’’ติ.

๒๗๕๐. อิมานิ เอกูนจตฺตาลีส วตฺตานิ ปุริเมหิ เตจตฺตาลีสวตฺเตหิ สทฺธึ ทฺวาสีติ โหนฺตีติ อาห ‘‘เอวํ สพฺพานิ…เป… คหิตาคหเณน ตู’’ติ.

เอวํ กมฺมกฺขนฺธกปาริวาสิกกฺขนฺธเกสุ มเหสินา วุตฺตานิ ขนฺธกวตฺตานิ คหิตาคหเณน ทฺวาสีติ เอว โหนฺตีติ โยชนา. เอวเมตฺถ ทฺวาสีติกฺขนฺธกวตฺตานิ ทสฺสิตานิ.

อาคมฏฺกถาวณฺณนายํ ปน –

‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปฺเปสฺสามีติ (จูฬว. ๗๕) อารภิตฺวา ‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ…เป… น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’นฺติ (จูฬว. ๗๖-๘๑) วุตฺตาวสานานิ ฉสฏฺิ, ตโต ปรํ ‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิเกน วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ, มูลายปฏิกสฺสนารเหน, มานตฺตารเหน, มานตฺตจาริเกน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพ’นฺติอาทีนํ (จูฬว. ๘๒) ปกตตฺเต จริตพฺเพหิ อนฺตฺตา วิสุํ เต อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิณฺเฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คณิตานิ ปฺจาติ เอกสตฺตติ วตฺตานิ, อุกฺเขปนียกมฺมกตวตฺเตสุ วตฺตปฺาปนวเสน วุตฺตํ ‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ …เป… นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’นฺติ (จูฬว. ๕๑) อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสาทิยนํ เอกํ, ‘น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ’ติอาทีนิ จ ทสาติ เอวเมตานิ ทฺวาสีติ โหนฺติ. เอเตสฺเวว กานิจิ ตชฺชนียกมฺมาทิวตฺตานิ, กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาสีติ เอวา’’ติ (ม. นิ. ฏี. ๒.๒๕; สารตฺถ. ฏี. ๒.๓๙; วิ. วิ. ฏี. ๑.๓๙) –

วุตฺตํ. เอตานิ ปน วตฺตานิ กทาจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเล, ปาริวาสิกาทิกาเล จ จริตพฺพานิ ขุทฺทกวตฺตานีติ คเหตพฺพานิ อาคนฺตุกวตฺตาทีนํ จุทฺทสมหาวตฺตานํ วกฺขมานตฺตา.

๒๗๕๑. อิทานิ ปาริวาสิกสฺส ภิกฺขุโน รตฺติจฺเฉทํ, วตฺตเภทฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปริวาสฺจ วตฺตฺจา’’ติอาทิ. ปริวาสฺจ วตฺตฺจ สมาทินฺนสฺสาติ ‘‘ปริวาสํ สมาทิยามี’’ติ ปริวาสฺจ ‘‘วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ วตฺตฺจ ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา วจีเภทํ กตฺวา สมาทินฺนสฺส. ภิกฺขุโนติ ปาริวาสิกสฺส ภิกฺขุโน.

๒๗๕๒. สหวาสาทโย ‘‘เอกจฺฉนฺเน’’ติอาทินา สยเมว วกฺขติ. สหวาโส, วินาวาโส, อนาโรจนเมว จาติ อิเมหิ ตีหิ ปาริวาสิกภิกฺขุสฺส รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏฺจ โหตีติ โยชนา.

๒๗๕๓. อุทกปาเตน สมนฺตา นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺาเนน. เอกจฺฉนฺเนติ เอกจฺฉนฺเน ปริจฺฉนฺเน วา อปริจฺฉนฺเน วา อาวาเส. ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สห อุกฺขิตฺตสฺส นิวาโส นิวาริโตติ โยชนา. ‘‘นิวาริโต’’ติ อิมินา ทุกฺกฏํ โหตีติ ทีเปติ.

๒๗๕๔. อนฺโตเยวาติ เอกจฺฉนฺนสฺส อาวาสปริจฺเฉทสฺส อนฺโตเยว. ‘‘น ลพฺภตี’’ติ อิมินา รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏฺจ โหตีติ ทีเปติ.

๒๗๕๕. มหาอฏฺกถาทิสูติ อาทิ-สทฺเทน กุรุนฺทฏฺกถาทึ สงฺคณฺหาติ. อุภินฺนนฺติ อุกฺขิตฺตกปาริวาสิกานํ. อิติ อวิเสเสน นิทฺทิฏฺนฺติ โยชนา.

๒๗๕๖. อิมินา สหวาเสน รตฺติจฺเฉทฺจ ทุกฺกฏฺจ ทสฺเสตฺวา วินาวาเสน ทสฺเสตุมาห ‘‘อภิกฺขุเก ปนาวาเส’’ติ. อาวาเสติ วสนตฺถาย กตเสนาสเน. อนาวาเสติ วาสตฺถาย อกเต เจติยฆเร วา โพธิฆเร วา สมฺมชฺชนิอฏฺฏเก วา ทารุอฏฺฏเก วา ปานียมาเฬ วา วจฺจกุฏิยํ วา ทฺวารโกฏฺเก วา อฺตฺร วา ยตฺถ กตฺถจิ เอวรูเป าเน. วิปฺปวาสํ วสนฺตสฺสาติ ปกตตฺเตน วินา วาสํ กปฺเปนฺตสฺส. รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏนฺติ รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภททุกฺกฏฺจ โหติ.

๒๗๕๗. เอวํ วิปฺปวาเสน รตฺติจฺเฉททุกฺกฏานิ ทสฺเสตฺวา อนาโรจเนน ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาริวาสิกภิกฺขุสฺสา’’ติอาทิ. ภิกฺขุํ ทิสฺวานาติ อากาเสนาปิ คจฺฉนฺตํ สมานสํวาสกํ อาคนฺตุกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา. ตงฺขเณติ ตสฺมึ ทิฏฺกฺขเณเยว. ‘‘อนาโรเจนฺตสฺส เอว เอตสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. เอวกาเรน รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏฺจาติ อุภยํ เอตสฺส โหตีติ ทีเปนฺเตน อทิฏฺโ เจ, รตฺติจฺเฉโทว โหตีติ าเปติ. ยถาห – ‘‘โสปิสฺส รตฺติจฺเฉทํ กโรติ, อฺาตตฺตา ปน วตฺตเภททุกฺกฏํ นตฺถี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๗๕). นานาสํวาสเกน สห วินยกมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺส อนาโรจเนปิ รตฺติจฺเฉโท น โหติ.

๒๗๕๘-๙. ปาริวาสิโก ภิกฺขุ ยตฺถ สงฺฆนวกฏฺาเน ิโต, ตตฺเถว ตสฺมึเยว าเน ตฺวา ยถาวุฑฺฒํ ปกตตฺเตหิปิ สทฺธึ วุฑฺฒปฏิปาฏิยา ปฺจ กิจฺจานิ กาตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

ตานิ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘อุโปสถปวารณ’’นฺติอาทิ. อุโปสถปวารณํ ยถาวุฑฺฒํ กาตุํ ลภตีติ โยชนา. เทนฺตีติ เอตฺถ ‘‘ฆณฺฏึ ปหริตฺวา’’ติ เสโส. สงฺฆทายกาติ กมฺมธารยสมาโส. สงฺฆสฺส เอกตฺเตปิ ครูสุ พหุวจนนิทฺเทโส. ‘‘เทติ เจ สงฺฆทายโก’’ติปิ ปาโ. ตตฺถ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาเชตฺวา เทนฺโต สงฺโฆ วสฺสิกสาฏิกํ เทติ เจ, ปาริวาสิโก ยถาวุฑฺฒํ อตฺตโน ปตฺตฏฺาเน ลภตีติ โยชนา.

โอโณชนนฺติ วิสฺสชฺชนํ, สงฺฆโต อตฺตโน ปตฺตานํ ทฺวินฺนํ, ติณฺณํ วา อุทฺเทสภตฺตาทีนํ อตฺตโน ปุคฺคลิกภตฺตปจฺจาสาย ปฏิคฺคเหตฺวา ‘‘มยฺหํ อชฺช ภตฺตปจฺจาสา อตฺถิ, สฺเว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา สงฺฆวิสฺสชฺชนํ ลภตีติ วุตฺตํ โหติ. ภตฺตนฺติ อาคตาคเตหิ วุฑฺฒปฏิปาฏิยา คเหตฺวา คนฺตพฺพํ วิหาเร สงฺฆสฺส จตุสฺสาลภตฺตํ. ตถา ปาริวาสิโก ยถาวุฑฺฒํ ลภตีติ โยชนา. อิเม ปฺจาติ วุตฺตเมวตฺถํ นิคมยติ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (จูฬว. อฏฺ. ๗๕) – อุโปสถปวารเณ ตาว ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน หตฺถปาเส นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ปาฬิยา อนิสีทิตฺวา ปาฬึ วิหาย หตฺถปาสํ อมุฺจนฺเตน นิสีทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ปาริสุทฺธิอุโปสเถ กริยมาเน สงฺฆนวกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ตตฺเถว นิสินฺเนน อตฺตโน ปาฬิยา ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพว. ปวารณายปิ สงฺฆนวกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ตตฺเถว นิสินฺเนน อตฺตโน ปาฬิยา ปวาเรตพฺพํ. สงฺเฆน ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาชิยมานํ วสฺสิกสาฏิกมฺปิ อตฺตโน ปตฺตฏฺาเน คเหตุํ วฏฺฏติ.

โอโณชเน สเจ ปาริวาสิกสฺส ทฺเว ตีณิ อุทฺเทสภตฺตาทีนิ ปาปุณนฺติ, อฺา จสฺส ปุคฺคลิกภตฺตปจฺจาสา โหติ, ตานิ ปฏิปาฏิยา คเหตฺวา ‘‘ภนฺเต, เหฏฺา คาเหถ, อชฺช มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสา อตฺถิ, สฺเวว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺพานิ, เอวํ ตานิ ปุนทิวเสสุ คณฺหิตุํ ลภติ. ‘‘ปุนทิวเส สพฺพปมํ เอตสฺส ทาตพฺพ’’นฺติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ยทิ ปน น คณฺหาติ น วิสฺสชฺเชติ, ปุนทิวเส น ลภติ. อิทํ โอโณชนํ นาม ปาริวาสิกสฺเสว โอทิสฺส อนุฺาตํ. กสฺมา? ตสฺส หิ สงฺฆนวกฏฺาเน นิสินฺนสฺส ภตฺตคฺเค ยาคุขชฺชกาทีนิ ปาปุณนฺติ วา น วา, ตสฺมา ‘‘โส ภิกฺขาหาเรน มา กิลมิตฺถา’’ติ อิทมสฺส สงฺคหกรณตฺถาย โอทิสฺส อนุฺาตํ.

ภตฺเต จตุสฺสาลภตฺตํ ยถาวุฑฺฒํ ลภติ, ปาฬิยา ปน คนฺตุํ วา าตุํ วา น ลภติ. ตสฺมา ปาฬิโต โอสกฺกิตฺวา หตฺถปาเส ิเตน หตฺถํ ปสาเรตฺวา ยถา เสโน นิปติตฺวา คณฺหาติ, เอวํ คณฺหิตพฺพํ. อารามิกสมณุทฺเทเสหิ อาหราเปตุํ น ลภติ. สเจ สยเมว อาหรนฺติ, วฏฺฏติ. รฺโ มหาเปฬภตฺเตปิ เอเสว นโย. จตุสฺสาลภตฺเต ปน สเจ โอโณชนํ กตฺตุกาโม โหติ, อตฺตโน อตฺถาย อุกฺขิตฺเต ปิณฺเฑ ‘‘อชฺช เม ภตฺตํ อตฺถิ, สฺเวว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘ปุนทิวเส ทฺเว ปิณฺเฑ ลภตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๗๕) มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. อุทฺเทสภตฺตาทีนิปิ ปาฬิโต โอสกฺกิตฺวาว คเหตพฺพานิ. ยตฺถ ปน นิสีทาเปตฺวา ปริวิสนฺติ, ตตฺถ สามเณรานํ เชฏฺเกน ภิกฺขูนํ สงฺฆนวเกน หุตฺวา นิสีทิตพฺพนฺติ.

ปาริวาสิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

สมถกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๗๖๐. อิทานิ สมถวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุํ เยสุ อธิกรเณสุ สนฺเตสุ สมเถหิ ภวิตพฺพํ, ตานิ ตาว ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิวาทาธารตา’’ติอาทิ. วิวาทาธารตาติ วิวาทาธิกรณํ. อาปตฺตาธารตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อาธารตาติ อธิกรณปริยาโย. อาธารียติ อภิภุยฺยติ วูปสมฺมติ สมเถหีติ อาธาโร, วิวาโท จ โส อาธาโร จาติ วิวาทาธาโร, โส เอว วิวาทาธารตา. เอวมาธาราธิกรณ-สทฺทานํ วิวาทาทิสทฺเทหิ สห กมฺมธารยสมาโส ทฏฺพฺโพ. อธิกรียติ อภิภุยฺยติ วูปสมฺมติ สมเถหีติ อธิกรณนฺติ วิวาทาทิจตุพฺพิธเมว ปาฬิยํ ทสฺสิตํ. อยมตฺโถ ‘‘เอเตสํ ตุ จตุนฺนมฺปิ, สมตฺตา สมถา มตา’’ติ วกฺขมาเนน วิฺายติ.

๒๗๖๑. เอตานิ จตฺตาริ อธิกรณานิ จ ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขู วิวทนฺติ ‘ธมฺโม’ติ วา ‘อธมฺโม’ติ วา’’ติ (จูฬว. ๒๑๕) อฏฺารส เภทการกวตฺถูนิ จ มเหสินา วุตฺตานิ. ตตฺถ เตสุ จตูสุ อธิกรเณสุ วิวาโท อธิกรณสงฺขาโต เอตานิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสิโต นิสฺสาย ปวตฺโตติ โยชนา.

๒๗๖๒. วิปตฺติโย จตสฺโสวาติ ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อนุวทนฺติ สีลวิปตฺติยา วา อาจารวิปตฺติยา วา ทิฏฺิวิปตฺติยา วา อาชีววิปตฺติยา วา’’ติ (จูฬว. ๒๑๕) วุตฺตา จตสฺโส วิปตฺติโย. ทิฏฺาทีนํ อนุคนฺตฺวา สีลวิปตฺติอาทีหิ วทนํ โจทนา อนุวาโท. อุปาคโตติ นิสฺสิโต, อนุวาโท จตสฺโส วิปตฺติโย นิสฺสาย ปวตฺโตติ อตฺโถ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ปมเมว นิทฺธารณสฺส วุตฺตตฺตา อิธ ปุนวจเน ปโยชนํ น ทิสฺสติ, ‘‘สมฺภวา’’ติ วจนสฺสาปิ น โกจิ อตฺถวิเสโส ทิสฺสติ. ตสฺมา ‘‘อาปตฺตาธารตา ตตฺถ, สตฺตอาปตฺติสมฺภวา’’ติ ปาโ น ยุชฺชติ, ‘‘อาปตฺตาธารตา นาม, สตฺต อาปตฺติโย มตา’’ติ ปาโ ยุตฺตตโร, อาปตฺตาธารตา นาม อาปตฺตาธิกรณํ นาม สตฺต อาปตฺติโย มตา สตฺต อาปตฺติโยว อธิปฺเปตาติ อตฺโถ.

๒๗๖๓. สงฺฆกิจฺจานิ นิสฺสายาติ อปโลกนกมฺมาทีนิ จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ อุปาทาย กิจฺจาธิกรณาภิธานํ สิยา, กิจฺจาธิกรณํ นาม จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานีติ อตฺโถ. เอเตสํ ตุ จตุนฺนมฺปีติ เอเตสํ ปน จตุนฺนมฺปิ อธิกรณานํ. สมตฺตาติ วูปสมเหตุตฺตา. สมถา มตาติ สมฺมุขาวินยาทโย สตฺต อธิกรณสมถาติ อธิปฺเปตา. อธิกรณานิ สเมนฺติ, สมฺมนฺติ วา เอเตหีติ ‘‘สมถา’’ติ วุจฺจนฺตีติ ‘‘สมตฺตา สมถา มตา’’ติ อิมินา สมถ-สทฺทสฺส อนฺวตฺถํ ทีเปติ.

๒๗๖๔-๕. เต สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘สมฺมุขา’’ติอาทิ. ‘‘วินโย’’ติ อิทํ สมฺมุขาทิปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ ‘‘สมฺมุขาวินโย สติวินโย อมูฬฺหวินโย’’ติ. ‘‘ปฏิฺาวินโย’’ติ จ ปฏิฺาตกรณํ วุตฺตํ. สตฺตโม วินโยติ สมโถ อธิปฺเปโต. ติณวตฺถารโกติ อิเม สตฺต สมถา พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา วุตฺตาติ โยชนา.

๒๗๖๖. จตูสุ อธิกรเณสุ ยํ อธิกรณํ ยตฺตเกหิ สมเถหิ สมฺมติ, เต สงฺคเหตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิวาโท’’ติอาทิ.

๒๗๖๗-๙. ‘‘วิวาโท’’ติอาทินา อุทฺทิฏฺมตฺถํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘ฉฏฺเนา’’ติอาทิ. เอตฺถ เอเตสุ จตูสุ อธิกรเณสุ, สมเถสุ จ กึ เกน สมฺมตีติ เจ? วิวาโท วิวาทาธิกรณํ ฉฏฺเน เยภุยฺยสิกาย, ปเมน สมเถน สมฺมุขาวินเยน จาติ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ. ยสฺสา กิริยาย ธมฺมวาทิโน พหุตรา, เอสา เยภุยฺยสิกา. ‘‘สงฺฆสมฺมุขตา, ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา, ปุคฺคลสมฺมุขตา’’ติ (จูฬว. ๒๒๙, ๒๓๔, ๒๓๖, ๒๓๗, ๒๔๒) วุตฺตานํ สงฺฆาทีนํ จตุนฺนํ สนฺนิธาเนน วา คณปุคฺคเลหิ สมิยมานํ วิวาทาธิกรณํ สงฺฆสมฺมุขตํ วินา อิตเรหิ ตีหิ วา สมฺมตีติ วุตฺตํ โหติ.

เอตฺถ จ การกสงฺฆสฺส สงฺฆสามคฺคิวเสน สมฺมุขีภาโว สงฺฆสมฺมุขตา, สเมตพฺพสฺส วตฺถุโน ภูตตา ธมฺมสมฺมุขตา, ยถา ตํ สเมตพฺพํ, ตเถวสฺส สมนํ วินยสมฺมุขตา, โย จ วิวทติ, เยน จ วิวทติ, เตสํ อุภินฺนํ อตฺถปจฺจตฺถิกานํ สมฺมุขีภาโว ปุคฺคลสมฺมุขตา.

‘‘อนุวาโท จตูหิปี’’ติ อุทฺทิฏฺํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘สมฺมุขา’’ติอาทิ. อนุปุพฺเพนาติ อนุปฏิปาฏิยา. สมฺมุขาวินยาทีหิ ตีหิปีติ สมฺมุขาวินยสติวินยอมูฬฺหวินเยหิ ตีหิปิ. ตเถวาติ ยถา ตีหิ, ตถา ปฺจเมน ตสฺสปาปิยสิกาสมเถนาปิ อนุวาโท สมฺมติ, ปเคว จตูหีติ อตฺโถ.

โย ปาปุสฺสนฺนตาย ปาปิโย ปุคฺคโล, ตสฺส กตฺตพฺพโต ‘‘ตสฺสปาปิยสิกา’’ติ กมฺมํ วุจฺจติ. อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส วิย สติเวปุลฺลปฺปตฺตสฺส ขีณาสวสฺส กตา อมูลิกา สีลวิปตฺติโจทนา สมฺมุขาวินเยน, ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย ทินฺเนน สติวินเยน จ สมฺมติ. อุมฺมตฺตกสฺส ภิกฺขุโน กตา อาปตฺติโจทนา สมฺมุขาวินเยน จ ตเถว ทินฺเนน อมูฬฺหวินเยน จ สมฺมติ. สงฺฆมชฺเฌ อาปตฺติยา โจทิยมานสฺส อวชานิตฺวา ปฏิชานนาทึ กโรนฺตสฺส ปาปภิกฺขุโน พหุลาปตฺติโจทนา สมฺมุขาวินเยน เจว ตเถว ปกเตน ตสฺสปาปิยสิกากมฺเมน จ วูปสมฺมตีติ วุตฺตํ โหติ.

‘‘อาปตฺติ ปน ตีเหวา’’ติ อุทฺเทสสฺส นิทฺเทสมาห ‘‘สมฺมุเขนา’’ติอาทิ. สมฺมุเขน สมฺมุขาวินเยน, ปฏิฺาย ปฏิฺาตกรเณน, ติณวตฺถารเกน วา อิเมหิ ตีหิ เอว สมเถหิ สา อาปตฺติ อาปตฺตาธิกรณํ อุปสมํ ยาตีติ โยชนา. เอตฺถ ปฏิฺาตกรณํ นาม อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺหนฺเตน ‘‘ปสฺสสี’’ติ วุตฺเต อาปตฺตึ เทเสนฺเตน ‘‘อาม ปสฺสามี’’ติ สมฺปฏิจฺฉนํ. ติณวตฺถารกํ ปน สยเมว วกฺขติ.

ตีเหว สมเถหีติ เอตฺถ ครุกาปตฺติ สมฺมุขาวินเยน, ปฏิฺาตกรเณน จาติ ทฺวีหิ, ลหุกาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา สงฺเฆ วา คเณ วา ปุคฺคเล วา เทสนาย สมฺมุขาวินเยน เจว ปฏิฺาตกรเณน จ, โกสมฺพกานํ วิคฺคหสทิสํ มหาวิคฺคหํ กโรนฺเตหิ อาปนฺนา อเนกวิธา อาปตฺติโย สเจ โหนฺติ, ตาสุ วกฺขมานสรูปํ ถุลฺลวชฺชาทึ เปตฺวา อวเสสา สพฺพา อาปตฺติโย สมฺมุขาวินเยน, ติณวตฺถารเกน จ สมฺมนฺตีติ อตฺโถ.

กิจฺจํ กิจฺจาธิกรณํ เอเกน สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมตีติ โยชนา.

๒๗๗๐. เยภุยฺยสิกกมฺเมติ เอตฺถ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. สลากํ คาหเยติ วินิจฺฉยการเก สงฺเฆ ธมฺมวาทีนํ พหุตฺตํ วา อปฺปตรตฺตํ วา ชานิตุํ วกฺขมาเนน นเยน สลากํ คาหาเปยฺย. พุโธติ ‘‘น ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ…เป… คหิตาคหิตฺจ ชานาตี’’ติ วุตฺตํ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ ปุคฺคลํ ทสฺเสติ. ‘‘คูฬฺเหนา’’ติอาทินา สลากคฺคาหปฺปกาโร ทสฺสิโต. กณฺณชปฺเปนาติ เอตฺถ กณฺเณ ชปฺโป ยสฺมึ สลากคฺคาหปโยเคติ วิคฺคโห. เอตฺถ คูฬฺหสลากคฺคาโห นาม ธมฺมวาทิสลากา จ อธมฺมวาทิสลากา จ วิสุํ วิสุํ จีวรกณฺเณ ปกฺขิปิตฺวา ปุคฺคลานํ สนฺติกํ วิสุํ วิสุํ อุปสงฺกมิตฺวา สลากา วิสุํ วิสุํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อิโต ตว รุจฺจนกํ คณฺหาหี’’ติ รโห ตฺวา คาหาปนํ. วิวฏกํ นาม ธมฺมวาทีนํ พหุภาวํ ตฺวา สพฺเพสุ ชานนฺเตสุ ปุคฺคลานํ สนฺติกํ คาหาปนํ. กณฺณชปฺปนํ นาม เอวเมว กณฺณมูเล รโห ตฺวา คาหาปนํ.

๒๗๗๑. อลชฺชุสฺสเทติ เอตฺถ ‘‘สงฺเฆ’’ติ เสโส. ลชฺชิสุ พาเลสูติ เอตฺถาปิ ‘‘อุสฺสเทสู’’ติ วตฺตพฺพํ.

๒๗๗๒. สเกน กมฺมุนาเยวาติ อตฺตโน ยํ กิจฺจํ, เตเนวาติ.

๒๗๗๓-๕. ‘‘อาปชฺชตี’’ติอาทิ ‘‘อลชฺชี, ลชฺชี, พาโล’’ติ ชานนสฺส เหตุภูตกมฺมทสฺสนํ. ทุจฺจินฺติโตติ อภิชฺฌาทิติวิธมโนทุจฺจริตวเสน ทุฏฺุ จินฺเตนฺโต. ทุพฺภาสีติ มุสาวาทาทิจตุพฺพิธวจีทุจฺจริตวเสน วจีทฺวาเร ปฺตฺตานํ สิกฺขาปทานํ วีติกฺกมวเสน ทุฏฺุ ภาสนสีโล. ทุกฺกฏการิโกติ ปาณาติปาตาทิติวิธกายทุจฺจริตวเสน กายทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทานํ วีติกฺกมวเสน กุจฺฉิตกมฺมสฺส กรณสีโล. อิติ ลกฺขเณเนวาติ ยถาวุตฺตํ อลชฺชีลชฺชีพาลลกฺขณํ นิคเมติ.

๒๗๗๖. ‘‘เยภุยฺยสิกา’’ติอาทิคาถาหิ นิทฺทิฏฺเมว อตฺถํ นิคเมตุมาห ‘‘ติธา’’ติอาทิ. ติธาสลากคาเหนาติ ติวิธสฺส สลากคาหสฺส อฺตเรน. พหุกา ธมฺมวาทิโน ยทิ สิยุนฺติ โยชนา. กาตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘วิวาทาธิกรณวูปสมน’’นฺติ เสโส.

๒๗๗๗. โย ปุคฺคโล อลชฺชี จ โหติ สานุวาโท จ กมฺมโต กายกมฺมโต, วจีกมฺมโต จ อสุจิ จ สมฺพุทฺธชิคุจฺฉนีโยติ อตฺโถ. โส เอวํวิโธ ปาปปุคฺคโล ตสฺส ปาปิยสิกกมฺมสฺส โยโค โหตีติ สมฺพนฺโธ. สานุวาโทติ เอตฺถ อนุวาโท นาม โจทนา, สห อนุวาเทน วตฺตตีติ สานุวาโท, ปาปครหิตปุคฺคเลหิ กาตพฺพโจทนาย อนุรูโปติ อตฺโถ.

๒๗๗๘-๙. ภณฺฑเนติ กลหสฺส ปุพฺพภาเค. กลเหติ กายวจีทฺวารปฺปวตฺเต หตฺถปรามสาทิเก กลเห จ. วิวาทมฺหิ อนปฺปเกติ พหุวิเธ วิวาเท ชาเต. พหุอสฺสามเณ จิณฺเณติ สมณานํ อนนุจฺฉวิเก นานปฺปกาเร กายิกวาจสิกวีติกฺกเม จ กเต. อนคฺเคติ อนนฺเต. ภสฺสเกติ กุจฺฉิเต อมนาปวจเน จิณฺเณติ โยชนา, ภาสิเตติ อตฺโถ. คเวสนฺตนฺติ คเวสิยมานํ, อาปตฺตาธิกรณนฺติ เสโส. วาฬนฺติ จณฺฑํ. กกฺขฬนฺติ อาสชฺชํ. กาตพฺพนฺติ วูปสเมตพฺพํ.

๒๗๘๐-๒. ยถา จ วูปสมฺมติ, ตถา ติณวตฺถารเก สุทฺโธ โหตีติ สมฺพนฺโธ.

ถุลฺลวชฺชนฺติ ปาราชิกฺเจว สงฺฆาทิเสสฺจ. คิหีหิ ปฏิสํยุตนฺติ คิหีนํ ชาติอาทีหิ ปาฬิยา อาคเตหิ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ, อฏฺกถาคเตหิ จ ตทฺเหิ อกฺโกสวตฺถูหิ ขุํสนวมฺภนปจฺจยา จ ธมฺมิกปฏิสฺสวสฺส อสจฺจาปนปจฺจยา จ อาปนฺนาปตฺตึ. เอสา เอว หิ อาปตฺติ คิหิปฏิสํยุตฺตา นาม ปริวาเร ‘‘อตฺถิ คิหิปฏิสํยุตฺตา, อตฺถิ นคิหิปฏิสํยุตฺตา’’ติ ทุกํ นิกฺขิปิตฺวา ‘‘คิหิปฏิสํยุตฺตาติ สุธมฺมตฺเถรสฺส อาปตฺติ, ยา จ ธมฺมิกสฺส ปฏิสฺสวสฺส อสจฺจาปเน อาปตฺติ. อวเสสา นคิหิปฏิสํยุตฺตา’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๑) วจนโต.

สุธมฺมตฺเถรสฺส อาปตฺตีติ จ เตน จิตฺตสฺส คหปติโน ชาตึ ปฏิจฺจ ขุํสนวมฺภนปจฺจยา อาปนฺนา โอมสวาทสิกฺขาปทวิภาคคตา ทุกฺกฏาปตฺติ คเหตพฺพา. อิทฺจ อุปลกฺขณมตฺตํ, ตสฺมา อิตเรหิปิ อกฺโกสวตฺถูหิ คิหึ ขุํเสนฺตานํ วมฺเภนฺตานํ อิตเรสํ ภิกฺขูนํ สา อาปตฺติ คิหิปฏิสํยุตฺตาวาติ เวทิตพฺพํ. ตถา อาปนฺนํ อาปตฺตึ เทสาเปนฺเตน ทสฺสนูปจารํ อวิชหาเปตฺวา สวนูปจารํ ชหาเปตฺวา เอกํเส อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวา อฺชลึ ปคฺคณฺหาเปตฺวา สา อาปตฺติ เทสาเปตพฺพา.

ทิฏฺาวิกมฺมิกนฺติ ทิฏฺาวิกมฺเม นิยุตฺโต ทิฏฺาวิกมฺมิโก, ตํ, อฏฺกถายํ ‘‘เย ปน ‘น เมตํ ขมตี’ติ อฺมฺํ ทิฏฺาวิกมฺมํ กโรนฺตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๑๔) เย ปุคฺคลา ทสฺสิตา, เตสมฺตรสฺเสว คหณํ.

โยติ ภณฺฑนการเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ มหนฺตํ วิคฺคหํ กตฺวา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปนฺโน โย ภิกฺขุ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ติณวตฺถารกสมถการเก ภิกฺขุสมูเห. น โหตีติ ฉนฺทํ ทตฺวา ตํ ภิกฺขุปริสํ อนาคตตฺตา น สํวิชฺชติ. ตฺจ เปตฺวาติ โยชนา.

ติณวตฺถารเก กเต สติ ยาว อุปสมฺปทมาฬโต ปภุติ อาปนฺนาย เสสาย อาปตฺติยา นิราปตฺติ หุตฺวา สุทฺโธ โหติ สงฺโฆติ โยชนา.

สมถกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๗๘๓. กุฏฺเฏติ อิฏฺกาสิลาทารุกุฏฺฏานํ อฺตรสฺมึ. อฏฺฏาเนติ เอตฺถ อฏฺฏานํ นาม รุกฺเข ผลกํ วิย ตจฺเฉตฺวา อฏฺปทากาเรน ราชิโย ฉินฺทิตฺวา นหานติตฺเถ นิขณนฺติ, ตตฺถ จุณฺณานิ อากิริตฺวา มนุสฺสา กายํ ฆํสนฺติ.

๒๗๘๔. คนฺธพฺพหตฺเถนาติ นหานติตฺเถ ปิเตน ทารุมยหตฺเถน. เตน กิร จุณฺณานิ คเหตฺวา มนุสฺสา สรีรํ ฆํสนฺติ. กุรุวินฺทกสุตฺติยาติ กุรุวินฺทกปาสาณจุณฺณานิ ลาขาย พนฺธิตฺวา กตคุฬิกกลาปโก วุจฺจติ, ตํ อุโภสุ อนฺเตสุ คเหตฺวา สรีรํ ฆํสนฺติ. มลฺลเกนาติ มกรทนฺตกํ ฉินฺทิตฺวา มลฺลกมูลสณฺาเนน กเตน มลฺลเกน, อิทํ คิลานสฺสาปิ น วฏฺฏติ. อฺมฺฺจ กายโตติ อฺมฺํ สรีเรน ฆํเสยฺย.

๒๗๘๕. อกตํ มลฺลกํ นาม มกรทนฺเต อจฺฉินฺทิตฺวา กตํ, อิทํ อคิลานสฺส น วฏฺฏติ.

๒๗๘๖. กปาลิฏฺกขณฺฑานีติ กปาลขณฺฑอิฏฺกขณฺฑานิ. สพฺพสฺสาติ คิลานาคิลานสฺส สรีเร ฆํสิตฺวา อุพฺพฏฺเฏตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ปุถุปาณิก’’นฺติ หตฺถปริกมฺมํ วุจฺจติ, ตสฺมา สพฺพสฺส หตฺเถน ปิฏฺิปริกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. ‘‘วตฺถวฏฺฏี’’ติ อิทํ ปาฬิยํ วุตฺตอุกฺกาสิกสฺส ปริยายํ, ตสฺมา นหายนฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นหานสาฏกวฏฺฏิยาปิ ฆํสิตุํ วฏฺฏติ.

๒๗๘๗. เผณกํ นาม สมุทฺทเผณํ. กถลนฺติ กปาลขณฺฑํ. ปาทฆํสเน วุตฺตา อนุฺาตา. กตกํ นาม ปทุมกณฺณิกาการํ ปาทฆํสนตฺถํ กณฺฏเก อุฏฺาเปตฺวา กตํ, เอตํ เนว ปฏิคฺคเหตุํ, น ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

๒๗๘๘. ยํ กิฺจิปิ อลงฺการนฺติ หตฺถูปคาทิอลงฺกาเรสุ ยํ กิฺจิ อลงฺการํ.

๒๗๘๙. โอสณฺเยฺยาติ อลงฺการตฺถํ สงฺขโรนฺโต นเมยฺย. หตฺถผณเกนาติ หตฺเถเนว ผณกิจฺจํ กโรนฺตา องฺคุลีหิ โอสณฺเนฺติ. ผณเกนาติ ทนฺตมยาทีสุ เยน เกนจิ. โกจฺเฉนาติ อุสิรมเยน วา มุฺชปพฺพชมเยน วา โกจฺเฉน.

๒๗๙๐. สิตฺถเตโลทเตเลหีติ สิตฺถเตลฺจ อุทกเตลฺจาติ วิคฺคโห, เตหิ. ตตฺถ สิตฺถเตลํ นาม มธุสิตฺถกนิยฺยาสาทิ ยํ กิฺจิ จิกฺกณํ. จิกฺกณํ นาม นิยฺยาสํ. อุทกเตลํ นาม อุทกมิสฺสกํ เตลํ. กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ‘‘สิฏฺา’’ติ ปาโ, โสเยวตฺโถ. อนุโลมนิปาตตฺถนฺติ นลาฏาภิมุขํ อนุโลเมน ปาตนตฺถํ. อุทฺธโลเมนาติ อุทฺธคฺคํ หุตฺวา ิตโลเมน.

๒๗๙๑. หตฺถํ เตเลน เตเมตฺวาติ กรตลํ เตเลน มกฺเขตฺวา. สิโรรุหา เกสา. อุณฺหาภิตตฺตสฺสาติ อุณฺหาภิตตฺตรชสิรสฺส. อลฺลหตฺเถน สิโรรุเห ปุฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๗๙๒. อาทาเส อุทปตฺเต วาติ เอตฺถ กํสปตฺตาทีนิปิ, เยสุ มุขนิมิตฺตํ ปฺายติ, สพฺพานิ อาทาสสงฺขเมว คจฺฉนฺติ, กฺชิยาทีนิปิ จ อุทปตฺตสงฺขเมว, ตสฺมา ยตฺถ กตฺถจิ โอโลเกนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.

๒๗๙๓. เยน เหตุนา มุขํ โอโลเกนฺตสฺส อนาปตฺติ, ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สฺฉวิ’’นฺติอาทิ. อาพาธปจฺจยา ‘‘เม มุเข วโณ สฺฉวิ นุ โข, อุทาหุ น สฺฉวี’’ติ มุขํ ทฏฺุฺจ ‘‘อหํ ชิณฺโณ นุ โข, อุทาหุ โน’’ติ อตฺตโน อายุสงฺขารชานนตฺถฺจ มุขํ ทฏฺุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

๒๗๙๔. นจฺจํ วาติ ยํ กิฺจิ นจฺจํ อนฺตมโส โมรนจฺจมฺปิ. คีตนฺติ ยํ กิฺจิ นฏคีตํ วา สาธุคีตํ วา อนฺตมโส ทนฺตคีตมฺปิ, ยํ ‘‘คายิสฺสามา’’ติ ปุพฺพภาเค โอกูชนฺตา กโรนฺติ, เอตมฺปิ น วฏฺฏติ. วาทิตนฺติ ยํ กิฺจิ วาทิตํ. ทฏฺุํ วา ปน โสตุํ วาติ นจฺจํ ทฏฺุํ วา คีตํ วาทิตํ โสตุํ วา.

๒๗๙๕. สยํ นจฺจนฺตสฺส วา นจฺจาเปนฺตสฺส วา คายนฺตสฺส วา คายาเปนฺตสฺส วา วาเทนฺตสฺส วา วาทาเปนฺตสฺส วา ทุกฺกฏเมว อฏฺกถาย (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๘) วุตฺตนฺติ ตเทกเทสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทฏฺุมนฺตมโส’’ติอาทิ.

๒๗๙๖. สุณาตีติ คีตํ วา วาทิตํ วา. ปสฺสตีติ นจฺจํ ปสฺสติ.

๒๗๙๗. ปสฺสิสฺสามีติ เอตฺถ ‘‘สุณิสฺสามี’’ติ เสโส. ‘‘นจฺจํ ปสฺสิสฺสามิ, คีตํ, วาทิตํ วา สุณิสฺสามี’’ติ วิหารโต วิหารํ คจฺฉโต วาปิ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.

๒๗๙๘. อุฏฺหิตฺวาน คจฺฉโตติ ‘‘นจฺจํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ, ‘‘คีตํ, วาทิตํ วา สุณิสฺสามี’’ติ นิสินฺนฏฺานโต อุฏฺหิตฺวา อนฺโตวิหาเรปิ ตํ ตํ ทิสํ คจฺฉโต อาปตฺติ โหตีติ โยชนา. วีถิยํ ตฺวา คีวํ ปสาเรตฺวา ปสฺสโตปิ จ อาปตฺตีติ โยชนา.

๒๗๙๙. ทีฆาติ ทฺวงฺคุลโต ทีฆา. น ธาเรยฺยาติ น ธาเรตพฺพา. ทฺวงฺคุลํ วา ทุมาสํ วาติ เอตฺถ ทฺเว องฺคุลานิ ปริมาณํ เอตสฺสาติ ทฺวงฺคุโล, เกโส. ทฺเว มาสา อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท อสฺสาติ ทุมาโส. เกสํ ธาเรนฺโต ทฺวงฺคุลํ วา ธาเรยฺย ทุมาสํ วา. ตโต อุทฺธํ น วฏฺฏตีติ ตโต ทฺวงฺคุลโต วา ทุมาสโต วา เกสโต อุทฺธํ เกสํ ธาเรตุํ น วฏฺฏติ.

อถ วา ทฺเว องฺคุลานิ สมาหฏานิ ทฺวงฺคุลํ, ทฺเว มาสา สมาหฏา ทุมาสํ, อุภยตฺถ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. เกเส ธาเรนฺโต ทฺวงฺคุลมตฺตํ วา ธาเรยฺย ทุมาสมตฺตํ วา, ตโต กาลปริมาณโต อุทฺธํ เกเส ธาเรตุํ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. สเจ เกเส อนฺโตทฺเวมาเส ทฺวงฺคุเล ปาปุณนฺติ, อนฺโตทฺเวมาเสเยว ฉินฺทิตพฺพา. ทฺวงฺคุเล หิ อติกฺกเมตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิ น ทีฆา, ทฺเวมาสโต เอกทิวสมฺปิ อติกฺกเมตุํ น ลภติเยว. เอวมยํ อุภเยนปิ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทเนว วุตฺโต, ตโต โอรํ ปน นวฏฺฏนภาโว นาม นตฺถิ.

๒๘๐๐. ทีเฆ นเข, ทีฆานิ นาสิกโลมานิ จ น ธารเยติ โยชนา, น ธาเรยฺย, ฉินฺเทยฺยาติ อตฺโถ. วีสติมฏฺนฺติ วีสติยา นขานํ มฏฺํ ลิขิตมฏฺภาวํ กาตุํ ภิกฺขุโน น วฏฺฏตีติ โยชนา. สตฺถเกน ตจฺเฉตฺวา จุณฺณเกน ปมชฺชิตฺวา ผลิกมณีนํ วิย อุชฺชลกรณํ ลิขิตมฏฺํ นาม. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มลมตฺตํ อปกฑฺฒิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๔) อนุฺาตตฺตา มุคฺคผลตจาทีหิ นขมลํ อปเนตุํ วฏฺฏติ.

๒๘๐๑. กปฺปาเปยฺย วิสุํ มสฺสุนฺติ โย เกสจฺฉินฺโน วิสุํ มสฺสุํ กปฺปาเปยฺย. ทาิกํ เปยฺยาติ เกเส ฉินฺทาเปตฺวา มสฺสุํ อกปฺปาเปตฺวา วิสุํ เปยฺย. สมฺพาเธติ อุปกจฺฉกมุตฺตกรณสงฺขาเต สมฺพาธฏฺาเน. โลมํ สํหราเปยฺยวาติ สตฺเถน วา สณฺฑาเสน วา อฺเน เยน เกนจิ ปเรน ฉินฺทาเปยฺย, สยํ วา ฉินฺเทยฺย. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๕) อนุฺาตตฺตา ยถาวุตฺตสมฺพาเธ คณฺฑปิฬกวณาทิเก อาพาเธ สติ โลมํ สํหราเปตุํ วฏฺฏติ.

๒๘๐๒. อคิลานสฺส ฉินฺทโต ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อฺเน วา ปุคฺคเลน ตถา กตฺตริยา ฉินฺทาเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.

๒๘๐๓. เสสงฺคเฉทเนติ องฺคุลิยาทิอวเสสสรีราวยวานํ เฉทเน. อตฺตวเธติ อตฺตุปกฺกเมน วา อาณตฺติยา อุปกฺกเมน วา อตฺตโน ชีวิตนาเส.

๒๘๐๔. องฺคนฺติ องฺคชาตโต อวเสสํ สรีราวยวํ. อหิกีฏาทิทฏฺสฺส ตปฺปฏิการวเสน องฺคํ ฉินฺทโต น โทโส. ตาทิสาพาธปจฺจยา ตปฺปฏิการวเสน องฺคํ ฉินฺทโต น โทโส. โลหิตํ โมเจนฺตสฺสาปิ น โทโสติ โยชนา.

๒๘๐๕. อปริสฺสาวโน ภิกฺขุ สเจ มคฺคํ คจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. มคฺเค อทฺธาเน ตํ ปริสฺสาวนํ ยาจมานสฺส โย น ททาติ, ตสฺส อททโต อเทนฺตสฺสาปิ ตเถว ทุกฺกฏเมวาติ โยชนา. โย ปน อตฺตโน หตฺเถ ปริสฺสาวเน วิชฺชมาเนปิ ยาจติ, ตสฺส น อกามา ทาตพฺพํ.

๒๘๐๖. ‘‘นคฺโค’’ติ ปทํ ‘‘น ภุฺเช’’ติอาทิ กิริยาปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. น ภุฺเชติ ภตฺตาทึ ภุฺชิตพฺพํ น ภุฺเชยฺย. น ปิเวติ ยาคุอาทึ ปาตพฺพํ น ปิเวยฺย. น จ ขาเทติ มูลขาทนียาทิกํ ขาทนียํ น ขาเทยฺย. น สายเยติ ผาณิตาทิกํ สายิตพฺพฺจ น สาเยยฺย น ลิเหยฺย. น ทเทติ อฺสฺส ภตฺตาทึ กิฺจิ น ทเทยฺย. น คณฺเหยฺยาติ ตถา สยํ นคฺโค หุตฺวา น ปฏิคฺคณฺเหยฺย. อฺชสํ มคฺคํ.

๒๘๐๗. ปริกมฺมํ น กาตพฺพนฺติ ปิฏฺิปริกมฺมาทิปริกมฺมํ น กาตพฺพํ. การเยติ สยํ นคฺโค หุตฺวา อฺเน ปิฏฺิปริกมฺมาทิปริกมฺมํ น การาเปยฺยาติ อตฺโถ.

๒๘๐๘. ปิฏฺิกมฺมาทิเก ปริกมฺเม ชนฺตาฆราทิกา ติสฺโส ปฏิจฺฉาที วุตฺตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติสฺโส ปฏิจฺฉาทิโย ชนฺตาฆรปฏิจฺฉาทึ อุทกปฏิจฺฉาทึ วตฺถปฏิจฺฉาทิ’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๑) อนุฺาตาติ โยชนา. ปฏิจฺฉาเทติ หิริโกปินนฺติ ปฏิจฺฉาทิ, ชนฺตาฆรเมว ปฏิจฺฉาทิ ชนฺตาฆรปฏิจฺฉาทิ. อุทกเมว ปฏิจฺฉาทิ อุทกปฏิจฺฉาทิ. วตฺถเมว ปฏิจฺฉาทิ วตฺถปฏิจฺฉาทิ. ‘‘สพฺพตฺถ ปน วฏฺฏตี’’ติ อิมินา อิตรปฏิจฺฉาทิทฺวยํ ปริกมฺเมเยว วฏฺฏตีติ ทีเปติ. สพฺพตฺถาติ โภชนาทิสพฺพกิจฺเจสุ.

๒๘๐๙. ยตฺถ กตฺถจิ เปฬายนฺติ ตมฺพโลหวฏฺฏโลหกํสโลหกาฬโลหสุวณฺณรชตาทีหิ กตาย วา ทารุมยาย วา ยาย กายจิ เปฬาย อาสิตฺตกูปธาเน. ภุฺชิตุํ น จ วฏฺฏตีติ ภาชนํ เปตฺวา ภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘อาสิตฺตกูปธานํ นาม ตมฺพโลเหน วา รชเตน วา กตาย เปฬาย เอตํ อธิวจนํ, ‘น ภิกฺขเว อาสิตฺตกูปธาเน ภุฺชิตพฺพ’นฺติ สามฺเน ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ปน ทารุมยาปิ น วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๖๔). ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว มโฬริก’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๔) อนุฺาตตฺตา มโฬริกาย เปตฺวา ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘มโฬริกา’’ติ จ ทณฺฑาธารโก วุจฺจติ, ยํ ตโย, จตฺตาโร, พหู วา ทณฺฑเก อุปริ จ เหฏฺา จ วิตฺถตํ มชฺเฌ สงฺกุจิตํ กตฺวา พนฺธิตฺวา อาธารกํ กโรนฺติ. ยฏฺิอาธารกปณฺณาธารกปจฺฉิกปิฏฺฆฏกกวาฏกาทิภาชนมุขอุทุกฺขลาทีนิปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ยฏฺิอาธารโกติ ยฏฺึเยว อุชุกํ เปตฺวา พนฺธีกตอาธารโก.

เอกภาชเน วิสุํ วิสุํ โภชนสฺสาปิ สมฺภวโต ‘‘ภุฺชโต เอกภาชเน’’ติ เอตฺตเกเยว วุตฺเต ตสฺสาปิ ปสงฺโค สิยาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถมาห ‘‘เอกโต’’ติ. ‘‘ภุฺชโต’’ติ อิทํ อุปลกฺขณํ. เอกโต เอกภาชเน ยาคุอาทิปานมฺปิ น วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, เอกถาลเก ปาตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๔). อถ วา ภุฺชโตติ อชฺโฌหารสามฺเน ปานมฺปิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยเมตฺถ วินิจฺฉโย – สเจ เอโก ภิกฺขุ ภาชนโต ผลํ วา ปูวํ วา คเหตฺวา คจฺฉติ, ตสฺมึ อปคเต อิตรสฺส เสสกํ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อิตรสฺสาปิ ตสฺมึ ขเณ ปุน คเหตุํ วฏฺฏตีติ.

๒๘๑๐. เย ทฺเว วา ตโย วา ภิกฺขู เอกปาวุรณา วา เอกตฺถรณา วา เอกตฺถรณปาวุรณา วา นิปชฺชนฺติ, เตสฺจ, เย เอกมฺเจปิ เอกโต นิปชฺชนฺติ, เตสฺจ อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.

๒๘๑๑. สงฺฆาฏิปลฺลตฺถิกมุปาคโตติ เอตฺถ สงฺฆาฏีติ สงฺฆาฏินาเมน อธิฏฺิตจีวรมาห. สงฺฆาฏิปลฺลตฺถิกํ อุปคเตน ยุตฺโต หุตฺวาติ อตฺโถ. น นิสีเทยฺยาติ วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ยตฺถ กตฺถจิ น นิสีเทยฺย. ‘‘สงฺฆาฏีติ นาเมน อธิฏฺิตจีวรโวหารปฺปตฺตมธิฏฺิตจีวรํ ‘สงฺฆาฏี’ติ วุตฺต’’นฺติ นิสฺสนฺเทเห, ขุทฺทสิกฺขาวณฺณนายมฺปิ ‘‘สงฺฆาฏิยา น ปลฺลตฺเถติ อธิฏฺิตจีวเรน วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ปลฺลตฺถิโก น กาตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘อนฺโตคาเม วาสตฺถาย อุปคเตน อธิฏฺิตํ สงฺฆาฏึ วินา เสสจีวเรหิ ปลฺลตฺถิกาย นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.

กิฺจิ กีฬํ น กีเฬยฺยาติ ชุตกีฬาทิกํ ยํ กิฺจิ กายิกวาจสิกกีฬิกํ น กีเฬยฺย. น จ คาหเยติ น จ คาหาเปยฺย, น หราเปยฺยาติ อตฺโถ.

๒๘๑๒. ทาิกายปีติ มสฺสุมฺหิ. อุคฺคตนฺติ เอตฺถ ‘‘พีภจฺฉ’’นฺติ เสโส. อฺนฺติ อปลิตํ. ตาทิสนฺติ พีภจฺฉํ.

๒๘๑๓. ‘‘อคิลาโน’’ติ อิมินา คิลานสฺส อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. ‘‘ธาเรยฺยา’’ติ อิมินา สุทฺธกตฺตุนิทฺเทเสน อคิลานสฺสปิ ปรํ ธาราปเน, ปรสฺส ธารณสาทิยเน จ อนาปตฺตีติ วิฺายตีติ. อตฺตโน คุตฺตตฺถํ, จีวราทีนํ คุตฺตตฺถฺจ วฏฺฏตีติ โยชนา. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (จูฬว. อฏฺ. ๒๗๐) – ยสฺส กายทาโห วา ปิตฺตโกโป วา โหติ, จกฺขุ วา ทุพฺพลํ, อฺโ วา โกจิ อาพาโธ วินา ฉตฺเตน อุปฺปชฺชติ, ตสฺส คาเม วา อรฺเ วา ฉตฺตํ วฏฺฏติ. วาฬมิคโจรภเยสุ อตฺตคุตฺตตฺถํ, วสฺเส ปน จีวรคุตฺตตฺถมฺปิ วฏฺฏติ. เอกปณฺณจฺฉตฺตํ ปน สพฺพตฺเถว วฏฺฏติ. ‘‘เอกปณฺณจฺฉตฺตํ นาม ตาลปตฺต’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตนฺติ.

๒๘๑๔. หตฺถิโสณฺฑากาโร อเภโทปจาเรน ‘‘หตฺถิโสณฺฑ’’นฺติ วุตฺโต. เอวมุปริปิ. จีวรสฺส นามเธยฺยํ ‘‘วสน’’นฺติ อิทํ. ‘‘นิวาเสนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ ปททฺวยฺจ ‘‘หตฺถิโสณฺฑ’’นฺติอาทีหิ สพฺพปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. เวลฺลิยนฺติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน สํ-สทฺทโลโป, สํเวลฺลิยนฺติ อตฺโถ.

เอตฺถ หตฺถิโสณฺฑํ (จูฬว. อฏฺ. ๒๘๐) นาม นาภิมูลโต หตฺถิโสณฺฑสณฺานํ โอลมฺพกํ กตฺวา นิวตฺถํ โจฬิกิตฺถีนํ นิวาสนํ วิย. จตุกฺกณฺณํ นาม อุปริโต ทฺเว, เหฏฺโต ทฺเวติ เอวํ จตฺตาโร กณฺเณ ทสฺเสตฺวา นิวตฺถํ. มจฺฉวาฬกํ นาม เอกโต ทสนฺตํ เอกโต ปาสนฺตํ โอลมฺเพตฺวา นิวตฺถํ. สํเวลฺลิยนฺติ มลฺลกมฺมการาทโย วิย กจฺฉํ พนฺธิตฺวา นิวาสนํ. ตาลวณฺฏกํ นาม ตาลวณฺฏากาเรน สาฏกํ โอลมฺเพตฺวา นิวาสนํ. -สทฺเทน สตวลิกํ สงฺคณฺหาติ. สตวลิกํ นาม ทีฆสาฏกํ อเนกกฺขตฺตุํ โอภฺชิตฺวา โอวฏฺฏิกํ กโรนฺเตน นิวตฺถํ, วามทกฺขิณปสฺเสสุ วา นิรนฺตรํ วลิโย ทสฺเสตฺวา นิวตฺถํ. สเจ ปน ชาณุโต ปฏฺาย เอกา วา ทฺเว วา วลิโย ปฺายนฺติ, วฏฺฏติ. เอวํ นิวาเสตุํ คิลานสฺสปิ มคฺคปฏิปนฺนสฺสปิ น วฏฺฏติ.

ยมฺปิ มคฺคํ คจฺฉนฺตา เอกํ วา ทฺเว วา โกเณ อุกฺขิปิตฺวา อนฺตรวาสกสฺส อุปริ ลคฺเคนฺติ, อนฺโต วา เอกํ กาสาวํ ตถา นิวาเสตฺวา พหิ อปรํ นิวาเสนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ. คิลาโน ปน อนฺโตกาสาวสฺส โอวฏฺฏิกํ ทสฺเสตฺวา อปรํ อุปริ นิวาเสตุํ ลภติ. อคิลาเนน ทฺเว นิวาเสนฺเตน สคุณํ กตฺวา นิวาเสตพฺพานิ. อิติ ยฺจ อิธ ปฏิกฺขิตฺตํ, ยฺจ เสขิยวณฺณนายํ, ตํ สพฺพํ วชฺเชตฺวา นิพฺพิการํ ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตพฺพํ. ยํ กิฺจิ วิการํ กโรนฺโต ทุกฺกฏา น มุจฺจติ.

๒๘๑๕. คิหิปารุปนนฺติ ‘‘เสตปฏปารุตํ (จูฬว. อฏฺ. ๒๘๐) ปริพฺพาชกปารุตํ เอกสาฏกปารุตํ โสณฺฑปารุตํ อนฺเตปุริกปารุตํ มหาเชฏฺกปารุตํ กุฏิปเวสกปารุตํ พฺราหฺมณปารุตํ ปาฬิการกปารุต’’นฺติ เอวมาทิปริมณฺฑลลกฺขณโต อฺถา ปารุตํ, สพฺพเมตํ คิหิปารุตํ นาม. ตสฺมา ยถา เสตปฏา อฑฺฒปาลกนิคณฺา ปารุปนฺติ, ยถา จ เอกจฺเจ ปริพฺพาชกา อุรํ วิวริตฺวา ทฺวีสุ อํสกูเฏสุ ปาวุรณํ เปนฺติ, ยถา จ เอกสาฏกา มนุสฺสา นิวตฺถสาฏกสฺส เอเกนนฺเตน ปิฏฺึ ปารุปิตฺวา อุโภ กณฺเณ อุโภสุ อํสกูเฏสุ เปนฺติ, ยถา จ สุราโสณฺฑาทโย สาฏเกน คีวํ ปริกฺขิปนฺตา อุโภ อนฺเต อุทเร วา โอลมฺเพนฺติ, ปิฏฺิยํ วา ขิปนฺติ, ยถา จ อนฺเตปุริกาโย อกฺขิตารกมตฺตํ ทสฺเสตฺวา โอคุณฺิกํ ปารุปนฺติ, ยถา จ มหาเชฏฺา ทีฆสาฏกํ นิวาเสตฺวา ตสฺเสว เอเกนนฺเตน สกลสรีรํ ปารุปนฺติ, ยถา จ กสฺสกา เขตฺตกุฏึ ปวิสนฺตา สาฏกํ ปลิเวเตฺวา อุปกจฺฉเก ปกฺขิปิตฺวา ตสฺเสว เอเกนนฺเตน สรีรํ ปารุปนฺติ, ยถา จ พฺราหฺมณา อุภินฺนํ อุปกจฺฉกานํ อนฺตเรน สาฏกํ ปเวเสตฺวา อํสกูเฏสุ ปกฺขิปนฺติ, ยถา จ ปาฬิการโก ภิกฺขุ เอกํสปารุปเนน ปารุตํ วามพาหํ วิวริตฺวา จีวรํ อํสกูฏํ อาโรเปติ, เอวํ อปารุปิตฺวา สพฺเพปิ เอเต, อฺเ จ เอวรูเป ปารุปนโทเส วชฺเชตฺวา นิพฺพิการํ ปริมณฺฑลํ ปารุปิตพฺพํ. ตถา อปารุปิตฺวา อาราเม วา อนฺตรฆเร วา อนาทเรน ยํ กิฺจิ วิการํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ปริมณฺฑลโต วิมุตฺตลกฺขณนิวาสนปารุปนโทเส วชฺเชตฺวา ปริมณฺฑลภาโวเยว วุตฺตลกฺขโณ อธิปฺเปโตติ อตฺโถ.

๒๘๑๖. โลกายตํ น วาเจยฺยาติ ‘‘สพฺพํ อุจฺฉิฏฺํ, สพฺพํ อนุจฺฉิฏฺํ, เสโต กาโก, กาโฬ พโก อิมินา จ อิมินา จ การเณนา’’ติ เอวมาทินิรตฺถกการณปฏิสํยุตฺตํ ติตฺถิยสตฺถํ อฺเสํ น วาเจยฺย. น จ ตํ ปริยาปุเณติ ตํ โลกายตํ น จ ปริยาปุเณยฺย น อุคฺคณฺเหยฺย. ติรจฺฉานวิชฺชาติ หตฺถิสิปฺปอสฺสสิปฺปธนุสิปฺปาทิกา ปโรปฆาตกรา วิชฺชา จ. ภิกฺขุนา น ปริยาปุณิตพฺพา, น วาเจตพฺพาติ โยชนา.

๒๘๑๗. สพฺพาจามริพีชนีติ เสตาทิวณฺเณหิ สพฺเพหิ จมรวาเลหิ กตา พีชนี. น จาลิมฺเปยฺย ทายํ วาติ ทวฑาหาทิอุปทฺทวนิวารณาย อนุฺาตํ ปฏคฺคิทานการณํ วินา อรฺํ อคฺคินา น อาลิมฺเปยฺย. ทวฑาเห ปน อาคจฺฉนฺเต อนุปสมฺปนฺเน อสติ ปฏคฺคึ ทาตุํ, อปฺปหริตกรเณน วา ปริขาขณเนน วา ปริตฺตาณํ กาตุํ, เสนาสนํ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา อคฺคึ อลฺลสาขํ ภฺชิตฺวา นิพฺพาเปตุฺจ ลภติ. อุทเกน ปน กปฺปิเยเนว ลภติ, เนตเรน. อนุปสมฺปนฺเน ปน สติ เตเนว กปฺปิยโวหาเรน การาเปตพฺพํ. มุขํ น จ ลฺเชติ มโนสิลาทินา มุขํ น ลิมฺเปยฺย, ติลเกน องฺคํ น กเรยฺยาติ อตฺโถ.

๒๘๑๘. อุภโตกาชนฺติ อุภโตโกฏิยา ภารวหนโกฏิกาชํ. อนฺตรกาชกนฺติ อุภยโกฏิยา ิตวาหเกหิ วหิตพฺพํ มชฺเฌภารยุตฺตกาชํ. สีสกฺขนฺธกฏิภาราทโย เหฏฺา วุตฺตลกฺขณาว.

๒๘๑๙. โย ภิกฺขุ วฑฺฒกิองฺคุเลน อฏฺงฺคุลาธิกํ วา เตเนว องฺคุเลน จตุรงฺคุลปจฺฉิมํ วา ทนฺตกฏฺํ ขาทติ, เอวํ ขาทโต ตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.

๒๘๒๐. กิจฺเจ สติปีติ สุกฺขกฏฺาทิคฺคหณกิจฺเจ ปน สติ. โปริสนฺติ ปุริสปฺปมาณํ, พฺยามมตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อาปทาสูติ วาฬมิคาทโย วา ทิสฺวา มคฺคมูฬฺโห วา ทิสา โอโลเกตุกาโม หุตฺวา ทวฑาหํ วา อุทโกฆํ วา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา วา เอวรูปาสุ อาปทาสุ. วฏฺฏเตวาภิรูหิตุนฺติ อติอุจฺจมฺปิ รุกฺขํ อาโรหิตุํ วฏฺฏติ เอว.

๒๘๒๑. สเจ อกลฺลโก คิลาโน น สิยา, ลสุณํ มาคธํ อามกํ ภณฺฑิกลสุณํ น จ ขาเทยฺย เนว ปริภุฺเชยฺยาติ โยชนา. ภณฺฑิกลสุณํ นาม จตุมิฺชโต ปฏฺาย พหุมิฺชํ. ปลณฺฑุกภฺชนกาทิลสุเณ มคเธสุ ชาตตฺเตปิ น โทโส. ลสุณวิภาโค เหฏฺา ทสฺสิโตเยว. คิลานสฺส ปน ลสุณํ ขาทิตุํ วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา ลสุณํ ขาทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๙). อาพาธปจฺจยาติ ยสฺส อาพาธสฺส ลสุณํ เภสชฺชํ โหติ, ตปฺปจฺจยาติ อตฺโถ. พุทฺธวจนนฺติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหา ปิฏกตฺตยปาฬิ. อฺถาติ สกฺกฏาทิขลิตวจนมยํ วาจนามคฺคํ น โรเปตพฺพํ, ตถา น เปตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๒๘๒๒. ขิปิเตติ เยน เกนจิ ขิปิเต. ‘‘ชีวา’’ติ น วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. ภิกฺขุนา ขิปิเต คิหินา ‘‘ชีวถา’’ติ วุตฺเตน ปุน ‘‘จิรํ ชีวา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘จิร’’นฺติ ปเท สติปิ วฏฺฏติ.

๒๘๒๓. อาโกเฏนฺตสฺสาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺธาทีหิ วา ปหรนฺตสฺส. ปุปฺผสํกิณฺเณติ ปุปฺผสนฺถเต.

๒๘๒๔. นฺหาปิตา ปุพฺพกา เอตสฺสาติ นฺหาปิตปุพฺพโก, นฺหาปิตชาติโกติ อตฺโถ. ขุรภณฺฑนฺติ นฺหาปิตปริกฺขารํ. น คณฺเหยฺยาติ น ปริหเรยฺย. สเจ โย นฺหาปิตชาติโก โหติ, โส ขุรภณฺฑํ คเหตฺวา น หเรยฺยาติ อตฺโถ. อฺสฺส หตฺถโต คเหตฺวา เกสจฺเฉทาทิ กาตุํ วฏฺฏติ. อุณฺณีติ เกสกมฺพลํ วินา อุณฺณมยา ปาวุรณชาติ. ‘‘โคนกํ กุตฺตกํ จิตฺตก’’มิจฺจาทินา วุตฺตเภทวนฺตตาย อาห ‘‘สพฺพา’’ติ. อุณฺณมยํ อนฺโตกริตฺวา ปารุปิตุํ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘พาหิรโลมิกา’’ติ. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, พาหิรโลมี อุณฺณีธาเรตพฺพา’’ติ (จูฬว. ๒๔๙). สิกฺขาปทฏฺกถายํ ‘‘อุณฺณโลมานิ พหิ กตฺวา อุณฺณปาวารํ ปารุปนฺติ, ตถา ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. โลมานิ อนฺโต กตฺวา ปารุปิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๙).

๒๘๒๕. องฺคราคํ นาม กุงฺกุมาทิ. กโรนฺตสฺสาติ อพฺภฺชนฺตสฺส. อกายพนฺธนสฺส คามํ ปวิสโตปิ ทุกฺกฏํ สมุทีริตนฺติ โยชนา. เอตฺถ จ อสติยา อพนฺธิตฺวา นิกฺขนฺเตน ยตฺถ สรติ, ตตฺถ พนฺธิตพฺพํ. ‘‘อาสนสาลาย พนฺธิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ วฏฺฏติ. สริตฺวา ยาว น พนฺธติ, น ตาว ปิณฺฑาย จริตพฺพํ.

๒๘๒๖. สพฺพํ อายุธํ วินา สพฺพํ โลหชํ โลหมยภณฺฑฺจ ปตฺตํ, สงฺกมนียปาทุกํ, ยถาวุตฺตลกฺขณํ ปลฺลงฺกํ, อาสนฺทิฺจ วินา สพฺพํ ทารุชํ ทารุมยภณฺฑฺจ วุตฺตลกฺขณเมว กตกํ, กุมฺภการิกํ ธนิยสฺเสว สพฺพมตฺติกามยํ กุฏิฺจ วินา สพฺพํ มตฺติกามยํ ภณฺฑฺจ กปฺปิยนฺติ โยชนา.

ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

เสนาสนกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๘๒๗. อาสนฺทิโกติ จตุรสฺสปีํ. อติกฺกนฺตปมาโณติ เหฏฺา อฏนิยา วฑฺฒกิหตฺถโต อุจฺจตรปฺปมาณปาทโก. เอกปสฺสโต ทีโฆ ปน อุจฺจปาทโก น วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘อุจฺจกมฺปิ อาสนฺทิกนฺติ วจนโต เอกโตภาเคน ทีฆปีเมว หิ อฏฺงฺคุลาธิกปาทกํ น วฏฺฏติ, จตุรสฺสอาสนฺทิโก ปน ปมาณาติกฺกนฺโตปิ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗).

ตถาติ อิมินา ‘‘อติกฺกนฺตปมาโณ’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ. ปฺจงฺคปีนฺติ จตฺตาโร ปาทา, อปสฺเสนนฺติ อิเมหิ ปฺจงฺเคหิ ยุตฺตปีํ. สตฺตงฺคนฺติ ตีสุ ทิสาสุ อปสฺสเย โยเชตฺวา กตํ. ตฺหิ จตูหิ ปาเทหิ, ตีหิ อปสฺเสหิ จ ยุตฺตตฺตา ‘‘สตฺตงฺคปี’’นฺติ วุตฺตํ. เอส นโย มฺเจปิ. ยถาห – ‘‘สตฺตงฺโค นาม ตีสุ ทิสาสุ อปสฺสยํ กตฺวา กตมฺโจ, อยมฺปิ ปมาณาติกฺกนฺโต วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗).

๒๘๒๘. ตูโลนทฺธาติ อุปริ ตูลํ ปกฺขิปิตฺวา พทฺธา. ฆเรเยวาติ คิหีนํ เคเหเยว นิสีทิตุํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นิสีทิตุ’’นฺติ อิมินาว สยนํ ปฏิกฺขิตฺตํ. สีสปาทูปธานนฺติ สีสูปธานฺเจว ปาทูปธานฺจ. -สทฺโท ปิ-สทฺทตฺเถ โส ‘‘อคิลานสฺสา’’ติ เอตฺถ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพ, เตน อคิลานสฺสาปิ ตาว วฏฺฏติ, ปเคว คิลานสฺสาติ ทีเปติ.

๒๘๒๙. น เกวลํ คิลานสฺส สีสปาทูปธานเมว วฏฺฏติ, อถ โข อิทมฺปีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘สนฺถริตฺวา’’ติอาทิ. อุปธานานิ สนฺถริตฺวาติ พหู อุปธานานิ อตฺถริตฺวา. ตตฺถ จาติ ตสฺมึ อุปธานสนฺถเร. ปจฺจตฺถรณกํ ทตฺวาติ อุปริ ปจฺจตฺถรณกํ อตฺถริตฺวา.

๒๘๓๐. ติริยนฺติ วิตฺถารโต. มุฏฺิรตนนฺติ ปากติกมุฏฺิกรตนํ. ตํ ปน วฑฺฒกีนํ วิทตฺถิมตฺตํ. มิตนฺติ ปากฏิตํ ปมาณยุตฺตํ โหตีติ โยชนา. กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ‘‘มต’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, โส น คเหตพฺโพ. ทีฆโตติ พิมฺโพหนสฺส ทีฆโต. ทิยฑฺฒนฺติ ทิยฑฺฒหตฺถํ วา ทฺวิหตฺถํ วา โหตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อิทเมว หิ ‘‘สีสปฺปมาณพิมฺโพหน’’นฺติ อธิปฺเปตํ. ยถาห –

‘‘สีสปฺปมาณํ นาม ยสฺส วิตฺถารโต ตีสุ กณฺเณสุ ทฺวินฺนํ กณฺณานํ อนฺตรํ มินิยมานํ วิทตฺถิ เจว จตุรงฺคุลฺจ โหติ, มชฺฌฏฺานํ มุฏฺิรตนํ โหติ. ทีฆโต ปน ทิยฑฺฒรตนํ วา ทฺวิรตนํ วาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. อยํ สีสปฺปมาณสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท, อิโต อุทฺธํ น วฏฺฏติ, เหฏฺา ปน วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗).

๒๘๓๑. โจฬนฺติ ปิโลติกา. ปณฺณนฺติ รุกฺขลตานํ ปณฺณํ. อุณฺณาติ เอฬกาทีนํ โลมํ. ติณนฺติ ทพฺพติณาทิ ยํ กิฺจิ ติณํ. วากนฺติ กทลิอกฺกมกจิวากาทิกํ. เอเตหิ ปฺจหิ ปูริตา ภิสิโย ตูลานํ คณนาวสา เหตุคพฺภานํ เอเตสํ ปฺจนฺนํ คพฺภานํ คณนาวเสน ปฺจ ภาสิตาติ โยชนา.

๒๘๓๒. พิมฺโพหนคพฺภํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิสี’’ติอาทิ. ปฺเจวาติ ยถาวุตฺตโจฬาทิปฺเจว. ตถา ตูลานิ ตีณิปีติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตีณิ ตูลานิ รุกฺขตูลํ ลตาตูลํ โปฏกิตูล’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) อนุฺาตานิ ตีณิปิ ตูลานิ. เอตฺถ จ รุกฺขตูลํ นาม สิมฺพลิรุกฺขาทีนํ เยสํ เกสฺจิ รุกฺขานํ ตูลํ. ลตาตูลํ นาม ขีรวลฺลิอาทีนํ ยาสํ กาสฺจิ วลฺลีนํ ตูลํ. โปฏกิตูลํ นาม โปฏกิติณาทีนํ เยสํ เกสฺจิ ติณชาติกานํ อนฺตมโส อุจฺฉุนฬาทีนมฺปิ ตูลํ. โลมานิ มิคปกฺขีนนฺติ สีหาทิจตุปฺปทานํ, โมราทิปกฺขีนํ โลมานิ. อิเมติ ภิสิคพฺภาทโย อิเม ทส พิมฺโพหนสฺส คพฺภาติ สมฺพนฺโธ.

๒๘๓๓. เอวํ กปฺปิยํ ภิสิพิมฺโพหนคพฺภํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อกปฺปิยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มนุสฺสโลม’’นฺติอาทิ. โลเมสุ มนุสฺสโลมฺจ ปุปฺเผสุ พกุลปิยงฺคุปุปฺผาทิกํ สพฺพํ ปุปฺผฺจ ปณฺเณสุ สุทฺธํ เกวลํ ตมาลปตฺตฺจ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘สุทฺธ’’นฺติ อิมินา ตมาลปตฺตํ เสสคพฺเภหิ มิสฺสํ วฏฺฏตีติ พฺยติเรกโต ทีเปติ.

๒๘๓๔. มสูรเกติ จมฺมฉวิภิสิพิมฺโพหเน.

๒๘๓๕. ‘‘สุทฺธ’’นฺติ อิมินา พฺยติเรกโต ทสฺสิตเมวตฺถํ สรูปโต วิภาเวตุมาห ‘‘มิสฺส’’นฺติอาทิ.

๒๘๓๖. ติรจฺฉานคตสฺส วาติ อนฺตมโส คณฺฑุปฺปาทสฺสาปิ. กาเรนฺตสฺสาติ จิตฺตกมฺมกฏฺกมฺมาทิวเสน การาเปนฺตสฺส วา กโรนฺตสฺส วา.

๒๘๓๗. ชาตกนฺติ อปณฺณกชาตกาทิชาตกฺจ. วตฺถุนฺติ วิมานวตฺถุอาทิกํ ปสาทชนกํ วา เปตวตฺถุอาทิกํ สํเวคชนกํ วา วตฺถุํ. วา-สทฺเทน อฏฺกถาคตํ อิธ ทสฺสิตปกรณํ สงฺคณฺหาติ. ปเรหิ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อวธารเณ, เตน ปเรหิ การาเปตุเมว วฏฺฏติ, น สยํ กาตุนฺติ ทีเปติ. สยํ กาตุมฺปีติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท ปเคว การาเปตุนฺติ ทีเปติ.

๒๘๓๘. โย ปน ภิกฺขุ ทฺวีหิ วสฺเสหิ วา เอเกน วา วสฺเสน ยสฺส ภิกฺขุโน วุฑฺฒตโร วา โหติ ทหรตโร วา, โส เตน ภิกฺขุนา สมานาสนิโก นาม โหตีติ โยชนา.

๒๘๓๙. ‘‘สตฺตวสฺเสน ปฺจวสฺโส’’ติ อิทํ ทฺวีหิ วสฺเสหิ วุฑฺฒนวกานํ สมานาสนิกตฺเต อุทาหรณํ. ‘‘ฉ วสฺเสน ปฺจวสฺโส’’ติ อิทํ เอกวสฺเสน วุฑฺฒนวกานํ สมานาสนิกตฺเต อุทาหรณํ.

๒๘๔๐. ยํ ติณฺณํ นิสีทิตุํ ปโหติ, ตํ เหฏฺา ทีฆาสนํ นามาติ โยชนา. ‘‘สมานาสนิกา มฺเจ นิสีทิตฺวา มฺจํ ภินฺทึสุ, ปีเ นิสีทิตฺวา ปีํ ภินฺทึสู’’ติ (จูฬว. ๓๒๐) อาโรปิเต วตฺถุมฺหิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทุวคฺคสฺส มฺจํ ทุวคฺคสฺส ปี’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) อนุฺาตตฺตา ‘‘ทฺเว’’ติ สมานาสนิเก ทฺเว สนฺธาย วุตฺตํ.

๒๘๔๑. อุภโตพฺยฺชนํ, อิตฺถึ, ปณฺฑกํ เปตฺวา สพฺเพหิปิ คหฏฺเหิ, ปพฺพชิเตหิ วา ปุริเสหิ สห ทีฆาสเน นิสีทิตุํ อนุฺาตนฺติ โยชนา. โปตฺถเกสุ ปน กตฺถจิ ‘‘สพฺเพส’’นฺติ สามิวจนนฺโต ปาโ ทิสฺสติ, ตโต ‘‘สพฺเพหิปี’’ติ กรณวจนนฺโตว ปาโ ยุตฺตตโร. กรณวจนปฺปสงฺเค วา สามิวจนนิทฺเทโสติ เวทิตพฺพํ. ยถาห ‘‘ยํ ติณฺณํ ปโหติ, ตํ สํหาริมํ วา โหตุ อสํหาริมํ วา, ตถารูเป อปิ ผลกขณฺเฑ อนุปสมฺปนฺเนนาปิ สทฺธึ นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐).

๒๘๔๒. ปุริมิโกติ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สมฺมเตน ‘‘น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย…เป… คหิตาคหิตฺจ ชาเนยฺยา’’ติ (จูฬว. ๓๑๗) วุตฺเตหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ปุริมวสฺสูปนายิกทิวเส ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปมํ ภิกฺขู คเณตุํ, ปมํ ภิกฺขู คเณตฺวา เสยฺยา คเณตุํ, เสยฺยา คเณตฺวา เสยฺยคฺเคน คาเหตุ’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๓๑๘) นเยน อนุฺาตนิยาเมเนว เสนาสนคฺคาหาปนํ ปุริมิโก นาม เสนาสนคฺคาโห. เอวเมว ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปนายิกทิวเส เสนาสนคฺคาหาปนํ ปจฺฉิมิโก นาม. เอวเมว มหาปวารณาทิวสสฺส อนนฺตรทิวเส ‘‘ภนฺเต, อนฺตรามุตฺตกํ เสนาสนํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา วุฑฺฒปฏิปาฏิยา เสนาสนคฺคาหาปนํ อนฺตรามุตฺตโก นาม. ปกาสิโต ‘‘อปรชฺชุคตาย อาสาฬฺหิยาปุริมิโก คาหาเปตพฺโพ, มาสคตาย อาสาฬฺหิยา ปจฺฉิมิโก คาเหตพฺโพ, อปรชฺชุคตาย ปวารณาย อายตึ วสฺสาวาสตฺถาย อนฺตรามุตฺตโก คาเหตพฺโพ’’ติ (จูฬว. ๓๑๘) วุตฺโต.

๒๘๔๓. วุตฺตเมวตฺถํ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุพฺพารุณา’’ติอาทิ. อิธ ปาฏิปทา นาม ทฺเว วสฺสูปนายิกทิวสา เจว มหาปวารณาย อนนฺตรทิวโส จ. อิเมสํ ติณฺณํ ปาฏิปททิวสานํ อรุโณ ปุพฺพารุโณ นาม. เต ทิวเส อติกฺกมฺม ทุติยติถิปฏิพทฺโธ อรุโณ ปุนารุโณ นาม. อิทนฺติ อุภยารุณานนฺตรํ. เสนาสนคาหกสฺสาติ เอตฺถ สกตฺเถ ก-ปจฺจโย, เสนาสนคฺคาหสฺสาติ อตฺโถ. ยถาห – ‘‘อิทฺหิ เสนาสนคฺคาหสฺส เขตฺต’’นฺติ. วสฺสูปคเต วสฺสูปคเม กาตพฺเพ สติ, สาเธตพฺพปโยชเน ภุมฺมํ. วสฺสูปคเตติ วา นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. ปุริมิกาย, หิ ปจฺฉิมิกาย จ วสฺสูปคมนสฺส ตํ ตทหุ เสนาสนคฺคาโห นิมิตฺตํ, อนฺตรามุตฺตโก ปน อาคมิโน วสฺสูปคมนสฺสาติ เอวํ ติวิโธปิ เสนาสนคฺคาโห วสฺสูปคมนสฺส นิมิตฺตํ โหติ.

๒๘๔๔. ปาฏิปททิวสสฺส อรุเณ อุคฺคเตเยว เสนาสเน ปน คาหิเต อฺโ ภิกฺขุ อาคนฺตฺวา สเจ เสนาสนปฺาปกํ เสนาสนํ ยาจติ, โส ภิกฺขุ เสนาสนปฺาปเกน ‘‘เสนาสนํ คาหิต’’นฺติ วตฺตพฺโพติ โยชนา.

๒๘๔๕. วสฺสาวาสสฺส อิทํ วสฺสาวาสิกํ, วสฺสํวุตฺถานํ ทาตพฺพจีวรํ, คาถาพนฺธวเสน ‘‘วสฺสวาสิก’’นฺติ รสฺสตฺตํ. สงฺฆิกํ อปโลเกตฺวา คหิตํ วสฺสาวาสิกํ จีวรํ สเจ ตตฺรชํ ตตฺรุปฺปาทํ โหติ, อนฺโตวสฺเส วิพฺภนฺโตปิ ลภเตติ โยชนา. ‘‘ตตฺรชํ สเจ’’ติ อิมินา จสฺส ทายกานํ วสฺสาวาสิกปจฺจยวเสน คาหิตํ ปน น ลภตีติ ทีเปติ. ยถาห – ‘‘ปจฺจยวเสน คาหิตํ ปน น ลภตีติ วทนฺตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๑๘).

