📜
กามาวจรกุสลปทภาชนียํ
๑. อิทานิ ¶ ¶ ยถานิกฺขิตฺตาย มาติกาย สงฺคหิเต ธมฺเม ปเภทโต ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา กุสลาติ อิทํ ปทภาชนียํ อารทฺธํ. ตตฺถ ยเทตํ ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตีติ ปมํ กามาวจรกุสลํ ทสฺสิตํ, ตสฺส ตาว นิทฺเทเส ธมฺมววตฺถานวาโร ¶ สงฺคหวาโร สฺุตวาโรติ ตโย มหาวารา โหนฺติ. เตสุ ธมฺมววตฺถานวาโร อุทฺเทสนิทฺเทสวเสน ทฺวิธา ิโต. เตสุ อุทฺเทสวารสฺส ปุจฺฉา, สมยนิทฺเทโส, ธมฺมุทฺเทโส, อปฺปนาติ จตฺตาโร ปริจฺเฉทา. เตสุ ‘กตเม ธมฺมา กุสลา’ติ อยํ ปุจฺฉา นาม. ‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ…เป… ตสฺมึ สมเย’ติ อยํ สมยนิทฺเทโส นาม. ‘ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตี’ติ อยํ ธมฺมุทฺเทโส นาม. ‘เย วา ปน ตสฺมึ สมเย อฺเปิ อตฺถิ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา อรูปิโน ธมฺมา อิเม ธมฺมา กุสลา’ติ อยํ อปฺปนา นาม.
เอวํ จตูหิ ปริจฺเฉเทหิ ิตสฺส อุทฺเทสวารสฺส ยฺวายํ ปโม ปุจฺฉาปริจฺเฉโท, ตตฺถ ‘กตเม ธมฺมา กุสลา’ติ อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ปฺจวิธาหิ ปุจฺฉา – อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา, ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา, วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา, อนุมติปุจฺฉา, กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ. ตาสํ อิทํ นานตฺตํ –
กตมา อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา? ปกติยา ลกฺขณํ อฺาตํ โหติ, อทิฏฺํ อตุลิตํ อตีริตํ อวิภูตํ อวิภาวิตํ. ตสฺส าณาย ทสฺสนาย ตุลนาย ตีรณาย วิภูตตฺถาย วิภาวนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. อยํ อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา (มหานิ. ๑๕๐; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๒).
กตมา ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา? ปกติยา ลกฺขณํ าตํ โหติ, ทิฏฺํ ตุลิตํ ตีริตํ วิภูตํ วิภาวิตํ, โส อฺเหิ ปณฺฑิเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. อยํ ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา (มหานิ. ๑๕๐; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๒).
กตมา ¶ วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา? ปกติยา สํสยปกฺขนฺโท โหติ, วิมติปกฺขนฺโท ทฺเวฬฺหกชาโต – ‘เอวํ นุ โข, นนุ โข, กึ นุ โข, กถํ นุ โข’ติ. โส วิมติจฺเฉทนตฺถาย ¶ ปฺหํ ปุจฺฉติ. อยํ วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา (มหานิ. ๑๕๐; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๒).
กตมา อนุมติปุจฺฉา? ภควา ภิกฺขูนํ อนุมติยา ปฺหํ ปุจฺฉติ – ‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’ติ? ‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’. ‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’ติ? ‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’ ¶ . ‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ? ‘โนเหตํ, ภนฺเต’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙; มหาว. ๒๑). อยํ อนุมติปุจฺฉา.
กตมา กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา? ภควา ภิกฺขูนํ กเถตุกมฺยตาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, สติปฏฺานา. กตเม จตฺตาโร’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๗๓)? อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ.
ตตฺถ พุทฺธานํ ปุริมา ติสฺโส ปุจฺฉา นตฺถิ. กสฺมา? พุทฺธานฺหิ ตีสุ อทฺธาสุ กิฺจิ สงฺขตํ, อทฺธาวิมุตฺตํ วา อสงฺขตํ, อทิฏฺํ อนฺาตํ อโชติตํ อตุลิตํ อตีริตํ อวิภูตํ อวิภาวิตํ นาม นตฺถิ. เตน เตสํ อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา นตฺถิ. ยํ ปน ภควตา อตฺตโน าเณน ปฏิวิทฺธํ, ตสฺส อฺเน สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา สทฺธึ สํสนฺทนกิจฺจํ นตฺถิ. เตนสฺส ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา นตฺถิ. ยสฺมา ปเนส อกถํกถี ติณฺณวิจิกิจฺโฉ สพฺพธมฺเมสุ วิหตสํสโย, เตนสฺส วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา นตฺถิ. อิตรา ทฺเว ปน ปุจฺฉา ภควโต อตฺถิ. ตาสุ อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ เวทิตพฺพา.
ตตฺถ ‘กตเม’ติปเทน นิทฺทิสิตพฺพธมฺเม ปุจฺฉติ. ‘ธมฺมา กุสลา’ติ หิ วจนมตฺเตน ‘กึ กตา กึ วา กโรนฺตี’ติ น สกฺกา าตุํ. ‘กตเม’ติ วุตฺเต ปน เตสํ ปุฏฺภาโว ปฺายติ. เตน วุตฺตํ ‘กตเมติปเทน นิทฺทิสิตพฺพธมฺเม ปุจฺฉตี’ติ. ‘ธมฺมา กุสลา’ติปททฺวเยน ปุจฺฉาย ปุฏฺธมฺเม ทสฺเสติ. เตสํ อตฺโถ เหฏฺา ปกาสิโตว.
กสฺมา ปเนตฺถ มาติกายํ วิย ‘กุสลา ธมฺมา’ติ อวตฺวา ‘ธมฺมา กุสลา’ติ ปทานุกฺกโม กโตติ? ปเภทโต ธมฺมานํ เทสนํ ทีเปตฺวา ปเภทวนฺตทสฺสนตฺถํ. อิมสฺมิฺหิ อภิธมฺเม ¶ ธมฺมาว เทเสตพฺพา. เต จ กุสลาทีหิ ปเภเทหิ อเนกปฺปเภทา. ตสฺมา ธมฺมาเยว อิธ เทเสตพฺพา ¶ . นายํ โวหารเทสนา. เต จ อเนกปฺปเภทโต เทเสตพฺพา, น ธมฺมมตฺตโต. ปเภทโต หิ เทสนา ฆนวินิพฺโภคปฏิสมฺภิทาาณาวหา โหตีติ ‘กุสลา ธมฺมา’ติ เอวํ ปเภทโต ธมฺมานํ เทสนํ ทีเปตฺวา, อิทานิ เย เตน ปเภเทน เทเสตพฺพา ธมฺมา เต ¶ ทสฺเสตุํ, อยํ ‘กตเม ธมฺมา กุสลา’ติ ปทานุกฺกโม กโตติ เวทิตพฺโพ. ปเภทวนฺเตสุ หิ ทสฺสิเตสุ ปเภโท ทสฺสิยมาโน ยุชฺชติ สุวิฺเยฺโย จ โหตีติ.
อิทานิ ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตนฺติ. เอตฺถ –
สมเย นิทฺทิสิ จิตฺตํ, จิตฺเตน สมยํ มุนิ;
นิยเมตฺวาน ทีเปตุํ, ธมฺเม ตตฺถ ปเภทโต.
‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺต’นฺติ หิ นิทฺทิสนฺโต ภควา สมเย จิตฺตํ นิทฺทิสิ. กึการณา? เตน สมยนิยมิเตน จิตฺเตน ปริโยสาเน ‘ตสฺมึ สมเย’ติ เอวํ สมยํ นิยเมตฺวาน, อถ วิชฺชมาเนปิ สมยนานตฺเต ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ตสฺมึเยว สมเย ผสฺโส โหติ, เวทนา โหตีติ เอวํ ตสฺมึ จิตฺตนิยมิเต สมเย เอเต สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณฆนวเสน ทุรนุโพธปฺปเภเท ผสฺสเวทนาทโย ธมฺเม โพเธตุนฺติ อตฺโถ.
อิทานิ ‘ยสฺมึ สมเย’ติอาทีสุ อยมนุปุพฺพปทวณฺณนา. ยสฺมินฺติ อนิยมโต ภุมฺมนิทฺเทโส. สมเยติ อนิยมนิทฺทิฏฺปริทีปนํ. เอตฺตาวตา อนิยมโต สมโย นิทฺทิฏฺโ โหติ. ตตฺถ สมยสทฺโท –
สมวาเย ขเณ กาเล, สมูเห เหตุ ทิฏฺิสุ;
ปฏิลาเภ ปหาเน จ, ปฏิเวเธ จ ทิสฺสติ.
ตถา หิสฺส ‘‘อปฺเปว นาม สฺเวปิ อุปสงฺกเมยฺยาม กาลฺจ สมยฺจ อุปาทายา’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๔๗) เอวมาทีสุ สมวาโย อตฺโถ. ‘‘เอโกว โข, ภิกฺขเว, ขโณ จ สมโย จ พฺรหฺมจริยวาสายา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๒๙) ขโณ. ‘‘อุณฺหสมโย ปริฬาหสมโย’’ติอาทีสุ ¶ (ปาจิ. ๓๕๘) กาโล. ‘‘มหาสมโย ปวนสฺมิ’’นฺติอาทีสุ สมูโห. ‘‘สมโยปิ โข เต, ภทฺทาลิ, อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ ¶ – ภควา โข สาวตฺถิยํ วิหรติ, ภควาปิ มํ ชานิสฺสติ ‘ภทฺทาลิ นาม ภิกฺขุ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี’ติ. อยมฺปิ โข เต, ภทฺทาลิ, สมโย อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๓๕) เหตุ. ‘‘เตน โข ปน สมเยน อุคฺคาหมาโน ปริพฺพาชโก สมณมุณฺฑิกาปุตฺโต ¶ สมยปฺปวาทเก ตินฺทุกาจีเร เอกสาลเก มลฺลิกาย อาราเม ปฏิวสตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๒๖๐) ทิฏฺิ.
‘‘ทิฏฺเ ธมฺเม จ โย อตฺโถ, โย จตฺโถ สมฺปรายิโก;
อตฺถาภิสมยา ธีโร, ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๒๙) –
อาทีสุ ปฏิลาโภ. ‘‘สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๘) ปหานํ. ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ สงฺขตฏฺโ สนฺตาปฏฺโ วิปริณามฏฺโ อภิสมยฏฺโ’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๒.๘) ปฏิเวโธ. เอวมเนเกสุ สมเยสุ –
สมวาโย ขโณ กาโล, สมูโห เหตุเยว จ;
เอเต ปฺจปิ วิฺเยฺยา, สมยา อิธ วิฺุนา.
‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสล’นฺติ อิมสฺมิฺหิ กุสลาธิกาเร เตสุ นวสุ สมเยสุ เอเต สมวายาทโย ปฺจ สมยา ปณฺฑิเตน เวทิตพฺพา.
เตสุ ปจฺจยสามคฺคี, สมวาโย ขโณ ปน;
เอโกว นวโม เยฺโย, จกฺกานิ จตุโรปิ วา.
ยา หิ เอสา สาธารณผลนิปฺผาทกตฺเตน สณฺิตา ปจฺจยานํ สามคฺคี, สา อิธ สมวาโยติ าตพฺพา. ‘‘เอโกว โข, ภิกฺขเว, ขโณ จ สมโย จ พฺรหฺมจริยวาสายา’’ติ (อ. นิ. ๘.๒๙) เอวํ วุตฺโต ปน นวโมว ขโณ เอโก ขโณติ เวทิตพฺโพ. ยานิ วา ¶ ปเนตานิ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ วตฺตตี’’ติ – เอตฺถ ‘ปติรูปเทสวาโส, สปฺปุริสูปนิสฺสโย, อตฺตสมฺมาปณิธิ, ปุพฺเพ จ กตปฺุตา’ติ (อ. นิ. ๔.๓๑) จตฺตาริ จกฺกานิ วุตฺตานิ, เอตานิ ¶ วา เอกชฺฌํ กตฺวา โอกาสฏฺเน ขโณติ เวทิตพฺพานิ. ตานิ หิ กุสลุปฺปตฺติยา โอกาสภูตานิ.
เอวํ สมวายฺจ ขณฺจ ตฺวา อิตเรสุ –
ตํ ตํ อุปาทาย ปฺตฺโต, กาโล โวหารมตฺตโก;
ปฺุโช ผสฺสาทิธมฺมานํ, สมูโหติ วิภาวิโต.
‘จิตฺตกาโล รูปกาโล’ติอาทินา หิ นเยน ธมฺเม วา, ‘อตีโต อนาคโต’ติอาทินา นเยน ธมฺมวุตฺตึ วา, ‘พีชกาโล องฺกุรกาโล’ติ อาทินา นเยน ธมฺมปฏิปาฏึ วา, ‘อุปฺปาทกาโล ¶ ชรากาโล’ติอาทินา นเยน ธมฺมลกฺขณํ วา, ‘เวทิยนกาโล สฺชานนกาโล’ติอาทินา นเยน ธมฺมกิจฺจํ วา, ‘นฺหานกาโล ปานกาโล’ติอาทินา นเยน สตฺตกิจฺจํ วา, ‘คมนกาโล านกาโล’ติอาทินา นเยน อิริยาปถํ วา, ‘ปุพฺพณฺโห สายนฺโห ทิวา รตฺตี’ติอาทินา นเยน จนฺทิมสูริยาทิปริวตฺตนํ วา, ‘อฑฺฒมาโส มาโส’ติอาทินา นเยน อโหรตฺตาทิสงฺขาตํ กาลสฺจยํ วาติ – เอวํ ตํ ตํ อุปาทาย ปฺตฺโต กาโล นาม. โส ปเนส สภาวโต อวิชฺชมานตฺตา ปฺตฺติมตฺตโก เอวาติ เวทิตพฺโพ. โย ปเนส ผสฺสเวทนาทีนํ ธมฺมานํ ปฺุโช, โส อิธ สมูโหติ วิภาวิโต. เอวํ กาลสมูเหปิ ตฺวา อิตโร ปน –
เหตูติ ปจฺจโยเวตฺถ, ตสฺส ทฺวารวเสน วา;
อเนกภาโว วิฺเยฺโย, ปจฺจยานํ วเสน วา.
เอตฺถ หิ ปจฺจโยว เหตุ นาม, ตสฺส ทฺวารานํ วา ปจฺจยานํ วา วเสน อเนกภาโว เวทิตพฺโพ. กถํ? จกฺขุทฺวาราทีสุ หิ อุปฺปชฺชมานานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ จกฺขุรูปอาโลกมนสิการาทโย ปจฺจยา, มหาปกรเณ จ ‘‘เหตุปจฺจโย อารมฺมณปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน จตุวีสติ ปจฺจยา วุตฺตา. เตสุ เปตฺวา วิปากปจฺจยฺจ ปจฺฉาชาตปจฺจยฺจ, เสสา กุสลธมฺมานํ ปจฺจยา โหนฺติเยว. เต สพฺเพปิ อิธ เหตูติ อธิปฺเปตา. เอวมสฺส อิมินา ทฺวารวเสน ¶ วา ปจฺจยวเสน วา อเนกภาโว เวทิตพฺโพ ¶ . เอวเมเต สมวายาทโย ปฺจ อตฺถา อิธ สมยสทฺเทน ปริคฺคหิตาติ เวทิตพฺพา.
‘กสฺมา ปน เอเตสุ ยํกิฺจิ เอกํ อปริคฺคเหตฺวา สพฺเพสํ ปริคฺคโห กโต’ติ? ‘เตน เตน ตสฺส ตสฺส อตฺถวิเสสสฺส ทีปนโต. เอเตสุ หิ สมวายสงฺขาโต สมโย อเนกเหตุโต วุตฺตึ ทีเปติ. เตน เอกการณวาโท ปฏิเสธิโต โหติ. สมวาโย จ นาม สาธารณผลนิปฺผาทเน อฺมฺาเปกฺโข โหติ. ตสฺมา ‘เอโก กตฺตา นาม นตฺถี’ติ อิมมฺปิ อตฺถํ ทีเปติ. สภาเวน หิ การเณ สติ การณนฺตราเปกฺขา อยุตฺตาติ. เอวํ เอกสฺส กสฺสจิ การณสฺส อภาวทีปเนน ‘‘สยํกตํ สุขทุกฺข’’นฺติอาทิ ปฏิเสธิตํ โหติ.
ตตฺถ สิยา – ‘ยํ วุตฺตํ อเนกเหตุโต วุตฺตึ ทีเปตี’ติ, ตํ น ยุตฺตํ. ‘กึการณา’ ¶ ?‘อสามคฺคิยํ อเหตูนํ สามคฺคิยมฺปิ อเหตุภาวาปตฺติโต’. ‘น หิ เอกสฺมึ อนฺเธ ทฏฺุํ อสกฺโกนฺเต อนฺธสตํ ปสฺสตี’ติ. ‘โน น ยุตฺตํ; สาธารณผลนิปฺผาทกตฺเตน หิ ิตภาโว สามคฺคี; น อเนเกสํ สโมธานมตฺตํ. น จ อนฺธานํ ทสฺสนํ นาม สาธารณผลํ’. ‘กสฺมา’?‘อนฺธสเต สติปิ ตสฺส อภาวโต. จกฺขาทีนํ ปน ตํ สาธารณผลํ, เตสํ ภาเว ภาวโต. อสามคฺคิยํ อเหตูนมฺปิ จ สามคฺคิยํ เหตุภาโว สิทฺโธ. สฺวายํ อสามคฺคิยํ ผลาภาเวน, สามคฺคิยฺจสฺส ภาเวน, เวทิตพฺโพ. จกฺขาทีนฺหิ เวกลฺเล จกฺขุวิฺาณาทีนํ อภาโว, อเวกลฺเล จ ภาโว, ปจฺจกฺขสิทฺโธ โลกสฺสา’ติ. อยํ ตาว สมวายสงฺขาเตน สมเยน อตฺโถ ทีปิโต.
โย ปเนส อฏฺหิ อกฺขเณหิ ปริวชฺชิโต นวโม ขโณ, ปติรูปเทสวาสาทิโก จ จตุจกฺกสงฺขาโต โอกาสฏฺเน ขโณ วุตฺโต, โส มนุสฺสตฺตพุทฺธุปฺปาทสทฺธมฺมฏฺิติอาทิกํ ขณสามคฺคึ วินา นตฺถิ. มนุสฺสตฺตาทีนฺจ กาณกจฺฉโปปมาทีหิ (ม. นิ. ๓.๒๕๒) ทุลฺลภภาโว. อิติ ขณสฺส ทุลฺลภตฺตา สุฏฺุตรํ ขณายตฺตํ โลกุตฺตรธมฺมานํ อุปการภูตํ กุสลํ ทุลฺลภเมว ¶ . เอวเมเตสุ ขณสงฺขาโต สมโย กุสลุปฺปตฺติยา ทุลฺลภภาวํ ทีเปติ. เอวํ ทีเปนฺเตน อเนน อธิคตขณานํ ขณายตฺตสฺเสว ตสฺส กุสลสฺส อนนุฏฺาเนน โมฆขณํ กุรุมานานํ ปมาทวิหาโร ปฏิเสธิโต โหติ. อยํ ขณสงฺขาเตน สมเยน อตฺโถ ทีปิโต.
โย ¶ ปเนตสฺส กุสลจิตฺตสฺส ปวตฺติกาโล นาม โหติ, โส อติปริตฺโต. สา จสฺส อติปริตฺตตา ‘‘ยถา จ, ภิกฺขเว, ตสฺส ปุริสสฺส ชโว, ยถา จ จนฺทิมสูริยานํ ชโว, ยถา จ ยา เทวตา จนฺทิมสูริยานํ ปุรโต ธาวนฺติ ตาสํ เทวตานํ ชโว, ตโต สีฆตรํ อายุสงฺขารา ขียนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒๒๘) – อิมสฺส สุตฺตสฺส อฏฺกถาวเสน เวทิตพฺพา. ตตฺร หิ โส รูปชีวิตินฺทฺริยสฺส ตาว ปริตฺตโก กาโล วุตฺโต. ยาว ปฏุปฺปนฺนํ รูปํ ติฏฺติ ตาว โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชนฺติ. อิติ เตสํ กาลปริตฺตตาย อุปมาปิ ¶ นตฺถิ. เตเนวาห – ‘‘ยาวฺจิทํ, ภิกฺขเว, อุปมาปิ น สุกรา ยาว ลหุปริวตฺตํ จิตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๘). เอวเมเตสุ กาลสงฺขาโต สมโย กุสลจิตฺตปฺปวตฺติกาลสฺส อติปริตฺตตํ ทีเปติ. เอวํ ทีเปนฺเตน จาเนน อติปริตฺตกาลตาย, วิชฺชุลโตภาเสน มุตฺตาวุณนํ วิย, ทุปฺปฏิวิชฺฌมิทํ จิตฺตํ, ตสฺมา เอตสฺส ปฏิเวเธ มหาอุสฺสาโห จ อาทโร จ กตฺตพฺโพติ โอวาโท ทินฺโน โหติ. อยํ กาลสงฺขาเตน สมเยน อตฺโถ ทีปิโต.
สมูหสงฺขาโต ปน สมโย อเนเกสํ สหุปฺปตฺตึ ทีเปติ. ผสฺสาทีนฺหิ ธมฺมานํ ปฺุโช สมูโหติ วุตฺโต. ตสฺมิฺจ อุปฺปชฺชมานํ จิตฺตํ สห เตหิ ธมฺเมหิ อุปฺปชฺชตีติ อเนเกสํ สหุปฺปตฺติ ทีปิตา. เอวํ ทีเปนฺเตน จาเนน เอกสฺเสว ธมฺมสฺส อุปฺปตฺติ ปฏิเสธิตา โหติ. อยํ สมูหสงฺขาเตน สมเยน อตฺโถ ทีปิโต.
เหตุสงฺขาโต ปน สมโย ปรายตฺตวุตฺติตํ ทีเปติ. ‘ยสฺมึ สมเย’ติ หิ ปทสฺส ยสฺมา ‘ยสฺมึ เหตุมฺหิ สติ’ อุปฺปนฺนํ โหตีติ อยมตฺโถ, ตสฺมา ‘เหตุมฺหิ สติ’ ปวตฺติโต ปรายตฺตวุตฺติตา ทีปิตา. เอวํ ¶ ทีเปนฺเตน จาเนน ธมฺมานํ สวสวตฺติตาภิมาโน ปฏิเสธิโต โหติ. อยํ เหตุสงฺขาเตน สมเยน อตฺโถ ทีปิโต.
ตตฺถ ‘ยสฺมึ สมเย’ติ กาลสงฺขาตสฺส สมยสฺส วเสน ‘ยสฺมึ กาเล’ติ อตฺโถ; สมูหสงฺขาตสฺส ‘ยสฺมึ สมูเห’ติ. ขณสมวายเหตุสงฺขาตานํ ‘ยสฺมึ ขเณ สติ, ยาย สามคฺคิยา สติ, ยมฺหิ เหตุมฺหิ สติ’ กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมึเยว สติ ‘ผสฺสาทโยปี’ติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อธิกรณฺหิ กาลสงฺขาโต สมูหสงฺขาโต จ สมโย. ตตฺถ วุตฺตธมฺมานนฺติ อธิกรณวเสเนตฺถ ภุมฺมํ. ขณสมวายเหตุสงฺขาตสฺส จ สมยสฺส ภาเวน เตสํ ภาโว ลกฺขียตีติ ภาเวนภาวลกฺขณวเสเนตฺถ ภุมฺมํ.
กามาวจรนฺติ ¶ ‘‘กตเม ธมฺมา กามาวจรา? เหฏฺโต อวีจินิรยํ อุปริโต ปรนิมฺมิตวสวตฺตึ ปริยนฺตํ กตฺวา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๘๗) นเยน วุตฺเตสุ กามาวจรธมฺเมสุ ปริยาปนฺนํ. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อุทฺทานโต ¶ ทฺเว กามา, วตฺถุกาโม จ กิเลสกาโม จ. ตตฺถ กิเลสกาโม อตฺถโต ฉนฺทราโคว วตฺถุกาโม เตภูมกวฏฺฏํ. กิเลสกาโม เจตฺถ กาเมตีติ กาโม; อิตโร ปน กามิยตีติ กาโม. ยสฺมึ ปน ปเทเส ทุวิโธเปโส กาโม ปวตฺติวเสน อวจรติ, โส จตุนฺนํ อปายานํ, มนุสฺสานํ, ฉนฺนฺจ เทวโลกานํ วเสน เอกาทสวิโธ ปเทโส. กาโม เอตฺถ อวจรตีติ กามาวจโร, สสตฺถาวจโร วิย. ยถา หิ ยสฺมึ ปเทเส สสตฺถา ปุริสา อวจรนฺติ, โส วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ ทฺวิปทจตุปฺปเทสุ อวจรนฺเตสุ, เตสํ อภิลกฺขิตตฺตา ‘สสตฺถาวจโร’ตฺเวว วุจฺจติ, เอวํ วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ รูปาวจราทีสุ ตตฺถ อวจรนฺเตสุ, เตสํ อภิลกฺขิตตฺตา อยํ ปเทโส ‘กามาวจโร’ตฺเวว วุจฺจติ. สฺวายํ ยถา รูปภโว รูปํ, เอวํ อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา ‘กาโม’ตฺเวว วุจฺจติ. เอวมิทํ จิตฺตํ อิมสฺมึ เอกาทสปเทสสงฺขาเต กาเม อวจรตีติ กามาวจรํ.
กิฺจาปิ หิ เอตํ รูปารูปภเวสุปิ อวจรติ, ยถา ปน สงฺคาเม อวจรณโต สงฺคามาวจโรติ ลทฺธนามโก นาโค นคเร จรนฺโตปิ ‘สงฺคามาวจโร’ตฺเวว วุจฺจติ, ถลชลจรา จ ปาณา อถเล ¶ อชเล จ ิตาปิ ‘ถลจรา ชลจรา’ตฺเวว วุจฺจนฺติ, เอวมิทํ อฺตฺถ อวจรนฺตมฺปิ กามาวจรเมวาติ เวทิตพฺพํ. อารมฺมณกรณวเสน วา เอตฺถ กาโม อวจรตีติปิ กามาวจรํ. กามฺเจส รูปารูปาวจเรสุปิ อวจรติ, ยถา ปน วทตีติ ‘วจฺโฉ’, มหิยํ เสตีติ ‘มหึโส’ติ วุตฺเต, น สตฺตา ยตฺตกา วทนฺติ, มหิยํ วา เสนฺติ สพฺเพสํ ตํ นามํ โหติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อปิจ กามภวสงฺขาเต กาเม ปฏิสนฺธึ อวจาเรตีติปิ กามาวจรํ.
กุสลนฺติ กุจฺฉิตานํ สลนาทีหิ อตฺเถหิ กุสลํ. อปิจ อาโรคฺยฏฺเน อนวชฺชฏฺเน โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน จ กุสลํ. ยเถว หิ ‘กจฺจิ นุ โภโต กุสล’นฺติ (ชา. ๑.๑๕.๑๔๖; ๒.๒๐.๑๒๙) รูปกาเย อนาตุรตาย อเคลฺเน นิพฺยาธิตาย อาโรคฺยฏฺเน กุสลํ วุตฺตํ, เอวํ อรูปธมฺเมปิ กิเลสาตุรตาย กิเลสเคลฺสฺส จ กิเลสพฺยาธิโน ¶ อภาเวน อาโรคฺยฏฺเน กุสลํ เวทิตพฺพํ. กิเลสวชฺชสฺส ปน กิเลสโทสสฺส กิเลสทรถสฺส จ อภาวา อนวชฺชฏฺเน ¶ กุสลํ. โกสลฺลํ วุจฺจติ ปฺา; โกสลฺลโต สมฺภูตตฺตา โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน กุสลํ.
‘าณสมฺปยุตฺตํ’ ตาว เอวํ โหตุ; าณวิปฺปยุตฺตํ กถนฺติ. ตมฺปิ รุฬฺหีสทฺเทน กุสลเมว. ยถา หิ ตาลปณฺเณหิ อกตฺวา กิลฺชาทีหิ กตมฺปิ ตํสริกฺขตฺตา รุฬฺหีสทฺเทน ตาลวณฺฏนฺตฺเวว วุจฺจติ, เอวํ ‘าณวิปฺปยุตฺต’มฺปิ กุสลนฺตฺเวว เวทิตพฺพํ. นิปฺปริยาเยน ปน ‘าณสมฺปยุตฺตํ’ อาโรคฺยฏฺเน อนวชฺชฏฺเน โกสลฺลสมฺภูตฏฺเนาติ ติวิเธนปิ กุสลนฺติ นามํ ลภติ, าณวิปฺปยุตฺตํ ทุวิเธเนว. อิติ ยฺจ ชาตกปริยาเยน ยฺจ พาหิติกสุตฺตปริยาเยน ยฺจ อภิธมฺมปริยาเยน กุสลํ กถิตํ สพฺพํ ตํ ตีหิปิ อตฺเถหิ อิมสฺมึ จิตฺเต ลพฺภติ.
ตเทตํ ลกฺขณาทิวเสน อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณํ, อกุสลวิทฺธํสนรสํ, โวทานปจฺจุปฏฺานํ, โยนิโสมนสิการปทฏฺานํ. อวชฺชปฏิปกฺขตฺตา วา อนวชฺชลกฺขณเมว กุสลํ, โวทานภาวรสํ, อิฏฺวิปากปจฺจุปฏฺานํ, ยถาวุตฺตปทฏฺานเมว. ลกฺขณาทีสุ หิ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สภาโว วา สามฺํ วา ลกฺขณํ นาม. กิจฺจํ วา สมฺปตฺติ วา รโส นาม. อุปฏฺานากาโร วา ผลํ วา ปจฺจุปฏฺานํ นาม. อาสนฺนการณํ ปทฏฺานํ นาม. อิติ ยตฺถ ยตฺถ ลกฺขณาทีนิ วกฺขาม ตตฺถ ตตฺถ อิมินาว นเยน เตสํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
จิตฺตนฺติ ¶ อารมฺมณํ จินฺเตตีติ จิตฺตํ; วิชานาตีติ อตฺโถ. ยสฺมา วา ‘จิตฺต’นฺติ สพฺพจิตฺตสาธารโณ เอส สทฺโท, ตสฺมา ยเทตฺถ โลกิยกุสลากุสลกิริยจิตฺตํ, ตํ ชวนวีถิวเสน อตฺตโน สนฺตานํ จิโนตีติ จิตฺตํ. วิปากํ กมฺมกิเลเสหิ จิตนฺติ จิตฺตํ. อปิจ สพฺพมฺปิ ยถานุรูปโต จิตฺตตาย จิตฺตํ. จิตฺตกรณตาย จิตฺตนฺติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ยสฺมา อฺเทว สราคํ จิตฺตํ, อฺํ สโทสํ ¶ , อฺํ สโมหํ; อฺํ กามาวจรํ, อฺํ รูปาวจราทิเภทํ; อฺํ รูปารมฺมณํ, อฺํ สทฺทาทิอารมฺมณํ; รูปารมฺมเณสุ จาปิ อฺํ นีลารมฺมณํ, อฺํ ปีตาทิอารมฺมณํ; สทฺทาทิอารมฺมเณสุปิ เอเสว นโย; สพฺเพสุปิ เจเตสุ อฺํ หีนํ อฺํ มชฺฌิมํ อฺํ ปณีตํ; หีนาทีสุปิ อฺํ ฉนฺทาธิปเตยฺยํ, อฺํ วีริยาธิปเตยฺยํ อฺํ จิตฺตาธิปเตยฺยํ, อฺํ วีมํสาธิปเตยฺยํ, ตสฺมา อสฺส อิเมสํ สมฺปยุตฺตภูมิอารมฺมณหีนมชฺฌิมปณีตาธิปตีนํ วเสน จิตฺตตา เวทิตพฺพา. กามฺเจตฺถ ¶ เอกเมว เอวํ จิตฺตํ น โหติ, จิตฺตานํ ปน อนฺโตคธตฺตา เอเตสุ ยํกิฺจิ เอกมฺปิ จิตฺตตาย จิตฺตนฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ตาว จิตฺตตาย จิตฺตํ.
