📜
ติกมาติกาปทวณฺณนา
อิทานิ
อิติ ¶ ¶ ¶ เม ภาสมานสฺส, อภิธมฺมกถํ อิมํ;
อวิกฺขิตฺตา นิสาเมถ, ทุลฺลภา หิ อยํ กถาติ.
เอวํ ปฏิฺาตาย อภิธมฺมกถาย กถโนกาโส สมฺปตฺโต. ตตฺถ ยสฺมา อภิธมฺโม นาม ธมฺมสงฺคณีอาทีนิ สตฺตปฺปกรณานิ; ธมฺมสงฺคณีปิ จิตฺตุปฺปาทกณฺฑาทีนํ วเสน จตฺตาริ กณฺฑานิ; จิตฺตุปฺปาทกณฺฑมฺปิ มาติกาปทภาชนียวเสน ทุวิธํ; ตตฺถ มาติกา อาทิ; สาปิ ติกมาติกา ทุกมาติกาติ ทุวิธา; ตตฺถ ติกมาติกา อาทิ; ติกมาติกายปิ กุสลตฺติกํ กุสลตฺติเกปิ กุสลา ธมฺมาติ อิทํ ปทํ; ตสฺมา –
อิโต ปฏฺาย คมฺภีรํ, อภิธมฺมกถํ อิมํ;
วุจฺจมานํ นิสาเมถ, เอกคฺคา สาธุ สาธโวติ.
๑. ‘‘กุสลา ธมฺมา, อกุสลา ธมฺมา, อพฺยากตา ธมฺมา’’ติ อยํ ตาว อาทิปเทน ลทฺธนาโม กุสลตฺติโก นาม. ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา, ทุกฺขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา’’ติ อยํ สพฺพปเทหิ ลทฺธนาโม เวทนาตฺติโก นาม. เอวํ อาทิปทวเสน วา สพฺพปทวเสน วา สพฺเพสมฺปิ ติกทุกานํ นามํ เวทิตพฺพํ ¶ . สพฺเพว เจเต ปฺจทสหิ ปริจฺเฉเทหิ ววตฺถิตา. ติกานฺหิ เอโก ปริจฺเฉโท, ทุกานํ จตุทฺทส. ‘‘เหตู ธมฺมา, นเหตู ธมฺมา’’ติอาทโย หิ ฉ ทุกา คนฺถโต จ อตฺถโต จ อฺมฺสมฺพนฺเธน กณฺณิกา วิย ฆฏา วิย หุตฺวา ิตตฺตา ‘เหตุโคจฺฉโก’ติ วุจฺจติ. ตโต อปเร ‘‘สปฺปจฺจยา ธมฺมา อปฺปจฺจยา ธมฺมา’’ติอาทโย สตฺต ทุกา, อฺมฺํ อสมฺพนฺธา, เกวลํ ¶ ทุกสามฺโต อุจฺจินิตฺวา อุจฺจินิตฺวา วิสุํ วิสุํ โคจฺฉกนฺตเร ปิตตฺตา อฺเหิ จ มหนฺตรทุเกหิ จูฬกตฺตา ‘จูฬนฺตรทุกา’ติ เวทิตพฺพา. ตโต ปรํ อาสวทุกาทีนํ ฉนฺนํ วเสน ‘อาสวโคจฺฉโก’ ¶ ; ตถา สํโยชนทุกาทีนํ วเสน ‘สํโยชนโคจฺฉโก’; ตถา คนฺถโอฆโยคนีวรณทุกาทีนํ วเสน ‘คนฺถโอฆโยคนีวรณโคจฺฉกา’; ปรามาสทุกาทีนํ ปฺจนฺนํ วเสน ‘ปรามาสโคจฺฉโก’ติ. สพฺเพปิ สตฺต โคจฺฉกา เวทิตพฺพา. ตโต ปรํ ‘‘สารมฺมณา ธมฺมา’’ติอาทโย จตุทฺทส ทุกา ‘มหนฺตรทุกา’ นาม. ตโต อุปาทานทุกาทโย ฉ ทุกา ‘อุปาทานโคจฺฉโก’ นาม. ตโต กิเลสทุกาทโย อฏฺ ทุกา ‘กิเลสโคจฺฉโก’ นาม. ตโต ปรํ ทสฺสเนนปหาตพฺพทุกาทโย อฏฺารส ทุกา อภิธมฺมมาติกาย ปริโยสาเน ปิตตฺตา ‘ปิฏฺิทุกา’ นาม. ‘‘วิชฺชาภาคิโน ธมฺมา อวิชฺชาภาคิโน ธมฺมา’’ติอาทโย ปน ทฺวาจตฺตาลีส ทุกา ‘สุตฺตนฺติกทุกา’ นาม. เอวํ สพฺเพเปเต ปฺจทสหิ ปริจฺเฉเทหิ ววตฺถิตาติ เวทิตพฺพา.
