📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา
ขุทฺทสิกฺขา
คนฺถารมฺภกถา
(ก)
อาทิโต ¶ ¶ อุปสมฺปนฺน-สิกฺขิตพฺพํ สมาติกํ;
ขุทฺทสิกฺขํ ปวกฺขามิ, วนฺทิตฺวา รตนตฺตยํ.
ตตฺรายํ มาติกา –
(ข)
ปาราชิกา จ จตฺตาโร, ครุกา นว จีวรํ;
รชนานิ จ ปตฺโต จ, ถาลกา จ ปวารณา.
(ค)
กาลิกา ¶ จ ปฏิคฺคาโห, มํเสสุ จ อกปฺปิยํ;
นิสฺสคฺคิยานิ ปาจิตฺติ, สมณกปฺป ภูมิโย.
(ฆ)
อุปชฺฌาจริยวตฺตานิ, วจฺจปฺปสฺสาวานิกํ;
อาปุจฺฉกรณํ นคฺโค, นฺหานกปฺโป อวนฺทิโย.
(ง)
จมฺมํ อุปาหนา เจว, อโนโลกิยมฺชนี;
อกปฺปิยสยนานิ, สมานาสนิโกปิ จ.
(จ)
อสํวาสิโก จ กมฺมํ, มิจฺฉาชีววิวชฺชนา;
วตฺตํ วิกปฺปนา เจว, นิสฺสโย กายพนฺธนํ.
(ฉ)
ปถวี ¶ จ ปริกฺขาโร, เภสชฺชุคฺคหทูสนํ;
วสฺสูปนายิกา เจวาเวภงฺคิยํ ปกิณฺณกํ.
(ช)
เทสนา ฉนฺททานาทิ, อุโปสถปฺปวารณา;
สํวโร สุทฺธิ สนฺโตโส, จตุรกฺขา วิปสฺสนาติ.
๑. ปาราชิกนิทฺเทโส
ปาราชิกา จ จตฺตาโรติ –
มคฺคตฺตเย อนิกฺขิตฺตสิกฺโข สนฺถตสนฺถเต;
อลฺโลกาเส นิมิตฺตํ สํ, ติลมตฺตมฺปิ สนฺถตํ.
อสนฺถตมุปาทิณฺณํ, ปเวสนฺโต จุโตถ วา;
ปเวสนฏฺิตุทฺธารปวิฏฺกฺขณสาทโก.
อาทิเยยฺย ¶ หเรยฺยาวหเรยฺย อิริยาปถํ;
โกเปยฺย านา จาเวยฺย, สงฺเกตํ วีตินามเย.
อทินฺนํ เถยฺยจิตฺเตน, ภเว ปาราชิโกถ วา;
เถยฺยาพลกุสจฺฉนฺนปริกปฺปาวหารโก;
ภณฺฑกาลคฺฆเทเสหิ, ปริโภเคตฺถ นิจฺฉโย.
มนุสฺสวิคฺคหํ จิจฺจ, ชีวิตา วา วิโยชเย;
สตฺถหารกํ วาสฺส มรณเจตโน อุปนิกฺขิเป.
คาเหยฺย มรณูปายํ, วเทยฺย มรเณ คุณํ;
จุโต ปโยคา สาหตฺถินิสฺสคฺคาณตฺติถาวรา.
อิทฺธิวิชฺชามยา กาลวตฺถาวุธิริยาปถา;
กฺริยาวิเสโส โอกาโส, ฉ อาณตฺตินิยามกา.
ฌานาทิเภท โนสนฺตมตฺตนตฺตุปนายิกํ;
กตฺวา โกฏฺาสเมเกกํ, ปจฺจุปฺปนฺนภวสฺสิตํ.
อฺาปเทสรหิตํ ¶ , ทีเปนฺโตนธิมานิโก;
กาเยน วาจา วิฺตฺติ-ปเถ าเต จุโต ภเว.
ปาราชิเกเต จตฺตาโร, อสํวาสา ยถา ปุเร;
อภพฺพา ภิกฺขุภาวาย, สีสจฺฉินฺโนว ชีวิตุํ.
ปริยาโย จ อาณตฺติ, ตติเย ทุติเย ปน;
อาณตฺติเยว เสเสสุ, ทฺวยเมตํ น ลพฺภติ.
เสเวตุกามตาจิตฺตํ ¶ , มคฺเค มคฺคปฺปเวสนํ;
อิมํ เมถุนธมฺมสฺส, อาหุ องฺคทฺวยํ พุธา.
มนุสฺสสํ ตถาสฺี, เถยฺยจิตฺตฺจ วตฺถุโน;
ครุตา อวหาโร จ, อทินฺนาทานเหตุโย.
ปาโณ มานุสฺสโก ปาณ-สฺิตา ฆาตเจตนา;
ปโยโค เตน มรณํ, ปฺเจเต วธเหตุโย.
อสนฺตตา อตฺตนิ ปาปมิจฺฉตา-
ยาโรจนา ตสฺส มนุสฺสชาติตา;
นาฺาปเทโส จ ตเทว ชานนํ,
ปฺเจตฺถ องฺคานิ อสนฺตทีปเน.
อสาธารณา จตฺตาโร, ภิกฺขุนีนมภพฺพกา;
เอกาทส จ วิพฺภนฺตา, ภิกฺขุนี มุทุปิฏฺิโก.
ลมฺพี มุเขน คณฺหนฺโต, องฺคชาตํ ปรสฺส จ;
ตตฺเถวาภินิสีทนฺโต, จตฺตาโร อนุโลมิกา.
มคฺเค มคฺคปฺปเวสนา, เมถุนสฺส อิธาคตา;
จตฺตาโรติ จตุพฺพีส, สโมธานา ปราชิกาติ.
๒. สงฺฆาทิเสสนิทฺเทโส
ครุกา ¶ นวาติ –
โมเจตุกามตา สุกฺก-สฺสุปกฺกมฺม วิโมจยํ;
อฺตฺร สุปินนฺเตน, สมโณ ครุกํ ผุเส.
อิตฺถิสฺี ¶ มนุสฺสิตฺถึ, กายสํสคฺคราควา;
สมฺผุสนฺโต อุปกฺกมฺม, สมโณ ครุกํ ผุเส.
ตถา สุณนฺตึ วิฺฺุจ, มคฺคํ วารพฺภ เมถุนํ;
ทุฏฺุลฺลวาจาราเคน, โอภาเสตฺวา ครุํ ผุเส.
วตฺวาตฺตกามุปฏฺาน-วณฺณํ เมถุนราคิโน;
วาจา เมถุนยุตฺเตน, ครุํ เมถุนยาจเน.
ปฏิคฺคเหตฺวา สนฺเทสํ, อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา;
วีมํสิตฺวา หรํ ปจฺจา, สมโณ ครุกํ ผุเส.
สํยาจิตปริกฺขารํ, กตฺวาเทสิตวตฺถุกํ;
กุฏึ ปมาณาติกฺกนฺตํ, อตฺตุทฺเทสํ ครุํ ผุเส.
มหลฺลกํ วิหารํ วา, กตฺวาเทสิตวตฺถุกํ;
อตฺตโน วสนตฺถาย, สมโณ ครุกํ ผุเส.
อมูลเกน โจเทนฺโต, โจทาเปนฺโตว วตฺถุนา;
อนฺติเมน จ จาเวตุํ, สุณมานํ ครุํ ผุเส.
อฺสฺส กิริยํ ทิสฺวา, เตน เลเสน โจทยํ;
วตฺถุนา อนฺติเมนาฺํ, จาเวตุํ ครุกํ ผุเส.
ฉาเทติ ชานมาปนฺนํ, ปริวเสยฺย ตาวตา;
จเรยฺย สงฺเฆ มานตฺตํ, ปริวุตฺโถ ฉ รตฺติโย.
จิณฺณมานตฺตมพฺเภยฺย, ตํ สงฺโฆ วีสตีคโณ.
ปหุตฺตตาโย ตถสฺิตา จ;
ฉาเทตุกาโม อถ ฉาทนาติ,
ฉนฺนา ทสงฺเคหฺยรุณุคฺคมมฺหีติ.
๓. จีวรนิทฺเทโส
จีวรนฺติ –
โขมโกเสยฺยกปฺปาส-สาณภงฺคานิ กมฺพลํ;
กปฺปิยานิ ฉเฬตานิ, สานุโลมานิ ชาติโต.
ทุกูลฺเจว ปฏฺฏุณฺณ-ปฏํ โสมารจีนชํ;
อิทฺธิชํ เทวทินฺนฺจ, ตสฺส ตสฺสานุโลมิกํ.
ติจีวรํ ปริกฺขาร-โจฬํ วสฺสิกสาฏิกํ;
อธิฏฺเ น วิกปฺเปยฺย, มุขปฺุฉนนิสีทนํ.
ปจฺจตฺถรณกํ กณฺฑุ-จฺฉาทิเมตฺถ ติจีวรํ;
น วเสยฺย วิเนกาหํ, จาตุมาสํ นิสีทนํ.
‘‘อิมํ สงฺฆาฏึธิฏฺามิ’’, สงฺฆาฏิมิจฺจธิฏฺเย;
อหตฺถปาสเมตนฺติ, เสเสสุปิ อยํ นโย.
อธิฏฺหนฺโต สงฺฆาฏิ-ปฺปภุตึ ปุพฺพจีวรํ;
ปจฺจุทฺธริตฺวาธิฏฺเยฺย, ปตฺตาธิฏฺหเน ตถา.
เอตํ ¶ อิมํ ว สงฺฆาฏึ, สํเส ปจฺจุทฺธรามิติ;
เอวํ สพฺพานิ นาเมน, วตฺวา ปจฺจุทฺธเร วิทู.
สงฺฆาฏิ ปจฺฉิมนฺเตน, ทีฆโส มุฏฺิปฺจโก;
อุตฺตมนฺเตน สุคต-จีวรูนาปิ วฏฺฏติ.
มุฏฺิตฺติกฺจ ติริยํ, ตถา เอกํสิกสฺสปิ;
อนฺตรวาสโก จาปิ, ทีฆโส มุฏฺิปฺจโก;
อฑฺฒเตยฺโย ทฺวิหตฺโถ วา, ติริยนฺเตน วฏฺฏติ.
นิสีทนสฺส ¶ ทีเฆน, วิทตฺถิ ทฺเว วิสาลโต;
ทิยฑฺฒํ ทสา วิทตฺถิ, สุคตสฺส วิทตฺถิยา.
กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิกสฺส, ติริยํ ทฺเว วิทตฺถิโย;
ทีฆนฺตโต จตสฺโสว, สุคตสฺส วิทตฺถิยา.
วสฺสิกสาฏิกายาปิ, ทีฆโส ฉ วิทตฺถิโย;
ติริยํ อฑฺฒเตยฺยาว, สุคตสฺส วิทตฺถิยา.
เอตฺถ เฉทนปาจิตฺติ, กโรนฺตสฺส ตทุตฺตริ;
ปจฺจตฺถรณ มุขโจฬา, อากงฺขิตปฺปมาณิกา.
ปริกฺขารโจเฬ คณนา, ปมาณํ วา น ทีปิตํ;
ตถา วตฺวา อธิฏฺเยฺย, ถวิกาทึ วิกปฺปิยํ.
อหตาหตกปฺปานํ, สงฺฆาฏิ ทิคุณา สิยา;
เอกจฺจิโยตฺตราสงฺโค, ตถา อนฺตรวาสโก.
อุตุทฺธฏาน ¶ ทุสฺสานํ, สงฺฆาฏิ จ จตุคฺคุณา;
ภเวยฺยุํ ทิคุณา เสสา, ปํสุกูเล ยถารุจิ.
ตีสุ ทฺเว วาปิ เอกํ วา, ฉินฺทิตพฺพํ ปโหติ ยํ;
สพฺเพสุ อปฺปโหนฺเตสุ, อนฺวาธิมาทิเยยฺย วา;
อจฺฉินฺนฺจ อนาทิณฺณํ, น ธาเรยฺย ติจีวรํ.
คาเม นิเวสเน อุทฺโท-สิตปาสาทหมฺมิเย;
นาวาฏฺฏมาฬอาราเม, สตฺถเขตฺตขเล ทุเม.
อชฺโฌกาเส วิหาเร วา, นิกฺขิปิตฺวา ติจีวรํ;
ภิกฺขุสมฺมุติยาฺตฺร, วิปฺปวตฺถุํ น วฏฺฏติ.
โรควสฺสานปริยนฺตา, กณฺฑุจฺฉาทิกสาฏิกา;
ตโต ปรํ วิกปฺเปยฺย, เสสา อปริยนฺติกา.
ปจฺจตฺถรณ ¶ ปริกฺขาร-มุขปฺุฉนโจฬกํ;
ทสํ ปฺยรตฺตนาทิณฺณกปฺปํ ลพฺภํ นิสีทนํ.
อทสํ รชิตํเยว, เสสจีวรปฺจกํ;
กปฺปตาทิณฺณกปฺปํว, สทสํว นิสีทนํ.
อนธิฏฺิตนิสฺสฏฺํ, กปฺเปตฺวา ปริภฺุชเย;
หตฺถทีฆํ ตโตปฑฺฒ-วิตฺถารฺจ วิกปฺปิยํ.
ติจีวรสฺส ภิกฺขุสฺส, สพฺพเมตํ ปกาสิตํ;
ปริกฺขารโจฬิโย สพฺพํ, ตถา วตฺวา อธิฏฺติ.
อจฺเฉทวิสฺสชฺชนคาหวิพฺภมา ¶ ,
ปจฺจุทฺธโร มารณลิงฺคสิกฺขา;
สพฺเพสฺวธิฏฺานวิโยคการณา,
วินิวิทฺธฉิทฺทฺจ ติจีวรสฺส.
กุสวากผลกานิ, กมฺพลํ เกสวาลชํ;
ถุลฺลจฺจยํ ธารยโตลูกปกฺขาชินกฺขิเป.
กทเลรกกฺกทุสฺเส, โปตฺถเก จาปิ ทุกฺกฏํ;
สพฺพนีลกมฺเชฏฺ-ปีตโลหิตกณฺหเก.
มหารงฺคมหานาม-รงฺครตฺเต ติรีฏเก;
อจฺฉินฺนทีฆทสเก, ผลปุปฺผทเส ตถา;
กฺจุเก เวเน สพฺพํ, ลภติจฺฉินฺนจีวโรติ.
๔. รชนนิทฺเทโส
รชนานิ จาติ –
มูลกฺขนฺธตจปตฺต-ผลปุปฺผปฺปเภทโต;
รชนา ฉปฺปการานิ, อนฺุาตานิ สตฺถุนา.
มูเล ¶ หลิทฺทึ ขนฺเธ จ, มฺเชฏฺ ตุงฺคหารเก;
อลฺลึ นีลฺจ ปตฺเตสุ, ตเจ โลทฺทฺจ กณฺฑุลํ;
กุสุมฺภํ กึสุกํ ปุปฺเผ, สพฺพํ ลพฺภํ วิวชฺชิยาติ.
๕. ปตฺตนิทฺเทโส
ปตฺโต ¶ จาติ –
อโยปตฺโต ภูมิปตฺโต, ชาติยา กปฺปิยา ทุเว;
อุกฺกฏฺโ มชฺฌิโม เจว, โอมโก จ ปมาณโต.
อุกฺกฏฺโ มคเธ นาฬิ-ทฺวยตณฺฑุลสาธิตํ;
คณฺหาติ โอทนํ สูปํ, พฺยฺชนฺจ ตทูปิยํ.
มชฺฌิโม ตสฺสุปฑฺโฒว, ตโตปฑฺโฒว โอมโก;
อุกฺกฏฺโต จ อุกฺกฏฺโ, อปตฺโต โอมโกมโก.
อติเรกปตฺโต ธาเรยฺโย, ทสาหปรมํ สโก;
กปฺโป นิสฺสคฺคิโย โหติ, ตสฺมึ กาเลตินามิเต.
อจฺเฉททานคาเหหิ, วิพฺภมา มรณุทฺธฏา;
ลิงฺคสิกฺขาหิ ฉิทฺเทน, ปตฺตาธิฏฺานมุชฺฌติ.
ปตฺตํ น ปฏิสาเมยฺย, โสทกํ น จ โอตเป;
อุณฺเห น นิทเห ภุมฺยา, น เป โน จ ลคฺคเย.
มิฑฺฒนฺเต ปริภณฺฑนฺเต, องฺเก วา อาตปตฺตเก;
ปาเทสุ มฺจปีเ วา, เปตุํ น จ กปฺปติ.
น นีหเรยฺย อุจฺฉิฏฺโ-ทกฺจ จลกฏฺิกํ;
ปตฺเตน ปตฺตหตฺโถ วา, กวาฏํ น ปณามเย.
ภูมิอาธารเก ¶ ทารุทณฺฑาธาเร สุสชฺชิเต;
ทุเว ปตฺเต เปยฺเยกํ, นิกฺกุชฺชิตฺวาน ภูมิยํ.
ทารุรูปิยโสวณฺณ-มณิเวฬุริยามยา ¶ ;
กํสกาจติปุสีสผลิกาตมฺพโลหชา.
ฉวสีสมโย จาปิ, ฆฏีตุมฺพกฏาหชา;
ปตฺตา อกปฺปิยา สพฺเพ, วุตฺตา ทุกฺกฏวตฺถุกาติ.
๖. ถาลกนิทฺเทโส
ถาลกา จาติ –
กปฺปิยา ถาลกา ติสฺโส, ตมฺพาโยมตฺติกามยา;
ทารุโสวณฺณรชตมณิเวฬุริยามยา.
อกปฺปา ผลิกากาจกํสชา คิหิสนฺตกา;
สงฺฆิกา กปฺปิยา ตุมฺพฆฏิชา ตาวกาลิกาติ.
๗. ปวารณานิทฺเทโส
ปวารณาติ –
เยนีริยาปเถนายํ, ภฺุชมาโน ปวาริโต;
ตโต อฺเน ภฺุเชยฺย, ปาจิตฺตินติริตฺตกํ.
อสนํ โภชนฺเจว, อภิหาโร สมีปตา;
กายวาจาปฏิกฺเขโป, ปฺจองฺคา ปวารณา.
โอทโน ¶ สตฺตุ กุมฺมาโส, มจฺโฉ มํสฺจ โภชนํ;
สาลิ วีหิ ยโว กงฺคุ, กุทฺรูสวรโคธุมา;
สตฺตนฺนเมสํ ธฺานํ, โอทโน โภชฺชยาคุ จ.
สามากาทิติณํ กุทฺรูสเก วรกโจรโก;
วรเก สาลิยฺเจว, นีวาโร สงฺคหํ คโต.
ภฏฺธฺมโย สตฺตุ, กุมฺมาโส ยวสมฺภโว;
มํโส จ กปฺปิโย วุตฺโต, มจฺโฉ อุทกสมฺภโว.
ภฺุชนฺโต ¶ โภชนํ กปฺป-มกปฺปํ วา นิเสธยํ;
ปวาเรยฺยาภิหฏํ กปฺปํ, ตนฺนาเมน อิมนฺติ วา.
ลาชา ตํสตฺตุภตฺตานิ, โครโส สุทฺธขชฺชโก;
ตณฺฑุลา ภฏฺปิฏฺฺจ, ปุถุกา เวฬุอาทินํ.
ภตฺตํ วุตฺตาวเสสานํ, รสยาคุ รโสปิ จ;
สุทฺธยาคุผลาทีนิ, น ชเนนฺติ ปวารณํ.
ปวาริเตน วุฏฺาย, อภุตฺเตน จ โภชนํ;
อติริตฺตํ น กาตพฺพํ, เยน ยํ วา ปุเร กตํ.
กปฺปิยํ คหิตฺเจวุ-จฺจาริตํ หตฺถปาสคํ;
อติริตฺตํ กโรนฺเตวํ, ‘‘อลเมต’’นฺติ ภาสตุ.
น กเรนุปสมฺปนฺน-หตฺถคํ เปสยิตฺวาปิ;
กาเรตุํ ลพฺภเต สพฺโพ, ภฺุชิตุํ ตมการโกติ.
๘. กาลิกนิทฺเทโส
กาลิกา ¶ จาติ –
ปฏิคฺคหิตา จตฺตาโร, กาลิกา ยาวกาลิกํ;
ยามกาลิกํ สตฺตาห-กาลิกํ ยาวชีวิกํ.
ปิฏฺํ มูลํ ผลํ ขชฺชํ, โครโส ธฺโภชนํ;
ยาคุสูปปฺปภุตโย, โหนฺเตเต ยาวกาลิกา.
มธุมุทฺทิกสาลูก-โจจโมจมฺพชมฺพุชํ;
ผารุสํ นคฺคิสนฺตตฺตํ, ปานกํ ยามกาลิกํ.
สานุโลมานิ ธฺานิ, เปตฺวา ผลโช รโส;
มธูกปุปฺผมฺตฺร, สพฺโพ ปุปฺผรโสปิ จ.
สพฺพปตฺตรโส เจว, เปตฺวา ปกฺกฑากชํ;
สีโตทมทฺทิโตทิจฺจ-ปาโก วา ยามกาลิโก.
สปฺปิโนนีตเตลานิ ¶ , มธุผาณิตเมว จ;
สตฺตาหกาลิกา สปฺปิ, เยสํ มํสมวาริตํ.
เตลํ ติลวเสรณฺฑ-มธุสาสปสมฺภวํ;
ขุทฺทาภมรมธุกริ-มกฺขิกาหิ กตํ มธุ;
รสาทิอุจฺฉุวิกติ, ปกฺกาปกฺกา จ ผาณิตํ.
สวตฺถุปกฺกา สามํ วา, วสา กาเล อมานุสา;
อฺเสํ น ปเจ วตฺถุํ, ยาวกาลิกวตฺถุนํ.
หลิทฺทึ ¶ สิงฺคิเวรฺจ, วจตฺตํ ลสุณํ วจา;
อุสีรํ ภทฺทมุตฺตฺจาติวิสา กฏุโรหิณี;
ปฺจมูลาทิกฺจาปิ, มูลํ ตํ ยาวชีวิกํ.
พิฬงฺคํ มริจํ โคฏฺ-ผลํ ปิปฺผลิ ราชิกา;
ติผเลรณฺฑกาทีนํ, ผลํ ตํ ยาวชีวิกํ.
กปฺปาสนิมฺพกุฏชปโฏลสุลสาทินํ;
สูเปยฺยปณฺณํ วชฺเชตฺวา, ปณฺณํ ตํ ยาวชีวิกํ.
เปตฺวา อุจฺฉุนิยฺยาสํ,
สรสํ อุจฺฉุชํ ตจํ;
นิยฺยาโส จ ตโจ สพฺโพ,
โลณํ โลหํ สิลา ตถา.
สุทฺธสิตฺถฺจ เสวาโล, ยฺจ กิฺจิ สุฌาปิตํ;
วิกฏาทิปฺปเภทฺจ, าตพฺพํ ยาวชีวิกํ.
มูลํ สารํ ตโจ เผคฺคุ, ปณฺณํ ปุปฺผํ ผลํ ลตา;
อาหารตฺถ มสาเธนฺตํ, สพฺพํ ตํ ยาวชีวิกํ.
สพฺพกาลิกสมฺโภโค, กาเล สพฺพสฺส กปฺปติ;
สติ ปจฺจเย วิกาเล, กปฺปเต กาลิกตฺตยํ.
กาลยามมติกฺกนฺตา ¶ , ปาจิตฺตึ ชนยนฺตุโภ;
ชนยนฺติ อุโภเปเต, อนฺโตวุตฺถฺจ สนฺนิธึ.
สตฺตาหกาลิเก ¶ สตฺต, อหานิ อตินามิเต;
ปาจิตฺติ ปาฬินารุฬฺเห, สปฺปิอาทิมฺหิ ทุกฺกฏํ.
นิสฺสฏฺลทฺธํ มกฺเขยฺย, นงฺคํ นชฺโฌหเรยฺย จ;
วิกปฺเปนฺตสฺส สตฺตาเห, สามเณรสฺสธิฏฺโต;
มกฺขนาทิฺจ นาปตฺติ, อฺสฺส ททโตปิ จ.
ยาวกาลิกอาทีนิ, สํสฏฺานิ สหตฺตนา;
คาหาปยนฺติ สพฺภาวํ, ตสฺมา เอวมุทีริตํ.
ปุเร ปฏิคฺคหิตฺจ, สตฺตาหํ ยาวชีวิกํ;
เสสกาลิกสมฺมิสฺสํ, ปาจิตฺติ ปริภฺุชโต.
ยาวกาลิกสมฺมิสฺสํ, อิตรํ กาลิกตฺตยํ;
ปฏิคฺคหิตํ ตทหุ, ตทเหว จ ภฺุชเย.
ยามกาลิกสมฺมิสฺสํ, เสสเมวํ วิชานิยํ;
สตฺตาหกาลิกมิสฺสฺจ, สตฺตาหํ กปฺปเตตรนฺติ.
๙. ปฏิคฺคาหนิทฺเทโส
ปฏิคฺคาโหติ –
ทาตุกามาภิหาโร จ, หตฺถปาเสรณกฺขมํ;
ติธา เทนฺเต ทฺวิธา คาโห, ปฺจงฺเควํ ปฏิคฺคโห.
อสํหาริเย ตตฺถชาเต, สุขุเม จิฺจอาทินํ;
ปณฺเณ วาสยฺหภาเร จ, ปฏิคฺคาโห น รูหติ.
สิกฺขามรณลิงฺเคหิ, อนเปกฺขวิสคฺคโต;
อจฺเฉทานุปสมฺปนฺน-ทานา คาโหปสมฺมติ.
อปฺปฏิคฺคหิตํ ¶ ¶ สพฺพํ, ปาจิตฺติ ปริภฺุชโต;
สุทฺธฺจ นาติพหลํ, กปฺปเต อุทกํ ตถา.
องฺคลคฺคมวิจฺฉินฺนํ, ทนฺตกฺขิกณฺณคูถกํ;
โลณสฺสุเขฬสิงฺฆาณิ-เสมฺหมุตฺตกรีสกํ.
คูถมตฺติกมุตฺตานิ, ฉาริกฺจ ตถาวิเธ;
สามํ คเหตฺวา เสเวยฺย, อสนฺเต กปฺปการเก.
ทุรูปจิณฺเณ รโชกิณฺเณ, อถุคฺคหปฺปฏิคฺคเห;
อนฺโตวุตฺเถ สยํปกฺเก, อนฺโตปกฺเก จ ทุกฺกฏนฺติ.
๑๐. อกปฺปิยมํสนิทฺเทโส
มํเสสุ จ อกปฺปิยนฺติ –
มนุสฺสหตฺถิอสฺสานํ, มํสํ สุนขทีปินํ;
สีหพฺยคฺฆตรจฺฉานํ, อจฺฉสฺส อุรคสฺส จ.
อุทฺทิสฺสกตมํสฺจ, ยฺจ อปฺปฏิเวกฺขิตํ;
ถุลฺลจฺจยํ มนุสฺสานํ, มํเส เสเสสุ ทุกฺกฏํ.
อฏฺีปิ โลหิตํ จมฺมํ, โลมเมสํ น กปฺปติ;
สจิตฺตกํว อุทฺทิสฺส-กตํ เสสา อจิตฺตกาติ.
๑๑. นิสฺสคฺคิยนิทฺเทโส
นิสฺสคฺคิยานีติ ¶ –
อรูปิยํ รูปิเยน, รูปิยํ อิตเรน จ;
รูปิยํ ปริวตฺเตยฺย, นิสฺสคฺคิ อิธ รูปิยํ.
กหาปโณ สชฺฌุ สิงฺคี, โวหารูปคมาสกํ;
วตฺถมุตฺตาทิ อิตรํ, กปฺปํ ทุกฺกฏวตฺถุ จ.
‘‘อิมํ ¶ คเหตฺวา ภุตฺวา วา, อิมํ เทหิ กรานย;
เทมิ วา’’ติ สมาปนฺเน, นิสฺสคฺคิ กยวิกฺกเย.
อตฺตโน อฺโต ลาภํ, สงฺฆสฺสฺสฺส วา นตํ;
ปริณาเมยฺย นิสฺสคฺคิ, ปาจิตฺติ จาปิ ทุกฺกฏํ.
อนิสฺสชฺชิตฺวา นิสฺสคฺคึ, ปริภฺุเช น เทยฺย วา;
นิสฺสฏฺํ สกสฺาย, ทุกฺกฏํ อฺเถตรนฺติ.
๑๒. ปาจิตฺติยนิทฺเทโส
ปาจิตฺตีติ –
มุสาวาโทมสาวาเท, เปสฺุหรเณ ตถา;
ปทโสธมฺมสาคาเร, อุชฺฌาปนกขียเน.
ตลสตฺติอนาทรกุกฺกุจฺจุปฺปาทเนสุ จ;
คามปฺปเวสนาปุจฺฉา, โภชเน จ ปรมฺปรา.
อนุทฺธริตฺวา ¶ คมเน, เสยฺยํ เสนาสนานิ วา;
อิตฺถิยาทฺธานคมเน, เอเกกาย นิสีทเน.
ภีสาปนาโกฏนอฺวาเท,
วิเหสทุฏฺุลฺลปกาสฉาเท;
หาโสทเก นิจฺฉุภเน วิหารา,
ปาจิตฺติ วุตฺตานุปขชฺชสยเนติ.
๑๓. สมณกปฺปนิทฺเทโส
สมณกปฺปาติ –
ภูตคามสมารมฺเภ, ปาจิตฺติ กตกปฺปิยํ;
นเขน วาคฺคิสตฺเถหิ, ภเว สมณกปฺปิยํ.
ส มูลขนฺธพีชคฺค-ผฬุพีชปฺปภาวิโต;
อารมฺเภ ทุกฺกฏํ พีชํ, ภูตคามวิโยชิตํ.
นิพฺพฏฺฏพีชํ ¶ โนพีช-มกตฺจาปิ กปฺปติ;
กฏาหพทฺธพีชานิ, พหิทฺธา วาปิ การเย.
เอกาพทฺเธสุ พีเชสุ, ภาชเน วาปิ ภูมิยํ;
กเต จ กปฺปิเยกสฺมึ, สพฺเพสฺเวว กตํ ภเว.
นิกฺขิตฺเต กปฺปิยํ กตฺวา, มูลปณฺณานิ ชายรุํ;
กปฺปิยํ ปุน กาเรยฺย, ภูตคาโม หิ โส ตทา.
สปณฺโณ ¶ วา อปณฺโณ วา, เสวาโลทกสมฺภโว;
เจติยาทีสุ เสวาโล, นิพฺพฏฺฏทฺวตฺติปตฺตโก;
ภูตคาโมว พีชมฺปิ, มูลปณฺเณ วินิคฺคเต.
ฆฏาทิปิฏฺเ เสวาโล, มกุฬํ อหิฉตฺตกํ;
ทุกฺกฏสฺเสว วตฺถูนิ, ผุลฺลมพฺยวหาริกํ.
ลาขานิยฺยาสฉตฺตานิ, อลฺลรุกฺเข วิโกปิย;
คณฺหโต ตตฺถ ปาจิตฺติ, ฉินฺทโต วาปิ อกฺขรํ.
ปีเฬตุํ นาฬิเกราทึ, ทารุมกฺกฏกาทินา;
ฉินฺทิตุํ คณฺิกํ กาตุํ, ติณาทึ น จ กปฺปติ.
ภูตคามํ ว พีชํ วา, ฉินฺท ภินฺโทจินาหิ วา;
ผาเลหิ วิชฺฌ ปจ วา, นิยเมตฺวา น ภาสเย.
อิมํ กโรหิ กปฺปิยํ, อิมํ คณฺเหทมาหร;
อิมํ เทหิ อิมํ โสเธเหวํ วฏฺฏติ ภาสิตุนฺติ.
๑๔. ภูมินิทฺเทโส
ภูมิโยติ –
สมฺมุตุสฺสาวนนฺตา จ, โคนิสาที คหาปติ;
กปฺปิยา ภูมิโย ยาสุ, วุตฺถํ ปกฺกฺจ กปฺปติ.
วาสตฺถาย ¶ กเต เคเห, สงฺฆิเก เวกสนฺตเก;
กปฺปิยา กุฏิ ลทฺธพฺพา, สหเสยฺยปฺปโหนเก.
เคเห ¶ สงฺฆสฺส เวกสฺส, กรมาเนวมีรยํ;
ปมิฏฺกถมฺภาทึ, เปยฺยุสฺสาวนนฺติกา;
‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรม, กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ.
เยภุยฺเยนาปริกฺขิตฺโต, อาราโม สกโลปิ วา;
วุจฺจเต ‘‘โคนิสาที’’ติ, สมฺมุตี สงฺฆสมฺมตา.
ภิกฺขุํ เปตฺวา อฺเหิ, ทินฺโน เตสํว สนฺตโก;
อตฺถาย กปฺปกุฏิยา, เคโห คหปตี มโต.
อกปฺปกุฏิยา วุตฺถสปฺปิอาทีหิ มิสฺสิตํ;
วเชยฺย อนฺโตวุตฺถตฺตํ, ปุริมํ กาลิกทฺวยํ.
เตเหว ภิกฺขุนา ปกฺกํ, กปฺปเต ยาวชีวิกํ;
นิรามิสํว สตฺตาหํ, สามิเส สามปากตา.
อุสฺสาวนนฺติกา เยหิ, ถมฺภาทีหิ อธิฏฺิตา;
เตสุเยวาปนีเตสุ, ตทฺเสุปิ ติฏฺติ.
สพฺเพสุ อปนีเตสุ, ภเว ชหิตวตฺถุกา;
โคนิสาที ปริกฺขิตฺเต, เสสา ฉทนวิพฺภมาติ.
๑๕. อุปชฺฌาจริยวตฺตนิทฺเทโส
อุปชฺฌาจริยวตฺตานีติ –
นิสฺสายุปชฺฌาจริเย, วสมาโน สุเปสโล;
ทนฺตกฏฺาสนํ โตยํ, ยาคุํ กาเล ทเท สทา.
ปตฺเต วตฺตํ จเร คาม-ปฺปเวเส คมนาคเม;
อาสเน ปาทปีเ จ, กถโลปาหนจีวเร.
ปริโภชนียปานีย-วจฺจปฺปสฺสาวานิสุ ¶ ;
วิหารโสธเน วตฺตํ, ปุน ปฺาปเน ตถา.
น ¶ ปปฺโผเฏยฺย โสเธนฺโต, ปฏิวาเต จ สงฺคเณ;
วิหารํ ภิกฺขุ ปานีย-สามนฺตา สยนาสนํ.
นฺหาเน นฺหาตสฺส กาตพฺเพ, รงฺคปาเก จ โธวเน;
สิพฺพเน จีวเร เถเว, รชนฺโต น วเช ิเต.
เอกจฺจสฺส อนาปุจฺฉา, ปตฺตํ วา จีวรานิ วา;
น ทเทยฺย น คณฺเหยฺย, ปริกฺขารฺจ กิฺจนํ.
เอกจฺจํ ปจฺฉโต กาตุํ, คนฺตุํ วา ตสฺส ปจฺฉโต;
ปิณฺฑปาตฺจ นินฺเนตุํ, นีหราเปตุมตฺตโน.
กิจฺจยํ ปริกมฺมํ วา, เกสจฺเฉทฺจ อตฺตโน;
การาเปตุํ ว กาตุํ วา, อนาปุจฺฉา น วฏฺฏติ.
คามํ สุสานํ นิสฺสีมํ, ทิสํ วา คนฺตุมิจฺฉโต;
อตฺตโน กิจฺจยํ วาปิ, อนาปุจฺฉา น วฏฺฏติ.
อุปฺปนฺนํ อรตึ ทิฏฺึ, กุกฺกุจฺจํ วา วิโนทเย;
กเรยฺย วาปิ อุสฺสุกฺกํ, สงฺฆายตฺเตสุ กมฺมสุ.
คิลาเนสุ อุปฏฺเยฺย, วุฏฺานํ เนสมาคเม;
วตฺตเภเทน สพฺพตฺถ, อนาทเรน ทุกฺกฏนฺติ.
๑๖. วจฺจปสฺสาวฏฺานิกนิทฺเทโส
วจฺจปสฺสาวฏฺานิกนฺติ ¶ –
น กเรยฺย ยถาวุฑฺฒํ, วจฺจํ ยาตานุปุพฺพิยา;
วจฺจปสฺสาวกุฏิโย, นฺหานติตฺถฺจ ลพฺภติ.
ปวิเสยฺยุพฺภชิตฺวา โน, สหสา ปวิเสยฺย จ;
อุกฺกาสิตฺวาวุพฺภเชยฺย, ปาทุกาสฺเวว สณฺิโต.
น ¶ กเร นิตฺถุนํ วจฺจํ, ทนฺตกฏฺฺจ ขาทยํ;
วจฺจปสฺสาวโทณีนํ, น กเรยฺยุภยํ พหิ.
กูเป กฏฺํ น ปาเตยฺย, เขฬํ ปสฺสาวโทณิยา;
นาวเลเขยฺย ผรุเส-นุหตฺจาปิ โธวเย.
น นิกฺขเมยฺย สหสา-วุพฺภชิตฺวา น นิกฺขเม;
จปุ จปุ นาจเมยฺย, อุกฺลาปฺจ วิโสธเยติ.
๑๗. อาปุจฺฉกรณนิทฺเทโส
อาปุจฺฉกรณนฺติ –
อนชฺฌิฏฺโว เถเรน, ปาติโมกฺขํ น อุทฺทิเส;
ธมฺมํ น กถเย ปฺหํ, น ปุจฺเฉ น จ วิสฺสเช.
อาปุจฺฉิตฺวา กเถนฺตสฺส, ปุน วุฑฺฒตราคเม;
ปุน อาปุจฺฉนํ นตฺถิ, ภตฺตคฺเค จานุโมทโต.
วสนฺโต ¶ จ อนาปุจฺฉา, วุฑฺเฒเนกวิหารเก;
น สชฺฌาเยยฺย อุทฺเทสํ, ปริปุจฺฉฺจ โน ทเท.
ธมฺมํ น ภาสเย ทีปํ, น กเร น จ วิชฺฌเป;
วาตปานํ กวาฏํ วา, วิวเรยฺย ถเกยฺย จ.
จงฺกเม จงฺกมนฺโตปิ, วุฑฺเฒน ปริวตฺตเย;
เยน วุฑฺโฒ ส สงฺฆาฏิ-กณฺเณเนนํ น ฆฏฺฏเยติ.
๑๘. นคฺคนิทฺเทโส
นคฺโคติ –
นคฺโค มคฺคํ วเช ภฺุเช, ปิเว ขาเท น สายเย;
น คณฺเห น ทเท เนว, วนฺเท วนฺทาปเยยฺย วา.
ปริกมฺมํ น กาเรยฺย, น กเร ปฏิฉาทิสุ;
ปริกมฺเม ทุเว วตฺถ-จฺฉาทิ สพฺพตฺถ กปฺปิยาติ.
๑๙. นฺหานกปฺปนิทฺเทโส
นฺหานกปฺโปติ ¶ –
น จ นฺหาเยยฺย เถรานํ, ปุรโตปริ วา ตถา;
ทเทยฺย โอตรนฺตานํ, มคฺคมุตฺตรมานโก.
กุฏฺฏตฺถมฺภตรุฏฺฏาเน, นฺหายมาโน น ฆํสเย;
กายํ คนฺธพฺพหตฺเถน, กุรุวินฺทกสุตฺติยา.
มลฺลเกนาฺมฺํ ¶ วา, สรีเรน น ฆํสเย;
กปาลิฏฺกขณฺฑานิ, วตฺถวฏฺฏิ จ วฏฺฏติ.
สพฺเพสํ ปุถุปาณี จา-กลฺลสฺสากตมลฺลกํ;
ปาสาณเผณกถลา, กปฺปนฺติ ปาทฆํสเนติ.
๒๐. อวนฺทิยนิทฺเทโส
อวนฺทิโยติ –
อุกฺขิตฺตานุปสมฺปนฺน-นานาสํวาสอิตฺถิโย;
นโว จ ครุกฏฺโ จ, ปณฺฑโก จ อวนฺทิยาติ.
๒๑. จมฺมนิทฺเทโส
จมฺมนฺติ –
มิคาเชฬกจมฺมานิ, กปฺปนฺติ ปริภฺุชิตุํ;
โรหิเตณิปสทา จ, กุรุงฺคา มิคชาติกา.
อนฺุาตตฺตยา อฺํ, จมฺมํ ทุกฺกฏวตฺถุกํ;
ถวิโกปาหเน จมฺมํ, สพฺพํ กปฺปติมานุสนฺติ.
๒๒. อุปาหนนิทฺเทโส
อุปาหนา เจวาติ –
มชฺฌเทเส น กปฺปนฺติ, คณงฺคณูปาหนา นวา;
สพฺพสฺส กปฺปนฺตาราเม, สพฺพตฺถากลฺลกสฺส จ.
สพฺพนีลกโอทาตปีตโลหิตกณฺหกา ¶ ¶ ;
มหารงฺคมหานาม-รงฺครตฺตา จุปาหนา.
สพฺพมฺเชฏฺิกา จิตฺรา, นีลปีตาทิวทฺธิกา;
ติตฺติรปตฺติกา เมณฺฑ-อชวิสาณวทฺธิกา.
ขลฺลพทฺธา ปุฏพทฺธา, ตูลปุณฺณา จุปาหนา;
ปาลิคุณฺิมกา โมร-ปิฺเฉน ปริสิพฺพิตา.
วิจฺฉิกาฬิกตา สีหพฺยคฺฆุทฺทาชินทีปินํ;
มชฺชารกาฬโกลูกจมฺเมหิ จ ปริกฺขฏา;
ปาทุกา สงฺกมนียา, โกจิ ธาเรยฺย ทุกฺกฏํ.
นีลาทิวณฺณํ สกลํ, ปฺุฉิตฺวา เวกเทสกํ;
อุปาหนา วฬฺเชยฺย, หาเรตฺวา ขลฺลกาทิกนฺติ.
๒๓. อโนโลกิยนิทฺเทโส
อโนโลกิยนฺติ –
สารตฺโต อิตฺถิยา โยนึ, มุขํ วา ภิกฺขทายิยา;
ปรสฺส ปตฺตมุชฺฌานสฺี วา อตฺตโน มุขํ;
อาทาโสทกปตฺเต วา, โอโลเกยฺยสฺส ทุกฺกฏนฺติ.
๒๔. อฺชนีนิทฺเทโส
อฺชนีติ ¶ –
วฏฺฏาฏฺโสฬสํสา วา, มฏฺา วฏฺฏติ อฺชนี;
ติสฺโสปิ มูเล คีวายํ, เลขา เอกาว พนฺธิตุํ.
ยํ กิฺจิ รูปํ มาลาทิกมฺมํ มกรทนฺตกํ;
โคมุตฺตกฑฺฒจนฺทาทิ-วิการํ เนตฺถ วฏฺฏติ.
ลพฺเภกวณฺณสุตฺเตน, สิพฺพิตุํ ถวิกา ตถา;
สิปาฏิ กฺุจิกาโกโส, สลากาปิ อจิตฺตกา.
สงฺขนาภิวิสาณฏฺิ-นฬทนฺตมยา ¶ ตถา;
ผลกฏฺมยา เวฬุ-ลาขาโลหมยาปิ จ.
อฺชนิโย สลากาโย, ธูมเนตฺตา จ ลพฺภเร;
ตถา สตฺถกทณฺฑานิ, นตฺถุทานา จ ตมฺมยาติ.
๒๕. อกปฺปิยสยนนิทฺเทโส
อกปฺปิยสยนานีติ –
อาสนฺที ตูลี ปลฺลงฺโก, ปฏิกํ โคนจิตฺตกํ;
ปฏลี วิกตี อุทฺท-โลมี เอกนฺตโลมิกา.
กุตฺตํ โกเสยฺยํ กฏฺฏิสฺสํ, หตฺถิอสฺสรถตฺถรา;
ชินปฺปเวณิกทลี-มิคปฺปวรอตฺถรา.
สโลหิตวิตานฺจุ-ภโตรตฺตูปธานกํ ¶ ;
อกปฺปิยานิ เอตานิ, ทุกฺกฏํ ปริภฺุชโต.
อาสนฺทาทิตฺตยา เสเส, ลพฺภเต คิหิสนฺตเก;
ธมฺมาสเน จ ภตฺตคฺเค, ฆเร จาปิ นิสีทิตุํ;
ภูมตฺถรณสงฺเขเป, สยิตฺุจาปิ กปฺปติ.
จตุรํสปีา สตฺตงฺคา, ปฺจงฺคา อุจฺจปาทกา;
ตูโลนทฺธา ฆเรเยว, มฺจปีา นิสีทิตุํ.
โจฬวากุณฺณปณฺณานํ, ติณานฺเจว ปูริตา;
จีวรจฺฉวิโย ปฺจ, ภิสี สพฺพตฺถ กปฺปิยา.
ตูลตฺตยํ ภิสิคพฺโภ, โลมานิ มิคปกฺขินํ;
พิมฺโพหเน อนฺุาตํ, ตูลวชฺชา มสูรเก.
มนุสฺสโลมมุณฺณายํ, ปณฺเณ ปุปฺผํ ตมาลกํ;
สุทฺธํ น อาสนฺเจว, ลพฺภมปฺปฏิเวกฺขิตนฺติ.
๒๖. สมานาสนิกนิทฺเทโส
สมานาสนิโกปิ ¶ จาติ –
ติวสฺสนฺตรานฺุาตํ, ภิกฺขูนเมกมาสนํ;
สตฺตวสฺสติวสฺเสหิ, ปฺจวสฺโส นิสีทิตุํ.
เปตฺวา ปณฺฑกํ อิตฺถึ, อุภโตพฺยฺชนํ มุนิ;
ทีฆาสเน อนฺุาสิ, สพฺเพเหว นิสีทิตุํ.
อนฺตํ ¶ ทีฆาสนํ ติณฺณํ, ยํ ปโหติ นิสีทิตุํ;
มฺจเก วาปิ ปีเ วา, ทฺวินฺนํ ลพฺภํ นิสีทิตุนฺติ.
๒๗. อสํวาสิกนิทฺเทโส
อสํวาสิโก จาติ –
อุกฺขิตฺโตนุปสมฺปนฺโน, ภิกฺขุนี ฉินฺนมูลโก;
นานาสํวาสนิสฺสีม-ฏฺิตเวหายสณฺิตา;
เอกาทส อภพฺพา จ, อสํวาสาติ ทีปิตาติ.
๒๘. กมฺมนิทฺเทโส
กมฺมฺจาติ –
วคฺเคน อธมฺมกมฺมํ, สมคฺเคน อธมฺมิกํ;
วคฺเคน ธมฺมกมฺมฺจ, สมคฺเคน จ ธมฺมิกํ;
จตุตฺถํเยวานฺุาตํ, เสสกมฺเมสุ ทุกฺกฏํ.
จตุวคฺโค ปฺจวคฺโค, ทสวีสติวคฺคิโก;
ติเรกวีสติวคฺโค, ปฺจ สงฺฆา วิภาวิตา.
จตุวคฺเคตฺถ อพฺภานุ-ปสมฺปทาปวารณา;
ปฺจวคฺโค จ อพฺภานํ, มชฺฌเทสุปสมฺปทํ.
ทสวคฺโค ¶ จ อพฺภานํ, เปตฺวา สพฺพกมฺมิโก;
อิตโร สพฺพกมฺเมสุ, กมฺมปฺปตฺโตติ ทีปิโต.
จตุวคฺเคน ¶ กตฺตพฺเพ, จตฺตาโร ปกตตฺตกา;
กมฺมปฺปตฺตา ปเร ฉนฺทา-รหา เสเสปฺยยํ นโย.
จตุวคฺคาทิกตฺตพฺพํ, อสํวาสกมฺมารห;
ครุกฏฺเสฺวฺตรํ, กตฺวาน คณปูรกํ;
ปริวาสาทิกํ กมฺมํ, กตํ กุปฺปฺจ ทุกฺกฏํ.
อธมฺมกมฺมํ วาเรยฺย, อนฺตราเย ทุเว ตโย;
ทิฏฺาวิเมโกธิฏฺานํ, วาเรนฺเตว ตโตธิกา.
กมฺมารหา อสํวาสา, ขิตฺตจิตฺตทุขฏฺฏิตา;
เอเตสํ สงฺฆมชฺฌมฺหิ, ปฏิกฺเขโป น รุหติ.
ปกตตฺเตกสีมฏฺ-สมสํวาสภิกฺขุโน;
อาโรเจนฺตสฺสนฺตมโส-นนฺตรสฺสาปิ รูหติ.
โกเปตุํ ธมฺมิกํ กมฺมํ, ปฏิกฺโกเสยฺย สมฺมุขา;
ติโรกฺขา กายสามคฺคึ, ฉนฺทํ โน เทยฺย ทุกฺกฏนฺติ.
๒๙. มิจฺฉาชีววิวชฺชนานิทฺเทโส
มิจฺฉาชีววิวชฺชนาติ –
ทารุํ เวฬุํ ผลํ ปุปฺผํ, จุณฺณํ นฺหานมุโขทกํ;
มตฺติกาทนฺตกฏฺาทึ, น ทเท กุลสงฺคหา.
ปาริภฏกตามุคฺค-สูปฺยตาวตฺถุวิชฺชยา;
ปเหณทูตกมฺเมน, ชงฺฆเปสนิเยน วา.
อนุปฺปทานปฺปฏิปิณฺฑ-เวชฺชกมฺเมน ¶ ¶ วา ปน;
นาฺเน วาปิ สมฺพุทฺธปฺปฏิกุฏฺเน ชีวเย.
วิฺตฺติเนสนาภูตุลฺลปนากุหนาทิหิ;
กุลทูสาทินุปฺปนฺนปจฺจเย ปริวชฺชเยติ.
๓๐. วตฺตนิทฺเทโส
วตฺตนฺติ –
อาคนฺตุโก น อารามํ, ปวิเส สอุปาหโน;
สฉตฺโตคุณฺิโต สีเส, กริตฺวา วาปิ จีวรํ.
ปานีเยน น โธเวยฺย, ปาเท วุฑฺฒตเรปิ จ;
อาวาสิเกภิวาเทยฺย, ปุจฺเฉยฺย สยนาสนํ.
คมิโก ปฏิสาเมตฺวา, ทารุมตฺติกภณฺฑกํ;
วิหารฺจ ถเกตฺวาน, อาปุจฺฉ สยนาสนํ.
อาปุจฺฉิตพฺเพ อสติ, สํโคเปตฺวาน สาธุกํ;
ปกฺกเมยฺยฺถา ตสฺส, ปกฺกนฺตุํ น จ กปฺปติ.
อาวาสิโก ปฺาเปยฺย, วุฑฺฒาคนฺตุสฺส อาสนํ;
อุปนิกฺขิเป ปาโทท-ปฺปภุตึ ปตฺตจีวรํ.
ปจฺจุคฺคนฺตฺวาน คณฺเหยฺย, ปานีเยน จ ปุจฺฉเย;
อาคนฺตุเกภิวาเทยฺย, ปฺเป สยนาสนํ.
อชฺฌาวุตฺถมวุตฺถํ ¶ วา, โคจราโคจรํ วเท;
วจฺจปสฺสาวานานิ, กติกํ เสกฺขสมฺมุตึ.
ปเวสนิกฺขเม กาลํ, ปริโภชิยปานิยํ;
นิสินฺโนว นวกสฺส, เอตํ สพฺพํ สมุทฺทิเสติ.
๓๑. วิกปฺปนานิทฺเทโส
วิกปฺปนา ¶ เจวาติ –
สมฺมุขา ปรมฺมุขาติ, ทุเว วุตฺตา วิกปฺปนา;
สมฺมุขาย วิกปฺเปนฺโต, พฺยตฺตสฺเสกสฺส สนฺติเก;
‘‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ, วิกปฺเปมี’’ติ ภาสเย.
เอตฺตาวตา นิเธตุํว, กปฺปตี น จ กปฺปติ;
ปริโภคาทิกํ เตน, อปฺปจฺจุทฺธฏภาวโต.
๒๒๓. ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ –
เตน ปจฺจุทฺธเฏเยว, ปริโภคาทิ กปฺปติ.
อปรา สมฺมุขาเวกา, ภิกฺขุสฺเสกสฺส สนฺติเก;
คเหตฺวา นามเมกสฺส, ปฺจนฺนํ สหธมฺมินํ.
๒๒๕. ‘‘อิมํ จีวรํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน, ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา, ติสฺสสฺส สามเณรสฺส, ติสฺสาย สามเณริยา, ติสฺสาย สิกฺขมานาย วิกปฺเปมี’’ติ วตฺตพฺพํ.
เตน ภิกฺขุนา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน, ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา, ติสฺสสฺส สามเณรสฺส ¶ , ติสฺสาย สามเณริยา, ติสฺสาย สิกฺขมานาย สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วตฺตพฺพํ.
ปรมฺมุขาวิกปฺปเน-กสฺสนฺติเกวมีรเย;
‘‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ วิกปฺปนตฺถาย ทมฺมี’’ติ.
๒๒๗. เตน วตฺตพฺโพ ‘‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ. อิตเรน เจวํ วตฺตพฺพํ ‘‘ติสฺโส ภิกฺขู’’ติ วา ¶ ‘‘ติสฺสา ภิกฺขุนี’’ติ วา ‘‘ติสฺโส สามเณโร’’ติ วา ‘‘ติสฺสา สามเณรี’’ติ วา ‘‘ติสฺสา สิกฺขมานา’’ติ วา.
ปุน เตน ‘‘อหํ ติสฺสสฺส ติสฺสาย วา ทมฺมี’’ติ วิกปฺเปตฺวา เตเนว ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน, ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา, ติสฺสสฺส สามเณรสฺส, ติสฺสาย สามเณริยา, ติสฺสาย สิกฺขมานาย สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ ปจฺจุทฺธริตพฺพํ.
ทูรสนฺติกตฺเตกตฺตพหุภาวํ วิชานิย;
‘‘เอตํ อิม’’นฺติ ‘‘เอตานิ, อิมานี’’เตตฺถ โยชเย.
ทสาหํ มาสเมกํ วา, ปฺจ วา กถินตฺถเต;
ปาริปูรตฺถมูนสฺส, ปจฺจาสา สติ มาสกํ;
นุปฺปาทยติ นิสฺสคฺคึ, นาธิฏฺิตวิกปฺปิตนฺติ.
๓๒. นิสฺสยนิทฺเทโส
นิสฺสโยติ –
พฺยตฺตสฺส ปฺจวสฺสสฺส, นตฺถิ นิสฺสย การิยํ;
ยาวชีวมฺปิ อพฺยตฺโต, นิสฺสิโตเยว ชีวติ.
เอกํสํ ¶ จีวรํ กตฺวา, ปคฺคณฺหิตฺวาน อฺชลึ;
อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา, วเท ยาวตตียกํ;
‘‘อาจริโย เม, ภนฺเต, โหหิ,
อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามี’’ติ.
ปกฺกนฺเต ปกฺขสงฺกนฺเต, วิพฺภนฺเต วาปิ นิสฺสโย;
มรณาณตฺตุปชฺฌาย-สโมธาเนหิ สมฺมติ.
นิสฺสาย ¶ น วเสลชฺชึ, อปุพฺพํ านมาคโต;
อาคเม จตุปฺจาหํ, าตุํ ภิกฺขุสภาคตํ.
อทฺธิกสฺส คิลานสฺส, คิลานุปฏฺกสฺส จ;
ยาจิตสฺส อรฺเ วา, สลฺลกฺขนฺเตน ผาสุกํ;
สภาเค ทายเกสนฺเต, วสิตุํ ตาว ลพฺภตีติ.
๓๓. กายพนฺธนนิทฺเทโส
กายพนฺธนนฺติ –
อกายพนฺธโน คามํ, ทุกฺกฏํ ปวิเสยฺย เจ;
พนฺเธยฺย ยตฺถ สรติ, ตตฺเถวาสติยา คโต.
ปฏฺฏิกา สูกรนฺตนฺติ, ทุวิธํ กายพนฺธนํ;
ทุสฺสปฏฺโฏ จ รชฺชุ จ, เอกา ตทนุโลมิกา.
มจฺฉกณฺฏกขชฺชูรี-ปตฺตา มฏฺา จ ปฏฺฏิกา;
ลพฺภา ทสา จตสฺโสปิ, อนฺเต ทิคุณสุตฺตกํ.
มาลาทึ ¶ กกฺกฏจฺฉาทึ, ทสฺเสตฺวา คุณสุตฺตก;
โกฏฺฏิตา กฺุชรจฺฉาทึ, ปฏฺฏิกา น จ กปฺปติ.
ฆฏกํ มกรมุขาทึ, น กปฺปนฺติ ทสามุเข;
อุภนฺเต ฆฏกา เลขา, วิเธ อฺฺจ จิตฺตกํ.
เทฑฺฑุภกฺจ มุรชํ, มทฺทวีณํ กลาพุกํ;
น กปฺปนฺติ ทสาสุ ทฺเว, มชฺฌิมาเยว กปฺปเร.
เวฬุทนฺตวิสาณฏฺิกฏฺลาขาผลามยา;
สงฺขนาภิมยา สุตฺตนฬโลหมยาปิ จ;
วิธา กปฺปนฺติ กปฺปิยา, คณฺิโย จาปิ ตมฺมยาติ.
ปมภาณวารํ นิฏฺิตํ.
๓๔. ปถวีนิทฺเทโส
ปถวี จาติ –
ชาตาชาตาติ ¶ ทุวิธา, สุทฺธมตฺติกปํสุกา;
ชาตาทฑฺฒา จ ปถวี, พหุมตฺติกปํสุกา;
จาตุมาสาธิโกวฏฺปํสุมตฺติกราสิ จ.
สุทฺธสกฺขรปาสาณมรุมฺพกถลวาลุกา;
ทฑฺฒา จ ภูมิ เยภุยฺยสกฺขราทิมหีปิ จ;
ทุติยา วุตฺตราสิ จ, จาตุมาโสมวฏฺโก.
ทฺเว ¶ ภาคา ตีสุ ภาเคสุ, มตฺติกา ยสฺส ภูมิยา;
เยภุยฺยมตฺติกา เอสา, เสเสสุปิ อยํ นโย.
ปาจิตฺติ ขณเน ชาเต, ชาตสฺิสฺส ทุกฺกฏํ;
ทฺเวฬฺหสฺสาชาตสฺิสฺส, นาปตฺตาณาปเน ตถา.
ปหาเร ปหาราปตฺติ, ขณมานสฺส อตฺตนา;
เอกายาณตฺติยา เอกา, นานาณตฺตีสุ วาจโส.
‘‘อิมํ านมิมํ กนฺทมิธ วาปึ ขเณตฺถ จ;
ชาเลหคฺคิ’’นฺติ วา วตฺตุํ, นิยเมตฺวา น วฏฺฏติ.
‘‘ถมฺภสฺสิมสฺสาวาฏํ วา, มตฺติกํ ชาน มาหร;
กโรหิ กปฺปิยฺเจ’’ติ, วจนํ วฏฺฏเตทิสํ.
อสมฺพทฺธํ ปถวิยา, สุกฺขกทฺทมอาทิกํ;
โกเปตุํ ตนุกํ ลพฺภมุสฺสิฺจนียกทฺทมํ.
คณฺฑุปฺปาทํ อุปจิกามตฺติกํ มูสิกุกฺกิรํ;
จาตุมาสาธิโกวฏฺํ, เลฑฺฑาทิฺจ น โกปเย.
ปติเต วาปิอาทีนํ, กูเล อุทกสนฺติเก;
ปาสาเณ จ รเช ลคฺเค, ปติเต นวโสณฺฑิยา.
วมฺมิเก ¶ มตฺติกากุฏฺเฏ, อพฺโภกาสุฏฺิเต ตถา;
เยภุยฺยกถลฏฺาเน, ติฏฺติฏฺกกุฏฺฏโก.
ถมฺภาทึ ¶ คณฺหิตุํ ภูมึ, สฺจาเลตฺวา วิโกปยํ;
ธาราย ภินฺทิตุํ ภูมึ, กาตุํ วา วิสมํ สมํ.
สมฺมฺุชนีหิ ฆํสิตุํ, กณฺฏกาทึ ปเวสิตุํ;
ทสฺเสสฺสามีติ ภินฺทนฺโต, ภูมึ จงฺกมิตุํ ปทํ.
ฆํสิตุํ องฺคปจฺจงฺคํ, กณฺฑุโรคี ตฏาทิสุ;
หตฺถํ วา โธวิตุํ ภูมึ, ฆํสิตุํ น จ กปฺปติ.
ถมฺภาทิอุชุกุทฺธาโร, ปาสาณาทิปวฏฺฏนํ;
สาขาทิกฑฺฒนํ รุกฺขลตาจฺเฉทนผาลนํ.
เสโก ปสฺสาวอาทีนํ, สุทฺธจิตฺตสฺส วฏฺฏติ;
อลฺลหตฺถํ เปตฺวาน, รชคฺคาโห จ ภูมิยา.
อคฺคิสฺส อนุปาทาเน, กปาเล อิฏฺกาย วา;
ปาเตตุํ ลพฺภเต อคฺคึ, ภูมิยํ วาวเส สตีติ.
๓๕. ปริกฺขารนิทฺเทโส
ปริกฺขาโรติ –
ปฺจวณฺเณหิ สุตฺเตหิ, อนฺโต พหิ จ สิพฺพิตุํ;
คิริกูฏฑฺฒจนฺทาทึ, ฉตฺเต ปณฺเณ จ ฉินฺทิตุํ.
ฆฏกํ วาฬรูปํ วา, ทณฺเฑ เลขา น วฏฺฏติ;
วฏฺฏตี ทณฺฑพุนฺทมฺหิ, อหิจฺฉตฺตกสาทิสํ.
สิพฺพิตุํ ¶ เอกวณฺเณน, ปฺชรํ วา วินนฺธิตุํ;
ถิรตฺถํ วฏฺฏตี ฉตฺเต, ทณฺเฑ เลขาว พนฺธิตุํ.
อนฺเต ¶ ปฏฺฏมุเข วาปิ, เวณิ สงฺขลิกาปิ วา;
สูจิวิการมฺํ วา, จีวเร น จ กปฺปติ;
กปฺปพินฺทุวิการมฺปิ, ปาฬิกณฺณิกอาทิกํ.
คณฺิปาสกปฏฺฏาปิ, จตุกฺโกณาว อคฺฆิยํ;
มุคฺคโร กกฺกฏจฺฉาทิ-วิการํ เนตฺถ วฏฺฏติ.
โกณสุตฺตา จ ปีฬกา, ทุวิฺเยฺยาว กปฺปเร;
คนฺธํ เตลํ ว ลาขํ วา, รชเน น จ ปกฺขิเป.
รตฺตํ สงฺเขน มณินา, ฆฏฺเฏยฺยฺเน วา น จ;
ฆํเสยฺย โทณิยํ กตฺวา, ปหาเร น จ มุฏฺินา.
กณฺณโกณกสุตฺตานิ, รตฺเต ฉินฺเทยฺย จีวเร;
เลขา น วฏฺฏตี ธมฺม-กรเณ ฉตฺตวฏฺฏิยํ.
เลขํ เปตฺวา มณิกา, ปีฬกา กฺุจิกาย จ;
ปิปฺผเล จ ปริจฺเฉท-เลขา ทณฺฑมฺหิ วฏฺฏติ.
มาลาทฺยรณิยํ ปตฺต-มณฺฑเล ภิตฺติกมฺม จ;
เหฏฺา เลขาทฺวยํ อุทฺธํ, อหิจฺฉตฺตกสาทิสํ.
หิตฺวา กตฺตรยฏฺิมฺหิ, สูจิสณฺฑาสเกปิ จ;
ยํ กิฺจิ คิริกูฏาทิ-วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ.
พิมฺโพหเน ¶ ภิสิมฺจ-ปีาทิสยนาสเน;
สมฺมฺุชนิมฺหิ สงฺการ-ฉฑฺฑเน รงฺคภาชเน.
ปานียภาชเน ปาท-ปีเ กถลิกาย จ;
ปตฺตาธารปิธาเนสุ, ตาลวณฺเฏ จ พีชเน;
ยํ กิฺจิ มาลากมฺมาทิ-วณฺณมฏฺมวาริตํ.
เสนาสเน ปน ทฺวารกวาฏาทิปฺปเภทเน;
โสวณฺณมยนฺุาตํ, วณฺณมฏฺมฺหิ กา กถา.
วิสาณนาฬิลาพฺวาทิปฺปเภเท ¶ เตลภาชเน;
ปุมิตฺถิรูปรหิตํ, วณฺณมฏฺมวาริตนฺติ.
๓๖. เภสชฺชนิทฺเทโส
เภสชฺชนฺติ –
ชนสฺส กาตุํ เภสชฺชํ, ทาตุํ วตฺตุํ น ลพฺภติ;
ภิกฺขาจริยวิฺตฺติ, สเกหิ สหธมฺมินํ.
ปิตูนํ ตทุปฏฺากภิกฺขุนิสฺสิตภณฺฑุนํ;
ลพฺภํ เภสชฺชกรณํ, เวยฺยาวจฺจกรสฺส จ.
มหาจูฬปิตามาตาภาตาภคินิอาทินํ;
เตสํ สเกนตฺตนิเย, ทาตพฺพํ ตาวกาลิกํ.
กุลทูสนวิฺตฺติ, เภสชฺชกรณาทิ หิ;
มาตาปิตูหิ สมฺพนฺธาตเกสุ น รูหติ.
ปิณฺฑปาโต ¶ อนามฏฺโ, มาตาทีนมวาริโต;
ฉนฺนํ ทามริกโจรสฺส, ทาตุมิสฺสริยสฺส จ.
เตสํ สุตฺโตทเกเหว, ปริตฺตํ กยิรา นตฺตโน;
ภณิตพฺพํ ภณาเปนฺเต, ปริตฺตํ สาสโนคธํ.
สีลํ ธมฺมํ ปริตฺตํ วา, อาคนฺตฺวา เทตุ ภาสตุ;
ทาตุํ วตฺตฺุจ ลพฺภติ, คนฺตฺวา เกนจิ เปสิโตติ.
๓๗. อุคฺคหนิทฺเทโส
อุคฺคโหติ –
กมฺมเจติยสงฺฆฺ-ปุคฺคลตฺถํ คณสฺส จ;
ทสเภทมฺปิ รตนํ, อุคฺคณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
นิสฺสคฺคิ ¶ เตสุ อตฺตตฺถํ, ทฺวีสุ เสเสสุ ทุกฺกฏํ;
อนามสิตฺวา วุตฺเต ตุ, คณํ สงฺฆฺจ ปุคฺคลํ.
‘‘เจตฺยสฺส นวกมฺมสฺส, ทมฺมี’’ติ น ปฏิกฺขิเป;
วเท กปฺปิยการานํ, ‘‘วทนฺเตวมิเม’’ อิติ.
เขตฺตํ วตฺถุํ ตฬากํ วา, เทนฺเต ทาสปสฺวาทิกํ;
ปฏิกฺขิปิตฺวา คณฺเหยฺย, กปฺปิเยน กเมน จ;
เขตฺตาทีนิ วิหารสฺส, วุตฺเต ทมฺมีติ วฏฺฏติ.
นวมาติกเกทาร-ตฬากกิริยานเว;
มตฺติกุทฺธรณํ พนฺโธ, ถิรกาโร จ อาฬิยา.
ติเรกภาคคหณํ ¶ , เกทาเร อนเว นเว;
อปริจฺฉนฺนภาเค จ, สสฺเส ‘‘เทเถตฺตเก’’ อิติ;
กหาปณุฏฺาปนฺจ, สพฺเพสมฺปิ อกปฺปิยํ.
อวตฺวา กส วปฺปิจฺจาเทตฺติกาย จ ภูมิยา;
ปติฏฺาเปติ ภูมึ วา, ภาโค เทยฺโยติ เอตฺตโก.
ภูมิภาเค กตํ สสฺสํ, เอตฺตเก คณฺหเถตฺตกํ;
คณฺหนตฺถํ วทนฺเตวํ, ปมาณํ ทณฺฑรชฺชุภิ.
มินเน รกฺขเณ ตฺวา, ขเล ตํนีหราปเน;
โกฏฺาทิปฏิสามเน, ตสฺเสเวตมกปฺปิยํ.
ปฏิสาเมยฺย ปาจิตฺติ, ยํ กิฺจิ คิหิสนฺตกํ;
ภณฺฑาคาริกสีเสน, สเจปิ ปิตุสนฺตกํ.
ปิตูนํ กปฺปิยํ วตฺถุํ, อวสฺสํ ปฏิสามิยํ;
อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา, ลพฺภเต ปฏิสามิตุํ.
เทหีติ ปฏิสาเมตฺวา, วุตฺเต จาปิ ปฏิกฺขิเป;
ปาเตตฺวาน คเต ลพฺภํ, ปลิโพโธติ โคปิตุํ.
กมฺมํ ¶ กโรนฺโต อาราเม, สกํ วฑฺฒกิอาทโย;
ปริกฺขารฺจ สยน-ภณฺฑํ วา ราชวลฺลภา.
เทหีติ ปฏิสาเมตฺวา, วทนฺติ ยทิ ฉนฺทโต;
น กเรยฺย ภยา านํ, คุตฺตํ ทสฺเสตุ วฏฺฏติ.
พลกฺกาเรน ¶ ปาเตตฺวา, คเตสุ ปฏิสามิตุํ;
ภิกฺขุํ มนุสฺสา สงฺกนฺติ, นฏฺเ วตฺถุมฺหิ ตาทิเส.
วิหาราวสถสฺสนฺโต, รตนํ รตฺนสมฺมตํ;
นิกฺขิเปยฺย คเหตฺวาน, มคฺเครฺเปิ ตาทิเส;
สามิกานาคมํ ตฺวา, ปติรูปํ กรียตีติ.
๓๘. กุลทูสนนิทฺเทโส
ทูสนนฺติ –
ปุปฺผํ เวฬุํ ผลํ จุณฺณํ, ทนฺตกฏฺฺจ มตฺติกํ;
สงฺคหณตฺถํ ททโต, กุลทูสนทุกฺกฏํ.
ถุลฺลจฺจยํ ครุภณฺฑํ, อิสฺสเรเนตฺถ สงฺฆิกํ;
เทนฺตสฺส ทุกฺกฏาทีนิ, เถยฺยา สงฺฆฺ สนฺตกํ.
กุลสงฺคหา โรเปตุํ, โรปาเปตฺุจ สพฺพถา;
ผลปุปฺผูปคํ รุกฺขํ, ชคฺคิตฺุจ น วฏฺฏติ.
นิมิตฺโตภาสโต กปฺปโวหารปริยายโต;
อตฺตโน ปริโภคตฺถํ, โรปนาทีนิ ลพฺภเร.
วุตฺตาว เวชฺชิกา ชงฺฆเปสเน คิหิกมฺมสุ;
เปตฺวา ปิตโร ภณฺฑุํ, เวยฺยาวจฺจกรํ สกํ.
ทุกฺกฏํ ปทวาเรน, หรเณ ทูตสาสนํ;
สาสนํ อคฺคเหตฺวาปิ, ปมํ วทโต ปุน.
อุปฺปนฺนปจฺจยา ¶ ¶ เอวํ, ปฺจนฺนมฺปิ อกปฺปิยา;
อภูตาโรจนารูป-สํโวหารุคฺคหาทิสา.
หราเปตฺวา หริตฺวาปิ, ปิตูนํ เสสาตินํ;
ปตฺตานํ วตฺถุปูชตฺถํ, ทาตุํ ปุปฺผานิ ลพฺภติ;
มณฺฑนตฺถฺจ ลิงฺคาทิ-ปูชตฺถฺจ น ลพฺภติ.
ตถา ผลํ คิลานานํ, สมฺปตฺติสฺสริยสฺส จ;
ปริพฺพยวิหีนานํ, ทาตุํ สปรสนฺตกํ.
ภาเชนฺเต ผลปุปฺผมฺหิ, เทยฺยํ ปตฺตสฺส กสฺสจิ;
สมฺมเตนาปโลเกตฺวา, ทาตพฺพมิตเรน ตุ.
วิหาเร วา ปริจฺฉิชฺช, กตฺวาน กติกํ ตโต;
เทยฺยํ ยถาปริจฺเฉทํ, คิลานสฺเสตรสฺส วา;
ยาจมานสฺส กติกํ, วตฺวา รุกฺขาว ทสฺสิยา.
สิรีสกสวาทีนํ, จุณฺเณ เสเส จ นิจฺฉโย;
ยถาวุตฺตนโย เอว, ปณฺณมฺเปตฺถ ปเวสเยติ.
๓๙. วสฺสูปนายิกนิทฺเทโส
วสฺสูปนายิกา เจวาติ –
ปุริมิกา ปจฺฉิมิกา, ทุเว วสฺสูปนายิกา;
ตตฺถาลยปริคฺคาโห, วจีเภโท จ เอทิโส.
‘‘อิมสฺมึ ¶ วิหาเร อิมํ, เตมาสํ วสฺสํ อุเปมิ;
อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ, จิตฺตุปฺปาเทตฺถ อาลโย.
โนเปตุกาโม อาวาสํ, ตทหูติกฺกเมยฺย วา;
ภเวยฺย ทุกฺกฏาปตฺติ, ชานํ วานุปคจฺฉโต.
ทุติยํ ¶ อุปคจฺเฉยฺย, ฉินฺนวสฺโสนุปาคโต;
น ปกฺกเมยฺย เตมาสํ, อวสิตฺวาน จาริกํ.
มาตาปิตูนมตฺถาย, ปฺจนฺนํ สหธมฺมินํ;
คิลานตทุปฏฺาก-ภตฺตเมสิสฺสโมสธํ.
ปุจฺฉิสฺสามิ อุปฏฺิสฺสํ, คนฺตฺวานภิรตํ อหํ;
วูปกาสิสฺสํ กุกฺกุจฺจํ, ทิฏฺึ ครุกมาทิกํ.
กริสฺสํ วาปิ กาเรสฺสํ, วิโนทนํ วิเวจนํ;
วุฏฺานํ วาปิ อุสฺสุกฺกํ, คนฺตุมิจฺเจวมาทินา;
ลพฺภํ สตฺตาหกิจฺเจน, ปหิตาปหิเตปิ วา.
สงฺฆกมฺเม วเช ธมฺม-สฺสวนตฺถํ นิมนฺติโต;
ครูหิ ปหิโต วาปิ, ครูนํ วาปิ ปสฺสิตุํ.
น ภณฺฑโธวนุทฺเทส-าตุปฏฺากทสฺสเน;
ลพฺภํ น ปาปุเณยฺยชฺเช-วาคมิสฺสนฺตุทูรโค.
เสสาตีหิ ปหิเต, ภิกฺขุนิสฺสิตเกน จ;
อุปาสโกปาสิกาหิ, นิทฺทิสิตฺวาว เปสิเต.
วสฺสจฺเฉเท ¶ อนาปตฺติ, อนฺตราเย สตตฺตโน;
สงฺฆสามคฺคิยา วา โน, ฉินฺนวสฺโส ปวารเย.
อชฺโฌกาเส จ รุกฺขสฺส, สุสิเร วิฏเปปิ วา;
ฉวกุฏิฉตฺตจาฏี-สูปคนฺตุํ น วฏฺฏติ.
อเสนาสนิเกนาปิ, อุปคนฺตุํ น ลพฺภติ;
ปวาเรตฺุจ ลพฺภติ, นาวาสตฺถวชูปโคติ.
๔๐. อเวภงฺคิยนิทฺเทโส
อเวภงฺคิยนฺติ –
อารามารามวตฺถูนิ, วิหาโร ตสฺส วตฺถุ จ;
มฺโจ ปีํ ภิสิ พิพฺโพ-หนาทิสยนาสนํ.
โลหกุมฺภี ¶ กฏาโห จ,
โลหภาณกวารโก;
กุารี วาสิ ผรสุ,
กุทฺทาโล จ นิขาทนํ.
วลฺลิ เวฬุ ติณํ ปณฺณํ, มฺุชปพฺพชมตฺติกา;
ทารุมตฺติกภณฺฑานิ, ปฺเจเต อวิภาชิยา.
ถุลฺลจฺจยํ ภาชยโต, ภาชิตาปิ อภาชิตา;
ครุภณฺฑานิ วุจฺจนฺติ, เอเตวิสฺสชฺชิยานิ จ.
วลฺลิฑฺฒพาหุมตฺตาปิ ¶ , เวฬุ อฏฺงฺคุลายโต;
ติณาทิ มุฏฺิมตฺตมฺปิ, ปณฺณํ เอกมฺปิ มตฺติกา.
ปากตา ปฺจวณฺณา วา, สุธากงฺคุฏฺ อาทิกา;
ตาลปกฺกปฺปมาณาปิ, ทินฺนา วา ตตฺถชาตกา.
รกฺขิตา สงฺฆิกา รชฺชุ-โยตฺตาทีปิ อภาชิยา;
นิฏฺิเต ภาชิยา กมฺเม, สงฺฆิเก เจติยสฺส วา.
ปตฺตาทิ ภิกฺขุสารุปฺปํ, ตถา วิปฺปกตากตํ;
ภาชิยํ โลหภณฺเฑสุ, วารกํ ปาทคณฺหกํ.
เวฬุมฺหิ ภาชิยา เตล-นาฬิ กตฺตรทณฺฑโก;
ฉตฺตทณฺฑสลากาโย, ตโถปาหนทณฺฑโก.
อนฺุาตวาสิทณฺโฑ, กรณฺโฑ ปาทคณฺหโก;
อรณฺชนิสิงฺคาทิ, ภิกฺขูปกรณํ ตถา.
ตจฺฉิตานิฏฺิตํ ทารุภณฺฑํ ทนฺตฺจ ภาชิยํ;
ภิกฺขูปกรเณ ปาทฆฏโก มตฺติกามโย.
ภาชิยํ กปฺปิยํ จมฺมํ, เอฬจมฺมมภาชิยํ;
ครุนา ครุภณฺฑฺจ, ถาวรํ ถาวเรน จ.
ถาวรํ ¶ ปริวตฺเตยฺย, ตถา กตฺวา จ ภฺุชตุ;
วลฺลาทึ ผาติกมฺเมน, คณฺเห เสสมภาชิยนฺติ.
๔๑. ปกิณฺณกนิทฺเทโส
ปกิณฺณกนฺติ ¶ –
สทฺวารพนฺธเน าเน, โสทุกฺขลกปาสเก;
สยนฺเตน ทิวา ทฺวารํ, พนฺเธยฺย ปริวฏฺฏกํ.
สนฺเต วิฺุมฺหิ ปุริเส, อาโภโค จาปิ กปฺปติ;
สวเส ตํ วินาการํ, สยนฺโต ทุกฺกฏํ ผุเส.
รตนานิตฺถิรูปานิ, ธฺมิตฺถิปสาธนํ;
ตูริยาวุธภณฺฑานิ, อามสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
สิตฺถเตโลทเตเลหิ, ผณหตฺถผเณหิ วา;
โกจฺเฉนวาปิ โย เกเส, โอสณฺเยฺยสฺส ทุกฺกฏํ.
เนกปาวุรณา เอกตฺถรณา วา ตุวฏฺฏยุํ;
ตเถกมฺเจ ภฺุเชยฺยุํ, เอกสฺมึ วาปิ ภาชเน.
จตุรงฺคุลโต อูนมธิกฏฺงฺคุลํ ตถา;
ทนฺตกฏฺํ น ขาเทยฺย, ลสุณํ น อกลฺลโก.
หีนุกฺกฏฺเหิ อุกฺกฏฺํ, หีนํ วา ชาติอาทิหิ;
อุชุํ วาฺาปเทเสน, วเท ทุพฺภาสิตํ ทวา.
ทีเฆ นเข จ เกเส จ, นาสโลเม น ธารเย;
น ลพฺภํ วีสติมฏฺํ, สมฺพาเธ โลมหารณํ.
ยถาวุฑฺฒํ น พาเธยฺย, สงฺฆุทฺทิฏฺํว สงฺฆิกํ;
อโธตอลฺลปาเทหิ, นกฺกเม สยนาสนํ;
สุโธตปาทกํ วาปิ, ตเถว สอุปาหโน.
สงฺฆาฏิยา ¶ ¶ น ปลฺลตฺเถ, ภิตฺตาทึ น อปสฺสเย;
ปริกมฺมกตํ สนฺเต, อุทเก โน น อาจเม.
อกปฺปิยสมาทาเน, ทวา สิลาปวิชฺฌเน;
เทสนาย สภาคาย, อาวิกมฺเม จ ทุกฺกฏํ.
ปฏิสฺสววิสํวาเท, สุทฺธจิตฺตสฺส ทุกฺกฏํ;
ปฏิสฺสวกฺขเณ เอว, ปาจิตฺติ อิตรสฺส ตุ.
น รุกฺขมภิรูเหยฺย, สติ กิจฺเจว โปริสํ;
อาปทาสุ ยถากามํ, กปฺปตี อภิรูหิตุํ.
วินาทฺธานํ วชนฺตสฺส, ทุกฺกฏํ ปริสาวนํ;
ยาจมานสฺส อทฺธาเน, อททนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
ถุลฺลจฺจยํ ผุเส องฺคชาตจฺเฉเทน ทุกฺกฏํ;
อาพาธปฺปจฺจยาฺตฺร, เสสงฺเค อตฺตฆาตเน.
จิตฺตโปตฺถกรูปานิ, น กเร น จ การเย;
น วุฏฺาเปยฺย ภฺุชนฺตํ, อารามารฺเคหสุ.
ยานานิ ปุมยุตฺตานิ, สิวิกํ หตฺถวฏฺฏกํ;
ปาฏงฺกิฺจ คิลานสฺส, กปฺปตี อภิรูหิตุํ.
พุทฺธํ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ, อารพฺภ กรเณ ทวํ;
ทุกฺกฏํ ปริสํ วาปิ, อฺสฺส อุปลาฬเน.
กายํ ¶ อูรุํ นิมิตฺตํ วา, ภิกฺขุนีนํ น ทสฺสเย;
วิวริตฺวา น สิฺเจยฺย, ตา กทฺทมุทกาทินา.
น คณฺหโต จ โอวาทํ, น ปจฺจาหรโตปิ จ;
พาลํ คิลานํ คมิยํ, วชฺชยิตฺวาน ทุกฺกฏํ.
โลกายตํ น วาเจยฺย, ปลิตํ น จ คาหเย;
เปฬายปิ น ภฺุเชยฺย, น กีเฬ กิฺจิ กีฬิตํ.
ปารุเป ¶ น นิวาเสยฺย, คิหิปารุตนิวาสนํ;
สํเวลฺลิยํ นิวาเสยฺย, ทายํ นาลิมฺปเยยฺย วา.
วฑฺฒึ ปโยชเย ยาเจ, โนฺาตกปฺปวาริเต;
อตฺตโน ปริโภคตฺถํ, ทินฺนมฺสฺส โน ทเท;
อคฺคํ คเหตฺวา ภุตฺวา วา, กติปาหํ ปุโน ทเท.
อุทฺทิสฺส ยาจเน รกฺขํ, ตฺวาตฺวา ว ทณฺฑินํ;
คีวาสฺส ทณฺฑิเต ทณฺโฑ, สยํ ทณฺฑาปเน ปน;
ทณฺฑสฺส อคฺฆเภเทน, เยฺยา ปาราชิกาทิกา.
หรนฺเตสุ ปริกฺขารํ, ‘‘โจโร โจโร’’ติ ภาสิเต;
อนตฺถาเยสํ คณฺหนฺเต, ทณฺฑํ คีวาสฺส ตตฺตกํ.
วิฆาสุจฺจารสงฺการ-มุตฺตํ ฉฑฺเฑยฺย ทุกฺกฏํ;
พหิ ปาการกุฏฺฏานํ, วฬฺเช นาวโลกิย;
หริเต วาปิ วีหาทิ-นาฬิเกราทิโรปิเม.