กถํ จิตฺตกรณตายาติ? โลกสฺมิฺหิ จิตฺตกมฺมโต อุตฺตริ อฺํ จิตฺตํ นาม นตฺถิ. ตสฺมิมฺปิ จรณํ นาม จิตฺตํ อติจิตฺตเมว โหติ. ตํ กโรนฺตานํ จิตฺตการานํ ‘เอวํวิธานิ เอตฺถ รูปานิ กาตพฺพานี’ติ จิตฺตสฺา อุปฺปชฺชติ. ตาย จิตฺตสฺาย เลขาคหนรฺชนอุชฺโชตนวตฺตนาทินิปฺผาทิกา จิตฺตกิริยา อุปฺปชฺชนฺติ, ตโต จรณสงฺขาเต จิตฺเต อฺตรํ วิจิตฺตรูปํ นิปฺผชฺชติ. ตโต ‘อิมสฺส รูปสฺส อุปริ อิทํ โหตุ, เหฏฺา อิทํ, อุภยปสฺเส อิท’นฺติ จินฺเตตฺวา ยถาจินฺติเตน กเมน เสสจิตฺตรูปนิปฺผาทนํ โหติ, เอวํ ยํกิฺจิ โลเก วิจิตฺตํ สิปฺปชาตํ สพฺพํ ตํ จิตฺเตเนว กริยติ, เอวํ อิมาย กรณวิจิตฺตตาย ตสฺส ตสฺส จิตฺตสฺส นิปฺผาทกํ จิตฺตมฺปิ ตเถว จิตฺตํ โหติ. ยถาจินฺติตสฺส วา อนวเสสสฺส อนิปฺผชฺชนโต ตโตปิ จิตฺตเมว จิตฺตตรํ. เตนาห ภควา –
‘‘ทิฏฺํ โว, ภิกฺขเว, จรณํ นาม จิตฺตนฺติ? ‘เอวํ, ภนฺเต’. ตมฺปิ โข, ภิกฺขเว, จรณํ นาม จิตฺตํ จิตฺเตเนว จินฺติตํ. เตนปิ โข, ภิกฺขเว, จรเณน จิตฺเตน จิตฺตํเยว จิตฺตตร’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๐๐).
ตถา ¶ ยเทตํ เทวมนุสฺสนิรยติรจฺฉานเภทาสุ คตีสุ กมฺมลิงฺคสฺาโวหาราทิเภทํ อชฺฌตฺติกํ จิตฺตํ ตมฺปิ จิตฺตกตเมว. กายกมฺมาทิเภทฺหิ ทานสีลวิหึสาสาเยฺยาทินยปฺปวตฺตํ กุสลากุสลกมฺมํ จิตฺตนิปฺผาทิตํ กมฺมนานตฺตํ. กมฺมนานตฺเตเนว จ ตาสุ ตาสุ คตีสุ ¶ หตฺถปาทกณฺณอุทรคีวามุขาทิสณฺานภินฺนํ ลิงฺคนานตฺตํ. ลิงฺคนานตฺตโต ยถาคหิตสณฺานวเสน ‘อยํ อิตฺถี อยํ ปุริโส’ติ อุปฺปชฺชมานาย สฺาย สฺานานตฺตํ. สฺานานตฺตโต สฺานุรูเปน ‘อิตฺถี’ติ วา ‘ปุริโส’ติ วา โวหรนฺตานํ โวหารนานตฺตํ. โวหารนานตฺตวเสน ปน ยสฺมา ‘อิตฺถี ภวิสฺสามิ ปุริโส ภวิสฺสามิ, ขตฺติโย ภวิสฺสามิ พฺราหฺมโณ ภวิสฺสามี’ติ เอวํ ตสฺส ตสฺส อตฺตภาวสฺส ชนกํ กมฺมํ กรียติ, ตสฺมา โวหารนานตฺตโต กมฺมนานตฺตํ. ตํ ปเนตํ กมฺมนานตฺตํ ยถาปตฺถิตํ ภวํ นิพฺพตฺเตนฺตํ ยสฺมา คติวเสน นิพฺพตฺเตติ ตสฺมา กมฺมนานตฺตโต คตินานตฺตํ. กมฺมนานตฺเตเนว จ เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตสฺสา ตสฺสา คติยา อปาทกทฺวิปาทกาทิตา, ตสฺสา ตสฺสา อุปปตฺติยา อุจฺจนีจาทิตา, ตสฺมึ ¶ ตสฺมึ อตฺตภาเว สุวณฺณทุพฺพณฺณาทิตา, โลกธมฺเมสุ ลาภาลาภาทิตา จ ปฺายติ. ตสฺมา สพฺพเมตํ เทวมนุสฺสนิรยติรจฺฉานเภทาสุ คตีสุ กมฺมลิงฺคสฺาโวหาราทิเภทํ อชฺฌตฺติกํ จิตฺตํ จิตฺเตเนว กตนฺติ เวทิตพฺพํ. สฺวายมตฺโถ อิมสฺส สงฺคีติอนารุฬฺหสฺส สุตฺตสฺส วเสน เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘กมฺมนานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานวเสน ลิงฺคนานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานํ ภวติ, ลิงฺคนานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานวเสน สฺานานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานํ ภวติ, สฺานานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานวเสน โวหารนานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานํ ภวติ, โวหารนานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานวเสน กมฺมนานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานํ ภวติ. กมฺมนานากรณํ ปฏิจฺจ สตฺตานํ คติยา นานากรณํ ปฺายติ – อปทา ทฺวิปทา จตุปฺปทา พหุปฺปทา, รูปิโน อรูปิโน, สฺิโน อสฺิโน เนวสฺีนาสฺิโน. กมฺมนานากรณํ ปฏิจฺจ สตฺตานํ อุปปตฺติยา นานากรณํ ปฺายติ – อุจฺจนีจตา หีนปณีตตา สุคตทุคฺคตตา. กมฺมนานากรณํ ¶ ปฏิจฺจ สตฺตานํ อตฺตภาเว นานากรณํ ปฺายติ – สุวณฺณทุพฺพณฺณตา สุชาตทุชฺชาตตา สุสณฺิตทุสฺสณฺิตตา. กมฺมนานากรณํ ปฏิจฺจ สตฺตานํ โลกธมฺเม นานากรณํ ปฺายติ – ลาภาลาเภ ยสายเส นินฺทาปสํสายํ สุขทุกฺเข’’ติ.
อปรมฺปิ วุตฺตํ –
กมฺมโต ¶ ลิงฺคโต เจว, ลิงฺคสฺา ปวตฺตเร;
สฺาโต เภทํ คจฺฉนฺติ, อิตฺถายํ ปุริโสติ วา.
‘‘กมฺมุนา วตฺตเต โลโก, กมฺมุนา วตฺตเต ปชา;
กมฺมนิพนฺธนา สตฺตา, รถสฺสาณีว ยายโต’’. (ม. นิ. ๒.๔๖๐; สุ. นิ. ๖๕๙);
กมฺเมน กิตฺตึ ลภเต ปสํสํ,
กมฺเมน ชานิฺจ วธฺจ พนฺธํ;
ตํ ¶ กมฺมนานากรณํ วิทิตฺวา,
กสฺมา วเท นตฺถิ กมฺมนฺติ โลเก. (กถา. ๗๘๕);
‘‘กมฺมสฺสกา มาณว สตฺตา กมฺมทายาทา กมฺมโยนี กมฺมพนฺธู กมฺมปฏิสรณา; กมฺมํ สตฺเต วิภชติ ยทิทํ หีนปฺปณีตตายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๙).
เอวํ อิมาย กรณจิตฺตตายปิ จิตฺตสฺส จิตฺตตา เวทิตพฺพา. สพฺพานิปิ หิ เอตานิ วิจิตฺรานิ จิตฺเตเนว กตานิ. อลทฺโธกาสสฺส ปน จิตฺตสฺส ยํ วา ปน อวเสสปจฺจยวิกลํ ตสฺส เอกจฺจจิตฺตกรณาภาวโต ยเทตํ จิตฺเตน กตํ อชฺฌตฺติกํ จิตฺตํ วุตฺตํ, ตโตปิ จิตฺตเมว จิตฺตตรํ. เตนาห ภควา –
‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกนิกายมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํ จิตฺตํ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตา ปาณา… เตหิปิ โข, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคเตหิ ปาเณหิ จิตฺตํเยว จิตฺตตร’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๐๐).
อุปฺปนฺนํ โหตีติ เอตฺถ วตฺตมานภูตาปคโตกาสกตภูมิลทฺธวเสน อุปฺปนฺนํ นาม อเนกปฺปเภทํ. ตตฺถ สพฺพมฺปิ อุปฺปาทชราภงฺคสมงฺคีสงฺขาตํ วตฺตมานุปฺปนฺนํ นาม. อารมฺมณรสํ อนุภวิตฺวา นิรุทฺธํ, อนุภูตาปคตสงฺขาตํ กุสลากุสลํ ¶ , อุปฺปาทาทิตฺตยํ อนุปฺปตฺวา นิรุทฺธํ, ภูตาปคตสงฺขาตํ, เสสสงฺขตฺจ ภูตาปคตุปฺปนฺนํ นาม. ‘‘ยานิสฺส ตานิ ปุพฺเพ กตานิ กมฺมานี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๔๘) เอวมาทินา นเยน วุตฺตํ กมฺมํ อตีตมฺปิ สมานํ, อฺํ วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺโสกาสํ กตฺวา ิตตฺตา, ตถา กโตกาสฺจ วิปากํ อนุปฺปนฺนมฺปิ สมานํ เอวํ กเต โอกาเส เอกนฺเตน อุปฺปชฺชนโต โอกาสกตุปฺปนฺนํ นาม. ตาสุ ¶ ตาสุ ภูมีสุ อสมูหตํ อกุสลํ ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ นาม. เอตฺถ จ ภูมิยา ภูมิลทฺธสฺส จ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. ภูมีติ วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา เตภูมกา ปฺจกฺขนฺธา. ภูมิลทฺธํ นาม เตสุ ขนฺเธสุ อุปฺปตฺตารหํ กิเลสชาตํ. เตน เหสา ภูมิ ลทฺธา นาม โหติ, ตสฺมา ภูมิลทฺธนฺติ วุจฺจติ. เอวเมเตสุ จตูสุ อุปฺปนฺเนสุ อิธ ‘วตฺตมานุปฺปนฺนํ’ อธิปฺเปตํ.
ตตฺรายํ วจนตฺโถ – ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ อุปฺปาทาทิอภิมุขํ ปนฺนนฺติ อุปฺปนฺนํ. ‘อุปฺปนฺน’-สทฺโท ปเนส ¶ อตีเต ปฏิลทฺเธ สมุฏฺิเต อวิกฺขมฺภิเต อสมุจฺฉินฺเน ขณตฺตยคเตติ อเนเกสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๔๓) เอตฺถ อตีเต อาคโต. ‘‘อายสฺมโต อานนฺทสฺส อติเรกจีวรํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ (ปารา. ๔๖๑) เอตฺถ ปฏิลทฺเธ. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปฺปนฺนํ มหาเมฆํ ตเมนํ มหาวาโต อนฺตราเยว อนฺตรธาเปตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๕๗) เอตฺถ สมุฏฺิเต. ‘‘อุปฺปนฺนํ คมิยจิตฺตํ ทุปฺปฏิวิโนทนียํ (อ. นิ. ๕.๑๖๐; ปริ. ๓๒๕); อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม านโส อนฺตรธาเปตี’’ติ (ปารา. ๑๖๕) เอตฺถ อวิกฺขมฺภิเต. ‘‘อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวนฺโต พหุลีกโรนฺโต อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม านโส อนฺตราเยว อนฺตรธาเปตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๕๖-๑๕๗) เอตฺถ อสมุจฺฉินฺเน. ‘‘อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปนฺนนฺติ? อามนฺตา’’ติ (ยม. ๒.จิตฺตยมก.๘๑) เอตฺถ ขณตฺตยคเต. สฺวายมิธาปิ ขณตฺตยคเตว ทฏฺพฺโพ. ตสฺมา ‘อุปฺปนฺนํ โหตี’ติ เอตฺถ ขณตฺตยคตํ โหติ, วตฺตมานํ โหติ, ปจฺจุปฺปนฺนํ โหตีติ. อยํ สงฺเขปตฺโถ.
จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตีติ เจตํ เทสนาสีสเมว. น ปน จิตฺตํ เอกกเมว อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา ยถา ราชา อาคโตติ วุตฺเต น ปริสํ ปหาย เอกโกว อาคโต, ราชปริสาย ปน สทฺธึเยว อาคโตติ ปฺายติ ¶ , เอวมิทมฺปิ ปโรปณฺณาสกุสลธมฺเมหิ สทฺธึเยว อุปฺปนฺนนฺติ เวทิตพฺพํ. ปุพฺพงฺคมฏฺเน ปน ‘‘จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ’’จฺเจว วุตฺตํ.
โลกิยธมฺมฺหิ ปตฺวา จิตฺตํ เชฏฺกํ จิตฺตํ ธุรํ จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ โหติ. โลกุตฺตรธมฺมํ ¶ ปตฺวา ปฺา เชฏฺิกา ปฺา ธุรา ปฺา ปุพฺพงฺคมา. เตเนว ภควา วินยปริยายํ ปตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต ‘กึผสฺโสสิ, กึเวทโนสิ, กึสฺโสิ, กึเจตโนสี’ติ อปุจฺฉิตฺวา ‘‘กึจิตฺโต ตฺวํ ภิกฺขู’’ติ จิตฺตเมว ธุรํ กตฺวา ปุจฺฉติ. ‘‘อเถยฺยจิตฺโต อหํ ภควา’’ติ จ วุตฺเต ‘อนาปตฺติ อเถยฺยผสฺสสฺสา’ติอาทีนิ อวตฺวา ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อเถยฺยจิตฺตสฺสา’’ติ วทติ.
น เกวลฺจ วินยปริยายํ, อฺมฺปิ โลกิยเทสนํ เทเสนฺโต จิตฺตเมว ธุรํ กตฺวา เทเสติ. ยถาห – ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, ธมฺมา อกุสลา อกุสลภาคิยา อกุสลปกฺขิกา สพฺเพเต มโนปุพฺพงฺคมา. มโน เตสํ ธมฺมานํ ปมํ อุปฺปชฺชติ’’ (อ. นิ. ๑.๕๖).
‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ¶ ธมฺมา, มโนเสฏฺา มโนมยา;
มนสา เจ ปทุฏฺเน, ภาสติ วา กโรติ วา;
ตโต นํ ทุกฺขมนฺเวติ, จกฺกํว วหโต ปทํ.
‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มโนเสฏฺา มโนมยา;
มนสา เจ ปสนฺเนน, ภาสติ วา กโรติ วา;
ตโต นํ สุขมนฺเวติ, ฉายาว อนปายินี’’. (ธ. ป. ๑,๒);
‘‘จิตฺเตน นียติ โลโก, จิตฺเตน ปริกสฺสติ;
จิตฺตสฺส เอกธมฺมสฺส, สพฺเพว วสมนฺวคู’’. (สํ. นิ. ๑.๖๒);
‘‘จิตฺตสํกิเลสา, ภิกฺขเว, สตฺตา สํกิลิสฺสนฺติ จิตฺตโวทานา วิสุชฺฌนฺติ’’ (สํ. นิ. ๓.๑๐๐);
‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺํ’’ (อ. นิ. ๑.๔๙);
‘‘จิตฺเต ¶ , คหปติ, อรกฺขิเต กายกมฺมมฺปิ อรกฺขิตํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อรกฺขิตํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ อรกฺขิตํ โหติ; จิตฺเต, คหปติ, รกฺขิเต…เป… จิตฺเต, คหปติ, พฺยาปนฺเน…เป… จิตฺเต, คหปติ, อพฺยาปนฺเน…เป… จิตฺเต, คหปติ, อวสฺสุเต…เป… จิตฺเต, คหปติ, อนวสฺสุเต กายกมฺมมฺปิ อนวสฺสุตํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อนวสฺสุตํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ อนวสฺสุตํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๑๐).
เอวํ โลกิยธมฺมํ ปตฺวา จิตฺตํ เชฏฺกํ โหติ, จิตฺตํ ธุรํ โหติ, จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. อิเมสุ ¶ ปน สุตฺเตสุ เอกํ วา ทฺเว วา อคฺคเหตฺวา สุตฺตานุรกฺขณตฺถาย สพฺพานิปิ คหิตานีติ เวทิตพฺพานิ.
โลกุตฺตรธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต ปน ‘กตรผสฺสํ อธิคโตสิ, กตรเวทนํ กตรสฺํ กตรเจตนํ ¶ กตรจิตฺต’นฺติ อปุจฺฉิตฺวา, ‘กตรปฺํ ตฺวํ ภิกฺขุ อธิคโต’สิ, ‘กึ ปมํ มคฺคปฺํ, อุทาหุ ทุติยํ…เป… ตติยํ…เป… จตุตฺถํ มคฺคปฺํ อธิคโต’ติ ปฺํ เชฏฺิกํ ปฺํ ธุรํ กตฺวา ปุจฺฉติ. ปฺุตฺตรา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺติ. ปฺา ปน กิมตฺถิยา (ม. นิ. ๑.๔๕๑)? ‘‘ปฺวโต, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส ตทนฺวยา สทฺธา สณฺาติ, ตทนฺวยํ วีริยํ สณฺาติ, ตทนฺวยา สติ สณฺาติ, ตทนฺวโย สมาธิ สณฺาตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๕) เอวมาทีนิ ปเนตฺถ สุตฺตานิ ทฏฺพฺพานิ. อิติ โลกุตฺตรธมฺมํ ปตฺวา ปฺา เชฏฺิกา โหติ ปฺา ธุรา ปฺา ปุพฺพงฺคมาติ เวทิตพฺพา. อยํ ปน โลกิยเทสนา. ตสฺมา จิตฺตํ ธุรํ กตฺวา เทเสนฺโต ‘‘จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ อาห.
โสมนสฺสสหคตนฺติ สาตมธุรเวทยิตสงฺขาเตน โสมนสฺเสน สห เอกุปฺปาทาทิภาวํ คตํ. อยํ ปน ‘สหคต’-สทฺโท ตพฺภาเว โวกิณฺเณ นิสฺสเย อารมฺมเณ สํสฏฺเติ อิเมสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ ‘‘ยายํ ตณฺหา โปโนพฺภวิกา นนฺทิราคสหคตา’’ติ (วิภ. ๒๐๓) ตพฺภาเว เวทิตพฺโพ; นนฺทิราคภูตาติ อตฺโถ. ‘‘ยา, ภิกฺขเว, วีมํสา โกสชฺชสหคตา โกสชฺชสมฺปยุตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๘๓๒) โวกิณฺเณ เวทิตพฺโพ; อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมาเนน โกสชฺเชน โวกิณฺณาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ‘‘อฏฺิกสฺาสหคตํ ¶ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๘) นิสฺสเย เวทิตพฺโพ; อฏฺิกสฺํ นิสฺสาย อฏฺิกสฺํ ภาเวตฺวา ปฏิลทฺธนฺติ อตฺโถ. ‘‘ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ อรูปสหคตานํ วา’’ติ (ปุ. ป. ๓-๕) อารมฺมเณ; เวทิตพฺโพ รูปารูปารมฺมณานนฺติ อตฺโถ. ‘‘อิทํ สุขํ อิมาย ปีติยา สหคตํ โหติ สหชาตํ ¶ สํสฏฺํ สมฺปยุตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๗๘) สํสฏฺเ. อิมสฺมิมฺปิ ปเท อยเมวตฺโถ อธิปฺเปโต. โสมนสฺสสํสฏฺฺหิ อิธ โสมนสฺสสหคตนฺติ วุตฺตํ.
‘สํสฏฺ’-สทฺโทปิ เจส สทิเส อวสฺสุเต มิตฺตสนฺถเว สหชาเตติ พหูสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘กิเส ถูเล วิวชฺเชตฺวา สํสฏฺา โยชิตา หยา’’ติ (ชา. ๒.๒๒.๗๐) เอตฺถ สทิเส อาคโต. ‘‘สํสฏฺาว ตุมฺเห อยฺเย วิหรถา’’ติ (ปาจิ. ๗๒๗) อวสฺสุเต. ‘‘คิหิ สํสฏฺโ วิหรตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๓) มิตฺตสนฺถเว. ‘‘อิทํ สุขํ อิมาย ปีติยา สหคตํ โหติ สหชาตํ สํสฏฺํ สมฺปยุตฺต’’นฺติ สหชาเต. อิธาปิ สหชาเต อธิปฺเปโต. ตตฺถ ‘สหคตํ’ อสหชาตํ อสํสฏฺํ อสมฺปยุตฺตํ นาม นตฺถิ. สหชาตํ ปน สํสฏฺํ สมฺปยุตฺตํ โหติปิ, น โหติปิ ¶ . รูปารูปธมฺเมสุ หิ เอกโต ชาเตสุ รูปํ อรูเปน สหชาตํ โหติ, น สํสฏฺํ, น สมฺปยุตฺตํ; ตถา อรูปํ รูเปน; รูปฺจ รูเปน; อรูปํ ปน อรูเปน สทฺธึ นิยมโตว สหคตํ สหชาตํ สํสฏฺํ สมฺปยุตฺตเมว โหตีติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘โสมนสฺสสหคต’นฺติ.
าณสมฺปยุตฺตนฺติ าเณน สมฺปยุตฺตํ, สมํ เอกุปฺปาทาทิปฺปกาเรหิ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ สิยา ตํ มาติกาวณฺณนาย เวทนาตฺติเก วุตฺตนยเมว. ตสฺมา เอกุปฺปาทา เอกนิโรธา เอกวตฺถุกา เอการมฺมณาติ อิมินา ลกฺขเณเนตํ สมฺปยุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อุกฺกฏฺนิทฺเทโส เจส. อรูเป ปน วินาปิ เอกวตฺถุกภาวํ สมฺปโยโค ลพฺภติ.
เอตฺตาวตา กึ กถิตํ? กามาวจรกุสเลสุ โสมนสฺสสหคตํ ติเหตุกํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ มหาจิตฺตํ กถิตํ. ‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา’’ติ หิ อนิยมิตปุจฺฉาย จตุภูมกกุสลํ คหิตํ. ‘กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’ติ วจเนน ปน เตภูมกํ กุสลํ ¶ ปริจฺจชิตฺวา, อฏฺวิธํ กามาวจรกุสลเมว คหิตํ. ‘โสมนสฺสสหคต’นฺติ วจเนน ตโต จตุพฺพิธํ อุเปกฺขาสหคตํ ปริจฺจชิตฺวา จตุพฺพิธํ โสมนสฺสสหคตเมว คหิตํ. ‘าณสมฺปยุตฺต’นฺติ วจเนน ตโต ทุวิธํ าณวิปฺปยุตฺตํ ปริจฺจชิตฺวา ทฺเว ¶ าณสมฺปยุตฺตาเนว คหิตานิ. อสงฺขาริกภาโว ปน อนาภฏฺตาเยว น คหิโต. กิฺจาปิ น คหิโต, ปรโต ปน ‘สสงฺขาเรนา’ติ วจนโต อิธ ‘อสงฺขาเรนา’ติ อวุตฺเตปิ อสงฺขาริกภาโว เวทิตพฺโพ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ หิ อาทิโตว อิทํ มหาจิตฺตํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ นิยเมตฺวาว อิมํ เทสนํ อารภีติ เอวเมตฺถ สนฺนิฏฺานํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ตเมว จิตฺตํ อารมฺมณโต ทสฺเสตุํ รูปารมฺมณํ วาติอาทิมาห. ภควา หิ อรูปธมฺมํ ทสฺเสนฺโต วตฺถุนา วา ทสฺเสติ, อารมฺมเณน วา, วตฺถารมฺมเณหิ วา, สรสภาเวน วา. ‘‘จกฺขุสมฺผสฺโส…เป… มโนสมฺผสฺโส; จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา…เป… มโนสมฺผสฺสชา เวทนา; จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณ’’นฺติอาทีสุ หิ วตฺถุนา อรูปธมฺมา ทสฺสิตา. ‘‘รูปสฺา…เป… ธมฺมสฺา, รูปสฺเจตนา…เป… ธมฺมสฺเจตนา’’ติอาทีสุ อารมฺมเณน. ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส…เป… มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๖๐) วตฺถารมฺมเณหิ. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา ¶ , ภิกฺขเว, สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑) สรสภาเวน อรูปธมฺมา ทสฺสิตา. อิมสฺมึ ปน าเน อารมฺมเณน ทสฺเสนฺโต ‘รูปารมฺมณํ’ วาติอาทิมาห.
ตตฺถ จตุสมุฏฺานํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ รูปเมว รูปารมฺมณํ. ทฺวิสมุฏฺาโน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺโน สทฺโทว สทฺทารมฺมณํ. จตุสมุฏฺาโน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺโน คนฺโธว คนฺธารมฺมณํ. จตุสมุฏฺาโน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺโน รโสว รสารมฺมณํ. จตุสมุฏฺานํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ โผฏฺพฺพเมว โผฏฺพฺพารมฺมณํ. เอกสมุฏฺานา ทฺวิสมุฏฺานา ติสมุฏฺานา จตุสมุฏฺานา นกุโตจิสมุฏฺานา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา จิตฺตเจตสิกา, ตถา นวตฺตพฺพา จ, วุตฺตาวเสสา จิตฺตโคจรสงฺขาตา ธมฺมาเยว ธมฺมารมฺมณํ. เย ¶ ปน อนาปาถคตา รูปาทโยปิ ธมฺมารมฺมณมิจฺเจว วทนฺติ เต อิมินา สุตฺเตน ปฏิกฺขิปิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อิเมสํ ¶ โข, อาวุโส, ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ นานาวิสยานํ นานาโคจรานํ น อฺมฺสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺตานํ มโน ปฏิสรณํ มโน เนสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๕).
เอเตสฺหิ รูปารมฺมณาทีนิ โคจรวิสโย นาม. ตานิ มเนน ปจฺจนุภวิยมานานิปิ รูปารมฺมณาทีนิเยวาติ อยมตฺโถ สิทฺโธ โหติ. ทิพฺพจกฺขุาณาทีนฺจ รูปาทิอารมฺมณตฺตาปิ อยมตฺโถ สิทฺโธเยว โหติ. อนาปาถคตาเนว หิ รูปารมฺมณาทีนิ ทิพฺพจกฺขุอาทีนํ อารมฺมณานิ, น จ ตานิ ธมฺมารมฺมณานิ ภวนฺตีติ วุตฺตนเยเนว อารมฺมณววตฺถานํ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ เอเกกํ อารมฺมณํ ทฺวีสุ ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ อาปาถมาคจฺฉติ. รูปารมฺมณฺหิ จกฺขุปสาทํ ฆฏฺเฏตฺวา ตงฺขณฺเว มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ; ภวงฺคจลนสฺส ปจฺจโย โหตีติ อตฺโถ. สทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพารมฺมเณสุปิ เอเสว นโย. ยถา หิ สกุโณ อากาเสนาคนฺตฺวา รุกฺขคฺเค นิลียมาโนว รุกฺขสาขฺจ ฆฏฺเฏติ, ฉายา จสฺส ปถวิยํ ปฏิหฺติ สาขาฆฏฺฏนฉายาผรณานิ อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณเยว ภวนฺติ, เอวํ ปจฺจุปฺปนฺนรูปาทีนํ จกฺขุปสาทาทิฆฏฺฏนฺจ ภวงฺคจลนสมตฺถตาย มโนทฺวาเร อาปาถคมนฺจ อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณเยว ¶ โหติ. ตโต ภวงฺคํ วิจฺฉินฺทิตฺวา จกฺขุทฺวาราทีสุ อุปฺปนฺนานํ อาวชฺชนาทีนํ โวฏฺพฺพนปริโยสานานํ อนนฺตรา เตสํ อารมฺมณานํ อฺตรสฺมึ อิทํ มหาจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ.
สุทฺธมโนทฺวาเร ปน ปสาทฆฏฺฏนกิจฺจํ นตฺถิ. ปกติยา ทิฏฺสุตฆายิตสายิตผุฏฺวเสเนว เอตานิ อารมฺมณานิ อาปาถมาคจฺฉนฺติ. กถํ? อิเธกจฺโจ กตสุธากมฺมํ หริตาลมโนสิลาทิวณฺณวิจิตฺตํ ปคฺคหิตนานปฺปการธชปฏากํ มาลาทามวินทฺธํ ทีปมาลาปริกฺขิตฺตํ อติมโนรมาย สิริยา วิโรจมานํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ มหาเจติยํ ปทกฺขิณํ กตฺวา โสฬสสุ ปาทปิฏฺิกาสุ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห อุลฺโลเกนฺโต พุทฺธารมฺมณํ ¶ ปีตึ คเหตฺวา ติฏฺติ. ตสฺส เอวํ เจติยํ ปสฺสิตฺวา พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ นิพฺพตฺเตตฺวา อปรภาเค ยตฺถ กตฺถจิ คตสฺส รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ ¶ นิสินฺนสฺส อาวชฺชมานสฺส อลงฺกตปฏิยตฺตํ มหาเจติยํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถมาคตสทิสเมว โหติ, ปทกฺขิณํ กตฺวา เจติยวนฺทนกาโล วิย โหติ. เอวํ ตาว ทิฏฺวเสน รูปารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ.
มธุเรน ปน สเรน ธมฺมกถิกสฺส วา ธมฺมํ กเถนฺตสฺส, สรภาณกสฺส วา สเรน ภณนฺตสฺส สทฺทํ สุตฺวา อปรภาเค ยตฺถ กตฺถจิ นิสีทิตฺวา อาวชฺชมานสฺส ธมฺมกถา วา สรภฺํ วา โสตทฺวาเร อาปาถมาคตํ วิย โหติ, สาธุการํ ทตฺวา สุณนกาโล วิย โหติ. เอวํ สุตวเสน สทฺทารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ.
สุคนฺธํ ปน คนฺธํ วา มาลํ วา ลภิตฺวา อาสเน วา เจติเย วา คนฺธารมฺมเณน จิตฺเตน ปูชํ กตฺวา อปรภาเค ยตฺถ กตฺถจิ นิสีทิตฺวา อาวชฺชมานสฺส ตํ คนฺธารมฺมณํ ฆานทฺวาเร อาปาถมาคตํ วิย โหติ, ปูชากรณกาโล วิย โหติ. เอวํ ฆายิตวเสน คนฺธารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ.
ปณีตํ ปน ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธึ สํวิภชิตฺวา ปริภฺุชิตฺวา อปรภาเค ยตฺถ กตฺถจิ กุทฺรูสกาทิโภชนํ ลภิตฺวา ‘อสุกกาเล ปณีตํ โภชนํ สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธึ สํวิภชิตฺวา ปริภุตฺต’นฺติ อาวชฺชมานสฺส ตํ รสารมฺมณํ ชิวฺหาทฺวาเร อาปาถมาคตํ วิย โหติ, ปริภฺุชนกาโล วิย โหติ. เอวํ สายิตวเสน รสารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ.
มุทุกํ ¶ ปน สุขสมฺผสฺสํ มฺจํ วา ปีํ วา อตฺถรณปาปุรณํ วา ปริภฺุชิตฺวา อปรภาเค ยตฺถ กตฺถจิ ทุกฺขเสยฺยํ กปฺเปตฺวา ‘อสุกกาเล เม มุทุกํ มฺจปีํ อตฺถรณปาวุรณํ ปริภุตฺต’นฺติ อาวชฺชมานสฺส ตํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ กายทฺวาเร อาปาถมาคตํ วิย โหติ. สุขสมฺผสฺสํ เวทยิตกาโล วิย โหติ. เอวํ ผุฏฺวเสน โผฏฺพฺพารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ. เอวํ สุทฺธมโนทฺวาเร ปสาทฆฏฺฏนกิจฺจํ นตฺถิ. ปกติยา ทิฏฺสุตฆายิตสายิตผุฏฺวเสเนว เอตานิ อารมฺมณานิ อาปาถมาคจฺฉนฺตีติ เวทิตพฺพานิ.
อิทานิ ¶ ปกติยา ทิฏฺาทีนํ วเสน อาปาถคมเน อยมปโรปิ ¶ อฏฺกถามุตฺตโก นโย โหติ. ทิฏฺํ สุตํ อุภยสมฺพนฺธนฺติ อิเม ตาว ทิฏฺาทโย เวทิตพฺพา. ตตฺถ ‘ทิฏฺํ’ นาม ปฺจทฺวารวเสน คหิตปุพฺพํ. ‘สุต’นฺติ ปจฺจกฺขโต อทิสฺวา อนุสฺสววเสน คหิตา รูปาทโยว. เตหิ ทฺวีหิปิ สมฺพนฺธํ ‘อุภยสมฺพนฺธํ’ นาม. อิติ อิเมสมฺปิ ทิฏฺาทีนํ วเสน เอตานิ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. ตตฺถ ทิฏฺวเสน ตาว อาปาถคมนํ เหฏฺา ปฺจหิ นเยหิ วุตฺตเมว.