๒๘๔๖-๘. สเจ วุตฺถวสฺโส โย ภิกฺขุ อาวาสิกหตฺถโต กิฺจิ ติจีวราทิกํ กปฺปิยภณฺฑํ อตฺตโน คเหตฺวา ‘‘อสุกสฺมึ กุเล มยฺหํ คหิตํ วสฺสาวาสิกจีวรํ คณฺห’’ อิติ เอวํ วตฺวา ตสฺส อาวาสิกสฺส ทตฺวา ทิสํ คจฺฉติ ปกฺกมติ, โส ตตฺถ คตฏฺาเน สเจ อุปฺปพฺพชติ คิหี โหติ, ตสฺส ทิสํคตสฺส สมฺปตฺตํ ตํ วสฺสาวาสิกํ เตน ตถา ทินฺนมฺปิ อาวาสิโก ภิกฺขุ คเหตุํ น ลภติ, ตสฺส ปาปิตํ วสฺสาวาสิกจีวรํ สงฺฆิกํเยว สิยาติ โยชนา. ยถาห – ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺโถ ภิกฺขุ วิพฺภมติ, สงฺฆสฺเสเวต’’นฺติ.

๒๘๔๙. ตสฺมึ กุเล ทายเก มนุสฺเส สมฺมุขา เจ ปฏิจฺฉาเปติ, ตสฺส ทิสํคมิสฺส สมฺปตฺตํ วสฺสาวาสิกจีวรํ อาวาสิโก ลภตีติ โยชนา.

๒๘๕๐. ตตฺถ อาราโม นาม ปุปฺผาราโม วา ผลาราโม วา. วิหาโร นาม ยํ กิฺจิ ปาสาทาทิเสนาสนํ. วตฺถูนิ ทุวิธสฺสปีติ อารามวตฺถุ, วิหารวตฺถูติ ทุวิธสฺส วตฺถูนิ จ. อารามวตฺถุ นาม เตสํเยว อารามานํ อตฺถาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปิโตกาโส, เตสุ วา อาราเมสุ วินฏฺเสุ เตสํ โปราณกภูมิภาโค. วิหารวตฺถุ นาม ตสฺส ปติฏฺาโนกาโส. ภิสิ นาม อุณฺณภิสิอาทีนํ ปฺจนฺนํ อฺตรา. พิมฺโพหนํ นาม วุตฺตปฺปการานํ พิมฺโพหนานํ อฺตรํ. มฺจํ นาม มสารโก พุนฺทิกาพทฺโธ, กุฬีรปาทโก, อาหจฺจปาทโกติ อิเมสํ ปุพฺเพ วุตฺตานํ จตุนฺนํ มฺจานํ อฺตรํ. ปีํ นาม มสารกาทีนํเยว จตุนฺนํ ปีานํ อฺตรํ.

๒๘๕๑. โลหกุมฺภี นาม กาฬโลเหน วา ตมฺพโลเหน วา เยน เกนจิ โลเหน กตา กุมฺภี. กฏาโห ปากโฏว. ‘‘ภาณก’’นฺติ อลฺชโร วุจฺจติ. อลฺชโรติ จ พหุอุทกคณฺหนิกา มหาจาฏิ, ชลํ คณฺหิตุํ อลนฺติ อลฺชโร. ‘‘วฏฺฏจาฏิ วิย หุตฺวา โถกํ ทีฆมุโข มชฺเฌ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา กโต’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. วารโกติ ฆโฏ. กุ วุจฺจติ ปถวี, ตสฺสา ทาลนโต วิทารณโต ‘‘กุทาโล’’ติ อโยมยอุปกรณวิเสโส วุจฺจติ.

๒๘๕๒. วลฺลิเวฬุอาทีสุ เวฬูติ มหาเวณุ. ติณนฺติ เคหจฺฉาทนํ ติณํ. ปณฺณํ ตาลปณฺณาทิกํ. มุฺชนฺติ มุฺชติณํ. ปพฺพชนฺติ ปพฺพชติณํ, มตฺติกา ปกติมตฺติกา วา เครุกาทิปฺจวณฺณา วา มตฺติกา. อาห จ อฏฺกถาจริโย.

๒๘๕๓. ทฺเวติ ปมทุติยครุภณฺฑานิ. ทฺวีหิ สงฺคหิตานิ ‘‘อาโรโม, อารามวตฺถุ, อิทํ ปมํ. วิหาโร, วิหารวตฺถุ, อิทํ ทุติย’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๑-๓๒๒) วุตฺตตฺตา. จตุสงฺคหนฺติ จตูหิ ภิสิอาทีหิ สงฺคโห ยสฺสาติ วิคฺคโห. นวโกฏฺาสนฺติ โลหกุมฺภิอาทโย นว โกฏฺาสา อสฺสาติ วิคฺคโห. อฏฺธา วลฺลิอาทีหิ อฏฺหิ ปกาเรหิ.

๒๘๕๔. อิตีติ นิทสฺสนตฺเถ. เอวํ วุตฺตนเยน ปฺจหิ ราสีหิ นิทฺทิฏฺานํ ครุภณฺฑคณนานํ ปิณฺฑวเสน ปฺจวีสติวิธํ ครุภณฺฑํ ปฺจนิมฺมลโลจโน นาโถ ปกาสยีติ โยชนา. ปฺจ นิมฺมลานิ โลจนานิ ยสฺสาติ วิคฺคโห, มํสทิพฺพธมฺมพุทฺธสมนฺตจกฺขุวเสน ปฺจวิธวิปฺปสนฺนโลจโนติ อตฺโถ.

๒๘๕๕. วิสฺสชฺเชนฺโตติ อิสฺสรวตาย ปรสฺส วิสฺสชฺเชนฺโต. วิภาเชนฺโตติ วสฺสคฺเคน ปาเปตฺวา วิภาเชนฺโต. อิทฺหิ สพฺพมฺปิ ครุภณฺฑํ เสนาสนกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๒๑) ‘‘อวิสฺสชฺชิยํ. กิฏาคิริวตฺถุมฺหิ (จูฬว. ๓๒๒) อเวภงฺคิย’’นฺติ จ วุตฺตํ. อุภยตฺถ อาคตโวหารเภททสฺสนมุเขน ตตฺถ วิปฺปฏิปชฺชนฺตสฺส อาปตฺตึ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภิกฺขุ ถุลฺลจฺจยํ ผุเส’’ติ. ปริวาเร ปน –

อวิสฺสชฺชิยํ อเวภงฺคิยํ, ปฺจ วุตฺตา มเหสินา;

วิสฺสชฺเชนฺตสฺส ปริภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ;

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตาติ. (ปริ. ๔๗๙) –

อาคตํ. ตสฺมา มูลจฺเฉชฺชวเสน อวิสฺสชฺชิยํ, อเวภงฺคิยฺจ, ปริวตฺตนวเสน ปน วิสฺสชฺเชนฺตสฺส, ปริภุฺชนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย.

๒๘๕๖. ภิกฺขุนา ปุคฺคเลน วา สงฺเฆน วา คเณน วา ครุภณฺฑํ ตุ วิสฺสชฺชิตํ อวิสฺสฏฺเมว โหติ, วิภตฺตฺจ อวิภาชิตเมว โหตีติ โยชนา.

๒๘๕๗. เอตฺถ เอเตสุ ปฺจสุ ครุภณฺเฑสุ ปุริเมสุ ตีสุ อครุภณฺฑกํ กิฺจิ น จ อตฺถีติ โยชนา. จตุตฺเถ ปน ครุภณฺเฑ อฏฺกถาย ‘‘โลหกุมฺภี, โลหภาณกํ, โลหกฏาหนฺติ อิมานิ ตีณิ มหนฺตานิ วา โหนฺตุ ขุทฺทกานิ วา, อนฺตมโส ปสตมตฺตอุทกคณฺหนกานิปิ ครุภณฺฑานิเยวา’’ติ วุตฺตนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โลหกุมฺภี’’ติอาทิ.

๒๘๕๘. อิทํ ติวิธนฺติ สมฺพนฺโธ. ปาทคณฺหนโกติ เอตฺถ ปาโท นาม มคธนาฬิยา ปฺจนาฬิมตฺตคณฺหนโก ภาชนวิเสโส. ภาชนานํ ปมาณํ กโรนฺตา สีหฬทีเป เยภุยฺเยน เตเนว ปาเทน มินนฺติ. ตสฺมา อฏฺกถายํ ‘‘สีหฬทีเป ปาทคณฺหนโก ภาเชตพฺโพ’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วุตฺตํ. โลหวารโกติ กาฬโลหตมฺพโลหวฏฺฏโลหกํสโลหานํ เยน เกนจิ กโต. ภาชิโยติ ภาเชตพฺโพ.

๒๘๕๙. ตโต อุทฺธนฺติ ตโต ปาทคณฺหนกวารกโต อุทฺธํ อธิกํ คณฺหนโก. เอวํ ปาฬิอาคตานํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อฏฺกถาคตานํ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิงฺคาราทีนี’’ติอาทิ. ภิงฺคาโร นาม อุกฺขิตฺตหตฺถิโสณฺฑากาเรน กตชลนิคฺคมกณฺณิโก อุจฺจคีโว มหามุขอุทกภาชนวิเสโส. อาทิ-สทฺเทน อฏฺกถาคตานิ ‘‘ปฏิคฺคหอุฬุงฺกทพฺพิกฏจฺฉุปาติตฏฺฏกสรกสมุคฺคองฺคารกปลฺลธูมกฏจฺฉุอาทีนิ ขุทฺทกานิ วา มหนฺตานิ วา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วุตฺตานิ สงฺคณฺหาติ. สพฺพานีติ ขุทฺทกานิ วา มหนฺตานิ วา.

๒๘๖๐. ตมฺพถาลกา อยถาลกา ภาเชตพฺพาติ โยชนา. -สทฺเทน อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘เปตฺวา ปน ภาชนวิกตึ อฺสฺมิมฺปิ กปฺปิยโลหภณฺเฑ อฺชนี อฺชนิสลากา กณฺณมลหรณี สูจิ ปณฺณสูจิ ขุทฺทโก ปิปฺผลโก ขุทฺทกํ อารกณฺฏกํ กุฺจิกา ตาฬํ กตฺตรยฏฺิเวธโก นตฺถุทานํ ภินฺทิวาโล โลหกูโฏ โลหกุฏฺฏิ โลหคุโฬ โลหปิณฺฑิ โลหอรณี จกฺกลิกํ อฺมฺปิ วิปฺปกตํ โลหภณฺฑํ ภาชิย’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วจนํ สงฺคณฺหาติ. ธูมเนตฺตนฺติ ธูมนาฬิกา. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ผาลทีปรุกฺขทีปกปลฺลกโอลมฺพกทีปกอิตฺถิปุริสติรจฺฉานคตรูปกานิ ปน อฺานิ วา ภิตฺติจฺฉทนกวาฏาทีสุ อุปเนตพฺพานิ อนฺตมโส โลหขิลกํ อุปาทาย สพฺพานิ โลหภณฺฑานิ ครุภณฺฑานิเยว โหนฺตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วุตฺตํ สงฺคณฺหาติ.

๒๘๖๑. อตฺตนา ปฏิลทฺธนฺติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, อตฺตนา ปฏิลทฺธมฺปีติ อตฺโถ. ภิกฺขุนา อตฺตนา ปฏิลทฺธมฺปิ ตํ โลหภณฺฑํ กิฺจิปิ ปุคฺคลิกปริโภเคน น ภุฺชิตพฺพนฺติ โยชนา.

๒๘๖๒. กํสวฏฺฏโลหานํ วิการภูตานิ ตมฺพมยภาชนานิปิ ปุคฺคลิกปริโภเคน สพฺพโส ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.

๒๘๖๓. เอเสว นโยติ ‘‘น ปุคฺคลิกโภเคนา’’ติอาทินา ทสฺสิตนโย. สงฺฆิเกสุ วา คิหีนํ สนฺตเกสุ วา ยถาวุตฺตภณฺเฑสุ ปริโภคปจฺจยา โทโส น อตฺถีติ โยชนา. ‘‘กํสโลหาทิภาชนํ สงฺฆสฺส ทินฺนมฺปิ ปาริหาริยํ น วฏฺฏติ, คิหิวิกตนีหาเรเนว ปริภุฺชิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ปาริหาริยํ น วฏฺฏติ อตฺตโน สนฺตกํ วิย คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏตีติ. ‘‘คิหิวิกตนีหาเรเนว ปริภุฺชิตพฺพ’’นฺติ อิมินา สเจ อารามิกาทโย ปฏิสาเมตฺวา ปฏิเทนฺติ, ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ.

๒๘๖๔. ขีรปาสาณนฺติ มุทุกา ปาณชาติ. วุตฺตฺหิ มาติกาฏฺกถาคณฺิปเท ‘‘ขีรปาสาโณ นาม มุทุโก ปาสาโณ’’ติ. ครุกนฺติ ครุภณฺฑํ. ตฏฺฏกาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน สรกาทีนํ สงฺคโห. ฆฏโกติ ขีรปาสาณมโยเยว วารโก. ‘‘ปาทคณฺหนโต อุทฺธ’’นฺติ อิมินา ปาทคณฺหนโก อครุภณฺฑนฺติ ทีเปติ.

๒๘๖๕. ‘‘สุวณฺณรชตหารกูฏชาติผลิกภาชนานิ คิหิวิกตานิปิ น วฏฺฏนฺติ, ปเคว สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถายํ วุตฺตนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สิงฺคี’’ติอาทิ. สิงฺคีติ สุวณฺณํ. สชฺฌุ รชตํ. หารกูฏํ นาม สุวณฺณวณฺณํ โลหชาตํ. ผลิเกน อุพฺภวํ ชาตํ, ผลิกมยํ ภาชนนฺติ อตฺโถ. คิหีนํ สนฺตกานิปีติ อปิ-สทฺเทน คิหิวิกตปริโภเคนาปิ ตาว น วฏฺฏนฺติ, ปเคว สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วาติ ทีเปติ. เสนาสนปริโภเค ปน อามาสมฺปิ อนามาสมฺปิ สพฺพํ วฏฺฏติ.

๒๘๖๖. ขุทฺทาติ ยาย วาสิยา เปตฺวา ทนฺตกฏฺจฺเฉทนํ วา อุจฺฉุตจฺฉนํ วา อฺํ มหากมฺมํ กาตุํ น สกฺกา, เอวรูปา ขุทฺทกา วาสิ ภาชนียา. มหตฺตรีติ ยถาวุตฺตปฺปมาณาย วาสิยา มหนฺตตรา เยน เกนจิ อากาเรน กตวาสิ ครุภณฺฑํ. เวชฺชานํ สิราเวธนกมฺปิ จ ผรสุ ตถา ครุภณฺฑนฺติ โยชนา.

๒๘๖๗. กุารีติ เอตฺถ ผรสุสทิโสว วินิจฺฉโย. ยา ปน อาวุธสงฺเขเปน กตา, อยํ อนามาสา. กุทาโล อนฺตมโส จตุรงฺคุลมตฺโตปิ. สิขรนฺติ ธนุรชฺชุโต นาเมตฺวา ทารุอาทีนํ วิชฺฌนกกณฺฏโก. เตเนวาติ นิขาทเนเนว.

๒๘๖๘. นิขาทนสฺส เภทวนฺตตาย ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘จตุรสฺสมุขํ โทณิมุข’’นฺติ. โทณิมุขนฺติ โทณิ วิย อุภยปสฺเสน นามิตมุขํ. วงฺกนฺติ อคฺคโต นาเมตฺวา กตนิขาทนํ. ปิ-สทฺเทน อุชุกํ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ จาติ ตสฺมึ นิขาทเน. สทณฺฑํ ขุทฺทกฺจ นิขาทนํ สพฺพํ ครุภณฺฑนฺติ โยชนา. ‘‘สทณฺฑํ ขุทฺทก’’นฺติ อิมินา วิเสสนทฺวเยน อทณฺฑํ ผลมตฺตํ สิปาฏิกาย เปตฺวา ปริหรณโยคฺคํ สมฺมชฺชนิทณฺฑเวธนกํ นิขาทนํ อครุภณฺฑํ, ตโต มหนฺตํ นิขาทนํ อทณฺฑมฺปิ ครุภณฺฑนฺติ ทีเปติ. เยหิ มนุสฺเสหิ วิหาเร วาสิอาทีนิ ทินฺนานิ จ โหนฺติ, เต เจ ฆเร ทฑฺเฒ วา โจเรหิ วา วิลุตฺเต ‘‘เทถ โน, ภนฺเต, อุปกรเณ ปุน ปากติเก กริสฺสามา’’ติ วทนฺติ, ทาตพฺพา. สเจ อาหรนฺติ, น วาเรตพฺพา, อนาหรนฺตาปิ น โจเทตพฺพา.

๒๘๖๙. ‘‘กมฺมารตฏฺฏการจุนฺทการนฬการมณิการปตฺตพนฺธกานํ อธิกรณิมุฏฺิกสณฺฑาสตุลาทีนิ สพฺพานิ โลหมยอุปกรณานิ สงฺเฆ ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑานิ. ติปุโกฏฺฏกสุวณฺณการจมฺมการอุปกรเณสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – ติปุโกฏฺฏกอุปกรเณสุปิ ติปุจฺเฉทนสตฺถกํ, สุวณฺณการอุปกรเณสุ สุวณฺณจฺเฉทนสตฺถกํ, จมฺมการอุปกรเณสุ กตปริกมฺมจมฺมฉินฺทนกํ ขุทฺทกสตฺถนฺติ อิมานิ ภาชนียภณฺฑานี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉเยกเทสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มุฏฺิก’’นฺติอาทิ. ตุลาทิกนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน กตฺตริอาทิอุปกรณํ สงฺคณฺหาติ.

๒๘๗๐. ‘‘นหาปิตตุนฺนการานํ อุปกรเณสุปิ เปตฺวา มหากตฺตรึ, มหาสณฺฑาสํ, มหาปิปฺผลกฺจ สพฺพํ ภาชนียํ. มหากตฺตริอาทีนิ ครุภณฺฑานี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นฺหาปิตกสฺสา’’ติอาทิ. นฺหาปิตกสฺส อุปกรเณสุ สณฺฑาโส, มหตฺตรี กตฺตรี จ ตุนฺนการานฺจ อุปกรเณสุ มหตฺตรี กตฺตรี จ มหาปิปฺผลกฺจ ครุภณฺฑกนฺติ โยชนา.

๒๘๗๑. เอตฺตาวตา จตุตฺถครุภณฺเฑ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปฺจมครุภณฺเฑ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วลฺลี’’ติอาทิ. เวตฺตลตาทิกา วลฺลิ ทุลฺลภฏฺาเน สงฺฆสฺส ทินฺนา วา ตตฺถ สงฺฆสฺส ภูมิยํ ชาตา, รกฺขิตา โคปิตา วา อฑฺฒพาหุปฺปมาณา ครุภณฺฑํ โหตีติ โยชนา. ‘‘อฑฺฒพาหูติ กปฺปรโต ปฏฺาย ยาว อํสกูฏ’’นฺติ คณฺิปเท วุตฺตํ. ‘‘อฑฺฒพาหุ นาม วิทตฺถิจตุรงฺคุล’’นฺติปิ วทนฺติ. สเจ สา วลฺลิ สงฺฆกมฺเม, เจติยกมฺเม จ กเต อติเรกา โหติ, ปุคฺคลิกกมฺเมปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. อรกฺขิตา ปน ครุภณฺฑเมว น โหติ.

๒๘๗๒. อฏฺกถายํ ‘‘สุตฺตมกจิวากนาฬิเกรหีรจมฺมมยา รชฺชุกา วา โยตฺตานิ วา วาเก จ นาฬิเกรหีเร จ วฏฺเฏตฺวา กตา เอกวฏฺฏา วา ทฺวิวฏฺฏา วา สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ. สุตฺตํ ปน อวฏฺเฏตฺวา ทินฺนํ, มกจิวากนาฬิเกรหีรา จ ภาชนียา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สุตฺตวากาทินิพฺพตฺตา’’ติอาทิ. วากาทีติ อาทิ-สทฺเทน มกจิวากนาฬิเกรหีรจมฺมานํ คหณํ. นาติทีฆา รชฺชุกา. อติทีฆํ โยตฺตกํ.

๒๘๗๓. นาฬิเกรสฺส หีเร วา มกจิวาเก วา วฏฺเฏตฺวา กตา เอกวฏฺฏาปิ ครุภณฺฑกนฺติ โยชนา. เยหิ ปเนตานิ รชฺชุกโยตฺตาทีนิ ทินฺนานิ โหนฺติ, เต อตฺตโน กรณีเยน หรนฺตา น วาเรตพฺพา.

๒๘๗๔. วฑฺฒกิองฺคุเลน อฏฺงฺคุลายโต สูจิทณฺฑมตฺโต ปริณาหโต สีหฬทีเป เลขกานํ เลขนิสูจิทณฺฑมตฺโต สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิโต โคปิโต เวฬุ ครุภณฺฑํ สิยาติ โยชนา. ‘‘ยํ มชฺฌิมปุริสสฺส กนิฏฺงฺคุลิยา อคฺคปฺปมาณํ, อิทํ สีหฬทีเป เลขกานํ เลขนิสูจิยา ปมาณ’’นฺติ วทนฺติ. โส จ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรโก ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ.

๒๘๗๕. ทณฺโฑ จ สลากา จ ทณฺฑสลากา, ฉตฺตสฺส ทณฺฑสลากาติ วิคฺคโห. ฉตฺตทณฺโฑ นาม ฉตฺตปิณฺฑิ. ฉตฺตสลากาติ ฉตฺตปฺชรสลากา. ทณฺโฑติ อุปาหนทณฺฑโก. ‘‘ทณฺโฑ’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ อฏฺกถาคเตสุ สรูเปน อิธาวุตฺโต อุปาหนทณฺโฑเยว สามฺวจเนน ปาริเสสโต คเหตพฺโพติ. ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺตา น วาเรตพฺพา.

๒๘๗๖. มุฺชาทีสุ เคหจฺฉทนารเหสุ ติเณสุ ยํ กิฺจิ มุฏฺิมตฺตํ ติณํ วา เคหจฺฉทนารหํ ตาลปณฺณาทิ เอกมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนํ วา ตตฺถ สงฺฆิกภูมิยํ ชาตํ วา ครุภณฺฑํ สิยาติ โยเชตพฺพา. ตตฺถ มุฏฺิมตฺตํ นาม กรฬมตฺตํ. อิทฺจ กรฬํ กตฺวา ฉาเทนฺตานํ ฉทนกรฬวเสน คเหตพฺพํ. ตาลปณฺณาทีติ อาทิ-สทฺเทน นาฬิเกรปณฺณาทิเคหจฺฉทนปณฺณานํ คหณํ. ตมฺปิ มุฺชาทิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, น วาเรตพฺพาติ.

๒๘๗๗-๘. อฏฺงฺคุลปฺปมาโณติ ทีฆโต อฏฺงฺคุลมตฺโต. เกจิ ‘‘ปุถุลโต’’ติ วทนฺติ. ริตฺตโปตฺถโกติ เลขาหิ สุฺโปตฺถโก, น ลิขิตโปตฺถโกติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อฏฺงฺคุลปฺปมาโณ’’ติ อิมินา อฏฺงฺคุลโต อูนปฺปมาโณ ภาชิโย, ‘‘ริตฺตโปตฺถโก’’ติ อิมินา อฏฺงฺคุลโต อติเรกปฺปมาโณปิ ลิขิตโปตฺถโก ภาชิโยติ ทสฺเสติ.

‘‘มตฺติกา ปกติมตฺติกา วา โหตุ ปฺจวณฺณา วา สุธา วา สชฺชุรสกงฺคุฏฺสิเลสาทีสุ วา ยํ กิฺจิ ทุลฺลภฏฺาเน อาเนตฺวา วา ทินฺนํ ตตฺถชาตกํ วา รกฺขิตโคปิตํ ตาลผลปกฺกมตฺตํ ครุภณฺฑํ โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มตฺติกา’’ติอาทิ. ปากติกา วา เสตเครุกาทิปฺจวณฺณา วาปิ มตฺติกาติ โยชนา. สิเลโส นาม กพิฏฺาทิสิเลโส. อาทิ-สทฺเทน สชฺชุรสกงฺคุฏฺาทีนํ คหณํ. ตาลปกฺกปมาณนฺติ เอกฏฺิตาลผลปมาณาปิ. ตมฺปิ มตฺติกาทิ สงฺฆกมฺเม, เจติยกมฺเม จ นิฏฺิเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ.

๒๘๗๙-๘๐. ‘‘เวฬุอาทิก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. รกฺขิตํ โคปิตํ วาปิ คณฺหตา สมกํ วา อติเรกํ วา ถาวรํ อนฺตมโส ตํอคฺฆนกํ วาลิกเมว วา ทตฺวา คเหตพฺพนฺติ โยชนา.

อฏฺกถายํ ปน ‘‘รกฺขิตโคปิตํ เวฬุํ คณฺหนฺเตน สมกํ วา อติเรกํ วา ถาวรํ อนฺตมโส ตํอคฺฆนกวาลิกายปิ ผาติกมฺมํ กตฺวา คเหตพฺโพ. ผาติกมฺมํ อกตฺวา คณฺหนฺเตน ตตฺเถว วฬฺเชตพฺโพ, คมนกาเล สงฺฆิเก อาวาเส เปตฺวา คนฺตพฺพํ. อสติยา คเหตฺวา คเตน ปน ปหิณิตฺวา ทาตพฺโพ. เทสนฺตรคเตน สมฺปตฺตวิหาเร สงฺฆิกาวาเส เปตพฺโพ’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) เวฬุมฺหิเยว อยํ วินิจฺฉโย วุตฺโต, อิธ ปน ‘‘วลฺลิเวฬาทิกํ กิฺจี’’ติ วลฺลิอาทีนมฺปิ สามฺเน วุตฺตตฺตา ตํ อุปลกฺขณมตฺตํ วลฺลิอาทีสุปิ ยถารหํ ลพฺภตีติ เวทิตพฺพํ.

๒๘๘๑. อฺชนนฺติ สิลามโย. เอวํ หริตาลมโนสิลาปิ.

๒๘๘๒. ทารุภณฺเฑ อยํ วินิจฺฉโย – ปริณาหโต ยถาวุตฺต สูจิทณฺฑปฺปมาณโก อฏฺงฺคุลทีโฆ โย โกจิ ทารุภณฺฑโก ทารุทุลฺลภฏฺาเน สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิตโคปิโต ครุภณฺฑํ โหตีติ โยชนา.

๒๘๘๓. เอวํ กุรุนฺทฏฺกถาย อาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา มหาอฏฺกถาย (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อาคตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มหาอฏฺกถาย’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อาสนฺทิกสตฺตงฺคา วุตฺตลกฺขณาว. ‘‘ภทฺทปี’’นฺติ เวตฺตมยํ ปีํ วุจฺจติ. ปีิกาติ ปิโลติกาพทฺธปีเมว.

๒๘๘๔. เอฬกปาทปีํ นาม ทารุปฏฺฏิกาย อุปริ ปาเท เปตฺวา โภชนปลฺลงฺกํ วิย กตปีํ วุจฺจติ. ‘‘อามลกวฏฺฏกปี’’นฺติ เอตสฺส ‘‘อามณฺฑกวฏฺฏก’’นฺติ ปริยาโย, ตสฺมา อุภเยนาปิ อามลกากาเรน โยชิตํ พหุปาทกปีํ วุจฺจติ. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘ตถามณฺฑกปีก’’นฺติ ปาโ. คาถาพนฺธวเสน มณฺฑก-สทฺทปโยโค. โกจฺฉํ ภูตคามวคฺเค จตุตฺถสิกฺขาปเท วุตฺตสรูปํ. ปลาลปีนฺติ นิปชฺชนตฺถาย กตา ปลาลภิสิ, อิมินา กทลิปตฺตาทิมยปีมฺปิ อุปลกฺขณโต ทสฺสิตํ. ยถาห – ‘‘ปลาลปีเน เจตฺถ กทลิปตฺตาทิปีานิปิ สงฺคหิตานี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑). โธวเน ผลกนฺติ จีวรโธวนผลกํ, โธวนาทิสทฺทานํ วิเยตฺถ วิภตฺติอโลโป. อิเมสุ ตาว ยํ กิฺจิ ขุทฺทกํ วา โหตุ มหนฺตํ วา, สงฺฆสฺส ทินฺนํ ครุภณฺฑํ โหติ. พฺยคฺฆจมฺมโอนทฺธมฺปิ วาฬรูปปริกฺขิตฺตํ รตนปริสิพฺพิตํ โกจฺฉํ ครุภณฺฑเมว.

๒๘๘๕. ภณฺฑิกาติ ทณฺฑกฏฺจฺเฉทนภณฺฑิกา. มุคฺคโรติ ทณฺฑมุคฺคโร. ทณฺฑมุคฺคโร นาม เยน รชิตจีวรํ โปเถนฺติ. วตฺถฆฏฺฏนมุคฺคโรติ จีวรฆฏฺฏนมุคฺคโร, เยน อนุวาตาทึ ฆฏฺเฏนฺติ. อมฺพณนฺติ ผลเกหิ โปกฺขรณิสทิสํ กตปานียภาชนํ. มฺชูสา นาม โทณิเปฬา. นาวา โปโต. รชนโทณิกา นาม ยตฺถ จีวรํ รชนฺติ, ปกฺกรชนํ วา อากิรนฺติ.

๒๘๘๖. อุฬุงฺโกติ นาฬิเกรผลกฏาหาทิมโย อุฬุงฺโก. อุภยํ ปิธานสมโก สมุคฺโค. ‘‘ขุทฺทโก ปริวิธโน กรณฺฑ’’นฺติ วทนฺติ. กรณฺโฑ จ ปาทคณฺหนกโต อติเรกปฺปมาโณ อิธ อธิปฺเปโต. กฏจฺฉูติ ทพฺพิ. อาทิ-สทฺเทน ปานียสราวปานียสงฺขาทีนํ คหณํ.

๒๘๘๗. เคหสมฺภารนฺติ เคโหปกรณํ. ถมฺภตุลาโสปานผลกาทิ ทารุมยํ, ปาสาณมยมฺปิ อิมินาว คหิตํ. กปฺปิยจมฺมนฺติ ‘‘เอฬกาชมิคาน’’นฺติอาทินา (วิ. วิ. ๒๖๕๐) เหฏฺา ทสฺสิตํ กปฺปิยจมฺมํ. ตพฺพิปริยายํ อกปฺปิยํ. อภาชิยํ ครุภณฺฑตฺตา. ภูมตฺถรณํ กตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

๒๘๘๘. อฏฺกถายํ ‘‘เอฬกจมฺมํ ปน ปจฺจตฺถรณคติกเมว โหติ, ตมฺปิ ครุภณฺฑเมวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘เอฬจมฺมํ ครุํ วุตฺต’’นฺติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สพฺพํ มฺจปฺปมาณํ จมฺมํ ครุภณฺฑ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘ปจฺจตฺถรณคติกเมวา’’ติ อิมินา มฺจปีเปิ อตฺถริตุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ‘‘ปาวาราทิปจฺจตฺถรณมฺปิ ครุภณฺฑ’’นฺติ เอเก, ‘‘โน’’ติ อปเร, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. มฺจปฺปมาณนฺติ จ ปมาณยุตฺตํ มฺจํ. ปมาณยุตฺตมฺโจ นาม ยสฺส ทีฆโส นว วิทตฺถิโย ติริยฺจ ตทุปฑฺฒํ. อุทฺธํ มุขมสฺสาติ อุทุกฺขลํ. อาทิ-สทฺเทน มุสลํ, สุปฺปํ, นิสทํ, นิสทโปโต, ปาสาณโทณิ, ปาสาณกฏาหฺจ สงฺคหิตํ. เปสการาทีติ อาทิ-สทฺเทน จมฺมการาทีนํ คหณํ. ตุริเวมาทิ เปสการภณฺฑฺจ ภสฺตาทิ จมฺมการภณฺฑฺจ กสิภณฺฑฺจ ยุคนงฺคลาทิ สงฺฆิกํ สงฺฆสนฺตกํ ครุภณฺฑนฺติ โยชนา.

๒๘๘๙. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ‘‘สงฺฆิก’’นฺติ อิทํ ปจฺจามสติ. อาธารโกติ ปตฺตาธาโร. ตาลวณฺฏนฺติ ตาลวณฺเฏหิ กตํ. เวฬุทนฺตวิลีเวหิ วา โมรปิฺเฉหิ วา จมฺมวิกตีหิ วา กตมฺปิ ตํสทิสํ ‘‘ตาลวณฺฏ’’นฺเตว วุจฺจติ. วฏฺฏวิธูปนานํ ตาลวณฺเฏเยว อนฺโตคธตฺตา ‘‘พีชนี’’ติ จตุรสฺสวิธูปนฺจ เกตกปาโรหกุนฺตาลปณฺณาทิมยทนฺตมยวิสาณมยทณฺฑกมกสพีชนี จ วุจฺจติ. ปจฺฉิ ปากฏาเยว. ปจฺฉิโต ขุทฺทโก ตาลปณฺณาทิมโย ภาชนวิเสโส จงฺโกฏกํ. สพฺพา สมฺมชฺชนีติ นาฬิเกรหีราทีหิ พทฺธา ยฏฺิสมฺมชฺชนี, มุฏฺิสมฺมชฺชนีติ ทุวิธา ปริเวณงฺคณาทิสมฺมชฺชนี จ ตเถว ทุวิธา ขชฺชูรินาฬิเกรปณฺณาทีหิ พทฺธา เคหสมฺมชฺชนี จาติ สพฺพาปิ สมฺมชฺชนี ครุภณฺฑํ โหติ.

๒๘๙๐. จกฺกยุตฺตกยานนฺติ หตฺถวฏฺฏกสกฏาทิยุตฺตยานฺจ.

๒๘๙๑. ฉตฺตนฺติ ปณฺณกิลฺชเสตจฺฉตฺตวเสน ติวิธํ ฉตฺตํ. มุฏฺิปณฺณนฺติ ตาลปณฺณํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิสาณภาชนฺจ ตุมฺพภาชนฺจาติ วิคฺคโห, เอกเทสสรูเปกเสโส, คาถาพนฺธวเสน นิคฺคหิตาคโม จ. วิสาณมยํ, ภาชนํ ตุมฺพมยํ ภาชนฺจาติ อตฺโถ. อิธ ‘‘ปาทคณฺหนกโต อติริตฺตปฺปมาณ’’นฺติ เสโส. อรณี อรณิสหิตํ. อาทิ-สทฺเทน อามลกตุมฺพํ อนุฺาตวาสิยา ทณฺฑฺจ สงฺคณฺหาติ. ลหุ อครุภณฺฑํ, ภาชนียนฺติ อตฺโถ. ปาทคณฺหนกโต อติริตฺตปฺปมาณํ ครุภณฺฑํ.

๒๘๙๒. วิสาณนฺติ โควิสาณาทิ ยํ กิฺจิ วิสาณํ. อตจฺฉิตํ ยถาคตเมว ภาชนียํ. อนิฏฺิตํ มฺจปาทาทิ ยํ กิฺจิ ภาชนียนฺติ โยชนา. ยถาห – ‘‘มฺจปาโท มฺจอฏนี ปีปาโท ปีอฏนี วาสิผรสุอาทีนํ ทณฺโฑติ เอเตสุ ยํ กิฺจิ วิปฺปกตตจฺฉนกมฺมํ อนิฏฺิตเมว ภาชนียํ, ตจฺฉิตมฏฺํ ปน ครุภณฺฑํ โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑).

๒๘๙๓. นิฏฺิโต ตจฺฉิโต วาปีติ ตจฺฉิตนิฏฺิโตปิ. วิโธติ กายพนฺธเน อนุฺาตวิโธ. หิงฺคุกรณฺฑโกติ หิงฺคุมโย วา ตทาธาโร วา กรณฺฑโก. อฺชนีติ อฺชนนาฬิกา จ อฺชนกรณฺฑโก จ. สลากาโยติ อฺชนิสลากา. อุทปุฺฉนีติ หตฺถิทนฺตวิสาณาทิมยา อุทกปุฺฉนี. อิทํ สพฺพํ ภาชนียเมว.

๒๘๙๔. ปริโภคารหนฺติ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคโยคฺคํ. กุลาลภณฺฑนฺติ ฆฏปิราทิกุมฺภการภณฺฑมฺปิ. ปตฺตงฺคารกฏาหนฺติ ปตฺตกฏาหํ, องฺคารกฏาหฺจ. ธูมทานํ นาฬิกา. กปลฺลิกาติ ทีปกปลฺลิกา.

๒๘๙๕. ถุปิกาติ ปาสาทาทิถุปิกา. ทีปรุกฺโขติ ปทีปาธาโร. จยนจฺฉทนิฏฺกาติ ปาการเจติยาทีนํ จยนิฏฺกา จ เคหาทีนํ ฉทนิฏฺกา จ. สพฺพมฺปีติ ยถาวุตฺตํ สพฺพมฺปิ อนวเสสํ ปริกฺขารํ.

๒๘๙๖. กฺจนโกติ สรโก. ฆฏโกติ ปาทคณฺหนกโต อนติริตฺตปฺปมาโณ ฆฏโก. ‘‘ยถา จ มตฺติกาภณฺเฑ, เอวํ โลหภณฺเฑปิ กุณฺฑิกา ภาชนียโกฏฺาสเมว ภชตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถานยํ สงฺคเหตุมาห ‘‘โลหภณฺเฑปิ กุณฺฑิกาปิ จ ภาชิยา’’ติ.

๒๘๙๗. ครุ นาม ปจฺฉิมํ ครุภณฺฑตฺตยํ. ถาวรํ นาม ปุริมทฺวยํ. สงฺฆสฺสาติ สงฺเฆน. ปริวตฺเตตฺวาติ ปุคฺคลิกาทีหิ ตาทิเสหิ เตหิ ปริวตฺเตตฺวา. ตตฺรายํ ปริวตฺตนนโย (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) – สงฺฆสฺส นาฬิเกราราโม ทูเร โหติ, กปฺปิยการกา ตํ พหุตรํ ขาทนฺติ, ตโต สกฏเวตนํ ทตฺวา อปฺปเมว อาหรนฺติ, อฺเสํ ปน ตสฺส อารามสฺส อวิทูรคามวาสีนํ มนุสฺสานํ วิหารสฺส สมีเป อาราโม โหติ, เต สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา สเกน อาราเมน ตํ อารามํ ยาจนฺติ, สงฺเฆน ‘‘รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ อปโลเกตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ. สเจปิ ภิกฺขูนํ รุกฺขสหสฺสํ โหติ, มนุสฺสานํ ปฺจสตานิ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ อาราโม ขุทฺทโก’’ติ น วตฺตพฺพํ. กิฺจาปิ หิ อยํ ขุทฺทโก, อถ โข อิตรโต พหุตรํ อายํ เทติ. สเจปิ สมกเมว เทติ, เอวมฺปิ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปริภุฺชิตุํ สกฺกาติ คเหตพฺพเมว.

สเจ ปน มนุสฺสานํ พหุตรา รุกฺขา โหนฺติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ พหุตรา รุกฺขา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘อติเรกํ อมฺหากํ ปุฺํ โหตุ, สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ รุกฺขา ผลธาริโน, มนุสฺสานํ รุกฺขา น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ. กิฺจาปิ น คณฺหนฺติ, น จิรสฺเสว คณฺหิสฺสนฺตีติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพเมว. มนุสฺสานํ รุกฺขา ผลธาริโน, ภิกฺขูนํ น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ. ‘‘นนุ ตุมฺหากํ รุกฺขา ผลธาริโน’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปุฺํ ภวิสฺสตี’’ติ วทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ อาราเมน อาราโม ปริวตฺเตตพฺโพ. เอเตเนว นเยน อารามวตฺถุปิ วิหาโรปิ วิหารวตฺถุปิ อาราเมน ปริวตฺเตตพฺพํ. อารามวตฺถุนา จ มหนฺเตน วา ขุทฺทเกน วา อารามอารามวตฺถุวิหารวิหารวตฺถูนิ.

กถํ วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ? สงฺฆสฺส อนฺโตคาเม เคหํ โหติ, มนุสฺสานํ วิหารมชฺเฌ ปาสาโท, อุโภปิ อคฺเฆน สมกา, สเจ มนุสฺสา เตน ปาสาเทน ตํ เคหํ ยาจนฺติ, สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ เจ มหคฺฆตรํ เคหํ โหติ, ‘‘มหคฺฆตรํ อมฺหากํ เคห’’นฺติ วุตฺเต จ ‘‘กิฺจาปิ มหคฺฆตรํ, ปพฺพชิตานํ ปน อสารุปฺปํ, น สกฺกา ตตฺถ ปพฺพชิเตหิ วสิตุํ, อิทํ ปน สารุปฺปํ, คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, เอวมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน มนุสฺสานํ มหคฺฆํ โหติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ เคหํ มหคฺฆ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ‘‘โหตุ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปุฺํ ภวิสฺสติ, คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปน สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ. เอเตเนว นเยน วิหารวตฺถุปิ อาราโมปิ อารามวตฺถุปิ วิหาเรน ปริวตฺเตตพฺพํ. วิหารวตฺถุนา จ มหคฺเฆน วา อปฺปคฺเฆน วา วิหารวิหารวตฺถุอารามอารามวตฺถูนิ. เอวํ ตาว ถาวเรน ถาวรปริวตฺตนํ เวทิตพฺพํ.

ครุภณฺเฑน ครุภณฺฑปริวตฺตเน ปน มฺจปีํ มหนฺตํ วา โหตุ ขุทฺทกํ วา, อนฺตมโส จตุรงฺคุลปาทกํ คามทารเกหิ ปํสฺวาคารเกสุ กีฬนฺเตหิ กตมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ โหติ. สเจปิ ราชราชมหามตฺตาทโย เอกปฺปหาเรเนว มฺจสตํ วา มฺจสหสฺสํ วา เทนฺติ, สพฺเพ กปฺปิยมฺจา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพา, สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วุฑฺฒปฏิปาฏิยา ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชถา’’ติ ทาตพฺพา, ปุคฺคลิกวเสน น ทาตพฺพา. อติเรกมฺเจ ภณฺฑาคาราทีสุ ปฺเปตฺวา ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตุมฺปิ วฏฺฏติ.

พหิสีมาย ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ ทินฺนมฺโจ สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน ทาตพฺโพ. ตตฺถ เจ พหู มฺจา โหนฺติ, มฺเจน กมฺมํ นตฺถิ, ยสฺส วสนฏฺาเน กมฺมํ อตฺถิ, ตตฺถ ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชถา’’ติ ทาตพฺโพ. มหคฺเฆน สตคฺฆนเกน, สหสฺสคฺฆนเกน วา มฺเจน อฺํ มฺจสตํ ลภติ, ปริวตฺเตตฺวา คเหตพฺพํ. น เกวลํ มฺเจน มฺโจเยว, อารามอารามวตฺถุวิหารวิหารวตฺถุปีภิสิพิมฺโพหนานิปิ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏนฺติ. เอส นโย ปีภิสิพิมฺโพหเนสุปิ เอเตสุ หิ กปฺปิยากปฺปิยํ วุตฺตนยเมว. ตตฺถ อกปฺปิยํ น ปริภุฺชิตพฺพํ, กปฺปิยํ สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพํ. อกปฺปิยํ วา มหคฺฆํ กปฺปิยํ วา ปริวตฺเตตฺวา วุตฺตวตฺถูนิ คเหตพฺพานิ, อครุภณฺฑุปคํ ปน ภิสิพิมฺโพหนํ นาม นตฺถีติ.

๒๘๙๘. ภิกฺขุ อโธเตน ปาเทน, อลฺลปาเทน วา เสนาสนํ นกฺกเมติ สมฺพนฺโธ. สยนฺติ เอตฺถ, อาสนฺติ จาติ สยนาสนํ, ปริกมฺมกตภูมตฺถรณาทิ. อลฺลปาเทน วาติ เยน อกฺกนฺตฏฺาเน อุทกํ ปฺายติ, เอวรูเปน ตินฺตปาเทน. ยถาห – ‘‘อลฺเลหิ ปาเทหีติ เยหิ อกฺกนฺตฏฺาเน อุทกํ ปฺายติ, เอวรูเปหิ ปาเทหิ ปริภณฺฑกตภูมิ วา เสนาสนํ วา น อกฺกมิตพฺพํ. สเจ ปน อุทกสิเนหมตฺตเมว ปฺายติ, น อุทกํ, วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๔). สอุปาหโนติ เอตฺถ ‘‘โธตปาทก’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ปาเท ปฏิมุกฺกาหิ อุปาหนาหิ สอุปาหโน ภิกฺขุ โธตปาทกํ โธตปาเทหิ อกฺกมิตพฺพฏฺานํ ตเถว น อกฺกเมติ โยชนา.

๒๘๙๙. ปริกมฺมกตายาติ สุธาทิปริกมฺมกตาย. นิฏฺุภนฺตสฺสาติ เขฬํ ปาเตนฺตสฺส. ปริกมฺมกตํ ภิตฺตินฺติ เสตภิตฺตึ วา จิตฺตกมฺมกตํ วา ภิตฺตึ. น เกวลฺจ ภิตฺติเมว, ทฺวารมฺปิ วาตปานมฺปิ อปสฺเสนผลกมฺปิ ปาสาณตฺถมฺภมฺปิ รุกฺขตฺถมฺภมฺปิ จีวเรน วา เกนจิ วา อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา อปสฺสยิตุํ น ลภติเยว. ‘‘ทฺวารวาตปานาทโย ปน อปริกมฺมกตาปิ อปฏิจฺฉาเทตฺวา น อปสฺสยิตพฺพา’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ.

๒๙๐๑. นิทฺทายโต ตสฺส โกจิ สรีราวยโว ปจฺจตฺถรเณ สงฺกุฏิเต สหสา ยทิ มฺจํ ผุสติ, ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๙๐๒. โลเมสุ มฺจํ ผุสนฺเตสุ. หตฺถปาทานํ ตเลน อกฺกมิตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. มฺจปีํ นีหรนฺตสฺส กาเย ปฏิหฺติ, อนาปตฺติ.

‘‘ทายเกหิ ‘กาเยน ผุสิตฺวา ยถาสุขํ ปริภุฺชถา’ติ ทินฺนเสนาสนํ, มฺจปีาทิฺจ ทายเกน วุตฺตนิยาเมน ปริภุฺชนฺตสฺส โทโส นตฺถี’’ติ มาติกฏฺกถาย สีหฬคณฺิปเท วุตฺตตฺตา ตถา ปริภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ. ‘‘อิมํ มฺจปีาทึ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ครุภณฺฑํ โหติ, น ภาเชตพฺพํ สงฺฆสฺส ปรามฏฺตฺตา. ‘‘อิมํ มฺจปีาทึ ภทนฺตานํ วสฺสคฺเคน คณฺหิตุํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต สติปิ ครุภณฺฑภาเว กปฺปิยวตฺถุํ ภาเชตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, อกปฺปิยภณฺฑเมว ภาเชตฺวา คเหตุํ น ลพฺภติ. ‘‘อิมํ มฺจปีํ วสฺสคฺเคน คเหตุํ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเต วสฺสคฺเคน ภาเชตฺวา คเหตพฺพํ วสฺสคฺเคน ภาชนํ ปมํ วตฺวา ปจฺฉา สงฺฆสฺส ปรามฏฺตฺตา. ‘‘สงฺฆสฺส อิมํ มฺจปีํ วสฺสคฺเคน คณฺหิตุํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน ครุภณฺฑํ โหติ ปมํ สงฺฆสฺส ปรามฏฺตฺตาติ อยมฺปิ วิเสโส มาติกฏฺกถา คณฺิปเทเยว วุตฺโต.

๒๙๐๓-๔. อุทฺเทสภตฺตวินิจฺฉเยกเทสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สหสฺสคฺฆนโก’’ติอาทิ. สหสฺสคฺฆนโก สจีวโร ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกํ ภิกฺขุํ ปตฺโต, ตสฺมึ วิหาเร จ ‘‘เอวรูโป ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกํ ภิกฺขุํ ปตฺโต’’ติ ลิขิตฺวา ปิโตปิ จ โหติ, ตโต สฏฺิวสฺสานมจฺจเย ตาทิโส สหสฺสคฺฆนโก สจีวโร โกจิ ปิณฺฑปาโต สเจ อุปฺปนฺโน โหติ, ตํ ปิณฺฑปาตํ พุโธ วินิจฺฉยกุสโล ภิกฺขุ อวสฺสิกฏฺิติกาย อทตฺวา สฏฺิวสฺสิกฏฺิติกาย ทเทยฺยาติ โยชนา.

๒๙๐๕. อุทฺเทสภตฺตํ ภุฺชิตฺวาติ อุปสมฺปนฺนกาเล อตฺตโน วสฺสคฺเคน ปตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ ปริภุฺชิตฺวา. ชาโต เจ สามเณรโกติ สิกฺขาปจฺจกฺขานาทิวเสน สเจ สามเณโร ชาโต. นฺติ อุปสมฺปนฺนกาเล คหิตํ ตเทว อุทฺเทสภตฺตํ. สามเณรสฺส ปาฬิยาติ สามเณรปฏิปาฏิยา อตฺตโน ปตฺตํ ปจฺฉา คเหตุํ ลภติ.

๒๙๐๖. โย สามเณโร สมฺปุณฺณวีสติวสฺโส ‘‘สฺเว อุทฺเทสํ ลภิสฺสตี’’ติ วตฺตพฺโพ, อชฺช โส อุปสมฺปนฺโน โหติ, ิติกา อตีตา สิยาติ โยชนา, สฺเว ปาเปตพฺพา สามเณรฏฺิติกา อชฺช อุปสมฺปนฺนตฺตา อติกฺกนฺตา โหตีติ อตฺโถ, ตํ ภตฺตํ น ลภตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๙๐๗. อุทฺเทสภตฺตานนฺตรํ สลากภตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ. สเจ สลากา ลทฺธา, ตํทิเน ภตฺตํ น ลทฺธํ, ปุนทิเน ตสฺส ภตฺตํ คเหตพฺพํ, น สํสโย ‘‘คเหตพฺพํ นุ โข, น คเหตพฺพ’’นฺติ เอวํ สํสโย น กาตพฺโพติ โยชนา.

๒๙๐๘. อุตฺตริ อุตฺตรํ อติเรกํ ภงฺคํ พฺยฺชนํ เอตสฺสาติ อุตฺตริภงฺคํ, ตสฺส, อติเรกพฺยฺชนสฺสาติ อตฺโถ. เอกจรสฺสาติ เอกจาริกสฺส. สลากาเยว สลากิกา.

๒๙๐๙. อุตฺตริภงฺคเมว อุตฺตริภงฺคกํ.

๒๙๑๐. เยน เยน หีติ คาหิตสลาเกน เยน เยน ภิกฺขุนา. ยํ ยนฺติ ภตฺตพฺยฺชเนสุ ยํ ยํ ภตฺตํ วา ยํ ยํ พฺยฺชนํ วา.

๒๙๑๑. สงฺฆุทฺเทสาทิกนฺติ สงฺฆภตฺตอุทฺเทสภตฺตาทิกํ. อาทิ-สทฺเทน นิมนฺตนํ, สลากํ, ปกฺขิกํ, อุโปสถิกํ, ปาฏิปทิกนฺติ ปฺจ ภตฺตานิ คหิตานิ.

ตตฺถ สพฺพสงฺฆสฺส ทินฺนํ สงฺฆภตฺตํ นาม. ‘‘สงฺฆโต เอตฺตเก ภิกฺขู อุทฺทิสิตฺวา เทถา’’ติอาทินา วตฺวา ทินฺนํ อุทฺเทสภตฺตํ. ‘‘สงฺฆโต เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ ภตฺตํ คณฺหถา’’ติอาทินา วตฺวา ทินฺนํ นิมนฺตนํ นาม. อตฺตโน อตฺตโน นาเมน สลากคาหกานํ ภิกฺขูนํ ทินฺนํ สลากภตฺตํ นาม. จาตุทฺทสิยํ ทินฺนํ ปกฺขิกํ. อุโปสเถ ทินฺนํ อุโปสถิกํ. ปาฏิปเท ทินฺนํ ปาฏิปทิกํ. ตํตํนาเมน ทินฺนเมว ตถา ตถา โวหรียติ. เอเตสํ ปน วิตฺถารกถา ‘‘อภิลกฺขิเตสู’’ติอาทินา (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๕ ปกฺขิกภตฺตาทิกถา) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา. อาคนฺตุกาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน คมิกภตฺตํ, คิลานภตฺตํ, คิลานุปฏฺากภตฺตนฺติ ตีณิ คหิตานิ. อาคนฺตุกานํ ทินฺนํ ภตฺตํ อาคนฺตุกภตฺตํ. เอเสว นโย เสเสสุ.

๒๙๑๒. วิหารนฺติ วิหารภตฺตํ อุตฺตรปทโลเปน, วิหาเร ตตฺรุปฺปาทภตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. วารภตฺตนฺติ ทุพฺภิกฺขสมเย ‘‘วาเรน ภิกฺขู ชคฺคิสฺสามา’’ติ ธุรเคหโต ปฏฺาย ทินฺนํ. นิจฺจนฺติ นิจฺจภตฺตํ อุตฺตรปทโลเปน, ตฺจ ตถา วตฺวาว ทินฺนํ. กุฏิภตฺตํ นาม สงฺฆสฺส อาวาสํ กตฺวา ‘‘อมฺหากํ เสนาสนวาสิโน อมฺหากํ ภตฺตํ คณฺหนฺตู’’ติ ทินฺนํ. ปนฺนรสวิธํ สพฺพเมว ภตฺตํ อิธ อิมสฺมึ เสนาสนกฺขนฺธเก อุทฺทิฏฺํ กถิตํ. เอเตสํ วิตฺถารวินิจฺฉโย อตฺถิเกหิ สมนฺตปาสาทิกาย คเหตพฺโพ.

๒๙๑๓. ปจฺจยภาชเน มิจฺฉาปฏิปตฺติยา มหาทีนวตฺตา อปฺปมตฺเตเนว ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ ปจฺจยภาชนกํ อนุสาสนฺโต อาห ‘‘ปาฬิ’’นฺติอาทิ.

เสนาสนกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

วตฺตกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๙๑๔-๕. อาคนฺตุโก จ อาวาสิโก จ ปิณฺฑจาริโก จ เสนาสนฺจ อารฺโก จ อนุโมทนา จาติ วิคฺคโห, ตาสุ วตฺตานิ, อิตรีตรโยคทฺวนฺทสมาสสฺส อุตฺตรปทลิงฺคตฺตา อิตฺถิ ลิงฺคนิทฺเทโส. ภตฺเต ภตฺตคฺเค, อุตฺตรปทโลโป. ‘‘ภตฺเต’’ติอาทีหิ ปเทหิ ‘‘วตฺตานี’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ.

อาจริโย จ อุปชฺฌายโก จ สิสฺโส จ สทฺธิวิหาริโก จ, เตสํ วตฺตานีติ วิคฺคโห. สพฺพโสติ สพฺพาวยวเภเทหิ. จตุทฺทเสวาติ อวยวเภเทหิ พหุวิธานิปิ วตฺตานิ วิสยเภเทน จุทฺทส เอว วุตฺตานิ. วิสุทฺธจิตฺเตนาติ สวาสนสกลสํกิเลสปฺปหานโต อจฺจนฺตปริสุทฺธจิตฺตสนฺตาเนน. วินายเกนาติ สตฺเต วิเนตีติ วินายโก, อนุตฺตรปุริสทมฺมสารถิภาเวน ทมฺมเทวพฺรหฺมนาคาทิเก สตฺเต นานาวิเธน วินยนุปาเยน ทเมตีติ อตฺโถ. อถ วา วิคโต นายโก อสฺสาติ วินายโก, เตน.

๒๙๑๖. อารามนฺติ เอตฺถ ตํสมีเป ตพฺโพหาโร. ยถาห ‘‘อิทานิ ‘อารามํ ปวิสิสฺสามี’ติ อิมินา อุปจารสีมสมีปํ ทสฺเสติ, ตสฺมา อุปจารสีมํ ปตฺวา อุปาหนาโอมุฺจนาทิ สพฺพํ กาตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๗). ‘‘ปน อปเนตพฺพ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. มุฺจิตพฺพาติ อุปาหนา ปาทโต อปเนตพฺพา.

๒๙๑๗. โอคุณฺนนฺติ สสีสปารุปนํ. สีเส จีวรเมว วา น กาตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. เตนาติ อาคนฺตุเกน. ปานียวารินาติ ปาตพฺพชเลน.

๒๙๑๘. ปุจฺฉิตฺวาติ วสฺสคณนํ ปุจฺฉิตฺวา. วิหาเร วุฑฺฒภิกฺขุโน อาคนฺตุเกน ภิกฺขุนา วนฺทิตพฺพาว. กาเลติ กาลสฺเสว. เตน อาคนฺตุเกน ภิกฺขุนา เสนาสนํ ‘‘มยฺหํ กตรํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพฺจาติ โยชนา.

๒๙๑๙. ‘‘ปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติ อิทํ ‘‘วจฺจฏฺาน’’นฺติอาทิเกหิ สพฺเพหิ อุปโยคนฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ปานียเมว จาติ ‘‘กึ อิมิสฺสา โปกฺขรณิยา ปานียเมว ปิวนฺติ, อุทาหุ นหานาทิปริโภคมฺปิ กโรนฺตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๗) อฏฺกถาคตนเยน ปานียฺจ. ตถา ปริโภชนียฺจ. สงฺฆกติกนฺติ ‘‘เกสุจิ าเนสุ วาฬมิคา วา อมนุสฺสา วา โหนฺติ, ตสฺมา กํ กาลํ ปวิสิตพฺพํ, กํ กาลํ นิกฺขมิตพฺพ’’นฺติ อฏฺกถาคตนเยน สงฺฆสฺส กติกสณฺานฺจ. โคจราทิกนฺติ เอตฺถ จ ‘‘โคจโร ปุจฺฉิตพฺโพติ ‘โคจรคาโม อาสนฺเน, อุทาหุ ทูเร, กาลสฺเสว จ ปิณฺฑาย จริตพฺพํ, อุทาหุ โน’ติ เอวํ ภิกฺขาจาโร ปุจฺฉิตพฺโพ’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๗) วุตฺตนเยน โคจรฺจ. อาทิ-สทฺเทน อโคจรํ คหิตํ. ‘‘อโคจโร นาม มิจฺฉาทิฏฺิกานํ วา คาโม ปริจฺฉินฺนภิกฺโข วา คาโม, ยตฺถ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา ภิกฺขา ทิยฺยติ, โสปิ ปุจฺฉิตพฺโพ’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๗) วุตฺตนเยน อโคจรฺจ.

๒๙๒๐. เอวํ อาคนฺตุกวตฺตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อาวาสิกวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วุฑฺฒ’’นฺติอาทิ. ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตฺจ จีวรฺจ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ โยชนา. จ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ.

๒๙๒๑. ตสฺสาติ อาคนฺตุกสฺส. ปาโททกฺจาติ -สทฺเทน โธตาโธตปาทา ยตฺถ ปียนฺติ, ตํ ปาทปีํ, ปาทกถลิกฺจ อุปนิกฺขิปิตพฺพนฺติ เอตํ คหิตํ. ปุจฺฉิตพฺพฺจ วารินาติ ‘‘ปานีเยน ปุจฺฉนฺเตน สเจ สกึ อานีตํ ปานียํ สพฺพํ ปิวติ, ‘ปุน อาเนมี’ติ ปุจฺฉิตพฺโพเยวา’’ติ วุตฺตนเยน ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ. อิธ -สทฺเทน –

‘‘อปิจ พีชเนนปิ พีชิตพฺโพ, พีชนฺเตน สกึ ปาทปิฏฺิยํ พีชิตฺวา สกึ มชฺเฌ, สกึ สีเส พีชิตพฺพํ, ‘อลํ โหตู’ติ วุตฺเตน ตโต มนฺทตรํ พีชิตพฺพํ. ปุน ‘อล’นฺติ วุตฺเตน ตโต มนฺทตรํ พีชิตพฺพํ. ตติยวารํ วุตฺเตน พีชนี เปตพฺพา. ปาทาปิสฺส โธวิตพฺพา, โธวิตฺวา สเจ อตฺตโน เตลํ อตฺถิ, เตน มกฺเขตพฺพา. โน เจ อตฺถิ, ตสฺส สนฺตเกน มกฺเขตพฺพา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๙) –

วุตฺตวตฺตานิ สงฺคณฺหาติ.

๒๙๒๒-๓. วนฺเทยฺโยติ วุฑฺฒาคนฺตุโก วนฺทิตพฺโพ. ปฺเปตพฺพนฺติ ‘‘กตฺถ มยฺหํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ ปุจฺฉิเตน เสนาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ‘‘เอตํ เสนาสนํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ‘‘วตฺตพฺโพ’’ติ อิทํ ‘‘อชฺฌาวุตฺถมวุตฺถ’’นฺติอาทีหิ ปเทหิ ตํตํลิงฺควจนานุรูเปน ปริวตฺเตตฺวา ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. อชฺฌาวุตฺถนฺติ ปฺตฺตเสนาสนสฺส ภิกฺขูหิ ปมํ วุตฺถภาวํ. อวุตฺถํ วาติ จีวรกาลํ ตสฺมึ ภิกฺขูหิ อนชฺฌาวุตฺถภาวํ วา. โคจราโคจรํ วุตฺตเมว.

เสกฺขกุลานิ จาติ ลทฺธเสกฺขสมฺมุติกานิ กุลานิ จ วตฺตพฺพานิ. ‘‘ปเวเส นิกฺขเม กาโล’’ติ อิทํ ‘‘สงฺฆกติก’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตตฺถเมว. ปานียาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน ปริโภชนียกตฺตรยฏฺีนํ อาจิกฺขนํ สงฺคณฺหาติ.

๒๙๒๔. ยถานิสินฺเนเนวาติ อตฺตนา นิสินฺนฏฺาเนเยว นิสินฺเนน. อสฺสาติ นวกสฺส.

๒๙๒๕. ‘‘อตฺร ปตฺตํ เปหิ, อิทมาสนํ นิสีทาหี’’ติ อิจฺเจวํ อิมินา ปกาเรน สพฺพํ วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. เทยฺยํ เสนาสนมฺปิ จาติ เสนาสนฺจ ทาตพฺพํ. -สทฺเทน ‘‘อวุตฺถํ วา อชฺฌาวุตฺถํ วา อาจิกฺขิตพฺพ’’นฺติอาทินา วุตฺตํ สมฺปิณฺเฑติ. มหาอาวาเสปิ อตฺตโน สนฺติกํ สมฺปตฺตสฺส อาคนฺตุกสฺส วตฺตํ อกาตุํ น ลพฺภติ.

๒๙๒๖. ‘‘มาติกาย นิทฺทิฏฺกฺกเมเนว วตฺตานิ กาตพฺพานิ, อุทาหุ ยถานุปฺปตฺติวเสนา’’ติ โกจิ มฺเยฺยาติ มาติกากฺกเมเนว กาตพฺพนฺติ นิยโม นตฺถิ, ยถานุปฺปตฺตวเสเนว กาตพฺพนฺติ วิฺาเปตุํ มาติกากฺกมมนาทิยิตฺวา คมิกวตฺตํ อารทฺธํ. อถ วา วตฺติจฺฉานุปุพฺพกตฺตา สทฺทปโยคสฺส มาติกากฺกมมนาทิยิตฺวา ยถิจฺฉํ นิทฺเทโส กโตติ เวทิตพฺโพติ. ทารุมตฺติกภณฺฑานีติ มฺจปีาทีนิ เจว รชนภาชนานิ จ. ปฏิสาเมตฺวาติ คุตฺตฏฺาเน เปตฺวา. อาวสถมฺปิ ถเกตฺวาติ อาวสเถ ทฺวารกวาฏาทีนิ จ ถเกตฺวา.

๒๙๒๗. อาปุจฺฉิตฺวาปีติ ภิกฺขุสฺส วา สามเณรสฺส วา อารามิกสฺส วา ‘‘อิมํ ปฏิชคฺคาหี’’ติ นิยฺยาเทตฺวา วา. ปุจฺฉิตพฺเพ อสนฺเตปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ปน-สทฺทตฺโถ. โคเปตฺวา วาปิ สาธุกนฺติ ‘‘จตูสุ ปาสาเณสุ มฺจํ ปฺเปตฺวา มฺเจ มฺจํ อาโรเปตฺวา’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๖๐) วุตฺตนเยน สมฺมา ปฏิสาเมตฺวา คนฺตพฺพนฺติ โยชนา.

๒๙๒๘. ปิณฺฑจาริกวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สหสา’’ติอาทิ. ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ อนฺตรฆรํ ปวิสนฺโต สหสา น ปวิเส สีฆํ น ปวิเสยฺย, นิกฺขมนฺโต สหสา น นิกฺขเม สีฆํ น นิกฺขเมยฺย, ภิกฺขุสารุปฺเปน ปวิเสยฺย, นิกฺขเมยฺย จ. ปิณฺฑจารินา ภิกฺขุนา เคหทฺวารํ สมฺปตฺเตน อติทูเร น าตพฺพํ นิพฺพโกสโต อติทูรฏฺาเน น าตพฺพํ. อจฺจาสนฺเน น าตพฺพํ นิพฺพโกสโต อาสนฺนตเร าเน น าตพฺพํ.

๒๙๒๙. อุจฺจาเรตฺวาติ อุปนาเมตฺวา. ภาชนนฺติ ปตฺตํ. ทกฺขิเณน ปณาเมตฺวาติ ทกฺขิเณน หตฺเถน อุปนาเมตฺวา. ภิกฺขํ คณฺเหยฺยาติ เอตฺถ ‘‘อุโภหิ หตฺเถหิ ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘อุโภหิ หตฺเถหิ ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ภิกฺขา คเหตพฺพา’’ติ (จูฬว. ๓๖๖).

๒๙๓๐. สูปํ ทาตุกามา วา อทาตุกามา วา อิติ มุหุตฺตกํ สลฺลกฺเขยฺย ติฏฺเยฺย. อนฺตราติ ภิกฺขาทานสมเย. ภิกฺขาทายิกาติ อิตฺถี วา โหตุ ปุริโส วา, ภิกฺขาทานสมเย มุขํ น โอโลเกตพฺพนฺติ.

๒๙๓๑. ปิณฺฑจาริกวตฺตํ ทสฺเสตฺวา อารฺิกวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปานียาที’’ติอาทิ. ปานียาทีติ อาทิ-สทฺเทน ปริโภชนียอคฺคิอรณิสหิตกตฺตรยฏฺีนํ คหณํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ปานียํ อุปฏฺาเปตพฺพนฺติ สเจ ภาชนานิ นปฺปโหนฺติ, ปานียเมว ปริโภชนียมฺปิ กตฺวา อุปฏฺาเปตพฺพํ. ภาชนํ อลภนฺเตน เวฬุนาฬิกายปิ อุปฏฺาเปตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ยถา สมีเป ขุทฺทกอาวาโฏ โหติ, เอวํ กาตพฺพํ. อรณิสหิเต อสติ อคฺคึ อกาตุมฺปิ จ วฏฺฏติ. ยถา จ อารฺิกสฺส, เอวํ กนฺตารปฏิปนฺนสฺสาปิ อรณิสหิตํ อิจฺฉิตพฺพํ. คณวาสิโน ปน เตน วินาปิ วฏฺฏตีติ.

นกฺขตฺตนฺติ อสฺสยุชาทิสตฺตวีสติวิธํ นกฺขตฺตํ ชานิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. กถํ ชานิตพฺพนฺติ อาห ‘‘เตน โยโค จา’’ติ, เตน นกฺขตฺเตน จนฺทสฺส โยโค าตพฺโพติ อตฺโถ. ชานิตพฺพา ทิสาปิ จาติ อรฺเ วิหรนฺเตน อฏฺปิ ทิสา อสมฺโมหโต ชานิตพฺพา.

๒๙๓๒. อฺวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วจฺจปสฺสาวติตฺถานี’’ติอาทิ. ปฏิปาฏิยา ภวนฺตีติ คตานุกฺกเมน เสวิตพฺพา ภวนฺติ. ยถาห – ‘‘วจฺจกุฏิยํ, ปสฺสาวฏฺาเน, นฺหานติตฺเถติ ตีสุปิ อาคตปฏิปาฏิเยว ปมาณ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๗๓). ยถาวุฑฺฒํ กโรนฺตสฺสาติ คตปฏิปาฏึ วินา วุฑฺฒปฏิปาฏิยา กโรนฺตสฺส.

๒๙๓๓. วจฺจกุฏึ ปวิสนฺโต สหสา น ปวิเสยฺย. อุพฺภชิตฺวาติ จีวรํ อุกฺขิปิตฺวา.

๒๙๓๔. นิตฺถุนนฺเตน ภิกฺขุนา วจฺจํ น กาตพฺพนฺติ โยชนา. ‘‘วจฺจสฺส ทุนฺนิคฺคมเนน อุปหโต หุตฺวา นิตฺถุนติ เจ, น โทโส’’ติ สิกฺขาภาชนวินิจฺฉเย วุตฺตํ. ทณฺฑกฏฺํ ขาทโต วจฺจํ กโรโต ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.

๒๙๓๖. ขเรนาติ ผรุเสน วา ผาลิตกฏฺเน วา คณฺิเกน วา กณฺฏเกน วา สุสิเรน วา ปูตินา วา ทณฺเฑน น อวเลเขยฺย น ปุฺเฉยฺย. น กฏฺํ วจฺจกูปเก ฉฑฺเฑยฺยาติ ตํ กฏฺํ วจฺจกูเป น ฉฑฺเฑยฺย. ปสฺสาวโทณิยา เขฬํ น ปาเตยฺยาติ โยชนา.

๒๙๓๗. ปาทุกาสูติ วจฺจปสฺสาวปาทุกาสุ. นิกฺขมเน นิกฺขมนกาเล. ตตฺเถวาติ วจฺจปสฺสาวปาทุกาสฺเวว. ปฏิจฺฉาเทยฺยาติ อุกฺขิตฺตํ จีวรํ โอตาเรตฺวา สรีรํ ปฏิจฺฉาเทยฺย.

๒๙๓๘. โย วจฺจํ กตฺวา สลิเล สติ สเจ นาจเมยฺย อุทกกิจฺจํ น กเรยฺย, ตสฺส ทุกฺกฏํ อุทฺทิฏฺนฺติ โยชนา. โมหนาสินาติ สวาสนสฺส โมหสฺส, เตน สหเชกฏฺปหาเนกฏฺานํ สกลสํกิเลสานฺจ ปหายินา อาสวกฺขยาเณน สมุจฺฉินฺทตา มุนินา สพฺพฺุนา สมฺมาสมฺพุทฺเธน. ‘‘สลิเล สตี’’ติ อิมินา อสติ นิทฺโทสตํ ทีเปติ. ยถาห –

‘‘สติ อุทเกติ เอตฺถ สเจ อุทกํ อตฺถิ, ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ ปน นตฺถิ, ภาชเนน นีหริตฺวา อาจมิตพฺพํ. ภาชเน อสติ ปตฺเตน นีหริตพฺพํ. ปตฺเตปิ อสติ อสนฺตํ นาม โหติ. ‘อิทํ อติวิวฏํ, ปุรโต อฺํ อุทกํ ภวิสฺสตี’ติ คตสฺส อุทกํ อลภนฺตสฺเสว ภิกฺขาจารเวลา โหติ, กฏฺเน วา เกนจิ วา ปุฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ, ภุฺชิตุมฺปิ อนุโมทนมฺปิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๗๓).

๒๙๓๙. สสทฺทนฺติ อุทกสทฺทํ กตฺวา. ‘‘ปาสาณาทิฏฺาเน ปหริตฺวา อุทกํ สทฺทายติ เจ, น โทโส’’ติ สิกฺขาภาชนวินิจฺฉเย วุตฺตํ. จปุ จปูติ จาติ ตาทิสํ อนุกรณํ กตฺวา นาจเมตพฺพนฺติ โยชนา. อาจมิตฺวาติ อุทกกิจฺจํ กตฺวา. สราเว อาจมนภาชเน อุทกํ น เสเสตพฺพนฺติ โยชนา, อิทํ ปน สพฺพสาธารณฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถาห อฏฺกถายํ

‘‘อาจมนสราวเกติ สพฺพสาธารณฏฺานํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตตฺร หิ อฺเ อฺเ อาคจฺฉนฺติ, ตสฺมา อุทกํ น เสเสตพฺพํ. ยํ ปน สงฺฆิเกปิ วิหาเร เอกเทเส นิพทฺธคมนตฺถาย กตํ านํ โหติ ปุคฺคลิกฏฺานํ วา, ตสฺมึ วฏฺฏติ. วิเรจนํ ปิวิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปวิสนฺตสฺสาปิ วฏฺฏติเยวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๗๔).

๒๙๔๐. อูหตมฺปีติ อฺเน วา อตฺตนา วา อสฺจิจฺจ อูหตํ มเลน ทูสิตฏฺานํ. อโธวิตฺวาติ ชเล สติ อโสเธตฺวา ชเล อสติ กฏฺเน วา เกนจิ วา ปุฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ. ยถาห – ‘‘อุทกํ อตฺถิ ภาชนํ นตฺถิ, อสนฺตํ นาม โหติ, ภาชนํ อตฺถิ อุทกํ นตฺถิ, เอตมฺปิ อสนฺตํ, อุภเย ปน อสติ อสนฺตเมว, กฏฺเน วา เกนจิ วา ปุฺฉิตฺวา คนฺตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๗๔). อุกฺลาปาปิ สเจ โหนฺตีติ วจฺจปสฺสาวฏฺานานิ สเจ กจวรากิณฺณานิ โหนฺติ. ‘‘อเสสโต โสเธตพฺพ’’นฺติ อิมินา ตโต กสฺสจิ กจวรสฺส อปนยนํ โสธนํ นาม น โหติ, นิสฺเสสกจวราปนยนเมว โสธนนฺติ ทีเปติ.

๒๙๔๑. ปิโรติ อวเลขนกฏฺนิกฺเขปนภาชนํ. กุมฺภี เจ ริตฺตาติ อาจมนกุมฺภี สเจ ตุจฺฉา.

๒๙๔๒. เอวํ วจฺจกุฏิวตฺตํ ทสฺเสตฺวา เสนาสนวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนชฺฌิฏฺโ’’ติอาทิ. อนชฺฌิฏฺโติ อนนุฺาโต.

๒๙๔๓. วุฑฺฒํ อาปุจฺฉิตฺวา กเถนฺตสฺสาติ โยชนา. วุฑฺฒตราคเมติ ยํ อาปุจฺฉิตฺวา กเถตุมารทฺโธ, ตโตปิ วุฑฺฒตรสฺส ภิกฺขุโน อาคเม สติ.

๒๙๔๔. เอกวิหารสฺมินฺติ เอกสฺมึ เคเห. ‘‘อนาปุจฺฉา’’ติ อิทํ วกฺขมาเนหิ ยถารหํ โยเชตพฺพํ.

๒๙๔๕. ปมํ ยตฺถ กตฺถจิ วุฑฺฒานํ สนฺนิธาเน กตฺตพฺพวตฺตํ นิทฺทิฏฺนฺติ อิทานิ เอกวิหาเร วสนฺเตนาปิ ตสฺส กาตพฺพตํ ทสฺเสตุํ ปุนปิ ‘‘น จ ธมฺโม กเถตพฺโพ’’ติ อาห. ธมฺมจกฺขุนาติ ธมฺมโลจเนน ธมฺมครุเกน, อิมินา อตาทิสสฺส กโต วาโร นิรตฺถโกติ ทีเปติ.

๒๙๔๖. กาตพฺโพติ ชาเลตพฺโพ. โสติ ทีโป. ‘‘ทฺวารํ นาม ยสฺมา มหาวฬฺชํ, ตสฺมา ตตฺถ อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๖๙) วจนโต ตํ อวตฺวา อาปตฺติกฺเขตฺตเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘วาตปานกวาฏานิ, ถเกยฺย วิวเรยฺย โน’’ติ.

๒๙๔๗. วุฑฺฒโต ปริวตฺตเยติ เยน วุฑฺโฒ, ตโต ปริวตฺตเย, ปิฏฺึ อทสฺเสตฺวา วุฑฺฒาภิมุโข เตน ปริวตฺตเยติ อตฺโถ. จีวรกณฺเณน วา กาเยน วา ตํ วุฑฺฒํ น จ ฆฏฺฏเย.

๒๙๔๘. เอวํ เสนาสนวตฺตํ ทสฺเสตฺวา ชนฺตาฆรวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุรโต’’ติอาทิ. เถรานํ ปุรโต เนว นฺหาเยยฺย, อุปริ ปฏิโสเต น จ นฺหาเยยฺย, โอตรนฺตานํ วุฑฺฒานํ อุตฺตรํ อุตฺตรนฺโต มคฺคํ ทเทยฺย, น ฆฏฺฏเย กาเยน วา จีวเรน วา น ฆฏฺฏเยยฺยาติ โยชนา.

‘‘ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๖๔) นเยน วุตฺตานํ ภตฺตคฺควตฺตานํ เสขิยกถาย วุตฺตตฺตา จ อุปชฺฌายวตฺตาทีนํ มหาขนฺธกกถาย วุตฺตตฺตา จ อนุโมทนวตฺตานํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภตฺตคฺเค จตูหิ ปฺจหิ เถรานุเถเรหิ ภิกฺขูหิ อาคเมตุ’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๓๖๒) นเยน ภตฺตคฺควตฺเตเยว อนฺโตคธภาเวน วุตฺตตฺตา จ นิทฺเทเส ตานิ น วุตฺตานิ, ตถาปิ เตสุ อนุโมทนวตฺตํ เอวํ เวทิตพฺพํ (จูฬว. อฏฺ. ๓๖๒) – สงฺฆตฺเถเร อนุโมทนตฺถาย นิสินฺเน เหฏฺา ปฏิปาฏิยา จตูหิ นิสีทิตพฺพํ. อนุเถเร นิสินฺเน มหาเถเรน จ เหฏฺา จ ตีหิ นิสีทิตพฺพํ. ปฺจเม นิสินฺเน อุปริ จตูหิ นิสีทิตพฺพํ. สงฺฆตฺเถเรน เหฏฺา ทหรภิกฺขุสฺมึ อชฺฌิฏฺเปิ สงฺฆตฺเถรโต ปฏฺาย จตูหิ นิสีทิตพฺพเมว. สเจ ปน อนุโมทโก ภิกฺขุ ‘‘คจฺฉถ, ภนฺเต, อาคเมตพฺพกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วทติ, คนฺตุํ วฏฺฏติ. มหาเถเรน ‘‘คจฺฉาม, อาวุโส’’ติ วุตฺเต ‘‘คจฺฉถา’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘พหิคาเม อาคเมสฺสามา’’ติ อาโภคํ กตฺวาปิ พหิคามํ คนฺตฺวา อตฺตโน นิสฺสิตเก ‘‘ตุมฺเห ตสฺส อาคมนํ อาคเมถา’’ติ วตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติเยว. สเจ ปน มนุสฺสา อตฺตโน รุจิเตน เอเกน อนุโมทนํ กาเรนฺติ, เนว ตสฺส อนุโมทโต อาปตฺติ, น จ มหาเถรสฺส ภาโร โหติ. อุปนิสินฺนกถายเมว หิ มนุสฺเสสุ กถาเปนฺเตสุ มหาเถโร อาปุจฺฉิตพฺโพ, มหาเถเรน จ อนุโมทนาย อชฺฌิฏฺโว อาคเมตพฺโพติ อิทเมตฺถ ลกฺขณนฺติ.

๒๙๔๙. วตฺตนฺติ ยถาวุตฺตํ อาภิสมาจาริกวตฺตํ. ยถาห – ‘‘อาภิสมาจาริกํ อปริปูเรตฺวา สีลํ ปริปูเรสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ. น วินฺทตีติ น ลภติ.

๒๙๕๐. อเนกคฺโคติ วิกฺขิตฺตตฺตาเยว อสมาหิตจิตฺโต. น จ ปสฺสตีติ าณจกฺขุนา น ปสฺสติ, ทฏฺุํ สมตฺโถ น โหตีติ อตฺโถ. ทุกฺขาติ ชาติทุกฺขาทิทุกฺขโต.

๒๙๕๑. ตสฺมาติ ยสฺมา ทุกฺขา น ปริมุจฺจติ, ตสฺมา. โอวาทํ กตฺวา กึ วิเสสํ ปาปุณาตีติ อาห ‘‘โอวาทํ พุทฺธเสฏฺสฺส, กตฺวา นิพฺพานเมหิตี’’ติ. เอหิติ ปาปุณิสฺสติ.

วตฺตกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

ภิกฺขุนิกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๙๕๒. วิวริตฺวาน จีวรํ อปเนตฺวา.

๒๙๕๓. ยํ กิฺจิ สมฺปโยเชนฺติยาติ ยํ กิฺจิ อนาจารํ กโรนฺติยา. ตโตติ เตน อนาจารสงฺขาเตน อสทฺธมฺเมน. ภาสนฺติยาติ วาจาย ภาสนฺติยา.