โยชาเปตุํ ¶ ปโยเชตุํ, ปยุตฺตานิ จ ปสฺสิตุํ;
น ลพฺภํ ธมฺมยุตฺตมฺปิ, นจฺจํ คีตฺจ วาทิตํ;
‘‘อุปหารํ กโรมา’’ติ, วุตฺเต วา สมฺปฏิจฺฉิตุํ.
ราชาคารํ โปกฺขรณึ, อุยฺยานํ จิตฺตคารกํ;
กีฬตฺถํ คจฺฉโต ทฏฺุํ, อารามํ ทุกฺกฏํ กตํ.
นเว น ปฏิพาเหยฺยา-สเนนุณฺเห น จีวรํ;
นิทเหยฺย ขมาเปยฺย, ครุนา จ ปณามิโต.
อกฺโกสเน ปรมฺมุขา, อาปตฺตีหิ จ สตฺตหิ;
ภิกฺขุํ อุปาสกํ วาปิ, อฺเเนว จ ทุกฺกฏํ.
น ลพฺภํ วินิปาเตตุํ, สทฺธาเทยฺยฺจ จีวรํ;
ลพฺภํ ปิตูนํ เสสานํ, าตีนมฺปิ น ลพฺภติ.
วสฺสํวุตฺโถฺโตฺตฺร ¶ , ภาคํ คณฺเหยฺย ทุกฺกฏํ;
ปฏิเทยฺย นฏฺเ ชิณฺเณ, คีวา โน เทยฺย โจทิโต;
ธุรนิกฺเขปโต เตสํ, โหติ ภณฺฑคฺฆการิโย.
น สนฺตรุตฺตโร คามํ, กลฺโล วา สอุปาหโน;
ปวิเสยฺย น ธาเรยฺย, จามรีมกสพีชนึ.
อคิลาโน น ฉินฺเทยฺย, เกเส กตฺตริยา พหิ;
อารามโต น ธาเรยฺย, ฉตฺตํ ลพฺภติ คุตฺติยา.
คาเหยฺย นุภโตกาชํ, เอกนฺตริกกาชกํ;
สีสกฺขนฺธกฏิภารา, หตฺโถลมฺโพ จ ลพฺภติ.
อาปตฺติยา ¶ อโนกาส-กตํ โจเทยฺย ทุกฺกฏํ;
สุทฺธสฺส จ อวตฺถุสฺมึ, ตถา โอกาสการเณ.
อฏฺงฺคุลาธิกํ มฺจปฏิปาทํ น ธารเย;
ปกตงฺคุเลน สตฺตานํ, มฺจํ วา อุจฺจปาทกํ.
มูคพฺพตาทึ คณฺเหยฺย, ทุกฺกฏํ ติตฺถิยพฺพตํ;
ขุรภณฺฑํ ปริหเร, ตถา นฺหาปิตปุพฺพโก.
ยํ กิฺจิ ยาจิตุํ หตฺถกมฺมํ ตทนุสารโต;
ลทฺธํ คเหตุํ นิกฺกมฺมมยาจิตฺวาปิ กปฺปติ;
กาเรตุมาหราเปตุํ, ยํ กิฺจิปรสนฺตกํ.
คิหีนํ โคปเก เทนฺเต, คเหตุํ เทติ ยตฺตกํ;
ลพฺภํ ยถาปริจฺเฉทํ, สงฺฆเจติยสนฺตเก.
ทฺวีหาปชฺเชยฺย อาปตฺตึ, กายวาจาหิ วา ฉหิ;
อลชฺชิฺาณกุกฺกุจฺจปกตตฺตา สติปฺลวา;
อกปฺปิเย วา กปฺปิเย, กปฺปากปฺปิยสฺิตา.
อลชฺชิฺาณตาปตฺตึ ¶ , กายวาจาหิ ฉาทเย;
ลิงฺเค สงฺเฆ คเณกสฺมึ, จตุธาปตฺติวุฏฺิติ.
ปริกโถภาสวิฺตฺติ, น ลพฺภา ปจฺจยทฺวเย;
วิฺตฺติเยว ตติเย, เสเส สพฺพมฺปิ ลพฺภติ.
น รูหตจฺจเย ทานํ, ปฺจนฺนํ สหธมฺมินํ;
สงฺฆสฺเสว จ ตํ โหติ, คิหีนํ ปน รูหติ.
ภิกฺขุ ¶ วา สามเณโร วา, กาลํ กยิราถูปสฺสเย;
ภิกฺขุสงฺโฆว ทายชฺโช, ตตฺถ เสเสปฺยยํนโย.
ปุริมสฺเสวิมํ ทินฺนํ, เทหิ เนตฺวาสุกสฺสติ;
ปจฺฉิมสฺเสว ทมฺมีติ, ทินฺนํ ตฺวา อิมํ วิธึ;
คณฺเห วิสฺสาสคาหํ วาธิฏฺเ มตกจีวรํ.
โลหภณฺเฑ ปหรณึ, ทารุภณฺเฑ จ ทารุชํ;
ปตฺตํ ปาทุกปลฺลงฺกํ, อาสนฺทึ มตฺติกามเย;
เปตฺวา กปฺปติ สพฺพํ, กตกํ กุมฺภการิกนฺติ.
๔๒. เทสนานิทฺเทโส
เทสนาติ –
จาโค โย ภิกฺขุภาวสฺส, สา ปาราชิกเทสนา;
ยถาวุตฺเตน วุฏฺานํ, ครุกาปตฺติเทสนา.
อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา, ปคฺคณฺหิตฺวาน อฺชลึ;
ถุลฺลจฺจยาทึ เทเสยฺย, เอวเมกสฺส สนฺติเก.
๓๘๔. ‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ ถุลฺลจฺจยาปตฺตึ อาปชฺชึ, ตํ ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วตฺวา เตน ‘‘ปสฺสสิ, อาวุโส, ตํ อาปตฺติ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อาม, ภนฺเต, ปสฺสามี’’ติ วตฺวา ปุน เตน ‘‘อายตึ, อาวุโส, สํวเรยฺยาสี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ สุฏฺุ, ภนฺเต, สํวริสฺสามี’’ติ ¶ วตฺตพฺพํ. ‘‘อหํ, ภนฺเต, ทฺเว ถุลฺลจฺจยาปตฺติโย อาปชฺชึ, อหํ ภนฺเต สมฺพหุลา ถุลฺลจฺจยาปตฺติโย อาปชฺชึ, ตา ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วตฺตพฺพํ.
นิสฺสคฺคิเยสุ ปน ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ ทสาหาติกฺกนฺตํ นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ อายสฺมโต ¶ นิสฺสชฺชามี’’ติ. ‘‘อิมานิ เม, ภนฺเต, จีวรานิ…เป… เอตํ เม, ภนฺเต, จีวรํ…เป… เอตานิ เม, ภนฺเต, จีวรานิ ทสาหาติกฺกนฺตานิ นิสฺสคฺคิยานิ, เอตานาหํ อายสฺมโต นิสฺสชฺชามี’’ติ.
นิสฺสชฺชิตฺวาน เทเสยฺย, อาปตฺตึ เตน ภิกฺขุนา;
ปฏิคฺคเหตฺวา อาปตฺตึ, เทยฺยํ นิสฺสฏฺจีวรํ.
‘‘อิมํ, อิมานิ, เอตํ, เอตานิ จีวรานิ อายสฺมโต ทมฺมี’’ติ.
๓๘๖. (ก) อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ รตฺติวิปฺปวุตฺถํ อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา นิสฺสคฺคิยํ.
(ข) อิทํ เม, ภนฺเต, อกาลจีวรํ มาสาติกฺกนฺตํ นิสฺสคฺคิยํ.
(ค) อิทํ เม, ภนฺเต, ปุราณจีวรํ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา โธวาปิตํ นิสฺสคฺคิยํ.
(ฆ) อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต ปฏิคฺคหิตํ อฺตฺร ปาริวตฺตกา นิสฺสคฺคิยํ.
(ง) อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ อฺาตกํ คหปติกํ อฺตฺร สมยา วิฺาปิตํ นิสฺสคฺคิยํ.
(จ) อิทํ ¶ เม, ภนฺเต, จีวรํ อฺาตกํ คหปติกํ ตตุตฺตริ วิฺาปิตํ นิสฺสคฺคิยํ.
(ฉ) อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ ปุพฺเพ อปฺปวาริโต อฺาตกํ คหปติกํ อุปสงฺกมิตฺวา วิกปฺปํ อาปนฺนํ นิสฺสคฺคิยํ.
(ช) อิทํ ¶ เม, ภนฺเต, จีวรํ ปุพฺเพ อปฺปวาริโต อฺาตเก คหปติเก อุปสงฺกมิตฺวา วิกปฺปํ อาปนฺนํ นิสฺสคฺคิยํ.
(ฌ) อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ อติเรกติกฺขตฺตุํ โจทนาย อติเรกฉกฺขตฺตุํ าเนน อภินิปฺผาทิตํ นิสฺสคฺคิยํ.
() อิทํ เม, ภนฺเต, โกสิยมิสฺสกํ สนฺถตํ การาปิตํ นิสฺสคฺคิยํ.
(ฏ) อิทํ เม, ภนฺเต, สุทฺธกาฬกานํ เอฬกโลมานํ สนฺถตํ การาปิตํ นิสฺสคฺคิยํ.
() อิทํ เม, ภนฺเต, สนฺถตํ อนาทิยิตฺวา ตุลํ โอทาตานํ ตุลํ โคจริยานํ การาปิตํ นิสฺสคฺคิยํ.
(ฑ) อิทํ เม, ภนฺเต, สนฺถตํ อูนกฉพฺพสฺสานิ การาปิตํ อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา นิสฺสคฺคิยํ.
(ฒ) อิทํ เม, ภนฺเต, นิสีทนสนฺถตํ อนาทิยิตฺวา ปุราณสนฺถตสฺส สามนฺตา สุคตวิทตฺถึ การาปิตํ นิสฺสคฺคิยํ.
(ณ) อิมานิ เม, ภนฺเต, เอฬกโลมานิ ติโยชนปรมํ อติกฺกามิตานิ นิสฺสคฺคิยานิ.
(ต) อิมานิ ¶ เม, ภนฺเต, เอฬกโลมานิ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา โธวาปิตานิ นิสฺสคฺคิยานิ.
(ถ) อหํ, ภนฺเต, รูปิยํ ปฏิคฺคเหสึ, อิทํ เม, ภนฺเต, นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามิ.
(ท) อหํ ¶ , ภนฺเต, นานปฺปการกํ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชึ, อิทํ เม, ภนฺเต, นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามีติ.
นิสฺสชฺชิตฺวาน อาปตฺตึ, เทเสยฺยาถ คิหึ วเท;
‘‘ชานาหิม’’นฺติ อิมินา, โส วเทยฺยาหรามิ กึ.
อวตฺวามนฺติ เตลาทึ, วเท ภิกฺขูน กปฺปิยํ;
ยํ อาหรติ โส เตน, ปริวตฺเตตฺวาน กปฺปิยํ.
ลพฺภํ เปตฺวา ทฺเวเปเต, เสเสหิ ปริภฺุชิตุํ;
ตโต อฺเน ลทฺโธปิ, ภาโค เตสํ น กปฺปติ.
รุกฺขจฺฉายาปฺยนฺตมโส, ตนฺนิพฺพตฺตา น กปฺปติ;
นิสฺสฏฺํ ปฏิลทฺธมฺปิ, อาทิโต สนฺถตตฺตยํ.
โน เจ ลเภถ เอวํ โส, อิมํ ฉฑฺเฑหิ สํสิโย;
เอวมฺปิ ภิกฺขุ ฉฑฺเฑยฺย, โน เจ ลเภถ สมฺมโต.
เอตานิ ทุติโย ปตฺโต, สงฺเฆ เสสานิ ลพฺภเร;
สงฺเฆกสฺมึ คเณ วตฺตุํ, ลพฺภํ ภาสนฺตเรนปิ.
๓๙๓. (ก) อหํ, ภนฺเต, นานปฺปการกํ กยวิกฺกยํ สมาปชฺชึ, อิทํ เม, ภนฺเต, นิสฺสคฺคิยํ.
(ข) อยํ ¶ เม, ภนฺเต, ปตฺโต ทสาหาติกฺกนฺโต นิสฺสคฺคิโย.
(ค) อยํ เม, ภนฺเต, ปตฺโต อูนปฺจพนฺธเนน ปตฺเตน เจตาปิโต นิสฺสคฺคิโย, อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามีติ.
นิสฺสชฺชิตฺวาน ¶ เทเสยฺย, อาปตฺตึ ปตฺตคาหกํ;
สมฺมนฺนิตฺวาน สงฺฆสฺส, ปตฺตนฺตํ ตสฺส ทาปเย.
๓๙๕. (ก) อิทํ เม, ภนฺเต, เภสชฺชํ สตฺตาหาติกฺกนฺตํ นิสฺสคฺคิยํ.
(ข) อิทํ เม, ภนฺเต, วสฺสิกสาฏิกจีวรํ อติเรกมาเส เสเส คิมฺหาเน ปริยิฏฺํ, อติเรกฑฺฒมาเส เสเส คิมฺหาเน กตฺวา ปริทหิตํ นิสฺสคฺคิยํ.
(ค) อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ ภิกฺขุสฺส สามํ ทตฺวา อจฺฉินฺนํ นิสฺสคฺคิยํ.
(ฆ) อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ สามํ สุตฺตํ วิฺาเปตฺวา ตนฺตวาเยหิ วายาปิตํ นิสฺสคฺคิยํ.
(ง) อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ ปุพฺเพ อปฺปวาริโต อฺาตกสฺส คหปติกสฺส ตนฺตวาเย อุปสงฺกมิตฺวา วิกปฺปํ อาปนฺนํ นิสฺสคฺคิยํ.
(จ) อิทํ เม, ภนฺเต, อจฺเจกจีวรํ จีวรกาลสมยํ อติกฺกามิตํ นิสฺสคฺคิยํ.
(ฉ) อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ อติเรกฉารตฺตํ วิปฺปวุตฺถํ อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา นิสฺสคฺคิยํ.
(ช) อิทํ เม, ภนฺเต, ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ อตฺตโน ปริณามิตํ นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ อายสฺมโต นิสฺสชฺชามีติ.
๓๙๖. เสสํ ¶ สพฺพํ ยถาโยคํ, อาทิมฺหิ วิย โยชเย.
๓๙๗. (ก) อหํ ¶ , ภนฺเต, เอกํ ปาจิตฺติยาปตฺตึ อาปชฺชึ. ทฺเว สมฺพหุลา ปาจิตฺติยาปตฺติโย อาปชฺชึ.
(ข) คารยฺหํ, ภนฺเต, ธมฺมํ อาปชฺชึ อสปฺปายํ ปาฏิเทสนียํ, ตํ ปฏิเทเสมีติ. เตน ‘‘ปสฺสสิ, อาวุโส, ตํ ธมฺม’’นฺติ วตฺตพฺพํ.
(ค) อหํ, ภนฺเต, เอกํ ทุกฺกฏาปตฺตึ อาปชฺชึ. ทฺเว สมฺพหุลา ทุกฺกฏาปตฺติโย อาปชฺชึ.
(ฆ) อหํ, ภนฺเต, เอกํ ทุพฺภาสิตาปตฺตึ อาปชฺชึ. ทฺเว สมฺพหุลา ทุพฺภาสิตาปตฺติโย อาปชฺชึ. ตา ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมีติ.
(ง) ‘‘อหํ, ภนฺเต, ทฺเว นานาวตฺถุกา ถุลฺลจฺจยาปตฺติโย อาปชฺชึ. สมฺพหุลา นานาวตฺถุกา ถุลฺลจฺจยาปตฺติโย อาปชฺชึ, ตา ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วตฺวา เตน ‘‘ปสฺสสิ, อาวุโส, ตา อาปตฺติโย’’ติ วุตฺเต ‘‘อาม, ภนฺเต, ปสฺสามี’’ติ วตฺวา ปุน เตน ‘‘อายตึ, อาวุโส, สํวเรยฺยาสี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ สุฏฺุ, ภนฺเต, สํวริสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํ.
อเทสนาคามินิยํ, อนาปตฺติฺจ เทสิตํ;
นานา สํวาสนิสฺสีมฏฺิตานํ จตุปฺจหิ;
มนสา ปกตตฺตานํ, นาเนกาติ น เทสเยติ.
๔๓. ฉนฺททานนิทฺเทโส
ฉนฺททานาทีติ –
เภรึ ฆณฺฏึ ปตาเฬตฺวา, กมฺมปฺปตฺเต สมาคเต;
สงฺเฆ หเรยฺย ฉนฺทํ วา, ปาริสุทฺธึ ปวารณํ.
เอกํ ¶ ¶ ภิกฺขุํ อุปคฺคมฺม, นิสีทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ;
อฺชลึ ปคฺคณฺหิตฺวาน, ทเท ฉนฺทํ วิจกฺขโณ.
๔๐๑. (ก) ‘‘ฉนฺทํ ทมฺมิ, ฉนฺทํ เม หร, ฉนฺทํ เม อาโรเจหี’’ติ วตฺตพฺพํ.
(ข) ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ‘‘ปาริสุทฺธึ ทมฺมิ, ปาริสุทฺธึ เม หร, ปาริสุทฺธึ เม อาโรเจหี’’ติ วตฺตพฺพํ.
ปาริสุทฺธิปฺปทาเนน, สมฺปาเทติ อุโปสถํ;
สงฺฆสฺส อตฺตโน จาปิ, เสสกมฺมํ วิพาธติ.
ฉนฺททาเนน สงฺฆสฺส, ทฺวยํ สาเธติ นตฺตโน;
ตสฺมา ฉนฺทํ ททนฺเตน, ทาตพฺพา ปาริสุทฺธิปิ.
หเรยฺเยโก พหูนมฺปิ, ปรมฺปรา น หารเย;
ปรมฺปราหฏา ฉนฺท-ปาริสุทฺธิ น คจฺฉติ.
๔๐๕. สพฺพูปจารํ กตฺวาน, เอวํ เทยฺยา ปวารณา. ‘‘ปวารณํ ทมฺมิ, ปวารณํ เม หร, ปวารณํ เม อาโรเจหิ, มมตฺถาย ปวาเรหี’’ติ.
๔๐๖. อาโรเจตฺวาถ โส สงฺฆํ, ปวาเรยฺเยวมาคโต. ‘‘อิตฺถนฺนาโม, ภนฺเต, สงฺฆํ ปวาเรติ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ ตํ สงฺโฆ อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสตี’’ติ.
คเหตฺวา ปาริสุทฺธึ วา, ฉนฺทํ วาปิ ปวารณํ;
หารโก สงฺฆมปฺปตฺวา, วิพฺภเมยฺย มเรยฺย วา.
สามเณราทิภาวํ ¶ วา,
ปฏิชาเนยฺย นาหฏา;
ปตฺวา สงฺฆํ ตถา เหยฺย,
อาหฏา โหติ หารโก.
สงฺฆปฺปตฺโต ¶ ปมตฺโต วา, สุตฺโต นาโรจเยยฺย วา;
อนาปตฺติว สฺจิจฺจ, นาโรเจนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ.
๔๔. อุโปสถนิทฺเทโส
อุโปสโถติ –
ทุเว อุโปสถา จาตุ-ทฺทโส ปนฺนรโส อิติ;
สุตฺตุทฺเทสมธิฏฺาน-ปาริสุทฺธิวสา ตโย.
สุตฺตุทฺเทโสว สงฺฆสฺส, อธิฏฺานอุโปสโถ;
ปุคฺคลสฺเสว เสสานํ, ปาริสุทฺธิอุโปสโถ.
ปุพฺพกิจฺเจ จ กรเณ, ปตฺตกลฺเล สมานิเต;
สุตฺตํ อุทฺทิสติ สงฺโฆ, ปฺจธา โส วิภาวิโต.
วินานฺตรายํ สงฺเขเป-นุทฺเทโส วินิวาริโต;
‘‘เถโรว อิสฺสโร ทฺวีสุ, อุทฺเทเสสฺเวตฺถ ตีสุ วา;
วิสเทสู’’ติ วุตฺตตฺตา, อวตฺตนฺเตปิ วฏฺฏติ.
อาคจฺเฉยฺยุํ ยทิ สมา, อุทฺทิสนฺเต ว โถกิกา;
อุทฺทิฏฺํ ยํ สุอุทฺทิฏฺํ, โสตพฺพมวเสสกํ.
อุทฺทิฏฺมตฺเต ¶ สกลา-เยกจฺจายุฏฺิตาย วา;
ปาริสุทฺธึ กเรยฺเยสํ, สนฺติเก พหุกาถ เจ;
กตฺวา สพฺพวิกปฺเปสุ, ปุพฺพกิจฺจํ ปุนุทฺทิเส.
ปนฺนรโสวาสิกานํ, อิตรานํ สเจตโร;
สมาเนตเรนุวตฺตนฺตุ, ปุริมานํ สเจธิกา;
ปุริมา อนุวตฺตนฺตุ, เตสํ เสเสปฺยยํ นโย.
ปาฏิปโทวาสิกานํ, อิตรานํ อุโปสโถ;
สมโถกานํ สามคฺคึ, มูลฏฺา เทนฺตุ กามโต.
พหิ คนฺตฺวาน กาตพฺโพ, โน เจ เทนฺติ อุโปสโถ;
เทยฺยานิจฺฉาย สามคฺคี, พหูสุ พหิ วา วเช.
ปาฏิปเทคนฺตุกานํ ¶ , เอวเมว อยํ นโย;
สาเวยฺย สุตฺตํ สฺจิจฺจ, อสฺสาเวนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
สมฺมชฺชิตุํ ปทีเปตุํ, ปฺาเปตุํ ทกาสนํ;
น กเรยฺย ตถา กลฺโล, มหาเถเรน เปสิโต.
๔๒๑. สมฺมชฺชิตฺวา ปทีเปตฺวา, ปฏฺเปตฺวา ทกาสนํ. คณตฺตึ เปตฺเววํ, กตฺตพฺโพ ตีหุโปสโถ. ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อฺมฺํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยามา’’ติ.
๔๒๒. เอกํสํ จีวรํ กตฺวา, นิสีทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ,. เถเรน อฺชลึ เตวํ, ปคฺคยฺห สมุทีริยา. ‘‘ปริสุทฺโธ ¶ อหํ อาวุโส, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’’ติ, วเท ยาวตตียกํ.
๔๒๓. สมตฺตปุพฺพารมฺเภน, เต นเวเนวมีริยา. ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ ภนฺเต, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’’ติ, วเท ยาวตตียกํ.
๔๒๔. ทฺวีสุ เถเรน กตฺตพฺพํ, กตฺเววมีริโย นโว. ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ อาวุโส, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรหี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺโพ.
นเวน เถโร ติกฺขตฺตุํ, เอวมสฺส อุทีริโย;
‘‘ปริสุทฺโธ อหํ ภนฺเต, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’’ติ.
๔๒๖. ปุพฺพกิจฺจํ ¶ สมาเปตฺวา, อธิฏฺเยฺเยวเมกโก. ‘‘อชฺช เม อุโปสโถ ปนฺนรโสติ วา จาตุทฺทโสติ วา อธิฏฺามี’’ติ วตฺตพฺพํ, โน เจธิฏฺเยฺย ทุกฺกฏํ.
ยตฺถ วสนฺติ จตฺตาโร, ตโย วา ยทิ วา ทุเว;
ปาริสุทฺธึ หริตฺวาน, เอเกกสฺสิตรีตเร;
ตํ ตํ อุโปสถํ กยิรุํ, สิยา อาปตฺติ ทุกฺกฏํ.
วคฺเค สมคฺเค วคฺโคติ, สฺิโน วิมติสฺส วา;
ทุกฺกฏํ กโรโต เภทา-ธิปฺปาเยน ถุลฺลจฺจยํ;
วคฺเค สมคฺเคนาปตฺติ, สมคฺโค อิติ สฺิโน.
อุกฺขิตฺตสฺส ¶ คหฏฺสฺส, เสสานํ สหธมฺมินํ;
ปาราชิกสฺสาภพฺพสฺส, สิกฺขานิกฺขิตฺตกสฺส จ.
นิสินฺนปริสายฺจ, สภาคาปตฺติโก ตถา;
ฉนฺเทน ปริวุตฺเถน, ปาติโมกฺขํ น อุทฺทิเส.
อเทสยิตฺวานาปนฺนํ, นาวิกตฺวาน เวมตึ;
นุโปสเถปิ วา กาตุํ, โปสโถ น จ กปฺปติ.
อฏฺิโตโปสถาวาสา, น วเช ตทหู วินา;
อนฺตรายํ ว สงฺฆํ วา-ธิฏฺาตุํ สีมเมว วาติ.
๔๕. ปวารณานิทฺเทโส
ปวารณาติ –
ทฺวินฺนํ ติณฺณํ จตุนฺนฺจ, อฺมฺปฺปวารณา;
เอกสฺส จ อธิฏฺานํ, เสสา สงฺฆปฺปวารณา.
ปุพฺพกิจฺเจ จ กรเณ, ปตฺตกลฺเล สมานิเต;
เปตฺวา ตฺตึ สงฺเฆน, กตฺตพฺเพวํ ปวารณา.
‘‘สุณาตุ ¶ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ.
เอกํสํ จีวรํ กตฺวา, นิสีทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ;
เถเรน อฺชลึ สงฺโฆ, ปคฺคยฺห สมุทีริโย.
๔๓๖. ‘‘สงฺฆํ, อาวุโส, ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต ¶ อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ, อาวุโส, สงฺฆํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ.
ปวาเรนฺเตสุ เถเรสุ, นิสชฺชุกฺกุฏิกํ นโว;
ปวาเรติ สยํ ยาว, อุกฺกุฏิโกว อจฺฉตุ.
๔๓๘. ปุพฺพารมฺภํ สมาเปตฺวา, นโว สงฺฆมุทีรเย.
๔๓๙. ‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ.
ทาเนน ธมฺมสากจฺฉา, กลเหหิ จ รตฺติยา;
เตวาจิกาย โอกาเส-สติ เขปิตภาวโต;
อนฺตราเย ทสวิเธ, ตฺตึ วตฺวานุรูปโต.
๔๔๑. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, มนุสฺเสหิ ทานํ เทนฺเตหิ, ทฺวีหิ ภิกฺขูหิ ธมฺมํ สากจฺฉนฺเตหิ, กลหํ กโรนฺเตหิ เยภุยฺเยน รตฺติ เขปิตา. สเจ สงฺโฆ ¶ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สงฺโฆ ภวิสฺสติ, อถายํ รตฺติ วิภายิสฺสติ. อยํ ราชนฺตราโย, อยํ โจรนฺตราโย, อยํ อคฺยนฺตราโย, อยํ อุทกนฺตราโย, อยํ มนุสฺสนฺตราโย, อยํ อมนุสฺสนฺตราโย, อยํ วาฬนฺตราโย, อยํ สรีสปนฺตราโย, อยํ ชีวิตนฺตราโย, อยํ พฺรหฺมจริยนฺตราโย. สเจ สงฺโฆ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สงฺโฆ ภวิสฺสติ, อถายํ พฺรหฺมจริยนฺตราโย ภวิสฺสติ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ทฺเววาจิกํ, เอกวาจิกํ, สมานวสฺสิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ.
ปวาเรยฺยานุรูเปน ¶ , ยถาปิตตฺติยา;
อาคจฺเฉยฺยุํ ยทิ สมา, อาทิกา เจตฺถ อาหเร.
๔๔๓. เอวํ ติจตุวคฺโค จ, ตฺตึ วตฺวา ปวารเย. ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อฺมฺํ ปวาเรยฺยามา’’ติ.
เอกํสํ จีวรํ กตฺวา, นิสีทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ;
เถเรน อฺชลึ เตวํ, ปคฺคยฺห สมุทีริยา.
๔๔๕. ‘‘อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺตา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺตา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ.
นเวนาปิ ¶ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺตา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺตา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ.
๔๔๖. ทฺวีสุ เถเรน กตฺตพฺพํ, นโว กตฺเววมีริโย.
๔๔๗. ‘‘อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ.
นเวนาปิ ¶ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ.
๔๔๘. ปุพฺพกิจฺจํ สมาเปตฺวา, อธิฏฺเยฺเยวเมกโก. ‘‘อชฺช เม ปวารณา จาตุทฺทสีติ วา ปนฺนรสีติ วา อธิฏฺามี’’ติ วตฺตพฺพํ.
ยสฺมึ วสนฺติ วา ปฺจ, จตฺตาโร วา ตโย ทุเว;
ปวารณํ หริตฺวาน, เอเกกสฺสิตรีตเร.
ตํ ¶ ตํ ปวารณํ กยิรุํ,
สิยา อาปตฺติ ทุกฺกฏํ;
เสสา อุโปสเถ วุตฺตา,
คาถาโย เจตฺถ อาหเร.
ปวาริเตว สงฺฆมฺหิ, ปาริสุทฺธิอุโปสถํ;
กเรยฺย ฉินฺนวสฺโส วา, อวุตฺโถ วานุปคโต.
จาตุมาสินิยา จาปิ, กเต สงฺเฆนุโปสเถ;
วุตฺถวสฺสา ปวาเรยฺยุํ, สเจ อปฺปตรา สิยุนฺติ.
๔๖. สํวรนิทฺเทโส
สํวโรติ –
จกฺขุโสตาทิเภเทหิ, รูปสทฺทาทิโคจเร;
อภิชฺฌาโทมนสฺสาทิ-ปฺปวตฺตึ วินิวารเย.
นิคฺคณฺเหยฺย ¶ สกํ จิตฺตํ, กิฏฺาทึ วิย ทุปฺปสุํ;
สติมา สมฺปชาโน จ, จเร สพฺพิริยาปเถติ.
๔๗. สุทฺธินิทฺเทโส
สุทฺธีติ –
เทสนา สํวโร เอฏฺิปจฺจเวกฺขณ เภทโต;
สุทฺธี จตุพฺพิธา ปาติโมกฺขสํวรสมฺมตํ;
เทสนาย วิสุทฺธตฺตา, เทสนาสุทฺธิ วุจฺจติ.
‘‘น ปุเนวํ กริสฺส’’นฺติ, จิตฺตาธิฏฺานสํวรา;
วุตฺโต สํวรสุทฺธีติ, สุชฺฌตินฺทฺริยสํวโร.
ปหายาเนสนํ ธมฺเมนุปฺปาเทนฺตสฺส เอฏฺิยา;
สุทฺธตฺตา เอฏฺิสุทฺธีติ, วุตฺตมาชีวนิสฺสิตํ.
โยนิโส ¶ ปฏิสงฺขาย, จีวรํ ปฏิเสวติ;
เอวมาทิยถาวุตฺต-ปจฺจเวกฺขณสุชฺฌนา;
ปจฺจเวกฺขณสุทฺธีติ, วุตฺตํ ปจฺจยนิสฺสิตนฺติ.
๔๘. สนฺโตสนิทฺเทโส
สนฺโตโสติ –
อปฺเปน อนวชฺเชน, สนฺตุฏฺโ สุลเภน จ;
มตฺตฺู สุภโร หุตฺวา, จเร สทฺธมฺมคารโว.
อตีตํ ¶ นานุโสจนฺโต, นปฺปชปฺปมนาคตํ;
ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺโต, สนฺตุฏฺโติ ปวุจฺจตีติ.
๔๙. จตุรารกฺขนิทฺเทโส
จตุรกฺขาติ –
พุทฺธานุสฺสติ เมตฺตา จ, อสุภํ มรณสฺสติ;
อารกตฺตาทินารหํ, สมฺมา สามฺจ พุทฺธโต.
สมฺมาสมฺพุทฺธอิติ วานุสฺสติ ยา ปุนปฺปุนํ;
นวเภเท ภควโต, พุทฺธานุสฺสติ สา คุเณ.
สีมฏฺสงฺเฆ สีมฏฺเทวตาสุ จ อิสฺสเร;
ชเน โคจรคามมฺหิ, ตตฺถุปาทาย มานุเส.
สพฺพสตฺเตสุ สุขิตา, โหนฺตาเวราติอาทินา;
ปริจฺฉิชฺช ปริจฺฉิชฺช, ภาวนา เมตฺตภาวนา.
วณฺณสณฺานโอกาส-ทิสโต ปริจฺเฉทโต;
ววตฺถเปตฺวา เกสาทิ-โกฏฺาเส อนุปุพฺพโต.
นาติสีฆฺจ สณิกํ, วิกฺเขปํ ปฏิพาหยํ;
ปณฺณตฺตึ สมติกฺกมฺม, มฺุจนฺตสฺสานุปุพฺพโต.
วณฺณอาสยสณฺาน-คนฺโธกาเสหิ ¶ ภาวนา;
ปฏิกฺกูลาติ โกฏฺาเส, อุทฺธุมาตาทิวตฺถุสุ;
คเหตฺวา อสุภาการํ, ปวตฺตา ภาวนาสุภํ.
‘‘มรณํ ¶ เม ภวิสฺสติ, ชีวิตํ อุจฺฉิชฺชิสฺสติ;
มรณํ มรณํ วา’’ติ, ภาวยิตฺวาน โยนิโส.
วธกสฺเสวุปฏฺานา, สมฺปตฺตีนํ วิปตฺติโต;
อุปสํหรโต กายพหุสาธารณา ตถา.
อายุทุพฺพลโต กาลววตฺถานสฺสภาวโต;
อทฺธานสฺส ปริจฺเฉทา, ภาวนา มรณสฺสตีติ.
๕๐. วิปสฺสนานิทฺเทโส
วิปสฺสนาติ –
นามรูปํ ปริคฺคยฺห, ตโต ตสฺส จ ปจฺจยํ;
หุตฺวา อภาวโตนิจฺจา, อุทยพฺพยปีฬนา.
ทุกฺขา อวสวตฺติตฺตา, อนตฺตาติ ติลกฺขณํ;
อาโรเปตฺวาน สงฺขาเร, สมฺมสนฺโต ปุนปฺปุนํ;
ปาปุเณยฺยานุปุพฺเพน, สพฺพสํโยชนกฺขยนฺติ.
นิคมนกถา
อธิสีลาธิจิตฺตานํ, อธิปฺาย สิกฺขนา;
ภิกฺขุกิจฺจมโต ขุทฺทสิกฺขายํ สมุทาหฏา.
มหโต กิตฺติสทฺทสฺส, ยสฺส โลกวิจาริโน;
ปริสฺสโม น สมฺโภติ, มาลุตสฺเสว นิจฺจโส.
เตน ¶ ¶ ธมฺมสิรีเกน, ตมฺพปณฺณิยเกตุนา;
เถเรน รจิตา ธมฺมวินยฺุปสํสิตา.
เอตฺตาวตายํ นิฏฺานํ, ขุทฺทสิกฺขา อุปาคตา;
ปฺจมตฺเตหิ คาถานํ, สเตหิ ปริมาณโตติ.
ขุทฺทสิกฺขา นิฏฺิตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทสิกฺขา-ปุราณฏีกา
คนฺถารมฺภกถา
โย ¶ ¶ จิรํ ทีฆมทฺธานํ, วิทิตฺวา ทุกฺขิตํ ชนํ;
ตถาปิ นาวพุชฺฌนฺตมนุกมฺปาย โจทิโต.
โพธาย ปณิธึ กตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ;
ตสฺส ปาเท นมสฺสิตฺวา, ธมฺมํ สงฺฆฺจ สาธุกํ.
ปุพฺพาจริยปาเทสุ, เปตฺวา สีสมตฺตโน;
เถเรน ธมฺมสิรินา, ถิรสีเลน ยา กตา.
‘‘อาทิโต ¶ อุปสมฺปนฺนสิกฺขิตพฺพ’’นฺติอาทินา;
ขุทฺทสิกฺขา สมาเสน, ตสฺสา อตฺถวินิจฺฉยํ.
ลิขิสฺสามิ หิตตฺถาย, อาทิกมฺมิกภิกฺขุนํ;
ตตฺถ ยุตฺตํ คเหตพฺพมยุตฺตํ ตุชฺฌิตพฺพกนฺติ;
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา
(ก) เอตฺถาห – กตมา ขุทฺทสิกฺขา, กถํ สิกฺขิตพฺพา, กสฺมา สิกฺขิตพฺพา, เก สิกฺขนฺติ, เก สิกฺขิตสิกฺขาติ? วุจฺจเต – อธิสีลอธิจิตฺตอธิปฺาวเสน ติสฺโส สิกฺขา, คนฺถวเสเนตฺถ สงฺขิปิตฺวา วุตฺตตฺตา ตทฺทีปโน คนฺโถ ‘‘ขุทฺทสิกฺขา’’ติ ¶ วุจฺจติ, อถ วา ‘‘ขุทฺทํ อเนลกํ มธุปฏล’’นฺติอาทีนิ วิย สิกฺขากามานํ มธุรตาย ขุทฺทา จ ตา สิกฺขา จาติ ขุทฺทสิกฺขา, อถ วา ‘‘ขุทฺทปุตฺตมฺหิ สมณ โปส ม’’นฺติอาทีสุ วิย พหุวิธตฺตาปิ ขุทฺทา จ ตา สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขา จาติ ขุทฺทสิกฺขา. อธิสีลสิกฺขา ปเนตฺถ จาริตฺตวาริตฺตวเสน ทุวิธมฺปิ สีลํ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเนน ตปฺปฏิปกฺเข กิเลเส ตทงฺคปฺปหานวเสน ปชหนฺเตน สิกฺขิตพฺพา, อธิจิตฺตสิกฺขา ปน ยถาวุตฺเตสุ อารมฺมเณสุ อภิโยคกรณวเสน ฌานปฺปฏิปกฺขานํ นีวรณคณานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ กุรุมาเนน สิกฺขิตพฺพา, อธิปฺาสิกฺขา ปน ยถานุรูปํ สมุจฺเฉทวเสน สานุสเย กิเลเส สมุจฺฉินฺทนฺเตน สิกฺขิตพฺพา.
กสฺมา สิกฺขิตพฺพาติ เอตฺถ –
ชาติอาทีหิ ทุกฺเขหิ, อเนเกหิ อุปทฺทุตํ;
ขนฺธโลกํ ชหิตฺวาน, ปตฺตุํ เขมํ ปุรํ สิวํ.
กลฺยาณปุถุชฺชเนน สห สตฺต เสกฺขา สิกฺขนฺติ. อรหนฺโต สิกฺขิตสิกฺขา.
เย ¶ วีตโมหา มุนิปุงฺควสฺส;
สิสฺเสสุ อคฺคา มุนินา ปสตฺถา;
เต ตีสุ สิกฺขาสุ สมตฺตสิกฺขา;
ตโต ปเร เกน สมตฺตสิกฺขาติ.
อาทิโตติ เอตฺถ อาทิมฺหิเยวาติ อตฺโถ, อาทิโต ปฏฺายาติ วา. อุปสมฺปนฺเนน จ อุปสมฺปนฺนาย จ สิกฺขิตพฺพํ อุปสมฺปนฺนสิกฺขิตพฺพํ. สห มาติกาย สมาติกํ. ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการํ ขุทฺทสิกฺขํ ปวกฺขามิ อาทเรน, ปกาเรน วา วกฺขามิ รตนตฺตยํ วนฺทิตฺวาติ อตฺโถ. อปิจ เถโร อาทิโตติ วจเนน สทฺธาปพฺพชิตานํ กุลปุตฺตานํ อาลสิยโทเสน อปฺปฏิปชฺชนฺตานํ อฺาณโทเสน อฺถา ปฏิปชฺชนฺตานํ ¶ สํเวคํ ชเนติ. กถํ? อติทุลฺลภํ ขณสมวายํ ปฏิลภิตฺวา ตงฺขณํ น กุสีเตน วา นิรตฺถกกถาปสุเตน วา วีตินาเมตพฺพํ, กึ กาตพฺพํ? อาทิโต ปฏฺาย นิรนฺตรเมว ตีสุ สิกฺขาสุ อาทโร ชเนตพฺโพติ. เอตฺถาห – กึ ตํ รตนตฺตยํ นาม, ยํ วนฺทิตฺวา เถโร ขุทฺทสิกฺขํ ปวกฺขตีติ? วุจฺจเต – พุทฺธรตนํ ธมฺมรตนํ สงฺฆรตนนฺติ อิมานิ ตีณิ รตนานิ. ตานิ หิ รติชนนฏฺเน ‘‘รตนานี’’ติ วุจฺจนฺติ. อปิจ –
‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;
อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ. (ที. นี. อฏฺ. ๒.๓๓; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๒๒๓; ขุ. ปา. อฏฺ. ๖.๓; สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๒๒๖; มหานิ. อฏฺ. ๕๐; อุทา. อฏฺ. ๔๕) –
อิมิสฺสา คาถาย วเสน รตนตฺโถ เวทิตพฺโพ.
มาติกาวณฺณนา
(ข-ช) อิทานิ ‘‘สมาติก’’นฺติ วุตฺตตฺตา มาติกํ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘ปาราชิกา จ จตฺตาโร’’ติอาทิ อารทฺธํ. สพฺพสิกฺขานํ ปน มูลภูตตฺตา อธิสีลสิกฺขาว ปมํ วุตฺตา. ‘‘สีเล ปติฏฺายา’’ติ (สุํ. นิ. ๑.๑.๒๓, ๑๙๒; เปฏโก. ๒๒; มิ. ป. ๒.๑.๙) หิ ¶ วุตฺตํ. ตตฺราปิ มหาสาวชฺชตฺตา, มูลจฺเฉชฺชวเสน ปวตฺตนโต จ สพฺพปมํ ชานิตพฺพาติ ปาราชิกาว ปมํ วุตฺตาติ. อิทานิ ยถานิกฺขิตฺตานิ มาติกาปทานิ ปฏิปาฏิยา วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ปาราชิกา จ จตฺตาโร’’ติ ปมปทํ อุทฺธฏํ, ตสฺสายมตฺโถ – ปาราชิกาติ ปราชิตา ปราชยมาปนฺนา, สิกฺขาปทํ อติกฺกมิตฺวา เตเนว อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา, ตาย วา ปราชยมาปาทิตานเมตํ อธิวจนํ, เต ปน จตฺตาโรติ วุตฺตํ โหติ.
๑. ปาราชิกนิทฺเทสวณฺณนา
๑-๒. อิทานิ ¶ เต ทสฺเสตุํ ‘‘มคฺคตฺตเย’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคตานํ วเสน ติสฺโส อิตฺถิโย, ตโย อุภโตพฺยฺชนกา, ตโย ปณฺฑกา, ตโย ปุริสาติ ปาราชิกวตฺถุภูตานํ นิมิตฺตานํ นิสฺสยา ทฺวาทสมตฺตา โหนฺติ, เตสํ วจฺจมคฺคปฺปสฺสาวมคฺคมุขมคฺควเสน ตโย มคฺคา. ตตฺถ มนุสฺสิตฺถิยา ตโย, อมนุสฺสิตฺถิยา ตโย, ติรจฺฉานคติตฺถิยา ตโยติ นว, ตถา มนุสฺสอุภโตพฺยฺชนกาทีนํ. มนุสฺสปณฺฑกาทีนํ ปน วจฺจมคฺคมุขมคฺควเสน ทฺเว ทฺเว กตฺวา ฉ, ตถา มนุสฺสปุริสาทีนนฺติ สพฺเพสํ วเสน ตึส มคฺคา โหนฺติ. เต สพฺเพ ปริคฺคเหตฺวา อิธ ‘‘มคฺคตฺตเย’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมึ มคฺคตฺตเยติ อตฺโถ. อนิกฺขิตฺตสิกฺโขติ ภิกฺขุภาวโต จวิตุกามตาจิตฺเตน ยถาลกฺขณํ อปจฺจกฺขาตสิกฺโขติ อตฺโถ. สนฺถตสนฺถเตติ วตฺถาทีสุ เยน เกนจิ สนฺถเต วา อสนฺถเต วา. อลฺโลกาเสติ มคฺคตฺตยสฺส ปกติวาเตน อสมฺผุฏฺปฺปเทเส. นิมิตฺตนฺติ องฺคชาตํ. สํสนฺถตํ วา อสนฺถตํ วาติ อตฺตโน องฺคชาตํ วตฺถาทีนํ อฺตเรน ปฏิจฺฉนฺนํ วา อปฺปฏิจฺฉนฺนํ วา. อุปาทิณฺณนฺติ อนฏฺกายปฺปสาทํ. วุตฺตปฺปกาเร มคฺคตฺตเย ปเวสนฺโต จุโต ปาราชิโกติ สมฺพนฺโธ. นฏฺกายปฺปสาทํ ปน ปีฬกํ วา จมฺมขิลํ วา โลมํ วา ปเวสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, มนุสฺสานํ ปน ชีวมานกสรีเร อกฺขินาสากณฺณจฺฉิทฺทวตฺถิโกเสสุ สตฺถกาทีหิ กตวเณ วา เมถุนราเคน ติลพีชมตฺตมฺปิ องฺคชาตํ ปเวสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, อวเสสสรีเรสุ อุปกจฺฉกาทีสุ จ ทุกฺกฏํ. ติรจฺฉานคตานํ หตฺถิอสฺสโคณคทฺรภโอฏฺมหึสาทีนํ นาสาย ถุลฺลจฺจยํ, ตถา เตสํ วตฺถิโกเสสุ. สพฺเพสมฺปิ ติรจฺฉานคตานํ อกฺขิกณฺณวเณสุ ทุกฺกฏํ, ตถา เตสํ อวเสสสรีเรสุปิ.
อิทานิ ¶ ปเวสนํ นาม น เกวลํ อตฺตุปกฺกเมเนว โหติ, ภิกฺขุปจฺจตฺถิกาทีนํ ปน วเสน ¶ ปรูปกฺกเมนาปิ โหติ, ตตฺถาปิ เสวนจิตฺเต สติ ปาราชิโก โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – โย ภิกฺขุ ปเวสนปวิฏฺิตอุทฺธารณกฺขเณสุ สาทิยติ, ตสฺมึ ขเณ เสวนจิตฺตํ อุปฏฺเปติ, โสปิ ปาราชิโก โหติ. โย ปน ภิกฺขุ สพฺพโส อสาทิยนฺโต อาสีวิสมุขํ องฺคารกาสฺุจ ปวิฏฺํ วิย มฺติ, โส นิปฺปราโธ โหติ. เอตฺถ ิตํ นาม สุกฺกวิสฺสฏฺิสมยปฺปวตฺติ.
ปมํ.
๓-๔. อิทานิ ทุติยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาทิเยยฺยา’’ติอาทิมาห. ‘‘อาทิเยยฺยา’’ติอาทีนํ ปทานํ ‘‘อทินฺนํ เถยฺยจิตฺเตน ภเว ปาราชิโก’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อาทิเยยฺยาติ อารามาทึ อภิยฺุชิตฺวา โย ภิกฺขุ คณฺเหยฺย, โส ภเว ปาราชิโกติ อตฺโถ. เอวํ เสเสสุปิ. หเรยฺยาติ เวตเนน วา มิตฺตภาเวน วา อฺสฺส ภณฺฑํ หรนฺโต ปุน เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเน ‘‘สีเส ภารํ เถยฺยจิตฺโต อามสตี’’ติอาทินา คณฺเหยฺยาติ อตฺโถ. อวหเรยฺยาติ ‘‘อุปนิกฺขิตฺตํ ภณฺฑํ ‘เทหิ เม ภณฺฑ’นฺติ วุจฺจมาโน ‘นาหํ คณฺหามี’’ติอาทินา อวหเรยฺย. อิริยาปถํ โกเปยฺยาติ ‘‘สหภณฺฑหารกํ เนสฺสามี’’ติ เตเนว ปุริเสน ตํ เนตุํ ตสฺส คมนปถํ วาเรตฺวา อฺเน มคฺเคน ตํ สนฺตชฺเชตฺวา เนติ, เอวํ เนนฺตสฺส ตสฺส ปุริสสฺส ปมปาเท ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปาทุทฺธาเร ปาราชิกํ. ‘‘ถลฏฺํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺโต อามสตี’’ติอาทินา านา จาเวยฺย. ปริกปฺปิตฏฺานํ วา สุงฺกฆาตํ วา อติกฺกาเมนฺโต สงฺเกตํ วีตินาเมยฺย. ยํ กิฺจิ ปรปริคฺคหิตํ สสฺสามิกํ ภณฺฑํ เตหิ สามิเกหิ กาเยน วา วาจาย วา น ทินฺนนฺติ อทินฺนํ.
อิทานิ ¶ น อิมินาว อากาเรน อวหารโก ปาราชิโก โหติ, อฺถาปิ โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เถยฺยาวหารโก จ พลาวหารโก จ กุสาวหารโก จ ปฏิจฺฉนฺนาวหารโก จ ปริกปฺปาวหารโก จ ภเว ปาราชิโกติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ เถยฺยาวหาโร นาม สนฺธิจฺเฉทาทีหิ วา กํสกูฏมานกูฏตุลากูฏาทีหิ วา วฺเจตฺวา คหณํ. ปสยฺหาวหาโร พลาวหาโร. กุสสงฺกมนํ กตฺวา ปรโกฏฺาสคฺคหณํ กุสาวหาโร. ปรภณฺฑํ ปํสุอาทินา ปฏิจฺฉาเทตฺวา สามิเกสุ อปสฺสิตฺวา คเตสุ ปจฺจาคนฺตฺวา คหณํ ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร. ปริกปฺปาวหาโร ปน ทุวิโธ ภณฺโฑกาสวเสน. ตตฺถ ‘‘สาฏโก เจ, คณฺหิสฺสามิ, สุตฺตฺเจ, น คณฺหิสฺสามี’’ติ ภณฺฑํ ปริกปฺเปตฺวา อนฺธกาเร ปสิพฺพกํ คณฺหาติ. ตตฺถ เจ สาฏโก โหติ, อุทฺธาเรเยว ¶ ปาราชิกํ. สเจ สุตฺตํ โหติ, รกฺขติ, ปุน ‘‘สุตฺต’’นฺติ ตฺวาปิ ‘‘ยํ ลทฺธํ, ตํ คเหตพฺพ’’นฺติ อุคฺคณฺหนฺโต อุทฺธาเรเยว ปาราชิกํ, อยํ ภณฺฑปริกปฺโป. โอกาสปริกปฺโป คพฺภทฺวารปฺปมุขวิหาราทีนํ วเสน ปริจฺเฉทํ กโรติ ‘‘สเจ มํ เอตฺถนฺตเร ปสฺสนฺติ, ทสฺสามิ, โน เจ ปสฺสนฺติ, คณฺหิตฺวา คจฺฉามี’’ติ, ตสฺส ตํ ปริกปฺปิตปริจฺเฉทํ อติกฺกมนฺตสฺส ปทวาเรน ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ, อยํ โอกาสปริกปฺโป.
อิทานิ อิมสฺมึ อทินฺนาทาเน วินิจฺฉยนยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภณฺฑกาลคฺฆเทเสหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถาติ อทินฺนาทาเน. นิจฺฉโยติ วินิจฺฉโย กาตพฺโพติ อตฺโถ. ตตฺถ เกนจิ ภิกฺขุนา ‘‘มยา อิทํ นาม ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺเตน คหิต’’นฺติ วุตฺเต วินยธเรน สหสาว ตํ อาปตฺตึ อนาโรเปตฺวา ตสฺส ภณฺฑสฺส สามิกอสฺสามิกภาวํ อุปปริกฺขิตฺวา ยทิ สสฺสามิกํ, ตสฺส ภณฺฑสฺส อคฺฆวเสน อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. สเจ นิราลยกาเล คหิตํ ¶ , ปาราชิเกน น กาเรตพฺโพ, อยํ ภณฺฑวเสน วินิจฺฉโย.
กาโลติ อวหารกาโล. ตเทว หิ ภณฺฑํ กทาจิ มหคฺฆํ โหติ, กทาจิ อปฺปคฺฆํ, ตสฺมา ยสฺมึ กาเล อวหฏํ, ตสฺมึ กาเล โย ตสฺส อคฺโฆ, เตน อคฺเฆน อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ, อยํ กาลวเสน วินิจฺฉโย.
อคฺโฆติ ภณฺฑคฺโฆ. นวภณฺฑสฺส หิ โย อคฺโฆ, โส ปจฺฉา ปริหายติ, ตสฺมา สพฺพทา ภณฺฑํ ปกติอคฺฆวเสเนว น กาเรตพฺพํ, อยํ อคฺฆวเสน วินิจฺฉโย. เทโสติ อวหารเทโส. ภณฺฑุฏฺานเทเส หิ ภณฺฑํ อปฺปคฺฆํ โหติ, อฺตฺถ มหคฺฆํ, ตสฺมา ยสฺมึ เทเส ภณฺฑํ อวหฏํ, ตสฺมึเยว เทเส อคฺเฆน กาเรตพฺโพ, อยํ เทสวเสน วินิจฺฉโย.
ปริโภเคนปิ สาฏกาทิกสฺส ภณฺฑสฺส อคฺโฆ ปริหายติ, ตสฺมา ตสฺส ปริโภควเสน ปริหีนาปริหีนภาโว อุปปริกฺขิตพฺโพ, อยํ ปริโภควเสน วินิจฺฉโย.
ทุติยํ.
๕. อิทานิ ตติยํ ทสฺเสตุํ ‘‘มนุสฺสวิคฺคห’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ มนุสฺสวิคฺคหนฺติ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน ¶ สทฺธึ อุปฺปนฺนํ กลลรูปํ อาทึ กตฺวา ปกติยา วีสติวสฺสสตายุกสฺส สตฺตสฺส ยาว มรณกาลา เอตฺถนฺตเร อนุปุพฺเพน วุทฺธิปฺปตฺโต อตฺตภาโว, เอโส มนุสฺสวิคฺคโห นาม, เอวรูปํ มนุสฺสวิคฺคหนฺติ อตฺโถ. จิจฺจาติ วธกเจตนาวเสน สฺเจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโมติ อตฺโถ. ชีวิตา วา วิโยชเยติ วุตฺตปฺปการํ มนุสฺสวิคฺคหํ ¶ กลลกาเลปิ ตาปนมทฺทเนหิ วา เภสชฺชสมฺปทาเนน วา ตโต วา อุทฺธมฺปิ ตทนุรูเปน อุปกฺกเมน สนฺตติวิโกปนวเสน โย ชีวิตา วิโยเชยฺย, โส จุโต ภเวติ สมฺพนฺโธ. กิฺจ ภิยฺโย – ‘‘สตฺถหารกํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ หรตีติ หารกํ, กึ หรติ? ชีวิตํ, หริตพฺพนฺติ วา หารกํ, อุปนิกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ, สตฺถฺจ ตํ หารกฺจาติ สตฺถหารกํ. อสฺสาติ มนุสฺสวิคฺคหสฺส. ยถา มนุสฺสวิคฺคโห อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ตํ อสิอาทิสตฺถํ ปฏิลภติ, ตถา สยํ มรณเจตโน มรณาธิปฺปาโย หุตฺวา อุปนิกฺขิเปยฺย. โสปิ จุโต ภเวติ อตฺโถ. เอเตน ถาวรปฺปโยคํ ทสฺเสติ.
๖-๗. อิทานิ ‘‘มรณวณฺณํ วา สํวณฺเณยฺยา’’ติอาทิวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘คาเหยฺย มรณูปายํ, วเทยฺย มรเณ คุณ’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘สตฺถํ วา อาหร, วิสํ วา ขาท, รชฺชุยา วา อุพฺพนฺธิตฺวา กาลํ กโรหี’’ติอาทินา นเยน มรณตฺถาย อุปายํ คาเหยฺย. มรณสํวณฺณนา ปเนตฺถ พหุวิธา ‘‘กาเยน สํวณฺเณติ, วาจาย กายวาจาย ทูเตน เลขาย วา สํวณฺเณตี’’ติ วุตฺตตฺตา. ตตฺถ กาเยน สํวณฺเณติ นาม กาเยน วิฺาเปติ. ‘‘โย ปปาเต ปปตนาทีนิ กตฺวา มรติ, โส ธนํ วา ลภติ, ยสํ วา ลภติ, สคฺคํ วา คจฺฉตี’’ติอาทินา นเยน สํวณฺเณติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ตสฺส วจนํ สุตฺวา โกจิ ‘‘มริสฺสามี’’ติ ทุกฺขํ เวทนํ อุปฺปาเทติ, ถุลฺลจฺจยํ. มรติ เจ, ปาราชิกํ. เอวํ เสเสสุปิ. ทูเตน สํวณฺณนายํ ปน ทูตสฺส สาสนํ อาโรจาเปติ ‘‘เอวํ อาโรเจหี’’ติ, ‘‘โย เอวํ มรติ, โส ธนํ วา ลภตี’’ติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว. เลขาย สํวณฺเณติ นาม คิริปพฺพตปุราณาทิเลขํ ลิขติ, ‘‘โย เอวํ มรตี’’ติอาทิ วุตฺตนยเมว. เอตฺถาปิ โย มรณูปายํ วา คาเหยฺย, มรเณ วา คุณํ วเทยฺย, โส จุโต ภเวติ สมฺพนฺโธ.
อิทานิ ¶ ปน อิมสฺส มนุสฺสวิคฺคหสฺส ฉพฺพิเธ ปโยเค ทสฺเสตุํ ‘‘ปโยคา’’ติอาทิ อารทฺธํ. สาหตฺถิกนิสฺสคฺคิกอาณตฺติกถาวรอิทฺธิมยวิชฺชามยานํ วเสน ตสฺส มนุสฺสวิคฺคหสฺส ฉปฺปโยคาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ สาหตฺถิโกติ สยํ มาเรนฺตสฺส กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน ¶ วา ปหรณํ. นิสฺสคฺคิโกติ ทูเร ิตํ มาเรตุกามสฺส กายาทีหิ อุสุสตฺติยนฺตปาสาณาทีนํ นิสฺสชฺชนํ. อาณตฺติโกติ ‘‘อสุกํ นาม มาเรหี’’ติ อฺํ อาณาเปนฺตสฺส อาณาปนํ. ถาวโรติ โอปาตกฺขณนํ, อปสฺเสนสํวิธานํ, อสิอาทีนํ อุปนิกฺขิปนํ, ตฬากาทีสุ วิสสมฺปโยชนํ, รูปูปหาโรติ เอวมาทิ. กมฺมวิปากชาย อิทฺธิยา ปโยชนํ อิทฺธิปโยคํ. มารณตฺถาย วิชฺชานํ ปริชปฺปนํ วิชฺชามโยติ.
อิทานิ อิเมสุ ฉสุ ปโยเคสุ อาณตฺติยํ สงฺเกตวิสงฺเกตตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กาลวตฺถาวุธิริยาปถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กาโลติ ปุพฺพณฺหสายนฺหาทิกาโล จ โยพฺพนถาวริยาทิกาโลปิ จ. อิเมสุ ยํ กิฺจิ กาลํ นิยเมตฺวา ‘‘อิมสฺมึ นาม กาเล มาเรหี’’ติ อาณตฺโต สเจ ตสฺมึเยว กาเล มาเรติ, อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิกํ. สเจ นิยมิตกาลโต ปุเร วา ปจฺฉา วา มาเรติ, อาณาปโก มุจฺจติ. วตฺถูติ มาเรตพฺโพ ปุคฺคโล. สเจ อาณตฺโต ตเมว มาเรติ, อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิกํ. อถ อฺํ มาเรติ, อาณาปโก มุจฺจติ. เอวํ เสเสสุปิ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อาวุธนฺติ อสิอาทิ. อิริยาปโถติ มาเรตพฺพสฺส คมนํ วา นิสชฺชา วาติ เอวมาทิโก. กิริยาวิเสโสติ วิชฺฌนํ วา เฉทนํ วา เภทนํ วา สูลาโรปนํ วาติ เอวมาทิโก. โอกาโสติ คาโม วา วนํ วา เคหํ วาติ เอวมาทิโก. อิเมสุ ยถา ¶ ยถา วธโก อาณตฺโต, ตถา ตถา กเต อาณาปกสฺส อาปตฺติ, อฺถา กเต วิสงฺเกโต โหติ. อาณตฺติยํ ปน อยํ วิเสโส ‘‘อธิฏฺายาติ อธิฏฺหิตฺวา อาณาเปติ ‘เอวํ วิชฺฌ, เอวํ ปหร, เอวํ ฆาเตหี’’ติ วุตฺตาย ปาฬิยา ลพฺภตีติ าตพฺโพ.
ตติยํ.
๘-๙. อิทานิ จตุตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฌานาทิเภท’’นฺติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ‘‘ฌานํ วิโมกฺโข สมาธิ สมาปตฺติ าณทสฺสนํ มคฺคภาวนา ผลสจฺฉิกิริยา กิเลสปฺปหานํ วินีวรณตา จิตฺตสฺส สฺุาคาเร อภิรตี’’ติ เอวํ วุตฺตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อตฺตนิ นตฺถิตาย โนสนฺตํ ‘‘มยิ อตฺถี’’ติ อตฺตนิ วา ตํ ‘‘อหํ เอตฺถ สนฺทิสฺสามี’’ติ อตฺตานํ วา ตตฺถ อุปเนตฺวา ทีเปนฺโต จุโต ภเว. โกฏฺาสํ วาติ เอตฺถ ‘‘ฌานลาภี, วิโมกฺขลาภี, สมาธิลาภี, สมาปตฺติลาภีมฺหี’’ติ เอวมาทินา นเยน โกฏฺาสโต วาติ อตฺโถ. เอเกกํ วาติ ‘‘ปมสฺส ¶ ฌานสฺส ลาภี, ทุติยสฺส ฌานสฺส ลาภีมฺหี’’ติ เอวมาทินา นเยน เอเกกํ วาติ อตฺโถ. ‘‘อตีตภเว โสตาปนฺโนมฺหี’’ติ วทโต อตีตภวํ สนฺธาย กถิตตฺตา ปาราชิกํ นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนภวสฺสิต’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนภวนิสฺสิตํ กตฺวาติ อตฺโถ. อฺาปเทสรหิตนฺติ ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี’’ติอาทินา นเยน อฺาปเทสํ วินาติ อตฺโถ. เอวํ ทีเปนฺโต หิ ถุลฺลจฺจยมาปชฺชติ. ทีเปนฺโตติ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชึ, สมาปชฺชามิ, สมาปนฺโน, ปมสฺส ฌานสฺส ลาภีมฺหิ, วสีมฺหิ, สจฺฉิกตํ อสฺสา’’ติ เอวมาทินา นเยน ทีเปนฺโตติ อตฺโถ. ‘‘อธิคโต’’ติ มาโน อธิมาโน, โส ยสฺส นตฺถิ, โส อนธิมานิโก. เกน เอวํ ทีเปนฺโตติ เจ? ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กาเยน วาจา’’ติอาทิ วุตฺตํ ¶ , กาเยน วา วาจาย วา ตทุภเยน วาติ อตฺโถ. วิฺตฺติปเถติ ยตฺถ ิโต มนุสฺสชาติโก คหฏฺโ วา ปพฺพชิโต วา ตสฺส วจนํ ปกติโสเตน สุตฺวา สมนนฺตรเมว ‘‘อิมํ นาม เอส วทตี’’ติ ชานาติ, ตตฺถ ตฺวา ทีเปนฺโต จุโต ภเว, น เทวพฺรหฺมาทีสุ อฺตเรน าเตติ อตฺโถ.
จตุตฺถํ.
๑๐. อิทานิ จตุนฺนมฺปิ สาธารณวินิจฺฉยํ วตฺตุํ ‘‘ปาราชิเกเต จตฺตาโร’’ติอาทิมาห. ตตฺถายํ สงฺเขโป – จตฺตาโรปิ เอเต ปาราชิกา ‘‘เอกกมฺมํ เอกุทฺเทโส สมสิกฺขตา’’ติ เอวํ วุตฺตสํวาสสฺส อภพฺพตาย อสํวาสา, ยถาปุเร ปุพฺเพ คิหิกาเล จ อนุปสมฺปนฺนกาเล จ อสํวาสิกา, เอวํ ปจฺฉา ปาราชิกํ อาปนฺนาปิ อสํวาสาติ. กิฺจ ภิยฺโย – อภพฺพา ภิกฺขุภาวาย ปุน เตน อตฺตภาเวน อุปสมฺปทาย อวตฺถุตาย อุปสมฺปนฺนา ภวิตุมฺปิ อภพฺพาติ อตฺโถ. กึ วิยาติ เจ? สีสจฺฉินฺโนว ชีวิตุํ, ยถาปิ สีสจฺฉินฺโน เตน อตฺตภาเวน ปุน ชีวิตุํ อภพฺโพ, เอวมิเม จตฺตาโรติ อธิปฺปาโย.
๑๑. อิทานิ อิเมสุ จตูสุ ปาราชิเกสุ เย ปริยายาณตฺตีหิ สมฺภวนฺติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘ปริยาโย จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปริยาโยติ มรณาธิปฺปายสฺส กายปโยโค วา วจีปโยโค วา. ตสฺมา ‘‘โย อีทิเส มุหุตฺเต สตฺถํ วา อาหริตฺวา วิสํ วา ขาทิตฺวา โสพฺภาทีสุ วา ปปติตฺวา มรติ, โส ธนํ วา ลภติ, ยสํ วา ลภตี’’ติอาทินา นเยน มรณํ อภินนฺทนฺโต ‘‘อิทํ สุตฺวา โย โกจิ มรตู’’ติ โย ปริยาเยน วทติ, ตํ สุตฺวา สเจ ¶ โกจิ ตถา มรติ, ปาราชิกํ. นิยมิเตน ปน ยํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺเสว มรเณ ปาราชิกํ. อาณตฺติ ¶ ปน วุตฺตตฺถาเยว. ตติเย มนุสฺสวิคฺคหปาราชิเก ลพฺภตีติ สมฺพนฺโธ. ทุติเย ปน อทินฺนาทาเน อาณตฺติ เอว ลพฺภติ, น ปริยาโยติ อตฺโถ. กสฺมา นํ ปริยาเยน นาปชฺชตีติ? ยถา มนุสฺสวิคฺคเห ‘‘มรณวณฺณํ วา สํวณฺเณยฺยา’’ติ วุตฺตํ, ตถา อิธ อทินฺนาทาเน ‘‘วณฺณํ วา สํวณฺเณยฺยา’’ติ อวุตฺตตฺตา. เสเสสูติ ปมจตุตฺเถสุ ปริยายาณตฺติทฺวยํ น ลพฺภตีติ อตฺโถ.
๑๒. อิทานิ จตูสุปิ ยถาสมฺภวํ องฺคเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘เสเวตุกามตาจิตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เมถุนธมฺมสฺสาติ เมถุนธมฺมปาราชิกสฺส. พุธาติ วินยธรา.
๑๓. มนุสฺสสนฺติ มนุสฺสสนฺตกตา. เอเตน เปตติรจฺฉานคตปริคฺคเหสุ อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. ตถาสฺีติ มนุสฺสสนฺตกวเสน ปรปริคฺคหิตสฺีติ อตฺโถ. วตฺถุโน ครุตาติ ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา ตทคฺฆนกํ ภณฺฑํ วา โหตีติ อตฺโถ. อวหาโร จาติ ปฺจวีสติยา อวหาเรสุ เยน เกนจิ อวหาโร โหตีติ อตฺโถ. อทินฺนาทานเหตุโยติ อทินฺนาทานปาราชิกสฺส เอตานิ ปฺจ องฺคานีติ อธิปฺปาโย.
๑๔. ปาโณ มานุสฺสโกติ มนุสฺสชาติกปาโณ. ตสฺมึ ปาเณ ปาณสฺิตา. ฆาตเจตนาติ วธกเจตนา. ปโยโคติ ตํสมุฏฺิโต สาหตฺถิกาทีนํ ฉนฺนํ ปโยคานํ อฺตรปโยโค. เตน ปโยเคน มรณํ. ปฺเจเต วธเหตุโยติ มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกสฺส ปฺจ องฺคานีติ อตฺโถ.
๑๕. อสนฺตตาติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อตฺตนิ อสนฺตตา จาติ อตฺโถ. ปาปมิจฺฉตายาโรจนาติ อิมินา โย เกวลํ ¶ ปาปมิจฺฉตํ วินา มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ภณติ, ตสฺส อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. ตสฺสาติ ยสฺส อาโรเจติ, ตสฺส มนุสฺสชาติตา จ. ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหา’’ติอาทินา (ปริ. ๑๖๐, ๓๓๖) นาฺาปเทโส จ. ตเทวาติ ตทา เอว ตงฺขเณเยว ชานนํ. อสนฺตทีปเนติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนปาราชิเกติ อตฺโถ.
๑๖. อิทานิ ¶ ‘‘ปาราชิกา จ จตฺตาโร’’ติ เอตฺถ จ-สทฺเทน สงฺคหิเตหิ สทฺธึ สโมธาเนตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อสาธารณา จตฺตาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา วชฺชปฺปฏิจฺฉาทิกา อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา อฏฺวตฺถุกาติ อิเม จตฺตาโร ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณา นาม. เอตาสุ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา นาม ยา กายสํสคฺคราเคน อวสฺสุตา เตเนว ราเคน อวสฺสุตสฺส มนุสฺสปุริสสฺส อกฺขกานํ อโธ, ชาณุมณฺฑลานํ กปฺปรานฺจ อุปริ เยน เกนจิ สรีราวยเวน อามสนาทึ สาทิยติ, ตสฺสา อธิวจนํ. ยา ปน ภิกฺขุนี อฺิสฺสา ภิกฺขุนิยา ปาราชิกสงฺขาตํ วชฺชํ ชานํ ปฏิจฺฉาเทติ, สา วชฺชปฺปฏิจฺฉาทิกา นาม. สมคฺเคน ปน สงฺเฆน อุกฺขิตฺตํ ภิกฺขุํ ยา ภิกฺขุนี ยํทิฏฺิโก โส โหติ, ตสฺสา ทิฏฺิยา คหณวเสน อนุวตฺตติ, สา อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา นาม. ยา ปน กายสํสคฺคราเคน ตินฺตา ตถาวิธสฺเสว ปุริสสฺส หตฺถคฺคหณํ วา สงฺฆาฏิกณฺณคฺคหณํ วา สาทิยติ, กายสํสคฺคสงฺขาตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิเสวนตฺถาย ปุริสสฺส หตฺถปาเส สนฺติฏฺติ วา, ตตฺถ ตฺวา สลฺลปติ วา, สงฺเกตํ วา คจฺฉติ, ปุริสสฺส อาคมนํ วา สาทิยติ, เกนจิ วา ปฏิจฺฉนฺโนกาสํ ปวิสติ, หตฺถปาเส ตฺวา กายํ อุปสํหรติ, อยํ อฏฺวตฺถุกา นามาติ เวทิตพฺพา.
อภพฺพกา ¶ เอกาทสาติ เอตฺถ ปณฺฑโก เถยฺยสํวาสโก ติตฺถิยปกฺกนฺตโก ติรจฺฉานคโต มาตุฆาตโก ปิตุฆาตโก อรหนฺตฆาตโก ภิกฺขุนิทูสโก สงฺฆเภทโก โลหิตุปฺปาทโก อุภโตพฺยฺชนโกติ อิเม เอกาทส อภพฺพปุคฺคลา นาม. วิพฺภนฺตา ภิกฺขุนีติ ยทา ภิกฺขุนี วิพฺภมิตุกามา หุตฺวา เสตวตฺถํ วา กาสายเมว วา คิหินิวาสนากาเรน นิวาเสติ, ตทา ปาราชิกมาปนฺนา นาม โหติ, ปุน อุปสมฺปทํ น ลภติ, สา จ ปาราชิกาติ อตฺโถ. มุทุปิฏฺิโก นาม กตปริกมฺมาย มุทุกาย ปิฏฺิยา สมนฺนาคโต. โส เอตฺตาวตา น ปาราชิโก, อถ โข ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ อตฺตโน มุขมคฺควจฺจมคฺเคสุ อฺตรํ ปเวเสติ, ตทา ปาราชิโก โหติ.
๑๗-๑๘. ลมฺพีติ องฺคชาตสฺส ทีฆตฺตา เอวํ วุตฺโต. โสปิ ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ อตฺตโน มุเข วา วจฺจมคฺเค วา ปเวเสติ, ตทา ปาราชิโก โหติ. มุเขน คณฺหนฺโตติ เอตฺถ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส สุตฺตสฺส วา ปมตฺตสฺส วา องฺคชาตํ อตฺตโน มุเขน คณฺหาติ, โส จาติ อตฺโถ. ตตฺเถวาติ ปรสฺส องฺคชาเตวาติ อตฺโถ ¶ . โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส องฺคชาตํ กมฺมนิยํ ทิสฺวา อตฺตโน วจฺจมคฺเคน ตสฺส อุปริ นิสีทติ, ตํ อตฺตโน วจฺจมคฺคํ ปเวเสติ, โส จาติ อตฺโถ. เอเต จตฺตาโร อนุโลมิกา เมถุนสฺสาติ สมฺพนฺโธ. กถมิติ เจ? มคฺเค มคฺคปฺปเวสนสทิสตาย, น อุภินฺนํ ราควเสน สทิสภาวูปคตานํ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติสทิสตาย. อิธาคตา จตฺตาโรติ เมถุนธมฺมาทิวเสน ปาราชิกา จตฺตาโร จาติ เอวํ สโมธานโต จตุวีสติ ปาราชิกาติ อตฺโถ.
เอตฺถาห ¶ – มาตุฆาตกปิตุฆาตกอรหนฺตฆาตกา ตติยปาราชิกํ อาปนฺนา, ภิกฺขุนิทูสโก ลมฺพีอาทโย จตฺตาโร ปมปาราชิกํ อาปนฺนาเยวาติ กตฺวา กุโต จตุวีสตีติ? อธิปฺปาโย ปเนตฺถ อตฺถิ, มาตุฆาตกาทโย หิ จตฺตาโร อิธ อนุปสมฺปนฺนาเยว อธิปฺเปตา, ลมฺพีอาทโย จตฺตาโร กิฺจาปิ ปมปาราชิเกน สงฺคหิตา, ยสฺมา เอเกน ปริยาเยน เมถุนธมฺมํ อปฺปฏิเสวิโนปิ โหนฺติ, ตสฺมา วิสุํ วุตฺตาติ. ปาราชิกวินิจฺฉโย.
ปาราชิกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สงฺฆาทิเสสนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙. อิทานิ สงฺฆาทิเสสํ ปกาเสตุํ ‘‘ครุกา นวา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ครุกาติ สงฺฆาทิเสสา อิธ อธิปฺเปตา, อฺตฺถ ปน ปาราชิกาปิ สงฺคยฺหนฺติ. กสฺมา ‘‘เตรสา’’ติ อวตฺวา ‘‘นวา’’ติ วุตฺตนฺติ เจ? วีติกฺกมกฺขเณเยว อาปชฺชิตพฺพตฺตา ปมาปตฺติกา วุตฺตา, ยาวตติยกา ปน จตฺตาโร สงฺฆาทิเสสา สงฺฆายตฺตตฺตา จิเรน อาปชฺชนฺตีติ น วุตฺตา. ตตฺถ โมเจตุกามตาติ โมเจตุกามตายาติ อตฺโถ ‘‘อลชฺชิตา’’ติอาทีสุ วิย. อิมินา ปน นเยน โมจนสฺสาโท มุจฺจนสฺสาโท มุตฺตสฺสาโท เมถุนสฺสาโท ผสฺสสฺสาโท กณฺฑูวนสฺสาโท ทสฺสนสฺสาโท นิสชฺชนสฺสาโท วาจสฺสาโท เคหสิตเปมํ วนภงฺคิยนฺติ เอกาทส อสฺสาทา วุตฺตา, เตสุ เอกํเยว โมจนสฺสาทํ คเหตฺวา เสสา ปฏิกฺขิตฺตา โหนฺติ.
เตสํ อสฺสาทานํ วเสน เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ – โมเจตุํ อสฺสาโท โมจนสฺสาโท. โมจนสฺสาทเจตนาย ¶ นิมิตฺเต อุปกฺกมติ, มุจฺจติ, สงฺฆาทิเสโส. น มุจฺจติ ¶ เจ, ถุลฺลจฺจยํ. มุจฺจนสฺสาเท สเจ อตฺตโน ธมฺมตาย มุจฺจมานํ อสฺสาเทติ, น อุปกฺกมติ, อนาปตฺติ. สเจ มุจฺจมานํ อสฺสาเทนฺโต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโสว. อตฺตโน ธมฺมตาย มุตฺเต อสฺสาโท มุตฺตสฺสาโท. เอตฺถาปิ อุปกฺกมสฺส นตฺถิตาย อนาปตฺติ. เอวํ สพฺพตฺถ. เมถุนสฺสาเทน อิตฺถึ คณฺหนฺตสฺส มุตฺเตปิ อนาปตฺติ, อยํ เมถุนสฺสาโท. ผสฺสสฺสาโท ทุวิโธ อชฺฌตฺติโก พาหิโร จาติ. ตตฺถ อชฺฌตฺติเก ตาว อตฺตโน นิมิตฺตํ ‘‘ถทฺธํ มุทุกนฺติ ชานิสฺสามี’’ติ วา โลลภาเวน วา กีฬาปยโต สเจ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. พาหิรผสฺสสฺสาเท กายสํสคฺคราเคน มาตุคามํ ผุสโต อาลิงฺคโต จ มุตฺเต อนาปตฺติ. กณฺฑูวนสฺสาเท ททฺทุกจฺฉาทีนํ วเสน ขชฺชมานํ นิมิตฺตํ กณฺฑูวนสฺสาเทน กณฺฑูวโต มุตฺเตปิ อนาปตฺติ. ทสฺสนสฺสาเท มาตุคามสฺส อโนกาสํ อุปนิชฺฌายโต มุตฺเตปิ อนาปตฺติ. นิสชฺชนสฺสาเท มาตุคาเมน สทฺธึ รโห นิสินฺนสฺส มุตฺเตปิ อนาปตฺติ. วาจาย อสฺสาโท วาจสฺสาโท. เตน อสฺสาเทน มาตุคามํ เมถุนปฺปฏิสํยุตฺตาหิ วาจาหิ โอภาสนฺตสฺส มุตฺเตปิ อนาปตฺติ. เคหสิตเปเม มาตาทีนํ มาตาทิเปเมน อาลิงฺคนาทึ กโรนฺตสฺส มุตฺเตปิ อนาปตฺติ. วนภงฺเค จ สนฺถวกรณตฺถาย อิตฺถิยา เปสิตํ ปุปฺผาทิวนภงฺคสฺิตํ ปณฺณาการํ ‘‘อิตฺถนฺนามาย นาม อิทํ เม เปสิต’’นฺติ อสฺสาเทน อามสนฺตสฺส มุตฺเตปิ อนาปตฺติ. เอเตสุ ปน โมจนสฺสาทวเสเนว อุปกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ, เสสานํ วเสน อนาปตฺตีติ เวทิตพฺพํ.
สุกฺกสฺสาติ ‘‘นีลํ ปีตกํ โลหิตกํ โอทาตํ ตกฺกวณฺณํ ทกวณฺณํ เตลวณฺณํ ขีรวณฺณํ ทธิวณฺณํ สปฺปิวณฺณ’’นฺติ (ปารา. ๒๓๗) เอวํ อาคเตสุ ทสสุ วณฺเณสุ ยสฺส กสฺสจิ สุกฺกสฺสาติ อธิปฺปาโย ¶ . อุปกฺกมฺมาติ ‘‘อชฺฌตฺตรูเป โมเจติ, พหิทฺธารูเป โมเจติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธารูเป โมเจติ, อากาเส กฏึ กมฺเปนฺโต โมเจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗) เอวํ วุตฺเตสุ จตูสุ อุปาเยสุ อฺตเรน อุปาเยน ‘‘ราคูปตฺถมฺเภ โมเจติ, วจฺจูปตฺถมฺเภ โมเจติ, ปสฺสาวูปตฺถมฺเภ โมเจติ, วาตูปตฺถมฺเภ โมเจติ, อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺูปตฺถมฺเภ โมเจตี’’ติ เอวํ วุตฺเตสุ ปฺจสุ กาเลสุ กิสฺมิฺจิ กาเล องฺคชาเต กมฺมนิยํ ปตฺเต ‘‘อาโรคฺยตฺถาย โมเจติ, สุขตฺถาย โมเจติ, เภสชฺชตฺถาย, ทานตฺถาย, ปฺุตฺถาย, ยฺตฺถาย, สคฺคตฺถาย, พีชตฺถาย, วีมํสตฺถาย, ทวตฺถาย โมเจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗) เอวํ วุตฺเตสุ ทสสุ อธิปฺปาเยสุ เยน เกนจิ อธิปฺปาเยน หตฺถาทีสุ เยน เกนจิ อุปกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ. วิโมจยนฺติ อนฺตมโส ยํ เอกา ขุทฺทกมกฺขิกา ปิเวยฺย, ตตฺตกมฺปิ โมเจนฺโตติ อตฺโถ. อฺตฺร สุปินนฺเตนาติ ยา สุปินนฺเต ¶ สุกฺกวิสฺสฏฺิ โหติ, ตํ เปตฺวาติ อตฺโถ. สมโณติ โย โกจิ อุปสมฺปนฺโน. ครุกนฺติ สงฺฆาทิเสสํ. ผุเสติ อาปชฺเชยฺยาติ อตฺโถ.
สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทํ ปมํ.
๒๐. อิทานิ กายสํสคฺคํ ทีเปตุํ ‘‘อิตฺถิสฺี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อิตฺถิสฺีติ ตทหุชาตายปิ มนุสฺสิตฺถิยา อิตฺถิสฺีเยว หุตฺวาติ อตฺโถ. สเจ ตตฺถ เวมติโก วา ปณฺฑกปุริสติรจฺฉานคตสฺี วา โหติ, ถุลฺลจฺจยํ, ตถา อิตฺถิยา กาเยน กายปฺปฏิพทฺธามสเน จ กายปฺปฏิพทฺเธน กายามสเน จ ยกฺขีเปตีปณฺฑกานํ กาเยน กายามสเน จ. ปุริสติรจฺฉานคติตฺถีนํ ปน กาเยน กายามสเนปิ ทุกฺกฏํ, ตถา ยกฺขีอาทีนํ กาเยน กายปฺปฏิพทฺธาทีสุ ¶ จ. มติตฺถิยา ปน ถุลฺลจฺจยํ. กายสํสคฺคราควาติ อิมินา มาตุเปมาทึ โมกฺขาธิปฺปายฺจ ปฏิกฺขิปติ. สมฺผุสนฺโตติ กายสํสคฺคราเคน อุปกฺกมฺม อนฺตมโส โลเมนปิ มนุสฺสิตฺถึ สมฺผุสนฺโตติ อตฺถสมฺพนฺโธ. อิมินา โย อิตฺถิยา อาลิงฺคโตปิ กาเยน น วายมติ, เกวลํ ผสฺสํเยว อนุภวติ, ตสฺส อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ.
กายสํสคฺคสิกฺขาปทํ ทุติยํ.
๒๑. อิทานิ ทุฏฺุลฺลวาจํ ปกาเสตุํ ‘‘ตถา สุณนฺติ’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตถาติ อิตฺถิสฺี. มนุสฺสิตฺถึ สุณนฺตินฺติ สมฺพนฺโธ. สุณนฺตินฺติ อิมินา ปฏิพลายปิ อิตฺถิยา อวิฺตฺติปเถ ิตาย ทูเตน วา ปณฺเณน วา อาโรเจนฺตสฺส ทุฏฺุลฺลวาจาปตฺติน โหตีติ ทีปิตํ โหติ. วิฺฺุจาติ อิมินา ยา มหลฺลิกาปิ พาลาปิ เอฬมูคาปิ อสทฺธมฺมปฺปฏิสํยุตฺตํ กถํ น ชานาติ, สา อิธ นาธิปฺเปตาติ ทสฺเสติ. วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคานํ วเสน มคฺคํ วา เมถุนํ วา อารพฺภาติ สมฺพนฺโธ. ทุฏฺุลฺลวาจาย ราโค ทุฏฺุลฺลวาจาราโค, เตน ทุฏฺุลฺลวาจาราเคน. ตํ อสฺสาเทนฺโต โอภาเสตฺวา ทุรุตฺตวจนํ วตฺวา ครุกํ ผุเสติ อตฺโถ.