เอกจฺโจ ปน สุณาติ – ‘ภควโต ปฺุาติสยนิพฺพตฺตํ เอวรูปํ นาม รูปํ, อติมธุโร สทฺโท, กิสฺมิฺจิ ปเทเส เกสฺจิ ปุปฺผานํ อติมนฺุโ คนฺโธ, เกสฺจิ ผลานํ อติมธุโร รโส, เกสฺจิ ปาวุรณาทีนํ อติสุโข สมฺผสฺโส’ติ. ตสฺส, จกฺขุปสาทาทิฆฏฺฏนํ วินา, สุตมตฺตาเนว ตานิ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉนฺติ. อถสฺส ตํ จิตฺตํ ตสฺมึ รูเป วา สทฺเท วา ปสาทวเสน คนฺธาทีสุ อริยานํ ทาตุกามตาวเสน อฺเหิ ทินฺเนสุ อนุโมทนาวเสน วา ปวตฺตติ. เอวํ สุตวเสน เอตานิ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉนฺติ.
อปเรน ปน ยถาวุตฺตานิ รูปาทีนิ ทิฏฺานิ วา สุตานิ วา โหนฺติ. ตสฺส ‘อีทิสํ รูปํ อายตึ อุปฺปชฺชนกพุทฺธสฺสาปิ ภวิสฺสตี’ติอาทินา นเยน จกฺขุปสาทาทิฆฏฺฏนํ วินา ทิฏฺสุตสมฺพนฺเธเนว ตานิ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉนฺติ. อถสฺส เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เตสุ อฺตรารมฺมณํ อิทํ มหาจิตฺตํ ปวตฺตติ. เอวํ อุภยสมฺพนฺธวเสน เอตานิ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉนฺติ.
อิทมฺปิ จ มุขมตฺตเมว. สทฺธารุจิอาการปริวิตกฺกทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติอาทีนํ ปน วเสน ¶ วิตฺถารโต เอเตสํ มโนทฺวาเร อาปาถคมนํ เวทิตพฺพเมว. ยสฺมา ปน เอวํ อาปาถํ อาคจฺฉนฺตานิ ภูตานิปิ โหนฺติ อภูตานิปิ, ตสฺมา อยํ นโย อฏฺกถายํ น คหิโต. เอวํ เอเกการมฺมณํ ชวนํ ทฺวีสุ ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ อุปฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. รูปารมฺมณฺหิ ชวนํ จกฺขุทฺวาเรปิ อุปฺปชฺชติ มโนทฺวาเรปิ. สทฺทาทิอารมฺมเณสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ มโนทฺวาเร อุปฺปชฺชมานํ รูปารมฺมณํ ชวนํ ทานมยํ สีลมยํ ภาวนามยนฺติ ติวิธํ โหติ ¶ . เตสุ เอเกกํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมนฺติ ¶ ติวิธเมว โหติ. สทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺมารมฺมเณสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ รูปํ ตาว อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชมานํ เอตํ มหากุสลจิตฺตํ นีลปีตโลหิโตทาตวณฺเณสุ ปุปฺผวตฺถธาตูสุ อฺตรํ สุภนิมิตฺตสงฺขาตํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ รชนียํ วณฺณํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ. นนุ เจตํ อิฏฺารมฺมณํ โลภสฺส วตฺถุ? กถํ เอตํ จิตฺตํ กุสลํ นาม ชาตนฺติ? นิยมิตวเสน ปริณามิตวเสน สมุทาจารวเสน อาภุชิตวเสนาติ. ยสฺส หิ ‘กุสลเมว มยา กตฺตพฺพ’นฺติ กุสลกรเณ จิตฺตํ นิยมิตํ โหติ, อกุสลปฺปวตฺติโต นิวตฺเตตฺวา กุสลกรเณเยว ปริณามิตํ, อภิณฺหกรเณน กุสลสมุทาจาเรเนว สมุทาจริตํ, ปติรูปเทสวาสสปฺปุริสูปนิสฺสยสทฺธมฺมสวนปุพฺเพกตปฺุตาทีหิ จ อุปนิสฺสเยหิ โยนิโส จ อาโภโค ปวตฺตติ, ตสฺส อิมินา นิยมิตวเสน ปริณามิตวเสน สมุทาจารวเสน อาภุชิตวเสน จ กุสลํ นาม ชาตํ โหติ.
อารมฺมณวเสน ปเนตฺถ โสมนสฺสสหคตภาโว เวทิตพฺโพ. อิฏฺารมฺมณสฺมิฺหิ อุปฺปนฺนตฺตา เอตํ โสมนสฺสสหคตํ ชาตํ. สทฺธาพหุลตาทีนิเปตฺถ การณานิเยว. อสฺสทฺธานฺหิ มิจฺฉาทิฏฺีนฺจ เอกนฺตอิฏฺารมฺมณภูตํ ตถาคตรูปมฺปิ ทิสฺวา โสมนสฺสํ นุปฺปชฺชติ. เย จ กุสลปฺปวตฺติยํ อานิสํสํ น ปสฺสนฺติ เตสํ ปเรหิ อุสฺสาหิตานํ กุสลํ กโรนฺตานมฺปิ โสมนสฺสํ นุปฺปชฺชติ. ตสฺมา สทฺธาพหุลตา วิสุทฺธทิฏฺิตา อานิสํสทสฺสาวิตาติ. เอวมฺเปตฺถ โสมนสฺสสหคตภาโว เวทิตพฺโพ. อปิจ เอกาทสธมฺมา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – พุทฺธานุสฺสติ ธมฺมานุสฺสติ สงฺฆานุสฺสติ สีลานุสฺสติ จาคานุสฺสติ เทวตานุสฺสติ อุปสมานุสฺสติ ลูขปุคฺคลปริวชฺชนตา สินิทฺธปุคฺคลเสวนตา ปสาทนียสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณตา ตทธิมุตฺตตาติ ¶ . อิเมหิปิ ¶ การเณเหตฺถ โสมนสฺสสหคตภาโว เวทิตพฺโพ. อิเมสํ ปน วิตฺถาโร โพชฺฌงฺควิภงฺเค (วิภ. อฏฺ. ๓๖๗ โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา, ๔๖๘-๔๖๙) อาวิ ภวิสฺสติ.
กมฺมโต, อุปปตฺติโต, อินฺทฺริยปริปากโต, กิเลสทูรีภาวโตติ อิเมหิ ปเนตฺถ การเณหิ าณสมฺปยุตฺตตา เวทิตพฺพา. โย หิ ปเรสํ ¶ ธมฺมํ เทเสติ อนวชฺชานิ สิปฺปายตนกมฺมายตนวิชฺชาฏฺานานิ สิกฺขาเปติ ธมฺมกถิกํ สกฺการํ กตฺวา ธมฺมํ กถาเปติ, ‘อายตึ ปฺวา ภวิสฺสามี’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปตฺวา นานปฺปการํ ทานํ เทติ, ตสฺส เอวรูปํ กมฺมํ อุปนิสฺสาย กุสลํ อุปฺปชฺชมานํ าณสมฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อพฺยาปชฺเช โลเก อุปฺปนฺนสฺส วาปิ ‘‘ตสฺส ตตฺถ สุขิโน ธมฺมปทา ปิลวนฺติ… ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท, อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๙๑) อิมินา นเยน อุปปตฺตึ นิสฺสายปิ อุปฺปชฺชมานํ กุสลํ าณสมฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ตถา อินฺทฺริยปริปากํ อุปคตานํ ปฺาทสกปฺปตฺตานํ อินฺทฺริยปริปากํ นิสฺสายปิ กุสลํ อุปฺปชฺชมานํ าณสมฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชติ. เยหิ ปน กิเลสา วิกฺขมฺภิตา เตสํ กิเลสทูรีภาวํ นิสฺสายปิ อุปฺปชฺชมานํ กุสลํ าณสมฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘โยคา เว ชายตี ภูริ, อโยคา ภูริสงฺขโย’’ติ (ธ. ป. ๒๘๒).
เอวํ กมฺมโต อุปปตฺติโต อินฺทฺริยปริปากโต กิเลสทูรีภาวโตติ อิเมหิ การเณหิ าณสมฺปยุตฺตตา เวทิตพฺพา.
อปิจ สตฺต ธมฺมา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – ปริปุจฺฉกตา, วตฺถุวิสทกิริยา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา, ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา, ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา, คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา, ตทธิมุตฺตตาติ. อิเมหิปิ การเณหิ าณสมฺปยุตฺตตา เวทิตพฺพา. อิเมสํ ปน วิตฺถาโร โพชฺฌงฺควิภงฺเค (วิภ. อฏฺ. ๓๖๗ โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา) อาวิ ภวิสฺสติ.
เอวํ าณสมฺปยุตฺตํ หุตฺวา อุปฺปนฺนฺเจตํ อสงฺขาเรน ¶ อปฺปโยเคน อนุปายจินฺตนาย อุปฺปนฺนตฺตา ¶ อสงฺขารํ นาม ชาตํ. ตยิทํ รชนียวณฺณารมฺมณํ หุตฺวา อุปฺปชฺชมานเมว ติวิเธน นิยเมน อุปฺปชฺชติ – ทานมยํ วา โหติ, สีลมยํ วา, ภาวนามยํ วา.
กถํ? ยทา หิ นีลปีตโลหิโตทาเตสุ ปุปฺผาทีสุ อฺตรํ ลภิตฺวา วณฺณวเสน อาภุชิตฺวา ‘วณฺณทานํ มยฺห’นฺติ พุทฺธรตนาทีนิ ปูเชติ, ตทา ทานมยํ โหติ. ตตฺริทํ วตฺถุ – ภณฺฑาคาริกสงฺฆมิตฺโต กิร เอกํ สุวณฺณขจิตํ วตฺถํ ลภิตฺวา อิทมฺปิ วตฺถํ สุวณฺณวณฺณํ, สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ สุวณฺณวณฺโณ, สุวณฺณวณฺณํ วตฺถํ สุวณฺณวณฺณสฺเสว อนุจฺฉวิกํ, อมฺหากฺจ วณฺณทานํ ภวิสฺสตีติ มหาเจติเย อาโรเปสิ. เอวรูเป ¶ กาเล ทานมยํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ยทา ปน ตถารูปเมว เทยฺยธมฺมํ ลภิตฺวา ‘มยฺหํ กุลวํโส, กุลตนฺติ กุลปฺปเวณี เอสา, กุลวตฺตํ เอต’นฺติ พุทฺธรตนาทีนิ ปูเชติ ตทา สีลมยํ โหติ. ยทา ปน ตาทิเสเนว วตฺถุนา รตนตฺตยสฺส ปูชํ กตฺวา ‘อยํ วณฺโณ ขยํ คจฺฉิสฺสติ, วยํ คจฺฉิสฺสตี’ติ ขยวยํ ปฏฺเปติ, ตทา ภาวนามยํ โหติ.
ทานมยํ ปน หุตฺวา วตฺตมานมฺปิ ยทา ตีณิ รตนานิ สหตฺเถน ปูเชนฺตสฺส ปวตฺตตฺติ, ตทา กายกมฺมํ โหติ. ยทา ตีณิ รตนานิ ปูเชนฺโต ปุตฺตทารทาสกมฺมกรโปริสาทโยปิ อาณาเปตฺวา ปูชาเปติ ตทา วจีกมฺมํ โหติ. ยทา ตเทว วุตฺตปฺปการํ วิชฺชมานกวตฺถุํ อารพฺภ วณฺณทานํ ทสฺสามีติ จินฺเตติ ตทา มโนกมฺมํ โหติ. วินยปริยายํ ปตฺวา หิ ‘ทสฺสามิ กริสฺสามี’ติ วาจา ภินฺนา โหตีติ (ปารา. ๖๕๙) อิมินา ลกฺขเณน ทานํ นาม โหติ. อภิธมฺมปริยายํ ปตฺวา ปน วิชฺชมานกวตฺถุํ อารพฺภ ‘ทสฺสามี’ติ มนสา จินฺติตกาลโต ปฏฺาย กุสลํ โหติ. อปรภาเค กาเยน วา วาจาย วา กตฺตพฺพํ กริสฺสตีติ วุตฺตํ. เอวํ ทานมยํ กายวจีมโนกมฺมวเสเนว ติวิธํ โหติ.
ยทา ปน ตํ วุตฺตปฺปการํ วตฺถุํ ลภิตฺวา กุลวํสาทิวเสน สหตฺถา รตนตฺตยํ ปูเชติ ตทา สีลมยํ กายกมฺมํ โหติ. ยทา กุลวํสาทิวเสเนว ปุตฺตทาราทโย อาณาเปตฺวา ปูชาเปติ ตทา วจีกมฺมํ โหติ. ยทา ¶ ‘มยฺหํ กุลวํโส, กุลตนฺติ กุลปฺปเวณี เอสา, กุลวตฺตเมต’นฺติ วิชฺชมานกวตฺถุํ อารพฺภ ‘วณฺณทานํ ทสฺสามี’ติ จินฺเตติ ตทา มโนกมฺมํ โหติ. เอวํ สีลมยํ กายวจีมโนกมฺมวเสน ติวิธํ โหติ.
ยทา ¶ ปน ตํ วุตฺตปฺปการํ วตฺถุํ ลภิตฺวา ตีณิ รตนานิ ปูเชตฺวา จงฺกมนฺโต ขยวยํ ปฏฺเปติ ตทา ภาวนามยํ กายกมฺมํ โหติ. วาจาย สมฺมสนํ ปฏฺเปนฺตสฺส วจีกมฺมํ โหติ, กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา มนสาว สมฺมสนํ ปฏฺเปนฺตสฺส มโนกมฺมํ โหติ. เอวํ ภาวนามยํ กายวจีมโนกมฺมวเสน ติวิธํ โหติ. เอวเมตํ รูปารมฺมณํ กุสลํ ติวิธปฺุกิริยวตฺถุวเสน นวหิ กมฺมทฺวาเรหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา. สทฺทารมฺมณาทีสุปิ เอเสว นโย.
เภริสทฺทาทีสุ ¶ หิ รชนียสทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ตีหิ นิยเมเหตํ กุสลํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ สทฺทํ กนฺทมูลํ วิย อุปฺปาเฏตฺวา นีลุปฺปลหตฺถกํ วิย จ หตฺเถ เปตฺวา ทาตุํ นาม น สกฺกา, สวตฺถุกํ ปน กตฺวา เทนฺโต สทฺททานํ เทติ นาม. ตสฺมา ยทา ‘สทฺททานํ ทสฺสามี’ติ เภริมุทิงฺคาทีสุ อฺตรตูริเยน ติณฺณํ รตนานํ อุปหารํ กโรติ, ‘สทฺททานํ เม’ติ เภริอาทีนิ ปาเปติ, ธมฺมกถิกภิกฺขูนํ สรเภสชฺชเตลผาณิตาทีนิ เทติ, ธมฺมสวนํ โฆเสติ, สรภฺํ ภณติ, ธมฺมกถํ กเถติ, อุปนิสินฺนกกถํ อนุโมทนกถํ กโรติ, ตทา ทานมยํเยว โหติ. ยทา เอตเทว วิธานํ กุลวํสาทิวเสน วตฺตวเสน กโรติ ตทา สีลมยํ โหติ. ยทา สพฺพมฺเปตํ กตฺวา อยํ เอตฺตโก สทฺโท พฺรหฺมโลกปฺปมาโณปิ หุตฺวา ‘ขยํ คมิสฺสติ, วยํ คมิสฺสตี’ติ สมฺมสนํ ปฏฺเปติ ตทา ภาวนามยํ โหติ.
ตตฺถ ทานมยํ ตาว ยทา เภริอาทีนิ คเหตฺวา สหตฺถา อุปหารํ กโรติ, นิจฺจุปหารตฺถาย เปนฺโตปิ สหตฺถา เปติ, ‘สทฺททานํ เม’ติ ธมฺมสวนํ โฆเสตุํ คจฺฉติ, ธมฺมกถํ สรภฺํ กาตุํ วา คจฺฉติ, ตทา กายกมฺมํ โหติ. ยทา ‘คจฺฉถ, ตาตา, อมฺหากํ สทฺททานํ ติณฺณํ รตนานํ ¶ อุปหารํ กโรถา’ติ อาณาเปติ, ‘สทฺททานํ เม’ติ เจติยงฺคเณสุ ‘อิมํ เภรึ, อิมํ มุทิงฺคํ เปถา’ติ อาณาเปติ, สยเมว ธมฺมสวนํ โฆเสติ, ธมฺมกถํ กเถติ, สรภฺํ ภณติ, ตทา วจีกมฺมํ โหติ. ยทา กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา ‘สทฺททานํ ทสฺสามี’ติ วิชฺชมานกวตฺถุํ มนสา ปริจฺจชติ, ตทา มโนกมฺมํ โหติ.
สีลมยมฺปิ ‘สทฺททานํ นาม มยฺหํ กุลวํโส กุลตนฺติ กุลปฺปเวณี’ติ เภริอาทีหิ สหตฺถา อุปหารํ กโรนฺตสฺส, เภริอาทีนิ สหตฺถา เจติยงฺคณาทีสุ เปนฺตสฺส, ธมฺมกถิกานํ สรเภสชฺชํ สหตฺถา ททนฺตสฺส, วตฺตสีเสน ธมฺมสวนโฆสนธมฺมกถากถนสรภฺภณนตฺถาย จ คจฺฉนฺตสฺส กายกมฺมํ โหติ. ‘สทฺททานํ นาม อมฺหากํ กุลวํโส กุลตนฺติ กุลปฺปเวณี, คจฺฉถ ¶ , ตาตา, พุทฺธรตนาทีนํ อุปหารํ กโรถา’ติ อาณาเปนฺตสฺส กุลวํสวเสเนว อตฺตนา ธมฺมกถํ วา สรภฺํ วา กโรนฺตสฺส จ วจีกมฺมํ โหติ. ‘สทฺททานํ นาม มยฺหํ กุลวํโส ¶ สทฺททานํ ทสฺสามี’ติ กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา มนสาว วิชฺชมานกวตฺถุํ ปริจฺจชนฺตสฺส มโนกมฺมํ โหติ.
ภาวนามยมฺปิ ยทา จงฺกมนฺโต สทฺเท ขยวยํ ปฏฺเปติ ตทา กายกมฺมํ โหติ. กายงฺคํ ปน อโจเปตฺวา วาจาย สมฺมสนฺตสฺส วจีกมฺมํ โหติ. กายงฺควาจงฺคํ อโจเปตฺวา มนสาว สทฺทายตนํ สมฺมสนฺตสฺส มโนกมฺมํ โหติ. เอวํ สทฺทารมฺมณมฺปิ กุสลํ ติวิธปฺุกิริยวตฺถุวเสน นวหิ กมฺมทฺวาเรหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.
มูลคนฺธาทีสุปิ รชนียคนฺธํ อารมฺมณํ กตฺวา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ตีหิ นิยเมเหตํ กุสลํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ ยทา มูลคนฺธาทีสุ ยํกิฺจิ คนฺธํ ลภิตฺวา คนฺธวเสน อาภุชิตฺวา ‘คนฺธทานํ มยฺห’นฺติ พุทฺธรตนาทีนิ ปูเชติ, ตทา ทานมยํ โหตีติ สพฺพํ วณฺณทาเน วุตฺตนเยเนว วิตฺถารโต เวทิตพฺพํ. เอวํ คนฺธารมฺมณมฺปิ กุสลํ ติวิธปฺุกิริยวตฺถุวเสน นวหิ กมฺมทฺวาเรหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.
มูลรสาทีสุ ปน รชนียรสํ อารมฺมณํ กตฺวา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ตีหิ นิยเมเหตํ กุสลํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ ยทา มูลรสาทีสุ ยํกิฺจิ รชนียํ รสวตฺถุํ ลภิตฺวา ¶ รสวเสน อาภุชิตฺวา ‘รสทานํ มยฺห’นฺติ เทติ ปริจฺจชติ, ตทา ทานมยํ โหตีติ สพฺพํ วณฺณทาเน วุตฺตนเยเนว วิตฺถารโต เวทิตพฺพํ. สีลมเย ปเนตฺถ ‘สงฺฆสฺส อทตฺวา ปริภฺุชนํ นาม อมฺหากํ น อาจิณฺณ’นฺติ ทฺวาทสนฺนํ ภิกฺขุสหสฺสานํ ทาเปตฺวา สาทุรสํ ปริภุตฺตสฺส ทุฏฺคามณิอภยรฺโ วตฺถุํ อาทึ กตฺวา มหาอฏฺกถายํ วตฺถูนิ อาคตานิ. อยเมว วิเสโส. เอวํ รสารมฺมณมฺปิ กุสลํ ติวิธปฺุกิริยวตฺถุวเสน นวหิ กมฺมทฺวาเรหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.
โผฏฺพฺพารมฺมเณปิ ปถวีธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ ตีณิ มหาภูตานิ โผฏฺพฺพารมฺมณํ นาม. อิมสฺมึ าเน เอเตสํ วเสน โยชนํ อกตฺวา มฺจปีาทิวเสน กาตพฺพา. ยทา หิ มฺจปีาทีสุ ยํกิฺจิ รชนียํ โผฏฺพฺพวตฺถุํ ลภิตฺวา โผฏฺพฺพวเสน อาภุชิตฺวา ‘โผฏฺพฺพทานํ ¶ มยฺห’นฺติ เทติ ปริจฺจชติ, ตทา ทานมยํ โหตีติ สพฺพํ วณฺณทาเน วุตฺตนเยเนว วิตฺถารโต เวทิตพฺพํ. เอวํ โผฏฺพฺพารมฺมณมฺปิ กุสลํ ติวิธปฺุกิริยวตฺถุวเสน นวหิ กมฺมทฺวาเรหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.
ธมฺมารมฺมเณ ¶ ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ, ตีณิ ลกฺขณานิ, ตโย อรูปิโน ขนฺธา, ปนฺนรส สุขุมรูปานิ, นิพฺพานปฺตฺตีติ อิเม ธมฺมายตเน ปริยาปนฺนา จ, อปริยาปนฺนา จ, ธมฺมา ธมฺมารมฺมณํ นาม. อิมสฺมึ ปน าเน เอเตสํ วเสน โยชนํ อกตฺวา โอชทานปานทานชีวิตทานวเสน กาตพฺพา. โอชาทีสุ หิ รชนียํ ธมฺมารมฺมณํ อารมฺมณํ กตฺวา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ตีหิ นิยเมเหตํ กุสลํ อุปฺปชฺชติ.
ตตฺถ ยทา ‘โอชทานํ มยฺห’นฺติ สปฺปินวนีตาทีนิ เทติ, ปานทานนฺติ อฏฺ ปานานิ เทติ, ชีวิตทานนฺติ สลากภตฺตสงฺฆภตฺตาทีนิ เทติ, อผาสุกานํ ภิกฺขูนํ เภสชฺชํ เทติ, เวชฺชํ ปจฺจุปฏฺาเปติ, ชาลํ ผาลาเปติ, กุมีนํ วิทฺธํสาเปติ, สกุณปฺชรํ วิทฺธํสาเปติ, พนฺธนโมกฺขํ การาเปติ, มาฆาตเภรึ จราเปติ, อฺานิปิ ชีวิตปริตฺตาณตฺถํ เอวรูปานิ กมฺมานิ กโรติ ตทา ทานมยํ โหติ. ยทา ปน ‘โอชทานปานทานชีวิตทานานิ มยฺหํ กุลวํโส กุลตนฺติ กุลปฺปเวณี’ติ วตฺตสีเสน โอชทานาทีนิ ปวตฺเตติ ตทา สีลมยํ โหติ. ยทา ธมฺมารมฺมณสฺมึ ขยวยํ ปฏฺเปติ ตทา ¶ ภาวนามยํ โหติ.
ทานมยํ ปน หุตฺวา ปวตฺตมานมฺปิ ยทา โอชทานปานทานชีวิตทานานิ สหตฺถา เทติ, ตทา กายกมฺมํ โหติ. ยทา ปุตฺตทาราทโย อาณาเปตฺวา ทาเปติ, ตทา วจีกมฺมํ โหติ. ยทา กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา โอชทานปานทานชีวิตทานวเสน วิชฺชมานกวตฺถุํ ‘ทสฺสามี’ติ มนสา จินฺเตติ, ตทา มโนกมฺมํ โหติ.
ยทา ปน วุตฺตปฺปการํ วิชฺชมานกวตฺถุํ กุลวํสาทิวเสน สหตฺถา เทติ, ตทา สีลมยํ กายกมฺมํ โหติ. ยทา กุลวํสาทิวเสเนว ปุตฺตทาราทโย อาณาเปตฺวา ทาเปติ, ตทา วจีกมฺมํ โหติ. ยทา กุลวํสาทิวเสเนว วุตฺตปฺปการํ วิชฺชมานกวตฺถุํ ‘ทสฺสามี’ติ มนสาว จินฺเตติ, ตทา มโนกมฺมํ โหติ.
จงฺกมิตฺวา ¶ ธมฺมารมฺมเณ ขยวยํ ปฏฺเปนฺตสฺส ปน ภาวนามยํ กายกมฺมํ โหติ. กายงฺคํ อโจเปตฺวา วาจาย ขยวยํ ปฏฺเปนฺตสฺส วจีกมฺมํ โหติ. กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา มนสาว ธมฺมารมฺมเณ ขยวยํ ¶ ปฏฺเปนฺตสฺส มโนกมฺมํ โหติ. เอวํ ภาวนามยํ กายวจีมโนกมฺมวเสน ติวิธํ โหติ. เอวเมตํ ธมฺมารมฺมณมฺปิ กุสลํ ติวิธปฺุกิริยวตฺถุวเสน นวหิ กมฺมทฺวาเรหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.
เอวมิทํ จิตฺตํ นานาวตฺถูสุ นานารมฺมณวเสน ทีปิตํ. อิทํ ปน เอกวตฺถุสฺมิมฺปิ นานารมฺมณวเสน ลพฺภติเยว. กถํ? จตูสุ หิ ปจฺจเยสุ จีวเร ฉ อารมฺมณานิ ลพฺภนฺติ – นวรตฺตสฺส หิ จีวรสฺส วณฺโณ มนาโป โหติ ทสฺสนีโย, อิทํ วณฺณารมฺมณํ. ปริโภคกาเล ปฏปฏสทฺทํ กโรติ, อิทํ สทฺทารมฺมณํ. โย ตตฺถ กาฬกจฺฉกาทิคนฺโธ, อิทํ คนฺธารมฺมณํ. รสารมฺมณํ ปน ปริโภครสวเสน กถิตํ. ยา ตตฺถ สุขสมฺผสฺสตา, อิทํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ. จีวรํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนา สุขา เวทนา, ธมฺมารมฺมณํ. ปิณฺฑปาเต รสารมฺมณํ นิปฺปริยาเยเนว ลพฺภติ. เอวํ จตูสุ ปจฺจเยสุ นานารมฺมณวเสน โยชนํ กตฺวา ทานมยาทิเภโท เวทิตพฺโพ.
อิมสฺส ปน จิตฺตสฺส อารมฺมณเมว นิพทฺธํ, วินา อารมฺมเณน อนุปฺปชฺชนโต. ทฺวารํ ปน อนิพทฺธํ. กสฺมา? กมฺมสฺส อนิพทฺธตฺตา. กมฺมสฺมิฺหิ อนิพทฺเธ ทฺวารมฺปิ อนิพทฺธเมว โหติ.
กามาวจรกุสลํ ทฺวารกถา
กายกมฺมทฺวารกถา
อิมสฺส ปนตฺถสฺส ¶ ปกาสนตฺถํ อิมสฺมึ าเน มหาอฏฺกถายํ ทฺวารกถา กถิตา. ตตฺถ ตีณิ กมฺมานิ, ตีณิ กมฺมทฺวารานิ, ปฺจ วิฺาณานิ, ปฺจ วิฺาณทฺวารานิ, ฉ ผสฺสา, ฉ ผสฺสทฺวารานิ, อฏฺ อสํวรา, อฏฺ อสํวรทฺวารานิ, อฏฺ สํวรา, อฏฺ สํวรทฺวารานิ, ทส กุสลกมฺมปถา, ทส อกุสลกมฺมปถาติ, อิทํ เอตฺตกํ ทฺวารกถาย มาติกาปนํ นาม.
ตตฺถ ¶ กิฺจาปิ ตีณิ กมฺมานิ ปมํ วุตฺตานิ, ตานิ ปน เปตฺวา อาทิโต ตาว ตีณิ กมฺมทฺวารานิ ภาเชตฺวา ทสฺสิตานิ. กตมานิ ตีณิ? กายกมฺมทฺวารํ, วจีกมฺมทฺวารํ, มโนกมฺมทฺวารนฺติ.
ตตฺถ ¶ จตุพฺพิโธ กาโย – อุปาทินฺนโก, อาหารสมุฏฺาโน, อุตุสมุฏฺาโน, จิตฺตสมุฏฺาโนติ. ตตฺถ จกฺขายตนาทีนิ ชีวิตินฺทฺริยปริยนฺตานิ อฏฺ กมฺมสมุฏฺานรูปานิปิ, กมฺมสมุฏฺานาเนว จตสฺโส ธาตุโย วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชาติ อฏฺ อุปาทินฺนกกาโย นาม. ตาเนว อฏฺ อาหารชานิ อาหารสมุฏฺานิกกาโย นาม. อฏฺ อุตุชานิ อุตุสมุฏฺานิกกาโย นาม. อฏฺ จิตฺตชานิ จิตฺตสมุฏฺานิกกาโย นาม.
เตสุ กายกมฺมทฺวารนฺติ เนว อุปาทินฺนกกายสฺส นามํ น อิตเรสํ. จิตฺตสมุฏฺาเนสุ ปน อฏฺสุ รูเปสุ เอกา วิฺตฺติ อตฺถิ, อิทํ กายกมฺมทฺวารํ นาม. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘กตมํ ตํ รูปํ กายวิฺตฺติ? ยา กุสลจิตฺตสฺส วา, อกุสลจิตฺตสฺส วา, อพฺยากตจิตฺตสฺส วา, อภิกฺกมนฺตสฺส วา ปฏิกฺกมนฺตสฺส วา, อาโลเกนฺตสฺส วา วิโลเกนฺตสฺส วา, สมิฺเชนฺตสฺส วา ปสาเรนฺตสฺส วา, กายสฺส ถมฺภนา สนฺถมฺภนา สนฺถมฺภิตตฺตํ, วิฺตฺติ วิฺาปนา วิฺาปิตตฺตํ, อิทํ ตํ รูปํ กายวิฺตฺตี’’ติ (ธ. ส. ๗๒๐). ‘อภิกฺกมิสฺสามิ ปฏิกฺกมิสฺสามี’ติ หิ จิตฺตํ อุปฺปชฺชมานํ รูปํ สมุฏฺาเปติ. ตตฺถ ยา ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ ตนฺนิสฺสิโต วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชาติ อิเมสํ อฏฺนฺนํ รูปกลาปานํ อพฺภนฺตเร จิตฺตสมุฏฺานา วาโยธาตุ, สา อตฺตนา สหชาตํ รูปกายํ สนฺถมฺเภติ สนฺธาเรติ จาเลติ อภิกฺกมาเปติ ปฏิกฺกมาเปติ.
ตตฺถ เอกาวชฺชนวีถิยํ สตฺตสุ ชวเนสุ ปมจิตฺตสมุฏฺิตา วาโยธาตุ ¶ อตฺตนา สหชาตํ รูปกายํ สนฺถมฺเภตุํ สนฺธาเรตุํ สกฺโกติ, อปราปรํ ปน จาเลตุํ น สกฺโกติ. ทุติยาทีสุปิ เอเสว นโย. สตฺตมจิตฺเตน ปน สมุฏฺิตา วาโยธาตุ เหฏฺา ฉหิ จิตฺเตหิ สมุฏฺิตํ วาโยธาตุํ อุปตฺถมฺภนปจฺจยํ ลภิตฺวา อตฺตนา สหชาตํ รูปกายํ สนฺถมฺเภตุํ สนฺธาเรตุํ จาเลตุํ อภิกฺกมาเปตุํ ปฏิกฺกมาเปตุํ อาโลกาเปตุํ วิโลกาเปตุํ สมฺมิฺชาเปตุํ ปสาราเปตุํ สกฺโกติ. เตน คมนํ นาม ชายติ, อาคมนํ นาม ชายติ, คมนาคมนํ นาม ชายติ. ‘โยชนํ คโต ทสโยชนํ คโต’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชาเปติ.
