📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมปิฏเก

อฏฺสาลินี นาม

ธมฺมสงฺคณี-อฏฺกถา

คนฺถารมฺภกถา

กรุณา วิย สตฺเตสุ, ปฺา ยสฺส มเหสิโน;

เยฺยธมฺเมสุ สพฺเพสุ, ปวตฺติตฺถ ยถารุจิ.

ทยาย ตาย สตฺเตสุ, สมุสฺสาหิตมานโส;

ปาฏิหีราวสานมฺหิ, วสนฺโต ติทสาลเย.

ปาริจฺฉตฺตกมูลมฺหิ, ปณฺฑุกมฺพลนามเก;

สิลาสเน สนฺนิสินฺโน, อาทิจฺโจว ยุคนฺธเร.

จกฺกวาฬสหสฺเสหิ, ทสหาคมฺม สพฺพโส;

สนฺนิสินฺเนน เทวานํ, คเณน ปริวาริโต.

มาตรํ ปมุขํ กตฺวา, ตสฺสา ปฺาย เตชสา;

อภิธมฺมกถามคฺคํ, เทวานํ สมฺปวตฺตยิ.

ตสฺส ปาเท นมสฺสิตฺวา, สมฺพุทฺธสฺส สิรีมโต;

สทฺธมฺมฺจสฺส ปูเชตฺวา, กตฺวา สงฺฆสฺส จฺชลึ.

นิปจฺจการสฺเสตสฺส, กตสฺส รตนตฺตเย;

อานุภาเวน โสเสตฺวา, อนฺตราเย อเสสโต.

วิสุทฺธาจารสีเลน, นิปุณามลพุทฺธินา;

ภิกฺขุนา พุทฺธโฆเสน, สกฺกจฺจํ อภิยาจิโต.

ยํ เทวเทโว เทวานํ, เทเสตฺวา นยโต ปุน;

เถรสฺส สาริปุตฺตสฺส, สมาจิกฺขิ วินายโก.

อโนตตฺตทเห กตฺวา, อุปฏฺานํ มเหสิโน;

ยฺจ สุตฺวาน โส เถโร, อาหริตฺวา มหีตลํ.

ภิกฺขูนํ ปยิรุทาหาสิ, อิติ ภิกฺขูหิ ธาริโต;

สงฺคีติกาเล สงฺคีโต, เวเทหมุนินา ปุน.

ตสฺส คมฺภีราเณหิ, โอคาฬฺหสฺส อภิณฺหโส;

นานานยวิจิตฺตสฺส, อภิธมฺมสฺส อาทิโต.

ยา มหากสฺสปาทีหิ, วสีหิฏฺกถา ปุรา;

สงฺคีตา อนุสงฺคีตา, ปจฺฉาปิ จ อิสีหิ ยา.

อาภตา ปน เถเรน, มหินฺเทเนตมุตฺตมํ;

ยา ทีปํ ทีปวาสีนํ, ภาสาย อภิสงฺขตา.

อปเนตฺวา ตโต ภาสํ, ตมฺพปณฺณินิวาสินํ;

อาโรปยิตฺวา นิทฺโทสํ, ภาสํ ตนฺตินยานุคํ.

นิกายนฺตรลทฺธีหิ, อสมฺมิสฺสํ อนากุลํ;

มหาวิหารวาสีนํ, ทีปยนฺโต วินิจฺฉยํ.

อตฺถํ ปกาสยิสฺสามิ, อาคมฏฺกถาสุปิ;

คเหตพฺพํ คเหตฺวาน, โตสยนฺโต วิจกฺขเณ.

กมฺมฏฺานานิ สพฺพานิ, จริยาภิฺา วิปสฺสนา;

วิสุทฺธิมคฺเค ปนิทํ, ยสฺมา สพฺพํ ปกาสิตํ.

ตสฺมา ตํ อคฺคเหตฺวาน, สกลายปิ ตนฺติยา;

ปทานุกฺกมโต เอว, กริสฺสามตฺถวณฺณนํ.

อิติ เม ภาสมานสฺส, อภิธมฺมกถํ อิมํ;

อวิกฺขิตฺตา นิสาเมถ, ทุลฺลภา หิ อยํ กถาติ.

นิทานกถา

ตตฺถ เกนฏฺเน อภิธมฺโม? ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสฏฺเน. อติเรกวิเสสตฺถทีปโก เหตฺถ ‘อภิ’-สทฺโท. ‘‘พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ โน ปฏิกฺกมนฺติ’’ (ม. นิ. ๓.๓๘๔; สํ. นิ. ๕.๑๙๕) ‘‘อภิกฺกนฺตวณฺณา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑-๒) วิย. ตสฺมา ยถา สมุสฺสิเตสุ พหูสุ ฉตฺเตสุ เจว ธเชสุ จ ยํ อติเรกปฺปมาณํ วิเสสวณฺณสณฺานฺจ ฉตฺตํ, ตํ ‘อติจฺฉตฺต’นฺติ วุจฺจติ, โย อติเรกปฺปมาโณ นานาวิราควณฺณวิเสสสมฺปนฺโน จ ธโช โส ‘อติธโช’ติ วุจฺจติ, ยถา จ เอกโต สนฺนิปติเตสุ พหูสุ ราชกุมาเรสุ เจว เทเวสุ จ โย ชาติโภคยสอิสฺสริยาทิสมฺปตฺตีหิ อติเรกตโร เจว วิเสสวนฺตตโร จ ราชกุมาโร โส ‘อติราชกุมาโร’ติ วุจฺจติ, โย อายุวณฺณอิสฺสริยยสสมฺปตฺติอาทีหิ อติเรกตโร เจว วิเสสวนฺตตโร จ เทโว โส ‘อติเทโว’ติ วุจฺจติ, ตถารูโป พฺรหฺมาปิ ‘อติพฺรหฺมา’ติ วุจฺจติ, เอวเมว อยมฺปิ ธมฺโม ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสฏฺเน ‘อภิธมฺโม’ติ วุจฺจติ.

สุตฺตนฺตฺหิ ปตฺวา ปฺจกฺขนฺธา เอกเทเสเนว วิภตฺตา, น นิปฺปเทเสน; อภิธมฺมํ ปตฺวา ปน สุตฺตนฺตภาชนียอภิธมฺมภาชนียปฺหปุจฺฉกนยานํ วเสน นิปฺปเทสโต วิภตฺตา. ตถา ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโย, จตฺตาริ สจฺจานิ, พาวีสตินฺทฺริยานิ, ทฺวาทสปทิโก ปจฺจยากาโร. เกวลฺหิ อินฺทฺริยวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียํ นตฺถิ, ปจฺจยากาเร จ ปฺหปุจฺฉกํ นตฺถิ. สุตฺตนฺตฺจ ปตฺวา จตฺตาโร สติปฏฺานา เอกเทเสเนว วิภตฺตา, น นิปฺปเทเสน; อภิธมฺมํ ปตฺวา ปน ติณฺณมฺปิ นยานํ วเสน นิปฺปเทสโตว วิภตฺตา. ตถา จตฺตาริ สมฺมปฺปธานานิ, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, จตฺตาริ ฌานานิ, จตสฺโส อปฺปมฺาโย, ปฺจ สิกฺขาปทานิ, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา. เกวลฺเหตฺถ สิกฺขาปทวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียํ นตฺถิ. สุตฺตนฺตํ ปตฺวา จ าณํ เอกเทเสเนว วิภตฺตํ น นิปฺปเทเสน; ตถา กิเลสา. อภิธมฺมํ ปตฺวา ปน ‘‘เอกวิเธน าณวตฺถู’’ติอาทินา (วิภ. ๗๕๑) นเยน มาติกํ เปตฺวา นิปฺปเทสโตว วิภตฺตํ. ตถา เอกกโต ปฏฺาย อเนเกหิ นเยหิ กิเลสา. สุตฺตนฺตํ ปตฺวา จ ภูมนฺตรปริจฺเฉโท เอกเทเสเนว วิภตฺโต, น นิปฺปเทเสน; อภิธมฺมํ ปน ปตฺวา ติณฺณมฺปิ นยานํ วเสน ภูมนฺตรปริจฺเฉโท นิปฺปเทสโตว วิภตฺโต. เอวํ ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสฏฺเน อภิธมฺโมติ เวทิตพฺโพ.

ปกรณปริจฺเฉทโต ปเนส ธมฺมสงฺคณีวิภงฺคธาตุกถาปุคฺคลปฺตฺติกถาวตฺถุยมกปฏฺานานํ สตฺตนฺนํ ปกรณานํ วเสน ิโต. อยเมตฺถ อาจริยานํ สมานกถา. วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘กถาวตฺถุ กสฺมา คหิตํ? นนุ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปรินิพฺพานโต อฏฺารสวสฺสาธิกานิ ทฺเว วสฺสสตานิ อติกฺกมิตฺวา โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถเรเนตํ ปิตํ? ตสฺมา สาวกภาสิตตฺตา ฉฑฺเฑถ น’นฺติ. ‘กึ ปน ฉปฺปกรณานิ อภิธมฺโม’ติ? ‘เอวํ น วทามี’ติ. ‘อถ กึ วเทสี’ติ. ‘สตฺตปฺปกรณานี’ติ. ‘กตรํ คเหตฺวา สตฺต กโรสี’ติ? ‘มหาธมฺมหทยํ นาม อตฺถิ, เอเตน สห สตฺตา’ติ. ‘มหาธมฺมหทเย อปุพฺพํ นตฺถิ, กติปยาว ปฺหาวารา อวเสสา, กถาวตฺถุนาว สทฺธึ สตฺตา’ติ. ‘โน กถาวตฺถุนา, มหาธาตุกถา นาม อตฺถิ, ตาย สทฺธึ สตฺตา’ติ. ‘มหาธาตุกถายํ อปุพฺพํ นตฺถิ, อปฺปมตฺติกาว ตนฺติ อวเสสา. กถาวตฺถุนาว สทฺธึ สตฺตา’ติ.

สมฺมาสมฺพุทฺโธ หิ สตฺตปฺปกรณานิ เทเสนฺโต กถาวตฺถุํ ปตฺวา ยา เอสา ปุคฺคลวาเร ตาว จตูสุ ปฺเหสุ ทฺวินฺนํ ปฺจกานํ วเสน อฏฺมุขา วาทยุตฺติ ตํ อาทึ กตฺวา สพฺพกถามคฺเคสุ อสมฺปุณฺณภาณวารมตฺตาย ปาฬิยา มาติกํ เปสิ. สา ปเนสา ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ. อามนฺตา. โย สจฺจิกฏฺโ ปรมตฺโถ ตโต โส ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ. นเหวํ วตฺตพฺเพ. อาชานาหิ นิคฺคหํ…เป… ปุคฺคโล นุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ. อามนฺตา. โย สจฺจิกฏฺโ ปรมตฺโถ ตโต โส ปุคฺคโล นุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ. นเหวํ วตฺตพฺเพ. อาชานาหิ นิคฺคหํ…เป…. สพฺพตฺถ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สพฺพตฺถ ปุคฺคโล นุปลพฺภติ, สพฺพทา ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สพฺพทา ปุคฺคโล นุปลพฺภติ, สพฺเพสุ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สพฺเพสุ ปุคฺคโล นุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ (กถา. ๑๕-๑๖) เอวํ ปมํ วาทํ นิสฺสาย ปมํ นิคฺคหํ, ทุติยํ นิสฺสาย ทุติยํ …เป… อฏฺมํ นิสฺสาย อฏฺมํ นิคฺคหํ ทสฺเสนฺเตน สตฺถารา ปิตา. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ มาติกาปนํ เวทิตพฺพํ. ตํ ปเนตํ มาติกํ เปนฺโต อิมํ ทิสฺวา เปสิ – มม ปรินิพฺพานโต อฏฺารสวสฺสาธิกานํ ทฺวินฺนํ วสฺสสตานํ มตฺถเก โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร นาม ภิกฺขุ ภิกฺขุสหสฺสมชฺเฌ นิสินฺโน สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานิ ปรวาเท ปฺจาติ สุตฺตสหสฺสํ สโมธาเนตฺวา ทีฆนิกายปฺปมาณํ กถาวตฺถุปฺปกรณํ ภาเชสฺสตีติ.

โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโรปิ อิทํ ปกรณํ เทเสนฺโต น อตฺตโน าเณน เทเสสิ, สตฺถารา ปน ทินฺนนเยน ปิตมาติกาย เทเสสิ. อิติ สตฺถารา ทินฺนนเยน ปิตมาติกาย เทสิตตฺตา สกลมฺเปตํ ปกรณํ พุทฺธภาสิตเมว นาม ชาตํ. ยถา กึ? ยถา มธุปิณฺฑิกสุตฺตนฺตาทีนิ . มธุปิณฺฑิกสุตฺตนฺตสฺมิฺหิ ภควา ‘‘ยโตนิทานํ ภิกฺขุ ปุริสํ ปปฺจสฺาสงฺขา สมุทาจรนฺติ, เอตฺถ เจ นตฺถิ อภินนฺทิตพฺพํ อภิวทิตพฺพํ อชฺโฌสิตพฺพํ, เอเสวนฺโต ราคานุสยาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๐๒) มาติกํ เปตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.

ธมฺมปฺปฏิคฺคาหกา ภิกฺขู มหากจฺจานตฺเถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ทสพเลน ปิตมาติกาย อตฺถํ ปุจฺฉึสุ. เถโร ปุจฺฉิตมตฺตเกเนว อกเถตฺวา ทสพลสฺส อปจิติทสฺสนตฺถํ ‘‘เสยฺยถาปิ อาวุโส ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๓) สาโรปมํ อาหริตฺวา สารรุกฺโข วิย ภควา สาขาปลาสสทิสา สาวกา, ‘‘โส หาวุโส ภควา ชานํ ชานาติ, ปสฺสํ ปสฺสติ จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต’’ติ สตฺถารํ โถเมตฺวา ปุนปฺปุนํ เถเรหิ ยาจิโต สตฺถารา ปิตมาติกาย อตฺถํ วิภชิตฺวา ‘‘อากงฺขมานา จ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ สเจ สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺทิยมานํ สเมติ คณฺเหยฺยาถ, โน เจ มา คณฺหิตฺถา’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘ยถา โว ภควา พฺยากโรติ ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ.

เต สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉึสุ. สตฺถา ทุกฺกถิตํ กจฺจาเนนาติ อวตฺวา สุวณฺณาลิงฺคํ อุสฺสาเปนฺโต วิย คีวํ อุนฺนาเมตฺวา สุปุปฺผิตสตปตฺตสสฺสิริกํ มหามุขํ ปูเรนฺโต พฺรหฺมสฺสรํ นิจฺฉาเรตฺวา สาธุ สาธูติ เถรสฺส สาธุการํ ทตฺวา ‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน, มหาปฺโ ภิกฺขเว มหากจฺจาโน, มํ เจปิ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ, อหมฺปิ ตํ เอวเมวํ พฺยากเรยฺยํ ยถา ตํ มหากจฺจาเนน พฺยากต’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๐๕) อาห.

เอวํ สตฺถารา อนุโมทิตกาลโต ปฏฺาย จ ปน สกลํ สุตฺตํ พุทฺธภาสิตํ นาม ชาตํ. อานนฺทตฺเถราทีหิ วิตฺถาริตสุตฺเตสุปิ เอเสว นโย. เอวเมว สมฺมาสมฺพุทฺโธ สตฺตปฺปกรณานิ เทเสนฺโต กถาวตฺถุํ ปตฺวา วุตฺตนเยน มาติกํ เปสิ. เปนฺโต จ ปน อิมํ อทฺทส –

มม ปรินิพฺพานโต อฏฺารสวสฺสาธิกานํ ทฺวินฺนํ วสฺสสตานํ มตฺถเก โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร นาม ภิกฺขุ ภิกฺขุสหสฺสมชฺเฌ นิสินฺโน สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานิ ปรวาเท ปฺจาติ สุตฺตสหสฺสํ สโมธาเนตฺวา ทีฆนิกายปฺปมาณํ กถาวตฺถุปฺปกรณํ ภาเชสฺสตีติ.

โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโรปิ อิมํ ปกรณํ เทเสนฺโต น อตฺตโน าเณน เทเสสิ, สตฺถารา ปน ทินฺนนเยน ปิตมาติกาย เทเสสิ. อิติ สตฺถารา ทินฺนนเยน ปิตมาติกาย เทสิตตฺตา สกลมฺเปตํ ปกรณํ พุทฺธภาสิตเมว ชาตํ. เอวํ กถาวตฺถุนาว สทฺธึ สตฺต ปกรณานิ อภิธมฺโม นาม.

ตตฺถ ธมฺมสงฺคณีปกรเณ จตสฺโส วิภตฺติโย – จิตฺตวิภตฺติ รูปวิภตฺติ นิกฺเขปราสิ อตฺถุทฺธาโรติ. ตตฺถ กามาวจรกุสลโต อฏฺ, อกุสลโต ทฺวาทส, กุสลวิปากโต โสฬส, อกุสลวิปากโต สตฺต, กิริยโต เอกาทส; รูปาวจรกุสลโต ปฺจ, วิปากโต ปฺจ, กิริยโต ปฺจ; อรูปาวจรกุสลโต จตฺตาริ, วิปากโต จตฺตาริ, กิริยโต จตฺตาริ; โลกุตฺตรกุสลโต จตฺตาริ, วิปากโต จตฺตารีติ เอกูนนวุติ จิตฺตานิ จิตฺตวิภตฺติ นาม. จิตฺตุปฺปาทกณฺฑนฺติปิ เอตสฺเสว นามํ. ตํ วาจนามคฺคโต อติเรกฉภาณวารํ, วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ เอกวิเธน ทุวิเธนาติอาทินา นเยน มาติกํ เปตฺวา วิตฺถาเรน วิภชิตฺวา ทสฺสิตา รูปวิภตฺติ นาม. รูปกณฺฑนฺติปิ เอตสฺเสว นามํ. ตํ วาจนามคฺคโต อติเรกทฺวิภาณวารํ. วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ มูลโต ขนฺธโต ทฺวารโต ภูมิโต อตฺถโต ธมฺมโต นามโต ลิงฺคโตติ เอวํ มูลาทีหิ นิกฺขิปิตฺวา เทสิโต นิกฺเขปราสิ นาม. โส –

มูลโต ขนฺธโต จาปิ, ทฺวารโต จาปิ ภูมิโต;

อตฺถโต ธมฺมโต จาปิ, นามโต จาปิ ลิงฺคโต;

นิกฺขิปิตฺวา เทสิตตฺตา, นิกฺเขโปติ ปวุจฺจติ.

นิกฺเขปกณฺฑนฺติปิ ตสฺเสว นามํ. ตํ วาจนามคฺคโต ติมตฺตภาณวารํ. วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ ปน เตปิฏกสฺส พุทฺธวจนสฺส อตฺถุทฺธารภูตํ ยาว สรณทุกา นิกฺขิตฺตํ อฏฺกถากณฺฑํ นาม. ยโต มหาปกรณิยา ภิกฺขู มหาปกรเณ คณนจารํ อสลฺลกฺเขนฺตา คณนจารํ สมาเนนฺติ. ตํ วาจนามคฺคโต ทฺวิมตฺตภาณวารํ. วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

อิติ สกลมฺปิ ธมฺมสงฺคณีปกรณํ วาจนามคฺคโต อติเรกเตรสมตฺตภาณวารํ. วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ. เอวเมตํ –

จิตฺตวิภตฺติ รูปฺจ, นิกฺเขโป อตฺถโชตนา;

คมฺภีรํ นิปุณํ านํ, ตมฺปิ พุทฺเธน เทสิตํ.

ตทนนฺตรํ วิภงฺคปฺปกรณํ นาม. ตํ ขนฺธวิภงฺโค อายตนวิภงฺโค ธาตุวิภงฺโค สจฺจวิภงฺโค อิทฺริยวิภงฺโค ปจฺจยาการวิภงฺโค สติปฏฺานวิภงฺโค สมฺมปฺปธานวิภงฺโค อิทฺธิปาทวิภงฺโค โพชฺฌงฺควิภงฺโค มคฺคงฺควิภงฺโค ฌานวิภงฺโค อปฺปมฺาวิภงฺโค สิกฺขาปทวิภงฺโค ปฏิสมฺภิทาวิภงฺโค าณวิภงฺโค ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺโค ธมฺมหทยวิภงฺโคติ อฏฺารสวิเธน วิภตฺตํ.

ตตฺถ ขนฺธวิภงฺโค สุตฺตนฺตภาชนียอภิธมฺมภาชนียปฺหปุจฺฉกานํ วเสน ติธา วิภตฺโต. โส วาจนามคฺคโต ปฺจมตฺตภาณวาโร, วิตฺถาริยมาโน ปน อนนฺโต อปริมาโณ โหติ. ตโต ปรํ อายตนวิภงฺคาทโยปิ เอเตเหว ตีหิ นเยหิ วิภตฺตา. เตสุ อายตนวิภงฺโค วาจนามคฺคโต อติเรกภาณวาโร, ธาตุวิภงฺโค ทฺวิมตฺตภาณวาโร. ตถา สจฺจวิภงฺโค. อินฺทฺริยวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียํ นตฺถิ; วาจนามคฺคโต ปเนส อติเรกภาณวารมตฺโต. ปจฺจยาการวิภงฺโค ฉมตฺตภาณวาโร, ปฺหปุจฺฉกํ ปเนตฺถ นตฺถิ. สติปฏฺานวิภงฺโค อติเรกภาณวารมตฺโต; ตถา สมฺมปฺปธาน อิทฺธิปาทโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควิภงฺคา. ฌานวิภงฺโค ทฺวิภาณวารมตฺโต, อปฺปมฺาวิภงฺโค อติเรกภาณวารมตฺโต. สิกฺขาปทวิภงฺเคปิ สุตฺตนฺตภาชนียํ นตฺถิ; วาจนามคฺคโต ปเนส อติเรกภาณวารมตฺโต; ตถา ปฏิสมฺภิทาวิภงฺโค. าณวิภงฺโค ทสวิเธน วิภตฺโต; วาจนามคฺคโต ปเนส ติมตฺตภาณวาโร. ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺโคปิ ทสวิเธน วิภตฺโต; วาจนามคฺคโต ปเนส ติมตฺตภาณวาโร. ธมฺมหทยวิภงฺโค ติวิเธน วิภตฺโต; วาจนามคฺคโต ปเนส อติเรกทฺวิภาณวารมตฺโต. สพฺเพปิ วิตฺถาริยมานา อนนฺตา อปริมาณา โหนฺติ. เอวเมตํ วิภงฺคปฺปกรณํ วาจนามคฺคโต ปฺจตึสมตฺตภาณวารํ; วิตฺถารโต ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ ธาตุกถาปกรณํ นาม. ตํ สงฺคโห อสงฺคโห, สงฺคหิเตน อสงฺคหิตํ, อสงฺคหิเตน สงฺคหิตํ, สงฺคหิเตน สงฺคหิตํ, อสงฺคหิเตน อสงฺคหิตํ; สมฺปโยโค วิปฺปโยโค, สมฺปยุตฺเตน วิปฺปยุตฺตํ, วิปฺปยุตฺเตน สมฺปยุตฺตํ, สมฺปยุตฺเตน สมฺปยุตฺตํ, วิปฺปยุตฺเตน วิปฺปยุตฺตํ; สงฺคหิเตน สมฺปยุตฺตํ วิปฺปยุตฺตํ; สมฺปยุตฺเตน สงฺคหิตํ อสงฺคหิตํ, อสงฺคหิเตน สมฺปยุตฺตํ วิปฺปยุตฺตํ, วิปฺปยุตฺเตน สงฺคหิตํ อสงฺคหิตนฺติ จุทฺทสวิเธน วิภตฺตํ. ตํ วาจนามคฺคโต อติเรกฉภาณวารมตฺตํ, วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ ปุคฺคลปฺตฺติ นาม. สา ‘‘ขนฺธปฺตฺติ อายตนปฺตฺติ ธาตุปฺตฺติ สจฺจปฺตฺติ อินฺทฺริยปฺตฺติ ปุคฺคลปฺตฺตี’’ติ ฉพฺพิเธน วิภตฺตา. สา วาจนามคฺคโต อติเรกปฺจภาณวารา; วิตฺถาริยมานา ปน อนนฺตา อปริมาณาว โหติ.

ตทนนฺตรํ กถาวตฺถุปฺปกรณํ นาม. ตํ สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานิ ปรวาเท ปฺจาติ สุตฺตสหสฺสํ สโมธาเนตฺวา วิภตฺตํ. ตํ วาจนามคฺคโต อิทานิ โปตฺถเก ลิขิตํ อคฺคเหตฺวา สงฺคีติอาโรปิตนเยน ทีฆนิกายปฺปมาณํ, วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ ยมกํ นาม. ตํ มูลยมกํ ขนฺธยมกํ อายตนยมกํ ธาตุยมกํ สจฺจยมกํ สงฺขารยมกํ อนุสยยมกํ จิตฺตยมกํ ธมฺมยมกํ อินฺทฺริยยมกนฺติ ทสวิเธน วิภตฺตํ. ตํ วาจนามคฺคโต วีสภาณวารสตํ, วิตฺถารโต ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ มหาปกรณํ นาม. ปฏฺานนฺติปิ ตสฺเสว นามํ. ตํ เหตุปจฺจโย อารมฺมณปจฺจโย อธิปติปจฺจโย อนนฺตรปจฺจโย สมนนฺตรปจฺจโย สหชาตปจฺจโย อฺมฺปจฺจโย นิสฺสยปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจโย ปุเรชาตปจฺจโย ปจฺฉาชาตปจฺจโย อาเสวนปจฺจโย กมฺมปจฺจโย วิปากปจฺจโย อาหารปจฺจโย อินฺทฺริยปจฺจโย ฌานปจฺจโย มคฺคปจฺจโย สมฺปยุตฺตปจฺจโย วิปฺปยุตฺตปจฺจโย อตฺถิปจฺจโย นตฺถิปจฺจโย วิคตปจฺจโย อวิคตปจฺจโยติ. ปจฺจยวเสน ตาว จตุวีสติวิเธน วิภตฺตํ.

อิมสฺมึ ปน าเน ปฏฺานํ สมาเนตพฺพํ. กุสลตฺติกาทโย หิ ทฺวาวีสติ ติกา, นาม เหตู ธมฺมา นเหตู ธมฺมา…เป… สรณา ธมฺมา อรณา ธมฺมาติ อิเม สตํ ทุกา. อปเรปิ วิชฺชาภาคิโน ธมฺมา อวิชฺชาภาคิโน ธมฺมา…เป… ขเย าณํ, อนุปฺปาเท าณนฺติ ทฺวาจตฺตาลีส สุตฺตนฺติกทุกา นาม. เตสุ ทฺวาวีสติ ติกา สตํ ทุกาติ อยํ อาหจฺจภาสิตา ชินวจนภูตา สพฺพฺุพุทฺเธน เทสิตา สตฺตนฺนํ ปกรณานํ มาติกา นาม.

อถาปเร ทฺวาจตฺตาลีส สุตฺตนฺติกทุกา กุโตปภวา เกน ปิตา เกน เทสิตาติ? ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรปฺปภวา, เตน ปิตา, เตน เทสิตาติ. อิเม เปนฺโต ปน เถโร น สามุกฺกํสิเกน อตฺตโน าเณน เปสิ. เอกุตฺตริยํ ปน เอกนิปาตทุกนิปาตสงฺคีติ ทสุตฺตรสุตฺตนฺเตหิ สโมธาเนตฺวา อาภิธมฺมิกตฺเถรานํ สุตฺตนฺตํ ปตฺวา อกิลมตฺถํ ปิตา. เต ปเนเต เอกสฺมึ นิกฺเขปกณฺเฑเยว มตฺถกํ ปาเปตฺวา วิภตฺตา. เสสฏฺาเนสุ ยาว สรณทุกา อภิธมฺโม วิภตฺโต.

สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ อนุโลมปฏฺาเน ทฺวาวีสติ ติเก นิสฺสาย ติกปฏฺานํ นาม นิทฺทิฏฺํ. สตํ ทุเก นิสฺสาย ทุกปฏฺานํ นาม นิทฺทิฏฺํ. ตโต ปรํ ทฺวาวีสติ ติเก คเหตฺวา ทุกสเต ปกฺขิปิตฺวา ทุกติกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. ตโต ปรํ ทุกสตํ คเหตฺวา ทฺวาวีสติยา ติเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ติกทุกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. ติเก ปน ติเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ติกติกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. ทุเก จ ทุเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ทุกทุกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. เอวํ –

ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกติกฺเจว ติกทุกฺจ;

ติกติกฺเจว ทุกทุกฺจ,

อนุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ. (ปฏฺา. ๑.๑.๓๙);

ปจฺจนียปฏฺาเนปิ ทฺวาวีสติติเก นิสฺสาย ติกปฏฺานํ นาม. ทุกสตํ นิสฺสาย ทุกปฏฺานํ นาม. ทฺวาวีสติติเก ทุกสเต ปกฺขิปิตฺวา ทุกติกปฏฺานํ นาม. ทุกสตํ ทฺวาวีสติยา ติเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ติกทุกปฏฺานํ นาม. ติเก ติเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ติกติกปฏฺานํ นาม. ทุเก ทุเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ทุกทุกปฏฺานํ นามาติ ปจฺจนีเยปิ ฉหิ นเยหิ ปฏฺานํ นิทฺทิฏฺํ. เตน วุตฺตํ –

ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกติกฺเจว ติกทุกฺจ;

ติกติกฺเจว ทุกทุกฺจ,

ปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ. (ปฏฺา. ๑.๑.๔๔);

ตโต ปรํ อนุโลมปจฺจนีเยปิ เอเตเนว อุปาเยน ฉ นยา ทสฺสิตา. เตนาห –

ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกติกฺเจว ติกทุกฺจ;

ติกติกฺเจว ทุกทุกฺจ,

อนุโลมปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ. (ปฏฺา. ๑.๑.๔๘);

ตทนนฺตรํ ปจฺจนียานุโลเมปิ เอเตเหว ฉหิ นเยหิ นิทฺทิฏฺํ. เตนาห –

ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกติกฺเจว ติกทุกฺจ;

ติกติกฺเจว ทุกทุกฺจ,

ปจฺจนียานุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ. (ปฏฺา. ๑.๑.๕๒);

เอวํ อนุโลเม ฉ ปฏฺานานิ, ปฏิโลเม ฉ, อนุโลมปจฺจนีเย ฉ, ปจฺจนียานุโลเม ฉ ปฏฺานานีติ อิทํ จตุวีสติสมนฺตปฏฺานสโมธานํ ปฏฺานํ มหาปกรณํ นาม.

อิทานิ อิมสฺส อภิธมฺมสฺส คมฺภีรภาววิชานนตฺถํ จตฺตาโร สาครา เวทิตพฺพา – สํสารสาคโร, ชลสาคโร, นยสาคโร, าณสาคโรติ. ตตฺถ สํสารสาคโร นาม –

ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;

อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจตีติ.

เอวํ วุตฺตํ สํสารวฏฺฏํ. สฺวายํ ยสฺมา อิเมสํ สตฺตานํ อุปฺปตฺติยา ปุริมา โกฏิ น ปฺายติ เอตฺตกานฺหิ วสฺสสตานํ วา วสฺสสหสฺสานํ วา วสฺสสตสหสฺสานํ วา, กปฺปสตานํ วา กปฺปสหสฺสานํ วา กปฺปสตสหสฺสานํ วา มตฺถเก สตฺตา อุปฺปนฺนา, ตโต ปุพฺเพ นาเหสุนฺติ วา, อสุกสฺส นาม รฺโ กาเล อุปฺปนฺนา, อสุกสฺส พุทฺธสฺส กาเล อุปฺปนฺนา ตโต ปุพฺเพ นาเหสุนฺติ วา, อยํ ปริจฺเฉโท นตฺถิ; ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย, อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสิ อถ ปจฺฉา สมภวี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๑) อิมินา ปน นเยน สํสารสาคโร อนมตคฺโคว.

มหาสมุทฺโท ปน ชลสาคโร นามาติ เวทิตพฺโพ. โส จตุราสีติโยชนสหสฺสคมฺภีโร. ตตฺถ อุทกสฺส อาฬฺหกสเตหิ วา อาฬฺหกสหสฺเสหิ วา อาฬฺหกสตสหสฺเสหิ วา ปมาณํ นาม นตฺถิ . อถ โข อสงฺขฺเยยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. อยํ ชลสาคโร นาม.

กตโม นยสาคโร? เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ. ทฺเวปิ หิ ตนฺติโย ปจฺจเวกฺขนฺตานํ สทฺธาสมฺปนฺนานํ ปสาทพหุลานํ าณุตฺตรานํ กุลปุตฺตานํ อนนฺตํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. กตมา ทฺเว? วินยฺจ อภิธมฺมฺจ. วินยธรภิกฺขูนฺหิ วินยตนฺตึ ปจฺจเวกฺขนฺตานํ โทสานุรูปํ สิกฺขาปทปฺาปนํ นาม – อิมสฺมึ โทเส อิมสฺมึ วีติกฺกเม อิทํ นาม โหตีติ สิกฺขาปทปฺาปนํ – อฺเสํ อวิสโย, พุทฺธานเมว วิสโยติ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมเปยฺยาลํ ปจฺจเวกฺขนฺตานํ นีลเปยฺยาลํ ปจฺจเวกฺขนฺตานํ สฺจริตฺตเปยฺยาลํ ปจฺจเวกฺขนฺตานํ อนนฺตํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อาภิธมฺมิกภิกฺขูนมฺปิ ขนฺธนฺตรํ อายตนนฺตรํ ธาตฺวนฺตรํ อินฺทฺริยนฺตรํ พลโพชฺฌงฺคกมฺมวิปากนฺตรํ รูปารูปปริจฺเฉทํ สณฺหสุขุมธมฺมํ คคนตเล ตารกรูปานิ คณฺหนฺโต วิย รูปารูปธมฺเม ปพฺพํ ปพฺพํ โกฏฺาสํ โกฏฺาสํ กตฺวา วิภชนฺโต ทสฺเสสิ วต โน สตฺถาติ อภิธมฺมตนฺตึ ปจฺจเวกฺขนฺตานํ อนนฺตํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ.

เอวํ อุปฺปตฺติยา ปนสฺส อิทํ วตฺถุปิ เวทิตพฺพํ – มหาคติคมิยติสฺสทตฺตตฺเถโร กิร นาม มหาโพธึ วนฺทิสฺสามีติ ปรตีรํ คจฺฉนฺโต นาวาย อุปริตเล นิสินฺโน มหาสมุทฺทํ โอโลเกสิ. อถสฺส ตสฺมึ สมเย เนว ปรตีรํ ปฺายิตฺถ, น โอริมตีรํ, อูมิเวคปฺปเภทสมุคฺคตชลจุณฺณปริกิณฺโณ ปน ปสาริตรชตปฏฺฏสุมนปุปฺผสนฺถรสทิโส มหาสมุทฺโทว ปฺายิตฺถ. โส กึ นุ โข มหาสมุทฺทสฺส อูมิเวโค พลวา อุทาหุ จตุวีสติปฺปเภเท สมนฺตปฏฺาเน นยมุขํ พลวนฺติ จินฺเตสิ. อถสฺส มหาสมุทฺเท ปริจฺเฉโท ปฺายติ – อยฺหิ เหฏฺา มหาปถวิยา ปริจฺฉินฺโน, อุปริ อากาเสน, เอกโต จกฺกวาฬปพฺพเตน, เอกโต เวลนฺเตน ปริจฺฉินฺโน; สมนฺตปฏฺานสฺส ปน ปริจฺเฉโท น ปฺายตีติ สณฺหสุขุมธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส พลวปีติ อุปฺปนฺนา. โส ปีตึ วิกฺขมฺเภตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ยถานิสินฺโนว สพฺพกิเลเส เขเปตฺวา อคฺคผเล อรหตฺเต ปติฏฺาย อุทานํ อุทาเนสิ –

อตฺเถว คมฺภีรคตํ สุทุพฺพุธํ,

สยํ อภิฺาย สเหตุสมฺภวํ;

ยถานุปุพฺพํ นิขิเลน เทสิตํ,

มเหสินา รูปคตํว ปสฺสตีติ.

อยํ นยสาคโร นาม.

กตโม าณสาคโร? สพฺพฺุตฺาณํ าณสาคโร นาม. อยํ สํสารสาคโร นาม, อยํ ชลสาคโร นาม, อยํ นยสาคโร นามาติ หิ อฺเน น สกฺกา ชานิตุํ, สพฺพฺุตฺาเณเนว สกฺกา ชานิตุนฺติ สพฺพฺุตฺาณํ าณสาคโร นาม. อิเมสุ จตูสุ สาคเรสุ อิมสฺมึ าเน นยสาคโร อธิปฺเปโต. อิมฺหิ สพฺพฺุพุทฺธาว ปฏิวิชฺฌนฺติ.

อยมฺปิ ภควา โพธิมูเล นิสินฺโน ‘อิมํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา อิมํ วต เม ธมฺมํ เอสนฺตสฺส คเวสนฺตสฺส กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ วีติวตฺตานิ, อถ เม อิมสฺมึ ปลฺลงฺเก นิสินฺเนน ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ เขเปตฺวา อยํ ธมฺโม ปฏิวิทฺโธ’ติ ปฏิวิทฺธธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺโต สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิ. ตโต ตมฺหา ปลฺลงฺกา วุฏฺาย ‘อิมสฺมึ วต เม ปลฺลงฺเก สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิทฺธ’นฺติ อนิมิเสหิ จกฺขูหิ สตฺตาหํ ปลฺลงฺกํ โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. ตโต เทวตานํ ‘อชฺชาปิ นูน สิทฺธตฺถสฺส กตฺตพฺพกิจฺจํ อตฺถิ, ปลฺลงฺกสฺมิฺหิ อาลยํ น วิชหตี’ติ ปริวิตกฺโก อุทปาทิ.

สตฺถา เทวตานํ วิตกฺกํ ตฺวา ตาวเทว ตาสํ วิตกฺกวูปสมนตฺถํ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ยมกปาฏิหาริยํ ทสฺเสสิ. มหาโพธิปลฺลงฺกสฺมิฺหิ กตปาฏิหาริยฺจ, าติสมาคเม กตปาฏิหาริยฺจ, ปาฏิยปุตฺตสมาคเม กตปาฏิหาริยฺจ, สพฺพํ กณฺฑมฺพรุกฺขมูเล กตยมกปาฏิหาริยสทิสเมว อโหสิ. เอวํ ยมกปาฏิหาริยํ กตฺวา ปลฺลงฺกสฺส ิตฏฺานสฺส จ อนฺตเร อากาสโต โอรุยฺห สตฺตาหํ จงฺกมิ. อิเมสุ จ เอกวีสติยา ทิวเสสุ เอกทิวเสปิ สตฺถุ สรีรโต รสฺมิโย น นิกฺขนฺตา.

จตุตฺเถ ปน สตฺตาเห ปจฺฉิมุตฺตราย ทิสาย รตนฆเร นิสีทิ – รตนฆรํ นาม เนว สตฺตรตนมยํ เคหํ. สตฺตนฺนํ ปน ปกรณานํ สมฺมสิตฏฺานํ รตนฆรนฺติ เวทิตพฺพํ – ตตฺถ ธมฺมสงฺคณึ สมฺมสนฺตสฺสาปิ สรีรโต รสฺมิโย น นิกฺขนฺตา. วิภงฺคปฺปกรณํ ธาตุกถํ ปุคฺคลปฺตฺตึ กถาวตฺถุปฺปกรณํ ยมกปฺปกรณํ สมฺมสนฺตสฺสาปิ สรีรโต รสฺมิโย น นิกฺขนฺตา. ยทา ปน มหาปกรณํ โอรุยฺห ‘‘เหตุปจฺจโย อารมฺมณปจฺจโย…เป… อวิคตปจฺจโย’’ติ สมฺมสนํ อารภิ, อถสฺส จตุวีสติสมนฺตปฏฺานํ สมฺมสนฺตสฺส เอกนฺตโต สพฺพฺุตฺาณํ มหาปกรเณเยว โอกาสํ ลภิ. ยถา หิ ติมิรปิงฺคลมหามจฺโฉ จตุราสีติโยชนสหสฺสคมฺภีเร มหาสมุทฺเทเยว โอกาสํ ลภติ, เอวเมว สพฺพฺุตฺาณํ เอกนฺตโต มหาปกรเณเยว โอกาสํ ลภิ.

สตฺถุ เอวํ ลทฺโธกาเสน สพฺพฺุตฺาเณน ยถาสุขํ สณฺหสุขุมธมฺมํ สมฺมสนฺตสฺส สรีรโต นีลปีตโลหิโตทาตมฺชิฏฺปภสฺสรวเสน ฉพฺพณฺณรสฺมิโย นิกฺขมึสุ. เกสมสฺสูหิ เจว อกฺขีนฺจ นีลฏฺาเนหิ นีลรสฺมิโย นิกฺขมึสุ, ยาสํ วเสน คคนตลํ อฺชนจุณฺณสโมกิณฺณํ วิย อุมาปุปฺผนีลุปฺปลทลสฺฉนฺนํ วิย วีติปตนฺตมณิตาลวณฺฏํ วิย สมฺปสาริตเมจกปฏํ วิย จ อโหสิ.

ฉวิโต เจว อกฺขีนฺจ ปีตฏฺาเนหิ ปีตรสฺมิโย นิกฺขมึสุ; ยาสํ วเสน ทิสาภาคา สุวณฺณรสธาราภิสิฺจมานา วิย สุวณฺณปฏปสาริตา วิย กุงฺกุมจุณฺณกณิการปุปฺผสมฺปริกิณฺณา วิย จ วิโรจึสุ.

มํสโลหิเตหิ เจว อกฺขีนฺจ รตฺตฏฺาเนหิ โลหิตรสฺมิโย นิกฺขมึสุ ยาสํ วเสน ทิสาภาคา จีนปิฏฺจุณฺณรฺชิตา วิย สุปกฺกลาขารสสิฺจมานา วิย รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺตา วิย ชยสุมนปาริภทฺทกพนฺธุชีวกกุสุมสมฺปริกิณฺณา วิย จ วิโรจึสุ.

อฏฺีหิ เจว ทนฺเตหิ จ อกฺขีนฺจ เสตฏฺาเนหิ โอทาตรสฺมิโย นิกฺขมึสุ; ยาสํ วเสน ทิสาภาคา รชตฆเฏหิ อาสิฺจมานขีรธาราสมฺปริกิณฺณา วิย สมฺปสาริตรชตปฏฺฏวิตานา วิย, วีติปตนฺตรชตตาลวณฺฏา วิย, กุนฺทกุมุทสินฺทุวารสุมนมลฺลิกาทิกุสุมสฺฉนฺนา วิย จ วิโรจึสุ.

มฺชิฏฺปภสฺสรา ปน ตมฺหา ตมฺหา สรีรปฺปเทสา นิกฺขมึสุ. อิติ ตา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา ฆนมหาปถวึ คณฺหึสุ.

จตุนหุตาธิกทฺวิโยชนสตสหสฺสพหลา มหาปถวี นิทฺธนฺตสุวณฺณปิณฺฑิ วิย อโหสิ. อถ มหาปถวึ ภินฺทิตฺวา เหฏฺา อุทกํ คณฺหึสุ. ปถวิสนฺธารกํ อฏฺนหุตาธิกจตุโยชนสตสหสฺสพหลํ อุทกํ สุวณฺณกลเสหิ อาสิฺจมานวิลีนสุวณฺณํ วิย อโหสิ. อุทกํ วินิวิชฺฌิตฺวา วาตํ อคฺคเหสุํ. ฉนหุตาธิกนวโยชนสตสหสฺสพหโล วาโต สมุสฺสิตสุวณฺณกฺขนฺโธ วิย อโหสิ. วาตํ วินิวิชฺฌิตฺวา เหฏฺา อชฏากาสํ ปกฺขนฺทึสุ.

อุปริภาเคน อุคฺคนฺตฺวาปิ จาตุมหาราชิเก คณฺหึสุ. เต วินิวิชฺฌิตฺวา ตาวตึเส ตโต ยาเม ตโต ตุสิเต ตโต นิมฺมานรตี ตโต ปรนิมฺมิตวสวตฺตี ตโต นว พฺรหฺมโลเก ตโต เวหปฺผเล ตโต ปฺจ สุทฺธาวาเส วินิวิชฺฌิตฺวา จตฺตาโร อารุปฺเป คณฺหึสุ. จตฺตาโร จ อารุปฺเป วินิวิชฺฌิตฺวา อชฏากาสํ ปกฺขนฺทึสุ.

ติริยภาเคหิ อนนฺตา โลกธาตุโย ปกฺขนฺทึสุ. เอตฺตเกสุ าเนสุ จนฺทมฺหิ จนฺทปฺปภา นตฺถิ, สูริเย สูริยปฺปภา นตฺถิ, ตารกรูเปสุ ตารกรูปปฺปภา นตฺถิ, เทวตานํ อุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺเขสุ เจว สรีเรสุ จ อาภรเณสุ จาติ สพฺพตฺถ ปภา นตฺถิ. ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุยา อาโลกผรณสมตฺโถ มหาพฺรหฺมาปิ สูริยุคฺคมเน ขชฺโชปนโก วิย อโหสิ. จนฺทสูริยตารกรูปเทวตุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺขานํ ปริจฺเฉทมตฺตกเมว ปฺายิตฺถ. เอตฺตกํ านํ พุทฺธรสฺมีหิเยว อชฺโฌตฺถฏํ อโหสิ. อยฺจ เนว พุทฺธานํ อธิฏฺานิทฺธิ, น ภาวนามยิทฺธิ. สณฺหสุขุมธมฺมํ ปน สมฺมสโต โลกนาถสฺส โลหิตํ ปสีทิ, วตฺถุรูปํ ปสีทิ, ฉวิวณฺโณ ปสีทิ. จิตฺตสมุฏฺานา วณฺณธาตุ สมนฺตา อสีติหตฺถมตฺเต ปเทเส นิจฺจลาว อฏฺาสิ. อิมินา นีหาเรน สตฺตาหํ สมฺมสิ.

สตฺต รตฺตินฺทิวานิ สมฺมสิตธมฺโม กิตฺตโก อโหสีติ? อนนฺโต อปริมาโณ อโหสิ. อยํ ตาว มนสาเทสนา นาม. สตฺถา ปน เอวํ สตฺตาหํ มนสา จินฺติตธมฺมํ วจีเภทํ กตฺวา เทเสนฺโต วสฺสสเตนปิ วสฺสสหสฺเสนปิ วสฺสสตสหสฺเสนปิ มตฺถกํ ปาเปตฺวา เทเสตุํ น สกฺโกตีติ น วตฺตพฺพํ. อปรภาเคปิ หิ ตถาคโต ตาวตึสภวเน ปาริจฺฉตฺตกมูเล ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตานํ มชฺเฌ นิสินฺโน มาตรํ กายสกฺขึ กตฺวา กุสลา ธมฺมา, อกุสลา ธมฺมา, อพฺยากตา ธมฺมาติ ธมฺมํ เทเสนฺโต สตภาเคน สหสฺสภาเคน สตสหสฺสภาเคน ธมฺมนฺตรา ธมฺมนฺตรํ สงฺกมิตฺวา สงฺกมิตฺวาว เทเสสิ. ตโย มาเส นิรนฺตรํ ปวตฺติตเทสนา เวเคน ปวตฺตา อากาสคงฺคา วิย อโธมุขปิตอุทกฆฏา นิกฺขนฺตอุทกธารา วิย จ หุตฺวา อนนฺตา อปริมาณา อโหสิ.

พุทฺธานฺหิ ภตฺตานุโมทนกาเลปิ โถกํ วฑฺเฒตฺวา อนุโมเทนฺตานํ เทสนา ทีฆมชฺฌิมนิกายปฺปมาณา โหติ. ปจฺฉาภตฺตํ ปน สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสนฺตานํ เทสนา สํยุตฺตองฺคุตฺตริกทฺเวมหานิกายปฺปมาณาว โหติ. กสฺมา? พุทฺธานฺหิ ภวงฺคปริวาโส ลหุโก ทนฺตาวรณํ สุผุสิตํ มุขาทานํ สิลิฏฺํ ชิวฺหา มุทุกา สโร มธุโร วจนํ ลหุปริวตฺตํ. ตสฺมา ตํ มุหุตฺตํ เทสิตธมฺโมปิ เอตฺตโก โหติ. เตมาสํ เทสิตธมฺโม ปน อนนฺโต อปริมาโณเยว.

อานนฺทตฺเถโร หิ พหุสฺสุโต ติปิฏกธโร ปฺจทส คาถาสหสฺสานิ สฏฺิ ปทสหสฺสานิ ลตาปุปฺผานิ อากฑฺฒนฺโต วิย ิตปเทเนว ตฺวา คณฺหาติ วา วาเจติ วา เทเสติ วา. เอตฺตโก เถรสฺส เอโก อุทฺเทสมคฺโค นาม โหติ. เถรสฺส หิ อนุปทํ อุทฺเทสํ ททมาโน อฺโ ทาตุํ น สกฺโกติ, น สมฺปาปุณาติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธว สมฺปาปุเณยฺย. เอวํ อธิมตฺตสติมา อธิมตฺตคติมา อธิมตฺตธิติมา สาวโก สตฺถารา เตมาสํ อิมินา นีหาเรน เทสิตเทสนํ วสฺสสตํ วสฺสสหสฺสํ อุคฺคณฺหนฺโตปิ มตฺถกํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ.

เอวํ เตมาสํ นิรนฺตรํ เทเสนฺตสฺส ปน ตถาคตสฺส กพฬีการาหารปฺปฏิพทฺธํ อุปาทินฺนกสรีรํ กถํ ยาเปสีติ? ปฏิชคฺคเนเนว. พุทฺธานฺหิ โส โส กาโล สุววตฺถิโต สุปริจฺฉินฺโน สุปจฺจกฺโข. ตสฺมา ภควา ธมฺมํ เทเสนฺโตว มนุสฺสโลเก กาลํ โอโลเกติ. โส ภิกฺขาจารเวลํ สลฺลกฺเขตฺวา นิมฺมิตพุทฺธํ มาเปตฺวา ‘อิมสฺส จีวรคฺคหณํ ปตฺตคฺคหณํ สรกุตฺติ อากปฺโป จ เอวรูโป นาม โหตุ, เอตฺตกํ นาม ธมฺมํ เทเสตู’ติ อธิฏฺาย ปตฺตจีวรมาทาย อโนตตฺตทหํ คจฺฉติ. เทวตา นาคลตาทนฺตกฏฺํ เทนฺติ. ตํ ขาทิตฺวา อโนตตฺตทเห สรีรํ ปฏิชคฺคิตฺวา มโนสิลาตเล ิโต สุรตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา จาตุมหาราชทตฺติยํ เสลมยํ ปตฺตํ อาทาย อุตฺตรกุรุํ คจฺฉติ. ตโต ปิณฺฑปาตํ อาหริตฺวา อโนตตฺตทหตีเร นิสินฺโน ตํ ปริภุฺชิตฺวา ทิวาวิหาราย จนฺทนวนํ คจฺฉติ.

ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตตฺถ คนฺตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วตฺตํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทติ. อถสฺส สตฺถา นยํ เทติ. ‘สาริปุตฺต, เอตฺตโก ธมฺโม มยา เทสิโต’ติ อาจิกฺขติ. เอวํ สมฺมาสมฺพุทฺเธ นยํ เทนฺเต ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตสฺส อคฺคสาวกสฺส เวลนฺเต ตฺวา หตฺถํ ปสาเรตฺวา ทสฺสิตสมุทฺทสทิสํ นยทานํ โหติ. เถรสฺสาปิ นยสเตน นยสหสฺเสน นยสตสหสฺเสน ภควตา เทสิตธมฺโม อุปฏฺาติเยว.

สตฺถา ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสตุํ กาย เวลาย คจฺฉตีติ? สาวตฺถิวาสีนํ กุลปุตฺตานํ สมฺปตฺตานํ ธมฺมเทสนเวลา นาม อตฺถิ, ตาย เวลาย คจฺฉติ. ธมฺมํ เทเสตฺวา คจฺฉนฺตํ วา อาคจฺฉนฺตํ วา เก ชานนฺติ เก น ชานนฺตีติ? มเหสกฺขา เทวตา ชานนฺติ, อปฺเปสกฺขา เทวตา น ชานนฺติ. กสฺมา น ชานนฺตีติ? สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วา นิมฺมิตพุทฺธสฺส วา รสฺมิอาทีสุ นานตฺตาภาวา. อุภินฺนมฺปิ หิ เตสํ รสฺมีสุ วา สเรสุ วา วจเนสุ วา นานตฺตํ นตฺถิ.

สาริปุตฺตตฺเถโรปิ สตฺถารา เทสิตํ เทสิตํ ธมฺมํ อาหริตฺวา อตฺตโน สทฺธิวิหาริกานํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ เทเสสิ. เตสํ อยํ ปุพฺพโยโค – เต กิร กสฺสปทสพลสฺส กาเล ขุทฺทกวคฺคุลิโยนิยํ นิพฺพตฺตา ปพฺภาเร โอลมฺพนฺตา ทฺวินฺนํ อาภิธมฺมิกภิกฺขูนํ อภิธมฺมํ สชฺฌายนฺตานํ สเร นิมิตฺตํ คเหตฺวา กณฺหปกฺขสุกฺกปกฺเข อชานิตฺวาปิ สเร นิมิตฺตคฺคาหมตฺตเกเนว กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตึสุ. เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวโลเก วสิตฺวา ตสฺมึ กาเล มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺตา ยมกปาฏิหาริเย ปสีทิตฺวา เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชึสุ. เถโร สตฺถารา เทสิตํ เทสิตํ ธมฺมํ อาหริตฺวา เตสํ เทเสสิ. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อภิธมฺมเทสนาปริโยสานฺจ เตสํ ภิกฺขูนํ สตฺตปฺปกรณอุคฺคหณฺจ เอกปฺปหาเรเนว อโหสิ.

อภิธมฺเม วาจนามคฺโค นาม สาริปุตฺตตฺเถรปฺปภโว. มหาปกรเณ คณนจาโรปิ เถเรเนว ปิโต. เถโร หิ อิมินา นีหาเรน ธมฺมนฺตรํ อมกฺเขตฺวาว สุขํ คเหตุํ ธาเรตุํ ปริยาปุณิตุํ วาเจตุฺจ ปโหตีติ คณนจารํ เปสิ. เอวํ สนฺเต เถโรว ปมตรํ อาภิธมฺมิโก โหตีติ? น โหติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธว ปมตรํ อาภิธมฺมิโก. โส หิ นํ มหาโพธิปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา ปฏิวิชฺฌิ. พุทฺโธ หุตฺวา จ ปน สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา,

อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา,

ยโต ปชานาติ สเหตุธมฺมํ.

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา,

อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา,

ยโต ขยํ ปจฺจยานํ อเวทิ.

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา,

อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

วิธูปยํ ติฏฺติ มารเสนํ,

สูริโยว โอภาสยมนฺตลิกฺข’’นฺติ. (มหาว. ๑-๓; อุทา. ๑-๓);

อิทํ ปมพุทฺธวจนํ นาม. ธมฺมปทภาณกา ปน –

‘‘อเนกชาติสํสารํ, สนฺธาวิสฺสํ อนิพฺพิสํ;

คหการํ คเวสนฺโต, ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนํ.