เอวํ ววตฺถิตา ปเนเต สปฺปเทสนิปฺปเทสวเสน ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ. เตสุ หิ นว ติกา เอกสตฺตติ จ ทุกา สปฺปเทสานํ รูปารูปธมฺมานํ ปริคฺคหิตตฺตา สปฺปเทสา นาม. อวเสสา เตรส ติกา เอกสตฺตติ จ ทุกา นิปฺปเทสา นาม. ตตฺถ ติเกสุ ตาว เวทนาตฺติโก วิตกฺกตฺติโก ปีติตฺติโก อุปฺปนฺนตฺติโก อตีตตฺติโก จตฺตาโร อารมฺมณตฺติกาติ อิเม นว ติกา สปฺปเทสา นาม. ทุเกสุ เหตุโคจฺฉกาทีนํ อุปาทานโคจฺฉกปริโยสานานํ นวนฺนํ โคจฺฉกานํ ปริโยสาเน ตโย ตโย ทุกา, กิเลสโคจฺฉกปริโยสาเน ¶ จตฺตาโร ทุกา, ‘‘จิตฺตสมฺปยุตฺตา ธมฺมา, จิตฺตวิปฺปยุตฺตา ธมฺมา’’‘‘จิตฺตสํสฏฺา ธมฺมา, จิตฺตวิสํสฏฺา ธมฺมา’’ติ ทฺเว มหนฺตรทุกา, สุตฺตนฺติกทุเกสุ อธิวจนทุกํ นิรุตฺติทุกํ ปฺตฺติทุกํ นามรูปทุกนฺติ อิเม จตฺตาโร ทุเก เปตฺวา อวเสสา อฏฺตึส ทุกา จาติ เอเต สปฺปเทสา นาม. วุตฺตาวเสสา ติกทุกา สพฺเพปิ นิปฺปเทสาติ เวทิตพฺพา.
อิทานิ กุสลา ธมฺมาติอาทีนํ มาติกาปทานํ อยมนุปุพฺพปทวณฺณนา – ‘กุสล’-สทฺโท ตาว ¶ อาโรคฺยอนวชฺชเฉกสุขวิปาเกสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามย’’นฺติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๕.๑๔๖; ๒.๒๐.๑๒๙) อาโรคฺเย ทิสฺสติ. ‘‘กตโม ปน, ภนฺเต, กายสมาจาโร กุสโล? โย โข, มหาราช, กายสมาจาโร อนวชฺโช’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๖๑) จ, ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ ¶ ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๔๕) จ เอวมาทีสุ อนวชฺเช. ‘‘กุสโล ตฺวํ รถสฺส องฺคปจฺจงฺคานํ’’ (ม. นิ. ๒.๘๗), ‘‘กุสลา นจฺจคีตสฺส สิกฺขิตา จาตุริตฺถิโย’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๙๔) เฉเก. ‘‘กุสลานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ สมาทานเหตุ’’ (ที. นิ. ๓.๘๐), ‘‘กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๔๓๑) สุขวิปาเก. สฺวายมิธ อาโรคฺเยปิ อนวชฺเชปิ สุขวิปาเกปิ วตฺตติ.
ธมฺมสทฺโท ปนายํ ปริยตฺติเหตุคุณนิสฺสตฺตนิชฺชีวตาทีสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘ธมฺมํ ปริยาปุณาติ สุตฺตํ เคยฺย’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๐๒) ปริยตฺติยํ ทิสฺสติ. ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๒๐) เหตุมฺหิ.
‘‘น หิ ธมฺโม อธมฺโม จ, อุโภ สมวิปากิโน;
อธมฺโม นิรยํ เนติ, ธมฺโม ปาเปติ สุคฺคติ’’นฺติ. (เถรคา. ๓๐๔; ชา. ๑.๑๕.๓๘๖) –
อาทีสุ คุเณ. ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย ธมฺมา โหนฺติ’’ (ธ. ส. ๑๒๑), ‘‘ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๗๓) นิสฺสตฺตนิชฺชีวตายํ. สฺวายมิธาปิ นิสฺสตฺตนิชฺชีวตายเมว วฏฺฏติ.