กถํ ทฺเว มคฺเค อารพฺภ ปสํสติ ครหติ? ตตฺถ ปสํสายปิ ตาว ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ วทติ, น ตาวสีสํ เอติ. ‘‘ตว วจฺจมคฺโค จ ปสฺสาวมคฺโค จ สุโภ สุสณฺาโน ทสฺสนีโย, อีทิเสน นาม อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ ¶ วทติ, สีสํ เอติ, สงฺฆาทิเสโส โหตีติ อตฺโถ. ครหเณ ปน ‘‘สิขรณีสิ, สมฺภินฺนาสิ, อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ อิมานิ ตีณิ สุทฺธานิเยว สีสํ เอนฺติ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคานํ นิยตวจนตฺตา อจฺโจฬาริกตฺตา จ. อฺานิ ปน ‘‘อนิมิตฺตาสิ, นิมิตฺตมตฺตาสี’’ติอาทีนิ ¶ มคฺคานํ อนิยตวจนตฺตา เมถุเนน ฆเฏตฺวา วุตฺตานิ เอว สีสํ เอนฺติ. เมถุนปฺปฏิสํยุตฺเต ‘‘เทหิ เม, อรหสิ เม ทาตุ’’นฺติอาทีหิ ปน สีสํ น เอติ, ‘‘เมถุนธมฺมํ เทหี’’ติอาทินา เมถุนธมฺเม ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโส. อิตฺถิยา วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺเค เปตฺวา อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ อาทิสฺส วณฺณาทิภณเน ถุลฺลจฺจยํ, ตถา ยกฺขีเปตีปณฺฑเกสุ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺเค เมถุเนปิ. อิเมสํ ปน ยกฺขีอาทีนํ อธกฺขกาทิเก วุตฺตปฺปกาเร ปเทเส ทุํกฺกฏํ, ตถา อิตฺถิยาทีนํ อุพฺภกฺขเก อโธชาณุมณฺฑเล กายปฺปฏิพทฺเธ จาติ.
ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทํ ตติยํ.
๒๒. อิทานิ อตฺตกามปาริจริยํ ทสฺเสตุํ ‘‘วตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วตฺวาติ ทุฏฺุลฺโลภาสเน วุตฺตปฺปการํ อิตฺถึ อิตฺถิสฺีเยว หุตฺวา วตฺวาติ อตฺโถ. อตฺตกามุปฏฺานวณฺณนฺติ เอตฺถ เมถุนธมฺมสงฺขาเตน กาเมน อุปฏฺานํ กามุปฏฺานํ, อตฺตโน อตฺถาย กามุปฏฺานํ อตฺตกามุปฏฺานํ, อตฺตนา วา กามิตํ อิจฺฉิตนฺติ อตฺตกามํ, สยํ เมถุนราควเสน ปตฺถิตนฺติ อตฺโถ, อตฺตกามฺจ ตํ อุปฏฺานฺจาติ อตฺตกามุปฏฺานํ, ตสฺส วณฺโณ อตฺตกามุปฏฺานวณฺโณ, ตํ อตฺตกามุปฏฺานวณฺณํ. ‘‘เอตทคฺคํ, ภคินิ, ปาริจริยานํ ยา มาทิสํ สีลวนฺตํ กลฺยาณธมฺมํ พฺรหฺมจารึ เอเตน ธมฺเมน ปริจเรยฺยา’’ติ เอวํ วตฺวาติ สมฺพนฺโธ. เมถุนราคิโนติ อิมินา คิลานปจฺจยาทีหิ อุปฏฺานสฺส วณฺณํ ภณโต อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. วาจา เมถุนยุตฺเตนาติ เอตฺถ เมถุนยุตฺเตเนว วาจาย เมถุนยาจเน ครุกํ โหติ, น อฺถาติ อธิปฺปาโย.
อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทํ จตุตฺถํ.
๒๓. อิทานิ ¶ สฺจริตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปฏิคฺคเหตฺวาติ อิตฺถิยา วา ปุริเสน วา อุภินฺนํ มาตาทีหิ วา ‘‘ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา เอวํ ภณาหี’’ติ วุตฺโต เตสํ วจนํ ‘‘สาธู’’ติ วา ‘‘โหตู’’ติ วา ‘‘ภณามี’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน วจีเภทํ กตฺวา, สีสกมฺปนาทีหิ วา สมฺปฏิจฺฉิตฺวาติ อตฺโถ. สนฺเทสนฺติ เอตฺถ ¶ ปน อิตฺถี ทสวิธา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สารกฺขา สปริทณฺฑาติ. ทส ภริยาโย ธนกฺกีตา ฉนฺทวาสินี โภควาสินี ปฏวาสินี โอทปตฺตกินี โอภฏจุมฺพฏกา ทาสี จ ภริยา จ กมฺมการี จ ภริยา จ ธชาหฏา มุหุตฺติกา จาติ.
ตาสุ มาตุรกฺขิตา ภิกฺขุํ ปหิณติ ‘‘คจฺฉ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ พฺรูหิ ‘โหมิ อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา…เป… มุหุตฺติกา จา’’ติ, อยํ อิตฺถิยา สนฺเทโส นาม. สเจ มาตุรกฺขิตาย มาตาปิตาภาตาภคินิอาทโย ภิกฺขุํ ปหิณนฺติ ‘‘คจฺฉ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ พฺรูหิ ‘โหตุ อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา…เป… มุหุตฺติกา จา’’ติ, อยมฺปิ อิตฺถิยา สนฺเทโสเยว นาม. เอวํ ปิตุรกฺขิตาทีสุปิ นโย เนตพฺโพ. ปุริโส ภิกฺขุํ ปหิณติ ‘‘คจฺฉ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ มาตุรกฺขิตํ พฺรูหิ…เป… สปริทณฺฑํ พฺรูหิ ‘โหตุ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา…เป… มุหุตฺติกา จา’’ติ, อยํ ปุริสสฺส สนฺเทโส นาม. สเจ ปุริสสฺส มาตาปิตาภาตาภคินิอาทโย ภิกฺขุํ ปหิณนฺติ ‘‘คจฺฉ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ มาตุรกฺขิตํ พฺรูหิ…เป… สปริทณฺฑํ พฺรูหิ ‘โหตุ อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา…เป… มุหุตฺติกา จา’’ติ, อยมฺปิ ปุริสสฺส สนฺเทโสเยว นาม, อาณาปนนฺติ อตฺโถ.
วีมํสิตฺวาติ ¶ เอตฺถ วุตฺตปฺปกาเรน สาสนํ คเหตฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา เตสํ อวสฺสาโรจนกานํ มาตาปิตาภาตาภคินิอาทีนํ วา อาโรเจตฺวาติ อตฺโถ. หรนฺติ ยตฺถ ปหิโต, ตตฺถ คนฺตฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา อาโรเจติ, สา อิตฺถี วา ปุริโส วา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉตุ วา, มา วา, ลชฺชาย วา ตุณฺหี โหตุ, ปุน อาคนฺตฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา หรนฺโต ครุกํ ผุเสติ สมฺพนฺโธ. เอตฺตาวตา ‘‘ปฏิคฺคณฺหติ วีมํสติ ปจฺจาหรตี’’ติ วุตฺตํ องฺคตฺตยํ สมฺปาทิตํ โหติ. อิมาย ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส, อิโต เยหิ เกหิจิ ทฺวีหิ องฺเคหิ ถุลฺลจฺจยํ, เอเกน ทุกฺกฏํ. ยกฺขีเปตีปณฺฑเกสุ องฺคตฺตเยนปิ ถุลฺลจฺจยเมว, เอเกน วา ทฺวีหิ วา ทุกฺกฏนฺติ.
สฺจริตฺตสิกฺขาปทํ ปฺจมํ.
๒๔. อิทานิ กุฏิการสิกฺขาปทํ อาวิ กาตุํ ‘‘สํยาจิตปริกฺขาร’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺรายํ ¶ สงฺเขปตฺโถ – ‘‘วาสึ เทถ, ผรสุํ เทถา’’ติอาทินา สยํ ปวตฺติตยาจนาย คหิตปริกฺขารํ สํยาจิตปริกฺขารํ ปทภาชเน วุตฺตนเยน สงฺฆํ ติกฺขตฺตุํ ยาจิตฺวา ลทฺธภิกฺขูหิ วา สงฺเฆเนว วา ตตฺถ คนฺตฺวา สารมฺภานารมฺภสปริกฺกมนาปริกฺกมนภาวํ ตฺวา อเทสิตวตฺถุกํ ‘‘กุฏิ นาม อุลฺลิตฺตา วา โหติ อวลิตฺตา วา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตา วา’’ติ (ปารา. ๓๔๙) เอวํ วุตฺตลกฺขณํ กุฏึ. ‘‘ตตฺริทํ ปมาณํ, ทีฆโส ทฺวาทส วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ สตฺตนฺตรา’’ติ (ปารา. ๓๔๘) เอวํ วุตฺตปมาณาติกฺกนฺตํ, ‘‘มยฺหํ วาสาคารํ เอสา’’ติ เอวํ อตฺตา อุทฺเทโส เอติสฺสาติ อตฺตุทฺเทสา, ตํ อตฺตุทฺเทสํ กตฺวา ครุํ สงฺฆาทิเสสํ ผุเสติ สมฺพนฺโธ. อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – อเทสิตวตฺถุกํ ¶ ปมาณาติกฺกนฺตํ กุนฺถกิปิลฺลิกาทีนํ อาสเย กตตฺตา สารมฺภํ ทฺวีหิ พลีพทฺเทหิ ยุตฺเตน สกเฏน คนฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อปริกฺกมนํ อุลฺลิตฺตาทิเภทํ กุฏึ อตฺตโน วสนตฺถาย กโรนฺโต วา การาเปนฺโต วา ‘‘อิทานิ นิฏฺานํ คมิสฺสตี’’ติ ปมปิณฺฑทาเน ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปิณฺฑทาเนน เลเป ฆฏิเต ทฺเว จ สงฺฆาทิเสเส ทฺเว จ ทุกฺกฏานิ, สเจ เทสิตวตฺถุกาเยว วา ปมาณาติกฺกนฺตาเยว วา โหติ, เอกํ สงฺฆาทิเสสํ ทฺเว จ ทุกฺกฏานิ อาปชฺชตีติ.
กุฏิการสิกฺขาปทํ ฉฏฺํ.
๒๕. อิทานิ วิหารการสิกฺขาปทํ ทสฺเสตุํ ‘‘มหลฺลก’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ มหลฺลกนฺติ สสฺสามิกภาเวน สํยาจิตกุฏิโต มหนฺตภาโว เอตสฺส อตฺถิ, ยสฺมา วา วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกเมนาปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ปมาณมหนฺตตายปิ มหลฺลโก, ตํ มหลฺลกํ วิหารํ วา กตฺวาติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน อเทสิตวตฺถุกภาเวน เอโก สงฺฆาทิเสโส, เสสํ อนนฺตรสทิสเมว. อิธ จ ตตฺถ จ วาสาคารํ เปตฺวา อุโปสถาคารํ วา ชนฺตาฆรํ วา อคฺคิสาลํ วา ภวิสฺสตีติ เอวมาทินา นเยน กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ.
วิหารการสิกฺขาปทํ สตฺตมํ.
๒๖. อิทานิ อมูลกสิกฺขาปทํ ปกาเสตุํ ‘‘อมูลเกนา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อมูลเกนาติ ยํ โจทเกน จุทิตกมฺหิ ปุคฺคเล อทิฏฺํ อสุตํ อปริสงฺกิตํ, อิทํ เอเตสํ ทสฺสนสวนปริสงฺกาสงฺขาตานํ มูลานํ อภาวโต อมูลกํ, เตน อมูลเกน วตฺถุนาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ¶ อทิฏฺํ นาม อตฺตโน ปสาทจกฺขุนา วา ทิพฺพจกฺขุนา วา อทิฏฺํ. อสุตํ ¶ นาม ตเถว เกนจิ วุจฺจมานํ น สุตํ. อปริสงฺกิตํ นาม จิตฺเตน อปริสงฺกิตํ, ตํ ปน ทิฏฺสุตมุตวเสน ติวิธํ. ตตฺถ ภิกฺขฺุจ มาตุคามฺจ ตถารูเป าเน ทิสฺวา ‘‘อทฺธา อิเมหิ กต’’นฺติ วา ‘‘กริสฺสนฺตี’’ติ วา ปริสงฺกติ, อิทํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม. อนฺธกาเร ปฏิจฺฉนฺโนกาเส วา ภิกฺขุสฺส จ มาตุคามสฺส จ วจนํ สุตฺวา ทุติยสฺส อตฺถิภาวํ อชานนฺโต ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ปริสงฺกติ, อิทํ สุตปริสงฺกิตํ นาม. ธุตฺเตหิ อิตฺถีหิ สทฺธึ ปจฺจนฺตวิหาเรสุ ปุปฺผคนฺธสุราทีหิ อนุภวิตฺวา คตฏฺานํ ทิสฺวา ‘‘เกน นุ โข อิทํ กต’’นฺติ วีมํสนฺโต ตตฺร เกนจิ ภิกฺขุนา คนฺธาทีหิ ปูชา กตา โหติ, เภสชฺชตฺถาย อริฏฺํ วา ปีตํ, โส ตสฺส คนฺธํ ฆายิตฺวา ‘‘อยํ โส ภวิสฺสตี’’ติ ปริสงฺกติ, อิทํ มุตปริสงฺกิตํ นาม. เอวํ ติวิธาย ปริสงฺกาย อภาเวน อปริสงฺกิตนฺติ อตฺโถ.
โจเทนฺโตติ ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อาปนฺโนสิ, อสฺสมโณสิ, อสกฺยปุตฺติโยสี’’ติอาทีหิ วจเนหิ สยํ โจเทนฺโตติ อตฺโถ. เอวํ โจเทนฺตสฺส วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส. โจทาเปนฺโต วาติ อตฺตนา ตสฺส สมีเป ตฺวา อฺํ ภิกฺขุํ อาณาเปตฺวา โจทาเปนฺโต ตสฺส อาณตฺตสฺส วาจาย วาจาย ครุํ ผุเสติ อตฺโถ. อถ โสปิ จาวนาธิปฺปาเยน ‘‘มยาปิ ทิฏฺํ อตฺถี’’ติอาทินา นเยน โจเทติ, ทฺวินฺนมฺปิ วาจาย อาปตฺติ. วตฺถุนา อนฺติเมน จาติ ภิกฺขุโน อนุรูเปสุ เอกูนวีสติยา ปาราชิเกสุ อฺตเรนาติ อตฺโถ. จาเวตุนฺติ พฺรหฺมจริยา จาเวตุํ, โย สุทฺธํ วา อสุทฺธํ วา กตูปสมฺปทํ ปุคฺคลํ สุทฺธทิฏฺิโก สมาโน จาวนาธิปฺปาเยน โจเทติ วา โจทาเปติ วา, ตสฺส สงฺฆาทิเสโสติ อธิปฺปาโย. สุณมานนฺติ อิมินา ปรมฺมุขา ทูเตน วา ปณฺเณน วา โจเทติ. โจเทนฺตสฺส ¶ น รุหตีติ ทีปิตํ โหติ. ปรมฺมุขา ปน สตฺตหิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ วทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
อมูลกสิกฺขาปทํ อฏฺมํ.
๒๗. อิทานิ อฺภาคิยสิกฺขาปทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อฺสฺส กิริย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อฺสฺส กิริยนฺติ อฺสฺส ขตฺติยาทิชาติกสฺส ปาราชิกสฺส วีติกฺกมสงฺขาตํ กิริยํ ทิสฺวาติ สมฺพนฺโธ. เตน เลเสนาติ ‘‘ทส เลสา ชาติเลโส นามเลโส โคตฺตเลโส ลิงฺคเลโส อาปตฺติเลโส ปตฺตเลโส จีวรเลโส อุปชฺฌายเลโส อาจริยเลโส เสนาสนเลโส’’ติ (ปารา. ๓๙๔) เอวํ ¶ วุตฺเตสุ ทสสุ เลเสสุ โย ตสฺมึ ปุคฺคเล ทิสฺสติ, เตน เลเสน ตทฺํ ปุคฺคลํ พฺรหฺมจริยา จาเวตุํ อนฺติมวตฺถุนา โจเทนฺโต ครุกํ ผุเสติ อตฺโถ. ตตฺถ อฺมฺปิ วตฺถุํ ลิสฺสติ สิลิสฺสติ โวหารมตฺเตเนว อีสกํ อลฺลียตีติ เลโส, ชาติเยว เลโส ชาติเลโส. เอส นโย เสสปเทสุปิ. เลเสน โจเทนฺโต กถํ โจเทติ? อฺโ ขตฺติยชาติโก อิมินา โจทเกน ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ โหติ, โส อฺํ อตฺตโน เวรึ ขตฺติยชาติกํ ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา ตํ ขตฺติยชาติเลสํ คเหตฺวา เอวํ โจเทติ ‘‘ขตฺติโย มยา ทิฏฺโ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโต, ตฺวมฺปิ ขตฺติโย ปาราชิกํ ธมฺมํ อาปนฺโนสี’’ติ วา ‘‘โส ตฺวํ ขตฺติโย, นาฺโ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ติ วา โจเทติ. เอวํ นามเลสาทโยปิ เวทิตพฺพา.
อฺภาคิยสิกฺขาปทํ นวมํ.
๒๘. เอตฺตาวตา ¶ ‘‘ครุกา นวา’’ติ อุทฺทิฏฺเ วิตฺถารโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตสุ อาปนฺเนสุ ปฏิปชฺชนาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉาเทติ ชานมาปนฺน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสายํ ปิณฺฑตฺโถ – โย ภิกฺขุ ‘‘อยํ อิตฺถนฺนามา อาปตฺตี’’ติ อาปตฺติวเสน วา ‘‘อิทํ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏตี’’ติ เอวํ วตฺถุวเสน วา ชานมาปนฺนํ อาปตฺตึ ยาว ฉาเทติ, ตาว เตน ภิกฺขุนา อกามา ปริวาโส วสิตพฺโพติ. จเรยฺยาติ มานตฺตํ สมาทาย วเสยฺย. กิตฺตกํ ทิวสนฺติ เจ? ฉ รตฺติโย. มานตฺตวาโส ปน สงฺเฆเยว, น คเณ, น ปุคฺคเล, เตน วุตฺตํ ‘‘สงฺเฆ’’ติ. ปริวุตฺโถติ ‘‘ตโย โข อุปาลิ ปาริวาสิกสฺส ภิกฺขุโน รตฺติจฺเฉทา สหวาโส วิปฺปวาโส อนาโรจนา’’ติ (จูฬว. ๘๓) เอวํ วุตฺตํ รตฺติจฺเฉทํ อกตฺวา ปริวุตฺโถติ อตฺโถ. ตตฺถ สหวาโสติ ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อุทกปาตฏฺานพฺภนฺตเร วาโส. วิปฺปวาโส นาม อฺํ ปกตตฺตํ ภิกฺขุํ วินา วาโส. อนาโรจนาติ อาคนฺตุกาทีนํ อนาโรจนา. เอเตสุ ตีสุ เอเกนาปิ รตฺติจฺเฉโท โหติ เอว. เอตฺถ ปน อุปจารสีมคตานํ อาโรเจตพฺพํ, น พหิ ิตานํ, พหิ ิตานมฺปิ สเจ สทฺทํ สุณาติ, ปสฺสติ, ทูรํ วา คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพเมว, อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภเท ทุกฺกฏฺจ โหติ. อชานนฺตสฺเสว อุปจารสีมํ ปวิสิตฺวา คจฺฉนฺติ เจ, รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภโท.
จิณฺณมานตฺตนฺติ ‘‘จตฺตาโร โข, อุปาลิ, มานตฺตจาริกสฺส ภิกฺขุโน รตฺติจฺเฉทา สหวาโส ¶ วิปฺปวาโส อนาโรจนา อูเน คเณ จรณ’’นฺติ (จูฬว. ๙๒) เอวํ วุตฺตํ รตฺติจฺเฉทํ อกตฺวา จิณฺณมานตฺตํ ปรินิฏฺิตมานตฺตนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน สหวาสาทโย ปริวาเส วุตฺตปฺปการา เอว. ‘‘อูเน คเณ จรณ’’นฺติ เอตฺถ คโณ จตฺตาโร วา อติเรกา วา ภิกฺขู, ตสฺมา ¶ สเจปิ ตีหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสติ, รตฺติจฺเฉโท โหติเยว, ‘‘สเจ ปน เตน เตสํ อตฺถิภาวํ ทิสฺวา อาโรจิเต ปกฺกมนฺติ, อูเน คเณ จรณโทโส น โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๙๗) อฏฺกถาสุ วุตฺตํ กิร. อพฺเภยฺยาติ ตํ ภิกฺขุํ วีสติคโณ สงฺโฆ อพฺเภยฺย สมฺปฏิจฺเฉยฺย, อพฺภานกมฺมวเสน โอสาเรยฺยาติ อตฺโถ. สเจ เอเกนปิ อูโน วีสติคโณ ภิกฺขุสงฺโฆ ตํ ภิกฺขุํ อพฺเภยฺย, โส จ ภิกฺขุ น อพฺภิโต, เต จ ภิกฺขู คารยฺหา, ทุกฺกฏํ อาปชฺชนฺตีติ อตฺโถ.
๒๙. อิทานิ ยถา ฉาทิตา อาปตฺติ ฉนฺนา โหติ, ตํ ปการํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาปตฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถายํ ปทโยชนา – อาปตฺติตา จ อนุกฺขิตฺตตา จ อนนฺตรายตา จ ปหุตฺตตา จ อาปตฺตินุกฺขิตฺตอนนฺตรายปหุตฺตตาโย, เอตาสุ จตูสุ ตถาสฺิตา จ ฉาเทตุกาโม หุตฺวา ฉาทนา จาติ เอวํ ทสหงฺเคหิ อรุณุคฺคมมฺหิ ฉนฺนา โหตีติ. เอตฺถ ปน อาปตฺติอาทีสุ จตูสุ อาปตฺติสฺิตา จ อนุกฺขิตฺตสฺิตา จ อนนฺตรายสฺิตา จ ปหุตฺตสฺิตา จาติ เอวํ สฺาวเสน โยเชตฺวา อฏฺงฺคานิ คเหตพฺพานิ, ฉาเทตุกาโมติ อิทเมกํ, ฉาทนาติ อิทเมกนฺติ เอวํ ทส.
เอเตสุ ปน อาทิโต ปฏฺาย อยํ วินิจฺฉโย – ‘‘อาปตฺติ จ โหติ อาปตฺติสฺี จา’’ติ เอตฺถ ยํ อาปนฺโน, สา เตรสนฺนํ อฺตรา โหติ, โสปิ จ ตตฺถ ครุกาปตฺติสฺีเยว หุตฺวา ชานนฺโต ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. สเจ ตตฺถ อนาปตฺติสฺี วา อฺาปตฺติสฺี วา เวมติโก วา โหติ, อจฺฉนฺนาว โหติ. ติวิธํ ปน อุกฺเขปนียกมฺมํ, เตน อกโต อนุกฺขิตฺโต. โส ¶ เจ ปกตตฺตสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. สเจ อปกตตฺตสฺี ฉาเทติ, อจฺฉนฺนา โหติ. อปกตตฺเตน ปน ปกตตฺตสฺินาปิ อปกตตฺตสฺินาปิ ฉาทิตํ อจฺฉาทิตเมว โหตีติ. อนนฺตรายิโกติ ยสฺส ทสสุ ราชโจรอคฺคิอุทกมนุสฺสามนุสฺสวาฬสรีสปชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตราเยสุปิ เอโกปิ นตฺถิ, โส เจ อนนฺตรายิกสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. สเจ โส อนฺธการภีรุโก อนนฺตราเย เอว วาฬาทิอนฺตรายสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, อจฺฉนฺนาว โหติ. ปหูติ โย สกฺโกติ สภาคภิกฺขุโน สมีปํ คนฺตฺุเจว อาโรจิตฺุจ ¶ , โส เจ ปหุสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. โย ปน อปหุ หุตฺวา ปหุสฺี, ปหุ วา อปหุสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, อจฺฉนฺนาว โหตีติ.
อรุณุคฺคมมฺหีติ เอตฺถ ปุเรภตฺตํ วา อาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ ปจฺฉาภตฺตํ วา, ยาว อรุณํ น อุคฺคจฺฉติ, ตาว อาโรเจตพฺพา. สเจ ปน อรุณพฺภนฺตเร สตกฺขตฺตุมฺปิ ฉาเทตุกามตา อุปฺปชฺชติ, อจฺฉนฺนาว โหติ. อาโรเจนฺโต ปน สภาคสงฺฆาทิเสสํ อาปนฺนสฺส อาโรเจตุํ น วฏฺฏติ. สเจ อาโรเจติ, อาปตฺติ ปน อาวิกตา โหติ, อาโรจนปจฺจยา ปน อฺํ ทุกฺกฏํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ. อิมินา อฺมฺปิ วตฺถุสภาคาปตฺตึ อาโรเจตุํ น วฏฺฏตีติ ทีปิโต โหติ. อาโรเจนฺเตน ปน ‘‘อหํ ตว สนฺติเก เอกํ อาปตฺตึ อาวิ กโรมี’’ติ วา ‘‘อาจิกฺขามี’’ติ วา ‘‘อาโรเจมี’’ติ วา ‘‘เอกํ อาปตฺตึ อาปนฺนภาวํ ชานาหี’’ติ วา ‘‘เอกํ ครุกาปตฺตึ อาวิ กโรมี’’ติ วา อาทินา นเยน วตฺตพฺพํ, เอตฺตาวตา อจฺฉนฺนาว โหติ. สเจ ‘‘ลหุกาปตฺตึ อาโรเจมี’’ติ วทติ, ฉนฺนาว โหตีติ. สงฺฆาทิเสสวินิจฺฉโย.
สงฺฆาทิเสสนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. จีวรนิทฺเทสวณฺณนา
๓๐. เอวํ ¶ ครุเก สิกฺขิตพฺพาการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ จีวเรสุ ทสฺเสตุํ ‘‘จีวร’’นฺติ อุทฺธฏํ. ตตฺถ ชาติโต ฉ จีวรานิ (มหาว. ๓๓๙; ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๒-๔๖๓; กงฺขา. อฏฺ. กถินสิกฺขาปทวณฺณนา), ตานิ กานีติ เจ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โขมา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ โขมํ นาม โขมวากสุตฺเตหิ กตํ วตฺถํ. สาณํ นาม สาณวาเกหิ กตํ วตฺถํ. ภงฺคํ นาม โขมสุตฺตาทีหิ ปฺจหิ มิสฺเสตฺวา กตํ วตฺถํ. ปาเฏกฺกํ วากมยเมว วาติ วทนฺติ. กมฺพลํ นาม มนุสฺสโลมํ วาฬโลมํ เปตฺวา โลเมหิ วายิตฺวา กตํ วตฺถํ. ฉเฬตานีติ ฉ เอตานิ. สห อนุโลเมหีติ สานุโลมานิ. ชาติโต ปน กปฺปิยานิ ฉ จีวรานีติ วุตฺตํ โหติ.
๓๑. อิทานิ ¶ เตสํ อนุโลมานิ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกูล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๕) ทุกูลํ สาณสฺส อนุโลมํ วากมยตฺตา. ปฏฺฏุณฺณนฺติ ปฏฺฏุณฺณเทเส ปาณเกหิ สฺชาตวตฺถํ. โสมารเทเส, จีนเทเส ชาตํ โสมารจีนชํ ปฏนฺติ สมฺพนฺโธ. อิมานิ ตีณิปิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ ปาณเกหิ กตสุตฺตมยตฺตา. อิทฺธิชนฺติ เอหิภิกฺขูนํ ปฺุิทฺธิยา นิพฺพตฺตจีวรํ. ตํ ปน โขมาทีนํ อฺตรํ โหติ. กปฺปรุกฺเขหิ นิพฺพตฺตํ ชาลินิยา เทวกฺาย อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ทินฺนวตฺถาทิกํ เทวทินฺนํ. ตมฺปิ โขมาทีหิ นิพฺพตฺตวตฺถสทิสตฺตา ฉนฺนมฺปิ อนุโลมํ โหติเยว กปฺปาสิกสฺส วา, อิทฺธิชมฺปิ ตเถว เวทิตพฺพํ. ตสฺส ตสฺสาติ โขมาทิกสฺส. อนุโลมิกนฺติ อนุรูปํ.
๓๒-๓๓. เอวํ ชาติโต สานุโลมานิ ฉ จีวรานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตสุ อธิฏฺานาทิกํ วิธานํ ทสฺเสตุํ ‘‘ติจีวร’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ (กงฺขา. อฏฺ. กถินสิกขาปทวณฺณนา; มหาว. ๓๕๘) ธิฏฺานโต ปุพฺเพ ติจีวรํ นาม ¶ ปาเฏกฺกํ นตฺถิ สงฺฆาฏิอาทิปฺปโหนกสฺส ปจฺจตฺถรณาทิวเสนาปิ อธิฏฺาตุํ อนฺุาตตฺตา. ตสฺมา ‘‘ติจีวรํ อธิฏฺเยฺย น วิกปฺเปยฺยา’’ติ เอตฺถ ‘‘อิมํ สงฺฆาฏิ’’นฺติ เอวํ นาเม คหิเต ‘‘อธิฏฺาน’’มิจฺเจว วตฺตพฺพํ, ‘‘วิกปฺเปมี’’ติ ปน น วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เอวํ เสเสสุปิ. มุขปฺุฉนฺจ นิสีทนฺจ มุขปฺุฉนนิสีทนํ. กณฺฑุจฺฉาทินฺติ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทึ อธิฏฺเยฺย, น วิกปฺเปยฺยาติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถาติ อิเมสุ นวสุ จีวเรสุ. ติจีวรนฺติ ติจีวราธิฏฺานนเยน อธิฏฺิตติจีวรํ. วินา อลทฺธสมฺมุติโก ภิกฺขุ อวิปฺปวาสสมฺมุติอลทฺธฏฺาเน เอกาหมฺปิ หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา น วเสยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘น ภิกฺขเว จาตุมาสํ นิสีทเนน วิปฺปวสิตพฺพํ, โย วิปฺปวเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ ขุทฺทกกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๖๓) วุตฺตตฺตา จาตุมาสํ นิสีทนํ วินา น วเสยฺยาติ อตฺโถ.
๓๔. อิทานิ อธิฏฺานวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมํ สงฺฆาฏิ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ มิจฺจธิฏฺเยติ อิติ อธิฏฺเย, ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ เอวํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺเยติ อตฺโถ. อหตฺถปาสเมตนฺติ ทูเร ิตํ ปน ปิโตกาสํ สลฺลกฺเขตฺวา สเจ เอกํ, ‘‘เอต’’นฺติ, พหูนิ เจ, ‘‘เอตานี’’ติ วตฺวา อธิฏฺเยติ อตฺถสมฺพนฺโธ. เสเสสุปิ อยํ นโยติ ยถา ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘อิมํ อุตฺตราสงฺคํ, อิมํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทึ อธิฏฺามี’’ติ เอวํ อตฺตโน นาเมเนว วตฺวา สมฺมุขาปิ ปรมฺมุขาปิ วุตฺตนเยน อธิฏฺาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๓๕. อิทานิ ¶ สเจ ปุพฺเพ อธิฏฺิตํ ติจีวรํ นิสีทนํ วสฺสิกสาฏิกํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทีติ อิเมสุ ฉสุ จีวเรสุ อฺตรํ จีวรํ อตฺถิ, ปุน ตถาวิธํ จีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปริหริตุํ อิจฺฉนฺเตน ‘‘ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙; กงฺขา. อฏฺ. กถินสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตตฺตา ปุพฺเพ อธิฏฺิตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ¶ อธิฏฺาตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อธิฏฺหนฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ อุตฺตานเมว. ปตฺตาธิฏฺหเน ตถาติ ‘‘อิมํ ปตฺตํ, เอตํ ปตฺต’’นฺติ เอวํ นามมตฺตเมว วิเสโส. เสสํ ตาทิสเมวาติ อตฺโถ.
๓๖. เอตํ อิมํ ว สงฺฆาฏึ สํเสติ เอตฺถ สเจ อนฺโตคพฺเภ วา สามนฺตวิหาเร วา โหติ, ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา, สเจ หตฺถปาเส โหติ, ‘‘อิมํ สงฺฆาฏิ’’นฺติ เตสํ เตสํ นามวเสน วาจา ภินฺทิตพฺพาติ อตฺโถ. ปจฺจุทฺธาเรปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน ‘‘ทฺเว จีวรสฺส อธิฏฺานา กาเยน วา อธิฏฺเติ, วาจาย วา อธิฏฺเตี’’ติ (ปริ. ๓๒๒) วุตฺตตฺตา สงฺฆาฏิอาทิกํ หตฺเถน คเหตฺวา ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติอาทินา นเยน จิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา กายวิการํ กโรนฺเตน กาเยน อธิฏฺาตพฺพํ, เยน เกนจิ สรีราวยเวน อผุสนฺตสฺส น วฏฺฏติ. วาจาย อธิฏฺหนฺเตน วจีเภทํ กตฺวาว อธิฏฺาตพฺพํ. ตถา ปตฺเตปิ. วิทูติ ปณฺฑิโต.
๓๗-๘. อิทานิ เตสํ ปมาณปริจฺเฉทํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺฆาฏิ ปจฺฉิมนฺเตนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทีฆโต มุฏฺิปฺจกโต (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙; กงฺขา. อฏฺ. กถินสิกฺขาปทวณฺณนา) ปฏฺาย ‘‘ตตฺริทํ สุคตสฺส สุคตจีวรปฺปมาณํ, ทีฆโส นว วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ ฉ วิทตฺถิโย’’ติ (ปาจิ. ๕๔๘) เอวํ วุตฺตสุคตจีวรูนาปิ วฏฺฏติ. ติริยํ ปน มุฏฺิตฺติกํ. จ-สทฺเทน อติเรกมฺปิ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. อุตฺตราสงฺคสฺสปิ เอตเทว ปมาณนฺติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา เอกํสิกสฺสาปี’’ติ วุตฺตํ. อนฺตรวาสกสฺส ปน ‘‘ปารุปเนนปิ หิ สกฺกา นาภึ ปฏิจฺฉาเทตุ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อฏฺกถาวจนโต ‘‘ทฺวิหตฺโถ วา’’ติ วุตฺตํ.
๓๙. นิสีทนสฺส ¶ ทีเฆนาติ เอตฺถ (ปาจิ. ๕๓๑ อาทโย; ปาจิ. อฏฺ. ๕๓๑; กงฺขา. อฏฺ. นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา) นิสีทนนฺติ สนฺถตสทิสํ สนฺถริตฺวา เอกสฺมึ อนฺเต วุตฺตปฺปมาเณน ทฺวีสุ าเนสุ ผาเลตฺวา กตาหิ ตีหิ ทสาหิ ยุตฺตสฺส ปริกฺขารสฺเสตํ นามํ.
๔๐. กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ ¶ (ปาจิ. ๕๓๘; มหาว. ๓๕๔; ปาจิ. อฏฺ. ๕๓๗; กงฺขา. อฏฺ. กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิสิกฺขาปทวณฺณนา) นาม ยสฺส อโธนาภิอุพฺภชาณุมณฺฑลํ กณฺฑุ วา ปิฬกา วา อสฺสาโว วา ถุลฺลกจฺฉุ วา อาพาโธ, ตสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถาย อนฺุาตํ จีวรํ. คาถาโย สุวิฺเยฺยาว.
๔๑. อฑฺฒเตยฺยาวาติ (ปาจิ. ๕๔๔) เอตฺถ ตโต อุทฺธํ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
๔๒. เอตฺถาติ สงฺฆาฏิโต ปฏฺาย ยาว วสฺสิกสาฏิกา, ตาว ทสฺสิตจีวเรสูติ อตฺโถ. ตทุตฺตรินฺติ ตโต เตสํ จีวรานํ วุตฺตปฺปมาณโต อุตฺตรึ กโรนฺตสฺส เฉทนปาจิตฺติ โหตีติ ปาเสโส, ตํ อติเรกํ ฉินฺทิตฺวา ปุน ปาจิตฺติยํ เทเสตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปจฺจตฺถรณมุขโจฬาติ เอตฺถ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยาว มหนฺตํ ปจฺจตฺถรณํ อากงฺขติ, ตาว มหนฺตํ ปจฺจตฺถรณํ กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๓) วุตฺตตฺตา ปจฺจตฺถรณสฺส ปมาณปริจฺเฉโท นตฺถิ,. มุขปฺุฉนโจฬสฺส ปน อุกฺกฏฺวเสน วา อนฺติมวเสน วา ปมาณปริจฺเฉโท น วุตฺโต, ตสฺมา ตมฺปิ อปฺปมาณิกํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อากงฺขิตปฺปมาณิกา’’ติ, อิจฺฉิตปฺปมาณิกาติ อตฺโถ. ยาว เอกํ โธวียติ, ตาว อฺํ ปริโภคตฺถาย อิจฺฉิตพฺพนฺติ ทฺเวปิ วฏฺฏนฺติ.
๔๓. น ¶ ทีปิตนฺติ กตฺถ น ทีปิตํ? อฏฺกถาสุ. กสฺมาติ เจ? ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ ปริปุณฺณํ โหติ ติจีวรํ, อตฺโถ จ โหติ ปริสฺสาวเนหิปิ ถวิกาหิปิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริกฺขารโจฬก’’นฺติ (มหาว. ๓๕๗) พหูนํ ปตฺตถวิกปริสฺสาวนาทีนํ สงฺคหวเสน วุตฺตตฺตา ปาเฏกฺกํ นิธานมุขนฺติ. ยสฺมา ปน ภควตา ‘‘ยํ ยํ ลพฺภติ, ตํ ตํ อิมินา วิธาเนน อธิฏฺหิตฺวา ปุน เยน เยน ปริสฺสาวนาทินา อตฺโถ โหติ, ตํ ตํ กตฺวา คณฺหนฺตู’’ติ อนุกมฺปาย อนฺุาตํ, ตสฺมา วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรปฺปมาณํ ถวิกมฺปิ ปฏปริสฺสาวนมฺปิ พหูนิปิ เอกโต กตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ ปริกฺขารโจฬานิ อธิฏฺามี’’ติ วตฺวา อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติเยว. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตถา วตฺวา’’ติ, ‘‘ปริกฺขารโจฬ’’นฺติ วตฺวาติ อตฺโถ. วิกปฺปิยนฺติ วิกปฺปนุปคํ.
๔๔. อหตกปฺปานนฺติ (มหาว. ๓๔๘) เอกวารํ โธวิตกานํ.
๔๕. อุตุทฺธฏานนฺติ ¶ อุตุโต ทีฆกาลโต อุทฺธฏานํ, กตวตฺถกิจฺจานํ ปิโลติกานนฺติ วุตฺตํ โหติ. เสสาติ อุตฺตราสงฺคอนฺตรวาสกา. ปํสุ วิย กุจฺฉิตภาวํ ปฏิกฺกูลภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ปํสุกูลํ, โจฬขณฺฑานเมตํ นามํ, ตสฺมึ ปํสุกูเล ยถารุจีติ อตฺโถ. กสฺมาติ เจ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อหตานํ ทุสฺสานํ อหตกปฺปานํ ทิคุณํ สงฺฆาฏึ เอกจฺจิยํ อุตฺตราสงฺคํ เอกจฺจิยํ อนฺตรวาสกํ, อุตุทฺธฏานํ ทุสฺสานํ จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ทิคุณํ อุตฺตราสงฺคํ ทิคุณํ อนฺตรวาสกํ, ปํสุกูเล ยาวทตฺถํ, ปาปณิเก อุสฺสาโห กรณีโย’’ติ วุตฺตตฺตา, ตสฺมา สุสานาทีสุ ปติตปํสุกูเล จ อนฺตราปเณ ปติตปิโลติกจีวเร จ ปฏปริจฺเฉโท นตฺถิ, ปฏสตมฺปิ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ.
๔๖. อิทานิ ¶ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ฉินฺนกํ สงฺฆาฏึ ฉินฺนกํ อุตฺตราสงฺคํ ฉินฺนกํ อนฺตรวาสก’’นฺติ (มหาว. ๓๔๕) วตฺวา ปุน ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน ติจีวเร กยิรมาเน สพฺพํ ฉินฺนกํ นปฺปโหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ฉินฺนกานิ เอกํ อจฺฉินฺนกนฺติ. ทฺเว ฉินฺนกานิ เอกํ อจฺฉินฺนกํ นปฺปโหติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว อจฺฉินฺนกานิ เอกํ ฉินฺนกนฺติ. เอกํ ฉินฺนกํ นปฺปโหติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อนฺวาธิกมฺปิ อาโรเปตุํ. น จ, ภิกฺขเว, สพฺพํ อจฺฉินฺนกํ ธาเรตพฺพํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๐) เอวํ วุตฺตวิธานํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตีสู’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตสฺส อตฺโถ – ตีสุ จีวเรสุ ยํ ฉินฺทิตฺวา สิพฺพิตุํ สพฺพปจฺฉิมปฺปมาณํ ปโหติ, ตํ ฉินฺทิตพฺพํ. สพฺเพสุ ปน อปฺปโหนฺเตสุ อนฺวาธิกํ อาทิเยยฺยาติ. ตตฺถ อนฺวาธิ นาม อนุวาตํ วิย สํหริตฺวา จีวรสฺส อุปริ สงฺฆาฏิอากาเรน อาโรเปตพฺพํ. อาคนฺตุกปตฺตนฺติปิ วทนฺติ. อิทํ ปน อปฺปโหนเก อนฺุาตํ. สเจ ปโหติ, น วฏฺฏนฺติ, ฉินฺทิตพฺพเมว. อนาทิณฺณนฺติ อนาโรปิตํ อนฺวาธิกํ. น ธาเรยฺยาติ ติจีวราธิฏฺานวเสน อธิฏฺหิตฺวา น ธาเรตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
๔๗-๘. อิทานิ อุโทสิตสิกฺขาปทนยํ ทสฺเสตุํ ‘‘คาเม’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ ปน สเจ คาโม (ปารา. ๔๗๘; ปารา. อฏฺ. ๒.๔๗๗-๔๗๘; กงฺขา. อฏฺ. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา) เอกสฺส รฺโ วา โภชกสฺส วา วเสน เอกกุลสฺส โหติ, ปาการาทินา ปริกฺขิตฺตตฺตา เอกูปจาโร จ, เอวรูเป คาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺมึ คาเม ยถารุจิตฏฺาเน ¶ วสิตุํ ลพฺภติ. สเจ โส คาโม อปริกฺขิตฺโต, ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ ฆเร วสิตพฺพํ, ตสฺส วา ฆรสฺส สมนฺตโต หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ.
สเจ ¶ โส คาโม เวสาลิกุสินาราทโย วิย นานาราชูนํ วา โภชกานํ วา โหติ, วุตฺตปฺปกาเรน ปริกฺขิตฺโต จ, เอวรูเป คาเม ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ ฆเร วา วตฺถพฺพํ. ยสฺสา วีถิยา ตํ ฆรํ โหติ, ตสฺสา วีถิยา ตสฺส ฆรสฺส สมฺมุขาฏฺาเน สภาเย วา นครทฺวาเร วา วตฺถพฺพํ, เตสํ สภายทฺวารานํ หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ. สเจ อปริกฺขิตฺโต, ยสฺมึ ฆเร นิกฺขิตฺตํ, ตตฺถ วา ตสฺส หตฺถปาเส วา วตฺถพฺพํ.
นิเวสนาทโย หมฺมิยปริโยสานา คามปริกฺเขปโต พหิ สนฺนิวิฏฺาติ เวทิตพฺพา. อิตรถา เตสํ คามคฺคหเณเนว คหิตตฺตา คามสฺส เอกกุลนานากุลเอกูปจารนานูปจารตาวเสเนว วินิจฺฉโย วตฺตพฺโพ สิยา. นิเวสนาทีนํ วเสเนว ปาฬิยํ (ปารา. ๔๗๘ อาทโย) อตฺโถ วิภตฺโต, น คามวเสน. อุโทสิตวินิจฺฉเย อยํ นโย วุตฺโตเยว.
นิเวสเนติ เอตฺถ สเจ เอกกุลสฺส นิเวสนํ โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ, อนฺโตนิเวสเน จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตนิเวสเน วตฺถพฺพํ. อปริกฺขิตฺตฺเจ โหติ, ยสฺมึ คพฺเภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ วตฺถพฺพํ, ตสฺส คพฺภสฺส หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ. สเจ นานากุลสฺส โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ, ยสฺมึ คพฺเภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ คพฺเภ วตฺถพฺพํ, สพฺเพสํ สาธารณทฺวารมูเล วา เตสํ คพฺภทฺวารมูเล วา เตสํ คพฺภทฺวารมูลานํ วา หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ. อปริกฺขิตฺตฺเจ โหติ, ยสฺมึ คพฺเภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ คพฺเภ วตฺถพฺพํ, หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ.
อุโทสิโตติ ยานาทีนํ ภณฺฑานํ สาลา. ปาสาโทติ ทีฆปาสาโท. หมฺมิยนฺติ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโท. นาวา ¶ ปน ถลํ อาโรเปตฺวา นิกฺขิตฺตาปิ โหติ, สมุทฺเท ิตาปิ. สเจ เอกกุลสฺส นาวา โหติ, อนฺโตนาวาย จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตนาวาย วตฺถพฺพํ. นานากุลสฺส นาวา โหติ นานาคพฺภา นานาโอวรกา, ยสฺมึ โอวรเก จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ วตฺถพฺพํ, จีวรสฺส หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ.
อฏฺโฏติ ¶ ปฏิราชาทีนํ ปฏิพาหนตฺถํ อิฏฺกาหิ กโต พหลภิตฺติโก จตุปฺจภูมิโก ปติสฺสยวิเสโส. มาโฬติ เอกกูฏสงฺคหิโต จตุรสฺสปาสาโท. อิเมสุ ปน อุโทสิตาทีสุ มาฬปริโยสาเนสุ นิเวสเน วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. นิเวสนนฺติ ปน อุโทสิตาทีนํ วเสน อกตาย ปติสฺสยวิกติยา อธิวจนํ.
อาราโม นาม ปุปฺผารามผลารามาทิโก. สเจ เอกกุลสฺส อาราโม โหติ ปริกฺขิตฺโต จ, อนฺโตอาราเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตอาราเม วตฺถพฺพํ. สเจ อปริกฺขิตฺโต, จีวรสฺส หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ. สเจ นานากุลสฺส อาราโม โหติ ปริกฺขิตฺโต จ, ทฺวารมูเล วา วตฺถพฺพํ, ทฺวารมูลสฺส หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ. อปริกฺขิตฺโต เจ, จีวรสฺส หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ.
สตฺโถ นาม ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺถานมฺตโร. สเจ เอกกุลสฺส สตฺโถ โหติ, สตฺเถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ปุรโต วา ปจฺฉโต วา สตฺตพฺภนฺตรา น วิชหิตพฺพา, ปสฺสโต อพฺภนฺตรํ น วิชหิตพฺพํ. อพฺภนฺตรํ นาม อฏฺวีสติหตฺถํ โหติ. สเจ คจฺฉนฺโต สตฺโถ สกเฏ วา ภคฺเค, โคเณ วา นฏฺเ อนฺตรา ฉิชฺชติ, ยสฺมึ โกฏฺาเส จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ, ตตฺถ วสิตพฺพํ. สเจ นานากุลสฺส โหติ ¶ , สตฺเถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา จีวรสฺส หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ.
เขตฺตขเลสุ อาราเม วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. ทุเมติ รุกฺขมูเล. สเจ เอกกุลสฺส รุกฺขมูลํ โหติ, ยํ มชฺฌนฺหิกกาเล สมนฺตา ฉายา ผรติ, ตสฺมึ าเน อวิรเฬ ปเทเส ตสฺส ฉายาย ผุฏฺโกาสสฺส อนฺโต เอว นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ วิรฬสาขสฺส ปน รุกฺขสฺส อาตเปน ผุฏฺโกาเส เปติ, อรุณุคฺคมเน สเจ โส ภิกฺขุ ตสฺส หตฺถปาเส น โหติ, อฺสฺมึ วา าเน ตสฺส ฉายายปิ โหติ, นิสฺสคฺคิยํ โหติเยว. นานากุลสฺส เจ โหติ, จีวรสฺส หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ.
อชฺโฌกาเส ปน วิฺฌาฏวีอาทีสุ อรฺเสุปิ สมุทฺทมชฺเฌ มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถสุ ทีปเกสุปิ จีวรํ เปตฺวา ตโต สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตเร ปเทเส ยตฺถ กตฺถจิ วสิตพฺพํ. สเจ สตฺตพฺภนฺตรโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกมิตฺวา อรุณํ อุฏฺเปติ, นิสฺสคฺคิยํ โหติ.
เอตฺถ ¶ ปน ปาฬิยํ ‘‘คาโม เอกูปจาโร นานูปจาโร’’ติอาทินา (ปารา. ๔๗๗) อวิเสเสน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวาปิ คามนิเวสนอุโทสิตเขตฺตธฺกรณอารามวิหารานํ เอกูปจารนานูปจารตา ‘‘คาโม เอกูปจาโร นาม เอกกุลสฺส คาโม โหติ ปริกฺขิตฺโต จ อปริกฺขิตฺโต จา’’ติอาทินา (ปารา. ๔๗๘) ปริกฺขิตฺตาปริกฺขิตฺตวเสน วิภตฺตา. อฏฺฏมาฬปาสาทหมฺมิยนาวาสตฺถรุกฺขมูลอชฺโฌกาสานมฺปิ เอวํ อวตฺวา ‘‘เอกกุลสฺส อฏฺโฏ โหติ, นานากุลสฺส อฏฺโฏ โหตี’’ติอาทินา (ปารา. ๔๘๔) นเยน เอกกุลนานากุลวเสน จ อนฺเต ‘‘อชฺโฌกาโส เอกูปจาโร นาม อคามเก อรฺเ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา เอกูปจาโร, ตโต ปรํ นานูปจาโร’’ติ (ปารา. ๔๙๔) จ เอวํ เอกูปจารนานูปจารตา วิภตฺตา. ตสฺมา คามาทีสุ ¶ ปริกฺขิตฺตํ เอกูปจารํ, อปริกฺขิตฺตํ นานูปจารนฺติ จ อฏฺฏาทีสุ ยํ เอกกุลสฺส, ตํ เอกูปจารํ นานากุลสฺส นานูปจารนฺติ จ คเหตพฺพํ. อชฺโฌกาสปเท วุตฺตนเยน คเหตพฺพํ.
ภิกฺขุสมฺมุติยาฺตฺราติ ยํ คิลานสฺส ภิกฺขุโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ตฺติทุติเยน กมฺเมน อวิปฺปวาสสมฺมุติ ทียติ, ตํ เปตฺวาติ อตฺโถ. ลทฺธสมฺมุติกสฺส ปน ยาว โรโค น วูปสมฺมติ, ตสฺมึ วูปสนฺเต อฺโ วา กุปฺปติ, อนาปตฺติเยว.
๔๙. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทึ ยาว อาพาธา อธิฏฺาตุํ, ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ. วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ, ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วุตฺตตฺตา โรคปริยนฺตา กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ, วสฺสานปริยนฺตา วสฺสิกสาฏิกาติ อตฺโถ. เสสาติ ติจีวราทโย กาลวเสน อปริยนฺติกาติ อตฺโถ.
๕๐. ปจฺจตฺถรณาทิตฺตยํ สทสมฺปิ อทสมฺปิ รตฺตมฺปิ อรตฺตมฺปิ อาทิณฺณกปฺปมฺปิ อนาทิณฺณกปฺปมฺปิ ลพฺภตีติ อตฺโถ. นิสีทนนฺติ นิสีทนฺจ รตฺตํ อนาทิณฺณกปฺปฺจ ลพฺภตีติ อธิปฺปาโย. ปจฺจตฺถรณปริกฺขารมุขปฺุฉนโจฬานิ ปน นีลมฺปิ ปีตกมฺปิ โลหิตกมฺปิ ปุปฺผทสาทิกมฺปิ วฏฺฏนฺติ, ตสฺมา ‘‘สทสมฺปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวรูปํ ปน นิวาเสตุํ วา ปารุปิตุํ วา น วฏฺฏติ, เกวลํ ปจฺจตฺถรณาทิวเสน อธิฏฺานมตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ.
๕๑. ติจีวรํ ¶ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ วสฺสิกสาฏิกาติ อิทํ ปน เสสจีวรปฺจกํ อทสํ รชิตํเยว กปฺปติ, ตฺจ อาทิณฺณกปฺปเมวาติ อตฺโถ. สทสํว นิสีทนนฺติ อิทํ ปน ปุพฺเพ ‘‘สทสมฺปี’’ติ เอตฺถ วุตฺตตฺตา อทสมฺปิ นิสีทนํ วฏฺฏตีติ สมฺโมหนิวารณตฺถํ วุตฺตนฺติ วทนฺติ.
๕๒. อนธิฏฺิตนฺติ ¶ ติจีวราทิวเสน อนธิฏฺิตํ. อนิสฺสฏฺํ นาม อฺเสํ อวิสฺสชฺชิตํ, ตํ ปน วิกปฺเปตฺวา ปริภฺุชิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
อิทานิ วิกปฺปนุปคสฺส ปมาณํ เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ทสฺเสตุํ ‘‘หตฺถทีฆ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อายาเมน อฏฺงฺคุลํ สุคตงฺคุเลน จตุรงฺคุลวิตฺถตํ ปจฺฉิมํ จีวรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วุตฺตตฺตา ทีฆโต เอกหตฺถํ ปุถุลโต อุปฑฺฒหตฺถํ วิกปฺเปตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
๕๓. ติจีวรสฺสาติ วินยติจีวรสฺส, น ธุตงฺคติจีวรสฺส. ตสฺส ปน อิเมสุ นวสุ จีวรตฺตยเมว ลพฺภติ, น อฺํ ลพฺภติ. สพฺพเมตนฺติ สพฺพํ อธิฏฺานวิธานฺจ ปริหรณวิธานฺจาติ อตฺโถ. ปริกฺขารโจฬิโย สพฺพนฺติ ติจีวราทิกํ นววิธมฺปิ จีวรํ. ตถา วตฺวาติ ‘‘ปริกฺขารโจฬ’’นฺติ วตฺวา. อธิฏฺตีติ อธิฏฺาติ. กึ ปน ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตีติ? อาม วฏฺฏติ, ‘‘ปริกฺขารโจฬํ นาม ปาเฏกฺกํ นิธานมุขเมตนฺติ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อุโทสิตสิกฺขาปเท ปน ติจีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปริหรนฺตสฺส ปริหาโร วุตฺโต’’ติ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) วุตฺตํ, ตสฺมา ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺหนฺเตน ปจฺจุทฺธริตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพํ.
๕๔. อิทานิ เอเตสํ อธิฏฺานวิชหนาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘อจฺเฉทวิสฺสชฺชนคาหวิพฺภมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อจฺเฉโทติ โจราทีหิ อจฺฉินฺทนํ. วิสฺสชฺชนนฺติ อฺเสํ ทานํ. กถํ ปน ทินฺนํ, กถํ คหิตํ สุทินฺนํ สุคฺคหิตฺจ โหตีติ? สเจ ‘‘อิทํ ตุยฺหํ เทมิ ททามิ ทชฺชามิ โอโณเชมิ ปริจฺจชามิ นิสฺสชฺชามิ วิสฺสชฺชามี’’ติ วา ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส เทมิ…เป… วิสฺสชฺชามี’’ติ ¶ วา วทติ, สมฺมุขาปิ ปรมฺมุขาปิ ทินฺนํเยว โหติ. ‘‘ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ ¶ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ คณฺหามี’’ติ วทติ, สุทินฺนํ สุคฺคหิตฺจ. ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหิ, ตว สนฺตกํ โหตุ, ตว สนฺตกํ กริสฺสตี’’ติ วุตฺเต ‘‘มมสนฺตกํ กโรมิ, มม สนฺตกํ โหตุ, มม สนฺตกํ กริสฺสามี’’ติ วทติ, ทุทฺทินฺนํ ทุคฺคหิตฺจ. สเจ ปน ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ, ภนฺเต, มยฺหํ คณฺหามี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ.
คาโหติ วิสฺสาสคฺคาโห (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๓๑). โส ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส วิสฺสาสํ คเหตุํ. สนฺทิฏฺโ จ โหติ, สมฺภตฺโต จ, อาลปิโต จ, ชีวติ จ, ชานาติ จ ‘คหิเต เม อตฺตมโน ภวิสฺสตี’’’ติ (มหาว. ๓๕๖). ตตฺถ สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมตฺตกมิตฺโต. สมฺภตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต. อาลปิโตติ ‘‘มม สนฺตกํ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ คณฺเหยฺยาสิ, อาปุจฺฉิตฺวา คหเณ การณํ นตฺถี’’ติ วุตฺโต. ชีวตีติ อนุฏฺานเสยฺยาย สยิโตปิ ยาว ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทํ น ปาปุณาติ. คหิเต จ อตฺตมโนติ คหิเต จ ตุฏฺจิตฺโต. เอวรูปสฺส สนฺตกํ ‘‘คหิเต เม อตฺตมโน ภวิสฺสตี’’ติ ชานนฺเตน คเหตุํ วฏฺฏติ. อนวเสสปริยาทานวเสน เจตานิ ปฺจ องฺคานิ วุตฺตานิ, วิสฺสาสคฺคาโห ปน ตีหิ องฺเคหิ รุหติ. กถํ? สนฺทิฏฺโ ชีวติ คหิเต อตฺตมโน, สมฺภตฺโต ชีวติ คหิเต อตฺตมโน, อาลปิโต ชีวติ คหิเต อตฺตมโนติ เอวํ.
โย ปน ชีวติ, น จ คหิเต อตฺตมโน โหติ, ตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาสภาเวน คหิตมฺปิ ปุน ทาตพฺพํ. ททนฺเตน มตกธนํ ตาว เย ตสฺส ธเน อิสฺสรา คหฏฺา วา ปพฺพชิตา วา, เตสํ ทาตพฺพํ. โย ปน ปมํเยว ‘‘สุฏฺุ ¶ กตํ ตยา มม สนฺตกํ คณฺหนฺเตนา’’ติ วจีเภเทน วา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน วา อนุโมทิตฺวา ปจฺฉา เกนจิ การเณน กุปิโต, โส ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โยปิ อทาตุกาโม, จิตฺเตน ปน อธิวาเสติ, น กิฺจิ วทติ, โสปิ ปุน ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โย ปน ‘‘มยา ตุมฺหากํ สนฺตกํ คหิต’’นฺติ วา ‘‘ปริภุตฺต’’นฺติ วา วุตฺเต นาธิวาเสติ, ‘‘ปฏิเทหี’’ติ ภณติ, โส ปจฺจาหราเปตุํ ลภติ.
วิพฺภมาติ อิมินา ภิกฺขุนิยาเยว อธิฏฺานวิชหนํ คหิตํ โหติ. สา ปน ยทา วิพฺภมติ, ตทา อสฺสมณี โหติ. ภิกฺขุ ปน วิพฺภมนฺโตปิ ยาว สิกฺขํ น ปจฺจกฺขาติ, ตาว ภิกฺขุเยวาติ อธิฏฺานํ น วิชหตีติ. ลิงฺคสิกฺขาติ ลิงฺคปริวตฺตนฺจ สิกฺขาปจฺจกฺขานฺจาติ ¶ อตฺโถ. สพฺเพสูติ นวสุ จีวเรสุ. อธิฏฺานวิโยคการณาติ อธิฏฺานวิชหนการณา, อิเมสุ อฺตเรน อธิฏฺานํ วิชหตีติ อตฺโถ.
กิฺจ ภิยฺโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) – ติจีวรสฺส ปน วินิพฺพิทฺธฉิทฺทฺจ อธิฏฺานวิชหนํ กโรตีติ อตฺโถ. ตตฺถ สงฺฆาฏิอุตฺตราสงฺคานํ ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺส ติริยนฺตโต อฏฺงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต กนิฏฺงฺคุลินขปิฏฺิปฺปมาณกํ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ. อนฺตรวาสกสฺส ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺเสว ติริยนฺตโต จตุรงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, ปรโต ปน น ภินฺทติ. ตสฺมา ฉิทฺเท ชาเต ติจีวรํ อติเรกจีวรํ โหติ, สูจิกมฺมํ กตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. อิตเรสํ ปน ฉิทฺเทน วิชหนํ นาม นตฺถิ. โย ปน ติจีวเรปิ ทุพฺพลฏฺาเน ปมํ อคฺคฬํ ทตฺวา ปจฺฉา ทุพฺพลฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา อปเนติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. มณฺฑลปริวตฺตเนปิ เอเสว นโย. โย ปน ¶ อุโภ โกฏิโย มชฺเฌ กโรนฺโต สเจ ปมํ ฉินฺทิตฺวา ปจฺฉา ฆเฏติ, อธิฏฺานํ วิชหติ, อถ ฆเฏตฺวา ฉินฺทติ, น วิชหติ. รชเกหิ โธวาเปตฺวา เสตกํ กโรนฺตสฺสาปิ น วิชหติ เอว.
๕๕. อิทานิ อกปฺปิยจีวรานิ ทสฺเสตุํ ‘‘กุสวากผลกานี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กุสจีรํ (มหาว. ๓๗๑; มหาว. อฏฺ. ) นาม กุเส คนฺเถตฺวา กตจีวรํ. วากจีรํ นาม ตาปสานํ วกฺกลํ. ผลกจีรํ นาม ผลกานิ สิพฺพิตฺวา กตจีวรํ. เกสกมฺพลนฺติ เกเสหิ ตนฺตํ วายิตฺวา กตกมฺพลํ. วาลกมฺพลนฺติ จมรวาเลหิ วายิตฺวา กตกมฺพลํ. อุลูกปกฺขนฺติ อุลูกสกุณสฺส ปกฺเขหิ กตนิวาสนํ. อชินกฺขิปนฺติ สโลมํ สขุรํ อชินมิคจมฺมํ. อิเมสุ สตฺตสุ วตฺเถสุ ยํ กิฺจิ ธารยโต ถุลฺลจฺจยนฺติ อตฺโถ. ยถา อิเมสุ ถุลฺลจฺจยํ, ตถา อกฺกนาฬํ นิวาเสนฺตสฺส. อกฺกนาฬํ นาม อกฺกทณฺเฑ วากาทีหิ คนฺเถตฺวา กตจีวรํ. ‘‘น ภิกฺขเว อกฺกนาฬํ นิวาเสตพฺพํ, โย นิวาเสยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๗๑) หิ วุตฺตํ.
๕๖. กทเลรกกฺกทุสฺเส โปตฺถเก จาปีติ เอตฺถ กทลิเอรกอกฺกมกจิวาเกหิ กตานิ วตฺถานิ เอวํ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. เอเตสุ โปตฺถโกเยว ปาฬิยํ อาคโต, อิตรานิ ตคฺคติกตฺตา อฏฺกถาสุ ปฏิกฺขิตฺตานิ. อิเมสุ จตูสุปิ ทุกฺกฏเมว. ‘‘น ภิกฺขเว นคฺคิยํ ¶ ติตฺถิยสมาทานํ สมาทิยิตพฺพํ, โย สมาทิเยยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๗๐) วุตฺตตฺตา นคฺคิยมฺปิ น กปฺปติ เอว. สพฺพเมว นีลกํ สพฺพนีลกํ. เอวํ เสเสสุปิ. เอตฺถ นีลํ อุมาปุปฺผวณฺณํ โหติ ¶ . มฺเชฏฺกํ มฺเชฏฺกวณฺณเมว. ปีตกํ กณิการปุปฺผวณฺณํ. โลหิตกํ ชยสุมนปุปฺผวณฺณํ. กณฺหกํ อทฺทาริฏฺกวณฺณํ.
๕๗. มหารงฺคํ นาม สตปทิปิฏฺิวณฺณํ. มหานามํ นาม รตฺตสมฺภินฺนวณฺณํ โหติ. ปทุมปุปฺผวณฺณนฺติปิ วุตฺตํ, มนฺทรตฺตนฺติ อตฺโถ. ติรีฏเกติ รุกฺขตเจ. อจฺฉินฺนทีฆทสเกติ สพฺพโส อจฺฉินฺนทสเก จ มชฺเฌ ฉินฺนทสเก จาติ อตฺโถ. อฺมฺํ สํสิพฺพิตฺวา กตทสํ ผลทสํ นาม. เกตกปุปฺผาทิปุปฺผสทิสาหิ ทสาหิ ยุตฺตํ ปุปฺผทสํ นาม. เอเตสุปิ ‘‘โปตฺถเก จาปี’’ติ เอตฺถ วุตฺตอปิ-สทฺเทน ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. ตถาติ ยถา เอเตสุ กทลิทุสฺสาทีสุ ปุปฺผทสาวสาเนสุ ทุกฺกฏํ, ตถา กฺจุกเวเนสุปิ ยํ กิฺจิ ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
เอเตสุ ปน อยํ วินิจฺฉโย (มหาว. อฏฺ. ๓๗๒) – สพฺพนีลกาทีนิ รชนานิ วเมตฺวา ปุน รชิตฺวา ธาเรตพฺพานิ, น สกฺกา เจ วเมตุํ, ปจฺจตฺถรณาทีนิ วา กาเรตพฺพานิ, ติปฏฺฏจีวรสฺส มชฺเฌ วา ทาตพฺพานิ. อจฺฉินฺนทสกาทีนิ ทสา ฉินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพานิ. กฺจุกํ วิชเฏตฺวา รชิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ. เวเนปิ เอเสว นโย. ติรีฏกํ ปาทปฺุฉนํ กาตพฺพํ. สพฺพนฺติ อิมํ วุตฺตปฺปการํ กุสจีราทิกํ อกปฺปิยจีวรํ อจฺฉินฺนจีวโร ลภตีติ อตฺโถ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ปริวาเร.
‘‘อกปฺปกตํ นาปิ รชนาย รตฺตํ,
เตน นิวตฺโถ เยน กามํ วเชยฺย;
น จสฺส โหติ อาปตฺติ,
โส จ ธมฺโม สุคเตน เทสิโต;
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑);
อยฺหิ ¶ ปฺโห อจฺฉินฺนจีวรภิกฺขุํ สนฺธาย วุตฺโต, ตสฺมา หิ ยํ กิฺจิ อกปฺปิยจีวรํ นิวาเสตฺวา วา ปารุปิตฺวา วา อจฺฉินฺนจีวรเกน อฺํ ปริเยสิตพฺพํ. เอตฺถ ปน ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, มนุสฺสา นิสฺสีมคตานํ ภิกฺขูนํ จีวรํ เทนฺติ ‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ¶ เทมา’ติ, อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สาทิตุํ, น ตาว ตํ คณนูปคํ, ยาว น หตฺถํ คจฺฉตี’’ติ (มหาว. ๒๕๙) วุตฺตตฺตา ยาว อาหริตฺวา ตํ น ทินฺนํ, ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, จีวรํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ปหิณิตฺวา วา นาโรจิตํ, ตาว คณนํ น อุเปติ, อนธิฏฺิตํ วฏฺฏติ. ปตฺเตปิ เอเสว นโย. อาเนตฺวา ทินฺเน วา อาโรจิเต วา ปริหาโร นตฺถิ, ทสาหํ อธิฏฺาตพฺพํ. จีวรวินิจฺฉโย.
จีวรนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. รชนนิทฺเทสวณฺณนา
๕๘. อิทานิ เตสํ จีวรานํ รชนวิธานํ ทสฺเสตุํ ‘‘รชนานิ จา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ฉ รชนานิ มูลรชนํ ขนฺธรชนํ ตจรชนํ ปตฺตรชนํ ปุปฺผรชนํ ผลรชน’’นฺติ (มหาว. ๓๔๔) เอวํ ภควตา อนฺุาตตฺตา ‘‘ฉปฺปการานิ อนฺุาตานิ สตฺถุนา’’ติ วุตฺตํ.
๕๙. ตตฺถ มูเลติ มูลรชเนติ อตฺโถ. หลิทฺทึ วิวชฺชิย สพฺพํ ลพฺภนฺติ สมฺพนฺโธ. เอวํ เสเสสุปิ. ตุงฺคหารโก นาม เอโก สกณฺฏกรุกฺโข, ตสฺส หริตาลวณฺณํ ขนฺธรชนํ โหติ. คิหิปริภุตฺตํ ปน อลฺลิปตฺเตน เอกวารํ รชิตุํ วฏฺฏติ. ผลรชเน อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ, สพฺพํ วฏฺฏตีติ. รชนวินิจฺฉโย.
รชนนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๖๐. อิทานิ ¶ ¶ ภาชนวิกตึ ทสฺเสตุํ ‘‘ปตฺโต จา’’ติ อุทฺธฏํ. เอตฺถ ปน ปมคาถา สุวิฺเยฺยา.
๖๑. ทุติเย ‘‘มคธนาฬิทฺวยตณฺฑุลสาธิต’’นฺติ วตฺตพฺเพ วิภตฺติโลปํ อกตฺวา คาถาพนฺธสุขตฺถํ ‘‘มคเธ นาฬิทฺวยตณฺฑุลสาธิต’’นฺติ วุตฺตํ, ปจิตนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ (ปารา. ๖๐๒; ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒; กงฺขา. อฏฺ. ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา) มคธนาฬิ นาม อฑฺฒเตรสปลํ คณฺหาติ. โอทนนฺติ เอตฺถ สพฺพปฺปการสมฺปนฺนํ อวสฺสาวิโตทนํ คเหตพฺพํ. โอทนสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาณํ นาติฆนํ นาติตนุกํ หตฺถหาริยมุคฺคสูปฺจ อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปํ ยาว จริมกาโลปปฺปโหนกํ มจฺฉมํสาทิพฺยฺชนฺจ โย ปตฺโต คณฺหาติ, โส อุกฺกฏฺโ นามาติ อตฺโถ. สปฺปิเตลตกฺกรสกฺชิกาทีนิ ปน คณนูปคานิ น โหนฺติ, ตานิ หิ โอทนคติกาเนว โหนฺติ, เนว หาเปตุํ, น วฑฺเฒตุํ สกฺโกนฺติ. เอวเมตํ สพฺพํ ปกฺขิตฺตํ สเจ ปตฺตสฺส เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, สุตฺเตน วา หีเรน วา ฉินฺทนฺตสฺส สุตฺตสฺส วา หีรสฺส วา เหฏฺิมนฺตํ ผุสติ, อยํ อุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมิตฺวา ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ อุกฺกฏฺโมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ, อนฺโตคตเมว โหติ, อยํ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต.
๖๒. ‘‘มชฺฌิโม นาม ปตฺโต นาฬิโกทนํ คณฺหาตี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘มชฺฌิโม ตสฺสุปฑฺโฒ วา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถาปิ วุตฺตปฺปกาเรน มชฺฌิโม มชฺฌิโมมโก มชฺฌิมุกฺกฏฺโติ ปตฺตตฺติกํ เวทิตพฺพํ. ‘‘โอมโก นาม ปตฺโต ปตฺโถทนํ คณฺหาตี’’ติ (ปารา. ๖๐๒) วจนโต ‘‘ตโตปฑฺโฒ’’ติ วุตฺตํ. มคธนาฬิยา อุปฑฺฒนาฬิโกทนฺจ ตทูปิยํ สูปํ พฺยฺชนฺจ คณฺหาติ, โส ¶ โอมโก นาม. อิธาปิ โอมโก โอมโกมโก โอมกุกฺกฏฺโติ ปตฺตตฺติกํ เวทิตพฺพํ. อิเมสุ ปน นวสุ ปตฺเตสุ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ จ โอมโกมโก จ อปตฺโต. เอเตสุ อธิฏฺาตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ, เสสา สตฺต ปตฺตา อธิฏฺาตพฺพา, วิกปฺเปตพฺพา จาติ อตฺโถ.
๖๓. อติเรกปตฺโตติ (ปารา. ๖๐๑) อนธิฏฺิโต อวิกปฺปิโต. สโกติ สสนฺตโก. กปฺโปติ กปฺปิโย. อยเมเวตฺถ สงฺเขโป – โย ปตฺโต กากณิกมตฺตสฺสาปิ มูลสฺส ทาตพฺพสฺส นตฺถิตาย ¶ สโก. อโยปตฺโต ปฺจหิ ปาเกหิ มตฺติกาปตฺโต ทฺวีหิ ปาเกหิ ปกฺกตฺตา กปฺโป. โส ทสาหปรมํ กาลํ อนธิฏฺิโต อวิกปฺปิโต ธาเรยฺโยติ.
๖๔. อจฺเฉทาทโย จีวเร วุตฺตปฺปเภทาเยว. ฉิทฺเทนาติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘; กงฺขา. อฏฺ. ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา) เอตฺถ ยสฺส ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ทฺวงฺคุลปฺปเทเส เยน ฉิทฺเทน กงฺคุสิตฺถํ นิกฺขมติ, ตตฺตเกน ฉิทฺเทน ภิชฺชติ. ตสฺมึ ปน อยจุณฺณาทีหิ ปฏิปากติเก กเต ทสาหพฺภนฺตเร ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. ปตฺตาธิฏฺานมุชฺฌตีติ ปตฺโต อธิฏฺานํ อุชฺฌติ.
๖๕. อิทานิ ปริหรณวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ปตฺตํ น ปฏิสาเมยฺย โสทก’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. โสทกํ (จูฬว. ๒๕๔) ปตฺตํ น ปฏิสาเมยฺย, อาตเป จ โสทกํ ปตฺตํ น โอตเปติ อธิปฺปาโย. น นิทเหติ นิรุทกํ กตฺวาปิ อติกาลํ น นิทเหติ อธิปฺปาโย. ภุมฺยาติ ภูมิยํ. น เปติ ตฏฺฏิกาจมฺมขณฺฑาทีสุ เยน เกนจิ อนตฺถตาย ปํสุสกฺขรมิสฺสาย ภูมิยา น เปยฺยาติ อตฺโถ. โน จ ลคฺคเยติ เอตฺถปิ นาคทนฺตาทีสุ (จูฬว. ๒๕๔) ยตฺถ กตฺถจิ ลคฺคนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.
๖๖. มิฑฺฒนฺเตติ (จูฬว. ๒๕๔; จูฬว. อฏฺ. ๒๕๔) ¶ มิฑฺฒปริยนฺเต. สเจ ปน ปริวตฺเตตฺวา ตตฺเถว ปติฏฺาติ, เอวรูปาย วิตฺถิณฺณาย มิฑฺฒิยา อพฺภนฺตรปริจฺเฉเท เปตุํ วฏฺฏติ, น ปริยนฺเต. ปริภณฺฑนฺเตติ พาหิรปสฺเส กตาย ตนุกมิฑฺฒิยา อนฺเตติ อตฺโถ. องฺเก วาติ (จูฬว. ๒๕๔) ทฺวินฺนํ อูรูนํ มชฺเฌ. เอตฺถ ปน อํสพทฺธเก อํสกูเฏ ลคฺเคตฺวา องฺเก เปตุํ วฏฺฏติ, น อิตรถา. อาตปตฺตเกติ ฉตฺเต. เอตฺถ ภตฺตปูโรปิ อํสกูเฏ ลคฺคิตปตฺโตปิ เปตุํ น วฏฺฏติ.
๖๗. อุจฺฉิฏฺโทกํ (จูฬว. ๒๕๕; จูฬว. อฏฺ. ๒๕๕) นาม มุขวิกฺขาลโนทกํ, ตํ ปตฺเต นิฏฺุภิตฺวา ปตฺเตน น นีหเรยฺยาติ อตฺโถ. จลกฺจ อฏฺิกฺจ จลกฏฺิกํ. เอเตสุ ยํ กิฺจิ ปตฺเตน นีหรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ปตฺตํ ปฏิคฺคหํ กตฺวา หตฺถํ โธวิตุมฺปิ น ลภติ. หตฺถโธวิตวตฺถโธวิตอุทกมฺปิ ปตฺเต อากิริตฺวา นีหริตุํ น วฏฺฏติ. อนุจฺฉิฏฺปตฺตํ อุจฺฉิฏฺหตฺเถน คเหตุมฺปิ น วฏฺฏติ. หตฺถํ ปน พหิ โธวิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ. มจฺฉมํสผลาผลาทีนิ ขาทนฺโต ยํ มุเขน ลฺุจิตฺวา ลฺุจิตฺวา ขาทติ, ตํ วา เตสํ อฏฺิอาทิกํ ¶ วา มุขโต นีหฏํ ปุน อขาทิตุกาโม ฉฑฺเฑตุกาโม ปตฺเต เปตุํ น ลภติ. สิงฺคิเวรนาฬิเกรขณฺฑาทีนิ ขาทนฺเตหิ ฑํสิตฺวา ฑํสิตฺวา ปุน เปตุํ ลภติ. ‘‘น ภิกฺขเว ปตฺตหตฺเถน กวาฏํ ปณาเมตพฺพํ, โย ปณาเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๕) วุตฺตตฺตา เยน เกนจิ สรีราวยเวน ปตฺตํ คเหตฺวา ิโต เยน เกนจิ สรีราวยเวน กวาฏํ ปณาเมตุํ น ลภติ, ตสฺมา ‘‘ปตฺตหตฺโถวา’’ติ วุตฺตํ. อํสกูเฏ ลคฺคิตฺวา ิตสฺส วฏฺฏติ.
๖๘. ภูมิอาธารเกติ เอตฺถ ทนฺตวลฺลิเวตฺตวากาทีหิ กเต วลยาธารเก. ทารุทณฺฑาธาเรติ เอกทารุนา กตอาธารเก ¶ จ พหูหิ ทณฺเฑหิ กตอาธารเก จาติ อตฺโถ. ติทณฺเฑ น วฏฺฏติ. เอเตสุ ปน สุสชฺชิเตสุ เอกํ ปตฺตํ เปตฺวาว ตสฺสุปริ เอกํ เปตุํ วฏฺฏติ, ตโย ปน น วฏฺฏนฺติ. เอกํ นิกฺกุชฺชิตฺวาว ภูมิยนฺติ เอตฺถ ภูมิยํ กฏสารกาทีสุ อฺตรํ ปตฺถริตฺวา ตสฺสุปริ นิกฺกุชฺชิตฺวา วา อุกฺกุชฺชิตฺวา วา เอกํ เปยฺย, ทฺเว เปตุํ น วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. ทฺเว ปน เปนฺเตน อุปริ ปิตปตฺตํ เอเกน ปสฺเสน ภูมิยํ ผุสาเปตฺวา เปตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
๖๙-๗๐. อิทานิ อกปฺปิยปตฺเต ทสฺเสตุํ ‘‘ทารุรูปิยโสวณฺณา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ มณิเวฬุริยามยาติ (จูฬว. ๒๕๒; จูฬว. อฏฺ. ๒๕๒) มณีติ อินฺทนีลกพรกตาทิ. สเจ คหฏฺา ภตฺตคฺเค สุวณฺณรูปิยตฏฺฏกาทีสุ สูปพฺยฺชนํ กตฺวา อุปนาเมนฺติ, อามสิตุมฺปิ น วฏฺฏติ. ฆฏิกฏาหชา (จูฬว. ๒๕๕; จูฬว. อฏฺ. ๒๕๕) จ ตุมฺพกฏาหชา จ ฆฏิตุมฺพกฏาหชา. เอตฺถ ตุมฺพกฏาหชานาม อลาพุ. ปตฺตวินิจฺฉโย.
ปตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ถาลกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๑-๒. อิทานิ ถาลเกสุ กปฺปิยากปฺปิยวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ถาลกา จา’’ติ ปทํ อุทฺธฏํ. ตตฺถ ¶ อกปฺปาติ ทารุมยาทโย ถาลกา อกปฺปิยาติ อตฺโถ. ผลิกถาลกาทโย (จูฬว. อฏฺ. ๒๕๒) คิหิสนฺตกา วา สงฺฆสนฺตกา วา กปฺปิยา. ฆฏิตุมฺพกฏาหชา (จูฬว. ๒๕๕) ตาวกาลิกา, ตาสุ ภฺุชิตฺวา ฉฑฺเฑตพฺพา, น ปริหริตพฺพาติ อธิปฺปาโย. ถาลกวินิจฺฉโย.
ถาลกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ปวารณานิทฺเทสวณฺณนา
๗๓. อิทานิ ¶ ปวารณาวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ปวารณา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๘-๒๓๙; ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙; กงฺขา. อฏฺ. ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา) ปทํ อุทฺธฏํ. ตตฺถ อิริยาปเถนาติ านคมนสยนนิสชฺชานํ อฺตเรน อิริยาปเถนาติ อตฺโถ. ตโต อิริยาปถโต อฺเน อิริยาปเถน อนติริตฺตกํ ปริภฺุเชยฺย เจ, ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. ปาจิตฺตินติริตฺตกนฺติ ปาจิตฺติ อนติริตฺตกํ.
๗๔. อิทานิ เยหิ องฺเคหิ ปวารณา โหติ, ตานิ องฺคานิ ทสฺเสตุํ ‘‘อสน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อสนนฺติ เอเตน อวิปฺปกตโภชนตา วุตฺตา, ภฺุชมาโน จ โส ปุคฺคโล โหตีติ อตฺโถ. โภชนฺเจวาติ ยํ ภฺุชนฺโต ปวาเรติ, ตํ โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํสนฺติ อิเมสุ อฺตรํ โหตีติ อตฺโถ. อภิหาโรติ ทายโก ตสฺส ตํ ภตฺตํ กาเยน อภิหรตีติ อตฺโถ, วาจาภิหาโร ปน น คเหตพฺโพ. สมีปตาติ ทายโก ปวารณปฺปโหนกโภชนํ คเหตฺวา อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาเณ โอกาเส โหตีติ อตฺโถ. กายวาจาปฏิกฺเขโปติ หตฺถปาเส ิเตน อภิหฏํ ภิกฺขํ กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺขิเปยฺยาติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน สเจ ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, อานิสทสฺส ปาริมนฺตโต ปฏฺาย, สเจ ิโต, ปณฺหิอนฺตโต ปฏฺาย, สเจ นิปนฺโน, เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส ปาริมนฺตโต ปฏฺาย ทายกสฺสาปิ ตถาวิธสฺส เปตฺวา ปสาริตหตฺถํ ยํ ตสฺส อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส วเสน ปริจฺเฉโท กาตพฺโพ. ปฺจ องฺคา ปวารณาติ ‘‘อสนํ ปฺายติ, โภชนํ ปฺายติ, หตฺถปาเส ิโต อภิหรติ, ปฏิกฺเขโป ¶ ปฺายตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙; ปริ. ๔๒๘) ¶ ปาฬิยํ วุตฺเตหิ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ ปวารณา โหตีติ อตฺโถ.