‘‘คหการก ทิฏฺโสิ, ปุน เคหํ น กาหสิ;

สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา, คหกูฏํ วิสงฺขตํ;

วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ, ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ. (ธ. ป. ๑๕๓-๑๕๔);

อิทํ ปมพุทฺธวจนํ นามาติ วทนฺติ.

ยมกสาลานมนฺตเร นิปนฺเนน ปรินิพฺพานสมเย ‘‘หนฺท ทานิ, ภิกฺขเว, อามนฺตยามิ โว, วยธมฺมา สงฺขารา, อปฺปมาเทน สมฺปาเทถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๘) วุตฺตวจนํ ปจฺฉิมพุทฺธวจนํ นาม.

อุภินฺนมนฺตเร ปฺจจตฺตาลีส วสฺสานิ ปุปฺผทามํ คนฺเถนฺเตน วิย, รตนาวลึ อาวุนนฺเตน วิย, จ กถิโต อมตปฺปกาสโน สทฺธมฺโม มชฺฌิมพุทฺธวจนํ นาม.

ตํ สพฺพมฺปิ สงฺคยฺหมานํ ปิฏกโต ตีณิ ปิฏกานิ โหนฺติ, นิกายโต ปฺจ นิกายา, องฺคโต นวงฺคานิ, ธมฺมกฺขนฺธโต จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ. กถํ? สพฺพมฺปิ เหตํ ปิฏกโต วินยปิฏกํ สุตฺตนฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกนฺติ ติปฺปเภทเมว โหติ. ตตฺถ อุภยานิ ปาติโมกฺขานิ ทฺเว วิภงฺคา ทฺวาวีสติ ขนฺธกา โสฬส ปริวาราติ อิทํ วินยปิฏกํ นาม. พฺรหฺมชาลาทิจตุตฺตึสสุตฺตสงฺคโห ทีฆนิกาโย. มูลปริยายสุตฺตาทิทิยฑฺฒสตทฺเวสุตฺตสงฺคโห มชฺฌิมนิกาโย. โอฆตรณสุตฺตาทิสตฺตสุตฺตสหสฺสสตฺตสตทฺวาสฏฺิสุตฺตสงฺคโห สํยุตฺตนิกาโย. จิตฺตปริยาทานสุตฺตาทินวสุตฺตสหสฺสปฺจสตสตฺตปฺาสสุตฺตสงฺคโห องฺคุตฺตรนิกาโย. ขุทฺทกปาธมฺมปทอุทานอิติวุตฺตกสุตฺตนิปาตวิมานวตฺถุเปตวตฺถุเถรคาถาเถรีคาถาชาตกนิทฺเทสปฏิสมฺภิทาอปทานพุทฺธวํสจริยาปิฏกวเสน ปนฺนรสปฺปเภโท ขุทฺทกนิกาโยติ อิทํ สุตฺตนฺตปิฏกํ นาม. ธมฺมสงฺคณีอาทีนิ สตฺต ปกรณานิ อภิธมฺมปิฏกํ นาม. ตตฺถ

วิวิธวิเสสนยตฺตา, วินยนโต เจว กายวาจานํ;

วินยตฺถวิทูหิ อยํ, วินโย วินโยติ อกฺขาโต.

วิวิธา หิ เอตฺถ ปฺจวิธปาติโมกฺขุทฺเทสปาราชิกาทิสตฺตอาปตฺติกฺขนฺธมาติกาวิภงฺคาทิปฺปเภทา นยา วิเสสภูตา จ ทฬฺหีกมฺมสิถิลกรณปฺปโยชนา อนุปฺตฺตินยา. กายิกวาจสิกอชฺฌาจารนิเสธนโต เจส กายํ วาจฺจ วิเนติ. ตสฺมา วิวิธนยตฺตา วิเสสนยตฺตา กายวาจานฺจ วินยนโต อยํ วินโย วินโยติ อกฺขาโต. เตเนตเมตสฺส วจนตฺถโกสลฺลตฺถํ วุตฺตํ –

‘‘วิวิธวิเสสนยตฺตา , วินยนโต เจว กายวาจานํ;

วินยตฺถวิทูหิ อยํ, วินโย วินโยติ อกฺขาโต’’ติ.

อิตรํ ปน –

อตฺถานํ สูจนโต, สุวุตฺตโต สวนโตถ สูทนโต;

สุตฺตาณา สุตฺตสภาคโต จ ‘สุตฺต’นฺติ อกฺขาตํ.

ตฺหิ อตฺตตฺถปรตฺถาทิเภเท อตฺเถ สูเจติ. สุวุตฺตา เจตฺถ อตฺถา เวเนยฺยชฺฌาสยานุโลเมน วุตฺตตฺตา. สวติ เจตํ อตฺเถ, สสฺสมิว ผลํ, ปสวตีติ วุตฺตํ โหติ. สูทติ เจตํ, เธนุ วิย ขีรํ, ปคฺฆรตีติ วุตฺตํ โหติ. สุฏฺุ จ เน ตายติ รกฺขตีติ วุตฺตํ โหติ. สุตฺตสภาคฺเจตํ. ยถา หิ ตจฺฉกานํ สุตฺตํ ปมาณํ โหติ เอวเมตมฺปิ วิฺูนํ. ยถา จ สุตฺเตน สงฺคหิตานิ ปุปฺผานิ น วิกิริยนฺติ น วิทฺธํสิยนฺติ เอวเมเตน สงฺคหิตา อตฺถา. เตเนตเมตสฺส วจนตฺถโกสลฺลตฺถํ วุตฺตํ –

‘‘อตฺถานํ สูจนโต, สุวุตฺตโต สวนโตถ สูทนโต;

สุตฺตาณา สุตฺตสภาคโต จ สุตฺตนฺติ อกฺขาต’’นฺติ.

อภิธมฺมสฺส วจนตฺโถ วุตฺโตเยว. อปโร นโย –

ยํ เอตฺถ วุฑฺฒิมนฺโต, สลกฺขณา ปูชิตา ปริจฺฉินฺนา;

วุตฺตาธิกา จ ธมฺมา, อภิธมฺโม เตน อกฺขาโต.

อยฺหิ อภิสทฺโท วุฑฺฒิลกฺขณปูชิตปริจฺฉินฺนาธิเกสุ ทิสฺสติ. ตถา เหส ‘‘พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๘๔; สํ. นิ. ๕.๑๙๕) วุฑฺฒิยํ อาคโต. ‘‘ยา ตา รตฺติโย อภิฺาตา อภิลกฺขิตา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๙) ลกฺขเณ. ‘‘ราชาภิราชา มนุชินฺโท’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๕๘) ปูชิเต. ‘‘ปฏิพโล วิเนตุํ อภิธมฺเม อภิวินเย’’ติอาทีสุ (มหาว. ๘๕) ปริจฺฉินฺเน; อฺมฺสงฺกรวิรหิเต ธมฺเม จ วินเย จาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณนา’’ติอาทีสุ (วิ. ว. ๗๕) อธิเก.

เอตฺถ จ ‘‘รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๖๓ อาทโย) นเยน วุฑฺฒิมนฺโตปิ ธมฺมา วุตฺตา. ‘‘รูปารมฺมณํ วา สทฺทารมฺมณํ วา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑) นเยน อารมฺมณาทีหิ ลกฺขณียตฺตา สลกฺขณาปิ. ‘‘เสกฺขา ธมฺมา, อเสกฺขา ธมฺมา, โลกุตฺตรา ธมฺมา’’ติอาทินา (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๑; ทุกมาติกา ๑๒) นเยน ปูชิตาปิ; ปูชารหาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ผสฺโส โหติ, เวทนา โหตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑) นเยน สภาวปริจฺฉินฺนตฺตา ปริจฺฉินฺนาปิ. ‘‘มหคฺคตา ธมฺมา, อปฺปมาณา ธมฺมา, อนุตฺตรา ธมฺมา’’ติอาทินา (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๒; ทุกมาติกา ๙๙) นเยน อธิกาปิ ธมฺมา วุตฺตา. เตเนตเมตสฺส วจนตฺถโกสลฺลตฺถํ วุตฺตํ –

‘‘ยํ เอตฺถ วุฑฺฒิมนฺโต, สลกฺขณา ปูชิตา ปริจฺฉินฺนา;

วุตฺตาธิกา จ ธมฺมา, อภิธมฺโม เตน อกฺขาโต’’ติ.

ยํ ปเนตฺถ อวิสิฏฺํ, ตํ –

ปิฏกํ ปิฏกตฺถวิทู, ปริยตฺติพฺภาชนตฺถโต อาหุ;

เตน สโมธาเนตฺวา, ตโยปิ วินยาทโย เยฺยา.

ปริยตฺติปิ หิ ‘‘มา ปิฏกสมฺปทาเนนา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๖๖) ปิฏกนฺติ วุจฺจติ. ‘‘อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย กุทาลปิฏกํอาทายา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒๘; อ. นิ. ๓.๗๐) ยํกิฺจิ ภาชนมฺปิ. ตสฺมา ปิฏกํ ปิฏกตฺถวิทู ปริยตฺติภาชนตฺถโต อาหุ.

อิทานิ เตน สโมธาเนตฺวา ตโยปิ วินยาทโย เยฺยาติ. เตน เอวํ ทุวิธตฺเถน ปิฏกสทฺเทน สห สมาสํ กตฺวา วินโย จ โส ปิฏกฺจ ปริยตฺติภาวโต, ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ภาชนโต จาติ วินยปิฏกํ. ยถาวุตฺเตเนว นเยน สุตฺตนฺตฺจ ตํ ปิฏกฺจาติ สุตฺตนฺตปิฏกํ. อภิธมฺโม จ โส ปิฏกฺจาติ อภิธมฺมปิฏกนฺติ เอวเมเต ตโยปิ วินยาทโย เยฺยา.

เอวํ ตฺวา จ ปุนปิ เตสฺเวว ปิฏเกสุ นานปฺปการโกสลฺลตฺถํ –

เทสนาสาสนกถาเภทํ เตสุ ยถารหํ;

สิกฺขาปหานคมฺภีรภาวฺจ ปริทีปเย.

ปริยตฺติเภทํ สมฺปตฺตึ, วิปตฺติฺจาปิ ยํ ยหึ;

ปาปุณาติ ยถา ภิกฺขุ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเย.

ตตฺรายํ ปริทีปนา วิภาวนา จ – เอตานิ หิ ตีณิ ปิฏกานิ ยถากฺกมํ อาณาโวหารปรมตฺถเทสนา, ยถาปราธยถานุโลมยถาธมฺมสาสนานิ, สํวราสํวรทิฏฺิวินิเวนนามรูปปริจฺเฉทกถาติ จ วุจฺจนฺติ.

เอตฺถ หิ วินยปิฏกํ อาณารเหน ภควตา อาณาพาหุลฺลโต เทสิตตฺตา อาณาเทสนา; สุตฺตนฺตปิฏกํ โวหารกุสเลน ภควตา โวหารพาหุลฺลโต เทสิตตฺตา โวหารเทสนา; อภิธมฺมปิฏกํ ปรมตฺถกุสเลน ภควตา ปรมตฺถพาหุลฺลโต เทสิตตฺตา ปรมตฺถเทสนาติ วุจฺจติ.

ตถา ปมํ เย เต ปจุราปราธา สตฺตา เต ยถาปราธํ เอตฺถ สาสิตาติ ยถาปราธสาสนํ; ทุติยํ อเนกชฺฌาสยานุสยจริยาธิมุตฺติกา สตฺตา ยถานุโลมํ เอตฺถ สาสิตาติ ยถานุโลมสาสนํ; ตติยํ ธมฺมปุฺชมตฺเต ‘อหํ มมา’ติ สฺิโน สตฺตา ยถาธมฺมํ เอตฺถ สาสิตาติ ยถาธมฺมสาสนนฺติ วุจฺจติ.

ตถา ปมํ อชฺฌาจารปฏิปกฺขภูโต สํวราสํวโร เอตฺถ กถิโตติ สํวราสํวรกถา; สํวราสํวโรติ ขุทฺทโก เจว มหนฺโต จ สํวราสํวโร, กมฺมากมฺมํ วิย จ ผลาผลํ วิย จ; ทุติยํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิปฏิปกฺขภูตา ทิฏฺิวินิเวนา เอตฺถ กถิตาติ ทิฏฺิวินิเวนกถา; ตติยํ ราคาทิปฏิปกฺขภูโต นามรูปปริจฺเฉโท เอตฺถ กถิโตติ นามรูปปริจฺเฉทกถาติ วุจฺจติ.

ตีสุปิ เจเตสุ ติสฺโส สิกฺขา ตีณิ ปหานานิ จตุพฺพิโธ จ คมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ. ตถา หิ วินยปิฏเก วิเสเสน อธิสีลสิกฺขา วุตฺตา, สุตฺตนฺตปิฏเก อธิจิตฺตสิกฺขา, อภิธมฺมปิฏเก อธิปฺาสิกฺขา.

วินยปิฏเก จ วีติกฺกมปฺปหานํ, กิเลสานํ วีติกฺกมปฏิปกฺขตฺตา สีลสฺส; สุตฺตนฺตปิฏเก ปริยุฏฺานปฺปหานํ, ปริยุฏฺานปฏิปกฺขตฺตา สมาธิสฺส; อภิธมฺมปิฏเก อนุสยปฺปหานํ, อนุสยปฏิปกฺขตฺตา ปฺาย.

ปเม ตทงฺคปฺปหานํ กิเลสานํ, อิตเรสุ วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฺปหานานิ. ปเม จ ทุจฺจริตสํกิเลสสฺส ปหานํ, อิตเรสุ ตณฺหาทิฏฺิสํกิเลสานํ ปหานํ.

เอกเมกสฺมิฺเจตฺถ จตุพฺพิโธปิ ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธคมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ – ตตฺถ ธมฺโมติ ตนฺติ. อตฺโถติ ตสฺสาเยวตฺโถ. เทสนาติ ตสฺสา มนสา ววตฺถาปิตาย ตนฺติยา เทสนา. ปฏิเวโธติ ตนฺติยา ตนฺติอตฺถสฺส จ ยถาภูตาวโพโธ. ตีสุปิ เจเตสุ เอเต ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธา. ยสฺมา สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท มนฺทพุทฺธีหิ ทุกฺโขคาหา อลพฺภเนยฺยปติฏฺา จ ตสฺมา คมฺภีรา. เอวํ เอกเมกสฺมึ เอตฺถ จตุพฺพิโธปิ คมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ.

อปโร นโย – ธมฺโมติ เหตุ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๒๐). อตฺโถติ เหตุผลํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘เหตุผเล าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๒๐). เทสนาติ ปฺตฺติ, ยถาธมฺมํ ธมฺมาภิลาโปติ อธิปฺปาโย; อนุโลมปฏิโลมสงฺเขปวิตฺถาราทิวเสน วา กถนํ. ปฏิเวโธติ อภิสมโย. โส จ โลกิยโลกุตฺตโร. วิสยโต จ อสมฺโมหโต จ; อตฺถานุรูปํ ธมฺเมสุ, ธมฺมานุรูปํ อตฺเถสุ, ปฺตฺติปถานุรูปํ ปฺตฺตีสุ อวโพโธ. เตสํ เตสํ วา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตธมฺมานํ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ สลกฺขณสงฺขาโต อวิปรีตสภาโว.

อิทานิ ยสฺมา เอเตสุ ปิฏเกสุ ยํ ยํ ธมฺมชาตํ วา อตฺถชาตํ วา ยา จายํ ยถา ยถา าเปตพฺโพ อตฺโถ โสตูนํ าณสฺส อภิมุโข โหติ ตถา ตถา ตทตฺถโชติกา เทสนา, โย เจตฺถ อวิปรีตาวโพธสงฺขาโต ปฏิเวโธ เตสํ เตสํ วา ธมฺมานํ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ สลกฺขณสงฺขาโต อวิปรีตสภาโว – สพฺพมฺเปตํ อนุปจิตกุสลสมฺภาเรหิ ทุปฺปฺเหิ, สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท, ทุกฺโขคาหํ อลพฺภเนยฺยปติฏฺฺจ, ตสฺมา คมฺภีรํ. เอวมฺปิ เอกเมกสฺมึ เอตฺถ จตุพฺพิโธปิ คมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ. เอตฺตาวตา จ –

เทสนาสาสนกถาเภทํ เตสุ ยถารหํ;

สิกฺขาปหานคมฺภีรภาวฺจ ปริทีปเยติ –

อยํ คาถา วุตฺตตฺถา โหติ.

ปริยตฺติเภทํ สมฺปตฺตึ, วิปตฺติฺจาปิ ยํ ยหึ;

ปาปุณาติ ยถา ภิกฺขุ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเยติ.

เอตฺถ ปน ตีสุ ปิฏเกสุ ติวิโธ ปริยตฺติเภโท ทฏฺพฺโพ. ติสฺโส หิ ปริยตฺติโย – อลคทฺทูปมา นิสฺสรณตฺถา ภณฺฑาคาริกปริยตฺตีติ.

ตตฺถ ยา ทุคฺคหิตา อุปารมฺภาทิเหตุ ปริยาปุฏา อยํ อลคทฺทูปมา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส อลคทฺทตฺถิโก อลคทฺทคเวสี อลคทฺทปริเยสนํ จรมาโน, โส ปสฺเสยฺย มหนฺตํ อลคทฺทํ, ตเมนํ โภเค วา นงฺคุฏฺเ วา คณฺเหยฺย, ตสฺส โส อลคทฺโท ปฏิปริวตฺติตฺวา หตฺเถ วา พาหาย วา อฺตรสฺมึ วา องฺคปจฺจงฺเค ฑํเสยฺย, โส ตโต นิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ. ตํ กิสฺส เหตุ? ทุคฺคหิตตฺตา, ภิกฺขเว, อลคทฺทสฺส. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺเจ โมฆปุริสา ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ สุตฺตํ…เป… เวทลฺลํ, เต ตํ ธมฺมํ ปริยาปุณิตฺวา เตสํ ธมฺมานํ ปฺาย อตฺถํ น อุปปริกฺขนฺติ, เตสํ เต ธมฺมา ปฺาย อตฺถํ อนุปปริกฺขตํ น นิชฺฌานํ ขมนฺติ, เต อุปารมฺภานิสํสา เจว ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสา จ. ยสฺส จตฺถาย ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ ตฺจสฺส อตฺถํ นานุโภนฺติ. เตสํ เต ธมฺมา ทุคฺคหิตา ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ทุคฺคหิตตฺตา, ภิกฺขเว, ธมฺมาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๓๘).

ยา ปน สุคฺคหิตา สีลกฺขนฺธาทิปาริปูรึเยว อากงฺขมาเนน ปริยาปุฏา น อุปารมฺภาทิเหตุ, อยํ นิสฺสรณตฺถา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เตสํ เต ธมฺมา สุคฺคหิตา ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สุคฺคหิตตฺตา, ภิกฺขเว, ธมฺมาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๓๙).

ยํ ปน ปริฺาตกฺขนฺโธ ปหีนกิเลโส ภาวิตมคฺโค ปฏิวิทฺธากุปฺโป สจฺฉิกตนิโรโธ ขีณาสโว เกวลํ ปเวณิปาลนตฺถาย วํสานุรกฺขณตฺถาย ปริยาปุณาติ, อยํ ภณฺฑาคาริกปริยตฺตีติ.

วินเย ปน สุปฺปฏิปนฺโน ภิกฺขุ สีลสมฺปทํ นิสฺสาย ติสฺโส วิชฺชา ปาปุณาติ, ตาสํเยว จ ตตฺถ ปเภทวจนโต. สุตฺเต สุปฺปฏิปนฺโน สมาธิสมฺปทํ นิสฺสาย ฉฬภิฺา ปาปุณาติ, ตาสํเยว จ ตตฺถ ปเภทวจนโต. อภิธมฺเม สุปฺปฏิปนฺโน ปฺาสมฺปทํ นิสฺสาย จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา ปาปุณาติ ตาสฺจ ตตฺเถว ปเภทวจนโต. เอวเมเตสุ สุปฺปฏิปนฺโน ยถากฺกเมน อิมํ วิชฺชาตฺตยฉฬภิฺาจตุปฏิสมฺภิทาปฺปเภทํ สมฺปตฺตึ ปาปุณาติ.

วินเย ปน ทุปฺปฏิปนฺโน อนุฺาตสุขสมฺผสฺสอตฺถรณปาวุรณาทิผสฺสสามฺโต ปฏิกฺขิตฺเตสุ อุปาทินฺนกผสฺสาทีสุ อนวชฺชสฺี โหติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, ยถา เยเม อนฺตรายิกา ธมฺมา วุตฺตา ภควตา เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’’ติ (ปาจิ. ๔๑๗; ม. นิ. ๑.๒๓๔). ตโต ทุสฺสีลภาวํ ปาปุณาติ. สุตฺเต ทุปฺปฏิปนฺโน ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๕) อธิปฺปายํ อชานนฺโต ทุคฺคหิตํ คณฺหาติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อตฺตนา ทุคฺคหิเตน อมฺเห เจว อพฺภาจิกฺขติ อตฺตานฺจ ขนติ พหุฺจ อปุฺํ ปสวตี’’ติ (ปาจิ. ๔๑๗; ม. นิ. ๑.๒๓๖). ตโต มิจฺฉาทิฏฺิตํ ปาปุณาติ. อภิธมฺเม ทุปฺปฏิปนฺโน ธมฺมจินฺตํ อติธาวนฺโต อจินฺเตยฺยานิปิ จินฺเตติ, ตโต จิตฺตกฺเขปํ ปาปุณาติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อจินฺเตยฺยานิ, น จินฺเตตพฺพานิ, ยานิ จินฺเตนฺโต อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ (อ. นิ. ๔.๗๗). เอวเมเตสุ ทุปฺปฏิปนฺโน ยถากฺกเมน อิมํ ทุสฺสีลภาวมิจฺฉาทิฏฺิตาจิตฺตกฺเขปปฺปเภทํ วิปตฺตึ ปาปุณาตีติ. เอตฺตาวตา จ –

ปริยตฺติเภทํ สมฺปตฺตึ, วิปตฺติฺจาปิ ยํ ยหึ;

ปาปุณาติ ยถา ภิกฺขุ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเยติ.

อยมฺปิ คาถา วุตฺตตฺถา โหติ. เอวํ นานปฺปการโต ปิฏกานิ ตฺวา เตสํ วเสน สพฺพมฺเปตํ สงฺคยฺหมานํ ตีณิ ปิฏกานิ โหนฺติ.

กถํ นิกายโต ปฺจ นิกายาติ? สพฺพเมว เหตํ ทีฆนิกาโย มชฺฌิมนิกาโย สํยุตฺตนิกาโย องฺคุตฺตรนิกาโย ขุทฺทกนิกาโยติ ปฺจปฺปเภทํ โหติ. ตตฺถ กตโม ทีฆนิกาโย? ติวคฺคสงฺคหานิ พฺรหฺมชาลาทีนิ จตุตฺตึส สุตฺตานิ.

จตุตฺตึเสว สุตฺตนฺตา, ติวคฺโค ยสฺส สงฺคโห;

เอส ทีฆนิกาโยติ, ปโม อนุโลมิโก.

กสฺมา ปเนส ทีฆนิกาโยติ วุจฺจติ? ทีฆปฺปมาณานํ สุตฺตานํ สมูหโต นิวาสโต จ. สมูหนิวาสา หิ นิกาโยติ วุจฺจนฺติ. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกนิกายมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํ จิตฺตํ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตา ปาณา (สํ. นิ. ๓.๑๐๐), โปณิกนิกาโย, จิกฺขลฺลิกนิกาโย’’ติ. เอวมาทีนิ เจตฺถ สาธกานิ สาสนโต โลกโต จ. เอวํ เสสานมฺปิ นิกายภาเว วจนตฺโถ เวทิตพฺโพ.

กตโม มชฺฌิมนิกาโย? มชฺฌิมปฺปมาณานิ ปฺจทสวคฺคสงฺคหานิ มูลปริยายสุตฺตาทีนิ ทิยฑฺฒสตํ ทฺเว จ สุตฺตานิ.

ทิยฑฺฒสตสุตฺตนฺตา, ทฺเว จ สุตฺตานิ ยตฺถ โส;

นิกาโย มชฺฌิโม ปฺจ, ทสวคฺคปริคฺคโห.

กตโม สํยุตฺตนิกาโย? เทวตาสํยุตฺตาทิวเสน ิตานิ โอฆตรณาทีนิ สตฺต สุตฺตสหสฺสานิ สตฺต สุตฺตสตานิ จ ทฺวาสฏฺิ จ สุตฺตานิ.

สตฺต สุตฺตสหสฺสานิ, สตฺต สุตฺตสตานิ จ;

ทฺวาสฏฺิ เจว สุตฺตนฺตา, เอโส สํยุตฺตสงฺคโห.

กตโม องฺคุตฺตรนิกาโย? เอเกกองฺคาติเรกวเสน ิตานิ จิตฺตปริยาทานาทีนิ นว สุตฺตสหสฺสานิ ปฺจ สุตฺตสตานิ สตฺตปฺาสฺจ สุตฺตานิ.

นว สุตฺตสหสฺสานิ, ปฺจ สุตฺตสตานิ จ;

สตฺตปฺาสสุตฺตานิ, สงฺขฺยา องฺคุตฺตเร อยํ.

กตโม ขุทฺทกนิกาโย? สกลํ วินยปิฏกํ, อภิธมฺมปิฏกํ, ขุทฺทกปา, ธมฺมปทาทโย จ ปุพฺเพ ทสฺสิตา ปฺจทสปฺปเภทา; เปตฺวา จตฺตาโร นิกาเย อวเสสํ พุทฺธวจนนฺติ.

เปตฺวา จตุโรเปเต, นิกาเย ทีฆอาทิเก;

ตทฺํ พุทฺธวจนํ, นิกาโย ขุทฺทโก มโตติ.

เอวํ นิกายโต ปฺจ นิกายา โหนฺติ.

กถํ องฺควเสน นวงฺคานีติ? สพฺพเมว หิทํ ‘สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺล’นฺติ นวปฺปเภทํ โหติ. ตตฺถ อุภโตวิภงฺคนิทฺเทสขนฺธกปริวารา สุตฺตนิปาเต มงฺคลสุตฺตรตนสุตฺตนาลกสุตฺตตุวฏฺฏกสุตฺตานิ อฺมฺปิ จ สุตฺตนามกํ ตถาคตวจนํ สุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺพมฺปิ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยนฺติ เวทิตพฺพํ. วิเสเสน สํยุตฺตนิกาเย สกโลปิ สคาถาวคฺโค. สกลมฺปิ อภิธมฺมปิฏกํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ, ยฺจ อฺมฺปิ อฏฺหิ องฺเคหิ อสงฺคหิตํ พุทฺธวจนํ, ตํ เวยฺยากรณนฺติ เวทิตพฺพํ. ธมฺมปทํ เถรคาถา เถรีคาถา สุตฺตนิปาเต โนสุตฺตนามิกา สุทฺธิกคาถา จ คาถาติ เวทิตพฺพา. โสมนสฺสาณมยิกคาถาปฺปฏิสํยุตฺตา ทฺวาสีติ สุตฺตนฺตา อุทานนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา’ติอาทินยปฺปวตฺตา (อิติวุ. ๑) ทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตา อิติวุตฺตกนฺติ เวทิตพฺพํ. อปณฺณกชาตกาทีนิ ปฺาสาธิกานิ ปฺจ ชาตกสตานิ ชาตกนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท’’ติอาทินยปวตฺตา (ที. นิ. ๒.๒๐๙; อ. นิ. ๔.๑๒๙) สพฺเพปิ อจฺฉริยอพฺภุตธมฺมปฺปฏิสํยุตฺตา สุตฺตนฺตา อพฺภุตธมฺมนฺติ เวทิตพฺพํ.