วจนตฺโถ ¶ ปเนตฺถ – กุจฺฉิเต ปาปเก ธมฺเม สลยนฺติ จลยนฺติ กมฺเปนฺติ วิทฺธํเสนฺตีติ กุสลา. กุจฺฉิเตน วา อากาเรน สยนฺตีติ กุสา. เต อกุสลสงฺขาเต กุเส ลุนนฺติ ฉินฺทนฺตีติ กุสลา. กุจฺฉิตานํ วา สานโต ตนุกรณโต โอสานกรณโต าณํ กุสํ นาม. เตน กุเสน ลาตพฺพาติ กุสลา; คเหตพฺพา ปวตฺเตตพฺพาติ อตฺโถ. ยถา วา กุสา อุภยภาคคตํ หตฺถปฺปเทสํ ลุนนฺติ, เอวมิเมปิ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนภาเวน อุภยภาคคตํ กิเลสปกฺขํ ลุนนฺติ. ตสฺมา กุสา วิย ลุนนฺตีติปิ กุสลา. อตฺตโน ปน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมา. ธาริยนฺติ ¶ วา ปจฺจเยหิ, ธารียนฺติ วา ยถาสภาวโตติ ธมฺมา. น กุสลา อกุสลา. มิตฺตปฏิปกฺขา อมิตฺตา วิย, โลภาทิปฏิปกฺขา อโลภาทโย วิย จ, กุสลปฏิปกฺขาติ อตฺโถ. น พฺยากตาติ อพฺยากตา, กุสลากุสลภาเวน อกถิตาติ อตฺโถ. เตสุ ปน ¶ อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณา กุสลา, สาวชฺชทุกฺขวิปากลกฺขณา อกุสลา, อวิปากลกฺขณา อพฺยากตา.
กึ ปเนตานิ ‘กุสลา’ติ วา ‘ธมฺมา’ติ วาติอาทีนิ เอกตฺถานิ อุทาหุ นานตฺถานีติ? กิฺเจตฺถ? ยทิ ตาว เอกตฺถานิ ‘กุสลา ธมฺมา’ติ อิทํ ‘กุสลากุสลา’ติวุตฺตสทิสํ โหติ. อถ นานตฺถานิ ติกทุกานํ ฉกฺกจตุกฺกภาโว อาปชฺชติ ปทานฺจ อสมฺพนฺโธ.
ยถา หิ ‘กุสลา’ ‘รูปํ’‘จกฺขุมา’ติ วุตฺเต อตฺถวเสน อฺมฺํ อโนโลเกนฺตานํ ปทานํ น โกจิ สมฺพนฺโธ, เอวมิธาปิ ปทานํ อสมฺพนฺโธ อาปชฺชติ. ปุพฺพาปรสมฺพนฺธรหิตานิ จ ปทานิ นิปฺปโยชนานิ นาม โหนฺติ. ยาปิ เจสา ปรโต ‘กตเม ธมฺมา กุสลา’ติ ปุจฺฉา, ตายปิ สทฺธึ วิโรโธ อาปชฺชติ. เนว หิ ธมฺมา กุสลา; อถ จ ปนิทํ วุจฺจติ – กตเม ธมฺมา ‘กุสลา’ติ. อปโร นโย – ยทิ เอตานิ เอกตฺถานิ, ติณฺณํ ‘ธมฺมานํ’ เอกตฺตา กุสลาทีนมฺปิ เอกตฺตํ อาปชฺชติ. กุสลาทิปรานฺหิ ติณฺณมฺปิ ‘ธมฺมานํ’ ธมฺมภาเวน เอกตฺตํ. ตสฺมา ธมฺมตฺตเยน สทฺธึ อตฺถโต นินฺนานตฺถานํ กุสลาทีนมฺปิ เอกตฺตํ อาปชฺชติ. ‘ยเทว กุสลํ, ตํ อกุสลํ, ตํ อพฺยากต’นฺติ. ‘อถาปิ ติณฺณํ ธมฺมานํ เอกตฺตํ น สมฺปฏิจฺฉถ, อฺโว กุสลปโร ธมฺโม, อฺโ ¶ อกุสลปโร ธมฺโม, อฺโ อพฺยากตปโร ธมฺโมติ วทถ, เอวํ สนฺเต ธมฺโม นาม ภาโว, ภาวโต จ อฺโ อภาโวติ กุสลปรา ภาวสงฺขาตา ธมฺมา อฺโ อกุสลปโร ธมฺโม อภาโว สิยา, ตถา อพฺยากตปโร. เตหิ จ อฺโ กุสลปโรปิ. เอวํ อภาวตฺตํ อาปนฺเนหิ ธมฺเมหิ อนฺเ กุสลาทโยปิ อภาวาเยว สิยุ’นฺติ.