ยถา ¶ ¶ หิ สตฺตหิ ยุเคหิ อากฑฺฒิตพฺเพ สกเฏ ปมยุเค ยุตฺตโคณา ยุคํ ตาว สนฺถมฺเภตุํ สนฺธาเรตุํ สกฺโกนฺติ, จกฺกํ ปน นปวฏฺเฏนฺติ; ทุติยาทีสุปิ เอเสว นโย; สตฺตมยุเค ปน โคเณ โยเชตฺวา ยทา เฉโก สารถิ ธุเร นิสีทิตฺวา โยตฺตานิ อาทาย สพฺพปุริมโต ปฏฺาย ปโตทลฏฺิยา โคเณ อาโกเฏติ, ตทา สพฺเพว เอกพลา หุตฺวา ธุรฺจ สนฺธาเรนฺติ จกฺกานิ จ ปวฏฺเฏนฺติ. ‘สกฏํ คเหตฺวา ทสโยชนํ วีสติโยชนํ คตา’ติ วตฺตพฺพตํ อาปาเทนฺติ – เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ โย จิตฺตสมุฏฺานิกกาโย น โส วิฺตฺติ, จิตฺตสมุฏฺานาย ปน วาโยธาตุยา สหชาตํ รูปกายํ สนฺถมฺเภตุํ สนฺธาเรตุํ จาเลตุํ ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺโถ เอโก อาการวิกาโร อตฺถิ, อยํ วิฺตฺติ นาม. สา อฏฺ รูปานิ วิย น จิตฺตสมุฏฺานา. ยถา ปน อนิจฺจาทิเภทานํ ธมฺมานํ ชรามรณตฺตา, ‘‘ชรามรณํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ สงฺขต’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๒๐) วุตฺตํ, เอวํ จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ วิฺตฺติตาย สาปิ จิตฺตสมุฏฺานา นาม โหติ.
วิฺาปนตฺตา ปเนสา วิฺตฺตีติ วุจฺจติ. กึ วิฺาเปตีติ? เอกํ กายิกกรณํ. จกฺขุปถสฺมิฺหิ ิโต หตฺถํ วา ปาทํ วา อุกฺขิปติ, สีสํ วา ภมุกํ วา จาเลติ, อยํ หตฺถาทีนํ อากาโร จกฺขุวิฺเยฺโย โหติ. วิฺตฺติ ปน น จกฺขุวิฺเยฺยา มโนวิฺเยฺยา เอว. จกฺขุนา หิ หตฺถวิการาทิวเสน วิปฺผนฺทมานํ วณฺณารมฺมณเมว ปสฺสติ. วิฺตฺตึ ปน มโนทฺวาริกจิตฺเตน จินฺเตตฺวา ‘อิทฺจิทฺจ เอส กาเรติ มฺเ’ติ ชานาติ.
ยถา หิ อรฺเ นิทาฆสมเย อุทกฏฺาเน มนุสฺสา ‘อิมาย สฺาย อิธ อุทกสฺส อตฺถิภาวํ ชานิสฺสนฺตี’ติ รุกฺขคฺเค ตาลปณฺณาทีนิ พนฺธาเปนฺติ, สุราปานทฺวาเร ธชํ อุสฺสาเปนฺติ, อุจฺจํ วา ¶ ปน รุกฺขํ วาโต ปหริตฺวา จาเลติ, อนฺโตอุทเก มจฺเฉ จลนฺเต อุปริ พุพฺพุฬกานิ อุฏฺหนฺติ, มโหฆสฺส คตมคฺคปริยนฺเต ติณปณฺณกสฏํ อุสฺสาริตํ โหติ. ตตฺถ ตาลปณฺณธชสาขาจลนพุพฺพุฬกติณปณฺณกสเฏ ทิสฺวา ยถา จกฺขุนา อทิฏฺมฺปิ ‘เอตฺถ อุทกํ ภวิสฺสติ, สุรา ภวิสฺสติ, อยํ รุกฺโข วาเตน ปหโต ภวิสฺสติ, อนฺโตอุทเก มจฺโฉ ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ ¶ านํ อชฺโฌตฺถริตฺวา โอโฆ คโต ภวิสฺสตี’ติ มโนวิฺาเณน ชานาติ, เอวเมว วิฺตฺติปิ น จกฺขุวิฺเยฺยา มโนวิฺเยฺยาว. จกฺขุนา หิ หตฺถวิการาทิวเสน ¶ วิปฺผนฺทมานํ วณฺณารมฺมณเมว ปสฺสติ. วิฺตฺตึ ปน มโนทฺวาริกจิตฺเตน จินฺเตตฺวา ‘อิทฺจิทฺจ เอส กาเรติ มฺเ’ติ ชานาติ.
น เกวลฺเจสา วิฺาปนโตว วิฺตฺติ นาม. วิฺเยฺยโตปิ ปน วิฺตฺติเยว นาม. อยฺหิ ปเรสํ อนฺตมโส ติรจฺฉานคตานมฺปิ ปากฏา โหติ. ตตฺถ ตตฺถ สนฺนิปติตา หิ โสณสิงฺคาลกากโคณาทโย ทณฺฑํ วา เลฑฺฑุํ วา คเหตฺวา ปหรณากาเร ทสฺสิเต ‘อยํ โน ปหริตุกาโม’ติ ตฺวา เยน วา เตน วา ปลายนฺติ. ปาการกุฏฺฏาทิอนฺตริกสฺส ปน ปรสฺส อปากฏกาโลปิ อตฺถิ. กิฺจาปิ ตสฺมึ ขเณ อปากฏา สมฺมุขีภูตานํ ปน ปากฏตฺตา วิฺตฺติเยว นาม โหติ.
จิตฺตสมุฏฺานิเก ปน กาเย จลนฺเต ติสมุฏฺานิโก จลติ น จลตีติ? โสปิ ตเถว จลติ. ตํคติโก ตทนุวตฺตโกว โหติ. ยถา หิ อุทเก คจฺฉนฺเต อุทเก ปติตานิ สุกฺขทณฺฑกติณปณฺณาทีนิปิ อุทกคติกาเนว ภวนฺติ, ตสฺมึ คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺติ, ติฏฺนฺเต ติฏฺนฺติ – เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. เอวเมสา จิตฺตสมุฏฺาเนสุ รูเปสุ วิฺตฺติ กายกมฺมทฺวารํ นามาติ เวทิตพฺพา.
ยา ปน ตสฺมึ ทฺวาเร สิทฺธา เจตนา ยาย ปาณํ หนติ, อทินฺนํ อาทิยติ, มิจฺฉาจารํ จรติ, ปาณาติปาตาทีหิ วิรมติ, อิทํ กายกมฺมํ นาม. เอวํ ปรวาทิมฺหิ สติ กาโย ทฺวารํ, ตมฺหิ ทฺวาเร สิทฺธา เจตนา กายกมฺมํ ‘กุสลํ วา อกุสลํ วา’ติ เปตพฺพํ. ปรวาทิมฺหิ ปน อสติ ‘อพฺยากตํ วา’ติ ติกํ ปูเรตฺวาว เปตพฺพํ. ตตฺถ ยถา นครทฺวารํ กตฏฺาเนเยว ติฏฺติ, องฺคุลมตฺตมฺปิ อปราปรํ น สงฺกมติ, เตน เตน ปน ทฺวาเรน มหาชโน สฺจรติ, เอวเมว ทฺวาเร ทฺวารํ น สฺจรติ, กมฺมํ ปน ตสฺมึ ตสฺมึ ทฺวาเร อุปฺปชฺชนโต จรติ. เตนาหุ โปราณา –
ทฺวาเร จรนฺติ กมฺมานิ, น ทฺวารา ทฺวารจาริโน;
ตสฺมา ทฺวาเรหิ กมฺมานิ, อฺมฺํ ววตฺถิตาติ.
ตตฺถ ¶ ¶ กมฺเมนาปิ ทฺวารํ นามํ ลภติ, ทฺวาเรนาปิ กมฺมํ. ยถา หิ วิฺาณาทีนํ อุปฺปชฺชนฏฺานานิ ¶ วิฺาณทฺวารํ ผสฺสทฺวารํ อสํวรทฺวารํ สํวรทฺวารนฺติ นามํ ลภนฺติ, เอวํ กายกมฺมสฺส อุปฺปชฺชนฏฺานํ กายกมฺมทฺวารนฺติ นามํ ลภติ. วจีมโนกมฺมทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. ยถา ปน ตสฺมึ ตสฺมึ รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา สิมฺพลิเทวตา ปลาสเทวตา ปุจิมนฺทเทวตา ผนฺทนเทวตาติ เตน เตน รุกฺเขน นามํ ลภติ, เอวเมว กายทฺวาเรน กตํ กมฺมมฺปิ กายกมฺมนฺติ ทฺวาเรน นามํ ลภติ. วจีกมฺมมโนกมฺเมสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อฺโ กาโย, อฺํ กมฺมํ, กาเยน ปน กตตฺตา ตํ กายกมฺมนฺติ วุจฺจติ. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา –
กาเยน เจ กตํ กมฺมํ, กายกมฺมนฺติ วุจฺจติ;
กาโย จ กายกมฺมฺจ, อฺมฺํ ววตฺถิตา.
สูจิยา เจ กตํ กมฺมํ, สูจิกมฺมนฺติ วุจฺจติ;
สูจิ จ สูจิกมฺมฺจ, อฺมฺํ ววตฺถิตา.
วาสิยา เจ กตํ กมฺมํ, วาสิกมฺมนฺติ วุจฺจติ;
วาสิ จ วาสิกมฺมฺจ, อฺมฺํ ววตฺถิตา.
ปุริเสน เจ กตํ กมฺมํ, ปุริสกมฺมนฺติ วุจฺจติ;
ปุริโส จ ปุริสกมฺมฺจ, อฺมฺํ ววตฺถิตา.
เอวเมวํ.
กาเยน เจ กตํ กมฺมํ, กายกมฺมนฺติ วุจฺจติ;
กาโย จ กายกมฺมฺจ, อฺมฺํ ววตฺถิตาติ.
เอวํ สนฺเต เนว ทฺวารววตฺถานํ ยุชฺชติ, น กมฺมววตฺถานํ. กถํ? กายวิฺตฺติยฺหิ ‘‘ทฺวาเร จรนฺติ กมฺมานี’’ติ วจนโต วจีกมฺมมฺปิ ปวตฺตติ, เตนสฺสา กายกมฺมทฺวารนฺติ ววตฺถานํ น ยุตฺตํ. กายกมฺมฺจ วจีวิฺตฺติยมฺปิ ปวตฺตติ, เตนสฺส กายกมฺมนฺติ ววตฺถานํ น ยุชฺชตี’ติ. ‘โน น ยุชฺชติ. กสฺมา? เยภุยฺยวุตฺติตาย เจว ตพฺพหุลวุตฺติตาย จ. กายกมฺมเมว หิ เยภุยฺเยน กายวิฺตฺติยํ ปวตฺตติ น อิตรานิ, ตสฺมา กายกมฺมสฺส เยภุยฺเยน ปวตฺติโต ตสฺสา กายกมฺมทฺวารภาโว สิทฺโธ. พฺราหฺมณคามอมฺพวนนาควนาทีนํ พฺราหฺมณคามาทิภาโว วิยาติ ทฺวารววตฺถานํ ยุชฺชติ. กายกมฺมํ ปน กายทฺวารมฺหิเยว พหุลํ ปวตฺตติ ¶ อปฺปํ วจีทฺวาเร ¶ . ตสฺมา กายทฺวาเร พหุลํ ปวตฺติโต เอตสฺส ¶ กายกมฺมภาโว สิทฺโธ, วนจรกถุลฺลกุมาริกาทิโคจรานํ วนจรกาทิภาโว วิยาติ. เอวํ กมฺมววตฺถานมฺปิ ยุชฺชตี’ติ.
กายกมฺมทฺวารกถา นิฏฺิตา.
วจีกมฺมทฺวารกถา
วจีกมฺมทฺวารกถายํ ปน เจตนาวิรติสทฺทวเสน ติวิธา วาจา นาม. ตตฺถ ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตา วาจา สุภาสิตา โหติ โน ทุพฺภาสิตา, อนวชฺชา จ อนนุวชฺชา จ วิฺูน’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๑๓); อยํ เจตนาวาจา นาม. ยา ‘‘จตูหิ วจีทุจฺจริเตหิ อารติ วิรติ…เป… อยํ วุจฺจติ สมฺมาวาจา’’ติ (วิภ. ๒๐๖), อยํ วิรติวาจา นาม. ‘‘วาจา คิรา พฺยปฺปโถ อุทีรณํ โฆโส โฆสกมฺมํ วาจา วจีเภโท’’ติ (ธ. ส. ๘๕๐), อยํ สทฺทวาจา นาม. ตาสุ วจีกมฺมทฺวารนฺติ เนว เจตนาย นามํ น วิรติยา. สหสทฺทา ปน เอกา วิฺตฺติ อตฺถิ, อิทํ วจีกมฺมทฺวารํ นาม. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘กตมํ ตํ รูปํ วจีวิฺตฺติ? ยา กุสลจิตฺตสฺส วา อกุสลจิตฺตสฺส วา อพฺยากตจิตฺตสฺส วา วาจา คิรา พฺยปฺปโถ อุทีรณํ โฆโส โฆสกมฺมํ วาจา วจีเภโท, อยํ วุจฺจติ วาจา. ยา ตาย วาจาย วิฺตฺติ วิฺาปนา วิฺาปิตตฺตํ, อิทํ ตํ รูปํ วจีวิฺตฺตี’’ติ (ธ. ส. ๖๓๖).
‘อิทํ วกฺขามิ เอตํ วกฺขามี’ติ หิ วิตกฺกยโต วิตกฺกวิปฺผารสทฺโท นาม อุปฺปชฺชติ. อยํ น โสตวิฺเยฺโย มโนวิฺเยฺโยติ มหาอฏฺกถายํ อาคโต. อาคมฏฺกถาสุ ปน ‘วิตกฺกวิปฺผารสทฺท’นฺติ วิตกฺกวิปฺผารวเสน อุปฺปนฺนํ วิปฺปลปนฺตานํ สุตฺตปฺปมตฺตาทีนํ สทฺทํ; ‘สุตฺวา’ติ ตํ สุตฺวา, ยํ วิตกฺกยโต ตสฺส โส สทฺโท อุปฺปนฺโน; ตสฺส วเสน ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน’ติ อาทิสตีติ วตฺวา วตฺถูนิปิ กถิตานิ. ปฏฺาเนปิ ‘‘จิตฺตสมุฏฺานํ สทฺทายตนํ โสตวิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อาคตํ. ตสฺมา วินา วิฺตฺติฆฏฺฏนาย ¶ อุปฺปชฺชมาโน อโสตวิฺเยฺโย วิตกฺกวิปฺผารสทฺโท นาม นตฺถิ. ‘อิทํ วกฺขามิ ¶ เอตํ วกฺขามี’ติ อุปฺปชฺชมานํ ปน จิตฺตํ ปถวีธาตุ อาโปธาตุ ¶ เตโชธาตุ วาโยธาตุ วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชาติ อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. เตสํ อพฺภนฺตเร จิตฺตสมุฏฺานา ปถวีธาตุ อุปาทินฺนกํ ฆฏฺฏยมานาว อุปฺปชฺชติ. เตน ธาตุสงฺฆฏฺฏเนน สเหว สทฺโท อุปฺปชฺชตีติ. อยํ จิตฺตสมุฏฺานสทฺโท นาม. อยํ น วิฺตฺติ. ตสฺสา ปน จิตฺตสมุฏฺานาย ปถวีธาตุยา อุปาทินฺนกฆฏฺฏนสฺส ปจฺจยภูโต เอโก อาการวิกาโร อตฺถิ, อยํ วจีวิฺตฺติ นาม. อิโต ปรํ สา อฏฺ รูปานิ วิย น จิตฺตสมุฏฺานาติอาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อิธาปิ หิ ‘ติสฺส, ทตฺต, มิตฺตา’ติ ปกฺโกสนฺตสฺส สทฺทํ สุตฺวา วิฺตฺตึ มโนทฺวาริกจิตฺเตน จินฺเตตฺวา ‘อิทฺจิทฺจ เอส กาเรติ มฺเ’ติ ชานาติ. กายวิฺตฺติ วิย จ อยมฺปิ ติรจฺฉานคตานมฺปิ ปากฏา โหติ. ‘เอหิ, ยาหี’ติ หิ สทฺทํ สุตฺวา ติรจฺฉานคตาปิ ‘อิทํ นาเมส กาเรติ มฺเ’ติ ตฺวา อาคจฺฉนฺติ เจว คจฺฉนฺติ จ. ติสมุฏฺานิกกายํ จาเลติ น จาเลตีติ, อยํ ปน วาโร อิธ น ลพฺภติ. ปุริมจิตฺตสมุฏฺานาย อุปตฺถมฺภนกิจฺจมฺปิ นตฺถิ. ยา ปน ตสฺมึ วจีทฺวาเร สิทฺธา เจตนา, ยาย มุสา กเถติ, เปสฺุํ กเถติ, ผรุสํ กเถติ, สมฺผํ ปลปติ, มุสาวาทาทีหิ วิรมติ, อิทํ วจีกมฺมํ นาม. อิโต ปรํ สพฺพํ กมฺมววตฺถานฺจ ทฺวารววตฺถานฺจ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
วจีกมฺมทฺวารกถา นิฏฺิตา.
มโนกมฺมทฺวารกถา
มโนกมฺมทฺวารกถายํ ปน กามาวจราทิวเสน จตุพฺพิโธ มโน มโน นาม. ตตฺถ กามาวจโร จตุปฺาสวิโธ โหติ, รูปาวจโร ปนฺนรสวิโธ, อรูปาวจโร ทฺวาทสวิโธ, โลกุตฺตโร อฏฺวิโธติ สพฺโพปิ เอกูนนวุติวิโธ โหติ. ตตฺถ อยํ นาม มโน มโนทฺวารํ น โหตีติ น วตฺตพฺโพ. ยถา หิ อยํ นาม เจตนา กมฺมํ น โหตีติ น วตฺตพฺพา, อนฺตมโส ปฺจวิฺาณสมฺปยุตฺตาปิ ¶ หิ เจตนา มหาปกรเณ กมฺมนฺตฺเวว นิทฺทิฏฺา, เอวเมว อยํ นาม มโน มโนทฺวารํ น โหตีติ น วตฺตพฺโพ.
เอตฺถาห ¶ – กมฺมํ นาเมตํ กึ กโรตีติ? อายูหติ, อภิสงฺขโรติ, ปิณฺฑํ กโรติ, เจเตติ, กปฺเปติ, ปกปฺเปตีติ. เอวํ สนฺเต ปฺจวิฺาณเจตนา กึ อายูหติ, อภิสงฺขโรติ, ปิณฺฑํ ¶ กโรติ, เจเตติ, กปฺเปติ, ปกปฺเปตีติ?. สหชาตธมฺเม. สาปิ หิ สหชาเต สมฺปยุตฺตกฺขนฺเธ อายูหติ อภิสงฺขโรติ ปิณฺฑํ กโรติ เจเตติ กปฺเปติ ปกปฺเปตีติ. กึ วา อิมินา วาเทน? สพฺพสงฺคาหิกวเสน เหตํ วุตฺตํ. อิทํ ปเนตฺถ สนฺนิฏฺานํ – เตภูมกกุสลากุสโล เอกูนตึสวิโธ มโน มโนกมฺมทฺวารํ นาม. ยา ปน ตสฺมึ มโนทฺวาเร สิทฺธา เจตนา ยาย อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทสฺสนานิ เจว อนภิชฺฌาอพฺยาปาทสมฺมาทสฺสนานิ จ คณฺหาติ, อิทํ มโนกมฺมํ นาม. อิโต ปรํ สพฺพํ กมฺมววตฺถานฺจ ทฺวารววตฺถานฺจ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ. อิมานิ ตีณิ กมฺมทฺวารานิ นาม.
มโนกมฺมทฺวารกถา นิฏฺิตา.
กมฺมกถา
อิทานิ ยานิ ตีณิ กมฺมานิ เปตฺวา อิมานิ กมฺมทฺวารานิ ทสฺสิตานิ, ตานิ อาทึ กตฺวา อวเสสสฺส ทฺวารกถาย มาติกาปนสฺส วิตฺถารกถา โหติ. ตีณิ หิ กมฺมานิ – กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมนฺติ. กึ ปเนตํ กมฺมํ นามาติ? เจตนา เจว, เอกจฺเจ จ เจตนาสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา. ตตฺถ เจตนาย กมฺมภาเว อิมานิ สุตฺตานิ –
‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามิ, เจตยิตฺวา กมฺมํ กโรติ กาเยน วาจาย มนสา’’ (อ. นิ. ๖.๖๓; กถา. ๕๓๙). ‘‘กาเย วา หิ, อานนฺท, สติ กายสฺเจตนาเหตุ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ, วาจาย วา, อานนฺท, สติ วจีสฺเจตนาเหตุ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; มเน วา, อานนฺท, สติ มโนสฺเจตนาเหตุ ¶ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ’’ (สํ. นิ. ๒.๒๕; อ. นิ. ๔.๑๗๑). ‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา อกุสลํ กายกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ, ทุกฺขวิปากํ; จตุพฺพิธา, ภิกฺขเว, วจีสฺเจตนา…เป… ติวิธา, ภิกฺขเว, มโนสฺเจตนา อกุสลํ มโนกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปากํ ติวิธา ¶ , ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา กุสลํ กายกมฺมํ สุขุทฺรยํ สุขวิปากํ จตุพฺพิธา, ภิกฺขเว, วจีสฺเจตนา…เป… ติวิธา, ภิกฺขเว, มโนสฺเจตนา, กุสลํ มโนกมฺมํ สุขุทฺรยํ สุขวิปากํ’’ (กถา. ๕๓๙; อ. นิ. ๑๐.๒๑๗ โถกํ วิสทิสํ). ‘‘สจายํ, อานนฺท, สมิทฺธิ โมฆปุริโส ปาฏลิปุตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอวํ ปุฏฺโ เอวํ พฺยากเรยฺย – สฺเจตนิยํ, อาวุโส ปาฏลิปุตฺต, กมฺมํ กตฺวา กาเยน วาจาย มนสา, สุขเวทนียํ สุขํ โส เวทยติ…เป… อทุกฺขมสุขเวทนียํ อทุกฺขมสุขํ โส เวทยตีติ; เอวํ พฺยากรมาโน โข, อานนฺท, สมิทฺธิ โมฆปุริโส ปาฏลิปุตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๐; กถา. ๕๓๙).
อิมานิ ตาว เจตนาย กมฺมภาเว สุตฺตานิ. เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปน กมฺมภาโว กมฺมจตุกฺเกน ทีปิโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ, อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ, อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ, อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ (อ. นิ. ๔.๒๓๒-๒๓๓).… กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ? ยทิทํ สตฺต โพชฺฌงฺคา – สติสมฺโพชฺฌงฺโค…เป… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค, อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ (อ. นิ. ๔.๒๓๘).… กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค – เสยฺยถิทํ, สมฺมาทิฏฺิ ¶ …เป… สมฺมาสมาธิ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓๗).
เอวํ อิเม โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคปฺปเภทโต ปนฺนรส ธมฺมา กมฺมจตุกฺเกน ทีปิตา. อภิชฺฌา, พฺยาปาโท, มิจฺฉาทิฏฺิ, อนภิชฺฌา, อพฺยาปาโท, สมฺมาทิฏฺีติ อิเมหิ ปน ฉหิ สทฺธึ เอกวีสติ เจตนาสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา เวทิตพฺพา.
ตตฺถ ¶ โลกุตฺตรมคฺโค ภชาปิยมาโน กายกมฺมาทีนิ ตีณิ กมฺมานิ ภชติ. ยฺหิ กาเยน ทุสฺสีลฺยํ อชฺฌาจรติ, ตมฺหา สํวโร กายิโกติ เวทิตพฺโพ. ยํ วาจาย ทุสฺสีลฺยํ อชฺฌาจรติ, ตมฺหา สํวโร วาจสิโกติ เวทิตพฺโพ. อิติ สมฺมากมฺมนฺโต กายกมฺมํ, สมฺมาวาจา วจีกมฺมํ. เอตสฺมึ ทฺวเย คหิเต สมฺมาอาชีโว ตปฺปกฺขิกตฺตา คหิโตว โหติ. ยํ ปน มเนน ทุสฺสีลฺยํ อชฺฌาจรติ, ตมฺหา สํวโร มานสิโกติ เวทิตพฺโพ. โส ทิฏฺิสงฺกปฺปวายามสติสมาธิวเสน ปฺจวิโธ โหติ. อยํ ปฺจวิโธปิ มโนกมฺมํ นาม. เอวํ โลกุตฺตรมคฺโค ภชาปิยมาโน ตีณิ กมฺมานิ ภชติ.
อิมสฺมึ าเน ทฺวารสํสนฺทนํ นาม โหติ. กายวจีทฺวาเรสุ หิ โจปนํ ปตฺวา กมฺมปถํ อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ, มโนทฺวาเร จ สมุทาจารํ ปตฺวา กมฺมปถํ อปฺปตฺตมฺปิ ¶ อตฺถิ; ตํ คเหตฺวา ตํตํทฺวารปกฺขิกเมว อกํสุ.
ตตฺรายํ นโย – โย ‘มิควํ คมิสฺสามี’ติ ธนุํ สชฺเชติ, ชิยํ วฏฺเฏติ, สตฺตึ นิเสติ, ภตฺตํ ภฺุชติ, วตฺถํ ปริทหติ, เอตฺตาวตา กายทฺวาเร โจปนํ ปตฺตํ โหติ. โส อรฺเ ทิวสํ จริตฺวา อนฺตมโส สสพิฬารมตฺตมฺปิ น ลภติ, อิทํ อกุสลํ กายกมฺมํ นาม โหติ น โหตีติ? น โหติ. กสฺมา? กมฺมปถํ อปฺปตฺตตาย. เกวลํ ปน กายทุจฺจริตํ นาม โหตีติ เวทิตพฺพํ. มจฺฉคฺคหณาที สุปโยเคสุปิ เอเสว นโย.
วจีทฺวาเรปิ ‘มิควํ คมิสฺสามิ’ ‘เวเคน ธนุอาทีนิ สชฺเชถา’ติ อาณาเปตฺวา ปุริมนเยเนว อรฺเ กิฺจิ อลภนฺตสฺส กิฺจาปิ วจีทฺวาเร โจปนํ ปตฺตํ, กมฺมปถํ อปฺปตฺตตาย ปน กายกมฺมํ น โหติ. เกวลํ วจีทุจฺจริตํ นาม โหตีติ เวทิตพฺพํ.
มโนทฺวาเร ¶ ปน วธกเจตนาย อุปฺปนฺนมตฺตาย เอว กมฺมปถเภโทว โหติ. โส จ โข พฺยาปาทวเสน น ปาณาติปาตวเสน. อกุสลฺหิ กายกมฺมํ กายวจีทฺวาเรสุ สมุฏฺาติ, น มโนทฺวาเร; ตถา อกุสลํ วจีกมฺมํ. อกุสลํ มโนกมฺมํ ปน ตีสุปิ ทฺวาเรสุ สมุฏฺาติ; ตถา กุสลานิ กายวจีมโนกมฺมานิ.
กถํ ¶ ? สหตฺถา หิ ปาณํ หนนฺตสฺส อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส มิจฺฉาจารํ จรนฺตสฺส กมฺมํ กายกมฺมเมว โหติ. ทฺวารมฺปิ กายทฺวารเมว โหติ. เอวํ ตาว อกุสลํ กายกมฺมํ กายทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ ปน จิตฺเตหิ สหชาตา อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิโย เจตนาปกฺขิกา วา ภวนฺติ, อพฺโพหาริกา วา. ‘คจฺฉ อิตฺถนฺนามํ ชีวิตา โวโรเปหิ, อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’ติ อาณาเปนฺตสฺส ปน กมฺมํ กายกมฺมํ โหติ, ทฺวารํ ปน วจีทฺวารํ. เอวํ อกุสลํ กายกมฺมํ วจีทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ ปน จิตฺเตหิ สหชาตา อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิโย เจตนาปกฺขิกา วา ภวนฺติ อพฺโพหาริกา วา. เอตฺตกา อาจริยานํ สมานตฺถกถา นาม.
วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘อกุสลํ กายกมฺมํ มโนทฺวาเรปิ สมุฏฺาตี’ติ. โส ‘ตโย สงฺคเห อารุฬฺหํ สุตฺตํ อาหราหี’ติ วุตฺโต อิทํ กุลุมฺพสุตฺตํ นาม อาหริ –
‘‘ปุน จปรํ ¶ , ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต อฺิสฺสา กุจฺฉิคตํ คพฺภํ ปาปเกน มนสา อนุเปกฺขโก โหติ – ‘อโห วตายํ กุจฺฉิคโต คพฺโภ น โสตฺถินา อภินิกฺขเมยฺยา’ติ. เอวํ, ภิกฺขเว, กุลุมฺพสฺส อุปฆาโต โหตี’’ติ.
อิทํ สุตฺตํ อาหริตฺวา อาห – ‘เอวํ จินฺติตมตฺเตเยว มนสา กุจฺฉิคโต คพฺโภ เผณปิณฺโฑ วิย วิลียติ. เอตฺถ กุโต กายงฺคโจปนํ วา วาจงฺคโจปนํ วา? มโนทฺวารสฺมึเยว ปน อิทํ อกุสลํ กายกมฺมํ สมุฏฺาตี’ติ.
ตเมนํ ‘ตว สุตฺตสฺส อตฺถํ ตุลยิสฺสามา’ติ วตฺวา เอวํ ตุลยึสุ – ‘ตฺวํ อิทฺธิยา ปรูปฆาตํ วเทสิ. อิทฺธิ นาม เจสา – อธิฏฺานิทฺธิ, วิกุพฺพนิทฺธิ, มโนมยิทฺธิ, าณวิปฺผาริทฺธิ, สมาธิวิปฺผาริทฺธิ, อริยิทฺธิ, กมฺมวิปากชิทฺธิ, ปฺุวโต อิทฺธิ, วิชฺชามยิทฺธิ ¶ , ตตฺถ ตตฺถ สมฺมาปโยคปจฺจยา อิชฺฌนฏฺเน ¶ อิทฺธีติ ทสวิธา (ปฏิ. ม. ๓.๑๐). ตตฺถ กตรํ อิทฺธึ วเทสี’ติ? ‘ภาวนามย’นฺติ. ‘กึ ปน ภาวนามยิทฺธิยา ปรูปฆาตกมฺมํ โหตี’ติ? ‘อาม, เอกจฺเจ อาจริยา เอกวารํ โหตี’ติ; วทนฺติ ยถา หิ ปรํ ปหริตุกาเมน อุทกภริเต ฆเฏ ขิตฺเต ฆโฏปิ ภิชฺชติ, อุทกมฺปิ นสฺสติ, เอวเมว ภาวนามยิทฺธิยา เอกวารํ ปรูปฆาตกมฺมํ โหติ. ตโต ปฏฺาย ปน สา นสฺสตีติ. อถ นํ ‘ภาวนามยิทฺธิยา เนว เอกวารํ น ทฺเว วาเร ปรูปฆาตกมฺมํ โหตี’ติ วตฺวา ตํ สฺตฺตึ อาคจฺฉนฺตํ ปุจฺฉึสุ – ‘ภาวนามยิทฺธิ กึ กุสลา, อกุสลา, อพฺยากตา? สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, ทุกฺขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา? สวิตกฺกสวิจารา, อวิตกฺกวิจารมตฺตา, อวิตกฺกอวิจารา? กามาวจรา, รูปาวจรา, อรูปาวจรา’ติ?
อิมํ ปน ปฺหํ โย ชานาติ โส เอวํ วกฺขติ – ‘ภาวนามยิทฺธิ กุสลา วา โหติ, อพฺยากตา วา; อทุกฺขมสุขเวทนียา เอว, อวิตกฺกอวิจารา เอว, รูปาวจรา เอวา’ติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘ปาณาติปาตเจตนา กุสลาทีสุ กตรํ โกฏฺาสํ ภชตี’ติ? ชานนฺโต วกฺขติ – ‘ปาณาติปาตเจตนา อกุสลา เอว, ทุกฺขเวทนียา เอว, สวิตกฺกสวิจารา เอว กามาวจรา เอวา’ติ. ‘เอวํ สนฺเต ตว ปฺโห เนว กุสลตฺติเกน สเมติ, น เวทนาตฺติเกน ¶ , น วิตกฺกตฺติเกน, น ภูมนฺตเรนา’ติ.