๗๕. อิทานิ เอเตสุ ปฺจสุ โภชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘โอทโน’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิทานิ โอทนาทโย อิเมหิ นิพฺพตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สาลี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เสตรตฺตกาฬเภทา สพฺพาปิ กงฺคุชาติโย กงฺคูติ คเหตพฺพา. กาฬเสตา กุทฺรูสวรกา. อิเมสํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ โอทโน จ โภชฺชยาคุ จ โอทโน นามาติ อตฺโถ.
๗๖. สามากาทิติณํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) กุทฺรูสเก สงฺคหํ คตนฺติ อตฺโถ. วรกโจรโก วรเก สงฺคหํ คโต, สาลิยฺเจว นีวาโร สงฺคหํ คโต เสตตฺตาติ วทนฺติ. อิเมสํ วุตฺตปฺปการานํ สานุโลมานํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ตณฺฑุเล คเหตฺวา ‘‘ยาคุํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ‘‘ภตฺตํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ยํ กิฺจิ สนฺธาย ปจนฺติ, สเจ อุณฺหํ วา สีตลํ วา ภฺุชนฺตานํ โภชนกาเล คหิตคหิตฏฺาเน โอธิ ปฺายติ, อยํ โอทโน นาม, ปวารณํ ชเนติ. โยปิ ปายาโส วา อมฺพิลยาคุ วา อุทฺธนโต โอตาริตมตฺตา อพฺภุณฺหา อาวิชฺฌิตฺวา ปิวิตุํ สกฺกา, คหิโตกาเสปิ โอธึ น ทสฺเสติ, อยํ ปวารณํ น ชเนติ. อุสุมาย ปน วิคตาย ฆนภาวํ คจฺฉติ, โอธิ ปฺายติ, ปุน ปวารณํ ชเนติ, ปุพฺเพ ตนุกภาโว น รกฺขติ. ภตฺเต ปน อุทกกฺชิกขีราทีนิ อากิริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, กิฺจาปิ ตนุกา โหติ, ปวารณํ ชเนติเยว ตสฺมึ ยาคุยา นตฺถิภาวโต. สเจ ปน ปกฺกุถิเตสุ อุทกาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ปจิตฺวา เทนฺติ, ยาคุสงฺคหเมว คจฺฉติ.
๗๗. ภฏฺธฺมโยติ ¶ สตฺตวิธานิปิ ธฺานิ คเหตฺวา ขรปากภชฺชิตานํ เตสํ ตณฺฑุเล โกฏฺเฏตฺวา กตจุณฺณกุณฺฑกานิ สตฺตุ นาม. สมปากภชฺชิตานํ ปน อาตปสุกฺขานํ วา ตณฺฑุลานํ จุณฺณกุณฺฑกานิ สตฺตุสงฺขฺยํ น คจฺฉนฺติ. ยวสมฺภโวติ อฺเหิ ปน มุคฺคาทีหิ กตกุมฺมาโส น ปวาเรตีติ อธิปฺปาโย. อุทกสมฺภโวติ อิมินา กกฺกฏกสิปฺปิกสมฺพุกาทโยปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. สเจ ยาคุปานกาเล เอกสฺมึ ภาชเน เปตฺวา มจฺฉมํสํ วา ขาทนฺติ, เต เจ อขาทนฺโต อฺํ ปวารณปฺปโหนกํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. ขาทิเตปิ สเจ มุเข อวสิฏฺํ นตฺถิ, ตทา ปฏิกฺขิปนฺโตปิ น ปวาเรติเยว. สเจ ¶ ปตฺเต อวสิฏฺํ อตฺถิ, มุเข นตฺถิ, ตฺเจ อขาทิตุกาโม โหติ, อฺตฺถ วา คนฺตฺวา ขาทิตุกาโม, ตสฺมึ ขเณ ปฏิกฺขิปนฺโตปิ น ปวาเรติเยว.
๗๘. โภชนนฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) ปฺจสุ โภชเนสุ ยํ กิฺจิ โภชนํ. กปฺปิยํ วา อกปฺปิยํ วา ภฺุชนฺโตติ สมฺพนฺโธ. นิเสธยนฺติ กาเยนาภิหฏํ องฺคุลิจลนาทินา วา ภมุกวิกาเรน วา กุทฺธภาเวน โอโลเกน วา ปฏิกฺขิปนฺโต กาเยน วา ‘‘อล’’นฺติ วา ‘‘น คณฺหามี’’ติ วา ‘‘มา อากิรา’’ติ วา ‘‘อปคจฺฉา’’ติ วา อาทินา นเยน ปฏิกฺขิปนฺโต วาจาย วา นิเสธยนฺโตติ อตฺโถ. กปฺปนฺติ กปฺปิยโภชนเมว ปฏิกฺขิปนฺโต โส ปวาเรติ, อกปฺปิยมํสํ วา โภชนํ วา ปฏิกฺขิปนฺโต น ปวาเรติ. กสฺมา? ตสฺส ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตตฺตา. สเจ กปฺปิยโภชนํ ภฺุชมาโน อกปฺปิยํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? ตสฺส ปฏิกฺขิปิตพฺพโต. อิทานิ มิสฺสกนยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตนฺนาเมนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺรายํ ปิณฺฑตฺโถ – ตนฺนาเมน วา อิมนฺติ วา อภิหฏํ ¶ กปฺปิยํ นิเสธยํ ปวาเรยฺยาติ. กึ วุตฺตํ โหติ? โย ปน มจฺฉมํสมิสฺสํ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา; ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) ยาคุํ พฺยฺชนํ วา อาหริตฺวา ‘‘มจฺฉํ คณฺหถ, มํสํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. สเจ ‘‘ยาคุํ คณฺหถ, รสพฺยฺชนํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา น โหติ. กสฺมา? ตสฺสาปิ อตฺถิตาย. สเจ ‘‘อิมํ คณฺหถา’’ติ สวตฺถุกํ กตฺวา เทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. ภตฺตมิสฺสเกปิ เอเสว นโย. สเจ อฺสฺส อภิหฏํ ปฏิกฺขิปติ, ปวารณา นตฺถิเยว.
๗๙-๘๐. อิทานิ ปวารณํ อชเนนฺเต ทสฺเสตุํ ‘‘ลาชา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ ลาชา ตํสตฺตุภตฺตานีติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา) ลาชา จ ลาเชหิ กตสตฺตุภตฺตานิ จาติ อตฺโถ. มจฺฉมํสปูเวสุ ปน ปวารณา โหติ, ตสฺมา ‘‘สุทฺธขชฺชโก’’ติ วุตฺตํ. ภฏฺปิฏฺนฺติ ปุพฺเพ อามกํ ปจฺฉา ภชฺชิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. เวฬุอาทีนํ วุตฺตาวเสสานํ ภตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. รสยาคุ รโส ปกฺกยาคุ. มํสาทีหิ อมิสฺสิตา สุทฺธยาคุ. ปุถุกามยํ ปน ยํ กิฺจิ ปวารณํ น ชเนติ.
๘๑. วุฏฺายาติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) อาสนา อุฏฺาย อติริตฺตํ น กาตพฺพนฺติ ¶ สมฺพนฺโธ. สเจ ปวาเรตฺวา อาสนา น วุฏฺาติ ภิกฺขุ, ตสฺสาปิ อติริตฺตํ กาตุํ ลภติ. อภุตฺเตน จ โภชนนฺติ เยน ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ อนฺตมโส กุสคฺเคนาปิ น ภุตฺตํ, เตนาปิ อติริตฺตํ น กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. เยน ปน อรุณุคฺคเมปิ ภุตฺตํ โหติ, โส เจ อปวาริโต อาสนา วุฏฺิโตปิ มชฺฌนฺหิกสมเยปิ ปุน กิฺจิ อภุตฺวาปิ กาตุํ ลภติ. เยน ยํ วา ¶ ปุเร กตนฺติ เยน ยํ วา ปุพฺเพ กตํ, เตน ตมฺปิ ปจฺฉา น กาตพฺพํ. อฺเน ปน ตํ กาตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
๘๒. ยํ ผลํ วา กนฺทมูลํ วา ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ กตกปฺปิยํ อฺมฺปิ กปฺปิยโภชนํ วา กปฺปิยมํสํ วา, อิทํ กปฺปิยํ นาม, วุตฺตปฺปการวิปรีตํ อกปฺปิยํ นาม, ตสฺมึ อติริตฺตกรณํ น รุหติ, ยฺจ ปฏิคฺคเหตฺวา น คหิตํ, ตสฺมิมฺปิ น รุหติ, เตน วุตฺตํ ‘‘กปฺปิยํ คหิตฺเจวา’’ติ. อุจฺจาริตนฺติ กปฺปิยํ กาเรตุํ อาคเตน ภิกฺขุนา อีสกมฺปิ อุกฺขิตฺตํ วา อปนมิตํ วาติ อตฺโถ. หตฺถปาสโต พหิ ิตํ กาตุํ น วฏฺฏติ, เตน วุตฺตํ ‘‘หตฺถปาสค’’นฺติ. อติริตฺตํ กโรนฺเตวนฺติ อติริตฺตํ กโรนฺโต ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ วจีเภทํ กตฺวา เอวํ ภาสตูติ อตฺโถ. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ, อยํ กิร อาจิณฺโณ. วินยธรา กิร ปน ‘‘สกึ เอว วตฺตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. อลเมตํ สพฺพนฺติ อิทมฺปิ โว อธิกํ, อิโต อฺํ น ลจฺฉสีติ อตฺโถ.
๘๓. อนุปสมฺปนฺนหตฺถคนฺติ กปฺปิยํ กโรนฺเตน ปน อนุปสมฺปนฺนสฺส หตฺเถ ิตํเยว น กาตพฺพํ, ตํ ปน อฺเน ภิกฺขุนา ปฏิคฺคหาเปตฺวา ตสฺส หตฺเถ ิตํ อติริตฺตํ กตฺวา อนุปสมฺปนฺนสฺส ทาตุํ วฏฺฏติ. อตฺตนา อาคนฺตฺวา อฺสฺส หตฺเถ จ เปสยิตฺวาปิ กาเรตุํ ลพฺภเตติ อตฺโถ. ตํ ปน อติริตฺตการกํ เปตฺวา อฺโ สพฺโพ ปวาริโตปิ อปฺปวาริโตปิ ภฺุชิตุํ ลภตีติ อตฺโถ. สเจ ปวาริโต ปริภฺุชติ, ยถา อกเตน มิสฺสํ น โหติ, ตถา มุขฺจ หตฺถฺจ สุทฺธํ กตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. คิลานสฺส ภุตฺตาวเสสมฺปิ ตสฺส ‘‘อชฺช วา สฺเว วา ขาทิสฺสตี’’ติ อาหฏมฺปิ อนติริตฺตกตํ ภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ. ปวารณาวินิจฺฉโย.
ปวารณานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. กาลิกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๔. อิทานิ ¶ ¶ เย เต จตฺตาโร กาลิกา มุนินา วุตฺตา ‘‘ยาวกาลิกํ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิก’’นฺติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘กาลิกา จา’’ติ ปทํ อุทฺธฏํ. ตตฺถ (ปาจิ. ๒๕๔-๒๕๖; ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓-๒๕๖) กตเม เต กาลิกาติ เจ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘ยาวกาลิก’’นฺติอาทิมาห. เตสุ อรุณุคฺคมนโต ยาว ิตมชฺฌนฺหิกา ภฺุชิตพฺพโต ยาวกาลิกํ. อรุณุคฺคมนโต ยาว ยามาวสานา ปิปาสาย สติ ปิปาสจฺเฉทนตฺถํ ปาตพฺพโต ยาโม กาโล อสฺสาติ ยามกาลิกํ. เตน อุปสเมตพฺเพ อาพาเธ สติ ยาว สตฺตาหา ปริภฺุชิตพฺพโต สตฺตาหกาลิกํ. อาพาเธ สติ ยาวชีวํ ปริหริตฺวา ภฺุชิตพฺพโต ยาวชีวิกํ.
๘๕. เตสุ ยาวกาลิกํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปิฏฺํ มูลํ ผลํ ขชฺช’’นฺติอาทิมาห. เอตฺถ (ปาจิ. ๒๔๘-๒๕๐; ปาจิ. อฏฺ. ๒๔๘-๒๔๙) ปิฏฺขาทนียํ นาม สตฺตนฺนํ ตาว ธฺานํ ธฺานุโลมานํ อปรณฺณานฺจ ปิฏฺํ ปนสปิฏฺํ ลพุชปิฏฺํ อมฺพาฏกปิฏฺํ สาลปิฏฺํ โธตกตาลปิฏฺํ ขีรวลฺลิปิฏฺฺจาติ เอวมาทีนิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถฺจ โภชนียตฺถฺจ ผรณกานิ ปิฏฺานิ ยาวกาลิกานิ. อิมินาว ลกฺขเณน มูลขาทนียาทีสุปิ ยาวกาลิกลกฺขณํ เวทิตพฺพํ, อติวิตฺถารภเยน สํขิตฺตํ. โครโส นาม ขีรทธิตกฺกรโส. ธฺโภชนนฺติ สานุโลมานิ สตฺตธฺานิ จ ปฺจวิธโภชนฺจาติ อตฺโถ. ยาคุสูปปฺปภุตโยติ เอตฺถ ปภุติ-สทฺเทน กนฺทขาทนียํ มุฬาลขาทนียํ มตฺถกขาทนียํ ขนฺธขาทนียํ ตจขาทนียํ ปตฺตขาทนียํ ปุปฺผขาทนียํ อฏฺิขาทนียํ นิยฺยาสขาทนียนฺติ อิมานิ สงฺคหิตานีติ เวทิตพฺพานิ.
ตตฺริทํ ¶ มุขมตฺตนิทสฺสนํ – ภิสสงฺขาโต ปทุมปุณฺฑรีกกนฺโท ปิณฺฑาลุมสาลุกอาทโย วลฺลิกนฺโท อาลุวกนฺโท ตาลกนฺโทติ เอวมาทิ กนฺทขาทนียํ. ปทุมมุฬาลาทโย มุฬาลขาทนียํ. ตาลหินฺตาลกุนฺตาลเกตกนาฬิเกรปูครุกฺขขชฺชูรีอาทีนํ กฬีรสงฺขาตา มตฺถกา มตฺถกขาทนียํ. อุจฺฉุขนฺโธ นีลุปฺปลรตฺตุปฺปลกุมุทโสคนฺธิกานํ ปุปฺผทณฺฑกานีติ เอวมาทิ ขนฺธขาทนียํ. ตจขาทนียํ อุจฺฉุตโจ เอว เอโก ยาวกาลิโก, โสปิ สรโส. มูลกํ ขารโก จจฺจุ ตมฺพุโก ตณฺฑุเลยฺยโกติ เอวมาทิ ปตฺตขาทนียํ. มูลกปุปฺผํ ขารกปุปฺผํ ¶ จจฺจุปุปฺผํ ตมฺพุกปุปฺผนฺติ เอวมาทิ ปุปฺผขาทนียํ, อโสกปุปฺผํ ปน ยาวชีวิกํ. ลพุชปนสฏฺิอาทิ อฏฺิขาทนียํ. นิยฺยาสขาทนีเย ยาวกาลิกํ นตฺถิ. เอเต วุตฺตปฺปการา ยาวกาลิกา โหนฺตีติ อตฺโถ.
๘๖. อิทานิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺ ปานานิ อมฺพปานํ ชมฺพุปานํ โจจปานํ โมจปานํ มธุกปานํ มุทฺทิกปานํ สาลูกปานํ ผารุสกปาน’’นฺติ (มหาว. ๓๐๐) เอวํ วุตฺตํ อฏฺวิธํ ปานกํ ยามกาลิกํ นามาติ ทสฺเสตุํ ‘‘มธู’’ติอาทิมาห. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) มธุชํ มุทฺทิกชํ สาลูกชํ โจจชํ โมจชํ อมฺพุชํ ชมฺพุชฺจาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. เอตฺถ มธุชํ นาม มธุกานํ ชาติรเสน กตํ, ตํ ปน อุทกสมฺภินฺนเมว วฏฺฏติ, สุทฺธํ น วฏฺฏติ. มุทฺทิกปานํ นาม มุทฺทิกา อุทเก มทฺทิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา คหิตํ. สาลูกปานํ นาม รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ กิฺชกฺขเรหิ กตํ. เสสานิ ปากฏาเนว. เอตฺถ ปน สเจ สยํ เอตานิ ยาวกาลิกวตฺถูนิ ปฏิคฺคเหตฺวา อุทเก มทฺทิตฺวา อาตเป อาทิจฺจปาเกน ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ปานกํ กโรติ, ตํ ปุเรภตฺตเมว กปฺปติ. สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ ลภติ, ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตํ นิรามิสปริโภเคน ¶ ยาว อรุณุคฺคมนา วฏฺฏติ. อิมานิ อฏฺ ปานานิ สีตานิปิ อาทิจฺจปากานิปิ วฏฺฏนฺติ, อคฺคิปากานิ ปน น วฏฺฏนฺติ, ตสฺมา ‘‘นคฺคิสนฺตตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.
๘๗. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ผลรสํ เปตฺวา ธฺผลรส’’นฺติ (มหาว. ๓๐๐) วุตฺตตฺตา ธฺผลรโส ปน น วฏฺฏติ, เตน วุตฺตํ ‘‘สานุโลมานิ ธฺานิ เปตฺวา’’ติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปุปฺผรสํ เปตฺวา มธุกปุปฺผรส’’นฺติ วุตฺตตฺตา มธุกปุปฺผรโส อาทิจฺจปาโก วา โหตุ อคฺคิปาโก วา, ปจฺฉาภตฺตํ น วฏฺฏติ, เตน วุตฺตํ ‘‘มธุกปุปฺผมฺตฺรา’’ติ.
๘๘. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปตฺตรสํ เปตฺวา ฑากรส’’นฺติ วุตฺตตฺตา อุทเกน ปกฺกานมฺปิ ยาวกาลิกปตฺตานํ รโส ปุเรภตฺตเมว วฏฺฏติ, สีโตทเกน มทฺทิตานํ รโส ยามกาลิกํ. เตน วุตฺตํ ‘‘เปตฺวา ปกฺกฑากช’’นฺติ. ยาวชีวิกปณฺณสฺส อุทเกน ปกฺกสฺส รโส ยาวชีวิโก โหติ.
๘๙. อิทานิ ¶ สตฺตาหกาลิเก ทสฺเสตุํ ‘‘สปฺปี’’ติอาทิมาห. เอตฺถ (มหาว. ๒๖๐) ปน –
‘‘สปฺปิโนนีตเตลานิ, มธุผาณิตเมว จ;
สตฺตาหกาลิกา สปฺปิ, เยสํ มํสมวาริต’’นฺติ. –
ปาโ คเหตพฺโพ. เอวํ ปน คหิเต วสา เตลคฺคหเณน คหิตาว โหติ ‘‘เตลํ นาม ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑเตลํ วสาเตล’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓; ปาจิ. ๒๖๐) เอวํ ปาฬิยํ วิตฺถาริตตฺตา. เอวํ ปน อคฺคเหตฺวา วสา จ ‘‘มธุผาณิต’’นฺติ ปาเ คหิเต ยาวกาลิกภูตา วสา สตฺตาหกาลิกาติ อาปชฺเชยฺย, ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ คิลานานํ ¶ ภิกฺขูนํ ปฏิสายนียานิ เภสชฺชานิ, เสยฺยถิทํ – สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๒) เอวํ ปฺเจว ภควตา สตฺตาหกาลิกเภสชฺชานิ อนฺุาตานิ, ตโต อุตฺตริ ฉฏฺสฺส สตฺตาหกาลิกเภสชฺชสฺส อตฺถิตาปิ อาปชฺชติ, เภสชฺชกฺขนฺธเกปิ ภควตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสานิ เภสชฺชานิ อจฺฉวสํ มจฺฉวสํ สุสุกาวสํ สูกรวสํ คทฺรภวสํ กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภฺุชิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) เอวํ สตฺตาหกาลิกวเสน วสํ อนนุชานิตฺวา ตโต นิพฺพตฺตเตลเมว อนฺุาตํ, ตสฺมา ‘‘มธุผาณิตเมว จา’’ติ ปาเ อคฺคหิเต ปาฬิยา อฏฺกถาย จ วิรุชฺฌติ. เถเรน ปน อุตฺตรวิหารวาสีนํ ขุทฺทสิกฺขาย อาคตนเยน วุตฺตํ. เตสํ ปน –
‘‘สปฺปิ นวนีตํ เตลํ, มธุ ผาณิตปฺจมํ;
อจฺฉมจฺฉวสาทิ จ, โหนฺติ สตฺตาหกาลิกา’’ติ. –
เอวมาคตํ. อมฺหากํ ปน วิสุํ สตฺตาหกาลิเก อาคตฏฺานํ นตฺถีติ วทนฺติ, อุปปริกฺขิตพฺพํ.
อิทานิ เตสุ สปฺปึ ทสฺเสตุํ ‘‘เยสํ มํสปวาริต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘สปฺปินาม โคสปฺปิ วา อชิกาสปฺปิ วา มหึ สสปฺปิ วา. เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปิ, นวนีตํ นาม เตสํเยว นวนีต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓; ปาจิ. ๒๖๐) ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา นวนีตํ ปน คหิตนฺติ น วิตฺถาริตํ ¶ , สปฺปิ ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ตทหุ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปินิรามิสมฺปิ วฏฺฏติ. ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสํ ปริภฺุชิตพฺพํ. สตฺตาหาติกฺกเม สเจ เอกภาชเน ปิตํ, เอกํ นิสฺสคฺคิยํ. สเจ พหูสุ, วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยานิ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. สปฺปิ ตาเปนฺตสฺส สามํปาโก น โหติ, ‘‘นวนีตํ ปน ตาเปนฺตสฺส หิ สามํปาโก น โหติ, สามํปกฺเกน ปน ¶ เตน สทฺธึ อามิสํ น วฏฺฏตี’’ติ จ ‘‘สเจ อนุปสมฺปนฺโน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตนวนีเตน สปฺปึ กตฺวา เทติ, ปุเรภตฺตํ สามิสํ วฏฺฏติ. สเจ สยํ กโรติ, สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏตี’’ติ จ สมนฺตปาสาทิกายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒) นวนีตมฺหิเยว สามํปากตา วุตฺตา, น สปฺปิมฺหิ. ยํ ปน กงฺขาวิตรณิยํ วุตฺตํ ‘‘นิพฺพตฺติตสปฺปิ วา นวนีตํ วา ปจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ, ‘‘ตํ ปน ตทหุ ปุเรภตฺตมฺปิ สามิสํ ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา) จ, ตตฺถ ยาวกาลิกวตฺถุนา อสมฺมิสฺสํ สุโธตํ นวนีตํ สนฺธาย ‘‘ปจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. สยํปจิตสตฺตาหกาลิเกน สทฺธึ ยทิ อามิสํ ภฺุชติ, ตํ อามิสํ สยํปกฺกสตฺตาหกาลิเกน มิสฺสิตํ อตฺตโน ยาวกาลิกภาวํ สตฺตาหกาลิเกน คณฺหาเปติ, ตถา จ สติ ยาวกาลิกํ อปกฺกมฺปิ สยํปกฺกภาวํ อุปคจฺฉตีติ ‘‘สามิสํ ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ยถา สยํปกฺกสตฺตาหกาลิกวสาเตลํ สยํภชฺชิตสาสปาทิยาวชีวิกวตฺถูนํ เตลฺจ สามิสํ ตทหุ ปุเรภตฺตมฺปิ น วฏฺฏติ, ตถา นวนีตสปฺปีติ เวทิตพฺพํ. วกฺขติ จ อาจริโย –
‘‘ยาวกาลิกอาทีนิ, สํสฏฺานิ สหตฺตนา. คาหาปยนฺติ สพฺภาว’’นฺติ จ,
‘‘เตเหว ภิกฺขุนา ปกฺกํ, กปฺปเต ยาวชีวิกํ;
นิรามิสฺจ สตฺตาหํ, สามิเส สามปากตา’’ติ จ.
ยา ปน สมนฺตปาสาทิกายํ นวนีตมฺหิ สามํปากตา วุตฺตา, สา ตกฺกาทิสมฺมิสฺสํ อโธตนวนีตํ สนฺธาย วุตฺตา. ตสฺมา วิฺูนํ สมนฺตปาสาทิกาปิ กงฺขาวิตรณีปิ สเมนฺติ, ตํ นวนีตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาจริยา วทนฺติ. อิทเมว ยุตฺตํ. ยทิ สปฺปิมฺหิ สามํปากตา โหติ, อวสฺสํเยว สมนฺตปาสาทิกายํ ¶ วุจฺเจยฺย, ตตฺถ ปน ‘‘สปฺปิ ตาว ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ, ตทหุ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ นิรามิสมฺปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒) หิ ¶ วุตฺตํ, น ปจนวิธานํ. มนุสฺสสปฺปินวนีตานํ, อฺเสมฺปิ หตฺถิอสฺสาทีนํ อกปฺปิยมํสสปฺปินวนีตานํ สตฺตาหาติกฺกเม ทุกฺกฏํ. กึ ปน ตํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ? อาม วฏฺฏติ. กสฺมา? ปฏิกฺเขปาภาวา จ สพฺพอฏฺกถาสุ อนฺุาตตฺตา จ. ‘‘เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปิ, นวนีต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓) อิทํ ปน นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ, น อฺเสํ วารณตฺถาย.
๙๐. อิทานิ เตลํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตลํ ติลวเสรณฺฑมธุสาสปสมฺภว’’นฺติอาทิมาห. เอตฺถ ติลาทีหิ สมฺภวํ นิพฺพตฺตํ เตลนฺติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) ปน ปุเรภตฺตํ ติเล ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สวตฺถุกปฺปฏิคฺคหิตตฺตา อนชฺโฌหรณียํ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ อนชฺโฌหรณียํ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. เอรณฺฑมธุกสาสปฏฺีนิ ปฏิคฺคเหตฺวา สเจ ตานิ ภชฺชิตฺวา เตลํ กโรติ, ตทหุ ปุเรภตฺตมฺปิ สามิสํ น วฏฺฏติ, สามํปากตา โหติ. สเจ อภชฺชิตฺวา กโรติ, ตทหุ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว วฏฺฏติ, ปริภฺุชิตพฺพวตฺถูนํ ยาวชีวิกตฺตา สวตฺถุกปฺปฏิคฺคหเณ โทโส นตฺถีติ. เตลคฺคหณตฺถาย เอรณฺฑกฏฺิอาทีนิ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ อติกฺกามยโต ทุกฺกฏํ. ตถา ปาฬิยํ อนาคตานิ อทสฺสิตานิ โกสมฺพกกุสุมฺภาทีนํ เตลานิ.
อิทานิ มธุวิกตึ ทสฺเสตุํ ‘‘ขุทฺทาภมรมธุกริ-มกฺขิกาหิ กต’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓) ขุทฺทาติ ขุทฺทมกฺขิกา. ภมราติ มหาภมรมกฺขิกา ¶ . ทณฺฑเกสุ มธุกรา มธุกริมกฺขิกา นาม. เอตาหิ ตีหิ มกฺขิกาหิ กตํ มธุ นามาติ อตฺโถ. ‘‘มธุ นาม มกฺขิกามธู’’ติ ปาฬิยํ (ปารา. ๖๒๓; ปาจิ. ๒๖๐) วุตฺตตฺตา อฺเหิ ตุมฺพฏกาทีหิ กตํ สตฺตาหกาลิกํ น โหตีติ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ผาณิตํ ทสฺเสตุํ ‘‘รสาทิอุจฺฉุวิกติ, ปกฺกาปกฺกา จ ผาณิต’’นฺติ อาห. ปกฺกา จ อปกฺกา จ รสาทิอุจฺฉุวิกติ ผาณิตนฺติ อตฺโถ. มธุกปุปฺผผาณิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสํ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ตสฺส สตฺตาหาติกฺกเม ทุกฺกฏํ. จิฺจผาณิตฺจ อมฺพผาณิตฺจ ยาวกาลิกเมว.
๙๑. อิทานิ ¶ เอเตสุ วสาเตลสฺส โอทิสฺส อนฺุาตตฺตา ตํ วิสุํ อุทฺธริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สวตฺถุปกฺกา สามํ วา’’ติอาทิมาห. สตฺตวิธฺหิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓) โอทิสฺสํ นาม พฺยาโธทิสฺสํ ปุคฺคโลทิสฺสํ กาโลทิสฺสํ สมโยทิสฺสํ เทโสทิสฺสํ วโสทิสฺสํ เภสชฺโชทิสฺสนฺติ.
ตตฺถ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อมนุสฺสิกาพาเธ อามกมํสํ อามกโลหิต’’นฺติ (มหาว. ๒๖๔) วุตฺตํ, อิทํ พฺยาโธทิสฺสํ นาม. เอตฺถ ปน กาเลปิ วิกาเลปิ กปฺปิยากปฺปิยมํสโลหิตํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โรมนฺถกสฺส โรมนฺถน’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๓) เอวํ อนฺุาตํ ปุคฺคโลทิสฺสํ นาม. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตฺตาริ มหาวิกฏานิ ทาตุํ คูถํ มุตฺตํ ฉาริกํ มตฺติก’’นฺติ (มหาว. ๒๖๘) เอวํ สปฺปทฏฺกาเล อปฺปฏิคฺคหิตกํ อนฺุาตํ กาโลทิสฺสํ นาม. คณโภชนาทิ สมโยทิสฺสํ นาม. คณงฺคณูปาหนานิ เทโสทิสฺสํ นาม. วโสทิสฺสํ นาม ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสานิ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๒) เอวํ ¶ วสานาเมน อนฺุาตํ. ตํ เปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ กปฺปิยากปฺปิยวสานํ เตลํ ตํตทตฺถิกานํ เตลปริโภเคน ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. เภสชฺโชทิสฺสํ นาม ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตานิ ปฺจ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๑) เอวํ เภสชฺชนาเมน วุตฺตานิ สปฺปิอาทีนิ ปฺจ.
ยถา ปน ขีรทธิอาทีหิ ปกฺกเตลํ ปจฺฉาภตฺตํ น วฏฺฏติ, น เอวมิทํ. อิทํ ปน เตลํ สวตฺถุกปกฺกมฺปิ วฏฺฏติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สวตฺถุปกฺกา สามํ วา’’ติ วุตฺตํ. วสํ โอโลเกตฺวา ‘‘สวตฺถุปกฺกา’’ติ วุตฺตํ. สามํ ปกฺกา วาติ อตฺโถ. ยถา สวตฺถุกปฺปฏิคฺคหิตตฺตา สามํปกฺกตฺตา ทธิอาทีหิ ปกฺกเตลํ อตฺตนา กตํ ปุเรภตฺตมฺปิ น วฏฺฏติ, น เอวมิทํ. อิทํ ปน อตฺตนา สวตฺถุกปกฺกมฺปิ ปุเรภตฺตมฺปิ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน การณูปจาเรน วสาเตลํ ‘‘วสา’’ติ วุตฺตํ.
กาเลติ ปุเรภตฺตกาเล ปเรหิ วา อตฺตนา วา ปกฺกาติ อตฺโถ. ปจฺฉาภตฺตํ ปน ปจิตุํ น วฏฺฏติ ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺ’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) วุตฺตตฺตา. ตสฺมา ‘‘กาเล’’ติ วุตฺตํ. โย ปน วิกาเล ปฏิคฺคเหตฺวา วิกาเล ปจิตฺวา วิกาเล ปริสฺสาเวตฺวา ปริภฺุชติ, โส ตีณิ ทุกฺกฏานิ อาปชฺชติ.
อมานุสาติ ¶ เอตฺถ (มหาว. ๒๖๒) ปน อจฺฉวสาทีนํ อนฺุาตตฺตา เปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ อกปฺปิยมํสานํ วสา อนฺุาตาติ เวทิตพฺพา. มํเสสุ หิ มนุสฺสหตฺถิมํสาทีนิ ทส มํสานิ ปฏิกฺขิตฺตานิ, วสา ปน เอกา มนุสฺสวสา เอว.
อนุปสมฺปนฺเนน (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓) กตนิพฺพฏฺฏิตวสาเตลํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ ¶ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ยํ ปเนตฺถ สุขุมรชสทิสํ มํสํ วา นฺหารุ วา อฏฺิ วา โลหิตํ วา, ตํ อพฺโพหาริกํ. สเจ สยํ กโรติ, ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา สตฺตาหํ นิรามิสเมว ปริภฺุชิตพฺพํ. นิรามิสปริโภคฺหิ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภฺุชิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒). อฺเสนฺติ สปฺปิอาทีนํ. วตฺถุนฺติ ยาวกาลิกภูตํ วตฺถุํ. ยาวกาลิกวตฺถูนํ วตฺถุํ น ปเจติ สมฺพนฺโธ.
๙๒. อิทานิ ยาวชีวิกวิกตึ ทสฺเสตุํ ‘‘หลิทฺที’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถายมนุตฺตานปทตฺโถ (มหาว. ๒๖๓; ปาจิ. อฏฺ. ๒๔๘-๒๔๙) – ปฺจมูลาทิกฺจาปีติ เอตฺถ ทฺวิปฺจมูเลน สทฺธึ อฺานิปิ ตคฺคติกานิ มูลเภสชฺชานิ คหิตานีติ าตพฺพํ.
๙๓-๕. พิฬงฺคาทีนิ ผลเภสชฺชานิ. ตตฺถ (มหาว. ๒๖๓) โคฏฺผลนฺติ มทนผลนฺติ วทนฺติ. กปฺปาสาทีนํ ปณฺณนฺติ สมฺพนฺโธ. อิเม ปน วุตฺตปฺปการา มูลเภสชฺชผลเภสชฺชปณฺณเภสชฺชวเสน วุตฺตา สพฺเพ กปฺปิยา. อิเมสํ ปุปฺผผลปณฺณมูลา สพฺเพปิ กปฺปิยา ยาวชีวิกาเยว. เปตฺวา อุจฺฉุนิยฺยาสํ สพฺโพ จ นิยฺยาโส สรสฺจ อุจฺฉุชํ ตจํ เปตฺวา สพฺโพ จ ตโจติ สมฺพนฺโธ.
๙๖. มธุนา (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓) อมกฺขิตํ สุทฺธสิตฺถฺจ. มธุมกฺขิตํ ปน สตฺตาหกาลิกเมว. ยฺจ กิฺจีติ โอทนํ มํสํ อฏฺิอาทีนีติ อตฺโถ.
๙๗. ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺติ, ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา ยาวชีวํ ปริหริตุํ, สติ ปจฺจเย ปริภฺุชิตุํ ¶ , อสติ ¶ ปจฺจเย ปริภฺุชนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๖๓) วุตฺตตฺตา ‘‘อาหารตฺถมสาเธนฺตํ, สพฺพํ ตํ ยาวชีวิก’’นฺติ วุตฺตํ.
๙๘. สพฺพสฺสาติ คิลานสฺสาปิ อคิลานสฺสปีติ อตฺโถ. กาลิกตฺตยนฺติ ยาวกาลิกํ วชฺเชตฺวา อวเสสํ สติ ปจฺจเย วิกาเล กปฺปตีติ อตฺโถ.
๙๙. ชนยนฺตุโภติ ชนยนฺติ อุโภ. กึ วุตฺตํ โหติ? ยาวกาลิกยามกาลิกสงฺขาตา อุโภ กาลิกา อตฺตโน กาลมติกฺกมิตฺวา ปริภุตฺตา ปาจิตฺตึ ชนยนฺตีติ อตฺโถ. กิฺจ ภิยฺโย (มหาว. ๒๗๔; มหาว. อฏฺ. ๒๗๔; กงฺขา. อฏฺ. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา) – อุโภปิ ปเนเต อกปฺปิยกุฏิยํ วุตฺตา อนฺโตวุตฺถํ ทุกฺกฏฺจ, ปุนทิวเส ปริภฺุชโต สนฺนิธึ ปาจิตฺติยฺจ ชนยนฺตีติ อตฺโถ.
๑๐๐. อนารุฬฺเหติ ปาฬิยํ อนาคเต มนุสฺสสปฺปิอาทิมฺหีติ อตฺโถ.
๑๐๑. นิสฺสฏฺลทฺธนฺติ (ปารา. ๖๒๔) วินยกมฺมํ กตฺวา ปุน ลทฺธนฺติ อตฺโถ. วิกปฺเปนฺตสฺส สตฺตาเหติ สตฺตาหพฺภนฺตเร สามเณรสฺส ‘‘อิทํ สปฺปึ เตล’’นฺติอาทินา นเยน นามํ คเหตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส วิกปฺเปมี’’ติ วา สมฺมุขาปิ วา ปรมฺมุขาปิ วา วิกปฺเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปาฬิยํ ปน ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตสตฺตาเห อธิฏฺเติ, วิสฺสชฺเชติ, นสฺสติ, วินสฺสติ, ฑยฺหติ, อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺติ, วิสฺสาสํ คณฺหนฺตี’’ติ (ปารา. ๖๒๕) เอตฺตกเมว วุตฺตํ, ‘‘วิกปฺเปมี’’ติ อิทํ ปน นตฺถิ. กิฺจาปิ นตฺถิ, อถ โข ‘‘อนธิฏฺิเต อธิฏฺิตสฺี นิสฺสคฺคิยํ ¶ ปาจิตฺติยํ, อวิกปฺปิเต วิกปฺปิตสฺี นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๖๒๔) อาปตฺติวาเร อาคตตฺตา เถเรน ทสฺสิตํ. ตํ ทสฺเสนฺเตนาปิ สเจ อุปสมฺปนฺนสฺส วิกปฺเปติ, อตฺตโน เอว สนฺตกํ โหติ, ปฏิคฺคหณมฺปิ น วิชหติ, ตสฺมา อุปสมฺปนฺนวเสน อทสฺเสตฺวา อนุปสมฺปนฺนวเสน ทสฺสิตํ. ตสฺส หิ วิกปฺปิเต ปฏิคฺคหณมฺปิ วิชหติ, อาปตฺติปิ น โหตีติ. อธิฏฺโตติ อพฺภฺชนาทีนิ อธิฏฺหนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. สเจ ปน สตฺตาหพฺภนฺตเร นิรเปกฺโข หุตฺวา อนุปสมฺปนฺนสฺส ปริจฺจชติ, ปริจฺจตฺตตฺตา อนาปตฺติ, อิตรสฺส จ อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา อุภินฺนมฺปิ กายิกปริโภโค วฏฺฏติ. อนิสฺสคฺคิยตฺตา ปน พาหิรปริโภเคน วฏฺฏติ. ‘‘ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา ¶ สตฺตาหปรมํ สนฺนิธิการกํ ปริภฺุชิตพฺพานี’’ติ (ปารา. ๖๒๓) เอวํ นิยเมตฺวา อนฺุาตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อฺสฺส ททโตปิ จ อนาปตฺตี’’ติ.
๑๐๒. สพฺภาวนฺติ อตฺตโน สภาวํ. ยสฺมา คาหาปยนฺติ, ตสฺมา เอวมุทีริตนฺติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. อิทานิ วกฺขมานํ สนฺธาย ‘‘เอว’’นฺติ วุตฺตํ.
๑๐๓-๕. สตฺตาหํ ยาวชีวิกนฺติ (มหาว. ๓๐๕; มหาว. อฏฺ. กงฺขา. อฏฺ. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา) สตฺตาหกาลิกฺจ ยาวชีวิกฺจาติ อตฺโถ. กึ วุตฺตํ โหติ? สตฺตาหกาลิกยาวชีวิกทฺวยํ เสสกาลิกสมฺมิสฺสํ สมฺภินฺนรสํ กตฺวา ปริภฺุชโต สนฺนิธิปาจิตฺติ โหตีติ อุทีริตนฺติ. ตทหุ ปฏิคฺคหิตํ ตทเหวาติ อตฺโถ. เสสนฺติ สตฺตาหกาลิกยาวชีวิกทฺวยํ. อิตรนฺติ ยาวชีวิกํ. ปุเร ปฏิคฺคหิตํ วา โหตุ, ตทหุ วา ปฏิคฺคหิตํ, ยาวชีวิกํ สตฺตาหกาลิเกน สตฺตาหํ กปฺปตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ยาวกาลิเกน, ภิกฺขเว, ยามกาลิกํ, สตฺตาหกาลิกํ, ยาวชีวิกํ ตทหุ ปฏิคฺคหิตํ กาเล กปฺปติ, โน วิกาเล. ยามกาลิเกน, ภิกฺขเว, สตฺตาหกาลิกํ, ยาวชีวิกํ ¶ ตทหุ ปฏิคฺคหิตํ ยาเม กปฺปติ, ยามาติกฺกนฺเต น กปฺปติ. สตฺตาหกาลิเกน, ภิกฺขเว, ยาวชีวิกํ ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ กปฺปติ, สตฺตาหาติกฺกนฺเต น กปฺปตี’’ติ หิ เภสชฺชกฺขนฺธเก (มหาว. ๓๐๕) วุตฺตํ. เอตฺถ ปน ‘‘ตทหุ ปฏิคฺคหิต’’นฺติ วิเสสวจนสฺส นตฺถิตาย ปุเร ปฏิคฺคหิตมฺปิ วฏฺฏตีติ สิทฺธนฺติ. กาลิกวินิจฺฉโย.
กาลิกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปฏิคฺคาหนิทฺเทสวณฺณนา
๑๐๖. อิทานิ ‘‘ปฏิคฺคาโห’’ติ ปทํ วิตฺถาเรตุํ ‘‘ทาตุกามาภิหาโร จา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ทาตุกามสฺส อภิหาโร ทาตุกามาภิหาโร. เอเตน อฺสฺส ปตฺเต ปกฺขิปิตุํ อาลุเลนฺตสฺส ผุสิตานิ อุฏฺหิตฺวา อฺสฺส ปตฺเต สเจ ปตนฺติ, ปฏิคฺคหณํ น รุหตีติ ทีปิตํ ¶ โหติ. เอรณกฺขมนฺติ ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน อุกฺขิปนกฺขมํ, ตโต มหนฺเต ปฏิคฺคหณํ น รุหติ. ติธา เทนฺเตติ กายกายปฺปฏิพทฺธนิสฺสคฺคิยานํ วเสน ติธา เทนฺเต. ตสฺส ภิกฺขุโน กายกายปฺปฏิพทฺเธหิ ทฺวิธา คาโหติ อตฺโถ. ปฺจงฺโค เอวํ ปฺจงฺเควํ. ทาตุกามาภิหาโร เอกํ, หตฺถปาโส เอกํ, เอรณกฺขมตา เอกํ, เทวมนุสฺสติรจฺฉานคเตสุ เอเกน ติธา ทานเมกํ, ทฺวิธา คาโห เอกนฺติ เอวํ ปฺจงฺคานิ โหนฺติ.
๑๐๗. อิทานิ เยน กายปฺปฏิพทฺเธน ปฏิคฺคหณํ น รุหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อสํหาริเย’’ติอาทิมาห. ขาณุเก (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) พนฺธิตฺวา ¶ ปิตมฺจาทิมฺหิ วา ผลเก วา ปาสาเณ วา อสํหาริเย น รุหตีติ อตฺโถ. ตตฺถชาเต ปทุมินิปณฺเณ วา กึสุกปณฺณาทิมฺหิ วา น วฏฺฏติ, สุขุเม จิฺจอาทีนํ ปณฺเณ วา น รุหติ, ยฺจ มชฺฌิมปุริโส สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมึ อสยฺหภาเร จ ปฏิคฺคโห น รุหตีติ อตฺโถ.
๑๐๘. อิทานิ ปฏิคฺคหณวิชหนํ ทสฺเสตุํ ‘‘สิกฺขามรณลิงฺเคหี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถายํ ปิณฺฑตฺโถ – สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน จ มรเณน จ ลิงฺคปริวตฺตเนน จ ‘‘น ตํ ทานิ ปริภฺุชิสฺสามี’’ติ วา ‘‘น ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิสฺสามี’’ติ วา เอวํ อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนน จ โจราทีหิ วา อจฺเฉทา จ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทานา จ คาโห ปฏิคฺคาโห อุปสมฺมติ วิชหตีติ. ภิกฺขุนิยา ปน สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส อภาวา วิพฺภมเนน จ วิชหตีติ คเหตพฺพํ.
. อิทานิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปฏิคฺคหิตํ สพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ (กงฺขา. อฏฺ. ทนฺตโปนสิกฺขาปท) – จตุกาลิกปริยาปนฺนํ อนฺตมโส รชเรณุมฺปิ อปฺปฏิคฺคเหตฺวา สพฺพํ ปริภฺุชโต ปาจิตฺติ. อิทานิ อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุทฺธฺจ นาติพหล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุทฺธฺจาติ อฺเสํ รเสน อสมฺมิสฺสํ. หิโมทกสมุทฺโททกาทีสุ ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. โลณฺจ อสฺสุ จ โลณสฺสุ. เอตฺถ โลณํ นาม สรีเร อุฏฺิตํ. เอตานิ ปน สพฺพานิ อวิจฺฉินฺนาเนว กปฺปนฺติ, เนตรานิ.
๑๑๑. อิทานิ อนงฺคลคฺคานิปิ ทสฺเสตุํ ‘‘คูถมตฺติกมุตฺตานี’’ติอาทิมาห. ตถาวิเธติ ตถาวิเธ กาเล, สปฺปทฏฺกาเลติ อตฺโถ. อฺเสํ ปน อปฺปฏิคฺคหิตํ อนงฺคลคฺคํ น วฏฺฏติ. กสฺมา ¶ ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ กโรนฺโต ¶ ปฏิคฺคณฺหาติ, สฺเวว ปฏิคฺคโห กโต, น ปุน ปฏิคฺคเหตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๒๖๘) วุตฺตตฺตา.
๑๑๒. ทุรูปจิณฺเณติ ทุปฺปรามฏฺเ ผลิกรุกฺขวลฺลิอาทึ จาเลนฺตสฺส วา อามิสภริตภาชนํ อปฺปฏิคฺคหิตํ ปรามสนฺตสฺส วา ทุรูปจิณฺณทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. รโชกิณฺเณติ ภิกฺขาย จรนฺตสฺส ปตฺเต ปติตรชํ อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปุน ภิกฺขํ คณฺหโต วินยทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. อถุคฺคหปฺปฏิคฺคเหติ อถ อุคฺคหปฺปฏิคฺคเห, อตฺตนา เอว อุคฺคเหตฺวา คหิเตติ อตฺโถ. อกปฺปิยกุฏิยํ อนฺโตวุตฺเถ จ ยตฺถ กตฺถจิ ภิกฺขุนา สยํปกฺเก จ อตฺตนา วา ปเรน วา อกปฺปิยกุฏิยํ อนฺโตปกฺเก จาติ สพฺพตฺถ ทุกฺกฏนฺติ อธิปฺปาโย. ปฏิคฺคาหวินิจฺฉโย.
ปฏิคฺคาหนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อกปฺปิยมํสนิทฺเทสวณฺณนา
๑๑๓. อิทานิ มํเสสุ ปฏิปชฺชิตพฺพาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘มํเสสุ จ อกปฺปิย’’นฺติ อุทฺธฏํ. อกปฺปิยมํสมฺหิ ทสฺสิเต กปฺปิยมํสํ ทสฺสิตเมว โหติ ปาริเสสนเยน. อุรคสฺส จาติ เอตฺถ สพฺโพปิ อุรโค น กปฺปติ.
๑๑๔. เอตฺตาวตา ชาติวเสน ทสวิธมฺปิ อกปฺปิยมํสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กปฺปิยมํเสสุปิ อกปฺปิยวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘อุทฺทิสฺสกตมํสฺจ, ยฺจ อปฺปฏิเวกฺขิต’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ ยสฺส กสฺสจิ ยํ กิฺจิ อุทฺทิสฺส กตํ อุทฺทิสฺสกตํ นาม, ตํ ปน ชานิตฺวา ปริภฺุชิตุํ สพฺเพสมฺปิ น วฏฺฏติ, อชานนฺตานํ อนาปตฺติ. มจฺเฉสุปิ เอเสว นโย. อปฺปฏิเวกฺขิตนฺติ ¶ อนุปปริกฺขิตํ, อนาปุจฺฉิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘น ภิกฺขเว อปฺปฏิเวกฺขิตฺวา มํสํ ปริภฺุชิตพฺพํ, โย ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๘๑) ¶ วุตฺตํ. มจฺเฉสุ ปน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ อกปฺปิยมจฺฉานํ นตฺถิตายาติ วทนฺติ. อิทานิ เอเตสุ อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ถุลฺลจฺจย’’นฺติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ (กงฺขา. อฏฺ. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา) อุตฺตานเมว.
๑๑๕. อิทานิ น เกวลํ อิเมสํ มนุสฺสาทีนํ มํสเมว อกปฺปิยํ, อฏฺิอาทีนิปิ อกปฺปิยานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺีปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ ๒๘๑) โลมมฺเปสนฺติ โลมมฺปิ เอสํ อกปฺปิยมํสวตฺถูนนฺติ อตฺโถ. สจิตฺตกํ วาติ เอเตสุ ปน อุทฺทิสฺสกตเมว สจิตฺตกํ, เสสา อจิตฺตกาติ. อกปฺปิยมํสวินิจฺฉโย.
อกปฺปิยมํสนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. นิสฺสคฺคิยนิทฺเทสวณฺณนา
๑๑๖-๗. อิทานิ อจฺโจฬาริกานํ วเสน ทสฺเสตุํ ‘‘อรูปิย’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. อฺถาปิ ยุตฺติ ปริเยสิตพฺพา. ตตฺถายํ สงฺเขปตฺโถ (ปารา. ๕๙๑; ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๙; กงฺขา. อฏฺ. ชาตรุปสิกฺขาปทวณฺณนา) – โย รูปิเยน อรูปิยฺจ ปริวตฺเตยฺย, โย จ อิตเรน จ อรูปิเยน รูปิยํ ปริวตฺเตยฺย, ตสฺส นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ.
อิทานิ รูปิยฺจ อรูปิยฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อิธ รูปิย’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. เอตฺถ (ปารา. ๕๘๙; กงฺขา. อฏฺ. ชาตรุปสิกฺขาปทวณฺณนา) สชฺฌุ สิงฺคีติ สชฺฌูติ รชตํ. สิงฺคีติ สุวณฺณํ. ตมฺพโลหาทีหิ วา ทารูหิ วา ปณฺเณหิ วา ลาขาย วา รูปํ สมุฏฺาเปตฺวา วา อสมุฏฺาเปตฺวา วา กตํ จมฺมพีชมยมฺปิยํ ยํ ¶ เทเส โวหารํ คจฺฉติ, อิทํ โวหารูปคมาสกํ นาม. อิทมิธ รูปิยนฺติ อธิปฺเปตํ. วตฺถาทิ จ มุตฺตาทิ จ วตฺถมุตฺตาทิ. อิตรนฺติ อรูปิยํ กปฺปิยวตฺถฺุจ ทุกฺกฏวตฺถฺุจ. กึ วุตฺตํ โหติ? วตฺถํ สุตฺตํ ผาโล ปฏโก กปฺปาโส อเนกปฺปการํ อปรณฺณํ สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตาทิเภสชฺชฺจาติ อิทํ กปฺปิยวตฺถุ นาม. มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโขสิลา ปวาฬํ โลหิตงฺโค มสารคลฺลํ สตฺต ธฺานิ ทาสี ทาโส เขตฺตํ วตฺถุ ปุปฺผารามผลารามาทโยติ อิทํ ทุกฺกฏวตฺถุ นาม, ตทุภยํ อรูปิยํ นามาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๑๘. เอตฺตาวตา รูปิยสํโวหารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กยวิกฺกยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมํ คเหตฺวา’’ติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ อิมนฺติ ตณฺฑุลาทิกํ กปฺปิยภณฺฑํ คเหตฺวา วา โอทนาทึ ภุตฺวา วา ‘‘อิมํ วตฺถาทิกํ กปฺปิยภณฺฑํ เทหิ, อิมํ รชนปจนาทิกํ กร, รชนกฏฺาทิมา นย, อิมํ วา ตว เทมิ, ตฺวํ ปน อิมฺจ อิมฺจ อาหร, กร, เทหี’’ติ เอวํ กยวิกฺกเย สมาปนฺเน นิสฺสคฺคีติ สมฺพนฺโธ.
๑๑๙. อิทานิ ปริณามวเสน อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตโน’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺรายํ ปิณฺฑตฺโถ (ปารา. ๖๕๙; ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๘; กงฺขา. อฏฺ. ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา) – สงฺฆสฺส วา อฺสฺส วา นตํ ปริณตํ ลาภํ ลภิตพฺพํ จีวราทิปจฺจยํ อตฺตโน วา อฺสฺส วา ปริณาเมยฺย, นิสฺสคฺคิยอาทีนิ โหนฺตีติ. กถํ? โย ปน มาตุสนฺตกมฺปิ สงฺฆสฺส ปริณตํ อตฺตโน ปริณาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ. อฺสฺส ปุคฺคลสฺส ปริณาเมติ, สุทฺธิกปาจิตฺติยํ. อฺสฺส สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา ปริณาเมติ, ทุกฺกฏํ. โย ปน อฺปุคฺคลสฺส วา เจติยสฺส วา ปริณตํ อตฺตโน วา อฺปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา อฺเจติยสฺส วา ปริณาเมติ, ตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมวาติ.
๑๒๐. โย ¶ ปน นิสฺสคฺคึ นิสฺสชฺชิตพฺพํ อนิสฺสชฺชิตฺวา วินยกมฺมํ อกตฺวา ปริภฺุเชยฺย, ตสฺส ทุกฺกฏํ. โย วา ปเรน วินยกมฺมตฺถาย นิสฺสฏฺํ สกสฺาย น ทเทยฺย, ตสฺสาปิ ทุกฺกฏํ. อฺเถตรนฺติ เอตฺถ อฺถาติ เถยฺยสฺาย สเจ น ทเทยฺย, อิตรํ ตสฺส อคฺฆวเสน ปาราชิกฺจ ถุลฺลจฺจยฺจ ทุกฺกฏฺจ โหตีติ อตฺโถ. นิสฺสคฺคิยวินิจฺฉโย.
นิสฺสคฺคิยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ปาจิตฺติยนิทฺเทสวณฺณนา
๑๒๑. อิทานิ ปาจิตฺติยานิ ทสฺเสตุํ ‘‘ปาจิตฺตี’’ติ มาติกาปทํ อุทฺธริตฺวา ‘‘มุสาวาโทมสาวาเท, เปสฺุหรเณ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ มุสาวาเท จ โอมสวาเท จ เปสฺุหรเณ จ ปาจิตฺติ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. เอวํ เสเสสุปิ. เอตฺถ ปน ‘‘อทิฏฺํ, อสุตํ, อมุตํ ¶ , อวิฺาตํ, ทิฏฺํ, สุตํ, มุตํ, วิฺาต’’นฺติ (ปาจิ. ๓; ปาจิ. อฏฺ. ๓) ปุพฺเพปิ ‘‘มุสา ภณิสฺสามี’’ติ เจเตตฺวา วจนกฺขเณว ‘‘มุสา ภณามี’’ติ ชานิตฺวา ชานนฺตสฺเสว มุสาภณเน ปาจิตฺติ นาม อาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ. ยสฺส ภณติ, โส ตํ น สุณาติ, อาปตฺติ น โหติ (กงฺขา. อฏฺ. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา).
‘‘โอมสวาโท นาม ทสหิ อากาเรหิ โอมสติ ชาติยาปิ นาเมนปิ โคตฺเตนปิ กมฺเมนปิ สิปฺเปนปิ อาพาเธนปิ ลิงฺเคนปิ กิเลเสนปิ อาปตฺติยาปิ อกฺโกเสนปี’’ติ (ปาจิ. ๑๕) เอวํ วุตฺเตหิ ทสหิ อากาเรหิ อุปสมฺปนฺนํ โย ขุํเสติ วมฺเภติ, อยํ โอมสติ นาม, ตสฺส ปาจิตฺตีติ ¶ อตฺโถ. ปรมฺมุขา ภณนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ตถา ปาฬิยํ อนาคเตหิ ‘‘โจโร’’ติ วา ‘‘คณฺิเภทโก’’ติ วา อาทีหิ ภณนฺตสฺส. ‘‘สนฺติ อิเธกจฺเจ ขตฺติยา พฺราหฺมณา จณฺฑาลา’’ติอาทินา ปริยาเยน ภณนฺตสฺส จ อนุปสมฺปนฺนํ ภณนฺตสฺส จ สพฺพตฺถปิ ทุกฺกฏเมว.
ปิยกมฺยตาย วา เภทาธิปฺปาเยน วา อุปสมฺปนฺนํ ชาติอาทีหิ โอมสนฺตสฺส อุปสมฺปนฺนสฺส วจนํ สุตฺวา ตสฺส อุปสํหรณํ เปสฺุหรณํ นาม. เอตฺถาปิ ปริยายวจเนน จ อนุปสมฺปนฺนสฺส อุปสํหรเณน จ ทุกฺกฏเมว.
ปทโสธมฺโมติ เอตฺถ ‘‘ธมฺโม นาม พุทฺธภาสิโต สาวกภาสิโต อิสิภาสิโต เทวตาภาสิโต อตฺถูปสํหิโต ธมฺมูปสํหิโต’’ติ (ปาจิ. ๔๖) เอวํ วุตฺตํ สงฺคีติตฺตยมารุฬฺหํ ติปิฏกธมฺมํ ปทอนุปทอนฺวกฺขรอนุพฺยฺชนวเสน ภิกฺขฺุจ ภิกฺขุนิฺจ เปตฺวา อนุปสมฺปนฺนํ เอกโต วาเจนฺตสฺส ปาจิตฺติ โหตีติ อตฺโถ.
สาคาเรติ ยํ ปน สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธน ปาการาทินา ปริกฺขิตฺตตฺตา สพฺพปริจฺฉินฺนฺจ เยน เกนจิ วิตานาทินา อนฺตมโส วตฺเถนปิ ฉนฺนตฺตา สพฺพจฺฉนฺนฺจ เสนาสนํ, ตถารูเป เสนาสเน เอกูปจารฏฺาเน อนุปสมฺปนฺเนน สห วสนฺตสฺส จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย นิปชฺชนคณนาย จ อนุปสมฺปนฺนคณนาย จ เทวสิกํ ปาจิตฺติ โหตีติ อตฺโถ.
อุชฺฌาปนกขิยฺยเนติ เอตฺถ โย อุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน สมฺมตํ เสนาสนปฺาปกํ วา ภตฺตุทฺเทสกํ ¶ วา ยาคุภาชกํ วา ผลภาชกํ วา ขชฺชภาชกํ วา อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกํ วา มงฺกุกตฺตุกาโม ฉนฺเทน ‘‘อิตฺถนฺนาโม เสนาสนํ ปฺาเปติ, ภตฺตานิ จ อุทฺทิสตี’’ติ วา วทนฺโต อฺํ ¶ อุปสมฺปนฺนํ อุชฺฌาเปติ เตน อวชานาเปติ, โย ปน ตเถว วทนฺโต อุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก ตสฺส อยสํ ปกาเสนฺโต ขียติ, ตสฺมึ อุชฺฌาปนเก จ ขียนเก จ ปาจิตฺติทฺวยนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๒๒. ตลสตฺติอนาทร-กุกฺกุจฺจุปฺปาทเนสุ จาติ เอตฺถ โย ภิกฺขุ อุปสมฺปนฺนสฺส ปหรณาการํ ทสฺเสนฺโต กายํ วา กายปฺปฏิพทฺธํ วา อุจฺจาเรติ, ตสฺส ปาจิตฺติยํ. สเจ วิรทฺโธ ปหารํ เทติ, อปฺปหริตุกามตาย ทุกฺกฏํ, ตถา อนุปสมฺปนฺเนสุปิ ทุกฺกฏเมว.
อุปสมฺปนฺเนน ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน ตํ อสิกฺขิตุกามตาย วา ตสฺส วจนํ อโสตุกามตาย วา โย อนาทริยํ กโรติ, ตสฺส อนาทรกรเณ ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. อปฺตฺเตน วุจฺจมานสฺส จ อนุปสมฺปนฺเนน ปฺตฺเตน วา อปฺตฺเตน วา วุจฺจมานสฺส ทุกฺกฏํ.
อุปสมฺปนฺนสฺส ‘‘อูนวีสติวสฺโส มฺเ ตฺวํ อุปสมฺปนฺโน, วิกาเล มฺเ ตยา ภุตฺต’’นฺติอาทินา นเยน สฺจิจฺจ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. อนุปสมฺปนฺนสฺส อุปฺปาทเน ทุกฺกฏํ.
คามปฺปเวสนาปุจฺฉาติ เอตฺถ ปน มชฺฌนฺหิกาติกฺกมนโต ปฏฺาย ยาว อรุณุคฺคมนา วิกาโล นาม, เอตฺถนฺตเร สเจ สมฺพหุลา เกนจิ กมฺเมน คามํ ปวิสนฺติ, ‘‘วิกาเล คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามา’’ติ สพฺเพหิปิ อฺมฺํ อาปุจฺฉิตพฺพํ. สเจ อนาปุจฺฉา ปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปํ, อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจารํ อติกฺกมนฺติ, ปมปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติยปาทุทฺธาเร ปาจิตฺติยํ. อาปทาสุ อนาปตฺติ.
โภชเน จ ปรมฺปราติ ปรมฺปรโภชเน จ ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน ปฺจสุ โภชเนสุ อฺตรํ นามํ คเหตฺวา ¶ ‘‘โอทเนน วา สตฺตุนา วา กุมฺมาเสน วา มํเสน วา มจฺเฉน วา นิมนฺเตมี’’ติอาทินา นเยน, เยน เกนจิ เววจเนน วา อกปฺปิยนิมนฺตนาย นิมนฺติตสฺส ¶ เยน เยน ปมํ นิมนฺติโต, ตสฺส ตสฺส โภชนํ เปตฺวา อุปฺปฏิปาฏิยา, อวิกปฺเปตฺวา วา ปมนิมนฺตนํ ปรสฺส ปรสฺส กุลสฺส ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ ปริภฺุชนฺตสฺส ปรมฺปรโภชเน ปาจิตฺติ โหติ. คิลานจีวรทานจีวรกาลสมเยสุ อนาปตฺติ, ตถา ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา สพฺพตฺถ.
๑๒๓. อนุทฺธริตฺวา คมเน เสยฺยนฺติ เอตฺถ ทสวิธา เสยฺยา ภิสิ จิมิลิกา อุตฺตรตฺถรณํ ภูมตฺถรณํ ตฏฺฏิกา จมฺมขณฺโฑ นิสีทนํ ปจฺจตฺถรณํ ติณสนฺถาโร ปณฺณสนฺถาโรติ. เอเตสุ ยํ กิฺจิ สงฺฆิเก วิหาเร คุตฺตเสนาสเน อตฺตโน วสฺสคฺเคน คหิตํ อตฺตนา วา สนฺถริตฺวา, อนุปสมฺปนฺเนน วา สนฺถราเปตฺวา ตํ ทิวสํ คมิกวเสน ปกฺกมนฺโต เนว สยํ อุทฺธเรยฺย น อฺํ อุทฺธราเปยฺย, ยถา อุปจิกาทีหิ น ขชฺเชยฺย, เอวํ น เปยฺย, อฺเน วา น อุทฺธราเปยฺย, ปติรูปํ ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา อารามิกเมว วา อนาปุจฺฉา วา คจฺเฉยฺย, ตสฺส ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปํ, อปริกฺขิตฺตสฺส ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. มณฺฑปรุกฺขมูลาทิอคุตฺตเสนาสเน สนฺถริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ตถา มฺจปีภิสิโกจฺฉเกสุ, คุตฺตเสนาสเนปิ ทุกฺกฏเมว.
เสนาสนานิ วาติ เอตฺถ อนุทฺธริตฺวา คมเนติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ ปน มฺโจ ปีํ ภิสิ โกจฺฉกนฺติ จตุพฺพิธมฺปิ เสนาสนํ วสฺสานเหมนฺตานํ อฏฺสุ มาเสสุ อชฺโฌกาเส วา โอวสฺสกมณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา สยํ สนฺถริตฺวา วา อนุปสมฺปนฺเนน สนฺถราเปตฺวา วา ตํ อนุทฺธริตฺวา วา อนุทฺธราเปตฺวา วา ตสฺส เสนาสนสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อติกฺกมเน ปาจิตฺติยํ. สมฺมฺุชนียาทิ เสสปริกฺขาเรสุ ทุกฺกฏํ.
อิตฺถิยาทฺธานคมเนติ ¶ เอตฺถ มาตุคาเมน ‘‘คจฺฉาม ภคินิ, คจฺฉาม อยฺยา’’ติ เอวํ สํวิทหิตฺวา ‘‘อชฺช วา สฺเว วา ปรสุเว วา’’ติ นิยมิตกาลํ วิสงฺเกตํ อกตฺวา ทฺวารวิสงฺเกตํ มคฺควิสงฺเกตํ กตฺวาปิ คจฺฉโต คามนฺตเร คามนฺตเร ปาจิตฺติยํ. อคามเก อรฺเ อทฺธโยชเน อทฺธโยชเน อาปตฺติ.
เอเกกาย นิสีทเนติ เอตฺถ เอโก เอกาย อิตฺถิยา นิสีทเนติ อตฺโถ.
๑๒๔. ภึสาปเนติ ¶ เอตฺถ อุปสมฺปนฺโน อุปสมฺปนฺนํ ภึสาเปตุกาโม โจรกนฺตารวาฬกนฺตาราทีนิ อาจิกฺขติ, ภยานกํ วา รูปสทฺทาทึ ทสฺเสติ, โส ภายตุ วา มา วา, ตสฺส ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ. อนุปสมฺปนฺเน ทุกฺกฏํ.
อาโกฏเนติ ปหารทาเน. อุปสมฺปนฺโน อุปสมฺปนฺนสฺส อนตฺตมโน หุตฺวา สเจ อุปฺปลปตฺเตนปิ ปหารํ เทติ, ปาจิตฺติยํ. อนุปสมฺปนฺนสฺส คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา อนฺตมโส ติรจฺฉานคตสฺสาปิ ปหารํ เทติ, ทุกฺกฏเมว.
อนาจารํ อาจริตฺวา สงฺฆมชฺเฌ อาปตฺติยา วา วตฺถุนา วา อนุยฺุชิยมาโน ตํ อกเถตุกาโม ‘‘โก อาปนฺโน, กึ อาปนฺโน, กิสฺมึ อาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน อฺเหิ วจเนหิ ตํ วจนํ ปฏิจฺฉาเทนฺโต โส อฺํ วทติ, อยํ อฺวาทโก, ตสฺมึ อฺวาทเก จ กฺจิ วีติกฺกมํ ทิสฺวา ‘‘อาวุโส, อิทํ นาม ตยา กต’’นฺติ วุตฺเต ตํ น กเถตุกาโม ตุณฺหีภูโตว สงฺฆํ วิเหสตีติ สงฺฆวิเหสโก, ตสฺมึ วิเหสเก จ ปาจิตฺติ โหตีติ อตฺโถ. อิธ ปน ตฺติทุติเยน กมฺเมน อฺวาทเก จ วิเหสเก ¶ จ อาโรปิเต ปุน อฺํ ภณนฺตสฺส, วิเหสนฺตสฺส ปาจิตฺติ. อนาโรปิเต ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ.
ทุฏฺุลฺลปกาสฉาเทติ เอตฺถ กิฺจาปิ ‘‘ทุฏฺุลฺลา นาม อาปตฺติ จตฺตาริ จ ปาราชิกานิ เตรส จ สงฺฆาทิเสสา’’ติ (ปาจิ. ๓๙๙) วุตฺตา, ตถาปิ อิธ สงฺฆาทิเสสาว อธิปฺเปตา. ตสฺมา สงฺฆสมฺมุตึ วินา ภิกฺขุสฺส ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตึ ‘‘อยํ อสุจึ โมเจตฺวา สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน วตฺถุนา สทฺธึ อาปตฺตึ ฆเฏตฺวา ภิกฺขฺุจ ภิกฺขุนิฺจ เปตฺวา ยสฺส กสฺสจิ อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรเจนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ถุลฺลจฺจยาทิอทุฏฺุลฺลาโรจเน ทุกฺกฏํ. ทุฏฺุลฺลจฺฉาทเนปิ สงฺฆาทิเสโสว อธิปฺเปโต. โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตึ สยํ วา ชานิตฺวา อฺเสํ วา สุตฺวา ‘‘อิมํ ชานิตฺวา โจเทสฺสนฺติ สาเรสฺสนฺติ มงฺกุํ กริสฺสนฺติ, นาโรจิสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, ตสฺส ปาจิตฺติยํ. ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา อาโรจิเตปิ น รกฺขติ เอว.
หาโสทเกติ องฺคุลิปโตทเกน หาโส จ อุทเก หาโส จาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อุปสมฺปนฺโน อุปสมฺปนฺนํ หสาธิปฺปาโย กาเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, โก ปน วาโท ¶ อุปกจฺฉกาทีสุ ฆฏฺฏเน. อนุปสมฺปนฺเน ทุกฺกฏํ, ตถา ภิกฺขุสฺส กายปฺปฏิพทฺธามสเน จ นิสฺสคฺคิเยน กายปฺปฏิพทฺธามสเน จ. เอตฺถ ภิกฺขุนีปิ อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ิตา. อุทเก หสนธมฺโม นาม อุปริโคปฺผเก อุทเก กีฬาธิปฺปายสฺส นิมฺมุชฺชนอุมฺมุชฺชนปฺลวนาทิกํ. อิธ หาโส นาม กีฬา วุจฺจติ.
นิจฺฉุภเน วิหาราติ สงฺฆิกา วิหารา นิกฺกฑฺฒเนติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน โย กุทฺโธ หุตฺวา อุปสมฺปนฺนํ หตฺถาทีสุ คเหตฺวา วา ‘‘นิกฺขมา’’ติ วตฺวา วา ยตฺตกานิ ทฺวารานิ ¶ เอเกน ปโยเคน อติกฺกาเมติ, ตตฺถ ทฺวารคณนาย อาปตฺตึ อคฺคเหตฺวา ปโยคสฺส เอกตฺตา เอกา เอว คเหตพฺพา. สเจ นานาปโยเคหิ อติกฺกาเมติ, ตตฺถ ทฺวารคณนาย คเหตพฺพํ. ตสฺส ปริกฺขารนิกฺกฑฺฒเน ทุกฺกฏํ, ตถา อนุปสมฺปนฺเน, ตสฺส ปริกฺขารนิกฺกฑฺฒเน จ. อลชฺชิอาทีสุ ปน อนาปตฺติ.
อนุปขชฺช สยเนติ สงฺฆิเก วิหาเร ‘‘วุฑฺโฒ’’ติ วา ‘‘คิลาโน’’ติ วา ‘‘สงฺเฆน ทินฺโน’’ติ วา ชานิตฺวา มฺจสฺส วา ปีสฺส วา ปวิสนฺตสฺส วา นิกฺขมนฺตสฺส วา อุปจาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ‘‘ยสฺส สมฺพาโธ ภวิสฺสติ, โส ปกฺกมิสฺสตี’’ติ อธิปฺปาเยน อภินิสีทนฺตสฺส จ อภินิปชฺชนฺตสฺส จ ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยํ เวทิตพฺพํ. ปาจิตฺติยวินิจฺฉโย.
ปาจิตฺติยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. สมณกปฺปนิทฺเทสวณฺณนา
๑๒๕. ภูตานํ ชาตานํ นิพฺพตฺตานํ คาโม ภูตคาโม (ปาจิ. ๙๑; ปาจิ. อฏฺ. ๙๑; กงฺขา. อฏฺ. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา). สมารมฺโภติ เฉทนผาลนปจนาทิ, ตสฺมึ ภูตคามสมารมฺเภ ภูตคามสมารมฺภเหตุ ปาจิตฺติ โหตีติ อตฺโถ. กตกปฺปิยํ (กงฺขา. อฏฺ. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา) ปน สมณกปฺปิยํ ภเวติ สมฺพนฺโธ. สมณานํ กปฺปิยํ สมณกปฺปิยํ ¶ . อิทานิ เยน กตํ กปฺปิยํ สมณกปฺปิยํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘นเขน วา’’ติอาทิมาห. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภฺุชิตุํ, อคฺคิปริชิตํ สตฺถปริชิตํ นขปริชิตํ อพีชํ นิพฺพฏฺฏพีชฺเว ปฺจม’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๐) หิ วุตฺตํ.
๑๒๖. อิทานิ ¶ ตํ ภูตคามํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมูลา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ (ปาจิ. ๙๑; ปาจิ. อฏฺ. ๙๑) ส-อิติ โส ภูตคาโม นามาติ อตฺโถ, มูลพีชาทีหิ ปฺจหิ พีเชหิ ปภาวิโต โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ มูลพีชํ นาม หลิทฺทิสิงฺคิเวราทิ. ขนฺธพีชํ นาม อสฺสตฺโถ นิคฺโรโธติ เอวมาทิ. อคฺคพีชํ นาม อชฺชุกผณิชฺชกาทิ. ผฬุพีชํ นาม อุจฺฉุเวฬุนฬาทิ. ‘‘พีชพีชํ นาม ปุพฺพณฺณํ อปรณฺณํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ พีเช ชายนฺติ พีเช สฺชายนฺติ, เอตํ พีชพีชํ นามา’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ ‘‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๕; ม. นิ. ๑.๒๙๓, ๔๑๑; ๒.๑๑; อ. นิ. ๑๐.๙๙; ปุ. ป. ๑๗๙) วุตฺตตฺตา ธมฺมานุโลเมน อาคตํ พีชคามสมารมฺภํ ทสฺเสตุํ ‘‘อารมฺเภ ทุกฺกฏ’’นฺติอาทิมาห. ตสฺมา เอตํ ปมํ ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ ภูตคามปริโมจนํ กาเรตฺวา พีชคามปริโมจนตฺถํ ปุน กปฺปิยํ กาเรตพฺพํ.
๑๒๗. นิพฺพฏฺฏพีชํ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒; กงฺขา. อฏฺ. ภุตคามสิกฺขาปทวณฺณนา) นาม อมฺพปนสาทิ. โนพีชํ นาม ตรุณมฺพผลาทิ, เอตํ ปน สพฺพํ อกปฺปิยมฺปิ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. กฏาหพทฺธพีชานิ กปิตฺถผลาทีนิ. พหิทฺธา วาปิ การเยติ กปาเลปิ กาตุํ วฏฺฏติ, สเจ เอกาพทฺธานีติ อตฺโถ. กฏาหมุตฺตํ ปน ภินฺทิตฺวา กาเรตพฺพํ.
๑๒๘. ภาชเน วา ภูมิยํ วา เอกาพทฺเธสุ พีเชสุ เอกสฺมึ พีเช กปฺปิเย กเต สพฺเพสฺเวว กตํ ภเวติ อตฺโถ. ยถา จ พีเช, เอวํ รุกฺขสหสฺสํ วา อุจฺฉุสหสฺสํ วา ฉินฺทิตฺวา เอกาพทฺเธ กเตปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
๑๒๙. กปฺปิยํ กตฺวา นิกฺขิตฺเต พีชคาเม ปุน มูลปณฺณานิ สเจ ชายรุํ, ปุน กปฺปิยํ กาเรยฺยาติ อตฺโถ. ตทาติ มูเล จ องฺกุเร จ ชาเตติ อตฺโถ.
๑๓๐. อุทกสมฺภโวติ ¶ ¶ อุทกชาโต. เจติยาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน เคหปฺปมุขปาการเวทิกาทีสุ นิพฺพตฺตา คหิตา. นิพฺพตฺตทฺวตฺติปตฺตโก ภูตคาโมว, อนิพฺพตฺตโก อคฺคพีเช สงฺคหํ คจฺฉติ. พีชมฺปิ ยาว มูลํ วา ปณฺณํ วา น นิกฺขมติ, ตาว พีชคาโมว, มูเล จ นิกฺขนฺเต ปณฺเณ จ หริเต ชาเต ภูตคาโมว โหตีติ อตฺโถ.
๑๓๑. มกุฬนฺติ อผุลฺลํ. อหิฉตฺตกํ นาม รุกฺเข ชาตํ อหิฉตฺตกํ.
๑๓๒. อลฺลรุกฺเข คณฺหโตติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถาติ อลฺลรุกฺเข ฉินฺทโต วาปีติ สมฺพนฺโธ.
๑๓๔. ‘‘อิมํ รุกฺขํ, อิมํ ลตํ, อิมํ กนฺทํ ฉินฺท, ภินฺทา’’ติอาทินา นเยน นิยเมตฺวา ภาสิตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘อิทํ, เอต’’นฺติ อวตฺวา เกวลํ ‘‘รุกฺขํ ฉินฺทา’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒; กงฺขา. อฏฺ. ภูตคามหิกฺขาปทวณฺณนา) นเยน วตฺตุํ วฏฺฏตีติ. สมณกปฺปวินิจฺฉโย.
สมณกปฺปนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. ภูมินิทฺเทสวณฺณนา
๑๓๖. อิทานิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตสฺโส กปฺปิยภูมิโย อุสฺสาวนนฺติกํ โคนิสาทิกํ คหปตึ สมฺมุติ’’นฺติ (มหาว. ๒๙๕) เอวํ วุตฺตา จตสฺโส กปฺปิยภูมิโย ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺมุตุสฺสาวนนฺตา จา’’ติอาทิมาห. ยาสูติ กปฺปิยภูมีสุ (กงฺขา. อฏฺ. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา).
๑๓๗. อิทานิ ¶ ยตฺถ กปฺปิยกุฏิ อิจฺฉิตพฺพา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วาสตฺถายา’’ติอาทิมาห. วาสตฺถายาติ อิมินา โกฏฺาคารภตฺตสาลาเจติยฆรสมฺมฺุชนีมาฬกาทิ ยํ ยํ อฺมฺปิ วาสตฺถาย ¶ กรียติ, ตตฺถ ตตฺถ กปฺปิยกุฏิกรณกิจฺจํ นตฺถีติ ทีปิตํ โหติ. โภชนสาลา ปน เสนาสนเมว, ตสฺมา ตตฺถ กาตพฺพา เอวาติ วทนฺติ. สงฺฆิเกเวกสนฺตเกติ เอตฺถ เอกสนฺตโก อุปสมฺปนฺนสนฺตโกว เวทิตพฺโพ.
๑๓๘. อิทานิ กตฺตพฺพาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘เคเห’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺฆสฺส วา เอกสฺส วา เคเห วิหาเร กริยมาเน เอวํ อีรยํ ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรม, กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ วา ‘‘กปฺปิยกุฏิ กปฺปิยกุฏี’’ติ วา วทนฺโต ปมิฏฺกตฺถมฺภาทึ เปยฺย, เอวํ กตา อุสฺสาวนนฺติกา นาม, เอวํ อุทาหริตวจนนฺติกาติ อตฺโถ.
๑๓๙. เยภุยฺเยน วา อปริกฺขิตฺโต, สกโลปิ วา อปริกฺขิตฺโต อาราโม ‘‘โคนิสาที’’ติ วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ ปน เสนาสเนสุ ปริกฺขิตฺเตสุปิ อาราเม อปริกฺขิตฺเต กปฺปิยกุฏิกรณกิจฺจํ นตฺถิ. สมฺมุตึ กโรนฺเตหิ กตํ ปริโยสิตํ ‘‘อิมํ วิหารํ อฑฺฒโยคํ ปาสาทํ หมฺมิยํ คุหํ ติณกุฏิกํ มณฺฑป’’นฺติ เตสํ นามํ คเหตฺวา ตสฺสา กุฏิยา หตฺถปาเส วา ตฺวา, ตสฺสา อนฺโต วา ปวิสิตฺวา วุตฺตนเยเนว ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมนฺนิตพฺพํ.
๑๔๐. ‘‘ภิกฺขุํ เปตฺวา อฺเหี’’ติ วจนโต เสสสหธมฺมิเกหิปิ เทวมนุสฺเสหิปิ อฺเหิ กปฺปิยกุฏิยา อตฺถาย ทินฺโน วา เตสํ สนฺตโก วา เคโห ‘‘คหปตี’’ติ มโต าโตติ อตฺโถ, สงฺฆสนฺตกฺจ ภิกฺขุสนฺตกฺจ เปตฺวา สพฺเพสํ เคโห คหปตีติ อธิปฺปาโย.
๑๔๑. สปฺปิอาทีหิ ¶ มิสฺสิตนฺติ สปฺปิอาทีหิ ปฺจหิ จ หลิทฺทิสิงฺคิเวราทิยาวชีวิเกน จาติ อตฺโถ. วเชยฺย อนฺโตวุตฺถตฺตนฺติ เอตฺถ ยาวกาลิกยามกาลิกสงฺขาตํ ปุริมกาลิกทฺวยํ สงฺฆิกํ วา ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา สนฺตกํ สยํ กปฺปิยกุฏิยา วุตฺถมฺปิ อิตเรหิ อกปฺปิยกุฏิยา วุตฺเถหิ มิสฺสิตํ อนฺโตวุตฺถภาวํ อาคจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ.
๑๔๒. เตเหวาติ อกปฺปิยกุฏิยํ วุตฺถสปฺปิเตลาทีหิ. สามปากตนฺติ สามํปกฺกภาวํ คจฺฉตีติ อตฺโถ.
๑๔๓-๔. อิมา ¶ ปน กปฺปิยกุฏิโย ยทา ชหิตวตฺถุกา โหนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุสฺสาวนนฺติกา’’ติอาทิมาห. สเจ ถมฺเภ วา ภิตฺติปาเท วา ปริวตฺเตนฺติ, โย โย ิโต, ตตฺถ ตตฺถ ปติฏฺาติ, เอเตนุปาเยน สพฺเพสุ ปริวตฺเตสุปิ น วิชหิตวตฺถุกาว โหตีติ อตฺโถ. ปริกฺขิตฺเต โคนิสาทิ วิชหิตวตฺถุกา. เสสา ฉทนวิพฺภมาติ ฉทนวินาสา ชหิตวตฺถุกา โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ภูมิวินิจฺฉโย.
ภูมินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. อุปชฺฌาจริยวตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑๔๕. อุปชฺฌาจริเยติ เอตฺถ (มหาว. ๖๔, ๖๗, ๗๔, ๗๘-๗๙; จูฬว. ๓๗๕, ๓๗๗; ๓๗๙-๓๘๒; มหาว. อฏฺ. ๖๔, ๖๗, ๗๕, ๗๖, ๗๗) อาจริโย นาม นิสฺสยาจริโย ปพฺพชฺชาจริโย อุปสมฺปทาจริโย ธมฺมาจริโยติ จตุพฺพิโธ. เอเตสุ หิ นิสฺสยนฺเตวาสิเกน ยาว อาจริยํ นิสฺสาย วสติ, ตาว สพฺพมาจริยวตฺตํ กาตพฺพํ. ปพฺพชฺชาอุปสมฺปทาธมฺมนฺเตวาสิเกหิ ปน นิสฺสยมุตฺตเกหิปิ อาทิโต ¶ ปฏฺาย ยาว จีวรรชนํ, ตาว วตฺตํ กาตพฺพํ. อนาปุจฺฉิตฺวา ปตฺตทานาทิมฺหิ ปน เอเตสํ อนาปตฺติ. เอเตสุ จ ปพฺพชฺชนฺเตวาสิโก จ อุปสมฺปทนฺเตวาสิโก จ อาจริยสฺส ยาวชีวํ ภาโร, นิสฺสยนฺเตวาสิโก จ ธมฺมนฺเตวาสิโก จ ยาว สมีเป วสติ, ตาวเทว. สุฏฺุ ปิยสีโล สุเปสโล, สิกฺขากาโมติ อตฺโถ. ทนฺตกฏฺํ เทนฺเตน เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา มหนฺตํ มชฺฌิมํ ขุทฺทกนฺติ ตีณิ ทนฺตกฏฺานิ อุปเนตพฺพานิ. เตสุ ยํ ตีณิ ทิวสานิ คณฺหาติ, ตํ สลฺลกฺเขตฺวา จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสํเยว สมฺมา อุโภหิ หตฺเถหิ ทาตพฺพํ. สเจ ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, ยถาลทฺธํ อุปเนตพฺพํ. โตยนฺติ สีตฺจ อุณฺหฺจ อุทกํ อุปเนตฺวา ยํ ตีณิ ทิวสานิ วฬฺเชติ, จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสํ อุปเนตพฺพํ. สเจ ทฺเวปิ วฬฺเชติ, ทุวิธมฺปิ อุปเนตพฺพํ. สเจ ยาคุ โหติ, ภาชนํ โธวิตฺวา อุปเนตพฺพํ.