สพฺพเมตํ อการณํ. กสฺมา? ยถานุมติโวหารสิทฺธิโตติ. โวหาโร หิ ยถา ยถา อตฺเถสุ อนุมโต สมฺปฏิจฺฉิโต ตถา ตเถว สิทฺโธ. น จายํ ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติอาทีสุ กุสลปุพฺโพ ธมฺมาภิลาโป ธมฺมปโร จ กุสลาภิลาโป, ยถา ‘กุสลา กุสลา’ติ เอวํ, อตฺตโน อตฺถวิเสสาภาเวน ปณฺฑิเตหิ สมฺปฏิจฺฉิโต; น จ ‘กุสลา’ ‘รูปํ’จกฺขุมาสทฺทา วิย อฺมฺํ อโนโลกิตตฺถภาเวน. ‘กุสล’-สทฺโท ปเนตฺถ อนวชฺชสุขวิปากสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส ¶ ¶ โชตกภาเวน สมฺปฏิจฺฉิโต, ‘อกุสล’-สทฺโท สาวชฺชทุกฺขวิปากตฺถโชตกตฺเตน, ‘อพฺยากต’-สทฺโท อวิปากตฺถโชตกตฺเตน, ‘ธมฺม’-สทฺโท สภาวธารณาทิอตฺถโชตกตฺเตน. โส เอเตสํ อฺตรานนฺตเร วุจฺจมาโน อตฺตโน อตฺถสามฺํ ทีเปติ. สพฺเพว หิ เอเต สภาวธารณาทินา ลกฺขเณน ธมฺมา. กุสลาทิสทฺทา จาปิ ธมฺมสทฺทสฺส ปุรโต วุจฺจมานา อตฺตโน อตฺตโน อตฺถวิเสสํ ตสฺส ทีเปนฺติ. ธมฺโม หิ กุสโล วา โหติ อกุสโล วา อพฺยากโต วา. เอวเมเต วิสุํ วิสุํ วุจฺจมานา อตฺตโน อตฺตโน อตฺถมตฺตทีปกตฺเตน สมฺปฏิจฺฉิตา. ธมฺมสทฺเทน สห วุจฺจมานา อตฺตโน อตฺตโน อตฺถสามฺํ อตฺถวิเสสํ วา ทีปกตฺเตน โลเก ปณฺฑิเตหิ สมฺปฏิจฺฉิตา. ตสฺมา ยเทตเมตฺถ เอกตฺถนานาตฺถตํ วิกปฺเปตฺวา โทสาโรปนการณํ วุตฺตํ สพฺพเมตํ อการณํ. อยํ ตาว กุสลตฺติกสฺส อนุปุพฺพปทวณฺณนา. อิมินาว นเยน เสสติกทุกานมฺปิ นโย เวทิตพฺโพ. อิโต ปรํ ปน วิเสสมตฺตเมว วกฺขาม.
๒. สุขาย เวทนายาติอาทีสุ ‘สุข’-สทฺโท ตาว สุขเวทนาสุขมูลสุขารมฺมณสุขเหตุสุขปจฺจยฏฺานอพฺยาพชฺฌนิพฺพานาทีสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘สุขสฺส จ ปหานา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๓๒) สุขเวทนายํ ทิสฺสติ. ‘‘สุโข พุทฺธานํ อุปฺปาโท’’ (ธ. ป. ๑๙๔), ‘‘สุขา วิราคตา โลเก’’ติอาทีสุ (อุทา. ๑๑; มหาว. ๕) สุขมูเล ‘‘ยสฺมา ¶ จ โข, มหาลิ, รูปํ สุขํ สุขานุปติตํ สุขาวกฺกนฺต’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๖๐) สุขารมฺมเณ. ‘‘สุขสฺเสตํ, ภิกฺขเว, อธิวจนํ ยทิทํ ปฺุานี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๖๒) สุขเหตุมฺหิ. ‘‘ยาวฺจิทํ, ภิกฺขเว, น สุกรํ อกฺขาเนน ปาปุณิตุํ ยาว สุขา สคฺคา’’ (ม. นิ. ๓.๒๕๕), ‘‘น เต สุขํ ปชานนฺติ เย น ปสฺสนฺติ นนฺทน’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๑) สุขปจฺจยฏฺาเน. ‘‘ทิฏฺธมฺมสุขวิหารา เอเต ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๘๒) อพฺยาพชฺเฌ. ‘‘นิพฺพานํ ปรมํ สุข’’นฺติอาทิสุ (ธ. ป. ๒๐๓-๒๐๔) นิพฺพาเน. อิธ ปนายํ สุขเวทนายเมว ทฏฺพฺโพ. ‘เวทนา’-สทฺโท ‘‘วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๐๘) เวทยิตสฺมึเยว วตฺตติ.