‘กึ ปน เอวํ มหนฺตํ สุตฺตํ นิรตฺถก’นฺติ? ‘โน นิรตฺถกํ; ตฺวํ ปนสฺส อตฺถํ น ชานาสิ. ‘‘อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต’’ติ เอตฺถ หิ เนว ภาวนามยิทฺธิ อธิปฺเปตา, อาถพฺพณิทฺธิ ปน อธิปฺเปตา. สา หิ เอตฺถ ลพฺภมานา ลพฺภติ. สา ปน กายวจีทฺวารานิ มฺุจิตฺวา กาตุํ น สกฺกา. อาถพฺพณิทฺธิกา หิ สตฺตาหํ อโลณกํ ภฺุชิตฺวา ทพฺเพ อตฺถริตฺวา ปถวิยํ สยมานา ตปํ จริตฺวา สตฺตเม ทิวเส สุสานภูมึ สชฺเชตฺวา สตฺตเม ปเท ตฺวา หตฺถํ วฏฺเฏตฺวา วฏฺเฏตฺวา มุเขน วิชฺชํ ปริชปฺปนฺติ. อถ เนสํ กมฺมํ สมิชฺฌติ. เอวํ อยมฺปิ อิทฺธิ กายวจีทฺวารานิ มฺุจิตฺวา กาตุํ น สกฺกาติ. ‘น กายกมฺมํ มโนทฺวาเร สมุฏฺาตี’ติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
หตฺถมุทฺทาย ¶ ปน มุสาวาทาทีนิ กเถนฺตสฺส กมฺมํ วจีกมฺมํ, ทฺวารํ ปน กายทฺวารํ โหติ ¶ . เอวํ อกุสลํ วจีกมฺมมฺปิ กายทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ ปน จิตฺเตหิ สหชาตา อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิโย เจตนาปกฺขิกา วา ภวนฺติ, อพฺโพหาริกา วา. วจีเภทํ ปน กตฺวา มุสาวาทาทีนิ กเถนฺตสฺส กมฺมมฺปิ วจีกมฺมํ ทฺวารมฺปิ วจีทฺวารเมว. เอวํ อกุสลํ วจีกมฺมํ วจีทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ ปน จิตฺเตหิ สหชาตา อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิโย เจตนาปกฺขิกา วา ภวนฺติ อพฺโพหาริกา วา. เอตฺตกา อาจริยานํ สมานตฺถกถา นาม.
วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘อกุสลํ วจีกมฺมํ มโนทฺวาเรปิ สมุฏฺาตี’ติ. โส ‘ตโย สงฺคเห อารุฬฺหํ สุตฺตํ อาหราหี’ติ วุตฺโต อิทํ อุโปสถกฺขนฺธกโต สุตฺตํ อาหริ –
‘‘โย ปน ภิกฺขุ ยาวตติยํ อนุสฺสาวิยมาเน สรมาโน สนฺตึ อาปตฺตึ นาวิกเรยฺย สมฺปชานมุสาวาทสฺส โหตี’’ติ (มหาว. ๑๓๔).
อิทํ สุตฺตํ อาหริตฺวา อาห – ‘เอวํ อาปตฺตึ อนาวิกโรนฺโต ตุณฺหีภูโตว อฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, เอตฺถ กุโต กายงฺคโจปนํ วา วาจงฺคโจปนํ วา? มโนทฺวารสฺมึเยว ปน อิทํ อกุสลํ วจีกมฺมํ สมุฏฺาตี’ติ.
โส วตฺตพฺโพ – ‘กึ ปเนตํ สุตฺตํ เนยฺยตฺถํ อุทาหุ นีตตฺถ’นฺติ? ‘นีตตฺถเมว มยฺหํ สุตฺต’นฺติ. โส ‘มา เอวํ อวจ, ตุลยิสฺสามสฺส อตฺถ’นฺติ วตฺวา เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘สมฺปชานมุสาวาเท กึ โหตี’ติ? ชานนฺโต ‘สมฺปชานมุสาวาเท ทุกฺกฏํ โหตี’ติ วกฺขติ. ตโต วตฺตพฺโพ ‘วินยสฺส ทฺเว ¶ มูลานิ – กาโย จ วาจา จ; สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ สพฺพาปตฺติโย อิเมสุเยว ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ ปฺตฺตา, มโนทฺวาเร อาปตฺติปฺปนํ นาม นตฺถิ. ตฺวํ อติวิย วินเย ปกตฺู, โย สตฺถารา อปฺตฺเต าเน อาปตฺตึ ปฺเปสิ, สมฺมาสมฺพุทฺธํ อพฺภาจิกฺขสิ, ชินจกฺกํ ปหรสี’ติอาทิวจเนหิ นิคฺคณฺหิตฺวา อุตฺตริ ปฺหํ ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘สมฺปชานมุสาวาโท กิริยโต สมุฏฺาติ อุทาหุ อกิริยโต’ติ? ชานนฺโต ‘กิริยโต’ติ วกฺขติ. ตโต วตฺตพฺโพ – ‘อนาวิกโรนฺโต กตรํ กิริยํ กโรตี’ติ? อทฺธา หิ กิริยํ อปสฺสนฺโต วิฆาตํ อาปชฺชิสฺสติ. ตโต อิมสฺส สุตฺตสฺส ¶ อตฺเถน สฺาเปตพฺโพ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยฺวายํ ‘สมฺปชานมุสาวาโท โหตี’ติ วุตฺโต, โส อาปตฺติโต กึ โหติ? ‘กตราปตฺติ โหตี’ติ ¶ อตฺโถ. ‘ทุกฺกฏาปตฺติ โหติ’. สา จ โข น มุสาวาทลกฺขเณน, ภควโต ปน วจเนน วจีทฺวาเร อกิริยสมุฏฺานา อาปตฺติ โหตีติ เวทิตพฺพา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘อนาลปนฺโต มนุเชน เกนจิ,
วาจาคิรํ โน จ ปเร ภเณยฺย;
อาปชฺเชยฺย วาจสิกํ น กายิกํ,
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปฏิ. ๔๗๙);
เอวํ อกุสลํ วจีกมฺมํ น มโนทฺวาเร สมุฏฺาตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
ยทา ปน อภิชฺฌาสหคเตน เจตสา กายงฺคํ โจเปนฺโต หตฺถคฺคาหาทีนิ กโรติ, พฺยาปาทสหคเตน เจตสา ทณฺฑปรามาสาทีนิ, มิจฺฉาทิฏฺิสหคเตน เจตสา ‘ขนฺทสิวาทโย เสฏฺา’ติ เตสํ อภิวาทนอฺชลิกมฺมภูตปีกปริภณฺฑาทีนิ กโรติ, ตทา กมฺมํ มโนกมฺมํ โหติ, ทฺวารํ ปน กายทฺวารํ. เอวํ อกุสลํ มโนกมฺมํ กายทฺวาเร สมุฏฺาติ. เจตนา ปเนตฺถ อพฺโพหาริกา.
ยทา ปน อภิชฺฌาสหคเตน เจตสา วาจงฺคํ โจเปนฺโต ‘อโห วต ยํ ปรสฺส, ตํ มมสฺสา’ติ ปรวิตฺตูปกรณํ อภิชฺฌายติ, พฺยาปาทสหคเตน เจตสา ‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา, พชฺฌนฺตุ วา, อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา, มา วา อเหสุ’นฺติ วทติ, มิจฺฉาทิฏฺิสหคเตน เจตสา ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺ’นฺติอาทีนิ วทติ, ตทา กมฺมํ มโนกมฺมํ โหติ, ทฺวารํ ปน วจีทฺวารํ. เอวํ อกุสลํ มโนกมฺมํ วจีทฺวาเร สมุฏฺาติ. เจตนา ปเนตฺถ อพฺโพหาริกา.
ยทา ปน กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา รโห นิสินฺโน อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิสหคตานิ ¶ จิตฺตานิ อุปฺปาเทติ, ตทา กมฺมํ มโนกมฺมํ, ทฺวารมฺปิ มโนทฺวารเมว. เอวํ อกุสลํ มโนกมฺมํ มโนทฺวาเร สมุฏฺาติ. อิมสฺมึ ปน าเน เจตนาปิ เจตนาสมฺปยุตฺตกา ธมฺมาปิ มโนทฺวาเรเยว สมุฏฺหนฺติ. เอวํ อกุสลํ มโนกมฺมํ ตีสุปิ ทฺวาเรสุ สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ.
ยํ ¶ ปน วุตฺตํ ‘ตถา กุสลานิ กายวจีมโนกมฺมานี’ติ, ตตฺรายํ นโย – ยทา หิ เกนจิ ¶ การเณน วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต ‘ปาณาติปาตา อทินฺนาทานา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรมามี’ติ อิมานิ สิกฺขาปทานิ หตฺถมุทฺทาย คณฺหาติ, ตทา กมฺมํ กายกมฺมํ ทฺวารมฺปิ กายทฺวารเมว. เอวํ กุสลํ กายกมฺมํ กายทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ จิตฺเตหิ สหคตา อนภิชฺฌาทโย เจตนาปกฺขิกา วา โหนฺติ, อพฺโพหาริกา วา.
ยทา ปน ตาเนว สิกฺขาปทานิ วจีเภทํ กตฺวา คณฺหาติ, ตทา กมฺมํ กายกมฺมํ, ทฺวารํ ปน วจีทฺวารํ โหติ. เอวํ กุสลํ กายกมฺมํ วจีทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ จิตฺเตหิ สหคตา อนภิชฺฌาทโย เจตนาปกฺขิกา วา โหนฺติ, อพฺโพหาริกา วา.
ยทา ปน เตสุ สิกฺขาปเทสุ ทิยฺยมาเนสุ กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา มนสาว ‘ปาณาติปาตา อทินฺนาทานา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรมามี’ติ คณฺหาติ, ตทา กมฺมํ กายกมฺมํ, ทฺวารํ ปน มโนทฺวารํ โหติ. เอวํ กุสลํ กายกมฺมํ มโนทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ จิตฺเตหิ สหคตา อนภิชฺฌาทโย เจตนาปกฺขิกา วา โหนฺติ, อพฺโพหาริกา วา.
‘มุสาวาทา เวรมณี’อาทีนิ ปน จตฺตาริ สิกฺขาปทานิ วุตฺตนเยเนว กายาทีหิ คณฺหนฺตสฺส กุสลํ วจีกมฺมํ ตีสุ ทฺวาเรสุ สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ. อิธาปิ อนภิชฺฌาทโย เจตนาปกฺขิกา วา โหนฺติ, อพฺโพหาริกา วา.
อนภิชฺฌาทิสหคเตหิ ปน จิตฺเตหิ กายงฺคํ โจเปตฺวา เจติยงฺคณสมฺมชฺชนคนฺธมาลาทิปูชนเจติยวนฺทนาทีนิ กโรนฺตสฺส กมฺมํ มโนกมฺมํ โหติ, ทฺวารํ ปน กายทฺวารํ. เอวํ กุสลํ มโนกมฺมํ กายทฺวาเร สมุฏฺาติ. เจตนา ปเนตฺถ อพฺโพหาริกา. อนภิชฺฌาสหคเตน จิตฺเตน วาจงฺคํ โจเปตฺวา ‘อโห วต ยํ ปรสฺส วิตฺตูปกรณํ น ตํ มมสฺสา’ติ อนภิชฺฌายโต อพฺยาปาทสหคเตน จิตฺเตน ‘สพฺเพ สตฺตา ¶ อเวรา อพฺยาพชฺฌา อนีฆา สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’ติ วทนฺตสฺส สมฺมาทิฏฺิสหคเตน จิตฺเตน ‘อตฺถิ ทินฺน’นฺติอาทีนิ อุทาหรนฺตสฺส กมฺมํ มโนกมฺมํ โหติ, ทฺวารํ ปน วจีทฺวารํ. เอวํ กุสลํ มโนกมฺมํ วจีทฺวาเร สมุฏฺาติ. เจตนา ¶ ปเนตฺถ อพฺโพหาริกา. กายงฺควาจงฺคานิ ปน อโจเปตฺวา รโห นิสินฺนสฺส มนสาว อนภิชฺฌาทิสหคตานิ จิตฺตานิ อุปฺปาเทนฺตสฺส กมฺมํ มโนกมฺมํ, ทฺวารมฺปิ มโนทฺวารเมว. เอวํ กุสลํ ¶ มโนกมฺมํ มโนทฺวาเร สมุฏฺาติ. อิมสฺมึ ปน าเน เจตนาปิ เจตนาสมฺปยุตฺตกา ธมฺมาปิ มโนทฺวาเรเยว สมุฏฺหนฺติ.
ตตฺถ อาณตฺติสมุฏฺิเตสุ ปาณาติปาตอทินฺนาทาเนสุ กมฺมมฺปิ กายกมฺมํ ทฺวารมฺปิ กมฺมวเสเนว กายทฺวารนฺติ วทนฺโต กมฺมํ รกฺขติ, ทฺวารํ ภินฺทติ นาม. หตฺถมุทฺทาย สมุฏฺิเตสุ มุสาวาทาทีสุ ทฺวารมฺปิ กายทฺวารํ, กมฺมมฺปิ ทฺวารวเสเนว กายกมฺมนฺติ วทนฺโต ทฺวารํ รกฺขติ กมฺมํ ภินฺทติ นาม. ตสฺมา ‘กมฺมํ รกฺขามี’ติ ทฺวารํ น ภินฺทิตพฺพํ, ‘ทฺวารํ รกฺขามี’ติ กมฺมํ น ภินฺทิตพฺพํ. ยถาวุตฺเตเนว ปน นเยน กมฺมฺจ ทฺวารฺจ เวทิตพฺพํ. เอวํ กเถนฺโต หิ เนว กมฺมํ น ทฺวารํ ภินฺทตีติ.
กมฺมกถา นิฏฺิตา.
อิทานิ ‘ปฺจ วิฺาณานิ ปฺจวิฺาณทฺวารานี’ติอาทีสุ จกฺขุวิฺาณํ โสตวิฺาณํ ฆานวิฺาณํ ชิวฺหาวิฺาณํ กายวิฺาณนฺติ อิมานิ ปฺจ วิฺาณานิ นาม. จกฺขุวิฺาณทฺวารํ โสต… ฆาน… ชิวฺหา… กายวิฺาณทฺวารนฺติ อิมานิ ปฺจ วิฺาณทฺวารานิ นาม. อิเมสํ ปฺจนฺนํ ทฺวารานํ วเสน อุปฺปนฺนา เจตนา เนว กายกมฺมํ โหติ, น วจีกมฺมํ, มโนกมฺมเมว โหตีติ เวทิตพฺพา. จกฺขุสมฺผสฺโส โสต… ฆาน… ชิวฺหา… กาย… มโนสมฺผสฺโสติ อิเม ปน ฉ สมฺผสฺสา นาม. จกฺขุสมฺผสฺสทฺวารํ โสต… ฆาน… ชิวฺหา… กาย… มโนสมฺผสฺสทฺวารนฺติ อิมานิ ฉ สมฺผสฺสทฺวารานิ นาม.
จกฺขุอสํวโร โสต… ฆาน… ชิวฺหา… ปสาทกาย… โจปนกายอสํวโร วาจาอสํวโร มโนอสํวโรติ – อิเม อฏฺ อสํวรา นาม. เต อตฺถโต ‘ทุสฺสีลฺยํ มุฏฺสฺสจฺจํ อฺาณํ อกฺขนฺติ โกสชฺช’นฺติ อิเม ปฺจ ธมฺมา โหนฺติ. เตสุ เอกธมฺโมปิ ปฺจทฺวาเร ¶ โวฏฺพฺพนปริโยสาเนสุ จิตฺเตสุ นุปฺปชฺชติ, ชวนกฺขเณเยว อุปฺปชฺชติ. ชวเน อุปฺปนฺโนปิ ปฺจทฺวาเร อสํวโรติ วุจฺจติ.
จกฺขุวิฺาณสหชาโต หิ ผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโส นาม, เจตนา มโนกมฺมํ นาม, ตํ จิตฺตํ มโนกมฺมทฺวารํ นาม. เอตฺถ ปฺจวิโธ อสํวโร นตฺถิ ¶ . สมฺปฏิจฺฉนสหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส ¶ นาม, เจตนา มโนกมฺมํ นาม, ตํ จิตฺตํ มโนกมฺมทฺวารํ นาม. เอตฺถาปิ อสํวโร นตฺถิ. สนฺตีรณโวฏฺพฺพเนสุปิ เอเสว นโย. ชวนสหชาโต ปน ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม, เจตนา มโนกมฺมํ นาม, ตํ จิตฺตํ มโนกมฺมทฺวารํ นาม. เอตฺถ อสํวโร จกฺขุอสํวโร นาม โหติ. โสตฆานชิวฺหาปสาทกายทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. ยทา ปน รูปาทีสุ อฺตรารมฺมณํ มโนทฺวาริกชวนํ วินา วจีทฺวาเรน สุทฺธํ กายทฺวารสงฺขาตํ โจปนํ ปาปยมานํ อุปฺปชฺชติ, ตทา เตน จิตฺเตน สหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม, เจตนา กายกมฺมํ นาม, ตํ ปน จิตฺตํ อพฺโพหาริกํ, โจปนสฺส อุปฺปนฺนตฺตา มโนทฺวารนฺติ สงฺขฺยํ น คจฺฉติ. เอตฺถ อสํวโร โจปนกายอสํวโร นาม. ยทา ตาทิสํเยว ชวนํ วินา กายทฺวาเรน สุทฺธํ วจีทฺวารสงฺขาตํ โจปนํ ปาปยมานํ อุปฺปชฺชติ, ตทา เตน จิตฺเตน สหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม, เจตนา วจีกมฺมํ นาม, ตํ ปน จิตฺตํ อพฺโพหาริกํ, โจปนสฺส อุปฺปนฺนตฺตา มโนทฺวารนฺติ สงฺขฺยํ น คจฺฉติ. เอตฺถ อสํวโร วาจาอสํวโร นาม. ยทา ปน ตาทิสํ ชวนจิตฺตํ วินา กายวจีทฺวาเรหิ สุทฺธํ มโนทฺวารเมว หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, ตทา เตน จิตฺเตน สหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม, เจตนา มโนกมฺมํ นาม, ตํ ปน จิตฺตํ มโนกมฺมทฺวารํ นาม. เอตฺถ อสํวโร มโนอสํวโร นาม. อิติ อิเมสํ อฏฺนฺนํ อสํวรานํ วเสน จกฺขุอสํวรทฺวารํ, โสต… ฆาน… ชิวฺหา… ปสาทกาย… โจปนกาย… วาจา… มโนอสํวรทฺวารนฺติ อิมานิ อฏฺ อสํวรทฺวารานิ เวทิตพฺพานิ.
จกฺขุสํวโร โสต… ฆาน… ชิวฺหา… ปสาทกาย… โจปนกาย… วาจา… มโนสํวโรติ อิเม ปน อฏฺ สํวรา นาม. เต อตฺถโต ‘สีลํ สติ าณํ ขนฺติ วีริย’นฺติ อิเม ปฺจ ¶ ธมฺมา โหนฺติ. เตสุปิ เอกธมฺโมปิ ปฺจทฺวาเร โวฏฺพฺพนปริโยสาเนสุ จิตฺเตสุ นุปฺปชฺชติ. ชวนกฺขเณเยว อุปฺปชฺชติ. ชวเน อุปฺปนฺโนปิ ปฺจทฺวาเร สํวโรติ วุจฺจติ. ตสฺส สพฺพสฺสาปิ จกฺขุวิฺาณสหชาโต หิ ผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโสติอาทินา อสํวเร วุตฺตนเยเนว อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. อิติ อิเมสํ อฏฺนฺนํ สํวรานํ วเสน จกฺขุสํวรทฺวารํ…เป… มโนสํวรทฺวารนฺติ อิมานิ อฏฺ สํวรทฺวารานิ เวทิตพฺพานิ.
อกุสลกมฺมปถกถา
ปาณาติปาโต ¶ ¶ , อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร, มุสาวาโท, ปิสุณวาจา, ผรุสวาจา, สมฺผปฺปลาโป, อภิชฺฌา, พฺยาปาโท, มิจฺฉาทิฏฺีติ อิเม ปน ทส อกุสลกมฺมปถา นาม.
ตตฺถ ปาณสฺส อติปาโต ปาณาติปาโต นาม; ปาณวโธ, ปาณฆาโตติ วุตฺตํ โหติ. ปาโณติ เจตฺถ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ตสฺมึ ปน ปาเณ ปาณสฺิโน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา กายวจีทฺวารานํ อฺตรทฺวารปฺปวตฺตา วธกเจตนา ปาณาติปาโต. โส คุณวิรหิเตสุ ติรจฺฉานคตาทีสุ ปาเณสุ ขุทฺทเก ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาสรีเร มหาสาวชฺโช. กสฺมา? ปโยคมหนฺตตาย. ปโยคสมตฺเตปิ วตฺถุมหนฺตตาย. คุณวนฺเตสุ มนุสฺสาทีสุ อปฺปคุเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาคุเณ มหาสาวชฺโช. สรีรคุณานํ ปน สมภาเว สติ กิเลสานํ อุปกฺกมานฺจ มุทุตาย อปฺปสาวชฺโช, ติพฺพตาย มหาสาวชฺโชติ เวทิตพฺโพ.
ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปาโณ, ปาณสฺิตา, วธกจิตฺตํ, อุปกฺกโม, เตน มรณนฺติ. ฉ ปโยคา – สาหตฺถิโก, อาณตฺติโก, นิสฺสคฺคิโย, ถาวโร, วิชฺชามโย, อิทฺธิมโยติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ วิตฺถาริยมาเน อติปปฺโจ โหติ. ตสฺมา ตํ น วิตฺถารยาม. อฺฺจ เอวรูปํ อตฺถิเกหิ ปน สมนฺตปาสาทิกํ วินยฏฺกถํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒) โอโลเกตฺวา คเหตพฺพํ.
อทินฺนสฺส อาทานํ ‘อทินฺนาทานํ’; ปรสฺสหรณํ, เถยฺยํ, โจริกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อทินฺนนฺติ ปรปริคฺคหิตํ, ยตฺถ ปโร ยถากามการิตํ อาปชฺชนฺโต อทณฺฑารโห อนุปวชฺโช จ โหติ. ตสฺมึ ปรปริคฺคหิเต ปรปริคฺคหิตสฺิโน ¶ ตทาทายกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา เถยฺยเจตนา อทินฺนาทานํ. ตํ หีเน ปรสนฺตเก อปฺปสาวชฺชํ, ปณีเต มหาสาวชฺชํ. กสฺมา? วตฺถุปณีตตาย. วตฺถุสมตฺเต สติ คุณาธิกานํ สนฺตเก วตฺถุสฺมึ มหาสาวชฺชํ. ตํตํคุณาธิกํ อุปาทาย ตโต ตโต หีนคุณสฺส สนฺตเก วตฺถุสฺมึ อปฺปสาวชฺชํ.
ตสฺส ¶ ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปรปริคฺคหิตํ, ปรปริคฺคหิตสฺิตา, เถยฺยจิตฺตํ, อุปกฺกโม ¶ , เตน หรณนฺติ. ฉ ปโยคา – สาหตฺถิกาทโยว. เต จ โข ยถานุรูปํ เถยฺยาวหาโร, ปสยฺหาวหาโร, ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร, ปริกปฺปาวหาโร, กุสาวหาโรติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อวหารานํ วเสน ปวตฺตนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๓๘) วุตฺโต.
‘กาเมสุ มิจฺฉาจาโร’ติ เอตฺถ ปน ‘กาเมสู’ติ เมถุนสมาจาเรสุ; ‘มิจฺฉาจาโร’ติ เอกนฺตนินฺทิโต ลามกาจาโร. ลกฺขณโต ปน อสทฺธมฺมาธิปฺปาเยน กายทฺวารปฺปวตฺตา อคมนียฏฺานวีติกฺกมเจตนา กาเมสุมิจฺฉาจาโร.
ตตฺถ อคมนียฏฺานํ นาม – ปุริสานํ ตาว มาตุรกฺขิตา, ปิตุรกฺขิตา, มาตาปิตุรกฺขิตา, ภาตุรกฺขิตา, ภคินิรกฺขิตา, าติรกฺขิตา, โคตฺตรกฺขิตา, ธมฺมรกฺขิตา, สารกฺขา, สปริทณฺฑาติ มาตุรกฺขิตาทโย ทส; ธนกฺกีตา, ฉนฺทวาสินี, โภควาสินี, ปฏวาสินี, โอทปตฺตกินี, โอภฏจุมฺพฏา, ทาสี จ ภริยา, กมฺมการี จ ภริยา, ธชาหฏา, มุหุตฺติกาติ เอตา ธนกฺกีตาทโย ทสาติ วีสติ อิตฺถิโย. อิตฺถีสุ ปน ทฺวินฺนํ สารกฺขสปริทณฺฑานํ, ทสนฺนฺจ ธนกฺกีตาทีนนฺติ ทฺวาทสนฺนํ อิตฺถีนํ อฺเ ปุริสา อิทํ อคมนียฏฺานํ นาม.
โส ปเนส มิจฺฉาจาโร สีลาทิคุณรหิเต อคมนียฏฺาเน อปฺปสาวชฺโช, สีลาทิคุณสมฺปนฺเน มหาสาวชฺโช. ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา – อคมนียวตฺถุ, ตสฺมึ เสวนจิตฺตํ, เสวนปฺปโยโค, มคฺเคนมคฺคปฺปฏิปตฺติอธิวาสนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโก เอว.
‘มุสา’ติ วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺส อตฺถภฺชโก วจีปโยโค, กายปโยโค วา. วิสํวาทนาธิปฺปาเยน ปนสฺส ปรวิสํวาทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ¶ มุสาวาโท. อปโร นโย – ‘มุสา’ติ อภูตํ อตจฺฉํ วตฺถุ. ‘วาโท’ติ ตสฺส ภูตโต ตจฺฉโต วิฺาปนํ. ลกฺขณโต ปน อตถํ วตฺถุํ ตถโต ปรํ วิฺาเปตุกามสฺส ตถาวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. โส ยมตฺถํ ภฺชติ ตสฺส อปฺปตาย อปฺปสาวชฺโช, มหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. อปิจ คหฏฺานํ ¶ อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตาย ‘นตฺถี’ติอาทินยปฺปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช. สกฺขินา หุตฺวา อตฺถภฺชนตฺถํ วุตฺโต มหาสาวชฺโช. ปพฺพชิตานํ อปฺปกมฺปิ เตลํ วา สปฺปึ วา ¶ ลภิตฺวา หสาธิปฺปาเยน ‘อชฺช คาเม เตลํ นที มฺเ สนฺทตี’ติ ปูรณกถานเยน ปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช. อทิฏฺํเยว ปน ทิฏฺนฺติอาทินา นเยน วทนฺตานํ มหาสาวชฺโช.
ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา โหนฺติ – อตถํ วตฺถุ, วิสํวาทนจิตฺตํ, ตชฺโช วายาโม, ปรสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ. เอโก ปโยโค – สาหตฺถิโกว. โส จ กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา วาจาย วา ปรวิสํวาทกกิริยากรเณ ทฏฺพฺโพ. ตาย เจ กิริยาย ปโร ตมตฺถํ ชานาติ, อยํ กิริยสมุฏฺาปิกเจตนากฺขเณเยว มุสาวาทกมฺมุนา พชฺฌติ. ยสฺมา ปน ยถา กายกายปฺปฏิพทฺธวาจาหิ ปรํ วิสํวาเทติ, ตถา อิมสฺส ‘อิมํ ภณาหี’ติ อาณาเปนฺโตปิ, ปณฺณํ ลิขิตฺวา ปุรโต นิสฺสชฺชนฺโตปิ, ‘อยมตฺโถ เอวํ ทฏฺพฺโพ’ติ กุฏฺฏาทีสุ ลิขิตฺวา เปนฺโตปิ; ตสฺมา เอตฺถ อาณตฺติกนิสฺสคฺคิยถาวราปิ ปโยคา ยุชฺชนฺติ. อฏฺกถาสุ ปน อนาคตตฺตา วีมํสิตฺวา คเหตพฺพา.
‘ปิสุณวาจา’ติอาทีสุ ยาย วาจาย ยสฺส ตํ วาจํ ภาสติ ตสฺส หทเย อตฺตโน ปิยภาวํ ปรสฺส จ สฺุภาวํ กโรติ, สา ปิสุณวาจา. ยาย ปน อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ ผรุสํ กโรติ, ยา วาจา สยมฺปิ ผรุสา เนว กณฺณสุขา, น หทยงฺคมา, อยํ ‘ผรุสวาจา’. เยน สมฺผํ ปลปติ, นิรตฺถกํ, โส ‘สมฺผปฺปลาโป’. เตสํ มูลภูตา เจตนาปิ ปิสุณวาจาทินามเมว ลภติ. สา เอว จ อิธ อธิปฺเปตาติ.
ตตฺถ สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส ปเรสํ วา เภทาย อตฺตโน ปิยกมฺยตาย วา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ปิสุณวาจา นาม. สา ยสฺส ¶ เภทํ กโรติ ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา.
ตสฺสา จตฺตาโร สมฺภารา – ‘ภินฺทิตพฺโพ ปโร’ อิติ ‘อิเม นานา ภวิสฺส’นฺติ วินา ภวิสฺสนฺตีติ เภทปุเรกฺขารตา วา, ‘อิติ อหํ ปิโย ภวิสฺสามิ วิสฺสาสิโก’ติ ปิยกมฺยตา วา, ตชฺโช วายาโม, ตสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ ¶ . ปเร ปน อภินฺเน กมฺมปถเภโท นตฺถิ, ภินฺเน เอว โหติ.
ปรสฺส มมฺมจฺเฉทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เอกนฺตผรุสเจตนา ‘ผรุสวาจา’. ตสฺสา อาวิภาวตฺถมิทํ ¶ วตฺถุ – เอโก กิร ทารโก มาตุ วจนํ อนาทิยิตฺวา อรฺํ คจฺฉติ. ตํ มาตา นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตี ‘จณฺฑา ตํ มหึสี อนุพนฺธตู’ติ อกฺโกสิ. อถสฺส ตเถว อรฺเ มหึสี อุฏฺาสิ. ทารโก ‘ยํ มม มาตา มุเขน กเถสิ ตํ มา โหตุ, ยํ จิตฺเตน จินฺเตสิ ตํ โหตู’ติ สจฺจกิริยํ อกาสิ. มหึสี ตตฺเถว พทฺธา วิย อฏฺาสิ. เอวํ มมฺมจฺเฉทโกปิ ปโยโค จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ. มาตาปิตโร หิ กทาจิ ปุตฺตเก เอวมฺปิ วทนฺติ – ‘โจรา โว ขณฺฑาขณฺฑิกํ กโรนฺตู’ติ, อุปฺปลปตฺตมฺปิ จ เนสํ อุปริ ปตนฺตํ น อิจฺฉนฺติ. อาจริยุปชฺฌายา จ กทาจิ นิสฺสิตเก เอวํ วทนฺติ – ‘กึ อิเม อหิริกา อโนตฺตปฺปิโน จรนฺติ, นิทฺธมถ เน’ติ; อถ จ เนสํ อาคมาธิคมสมฺปตฺตึ อิจฺฉนฺติ. ยถา จ จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ, เอวํ วจนสณฺหตาย อผรุสวาจาปิ น โหติ. น หิ มาราเปตุกามสฺส ‘อิมํ สุขํ สยาเปถา’ติ วจนํ อผรุสวาจา โหติ. จิตฺตผรุสตาย ปเนสา ผรุสวาจาว. สา ยํ สนฺธาย ปวตฺติตา ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ตโย สมฺภารา – อกฺโกสิตพฺโพ ปโร, กุปิตจิตฺตํ, อกฺโกสนนฺติ.
อนตฺถวิฺาปิกา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา อกุสลเจตนา ‘สมฺผปฺปลาโป’. โส อาเสวนมนฺทตาย อปฺปสาวชฺโช. อาเสวนมหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา – ภารตยุทฺธสีตาหรณาทินิรตฺถกกถาปุเรกฺขารตา, ตถารูปีกถากถนฺจาติ. ปเร ปน ตํ ¶ กถํ อคณฺหนฺเต กมฺมปถเภโท นตฺถิ, ปเรน สมฺผปฺปลาเป คหิเตเยว โหติ.
อภิชฺฌายตีติ ‘อภิชฺฌา’. ปรภณฺฑาภิมุขี หุตฺวา ตนฺนินฺนตาย ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สา ‘อโห ตว อิทํ มมสฺสา’ติ เอวํ ปรภณฺฑาภิชฺฌายนลกฺขณา. อทินฺนาทานํ วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. ตสฺสา ¶ ทฺเว สมฺภารา – ปรภณฺฑํ, อตฺตโน ปริณามนฺจาติ. ปรภณฺฑวตฺถุเก หิ โลเภ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ ยาว น ‘อโห วต อิทํ มมสฺสา’ติ อตฺตโน ปริณาเมติ.