๒๙๕๔-๖. ทีฆนฺติ เอกปริกฺเขปโต ทีฆํ. วิลีเวน จ ปฏฺเฏนาติ สณฺเหหิปิ วิลีเวหิ กตปฏฺเฏน. จมฺมปฏฺเฏนาติ จมฺมมยปฏฺเฏน. ทุสฺสปฏฺเฏนาติ เสตวตฺเถน. ทุสฺสเวณิยาติ ทุสฺเสน คณฺิตเวณิยา. ทุสฺสวฏฺฏิยาติ ทุสฺเสน กตวฏฺฏิยา. น ผาสุกา นเมตพฺพาติ มชฺฌิมสฺส ตนุภาวตฺถาย คามทาริกา วิย ผาสุลิกา น นาเมตพฺพา. ชฆนนฺติ มุตฺตกรณปฺปเทสํ. อฏฺิกาทินาติ โคชาณุฏฺิกาทินา. น ฆํสาเปยฺยาติ น ฆฏฺฏาเปยฺย. ‘‘อฏฺิกาทินา’’ติ อิทํ ‘‘น ฆํสาเปยฺยา’’ติ อิมินา จ ‘‘โกฏฺฏาเปตี’’ติ อิมินา กิริยาปเทน จ สมฺพนฺธิตพฺพํ.

๒๙๕๗. ‘‘โกฏฺฏาเปตี’’ติ อิทํ ‘‘หตฺถํ วา’’ติอาทีหิ อุปโยคนฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. หตฺถนฺติ อคฺคพาหํ. หตฺถโกจฺฉนฺติ ปิฏฺิหตฺถํ. ปาทนฺติ ชงฺฆํ.

๒๙๕๘. น มุขํ ลิมฺปิตพฺพนฺติ ฉวิปสาทกเรน ติลสาสปกกฺกาทินา อเนกวิเธน ลิมฺปเนน น ลิมฺปิตพฺพํ. น จุณฺเณตพฺพนฺติ มุขจุณฺณเลปนํ น กาตพฺพํ. มโนสิลาย มุขํ ลฺชนฺติยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๙๕๙. องฺคราโค น กาตพฺโพติ หลิทฺทิกุงฺกุมาทีหิ สรีรจฺฉวิราโค น กาตพฺโพ. อวงฺคํ น จ กาตพฺพนฺติ อฺชนํ พหิ อกฺขิโกฏิยา เลขํ เปตฺวา น อฺชิตพฺพํ. น กาตพฺพํ วิเสสกนฺติ คณฺฑปเทเส วิจิตฺรสณฺานํ วิเสสกํ วตฺตภงฺคํ น กาตพฺพํ.

๒๙๖๐. โอโลกนกโตติ วาตปานโต. ราคาติ กามราเคน. โอโลเกตุนฺติ อนฺตรวีถึ วิโลเกตุํ, สาโลเก น จ าตพฺพนฺติ โยชนา. สาโลเก ทฺวารํ วิวริตฺวา อุปฑฺฒกายํ ทสฺเสนฺตีหิ น าตพฺพํ. สนจฺจนฺติ นฏสมชฺชํ.

๒๙๖๑. คณิกํ วุฏฺาเปนฺติยา เวสึ วุฏฺาเปนฺติยา. ‘‘วิกฺกิณนฺติยา’’ติ อิทํ ‘‘สุร’’นฺติอาทีหิ อุปโยคนฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ.

๒๙๖๓. เจวุปฏฺาเปตพฺโพติ อตฺตโน เวยฺยาวจฺจํ เนว การาเปตพฺโพ. ติรจฺฉานคโตปิ ทาโส วา ทาสี วา ติรจฺฉานคโตปิ กมฺมกโร วา น เจว อุปฏฺาเปตพฺโพ เนว อตฺตโน เวยฺยาวจฺจํ การาเปตพฺโพ. อปิ-สทฺเทน ปเคว มนุสฺสภูโตติ ทีเปติ.

๒๙๖๔. ‘‘สพฺพนีลาทิ’’นฺติ อิมินา –

‘‘สพฺพนีลกมฺเชฏฺ-กณฺหโลหิตปีตเก;

มหานามมหารงฺค-รตฺเตสู’’ติ. (วิ. วิ. ๕๙๘) –

วุตฺตานิ อกปฺปิยจีวรานิ สงฺคหิตานิ. ‘‘นมตกํ นาม เอฬกโลเมหิ กตํ อวายิมํ จมฺมขณฺฑปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๖๔) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา, คณฺิปเท จ ‘‘สนฺถรณสทิโส ปิโลติกาหิ กโต ปริกฺขารวิเสโส’’ติ วุตฺตตฺตา จ นิปชฺชาย ปริภุฺชิตพฺโพ ปริกฺขารวิเสโส นมตกํ นาม.

๒๙๖๕. ฉนฺนมฺปิ ปุริสพฺยฺชนํ ‘‘เอตฺถา’’ติ จินฺเตตฺวา ราคจิตฺเตน โอโลเกนฺติยา ทุกฺกฏํ โหติ. สพฺพนฺติ วุตฺตปฺปการํ สพฺพํ.

๒๙๖๖. ภิกฺขุํ ทูรโตว ปสฺสิตฺวา ตสฺส ภิกฺขุโน ทูรโต โอกฺกมิตฺวาน มคฺโค ทาตพฺโพติ โยชนา.

๒๙๖๗. ภิกฺขํ จรนฺติยา ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา ปน เยน ภิกฺขาย จรติ, ตํ ปตฺตํ นีหริตฺวา อุปริ ฉาเทตฺวา ิตํ สงฺฆาฏิจีวรํ อปเนตฺวา อุกฺกุชฺชํ อุทฺธํมุขํ กตฺวา ภิกฺขุโน ทสฺเสตพฺพนฺติ โยชนา.

๒๙๖๘. อุตุนีนํ ภิกฺขุนีนํ อุตุกาเล สฺชาตปุปฺเผ กาเล สํเวลฺลิกํ กาตุํ กจฺฉํ พนฺธิตุํ มเหสินา กฏิสุตฺตกํ อนุฺาตนฺติ โยชนา, อิมินา อฺสฺมึ กาเล กฏิสุตฺตกํ พนฺธิตุํ น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา สพฺพกาลํ กฏิสุตฺตกํ ธาเรตพฺพํ, ยา ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุตุนิยา กฏิสุตฺตก’’นฺติ (จูฬว. ๔๒๒).

๒๙๖๙. อิตฺถิโปสยุตนฺติ อิตฺถีหิ วา ปุริเสหิ วา อิตฺถิปุริเสหิ วา ยุตฺตํ. อิตฺถิโปสยุตฺตํ หตฺถวฏฺฏกเมว วา. ปาฏงฺกีติ ปฏโปฏฺฏลิกํ.

๒๙๗๐. ครุธมฺเมติ สงฺฆาทิเสเส. มานตฺตนฺติ ปกฺขมานตฺตํ. สมฺมนฺนิตฺวาติ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สมฺมนฺนิตฺวา.

๒๙๗๑. ยสฺสา อิตฺถิยา ปพฺพชิตกาเล คพฺโภ วุฏฺาติ วิชายติ ยทิ, ปุตฺโต เจ, ตสฺสาปิ ทารกมาตุ ยาว โส ทารโก วิฺุตํ ปาปุณาติ, ยาว ขาทิตุํ, ภุฺชิตุํ, นหายิตุฺจ อตฺตโน ธมฺมตาย สกฺโกติ, ตาว ทุติยา ภิกฺขุนี ตถา สมฺมนฺนิตฺวา ทาตพฺพาติ โยชนา.

๒๙๗๒. สา ปน มาตา ภิกฺขุนี อตฺตโน ปุตฺตํ ปาเยตุํ, โภเชตุํ, มณฺเฑตุํ, อุเร กตฺวา สยิตุฺจ ลภตีติ โยชนา.

๒๙๗๓. ทุติยิกาย ภิกฺขุนิยา ทารเกน สหเสยฺยํ เปตฺวา ยถา อฺเสุ ปุริเสสุ วตฺติตพฺพํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ, ตถา เอว ตสฺมึ ทารเก วตฺติตพฺพนฺติ โยชนา.

๒๙๗๔. วิพฺภเมเนวาติ อตฺตโน รุจิยา เสตวตฺถานํ คหเณเนว. ยถาห – ‘‘ยสฺมา สา วิพฺภนฺตา อตฺตโน รุจิยา ขนฺติยา โอทาตานิ วตฺถานิ นิวตฺถา, ตสฺมาเยว สา อภิกฺขุนี, น สิกฺขาปจฺจกฺขาเนนา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๔๓๔). อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน.

๒๙๗๕. คตายาติ เอตฺถ ‘‘สกาวาสา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘ยา สา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนี สกาวาสา ติตฺถายตนํ สงฺกนฺตา, สา อาคตา น อุปสมฺปาเทตพฺพา’’ติ. น เกวลํ น อุปสมฺปาเทตพฺพา, ปพฺพชฺชมฺปิ น ลภติ. โอทาตานิ คเหตฺวา วิพฺภนฺตา ปน ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ.

๒๙๗๖. วนฺทนนฺติ ปาเท สมฺพาเหตฺวา วนฺทนํ. สาทิตุํ วฏฺฏตีติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สาทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๓๔) อนุฺาตตฺตา วฏฺฏติ. ตตฺเรเก อาจริยา ‘‘สเจ เอกโต วา อุภโต วา อวสฺสุตา โหนฺติ สารตฺตา, ยถาวตฺถุกเมวา’’ติ วทนฺติ. เอเก อาจริยา ‘‘นตฺถิ เอตฺถ อาปตฺตี’’ติ วทนฺตีติ เอวํ อาจริยวาทํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อิทํ โอทิสฺส อนุฺาตํ วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตํ ปมาณํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สาทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๓๔) หิ วจเนเนว กปฺปิยํ.

๒๙๗๗. ยาย กายจิ วจฺจกุฏิยา วจฺโจ น กาตพฺโพ, เหฏฺา วิวเฏ อุทฺธํ ปฏิจฺฉนฺเน ปน วจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. เหฏฺา วิวเฏ อุปริ ปฏิจฺฉนฺเนติ อฏฺกถายํ ‘‘สเจ กูโป ขโต โหติ, อุปริ ปน ปทรมตฺตเมว สพฺพทิสาสุ ปฺายติ, เอวรูเปปิ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๔๓๕) วุตฺตํ.

๒๙๗๘. สพฺพตฺถาติ ภิกฺขุนิอุปสฺสยอนฺตรฆราทิสพฺพฏฺาเนสุ. คิลานายาติ ยสฺสา วินา ปลฺลงฺกํ น ผาสุ โหติ. อฑฺฒปลฺลงฺกนฺติ เอกปาทํ อาภุชิตฺวา กตปลฺลงฺกํ. โส เอกํ ปณฺหึ อูรุมูลาสนฺนํ กตฺวา อิตรํ ทูเร กตฺวา อาภุชิตปลฺลงฺโก นาม.

๒๙๗๙. นรติตฺเถติ ปุริสานํ นหานติตฺเถ. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา ปุริสติตฺเถ นหายิตพฺพํ, ยา นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มหิลาติตฺเถ นหายิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๓๖).

๒๙๘๐. ยา สมณี คนฺธจุณฺเณน วา วาสิตมตฺติยา วาสิตกาย มตฺติกาย วา ปฏิโสเต วา นฺหาเยยฺย, ตสฺสา อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. วาสิตวิเสสเนน อวาสิตา วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ยถาห – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปกติมตฺติก’’นฺติ (จูฬว. ๔๓๖).

๒๙๘๑. อภุตฺวาติ เอตฺถ อามิสอคฺคํ คหณมตฺตมฺปิ อกตฺวา, ปตฺตจีวรํ กติปยทิวสานิปิ อปริภุฺชิตฺวาติ อตฺโถ. สเจ อสปฺปายํ, สพฺพมฺปิ อปเนตุํ วฏฺฏติ.

๒๙๘๒. อนุปสมฺปนฺเน อสนฺเต สพฺพํ ภิกฺขูหิ ปฏิคฺคหิตํ วา อปฺปฏิคฺคหิตํ วา สนฺนิธิกตํ วา สพฺพํ อชฺโฌหรณียํ ภิกฺขูหิ ปฏิคฺคหาเปตฺวา ปริภุฺชิตุํ ภิกฺขุนีนํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘ภิกฺขุนีนํ วฏฺฏตี’’ติ อิทํ ปกรณวเสน วุตฺตํ. ภิกฺขุนีหิปิ ปฏิคฺคหาเปตฺวา ภิกฺขูนมฺปิ ตถาวิธํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ สนฺนิธึ ภิกฺขุนีหิ ปฏิคฺคาหาเปตฺวา ปริภุฺชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๒๑).

ภิกฺขุนิกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ขนฺธกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุพฺพิธกมฺมกถาวณฺณนา

๒๙๘๓. อปโลกนสฺิตํ กมฺมํ, ตฺติกมฺมํ, ตฺติทุติยกมฺมํ, ตฺติจตุตฺถกมฺมนฺติ อิมานิ จตฺตาริ กมฺมานีติ โยชนา. ตตฺถ จตฺตารีติ คณนปริจฺเฉโท. อิมานีติ อนนฺตรเมว วกฺขมานตฺตา อาสนฺนปจฺจกฺขวจนํ. กมฺมานีติ ปริจฺฉินฺนกมฺมนิทสฺสนํ. ‘‘อปโลกนสอต’’นฺติอาทิ เตสํ สรูปทสฺสนํ.

ตตฺรายํ สงฺเขปโต วินิจฺฉโย (จูฬว. อฏฺ. ๒๑๕; ปริ. อฏฺ. ๔๘๒) – อปโลกนกมฺมํ นาม สีมฏฺกสงฺฆํ โสเธตฺวา ฉนฺทารหานํ ฉนฺทํ อาหริตฺวา สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา ตํ ตํ วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา ‘‘รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา กตฺตพฺพํ กมฺมํ วุจฺจติ. ตฺติกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา กตฺตพฺพํ กมฺมํ. ตฺติทุติยกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา, เอกาย จ อนุสฺสาวนายาติ เอวํ ตฺติทุติยาย อนุสฺสาวนาย กตฺตพฺพํ กมฺมํ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา, ตีหิ จ อนุสฺสาวนาหีติ เอวํ ตฺติจตุตฺถาหิ ตีหิ อนุสฺสาวนาหิ กตฺตพฺพํ กมฺมํ. ตฺติ ทุติยา ยสฺส อนุสฺสาวนสฺส ตํ ตฺติทุติยํ, เตน กตฺตพฺพํ กมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ. ตฺติ จตุตฺถา ยสฺส อนุสฺสาวนตฺตยสฺส ตํ ตฺติจตุตฺถํ, เตน กาตพฺพํ กมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺมํ.

๒๙๘๔-๗. เตสํ านวเสน เภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อปโลกนกมฺม’’นฺติอาทิ. นวนฺนํ านานํ สมาหาโร นวฏฺานํ, ‘‘คจฺฉตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตฺติกมฺมนฺติ คมนกิริยากตฺตุนิทสฺสนํ. นวฏฺานนฺติ กมฺมนิทสฺสนํ. ทุติยนฺติ ตฺติทุติยกมฺมํ. สตฺต านานิ คจฺฉตีติ โยชนา.

อิทานิ ตํ านเภทํ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘นิสฺสารณฺจา’’ติอาทิ. นิสฺสารณาทิ กมฺมวิเสสานํ สฺา. อปโลกนกมฺมฺหิ นิสฺสารณํ…เป… ปฺจมํ กมฺมลกฺขณนฺติ อิมานิ ปฺจ านานิ คจฺฉตีติ โยชนา.

เอวํ นามวเสน ทสฺสิตานิ นิสฺสารณาทีนิ อตฺถโต วิภชิตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘นิสฺสารณฺจา’’ติอาทิ. สมณุทฺเทสโตติ กณฺฏกสามเณรโต นิสฺสารณฺจ โอสารณฺจ วเทติ โยชนา. ตตฺถ กณฺฏกสามเณรสฺส นิสฺสารณา ตาทิสานํเยว สมฺมาวตฺตํ ทิสฺวา ปเวสนา ‘‘โอสารณา’’ติ เวทิตพฺพา.

ปพฺพชนฺเตน เหตุภูเตน ภณฺฑุกํ ภณฺฑุกมฺมปุจฺฉนํ วเทยฺยาติ อตฺโถ. ปพฺพชฺชาเปกฺขสฺส เกสจฺเฉทนปุจฺฉนํ ภณฺฑุกมฺมํ นาม. ฉนฺเนน เหตุภูเตน พฺรหฺมทณฺฑกํ กมฺมํ วเทติ โยชนา. ตถารูปสฺสาติ ฉนฺนสทิสสฺส มุขรสฺส ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนน ฆฏฺเฏนฺตสฺส. กาตพฺโพติ ‘‘ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ มุขโร ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนหิ ฆฏฺเฏนฺโต วิหรติ, โส ภิกฺขุ ยํ อิจฺเฉยฺย, ตํ วเทยฺย. ภิกฺขูหิ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ, น อนุสาสิตพฺโพ. สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ ‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ. ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ… ตติยมฺปิ ปุจฺฉามิ ‘อิตฺถนฺนามสฺส, ภนฺเต, ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖) เอวํ พฺรหฺมทณฺโฑ กาตพฺโพ.

๒๙๘๘-๙. ‘‘อาปุจฺฉิตฺวานา’’ติ ปุพฺพกิริยาย ‘‘คหิตายา’’ติ อปรกิริยา อชฺฌาหริตพฺพา, ‘‘รุจิยา’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ. เทตีติ เอตฺถ ‘‘อจฺฉินฺนจีวราทีน’’นฺติ เสโส. สพฺโพ สงฺโฆ สนฺนิปติตฺวาน สพฺพโส สพฺเพ สีมฏฺเ อาคตาคเต ภิกฺขู อาปุจฺฉิตฺวาน ‘‘อิตฺถนฺนาเมน ปริกฺขาเรน ภวิตพฺพํ, รุจฺจติ ตสฺส ทาน’’นฺติ วิสุํ ปุจฺฉิตฺวา คหิตาย ภิกฺขูนํ รุจิยา ติกฺขตฺตุํ อปโลเกตฺวา จีวราทิปริกฺขารํ อจฺฉินฺนจีวราทีนํ เทติ, ยํ เอวํภูตํ สงฺฆสฺส ทานํ, ตํ ตสฺส อปโลกนกมฺมสฺส กมฺมลกฺขณํ โหตีติ โยชนา. ลกฺขียตีติ ลกฺขณํ, กมฺมเมว ลกฺขณํ, น นิสฺสารณาทีนีติ กมฺมลกฺขณํ.

๒๙๙๐-๑. เอวํ อปโลกนกมฺมสฺส ปฺจ านานิ อุทฺเทสนิทฺเทสวเสน ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตฺติกมฺมสฺส กมฺมลกฺขณํ ตาว ทสฺเสตุมาห ‘‘นิสฺสารณ’’นฺติอาทิ. อิติ ‘‘ตฺติยา นว านานี’’ติ อยมุทฺเทโส วกฺขมาเนน ‘‘วินิจฺฉเย’’ติอาทินิทฺเทเสเนว วิภาวียติ.

๒๙๙๒. วินิจฺฉเยติ อุพฺพาหิกวินิจฺฉเย. อสมฺปตฺเตติ นิฏฺํ อคเต. เถรสฺสาติ ธมฺมกถิกสฺส. เตเนวาห ‘‘อวินยฺุโน’’ติ. ตสฺส ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ธมฺมกถิโก, อิมสฺส เนว สุตฺตํ อาคจฺฉติ, โน สุตฺตวิภงฺโค, โส อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฏิพาหติ, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ วุฏฺาเปตฺวา อวเสสา อิมํ อธิกรณํ วูปสเมยฺยามา’’ติ (จูฬว. ๒๓๓) เอวํ อุพฺพาหิกวินิจฺฉเย ธมฺมกถิกสฺส ภิกฺขุโน ยา นิสฺสรณา วุตฺตา, สา ตฺติกมฺเม ‘‘นิสฺสารณา’’ติ วุตฺตาติ โยชนา.

๒๙๙๓-๔. อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, อนุสิฏฺโ โส มยา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อาคจฺเฉยฺยาติ. อาคจฺฉาหี’’ติ (มหาว. ๑๒๖) วจนปฏิสํยุตฺตสฺส สงฺฆสฺส สมฺมุขานยนํ, สา โอสารณา นาม. ‘‘อาคจฺฉ โอสารณา’’ติ ปทจฺเฉโท.

อุโปสถวเสนาปิ, ปวารณาวเสนาปิ. ตฺติยา ปิตตฺตาติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อุโปสถํ กเรยฺย’’ (มหาว. ๑๓๔), ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ (มหาว. ๒๑๐) อุโปสถปวารณาวเสน ตฺติยา ปิตตฺตา อุโปสโถ, ปวารณา วาติ อิมานิ ทฺเว ตฺติกมฺมานิ.

‘‘อุปสมฺปทาเปกฺขฺหิ, อนุสาเสยฺยหนฺติ จา’’ติ อิมินา ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺย’’นฺติ (มหาว. ๑๒๖) อยํ เอกา ตฺติ คหิตา.

๒๙๙๕. ‘‘อิตฺถนฺนามมหํ ภิกฺขุํ, ปุจฺเฉยฺยํ วินยนฺติ จา’’ติ อิมินา ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ (มหาว. ๑๕๑) อยํ เอกา ตฺติ คหิตา. เอวมาทีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺยา’’ติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ (มหาว. ๑๒๖), ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺยา’’ติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺยา’’ติ (มหาว. ๑๕๑), ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ (มหาว. ๑๕๒), ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ – (มหาว. ๑๕๒) อิมา ฉ ตฺติโย คหิตา. เอวํ ปุริมา ทฺเว, อิมา จ ฉาติ เอทิสา อิมา อฏฺ ตฺติโย ‘‘สมฺมุตี’’ติ วุตฺตา.

๒๙๙๖. นิสฺสฏฺจีวราทีนํ ทานนฺติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๖๔) เอวํ นิสฺสฏฺจีวรปตฺตาทีนํ ทานํ ‘‘ทาน’’นฺติ วุจฺจติ. อาปตฺตีนํ ปฏิคฺคาโหติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ วิวรติ อุตฺตานึ กโรติ เทเสติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ (จูฬว. ๒๓๙), ‘‘ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ (จูฬว. ๒๓๙). เตน วตฺตพฺโพ ‘‘ปสฺสสี’’ติ. ‘‘อาม ปสฺสามี’’ติ. ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ. เอวํ อาปตฺตีนํ ปฏิคฺคาโห ‘‘ปฏิคฺคาโห’’ติ วุจฺจติ.

๒๙๙๗. ปวารุกฺกฑฺฒนาติ ปวารณุกฺกฑฺฒนา. คาถาพนฺธวเสน ณ-การโลโป. อถ วา ปวารณํ ปวาโรติ ปวารณ-สทฺทปริยาโย ปวาร-สทฺโท. ‘‘อิมํ อุโปสถํ กตฺวา, กาเฬ ปวารยามี’’ติ อิมินา ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา อาวาสิกา, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม กาเฬ ปวาเรยฺยามา’’ติ (มหาว. ๒๔๐) อยํ ตฺติ อุปลกฺขณโต ทสฺสิตา. เอวํ กตปวารณา ‘‘ปจฺจุกฺกฑฺฒนา’’ติ มตา. เอตฺถ จ กาเฬติ ปุพฺพกตฺติกมาสสฺส กาฬปกฺขุโปสเถ. อิมินา จ ‘‘อาคเม ชุณฺเห ปวาเรยฺยามา’’ติ อยํ ตฺติ จ อุปลกฺขิตา. ชุณฺเหติ อปรกตฺติกชุณฺหปกฺขอุโปสเถ.

๒๙๙๘. ติณวตฺถารเกติ ติณวตฺถารกสมเถ. สพฺพปมา ตฺตีติ สพฺพสงฺคาหิกา ตฺติ วุจฺจติ. อิตรา จาติ อุภยปกฺเข ปจฺเจกํ ปิตา ทฺเว ตฺติโย จาติ เอวํ ติธา ปวตฺตํ เอตํ ตฺติกมฺมํ กมฺมลกฺขณํ อิติ เอวํ วุตฺตนเยน ‘‘วินิจฺฉเย’’ติอาทินา ตฺติยา นว านานิ เวทิตพฺพานีติ โยชนา.

๒๙๙๙-๓๐๐๐. เอวํ ตฺติกมฺเม นว านานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตฺติทุติยกมฺเม สตฺต านานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตฺติทุติยกมฺมมฺปี’’ติอาทิ. ‘‘ตฺติทุติยกมฺม’’นฺติอาทิกา อุทฺเทสคาถา อุตฺตานตฺถาว.

นิทฺเทเส ปตฺตนิกฺกุชฺชนาทีติ อาทิ-สทฺเทน ปตฺตุกฺกุชฺชนํ คหิตํ. นิสฺสาโรสารณา มตาติ ‘‘นิสฺสารณา, โอสารณา’’ติ จ มตา. ตตฺถ ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกนาทิเกหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส สงฺเฆน อสมฺโภคกรณตฺถํ ปตฺตนิกฺกุชฺชนวเสน นิสฺสารณา จ ตสฺเสว สมฺมา วตฺตนฺตสฺส ปตฺตุกฺกุชฺชนวเสน โอสารณา จ เวทิตพฺพา. สา ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธเก วฑฺฒลิจฺฉวิวตฺถุสฺมึ (จูฬว. ๒๖๕) วุตฺตา.

๓๐๐๑. สีมาทิสมฺมุติ สมฺมุติ นาม. สา ปฺจทสธา มตาติ สีมาสมฺมุติ ติจีวเรนอวิปฺปวาสสมฺมุติ สนฺถตสมฺมุติ ภตฺตุทฺเทสก เสนาสนคฺคาหาปก ภณฺฑาคาริก จีวรปฏิคฺคาหก ยาคุภาชก ผลภาชก ขชฺชภาชก อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชก สาฏิยคฺคาหาปก ปตฺตคฺคาหาปก อารามิกเปสก สามเณรเปสกสมฺมุตีติ เอวํ สา สมฺมุติ ปฺจทสวิธา มตาติ อตฺโถ. กถินสฺส วตฺถํ, ตสฺส. มโตเยว มตโก, มตกสฺส วาโส มตกวาโส, ตสฺส มตกวาสโส, มตกจีวรสฺส.

๓๐๐๒. อานิสํสเขตฺตภูตปฺจมาสพฺภนฺตเรเยว อุพฺภาโร อนฺตรุพฺภาโร. กุฏิวตฺถุสฺส, วิหารสฺส วตฺถุโน จ เทสนา เทสนา นามาติ โยชนา.

๓๐๐๓. ติณวตฺถารเก ทฺวินฺนํ ปกฺขานํ สาธารณวเสน เปตพฺพตฺติ จ ปจฺฉา ปกฺขทฺวเย วิสุํ วิสุํ เปตพฺพา ทฺเว ตฺติโย จาติ ติสฺโส ตฺติโย กมฺมวาจาย อภาเวน ตฺติกมฺเม ‘‘กมฺมลกฺขณ’’นฺติ ทสฺสิตา, ปจฺฉา วิสุํ วิสุํ ทฺวีสุ ปกฺเขสุ วตฺตพฺพา ทฺเว ตฺติทุติยกมฺมวาจา ตฺติทุติยกมฺเม ‘‘กมฺมลกฺขณ’’นฺติ ทสฺสิตาติ ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ติณวตฺถารเก กมฺเม’’ติ. ‘‘โมหาโรปนตาทิสู’’ติ อิมินา ปาจิตฺติเยสุ ทสฺสิตโมหาโรปนกมฺมฺจ อฺวาทกวิเหสกาโรปนกมฺมาทิฺจ สงฺคณฺหาติ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ ตฺติทุติยกมฺเม. กมฺมลกฺขณเมว กมฺมลกฺขณตา.

๓๐๐๔-๕. อิติ เอวํ ยถาวุตฺตนเยน อิเม สตฺต านเภทา ตฺติทุติยกมฺมสฺส. เอวํ ตฺติทุติยกมฺเม สตฺต านานิ ทสฺเสตฺวา ตฺติจตุตฺถกมฺเม านเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตถา’’ติอาทิ.

๓๐๐๖. ตชฺชนาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน นิยสฺสาทีนํ คหณํ. เตสํ สตฺตนฺนํ กมฺมานํ. ปสฺสทฺธิ วูปสโม.

๓๐๐๗. ‘‘ภิกฺขุนีนํ โอวาโท’’ติ ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ ผลูปจาเรน วุตฺตา.

๓๐๐๘-๙. มูลปฏิกฺกสฺโส มูลาย ปฏิกสฺสนา, คาถาพนฺธวเสน ก-การสฺส ทฺเวภาโว. อุกฺขิตฺตสฺสานุวตฺติกาติ อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา เอกา ยาวตติยกา, อฏฺ สงฺฆาทิเสสา, อริฏฺโ จณฺฑกาฬี จ ทฺเว, อิเม เอกาทส ยาวตติยกา ภวนฺติ. อิเมสํ วสาติ อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาทีนิ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน วุตฺตานิ, อิเมสํ สมนุภาสนกมฺมานํ วเสน. ทเสกาติ เอกาทส.

๓๐๑๑. เอวํ จตุนฺนมฺปิ กมฺมานํ านเภทํ ทสฺเสตฺวา อนฺวยโต, พฺยติเรกโต จ กาตพฺพปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อปโลกนกมฺมฺจา’’ติอาทิ. ตฺติยาปิ น การเย, ตฺติทุติเยนปิ น การเยติ โยชนา.

๓๐๑๒. อปโลกนกมฺเม วุตฺตลกฺขเณน ตฺติกมฺมาทีนมฺปิ กาตพฺพปฺปกาโร สกฺกา วิฺาตุนฺติ ตํ อทสฺเสตฺวา ตฺติทุติยกมฺเม ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตฺติทุติยกมฺมานี’’ติอาทิ. อปโลเกตฺวา กาตพฺพานิ ลหุกานิปิ ตฺติทุติยกมฺมานิ อตฺถีติ โยชนา. ตานิ ปน กตมานีติ อาห ‘‘สพฺพา สมฺมุติโย สิยุ’’นฺติ. เอตฺถ สีมาสมฺมุตึ วินา เสสา ติจีวเรนอวิปฺปวาสสมฺมุติอาทโย สพฺพาปิ สมฺมุติโยติ อตฺโถ.

๓๐๑๓. เสสานีติ ยถาวุตฺเตหิ เสสานิ สีมาสมฺมุติอาทีนิ ฉ กมฺมานิ. น วฏฺฏตีติ น วฏฺฏนฺติ, คาถาพนฺธวเสน น-การโลโป. ยถาห ‘‘สีมาสมฺมุติ, สีมาสมูหนนํ, กถินทานํ, กถินุทฺธาโร, กุฏิวตฺถุเทสนา, วิหารวตฺถุเทสนาติ อิมานิ ฉ กมฺมานิ ครุกานิ อปโลเกตฺวา กาตุํ น วฏฺฏนฺติ, ตฺติทุติยกมฺมวาจํ สาเวตฺวาว กาตพฺพานี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๘๒). ‘‘อปโลเกตฺวา กาตุํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, ตฺติจตุตฺถกมฺมวเสนาปิ กาตุํ น วฏฺฏนฺเตว. เตเนวาห ‘‘ยถาวุตฺตนเยเนว, เตน เตเนว การเย’’ติ, โย โย นโย ตํ ตํ กมฺมํ กาตุํ วุตฺโต, เตเนว เตเนว นเยนาติ อตฺโถ.

จตุพฺพิธกมฺมกถาวณฺณนา.

กมฺมวิปตฺติกถาวณฺณนา

๓๐๑๔. กมฺมานํ วิปตฺติยา ทสฺสิตาย สมฺปตฺติปิ พฺยติเรกโต วิฺายตีติ กมฺมวิปตฺตึ ตาว ทสฺเสตุมาห ‘‘วตฺถุโต’’ติอาทิ. วสติ เอตฺถ กมฺมสงฺขาตํ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ วตฺถุ, กมฺมสฺส ปธานการณํ, ตโต วตฺถุโต จ. อนุสฺสาวนสีมโตติ อนุสฺสาวนโต, สีมโต จ. ปฺเจวาติ เอวกาเรน กมฺมโทสานํ เอตํปรมตํ ทสฺเสติ.

๓๐๑๕. ยถานิกฺขิตฺตกมฺมโทสมาติกานุกฺกเม กมฺมวิปตฺตึ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘สมฺมุขา’’ติอาทิ. สงฺฆธมฺมวินยปุคฺคลสมฺมุขาสงฺขาตํ จตุพฺพิธํ สมฺมุขาวินยํ อุปเนตฺวา กาตพฺพํ กมฺมํ สมฺมุขากรณียํ นาม.

ตตฺถ ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา น ปฏิกฺโกสนฺติ, อยํ สงฺฆสมฺมุขตา. เยน ธมฺเมน เยน วินเยน เยน สตฺถุสาสเนน สงฺโฆ ตํ กมฺมํ กโรติ, อยํ ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา. ตตฺถ ธมฺโมติ ภูตํ วตฺถุ. วินโยติ โจทนา เจว สารณา จ. สตฺถุสาสนํ นาม ตฺติสมฺปทา เจว อนุสฺสาวนสมฺปทา จ. ยสฺส สงฺโฆ ตํ กมฺมํ กโรติ, ตสฺส สมฺมุขภาโว ปุคฺคลสมฺมุขตา. เอวํ จตุพฺพิเธน สมฺมุขาวินเยน ยํ สงฺฆกมฺมํ ‘‘กรณีย’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ อสมฺมุขา กโรติ จตุพฺพิธลกฺขณโต เอกมฺปิ ปริหาเปตฺวา กโรติ, ตํ กมฺมํ วตฺถุวิปนฺนํ สมฺมุขาวินยสงฺขาเตน วตฺถุนา เวกลฺลํ ‘‘อธมฺมกมฺม’’นฺติ ปวุจฺจตีติ โยชนา.

๓๐๑๖-๘. เอวํ สมฺมุขากรณีเย วตฺถุโต กมฺมวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อสมฺมุขากรณียํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘อสมฺมุขา’’ติอาทิ.

เทวทตฺตสฺส กตํ ปกาสนียกมฺมฺจ. เสกฺขสมฺมุติ อุมฺมตฺตกสมฺมุตีติ โยชนา. อวนฺทิยกมฺมํ ปุคฺคลสีเสน ‘‘อวนฺทิโย’’ติ วุตฺตํ. อฑฺฒกาสิยา คณิกาย อนุฺาตา ทูเตน อุปสมฺปทา ทูตูปสมฺปทา. อิติ อิมานิ อฏฺ กมฺมานิ เปตฺวาน เสสานิ ปน สพฺพโส สพฺพานิ กมฺมานิ ‘‘สมฺมุขากรณียานี’’ติ โสภนคมนาทีหิ สุคโต สตฺถา อพฺรฺวิ กเถสีติ โยชนา.

๓๐๑๙-๒๐. เอวํ วตฺถุโต กมฺมวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา ตฺติโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ตฺติโต’’ติอาทิ. วิปชฺชนนยาติ วินยวิปชฺชนกฺกมา. วตฺถุํ น ปรามสตีติ ยสฺส อุปสมฺปทาทิกมฺมํ กโรติ, ตํ น ปรามสติ ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ. เอวํ วตฺถุํ น ปรามสติ.

สงฺฆํ น ปรามสตีติ สงฺฆสฺส นามํ น ปรามสติ ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทติ. เอวํ สงฺฆํ น ปรามสติ.

ปุคฺคลํ น ปรามสตีติ โย อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส อุปชฺฌาโย, ตํ น ปรามสติ ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ. เอวํ ปุคฺคลํ น ปรามสติ.

ตฺตึ น ปรามสตีติ สพฺเพน สพฺพํ ตฺตึ น ปรามสติ, ตฺติทุติยกมฺเม ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ทฺวิกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ, ตฺติจตุตฺถกมฺเมปิ ตฺตึ อฏฺเปตฺวา จตุกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ. เอวํ ตฺตึ น ปรามสติ.

ปจฺฉา วา ตฺตึ เปตีติ ปมํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ วทติ. เอวํ ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. ปฺจเหเตหีติ เอเตหิ ปฺจหิ การเณหิ.

๓๐๒๑-๒. เอวํ ตฺติโต กมฺมวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนุสฺสาวนโต ทสฺเสตุมาห ‘‘อนุสฺสาวนโต’’ติอาทิ. อนุสฺสาวนโต กมฺมโทสา ปฺจ ปกาสิตาติ โยชนา. ‘‘น ปรามสติ วตฺถุํ วา’’ติอาทีสุ วตฺถุอาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอวํ ปน เนสํ อปรามสนํ โหติ (ปริ. อฏฺ. ๔๘๕) – ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ ปมานุสฺสาวเน วา ‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ, ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ ทุติยตติยานุสฺสาวเนสุ วา ‘‘อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วทนฺโต วตฺถุํ น ปรามสติ นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทนฺโต สงฺฆํ น ปรามสติ นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทนฺโต ปุคฺคลํ น ปรามสติ นาม.

สาวนํ หาเปตีติ สพฺเพน สพฺพํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ น กโรติ, ตฺติทุติยกมฺเม ทฺวิกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ, ตฺติจตุตฺถกมฺเม จตุกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ. เอวํ อนุสฺสาวนํ หาเปติ. โยปิ ตฺติทุติยกมฺเม เอกํ ตฺตึ เปตฺวา เอกํ กมฺมวาจํ อนุสฺสาเวนฺโต อกฺขรํ วา ฉฑฺเฑติ, ปทํ วา ทุรุตฺตํ กโรติ, อยมฺปิ อนุสฺสาวนํ หาเปติเยว. ตฺติจตุตฺถกมฺเม ปน เอกํ ตฺตึ เปตฺวา สกิเมว วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ กโรนฺโตปิ อกฺขรํ วา ปทํ วา ฉฑฺเฑนฺโตปิ ทุรุตฺตํ กโรนฺโตปิ อนุสฺสาวนํ หาเปติเยวาติ เวทิตพฺโพ.

ทุรุตฺตํ กโรตีติ เอตฺถ ปน อยํ วินิจฺฉโย (ปริ. อฏฺ. ๔๘๕) – โย หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, อยํ ทุรุตฺตํ กโรติ นาม. ตสฺมา กมฺมวาจํ กโรนฺเตน ภิกฺขุนา ยฺวายํ –

‘‘สิถิลํ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ;

ครุกํ ลหุกฺจ นิคฺคหิตํ;

สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ;

ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ. (ปริ. อฏฺ. ๔๘๕) –

วุตฺโต, อยํ สุฏฺุ อุปลกฺเขตพฺโพ.

เอตฺถ หิ สิถิลํ นาม ปฺจสุ วคฺเคสุ ปมตติยํ. ธนิตํ นาม เตสฺเวว ทุติยจตุตฺถํ. ทีฆนฺติ ทีเฆน กาเลน วตฺตพฺพํ อาการาทิ. รสฺสนฺติ ตโต อุปฑฺฒกาเลน วตฺตพฺพํ อการาทิ. ครุกนฺติ ทีฆเมว, ยํ วา ‘‘อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส, ยสฺส นกฺขมตี’’ติ เอวํ สํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. ลหุกนฺติ รสฺสเมว, ยํ วา ‘‘อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตเถรสฺส, ยสฺส น ขมตี’’ติ เอวํ อสํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. นิคฺคหิตนฺติ ยํ กรณานิ นิคฺคเหตฺวา อวิสฺสชฺเชตฺวา อวิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺพํ. สมฺพนฺธนฺติ ยํ ปรปเทน สมฺพนฺธิตฺวา ‘‘ตุณฺหสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺหิสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. ววตฺถิตนฺติ ยํ ปรปเทน อสมฺพนฺธํ กตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ตุณฺหี อสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺห อสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. วิมุตฺตนฺติ ยํ กรณานิ อนิคฺคเหตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา วุจฺจติ.

ตตฺถ ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วตฺตพฺเพ ต-การสฺส ถ-การํ กตฺวา ‘‘สุณาถุ เม’’ติ วจนํ สิถิลสฺส ธนิตกรณํ นาม, ตถา ‘‘ปตฺตกลฺลํ, เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺถกลฺลํ, เอสา ตฺถี’’ติอาทิวจนฺจ. ‘‘ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ วตฺตพฺเพ ภการฆการานํ พการคกาเร กตฺวา ‘‘พนฺเต สํโค’’ติ วจนํ ธนิตสฺส สิถิลกรณํ นาม. ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วิวเฏน มุเขน วตฺตพฺเพ ปน ‘‘สุณํตุ เม’’ติ วา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘เอสํ ตฺตี’’ติ วา อวิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วจนํ วิมุตฺตสฺส นิคฺคหิตวจนํ นาม. ‘‘ปตฺตกลฺล’’นฺติ อวิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺตกลฺลา’’ติ วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา วจนํ นิคฺคหิตสฺส วิมุตฺตวจนํ นาม. อิติ สิถิเล กตฺตพฺเพ ธนิตํ, ธนิเต กตฺตพฺเพ สิถิลํ, วิมุตฺเต กตฺตพฺเพ นิคฺคหิตํ, นิคฺคหิเต กตฺตพฺเพ วิมุตฺตนฺติ อิมานิ จตฺตาริ พฺยฺชนานิ อนฺโตกมฺมวาจาย กมฺมํ ทูเสนฺติ. เอวํ วทนฺโต หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, ทุรุตฺตํ กโรตีติ วุจฺจติ.

อิตเรสุ ปน ทีฆรสฺสาทีสุ ฉสุ พฺยฺชเนสุ ทีฆฏฺาเน ทีฆเมว, รสฺสฏฺาเน จ รสฺสเมวาติ เอวํ ยถาาเน ตํ ตเทว อกฺขรํ ภาสนฺเตน อนุกฺกมาคตํ ปเวณึ อวินาเสนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. สเจ ปน เอวํ อกตฺวา ทีเฆ วตฺตพฺเพ รสฺสํ, รสฺเส วา วตฺตพฺเพ ทีฆํ วทติ, ตถา ครุเก วตฺตพฺเพ ลหุกํ, ลหุเก วา วตฺตพฺเพ ครุกํ วทติ, สมฺพนฺเธ วา ปน วตฺตพฺเพ ววตฺถิตํ, ววตฺถิเต วา วตฺตพฺเพ สมฺพนฺธํ วทติ, เอวํ วุตฺเตปิ กมฺมวาจา น กุปฺปติ. อิมานิ หิ ฉ พฺยฺชนานิ กมฺมํ น โกเปนฺติ.

ยํ ปน สุตฺตนฺติกตฺเถรา ‘‘ท-กาโร ต-การมาปชฺชติ, ต-กาโร ท-การมาปชฺชติ, จ-กาโร ช-การมาปชฺชติ, ช-กาโร จ-การมาปชฺชติ, ย-กาโร ก-การมาปชฺชติ, ก-กาโร ย-การมาปชฺชติ, ตสฺมา ท-การาทีสุ วตฺตพฺเพสุ ต-การาทิวจนํ น วิรุชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ กมฺมวาจํ ปตฺวา น วฏฺฏติ. ตสฺมา วินยธเรน เนว ท-กาโร ต-กาโร กาตพฺโพ…เป… น ก-กาโร ย-กาโร. ยถาปาฬิยา นิรุตฺตึ โสเธตฺวา ทสวิธาย พฺยฺชนนิรุตฺติยา วุตฺตโทเส ปริหรนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. อิตรถา หิ สาวนํ หาเปติ นาม.

อสมเย สาเวตีติ สาวนาย อกาเล อนวกาเส ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ปมํเยว อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. อิติ อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ อนุสฺสาวนโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ. เตนาห – ‘‘เอวํ ปน วิปชฺชนฺติ, อนุสฺสาวนโตปิ จา’’ติ.

๓๐๒๓. เอวํ อนุสฺสาวนโต กมฺมวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา สีมโต กมฺมวิปตฺติ อุโปสถกฺขนฺธกกถาย วุตฺตนยา เอวาติ ตเมว อติทิสนฺโต อาห ‘‘เอกาทสหิ…เป… มยา’’ติ. กมฺมโทโสเยว กมฺมโทสตา. ตาว ปมํ.

๓๐๒๔-๗. เอวํ สีมโต กมฺมวิปตฺตึ อติเทสโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปริสวเสน ทสฺเสตุมาห ‘‘จตุวคฺเคนา’’ติอาทิ. กมฺมปตฺตาติ เอตฺถ ‘‘จตฺตาโร ปกตตฺตา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘จตุวคฺคกรเณ กมฺเม จตฺตาโร ภิกฺขู ปกตตฺตา กมฺมปตฺตา’’ติ (ปริ. ๔๙๗). เอตฺถ จ ปกตตฺตา นาม อนุกฺขิตฺตา อนิสฺสาริตา ปริสุทฺธสีลา จตฺตาโร ภิกฺขู. กมฺมปตฺตา กมฺมสฺส อรหา อนุจฺฉวิกา สามิโน. น เตหิ วินา ตํ กมฺมํ กรียติ, น เตสํ ฉนฺโท วา ปาริสุทฺธิ วา เอติ. อนาคตาติ ปริสาย หตฺถปาสํ อนาคตา. ฉนฺโทติ เอตฺถ ‘‘ฉนฺทารหาน’’นฺติ เสโส. ยถาห ‘‘อวเสสา ปกตตฺตา ฉนฺทารหา’’ติ. อิมินา อยมตฺโถ ทีปิโต โหติ – ‘‘อวเสสา ปน สเจปิ สหสฺสมตฺตา โหนฺติ, สเจ สมานสํวาสกา, สพฺเพ ฉนฺทารหาว โหนฺติ, ฉนฺทปาริสุทฺธึ ทตฺวา อาคจฺฉนฺตุ วา มา วา, กมฺมํ ปน ติฏฺตี’’ติ. สมฺมุขาติ สมฺมุขีภูตา.

ติวงฺคิโกติ กมฺมปตฺตานาคมนฉนฺทานาหรณปฏิกฺโกสนสงฺขาตองฺคตฺตยยุตฺโต. โทโส กมฺมวิปตฺติลกฺขโณ. ปริสาย วสา สิยาติ ปริสวเสน โหติ.

ปฏิเสเธนฺตีติ ปฏิกฺโกสนฺติ. ทุติเย จตุวคฺคิเก กมฺเม ทุวงฺคิโก โทโส ปริสาย วสา สิยาติ โยชนา.

เอตฺถ เอตสฺมึ ตติเย จตุวคฺคิเก ปฏิกฺโกโสว อตฺถิ, น อิตเร ปริสโทสาติ เอกงฺคิโก โทโส ปริสาย วสา สิยาติ โยชนา. ทุวงฺค ยุตฺตปริสาโทสสฺส ทุติยํ เทสิตตฺตา ทุวงฺค ยุตฺตปริสาโทโส ‘‘ทุติโย’’ติ วุตฺโต. ตถา ตติยํ เทสิตตฺตา เอกงฺคยุตฺโต ตติโย เวทิตพฺโพ. อิมเมว นยํ ปฺจวคฺคาทิสงฺฆตฺตยสฺส อติทิสนฺโต อาห ‘‘เอวํ…เป… ติวิเธสุปี’’ติ. อาทิ-สทฺเทน ทสวคฺควีสติวคฺคสงฺฆานํ คหณํ.

๓๐๒๘. เอวํ จตูสุ สงฺเฆสุ จตุนฺนํ ติกานํ วเสน ปริสโต กมฺมวิปตฺติยา ทฺวาทสวิธตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘จตุตฺถิกา’’ติ. อนุวาเทน ‘‘ทส ทฺเว สิยุ’’นฺติ วิธียติ. ปริสาวสา จตุตฺถิกา โทสา ทส ทฺเว ทฺวาทส สิยุนฺติ โยชนา. เอตฺถาติ เอเตสุ ‘‘วตฺถุโต’’ติอาทินา วุตฺเตสุ ปฺจสุ กมฺมโทเสสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ‘‘ปริสาวสา’’ติ อิทํ นิทฺธาเรตพฺพํ. กมฺมานีติ อปโลกนาทีนิ จตฺตาริ. เอตฺถ จ จตุวคฺคาทิกรณีเยสุ กมฺเมสุ ปกตตฺเตน กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กตเมว กมฺมํ กมฺมปตฺเตน กตํ โหติ. กมฺมปตฺเต ปกตตฺเต เปตฺวา อปกตตฺเตน เกนจิ, เกวเลเนว กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กตํ อปกตตฺตกมฺมปตฺตลกฺขณาภาวา, กมฺมปตฺเตน จ กมฺมวาจาย อสฺสาวิตตฺตา อนุสฺสาวนโทเสน วิปนฺนํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. เตเนว โปราณกวินยธรตฺเถรา กมฺมวิปตฺติสงฺกาปริหารตฺถํ ทฺวีหิ ตีหิ เอกโต กมฺมวาจํ สาวยนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ปริวาราวสาเน ปาฬิยา (ปริ. ๔๘๒ อาทโย) วา อฏฺกถาย (ปริ. อฏฺ. ๔๘๒ อาทโย) จ คเหตพฺโพ.

กมฺมวิปตฺติกถาวณฺณนา.

ปกิณฺณกวินิจฺฉยกถาวณฺณนา

๓๐๒๙. ฉตฺตํ ปณฺณมยํ กิฺจีติ ตาลปณฺณาทิปณฺณจฺฉทนํ ยํ กิฺจิ ฉตฺตํ. พหีติ อุปริ. อนฺโตติ เหฏฺา. สิพฺพิตุนฺติ รูปํ ทสฺเสตฺวา สูจิกมฺมํ กาตุํ.

๓๐๓๐. ปณฺเณติ ฉทนปณฺเณ. อฑฺฒจนฺทนฺติ อฑฺฒจนฺทาการํ. มกรทนฺตกนฺติ มกรทนฺตาการํ, ยํ ‘‘คิริกูฏ’’นฺติ วุจฺจติ. ฉินฺทิตุํ น วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. มุขวฏฺฏิยา นาเมตฺวา พทฺธปณฺณโกฏิยา วา มตฺถกิมณฺฑลโกฏิยา วา คิริกูฏาทึ กโรนฺติ, อิมินา ตํ ปฏิกฺขิตฺตํ. ทณฺเฑติ ฉตฺตทณฺเฑ. ฆฏกนฺติ ฆฏากาโร. วาฬรูปํ วาติ พฺยคฺฆาทิวาฬานํ รูปกํ วา. เลขาติ อุกฺกิริตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา จิตฺตกมฺมวเสน วา กตราชิ.

๓๐๓๑. ปฺจวณฺณานํ สุตฺตานํ อนฺตเร นีลาทิเอกวณฺเณน สุตฺเตน ถิรตฺถํ ฉตฺตํ อนฺโต จ พหิ จ สิพฺพิตุํ วา ฉตฺตทณฺฑคฺคาหกสลากปฺชรํ ถิรตฺถํ วินนฺธิตุํ วา วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘ปฺจวณฺณานํ เอกวณฺเณน ถิรตฺถ’’นฺติ อิมินา อเนกวณฺเณหิ สุตฺเตหิ วณฺณมฏฺตฺถาย สิพฺพิตุฺจ วินนฺธิตุฺจ น วฏฺฏตีติ ทีเปติ.

โปตฺถเกสุ ปน ‘‘ปฺจวณฺเณนา’’ติ ปาโ ทิสฺสติ, ตสฺส เอกวณฺเณน, ปฺจวณฺเณน วา สุตฺเตน ถิรตฺถํ สิพฺพิตุํ, วินนฺธิตุํ วา วฏฺฏตีติ โยชนา กาตพฺพา โหติ, โส เอตฺเถว เหฏฺา วุตฺเตน –

‘‘ปฺจวณฺเณน สุตฺเตน, สิพฺพิตุํ น จ วฏฺฏตี’’ติ –

ปาเน จ ‘‘เกจิ ตาลปณฺณจฺฉตฺตํ อนฺโต วา พหิ วา ปฺจวณฺเณน สุตฺเตน สิพฺพนฺตา วณฺณมฏฺํ กโรนฺติ, ตํ น วฏฺฏติ. เอกวณฺเณน ปน นีเลน วา ปีตเกน วา เยน เกนจิ สุตฺเตน อนฺโต วา พหิ วา สิพฺพิตุํ ฉตฺตทณฺฑคฺคาหกํ สลากปฺชรํ วา วินนฺธิตุํ วฏฺฏติ, ตฺจ โข ถิรกรณตฺถํ, น วณฺณมฏฺตฺถายา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉย) อฏฺกถาปาเน จ วิรุชฺฌติ, ตสฺมา โส น คเหตพฺโพ.

๓๐๓๒. เลขา วา ปน เกวลาติ ยถาวุตฺตปฺปการา สลากเลขา วา. ฉินฺทิตฺวาติ อุกฺกิริตฺวา กตํ ฉินฺทิตฺวา. ฆํสิตฺวาติ จิตฺตกมฺมาทิวเสน กตํ ฆํสิตฺวา.

๓๐๓๓. ทณฺฑพุนฺทมฺหีติ ฉตฺตทณฺฑสฺส ปฺชเร คาหณตฺถาย ผาลิตพุนฺทมฺหิ, มูเลติ อตฺโถ. อยเมตฺถ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตนโย. ขุทฺทสิกฺขาคณฺิปเท ปน ‘‘ฉตฺตปิณฺฑิยา มูเล’’ติ วุตฺตํ. อหิฉตฺตกสณฺานนฺติ ผุลฺลอหิฉตฺตาการํ. รชฺชุเกหิ คาหาเปตฺวา ทณฺเฑ พนฺธนฺติ, ตสฺมึ พนฺธฏฺาเน วลยมิว อุกฺกิริตฺวา อุฏฺาเปตฺวา. พนฺธนตฺถายาติ วาเตน ยถา น จลติ, เอวํ รชฺชูหิ ทณฺเฑ ปฺชรสฺส พนฺธนตฺถาย. อุกฺกิริตฺวา กตา เลขา วฏฺฏตีติ โยชนา. ยถาห – ‘‘วาตปฺปหาเรน อจลนตฺถํ ฉตฺตมณฺฑลิกํ รชฺชุเกหิ คาหาเปตฺวา ทณฺเฑ พนฺธนฺติ, ตสฺมึ พนฺธนฏฺาเน วลยมิว อุกฺกิริตฺวา เลขํ เปนฺติ, สา วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘สเจปิ น พนฺธนฺติ, พนฺธนารหฏฺานตฺตา วลยํ อุกฺกิริตุํ วฏฺฏตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ.

๓๐๓๔. สมํ สตปทาทีนนฺติ สตปทาทีหิ สทิสํ, ตุลฺยตฺเถ กรณวจนปฺปสงฺเค สามิวจนํ.

๓๐๓๕. ปตฺตสฺส ปริยนฺเต วาติ อนุวาตสฺส อุภยปริยนฺเต วา. ปตฺตมุเขปิ วาติ ทฺวินฺนํ อารามวิตฺถารปตฺตานํ สงฺฆฏิตฏฺาเน กณฺเณปิ วา, เอกสฺเสว วา ปตฺตสฺส อูนปูรณตฺถํ สงฺฆฏิตฏฺาเนปิ วา. เวณินฺติ กุทฺรูสสีสากาเรน สิพฺพนํ. เกจิ ‘‘วรกสีสากาเรนา’’ติ วทนฺติ. สงฺขลิกนฺติ พิฬาลทามสทิสํ สิพฺพนํ. เกจิ ‘‘สตปทิสม’’นฺติ วทนฺติ.

๓๐๓๖. ปฏฺฏนฺติ ปฏฺฏมฺปิ. อฏฺโกณาทิโก วิธิ ปกาโร เอตสฺสาติ อฏฺโกณาทิกวิธิ, ตํ. ‘‘อฏฺโกณาทิก’’นฺติ คาถาพนฺธวเสน นิคฺคหิตาคโม. ‘‘อฏฺโกณาทิกํ วิธิ’’นฺติ เอตํ ‘‘ปฏฺฏ’’นฺติ เอตสฺส สมานาธิกรณวิเสสนํ, กิริยาวิเสสนํ วา, ‘‘กโรนฺตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อถ วา ปฏฺฏนฺติ เอตฺถ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ, ปฏฺเฏติ อตฺโถ. อิมสฺมึ ปกฺเข ‘‘อฏฺโกณาทิก’’นฺติ อุปโยควจนํ. ‘‘วิธิ’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ. อิธ วกฺขมานจตุโกณสณฺานโต อฺํ อฏฺโกณาทิกํ นามํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปฏฺฏทฺวเย. อคฺฆิยคทารูปนฺติ อคฺฆิยสณฺานฺเจว คทาสณฺานฺจ สิพฺพนํ. มุคฺครนฺติ ลคุฬสณฺานสิพฺพนํ. อาทิ-สทฺเทน เจติยาทิสณฺานานํ คหณํ.

๓๐๓๗. ตตฺถาติ ปฏฺฏทฺวเย ตสฺมึ าเน. กกฺกฏกกฺขีนีติ กุฬีรอจฺฉิสทิสานิ สิพฺพนวิการานิ. อุฏฺาเปนฺตีติ กโรนฺติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ คณฺิกปาสกปฏฺฏเก. สุตฺตาติ โกณโต โกณํ สิพฺพิตสุตฺตา เจว จตุรสฺเส สิพฺพิตสุตฺตา จ. ปิฬกาติ เตสเมว สุตฺตานํ นิวตฺเตตฺวา สิพฺพิตโกฏิโย จ. ทุวิฺเยฺยาวาติ รชนกาเล ทุวิฺเยฺยรูปา อโนฬาริกา ทีปิตา วฏฺฏนฺตีติ. ยถาห – ‘‘โกณสุตฺตปิฬกา จ จีวเร รตฺเต ทุวิฺเยฺยรูปา วฏฺฏนฺตี’’ติ.

๓๐๓๘. คณฺิปาสกปฏฺฏกาติ คณฺิกปฏฺฏกปาสกปฏฺฏกาติ โยชนา. กณฺณโกเณสุ สุตฺตานีติ จีวรกณฺเณสุ สุตฺตานิ เจว คณฺิกปาสกปฏฺฏานํ โกเณสุ สุตฺตานิ จ ฉินฺเทยฺย. เอตฺถ จ จีวเร อายามโต, วิตฺถารโต จ สิพฺพิตฺวา อนุวาตโต พหิ นิกฺขนฺตสุตฺตํ จีวรํ รชิตฺวา สุกฺขาปนกาเล รชฺชุยา วา จีวรวํเส วา พนฺธิตฺวา โอลมฺพิตุํ อนุวาเต พทฺธสุตฺตานิ จ กณฺณสุตฺตานิ นาม. ยถาห – ‘‘จีวรสฺส กณฺณสุตฺตกํ น วฏฺฏติ, รชิตกาเล ฉินฺทิตพฺพํ. ยํ ปน ‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กณฺณสุตฺตก’นฺติ (มหาว. ๓๔๔) เอวํ อนุฺาตํ, ตํ อนุวาเต ปาสกํ กตฺวา พนฺธิตพฺพํ, รชนกาเล ลคฺคนตฺถายา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉย).

๓๐๓๙. สูจิกมฺมวิการํ วาติ จีวรมณฺฑนตฺถาย นานาสุตฺตเกหิ สตปทิสทิสํ สิพฺพนฺตา อาคนฺตุกปฏฺฏํ เปนฺติ, เอวรูปํ สูจิกมฺมวิการํ วา. อฺํ วา ปน กิฺจิปีติ อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ มาลากมฺมมิคปกฺขิปาทาทิกํ สิพฺพนวิการํ. กาตุนฺติ สยํ กาตุํ. การาเปตุนฺติ อฺเน วา การาเปตุํ.

๓๐๔๐. โย ภิกฺขุ ปรํ อุตฺตมํ วณฺณมฏฺํ อภิปตฺถยํ ปตฺถยนฺโต กฺชิปิฏฺขลิอลฺลิกาทีสุ จีวรํ ปกฺขิปติ, ตสฺส ปน ภิกฺขุโน ทุกฺกฏา โมกฺโข น วิชฺชตีติ โยชนา. กฺชีติ วายนตนฺตมกฺขนกฺชิสทิสา ถูลากฺชิ. ปิฏฺนฺติ ตณฺฑุลปิฏฺํ. ตณฺฑุลปิฏฺเหิ ปกฺกา ขลิ. อลฺลิกาติ นิยฺยาโส. อาทิ-สทฺเทน ลาขาทีนํ คหณํ.

๓๐๔๑. จีวรสฺส กรเณ กรณกาเล สมุฏฺิตานํ สูจิหตฺถมลาทีนํ โธวนตฺถํ, กิลิฏฺกาเล จ โธวนตฺถํ กฺชิปิฏฺิขลิอลฺลิกาทีสุ ปกฺขิปติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.

๓๐๔๒. ตตฺถาติ เยน กสาเวน จีวรํ รชติ, ตสฺมึ รชเน จีวรสฺส สุคนฺธภาวตฺถาย คนฺธํ วา อุชฺชลภาวตฺถาย เตลํ วา วณฺณตฺถาย ลาขํ วา. กิฺจีติ เอวรูปํ ยํ กิฺจิ.

๓๐๔๓. มณินาติ ปาสาเณน. อฺเนปิ จ เกนจีติ เยน อุชฺชลํ โหติ, เอวรูเปน มุคฺคราทินา อฺเนาปิ เกนจิ วตฺถุนา. โทณิยาติ รชนมฺพเณ. น ฆํสิตพฺพํ หตฺเถน คาเหตฺวา น ฆฏฺเฏตพฺพํ.

๓๐๔๔. รตฺตํ จีวรํ หตฺเถหิ กิฺจิ โถกํ ปหริตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘ยตฺถ ปกฺกรชนํ ปกฺขิปนฺติ, สา รชนโทณิ, ตตฺถ อํสพทฺธกกายพนฺธนาทึ ฆฏฺเฏตุํ วฏฺฏตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ.

๓๐๔๕. คณฺิเกติ เวฬุทนฺตวิสาณาทิมยคณฺิเก. เลขา วาติ วฏฺฏาทิเภทา เลขา วา. ปิฬกา วาติ สาสปพีชสทิสา ขุทฺทกปุพฺพุฬา วา. ปาฬิกณฺณิกเภทโกติ มณิกาวฬิรูปปุปฺผกณฺณิกรูปเภทโก. กปฺปพินฺทุวิกาโร วา น วฏฺฏตีติ โยชนา.

๓๐๔๖. อารคฺเคนาติ อารกณฺฏกคฺเคน, สูจิมุเขน วา. กาจิปิ เลขาติ วฏฺฏกโคมุตฺตาทิสณฺานา ยา กาจิปิ ราชิ.

๓๐๔๗. ภมํ อาโรเปตฺวาติ ภเม อลฺลิยาเปตฺวา.

๓๐๔๘. ปตฺตมณฺฑลเกติ ปตฺเต ฉวิรกฺขนตฺถาย ติปุสีสาทีหิ กเต ปตฺตสฺส เหฏฺา อาธาราทีนํ อุปริ กาตพฺเพ ปตฺตมณฺฑลเก. ภิตฺติกมฺมนฺติ วิภตฺตํ กตฺวา นานาการรูปกกมฺมจิตฺตํ. ยถาห ‘‘น ภิกฺขเว จิตฺรานิ ปตฺตมณฺฑลานิ ธาเรตพฺพานิ รูปกากิณฺณานิ ภิตฺติกมฺมกตานี’’ติ (จูฬว. ๒๕๓). ตตฺถาติ ตสฺมึ ปตฺตมณฺฑเล. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. มกรทนฺตกนฺติ คิริกูฏาการํ.

๓๐๔๙. มุขวฏฺฏิยํ ยา เลขา ปริสฺสาวนพนฺธนตฺถาย อนุฺาตา, ตํ เลขํ เปตฺวา ธมฺมกรณจฺฉตฺเต วา กุจฺฉิยํ วา กาจิปิ เลขา น วฏฺฏตีติ โยชนา.

๓๐๕๐. ตหึ ตหินฺติ มตฺติกาย ตตฺถ ตตฺถ. นฺติ ตถาโกฏฺฏิตทิคุณสุตฺตกายพนฺธนํ.

๓๐๕๑. อนฺเตสุ ทฬฺหตฺถาย ทสามุเข ทิคุณํ กตฺวา โกฏฺเฏนฺติ, วฏฺฏตีติ โยชนา. จิตฺติกมฺปีติ มาลากมฺมลตากมฺมจิตฺตยุตฺตมฺปิ กายพนฺธนํ.

๓๐๕๒. อกฺขีนีติ กุฺชรกฺขีนิ. ตตฺถาติ กายพนฺธเน วฏฺฏตีติ กา กถา. อุฏฺาเปตุนฺติ อุกฺกิริตุํ.

๓๐๕๓. ฆฏนฺติ ฆฏสณฺานํ. เทฑฺฑุภสีสํ วาติ อุทกสปฺปสีสมุขสณฺานํ วา. ยํ กิฺจิ วิการรูปํ ทสามุเข น วฏฺฏตีติ โยชนา.

๓๐๕๔. มจฺฉกณฺฏนฺติ มจฺฉกณฺฏกาการํ. ขชฺชูริปตฺตกาการนฺติ ขชฺชูริปตฺตสณฺานํ. มจฺฉกณฺฏํ วา มฏฺํ ปฏฺฏิกํ วา ขชฺชูริปตฺตกาการํ วา อุชุกํ กตฺวา โกฏฺฏิตํ วฏฺฏตีติ โยชนา. เอตฺถ จ อุภยปสฺเสสุ มจฺฉกณฺฏกยุตฺตํ มจฺฉสฺส ปิฏฺิกณฺฏกํ วิย ยสฺส ปฏฺฏิกาย วายนํ โหติ, อิทํ กายพนฺธนํ มจฺฉกณฺฏกํ นาม. ยสฺส ขชฺชูริปตฺตสณฺานมิว วายนํ โหติ, ตํ ขชฺชูริปตฺตกาการํ นาม.

๓๐๕๕. ปกติวีตา ปฏฺฏิกา. สูกรนฺตํนาม กุฺจิกาโกสกสณฺานํ. ตสฺส ทุวิธสฺส กายพนฺธนสฺส. ตตฺถ รชฺชุกา สูกรนฺตานุโลมิกา, ทุสฺสปฏฺฏํ ปฏฺฏิกานุโลมิกํ. อาทิ-สทฺเทน มุทฺทิกกายพนฺธนํ คหิตํ, ตฺจ สูกรนฺตานุโลมิกํ. ยถาห – ‘‘เอกรชฺชุกํ, ปน มุทฺทิกกายพนฺธนฺจ สูกรนฺตกํ อนุโลเมตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๗๘). ตตฺถ เอกรชฺชุกา นาม เอกวฏฺฏา. พหุรชฺชุกสฺส อกปฺปิยภาวํ วกฺขติ. ‘‘มุทฺทิกกายพนฺธนํ นาม จตุรสฺสํ อกตฺวา สชฺชิต’’นฺติ คณฺิปเท วุตฺตํ.

๓๐๕๖. มุรชํ นาม มุรชวฏฺฏิสณฺานํ เวเตฺวา กตํ. เวเตฺวาติ นานาสุตฺเตหิ เวเตฺวา. สิกฺขาภาชนวินิจฺฉเย ปน ‘‘พหุกา รชฺชุโย เอกโต กตฺวา เอกาย รชฺชุยา เวิตํ มุรชํ นามา’’ติ วุตฺตํ. มทฺทวีณํ นาม ปามงฺคสณฺานํ. เทฑฺฑุภกํ นาม อุทกสปฺปสีสสทิสํ. กลาพุกํ นาม พหุรชฺชุกํ. รชฺชุโยติ อุภยโกฏิยํ เอกโต อพทฺธา พหู รชฺชุโย, ตถา พทฺธา กลาพุกํ นาม โหตีติ. น วฏฺฏนฺตีติ มุรชาทีนิ อิมานิ สพฺพานิ กายพนฺธนานิ น วฏฺฏนฺติ. ปุริมา ทฺเวติ มุรชํ, มทฺทวีณฺจาติ ทฺเว. ‘‘ทสาสุ สิยุ’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน วณฺณโลเปน ‘‘ทสา สิยุ’’นฺติ วุตฺตํ. ยถาห – ‘‘มุรชํ มทฺทวีณ’นฺติ อิทํ ทสาสุเยว อนุฺาต’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๗๘).

๓๐๕๗. ปามงฺคสณฺานาติ ปามงฺคทามํ วิย จตุรสฺสสณฺานา.

๓๐๕๘. เอกรชฺชุมยนฺติ นานาวฏฺเฏ เอกโต วฏฺเฏตฺวา กตรชฺชุมยํ กายพนฺธนํ. วฏฺฏํ วฏฺฏตีติ ‘‘รชฺชุกา ทุสฺสปฏฺฏาที’’ติ เอตฺถ เอกวฏฺฏรชฺชุกา คหิตา, อิธ ปน นานาวฏฺเฏ เอกโต วฏฺเฏตฺวา กตาว เอกรชฺชุกา คหิตา. ตฺจาติ ตมฺปิ เอกรชฺชุกกายพนฺธนํ. ปามงฺคสณฺานํ เอกมฺปิ น จ วฏฺฏตีติ เกวลมฺปิ น วฏฺฏติ.

๓๐๕๙. พหู รชฺชุเก เอกโต กตฺวาติ โยชนา. วฏฺฏติ พนฺธิตุนฺติ มุรชํ, กลาพุกํ วา น โหติ, รชฺชุกกายพนฺธนเมว โหตีติ อธิปฺปาโย. อยํ ปน วินิจฺฉโย ‘‘พหู รชฺชุเก เอกโต กตฺวา เอเกน นิรนฺตรํ เวเตฺวา กตํ ‘พหุรชฺชุก’นฺติ น วตฺตพฺพํ, ตํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉย) อฏฺกถาคโตว อิธ วุตฺโต. สิกฺขาภาชนวินิจฺฉเย ‘‘พหุกา รชฺชุโย เอกโต กตฺวา เอกาย รชฺชุยา เวิตํ มุรชํ นามา’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ อิมินา วิรุชฺฌนโต น คเหตพฺพํ.

๓๐๖๐. ทนฺต-สทฺเทน หตฺถิทนฺตา วุตฺตา. ชตูติ ลาขา. สงฺขมยนฺติ สงฺขนาภิมยํ. วิธกา มตาติ เอตฺถ ‘‘เวกา’’ติปิ ปาโ วิธปริยาโย.

๓๐๖๑. กายพนฺธนวิเธติ กายพนฺธนสฺส ทสาย ถิรภาวตฺถํ กฏฺทนฺตาทีหิ กเต วิเธ. วิกาโร อฏฺมงฺคลาทิโก. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน, อุภยโกฏิยนฺติ อตฺโถ. ตุ-สทฺเทน ฆฏากาโรปิ วฏฺฏตีติ ทีเปติ.

๓๐๖๒. มาลา …เป… วิจิตฺติตาติ มาลากมฺมลตากมฺเมหิ จ มิคปกฺขิรูปาทินานารูเปหิ จ วิจิตฺติตา. ชนรฺชนีติ พาลชนปโลภินี.

๓๐๖๔. อฏฺํสา วาปีติ เอตฺถ อปิ-สทฺเทน โสฬสํสาทีนํ คหณํ. วณฺณมฏฺาติ มาลากมฺมาทิวณฺณมฏฺา.

๓๐๖๕. อฺชนิสลากาปิ ตถา วณฺณมฏฺา น วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘อฺชนิตฺถวิกาย จ, นานาวณฺเณหิ สุตฺเตหิ, จิตฺตกมฺมํ น วฏฺฏตี’’ติ ปาโ ยุชฺชติ. ‘‘ถวิกาปิ จา’’ติ ปาโ ทิสฺสติ, โส น คเหตพฺโพ.

๓๐๖๖. รตฺตาทินา เยน เกนจิ เอกวณฺเณน สุตฺเตน ปิโลติกาทิมยํ ยํ กิฺจิ สิปาฏิกํ สิพฺเพตฺวา วฬฺชนฺตสฺส วฏฺฏตีติ โยชนา.

๓๐๖๗. มณิกนฺติ ถูลปุพฺพุฬํ. ปิฬกนฺติ สุขุมปุพฺพุฬํ. ปิปฺผเลติ วตฺถจฺเฉทนสตฺเถ. อารกณฺฏเกติ ปตฺตาธารวลยานํ วิชฺฌนกณฺฏเก. เปตุนฺติ อุฏฺาเปตุํ. ยํ กิฺจีติ เสสํ วณฺณมฏฺมฺปิ จ.

๓๐๖๘. ทณฺฑเกติ ปิปฺผลทณฺฑเก. ยถาห – ‘‘ปิปฺผลเกปิ มณิกํ วา ปิฬกํ วา ยํ กิฺจิ อุฏฺาเปตุํ น วฏฺฏติ, ทณฺฑเก ปน ปริจฺเฉทเลขา วฏฺฏตี’’ติ. ปริจฺเฉทเลขามตฺตนฺติ อาณิพนฺธนฏฺานํ ปตฺวา ปริจฺฉินฺทนตฺถํ เอกาว เลขา วฏฺฏติ. วลิตฺวาติ อุภยโกฏิยา มุขํ กตฺวา มชฺเฌ วลิโย คาเหตฺวา. นขจฺเฉทนํ ยสฺมา กโรนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏตีติ โยชนา.

๓๐๖๙. อรณิสหิเต กนฺตกิจฺจกโร ทณฺโฑ อุตฺตรารณี นาม. วาปีติ ปิ-สทฺเทน อธรารณึ สงฺคณฺหาติ, อุทุกฺขลทณฺฑสฺเสตํ อธิวจนํ. อฺฉนกยนฺตธนุ ธนุกํ นาม. มุสลมตฺถกปีฬนทณฺฑโก เปลฺลทณฺฑโก นาม.

๓๐๗๐. สณฺฑาเสติ อคฺคิสณฺฑาสํ วทนฺติ. กฏฺจฺเฉทนวาสิยา ตถา ยํ กิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ทฺวีสุ ปสฺเสสูติ วาสิยา อุโภสุ ปสฺเสสุ. โลเหนาติ กปฺปิยโลเหน. พนฺธิตุํ วฏฺฏตีติ อุชุกเมว จตุรสฺสํ วา อฏฺํสํ วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘สณฺฑาเสติ อคฺคิสณฺฑาเส’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปเนตฺถ สูจิสณฺฑาโส ทสฺสิโต.

๓๐๗๑. เหฏฺโตติ เหฏฺา อโยปฏฺฏวลยสฺส. ‘‘อุปริ อหิจฺฉตฺตมกุลมตฺต’’นฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.

๓๐๗๒. วิสาเณติ เตลาสิฺจนกควยมหึสาทิสิงฺเค. นาฬิยํ วาปีติ เวฬุนาฬิกาทินาฬิยํ. อปิ-สทฺเทน อลาพุํ สงฺคณฺหาติ. อามณฺฑสารเกติ อามลกจุณฺณมยเตลฆเฏ. เตลภาชนเกติ วุตฺตปฺปกาเรเยว เตลภาชเน. สพฺพํ วณฺณมฏฺํ วฏฺฏตีติ ปุมิตฺถิรูปรหิตํ มาลากมฺมาทิ สพฺพํ วณฺณมฏฺํ วฏฺฏติ.

๓๐๗๓-๕. ปานียสฺส อุฬุงฺเกติ ปานียอุฬุงฺเก. โทณิยํ รชนสฺสปีติ รชนโทณิยมฺปิ. ผลกปีเติ ผลกมเย ปีเ. วลยาธารกาทิเกติ ทนฺตวลยาทิอาธารเก. อาทิ-สทฺเทน ทณฺฑาธารโก สงฺคหิโต. ปาทปุฺฉนิยนฺติ โจฬาทิมยปาทปุฺฉนิยํ. ปีเติ ปาทปีเ. สหจริเยน ปาทกถลิกายฺจ. จิตฺตํ สพฺพเมว จ วฏฺฏตีติ ยถาวุตฺเต ภิกฺขุปริกฺขาเร มาตุคามรูปรหิตํ, ภิกฺขุนิปริกฺขาเร ปุริสรูปรหิตํ อวเสสํ สพฺพํ จิตฺตกมฺมํ.

๓๐๗๖. นานา จ เต มณโย จาติ นานามณี, อินฺทนีลาทโย, นานามณีหิ กตา นานามณิมยา, ถมฺภา จ กวาฏา จ ทฺวารา จ ภิตฺติโย จ ถมฺภกวาฏทฺวารภิตฺติโย, นานามณิมยา ถมฺภกวาฏทฺวารภิตฺติโย ยสฺมึ ตํ ตถา วุตฺตํ. กา กถา วณฺณมฏฺเกติ มาลากมฺมลตากมฺมจิตฺตกมฺมาทิวณฺณมฏฺเก วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อตฺโถ.

๓๐๗๗. ถาวรสฺส รตนมยปาสาทสฺส กปฺปิยภาวํ ทสฺเสตฺวา สุวณฺณาทิมยสฺสาปิ สพฺพปาสาทปริโภคสฺส กปฺปิยภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โสวณฺณย’’นฺติอาทิ. โสวณฺณยนฺติ สุวณฺณมยํ. ทฺวารกวาฏานํ อนนฺตรคาถาย ทสฺสิตตฺตา ‘‘ทฺวารกวาฏพนฺธ’’นฺติ อิมินา ทฺวารกวาฏพาหาสงฺขาตํ ปิฏฺสงฺฆาฏํ คหิตํ. ทฺวารฺจ กวาฏฺจ ทฺวารกวาฏานิ, ทฺวารกวาฏานํ พนฺธํ ทฺวารกวาฏพนฺธํ, อุตฺตรปาสกุมฺมารสงฺขาตํ ปิฏฺสงฺฆาฏนฺติ อตฺโถ. นานา จ เต มณโย จาติ นานามณี, สุวณฺณฺจ นานามณี จ สุวณฺณนานามณี, ภิตฺติ จ ภูมิ จ ภิตฺติภูมิ สุวณฺณนานามณีหิ กตา ภิตฺติภูมิ สุวณฺณนานามณิภิตฺติภูมิ. อิติ อิเมสุ เสนาสนาวยเวสุ. น กิฺจิ เอกมฺปิ นิเสธนียนฺติ เอกมฺปิ เสนาสนปริกฺขารํ กิฺจิ น นิเสธนียํ, เสนาสนมฺปิ น ปฏิกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ. เสนาสนํ วฏฺฏติ สพฺพเมวาติ สพฺพเมว เสนาสนปริโภคํ วฏฺฏติ. ยถาห –

‘‘สพฺพํ ปาสาทปริโภคนฺติ สุวณฺณรชตาทิวิจิตฺรานิ กวาฏานิ มฺจปีานิ ตาลวณฺฏานิ สุวณฺณรชตมยานิ ปานียฆฏปานียสราวานิ ยํ กิฺจิ จิตฺตกมฺมกตํ, สพฺพํ วฏฺฏติ. ‘ปาสาทสฺส ทาสิทาสํ เขตฺตวตฺถุํ โคมหึสํ เทมา’ติ วทนฺติ, ปาเฏกฺกํ คหณกิจฺจํ นตฺถิ, ปาสาเท ปฏิคฺคหิเต ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. โคนกาทีนิ สงฺฆิกวิหาเร วา ปุคฺคลิกวิหาเร วา มฺจปีเกสุ อตฺถริตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏนฺติ. ธมฺมาสเน ปน คิหิวิกตนีหาเรน ลพฺภนฺติ, ตตฺราปิ นิปชฺชิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐).

‘‘โสวณฺณทฺวารกวาฏพนฺธ’’นฺติ วา ปาโ, พหุพฺพีหิสมาโส. อิมินา จ ทุติยปเทน จ เสนาสนํ วิเสสียติ.

๓๐๗๘. น ทวํ กเรติ ‘‘กึ พุทฺโธ สิลกพุทฺโธ? กึ ธมฺโม โคธมฺโม อชธมฺโม? กึ สงฺโฆ โคสงฺโฆ อชสงฺโฆ มิคสงฺโฆ’’ติ ปริหาสํ น กเรยฺย. ติตฺถิยพฺพตํ มูคพฺพตาทิกํ เนว คณฺเหยฺยาติ โยชนา.

๓๐๗๙. ตา ภิกฺขุนิโย อุทกาทินา วาปิ น สิฺเจยฺยาติ โยชนา.

๓๐๘๐. อฺตฺถ อฺสฺมึ วิหาเร วสฺสํวุตฺโถ อฺตฺถ อฺสฺมึ วิหาเร ภาคํ วสฺสาวาสิกภาคํ คณฺหาติ เจ, ทุกฺกฏํ. ตสฺมึ จีวเร นฏฺเ วา ชชฺชเร ชิณฺเณ วา คีวา ปุน ทาตพฺพนฺติ โยชนา.

๓๐๘๑. โสติ อฺตฺถ ภาคํ คณฺหนโก ภิกฺขุ. เตหีติ จีวรสามิเกหิ. นฺติ ตถา คหิตํ วสฺสาวาสิกภาคํ. เตสนฺติ จีวรสามิกานํ.