‘ทุกฺข’-สทฺโท ¶ ทุกฺขเวทนาทุกฺขวตฺถุทุกฺขารมฺมณทุกฺขปจฺจยทุกฺขปจฺจยฏฺานาทีสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘ทุกฺขสฺส จ ปหานา’’ติอาทีสุ ทุกฺขเวทนายํ ทิสฺสติ. ‘‘ชาติปิ ทุกฺขา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๘๗; วิภ. ๑๙๐) ทุกฺขวตฺถุสฺมึ. ‘‘ยสฺมา จ โข, มหาลิ, รูปํ ทุกฺขํ ทุกฺขานุปติตํ ทุกฺขาวกฺกนฺต’’นฺติอาทีสุ ทุกฺขารมฺมเณ. ‘‘ทุกฺโข ปาปสฺส ¶ อุจฺจโย’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๑๗) ทุกฺขปจฺจเย. ‘‘ยาวฺจิทํ, ภิกฺขเว, น สุกรํ อกฺขาเนน ปาปุณิตุํ ยาว ทุกฺขา นิรยา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๕๐) ทุกฺขปจฺจยฏฺาเน. อิธ ปนายํ ทุกฺขเวทนายเมว ทฏฺพฺโพ.
วจนตฺโถ ปเนตฺถ – สุขยตีติ สุขา. ทุกฺขยตีติ ทุกฺขา. น ทุกฺขา น สุขาติ อทุกฺขมสุขา. ‘ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต. สพฺพาปิ อารมฺมณรสํ เวทยนฺติ อนุภวนฺตีติ เวทนา. ตาสุ อิฏฺานุภวนลกฺขณา สุขา, อนิฏฺานุภวนลกฺขณา ทุกฺขา, อุภยวิปรีตานุภวนลกฺขณา อทุกฺขมสุขา. โยปนายํ ตีสุปิ ปเทสุ ‘สมฺปยุตฺต’-สทฺโท, ตสฺสตฺโถ – สมํ ปกาเรหิ ยุตฺตาติ สมฺปยุตฺตา. กตเรหิ ปกาเรหีติ? เอกุปฺปาทตาทีหิ. ‘‘นตฺถิ ¶ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สมฺปยุตฺตาติ? อามนฺตา’’ติ หิ อิมสฺส ปฺหสฺส ปฏิกฺเขเป ‘‘นนุ อตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สหคตา สหชาตา สํสฏฺา เอกุปฺปาทา เอกนิโรธา เอกวตฺถุกา เอการมฺมณา’’ติ (กถา. ๔๗๓) เอวํ เอกุปฺปาทตาทีนํ วเสน สมฺปโยคตฺโถ วุตฺโต. อิติ อิเมหิ เอกุปฺปาทตาทีหิ สมํ ปกาเรหิ ยุตฺตาติ สมฺปยุตฺตา.
๓. วิปากตฺติเก อฺมฺวิสิฏฺานํ กุสลากุสลานํ ปากาติ วิปากา. วิปกฺกภาวมาปนฺนานํ อรูปธมฺมานเมตํ อธิวจนํ. วิปากธมฺมธมฺมาติ วิปากสภาวธมฺมา. ยถา ชาติชราสภาวา ชาติชราปกติกา สตฺตา ชาติธมฺมา ชราธมฺมาติ วุจฺจนฺติ เอวํ วิปากชนกฏฺเน วิปากสภาวา วิปากปกติกา ธมฺมาติ อตฺโถ. ตติยปทํ อุภยสภาวปฏิกฺเขปวเสน วุตฺตํ.
๔. อุปาทินฺนุปาทานิยตฺติเก อารมฺมณกรณวเสน ตณฺหาทิฏฺีหิ อุเปเตน กมฺมุนา อาทินฺนา, ผลภาเวน คหิตาติ อุปาทินฺนา. อารมฺมณภาวํ ¶ อุปคนฺตฺวา อุปาทานสมฺพนฺเธน อุปาทานานํ หิตาติ อุปาทานิยา. อุปาทานสฺส อารมฺมณปจฺจยภูตานเมตํ อธิวจนํ. อุปาทิณฺณา จ เต อุปาทานิยา จาติ อุปาทิณฺณุปาทานิยา; สาสวกมฺมนิพฺพตฺตานํ รูปารูปธมฺมานเมตํ อธิวจนํ. อิติ อิมินา นเยน เสสปททฺวเยปิ ปฏิเสธสหิโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๕. สํกิลิฏฺสํกิเลสิกตฺติเก สํกิเลเสตีติ สํกิเลโส, วิพาธติ, อุปตาเปติ จาติ อตฺโถ. สํกิเลเสน สมนฺนาคตาติ สํกิลิฏฺา. อตฺตานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตเนน สํกิเลสํ อรหนฺติ ¶ , สํกิเลเส วา นิยุตฺตา, ตสฺส อารมฺมณภาวานติกฺกมนโตติ สํกิเลสิกา. สํกิเลสสฺส อารมฺมณปจฺจยภูตานเมตํ อธิวจนํ. สํกิลิฏฺา จ เต สํกิเลสิกา จาติ สํกิลิฏฺสํกิเลสิกา. เสสปททฺวยมฺปิ ปุริมตฺติเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๖. วิตกฺกตฺติเก ¶ สมฺปโยควเสน วตฺตมาเนน สห วิตกฺเกน สวิตกฺกา. สห วิจาเรน สวิจารา. สวิตกฺกา จ เต สวิจารา จาติ สวิตกฺกสวิจารา. อุภยรหิตา อวิตกฺกอวิจารา. วิตกฺกวิจาเรสุ วิจาโรว มตฺตา, ปมาณํ, เอเตสนฺติ วิจารมตฺตา. วิจารโต อุตฺตริ วิตกฺเกน สทฺธึ สมฺปโยคํ น คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. อวิตกฺกา จ เต วิจารมตฺตา จาติ อวิตกฺกวิจารมตฺตา.