จูฬเวทลฺลมหาเวทลฺลสมฺมาทิฏฺิสกฺกปฺหสงฺขารภาชนียมหาปุณฺณมสุตฺตาทโย สพฺเพปิ เวทฺจ ตุฏฺิฺจ ลทฺธา ลทฺธา ปุจฺฉิตสุตฺตนฺตา เวทลฺลนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวเมตํ องฺคโต นวงฺคานิ.

กถํ ธมฺมกฺขนฺธโต จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานีติ? สพฺพเมว หิทํ พุทฺธวจนํ.

‘‘ทฺวาสีติ พุทฺธโต คณฺหึ, ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโต;

จตุราสีติ สหสฺสานิ, เย เม ธมฺมา ปวตฺติโน’’ติ. (เถรคา. ๑๐๒๗);

เอวํ ปริทีปิตธมฺมกฺขนฺธวเสน จตุราสีติสหสฺสปฺปเภทํ โหติ. ตตฺถ เอกานุสนฺธิกํ สุตฺตํ เอโก ธมฺมกฺขนฺโธ. ยํ อเนกานุสนฺธิกํ ตตฺถ อนุสนฺธิวเสน ธมฺมกฺขนฺธคณนา. คาถาพนฺเธสุ ปฺหาปุจฺฉนํ เอโก ธมฺมกฺขนฺโธ, วิสฺสชฺชนํ เอโก. อภิธมฺเม เอกเมกํ ติกทุกภาชนํ เอกเมกฺจ จิตฺตวารภาชนํ เอโก ธมฺมกฺขนฺโธ. วินเย อตฺถิ วตฺถุ, อตฺถิ มาติกา, อตฺถิ ปทภาชนียํ, อตฺถิ อาปตฺติ, อตฺถิ อนาปตฺติ, อตฺถิ อนฺตราปตฺติ, อตฺถิ ติกจฺเฉโท. ตตฺถ เอกเมโก โกฏฺาโส เอกเมโก ธมฺมกฺขนฺโธติ เวทิตพฺโพ. เอวํ ธมฺมกฺขนฺธโต จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ.

เอวเมตํ สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ ปฺจสติกสงฺคีติกาเล สงฺคายนฺเตน มหากสฺสปปฺปมุเขน วสีคเณน อยํ ธมฺโม อยํ วินโย, อิทํ ปมพุทฺธวจนํ, อิทํ มชฺฌิมพุทฺธวจนํ, อิทํ ปจฺฉิมพุทฺธวจนํ, อิทํ วินยปิฏกํ, อิทํ สุตฺตนฺตปิฏกํ, อิทํ อภิธมฺมปิฏกํ, อยํ ทีฆนิกาโย…เป… อยํ ขุทฺทกนิกาโย, อิมานิ สุตฺตาทีนิ นวงฺคานิ, อิมานิ จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานีติ อิมํ ปเภทํ ววตฺถเปตฺวาว สงฺคีตํ. น เกวลฺจ อิมเมว อฺมฺปิ อุทฺทานสงฺคหวคฺคสงฺคหเปยฺยาลสงฺคหเอกนิปาตทุกนิปาตาทินิปาตสงฺคหสํยุตฺตสงฺคห ปณฺณาสสงฺคหาทิอเนกวิธํ, ตีสุ ปิฏเกสุ สนฺทิสฺสมานํ สงฺคหปฺปเภทํ ววตฺถเปตฺวาว สตฺตหิ มาเสหิ สงฺคีตํ.

สงฺคีติปริโยสาเน จสฺส อิทํ มหากสฺสปตฺเถเรน ทสพลสฺส สาสนํ ปฺจวสฺสสหสฺสปริมาณกาลํ ปวตฺตนสมตฺถํ กตนฺติ สฺชาตปฺปโมทา สาธุการํ วิย ททมานา อยํ มหาปถวี อุทกปริยนฺตํ กตฺวา อเนกปฺปการํ กมฺปิ สงฺกมฺปิ สมฺปกมฺปิ สมฺปเวธิ. อเนกานิ จ อจฺฉริยานิ ปาตุรเหสุํ.

เอวํ สงฺคีเต ปเนตฺถ อยํ อภิธมฺโม ปิฏกโต อภิธมฺมปิฏกํ, นิกายโต ขุทฺทกนิกาโย, องฺคโต เวยฺยากรณํ, ธมฺมกฺขนฺธโต กติปยานิ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ โหนฺติ.

ตํ ธารยนฺเตสุ ภิกฺขูสุ ปุพฺเพ เอโก ภิกฺขุ สพฺพสามยิกปริสาย นิสีทิตฺวา อภิธมฺมโต สุตฺตํ อาหริตฺวา ธมฺมํ กเถนฺโต ‘‘รูปกฺขนฺโธ อพฺยากโต, จตฺตาโร ขนฺธา สิยา กุสลา สิยา อกุสลา สิยา อพฺยากตา; ทสายตนา อพฺยากตา, ทฺเว อายตนา สิยา กุสลา สิยา อกุสลา สิยา อพฺยากตา; โสฬส ธาตุโย อพฺยากตา, ทฺเว ธาตุโย สิยา กุสลา สิยา อกุสลา สิยา อพฺยากตา; สมุทยสจฺจํ อกุสลํ, มคฺคสจฺจํ กุสลํ, นิโรธสจฺจํ อพฺยากตํ, ทุกฺขสจฺจํ สิยา กุสลํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากตํ; ทสินฺทฺริยา อพฺยากตา, โทมนสฺสินฺทฺริยํ อกุสลํ, อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ กุสลํ, จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ สิยา กุสลา สิยา อพฺยากตา, ฉ อินฺทฺริยานิ สิยา กุสลา สิยา อกุสลา สิยา อพฺยากตา’’ติ ธมฺมกถํ กเถสิ.

ตสฺมึ าเน เอโก ภิกฺขุ นิสินฺโน ‘ธมฺมกถิก ตฺวํ สิเนรุํ ปริกฺขิปนฺโต วิย ทีฆสุตฺตํ อาหรสิ, กึ สุตฺตํ นาเมต’นฺติ อาห. ‘อภิธมฺมสุตฺตํ นาม, อาวุโส’ติ. ‘อภิธมฺมสุตฺตํ กสฺมา อาหรสิ? กึ อฺํ พุทฺธภาสิตํ สุตฺตํ อาหริตุํ น วฏฺฏตี’ติ? ‘อภิธมฺโม เกน ภาสิโต’ติ? ‘น เอโส พุทฺธภาสิโต’ติ. ‘กึ ปน เต, อาวุโส, วินยปิฏกํ อุคฺคหิต’นฺติ? ‘น อุคฺคหิตํ, อาวุโส’ติ. ‘อวินยธาริตาย มฺเ ตฺวํ อชานนฺโต เอวํ วเทสี’ติ. ‘วินยมตฺตเมว, อาวุโส, อุคฺคหิต’นฺติ. ‘ตมฺปิ เต ทุคฺคหิตํ, ปริสปริยนฺเต นิสีทิตฺวา นิทฺทายนฺเตน อุคฺคหิตํ ภวิสฺสติ; ตุมฺหาทิเส หิ ปพฺพาเชนฺโต วา อุปสมฺปาเทนฺโต วา สาติสาโร โหติ’. ‘กึ การณา’? วินยมตฺตสฺสปิ ทุคฺคหิตตฺตา; วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตตฺถ อนาปตฺติ, น วิวณฺเณตุกาโม อิงฺฆ ตาว, อาวุโส, สุตฺตนฺตํ วา คาถาโย วา อภิธมฺมํ วา ปริยาปุณสฺสุ, ปจฺฉาปิ วินยํ ปริยาปุณิสฺสสี’’ติ (ปาจิ. ๔๔๒) ภณติ. ‘‘สุตฺตนฺเต โอกาสํ การาเปตฺวา อภิธมฺมํ วา วินยํ วา ปุจฺฉติ, อภิธมฺเม โอกาสํ การาเปตฺวา สุตฺตนฺตํ วา วินยํ วา ปุจฺฉติ, วินเย โอกาสํ การาเปตฺวา สุตฺตนฺตํ วา อภิธมฺมํ วา ปุจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. ๑๒๒๑). ‘ตฺวํ ปน เอตฺตกมฺปิ น ชานาสี’ติ เอตฺตเกนปิ ปรวาที นิคฺคหิโต โหติ.

มหาโคสิงฺคสุตฺตํ ปน อิโตปิ พลวตรํ. ตตฺร หิ ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร อฺมฺํ ปุจฺฉิตปฺหฺจ วิสฺสชฺชนฺจ อาโรเจตุํ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส วิสฺสชฺชนํ อาโรเจนฺโต ‘‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ทฺเว ภิกฺขู อภิธมฺมกถํ กเถนฺติ , เต อฺมฺํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, อฺมฺสฺส ปฺหํ ปุฏฺา วิสฺสชฺเชนฺติ, โน จ สํสาเทนฺติ, ธมฺมี จ เนสํ กถาปวตฺตินี โหติ, เอวรูเปน โข, อาวุโส, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๔๓) อาห. สตฺถา อาภิธมฺมิกา นาม มม สาสเน ปริพาหิราติ อวตฺวา สุวณฺณาลิงฺคสทิสํ คีวํ อุนฺนาเมตฺวา ปุณฺณจนฺทสสฺสิรีกํ มหามุขํ ปูเรตฺวา พฺรหฺมโฆสํ นิจฺฉาเรนฺโต ‘‘สาธุ สาธุ สาริปุตฺตา’’ติ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส สาธุการํ ทตฺวา ‘‘ยถา ตํ โมคฺคลฺลาโน จ สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺย, โมคฺคลฺลาโน หิ สาริปุตฺต ธมฺมกถิโก’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๔๓) อาห. อาภิธมฺมิกภิกฺขูเยว กิร ธมฺมกถิกา นาม, อวเสสา ธมฺมกถํ กเถนฺตาปิ น ธมฺมกถิกา. กสฺมา? เต หิ ธมฺมกถํ กเถนฺตา กมฺมนฺตรํ วิปากนฺตรํ รูปารูปปริจฺเฉทํ ธมฺมนฺตรํ อาโลเฬตฺวา กเถนฺติ. อาภิธมฺมิกา ปน ธมฺมนฺตรํ น อาโลเฬนฺติ. ตสฺมา อาภิธมฺมิโก ภิกฺขุ ธมฺมํ กเถตุ วา มา วา, ปุจฺฉิตกาเล ปน ปฺหํ กเถสฺสตีติ. อยเมว เอกนฺตธมฺมกถิโก นาม โหติ. อิทํ สนฺธาย สตฺถา สาธุการํ ทตฺวา ‘สุกถิตํ โมคฺคลฺลาเนนา’ติ อาห.

อภิธมฺมํ ปฏิพาเหนฺโต อิมสฺมึ ชินจกฺเก ปหารํ เทติ, สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิพาหติ, สตฺถุ เวสารชฺชฺาณํ ปฏินิวตฺเตติ, โสตุกามํ ปริสํ วิสํวาเทติ, อริยมคฺเค อาวรณํ พนฺธติ, อฏฺารสสุ เภทกรวตฺถูสุ เอกสฺมึ สนฺทิสฺสติ อุกฺเขปนียกมฺมตชฺชนียกมฺมารโห โหติ. ตํ ตํ กมฺมํ กตฺวา อุยฺโยเชตพฺโพ ‘คจฺฉ วิฆาสาโท หุตฺวา ชีวิสฺสสี’ติ.

อถาปิ เอวํ วเทยฺย – ‘‘สเจ อภิธมฺโม พุทฺธภาสิโต, ยถา อเนเกสุ สุตฺตสหสฺเสสุ ‘เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรตี’ติอาทินา นเยน นิทานํ สชฺชิตํ, เอวมสฺสาปิ นิทานํ สชฺชิตํ ภเวยฺยา’’ติ. โส ‘ชาตกสุตฺตนิปาตธมฺมปทาทีนํ เอวรูปํ นิทานํ นตฺถิ, น เจตานิ น พุทฺธภาสิตานี’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา อุตฺตริปิ เอวํ วตฺตพฺโพ – ‘ปณฺฑิต, อภิธมฺโม นาเมส สพฺพฺุพุทฺธานํเยว วิสโย, น อฺเสํ วิสโย. พุทฺธานฺหิ โอกฺกนฺติ ปากฏา, อภิชาติ ปากฏา, อภิสมฺโพธิ ปากฏา, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ ปากฏํ. ยมกปาฏิหาริยํ ปากฏํ, ติทิวกฺกโม ปากโฏ, เทวโลเก เทสิตภาโว ปากโฏ, เทโวโรหนํ ปากฏํ. ยถา นาม จกฺกวตฺติรฺโ หตฺถิรตนํ วา อสฺสรตนํ วา เถเนตฺวา ยานเก โยเชตฺวา วิจรณํ นาม อฏฺานํ อการณํ; จกฺกรตนํ วา ปน เถเนตฺวา ปลาลสกเฏ โอลมฺพิตฺวา วิจรณํ นาม อฏฺานํ อการณํ; โยชนปฺปมาณํ โอภาสนสมตฺถํ มณิรตนํ วา ปน กปฺปาสปจฺฉิยํ ปกฺขิปิตฺวา วฬฺชนํ นาม อฏฺานํ อการณํ. กสฺมา? ราชารหภณฺฑตาย; เอวเมว อภิธมฺโม นาม น อฺเสํ วิสโย, สพฺพฺุพุทฺธานํเยว วิสโย. เตสํ วเสน เทเสตพฺพเทสนา. พุทฺธานฺหิ โอกฺกนฺติ ปากฏา…เป… เทโวโรหนํ ปากฏํ. อภิธมฺมสฺส นิทานกิจฺจํ นาม นตฺถิ ปณฺฑิตา’ติ. น หิ สกฺกา เอวํ วุตฺเต ปรวาทินา สหธมฺมิกํ อุทาหรณํ อุทาหริตุํ.

มณฺฑลารามวาสี ติสฺสภูติตฺเถโร ปน มหาโพธินิทาโน เอส อภิธมฺโม นามาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เยน สฺวาหํ, ภิกฺขเว, วิหาเรน ปมาภิสมฺพุทฺโธ วิหรามิ ตสฺส ปเทเสน วิหาสิ’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๑) อิมํ ปเทสวิหารสุตฺตนฺตํ อาหริตฺวา กเถสิ. ทสวิโธ หิ ปเทโส นาม – ขนฺธปเทโส, อายตนปเทโส, ธาตุปเทโส, สจฺจปเทโส, อินฺทฺริยปเทโส, ปจฺจยาการปเทโส, สติปฏฺานปเทโส, ฌานปเทโส, นามปเทโส, ธมฺมปเทโสติ. เตสุ สตฺถา มหาโพธิมณฺเฑ ปฺจกฺขนฺเธ นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ เวทนากฺขนฺธวเสเนว วิหาสิ. ทฺวาทสายตนานิ อฏฺารส ธาตุโย นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ. อิมํ เตมาสํ ธมฺมายตเน เวทนาวเสน ธมฺมธาตุยฺจ เวทนาวเสเนว วิหาสิ. จตฺตาริ สจฺจานิ นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ ทุกฺขสจฺเจ เวทนาวเสเนว วิหาสิ. พาวีสตินฺทฺริยานิ นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ เวทนาปฺจกอินฺทฺริยวเสน วิหาสิ. ทฺวาทสปทิกํ ปจฺจยาการวฏฺฏํ นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ ผสฺสปจฺจยา เวทนาวเสเนว วิหาสิ. จตฺตาโร สติปฏฺาเน นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ เวทนาสติปฏฺานวเสเนว วิหาสิ. จตฺตาริ ฌานานิ นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ ฌานงฺเคสุ เวทนาวเสเนว วิหาสิ. นามํ นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ ตตฺถ เวทนาวเสเนว วิหาสิ. ธมฺเม นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ เวทนาตฺติกวเสเนว วิหาสีติ. เอวํ เถโร ปเทสวิหารสุตฺตนฺตวเสน อภิธมฺมสฺส นิทานํ กเถสิ.

คามวาสี สุมนเทวตฺเถโร ปน เหฏฺาโลหปาสาเท ธมฺมํ ปริวตฺเตนฺโต ‘อยํ ปรวาที พาหา ปคฺคยฺห อรฺเ กนฺทนฺโต วิย, อสกฺขิกํ อฑฺฑํ กโรนฺโต วิย จ, อภิธมฺเม นิทานสฺส อตฺถิภาวมฺปิ น ชานาตี’ติ วตฺวา นิทานํ กเถนฺโต เอวมาห – เอกํ สมยํ ภควา เทเวสุ วิหรติ ตาวตึเสสุ ปาริจฺฉตฺตกมูเล ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ. ตตฺร โข ภควา เทวานํ ตาวตึสานํ อภิธมฺมกถํ กเถสิ – ‘‘กุสลา ธมฺมา, อกุสลา ธมฺมา, อพฺยากตา ธมฺมา’’ติ.

อฺเสุ ปน สุตฺเตสุ เอกเมว นิทานํ. อภิธมฺเม ทฺเว นิทานานิ – อธิคมนิทานฺจ เทสนานิทานฺจ . ตตฺถ อธิคมนิทานํ ทีปงฺกรทสพลโต ปฏฺาย ยาว มหาโพธิปลฺลงฺกา เวทิตพฺพํ. เทสนานิทานํ ยาว ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนา. เอวํ อุภยนิทานสมฺปนฺนสฺส ปนสฺส อภิธมฺมสฺส นิทานโกสลฺลตฺถํ อิทํ ตาว ปฺหากมฺมํ เวทิตพฺพํ – อยํ อภิธมฺโม นาม เกน ปภาวิโต? กตฺถ ปริปาจิโต? กตฺถ อธิคโต? กทา อธิคโต? เกน อธิคโต? กตฺถ วิจิโต? กทา วิจิโต? เกน วิจิโต? กตฺถ เทสิโต? กสฺสตฺถาย เทสิโต? กิมตฺถํ เทสิโต? เกหิ ปฏิคฺคหิโต? เก สิกฺขนฺติ? เก สิกฺขิตสิกฺขา? เก ธาเรนฺติ? กสฺส วจนํ? เกนาภโตติ?

ตตฺริทํ วิสฺสชฺชนํ – เกน ปภาวิโตติ โพธิอภินีหารสทฺธาย ปภาวิโต. กตฺถ ปริปาจิโตติ อฑฺฒฉกฺเกสุ ชาตกสเตสุ. กตฺถ อธิคโตติ โพธิมูเล. กทา อธิคโตติ วิสาขาปุณฺณมาสิยํ. เกนาธิคโตติ สพฺพฺุพุทฺเธน. กตฺถ วิจิโตติ โพธิมณฺเฑ. กทาวิจิโตติ รตนฆรสตฺตาเห. เกน วิจิโตติ สพฺพฺุพุทฺเธน. กตฺถ เทสิโตติ เทเวสุ ตาวตึเสสุ. กสฺสตฺถาย เทสิโตติ เทวตานํ. กิมตฺถํ เทสิโตติ จตุโรฆนิทฺธรณตฺถํ. เกหิ ปฏิคฺคหิโตติ เทเวหิ. เก สิกฺขนฺตีติ เสกฺขา จ ปุถุชฺชนกลฺยาณา จ. เก สิกฺขิตสิกฺขาติ อรหนฺโต ขีณาสวา. เก ธาเรนฺตีติ เยสํ วตฺตติ เต ธาเรนฺติ. กสฺส วจนนฺติ ภควโต วจนํ, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. เกนาภโตติ อาจริยปรมฺปราย.

อยฺหิ สาริปุตฺตตฺเถโร ภทฺทชิ โสภิโต ปิยชาลี ปิยปาโล ปิยทสฺสี โกสิยปุตฺโต สิคฺคโว สนฺเทโห โมคฺคลิปุตฺโต สุทตฺโต ธมฺมิโย ทาสโก โสณโก เรวโตติ เอวมาทีหิ ยาว ตติยสงฺคีติกาลา อาภโต. ตโต อุทฺธํ เตสํเยว สิสฺสานุสิสฺเสหีติ เอวํ ตาว ชมฺพุทีปตเล อาจริยปรมฺปราย อาภโต. อิมํ ปน ทีปํ –

ตโต มหินฺโท อิฏฺฏิโย, อุตฺติโย สมฺพโล ตถา;

ปณฺฑิโต ภทฺทนาโม จ, เอเต นาคา มหาปฺา.

ชมฺพุทีปา อิธาคตาติ (ปริ. ๓, ๘).

อิเมหิ มหานาเคหิ อาภโต. ตโต อุทฺธํ เตสํเยว สิสฺสานุสิสฺสสงฺขาตาย อาจริยปรมฺปราย ยาวชฺชตนกาลา อาภโต.

สุเมธกถา

เอวํ อาภตสฺส ปนสฺส ยํ ตํ ทีปงฺกรทสพลโต ปฏฺาย ยาว มหาโพธิปลฺลงฺกา อธิคมนิทานํ, ยาว ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนา เทสนานิทานฺจ วุตฺตํ, ตสฺส อาวิภาวตฺถํ อยํ อนุปุพฺพิกถา เวทิตพฺพา –

อิโต กิร กปฺปสตสหสฺสาธิกานํ จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก อมรวตี นาม นครํ อโหสิ. ตตฺถ สุเมโธ นาม พฺราหฺมโณ ปฏิวสติ อุภโต สุชาโต, มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก, ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา อกฺขิตฺโต อนุปกุฏฺโ ชาติวาเทน, อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต. โส อฺํ กมฺมํ อกตฺวา พฺราหฺมณสิปฺปเมว อุคฺคณฺหิ. ตสฺส ทหรกาเลเยว มาตาปิตโร กาลมกํสุ. อถสฺส ราสิวฑฺฒโก อมจฺโจ อายโปตฺถกํ อาหริตฺวา สุวณฺณรชตมณิมุตฺตาทิปูริเต คพฺเภ วิวริตฺวา ‘เอตฺตกํ เต กุมาร มาตุ สนฺตกํ, เอตฺตกํ ปิตุ สนฺตกํ, เอตฺตกา อยฺยกปยฺยกานํ สนฺตกาติ ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา ธนํ อาจิกฺขิตฺวา เอตํ ปฏิปชฺชาหี’ติ อาห. สุเมธปณฺฑิโต จินฺเตสิ – ‘อิมํ ธนํ สํหริตฺวา มยฺหํ ปิตุปิตามหาทโย ปรโลกํ คจฺฉนฺตา เอกกหาปณมฺปิ คเหตฺวา น คตา, มยา ปน คเหตฺวา คมนการณํ กาตุํ วฏฺฏตี’ติ โส รฺโ อาโรเจตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา มหาชนสฺส ทานํ ทตฺวา ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ. อิมสฺมึ ปน าเน สุเมธกถา กเถตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ พุทฺธวํเส (พุ. วํ. ๒.๑-๓๓) –

กปฺเป จ สตสหสฺเส, จตุโร จ อสงฺขิเย;

อมรํ นาม นครํ, ทสฺสเนยฺยํ มโนรมํ.

ทสหิ สทฺเทหิ อวิวิตฺตํ, อนฺนปานสมายุตํ;

หตฺถิสทฺทํ อสฺสสทฺทํ, เภริสงฺขรถานิ จ;

ขาทถ ปิวถ เจว, อนฺนปาเนน โฆสิตํ.

นครํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนํ, สพฺพกมฺมมุปาคตํ;

สตฺตรตนสมฺปนฺนํ, นานาชนสมากุลํ;

สมิทฺธํ เทวนครํว, อาวาสํ ปุฺกมฺมินํ.

นคเร อมรวติยา, สุเมโธ นาม พฺราหฺมโณ;

อเนกโกฏิสนฺนิจโย, ปหูตธนธฺวา.

อชฺฌายโก มนฺตธโร, ติณฺณํ เวทาน ปารคู;

ลกฺขเณ อิติหาเส จ, สธมฺเม ปารมึ คโต.

รโหคโต นิสีทิตฺวา, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา;

ทุกฺโข ปุนพฺภโว นาม, สรีรสฺส จ เภทนํ.

ชาติธมฺโม ชราธมฺโม, พฺยาธิธมฺโม สหํ ตทา;

อชรํ อมตํ เขมํ, ปริเยสิสฺสามิ นิพฺพุตึ.

ยํนูนิมํ ปูติกายํ, นานากุณปปูริตํ;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺเฉยฺยํ, อนเปกฺโข อนตฺถิโก.

อตฺถิ เหหิติ โส มคฺโค, น โส สกฺกา น เหตุเย;

ปริเยสิสฺสามิ ตํ มคฺคํ, ภวโต ปริมุตฺติยา.

ยถาปิ ทุกฺเข วิชฺชนฺเต, สุขํ นามปิ วิชฺชติ;

เอวํ ภเว วิชฺชมาเน, วิภโวปิ อิจฺฉิตพฺพโก.

ยถาปิ อุณฺเห วิชฺชนฺเต, อปรํ วิชฺชติ สีตลํ;

เอวํ ติวิธคฺคิ วิชฺชนฺเต, นิพฺพานํ อิจฺฉิตพฺพกํ.

ยถาปิ ปาเป วิชฺชนฺเต, กลฺยาณมปิ วิชฺชติ;

เอวเมว ชาติ วิชฺชนฺเต, อชาติปิจฺฉิตพฺพกํ.

ยถา คูถคโต ปุริโส, ตฬากํ ทิสฺวาน ปูริตํ;

น คเวสติ ตํ ตฬากํ, น โทโส ตฬากสฺส โส.

เอวํ กิเลสมลโธเว, วิชฺชนฺเต อมตนฺตเฬ;

น คเวสติ ตํ ตฬากํ, น โทโส อมตนฺตเฬ.

ยถา อรีหิ ปริรุทฺโธ, วิชฺชนฺเต คมนมฺปเถ;

น ปลายติ โส ปุริโส, น โทโส อฺชสสฺส โส.

เอวํ กิเลสปริรุทฺโธ, วิชฺชมาเน สิเว ปเถ;

น คเวสติ ตํ มคฺคํ, น โทโส สิวมฺชเส.

ยถาปิ พฺยาธิโต ปุริโส, วิชฺชมาเน ติกิจฺฉเก;

น ติกิจฺฉาเปติ ตํ พฺยาธึ, น โทโส โส ติกิจฺฉเก.

เอวํ กิเลสพฺยาธีหิ, ทุกฺขิโต ปริปีฬิโต;

น คเวสติ ตํ อาจริยํ, น โทโส โส วินายเก.

ยถาปิ กุณปํ ปุริโส, กณฺเ พทฺธํ ชิคุจฺฉิย;

โมจยิตฺวาน คจฺเฉยฺย, สุขี เสรี สยํวสี.

ตเถวิมํ ปูติกายํ, นานากุณปสฺจยํ;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺเฉยฺยํ, อนเปกฺโข อนตฺถิโก.

ยถา อุจฺจารฏฺานมฺหิ, กรีสํ นรนาริโย;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉนฺติ, อนเปกฺขา อนตฺถิกา.

เอวเมวาหํ อิมํ กายํ, นานากุณปปูริตํ;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉิสฺสํ, วจฺจํ กตฺวา ยถา กุฏึ.

ยถาปิ ชชฺชรํ นาวํ, ปลุคฺคํ อุทคาหินึ;

สามี ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, อนเปกฺขา อนตฺถิกา.

เอวเมวาหํ อิมํ กายํ, นวจฺฉิทฺทํ ธุวสฺสวํ;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉิสฺสํ, ชิณฺณนาวํว สามิกา.

ยถาปิ ปุริโส โจเรหิ, คจฺฉนฺโต ภณฺฑมาทิย;

ภณฺฑจฺเฉทภยํ ทิสฺวา, ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉติ.

เอวเมว อยํ กาโย, มหาโจรสโม วิย;

ปหายิมํ คมิสฺสามิ, กุสลจฺเฉทนาภยา.

เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน, เนกโกฏิสตํ ธนํ;

นาถานาถานํ ทตฺวาน, หิมวนฺตมุปาคมึ.

หิมวนฺตสฺสาวิทูเร, ธมฺมิโก นาม ปพฺพโต;

อสฺสโม สุกโต มยฺหํ, ปณฺณสาลา สุมาปิตา.

จงฺกมํ ตตฺถ มาเปสึ, ปฺจโทสวิวชฺชิตํ;

อฏฺคุณสมุเปตํ, อภิฺาพลมาหรึ.

สาฏกํ ปชหึ ตตฺถ, นวโทสมุปาคตํ;

วากจีรํ นิวาเสสึ, ทฺวาทสคุณมุปาคตํ.

อฏฺโทสสมากิณฺณํ , ปชหึ ปณฺณสาลกํ;

อุปาคมึ รุกฺขมูลํ, คุเณ ทสหุปาคตํ.

วาปิตํ โรปิตํ ธฺํ, ปชหึ นิรวเสสโต;

อเนกคุณสมฺปนฺนํ, ปวตฺตผลมาทิยึ.

ตตฺถปฺปธานํ ปทหึ, นิสชฺชฏฺานจงฺกเม;

อพฺภนฺตรมฺหิ สตฺตาเห, อภิฺาพล ปาปุณินฺติ. (พุ. วํ. ๒.๑-๓๓);

ตตฺถ อสฺสโม สุกโต มยฺหํ, ปณฺณสาลา สุมาปิตาติ อิมิสฺสา ปาฬิยา สุเมธปณฺฑิเตน อสฺสมปณฺณสาลาจงฺกมา สหตฺถา มาปิตา วิย วุตฺตา. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – มหาสตฺตฺหิ ‘‘หิมวนฺตํ อชฺโฌคาเหตฺวา อชฺช ธมฺมิกปพฺพตํ ปวิสิสฺสามี’’ติ นิกฺขนฺตํ ทิสฺวา สกฺโก เทวานมินฺโท วิสฺสกมฺมเทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ, ตาต, อยํ สุเมธปณฺฑิโต ‘ปพฺพชิสฺสามี’ติ นิกฺขนฺโต เอตสฺส วสนฏฺานํ มาเปหี’’ติ. โส ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รมณียํ อสฺสมํ สุคุตฺตํ ปณฺณสาลํ, มโนรมํ จงฺกมฺจ มาเปสิ. ภควา ปน ตทา อตฺตโน ปุฺานุภาเวน นิปฺผนฺนํ ตํ อสฺสมปทํ สนฺธาย ‘‘สาริปุตฺต ตสฺมึ ธมฺมิกปพฺพเต –

อสฺสโม สุกโต มยฺหํ, ปณฺณสาลา สุมาปิตา;

จงฺกมํ ตตฺถ มาเปสึ, ปฺจโทสวิวชฺชิต’’นฺติ. –

อาห. ตตฺถ อสฺสโม สุกโต มยฺหนฺติ สุกโต มยา. ปณฺณสาลา สุมาปิตาติ ปณฺณจฺฉนฺนา สาลาปิ เม สุมาปิตา อโหสิ.

ปฺจโทสวิวชฺชิตนฺติ ปฺจิเม จงฺกมโทสา นาม ถทฺธวิสมตา, อนฺโตรุกฺขตา, คหนจฺฉนฺนตา, อติสมฺพาธตา, อติวิสาลตาติ. ถทฺธวิสมภูมิภาคสฺมิฺหิ จงฺกเม จงฺกมนฺตสฺส ปาทา รุชฺชนฺติ, โผฏา อุฏฺหนฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคตํ น ลภติ, กมฺมฏฺานํ วิปชฺชติ. มุทุสมตเล ปน ผาสุวิหารํ อาคมฺม กมฺมฏฺานํ สมฺปชฺชติ. ตสฺมา ถทฺธวิสมภูมิภาคตา เอโก โทโสติ เวทิตพฺโพ. จงฺกมนสฺส อนฺโต วา มชฺเฌ วา โกฏิยํ วา รุกฺเข สติ ปมาทมาคมฺม จงฺกมนฺตสฺส นลาฏํ วา สีสํ วา ปฏิหฺตีติ อนฺโตรุกฺขตา ทุติโย โทโส. ติณลตาทิคหนจฺฉนฺเน จงฺกเม จงฺกมนฺโต อนฺธการเวลายํ อุรคาทิเก ปาเณ อกฺกมิตฺวา วา มาเรติ, เตหิ วา ทฏฺโ ทุกฺขํ อาปชฺชตีติ คหนจฺฉนฺนตา ตติโย โทโส. อติสมฺพาเธ จงฺกเม วิตฺถารโต รตนิเก วา อฑฺฒรตนิเก วา จงฺกมนฺตสฺส ปริจฺเฉเท ปกฺขลิตฺวา นขาปิ องฺคุลิโยปิ ภิชฺชนฺตีติ อติสมฺพาธตา จตุตฺโถ โทโส. อติวิสาเล จงฺกเม จงฺกมนฺตสฺส จิตฺตํ วิธาวติ, เอกคฺคตํ น ลภตีติ อติวิสาลตา ปฺจโม โทโส. ปุถุลโต ปน ทิยฑฺฒรตนํ ทฺวีสุ ปสฺเสสุ รตนมตฺตอนุจงฺกมํ ทีฆโต สฏฺิหตฺถํ มุทุตลํ สมวิปฺปกิณฺณวาลุกํ จงฺกมํ วฏฺฏติ, เจติยคิริมฺหิ ทีปปฺปสาทกมหามหินฺทตฺเถรสฺส จงฺกมนํ วิย, ตาทิสํ ตํ อโหสิ. เตนาห ‘‘จงฺกมํ ตตฺถ มาเปสึ, ปฺจโทสวิวชฺชิต’’นฺติ.

อฏฺคุณสมุเปตนฺติ อฏฺหิ สมณสุเขหิ อุเปตํ. อฏฺิมานิ สมณสุขานิ นาม ธนธฺปริคฺคหาภาโว อนวชฺชปิณฺฑปริเยสนภาโว, นิพฺพุตปิณฺฑภุฺชนภาโว, รฏฺํ ปีเฬตฺวา ธนสารํ วา สีสกหาปณาทีนิ วา คณฺหนฺเตสุ ราชกุเลสุ รฏฺปีฬนกิเลสาภาโว, อุปกรเณสุ นิจฺฉนฺทราคภาโว, โจรวิโลเป นิพฺภยภาโว, ราชราชมหามจฺเจหิ อสํสฏฺภาโว จตูสุ ทิสาสุ อปฺปฏิหตภาโวติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘ยถา ตสฺมึ อสฺสเม วสนฺเตน สกฺกา โหนฺติ อิมานิ อฏฺ สมณสุขานิ วินฺทิตุํ, เอวํ อฏฺคุณสมุเปตํ ตํ อสฺสมํ มาเปสิ’’ นฺติ.

อภิฺาพลมาหรินฺติ ปจฺฉา ตสฺมึ อสฺสเม วสนฺโต กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อภิฺานฺจ สมาปตฺตีนฺจ อุปฺปาทนตฺถาย อนิจฺจโต ทุกฺขโต วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ถามปฺปตฺตํ วิปสฺสนาพลํ อาหรึ. ยถา ตสฺมึ วสนฺโต ตํ พลํ อาหริตุํ สกฺโกมิ, เอวํ ตํ อสฺสมํ ตสฺส อภิฺตฺถาย วิปสฺสนาพลสฺส อนุจฺฉวิกํ กตฺวา มาเปสินฺติ อตฺโถ.

สาฏกํ ปชหึ ตตฺถ, นวโทสมุปาคตนฺติ เอตฺถายํ อนุปุพฺพิกถา, ตทา กิร กุฏิเลณจงฺกมาทิปฏิมณฺฑิตํ ปุปฺผูปคผลูปครุกฺขสฺฉนฺนํ รมณียํ มธุรสลิลาสยํ อปคตวาฬมิคภึสนกสกุณํ ปวิเวกกฺขมํ อสฺสมํ มาเปตฺวา อลงฺกตจงฺกมสฺส อุโภสุ อนฺเตสุ อาลมฺพนผลกํ สํวิธาย นิสีทนตฺถาย จงฺกมเวมชฺเฌ สมตลํ มุคฺควณฺณสิลํ มาเปตฺวา อนฺโตปณฺณสาลายํ ชฏามณฺฑลวากจีรติทณฺฑกุณฺฑิกาทิเก ตาปสปริกฺขาเร มณฺฑเป ปานียฆฏปานียสงฺขปานียสราวานิ อคฺคิสาลายํ องฺคารกปลฺลทารุอาทีนีติ เอวํ ยํ ยํ ปพฺพชิตานํ อุปการาย สํวตฺตติ, ตํ ตํ สพฺพํ มาเปตฺวา ปณฺณสาลาย ภิตฺติยํ ‘‘เย เกจิ ปพฺพชิตุกามา อิเม ปริกฺขาเร คเหตฺวา ปพฺพชนฺตู’’ติ อกฺขรานิ ฉินฺทิตฺวา เทวโลกเมว คเต วิสฺสกมฺมเทวปุตฺเต สุเมธปณฺฑิโต หิมวนฺตปาเท คิริกนฺทรานุสาเรน อตฺตโน นิวาสนานุรูปํ ผาสุกฏฺานํ โอโลเกนฺโต นทีนิวตฺตเน วิสฺสกมฺมนิมฺมิตํ สกฺกทตฺติยํ รมณียํ อสฺสมํ ทิสฺวา จงฺกมโกฏึ คนฺตฺวา ปทวลฺชํ อปสฺสนฺโต ‘‘ธุวํ ปพฺพชิตา ธุรคาเม ภิกฺขํ ปริเยสิตฺวา กิลนฺตรูปา อาคนฺตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนา ภวิสฺสนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา โถกํ อาคเมตฺวา ‘‘อติวิย จิรายนฺติ, ชานิสฺสามี’’ติ ปณฺณสาลกุฏิทฺวารํ วิวริตฺวา อนฺโต ปวิสิตฺวา อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต มหาภิตฺติยํ อกฺขรานิ วาเจตฺวา ‘‘มยฺหํ กปฺปิยปริกฺขารา เอเต, อิเม คเหตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อตฺตนา นิวตฺถปารุตํ สาฏกยุคํ ปชหิ. เตนาห ‘‘สาฏกํ ปชหึ ตตฺถา’’ติ. เอวํ ปวิฏฺโ อหํ สาริปุตฺต ตสฺสํ ปณฺณสาลายํ สาฏกํ ปชหึ.

นวโทสมุปาคตนฺติ สาฏกํ ปชหนฺโต นว โทเส ทิสฺวา ปชหินฺติ ทีเปติ. ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตานฺหิ สาฏกสฺมึ นว โทสา อุปฏฺหนฺติ. เตสุ ตสฺส มหคฺฆภาโว เอโก โทโส, ปรปฏิพทฺธตาย อุปฺปชฺชนภาโว เอโก, ปริโภเคน ลหุํ กิลิสฺสนภาโว เอโก, กิลิฏฺโ หิ โธวิตพฺโพ จ รชิตพฺโพ จ โหติ, ปริโภเคน ลหุกํ ชีรณภาโว เอโก ชิณฺณสฺส หิ ตุนฺนํ วา อคฺคฬทานํ วา กาตพฺพํ โหติ. ปุนปริเยสนาย ทุรภิสมฺภวภาโว เอโก, ตาปสปพฺพชฺชาย อสารุปฺปภาโว เอโก, ปจฺจตฺถิกานํ สาธารณภาโว เอโก, ยถา หิ นํ ปจฺจตฺถิกา น คณฺหนฺติ, เอวํ โคเปตพฺโพ โหติ. ปริภุฺชนฺตสฺส วิภูสนฏฺานภาโว เอโก, คเหตฺวา จรนฺตสฺส ขนฺธภารมหิจฺฉภาโว เอโกติ.

วากจีรํ นิวาเสสินฺติ ตทา อหํ สาริปุตฺต อิเม นว โทเส ทิสฺวา สาฏกํ ปหาย วากจีรํ นิวาเสสึ มุฺชติณํ หีรํ หีรํ กตฺวา คนฺเถตฺวา กตํ วากจีรํ นิวาสนปารุปนตฺถาย อาทิยินฺติ อตฺโถ.

ทฺวาทสคุณมุปาคตนฺติ ทฺวาทสหิ อานิสํเสหิ สมนฺนาคตํ, วากจีรสฺมิฺหิ ทฺวาทสานิสํสา – อปฺปคฺฆํ สุนฺทรํ กปฺปิยนฺติ อยํ ตาว เอโก อานิสํโส, สหตฺถา กาตุํ สกฺกาติ อยํ ทุติโย, ปริโภเคน สณิกํ กิลิสฺสติ โธวิยมาเนปิ ปปฺโจ นตฺถีติ อยํ ตติโย, ปริโภเคน ชิณฺเณปิ สิพฺพิตพฺพาภาโว จตุตฺโถ, ปุน ปริเยสนฺตสฺส สุเขน กรณภาโว ปฺจโม, ตาปสปพฺพชฺชาย สารุปฺปภาโว ฉฏฺโ, ปจฺจตฺถิกานํ นิรุปโภคภาโว สตฺตโม, ปริภุฺชนฺตสฺส วิภูสนฏฺานาภาโว อฏฺโม, ธารเณ สลฺลหุกภาโว นวโม, จีวรปจฺจเย อปฺปิจฺฉภาโว ทสโม, วากุปฺปตฺติยา ธมฺมิกอนวชฺชภาโว เอกาทสโม วากจีเร นฏฺเปิ อนเปกฺขภาโว ทฺวาทสโมติ.

อฏฺโทสสมากิณฺณํ, ปชหึ ปณฺณสาลกนฺติ กถํ ปชหึ? โส กิร วรสาฏกยุคํ โอมุฺจนฺโต จีวรวํเส ลคฺคิตํ อโนชปุปฺผทามสทิสํ รตฺตวากจีรํ คเหตฺวา นิวาเสตฺวา ตสฺสุปริ อปรํ สุวณฺณวณฺณํ วากจีรํ ปริทหิตฺวา ปุนฺนาคปุปฺผสนฺถรสทิสํ สขุรํ อชินจมฺมํ เอกํสํ กตฺวา ชฏามณฺฑลํ ปฏิมุฺจิตฺวา จูฬาย สทฺธึ นิจฺจลภาวกรณตฺถํ สารสูจึ ปเวเสตฺวา มุตฺตาชาลสทิสาย สิกฺกาย ปวาฬวณฺณํ กุณฺฑิกํ โอทหิตฺวา ตีสุ าเนสุ วงฺกกาชํ อาทาย เอกิสฺสา กาชโกฏิยา กุณฺฑิกํ, เอกิสฺสา องฺกุสกปจฺฉิติทณฺฑกาทีนิ โอลคฺเคตฺวา ขาริกาชํ อํเส กตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน กตฺตรทณฺฑํ คเหตฺวา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา สฏฺิหตฺเถ มหาจงฺกเม อปราปรํ จงฺกมนฺโต อตฺตโน เวสํ โอโลเกตฺวา ‘‘มยฺหํ มโนรโถ มตฺถกํ ปตฺโต, โสภติ วต เม ปพฺพชฺชา, พุทฺธปจฺเจกพุทฺธาทีหิ สพฺเพหิปิ ธีรปุริเสหิ วณฺณิตา โถมิตา อยํ ปพฺพชฺชา นาม, ปหีนํ เม คิหิพนฺธนํ, นิกฺขนฺโตสฺมิ เนกฺขมฺมํ, ลทฺธา เม อุตฺตมปพฺพชฺชา, กริสฺสามิ สมณธมฺมํ, ลภิสฺสามิ อคฺคผลสุข’’นฺติ อุสฺสาหชาโต ขาริกาชํ โอตาเรตฺวา จงฺกมเวมชฺเฌ มุคฺควณฺณสิลาปฏฺเฏ สุวณฺณปฏิมา วิย นิสินฺโน ทิวสภาคํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมยํ ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา พิทลมฺจกปสฺเส กฏฺตฺถริกาย นิปนฺโน สรีรํ อุตุํ คาหาเปตฺวา พลวปจฺจูเส ปพุชฺฌิตฺวา อตฺตโน อาคมนํ อาวชฺเชสิ ‘‘อหํ ฆราวาเส อาทีนวํ ทิสฺวา อมิตโภคํ อนนฺตยสํ ปหาย อรฺํ ปวิสิตฺวา เนกฺขมคเวสโก หุตฺวา ปพฺพชิโต, อิโต ทานิ ปฏฺาย ปมาทจารํ จริตุํ น วฏฺฏติ, ปวิเวกฺหิ ปหาย วิจรนฺตํ มิจฺฉาวิตกฺกมกฺขิกา ขาทนฺติ, อิทานิ มยา ปวิเวกมนุพฺรูเหตุํ วฏฺฏติ, อหฺหิ ฆราวาสํ ปลิโพธโต ทิสฺวา นิกฺขนฺโต, อยฺจ มนาปา ปณฺณสาลา, เพลุวปกฺกวณฺณา ปริภณฺฑกตา ภูมิ, รชตวณฺณา เสตภิตฺติโย, กโปตปาทวณฺณํ ปณฺณจฺฉทนํ, วิจิตฺตตฺถรณวณฺโณ พิทลมฺจโก, นิวาสผาสุกํ วสนฏฺานํ, น เอตฺโต อติเรกตรา วิย เม เคหสมฺปทา ปฺายตี’’ติ ปณฺณสาลาย โทเส วิจินนฺโต อฏฺ โทเส ปสฺสิ.

ปณฺณสาลาปริโภคสฺมิฺหิ อฏฺ อาทีนวา – มหาสมารมฺเภน? ทพฺพสมฺภาเร สโมธาเนตฺวา กรณปริเยสนภาโว เอโก อาทีนโว. ติณปณฺณมตฺติกาสุ ปติตาสุ ตาสํ ปุนปฺปุนํ เปตพฺพตาย นิพทฺธชคฺคนภาโว ทุติโย, เสนาสนํ นาม มหลฺลกสฺส ปาปุณาติ, อเวลาย วุฏฺาปิยมานสฺส จิตฺเตกคฺคตา น โหตีติ อุฏฺาปนียภาโว ตติโย, สีตุณฺหปฏิฆาเตน กายสฺส สุขุมาลกรณภาโว จตุตฺโถ, เคหํ ปวิฏฺเน ยํกิฺจิ ปาปํ สกฺกา กาตุนฺติ ครหปฏิจฺฉาทนภาโว ปฺจโม, ‘‘มยฺห’’นฺติ ปริคฺคหกรณภาโว ฉฏฺโ, เคหสฺส อตฺถิภาโว นาเมส ทุติยกวาโส วิยาติ สตฺตโม อูกามงฺคุลฆรโคฬิกาทีนํ สาธารณตาย พหุสาธารณภาโว อฏฺโมติ อิเม อฏฺ อาทีนเว ทิสฺวา มหาสตฺโต ปณฺณสาลํ ปชหิ. เตนาห ‘‘อฏฺโทสสมากิณฺณํ, ปชหึ ปณฺณสาลก’’นฺติ.

อุปาคมึ รุกฺขมูลํ คุเณ ทสหุปาคตนฺติ ฉนฺนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ทสหิ คุเณหิ อุเปตํ รุกฺขมูลํ อุปาคโตสฺมีติ วทติ.

ตตฺริเม ทส คุณา – อปฺปสมารมฺภตา เอโก คุโณ อุปคมนมตฺตเมว หิ ตตฺถ โหตีติ. อปฺปฏิชคฺคนตา ทุติโย ตฺหิ สมฺมฏฺมฺปิ อสมฺมฏฺมฺปิ ปริโภคผาสุกํ โหติเยว. อนุฏฺาปนียภาโว ตติโย, ครหํ นปฺปฏิจฺฉาเทติ, ตตฺถ หิ ปาปํ กโรนฺโต ลชฺชตีติ ครหาย อปฺปฏิจฺฉาทนภาโว จตุตฺโถ, อพฺโภกาสาวาโส วิย กายํ น สนฺถมฺเภตีติ กายสฺส อสนฺถมฺภนภาโว ปฺจโม. ปริคฺคหกรณาภาโว ฉฏฺโ, เคหาลยปฏิกฺเขโป สตฺตโม, พหุสาธารณเคเห วิย ‘‘ปฏิชคฺคิสฺสามิ นํ, นิกฺขมถา’’ติ นีหรณาภาโว อฏฺโม, วสนฺตสฺส สปฺปีติกภาโว นวโม, รุกฺขมูลเสนาสนสฺส คตคตฏฺาเน สุลภตาย อนเปกฺขภาโว ทสโมติ, อิเม ทส คุเณ ทิสฺวา รุกฺขมูลํ อุปาคโตสฺมีติ วทติ.

อิมานิ เอตฺตกานิ การณานิ สลฺลกฺเขตฺวา มหาสตฺโต ปุนทิวเส ภิกฺขาย คามํ ปาวิสิ. อถสฺส สมฺปตฺตคาเม มนุสฺสา มหนฺเตน อุสฺสาเหน ภิกฺขํ อทํสุ. โส ภตฺตกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา อสฺสมํ อาคมฺม นิสีทิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘นาหํ ‘อาหารํ น ลภามี’ติ ปพฺพชิโต สินิทฺธาหาโร นาเมส มานมทปุริสมเท วฑฺเฒติ. อาหารมูลกสฺส ทุกฺขสฺส อนฺโต นตฺถิ ยํนูนาหํ วาปิตํ โรปิตํ ธฺนิพฺพตฺตกํ อาหารํ ปชหิตฺวา ปวตฺตผลโภชโน ภเวยฺย’’นฺติ. โส ตโต ปฏฺาย ตถา กตฺวา ฆเฏนฺโต วายมนฺโต สตฺตาหพฺภนฺตเรเยว อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ จ อภิฺาโย นิพฺพตฺเตสิ. เตน วุตฺตํ –

‘‘วาปิตํ โรปิตํ ธฺํ, ปชหึ นิรวเสสโต;

อเนกคุณสมฺปนฺนํ, ปวตฺตผลมาทิยึ.

‘‘ตตฺถปฺปธานํ ปทหึ, นิสชฺชฏฺานจงฺกเม;

อพฺภนฺตรมฺหิ สตฺตาเห, อภิฺาพล ปาปุณิ’’นฺติ.

เอวํ เม สิทฺธิปฺปตฺตสฺส, วสีภูตสฺส สาสเน;

ทีปงฺกโร นาม ชิโน, อุปฺปชฺชิ โลกนายโก.

อุปฺปชฺชนฺเต จ ชายนฺเต, พุชฺฌนฺเต ธมฺมเทสเน;

จตุโร นิมิตฺเต นาทฺทสํ, ฌานรติสมปฺปิโต.

ปจฺจนฺตเทสวิสเย, นิมนฺเตตฺวา ตถาคตํ;

ตสฺส อาคมนํ มคฺคํ, โสเธนฺติ ตุฏฺมานสา.

อหํ เตน สมเยน, นิกฺขมิตฺวา สกสฺสมา;

ธุนนฺโต วากจีรานิ, คจฺฉามิ อมฺพเร ตทา.

เวทชาตํ ชนํ ทิสฺวา, ตุฏฺหฏฺํ ปโมทิตํ;

โอโรหิตฺวาน คคนา, มนุสฺเส ปุจฺฉิ ตาวเท.

‘‘ตุฏฺหฏฺโ ปมุทิโต, เวทชาโต มหาชโน;

กสฺส โสธียติ มคฺโค, อฺชสํ วฏุมายนํ’’.

เต เม ปุฏฺา วิยากํสุ ‘‘พุทฺโธ โลเก อนุตฺตโร;

ทีปงฺกโร นาม ชิโน, อุปฺปชฺชิ โลกนายโก;

ตสฺส โสธียติ มคฺโค, อฺชสํ วฏุมายนํ’’.

‘‘พุทฺโธ’’ติ วจนํ สุตฺวาน, ปีติ อุปฺปชฺชิ ตาวเท;

‘‘พุทฺโธ พุทฺโธ’’ติ กถยนฺโต, โสมนสฺสํ ปเวทยึ.

ตตฺถ ตฺวา วิจินฺเตสึ, ตุฏฺโ สํวิคฺคมานโส;

‘‘อิธ พีชานิ โรปิสฺสํ, ขโณ เว มา อุปจฺจคา’’.

ยทิ พุทฺธสฺส โสเธถ, เอโกกาสํ ททาถ เม;

อหมฺปิ โสธยิสฺสามิ, อฺชสํ วฏุมายนํ.

อทํสุ เต มโมกาสํ, โสเธตุํ อฺชสํ ตทา;

‘‘พุทฺโธ พุทฺโธ’’ติ จินฺเตนฺโต, มคฺคํ โสเธมหํ ตทา.

อนิฏฺิเต ปโมกาเส, ทีปงฺกโร มหามุนิ;

จตูหิ สตสหสฺเสหิ, ฉฬภิฺเหิ ตาทิหิ;

ขีณาสเวหิ วิมเลหิ, ปฏิปชฺชิ อฺชสํ ชิโน.

ปจฺจุคฺคมนา วตฺตนฺติ, วชฺชนฺติ เภริโย พหู;

อาโมทิตา นรมรู, สาธุการํ ปวตฺตยุํ.

เทวา มนุสฺเส ปสฺสนฺติ, มนุสฺสาปิ จ เทวตา;

อุโภปิ เต ปฺชลิกา, อนุยนฺติ ตถาคตํ.

เทวา ทิพฺเพหิ ตุริเยหิ, มนุสฺสา มานุเสหิ จ;

อุโภปิ เต วชฺชยนฺตา, อนุยนฺติ ตถาคตํ.

ทิพฺพํ มนฺทารวํ ปุปฺผํ, ปทุมํ ปาริฉตฺตกํ;

ทิโสทิสํ โอกิรนฺติ, อากาสนภคตา มรู.

ทิพฺพํ จนฺทนจุณฺณฺจ, วรคนฺธฺจ เกวลํ;

ทิโสทิสํ โอกิรนฺติ, อากาสนภคตา มรู.

จมฺปกํ สลลํ นีปํ, นาคปุนฺนาคเกตกํ;

ทิโสทิสํ อุกฺขิปนฺติ, ภูมิตลคตา นรา.

เกเส มุฺจิตฺวาหํ ตตฺถ, วากจีรฺจ จมฺมกํ;

กลเล ปตฺถริตฺวาน, อวกุชฺโช นิปชฺชหํ.

อกฺกมิตฺวาน มํ พุทฺโธ, สห สิสฺเสหิ คจฺฉตุ;

มา นํ กลเล อกฺกมิตฺถ, หิตาย เม ภวิสฺสติ.

ปถวิยํ นิปนฺนสฺส, เอวํ เม อาสิ เจตโส;

‘‘อิจฺฉมาโน อหํ อชฺช, กิเลเส ฌาปเย มม.

‘‘กึ เม อฺาตเวเสน, ธมฺมํ สจฺฉิกเตนิธ;

สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, พุทฺโธ เหสฺสํ สเทวเก.

‘‘กึ เม เอเกน ติณฺเณน, ปุริเสน ถามทสฺสินา;

สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, สนฺตาเรสฺสํ สเทวกํ.

‘‘อิมินา เม อธิกาเรน, กเตน ปุริสุตฺตเม;

สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, ตาเรมิ ชนตํ พหุํ.

‘‘สํสารโสตํ ฉินฺทิตฺวา, วิทฺธํเสตฺวา ตโย ภเว;

ธมฺมนาวํ สมารุยฺห, สนฺตาเรสฺสํ สเทวกํ’’.

ทีปงฺกโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;

อุสฺสีสเก มํ ตฺวาน, อิทํ วจนมพฺรวิ.