๓๐๘๒. กโรโตติ การาปยโต. ทวา สิลํ ปวิชฺฌนฺโตติ ปนฺติกีฬาย กีฬตฺถิกานํ สิปฺปทสฺสนวเสน สกฺขรํ วา นินฺนฏฺานํ ปวฏฺฏนวเสน ปาสาณํ วา ปวิชฺฌนฺโต. น เกวลฺจ ปาสาณํ, อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ ทารุขณฺฑํ วา อิฏฺกขณฺฑํ วา หตฺเถน วา ยนฺเตน วา ปวิชฺฌิตุํ น วฏฺฏติ. เจติยาทีนํ อตฺถาย ปาสาณาทโย หสนฺตา หสนฺตา ปวฏฺเฏนฺติปิ ขิปนฺติปิ อุกฺขิปนฺติปิ, กมฺมสมโยติ วฏฺฏติ.

๓๐๘๓. คิหิโคปกทานสฺมินฺติ คิหีนํ อุยฺยานโคปกาทีหิ อตฺตนา โคปิตอุยฺยานาทิโต ผลาทีนํ ทาเน ยาวทตฺถํ ทิยฺยมาเนปิ. น โทโส โกจิ คณฺหโตติ ปฏิคฺคณฺหโต ภิกฺขุโน โกจิ โทโส นตฺถิ. สงฺฆเจติยสนฺตเก ตาลผลาทิมฺหิ อุยฺยานโคปกาทีหิ ทิยฺยมาเน ปริจฺเฉทนโย เตสํ เวตนวเสน ปริจฺฉินฺนานํเยว คหเณ อนาปตฺตินโย วุตฺโตติ โยชนา.

๓๐๘๔. ปุริสสํยุตฺตนฺติ ปริวิสเกหิ ปุริเสหิ วุยฺหมานํ. หตฺถวฏฺฏกนฺติ หตฺเถเนว ปวฏฺเฏตพฺพสกฏํ.

๓๐๘๕. ภิกฺขุนิยา สทฺธึ กิฺจิปิ อนาจารํ น สมฺปโยเชยฺย น กาเรยฺยาติ โยชนา. ‘‘กิฺจี’’ติปิ ปาโ, คหฏฺํ วา ปพฺพชิตํ วา กิฺจิ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ อนาจารวเสน น สมฺปโยเชยฺยาติ อตฺโถ. โอภาเสนฺตสฺสาติ กามาธิปฺปายํ ปกาเสนฺตสฺส.

๓๐๘๖. หเวติ เอกํสตฺเถ นิปาโต.

๓๐๘๗. อตฺตโน ปริโภคตฺถํ ทินฺนนฺติ ‘‘ตุมฺเหเยว ปริภุฺชถา’’ติ วตฺวา ทินฺนํ ติจีวราทึ.

๓๐๘๘. อสปฺปายนฺติ ปิตฺตาทิโทสานํ โกปนวเสน อผาสุการณํ. อปเนตุมฺปิ ชหิตุมฺปิ, ปเคว ทาตุนฺติ อธิปฺปาโย. อคฺคํ คเหตฺวา ทาตุํ วาติ ตถา คหณารหํ อนฺนาทึ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘กติปาหํ ภุตฺวา’’ติ เสโส. ปิณฺฑปาตาทิโต อคฺคํ คเหตฺวา ปตฺตาทึ กติปาหํ ภุตฺวา ทาตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.

๓๐๘๙. ปฺจวคฺคูปสมฺปทาติ วินยธรปฺจเมน สงฺเฆน กาตพฺพอุปสมฺปทา. นวาติ อฺเหิ เอกวารมฺปิ อปริภุตฺตา. คุณงฺคุณอุปาหนา จตุปฏลโต ปฏฺาย พหุปฏลอุปาหนา. จมฺมตฺถาโรติ กปฺปิยจมฺมตฺถรณฺจ. ธุวนฺหานนฺติ ปกตินหานํ.

๓๐๙๐. สมฺพาธสฺสาติ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคทฺวยสฺส สามนฺตา ทฺวงฺคุลา อนฺโต สตฺถวตฺถิกมฺมํ วาริตนฺติ โยชนา. สตฺเถน อนฺตมโส นเขนาปิ เฉทนผาลนาทิวเสน สตฺถกมฺมฺจ วตฺถีหิ เภสชฺชเตลสฺส อนฺโต ปวิสนวเสน กาตพฺพํ วตฺถิกมฺมฺจ ถุลฺลจฺจยาปตฺติวิธาเนน วาริตนฺติ อตฺโถ. ปสฺสาวมคฺคสฺส สามนฺตา ทฺวงฺคุลํ องฺคชาตสฺส อคฺคโต ปฏฺาย คเหตพฺพํ.

๓๐๙๑. ‘‘ปากตฺถ’’นฺติ อิมินา นิพฺพาเปตุํ จลเน นิทฺโทสภาวํ ทีเปติ.

๓๐๙๒. อุปฬาเลตีติ ‘‘ปตฺตจีวราทิปริกฺขารํ เต ทมฺมี’’ติ วตฺวา ปโลเภตฺวา คณฺหาติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปุคฺคเล. อาทีนวนฺติ อลชฺชิตาทิภาวํ ทสฺเสตฺวา เตน สห สมฺโภคาทิกรเณ อลชฺชิภาวาปชฺชนาทิอาทีนวํ. ตสฺสาติ ตโต วิโยเชตพฺพสฺส ตสฺส.

๓๐๙๓. อาทีนวทสฺสนปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มกฺขน’’นฺติอาทิ. ‘‘นหายิตุํ คเตน คูถมุตฺเตหิ มกฺขนํ วิย ทุสฺสีลํ นิสฺสาย วิหรตา ตยา กต’’นฺติ เอวํ ตตฺถ อาทีนวํ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

๓๐๙๔-๕. ภตฺตคฺเค โภชนสาลาย ภุฺชมาโน. ยาคุปาเนติ ยาคุํ ปิวนกาเล. อนฺโตคาเมติ อนฺตรฆเร. วีถิยนฺติ นิคมนครคามาทีนํ รถิกาย. อนฺธกาเรติ อนฺธกาเร วตฺตมาเน, อนฺธการคโตติ อตฺโถ. ตฺหิ วนฺทนฺตสฺส มฺจปาทาทีสุปิ นลาฏํ ปฏิหฺเยฺย. อนาวชฺโชติ กิจฺจปสุตตฺตา วนฺทนํ อสมนฺนาหรนฺโต. เอกาวตฺโตติ เอกโต อาวตฺโต สปตฺตปกฺเข ิโต เวรี วิสภาคปุคฺคโล. อยฺหิ วนฺทิยมาโน ปาเทนปิ ปหเรยฺย. วาวโฏติ สิพฺพนกมฺมาทิกิจฺจนฺตรปสุโต.

สุตฺโตติ นิทฺทํ โอกฺกนฺโต. ขาทนฺติ ปิฏฺกขชฺชกาทีนิ ขาทนฺโต. ภุฺชนฺโตติ โอทนาทีนิ ภุฺชนฺโต. วจฺจํ มุตฺตมฺปิ วา กรนฺติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กโรนฺโต อิติ อิเมสํ เตรสนฺนํ วนฺทนา อยุตฺตตฺเถน วาริตาติ สมฺพนฺโธ.

๓๐๙๖-๗. กมฺมลทฺธิสีมาวเสน ตีสุ นานาสํวาสเกสุ กมฺมนานาสํวาสกสฺส อุกฺขิตฺตคฺคหเณน คหิตตฺตา, สีมานานาสํวาสกวุฑฺฒตรปกตตฺตสฺส วนฺทิยตฺตา, ปาริเสสาเยน ‘‘นานาสํวาสโก วุฑฺฒตโร อธมฺมวาที อวนฺทิโย’’ติ (ปริ. ๔๖๗) วจนโต จ ลทฺธินานาสํวาสโก อิธ ‘‘นานาสํวาสโก’’ติ คหิโตติ เวทิตพฺโพ. อุกฺขิตฺโตติ ติวิเธนาปิ อุกฺเขปนียกมฺเมน อุกฺขิตฺตโก. ครุกฏฺา จ ปฺจาติ ปาริวาสิกมูลายปฏิกสฺสนารหมานตฺตารหมานตฺตจาริกอพฺภานารหสงฺขาตา ปฺจ ครุกฏฺา จ. อิเม ปน อฺมฺสฺส ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนาทีนิ ลภนฺติ, ปกตตฺเตน อวนฺทิยตฺตาว อวนฺทิเยสุ คหิตา. อิเม พาวีสติ ปุคฺคเลติ นคฺคาทโย ยถาวุตฺเต.

๓๐๙๘. ‘‘ธมฺมวาที’’ติ อิทํ ‘‘นานาสํวาสวุฑฺฒโก’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ. ยถาห ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, วนฺทิยา. ปจฺฉา อุปสมฺปนฺเนน ปุเรอุปสมฺปนฺโน วนฺทิโย, นานาสํวาสโก วุฑฺฒตโร ธมฺมวาที วนฺทิโย, สเทวเก โลเก, ภิกฺขเว, สมารเก…เป… ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วนฺทิโย’’ติ (จูฬว. ๓๑๒).

๓๐๙๙. ‘‘เอเตเยว วนฺทิยา, น อฺเ’’ติ นิยามสฺส อกตตฺตา อฺเสมฺปิ วนฺทิยานํ สพฺภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตชฺชนาที’’ติอาทิ. เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นิยสฺสปพฺพาชนียปอสารณียกมฺเม สงฺคณฺหาติ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ วนฺทนียาธิกาเร. กมฺมนฺติ อปโลกนาทิ จตุพฺพิธํ กมฺมํ.

๓๑๐๐. สงฺเฆน อธมฺมกมฺเม กริยมาเน ตํ วาเรตุํ อสกฺโกนฺเตน, อสกฺโกนฺเตหิ จ ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธิฏฺาน’’นฺติอาทิ. อธิฏฺานํ ปเนกสฺส อุทฺทิฏฺนฺติ โยชนา, อธมฺมกมฺมํ กโรนฺตานํ ภิกฺขูนมนฺตเร นิสีทิตฺวา ตํ ‘‘อธมฺม’’นฺติ ชานิตฺวาปิ ตํ วาเรตุํ อสกฺโกนฺตสฺส เอกสฺส ‘‘น เมตํ ขมตี’’ติ จิตฺเตน อธิฏฺานมุทฺทิฏฺนฺติ วุตฺตํ โหติ. ทฺวินฺนํ วา ติณฺณเมว จาติ ตเมว วาเรตุํ อสกฺโกนฺตานํ ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา ภิกฺขูนํ อฺมฺํ ‘‘น เมตํ ขมตี’’ติ ทิฏฺาวิกมฺมํ สกสกทิฏฺิยา ปกาสนํ อุทฺทิฏฺนฺติ อตฺโถ. ตโต อุทฺธํ ตีหิ อุทฺธํ จตุนฺนํ กมฺมสฺส ปฏิกฺโกสนํ ‘‘อิทํ อธมฺมกมฺมํ มา กโรถา’’ติ ปฏิกฺขิปนํ อุทฺทิฏฺนฺติ อตฺโถ.

๓๑๐๑. วิสฺสาสคฺคาหลกฺขณํ อคฺคหิตคฺคหเณน ปฺจวิธนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘สนฺทิฏฺโ’’ติอาทิ. โยชนา ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพา – สนฺทิฏฺโ จ โหติ, ชีวติ จ, คหิเต จ อตฺตมโน โหติ, สมฺภตฺโต จ โหติ, ชีวติ จ, คหิเต จ อตฺตมโน โหติ, อาลปิโต จ โหติ, ชีวติ จ, คหิเต จ อตฺตมโน โหตีติ เอวํ สนฺทิฏฺสมฺภตฺตอาลปิตานํ ติณฺณเมเกกสฺส ตีณิ ตีณิ วิสฺสาสคฺคาหลกฺขณานิ กตฺวา นววิธํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. วจนตฺโถ, ปเนตฺถ วินิจฺฉโย จ เหฏฺา วุตฺโตว.

๓๑๐๒. สีลวิปตฺติ, ทิฏฺิวิปตฺติ จ อาจาราชีวสมฺภวา ทฺเว วิปตฺติโย จาติ โยชนา, อาจารวิปตฺติ, อาชีววิปตฺติ จาติ วุตฺตํ โหติ.

๓๑๐๓. ตตฺถาติ เตสุ จตูสุ วิปตฺตีสุ. อปฺปฏิกมฺมา ปาราชิกา วุฏฺานคามินี สงฺฆาทิเสสาปตฺติกา ทุเว อาปตฺติโย สีลวิปตฺตีติ ปกาสิตาติ โยชนา.

๓๑๐๔. ยา จ อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิ, ยา ทสวตฺถุกา ทิฏฺิ, อยํ ทุวิธา ทิฏฺิ ทิฏฺิวิปตฺตีติ ทีปิตาติ โยชนา. ตตฺถ อนฺตคฺคาหิกทิฏฺิ นาม อุจฺเฉทนฺตสสฺสตนฺตคาหวเสน ปวตฺตา ทิฏฺิ. ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา ทสวตฺถุกา ทิฏฺิ.

๓๑๐๕. ถุลฺลจฺจยาทิกา เทสนาคามินิกา ยา ปฺจ อาปตฺติโย, อาจารกุสเลน ภควตา สา อาจารวิปตฺตีติ วุตฺตาติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน ปาจิตฺติยปาฏิเทสนียทุกฺกฏทุพฺภาสิตานํ คหณํ. ยาติ ปฺจาปตฺติโย อเปกฺขิตฺวา พหุตฺตํ. สาติ อาจารวิปตฺติ สามฺมเปกฺขิตฺวา เอกตฺตํ.

๓๑๐๖. กุหนาทีติ อาทิ-สทฺเทน ลปนา เนมิตฺติกตา นิปฺเปสิกตา ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตา คหิตา, กุหนาทีนํ วิตฺถาโร วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๖) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อาชีโว ปจฺจโย เหตุ ยสฺสา อาปตฺติยาติ วิคฺคโห. ฉพฺพิธาติ จตุตฺถปาราชิกสฺจริตฺตถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยปาฏิเทสนียทุกฺกฏาปตฺตีนํ วเสน ฉพฺพิธา. ปกาสิตา

‘‘อาชีวเหตุ อาชีวการณา ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. อาชีวเหตุ…เป… สฺจริตฺตํ สมาปชฺชติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. อาชีวเหตุ…เป… ‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหา’ติ ภณติ, ปฏิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. อาชีวเหตุ…เป… ภิกฺขุ ปณีตโภชนานิ อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภุฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อาชีวเหตุ…เป… ภิกฺขุนี ปณีตโภชนานิ อคิลานา อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภุฺชติ, อาปตฺติ ปาฏิเทสนียสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา สูปํ วา โอทนํ วา อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภุฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปริ. ๒๘๗) –

เทสิตา. อิมินา อาชีววิปตฺติ ทีปิตา.

๓๑๐๗. ‘‘อุกฺขิตฺโต’’ติอาทิ ยถากฺกเมน เตสํ ติณฺณํ นานาสํวาสกานํ สรูปทสฺสนํ. ตตฺถ ตโย อุกฺขิตฺตกา วุตฺตาเยว.

๓๑๐๘-๙. ‘‘โย สงฺเฆน อุกฺเขปนียกมฺมกตานํ อธมฺมวาทีนํ ปกฺเข นิสินฺโน ‘ตุมฺเห กึ ภณถา’ติ เตสฺจ อิตเรสฺจ ลทฺธึ สุตฺวา ‘อิเม อธมฺมวาทิโน, อิตเร ธมฺมวาทิโน’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทติ, อยํ เตสํ มชฺเฌ นิสินฺโนว เตสํ นานาสํวาสโก โหติ, กมฺมํ โกเปติ. อิตเรสมฺปิ หตฺถปาสํ อนาคตตฺตา โกเปตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๔๕๕) อาคต อฏฺกถาวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธมฺมวาทิปกฺขสฺมิ’’นฺติอาทิ.

อธมฺมวาทิปกฺขสฺมินฺติ อุกฺเขปนียกมฺเมน นิสฺสาริตานํ อธมฺมวาทีนํ ปกฺขสฺมึ. นิสินฺโนวาติ หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา คณปูรโก หุตฺวา นิสินฺโนว. วิจินฺตยนฺติ ‘‘อิเม นุ โข ธมฺมวาทิโน, อุทาหุ เอเต’’ติ วิวิเธนากาเรน จินฺตยนฺโต. ‘‘เอเต ปน ธมฺมวาที’’ติ มานสํ อุปฺปาเทติ, เอวํ อุปฺปนฺเน ปน มานเส. อธมฺมวาทิปกฺขสฺมึ นิสินฺโนว เอวํ มานสํ อุปฺปาเทนฺโต อยํ ภิกฺขุ. ลทฺธิยาติ เอวํ อุปฺปาทิตมานสสงฺขาตาย ลทฺธิยา. เตสํ อธมฺมวาทีนํ นานาสํวาสโก นาม โหตีติ ปกาสิโต.

ตตฺรฏฺโ ปน โสติ ตสฺมึ อธมฺมวาทิปกฺขสฺมึ นิสินฺโนว โส. สท-ธาตุยา คตินิวารณตฺถตฺตา ตตฺร นิสินฺโน ‘‘ตตฺรฏฺโ’’ติ วุจฺจติ. ทฺวินฺนนฺติ ธมฺมวาทิอธมฺมวาทิปกฺขานํ ทฺวินฺนํ สงฺฆานํ. กมฺมนฺติ จตุวคฺคาทิสงฺเฆน กรณียกมฺมํ. โกเปตีติ อธมฺมวาทีนํ อสํวาสภาวํ คนฺตฺวา เตสํ คณปูรณตฺตา, อิตเรสํ เอกสีมายํ ตฺวา หตฺถปาสํ อนุปคตตฺตา, ฉนฺทสฺส จ อทินฺนตฺตา กมฺมํ โกเปติ. โย ปน อธมฺมวาทีนํ ปกฺเข นิสินฺโน ‘‘อธมฺมวาทิโน อิเม, อิตเร ธมฺมวาทิโน’’ติ เตสํ มชฺเฌ ปวิสติ, ยตฺถ วา ตตฺถ วา ปกฺเข นิสินฺโน ‘‘อิเม ธมฺมวาทิโน’’ติ คณฺหาติ, อยํ อตฺตนาว อตฺตานํ สมานสํวาสกํ กโรตีติ เวทิตพฺโพ.

๓๑๑๐. พหิสีมาคโต ปกตตฺโต ภิกฺขุ สเจ หตฺถปาเส ิโต โหติ, โส สีมาย นานาสํวาสโก มโตติ โยชนา. ตํ คณปูรณํ กตฺวา กตกมฺมมฺปิ กุปฺปติ. เอวํ ยถาวุตฺตนิยาเมน ตโย นานาสํวาสกา มเหสินา วุตฺตาติ โยชนา.

๓๑๑๑. จุโตติ ปาราชิกาปนฺโน สาสนโต จุตตฺตา ‘‘จุโต’’ติ คหิโต. ‘‘ภิกฺขุนี เอกาทส อภพฺพา’’ติ ปทจฺเฉโท. อิเมติ เภทมนเปกฺขิตฺวา สามฺเน สตฺตรส ชนา. อสํวาสาติ น สํวสิตพฺพา, นตฺถิ วา เอเตหิ ปกตตฺตานํ เอกกมฺมาทิโก สํวาโสติ อสํวาสา นาม สิยุํ.

๓๑๑๒. อสํวาสสฺส สพฺพสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส สตฺตรสวิธสฺส สพฺพสฺส อสํวาสสฺส. ตถา กมฺมารหสฺส จาติ ‘‘ยสฺส สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปตฺโต, นาปิ ฉนฺทารโห, อปิจ กมฺมารโห’’ติ (ปริ. ๔๘๘) เอวํ ปริวาเร วุตฺตกมฺมารหสฺส จ. อุมฺมตฺตกาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน ขิตฺตจิตฺตาทีนํ คหณํ. สงฺเฆ ตชฺชนียาทีนิ กโรนฺเต. ปฏิกฺเขโปติ ปฏิกฺโกสนา. น รูหตีติ ปฏิกฺโกสฏฺาเน น ติฏฺติ, กมฺมํ น โกเปตีติ อธิปฺปาโย.

๓๑๑๓. สสํวาเสก…เป… ภิกฺขุโนติ วุตฺตนเยน กมฺเมน วา ลทฺธิยา วา อสํวาสิกภาวํ อนุปคตตฺตา สมานสํวาสกสฺส สีมาย อสํวาสิกภาวํ อนุปคนฺตฺวา เอกสีมาย ิตสฺส อนฺติมวตฺถุํ อนชฺฌาปนฺนตฺตา ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน. อนนฺตรสฺสปิ หตฺถปาเส วจเนน วจีเภทกรเณน ปฏิกฺเขโป ปฏิกฺโกโส รุหติ ปฏิกฺโกสนฏฺาเนเยว ติฏฺติ, กมฺมํ โกเปตีติ อธิปฺปาโย.

๓๑๑๔. ฉหิ อากาเรหีติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๓๘; กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) ลชฺชิตาย, อฺาณตาย, กุกฺกุจฺจปกตตาย, สติสมฺโมสาย, อกปฺปิเยกปฺปิยสฺิตาย, กปฺปิเยอกปฺปิยสฺิตายาติ อิเมหิ ฉหิ อากาเรหิ. ปฺจ สมณกปฺปา จ วุตฺตา, ปฺจ วิสุทฺธิโย จ วุตฺตาติ โยชนา.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภุฺชิตุํ, อคฺคิปริชิตํ สตฺถปริชิตํ นขปริชิตํ อพีชํ นิพฺพฏฺฏพีชฺเว ปฺจม’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๐) ขุทฺทกวตฺถุเก อนุฺาตา ปฺจ สมณกปฺปา นาม. ปฺจ วิสุทฺธิโยติ ปริวาเร เอกุตฺตเร ‘‘ปฺจ วิสุทฺธิโย’’ติ อิมสฺส นิทฺเทเส ‘‘นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ปมา วิสุทฺธี’’ติอาทินา (ปริ. ๓๒๕) นเยน ทสฺสิตา ปฺจ ปาติโมกฺขุทฺเทสสงฺขาตา ปฺจ วิสุทฺธิโย จ ‘‘สุตฺตุทฺเทโส ปาริสุทฺธิอุโปสโถ อธิฏฺานุโปสโถ ปวารณา สามคฺคิอุโปสโถเยว ปฺจโม’’ติ (ปริ. ๓๒๕) เอวํ วุตฺตา ปฺจ วิสุทฺธิโย จาติ ทฺเวปฺจวิสุทฺธิโย ‘‘ทฺวิปฺจวิฺาณานี’’ติอาทีสุ วิย สามฺวจเนน สงฺคหิตา.

๓๑๑๕-๗. นิสฺเสเสน ทียติ ปฺปียติ เอตฺถ สิกฺขาปทนฺติ นิทานํ, เตสํ เตสํ สิกฺขาปทานํ ปฺตฺติยา านภูตํ เวสาลีอาทิ. ปุํ วุจฺจติ นิรโย, ตํ คลติ มทฺทติ เนรยิกทุกฺขํ อนุภวตีติ ปุคฺคโล, สตฺโต. อริยปุคฺคลา ตํสทิสตฺตา, ภูตปุพฺพคติยา วา ‘‘ปุคฺคลา’’ติ เวทิตพฺพา. อิธ ปเนเต สิกฺขาปทวีติกฺกมสฺส อาทิกมฺมิกา อธิปฺเปตา. อิทานิ ปุคฺคลนิทฺเทสํ วกฺขติ. วสติ เอตฺถ ภควโต อาณาสงฺขาตา สิกฺขาปทปฺตฺติ ตํ ปฏิจฺจ ปวตฺตตีติ วตฺถุ, ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺส สิกฺขาปทปฺตฺติเหตุภูโต อชฺฌาจาโร.

วิธานํ วิภชนํ วิธิ, ปเภโท. ปฺาปียติ ภควโต อาณา ปกาเรน าปียติ เอตายาติ ปฺตฺติ, ปฺตฺติยา วิธิ ปเภโท ‘‘ปฺตฺติวิธิ’’นฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘วิธึ ปฺตฺติยา’’ติ คาถาพนฺธวเสน อสมตฺถนิทฺเทโส. สา ปน ปฺตฺติวิธิ ปฺตฺติอนุปฺตฺติ อนุปฺปนฺนปฺตฺติ สพฺพตฺถปฺตฺติ ปเทสปฺตฺติ สาธารณปฺตฺติ อสาธารณปฺตฺติ เอกโตปฺตฺติ อุภโตปฺตฺติวเสน นววิธา โหติ.

‘‘วิปตฺติ อาปตฺติ อนาปตฺตี’’ติ ปทจฺเฉโท, วิปชฺชนฺติ เอตาย สีลาทโยติ วิปตฺติ. สา ปน สีลอาจารทิฏฺิอาชีวานํ วเสน จตุพฺพิธา. สา ปน อุทฺเทสวเสน เหฏฺา ทสฺสิตาว. อาปชฺชนฺติ เอตาย อกุสลาพฺยากตภูตาย ภควโต อาณาวีติกฺกมนฺติ อาปตฺติ. สา ปุพฺพปโยคาทิวเสน อเนกปฺปเภทา อาปตฺติ. อนาปตฺติ อชานนาทิวเสน อาณาย อนติกฺกมนํ. สมุฏฺาติ เอเตหิ อาปตฺตีติ สมุฏฺานานิ, กายาทิวเสน ฉพฺพิธานิ อาปตฺติการณานิ. สมุฏฺานานํ นโย สมุฏฺานนโย, ตํ.

วชฺชฺจ กมฺมฺจ กิริยา จ สฺา จ จิตฺตฺจ อาณตฺติ จ วชฺชกมฺมกฺริยาสฺาจิตฺตาณตฺติโย, ตาสํ วิธิ ตถา วุจฺจติ, ตํ. วชฺชวิธินฺติ ‘‘ยสฺสา สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, อยํ โลกวชฺชา, เสสา ปณฺณตฺติวชฺชา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ วชฺชวิธึ. กมฺมวิธินฺติ ‘‘สพฺพา จ กายกมฺมวจีกมฺมตทุภยวเสน ติวิธา โหนฺตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) ทสฺสิตํ กมฺมวิธึ. กฺริยาวิธินฺติ ‘‘อตฺถาปตฺติ กิริยโต สมุฏฺาติ, อตฺถิ อกิริยโต, อตฺถิ กิริยากิริยโต, อตฺถิ สิยา กิริยโต สิยา อกิริยโต’’ติอาทินา (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) นเยน ทสฺสิตํ กิริยาวิธึ. สฺาวิธินฺติ ‘‘สฺาวิโมกฺขา’’ติอาทินา (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) นเยน ทสฺสิตํ สฺาวิธึ.

จิตฺตวิธินฺติ ‘‘สพฺพาปิ จิตฺตวเสน ทุวิธา โหนฺติ สจิตฺตกา, อจิตฺตกา จา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ จิตฺตวิธึ. อาณตฺติวิธินฺติ ‘‘สาณตฺติกํ อนาณตฺติก’’นฺติ วุตฺตํ อาณตฺติวิธึ. องฺควิธานนฺติ สพฺพสิกฺขาปเทสุ อาปตฺตีนํ วุตฺตํ องฺควิธานฺจ. เวทนาตฺติกํ, กุสลตฺติกฺจาติ โยชนา. ตํ ปน ‘‘อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิจิตฺตํ, ติจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนํ, ทฺวิเวทนํ, ติเวทน’’นฺติ ตตฺถ ตตฺถ ทสฺสิตเมว.

สตฺตรสวิธํ เอตํ ลกฺขณนฺติ ยถาวุตฺตนิทานาทิสตฺตรสปฺปเภทํ สพฺพสิกฺขาปทานํ สาธารณลกฺขณํ. ทสฺเสตฺวาติ ปกาเสตฺวา. พุโธ วินยกุสโล. ตตฺถ ตตฺถ สิกฺขาปเทสุ ยถารหํ โยเชยฺยาติ สมฺพนฺโธ.

๓๑๑๘. อิเมสุ สตฺตรสสุ ลกฺขเณสุ นิทานปุคฺคเล ตาว นิทฺทิสิตุมาห ‘‘นิทาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถาติ เตสุ สตฺตรสสุ สาธารณลกฺขเณสุ, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมํ. นิทานนฺติ นิทฺธาริตพฺพทสฺสนํ. ‘‘ปุร’’นฺติ อิทํ ‘‘เวสาลี’’ติอาทิปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. สกฺกภคฺคาติ เอเตหิ ชนปทวาจีหิ สทฺเทหิ านนิสฺสิตา นาคราว คเหตพฺพา. ตานิ จ ‘‘สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ, ภคฺเคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร’’ติ ตตฺถ ตตฺถ สิกฺขาปทนิทาเน นิทสฺสิตาเนว.

๓๑๑๙. ‘‘ทส เวสาลิยา’’ติอาทีนํ อตฺถวินิจฺฉโย อุตฺตเร อาวิ ภวิสฺสติ. คิริพฺพเชติ ราชคหนคเร. ตฺหิ สมนฺตา ิเตหิ อิสิคิลิอาทีหิ ปฺจหิ ปพฺพเตหิ วชสทิสนฺติ ‘‘คิริพฺพช’’นฺติ วุจฺจติ.

๓๑๒๑. ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺขสฺมึ สุทินฺนธนิยาทโย เตวีสติวิธา อาทิกมฺมิกปุคฺคลา วุตฺตาติ โยชนา.

๓๑๒๒. อุภยปาติโมกฺเข อาคตา เต สพฺเพ อาทิกมฺมิกปุคฺคลา ปริปิณฺฑิตา ตึส ภวนฺตีติ โยชนา. วตฺถุอาทีนํ วินิจฺฉโย อุตฺตเร วกฺขมานตฺตา อิธ น วุตฺโต. นนุ จ นิทานปุคฺคลวินิจฺฉยมฺปิ ตตฺถ วกฺขตีติ โส อิธ กสฺมา วุตฺโตติ? นายํ โทโส, อิมสฺส ปกรณตฺตา อิธาปิ วตฺตพฺโพติ. ยทิ เอวํ วตฺถุอาทิวินิจฺฉโยปิ อิธ วตฺตพฺโพ สิยา, โส กสฺมา น วุตฺโตติ? เอกโยคนิทฺทิฏฺสฺส อิมสฺส วจเนน โสปิ วุตฺโตเยว โหตีติ เอกเทสทสฺสนวเสน สํขิตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.

๓๑๒๓. โย เอนํ ตรุํ ชานาติ, โส ปฺตฺตึ อเสสโต ชานาตีติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ ‘‘เอนํ ตรุ’’นฺติ อิมินา นิทานาทิสตฺตรสปฺปการํ สพฺพสิกฺขาปทสาธารณลกฺขณสมุทายํ รูปเกน ทสฺเสติ. กึ วิสิฏฺํ ตรุนฺติ อาห ‘‘ติมูล’’นฺติอาทิ.

ตตฺถ ติมูลนฺติ นิทานปุคฺคลวตฺถุสงฺขาตานิ ตีณิ มูลานิ เอตสฺสาติ ติมูลํ. นวปตฺตนฺติ นววิธปณฺณตฺติสงฺขาตานิ ปตฺตานิ เอตสฺสาติ นวปตฺตํ. ทฺวยงฺกุรนฺติ โลกวชฺชปณฺณตฺติวชฺชสงฺขาตา ทฺเว องฺกุรา เอตสฺสาติ ทฺวยงฺกุรํ. ‘‘ทฺวิองฺกุร’’นฺติ วตฺตพฺเพ อิ-การสฺส อยาเทสํ กตฺวา ‘‘ทฺวยงฺกุร’’นฺติ วุตฺตํ. สตฺตผลนฺติ อาณตฺติอาปตฺติอนาปตฺติวิปตฺติสฺาเวทนากุสลตฺติกสงฺขาตานิ สตฺต ผลานิ เอตสฺสาติ สตฺตผลํ. ฉปุปฺผนฺติ ฉสมุฏฺานสงฺขาตานิ ปุปฺผานิ เอตสฺสาติ ฉปุปฺผํ. ทฺวิปฺปภวนฺติ จิตฺตกมฺมสงฺขาตา ทฺเว ปภวา เอตสฺสาติ ทฺวิปฺปภวํ. ทฺวิสาขนฺติ กิริยองฺคสงฺขาตา ทฺเว สาขา เอตสฺสาติ ทฺวิสาขํ. เอนํ ตรุํ โย ชานาตีติ โย วุตฺโต ภิกฺขุ วุตฺตสรูปสาธารณสตฺตรสลกฺขณราสิวินิจฺฉยสงฺขาตตรุํ ชานาติ. โสติ โส ภิกฺขุ. ปฺตฺตินฺติ วินยปิฏกํ. อเสสโตติ สพฺพโส.

๓๑๒๔. อิติ เอวํ มธุรปทตฺถํ อนากุลํ ปรมํ อุตฺตมํ อิมํ วินิจฺฉยํ โย ปติ วาจุคฺคตํ กโรนฺโต ปริยาปุณาติ, ครุสนฺติเก สาธุกํ สุณาติ, ปริปุจฺฉเต จ อตฺถํ ปริปุจฺฉติ จ, โส ภิกฺขุ วินย วินิจฺฉเย อุปาลิสโม ภวติ วินยธรานํ เอตทคฺคฏฺาเน นิกฺขิตฺเตน อุปาลิมหาเถเรน สทิโส ภวตีติ โยชนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ปกิณฺณกวินิจฺฉยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

กมฺมฏฺานวิภาวนาวิธานกถาวณฺณนา

๓๑๒๕. ‘‘อาทิมฺหิ สีลํ ทสฺเสยฺย.

มชฺเฌ มคฺคํ วิภาวเย;

ปริโยสาเน จ นิพฺพานํ;

เอสา กถิกสณฺิตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๙๐; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๙๑; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๖๔) –

วุตฺตํ ธมฺมกถิกลกฺขณํ สมนุสฺสรนฺโตยมาจริโย ปาติโมกฺขสํวรสีลปริทีปกํ วินิจฺฉยํ นาติสงฺเขปวิตฺถารมุเขน ทสฺเสตฺวา ตํมูลกานํ อิตเรสฺจ ติณฺณํ สีลานํ ตํทสฺสเนเนว ทสฺสิตภาวฺจ สีลวิสุทฺธิมูลิกา จิตฺตวิสุทฺธิอาทิโย ปฺจวิสุทฺธิโย จ ตํมูลิกฺจ อริยมคฺคสงฺขาตํ าณทสฺสนวิสุทฺธึ ตทธิคมนียํ นิพฺพานฺจ ทสฺเสตฺวา ยถารทฺธํ วินยกถํ ปริโยสาเปตุกาโม อาห ‘‘ปาโมกฺเข’’ติอาทิ. ตตฺถ ปาโมกฺเขติ สมาธิอาทีนํ อนวชฺชธมฺมานํ ปติฏฺาภาเวน อุตฺตเม. โมกฺขปฺปเวสเนติ อมตมหานิพฺพานนครสฺส ปเวสนนิมิตฺเต. มุเข อสหายทฺวารภูเต. ยถาห –

‘‘สคฺคาโรหณโสปานํ, อฺํ สีลสมํ กุโต;

ทฺวารํ วา ปน นิพฺพาน-นครสฺส ปเวสเน’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๙; พุ. พํ. อฏฺ. ๓.ทีปงฺกรพุทฺธวํสวณฺณนา);

สพฺพทุกฺขกฺขเยติ ชาติทุกฺขาทิสพฺพทุกฺขานํ ขยสฺส อริยมคฺคสฺส อธิคมูปายตฺตา ผลูปจาเรน สพฺพทุกฺขกฺขยสงฺขาเต. ‘‘ปาโมกฺเข’’ติ จ ‘‘โมกฺขปฺปเวสเน มุเข’’ติ จ ‘‘สพฺพทุกฺขกฺขเย’’ติ จ ‘‘ปาติโมกฺขสฺมิ’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ. วุตฺเตติ ปาราชิกโต ปฏฺาย นานปฺปการโต นิทฺทิฏฺเ สติ. อิตรตฺตยํ วุตฺตเมวาติ สมฺพนฺโธ. อินฺทฺริยสํวรสีลอาชีวปาริสุทฺธิสีลปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสงฺขาตํ อิตรํ สีลตฺตยํ วุตฺตเมว โหติ ‘‘ราชา อาคโต’’ติ วุตฺเต ปริสาย อาคมนํ วิย, ตสฺมา ตํ น วกฺขามาติ อธิปฺปาโย.

๓๑๒๖. อิทํ จตุพฺพิธํ สีลนฺติ ปาติโมกฺขสํวรสีลาทึ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. ตฺวาติ ลกฺขณาทิโต, โวทานโต, หานภาคิยฏฺิติภาคิยวิเสสภาคิยนิพฺเพธภาคิยาทิปฺปการโต จ ชานิตฺวา. ตตฺถาติ จตุพฺพิธสีเล. ปติฏฺิโตติ อจฺฉิทฺทาทิองฺคสมนฺนาคตภาวมาปาทเนน ปติฏฺิโต. สมาธินฺติ อุปจารปฺปนาเภทโลกิยสมาธึ. ภาเวตฺวาติ สมจตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ ปุนปฺปุนํ อนุโยควเสน วฑฺเฒตฺวา. ปฺายาติ ติลกฺขณาการาทิปริจฺเฉทิกาย โลกุตฺตราย ปฺาย เหตุภูตาย, กรณภูตาย จ. ปริมุจฺจตีติ สพฺพกิเลสพนฺธนํ เฉตฺวา สํสารจารกา สมนฺตโต มุจฺจติ, อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายตีติ อธิปฺปาโย.

๓๑๒๗. เอวํ สมาสโต วุตฺตเมวตฺถํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘ทสานุสฺสติโย’’ติอาทิ. ทส อนุสฺสติโย จ ทส กสิณา จ ทส อสุภา จ จตสฺโส อปฺปมฺาโย จ ตถา จตฺตาโร อารุปฺปา จ วุตฺตา. อปรํ กมฺมฏฺานทฺวยฺจ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.

ตตฺถ ทสานุสฺสติโย นาม ‘‘พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมานุสฺสติ, สงฺฆานุสฺสติ, สีลานุสฺสติ, จาคานุสฺสติ, เทวตานุสฺสติ, กายคตาสติ, มรณานุสฺสติ, อานาปานสติ, อุปสมานุสฺสตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) เอวํ วุตฺตา ทส อนุสฺสติโย.

ทส กสิณา นาม ‘‘ปถวีกสิณํ, อาโปกสิณํ, เตโชกสิณํ, วาโยกสิณํ, นีลกสิณํ, ปีตกสิณํ, โลหิตกสิณํ, โอทาตกสิณํ, อาโลกกสิณํ, ปริจฺฉินฺนากาสกสิณ’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) วุตฺตา อิเม ทส กสิณา.

ทส อสุภา นาม ‘‘อุทฺธุมาตกํ, วินีลกํ, วิปุพฺพกํ, วิจฺฉิทฺทกํ, วิกฺขายิตกํ, วิกฺขิตฺตกํ, หตวิกฺขิตฺตกํ, โลหิตกํ, ปุฬุวกํ, อฏฺิก’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) วุตฺตา อิเม ทส อสุภา.

จตสฺโส อปฺปมฺาโย นาม ‘‘เมตฺตา, กรุณา, มุทิตา, อุเปกฺขา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) วุตฺตา อิเม อปฺปมฺาโย.

จตฺตาโร อารุปฺปา นาม ‘‘อากาสานฺจายตนํ, วิฺาณฺจายตนํ, อากิฺจฺายตนํ, เนวสฺานาสฺายตน’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) วุตฺตา อิเม อารุปฺปา. อปรํ กมฺมฏฺานทฺวยํ นาม ‘‘อาหาเรปฏิกฺกูลสฺา, จตุธาตุววตฺถาน’’นฺติ วุตฺตํ ฏฺานอุภยํ.

๓๑๒๘. อิจฺเจวํ จตฺตาลีสวิธํ มโนภุโน กมฺมฏฺานํ สพฺพมฺปิ กมฺมฏฺานํ สมุทฺทิฏฺํ สิยาติ โยชนา. กมฺมสฺส โยคสงฺขาตสฺส านํ อารมฺมณภาเวน ปวตฺติฏฺานนฺติ กมฺมฏฺานํ. ติฏฺติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ านํ, การณํ, กมฺมสฺส วิปสฺสนาย านํ การณํ กมฺมฏฺานํ, กสฺสาติ อาห ‘‘มโนภุโน’’ติ. มโน อภิภวตีติ มโนภู, ตสฺส มโนภุโน, กุสลจิตฺตปฺปวตฺตินิวารเณน ตถาลทฺธนามสฺส กามเทวสฺสาติ อตฺโถ. อิมินา กมฺมฏฺานคณนาปริจฺเฉโท ทสฺสิโต.

๓๑๒๙-๓๐. อิเมสํ กมฺมฏฺานานํ ภาวนามยํ ภินฺทิตฺวา ทสฺเสตุํ มาติกํ ตาว ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อุปจารปฺปนาโต’’ติอาทิ. ตตฺถ อุปจารปฺปนาโตติ ‘‘เอตฺตกานิ กมฺมฏฺานานิ อุปจาราวหานิ, เอตฺตกานิ อปฺปนาวหานี’’ติ เอวํ อุปจารปฺปนาวเสน จ. ฌานเภทาติ ‘‘เอตฺตกานิ ปมชฺฌานิกานิ, เอตฺตกานิ ติกจตุกฺกชฺฌานิกานิ, เอตฺตกานิ ปฺจกชฺฌานิกานี’’ติอาทินา ฌานเภทา จ. อติกฺกมาติ องฺคานํ, อารมฺมณานฺจ อติกฺกมโต. วฑฺฒนาวฑฺฒนา จาปีติ องฺคุลทฺวงฺคุลาทิวเสน วฑฺเฒตพฺพา, อวฑฺเฒตพฺพา จ. อารมฺมณภูมิโตติ นิมิตฺตารมฺมณาทิอารมฺมณโต เจว ลพฺภมานาลพฺภมานภูมิโต จ.

คหณาติ ทิฏฺาทิวเสน คเหตพฺพโต. ปจฺจยาติ ตํตํานานํ ปจฺจยภาวโต จ. ภิยฺโยติ ปุน-สทฺทตฺถนีหารตฺโถ. จริยานุกูลโตติ ราคจริยาทีนํ อนุกูลภาวโตติ อยํ วิเสโส อยํ เภโท. เอเตสุ จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ.

๓๑๓๑. เอวํ มาติกํ นิทฺทิสิตฺวา ยถากฺกมํ นิทฺทิสนฺโต ปมํ ตาว อุปจาราวหาทโย ทสฺเสตุมาห ‘‘อฏฺานุสฺสติโย’’ติอาทิ. ตตฺถาติ ติสฺสํ มาติกายํ, เตสุ วา จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ. อฏฺานุสฺสติโยติ กายคตาสติอานาปานสติทฺวยวชฺชิตา พุทฺธานุสฺสติอาทิกา อฏฺ อนุสฺสติโย จ. สฺา อาหาเรปฏิกฺกูลสฺา จ. ววตฺถานฺจ จตุธาตุววตฺถานฺจาติ อิเม ทส. อุปจาราวหาติ พุทฺธคุณาทีนํ ปรมตฺถภาวโต, อเนกวิธตฺตา, เอกสฺสาปิ คมฺภีรภาวโต จ เอเตสุ ทสสุ กมฺมฏฺาเนสุ อปฺปนาวเสน สมาธิสฺส ปติฏฺาตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา อปฺปนาภาวนาปฺปตฺโต สมาธิ อุปจารภาเวเยว ปติฏฺาติ, ตสฺมา เอเต อุปจาราวหา.

นนุ เจตฺถ ทุติยจตุตฺถารุปฺปสมาธิ, โลกุตฺตโร จ สมาธิ ปรมตฺถธมฺเม อปฺปนํ ปาปุณาติ, ตสฺมา ‘‘ปรมตฺถภาวโต’’ติ เหตุ อปฺปนมปาปุณเน การณภาเวน น วุจฺจตีติ? น, ตสฺส ภาวนาวิเสเสน ปรมตฺถธมฺเม ปวตฺติสมฺภวโต, อิมสฺส จ รูปาวจรจตุตฺถภาวนาวิเสสสมฺภวโต จ. ตถา หิ ทุติยจตุตฺถารุปฺปสมาธิ อปฺปนาปตฺตสฺส อรูปาวจรสมาธิสฺส จตุตฺถชฺฌานสฺส อารมฺมณสมติกฺกมมตฺตภาวนาวเสน สภาวารมฺมเณปิ อปฺปนํ ปาปุณาติ. วิสุทฺธิภาวนานุกฺกมพเลน โลกุตฺตโร สมาธิ อปฺปนํ ปาปุณาตีติ.

๓๑๓๒. ตตฺถาติ เตสุ ฌานาวเหสุ ตึสกมฺมฏฺาเนสุ. อสุภาติ อุทฺธุมาตกาทโย ทส อสุภา. กายคตาสตีติ กายคตาสติ จาติ อิเม เอกาทส. ปมชฺฌานิกาติ อิเมสํ ปฏิกฺกูลารมฺมณตฺตา, ปฏิกฺกูลารมฺมเณ จ จิตฺตสฺส จณฺฑโสตาย นทิยา อริตฺตพเลน นาวาฏฺานํ วิย วิตกฺกพเลเนว ปวตฺติสมฺภวโต อวิตกฺกานํ ทุติยชฺฌานาทีนํ อสมฺภโวติ สวิตกฺกสฺส ปมชฺฌานสฺเสว สมฺภวโต ปมชฺฌานิกา. อานาปานฺจ กสิณา จาติ อิเม เอกาทส จตุกฺกชฺฌานิกา รูปาวจรจตุกฺกชฺฌานิกา จ จตุกฺกนเยน, ปฺจกชฺฌานิกา จ.

๓๑๓๓. ติสฺโสว อปฺปมฺาติ เมตฺตา, กรุณา, มุทิตาติ อปฺปมฺา ติสฺโสว. สามฺนิทฺเทเส เอตาสเมว คหณํ กถํ วิฺายตีติ? ‘‘อถ ปจฺฉิมา’’ติอาทินา จตุตฺถาย อปฺปมฺาย จตุตฺถชฺฌานิกภาวสฺส วกฺขมานตฺตา ปาริเสสโต ตํ วิฺายติ. ติกชฺฌานานีติ ติกชฺฌานิกา. ‘‘ติกชฺฌานา’’ติ วตฺตพฺเพ ลิงฺควิปลฺลาเสน เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เมตฺตาทีนํ โทมนสฺสสหคตพฺยาปาทวิหึสานภิรตีนํ ปหายกตฺตา โทมนสฺสปฏิปกฺเขน โสมนสฺเสเนว สหคตตา วุตฺตาติ จตุกฺกนเยน ติกชฺฌานิกตา วุตฺตา, ปฺจกนเยน จตุกฺกชฺฌานิกตา จ.

‘‘อถา’’ติ อิทํ ‘‘ปจฺฉิมา’’ติ ปทสฺส ‘‘ติสฺโส’’ติ อิมินา ปุริมปเทน สมฺพนฺธนิวตฺตนตฺถํ. ปจฺฉิมา อปฺปมฺา, จตฺตาโร อารุปฺปา จ จตุตฺถชฺฌานิกา มตา จตุกฺกนเยน, ปฺจมชฺฌานิกา จ. ‘‘สพฺเพ สตฺตา สุขิตา โหนฺตุ, ทุกฺขา มุจฺจนฺตุ, ลทฺธสุขสมฺปตฺติโต มา วิคจฺฉนฺตู’’ติ เมตฺตาทิติวิธวสปฺปวตฺตํ พฺยาปารตฺตยํ ปหาย กมฺมสฺสกตาทสฺสเนน สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปตฺตภาวนานิพฺพตฺตาย ตตฺรมชฺฌตฺโตเปกฺขาย พลวตรตฺตา อปฺปนาปฺปตฺตสฺส อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารสฺส สุขสหคตตาสมฺภวโต อุเปกฺขาสหคตตา วุตฺตา.

๓๑๓๔. องฺคารมฺมณโต อติกฺกโม ทฺวิธา วุตฺโตติ โยชนา. จตุกฺกติกชฺฌาเนสูติ ทสกสิณา, อานาปานสตีติ เอกาทสสุ จตุกฺกชฺฌานิเกสุ เจว เมตฺตาทิปุริมพฺรหฺมวิหารตฺตยสงฺขาเตสุ ติกชฺฌานิเกสุ จ กมฺมฏฺาเนสุ. องฺคาติกฺกมตาติ เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ วิตกฺกาทิฌานงฺค สมติกฺกเมน ปมชฺฌานาทีนํ อารมฺมเณเยว ทุติยชฺฌานาทีนํ อุปฺปตฺติโต องฺคาติกฺกโม อธิปฺเปโตติ อตฺโถ. องฺคาติกฺกโมเยว องฺคาติกฺกมตา.

๓๑๓๕. องฺคาติกฺกมโตติ ตติยชฺฌานสมฺปยุตฺตโสมนสฺสาติกฺกมนโต. อารมฺมณมติกฺกมฺมาติ ปฏิภาคนิมิตฺตกสิณุคฺฆาฏิมากาสตพฺพิสยปมารุปฺปวิฺาณตทภาวสงฺขาตานิ จตฺตาริ อารมฺมณานิ ยถากฺกมํ อติกฺกมิตฺวา. กสิณุคฺฆาฏิมากาสตพฺพิสยปมารุปฺปวิฺาณตทภาวตพฺพิสยตติยารุปฺปวิฺาณสงฺขาเตสุ จตูสุ อารมฺมเณสุ อารุปฺปา อากาสานฺจายตนาทีนิ จตฺตาริ อรูปาวจรชฺฌานานิ ชายเร อุปฺปชฺชนฺติ.

๓๑๓๖. เอตฺถาติ เอเตสุ อารมฺมเณสุ. วฑฺเฒตพฺพานีติ ‘‘ยตฺตกํ โอกาสํ กสิเณน ผรติ, ตทพฺภนฺตเร ทิพฺพาย โสตธาตุยา สทฺทํ โสตุํ, ทิพฺเพน จกฺขุนา รูปํ ปสฺสิตุํ, ปรสตฺตานฺจ เจตสา จิตฺตํ อฺาตุํ สมตฺโถ โหตี’’ติ วุตฺตปฺปโยชนํ สนฺธาย องฺคคณนาทิวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ยตฺตกํ อิจฺฉติ, ตตฺตกํ วฑฺเฒตพฺพานิ. เสสํ อสุภาทิ สพฺพํ ตํ กมฺมฏฺานํ ปโยชนาภาวา น วฑฺเฒตพฺพเมวาติ โยชนา.

๓๑๓๗. ตตฺถ เตสุ กมฺมฏฺาเนสุ ทส กสิณา จ ทส อสุภา จ กายคตาสติ, อานาปานสตีติ อิเม พาวีสติ กมฺมฏฺานานิ ปฏิภาคารมฺมณานีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘กสิณา’’ติอาทินา ตทารมฺมณานิ ฌานานิ คหิตานิ.

๓๑๓๘. ธาตุววตฺถนนฺติ จตุธาตุววตฺถานํ, คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ. วิฺาณฺจาติ วิฺาณฺจายตนํ. เนวสฺาติ เนวสฺานาสฺายตนํ. ทส ทฺเวติ ทฺวาทส. ภาวโคจราติ สภาวธมฺมโคจรา, ปรมตฺถธมฺมาลมฺพณาติ วุตฺตํ โหติ.

๓๑๓๙. ทฺเว จ อารุปฺปมานสาติ อากาสานฺจายตนอากิฺจฺายตนสงฺขาตา อรูปาวจรจิตฺตุปฺปาทา ทฺเว จ. ฉ อิเม ธมฺมา นวตฺตพฺพโคจรา นิทฺทิฏฺาติ โยชนา จตุนฺนํ อปฺปมฺานํ สตฺตปฺตฺติยา, ปมารุปฺปสฺส กสิณุคฺฆาฏิมากาสปฺตฺติยา, ตติยารุปฺปสฺส ปมารุปฺปวิฺาณาภาวปฺตฺติยา จ อารมฺมณตฺตา.

๓๑๔๐. ปฏิกฺกูลสฺาติ อาหาเรปฏิกฺกูลสฺา. กายคตาสตีติ ทฺวาทเสว ภูมิโต เทเวสุ กามาวจรเทเวสุ กุณปานํ, ปฏิกฺกูลารหสฺส จ อสมฺภวา น ปวตฺตนฺตีติ โยชนา.

๓๑๔๑. ตานิ ทฺวาทส จ. ภิยฺโยติ อธิกตฺเถ นิปาโต, ตโต อธิกํ อานาปานสติ จาติ เตรส รูปารูปโลเก อสฺสาสปสฺสาสานฺจ อภาวา สพฺพโส น ชายเรติ โยชนา.

๓๑๔๒. อรูปาวจเร อรูปภเว จตุโร อารุปฺเป เปตฺวา อฺเ ฉตฺตึส ธมฺมา รูปสมติกฺกมาภาวา น ชายนฺตีติ โยชนา. สพฺเพ สมจตฺตาลีส ธมฺมา มานุเส มนุสฺสโลเก สพฺเพสเมว ลพฺภมานตฺตา ชายนฺติ.

๓๑๔๓. จตุตฺถกสิณํ หิตฺวาติ วาโยกสิณํ ทิฏฺผุฏฺเน คเหตพฺพตฺตา ตํ วชฺเชตฺวา นว กสิณา จ ทส อสุภา จาติ เต เอกูนวีสติ ธมฺมา ทิฏฺเเนว จกฺขุวิฺาเณน ปุพฺพภาเค ปริกมฺมกาเล คเหตพฺพา ภวนฺตีติ โยชนา. ปุพฺพภาเค จกฺขุนา โอโลเกตฺวา ปริกมฺมํ กตํ, เตน อุคฺคหิตนิมิตฺตํ เตสํ คเหตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๓๑๔๔. ผุฏฺเนาติ นาสิกคฺเค, อุตฺตโรฏฺเ วา ผุฏฺวเสน. กายคตาสติยํ ตจปฺจกํ ทิฏฺเน คเหตพฺพํ. มาลุโตติ วาโยกสิณํ ทิฏฺผุฏฺเน คเหตพฺพํ อุจฺฉุสสฺสาทีนํ ปตฺเตสุ จลมานวณฺณคฺคหณมุเขน, กายปฺปสาทฆฏฺฏเนน จ คเหตพฺพตฺตา. เอตฺถ เอเตสุ กมฺมฏฺาเนสุ. เสสกนฺติ วุตฺตาวเสสํ. พุทฺธานุสฺสติอาทิกา อฏฺานุสฺสติโย, จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา, จตฺตาโร อารุปฺปา, อาหาเรปฏิกฺกูลสฺา, จตุธาตุววตฺถานํ, กายคตาสติยํ วกฺกปฺจกาทีนิ จาติ สพฺพเมตํ ปรโต สุตฺวา คเหตพฺพตฺตา สุเตเนว คเหตพฺพนฺติ วุตฺตํ.

๓๑๔๕. เอตฺถ เอเตสุ กมฺมฏฺาเนสุ อากาสกสิณํ เปตฺวา นว กสิณา ปมารุปฺปจิตฺตสฺส อารมฺมณภูตกสิณุคฺฆาฏิมากาสสฺส เหตุภาวโต ปจฺจยา ชายเร ปจฺจยา ภวนฺตีติ โยชนา.

๓๑๔๖. ทสปิ กสิณา อภิฺานํ ทิพฺพจกฺขุาณาทีนํ ปจฺจยา ภวนฺตีติ โยชนา. จตุตฺถสฺสาติ จตุตฺถสฺส พฺรหฺมวิหารสฺส.

๓๑๔๗. เหฏฺิมเหฏฺิมารุปฺปนฺติ อากาสานฺจายตนาทิกํ. ปรสฺส จ ปรสฺส จาติ วิฺาณฺจายตนาทิอุตฺตรชฺฌานสฺส ปจฺจโยติ ปกาสิตนฺติ โยชนา. เนวสฺาติ เนวสฺานาสฺายตนํ. นิโรธสฺสาติ สฺาเวทยิตนิโรธสฺส, ตาย นิโรธสมาปตฺติยา.

๓๑๔๘. สพฺเพติ สมจตฺตาลีสกมฺมฏฺานธมฺมา. สุขวิหารสฺสาติ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสฺส. ภวนิสฺสรณสฺส จาติ วิภวูปนิสฺสยตาย วิปสฺสนาปาทกตฺเตน อาสวกฺขยาเณน อธิคนฺตพฺพสฺส นิพฺพานสฺส จ. ภวสุขานฺจาติ ปริกมฺโมปจารภาวนาวสปฺปวตฺตานิ กามาวจรกุสลจิตฺตานิ กามสุคติภวสุขานํ, รูปาวจรปฺปนาวสปวตฺตานิ รูปาวจรจิตฺตานิ รูปาวจรภวสุขานํ, อิตรานิ อรูปาวจรภูตานิ อรูปาวจรภวสุขานฺจ ปจฺจยาติ ทีปิตา.

๓๑๔๙. ทส อสุภา, กายคตาสตีติ อิเม เอกาทส ราคจริตสฺส วิเสสโต อนุกูลา วิฺเยฺยาติ โยชนา. ‘‘วิเสสโต’’ติ อิมินา ราคสฺส อุชุวิปจฺจนีกภาเวน จ อติสปฺปายโต จ วุตฺโต, อิตเร จ อปฏิกฺขิตฺตาติ ทีเปติ. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘สพฺพฺเจตํ อุชุวิปจฺจนีกวเสน จ อติสปฺปายวเสน จ วุตฺตํ, ราคาทีนํ ปน อวิกฺขมฺภิกา, สทฺธาทีนํ วา อนุปการา กุสลภาวนา นาม นตฺถี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗).

๓๑๕๐. สวณฺณกสิณาติ จตูหิ วณฺณเกหิ กสิเณหิ สหิตา. จตสฺโส อปฺปมฺาโยติ อิเม อฏฺ โทสจริตสฺส อนุกูลาติ ปกาสิตาติ โยชนา.

๓๑๕๑. โมหปฺปกติโนติ โมหจริตสฺส. ‘‘อานาปานสติ เอกาวา’’ติ ปทจฺเฉโท.

๓๑๕๒. มรณูปสเมติ มรณฺจ อุปสโม จ มรณูปสมํ, ตสฺมึ มรณูปสเม. สตีติ มรณานุสฺสติ, อุปสมานุสฺสติ จาติ เอเต จตฺตาโร ธมฺมา. ปฺาปกติโนติ พุทฺธิจริตสฺส.

๓๑๕๓. อาทิอนุสฺสติจฺฉกฺกนฺติ พุทฺธธมฺมสงฺฆสีลจาคเทวตานุสฺสติสงฺขาตํ ฉกฺกํ. สทฺธาจริตวณฺณิตนฺติ สทฺธาจริตสฺส อนุกูลนฺติ กถิตํ. อารุปฺปาติ จตฺตาโร อารุปฺปา. เสสา กสิณาติ ภูตกสิณอาโลกากาสกสิณานํ วเสน ฉ กสิณาติ เสสา ทส ธมฺมา. สพฺพานุรูปกาติ สพฺเพสํ ฉนฺนํ จริยานํ อนุกูลาติ อตฺโถ.

๓๑๕๔-๘. เอวํ ยถานิกฺขิตฺตมาติกานุกฺกเมน กมฺมฏฺานปฺปเภทํ วิภาเวตฺวา อิทานิ ภาวนานยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. เอวํ ปเภทโต ตฺวา กมฺมฏฺานานีติ ยถาวุตฺตเภทนยมุเขน ภาวนามยารมฺภทสฺสนํ. ปณฺฑิโตติ ติเหตุกปฏิสนฺธิปฺาย ปฺวา ภพฺพปุคฺคโล. เตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เมธาวีติ ปาริหาริยปฺาย สมนฺนาคโต. ทฬฺหํ คเหตฺวานาติอาทิมชฺฌปริโยสาเน สุฏฺุ สลฺลกฺขนฺเตน ทฬฺหํ อฏฺึ กตฺวา สกฺกจฺจํ อุคฺคเหตฺวา. กลฺยาณมิตฺตโกติ –

‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย;

วตฺตา จ วจนกฺขโม;

คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา;

โน จฏฺาเน นิโยชโก’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๓๗; เนตฺติ. ๑๑๓) –

วุตฺตลกฺขณโก สีลสุตปฺาทิคุณสมนฺนาคตกลฺยาณมิตฺตโก.

ปมเมว ปลิโพธานํ อุจฺเฉทํ กตฺวาติ โยชนา. ปมนฺติ ภาวนารมฺภโต ปมเมว. ปลิโพธานํ อุจฺเฉทํ กตฺวาติ –

‘‘อาวาโส จ กุลํ ลาโภ;

คโณ กมฺมฺจ ปฺจมํ;

อทฺธานํ าติ อาพาโธ;

คนฺโถ อิทฺธีติ เต ทสา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) –

วุตฺตานํ ทสมหาปลิโพธานํ, ทีฆเกสนขโลมจฺเฉทนจีวรรชนปตฺตปจนาทีนํ ขุทฺทกปอโพธานฺจาติ อุภเยสํ ปลิโพธานํ อุจฺเฉทํ กตฺวา นิฏฺาปเนน วา อาลยปริจฺจาเคน วา อุจฺเฉทํ กตฺวา. อิทฺธิ ปเนตฺถ วิปสฺสนาย ปลิโพโธ โหติ, น สมาธิภาวนาย. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘อิทฺธีติ โปถุชฺชนิกา อิทฺธิ. สา หิ อุตฺตานเสยฺยกทารโก วิย, ตรุณสสฺสํ วิย จ ทุปฺปริหารา โหติ, อปฺปมตฺตเกเนว ภิชฺชติ. สา ปน วิปสฺสนาย ปลิโพโธ โหติ, น สมาธิสฺส สมาธึ ปตฺวา ปตฺตพฺพตฺตา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑).

โทสวชฺชิเต, อนุรูเป จ วิหาเร วสนฺเตนาติ โยชนา. โทสวชฺชิเตติ –

‘‘มหาวาสํ นวาวาสํ, ชราวาสฺจ ปนฺถนึ;

โสณฺฑึ ปณฺณฺจ ปุปฺผฺจ, ผลํ ปตฺถิตเมว จ.

‘‘นครํ ทารุนา เขตฺตํ, วิสภาเคน ปฏฺฏนํ;

ปจฺจนฺตสีมาสปฺปายํ, ยตฺถ มิตฺโต น ลพฺภติ.

‘‘อฏฺารเสตานิ านานิ, อิติ วิฺาย ปณฺฑิโต;

อารกา ปริวชฺเชยฺย, มคฺคํ ปฏิภยํ ยถา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๕๒) –

อฏฺกถาสุ วุตฺเตหิ อิเมหิ อฏฺารสหิ โทเสหิ คชฺชิเต.

อนุรูเป วสนฺเตนาติ –

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เสนาสนํ นาติทูรํ โหติ นจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺนํ, ทิวา อปฺปากิณฺณํ, รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ, อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรเนว อุปฺปชฺชนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน เย เต ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ, ตสฺส เต อายสฺมนฺโต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานึ กโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขฏฺานีเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๑) –

เอวํ ภควตา วณฺณิเตหิ ปฺจหิ คุเณหิ สมนฺนาคตตฺตา อนุรูเป ภาวนากมฺมานุคุเณ วิหาเร วิหรนฺเตนาติ อตฺโถ. ปมาทีนีติ ปมทุติยาทีนิ รูปาวจรชฺฌานานิ. สพฺพโส ภาเวตฺวาติ วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘สพฺพํ ภาวนาวิธานํ อปริหาเปนฺเตน ภาเวตพฺโพ’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) นิกฺขิตฺตสฺส มาติกาปทสฺส วิตฺถารกฺกเมน ภาเวตฺวา, จิตฺตวิสุทฺธึ สมฺปาเทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

สปฺปฺโติ กมฺมชติเหตุกปฏิสนฺธิปฺาย เจว กมฺมฏฺานมนสิการสปฺปายานิ ปริคฺคเหตฺวา อสปฺปายํ ปริวชฺเชตฺวา สปฺปายเสวโนปการาย ปาริหาริยปฺาย จ สมนฺนาคโต โยคาวจโร. ตโตติ เนวสฺานาสฺายตนวชฺชิตรูปารูปชฺฌานํ วิปสฺสนาปาทกภาเวน สมาปชฺชิตฺวา อฏฺนฺนํ วิปสฺสนาปาทกชฺฌานานมฺตรโต ฌานา วุฏฺาย. เตนาห วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘เปตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ อวเสสรูปารูปาวจรชฺฌานานํ อฺตรโต วุฏฺายา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๖๓).

นามรูปววตฺถานํ กตฺวาติ วิสุทฺธิมคฺเค ทิฏฺิวิสุทฺธินิทฺเทเส วุตฺตนเยน ปฺจกฺขนฺธาทิมุเขสุ ยถิจฺฉิเตน มุเขน ปวิสิตฺวา นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ‘‘อิทํ นามํ, อิทํ รูปํ, อิมมฺหา นามรูปโต พฺยติริตฺตํ อตฺตาทิ กิฺจิ วตฺตพฺพํ นตฺถี’’ติ นิฏฺํ คนฺตฺวา, อิมินา ทิฏฺิวิสุทฺธิ ทสฺสิตา.

กงฺขํ วิตีริยาติ ยถาทิฏฺนามรูปธมฺมานํ วิสุทฺธิมคฺเค กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๒.๖๗๘ อาทโย) วุตฺตนเยน ปฺจธา ปริคฺคเหตฺวา ‘‘น ตาวิทํ นามรูปํ อเหตุกํ, น อตฺตาทิเหตุก’’นฺติ ยาถาวโต นามรูปสฺส ปฺจธา ทสฺสเนน อทฺธตฺตยคตํ ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐; มหานิ. ๑๗๔) โสฬสวิธํ กงฺขํ, ‘‘สตฺถริ กงฺขตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ (ธ. ส. ๑๐๐๘) อฏฺวิธฺจ กงฺขํ วีริเยน ตริตฺวา ปชหิตฺวา, อิมินา กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ ทสฺสิตา โหติ.

เอวํ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิปฺผาทเนน าตปริฺาย ิโต โยคาวจโร สปฺปายํ นามรูปํ ลกฺขณตฺตยํ อาโรเปตฺวา กงฺขาวูปสมาเณน มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๒.๖๙๒ อาทโย) วุตฺตนเยน สงฺขาเร สมฺมสนฺโต โอภาโส, าณํ, ปีติ, ปสฺสทฺธิ, สุขํ, อธิโมกฺโข, ปคฺคโห, อุปฏฺานํ, อุเปกฺขา, นิกนฺตีติ ทสสุ อุปกฺกิเลเสสุ ปาตุภูเตสุ ตถา ปาตุภูเต โอภาสาทโย ทส อุปกฺกิเลเส ‘‘อมคฺโค’’ติ มคฺควีถิปฏิปนฺนํ วิปสฺสนาาณเมว ‘‘มคฺโค’’ติ ปณฺฑิโต ปฺวา โยคาวจโร ชานาตีติ อตฺโถ, อิมินา มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ สงฺเขปโต ทสฺสิตา โหติ.

๓๑๕๙. เอตฺตาวตา เตสํ ติณฺณํ ววตฺถาเนติ โยชนา. เอตฺตาวตาติ ‘‘นามรูปววตฺถานํ กตฺวา’’ติอาทินา สงฺเขปโต ทสฺสิตนเยน. เตสํ ติณฺณนฺติ ทิฏฺิวิสุทฺธิ, กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ, มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธีติ ตีหิ วิสุทฺธีหิ สกสกวิปสฺสนานํ นามรูปตปฺปจฺจยมคฺคามคฺคานํ ติณฺณํ. ววตฺถาเน กเต นิยเม กเต. ติณฺณํ สจฺจานนฺติ ทุกฺขสมุทยมคฺคสงฺขอาตานํ ติณฺณํ สจฺจานํ. ววตฺถานํ กตํ สิยาติ าตตีรณปริฺาสงฺขาเตน โลกิเยเนว าเณน อนุโพธวเสน นิจฺฉโย กโต โหตีติ อตฺโถ. กถํ? นามรูปววตฺถานสงฺขาเตน ทิฏฺิวิสุทฺธิาเณน ทุกฺขสจฺจววตฺถานํ กตํ โหติ, ปจฺจยปริคฺคหสงฺขาเตน กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิาเณน สมุทยสจฺจววตฺถานํ, มคฺคามคฺคววตฺถานสงฺขาเตน มคฺคามคฺคาณทสฺสเนน มคฺคสจฺจววตฺถานํ.

๓๑๖๐-๑. เอวํ าตตีรณปริฺาทฺวยํ สงฺเขปโต ทสฺเสตฺวา ปหานปริฺาย สรีรภูตานิ นว าณานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุทยพฺพยา’’ติอาทิ. ตตฺถ อุทยพฺพยาติ อุปฺปาทภงฺคานุปสฺสนาวสปฺปวตฺตา อุตฺตรปทโลเปน ‘‘อุทยพฺพยา’’ติ วุตฺตา. ตตฺถ อุทยํ มุฺจิตฺวา วเย วา ปวตฺตา ภงฺคานุปสฺสนา ‘‘ภงฺคา’’ติ วุตฺตา. ภยฺจ อาทีนโว จ นิพฺพิทา จ ภยาทีนวนิพฺพิทา, สงฺขารานํ ภยโต อนุปสฺสนวเสน ปวตฺตา ภยานุปสฺสนา จ ทิฏฺภยานํ อาทีนวโต เปกฺขนวเสน ปวตฺตา อาทีนวานุปสฺสนา จ ทิฏฺาทีนเวสุ นิพฺเพทวเสน ปวตฺตา นิพฺพิทานุปสฺสนา จ ตถา วุตฺตา. นิพฺพินฺทิตฺวา สงฺขาเรหิ มุจฺจิตุกามตาวเสเนว ปวตฺตํ าณํ มุจฺจิตุกามตาาณํ. มุจฺจนสฺส อุปายสมฺปฏิปาทนตฺถํ ปุน สงฺขารตฺตยปฏิคฺคหวสปวตฺตํ าณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา.

สงฺขารธมฺเม ภยนนฺทิวิวชฺชนวเสน อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ปวตฺตาณํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ, สจฺจานุโลโม ตทธิคมาย เอกนฺตปจฺจโย โหตีติ ‘‘สจฺจานุโลมิก’’นฺติ จ กลาปสมฺมสนาณาทีนํ ปุริมานํ นวนฺนํ กิจฺจนิปฺผตฺติยา, อุปริ จ สตฺตตึสาย โพธิปกฺขิยธมฺมานฺจ อนุโลมนโต ‘‘อนุโลมาณ’’นฺติ จ วุตฺตํ นวมํ าณฺจาติ ยา นวานุปุพฺพวิปสฺสนาสงฺขาตา ปหานปริฺา ทสฺสิตา, อยํ ‘‘ปฏิปทาาณทสฺสน’’นฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.

๓๑๖๒. ตโต อนุโลมาณโต ปรํ มคฺคสฺส อาวชฺชนฏฺานิยํ หุตฺวา นิพฺพานมาลมฺพิตฺวา อุปฺปนฺนสฺส ปุถุชฺชนโคตฺตสฺส อภิภวนโต, อริยโคตฺตสฺส ภาวนโต วฑฺฒนโต จ ‘‘โคตฺรภู’’ติ สงฺขํ คตสฺส จิตฺตสฺส สมนนฺตรเมว จ. สนฺติมารมฺมณํ กตฺวาติ สพฺพกิเลสทรถานฺจ สงฺขารทุกฺขคฺคิโน จ วูปสมนิมิตฺตตฺตา ‘‘สนฺติ’’นฺติ สงฺขาตํ นิโรธมาลมฺพิตฺวา. าณทสฺสนนฺติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปริฺาภิสมยาทิวเสน ชานนฏฺเน าณํ, จกฺขุนา วิย ปจฺจกฺขโต ทสฺสนฏฺเน ทสฺสนนฺติ สงฺขํ คตํ โสตาปตฺติมคฺคาณสงฺขาตํ สตฺตมวิสุทฺธิาณํ ชายเต อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ.

๓๑๖๓. ปจฺจเวกฺขณปริยนฺตนฺติ ปจฺจเวกฺขณชวนปริโยสานํ. ตสฺสาติ าณทสฺสนสงฺขาตสฺส โสตาปตฺติมคฺคสฺส. ผลนฺติ ผลจิตฺตํ อนุ ปจฺฉา มคฺคานนฺตรํ หุตฺวา ชายเต.

เอตฺถ ‘‘ปจฺจเวกฺขณปริยนฺต’’นฺติ อิทํ ‘‘ผล’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ, กิริยาวิเสสนํ วา, ปจฺจเวกฺขณชวนํ มริยาทํ กตฺวาติ อตฺโถ. มคฺคานนฺตรํ ผเล ทฺวิกฺขตฺตุํ, ติกฺขตฺตุํ วา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ ตทนนฺตรเมว ภวงฺคํ โหติ, ภวงฺคํ อาวฏฺเฏตฺวา ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ มคฺคมาลมฺพิตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ, ตโต ปจฺจเวกฺขณชวนานิ. เอวํ ผลจิตฺตํ ภวงฺคปริยนฺตเมว โหติ, น ปจฺจเวกฺขณปริยนฺตํ. ตถาปิ อฺเน ชวเนน อนนฺตริกํ หุตฺวา ผลชวนานมนนฺตรํ ปจฺจเวกฺขณชวนเมว ปวตฺตตีติ ทสฺสนตฺถํ ผลปจฺจเวกฺขณชวนานนฺตเร อุปฺปนฺนานิ ภวงฺคาวชฺชนานิ อพฺโพหาริกานิ กตฺวา ‘‘ปจฺจเวกฺขณปริยนฺตํ, ผลํ ตสฺสานุชายเต’’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.

ปจฺจเวกฺขณฺจ มคฺคผลนิพฺพานปหีนกิเลสอวสิฏฺกิเลสานํ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปฺจวิธํ โหติ. เตสุ เอเกกํ เอเกเกน ชวนวาเรน ปจฺจเวกฺขตีติ ปฺจ ปจฺจเวกฺขณชวนวารานิ โหนฺติ. ตานิ ปจฺจเวกฺขณคฺคหเณน สามฺโต ทสฺสิตานีติ ทฏฺพฺพานิ.

๓๑๖๔. เตเนว จ อุปาเยนาติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาทิวิปสฺสนานํ ปมํ มคฺโค อธิคโต, เตเนว อุปาเยน. โส ภิกฺขูติ โส โยคาวจโร ภิกฺขุ. ปุนปฺปุนํ ภาเวนฺโตติ ปุนปฺปุนํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา. ยถา ปมมคฺคผลานิ ปตฺโต, ตถา. เสสมคฺคผลานิ จาติ ทุติยาทิมคฺคผลานิ จ ปาปุณาติ.

๓๑๖๕. อิจฺเจวํ ยถาวุตฺตนเยน อุปฺปาทวยนฺตาตีตกตฺตา อจฺจนฺตํ อมตํ ธมฺมํ อเวจฺจ ปฏิวิชฺฌิตฺวา อเสสํ อกุสลํ วิทฺธํสยิตฺวา สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปชหิตฺวา ตโย ภเว กามภวาทีสุ ตีสุ ภเวสุ นิกนฺติยา โสสนวเสน ตโย ภเว วิเสเสน โสสยิตฺวา โส อคฺคทกฺขิเณยฺโย ขีณาสโว ภิกฺขุ ปมํ กิเลสปรินิพฺพาเน โสสิตวิปากกฺขนฺธกฏตฺตารูปสงฺขาตอุปาทิเสสรหิตตฺตา นิรุปาทิเสสํ นิพฺพานธาตุํ อุเปติ อธิคจฺฉตีติ โยชนา.

อิจฺเจวํ สงฺเขปโต กมฺมฏฺานภาวนานโย อาจริเยน ทสฺสิโตติ คนฺถภีรุชนานุคฺคหวเสน วิตฺถารวณฺณนํ อนามสิตฺวา อนุปทวณฺณนามตฺตเมเวตฺถ กตํ. วิตฺถารวณฺณนา ปนสฺส วิสุทฺธิมคฺคโต, ตพฺพณฺณนโต จ คเหตพฺพา.

๓๑๖๖-๗. วิฺาสกฺกมโต วาปีติ อกฺขรปทวากฺยสงฺขาตคนฺถรจนกฺกมโต วา. ปุพฺพาปรวเสน วาติ วตฺตพฺพานมตฺถวิเสสานํ ปฏิปาฏิวเสน วา. อกฺขรพนฺเธ วาติ สทฺทสตฺถอลงฺการสตฺถฉนฺโทวิจิติสตฺถานุปาเตน กาตพฺพาย อกฺขรปทรจนาย, คาถาพนฺเธติ อตฺโถ. อยุตฺตํ วิย ยทิ ทิสฺสตีติ โยชนา.

นฺติ ตํ ‘‘อยุตฺต’’นฺติ ทิสฺสมานฏฺานํ. ตถา น คเหตพฺพนฺติ ทิสฺสมานากาเรเนว อยุตฺตนฺติ น คเหตพฺพํ. กถํ คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘คเหตพฺพมโทสโต’’ติ. ตสฺส การณมาห ‘‘มยา อุปปริกฺขิตฺวา, กตตฺตา ปน สพฺพโส’’ติ. โย โย ปเนตฺถ โทโส ทิสฺสติ ขิตฺตโทโส วา โหตุ วิปลฺลาสคฺคหณโทโส วา, นาปรํ โทโสติ ทีเปติ. เตเนตํ ปกรณํ สพฺเพสํ ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภทายตนพหุสฺสุตานํ สิกฺขากามานํ เถรานํ อตฺตโน ปมาณภูตตํ สูเจติ. อตฺตโน ปมาณสูจเนน อตฺตนา วิรจิตสฺส วินยวินิจฺฉยสฺสาปิ ปมาณตํ วิภาเวนฺโต ตสฺส สวนุคฺคหธารณาทีสุ โสตุชนํ นิโยเชตีติ ทฏฺพฺพํ.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

กมฺมฏฺานภาวนาวิธานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนกถาวณฺณนา

๓๑๖๘-๗๘. เอวํ ‘‘วินโย สํวรตฺถาย, สํวโร อวิปฺปฏิสารตฺถาย, อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชตฺถาย, ปาโมชฺชํ ปีตตฺถาย, ปีติ ปสฺสทฺธตฺถาย, ปสฺสทฺธิ สุขตฺถาย, สุขํ สมาธตฺถาย, สมาธิ ยถาภูตาณทสฺสนตฺถาย, ยถาภูตาณทสฺสนํ นิพฺพิทตฺถาย, นิพฺพิทา วิราคตฺถาย, วิราโค วิมุตฺตตฺถาย, วิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนตฺถาย, วิมุตฺติาณทสฺสนํ อนุปาทาปอนิพฺพานตฺถายา’’ติ (ปริ. ๓๖๕) ทสฺสิตานิสํสปรมฺปรานิทฺธารณมุเขน อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุปริยนฺตํ สานิสํสํ วินยกถํ กเถตฺวา ตสฺสา ปมาณตฺจ วิภาเวตฺวา อตฺตโน สุตพุทฺธตฺตา ‘‘สนิทานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสมี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๒๖; กถา. ๘๐๖) วจนโต ภควโต จริตมนุวตฺตนฺโต ตสฺส เทสกาลาทิวเสน นิทานํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เสฏฺสฺสา’’ติอาทิ.

ตตฺถ เสฏฺสฺสาติ ธนธฺวตฺถาลงฺการาทิอุปโภคปริโภคสมฺปตฺติยา เจว คามราชธานิเขตฺตวตฺถุนทิตฬาการามาทิสมฺปตฺติยา จ ปสตฺถตรสฺส. นาภิภูเตติ มชฺฌวตฺติตาย นาภิสทิเส. นิรากุเลติ มชฺฌวตฺติตาเยว ปริมณฺฑลาทิสมฺภวโต วิโลปาทิอากุลรหิเต. สพฺพสฺส ปน โลกสฺส รามณียเก สมฺปิณฺฑิเต วิย รมณียตเร ภูตมงฺคเล คาเมติ สมฺพนฺโธ.

ปุนปิ กึวิสิฏฺเติ อาห ‘‘กทลี’’ติอาทิ. กทลี จ สาลฺจ ตาลฺจ อุจฺฉุ จ นาฬิเกรา จ กทลี…เป… นาฬิเกรา, เตสํ วนานิ กทลี…เป… นาฬิเกรวนานิ, เตหิ อากุเล อากิณฺเณติ อตฺโถ. กมลานิ จ อุปฺปลานิ จ กมลุปฺปลานิ, เตหิ สฺฉนฺนา กมลุปฺปลสฺฉนฺนา, สลิลสฺส อาสยา สลิลาสยา, กมลุปฺปลสฺฉนฺนา จ เต สลิลาสยา จาติ กมล…เป… สลิลาสยา, เตหิ โสภิโต กมลุปฺปลสฺฉนฺนสลิลาสยโสภิโต, ตสฺมึ.