๗. ปีติตฺติเก ปีติยา สห เอกุปฺปาทาทิภาวํ คตาติ ปีติสหคตา, ปีติสมฺปยุตฺตาติ อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อุเปกฺขาติ เจตฺถ อทุกฺขมสุขา เวทนา วุตฺตา. สา หิ สุขทุกฺขาการปฺปวตฺตึ อุเปกฺขติ, มชฺฌตฺตาการสณฺิตตฺตา เตนากาเรน ปวตฺตตีติ อุเปกฺขา. อิติ เวทนาตฺติกโต ปททฺวยเมว คเหตฺวา นิปฺปีติกสฺส สุขสฺส สปฺปีติกสุขโต วิเสสทสฺสนวเสน อยํ ติโก วุตฺโต.
๘. ทสฺสนตฺติเก ทสฺสเนนาติ โสตาปตฺติมคฺเคน. โส หิ ปมํ นิพฺพานํ ทสฺสนโต ทสฺสนนฺติ วุตฺโต. โคตฺรภุ ปน กิฺจาปิ ปมตรํ ปสฺสติ, ยถา ปน รฺโ สนฺติกํ เกนจิเทว กรณีเยน อาคโต ปุริโส ทูรโตว รถิกาย จรนฺตํ หตฺถิกฺขนฺธคตํ ราชานํ ทิสฺวาปิ ‘ทิฏฺโ เต ¶ ราชา’ติ ปุฏฺโ ทิสฺวาปิ กตฺตพฺพกิจฺจสฺส อกตตฺตา ‘น ปสฺสามี’ติ อาห. เอวเมว นิพฺพานํ ทิสฺวาปิ กตฺตพฺพสฺส กิเลสปฺปหานสฺสาภาวา น ทสฺสนนฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ าณํ มคฺคสฺส อาวชฺชนฏฺาเน ติฏฺติ. ภาวนายาติ เสสมคฺคตฺตเยน. เสสมคฺคตฺตยฺหิ ปมมคฺเคน ทิฏฺสฺมึเยว ธมฺเม ภาวนาวเสน อุปฺปชฺชติ, อทิฏฺปุพฺพํ กิฺจิ น ปสฺสติ, ตสฺมา ภาวนาติ วุจฺจติ. ตติยปทํ อุภยปฏิกฺเขปวเสน วุตฺตํ.
๙. ตทนนฺตรตฺติเก ทสฺสเนน ปหาตพฺโพ เหตุ เอเตสนฺติ ทสฺสเนน ปหาตพฺพเหตุกา. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. ตติยปเท เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺโพ เหตุ เอเตสนฺติ เอวมตฺถํ อคฺคเหตฺวา เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺโพ เหตุ เอเตสํ อตฺถีติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ ¶ ¶ . อิตรถา หิ อเหตุกานํ อคฺคหณํ ภเวยฺย; เหตุเยว หิ เตสํ นตฺถิ โย ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺโพ สิยา. สเหตุเกสุปิ เหตุวชฺชานํ ปหานํ อาปชฺชติ, น เหตูนํ; เหตุเยว หิ เอเตสํ ‘เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺโพ’ติ วุตฺโต, น เต ธมฺมา. อุภยมฺปิ เจตํ อนธิปฺเปตํ. ตสฺมา เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺโพ เหตุ เอเตสํ อตฺถีติ เนวทสฺสเนน นภาวนาย ปหาตพฺพเหตุกาติ อยมตฺโถ คเหตพฺโพ.