หิตสุขํ พฺยาปาทยตีติ ‘พฺยาปาโท’. โส ปรวินาสาย มโนปโทสลกฺขโณ. ผรุสวาจา วิย อปฺปสาวชฺโช มหาสาวชฺโช จ. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา – ปรสตฺโต จ, ตสฺส จ ¶ วินาสจินฺตาติ. ปรสตฺตวตฺถุเก หิ โกเธ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ ยาว ‘อโห วตายํ อุจฺฉิชฺเชยฺย วินสฺเสยฺยา’ติ ตสฺส วินาสนํ น จินฺเตสิ.
ยถาภุจฺจคหณาภาเวน มิจฺฉา ปสฺสตีติ ‘มิจฺฉาทิฏฺิ’. สา ‘นตฺถิ ทินฺน’นฺติอาทินา นเยน วิปรีตทสฺสนลกฺขณา. สมฺผปฺปลาโป วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. อปิจ อนิยตา อปฺปสาวชฺชา, นิยตา มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ทฺเว สมฺภารา – วตฺถุโน จ คหิตาการวิปรีตตา, ยถา จ ตํ คณฺหาติ ตถาภาเวน ตสฺสุปฏฺานนฺติ. ตตฺถ นตฺถิกาเหตุกอกิริยทิฏฺีหิ เอว กมฺมปถเภโท โหติ, น อฺทิฏฺีหิ.
อิเมสํ ปน ทสนฺนํ อกุสลกมฺมปถานํ ธมฺมโต โกฏฺาสโต อารมฺมณโต เวทนาโต มูลโต จาติ ปฺจหากาเรหิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ –
ตตฺถ ‘ธมฺมโต’ติ เอเตสุ หิ ปฏิปาฏิยา สตฺต เจตนาธมฺมาว โหนฺติ, อภิชฺฌาทโย ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตา.
‘โกฏฺาสโต’ติ ปฏิปาฏิยา สตฺต, มิจฺฉาทิฏฺิ จาติ อิเม อฏฺ กมฺมปถา เอว โหนฺติ; โน มูลานิ. อภิชฺฌาพฺยาปาทา กมฺมปถา เจว มูลานิ จ. อภิชฺฌา หิ มูลํ ปตฺวา ‘โลโภ อกุสลมูลํ’ โหติ, พฺยาปาโท ‘โทโส อกุสลมูลํ’.
‘อารมฺมณโต’ติ ปาณาติปาโต ชีวิตินฺทฺริยารมฺมณโต สงฺขารารมฺมโณ โหติ. อทินฺนาทานํ สตฺตารมฺมณํ วา โหติ สงฺขารารมฺมณํ วา. มิจฺฉาจาโร โผฏฺพฺพวเสน สงฺขารารมฺมโณ โหติ; สตฺตารมฺมโณติปิ เอเก. มุสาวาโท สตฺตารมฺมโณ วา, สงฺขารารมฺมโณ วา. ตถา ปิสุณวาจา. ผรุสวาจา ¶ สตฺตารมฺมณาว. สมฺผปฺปลาโป ทิฏฺสุตมุตวิฺาตวเสน สตฺตารมฺมโณ วา สงฺขารารมฺมโณ วา. ตถา อภิชฺฌา. พฺยาปาโท สตฺตารมฺมโณว. มิจฺฉาทิฏฺิ เตภูมกธมฺมวเสน สงฺขารารมฺมณาว.
‘เวทนาโต’ติ ¶ ปาณาติปาโต ทุกฺขเวทโน โหติ. กิฺจาปิ หิ ราชาโน โจรํ ทิสฺวา หสมานาปิ ‘คจฺฉถ นํ ฆาเตถา’ติ วทนฺติ, สนฺนิฏฺาปกเจตนา ปน เนสํ ทุกฺขสมฺปยุตฺตาว โหติ ¶ . อทินฺนาทานํ ติเวทนํ. ตฺหิ ปรภณฺฑํ ทิสฺวา หฏฺตุฏฺสฺส คณฺหโต สุขเวทนํ โหติ, ภีตตสิตสฺส คณฺหโต ทุกฺขเวทนํ. ตถา วิปากนิสฺสนฺทผลานิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส. คหณกาเล มชฺฌตฺตภาเว ิตสฺส ปน คณฺหโต อทุกฺขมสุขเวทนํ โหตีติ. มิจฺฉาจาโร สุขมชฺฌตฺตวเสน ทฺวิเวทโน. สนฺนิฏฺาปกจิตฺเต ปน มชฺฌตฺตเวทโน น โหติ. มุสาวาโท อทินฺนาทาเน วุตฺตนเยเนว ติเวทโน; ตถา ปิสุณวาจา. ผรุสวาจา ทุกฺขเวทนา. สมฺผปฺปลาโป ติเวทโน. ปเรสุ หิ สาธุการํ เทนฺเตสุ เจลุกฺเขปาทีนิ ขิปนฺเตสุ หฏฺตุฏฺสฺส สีตาหรณภารตยุทฺธาทีนิ กถนกาเล โส สุขเวทโน โหติ. ปมํ ทินฺนเวตเนน เอเกน ปจฺฉา อาคนฺตฺวา ‘อาทิโต ปฏฺาย กเถหี’ติ วุตฺเต ‘อนนุสนฺธิกํ ปกิณฺณกกถํ กเถสฺสามิ นุ โข โน’ติ โทมนสฺสิตสฺส กถนกาเล ทุกฺขเวทโน โหติ, มชฺฌตฺตสฺส กถยโต อทุกฺขมสุขเวทโน โหติ. อภิชฺฌา สุขมชฺฌตฺตวเสน ทฺวิเวทนา; ตถา มิจฺฉาทิฏฺิ. พฺยาปาโท ทุกฺขเวทโน.
‘มูลโต’ติ ปาณาติปาโต โทสโมหวเสน ทฺวิมูลโก โหติ. อทินฺนาทานํ โทสโมหวเสน วา โลภโมหวเสน วา. มิจฺฉาจาโร โลภโมหวเสน. มุสาวาโท โทสโมหวเสน วา โลภโมหวเสน วา; ตถา ปิสุณวาจา สมฺผปฺปลาโป จ. ผรุสวาจา โทสโมหวเสน. อภิชฺฌา โมหวเสน เอกมูลา; ตถา พฺยาปาโท. มิจฺฉาทิฏฺิ โลภโมหวเสน ทฺวิมูลาติ.
อกุสลกมฺมปถกถา นิฏฺิตา.
กุสลกมฺมปถกถา
ปาณาติปาตาทีหิ ปน วิรติโย อนภิชฺฌาอพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิโย จาติ อิเม ทส กุสลกมฺมปถา นาม. ตตฺถ ปาณาติปาตาทโย วุตฺตตฺถา เอว. ปาณาติปาตาทีหิ เอตาย วิรมนฺติ, สยํ วา วิรมติ, วิรมณมตฺตเมว ¶ วา เอตนฺติ วิรติ. ยา ปาณาติปาตา วิรมนฺตสฺส ‘‘ยา ตสฺมึ สมเย ปาณาติปาตา อารติ วิรตี’’ติ (ธ. ส. ๒๙๙-๓๐๑) เอวํ วุตฺตา กุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตา วิรติ, สา ปเภทโต ¶ ติวิธา โหติ – สมฺปตฺตวิรติ, สมาทานวิรติ, สมุจฺเฉทวิรตีติ.
ตตฺถ ¶ อสมาทินฺนสิกฺขาปทานํ อตฺตโน ชาติวยพาหุสจฺจาทีนิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ‘อยุตฺตํ อมฺหากํ เอวรูปํ ปาปํ กาตุ’นฺติ สมฺปตฺตํ วตฺถุํ อวีติกฺกมนฺตานํ อุปฺปชฺชมานา วิรติ ‘สมฺปตฺตวิรตี’ติ เวทิตพฺพา – สีหฬทีเป จกฺกนอุปาสกสฺส วิย. ตสฺส กิร ทหรกาเลเยว มาตุยา โรโค อุปฺปชฺชิ. เวชฺเชน จ ‘อลฺลสสมํสํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’ติ วุตฺตํ. ตโต จกฺกนสฺส ภาตา ‘คจฺฉ, ตาต, เขตฺตํ อาหิณฺฑาหี’ติ จกฺกนํ เปเสสิ. โส ตตฺถ คโต. ตสฺมิฺจ สมเย เอโก สโส ตรุณสสฺสํ ขาทิตุํ อาคโต โหติ. โส ตํ ทิสฺวาว เวเคน ธาวนฺโต วลฺลิยา พทฺโธ ‘กิริ กิรี’ติ สทฺทมกาสิ. จกฺกโน เตน สทฺเทน คนฺตฺวา ตํ คเหตฺวา จินฺเตสิ – ‘มาตุ เภสชฺชํ กโรมี’ติ. ปุน จินฺเตสิ – ‘น เมตํ ปติรูปํ ยฺวาหํ มาตุ ชีวิตการณา ปรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย’นฺติ. อถ นํ ‘คจฺฉ, อรฺเ สเสหิ สทฺธึ ติโณทกํ ปริภฺุชา’ติ มฺุจิ. ภาตรา จ ‘กึ ตาต สโส ลทฺโธ’ติ ปุจฺฉิโต ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิ. ตโต นํ ภาตา ปริภาสิ. โส มาตุสนฺติกํ คนฺตฺวา ‘ยโต อหํ ชาโต นาภิชานามิ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตา’ติ สจฺจํ วตฺวา อฏฺาสิ. ตาวเทวสฺส มาตา อโรคา อโหสิ.
สมาทินฺนสิกฺขาปทานํ ปน สิกฺขาปทสมาทาเน จ ตตุตฺตริฺจ อตฺตโน ชีวิตมฺปิ ปริจฺจชิตฺวา วตฺถุํ อวีติกฺกมนฺตานํ อุปฺปชฺชมานา วิรติ ‘สมาทานวิรตี’ติ เวทิตพฺพา. อุตฺตรวฑฺฒมานปพฺพตวาสีอุปาสกสฺส วิย. โส กิร อมฺพริยวิหารวาสิโน ปิงฺคลพุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส สนฺติเก สิกฺขาปทานิ คเหตฺวา เขตฺตํ กสติ. อถสฺส โคโณ นฏฺโ. โส ตํ คเวสนฺโต อุตฺตรวฑฺฒมานปพฺพตํ อารุหิ. ตตฺร นํ มหาสปฺโป อคฺคเหสิ. โส จินฺเตสิ – ‘อิมายสฺส ติขิณวาสิยา สีสํ ฉินฺทามี’ติ. ปุน จินฺเตสิ – ‘น เมตํ ปติรูปํ ยฺวาหํ ภาวนียสฺส ครุโน สนฺติเก สิกฺขาปทานิ คเหตฺวา ภินฺเทยฺย’นฺติ เอวํ ยาวตติยํ จินฺเตตฺวา ¶ ‘ชีวิตํ ปริจฺจชามิ, น สิกฺขาปท’นฺติ อํเส ปิตํ ติขิณทณฺฑวาสึ อรฺเ ฉฑฺเฑสิ. ตาวเทว นํ มหาวาโฬ มฺุจิตฺวา อคมาสีติ.
อริยมคฺคสมฺปยุตฺตา ¶ ปน วิรติ ‘สมุจฺเฉทวิรตี’ติ เวทิตพฺพา, ยสฺสา อุปฺปตฺติโต ปภุติ ‘ปาณํ ฆาเตสฺสามี’ติ อริยปุคฺคลานํ จิตฺตมฺปิ นุปฺปชฺชตีติ.
อิทานิ ¶ ยถา อกุสลานํ เอวํ อิเมสมฺปิ กุสลกมฺมปถานํ ธมฺมโต โกฏฺาสโต อารมฺมณโต เวทนาโต มูลโตติ ปฺจหากาเรหิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ –
ตตฺถ ‘ธมฺมโต’ติ เอเตสุ หิ ปฏิปาฏิยา สตฺต เจตนาปิ วฏฺฏนฺติ, วิรติโยปิ; อนฺเต ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตาว.
‘โกฏฺาสโต’ติ ปฏิปาฏิยา สตฺต กมฺมปถา เอว, โน มูลานิ. อนฺเต ตโย กมฺมปถา เจว มูลานิ จ. อนภิชฺฌา หิ มูลํ ปตฺวา ‘อโลโภ กุสลมูลํ’ โหติ. อพฺยาปาโท ‘อโทโส กุสลมูลํ’, สมฺมาทิฏฺิ ‘อโมโห กุสลมูลํ’.
‘อารมฺมณโต’ติ ปาณาติปาตาทีนํ อารมฺมณาเนว เอเตสํ อารมฺมณานิ. วีติกฺกมิตพฺพโตเยว หิ เวรมณี นาม โหติ. ยถา ปน นิพฺพานารมฺมโณ อริยมคฺโค กิเลเส ปชหติ, เอวํ ชีวิตินฺทฺริยาทิอารมฺมณาเปเต กมฺมปถา ปาณาติปาตาทีนิ ทุสฺสีลฺยานิ ปชหนฺตีติ เวทิตพฺพา.
‘เวทนาโต’ติ สพฺเพ สุขเวทนา วา โหนฺติ มชฺฌตฺตเวทนา วา. กุสลํ ปตฺวา หิ ทุกฺขเวทนา นาม นตฺถิ.
‘มูลโต’ติ ปฏิปาฏิยา สตฺต กมฺมปถา าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส อโลภอโทสอโมหวเสน ติมูลา โหนฺติ; าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส ทฺวิมูลา. อนภิชฺฌา าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส ทฺวิมูลา โหติ; าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน เอกมูลา. อโลโภ ปน อตฺตนาว อตฺตโน มูลํ น โหติ. อพฺยาปาเทปิ เอเสว นโย. สมฺมาทิฏฺิ อโลภาโทสวเสน ทฺวิมูลาว โหติ. อิเม ทส กุสลกมฺมปถา นาม.
กมฺมปถสํสนฺทนกถา
อิทานิ ¶ อิมสฺมึ าเน กมฺมปถสํสนฺทนํ นาม เวทิตพฺพํ. ปฺจผสฺสทฺวารวเสน หิ อุปฺปนฺโน อสํวโร อกุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ. มโนผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน ตีณิปิ กมฺมานิ ¶ โหนฺติ – โส หิ กายทฺวาเร โจปนปฺปตฺโต อกุสลํ กายกมฺมํ โหติ, วจีทฺวาเร อกุสลํ วจีกมฺมํ, อุภยตฺถ โจปนํ อปฺปตฺโต อกุสลํ มโนกมฺมํ. ปฺจอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโนปิ อกุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ. โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน อกุสลํ กายกมฺมเมว โหติ, วาจาอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน อกุสลํ วจีกมฺมเมว โหติ, มโนอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน ¶ อกุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ. ติวิธํ กายทุจฺจริตํ อกุสลํ กายกมฺมเมว โหติ, จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ อกุสลํ วจีกมฺมเมว โหติ, ติวิธํ มโนทุจฺจริตํ อกุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ.
ปฺจผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน สํวโรปิ กุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ. มโนผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน ปน อยมฺปิ, อสํวโร วิย, ตีณิปิ กมฺมานิ โหนฺติ. ปฺจสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโนปิ กุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ, โจปนกายสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน กุสลํ กายกมฺมเมว โหติ, วาจาสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน กุสลํ วจีกมฺมเมว โหติ, มโนสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน กุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ. ติวิธํ กายสุจริตํ กุสลํ กายกมฺมเมว โหติ, จตุพฺพิธํ วจีสุจริตํ กุสลํ วจีกมฺมเมว โหติ, ติวิธํ มโนสุจริตํ กุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ.
อกุสลํ กายกมฺมํ ปฺจผสฺสทฺวารวเสน นุปฺปชฺชติ; มโนผสฺสทฺวารวเสเนว อุปฺปชฺชติ. ตถา อกุสลํ วจีกมฺมํ. อกุสลํ มโนกมฺมํ ปน ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปชฺชติ; ตํ กายวจีทฺวาเรสุ โจปนํ ปตฺตํ อกุสลํ กายวจีกมฺมํ โหติ, โจปนํ อปฺปตฺตํ อกุสลํ มโนกมฺมเมว. ยถา จ ปฺจผสฺสทฺวารวเสน, เอวํ ปฺจอสํวรทฺวารวเสนปิ อกุสลํ กายกมฺมํ นุปฺปชฺชติ, โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน ปน วาจาอสํวรทฺวารวเสน จ อุปฺปชฺชติ; มโนอสํวรทฺวารวเสน นุปฺปชฺชติ. อกุสลํ วจีกมฺมมฺปิ ปฺจอสํวรทฺวารวเสน นุปฺปชฺชติ, โจปนกายวาจาอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปชฺชติ; มโนอสํวรทฺวารวเสน นุปฺปชฺชติ. อกุสลํ มโนกมฺมํ อฏฺอสํวรทฺวารวเสนปิ อุปฺปชฺชเตว. กุสลกายกมฺมาทีสุปิ เอเสว นโย.
อยํ ¶ ปน วิเสโส – ยถา อกุสลกายกมฺมวจีกมฺมานิ มโนอสํวรทฺวารวเสน นุปฺปชฺชนฺติ, น ตถา เอตานิ. เอตานิ ปน กายงฺควาจงฺคํ อโจเปตฺวา สิกฺขาปทานิ คณฺหนฺตสฺส มโนสํวรทฺวาเรปิ อุปฺปชฺชนฺติ เอว. ตตฺถ กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ ติวิธกมฺมทฺวารวเสน อุปฺปชฺชติ, ปฺจวิฺาณทฺวารวเสน นุปฺปชฺชติ; ‘ยมิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา ¶ อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ, สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา’ติ อิมินา ปน นเยน ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปชฺชติ; อฏฺอสํวรทฺวารวเสน นุปฺปชฺชติ, อฏฺสํวรทฺวารวเสน อุปฺปชฺชติ; ทสอกุสลกมฺมปถวเสน ¶ นุปฺปชฺชติ, ทสกุสลกมฺมปถวเสน อุปฺปชฺชติ; ตสฺมา อิทมฺปิ จิตฺตํ ติวิธกมฺมทฺวารวเสน วา อุปฺปนฺนํ โหตุ, ฉผสฺสทฺวารวเสน วา, อฏฺสํวรทฺวารวเสน วา ทสกุสลกมฺมปถวเสน วา. ‘‘กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ…เป… รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา’’ติ วุตฺเต สพฺพํ วุตฺตเมว โหตีติ.
ทฺวารกถา นิฏฺิตา.
ยํ ยํ วา ปนารพฺภาติ เอตฺถ อยํ โยชนา – เหฏฺา วุตฺเตสุ รูปารมฺมณาทีสุ รูปารมฺมณํ วา อารพฺภ, อารมฺมณํ กตฺวาติ อตฺโถ. สทฺทารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา อารพฺภ อุปฺปนฺนํ โหติ. เอตฺตาวตา เอตสฺส จิตฺตสฺส เอเตสุ อารมฺมเณสุ ยํกิฺจิ เอกเมว อารมฺมณํ อนฺุาตสทิสํ โหติ. อิทฺจ เอกสฺมึ สมเย เอกสฺส วา ปุคฺคลสฺส รูปารมฺมณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนํ ปุน อฺสฺมึ สมเย อฺสฺส วา ปุคฺคลสฺส สทฺทาทีสุปิ อฺตรํ อารมฺมณํ อารพฺภ อุปฺปชฺชติ เอว. เอวํ อุปฺปชฺชมานสฺส จสฺส เอกสฺมึ ภเว ปมํ รูปารมฺมณํ อารพฺภ ปวตฺติ โหติ, ปจฺฉา สทฺทารมฺมณนฺติ อยมฺปิ กโม นตฺถิ. รูปาทีสุ จาปิ ปมํ นีลารมฺมณํ ปจฺฉา ปีตารมฺมณนฺติ อยมฺปิ นิยโม นตฺถิ. อิติ อิมํ สพฺพารมฺมณตฺเจว, กมาภาวฺจ, กมาภาเวปิ จ นีลปีตาทีสุ นิยมาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘ยํ ยํ วา ปนารพฺภา’ติ อาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเมสุ รูปาทีสุ น ยํกิฺจิ เอกเมว, อถ โข ยํ ยํ วา ปนารพฺภ อุปฺปนฺนํ โหติ. เอวํ อุปฺปชฺชมานมฺปิ จ ‘ปมํ รูปารมฺมณํ ปจฺฉา สทฺทารมฺมณํ อารพฺภา’ติ เอวมฺปิ อนุปฺปชฺชิตฺวา ยํ ยํ วา ปนารพฺภ อุปฺปนฺนํ โหติ; ‘ปฏิโลมโต วา อนุโลมโต วา, เอกนฺตริกทฺวนฺตริกาทินเยน วา, รูปารมฺมณาทีสุ ยํ วา ตํ วา อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนํ โหตี’ติ อตฺโถ. รูปารมฺมเณสุปิ จ ‘ปมํ ¶ นีลารมฺมณํ ปจฺฉา ปีตารมฺมณ’นฺติ อิมินาปิ นิยเมน อนุปฺปชฺชิตฺวา, ยํ ยํ วา ปนารพฺภ ‘นีลปีตกาทีสุ รูปารมฺมเณสุ ยํ วา ตํ วา รูปารมฺมณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนํ โหตี’ติ อตฺโถ. สทฺทารมฺมณาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ตาว เอกา โยชนา.
อยํ ปน อปรา – รูปํ อารมฺมณํ เอตสฺสาติ รูปารมฺมณํ…เป… ธมฺโม อารมฺมณํ เอตสฺสาติ ¶ ธมฺมารมฺมณํ ¶ . อิติ รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตีติ วตฺวา ปุน ‘ยํ ยํ วา ปนารพฺภา’ติ อาห. ตสฺสตฺโถ – เอเตสุ รูปาทีสุ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ยํ วา ตํ วา ปน อารพฺภ อุปฺปนฺนํ โหตีติ. มหาอฏฺกถายํ ปน เยวาปนเก อภินวํ นตฺถิ, เหฏฺา คหิตเมว คหิต’นฺติ วตฺวา ‘รูปํ วา อารพฺภ…เป… ธมฺมํ วา อารพฺภ, อิทํ วา อิทํ วา อารพฺภาติ กเถตุํ อิทํ วุตฺต’นฺติ เอตฺตกเมว อาคตํ.
ธมฺมุทฺเทสวาโร
ผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา
ตสฺมึ สมเยติ อิทํ อนิยมนิทฺทิฏฺสฺส สมยสฺส นิยมโต ปฏินิทฺเทสวจนํ. ตสฺมา ‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมึเยว สมเย ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตี’ติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ยเถว จิตฺตํ เอวํ ผสฺสาทีสุปิ ผสฺโส โหติ. กึ โหติ? ‘กามาวจโร โหติ, กุสโล โหติ, อุปฺปนฺโน โหติ, โสมนสฺสสหคโต โหตี’ติอาทินา นเยน ลพฺภมานปทวเสน โยชนา กาตพฺพา. เวทนายฺหิ ‘โสมนสฺสสหคตา’ติ ปฺินฺทฺริเย จ ‘าณสมฺปยุตฺต’นฺติ น ลพฺภติ, ตสฺมา ‘ลพฺภมานปทวเสนา’ติ วุตฺตํ. อิทํ อฏฺกถามุตฺตกํ อาจริยานํ มตํ; น ปเนตํ สารโต ทฏฺพฺพํ.
กสฺมา ปเนตฺถ ผสฺโสว ปมํ วุตฺโตติ? จิตฺตสฺส ปมาภินิปาตตฺตา. อารมฺมณสฺมิฺหิ จิตฺตสฺส ปมาภินิปาโต หุตฺวา ผสฺโส อารมฺมณํ ผุสมาโน อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ปมํ วุตฺโต. ผสฺเสน ปน ผุสิตฺวา เวทนาย เวทยติ, สฺาย สฺชานาติ, เจตนาย เจเตติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ผุฏฺโ, ภิกฺขเว, เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ.
อปิจ ¶ , อยํ ผสฺโส นาม ยถา ปาสาทํ ปตฺวา ถมฺโภ นาม เสสทพฺพสมฺภารานํ พลวปจฺจโย, ตุลาสงฺฆาฏภิตฺติปาทกูฏโคปานสีปกฺขปาสกมุขวฏฺฏิโย ถมฺภาพทฺธา ถมฺเภ ปติฏฺิตา, เอวเมว สหชาตสมฺปยุตฺตธมฺมานํ พลวปจฺจโย โหติ. ถมฺภสทิโส หิ เอส. อวเสสา ทพฺพสมฺภารสทิสาติ. ตสฺมาปิ ปมํ วุตฺโต. อิทํ ปน อการณํ. เอกจิตฺตสฺมิฺหิ อุปฺปนฺนธมฺมานํ ‘อยํ ปมํ อุปฺปนฺโน อยํ ปจฺฉา’ติ อิทํ วตฺตุํ น ลพฺภา. พลวปจฺจยภาเวปิ ผสฺสสฺส การณํ น ¶ ทิสฺสติ. เทสนาวาเรเนว ปน ¶ ผสฺโส ปมํ วุตฺโต. เวทนา โหติ ผสฺโส โหติ, สฺา โหติ ผสฺโส โหติ, เจตนา โหติ ผสฺโส โหติ, จิตฺตํ โหติ ผสฺโส โหติ, เวทนา โหติ สฺา โหติ, เจตนา โหติ วิตกฺโก โหตีติ อาหริตุมฺปิ หิ วฏฺเฏยฺย. เทสนาวาเรน ปน ผสฺโสว ปมํ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ยถา เจตฺถ เอวํ เสสธมฺเมสุปิ ปุพฺพาปรกฺกโม นาม น ปริเยสิตพฺโพ. วจนตฺถลกฺขณรสาทีหิ ปน ธมฺมา เอว ปริเยสิตพฺพา.
เสยฺยถิทํ – ผุสตีติ ผสฺโส. สฺวายํ ผุสนลกฺขโณ, สงฺฆฏฺฏนรโส, สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน, อาปาถคตวิสยปทฏฺาโน.
อยฺหิ อรูปธมฺโมปิ สมาโน อารมฺมเณ ผุสนากาเรเนว ปวตฺตตีติ ผุสนลกฺขโณ. เอกเทเสน จ อนลฺลียมาโนปิ รูปํ วิย จกฺขุํ, สทฺโท วิย จ โสตํ, จิตฺตํ อารมฺมณฺจ สงฺฆฏฺเฏตีติ สงฺฆฏฺฏนรโส. วตฺถารมฺมณสงฺฆฏฺฏนโต วา อุปฺปนฺนตฺตา สมฺปตฺติอตฺเถนปิ รเสน สงฺฆฏฺฏนรโสติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ – ‘‘จตุภูมกผสฺโส หิ โนผุสนลกฺขโณ นาม นตฺถิ. สงฺฆฏฺฏนรโส ปน ปฺจทฺวาริโกว โหติ. ปฺจทฺวาริกสฺส หิ ผุสนลกฺขโณติปิ สงฺฆฏฺฏนรโสติปิ นามํ; มโนทฺวาริกสฺส ผุสนลกฺขโณตฺเวว นามํ, น สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ.
อิทฺจ วตฺวา อิทํ สุตฺตํ อาภตํ – ‘‘ยถา, มหาราช, ทฺเว เมณฺฑา ยุชฺเฌยฺยุํ, เตสุ ยถา เอโก เมณฺโฑ เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ, ยถา ทุติโย เมณฺโฑ เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ; ยถา เตสํ สนฺนิปาโต เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ’’. เอวํ ผุสนลกฺขโณ จ ผสฺโส, สงฺฆฏฺฏนรโส จ. ‘‘ยถา, มหาราช, ทฺเว ¶ สมฺมา วชฺเชยฺยุํ…เป… ทฺเว ปาณี วชฺเชยฺยุํ, ยถา เอโก ปาณิ เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ, ยถา ทุติโย ปาณิ เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ, ยถา เตสํ สนฺนิปาโต เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ. เอวํ ผุสนลกฺขโณ จ ผสฺโส สงฺฆฏฺฏนรโส จา’’ติ (มิ. ป. ๒.๓.๘) วิตฺถาโร.
ยถา วา ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๓๕๒, ๑๓๕๔) จกฺขุวิฺาณาทีนิ จกฺขุอาทินาเมน วุตฺตานิ, เอวมิธาปิ ตานิ จกฺขุอาทินาเมน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. ตสฺมา ‘เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพ’นฺติอาทีสุ เอวํ จกฺขุวิฺาณํ ทฏฺพฺพนฺติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ สนฺเต จิตฺตารมฺมณสงฺฆฏฺฏนโต ¶ อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต กิจฺจฏฺเเนว รเสน สงฺฆฏฺฏนรโสติ สิทฺโธ โหติ.
ติกสนฺนิปาตสงฺขาตสฺส ¶ ปน อตฺตโน การณสฺส วเสน ปเวทิตตฺตา สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน. อยฺหิ ตตฺถ ตตฺถ ‘‘ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติ เอวํ การณสฺส วเสน ปเวทิโตติ. อิมสฺส จ สุตฺตปทสฺส ติณฺณํ สงฺคติยา ผสฺโสติ อยมตฺโถ; น สงฺคติมตฺตเมว ผสฺโสติ.
เอวํ ปเวทิตตฺตา ปน เตเนวากาเรน ปจฺจุปฏฺาตีติ สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโนติ วุตฺโต. ผลฏฺเน ปน ปจฺจุปฏฺาเนเนส เวทนาปจฺจุปฏฺาโน นาม โหติ. เวทนฺเหส ปจฺจุปฏฺาเปติ อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. อุปฺปาทยมาโน จ ยถา พหิทฺธา อุณฺหปจฺจยาปิ ลาขาสงฺขาตธาตุนิสฺสิตา อุสฺมา อตฺตโน นิสฺสเย มุทุภาวการี โหติ, น อตฺตโน ปจฺจยภูเตปิ พหิทฺธา วีตจฺจิตงฺคารสงฺขาเต อุณฺหภาเว, เอวํ วตฺถารมฺมณสงฺขาตอฺปจฺจโยปิ สมาโน, จิตฺตนิสฺสิตตฺตา อตฺตโน นิสฺสยภูเต จิตฺเต เอว เอส เวทนุปฺปาทโก โหติ, น อตฺตโน ปจฺจยภูเตปิ วตฺถุมฺหิ อารมฺมเณ วาติ เวทิตพฺโพ. ตชฺชาสมนฺนาหาเรน ปน อินฺทฺริเยน จ ปริกฺขเต วิสเย อนนฺตราเยน อุปฺปชฺชนโต เอส อาปาถคตวิสยปทฏฺาโนติ วุจฺจติ.
เวทยตีติ เวทนา. สา เวทยิตลกฺขณา, อนุภวนรสา อิฏฺาการสมฺโภครสา วา, เจตสิกอสฺสาทปจฺจุปฏฺานา, ปสฺสทฺธิปทฏฺานา.
‘จตุภูมิกเวทนา ¶ หิ โนเวทยิตลกฺขณา นาม นตฺถิ. อนุภวนรสตา ปน สุขเวทนายเมว ลพฺภตี’ติ วตฺวา ปุน ตํ วาทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘สุขเวทนา วา โหตุ, ทุกฺขเวทนา วา, อทุกฺขมสุขเวทนา วา, สพฺพา อนุภวนรสา’ติ วตฺวา อยมตฺโถ ทีปิโต – อารมฺมณรสานุภวนฏฺานํ ปตฺวา เสสสมฺปยุตฺตธมฺมา เอกเทสมตฺตกเมว อนุภวนฺติ. ผสฺสสฺส หิ ผุสนมตฺตกเมว โหติ, สฺาย สฺชานนมตฺตกเมว, เจตนาย เจตนามตฺตกเมว, วิฺาณสฺส วิชานนมตฺตกเมว. เอกํสโต ปน อิสฺสรวตาย วิสฺสวิตาย สามิภาเวน เวทนาว อารมฺมณรสํ อนุภวติ.