กาเวริยา ชลํ กาเวริชลํ, กาเวริชลสฺส สมฺปาโต ปวตฺตนํ กาเวริชลสมฺปาโต, เตน ปริ สมนฺตโต ภูตํ ปวตฺติตํ มหีตลํ เอตสฺสาติ กาเวริชลสมฺปาตปริภูตมหีตโล, ตสฺมึ. อิทฺเธติ นานาสมฺปตฺติยา สมิทฺเธ. สพฺพงฺคสมฺปนฺเนติ สพฺพสุโขปกรณสมฺปนฺเน. มงฺคเลติ ชนานํ อิทฺธิวุทฺธิการณภูเต. ภูตมงฺคเลติ เอวํนามเก คาเม.

ปวโร ติรตารีณตลาทิคเณหิ กุลาจลจกฺกโภคินา โภควลยสีทนฺตรสาคราทิ อากาโร เอตาสนฺติ ปวราการา, ปาการา จ ปริขา จ ปาการปริขา, ปวราการา จ ตา ปาการปริขา จาติ ปวราการปาการปริขา, ตาหิ ปริวาริโต ปวราการปาการปริขาปริวาริโต, ตสฺมึ. ทสฺสนีเยติ ทสฺสนารเห. มโน รมติ เอตฺถาติ มโนรโม, ตสฺมึ.

ตีรสฺส อนฺโต ตีรนฺโต, ตีรเมว วา อนฺโต ตีรนฺโต, โปกฺขรณิโสพฺภอุทกวาหกปริขาทีนํ กูลปฺปเทโส, ตีรนฺเต รุหึสุ ชายึสูติ ตีรนฺตรุหา, ตีรนฺตรุหา จ เต พหุตฺตา อตีรา อปริจฺเฉทา จาติ ตีรนฺตรุหวาตีรา. ว-กาโร สนฺธิโช, ตรูนํ ราชาโน ตรุราชาโน, ตีรนฺตรุหวาตีรา จ เต ตรุราชาโน จาติ ตีรนฺตรุหวาตีรตรุราชาโน, เตหิ วิราชิโต ตีรนฺต…เป… วิราชิโต, ตสฺมึ, ปุปฺผูปคผลูปคฉายูปเคหิ มหารุกฺเขหิ ปฏิมณฺฑิเตติ อตฺโถ. ‘‘ตีรนฺตรุหวานตรุราชิวิราชิเต’’ติ วา ปาโ, ตีรนฺตรุหานํ วานตรูนํ เวตรูปรุกฺขานํ ราชีหิ ปนฺตีหิ ปฏิมณฺฑิเตติ อตฺโถ. ทิชานํ คณา ทิชคณา, นานา จ เต ทิชคณา จาติ นานาทิชคณา, เต ตโต ตโต อาคนฺตฺวา รมนฺติ เอตฺถาติ นานาทิชคณาราโม, ตสฺมึ, สุกโกกิลมยูราทิสกุณานํ อาคนฺตฺวา รมนฏฺานภูเตติ อตฺโถ. นานารามมโนรเมติ นานา อเนเก อารามา ปุปฺผผลารามา นานารามา, เตหิ มโนรโมติ นานารามมโนรโม, ตสฺมึ.

จารู จ เต ปงฺกชา จาติ จารุปงฺกชา, กมลุปฺปลกุมุทาทโย, จารุปงฺกเชหิ สํกิณฺณา สฺฉนฺนา จารุปงฺกชสํกิณฺณา, จารุปงฺกชสํกิณฺณา จ เต ตฬากา เจติ จารุปงฺกชสํกิณฺณตฬากา, เตหิ สมลงฺกโต วิภูสิโต จารุ…เป… สมลงฺกโต, ตสฺมึ. สุนฺทโร มธุโร รโส อสฺสาติ สุรสํ, สุรสฺจ ตํ อุทกฺจาติ สุรโสทกํ, สุรโสทเกน สมฺปุณฺณา สุรโสทกสมฺปุณฺณา, วรา จ เต กูปา จาติ วรกูปา, สุรโสทกสมฺปุณฺณา จ เต วรกูปา เจติ สุรโสทกสมฺปุณฺณวรกูปา, เตหิ อุปโสภิโต สุรโส…เป… กูปโสภิโต, ตสฺมึ.

วิเสเสน จิตฺราติ วิจิตฺรา, วิจิตฺรา จ เต วิปุลา จาติ วิจิตฺรวิปุลา, วิจิตฺรวิปุลา จ เต มณฺฑปา จาติ…เป… มณฺฑปา, อติสเยน อุคฺคตา อจฺจุคฺคตา, อจฺจุคฺคตา จ เต วรมณฺฑปา จาติ อจฺจุคฺควรมณฺฑปา, คาถาพนฺธวเสน วณฺณโลโป, วิจิตฺรวิปุลา จ เต อจฺจุคฺควรมณฺฑปา จาติ วิจิตฺรวิปุลอจฺจุคฺควรมณฺฑปา, เตหิ มณฺฑิโต วิภูสิโต วิจิตฺร…เป… มณฺฑิโต, ตสฺมึ. มณฺฑํ สูริยรสฺมึ ปาติ รกฺขตีติ มณฺฑโป. ตโต ตโต อาคมฺม วสนฺติ เอตฺถาติ อาวาโส, ปาสาทหมฺมิยมาฬาทโย. อเนเกหีติ พหูหิ. อจฺจนฺตนฺติ อติสเยน.

ธรณีตลํ เภตฺวา อุคฺคเตน วิย, ขรํ ผรุสํ เกลาสสิขรํ ชิตฺวา อวหสนฺเตน วิย ถูเปน จ อุปโสภิเต วิหาเรติ โยชนา.

อมฺพุํ ททาตีติ อมฺพุโท, สรเท อมฺพุโท สรทมฺพุโท, ถุลฺลนตมหนฺตภาวสามฺเน สรทมฺพุเทน สงฺกาโส สรทมฺพุทสงฺกาโส, ตสฺมึ. สมฺมา อุสฺสิโต อุคฺคโตติ สมุสฺสิโต, ตสฺมึ. โอโลเกนฺตานํ, วสนฺตานฺจ ปสาทํ จิตฺตสฺส โตสํ ชเนตีติ ปสาทชนนํ, ตสฺมึ. เอตฺตาวตา วินยวินิจฺฉยกถาย ปวตฺติตเทสํ ทสฺเสติ, ‘‘วสตา มยา’’ติ กตฺตารํ.

เทวทตฺตจิฺจมาณวิกาทีหิ กตาปราธสฺส, สีตุณฺหาทิปริสฺสยสฺส จ สหนโต, สสนฺตานคตกิเลสาทีนํ หนนโต จ สีโห วิยาติ สีโห, พุทฺโธ จ โส สีโห จาติ พุทฺธสีโห. เสฏฺปริยาโย วา สีห-สทฺโท, พุทฺธเสฏฺเนาติ อตฺโถ. วุตฺตสฺสาติ เทสิตสฺส. วินยสฺส วินยปิฏกสฺส. วินิจฺฉโยติ ปาาคโต เจว อฏฺกถาคโต จ อาจริยปรมฺปราภโต จ วินิจฺฉโย. พุทฺธสีหนฺติ เอวํนามกํ มหาเถรํ. สมุทฺทิสฺสาติ อุทฺทิสิตฺวา, เตน กตอายาจนํ ปฏิจฺจาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา พาหิรนิมิตฺตํ ทสฺสิตํ.

อยํ วินิจฺฉโย มม สทฺธิวิหาริกํ พุทฺธสีหํ สมุทฺทิสฺส ภิกฺขูนํ หิตตฺถาย สมาสโต วรปาสาเท วสตา มยา กโตติ โยชนา.

กิมตฺถายาติ อาห ‘‘วินยสฺสาวโพธตฺถํ, สุเขเนวาจิเรน จา’’ติ, อนุปาทิเสเสน นิพฺพานปริยนฺตานิสํสสฺส วินยปิฏกสฺส ปกรณสฺส คนฺถวเสน สมาเสตฺวา อตฺถวเสน สุฏฺุ วินิจฺฉิตตฺตา สุเขน เจว อจิเรน จ อวโพธนตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. ภิกฺขูนนฺติ ปธานนิทสฺสนํ, เอกเสสนิทฺเทโส วา เหฏฺา –

‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ หิตตฺถาย สมาหิโต. ปวกฺขามี’’ติ (วิ. วิ. คนฺถารมฺภกถา ๒) –

อารทฺธตฺตา. อิมินา ปโยชนํ ทสฺสิตํ.

๓๑๗๙. เอวํ เทสกตฺตุนิมิตฺตปโยชนานิ ทสฺเสตฺวา กาลนิยมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อจฺจุตา’’ติอาทิ. วิกฺกมนํ วิกฺกนฺโต, วิกฺกโมติ อตฺโถ. อจฺจุตํ เกนจิ อนภิภูตํ, ตฺจ ตํ วิกฺกนฺตฺจาติ อจฺจุตวิกฺกนฺตํ, อจฺจุตสฺส นารายนสฺส วิย อจฺจุตวิกฺกนฺตํ เอตสฺสาติ อจฺจุตจฺจุตวิกฺกนฺโต. โก โส? ราชา, ตสฺมึ. กลมฺภกุลํ นนฺทยตีติ กลมฺภกุลนนฺทโน, ตสฺมึ. อิมินา ตสฺส กุลวํโส นิทสฺสิโต. กลมฺภกุลวํสชาเต อจฺจุตจฺจุตวิกฺกนฺตนาเม โจฬราชินิ มหึ โจฬรฏฺํ สมนุสาสนฺเต สมฺมา อนุสาสนฺเต สติ ตสฺมึ โจฬราชินิ รชฺชํ กาเรนฺเต สติ อยํ วินิจฺฉโย มยา อารทฺโธ เจว สมาปิโต จาติ. อิมินา กาลํ นิทสฺเสติ.

๓๑๘๐. อิทานิ อิมํ วินยวินิจฺฉยปฺปกรณํ กโรนฺเตน อตฺตโน ปุฺสมฺปทํ สกลโลกหิตตฺถาย ปริณาเมนฺโต อาห ‘‘ยถา’’ติอาทิ. อยํ วินยวินิจฺฉโย อนฺตรายํ วินา ยถา สิทฺธึ นิปฺผตฺตึ ปตฺโต, ตถา สตฺตานํ ธมฺมสํยุตา กุสลนิสฺสิตา สงฺกปฺปา จิตฺตุปฺปาทา, อธิปฺเปตตฺถา วา สพฺเพ อนฺตรายํ วินา สิชฺฌนฺตุ นิปฺปชฺชนฺตูติ โยชนา.

๓๑๘๑. เตเนว ปุฺปฺผลภาเวน สกลโลกหิเตกเหตุโน ภควโต สาสนสฺส จิรฏฺิติมาสีสนฺโต อาห ‘‘ยาว ติฏฺตี’’ติอาทิ. ‘‘มนฺทาโร’’ติ วุจฺจติ สีตสินิทฺธเอกปพฺพตราชา. กํ วุจฺจติ อุทกํ, เตน ทาริโต นิคฺคมปฺปเทโส ‘‘กนฺทโร’’ติ วุจฺจติ. สีตสินิทฺธวิปุลปุลินตเลหิ, สนฺทมานสาตสีตลปสนฺนสลิเลหิ, กีฬมานนานปฺปการมจฺฉคุมฺเพหิ, อุภยตีรปุปฺผผลปลฺลวาลงฺกตตรุลตาวเนหิ, กูชมานสุกสาลิกกโอกิลมยูรหํสาทิสกุนฺตาภิรุเตหิ, ตตฺถ ตตฺถ ปริภมนฺตภมรามวชฺชาหิ จ จารุ มนุฺา กนฺทรา เอตสฺสาติ จารุกนฺทโร. กลิ วุจฺจติ อปราโธ, ตํ สาสติ หึสติ อปเนตีติ กลิสาสนํ. ‘‘กลุสาสน’’นฺติ วา ปาโ. กลุสํ วุจฺจติ ปาปํ, ตํ อสติ วิกฺขิปติ ทูรมุสฺสารยตีติ กลุสาสนํ, ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธสงฺขาตํ ติวิธสาสนํ.

๓๑๘๒. เอวํ โอกสฺส ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถหิตสาธกสฺส สาสนสฺส จิรฏฺิตึ ปตฺเถตฺวา เตเนว ปุฺกมฺมานุภาเวน โลกสฺส ทิฏฺธมฺมิกตฺถเหตุมาสีสนฺโต อาห ‘‘กาเล’’ติอาทิ. กาเลติ สสฺสสมิทฺธีนํ อนุรูเป กาเล. สมฺมา ปวสฺสนฺตูติ อวุฏฺิอติวุฏฺิโทสรหิตา ยถา สสฺสาทีนิ สมฺปชฺชนฺติ, ตถา วสฺสํ วุฏฺิธารํ ปวสฺสนฺตูติ อตฺโถ. วสฺสวลาหกาติ วสฺสวลาหกาธิฏฺิตา ปชฺชุนฺนเทวปุตฺตา. มหีปาลาติ ราชาโน. ธมฺมโตติ ทสราชธมฺมโต. สกลํ มหินฺติ ปถวินิสฺสิตสพฺพชนกายํ.

๓๑๘๓. เอวํ สพฺพโลกสฺส โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺติสาธนตฺถาย อตฺตโน ปุฺปริณามํ กตฺวา อิทานิ วิทิตโลกุตฺตรสมฺปตฺตินิปฺผาทนวเสเนว ปุฺปริณามํ กโรนฺโต อาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ. อิมินา อตฺตโน วิรจิตํ ปจฺจกฺขํ วินิจฺฉยมาห. สารภูตนฺติ สีลสาราทิติวิธสิกฺขาสารสฺส ปกาสนโต หตฺถสารมิว ภูตํ. หิตนฺติ ตทตฺเถ ปฏิปชฺชนฺตานํ อนุปาทิเสสนิพฺพานาวสานสฺส หิตสฺส อาวหนโต, สํสารทุกฺขสฺส จ วูปสมนโต อมโตสธํ วิย หิตํ. อตฺถยุตฺตนฺติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถานํ วินยนาทีหิ ยุตฺตตฺตา อตฺถยุตฺตํ. กโรนฺเตนาติ รจยนฺเตน มยา. ยํ ปุฺํ ปตฺตนฺติ การกํ ปุนาตีติ ปุฺํ, ปุชฺชภวผลนิปฺผาทนโต วา ‘‘ปุฺ’’นฺติ สงฺขํ คตํ ยํ กุสลกมฺมํ อปริเมยฺยภวปริยนฺตํ ปสุตํ อธิคตํ. เตน ปุฺเน เหตุภูเตน. อยํ โลโกติ อยํ สกโลปิ สตฺตโลโก. มุนินฺทปฺปยาตนฺติ มุนินฺเทน สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺปตฺตํ. วีตโสกนฺติ วิคตโสกํ. โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสอุปายาสาทีหิ วิคตตฺตา, เตสํ นิกฺกมนนิมิตฺตตฺตา จ อปคตโสกาทิสํสารทุกฺขํ. สิวํ ปุรํ นิพฺพานปุรํ ปาปุณาตุ สจฺฉิกโรตุ, กิเลสปรินิพฺพาเนน, อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา จ ปรินิพฺพาตูติ วุตฺตํ โหติ.

อิติ ตมฺพปณฺณิเยนาติอาทิ ปกรณการกสฺส ปภวสุทฺธิพาหุสจฺจาทิคุณมุเขน ปกรเณ คารวํ ชเนตุกาเมน เอตสฺส สิสฺเสน ปิตํ วากฺยํ.

ตตฺถ ตมฺพปณฺณิเยนาติ ตมฺพปณฺณิมฺหิ ชาโต, ตตฺถ วิทิโต, ตโต อาคโตติ วา ตมฺพปณฺณิโย, เตน. พฺยากรณมเวจฺจ อธีตวาติ เวยฺยากรโณ, ปรโม จ อุตฺตโม จ โส เวยฺยากรโณ จาติ ปรมเวยฺยากรโณ, เตน. ตีณิ ปิฏกานิ สมาหฏานิ, ติณฺณํ ปิฏกานํ สมาหาโร วา ติปิฏกํ, นียนฺติ พุชฺฌียนฺติ เสยฺยตฺถิเกหีติ นยา, นยนฺติ วา เอเตหิ โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺตึ วิเสเสนาติ นยา, ปาฬินยอตฺถนยเอกตฺตนยาทโยว, ติปิฏเก อาคตา นยา ติปิฏกนยา, วิธานํ ปสาสนํ, ปวตฺตนํ วา วิธิ, ติปิฏกนยานํ วิธิ ติปิฏกนยวิธิ, ติปิฏกนยวิธิมฺหิ กุสโล ติปิฏกนยวิธิกุสโล, เตน.

ปรมา จ เต กวิชนา จาติ ปรมกวิชนา, ปรมกวิชนานํ หทยานิ ปรมกวิชนหทยานิ, ปทุมานํ วนานิ ปทุมวนานิ, ปรมกวิชนหทยานิ จ ตานิ ปทุมวนานิ จาติ ปรมกวิชนหทยปทุมวนานิ, เตสํ วิกสนํ โพธํ สูริโย วิย กโรตีติ ปรมกวิชนหทยปทุมวนวิกสนกโร, เตน. กวี จ เต วรา จาติ กวิวรา, กวีนํ วราติ วา กวิวรา, กวิวรานํ วสโภ อุตฺตโม กวิวรวสโภ, เตน, กวิราชราเชนาติ อตฺโถ.

ปรมา จ สา รติ จาติ ปรมรติ, ปรมรตึ กโรนฺตีติ ปรมรติกรานิ, วรานิ จ ตานิ มธุรานิ จาติ วรมธุรานิ, วรมธุรานิ จ ตานิ วจนานิ จาติ วรมธุรวจนานิ, ปรมรติกรานิ จ ตานิ วรมธุรวจนานิ จาติ ปรมรติกรวรมธุรวจนานิ, อุคฺคิรณํ กถนํ อุคฺคาโร, ปรมรติกรวรมธุรวจนานํ อุคฺคาโร เอตสฺสาติ ปรม…เป… วจนุคฺคาโร, เตน. อุรคปุรํ ปรมปเวณิคาโม อสฺส นิวาโสติ อุรคปุโร, เตน. พุทฺธทตฺเตนาติ เอวํนามเกน เถเรน, อาจริยพุทฺธทตฺตตฺเถเรนาติ อตฺโถ. อยํ วินยวินิจฺฉโย รจิโตติ สมฺพนฺโธ.

นิฏฺิตา จายํ วินยตฺถสารสนฺทีปนี นาม

วินยวินิจฺฉยวณฺณนา.

วินยวินิจฺฉย-ฏีกา สมตฺตา.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อุตฺตรวินิจฺฉย-ฏีกา

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา

(ก)

เทวาติเทวํ สุคตํ, เทวพฺรหฺมินฺทวนฺทิตํ;

ธมฺมฺจ วฏฺฏุปจฺเฉทํ, นตฺวา วฏฺฏาติตํ คณํ.

(ข)

วนฺทนามยปุฺเน, กมฺเมน รตนตฺตเย;

เฉตฺวา อุปทฺทเว สพฺเพ, อารภิสฺสํ สมาหิโต.

(ค)

เถเรน พุทฺธทตฺเตน, รจิตสฺส สมาสโต;

สํวณฺณนมสํกิณฺณํ, อุตฺตรสฺส ยถาพลํ.

. อถายมาจริโย อตฺตโน วิรจิเต วินเย ตสฺสุปนิสฺสเย วินยปิฏเก จ ภิกฺขูนํ นานปฺปการโกสลฺลชนนตฺถํ ปริวารฏฺกถายฺจ อาคตวินิจฺฉยํ สงฺคเหตฺวา อุตฺตรปกรณํ วณฺณยิตุกาโม ปมํ ตาว อนฺตรายนิวารเณน ยถาธิปฺเปตสาธนตฺถํ รตนตฺตยํ วนฺทนฺโต อาห ‘‘สพฺพสตฺตุตฺตม’’นฺติอาทิ.

ปกรณารมฺเภ รตนตฺตยวนฺทนาปโยชนํ ตตฺถ ตตฺถาจริเยหิ พหุธา ปปฺจิตํ, อมฺเหหิ จ วินยวินิจฺฉยวณฺณนายํ สมาสโต ทสฺสิตนฺติ น ตํ อิธ วณฺณยิสฺสาม. ปกรณาภิเธยฺย กรณปฺปการปโยชนานิปิ ตตฺถ ทสฺสิตนยานุสาเรน อิธาปิ เวทิตพฺพานิ. สมฺพนฺธาทิทสฺสนมุเขน อนุตฺตานปทวณฺณนเมเวตฺถ กริสฺสามิ.

ชินํ, ธมฺมฺจ, คณฺจ วนฺทิตฺวา อุตฺตรํ ทานิ กริสฺสามีติ สมฺพนฺโธ. กึวิสิฏฺํ ชินํ, ธมฺมํ, คณฺจ วนฺทิตฺวาติ อาห ‘‘สพฺพสตฺตุตฺตม’’นฺติอาทิ. ตตฺถ สพฺพสตฺตุตฺตมนฺติ ปฺจสุ กามคุเณสุ สตฺตา อาสตฺตา วิสตฺตา ลคฺคิตาติ สตฺตา, ปรมตฺถโต สตฺตปฺตฺติยา อุปาทานภูตา อุปาทานกฺขนฺธา โวหารโต ขนฺธสนฺตตึ อุปาทาย ปฺตฺตา สมฺมุติ ‘‘สตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. เต ปน กามาวจราทิภูมิวเสน, นิรยาทิปเทสวเสน, อเหตุกาทิปฏิสนฺธิวเสนาติ เอวมาทีหิ อนนฺตปเภทา. เตสุ ขีณาสวานํ ยถาวุตฺตนิพฺพจนตฺเถน สตฺตโวหาโร น ลพฺภติ. ตถาปิ เต ภูตปุพฺพคติยา วา ตํสทิสตฺตา วา ‘‘สตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. สพฺเพ จ เต สตฺตา จา ติ สพฺพสตฺตา. อุทฺธฏตมตฺตา, อุคฺคตตมตฺตา, เสฏฺตฺตา จ อุตฺตโม, สพฺพสตฺตานํ โลกิยโลกุตฺตเรหิ รูปารูปคุเณหิ อุตฺตโม, สพฺพสตฺเตสุ วา อุตฺตโม ปวโร เสฏฺโติ สพฺพสตฺตุตฺตโม. ‘‘ชิน’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ.

ปุนปิ กึวิสิฏฺนฺติ อาห ‘‘ธีร’’นฺติ. ธี วุจฺจติ ปฺา, ตาย อีรติ วตฺตตีติ ธีโร, ตํ. ตาทิภาเวน อินฺทขีลสิเนรุอาทโย วิย อฏฺโลกธมฺมสงฺขาเตน ภุสวาเตน อกมฺปิยฏฺเน, จตุเวสารชฺชวเสน สเทวเก โลเก เกนจิ อกมฺปนียฏฺเน จ ธีรํ, ธิติสมฺปนฺนนฺติ อตฺโถ. อิทมฺปิ ตสฺเสว วิเสสนํ.

วนฺทิตฺวาติ กายวจีมโนทฺวาเรหิ อภิวาเทตฺวาติ อตฺโถ, ยถาภุจฺจคุณสํกิตฺตเนน โถเมตฺวา. สิรสาติ ภตฺติภาวนตุตฺตมงฺเคน กรณภูเตน. อิมินา วิเสสโต กายปณาโม ทสฺสิโต, คุณสํกิตฺตเนน วจีปณาโม, อุภยปณาเมหิ นานนฺตริยกตาย มโนปณาโมปิ ทสฺสิโต จ โหติ.

ชินนฺติ เทวปุตฺตกิเลสาภิสงฺขารมจฺจุขนฺธมารสงฺขาเต ปฺจวิเธ มาเร พลวิธมนสมอุจฺเฉทปหานสหายเวกลฺลนิทาโนปจฺเฉทวิสยาติกฺกมวเสน ปฺจหิ อากาเรหิ ชิตวาติ ชิโน, ตํ.

‘‘ธมฺม’’นฺติ เอตสฺส นิพฺพจนาทิวเสน อตฺถวินิจฺฉโย เหฏฺา ทสฺสิโตว. อธมฺมวิทฺธํสนฺติ ธมฺมสงฺขาตสฺส กุสลสฺส ปฏิปกฺขตฺตา อธมฺโม วุจฺจติ อกุสลธมฺโม, ตํ อกุสลสงฺขาตํ อธมฺมํ วิทฺธํเสติ วินาเสติ ปชหติ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณปฺปหาเนนาติ อธมฺมวิทฺธํโส, สปริยตฺติโก นวโลกุตฺตโร ธมฺโม. ปริยตฺติ หิ ปฺจนฺนํ ปหานานํ มูลการณตฺตา ผลูปจาเรน ตถา วุจฺจติ, ตํ อธมฺมวิทฺธํสํ. ‘‘ธมฺม’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ.

คณนฺติ อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ สมูหํ, สงฺฆนฺติ อตฺโถ. องฺคณนาสนนฺติ อตฺตโน นิสฺสยํ องฺคนฺติ มตฺเถนฺตีติ องฺคณา, กิเลสา ราคโทสโมหา, เต องฺคเณ นาเสติ ยถาโยคํ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณปฺปหาเนหิ ปชหตีติ องฺคณนาสโน, ตํ. ‘‘คณ’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ.

. มยา วินยสฺส โย สาโร วินิจฺฉโย รจิโต, ตสฺส วินิจฺฉยสฺสาติ โยชนา. นตฺถิ ตสฺส อุตฺตโรติ อนุตฺตโร, สพฺเพสุ วินิจฺฉเยสุ, สพฺเพสํ วา วินิจฺฉยานํ อนุตฺตโร อุตฺตโม วินิจฺฉโยติ สพฺพานุตฺตโร, ตํ. อุตฺตรํ ปกรณํ อิทานิ กริสฺสามีติ โยชนา.

. ภณโตติ ภณนฺตสฺส ปคุณํ วาจุคฺคตํ กโรนฺตสฺส. ปโตติ ปนฺตสฺส วาจุคฺคตํ สชฺฌายนฺตสฺส. ปยุฺชโตติ ตตฺถ ปกาเรน ยุฺชนฺตสฺส, ตํ อฺเสํ วาเจนฺตสฺส วา. สุณโตติ ปเรหิ วุจฺจมานํ สุณนฺตสฺส. จินฺตยโตติ ยถาสุตํ อตฺถโต, สทฺทโต จ จินฺเตนฺตสฺส. ‘‘อพุทฺธสฺส พุทฺธิวฑฺฒน’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน วิภตฺติโลโป. อพุทฺธสฺส พาลสฺส วินเย อปฺปกตฺุโน ภิกฺขุภิกฺขุนิชนสฺส. พุทฺธิวฑฺฒนํ วินยวินิจฺฉเย ปฺาวุทฺธินิปฺผาทกํ. อถ วา พุทฺธสฺส วินิจฺฉเย กตปริจยตฺตา ปฺวโต ชนสฺส พุทฺธิวฑฺฒนํ พุทฺธิยา ปฺาย ติกฺขวิสทภาวาปาทเนน ภิยฺโยภาวสาธกํ. ปรมํ อุตฺตมํ อุตฺตรํ นาม ปกรณํ วทโต กเถนฺตสฺส เม มม สนฺติกา นิรตา วินิจฺฉเย, ตีสุ สิกฺขาสุ วา วิเสเสน รตา นิโพธถ ชานาถ สุตมยาณํ อภินิปฺผาเทถาติ โสตุชนํ สวเน นิโยเชติ.

มหาวิภงฺคสงฺคหกถาวณฺณนา

. เอวํ โสตุชนํ สวเน นิโยเชตฺวา ยถาปฏิฺาตํ อุตฺตรวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เมถุน’’นฺติอาทิ. ‘‘กติ อาปตฺติโย’’ติ อยํ ทิฏฺสํสนฺทนา, อทิฏฺโชตนา, วิมติจฺเฉทนา, อนุมติ, กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ ปฺจนฺนํ ปุจฺฉานํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ติสฺโส อาปตฺติโย ผุเสติ ตสฺสา สงฺเขปโต วิสฺสชฺชนํ.

. เอวํ คณนาวเสน ทสฺสิตานํ ‘‘ภเว’’ติอาทิ สรูปโต ทสฺสนํ. เขตฺเตติ ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ อลฺโลกาเส ติลพีชมตฺเตปิ ปเทเส. เมถุนํ ปฏิเสวนฺตสฺส ปาราชิกํ ภเวติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ถุลฺลจฺจย’’นฺติ วุตฺตนฺติ โยชนา. ‘‘เยภุยฺยกฺขายิเต’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, อุปฑฺฒกฺขายิเตปิ ถุลฺลจฺจยสฺส เหฏฺา วุตฺตตฺตา. วฏฺฏกเต มุเข อผุสนฺตํ องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.

. ‘‘อทินฺนํ อาทิยนฺโต’’ติอาทโยปิ วุตฺตนยาเยว.

. ปฺจมาสคฺฆเน วาปีติ โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺส จตุตฺถภาคสงฺขาเต ปฺจมาเส, ตทคฺฆนเก วา. อธิเก วาติ อติเรกปฺจมาสเก วา ตทคฺฆนเก วา. อทินฺเน ปฺจวีสติยา อวหารานํ อฺตเรน อวหเฏ ปราชโย โหตีติ อตฺโถ. มาเส วา อูนมาเส วา ตทคฺฆนเก วา ทุกฺกฏํ. ตโต มชฺเฌติ ปฺจมาสกโต มชฺเฌ. ปฺจ มาสา สมาหฏา, ปฺจนฺนํ มาสานํ สมาหาโรติ วา ปฺจมาสํ, ปฺจมาสํ อคฺฆตีติ ปฺจมาสคฺฆนํ, ปฺจมาสฺจ ปฺจมาสคฺฆนฺจ ปฺจมาสคฺฆนํ, เอกเทสสรูเปกเสโสยํ, ตสฺมึ. มาเส วาติ เอตฺถาปิ มาโส จ มาสคฺฆนกฺจ มาสมาสคฺฆนโกติ วตฺตพฺเพ ‘‘มาเส’’ติ เอกเทสสรูเปกเสโส, อุตฺตรปทโลโป จ ทฏฺพฺโพ.

‘‘ปฺจมาสคฺฆเน’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺเสว จตุตฺถภาควเสน ปฺจมาสนิยโม กาตพฺโพ. ตถา หิ ภควตา ทุติยปาราชิกํ ปฺาเปนฺเตน ภิกฺขูสุ ปพฺพชิตํ ปุราณโวหาริกมหามตฺตํ ภิกฺขุํ ‘‘กิตฺตเกน วตฺถุนา ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร โจรํ คเหตฺวา หนติ วา พนฺธติ วา ปพฺพาเชติ วา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน ‘‘ปาเทน วา ปาทารเหน วา’’ติ วุตฺเต เตเนว ปมาเณน อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส ปฺตฺตํ. อฏฺกถายฺจ

‘‘ปฺจมาสโก ปาโทติ ปาฬึ อุลฺลิงฺคิตฺวา ‘ตทา ราชคเห วีสติมาสโก กหาปโณ โหติ, ตสฺมา ปฺจมาสโก ปาโท’. เอเตน ลกฺขเณน สพฺพชนปเทสุ กหาปณสฺส จตุตฺโถ ภาโค ‘ปาโท’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ โข โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺส วเสน, น อิตเรสํ ทุทฺรทามกาทีนํ. เตน หิ ปาเทน อตีตา พุทฺธาปิ ปาราชิกํ ปฺเปสุํ, อนาคตาปิ ปฺเปสฺสนฺติ. สพฺพพุทฺธานฺหิ ปาราชิกวตฺถุมฺหิ วา ปาราชิเก วา นานตฺตํ นตฺถิ, อิมาเนว จตฺตาริ ปาราชิกวตฺถูนิ, อิมาเนว จตฺตาริ ปาราชิกานิ, อิโต อูนํ วา อติเรกํ วา นตฺถิ. ตสฺมา ภควาปิ ธนิยํ วิครหิตฺวา ปาเทเนว ทุติยปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ‘โย ปน ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาต’นฺติอาทิมาหา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๘) วุตฺตํ.

สารตฺถทีปนิยฺจ

‘‘จตุตฺโถ ภาโค ปาโทติ เวทิตพฺโพติ อิมินาว สพฺพชนปเทสุ กหาปณสฺเสว วีสติโม ภาโคมาสโกติ อิทฺจ วุตฺตเมว โหตีติ ทฏฺพฺพํ. โปราณสตฺถานุรูปํ ลกฺขณสมฺปนฺนา อุปฺปาทิตา นีลกหาปณาติ เวทิตพฺพา. ทุทฺรทาเมน อุปฺปาทิโต ทุทฺรทามโก. โส กิร นีลกหาปณสฺส ติภาคํ อคฺฆตี’ติ วตฺวา ‘ยสฺมึ ปเทเส นีลกหาปณา น สนฺติ, ตตฺถาปิ นีลกหาปณวเสเนว ปริจฺเฉโท กาตพฺโพ. กถํ? นีลกหาปณานํ วฬฺชนฏฺาเน จ อวฬฺชนฏฺาเน จ สมานอคฺฆวเสน ปวตฺตมานํ ภณฺฑํ นีลกหาปเณน สมานคฺฆํ คเหตฺวา ตสฺส จตุตฺถภาคคฺฆนกํ นีลกหาปณสฺส ปาทคฺฆนกนฺติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วินิจฺฉโย กาตพฺโพ’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๘๘) อยมตฺโถว วุตฺโต.

เอตฺถ กหาปณํ นาม กโรนฺตา สุวณฺเณนปิ กโรนฺติ รชเตนปิ ตมฺเพนปิ สุวณฺณรชตตมฺพมิสฺสเกนปิ. เตสุ กตรํ กหาปณํ นีลกหาปณนฺติ? เกจิ ตาว ‘‘สุวณฺณกหาปณ’’นฺติ. เกจิ ‘‘มิสฺสกกหาปณ’’นฺติ. ตตฺถ ‘‘สุวณฺณกหาปณ’’นฺติ วทนฺตานํ อยมธิปฺปาโย – ปาราชิกวตฺถุนา ปาเทน สพฺพตฺถ เอกลกฺขเณน ภวิตพฺพํ, กาลเทสปริโภคาทิวเสน อคฺฆนานตฺตํ ปาทสฺเสว ภวิตพฺพํ. ภควตา หิ ธมฺมิกราชูหิ หนนพนฺธนปพฺพาชนานุรูเปเนว อทินฺนาทาเน ปาราชิกํ ปฺตฺตํ, น อิตรถา. ตสฺมา เอสา สพฺพทา สพฺพตฺถ อพฺยภิจารีติ สุวณฺณมยสฺส กหาปณสฺส จตุตฺเถน ปาเทน ภวิตพฺพนฺติ.

‘‘มิสฺสกกหาปณ’’นฺติ วทนฺตานํ ปน อยมธิปฺปาโย –

อฏฺกถายํ

‘‘ตทา ราชคเห วีสติมาสโก กหาปโณ โหติ, ตสฺมา ปฺจมาสโก ปาโท. เอเตน ลกฺขเณน สพฺพชนปเทสุ กหาปณสฺส จตุตฺโถ ภาโค ‘ปาโท’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ โข โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺส วเสน, น อิตเรสํ ทุทฺรทามกาทีน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๘) –

วุตฺตตฺตา, สารตฺถทีปนิยฺจ

‘‘โปราณสตฺถานุรูปํ ลกฺขณสมฺปนฺนา อุปฺปาทิตา นีลกหาปณาติ เวทิตพฺพา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๘๘) –

วุตฺตตฺตา จ ‘‘วินยวินิจฺฉยํ ปตฺวา ครุเก าตพฺพ’’นฺติ วจนโต จ มิสฺสกกหาปโณเยว นีลกหาปโณ. ตตฺเถว หิ โปราณสตฺถวิหิตํ ลกฺขณํ ทิสฺสติ. กถํ? ปฺจ มาสา สุวณฺณสฺส, ตถา รชตสฺส, ทส มาสา ตมฺพสฺสาติ เอเต วีสติ มาเส มิสฺเสตฺวา พนฺธนตฺถาย วีหิมตฺตํ โลหํ ปกฺขิปิตฺวา อกฺขรานิ จ หตฺถิอาทีนมฺตรฺจ รูปํ ทสฺเสตฺวา กโต นิทฺโทสตฺตา นีลกหาปโณ นาม โหตีติ.

สิกฺขาภาชนวินิจฺฉเย จ เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘ปาโท นาม ปฺจ มาสา สุวณฺณสฺสา’’ติ ปุริมปกฺขวาทีนํ มเตน ปาโ ลิขิโต. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ทุติยปกฺขวาทีนํ มเตน ‘‘ปฺจ มาสา หิรฺสฺสา’’ติ ปาโ ลิขิโต. สีหฬภาสาย โปราณเกหิ ลิขิตาย สามเณรสิกฺขาย ปน –

‘‘โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺสาติ วุตฺตอฏฺกถาวจนสฺส, โปราณเก รตนสุตฺตาภิธานกสุตฺเต วุตฺตกหาปณลกฺขณสฺส จ อนุรูปโต ‘สุวณฺณรชตตมฺพานิ มิสฺเสตฺวา อุฏฺาเปตฺวา กตกหาปณํ กหาปณํ นามา’ติ จ ‘สามเณรานมุปสมฺปนฺนานฺจ อทินฺนาทานปาราชิกวตฺถุมฺหิ โก วิเสโส’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา ‘สามเณรานํ ทสิกสุตฺเตนาปิ ปาราชิโก โหติ, อุปสมฺปนฺนานํ ปน สุวณฺณสฺส วีสติวีหิมตฺเตนา’’ติ –

จ วิเสโส ทสฺสิโต.

ตํ ปน สุวณฺณมาสกวเสน อฑฺฒติยมาสกํ โหติ, ปฺจมาสเกน จ ภควตา ปาราชิกํ ปฺตฺตํ. ตสฺมา ตสฺส ยถาวุตฺตลกฺขณสฺส กหาปณสฺส สพฺพเทเสสุ อลพฺภมานตฺตา สพฺพเทสสาธารเณน ตสฺส มิสฺสกกหาปณสฺส ปฺจมาสปาทคฺฆนเกน สุวณฺเณเนว ปาราชิกวตฺถุมฺหิ นิยมิเต สพฺพเทสวาสีนํ อุปการาย โหตีติ เอวํ สุวณฺเณเนว ปาราชิกวตฺถุปริจฺเฉโท กโต. อยเมว นิยโม สีหฬาจริยวาเทหิ สาโรติ คหิโต. ตสฺมา สิกฺขาครุเกหิ สพฺพตฺถ เปสเลหิ วินยธเรหิ อยเมว วินิจฺฉโย สารโต ปจฺเจตพฺโพ. โหนฺติ เจตฺถ –

‘‘เหมรชตตมฺเพหิ, สตฺเถ นิทฺทิฏฺลกฺขณํ;

อหาเปตฺวา กโต วีส-มาโส นีลกหาปโณ.

เหมปาทํ สชฺฌุปาทํ, ตมฺพปาททฺวยฺหิ โส;

มิสฺเสตฺวา รูปมปฺเปตฺวา, กาตุํ สตฺเถสุ ทสฺสิโต.

‘เอลา’ติ วุจฺจเต โทโส, นิทฺโทสตฺตา ตถีริโต;

ตสฺส ปาโท สุวณฺณสฺส, วีสวีหคฺฆโน มโต.

ยสฺมึ ปน ปเทเส โส, น วตฺตติ กหาปโณ;

วีสโสวณฺณวีหคฺฆํ, ตปฺปาทคฺฆนฺติ เวทิยํ.

วีสโสวณฺณวีหคฺฆํ, เถเนนฺตา ภิกฺขโว ตโต;

จวนฺติ สามฺคุณา, อิจฺจาหุ วินยฺุโน’’ติ.

. โอปาตนฺติ อาวาฏํ. ทุกฺเข ชาเตติ โยชนา.

๑๐. อุตฺตรึ ธมฺมนฺติ เอตฺถ ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺม’’นฺติ วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน มชฺฌปทโลปํ, นิคฺคหีตาคมฺจ กตฺวา ‘‘อุตฺตรึ ธมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจ ธมฺมํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ. อตฺตุปนายิกนฺติ อตฺตนิ ตํ อุปเนติ ‘‘มยิ อตฺถี’’ติ สมุทาจรนฺโต, อตฺตานํ วา ตตฺถ อุปเนติ ‘‘อหํ เอตฺถ สนฺทิสฺสามี’’ติ สมุทาจรนฺโตติ อตฺตุปนายิโก, ตํ อตฺตุปนายิกํ, เอวํ กตฺวา วทนฺโตติ สมฺพนฺโธ.

๑๑. ปริยาเยติ ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหา’’ติอาทินา (ปริ. ๒๘๗) ปริยายภณเน. าเตติ ยํ อุทฺทิสฺส ภณติ, ตสฺมึ วิฺุมฺหิ มนุสฺสชาติเก อจิเรน าเต. โน เจติ โน เจ ชานาติ.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

ปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. เจเตติ, อุปกฺกมติ, มุจฺจติ, เอวํ องฺคตฺตเย ปุณฺเณ ครุกํ วุตฺตํ. ทฺวงฺเค เจเตติ, อุปกฺกมติ ยทิ น มุจฺจติ, เอวํ องฺคทฺวเย ถุลฺลจฺจยนฺติ โยชนา. ปโยเคติ ปโยเชตฺวา อุปกฺกมิตุํ องฺคชาตามสนํ, ปรสฺส อาณาปนนฺติ เอวรูเป สาหตฺถิกาณตฺติกปโยเค.

๑๔. วุตฺตนเยเนว อุปรูปริ ปฺหาปุจฺฉนํ าตุํ สกฺกาติ ตํ อวตฺตุกาโม อาห ‘‘อิโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. มยมฺปิ ยเทตฺถ ปุพฺเพ อวุตฺตมนุตฺตานตฺถฺจ, ตเทว วณฺณยิสฺสาม.

๑๕. กาเยนาติ อตฺตโน กาเยน. กายนฺติ อิตฺถิยา กายํ. เอส นโย ‘‘กายพทฺธ’’นฺติ เอตฺถาปิ.

๑๖. อตฺตโน กาเยน ปฏิพทฺเธน อิตฺถิยา กายปฏิพทฺเธ ผุฏฺเ ตุ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๑๗. ติสฺโส อาปตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา. ทฺวินฺนํ มคฺคานนฺติ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคานํ.

๑๘. วณฺณาทิภฺเติ วณฺณาทินา ภณเน. กายปฏิพทฺเธ วณฺณาทินา ภฺเ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๑๙. อตฺตกามจริยายาติ อตฺตกามปาริจริยาย.

๒๐. ปณฺฑกสฺส สนฺติเกปิ อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ วทโต ตสฺส ภิกฺขุโนติ โยชนา. ติรจฺฉานคตสฺสาปิ สนฺติเกติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

๒๑. อิตฺถิปุริสานมนฺตเร สฺจริตฺตํ สฺจรณภาวํ สมาปนฺเน ภิกฺขุมฺหิ ปฏิคฺคณฺหนวีมํสาปจฺจาหรณกตฺติเก สมฺปนฺเน ตสฺส พุโธ ครุกํ นิทฺทิเสติ โยชนา.

๒๒. ทฺวงฺคสมาโยเคติ ตีสฺเวเตสุ ทฺวินฺนํ องฺคานํ ยถากถฺจิ สมาโยเค. องฺเค สติ ปเนกสฺมินฺติ ติณฺณเมกสฺมึ ปน องฺเค สติ.

๒๔. ปโยเคติ ‘‘อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ กุฏึ, อเทสิตวตฺถุกํ มหลฺลกวิหารฺจ กาเรสฺสามี’’ติ อุปกรณตฺถํ อรฺคมนโต ปฏฺาย สพฺพปโยเค. เอกปิณฺเฑ อนาคเตติ สพฺพปริยนฺติมํ ปิณฺฑํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๒๕. อิธ โย ภิกฺขุ อมูลเกน ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสตีติ โยชนา.

๒๖. โอกาสํ น จ กาเรตฺวาติ ‘‘กโรตุ เม, อายสฺมา, โอกาสํ, อหํ เต วตฺตุกาโม’’ติ เอวํ เตน ภิกฺขุนา โอกาสํ อการาเปตฺวา.

๒๘. อฺภาคิเยติ อฺภาคิยปเทน อุปลกฺขิตสิกฺขาปเท. เอวํ อฺตฺรปิ อีทิเสสุ าเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๒๙. ‘‘สมนุภาสนาย เอวา’’ติ ปทจฺเฉโท. น ปฏินิสฺสชนฺติ อปฺปฏินิสฺสชนฺโต.

๓๐. ตฺติยา ทุกฺกฏํ อาปนฺโน สิยา, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลตํ อาปนฺโน สิยา, กมฺมวาจาย โอสาเน ครุกํ อาปนฺโน สิยาติ โยชนา. ‘‘ถุลฺลต’’นฺติ อิทํ ถุลฺลจฺจยาปตฺติอุปลกฺขณวจนํ.

๓๑. จตูสุ ยาวตติยเกสุ ปเม อาปตฺติปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา อิตเรสํ ติณฺณํ เตนปิ เอกปริจฺเฉทตฺตา ตตฺถ วุตฺตนยเมว เตสุ อติทิสนฺโต อาห ‘‘เภทานุวตฺตเก’’ติอาทิ.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓๒. อติเรกจีวรนฺติ อนธิฏฺิตํ, อวิกปฺปิตํ วิกปฺปนุปคปมาณํ จีวรํ ลทฺธา ทสาหํ อติกฺกมนฺโต เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ. ติจีวเรน เอกรตฺติมฺปิ วินา วสนฺโต เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ. อิทฺจ ชาติวเสน เอกตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ วตฺถุคณนาย อาปตฺตีนํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพตฺตา.

๓๓. คเหตฺวากาลจีวรนฺติ อกาลจีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา. มาสนฺติ สติยา ปจฺจาสาย นิกฺขิปิตุํ อนุฺาตํ มาสํ. อติกฺกมนฺโตติ สติยาปิ ปจฺจาสาย วีติกฺกมนฺโต อนฺโตมาเส อนธิฏฺหิตฺวา, อวิกปฺเปตฺวา วา ตึสทิวสานิ อติกฺกมนฺโต, จีวรุปฺปาททิวสํ อรุณํ อาทึ กตฺวา เอกตึสมํ อรุณํ อุฏฺาเปนฺโตติ อตฺโถ. เอกํ นิสฺสคฺคิยํ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ อุทีริตนฺติ โยชนา.

๓๔. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา. ยํกิฺจิ ปุราณจีวรนฺติ เอกวารมฺปิ ปริภุตฺตํ สงฺฆาฏิอาทีนมฺตรํ จีวรํ.

๓๕. ปโยคสฺมินฺติ ‘‘โธวา’’ติอาทิเก ภิกฺขุโน อาณตฺติกปโยเค, เอวํ อาณตฺตาย จ ภิกฺขุนิยา อุทฺธนาทิเก สพฺพสฺมึ ปโยเค จ. ‘‘นิสฺสคฺคิยาว ปาจิตฺติ โหตีติ นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติ จ โหตีติ โยชนา.

๓๖. ปฏิคณฺหโตติ เอตฺถ ‘‘อฺตฺร ปาริวตฺตกา’’ติ โยชนา.

๓๘. ปโยคสฺมินฺติ วิฺาปนปโยเค. วิฺาปิเตติ วิฺาปิตจีวเร ปฏิลทฺเธ.

๓๙. ภิกฺขูติ อจฺฉินฺนจีวโร วา นฏฺจีวโร วา ภิกฺขุ. ตทุตฺตรินฺติ สนฺตรุตฺตรปรมโต อุตฺตรึ.

๔๑. ปโยเคติ วิกปฺปนาปชฺชนปโยเค.

๔๒. ทุเวติ ทุกฺกฏปาจิตฺติยวเสน ทุเว อาปตฺติโย ผุเสติ โยเชตพฺพํ.

๔๔. ปโยเคติ อนุฺาตปโยคโต อติเรกาภินิปฺผาทนปโยเค. ลาเภติ จีวรสฺส ปฏิลาเภ.

กถินวคฺควณฺณนา ปมา.

๔๕. โกสิยวคฺคสฺส อาทีสุ ปฺจสุ สิกฺขาปเทสุ ทฺเว ทฺเว อาปตฺติโยติ โยชนา. ปโยเคติ กรณการาปนปโยเค. ลาเภติ กตฺวา วา กาเรตฺวา วา ปรินิฏฺาปเน.

๔๖. ‘‘คเหตฺวา เอฬกโลมานี’’ติ ปทจฺเฉโท. อติกฺกมนฺติ อติกฺกมนฺโต.

๔๗. อฺายาติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา. ‘‘โธวาเปติ เอฬโลมก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. เอฬโลมกนฺติ เอฬกโลมานิ. นิรุตฺตินเยน ก-การสฺส วิปริยาโย. ปโยเคติ โธวาปนปโยเค.

๔๘. ปโยเคติ ปฏิคฺคณฺหนปโยเค.

๔๙. นานาการนฺติ นานปฺปการํ. สมาปชฺชนฺติ สมาปชฺชนฺโต ภิกฺขุ. สมาปนฺเนติ สํโวหาเร สมาปนฺเน สติ. ปโยเคติ สมาปชฺชนปโยเค.

๕๐. ปโยเคติ กยวิกฺกยาปชฺชนปโยเค. ตสฺมึ กเตติ ตสฺมึ ภณฺเฑ อตฺตโน สนฺตกภาวํ นีเต.

โกสิยวคฺควณฺณนา ทุติยา.

๕๑. อติเรกกนฺติ อนธิฏฺิตํ, อวิกปฺปิตํ วา ปตฺตํ. ทสาหํ อติกฺกเมนฺตสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน เอกาว นิสฺสคฺคิยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๕๒-๓. นตฺถิ เอตสฺส ปฺจ พนฺธนานีติ อปฺจพนฺธโน, ตสฺมึ, อูนปฺจพนฺธเน ปตฺเตติ อตฺโถ. ปโยเคติ วิฺาปนปโยเค. ตสฺส ปตฺตสฺส ลาเภ ปฏิลาเภ.

๕๔. เภสชฺชนฺติ สปฺปิอาทิกํ.

๕๕. ปโยเคติ ปริเยสนปโยเค.

๕๖. ปโยเคติ อจฺฉินฺทนอจฺฉินฺทาปนปโยเค. หเฏติ อจฺฉินฺทิตฺวา คหิเต.

๕๗. ทฺเว ปนาปตฺติโย ผุเสติ วายาปนปโยเค ทุกฺกฏํ, วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรปมาเณน วีเต นิสฺสคฺคิยนฺติ ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺชตีติ อตฺโถ.

๕๘-๙. โย ปน ภิกฺขุ อปฺปวาริโต อฺาตกสฺเสว ตนฺตวาเย สเมจฺจ อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชนฺโต โหติ. โสติ โส ภิกฺขุ. ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺชติ, น สํสโยติ โยชนา. ปโยเคติ วิกปฺปาปชฺชนปโยเค.

๖๐. อจฺเจกสฺิตํ จีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวาติ โยชนา. กาลนฺติ จีวรกาลํ.

๖๑. ติณฺณมฺตรํ วตฺถนฺติ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ. ฆเรติ อนฺตรฆเร. นิทหิตฺวาติ นิกฺขิปิตฺวา. เตน จีวเรน วินา ฉารตฺตโต อธิกํ ทิวสํ ยสฺส อารฺกสฺส วิหารสฺส โคจรคาเม ตํ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตมฺหา วิหารา อฺตฺร วสนฺโต นิสฺสคฺคิยํ ผุเสติ โยชนา.

๖๒. สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ชานํ ชานนฺโต.

๖๓. ปโยเคติ ปริณามนปโยเค. สพฺพตฺถาติ ปาราชิกาทีสุ สพฺพสิกฺขาปเทสุ. อปฺปนาวารปริหานีติ ปริวาเร ปมํ วุตฺตกตฺถปฺตฺติวารสฺส ปริหาปนํ, อิธ อวจนนฺติ อตฺโถ, ตสฺส วารสฺส ปริวาเร สพฺพปมตฺตา ปมํ วตฺตพฺพภาเวปิ ตตฺถ วตฺตพฺพํ ปจฺฉา คณฺหิตุกาเมน มยา ตํ เปตฺวา ปมํ อาปตฺติทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตโร กตาปตฺติวาโร ปมํ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย.

ปตฺตวคฺควณฺณนา ตติยา.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

ตึสนิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖๔. มนุสฺสุตฺตริธมฺเมติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม. อภูตสฺมึ อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม สมุลฺลปิเต ปราชโย ปาราชิกาปตฺติ.

๖๕. อมูลนฺติมวตฺถุนา อมูลเกน ปาราชิเกน ธมฺเมน ภิกฺขุํ โจทนาย ครุ สงฺฆาทิเสโส โหตีติ โยชนา. ปริยายวจเนติ ‘‘โย เต วิหาเร วสตี’’ติอาทินา (ปริ. ๒๘๗) ปริยาเยน กถเน. าเตติ ยสฺส กเถติ, ตสฺมึ วจนานนฺตรเมว าเต.

๖๖. โน เจ ปน วิชานาตีติ อถ ตํ ปริยาเยน วุตฺตํ วจนานนฺตรเมว สเจ น ชานาติ. สมุทาหฏนฺติ กถิตํ.

๖๗. โอมสโต ภิกฺขุสฺส ทุเว อาปตฺติโย วุตฺตา. อุปสมฺปนฺนํ โอมสโต ปาจิตฺติ สิยา. อิตรํ อนุปสมฺปนฺนํ โอมสโต ทุกฺกฏํ สิยาติ โยชนา.

๖๘. เปสุฺหรเณปิ ทฺเว อาปตฺติโย โหนฺติ.

๖๙. ปโยเคติ ปทโส ธมฺมํ วาเจนฺตสฺส วจนกิริยารมฺภโต ปฏฺาย ยาว ปทาทีนํ ปริสมาปนํ, เอตฺถนฺตเร อกฺขรุจฺจารณปโยเค ทุกฺกฏํ. ปทานํ ปริสมตฺติยํ ปาจิตฺติยํ.

๗๐. ‘‘ติรตฺตา อนุปสมฺปนฺนสหเสยฺยายา’’ติ ปทจฺเฉโท. อนุปสมฺปนฺเนน สหเสยฺยา อนุปสมฺปนฺนสหเสยฺยา, ตาย. ติรตฺตา อุตฺตรึ อนุปสมฺปนฺนสหเสยฺยายาติ โยชนา. ปโยเคติ สยนตฺถาย เสยฺยาปฺาปนกายาวชฺชนาทิปุพฺพปโยเค. ปนฺเนติ กายปสารณลกฺขเณน สยเนน นิปนฺเน.

๗๑. โย ปน ภิกฺขุ เอกรตฺติยํ มาตุคาเมน สหเสยฺยํ กปฺเปติ. ทุกฺกฏาทโยติ ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ, นิปนฺเน ปาจิตฺติย’’นฺติ ยถาวุตฺตทฺเวอาปตฺติโย อาปชฺชตีติ โยชนา.

๗๒. ปโยเคติ ยถาวุตฺตลกฺขณปโยเค.

๗๓. อนุปสมฺปนฺเนติ สมีปตฺเถ เจตํ ภุมฺมํ. อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก ภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ โย สเจ อาโรเจตีติ โยชนา. ทุกฺกฏาทโยติ ยสฺส อาโรเจติ, โส นปฺปฏิวิชานาติ, ทุกฺกฏํ, ปฏิวิชานาติ, ปาจิตฺติยนฺติ เอวํ ทฺเว อาปตฺติโย ตสฺส โหนฺติ.

๗๔. อฺโต อฺสฺส อุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลสฺส อาปตฺตึ อนุปสมฺปนฺเน อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก วทํ วทนฺโตติ โยชนา. ปโยเคติ อารมฺภโต ปฏฺาย ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ อาคจฺฉติ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อาโรจิเต ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา.

๗๕. ปโยเคติ ‘‘อกปฺปิยปถวึ ขณิสฺสามี’’ติ กุทาล ปริเยสนาทิสพฺพปโยเคติ.

มุสาวาทวคฺควณฺณนา ปมา.

๗๖. ปาเตนฺโตติ วิโกเปนฺโต. ตสฺสาติ ภูตคามสฺส. ปาเตติ วิโกปเน.

๗๗. อฺวาทกวิเหสกานํ เอกโยคนิทฺทิฏฺตฺตา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว วิเหสเก จ าตุํ สกฺกาติ ตตฺถ วิสุํ อาปตฺติเภโท น วุตฺโต.

๗๘. ปรนฺติ อฺํ สงฺเฆน สมฺมตเสนาสนปฺาปกาทิกํ อุปสมฺปนฺนํ. อุชฺฌาเปนฺโตติ ตสฺส อยสํ อุปฺปาเทตุกามตาย ภิกฺขูหิ อวชานาเปตุํ ‘‘ฉนฺทาย อิตฺถนฺนาโม อิทํ นาม กโรตี’’ติอาทีนิ วตฺวา อวฺาย โอโลกาเปนฺโต, ลามกโต วา จินฺตาเปนฺโต. ปโยเคติ อุชฺฌาปนตฺถาย ตสฺส อวณฺณภณนาทิเก ปุพฺพปโยเค.

๘๓. สงฺฆิเก วิหาเร ปุพฺพูปคตํ ภิกฺขุํ ชานํ ชานนฺโต อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺเสวํ เสยฺยํ กปฺปยโตติ โยชนา. ปโยเคทุกฺกฏาทโยติ เอตฺถ อลุตฺตสมาโส. อาทิ-สทฺเทน เสยฺยากปฺปเน ปาจิตฺติยํ สงฺคณฺหาติ.

๘๔. ปโยเคติ ‘‘นิกฺกฑฺฒถ อิม’’นฺติอาทิเก อาณตฺติเก วา ‘‘ยาหิ ยาหี’’ติอาทิเก วาจสิเก วา หตฺเถน ตสฺส องฺคปรามสนาทิวเสน กเต กายิเก วา นิกฺกฑฺฒนปโยเค. เสสนฺติ ปาจิตฺติยํ.

๘๕. ‘‘เวหาสกุฏิยา อุปรี’’ติ ปทจฺเฉโท. อาหจฺจปาทเกติ เอตฺถ ‘‘มฺเจ วา ปีเ วา’’ติ เสโส. สีทนฺติ นิสีทนฺโต. ทุกฺกฏาทโยติ ปโยเค ทุกฺกฏํ, นิปชฺชาย ปาจิตฺติยนฺติ อิมา อาปตฺติโย ผุเสติ อตฺโถ.

๘๖. อสฺส ปชฺชสฺส ปมปาทํ ทสกฺขรปาทกํ ฉนฺโทวิจิติยํ วุตฺตคาถา, ‘‘คาถาฉนฺโท อตีตทฺวย’’นฺติ อิมินา ฉนฺโทวิจิติลกฺขเณน คาถาฉนฺทตฺตา อธิฏฺิตฺวา ทฺวตฺติปริยาเยติ เอตฺถ อกฺขรทฺวยํ อธิกํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปโยเคติ อธิฏฺานปโยเค. อธิฏฺิเตติ ทฺวตฺติปริยายานํ อุปริ อธิฏฺาเน กเต.

๘๗. ปโยเคติ สิฺจนสิฺจาปนปโยเค. สิตฺเตติ สิฺจนกิริยปริโยสาเน.

ภูตคามวคฺควณฺณนา ทุติยา.

๘๘. ทุกฺกฏํ ผุเสติ โยชนา. โอวทิเต ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา.

๘๙. วิภาโคเยว วิภาคตา.

๙๐. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา อฺตฺร ปาริวตฺตกา จีวรํ เทนฺโต ภิกฺขุ ทุเว อาปตฺติโย ผุเสติ โยชนา. ปโยเคติ ทานปโยเค.

๙๓. ‘‘นาวํ เอก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ปโยเคติ อภิรุหณปโยเค. ทุกฺกฏาทโยติ อาทิ-สทฺเทน อภิรุฬฺเห ปาจิตฺติยํ สงฺคณฺหาติ.

๙๔. ‘‘ทุวิธํ อาปตฺติ’’นฺติ ปทจฺเฉโท.

๙๖. ภิกฺขุนิยา สทฺธึ รโห นิสชฺชํ กปฺเปนฺโต ภิกฺขุ ปโยเคทุกฺกฏาทโย ทฺเวปิ อาปตฺติโย ผุเสติ โยชนา.

โอวาทวคฺควณฺณนา ตติยา.

๙๗. ตทุตฺตรินฺติ ตโต ภุฺชิตุํ อนุฺาตเอกทิวสโต อุตฺตรึ ทุติยทิวสโต ปฏฺาย. อนนฺตรสฺส วคฺคสฺสาติ โอวาทวคฺคสฺส. นวเมนาติ ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตปิณฺฑปาตสิกฺขาปเทน.

๙๙. ทฺวตฺติปตฺเตติ ทฺวตฺติปตฺตปูเร. ตทุตฺตรินฺติ ทฺวตฺติปตฺตปูรโต อุตฺตรึ. ปโยเคติ ปฏิคฺคหณปโยเค.

๑๐๑. อภิหฏฺุนฺติ อภิหริตฺวา.

๑๐๒. ตสฺสาติ อภิหรนฺตสฺส. ปิฏเกติ วินยปิฏเก.

๑๐๓. ทสเมปีติ เอตฺถ ‘‘ทสเม อปี’’ติ ปทจฺเฉโท.

โภชนวคฺควณฺณนา จตุตฺถา.

๑๐๔. อเจลกาทิโนติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๐) วุตฺเต สงฺคณฺหาติ. โภชนาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน ขาทนียํ สงฺคณฺหาติ. ปโยเคติ สหตฺถา ทานปโยเค.

๑๐๕. ทาเปตฺวา วา อทาเปตฺวา วา กิฺจิ อามิสํ. ปโยเคติ อุยฺโยชนปโยเค. ตสฺมินฺติ ตสฺมึ ภิกฺขุมฺหิ. อุยฺโยชิเต ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา.

๑๐๙. อุมฺมาราติกฺกเมติ อินฺทขีลาติกฺกเม.

๑๑๐. ตทุตฺตรินฺติ ตโต ปริจฺฉินฺนรตฺติปริยนฺตโต วา ปริจฺฉินฺนเภสชฺชปริยนฺตโต วา อุตฺตรึ.

๑๑๑. อุยฺยุตฺตํ ทสฺสนตฺถาย คจฺฉนฺโต ทฺเว อาปตฺติโย ผุเสติ โยชนา.

อเจลกวคฺควณฺณนา ปฺจมา.

๑๑๔. เมเรยฺยนฺติ เมรยํ. นิรุตฺตินเยน อ-การสฺส เอ-กาโร, ย-การสฺส จ ทฺวิตฺตํ. เมรย-สทฺทปริยาโย วา เมเรยฺย-สทฺโท. มุนีติ ภิกฺขุ.

๑๑๕. ‘‘ภิกฺขุ องฺคุลิปโตเทนา’’ติ ปทจฺเฉโท. ปโยเคติ หาสาปนปโยเค. ตสฺสาติ หาสาเปนฺตสฺส.

๑๑๖. โคปฺผกา เหฏฺา อุทเก ทุกฺกฏํ. โคปฺผกโต อุปริ อุปริโคปฺผกํ, อุทกํ, ตสฺมึ, โคปฺผกโต อธิกปฺปมาเณ อุทเกติ อตฺโถ.

๑๑๗. อนาทริยนฺติ ปุคฺคลานาทริยํ, ธมฺมานาทริยํ วา. ปโยเคติ อนาทริยวเสน ปวตฺเต กายปโยเค วา วจีปโยเค วา. กเต อนาทริเย.

๑๑๘. ปโยเคติ ภึสาปนปโยเค.

๑๑๙. โชตินฺติ อคฺคึ. สมาทหิตฺวานาติ ชาเลตฺวา. ‘‘วิสิพฺเพนฺโต’’ติ อิมินา ผลูปจาเรน การณํ วุตฺตํ. วิสิพฺพนกิริยา หิ สมาทหนกิริยาย ผลนฺติ วิสิพฺพนกิริยาโวหาเรน สมาทหนกิริยาว. ตสฺมา วิสิพฺเพนฺโตติ เอตฺถ สมาทหนฺโตติ อตฺโถ. ปโยเคติ สมาทหนสมาทหาปนปโยเค. วิสีวิเตติ วุตฺตนเยน สมาทหิเตติ อตฺโถ.

๑๒๐. ปโยเคติ จุณฺณมตฺติกาภิสงฺขรณาทิสพฺพปโยเค. อิตรนฺติ ปาจิตฺติยํ.

๑๒๑. ติณฺณํ ทุพฺพณฺณกรณานนฺติ กํสนีลปตฺตนีลกทฺทมสงฺขาตานํ ติณฺณํ ทุพฺพณฺณกรณานํ. เอกํ อฺตรํ อนาทิย อทตฺวา. จีวรนฺติ นวจีวรํ.

๑๒๒. นตฺถิ เอตสฺส อุทฺธารนฺติ อนุทฺธาโร, ตํ อนุทฺธารนฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ, อกตปจฺจุทฺธารนฺติ อตฺโถ.

๑๒๓. อปนิเธนฺโตติ อปเนตฺวา นิเธนฺโต นิกฺขิเปนฺโต. ปตฺตาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน จีวรนิสีทนสูจิฆรกายพนฺธนานํ คหณํ. ปโยเคติ อปนิธานปโยเค. ตสฺมึ ปตฺตาทิเก ปฺจวิเธ ปริกฺขาเร. อปนิหิเต เสสา ปาจิตฺติยาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

สุราปานวคฺควณฺณนา ฉฏฺา.

๑๒๔. ตโปธโนติ ปาติโมกฺขสํวรสีลสงฺขาตํ ตโปธนมสฺสาติ ตโปธโน, ภิกฺขุ.

๑๒๕. ตสฺมึ โอปาเต.

๑๒๖. มนุสฺสวิคฺคโห มนุสฺสสรีโร. ติรจฺฉานคโต นาโค วา สุปณฺโณ วา. ตสฺส โอปาตขณกสฺส.

๑๒๗. ปฏุพุทฺธินาติ สพฺเพสุ เยฺยธมฺเมสุ นิปุนาเณน ภควตา.

๑๒๘. ปโยเคติ ปริโภคตฺถาย คหณาทิเก ปโยเค. ตสฺสาติ ภิกฺขุสฺส.

๑๒๙. อุกฺโกเฏนฺโตติ อุจฺจาเลนฺโต ยถาาเน าตุํ อเทนฺโต. ปโยเคติ อุกฺโกฏนปโยเค. อุกฺโกฏิเต ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.

๑๓๐. ทุฏฺุลฺลํ วชฺชกนฺติ สงฺฆาทิเสสาทิเก. เอกํ ปาจิตฺติยํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ อิติ ทีปิตนฺติ โยชนา.

๑๓๑. ปโยเคติ คณปริเยสนาทิปโยเค. ทุกฺกฏํ ปตฺโต สิยา ทุกฺกฏาปตฺตึ อาปนฺโน ภเวยฺยาติ อตฺโถ. เสสาติ ปาจิตฺติยาปตฺติ อุปสมฺปาทิเต สิยา. คาถาพนฺธวเสน อุปสคฺคโลโป.

๑๓๒-๓. ชานํ เถยฺยสตฺเถน สห สํวิธาย มคฺคํ ปฏิปชฺชโต จ ตเถว มาตุคาเมน สห สํวิธาย มคฺคํ ปฏิปชฺชโต จาติ โยชนา. ปโยเคติ สํวิธาย คนฺตุํ ปฏิปุจฺฉาทิกรณปโยเค. ปฏิปนฺเนติ มคฺคปฏิปนฺเน. อนนฺตรนฺติ อทฺธโยชนคามนฺตราติกฺกมนานนฺตรํ.

๑๓๔. ตฺติยา โอสาเน ทุกฺกฏํ ผุเสติ โยชนา.

๑๓๕. อกตานุธมฺเมนาติ อนุธมฺโม วุจฺจติ อาปตฺติยา อทสฺสเน วา อปฺปฏิกมฺเม วา ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค วา ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน อุกฺขิตฺตกสฺส อนุโลมวตฺตํ ทิสฺวา กตฺวา โอสารณา, โส โอสารณสงฺขาโต อนุธมฺโม ยสฺส น กโต, อยํ อกตานุธมฺโม นาม, ตาทิเสน ภิกฺขุนา สทฺธินฺติ อตฺโถ. สมฺภุฺชนฺโตติ อามิสสมฺโภคํ กโรนฺโต ภิกฺขุ. ปโยเคติ ภุฺชิตุํ อามิสปฏิคฺคหณาทิปโยเค. ภุตฺเตติ สมฺภุตฺเต, อุภยสมฺโภเค, ตทฺตเร วา กเตติ อตฺโถ.

๑๓๖. อุปลาเปนฺโตติ ปตฺตจีวรอุทฺเทสปริปุจฺฉนาทิวเสน สงฺคณฺหนฺโต. ปโยเคติ อุปลาปนปโยเค.

สปฺปาณกวคฺควณฺณนา สตฺตมา.

๑๓๗. สหธมฺมิกนฺติ กรณตฺเถ อุปโยควจนํ, ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สิกฺขิตพฺพตฺตา, เตสํ วา สนฺตกตฺตา ‘‘สหธมฺมิก’’นฺติ ลทฺธนาเมน พุทฺธปฺตฺเตน สิกฺขาปเทน วุจฺจมานสฺสาติ อตฺโถ. ภณโตติ ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ อิมินา สมานาธิกรณํ.

๑๓๘. วิวณฺเณนฺโตติ ‘‘กึ ปนิเมหิ ขุทฺทานุขุทฺทเกหิ สิกฺขาปเทหิ อุทฺทิฏฺเหี’’ติอาทินา ครหนฺโต. ปโยเคติ ‘‘กึ อิเมหี’’ติอาทินา ครหณวเสน ปวตฺเต วจีปโยเค. วิวณฺณิเต ครหิเต.

๑๓๙. โมเหนฺโตติ ‘‘อิทาเนว โข อหํ, อาวุโส, ชานามี’’ติอาทินา อตฺตโน อชานนตฺเตน อาปนฺนภาวํ ทีเปตฺวา ภิกฺขุํ โมเหนฺโต, วฺเจนฺโตติ อตฺโถ. โมเหติ โมหาโรปนกมฺเม. อโรปิเต กเต.

๑๔๐. ภิกฺขุสฺส กุปิโต ปหารํ เทนฺโต ผุเสติ โยชนา. ปโยเคติ ทณฺฑาทานาทิปโยเค.

๑๔๑. ปโยเคติ อุคฺคิรณปโยเค. อุคฺคิริเตติ อุจฺจาริเต.

๑๔๒. อมูเลเนวาติ ทิฏฺาทิมูลวิรหิเตเนว. โยเคติ โอกาสการาปนาทิปโยเค. อุทฺธํสิเตติ โจทิเต.

๑๔๓. กุกฺกุจฺจํ ชนยนฺโตติ ‘‘อูนวีสติวสฺโส ตฺวํ มฺเ อุปสมฺปนฺโน’’ติอาทินา กุกฺกุจฺจํ อุปทหนฺโต. โยเคติ กุกฺกุจฺจุปฺปาทนปโยเค. อุปฺปาทิเตติ กุกฺกุจฺเจ อุปฺปาทิเต.

๑๔๔. ‘‘ติฏฺนฺโต อุปสฺสุติ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. สุติยา สมีปํ อุปสฺสุติ, สวนูปจาเรติ อตฺโถ.

๑๔๕. ธมฺมิกานํ ตุ กมฺมานนฺติ ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน กตานํ อปโลกนาทีนํ จตุนฺนํ กมฺมานํ. ตโต ปุนาติ ฉนฺททานโต ปจฺฉา. ขียนธมฺมนฺติ อตฺตโน อธิปฺเปตภาววิภาวนมนฺตนํ. ทฺเว ผุเส ทุกฺกฏาทโยติ ขียนธมฺมาปชฺชนปโยเค ทุกฺกฏํ, ขียนธมฺเม อาปนฺเน ปาจิตฺติยนฺติ เอวํ ทุกฺกฏาทโย ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺเชยฺยาติ อตฺโถ.

๑๔๖. สงฺเฆ สงฺฆมชฺเฌ. วินิจฺฉเยติ วตฺถุโต โอติณฺณวินิจฺฉเย. นิฏฺํ อคเตติ วตฺถุมฺหิ อวินิจฺฉิเต, ตฺตึ เปตฺวา กมฺมวาจาย วา อปริโยสิตาย.

๑๔๘. สมคฺเคน สงฺเฆนาติ สมานสํวาสเกน สมานสีมายํ ิเตน สงฺเฆน.

สหธมฺมิกวคฺควณฺณนา อฏฺมา.

๑๕๐. อวิทิโต หุตฺวาติ รฺโ อวิทิตาคมโน หุตฺวา.

๑๕๒. รตนนฺติ มุตฺตาทิทสวิธํ รตนํ. ปโยเคติ รตนคฺคหณปโยเค.

๑๕๓. วิกาเลติ มชฺฌนฺติกาติกฺกมโต ปฏฺาย อรุเณ.

๑๕๕. อฏฺิทนฺตวิสาณาภินิพฺพตฺตนฺติ อฏฺิทนฺตวิสาณมยํ. ปโยเคติ การาปนปโยเค.

๑๕๖. ตสฺมึ มฺจาทิมฺหิ การาปิเต เสสา ปาจิตฺติยาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

รตนวคฺควณฺณนา นวมา.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕๙. จตูสุ ปาฏิเทสนีเยสุปิ อวิเสเสน อาทิจฺจพนฺธุนา พุทฺเธน ทฺวิธา อาปตฺติ นิทฺทิฏฺาติ โยชนา.

๑๖๐. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ จตูสุ.

ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.

๑๖๑. เสขิยกถา อุตฺตานตฺถาเยว.

เสขิยกถาวณฺณนา.

๑๖๒. ปริวาเร ปมํ ทสฺสิตโสฬสวารปฺปเภเท มหาวิภงฺเค ‘‘ปมํ ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑) กตฺถปฺตฺติวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต กติ อาปตฺติโย อาปชฺชตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๕๗) กตาปตฺติวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย จตุนฺนํ วิปตฺตีนํ กติ วิปตฺติโย ภชนฺตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๒) วิปตฺติวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ กติหิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๒) สงฺคหวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย ฉนฺนํ อาปตฺติสมุฏฺานานํ กติหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺหนฺตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๔) สมุฏฺานวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย จตุนฺนํ อธิกรณานํ กตมํ อธิกรณ’’นฺติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๕) อธิกรณวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย สตฺตนฺนํ สมถานํ กติหิ สมเถหิ สมฺมนฺตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๖) สมถวาโร, ตทนนฺตโร อิเมหิ สตฺตหิ วาเรหิ มิสฺโส อฏฺโม สมุจฺจยวาโรติ อิเมสุ อฏฺสุ วาเรสุ อาทิภูเต กตฺถปฺตฺตินามเธยฺเย อปฺปนาวาเร สงฺคเหตพฺพานํ นิทานาทิสตฺตรสลกฺขณานํ อุภยวิภงฺคสาธารณโต อุปริ วกฺขมานตฺตา ตํ วารํ เปตฺวา ตทนนฺตรํ อสาธารณํ กตาปตฺติวารํ เสขิยาวสานํ ปาฬิกฺกมานุรูปํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรา วิปตฺติวาราทโย ฉ วารา อุภยวิภงฺคสาธารณโต วกฺขมานาติ กตฺวา เตปิ เปตฺวา อิเม ปจฺจยสทฺเทน อโยเชตฺวา ทสฺสิตา อฏฺเว วารา, ปุน ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนปจฺจยา ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติอาทินา (ปริ. ๑๘๘) ปจฺจย-สทฺทํ โยเชตฺวา ทสฺสิตา อปเร อฏฺ วารา โยชิตาติ ตตฺถาปิ ทุติยํ กตาปตฺติปจฺจยวารํ อิมินา กตาปตฺติวาเรน เอกปริจฺเฉทํ กตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘ปฺตฺตา’’ติอาทิ. ปฏิเสวนปจฺจยาติ ปฏิเสวนเหตุนา.

๑๖๓. อลฺโลกาสปฺปเวสเนติ ชีวมานสรีเร ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ มคฺเค อลฺโลกาสปฺปเวสเน. มเต อกฺขายิเต วา ปิ-สทฺเทน เยภุยฺยอกฺขายิเต ปเวสเน ปเวสนนิมิตฺตํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต ภิกฺขุ ปาราชิกํ ผุเสติ สมฺพนฺโธ.

๑๖๔. ตถา เยภุยฺยกฺขายิเต, อุปฑฺฒกฺขายิเต จ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต ภิกฺขุ ถุลฺลจฺจยํ ผุเสติ โยชนา. วฏฺฏกเต มุเข ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ชตุมฏฺเกติ ภิกฺขุนิยา ชตุมฏฺเก ทินฺเน ปาจิตฺติ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ.

๑๖๖. อวสฺสุตสฺสาติ กายสํสคฺคราเคน ตินฺตสฺส. โปสสฺสาติ คหณกิริยาสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. ภิกฺขุนิยาติ อตฺตสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. ‘‘อตฺตโน’’ติ เสโส. อวสฺสุเตน โปเสน อตฺตโน อธกฺขกาทิคหณํ สาทิยนฺติยา ตถา อวสฺสุตาย ภิกฺขุนิยา ปาราชิกนฺติ โยชนา.

๑๖๗. กาเยนาติ อตฺตโน กาเยน. กายนฺติ มาตุคามสฺส กายํ. ผุสโตติ กายสํสคฺคราเคน ผุสโต. กาเยน กายพทฺธนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

๑๖๘. กาเยน ปฏิพทฺเธนาติ อตฺตโน กายปฏิพทฺเธน. ปฏิพทฺธนฺติ อิตฺถิยา กายปฏิพทฺธํ ผุสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ตสฺส ภิกฺขุสฺส.

‘‘มหาวิภงฺคสงฺคโห นิฏฺิโต’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ โสฬสวารสงฺคเห มหาวิภงฺเค กตาปตฺติวาโรเยเวตฺถ วุตฺโต, น อิตเร วาราติ? สจฺจํ, อวยเว ปน สมุทาโยปจาเรน วุตฺตํ. สาธารณาสาธารณานํ มหาวิภงฺเค คตานํ สพฺพาปตฺติปเภทานํ ทสฺสโนปจารภูโต กตาปตฺติวาโร ทสฺสิโตติ ตํทสฺสเนน อปฺปธานา อิตเรปิ วารา อุปจารโต ทสฺสิตา โหนฺตีติ จ ตถา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

มหาวิภงฺคสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุนิวิภงฺโค

๑๗๐. วินยสฺส วินิจฺฉเย ภิกฺขูนํ ปาฏวตฺถายาติ ภิกฺขุนีนํ ปาฏวสฺสาปิ ตทธีนตฺตา ปธานทสฺสนวเสน วุตฺตํ. อถ วา ทสฺสนลิงฺคนฺตรสาธารณตฺเต อิจฺฉิเต ปุลฺลิงฺเคน, นปุํสกลิงฺเคน วา นิทฺเทโส สทฺทสตฺถานุโยคโตติ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ ปุลฺลิงฺเคน วุตฺตํ.

๑๗๑. นนฺทนฺตี สาทิยนฺตี.

๑๗๒. ติสฺโส อาปตฺติโย ผุเสติ โยชนา. ชาณุสฺส อุทฺธํ, อกฺขกสฺส อโธ คหณํ สาทิยนฺติยา ตสฺสา ปาราชิกนฺติ โยชนา.

๑๗๓. กายปฏิพทฺเธ วา คหณํ สาทิยนฺติยา ทุกฺกฏํ.

๑๗๔. วชฺชนฺติ อฺิสฺสา ภิกฺขุนิยา ปาราชิกาปตฺตึ.

๑๗๖. ตํ ลทฺธินฺติ อุกฺขิตฺตสฺส ยํ ลทฺธึ อตฺตโน โรเจสิ, ตํ ลทฺธึ น นิสฺสชฺชนฺตีติ โยชนา.

๑๗๘. ‘‘อิธ อาคจฺฉา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘วุตฺตา อาคจฺฉตี’’ติ ปทจฺเฉโท.

๑๗๙. หตฺถปาสปฺปเวสเนติ หตฺถปาสูปคมเน. ‘‘หตฺถคตปฺปเวสเน’’ติ วา ปาโ, โสเยว อตฺโถ.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา ภิกฺขุนิวิภงฺเค

ปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๘๐. เอกสฺสาติ อตฺตโน อตฺตโน อฏฺฏการสฺส วา. อาโรจเนติ วตฺตพฺพสฺส โวหาริกานํ นิเวทเน.

๑๘๑. ทุติยาโรจเนติ ทุติยสฺส, ทุติยํ เอวํ อาโรจเน.