‘‘ปสฺสถ อิมํ ตาปสํ, ชฏิลํ อุคฺคตาปนํ;

อปริเมยฺเย อิโต กปฺเป, พุทฺโธ โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘อหุ กปิลวฺหยา รมฺมา, นิกฺขมิตฺวา ตถาคโต;

ปธานํ ปทหิตฺวาน, กตฺวา ทุกฺกรการิกํ.

‘‘อชปาลรุกฺขมูเล, นิสีทิตฺวา ตถาคโต;

ตตฺถ ปายาสํ ปคฺคยฺห, เนรฺชรมุเปหิติ.

‘‘เนรฺชราย ตีรมฺหิ, ปายาสํ อท โส ชิโน;

ปฏิยตฺตวรมคฺเคน, โพธิมูลมุเปหิติ.

‘‘ตโต ปทกฺขิณํ กตฺวา, โพธิมณฺฑํ อนุตฺตโร;

อสฺสตฺถรุกฺขมูลมฺหิ, พุชฺฌิสฺสติ มหายโส.

‘‘อิมสฺส ชนิกา มาตา, มายา นาม ภวิสฺสติ;

ปิตา สุทฺโธทโน นาม, อยํ เหสฺสติ โคตโม.

‘‘อนาสวา วีตราคา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา;

โกลิโต อุปติสฺโส จ, อคฺคา เหสฺสนฺติ สาวกา;

อานนฺโท นามุปฏฺาโก, อุปฏฺิสฺสติมํ ชินํ.

‘‘เขมา อุปฺปลวณฺณา จ, อคฺคา เหสฺสนฺติ สาวิกา;

อนาสวา วีตราคา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา.

‘‘โพธิ ตสฺส ภควโต, อสฺสตฺโถติ ปวุจฺจติ;

จิตฺโต จ หตฺถาฬวโก, อคฺคา เหสฺสนฺตุปฏฺกา;

อุตฺตรา นนฺทมาตา จ, อคฺคา เหสฺสนฺตุปฏฺิกา’’.

อิทํ สุตฺวาน วจนํ, อสมสฺส มเหสิโน;

อาโมทิตา นรมรู, พุทฺธพีชํ กิร อยํ.

อุกฺกุฏฺิสทฺทา วตฺตนฺติ, อปฺโผเฏนฺติ หสนฺติ จ;

กตฺชลี นมสฺสนฺติ, ทสสหสฺสี สเทวกา.

ยทิมสฺส โลกนาถสฺส, วิรชฺฌิสฺสาม สาสนํ;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ.

ยถา มนุสฺสา นทึ ตรนฺตา, ปฏิติตฺถํ วิรชฺฌิย;

เหฏฺา ติตฺเถ คเหตฺวาน, อุตฺตรนฺติ มหานทึ.

เอวเมว มยํ สพฺเพ, ยทิ มุฺจามิมํ ชินํ;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ.

ทีปงฺกโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;

มม กมฺมํ ปกิตฺเตตฺวา, ทกฺขิณํ ปาทมุทฺธริ.

เย ตตฺถาสุํ ชินปุตฺตา, สพฺเพ ปทกฺขิณมกํสุ มํ;

นรา นาคา จ คนฺธพฺพา, อภิวาเทตฺวาน ปกฺกมุํ.

ทสฺสนํ เม อติกฺกนฺเต, สสงฺเฆ โลกนายเก;

หฏฺตุฏฺเน จิตฺเตน, อาสนา วุฏฺหึ ตทา.

สุเขน สุขิโต โหมิ, ปาโมชฺเชน ปโมทิโต;

ปีติยา จ อภิสฺสนฺโน, ปลฺลงฺกํ อาภุชึ ตทา.

ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา;

‘‘วสีภูโต อหํ ฌาเน, อภิฺาปารมึ คโต.

‘‘ทสสหสฺสิโลกมฺหิ , อิสโย นตฺถิ เม สมา;

อสโม อิทฺธิธมฺเมสุ, อลภึ อีทิสํ สุขํ’’.

ปลฺลงฺกาภุชเน มยฺหํ, ทสสหสฺสาธิวาสิโน;

มหานาทํ ปวตฺเตสุํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ยา ปุพฺเพ โพธิสตฺตานํ, ปลฺลงฺกวรมาภุเช;

นิมิตฺตานิ ปทิสฺสนฺติ, ตานิ อชฺช ปทิสฺสเร.

สีตํ พฺยปคตํ โหติ, อุณฺหฺจ อุปสมฺมติ;

ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ทสสหสฺสี โลกธาตู, นิสฺสทฺทา โหนฺติ นิรากุลา;

ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

มหาวาตา น วายนฺติ, น สนฺทนฺติ สวนฺติโย;

ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ถลชา ทกชา ปุปฺผา, สพฺเพ ปุปฺผนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช ปุปฺผิตา สพฺเพ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ลตา วา ยทิ วา รุกฺขา, ผลภารา โหนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช ผลิตา สพฺเพ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

อากาสฏฺา จ ภูมฏฺา, รตนา โชตนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช รตนา โชตนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

มานุสฺสกา จ ทิพฺพา จ, ตุริยา วชฺชนฺติ ตาวเท;

เตปชฺชุโภ อภิรวนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

วิจิตฺตปุปฺผา คคนา, อภิวสฺสนฺติ ตาวเท;

เตปิ อชฺช ปวสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

มหาสมุทฺโท อาภุชติ, ทสสหสฺสี ปกมฺปติ;

เตปชฺชุโภ อภิรวนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

นิรเยปิ ทสสหสฺเส, อคฺคี นิพฺพนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช นิพฺพุตา อคฺคี, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

วิมโล โหติ สูริโย, สพฺพา ทิสฺสนฺติ ตารกา;

เตปิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

อโนวฏฺเน อุทกํ, มหิยา อุพฺภิชฺชิ ตาวเท;

ตมฺปชฺชุพฺภิชฺชเต มหิยา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ตาราคณา วิโรจนฺติ, นกฺขตฺตา คคนมณฺฑเล;

วิสาขา จนฺทิมายุตฺตา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

พิลาสยา ทรีสยา, นิกฺขมนฺติ สกาสยา;

เตปชฺช อาสยา ฉุทฺธา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

โหติ อรติ สตฺตานํ, สนฺตุฏฺา โหนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช สพฺเพ สนฺตุฏฺา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

โรคา ตทุปสมฺมนฺติ, ชิฆจฺฉา จ วินสฺสติ;

ตานิปชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

โรโค ตทา ตนุ โหติ, โทโส โมโห วินสฺสติ;

เตปชฺช วิคตา สพฺเพ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ภยํ ตทา น ภวติ, อชฺชเปตํ ปทิสฺสติ;

เตน ลิงฺเคน ชานาม, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

รโช นุทฺธํสติ อุทฺธํ, อชฺชเปตํ ปทิสฺสติ;

เตน ลิงฺเคน ชานาม, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

อนิฏฺคนฺโธ ปกฺกมติ, ทิพฺพคนฺโธ ปวายติ;

โสปชฺช วายติ คนฺโธ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

สพฺเพ เทวา ปทิสฺสนฺติ, ปยิตฺวา อรูปิโน;

เตปชฺช สพฺเพ ทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ยาวตา นิรยา นาม, สพฺเพ ทิสฺสนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช สพฺเพ ทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

กุฏฺฏา กวาฏา เสลา จ, น โหนฺตาวรณา ตทา;

อกาสภูตา เตปชฺช, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

จุตี จ อุปปตฺติ จ, ขเณ ตสฺมึ น วิชฺชติ;

ตานิปชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ทฬฺหํ ปคฺคณฺห วีริยํ, มา นิวตฺต อภิกฺกม;

มยมฺเปตํ วิชานาม, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

พุทฺธสฺส วจนํ สุตฺวา, ทสสหสฺสีนจูภยํ;

ตุฏฺหฏฺโ ปโมทิโต, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา.

อทฺเวชฺฌวจนา พุทฺธา, อโมฆวจนา ชินา;

วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามหํ.

ยถา ขิตฺตํ นเภ เลฑฺฑุ, ธุวํ ปตติ ภูมิยํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ.

ยถาปิ สพฺพสตฺตานํ, มรณํ ธุวสสฺสตํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ.

ยถา รตฺติกฺขเย ปตฺเต, สูริยุคฺคมนํ ธุวํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ.

ยถา นิกฺขนฺตสยนสฺส, สีหสฺส นทนํ ธุวํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ.

ยถา อาปนฺนสตฺตานํ, ภารโมโรปนํ ธุวํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ.

หนฺท พุทฺธกเร ธมฺเม, วิจินามิ อิโต จิโต;

อุทฺธํ อโธ ทส ทิสา, ยาวตา ธมฺมธาตุยา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ปมํ ทานปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อนุจิณฺณํ มหาปถํ.

อิมํ ตฺวํ ปมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ทานปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

ยถาปิ กุมฺโภ สมฺปุณฺโณ, ยสฺส กสฺสจิ อโธกโต;

วมเต วุทกํ นิสฺเสสํ, น ตตฺถ ปริรกฺขติ.

ตเถว ยาจเก ทิสฺวา, หีนมุกฺกฏฺมชฺฌิเม;

ททาหิ ทานํ นิสฺเสสํ, กุมฺโภ วิย อโธกโต.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ทุติยํ สีลปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ ทุติยํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

สีลปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

ยถาปิ จมรี วาลํ, กิสฺมิฺจิ ปฏิลคฺคิตํ;

อุเปติ มรณํ ตตฺถ, น วิโกเปติ วาลธึ.

ตเถว จตูสุ ภูมีสุ, สีลานิ ปริปูรย;

ปริรกฺข สทา สีลํ, จมรี วิย วาลธึ.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ตติยํ เนกฺขมฺมปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ ตติยํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

เนกฺขมฺมปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

ยถา อนฺทุฆเร ปุริโส, จิรวุตฺโถ ทุขฏฺฏิโต;

น ตตฺถ ราคํ ชเนติ, มุตฺติเมว คเวสติ.

ตเถว ตฺวํ สพฺพภเว, ปสฺส อนฺทุฆรํ วิย;

เนกฺขมฺมาภิมุโข โหติ, ภวโต ปริมุตฺติยา.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, จตุตฺถํ ปฺาปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ จตุตฺถํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ปฺาปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

ยถาปิ ภิกฺขุ ภิกฺขนฺโต, หีนมุกฺกฏฺมชฺฌิเม;

กุลานิ น วิวชฺเชนฺโต, เอวํ ลภติ ยาปนํ.

ตเถว ตฺวํ สพฺพกาลํ, ปริปุจฺฉํ พุธํ ชนํ;

ปฺาปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ปฺจมํ วีริยปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ ปฺจมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

วีริยปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

ยถาปิ สีโห มิคราชา, นิสชฺชฏฺานจงฺกเม;

อลีนวีริโย โหติ, ปคฺคหิตมโน สทา.

ตเถว ตฺวํ สพฺพภเว, ปคฺคณฺห วีริยํ ทฬฺหํ;

วีริยปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ฉฏฺมํ ขนฺติปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ ฉฏฺมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ตตฺถ อทฺเวชฺฌมานโส, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

ยถาปิ ปถวี นาม, สุจิมฺปิ อสุจิมฺปิ จ;

สพฺพํ สหติ นิกฺเขปํ, น กโรติ ปฏิฆํ ตยา.

ตเถว ตฺวมฺปิ สพฺเพสํ, สมฺมานาวมานกฺขโม;

ขนฺติปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, สตฺตมํ สจฺจปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ สตฺตมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ตตฺถ อทฺเวชฺฌวจโน, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

ยถาปิ โอสมี นาม, ตุลาภูตา สเทวเก;

สมเย อุตุวสฺเส วา, น โวกฺกมติ, วีถิโต.

ตเถว ตฺวมฺปิ สจฺเจสุ, มา โวกฺกมสิ วีถิโต;

สจฺจปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, อฏฺมํ อธิฏฺานปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ อฏฺมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ตตฺถ ตฺวํ อจโล หุตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

ยถาปิ ปพฺพโต เสโล, อจโล สุปฺปติฏฺิโต;

น กมฺปติ ภุสวาเตหิ, สกฏฺาเนว ติฏฺติ.

ตเถว ตฺวมฺปิ อธิฏฺาเน, สพฺพทา อจโล ภว;

อธิฏฺานปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, นวมํ เมตฺตาปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ นวมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

เมตฺตาย อสโม โหหิ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

ยถาปิ อุทกํ นาม, กลฺยาเณ ปาปเก ชเน;

สมํ ผรติ สีเตน, ปวาเหติ รโชมลํ.

ตเถว ตฺวมฺปิ หิตาหิเต, สมํ เมตฺตาย ภาวย;

เมตฺตาปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ทสมํ อุเปกฺขาปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ ทสมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ตุลาภูโต ทฬฺโห หุตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

ยถาปิ ปถวี นาม, นิกฺขิตฺตํ อสุจึ สุจึ;

อุเปกฺขติ อุโภเปเต, โกปานุนยวชฺชิตา.

ตเถว ตฺวมฺปิ สุขทุกฺเข, ตุลาภูโต สทา ภว;

อุเปกฺขาปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

เอตฺตกาเยว เต โลเก, เย ธมฺมา โพธิปาจนา;

ตตุทฺธํ นตฺถิ อฺตฺร, ทฬฺหํ ตตฺถ ปติฏฺห.

อิเม ธมฺเม สมฺมสโต, สภาวรสลกฺขเณ;

ธมฺมเตเชน วสุธา, ทสสหสฺสี ปกมฺปถ.

จลตา รวติ ปถวี, อุจฺฉุยนฺตํว ปีฬิตํ;

เตลยนฺเต ยถา จกฺกํ, เอวํ กมฺปติ เมทินี.

ยาวตา ปริสา อาสิ, พุทฺธสฺส ปริเวสเน;

ปเวธมานา สา ตตฺถ, มุจฺฉิตา เสสิ ภูมิยา.

ฆฏาเนกสหสฺสานิ , กุมฺภีนฺจ สตา พหู;

สฺจุณฺณมถิตา ตตฺถ, อฺมฺํ ปฆฏฺฏิตา.

อุพฺพิคฺคา ตสิตา ภีตา, ภนฺตา พฺยาถิตมานสา;

มหาชนา สมาคมฺม, ทีปงฺกรมุปาคมุํ.

กึ ภวิสฺสติ โลกสฺส, กลฺยาณมถ ปาปกํ;

สพฺโพ อุปทฺทุโต โลโก, ตํ วิโนเทหิ จกฺขุม.

เตสํ ตทา สฺาเปสิ, ทีปงฺกโร มหามุนิ;

วิสฺสตฺถา โหถ มา ภาถ, อิมสฺมึ ปถวิกมฺปเน.

ยมหํ อชฺช พฺยากาสึ, พุทฺโธ โลเก ภวิสฺสติ;

เอโส สมฺมสติ ธมฺมํ, ปุพฺพกํ ชินเสวิตํ.

ตสฺส สมฺมสโต ธมฺมํ, พุทฺธภูมึ อเสสโต;

เตนายํ กมฺปิตา ปถวี, ทสสหสฺสี สเทวเก.

พุทฺธสฺส วจนํ สุตฺวา, มโน นิพฺพายิ ตาวเท;

สพฺเพ มํ อุปสงฺกมฺม, ปุนาปิ อภิวนฺทิสุํ.

สมาทยิตฺวา พุทฺธคุณํ, ทฬฺหํ กตฺวาน มานสํ;

ทีปงฺกรํ นมสฺสิตฺวา, อาสนา วุฏฺหึ ตทา.

ทิพฺพํ มานุสกํ ปุปฺผํ, เทวา มานุสกา อุโภ;

สโมกิรนฺติ ปุปฺเผหิ, วุฏฺหนฺตสฺส อาสนา.

เวทยนฺติ จ เต โสตฺถึ, เทวา มานุสกา อุโภ;

มหนฺตํ ปตฺถิตํ ตุยฺหํ, ตํ ลภสฺสุ ยถิจฺฉิตํ.

สพฺพีติโย วิวชฺชนฺตุ, โสโก โรโค วินสฺสตุ;

มา เต ภวนฺตฺวนฺตรายา, ผุส ขิปฺปํ โพธิมุตฺตมํ.

ยถาปิ สมเย ปตฺเต, ปุปฺผนฺติ ปุปฺผิโน ทุมา;

ตเถว ตฺวํ มหาวีร, พุทฺธาเณน ปุปฺผสุ.

ยถา เย เกจิ สมฺพุทฺธา, ปูรยุํ ทสปารมี;

ตเถว ตฺวํ มหาวีร, ปูเรหิ ทสปารมี.

ยถา เย เกจิ สมฺพุทฺธา, โพธิมณฺฑมฺหิ พุชฺฌเร;

ตเถว ตฺวํ มหาวีร, พุชฺฌสฺสุ ชินโพธิยํ.

ยถา เย เกจิ สมฺพุทฺธา, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺตยุํ;

ตเถว ตฺวํ มหาวีร, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺตย.

ปุณฺณมาเย ยถา จนฺโท, ปริสุทฺโธ วิโรจติ;

ตเถว ตฺวํ ปุณฺณมโน, วิโรจ ทสสหสฺสิยํ.

ราหุมุตฺโต ยถา สูริโย, ตาเปน อติโรจติ;

ตเถว โลกา มุฺจิตฺวา, วิโรจ สิริยา ตุวํ.

ยถา ยา กาจิ นทิโย, โอสรนฺติ มโหทธึ;

เอวํ สเทวกา โลกา, โอสรนฺตุ ตวนฺติเก.

เตหิ ถุตปฺปสตฺโถ โส, ทส ธมฺเม สมาทิย;

เต ธมฺเม ปริปูเรนฺโต, ปวนํ ปาวิสี ตทา.

สุเมธกถา นิฏฺิตา.

ตทา เต โภชยิตฺวาน, สสงฺฆํ โลกนายกํ;

อุปคจฺฉุํ สรณํ ตสฺส, ทีปงฺกรสฺส สตฺถุโน.

สรณาคมเน กฺจิ, นิเวเสสิ ตถาคโต;

กฺจิ ปฺจสุ สีเลสุ, สีเล ทสวิเธ ปรํ.

กสฺสจิ เทติ สามฺํ, จตุโร ผลมุตฺตเม;

กสฺสจิ อสเม ธมฺเม, เทติ โส ปฏิสมฺภิทา.

กสฺสจิ วรสมาปตฺติโย, อฏฺ เทติ นราสโภ;

ติสฺโส กสฺสจิ วิชฺชาโย, ฉฬภิฺา ปเวจฺฉติ.

เตน โยเคน ชนกายํ, โอวทติ มหามุนิ;

เตน วิตฺถาริกํ อาสิ, โลกนาถสฺส สาสนํ.

มหาหนุสภกฺขนฺโธ, ทีปงฺกรสนามโก;

พหู ชเน ตารยติ, ปริโมเจติ ทุคฺคตึ.

โพธเนยฺยํ ชนํ ทิสฺวา, สตสหสฺเสปิ โยชเน;

ขเณน อุปคนฺตฺวาน, โพเธติ ตํ มหามุนิ.

ปมาภิสมเย พุทฺโธ, โกฏิสตมโพธยิ;

ทุติยาภิสมเย นาโถ, นวุติโกฏิมโพธยิ.

ยทา จ เทวภวนมฺหิ, พุทฺโธ ธมฺมเทสยิ;

นวุติโกฏิสหสฺสานํ, ตติยาภิสมโย อหุ.

สนฺนิปาตา ตโย อาสุํ, ทีปงฺกรสฺส สตฺถุโน;

โกฏิสตสหสฺสานํ, ปโม อาสิ สมาคโม.

ปุน นารทกูฏมฺหิ, ปวิเวกคเต ชิเน;

ขีณาสวา วีตมลา, สมึสุ สตโกฏิโย.

ยมฺหิ กาเล มหาวีโร, สุทสฺสนสิลุจฺจเย;

นวุติโกฏิสหสฺเสหิ, ปวาเรสิ มหามุนิ.

อหํ เตน สมเยน, ชฏิโล อุคฺคตาปโน;

อนฺตลิกฺขมฺหิ จรโณ, ปฺจาภิฺาสุ ปารคู.

ทสวีสสหสฺสานํ, ธมฺมาภิสมโย อหุ;

เอกทฺวินฺนํ อภิสมยา, คณนาโต อสงฺขิยา.

วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ, อิทฺธํ ผีตํ อหุ ตทา;

ทีปงฺกรสฺส ภควโต, สาสนํ สุวิโสธิตํ.

จตฺตาริ สตสหสฺสานิ, ฉฬภิฺา มหิทฺธิกา;

ทีปงฺกรํ โลกวิทุํ, ปริวาเรนฺติ สพฺพทา.

เย เกจิ เตน สมเยน, ชหนฺติ มานุสํ ภวํ;

อปฺปตฺตมานสา เสขา, ครหิตา ภวนฺติ เต.

สุปุปฺผิตํ ปาวจนํ, อรหนฺเตหิ ตาทิหิ;

ขีณาสเวหิ วิมเลหิ, อุปโสภติ สเทวเก.

นครํ รมฺมวตี นาม, สุเทโว นาม ขตฺติโย;

สุเมธา นาม ชนิกา, ทีปงฺกรสฺส สตฺถุโน.

สุมงฺคโล จ ติสฺโส จ, อเหสุํ อคฺคสาวกา;

สาคโต นามุปฏฺาโก, ทีปงฺกรสฺส สตฺถุโน.

นนฺทา เจว สุนนฺทา จ, อเหสุํ อคฺคสาวิกา;

โพธิ ตสฺส ภควโต, ปิปฺผลีติ ปวุจฺจติ.

อสีติหตฺถมุพฺเพโธ, ทีปงฺกโร มหามุนิ;

โสภติ ทีปรุกฺโขว, สาลราชาว ปุปฺผิโต;

ปภา วิธาวติ ตสฺส, สมนฺตา ทฺวาทสโยชเน.

สตสหสฺสวสฺสานิ, อายุ ตสฺส มเหสิโน;

ตาวตา ติฏฺมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.

โชตยิตฺวาน สทฺธมฺมํ, สนฺตาเรตฺวา มหาชนํ;

ชลิตฺวา อคฺคิกฺขนฺโธว, นิพฺพุโต โส สสาวโก.

สา จ อิทฺธิ โส จ ยโส, ตานิ จ ปาเทสุ จกฺกรตนานิ;

สพฺพํ ตมนฺตรหิตํ, นนุ ริตฺตา สพฺพสงฺขาราติ.

ทีปงฺกรสฺส ภควโต อปรภาเค เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา โกณฺฑฺโ นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา อเหสุํ. ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสํ. ทุติเย โกฏิสหสฺสํ, ตติเย นวุติโกฏิโย.

ตทา โพธิสตฺโต วิชิตาวี นาม จกฺกวตฺตี หุตฺวา โกฏิสตสหสฺสสงฺขสฺส พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ อทาสิ. สตฺถา โพธิสตฺตํ ‘‘พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากริตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. โส สตฺถุ ธมฺมกถํ สุตฺวา รชฺชํ นิยฺยาเตตฺวา ปพฺพชิ. โส ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย, ปฺจ จ อภิฺาโย อุปฺปาเทตฺวา อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ. โกณฺฑฺพุทฺธสฺส ปน รมฺมวตี นาม นครํ, สุนนฺโท นาม ขตฺติโย ปิตา, สุชาตา นาม มาตา, ภทฺโท จ สุภทฺโท จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อนุรุทฺโธ นาม อุปฏฺาโก, ติสฺสา จ อุปติสฺสา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, สาลกลฺยาณี โพธิ, อฏฺาสีติหตฺถุพฺเพธํ สรีรํ, วสฺสสตสหสฺสํ อายุปฺปมาณํ อโหสิ.

ตสฺส อปรภาเค เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา เอกสฺมึเยว กปฺเป จตฺตาโร พุทฺธา นิพฺพตฺตึสุ มงฺคโล สุมโน เรวโต โสภิโตติ. มงฺคลสฺส ปน ภควโต ตีสุ สาวกสนฺนิปาเตสุ ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ. ทุติเย โกฏิสหสฺสํ. ตติเย นวุติโกฏิโย. เวมาติกภาตา ปนสฺส อานนฺทกุมาโร นาม นวุติโกฏิสงฺขฺยาย ปริสาย สทฺธึ ธมฺมสวนตฺถาย สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิ, สตฺถา ตสฺส อนุปุพฺพิกถํ กเถสิ. โส สทฺธึ ปริสาย สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. สตฺถา เตสํ กุลปุตฺตานํ ปุพฺพจริยกํ โอโลเกนฺโต อิทฺธิมยปตฺตจีวรสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา ทกฺขิณหตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ อาห. สพฺเพ ตงฺขณฺเว อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา สฏฺิวสฺสิกตฺเถรา วิย อากปฺปสมฺปนฺนา หุตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ปริวารยึสุ อยมสฺส ตติโย สาวกสนฺนิปาโต อโหสิ.

ยถา ปน อฺเสํ พุทฺธานํ สมนฺตา อสีติหตฺถปฺปมาณาเยว สรีรปฺปภา โหติ, น, เอวํ ตสฺส. ตสฺส ปน ภควโต สรีรปฺปภา นิจฺจกาลํ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อฏฺาสิ. รุกฺขปถวีปพฺพตสมุทฺทาทโย อนฺตมโส อุกฺขลิยาทีนิ อุปาทาย สุวณฺณปฏ ปริโยนทฺธา วิย อเหสุํ. อายุปฺปมาณํ ปนสฺส นวุติวสฺสสหสฺสานิ อโหสิ. เอตฺตกํ กาลํ จนฺทิมสูริยาทโย อตฺตโน ปภาย วิโรจิตุํ นาสกฺขึสุ, รตฺตินฺทิวปริจฺเฉโท น ปฺายิตฺถ. ทิวา สูริยาโลเกน วิย สตฺตา นิจฺจํ พุทฺธาโลเกเนว วิจรึสุ. สายํ ปุปฺผิตานํ กุสุมานํ, ปาโต รวนกสกุณานฺจ วเสน โลโก รตฺตินฺทิวปริจฺเฉทํ สลฺลกฺเขสิ . กึ ปน อฺเสํ พุทฺธานํ อยมานุภาโว นตฺถีติ? โน นตฺถิ, เตปิ หิ อากงฺขมานา ทสสหสฺสึ วา โลกธาตุํ, ตโต วา ภิยฺโย อาภาย ผเรยฺยุํ. มงฺคลสฺส ปน ภควโต ปุพฺพปตฺถนาวเสน อฺเสํ พฺยามปฺปภา วิย สรีรปฺปภา นิจฺจเมว ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อฏฺาสิ.

โส กิร โพธิสตฺตจริยกาเล เวสฺสนฺตรสทิเส อตฺตภาเว ิโต สปุตฺตทาโร วงฺกปพฺพตสทิเส ปพฺพเต วสิ. อเถโก ขรทาิโก นาม ยกฺโข มหาปุริสสฺส ทานชฺฌาสยตํ สุตฺวา พฺราหฺมณวณฺเณน อุปสงฺกมิตฺวา มหาสตฺตํ ทฺเว ทารเก ยาจิ. มหาสตฺโต ‘‘ททามิ พฺราหฺมณสฺส ปุตฺตเก’’ติ หฏฺปหฏฺโ อุทกปริยนฺตํ ปถวึ กมฺเปนฺโต ทฺเวปิ ทารเก อทาสิ. ยกฺโข จงฺกมนโกฏิยํ อาลมฺพนผลกํ นิสฺสาย ตฺวา ปสฺสนฺตสฺเสว มหาสตฺตสฺส มุฬาลกลาปํ วิย ทฺเว ทารเก ขาทิ. มหาปุริสสฺส ยกฺขํ โอโลเกตฺวา วิวฏมตฺเต อคฺคิชาลํ วิย โลหิตธารํ อุคฺคิรมานํ ตสฺส มุขํ ทิสฺวาปิ เกสคฺคมตฺตมฺปิ โทมนสฺสํ นุปฺปชฺชิ, ‘‘สุทินฺนํ วต เม ทาน’’นฺติ จินฺตยโต ปนสฺส สรีเร มหนฺตํ ปีติโสมนสฺสํ อุทปาทิ. โส ‘‘อิมสฺส เม นิสฺสนฺเทน อนาคเต อิมินาว นีหาเรน สรีรโต รสฺมิโย นิกฺขมนฺตู’’ติ ปตฺถนํ อกาสิ. ตสฺส ตํ ปตฺถนํ นิสฺสาย พุทฺธภูตสฺส สรีรโต รสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา เอตฺตกํ านํ ผรึสุ.