ราชา วิย หิ เวทนา, สูโท วิย เสสธมฺมา. ยถา สูโท นานารสโภชนํ สมฺปาเทตฺวา เปฬาย ปกฺขิปิตฺวา ลฺฉนํ ทตฺวา รฺโ สนฺติเก โอตาเรตฺวา ลฺฉนํ ภินฺทิตฺวา เปฬํ วิวริตฺวา สพฺพสูปพฺยฺชเนหิ อคฺคคฺคํ ¶ อาทาย ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา สโทสนิทฺโทสภาววีมํสนตฺถํ อชฺโฌหรติ, ตโต รฺโ นานคฺครสโภชนํ อุปนาเมติ. ราชา อิสฺสรวตาย วิสฺสวิตาย ¶ สามี หุตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตํ ภฺุชติ. ตตฺถ หิ สูทสฺส ภตฺตวีมํสนมตฺตมิว อวเสสธมฺมานํ อารมฺมณรสสฺส เอกเทสานุภวนํ. ยถา หิ สูโท ภตฺเตกเทสมตฺตเมว วีมํสติ เอวํ เสสธมฺมาปิ อารมฺมณรเสกเทสเมว อนุภวนฺติ. ยถา ปน ราชา อิสฺสรวตาย วิสฺสวิตาย สามี หุตฺวา ยทิจฺฉกํ ภฺุชติ, เอวํ เวทนาปิ อิสฺสรวตาย วิสฺสวิตาย สามิภาเวน อารมฺมณรสํ อนุภวติ. ตสฺมา อนุภวนรสาติ วุจฺจติ.
ทุติเย อตฺถวิกปฺเป อยํ อิธ อธิปฺเปตา เวทนา ยถา วา ตถา วา อารมฺมณสฺส อิฏฺาการเมว สมฺภฺุชตีติ อิฏฺาการสมฺโภครสาติ วุตฺตา. เจตสิกอสฺสาทโต ปเนสา อตฺตโน สภาเวเนว อุปฏฺานํ สนฺธาย เจตสิกอสฺสาทปจฺจุปฏฺานาติ วุตฺตา. ยสฺมา ปน ‘‘ปสฺสทฺธิกาโย สุขํ เวเทติ’’ ตสฺมา ปสฺสทฺธิปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.
นีลาทิเภทํ อารมฺมณํ สฺชานาตีติ สฺา. สา สฺชานนลกฺขณา ปจฺจาภิฺาณรสา. จตุภูมิกสฺา หิ โนสฺชานนลกฺขณา นาม นตฺถิ ¶ . สพฺพา สฺชานนลกฺขณาว. ยา ปเนตฺถ อภิฺาเณน สฺชานาติ สา ปจฺจาภิฺาณรสา นาม โหติ.
ตสฺสา, วฑฺฒกิสฺส ทารุมฺหิ อภิฺาณํ กตฺวา ปุน เตน อภิฺาเณน ตํ ปจฺจาภิชานนกาเล, ปุริสสฺส กาฬติลกาทิอภิฺาณํ สลฺลกฺเขตฺวา ปุน เตน อภิฺาเณน อสุโก นาม เอโสติ ตสฺส ปจฺจาภิชานนกาเล, รฺโ ปิฬนฺธนโคปกภณฺฑาคาริกสฺส ตสฺมึ ตสฺมึ ปิฬนฺธเน นามปณฺณกํ พนฺธิตฺวา ‘อสุกํ ปิฬนฺธนํ นาม อาหรา’ติ วุตฺเต ทีปํ ชาเลตฺวา รตนคพฺภํ ปวิสิตฺวา ปณฺณํ วาเจตฺวา ตสฺส ตสฺเสว ปิฬนฺธนสฺส อาหรณกาเล จ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.
อปโร นโย – สพฺพสงฺคาหิกวเสน หิ สฺชานนลกฺขณา สฺา. ปุนสฺชานนปจฺจยนิมิตฺตกรณรสา, ทารุอาทีสุ ตจฺฉกาทโย วิย. ยถาคหิตนิมิตฺตวเสน อภินิเวสกรณปจฺจุปฏฺานา, หตฺถิทสฺสกอนฺธา วิย. อารมฺมเณ อโนคาฬฺหวุตฺติตาย ¶ อจิรฏฺานปจฺจุปฏฺานา วา, วิชฺชุ วิย. ยถาอุปฏฺิตวิสยปทฏฺานา, ติณปุริสเกสุ มิคโปตกานํ ‘ปุริสา’ติ อุปฺปนฺนสฺา วิย. ยา ปเนตฺถ าณสมฺปยุตฺตา โหติ สา สฺา าณเมว อนุวตฺตติ. สสมฺภารปถวีอาทีสุ เสสธมฺมา ปถวีอาทีนิ วิยาติ เวทิตพฺพา.
เจตยตีติ ¶ เจตนา สทฺธึ อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺเม อารมฺมเณ อภิสนฺทหตีติ อตฺโถ. สา เจตยิตลกฺขณา, เจตนาภาวลกฺขณาติ อตฺโถ. อายูหนรสา. จตุภูมิกเจตนา หิ โนเจตยิตลกฺขณา นาม นตฺถิ. สพฺพา เจตยิตลกฺขณาว. อายูหนรสตา ปน กุสลากุสเลสุ เอว โหติ. กุสลากุสลกมฺมายูหนฏฺานฺหิ ปตฺวา เสสสมฺปยุตฺตธมฺมานํ เอกเทสมตฺตกเมว กิจฺจํ โหติ. เจตนา ปน อติเรกอุสฺสาหา อติเรกวายามา, ทิคุณุสฺสาหา ทิคุณวายามา. เตนาหุ โปราณา – ‘‘ถาวริยสภาวสณฺิตา จ ปเนสา เจตนา’’ติ. ถาวริโยติ เขตฺตสามี วุจฺจติ. ยถา เขตฺตสามี ปุริโส ปฺจปณฺณาส พลิปุริเส คเหตฺวา ‘ลายิสฺสามี’ติ เอกโต เขตฺตํ โอตรติ. ตสฺส อติเรโก อุสฺสาโห อติเรโก วายาโม, ทิคุโณ อุสฺสาโห ทิคุโณ วายาโม โหติ, ‘นิรนฺตรํ คณฺหถา’ติอาทีนิ วทติ, สีมํ อาจิกฺขติ, เตสํ สุราภตฺตคนฺธมาลาทีนิ ชานาติ, มคฺคํ สมกํ หรติ. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ ¶ . เขตฺตสามิปุริโส วิย หิ เจตนา. ปฺจปณฺณาส พลิปุริสา วิย จิตฺตงฺควเสน อุปฺปนฺนา ปฺจปณฺณาส กุสลา ธมฺมา. เขตฺตสามิปุริสสฺส ทิคุณุสฺสาหทิคุณวายามกรณกาโล วิย กุสลากุสลกมฺมายูหนฏฺานํ ปตฺวา เจตนาย ทิคุณุสฺสาโห ทิคุณวายาโม โหติ. เอวมสฺสา อายูหนรสตา เวทิตพฺพา.
สา ปเนสา สํวิทหนปจฺจุปฏฺานา. สํวิทหมานา หิ อยํ อุปฏฺาติ, สกิจฺจปรกิจฺจสาธกา, เชฏฺสิสฺสมหาวฑฺฒกีอาทโย วิย. ยถา หิ เชฏฺสิสฺโส อุปชฺฌายํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สยํ อธียมาโน อิตเรปิ ทารเก อตฺตโน อตฺตโน อชฺฌยนกมฺเม ปวตฺตยติ, ตสฺมิฺหิ อธียิตุํ อารทฺเธ เตปิ อธียนฺติ, ตทนุวตฺติตาย. ยถา จ มหาวฑฺฒกี สยํ ตจฺฉนฺโต อิตเรปิ ตจฺฉเก อตฺตโน อตฺตโน ¶ ตจฺฉนกมฺเม ปวตฺตยติ, ตสฺมิฺหิ ตจฺฉิตุํ อารทฺเธ เตปิ ตจฺฉนฺติ, ตทนุวตฺติตาย. ยถา จ โยธนายโก สยํ ยุชฺฌมาโน อิตเรปิ โยเธ สมฺปหารวุตฺติยํ ปวตฺตยติ, ตสฺมิฺหิ ยุชฺฌิตุํ อารทฺเธ เตปิ อนิวตฺตมานา ยุชฺฌนฺติ, ตทนุวตฺติตาย. เอวเมสาปิ อตฺตโน กิจฺเจน อารมฺมเณ ปวตฺตมานา อฺเปิ สมฺปยุตฺตธมฺเม อตฺตโน อตฺตโน กิริยาย ปวตฺเตติ. ตสฺสา หิ อตฺตโน กิจฺจํ อารทฺธาย, ตํสมฺปยุตฺตาปิ อารภนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘สกิจฺจปรกิจฺจสาธกา, เชฏฺสิสฺสมหาวฑฺฒกีอาทโย วิยา’ติ. อจฺจายิกกมฺมานุสฺสรณาทีสุ จ ปนายํ สมฺปยุตฺตานํ อุสฺสาหนภาเวน ปวตฺตมานา ปากฏา โหตีติ เวทิตพฺพา.
‘อารมฺมณํ ¶ จินฺเตตี’ติ จิตฺตนฺติ นเยน จิตฺตสฺส วจนตฺโถ วุตฺโต เอว. ลกฺขณาทิโต ปน วิชานนลกฺขณํ จิตฺตํ, ปุพฺพงฺคมรสํ, สนฺทหนปจฺจุปฏฺานํ, นามรูปปทฏฺานํ. จตุภูมกจิตฺตฺหิ โนวิชานนลกฺขณํ นาม นตฺถิ. สพฺพํ วิชานนลกฺขณเมว. ทฺวารํ ปน ปตฺวา อารมฺมณวิภาวนฏฺาเน จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ โหติ. จกฺขุนา หิ ทิฏฺํ รูปารมฺมณํ จิตฺเตเนว วิชานาติ…เป… มเนน วิฺาตํ ธมฺมารมฺมณํ จิตฺเตเนว วิชานาติ. ยถา หิ นครคุตฺติโก นาม นครมชฺเฌ สิงฺฆาฏเก นิสีทิตฺวา ‘อยํ เนวาสิโก อยํ อาคนฺตุโก’ติ อาคตาคตํ ชนํ อุปธาเรติ ววตฺถเปติ – เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ มหาเถเรน – ‘‘ยถา, มหาราช ¶ , นครคุตฺติโก นาม มชฺเฌ นครสฺส สิงฺฆาฏเก นิสินฺโน ปุรตฺถิมโต ทิสโต ปุริสํ อาคจฺฉนฺตํ ปสฺเสยฺย… ปจฺฉิมโต… ทกฺขิณโต… อุตฺตรโต ทิสโต ปุริสํ อาคจฺฉนฺตํ ปสฺเสยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, ยํ จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ ตํ วิฺาเณน วิชานาติ, ยํ โสเตน สทฺทํ สุณาติ, ฆาเนน คนฺธํ ฆายติ, ชิวฺหาย รสํ สายติ, กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสติ, มนสา ธมฺมํ วิชานาติ, ตํ วิฺาเณน วิชานาตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๓.๑๒). เอวํ ทฺวารํ ปตฺวา อารมฺมณวิภาวนฏฺาเน จิตฺตเมว ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ. ตสฺมา ปุพฺพงฺคมรสนฺติ ¶ วุจฺจติ.
ตเทตํ ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อุปฺปชฺชมานํ ปุริมํ ปุริมํ นิรนฺตรํ กตฺวา สนฺทหนเมว อุปฏฺาตีติ สนฺทหนปจฺจุปฏฺานํ. ปฺจโวการภเว ปนสฺส นิยมโต นามรูปํ, จตุโวการภเว นามเมว ปทฏฺานํ. ตสฺมา นามรูปปทฏฺานนฺติ วุตฺตํ.
กึ ปเนตํ จิตฺตํ ปุริมนิทฺทิฏฺจิตฺเตน สทฺธึ เอกเมว อุทาหุ อฺนฺติ? เอกเมว. อถ กสฺมา ปุริมนิทฺทิฏฺํ ปุน วุตฺตนฺติ? อวิจาริตํ เอตํ อฏฺกถายํ. อยํ ปเนตฺถ ยุตฺติ – ยถา หิ รูปาทีนิ อุปาทาย ปฺตฺตา สูริยาทโย น อตฺถโต รูปาทีหิ อฺเ โหนฺติ, เตเนว ยสฺมึ สมเย สูริโย อุเทติ ตสฺมึ สมเย ตสฺส เตชสงฺขาตํ รูปมฺปีติ. เอวํ วุจฺจมาเนปิ น รูปาทีหิ อฺโ สูริโย นาม อตฺถิ. น ตถา จิตฺตํ; ผสฺสาทโย ธมฺเม อุปาทาย ปฺาปิยติ; อตฺถโต ปเนตํ เตหิ อฺเมว. เตน ‘ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ เอกํเสเนว ตสฺมึ สมเย ผสฺสาทีหิ อตฺถโต อฺเมว ตํ โหตี’ติ อิมสฺสตฺถสฺส ทีปนตฺถาย เอตํ ปุน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ยถา จ ‘‘ยสฺมึ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ…เป… ปถวีกสิณํ, ตสฺมึ สมเย ¶ ผสฺโส โหติ เวทนา โหตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๖๐) ปน ภาเวนฺเตน ววตฺถาปิเต สมเย โย ภาเวติ น โส อตฺถโต อุปฺปชฺชติ นาม, เตเนว ตตฺถ ยถา ‘‘ผสฺโส โหติ เวทนา โหตี’’ติ วุตฺตํ, น เอวํ ‘‘โย ภาเวติ โส โหตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติอาทีสุ ปน จิตฺเตน ววตฺถาปิเต สมเย สมยววตฺถาปิตํ จิตฺตํ น ตถา อตฺถโต นุปฺปชฺชติ ¶ . ยเถว ปน ตทา ‘ผสฺโส โหติ เวทนา โหติ’, ตถา ‘จิตฺตมฺปิ โหตี’ติ อิมสฺสปิ อตฺถสฺส ทีปนตฺถมิทํ ปุน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทํ ปเนตฺถ สนฺนิฏฺานํ – อุทฺเทสวาเร สงฺคณฺหนตฺถํ นิทฺเทสวาเร จ วิภชนตฺถํ ปุริเมน หิ ‘จิตฺต’-สทฺเทน เกวลํ สมโย ววตฺถาปิโต. ตสฺมึ ปน จิตฺเตน ววตฺถาปิตสมเย เย ธมฺมา โหนฺติ เตสํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. จิตฺตฺจาปิ ตสฺมึ สมเย โหติเยว. ตสฺมา ตสฺสาปิ สงฺคณฺหนตฺถเมตํ ¶ ปุน วุตฺตํ. อิมสฺมิฺจ าเน เอตสฺมึ อวุจฺจมาเน ‘‘กตมํ ตสฺมึ สมเย จิตฺต’’นฺติ น สกฺกา ภเวยฺย นิทฺเทสวาเร วิภชิตุํ. เอวมสฺส วิภชนํเยว ปริหาเยถ. ตสฺมา ตสฺส นิทฺเทสวาเร วิภชนตฺถมฺปิ เอตฺจ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ยสฺมา วา ‘‘อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ เอตฺถ จิตฺตํ อุปฺปนฺนนฺติ เอตํ เทสนาสีสเมว, ‘น ปน จิตฺตํ เอกเมว อุปฺปชฺชตี’ติ อฏฺกถายํ วิจาริตํ, ตสฺมา จิตฺตํ ‘‘อุปฺปนฺน’’นฺติ เอตฺถาปิ จิตฺตมตฺตเมว อคฺคเหตฺวา ปโรปณฺณาสกุสลธมฺเมหิ สทฺธึเยว จิตฺตํ คหิตํ. เอวํ ตตฺถ สงฺเขปโต สพฺเพปิ จิตฺตเจตสิกธมฺเม คเหตฺวา อิธ สรูเปน ปเภทโต ทสฺเสตุํ ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. อิติ ผสฺสาทโย วิย จิตฺตมฺปิ วุตฺตเมวาติ เวทิตพฺพํ.
ธมฺมุทฺเทสวาโร
ฌานงฺคราสิวณฺณนา
วิตกฺเกตีติ วิตกฺโก; วิตกฺกนํ วา วิตกฺโก; อูหนนฺติ วุตฺตํ โหติ. สฺวายํ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อภินิโรปนลกฺขโณ. โส หิ อารมฺมเณ จิตฺตํ อาโรเปติ. ยถา หิ โกจิ ราชวลฺลภํ าตึ วา มิตฺตํ วา นิสฺสาย ราชเคหํ อาโรหติ, เอวํ วิตกฺกํ นิสฺสาย จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหติ. ตสฺมา โส อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อภินิโรปนลกฺขโณติ วุตฺโต. นาคเสนตฺเถโร ปนาห – อาโกฏนลกฺขโณ วิตกฺโก. ‘‘ยถา, มหาราช, เภรี อาโกฏิตา อถ ปจฺฉา ¶ อนุรวติ อนุสทฺทายติ, เอวเมว โข, มหาราช, ยถา อาโกฏนา เอวํ วิตกฺโก ทฏฺพฺโพ. ยถา ปจฺฉา อนุรวนา อนุสทฺทายนา เอวํ วิจาโร ทฏฺพฺโพ’’ติ (มิ. ป. ๒.๓.๑๔ โถกํ วิสทิสํ). สฺวายํ อาหนนปริยาหนนรโส. ตถา หิ เตน โยคาวจโร อารมฺมณํ วิตกฺกาหตํ วิตกฺกปริยาหตํ กโรตีติ วุจฺจติ. อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อานยนปจฺจุปฏฺาโน.
อารมฺมเณ ¶ เตน จิตฺตํ วิจรตีติ วิจาโร; วิจรณํ วา วิจาโร. อนุสฺจรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. สฺวายํ อารมฺมณานุมชฺชนลกฺขโณ. ตตฺถ สหชาตานุโยชนรโส. จิตฺตสฺส อนุปฺปพนฺธปจฺจุปฏฺาโน. สนฺเตปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิโยเค โอฬาริกฏฺเน ปุพฺพงฺคมฏฺเน จ ฆณฺฏาภิฆาโต วิย อภินิโรปนฏฺเน จ เจตโส ปมาภินิปาโต วิตกฺโก ¶ . สุขุมฏฺเน อนุมชฺชนสภาวฏฺเน จ ฆณฺฏานุรโว วิย อนุปฺปพนฺโธ วิจาโร. วิปฺผารวา เจตฺถ วิตกฺโก, ปมุปฺปตฺติกาเล ปริปฺผนฺทภูโต จิตฺตสฺส. อากาเส อุปฺปติตุกามสฺส ปกฺขิโน ปกฺขวิกฺเขโป วิย. ปทุมาภิมุขปาโต วิย จ คนฺธานุพทฺธเจตโส ภมรสฺส. สนฺตวุตฺติ วิจาโร นาติปริปฺผนฺทนภาโว จิตฺตสฺส, อากาเส อุปฺปติตสฺส ปกฺขิโน ปกฺขปฺปสารณํ วิย, ปริพฺภมนํ วิย จ ปทุมาภิมุขปติตสฺส ภมรสฺส ปทุมสฺส อุปริภาเค.
อฏฺกถายํ ปน ‘‘อากาเส คจฺฉโต มหาสกุณสฺส อุโภหิ ปกฺเขหิ วาตํ คเหตฺวา ปกฺเข สนฺนิสีทาเปตฺวา คมนํ วิย อารมฺมเณ เจตโส อภินิโรปนภาเวน ปวตฺโต วิตกฺโก. โส หิ เอกคฺโค หุตฺวา อปฺเปติ วาตคฺคหณตฺถํ ปกฺเข ผนฺทาปยมานสฺส คมนํ วิย. อนุมชฺชภาเวน ปวตฺโต วิจาโร. โส หิ อารมฺมณํ อนุมชฺชตีติ วุตฺตํ, ตํ อนุปฺปพนฺธเนน ปวตฺติยํ อติวิย ยุชฺชติ. โส ปน เนสํ วิเสโส ปมทุติยชฺฌาเนสุ ปากโฏ โหติ. อปิจ มลคฺคหิตํ กํสภาชนํ เอเกน หตฺเถน ทฬฺหํ คเหตฺวา อิตเรน หตฺเถน จุณฺณเตลวาลณฺฑุปเกน ปริมชฺชนฺตสฺส ทฬฺหคฺคหณหตฺโถ วิย วิตกฺโก, ปริมชฺชนหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา กุมฺภการสฺส ทณฺฑปฺปหาเรน จกฺกํ ภมยิตฺวา ภาชนํ กโรนฺตสฺส อุปฺปีฬนหตฺโถ วิย วิตกฺโก, อิโต จิโต จ สฺจรณหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา มณฺฑลํ กโรนฺตสฺส มชฺเฌ สนฺนิรุมฺภิตฺวา ิตกณฺฏโก วิย อภินิโรปโน วิตกฺโก, พหิปริพฺภมนกณฺฏโก วิย อนุมชฺชมาโน วิจาโร.
ปิณยตีติ ¶ ปีติ. สา สมฺปิยายนลกฺขณา. กายจิตฺตปีณนรสา, ผรณรสา วา. โอทคฺยปจฺจุปฏฺานา. สา ปเนสา ขุทฺทิกาปีติ, ขณิกาปีติ, โอกฺกนฺติกาปีติ, อุพฺเพคาปีติ, ผรณาปีตีติ ปฺจวิธา โหติ.
ตตฺถ ¶ ขุทฺทิกาปีติ สรีเร โลมหํสมตฺตเมว กาตุํ สกฺโกติ. ขณิกาปีติ ขเณ ขเณ วิชฺชุปฺปาทสทิสา โหติ. โอกฺกนฺติกาปีติ ¶ , สมุทฺทตีรํ วีจิ วิย, กายํ โอกฺกมิตฺวา โอกฺกมิตฺวา ภิชฺชติ. อุพฺเพคาปีติ พลวตี โหติ, กายํ อุทฺธคฺคํ กตฺวา อากาเส ลงฺฆาปนปฺปมาณปฺปตฺตา. ตถา หิ ปุณฺณวลฺลิกวาสี มหาติสฺสตฺเถโร ปุณฺณมทิวเส สายํ เจติยงฺคณํ คนฺตฺวา จนฺทาโลกํ ทิสฺวา มหาเจติยาภิมุโข หุตฺวา ‘อิมาย วต เวลาย จตสฺโส ปริสา มหาเจติยํ วนฺทนฺตี’ติ ปกติยา ทิฏฺารมฺมณวเสน พุทฺธารมฺมณํ อุพฺเพคํ ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา สุธาตเล ปหฏจิตฺรเคณฺฑุโก วิย อากาเส อุปฺปติตฺวา มหาเจติยงฺคเณเยว อฏฺาสิ.
ตถา คิริกณฺฑกวิหารสฺส อุปนิสฺสเย วตฺตกาลกคาเม เอกา กุลธีตาปิ พลวพุทฺธารมฺมณาย อุพฺเพคาย ปีติยา อากาเส ลงฺเฆสิ. ตสฺสา กิร มาตาปิตโร สายํ ธมฺมสวนตฺถาย วิหารํ คจฺฉนฺตา ‘อมฺม, ตฺวํ ครุภารา, อกาเล วิจริตุํ น สกฺโกสิ, มยํ ตุยฺหํ ปตฺตึ กตฺวา ธมฺมํ โสสฺสามา’ติ อคมํสุ. สา คนฺตุกามาปิ เตสํ วจนํ ปฏิพาหิตุํ อสกฺโกนฺตี ฆเร โอหียิตฺวา ฆรทฺวาเร ตฺวา จนฺทาโลเกน คิริกณฺฑเก อากาสเจติยงฺคณํ โอโลเกนฺตี เจติยสฺส ทีปปูชํ อทฺทส. จตสฺโส จ ปริสา มาลาคนฺธาทีหิ เจติยปูชํ กตฺวา ปทกฺขิณํ กโรนฺติโย ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ คณสชฺฌายสทฺทํ อสฺโสสิ. อถสฺสา ‘ธฺา วติเม มนุสฺสา เย วิหารํ คนฺตฺวา เอวรูเป เจติยงฺคเณ อนุสฺจริตุํ เอวรูปฺจ มธุรํ ธมฺมกถํ โสตุํ ลภนฺตี’ติ มุตฺตราสิสทิสํ เจติยํ ปสฺสนฺติยา เอว อุพฺเพคาปีติ อุทปาทิ. สา อากาเส ลงฺฆิตฺวา มาตาปิตูนํ ปุริมตรํเยว อากาสโต เจติยงฺคเณ โอรุยฺห เจติยํ วนฺทิตฺวา ธมฺมํ สุณมานา อฏฺาสิ. อถ นํ มาตาปิตโร อาคนฺตฺวา ‘อมฺม, ตฺวํ กตเรน มคฺเคน อาคตาสี’ติ ปุจฺฉึสุ. สา ‘อากาเสน อาคตามฺหิ, น มคฺเคนา’ติ วตฺวา ‘อมฺม, อากาเสน นาม ขีณาสวา สฺจรนฺติ, ตฺวํ กถํ อาคตา’ติ ปุฏฺา อาห – ‘มยฺหํ จนฺทาโลเกน เจติยํ โอโลเกนฺติยา ิตาย พุทฺธารมฺมณา พลวปีติ อุปฺปชฺชติ, อถาหํ เนว อตฺตโน ิตภาวํ น นิสินฺนภาวํ อฺาสึ, คหิตนิมิตฺเตเนว ปน อากาสํ ¶ ลงฺฆิตฺวา เจติยงฺคเณ ปติฏฺิตามฺหี’ติ. เอวํ อุพฺเพคาปีติ อากาเส ลงฺฆาปนปฺปมาณา โหติ.
ผรณปีติยา ¶ ¶ ปน อุปฺปนฺนาย สกลสรีรํ ธมิตฺวา ปูริตวตฺถิ วิย, มหตา อุทโกเฆน ปกฺขนฺทปพฺพตกุจฺฉิ วิย จ อนุปริปฺผุฏํ โหติ. สา ปเนสา ปฺจวิธา ปีติ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธํ ปสฺสทฺธึ ปริปูเรติ – กายปสฺสทฺธิฺจ จิตฺตปสฺสทฺธิฺจ. ปสฺสทฺธิ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธํ สุขํ ปริปูเรติ – กายิกํ เจตสิกฺจ. สุขํ คพฺภํ คณฺหนฺตํ ปริปากํ คจฺฉนฺตํ ติวิธํ สมาธึ ปริปูเรติ – ขณิกสมาธึ อุปจารสมาธึ อปฺปนาสมาธินฺติ. ตาสุ เปตฺวา อปฺปนาสมาธิปูริกํ อิตรา ทฺเวปิ อิธ ยุชฺชนฺติ.
สุขยตีติ สุขํ; ยสฺส อุปฺปชฺชติ ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. สุฏฺุ วา ขาทติ, ขนติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํ. โสมนสฺสเวทนาเยตํ นามํ. ตสฺส ลกฺขณาทีนิ เวทนาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
อปโร นโย – สาตลกฺขณํ สุขํ, สมฺปยุตฺตานํ อุปพฺรูหนรสํ, อนุคฺคหณปจฺจุปฏฺานํ. สติปิ จ เนสํ ปีติสุขานํ กตฺถจิ อวิปฺปโยเค, อิฏฺารมฺมณปฏิลาภตุฏฺิ ปีติ; ปฏิลทฺธรสานุภวนํ สุขํ. ยตฺถ ปีติ ตตฺถ สุขํ. ยตฺถ สุขํ ตตฺถ น นิยมโต ปีติ. สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตา ปีติ, เวทนากฺขนฺธสงฺคหิตํ สุขํ. กนฺตารขินฺนสฺส วนนฺโตทกทสฺสนสวเนสุ วิย ปีติ. วนจฺฉายาปเวสนอุทกปริโภเคสุ วิย สุขํ.
ยถา หิ ปุริโส มหากนฺตารมคฺคํ ปฏิปนฺโน ฆมฺมปเรโต ตสิโต ปิปาสิโต ปฏิปเถ ปุริสํ ทิสฺวา ‘กตฺถ ปานียํ อตฺถี’ติ ปุจฺเฉยฺย. โส ‘อฏวึ อุตฺตริตฺวา ชาตสฺสรวนสณฺโฑ อตฺถิ, ตตฺถ คนฺตฺวา ลภิสฺสสี’ติ วเทยฺย. โส ตสฺส กถํ สุตฺวา หฏฺปหฏฺโ ภเวยฺย. ตโต คจฺฉนฺโต ภูมิยํ ปติตานิ อุปฺปลทลนาลปตฺตาทีนิ ทิสฺวา สุฏฺุตรํ หฏฺปหฏฺโ หุตฺวา คจฺฉนฺโต อลฺลวตฺเถ อลฺลเกเส ปุริเส ปสฺเสยฺย, วนกุกฺกุฏโมราทีนํ สทฺทํ สุเณยฺย, ชาตสฺสรปริยนฺเต ชาตํ มณิชาลสทิสํ นีลวนสณฺฑํ ปสฺเสยฺย, สเร ชาตานิ อุปฺปลปทุมกุมุทาทีนิ ปสฺเสยฺย, อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ อุทกํ ปสฺเสยฺย. โส ภิยฺโย ¶ ภิยฺโย หฏฺปหฏฺโ หุตฺวา ชาตสฺสรํ ¶ โอตริตฺวา ยถารุจิ นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปฏิปฺปสฺสทฺธทรโถ ภิสมุฬาลโปกฺขราทีนิ ขาทิตฺวา นีลุปฺปลาทีนิ ปิฬนฺธิตฺวา มนฺทาลกมูลานิ ขนฺเธ กริตฺวา อุตฺตริตฺวา สาฏกํ นิวาเสตฺวา, อุทกสาฏกํ อาตเป กตฺวา, สีตจฺฉายาย มนฺทมนฺเท วาเต ปหรนฺเต นิปนฺโน ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ วเทยฺย. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.
ตสฺส ¶ หิ ปุริสสฺส ชาตสฺสรวนสณฺฑสวนโต ปฏฺาย ยาว อุทกทสฺสนา หฏฺปหฏฺกาโล วิย ปุพฺพภาคารมฺมเณ หฏฺปหฏฺาการา ปีติ. นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ สีตจฺฉายาย มนฺทมนฺเท วาเต ปหรนฺเต ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ วทโต นิปนฺนกาโล วิย พลวปฺปตฺตํ อารมฺมณรสานุภวนาการสณฺิตํ สุขํ. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย ปากฏภาวโต เจตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยตฺถ ปน ปีติ สุขมฺปิ ตตฺถ อตฺถีติ วุตฺตเมเวตํ.
จิตฺตสฺเสกคฺคตาติ จิตฺตสฺส เอกคฺคภาโว; สมาธิสฺเสตํ นามํ. ลกฺขณาทีสุ ปนสฺส อฏฺกถายํ ตาว วุตฺตํ – ‘‘ปาโมกฺขลกฺขโณ จ สมาธิ อวิกฺเขปลกฺขโณ จ’’. ยถา หิ กูฏาคารกณฺณิกา เสสทพฺพสมฺภารานํ อาพนฺธนโต ปมุขา โหติ เอวเมว สพฺพกุสลธมฺมานํ สมาธิจิตฺเตน อิชฺฌนโต สพฺเพสมฺปิ เตสํ ธมฺมานํ สมาธิ ปาโมกฺโข โหติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ยถา, มหาราช, กูฏาคารสฺส ยา กาจิ โคปานสิโย สพฺพา ตา กูฏงฺคมา โหนฺติ, กูฏนินฺนา กูฏสโมสรณา, กูฏํ ตาสํ อคฺคมกฺขายติ, เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา สพฺเพ เต สมาธินินฺนา โหนฺติ, สมาธิโปณา, สมาธิปพฺภารา, สมาธิ เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๔).
ยถา จ เสนงฺคํ ปตฺวา ราชา นาม ยตฺถ ยตฺถ เสนา โอสีทติ ตํ ตํ านํ คจฺฉติ, ตสฺส คตคตฏฺาเน เสนา ปริปูรติ, ปรเสนา ภิชฺชิตฺวา ราชานเมว อนุวตฺตติ, เอวเมว สหชาตธมฺมานํ วิกฺขิปิตุํ วิปฺปกิริตุํ อปฺปทานโต สมาธิ อวิกฺเขปลกฺขโณ นาม โหตีติ.
อปโร ¶ ปน นโย – อยํ จิตฺตสฺเสกคฺคตาสงฺขาโต สมาธิ นาม อวิสารลกฺขโณ วา อวิกฺเขปลกฺขโณ วา, สหชาตธมฺมานํ, สมฺปิณฺฑนรโส นฺหานิยจุณฺณานํ อุทกํ วิย, อุปสมปจฺจุปฏฺาโน าณปจฺจุปฏฺาโน ¶ วา. ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสตี’’ติ หิ วุตฺตํ. วิเสสโต สุขปทฏฺาโน, นิวาเต ทีปจฺจีนํ ิติ วิย เจตโส ิตีติ ทฏฺพฺโพ.