๑๘๒. ทฺวีหีติ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ. กมฺมวาโจสาเนติ กมฺมวาจาโอสาเน.

๑๘๓. ปริกฺเขเป อติกฺกนฺเตติ อตฺตโน คามโต คนฺตฺวา อิตรํ คามํ ปวิสนฺติยา ปเมน ปาเทน ตสฺส คามสฺส ปริกฺเขเป อติกฺกนฺเต, ปมปาเท ปริกฺเขปํ อติกฺกเมตฺวา อนฺโตคามสงฺเขปํ คเตติ อตฺโถ.

๑๘๔. ทุติเยนาติ คามปริกฺเขปโต พหิ ิเตน ทุติยปาเทน. อติกฺกนฺเตติ ตสฺมึ คามปริกฺเขเป อติกฺกนฺเต, ตสฺมึ ปาเท อนฺโตคามํ ปเวสิเตติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา ภิกฺขุนิวิภงฺเค

สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๙๓. อิห ภิกฺขุนี ปตฺตสนฺนิจยํ กโรนฺตี โหติ, สา เอกํ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํเยว ผุเสติ โยชนา.

๑๙๔. อกาลจีวรํ กาลจีวรํ กตฺวา ภาชาเปนฺติยาติ โยชนา. ปโยเคติ ภาชนปโยเค.

๑๙๕. ฉินฺเนติ อจฺฉินฺเน.

๑๙๖. ตโต ปรนฺติ ตโต ปมโต อฺํ.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา ภิกฺขุนิวิภงฺเค

นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๙๙. ลสุณํ ขาทติ เจ, ทฺเว อาปตฺติโย ผุฏาติ โยชนา.

๒๐๐. ปโยเคติ สํหาราปนปโยเค. สํหเฏติ อตฺตนา สํหเฏ, ปเรน สํหราปิเต จ อาปตฺติ ปาจิตฺติ โหติ.

๒๐๑. กเตติ ตลฆาเต กเต.

๒๐๒. ชตุนา มฏฺกนฺติ ชตุนา กตํ มฏฺทณฺฑกํ. ‘‘ทุกฺกฏํ อาทินฺเน’’ติ ปทจฺเฉโท.

๒๐๔. ภุฺชมานสฺส ภิกฺขุสฺส หตฺถปาเสติ โยชนา. หิตฺวา หตฺถปาสํ.

๒๐๕. วิฺาเปตฺวาติ อนฺตมโส มาตรมฺปิ ยาจิตฺวา. อชฺโฌหาเร ปาจิตฺตึ ทีปเยติ โยชนา.

๒๐๖. อุจฺจาราทินฺติ อาทิ-สทฺเทน วิฆาสสงฺการมุตฺตานํ คหณํ.

ลสุณวคฺควณฺณนา ปมา.

๒๐๙. อิธ อิมสฺมึ รตฺตนฺธการวคฺเค. ปเม, ทุติเย, ตติเย, จตุตฺเถปิ วินิจฺฉโย ลสุณวคฺคสฺส ฉฏฺเน สิกฺขาปเทน ตุลฺโย สทิโสติ โยชนา.

๒๑๐. อาสเนติ ปลฺลงฺเก ตสฺโสกาสภูเต. สามิเก อนาปุจฺฉาติ ตสฺมึ กุเล ยํ กิฺจิ วิฺุมนุสฺสํ อนาปุจฺฉา.

๒๑๑. อโนวสฺสนฺติ ภิตฺติยา พหิ นิพฺพโกสพฺภนฺตรํ. ทุติยาติกฺกเมติ ทุติเยน ปาเทน นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺานาติกฺกเม.

๒๑๒. นิสีทิเตติ นิสินฺเน.

๒๑๓. ปโยเคติ อุชฺฌาปนปโยเค.

๒๑๔. นิรยาทินา อตฺตานํ วา ปรํ วา อภิสปฺเปนฺตี สปถํ กโรนฺตี ทฺเว ผุเสติ โยชนา. อภิสปฺปิเตติ อภิสปิเต.

๒๑๕. วธิตฺวาติ หตฺถาทีหิ ปหริตฺวา. ‘‘กโรติ เอก’’นฺติ ปทจฺเฉโท.

รตฺตนฺธการวคฺควณฺณนา ทุติยา.

๒๑๖. นคฺคาติ อนิวตฺถา วา อปารุตา วา. ปโยเคติ จุณฺณมตฺติกาอภิสงฺขรณาทิปโยเค.

๒๑๗. ปมาณาติกฺกนฺตนฺติ ‘‘ทีฆโสจตสฺโส วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติ (ปาจิ. ๘๘๘) วุตฺตปมาณมติกฺกนฺตํ. ปโยเคติ การาปนปโยเค.

๒๑๘. วิสิพฺเพตฺวาติ ทุสฺสิพฺพิตํ ปุน สิพฺพนตฺถาย วิสิพฺเพตฺวา.

๒๑๙. ปฺจ อหานิ ปฺจาหํ, ปฺจาหเมว ปฺจาหิกํ. สงฺฆาฏีนํ จาโร สงฺฆาฏิจาโร, ปริโภควเสน วา โอตาปนวเสน วา สงฺฆฏิตฏฺเน ‘‘สงฺฆาฏี’’ติ ลทฺธนามานํ ‘‘ติจีวรํ, อุทกสาฏิกา, สํกจฺจิกา’’ติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ จีวรานํ ปริวตฺตนํ. อติกฺกเมติ ภิกฺขุนี อติกฺกเมยฺย. อสฺสา ปน เอกาว ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.

๒๒๐. สงฺกมนียนฺติ สงฺกเมตพฺพํ. อฺิสฺสา สนฺตกํ อนาปุจฺฉา คหิตํ ปุน ทาตพฺพํ ปฺจนฺนํ อฺตรํ.

๒๒๑. คณจีวรลาภสฺสาติ ภิกฺขุนิสงฺเฆน ลภิตพฺพจีวรสฺส. อนฺตรายํ กโรตีติ ยถา เต ทาตุกามา น เทนฺติ, เอวํ ปรกฺกมติ.

๒๒๒. ธมฺมิกนฺติ สมคฺเคน สงฺเฆน สนฺนิปติตฺวา กริยมานํ. ปฏิพาหนฺตีติ ปฏิเสเธนฺตี. ปฏิพาหิเต ปฏิเสธิเต.

๒๒๓. อคาริกาทิโนติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา’’ติ (ปารา. ๙๑๗) วุตฺเต สงฺคณฺหาติ. สมณจีวรนฺติ กปฺปกตํ นิวาสนปารุปนุปคํ. ปโยเคติ ทานปโยเค.

๒๒๔. จีวเร ทุพฺพลาสายาติ ทุพฺพลจีวรปจฺจาสาย ‘‘สเจ สกฺโกม, ทสฺสามา’’ติ เอตฺตกมตฺตํ สุตฺวา อุปฺปาทิตาย อาสายาติ อตฺโถ. กาลนฺติ จีวรกาลสมยํ. สมติกฺกเมติ ภิกฺขุนีหิ กาลจีวเร ภาชิยมาเน ‘‘อาคเมถ, อยฺเย, อตฺถิ สงฺฆสฺส จีวรปจฺจาสา’’ติ วตฺวา ตํ จีวรวิภงฺคํ สมติกฺกเมยฺย.

๒๒๕. ธมฺมิกํ กถินุทฺธารนฺติ สมคฺเคน สงฺเฆน กริยมานํ กถินสฺส อนฺตรุพฺภารํ. ปฏิพาหนฺติยาติ นิวาเรนฺติยา.

นฺหานวคฺควณฺณนา ตติยา.

๒๒๖. ตุวฏฺเฏยฺยุนฺติ นิปชฺเชยฺยุํ. อิตรํ ปาจิตฺติยํ.

๒๒๗. ปโยเคติ ภิกฺขุนิยา อผาสุกกรณปโยเค กริยมาเน.

๒๒๘. ทุกฺขิตนฺติ คิลานํ. นุปฏฺาเปนฺติยา วาปีติ ตสฺสา อุปฏฺานํ ปเรหิ อการาเปนฺติยา, สยํ วา อกโรนฺติยา.

๒๒๙. อุปสฺสยํ ทตฺวาติ กวาฏพนฺธํ อตฺตโน ปุคฺคลิกวิหารํ ทตฺวา. กฑฺฒิเตติ นิกฺกฑฺฒิเต.

๒๓๐. สํสฏฺาติ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา สํสฏฺวิหารี ภิกฺขุนี สงฺเฆน สํสฏฺวิหารโต นิวตฺติยมานา. ตฺติยา ทุกฺกฏํ ผุเสติ สมนุภาสนกมฺมตฺติยา ทุกฺกฏํ อาปชฺเชยฺย.

๒๓๑. อนฺโตรฏฺเติ ยสฺส วิชิเต วิหรติ, ตสฺส รฏฺเ. ปฏิปนฺนายาติ จาริกํ กปฺเปนฺติยา. เสสกนฺติ ปาจิตฺติยํ.

ตุวฏฺฏวคฺควณฺณนา จตุตฺถา.

๒๓๓. ราชาคาราทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน จิตฺตาคาราทีนํ คหณํ.

๒๓๕. ปโยเคติ กปฺปาสวิจารณํ อาทึ กตฺวา สพฺพปโยเค. อุชฺชวุชฺชวเนติ ยตฺตกํ หตฺเถน อฺฉิตํ โหติ, ตสฺมึ ตกฺกมฺหิ เวิเต.

๒๓๗. ปโยเคติ อคาริกสฺส วา ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา สหตฺถา ขาทนียาทีนํ ทานปโยเค.

๒๓๘. ‘‘สมํ อาปตฺติปเภทโต’’ติ ปทจฺเฉโท.

๒๓๙. ติรจฺฉานคตํ วิชฺชนฺติ ยํ กิฺจิ พาหิรกํ อนตฺถสํหิตํ ปรูปฆาตกรํ หตฺถิสิกฺขาทิสิปฺปํ. ปนฺติยาติ สิกฺขนฺติยา. ปโยเคติ ทุรุปสงฺกมนาทิปโยเค. ปเท ปเทติ ปทาทิวเสน ปริยาปุณนฺติยา ปเท ปเท อกฺขรปทานํ วเสน.

๒๔๐. นวเม ‘‘ปริยาปุณาตี’’ติ ปทํ, ทสเม ‘‘วาเจตี’’ติ ปทนฺติ เอวํ ปทมตฺตเมว อุภินฺนํ วิเสสกํ เภทกํ.

จิตฺตาคารวคฺควณฺณนา ปฺจมา.

๒๔๑. ตมารามนฺติ ยตฺถ ภิกฺขู รุกฺขมูเลปิ วสนฺติ, ตํ สภิกฺขุกํ ปเทสํ.

๒๔๓. อกฺโกสตีติ ทสนฺนํ อกฺโกสวตฺถูนํ อฺตเรน สมฺมุขา วา ปรมฺมุขา วา อกฺโกสติ. ปริภาสตีติ ภยทสฺสเนน ตชฺเชติ. ‘‘ปาจิตฺติ อกฺโกสิเต’’ติ ปทจฺเฉโท.

๒๔๔. จณฺฑิกภาเวนาติ โกเธน. คณนฺติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ. ปริภาสตีติ ‘‘พาลา เอตา’’ติอาทีหิ วจเนหิ อกฺโกสติ. ปโยเคติ ปริภาสนปโยเค. ปริภฏฺเติ อกฺโกสิเต. อิตรํ ปาจิตฺติยํ.

๒๔๕. นิมนฺติตาติ คณโภชเน วุตฺตนเยน นิมนฺติตา. ปวาริตาติ ปวารณสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน วาริตา. ขาทนํ โภชนมฺปิ วาติ ยาคุปูวขชฺชกํ, ยาวกาลิกํ มูลขาทนียาทิขาทนียํ, โอทนาทิโภชนมฺปิ วา ยา ภิกฺขุนี ภุฺชนฺตี โหติ, สา ปน ทฺเวเยว อาปตฺติโย ผุเสติ โยชนา.

๒๔๗. มจฺฉรายนฺตีติ มจฺฉรํ กโรนฺตี, อตฺตโน ปจฺจยทายกกุลสฺส อฺเหิ สาธารณภาวํ อสหนฺตีติ อตฺโถ. ปโยเคติ ตทนุรูเป กายวจีปโยเค. มจฺฉริเตติ มจฺฉรวเสน กตปโยเค นิปฺผนฺเน.

๒๔๘. อภิกฺขุเก ปนาวาเสติ ยโต ภิกฺขุนุปสฺสยโต อทฺธโยชนพฺภนฺตเร โอวาททายกา ภิกฺขู น วสนฺติ, มคฺโค วา อเขโม โหติ, น สกฺกา อนนฺตราเยน คนฺตุํ, เอวรูเป อาวาเส. ปุพฺพกิจฺเจสูติ ‘‘วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ เสนาสนปฺาปนปานียอุปฏฺาปนาทิปุพฺพกิจฺเจ ปน กริยมาเน ทุกฺกฏํ ภเวติ โยชนา.

๒๔๙. วสฺสํวุตฺถาติ ปุริมํ วา ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ วุตฺถา. อุภโตสงฺเฆติ ภิกฺขุนิสงฺเฆ, ภิกฺขุสงฺเฆ จ. ตีหิปิ าเนหีติ ‘‘ทิฏฺเน วา’’ติอาทินา วุตฺเตหิ ตีหิ การเณหิ.

๒๕๐. โอวาทตฺถายาติ ครุธมฺโมวาทนตฺถาย. สํวาสตฺถายาติ อุโปสถปุจฺฉนตฺถาย เจว ปวารณตฺถาย จ. น คจฺฉตีติ ภิกฺขุํ น อุปคจฺฉติ.

๒๕๑. โอวาทมฺปิ น ยาจนฺตีติ อุโปสถาทิวเสน โอวาทูปสงฺกมนํ ภิกฺขุํ น ยาจนฺตี น ปุจฺฉนฺตี. อุโปสถนฺติ อุโปสถทิวสโต ปุริมทิวเส เตรสิยํ วา จาตุทฺทสิยํ วา อุโปสถํ น ปุจฺฉนฺตี.

๒๕๒. อปุจฺฉิตฺวาว สงฺฆํ วาติ สงฺฆํ วา คณํ วา อนปโลเกตฺวาว. ‘‘เภทาเปตี’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ ‘‘ผาลาเปยฺย วา โธวาเปยฺย วา อาลิมฺปาเปยฺย วา พนฺธาเปยฺย วา โมจาเปยฺย วา’’ติ อิเมสมฺปิ กิริยาวิกปฺปานํ สงฺคเหตพฺพตฺตา. ปสาขชนฺติ นาภิยา เหฏฺา, ชาณุมณฺฑลานํ อุปริ ปเทเส ชาตํ คณฺฑํ วา รุธิตํ วา. ปโยเคติ เภทาปนาทิปโยเค.

อารามวคฺควณฺณนา ฉฏฺา.

๒๕๓. คพฺภินินฺติ อาปนฺนสตฺตํ สิกฺขมานํ. วุฏฺาเปนฺตีติ อุปชฺฌายา หุตฺวา อุปสมฺปาเทนฺตี. ปโยเคติ คณปริเยสนาทิปโยเค. วุฏฺาปิเตติ อุปสมฺปาทิเต, กมฺมวาจาปริโยสาเนติ อตฺโถ.

๒๕๕. สหชีวินินฺติ สทฺธิวิหารินึ. นานุคฺคณฺหนฺตีติ อุทฺเทสทานาทีหิ น สงฺคณฺหนฺตี.

คพฺภินิวคฺควณฺณนา สตฺตมา.

๒๕๘. ‘‘อลํ วุฏฺาปิเตนา’’ติ วุจฺจมานา ภิกฺขุนีหิ นิวาริยมานา. ขียตีติ อฺาสํ พฺยตฺตานํ ลชฺชีนํ วุฏฺานสมฺมุตึ ทียมานํ ทิสฺวา ‘‘อหเมว นูน พาลา’’ติอาทินา ภณมานา ขียติ. ปโยเคติ ขียมานปโยเค. ขียิเตติ ขียนปโยเค นิฏฺิเต.

กุมาริภูตวคฺควณฺณนา อฏฺมา.

๒๖๐. ฉตฺตุปาหนนฺติ วุตฺตลกฺขณํ ฉตฺตฺจ อุปาหนาโย จ. ปโยเคติ ธารณปโยเค.

๒๖๑. ยาเนนาติ วยฺหาทินา. ยายนฺตีติ สเจ ยาเนน คตา โหติ.

๒๖๒. สงฺฆาณินฺติ ยํ กิฺจิ กฏูปคํ. ธาเรนฺติยาติ กฏิยํ ปฏิมุจฺจนฺติยา.

๒๖๓. คนฺธวณฺเณนาติ เยน เกนจิ วณฺเณน จ เยน เกนจิ คนฺเธน จ. คนฺโธ นาม จนฺทนาเลปาทิ. วณฺโณ นาม กุงฺกุมหลิทฺทาทิ. ปโยเคติ คนฺธาทิปโยเค รจนโต ปฏฺาย ปุพฺพปโยเค.

๒๖๖. อนาปุจฺฉาติ ‘‘นิสีทามิ, อยฺยา’’ติ อนาปุจฺฉิตฺวา. นิสีทิเต ภิกฺขุสฺส อุปจาเร อนฺตมโส ฉมาย นิสินฺเน.

๒๖๗. อโนกาสกตนฺติ ‘‘อสุกสฺมึ นาม าเน ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ เอวํ อกตโอกาสํ.

๒๖๘. ปวิสนฺติยาติ วินิจฺฉยํ อารามวคฺคสฺส ปเมเนว สิกฺขาปเทน สทิสํ กตฺวา วเทยฺยาติ โยชนา.

ฉตฺตุปาหนวคฺควณฺณนา นวมา.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา ภิกฺขุนิวิภงฺเค

ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๖๙-๗๐. อฏฺสุ ปาฏิเทสนียสิกฺขาปเทสุปิ ทฺวิธา อาปตฺติ โหตีติ โยชนา. ตโตติ คหณเหตุ. สพฺเพสูติ ปาฏิเทสนียสิกฺขาปเทสุ.

ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.

๒๗๑-๒. อิมํ ปรมํ อุตฺตมํ นิรุตฺตรํ เกนจิ วา วตฺตพฺเพน อุตฺตเรน รหิตํ นิทฺโทสํ อุตฺตรํ เอวํนามกํ ธีโร ปฺวา ภิกฺขุ อตฺถวเสน วิทิตฺวา ทุรุตฺตรํ กิจฺเฉน อุตฺตริตพฺพํ ปฺตฺตมหาสมุทฺทํ วินยมหาสาครํ สุเขเนว ยสฺมา อุตฺตรติ, ตสฺมา กงฺขจฺเฉเท วินยวิจิกิจฺฉาย ฉินฺทเน สตฺเถ สตฺถสทิเส อสฺมึ สตฺเถ อิมสฺมึ อุตฺตรปกรเณ อุสฺมายุตฺโต กมฺมชเตโชธาตุยา สมนฺนาคโต ชีวมาโน ภิกฺขุ นิจฺจํ นิรนฺตรํ สตฺโต อภิรโต นิจฺจํ โยคํ สตตาภิโยคํ กาตุํ ยุตฺโต อนุรูโปติ โยชนา.

ภิกฺขุนิวิภงฺโค นิฏฺิโตติ เอตฺถาปิ อุปฺปตฺติ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

ภิกฺขุนิวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุวิปตฺติกถาวณฺณนา

๒๗๓. อิทานิ อุภยสาธารณํ กตฺวา วิปตฺติวาราทีนํ วิสิฏฺวารานํ สงฺคหํ กาตุมาห ‘‘กติ อาปตฺติโย’’ติอาทิ.

๒๗๔. ภิกฺขุนี สเจ ฉาเทติ, จุตา โหติ. สเจ เวมติกา ฉาเทติ, ถุลฺลจฺจยํ สิยาติ โยชนา.

๒๗๕. สงฺฆาทิเสสนฺติ ปรสฺส สงฺฆาทิเสสํ.

๒๗๖. ‘‘กติ อาจารวิปตฺติปจฺจยา’’ติ ปทจฺเฉโท.

๒๗๗. อาจารวิปตฺตินฺติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา อาจารวิปตฺตึ.

๒๗๙. ปาปิกํ ทิฏฺินฺติ อเหตุกอกิริยนตฺถิกทิฏฺิอาทึ ลามิกํ ทิฏฺึ.

๒๘๑. มนุสฺสุตฺตริธมฺมนฺติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ.

๒๘๒. อาชีวเหตุ สฺจริตฺตํ สมาปนฺโนติ โยชนา. ปริยายวจเนติ ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหา’’ติอาทิเก เลสวจเน. าเตติ ยํ อุทฺทิสฺส วทติ, ตสฺมึ มนุสฺสชาติเก วจนสมนนฺตรเมว าเต.

๒๘๓. วตฺวาติ อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา. ภิกฺขุนี ปน สเจ เอวํ โหติ, ภิกฺขุนี อคิลานา อตฺตโน อตฺถาย ปณีตโภชนํ วิฺาเปตฺวา ภุตฺตาวินี สเจ โหตีติ อธิปฺปาโย. ตสฺสา ปาฏิเทสนียํ สิยาติ โยชนา.

๒๘๔. ‘‘อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวานา’’ติ อิมินา ปรสฺส าตกปวาริเต ตสฺเสวตฺถาย วิฺาเปตฺวา เตน ทินฺนํ วา ตสฺส วิสฺสาเสน วา ปริภุฺชนฺตสฺส เตสํ อตฺตโน อฺาตกอปฺปวาริเต สุทฺธจิตฺตตาย อนาปตฺตีติ ทีเปติ.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

จตุวิปตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อธิกรณปจฺจยกถาวณฺณนา

๒๘๕. วิวาทาธิกรณมฺหาติ ‘‘อธมฺมํ ‘ธมฺโม’ติ ทีเปตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตา อฏฺารสเภทกรวตฺถุนิสฺสิตา วิวาทาธิกรณมฺหา.

๒๘๖. อุปสมฺปนฺนํ โอมสโต ภิกฺขุสฺส ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๘๗. อนุวาทาธิกรณปจฺจยาติ โจทนาปรนามเธยฺยํ อนุวาทาธิกรณเมว ปจฺจโย, ตสฺมา, อนุวาทนาธิกรณเหตูติ อตฺโถ.

๒๘๙. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา อมูลกตฺตํ อติทิสติ.

๒๙๐. อาปตฺติปจฺจยาติ อาปตฺตาธิกรณปจฺจยา.

๒๙๓. กิจฺจาธิกรณปจฺจยาติ อปโลกนาทิจตุพฺพิธกมฺมสงฺขาตกิจฺจาธิกรณเหตุ.

๒๙๔. อจฺจชนฺตีวาติ อตฺตโน ลทฺธึ อปริจฺจชนฺตี เอว.

๒๙๗. ปาปิกาย ทิฏฺิยา ปริจฺจชนตฺถาย กตาย ยาวตติยกํ สมนุภาสนาย ตํ ทิฏฺึ อจฺจชนฺติยา ตสฺสา ภิกฺขุนิยา, ตสฺส ภิกฺขุสฺส จ อจฺจชโต ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

อธิกรณปจฺจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ขนฺธกปุจฺฉากถาวณฺณนา

๓๐๐. เสเสสูติ อภพฺพปุคฺคลปริทีปเกสุ สพฺพปเทสุ.

๓๐๒. ‘‘นสฺสนฺตุ เอเต’’ติ ปทจฺเฉโท. ปุรกฺขกาติ เอตฺถ สามิอตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, เภทปุเรกฺขกสฺส, เภทปุเรกฺขกายาติ อตฺโถ.

๓๐๓. เสเสสูติ อวเสเสสุ อสํวาสกาทิทีปเกสุ ปฏิกฺเขปปเทสุ.

๓๐๔. เอกาว ทุกฺกฏาปตฺติ วุตฺตาติ วสฺสํ อนุปคมนาทิปจฺจยา ชาติโต เอกาว ทุกฺกฏาปตฺติ วุตฺตา.

๓๐๕. อุโปสถสมา มตาติ อุโปสถกฺขนฺธเก วุตฺตสทิสา ชาตา อาปตฺติโย มตา อธิปฺเปตา.

๓๐๖. จมฺเมติ จมฺมกฺขนฺธเก. วจฺฉตรึ คเหตฺวา มาเรนฺตานํ ฉพฺพคฺคิยานํ ปาจิตฺติ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. วจฺฉตรินฺติ พลสมฺปนฺนํ ตรุณคาวึ. สา หิ วจฺฉกภาวํ ตริตฺวา อติกฺกมิตฺวา ิตตฺตา ‘‘วจฺฉตรี’’ติ วุจฺจติ.

๓๐๗. องฺคชาตํ ฉุปนฺตสฺสาติ คาวีนํ องฺคชาตํ อตฺตโน องฺคชาเตน พหิ ฉุปนฺตสฺส. เสเสสูติ คาวีนํ วิสาณาทีสุ คหเณ, ปิฏฺิอภิรุหเณ จ. ยถาห ‘‘ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อจิรวติยา นทิยา คาวีนํ ตรนฺตีนํ วิสาเณสุปิ คณฺหนฺตี’’ติอาทิ (มหาว. ๒๕๒).

๓๐๙. ตตฺถ เภสชฺชกฺขนฺธเก. สามนฺตา ทฺวงฺคุเลติ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคานํ สามนฺตา ทฺวงฺคุลมตฺเต ปเทเส. สตฺถกมฺมํ กโรนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยมุทีริตนฺติ โยชนา. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, สมฺพาธสฺส สามนฺตา ทฺวงฺคุเล สตฺถกมฺมํ วา วตฺถิกมฺมํ วา กาเรตพฺพํ, โย กาเรยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๗๙). เอตฺถ จ ‘‘สามนฺตา ทฺวงฺคุเล’’ติ อิทํ สตฺถกมฺมํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. วตฺถิกมฺมํ ปน สมฺพาเธเยว ปฏิกฺขิตฺตํ.

‘‘น, ภิกฺขเว, อฺตฺร นิมนฺติเตน อฺสฺส โภชฺชยาคุ ปริภุฺชิตพฺพา, โย ปริภุฺเชยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๒๘๓) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘โภชฺชยาคูสุ ปาจิตฺตี’’ติ. เอตฺถ โภชฺชยาคุ นาม พหลยาคุ. ‘‘ปิณฺฑํ วฏฺเฏตฺวา ปาตพฺพยาคู’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. ปาจิตฺตีติ ปรมฺปรโภชนปวารณสิกฺขาปเทหิ ปาจิตฺติ. เสเสสูติ อนฺโตวุตฺถอนฺโตปกฺกสยํปกฺกปริโภคาทีสุ. ยถาห ‘‘น, ภิกฺขเว, อนฺโตวุตฺถํ อนฺโตปกฺกํ สามํปกฺกํ ปริภุฺชิตพฺพํ, โย ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ (มหาว. ๒๗๔).

๓๑๐. จีวรสํยุตฺเตติ จีวรกฺขนฺธเก.

๓๑๓. จมฺเปยฺยเก จ โกสมฺเพติ จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก เจว โกสมฺพกกฺขนฺธเก จ. ‘‘กมฺมสฺมิ’’นฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

๓๑๗. โรมนฺเถติ ภุตฺตสฺส ลหุํ ปากตฺตาย กุจฺฉิคตํ มุขํ อาโรเปตฺวา สณฺหกรณวเสน อนุจาลเน.

๓๑๘. เสนาสนสฺมินฺติ เสนาสนกฺขนฺธเก. ครุโนติ ครุภณฺฑสฺส.

๓๒๐. สงฺฆเภเทติ สงฺฆเภทกกฺขนฺธเก.

๓๒๑. เภทานุวตฺตกานนฺติ สงฺฆเภทานุวตฺตกานํ. คณโภเคติ คณโภชเน.

๓๒๒. สาติ เอตฺถ สพฺพวตฺเตสุ อนาทริเยน โหตีติ เสโส. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

ขนฺธกปุจฺฉากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมุฏฺานสีสกถาวณฺณนา

๓๒๕-๖. มเหสินา ทฺวีสุ วิภงฺเคสุ ปฺตฺตานิ ยานิ ปาราชิกาทีนิ สิกฺขาปทานิ อุโปสเถ อุทฺทิสนฺติ, เตสํ สิกฺขาปทานํ สมุฏฺานํ ภิกฺขูนํ ปาฏวตฺถาย อิโต ปรํ ปวกฺขามิ, ตํ สมาหิตา สุณาถาติ โยชนา.

๓๒๗. กาโย จ วาจา จ กายวาจา จาติ อจิตฺตกานิ ยานิ ตีณิ สมุฏฺานานิ, ตาเนว จิตฺเตน ปจฺเจกํ โยชิตานิ สจิตฺตกานิ ตีณิ สมุฏฺานานิ โหนฺตีติ เอวเมว สมุฏฺานํ ปุริมานํ ทฺวินฺนํ วเสน เอกงฺคิกํ, ตติยจตุตฺถปฺจมานํ วเสน ทฺวงฺคิกํ, ฉฏฺสฺส วเสน ติวงฺคิกฺจาติ เอวํ ฉธา สมุฏฺานวิธึ วทนฺตีติ โยชนา. กาโย, วาจาติ เอกงฺคิกํ ทฺวยํ, กายวาจา, กายจิตฺตํ, วาจาจิตฺตนฺติ ทุวงฺคิกตฺตยํ, กายวาจาจิตฺตนฺติ องฺคเภเทน ติวิธมฺปิ อวยวเภเทน สมุฏฺานเภทวิธึ ฉปฺปการํ วทนฺตีติ อธิปฺปาโย.

๓๒๘. เตสุ ฉสุ สมุฏฺาเนสุ เอเกน วา สมุฏฺาเนน ทฺวีหิ วา ตีหิ วา จตูหิ วา ฉหิ วา สมุฏฺาเนหิ นานา อาปตฺติโย ชายเรติ สมฺพนฺโธ.

๓๒๙. ตตฺถ ตาสุ นานาปตฺตีสุ. ปฺจ สมุฏฺานานิ เอติสฺสาติ ปฺจสมุฏฺานา, เอวรูปา กาจิ อาปตฺติ น วิชฺชติ. เอกเมกํ สมุฏฺานํ ยาสนฺติ วิคฺคโห. ปจฺฉิเมเหว ตีหิปีติ สจิตฺตเกเหว ตีหิ สมุฏฺาเนหิ, ยา อาปตฺติ เอกสมุฏฺานา โหติ, สา สจิตฺตกานํ ติณฺณมฺตเรน โหตีติ อธิปฺปาโย.

๓๓๐-๑. ตติยจฺฉฏฺโตปิ จาติ กายวาจโต, กายวาจาจิตฺตโต จ. จตุตฺถจฺฉฏฺโต เจวาติ กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ. ปฺจมจฺฉฏฺโตปิ จาติ วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ. ‘‘กายโต กายจิตฺตโต’’ติ ปมํ ทฺวิสมุฏฺานํ, ‘‘วาจโต วาจาจิตฺตโต’’ติ ทุติยํ, ‘‘กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต’’ติ ตติยํ, ‘‘กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต’’ติ จตุตฺถํ, ‘‘วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต’’ติ ปฺจมํ ทฺวิสมุฏฺานนฺติ เอวํ ปฺจธา เอว ิเตหิ ทฺวีหิ สมุฏฺาเนหิ เอสา ทฺวิสมุฏฺานาปตฺติ ชายเต สมุฏฺาติ. น อฺโตติ กายโต วาจโตติ เอกํ, วาจโต กายวาจโตติ เอกนฺติ เอวํ ยถาวุตฺตกฺกมวิปริยาเยน โยชิเตหิ อฺเหิ สมุฏฺาเนหิ น สมุฏฺาติ.

๓๓๒. ปเมหิ จ ตีหีติ ‘‘กายโต, วาจโต, กายวาจโต’’ติ ปมํ นิทฺทิฏฺเหิ ตีหิ อจิตฺตกสมุฏฺาเนหิ. ปจฺฉิเมหิ จาติ ‘‘กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต’’ติ เอวํ ปจฺฉา วุตฺเตหิ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ. น อฺโตติ ‘‘กายโต, วาจโต, กายจิตฺตโต, วาจโต, กายวาจโต, กายจิตฺตโต’’ติ เอวํ วุตฺตวิปลฺลาสโต อฺเหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ น สมุฏฺาติ.

๓๓๓-๔. ปมา ตติยา เจว, จตุตฺถจฺฉฏฺโตปิ จาติ กายโต, กายวาจโต, กายจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโตติ เอเตหิ จตูหิ สมุฏฺาเนหิ เจว. ทุติยา…เป… จฺฉฏฺโตปิ จาติ วาจโต, กายวาจโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโตติ อิเมหิ จตูหิ จาติ จตุสมุฏฺาเนนาปตฺติ.

สา เอวํ ทฺวิธา ิเตหิ จตูหิ สมุฏฺาเนหิ ชายเต. น ปนฺโตติ ‘‘กายโต, วาจโต, กายวาจโต, กายจิตฺตโต’’ติ เอวมาทินา วิปลฺลาสนเยน โยชิเตหิ จตูหิ สมุฏฺาเนหิ น สมุฏฺาติ. ฉ สมุฏฺานานิ ยสฺสา สา ฉสมุฏฺานา. สจิตฺตเกหิ ตีหิ, อจิตฺตเกหิ ตีหีติ ฉหิ เอว สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาตีติ. ปการนฺตราภาวา อิธ ‘‘น อฺโต’’ติ น วุตฺตํ.

อาห จ อฏฺกถาจริโย มาติกฏฺกถายํ.

๓๓๕. สมุฏฺาติ เอตสฺมาติ สมุฏฺานํ, กายาทิ ฉพฺพิธํ, เอกํ สมุฏฺานํ การณํ ยสฺสา สา เอกสมุฏฺานา. ปการนฺตราภาวา ติธา. กถํ? สจิตฺตกานํ ติณฺณํ สมุฏฺานานํ วเสน ติวิธา. ทฺวีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺิตา ทฺวิสมุฏฺิตา, ทฺวิสมุฏฺานาปตฺตีติ อตฺโถ. ปฺจธาติ วุตฺตนเยน ปฺจปฺปการา. ตีณิ สมุฏฺานานิ ยสฺสา สา ติสมุฏฺานา, จตฺตาริ สมุฏฺานานิ ยสฺสา สา จตุรุฏฺานา, ติสมุฏฺานา จ จตุรุฏฺานา จ ติจตุรุฏฺานาติ เอกเทสสรูเปกเสโส, ติสมุฏฺานา ทฺวิธา วิภตฺตา, จตุสมุฏฺานา จ ทฺวิธา เอว วิภตฺตาติ อตฺโถ. ฉหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺิตา ฉสมุฏฺิตา, ฉสมุฏฺานาติ อตฺโถ. เอกธาติ ปการนฺตราภาวา เอกธาว ิตาติ อธิปฺปาโย.

๓๓๖. สพฺพา อาปตฺติโย สมุฏฺานวิเสสโต เอวํ เตรสธา ิตานํ สมุฏฺานเภทานํ นานตฺตโต เตหิ สมุฏฺิตานํ ปมํ ปฺตฺตตฺตา สีสภูตานํ สิกฺขาปทานํ วเสน เตรเสว นามานิ ลภนฺติ, ตานิ อิโต ปรํ วกฺขามีติ โยชนา.

๓๓๗. ปมนฺติมวตฺถุฺจาติ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ. ทุติยนฺติ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ. สฺจริตฺตกนฺติ สฺจริตฺตสมุฏฺานํ. สมนุภาสนนฺติ สมนุภาสนสมุฏฺานํ. ‘‘กถินํ เอฬกโลมก’’นฺติ ปทจฺเฉโท, กถินสมุฏฺานํ เอฬกโลมสมุฏฺานฺจ.

๓๓๘. ปทโสธมฺมนฺติ ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ. อทฺธานํ เถยฺยสตฺถนฺติ อทฺธานสมุฏฺานํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. เทสนาติ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานํ. ภูตาโรจนกนฺติ ภูตาโรจนสมุฏฺานํ. โจริวุฏฺาปนนฺติ โจริวุฏฺาปนสมุฏฺานํ.

๓๓๙. อนนุฺาตกฺจาติ อนนุฺาตกสมุฏฺานฺจาติ เอตานิ เตรส เตหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺิตานํ เตสํ สิกฺขาปทานํ ปมํ ปมํ นิทฺทิฏฺานํ ปมปาราชิกาทิสิกฺขาปทสมุฏฺานานํ อิตเรสํ ปุพฺพงฺคมภาวโต ‘‘สีสานี’’ติ วุตฺตานิ. ยถาห ปริวารฏฺกถายํ ‘‘ปมปาราชิกํ นาม เอกํ สมุฏฺานสีสํ, เสสานิ เตน สทิสานี’’ติอาทิ (ปริ. อฏฺ. ๒๕๘). เตรเสเต สมุฏฺานนยาติ เอเต สีสวเสน ทสฺสิตา เตรส สมุฏฺานนยา. วิฺูหิ อุปาลิตฺเถราทีหิ.

๓๔๐. ตตฺถ เตรสสุ สมุฏฺานสีเสสุ. ยาติ ยา ปน อาปตฺติ. อาทิปาราชิกุฏฺานาติ ปมปาราชิกสมุฏฺานา.

๓๔๑. อทินฺนาทาน-สทฺโท ปุพฺพโก ปโม เอติสฺสา ตํสมุฏฺานาปตฺติยาติ อทินฺนาทานปุพฺพกา, อทินฺนาทานสมุฏฺานาติ อุทฺทิฏฺาติ โยชนา.

๓๔๒. ชาตูติ เอกํเสน.

๓๔๓. อยํ สมุฏฺานวเสน ‘‘สมนุภาสนาสมุฏฺานา’’ติ วุตฺตาติ โยชนา.

๓๔๔. กถิน-สทฺโท อุปปโท ยสฺสา ตํสมุฏฺานาย อาปตฺติยา สา กถินุปปทา, กถินสมุฏฺานาติ มตา าตา, อยํ สมุฏฺานวเสน ‘‘กถินสมุฏฺานา’’ติ าตาติ อตฺโถ.

๓๔๕. เอฬกโลม-สทฺโท อาทิ ยสฺสา ตํสมุฏฺานาปตฺติยา สา เอฬกโลมาทิสมุฏฺานาติ อตฺโถ.

๓๔๙. เอตฺถ สมุฏฺาเนสุ.

๓๕๐. ภูตาโรจน-สทฺโท ปุพฺพภาโค เอติสฺสา ตํสมุฏฺานาย อาปตฺติยาติ ภูตาโรจนปุพฺพกา, ภูตาโรจนสมุฏฺานาติ อตฺโถ.

๓๕๑. สมุฏฺานํ สมุฏฺิตํ, โจริวุฏฺาปนํ สมุฏฺิตํ ยสฺสา สา โจริวุฏฺาปนสมุฏฺิตา, โจริวุฏฺาปนสมุฏฺานาติ อตฺโถ.

๓๕๓. ตตฺถาติ เตรสสมุฏฺานสีเสสุ, ‘‘สมุฏฺานํ สจิตฺตก’’นฺติ อิทํ ‘‘ปม’’นฺติอาทีหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ปมํ สมุฏฺานนฺติ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ. ทุติยํ สมุฏฺานนฺติ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ. จตุตฺถํ สมุฏฺานนฺติ สมนุภาสนสมุฏฺานํ. นวมํ สมุฏฺานนฺติ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. ทสมํ สมุฏฺานนฺติ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานํ. ทฺวาทสมํ สมุฏฺานนฺติ โจริวุฏฺาปนสมุฏฺานํ.

๓๕๔. สมุฏฺาเนติ สมุฏฺานสีเส. สทิสาติ เตน เตน สมุฏฺานสีเสน สมุฏฺานา อาปตฺติโย. อิธาติ อิมสฺมึ สมุฏฺานวินิจฺฉเย. ทิสฺสเรติ ทิสฺสนฺเต, ทิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา อิธ ทิสฺสเรติ อิธ อุภโตวิภงฺเค เอเตสุ เตรสสมุฏฺาเนสุ เอเกกสฺมึ อฺานิปิ สทิสานิ สมุฏฺานานิ ทิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อิทานิ ตานิ สรูปโต นิทสฺเสตุมาห ‘‘สุกฺกฺจา’’ติอาทิ. ตตฺถ สุกฺกนฺติ สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทํ. เอส นโย ‘‘กายสํสคฺโค’’ติอาทีสุปิ. ยเทตฺถ ทุวิฺเยฺยํ, ตํ วกฺขาม.

๓๕๕. ปุพฺพุปปริปาโก จาติ ‘‘ชานํ ปุพฺพุปคตํ ภิกฺขุ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๒๐) สิกฺขาปทฺจ ‘‘ภิกฺขุนิปริปาจิต’’นฺติ (ปาจิ. ๑๙๒, ๑๙๔) ปิณฺฑปาตสิกฺขาปทฺจ. รโห ภิกฺขุนิยาสหาติ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ รโห นิสชฺชสิกฺขาปทฺจ. สโภชเน, รโห ทฺเว จาติ สโภชเน กุเล อนุปขชฺชสิกฺขาปทฺจ ทฺเว รโหนิสชฺชสิกฺขาปทานิ จ. องฺคุลี อุทเก หสนฺติ องฺคุลิปโตทฺจ อุทกหสธมฺมสิกฺขาปทฺจ.

๓๕๖. ปหาเร อุคฺคิเร เจวาติ ปหารทานสิกฺขาปทฺจ ตลสตฺติอุคฺคิรณสิกฺขาปทฺจ. เตปฺาสา จ เสขิยาติ ปฺจสตฺตติเสขิยาสุ วกฺขมานานิ อุชฺชคฺฆิกาทีนิ สมนุภาสนสมุฏฺานานิ ทส, ฉตฺตปาณิอาทีนิ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานานิ เอกาทส, เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ, สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปทฺจาติ พาวีสติ สิกฺขาปทานิ เปตฺวา ปริมณฺฑลนิวาสนาทีนิ อิตรานิ เตปฺาส เสขิยสิกฺขาปทานิ จ. อธกฺขกุพฺภชาณุฺจาติ ภิกฺขุนีนํ อธกฺขกอุพฺภชาณุสิกฺขาปทฺจ. คามนฺตรมวสฺสุตาติ คามนฺตรคมนํ, อวสฺสุตสฺส หตฺถโต ขาทนียคฺคหณสิกฺขาปทฺจ.

๓๕๗-๘. ตลมฏฺุทสุทฺธิ จาติ ตลฆาตํ, ชตุมฏฺํ, อุทกสุทฺธิกาทิยนฺจ. วสฺสํวุตฺถาติ ‘‘วสฺสํวุตฺถา…เป… ฉปฺปฺจโยชนานี’’ติ (ปาจิ. ๙๗๔) สิกฺขาปทฺจ. โอวาทาย น คจฺฉนฺตีติ โอวาทาย อคมนสิกฺขาปทฺจ. นานุพนฺเธ ปวตฺตินินฺติ ‘‘วุฏฺาปิตํ ปวตฺตินึ ทฺเว วสฺสานิ นานุพนฺเธยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๑๒) สิกฺขาปทฺจาติ อุภโตวิภงฺเค นิทฺทิฏฺา อิเม ปฺจสตฺตติ ธมฺมา กายจิตฺตสมุฏฺิตา เมถุเนน สมา เอกสมุฏฺานา มตาติ โยชนา.

เอตฺถ จ ปาฬิยํ ‘‘ฉสตฺตตี’’ติ คณนปริจฺเฉโท สมุฏฺานสิกฺขาปเทน สห ทสฺสิโต. อิธ ปน ตํ วินา ตํสทิสานเมว คณนา ทสฺสิตา. เตเนว ปมํ สมุฏฺานสีสํ ปาฬิยํ คณนายปิ ทสฺสิตํ, อิเธว น ทสฺสิตํ. อุปริ กตฺถจิ สมุฏฺานสีสสฺส ทสฺสนํ ปเนตฺถ วกฺขมานานํ ตํสทิสภาวทสฺสนตฺถํ, คณนาย วกฺขมานาย อนฺโตคธภาวทสฺสนตฺถํ. เตเนว ตตฺถปิ ตํ วินา คณนํ วกฺขติ.

ปมปาราชิกสมุฏฺานวณฺณนา.

๓๕๙. วิคฺคหนฺติ มนุสฺสวิคฺคหสิกฺขาปทํ. อุตฺตริ เจวาติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสิกฺขาปทฺจ. ทุฏฺุลฺลนฺติ ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทํ. อตฺตกามตาติ อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทฺจ. ทุฏฺโทสา ทุเว เจวาติ ทฺเว ทุฏฺโทสสิกฺขาปทานิ จ. ทุติยานิยโตปิ จาติ ทุติยอนิยตสิกฺขาปทฺจ.

๓๖๐. อจฺฉินฺทนฺจาติ สามํ จีวรํ ทตฺวา อจฺฉินฺทนฺจ. ปริณาโมติ สงฺฆิกลาภสฺส อตฺตโน ปริณามนฺจ. มุสาโอมสเปสุณาติ มุสาวาโท จ โอมสวาโท จ ภิกฺขุเปสุฺฺจ. ทุฏฺุลฺลาโรจนฺเจวาติ ทุฏฺุลฺลาปตฺติอาโรจนสิกฺขาปทฺจ. ปถวีขณนมฺปิ จาติ ปถวีขณนสิกฺขาปทฺจ.

๓๖๑. ภูตคามฺจ วาโท จาติ ภูตคามสิกฺขาปทํ, อฺวาทกสิกฺขาปทฺจ. อุชฺฌาปนกเมว จาติ อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทฺจ. นิกฺกฑฺโฒ สิฺจนฺเจวาติ วิหารโต นิกฺกฑฺฒนฺจ อุทเก ติณาทิสิฺจนฺจ. อามิสเหตุ จาติ อามิสเหตุ ภิกฺขุนิโย โอวาทสิกฺขาปทฺจ.

๓๖๒. ภุตฺตาวินฺติ ภุตฺตาวึ อนติริตฺเตน ขาทนียาทินา ปวารณสิกฺขาปทฺจ. เอหนาทรินฺติ ‘‘เอหาวุโส, คามํ วา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ อนาทริยสิกฺขาปทฺจ. ภึสาปนเมว จาติ ภิกฺขุภึสนกฺจ. อปนิเธยฺยาติ ปตฺตาทิอปนิธานสิกฺขาปทฺจ. สฺจิจฺจ ปาณนฺติ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตาโวโรปนฺจ. สปฺปาณกมฺปิ จาติ ชานํ สปฺปาณกอุทกสิกฺขาปทฺจ.

๓๖๓. อุกฺโกฏนฺจาติ ปุนกมฺมาย อุกฺโกฏนฺจ. อูโนติ อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทฺจ. สํวาโสติ อุกฺขิตฺตเกน สทฺธึ สํวาสสิกฺขาปทฺจ. นาสเน จาติ นาสิตกสามเณรสมฺโภคสิกฺขาปทฺจ. สหธมฺมิกนฺติ สหธมฺมิกํ วุจฺจมานสิกฺขาปทฺจ. วิเลขา จาติ ‘‘วิเลขาย สํวตฺตนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๔๓๙) อาคตสิกฺขาปทฺจ. โมหนาติ โมหนสิกฺขาปทฺจ. อมูลเกน จาติ อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํสนสิกฺขาปทฺจ.

๓๖๔. กุกฺกุจฺจํ ขียนํ ทตฺวาติ กุกฺกุจฺจอุปฺปาทนฺจ ธมฺมิกานํ กมฺมานํ ฉนฺทํ ทตฺวา ขียนฺจ จีวรํ ทตฺวา ขียนฺจ. ปริณาเมยฺย ปุคฺคเลติ สงฺฆิกํ ลาภํ ปุคฺคลสฺส ปริณามนสิกฺขาปทฺจ. กึ เต, อกาลํ, อจฺฉินฺเทติ ‘‘กึ เต, อยฺเย, เอโส ปุริสปุคฺคโล กริสฺสตี’’ติ (ปาจิ. ๗๐๕) อาคตสิกฺขาปทฺจ อกาลจีวรํ ‘‘กาลจีวร’’นฺติ อธิฏฺหิตฺวา ภาชนสิกฺขาปทฺจ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ จีวรํ ปริวตฺเตตฺวา อจฺฉินฺทนสิกฺขาปทฺจ. ทุคฺคหนิรเยน จาติ ทุคฺคหิเตน ทุปธาริเตน ปรํ อุชฺฌาปนสิกฺขาปทฺจ นิรเยน วา พฺรหฺมจริเยน วา อภิสปนสิกฺขาปทฺจ.

๓๖๕. คณสฺส จาติ ‘‘คณสฺส จีวรลาภํ อนฺตรายํ กเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๐๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. วิภงฺคฺจาติ ‘‘ธมฺมิกํ จีวรวิภงฺคํ ปฏิพาเหยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๑๒) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ทุพฺพลาสา ตเถว จาติ ‘‘ทุพฺพลจีวรปจฺจาสาย จีวรกาลสมยํ อติกฺกาเมยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๒๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ธมฺมิกํ กถินุทฺธารนฺติ ‘‘ธมฺมิกํ กถินุทฺธารํ ปฏิพาเหยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๒๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สฺจิจฺจาผาสุเมว จาติ ‘‘ภิกฺขุนิยา สฺจิจฺจ อผาสุํ กเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๔๒) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.

๓๖๖. สยํ อุปสฺสยํ ทตฺวาติ ‘‘ภิกฺขุนิยา อุปสฺสยํ ทตฺวา กุปิตา อนตฺตมนา นิกฺกฑฺเฒยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๕๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อกฺโกเสยฺย จาติ ‘‘ภิกฺขุํ อกฺโกเสยฺย วา ปริภาเสยฺย วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๒๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. จณฺฑิกาติ ‘‘จณฺฑีกตา คณํ ปริภาเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๓๔) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. กุลมจฺฉรินี อสฺสาติ ‘‘กุลมจฺฉรินี อสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๔๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. คพฺภินึ วุฏฺาเปยฺย จาติ ‘‘คพฺภินึ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๖๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.

๓๖๗. ปายนฺตินฺติ ‘‘ปายนฺตึ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๗๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ทฺเว จ วสฺสานีติ ‘‘ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ อสิกฺขิตสิกฺขํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๘๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สงฺเฆนาสมฺมตนฺติ ‘‘สิกฺขิตสิกฺขํ สิกฺขมานํ สงฺเฆน อสมฺมตํ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๘๖) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ติสฺโส คิหิคตา วุตฺตาติ ‘‘อูนทฺวาทสวสฺสํ คิหิคตํ (ปาจิ. ๑๐๙๑), ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสํ คิหิคตํ ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ อสิกฺขิตสิกฺขํ (ปาจิ. ๑๐๙๗), ทฺเววสฺสานิ สิกฺขิตสิกฺขํ สงฺเฆน อสมฺมต’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๐๓) วุตฺตสิกฺขาปทานิ จ. ติสฺโสเยว กุมาริกาติ ‘‘อูนวีสติวสฺสํ กุมาริภูต’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๑๑๒๐) นเยน วุตฺตา ติสฺโส จ.

๓๖๘. อูนทฺวาทสวสฺสา ทฺเวติ ‘‘อูนทฺวาทสวสฺสา วุฏฺาเปยฺย (ปาจิ. ๑๑๓๗), ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา สงฺเฆน อสมฺมตา วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๔๒) วุตฺตานิ ทฺเว สิกฺขาปทานิ จ. อลํ ตาว เตติ ‘‘อลํ ตาว เต, อยฺเย, วุฏฺาปิเตนา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๔๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. โสกาวสฺสาติ ‘‘จณฺฑึ โสกาวาสํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๕๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปาริวาสิกจฺฉนฺททานโตติ ‘‘ปาริวาสิกฉนฺททาเนน สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๖๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.

๓๖๙. อนุวสฺสํ ทุเว จาติ ‘‘อนุวสฺสํ วุฏฺาเปยฺย (ปาจิ. ๑๑๗๑), เอกํ วสฺสํ ทฺเว วุฏฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๗๕) วุตฺตสิกฺขาปทานิ จาติ เอกูนสตฺตติ สิกฺขาปทานิ. อทินฺนาทานตุลฺยตฺตาติ อทินฺนาทาเนน สมานสมุฏฺานตฺตา. ติสมุฏฺานิกา กตาติ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺหนฺตีติ วุตฺตา.

ทุติยปาราชิกสมุฏฺานวณฺณนา.

๓๗๐. สฺจริกุฏิมหลฺลกนฺติ สฺจริตฺตํ, สฺาจิกาย กุฏิกรณํ, มหลฺลกวิหารกรณฺจ. โธวาปนฺจ ปฏิคฺคโหติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา ปุราณจีวรโธวาปนฺจ จีวรปฏิคฺคหณฺจ. จีวรสฺส จ วิฺตฺตินฺติ อฺาตกํ คหปตึ วา คหปตานึ วา จีวรวิฺาปนสิกฺขาปทฺจ. คหณฺจ ตทุตฺตรินฺติ ตทุตฺตริสาทิยนสิกฺขาปทฺจ.

๓๗๑. อุปกฺขฏทฺวยฺเจวาติ ‘‘จีวรเจตาปนฺนํ อุปกฺขฏํ โหตี’’ติ (ปารา. ๕๒๘) อาคตสิกฺขาปททฺวยฺจ. ตถา ทูเตน จีวรนฺติ ทูเตนจีวรเจตาปนฺนปหิตสิกฺขาปทฺจ. โกสิยนฺติ โกสิยมิสฺสกสิกฺขาปทฺจ. สุทฺธกาฬานนฺติ ‘‘สุทฺธกาฬกาน’’นฺติอาทิสิกฺขาปทฺจ (ปารา. ๕๔๘). ทฺเว ภาคาทานเมว จาติ ‘‘ทฺเว ภาคา อาทาตพฺพา’’ติ (ปารา. ๕๕๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.

๓๗๒. ฉพฺพสฺสานีติ ฉพฺพสฺสานิ ธารณสิกฺขาปทฺจ. ปุราณสฺสาติ ‘‘ปุราณสนฺถตสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๖๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. โลมโธวาปนมฺปิ จาติ เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทฺจ. รูปิยสฺส ปฏิคฺคาโหติ รูปิยปฏิคฺคหณสิกฺขาปทฺจ. อุโภ นานปฺปการกาติ รูปิยสํโวหารกยวิกฺกยสิกฺขาปทานิ จ.

๓๗๓. อูนพนฺธนปตฺโต จาติ อูนปฺจพนฺธนปตฺตสิกฺขาปทฺจ. วสฺสสาฏิกสุตฺตกนฺติ วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทฺจ สุตฺตํ วิฺาเปตฺวา จีวรการาปนสิกฺขาปทฺจ. วิกปฺปาปชฺชนนฺติ ตนฺตวาเย อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปาปชฺชนฺจ. ยาว ทฺวารทานฺจ สิพฺพนนฺติ ‘‘ยาว ทฺวารโกสา อคฺคฬฏฺปนายา’’ติ (ปาจิ. ๑๓๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ ‘‘อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ ทเทยฺย (ปาจิ. ๑๗๑), จีวรํ สิพฺเพยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๗๖) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ.

๓๗๔. ปูเวหีติ ปูเวหิ วา มนฺเถหิ วา อภิหฏฺุํ ปวารณสิกฺขาปทฺจ. ปจฺจโยติ จตุมาสปจฺจยปวารณสิกฺขาปทฺจ. โชตีติ โชติยา สมาทหนสิกฺขาปทฺจ. รตนนฺติ รตนสิกฺขาปทฺจ. สูจิ…เป… สุคตสฺส จาติ สูจิฆรสิกฺขาปทาทีนิ สตฺต สิกฺขาปทานิ จ.

๓๗๕. อฺวิฺตฺติสิกฺขา จาติ ‘‘อฺํ วิฺาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๔๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อฺํ เจตาปนมฺปิ จาติ ‘‘อฺํ เจตาเปตฺวา อฺํ เจตาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๔๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สงฺฆิเกน ทุเว วุตฺตาติ ‘‘สงฺฆิเกน อฺํ เจตาเปยฺย (ปาจิ. ๗๕๙), สงฺฆิเกน สฺาจิเกน อฺํ เจตาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๖๔) วุตฺตานิ ทฺเว สิกฺขาปทานิ จ. ทฺเว มหาชนิเกนาติ ‘‘มหาชนิเกน อฺํ เจตาเปยฺย (ปาจิ. ๗๖๙), มหาชนิเกน สฺาจิเกน อฺํ เจตาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๗๔) วุตฺตานิ ทฺเว สิกฺขาปทานิ จ.

๓๗๖. ตถา ปุคฺคลิเกเนกนฺติ ‘‘ปุคฺคลิเกน สฺาจิเกน อฺํ เจตาเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๗๙) วุตฺตเมกสิกฺขาปทฺจ. ครุปาวุรณนฺติ ครุปาวุรณเจตาปนสิกฺขาปทฺจ. ลหุนฺติ ลหุปาวุรณเจตาปนสิกฺขาปทํ. ‘‘วิฆาสา อุทสาฏิ จา’’ติ ปทจฺเฉโท. ทฺเว วิฆาสาติ ‘‘อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา สงฺการํ วา วิฆาสํ วา ติโรกุฏฺเฏ วา ติโรปากาเร วา ฉฑฺเฑยฺย วา ฉฑฺฑาเปยฺย วา (ปาจิ. ๘๒๕), หริเต ฉฑฺเฑยฺย วา ฉฑฺฑาเปยฺย วา’’ติ (ปาจิ. ๘๒๙) เอวํ วุตฺตานิ ทฺเว วิฆาสสิกฺขาปทานิ จ. อุทสาฏิ จาติ อุทกสาฏิกสิกฺขาปทฺจ. ตถา สมณจีวรนฺติ ตถา ‘‘สมณจีวรํ ทเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๑๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจาติ.

๓๗๗. อิติ เอเต เอกูนปณฺณาส ธมฺมา ทุกฺขนฺตทสฺสินา ภควตา ฉสมุฏฺานิกา เตเยว สฺจริตฺตสมา สฺจริตฺตสิกฺขาปเทน สมา กตา อนุมตา ปฺตฺตาติ โยชนา.

สฺจริตฺตสมุฏฺานวณฺณนา.

๓๗๘. สงฺฆเภโทติ สงฺฆเภทสิกฺขาปทฺจ. เภทานุวตฺตทุพฺพจทูสกาติ เภทานุวตฺตกทุพฺพจกุลทูสกสิกฺขาปทานิ จ. ทุฏฺุลฺลจฺฉาทนนฺติ ทุฏฺุลฺลปฏิจฺฉาทนสิกฺขาปทฺจ. ทิฏฺีติ ทิฏฺิอปฺปฏินิสฺสชฺชนสิกฺขาปทฺจ. ฉนฺทอุชฺชคฺฆิกา ทุเวติ ฉนฺทํอทตฺวาคมนสิกฺขาปทฺจ อุชฺชคฺฆิกาย อนฺตรฆเร คมนนิสีทนสิกฺขาปททฺวยฺจ.

๓๗๙. อปฺปสทฺทา ทุเว วุตฺตาติ ‘‘อปฺปสทฺโท อนฺตรฆเร คมิสฺสามิ, นิสีทิสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๕๘๘, ๕๘๙) วุตฺตานิ ทฺเว สิกฺขาปทานิ จ. น พฺยาหเรติ ‘‘น สกพเฬน มุเขน พฺยาหริสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๖๑๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ฉมา, นีจาสเน, านนฺติ ‘‘ฉมายํ นิสีทิตฺวา (ปาจิ. ๖๔๕), นีเจ อาสเน นิสีทิตฺวา (ปาจิ. ๖๔๗), ิโต นิสินฺนสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๔๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปจฺฉโต อุปฺปเถน จาติ ‘‘ปจฺฉโต คจฺฉนฺโต ปุรโต คจฺฉนฺตสฺส (ปาจิ. ๖๔๙), อุปฺปเถน คจฺฉนฺโต ปเถน คจฺฉนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๕๐) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ.

๓๘๐. วชฺชจฺฉาทาติ วชฺชโต ปฏิจฺฉาทนสิกฺขาปทฺจ. อนุวตฺตา จาติ อุกฺขิตฺตานุวตฺตนสิกฺขาปทฺจ. คหณนฺติ ‘‘หตฺถคฺคหณํ วา สาทิเยยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. โอสาเรยฺย จาติ ‘‘อนปโลเกตฺวา การกสงฺฆํ อนฺาย คณสฺส ฉนฺทํ โอสาเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๖๙๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปจฺจกฺขามีติ สิกฺขา จาติ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจาจิกฺขามี’’ติ (ปาจิ. ๗๑๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตถา กิสฺมิฺจิเทว จาติ ‘‘กิสฺมิฺจิเทว อธิกรเณ ปจฺจากตา’’ติ (ปาจิ. ๗๑๖) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.

๓๘๑. สํสฏฺา ทฺเว จาติ ‘‘ภิกฺขุนิโย ปเนว สํสฏฺา วิหรนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๗๒๒) จ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี เอวํ วเทยฺย สํสฏฺาว, อยฺเย, ตุมฺเห วิหรถา’’ติอาทิวจนํ (ปาจิ. ๗๒๘) ปฏิจฺจ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ. วธิตฺวา จาติ ‘‘อตฺตานํ วธิตฺวา วธิตฺวา โรเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๘๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. วิสิพฺเพตฺวา จาติ ‘‘ภิกฺขุนิยา จีวรํ วิสิพฺเพตฺวา วา วิสิพฺพาเปตฺวา วา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ทุกฺขิตนฺติ ‘‘ทุกฺขิตํ สหชีวินิ’’นฺติ (ปาจิ. ๙๔๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปุนเทว จ สํสฏฺาติ ‘‘สํสฏฺา วิหเรยฺย คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา’’ติ (ปาจิ. ๙๕๖) เอวํ ปุน วุตฺตสํสฏฺสิกฺขาปทฺจ. เนว วูปสเมยฺย จาติ ‘‘‘เอหายฺเย, อิมํ อธิกรณํ วูปสเมหี’ติ (ปาจิ. ๙๙๕) วุจฺจมานา ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา สา ปจฺฉา อนนฺตรายิกินี เนว วูปสเมยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.

๓๘๒. ชานํ สภิกฺขุการามนฺติ ‘‘ชานํ สภิกฺขุกํ อารามํ อนาปุจฺฉา ปวิเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๒๔) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตเถว น ปวารเยติ ‘‘อุภโตสงฺเฆ ตีหิ าเนหิ น ปวาเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๕๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตถา อนฺวทฺธมาสฺจาติ ‘‘อนฺวทฺธมาสํ ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสงฺฆโต ทฺเว ธมฺมา ปจฺจาสีสิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๕๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สหชีวินิโย ทุเวติ ‘‘สหชีวินึ วุฏฺาเปตฺวา ทฺเว วสฺสานิ เนว อนุคฺคณฺเหยฺย (ปาจิ. ๑๑๐๘), สหชีวินึ วุฏฺาเปตฺวา เนว วูปกาเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๑๖) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ.

๓๘๓-๔. สเจ เม จีวรํ อยฺเยติ ‘‘สเจ เม ตฺวํ, อยฺเย, จีวรํ ทสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๑๑๕๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อนุพนฺธิสฺสสีติ ‘‘สเจ มํ ตฺวํ, อยฺเย, ทฺเว วสฺสานิ อนุพนฺธิสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๑๑๕๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อสเมน สมฺพุทฺเธน ปกาสิตา อิเม สตฺตตึส ธมฺมา สพฺเพ กายวาจาทิโต กายวาจาจิตฺตโต เอกสมุฏฺานา กตา สมนุภาสนา สิยุํ สมุฏฺานโต สมนุภาสนสิกฺขาปเทน สทิสา สิยุนฺติ โยชนา.

สมนุภาสนสมุฏฺานวณฺณนา.

๓๘๕. กถินานิ จ ตีณีติ ‘‘นิฏฺิตจีวรสฺมึ ภิกฺขุนา อุพฺภตสฺมึ กถิเน’’ติ (ปารา. ๔๖๒) วุตฺตานิ อาทิโต ตีณิ สิกฺขาปทานิ. ปตฺโตติ ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกปตฺโต’’ติ (ปารา. ๖๐๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. เภสชฺชเมว จาติ ‘‘ปฏิสายนียานิ เภสชฺชานี’’ติ (ปารา. ๖๒๒) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อจฺเจกมฺปิ จาติ อจฺเจกสิกฺขาปทฺจ. สาสงฺกนฺติ ตทนนฺตรเมว สาสงฺกสิกฺขาปทฺจ. ปกฺกมนฺตทฺวยมฺปิ จาติ ‘‘ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๙, ๑๑๕) ภูตคามวคฺเค วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ.

๓๘๖. ตถา อุปสฺสยํ คนฺตฺวาติ ‘‘ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปรมฺปรํ โภชนนฺติ ‘‘ปรมฺปรโภชเน ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๒๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อนติริตฺตนฺติ ‘‘อนติริตฺตํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สภตฺโตติ ‘‘นิมนฺติโต สภตฺโต สมาโน’’ติ (ปาจิ. ๒๙๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. วิกปฺเปตฺวา ตเถว จาติ ‘‘จีวรํ วิกปฺเปตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๓๗๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.

๓๘๗. รฺโติ ‘‘รฺโ ขตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๙๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. วิกาเลติ ‘‘วิกาเล คามํ ปวิเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๕๐๙-๕๑๒) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. โวสาสาติ ‘‘โวสาสมานรูปา ิตา’’ติ (ปาจิ. ๕๕๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ‘‘อารฺเก อุสฺสยวาทิกา’’ติ ปทจฺเฉโท. อารฺเกติ ‘‘ตถารูเปสุ อารฺเกสุ เสนาสเนสุ ปุพฺเพ อปฺปฏิสํวิทิต’’นฺติ (ปาจิ. ๕๗๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อุสฺสยวาทิกาติ ‘‘อุสฺสยวาทิกา วิหเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปตฺตสนฺนิจยฺเจวาติ ‘‘ปตฺตสนฺนิจยํ กเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๓๔) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปุเร, ปจฺฉา, วิกาลเกติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปุเรภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๘๕๕) จ ‘‘ปจฺฉาภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๘๖๐) จ ‘‘วิกาเล กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๘๖๕) จ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยฺจ.

๓๘๘-๙. ปฺจาหิกนฺติ ‘‘ปฺจาหิกํ สงฺฆาฏิจารํ อติกฺกเมยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สงฺกมนินฺติ ‘‘จีวรสงฺกมนียํ ธาเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๐๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตถา อาวสถทฺวยนฺติ ‘‘อาวสถจีวรํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุฺเชยฺย (ปาจิ. ๑๐๐๔), อาวสถํ อนิสฺสชฺชิตฺวา จาริกํ ปกฺกเมยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๐๙) เอวํ อาวสเถน สทฺธึ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ. ปสาเขติ ‘‘ปสาเข ชาตํ คณฺฑํ วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๖๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อาสเน จาติ ‘‘ภิกฺขุสฺส ปุรโต อนาปุจฺฉา อาสเน นิสีเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๑๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจาติ อิเม ปน เอกูนตึส ธมฺมา กายวาจโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺานโต สพฺเพ ทฺวิสมุฏฺานิกา, ตโตเยว กถินสมฺภวา กถินสมุฏฺานา โหนฺตีติ โยชนา.

กถินสมุฏฺานวณฺณนา.

๓๙๐. ทฺเว เสยฺยาติ ทฺเว สหเสยฺยสิกฺขาปทานิ จ. อาหจฺจปาโท จาติ อาหจฺจปาทกสิกฺขาปทฺจ. ปิณฺฑฺจาติ อาวสถปิณฺฑโภชนสิกฺขาปทฺจ. คณโภชนนฺติ คณโภชนสิกฺขาปทฺจ. วิกาเลติ วิกาลโภชนสิกฺขาปทฺจ. สนฺนิธิฺเจวาติ สนฺนิธิการกสิกฺขาปทฺจ. ทนฺตโปนนฺติ ทนฺตโปนสิกฺขาปทฺจ. อเจลกนฺติ อเจลกสิกฺขาปทฺจ.

๓๙๑. อุยฺยุตฺตฺจาติ ‘‘อุยฺยุตฺตํ เสนํ ทสฺสนาย คจฺเฉยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๓๑๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ‘‘วเส อุยฺโยธิ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. วเสติ ‘‘เสนาย วเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๓๑๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อุยฺโยธินฺติ ‘‘อุยฺโยธิกํ วา…เป… อนีกทสฺสนํ วา คจฺเฉยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๓๒๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สุราติ สุราปานสิกฺขาปทฺจ. โอเรน นฺหายนนฺติ โอเรนทฺธมาสนหายนสิกฺขาปทฺจ. ทุพฺพณฺณกรณฺเจวาติ ‘‘ติณฺณํ ทุพฺพณฺณกรณาน’’นฺติ (ปาจิ. ๓๖๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปาฏิเทสนียทฺวยนฺติ วุตฺตาวเสสํ ปาฏิเทสนียทฺวยฺจ.

๓๙๒. ลสุณนฺติ ลสุณสิกฺขาปทฺจ. อุปติฏฺเยฺยาติ ‘‘ภิกฺขุสฺส ภุฺชนฺตสฺส ปานีเยน วา วิธูปเนน วา อุปติฏฺเยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๑๖) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. นจฺจทสฺสนเมว จาติ ‘‘นจฺจํ วา คีตํ วา วาทิตํ วา ทสฺสนาย คจฺเฉยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๓๔) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. นคฺคนฺติ ‘‘นคฺคา นหาเยยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๘๔) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อตฺถรณนฺติ ‘‘เอกตฺถรณปาวุรณา ตุวฏฺเฏยฺยุ’’นฺติ (ปาจิ. ๙๓๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. มฺเจติ ‘‘เอกมฺเจ ตุวฏฺเฏยฺยุ’’นฺติ (ปาจิ. ๙๓๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อนฺโตรฏฺเติ ‘‘อนฺโตรฏฺเ สาสงฺกสมฺมเต’’ติ (ปาจิ. ๙๖๒) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตถา พหีติ ‘‘ติโรรฏฺเ สาสงฺกสมฺมเต’’ติ (ปาจิ. ๙๖๖) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.

๓๙๓. อนฺโตวสฺสนฺติ ‘‘อนฺโตวสฺสํ จาริกํ จเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๗๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อคารฺจาติ ‘‘ราชาคารํ วา จิตฺตาคารํ วา…เป… โปกฺขรณึ วา ทสฺสนาย คจฺเฉยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๗๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อาสนฺทินฺติ ‘‘อาสนฺทึ วา ปลฺลงฺกํ วา ปริภุฺเชยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๘๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สุตฺตกนฺตนนฺติ ‘‘สุตฺตํ กนฺเตยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๘๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. เวยฺยาวจฺจนฺติ ‘‘คิหิเวยฺยาวจฺจํ กเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๙๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สหตฺถา จาติ ‘‘อคาริกสฺส วา ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา สหตฺถา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ทเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๐๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อาวาเส จ อภิกฺขุเกติ ‘‘อภิกฺขุเก อาวาเส วสฺสํ วเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๔๗) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ.

๓๙๔. ฉตฺตนฺติ ‘‘ฉตฺตุปาหนํ ธาเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๗๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ยานฺจาติ ‘‘ยาเนน ยาเยยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๘๖) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สงฺฆาณินฺติ ‘‘สงฺฆาณึ ธาเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๙๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อลงฺการนฺติ ‘‘อิตฺถาลงฺการํ ธาเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๙๕) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. คนฺธวาสิตนฺติ ‘‘คนฺธวณฺณเกน นหาเยยฺย (ปาจิ. ๑๑๙๙), วาสิตเกน ปิฺาเกน นหาเยยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๐๓) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ. ‘‘ภิกฺขุนี…เป… คิหินิยา’’ติ เอเตน ‘‘ภิกฺขุนิยา อุมฺมทฺทาเปยฺยา’’ติอาทีนิ (ปาจิ. ๑๒๐๗) จตฺตาริ สิกฺขาปทานิ วุตฺตานิ.

๓๙๕. ตถาสํกจฺจิกาติ ‘‘อสํกจฺจิกา คามํ ปวิเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๒๕) เอวํ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อิเม ปน เตจตฺตาลีส ธมฺมา สพฺเพ กายจิตฺตวเสน ทฺวิสมุฏฺานิกา. เอฬกโลเมน สมุฏฺานโต สมา โหนฺตีติ โยชนา.

เอฬกโลมสมุฏฺานวณฺณนา.

๓๙๖-๗. อฺตฺราติ ‘‘มาตุคามสฺส อุตฺตริฉปฺปฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสยฺย อฺตฺร วิฺุนา ปุริสวิคฺคเหนา’’ติ (ปาจิ. ๖๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อสมฺมโต เจวาติ ‘‘อสมฺมโต ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๔๖) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตถา อตฺถงฺคเตน จาติ ‘‘อตฺถงฺคเต สูริเย ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๔) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ติรจฺฉานวิชฺชา ทฺเว วุตฺตาติ ‘‘ติรจฺฉานวิชฺชํ ปริยาปุเณยฺย, วาเจยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๑๔, ๑๐๑๘) เอวํ วุตฺตานิ ทฺเว สิกฺขาปทานิ จ. อโนกาสกตมฺปิ จาติ ‘‘อโนกาสกตํ ภิกฺขุํ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๒๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจาติ อิเม ปน สพฺเพ ฉ ธมฺมา วาจโต, วาจาจิตฺตโต จาติ อิเมหิ ทฺวีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺานิกา โหนฺติ. ปทโสธมฺมตุลฺยตา อยเมเตสํ ปทโสธมฺเมน สทิสภาโวติ โยชนา.

ปทโสธมฺมสมุฏฺานวณฺณนา.

๓๙๘-๙. เอกนฺติ ‘‘ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺเชยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๘๐) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. นาวนฺติ ‘‘เอกนาวํ อภิรุเหยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๘๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปณีตฺจาติ ‘‘ปณีตโภชนานิ อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวาภุฺเชยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๒๕๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. สํวิธานฺจาติ มาตุคาเมน สทฺธึ สํวิธาย คมนสิกฺขาปทฺจ. สํหเรติ ‘‘สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๗๙๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ธฺนฺติ ‘‘อามกธฺํ วิฺตฺวา วา’’ติ (ปาจิ. ๘๒๑) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. นิมนฺติตา เจวาติ ‘‘นิมนฺติตา วา ปวาริตา วา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาเทยฺย วา ภุฺเชยฺย วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๓๘) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ปาฏิเทสนิยฏฺกนฺติ ภิกฺขุนีนํ วุตฺตา อฏฺ ปาฏิเทสนียา เจติ พุทฺธเสฏฺเน ปฺตฺตา เอตา จุทฺทส สิกฺขา จตุสมุฏฺานา กายโต, กายวาจโต, กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต จาติ จตูหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺหนฺติ. สมุฏฺานโต อทฺธาเนน อทฺธานสิกฺขาปเทน สมา โหนฺตีติ มตาติ โยชนา.

อทฺธานสมุฏฺานวณฺณนา.

๔๐๐-๑. สุตินฺติ อุปสฺสุติติฏฺนสิกฺขาปทฺจ. สูปาทิวิฺตฺตินฺติ สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปทฺจ. อนฺธกาเรติ ‘‘รตฺตนฺธกาเร อปฺปทีเป’’ติ (ปาจิ. ๘๓๙) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ตเถว จ ปฏิจฺฉนฺเนติ ‘‘ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส’’ติ (ปาจิ. ๘๔๓) วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. โอกาเสติ ‘‘อชฺโฌกาเส ปุริเสน สทฺธิ’’นฺติ (ปาจิ. ๘๔๗) เอวํ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. พฺยูเห จาติ ตทนนฺตรเมว ‘‘รถิกาย วา พฺยูเห วา สิงฺฆาฏเก วา ปุริเสน สทฺธิ’’นฺติ (ปาจิ. ๘๕๑) อาคตสิกฺขาปทฺจาติ อิเม สพฺเพปิ อาทิจฺจพนฺธุนา เทสิตา ฉ ธมฺมา จตุตฺถจฺฉฏฺโต กายจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺหนฺตา เถยฺยสตฺถสมุฏฺานา เถยฺยสตฺถสิกฺขาปเทน สมานสมุฏฺานา สิยุนฺติ โยชนา.

เถยฺยสตฺถสมุฏฺานวณฺณนา.

๔๐๒. ฉตฺต, ทณฺฑกรสฺสาปีติ ‘‘น ฉตฺตปาณิสฺส ทณฺฑปาณิสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๓๕) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ. สตฺถาวุธกรสฺสาปีติ ‘‘น สตฺถปาณิสฺส (ปาจิ. ๖๓๖), น อาวุธปาณิสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๓๗) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ. ปาทุกูปาหนา, ยานนฺติ ‘‘น ปาทุการุฬฺหสฺส (ปาจิ. ๖๓๘), น อุปาหนารุฬฺหสฺส (ปาจิ. ๖๓๙), น ยานคตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๔๐) วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยฺจ. เสยฺยา, ปลฺลตฺถิกาย จาติ ‘‘น สยนคตสฺส (ปาจิ. ๖๔๑), น ปลฺลตฺถิกาย นิสินฺนสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๔๒) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ.

๔๐๓. เวิโตคุณฺิโต จาติ ‘‘น เวิตสีสสฺส (ปาจิ. ๖๔๓), น โอคุณฺิตสีสสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๔๔) วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจาติ นิทสฺสิตา สพฺเพ เอกาทส ธมฺมา วาจาจิตฺตสงฺขาเตน เอเกน สมุฏฺาเนน สมุฏฺิตา ธมฺมเทสนสมุฏฺานาติ สฺิตา สลฺลกฺขิตาติ โยชนา.

ธมฺมเทสนสมุฏฺานวณฺณนา.

๔๐๔. เอวํ ตาว สมฺภินฺนสมุฏฺานํ เวทิตพฺพํ, นิยตสมุฏฺานํ ติวิธํ, ตํ เอกสฺเสว สิกฺขาปทสฺส โหตีติ วิสุํเยว ทสฺเสตุมาห ‘‘ภูตาโรจนกฺเจวา’’ติอาทิ. ภูตาโรจนกฺเจวาติ ตีหิ อจิตฺตกสมุฏฺาเนหิ สมุฏฺิตํ ภูตาโรจนสิกฺขาปทฺจ. โจริวุฏฺาปนมฺปิ จาติ วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จาติ ทฺวีหิ สมุฏฺิตํ โจริวุฏฺาปนสิกฺขาปทฺจ. อนนุฺาตเมว อนนุฺาตมตฺตํ. อนนุฺาตมตฺตนฺติ วาจโต, กายวาจโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จาติ จตูหิ สมุฏฺิตํ อนนุฺาตสิกฺขาปทฺจาติ. อิทํ ตยนฺติ อิทํ สิกฺขาปทตฺตยํ. อสมฺภินฺนนฺติ เกนจิ อฺเน สิกฺขาปเทน อสมฺมิสฺสสมุฏฺานํ.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

สมุฏฺานสีสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาปตฺติสมุฏฺานกถาวณฺณนา

๔๐๕. อาทินาติ ปเมน กายสงฺขาเตน สมุฏฺาเนน.

๔๐๖-๗. ทุกฺกฏาทโยติ อาทิ-สทฺเทน ถุลฺลจฺจยสงฺฆาทิเสสา คหิตา. ยถาห – ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ. เอกํ ปิณฺฑํ อนาคเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ตสฺมึ ปิณฺเฑ อาคเต อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปริ. ๒๗๗). วิกาเล ปน ปาจิตฺตีติ วิกาลโภชนปาจิตฺติ. อฺาติหตฺถโตติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา อนฺตรฆรํ ปวิฏฺาย หตฺถโต. คเหตฺวาติ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สหตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา. ‘‘ปฺจ อิมา อาปตฺติโย’’ติ ปทจฺเฉโท.

๔๐๘. ทุติเยนาติ วาจาสงฺขาเตน สมุฏฺาเนน.

๔๐๙-๑๐. สมาทิสติ กเถติ เจ. สพฺพถา วิปนฺนนฺติ อเทสิตวตฺถุกตาทินา สพฺพปฺปกาเรน วิปนฺนปฺปเทสํ. กุฏินฺติ สฺาจิกาย กุฏึ. ยถาห ปริวาเร ‘‘ตสฺส กุฏึ กโรนฺติ อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ สารมฺภํ อปริกฺกมน’’นฺติ (ปริ. ๒๗๘). ปทโสธมฺมํ มูลํ สมุฏฺานํ ยสฺส ปาจิตฺติยสฺสาติ ตถา วุตฺตํ, เตน ปทโสธมฺมมูเลน, สหตฺเถ เจตํ กรณวจนํ.

๔๑๑. ตติเยน สมุฏฺาเนนาติ กายวาจาสงฺขาเตน สมุฏฺาเนน.

๔๑๒. สํวิทหิตฺวานาติ สทฺธึ วิทหิตฺวา, ‘‘กุฏึ กโรมา’’ติ อฺเหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวาติ อตฺโถ.