อปรมฺปิสฺส ปุพฺพจริตํ อตฺถิ. โส กิร โพธิสตฺตกาเล เอกสฺส พุทฺธสฺส เจติยํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส พุทฺธสฺส มยา ชีวิตํ ปริจฺจชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ทณฺฑกทีปิกาเวนนิยาเมน สกลสรีรํ เวาเปตฺวา รตนมตฺตมกุลํ สตสหสฺสคฺฆนิกํ สุวณฺณปาตึ สปฺปิสฺส ปูราเปตฺวา ตตฺถ สหสฺสวฏฺฏิโย ชาลาเปตฺวา ตํ สีเสนาทาย สกลสรีรํ ชาลาเปตฺวา เจติยํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต สกลรตฺตึ วีตินาเมสิ. เอวํ ยาว อรุณุคฺคมนา วายมนฺตสฺสาปิสฺส โลมกูปมตฺตมฺปิ อุสุมํ น คณฺหิ, ปทุมคพฺภํ ปวิฏฺกาโล วิย อโหสิ. ธมฺโม หิ นาเมส อตฺตานํ รกฺขนฺตํ รกฺขติ. เตนาห ภควา –

‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ,

ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ;

เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ,

น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี’’ติ. (เถรคา. ๓๐๓; ชา. ๑.๑๐.๑๐๒; ๑.๑๕.๓๘๕);

อิมสฺสาปิ กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน ตสฺส ภควโต สรีโรภาโส ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อฏฺาสิ.

ตทา อมฺหากํ โพธิสตฺโต สุรุจิ นาม พฺราหฺมโณ หุตฺวา ‘‘สตฺถารํ นิมนฺเตสฺสามี’’ติ อุปสงฺกมิตฺวา มธุรธมฺมกถํ สุตฺวา ‘‘สฺเว มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถ ภนฺเต’’ติ อาห. พฺราหฺมณ กิตฺตเกหิ เต ภิกฺขูหิ อตฺโถติ, กิตฺตกา ปน โว ภนฺเต ปริวารา ภิกฺขูติ. ตทา สตฺถุ ปมสนฺนิปาโตเยว โหติ. ตสฺมา ‘‘โกฏิสตสหสฺส’’นฺติ อาห. ‘‘ภนฺเต, สพฺเพหิปิ สทฺธึ มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อาห. สตฺถา อธิวาเสสิ. พฺราหฺมโณ สฺวาตนาย นิมนฺเตตฺวา เคหํ คจฺฉนฺโต จินฺเตสิ ‘‘อหํ เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ ยาคุภตฺตวตฺถาทีนิ ทาตุํ โน น สกฺโกมิ, นิสีทนฏฺานํ ปน กถํ ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺส สา จินฺตา จตุราสีติโยชนสหสฺสมตฺถเก ิตสฺส เทวรฺโ ปณฺฑุกมฺพลสิลาสนสฺส อุณฺหภาวํ ชเนสิ. สกฺโก ‘‘โก นุ โข มํ อิมสฺมา านา จาเวตุกาโม’’ติ ทิพฺพจกฺขุนา โอโลเกนฺโต มหาปุริสํ ทิสฺวา ‘‘อยํ สุรุจิ พฺราหฺมโณ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา นิสีทนฏฺานตฺถาย จินฺเตสิ, มยาปิ ตตฺถ คนฺตฺวา ปุฺโกฏฺาสํ คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วฑฺฒกิวณฺณํ นิมฺมินิตฺวา วาสิผรสุหตฺโถ มหาปุริสสฺส ปุรโต ปาตุรโหสิ. ‘‘อตฺถิ นุ โข กสฺสจิ ภติยา กตฺตพฺพกิจฺจ’’นฺติ อาห. มหาปุริโส ตํ ทิสฺวา ‘‘กึ กมฺมํ กริสฺสสี’’ติ อาห. มม อชานนสิปฺปํ นาม นตฺถิ, เคหํ วา มณฺฑปํ วา โย ยํ กาเรติ, ตสฺส ตํ กาตุํ ชานามีติ. เตน หิ มยฺหํ กมฺมํ อตฺถีติ. กึ, อยฺยาติ? สฺวาตนาย เม โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู นิมนฺติตา, เตสํ นิสีทนมณฺฑปํ กริสฺสสีติ. อหํ นาม กเรยฺยํ, สเจ เม ภตึ ทาตุํ สกฺขิสฺสถาติ. สกฺขิสฺสามิ, ตาตาติ. ‘‘สาธุ กริสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา เอกํ ปเทสํ โอโลเกสิ.

ทฺวาทสเตรสโยชนปฺปมาโณ ปเทโส กสิณมณฺฑลํ วิย สมตโล อโหสิ. โส ‘‘เอตฺตเก าเน สตฺตรตนมโย มณฺฑโป อุฏฺหตู’’ติ จินฺเตตฺวา โอโลเกสิ. ตาวเทว ปถวึ ภินฺทิตฺวา มณฺฑโป อุฏฺหิ. ตสฺส สุวณฺณมเยสุ ถมฺเภสุ รชตมยา ฆฏกา อเหสุํ, รชตมเยสุ ถมฺเภสุ สุวณฺณมยา, มณิตฺถมฺเภสุ ปวาฬมยา, ปวาฬตฺถมฺเภสุ มณิมยา, สตฺตรตนมเยสุ ถมฺเภสุ สตฺตรตนมยาว ฆฏกา อเหสุํ. ตโต ‘‘มณฺฑปสฺส อนฺตรนฺเตน กิงฺกิณิกชาลํ โอลมฺพตู’’ติ โอโลเกสิ. สห โอโลกเนเนว กิงฺกิณิกชาลํ โอลมฺพิ, ยสฺส มนฺทวาเตริตสฺส ปฺจงฺคิกสฺเสว ตูริยสฺส มธุรสทฺโท นิคฺคจฺฉติ. ทิพฺพสงฺคีติวตฺตนกาโล วิย อโหสิ. ‘‘อนฺตรนฺตรา คนฺธทามมาลาทามานิ โอลมฺพนฺตู’’ติ จินฺเตสิ. ตาวเทว ทามานิ โอลมฺพึสุ. ‘‘โกฏิสตสหสฺสสงฺขฺยานํ ภิกฺขูนํ อาสนานิ จ อาธารกานิ จ ปถวึ ภินฺทิตฺวา อุฏฺหนฺตู’’ติ จินฺเตสิ. ตาวเทว อุฏฺหึสุ. ‘‘โกเณ โกเณ เอเกกา อุทกจาฏิโย อุฏฺหนฺตู’’ติ จินฺเตสิ, ตาวเทว อุทกจาฏิโย อุฏฺหึสุ เอตฺตกํ มาเปตฺวา พฺราหฺมณสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เอหิ อยฺย ตว มณฺฑปํ โอโลเกตฺวา มยฺหํ ภตึ เทหี’’ติ อาห. มหาปุริโส คนฺตฺวา มณฺฑปํ โอโลเกสิ . โอโลเกนฺตสฺเสวสฺส สกลสรีรํ ปฺจวณฺณาย ปีติยา นิรนฺตรํ ผุฏํ อโหสิ. อถสฺส มณฺฑปํ โอโลเกตฺวา เอตทโหสิ ‘‘นายํ มณฺฑโป มนุสฺสภูเตน กโต, มยฺหํ ปน อชฺฌาสยํ มยฺหํ คุณํ อาคมฺม อทฺธา สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหํ อโหสิ. ตโต สกฺเกน เทวรฺา อยํ มณฺฑโป การิโต ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘น โข ปน เม ยุตฺตํ เอวรูเป มณฺฑเป เอกทิวสํเยว ทานํ ทาตุํ, สตฺตาหํ ทสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.

พาหิรกทานฺหิ ตตฺตกมฺปิ สมานํ โพธิสตฺตานํ ตุฏฺึ กาตุํ น สกฺโกติ. อลงฺกตสีสํ ปน ฉินฺทิตฺวา อฺชิตอกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา, หทยมํสํ วา อุปฺปาเฏตฺวา ทินฺนกาเล โพธิสตฺตานํ จาคํ นิสฺสาย ตุฏฺิ นาม โหติ. อมฺหากมฺปิ หิ โพธิสตฺตสฺส สิวิชาตเก เทวสิกํ ปฺจสตสหสฺสกหาปณานิ วิสฺสชฺเชตฺวา จตูสุ นครทฺวาเรสุ, มชฺเฌ นคเร จ ทานํ ททนฺตสฺส ตํ ทานํ ตุฏฺึ อุปฺปาเทตุํ นาสกฺขิ. ยทา ปนสฺส พฺราหฺมณวณฺเณน อาคนฺตฺวา สกฺโก เทวราชา อกฺขีนิ ยาจิ, ตทา ตานิ อุปฺปาเฏตฺวา ททมานสฺเสว หาโส อุปฺปชฺชิ, เกสคฺคมตฺตมฺปิ จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ นาโหสิ. เอวํ ทานํ นิสฺสาย โพธิสตฺตานํ ติตฺติ นาม นตฺถิ. ตสฺมา โสปิ มหาปุริโส ‘‘สตฺตาหํ มยา โกฏิสตสหสฺสสงฺขฺยานํ ภิกฺขูนํ ทานํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺมึ มณฺฑเป พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา สตฺตาหํ ควปานํ นาม อทาสิ. ควปานนฺติ มหนฺเต มหนฺเต โกลมฺเพ ขีรสฺส ปูเรตฺวา อุทฺธเนสุ อาโรเปตฺวา ฆนปากปกฺเก ขีเร โถเก ตณฺฑุเล ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกมธุสกฺกรจุณฺณสปฺปีหิ อภิสงฺขตํ โภชนํ วุจฺจติ. มนุสฺสาเยว ปน ปริวิสิตุํ นาสกฺขึสุ, เทวาปิ เอกนฺตริกา หุตฺวา ปริวิสึสุ. ทฺวาทสเตรสโยชนปฺปมาณํ านมฺปิ ภิกฺขู คณฺหิตุํ นปฺปโหติเยว. เต ปน ภิกฺขู อตฺตโน อานุภาเวน นิสีทึสุ. ปริโยสานทิวเส สพฺพภิกฺขูนํ ปตฺตานิ โธวาเปตฺวา เภสชฺชตฺถาย สปฺปินวนีตเตลมธุผาณิตานํ ปูเรตฺวา ติจีวเรหิ สทฺธึ อทาสิ. สงฺฆนวกภิกฺขุนา ลทฺธติจีวรสาฏกา สตสหสฺสคฺฆนิกา อเหสุํ. สตฺถา อนุโมทนํ กโรนฺโต ‘‘อยํ ปุริโส เอวรูปํ มหาทานํ อทาสิ, โก นุ โข ภวิสฺสตี’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘อนาคเต กปฺปสตสหสฺสาธิกานํ ทฺวินฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก โคตโม นาม พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ ทิสฺวา มหาปุริสํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตฺวํ เอตฺตกํ นาม กาลํ อติกฺกมิตฺวา โคตโม นาม พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

มหาปุริโส พฺยากรณํ สุตฺวา ‘‘อหํ กิร พุทฺโธ ภวิสฺสามิ, โก เม ฆราวาเสน อตฺโถ , ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตถารูปํ สมฺปตฺตึ เขฬปิณฺฑํ วิย ปหาย สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิ. ปพฺพชิตฺวา จ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา อภิฺา, สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา อายุปริโยสเน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ.

มงฺคลสฺส ปน ภควโต อุตฺตรํ นาม นครํ อโหสิ. ปิตาปิ อุตฺตโร นาม ขตฺติโย, มาตาปิ อุตฺตรา นาม, สุเทโว จ ธมฺมเสโน จ ทฺเว อคฺคสาวกา, ปาลิโต นาม อุปฏฺาโก, สีวลี จ อโสกา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, นาครุกฺโข โพธิ, อฏฺาสีติหตฺถุพฺเพธํ สรีรํ อโหสิ. นวุติวสฺสสหสฺสานิ ตฺวา ปรินิพฺพุเต ปน ตสฺมึ เอกปฺปหาเรเนว ทสจกฺกวาฬสหสฺสานิ เอกนฺธการานิ อเหสุํ. สพฺพจกฺกวาเฬสุ มนุสฺสานํ มหนฺตํ อาโรทนปริเทวนํ อโหสิ.

เอวํ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ อนฺธการํ กตฺวา ปรินิพฺพุตสฺส ตสฺส ภควโต อปรภาเค สุมโน นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา. ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ. ทุติเย กฺจนปพฺพตมฺหิ นวุติโกฏิสหสฺสานิ, ตติเย อสีติโกฏิสหสฺสานิ. ตทา มหาสตฺโต อตุโล นาม นาคราชา อโหสิ มหิทฺธิโก มหานุภาโว, โส ‘‘พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ สุตฺวา าติสงฺฆปริวุโต นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา โกฏิสตสหสฺสภิกฺขุปริวารสฺส ตสฺส ภควโต ทิพฺพตูริเยหิ อุปหารํ การาเปตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ปจฺเจกํ ทุสฺสยุคานิ ทตฺวา สรเณสุ ปติฏฺาสิ. โสปิ นํ สตฺถา ‘‘อนาคเต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต นครํ เมขลํ นาม อโหสิ, สุทตฺโต นาม ราชา ปิตา, สิริมา นาม มาตา, สรโณ จ ภาวิตตฺโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อุเทโน นาม อุปฏฺาโก, โสณา จ อุปโสณา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, นาครุกฺโขว โพธิ, นวุติหตฺถุพฺเพธํ สรีรํ, นวุติเยว วสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสีติ.

ตสฺส อปรภาเค เรวโต นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา อเหสุํ, ปมสนฺนิปาเต คณนา นาม นตฺถิ, ทุติเย โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ, ตถา ตติเย. ตทา โพธิสตฺโต อติเทโว นาม พฺราหฺมโณ หุตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา สรเณสุ ปติฏฺาย สิรสฺมึ อฺชลึ เปตฺวา ตสฺส สตฺถุโน กิเลสปฺปหาเน วณฺณํ วตฺวา อุตฺตราสงฺเคน ปูชมกาสิ. โสปิ นํ ‘‘พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ปน ภควโต นครํ สุธฺวตี นาม อโหสิ, ปิตา วิปุโล นาม ขตฺติโย, มาตาปิ วิปุลา นาม, วรุโณ จ พฺรหฺมเทโว จ ทฺเว อคฺคสาวกา, สมฺภโว นาม อุปฏฺาโก, ภทฺทา จ สุภทฺทา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, นาครุกฺโขว โพธิ, สรีรํ อสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, อายุ สฏฺิวสฺสสหสฺสานีติ.

ตสฺส อปรภาเค โสภิโต นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย นวุติโกฏิโย, ตติเย อสีติโกฏิโย. ตทา โพธิสตฺโต อชิโต นาม พฺราหฺมโณ หุตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา สรเณสุ ปติฏฺาย พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ อทาสิ. โสปิ นํ ‘‘พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ปน ภควโต นครํ สุธมฺมํ นาม อโหสิ, ปิตา สุธมฺโม นาม ราชา, มาตาปิ สุธมฺมา นาม, อสโม จ สุเนตฺโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อโนโม นาม อุปฏฺาโก, นกุลา จ สุชาตา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, นาครุกฺโขว โพธิ, อฏฺปณฺณาสหตฺถุพฺเพธํ สรีรํ อโหสิ, นวุติ วสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณนฺติ.

ตสฺส อปรภาเค เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา เอกสฺมึเยว กปฺเป ตโย พุทฺธา นิพฺพตฺตึสุ อโนมทสฺสี, ปทุโม, นารโทติ. อโนมทสฺสิสฺส ภควโต ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปเม อฏฺ ภิกฺขุสตสหสฺสานิ อเหสุํ, ทุติเย สตฺต, ตติเย ฉ ตทา โพธิสตฺโต เอโก ยกฺขเสนาปติ อโหสิ มหิทฺธิโก มหานุภาโว อเนกโกฏิสตสหสฺสานํ ยกฺขานํ อธิปติ. โส ‘‘พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ สุตฺวา อาคนฺตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ อทาสิ. สตฺถาปิ นํ ‘‘อนาคเต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

อโนมทสฺสิสฺส ปน ภควโต จนฺทวตี นาม นครํ อโหสิ, ยสวา นาม ราชา ปิตา, ยโสธรา นาม มาตา, นิสโภ จ อโนโม จ ทฺเว อคฺคสาวกา, วรุโณ นาม อุปฏฺาโก , สุนฺทรี จ สุมนา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, อชฺชุนรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อฏฺปณฺณาสหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, วสฺสสตสหสฺสํ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค ปทุโม นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย ตีณิสตสหสฺสานิ, ตติเย อคามเก อรฺเ มหาวนสณฺฑวาสีนํ ภิกฺขูนํ ทฺเว สตสหสฺสานิ. ตทา ตถาคเต ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วสนฺเต โพธิสตฺโต สีโห หุตฺวา สตฺถารํ นิโรธสมาปตฺติสมาปนฺนํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปีติโสมนสฺสชาโต ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา สตฺตาหํ พุทฺธารมฺมณํ ปีตึอวิชหิตฺวา ปีติสุเขเนว โคจราย อปกฺกมิตฺวา ชีวิตปริจฺจาคํ กตฺวา ปยิรุปาสมาโน อฏฺาสิ. สตฺถา สตฺตาหจฺจเยน นิโรธา วุฏฺิโต สีหํ โอโลเกตฺวา ‘‘ภิกฺขุสงฺเฆปิ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา สงฺฆํ วนฺทิสฺสตี’’ติ ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ อาคจฺฉตู’’ติ จินฺเตสิ. ภิกฺขู ตาวเทว อาคมึสุ. สีโห สงฺเฆ จิตฺตํ ปสาเทติ. สตฺถา ตสฺส มานสํ โอโลเกตฺวา ‘‘อนาคเต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ปทุมสฺส ปน ภควโต จมฺปกํ นครํ อโหสิ อสโม นาม ราชา ปิตา, มาตา อสมา นาม, สาโล จ อุปสาโล จ ทฺเว อคฺคสาวกา, วรุโณ นาม อุปฏฺาโก, รามา จ สุรามา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, โสณรุกฺโข นาม โพธิ อฏฺปณฺณาสหตฺถุพฺเพธํ สรีรํ อโหสิ, อายุ วสฺสสตสหสฺสนฺติ.

ตสฺส อปรภาเค นารโท นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย นวุติโกฏิสหสฺสานิ, ตติเย อสีติโกฏิสหสฺสานิ. ตทา โพธิสตฺโต อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ปฺจสุ อภิฺาสุ, อฏฺสุ จ สมาปตฺตีสุ จิณฺณวสี หุตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา โลหิตจนฺทเนน ปูชมกาสิ, โสปิ นํ ‘‘อนาคเต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ปน ภควโต ธฺวตี นาม นครํ อโหสิ, สุเทโว นาม ขตฺติโย ปิตา, อโนมา นาม มาตา, ภทฺทสาโล จ ชิตมิตฺโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา, วาสิฏฺโ นาม อุปฏฺาโก, อุตฺตรา จ ผคฺคุนี จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, มหาโสณรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อฏฺาสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, นวุติ วสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

นารทพุทฺธสฺส ปน อปรภาเค เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา อิโต สตสหสฺสกปฺปมตฺถเก เอกสฺมึ กปฺเป เอโกว ปทุมุตฺตโร นาม พุทฺโธ อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย เวภารปพฺพเต นวุติโกฏิสหสฺสานิ, ตติเย อสีติโกฏิสหสฺสานิ. ตทา โพธิสตฺโต ชฏิโล นาม มหารฏฺิโย หุตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สจีวรํ ทานํ อทาสิ. โสปิ นํ ‘‘อนาคเต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ. ปทุมุตฺตรสฺส ปน ภควโต กาเล ติตฺถิยา นาม นาเหสุํ สพฺเพ เทวมนุสฺสา พุทฺธเมว สรณมกํสุ.

ตสฺส นครํ หํสวตี นาม อโหสิ, ปิตา อานนฺโท นาม ขตฺติโย, มาตา สุชาตา นาม, เทวโล จ สุชาโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา สุมโน นาม อุปฏฺาโก, อมิตา จ อสมา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, สลลรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อฏฺาสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, สรีรปฺปภา สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ คณฺหิ วสฺสสตสหสฺสํ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค สตฺตติกปฺปสหสฺสานิ อติกฺกมิตฺวา อิโต ตึสกปฺปสหสฺสมตฺถเก สุเมโธสุชาโต จาติ เอกสฺมึ กปฺเป ทฺเว พุทฺธา นิพฺพตฺตึสุ. สุเมธสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต สุทสฺสนนคเร โกฏิสตขีณาสวา อเหสุํ, ทุติเย นวุติโกฏิโย, ตติเย อสีติโกฏิโย. ตทา โพธิสตฺโต อุตฺตโร นาม พฺราหฺมณมาณโว หุตฺวา นิทหิตฺวา ปิตํเยว อสีติโกฏิธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา สรเณสุ ปติฏฺาย นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิ. โสปิ นํ ‘‘อนาคเต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

สุเมธสฺส ภควโต สุทสฺสนํ นาม นครํ อโหสิ, สุทตฺโต นาม ราชา ปิตา, มาตาปิ สุทตฺตา นาม, สรโณ จ สพฺพกาโม จ ทฺเว อคฺคสาวกา, สาคโร นาม อุปฏฺาโก, รามา จ สุรามา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, มหานีปรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อฏฺาสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, อายุ นวุติ วสฺสสหสฺสานีติ.

ตสฺส อปรภาเค สุชาโต นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต สฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสานิ อเหสุํ , ทุติเย ปฺาสํ, ตติเย จตฺตาลีสํ. ตทา โพธิสตฺโต จกฺกวตฺติราชา หุตฺวา ‘‘พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ สุตฺวา อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สทฺธึ สตฺตหิ รตเนหิ จตุมหาทีปรชฺชํ ทตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิ. สกลรฏฺวาสิโน รฏฺุปฺปาทํ คเหตฺวา อารามิกกิจฺจํ สาเธนฺตา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิจฺจํ มหาทานํ อทํสุ. โสปิ นํ สตฺถา พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต นครํ สุมงฺคลํ นาม อโหสิ, อุคฺคโต นาม ราชา ปิตา, ปภาวตี นาม มาตา, สุทสฺสโน จ สุเทโว จ ทฺเว อคฺคสาวกา, นารโท นาม อุปฏฺาโก, นาคา จ นาคสมาลา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, มหาเวฬุรุกฺโข โพธิ, โส กิร มนฺทจฺฉิทฺโท ฆนกฺขนฺโธ อุปรินิคฺคตาหิ มหาสาขาหิ โมรปิฺฉกลาโป วิย วิโรจิตฺถ. ตสฺส ภควโต สรีรํ ปณฺณาสหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, อายุ นวุติวสฺสสหสฺสานีติ.

ตสฺส อปรภาเค อิโต อฏฺารสกปฺปสตมตฺถเก เอกสฺมึ กปฺเป ปิยทสฺสี, อตฺถทสฺสี, ธมฺมทสฺสีติ ตโย พุทฺธา นิพฺพตฺตึสุ. ปิยทสฺสิสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา. ปเม โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย นวุติโกฏิโย, ตติเย อสีติโกฏิโย. ตทา โพธิสตฺโต กสฺสโป นาม มาณโว ติณฺณํ เวทานํ ปารงฺคโต หุตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โกฏิสตสหสฺสธนปริจฺจาเคน สงฺฆารามํ กาเรตฺวา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาสิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘อฏฺารสกปฺปสตจฺจเยน พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต อโนมํ นาม นครํ อโหสิ, ปิตา สุทินฺโน นาม ราชา, มาตา จนฺทา นาม, ปาลิโต จ สพฺพทสฺสี จ ทฺเว อคฺคสาวกา, โสภิโต นาม อุปฏฺาโก, สุชาตา จ ธมฺมทินฺนา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, ปิยงฺคุรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, นวุติวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค อตฺถทสฺสี นาม ภควา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา. ปเม อฏฺนวุติภิกฺขุสตสหสฺสานิ อเหสุํ, ทุติเย อฏฺาสีติสหสฺสานิ, ตถา ตติเย. ตทา โพธิสตฺโต สุสีโม นาม มหิทฺธิโก ตาปโส หุตฺวา เทวโลกโต มนฺทารวปุปฺผจฺฉตฺตํ อาหริตฺวา สตฺถารํ ปูเชสิ. โสปิ นํ สตฺถา พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต โสภณํ นาม นครํ อโหสิ, สาคโร นาม ราชา ปิตา, สุทสฺสนา นาม มาตา, สนฺโต จ อุปสนฺโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อภโย นาม อุปฏฺาโก, ธมฺมา จ สุธมฺมา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, จมฺปกรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, สรีรปฺปภา สมนฺตโต สพฺพกาลํ โยชนมตฺตํ ผริตฺวา อฏฺาสิ, อายุ วสฺสสตสหสฺสนฺติ.