๑๐. อาจยคามิตฺติเก กมฺมกิเลเสหิ อาจิยตีติ อาจโย. ปฏิสนฺธิจุติคติปฺปวตฺตานํ เอตํ นามํ. ตสฺส การณํ หุตฺวา นิปฺผาทนกภาเวน ตํ อาจยํ คจฺฉนฺติ, ยสฺส วา ปวตฺตนฺติ ตํ ปุคฺคลํ ยถาวุตฺตเมว อาจยํ คเมนฺตีติปิ อาจยคามิโน; สาสวกุสลากุสลานํ เอตํ อธิวจนํ. ตโต เอว อาจยสงฺขาตา จยา อเปตตฺตา, นิพฺพานํ อเปตํ จยาติ อปจโย. ตํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตนโต อปจยํ คจฺฉนฺตีติ อปจยคามิโน; อริยมคฺคานเมตํ อธิวจนํ. อปิจ ปาการํ อิฏฺกวฑฺฒกี วิย ปวตฺตํ อาจินนฺตา คจฺฉนฺตีติ อาจยคามิโน. เตน จิตํ จิตํ อิฏฺกํ วิทฺธํสยมาโน ปุริโส วิย ตเทว ปวตฺตํ อปจินนฺตา คจฺฉนฺตีติ อปจยคามิโน. ตติยปทํ อุภยปฏิกฺเขเปน วุตฺตํ.
๑๑. เสกฺขตฺติเก ตีสุ สิกฺขาสุ ชาตาติ เสกฺขา. สตฺตนฺนํ เสกฺขานํ เอเตติปิ เสกฺขา. อปริโยสิตสิกฺขตฺตา สยเมว สิกฺขนฺตีติปิ เสกฺขา ¶ . อุปริ สิกฺขิตพฺพาภาวโต น เสกฺขาติ อเสกฺขา. วุฑฺฒิปฺปตฺตา วา เสกฺขาติปิ อเสกฺขา. อรหตฺตผลธมฺมานํ เอตํ อธิวจนํ. ตติยปทํ อุภยปฏิกฺเขเปน วุตฺตํ.
๑๒. ปริตฺตตฺติเก สมนฺตโต ขณฺฑิตตฺตา อปฺปมตฺตกํ ปริตฺตนฺติ วุจฺจติ; ‘ปริตฺตํ โคมยปิณฺฑ’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๙๖) วิย. อิเมปิ อปฺปานุภาวตาย ปริตฺตา วิยาติ ปริตฺตา; กามาวจรธมฺมานเมตํ อธิวจนํ. กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺถตาย วิปุลผลตาย ทีฆสนฺตานตาย จ มหนฺตภาวํ คตา, มหนฺเตหิ วา อุฬารจฺฉนฺทวีริยจิตฺตปฺเหิ คตา ปฏิปนฺนาติปิ มหคฺคตา. ปมาณกรา ¶ ธมฺมา ราคาทโย ปมาณํ นาม. อารมฺมณโต วา สมฺปโยคโต วา นตฺถิ เอเตสํ ปมาณํ, ปมาณสฺส จ ปฏิปกฺขาติ อปฺปมาณา.
๑๓. ปริตฺตารมฺมณตฺติเก ¶ ปริตฺตํ อารมฺมณํ เอเตสนฺติ ปริตฺตารมฺมณา. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.
๑๔. หีนตฺติเก หีนาติ ลามกา อกุสลา ธมฺมา. หีนปฺปณีตานํ มชฺเฌ ภวาติ มชฺฌิมา. อวเสสา เตภูมกา ธมฺมา อุตฺตมฏฺเน อตปฺปกฏฺเน จ ปณีตา; โลกุตฺตรา ธมฺมา.
๑๕. มิจฺฉตฺตตฺติเก ‘หิตสุขาวหา เม ภวิสฺสนฺตี’ติ เอวํ อาสีสิตาปิ ตถา อภาวโต, ‘อสุภาทีสุเยว สุภ’นฺติอาทิ วิปรีตปฺปวตฺติโต จ มิจฺฉาสภาวาติ มิจฺฉตฺตา; วิปากทาเน สติ ขนฺธเภทานนฺตรเมว วิปากทานโต นิยตา; มิจฺฉตฺตา จ เต นิยตา จาติ มิจฺฉตฺตนิยตา. วุตฺตวิปรีเตน อตฺเถน สมฺมาสภาวาติ สมฺมตฺตา; สมฺมตฺตา จ เต นิยตา จ อนนฺตรเมว ผลทาเนนาติ สมฺมตฺตนิยตา. อุภยถาปิ น นิยตาติ อนิยตา.