๔๑๓. วตฺวาติ อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา. ภิกฺขุนินฺติ ภิกฺขูนํ ภุฺชนฏฺาเน ตฺวา ‘‘อิธ สูปํ เทถ, อิธ โอทนํ เทถา’’ติ โวสาสมานํ อุปาสกานํ วตฺวา ทาเปนฺตึ ภิกฺขุนึ. น นิวาเรตฺวาติ ‘‘อปสกฺก ตาว, ภคินิ, ยาว ภิกฺขู ภุฺชนฺตี’’ติ อนปสาเทตฺวา ภุฺชโตติ โยชนา.

๔๑๔. จตุตฺเถน กายจิตฺตสมุฏฺาเนน กติ อาปตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา.

๔๑๗. ปฺจเมนาติ วาจาจิตฺตสมุฏฺาเนน. วทนฺติ วทนฺโต สมุทาจรนฺโต.

๔๑๘. กุฏินฺติ นิทสฺสนมตฺตํ, อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ สารมฺภํ อปริกฺกมนํ เสนาสนมฺปิ คหณํ เวทิตพฺพํ.

๔๑๙. วาเจติ ปทโส ธมฺมนฺติ เอตฺถ ‘‘อนุปสมฺปนฺน’’นฺติ เสโส. ยถาห – ‘‘ภิกฺขุ อกปฺปิยสฺี อนุปสมฺปนฺนํ ปทโส ธมฺมํ วาเจตี’’ติ (ปริ. ๒๘๑). ทวกมฺยตา วทนฺตสฺสาติ ชาติอาทีหิ อกฺโกสวตฺถูหิ กีฬาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส. ทวกมฺยตาติ จ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒, ๒๔, ๔๒๒; อ. นิ. ๖.๕๘; ๘.๙; มหานิ. ๑๙๙, ๒๐๖; ธ. ส. ๑๓๕๕; วิภ. ๕๑๘) วิย ย-การโลเปน นิทฺเทโส.

๔๒๐. ฉฏฺเน กายวาจาจิตฺตสมุฏฺาเนน. สํวิทหิตฺวานาติ สํวิธาย, ‘‘ตฺวฺจ อหฺจ เอกโต อวหริสฺสามา’’ติ สมฺมนฺตนํ กตฺวา. ภณฺฑํ หรตีติ ‘‘ภาริยํ ตฺวํ เอกํ ปสฺสํ คณฺห, อหํ อิม’’นฺติ วตฺวา เตน สห านา จาเวติ เจ.

๔๒๓. อิธ อิมสฺมึ สาสเน. วิมตูปรมํ ปรมนฺติ เอตฺถ ‘‘กปฺปิยํ นุ โข, อกปฺปิย’’นฺติ วา ‘‘อาปตฺติ นุ โข, อนาปตฺตี’’ติ วา ‘‘ธมฺโม นุ โข, อธมฺโม’’ติ วา เอวมาทินา นเยน วิวิเธนากาเรน ปวตฺตา วิมติ วิจิกิจฺฉา วิมติ. วิมตึ อุปรเมติ วินาเสตีติ วิมตูปรมํ. ปรมํ อุตฺตมํ. อุตฺตรนฺติ วิภงฺคขนฺธกาคตานํ นิทานาทิวินิจฺฉยานํ ปฺหอุตฺตรภาเวน ิตตฺตา อุตฺตรํ. อิมํ อุตฺตรํ นาม ปกรณํ โย อุตฺตรติ ปฺาย โอคาเหตฺวา ปริโยสาเปติ. อิธ ‘‘อุตฺตรํ อุตฺตร’’นฺติ ปททฺวเย เอกํ คุณนิทสฺสนํ, เอกํ สตฺถนิทสฺสนนฺติ คเหตพฺพํ. สุนเยน ยุโต โส ปุคฺคโล วินยํ ปิฏกํ อุตฺตรตีติ สมฺพนฺโธ. กึ วิสิฏฺนฺติ อาห ‘‘สุนย’’นฺติอาทิ. สุฏฺุ จาริตฺตวาริตฺตทฬฺหีกรณสิถิลกรณเภทา ปฺตฺติอนอุปฺตฺตาทินยา เอตฺถาติ สุนโย, ตํ. สุฏฺุ นียติ วินิจฺฉโย เอเตนาติ สุนโย, อุตฺตรวินิจฺฉโย, เตน. วินิจฺฉยาวโพเธน สํยุตฺโต สมนฺนาคโต. ทุกฺเขน อุตฺตรียตีติ ทุตฺตรํ. ปาติโมกฺขสํวรสีลทีปกตฺเตน สมาธิปฺานิพฺพานสงฺขาตอุตฺตรปฺปตฺติยา ปติฏฺาภาวโต อุตฺตรํ อุตฺตรติ โอคาเหตฺวา ปริโยสานํ ปาปุณาตีติ อตฺโถ.

อิธ โย วิมตูปรมํ ปรมํ อุตฺตรํ อุตฺตรํ นาม ปกรณํ อุตฺตรติ, สุนเยน ยุโต โส ปุคฺคโล สุนยํ ทุตฺตรํ อุตฺตรํ วินยํ อุตฺตรตีติ โยชนา. จ-สทฺเทน สตฺถนฺตรสมุจฺจยตฺเถน อิมมตฺถํ ทีเปติ. เสยฺยถิทํ, อิธ โย สุนยํ ทุตฺตรํ อุตฺตรํ วินยํ อุตฺตรติ, สุนเยน ยุโต โส ปุคฺคโล วิมตูปรมํ ปรมํ อุตฺตรํ อุตฺตรํ นาม ปกรณํ อุตฺตรตีติ. อิมินา โย อุตฺตรํ ชานาติ, โส วินยํ ชานาติ. โย วินยํ ชานาติ, โส อุตฺตรํ ชานาตีติ อุตฺตรปกรณสฺส วินยปิฏกชานเน อจฺจนฺตูปการิตา วิภาวิตาติ ทฏฺพฺพํ.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

อาปตฺติสมุฏฺานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกุตฺตรนยกถาวณฺณนา

๔๒๔. อิโต ปรนฺติ อิโต สมุฏฺานวินิจฺฉยกถาย ปรํ. ปรนฺติ อุตฺตมํ. เอกุตฺตรํ นยนฺติ เอเกกองฺคาติเรกตาย เอกุตฺตรสงฺขาตํ เอกกทุกาทินยํ.

๔๒๕-๗. เก อาปตฺติกรา ธมฺมา…เป… กา จาเทสนคามินีติ เอเกกปฺหวเสน อุตฺตานตฺโถเยว.

๔๒๘. สมุฏฺานานีติ อาทิโก วิสฺสชฺชนสงฺขาโต อุตฺตรวาโท. ตตฺถ สมุฏฺานานิ…เป… ทีปิตาติ ยสฺมา เอเตสํ วเสน ปุคฺคโล อาปตฺตึ กโรติ อาปชฺชติ, ตสฺมา ‘‘อาปตฺติกรา’’ติ วุตฺตา.

๔๒๙. ตตฺถาติ ตาสุ อาปตฺตีสุ. ลหุกาติ ลหุเกน วินยกมฺเมน วิสุชฺฌนโต ลหุกา. ครุเกน วินยกมฺเมน วิสุชฺฌนโต สงฺฆาทิเสสาปตฺติ, เกนจิ อากาเรน อนาปตฺติภาวํ อุปเนตุํ อสกฺกุเณยฺยโต ปาราชิกาปตฺติ จ ครุกาปตฺติ นาม, ตา ปน ลหุกาสุ วุตฺตาสุ ตพฺพิปริยายโต าตุํ สกฺกาติ วิสฺสชฺชเน วิสุํ น วุตฺตา.

๔๓๑. ทุฏฺุํ กุจฺฉิตภาวํ ปรมเชคุจฺฉํ นินฺทนียภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ทุฏฺุลฺลํ, ปาราชิกสงฺฆาทิเสสํ. เตนาห ‘‘ทุวิธาปตฺติ อาทิโต’’ติ.

๔๓๒. ปฺจานนฺตริยสํยุตฺตาติ มาตุฆาตกปิตุฆาตกอรหนฺตฆาตเกหิ อาปนฺนา มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกาปตฺติ จ โลหิตุปฺปาทกสงฺฆเภทกานํ อภพฺพตาเหตุกา กายวจีทฺวารปฺปวตฺตา อกุสลเจตนาสงฺขาตา ปาราชิกา จ อนนฺตรเมว อปายุปฺปตฺติเหตุตาย อิเม ปฺจ อนนฺตรสํยุตฺตา นาม. ตา ปน มิจฺฉตฺตนิยเตสุ อนฺโตคธตฺตา ‘‘นิยตา’’ติ วุตฺตา.

ปริวาเร (ปริ. ๓๒๑) ปน อฺเปิ อนฺตรายิกาที พหู เอกกา ทสฺสิตา, เต ปน คนฺถภีรุกชนานุคฺคเหน อาจริเยน อิธ น ทสฺสิตา. อตฺถิเกหิ ปริวาเรเยว (ปริ. ๓๒๑) คเหตพฺพา. เอตฺถ จ สตฺตปิ อาปตฺติโย สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตา สคฺคนฺตรายฺเจว โมกฺขนฺตรายฺจ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา. อชานนฺเตน วีติกฺกนฺตา ปน ปณฺณตฺติวชฺชาปตฺติ เนว สคฺคนฺตรายํ, น โมกฺขนฺตรายํ กโรตีติ อนนฺตรายิกา. อนฺตรายิกํ อาปนฺนสฺสปิ เทสนาคามินึ เทเสตฺวา วุฏฺานคามินิโต วุฏฺาย สุทฺธิปตฺตสฺส, สามเณรภูมิยํ ิตสฺส จ อวาริโต สคฺคมคฺคโมกฺขมคฺโคติ.

เอกกกถาวณฺณนา.

๔๓๕. อทฺธวิหีโน นาม อูนวีสติวสฺโส. องฺควิหีโน นาม หตฺถจฺฉินฺนาทิเภโท. วตฺถุวิปนฺโน นาม ปณฺฑโก, ติรจฺฉานคโต, อุภโตพฺยฺชนโก จ. อวเสสา เถยฺยสํวาสกาทโย อฏฺ อภพฺพฏฺานปฺปตฺตา ทุกฺกฏการิโน นาม, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ทุกฺกเฏน อตฺตโน กมฺเมน อภพฺพฏฺานปฺปตฺตาติ อตฺโถ. อปริปุณฺโณติ อปริปุณฺณปตฺตจีวโร. โน ยาจตีติ อุปสมฺปนฺนํ น ยาจติ. ปฏิสิทฺธาติ ‘‘ทฺเว ปุคฺคลา น อุปสมฺปาเทตพฺพา’’ติอาทินา (ปริ. ๓๒๒) วาริตา.

๔๓๖. หเวติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. ลทฺธสมาปตฺติสฺส ภิกฺขุโน ทีปิตา อาปตฺติ อตฺถิ หเว อตฺเถว. โน ลทฺธสมาปตฺติสฺสาติ อลทฺธสมาปตฺติสฺส ทีปิตา อาปตฺติ อตฺเถวาติ โยชนา.

๔๓๗. ภูตสฺสาติ อตฺตนิ สนฺตสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส. อภูตาโรจนาปตฺตีติ จตุตฺถปาราชิกาปตฺติ. อสมาปตฺติลาภิโน นิทฺทิเสติ โยชนา.

๔๓๘. ‘‘อตฺถิ สทฺธมฺมสํยุตฺตา’’ติอาทีสุ อตฺถิ-สทฺโท ปจฺจตฺเตกวจนนฺเตหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ.

๔๓๙. ปทโสธมฺมมูลาทีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อุตฺตริฉปฺปฺจวาจาธมฺมเทสนา’’ติ อาปตฺตีนํ คหณํ.

๔๔๐. โภเคติ ปริโภเค. ‘‘สปริกฺขารสํยุตา’’ติ อิทฺจ นิทสฺสนมตฺตํ. ‘‘ปตฺตจีวรานํ นิสฺสชฺชเน, กิลิฏฺจีวรานํ อโธวเน, มลคฺคหิตปตฺตสฺส อปจเน’’ติ เอวมาทิกา อยุตฺตปริโภคา อาปตฺติโยปิ สกปริกฺขารสํยุตฺตาเยว.

๔๔๑. มฺจปีาทินฺติ อาทิ-สทฺเทน ภิสิอาทีนํ คหณํ. อชฺโฌกาสตฺถเรปิ จาติ อชฺโฌกาเส อตฺถเร อตฺถราปเน สติ. อนาปุจฺฉาว คมเนติ อนาปุจฺฉิตฺวา วา คมเน. วา-สทฺเทน อนุทฺธริตฺวา วา อนุทฺธราเปตฺวา วา คมนํ สงฺคณฺหาติ. ปรสนฺตกสํยุตาติ ปรปริกฺขารปฏิพทฺธา.

๔๔๓. ‘‘สิขรณีสี’’ติ ยํ วจนํ สจฺจํ, ตํ ภณโต ครุกํ ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสโส สิยาติ โยชนา.

๔๔๕. ครุกาปตฺตีติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปาราชิกาปตฺติ. ภูตสฺสาโรจเนติ ภูตสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจเน. สจฺจํ วทโตติ สจฺจํ วจนํ วทนฺตสฺส. ลหุกาติ ปาจิตฺติยาปตฺติ.

๔๔๗. วิโกเปตุนฺติ วคฺคกรเณน วิโกเปตุํ. หตฺถปาสํ ชหนฺติ อนฺโตสีมาย เอว หตฺถปาสํ ชหนฺโต, หตฺถปาสํ ชหิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทนฺโตติ อตฺโถ. ผุเสติ ภูมิคโต ผุเสยฺย.

๔๔๘. เวหาสกุฏิยา อุปริ อาหจฺจปาทกํ มฺจํ วา ปีํ วา อภินิสีทนฺโต เวหาสคโต อาปชฺชตีติ โยชนา. สเจ ตํ ภูมิยํ ปฺเปตฺวา นิสชฺเชยฺย, น อาปชฺเชยฺย. เตน วุตฺตํ ‘‘น ภูมิโต’’ติ.

๔๔๙. ปวิสนฺโตติ อารามํ ปวิสนฺโต. นิกฺขมนฺติ ตโต เอว นิกฺขมนฺโต. นฺติ อารามํ.

๔๕๐. วตฺตมปูเรตฺวานาติ สีสโต ฉตฺตาปนยนํ, ปาทโต อุปาหนามุฺจนวตฺตํ อกตฺวา. นิกฺขมนฺติ พหิ นิกฺขมนฺโต ฉตฺตุปาหนํ ธาเรนฺโตปิ น อาปชฺชติ.

๔๕๑. ‘‘นิกฺขมนฺโต’’ติ อิทํ ‘‘นิกฺขม’’นฺติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ปวิสํ น จาติ ยํ อารามํ สนฺธาย คโต, ตํ ปวิสนฺโต น อาปชฺเชยฺย.

๔๕๓. ยา กาจิ ภิกฺขุนี อติคมฺภีรํ อุทกสุทฺธิกํ อาทิยนฺตี อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ โยชนา.

๔๕๗. วตฺตํ ปนตฺตโนติ ยํ อตฺตโน เนตฺถารวตฺตํ วุตฺตํ, โส ตํ อสมาทิยนฺโตว อาปชฺชติ นามาติ โยชนา.

๔๖๐. อิตรสฺส อาจริยสฺส, ตถา สทฺธิวิหาริกสฺส จ.

๔๖๒. ททมาโนติ ปาริวตฺตกํ วินา ททมาโน.

๔๖๓. มุทูติ มุทุปิฏฺิโก. ‘‘ลมฺพีอาทิโน’’ติ ปทจฺเฉโท. อาทิ-สทฺเทน ‘‘หตฺเถน อุปกฺกมิตฺวา อสุจึ โมเจนฺตสฺส, อูรุนา องฺคชาตํ เปลฺลนฺตสฺส, อตฺตานํ วธิตฺวา วธิตฺวา โรทนฺติยา ภิกฺขุนิยา อาปตฺตี’’ติ เอวมาทีนํ สงฺคโห. อตฺตาติ เอตฺถ นิสฺสิตาติ อุตฺตรปทโลโป, วิภตฺติโลโป จ นิรุตฺติลกฺขเณน ทฏฺพฺโพ. เสสาติ เมถุนธมฺมกายสํสคฺคปหารทานาทีสุ วุตฺตาปตฺติ. ปรนิสฺสิตาติ ปรํ นิสฺสาย อาปชฺชิตพฺพาติ อตฺโถ.

๔๖๕. ‘‘น, ภิกฺขเว, โอวาโท น คเหตพฺโพ’’ติ วจนโต โอวาทํ น คณฺหนฺโต น ปฏิคฺคณฺหนฺโต วชฺชตํ อาปชฺชติ นาม.

๔๗๐. อรุณุคฺเคติ อรุณุคฺคมเน. นอรุณุคฺคเมติ อรุณุคฺคมนโต อฺสฺมึ กาเล.

๔๗๑. เอกรตฺตาติกฺกเม ฉารตฺตาติกฺกเม สตฺตาหาติกฺกเม ทสาหาติกฺกเมติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน มาสาทีนํ สงฺคโห. วุตฺตมาปตฺตินฺติ สพฺพตฺถ นิสฺสคฺคิเย ปาจิตฺติยาปตฺตึ. ‘‘อาปชฺชติ อรุณุคฺคเม’’ติ ปทจฺเฉโท.

๔๗๓. ปรสนฺตกํ รุกฺขลตาทึ เถยฺยาย ฉินฺทนฺตสฺส ปาราชิกํ, ฉินฺทนฺตสฺส ปาจิตฺติมตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘ภูตคามํ ฉินฺทนฺโต ปาราชิกฺจ ปาจิตฺติฺจ ผุเส’’ติ.

๔๗๕. ฉาเทนฺโต ปนาติ เอตฺถ ‘‘กา อาปตฺตี’’ติ เสโส. ตตฺร อาห ‘‘อาปตฺตึ ฉาเทนฺโต นโร อาปชฺชตี’’ติ.

อจฺฉินฺโนติ อจฺฉินฺนจีวโร. นจฺฉาเทนฺโตติ ติเณน วา ปณฺเณน วา สาขาภงฺคาทินา เยน เกนจิ อตฺตโน หิริโกปินํ อปฺปฏิจฺฉาเทนฺโต. ยถาห – ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพํ, น ตฺเวว นคฺเคน อาคนฺตพฺพํ. โย อาคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๑๗).

๔๗๖. กุสจีราทินฺติ อาทิ-สทฺเทน วากจีรผลกจีราทีนํ ติตฺถิยธชานํ คหณํ. ธาเรนฺโต โกจิ อาปชฺชตีติ เสโส. ตตฺราห – ‘‘กุสจีราทีนิ ธาเรนฺโต ธาเรนฺโต อาปชฺชตี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๒).

๔๗๗. ยํ นิสฺสฏฺปตฺตํ ‘‘อยํ เต ภิกฺขุ ปตฺโต ยาวเภทนาย ธาเรตพฺโพ’’ติ ทินฺนํ, ตํ สกฺกจฺจํ อธาเรนฺโต โทสวา โหติ อาปชฺชติ อาปตฺตึ. สจิตฺตกาจิตฺตกทุกสฺส สฺาวิโมกฺขทุกํ ยถากฺกมํ ปริยาโยติ อาห ‘‘สจิตฺตกทุก’’นฺติอาทิ.

ทุกกถาวณฺณนา.

๔๗๘. ยา อาปตฺติ นาเถ ติฏฺนฺเต โหติ, โน ปรินิพฺพุเต, สา อาปตฺติ อตฺถิ. ยา อาปตฺติ นาเถ ปรินิพฺพุเต โหติ, น ตุ ติฏฺนฺเต, สาปิ อตฺถิ. ยา อาปตฺติ นาเถ ติฏฺนฺเตปิ โหติ ปรินิพฺพุเตปิ, สา อาปตฺติ อตฺถีติ โยชนา.

๔๗๙. สา กตมาติ อาห ‘‘รุหิรุปฺปาทนาปตฺตี’’ติอาทิ. ตตฺถ เถรมาวุสวาเทน, วทโต ปรินิพฺพุเตติ ‘‘ยถา โข ปนานนฺท, เอตรหิ ภิกฺขู อฺมฺํ อาวุโสวาเทน สมุทาจรนฺติ, น โข มมจฺจเยน เอวํ สมุทาจริตพฺพํ…เป… นวกตเรน ภิกฺขุนา เถรตโร ภิกฺขุ ‘ภนฺเต’ติ วา ‘อายสฺมา’ติ วา สมุทาจริตพฺโพ’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖) วจนโต เถรํ อาวุโสวาเทน สมุทาจรณปจฺจยา อาปตฺตึ ปรินิพฺพุเต ภควติ อาปชฺชติ, โน ติฏฺนฺเตติ อตฺโถ.

๔๘๑. กถํ กาเลเยว อาปตฺติ สิยา, น วิกาเล. กถํ วิกาเลเยว อาปตฺติ สิยา, กาเล น สิยา. กถํ กาเล เจว วิกาเล จาติ อุภยตฺถ สิยาติ ปฺเห.

๔๘๒. ยถากฺกมํ วิสฺสชฺเชนฺโต อาห ‘‘ภุฺชโต’’ติอาทิ.

๔๘๓. อวเสสํ ปน สพฺพํ อาปตฺตึ กาลวิกาเลสุ สพฺพทา อาปชฺชติ, ตตฺถ จ สํสโย นตฺถีติ โยชนา.

๔๘๔. ‘‘อตฺถาปตฺติ รตฺตึ อาปชฺชติ, โน ทิวา, อตฺถาปตฺติ ทิวา อาปชฺชติ, โน รตฺตึ, อตฺถาปตฺติ รตฺติฺเจว อาปชฺชติ ทิวา จา’’ติ (ปริ. ๓๒๓) วุตฺตํ ติกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘รตฺติเมวา’’ติอาทิ.

๔๘๖. อตฺถาปตฺติ ทสวสฺโส อาปชฺชติ, โน อูนทสวสฺโส, สา กถํ สิยา. อตฺถาปตฺติ อูนทสวสฺโส อาปชฺชติ, โน ทสวสฺโส, สา กถํ โหติ. อตฺถาปตฺติ ทสวสฺโสปิ อาปชฺชติ อูนทสวสฺโสปีติ อุภยตฺถปิ อาปตฺติ กถํ โหตีติ โยชนา.

๔๘๗. ตตฺถ วิสฺสชฺชนมาห ‘‘อุปฏฺาเปตี’’ติอาทิ. ‘‘พาโล’’ติ เอตสฺส หิ อตฺถปทํ ‘‘อพฺยตฺโต’’ติ.

๔๘๘. อูนทสวสฺโส เอวํ ‘‘อหํ ปณฺฑิโต’’ติ ปริสํ คณฺหติ, ตถา อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ โยชนา. ‘‘ทสวสฺโส อูโน’’ติ ปทจฺเฉโท. ทสวสฺโส, อูนทสวสฺโส จาติ อุโภเปเต ปริสุปฏฺาปนาปตฺติโต อฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘อาปชฺชนฺเต’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน น-การโลโป.

๔๘๙. กถํ กาเฬ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, น ชุณฺเห, กถํ ชุณฺเห อาปตฺตึ อาปชฺชติ, น กาฬสฺมึ, กถํ กาเฬ จ ชุณฺเห จาติ อุภยตฺถปิ อาปชฺชตีติ โยชนา.

๔๙๐. วิสฺสชฺชนมาห ‘‘วสฺส’’นฺติอาทิ. ‘‘อาปชฺชเต อปฺปวาเรนฺโต’’ติ ปทจฺเฉโท. ชุณฺเหติ ปุริมปกฺเข. กาฬเกติ อปรปกฺเข.

๔๙๑. อวิปตฺตินาติ จตุพฺพิธวิปตฺติรหิตตฺตา อวิปตฺตินา ภควตา ปฺตฺตํ. อวเสสนฺติ วสฺสํ อนุปคมนาปตฺติยา จ ปวารณาปตฺติยา จ อวเสสํ สพฺพํ อาปตฺตึ.

๔๙๒. วสฺสูปคมนํ กาเฬ กปฺปติ, ชุณฺเห โน กปฺปติ, ปวารณา ชุณฺเห กปฺปติ, กาเฬ โน กปฺปติ, เสสํ อนุฺาตํ สพฺพํ สงฺฆกิจฺจํ กาเฬ จ ชุณฺเห จาติ อุภยตฺถปิ กปฺปตีติ โยชนา.

๔๙๓. อตฺถาปตฺติ เหมนฺเต โหติ, อิตรอุตุทฺวเย คิมฺหานวสฺสานสงฺขาเต น โหติ, อตฺถาปตฺติ คิมฺเหเยว โหติ, น เสเสสุ วสฺสานเหมนฺตสงฺขาเตสุ, อตฺถาปตฺติ วสฺเส โหติ, โน อิตรทฺวเย เหมนฺตคิมฺหสงฺขาเตติ โยชนา.

๔๙๔-๖. สา ติวิธาปิ อาปตฺติ กตมาติ อาห ‘‘ทิเน ปาฏิปทกฺขาเต’’ติอาทิ. ตตฺถ ทิเน…เป… ปุณฺณมาสิยาติ อปรกตฺติกปุณฺณมาสิยา กาฬปกฺขปาฏิปททิวเส ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตฺวา ปิตํ ปน ตํ วสฺสสาฏิกจีวรํ สเจ เหมนฺเต นิวาเสติ, เหมนฺเต อาปชฺชตีติ โยชนา.

ปจฺฉิเมติ เอตฺถ สามิวจนปฺปสงฺเค ภุมฺมํ. ปจฺฉิมสฺส กตฺติกสฺส ยสฺมึ ปุณฺณเม ทิวเส วสฺสิกสาฏิกจีวรํ ปจฺจุทฺธริตพฺพํ, ตสฺมึ ทิวเส ตํ อปจฺจุทฺธริตฺวาว ปาฏิปเท อรุณํ อุฏฺาเปนฺโต อปจฺจุทฺธรณปจฺจยา อาปตฺติ เหมนฺเตเยว อาปชฺชติ, อิตเร คิมฺหานวสฺสานอุตุทฺวเย น อาปชฺชตีติ กุรุนฺทฏฺกถายํ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๓) นิทฺทิฏฺนฺติ โยชนา. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จตุมาสํ อธิฏฺาตุํ, ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วุตฺตปาฬิยา กุรุนฺทฏฺกถาวจนสฺส อวิรุชฺฌนโต ‘‘ตมฺปิ สุวุตฺต’’นฺติ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๓) สมนฺตปาสาทิกาย วุตฺตตฺตา ‘‘เหมนฺเต อาปชฺชตี’’ติ วจนสฺส อุภยมฺปิ อตฺโถ โหตีติ คเหตพฺพํ.

๔๙๗. คิมฺหานมาสานํ สมฺพนฺธินิ คิมฺหิเก อุตุมฺหิ. มาสโต อติเรโก อติเรกมาโสติ กตฺวา อติเรกมาโส กาโล เสโสติ วตฺตพฺเพ กาเล. ปริเยสนฺโตติ อฺาติกอปฺปวาริตฏฺานโต สตุปฺปาทกรเณน วสฺสิกสาฏิกํ ปริเยสนฺโต จ อติเรกมาโส เสโสติ กตฺวา นิวาเสนฺโต จ คิมฺเห อาปตฺตึ อาปชฺชติ. ‘‘น ตุ เอว อิตรอุตุทฺวเย’’ติ ปทจฺเฉโท. คิมฺเห ปริเยสนฺโต ปุริมมาสตฺตเย อาปชฺชตีติ กตฺวา นิวาเสนฺโต อฑฺฒมาสาธิเก คิมฺหมาสตฺตเย อาปชฺชติ. นิสฺสนฺเทเห ‘‘คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสโต ปุริเมสุ สตฺตสุ มาเสสู’’ติ วุตฺตํ, ตทยุตฺตํ ‘‘คิมฺหาเนเยว อาปชฺชตี’’ติ คิมฺหาปตฺติยา ทสฺสิตตฺตา, ‘‘อิตรอุตุทฺวเย’’ติ ปฏิสิทฺธตฺตา จ. เอตฺถ จ คาถาย ปริเยสนาปตฺติยาเยว ทสฺสนํ นิทสฺสนมตฺตนฺติ กตฺวา นิวาสนาปตฺติยา จ คิมฺเหเยว สมฺภโวติ สาปิ ทสฺสิตา.

๔๙๘. อิธ ปน อิมสฺมึ สาสเน โย ภิกฺขุ วสฺสิกสาฏิกจีวเร วิชฺชมาเน นคฺโค กายํ โอวสฺสาเปติ, โส หเว เอกํเสน วสฺเส วสฺสานอุตุมฺหิ อาปชฺชตีติ โยชนา.

๔๙๙. ‘‘อตฺถาปตฺติ สงฺโฆ อาปชฺชติ, น คโณ น ปุคฺคโล, อตฺถาปตฺติ คโณ อาปชฺชติ, น สงฺโฆ น ปุคฺคโล, อตฺถาปตฺติ ปุคฺคโล อาปชฺชติ, น สงฺโฆ น คโณ’’ติ (ปริ. ๓๒๓) วุตฺตตฺติกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาปชฺชติ หิ สงฺโฆวา’’ติอาทิ.

๕๐๐. กถมาปชฺชตีติ อาห ‘‘อธิฏฺาน’’นฺติอาทิ. อธิฏฺานนฺติ อธิฏฺานุโปสถํ กโรนฺโต ปาริสุทฺธิอุโปสถํ วาติ สมฺพนฺโธ. อิธ อตฺตโน ยถาปตฺตมุโปสถํ อกตฺวา อปตฺตอุโปสถกรณํ อาปชฺชิตพฺพาปตฺติทสฺสนสฺส อธิปฺเปตตฺตา, อตฺตกรณโทสสฺส วิสุํ วิสุํ วกฺขมานตฺตา จ น คโณ น จ ปุคฺคโลติ เอตฺถ อธิฏฺานํ กโรนฺโต ปุคฺคโล จ ปาริสุทฺธึ กโรนฺโต คโณ จ นาปชฺชตีติ ยถาลาภโยชนา กาตพฺพา. ยถากฺกมํ โยชนํ กโรมีติ วิปริยายวิกปฺโป น กาตพฺโพ. เอวมุปริปิ วิปริยายวิปกฺขํ กตฺวา ยถาลาภโยชนาว กาตพฺพา.

๕๐๑. ‘‘อุโปสถ’’นฺติ อิทํ ‘‘สุตฺตุทฺเทสมธิฏฺาน’’นฺติ ปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ.

๕๐๒. สุตฺตุทฺเทสํ กโรนฺโต วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ปาริสุทฺธึ คณฺหาติ. สุตฺตุทฺเทสํ, ปาริสุทฺธึ วา อุโปสถํ กโรนฺโต ปุคฺคโล อาปตฺตึ อาปชฺชติ, สุตฺตุทฺเทสํ กโรนฺโต สงฺโฆ จ นาปชฺชติ, ปาริสุทฺธึ กโรนฺโต คโณ จ น อาปชฺชตีติ โยชนา.

๕๐๓. กถํ ปน คิลาโนว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, น อคิลาโน, กถํ อคิลาโนว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, โน คิลาโน, กถํ คิลาโน จ อคิลาโน จ อุโภปิ อาปชฺชนฺตีติ โยชนา.

๕๐๔. โย ปน อกลฺลโก คิลาโน อฺเน ปน เภสชฺเชน อตฺเถ สติ ตทฺํ ตโต อฺํ เภสชฺชํ วิฺาเปติ, โส อาปชฺชติ ปาจิตฺติยาปตฺตินฺติ โยชนา.

๕๐๕. เภสชฺเชน อตฺเถ อวิชฺชมาเนปิ สเจ เภสชฺชํ วิฺาเปติ, อคิลาโนว วิฺตฺติปจฺจยา อาปตฺตึ อาปชฺชติ. เสสํ ปน อาปตฺตึ คิลานอคิลานา อุโภปิ อาปชฺชนฺติ.

๕๐๖. อตฺถาปตฺติ อนฺโตว อาปชฺชติ, น พหิทฺธา, ตถา อตฺถาปตฺติ พหิ เอว อาปชฺชติ, น อนฺโต, อตฺถาปตฺติ อนฺโต, พหิทฺธาติ อุภยตฺถปิ อาปชฺชตีติ โยชนา.

๕๐๗. เกวลํ อนฺโตเยว อาปชฺชตีติ โยชนา.

๕๐๘. มฺจาทินฺติ สงฺฆิกมฺจาทึ.

๕๐๙. ‘‘อนฺโตสีมาย เอว อาปตฺติ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. กถํ อนฺโตสีมาย เอว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, เนว พหิสีมาย อาปตฺตึ อาปชฺชติ, กถํ พหิสีมาย เอว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, โน อนฺโตสีมาย อาปตฺตึ อาปชฺชติ, กถํ อนฺโตสีมาย จ พหิสีมาย จาติ อุภยตฺถปิ อาปชฺชตีติ โยชนา.

๕๑๐. สฉตฺตุปาหโน ภิกฺขูติ ฉตฺตุปาหนสหิโต อาคนฺตุโก ภิกฺขุ. ปวิสนฺโต ตโปธโนติ อาคนฺตุกวตฺตํ อทสฺเสตฺวา สงฺฆารามํ ปวิสนฺโต.

๕๑๑. ‘‘อุปจารสฺส อติกฺกเม’’ติ ปทจฺเฉโท.

๕๑๒. เสสํ สพฺพํ อาปตฺตึ อนฺโตสีมาย จ พหิสีมาย จ อาปชฺชตีติ โยชนา. เอตฺถ จ กิฺจาปิ วสฺสจฺเฉทาปตฺตึ พหิสีมาคโต อาปชฺชติ, ภิกฺขุนีอารามปเวสนาปตฺตึ อนฺโตสีมาย อาปชฺชติ, ตทุภยํ ปน อาคนฺตุกคมิกวตฺตเภทาปตฺตีหิ เอกปริจฺเฉทนฺติ อุปลกฺขณโต เอเตเนว วิฺายตีติ วิสุํ น วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เอวํ สพฺพตฺถ อีทิเสสุ าเนสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ติกกถาวณฺณนา.

๕๑๕. วจีทฺวาริกมาปตฺตินฺติ มุสาวาทเปสุฺหรณาทิวเสน วจีทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพาปตฺตึ. ปรวาจาย สุชฺฌตีติ สงฺฆมชฺเฌ เอกวาจิกาย ติณวตฺถารกกมฺมวาจาย สุชฺฌติ.

๕๑๖. วชฺชเมว วชฺชตา, ตํ, ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ.

๕๑๘-๙. ตํ เทเสตฺวา วิสุชฺฌนฺโตติ ตํ เทเสตฺวา วิสุทฺโธ โหนฺโต. ยาวตติยกํ ปนาติ ยาวตติเยน สมนุภาสนกมฺเมน อาปนฺนํ สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ ปน. ปริวาสาทีติ อาทิ-สทฺเทน มานตฺตมูลายปฏิกสฺสนอพฺภานานิ คหิตานิ.

๕๒๒. กายทฺวาริกมาปตฺตินฺติ กายทฺวาเรน อาปชฺชิตพฺพํ ปหารทานาทิอาปตฺตึ.

๕๒๓. กาเยเนว วิสุชฺฌตีติ ติณวตฺถารกํ คนฺตฺวา กายสามคฺคึ เทนฺโต วิสุชฺฌติ.

๕๒๖. โย สุตฺโต อาปตฺตึ อาปชฺชติ, โส กถํ ปฏิพุทฺโธ วิสุชฺฌติ. โย ปฏิพุทฺโธว อาปนฺโน, โส กถํ สุตฺโต สุชฺฌตีติ โยชนา.

๕๒๘. สคารเสยฺยกาทินฺติ มาตุคาเมน สหเสยฺยาทิอาปตฺตึ.

๕๒๙. ชคฺคนฺโตติ ชาครนฺโต นิทฺทํ วิโนเทนฺโต.

๕๓๑. ปฏิพุทฺโธติ อนิทฺทายนฺโต.

๕๓๒. อจิตฺโตติ ‘‘สิกฺขาปทํ วีติกฺกมิสฺสามี’’ติ จิตฺตา ภาเวน อจิตฺโต.

๕๓๕. สจิตฺตกาปตฺตินฺติ วิกาลโภชนาทิอาปตฺตึ. ติณวตฺถาเร สยนฺโต นิทฺทายนฺโต ติณวตฺถารกกมฺเม กริยมาเน ‘‘อิมินาหํ กมฺเมน อาปตฺติโต วุฏฺามี’’ติ จิตฺตรหิโต วุฏฺหนฺโต อจิตฺตโก วิสุชฺฌติ.

๕๓๖. ปจฺฉิมํ ตุ ปททฺวยนฺติ –

‘‘อาปชฺชิตฺวา อจิตฺโตว, อจิตฺโตว วิสุชฺฌติ;

อาปชฺชิตฺวา สจิตฺโตว, สจิตฺโตว วิสุชฺฌตี’’ติ. –

ปททฺวยํ. อมิสฺเสตฺวาติ อจิตฺตสจิตฺตปเทหิ เอวเมว มิสฺสํ อกตฺวา. เอตฺถาติ ปุริมปททฺวเย. วุตฺตานุสาเรนาติ วุตฺตนยานุสาเรน.

๕๓๙. กมฺมโตติ สมนุภาสนกมฺมโต.

๕๔๐. อาปชฺชิตฺวา อกมฺมโตติ สมนุภาสนกมฺมํ วินาว อาปชฺชิตฺวา.

๕๔๑. สมนุภาสเน อาปชฺชิตพฺพํ สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ สมนุภาสนมาห การณูปจาเรน.

๕๔๒. อวเสสนฺติ มุสาวาทปาจิตฺติยาทิกํ.

๕๔๓. วิสุชฺฌติ อสมฺมุขาติ สงฺฆสฺส อสมฺมุขา วิสุชฺฌติ. อิทฺจ สมฺมุขาวินเยน เจว ปฏิฺาตกรเณน จ สเมนฺตํ อาปตฺตาธิกรณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ปุคฺคลสมฺมุขตาย สพฺภาเวปิ สงฺฆสฺส อสมฺมุขตาย อาปชฺชติ วา วิสุชฺฌติ วาติ ‘‘อสมฺมุขา’’ติ วุตฺตํ.

๕๕๑. ‘‘อจิตฺตกจตุกฺกํ อชานนฺตจตุกฺก’’นฺติ กุสลตฺติกผสฺสปฺจกาทิโวหาโร วิย อาทิปทวเสน วุตฺโต.

๕๕๒-๓. อตฺถาปตฺติ อาคนฺตุโก อาปชฺชติ, น เจตโร อาวาสิโก อาปชฺชติ, อตฺถาปตฺติ อาวาสิโกว อาปชฺชติ, น เจตโร อาคนฺตุโก อาปชฺชติ, อตฺถาปตฺติ อาคนฺตุโก จ อาวาสิโก จ เต อุโภปิ อาปชฺชนฺติ, อุโภ เสสํ น อาปชฺชนฺติ อตฺถีติ โยชนา.

๕๕๕. อิตโรติ อาวาสิโก. อาวาสวตฺตนฺติ อาวาสิเกน อาคนฺตุกสฺส กาตพฺพวตฺตํ. อาวาสีติ อาวาสิโก.

๕๕๖. น เจวาคนฺตุโกติ ตํ อาวาสิกวตฺตํ อกโรนฺโต อาคนฺตุโก น เจว อาปชฺชติ. เสสํ กายวจีทฺวาริกํ อาปตฺตึ. อุโภปิ อาคนฺตุกอาวาสิกา. ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ อสาธารณํ อาปตฺตึ น อาปชฺชนฺติ.

๕๕๗. วตฺถุนานตฺตตาติ วีติกฺกมนานตฺตตา. อาปตฺตินานตฺตตาติ ปาราชิกาทีนํ สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อฺมฺนานตฺตตา.

๕๖๓. ‘‘ปาราชิกานํ…เป… นานภาโว’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ สงฺฆาทิเสสานํ อนิยตาทีหิ วตฺถุนานตาย เจว อาปตฺตินานตาย จ ลพฺภมานตฺตา.

๕๖๕. อยเมว วินิจฺฉโยติ น เกวลํ ปาราชิกาปตฺตีสุเยว สาธารณาปตฺติโย เอกโต จ วิสุฺจ อาปชฺชนฺตานํ ยถาวุตฺตวินิจฺฉโย, อถ โข อวเสสสาธารณาปตฺติโยปิ วุตฺตนเยน อาปชฺชติ, อยเมว วินิจฺฉโย โยเชตพฺโพ.

๕๗๗. อาทิยนฺโต คณฺหนฺโต. ปโยเชนฺโตติ คณฺหาเปนฺโต.

๕๗๙. อูนกํ ปาทํ…เป… ลหุํ ผุเสติ ถุลฺลจฺจยํ, ทุกฺกฏฺจ สนฺธายาห.

๕๘๐. เอเตเนว อุปาเยน, เสสกมฺปิ ปทตฺตยนฺติ โย อยํ ปมวินิจฺฉเย วุตฺตนโย, เอเตเนว นเยน อูนปาทํ อาทิยนฺโต ลหุกาปตฺตึ อาปชฺชติ, ปาทํ วา อติเรกปาทํ วา คหณตฺถํ อาณาเปนฺโต ครุํ ปาราชิกาปตฺตึ อาปชฺชติ, ปาทํ วา อติเรกปาทํ วา คณฺหนฺโต จ คหณตฺถาย อาณาเปนฺโต จ ครุเก ปาราชิกาปตฺติยํเยว ติฏฺติ, อูนปาทํ คณฺหนฺโต จ คหณตฺถาย อาณาเปนฺโต จ ลหุเก ถุลฺลจฺจเย, ทุกฺกเฏ วา ติฏฺตีติ เอวํ เสสกมฺปิ อิมํ ปทตฺตยํ. อตฺถสมฺภวโตเยวาติ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส สมฺภววเสเนว.

๕๘๑-๒. กถํ กาเลเยว อาปตฺติ สิยา, โน วิกาเล, วิกาเลเยว อาปตฺติ สิยา, น จ กาเล, อตฺถาปตฺติ กาเล จ ปกาสิตา วิกาเล จ, อตฺถาปตฺติ เนว กาเล จ ปกาสิตา เนว วิกาเล จาติ โยชนา.

๕๘๖-๗. กาเล ปฏิคฺคหิตํ กึ กาเล กปฺปติ วิกาเล ตุ โน กปฺปติ, วิกาเล คหิตํ กึ วิกาเล กปฺปติ, โน กาเล กปฺปติ, กาเล จ วิกาเล จ ปฏิคฺคหิตํ กึ นาม กาเล จ วิกาเล จ กปฺปติ, กาเล จ วิกาเล จ ปฏิคฺคหิตํ กึ นาม กาเล จ วิกาเล จ น กปฺปติ, วท ภทฺรมุขาติ โยชนา.

๕๘๙. วิกาเลเยว กปฺปติ, อปรชฺชุ กาเลปิ น กปฺปตีติ โยชนา.

๕๙๒. กุลทูสนกมฺมาทินฺติ อาทิ-สทฺเทน อภูตาโรจนรูปิยสํโวหารวิฺตฺติกุหนาทีนํ สงฺคโห.

๕๙๓-๔. กตมา อาปตฺติ ปจฺจนฺติเมสุ เทเสสุ อาปชฺชติ, น มชฺฌิเม, กตมา อาปตฺติ มชฺฌิเม ปน เทสสฺมึ อาปชฺชติ, น จ ปจฺจนฺติเมสุ, กตมา อาปตฺติ ปจฺจนฺติเมสุ เจว เทเสสุ อาปชฺชติ มชฺฌิเม จ, กตมา อาปตฺติ ปจฺจนฺติเมสุ เจว เทเสสุ น อาปชฺชติ น มชฺฌิเม จาติ โยชนา.

๕๙๖. ‘‘โส คุณงฺคุณุปาหน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. โส ภิกฺขูติ อตฺโถ.

๕๙๙. เอวํ ‘‘อาปชฺชติ, นาปชฺชตี’’ติ ปทวเสน ปจฺจนฺติมจตุกฺกํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เนว กปฺปติ, น กปฺปตี’’ติ ปทวเสน ทสฺเสตุมาห ‘‘ปจฺจนฺติเมสู’’ติอาทิ.

๖๐๑. วุตฺตนฺติ ‘‘คเณน ปฺจวคฺเคนา’’ติอาทิคาถาย เหฏฺา วุตฺตํ.

๖๐๓. เอวํ วตฺตุนฺติ ‘‘น กปฺปตี’’ติ วตฺตุํ. ปฺจโลณาทิกนฺติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โลณานี’’ติอาทิ.

๖๐๘. อนุฺาตฏฺานสฺส อนฺโต โน อาปชฺชติ, ตํ อติกฺกมนฺโต พหิเยว จ อาปชฺชตีติ โยชนา.

๖๑๒. เสกฺขปฺตฺตีติ เสขิยปฺตฺติ.

๖๑๓. อคณาติ อทุติยา. เอตฺถ หิ เอกาปิ คโณ นาม.

๖๑๔. อุภยตฺถปิ อสาธารณมาปตฺตินฺติ ภิกฺขุนีนํ นิยตาปฺตฺติ เวทิตพฺพา.

๖๑๖. คิลาโน จ นาปชฺชติ, อคิลาโน จ นาปชฺชตีติ เอวํ อุโภปิ นาปชฺชนฺตีติ โยชนา. ติกาทีสุ ทสฺสิตานํ ปทานํ จตุกฺกาทิทสฺสนวเสน ปุนปฺปุนํ คหณํ.

๖๑๘. ‘‘อาปชฺชติ อคิลาโนวา’’ติ ปทจฺเฉโท.

จตุกฺกกถาวณฺณนา.

๖๒๐. ‘‘ครุถุลฺลจฺจย’’นฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘ครุ’’นฺติ นิคฺคหีตาคโม.

๖๒๑. ปฺจ กถินานิสํสา เหฏฺา วุตฺตาเยว.

๖๒๖. อคฺคิสตฺถนขกฺกนฺตนฺติ อคฺคิสตฺถนเขหิ อกฺกนฺตํ ผุฏฺํ, ปหฏนฺติ อตฺโถ. อพีชนฺติ โนพีชํ. อุพฺพฏฺฏพีชกนฺติ นิพฺพฏฺฏพีชกํ.

๖๒๘. ปวารณาปีติ ปฏิกฺเขปปวารณาปิ. โอทนาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน สตฺตุกุมฺมาสมจฺฉมํสานํ คหณํ. กายาทิคหเณนาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา คหเณน. ‘‘ทาตุกามาภิหาโร จ, หตฺถปาเสรณกฺขม’’นฺติ อิเมหิ จตูหิ องฺเคหิ สทฺธึ เตสํ ทฺวินฺนเมกํ คเหตฺวา ปฏิคฺคหณา ปฺเจว โหนฺติ.

๖๒๙-๓๐. วินยฺุกสฺมินฺติ วินยธเร ปุคฺคเล. สกฺจ สีลนฺติ อตฺตโน ปาติโมกฺขสํวรสีลฺจ. สุรกฺขิตํ โหตีติ อาปตฺตานาปตฺติกปฺปิยากปฺปิยานํ วิชานนฺตตาย อเสวิตพฺพํ ปหาย เสวิตพฺพํเยว เสวนวเสน สุฏฺุ รกฺขิตํ โหติ. กุกฺกุจฺจมฺสฺส นิรากโรตีติ อฺสฺส สพฺรหฺมจาริโน กปฺปิยากปฺปิยวิสเย อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ นิวาเรติ. วิสารโท ภาสติ สงฺฆมชฺเฌติ กปฺปิยากปฺปิยานํ วินิจฺฉยกถาย อุปฺปนฺนาย นิราสงฺโก นิพฺภโย โวหรติ. เวริภิกฺขูติ อตฺตปจฺจตฺถิเก ปุคฺคเล. ธมฺมสฺส เจว ิติยา ปวตฺโตติ ‘‘วินโย นาม สาสนสฺส อายุ, วินเย ิเต สาสนํ ิตํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.มงฺคลสุตฺตวณฺณนา; เถรคา. อฏฺ. ๑.๒๕๑) วจนโต สทฺธมฺมฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหติ. ตสฺมา การณา. ตตฺถ วินยฺุภาเว. ธีโร ปฺวา ภิกฺขุ.

ปฺจกกถาวณฺณนา.

๖๓๑-๒. ฉฬภิฺเนาติ ฉ อภิฺา เอตสฺสาติ ฉฬภิฺโ, เตน. อติกฺกนฺตปมาณํ มฺจปีํ, อติกฺกนฺตปมาณํ นิสีทนฺจ ตถา อติกฺกนฺตปมาณํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิวสฺสสาฏิกจีวรฺจ สุคตสฺส จีวเร ปมาณิกจีวรนฺติ ฉ.

๖๓๓-๔. อฺาณฺจ กุกฺกุจฺจฺจ อฺาณกุกฺกุจฺจา, เตหิ, อฺาณตาย เจว กุกฺกุจฺจปกตตาย จาติ วุตฺตํ โหติ. วิปรีตาย สฺาย กปฺปิเย อกปฺปิยสฺาย, อกปฺปิเย กปฺปิยสฺาย.

ตตฺถ กถํ อลชฺชิตาย อาปชฺชติ? อกปฺปิยภาวํ ชานนฺโตเยว มทฺทิตฺวา วีติกฺกมํ กโรติ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา). วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชติ;

อาปตฺตึ ปริคูหติ;

อคติคมนฺจ คจฺฉติ;

เอทิโส วุจฺจติ อลชฺชี ปุคฺคโล’’ติ. (ปริ. ๓๕๙);

กถํ อฺาณตาย อาปชฺชติ? อฺาณปุคฺคโล มนฺโท โมมูโห กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ อชานนฺโต อกตฺตพฺพํ กโรติ, กตฺตพฺพํ วิราเธติ. เอวํ อฺาณตาย อาปชฺชติ.

กถํ กุกฺกุจฺจปกตตาย อาปชฺชติ? กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเน วินยธรํ ปุจฺฉิตฺวา กปฺปิยํ เจ, กตฺตพฺพํ สิยา, อกปฺปิยํ เจ, น กตฺตพฺพํ, อยํ ปน ‘‘วฏฺฏตี’’ติ มทฺทิตฺวา วีติกฺกมติเยว. เอวํ กุกฺกุจฺจปกตตาย อาปชฺชติ.

กถํ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺาย อาปชฺชติ? สูกรมํสํ ‘‘อจฺฉมํส’’นฺติ ขาทติ, กาเล วิกาลสฺาย ภุฺชติ. เอวํ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺาย อาปชฺชติ.

กถํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺาย อาปชฺชติ? อจฺฉมํสํ ‘‘สูกรมํส’’นฺติ ขาทติ, วิกาเล กาลสฺาย ภุฺชติ. เอวํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺาย อาปชฺชติ.

กถํ สติสมฺโมสาย อาปชฺชติ? สหเสยฺยจีวรวิปฺปวาสาทีนิ สติสมฺโมสาย อาปชฺชติ.

๖๓๕-๘. ‘‘ภิกฺขุนา อุปฏฺเปตพฺโพ’’ติ ปทจฺเฉโท. ธมฺมจกฺขุนาติ ปาติโมกฺขสํวรสีลสงฺขาโต ปฏิปตฺติธมฺโมว จกฺขุ เอตสฺสาติ ธมฺมจกฺขุ, เตน ฉหิ องฺเคหิ ยุตฺเตน ธมฺมจกฺขุนา ปน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาทนา กาตพฺพา, นิสฺสโย เจว ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพติ โยชนา. อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ครุํ อาปตฺตึ ชานาติ, ลหุํ อาปตฺตึ ชานาตีติ โยชนา. อสฺส ภิกฺขุโน อุภยานิ ปาติโมกฺขานิ วิตฺถารา สฺวาคตานิ ภวนฺติ, อตฺถโต สุวิภตฺตานิ ภวนฺติ, สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส สุวินิจฺฉิตานิ ภวนฺติ, ทสวสฺโส วา โหติ, อติเรกทสวสฺโส วาติ โยชนา.

ฉกฺกกถาวณฺณนา.

๖๓๙. สตฺต สามีจิโย วุตฺตาติ ‘‘โส จ ภิกฺขุ อนพฺภิโต, เต จ ภิกฺขู คารยฺหา, อยํ ตตฺถ สามีจิ, ยุฺชนฺตายสฺมนฺโต สกํ, มา โว สกํ วินสฺสาติ อยํ ตตฺถ สามีจิ, อยํ เต ภิกฺขุ ปตฺโต ยาว เภทนาย ธาเรตพฺโพติ, อยํ ตตฺถ สามีจิ, ตโต นีหริตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวิภชิตพฺพํ, อยํ ตตฺถ สามีจิ, อฺาตพฺพํ ปริปุจฺฉิตพฺพํ ปริปฺหิตพฺพํ, อยํ ตตฺถ สามีจิ, ยสฺส ภวิสฺสติ, โส หริสฺสตีติ, อยํ ตตฺถ สามีจี’’ติ ฉ สามีจิโย ภิกฺขุปาติโมกฺเขวุตฺตา, ‘‘สา จ ภิกฺขุนี อนพฺภิตา, ตา จ ภิกฺขุนิโย คารยฺหา, อยํ ตตฺถ สามีจี’’ติ ภิกฺขุนิปาติโมกฺเข วุตฺตาย สทฺธึ สตฺต สามีจิโย วุตฺตา. สตฺเตว สมถาปิ จาติ สมฺมุขาวินยาทิสมถาปิ สตฺเตว วุตฺตา. ปฺตฺตาปตฺติโย สตฺตาติ ปาราชิกาทโย ปฺตฺตาปตฺติโย สตฺต วุตฺตา. สตฺตโพชฺฌงฺคทสฺสินาติ สติสมฺโพชฺฌงฺคาทโย สตฺต โพชฺฌงฺเค ยาถาวโต ปสฺสนฺเตน ภควตา.

สตฺตกกถาวณฺณนา.

๖๔๐-๑. อิธ กุลทูสโก ภิกฺขุ อาชีวสฺเสว การณา ปุปฺเผน, ผเลน, จุณฺเณน, มตฺติกาย, ทนฺตกฏฺเหิ, เวฬุยา, เวชฺชิกาย, ชงฺฆเปสนิเกนาติ อิเมหิ อฏฺหิ อากาเรหิ กุลานิ ทูเสตีติ โยชนา. ‘‘ปุปฺเผนา’’ติอาทินา ปุปฺผาทินา ทานเมว อุปลกฺขณโต ทสฺเสติ. ปุปฺเผนาติ ปุปฺผทาเนนาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ปุปฺผทานาทโย กุลทูสเน วุตฺตา.

๖๔๒-๕. ‘‘อฏฺธานติริตฺตาปิ, อติริตฺตาปิ อฏฺธา’’ติทฺวีสุ อฏฺเกสุ อฏฺ อนติริตฺเต ตาว ทสฺเสตุมาห ‘‘อกปฺปิยกตฺเจวา’’ติอาทิ. คิลานานติริตฺตกนฺติ นิทฺทิฏฺา อิเม อฏฺเว อนติริตฺตกา เยฺยาติ โยชนา. อกปฺปิยกตาทโย ปวารณสิกฺขาปทกถาวณฺณนาย วุตฺตา.

๖๔๖. าตตฺติสูติ าตทุกฺกฏํ, ตฺติทุกฺกฏฺจ. ปฏิสาวเนติ ปฏิสฺสเว. อฏฺทุกฺกฏานํ วินิจฺฉโย ทุติยปาราชิกกถาวณฺณนาย วุตฺโต.

๖๔๘-๙. เอหิภิกฺขูปสมฺปทาติ ยสกุลปุตฺตาทีนํ ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ วจเนน ภควตา ทินฺนอุปสมฺปทา. สรณคมเนน จาติ ปมโพธิยํ ตีหิ สรณคมเนหิ อนุฺาตอุปสมฺปทา. ปฺหาพฺยากรโณวาทาติ โสปากสฺส ปฺหาพฺยากรโณปสมฺปทา, มหากสฺสปตฺเถรสฺส ทินฺนโอวาทปฏิคฺคหโณปสมฺปทา จ. ครุธมฺมปฏิคฺคโหติ มหาปชาปติยา โคตมิยา อนุฺาตครุธมฺมปฏิคฺคหโณปสมฺปทา.

ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมนาติ อิทานิ ภิกฺขุอุปสมฺปทา. อฏฺวาจิกาติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน, ภิกฺขูนํ สนฺติเก ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมนาติ อฏฺหิ กมฺมวาจาหิ ภิกฺขุนีนํ อุปสมฺปทา อฏฺวาจิกา นาม. ทูเตน ภิกฺขุนีนนฺติ อฑฺฒกาสิยา คณิกาย อนุฺาตา ภิกฺขุนีนํ ทูเตน อุปสมฺปทา.

๖๕๐. สุทฺธทิฏฺินาติ สุฏฺุ สวาสนกิเลสานํ ปหาเนน ปริสุทฺธา สมนฺตจกฺขุสงฺขาตา ทิฏฺิ เอตสฺสาติ สุทฺธทิฏฺิ, เตน สมนฺตจกฺขุนา สมฺมาสมฺพุทฺเธน.

๖๕๑. ปาปิจฺฉา นาม อสนฺตคุณสมฺภาวนิจฺฉา.

๖๕๒-๓. จ มชฺชโป สิยาติ มชฺชโป น สิยา มชฺชํ ปิวนฺโต น ภเวยฺย, มชฺชํ น ปิเวยฺยาติ อตฺโถ. อพฺรหฺมจริยาติ (อ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๗๑) อเสฏฺจริยโต เมถุนา วิรเมยฺย. รตฺตึ น ภุฺเชยฺย วิกาลโภชนนฺติ อุโปสถํ อุปวุตฺโถ รตฺติโภชนฺจ ทิวาวิกาลโภชนฺจ น ภุฺเชยฺย. น จ คนฺธมาจเรติ คนฺธฺจ น วิลิมฺเปยฺย. มฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเตติ กปฺปิยมฺเจ วา สุธาทิปริกมฺมกตาย ภูมิยา วา ติณปณฺณปลาลาทีนิ สนฺถริตฺวา กเต สนฺถเต วา สเยถาติ อตฺโถ. เอตฺหิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถนฺติ เอตํ ปาณาติปาตาทีนิ อสมาจรนฺเตน อุปวุตฺถํ อุโปสถํ อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคตตฺตา ‘‘อฏฺงฺคิก’’นฺติ วทนฺติ. ทุกฺขนฺตคุนาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ อมตมหานิพฺพานํ คเตน ปตฺเตน พุทฺเธน ปกาสิตนฺติ โยชนา.

๖๕๔. ภิกฺขุโนวาทกภิกฺขุโน อฏฺงฺคานิ ภิกฺขุโนวาทกถาวณฺณนาย ทสฺสิตาเนว.

อฏฺกกถาวณฺณนา.

๖๕๕. โภชนานิ ปณีตานิ นว วุตฺตานีติ ปณีตานิ หิ โภชนสิกฺขาปเท วุตฺตานิ. ทสสุ อกปฺปิยมํเสสุ มนุสฺสมํสวชฺชิตานิ นว มํสานิ ขาทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ นิทฺทิฏฺนฺติ โยชนา.

๖๕๖. ปาติโมกฺข…เป… ปริทีปิตาติ ภิกฺขูนํ ปฺจุทฺเทสา, ภิกฺขุนีนํ อนิยตุทฺเทเสหิ วินา จตฺตาโรติ อุทฺเทสา นว ทีปิตา. อุโปสถา นเววาติ ทิวสวเสน ตโย, การกวเสน ตโย, กรณวเสน ตโยติ นว อุโปสถา. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สาสเน. สงฺโฆ นวหิ ภิชฺชตีติ นวหิ ปุคฺคเลหิ สงฺโฆ ภิชฺชตีติ โยชนา. ยถาห –

‘‘เอกโต, อุปาลิ, จตฺตาโร โหนฺติ, เอกโต จตฺตาโร, นวโม อนุสฺสาเวติ, สลากํ คาเหติ ‘อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสนํ, อิมํ คณฺหถ, อิมํ โรเจถา’ติ. เอวมฺปิ โข, อุปาลิ, สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จ. นวนฺนํ วา, อุปาลิ, อติเรกนวนฺนํ วา สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จา’’ติ (จูฬว. ๓๕๑).

นวกกถาวณฺณนา.

๖๕๗. ทส อกฺโกสวตฺถูนิ วกฺขติ. ทส สิกฺขาปทานิ ปากฏาเนว. มนุสฺสมํสาทีนิ ทส อกปฺปิยมํสานิ เหฏฺา วุตฺตาเนว. สุกฺกานิ เว ทสาติ นีลาทีนิ ทส สุกฺกานิ.

๖๕๙. รฺโ อนฺเตปุรปฺปเวสเน ทส อาทีนวา เอวํ ปาฬิปาเน เวทิตพฺพา –

‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน. กตเม ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ราชา มเหสิยา สทฺธึ นิสินฺโน โหติ, ตตฺร ภิกฺขุ ปวิสติ, มเหสี วา ภิกฺขุํ ทิสฺวา สิตํ ปาตุกโรติ, ภิกฺขุ วา มเหสึ ทิสฺวา สิตํ ปาตุกโรติ, ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ ‘อทฺธา อิเมสํ กตํ วา กริสฺสนฺติ วา’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา พหุกิจฺโจ พหุกรณีโย อฺตรํ อิตฺถึ คนฺตฺวา น สรติ, สา เตน คพฺภํ คณฺหาติ, ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ อฺตฺร ปพฺพชิเตน, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุเร อฺตรํ รตนํ นสฺสติ, ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ อฺตฺร ปพฺพชิเตน, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุเร อพฺภนฺตรา คุยฺหมนฺตา พหิทฺธา สมฺเภทํ คจฺฉนฺติ, ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ อฺตฺร ปพฺพชิเตน, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุเร ปิตา วา ปุตฺตํ ปตฺเถติ, ปุตฺโต วา ปิตรํ ปตฺเถติ, เตสํ เอวํ โหติ ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ อฺตฺร ปพฺพชิเตน, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา นีจฏฺานิยํ อุจฺเจ าเน เปติ, เยสํ ตํ อมนาปํ, เตสํ เอวํ โหติ ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ฉฏฺโ อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา อุจฺจฏฺานิยํ นีเจ าเน เปติ, เยสํ ตํ อมนาปํ, เตสํ เอวํ โหติ ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา อกาเล เสนํ อุยฺโยเชติ, เยสํ ตํ อมนาปํ, เตสํ เอวํ โหติ ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, อฏฺโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา กาเล เสนํ อุยฺโยเชตฺวา อนฺตรามคฺคโต นิวตฺตาเปติ, เยสํ ตํ อมนาปํ, เตสํ เอวํ โหติ ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, นวโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุรํ หตฺถิสมฺมทฺทํ อสฺสสมฺมทฺทํ รถสมฺมทฺทํ รชนียานิ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพานิ, ยานิ น ปพฺพชิตสฺส สารุปฺปานิ, อยํ, ภิกฺขเว, ทสโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อาทีนวา ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๔๕; ปาจิ. ๔๙๗).

ตตฺถ จ ปิตา วา ปุตฺตํ ปตฺเถตีติ ปุตฺตํ มาเรตุมิจฺฉตีติ อตฺโถ. เอเสว นโย ปุตฺโต ปิตรํ ปตฺเถตีติ. หตฺถิสมฺมทฺทนฺติ หตฺถีนํ สมฺมทฺโท สํสฏฺโ เอตฺถาติ หตฺถิสมฺมทฺทํ. เอวํ ‘‘อสฺสสมฺมทฺท’’นฺติอาทีสุปิ.

ทสากาเรหีติ –

‘‘อาปตฺตินุกฺขิตฺตมนนฺตราย-

ปหุตฺตตาโย ตถสฺิตา จ;

ฉาเทตุกาโม อถ ฉาทนาติ;

ฉนฺนา ทสงฺเคหรุณุคฺคมมฺหีติ. –

คหิเตหิ ทสหิ องฺเคหิ.

๖๖๐. ทส กมฺมปถา ปุฺาติ ปาณาติปาตาเวรมณิอาทโย ทส กุสลกมฺมปถา. อปุฺาปิ ตถา ทสาติ ปาณาติปาตาทโย ทส อกุสลกมฺมปถาว. ทส ทานวตฺถูนิ วกฺขติ. ทเสว รตนานิ จาติ –

‘‘มุตฺตา มณี เวฬุริยา จ สงฺขา;

สิลา ปวาฬํ รชตฺจ เหมํ;

โลหีตกฺจาปิ มสารคลฺลา;

ทสฺเสติ ธีโร รตนานิ ชฺา’’ติ. –

นิทฺทิฏฺานิ ทส รตนานิ.

๖๖๒. มุนินฺเทน อวนฺทิยา ทส ปุคฺคลา ทีปิตาติ โยชนา. กถํ? ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อวนฺทิยา. ปุเร อุปสมฺปนฺเนน ปจฺฉา อุปสมฺปนฺโน อวนฺทิโย, อนุปสมฺปนฺโน อวนฺทิโย, นานาสํวาสโก วุฑฺฒตโร อธมฺมวาที อวนฺทิโย, มาตุคาโม อวนฺทิโย, ปณฺฑโก อวนฺทิโย, ปาริวาสิโก อวนฺทิโย, มูลายปฏิกสฺสนารโห อวนฺทิโย, มานตฺตารโห อวนฺทิโย, มานตฺตจาริโก อวนฺทิโย, อพฺภานารโห อวนฺทิโย. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อวนฺทิยา’’ติ (จูฬว. ๓๑๒).

๖๖๓-๔. โสสานิกนฺติ สุสาเน ฉฑฺฑิตํ. ปาปณิกนฺติ อาปณทฺวาเร ฉฑฺฑิตํ. อุนฺทูรกฺขายิตนฺติ อุนฺทูเรหิ ขายิตํ ปริจฺจตฺตํ ปิโลติกํ. โคขายิตาทีสุปิ เอเสว นโย. ถูปจีวริกนฺติ พลิกมฺมตฺถาย วมฺมิเก ปริกฺขิปิตฺวา ปริจฺจตฺตวตฺถํ. อาภิเสกิยนฺติ ราชูนํ อภิเสกมณฺฑเป ปริจฺจตฺตวตฺถํ. คตปจฺจาคตฺจาติ สุสานคตมนุสฺเสหิ ปจฺจาคนฺตฺวา นหายิตฺวา ฉฑฺฑิตํ ปิโลติกํ.

๖๖๕. สพฺพนีลาทโย วุตฺตา, ทส จีวรธารณาติ ‘‘สพฺพนีลกานิ จีวรานิ ธาเรนฺตีติ วุตฺตวเสน ทสา’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๓๓๐) กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. เอตฺถ อิมสฺมึ ทสเก สํกจฺจิกาย วา อุทกสาฏิกาย วา สทฺธึ ติจีวรานิ นาเมน อธิฏฺิตานิ นว จีวรานิ ‘‘ทสจีวรธารณา’’ติ วุตฺตานิ. ยถาห – ‘‘นวสุ กปฺปิยจีวเรสุ อุทกสาฏิกํ วา สํกจฺจิกํ วา ปกฺขิปิตฺวา ทสาติ วุตฺต’’นฺติ (ปริ. อฏฺ. ๓๓๐).

ทสกกถาวณฺณนา.

๖๖๖. ปณฺฑกาทโย เอกาทส อภพฺพปุคฺคลา ปน อุปสมฺปาทิตาปิ อนุปสมฺปนฺนา โหนฺตีติ โยชนา.

๖๖๗. ‘‘อกปฺปิยา’’ติ วุตฺตา ปตฺตา เอกาทส ภวนฺตีติ โยชนา. ทารุเชน ปตฺเตนาติ ทารุมเยน ปตฺเตน. รตนุพฺภวาติ รตนมยา ทส ปตฺตา เอกาทส ภวนฺตีติ โยชนา. ทารุเชน จาติ เอตฺถ -สทฺเทน ตมฺพโลหมยปตฺตสฺส สงฺคโห. ยถาห ‘‘เอกาทส ปตฺตาติ ตมฺพโลหมเยน วา ทารุมเยน วา สทฺธึ ทสรตนมยา’’ติ. อิธ รตนํ นาม มุตฺตาทิทสรตนํ.

๖๖๘. อกปฺปิยา ปาทุกา เอกาทส โหนฺตีติ โยชนา. ยถาห ‘‘เอกาทส ปาทุกาติ ทส รตนมยา, เอกา กฏฺปาทุกา. ติณปาทุกมุฺชปาทุกปพฺพชปาทุกาทโย ปน กฏฺปาทุกสงฺคหเมว คจฺฉนฺตี’’ติ.

๖๖๙-๗๐. อติขุทฺทกา อติมหนฺตาติ โยชนา. ขณฺฑนิมิตฺตกา ฉายานิมิตฺตกาติ โยชนา. พหิฏฺเน สมฺมตาติ สีมาย พหิ ิเตน สมฺมตา. นทิยํ, ชาตสฺสเร, สมุทฺเท วา ตถา สมฺมตาติ โยชนา. สีมาย สมฺภินฺนา สีมาย อชฺโฌตฺถฏา สีมาติ โยชนา. อิมา เอกาทส อสีมาโย สิยุนฺติ โยชนา.

๖๗๑. เอกาทเสว ปถวี กปฺปิยา, เอกาทเสว ปถวี อกปฺปิยาติ โยชนา.

ตตฺถ เอกาทส กปฺปิยปถวี นาม สุทฺธปาสาณา, สุทฺธสกฺขรา, สุทฺธกถลา, สุทฺธมรุมฺพา, สุทฺธวาลุกา, เยภุยฺเยนปาสาณา, เยภุยฺเยนสกฺขรา, เยภุยฺเยนกถลา, เยภุยฺเยนมรุมฺพา, เยภุยฺเยนวาลุกาติ อิมา ทส ทฑฺฒาย ปถวิยา วา จตุมาโสวฏฺกปํสุปุฺเชน วา มตฺติกาปุฺเชน วา สทฺธึ เอกาทส. ‘‘อปฺปปํสุกา, อปฺปมตฺติกา’’ติ (ปาจิ. ๘๖) อปราปิ ปถวิโย วุตฺตา, ตา เยภุยฺเยนปาสาณาทีสุ ปฺจสุเยว สงฺคหิตา.

เอกาทส อกปฺปิยปถวี นาม ‘‘สุทฺธปํสุ สุทฺธมตฺติกา อปฺปปาสาณา อปฺปสกฺขรา อปฺปกถลา อปฺปมรุมฺพา อปฺปวาลุกา เยภุยฺเยนปํสุกา เยภุยฺเยนมตฺติกา, อทฑฺฒาปิ วุจฺจติ ชาตา ปถวี. โยปิ ปํสุปุฺโช วา มตฺติกาปุฺโช วา อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺโ, อยมฺปิ วุจฺจติ ชาตปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๖) วุตฺตา เอกาทส.

คณฺิกา กปฺปิยา วุตฺตา, เอกาทส จ วีธกาติ เอตฺถ กปฺปิยา คณฺิกา วิธกา จ เอกาทส วุตฺตาติ โยชนา. เต ปน –

‘‘เวฬุทนฺตวิสาณฏฺิ-กฏฺลาขาผลามยา;

สงฺขนาภิมยา สุตฺต-นฬโลหมยาปิ จ;

วิธา กปฺปนฺติ กปฺปิยา, คณฺิโย จาปิ ตมฺมยา’’ติ. –

อิมาย คาถาย สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา.

๖๗๔-๕. อุกฺขิตฺตสฺสานุวตฺติกา ภิกฺขุนี อุภินฺนํ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ วสา สงฺฆาทิเสเสสุ อฏฺ ยาวตติยกาติ อิเม เอกาทส ยาวตติยกาติ ปกาสิตาติ โยชนา.

๖๗๖. นิสฺสยสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิโย ทเสกาว เอกาทเสว วุตฺตาติ โยชนา. ฉธาจริยโต วุตฺตาติ –

‘‘ปกฺกนฺเต ปกฺขสงฺกนฺเต, วิพฺภนฺเต จาปิ นิสฺสโย;

มรณาณตฺตุปชฺฌาย-สโมธาเนหิ สมฺมตี’’ติ. –

อาจริยโต ฉธา นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย วุตฺตา. อุปชฺฌายา ตุ ปฺจธาติ ตาสุ อุปชฺฌายสโมธานํ วินา อวเสสาหิ ปฺจธา อุปชฺฌายปฏิปฺปสฺสทฺธิโย วุตฺตาติ อิเม เอกาทส.

เอกาทสกกถาวณฺณนา.

๖๗๗. เตรเสว ธุตงฺคานีติ ปํสุกูลิกงฺคาทีนิ ธุตงฺคานิ เตรเสว โหนฺติ.

ปรมานิ จ จุทฺทสาติ ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพํ, มาสปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตํ จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ, สนฺตรุตฺตรปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตโต จีวรํ สาทิตพฺพํ, ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพํ, นวํ ปน ภิกฺขุนา สนฺถตํ การาเปตฺวา ฉพฺพสฺสานิ ธาเรตพฺพํ ฉพฺพสฺสปรมตา ธาเรตพฺพํ, ติโยชนปรมํ สหตฺถา หริตพฺพานิ, ทสาหปรมํ อติเรกปตฺโต ธาเรตพฺโพ, สตฺตาหปรมํ สนฺนิธิการกํ ปริภุฺชิตพฺพานิ, ฉารตฺตปรมํ เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพํ, จตุกฺกํสปรมํ, อฑฺฒเตยฺยกํสปรมํ, ทฺวงฺคุลปพฺพปรมํ อาทาตพฺพํ, อฏฺงฺคุลปรมํ มฺจปฏิปาทกํ, อฏฺงฺคุลปรมํ ทนฺตกฏฺ’’นฺติ อิติ อิมานิ จุทฺทส ปรมานิ.

โสฬเสว ตุ ‘‘ชาน’’นฺติ ปฺตฺตานีติ ‘‘ชาน’’นฺติ เอวํ วตฺวา ปฺตฺตานิ โสฬส. เต เอวํ เวทิตพฺพา – ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ อตฺตโน ปริณาเมยฺย, ชานํ ปุพฺพุปคตํ ภิกฺขุํ อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺเปยฺย, ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ติณํ วา มตฺติกํ วา สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา, ชานํ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺเชยฺย, ชานํ อาสาทนาเปกฺโข, ภุตฺตสฺมึ ปาจิตฺติยํ, ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ปริภุฺเชยฺย, ชานํ ยถาธมฺมํ นิหฏาธิกรณํ ปุน กมฺมาย อุกฺโกเฏยฺย, ชานํ ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทยฺย, ชานํ อูนวีสติวสฺสํ ปุคฺคลํ อุปสมฺปาเทยฺย, ชานํ เถยฺยสตฺเถน สทฺธึ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺเชยฺย, ชานํ ตถาวาทินา ภิกฺขุนา อกตานุธมฺเมน, ชานํ ตถานาสิตํ สมณุทฺเทสํ, ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ปุคฺคลสฺส ปริณาเมยฺย, ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺนํ ภิกฺขุนึ เนวตฺตนา ปฏิโจเทยฺย, ชานํ โจรึ วชฺฌํ วิทิตํ อนปโลเกตฺวา, ชานํ สภิกฺขุกํ อารามํ อนาปุจฺฉา ปวิเสยฺยาติ.

๖๗๘. อิธ อิมสฺมึ สาสเน โย ภิกฺขุ อนุตฺตรํ สอุตฺตรํ อุตฺตรปกรเณน สหิตํ สกลมฺปิ วินยวินิจฺฉยํ ชานาติ, มหตฺตเร อติวิปุเล อนุตฺตเร อุตฺตรวิรหิเต อุตฺตเม วินยนเย วินยาคเต อาปตฺติอนาปตฺติครุกลหุกกปฺปิยอกปฺปิยาทิวินิจฺฉยกมฺเม. อถ วา วินยนเย วินยปิฏเก ปวตฺตมาโน โส ภิกฺขุ นิรุตฺตโร ภวติ ปจฺจตฺถิเกหิ วตฺตพฺพํ อุตฺตรํ อติกฺกมิตฺวา ิโต, เสฏฺโ วา ภวติ, ตสฺส เจว ปเรสฺจ สํสโย น กาตพฺโพติ โยชนา. ชานตีติ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

เอกุตฺตรนยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เสทโมจนกถาวณฺณนา

๖๗๙. สุณตํ สุณนฺตานํ ภิกฺขูนํ ปฏุภาวกรา วินยวินิจฺฉเย ปฺาโกสลฺลสาธิกา ตโตเยว วรา อุตฺตมา. เสทโมจนคาถาโยติ อตฺถปจฺจตฺถิกานํ, สาสนปจฺจตฺถิกานฺจ วิสฺสชฺเชตุมสกฺกุเณยฺยภาเวน จินฺตยนฺตสฺส ขินฺนสรีรา เสเท โมเจนฺตีติ เสทโมจนา. อตฺถานุคตปฺหา อุปาลิตฺเถเรน ปิตา ปฺหคาถาโย, ตปฺปฏิพทฺธา วิสฺสชฺชนคาถาโย จ อิโต ปรํ วกฺขามีติ โยชนา.

๖๘๑. กพนฺธํ นาม อสีสํ อุรสิ ชาตอกฺขิมุขสรีรํ. ยถาห – ‘‘อสีสกํ กพนฺธํ, ยสฺส อุเร อกฺขีนิ เจว มุขฺจ โหตี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๗๙). มุเขน กรณภูเตน. กตฺวาติ เสวิตฺวา.

๖๘๒. ตสฺส ภิกฺขุโน กถํ ปาราชิโก สิยา ปาราชิกธมฺโม กถํ สิยา.

๖๘๔. กิฺจีติ ปาทํ วา ปาทารหํ วา ปรสนฺตกํ. ปรฺจ น สมาทเปติ ‘‘อมุกสฺส อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหราหี’’ติ ปรํ น อาณาเปยฺย.

๖๘๕. ปรสฺส กิฺจิ นาทิยนฺโตติ สมฺพนฺโธ. อาณตฺติฺจาติ -สทฺเทน สํวิธานํ, สงฺเกตฺจ สงฺคณฺหาติ.

๖๘๖. ครุกํ ภณฺฑนฺติ ปาทคฺฆนกภาเวน ครุภณฺฑํ. ‘‘ปริกฺขาร’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ. ปรสฺส ปริกฺขารนฺติ ปรสนฺตกํ ยํ กิฺจิ ปริกฺขารํ.

๖๙๒. มนุสฺสุตฺตริเก ธมฺเมติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวิสเย. กติกํ กตฺวานาติ ‘‘เอวํ นิสินฺเน เอวํ ิเต เอวํ คมเน อตฺถํ อาวิกโรตี’’ติอาทึ กตฺวา. สมฺภาวนาธิปฺปาโยติ ‘‘อรหา’’ติ คเหตฺวา มหาสมฺภาวนํ กโรตีติ อธิปฺปาโย หุตฺวา. อติกฺกมติ เจติ ตถา กตํ กติกํ อติกฺกมติ เจ, ตถารูปํ นิสชฺชํ วา านํ วา คมนํ วา กโรตีติ อตฺโถ. จุโตติ ตถารูปํ นิสชฺชาทึ ทิสฺวา เกนจิ มนุสฺสชาติเกน ‘‘อรหา’’ติ ตงฺขเณ าเต โส ปุคฺคโล ปาราชิกํ อาปชฺชติ.

๖๙๓. เอกวตฺถุกา กถํ ภเวยฺยุนฺติ โยชนา.

๖๙๔. อิตฺถิยาติ เอกิสฺสา อิตฺถิยา. ปฏิปชฺชนฺโตติ เอกกฺขเณ อฺเน ปุริเสน วุตฺตสาสนํ วตฺวา, อิมินา จ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ, วีมํสตี’’ติ องฺคทฺวยสฺส ปุริมสิทฺธตํ ทีเปติ อิมสฺส ปจฺจาหรณกตฺจ. กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตฺวา ทุฏฺุลฺลํ วตฺวา อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภณนฺโต.

๖๙๕. ยถาวุตฺตํ วตฺตํ อจริตฺวาติ ภควตา วุตฺตํ ปริวาสาทิวตฺตํ อจริตฺวา.

๖๙๖. ภิกฺขุนีหิ อสาธารณสิกฺขาปทตฺตา อาห ‘‘นตฺถิ สงฺฆาทิเสสตา’’ติ.

๖๙๗. เยน กุทฺโธ ปสํสิโตติ เอตฺถ ‘‘นินฺทิโต จา’’ติ เสโส.