ตสฺส อปรภาเค ธมฺมทสฺสี นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา. ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย นวุติโกฏิโย, ตติเย อสีติโกฏิโย. ตทา โพธิสตฺโต สกฺโก เทวราชา หุตฺวา ทิพฺพคนฺธปุปฺเผหิ จ ทิพฺพตูริเยหิ จ ปูชมกาสิ. โสปิ นํ สตฺถา พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต สรณํ นาม นครํ อโหสิ, ปิตา สรโณ นาม ราชา, มาตา สุนนฺทา นาม, ปทุโม จ ผุสฺสเทโว จ ทฺเว อคฺคสาวกา, สุเนตฺโต นาม อุปฏฺาโก, เขมา จ สพฺพนามา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, รตฺตงฺกุรรุกฺโข โพธิ, ‘‘กกุธรุกฺโข’’ติปิ ‘‘พิมฺพิชาโล’’ติปิ วุจฺจติ สรีรํ ปนสฺส อสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, วสฺสสตสหสฺสํ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค อิโต จตุนวุติกปฺปมตฺถเก เอกสฺมึ กปฺเป เอโกว สิทฺธตฺโถ นาม พุทฺโธ อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา. ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย นวุติโกฏิโย ตติเย อสีติโกฏิโย. ตทา โพธิสตฺโต อุคฺคเตโช อภิฺาพลสมฺปนฺโน มงฺคโล นาม ตาปโส หุตฺวา มหาชมฺพุผลํ อาหริตฺวา ตถาคตสฺส อทาสิ. สตฺถา ตํ ผลํ ปริภุฺชิตฺวา ‘‘จตุนวุติกปฺปมตฺถเก พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ โพธิสตฺตํ พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต นครํ เวภารํ นาม อโหสิ, ปิตา ชยเสโน นาม ราชา, มาตา สุผสฺสา นาม, สมฺพโล จ สุมิตฺโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา, เรวโต นาม อุปฏฺาโก, สีวลา จ สุรามา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, กณิการรุกฺโข โพธิ, สรีรํ สฏฺิหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, วสฺสสตสหสฺสํ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค อิโต ทฺเวนวุติกปฺปมตฺถเก ติสฺโส ผุสฺโสติ เอกสฺมึ กปฺเป ทฺเว พุทฺธา นิพฺพตฺตึสุ. ติสฺสสฺส ปน ภควโต ตโย สาวกสนฺนิปาตา. ปมสนฺนิปาเต ภิกฺขูนํ โกฏิสตํ อโหสิ, ทุติเย นวุติโกฏิโย, ตติเย อสีติโกฏิโย. ตทา โพธิสตฺโต มหาโภโค มหายโส สุชาโต นาม ขตฺติโย หุตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา มหิทฺธิกภาวํ ปตฺวา ‘‘พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ สุตฺวา ทิพฺพมนฺทารวปทุมปาริจฺฉตฺตกปุปฺผานิ อาทาย จตุปริสมชฺเฌ คจฺฉนฺตํ ตถาคตํ ปูเชสิ, อากาเส ปุปฺผวิตานํ หุตฺวา อฏฺาสิ. โสปิ นํ สตฺถา ‘‘อิโต ทฺเวนวุติกปฺปมตฺถเก พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต เขมํ นาม นครํ อโหสิ, ปิตา ชนสนฺโธ นาม ขตฺติโย, มาตา ปทุมา นาม, พฺรหฺมเทโว จ อุทโย จ ทฺเว อคฺคสาวกา สมงฺโค นาม อุปฏฺาโก, ผุสฺสา จ สุทตฺตา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา อสนรุกฺโข โพธิ, สรีรํ สฏฺิหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, วสฺสสตสหสฺสํ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค ผุสฺโส นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต สฏฺิ ภิกฺขุสตสหสฺสานิ อเหสุํ, ทุติเย ปณฺณาส, ตติเย ทฺวตฺตึส. ตทา โพธิสตฺโต วิชิตาวี นาม ขตฺติโย หุตฺวา มหารชฺชํ ปหาย สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา มหาชนสฺส ธมฺมกถํ กเถสิ. สีลปารมิฺจ ปูเรสิ. โสปิ นํ ‘‘พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต กาสิ นาม นครํ อโหสิ, ชยเสโน นาม ราชา ปิตา, สิริมา นาม มาตา, สุรกฺขิโต จ ธมฺมเสโน จ ทฺเว อคฺคสาวกา, สภิโย นาม อุปฏฺาโก, จาลา จ อุปจาลา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา , อามลกรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อฏฺปณฺณาสหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, นวุติ วสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค อิโต เอกนวุติกปฺเป วิปสฺสี นาม ภควา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา , ปมสนฺนิปาเต อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสานิ อเหสุํ, ทุติเย เอกสตสหสฺสํ, ตติเย อสีติสหสฺสานิ. ตทา โพธิสตฺโต มหิทฺธิโก มหานุภาโว อตุโล นาม นาคราชา หุตฺวา สตฺตรตนขจิตํ โสวณฺณมยํ มหาปีํ ภควโต อทาสิ. โสปิ นํ สตฺถา ‘‘อิโต เอกนวุติกปฺเป พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต พนฺธุมตี นาม นครํ อโหสิ, พนฺธุมา นาม ราชา ปิตา. พนฺธุมตี นาม มาตา, ขณฺโฑ จ ติสฺโส จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อโสโก นาม อุปฏฺาโก, จนฺทา จ จนฺทมิตฺตา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา ปาฏลิรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, สรีรปฺปภา สทา สตฺต โยชนานิ ผริตฺวา อฏฺาสิ, อสีติวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค อิโต เอกตึสกปฺเป สิขี, เวสฺสภู จาติ ทฺเว พุทฺธา อเหสุํ. สิขิสฺสาปิ ภควโต ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต ภิกฺขุสตสหสฺสํ อโหสิ, ทุติเย อสีติสหสฺสานิ, ตติเย สตฺตติ. ตทา โพธิสตฺโต อรินฺทโม นาม ราชา หุตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สจีวรํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา สตฺตรตนปฏิมณฺฑิตํ หตฺถิรตนํ ทตฺวา หตฺถิปฺปมาณํ กตฺวา กปฺปิยภณฺฑํ อทาสิ. โสปิ นํ ‘‘อิโต เอกตึสกปฺเป พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ปน ภควโต อรุณวตี นาม นครํ อโหสิ, อรุณวา นาม ขตฺติโย ปิตา, ปภาวตี นาม มาตา, อภิภู จ สมฺภโว จ ทฺเว อคฺคสาวกา เขมงฺกโร นาม อุปฏฺาโก, สขิลา จ ปทุมา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, ปุณฺฑรีกรุกฺโข โพธิ, สรีรํ สตฺตติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, สรีรปฺปภา โยชนตฺตยํ ผริตฺวา อฏฺาสิ, สตฺตหิวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค เวสฺสภู นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา ปมสนฺนิปาเต อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ อเหสุํ ทุติเย สตฺตติ, ตติเย สฏฺิ. ตทา โพธิสตฺโต สุทสฺสโน นาม ราชา หุตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สจีวรํ มหาทานํ ทตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อาจารคุณสมฺปนฺโน พุทฺธรตเน จิตฺตีการปีติพหุโล อโหสิ. โสปิ นํ ‘‘อิโต เอกตึเส กปฺเป พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ปน ภควโต อโนมํ นาม นครํ อโหสิ, สุปฺปตีโต นาม ราชา ปิตา, ยสวตี นาม มาตา, โสโณ จ อุตฺตโร จ ทฺเว อคฺคสาวกา อุปสนฺโต นาม อุปฏฺาโก ทามา จ สมาลา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, สาลรุกฺโข โพธิ, สรีรํ สฏฺิหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค อิมสฺมึ กปฺเป จตฺตาโร พุทฺธา นิพฺพตฺตา กกุสนฺโธ, โกณาคมโน, กสฺสโป, อมฺหากํ ภควาติ. กกุสนฺธสฺส ภควโต เอโก สาวกสนฺนิปาโต, ตตฺถ จตฺตาลีสภิกฺขุสหสฺสานิ อเหสุํ. ตทา โพธิสตฺโต เขโม นาม ราชา หุตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สปตฺตจีวรํ มหาทานฺจ อฺชนาทิเภสชฺชานิ จ ทตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปพฺพชิ. โสปิ นํ สตฺถา พฺยากาสิ.

กกุสนฺธสฺส ปน ภควโต เขมํ นาม นครํ อโหสิ, อคฺคิทตฺโต นาม พฺราหฺมโณ ปิตา, วิสาขา นาม พฺราหฺมณี มาตา, วิธุโร จ สฺชีโว จ ทฺเว อคฺคสาวกา, พุทฺธิโช นาม อุปฏฺาโก สามา จ จมฺปา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา มหาสิรีสรุกฺโข โพธิ สรีรํ จตฺตาลีสหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, จตฺตาลีสวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค โกณาคมโน นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ เอโก สาวกสนฺนิปาโต, ตตฺถ ตึสภิกฺขุสหสฺสานิ อเหสุํ. ตทา โพธิสตฺโต ปพฺพโต นาม ราชา หุตฺวา อมจฺจคณปริวุโต สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมเทสนํ สุตฺวา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ปตฺตุณฺณจีนปฏโกเสยฺยกมฺพลทุกุลานิ เจว สุวณฺณปาทุกฺจ ทตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิ. โสปิ นํ สตฺถา พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต โสภวตี นาม นครํ อโหสิ, ยฺทตฺโต นาม พฺราหฺมโณ ปิตา, อุตฺตรา นาม พฺราหฺมณี มาตา, ภิยฺโยโส จ อุตฺตโร จ ทฺเว อคฺคสาวกา, โสตฺถิโช นาม อุปฏฺาโก, สมุทฺทา จ อุตฺตรา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, อุทุมฺพรรุกฺโข โพธิ, สรีรํ ตึสหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, ตึสวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค กสฺสโป นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ เอโกว สาวกสนฺนิปาโต, ตตฺถ วีสติภิกฺขุสหสฺสานิ อเหสุํ. ตทา โพธิสตฺโต โชติปาโล นาม มาณโว ติณฺณํ เวทานํ ปารคู ภูมิยฺเจว อนฺตลิกฺเข จ ปากโฏ ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส มิตฺโต อโหสิ, โส เตน สทฺธึ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมกถํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา อารทฺธวีริโย ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา วตฺตสมฺปตฺติยา พุทฺธสาสนํ โสเภสิ. โสปิ นํ สตฺถา พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต ชาตนครํ พาราณสี นาม อโหสิ. พฺรหฺมทตฺโต นาม พฺราหฺมโณ ปิตา, ธนวตี นาม พฺราหฺมณี มาตา, ติสฺโส จ ภารทฺวาโช จ ทฺเว อคฺคสาวกา, สพฺพมิตฺโต นาม อุปฏฺาโก อนุฬา จ อุรุเวฬา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, นิคฺโรธรุกฺโข โพธิ สรีรํ วีสติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, วีสติวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส ปน ภควโต โอรภาเค เปตฺวา อิมํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อฺโ พุทฺโธ นาม นตฺถิ. อิติ ทีปงฺกราทีนํ จตุวีสติยา พุทฺธานํ สนฺติเก ลทฺธพฺยากรโณ ปน โพธิสตฺโต เยเนน –

‘‘มนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺติ, เหตุ สตฺถารทสฺสนํ;

ปพฺพชฺชา คุณสมฺปตฺติ, อธิกาโร จ ฉนฺทตา;

อฏฺธมฺมสโมธานา, อภินีหาโร สมิชฺฌตี’’ติ. (พุ. วํ. ๒.๕๙);

อิเม อฏฺ ธมฺเม สโมธาเนตฺวา ทีปงฺกรปาทมูเล กตาภินีหาเรน ‘‘หนฺท พุทฺธกเร ธมฺเม วิจินามิ อิโต จิโต’’ติ อุสฺสาหํ กตฺวา ‘‘วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ปมํ ทานปารมิ’’นฺติ ทานปารมิตาทโย พุทฺธกรา ธมฺมา ทิฏฺา, เต ปูเรนฺโต ยาว เวสฺสนฺตรตฺตภาวา อาคมิ. อาคจฺฉนฺโต จ เย เต กตาภินีหารานํ โพธิสตฺตานํ อานิสํสา สํวณฺณิตา –

‘‘เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนา, โพธิยา นิยตา นรา;

สํสรํ ทีฆมทฺธานํ, กปฺปโกฏิสเตหิปิ.

‘‘อวีจิมฺหิ นุปฺปชฺชนฺติ, ตถา โลกนฺตเรสุ จ;

นิชฺฌามตณฺหา ขุปฺปิปาสา, น โหนฺติ กาลกฺชิกา.

‘‘น โหนฺติ ขุทฺทกา ปาณา, อุปฺปชฺชนฺตาปิ ทุคฺคตึ;

ชายมานา มนุสฺเสสุ, ชจฺจนฺธา น ภวนฺติ เต.

‘‘โสตเวกลฺลตา นตฺถิ, น ภวนฺติ มูคปกฺขิกา;

อิตฺถิภาวํ น คจฺฉนฺติ, อุภโตพฺยฺชนปณฺฑกา.

‘‘น ภวนฺติ ปริยาปนฺนา, โพธิยา นิยตา นรา;

มุตฺตา อานนฺตริเกหิ, สพฺพตฺถ สุทฺธโคจรา.

‘‘มิจฺฉาทิฏฺึ น เสวนฺติ, กมฺมกิริยทสฺสนา;

วสมานาปิ สคฺเคสุ, อสฺํ นุปปชฺชเร.

‘‘สุทฺธาวาเสสุ เทเวสุ, เหตุ นาม น วิชฺชติ;

เนกฺขมฺมนินฺนา สปฺปุริสา, วิสํยุตฺตา ภวาภเว;

จรนฺติ โลกตฺถจริยาโย, ปูเรนฺติ สพฺพปารมี’’ติ.

เต อานิสํเส อธิคนฺตฺวาว อาคโต. ปารมิโย ปูเรนฺตสฺส จ ตสฺส อกิตฺติพฺราหฺมณกาเล สงฺขพฺราหฺมณกาเล ธนฺจยราชกาเล มหาสุทสฺสนราชกาเล มหาโควินฺทกาเล นิมิมหาราชกาเล จนฺทกุมารกาเล วิสยฺหเสฏฺิกาเล สิวิราชกาเล เวสฺสนฺตรราชกาเลติ ทานปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส สสปณฺฑิตชาตกาเล –

‘‘ภิกฺขาย อุปคตํ ทิสฺวา, สกตฺตานํ ปริจฺจชึ;

ทาเนน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม ทานปารมี’’ติ. (จริยา. ๑.๑๔๓ ตสฺสุทฺทาน –

เอวํ อตฺตปริจฺจาคํ กโรนฺตสฺส ทานปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

ตถา สีลวนาคราชกาเล จมฺเปยฺยนาคราชกาเล ภูริทตฺตนาคราชกาเล ฉทฺทนฺตนาคราชกาเล ชยทฺทิสราชปุตฺตกาเล อลีนสตฺตุกุมารกาเลติ สีลปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส สงฺขปาลชาตกาเล –

‘‘สูเลหิปิ วิชฺฌิยนฺโต, โกฏฺฏิยนฺโตปิ สตฺติหิ;

โภชปุตฺเต น กุปฺปามิ, เอสา เม สีลปารมี’’ติ. (จริยา. ๒.๙๑) –

เอวํ อตฺตปริจฺจาคํ กโรนฺตสฺส สีลปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

ตถา โสมนสฺสกุมารกาเล หตฺถิปาลกุมารกาเล อโยฆรปณฺฑิตกาเลติ มหารชฺชํ ปหาย เนกฺขมฺมปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส จูฬสุตโสมชาตกาเล –

‘‘มหารชฺชํ หตฺถคตํ, เขฬปิณฺฑํว ฉฑฺฑยึ;

จชโต น โหติ ลคนํ, เอสา เม เนกฺขมฺมปารมี’’ติ. –

เอวํ นิสฺสงฺคตาย รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา นิกฺขมนฺตสฺส เนกฺขมฺมปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

ตถา วิธุรปณฺฑิตกาเล มหาโควินฺทปณฺฑิตกาเล กุทาลปณฺฑิตกาเล อรกปณฺฑิตกาเล โพธิปริพฺพาชกกาเล มโหสธปณฺฑิตกาเลติ ปฺาปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส สตฺตุภสฺตชาตเก เสนกปณฺฑิตกาเล –

‘‘ปฺาย วิจินนฺโตหํ, พฺราหฺมณํ โมจยึ ทุขา;

ปฺาย เม สโม นตฺถิ, เอสา เม ปฺาปารมี’’ติ. –

อนฺโตภสฺตคตํ สปฺปํ ทสฺเสนฺตสฺส ปฺาปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

ตถา วีริยปารมิตาทีนมฺปิ ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส มหาชนกชาตเก –

‘‘อตีรทสฺสี ชลมชฺเฌ, หตา สพฺเพว มานุสา;

จิตฺตสฺส อฺถา นตฺถิ, เอสา เม วีริยปารมี’’ติ. –

เอวํ มหาสมุทฺทํ ตรนฺตสฺส วีริยปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

ขนฺติวาทีชาตเก –

‘‘อเจตนํว โกฏฺเฏนฺเต, ติณฺเหน ผรสุนา มมํ;

กาสิราเช น กุปฺปามิ, เอสา เม ขนฺติปารมี’’ติ. –

เอวํ อเจตนภาเวน วิย มหาทุกฺขํ อธิวาเสนฺตสฺส ขนฺติปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

มหาสุตโสมชาตเก –

‘‘สจฺจวาจํ อนุรกฺขนฺโต, จชิตฺวา มม ชีวิตํ;

โมเจสึ เอกสตํ ขตฺติเย, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติ. –

เอวํ ชีวิตํ จวิตฺวา สจฺจมนุรกฺขนฺตสฺส สจฺจปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

มูคปกฺขชาตเก –

‘‘มาตา ปิตา น เม เทสฺสา, นปิ เทสฺสํ มหายสํ;

สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา วตมธิฏฺหิ’’นฺติ. –

เอวํ ชีวิตํ จชิตฺวา วตํ อธิฏฺหนฺตสฺส อธิฏฺานปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

เอกราชชาตเก –

‘‘น มํ โกจิ อุตฺตสติ, นปิหํ ภายามิ กสฺสจิ;

เมตฺตาพเลนุปตฺถทฺโธ, รมามิ ปวเน ตทา’’ติ. (จริยา. ๓.๑๑๓) –

เอวํ ชีวิตํ อนปโลเกตฺวา เมตฺตายนฺตสฺส เมตฺตาปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

โลมหํสชาตเก

‘‘สุสาเน เสยฺยํ กปฺเปมิ, ฉวฏฺิกํ อุปนิธายหํ;

คามณฺฑลา อุปาคนฺตฺวา, รูปํ ทสฺเสนฺติ นปฺปก’’นฺติ. –

เอวํ คามทารเกสุ นิฏฺุภนาทีหิ เจว มาลาคนฺธูปหาราทีหิ จ สุขทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺเตสุปิ อุเปกฺขนํ อนติวตฺเตนฺตสฺส อุเปกฺขาปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนส อตฺโถ จริยาปิฏกโต คเหตพฺโพ.

เอวํ ปารมิโย ปูเรตฺวา เวสฺสนฺตรตฺตภาเว ิโต –

‘‘อเจตนายํ ปถวี, อวิฺาย สุขํ ทุขํ;

สาปิ ทานพลา มยฺหํ, สตฺตกฺขตฺตุํ ปกมฺปถา’’ติ. (จริยา. ๑.๑๒๔);

เอวํ มหาปถวีกมฺปนานิ มหาปุฺานิ กตฺวา อายุปริโยสาเน ตโต จุโต ตุสิตภวเน นิพฺพตฺติ, ตตฺถ อฺเ เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหิตฺวา ‘‘ยาวตายุกํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต มนุสฺสคณนาย อิทานิ สตฺตหิ ทิวเสหิ อายุกฺขยํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, มาลา มิลายนฺติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, กาเย เววณฺณิยํ โอกฺกมติ, เทโว เทวาสเน น สณฺหตีติ อิเมสุ ปฺจสุ ปุพฺพนิมิตฺเตสุ อุปฺปนฺเนสุ ตานิ ทิสฺวา ‘‘สุฺา วต โภ สคฺคา ภวิสฺสนฺตี’’ติ สํเวคชาตาหิ เทวตาหิ มหาสตฺตสฺส ปูริตปารมิภาวํ ตฺวา ‘‘อิมสฺมึ อิทานิ อฺํ เทวโลกํ อนุปคนฺตฺวา มนุสฺสโลเก อุปฺปชฺชิตฺวา พุทฺธภาวํ ปตฺเต ปุฺานิ กตฺวา จุตา จุตา มนุสฺสา เทวโลกํ ปริปูเรสฺสนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา –

‘‘ยโตหํ ตุสิเต กาเย, สนฺตุสิโต นามหํ ตทา;

ทสสหสฺสี สมาคนฺตฺวา, ยาจนฺติ ปฺชลี มมํ.

‘‘กาโล เทว มหาวีร, อุปฺปชฺช มาตุกุจฺฉิยํ;

สเทวกํ ตารยนฺโต, พุชฺฌสฺสุ อมตํ ปท’’นฺติ. (พุ. วํ. ๑.๖๖-๖๗);

เอวํ พุทฺธภาวตฺถาย อายาจิโต กาลํ, ทีปํ, เทสํ, กุลํ, ชเนตฺติยา อายุปฺปมาณนฺติ อิมานิ ปฺจ มหาวิโลกนานิ วิโลเกตฺวา กตสนฺนิฏฺาโน ตโต จุโต สกฺยราชกุเล ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา ตตฺถ มหาสมฺปตฺติยา ปริหริยมาโน อนุกฺกเมน ภทฺรโยพฺพนํ อนุปาปุณิ. อิมสฺมึ อนฺตเร ‘‘สโต สมฺปชาโน อานนฺท โพธิสตฺโต ตุสิตา กายา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมี’’ติอาทีนํ (ม. นิ. ๓.๒๐๐) สุตฺตปทานฺเจว เตสํ อฏฺกถาย จ วเสน วิตฺถาโร เวทิตพฺโพ.

โส ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเกสุ ตีสุ ปาสาเทสุ เทวโลกสิรึ วิย รชฺชสิรึ อนุภวมาโน อุยฺยานกีฬาย คมนสมเย อนุกฺกเมน ชิณฺณพฺยาธิมตสงฺขาเต ตโย เทวทูเต ทิสฺวา สฺชาตสํเวโค นิวตฺติตฺวา จตุตฺถวาเร ปพฺพชิตํ ทิสฺวา ‘สาธุ ปพฺพชฺชา’ติ ปพฺพชฺชาย รุจึ อุปฺปาเทตฺวา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตตฺถ ทิวสภาคํ เขเปตฺวา มงฺคลโปกฺขรณีตีเร นิสินฺโน กปฺปกเวสํ คเหตฺวา อาคเตน วิสฺสกมฺเมน เทวปุตฺเตน อลงฺกตปฏิยตฺโต ราหุลภทฺทสฺส ชาตสาสนํ สุตฺวา ปุตฺตสิเนหสฺส พลวภาวํ ตฺวา ‘ยาว อิทํ พนฺธนํ น วฑฺฒติ ตาวเทว นํ ฉินฺทิสฺสามี’ติ จินฺเตตฺวา สายํ นครํ ปวิสนฺโต –

‘‘นิพฺพุตา นูน สา มาตา, นิพฺพุโต นูน โส ปิตา;

นิพฺพุตา นูน สา นารี, ยสฺสายํ อีทิโส ปตี’’ติ. (พุ. วํ. อฏฺ. ๒๗ อวิทูเรนิทานกถา; ธ. ป. อฏฺ. ๑.๑๐ สาริปุตฺตตฺเถรวตฺถุ; อป. อฏฺ. ๑.อวิทูเรนิทานกถา; ชา. อฏฺ. ๑.อวิทูเรนิทานกถา);

กิสาโคตมิยา นาม ปิตุจฺฉาธีตาย ภาสิตํ อิมํ คาถํ สุตฺวา, ‘อหํ อิมาย นิพฺพุตปทํ สาวิโต’ติ คีวโต สตสหสฺสคฺฆนิกํ มุตฺตาหารํ มุฺจิตฺวา, ตสฺสา เปเสตฺวา, อตฺตโน ภวนํ ปวิสิตฺวา, สิริสยเน นิสินฺโน นิทฺทาวเสน นาฏกานํ วิปฺปการํ ทิสฺวา, นิพฺพินฺนหทโย ฉนฺนํ อุฏฺาเปตฺวา, กณฺฑกํ อาหราเปตฺวา, กณฺฑกํ อารุยฺห, ฉนฺนสหาโยว ทสสหสฺสิโลกธาตุเทวตาหิ กตปริวาโร มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา, เตเนว รตฺตาวเสเสน ตีณิ มหารชฺชานิ อติกฺกมฺม อโนมานทีตีเร ปพฺพชิตฺวา, อนุกฺกเมน ราชคหํ คนฺตฺวา, ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺวา, ปณฺฑวปพฺพตปพฺภาเร นิสินฺโน มคธราเชน รชฺเชน นิมนฺติยมาโน ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา, สพฺพฺุตํ ปตฺวา ตสฺส วิชิตํ อาคมนตฺถาย เตน คหิตปฏิฺโ , อาฬารฺจ อุทกฺจ อุปสงฺกมิตฺวา, เตสํ สนฺติเก อธิคตวิเสเสน อปริตุฏฺโ ฉพฺพสฺสานิ มหาปธานํ ปทหิตฺวา, วิสาขาปุณฺณมทิวเส ปาโตว เสนานิคเม สุชาตาย ทินฺนํ ปายาสํ ปริภุฺชิตฺวา, เนรฺชราย นทิยา สุวณฺณปาตึ ปวาเหตฺวา, เนรฺชราย ตีเร มหาวนสณฺเฑ นานาสมาปตฺตีหิ ทิวสภาคํ วีตินาเมตฺวา, สายนฺหสมเย โสตฺถิเยน ทินฺนํ อฏฺติณมุฏฺึ คเหตฺวา, กาเฬน นาคราเชน อภิตฺถุตคุโณ โพธิมณฺฑํ อารุยฺห ติณานิ สนฺถริตฺวา, ‘น ตาวิมํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิสฺสามิ ยาว เม น อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิสฺสตี’ติ ปฏิฺํ กตฺวา, ปาจีนทิสาภิมุโข นิสีทิตฺวา, สูริเย อนตฺถงฺคมิเตเยว มารพลํ วิธมิตฺวา, ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสาณํ, มชฺฌิมยาเม จุตูปปาตาณํ ปตฺวา, ปจฺฉิมยามาวสาเน ทสพลจตุเวสารชฺชาทิสพฺพพุทฺธคุณปฏิมณฺฑิตํ สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌนฺโตเยว อิมํ อภิธมฺมนยสมุทฺทํ อธิคฺฉิ. เอวมสฺส อธิคมนิทานํ เวทิตพฺพํ.

เอวํ อธิคตาภิธมฺโม เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนสตฺตาหํ อนิมิสสตฺตาหํ จงฺกมนสตฺตาหฺจ อติกฺกมิตฺวา, จตุตฺเถ สตฺตาเห สยมฺภูาณาธิคเมน อธิคตํ อภิธมฺมํ วิจินิตฺวา อปรานิปิ อชปาลมุจลินฺทราชายตเนสุ ตีณิ สตฺตาหานิ วีตินาเมตฺวา, อฏฺเม สตฺตาเห อชปาลนิคฺโรธรุกฺขมูเล นิสินฺโน ธมฺมคมฺภีรตาปจฺจเวกฺขเณน อปฺโปสฺสุกฺกตํ อาปชฺชมาโน ทสสหสฺสิมหาพฺรหฺมปริวาเรน สหมฺปติพฺรหฺมุนา อายาจิตธมฺมเทสโน พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โอโลเกตฺวา, พฺรหฺมุโน อชฺเฌสนํ อาทาย ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’นฺติ โอโลเกนฺโต อาฬารุทกานํ กาลงฺกตภาวํ ตฺวา, ปฺจวคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ พหูปการตํ อนุสฺสริตฺวา, อุฏฺายาสนา กาสิปุรํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค อุปเกน สทฺธึ มนฺเตตฺวา, อาสาฬฺหีปุณฺณมทิวเส อิสิปตเน มิคทาเย ปฺจวคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ วสนฏฺานํ ปตฺวา,เต อนนุจฺฉวิเกน สมุทาจาเรน สมุทาจรนฺเต สฺาเปตฺวา, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตนฺโต อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถรปฺปมุขา อฏฺารส พฺรหฺมโกฏิโย อมตปานํ ปาเยสิ. เอวํ ยาว ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนา เทสนานิทานํ เวทิตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สาฏฺกถานํ อริยปริเยสน(ม. นิ. ๑.๒๗๔) ปพฺพชฺชสุตฺตาทีนํ (สุ. นิ. ๔๐๗ อาทโย) วเสน เวทิตพฺโพ.

เอวํ อธิคมนิทานเทสนานิทานสมฺปนฺนสฺส ปนสฺส อภิธมฺมสฺส อปรานิปิ ทูเรนิทานํ, อวิทูเรนิทานํ, สนฺติเกนิทานนฺติ ตีณิ นิทานานิ. ตตฺถ ทีปงฺกรปาทมูลโต ปฏฺาย ยาว ตุสิตปุรา ทูเรนิทานํ เวทิตพฺพํ. ตุสิตปุรโต ปฏฺาย ยาว โพธิมณฺฑา อวิทูเรนิทานํ. ‘เอกํ สมยํ ภควา เทเวสุ วิหรติ ตาวตึเสสุ ปาริจฺฉตฺตกมูเล ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ, ตตฺถ โข ภควา เทวานํ ตาวตึสานํ อภิธมฺมกถํ กเถสี’ติ อิทมสฺส สนฺติเกนิทานํ. อยํ ตาว นิทานกถา.

นิทานกถา นิฏฺิตา.