๑๔๖. ปตฺเต วตฺตํ จเรติ ‘‘ยาคุํ ปีตสฺส อุทกํ ทตฺวา ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา ¶ สาธุกํ อปริฆํสนฺเตน โธวิตฺวา ปฏิสาเมตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๖๖, ๗๘; จูฬว. ๓๗๖, ๓๘๐) วุตฺตํ ปตฺเต วตฺตํ จเรติ อตฺโถ. คามปฺปเวเส วตฺตํ จเรติ เอวํ สพฺพตฺถ. ‘‘สเจ อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา คามํ ปวิสิตุกาโม โหติ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, กายพนฺธนํ ทาตพฺพํ, สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ทาตพฺพา, โธวิตฺวา ปตฺโต โสทโก ทาตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๖๖, ๗๘; จูฬว. ๓๗๖, ๓๘๐) อิทํ คามปฺปเวสเน วตฺตํ นาม. ‘‘สเจ อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา ปจฺฉาสมณํ อากงฺขติ, ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ปารุปิตฺวา คณฺิกํ ปฏิมฺุจิตฺวา โธวิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา อุปชฺฌายสฺส วา อาจริยสฺส วา ปจฺฉาสมเณน โหตพฺพ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๖๖, ๗๘; จูฬว. ๓๗๖, ๓๘๐) ¶ นเยน วุตฺตํ คมเน วตฺตํ นาม. ‘‘นิวตฺตนฺเตน ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนํ ปฺาเปตพฺพ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๖๖, ๗๘; จูฬว. ๓๗๖, ๓๘๐) นเยน วุตฺตํ อาคเม วตฺตํ นาม. ‘‘อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ ปฏิสาเมตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๖๖, ๗๘; จูฬว. ๓๗๖, ๓๘๐) เอวํ วุตฺตํ อาสนาทีสุ วตฺตํ นาม. อุปาหนาย วตฺตํ นาม ‘‘อุปาหนา ปฺุฉิตพฺพา, อุปาหนา ปฺุฉนฺเตน ปมํ สุกฺเขน โจฬเกน ปฺุฉิตพฺพา, ปจฺฉา อลฺเลนา’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๕๗, ๓๕๙) วุตฺตํ. จีวเร วตฺตํ นาม ‘‘สเจ จีวรํ สินฺนํ โหติ, มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาเปตพฺพํ, น จ อุณฺเห จีวรํ นิทหิตพฺพ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๖๖, ๗๘; จูฬว. ๓๗๖, ๓๘๐) วุตฺตํ.
๑๔๗. ปริโภชนียปานีย-วจฺจปฺปสฺสาวานิสูติ เอตฺถ สเจ ปานียํ น โหติ, ปานียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. สเจ ปริโภชนียํ น โหติ, ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. สเจ วจฺจกุฏิ อุกฺลาปา โหติ, วจฺจกุฏิ สมฺมชฺชิตพฺพา. ตถา ปสฺสาวฏฺาเน เอวํ วตฺตํ จริตพฺพนฺติ อตฺโถ. ‘‘วิหารํ โสเธนฺเตน ปมํ ปตฺตจีวรํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพ’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตํ วิหารโสธเน วตฺตํ นาม. ‘‘ภูมตฺถรณํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺาเปตพฺพ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๖๖, ๗๘; จูฬว. ๓๗๖, ๓๘๐) วุตฺตํ ปุน ปฺาปเน วตฺตํ นาม.
๑๔๘. อิทานิ วิหารํ โสเธนฺเตน เอวํ โสเธตพฺพนฺติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘น ปปฺโผเฏยฺยา’’ติอาทิมาห ¶ . ตสฺสตฺโถ – วิหารํ โสเธนฺโต ภิกฺขุ ภูมตฺถรณาทิสยนาสนํ ปฏิวาเต วา ปงฺคเณ วา ปานียสามนฺตา วา น ปปฺโผเฏยฺยาติ. ปงฺคเณติ พหูนํ สนฺนิปาเต าเน.
๑๔๙. นฺหาเนติ ¶ ‘‘สเจ อุปชฺฌาโย นหายิตุกาโม โหติ, นหานํ ปฏิยาเทตพฺพํ. สเจ สีเตน อตฺโถ โหติ, สีตํ ปฏิยาเทตพฺพ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๖๖; จูฬว. ๓๗๖) วุตฺตํ นหาเน วตฺตํ นาม, ‘‘อุปชฺฌายสฺส คตฺตโต อุทกํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, นิวาสนํ ทาตพฺพ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๖๖; จูฬว. ๓๗๖) วุตฺตํ นหาตสฺส กาตพฺพํ นาม. รงฺคปาเกติ ‘‘สเจ อุปชฺฌายสฺส อาจริยสฺส รชนํ ปจิตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อนฺเตวาสิเกน ปจิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๖๖, ๗๘; จูฬว. ๓๗๖, ๓๘๐) วุตฺตํ. โธวเนติ ‘‘สเจ อุปชฺฌายสฺส อาจริยสฺส จีวรํ โธวิตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อนฺเตวาสิเกน โธวิตพฺพํ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๖๖, ๗๘; จูฬว. ๓๗๖, ๓๘๐) วุตฺตํ. สิพฺพเนติ ‘‘สเจ อุปชฺฌาเยน อาจริเยน จีวรํ กาตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อนฺเตวาสิเกน กาตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๖๖, ๗๘; จูฬว. ๓๗๖, ๓๘๐) วุตฺตํ. จีวเร เถเว ิเต รชนฺโต น วเช น ปกฺกเมยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘จีวรํ รชนฺเตน สาธุกํ สมฺปริวตฺตกํ สมฺปริวตฺตกํ รชิตพฺพํ, น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๖๖, ๗๘; จูฬว. ๓๗๖, ๓๘๐) หิ วุตฺตํ.
๑๕๐. เอกจฺจสฺสาติ อาจริยุปชฺฌายานํ วิสภาคสฺส อนตฺถกามสฺส เวริปุคฺคลสฺส. อนาปุจฺฉาติ อาจริยุปชฺฌายานํ อนาโรเจตฺวา. กิฺจนนฺติ ยํ กิฺจิ.
๑๕๑-๒. ตสฺสาติ เอกจฺจสฺส. นินฺเนตุนฺติ นีหริตุํ. กิจฺจยํ ปริกมฺมํ วาติ เวยฺยาวจฺจํ วา ปิฏฺิปริกมฺมาทิปริกมฺมํ วา อตฺตนา ตสฺส กาตุํ วา เตน อตฺตโน การาเปตุํ วาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๑๕๓. สเจ อาจริยุปชฺฌายา อฺตฺถ คตา โหนฺติ, ปริเวณํ คนฺตฺวา อปสฺสนฺเตหิ คามํ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ. คามํ ปวิสนฺโต สเจ ปสฺสติ, อาปุจฺฉิตพฺพเมวาติ วทนฺติ. ‘‘อุปชฺฌายํ ¶ อนาปุจฺฉา น ทิสา ปกฺกมิตพฺพา’’ติ (มหาว. ๖๖, จูฬว. ๓๗๖) หิ วุตฺตํ. อตฺตโน กิจฺจยํ นาม อนฺโตวิหาเรปิ อตฺตโน ปตฺตปจนจีวรกมฺมเกสจฺเฉทนาทิ.
๑๕๔. สงฺฆายตฺตกมฺมานิ ¶ นาม ปริวาสมานตฺตอพฺภานตชฺชนียนิยสฺสปพฺพาชนียปฏิสารณียอุกฺเขปนาทโย.
๑๕๕. วุฏฺานํ เนสมาคเมติ ‘‘สเจ อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา คิลาโน โหติ, ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๖๖; จูฬว. ๓๗๖) หิ วุตฺตํ. อุปชฺฌาจริยวตฺตวินิจฺฉโย.
อุปชฺฌาจริยวตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖. วจฺจปฺปสฺสาวฏฺานิกนิทฺเทสวณฺณนา
๑๕๖. ยถาวุฑฺฒํ น กเรยฺย วจฺจนฺติ สมฺพนฺโธ. ยถานุปุพฺพิยา ลพฺภตีติ สมฺพนฺโธ. อิเมสุ ปน ตีสุ าเนสุ โย โย ปมํ อาคจฺฉติ วุฑฺโฒ วา นโว วา, โส โส อาคตปฏิปาฏิยา กาตฺุจ นหายิตฺุจ ลพฺภตีติ อธิปฺปาโย.
๑๕๗. อุพฺภชิตฺวาติ (จูฬว. ๓๗๓, ๓๗๔) นิวาสนํ ทูรโตว อุกฺขิปิตฺวา โน ปวิเสยฺย. สหสา จ โน ปวิเสยฺยาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘พหิ ิเตน อุกฺกาสิตพฺพ’’นฺติ จ ‘‘สาธุกํ อตรมาเนน วจฺจกุฏิ ปวิสิตพฺพา’’ติ จ วุตฺตตฺตา อุกฺกาสิตฺวาว อตรมาโน ปวิเสยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘น อุพฺภชิตฺวา ปวิสิตพฺพา, วจฺจปาทุกาย ิเตน อุพฺภชิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๓๗๔) วจนโต ‘‘อุพฺภเชยฺย ปาทุกาสฺเวว สณฺิโต’’ติ วุตฺตํ.
๑๕๘. น ¶ กเรยฺย อุภยํ น กเรยฺยุภยํ.
๑๕๙. กูเปติ (จูฬว. ๓๗๔) วจฺจกูเป. กฏฺนฺติ อวเลขนกฏฺํ. ปสฺสาวโทณิยา เขฬํ น กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. นาวเลเขยฺย ผรุเสนาติ ผาลิตกฏฺเน วา ขเรน วา คณฺิเกน วา ¶ กณฺฏเกน วา สุสิเรน วา ปูตินา วา นาวเลขิตพฺพนฺติ อตฺโถ. อุหตฺจาปีติ คูถมกฺขิตมฺปิ โธวเย อตฺตนา วา ปเรน วา กตนฺติ อธิปฺปาโย.
๑๖๐. อุพฺภชิตฺวา น นิกฺขเมติ เอตฺถ ‘‘วจฺจปาทุกาย ิเตน ปฏิจฺฉาเทตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๓๗๔) หิ วุตฺตํ, ปุน ‘‘อาจมนปาทุกายํ ิเตน อุพฺภชิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๓๗๔) จ วุตฺตํ. ‘‘จปุ จปู’’ติ สทฺทํ กตฺวา นาจเมยฺยาติ อตฺโถ. วจฺจปฺปสฺสาวฏฺานิกวินิจฺฉโย.
วจฺจปฺปสฺสาวฏฺานิกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๗. อาปุจฺฉกรณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๖๒. ตตฺถ ตตฺถ สนฺนิปติตานํ สพฺเพสํ วุฑฺโฒ วุฑฺฒตโร, ตสฺมึ วุฑฺฒตราคเม ปุน อาปุจฺฉนํ นตฺถิ. ภตฺตคฺเค จานุโมทโตติ เอตฺถ ทานปตินา ยาจิเตน ทหเรน วุฑฺเฒน อนาปุจฺฉิตฺวา กเถตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
๑๖๓. เอกวิหารเกติ เอโกวรเก วุฑฺเฒน วสนฺโต อนาปุจฺฉา น สชฺฌาเยยฺยาติ อตฺโถ. อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉฺจ โน ทเทติ อุทฺเทสํ วา ปริปุจฺฉํ วา โน ทเทยฺย.
๑๖๔. น ¶ วิวเรยฺย น ถเกยฺย จาติ สมฺพนฺโธ. ทฺวารํ นาม มหาวฬฺชํ, ตตฺถ อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ.
๑๖๕. วุฑฺเฒน จงฺกเม จงฺกมนฺโตปิ เยน วุฑฺโฒ, เตน ปริวตฺตเยติ สมฺพนฺโธ. อาปุจฺฉกรณวินิจฺฉโย.
อาปุจฺฉกรณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๘. นคฺคนิทฺเทสวณฺณนา
๑๖๖. ‘‘น ¶ ตฺเวว นคฺเคน อาคนฺตพฺพํ, โย อาคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๑๗) วุตฺตตฺตา (จูฬว. ๒๖๑;) ‘‘นคฺโค มคฺคํ น วเช’’ติ วุตฺตํ.
๑๖๗. ปฏิจฺฉาทิสูติ ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ชนฺตาฆเรปิ อุทเกปิ ปริกมฺมํ กาตุํ กุกฺกุจฺจายนฺติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติสฺโส ปฏิจฺฉาทิโย ชนฺตาฆรปฺปฏิจฺฉาทึ อุทกปฺปฏิจฺฉาทึ วตฺถปฺปฏิจฺฉาทิ’’นฺติ เอวํ วุตฺตาสุ ตีสุ ปฏิจฺฉาทีสูติ อตฺโถ. ทุเวติ เอตาสุ ตีสุ ปฏิจฺฉาทีสุ อุทกชนฺตาฆรปฺปฏิจฺฉาทิโย ปริกมฺเม กปฺปนฺตีติ อธิปฺปาโย. วตฺถจฺฉาทีติ วตฺถปฺปฏิจฺฉาทิ. สพฺพตฺถาติ ขาทนียสายนียาทีสุ สพฺพกมฺเมสุ กปฺปิยาติ อตฺโถ. นคฺควินิจฺฉโย.
นคฺคนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๙. นฺหานกปฺปนิทฺเทสวณฺณนา
๑๖๘. ปุรโตติ (จูฬว. ๓๗๒) เถรานํ ปุรโต อุปริ วา น จ นฺหาเยยฺยาติ อตฺโถ.
๑๖๙-๑๗๑. กุฏฺฏตฺถมฺภตรุฏฺฏาเนติ ¶ เอตฺถ (จูฬว. ๒๔๓; จูฬว. อฏฺ. ๒๔๓) กุฏฺเฏ วา ถมฺเภ วา ตรุมฺหิ วา อฏฺฏานผลเก วา กายํ น ฆํสเยติ อตฺโถ. คนฺธพฺพหตฺโถ นาม มกฺกฏหตฺถสทิโส ทารุอาทิมโย. กุรุวินฺทกสุตฺติยาติ กุรุวินฺทสุตฺติยา. มลฺลเกน วา อฺมฺํ วา. ‘‘น ภิกฺขเว วิคฺคยฺห ปริกมฺมํ การาเปตพฺพํ. โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๓) เอวํ วุตฺตํ วิคฺคหปริกมฺมํ สนฺธาย ‘‘อฺมฺํ วา’’ติ วุตฺตํ.
อิทานิ กปฺปิยานิ ทสฺเสตุํ ‘‘กปาลิฏฺกขณฺฑานี’’ติอาทิมาห. สพฺเพสํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ ¶ . คิลานสฺสปิ (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๓) อคิลานสฺสปิ อิมานิ กปาลิฏฺกขณฺฑาทีนิ กายฆํสเน วฏฺฏนฺติ. ปุถุปาณีติ (จูฬว. ๒๔๔) หตฺถปริกมฺมํ วุจฺจติ. ตสฺมา สพฺเพสํ หตฺเถน ปิฏฺิปริกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. อกตมลฺลกํ นาม เอกทาิมํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กตํ. ปาสาณาทโย ปาทฆํสเน เอว กปฺปิยา. นฺหานกปฺปวินิจฺฉโย.
นฺหานกปฺปนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๐. อวนฺทิยนิทฺเทสวณฺณนา
๑๗๒. ‘‘นานาสํวาสโก วุฑฺฒตโร อธมฺมวาที อวนฺทิโย’’ติ (จูฬว. ๓๑๒; ปริ. ๔๖๗) เอวํ วุตฺตตฺตา ลทฺธินานาสํวาสโก อิธ นานาสํวาสโก. ปาริวาสิยมูลายปฏิกสฺสนารหมานตฺตารหมานตฺตจาริอพฺภานารหา ครุกฏฺาติ อิธ คหิตา. อิเม ปน อฺมฺํ ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนาทีนิ ลภนฺติ, ปกตตฺเตน อวนฺทนียาติ อธิปฺปาโย. อวนฺทนียวินิจฺฉโย.
อวนฺทิยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๑. จมฺมนิทฺเทสวณฺณนา
๑๗๓. อิทานิ ¶ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ จมฺมานิ อตฺถรณานิ เอฬกจมฺมํ อชจมฺมํ มิคจมฺม’’นฺติ (มหาว. ๒๕๙) เอวํ วุตฺตจมฺมานิ ทสฺเสตุํ ‘‘มิคาเชฬกจมฺมานี’’ติอาทิมาห. ปริภฺุชิตุนฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๖๒) มฺจาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ อตฺถริตฺวา นิปชฺชิตุํ วา นิสีทิตุํ วา วฏฺฏนฺตีติ อตฺโถ. โรหิเตณีปสทา จ กุรุงฺคา จ จ-สทฺเทน อฺเปิ วาฬมิคา มิคมาตุกาทโยปิ มิคชาติกา เอวาติ อธิปฺปาโย.
‘‘มกฺกโฏ ¶ กาฬสีโห จ, สรโภ กทลีมิโค;
เย จ วาฬมิคา เกจิ, เตสํ จมฺมํ น วฏฺฏตี’’ติ. –
เอตฺถ วาฬมิคคฺคหเณน วุตฺตาวเสสา อนฺตมโส โคมหึสาทโย คหิตาติ เวทิตพฺพา. ถวิกาติ อุปาหนโกสกสตฺถโกสกกฺุจิกโกสกาติ เวทิตพฺพา, น ปตฺตตฺถวิกาทโย. จมฺมวินิจฺฉโย.
จมฺมนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๒. อุปาหนนิทฺเทสวณฺณนา
๑๗๕. คุณงฺคุณูปาหนาติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๕) จตุปฏลโต ปฏฺาย วุจฺจติ, น เอกทฺวิติปฏลโต ปฏฺาย ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกปลาสิกํ อุปาหนํ, น ภิกฺขเว ทิคุณา อุปาหนา ธาเรตพฺพา, น ติคุณา อุปาหนา ธาเรตพฺพา, น คุณงฺคุณูปาหนา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๕) วุตฺตตฺตา. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอมุกฺกํ คุณงฺคุณูปาหนํ, น ¶ ภิกฺขเว นวา คุณงฺคุณูปาหนา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๗) วุตฺตตฺตา ‘‘นวา’’ติ วุตฺตํ. สพฺพตฺถาปิ มชฺฌิมเทเส คิลาโนปิ นวํ คุณงฺคุณูปาหนํ น ลภติ, เอกวารมฺปิ อฺเหิ ปริภุตฺตํ โอมุกฺกอุปาหนสงฺขาตํ ลภติ, ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ คิลาโน นวมฺปิ ลภตีติ เวทิตพฺพํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ คุณงฺคุณูปาหน’’นฺติ (มหาว. ๒๕๙) อวิเสเสน วุตฺตตฺตา.
สพฺพสฺสาติ คิลานสฺสาปิ อคิลานสฺสาปีติ อตฺโถ. มชฺฌิมเทเสปิ ปจฺจนฺติมเทเสปิ อาราเม อารามูปจาเร คิลานสฺสาปิ อคิลานสฺสาปิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อชฺฌาราเม อุปาหนํ ธาเรตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๔๙) วุตฺตตฺตา กปฺปิยนฺติ อตฺโถ. สพฺพตฺถาติ อาราเมปิ คาเมปิ. อกลฺลกสฺสาติ คิลานสฺส. เอตฺถ ปน มชฺฌิมเทเส คิลานสฺส คุณงฺคุณูปาหนา ปริภุตฺตาว อาราเมปิ คาเมปิ วฏฺฏติ, ปจฺจนฺติมเทเส อปริภุตฺตาปิ. มชฺฌิมเทเสปิ ปจฺจนฺติมเทเสปิ ภควตา คิลานสฺเสว อุปาหนา อนฺุาตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยสฺส ปาทา วา ทุกฺขา, ปาทา วา ผลิตา, ปาทขิโล วา อาพาโธ, อุปาหนํ ธาเรตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๔๙) จ ¶ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลาเนน ภิกฺขุนา สอุปาหเนน คามํ ปวิสิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๕๖) วุตฺตตฺตา จ. มชฺฌิมเทเส จ คิลาโน นวํ คุณงฺคุณูปาหนํ ธาเรตุํ ยทิ ลภติ, กถํ ปเทสปฺตฺติ โหตีติ? สพฺพตฺถ ปน ภควตา คิลานสฺเสว อุปาหนา อนฺุาตา, ตสฺมา มชฺฌิมเทเส คิลาโน นวํ คุณงฺคุณูปาหนํ ลภตีติ คเหตพฺพนฺติ วทนฺติ.
๑๗๖-๙. สพฺพาว นีลกา (มหาว. ๒๔๖; มหาว. อฏฺ. ๒๔๖) สพฺพนีลกา. เอส นโย สพฺพตฺถ โอทาตกาทีสุปิ. โอทาตํ ปน เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถายํ ¶ ปฏิกฺขิตฺตํ, อนุโลมวเสน ปน อิธ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. มหารงฺครตฺตา สตปทิปิฏฺิวณฺณา. มหานามรงฺครตฺตา มนฺทรตฺตา. มฺเชฏฺิกา กณเวรปุปฺผวณฺณา. ปุปฺผลตาทีหิ วิจิตฺตา จิตฺรา. นีลปีตาทิวทฺธิกาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน โอทาตโลหิตมฺเชฏฺิกมหารงฺคมหานามรงฺครตฺตาทิวเสน วทฺธิกา คหิตา. สีหพฺยคฺฆุทฺทาชินทีปีนํ จมฺเมหิ จาติ สมฺพนฺโธ. โกจีติ คิลาโนปิ อคิลาโนปิ.
๑๘๐. สกลํ วา เอกเทสกํ วา รชนํ โจเฬน (มหาว. อฏฺ. ๒๔๖) ปฺุฉิตฺวา วฬฺเชยฺยาติ อตฺโถ. ขลฺลกาทิกํ ปน สพฺพํ หาริตฺวา วฬฺเชตพฺพํ. อุปาหนวินิจฺฉโย.
อุปาหนนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๓. อโนโลกิยนิทฺเทสวณฺณนา
๑๘๑. อิตฺถิยาติ ตทหุชาตายปิ ทาริกาย. อาทาเส (จูฬว. ๒๔๗) วา อุทกปตฺเต วา อตฺตโน มุขํ อวโลเกยฺย, อสฺส ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา อาทาเส วา อุทกปตฺเต วา มุขนิมิตฺตํ โอโลเกตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๔๗) วุตฺตตฺตาวณาทีนิ วา ‘‘ชิณฺโณ นุ โขมฺหิ, โน วา’’ติ เอวํ อายุสงฺขารํ วา โอโลเกตุํ วฏฺฏติ. อโนโลกิยวินิจฺฉโย.
อโนโลกิยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๔. อฺชนีนิทฺเทสวณฺณนา
๑๘๒. วฏฺฏา ¶ ¶ วา อฏฺโสฬสํสา วา มฏฺา ปุปฺผลตาทีหิ อจิตฺตกา อฺชนี วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ติสฺโสปิ วฏฺฏนฺติ, เอกาย วา ทฺวีสุ วา กถา เอว นตฺถีติ อธิปฺปาโย. เลขาติ วฏฺฏเลขา. พนฺธิตุนฺติ ปิธานกพนฺธนตฺถํ.
๑๘๓. รูปนฺติ สกุณรูปาทิ. ยทิ จ เอทิสํ อฺเหิ กตํ ลภติ, ฆํสิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา ยถา วา น ปฺายติ, ตถา สุตฺเตน เวเตฺวา วฬฺเชตพฺพํ.
๑๘๔. ถวิกาติ อฺชนิถวิกา. อฺชนิสลากาปิ ลพฺภตีติ สมฺพนฺโธ.
๑๘๕-๖. อฏฺีติ (มหาว. ๒๖๖; มหาว. อฏฺ. ๒๖๔) มนุสฺสฏฺึ เปตฺวา อวเสสฏฺิ. วิสาณทนฺเตสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ. อามลกกกฺกาทีหิ กตา ผลมยา. ตมฺมยาติ อิธ วุตฺเตเหว นิพฺพตฺตา. อฺชนีวินิจฺฉโย.
อฺชนีนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๕. อกปฺปิยสยนนิทฺเทสวณฺณนา
๑๘๗-๙. ‘‘อุจฺจโก อาสนฺทิโก อุปฺปนฺโน โหติ, อนุชานามิ ภิกฺขเว อุจฺจกมฺปิ อาสนฺทิก’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต มฺจสฺส อุปฑฺฒภาคปฺปมาเณน เอกโตภาเคน ทีฆมฺปิ สุคตงฺคุเลน อติเรกฏฺงฺคุลปาทกํ อิธ อาสนฺทีติ อธิปฺเปตํ, จตุรํสาสนฺทิโก ปน ปมาณาติกฺกนฺตโกปิ วฏฺฏติ. ตูลีติ ¶ ปกติตูลิกา. ปลฺลงฺโกนาม อาหริเมหิ วาเฬหิ กโตติ วุตฺโต. ตตฺเถว ‘‘สีหรูปาทึ ทสฺเสตฺวา กโต ปน วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ปฏิกนฺติ เสตตฺถรณํ. โคนจิตฺตกนฺติ เอตฺถ จตุรงฺคุลาธิกโลโม โกชโว ‘‘โคนโก’’ติ วุจฺจติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โกชว’’นฺติ (มหาว. ๓๓๗) จีวรกฺขนฺธเก วุตฺตตฺตา จตุรงฺคุลโลมกํ ปกติโกชวํ วฏฺฏติ. รตนจิตฺตํ จิตฺตกํ น วฏฺฏติ. ปฏลีติ ฆนปุปฺผรตฺตอตฺถรณํ ¶ . วิกตีติ สีหพฺยคฺฆาทิรูปวิจิตฺโต อุณฺณามยตฺถรณโก. อุทฺทโลมีติ เอกโตอุคฺคตปุปฺผํ. เอกนฺตโลมิกาติ อุภโตอุคฺคตปุปฺผํ.
กุตฺตนฺติ โสฬสนฺนํ นาฏกิตฺถีนํ ตฺวา นจฺจนโยคฺคํ อุณฺณามยตฺถรณํ. โกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกเสยฺยสุตฺตมยํ ปจฺจตฺถรณํ. กฏฺฏิสฺสนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยํ ปจฺจตฺถรณํ. โกเสยฺยฺจ กฏฺฏิสฺสฺจ รตนปริสิพฺพิตาเนว น วฏฺฏนฺติ, สุทฺธานิ วฏฺฏนฺติ. หตฺถิอสฺสรถตฺถรา เตสํ อุปริ อตฺถรณกอตฺถรณาว. อชินปฺปเวณีติ อชินจมฺเมหิ มฺจปฺปมาเณน สิพฺพิตฺวา กตา ปเวณี, เตน จ กทลีมิคจมฺมํ เสตวตฺถสฺส อุปริ ปตฺถริตฺวา สิพฺพิตฺวา กตํ ปวรปฺปจฺจตฺถรณํ กทลีมิคปฺปวรปฺปจฺจตฺถรณํ, เตน จ อตฺถตํ อชินปฺปเวณีกทลีมิคปฺปวรปฺปจฺจตฺถรณตฺถตํ.
เสตวิตานมฺปิ เหฏฺา อกปฺปิยปฺปจฺจตฺถรเณ สติ น วฏฺฏติ, กปฺปิยปฺปจฺจตฺถรเณ สติ วฏฺฏติ, รตฺตวิตานสฺส เหฏฺา กปฺปิยปฺปจฺจตฺถรเณ สติปิ น วฏฺฏติ เอว. สีสูปธานํ ปาทูปธานนฺติ มฺจสฺส อุภโตโลหิตกํ อุปธานํ น วฏฺฏติ. ยํ ปน เอกเมว อุปธานํ โหติ, อุโภสุ อนฺเตสุ รตฺตํ วา ปทุมวณฺณํ วา จิตฺตํ วา, สเจ ปมาณยุตฺตํ, วฏฺฏติ, มหาอุปธานํ ปน ปฏิกฺขิตฺตํ.
๑๙๐. อาสนฺทาทิตฺตยาติ ¶ อาสนฺที ตูลี ปลฺลงฺโกติ อิทํ ตยํ นามํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เปตฺวา ตีณิ อาสนฺทึ ปลฺลงฺกํ ตูลิกํ เสสกํ คิหิวิกฏํ อภินิสีทิตุํ, น ตฺเวว อภินิปชฺชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๑๔) หิ วุตฺตํ. เสเส คิหิสนฺตเก นิสีทิตุํ ลพฺภตีติ อตฺโถ. ยทิ ธมฺมาสเน สงฺฆิกมฺปิ โคนกาทึ ภิกฺขูหิ อนาณตฺตา อารามิกาทโย สยเมว ปฺเปนฺติ เจว นีหรนฺติ จ, เอตํ คิหิวิกฏนีหารํ นาม, อิมินา คิหิวิกฏนีหาเรน วฏฺฏติ. ภตฺตคฺคํ นาม วิหาเร เอว ทานฏฺานํ.
๑๙๑. จตุนฺนํ ปาทานํ, ตีสุ ปสฺเสสุ อปสฺสยานฺจ วเสน สตฺตงฺโค. เอกปสฺเสน ยุตฺโต ปฺจงฺโค. อิเม ปน สตฺตงฺคปฺจงฺคา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺจกมฺปิ สตฺตงฺค’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๔) วุตฺตตฺตา ปมาณาติกฺกนฺตาปิ วฏฺฏนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุจฺจปาทกา’’ติ. ตูโลนทฺธา มฺจปีา ฆเรเยว นิสีทิตุํ กปฺปนฺตีติ สมฺพนฺโธ.
๑๙๒. จีวรจฺฉวิโยติ ¶ ฉนฺนํ จีวรานํ, ฉนฺนํ อนุโลมจีวรานฺจ อฺตรจีวรจฺฉวิโยติ อตฺโถ. สพฺพตฺถาติ มฺเจปิ ปีเปิ ภตฺตคฺเคปิ อนฺตรฆเรปีติ อตฺโถ. อิมาสํ ปน ภิสีนํ ปมาณปริจฺเฉโทปิ นตฺถิ, มฺจปีาทีนํ วเสน อนุรูปํ สลฺลกฺเขตฺวา ปมาณํ กาตพฺพํ.
๑๙๓. ‘‘ตูลิกา อุปฺปนฺนา โหติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิชเฏตฺวา พิมฺโพหนํ กาตุํ, ตีณิ ตูลานิ รุกฺขตูลํ ลตาตูลํ โปฏกิตูล’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วุตฺตตฺตา ตูลตฺตยฺจ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗; กงฺขา. อฏฺ. ตูโลนนฺทสิกฺขาปทวณฺณนา) พิมฺโพหเน ¶ วฏฺฏติ. อิเมหิ ตีหิ ตูเลหิ สพฺเพสํ รุกฺขลตาติณานํ ตูลํ อนฺุาตนฺติ เวทิตพฺพํ. ภิสิยํ ปน กิฺจิ ตูลํ น วฏฺฏติเยว. ภิสิคพฺโภติ ภิสิยา วุตฺตํ โจฬาทิปฺจกํ พิมฺโพหเน อนฺุาตนฺติ สมฺพนฺโธ. มิคปกฺขินนฺติ สีหาทีนํ สพฺพจตุปฺปทานํ หํสโมราทีนํ สพฺพปกฺขีนํ โลมานิ กปฺปนฺติ. มสูรเก อนฺุาตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๑๙๔. อิทานิ ภิสิยํ กปฺปิยากปฺปิยํ ทสฺเสตุํ ‘‘มนุสฺสโลม’’นฺติอาทิมาห. อุณฺณายนฺติ (จูฬว. ๒๙๗; จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗) อุณฺณาภิสิยํ มนุสฺสโลมํ น ลพฺภตีติ อตฺโถ. อุณฺณาภิสิยมฺปิ มนุสฺสโลมํ เปตฺวา เยสํ เกสฺจิ ปกฺขิจตุปฺปทานํ โลมํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ปณฺเณติ ปณฺณภิสิยฺจ ปุปฺผฺจ สุทฺธํ ตมาลปตฺตฺจ น ลพฺภํ, อวเสสํ ยํ กิฺจิ ปณฺณํ ลพฺภตีติ อตฺโถ. ตมาลปตฺตกมฺปิ อฺเหิ มิสฺสํ วฏฺฏตีติ. โจฬวากติเณสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ. อาสนฺเจว อปฺปฏิเวกฺขิตํ น ลพฺภนฺติ อาสนสามฺโต ปสงฺเคน วุตฺตํ. อกปฺปิยสยนวินิจฺฉโย.
อกปฺปิยสยนนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๖. สมานาสนิกนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๕. ติณฺณํ วสฺสานํ อนฺตรํ ติวสฺสนฺตรํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติวสฺสนฺตเรน สห ¶ นิสีทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) หิ วุตฺตํ. โย ทฺวีหิ วสฺเสหิ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐) วุฑฺโฒ วา นโว วา, โส ติวสฺสนฺตโร นาม.
๑๙๖. มุนีติ พุทฺธมุนิ. สพฺเพเหวาติ อนุปสมฺปนฺเนหิปิ.
๑๙๗. อนฺตนฺติ ¶ ปจฺฉิมํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ติณฺณํ ปโหติ, เอตฺตกํ ปจฺฉิมํ ทีฆาสน’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) วุตฺตตฺตา ยํ ติณฺณํ ปโหติ, เอตํ สํหาริมํ วา โหตุ อสํหาริมํ วา, ตถารูเปสุ ผลกขณฺเฑสุปิ นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. ทฺวินฺนนฺติ ทฺวินฺนํ สมานาสนิกานํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทุวคฺคสฺส มฺจํ ทุวคฺคสฺส ปี’’นฺติ (จุฬว. ๓๒๐) วุตฺตตฺตา ทฺเว สมานาสนิกา สห นิสีทิตุํ ลภนฺติ. อฺเหิ อสมานาสนิเกหิ, อนุปสมฺปนฺนาทีหิ วา ทฺเว หุตฺวาปิ นิสีทิตุํ น ลภนฺติ. สมานาสนิกวินิจฺฉโย.
สมานาสนิกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๗. อสํวาสิกนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๘. อุกฺขิตฺโตติ อาปตฺติยา อทสฺสเน, อปฺปฏิกมฺเม, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค วา อุกฺขิตฺตโกติ ติวิโธปิ อิธ อุกฺขิตฺโต คหิโต. อนุปสมฺปนฺโนติ อิมินา สิกฺขมานสามเณรสามเณรีสิกฺขาปจฺจกฺขาตกา คหิตาติ เวทิตพฺพา. ฉินฺนมูลโก นาม อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนโก. นานาสํวาโสติ ลทฺธินานาสํวาสโก. ‘‘นานาสีมาย ิตจตุตฺโถ กมฺมํ กเรยฺย, อิทฺธิยา เวหาเส ิตจตุตฺโถ กมฺมํ กเรยฺย, อกมฺมํ น จ กรณีย’’นฺติ หิ วุตฺตตฺตา อิเมปิ ‘‘อสํวาสิกา’’ติ วุตฺตา. เอเตสุ ปน อุกฺขิตฺตเกหิ สทฺธึ อุโปสถาทีนิ กโรนฺโต ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ. นิสฺสีมฏฺเวหาสฏฺเหิ กโรนฺตสฺส กมฺมํ กุปฺปติ, ทุกฺกฏฺจ โหติ, อิตเรหิ ทุกฺกฏํ. อสํวาสิกวินิจฺฉโย.
อสํวาสิกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๘. กมฺมนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๙. อธมฺมกมฺมนฺติ ¶ ¶ เอตฺถ กถํ อธมฺมกมฺมํ โหตีติ เจ? วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อธมฺมกมฺมํ? ตฺติทุติเย เจ, ภิกฺขเว, กมฺเม เอกาย ตฺติยา กมฺมํ กโรติ, น จ กมฺมวาจํ อนุสฺสาเวติ, อธมฺมกมฺมํ. ทฺวีหิ ตฺตีหิ กมฺมํ กโรติ, น จ กมฺมวาจํ อนุสฺสาเวติ, อธมฺมกมฺมํ. เอกาย กมฺมวาจาย กมฺมํ กโรติ, น จ ตฺตึ เปติ, อธมฺมกมฺมํ. ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ กมฺมํ กโรติ, น จ ตฺตึ เปติ, อธมฺมกมฺม’’นฺติ (มหาว. ๓๘๗). อิมินา นเยน เสสกมฺเมสุปิ วุตฺตปฺปกาเรน อกตฺวา อฺถา กรณํ อธมฺมกมฺมนฺติ เวทิตพฺพํ.
วคฺเคนาติ วคฺเคน สงฺเฆน. กถฺจ วคฺคํ โหตีติ เจ? ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อนาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อนาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา ปฏิกฺโกสนฺติ, วคฺคกมฺมนฺติ อิเมสุ เยน เกนจิ เอเกนปิ องฺเคน วคฺคํ โหติ.
สมคฺเคนาติ สมคฺเคน สงฺเฆน. กถํ สมคฺคํ โหตีติ เจ? ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา นปฺปฏิกฺโกสนฺติ, สมคฺคกมฺมนฺติ เอวํ.
จตุตฺถนฺติ สมคฺเคน ธมฺมิกํ. เอตฺตาวตา ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กมฺมานิ, อธมฺเมน วคฺคกมฺมํ, อธมฺเมน สมคฺคกมฺมํ, ธมฺเมน วคฺคกมฺมํ, ธมฺเมน สมคฺคกมฺม’’นฺติ (มหาว. ๓๘๔) เอวํ วุตฺตานิ จตฺตาริ กมฺมานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ.
๒๐๐-๒๐๒. ทสวคฺคิโก (มหาว. ๓๘๘; กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) วีสติวคฺคิโก จ ทสวีสติวคฺคิโก. อพฺภาโนปสมฺปทาปฺปวารณา เปตฺวา สพฺพกมฺเมสุ กมฺมปฺปตฺโตติ สมฺพนฺโธ. เอวํ เสเสสุปิ. อิตโรติ วีสติวคฺโค จ อติเรกวีสติวคฺโค จ.
๒๐๓. อิทานิ ¶ กมฺมปฺปตฺเต จ ฉนฺทารเห จ ทสฺเสตุํ ‘‘จตุวคฺเคนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ (ปริ. ๔๘๘, ๔๙๗; ปริ. ๔๘๗-๔๘๘) ปกตตฺตา นาม เย ปาราชิกอุกฺขิตฺตลทฺธินานาสํวาสกา ¶ น โหนฺติ. ปเรติ เอกสีมฏฺา ปกตตฺตา ภิกฺขู. ยทิ ปกตตฺตา ภิกฺขูปิ อฺตรํ คามสีมํ วา นทีสมุทฺทชาตสฺสรขณฺฑสีมาสุ วา อฺตรํ ปวิสิตฺวา ิตา โหนฺติ, เนว กมฺมปฺปตฺตา, น ฉนฺทารหา. น หิ เตสํ ฉนฺโท วา ปาริสุทฺธิ วา อาคจฺฉติ อฺสีมายํ ิตตฺตา. เสเสปีติ ปฺจวคฺคาทิกรณีเยปีติ อตฺโถ.
๒๐๔. อสํวาสคณปูรํ วา กตฺวา กตํ กมฺมํ กุปฺปฺจ โหติ, การกานฺจ ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. ‘‘ยสฺส สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, ตํจตุตฺโถ กมฺมํ กเรยฺย, อกมฺมํ น จ กรณีย’’นฺติ (มหาว. ๓๘๙) วุตฺตตฺตา ‘‘กมฺมารหคณปูรํ วา’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ ปริวาสาทิกมฺมานํเยว ปริสโต วิปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘ครุกฏฺคณปูรํ วา’’ติ วุตฺตํ. ตมฺปิ อนิกฺขิตฺตวตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. นิกฺขิตฺตวตฺโต ปน สพฺพตฺถ คณปูรโก โหติ เอว.
๒๐๕. วาเรยฺยาติ ปฏิกฺขิเปยฺย. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อธมฺมกมฺเม กยิรมาเน ปฏิกฺโกสิตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๕๔) หิ วุตฺตํ. อนฺตราเย สตีติ อตฺโถ. ‘‘อธมฺมกมฺมํ อิทํ, น เมตํ ขมตี’’ติ เอวํ ทฺเว ตโย อฺมฺํ ทิฏฺึ อาวิ กเรยฺยุนฺติ อตฺโถ. ยทิ เอโก โหติ, ‘‘น เมตํ ขมตี’’ติ เอวํ อธิฏฺานํ กเรยฺยาติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา เอเต นิราปตฺติกา โหนฺติ, อนฺตรายา จ มุจฺจนฺติ, กมฺมํ ปน อธมฺมตฺตา กุปฺปเมว. วาเรนฺเตว ตโตธิกาติ เอตฺถ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตูหิ ปฺจหิ ปฏิกฺโกสิตุํ, ทฺวีหิ ตีหิ ทิฏฺึ อาวิ กาตุํ, เอเกน อธิฏฺาตุํ, ‘‘น เมตํ ขมตี’’ติ (มหาว. ๑๕๔) วุตฺตตฺตา จตฺตาโร วา ปฺจ วา วาเรนฺติ เอวาติ อตฺโถ.
๒๐๖. อิทานิ ¶ เยหิ ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘กมฺมารหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขิตฺตจิตฺต-คฺคหเณน อุมฺมตฺตโกปิ คหิโตว. เอเตสนฺติ เย วุตฺตปฺปการา, เตสํ ปฏิกฺเขโป น รุหตีติ อตฺโถ.
๒๐๗. อิทานิ ยสฺส ปฏิกฺเขโป รุหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปกตตฺเตกสีมฏฺ-สมสํวาสภิกฺขุโน’’ติ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ (มหาว. ๓๙๔) – เอวรูปสฺส ภิกฺขุโน ปฏิกฺโกสนา อนฺตมโส อานนฺตรสฺสาปิ อาโรเจนฺตสฺส รุหตีติ. ‘‘ภิกฺขุสฺส, ภิกฺขเว ¶ , ปกตตฺตสฺส สมานสํวาสิกสฺส สมานสีมายํ ิตสฺส อนฺตมโส อานนฺตริกสฺสปิ ภิกฺขุโน วิฺาเปนฺตสฺส สงฺฆมชฺเฌ ปฏิกฺโกสนา รุหตี’’ติ (มหาว. ๓๙๔) วุตฺตํ.
๒๐๘. สมฺมุขา ยทิ ปฏิกฺโกเสยฺยาติ อตฺโถ. ติโรกฺขาติ ปรมฺมุขา. กายสามคฺคึ วา ฉนฺทํ วา โน ทเทยฺย, ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. กมฺมวินิจฺฉโย.
กมฺมนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๙. มิจฺฉาชีววิวชฺชนานิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๙. จุณฺณนฺติ สิรีสจุณฺณาทิกนฺติ อตฺโถ. มตฺติกาติ ปกติมตฺติกา วา ปฺจวณฺณา วา สุทฺธา กุงฺกุฏฺอาทิกา วา. กุลสงฺคหาติ เอเตหิ สงฺคหิตานํ สนฺติเก ลาภาสาย กุลสงฺคหตฺถนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน อิเมหิ สงฺคหิตานํ สนฺติเก ‘‘กิฺจิ ลภิสฺสามี’’ติ สงฺฆิกํ วา ปุคฺคลิกํ วา ทาตุํ น วฏฺฏติ เอว. อิมินา ปน นเยน ลทฺธํ ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น วฏฺฏติ, มิจฺฉาชีวฺจ โหติ.
๒๑๐-๒๑๑. ลาภาสาย ¶ ทายกานํ ทารเก อุกฺขิปิตฺวา ปริภฏภาโว ปาริภฏกตา, ตาย ปาริภฏกตาย น ชีวเยติ สมฺพนฺโธ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เขตฺตาทีสุ เปสิตสฺส คมนํ ปเหณกมฺมํ. สาสนปฺปฏิสาสนหรณํ ทูตกมฺมํ. เปสิตสฺส เคหโต เคหคมนํ ชงฺฆเปสนิยํ. ลาภาสาย ลฺชทานมนุปฺปทานํ. อฺเน วาปีติ องฺควิชฺชาทินา.
๒๑๒. วิฺตฺตีติ (ปารา. ๕๑๕ อาทโย; ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๕ อาทโย) อฺาตกวิฺตฺติ. อเนสนาติ ปุพฺเพ วุตฺเตน ปุปฺผทานาทินา ปจฺจเยสนา. กุหนาทีหีติ (วิภ. ๘๖๑; วิภ. อฏฺ. ๘๖๑; มหานิ. ๘๗) กุหนา ลปนา เนมิตฺตกตา นิปฺเปสิกตา ¶ ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตาติ อิเมหิ ปฺจหิ วตฺถูหีติ อตฺโถ. มิจฺฉาชีววินิจฺฉโย.
มิจฺฉาชีววิวชฺชนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๐. วตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๒๑๓. อิทานิ อาคนฺตุกวตฺตาทีนิ ทสฺเสตุํ ‘‘วตฺต’’นฺติ มาติกาปทํ อุทฺธฏํ. ปริกฺขิตฺตสฺส (จูฬว. ๓๕๖ อาทโย; จูฬว. อฏฺ. ๓๕๗ อาทโย) วิหารสฺส ปริกฺเขปํ, อปริกฺขิตฺตสฺส ทฺวีหิ เลฑฺฑุปาเตหิ ปริจฺฉินฺนฏฺานํ ปตฺวา อุปาหนํ โอมฺุจิตฺวา นีจํ กตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อุปาหนํ ทณฺฑเกน คเหตฺวา ฉตฺตํ อปนาเมตฺวา สีสํ วิวริตฺวา สีเส จีวรํ ขนฺเธ กริตฺวา สาธุกํ อตรมาเนน อาราโม ปวิสิตพฺโพติ อตฺโถ.
๒๑๔. ปุจฺเฉยฺย ¶ สยนาสนนฺติ ‘‘กตมํ เม เสนาสนํ ปาปุณาติ, กึ อชฺฌาวุตฺถํ วา อนชฺฌาวุตฺถํ วา’’ติ เอวํ ปุจฺฉิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๒๑๕-๖. มฺจปีาทิทารุภณฺฑฺจ (จูฬว. ๓๖๐; จูฬว. อฏฺ. ๓๖๐) รชนภาชนาทิมตฺติกาภณฺฑฺจ. อาปุจฺฉาติ ภิกฺขุสฺส วา สามเณรสฺส วา อารามิกสฺส วา ‘‘อาวุโส อิมํ ชคฺคาหี’’ติ อาโรเจตฺวาติ อตฺโถ. อฺถาติ เอวํ อกตฺวาติ อตฺโถ.
๒๑๗-๘. วุฑฺฒาคนฺตุกสฺสาติ เอตฺถ (จูฬว. ๓๕๘ อาทโย; จูฬว. อฏฺ. ๓๕๙ อาทโย) ทูรโตว ทิสฺวา ยทิ ‘‘วุฑฺโฒ’’ติ ชานาติ, ตสฺมึ อนาคเต เอว อาสนปฺาปนาทิวตฺตํ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปาโททปฺปภุตินฺติ ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปานีเยน อาปุจฺฉนฺเตน สเจ สกึ อานีตํ ปานียํ สพฺพํ ปิวติ, ปุนปิ อาปุจฺฉิตพฺโพ เอว. ปฺเปติ ‘‘เอตํ ตุมฺหากํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๒๑๙-๒๐. ‘‘ภิกฺขาจารคาโม ¶ อิโต ทูเร’’ติ วา ‘‘สนฺติเก’’ติ วา ‘‘กาลสฺเสว ปิณฺฑาย จริตพฺพ’’นฺติ วา ‘‘อุปฏฺาเก จริตพฺพ’’นฺติ วา โคจโร อาจิกฺขิตพฺโพ. อโคจโรติ มิจฺฉาทิฏฺิกานํ วา คาโม, ปริจฺฉินฺนภิกฺขโก วา คาโม, ยตฺถ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา ภิกฺขา ทียติ, โส อาจิกฺขิตพฺโพติ อตฺโถ. กติกนฺติ สงฺฆสฺส กติกฏฺานํ. ‘‘อิมํ กาลํ ปวิสิตพฺพํ, อิมํ กาลํ นิกฺขมิตพฺพ’’นฺติ เอวํ ปเวสนนิกฺขมนกาลํ อาจิกฺขิตพฺพํ. เกสุจิ าเนสุ อมนุสฺสา วา วาฬา วา โหนฺติ, ตสฺมา เอวํ อาจิกฺขิตพฺพเมว. นิสินฺโนวาติ อิทํ อาปตฺติอภาวมตฺตทีปกํ, อุฏฺหิตฺวาปิ สพฺพํ กาตุํ วฏฺฏเตว. วตฺตวินิจฺฉโย.
วตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๑. วิกปฺปนานิทฺเทสวณฺณนา
๒๒๑. สมฺมุขายาติ ¶ (ปาจิ. ๓๗๔; ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙; กงฺขา. อฏฺ. วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา) สมฺมุเข ิตสฺสาติ อตฺโถ. พฺยตฺตสฺสาติ วิกปฺปนวิธานํ ปจฺจุทฺธรณาทิวิธานฺจ ชานนฺตสฺส. อพฺยตฺโต ปน ‘‘อิมินา มยฺหํ ทินฺน’’นฺติ คเหตฺวาปิ คจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ. เอกสฺสาติ เอกสฺส ภิกฺขุสฺส.
๒๒๒. นิเธตุํวาติ นิเธตุํ เอว, นิสฺสคฺคิยํ น โหตีติ อตฺโถ. ปริภฺุชิตุํ วา วิสฺสชฺเชตุํ วา อธิฏฺาตุํ วา น วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
๒๒๔-๕. อปรา สมฺมุขา วาติ สมฺมุขา วิกปฺปนา เอวาติ อตฺโถ. อิมา ทฺเว วิกปฺปนา อตฺตนา เอว วิกปฺเปตฺวา ปเรน ปจฺจุทฺธราปิตตฺตา สมฺมุขา วิกปฺปนา เอวาติ วุตฺตา.
๒๒๗. มิตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต. สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมตฺโต นาติทฬฺหมิตฺโต. ‘‘อิตเรน จ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ‘ติสฺโส ภิกฺขู’ติ วา ‘ติสฺสา ภิกฺขุนี’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน เตน ‘อหํ ติสฺสสฺส ¶ ภิกฺขุโน, ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา วา ทมฺมี’ติ วิกปฺเปตฺวา เตเนว ‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน, ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’ติ ปจฺจุทฺธริตพฺพ’’นฺติ เอวํ ปาโ คเหตพฺโพ.
๒๒๘. ทูรสนฺติกตฺเตกตฺต-พหุภาวํ วิชานิยาติ เอตฺถ ทูรตฺตฺจ สนฺติกตฺตฺจ เอกตฺตฺจ พหุภาวฺจ วิชานิตฺวาติ อตฺโถ.
๒๒๙. ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๔๖๒) วุตฺตตฺตา ‘‘ทสาหํ วา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘จีวรกาลสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ¶ ปฺจ มาสา’’ติ (ปารา. ๖๔๙) วุตฺตตฺตา ‘‘มาสเมกํ วา ปฺจ วา’’ติ วุตฺตํ, มาสํ วา เอกํ ปฺจ วา มาเสติ อตฺโถ. ‘‘ภิกฺขุโน ปเนว อกาลจีวรํ อุปฺปชฺเชยฺย, อากงฺขมาเนน ภิกฺขุนา ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ปฏิคฺคเหตฺวา ขิปฺปเมว กาเรตพฺพํ. โน จสฺส ปาริปูริ, มาสปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตํ จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ อูนสฺส ปาริปูริยา สติยา ปจฺจาสายา’’ติ (ปารา. ๔๙๙) วุตฺตตฺตา ‘‘ปจฺจาสา สติ มาสก’’นฺติ วุตฺตํ. นุปฺปาทยตีติ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ นิสฺสคฺคึ น ชนยตีติ อตฺโถ. วิกปฺปนาวินิจฺฉโย.
วิกปฺปนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๒. นิสฺสยนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๐. พฺยตฺตสฺสาติ เอตฺถ กิตฺตาวตา พฺยตฺโต โหตีติ เจ? นิสฺสยมุจฺจนเกน ปน สพฺพนฺติเมน ธมฺมปริจฺเฉเทน อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ ทฺเว มาติกา ปคุณา วาจุคฺคตา กาตพฺพา, ปกฺขทิวเสสุ ธมฺมสฺสาวนตฺถาย สุตฺตนฺตโต จตฺตาโร ภาณวารา, สมฺปตฺตานํ ปริสานํ ปริกถนตฺถาย อนฺธกวินฺทมหาราหุโลวาทธมฺมกฺขนฺธสทิโส เอโก กถามคฺโค, สงฺฆภตฺตมงฺคลามงฺคเลสุ อนุโมทนตฺถาย ติสฺโส อนุโมทนา, อุโปสถปฺปวารณาทิวิชานนตฺถํ กมฺมากมฺมวินิจฺฉโย ¶ , สมณธมฺมกรณตฺถํ สมาธิวเสน วา วิปสฺสนาวเสน วา อรหตฺตปริโยสานํ เอกํ กมฺมฏฺานํ เอตฺตกํ อุคฺคเหตพฺพํ. เอตฺตาวตา พฺยตฺโต นาม โหติ จาตุทิโส, อิตรถา อพฺยตฺโต.
๒๓๑. อิทานิ นิสฺสยคฺคหณาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกํส’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ (มหาว. ๑๐๓) อายสฺมโตติ อายสฺมนฺตํ.
๒๓๒. อิทานิ ¶ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิธานํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปกฺกนฺเต’’ติอาทิ วุตฺตํ, ‘‘ปฺจิมา, ภิกฺขเว, นิสฺสยปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อุปชฺฌายมฺหา. อุปชฺฌาโย ปกฺกนฺโต วา โหติ วิพฺภนฺโต วา กาลกโต วา ปกฺขสงฺกนฺโต วา อาณตฺติเยว ปฺจมี’’ติ (มหาว. ๘๓), ‘‘ฉยิมา, ภิกฺขเว, นิสฺสยปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อาจริยมฺหา. อาจริโย ปกฺกนฺโต วา โหติ วิพฺภนฺโต วา กาลกโต วา ปกฺขสงฺกนฺโต วา อาณตฺติเยว ปฺจมี, อุปชฺฌาเยน วา สโมธานคโต โหตี’’ติ อิทํ ปน อุภยํ อิธ ทสฺสิตํ. สเจ อาจริยุปชฺฌายา สามนฺตวิหาเรสุปิ อปริกฺขิตฺเตสุ เลฑฺฑุปาตทฺวยพฺภนฺตเร วสนฺติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ปริกฺขิตฺเตสุปิ น ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ เอเก. อาจริยา ปน น อิจฺฉนฺติ. กสฺมาติ เจ? นิสฺสยคฺคหณปฺปฏิปฺปสฺสทฺธีนํ อุปจารสีมาย ปริจฺฉินฺนตฺตา. เลฑฺฑุปาเตน อุปจารสีมาปริจฺเฉโท ปน อปริกฺขิตฺเตสุ เอว ลพฺภติ, น ปริกฺขิตฺเตสุ. ตสฺมา อาจริยานํ วินิจฺฉเยว าตพฺพํ.
ปกฺกนฺเตติ เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๘๓) สเจ อาจริโย อนฺเตวาสิกํ อนามนฺเตตฺวาว อุปจารสีมํ อติกฺกมติ, นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ อุปจารสีมํ อนติกฺกมิตฺวาว นิวตฺตติ, น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อาจริยํ อนามนฺเตตฺวา อนฺเตวาสิกสฺส คมเนปิ เอเสว นโย. สเจ อาจริโย กตฺถจิ คนฺตุกาโม อนฺเตวาสิกํ อาปุจฺฉติ, อนฺเตวาสิโกปิ ‘‘สาธุ สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ตงฺขเณ เอว ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เอวํ อาจริยํ อาปุจฺฉิตฺวา อนฺเตวาสิกสฺส คมเนปิ. ทฺวีสุปิ อนฺโตวิหาเรเยว ิเตสุ อาจริโย วา อนฺเตวาสิกํ, อนฺเตวาสิโก วา อาจริยํ อนาปุจฺฉิตฺวาว สเจ ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมติ, ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ปกฺขสงฺกนฺเต วา วิพฺภนฺเต วา กาลกเต วา ตงฺขเณเยว ปฏิปฺปสฺสมฺภติ ¶ . อาณตฺติ นาม นิสฺสยปฺปณามนา. ทสฺสนสวนวเสน ทุวิธํ สโมธานํ.
๒๓๓. อลชฺชินฺติ ¶ เอตฺถ –
‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชติ;
อาปตฺตึ ปริคูหติ;
อคติคมนฺจ คจฺฉติ;
เอทิโส วุจฺจติ อลชฺชิปุคฺคโล’’ติ. (ปริ. ๓๕๙) –
เอวํ วุตฺตํ. ‘‘น ภิกฺขเว อลชฺชินํ นิสฺสาย วตฺถพฺพํ. โย วเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๒๐) หิ วุตฺตํ.
๒๓๔. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺเนน ภิกฺขุนา นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุ’’นฺติ (มหาว. ๑๒๑) วุตฺตตฺตา ‘‘อทฺธิกสฺสา’’ติ วุตฺตํ. คิลานุปฏฺากสฺส จ ยาจิตสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานุปฏฺาเกน ภิกฺขุนา นิสฺสยํ อลภมาเนน ยาจิยมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุ’’นฺติ (มหาว. ๑๒๑) หิ วุตฺตํ. สลฺลกฺเขนฺเตน ผาสุกนฺติ ผาสุวิหารํ สลฺลกฺเขนฺเตน. อิทํ ปน ปริหารํ (มหาว. อฏฺ. ๑๒๑) โสตาปนฺนาทิอริยสาวโก วา ถามคตสมถวิปสฺสนาลาภี วา พาลปุถุชฺชโน วา น ลภติ. ยสฺส โข ปน สมถวิปสฺสนา ตรุณา โหติ, น ถามคตา, อยํ ลภติ. อสนฺเต นิสฺสยทายเก ‘‘ยทา ปฏิรูโป นิสฺสยทายโก อาคจฺฉิสฺสติ, ตทา ตสฺส นิสฺสาย วสิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา ยาว อาสาฬฺหีปุณฺณมา, ตาว วสิตุํ ลภติ. สเจ ปน อาสาฬฺหีมาเส นิสฺสยทายกํ น ลภติ, ยตฺถ อตฺถิ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ. อนฺโตวสฺเส ปน อนิสฺสิเตน วตฺถุํ น วฏฺฏติ. สภาเค ¶ ทายเก อสนฺเต วสิตุํ ลพฺภตีติ สพฺพปเทสุ โยชนา กาตพฺพา. นิสฺสยวินิจฺฉโย.
นิสฺสยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๓. กายพนฺธนนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๕. อกายพนฺธโนติ ¶ กายพนฺธนํ อพนฺธิตฺวาติ อตฺโถ. ตโต ปฏฺาย จีวรํ ปารุปิตพฺพํ, ตโต ปฏฺาย เอว กายพนฺธนํ พนฺธิตพฺพํ. ‘‘น ภิกฺขเว อกายพนฺธเนน คาโม ปวิสิตพฺโพ. โย ปวิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๗๘) หิ วุตฺตํ. ตตฺเถวาสติยา คโตติ อสติยา คโต ยตฺถ สรติ, ตตฺเถว พนฺธิตพฺพํ. สริตฺวา ปน ยาว น พนฺธติ, ตาว ปิณฺฑาย จริตุํ น วฏฺฏติ. ยทิ อนฺโตคาเม สรติ, กายพนฺธเน สติ เอกมนฺเต ตฺวา พนฺธิตพฺพํ, อสติ เจ นิกฺขมิตฺวา พนฺธิตฺวา ปุน ปิณฺฑาย ปวิสิตพฺพนฺติ วทนฺติ.
๒๓๖. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว กายพนฺธนานิ ปฏฺฏิกํ สูกรนฺตก’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๘) วุตฺตตฺตา ‘‘ทุวิธ’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ สูกรนฺตํ นาม กฺุจิกาโกสกา วิย อนฺเต สุสิรํ กตฺวา โกฏฺฏิตํ. รชฺชุ จ เอกาติ เอกวฏฺฏา รชฺชุ จ. ตทนุโลมิกาติ เตสํ ทฺวินฺนํ อนุโลมิกา.
๒๓๗. มจฺฉกณฺฑกขชฺชุรี-ปตฺตา มฏฺา จ ปฏฺฏิกาติ เอตฺถ (จูฬว. อฏฺ. ๒๗๘) เอเต มจฺฉกณฺฏกาทโย มฏฺา วิการรหิตา ปฏฺฏิกา จ ตทนฺโตคธาติ อธิปฺปาโย. ลพฺภา ทสา จตสฺโสติ เอกาย วา ทฺวีสุ วา ตีสุ วา กถา เอว นตฺถีติ อธิปฺปาโย, ตโต ปรํ น วฏฺฏติ. อนฺเตสูติ อุโภสุ อนฺเตสุ. คุณสุตฺตกนฺติ ทิคุณสุตฺตกํ.
๒๓๙. มกรมุขาทินฺติ ¶ อาทิ-สทฺเทน เทฑฺฑุภสีสํ คหิตํ. อุภนฺเตติ อุโภสุ อนฺเตสุ. กสฺสาติ? วิธสฺส. ฆฏกาติ ฆฏกโต. เลขาติ เลขาย. ฆฏกโต จ เลขาย จ อฺํ จิตฺตกํ น กปฺปตีติ อตฺโถ.
๒๔๐. เทฑฺฑุภกนฺติ (จูฬว. ๒๗๘; จูฬว. อฏฺ. ๒๗๘) อุทกสปฺปสิรสทิสํ. มุรชนฺติ พหุรชฺชุเก เอกโต สงฺกฑฺฒิตฺวา เอกาย รชฺชุยา ปลิเวเตฺวา กตรชฺชุ. มทฺทวีณนฺติ ปามงฺคสทิสํ. กลาพุกนฺติ อเนกวฏฺฏํ. เอตานิ ปน สพฺพานิ น กปฺปนฺติ. ทสาสุ ทฺเว มชฺฌิมาติ มุรชํ มทฺทวีณนฺติ ทฺเว มชฺฌิมา เอว. กปฺปเรติ กปฺปนฺตีติ อตฺโถ.
๒๔๑. คณฺิโย ¶ จาปีติ (จูฬว. ๒๗๙) จีวรคณฺิโยปิ. เวฬุอาทิมยา กปฺปนฺตีติ ปสงฺเคน วุตฺตํ. กายพนฺธนวินิจฺฉโย.
กายพนฺธนนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปมภาณวารํ.
๓๔. ปถวีนิทฺเทสวณฺณนา
๒๔๒. ชาตา (ปาจิ. ๘๖; ปาจิ. อฏฺ. ๘๖-๘๘; กงฺขา. อฏฺ. ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา) อชาตาติ ทุวิธา ปถวีติ อตฺโถ. อิทานิ ตทุภยํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุทฺธมตฺติกปํสุกา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุทฺธมตฺติกปํสุกา จ อทฑฺฒา จ พหุมตฺติกปํสุกา จ จาตุมาสาธิโกวฏฺปํสุมตฺติกราสิ จ ชาตปถวีติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ ปน อทฑฺฒาติ อุทฺธนปจนกุมฺภการาวาปภาชนปจนาทิวเสน ตถา ตถา อทฑฺฒา. อยํ ปน วิสุํ นตฺถิ, สุทฺธปํสุอาทีสุ อฺตราว เวทิตพฺพา. สุทฺธปํสุ สุทฺธมตฺติกา ¶ เยภุยฺเยนปํสุ เยภุยฺเยนมตฺติกา อติเรกจาตุมาสาธิโกวฏฺมตฺติกาปํสุปฺุชา จ อทฑฺฒา จาติ อยํ สพฺพาปิ ชาตปถวีติ เวทิตพฺพา.
๒๔๓. ทุติยาติ อชาตปถวีติ อตฺโถ. วุตฺตราสีติ มตฺติกราสิ จ ปํสุราสิ จ จาตุมาโสมวฏฺโก อชาตปถวีติ อตฺโถ.
๒๔๔. อิทานิ เยภุยฺเยนมตฺติกา เยภุยฺเยนปํสุกา เยภุยฺเยนสกฺขราติ เอวํ วุตฺตาสุ กิตฺตาวตา เยภุยฺยตา โหตีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺเว ภาคา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตีสุ ภาเคสุ ทฺเว ภาคา มตฺติกา ยสฺสา ภูมิยา, เอสา เยภุยฺยมตฺติกาติ สมฺพนฺโธ. อุปฑฺฒปํสุอาทโยปิ กปฺปิยา เอว อกปฺปิยภาคสฺส อนติเรกโต. ‘‘เยภุยฺเยนมตฺติกา เยภุยฺเยนปํสุกา’’ติ (ปาจิ. ๘๖) หิ วุตฺตํ, น ‘‘อุปฑฺฒมตฺติกา, อุปฑฺฒปํสุกา’’ติ. เสเสสุปีติ เยภุยฺยปํสุกาทีสุปิ.
๒๔๕. ชาตสฺิสฺส ¶ ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ทฺเวฬฺหสฺส วิมติสฺส ทุกฺกฏํ. ชาเต อชาตสฺิสฺส อนาปตฺติ.
๒๔๖. เอกายาณตฺติยา เอกาติ สเจ สกึ อาณตฺโต ทิวสมฺปิ ขณติ, อาณาปกสฺส เอกา เอวาติ อตฺโถ. วาจโสติ วาจาย วาจายาติ อตฺโถ.
๒๔๗. เอตฺถ ‘‘ชาเลหิ อคฺคิ’’นฺติ วา วตฺตุํ น วฏฺฏติ. อนิยเมตฺวา ปน ‘‘โปกฺขรณึ ขณ, ปถวึ ขณ, วาปึ ขณ, อาวาฏํ ขณ, กนฺทํ ขณา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
๒๔๘. เอทิสนฺติ เอตฺถ อฺมฺปิ เอวรูปํ กปฺปิยโวหารวจนํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย.
๒๔๙. โกเปตุํ ¶ ลพฺภนฺติ สมฺพนฺโธ, ฆฏาทีหิ คเหตุํ สกฺกุเณยฺยกํ อุสฺสิฺจนียกทฺทมํ.
๒๕๑-๒. อุทกสนฺติเก ปติเตติ สมฺพนฺโธ. อุทเก ปติตํ ปน สพฺพกาลํ กปฺปิยเมว, ตสฺมา อกปฺปิยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุทกสนฺติเก’’ติ วุตฺตํ. ปาสาเณ ลคฺเค รเช จ นวโสณฺฑิยา ปติเต รเช จาติ สมฺพนฺโธ. อพฺโภกาสุฏฺิเต วมฺมิเก จ มตฺติกากุฏฺเฏ จาติ อตฺโถ, ตถา เอเตปิ สพฺเพ จาตุมาสาธิโกวฏฺา น โกเปตพฺพาติ อตฺโถ.
๒๕๓-๕. ภูมึ วิโกปยํ ถมฺภาทึ คณฺหิตุํ น จ กปฺปตีติ สมฺพนฺโธ. ธารายาติ ปสฺสาวธาราย. ปทํ ทสฺเสสฺสามีติ สมฺพนฺโธ.
๒๕๗. เสโกติ สิฺจนํ. ภูมิยา อลฺลหตฺถํ เปตฺวาติ สมฺพนฺโธ.
๒๕๘. อวเส สตีติ หตฺถทาหาทีสุ อาปทาสูติ อตฺโถ. ปถวีวินิจฺฉโย.
ปถวีนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๕. ปริกฺขารนิทฺเทสวณฺณนา
๒๕๙-๒๖๐. คิริกูฏนฺติ ¶ มกรทนฺตกํ. สิพฺพิตฺุจ ฉินฺทิตฺุจ น วฏฺฏตีติ สพฺพตฺถ โยชนา. ทณฺเฑติ ฉตฺตทณฺเฑ.
๒๖๑. สิพฺพิตุํ วา ปฺชรํ วินนฺธิตุํ วา ถิรตฺถํ ฉตฺเต พนฺธิตุํ ทณฺเฑ เลขา วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. สเจ วุตฺตปฺปการํ อกปฺปิยฉตฺตํ ¶ ลภติ, ฆฏกมฺปิ วาฬรูปมฺปิ ฉินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพํ, เลขาปิ ฆํเสตฺวา อปเนตพฺพา, สุตฺตเกน วา ทณฺโฑ เวเตพฺโพ.
๒๖๒. อนุวาตํ สนฺธาย ‘‘อนฺเต วา’’ติ วุตฺตํ. ทฺวินฺนํ ปฏฺฏานํ สงฺฆฏิตฏฺานํ สนฺธาย ‘‘ปฏฺฏมุเข วาปี’’ติ วุตฺตํ. วรกสีสากาเรน สิพฺพนํ สนฺธาย ‘‘เวณิกา’’ติ จ สตปทากาเรน สิพฺพนํ สนฺธาย ‘‘สงฺขลิกาปิ วา’’ติ จ วุตฺตํ. สตปทิสทิสํ อฺํ วา สูจิวิการํ น กปฺปติ, ปกติสูจิกมฺมเมว วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ปาฬิกณฺณิกอาทิกํ จีวเร น จ กปฺปตีติ สมฺพนฺโธ.
๒๖๓-๔. จตุโกณาว (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕) กปฺปเรติ สมฺพนฺโธ. อคฺฆิกนฺติ อคฺฆิยํ เจติยสทิสํ. เอตฺถาติ คณฺิปาสกปฏฺเฏ. โกณสุตฺตา จ ปีฬกาติ น เกวลํ จตุโกณา คณฺิกปาสกปฏฺฏาว กปฺปนฺติ, อถ โข ทุวิฺเยฺยา โกณสุตฺตปีฬกา จ กปฺปเรติ อตฺโถ. คนฺธํ เตลํ วาติ คนฺธํ วา เตลํ วา.
๒๖๕. รตฺตนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕) รชิตํ. อฺเน วาติ มุคฺคราทินา วา. กตฺวาติ เปตฺวา. ปหาเร น จ มุฏฺินาติ มุฏฺินา น ปหาเรยฺยาติ อตฺโถ.
๒๖๖-๗. ฉตฺตวฏฺฏิยํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕) เลขํ เปตฺวา ธมฺมกรเณ เลขา น วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. กฺุจิกาย จ ปิปฺผเล จ มณิกา จ ปีฬกา จ น วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ มณิกาติ เอกา เอว วฏฺฏมณิกา. ปีฬกา มุตฺตราชิสทิสา พหู.
๒๖๘-๙. มาลาทฺยรณิยนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕) อรณิยํ มาลาทิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏตีติ ¶ สมฺพนฺโธ. เอวํ สพฺพตฺถ. ติปุสีสมเย ปตฺตมณฺฑเล ภิตฺติกมฺมฺจ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. หิตฺวาติ เปตฺวา. สูจิสณฺฑาสโก (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕) ¶ นาม สูจึ ฑํสาเปตฺวา ฆํสิตุํ กโต ทารุมโย. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มกรทนฺตกํ ฉินฺทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๓) วุตฺตตฺตา ปตฺตมณฺฑเล มกรทนฺตกํ วฏฺฏติ, อฺํ ภิตฺติกมฺมาทิวิการเมว น วฏฺฏติ, ตสฺมา คิริกูฏํ ปตฺตมณฺฑเล เปตฺวา อวเสเส น วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ.
๒๗๒. เสนาสเนติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕) ปาสาทาทิเสนาสเนติ อตฺโถ.
๒๗๓. ปุมิตฺถิรูปรหิตนฺติ ปุริสรูปอิตฺถิรูปรหิตนฺติ อตฺโถ. ปริกฺขารวินิจฺฉโย.
ปริกฺขารนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๖. เภสชฺชนิทฺเทสวณฺณนา
๒๗๔-๕. สหธมฺมินํ ลพฺภํ เภสชฺชกรณนฺติ สมฺพนฺโธ. น เกวลํ ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํเยว ภิกฺขาจริยวิฺตฺติสเกหิ เภสชฺชกรณํ ลพฺภติ, อถ โข อปเรสมฺปิ ปฺจนฺนํ ลพฺภติ, เต ทสฺเสนฺโต ‘‘ปิตูน’’นฺติอาทิมาห. ปิตูนนฺติ มาตาปิตูนนฺติ อตฺโถ. เย มาตาปิตโร ชคฺคนฺติ อุปฏฺหนฺติ, เต ตทุปฏฺากา นาม. ภิกฺขุํ เอว นิสฺสาย ชีวนฺโต ภิกฺขุนิสฺสิตโก นาม. ปพฺพชฺชาเปกฺโข ‘‘ภณฺฑู’’ติ วุจฺจติ.
๒๗๖. อปเรสมฺปิ ทสนฺนํ กาตุํ วฏฺฏติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘มหาจูฬปิตา’’ติอาทิมาห. เอตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๕-๑๘๗) ปน มหาปิตา จูฬปิตา มหามาตา จูฬมาตา มหาภาตา จูฬภาตา มหาภคินี จูฬภคินีติ อิเมหิ อฏฺหิ อาทิ-สทฺเทน ปิตุภคินิฺจ ¶ มาตุภาติกฺจ คเหตฺวา ทส. เอเตสํ ปน สเกน เภสชฺเชน กาตพฺพํ. อตฺตนิเย จ อสตีติ ปาเสโส.
๒๗๗. น เกวลฺจ เอเตสํ ทสนฺนํ, อิเมหิ สมฺพนฺธานํ ปุตฺตนตฺตาทีนํ ยาวสตฺตมา กุลปริวฏฺฏา ¶ กาตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘กุลทูสนา’’ติอาทิมาห. อฺโปิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๕-๒๘๗) โย อาคนฺตุโก วา โจโร วา ยุทฺธปราชิโต วา อิสฺสโร าตเกหิ ปริจฺจตฺโต วา คมิยมนุสฺโส วา คิลาโน หุตฺวา วิหารํ ปวิสติ, สพฺเพสมฺปิ อปจฺจาสีสนฺเตน เภสชฺชํ กาตพฺพํ.
๒๗๘. มาตา (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๕-๑๘๗) ปิตา ตทุปฏฺาโก ภิกฺขุนิสฺสิตโก ปณฺฑุปลาโส เวยฺยาวจฺจกโรติ อิเมสํ ฉนฺนํ อนามฏฺปิณฺฑปาโต อวาริโตติ อตฺโถ. กิฺจ ภิยฺโย – ทามริกโจรสฺส จ อิสฺสริยสฺส จ ทาตุมวาริโตติ อตฺโถ.
๒๗๙. เตสนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๕-๑๘๗) คหฏฺานํ. สาสโนคธนฺติ รตนปริตฺตอาฏานาฏิยปริตฺตาทิปริตฺตํ ภณิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๒๘๐. ‘‘อาคนฺตฺวา (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๕-๑๘๗) สีลํ เทตุ, ธมฺมฺจ ปริตฺตฺจ ภาสตู’’ติ เกนจิ เปสิโตติ สมฺพนฺโธ. ทาตุํ วตฺตุนฺติ สีลํ ทาตุํ, ธมฺมฺจ ปริตฺตฺจ วตฺตุํ ลพฺภตีติ อตฺโถ. เภสชฺชวินิจฺฉโย.
เภสชฺชนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๗. อุคฺคหนิทฺเทสวณฺณนา
๒๘๑. ทสเภทมฺปีติ ¶ สเจ เกนจิ เหฏฺา ทสฺสิตํ ทสวิธํ รตนํ อาเนตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา นวกมฺมสฺส วา อฺปุคฺคลสฺส วา สุตฺตนฺติกคณสฺส วา ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ.
๒๘๒-๓. เตสุ ทสวิเธสุ รตเนสูติ อตฺโถ. ทฺวีสูติ รชตชาตรูเปสุ. คณสงฺฆปุคฺคเล (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙) อนามสิตฺวา ‘‘อิทํ หิรฺสุวณฺณํ เจติยสฺส ทมฺมิ, นวกมฺมสฺส ¶ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต น ปฏิกฺขิเปติ อตฺโถ. กึ กาตพฺพนฺติ เจ? ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วเท’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อิเม เอวํ วทนฺตี’’ติ กปฺปิยการานํ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๒๘๔. น เกวลํ หิรฺสุวณฺณาทิกเมว, อฺมฺปิ เขตฺตวตฺถาทิกํ อกปฺปิยํ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพนฺติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เขตฺตํ วตฺถุ’’นฺติอาทิมาห. ทาสปสุอาทิกํ ทาสปสฺวาทิกํ. สเจ หิ โกจิ ‘‘มยฺหํ สสฺสสมฺปาทกํ มหาตฬากํ อตฺถิ, ตํ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, ตฺเจ สงฺโฆ สมฺปฏิจฺฉติ. ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺติเยว. เอวํ เสเสสุปิ.
กปฺปิเยน กเมน คณฺเหยฺยาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เขตฺตํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อิโต จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชถา’’ติ วา ‘‘จตุปจฺจยปริโภคตฺถาย ทมฺมี’’ติ วา วทติ เจ, คเหตพฺพํ. วตฺถุมฺหิปิ เอเสว นโย. ‘‘ตฬากํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชถา’’ติ วา ‘‘สงฺโฆ อุทกํ ปริภฺุชิสฺสติ, ภณฺฑกํ โธวิสฺสตี’’ติ วา อาทินา นเยน วุตฺเต สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. ‘‘ทาสํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อารามิกํ, เวยฺยาวจฺจกรํ, กปฺปิยการกํ ทมฺมี’’ติ ¶ วุตฺเต สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. ‘‘โคมหึสอเชฬกาทโย ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘ปฺจโครสปริโภคตฺถายา’’ติ วุตฺเต สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. เอทิสํ คหณํ สนฺธาย ‘‘ปฏิกฺขิปิตฺวา คณฺเหยฺยา’’ติ วุตฺตํ.
๒๘๕-๖. นวมาติกเกทารตฬากกิริยา (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๘-๒๓๙) จ อนเว ปุพฺเพ กปฺปิยโวหาเรน ปฏิกฺขิปิตฺวา คหิตตฬาเก มตฺติกุทฺธรณฺจ ภินฺนฏฺาเน ปาฬิพนฺโธ จ ทุพฺพลฏฺาเน อาฬิยา ถิรกาโร จ อนเว เกทาเร ปุราณภาคโต อติเรกภาคคฺคหณฺจ นเว เกทาเร อปริจฺฉินฺนภาเค ‘‘สสฺเส เทถ เอตฺตเก’’ติ กหาปณุฏฺาปนฺจาปีติ อิทํ สพฺพํ ภิกฺขุสฺส กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ กโรติ, เอวมาทิกํ สพฺเพสมฺปิ อกปฺปิยนฺติ อตฺโถ.
๒๘๗-๙. อิทานิ ตํเยว อกปฺปิยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อวตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๘-๒๓๙) – โย ปน ‘‘กส, วปฺป’’ อิจฺจาทิกํ อวตฺวา ‘‘เอตฺติกาย ภูมิยา เอตฺตโก ภาโค เทยฺโย’’ติ ภูมึ วา ปติฏฺาเปติ, ‘‘เอตฺตเก ภูมิภาเค สสฺสํ กตํ, เอตฺตกํ คณฺหถา’’ติ กสฺสเก วทนฺเต ปมาณคณฺหนตฺถํ ทณฺฑรชฺชุภิ มินติ, ขเล ตฺวา รกฺขณาทีนิ กโรติ, ตสฺเสว อกปฺปิยนฺติ.
๒๙๐. ภณฺฑาคาริกสีเสน ¶ ปิตุสนฺตกมฺปิ สเจ ปฏิสาเมยฺย, ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ.
๒๙๑-๒. ปิตูนนฺติ มาตาปิตูนํ. สาฏกาทิกปฺปิยํ วตฺถุํ. ‘‘ปฏิสาเมตฺวา เทหี’’ติ วุตฺเตติ สมฺพนฺโธ. ปาเตตฺวาน คเต ยสฺมา อชฺฌารามสิกฺขาปทวเสน (ปาจิ. ๕๐๕-๕๐๖) ปลิโพโธ, ตสฺมา โคปิตุํ ลพฺภนฺติ อตฺโถ.
๒๙๓-๔. สกํ ¶ วาสิอาทิปริกฺขารนฺติ อตฺโถ. อิทํ านํ คุตฺตนฺติ ทสฺเสตพฺพํ. ‘‘เอตฺถ เปถา’’ติ ปน น วตฺตพฺพํ.
๒๙๕. เอตฺถ ‘‘อฺโ โกจิ น ปวิสติ, ภิกฺขูหิ วา สามเณเรหิ วา คหิตํ ภวิสฺสตี’’ติ สงฺกนฺตีติ อตฺโถ. วตฺถุมฺหีติ อลงฺการาทิวตฺถุมฺหีติ อตฺโถ. ตาทิเสติ ยาทิเส วตฺถุมฺหิ นฏฺเ อาสงฺกา โหติ, ตาทิเส วตฺถุมฺหิ นฏฺเติ สมฺพนฺโธ.
๒๙๖. อิทานิ อสงฺกิตพฺพฏฺานํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิหาราวสถสฺสนฺโต’’ติอาทิมาห. วิหารสฺส จ ฆรสฺส จาติ อตฺโถ. รตนนฺติ ทสวิธํ รตนํ. รตฺนสมฺมตนฺติ สาฏกเวนาทิกํ. คเหตฺวานาติ กปฺปิยการเก อสติ อตฺตนาปิ คเหตฺวาน นิกฺขิเปยฺยาติ อตฺโถ. มคฺเครฺเปีติ มคฺเคปิ อรฺเปิ. ตาทิเสติ ‘‘ภิกฺขูหิ คหิตํ ภวิสฺสตี’’ติ อาสงฺกิตพฺพฏฺาเน. ปติรูปํ กรียตีติ มคฺเค วา อรฺเ วา ตาทิสํ ภณฺฑํ ปสฺสิตฺวา มคฺคา โอกฺกมฺม นิสีทิตพฺพํ, สามิเกสุ อาคเตสุ ตํ านํ อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ สามิเก น ปสฺสติ, รตนสมฺมตํ ปํสุกูลํ คเหตพฺพํ. รตนฺเจ โหติ, ตุณฺหีภูเตน คนฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. อยํ มคฺคารฺเกสุ ปฏิปตฺติ. วิหาราวสถานํ ปน อนฺโต ตาทิสํ ทิสฺวา ภณฺฑกํ มฺุจิตฺวา ‘‘เอตฺถ เอตฺตกา กหาปณา’’ติอาทินา นเยน รูเปน วา ลฺฉนาย วา ปิโลติกาย วา สฺาณํ กตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ, ตโต ปกฺกมนฺเตน ปติรูปานํ ภิกฺขูนํ อาจิกฺขิตพฺพํ. อุคฺคหวินิจฺฉโย.
อุคฺคหนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๘. กุลทูสนนิทฺเทสวณฺณนา
๒๙๗. ‘‘กุลานิ ¶ ¶ ทูเสติ ปุปฺเผน วา ผเลน วา จุณฺเณน วา มตฺติกาย วา ทนฺตกฏฺเน วา เวฬุยา วา เวชฺชิกาย วา ชงฺฆเปสนิเยน วา’’ติ (ปารา. ๔๓๗) วุตฺตตฺตา ตานิ อฏฺ วตฺถูนิ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุปฺผ’’นฺติอาทิมาห. อิมาย มิจฺฉาปฏิปตฺติยา กุลานํ อฺเสุ สีลวนฺเตสุ ปสาทํ ทูเสติ วินาเสตีติ กุลทูสนํ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. ตํ ปน อตฺตโน สนฺตเก จ ปรสนฺตเก จ เวทิตพฺพํ.
๒๙๘. อิทานิ อิเมสุ วตฺถูสุ น เกวลํ กุลทูสนทุกฺกฏเมว อาปชฺชติ, ถุลฺลจฺจยาทีนิปิ อาปชฺชตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ถุลฺลจฺจย’’นฺติอาทิมาห. สงฺฆิกํ ครุภณฺฑํ อิสฺสเรน เทนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ สมฺพนฺโธ. เสนาสนตฺถาย นิยมิตํ ปน ปุปฺผาทิ ครุภณฺฑํ โหติ. สงฺฆสฺส วา อฺสฺส วา สนฺตกํ เถยฺยจิตฺเตน เทนฺตสฺส ทุกฺกฏาทีนิ โหนฺตีติ ปาเสโส, ตสฺส ภณฺฑสฺส อคฺฆวเสน ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกานิ โหนฺตีติ อตฺโถ.
๒๙๙-๓๐๐. สพฺพถาติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) กปฺปิยโวหารอกปฺปิยโวหารปริยายโอภาสนิมิตฺตกมฺมาทีหิ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. วติอาทีนิ กตฺวา ชคฺคิตฺุจ. อตฺตโน ปริโภคตฺถนฺติ ผลปริโภคตฺถํ. โรปนาทีนีติ โรปาปนาทีนิ. อาทิ-สทฺเทน สิฺจาปนโอจินาปนาทีนิ คหิตานิ. กุทฺทาลขณิตฺติวาสิผรสุอุทกภาชนาทีนิ อาหริตฺวา สมีเป ปนวเสน นิมิตฺตโต จ กุทฺทาลขณิตฺตาทีนิ จ มาลาวจฺเฉ จ คเหตฺวา ิเต ‘‘สามเณราทโย ทิสฺวา ‘เถโร การาเปตุกาโม’ติ อาคนฺตฺวา กโรนฺตี’’ติ สฺาย โอภาสโต จ ‘‘อิมํ รุกฺขํ ชาน, อิมํ อาวาฏํ ชานา’’ติอาทิกปฺปิยโวหารโต ¶ จ ‘‘ปณฺฑิเตน มาลาวจฺฉาทโย โรปาเปตพฺพา, น จิรสฺเสว อุปการาย สํวตฺตนฺตี’’ติอาทิปริยายโต จ โรปนาทีนิ ลพฺภเรติ สมฺพนฺโธ.
๓๐๑-๒. อิทานิ อฏฺสุ วตฺถูสุ อวเสสานิ ทฺเว วตฺถูนิ ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตาว เวชฺชิกา ชงฺฆเปสเน’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ เวชฺชิกา ปุพฺเพ วุตฺตาว, อิทานิ ชงฺฆเปสนาทิวินิจฺฉยํ วกฺขามีติ อตฺโถ. ปิตโรติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๖-๔๓๗) มาตาปิตโร. ภณฺฑุนฺติ ปพฺพชฺชาเปกฺขํ. ภิกฺขุสฺส สกํ เวยฺยาวจฺจกรฺจาติ เอเต เปตฺวา กสิวาณิชฺชาทิคิหิกมฺเมสุ ทูตสาสนํ หรเณ ¶ ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. ปมํ สาสนํ อคฺคเหตฺวา ปุน ตํ ทิสฺวา วา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วา วทโตปิ ทุกฺกฏเมวาติ อตฺโถ. สาสนํ อคฺคเหตฺวา อาคตานํ ปน ‘‘ภนฺเต, ตสฺมึ คาเม อิตฺถนฺนามสฺส กา ปวตฺตี’’ติ ปุจฺฉิยมาเน กเถตุํ วฏฺฏติ. ปุจฺฉิตปฺเห โทโส นตฺถิ.
๓๐๓. เอวํ กุลทูสเนน อุปฺปนฺนปจฺจยา. ‘‘ปฺจนฺนมฺปี’’ติ วุตฺตตฺตา อนุปสมฺปนฺเนน กตมฺปิ เอทิสํ น วฏฺฏติ เอว มิจฺฉาชีวตฺตา. อาตุมาวตฺถุ (มหาว. ๓๐๓) เจตฺถ นิทสฺสนํ. กึ วิยาติ เจ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อภูตาโรจนารูป-สพฺโยหารุคฺคหาทิสา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อุคฺคหาทิสาติ เอเตหิ อุปฺปนฺนปจฺจยสทิสาติ อตฺโถ.
๓๐๔. อิทานิ ปุปฺผาทีนิ เกสํ ทาตุํ วฏฺฏนฺติ, เกสํ ทาตุํ น วฏฺฏนฺตีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘หราเปตฺวา’’ติอาทิมาห. ปิตูนํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๖-๔๓๗) ทาตุํ ลพฺภตีติ สมฺพนฺโธ. เสสาตีนํ ปตฺตานํ เอว. ลิงฺคนฺติ สิวลิงฺคํ.
๓๐๕. ตถา ¶ ผลนฺติ ผลมฺปิ มาตาปิตูนํ หริตฺวาปิ หราเปตฺวาปิ ทาตุํ ลพฺภตีติ อตฺโถ. น เกวลํ มาตาปิตูนํเยว, อฺเสมฺปิ ทาตุํ ลพฺภตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘คิลานาน’’นฺติอาทิมาห. สปรสนฺตกนฺติ เอตฺถ ปโรติ อตฺตโน วิสฺสาสฺาตโก เอว อธิปฺเปโต.
๓๐๖. ภาเชนฺเตติ สงฺฆสฺส ผลปุปฺผมฺหิ ภาชิยมาเน สมฺมเตน เทยฺยนฺติ สมฺพนฺโธ. อิตเรน อสมฺมเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๓๐๗. ปริจฺฉิชฺชาติ อาคตานํ ทาตพฺพนฺติ ผลวเสน วา รุกฺขวเสน วา ปริจฺฉินฺทิตฺวาติ อตฺโถ. อิตรสฺสาติ อิสฺสราทิกสฺส. กติกํ วตฺวาติ ‘‘อิมสฺมึ รุกฺเข เอตฺตกานิ ผลานิ ลพฺภนฺตี’’ติ เอวํ วตฺวา.
๓๐๘. เสเสติ มตฺติกาทนฺตกฏฺเวฬุมฺหิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๖-๔๓๗). ยถาวุตฺตนโย เอวาติ เอตฺถ อตฺตโน จ ปรสฺส จ สนฺตกํ กุลสงฺคหตฺถาย ททโต ทุกฺกฏนฺติอาทินา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ¶ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. ปณฺณมฺปีติ กิฺจาปิ ปาฬิยํ ปณฺณทานํ น วุตฺตํ, ตถาปิ กุลทูสเน ปเวสเยติ อตฺโถ. กุลทูสนวินิจฺฉโย.
กุลทูสนนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๙. วสฺสูปนายิกนิทฺเทสวณฺณนา
๓๐๙-๓๑๐. อิทานิ วสฺสูปคมนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุริมิกา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปุริมิกา ปจฺฉิมิกา (มหาว. ๑๘๔; มหาว. อฏฺ. ๑๘๕) เจติ ทฺเว วสฺสูปนายิกาติ อตฺโถ. อาลยปริคฺคาโห วา วจีเภโท วา ¶ วสฺสูปนายิกาติ ปาเสโส. อิทานิ วตฺตพฺพํ สนฺธาย ‘‘เอทิโส’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาเทตฺถ อาลโย (มหาว. อฏฺ. ๒๐๓). อาลยปริคฺคาโห ปน วเช วา สตฺเถ วา นาวาย วา วสฺสํ อุปคนฺตุกามสฺส ตตฺถ เสนาสนํ อลภนฺตสฺส ลพฺภติ, สตฺถาทีสุ ปน วสฺสํ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏตีติ กตฺวา. ยทิ สตฺถาทีสุ กวาฏพนฺธํ เสนาสนํ ลพฺภติ, ตตฺถ อุปคนฺตพฺพํ. อุปคจฺฉนฺเตน จ ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. วิหาเร ปน วจีเภโท วา กาตพฺโพ. สเจ ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ อาลโย อตฺถิ, อสติยา ปน วสฺสํ น อุเปติ, ฉินฺนวสฺโส น โหติ, ปวาเรตฺุจ ลภติ เอว.
๓๑๑. โนเปตุกาโม อาวาสํ, ตทหูติกฺกเมยฺย วาติ ปาเ (มหาว. ๑๘๖) อติกฺกมนฺตสฺส อาวาสํ ตทหุ วสฺสูปนายิกาติปิ อตฺโถ. อาวาสํ อติกฺกเมยฺย วาติ สมฺพนฺโธ. ชานํ วานุปคจฺฉโตติ เอตฺถ วิหาเร นิสีทิตฺวาปิ อนุปคจฺฉโต ทุกฺกฏาปตฺติ โหตีติ อธิปฺปาโย.
๓๑๒. ฉินฺนวสฺโส (วชิร. ฏี. มหาวคฺค ๒๐๘) วา เกนจิ อนฺตราเยน ปมํ อนุปคโต (มหาว. ๑๘๕-๑๘๖) วา ทุติยํ อุปคจฺเฉยฺยาติ สมฺพนฺโธ. เตมาสนฺติ ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ. ‘‘น ภิกฺขเว วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปุริมํ วา ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ ¶ อวสิตฺวา จาริกา ปกฺกมิตพฺพา. โย ปกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๘๕) หิ วุตฺตํ.
๓๑๓-๕. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺตนฺนํ สตฺตาหกรณีเยน อปฺปหิเตปิ คนฺตุํ, ปเคว ปหิเต, ‘ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยา มาตุยา จ ปิตุสฺส จ, คิลานภตฺตํ วา ปริเยสิสฺสามิ, คิลานุปฏฺากภตฺตํ วา ปริเยสิสฺสามิ, คิลานเภสชฺชํ ¶ วา ปริเยสิสฺสามิ, ปุจฺฉิสฺสามิ วา อุปฏฺหิสฺสามิ วา’ติ สตฺตาหํ สนฺนิวตฺโต กาตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๙๘) วุตฺตตฺตา ‘‘มาตาปิตูนมตฺถาย…เป… อุปฏฺิสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถายํ สงฺเขโป – ‘‘มาตาทีนํ คิลานภตฺตํ วา ตทุปฏฺากภตฺตํ วา คิลานานํ โอสธํ วา เอสิสฺสํ ปริเยสิสฺส’’นฺติ วา ‘‘เต คิลาเน คนฺตฺวา ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วา ‘‘อุปฏฺิสฺส’’นฺติ วา ปหิเตปิ อปฺปหิเตปิ สตฺตาหกิจฺเจน คนฺตุํ ลภติ.
อิทานิ สหธมฺมิเก เอว สนฺธาย ‘‘อนภิรต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘วิสภาครูปํ ทิสฺวา อนภิรติ, ตโต วูปกาสิสฺสํ, ตํ คเหตฺวา อฺตฺถ คมิสฺส’’นฺติ อธิปฺปาเยน คนฺตุมฺปิ ลพฺภตีติ อตฺโถ. กุกฺกุจฺจํ วิโนทนฺจ ทิฏฺึ วิเวจนฺจ อหํ วา กเรยฺยํ อฺเหิ วา กาเรยฺยนฺติ สมฺพนฺโธ. ปริวาสมานตฺตอาทีหิ วุฏฺานํ วา ครุกา. อาทิ-สทฺเทน สเจ สงฺเฆน กมฺมํ กตํ โหติ, ตสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อนุสฺสาวนกรณาทีสุ อุสฺสุกฺกํ กเรยฺยนฺติ คนฺตุํ ลพฺภตีติ อตฺโถ. สตฺตาหกิจฺเจนาติ สตฺตาหกรณีเยน.
๓๑๖. ธมฺมสวนตฺถํ นิมนฺติโต เอวํ วเชติ อตฺโถ. ครู นาม อาจริยุปชฺฌายา, เตหิ ภณฺฑโธวนกิจฺเจน ปหิตสฺส คนฺตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
๓๑๗. น ภณฺฑโธวน…เป… ทสฺสเนติ เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๙๙) เอเตสุปิ น วเชติ สมฺพนฺโธ. ลพฺภนฺติ เอตฺถ ‘‘อชฺเชว อาคมิสฺส’’นฺติ อทูรโค ยทิ น ปาปุเณยฺย, ลพฺภนฺติ สมฺพนฺโธ. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘อชฺเชว อาคมิสฺสามี’’ติ สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ปุน อาคจฺฉนฺตสฺส อนฺตรามคฺเค สเจ อรุณุฏฺานํ โหติ, วสฺสจฺเฉโทปิ ¶ น โหติ, รตฺติจฺเฉเทน ทุกฺกฏมฺปิ นาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.
๓๑๘. เสสาติหีติ ¶ ภาตุภคินีอาทีหิ. ภิกฺขุนิสฺสิตเกน จ ปหิเตติ สมฺพนฺโธ. นิทฺทิสิตฺวาติ ‘‘อาคจฺฉนฺตุ ภทนฺตา, อิจฺฉามิ ทานฺจ ทาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ ภิกฺขฺุจ ปสฺสิตุ’’นฺติอาทินา ยํ กิฺจิ นิทฺทิสิตฺวาว เปสิเต คนฺตุํ วฏฺฏติ. เกวลํ ‘‘อาคจฺฉนฺตุ ภิกฺขู, อิจฺฉามิ ภิกฺขูนํ อาคมน’’นฺติ เอวํ อนิทฺทิสิตฺวา วุตฺเต คนฺตุํ น ลพฺภตีติ อตฺโถ.
๓๑๙. อจฺฉราเย สตตฺตโนติ ทสวิเธสุ อนฺตราเยสุ เอกสฺมิมฺปิ อนฺตราเย อตฺตโน สตีติ อตฺโถ. สงฺฆสามคฺคิยา วา วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺตีติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสูปคโต ภิกฺขุ ปสฺสติ สมฺพหุเล ภิกฺขู สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺเต. ตตฺร เจ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ, ‘ครุโก โข สงฺฆเภโท วุตฺโต ภควตา. มา มยิ สมฺมุขีภูเต สงฺโฆ ภิชฺชี’ติ ปกฺกมิตพฺพํ, อนาปตฺติ วสฺสจฺเฉทสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๐๒). เอวํ ฉินฺนวสฺโส โน ปวารเยติ อตฺโถ.
๓๒๐. รุกฺขสฺส สุสิเรติ เอตฺถ (มหาว. ๒๐๔; มหาว. อฏฺ. ๒๐๓) ปน สุทฺเธ รุกฺขสุสิเร เอว น วฏฺฏติ, มหนฺตสฺส ปน สุสิรสฺส อนฺโต ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวา ปวิสนทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ. รุกฺขสฺส วิฏเปติ เอตฺถาปิ สุทฺธวิฏปมตฺเต น วฏฺฏติ, มหาวิฏเป ปน อฏฺฏกํ พนฺธิตฺวา วุตฺตนเยน กุฏิกํ กตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ. ฉวกุฏิ นาม ปาสาณกุฏิกนฺติ วทนฺติ. ตีสุ ปสฺเสสุ ปาสาเณ อุสฺสาเปตฺวา อุปริ ปาสาเณน ปฏิจฺฉนฺนา.
๓๒๑. นาวาทีสุ ¶ ปน อุปคโต ปวาเรตฺุจ ลพฺภตีติ สมฺพนฺโธ. วสฺสูปนายิกวินิจฺฉโย.
วสฺสูปนายิกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๐. อเวภงฺคิยนิทฺเทสวณฺณนา
๓๒๒-๔. อารามารามวตฺถูนีติ ¶ เอตฺถ (จูฬว. ๓๒๑; จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อาราโม นาม ปุปฺผาราโม วา ผลาราโม วา. มฺโจ ปีํ ภิสิ พิพฺโพหนาทิสยนาสนํ. โลหกุมฺภีอาทโย กาฬโลหตมฺพโลหาทิมยา. ภาณโก อุทกจาฏิ. ปฺเจเต อวิภาชิยาติ ภาเชตฺวา น คเหตพฺพา, คหิตาปิ สงฺฆสนฺตกา เอวาติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน อาราโม อารามวตฺถูติ ปมํ, วิหาโร วิหารวตฺถูติ ทุติยํ, มฺโจ ปีํ ภิสิ พิพฺโพหนนฺติ ตติยํ, โลหกุมฺภี…เป… นิขาทนนฺติ จตุตฺถํ, วลฺลิ…เป… ทารุภณฺฑํ มตฺติกภณฺฑนฺติ ปฺจมนฺติ เอวํ อิมานิ ราสิวเสน ปฺจ โหนฺติ, สรุปวเสน อเนกานิ โหนฺติ. โหนฺติ เจตฺถ –
‘‘ทฺวิสงฺคหานิ ทฺเว โหนฺติ, ตติยํ จตุสงฺคหํ;
จตุตฺถํ นวโกฏฺาสํ, ปฺจมํ อฏฺเภทน’’นฺติ. (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑);
๓๒๕. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อวิสฺสชฺชิยานิ น วิสฺสชฺเชตพฺพานิ สงฺเฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วา, วิสฺสชฺชิตานิปิ อวิสฺสชฺชิตานิ โหนฺติ. โย วิสฺสชฺเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๒๑) วุตฺตตฺตา ‘‘ภาชิตาปิ อภาชิตา’’ติ วุตฺตํ. เอเตติ วุตฺตปฺปการา ปฺจปิ ‘‘ครุภณฺฑานี’’ติ จ ‘‘อวิสฺสชฺชิยานี’’ติ จ จ-สทฺเทน ‘‘อเวภงฺคิยานี’’ติ จ วุจฺจนฺตีติ อตฺโถ.
๓๒๖-๘. อิทานิ ¶ ปุริเมสุ ตีสุ ราสีสุ สพฺพสฺส ครุภณฺฑตฺตา เต อนามสิตฺวา ปจฺฉิเมสุ ทฺวีสุ ราสีสุ เอกจฺจสฺส อครุภณฺฑสฺสาปิ อตฺถิตาย ตํ ทสฺเสตุํ อารภนฺโตปิ เตสุ ทฺวีสุ พหุวิสยํ ปมํ ทสฺเสตุํ ‘‘วลฺลิฑฺฒพาหุมตฺตาปี’’ติอาทิมาหาติ าตพฺพํ. ตสฺสายํ สงฺเขโป (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) – วลฺลิ อฑฺฒพาหุมตฺตาปิ เวฬุ อฏฺงฺคุลายโตปิ ติณาทิ มุฏฺิมตฺตมฺปีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มฺุชปพฺพชํ สงฺคณฺหาติ, ปณฺณํ เอกมฺปิ มตฺติกา ปากตา วา ปฺจวณฺณา วา สุธากงฺคุฏฺอาทิกาติ อาทิ-สทฺเทน สชฺชุลสชาติหิงฺคุลกาทิ วา ตาลปกฺกปฺปมาณาปิ เยหิ เกหิจิ สงฺฆสฺส ทินฺนา วา สงฺฆิเก ติณเขตฺตาทิมฺหิ ชาตา วา รกฺขิตโคปิตภูมิภาเค อุปฺปนฺนา ตตฺถชาตกา วา สงฺฆิกา รกฺขิตา เอว อภาชิยาติ อตฺโถ.
อิทานิ ¶ เย เจตฺถ ภาชิตพฺพา, เต ทสฺเสตุํ ‘‘นิฏฺิเต’’ติอาทิมาห, สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา กมฺเม นิฏฺิเต ภาชิยาติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ ปน ยํ กิฺจิ วลฺลิเวฬุติณปณฺณมตฺติกาทิ สงฺฆสฺส ทินฺนํ วา สงฺฆิเก ติณเขตฺตาทิมฺหิ ชาตกํ วา รกฺขิตโคปิตํ ครุภณฺฑํ, ตํ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ นิฏฺิเต อวเสสํ ปุคฺคลิกกมฺเมปิ ทาตุํ วฏฺฏติ, อครุภณฺฑตฺตา ภาชิตุมฺปิ ลพฺภติ. เสนาสนตฺถาย รกฺขิตโคปิตเมว ครุภณฺฑํ โหติ, น อิตรํ. สีหฬทีเป ตุมูลโสมวิหาเร สงฺฆสฺส ปากวตฺตมฺปิ ตาลปณฺณํ วิกฺกิณิตฺวา กรียติ. กสฺมา? น หิ ตตฺถ ปณฺเณน อตฺโถ อตฺถิ, สพฺเพปิ อิฏฺกจฺฉนฺนา ปาสาทาทโยติ. เอวํ อฺตฺถาปิ กรียติ เอวาติ วทนฺติ.
๓๒๙. อิทานิ โลหภณฺฑาทีสุ เอกนฺตภาเชตพฺพภณฺฑํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปตฺตาที’’ติอาทิมาห. เอตฺถ (จูฬว. อฏฺ. ๒๒๑) ปน อาทิ-สทฺเทน โลหถาลกตมฺพ ¶ กุณฺฑิกา กฏจฺฉุ สรก อฺชนิ อฺชนิสลากากณฺณมลหรณีสูจิสณฺฑาสกตฺตรยฏฺิอาทีนิ คหิตาเนว. ตถาติ ภาชิยเมวาติ อตฺโถ. วิปฺปกตฺจ อวิปฺปกตฺจ. ปาทคณฺหกนฺติ มคธนาฬิยา ปฺจนาฬิยา คณฺหนํ.
๓๓๑-๒. อนฺุาตวาสิ ยํ สกฺกา สิปาฏิกาย ปกฺขิปิตฺวา ปริหริตุนฺติ วุตฺตา. ตจฺฉิตานิฏฺิตนฺติ วิปฺปกตํ. ยทิ ตจฺฉิตํ, ครุภณฺฑเมว. ทนฺตํ ปน อตจฺฉิตฺจ อนิฏฺิตฺจ ภาชิยเมว. อนิฏฺิตํ มฺจปาทาทิกํ ครุภณฺฑํ. อิทานิ มตฺติกภณฺฑํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขูปกรเณ’’ติอาทิมาห. ปตฺตถาลกกุณฺฑิกาทิภิกฺขูปกรเณ จ. ปาทฆฏโกติ ปาทคณฺหนโก ฆฏโก จ มตฺติกามโย ภาชิโย ภาเชตพฺโพติ อตฺโถ. สงฺขถาลกมฺปิ ภาชิยเมว.
๓๓๓-๔. มิคจมฺมาทิกํ กปฺปิยจมฺมํ ภาชิยํ, สีหจมฺมาทิกํ อกปฺปิยจมฺมํ ครุภณฺฑํ. ตํ ปน ภูมตฺถรณํ กาตุํ วฏฺฏติ. เอฬจมฺมํ ปน ปจฺจตฺถรณคติกตฺตา ครุภณฺฑํ โหติ. อิทานิ อิมานิ ปน ปฺจ จีวรปิณฺฑปาตเภสชฺชานํ อตฺถาย ปริวตฺเตตุํ น วฏฺฏติ, ครุภณฺเฑน ปน ครุภณฺฑฺจ ถาวรฺจ ถาวเรน ถาวรเมว ปริวตฺเตตฺวา ปริภฺุชิตพฺพานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ครุนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) ครุนาติ ครุภณฺเฑน ครุภณฺฑฺจ ถาวรฺจ ปริวตฺเตยฺยาติ สมฺพนฺโธ. ถาวเรน จ ถาวรเมว ปริวตฺเตยฺย, น ครุภณฺฑนฺติ อธิปฺปาโย. ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ ปจฺฉิมตฺตยํ ครุภณฺฑํ, ปุริมทฺวยํ ถาวรนฺติ เวทิตพฺพํ ¶ . ตถา กตฺวา จ ภฺุชตูติ เอวํ ปริวตฺเตตฺวา ตโต อาภตํ กปฺปิยภณฺฑํ ปริภฺุชตูติ อตฺโถ. กถํ ายตีติ เจ? วุตฺตฺเหตํ ปริวาเร-
‘‘อวิสฺสชฺชิยํ ¶ อเวภงฺคิยํ, ปฺจ วุตฺตา มเหสินา;
วิสฺสชฺเชนฺตสฺส ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ,
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๗๙);
เอตฺถ ปน ครุภณฺเฑน ครุภณฺฑฺจ ถาวรฺจ ถาวเรน ถาวรเมว ปริวตฺตนวิธึ สนฺธาย ‘‘วิสฺสชฺชนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ปุน ตโต นิพฺพตฺตฺจ จตุปจฺจยํ ปริภฺุชิตุํ ลพฺภตีติ ทีเปตุํ ‘‘ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. อยํ อิมิสฺสา คาถาย อธิปฺปาโย. เสสนฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อารามาทิ อภาชิยนฺติ อตฺโถ. อเวภงฺคิยวินิจฺฉโย.
อเวภงฺคิยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๑. ปกิณฺณกนิทฺเทสวณฺณนา
๓๓๕-๖. สทฺวารพนฺธเน าเน…เป… สยนฺโต ทุกฺกฏํ ผุเสติ เอวรูเป าเน ทิวา สยนฺเตนาติ สมฺพนฺโธ. สทฺวารพนฺธเน (ปารา. ๗๗; ปารา. อฏฺ. ๑.๗๗) ปน าเน เยน เกนจิ ปริกฺขิตฺเต อพฺโภกาเสปิ รุกฺขมูเลปิ อนฺตมโส อิมินา ลกฺขเณน ยุตฺเต อากาสงฺคเณปิ สยนฺเตน ทฺวารํ พนฺธิตพฺพเมว. วิฺุมฺหิ ปุริเสติ ภิกฺขุมฺหิ วา สามเณเร วา อนฺตมโส อุปาสกอารามิเกสุปิ อฺตรสฺมึ สตีติ อตฺโถ. ‘‘เอส ชคฺคิสฺสตี’’ติ อาโภโค จาปิ กปฺปตีติ เกวลํ ภิกฺขุนึ วา มาตุคามํ วา อาปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. สวเสติ อตฺตโน วเส, อพหุสาธารณฏฺาเนติ อตฺโถ. ตํ วินาการนฺติ ตํ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการํ ทฺวารถกนอาโภคกรณสงฺขาตํ อาการํ วินาติ อตฺโถ. อจิตฺตกาปตฺติกิริยายํ สงฺเขโป.
๓๓๗. รตนานีติ ¶ มุตฺตาทิทสวิธรตนานิ. ธฺนฺติ สตฺตวิธํ ธฺํ.
๓๓๘. สิตฺถเตโลทเตเลหีติ ¶ เอตฺถ (จูฬว. ๒๔๖; จูฬว. อฏฺ. ๒๔๖) ปน โย มธุสิตฺถกเตเลน วา อุทกมิสฺสกเตเลน วา อฺเน เกนจิ วิกาเรน วา เกเส โอสณฺเติ, ทนฺตมยาทีสุ เยน เกนจิ ผเณน วา โกจฺเฉน วา หตฺเถน วา ผณกิจฺจํ กโรนฺโต องฺคุลีหิ วา โอสณฺเติ, ตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ.
๓๓๙. เนกปาวุรณาติ (จูฬว. ๒๖๔) น เอกปาวุรณา. ตุวฏฺฏยุนฺติ นิปชฺเชยฺยุํ. กึ วุตฺตํ โหติ? ยทิ เอกปาวุรณา วา เอกตฺถรณา วา เอกมฺเจ วา ตุวฏฺเฏยฺยุํ, น วฏฺฏติ, ทุกฺกฏํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. เอกมฺหิ (จูฬว. อฏฺ. ๒๖๔) วา ภาชเน น ภฺุเชยฺยุนฺติ สมฺพนฺโธ.
๓๔๐. จตุรงฺคุลโต (จูฬว. ๒๘๒; จูฬว. อฏฺ. ๒๘๒) อูนํ ทนฺตกฏฺํ น ขาเทยฺยาติ สมฺพนฺโธ. อธิกฏฺงฺคุลนฺติ อฏฺงฺคุลโต อธิกํ. ตถาติ น ขาเทยฺยาติ อตฺโถ. อกลฺลโก (จูฬว. ๒๘๙) ลสุณํ น ขาเทยฺย.
๓๔๑. หีเนหิ (ปาจิ. ๓๑ อาทโย) วา อุกฺกฏฺเหิ วา ชาติอาทีหิ เอว อุกฺกฏฺํ วา หีนํ วา ‘‘จณฺฑาโลสี’’ติอาทินา นเยน อุชุํ วา ‘‘สนฺติ วา อิเธกจฺเจ จณฺฑาลา, เวนา, เนสาทา’’ติอาทินา นเยน อฺาปเทเสน วา อุปสมฺปนฺนํ วา อนุปสมฺปนฺนํ วา อกฺโกสาธิปฺปายํ วินา เกวลํ ทวาธิปฺปาเยน วเท, ทุพฺภาสิตนฺติ อตฺโถ.
๓๔๒. นเข ¶ วา เกเส วา นาสโลเม (จูฬว. ๒๗๕) วา ทีเฆ น ธารเยติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มํสปฺปมาเณน นเข ฉินฺทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๔) จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทุมาสิกํ วา ทุวงฺคุลํ วา’’ติ (จูฬว. ๒๔๖) จ วุตฺตํ. น ลพฺภํ วีสติมฏฺนฺติ เอตฺถ เอกนขมฺปิ มฏฺํ กาตุํ น วฏฺฏติ เอว. ‘‘น ภิกฺขเว วีสติมฏฺํ การาเปตพฺพํ. โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส (จูฬว. ๒๗๔). อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มลมตฺตํ อปกฑฺฒิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๔) หิ วุตฺตํ. ตสฺมา นขโต มลมตฺตํ อปกฑฺฒิตุํ วฏฺฏติ. สมฺพาเธ โลมหารณนฺติ เอตฺถ สมฺพาโธ นาม อุโภ อุปกจฺฉกา มุตฺตกรณฺจ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๕) หิ วุตฺตํ.
๓๔๓. ยถาวุฑฺฒนฺติ ¶ วุฑฺฒปฏิปาฏิยา ลทฺธพฺพํ. น พาเธยฺยาติ น วาเรยฺย. สงฺฆุทฺทิฏฺํวาติ อุปาสกาทีหิ ยถาวุฑฺฒํ ‘‘อยฺยา ปริภฺุชนฺตู’’ติ นิสฺสชฺชิตฺวาว ทินฺนํ เสนาสนาทิ. ‘‘น ภิกฺขเว อุทฺทิสฺสกตมฺปิ ยถาวุฑฺฒํ ปฏิพาหิตพฺพํ. โย ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๑๓) หิ วุตฺตํ. อโธตปาเทหิ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๔) วา อลฺลปาเทหิ วา นกฺกเมติ สมฺพนฺโธ. สุโธตปาทกํ วาปีติ โธตปาเทเหว อกฺกมิตพฺพฏฺานํ. ตเถวาติ นกฺกเมยฺย สอุปาหโนติ อตฺโถ. ‘‘น ภิกฺขเว อโธเตหิ ปาเทหิ, อลฺเลหิ ปาเทหิ, สอุปาหเนน เสนาสนํ อกฺกมิตพฺพํ. โย อกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๒๔), หิ วุตฺตํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปจฺจตฺถริตฺวา นิปชฺชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๔) วุตฺตตฺตา ปริภณฺฑกตํ ภูมึ วา ภูมตฺถรณเสนาสนํ วา สงฺฆิกํ มฺจปีํ วา อตฺตโน สนฺตเกน ปจฺจตฺถรเณน ปจฺจตฺถริตฺวาว นิปชฺชิตพฺพํ.
๓๔๔. สงฺฆาฏิยา ¶ น ปลฺลตฺเถติ อธิฏฺิตจีวเรน วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ปลฺลตฺถิกา น กาตพฺพาติ อตฺโถ. ปริกมฺมกตํ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๔) ภิตฺติอาทึ น อปสฺสเย. ‘‘น ภิกฺขเว ปริกมฺมกตา ภิตฺติ อปสฺเสตพฺพา. โย อปสฺเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๒๔) หิ วุตฺตํ. ตสฺมา เสตภิตฺติ วา จิตฺตกมฺมกตา วา ภิตฺติ น อปสฺสยิตพฺพา. น เกวลํ ภิตฺติเยว, ปริกมฺมกตา ทฺวารกวาฏวาตปานตฺถมฺภาทโยปิ น อปสฺสยิตพฺพา. เอตฺถปิ โลมคณนาย เอว อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. สนฺเต อุทเก โน น อาจเมติ (จูฬว. ๓๗๓; จูฬว. อฏฺ. ๓๗๓) โน น อาจเมตุํ, อุทกสุทฺธึ อกาตุํ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. สนฺเตติ วจเนน อสนฺเต อนาปตฺตีติ ทีเปติ.
๓๔๕. อกปฺปิยสมาทาเนติ ภิกฺขุํ วา สามเณราทิเก เสสสหธมฺมิเก วา อกปฺปิเย นิโยเชนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. ‘‘น, ภิกฺขเว, ปพฺพชิเตน อกปฺปิเย สมาทเปตพฺพํ. โย สมาทเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๐๓) หิ วุตฺตํ. สภาคาย (มหาว. อฏฺ. ๑๖๙) อาปตฺติยา เทสนายาติ อตฺโถ. วตฺถุสภาคตา อิธ อธิปฺเปตา, น อาปตฺติสภาคตา. ‘‘น ภิกฺขเว สภาคา อาปตฺติ เทเสตพฺพา. โย เทเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๖๙) จ ‘‘น ภิกฺขเว สภาคา อาปตฺติ ปฏิคฺคเหตพฺพา. โย ปฏิคฺคณฺเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๖๙) จ วุตฺตํ. วตฺถุสภาคํ อาปตฺตึ อาวิ กาตุมฺปิ น วฏฺฏติ, เตน วุตฺตํ ‘‘อาวิกมฺเม จ ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามํ ¶ อาปตฺตึ อาปชฺชึ, ตํ อิโต วุฏฺหิตฺวา ปฏิกริสฺสามี’’ติ อฺสฺส วจนํ อาวิกมฺมํนาม.
๓๔๖. อิตรสฺส ¶ ตูติ อสุทฺธจิตฺตสฺส.
๓๔๗. โปริสนฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๘๔) ปุริสปฺปมาณํ อภิรุหิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สติ กรณีเย โปริสํ รุกฺขํ อภิรุหิตุํ, อาปทาสุ ยาวทตฺถ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๔) หิ วุตฺตํ.
๓๔๘. ปริสฺสาวนํ (จูฬว. ๒๕๙; จูฬว. อฏฺ. ๒๕๙) วินา อฑฺฒโยชนํ คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อทฺธานคมนสมโย นาม อฑฺฒโยชนํ คจฺฉิสฺสามีติ ภฺุชิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๒๑๘) วุตฺตํ, ตสฺมา อฑฺฒโยชนเมว อนฺติมํ อทฺธานนฺติ เวทิตพฺพํ. ภิกฺขุนิยา จ มาตุคาเมน จ สํวิธานสิกฺขาปเท ‘‘เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺเชยฺย, อนฺตมโส คามนฺตรมฺปี’’ติ (ปาจิ. ๑๘๒, ๔๑๓) เอวํ วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา ‘‘กุกฺกุฏสมฺปาเต คาเม คามนฺตเร คามนฺตเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๘๓, ๔๑๔) วุตฺตํ, น อทฺธานลกฺขเณน. ยทิ คามนฺตรปริจฺเฉเทน อทฺธานํ วุจฺจติ, คณโภชนสิกฺขาปเทปิ ‘‘อทฺธานคมนสมโย นาม คามนฺตรมฺปิ คจฺฉิสฺสามีติ ภฺุชิตพฺพ’’นฺติ วเทยฺย, น จ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘น ภิกฺขเว อปริสฺสาวนเกน อทฺธาโน ปฏิปชฺชิตพฺโพ. โย ปฏิปชฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. สเจ น โหติ ปริสฺสาวนํ วา ธมฺมกรโณ วา, สงฺฆาฏิกณฺโณปิ อธิฏฺาตพฺโพ อิมินา ปริสฺสาเวตฺวา ปิวิสฺสามี’’ติ วุตฺตฏฺาเนปิ อฑฺฒโยชนวเสเนว อทฺธานปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. อภยคิริวาสีนํ ปน ‘‘ทฺวิคาวุตวเสน อทฺธานปริจฺเฉโท’’ติ ปาฬิยํ เอว อตฺถิ. ยาจมานสฺสาติ ยาจนฺตสฺส. ‘‘น จ ภิกฺขเว อทฺธานปฺปฏิปนฺเนน ภิกฺขุนา ปริสฺสาวนํ ยาจิยมาเนน น ทาตพฺพํ. โย น ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ หิ วุตฺตํ.
๓๔๙. อฺตฺร ¶ อาพาธปฺปจฺจยา กณฺณนาสาทิเก เสสงฺเค ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. อาพาเธ สติ องฺคุลิอาทีนิ ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. องฺคชาตํ วา พีชานิ วา ฉินฺทิตุํ น วฏฺฏติ เอว. อตฺตฆาตเน ¶ จ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘น จ ภิกฺขเว อตฺตานํ ฆาเตตพฺพํ. โย ฆาเตยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ หิ วุตฺตํ.
๓๕๐. ‘‘น จ ภิกฺขเว ปฏิภานจิตฺตํ การาเปตพฺพํ อิตฺถิรูปกํ ปุริสรูปกํ. โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มาลากมฺมํ ลตากมฺมํ มกรทนฺตกํ ปฺจปฏิก’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๙) วุตฺตตฺตา ‘‘จิตฺตโปตฺถกรูปานิ, น กเร น จ การเย’’ติ วุตฺตํ. ภฺุชนฺตนฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๑๖) วิปฺปกตโภชนํ. ‘‘น ภิกฺขเว วิปฺปกตโภชโน ภิกฺขุ วุฏฺาเปตพฺโพ. โย วุฏฺาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๑๖) หิ วุตฺตํ.
๓๕๑. ยานานีติ วยฺหํ รโถ สกฏํ สนฺทมานิกาทีนิ คิลานสฺส อภิรุหิตุํ กปฺปนฺติ, สิวิโก จ กปฺปติ. เอวํ สพฺพตฺถ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส ยานํ, ปุริสยุตฺตํ หตฺถวฏฺฏกํ, สิวิกํ ปาฏงฺกิ’’นฺติ (มหาว. ๒๕๓) หิ วุตฺตํ.
๓๕๒. ทวนฺติ เกฬึ. ‘‘น ภิกฺขเว พุทฺธํ วา ธมฺมํ วา สงฺฆํ วา อารพฺภ ทโว กาตพฺโพ. โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๒๗) หิ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘กึ พุทฺโธ สิลกพุทฺโธ, อุทาหุ ปฏิพุทฺโธ’’ติ วา ‘‘กึ ธมฺโม โคธมฺโม อชธมฺโม’’ติ วา ‘‘กึ สงฺโฆ อชสงฺโฆ มิคสงฺโฆ’’ติ วา เอวมาทินา นเยน โย ทวํ กโรติ, ตสฺส ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ตุมฺหากํ ¶ จีวรํ ทสฺสาม, ปตฺตํ ทสฺสามา’’ติอาทินา นเยน สามเณรํ วา อุปสมฺปนฺนํ วา อฺสฺส อนฺตมโส ทุสฺสีลสฺสาปิ ปริสภูตํ อตฺตโน อุปฏฺากกรณตฺถํ อุปลาฬเน ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. ‘‘น ภิกฺขเว อฺสฺส ปริสา อปลาเฬตพฺพา. โย อปลาเฬยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ หิ วุตฺตํ.
๓๕๓. กายํ (จูฬว. ๔๑๑) วา อูรุํ วา นิมิตฺตํ วา วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ น ทสฺสเยติ สมฺพนฺโธ. กทฺทมุทกาทินา ตา ภิกฺขุนิโย น สิฺเจยฺยาติ อตฺโถ. น เกวลํ กทฺทมุทกาทิเกเนว, วิปฺปสนฺนอุทกรชนกทฺทมาทีสุปิ เยน เกนจิ โอสิฺจนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.
๓๕๔. พาลนฺติ เอตฺถ พาโล นาม โย โอวาทํ คเหตฺวา ปาติโมกฺขุทฺเทสกสฺส อาโรเจตฺวา ปาฏิปเท ¶ ปจฺจาหริตพฺพนฺติ น ชานาติ. คิลาโน นาม โย โอวาทํ คเหตฺวา อุโปสถคฺคํ คนฺตฺวา อาโรเจตฺุจ ปจฺจาหริตฺุจ น สกฺโกติ. คมิโย นาม โย ปฏิเทสํ คนฺตุกาโม.
‘‘น ภิกฺขเว โอวาโท น คเหตพฺโพ. โย น คณฺเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๔๑๔) จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เปตฺวา พาลํ, เปตฺวา คิลานํ, เปตฺวา คมิกํ, อวเสเสหิ โอวาทํ คเหตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๑๔) จ ‘‘น ภิกฺขเว โอวาโท น ปจฺจาหริตพฺโพ. โย น ปจฺจาหเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๑๕) จ วุตฺตตฺตา ภิกฺขุนีหิ เตรสิยํ วา จาตุทฺทสิยํ วา อาคนฺตฺวา ‘‘อยํ อุโปสโถ จาตุทฺทโส’’ติ วา ‘‘ปนฺนรโส’’ติ วา ‘‘กทา อยฺย อุโปสโถ’’ติ วา ปุจฺฉิเต ‘‘จาตุทฺทโส’’ติ วา ‘‘ปนฺนรโส’’ติ วา ‘‘สฺเว ภคินิ อุโปสโถ’’ติ ¶ วา อาจิกฺขิตพฺพํ. ตาหิ ภิกฺขุนีหิ อุโปสถทิวเส อาคนฺตฺวา ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ อยฺย ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปาเท วนฺทติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจติ, ลภตุ กิร อยฺย ภิกฺขุนิสงฺโฆ โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ เอวํ ยาจิตพฺพํ, ตํ วจนํ ปฏิคฺคเหตฺวา อุโปสถคฺเค ปาติโมกฺขุทฺเทสกสฺส ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ, ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปาเท วนฺทติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจติ, ลภตุ กิร, ภนฺเต, ภิกฺขุนิสงฺโฆ โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ. ปาติโมกฺขุทฺเทสเกนาปิ สเจ ตตฺถ ภิกฺขุโนวาทโก อตฺถิ, ‘‘อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต, ตํ ภิกฺขุนิสงฺโฆ อุปสงฺกมตู’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ นตฺถิ, ‘‘โก อายสฺมา อุสฺสหติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา สเจ อตฺถิ อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ, ตํ ตตฺเถว สมฺมนฺนิตฺวา วุตฺตนเยเนว โอวาทปฺปฏิคฺคาหกสฺส อาโรเจตพฺพํ. ยทิ นตฺถิ โกจิ ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต, ‘‘ปาสาทิเกน ภิกฺขุนิสงฺโฆ สมฺปาเทตู’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน ภิกฺขุนา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปาฏิปเท ภิกฺขุนีนํ ‘‘นตฺถิ โกจิ ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต, ปาสาทิเกน ภิกฺขุนิสงฺโฆ สมฺปาเทตู’’ติ วตฺตพฺพํ. ตาหิปิ ‘‘สาธุ อยฺยา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. อิมินา นเยน คณปุคฺคเลสุปิ วจนเภโท เวทิตพฺโพ.
๓๕๕. โลกายตํ (จูฬว. ๒๘๖; จูฬว. อฏฺ. ๒๘๖) นาม วิตณฺฑสตฺถํ. ‘‘น ภิกฺขเว อาสิตฺตกูปธาเน ภฺุชิตพฺพํ. โย ภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๖๔) วุตฺตตฺตา ‘‘เปฬายปิ น ภฺุเชยฺยา’’ติ วุตฺตํ.
๓๕๖. คิหิปารุตํ ¶ น ปารุเปยฺย, คิหินิวาสนํ น นิวาเสยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘น ภิกฺขเว คิหินิวตฺถํ นิวาเสตพฺพํ หตฺถิโสณฺฑกํ ¶ มจฺฉวาฬกํ จตุกณฺณกํ ตาลวณฺฏกํ สตวลิกํ. โย นิวาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๘๐) หิ วุตฺตํ. ปริมณฺฑลโต อฺถา ปารุปนํ, สพฺพเมตํ คิหิปารุตํ นาม. ตํ ปน น ปารุเปตพฺพนฺติ อตฺโถ. สํเวลฺลิยนฺติ เอตฺถ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา น นิวาเสยฺยาติ อตฺโถ. ทายนฺติ (จูฬว. ๒๘๓; จูฬว. อฏฺ. ๒๘๓) อรฺํ. นาลิมฺปเยยฺยาติ สมฺพนฺโธ.
๓๕๗. วฑฺฒิฺจ น ปโยชเย, โนาตเก นปฺปวาริเต น ยาเจติ อตฺโถ. อฺสฺสาติ เอตฺถ (จูฬว. ๔๒๐; จูฬว. อฏฺ. ๔๒๐) ‘‘ตุมฺเห ปริภฺุชถา’’ติ นิยเมตฺวา ทินฺนํ สหธมฺมิกานมฺปิ ทาตุํ น วฏฺฏติ. อคฺคํ คเหตฺวา วา กติปาหํ ภุตฺวา วา ปุน ทเทยฺยาติ อตฺโถ.
๓๕๘. อุทฺทิสฺส ยาจเนติ เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๗๙) ‘‘อมฺหากํ วิหาเร อิตฺถนฺนาเมน อิทฺจิทฺจ กต’’นฺติ วา ‘‘กริสฺสนฺตี’’ติ วา เอวํ อุทฺทิสฺส รกฺขํ ยาจเนติ อตฺโถ. ตฺวาตฺวา วาติ เอวํ ‘‘อมฺเหหิ ยาจิยมานา อิเมสํ ทณฺเฑสฺสนฺตี’’ติ เตสํ ทณฺฑินํ ตฺวา วา อตฺวา วาติ อตฺโถ. เตหิ ปน ทณฺฑิเต โส ทณฺโฑ อุทฺทิสฺส ยาจนฺตานํ คีวาว ภณฺฑเทยฺยํ โหติ เอวาติ อตฺโถ. ‘‘อิมินา จ อิมินา จ อิทฺจ อิทฺจ กตํ, เอตฺตกํ ทณฺฑํ คณฺหถา’’ติ สยํ ทณฺฑาปเน ปน อสฺส ทณฺฑสฺส อคฺฆเภเทน ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏา เยฺยาติ อตฺโถ.
๓๕๙. อนตฺถาย อสฺส โจรสฺส ภาสิเตติ สมฺพนฺโธ. ราชราชมหามตฺตาทีหิ ตสฺส โจรสฺส ทณฺฑํ คณฺหนฺเต อสฺส ภิกฺขุสฺส ตตฺตกํ คีวาติ อตฺโถ.
๓๖๐. วิฆาสํ ¶ (ปาจิ. ๘๒๕-๘๒๖) วา อุจฺจารํ วา สงฺการํ วา มุตฺตํ วา ปาการกุฏฺฏานํ พหิ ฉฑฺเฑยฺย, ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. วฬฺเช นาวโลกิยาติ อิมินาว อวฬฺชนกาเล นาวโลเกตฺวา ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. น เกวลํ ตตฺเถว, อถ โข หริเต วาปิ วีหาทินาฬิเกราทิโรปิเม ฉฑฺเฑนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวาติ อตฺโถ.
๓๖๑. ‘‘อุปหารํ กโรมา’’ติ วุตฺเตติ ปุจฺฉิเตติ อธิปฺปาโย.
๓๖๒. กีฬตฺถํ (ปาจิ. ๙๗๙; ปาจิ. อฏฺ. ๙๗๘) ¶ กตํ ราชาคารํ วา โปกฺขรณึ วา อุยฺยานํ วา จิตฺตาคารํ วา อารามํ วา ทฏฺุํ คจฺฉโต ปเท ปเท ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
๓๖๓. อาสเนน (จูฬว. ๓๖๔) นเว น ปฏิพาเหยฺย, อุณฺเห (มหาว. ๖๗, ๗๘, ๗๙; จูฬว. ๓๗๖, ๓๗๘, ๓๘๐, ๓๘๒) จีวรํ น นิทเหยฺย. คุรุนาติ อาจริยาทินา ปณามิโต ขมาเปยฺยาติ สมฺพนฺโธ.
๓๖๔. อาปตฺตีหิ จ สตฺตหีติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๒๖) สตฺตหิ อาปตฺตีหิ ภิกฺขุํ ปรมฺมุขา อกฺโกสเนน จ ‘‘อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน พีชโภชี’’ติอาทินา อฺเเนว วา อกฺโกสเนน จ ทุกฺกฏนฺติ อธิปฺปาโย.
๓๖๕. สทฺธาเทยฺยํ (มหาว. อฏฺ. ๓๖๑) จีวรํ วา ปิณฺฑปาตํ วาติ อตฺโถ. ‘‘น ภิกฺขเว สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตตพฺพํ. โย วินิปาเตยฺย, อาปตฺติ ¶ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๑) หิ วุตฺตํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ ทาตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๖๑) วุตฺตตฺตา ‘‘ลพฺภํ ปิตูน’’นฺติ วุตฺตํ.
๓๖๖. วสฺสํวุตฺโถ อฺตฺราติ สมฺพนฺโธ, อฺสฺมึ วิหาเรติ อตฺโถ. อฺโตติ อฺวิหารโต. ‘‘น ภิกฺขเว อฺตฺร วสฺสํวุตฺเถน อฺตฺร จีวรภาโค สาทิตพฺโพ. โย สาทิเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๔) หิ วุตฺตํ. เตสนฺติ ตสฺมึ วิหาเร ตํ จีวรํ ภาเชตฺวา คณฺหิตุํ ยุตฺตานํ ภิกฺขูนํ ธุรนิกฺเขปโต โหติ ภณฺฑคฺเฆน การิโยติ อตฺโถ.
๓๖๗. สห อนฺตเรน อุตฺตโรติ สนฺตรุตฺตโร, คามํ น ปวิเสยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘น ภิกฺขเว สนฺตรุตฺตเรน คาโม ปวิสิตพฺโพ. โย ปวิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๒) หิ วุตฺตํ. กลฺโล วาติ อคิลาโน. สอุปาหโน คามํ น ปวิเสยฺยาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘น ภิกฺขเว จามริพีชนี ธาเรตพฺพา. โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๖๙), ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติสฺโส พีชนิโย วากมยํ อุสีรมยํ โมรปิฺฉมย’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๙) ¶ จ วุตฺตตฺตา ‘‘น ธาเรยฺย จามรีมกสพีชนิ’’นฺติ วุตฺตํ. มกสพีชนี ปน ทนฺตวิสาณทารุทณฺฑกาปิ วฏฺฏติ.
๓๖๘. อารามโต พหีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘น ภิกฺขเว ฉตฺตํ ธาเรตพฺพํ. โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ, ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส ฉตฺต’’นฺติ จ วุตฺตตฺตา อคิลาโน อารามโต พหิ น ลภติ, จีวรคุตฺติยาทิอตฺถาย อคิลาโนปิ ลภตีติ อตฺโถ.
๓๖๙. คาเหยฺย นุภโตกาชนฺติ น คาเหยฺย อุภโตกาชํ. เอกนฺตริกกาชกนฺติ เอกโตกาชฺจ อนฺตรกาชฺจ ¶ . สีสภาโร จ ขนฺธภาโร จ กฏิภาโร จ สีสกฺขนฺธกฏิภารา. ‘‘น ภิกฺขเว อุภโตกาชํ หริตพฺพํ. โย หเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๘๑), ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกโตกาชํ อนฺตรกาชํ สีสภารํ ขนฺธภารํ กฏิภารํ โอลมฺพก’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๑) จ วุตฺตตฺตา อุภโตกาชเมว น วฏฺฏติ, เสสานิ วฏฺฏนฺตีติ เวทิตพฺพา.
๓๗๐. อโนกาสกตนฺติ (มหาว. ๑๕๓) โย ปมเมว ‘‘กโรหิ เม อาวุโส โอกาสํ, อหํ ตํ วตฺตุกาโม’’ติ เอวํ อกโตกาสํ อาปตฺติยา โจเทยฺย, ตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. ตถาติ ทุกฺกฏเมวาติ อตฺโถ.
๓๗๑. ปกตงฺคุเลน, น สุคตงฺคุเลนาติ อตฺโถ.
๓๗๒. มูคพฺพตาทึ (มหาว. ๒๐๙; มหาว. อฏฺ. ๒๐๙) ติตฺถิยพฺพตํ ยทิ คณฺเหยฺย, ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน โควตกุกฺกุรวตาทโย สงฺคหิตา. ตถาติ (มหาว. ๓๐๓; มหาว. อฏฺ. ๓๐๓) นฺหาปิตปุพฺพโก ขุรภณฺฑํ ยทิ ปริหเรยฺย, ทุกฺกฏเมวาติ อตฺโถ.
๓๗๓. ยํ กิฺจีติ (กงฺขา. อฏฺ. กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา) นฺหาปิตตุณฺณการกมฺมาทิ ยํ กิฺจิ หตฺถกมฺมนฺติ อตฺโถ. ตทนุสารโตติ หตฺถกมฺมยาจนานุสารโตติ อตฺโถ. สเจ เอวํ ยาจโต หตฺถกมฺมมูลเมว เทติ, ตํ อฺสฺส ทาเปตฺวา ¶ กาเรตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. นิกฺกมฺมํ ปน หตฺถกมฺมวเสน อยาจิตฺวาปิ ‘‘เอหิ อิมํ กโรหี’’ติ กาเรตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. ยํ กิฺจิปรสนฺตกนฺติ ยํ กิฺจิ ทารุติณาทิกํ อปรสนฺตกํ อปริคฺคหิตํ อาหราเปตุํ กปฺปตีติ อธิปฺปาโย.
๓๗๔. คิหีนนฺติ ¶ คิหีนํ สนฺตกํ. โคปเกติ รกฺขเก. ยตฺตกํ เทติ, ตตฺตกํ คเหตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. ยถาปริจฺเฉทนฺติ ‘‘ทิวเส ทิวเส เอตฺตกํ อุจฺฉุนาฬิเกรํ อมฺพปกฺกํ ตุมฺเห ขาทถา’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทินฺนเมว เตสุ เทนฺเตสุ ลพฺภตีติ อตฺโถ.
๓๗๕. ทฺวิหาปชฺเชยฺยาติ ทฺวีหิ อาปชฺเชยฺย. กตเมหิ ทฺวีหีติ เจ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘กายวาจาหี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ทฺวีหากาเรหิ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, กาเยน อาปชฺชติ, วาจาย อาปชฺชตี’’ติ (ปริ. ๓๒๒) หิ วุตฺตํ. กายวาจาหิ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต จ ฉหิ อากาเรหิ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, ตานิ ทสฺเสตุํ ‘‘อลชฺชิาณกุกฺกุจฺจปกตตฺตา’’ติอาทิมาห. เอตฺถ (ปริ. ๒๙๕) ปน อกปฺปิยภาวํ ชานนฺโต เอว วีติกฺกมํ กโรนฺโต อลชฺชิตาย อาปชฺชติ นาม. กปฺปิยากปฺปิยํ อชานิตฺวา อาปชฺชนฺโต อฺาณตาย. กปฺปิยํ นุ โข, โน นุ โข’’ติ สํสเย อุปฺปนฺเน ตมภิวิตริตฺวา วีติกฺกมํ กโรนฺโต กุกฺกุจฺจปกตตฺตา อาปชฺชติ. สหเสยฺยาทึ อาปชฺชนฺโต สติปฺลวา, สติสมฺโมสาติ อตฺโถ. อจฺฉมํสํ ‘‘สูกรมํส’’นฺติ วา สูกรมํสํ ‘‘อจฺฉมํส’’นฺติ วา ขาทนฺโต อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย จ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย จ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.
๓๗๖. อลชฺชิตาย วา อฺาณตาย วา อาปตฺตึ กายวาจาหิ ฉาทเยติ อตฺโถ. เอเก วา เอกสฺมึ วา. ลิงฺเคติ ลิงฺคปริวตฺตนโต. เอวํ จตุธา อาปตฺติวุฏฺานํ โหตีติ อตฺโถ. ติณวตฺถารกสมถอพฺภานาทีนํ วเสน สงฺเฆ อาปตฺติ วุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ นิสฺสชฺชนาทีสุ คเณ. เอกสฺส สนฺติเก วุฏฺานํ ปากฏเมว. ‘‘ยา อาปตฺติโย ¶ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณา, ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. ๖๙) วจนโต ลิงฺคปริวตฺตเน อาปตฺติวุฏฺานํ าตพฺพํ.
๓๗๗. ปจฺจยทฺวเยติ จีวเร จ ปิณฺฑปาเต จ. น เกวลฺจ อิเม เอว, นิมิตฺตกมฺมมฺปิ น ลพฺภเตว, คาถาพนฺธสุขตฺถํ ปน น วุตฺตํ. ตตฺถ นิมิตฺตกมฺมํ นาม ยํ กิฺจิ ¶ ปเรสํ ปจฺจยทานสํโยชนกํ กายวจีกมฺมํ. ขาทนียํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา ‘‘กึ ขาทนียํ ลภิตฺถา’’ติอาทินา นเยน ตสฺส ปวตฺติ เวทิตพฺพา. ปริกถา นาม ยถา ยถา ตํ ลภติ, ตถา ตถา ปริวตฺเตตฺวา กถนํ. ‘‘เอตรหิ ภิกฺขู ปิณฺฑปาเตน กิลมนฺตี’’ติอาทินา นเยน ตสฺส ปวตฺติ เวทิตพฺพา. โอภาโส นาม ปจฺจยปฺปฏิสํยุตฺตกถา. วิฺตฺติ ปน ปากฏา เอว. ตติเยติ เสนาสเน. เสนาสเน ปน นิมิตฺโตภาสปริกถา วฏฺฏนฺติ, วิฺตฺติ เอว เอกา น วฏฺฏติ. ตตฺถ นิมิตฺตกมฺมํ นาม อุปาสเก ทิสฺวา เสนาสนตฺถํ ภูมิปริกมฺมกรณาทิ. โอภาโส นาม ‘‘อุปาสกา, ตุมฺเห กุหึ วสถา’’ติ ‘‘ปาสาเท, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ ภิกฺขูนํ ปาสาโท น วฏฺฏตี’’ติอาทิกํ วจนํ. ปริกถา นาม ‘‘ภิกฺขูนํ เสนาสนํ สมฺพาธ’’นฺติ วจนํ. เสเสติ คิลานปจฺจเย.
๓๗๘. น รุหตีติ น โหติ. อจฺจเย ทานนฺติ อจฺจยทานํ. ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ เยน เกนจิ กาลํ กโรนฺเตน ‘‘มมจฺจเยน มยฺหํ ปริกฺขาโร อุปชฺฌายสฺส โหตุ, อาจริยสฺส โหตุ, อฺสฺส วา กสฺสจิ โหตู’’ติ วุตฺเต เตสํ น โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘น รุหตี’’ติ. สงฺฆสฺเสว จ ตํ โหตีติ ยทิ ภิกฺขุสามเณเรหิ เอวํ วุตฺตํ, ตสฺมึ มเตปิ ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว โหติ, ภิกฺขุนิสิกฺขมานสามเณรีหิ ¶ เจ วุตฺตํ, ตสฺมึ มเต ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ตํ โหตีติ อตฺโถ. คิหีนํ ปน รูหตีติ คิหีนํ ปน อจฺจยทานํ เอว สพฺเพสํ รุหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๓๗๙. อุปสฺสเยติ ภิกฺขุนิวิหาเร. ทายชฺโชติ ตสฺส ปริกฺขารสฺส ทายชฺโช. เสเสปีติ สเจ ภิกฺขุนิสิกฺขมานสามเณริโย ภิกฺขุวิหาเร กาลํ กโรนฺติ, ตาสํ ปริกฺขารานํ ภิกฺขุสงฺโฆว ทายชฺโชติ อตฺโถ.
๓๘๐. ปุริมสฺเสวาติ เอตฺถ ‘‘อิมํ ปริกฺขารํ เนตฺวา อสุกสฺส เทหี’’ติ ทินฺนํ ปุริมสฺเสว โหตีติ อตฺโถ. ‘‘อสุกสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ปจฺฉิมสฺเสว โหติ ปริจฺจชิตฺวา ทินฺนตฺตา. อิมํ วิธึ ตฺวาว วิสฺสาสคฺคาหํ วา คณฺเหยฺย, มตกจีวรํ วา อธิฏฺเติ สมฺพนฺโธ. มตกจีวรอธิฏฺานํ นาม ฆณฺฏึ ปหริตฺวา กาลํ โฆเสตฺวา โถกํ อาคเมตฺวา สเจ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, เตหิ สทฺธึ ภาเชตพฺพานิ, โน เจ อาคจฺฉนฺติ, ‘‘มยฺหิมานิ จีวรานิ ปาปุณนฺตี’’ติ อธิฏฺาตพฺพานิ. เอวํ อธิฏฺิเต สพฺพานิ ตสฺเสว โหนฺติ, ิติกา ปน น ติฏฺติ. สเจ เอเกกํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อยํ ปมภาโค มยฺหํ ปาปุณาติ, อยํ ทุติยภาโค’’ติ ¶ เอวํ คณฺหาติ, คหิตานิ จ สุคหิตานิ โหนฺติ, ิติกา จ ติฏฺติ. เอวํ ปาเปตฺวา คณฺหนฺเตนาปิ อธิฏฺิตเมว โหติ.
๓๘๑. โลหภณฺเฑ ปหรณึ เปตฺวา สพฺพํ กปฺปติ, ทารุภณฺเฑ จ ทารุชํ ปตฺตฺจ ปาทุกฺจ, ปลฺลงฺกฺจ อาสนฺทิฺจ เปตฺวา สพฺพํ กปฺปติ, มตฺติกามเย กตกฺจ กุมฺภการิกฺจ เปตฺวา สพฺพํ กปฺปตีติ อตฺโถ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เปตฺวา ปหรณึ สพฺพํ โลหภณฺฑํ, เปตฺวา อาสนฺทึ ปลฺลงฺกํ ทารุปตฺตํ ทารุปาทุกํ สพฺพํ ทารุภณฺฑํ, เปตฺวา กตกฺจ ¶ กุมฺภการิกฺจ สพฺพํ มตฺติกาภณฺฑ’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๓) หิ วุตฺตํ. เอตฺถ กตกนฺติ ปทุมกณฺณิกากาเรน กตมลฺลกนฺติ อธิปฺเปตํ. ธนิยสฺเสว สพฺพมตฺติกามยา กุฏิ กุมฺภการิกนฺติ. ปกิณฺณกวินิจฺฉโย.
ปกิณฺณกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๒. เทสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๘๒. ภิกฺขุภาวสฺส (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๙๘) โย จาโค, สา ปาราชิกเทสนาติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘วิสุทฺธาเปกฺโขติ คิหิ วา โหตุกาโม อุปาสโก วา โหตุกาโม อารามิโก วา โหตุกาโม สามเณโร วา โหตุกาโม’’ติ (ปารา. ๑๙๘). ตสฺมา คิหิภาวาทิกํเยว ปาราชิกํ อาปนฺนสฺส วิสุทฺธิ นาม, อฺตรสฺส วิสุทฺธิ เอว นตฺถิ. ‘‘ฉาเทติ ชานมาปนฺนํ, ปริวเสยฺย ตาวตา’’ติอาทินา นเยน เหฏฺา วุตฺตวิธึ สนฺธาย ‘‘ยถาวุตฺเตน วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ.
๓๘๓. อิทานิ วตฺตพฺพตํ สนฺธาย ‘‘เอว’’นฺติ วุตฺตํ.
๓๘๔. ปฏิเทเสมีติ อาโรเจมิ. เอตานิ อหํ เอตานาหํ.
๓๘๖. (ก) ยํ ¶ สงฺโฆ คิลานสฺส ติจีวเรน วิปฺปวาสสมฺมุตึ เทติ, ตํ อฺตฺราติ อตฺโถ.
(ข) อกาลจีวรํ (ปารา. ๕๐๐) ¶ นาม ‘‘อนตฺถเต กถิเน เอกาทสมาเส อุปฺปนฺนํ, อตฺถเต กถิเน สตฺตมาเส อุปฺปนฺนํ, กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนํ, เอตํ อกาลจีวรํ นามา’’ติ.
(ค) ปุราณจีวรํ (ปารา. ๕๐๕) นาม ‘‘สกึ นิวตฺถมฺปิ สกึ ปารุตมฺปี’’ติ วุตฺตํ. อฺาติกา นาม มาติโต วา ปิติโต วา ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา อสมฺพนฺธา. นิสีทนปจฺจตฺถรณโธวาปเน ทุกฺกฏํ.
(ฆ) อฺตฺร ปาริวตฺตกาติ (ปารา. ๕๑๒) เอตฺถ หรีตกีขณฺฑมฺปิ วฏฺฏติ. จีวรํ นาม อิธ วิกปฺปนูปคปจฺฉิมโต ปฏฺาย อธิปฺเปตํ.
(ง) อฺตฺร สมยาติ (ปารา. ๕๑๙) เอตฺถ ‘‘อจฺฉินฺนจีวโร วา โหติ ภิกฺขุ นฏฺจีวโร วา’’ติ เอวํ วุตฺตํ สมยนฺติ อตฺโถ.
(จ) ‘‘สนฺตรุตฺตรปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตโต จีวรํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๒๔) วุตฺตตฺตา ‘‘ตตุตฺตรี’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ ปน ‘‘สเจ ตีณิ นฏฺานิ โหนฺติ, ทฺเว สาทิตพฺพานิ. ทฺเว นฏฺานิ, เอกํ สาทิตพฺพํ, เอกํ นฏฺํ, น กิฺจิ สาทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๒๔) วุตฺตํ.
(ฉ-ช) ‘‘กีทิเสน เต (ปารา. ๕๒๙), ภนฺเต, จีวเรน อตฺโถ, กีทิสํ เต จีวรํ เจตาเปมี’’ติ เอวํ อปฺปวาริโตติ อตฺโถ. วิกปฺปนฺติ วิสิฏฺกปฺปํ อธิกวิธานํ อาปนฺนํ. อิธ ปุริมํ เอกสฺส, ทุติยํ พหูนํ วเสน วุตฺตํ, เอตฺตกํ นานตฺตํ.
(ฌ) อติเรกติกฺขตฺตุนฺติ เอตฺถ เกนจิ ยํ กิฺจิ อกปฺปิยวตฺถุํ อาเนตฺวา ‘‘อิทํ โข เม, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ อุทฺทิสฺส จีวรเจตาปนฺนํ อาภตํ, ปฏิคฺคณฺหตุ อายสฺมา จีวรเจตาปนฺน’’นฺติ วุตฺเต ‘‘น โข มยํ, อาวุโส, จีวรเจตาปนฺนํ ปฏิคฺคณฺหาม, จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหาม กาเลน กปฺปิย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. เอวํ วุตฺเต สเจ โส ‘‘อตฺถิ โกจิ กปฺปิยการโก’’ติ ¶ ¶ วทติ, จีวรตฺถิเกน เปตฺวา ปฺจ สหธมฺมิเก โย โกจิ อุทฺทิสิตพฺโพ ‘‘เอโส โข, อาวุโส, ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ, เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ. เอวํ วุตฺเต สเจ ทายโก ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เอโส อยฺยสฺส จีวรํ เจตาเปตฺวา ทสฺสตี’’ติ วตฺวา คจฺฉติ, ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจเทตพฺโพ สาเรตพฺโพ ‘‘อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนา’’ติ, เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ, ‘‘เทหิ เม จีวร’’นฺติอาทินา น วตฺตพฺพํ. เอวํ ติกฺขตฺตุํ โจทนาย ตํ จีวรํ ลภติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลภติ, ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ, น อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น อามิสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, น ธมฺโม ภาสิตพฺโพ. ‘‘กึ การณา อาคโตสี’’ติ วุตฺเต ‘‘ชานาหิ, อาวุโส’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ. สเจ นิสชฺชาทีนิ กโรติ, านํ ภฺชติ. วตฺตเภททุกฺกฏฺจ อาปชฺชตีติ วทนฺติ. เอวํ ปน อปฺปฏิปชฺชิตฺวา อติเรกติกฺขตฺตุํ โจทนาย อติเรกฉกฺขตฺตุํ าเนน สเจ นิปฺผาเทติ, นิสฺสคฺคิยนฺติ อตฺโถ.
() สนฺถตํ (ปารา. ๕๔๔) นาม สนฺถริตฺวา กตํ โหติ อวายิมํ. เอกโกสิยํสุนาปิ เจ มิสฺเสตฺวา กโรติ, นิสฺสคฺคิยํ.
(ฏ) สุทฺธกาฬกานนฺติ (ปารา. ๕๔๗-๕๔๙) อฺเหิ อมิสฺสิตานนฺติ อตฺโถ. ‘‘กาฬกํ นาม ทฺเว กาฬกานิ ชาติกาฬกํ วา รชนกาฬกํ วา’’ติ วุตฺตํ.
() อนาทิยิตฺวา…เป… ตุลนฺติ (ปารา. ๕๕๔) เอตฺถ ปน ยตฺตเกหิ เอฬกโลเมหิ กตฺตุกาโม โหติ, เตสุ ทฺเว โกฏฺาสา กาฬกานํ, เอโก โอทาตานํ, เอโก โคจริยานํ อาทาตพฺโพติ วินิจฺฉโย. เอกสฺสาปิ กาฬกโลมสฺส อติเรกภาเค สติ นิสฺสคฺคิยเมว.
(ฑ) อูนกฉพฺพสฺสานีติ ¶ (ปารา. ๕๖๒) ฉพฺพสฺสโต โอรภาเค.
(ฒ) นิสีทนสนฺถตํ (ปารา. ๕๖๗) ปน การาเปนฺเตน ปุราณสนฺถตสฺส เอกปสฺสโต วฏฺฏํ วา จตุรสฺสํ วา ฉินฺทิตฺวา คหิตฏฺานํ ยถา วิทตฺถิมตฺตํ โหติ, เอวํ คเหตฺวา เอกเทสํ วา สนฺถริตพฺพํ, วิชเฏตฺวา วา สนฺถริตพฺพํ.
(ต) น ¶ เกวลํ โธวาปเน (ปารา. ๕๗๘) เอว นิสฺสคฺคิยํ, รชเนปิ นิสฺสคฺคิยเมว.
(ท) รูปิยปฏิคฺคหณสฺเสว (ปารา. ๕๘๙) ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ปฏิคฺคหิตปริวตฺตเน โทสํ อปสฺสนฺตา กตากตาทิวเสน อเนกวิธํ ชาตรูปปริวตฺตนํ กโรนฺติ, ตํ สนฺธาย ‘‘นานปฺปการก’’นฺติ วุตฺตํ.
๓๘๗-๙. อาปตฺตึ เทเสตฺวา ปจฺฉา กตฺตพฺพํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถา’’ติ วุตฺตํ. คิหึ วเทติ สเจ ตตฺถ อาคจฺฉติ อารามิโก วา อุปาสโก วา, ตํ วเทยฺยาติ อตฺโถ. เอวํ วุตฺโต โส ‘‘อิมินา กึ อาหรามี’’ติ เจ วเทยฺยาติ อตฺโถ. อวตฺวามนฺติ ‘‘อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’’ติ อวตฺวาติ อตฺโถ. วเทติ ‘‘กปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๘๔, ๕๘๙) วจนโต ‘‘ปพฺพชิตานํ สปฺปิ วา เตลํ วา มธุ วา ผาณิตํ วา วฏฺฏตี’’ติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ, ‘‘อิมํ นาม อาหรา’’ติ น วตฺตพฺพเมว. ทฺเวเปเตติ ทฺเวปิ เอเต รูปิยปฏิคฺคาหกฺจ รูปิยสพฺโยหาริกฺจาติ อตฺโถ. อฺเนาติ อนฺตมโส อารามิเกนาปิ ลทฺธภาโค น กปฺปติ เอว.
๓๙๐. อนฺตมโส (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๔) ตนฺนิพฺพตฺตา รุกฺขจฺฉายาปิ น กปฺปตีติ. นิสฺสฏฺํ ปฏิลทฺธมฺปีติ เอตฺถ ยถา รูปิยสํโวหารํ กตฺวา ลทฺธวตฺถุโต ¶ อาภตํ น กปฺปติ, ตถา โกสิยมิสฺสกสนฺถตาทิตฺตยมฺปิ น กปฺปติ. น เกวลํ ตสฺเสว, อฺเสมฺปิ น กปฺปเตว ‘‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๔๕, ๕๕๐, ๕๕๕) วุตฺตตฺตา.
๓๙๑. เอวํ โน เจ ลเภถ, โส อารามิกาทิโก ‘‘อิมํ ฉฑฺเฑหี’’ติ สํสิโย วตฺตพฺโพติ อตฺโถ. เอวมฺปิ โน เจ ลเภยฺย, สมฺมโต ภิกฺขุ ฉฑฺเฑยฺยาติ อตฺโถ.
๓๙๒. ปฏิคฺคหิตรูปิยฺจ ปริวตฺติตรูปิยฺจ สนฺธาย ‘‘เอตานี’’ติ วุตฺตํ. ทุติยปตฺโต นาม ‘‘อูนปฺจพนฺธเนน ปตฺเตน อฺํ นวํ ปตฺตํ เจตาเปยฺย, นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๖๑๒) วุตฺตปตฺโต. โส จ เอตานิ จ สงฺเฆ นิสฺสฏฺุํ ลพฺภเรติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตพฺพํ, ภิกฺขุปริสาย นิสฺสชฺชิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๘๔, ๕๘๙) จ วุตฺตตฺตา น คณปุคฺคลานํ ¶ นิสฺสชฺชิตุํ วฏฺฏติ. เสสานิ ปน ตีณิ จีวราทิวตฺถูนิ ‘‘นิสฺสชฺชิตพฺพํ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา’’ติ วุตฺตตฺตา (ปารา. ๔๖๓) สงฺฆาทีนํ นิสฺสชฺชิตุํ วฏฺฏติ. ภาสนฺตเรนปีติ ปาฬิยา วตฺตุํ อสกฺโกนฺเตน ทมิฬภาสาทีสุ อฺตรายปิ นิสฺสชฺชิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
๓๙๓. (ก-ค) นานปฺปการกํ นาม ‘‘จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, ‘‘อนฺตมโส จุณฺณปิณฺโฑปิ ทนฺตกฏฺมฺปิ ทสิกสุตฺตมฺปี’’ติ (ปารา. ๕๙๕) ปาฬิยํ วุตฺตํ. เจตาปิโตติ (ปารา. ๖๑๓) ยาจิตฺวา คหิโต.
๓๙๔. สมฺมนฺนิตฺวาน ปตฺตคาหกํ สงฺฆสฺส ปตฺตนฺตนฺติ (ปารา. ๖๑๔; กงฺขา. อฏฺ. อูนปฺจพทฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา) ย อนฺติมํ ปตฺตํ, ตํ ตสฺส ทาปเยติ อตฺโถ.
๓๙๕. (ข) ปริทหิตํ ¶ นิสฺสคฺคิยนฺติ เอตฺถ (ปารา. ๖๒๖-๖๒๘; ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘) ปน ตฺวา วสฺสิกสาฏิกาย ปริเยสนกฺเขตฺตํ กรณกฺเขตฺตํ นิวาสนกฺเขตฺตํ อธิฏฺานกฺเขตฺตนฺติ จตุพฺพิธํ เขตฺตฺจ กุจฺฉิสมโย ปิฏฺิสมโยติ ทุวิโธ สมโย จ เวทิตพฺโพ. กถํ? คิมฺหานมาเสสุ ปจฺฉิมมาสสฺส ปุริโม อฑฺฒมาโส ปริเยสนกฺเขตฺตํ, ปจฺฉิโม กรณกฺเขตฺตฺจ นิวาสนกฺเขตฺตฺจ, ปริเยสิตุมฺปิ วฏฺฏติ, อธิฏฺาตุํ ปน น วฏฺฏติ. วสฺสิกา ปน จตฺตาโร มาสา ปริเยสนาทีนํ จตุนฺนมฺปิ เขตฺตํ. เอเต เอว ปฺจ มาสา กุจฺฉิสมโย นาม. อิตเร สตฺต มาสา ปิฏฺิสมโย, ตตฺถ สตุปฺปาทกรณํ น วฏฺฏติ.
(ค) อจฺฉินฺนนฺติ เอตฺถ ‘‘โย ปน มม ปตฺตจีวราทีนิ วหนฺโต มยา สทฺธึ จริสฺสตี’’ติ สฺาย จีวรํ ทตฺวา ปุน สกสฺาย เอว อตฺตโน เวยฺยาวจฺจํ อกโรนฺตํ ทิสฺวา อจฺฉินฺทติ, โส อิมํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ. เกวลํ ปริจฺจชิตฺวา ทินฺนํ คเหตุเมว น ลภติ.
(ฆ) สุตฺตํ วิฺาเปตฺวาติ เอตฺถ จีวรการสมยาทีสุ จีวรสิพฺพนาทีนมตฺถาย สุตฺตํ วิฺาเปตฺวาติ อตฺโถ. อฺถา สุตฺตํ วิฺาเปตุเมว น วฏฺฏติ. วิฺตฺติยา เอว ลทฺธตนฺตวาเยหีติ ¶ อตฺโถ. สุตฺตตนฺตวายานํ อกปฺปิยภาเว สติ ทีฆโต วิทตฺถิมตฺเต, ติริยนฺตโต หตฺถมตฺเต วีเต นิสฺสคฺคิยํ, เอกโต อกปฺปิยปกฺเข ทุกฺกฏํ.
(ง) วิกปฺปํ อาปนฺนนฺติ (ปารา. ๖๔๓) ‘‘อิทํ โข, อาวุโส, จีวรํ มํ อุทฺทิสฺส วิยฺยติ, อายตฺจ กโรถ วิตฺถตฺจา’’ติอาทินา อธิกํ วิธานํ อาปนฺนนฺติ อตฺโถ.
(จ) อจฺเจกจีวรํ (ปารา. ๖๔๙-๖๕๐) นาม เสนาย คนฺตุกามาทีหิ ทินฺนํ.
(ฉ) อติเรกฉารตฺตนฺติ (ปารา. ๖๕๔-๖๕๕) ¶ ฉทิวสโต อติเรกํ. ‘‘อตฺถตกถินานํ โว, ภิกฺขเว, ปฺจ กปฺปิสฺสนฺติ, อนามนฺตจาโร อสมาทานจาโร คณโภชนํ ยาวทตฺถจีวรํ โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโท, โส เนสํ ภวิสฺสตี’’ติ (มหาว. ๓๐๖) วุตฺตอานิสํเสสุ จีวรมาเส อสมาทานจารํ เปตฺวา เสสานิสํสา ลพฺภนฺติ. ยทิ อสมาทานจาโร ลพฺเภยฺย, ปาเวยฺยกา ภิกฺขู วสฺสํวุตฺถา โอกปุณฺเณหิ จีวเรหิ น ภควนฺตํ อุปสงฺกเมยฺยุํ, ยสฺมา ตํ น ลภนฺติ, ตสฺมา จีวรมาเสปิ ติจีวรํ อาทาย เอว ภควนฺตํ อุปสงฺกมึสุ. ตสฺมา เวทิตพฺพํ อสมาทานจารปริหารํ อตฺถตกถินา เอว ลภนฺติ, น อิตเรติ วทนฺติ.
๓๙๗. (ข) ‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ ปาฏิเทสนียาปตฺตึ, ทฺเว, สมฺพหุลา ปาฏิเทสนียาปตฺติโย อาปชฺชิ’’นฺติ อิมํ ปน เยสุ โปตฺถเกสุ ลิขิตํ, ตํ อภยคิริวาสีนํ ขุทฺทสิกฺขาวเสน ทสฺสิตํ กิร. ตตฺถ ‘‘อหํ, อายสฺมา, สมฺพหุลา ปาฏิเทสนียา อาปตฺติโย อาปนฺโน, ตาโย ปฏิเทเสมิ. อหํ, อายสฺมา, เอกํ ปาฏิเทสนียํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ ปฏิเทเสมี’’ติ หิ วุตฺตํ. อมฺหากํ ปน เอวํ เทสนาวิธานํ นตฺถิ. ‘‘คารยฺหํ, อาวุโส, ธมฺมํ อาปชฺชึ อสปฺปายํ ปาฏิเทสนียํ, ตํ ปฏิเทเสมี’’ติ (ปาจิ. ๕๕๓) วุตฺตํ. สมนฺตปาสาทิกายํ (ปาจิ. ๕๕๓) ‘‘คารยฺหํ อาวุโส’ติอาทิ ปฏิเทเสตพฺพาการทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ. กงฺขาวิตรณิยมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาฏิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ตสฺสา เทเสตพฺพากาโร คารยฺหํ อาวุโส’ติอาทินา นเยน สิกฺขาปเท ทสฺสิโตเยวา’’ติ วุตฺตตฺตา ปาเ อาคตนเยเนว เทสนาวิธานํ เวทิตพฺพํ. สเจ ทฺเว โหนฺติ, ‘‘คารยฺเห, อาวุโส, ทฺเว ธมฺเม อาปชฺชึ อสปฺปาเย ปาฏิเทสนีเย, เต ปฏิเทเสมี’’ติ, ‘‘ปสฺสถ, ภนฺเต, เต ธมฺเม’’ติ ¶ จ ‘‘คารยฺเห ¶ , อาวุโส, สมฺพหุเล ธมฺเม อาปชฺชึ อสปฺปาเย ปาฏิเทสนีเย, เต ปฏิเทเสมี’’ติ, ‘‘ปสฺสถ, ภนฺเต, เต ธมฺเม’’ติ จ เอวํ ยถานุรูปํ เทสนาวิธานํ เวทิตพฺพํ. เสสํ วุตฺตปฺปการเมวาติ.
๓๙๘. อเทสนาคามินิยนฺติ (ปริ. ๔๒๔ อาทโย; ปริ. อฏฺ. ๔๒๕) ปาราชิกฺจ สงฺฆาทิเสสฺจ น เทสเยติ อตฺโถ. อนาปตฺติฺจาติ อนาปตฺตึ เอว ‘‘อาปตฺติ’’นฺติ น เทสเย. ลหุกาปตฺติมฺปิ ปุพฺเพ เทสิตํ ปุน น เทสเยติ สมฺพนฺโธ, นานาสํวาสนิสฺสีมฏฺิตานํ สนฺติเก น เทสเยติ อตฺโถ. จตุปฺจหีติ เอตฺถ สมานวสฺสิกปวารณายํ วิย จตูหิ วา ปฺจหิ วา เอกโต หุตฺวา เอกสฺส สนฺติเก น เทสเยติ อตฺโถ. ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา วฏฺฏติ. กถํ เทเสตพฺพนฺติ เจ? เอกสฺส สนฺติเก ตีหิปิ เอกโต นิสีทิตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ ปาจิตฺติยาปตฺตึ อาปชฺชึ, ตํ ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ เอวํ อตฺตนา อาปนฺนอาปตฺติวเสน วุตฺเต เตน ‘‘ปสฺสสิ, อาวุโส, ตํ อาปตฺติ’’นฺติ เอวํ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต ‘‘อาม, ภนฺเต, ปสฺสามี’’ติ วา ‘‘อามาวุโส ปสฺสามี’’ติ วา วุตฺเต ปุน เตน ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาถา’’ติ วา ‘‘สํวเรยฺยาสี’’ติ วา วุตฺเต ‘‘สาธุ สุฏฺุ สํวริสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํ, เอวํ เทเสตพฺพํ. มนสาติ วจีเภทํ อกตฺวา เกวลํ จิตฺเตเนว น เทสเยติ อตฺโถ. อปกตตฺตานนฺติ อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนสฺส วา อุกฺขิตฺตกสฺส วา อุโปสโถ ปวารณา วา ปิตา โหนฺติ, ตสฺส สนฺติเก น เทสเยติ อตฺโถ. นาเนกาติ นานาปตฺติโย ‘‘เอกา’’ติ วตฺวา น เทสเยติ อตฺโถ. เอกา ปน ‘‘สมฺพหุลา’’ติ เทสิตา โหตีติ. เทสนาวินิจฺฉโย.
เทสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๓. ฉนฺททานนิทฺเทสวณฺณนา
๓๙๙. กมฺมปฺปตฺเต ¶ สงฺเฆ สมาคเตติ สมฺพนฺโธ. เอเตน สงฺเฆ อสมาคเต ฉนฺททานํ น รุหตีติ ทีปิตํ โหตีติ วทนฺติ. เอตฺถายํ วิจารณา – ปฺจภิกฺขุเก วิหาเร เอกสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธึ ¶ อาหริตฺวา เสสานํ อุโปสถาทิกรณํ อนฺุาตํ ปาฬิยํ (ปริ. ๔๙๖-๔๙๗) อฏฺกถายฺจ (ปริ. อฏฺ. ๔๘๗-๔๘๘). เตสุ เอโก ฉนฺททายโก, เอโก ฉนฺทหารโก, เต มฺุจิตฺวา น เอตฺถ สนฺนิปติโต สงฺโฆ ติณฺณํ สมูหภาวโต, ตสฺมา อสมาคเตปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. อาโรเจนฺเตน ปน สมาคเต เอว อาโรเจตพฺพํ. อิธาปิ ‘‘หเรยฺยา’’ติ วุตฺตํ, น ‘‘เทเสยฺยา’’ติ. ตตฺถ ฉนฺทหารเกน สทฺธึ กมฺมปฺปตฺตานํ สนฺนิปาโต เวทิตพฺโพ.
๔๐๐. อิทานิ ฉนฺททานวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกํ ภิกฺขุ’’นฺติอาทิมาห (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา).
๔๐๑. (ก) ‘‘ฉนฺทํ ทมฺมี’’ติ เอตฺตกเมว อลํ, ‘‘หร, อาโรเจหี’’ติ อิเมหิ กึปโยชนนฺติ เจ? วุจฺจเต – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตทหุโปสเถ ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ฉนฺทมฺปิทาตุํ, สนฺติ สงฺฆสฺส กรณีย’’นฺติ (มหาว. ๑๖๕) วุตฺตตฺตา ภควโต อาณํ กโรนฺเตน ‘‘ฉนฺทํ ทมฺมี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ฉนฺทหารโก เจ, ภิกฺขเว, ทินฺเน ฉนฺเท อนฺตรามคฺเค ปกฺกมติ, อนาหโฏว โหติ ฉนฺโท’’ติ (มหาว. ๑๖๕) วุตฺตตฺตา ฉนฺทหารกสฺส อฺสฺส อปกฺกมนตฺถาย ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ‘‘อิทํ กโรหิ เอวา’’ติ อาณาเปนฺเตน ‘‘ฉนฺทํ เม หรา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ฉนฺทหารโก เจ, ภิกฺขเว, ทินฺเน ฉนฺเท สงฺฆปฺปตฺโต สฺจิจฺจ นาโรเจติ, อาหโฏ โหติ ฉนฺโท, ฉนฺทหารกสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๖๕) วุตฺตตฺตา ‘‘ยทิตฺวํ สฺจิจฺจ นาโรเจสฺสสิ, อาปตฺตึ อาปชฺชิสฺสสิ ¶ , อาโรเจหิ เอวา’’ติ ตสฺส อาจิกฺขนฺโต ‘‘อาโรเจหี’’ติ อาหาติ เอวเมตฺถ อิเมสํ ปทานํ สปฺปโยชนตา เวทิตพฺพา. เอวํ ปาริสุทฺธิทาเนปีติ.
๔๐๒. เสสกมฺมนฺติ ยทิ สงฺโฆ อุโปสถคฺเค อฺํ อปโลกนาทิกมฺมํ กโรติ, ตํ กมฺมํ วิพาธติ, วิโกเปตีติ อตฺโถ.
๔๐๓. ทฺวยนฺติ อุโปสถฺจ เสสกมฺมฺจาติ อตฺโถ. นตฺตโนติ อตฺตโน อุโปสถํ น สมฺปาเทติ.
๔๐๕. ‘‘เอกํสํ ¶ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา’’ติอาทิกํ (มหาว. ๒๑๓) สพฺพูปจารํ กตฺวานาติ อตฺโถ.
๔๐๖. ‘‘อิตฺถนฺนาเมน ปวารณา ทินฺนา’’ติ อาโรเจตฺวา.
๔๐๘. ปฏิชาเนยฺย นาหฏาติ (มหาว. ๑๖๔-๑๖๕, ๒๑๓) ปาเ น อาหฏาติ นาหฏา, อาหฏา น โหตีติ อตฺโถ. ตถา เหยฺยาติ วิพฺภมนาทีนิ กเรยฺยาติ อตฺโถ.
๔๐๙. สุตฺโต วา นาโรจเยยฺย, อาหฏา โหตีติ สมฺพนฺโธ. อนาปตฺติวาติ อนาปตฺติ เอว. ฉนฺททานวินิจฺฉโย.
ฉนฺททานนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๔. อุโปสถนิทฺเทสวณฺณนา
๔๑๑. สุตฺตุทฺเทโส สงฺฆสฺเสว. เสสานนฺติ ทฺวินฺนํ ติณฺณํ วา.
๔๑๒. ปุพฺพกรเณ ¶ ปุพฺพกิจฺเจ, ปตฺตกลฺเล สมานิเตติ สพฺพปมํ กตฺตพฺพํ ปุพฺพกรณํ. ตทนนฺตรํ กตฺตพฺพํ ปุพฺพกิจฺจํ นาม. เอตฺถ –
‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป จ, อุทกํ อาสเนน จ;
อุโปสถสฺส เอตานิ, ปุพฺพกรณนฺติ วุจฺจติ.
‘‘ฉนฺทปาริสุทฺธิอุตุกฺขานํ, ภิกฺขุคณนา จ โอวาโท;
อุโปสถสฺส เอตานิ, ปุพฺพกิจฺจนฺติ วุจฺจตี’’ติ –. (มหาว. อฏฺ. ๑๖๘);
เอวํ ¶ อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน ปุพฺพกรณฺจ ปุพฺพกิจฺจฺจ เวทิตพฺพํ.
‘‘อุโปสโถ ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา,
สภาคาปตฺติโย จ น วิชฺชนฺติ;
วชฺชนียา จ ปุคฺคลา ตสฺมึ น โหนฺติ,
ปตฺตกลฺลนฺติ วุจฺจตี’’ติ –. (มหาว. อฏฺ. ๑๖๘);
วุตฺตวเสน ปตฺตกลฺเล สมานิเต, ปชฺชิเตติ อตฺโถ. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ปาติโมกฺขุทฺเทสา. นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ปโม ปาติโมกฺขุทฺเทโส. นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ทุติโย ปาติโมกฺขุทฺเทโส. นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ตติโย ปาติโมกฺขุทฺเทโส. นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส อุทฺทิสิตฺวา ทฺเว อนิยเต อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ จตุตฺโถ ปาติโมกฺขุทฺเทโส. วิตฺถาเรเนว ปฺจโม. อิเม โข ภิกฺขเว ปฺจ ปาติโมกฺขุทฺเทสา’’ติ (มหาว. ๑๕๐) วุตฺตตฺตา โส สุตฺตุทฺเทโส ปฺจธา วิภาวิโตติ อตฺโถ.
๔๑๓. วินานฺตรายนฺติ (มหาว. ๑๕๐) ¶ ราชนฺตรายาทิทสวิธํ อนฺตรายํ วินา สงฺเขเปนุทฺเทโส วินิวาริโต ปฏิกฺขิตฺโตติ อตฺโถ. เถโรวาติ สงฺฆตฺเถโรว. เอตฺถาติ ปฺจสุ อุทฺเทเสสุ. ‘‘ทฺวีสุ วา ตีสุ วา วิสเทสุ เถโรว อิสฺสโร’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อวตฺตนฺเตปิ อนฺตราเย สํขิตฺเตน อุทฺทิสิตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. กตฺถ วุตฺตนฺติ เจ? ‘‘โย ตตฺถ ภิกฺขุ พฺยตฺโต ปฏิพโล, ตสฺสาเธยฺย’’นฺติ (มหาว. ๑๕๕) วุตฺตปาฬิยา อฏฺกถายํ ‘‘โย ตตฺถ ภิกฺขุ พฺยตฺโต ปฏิพโลติ เอตฺถ กิฺจาปิ ทหรสฺสาปิ พฺยตฺตสฺส ปาติโมกฺโข อนฺุาโต, อถ โข เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – สเจ สงฺฆตฺเถรสฺส ปฺจ วา จตฺตาโร วา ตโย วา ปาติโมกฺขุทฺเทสา นาคจฺฉนฺติ, ทฺเว ปน อขณฺฑา สุวิสทา วาจุคฺคตา โหนฺติ, เถรายตฺโตว ปาติโมกฺโข. สเจ ปน เอตฺตกมฺปิ วิสทํ กาตุํ น สกฺโกติ, พฺยตฺตสฺส ภิกฺขุโน อายตฺโตว โหตี’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. ปาฬิยมฺปิ วุตฺตเมว ‘‘เตหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ เอโก ภิกฺขุ สามนฺตา ¶ อาวาสา สชฺชุกํ ปาเหตพฺโพ ‘คจฺฉ, อาวุโส, สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา ปาติโมกฺขํ ปริยาปุณิตฺวา อาคจฺฉา’’’ติ (มหาว. ๑๖๓).
๔๑๔. อุทฺทิสนฺเต วาติ (มหาว. ๑๗๒) ปาติโมกฺเข อุทฺทิสิยมาเน สมา วา โถกตรา วา ยทิ อาคจฺเฉยฺยุํ, อุทฺทิฏฺํ สุอุทฺทิฏฺํ, เตหิ สทฺธึ นิสีทิตฺวา อวเสสกํ โสตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๔๑๕. อุทฺทิฏฺมตฺเต (มหาว. ๑๗๒) วา สกลาย วา เอกจฺจาย วา ปริสาย วุฏฺิตาย สมา วา โถกตรา วา ยทิ อาคจฺเฉยฺยุนฺติ สมฺพนฺโธ. ปาริสุทฺธินฺติ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ. กเรยฺเยสนฺติ กเรยฺย เอสํ, เอเตสํ สนฺติเกติ อตฺโถ. พหุกาถ เจติ อถ พหุกา เจ, ปุน อาคตา พหุกา เจติ อตฺโถ ¶ ,. ‘‘อุทฺทิสฺสมาเน, อุทฺทิฏฺมตฺเต เอกจฺจาย วุฏฺิตาย สกลาย วุฏฺิตายา’’ติ (มหาว. ๑๗๒) อาคเตสุ สพฺพวิกปฺเปสุ ปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา ปุน อาทิโต ปฏฺาย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสติ อตฺโถ.
๔๑๖. อิตรานนฺติ อาคนฺตุกานํ. สเจตโรติ สเจ จาตุทฺทสิโกติ อตฺโถ. สมาเนตเรนุวตฺตนฺตูติ สมา วา อูนา วา อิตเร อาคนฺตุกา ปุริมานํ อาวาสิกานํ อนุวตฺตนฺตูติ อตฺโถ. สเจธิกาติ อาคนฺตุกา สเจ อธิกา, ปุริมา อาวาสิกา อนุวตฺตนฺตูติ อตฺโถ. เสเสปฺยยํ นโยติ ‘‘อาคนฺตุกานํ ปนฺนรโส โหติ, อาวาสิกานํ จาตุทฺทโส’’ติ อิตเรปิ สมโถกา อาคนฺตุกา อาวาสิกานํ อนุวตฺตนฺตูติอาทินา นเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ.
๔๑๗. มูลฏฺาติ อาวาสิกา. สมโถกานํ อาคนฺตุกานํ. สามคฺคึ เทนฺตุ กามโตติ ยทิ อิจฺฉนฺติ, เทนฺตูติ อตฺโถ.
๔๑๘. โน เจ เทนฺติ, อาคนฺตุเกหิ พหิ คนฺตฺวาน อุโปสโถ กาตพฺโพติ อตฺโถ. อนิจฺฉาย สามคฺคี เทยฺยาติ สมฺพนฺโธ.
๔๑๙. ‘‘น ภิกฺขเว ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน สฺจิจฺจ น สาเวตพฺพํ. โย น สาเวยฺย, อาปตฺติ ¶ ทุกฺกฏสฺสา’’ติวุตฺตตฺตา (มหาว. ๑๕๔) ‘‘สาเวยฺย สุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วายมิตุํ กถํ สาเวยฺยนฺติ, วายมนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ (มหาว. ๑๕๔) วุตฺตตฺตา ‘‘สฺจิจฺจ อสฺสาเวนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตํ.
๔๒๐. ตถาติ ¶ ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. กลฺโลติ อคิลาโน. เปสิโตติ อาณตฺโต. ‘‘น ภิกฺขเว เถเรน อาณตฺเตน อคิลาเนน น สมฺมชฺชิตพฺพํ. โย น สมฺมชฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ (มหาว. ๑๕๙) วุตฺตํ.
๔๒๑-๓. อิทานิ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺมชฺชิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฺชลึ (มหาว. ๑๖๘) ปคฺคยฺหาติ สมฺพนฺโธ. เตติ อวเสสา ทฺเว เอวํ สมุทีริยา วตฺตพฺพาติ อตฺโถ. เอกํสํ อุตฺตราสงฺคาทิกรณวเสน สมตฺตปุพฺพารมฺเภน เต ทฺเว ภิกฺขู นเวน เอวมีริยา วตฺตพฺพาติ อตฺโถ.
๔๒๔-๕. อิทานิ ทฺวีหิ กตฺตพฺพํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺวีสุ เถเรนา’’ติ วุตฺตํ.
๔๒๖. เอตฺตาวตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตุนฺนํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๖๘) จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๖๘) จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๖๘) จ วุตฺตํ สงฺฆุโปสถฺจ ปาริสุทฺธิอุโปสถฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยตฺถ เอโก ภิกฺขุ วิหรติ, ตสฺส อนฺุาตํ อธิฏฺานุโปสถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุพฺพกิจฺจ’’นฺติอาทิมาห. เอตฺถ จ ปุพฺพกิจฺจํ นาม สมฺมชฺชนาทิกํเยว.
๔๒๗. สงฺฆุโปสถปาริสุทฺธิอุโปสถอธิฏฺานอุโปสถานํ วเสน ตํ ตํ อุโปสถํ ยทิ กยิรุนฺติ สมฺพนฺโธ.
๔๒๘. วคฺเค (มหาว. ๑๗๓) จ สมคฺเค จ ‘‘วคฺโค’’ติ สฺิโน จ ‘‘วคฺโค นุ โข, สมคฺโค นุ โข’’ติ เอวํ วิมติสฺส จ ทุกฺกฏํ, ‘‘นสฺสนฺเตเต วินสฺสนฺเตเต, โก เตหิ อตฺโถ’’ติ ¶ เอวํ ¶ อนาคตานํ ภิกฺขูนํ อตฺถิภาวํ ตฺวา เภทาธิปฺปาเยน อุโปสถํ กโรโต ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ อตฺโถ. ตทุภเยปิ ‘‘สมคฺโค’’ติ สฺิโน อนาปตฺติ.
๔๒๙-๔๓๐. เสสสหธมฺมิกา นาม ภิกฺขุํ เปตฺวา อวเสสา จตฺตาโร. อภพฺพสฺสาติ เอตฺถ ปณฺฑกเถยฺยสํวาสก ติตฺถิยปกฺกนฺตก ติรจฺฉานคต มาตุฆาตก ปิตุฆาตก อรหนฺตฆาตก ภิกฺขุนิทูสก สงฺฆเภทก โลหิตุปฺปาทกอุภโตพฺยฺชนกา อภพฺพา คหิตา. เอตฺถ ปน นาคมาณวกาทโย ติรจฺฉานคตปกฺขิกาติ เวทิตพฺพา. เอเตสํ นิสินฺนปริสายฺจ ปาติโมกฺขํ น อุทฺทิเสติ สมฺพนฺโธ.
ตถาติ โย ปน สงฺโฆ สภาคาปตฺติโก, โสปิ น อุทฺทิเส, ปริวุตฺเถน ฉนฺเทนปิ น อุทฺทิเสติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน จตุพฺพิธํ ปาริวาสิยํ ปริสปาริวาสิยํ รตฺติปาริวาสิยํ ฉนฺทปาริวาสิยํ อชฺฌาสยปาริวาสิยนฺติ.
เอตฺถ ปน ภิกฺขู เกนจิเทว กรณีเยน สนฺนิปติตา เมฆาทีหิ อุปทฺทุตา ‘‘อโนกาสา มยํ, อฺตฺร คจฺฉามา’’ติ ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว อุฏฺหนฺติ. อิทํ ปริสปาริวาสิยํ. กิฺจาปิ ปริสปาริวาสิยํ, ฉนฺทสฺส ปน อวิสฺสฏฺตฺตา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.
ปุนปิ ภิกฺขูนํ ‘‘อุโปสถาทีนิ กริสฺสามา’’ติ รตฺตึ สนฺนิปติตฺวา ธมฺมํ สุณนฺตานํเยว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ. สเจ ‘‘จาตุทฺทสิกํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา, ‘‘ปนฺนรโส’’ติ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปนฺนรสิกํ กาตุํ นิสินฺนา, ปาฏิปเท อนุโปสเถ อุโปสถํ กาตุํ น วฏฺฏติ, อฺํ ปน สงฺฆกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. อิทํ รตฺติปาริวาสิยํ นาม.
ปุน ¶ ภิกฺขู ‘‘ยํกิฺจิเทว อพฺภานาทิกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ สนฺนิปติตา โหนฺติ, ตตฺเรโก นกฺขตฺตปาโก เอวํ วทติ ‘‘อชฺช นกฺขตฺตํ ทารุณ’’นฺติ, เต ตสฺส วจเนน ฉนฺทํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตตฺเถว นิสินฺนา โหนฺติ. อถฺโ อาคนฺตฺวา ‘‘กึ นกฺขตฺเตน, กโรถา’’ติ วทติ. อิทํ ฉนฺทปาริวาสิยฺเจว อชฺฌาสยปาริวาสิยฺจ. ตสฺมึ ปาริวาสิเย ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อนาเนตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อิทํ สนฺธาย ‘‘ฉนฺเทน ปริวุตฺเถนา’’ติ วุตฺตํ.
๔๓๑. อาปนฺนมาปตฺตึ (มหาว. ๑๖๙; มหาว. อฏฺ. ๑๖๙) ¶ อเทสยิตฺวาน วา ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสามิ, ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามี’’ติ วตฺวา วิมตึ อนาวิกตฺวาน วา ‘‘น จ ภิกฺขเว อนุโปสเถ อุโปสโถ กาตพฺโพ อฺตฺร สงฺฆสามคฺคิยา’’ติ (มหาว. ๑๘๓) วุตฺตตฺตา อนุโปสเถปิ วา กาตุํ น จ กปฺปตีติ อตฺโถ.
๔๓๒. ‘‘น จ ภิกฺขเว ตทหุโปสเถ สภิกฺขุกา อาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ อฺตฺร สงฺเฆน อฺตฺร อนฺตรายา’’ติ (มหาว. ๑๘๑) วุตฺตตฺตา ‘‘อฏฺิโตโปสถาวาสา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๘๑) วุตฺตํ. น วเช น คจฺเฉ. อธิฏฺาตุํ สีมเมว วาติ สเจ วิหาเร อุโปสถํ กโรนฺติ, อุโปสถาธิฏฺานตฺถํ สีมาปิ นทีปิ น คนฺตพฺพา. สเจ ปเนตฺถ โกจิ ภิกฺขุ โหติ, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตุํ วฏฺฏติ. วิสฺสฏฺอุโปสถาปิ อาวาสา คนฺตุํ วฏฺฏติ, เอวํ คโต อธิฏฺาตุมฺปิ ลภตีติ. อุโปสถวินิจฺฉโย.
อุโปสถนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๕. ปวารณานิทฺเทสวณฺณนา
๔๓๓. ‘‘อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ สงฺเฆ ปวาเรตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๑๕) วุตฺตตฺตา ‘‘เสสา สงฺฆปฺปวารณา’’ติ (มหาว. ๒๑๕ อาทโย) วุตฺตา.
๔๓๔. อชฺช ปวารณาติ เอตฺถ (มหาว. ๒๑๕ อาทโย) ปน จาตุทฺทสิกาย ปวารณาย ‘‘อชฺช ปวารณา จาตุทฺทสี’’ติ ปุพฺพกิจฺจํ กาตพฺพํ, ปนฺนรสิยํ ‘‘อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี’’ติ.
๔๓๗. เถเรสุ อุกฺกุฏิกํ นิสชฺช ปวาเรนฺเตสุ สยํ ปน นโว ยาว ปวาเรติ, ตาว อุกฺกุฏิโกว อจฺฉตูติ อตฺโถ. ‘‘น ภิกฺขเว เถเรสุ อุกฺกุฏิกํ นิสินฺเนสุ ปวารยมาเนสุ อาสเนสุ ¶ อจฺฉิตพฺพํ. โย อจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตทมนฺตรา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตุํ, ยาว ปวาเรติ, ปวาเรตฺวา อาสเน นิสีทิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๑๑) หิ วุตฺตํ.
๔๔๐-๒. เอวํ เตวาจิกปฺปวารณํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทฺเววาจิกเอกวาจิกสมานวสฺสิกปฺปวารณาสุ กตฺตพฺพํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทาเนนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ทาเนนาติ ทาเนน วา. ธมฺมสากจฺฉาติ อิมินา ธมฺมกถาสุตฺตสงฺคายนาวินยวินิจฺฉยาทโย คหิตา. ทาเนน วา ธมฺมสากจฺฉาย วา กลเหน วา รตฺติยา เขปิตภาวโต เตวาจิกาย โอกาเส อสติ ทสวิเธ วา อนฺตราเย อนุรูปโต อุตฺตึ เปตฺวา ปวาเรยฺยาติ สมฺพนฺโธ.
อิทานิ ยถานุรูปโต ตฺติ ปิตา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุณาตุ เม’’ติอาทิมาห. ยถาปิตตฺติยาติ เอตฺถ สพฺพสงฺคาหิกาเจตฺติปิตา, เตวาจิกทฺเววาจิกเอกวาจิกานํ วเสน ปวาเรตพฺพํ, สมานวสฺสิกปฺปวารณาว เอกา น วฏฺฏติ. สเจ ‘‘สงฺโฆ เตวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ ปิตา, เตวาจิกา ¶ เอว วฏฺฏติ, ทฺเววาจิกาทโย น วฏฺฏนฺติ. ‘‘ทฺเววาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺเต ทฺเววาจิกฺจ เตวาจิกฺจ วฏฺฏติ, เอกวาจิกสมานวสฺสิกา น วฏฺฏนฺติ. ‘‘เอกวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺเต ปน สมานวสฺสิกํ เปตฺวา เสสา วฏฺฏนฺติ. ‘‘สมานวสฺสิก’’นฺติ ปน วุตฺเต สพฺพํ วฏฺฏตีติ. อาทิเก เจตฺถ อาหเรติ เอตฺถ ปวารณายปิ ปุพฺเพ อุโปสเถ วุตฺเต ‘‘ยทิ สมา อาคจฺเฉยฺยุ’’นฺติอาทิเก วาเร อาหเรติ อตฺโถ.
๔๔๓. อิทานิ วตฺตพฺพํ สนฺธาย ‘‘เอว’’นฺติ วุตฺตํ. ติวคฺโค จ จตุวคฺโค จ ติจตุวคฺโค.
๔๕๐. ‘‘น ภิกฺขเว สาปตฺติเกน ปวาเรตพฺพํ. โย ปวาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๓๕) วุตฺตตฺตา สาปตฺติเกนปิ เวมติเกนปิ ปวาริยมาเน อาปตฺตึ สรนฺเตนปิ อุโปสเถ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพํ. ‘‘วคฺเค สมคฺเค วคฺโคติ-สฺิโน วิมติสฺส วา’’ติอาทิคาถาโต ปฏฺาย ยาว ‘‘อนฺตรายํ ว สงฺฆํ วา-ธิฏฺาตุํ สีมเมว วา’’ติ อวสานคาถา, ตาว เสสา อุโปสเถ วุตฺตา คาถาโยติ อธิปฺเปตา.
๔๕๑. ปวาริเต ¶ จาติ (มหาว. ๒๑๓ อาทโย) ปมปวารณาย สงฺฆมฺหิ ปวาริเตติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ อวุตฺโถติ ปจฺฉิมิกาย อุปคโต อปรินิฏฺิตตฺตา ‘‘อวุตฺโถ’’ติ วุจฺจติ.
๔๕๒. จาตุมาสินีติ กตฺติกปุณฺณมี. เอตฺถ วุตฺถวสฺสา นาม ปจฺฉิมิกาย อุปคตา. ปวารณาวินิจฺฉโย.
ปวารณานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๖. สํวรนิทฺเทสวณฺณนา
๔๕๓. จกฺขุโสตาทิเภเทหีติ (ที. นิ. ๑.๒๑๓, ๔๕๔; ม. นิ. ๑.๔๑๑; อ. นิ. ๔.๑๙๘; ธ. ส. ๑๓๕๒-๑๓๕๔; มหานิ. ๑๙๖) ¶ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายมนสงฺขาเตหิ ฉหิ อินฺทฺริเยหีติ อตฺโถ. รูปสทฺทาทิโคจเรติ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺมสงฺขาเตสุ ฉสุ โคจเรสูติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน หตฺถปาทหสิตกถิตวิโลกิตาทิเภทํ สุภาการํ คเหตฺวา อโยนิโส มนสิ กโรนฺตสฺส อภิชฺฌา อุปฺปชฺชติ. ‘‘อนตฺถํ เม อจริ, จรติ, จริสฺสตี’’ติอาทินา (ปริ. อฏฺ. ๓๒๙) นเยน ปฏิฆนิมิตฺตํ คเหตฺวา อโยนิโส มนสิ กโรนฺตสฺส พฺยาปาโท อุปฺปชฺชติ. เอตฺถ ปน อิตฺถิปุริสนิมิตฺตํ วา สุภนิมิตฺตาทิกํ กิเลสวตฺถุภูตํ นิมิตฺตํ อคฺคณฺหิตฺวา ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตาทินา ปฏิปชฺชิตฺวา อสุภนิมิตฺเต โยนิโส มนสิการํ พหุลีกโรนฺตสฺส อภิชฺฌาย ปหานํ โหติ. ‘‘อนตฺถํ เม อจริ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’’ติอาทินา วา เมตฺตาภาวนาทิวเสน วา โยนิโส มนสิ กโรนฺตสฺส พฺยาปาทปฺปหานํ โหติ. เอวมิทํ สงฺเขปโต รูปาทีสุ กิเลสานุพนฺธนิมิตฺตาทิคฺคาหปริวชฺชนลกฺขณํ อินฺทฺริยสํวรสีลนฺติ เวทิตพฺพํ.
นิคฺคณฺเหยฺยาติ นิวาเรยฺย;
‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ; (อชิตาติ ภควา,)
สติ เตสํ นิวารณํ;
โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ;
ปฺาเยเต ปิธิยฺยเร’’ติ –. (สุ. นิ. ๑๐๔๑);
วุตฺตตฺตา ¶ ‘‘สติมา สมฺปชาโน วา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ ปน จตุพฺพิธํ สมฺปชฺํ สาตฺถกสปฺปายโคจรอสมฺโมหวเสน. สํวรวินิจฺฉโย.
สํวรนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๗. สุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา
๔๕๕. เทสนา ¶ สํวโร เอฏฺิ, ปจฺจเวกฺขณ เภทโตติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๕; วิสุทฺธิ. ๑.๑๙) เทสนาสุทฺธิ สํวรสุทฺธิ ปริเยฏฺิสุทฺธิ ปจฺจเวกฺขณสุทฺธีติ เอวํ จตุพฺพิธา สุทฺธีติ อตฺโถ. อิทานิ ตาหิ สุทฺธีหิ วิสุชฺฌนเก ทสฺเสตุํ ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสมฺมต’’นฺติอาทิมาห.
๔๕๖. ‘‘ปุน เอวํ น กริสฺส’’นฺติ จิตฺตาธิฏฺานสํวรา ยสฺมา สุชฺฌติ อินฺทฺริยสํวโร, ตสฺมา อินฺทฺริยสํวโร ‘‘สํวรสุทฺธี’’ติ วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ.
๔๕๗. ปหายาเนสนนฺติ อเนสนํ ปหาย ธมฺเมน อุปฺปาเทนฺตสฺส ปจฺจเยติ ปาเสโส.
๔๕๘. ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวามิ…เป… อุปฺปนฺนานํ เวยฺยาพาธิกานํ…เป… ปรมตายา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘) จ เอวํ จตูสุปิ ปจฺจเยสุ ยถาวุตฺตปจฺจเวกฺขณสุชฺฌนาติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน ทุวิธํ ปจฺจเวกฺขณํ ปฏิลาภกาเล จ ปริโภคกาเล จ. ปฏิลาภกาเล หิ ธาตุวเสน วา ปฏิกฺกูลวเสน วา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิตจีวราทีนิ ตโต อุตฺตริ ปริภฺุชนฺตสฺส อนวชฺโชว ปริโภโค, ปริโภคกาเลปิ. สุทฺธิวินิจฺฉโย.
สุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๘. สนฺโตสนิทฺเทสวณฺณนา
๔๕๙. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, อปฺปานิ เจว สุลภานิ จ, ตานิ จ อนวชฺชานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ปํสุกูลํ, ภิกฺขเว, จีวรานํ อปฺปฺจ สุลภฺจ, ตฺจ อนวชฺชํ. ปิณฺฑิยาโลโป, ภิกฺขเว, โภชนานํ อปฺปฺจ สุลภฺจ, ตฺจ อนวชฺชํ. รุกฺขมูลํ ¶ , ภิกฺขเว, เสนาสนานํ อปฺปฺจ สุลภฺจ, ตฺจ อนวชฺชํ. ปูติมุตฺตเภสชฺชํ, ภิกฺขเว, เภสชฺชานํ อปฺปฺจ สุลภฺจ, ตฺจ อนวชฺชํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อปฺปานิ เจว สุลภานิ จ, ตานิ จ อนวชฺชานี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๗; อิติวุ. ๑๐๑) วจนโต ‘‘อปฺเปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
สนฺตุฏฺโติ เอตฺถ ยถาลาภยถาพลยถาสารุปฺปสนฺโตสานํ วเสน เอเกกสฺมึ ปจฺจเย ตโย ตโย กตฺวา จตูสุ ปจฺจเยสุ ทฺวาทส สนฺโตสา โหนฺติ. มตฺตฺูติ เอตฺถ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๔๒๒; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๔.๒๓๙; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๑๖; อิติวุ. อฏฺ. ๒๘; ธ. ส. อฏฺ. ๑๒๔-๑๓๔) จตฺตาโร มตฺตา ปริเยสนมตฺตา ปฏิคฺคหณมตฺตา ปริโภคมตฺตา วิสฺสชฺชนมตฺตาติ. อิตรีตเรน ยาเปนฺโต สุภโร นาม. สนฺโตสวินิจฺฉโย.
สนฺโตสนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๙. จตุรารกฺขนิทฺเทสวณฺณนา
๔๖๑-๒. อสุภนฺติ อสุภภาวนา. อิเม จตฺตาโร จตุรารกฺขา นามาติ อธิปฺปาโย. อิทานิ เต ทสฺเสตุํ ‘‘อารกตฺตาทินา’’ติอาทิมาห. อารกตฺตาทินาติ เอตฺถ อารกตฺตา, อรีนํ อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวาติ อิเมหิ ตาว จตูหิ การเณหิ โส ภควา อรหนฺติ อนุสฺสริตพฺโพติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อารกตฺตา ¶ หตตฺตา จ, กิเลสารีน โส มุนิ;
หตสํสารจกฺกาโร, ปจฺจยาทีน จารโห;
น รโห กโรติ ปาปานิ, อรหํ เตน วุจฺจตี’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๑; วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๐);
ภควา ¶ ปน สพฺพกิเลเสหิ สุวิทูรวิทูเร ิโต มคฺเคน สวาสนกิเลสานํ หตตฺตา, ตสฺมา ‘‘อารกตฺตา อรห’’นฺติ วุตฺโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘โส ตโต อารกา นาม;
ยสฺส เยนาสมงฺคิตา;
อสมงฺคี จ โทเสหิ,
นาโถ เตนารหํ มโต’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๕);
ภควตา ปน สพฺพกิเลสารโย หตา, ตสฺมา ‘‘อรีนํ หตตฺตาปิ อรห’’นฺติ วุตฺโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ยสฺมา ราคาทิสงฺขาตา, สพฺเพปิ อรโย หตา;
ปฺาสตฺเถน นาเถน, ตสฺมาปิ อรหํ มโต’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๖);
ยํ ปเนตํ อวิชฺชาภวตณฺหามยนาภิปฺุาภิสงฺขารอปฺุาภิสงฺขารอาเนฺชาภิสงฺขารารํ ชรามรณเนมิ ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓) วจนโต อาสวสมุทยมเยน อกฺเขน วิชฺฌิตฺวา ติภวรเถ โยชิตํ อนาทิกาลปฺปวตฺตํ สํสารจกฺกํ, ตสฺส ภควโต โพธิรุกฺขมูเล สมฺมปฺปธานวีริยปาเทหิ จตุปาริสุทฺธิสีลปถวิยํ ปติฏฺาย สทฺธาหตฺเถน กมฺมกฺขยกราณผรสุํ คเหตฺวา สพฺเพ อรา หตา. ตสฺมา ‘‘อรานํ หตตฺตา อรห’’นฺติ วุตฺโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อรา สํสารจกฺกสฺส, หตา าณาสินา ยโต;
โลกนาเถน เตเนส, อรหนฺติ ปวุจฺจตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๘);
อคฺคทกฺขิเณยฺยตฺตา ¶ จีวราทีนํ ปจฺจยานํ อุตฺตมปูชาย จ ยุตฺโต ภควา, ตสฺมา ‘‘ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา จ อรห’’นฺติ วุจฺจติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ปูชาวิเสสํ ¶ สห ปจฺจเยหิ,
ยสฺมา อยํ อรหติ โลกนาโถ;
อตฺถานุรูปํ อรหนฺติ โลเก,
ตสฺมา ชิโน อรหติ นามเมต’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๙);
ยถา โลเก เกจิ ปณฺฑิตมานิโน อสิโลกภเยน รโห ปาปานิ กโรนฺติ, ตถา ภควา กทาจิปิ น กโรติ, ตสฺมา ‘‘ปาปกรเณ รหาภาวา จ อรห’’นฺติ วุจฺจติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ยสฺมา นตฺถิ รโห นาม, ปาปกมฺเมสุ ตาทิโน;
รหาภาเวน เตเนส, อรหํ อิติ วิสฺสุโต’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๐) –
เอวํ อารกตฺตาทินา อรหนฺติ ภาเวตพฺพํ.
สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา ปน สมฺมาสมฺพุทฺโธ. สมฺมาติ าเยเนว, อภิฺเยฺเย ธมฺเม อภิฺเยฺยโต ปริฺเยฺเย ธมฺเม ปริฺเยฺยโต ปหาตพฺเพ ธมฺเม ปหาตพฺพโต สจฺฉิกาตพฺเพ ธมฺเม สจฺฉิกาตพฺพโต ภาเวตพฺเพ ธมฺเม ภาเวตพฺพโต เอวาติ อตฺโถ. สามฺจาติ อตฺตนาว. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อภิฺเยฺยํ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;
ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๖๓);
‘‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถาเทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’’ติ เอวํ วุตฺเต นวเภเท ภควโต คุเณ ยา ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สติเยว อนุสฺสติ, ปวตฺติตพฺพฏฺานมฺหิเยว วา ปวตฺตตฺตา สทฺธาปพฺพชิตสฺส ¶ กุลปุตฺตสฺส อนุรูปา สตีติ อนุสฺสติ, พุทฺธํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ พุทฺธานุสฺสติ, ยา เอวํ นววิเธน ปวตฺตา สติ ¶ , สา พุทฺธานุสฺสติ นามาติ อตฺโถ. สพฺพากาเรน ปน อาจริเยน พุทฺธโฆเสน พุทฺธานุสฺสติ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๓ อาทโย) วุตฺตา, อตฺถิเกน ปน ตโต ปจฺจาสีสิตพฺพา.
๔๖๓-๔. จตุรารกฺขาย สายํปาตํ ภาเวตพฺพตฺตา เมตฺตาภาวนํ ทสฺเสนฺเตน เถเรน สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานภาวนาวเสน ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. อิตรถา ‘‘อตฺตานํ อุปมํ กตฺวา, น หเนยฺย น ฆาตเย’’ติ (ธ. ป. ๑๒๙-๑๓๐) วจนโต สพฺพปมํ ‘‘อหํ สุขิโต โหมิ, อเวโร’’ติอาทินา นเยน ภาเวตฺวาว อตฺตนิ จิตฺตํ นิปริพนฺธมานํ กตฺวา ปจฺฉา อาจริยุปชฺฌายาทีสุ กเมน ภาเวตพฺพา. อตฺตนิ ปน อปฺปนา น โหติ. โคจรคามมฺหิ อิสฺสเร ชเนติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถาติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕) โคจรคาเม. สีมฏฺสงฺฆโต ปฏฺาย ปริจฺฉิชฺช ปริจฺฉิชฺชาติ อตฺโถ. เอวํ เมตฺตํ ภาเวนฺโต ภิกฺขุสงฺเฆ เมตฺตาย สหวาสีนํ มุทุจิตฺตํ ชเนติ, อถสฺส สุขสํวาสตา โหติ. สีมฏฺกเทวตาสุ เมตฺตาย มุทุกตจิตฺตาหิ เทวตาหิ ธมฺมิกาย รกฺขาย สุสํวิหิตรกฺโข โหติ. โคจรคามมฺหิ อิสฺสรชเน เมตฺตาย มุทุกตจิตฺตสนฺตาเนหิ อิสฺสเรหิ ธมฺมิกาย รกฺขาย สุรกฺขิตปริกฺขาโร โหติ. ตตฺถ มนุสฺเส เมตฺตาย ปสาทิตจิตฺเตหิ เตหิ อปริภูโต หุตฺวา วิจรติ. สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตาย สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตจาโร โหติ.
๔๖๕-๖. วณฺณโต จ สณฺานโต จ โอกาสโต จ ทิสโต จ ปริจฺเฉทโต จ เกสาทิโกฏฺาเส ววตฺถเปตฺวาติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ วณฺณโตติ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๑๐) เกสาทีนํ วณฺณโต. สณฺานโตติ เตสํเยว สณฺานโต. โอกาสโตติ ‘‘อยํ โกฏฺาโส อิมสฺมึ นาม โอกาเส ปติฏฺิโต’’ติ เอวํ ตสฺส ตสฺส โอกาสโต. ทิสโตติ ¶ อิมสฺมึ สรีเร นาภิโต อุทฺธํ อุปริมา ทิสา, อโธ เหฏฺิมา ทิสา, ตสฺมา ‘‘อยํ โกฏฺาโส อิมิสฺสา นาม ทิสายา’’ติ ทิสา ววตฺถเปตพฺพา. ปริจฺเฉทโตติ สภาคปริจฺเฉทโต วิสภาคปริจฺเฉทโตติ ทฺเว ปริจฺเฉทา. ตตฺถ ‘‘อยํ โกฏฺาโส เหฏฺา จ อุปริ จ ติริยฺจ อิมินา นาม ปริจฺเฉโท’’ติ เอวํ สภาคปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. ‘‘เกสา น โลมา, โลมา น เกสา’’ติ เอวํ อมิสฺสกวเสน วิสภาคปริจฺเฉโท.
เอวํ ¶ ปฺจหิ อากาเรหิ ววตฺถานาการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ มนสิ กโรนฺเตน เอวํ มนสิ กาตพฺพนฺติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุปุพฺพโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนุปุพฺพโตติ สชฺฌายกรณกาลโต ปฏฺาย ‘‘เกสา นขา’’ติ เอวํ เอกนฺตริกาย วา ‘‘โลมา เกสา’’ติ เอวํ อุปฺปฏิปาฏิยา วา น มนสิ กาตพฺพํ, อถ โข ‘‘เกสา โลมา’’ติอาทินา นเยน อนุปฏิปาฏิยา มนสิ กาตพฺพํ, อนุปฏิปาฏิยา มนสิ กโรนฺเตนาปิ นาติสีฆํ นาติสณิกํ มนสิ กาตพฺพํ, พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ เจตโส วิกฺเขโป ปฏิพาหิตพฺโพ. ‘‘ปณฺณตฺตึ สมติกฺกมฺม, มฺุจนฺตสฺสานุปุพฺพโต’’ติ ปาโ คเหตพฺโพ. เอวฺหิ สติ ภาวนากฺกเมน อตฺโถ สุวิฺเยฺโย โหติ. ‘‘เกสา โลมา’’ติอาทิปฺตฺตึ อมนสิกตฺวา ปฏิกฺกูลภาเวน เอวํ จิตฺตํ เปตพฺพํ. มฺุจนฺตสฺสานุปุพฺพโตติ โย โย โกฏฺาโส อาปาถํ นาคจฺฉติ, ตํ ตํ อนุปุพฺพโต มฺุจนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
๔๖๗. อิทานิ ยถา ปฏิกฺกูลมนสิกาโร กาตพฺโพ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วณฺณอาสยสณฺานา’’ติอาทิมาห. เอเตหิ วณฺณาทีหิ โกฏฺาเสหิ ปฏิกฺกูลาติ ภาวนาติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ (วิภ. อฏฺ. ๓๕๖; วิสุทฺธิ. ๑.๑๗๘) เกสา ตาว วณฺณโตปิ ปฏิกฺกูลา. ตถา ¶ หิ ยาคุภตฺตาทีสุ เกสวณฺณํ กิฺจิ ทิสฺวา ชิคุจฺฉนฺติ. สณฺานโตปิ ปฏิกฺกูลา. ตถา หิ รตฺตึ ภฺุชนฺตา เกสสณฺานํ มกจิวากาทิกํ ฉุปิตฺวา ชิคุจฺฉนฺติ. เตลมกฺขนาทิวิรหิตานฺจ อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตานฺจ คนฺโธ อติวิย ปฏิกฺกูโลติ คนฺธโตปิ ปฏิกฺกูลา. อสุจิฏฺาเน ชาตสูเปยฺยปณฺณํ วิย ปุพฺพโลหิตมุตฺตกรีสปิตฺตเสมฺหาทินิสฺสนฺเทน ชาตตฺตา อาสยโตปิ ปฏิกฺกูลา. คูถราสิมฺหิ อุฏฺิตกณฺณิกํ วิย เอกตึสโกฏฺาสราสิมฺหิ ชาตตฺตา โอกาสโตปิ ปฏิกฺกูลา. อุทฺธุมาตกํ วินีลกํ วิปุพฺพกํ วิจฺฉิทฺทกํ วิกฺขายิตกํ วิกฺขิตฺตกํ หตวิกฺขิตฺตกํ โลหิตกํ ปุฬวกํ อฏฺิกนฺติ อิเมสุ อุทฺธุมาตกาทีสุ วตฺถูสุ อสุภาการํ คเหตฺวา ปวตฺตา ภาวนา วา อสุภํ นามาติ อตฺโถ.
๔๖๘. ยํ ปเนตํ อรหนฺตานํ วฏฺฏทุกฺขสมุจฺเฉทสงฺขาตํ สมุจฺเฉทมรณํ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๖๗), สงฺขารานํ ขณภงฺคสงฺขาตํ ขณิกมรณํ, ‘‘รุกฺโข มโต, โลหํ มต’’นฺติอาทิ สมฺมุติมรณฺจ, น ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. อิธ ปน มรณนฺติ เอกภวปริยาปนฺนสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉโท อธิปฺเปโต. ตมฺปิ กาลมรณํ อกาลมรณนฺติ ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ กาลมรณํ ปฺุกฺขเยน วา อายุกฺขเยน วา อุภยกฺขเยน วา โหติ, อกาลมรณํ อุปปีฬกอุปจฺเฉทกกมฺมวเสน ¶ . ‘‘มรณํ เม ภวิสฺสตี’’ติ วา ‘‘ชีวิตํ อุจฺฉิชฺชิสฺสตี’’ติ วา ‘‘มรณํ มรณ’’นฺติ วา โยนิโส ภาวยิตฺวานาติ สมฺพนฺโธ.
๔๖๙-๗๐. ยสฺส ปน เอตฺตาวตา อุปจารชฺฌานํ น อุปฺปชฺชติ, เตน วธกปจฺจุปฏฺานโต สมฺปตฺติวิปตฺติโต อุปสํหรณโต กายพหุสาธารณโต อายุทุพฺพลโต อนิมิตฺตโต อทฺธานปริจฺเฉทโต ขณปริตฺตโตติ อิเมหิ อฏฺหิ อากาเรหิ มรณํ อนุสฺสริตพฺพํ, อิทานิ ¶ เต ทสฺเสตุํ ‘‘วธกสฺเสวุปฏฺาน’’นฺติอาทิมาห. อสึ อุกฺขิปิตฺวา สีสํ ฉินฺทิตุํ ิตวธโก วิย มรณํ ปจฺจุปฏฺิตเมวาติ ภาวนา มรณสฺสติ นามาติ สมฺพนฺโธ. เอวํ สพฺพตฺถ. สพฺพํ อาโรคฺยํ พฺยาธิปริโยสานํ, สพฺพํ โยพฺพนํ ชราปริโยสานํ, สพฺพํ ชีวิตํ มรณปริโยสานํ, ตสฺมา ‘‘อยํ โยพฺพนาทิกายสมฺปตฺติ ตาวเทว โสภติ, ยาว มรณสงฺขาตา วิปตฺติ น ภวิสฺสตี’’ติ เอวมาทินา สมฺปตฺติวิปตฺติโต จ, สตฺตหากาเรหิ อุปสํหรณโต มรณํ อนุสฺสริตพฺพํ ยสมหตฺตโต ปฺุมหตฺตโต ถามมหตฺตโต อิทฺธิมหตฺตโต ปฺามหตฺตโต ปจฺเจกพุทฺธโต สมฺมาสมฺพุทฺธโตติ. ตตฺถ ‘‘อิทํ มรณํ นาม มหายสานํ มหาปริวารานํ มหาสมฺมตมนฺธาตาทีนมฺปิ อุปริ ปตติ, กิมงฺคํ ปน มยฺหํ อุปริ น ปติสฺสตี’’ติ เอวํ ยสมหตฺตโต,
‘‘โชติโก ชฏิโล อุคฺโค,
เมณฺฑโก อถ ปุณฺณโก;
เอเต จฺเ จ เย โลเก,
มหาปฺุาติ วิสฺสุตา;
สพฺเพ มรณมาปนฺนา,
มาทิเสสุ กถาว กา’’ติ. –
เอวํ ปฺุมหตฺตโต,
‘‘วาสุเทโว พลเทโว, ภีมเสนาทโย มหา;
พลา มจฺจุวสํ ปตฺตา, มาทิเสสุ กถาว กา’’ติ. –
เอวํ ¶ ถามมหตฺตโต,
‘‘มหาโมคฺคลฺลานาทีนํ มหิทฺธิกานมฺปิ อุปริ ปตติ, มาทิเสสุ กถาว กา’’ติ เอวํ อิทฺธิมหตฺตโต, ‘‘สาริปุตฺตาทีนํ มหาปฺานมฺปิ อุปริ ปตติ, มาทิเสสุ กถาว กา’’ติ ¶ เอวํ ปฺามหตฺตโต. เอวํ อิตเรสมฺปิ ปจฺเจกพุทฺธสมฺมาสมฺพุทฺธานมฺปิ มหนฺตภาวํ จินฺเตตฺวา ‘‘เตสมฺปิ อุปริ มรณํ ปตติ, กิมงฺคํ ปน มยฺหํ อุปริ น ปติสฺสตี’’ติ เอวํ อุปสํหรณโต จ, ‘‘อยํ กาโย พหุสาธารโณ อชฺฌตฺติกานํเยว อเนกสตานํ โรคานํ พาหิรานํ อหิวิจฺฉิกาทีนฺจา’’ติ กายพหุสาธารณโต จ, ‘‘อสฺสาสปสฺสาสปฏิพทฺธํ ชีวิต’’นฺติอาทินา นเยน อายุทุพฺพลโต จ,
‘‘ชีวิตํ พฺยาธิ กาโล จ,
เทหนิกฺเขปนํ คติ;
ปฺเจเต ชีวโลกสฺมึ;
อนิมิตฺตา น นายเร’’ติ. (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๐; ชา. อฏฺ. ๒.๒.๓๔) –
เอวํ กาลววตฺถานสฺส อภาวโต จ, ‘‘โย, ภิกฺขเว, จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ ชีวติ อปฺปํ วา ภิยฺโย’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๔๕) วุตฺตตฺตา เอวมาทินา นเยน อทฺธานสฺส ปริจฺเฉทาจ ภาวนา มรณสฺสติ นามาติ อตฺโถ. ขณปริตฺตโต จ มรณสฺสติ ภาเวตพฺพา.
‘‘ชีวิตํ อตฺตภาโว จ,
สุขทุกฺขา จ เกวลา;
เอกจิตฺตสมายุตฺตา,
ลหุ โส วตฺตเต ขโณ’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๗๖) –
หิ วุตฺตํ. จตุรารกฺขวินิจฺฉโย.
จตุรารกฺขนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๐. วิปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๔๗๑-๒. นามรูปํ ¶ ¶ ปริคฺคยฺหาติ เอตฺถ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๖๒ อาทโย) นามรูปปริคฺคหํ กาตุกาเมน ตาว เปตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ อวเสเสสุ ยํ กิฺจิ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย วิตกฺกาทีนิ ฌานงฺคานิ จ ตํสมฺปยุตฺเต จ ผสฺสาทโย ธมฺเม ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘สพฺพเมตํ อารมฺมณาภิมุขํ นมนโต นมนฏฺเน นาม’’นฺติ ววตฺถเปตพฺพํ. ตโต ตสฺส ปจฺจยํ ปริเยสนฺโต ‘‘หทยวตฺถุํ นิสฺสาย วตฺตตี’’ติ ปสฺสติ, ปุน วตฺถุสฺส ปจฺจยภูตานิ จ อุปาทารูปานิ จ ปสฺสิตฺวา ‘‘อิทํ สพฺพํ รุปฺปนโต วิการาปตฺติโต รูป’’นฺติ ปริคฺคณฺหาติ. ปุน ตทุภยํ ‘‘นมนลกฺขณํ นามํ, รุปฺปนลกฺขณํ รูป’’นฺติ เอวํ สงฺเขปโต นามรูปํ ววตฺถเปติ. อิทํ สพฺพํ สมถยานิกวเสน วุตฺตํ. วิปสฺสนายานิโก ปน จตุธาตุววตฺถานมุเขน ภูตุปาทายรูปานิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘สพฺพเมตํ รุปฺปนโต รูป’’นฺติ ปสฺสติ. ตโต เอวํ ปริจฺฉินฺนรูปสฺส จกฺขาทีนิ นิสฺสาย ปวตฺตมานา อรูปธมฺมาปิ อาปาถมาคจฺฉนฺติ. ตโต สพฺเพปิ เต อรูปธมฺเม นมนลกฺขเณน เอกโต กตฺวา ‘‘เอตํ นาม’’นฺติ ปสฺสติ. โส ‘‘อิทํ นามํ, อิทํ รูป’’นฺติ ทฺเวธา ววตฺถเปติ. เอวํ ววตฺถเปตฺวา ‘‘นามรูปโต อุทฺธํ อฺโ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา โปโส วา เทโว วา พฺรหฺมา วา นตฺถี’’ติ ปสฺสติ.
ยถาหิ องฺคสมฺภารา, โหติ สทฺโท รโถ อิติ;
เอวํ ขนฺเธสุ สนฺเตสุ, โหติ สตฺโตติ สมฺมุติ. (สํ. นิ. ๑.๑๗๑);
เอวเมว ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ สติ สตฺโต, ปุคฺคโลติ วา โวหารมตฺโต โหตีติ เอวมาทินา นเยน นามรูปานํ ยาถาวทสฺสนสงฺขาเตน ทิฏฺิวิสุทฺธิภูเตน าเณน นามรูปํ ปริคฺคยฺหาติ อตฺโถ.
ตโต ¶ ตสฺส จ ปจฺจยนฺติ ปุน ตสฺส นามรูปสฺส ปจฺจยํ ปริคฺคยฺหาติ อตฺโถ. วุตฺตนเยน นามรูปํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ‘‘โก นุ โข อิมสฺส เหตู’’ติ ปริเยสนฺโต อเหตุวาทวิสมเหตุวาเทสุ โทสํ ทิสฺวา โรคํ ทิสฺวา ตสฺส นิทานสมุฏฺานํ ปริเยสนฺโต เวชฺโช วิย ตสฺส เหตฺุจ ปจฺจยฺจ ปริเยสนฺโต อวิชฺชา ตณฺหา อุปาทานํ กมฺมนฺติ อิเม จตฺตาโร ธมฺเม นามรูปสฺส อุปฺปาทปจฺจยตฺตา ‘‘เหตู’’ติ จ อาหารํ อุปตฺถมฺภนสฺส ปจฺจยตฺตา ‘‘ปจฺจโย’’ติ ¶ จ ปสฺสติ. ‘‘อิมสฺส กายสฺส อวิชฺชาทโย ตโย ธมฺมา มาตา วิย ทารกสฺส อุปนิสฺสยา โหนฺติ, กมฺมํ ปิตา วิย ปุตฺตสฺส ชนกํ, อาหาโร ธาติ วิย ทารกสฺส สนฺธารโก’’ติ เอวํ รูปกายสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กตฺวา ปุน ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๔๓) นเยน นามกายสฺสปิ เหตุปจฺจยํ ปริคฺคณฺหาติ.
เอวํ ปริคฺคณฺหนฺโต ‘‘อตีตานาคตาปิ ธมฺมา เอวเมว ปวตฺตนฺตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กโรติ. ตสฺส ยา สา ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธานํ, น นุ โข อโหสึ, กึ นุ โข, กถํ นุ โข, กึ หุตฺวา กึ อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติ ปฺจวิธา วิจิกิจฺฉา วุตฺตา, ยาปิ อปรนฺตํ อารพฺภ ‘‘ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธานํ, น นุ โข, กึ นุ โข, กถํ นุ โข, กึ หุตฺวา กึ ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธาน’’นฺติ ปฺจวิธา วุตฺตา, ยาปิ เอตรหิ วา ปน ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อารพฺภ ‘‘อชฺฌตฺตํ กถํกถี โหติ, อหํ นุ โขสฺมิ, โน นุ โขสฺมิ, กึ นุ โขสฺมิ, กถํ นุ โขสฺมิ, อยํ นุ โข สตฺโต กุโต อาคโต, โส กุหึ คามี ภวิสฺสตี’’ติ ฉพฺพิธา วิจิกิจฺฉา วุตฺตา, ตา สพฺพาปิ ปหียนฺติ. เอวํ ปจฺจยปริคฺคหเณน ตีสุ อทฺธาสุ ¶ กงฺขํ วิตริตฺวา ิตํ าณํ ‘‘กงฺขาวิตรณวิสุทฺธี’’ติปิ ‘‘ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติปิ ‘‘สมฺมาทสฺสน’’นฺติปิ วุจฺจติ.
เอตฺถ ปน ติสฺโส โลกิยปริฺา าตปริฺา ตีรณปริฺา ปหานปริฺาติ. ตตฺถ ‘‘รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ, เวทยิตลกฺขณา เวทนา’’ติ เอวํ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ปจฺจตฺตลกฺขณสลฺลกฺขณวเสน ปวตฺตา ปฺา าตปริฺานาม. ‘‘รูปํ อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา’’ติอาทินา เตสํเยว ธมฺมานํ สามฺลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาปฺา ตีรณปริฺา นาม. เตสุ เอวํ ปน ธมฺเมสุ นิจฺจสฺาทิปชหนวเสน ปวตฺตา ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนา ปหานปริฺา นาม. ตตฺถ สงฺขารปริคฺคหโต ปฏฺาย ยาว ปจฺจยปริคฺคหา าตปริฺาย ภูมิ. กลาปสมฺมสนโต ปฏฺาย ยาว อุทยพฺพยานุปสฺสนา ตีรณปริฺาย ภูมิ. ภงฺคานุปสฺสนโต ปฏฺาย ปหานปริฺาย ภูมิ. ตโต ปฏฺาย หิ ‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหติ, ทุกฺขโต อนุปสฺสนฺโต สุขสฺํ, อนตฺตโต อนุปสฺสนฺโต อตฺตสฺํ, นิพฺพินฺทนฺโต นนฺทึ, วิรชฺชนฺโต ราคํ, นิโรเธนฺโต สมุทยํ, ปฏินิสฺสชฺชนฺโต ¶ อาทานํ ปชหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๒) เอวํ ปชหนฺโต นิจฺจสฺาทิปหานสาธิกานํ สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ อาธิปจฺจํ โหติ. อิติ อิมาสุ ปริฺาสุ สงฺขารปริจฺเฉทสฺส เจว ปจฺจยปริคฺคหสฺส จ สาธิตตฺตา อิมินา โยคินา าตปริฺา อธิคตา โหติ.
ปุน ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ หุตฺวา อภาวโต อนิจฺจํ, อุทยพฺพยปฺปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขํ, อวสวตฺติตฺตา อนตฺตา. ยา กาจิ เวทนา, ยา กาจิ สฺา, เย เกจิ สงฺขารา, ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ ¶ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ วิฺาณํ หุตฺวา อภาวโต อนิจฺจํ, อุทยพฺพยปฺปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขํ, อวสวตฺติตฺตา อนตฺตา’’ติ เอวมาทินา นเยน กลาปสมฺมสนํ กโรติ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวาน สงฺขาเร สมฺมสนฺโต’’ติ.
เอวํ สงฺขาเรสุ อนิจฺจทุกฺขอนตฺตวเสน กลาปสมฺมสนํ กตฺวา ปุน สงฺขารานํ อุทยพฺพยเมว ปสฺสติ. กถํ? ‘‘อวิชฺชาสมุทยา (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) รูปสมุทโย, ตณฺหากมฺมอาหารสมุทยา รูปสมุทโย’ติ เอวํ รูปกฺขนฺธสฺส ปจฺจยสมุทยทสฺสนฏฺเน รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ, นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสตี’’ติ เอวํ ปฺจหากาเรหิ รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. ‘‘อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรโธ, ตณฺหากมฺมอาหารนิโรธา รูปนิโรโธ’ติ เอวํ รูปกฺขนฺธสฺส ปจฺจยนิโรธทสฺสนฏฺเน รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ, วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสตี’’ติ เอวํ ปฺจหากาเรหิ วยํ ปสฺสติ. ตถา ‘‘อวิชฺชาสมุทยา เวทนาสมุทโย, ตณฺหากมฺมผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโย’’ติ เวทนากฺขนฺธสฺส, นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. ‘‘อวิชฺชานิโรธา เวทนานิโรโธ, ตณฺหากมฺมผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ’’ติ เวทนากฺขนฺธสฺส, วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ. เอวํ สฺากฺขนฺธาทีสุปิ. อยํ ปน วิเสโส – วิฺาณกฺขนฺธสฺส ผสฺสฏฺาเน นามรูปสมุทยา, นามรูปนิโรธาติ โยเชตพฺพํ. เอวํ เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ปจฺจยสมุทยวเสน จ นิพฺพตฺติลกฺขณวเสน จ ปจฺจยนิโรธวเสน จ วิปริณามลกฺขณวเสน จ อุทยพฺพยทสฺสเนน ทส ¶ ทส กตฺวา ปฺาส ลกฺขณานิ ¶ วุตฺตานิ. เตสํ วเสน เอวํ รูปสฺส อุทโย รูปสฺส วโยติ ปจฺจยโต เจว ลกฺขณโต จ วิตฺถาเรน มนสิการํ กโรติ.
ตสฺเสวํ กโรโต ‘‘อิติ กิร อิเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติ าณํ วิสทํ โหติ. ‘‘เอวํ กิร อิเม ธมฺมา อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ นิจฺจํ นวาว หุตฺวา สงฺขารา อุปฏฺหนฺติ. น เกวลฺจ นิจฺจํ นวา, สูริยุคฺคมเน อุสฺสาวพินฺทุ วิย, อุทกพุพฺพุโฬ วิย, อุทเก ทณฺฑราชิ วิย, อารคฺเค สาสโป วิย, วิชฺชุปฺปาโท วิย จ ปริตฺตฏฺายิโน. มายามรีจิสุปินอลาตจกฺกคนฺธพฺพนครเผณปิณฺฑกทลิอาทโย วิย นิสฺสารา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. เอตฺตาวตา จาเนน วยธมฺมเมว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนฺจ วยํ อุเปตีติ อิมินา อากาเรน สมปฺาส ลกฺขณานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตํ อุทยพฺพยานุปสฺสนํ นาม ปมํ ตรุณวิปสฺสนาาณํ อธิคตํ โหติ, ยสฺสาธิคมา อารทฺธวิปสฺสโกติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ.
อถสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส กุลปุตฺตสฺส โอภาโส าณํ ปีติ ปสฺสทฺธิ สุขํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุปฏฺานํ อุเปกฺขา นิกนฺตีติ ทส วิปสฺสนุปกฺกิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ. เอตฺถ โอภาโส นาม วิปสฺสนากฺขเณ าณสฺส พลวตฺตา โลหิตํ ปสีทติ, เตน ฉวิโต โอภาโส นิพฺพตฺตติ, ตํ ทิสฺวา อยํ โยคี ‘‘มคฺโค มยา ปตฺโต’’ติ ตเมว โอภาสํ อสฺสาเทติ. าณนฺติ วิปสฺสนาาณเมเวตํ, สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส สูรํ ปสนฺนํ หุตฺวา ปวตฺตมานํ ทิสฺวา ปุพฺเพ วิย ‘‘มคฺโค’’ติ อสฺสาเทติ. ปีตีติ วิปสฺสนาปีติ เอว. ตสฺส หิ ตสฺมึ ขเณ ปฺจวิธา ปีติ อุปฺปชฺชติ. ปสฺสทฺธีติ วิปสฺสนาปสฺสทฺธิ. ตสฺมึ สมเย เนว กายจิตฺตานํ ทรโถ คารวตา กกฺขฬตา อกมฺมฺตา เคลฺตา วงฺกตา โหติ. สุขํ วิปสฺสนาสุขเมว. ตสฺส กิร ตสฺมึ ¶ สมเย สกลสรีรํ ปิตวฏฺฏิ วิย อภิสนฺทยมานํ อติปณีตํ สุขํ อุปฺปชฺชติ.
อธิโมกฺโข นาม วิปสฺสนากฺขเณ ปวตฺตา สทฺธา. ตสฺมึ ขเณ จิตฺตเจตสิกานํ อติวิย ปสาทภูตา พลวตี สทฺธา อุปฺปชฺชติ. ปคฺคโห นาม วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตํ วีริยํ. ตสฺมิฺหิ ขเณ อสิถิลมนจฺจารทฺธํ สุปคฺคหิตํ วีริยํ อุปฺปชฺชติ. อุปฏฺานนฺติ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ. ตสฺมิฺหิ ขเณ สุปฏฺิตา สติ อุปฺปชฺชติ. อุเปกฺขาติ ทุวิธา วิปสฺสนาวชฺชนวเสน ¶ . ตสฺมึ ขเณ สพฺพสงฺขารคฺคหเณ มชฺฌตฺตภูตวิปสฺสนุเปกฺขาสงฺขาตํ าณํ พลวนฺตํ หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, มโนทฺวาเร อาวชฺชนุเปกฺขา จ, สาว ตํ ตํ านํ อาวชฺเชนฺตสฺส สูรา ติขิณา หุตฺวา วหติ. นิกนฺติ วิปสฺสนานิกนฺติ. โอภาสาทีสุ อาลยํ กุรุมานา สุขุมา สนฺตาการา นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ. เอตฺถ โอภาสาทโย กิเลสวตฺถุภูตตาย ‘‘อุปกฺกิเลสา’’ติ วุตฺตา, น อกุสลตฺตา. นิกนฺติ ปน อุปกฺกิเลโส เจว กิเลสวตฺถุ จ. ปณฺฑิโต ปน ภิกฺขุ โอภาสาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ วิกฺเขปํ อคจฺฉนฺโต ‘‘โอภาสาทโย ธมฺมา น มคฺโค, อุปกฺกิเลสวินิมุตฺตํ ปน วีถิปฺปฏิปนฺนํ วิปสฺสนาาณํ มคฺโค’’ติ มคฺคฺจ อมคฺคฺจ ววตฺถเปติ. ตสฺเสวํ ‘‘อยํ มคฺโค, อยํ น มคฺโค’’ติ ตฺวา ิตํ าณํ ‘‘มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ.
อิโต ปฏฺาย อฏฺวิธสฺส าณสฺส วเสน สิขาปฺปตฺตํ วิปสฺสนาาณํ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม โหติ. อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณํ ภงฺคานุปสฺสนาาณํ ภยตุปฏฺานาณํ อาทีนวานุปสฺสนาาณํ นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ มฺุจิตุกมฺยตาาณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ สงฺขารุเปกฺขาาณนฺติ อิมานิ อฏฺ าณานิ นาม. เอตานิ นิพฺพตฺเตตุกาเมน ยสฺมา อุปกฺกิเลเสหิ อภิภูตํ หุตฺวา ลกฺขณปฺปฏิเวธํ กาตุํ อสมตฺถํ ¶ โหติ จิตฺตํ, ตสฺมา ปุนปิ อุทยพฺพยเมว ปสฺสิตพฺพํ. อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺตสฺส อนิจฺจลกฺขณํ ยถาภูตํ อุปฏฺาติ, อุทยพฺพยปฺปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขลกฺขณฺจ ‘‘ทุกฺขเมว จ สมฺโภติ, ทุกฺขํ ติฏฺติ เวติ จา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๗๑) ปสฺสโต อนตฺตลกฺขณฺจ.
เอตฺถ จ อนิจฺจํ อนิจฺจลกฺขณํ, ทุกฺขํ ทุกฺขลกฺขณํ, อนตฺตา อนตฺตลกฺขณนฺติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. เอตฺถ อนิจฺจนฺติ ขนฺธปฺจกํ. กสฺมา? อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวา หุตฺวา อภาวโต วา. อฺถตฺตํ นาม ชรา, อุปฺปาทวยฺถตฺตํ อนิจฺจลกฺขณํ, หุตฺวา อภาวสงฺขาโต วา เอโก อาการวิกาโร. ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) วจนโต ตเทว ขนฺธปฺจกํ ทุกฺขํ. กสฺมา? อภิณฺหํ ปฏิปีฬิตตฺตา. อภิณฺหปฺปฏิปีฬนากาโร ทุกฺขลกฺขณํ. ‘‘ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ วจนโต ตเทว ขนฺธปฺจกํ อนตฺตา. กสฺมา? อวสวตฺตนโต. อวสวตฺตนากาโร อนตฺตลกฺขณํ. อิมานิปิ ตีณิ ลกฺขณานิ อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺตสฺเสว อารมฺมณานิ โหนฺติ.
ปุนปิ ¶ โส รูปารูปธมฺเมสุ เอว ‘‘อนิจฺจา’’ติอาทินา วิปสฺสติ, ตสฺส สงฺขารา ลหุํ ลหุํ อาปาถํ คจฺฉนฺติ. ตโต อุปฺปาทํ วา ิตึ วา อารมฺมณํ อกตฺวา เตสํ ขยวยนิโรเธ เอว ปสฺสโต สติ สนฺติฏฺตีติ อิทํ ภงฺคานุปสฺสนาาณํ นาม. อิมสฺส อุปฺปาทโต ปฏฺาย อสฺส โยคิโน ‘‘ยถา อิเม สงฺขารา ปฺจกฺขนฺธา ภิชฺชนฺติ, เอวํ อตีเตปิ สงฺขารา ภิชฺชึสุ, อนาคเตปิ ภิชฺชิสฺสนฺตี’’ติ นิโรธเมว ปสฺสโต สติ สนฺติฏฺติ, ตสฺส ภงฺคานุปสฺสนาาณํ อาเสวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส สพฺพภวโยนิคติฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สพฺเพ สงฺขารา ชลิตองฺคารกาสุอาทโย วิย มหาภยํ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. เอตํ ภยตุปฏฺานาณํ นาม. ตสฺส ตํ ภยตุปฏฺานาณํ อาเสวนฺตสฺส ¶ สพฺเพ ภวาทโย อาทิตฺตองฺคารา วิย, สมุสฺสิตขคฺคา วิย ปจฺจตฺถิกา อปฺปฏิสรณา สาทีนวา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. อิทํ อาทีนวานุปสฺสนาาณํ นาม. ตสฺส เอวํ สงฺขาเร อาทีนวโต ปสฺสนฺตสฺส ภวาทีสุ สงฺขารานํ อาทีนวตฺตา สพฺพสงฺขาเรสุ อุกฺกณฺนา อนภิรติ อุปฺปชฺชติ. อิทํ นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ นาม. สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนฺตสฺส อุกฺกณฺนฺตสฺส สพฺพสฺมา สงฺขารคตา มฺุจิตุกามตา นิสฺสริตุกามตาว โหติ. อิทํ มฺุจิตุกมฺยตาาณํ นาม. ปุน ตสฺมา สงฺขารคตา มฺุจิตุํ ปุน เต เอว สงฺขาเร ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาเณน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ตีรณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ นาม, โย เอวํ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺโต เตสุ อนตฺตลกฺขณสฺส สุทิฏฺตฺตา ‘‘อตฺตา’’ติ วา ‘‘อตฺตนิย’’นฺติ วา อคฺคณฺหนฺโต สงฺขาเรสุ ภยฺจ นนฺทิฺจ ปหาย สงฺขาเรสุ อุทาสิโน โหติ มชฺฌตฺโต, ‘‘อห’’นฺติ วา ‘‘มม’’นฺติ วา น คณฺหาติ, สพฺพสงฺขาเรสุ อุทาสิโน มชฺฌตฺโต ตีสุ ภเวสุ อุเปกฺขโก, ตสฺส ตํ าณํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ นาม. ตํ ปเนตํ สพฺพสงฺขารปฺปวตฺตํ วิสฺสชฺเชตฺวา นิพฺพานนินฺนํ นิพฺพานปกฺขนฺทํ โหติ, โน เจ นิพฺพานํ สนฺตโต ปสฺสติ, ปุนปฺปุนํ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ วา ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วา ‘‘อนตฺตา’’ติ วา ติวิธานุปสฺสนาวเสน สงฺขารารมฺมณเมว หุตฺวา ปวตฺตติ.
เอวํ ติฏฺมานฺจ เอตํ อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโต สฺุโตติ ติณฺณํ วิโมกฺขานํ วเสน วิโมกฺขมุขภาวํ อาปชฺชิตฺวา ติฏฺติ. ติสฺโส หิ อนุปสฺสนา ตีณิ วิโมกฺขมุขานีติ วุจฺจนฺติ. เอตฺถ จ อนิจฺจโต มนสิ กโรนฺโต (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๓-๒๒๔) อธิโมกฺขพหุโล อนิมิตฺตํ วิโมกฺขํ ปฏิลภติ. ทุกฺขโต มนสิ กโรนฺโต ปสฺสทฺธิพหุโล อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขํ ปฏิลภติ. อนตฺตโต มนสิ กโรนฺโต เวทพหุโล สฺุตวิโมกฺขํ ปฏิลภติ. เอตฺถ จ อนิมิตฺโต ¶ วิโมกฺโขติ อนิมิตฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต ¶ อริยมคฺโค. โส หิ อนิมิตฺตาย ธาตุยา อุปฺปนฺนตฺตา อนิมิตฺโต, กิเลเสหิ จ วิมุตฺตตฺตา วิโมกฺโข. เอเตเนว นเยน อปฺปณิหิตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อปฺปณิหิโต, สฺุตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต สฺุโตติ เวทิตพฺโพ. อธิคตสงฺขารุเปกฺขสฺส กุลปุตฺตสฺส วิปสฺสนา สิขาปฺปตฺตา โหติ. วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาติ เอตเทว. เอตํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ อาเสวนฺตสฺส ภาเวนฺตสฺส ติกฺขตรา สงฺขารุเปกฺขา อุปฺปชฺชติ.
ตสฺส อิทานิ มคฺโค อุปฺปชฺชิสฺสตีติ สงฺขารุเปกฺขา สงฺขาเร ‘‘อนิจฺจา’’ติ วา ‘‘ทุกฺขา’’ติ วา ‘‘อนตฺตา’’ติ วา สมฺมสิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ภวงฺคา วุฏฺาย สงฺขารุเปกฺขาย อาคตนเยเนว อนิจฺจาทิอากาเรน มนสิ กริตฺวา อุปฺปชฺชติ มโนทฺวาราวชฺชนํ, ตเทว มนสิ กโรโต ปมํ ชวนจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ยํ ‘‘ปริกมฺม’’นฺติ วุจฺจติ. ตทนนฺตรํ ตเถว ทุติยํ ชวนจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ยํ ‘‘อุปจาร’’นฺติ วุจฺจติ. ตทนนฺตรมฺปิ ตเถว อุปฺปชฺชติ ชวนจิตฺตํ, ยํ ‘‘อนุโลม’’นฺติ วุจฺจติ. อิทํ เตสํ ปาฏิเยกฺกํ นามํ. อวิเสเสน ปน ติวิธเมตํ อาเสวนนฺติปิ ปริกมฺมนฺติปิ อุปจารนฺติปิ อนุโลมนฺติปิ วุจฺจติ. อิทํ ปน อนุโลมาณํ สงฺขารารมฺมณาย วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย ปริโยสานํ โหติ. นิปฺปริยาเยน ปน โคตฺรภุาณเมว วิปสฺสนาปริโยสานนฺติ วุจฺจติ. ตโต ปรํ นิโรธํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กุรุมานํ ปุถุชฺชนโคตฺตํ อติกฺกมมานํ นิพฺพานารมฺมเณ ปมสมนฺนาหารภูตํ อปุนราวฏฺฏกํ โคตฺรภุาณํ อุปฺปชฺชติ. อิทํ ปน าณํ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิฺจ าณทสฺสนวิสุทฺธิฺจ น ภชติ, อนฺตรา อพฺโพหาริกเมว โหติ, วิปสฺสนาโสเต ปติตตฺตา ปน วิปสฺสนาติ วา ¶ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา โคตฺรภุาเณ นิรุทฺเธ เตน ทินฺนสฺาย นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ทิฏฺิสํโยชนํ สีลพฺพตปรามาสสํโยชนํ วิจิกิจฺฉาสํโยชนนฺติ ตีณิ สํโยชนานิ สมุจฺเฉทวเสน วิทฺธํเสนฺโต โสตาปตฺติมคฺโค อุปฺปชฺชติ. ตทนนฺตรํ ตสฺเสว วิปากภูตานิ ทฺเว ตีณิ วา ผลจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ อนนฺตรวิปากตฺตา โลกุตฺตรานํ. ผลปริโยสาเน ปนสฺส จิตฺตํ ภวงฺคํ โอตรติ.
ตโต ภวงฺคํ วิจฺฉินฺทิตฺวา ปจฺจเวกฺขณตฺถาย มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ. โส หิ ‘‘อิมินา วตาหํ มคฺเคน อาคโต’’ติ มคฺคํ ปจฺจเวกฺขติ, ตโต ‘‘อยํ เม อานิสํโส ลทฺโธ’’ติ ¶ ผลํ ปจฺจเวกฺขติ, ตโต ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา ปหีนา’’ติ ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขติ, ตโต ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา อวสิฏฺา’’ติ อุปริมคฺคตฺตยวชฺเฌ กิเลเส ปจฺจเวกฺขติ, อวสาเน ‘‘อยํ เม ธมฺโม อารมฺมณโต ปฏิวิทฺโธ’’ติ อมตํ นิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขติ. อิติ โสตาปนฺนสฺส อริยสาวกสฺส ปฺจ ปจฺจเวกฺขณานิ โหนฺติ. ตถา สกทาคามิอนาคามีนํ. อรหโต ปน อวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณํ นาม นตฺถิ. เอวํ สพฺพานิปิ เอกูนวีสติ โหนฺติ. อุกฺกฏฺปริจฺเฉโทว เจโส. ปหีนาวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณฺหิ เสกฺขานํ โหติ วา, น วา. เอวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา โส โสตาปนฺโน อริยสาวโก ตสฺมึเยว วา อาสเน นิสินฺโน อปเรน วา สมเยน กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวํ กโรนฺโต ทุติยมคฺคํ ปาปุณาติ, ตทนนฺตรํ วุตฺตนเยน ผลฺจ. ตโต วุตฺตนเยน กามราคพฺยาปาทานํ อนวเสสปฺปหานํ กโรนฺโต ตติยมคฺคํ ปาปุณาติ, วุตฺตนเยน ผลฺจ. ตโต ตสฺมึเยว วา อาสเน นิสินฺโน อปเรน วา สมเยน รูปราคอรูปราคมานอุทฺธจฺจอวิชฺชานํ อนวเสสปฺปหานํ กโรนฺโต จตุตฺถมคฺคํ ¶ ปาปุณาติ, วุตฺตนเยน ผลฺจ. เอตฺตาวตา เจส อรหา นาม อฏฺโม อริยปุคฺคโล โหติ มหาขีณาสโว. อิติ อิเมสุ จตูสุ มคฺเคสุ าณํ าณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม.
เอตฺตาวตา ปาติโมกฺขสํวรสีลาทีนํ วุตฺตตฺตา สีลวิสุทฺธิ จ เมตฺตาสุภาทีนํ วุตฺตตฺตา จิตฺตวิสุทฺธิ จ นามรูปปริคฺคหาทีนํ วเสน ทิฏฺิวิสุทฺธิกงฺขาวิตรณวิสุทฺธิมคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ าณทสฺสนวิสุทฺธิโย จาติ สตฺต วิสุทฺธิโย วุตฺตา โหนฺติ. อิทํ วุตฺตปฺปการํ ปฏิปทากฺกมํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปาปุเณยฺยานุปุพฺเพน, สพฺพสํโยชนกฺขย’’นฺติ. เอตฺถ สกฺกายทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา สีลพฺพตปรามาโส กามราโค ปฏิโฆ รูปราโค อรุปราโค มาโน อุทฺธจฺจํ อวิชฺชาติ อิเม ทส ธมฺมา สพฺพสํโยชนา นาม. เอเตสุ สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสา โสตาปตฺติมคฺควชฺฌา, กามราคปฏิฆา ทุติยมคฺเคน ตนุภูตา หุตฺวา ตติเยน สมุคฺฆาตํ คจฺฉนฺติ, เสสานิ ปฺจ จตุตฺเถนาติ. เอวํ อนุปุพฺเพน สพฺพสํโยชนกฺขยสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปาปุณาตีติ เวทิตพฺพํ.
วิปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนกถาวณฺณนา
๔๗๓-๕. อธิสีลอธิจิตฺตานํ ¶ อธิปฺาย จ สิกฺขนา อุตฺตริ ภิกฺขุกิจฺจํ นาม นตฺถิ ยสฺมา, อโต อยํ ขุทฺทสิกฺขา สมุทาหฏา.
เกนาติ เจ? ยสฺส เถรสฺส โลกวิจาริโน โลเก วิจรนฺตสฺส มหโต กิตฺติสทฺทสฺส ปริสฺสโม น สมฺโภติ น โหติ, กึ วิย? มาลุตสฺเสว นิจฺจโส, ยถา ¶ นิจฺจํ วิจรนฺตสฺส มาลุตสฺส ปริสฺสโม นตฺถิ, เอวํ วิจรนฺตสฺส กิตฺติสทฺทสฺส ปริสฺสโม นตฺถิ, เตน ธมฺมสิริเกน สมุทาหฏาติ สมฺพนฺโธ.
เอตฺตาวตา จ –
นิฏฺิโต ขุทฺทสิกฺขาย, สมาเสน วินิจฺฉโย;
วิตฺถาโร ปน เอติสฺสา, สพฺพมฺปิ ปิฏกตฺตยํ.
ตสฺมา วิตฺถารกาเมน, สกเล ปิฏกตฺตเย;
กตฺตพฺโพ สาทโร เอตฺถ, อิตเรน วิเสสโตติ.
ขุทฺทสิกฺขาวินิจฺฉโย.
ขุทฺทสิกฺขา-ปุราณฏีกา นิฏฺิตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทสิกฺขา-อภินวฏีกา
คนฺถารมฺภกถา
ติโลกติลกํ ¶ ¶ วนฺเท, สทฺธมฺมามตนิมฺมิตํ;
สํสุฏฺุกตสมฺภตฺตึ, ชินํ ชนมโนรมํ.
สาริปุตฺตํ มหาสามึ, เนกสตฺถวิสารทํ;
มหาคุณํ มหาปฺํ, นโม เม สิรสา ครุํ.
ขุทฺทสิกฺขาย ฏีกา ยา, ปุราตนา สมีริตา;
น ตาย สกฺกา สกฺกจฺจํ, อตฺโถ สพฺพตฺถ าตเว.
ตโตเนกคุณานํ ¶ โย, มฺชูสา รตนานว;
สุมงฺคลสนาเมน, เตน ปฺวตา สตา.
อชฺเฌสิโต ยตินฺเทน, สทารฺนิวาสินา;
สวินิจฺฉยเมติสฺสา, กริสฺสามตฺถวณฺณนํ.
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา
(ก) เอตฺถาห – กิมตฺถมาทิโตวายํ คาถา นิกฺขิตฺตา, นนุ ยถาธิปฺเปตเมว ปกรณมารภนียนฺติ? วุจฺจเต – สปฺปโยชนตฺตา ¶ . สปฺปโยชนฺหิ ตํทสฺสนํ ตาย รตนตฺตยปฺปณามาภิเธยฺยกรณปฺปการปฺปโยชนาภิธานสนฺทสฺสนโต. ตานิ จ ปน สปฺปโยชนานิ อนนฺตราเยน คนฺถปริสมาปนาทิปฺปโยชนานมภินิปฺผาทนโต. ตถา หิ โสตูนมตฺตโน จ ยถาธิปฺเปตตฺถนิปฺผาทนํ รตนตฺตยปฺปณามกรณปฺปโยชนํ. วิทิตาภิเธยฺยสฺส คนฺถสฺส วิฺูนมาทรณียตา อภิเธยฺยกถนปฺปโยชนํ. โสตุชนสมุสฺสาหชนนํ กรณปฺปการปฺปโยชนกถนปฺปโยชนํ. โวหารสุขตา ปน อภิธานกถนปฺปโยชนํ.