๑๖. มคฺคารมฺมณตฺติเก นิพฺพานํ มคฺคติ, คเวสติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโค. มคฺโค อารมฺมณํ เอเตสนฺติ มคฺคารมฺมณา. อฏฺงฺคิโกปิ มคฺโค ปจฺจยฏฺเน เอเตสํ เหตูติ มคฺคเหตุกา. มคฺคสมฺปยุตฺตา วา เหตู มคฺเค วา เหตูติ มคฺคเหตู. เต เอเตสํ เหตูติปิ ¶ มคฺคเหตุกา. สมฺมาทิฏฺิ สยํ มคฺโค เจว เหตุ จ. อิติ มคฺโค เหตุ เอเตสนฺติปิ มคฺคเหตุกา. อภิภวิตฺวา ปวตฺตนฏฺเน มคฺโค อธิปติ เอเตสนฺติ มคฺคาธิปติโน.
๑๗. อุปฺปนฺนตฺติเก อุปฺปาทโต ปฏฺาย ยาว ภงฺคา อุทฺธํ ปนฺนา คตา ปวตฺตาติ อุปฺปนฺนา. น อุปฺปนฺนาติ อนุปฺปนฺนา. ปรินิฏฺิตการเณกเทสตฺตา อวสฺสํ อุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ อุปฺปาทิโน.
๑๘. อตีตตฺติเก อตฺตโน สภาวํ อุปฺปาทาทิกฺขณํ วา ปตฺวา อติกฺกนฺตาติ อตีตา. ตทุภยมฺปิ น อาคตาติ อนาคตา. ตํ ตํ การณํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนาติ ปจฺจุปฺปนฺนา.
๑๙. อนนฺตรตฺติเก อตีตํ อารมฺมณํ เอเตสนฺติ อตีตารมฺมณา. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.
๒๐. อชฺฌตฺตตฺติเก ¶ ‘เอวํ ปวตฺตมานา มยํ อตฺตา’ติ คหณํ, ‘คมิสฺสามา’ติ อิมินา วิย ¶ อธิปฺปาเยน อตฺตานํ อธิการํ กตฺวา ปวตฺตาติ อชฺฌตฺตา. ‘อชฺฌตฺต’-สทฺโท ปนายํ โคจรชฺฌตฺเต นิยกชฺฌตฺเต อชฺฌตฺตชฺฌตฺเต วิสยชฺฌตฺเตติ จตูสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. ‘‘เตนานนฺท, ภิกฺขุนา ตสฺมึเยว ปุริมสฺมึ สมาธินิมิตฺเต อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ’’ (ม. นิ. ๓.๑๘๘), ‘‘อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๖๒) หิ อยํ โคจรชฺฌตฺเต ทิสฺสติ. ‘‘อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ’’ (ที. นิ. ๑.๒๒๘; ธ. ส. ๑๖๑), ‘‘อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๗๓) นิยกชฺฌตฺเต. ‘‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๐๔) อชฺฌตฺตชฺฌตฺเต. ‘‘อยํ โข ปนานนฺท, วิหาโร ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ ยทิทํ สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อชฺฌตฺตํ สฺุตํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๘๗) วิสยชฺฌตฺเต; อิสฺสริยฏฺาเนติ อตฺโถ. ผลสมาปตฺติ หิ พุทฺธานํ อิสฺสริยฏฺานํ นาม. อิธ ปน นิยกชฺฌตฺเต อธิปฺเปโต. ตสฺมา อตฺตโน สนฺตาเน ปวตฺตา ปาฏิปุคฺคลิกา ธมฺมา อชฺฌตฺตาติ เวทิตพฺพา. ตโต พาหิรภูตา ปน อินฺทฺริยพทฺธา วา อนินฺทฺริยพทฺธา วา พหิทฺธา นาม. ตติยปทํ ตทุภยวเสน วุตฺตํ.
๒๑. อนนฺตรตฺติโก ¶ เตเยว ติปฺปกาเรปิ ธมฺเม อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตนวเสน วุตฺโต.
๒๒. สนิทสฺสนตฺติเก ทฏฺพฺพภาวสงฺขาเตน สห นิทสฺสเนนาติ สนิทสฺสนา. ปฏิหนนภาวสงฺขาเตน สห ปฏิเฆนาติ สปฺปฏิฆา. สนิทสฺสนา จ เต สปฺปฏิฆา จาติ สนิทสฺสนสปฺปฏิฆา. นตฺถิ เอเตสํ ทฏฺพฺพภาวสงฺขาตํ นิทสฺสนนฺติ อนิทสฺสนา. อนิทสฺสนา จ เต วุตฺตนเยเนว สปฺปฏิฆา จาติ อนิทสฺสนสปฺปฏิฆา. ตติยปทํ อุภยปฏิกฺเขเปน วุตฺตํ. อยํ ตาว ติกมาติกาย อนุปุพฺพปทวณฺณนา.
ติกมาติกาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.