๖๙๘. ติตฺถิยานํ วณฺณมฺหิ ภฺมาเน โย กุชฺฌติ, โส อาราธโกติ โยชนา, ปริโตสิโต ปสํสิโตติ อธิปฺปาโย. ติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชฺชํ ลภิตฺวา ติตฺถิยานํ วณฺณสฺมึ ภฺมาเน สุตฺวา สเจ กุปฺปติ อนตฺตมนํ กโรติ, อาราธโก สงฺฆาราธโก สงฺฆํ ปริโตเสนฺโต โหติ, สมฺพุทฺธสฺส วณฺณสฺมึ ภฺมาเน ยทิ กุชฺฌติ, นินฺทิโตติ โยชนา. เอตฺถ สมฺพุทฺธสฺสาติ อุปลกฺขณํ.

๗๐๑. คเหตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา.

๗๕๑. ‘‘น รตฺตจิตฺโต’’ติอาทินา ปุริมานํ ติณฺณํ ปาราชิกานํ วีติกฺกมจิตฺตุปฺปาทมตฺตสฺสาปิ อภาวํ ทีเปติ. มรณายาติ เอตฺถ ‘‘มนุสฺสชาติกสฺสา’’ติ อิทํ ปาราชิกปกรณโตว ลพฺภติ. ตสฺสาติ กิฺจิ เทนฺตสฺส. นฺติ ตถา ทียมานํ.

๗๕๒. ‘‘ปราชโย’’ติ อิทํ อภพฺพปุคฺคเลสุ สงฺฆเภทกสฺส อนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ. สลากคฺคาเหนาปิ สงฺฆํ ภินฺทนฺโต สงฺฆเภทโกว โหติ.

๗๕๓. อทฺธโยชเน ยํ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ เอกํ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวานาติ โยชนา.

๗๕๔. สุปฺปติฏฺิตนิคฺโรธสทิเส รุกฺขมูลเก ติจีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อทฺธโยชเน อรุณํ อุฏฺาเปนฺตสฺสาติ โยชนา.

๗๕๕. กายิกา นานาวตฺถุกาโย สมฺพหุลา อาปตฺติโย อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณ กถํ ผุเสติ โยชนา.

๗๕๗. วาจสิกา น กายิกา นานาวตฺถุกาโย สมฺพหุลา อาปตฺติโย อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณ กถํ ผุเสติ โยชนา.

๗๕๘. วินยนสตฺเถติ วินยปิฏเก. ตสฺส ภิกฺขุสฺส.

๗๕๙. ‘‘อิตฺถิยา’’ติอาทีสุ สหตฺเถ กรณวจนํ. อิตฺถิยา วา ปุริเสน วา ปณฺฑเกน วา นิมิตฺตเก เมถุนํ น เสวนฺโต น ปฏิเสวนฺโต เมถุนปจฺจยา จุโตติ โยชนา.

๗๖๐. กายสํสคฺโคเยว กายสํสคฺคตา, ตํ อาปนฺนา. อฏฺวตฺถุกํ เฉชฺชนฺติ เอวํนามกํ ปาราชิกํ.

๗๖๒. สมเย ปิฏฺิสฺิเตติ คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสสฺส ปมทิวสโต ยาว เหมนฺตสฺส ปมทิวโส, เอตฺถนฺตเร สตฺตมาสมตฺเต ปิฏฺิสฺิเต สมเย. ‘‘มาตุยาปิ จา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘มาตรมฺปิ จา’’ติ วุตฺตํ. โสเยว วา ปาโ.

๗๖๔. ‘‘อวสฺสุตหตฺถโต หิ ปิณฺฑํ คเหตฺวา’’ติ อิมินา สงฺฆาทิเสสสฺส วตฺถุมาห, ลสุณนฺติ ปาจิตฺติยสฺส วตฺถุํ, มนุสฺสมํสนฺติ ถุลฺลจฺจยวตฺถุํ, อกปฺปมฺนฺติ ทุกฺกฏวตฺถุํ. อกปฺปมฺนฺติ เอตฺถ ‘‘มํส’’นฺติ เสโส. ‘‘สพฺเพ เอกโต’’ติ ปทจฺเฉโท. เอกโตติ เอตฺถ ‘‘มทฺทิตฺวา’’ติ เสโส, อกปฺปิยมํเสหิ สทฺธึ เอกโต มทฺทิตฺวา ขาทตีติ อตฺโถ. สพฺพเมตํ ‘‘คเหตฺวา, มทฺทิตฺวา, ขาทตี’’ติ กิริยานํ กมฺมวจนํ. มนุสฺสมํสฺจาติ เอตฺถ -สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ โหติ. ตสฺสาติ ภิกฺขุนิยา. สงฺฆาทิเสสปาจิตฺติยทุกฺกฏปาฏิเทสนียถุลฺลจฺจยานิ เอกกฺขเณ โหนฺติ.

๗๖๕. ‘‘ปุคฺคโล เอโก’’ติ ปทจฺเฉโท. ทฺเวปิ จ ปุณฺณวสฺสาติ ปริปุณฺณวีสติวสฺสา จ ทฺเว สามเณรา. เอกาว เตสํ ปน กมฺมวาจาติ เตสํ อุภินฺนํ สามเณรานํ เอเกน อาจริเยน เอกาว อุปสมฺปทกมฺมวาจา กตา. เอกสฺสาติ เอกสฺสาปิ สามเณรสฺส. กมฺมนฺติ อุปสมฺปทกมฺมํ. น รูหเตติ น สมฺปชฺชติ, กิเมตฺถ การณํ, วท ภทฺทมุขาติ อธิปฺปาโย.

๗๖๖. มหิทฺธิเกสูติ ทฺวีสุ สามเณเรสุ. สเจ ปน เอโก เกสคฺคมตฺตมฺปิ อากาสโค อากาสฏฺโ โหติ, อากาสคตสฺเสว กตํ ตํ อุปสมฺปทกมฺมํ เนว รูหติ เนว สมฺปชฺชติ, ภูมิคตสฺส รูหตีติ โยชนา.

๗๖๗. อิทฺธิยา อากาเส ิเตน สงฺเฆน ภูมิคตสฺส สามเณรสฺส อุปสมฺปทกมฺมํ น กาตพฺพํ. ยทิ กโรติ, กุปฺปตีติ โยชนา. อิทฺจ สพฺพกมฺมานํ สาธารณลกฺขณํ. ยถาห – ‘‘สงฺเฆนาปิ อากาเส นิสีทิตฺวา ภูมิคตสฺส กมฺมํ น กาตพฺพํ. สเจ กโรติ, กุปฺปตี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๘๑).

๗๖๘. วตฺถํ กปฺปกตฺจ น โหติ, รตฺตฺจ น โหติ, เกสกมฺพลาทิ อกปฺปิยฺจ โหติ, นิวตฺถสฺส ปนาปตฺติ ตํ ปน นิวตฺถสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺติ โหติ. อนาปตฺติ กถํ สิยา, วท ภทฺทมุขาติ โยชนา.

๗๖๙. เอตฺถ เอตสฺมึ อกปฺปิยวตฺถุธารเณ ตนฺนิมิตฺตํ. อจฺฉินฺนจีวรสฺส ภิกฺขุโน อนาปตฺติ สิยาติ โยชนา. ‘‘กิฺจิปี’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ สมตฺเถติ. อสฺส อจฺฉินฺนจีวรสฺส ภิกฺขุสฺส อกปฺปิยํ นาม กิฺจิปิ จีวรํ น วิชฺชติ, ตสฺมา อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย.

๗๗๐. กุโตปิ จ ปุริสสฺส หตฺถโต โภชนสฺส กิฺจิ น คณฺหติ, โภชนโต กิฺจิปิ สยมฺปิ กสฺสจิ ปุริสสฺส น เทติ, ตถาปิ ครุกํ วชฺชํ สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ อุเปติ อาปชฺชติ, ตํ กถมาปชฺชติ, ตฺวํ ยทิ วินเย กุสโล อสิ, เม มยฺหํ วท เอตํ การณํ กเถหีติ โยชนา. หเวติ นิปาตมตฺตํ.

๗๗๑. ยา ปน ภิกฺขุนี อฺาย ภิกฺขุนิยา ‘‘อิงฺฆ, อยฺเย, ยํ เต เอโส ปุริสปุคฺคโล เทติ ขาทนียํ วา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๗๐๕) สงฺฆาทิเสสมาติกาย วุตฺตนเยน อุยฺโยชิตา อวสฺสุตมฺหา ปุริสปุคฺคลา ยํ กิฺจิ โภชนํ อาทาย ปฏิคฺคเหตฺวา สเจ ภุฺชติ, สา ตถา ภุฺชนฺตี ยาย อุยฺโยชิตา ภุฺชติ, ตสฺสา อุยฺโยชิกาย ธีรา วินยธรา ปณฺฑิตา สงฺฆาทิเสสํ กถยนฺติ ตสฺสา อุยฺโยชิตาย โภชนปริโยสาเน อุยฺโยชิกาย สงฺฆาทิเสสํ วทนฺตีติ โยชนา. ยถาห – ‘‘ตสฺสา หิ โภชนปริโยสาเน อุยฺโยชิกาย สงฺฆาทิเสโส โหตี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๘๑).

๗๗๒. ตํ กถํ ยทิ พุชฺฌสิ ชานาสิ, สาธุกํ พฺรูหิ กเถหีติ โยชนา.

๗๗๓. นิเสวิเตติ ตาย อุยฺโยชิตาย ภิกฺขุนิยา ตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส หตฺถโต ปฏิคฺคหิเต ตสฺมึ ทนฺตโปเน ปริภุตฺเต อุยฺโยชิกา ลหุวชฺชํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ.

๗๗๕. ‘‘อุกฺขิตฺตโก’’ติ อิมินา อาปตฺติวชฺชมาห. ยถาห – ‘‘เตน หิ สทฺธึ วินยกมฺมํ นตฺถิ, ตสฺมา โส สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชิตฺวา ฉาเทนฺโต วชฺชํ น ผุสตี’’ติ.

๗๗๖. สปฺปาณปฺปาณชนฺติ สปฺปาณเก จ อปฺปาณเก จ ชาตํ. เนว ชงฺคมนฺติ ปาเทหิ ภูมิยํ เนว จรนฺตํ. น วิหงฺคมนฺติ อากาเส ปกฺขํ ปสาเรตฺวา น จรนฺตํ. ทฺวิชนฺติ ทฺวีหิ ปจฺจเยหิ, ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ชาตตฺตา ทฺวิชํ. กนฺตนฺติ มโนหรํ. อกนฺตนฺติ อมโนหรํ.

๗๗๗. สปฺปาณโช สทฺโท จิตฺตโช วุตฺโต, อปฺปาณโช อุตุโช สทฺโท วุตฺโต, โส ปน ทฺวีเหว ปจฺจเยหิ ชาตตฺตา ‘‘ทฺวิโช’’ติ มโตติ โยชนา.

๗๗๘. ‘‘วินเย’’ติอาทิคาถา วณฺณิตตฺถาเยว.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

เสทโมจนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สาธารณาสาธารณกถาวณฺณนา

๗๗๙-๘๐. สพฺพสิกฺขาปทานนฺติ อุภโตวิภงฺคาคตานํ สพฺพสิกฺขาปทานํ. ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหีติ อุภยตฺถ สหตฺเถ กรณวจนํ. ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีนฺจ, ภิกฺขุนีหิ ภิกฺขูนฺจาติ อุภยตฺถ อสาธารณปฺตฺตฺจ, ตถา ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีนฺจ, ภิกฺขุนีหิ ภิกฺขูนฺจาติ อุภยตฺถ สาธารณสิกฺขาปทฺจ อหํ วกฺขามีติ โยชนา. สมาหิตาติ เอกคฺคจิตฺตา. ตํ มยา วุจฺจมานํ นิทานาทินยํ. สุณาถาติ โสตุชนํ สกฺกจฺจสวเน นิโยเชติ.

๗๘๑. ‘‘นิทาน’’นฺติอาทิคาถา วุตฺตตฺถาว.

๗๘๒-๓. ‘‘กติ เวสาลิยา’’ติอาทิ ปุจฺฉาคาถา อุตฺตานตฺถาเยว.

๗๘๖. ‘‘ทส เวสาลิยา’’ติอาทิวิสฺสชฺชนคาถานํ ‘‘เมถุน’’นฺติอาทโย นิทฺเทสวเสน วุตฺตา. วิคฺคโหติ มนุสฺสวิคฺคหํ ปาราชิกํ. จตุตฺถนฺติมวตฺถุกนฺติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปาราชิกํ. อติเรกจีวรนฺติ ปมกถินํ. สุทฺธกาฬเกฬกโลมกนฺติ เอฬกโลมวคฺเค ทุติยํ.

๗๘๗. ภูตนฺติ ปเม มุสาวาทวคฺเค อฏฺมํ. ปรมฺปรฺเจวาติ ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทํ. มุขทฺวารนฺติ จตุตฺเถ โภชนวคฺเค ทสมํ. ภิกฺขุนีสุ จ อกฺโกโสติ ภิกฺขุนิปาติโมกฺเข ฉฏฺเ อารามวคฺเค ทุติยํ.

๗๘๘. ทฺเว อนุทฺธํสนานีติ อฏฺมนวมสงฺฆาทิเสสา. จีวรสฺส ปฏิคฺคโหติ จีวรวคฺเค ปฺจมํ.

๗๘๙. รูปิยนฺติ เอฬกโลมวคฺเค อฏฺมํ. สุตฺตวิฺตฺตีติ ปตฺตวคฺเค ฉฏฺํ. อุชฺฌาปนนฺติ ทุติเย ภูตคามวคฺเค ตติยํ. ปริปาจิตปิณฺโฑติ ตติเย โอวาทวคฺเค นวมํ. ตเถว คณโภชนนฺติ จตุตฺเถ โภชนวคฺเค ทุติยํ.

๗๙๐. วิกาเล โภชนฺเจวาติ ตตฺเถว สตฺตมํ. จาริตฺตนฺติ อเจลกวคฺเค ปฺจเม ฉฏฺํ. นฺหานนฺติ สุราปานวคฺเค ฉฏฺเ สตฺตมํ. อูนวีสติวสฺสนฺติ สตฺตเม สปฺปาณกวคฺเค ปฺจมํ. ทตฺวา สงฺเฆน จีวรนฺติ อฏฺเม สหธมฺมิกวคฺเค นวมํ.

๗๙๑. โวสาสนฺตีติ ทุติยํ ภิกฺขุปาฏิเทสนียํ. นจฺจํ วา คีตํ วาติ ปเม ลสุณวคฺเค ทสมํ. จาริกทฺวยนฺติ จตุตฺเถ ตุวฏฺฏวคฺเค สตฺตมฏฺมานิ. ฉนฺททาเนนาติ อฏฺเม กุมาริภูตวคฺเค เอกาทสมํ. ‘‘ฉนฺททาเนตี’’ติ วา ปาโ. ‘‘ฉนฺททานํ อิติ อิเม’’ติ ปทจฺเฉโท.

๗๙๒. กุฏีติ ฉฏฺโ สงฺฆาทิเสโส. โกสิยนฺติ นิสฺสคฺคิเยสุ ทุติเย เอฬกโลมวคฺเค ปมํ. เสยฺยนฺติ มุสาวาทวคฺเค ปฺจมํ. ปถวีติ มุสาวาทวคฺเค ทสมํ. ภูตคามกนฺติ ภูตคามวคฺเค ทุติเย ปมํ. สปฺปาณกฺจ สิฺจนฺตีติ ภูตคามวคฺเค ทสมํ.

๘๐๐. ฉอูนานิ ตีเณว สตานีติ ฉหิ อูนานิ ตีเณว สตานิ, จตุนวุตาธิกานิ ทฺวิสตานีติ อตฺโถ. สมเจตสาติ –

‘‘วธเก เทวทตฺตมฺหิ, โจเร องฺคุลิมาลเก;

ธนปาเล ราหุเล จ, สพฺพตฺถ สมมานโส’’ติ. (มิ. ป. ๖.๖.๕; ธ. ป. อฏฺ. ๑.๑๖ เทวทตฺตวตฺถุ; อิติวุ. อฏฺ. ๑๐๐) –

วจนโต สพฺเพสุ หิตาหิเตสุ, ลาภาลาภาทีสุ จ อฏฺสุ โลกธมฺเมสุ นิพฺพิการตาย จ สมานจิตฺเตน ตถาคเตน.

วุตฺตาวเสสาติ เวสาลิยาทีสุ ฉสุ นคเรสุ วุตฺเตหิ อวสิฏฺานิ. อิเม สพฺเพ อิมานิ สพฺพานิ สิกฺขาปทานิ สาวตฺถิยํ กตานิ ภวนฺติ, ปฺตฺตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ.

๘๐๑. ปาราชิกานิ จตฺตารีติ เวสาลิยํ วุตฺตํ เมถุนมนุสฺสวิคฺคหอุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ, ราชคเห อทินฺนาทานนฺติ จตฺตาริ. สตฺต สงฺฆาทิเสสกาติ ราชคเห วุตฺตา ทฺเว อนุทฺธํสนา, ทฺเว จ เภทา, อาฬวิยํ กุฏิกาโร, โกสมฺพิยํ มหลฺลกวิหาโร, โทวจสฺสนฺติ สตฺต. นิสฺสคฺคิยานิ อฏฺเวาติ เวสาลิยํ อติเรกจีวรํ, กาฬกเอฬกโลมํ, ราชคเห จีวรปฏิคฺคหณํ, รูปิยปฏิคฺคหณํ, สุตฺตวิฺตฺติ, อาฬวิยํ โกสิยมิสฺสกํ, กปิลวตฺถุมฺหิ เอฬกโลมโธวนํ, อูนปฺจพนฺธนนฺติ อฏฺ.

ทฺวตฺตึเสว จ ขุทฺทกาติ เวสาลิยํ ภูตาโรจนํ, ปรมฺปรโภชนํ, อปฺปฏิคฺคหณํ, อเจลกํ, ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ภิกฺขุํ อกฺโกเสยฺยา’’ติ ปฺจ, ราชคเห อุชฺฌาปนกํ, ภิกฺขุนิปริปาจิตปิณฺโฑ, คณโภชนํ, วิกาลโภชนํ, ‘‘โย ปน ภิกฺขุ นิมนฺติโต’’ติอาทิ จ, ‘‘โอเรนฑฺฒมาสํ นหาเยยฺยา’’ติ, อูนวีสติวสฺสํ, ‘‘สมคฺเคน สงฺเฆน จีวรํ ทตฺวา’’ติ ภิกฺขูนํ อฏฺ, ภิกฺขุนีนํ ปน ‘‘นจฺจํ วา คีตํ วา’’ติอาทิ จ, ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อนฺโตวสฺส’’นฺติอาทิ จ, ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี วสฺสํวุตฺถา’’ติอาทิ จาติ ทฺวยํ, ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปาริวาสิกฉนฺททาเนนา’’ติอาทิ จาติ จตฺตาริ, อาฬวิยํ อนุปสมฺปนฺเนน อุตฺตริ ทิรตฺตติรตฺตํ, ‘‘ปถวึ ขเณยฺย วา’’ติอาทิ, ภูตคามปาตพฺยตาย, ‘‘ชานํ สปฺปาณกํ อุทก’’นฺติ จตฺตาริ, โกสมฺพิยํ อฺวาทเก วิเหสเก, ยาวทฺวารโกสา อคฺคฬฏฺปนาย, สุราเมรยปาเน, อนาทริเย, ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ สหธมฺมิก’’นฺติอาทิ จาติ ปฺจ, กปิลวตฺถุมฺหิ ‘‘ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา’’ติอาทิ, ‘‘อคิลาเนน ภิกฺขุนา จาตุมาส’’นฺติอาทิ, ‘‘อฏฺิมยํ วา ทนฺตมยํ วา’’ติอาทิ ตีณิ ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีนํ ปน ‘‘อุทกสุทฺธิกํ ปนา’’ติอาทิ, ‘‘โอวาทาย วา’’ติอาทีติ ทฺเว, ภคฺเคสุ ‘‘อคิลาโน วิสิพฺพนาเปกฺโข’’ติอาทิ เอกนฺติ เอตานิ พาตฺตึเสว ปาจิตฺติยานิ.

๘๐๒. ทฺเว คารยฺหาติ ‘‘ภิกฺขุ ปเนว กุเลสู’’ติอาทิ, ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ อารฺกานี’’ติอาทิ จาติ ทฺเว ปาฏิเทสนียา. ตโย เสขาติ โกสมฺพิยํ น สุรุสุรุการกํ, ภคฺเคสุ น สามิเสน หตฺเถน ปานียถาลกํ, น สสิตฺถกํ ปตฺตโธวนนฺติ ตีณิ เสขิยานิ. ฉปฺปฺาเสว สิกฺขาปทานิ ปิณฺฑิตานิ เวสาลิยาทีสุ ฉสุ นคเรสุ ปฺตฺตานิ ภวนฺตีติ โยชนา.

๘๐๓. สตฺตสุ นคเรสุ ปฺตฺตานิ เอตานิ สพฺพาเนว สิกฺขาปทานิ ปน อฑฺฒุฑฺฒานิ สตาเนว ภวนฺติ. สาวตฺถิยํ ปฺตฺเตหิ จตุนวุตาธิกทฺวิสตสิกฺขาปเทหิ สทฺธึ ฉสุ นคเรสุ ปฺตฺตานิ ฉปฺาส สิกฺขาปทานิ ปฺาสาธิกานิ ตีณิ สตานิ ภวนฺตีติ อตฺโถ. อฑฺเฒน จตุตฺถํ เยสํ ตานิ อฑฺฒุฑฺฒานิ.

๘๐๔-๑๐. เอวํ นิทานวเสน นครํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิทานมฺมเสเสตฺวา อุภโตวิภงฺคาคตานํ สพฺเพสํ สิกฺขาปทานํ เกวลํ ปิณฺฑวเสน คณนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สิกฺขาปทานิ ภิกฺขูน’’นฺติอาทิ.

๘๑๑. เอวํ สพฺพสิกฺขาปทานํ นิทานฺจ คณนฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อสาธารณานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ฉจตฺตาลีสา’’ติอาทิ. ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณภาวํ มเหสินา คมิตานิ สิกฺขาปทานิ ฉจตฺตาลีเสว โหนฺตีติ โยชนา. อิมินา อุทฺเทสมาห.

๘๑๔. ‘‘ฉ จ สงฺฆาทิเสสา’’ติอาทีหิ ทฺวีหิ คาถาหิ นิทฺเทสํ ทสฺเสตฺวา ‘‘วิสฺสฏฺี’’ติอาทินา ปฏินิทฺเทสมาห.

๘๑๕. ‘‘นิสฺสคฺคิเย อาทิวคฺคสฺมิ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. โธวนนฺติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรโธวนํ. ปฏิคฺคโหติ ตสฺสาเยว หตฺถโต จีวรปฏิคฺคหณํ.

๘๑๖. อารฺนฺติ เอกูนตึสติมํ สิกฺขาปทํ.

๘๑๗. ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีนฺจ วุตฺตานิ สพฺพานิ ปาจิตฺติยานิ คณนาวสา อฏฺาสีติสตํ ภวนฺตีติ โยชนา. อฏฺาสีติสตนฺติ ภิกฺขุนิปาติโมกฺขาคตํ ฉสฏฺิสตปาจิตฺติยํ วกฺขมาเนหิ ภิกฺขุนิยเตหิ พาวีสติปาจิตฺติเยหิ สทฺธึ อฏฺาสีติสตํ โหติ. ตโตติ อฏฺาสีตาธิกสตปาจิตฺติยโต นิทฺธาริตานิ เอตานิ ทฺวาวีสติ ขุทฺทกานิ ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺขเก ภวนฺตีติ โยชนา.

๘๑๘. ภิกฺขุนิวคฺโคติ ภิกฺขุนีนํ โอวาทวคฺโค. ปรมฺปรโภชเน ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ ปรมฺปรโภชนํ, ปรมฺปรโภชเนน สห วตฺตตีติ สปรมฺปรโภชโน.

๘๒๒. ‘‘เอกโต ปน ปฺตฺตา’’ติอาทิ นิคมนํ. ภิกฺขุนีหิ อสาธารณตํ คตา เอกโตว ปฺตฺตา อิเม อิมานิ สิกฺขาปทานิ ปิณฺฑิตานิ ฉจตฺตาลีส โหนฺตีติ โยชนา.

๘๒๓. มเหสินา ภิกฺขูหิ อสาธารณภาวํ คมิตานิ ภิกฺขุนีนํ สิกฺขาปทานิ ปริปิณฺฑิตานิ สตํ, ตึส จ ภวนฺตีติ โยชนา.

๘๒๔. เอวํ อุทฺทิฏฺานํ นิทฺเทสมาห ‘‘ปาราชิกานี’’ติอาทินา. ปาราชิกานิ จตฺตารีติ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกวชฺชปฏิจฺฉาทิกอุกฺขิตฺตานุวตฺติกอฏฺวตฺถุกสงฺขาตานิ จตฺตาริ ปาราชิกานิ.

๘๒๖. ทฺวีหิ คาถาหิ นิทฺทิฏฺานํ ปฏินิทฺเทโส ‘‘ภิกฺขุนีนํ ตุ สงฺฆาทิเสเสหี’’ติอาทิ. จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อุทฺเทสวเสเนว ปากฏตฺตา ปฏินิทฺเทเส อคฺคหณํ. อาทิโต ฉาติ อุสฺสยวาทิกาทโย ฉ สงฺฆาทิเสสา. ‘‘อาทิโต’’ติ อิทํ ‘‘ยาวตติยกา’’ติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ, อฏฺสุ ยาวตติยเกสุ ปุริมานิ จตฺตาริ สิกฺขาปทานีติ วุตฺตํ โหติ.

๘๒๗. สตฺตฺทตฺถิกาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อฺทตฺถิกสิกฺขาปทโต ปจฺฉิมานิ จตฺตาริ, ปุริมานิ ‘‘อฺํ วิฺาเปยฺย, อฺํ เจตาเปยฺยา’’ติ ทฺเว จ คหิตานิ. ปตฺโต เจวาติ ปมํ ปตฺตสนฺนิจยสิกฺขาปทมาห. ทุติยวคฺเค ปุริมสิกฺขาปททฺวยํ ‘‘ครุํ ลหุ’’นฺติ อิมินา คหิตํ.

๘๒๘. อิธ ภิกฺขุนิปาติโมกฺเข เอตานิ ปน ทฺวาทเสว นิสฺสคฺคิยานิ สตฺถารา ภิกฺขุนีนํ วเสน เอกโต ปฺตฺตานีติ โยชนา.

๘๒๙-๓๐. ‘‘สพฺเพว คณนาวสา’’ติอาทิ นิคมนํ. ภิกฺขูหิ อสาธารณตํ คตา ภิกฺขุนีนํ เอกโต ปฺตฺตา สตํ, ตึส ภวนฺตีติ โยชนา.

๘๓๑-๓. ‘‘อสาธารณา อุภินฺน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. อุภินฺนํ อสาธารณสิกฺขาปทานิ สตฺจ สตฺตติ จ ฉ จ ภวนฺติ. เอวมุทฺทิฏฺานํ นิทฺเทโส ‘‘ปาราชิกานิ จตฺตารี’’ติอาทิ. ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนํ จตฺตาริ ปาราชิกานิ. ทสจฺฉ จาติ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนํ สงฺฆาทิเสสา ทส, ภิกฺขุนีหิ อสาธารณานิ ภิกฺขูนํ วิสฺสฏฺิอาทิกา สงฺฆาทิเสสา ฉ จาติ สงฺฆาทิเสสา โสฬส.

อนิยตา ทุเว เจวาติ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณานิ ภิกฺขูนํ อนิยตา ทฺเว จ. นิสฺสคฺคา จตุวีสตีติ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณานิ ภิกฺขูนํ ทฺวาทส, ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนํ ทฺวาทสาติ เอวํ นิสฺสคฺคิยา จตุวีสติ จ. สตํ อฏฺารส ขุทฺทกาติ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณานิ ภิกฺขูนํ พาวีสติ, ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนํ ฉนฺนวุตีติ อฏฺารสาธิกสตํ ขุทฺทกานิ จ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ อสาธารณสงฺคเห.

ทฺวาทเสว จ คารยฺหาติ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณานิ ภิกฺขูนํ จตฺตาริ, ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนํ อฏฺาติ เอเต ปาฏิเทสนียา จาติ อิเม ฉสตฺตติอธิกานิ สตสิกฺขาปทานิ อุภินฺนมฺปิ อสาธารณานีติ โยชนา.

๘๓๔. อุภินฺนมฺปิ สาธารณานิ สตฺถุนา ปฺตฺตานิ สิกฺขาปทานิ สตฺจ สตฺตติ จ จตฺตาริ จ ภวนฺตีติ ปกาสิตาติ โยชนา.

๘๓๕-๖. ปาราชิกานิ จตฺตารีติ เมถุนอทินฺนาทานมนุสฺสวิคฺคหอุตฺตริมนุสฺสธมฺมปาราชิกานิ จตฺตาริ จ. สตฺต สงฺฆาทิเสสกาติ สฺจริตฺตอมูลกอฺภาคิยา, จตฺตาโร ยาวตติยกา จาติ สงฺฆาทิเสสา สตฺต จ. อฏฺารส จ นิสฺสคฺคาติ นิสฺสคฺคิเยสุ ปเม จีวรวคฺเค โธวนปฏิคฺคหณสิกฺขาปททฺวยวชฺชิตานิ อฏฺ, เอฬกโลมวคฺเค อฏฺมนวมทสมานีติ ตโย, ปตฺตวคฺเค ปมปตฺตวสฺสิกสาฏิกอารฺกสิกฺขาปทตฺตยสฺส วชฺชิตานิ สตฺต จาติ อิมานิ อฏฺารส นิสฺสคฺคิยสิกฺขาปทานิ จ. สมสตฺตติ ขุทฺทกาติ –

‘‘สพฺโพ ภิกฺขุนิวคฺโคปิ…เป… ทฺวาวีสติ ภวนฺติ หี’’ติ. (อุ. วิ. ๘๑๘-๘๒๑) –

วุตฺตา ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณาติ อิเมหิ พาวีสติปาจิตฺติเยหิ วชฺชิตานิ อวเสสานิ สตฺตติ ปาจิตฺติยานิ จ อุภยสาธารณวเสน ปฺตฺตานิ. ปฺจสตฺตติ เสขิยาปิ จาติ อุภินฺนํ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ สมสิกฺขตา สาธารณสิกฺขาปทานิ สพฺพโส สตํ, สตฺตติ, จตฺตาริ จ โหนฺตีติ โยชนา.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

สาธารณาสาธารณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ลกฺขณกถาวณฺณนา

๘๓๗. อิโตติ สาธารณาสาธารณกถาย ปรํ. สพฺพคนฺติ สพฺพสิกฺขาปทสาธารณํ. วทโต เมติ วทโต มม วจนํ. นิโพธถาติ นิสาเมถ, เอกคฺคจิตฺตา หุตฺวา สกฺกจฺจํ สุณาถาติ อตฺโถ.

๘๓๘-๙. ‘‘วิปตฺติ อาปตฺติ อนาปตฺตี’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อาณตฺติ องฺค’’นฺติ ปทจฺเฉโท. วชฺชกมฺมปเภทกนฺติ วชฺชปเภทกํ กมฺมปเภทกํ. ติกทฺวยนฺติ กุสลตฺติกเวทนาตฺติกทฺวยํ. สพฺพตฺถาติ อิทํ ปน สตฺตรสวิธสพฺพสาธารณลกฺขณํ. สพฺพตฺถ สพฺเพสุ สิกฺขาปเทสุ.

๘๔๐. อิธ อิมสฺมึ สตฺตรสวิเธ ยํ ลกฺขณํ ปุพฺเพ วุตฺตนยํ, ยฺจ อุตฺตานํ, ตํ สพฺพํ วชฺเชตฺวา อตฺถโชตนํ อตฺถปฺปกาสนํ กริสฺสามีติ โยชนา.

๘๔๑. นิทานํ นาม ราชคหาทิสิกฺขาปทปฺตฺติฏฺานภูตานิ สตฺต นครานิ, ตํ ปุพฺเพ ทสฺสิตนฺติ อวสิฏฺานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุคฺคโล’’ติอาทิ. ปุคฺคโล นาม กตโม? ยํ ยํ ภิกฺขุนึ, ภิกฺขุฺจ อารพฺภ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, อยํ ภิกฺขุนี จ ภิกฺขุ จ สิกฺขาปทปฺตฺติยา อาทิกมฺมิโก ปุคฺคโลติ วุจฺจตีติ โยชนา.

๘๔๒. ธนิยาทโยติ อาทิ-สทฺเทน สมฺพหุลา ภิกฺขู, วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู, เสยฺยสโก, อุทายี, อาฬวกา ภิกฺขู, ฉนฺโน, เมตฺติยภูมชกา, เทวทตฺโต, อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู, ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู, อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต, อฺตโร ภิกฺขุ, หตฺถโก สกฺยปุตฺโต, อนุรุทฺโธ, สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู, จูฬปนฺถโก, เพลฏฺสีโส, อายสฺมา อานนฺโท, สาคตตฺเถโร, อริฏฺโ ภิกฺขุ, อายสฺมา อานนฺโทติ อิเม เอกวีสติ สงฺคหิตา.

๘๔๓. ถุลฺลนนฺทาทโยติ อาทิ-สทฺเทน สุนฺทรีนนฺทา, ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย, อฺตรา ภิกฺขุนี, จณฺฑกาฬี, สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย, ทฺเว ภิกฺขุนิโยติ ฉยิเม สงฺคหิตา. สพฺเพติ อุภยปาติโมกฺเข อาทิกมฺมิกา สพฺเพ ปุคฺคลา.

๘๔๔. วตฺถูติ วตฺถุ นาม สุทินฺนาทิโน ตสฺส ตสฺเสว ปุคฺคลสฺส เมถุนาทิกสฺส จ วตฺถุโน สพฺพปฺปกาเรน อชฺฌาจาโร วีติกฺกโม ปวุจฺจตีติ โยชนา.

๘๔๕-๖. เกวลา มูลภูตา ปฺตฺติ. อนุ จ อนุปฺปนฺโน จ สพฺพตฺถ จ ปเทโส จ อนฺวนุปฺปนฺนสพฺพตฺถปเทสา, เตเยว ปทานิ อนฺวนุปฺปนฺนสพฺพตฺถปเทสปทานิ, ตานิ ปุพฺพกานิ ยาสํ ปฺตฺตีนํ ตา อนฺวนุปฺปนฺนสพฺพตฺถปเทสปทปุพฺพิกา. ตเถว สา ปฺตฺตีติ โยชนา. อนุปฺตฺติ อนุปฺปนฺนปฺตฺติ สพฺพตฺถปฺตฺติ ปเทสปฺตฺติ โหติ. เอกโต อุภโต ปุพฺพา กเถว สา ปฺตฺตีติ โยชนา. เอกโตปทํ อุภโตปทฺจ ปุพฺพมสฺสาติ เอกโตอุภโตปุพฺพา, เอกโตปฺตฺติ อุภโตปฺตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

๘๔๗. ตตฺถ นวธาสุ ปฺตฺตีสุ. ปฺตฺติ นาม กตมาติ อาห ‘‘โย เมถุน’’นฺติอาทิ. ‘‘โย ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติ จ ‘‘โย ภิกฺขุ อทินฺนํ อาทิเยยฺยา’’ติ จ เอวมาทิกา สิกฺขาปทสฺส มูลภูตา ปฺตฺติ โหตีติ โยชนา.

๘๔๘. อิจฺเจวมาทิกาติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ จ ‘‘คามา วา อรฺา วา’’ติ จ เอวมาทีนํ สงฺคโห.

๘๔๙. วชฺชเก อนุปฺปนฺเนเยว ปฺตฺตา อนุปฺปนฺนปฺตฺติ, สา อนุปฺปนฺนปฺตฺติ.

๘๕๐-๑. คุณงฺคุณุปาหนสิกฺขาปเทน สห จมฺมตฺถรณสิกฺขาปทฺจ ธุวนฺหานํ ธุวนหานสิกฺขาปทํ, ปฺจวคฺเคน อุปสมฺปาทนสิกฺขาปทฺจาติ เอสา จตุพฺพิธา ปฺตฺติ ปเทสปฺตฺติ นามาติ วุตฺตาติ โยชนา. มชฺฌิมเทสสฺมึเยว โหตีติ มชฺฌิมเทสสฺมึเยว อาปตฺติกรา โหติ. น อฺโตติ น อฺตฺร ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ เทสนฺตเร าเน.

๘๕๒. อิโตติ จตุพฺพิธปเทสปฺตฺติโต. เอตฺถาติ อิมสฺมึ ปฺตฺติเภเท. สาธารณทุกาทิกนฺติ สาธารณปฺตฺติ อสาธารณปฺตฺติ, เอกโตปฺตฺติ อุภโตปฺตฺตีติ ทุกทฺวยํ. อตฺถโต เอกเมวาติ อตฺถโต อฺมฺสมานเมว. วิปตฺตาปตฺตานาปตฺติวินิจฺฉโย วิตฺถาริโตติ อิธ น ทสฺสิโต. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – วิปตฺตีติ สีลอาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺตีนํ อฺตรา. อาปตฺตีติ ปุพฺพปโยคาทิวเสน อาปตฺติเภโท. อนาปตฺตีติ อชานนาทิวเสน อนาปตฺติ.

๘๕๓. อาปตฺติ ปน สาณตฺติกาปิ โหติ, อนาณตฺติกาปิ โหตีติ โยชนา. ‘‘อาณตฺตีติ จ นาเมสา อาณาปนา’’ติ อิมินา อาณตฺติ-สทฺทสฺส สภาวสาธารณตฺตาติ อิธาห.

๘๕๔. สพฺพสิกฺขาปเทสุปิ สพฺพาสํ อาปตฺตีนํ สพฺโพ ปน องฺคเภโทปิ วิภาวินา าตพฺโพติ โยชนา.

๘๕๖. ‘‘สา จ อกฺริยสมุฏฺานา’’ติ ปทจฺเฉโท. กาเยน, วาจาย วา ทสาหพฺภนฺตเร อติเรกจีวรสฺส อนธิฏฺาเนน นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํ โหตีติ ‘‘ปเม กถิเน วิยา’’ติ อุทาหรณํ กตํ.

๘๕๗. กฺริยากฺริยโต โหตีติ กิริยโต จ อกิริยโต จ โหติ. ตตฺถ อุทาหรณมาห ‘‘จีวรคฺคหเณ วิยา’’ติ. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต จีวรคฺคหณํ กฺริยา, ปาริวตฺตกสฺส อทานํ อกฺริยาติ เอวํ กิริยาย เจว อกิริยาย จ อิมํ อาปชฺชติ.

๘๕๘. สิยา ปน กโรนฺตสฺส อกโรนฺตสฺสาติ ยา ปน อาปตฺติ สิยา กโรนฺตสฺส, สิยา อกโรนฺตสฺส โหติ, อยํ สิยา กิริยโต, สิยา อกิริยโต สมุฏฺาติ. สิยาติ จ กทาจิ-สทฺทตฺเถ นิปาโต. อตฺโรทาหรณมาห ‘‘รูปิโยคฺคหเณ วิยา’’ติ. รูปิยสฺส อุคฺคหเณ, อุคฺคณฺหาปเน สิยา กทาจิ กิริยโต สมุฏฺาติ, อุปนิกฺขิตฺตสฺส สาทิยเน กายวาจาหิ กาตพฺพสฺส อกรเณน กทาจิ อกโรนฺตสฺส โหตีติ.

๘๕๙. ยา กโรโต อกุพฺพโต, กทาจิ กโรนฺตสฺส จ โหติ, สา อาปตฺติ สิยา กิริยากิริยโต, สิยา กิริยโตปิ จ โหตีติ โยชนา. ‘‘กุฏิการาปตฺติ วิยา’’ติ วตฺตพฺพํ. สา หิ วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกนฺตํ กโรโต กิริยโต สมุฏฺาติ, อเทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกนฺตํ, ปมาณยุตฺตํ วา กโรโต กิริยากิริยโต สมุฏฺาติ.

๘๖๑. ยโต อาปตฺติโต. อยํ อาปตฺติ. สฺาย กรณภูตาย วิโมกฺโข เอตายาติ สฺาวิโมกฺขา. เอตฺถ จ วีติกฺกมสฺา อวิชฺชมานาปิ อาปตฺติยา วิมุจฺจนสฺส สาธกตมฏฺเน คหิตา. ยถา วุฏฺิยา อภาเวน ชาตํ ทุพฺภิกฺขํ ‘‘วุฏฺิกต’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อยํ สจิตฺตกาปตฺติ.

๘๖๒-๔. อิตรา ปน อจิตฺตกาปตฺติ. วีติกฺกมสฺาย อภาเวน นตฺถิ วิโมกฺโข เอตายาติ โนสฺาวิโมกฺขา. สุจิตฺเตน สวาสนกิเลสปฺปหาเนน, สกลโลกิยโลกุตฺตรกุสลสมฺปโยเคน จ สุนฺทรจิตฺเตน ภควตา ปกาสิตา สพฺพาว อาปตฺติ จิตฺตสฺส วเสน ทุวิธา สิยุนฺติ โยชนา. สจิตฺตกสมุฏฺานวเสน ปนาติ สจิตฺตกสมุฏฺานวเสเนว. สจิตฺตกมิสฺสกวิวชฺชนตฺถาย ปน-สทฺโท เอวการตฺโถ วุตฺโต.

ยา สจิตฺตเกหิ วา อจิตฺตกมิสฺสกสมุฏฺานวเสน วา สมุฏฺาติ, อยํ อจิตฺตกา.

๘๖๕. สุวิชฺเชนาติ โสภมานาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ วา อฏฺหิ วา วิชฺชาหิ สมนฺนาคตตฺตา สุวิชฺเชน. อนวชฺเชนาติ สวาสนกิเลสาวชฺชรหิตตฺตา อนวชฺเชน ภควตา. โลกปณฺณตฺติวชฺชโต โลกปณฺณตฺติวชฺชวเสน สพฺพาว อาปตฺติโย วชฺชวเสน ทุวิธา ทุกา วุตฺตาติ โยชนา.

๘๖๖. ยสฺสา สจิตฺตเก ปกฺเข, จิตฺตํ อกุสลํ สิยาติ ยสฺสา สจิตฺตกาจิตฺตกสมุฏฺานาย อจิตฺตกาย สุราปานาทิอาปตฺติยา สจิตฺตกสมุฏฺานปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, อยํ โลกวชฺชา นามาติ อตฺโถ. ยสฺสา ปน สจิตฺตกสมุฏฺานาย ปมปาราชิกาทิอาปตฺติยา จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตสฺสา โลกวชฺชตาย วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อจิตฺตกาปิ วา อาปตฺติ สจิตฺตกปกฺเข กุสลจิตฺเต สติ โลกวชฺชตาย สิทฺธาย อจิตฺตกปกฺเขปิ โลกวชฺโช โหติ, กิมงฺคํ ปน อกุสลจิตฺเตเนว อาปชฺชิตพฺพาย อาปตฺติยา โลกวชฺชตาติ สา วิสุํ น วุตฺตา.

ยสฺมา ปน ปณฺณตฺติวชฺชาย วตฺถุวีติกฺกมวชฺชา สิยา กุสลํ, สิยา อพฺยากตํ, ตสฺมา ตสฺสา สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ กุสลเมวาติ อยํ นิยโม นตฺถีติ อาห ‘‘เสสา ปณฺณตฺติวชฺชกา’’ติ. ‘‘ปณฺณตฺติวชฺชกา’’ติ อิมินา จ ลกฺขเณน วตฺถุวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ สิยา กุสลํ, สิยา อกุสลํ, สิยา อพฺยากตํ, ตสฺมา ตสฺสา สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวาติ อยํ นิยโม นตฺถีติ อาห.

๘๖๗. กายทฺวาเรน อาปชฺชิตพฺพา กายกมฺมํ. อุภยตฺถ อาปชฺชิตพฺพา ตทุภยํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ. มโนทฺวาเร อาปตฺติ นาม นตฺถีติ มโนกมฺมํ น วุตฺตํ. ‘‘มโนทฺวาเร อาปตฺติ นาม นตฺถีติ จ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ อุปนิกฺขิตฺตสาทิยนาทีสุ มโนทฺวาเรปิ อาปตฺติสมฺภวโต’’ติ อาจริยา.

๘๖๘-๙. กุสลาทิติกทฺวยนฺติ กุสลตฺติกฺเจว เวทนาตฺติกฺจ. อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต กุสลากุสลจิตฺโต, ตถา อพฺยากตจิตฺโต วา หุตฺวา อาปชฺชตีติ โยชนา.

ทุกฺขาทิสํยุโตติ อาทิ-สทฺเทน อุเปกฺขาเวทนาสมงฺคิโน สงฺคโห. เอวํ สนฺเตปิ สพฺพสิกฺขาปเทสุ อกุสลจิตฺตวเสน เอกํ จิตฺตํ, กุสลาพฺยากตวเสน ทฺเว จิตฺตานิ, สพฺเพสํ วเสน ตีณิ จิตฺตานิ. ทุกฺขเวทนาวเสน เอกา เวทนา, สุขอุเปกฺขาวเสน ทฺเว, สพฺพาสํ วเสน ติสฺโส เวทนาติ อยเมว เภโท ลพฺภติ, น อฺโ เภโท.

กุสลตฺติกํ สเจปิ คหิตํ, น ปน สพฺเพสเมว จิตฺตานํ วเสน ลพฺภติ, อถ โข อาปตฺติสมุฏฺาปกานํ พาตฺตึสจิตฺตานเมว วเสน ลพฺภติ. พาตฺตึเสว หิ จิตฺตานิ อาปตฺติสมุฏฺาปกานิ. ทฺวาทส อกุสลานิ, อฏฺ กามาวจรกุสลานิ, ทส กามาวจรกิริยจิตฺตานิ, กุสลโต, กิริยโต จ ทฺเว อภิฺาจิตฺตานิ จาติ เอวํ พาตฺตึสจิตฺเตหิ สมุฏฺิตาปิ อาปตฺติ อกุสลา วา โหติ อพฺยากตา วา, นตฺถิ อาปตฺติ กุสลํ. ยถาห สมถกฺขนฺธเก ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ (จูฬว. ๒๒๒; ปริ. ๓๐๓). อยํ ปน ปาโ ปณฺณตฺติวชฺชํเยว สนฺธาย วุตฺโต, น โลกวชฺชํ. ยสฺมิฺหิ ปถวิขณนภูตคามปาตพฺยตาทิเก อาปตฺตาธิกรเณ กุสลจิตฺตํ องฺคํ โหติ, ตสฺมิฺจ สติ น สกฺกา วตฺตุํ ‘‘นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ. ตสฺมา นยิทํ องฺคปโหนกจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ตาว อาปตฺตาธิกรณํ โลกวชฺชํ, ตํ เอกนฺตโต อกุสลเมว. ตตฺถ ‘‘สิยา อกุสล’’นฺติ วิกปฺโป นตฺถิ. ยํ ปน ปณฺณตฺติวชฺชํ, ตํ ยสฺมา สฺจิจฺจ ‘‘อิมํ อาปตฺตึ วีติกฺกมามี’’ติ วีติกฺกมนฺตสฺเสว อกุสลํ โหติ, อสฺจิจฺจ ปน กิฺจิ อชานนฺตสฺส สหเสยฺยาทิวเสน อาปชฺชนโต อพฺยากตํ โหติ, ตสฺมา ตตฺถ สฺจิจฺจาสฺจิจฺจวเสน อิมํ วิกปฺปภาวํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ. สเจ ปน ‘‘ยํ กุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, อิทํ วุจฺจติ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ วเทยฺย, อจิตฺตกานํ เอฬกโลมปทโสธมฺมาทิสมุฏฺานานมฺปิ กุสลจิตฺตํ อาปชฺเชยฺย, น จ ตตฺถ วิชฺชมานมฺปิ กุสลจิตฺตํ อาปตฺติยา องฺคํ, กายวจีวิฺตฺติวเสน ปน จลิตปวตฺตานํ กายวาจานํ อฺตรเมว องฺคํ, ตฺจ รูปกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา อพฺยากตนฺติ.

๘๗๐. อิทํ ตุ ลกฺขณนฺติ อิทํ นิทานาทิสาธารณวินิจฺฉยลกฺขณํ.

๘๗๑. ‘‘ตรุ’’นฺติอาทิคาถา ปุพฺเพ วุตฺตตฺถาว. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ ‘‘ทฺวยงฺกุร’’นฺติ วุตฺตํ, อิธ ‘‘จตุสฺสิข’’นฺติ. ตตฺถ ‘‘ทฺวยงฺกุร’’นฺติ โลกวชฺชปณฺณตฺติวชฺชานํ คหณํ, อิธ จตุสฺสิขนฺติ จตุนฺนํ วิปตฺตีนํ. จตฺตาโร สีขา องฺกุรา เอตสฺสาติ วิคฺคโห. ตตฺถ วิปตฺติ ‘‘สตฺตผล’’นฺติ สตฺตผเลสุ อนฺโตคธา, อิธ วิปตฺติฏฺาเน วชฺชํ คเหตฺวา สตฺตผลานิ.

๘๗๒. อนุตฺตรตํ คตํ อตฺตนา อุตฺตรสฺส อุตฺตมสฺส กสฺสจิ อวิชฺชมานตฺตา อิมํ อุตฺตรํ อุตฺตรํ นาม ปกรณํ โย เถรนวมชฺฌิเมสุ อฺตโร ปริยาปุณาติ ปาสฺส ปคุณวาจุคฺคตกรเณน อธียติ, ปริปุจฺฉติ อตฺถฺจ อตฺถวณฺณนํ สุตฺวา สกฺกจฺจํ อุคฺคเหตฺวา มนสา เปกฺขิตฺวา ปฺาย สุปฺปฏิวิชฺฌิตฺวา ธาเรติ, โส จ ภิกฺขุ -สทฺเทน เอวเมว วินยวินิจฺฉเย โย ภิกฺขุ ยุตฺโต, โส จ กายวาจวินเย กายวาจาวีติกฺกมานํ วินยเน สํวรเณ วินเย วินยปิฏเก อนุตฺตรตํ อุปยาติ อตฺตโน อุตฺตริตรสฺส อวิชฺชมานตํ อุปคจฺฉติ. เอตฺถ การณมาห ‘‘อุตฺตรโต’’ติ, ปคุณวาจุคฺคตกรเณน อธีเตน อตฺถวณฺณนํ สุตฺวา ธารเณน สุฏฺุ ธาริเตน อิมินา อุตฺตรปกรเณน เหตุภูเตนาติ อตฺโถ.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

ลกฺขณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สพฺพสงฺกลนนยกถาวณฺณนา

๘๗๓. ปริวาเร มุขาคตา กตฺถปฺตฺติวาราทโย อฏฺ วารา, เตเยว ปจฺจย-สทฺเทน โยเชตฺวา วุตฺตา อฏฺปจฺจยวาราติ วิภงฺคทฺวเย วิสุํ วิสุํ ทสฺสิตา โสฬส ปริวารา อสฺสาติ โสฬสปริวาโร, ตสฺส โสฬสปริวารสฺส. สพฺพํ สงฺกลนํ นยนฺติ สพฺเพสํ วุตฺตานํ สงฺกลนนยานํ สงฺคเหตพฺพโต สพฺพํ สงฺกลเภทนํ นยํ.

๘๗๕. กายิกา ฉพฺพิธาติ ปมปาราชิกาปตฺติ, กุฏิกรเณ ปโยเค ทุกฺกฏาปตฺติ, เอกํ ปิณฺฑํ อนาคเต ถุลฺลจฺจยาปตฺติ, ตสฺมึ อาคเต สงฺฆาทิเสสาปตฺติ, วิกาลโภชเน ปาจิตฺติยาปตฺติ, ปมปาฏิเทสนียาปตฺตีติ ฉพฺพิธา.

ตถา วาจสิกาปิ จาติ จตุตฺถปาราชิกา, กุฏิยา การาปเน ปุพฺพคติโย, ปทโสธมฺมปาจิตฺติยํ, ทวกมฺยตาย หีเนน ขุํสนํ, ตสฺส ทุพฺภาสิตนฺติ ตถา ฉพฺพิธา.

ฉาเทนฺตสฺส จ ติสฺโสติ ภิกฺขุนิยา วชฺชปฏิจฺฉาทิกาย ปาราชิกํ, ภิกฺขุโน สงฺฆาทิเสสฉาทเน ปาจิตฺติยํ, อตฺตโน ทุฏฺุลฺลจฺฉาทเน ทุกฺกฏนฺติ ติสฺโส จ.

ปฺจ สํสคฺคปจฺจยาติ กายสํสคฺเค ภิกฺขุนิยา ปาราชิกํ, ภิกฺขุโน สงฺฆาทิเสโส, กาเยน กายปฏิพทฺเธ ถุลฺลจฺจยํ, นิสฺสคฺคิเยน กายปฏิพทฺเธ ทุกฺกฏํ, องฺคุลิปโตทเก ปาจิตฺติยนฺติ กายสํสคฺคปจฺจยา ปฺจ อาปตฺติโย.

๘๗๗. ภิกฺขุนิยา วชฺชปฏิจฺฉาทิกาย ปาราชิกํ, ภิกฺขุสฺส สงฺฆาทิเสสปฏิจฺฉาทกสฺส ปาจิตฺติยนฺติ ทุฏฺุลฺลจฺฉาทเน ทุเว.

๘๗๙. ‘‘คามนฺตเร จตสฺโสวา’’ติอาทิ ปฏินิทฺเทสโต จ วิฺายติ.

๘๘๑. วชนฺติยาติ คจฺฉนฺติยา.

๘๘๕. ยา ปน ภิกฺขุนี รตฺตนฺธกาเร อปฺปทีเป หตฺถปาเส ปุริเสน สทฺธึ ยทิ สลฺลเปยฺย, ตสฺสา ปาจิตฺติ. ทูเร ิตา หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิตา วเทยฺย เจ, ทุกฺกฏเมวาติ โยชนา.

๘๘๖. ยา ปน ภิกฺขุนี ฉนฺเน ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ทิวา ปุริเสน สทฺธึ อสฺส ปุริสสฺส หตฺถปาเส ิตา วเทยฺย สลฺลเปยฺย, ตสฺสา ปาจิตฺติ. หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา วเทยฺย เจ, ทุกฺกฏเมวาติ โยชนา.

๘๙๑. สนิสฺสคฺคา จ ปาจิตฺตีติ นิสฺสชฺชนวินยกมฺมสหิตาเยว ปาจิตฺติ.

๘๙๓. อิธ อิมสฺมึ สาสเน.

๘๙๖. ทุวินฺนนฺติ ทฺวินฺนํ.

๘๙๘. สมานสํวาสกภูมิ นาม ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน สมานลทฺธิกสฺส เอกสีมายํ ิตภาโว. นานาปทํ ปุพฺพํ เอติสฺสาติ นานาปทปุพฺพิกา, นานาสํวาสกภูมีติ อตฺโถ. อุกฺขิตฺตนานาลทฺธิกนานาสีมคตา นานาสํวาสกภูมิ. อิมา ทฺเวเยว สํวาสกภูมิโย หิ มเหสินา การุณิเกน วุตฺตาติ โยชนา.

๘๙๙. ทุวินฺนนฺติ ปาริวาสิกมานตฺตจารีนํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ. ทฺวยาตีเตนาติ กามสุขลฺลิกานุโยคอตฺตกิลมถานุโยคสงฺขาตํ อนฺตทฺวยํ อติกฺกมฺม มชฺฌิมาย ปฏิปทาย ิเตน. อถ วา สสฺสตุจฺเฉททฺวยํ อติกฺกนฺเตน.

๙๐๐. ‘‘ทฺวงฺคุลปพฺพปรมํ อาทาตพฺพ’’นฺติ จ ตเถว ‘‘ทฺวงฺคุลํ วา ทุมาสํ วา’’ติ จ ทฺวงฺคุลา ทุเว ปฺตฺตาติ โยชนา.

๙๐๕. อาณตฺติยา มนุสฺสมารณํ, อาณตฺติยา อทินฺนาทานมฺปีติ โยชนา.

๙๐๗. ติสฺโส โอภาสนายิมาติ อิมา ติสฺโส เมถุนาธิปฺปายปฺปกาสนา.

๙๐๘. สงฺฆาทิเสโส เอว สงฺฆาทิเสสตา.

๙๑๐. วนปฺปติ นาม ปุปฺผํ วินา ผลนฺตี นิคฺโรธอุทุมฺพรอสฺสตฺถปิลกฺขกาทิรุกฺขชาติ, อิธ ปน วนเชฏฺโ รกฺขิตโคปิตเจติยรุกฺโข วนปฺปตีติ อธิปฺปาโย. ถุลฺลตาติ ถุลฺลจฺจยํ.

๙๑๒. วิสฺสฏฺีติ วิสฺสชฺชิ สมฺภวธาตุ. ฉฑฺฑเนติ อุปกฺกมิตฺวา โมจเน. ‘‘หริเต อุจฺจารํ ปสฺสาวํ ฉฑฺฑเน’’ติ ปทจฺเฉโท.

๙๑๓. กึ ปมาณเมตาสนฺติ กิตฺตกา.

๙๑๕. ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธินฺติ เอตฺถ ภิกฺขูติ สามิวจนปฺปสงฺเค ปจฺจตฺตํ, ภิกฺขุโนติ อตฺโถ. คาถาพนฺธวเสน วา วณฺณโลโป.

๙๑๘. ทุติยาย หตฺถปาสกํ.

๙๒๒. ‘‘ยาวตติยเก ติสฺโส อาปตฺติโย’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๗๖ อตฺถโต สมานํ) ปทสฺส นิทฺเทเส ‘‘ถุลฺลจฺจยํ สิยา สงฺฆ-เภทกสฺสานุวตฺติโน’’ติ ปนฺติ. ‘‘ติณฺณํ สงฺฆเภทานุวตฺตากานํ โกกาลิกาทีนํ สงฺฆาทิเสโส’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ตถา ปาโ น คเหตพฺโพ.

๙๒๓. ยาวตติยเกติ ติณฺณํ ปูรณี ตติยา, กมฺมวาจา, ยาวตติยาย กมฺมวาจาย ปริโยสาเน อาปชฺชิตพฺพา อาปตฺติ ยาวตติยกา นาม.

๙๒๖. ‘‘อวสฺสุตสฺส…เป… กิฺจี’’ติ อิทํ ครุกาปตฺติยา วตฺถุทสฺสนํ. ‘‘สพฺพํ มํสํ อกปฺปิย’’นฺติ อิทํ ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานํ วตฺถุทสฺสนํ.

๙๒๗. ‘‘วิฺาเปตฺวาน…เป… โภชนมฺปิ จา’’ติ อิทํ ปาฏิเทสนียวตฺถุทสฺสนํ. ‘‘ลสุณมฺปิ จา’’ติ อิทํ ปาจิตฺติยวตฺถุทสฺสนํ. ‘‘เอกโต อชฺโฌหรนฺติยา’’ติ ปทจฺเฉโท.

๙๓๐. รตฺตจิตฺเตน อิตฺถิยา องฺคชาตํ โอโลเกนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.

๙๓๑. สมฺมาวตฺตนาว สมฺมาวตฺตนกา. เตจตฺตาลีส วตฺตนา ทฺวาสีติกฺขนฺธกวตฺตานํ ปริปูรณฏฺาเน ทสฺสิตา.

๙๓๒. อทสฺสนอปฏิกมฺเม อาปนฺนาปตฺติยา ทุเว ปุคฺคลา, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อาปนฺนาปตฺติยา เอโกติ อิเม ตโย อุกฺขิตฺตปุคฺคลา.

๙๓๔. ทูสโกติ ภิกฺขุนิทูสโก. กณฺฏโกติ กณฺฏกสามเณโร.

๙๓๗. ทเทยฺยจฺเจวมาทิกาติ ตฺติกาเล ‘‘สงฺโฆ ทเทยฺยา’’ติอาทิเภทา ตฺติกปฺปนา, ตฺติกิริยาติ อตฺโถ. เทติ สงฺโฆ กโรตีติอาทีติ กมฺมวาจากาเล ‘‘สงฺโฆ เทตี’’ติ วา ‘‘กโรตี’’ติ วา อาทิเภทา วจนกมฺมสฺส อนิฏฺิตตฺตา วิปฺปกตปจฺจุปฺปนฺนํ นาม สิยา.

๙๓๘. ทินฺนํ กตํ ปนิจฺจาทีติ กมฺมวาจาย นิฏฺิตาย ‘‘ทินฺนํ สงฺเฆนา’’ติ วา ‘‘กตํ สงฺเฆนา’’ติ วาติอาทิวจนํ อตีตกรณํ นาม สิยา.

๙๓๙. สงฺเฆติ สงฺฆมชฺเฌ.

‘‘การเณหิ ปน ทฺวีหิ, สงฺโฆ ภิชฺชติ นฺถา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ‘‘ปฺจหุปาลิ, อากาเรหิ สงฺโฆ ภิชฺชติ. กตเมหิ ปฺจหิ? กมฺเมน, อุทฺเทเสน, โวหรนฺโต, อนุสฺสาวเนน, สลากคฺคาเหนา’’ติ (ปริ. ๔๕๘) วุตฺตตฺตา, อฏฺกถายฺจ (ปริ. อฏฺ. ๔๕๘) ‘‘ปฺจหิ การเณหี’’ติ วจนโต จ อิธ อิเมหิ ทฺวีเหว การเณหิ สงฺฆเภทกถนํ อยุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – นายุตฺตํ ปุพฺพปโยคการกวเสน วุตฺตตฺตา. ตถา หิ อฏฺกถายํ

‘‘กมฺเมนาติ อปโลกนาทีสุ จตูสุ กมฺเมสุ อฺตเรน กมฺเมน. อุทฺเทเสนาติ ปฺจสุ ปาติโมกฺขุทฺเทเสสุ อฺตเรน อุทฺเทเสน. โวหรนฺโตติ กถยนฺโต, ตาหิ ตาหิ อุปปตฺตีหิ ‘อธมฺมํ ธมฺโม’ติอาทีนิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ ทีเปนฺโต. อนุสฺสาวเนนาติ ‘นนุ ตุมฺเห ชานาถ มยฺหํ อุจฺจากุลา ปพฺพชิตภาวํ, พหุสฺสุตภาวฺจ, มาทิโส นาม อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ กเรยฺยาติ จิตฺเต อุปฺปาเทตุํ ตุมฺหากํ ยุตฺตํ, กึ มยฺหํ อวีจิ นีลุปฺปลวนมิว สีตโล, กิมหํ อปายโต น ภายามี’ติอาทินา นเยน กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวา อนุสฺสาวเนน. สลากคฺคาเหนาติ เอวํ อนุสฺสาเวตฺวา เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อนิวตฺติธมฺเม กตฺวา ‘คณฺหถ อิมํ สลาก’นฺติ สลากคฺคาเหน.

‘‘เอตฺถ จ กมฺมเมว, อุทฺเทโส วา ปมาณํ, โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหา ปน ปุพฺพภาคา. อฏฺารสวตฺถุทีปนวเสน หิ โวหรนฺเต ตตฺถ รุจิชนนตฺถํ อนุสฺสาเวตฺวา สลากาย คหิตายปิ อภินฺโนว โหติ สงฺโฆ. ยทา ปน เอวํ จตฺตาโร วา อติเรเก วา สลากํ คาเหตฺวา อาเวณิกํ กมฺมํ วา อุทฺเทสํ วา กโรติ, ตทา สงฺโฆ ภินฺโน นาม โหตี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๕๘) –

วุตฺตตฺตา สลากคฺคาหกมฺมานิ ทฺเว ปธานการณานีติ อิธ ตาเนว ทสฺสิตานิ.

นนุ จ สลากคฺคาโหปิ สงฺฆเภทสฺส ปุพฺพภาโค วุตฺโต, อุทฺเทสกมฺมาเนว ปธานภาเวน วุตฺตานิ, ตสฺมา กถมสฺส สลากคฺคาหสฺส ปธานการณภาโวติ? วุจฺจเต – อุทฺเทสกมฺมานิปิ สลากคฺคาเห สิทฺเธ อวสฺสมฺภวนโต อตฺถสาธนปโยเคน วินา อสิทฺธาเนว โหนฺตีติ โส ปธานภาเวน อิธ คหิโต, อุทฺเทโส ปน ปฺตฺตกมฺมปุพฺพงฺคมตฺตา กมฺเมเนว สงฺคหิโตติ อิธ วิสุํ น วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ.

๙๔๑. ปยุตฺตายุตฺตวาจายาติ ปจฺจยุปฺปาทนตฺถาย ปยุตฺตา จ สา สกฺยปุตฺติยภาวสฺส อยุตฺตา อนนุรูปา จาติ ปยุตฺตายุตฺตา, สาเยว วาจาติ ปยุตฺตายุตฺตวาจา, ตาย.

๙๔๔. ยา ภิกฺขุนี วิฺาเปตฺวา ภุฺชติ, ตสฺสา จ ปาฏิเทสนียํ สิยาติ โยชนา.

๙๔๕. อนามโยติ อคิลาโน.

๙๔๖. ‘‘ทสสตานี’’ติอาทิคาถาย รตฺตีนนฺติ เอตฺถ ‘‘สต’’นฺติ เสโส. ฉาทนกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ทสสตานิ อาปตฺติโย รตฺตีนํ สตํ ฉาเทตฺวาติ โยชนา. เอวํ กตฺตพฺพโยชนายํ –

‘‘ทส สตํ รตฺติสตํ, อาปตฺติโย ฉาทยิตฺวาน;

ทส รตฺติโย วสิตฺวาน, มุจฺเจยฺย ปาริวาสิโก’’ติ. (ปริ. ๔๗๗) –

อยํ ปริวารคาถาปมาณํ. เอกทิวสํ สตํสงฺฆาทิเสสาปตฺติโย อาปชฺชิตฺวา ทสทิวเส ฉาทนวเสน สตํทิวเส สหสฺสสงฺฆาทิเสสาปตฺติโย ฉาทยิตฺวาติ อตฺโถ. อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ – โย ทสทิวเส สตํ สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิตฺวา ทสทิวเส ปฏิจฺฉาเทติ, เตน รตฺติสตํ อาปตฺติสหสฺสํ ปฏิจฺฉาทิตํ โหตีติ. ทส รตฺติโย วสิตฺวานาติ ‘‘สพฺพาว ตา อาปตฺติโย ทสาหปฏิจฺฉนฺนา’’ติ ปริวาสํ ยาจิตฺวา ทส รตฺติโย วสิตฺวาติ อตฺโถ. มุจฺเจยฺย ปาริวาสิโกติ ปริวาสํ วสนฺโต ภิกฺขุ อตฺตนา วสิตพฺพปริวาสโต มุจฺเจยฺย, มุตฺโต ภเวยฺยาติ อตฺโถ.

๙๔๗. ปาราชิกานิ อฏฺเวาติ อคฺคหิตคฺคหเณน. เตวีส ครุกาติ ภิกฺขูหิ อสาธารณา ภิกฺขุนีนํ ทส, ภิกฺขุนีหิ อสาธารณา ภิกฺขูนํ ฉ, อุภินฺนํ สาธารณา สตฺตาติ เอวํ เตวีส สงฺฆาทิเสสา.

๙๔๘. วุตฺตานีติ ยถาวุตฺตานิ นิสฺสคฺคิยานิ. ทฺเวจตฺตาลีส โหนฺตีติ ภิกฺขุวิภงฺคาคตา ตึส, ภิกฺขูหิ อสาธารณา ภิกฺขุนีนํ อาทิโต ทฺวาทส จาติ ทฺวาจตฺตาลีส นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ. อฏฺาสีติสตํ ปาจิตฺติยา ปุพฺเพ ทสฺสิตาว.

๙๔๙. สุสิกฺเขนาติ สุฏฺุ สิกฺขิตอธิสีลาทิติวิธสิกฺเขน ภควตา.

๙๕๐. สุปฺเนาติ โสภณา ทสพลจตุเวสารชฺชฉอสาธารณาทโย ปฺา ยสฺส โส สุปฺโ, เตน. ยสสฺสินาติ อฏฺอริยปุคฺคลสมูหสงฺขาตปริวารยสา จ สพฺพโลกพฺยาปกคุณโฆสสงฺขาตกิตฺติยสา จ เตน สมนฺนาคตตฺตา ยสสฺสินา. อฑฺฒุฑฺฒานิ สตานิ ภวนฺตีติ ยถาทสฺสิตคณนาย ปิณฺฑวเสน ปฺาสาธิกานิ ตีณิ สตานิ ภวนฺตีติ อตฺโถ. สุปฺเน ยสสฺสินา โคตเมน ปฺตฺตานิ สพฺพานิ สิกฺขาปทานิ อฑฺฒุฑฺฒานิ สตานิ ภวนฺตีติ โยชนา.

๙๕๑. เอเตสุ สิกฺขาปเทสุ โย สารภูโต วินิจฺฉโย วตฺตพฺโพ, โส สกโล มยา สมาเสน สพฺพถา สพฺพากาเรน วุตฺโตติ โยชนา.

๙๕๒. อิทํ อุตฺตรํ นาม ปกรณํ.

๙๕๓. ตสฺมาติ มยา วิจาเรตฺวา วุตฺตตฺตาว. อตฺเถติ วจนตฺถภาวตฺถาทิเภเท อตฺเถ วา. อกฺขรพนฺเธ วาติ อกฺขรสงฺขาตปทพนฺเธ วา. วิฺาสสฺส กเมปิ วาติ อุทฺเทสวเสน คนฺถนิกฺเขปสฺส กเมปิ. กงฺขา น กาตพฺพาติ ‘‘ยถาอธิปฺเปตสฺส อิทํ วาจกํ นุ โข, อวาจก’’นฺติ วา ‘‘อิทมยุตฺตํ นุ โข, ยุตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิทมธิกํ นุ โข, อูน’’นฺติ วา ‘‘อิทมฆฏฺฏิตกฺกมํ นุ โข, ฆฏฺฏิตกฺกม’’นฺติ วา ‘‘อิทํ วิรุทฺธสมยํ นุ โข, อวิรุทฺธสมย’’นฺติ วา ‘‘อิทํ ทุรุตฺตํ นุ โข, สุวุตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิทํ สตฺถกํ นุ โข, นิรตฺถก’’นฺติ วา กงฺขา วิมติ เยน เกนจิ น กาตพฺพา. พหุมานตาติ ‘‘วินโย สํวรตฺถายา’’ติอาทินา (ปริ. ๓๖๖) นิทฺทิฏฺปโยชนปรมฺปราย มูลการณตฺตา มหตี สมฺมานา กาตพฺพาติ อตฺโถ.

๙๕๔. โย ภิกฺขุ สอุตฺตรํ อุตฺตรปกรเณน สหิตํ วินยสฺสวินิจฺฉยํ นาม ปกรณํ ชานาติ ธมฺมโต เจว อตฺถโต จ วินิจฺฉยโต จ สพฺพถา อวพุชฺฌติ, โส ภิกฺขุ อตฺตนา สิกฺขิตพฺพาย สิกฺขาย สพฺพโส วิฺาตตฺตา สิกฺขาปเกน อาจริเยน วินาปิ สิกฺขิตุํ สมตฺโถติ. นิสฺสยํ วิมุฺจิตฺวาติ อาจริยุปชฺฌาเย นิสฺสาย วาสํ มุฺจิตฺวา. ยถากามงฺคโต สิยาติ ยาทิสา ยาทิสา อตฺตนา คามิตา, ตตฺถ ตตฺถ คมนารโห ภเวยฺยาติ อตฺโถ.

๙๕๕. นิสฺสยํ ทาตุกาเมน. สห วิภงฺเคน สวิภงฺคํ. สห มาติกาย สมาติกํ. อิทํ สอุตฺตรํ วินยวินิจฺฉยปกรณํ สุฏฺุ วาจุคฺคตํ กตฺวา คนฺถโต สุฏฺุ ปคุณํ วาจุคฺคตํ กตฺวา อตฺถโต, วินิจฺฉยโต จ สมฺมา ชานิตฺวา เอวํ ทาตพฺพนฺติ โยชนา.

๙๕๖-๗. โย ภิกฺขุ อิมํ สอุตฺตรํ วินยวินิจฺฉยปกรณํ วาจาย ปติ, มนสา จินฺเตติ, อฺเหิ วุจฺจมานํ สุณาติ, อตฺถํ ปริปุจฺฉติ, ปรํ วาเจติ, นิจฺจํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ ยถาปริปุจฺฉิตมตฺถํ เหตุอุทาหรณปวตฺติวเสน อุปคนฺตฺวา สมนฺตโต อิกฺขติ ปฺาย นิยเมติ ววตฺถเปติ, ตสฺส ปน ภิกฺขุสฺส วินยนิสฺสิตา สพฺเพว อตฺถา อาปตฺตานาปตฺติกปฺปิยากปฺปิยาทิปเภทา สพฺเพ อตฺถา หตฺเถ อามลกํ วิย กรตเล อมลมณิรตนํ วิย อุปฏฺหนฺติ ปากฏา ภวนฺตีติ โยชนา. นตฺถิ เอตสฺส มลนฺติ อมลํ, อมลเมว อามลกนฺติ มณิรตนํ วุจฺจติ.

๙๕๘. นตฺถิ เอเตสํ พุทฺธีติ อพุทฺธี, อพุทฺธี จ เต ชนา จาติ อพุทฺธิชนา, อพุทฺธิชนานํ สารํ อวสารํ โอสีทนํ ททาติ อาททาติ กโรตีติ อพุทฺธิชนสารทํ, พุทฺธิวิรหิตานํ อคาธํ คมฺภีรํ. เตหิ อลทฺธปติฏฺํ อมตสาครํ สทฺทตฺถรสามตสฺส, นิพฺพานามตสฺส วา ปฏิลาภการณตฺตา สาครสทิสํ ปรมํ อุตฺตมํ อิมํ อุตฺตรํ สาครํ อาสนฺนปจฺจกฺขํ อุตฺตรปกรณสงฺขาตํ สมุทฺทสาครํ สารโท หุตฺวา อุตฺตรํ อุตฺตรนฺโต ปริโยสาเปนฺโต นโร ภิกฺขุ หิ ยสฺมา วินยปารโค วินยปิฏกสฺส ปริยนฺตํ คโต หุตฺวา ปารโค ปารํ สํสารสฺส ปารสงฺขาตํ นิพฺพานํ คจฺฉนฺโต สิยา ภเวยฺยาติ โยชนา.

๙๕๙. อโตติ ตสฺมาเทว การณา อวปูรโตรโต ปาปปูรโต นิราสงฺกตาย โอรโต นิวตฺโต ปาปภีรุโก นโร ตมํ วิธูย ปาปภีรุกตาย เอว จิตฺตปริยุฏฺานวเสน อุปฺปชฺชนกํ โมหนฺธการํ ตทงฺคปหานวเสน วิธเมตฺวา. สพฺพงฺคณกมฺมทํ สพฺเพสํ ราคาทีนํ องฺคณานํ กมฺมํ ตทงฺคาทิปหานํ ททาติ อาวหตีติ ‘‘สพฺพงฺคณกมฺมท’’นฺติ ลทฺธนามํ สุขสฺส ปทํ โลกิยโลกุตฺตรสฺส สุขสฺส การณํ คุณสํหิตํ สีลาทีหิ อตฺถภูเตหิ คุเณหิ สํหิตํ ยุตฺตํ คุณปฺปกาสกํ หิตํ อมโตสธํ วิย สพฺพโทสสพฺพพฺยาธิรหิตตาย อชราอมตาทิคุณาวหตฺตา หิตํ อิมํ อุตฺตรํ นาม ปกรณํ สกฺกจฺจํ อาทโร หุตฺวา นิจฺจํ สตตํ สิกฺเข ‘‘เอวํ ปริจยนฺตํ กโรมี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกนฺเตน ยถาวุตฺตปโยชนสาธนโยคฺคํ กตฺวา อชฺเฌนาทิวเสน สิกฺเขยฺย เอว, น อชฺฌุเปกฺขโก ภเวยฺยาติ โยชนา.

๙๖๐. ปฏุภาวกเร ปาติโมกฺขสํวรสีลปูรเณ, สาสนปจฺจตฺถิกาภิภวเน จ ปฏุภาวํ เฉกตฺตํ เวสารชฺชํ กโรติ อตฺตานํ ธาเรนฺตานํ ลชฺชิปุคฺคลานนฺติ ปฏุภาวกเร ปรเม ตโตเยว อุตฺตเม ปิฏเก วินยปิฏเก ปฏุตํ ปาฏวํ ปฺาโกสลฺลํ อภิปตฺถยนฺเตน ปฏุนา ยตินา นิมฺมลปฺปวตฺติเกน ปฏุนา วิธินา เฉเกน สาเรน วิธาเนน อิทํ สอุตฺตรํ วินยวินิจฺฉยปกรณํ สตตํ นิรนฺตรํ ปริยาปุณิตพฺพํ อุคฺคหณธารณปริปุจฺฉาจินฺตนาทิวเสน สิกฺขิตพฺพนฺติ โยชนา.

อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา

สพฺพสงฺกลนนยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนกถาวณฺณนา

๙๖๑-๓. มเหสิโน ติวิธสฺสาปิ สาสนสฺส สุจิรฏฺิติกาเมน อติจิรกาลปฺปวตฺตึ อิจฺฉนฺเตน ธีมตา ปสตฺถตราเณน สุทฺธจิตฺเตน ลาภสกฺการนิรเปกฺขตาย ปริสุทฺธชฺฌาสเยน พุทฺธทตฺเตน พุทฺธทตฺตาภิธาเนน อาจริยวเรน รจิโต.

ปชฺชวเสน คนฺถโต, อตฺถโต เจว ปรมุตฺตโร อุตฺตโร วินิจฺฉโย อนฺตรายํ อนฺตเรน อชฺฌตฺติกํ, พาหิรํ วา อนฺตรายํ วินา ยถา สิทฺธึ อุปาคโต ปรินิฏฺานํ ปตฺโต, ตถา สตฺตานํ ธมฺมสํยุตา กุสลูปสํหิตา สงฺกปฺปา มโนรถา สิชฺฌนฺตุ อนฺตรายํ วินา นิปฺปชฺชนฺตุ, เอเตน อุตฺตรวินิจฺฉยรจนามเยน มหตา ปุฺโทเยน จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ชนํ รฺเชตีติ ‘‘ราชา’’ติ สงฺขํ คโต มหีปาโล มหึ ปถวิสนฺนิสฺสิตํ ชนกายํ สมฺมา าเยน ทส ราชธมฺเม อโกเปนฺโต ปาเลตุ. เทโว ปชฺชุนฺโน กาเล ถาวรชงฺคมานํ อุปโยคารหกาเล สมฺมา ปวสฺสตุ อวุฏฺิอติวุฏฺิกํ อกตฺวา สมฺมา ปวจฺฉตุ.

๙๖๔. เสลินฺโท สิเนรุปพฺพตราชา ยาว ติฏฺติ ยาว โลเก ปวตฺตติ, จนฺโท สกลชนปทนยนสายโน ยาว วิโรจติ ยาว อตฺตโน สภาวํ โชเตติ, ตาว ยสสฺสิโน โคตมสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สทฺธมฺโม ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธวเสน ติวิโธ สทฺธมฺโม ติฏฺตุ ปวตฺตตุ.

๙๖๕. สีหาทีนํ, ทาหาทีนฺจ พาหิรชฺฌตฺติกานํ ปริสฺสยานํ ขมนํ สหนํ อภิภวิตฺวา ปวตฺตนํ ขนฺติ. โสรจฺจนฺติ โสภเน รโตติ สุรโต, สุรตสฺส ภาโว โสรจฺจํ. สุนฺทรํ อขณฺฑตาทิคุณสมนฺนาคตํ สีลํ อสฺสาติ สุสีโล. สุสีลสฺส ภาโว.

นิคมนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุตฺตรวินิจฺฉยฏีกา นิฏฺิตา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนี นาม วินยวินิจฺฉยวณฺณนา,

ลีนตฺถปกาสนี นาม อุตฺตรวินิจฺฉยวณฺณนา จ

สมตฺตา.

ปจฺฉา ปิตคาถาโย

เถเรน ถิรจิตฺเตน, สาสนุชฺโชตนตฺถินา;

ปุฺวา าณวา สีลี, สุหชฺโช มุทุโก ตถา.

โย สีหฬาริมทฺเทสุ, จนฺทิมา สูริโย วิย;

ปากโฏ สีวลิตฺเถโร, มหาเตโช มหายโส.

เตน นีตา สีหฬา ยา, อิธ ปตฺตา สุธีมตา;

เอสา สํวณฺณนา สีห-ฬกฺขเรน สุลิกฺขิตา.

เรวโต อิติ นาเมน, เถเรน ถิรเจตสา;

อริมทฺทิเก รกฺขนฺเตน, ปริวตฺเตตฺวาน สาธุกํ.

ลิขาปิตา หิตตฺถาย, ภิกฺขูนํ อริมทฺทิเก;

เอสา สํวณฺณนา สุฏฺุ, สนฺนิฏฺานมุปาคตา;

ตเถว สพฺพสตฺตานํ, สพฺพตฺโถ จ สมิชฺฌตูติ.