ตตฺถ วนฺทิตฺวา รตนตฺตยนฺติ อิมินา รตนตฺตยปฺปณาโม ทสฺสิโต, ขุทฺทสิกฺขนฺติ อิมินา ขุทฺทภูตานํ สิกฺขานํ อิธ ปฏิปาเทตพฺพตาทีปเนน อภิเธยฺยํ, อภิเธยฺโย จ นาเมส สมุทิเตน สตฺเถน วจนียตฺโถติ. อภิธานฺจ ปน อิมินาว ทสฺสิตํ เตน อตฺถานุคตสมฺาปริทีปนโต. สมาติกนฺติ อิมินา กรณปฺปกาโร, ขุทฺทสิกฺขนฺติ อิมินา จ, เตน ขุทฺทภูตานํ สิกฺขานํ อิธ ทสฺเสตพฺพภาวปฺปกาสนโต. อาทิโต อุปสมฺปนฺน สิกฺขิตพฺพนฺติ อิมินา ปโยชนปโยชนํ ปน อิมินาว สามตฺถิยโต ทสฺสิตเมว, ตาสํ สิกฺขิตพฺพปฺปกาสเนน หิ สิกฺขเน สติ ตมฺมูลิกาย ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺถนิปฺผตฺติยา สํสิชฺฌนโต. ปกรณปฺปโยชนานํ สาธนสาธิยลกฺขโณ สมฺพนฺโธ ตนฺนิสฺสยทสฺสเนเนว ทสฺสิโตเยวาติ อยเมตฺถ สมุทายตฺโถ.
อยํ ปเนตฺถาวยวตฺโถ – รตนตฺตยํ วนฺทิตฺวา ขุทฺทสิกฺขํ ปวกฺขามีติ สมฺพนฺโธ. รติชนนฏฺเน ¶ รตนานิ, พุทฺธธมฺมสงฺฆานเมตํ อธิวจนํ. อถ วา จิตฺตีกตาทินา การเณน รตนานิ, พุทฺธาทโยว รตนานิ. ตถา จ วุตฺตํ –
‘‘จิตฺตีกตํ ¶ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;
อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๒๒๓; ขุ. ปา. อฏฺ. ๓; สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๒๒๖; อุทา. อฏฺ. ๔๕; มหานิ. อฏฺ. ๕๐);
ตโย อวยวา อสฺสาติ ตยํ, สมุทายาเปกฺขํ เอกวจนํ, อวยววินิมุตฺตสฺส ปน สมุทายสฺส อภาวโต ตีณิ เอว รตนานิ วุจฺจนฺติ. รตนานํ ตยํ รตนตฺตยํ. วนฺทิตฺวาติ ตีหิ ทฺวาเรหิ นมสฺสิตฺวา. ‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, วนฺทนา กาเยน วนฺทติ, วจสา วนฺทติ, มนสา วนฺทตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๕๕) หิ วุตฺตํ. ตตฺถ วิฺตฺตึ อนุปฺปาเทตฺวา เกวลํ รตนตฺตยคุณานุสฺสรณวเสน มโนทฺวาเร พหุลปฺปวตฺตา กุสลเจตนา มโนทฺวารวนฺทนา. ตํ ตํ วิฺตฺตึ อุปฺปาเทตฺวา ปน ปวตฺตา กายวจีทฺวารวนฺทนา. สิกฺขิตพฺพาติ สิกฺขา, อธิสีลอธิจิตฺตอธิปฺาวเสน ติสฺโส สิกฺขา. สิกฺขนฺเจตฺถ ยถากฺกมํ สีลาทิธมฺมานํ สํวรณวเสน, เอการมฺมเณ จิตฺตเจตสิกานํ สมาธานวเสน, อารมฺมณชานนลกฺขณปฺปฏิเวธมคฺคปาตุภาวปาปนวเสน จ อาเสวนํ ทฏฺพฺพํ. อฺตฺถ พหุวิธา สิกฺขา, อิธ ตุ สงฺเขปนยตฺตา อปฺปกาทิอเนกตฺถสมฺภเวปิ ขุทฺท-สทฺทสฺส อปฺปกตฺโถเวตฺถ ยุตฺตตโรติ ขุทฺทา อปฺปกา สิกฺขาติ ขุทฺทสิกฺขา. อิธ ปน ขุทฺทสิกฺขาปฺปกาสโก คนฺโถ ตพฺโพหารูปจารโต อิตฺถิลิงฺควเสน ‘‘ขุทฺทสิกฺขา’’ติ วุจฺจติ ยถา ‘‘วรุณานคร’’นฺติ. ตํ ขุทฺทสิกฺขํ. ปวกฺขามีติ กเถสฺสามิ.
กีทิสนฺติ อาห ‘‘อาทิโต อุปสมฺปนฺนสิกฺขิตพฺพ’’นฺติอาทิ. อาทิ-สทฺโทยมตฺถิ อวยววจโน ยถา ‘‘สพฺพาทีนิ สพฺพนามานี’’ติ. อตฺถิ อปาทานวจโน ยถา ‘‘ปพฺพตาทีนิ เขตฺตานี’’ติ. ตตฺถาวยววาจี กมฺมสาธโน ‘‘อาทิยตีตฺยาที’’ติ. อิตโร อปาทานสาธโน ‘‘อาทิยติ เอตสฺมาตฺยาที’’ติ ¶ . ตตฺถ โย อวยววจโน, ตสฺเสทํ คหณํ, ตสฺมา อุปสมฺปนฺนกฺขณมฺปิ อนฺโต กตฺวา อาทิภูตา อุปสมฺปนฺนกฺขณโตเยว ปฏฺายาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอว-สทฺโท ปเนตฺถ สพฺพวากฺยานํ อวธารณผลตฺตา ลพฺภติ. โต-ปจฺจโย อวธิมฺหิเยว ¶ , น อาธาเร. ตตฺถ หิ โตปจฺจเย อาธาเร วตฺตมาเน อาทิมฺหิเยว มชฺฌอนฺตานํ อวยวภูเต อุปสมฺปนฺนกฺขเณเยวาติ อตฺโถ ภเวยฺย, ตถา สติ อวธารณนิจฺฉโย นิยโมติ อตฺถนฺตรตฺตา อาทิกฺขณนิยเมน มชฺฌาทโย นิวตฺติเยยฺยุํ. อปาทานวจนสฺสาปิ คหเณ อวธิภูโต อุปสมฺปนฺนกฺขโณ นิวตฺติเยยฺย ‘‘ปพฺพตาทีนิ เขตฺตานี’’ติ เอตฺถ อาทิภูตปพฺพตปริจฺจาเคน เขตฺตคฺคหณํ วิยาติ ทฏฺพฺพํ. ฏีกายํ ปน อาธารตฺโถปิ วุตฺโต, โส ยถาวุตฺตโทสํ นาติคจฺฉติ. สพฺพตฺถ ‘‘ฏีกาย’’นฺติ จ วุตฺเต เอตฺเถว ปุราณฏีกายนฺติ คเหตพฺพํ. อาทิโตติ อิมินา อิทํ ทีเปติ – อติทุลฺลภํ ขณสมวายํ ลภิตฺวา อาลสิยโทเสน อปฺปฏิปชฺชนฺเตหิ จ อฺาณโทเสน อฺถา ปฏิปชฺชนฺเตหิ จ อหุตฺวา อาทิโต ปฏฺาย นิรนฺตรเมว ตีสุ สิกฺขาสุ สมฺมาปฏิปชฺชนวเสน อาทโร ชเนตพฺโพติ.
อุปสมฺปนฺเนน อุปสมฺปนฺนาย จ สิกฺขิตพฺพํ อาเสวิตพฺพนฺติ อุปสมฺปนฺนสิกฺขิตพฺพํ, เอกเสสนเยน อุปสมฺปนฺนตาสามฺเน วา อุปสมฺปนฺนายปิ เอตฺเถวาวิโรโธติ อุปสมฺปนฺเนน สิกฺขิตพฺพนฺติ สมาโส. นนุ อธิสีลาทโยว สิกฺขิตพฺพา, เอวํ สติ กถํ ปกรณํ สิกฺขิตพฺพตฺเตน วุตฺตนฺติ? นายํ โทโส, สิกฺขาย สิกฺขิตพฺพตฺเต สติ ตทฺทีปกคนฺถสฺสาปิ อาเสวิตพฺพตา อาปชฺชตีติ. สุขคฺคหณตฺถํ วตฺตพฺพวินิจฺฉยํ สกลมฺปิ สงฺคเหตฺวา มาติกาย ปนโต สห มาติกายาติ สมาติกํ. ตคฺคุณสํวิฺาโณยํ พหุพฺพีหิ ตสฺส ขุทฺทสิกฺขาสงฺขาตสฺส ¶ อฺปทตฺถสฺส โย คุโณ มาติกาสงฺขาตํ วิเสสนํ, ตสฺส อิธ วิฺายมานตฺตา. สุเขเนว หิ คหณํ สิยา มาติกานุสาเรน ตํ ตํ วินิจฺฉยํ โอโลเกนฺตานํ สํสยาปคมโต.
มาติกาวณฺณนา
(ข-ช) อิทานิ ¶ ‘‘สมาติก’’นฺติ วุตฺตตฺตา มาติกาปทานิ ตาว อุทฺทิสิตุํ ‘‘ปาราชิกา จ จตฺตาโร’’ติอาทิ อารทฺธํ. เอตฺถาห – ตีสุ สิกฺขาสุ อธิสีลสิกฺขาว กสฺมา ปมํ วุตฺตาติ? สพฺพสิกฺขานํ มูลภูตตฺตา. ‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ, จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๓; เปฏโก. ๒๒; มิ. ป. ๒.๑.๙) หิ วุตฺตํ. ตตฺราปิ มหาสาวชฺชตฺตา มูลจฺเฉชฺชวเสน ปวตฺตนโต สพฺพปมํ ชานิตพฺพาติ ปาราชิกาว ปมํ วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. มาติกาปทานํ ปน อตฺโถ ตสฺส ตสฺส มาติกาปทสฺส นิทฺเทสวเสเนว วิฺายตีติ น อิธ วิสุํ ทสฺสยิสฺสาม. อวิฺายมานํ ปน ตตฺถ ตตฺเถว ปกาสยิสฺสาม.
อิทานิ อุทฺทิฏฺปทานุกฺกเมน นิทฺเทสํ อารภนฺโต ‘‘ปาราชิกา จ จตฺตาโร’’ติ ปมํ มาติกาปทํ อุทฺธริ. เอวมุปริปิ. อิทานิ ปาราชิกาโย อุทฺทิสิตฺวา อุทฺทิฏฺปทานุกฺกเมน นิทฺเทสํ อารภนฺโต ‘‘ครุกา นวา’’ติ ทุติยํ ปทํ อุทฺธรีติอาทินา ยถาโยคํ วตฺตพฺพํ. ตตฺถ สิกฺขาปทํ อติกฺกมิตฺวา อาปตฺตึ อาปนฺนา ปุคฺคลา ตาย ปราชยนฺตีติ ปราชิยา. เตเยว ปาราชิกา อุปสคฺคสฺส วุทฺธึ กตฺวา ย-การสฺส ก-การกรเณน. เต ปน คณนปริจฺเฉทวเสน จตฺตาโรติ อตฺโถ.
๑. ปาราชิกนิทฺเทสวณฺณนา
๑-๒. อิทานิ เต ทสฺเสตุํ ‘‘มคฺคตฺตเย’’ติอาทิ อารทฺธํ. เอวมุปริปิ ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ มคฺคตฺตเยติ เอตฺถ ¶ มคฺคา จ นาม ตึส มคฺคา. มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคตวเสน หิ ติสฺโส อิตฺถิโย. ตตฺถ ติรจฺฉานคตาย อยํ ปริจฺเฉโท –
‘‘อปทานํ อหี มจฺฉา, ทฺวิปทานฺจ กุกฺกุฏี;
จตุปฺปทานํ มชฺชารี, วตฺถุ ปาราชิกสฺสิมา’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๕);
ตาสํ วจฺจปสฺสาวมุขมคฺควเสน ตโย ตโย กตฺวา นว มคฺคา, ตถา อุภโตพฺยฺชนกานํ, ปุริสานํ ปน วจฺจมุขมคฺควเสน ทฺเว ทฺเว กตฺวา ฉ, ตถา ปณฺฑกานนฺติ ตึส. เตสํ ตเย. กีทิเสติ อาห ‘‘สนฺถตสนฺถเต’’ติ. สนฺถเต อสนฺถเตติ ปทจฺเฉโท. น สนฺถตํ อสนฺถตํ. ตสฺมึ อสนฺถเต. น-กาโร เอตฺถ ‘‘อพฺราหฺมโณ’’ติอาทีสุ วิย ปยิรุทาเส, ตํ กิริยายุตฺตสฺส ตาทิสสฺส อฺสฺส วตฺถุโน วิธาเนน สนฺถตสฺส วตฺถุโน ปยิรุทาสนํ ปริจฺจชนํ ปยิรุทาโสติ. น ปสชฺชปฺปฏิเสเธ, สนฺถตํ ปสชฺช ปตฺวา ตสฺส ‘‘พฺราหฺมโณ น ภวิสฺสตี’’ติอาทีสุ วิย น นิเสโธติ. วา-สทฺโท ปเนตฺถ วจนยุตฺติพเลเนว ลพฺภติ, ตสฺส ปลิเวเตฺวา, อนฺโต วา ปเวเสตฺวา วตฺถาทินา เกนจิ ปฏิจฺฉนฺเน วา อปฺปฏิจฺฉนฺเน วาติ อตฺโถ. ตถาภูเต อลฺโลกาเส ปกติวาเตน อสมฺผุฏฺเ ตินฺตปฺปเทเส. นิมิตฺตนฺติ องฺคชาตํ. สนฺติอาทิ ตพฺพิเสสนํ. สนฺติ อตฺตนิยํ. สํ-สทฺโท หิ อตฺตนิ อตฺตนิเย จ วตฺตติ. สนฺถตํ อสนฺถตนฺติ ยถาวุตฺตนเยน ปฏิจฺฉนฺนํ วา อปฺปฏิจฺฉนฺนํ วา. อุปาทิณฺณนฺติ อนฏฺกายปฺปสาทํ. กิตฺตกนฺติ อาห ‘‘ติลมตฺตมฺปี’’ติ. ติลสฺส มตฺตํ สากลฺลํ ยสฺส ตํ ติลมตฺตํ ¶ . ‘‘มตฺตํ สากลฺลํ นิจฺฉเย’’ติ หิ นิฆณฺฑุ. เอตฺถาปิ อวยเวน วิคฺคโห สมุทาโย สมาสตฺโถ, ติลพีชปฺปมาณมฺปีติ วุตฺตํ โหติ. กึ ตํ? นิมิตฺตํ, ปเวสนํ วา. อปิ-สทฺโท สมฺภาวเน, ‘‘ติลพีชมตฺตมฺปี’’ติ สมฺภาวียติ, อธิเก กา ¶ นาม กถาติ อิทเมตฺถ สมฺภาวนํ, เอวํภูตํ สํ องฺคชาตํ ยถาวุตฺเต มคฺคตฺตเย ติลมตฺตมฺปิ ปเวสนฺโต ภิกฺขุ จุโต ปริภฏฺโ, ปาราชิโก นาม โหติ สาสนโตติ วิฺายติ คมฺมมานตฺถสฺส สทฺทสฺส ปโยคํ ปติ กามาจารตฺตา. กีทิโสติ อาห ‘‘อนิกฺขิตฺตสิกฺโข’’ติ. นิกฺขิตฺตสิกฺโข ปน อภิกฺขุกตฺตา ปริจฺจตฺโต. ตตฺถ นิกฺขิตฺตา โอหิตา ปริจฺจตฺตา ปจฺจกฺขาตา สิกฺขา เอเตนาติ วิคฺคโห. ยถาลกฺขณํ น นิกฺขิตฺตสิกฺโข อนิกฺขิตฺตสิกฺโข. ตตฺถ จิตฺตเขตฺตกาลปฺปโยคปุคฺคลวิชานนวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ ตฺวา ตทภาเวน อปจฺจกฺขานํ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ อุปสมฺปนฺนภาวโต จวิตุกามตาจิตฺตํ จิตฺตํ นาม. ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทีนิ ‘‘คิหีติ มํ ธาเรหิ, อุปาสโก, อารามิโก, สามเณโรติ มํ ธาเรหี’’ติ ‘‘อลํ เม พุทฺเธนา’’ติอาทีนิ ฉ เขตฺตปทานิ เขตฺตํ นาม. ‘‘ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินา วุตฺโต วตฺตมานกาโลเยว กาโล นาม. ยาย กายจิ ภาสาย วเสน วาจสิกปฺปโยโคว ปโยโค นาม. อนุมฺมตฺตาทิโก ปจฺจกฺขาโต จ มนุสฺสชาติโก โสว ปุคฺคโล นาม. ปจฺจกฺขาตกสฺส วจนสมนนฺตรเมว ‘‘อยํ อุกฺกณฺิโต’’ติ วา ‘‘คิหิภาวํ ปตฺถยตี’’ติ วา โสตุโน ชานนํ วิชานนํ นามาติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ นฏฺกายปฺปสาทํ ปน ปิฬกํ วา จมฺมขิลํ วา โลมํ วา ปเวสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อกฺขินาสกณฺณจฺฉิทฺทวตฺถิโกเสสุ, สตฺถกาทีหิ กตวเณ วา เมถุนราเคน นิมิตฺตํ ปเวสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. อวเสสสรีเรสุ อุปกจฺฉกาทีสุ ทุกฺกฏํ. ติรจฺฉานคตานํ หตฺถิอสฺสโคคทฺรภโอฏฺมหึสาทีนํ นาสาย ถุลฺลจฺจยํ, วตฺถิโกเส ถุลฺลจฺจยเมว. สพฺเพสมฺปิ ติรจฺฉานคตานํ อกฺขิกณฺณวเณสุ ทุกฺกฏํ. ตถา อวเสสสรีเร ¶ กายสํสคฺคราเคน, เมถุนราเคน วา ชีวมานกปุริสสฺส วตฺถิโกสํ อปฺปเวสนฺโต นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฉุปติ, ทุกฺกฏํ. พหิ นิกฺขนฺตทนฺเตสุ วายมนฺตสฺส ปน ถุลฺลจฺจยนฺติ อยเมตฺถ สวินิจฺฉโย อตฺถวณฺณนกฺกโม.
อิทานิ ปเวสนํ นาม น เกวลํ อตฺตุปกฺกเมเนว, ปรูปกฺกเมนาปิ โหติ, ตตฺราปิ สาทิยนฺโตว ¶ จุโต โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อถ วาติ อยํ นิปาโต, นิปาตสมุทาโย วา ปกฺขนฺตรารมฺเภ. ปเวสนฺจ ิตฺจ อุทฺธาโร จ ปวิฏฺฺจ ปเวสน…เป… ปวิฏฺานิ, อิตรีตรโยคทฺวนฺโท. อิตรีตรโยโค นาม อฺมฺตฺโถปาทานตาติ ปเวสนาทีนิ ิตาทิอตฺถานิปิ โหนฺตีติ ปวิฏฺ-สทฺโทปิ ปเวสนาทิอตฺโถ โหติ, ตโตเยเวตฺถ ตสฺมา พหุวจนสมฺภโว. อฺถา ทฺวนฺเท อวยวตฺถปธานตฺตา เอกตฺถวาจกาปิ ปวิฏฺ-สทฺทา กถํ พหุวจนปฺปสงฺโค. สมาหาเร วา ทฺวนฺโท. ขโณติ กาลวิเสโส. โส จ โยควนฺตานํ ขณนฺตรวินิมุตฺโต นตฺถีติ ปเวสน…เป…ปวิฏฺานิเยว ขโณติ กมฺมธารโย, อเภเท เภทปริกปฺปนาย วา ปเวสน…เป… ปวิฏฺานํ ขโณติ ฉฏฺีตปฺปุริโส. ตสฺส สาทโก, ตสฺมึ วา สาทโก ปเวสน…เป… สาทโก. ขณ-สทฺโท ปเนตฺถ ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ ทฺวนฺทสมาสตฺตา, ปเวสนกาลํ ิตกาลํ อุทฺธารกาลํ ปวิฏฺกาลํ, ตสฺมึ วา สาทิยนฺโตติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอวํ เสวนจิตฺตปจฺจุปฏฺาเนน สาทโก ภิกฺขุ จุโตติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ยถาวุตฺตปฺปเทสสฺส อนฺโตกรณํ ปเวสนํ นาม. ยาว อุทฺธรณารมฺภา นิวตฺตํ ิตํ นาม. อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๘) ปน มาตุคามสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺึ ปตฺวา สพฺพถา วายมโต โอรมิตฺวา ิตกาลํ สนฺธาย ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิสมเย’’ติ ¶ วุตฺตํ. ยาว อคฺคา นีหรณํ อุทฺธาโร นาม. ยาว ปเวสนารหฏฺานา อนฺโตกตํ ปวิฏฺํ นาม.
ปมํ.
๓-๔. อิทานิ ทุติยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาทิเยยฺยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อทินฺนํ เถยฺยจิตฺเตน อาทิเยยฺย…เป… สงฺเกตํ วีตินามเย, ปาราชิโก ภเวติ สมฺพนฺโธ. อทินฺนนฺติ มนุสฺสสามิเกหิ กายวาจาหิ น ทินฺนํ. เถยฺยจิตฺเตนาติ เถโนติ โจโร, ตสฺส ภาโว เถยฺยํ น-การสฺส ย-การํ กตฺวา ทฺวิตฺเตน. ภวนฺติ เอตสฺมา อภิธานพุทฺธีติ ภาโว, สทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตํ ชาติคุณาทิ. อิธ ปน อวหรณจิตฺตสงฺขาตํ ทพฺพํ เถยฺยํ. เถยฺยฺจ ตํ จิตฺตฺจาติ เถยฺยจิตฺตํ, เตน. อาทิเยยฺยาติ อารามาทึ อภิยฺุชิตฺวา คณฺเหยฺย. หเรยฺยาติ หรนฺโต คณฺเหยฺย. อวหเรยฺยาติ อุปนิกฺขิตฺตํ ภณฺฑํ ‘‘เทหิ เม ภณฺฑ’’นฺติ วุจฺจมาโน ‘‘น มยา คหิต’’นฺติอาทีนิ วทนฺโต คณฺเหยฺย. อิริยาปถํ โกเปยฺยาติ ภณฺฑหารกสฺส คมนาทิอิริยาปถํ วิจฺฉินฺทิตฺวา คณฺเหยฺย. โกปํ กตฺวา คณฺหาตีติ หิ เอตสฺมึ อตฺเถ ‘‘โกปี’’ติ ¶ นามธาตุ. านา จาเวยฺยาติ ปิตฏฺานโต จาเวยฺย. สงฺเกตํ วีตินามเยติ ปริกปฺปิตฏฺานํ วา สุงฺกฆาตํ วา อติกฺกาเมยฺย.
เอตฺถ จ อารามาทิอภิยฺุชเน, สามิกสฺส วิมตุปฺปาทนธุรนิกฺเขเป, ภณฺฑหารกสฺส สีสภารามสนผนฺทาปนขนฺโธโรปเน, อุปนิกฺขิตฺเต ‘‘เทหิ เม ภณฺฑ’’นฺติ โจทิยมานสฺส ‘‘นาหํ คณฺหามี’’ติ ภณนวิมตุปฺปาทนธุรนิกฺเขเป, ถลฏฺสฺส เถยฺยจิตฺเตนามสนผนฺทาปนานาจาวเน จาติ จตูสุ ปจฺเจกํ ยถากฺกมํ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกาโย เวทิตพฺพา. ‘‘สหภณฺฑหารกํ เนสฺสามี’’ติ ¶ ปมทุติยปาทสงฺกามเน, ปริกปฺปิตสุงฺกฆาตฏฺานโต ปมทุติยปาทาติกฺกาเม จาติ ทฺวีสุ ปจฺเจกํ กเมน ถุลฺลจฺจยปาราชิกาโย เวทิตพฺพา. อยเมตฺถ สวิฺาณกาวิฺาณกมิสฺสกตฺตา นานาภณฺฑวเสน โยชนา. เอกภณฺฑวเสน ปน สสฺสามิกสฺส ทาสสฺส วา ติรจฺฉานคตสฺส วา ยถาวุตฺเตน อภิโยคาทินา นเยน อาทิยนหรณาทิวเสน โยชนา ทฏฺพฺพา.
อปิจ อิมานิ ฉ ปทานิ วณฺณยนฺเตน นานาภณฺฑเอกภณฺฑสาหตฺถิกปุพฺพปฺปโยคเถยฺยาวหารสงฺขาเต ปฺจปฺจเก สโมธาเนตฺวา ปฺจวีสติ อวหารา ทสฺเสตพฺพา ฉปฺปทนฺโตคธตฺตา สพฺเพสมฺปิ อวหารานํ. เต ปน อวหารา เยน เกนจิ อภิโยคาทิอาการนานตฺตมตฺเตน ภินฺนาติ ตํวเสน ปฺจปฺจกํ นาม ชาตํ. เอวํ สํวณฺณิตฺหิ อิทํ อทินฺนาทานปาราชิกํ สุวณฺณิตํ นาม โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ ปุริมานิ ทฺเว ปฺจกานิ ‘‘อาทิเยยฺยา’’ติอาทีนํ ปฺจนฺนํ ปทานํ วเสน ลพฺภนฺติ. ยํ ปเนตํ ‘‘สงฺเกตํ วีตินามเย’’ติ ฉฏฺํ ปทํ, ตํ ตติยปฺจเมสุ ปฺจเกสุ นิสฺสคฺคิยปริกปฺปาวหารวเสน โยเชตพฺพํ.
ตตฺถ สาหตฺถิก-สทฺเทน อุปจารโต ตํสหจริตปฺจกํ คเหตฺวา ‘‘สาหตฺถิกฺจ ตํ ปฺจกฺจา’’ติ วา ‘‘สาหตฺถิกาทิ ปฺจก’’นฺติ มชฺเฌปทโลปวเสน วา สาหตฺถิกปฺจกํ. เอวมุปริปิ. ตํ ปน สาหตฺถิโก อาณตฺติโก นิสฺสคฺคิโย อตฺถสาธโก ธุรนิกฺเขโป จาติ. ตตฺถ สโก หตฺโถ สหตฺโถ, สหตฺเถน นิพฺพตฺโต สาหตฺถิโก. เอวํ อาณตฺติโก. สุงฺกฆาตปริกปฺปิโตกาสานํ อนฺโต ตฺวา พหิ นิสฺสชฺชนํ นิสฺสคฺโค, โส เอว นิสฺสคฺคิโย. กาลํ อนิยเมตฺวา อาณตฺตสฺส ภณฺฑคฺคหณโต ¶ จ ปรสฺส เตลกุมฺภิยา ปาทคฺฆนกํ เตลํ อวสฺสํ ปิวนกานํ อุปาหนาทีนํ นิกฺขิตฺตานํ เตลปาตนโต จ ปุเรตรเมว ปาราชิกสงฺขาตํ อตฺถํ ¶ สาเธตีติ อตฺถสาธโก. โส ปน อาณาปนปฺปโยโค, อุปาหนาทีนํ นิกฺเขปปฺปโยโค จ. อารามาภิโยเค จ อุปนิกฺขิตฺตภณฺเฑ จ ตาวกาลิกภณฺฑเทยฺยานมทาเน จ ธุรสฺส นิกฺเขโป ธุรนิกฺเขโป.
ปุพฺพปฺปโยคปฺจกํ นาม ปุพฺพปฺปโยโค สหปฺปโยโค สํวิธาวหาโร สงฺเกตกมฺมํ นิมิตฺตกมฺมนฺติ. ตตฺถ อาณาปนํ ภณฺฑคฺคหณโต ปุพฺพตฺตา ปุพฺพปฺปโยโค นาม. านาจาวนขิลสงฺกามนปฺปโยเคน สห วตฺตมาโน สหปฺปโยโค. สํวิธาย สมฺมนฺตยิตฺวา คเตสุ เอเกนาปิ ภณฺเฑ านา จาวิเต สพฺเพสํ อวหาโร สํวิธาวหาโร. สงฺเกตกมฺมนฺติ ปุพฺพณฺหาทิกาลปริจฺเฉทวเสน สฺชานนกรณํ. นิมิตฺตกมฺมํ นาม สฺุปฺปาทนตฺถํ อกฺขินิขณนาทิกรณํ.
เถยฺยาวหารปฺจกํ ปน สยเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. นนุ จ ฉปฺปทนฺโตคธตฺตา ‘‘สพฺเพสมฺปิ อวหาราน’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ สติ ‘‘อถ วา’’ติ ปกฺขนฺตรวเสน วิสุํ วิย อิทํ ปฺจกํ กสฺมา วุตฺตนฺติ? นนุ อโวจุมฺหา ‘‘เยน เกนจิ อภิโยคาทิอาการนานตฺตมตฺเตน ภินฺนา’’ติ, เอตาทิสสฺส เภทสฺส สมฺภวโต ปกฺขนฺตรวเสนาปิ ยุชฺชตีติ เอวํ วุตฺตํ. อิมสฺส ปฺจกสฺส วิสุํ อุทฺธริตฺวา วจนํ ปน ปสิทฺธิวเสนาติ ทฏฺพฺพํ, กุส-สทฺเทน กุสสงฺกามนมธิปฺเปตํ อเภโทปจาเรน. เถยฺยฺจ พลฺจ กุโส จ ฉนฺนฺจ ปริกปฺโป จ เถยฺยา…เป… ปริกปฺปํ, ทีโฆ สนฺธิวเสน. เตน อวหารโก ปาราชิโก ภเวติ สมฺพนฺโธ. โย ปน ปฏิจฺฉนฺเนน อวหารโก, โส อตฺถโต ¶ ปฏิจฺฉนฺนสฺส อวหารโก โหตีติ ทฺวนฺทสมาสนฺโตคธตฺเตปิจสฺส วิโรธาภาโวภาวสาธโน จายํ ฉนฺน-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ สนฺธิจฺเฉทนาทีนิ กตฺวา วา ตุลากูฏมานกูฏกหาปณกูฏาทีหิ วฺเจตฺวา วา คณฺหนฺโต เถยฺยาวหารโก. พลกฺกาเรน ปรสนฺตกํ คณฺหนฺโต พลาวหารโก. กุสํ สงฺกาเมตฺวา คณฺหนฺโต กุสาวหารโก. ติณปณฺณาทีหิ ยํ กิฺจิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปจฺฉา กสฺส ปฏิจฺฉนฺนสฺส อวหารโก ปฏิจฺฉนฺนาวหารโก. สาฏกาทิภณฺฑวเสน, คพฺภทฺวาราทิโอกาสวเสน วา ปริกปฺเปตฺวา คณฺหนฺโต ปริกปฺปาวหารโก. เอตฺถ ปน ปริกปฺปิตภณฺฑคฺคหเณ ปริกปฺปิตปริจฺเฉทาติกฺกเม จ ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ปเนตฺถ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภณฺฑกาลคฺฆเทเสหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ อทินฺนาทาเน ภณฺฑฺจ กาโล จ อคฺโฆ จ เทโส จ เตหิ จ ปริโภเคน จ วินิจฺฉโย กาตพฺโพติ อตฺโถ ¶ . ตตฺถ อวหฏภณฺฑสฺส สสฺสามิกสฺสามิกภาวํ สสฺสามิเกปิ สามิกานํ สาลยนิราลยภาวฺจ อุปปริกฺขิตฺวา สาลยกาเล เจ อวหฏํ, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาตพฺโพ วินิจฺฉโย ภณฺเฑน วินิจฺฉโย. นิราลยกาเล เจ อวหฏํ, ปาราชิกํ นตฺถิ, สามิเกสุ ปุน อาหราเปนฺเตสุ ทาตพฺพํ. ตเทว หิ ภณฺฑํ กทาจิ มหคฺฆํ, กทาจิ อปฺปคฺฆํ, ตสฺมา ยสฺมึ กาเล ภณฺฑํ อวหฏํ, ตสฺมึเยว กาเล โย ตสฺส อคฺโฆ, เตน กาตพฺโพ วินิจฺฉโย กาเลน วินิจฺฉโย. นวภณฺฑสฺส โย อคฺโฆ, โส ปจฺฉา ปริหายติ, ตสฺมา สพฺพทา ปกติอคฺฆวเสน อกตฺวา กาตพฺโพ วินิจฺฉโย อคฺเฆน วินิจฺฉโย. ภณฺฑุฏฺานเทเส ภณฺฑํ อปฺปคฺฆํ โหติ, อฺตฺถ มหคฺฆํ, ตสฺมา ยสฺมึ เทเส ภณฺฑํ อวหฏํ, ตสฺมึเยว เทเส อคฺเฆน กาตพฺโพ วินิจฺฉโย เทเสน วินิจฺฉโย. ปริโภเคน ¶ สาฏกาทิโน ภณฺฑสฺส อคฺโฆ ปริหายติ, ตสฺมา ตสฺส ปริโภควเสน ปริหีนาปริหีนภาวํ อุปปริกฺขิตฺวา กาตพฺโพ วินิจฺฉโย ปริโภเคน วินิจฺฉโย.
ทุติยํ.
๕-๗. อิทานิ ตติยํ ทสฺเสตุํ ‘‘มนุสฺสวิคฺคห’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ มนุสฺสวิคฺคหํ กลลโต ปฏฺาย ชีวมานกมนุสฺสชาติกานํ สรีรํ. จิจฺจ ปาโณติ สฺาย สทฺธึเยว ‘‘วธามิ น’’นฺติ วธกเจตนาย เจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา. ชีวิตา วา วิโยชเยติ โย ภิกฺขุ ชาติอุณฺณํสุนา สมุทฺธฏเตลพินฺทุมตฺตํ กลลรูปกาเล ตาปนาทีหิ วา ตโต วา อุทฺธมปิ ตทนุรูเปน อุปกฺกเมน รูปชีวิตินฺทฺริโยปกฺกเม สติ ตทายตฺตวุตฺติโน อรูปชีวิตสฺสาปิ โวโรปนสมฺภวโต อุภยชีวิตา โวโรเปยฺย. วา-สทฺโท วิกปฺเป. มรณเจตโนติ มรเณ เจตนา ยสฺส โส มรณาธิปฺปาโย. สตฺถหารกนฺติ ชีวิตํ หรตีติ หารกํ, สตฺถฺจ ตํ หารกฺจาติ สตฺถหารกํ, ตํ. อสฺส มนุสฺสวิคฺคหสฺส. อุปนิกฺขิเปติ สมีเป นิกฺขิเปยฺย วา. เอเตน ถาวรปฺปโยคํ ทสฺเสติ. คาเหยฺย มรณูปายนฺติ ‘‘สตฺถํ วา อาหร, วิสํ วา ขาทา’’ติอาทินา นเยน มรณตฺถาย อุปายํ คาหาเปยฺย วา. เอเตน อาณตฺติปฺปโยโค ทสฺสิโต. วเทยฺย มรเณ คุณนฺติ กายวาจาทูตเลขาหิ ‘‘โย เอวํ มรติ, โส ธนํ วา ลภตี’’ติอาทินา นเยน มรเณ คุณํ ปกาเสยฺย วา. อุภยตฺถ อธิการวเสน วา-สทฺโท อาหริตพฺโพ. โส ภิกฺขุ จุโตติ สมฺพนฺโธ, สาสนโตติ วิฺายติ.
อิทานิ ปนสฺส ฉพฺพิเธ ปโยเคทสฺเสตุํ ‘‘ปโยคา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สาหตฺถิ…เป… อิทฺธิวิชฺชามยา ¶ ปโยคาติ อิเม ¶ ฉ ปโยคาติ สมฺพนฺโธ. ก-การโลเปน ปเนตฺถ ‘‘สาหตฺถี’’ติ วุตฺตํ. อถ วา อเนกตฺเถ อเนกตทฺธิตสมฺภเวน สหตฺถสฺสายํ ปโยโค สาหตฺถีติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. สาหตฺถิ จ นิสฺสคฺโค จ อาณตฺติ จ ถาวโร จาติ ทฺวนฺโท. อิทฺธิ จ วิชฺชา จ, ตาสมิเมติ อิทฺธิวิชฺชามยา, อิทฺธิมโย วิชฺชามโยติ วุตฺตํ โหติ. ปโยคาติ อิเม ฉปฺปโยคา นาม โหนฺตีติ อตฺโถ. ตตฺถ สยํ มาเรนฺตสฺส กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา ปหรณํ สาหตฺถิโก ปโยโค. ทูเร ิตํ มาเรตุกามสฺส กายาทีหิ อุสุสตฺติอาทีนํ นิสฺสชฺชนํ นิสฺสคฺโค. ‘‘อสุกํ นาม มาเรหี’’ติอาทินา อาณาเปนฺตสฺส อาณาปนํ อาณตฺติ, โอปาตขณนํ อปสฺเสนสํวิธานํ อสิอาทีนํ อุปนิกฺขิปนาทิ ถาวโร. มารณตฺถํ กมฺมวิปากชาย อิทฺธิยา ปโยชนํ อิทฺธิมโย. กมฺมวิปากชิทฺธิ จ นาเมสา ราชาทีนํ ราชิทฺธิอาทโย. ตตฺถ ปิตุรฺโ สีหฬินฺทสฺส ทาาโกฏเนน จูฬสุมนกุฏุมฺพิยมารเณ ราชิทฺธิ ทฏฺพฺพา, ตทตฺถเมว อถพฺพณาทิวิชฺชาย ปริชปฺปนํ วิชฺชามโย ปโยโค.
เอวํ ฉปฺปโยเค ทสฺเสตฺวา เตสุ อาณตฺติปฺปโยคสฺส นิยามเก ทสฺเสตุํ ‘‘กาลา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยถาวุตฺตํ อาณตฺตึ นิยเมนฺติ สงฺเกตวิสงฺเกตตาวเสน ปริจฺฉินฺทนฺตีติ อาณตฺตินิยามกา. เต ปน กาโล จ วตฺถุ จ อาวุธฺจ อิริยาปโถ จาติ จตฺตาโร, ตถา กิริยาวิเสโส โอกาโสติ คณนปริจฺเฉทวเสน ฉ โหนฺตีติ อตฺโถ. ตตฺถ กาโล ปุพฺพณฺหาทิ โยพฺพนาทิ จ. วตฺถุ มาเรตพฺโพ สตฺโต. อาวุธํ อสิอาทิ. อิริยาปโถ มาเรตพฺพสฺส คมนาทิ. กิริยาวิเสโส วิชฺฌนาทิ. โอกาโส คามาทิ. โย หิ ‘‘อชฺช, สฺเว’’ติ อนิยเมตฺวา ‘‘ปุพฺพณฺเห มาเรหี’’ติ วุตฺโต ยทา กทาจิ ปุพฺพณฺเห มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. โย ปน ‘‘ปุพฺพณฺเห’’ติ ¶ วุตฺโต มชฺฌนฺหาทีสุ มาเรติ, วิสงฺเกโต โหติ, อาณาปกสฺส อนาปตฺติ. เอวํ กาลสฺส สงฺเกตวิสงฺเกตตาวเสน นิยามกตา เวทิตพฺพา. อิมินาว นเยน วตฺถุอาทีสุปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.
ตติยํ.
๘-๙. อิทานิ จตุตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฌานาทิเภท’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺตนิ โนสนฺตํ อตฺตุปนายิกฺจ ปจฺจุปฺปนฺนภวสฺสิตฺจ อฺาปเทสรหิตฺจ ฌานาทิเภทํ โกฏฺาสํ กตฺวา วา เอเกกํ กตฺวา วา กาเยน วา วาจาย วา วิฺตฺติปเถ ทีเปนฺโต นาธิมานิโก าเต จุโต ภเวติ ¶ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ อตฺตนิ สกสนฺตาเน โนสนฺตํ อนุปฺปนฺนตฺตาเยว อวิชฺชมานํ, เอตฺถ โนสนฺโตติ อตฺเถ ตปฺปุริโส. ฌานาทิเภทนฺติ ฌานํ อาทิ ยสฺส ‘‘วิโมกฺขสมาธิ สมาปตฺติ าณทสฺสน มคฺคภาวนา ผลสจฺฉิ กิริยากิเลสปฺปหานวินีวรณตาจิตฺตสฺส สฺุาคาเร อภิรตี’’ติ (ปารา. ๑๙๘) วุตฺตสฺส โส ฌานาทิ, โสว เภโท วิเสโสติ สมาโส. ตํ ฌานาทิเภทํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ. อตฺตุปนายิกนฺติ ‘‘อยํ มยิ อตฺถี’’ติ อาโรจนวเสน อตฺตนิ อุปนียติ, ‘‘อหํ วา เอตฺถ สนฺทิสฺสามี’’ติ อตฺตา อุปนียติ เอตฺถ ธมฺเมติ วา อตฺตุปนายิโก, ฌานาทิเภโท, ตํ. ปจฺจุปฺปนฺนภวสฺสิตนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนภโว นาม อิทานิ วตฺตมาโน อตฺตภาโว, ตนฺนิสฺสิโตติ สมาโส, โส จ ฌานาทิเภโทเยว, ตํ.
อฺาปเทสรหิตนฺติ ‘‘โย เต วิหาเร วสิ, โส ภิกฺขุ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชี’’ติอาทินา (ปารา. ๒๒๐) นเยน อฺสฺส อปเทโส, เตน รหิโต จตฺโตติ ตปฺปุริสสมาโส, โส รหิโต เตนาติ วา พหุพฺพีหิ, ฌานาทิเภโทว ¶ , ตํ. โกฏฺาสํ กตฺวา วาติ ‘‘ปมํ ฌานํ ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชึ, ปมํ ฌานํ ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติอาทินา นเยน โกฏฺาสํ กตฺวา วา. เอเกกํ กตฺวา วาติ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชึ, ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติอาทินา นเยน เอเกกํ กตฺวา วา. เอตฺถ จ เอกนฺติ ิเต วิจฺฉายํ ทฺวิตฺตํ. เอตฺถ ปน กตฺวาติ กรณกิริยาย เอเกกวเสน ภินฺนสฺส ฌานาทิโน อตฺถสฺส สมฺพนฺธนิจฺฉา วิจฺฉาติ เวทิตพฺพา. ฏีกายํ ปน ‘‘โกฏฺาสํ วาติ เอตฺถ ‘ฌานลาภี, วิโมกฺขลาภี, สมาธิลาภี, สมาปตฺติลาภีมฺหี’ติ เอวมาทินา นเยน โกฏฺาสโต วาติ อตฺโถ’’ติ จ ‘‘เอเกกํ วาติ ‘ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี, ทุติยสฺส ฌานสฺส ลาภีมฺหี’ติ เอวมาทินา นเยน เอเกกํ วาติ อตฺโถ’’ติ จ วุตฺตํ. โส ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ อวุตฺตกฺกโมติ เวทิตพฺโพ. กาเยน วาติ หตฺถมุทฺทาทิวเสน กาเยน วา. วาจาติ เอตฺถ ย-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ ‘‘อลชฺชิตา’’ติอาทีสุ วิย. วิฺตฺติปเถติ กายวจีวิฺตฺตีนํ คหณโยคฺเย ปเทเส ตฺวาติ อชฺฌาหริตพฺพํ. ทีเปนฺโตติ ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณน อยํ ธมฺโม มยิ อตฺถี’’ติ ปกาเสนฺโต. นาธิมานิโกติ อปฺปตฺเต ปตฺตสฺิตาสงฺขาโต อธิโก มาโน, โส นตฺถิ เอตสฺสาติ นาธิมานิโก, ภิกฺขุ. าเตติ วิฺุนา มนุสฺสชาติเกน สิกฺขาปจฺจกฺขาเน วุตฺตนเยน วิฺาเต สติ จุโต ภเว สาสนโตติ วิฺายติ. อฺาปเทเสน ทีปยโต ปน ถุลฺลจฺจยํ. เอตฺถ จ –
ทุกฺกฏํ ¶ ปมสฺเสว, สามนฺตมิติ วณฺณิตํ;
เสสานํ ปน ติณฺณมฺปิ, ถุลฺลจฺจยมุทีริตนฺติ.
จตุตฺถํ.
๑๐. อิทานิ ¶ จตุนฺนมฺปิ เจเตสมสํวาสตํ อภพฺพตฺจ ทีเปตุํ ‘‘ปาราชิเกเต’’ติอาทิ อารทฺธํ. เอเต จตฺตาโร ปาราชิกา ปุคฺคลา ยถา ปุเร ปุพฺเพ คิหิกาเล, อนุปสมฺปนฺนกาเล จ วิย อสํวาสาติ สมฺพนฺโธ. สห วสนฺติ ยสฺมา สพฺเพปิ ลชฺชิโน เอเตสุ กมฺมาทีสุ น เอโกปิ ตโต พหิทฺธา สนฺทิสฺสตีติ เอกกมฺมํ เอกุทฺเทโส สมสิกฺขตาติ อิเม ตโย สํวาสา นาม. ตตฺถ อปโลกนาทิกํ จตุพฺพิธมฺปิ สงฺฆกมฺมํ สีมาปริจฺฉินฺเนหิ ปกตตฺเตหิ ภิกฺขูหิ เอกโต กตฺตพฺพตา เอกกมฺมํ นาม. ตถา ปฺจวิโธปิ ปาติโมกฺขุทฺเทโส เอกโต อุทฺทิสิตพฺพตฺตา เอกุทฺเทโส นาม. ปฺตฺตํ ปน สิกฺขาปทํ สพฺเพหิปิ ลชฺชีปุคฺคเลหิ สมํ สิกฺขิตพฺพภาวโต สมสิกฺขตา นาม. นตฺถิ เต สํวาสา เอเตสนฺติ อสํวาสา. ‘‘อภพฺพา’’ติอาทีสุ ภิกฺขุภาวายาติ ตุมตฺเถ สมฺปทานวจนํ, ตสฺมา ยถา สีสจฺฉินฺโน ชีวิตุํ อภพฺโพ, เอวํ จตฺตาโรเม ปุคฺคลา ภิกฺขุภาวาย ภิกฺขู ภวิตุํ อภพฺพาติ อตฺโถ.
๑๑. อิทานิ ปริยายาณตฺตีหิ สมฺภวนฺเต ทสฺเสตุํ ‘‘ปริยาโย จา’’ติอาทิมาห. ปริยาโย จ อาณตฺติ จ ตติเย มนุสฺสวิคฺคเห ลพฺภตีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ กายาทีหิ ยถาวุตฺเตหิ ‘‘โย เอวํ มรติ, โส ธนํ วา ลภตี’’ติ เอวมาทิวิฺาปโก พฺยฺชนภูโต กายวจีปโยโค ปริยาโย. อิมินา อิทํ ทีเปติ – ยถา อทินฺนาทาเน ‘‘อาทิเยยฺยา’’ติ (ปารา. ๙๒) วุตฺตตฺตา ปาริยายกถาย มุจฺจติ, น อิธ เอวํ. ‘‘สํวณฺเณยฺยา’’ติ (ปารา. ๑๗๒) ปริยายกยายปิ น มุจฺจตีติ. ‘‘ทุติเย ปนา’’ติอาทีสุ อตฺโถ ปากโฏเยว. เอวมุปริปิ ปากฏมุเปกฺขิสฺสาม.
๑๒. อิทานิ เมถุนธมฺมาทีนํ องฺคานิ ทสฺเสตุํ ‘‘เสเวตู’’ติอาทิมาห. เสเวตุกามตาจิตฺตนฺติ เมถุนํ เสเวตุํ ¶ กาเมตีติ เสเวตุกาโม, ตสฺส ภาโว นาม ตณฺหา, ตาย เสเวตุกามตาย สมฺปยุตฺตํ จิตฺตนฺติ ตปฺปุริโส. เมถุนธมฺมสฺสาติ มิถุนานํ อิตฺถิปุริสานํ อิทนฺติ เมถุนํ, ตเมว ธมฺโมติ เมถุนธมฺโม. อิธ ปน อุปจารวเสน ปาราชิกาปตฺติ เมถุนธมฺโม นาม. อถ ¶ วา เมถุเนน ชาโต ธมฺโม ปาราชิกาปตฺติ เมถุนธมฺโม, ตสฺส เมถุนธมฺมสฺส เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺติยา. องฺคทฺวยนฺติ องฺคานํ การณานํ ทฺวยํ. พุธาติ วินยธรา วิฺุโน.
๑๓. มนุสฺสสนฺติ มนุสฺสานํ สํ มนุสฺสสํ, ตทายตฺตวตฺถุกา จ. เอเตน เปตติรจฺฉานคตายตฺตํ นิวตฺเตติ. ตถาสฺีติ ตถา ตาทิสา สฺา ตถาสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ ตถาสฺี. ปรายตฺตสฺิตา จาติ อตฺโถ. ภาวปฺปธานา อิเม นิทฺเทสา, ภาวปจฺจยโลโป วา ‘‘พุทฺเธ รตน’’นฺติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๖.๓) วิย. เอวมุปริปิ อีทิเสสุ. เถยฺยจิตฺตนฺติ เถนภาวสงฺขาตํ จิตฺตฺจ. วตฺถุโน ครุตาติ ภณฺฑสฺส ปาทอติเรกปาทารหภาเวน ครุตา จ. อูนปฺจมาสเก วา อติเรกมาสเก วา ถุลฺลจฺจยํ. มาสเก วา อูนมาสเก วา ทุกฺกฏํ. อวหาโรติ ปฺจวีสติยา อวหารานํ อฺตเรน อวหรณฺจาติ อิเม ปฺจ อทินฺนาทานเหตุโย อทินฺนาทานปาราชิกาปตฺติยา องฺคานิ.
๑๔. ปาโณ มานุสฺสโกติ มนุสฺสชาติสมฺพนฺโธ ปาโณ จ, ปาโณติ หิ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ปน ชีวิตินฺทฺริยํ วุจฺจติ. ปาณสฺิตาติ ปาโณติ สฺิตา จ, ฆาตนํ ฆาโต, โส เอว เจตนา ฆาตเจตนา, ‘‘วธามิ น’’นฺติ เอวํ ปวตฺตา สา จ, ตํสมุฏฺิโต สาหตฺถิกาทีนํ ฉนฺนมฺตโร ปโยโค จ, เตน ปโยเคน มรณฺจาติ เอเต ยถาวุตฺตา ปฺจ วธเหตุโย ปาณฆาตาปชฺชิตพฺพอาปตฺติยา องฺคานีติ อตฺโถ.
๑๕. อตฺตนิ ¶ อสนฺตตาติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส สนฺตาเน อวิชฺชมานตา จ. ปาปมิจฺฉตายาโรจนาติ ยา สา ‘‘อิเธกจฺโจ ทุสฺสีโล สมาโน ‘สีลวาติ มํ ชโน ชานาตู’’ติอาทินา (วิภ. ๘๕๑) นเยน วุตฺตา ปาปอิจฺฉตาย สมนฺนาคตา, ตาย อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อาโรจนา จ. ตสฺสาติ ยสฺส อาโรเจติ, ตสฺส. มนุสฺสชาติตาติ มนุสฺสานํ ชาติ ยสฺส, ตสฺส ภาโว มนุสฺสชาติตา, สา จ, นฺาปเทโสติ น อฺาปเทโส อฺาปเทสาภาโว จ, ตเทว ชานนนฺติ ตงฺขณํเยว วิชานนฺจาติ อิมานิ ปฺจ เอตฺถ อสนฺตทีปเน อสฺมึ สนฺตาเน อวิชฺชมานอุตฺตริมนุสฺสธมฺมปฺปกาสนนิมิตฺเต ปาราชิเก องฺคานิ เหตุโยติ อตฺโถ.
๑๖. เอวํ เตสมสํวาสตาภพฺพตาทีนิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ น เต จตฺตาโรว, อถ โข สนฺตฺเปีติ ¶ เต สพฺเพปิ สโมธาเนตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อสาธารณา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อสาธารณาติ ปาราชิกา ธมฺมา อธิปฺเปตา. เตเนว เจตฺถ ปุลฺลิงฺคนิทฺเทโส. ตสฺมา ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณา ปาราชิกา ธมฺมา จตฺตาโร จาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อุปจารวเสน ตุ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกาทิกา ปาราชิกาปนฺนา ปริคฺคยฺหนฺติ. ตาสุ ยา อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส มนุสฺสปุริสสฺส อกฺขกานํ อโธ ชาณุมณฺฑลานํ กปฺปรานฺจ อุปริ กายสํสคฺคํ สาทิยติ, อยํ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา. ยา ปน อฺิสฺสา ภิกฺขุนิยา ปาราชิกํ ปฏิจฺฉาเทติ, สา วชฺชปฺปฏิจฺฉาทิกา. ยา อุกฺขิตฺตกํ ภิกฺขุํ ตสฺสา ทิฏฺิยา คหณวเสน อนุวตฺตติ, สา อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา. กายสํสคฺคราเคน ตินฺตสฺส หตฺถคฺคหณํ สงฺฆาฏิกณฺณคฺคหณํ กายสํสคฺคตฺถาย ปุริสสฺส หตฺถปาเส านํ ตฺวา สลฺลปนํ สงฺเกตคมนํ ปุริสสฺสาคมนสาทิยนํ ¶ ปฏิจฺฉนฺโนกาสววิสนํ หตฺถปาเส ตฺวา กาโยปสํหรณนฺติ อิมานิ อฏฺ วตฺถูนิ ยสฺสา อวสฺสุตาย, สา อฏฺวตฺถุกา นาม.
อภพฺพกา เอกาทส จาติ เอตฺถ ปณฺฑโก เถยฺยสํวาสโก ติตฺถิยปกฺกนฺตโก ติรจฺฉานคโต มาตุฆาตโก ปิตุฆาตโก อรหนฺตฆาตโก ภิกฺขุนิทูสโก สงฺฆเภทโก โลหิตุปฺปาทโก อุภโตพฺยฺชนโกติ อิเม อภพฺพา เอกาทส จ. เตสุ ปณฺฑโกติ โอปกฺกมิกนปุํสกปณฺฑกา จ ปณฺฑกภาวปกฺเข ปกฺขปณฺฑโก จ อิธ อธิปฺเปตา. อาสิตฺตอุสูยปณฺฑกานํ ปน ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ น วาริตา. เถยฺยสํวาสโก ปน ลิงฺคตฺเถนกาทิวเสน ติวิโธ. ตตฺถ สยํ ปพฺพชิตตฺตา ลิงฺคมตฺตํ เถเนตีติ ลิงฺคตฺเถนโก. ภิกฺขุวสฺสคณนาทิกํ สํวาสํ เถเนตีติ สํวาสตฺเถนโก. สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย เอวํ ปฏิปชฺชนฺเตปิ เอเสว นโย. ยถาวุตฺตมุภยํ เถเนตีติ อุภยตฺเถนโก. เปตฺวา ปน อิมํ ติวิธํ –
ราชทุพฺภิกฺขกนฺตาร-โรคเวริภเยน วา;
จีวราหรณตฺถํ วา, ลิงฺคํ อาทิยตีธ โย.
สํวาสํ นาธิวาเสติ, ยาว โส สุทฺธมานโส;
เถยฺยสํวาสโก นาม, ตาว เอส น วุจฺจตีติ. (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐; กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา);
ติตฺถิยปกฺกนฺตกาทโย ¶ ตุ ตํตํวจนตฺถานุสาเรน เวทิตพฺพา. ติรจฺฉานคโต ปน เปตฺวา มนุสฺสชาติกํ อวเสโส สพฺโพ เวทิตพฺโพ. อิเม เอกาทส ปุคฺคลา ภิกฺขุภาวาย อภพฺพตฺตา ปาราชิกาปนฺนสทิสตาย ‘‘ปาราชิกา’’ติ วุจฺจนฺติ. วิพฺภนฺตา ภิกฺขุนีติ คิหินิวาสนนิวตฺถา ภิกฺขุนี จ. สา หิ เอตฺตาวตา ปาราชิกา. มุทุกา ปิฏฺิ ยสฺส, โส จ. โส หิ อนภิรติยา ปีฬิโต ยทา อตฺตโน ¶ องฺคชาตํ อตฺตโน วจฺจมุขมคฺเคสุ ปเวเสติ, ตทา ปาราชิโก โหติ.
๑๗-๑๘. ลมฺพมานมงฺคชาตเมตสฺสาติ ลมฺพี. โส ยถาวุตฺเตสุ ปเวสิโต ปาราชิโก. มุเขน คณฺหนฺโต องฺคชาตํ ปรสฺส จาติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส สุตฺตสฺส วา มตสฺส วา องฺคชาตํ มุเขน คณฺหาติ, โส ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหนฺโต จ. ตตฺเถวาภินิสีทนฺโตติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ตตฺเถว ปรสฺส องฺคชาเต วจฺจมคฺเคน อภินิสีทติ, โส จาติ เอเต ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติยา อภาเวปิ มคฺเค มคฺคปฺปเวสนเหตุ เมถุนสฺส อนุโลมิกา จตฺตาโร จ. อิธาคตา จตฺตาโรติ อิธ ขุทฺทสิกฺขายํ ยถาวุตฺตา เมถุนธมฺมา ปาราชิกาทโย จตฺตาโร จาติ สโมธานา ปิณฺฑีกรณวเสน จตุวีสติ ปาราชิกา ภวนฺตีติ เสโส. เอตฺถ จ คาถาพนฺธวเสน รสฺสํ กตฺวา ‘‘ปราชิกา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถาห – มาตุฆาตกาทโย ตติยํ ปาราชิกํ อาปนฺนา, ภิกฺขุนิทูสโก, มุทุปิฏฺิกาทโย จตฺตาโร จ ปมปาราชิกํ อาปนฺนา เอวาติ กุโต จตุวีสตีติ? วุจฺจเต – มาตุฆาตกาทโย หิ จตฺตาโร อิธ อนุปสมฺปนฺนา เอว อธิปฺเปตา. มุทุปิฏฺิกาทโย จตฺตาโร กิฺจาปิ ปมปาราชิเกน สงฺคหิตา, ยสฺมา ปน เอเกน ปริยาเยน เมถุนธมฺมํ อปฺปฏิเสวิโน โหนฺติ, ตสฺมา วิสุํ วุตฺตาติ.
ปาราชิกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สงฺฆาทิเสสนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙. วุฏฺานสฺส ครุกตฺตา ครุกาติ สงฺฆาทิเสสา วุจฺจนฺติ. นวาติ เตสํ คณนปริจฺเฉโท. นนุ ‘‘นวา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, ‘‘เตรสา’’ติ วตฺตพฺพนฺติ? นายํ โทโส, จิเรนาปชฺชิตพฺเพ ¶ ¶ จตฺตาโร ยาวตติยเก เปตฺวา วีติกฺกมกฺขเณเยว อาปชฺชิตพฺพา ปมาปตฺติกา วุจฺจนฺตีติ. อิทานิ เต ทสฺเสตุํ ‘‘โมเจตุกามตา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ สุกฺกสฺสาติ อาสยธาตุนานตฺตโต นีลาทิวเสน ทสวิเธ สุกฺเก ยสฺส กสฺสจิ สุกฺกสฺส. โมเจตุกามตาติ โมเจตุกามตาย, ย-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. อิมินา ปน วจเนน โมจนสฺสาท มุจฺจนสฺสาท มุตฺตสฺสาทเมถุนสฺสาท ผสฺสสฺสาท กณฺฑุวนสฺสาท ทสฺสนสฺสาท นิสชฺชนสฺสาท วาจสฺสาท เคหสิตเปม วนภงฺคิย สงฺขาเตสุ เอกาทสสฺสาเทสุ เอกํเยว โมจนสฺสาทํ ทสฺเสติ.
ตตฺถ โมจนาย อสฺสาโท สุขเวทนา โมจนสฺสาโท. มุจฺจเน อตฺตโน ธมฺมตาย มุจฺจเน อสฺสาโท มุจฺจนสฺสาโท. เอวํ สพฺพตฺถ สตฺตมีตปฺปุริเสน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิเมหิ ปน นวหิ ปเทหิ สมฺปยุตฺตอสฺสาทสีเสน ราโค วุตฺโต. เคหนิสฺสิเตสุ มาตาทีสุ เปมํ เคเห สิตํ เปมนฺติ เคหสิตเปมํ, อิมินา สรูเปเนว ราโค วุตฺโต. สนฺถวกรณตฺถาย อิตฺถิยา เปสิตปุปฺผาทิ วนภงฺคิยํ, อิมินา จ วตฺถุวเสน ราโค วุตฺโต. เมถุนสฺสาโทปิ อิตฺถิยา คหณปฺปโยเคน เวทิตพฺโพ. สพฺพตฺเถว จ ปน เจตนานิมิตฺตุปกฺกมโมจเน สติ วิสงฺเกตาภาโว เวทิตพฺโพ. อุปกฺกมฺม หตฺถาทินา นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา. อฺตฺร สุปินนฺเตนาติ สุปิโนเยว สุปินนฺโต ‘‘กมฺมเมว กมฺมนฺโต’’ติอาทีสุ วิย อนฺต-สทฺทสฺส ตพฺภาววุตฺติตฺตา. ตํ สุปินนฺตํ วินา วิโมจยํ สุกฺกํ วิโมเจนฺโต สมโณ โย โกจิ ภิกฺขุ ครุกํ ครุกาปตฺติสงฺขาตํ สงฺฆาทิเสสํ ผุเส ผุเสยฺย, อาปชฺเชยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ จ อชฺฌตฺตรูปพหิทฺธารูปอุภยรูปอากาเสกฏิกมฺปนสงฺขาเตสุ จตูสุ อุปาเยสุ สติ ราคูปตฺถมฺภาทีสุ ¶ จ กาเลสุ เยน เกนจิ องฺคชาเต กมฺมฺตํ ปตฺเต ‘‘อาโรคฺยตฺถายา’’ติอาทีสุ เยน เกนจิ อธิปฺปาเยน อธิปฺปายวตฺถุภูตํ ยํ กิฺจิ สุกฺกํ โมจนสฺสาทเจตนาย เอว นิมิตฺเต อุปกฺกมฺม โมเจนฺโต สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชตีติ สพฺพถา อธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ.
ปโม.
๒๐. กายสํสคฺคราควาติ กาเย สํสคฺโค, ตสฺมึ ราโค, โส อสฺส อตฺถีติ วนฺตุ, กายสํสคฺคราคสมงฺคีติ อตฺโถ. สมโณ อิตฺถิสฺีติ สมฺพนฺโธ. อุปกฺกมฺมาติ กาเยน วายมิตฺวา. มนุสฺสิตฺถึ สมฺผุสนฺโตติ อนฺตมโส โลเมนปิ ปรามสนฺโต ครุกํ ผุเสติ โยชนา. มนุสฺสภูตา อมตา อิตฺถี มนุสฺสิตฺถี. ตตฺถ ‘‘กายสํสคฺคราควา’’ติ อิมินา มาตุเปมาทึ ¶ , อิตฺถิยา คหิตโมกฺขาธิปฺปายฺจ ปฏิกฺขิปติ. อิตฺถิยา เวมติกสฺส, ปณฺฑกปุริสติรจฺฉานคตสฺิสฺส จ ถุลฺลจฺจยํ. อิตฺถิยา ปน กาเยน กายปฺปฏิพทฺธามสเน, กายปฺปฏิพทฺเธน กายามสเน จ ยกฺขีเปตีปณฺฑกานํ กาเยน กายามสเน จ ปุริสติรจฺฉานคติตฺถีนํ กาเยน กายามสเนปิ ทุกฺกฏํ, ตถายกฺขีอาทีนํ กาเยน กายปฺปฏิพทฺธาทีสุ จ. มติตฺถิยา ปน ถุลฺลจฺจยํ. อิตฺถิยา ปน ผุสิยมาโน เสวนาธิปฺปาโยปิ สเจ กาเยน น วายมติ, อนาปตฺติ.
ทุติโย.
๒๑. ตถาติ อิตฺถิสฺี. สุณนฺตินฺติ วิฺตฺติปเถ ตฺวา อตฺตโน วจนํ สุณนฺติฺจ. วิฺฺุจาติ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลสลฺลกฺขณสมตฺถฺจ มนุสฺสิตฺถึ. มคฺคํ วาติ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคานํ วเสน มคฺคํ วา เมถุนํ วา อารพฺภาติ สมฺพนฺโธ. ทุฏฺุลฺลวาจาราเคนาติ ¶ ทุฏฺา จ สา อสทฺธมฺมปฺปฏิสํยุตฺตตาย ถูลา จ ลามกชนสาธารณตายาติ ทุฏฺุลฺลา. สาว ปุน วาจา ทุฏฺุลฺลวาจา. ตสฺสํ อสฺสาทสมฺปยุตฺโต ราโคติ สมาโส, เตน. โอภาสิตฺวาติ วณฺณาวณฺณยาจนาทิวเสน อสทฺธมฺมวจนํ วตฺวา. อสุณนฺติยา ปน ทูเตน วา ปณฺเณน วา อาโรจิเต อนาปตฺติ. ตตฺถ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วเสน วณฺณาวณฺเณหิ, เมถุนยาจนาทีหิ วา ‘‘สิขรณีสิ, สมฺภินฺนาสิ, อุภโตพฺยฺชนกาสี’’ติ อิเมสุ ตีสุ อฺตเรน อกฺโกสวจเนน วา โอภาสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส, อธกฺขกอุพฺภชาณุมณฺฑลํ อาทิสฺส วณฺณาทิภณเน ถุลฺลจฺจยํ, ตถา ยกฺขีเปตีปณฺฑกานํ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺเค อาทิสฺส วณฺณาทิภณเน เมถุนยาจนาทีสุปิ. เตสํ ปน อธกฺขกาทิเก ทุกฺกฏํ, ตถา มนุสฺสิตฺถีนํ อุพฺภกฺขเก อโธชาณุมณฺฑเล กายปฺปฏิพทฺเธ จ.
ตติโย.
๒๒. อตฺตกามุปฏฺานนฺติ เมถุนธมฺมสงฺขาเตน กาเมน อุปฏฺานํ กามุปฏฺานํ. อตฺตโน อตฺถาย กามุปฏฺานํ อตฺตกามุปฏฺานํ. อถ วา กามียตีติ กามํ, อตฺตโน กามํ อตฺตกามํ, สยํ เมถุนราควเสน ปตฺถิตนฺติ อตฺโถ. อตฺตกามฺจ ตํ อุปฏฺานฺจาติ อตฺตกามุปฏฺานํ. ตสฺส วณฺโณ คุโณ, ตํ. วตฺวาติ ‘‘ยทิทํ กามุปฏฺานํ นาม, เอตทคฺคํ อุปฏฺานาน’’นฺติ กามุปฏฺาเน วณฺณํ ¶ อนฺตมโส หตฺถมุทฺทายปิ อิตฺถีติ สฺี ปกาเสตฺวาติ อตฺโถ. วาจาติ วาจาย ยการโลปวเสน. เมถุนยุตฺเตนาติ เมถุนยุตฺตาย, ลิงฺควิปลฺลาสวเสน ตาย ‘‘อรหสิ ตฺวํ มยฺหํ เมถุนํ ธมฺมํ ทาตุ’’นฺติอาทิกาย เมถุนธมฺมปฺปฏิสํยุตฺตาย วาจาย เมถุนยาจเน เมถุนราคิโนติ สมฺพนฺโธ. เมถุเนราโค, โส อสฺส อตฺถีติ เมถุนราคี, ตสฺส. ครุ โหตีติ ครุกาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ. ม-กาโร ปทสนฺธิกโร. เอตฺถ ¶ ปน ปณฺฑเก ปณฺฑกสฺิโน ถุลฺลจฺจยํ, ตสฺมึเยว อิตฺถิสฺิโน ทุกฺกฏํ.
จตุตฺโถ.
๒๓. อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา สนฺเทสํ ปฏิคฺคเหตฺวาติ สมฺพนฺโธ. อิตฺถิยา วาติ ‘‘ทส อิตฺถิโย มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา’’ติอาทินา (ปารา. ๓๐๓) จ ‘‘ทส ภริยาโย ธนกฺกีตา ฉนฺทวาสินี’’ติอาทินา (ปารา. ๓๐๓) จ วุตฺตาย วีสติวิธาย อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา ตํสมฺพนฺธวเสน เตสํ มาตาทีนํ วา. สนฺเทสนฺติ อิตฺถิยา วา ปุริเสน วา อุภินฺนํ มาตาทีหิ วา ‘‘เอหิ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา เอวํ ภณาหี’’ติ วุตฺตํ ชายมฺปติภาวสนฺนิสฺสิตํ สนฺเทสวจนํ. ปฏิคฺคเหตฺวาติ ‘‘สาธู’’ติ กาเยน วา วาจาย วา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา. วีมํสิตฺวาติ ยตฺถ เปสิโต, เตสํ อธิปฺปายํ อุปปริกฺขิตฺวา วา อุปปริกฺขาเปตฺวา วา. หรํ ปจฺจาติ อิตฺถี วา ปุริโส วา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉตุ วา, มา วา, เยหิ เปสิโต, เตสํ ปจฺจาหรนฺโต วา หราเปนฺโต วา, ชายมฺปติภาโว โหตุ วา, มา วา, อการณเมตํ. อิมาย ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส จ, ทฺวีหิ องฺเคหิ ปณฺฑเก จ องฺคตฺตเยนาปิ ถุลฺลจฺจยํ, เอเกน ทุกฺกฏํ. เกจิ ปน ‘‘หรํ ปจฺฉา’’ติ วิปาํ ปริกปฺเปตฺวา ‘‘ปจฺฉา หร’’นฺติ โยเชนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ ปจฺจาติ อุปสคฺคตฺตา. ปทสฺส อุปริ อตฺเถ สชฺเชนฺโต ปกาเสนฺโต คจฺฉตีติ หิ อุปสคฺโค นาม, ตสฺมา ‘‘ปติ อา’’ติ อุปสคฺคานํ ‘‘หร’’นฺติมสฺส ปทสฺส อุปริ ภวิตพฺพนฺติ.
ปฺจโม.
๒๔. สํยาจิตปริกฺขารนฺติ สํ อตฺตนา ยาจิโต วาสิอาทิโก ปริกฺขาโร ยสฺสา, ตํ. อเทสิตวตฺถุกนฺติ อุตฺติทุติยกมฺเมน อเทสิตํ วตฺถุ กุฏิกรณปฺปเทโส ยสฺสาติ ¶ วิคฺคโห, ตํ. ปมาณาติกฺกนฺตนฺติ ¶ อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติสฺโส วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิ นาม, ตาย ‘‘ทีฆโส ทฺวาทส วิทตฺถิโย สุคตสฺส วิทตฺถิยา ติริยํ สตฺตนฺตรา’’ติ (ปารา. ๓๔๘) เอวํ วุตฺตปฺปมาณํ เอกโตภาเคนาปิ อติกฺกนฺตา ปมาณาติกฺกนฺตาติ ตํ ติริยํ จตุหตฺถสงฺขาตเหฏฺิมปฺปมาเณ สติ ทีฆโต วุตฺตปฺปมาณโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ วฑฺเฒตุํ น วฏฺฏติ. ตโต อูนเก, ทีฆโต จ วฑฺฒิเต อยํ กุฏิสงฺขํ น คจฺฉตีติ. ‘‘มยฺหํ วาสาคารํ เอต’’นฺติ เอวํ อตฺตา อุทฺเทโส เอติสฺสาติ อตฺตุทฺเทสา. กุฏินฺติ อุลฺลิตฺตาทิกํ กุฏึ กตฺวาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ อุลฺลิตฺตา นาม อนฺโต อุทฺธํมุขํ ลิตฺตา. อวลิตฺตา นาม พหิ อโธมุขํ ลิตฺตา. อุภยถา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตา. กตฺวาติ อนฺโตภูตการิตตฺถวเสน การาเปตฺวา วา.
ตตฺถายํ วตฺถุเทสนกฺกโม – เตน กุฏิการเกน ภิกฺขุนา กุฏิวตฺถุํ โสเธตฺวา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปณาเมตฺวา ปทภาชเน (ปารา. ๓๔๙) วุตฺตนเยน สงฺฆํ ติกฺขตฺตุํ ยาจิตฺวา สพฺเพ วา สงฺฆปริยาปนฺนา, สงฺเฆน วา สมฺมตา ทฺเว ตโย ภิกฺขู ตตฺถ เนตพฺพา. เตหิ จ กิปิลฺลิกาทีหิ โสฬสหิ อุปทฺทเวหิ วิรหิตตฺตา อนารมฺภํ อนุปทฺทวํ ทฺวีหิ จตูหิ วา พลิพทฺเทหิ ยุตฺเตน สกเฏน เอกจกฺกํ นิพฺโพทกปตนฏฺาเน เอกํ พหิ กตฺวา อาวิฺฉิตุํ สกฺกุเณยฺยตาย ‘‘สปริกฺกมน’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา สเจปิ สงฺฆปฺปโหนกา โหนฺติ, ตตฺเถว, โน เจ, สงฺฆมชฺฌํ คนฺตฺวา เตน ภิกฺขุนา ยาจิเตหิ ปทภาชเน (ปารา. ๕๐, ๕๑) วุตฺตาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย วตฺถุ เทเสตพฺพนฺติ. อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ กุฏึ กริสฺสามีติ สพฺพปฺปโยเค ทุกฺกฏํ, อิทานิ ทฺวีหิ ปิณฺเฑหิ นิฏฺานํ คมิสฺสตีติ ปมปิณฺฑทาเน ¶ ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยทาเนน เลเป สงฺฆฏิเต สเจ อเทสิตวตฺถุกา เอว วา โหติ, ปมาณาติกฺกนฺตา เอว วา, เอโก สงฺฆาทิเสโส, สารมฺภอปริกฺกมนตาย ทฺเว จ ทุกฺกฏานีติ สเจ อุภยวิปนฺนา, ทฺเว จ สงฺฆาทิเสสา ทฺเว จ ทุกฺกฏานีติ สพฺพํ เยฺยํ.
ฉฏฺโ.
๒๕. มหลฺลกนฺติ สสฺสามิกภาเวน สํยาจิตกุฏิโต มหนฺตภาเวน, วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกเมนาปิ กาตพฺพภาเวน จ มหนฺตตาย มหตฺตํ ลาติ อาททาตีติ มหลฺลโก. มหตฺตลก อิติ ิเต ตฺตสฺส โลโป ลสฺส จ ทฺวิตฺตํ, ตํ. วสนํ อตฺโถ ปโยชนํ วสนตฺโถ, ตาย ¶ . เอตฺถ ปน อเทสิตวตฺถุภาเว เอโก สงฺฆาทิเสโส. เสสํ อนนฺตรสทิสเมว. อิธ จ ตตฺถ จ เลณคุหาติณกุฏิปณฺณจฺฉทนเคเหสุ อฺตรํ กาเรนฺตสฺส จ กุฏิมฺปิ อฺสฺส วาสตฺถาย วาสาคารํ วา เปตฺวา อุโปสถาคาราทีสุ อฺตรตฺถาย กโรนฺตสฺส จ อนาปตฺติ.
สตฺตโม.
๒๖. อมูลเกน อนฺติเมน วตฺถุนาติ สมฺพนฺโธ. อมูลเกนาติ ทสฺสนสงฺขาตสฺส, สวนสงฺขาตสฺส, ทิฏฺสุตมุตวเสน ปวตฺตปริสงฺกาสงฺขาตสฺส จ มูลสฺส อภาเวน นตฺถิ มูลเมตสฺสาติ อมูลกํ, เตน. ตํ ปน โส อาปนฺโน วา โหตุ, โน วา, เอตํ อิธ อปฺปมาณํ. ตตฺถ ภิกฺขฺุจ มาตุคามฺจ ตถารูเป าเน ทิสฺวา ปริสงฺกติ, อยํ ทิฏฺปริสงฺกา. อนฺธกาเร วา ปฏิจฺฉนฺเน วา ภิกฺขุสฺส จ มาตุคามสฺส จ วจนํ สุตฺวา อฺสฺส อตฺถิภาวํ อชานนฺโต ปริสงฺกติ, อยํ สุตปริสงฺกา. ธุตฺตานํ อิตฺถีหิ สทฺธึ ¶ ปจฺจนฺตวิหาเรสุ ปุปฺผคนฺธสุราทีหิ อนุภวิตฺวา คตฏฺานํ ทิสฺวา ‘‘เกน นุ โข อิทํ กต’’นฺติ วีมํสนฺโต ตตฺถ เกนจิ ภิกฺขุนา คนฺธาทีหิ ปูชา กตา โหติ, เภสชฺชตฺถาย อริฏฺํ วา ปีตํ, โส ตสฺส คนฺธํ ฆายิตฺวา ‘‘อยํ โส ภวิสฺสตี’’ติ ปริสงฺกติ. อยํ มุตปริสงฺกา นาม. อนฺติเมน จาติ ตโต ปรํ วชฺชาภาเวน อนฺเต ภวตฺตา อนฺติเมเนว. วตฺถุนาติ ภิกฺขุโน อนุรูเปสุ เอกูนวีสติยา ปาราชิเกสุ ธมฺเมสุ อฺตเรน ปาราชิเกน ธมฺเมน. จ-กาโร ปเนตฺถ อวธารเณ, เตน สงฺฆาทิเสสาทึ นิวตฺเตติ. อถ วา จ-กาโร อฏฺานปฺปยุตฺโต.
โจเทนฺโต วา โจทาเปนฺโตวาจาติ โยเชตพฺโพ. จาเวตุนฺติ พฺรหฺมจริยา จาวนตฺถาย. เอเตน เอกํ จาวนาธิปฺปายํ คเหตฺวา อวเสเส อกฺโกสาธิปฺปายวุฏฺาปนาธิปฺปายาทิเก สตฺตาธิปฺปาเย ปฏิกฺขิปติ. สุณมานนฺติ อิทํ ‘‘โจเทนฺโต’’ติอาทีนํ กมฺมปทํ, อิมินา ปรมฺมุขา โจทนํ ปฏิกฺขิปติ. ปรมฺมุขา ปน สตฺตหิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ วทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. โจเทนฺโตติ ‘‘วตฺถุสนฺทสฺสนา อาปตฺติสนฺทสฺสนา สํวาสปฺปฏิกฺเขโป สามีจิปฺปฏิกฺเขโป’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖) สงฺเขปโต วุตฺตานํ จตุนฺนํ โจทนานํ วเสน สยํ โจเทนฺโต วา. โจทาเปนฺโต วาติ ปเรน เยน เกนจิ โจทาเปนฺโต วา. ตสฺมา โย ภิกฺขุสฺส สมีเป ตฺวา ‘‘ตฺวํ เมถุนํ ธมฺมํ เสวิ, อสฺสมโณสี’’ติอาทินา วตฺถุสนฺทสฺสนวเสน วา ‘‘ตฺวํ เมถุนธมฺมาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติอาทินา อาปตฺติสนฺทสฺสนวเสน วา ‘‘อสฺสมโณสิ, นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ¶ ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา, อสฺสมโณสี’’ติอาทินา สํวาสปฺปฏิกฺเขปวเสน วา อภิวาทนาทิสํวาเส ปฏิกฺขิตฺเต อสฺสมโณติ กสฺมาติ ปุฏฺสฺส ‘‘อสฺสมโณสี’’ติอาทิวจเนหิ สามีจิปฺปฏิกฺเขปวเสน วา อนฺตมโส ¶ หตฺถมุทฺทาย เอว วาปิ เอตมตฺถํ ทีปยโต ‘‘กโรตุ เม อายสฺมา โอกาสํ, อหํ ตํ วตฺตุกาโม’’ติ เอวํ โอกาเส อการิเต วาจาย สงฺฆาทิเสโส เจว ทุกฺกฏฺจ, โอกาสํ กาเรตฺวา โจเทนฺตสฺส ปน สงฺฆาทิเสโสว ทฏฺพฺโพ.
อฏฺโม.
๒๗. อฺสฺสาติ ขตฺติยาทิชาติกสฺส ปรสฺส. กิริยนฺติ เมถุนวีติกฺกมสงฺขาตํ กิริยํ. เตนาติ อฺสฺส วีติกฺกมสงฺขาตสฺส เมถุนวีติกฺกมสนฺทสฺสเนน กรณภูเตน. เลเสนาติ ยสฺส ชาติอาทโย ตโต อฺมฺปิ วตฺถุํ ลิสฺสติ อุทฺทิฏฺเ วิตฺถารํ สิลิสฺสติ โวหารมตฺเตเนวาติ ชาติอาทโยว ‘‘เลสา’’ติ วุจฺจนฺติ, เตน ชาติเลสนามเลสาทินา เลเสน. อฺนฺติ โย วีติกฺกมนฺโต ทิฏฺโ, ตโต อปรมฺปิ ภิกฺขุํ จาเวตุํ อนฺติเมน วตฺถุนา โจทยนฺติ สมฺพนฺโธ. กถํ? โกจิ ขตฺติยชาติโย วีติกฺกมนฺโต ทิฏฺโ, ตโต อฺํ อตฺตโน เวรึ ขตฺติยชาติกํ ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา ตํ ขตฺติยํ ชาติเลสํ คเหตฺวา ‘‘ขตฺติโย มยา ทิฏฺโ วีติกฺกมนฺโต, ตฺวํ ขตฺติโย ปาราชิกํ ธมฺมํ อาปนฺโนสี’’ติ โจเทติ โจทาเปติ วา. เอวํ นามเลสาทโยปิ เวทิตพฺพา. เสสา วินิจฺฉยกถา อฏฺเม วุตฺตสทิสาเยว.
นวโม.
๒๘. เอตฺตาวตา ‘‘ครุกา นวา’’ติ อุทฺทิฏฺเ วิตฺถารโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตสุ อาปนฺเนสุ ปฏิปชฺชิตพฺพาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉาเทติ ชานมาปนฺน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โย ภิกฺขุ อตฺตนา อาปนฺนํ สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ อาปตฺติวเสน วา วตฺถุวเสน วา ชานํ ชานนฺโต ยาวตา ¶ ยตฺตกานิ อหานิ ฉาเทติ ปฏิจฺฉาเทติ, ตาวตา ตตฺตกานิ อหานิ ตสฺส ปริวาโส โหตีติ เอวํ ปทสนฺธิวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส สุทฺธนฺตปริวาโส สโมธานปริวาโสติ ติวิโธ ปริวาโส. เตสํ ปน อติสงฺเขปนเยน มุขมตฺเตปิ ทสฺสิเต วิตฺถารวินิจฺฉยปเวโสปายสมฺภโว สิยาติ มุขมตฺตํ ทสฺสยิสฺสาม.
ตตฺถ ¶ ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส นาม ยถาปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ทาตพฺโพ, ตสฺมา ปฏิจฺฉนฺนทิวเส จ อาปตฺติโย จ สลฺลกฺเขตฺวา สเจ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติอาทินา ขนฺธเก (จูฬว. ๙๘-๙๙) อาคตนเยน ยาจาเปตฺวา ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติอาทินา ขนฺธเก อาคตนเยเนว กมฺมวาจํ วตฺวา ปริวาโส ทาตพฺโพ. เอกํ อาปชฺชิตฺวา ‘‘สมฺพหุลา’’ติ วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺสาปิ วุฏฺาตีติ ‘‘สมฺพหุลา’’ติ วุตฺตํ. นานาวตฺถุกาสุปิ เอเสว นโย. อถ ทฺวีหาทิปฺปฏิจฺฉนฺนา โหนฺติ, ปกฺขอติเรกปกฺขมาสอติเรกมาสสํวจฺฉรอติเรกสํวจฺฉรปฺปฏิจฺฉนฺนา วา, ‘‘ทฺวีหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย วา’’ติอาทินา