อินฺทฺริยราสิวณฺณนา
สทฺทหนฺติ เอตาย, สยํ วา สทฺทหติ, สทฺทหนมตฺตเมว วา เอสาติ สทฺธา. สาว อสฺสทฺธิยสฺส ¶ อภิภวนโต อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ. อธิโมกฺขลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. สทฺธาว อินฺทฺริยํ สทฺธินฺทฺริยํ. สา ปเนสา สมฺปสาทนลกฺขณา จ สทฺธา สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณา จ.
ยถา หิ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อุทกปฺปสาทโก มณิ อุทเก ปกฺขิตฺโต ปงฺกเสวาลปณกกทฺทมํ สนฺนิสีทาเปติ, อุทกํ อจฺฉํ กโรติ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ, เอวเมว สทฺธา อุปฺปชฺชมานา นีวรเณ วิกฺขมฺเภติ, กิเลเส สนฺนิสีทาเปติ, จิตฺตํ ปสาเทติ, อนาวิลํ กโรติ. ปสนฺเนน จิตฺเตน โยคาวจโร กุลปุตฺโต ทานํ เทติ, สีลํ สมาทิยติ, อุโปสถกมฺมํ กโรติ, ภาวนํ อารภติ. เอวํ ตาว สทฺธา สมฺปสาทนลกฺขณาติ เวทิตพฺพา. เตนาห อายสฺมา นาคเสโน –
‘‘ยถา, มหาราช, ราชา จกฺกวตฺติ จตุรงฺคินิยา เสนาย สทฺธึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน ปริตฺตํ อุทกํ ตเรยฺย, ตํ อุทกํ หตฺถีหิ จ อสฺเสหิ จ รเถหิ จ ปตฺตีหิ จ สงฺขุภิตํ ภเวยฺย อาวิลํ ลุลิตํ กลลีภูตํ, อุตฺติณฺโณ จ ราชา จกฺกวตฺติ มนุสฺเส อาณาเปยฺย ‘ปานียํ ภเณ อาหรถ, ตํ ปิวิสฺสามี’ติ. รฺโ จ อุทกปฺปสาทโก มณิ ภเวยฺย. ‘เอวํ เทวา’ติ โข เต มนุสฺสา รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตํ อุทกปฺปสาทกํ มณึ อุทเก ปกฺขิเปยฺยุํ. ตสฺมึ อุทเก ปกฺขิตฺตมตฺเต ปงฺกเสวาลปณกํ วิคจฺเฉยฺย, กทฺทโม จ สนฺนิสีเทยฺย, อจฺฉํ ภเวยฺย อุทกํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ, ตโต รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปานียํ อุปนาเมยฺยุํ – ‘ปิวตุ เทโว ปานีย’นฺติ.
‘‘ยถา ¶ , มหาราช, อุทกํ เอวํ จิตฺตํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เต มนุสฺสา เอวํ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ. ยถา ปงฺกเสวาลปณกํ กทฺทโม จ เอวํ กิเลสา ทฏฺพฺพา. ยถา อุทกปฺปสาทโก มณิ เอวํ สทฺธา ทฏฺพฺพา. ยถา อุทกปฺปสาทเก มณิมฺหิ ปกฺขิตฺตมตฺเต ปงฺกเสวาลปณกํ วิคจฺฉติ กทฺทโม จ สนฺนิสีทติ, อจฺฉํ ภวติ อุทกํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ, เอวเมว โข, มหาราช, สทฺธา อุปฺปชฺชมานา นีวรเณ วิกฺขมฺเภติ, วินีวรณํ ¶ จิตฺตํ โหติ อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิล’’นฺติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๐).
ยถา ปน กุมฺภิลมกรคาหรกฺขสาทิกิณฺณํ ปูรํ มหานทึ อาคมฺม ภีรุกชโน อุโภสุ ตีเรสุ ¶ ติฏฺติ. สงฺคามสูโร ปน มหาโยโธ อาคนฺตฺวา ‘กสฺมา ิตตฺถา’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘สปฺปฏิภยภาเวน โอตริตุํ น วิสหามา’ติ วุตฺเต สุนิสิตํ อสึ คเหตฺวา ‘มม ปจฺฉโต เอถ, มา ภายิตฺถา’ติ วตฺวา นทึ โอตริตฺวา อาคตาคเต กุมฺภิลาทโย ปฏิพาหิตฺวา โอริมตีรโต มนุสฺสานํ โสตฺถิภาวํ กโรนฺโต ปาริมตีรํ เนติ. ปาริมตีรโตปิ โสตฺถินา โอริมตีรํ อาเนติ. เอวเมว ทานํ ททโต สีลํ รกฺขโต อุโปสถกมฺมํ กโรโต ภาวนํ อารภโต สทฺธา ปุพฺพงฺคมา ปุเรจาริกา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณา จ สทฺธา’ติ.
อปโร นโย – สทฺทหนลกฺขณา สทฺธา, โอกปฺปนลกฺขณา วา. ปสาทนรสา อุทกปฺปสาทกมณิ วิย, ปกฺขนฺทนรสา วา โอฆุตฺตรโณ วิย. อกาลุสิยปจฺจุปฏฺานา, อธิมุตฺติปจฺจุปฏฺานา วา. สทฺเธยฺยวตฺถุปทฏฺานา โสตาปตฺติยงฺคปทฏฺานา วา, สา หตฺถวิตฺตพีชานิ วิย ทฏฺพฺพา.
วีรสฺส ภาโว วีริยํ, วีรานํ วา กมฺมํ วีริยํ. วิธินา วา นเยน อุปาเยน อีรยิตพฺพํ ปวตฺตยิตพฺพนฺติ วีริยํ. ตเทว โกสชฺชสฺส อภิภวนโต อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ. ปคฺคหณลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. วีริยเมว อินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ. ตํ ปเนตํ อุปตฺถมฺภนลกฺขณฺจ วีริยํ ปคฺคหณลกฺขณฺจ. ยถา หิ ชิณฺณฆรํ อาคนฺตุเกน ถูณุปตฺถมฺเภน ติฏฺติ, เอวเมว โยคาวจโร วีริยุปตฺถมฺเภน อุปตฺถมฺภิโต หุตฺวา สพฺพกุสลธมฺเมหิ น หายติ, น ปริหายติ. เอวํ ตาวสฺส อุปตฺถมฺภนลกฺขณตา เวทิตพฺพา. เตนาห เถโร นาคเสโน –
‘‘ยถา ¶ , มหาราช, ปุริโส เคเห ปตนฺเต ตมฺเน ทารุนา อุปตฺถมฺเภยฺย, อุปตฺถมฺภิตํ สนฺตํ เอวํ ตํ เคหํ น ปเตยฺย, เอวเมว โข มหาราช อุปตฺถมฺภนลกฺขณํ ¶ วีริยํ, วีริยุปตฺถมฺภิตา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น หายนฺติ น ปริหายนฺตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๒).
ยถา วา ปน ขุทฺทิกาย จ มหติกาย จ เสนาย สงฺคาเม ปวตฺเต ขุทฺทิกา เสนา โอลีเยยฺย, ตโต รฺโ อาโรเจยฺย, ราชา พลวาหนํ เปเสยฺย, เตน ปคฺคหิตา สกเสนา ปรเสนํ ปราเชยฺย, เอวเมว วีริยํ สหชาตสมฺปยุตฺตธมฺมานํ โอลียิตุํ โอสกฺกิตุํ น เทติ, อุกฺขิปติ, ปคฺคณฺหาติ. เตน วุตฺตํ ‘ปคฺคหณลกฺขณฺจ วีริย’นฺติ.
อปโร ¶ นโย – อุสฺสาหลกฺขณํ วีริยํ, สหชาตานํ อุปตฺถมฺภนรสํ, อสํสีทนภาวปจฺจุปฏฺานํ, ‘‘สํวิคฺโค โยนิโส ปทหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๑๓) วจนโต สํเวคปทฏฺานํ, วีริยารมฺภวตฺถุปทฏฺานํ วา. สมฺมา อารทฺธํ สพฺพาสํ สมฺปตฺตีนํ มูลํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
สรนฺติ เอตาย, สยํ วา สรติ, สรณมตฺตเมว วา เอสาติ สติ. สาว มุฏฺสฺสจฺจสฺส อภิภวนโต อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ, อุปฏฺานลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. สติ เอว อินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ. สา ปเนสา อปิลาปนลกฺขณา จ สติ อุปคฺคณฺหนลกฺขณา จ. ยถา หิ รฺโ ภณฺฑาคาริโก ทสวิธํ รตนํ โคปยนฺโต สายํปาตํ ราชานํ อิสฺสริยสมฺปตฺตึ สลฺลกฺขาเปติ สาเรติ, เอวเมว สติ กุสลํ ธมฺมํ สลฺลกฺขาเปติ สราเปติ. เตนาห เถโร –
‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ภณฺฑาคาริโก ราชานํ จกฺกวตฺตึ สายํปาตํ ยสํ สราเปติ – ‘เอตฺตกา, เทว, หตฺถี, เอตฺตกา อสฺสา, เอตฺตกา รถา, เอตฺตกา ปตฺตี, เอตฺตกํ หิรฺํ, เอตฺตกํ สุวณฺณํ, เอตฺตกํ สพฺพํ สาปเตยฺยํ, ตํ เทโว สรตู’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, สติ กุสเล ธมฺเม อปิลาเปติ – อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา, อิเม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, อิเม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ, อิมานิ ปฺจ พลานิ, อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคา, อยํ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, อยํ สมโถ, อยํ วิปสฺสนา, อยํ วิชฺชา, อยํ วิมุตฺติ, อิเม โลกุตฺตรา ธมฺมาติ. เอวํ โข, มหาราช, อปิลาปนลกฺขณา สตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๓).
ยถา ¶ ปน รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปริณายกรตนํ รฺโ อหิเต จ หิเต จ ตฺวา อหิเต อปยาเปติ, หิเต อุปยาเปติ, เอวเมว สติ หิตาหิตานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสิตฺวา ‘อิเม กายทุจฺจริตาทโย ธมฺมา อหิตา’ติ อหิเต ธมฺเม อปนุเทติ ¶ , ‘อิเม กายสุจริตาทโย ธมฺมา หิตา’ติ หิเต ธมฺเม อุปคฺคณฺหาติ. เตนาห เถโร –
‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปริณายกรตนํ รฺโ หิตาหิเต ชานาติ ‘อิเม รฺโ หิตา อิเม อหิตา, อิเม อุปการา อิเม อนุปการา’ติ, ตโต อหิเต อปนุเทติ หิเต อุปคฺคณฺหาติ, เอวเมว โข, มหาราช, สติ อุปฺปชฺชมานา หิตาหิตานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสติ ‘อิเม ธมฺมา หิตา อิเม ธมฺมา อหิตา, อิเม ธมฺมา อุปการา อิเม ธมฺมา อนุปการา’ติ ¶ , ตโต อหิเต ธมฺเม อปนุเทติ หิเต ธมฺเม อุปคฺคณฺหาติ. เอวํ โข, มหาราช, อุปคฺคณฺหนลกฺขณา สตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๓).
อปโร นโย – อปิลาปนลกฺขณา สติ, อสมฺโมสนรสา, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา วิสยาภิมุขีภาวปจฺจุปฏฺานา วา, ถิรสฺาปทฏฺานา, กายาทิสติปฏฺานปทฏฺานา วา, อารมฺมเณ ทฬฺหํ ปติฏฺิตตฺตา ปน เอสิกา วิย, จกฺขุทฺวาราทิรกฺขณโต โทวาริโก วิย จ ทฏฺพฺพา.
อารมฺมเณ จิตฺตํ สมฺมา อธิยติ เปตีติ สมาธิ. โสว วิกฺเขปสฺส อภิภวนโต อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ. อวิกฺเขปลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. สมาธิเยว อินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ. ลกฺขณาทีนิ ปนสฺส เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
ปชานาตีติ ปฺา. กึ ปชานาติ? ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติอาทินา นเยน อริยสจฺจานิ. อฏฺกถายํ ปน ‘ปฺาเปตีติ ปฺา’ติ วุตฺตํ. กินฺติ ปฺาเปตีติ? อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ปฺาเปติ. สาว อวิชฺชาย อภิภวนโต อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ. ทสฺสนลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. ปฺาว อินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. สา ปเนสา โอภาสนลกฺขณา จ ปฺา ปชานนลกฺขณา จ. ยถา หิ จตุภิตฺติเก เคเห รตฺติภาเค ทีเป ชลิเต อนฺธกาโร นิรุชฺฌติ อาโลโก ปาตุภวติ, เอวเมว โอภาสนลกฺขณา ¶ ปฺา. ปฺโภาสสโม โอภาโส นาม นตฺถิ. ปฺวโต หิ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส ทสสหสฺสิโลกธาตุ เอกาโลกา โหติ. เตนาห เถโร –
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส อนฺธกาเร เคเห ปทีปํ ปเวเสยฺย, ปวิฏฺโ ปทีโป อนฺธการํ วิทฺธํเสติ, โอภาสํ ชเนติ, อาโลกํ ¶ วิทํเสติ, ปากฏานิ จ รูปานิ กโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา อุปฺปชฺชมานา อวิชฺชนฺธการํ วิทฺธํเสติ, วิชฺโชภาสํ ชเนติ, าณาโลกํ วิทํเสติ, ปากฏานิ จ อริยสจฺจานิ กโรติ. เอวํ โข, มหาราช, โอภาสนลกฺขณา ปฺา’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๕).
ยถา ปน เฉโก ภิสกฺโก อาตุรานํ สปฺปายาสปฺปายานิ โภชนานิ ชานาติ, เอวํ ปฺา อุปฺปชฺชมานา กุสลากุสเล เสวิตพฺพาเสวิตพฺเพ หีนปฺปณีตกณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคอปฺปฏิภาเค ¶ ธมฺเม ปชานาติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ธมฺมเสนาปตินา – ‘‘ปชานาติ ปชานาตีติ โข, อาวุโส, ตสฺมา ปฺวาติ วุจฺจติ. กิฺจ ปชานาติ? อิทํ ทุกฺขนฺติ ปชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๔๙) วิตฺถาเรตพฺพํ. เอวมสฺสา ปชานนลกฺขณตา เวทิตพฺพา.
อปโร นโย – ยถาสภาวปฏิเวธลกฺขณา ปฺา; อกฺขลิตปฏิเวธลกฺขณา วา กุสลิสฺสาสขิตฺตอุสุปฏิเวโธ วิย. วิสโยภาสรสา ปทีโป วิย. อสมฺโมหปจฺจุปฏฺานา อรฺคตสุเทสโก วิย.
มนตีติ มโน; วิชานาตีติ อตฺโถ. อฏฺกถาจริยา ปนาหุ – นาฬิยา มินมาโน วิย, มหาตุลาย ธารยมาโน วิย จ, อารมฺมณํ มินติ ปชานาตีติ มโนติ. ตเทว มนนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. มโนว อินฺทฺริยํ มนินฺทฺริยํ. เหฏฺา วุตฺตจิตฺตสฺเสเวตํ เววจนํ.
ปีติโสมนสฺสสมฺปโยคโต โสภนํ มโน อสฺสาติ สุมโน. สุมนสฺส ภาโว โสมนสฺสํ. สาตลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. โสมนสฺสเมว อินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ. เหฏฺา วุตฺตเวทนาเยเวตํ เววจนํ.
ชีวนฺติ ¶ เตน ตํสมฺปยุตฺตกา ธมฺมาติ ชีวิตํ. อนุปาลนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. ชีวิตเมว อินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยํ. ตํ ปวตฺตสนฺตตาธิปเตยฺยํ โหติ. ลกฺขณาทีหิ ปน อตฺตนา อวินิภุตฺตานํ ธมฺมานํ อนุปาลนลกฺขณํ ชีวิตินฺทฺริยํ, เตสํ ปวตฺตนรสํ, เตสํเยว ปนปจฺจุปฏฺานํ, ยาปยิตพฺพธมฺมปทฏฺานํ. สนฺเตปิ จ อนุปาลนลกฺขณาทิมฺหิ วิธาเน อตฺถิกฺขเณเยว ¶ ตํ เต ธมฺเม อนุปาเลติ อุทกํ วิย อุปฺปลาทีนิ, ยถาสกํปจฺจยุปฺปนฺเนปิ จ ธมฺเม ปาเลติ ธาตี วิย กุมารํ, สยํปวตฺติตธมฺมสมฺพนฺเธเนว จ ปวตฺตติ นิยามโก วิย, น ภงฺคโต อุทฺธํ ปวตฺตยติ อตฺตโน จ ปวตฺตยิตพฺพานฺจ อภาวา, น ภงฺคกฺขเณ เปติ สยํ ภิชฺชมานตฺตา ขียมาโน วิย วฏฺฏิสิเนโห ทีปสิขํ. น จ อนุปาลนปวตฺตนฏฺปนานุภาววิรหิตํ ยถาวุตฺตกฺขเณ ตสฺส ตสฺส สาธนโตติ ทฏฺพฺพํ.
มคฺคงฺคราสิวณฺณนา
สมฺมาทิฏฺิอาทีสุ ¶ ทสฺสนฏฺเน สมฺมาทิฏฺิ. อภินิโรปนฏฺเน สมฺมาสงฺกปฺโป, ปคฺคหนฏฺเน สมฺมาวายาโม, อุปฏฺานฏฺเน สมฺมาสติ, อวิกฺเขปนฏฺเน สมฺมาสมาธีติ เวทิตพฺโพ. วจนตฺถโต ปน สมฺมา ปสฺสติ, สมฺมา วา ตาย ปสฺสนฺตีติ สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมา สงฺกปฺเปติ, สมฺมา วา เตน สงฺกปฺเปนฺตีติ สมฺมาสงฺกปฺโป. สมฺมา วายาเมติ, สมฺมา วา เตน วายมนฺตีติ สมฺมาวายาโม. สมฺมา สรติ, สมฺมา วา ตาย สรนฺตีติ สมฺมาสติ. สมฺมา สมาธิยติ, สมฺมา วา เตน สมาธิยนฺตีติ สมฺมาสมาธิ. อปิจ, ปสตฺถา สุนฺทรา วา ทิฏฺิ สมฺมาทิฏฺีติ. อิมินาปิ นเยน เตสํ วจนตฺโถ เวทิตพฺโพ. ลกฺขณาทีนิ ปน เหฏฺา วุตฺตาเนว.
พลราสิวณฺณนา
สทฺธาพลาทีสุปิ สทฺธาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. อกมฺปิยฏฺเน ปน พลนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวเมเตสุ อสฺสทฺธิเย น กมฺปตีติ สทฺธาพลํ. โกสชฺเช น กมฺปตีติ วีริยพลํ. มุฏฺสฺสจฺเจ น กมฺปตีติ สติพลํ. อุทฺธจฺเจ น กมฺปตีติ สมาธิพลํ. อวิชฺชาย น กมฺปตีติ ปฺาพลํ. อหิริเก น กมฺปตีติ หิริพลํ ¶ . อโนตฺตปฺเป น กมฺปตีติ โอตฺตปฺปพลนฺติ. อยํ อุภยปทวเสน อตฺถวณฺณนา โหติ.
ตตฺถ ปุริมานิ ปฺจ เหฏฺา ลกฺขณาทีหิ ปกาสิตาเนว. ปจฺฉิมทฺวเย กายทุจฺจริตาทีหิ หิริยตีติ หิรี; ลชฺชาเยตํ อธิวจนํ. เตหิ เอว โอตฺตปฺปตีติ โอตฺตปฺปํ; ปาปโต อุพฺเพคสฺเสตํ อธิวจนํ. เตสํ นานากรณทีปนตฺถํ ‘สมุฏฺานํ อธิปติ ลชฺชา ภยลกฺขเณน จา’ติ อิมํ มาติกํ เปตฺวา อยํ ¶ วิตฺถารกถา วุตฺตา.
อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี นาม; พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม. อตฺตาธิปติ หิรี นาม; โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม. ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี นาม; ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ นาม. สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี นาม; วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ นาม.
ตตฺถ อชฺฌตฺตสมุฏฺานํ หิรึ จตูหิ การเณหิ สมุฏฺาเปติ – ชาตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, วยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, สูรภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, พาหุสจฺจํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา. กถํ? ‘ปาปกรณํ นาเมตํ น ¶ ชาติสมฺปนฺนานํ กมฺมํ, หีนชจฺจานํ เกวฏฺฏาทีนํ อิทํ กมฺมํ. มาทิสสฺส ชาติสมฺปนฺนสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’นฺติ, เอวํ ตาว ชาตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘ปาปกรณํ นาเมตํ ทหเรหิ กตฺตพฺพํ กมฺมํ, มาทิสสฺส วเย ิตสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’นฺติ, เอวํ วยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘ปาปกมฺมํ นาเมตํ ทุพฺพลชาติกานํ กมฺมํ, น สูรภาวานํ. มาทิสสฺส สูรภาวสมฺปนฺนสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’นฺติ, เอวํ สูรภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘ปาปกมฺมํ นาเมตํ อนฺธพาลานํ กมฺมํ, น ปณฺฑิตานํ. มาทิสสฺส ปณฺฑิตสฺส พหุสฺสุตสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’นฺติ, เอวํ พาหุสจฺจํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. เอวํ อชฺฌตฺตสมุฏฺานหิรึ จตูหิ การเณหิ สมุฏฺาเปติ. สมุฏฺาเปตฺวา จ ปน อตฺตโน จิตฺเต หิรึ ปเวเสตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอวํ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี นาม โหติ.
กถํ ¶ พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม? สเจ ตฺวํ ปาปกมฺมํ กริสฺสสิ จตูสุ ปริสาสุ ครหปฺปตฺโต ภวิสฺสสิ.
ครหิสฺสนฺติ ตํ วิฺู, อสุจึ นาคริโก ยถา;
วชฺชิโต สีลวนฺเตหิ, กถํ ภิกฺขุ กริสฺสสีติ.
เอวํ ปจฺจเวกฺขนฺโต หิ พหิทฺธาสมุฏฺิเตน โอตฺตปฺเปน ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอวํ พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม โหติ.
กถํ อตฺตาธิปติ หิรี นาม? อิเธกจฺโจ กุลปุตฺโต อตฺตานํ ¶ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ‘มาทิสสฺส สทฺธาปพฺพชิตสฺส พหุสฺสุตสฺส ธุตงฺคธรสฺส น ยุตฺตํ ปาปกมฺมํ กาตุ’นฺติ ปาปํ น กโรติ. เอวํ อตฺตาธิปติ หิรี นาม โหติ. เตนาห ภควา – ‘‘โส อตฺตานํเยว อธิปตึ เชฏฺกํ กริตฺวา อกุสลํ ปชหติ กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธมตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๐).
กถํ โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม? อิเธกจฺโจ กุลปุตฺโต โลกํ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ปาปกมฺมํ ¶ น กโรติ. ยถาห – ‘‘มหา โข ปนายํ โลกสนฺนิวาโส. มหนฺตสฺมึ โข ปน โลกสนฺนิวาเส สนฺติ สมณพฺราหฺมณา อิทฺธิมนฺโต ทิพฺพจกฺขุกา ปรจิตฺตวิทุโน, เต ทูรโตปิ ปสฺสนฺติ, อาสนฺนาปิ น ทิสฺสนฺติ, เจตสาปิ จิตฺตํ ปชานนฺติ, เตปิมํ เอวํ ชานิสฺสนฺติ ‘ปสฺสถ โภ อิมํ กุลปุตฺตํ, สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน โวกิณฺโณ วิหรติ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ. สนฺติ เทวตา อิทฺธิมนฺตินิโย ทิพฺพจกฺขุกา ปรจิตฺตวิทุนิโย. ตา ทูรโตปิ ปสฺสนฺติ, อาสนฺนาปิ น ทิสฺสนฺติ, เจตสาปิ จิตฺตํ ปชานนฺติ, ตาปิ มํ ชานิสฺสนฺติ ‘ปสฺสถ โภ อิมํ กุลปุตฺตํ, สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน โวกิณฺโณ วิหรติ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ… โส โลกํเยว อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา อกุสลํ ปชหติ กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธมตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๔๖). เอวํ โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม โหติ.
ลชฺชาสภาวสณฺิตา ¶ หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปนฺติ. เอตฺถ ปน ลชฺชาติ ลชฺชนากาโร; เตน สภาเวน สณฺิตา หิรี. ภยนฺติ อปายภยํ; เตน สภาเวน สณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. ตทุภยมฺปิ ปาปปริวชฺชเน ปากฏํ โหติ. เอกจฺโจ หิ, ยถา นาม เอโก กุลปุตฺโต อุจฺจารปสฺสาวาทีนิ กโรนฺโต ลชฺชิตพฺพยุตฺตกํ เอกํ ทิสฺวา ลชฺชนาการปฺปตฺโต ภเวยฺย หีฬิโต, เอวเมว อชฺฌตฺตํ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอกจฺโจ อปายภยภีโต หุตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ.
ตตฺริทํ โอปมฺมํ – ยถา หิ ทฺวีสุ อโยคุเฬสุ เอโก สีตโล ภเวยฺย คูถมกฺขิโต, เอโก อุณฺโห อาทิตฺโต. ตตฺถ ปณฺฑิโต สีตลํ คูถมกฺขิตตฺตา ชิคุจฺฉนฺโต น คณฺหาติ, อิตรํ ฑาหภเยน. ตตฺถ สีตลสฺส คูถมกฺขนชิคุจฺฉาย อคณฺหนํ วิย อชฺฌตฺตํ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ¶ ปาปสฺส อกรณํ. อุณฺหสฺส ฑาหภเยน อคณฺหนํ วิย อปายภเยน ปาปสฺส อกรณํ เวทิตพฺพํ.
สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปนฺติ. อิทมฺปิ ทฺวยํ ปาปปริวชฺชเน เอว ปากฏํ โหติ. เอกจฺโจ หิ ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณา สตฺถุมหตฺตปจฺจเวกฺขณา ทายชฺชมหตฺตปจฺจเวกฺขณา สพฺรหฺมจารีมหตฺตปจฺจเวกฺขณาติ จตูหิ การเณหิ ¶ สปฺปติสฺสวลกฺขณํ หิรึ สมุฏฺาเปตฺวา ปาปํ น กโรติ. เอกจฺโจ อตฺตานุวาทภยํ ปรานุวาทภยํ ทณฺฑภยํ ทุคฺคติภยนฺติ จตูหิ การเณหิ วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ สมุฏฺาเปตฺวา ปาปํ น กโรติ. ตตฺถ ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณาทีนิ เจว อตฺตานุวาทภยาทีนิ จ วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพานิ.
มูลราสิวณฺณนา
น ลุพฺภนฺติ เอเตน, สยํ วา น ลุพฺภติ, อลุพฺภนมตฺตเมว วา ตนฺติ อโลโภ. อโทสาโมเหสุปิ เอเสว นโย. เตสุ อโลโภ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อเคธลกฺขโณ, อลคฺคภาวลกฺขโณ วา กมลทเล ชลพินฺทุ วิย. อปริคฺคหณรโส มุตฺตภิกฺขุ วิย ¶ . อนลฺลีนภาวปจฺจุปฏฺาโน อสุจิมฺหิ ปติตปุริโส วิย. อโทโส อจณฺฑิกฺกลกฺขโณ, อวิโรธลกฺขโณ วา อนุกูลมิตฺโต วิย. อาฆาตวินยรโส ปริฬาหวินยรโส วา จนฺทนํ วิย. โสมฺมภาวปจฺจุปฏฺาโน ปุณฺณจนฺโท วิย. อโมโห ลกฺขณาทีหิ เหฏฺา ปฺินฺทฺริยปเท วิภาวิโต เอว.
อิเมสุ ปน ตีสุ อโลโภ มจฺเฉรมลสฺส ปฏิปกฺโข, อโทโส ทุสฺสีลฺยมลสฺส, อโมโห กุสเลสุ ธมฺเมสุ อภาวนาย ปฏิปกฺโข. อโลโภ เจตฺถ ทานเหตุ, อโทโส สีลเหตุ, อโมโห ภาวนาเหตุ. เตสุ จ อโลเภน อนธิกํ คณฺหาติ, ลุทฺธสฺส อธิกคฺคหณโต. อโทเสน อนูนํ, ทุฏฺสฺส อูนคฺคหณโต. อโมเหน อวิปรีตํ, มูฬฺหสฺส วิปรีตคฺคหณโต.
อโลเภน เจตฺถ วิชฺชมานํ โทสํ โทสโต ธาเรนฺโต โทเส ปวตฺตติ; ลุทฺโธ หิ โทสํ ปฏิจฺฉาเทติ. อโทเสน วิชฺชมานํ คุณํ คุณโต ธาเรนฺโต คุเณ ปวตฺตติ; ทุฏฺโ หิ คุณํ ¶ มกฺเขติ. อโมเหน ยาถาวสภาวํ ยาถาวสภาวโต ธาเรนฺโต ยาถาวสภาเว ปวตฺตติ. มูฬฺโห หิ ‘ตจฺฉํ อตจฺฉนฺติ อตจฺฉํ จ ตจฺฉ’นฺติ คณฺหาติ. อโลเภน จ ปิยวิปฺปโยคทุกฺขํ น โหติ, ลุทฺธสฺส ปิยสภาวโต ปิยวิปฺปโยคาสหนโต จ. อโทเสน อปฺปิยสมฺปโยคทุกฺขํ น โหติ, ทุฏฺสฺส หิ อปฺปิยสภาวโต อปฺปิยสมฺปโยคาสหนโต จ. อโมเหน อิจฺฉิตาลาภทุกฺขํ น โหติ, อมูฬฺหสฺส หิ ‘ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติเอวมาทิปจฺจเวกฺขณสมฺภวโต (ที. นิ. ๓.๓๔; อ. นิ. ๙.๓๐).
อโลเภน ¶ เจตฺถ ชาติทุกฺขํ น โหติ, อโลภสฺส ตณฺหาปฏิปกฺขโต ตณฺหามูลกตฺตา จ ชาติทุกฺขสฺส. อโทเสน ชราทุกฺขํ น โหติ, ติกฺขโทสสฺส ขิปฺปํ ชราสมฺภวโต. อโมเหน มรณทุกฺขํ น โหติ, สมฺโมหมรณฺหิ ทุกฺขํ, น เจตํ อมูฬฺหสฺส โหติ. อโลเภน จ คหฏฺานํ, อโมเหน ปพฺพชิตานํ, อโทเสน ปน สพฺเพสมฺปิ สุขสํวาสตา โหติ.
วิเสสโต ¶ เจตฺถ อโลเภน เปตฺติวิสเย อุปปตฺติ น โหติ. เยภุยฺเยน หิ สตฺตา ตณฺหาย เปตฺติวิสยํ อุปปชฺชนฺติ, ตณฺหาย จ ปฏิปกฺโข อโลโภ. อโทเสน นิรเย อุปปตฺติ น โหติ. โทเสน หิ จณฺฑชาติตาย โทสสทิสํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ. โทสสฺส จ ปฏิปกฺโข อโทโส. อโมเหน ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺติ น โหติ. โมเหน หิ นิจฺจสมฺมูฬฺหํ ติรจฺฉานโยนึ อุปปชฺชนฺติ. โมหสฺส ปฏิปกฺโข จ อโมโห. เอเตสุ จ อโลโภ ราควเสน อุปคมนสฺส อภาวกโร, อโทโส โทสวเสน อปคมนสฺส, อโมโห โมหวเสน อมชฺฌตฺตภาวสฺส.
ตีหิปิ เจเตหิ ยถาปฏิปาฏิยา เนกฺขมฺมสฺา อพฺยาปาทสฺา อวิหึสาสฺาติ อิมา ติสฺโส. อสุภสฺา อปฺปมาณสฺา ธาตุสฺาติ อิมา จ ติสฺโส สฺาโย โหนฺติ. อโลเภน ปน กามสุขลฺลิกานุโยคอนฺตสฺส, อโทเสน อตฺตกิลมถานุโยคอนฺตสฺส ปริวชฺชนํ โหติ; อโมเหน มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา ปฏิปชฺชนํ. ตถา อโลเภน อภิชฺฌากายคนฺถสฺส ปเภทนํ โหติ, อโทเสน พฺยาปาทกายคนฺถสฺส, อโมเหน เสสคนฺถทฺวยสฺส. ปุริมานิ จ ทฺเว สติปฏฺานานิ ปุริมานํ ทฺวินฺนํ อานุภาเวน, ปจฺฉิมานิ ปจฺฉิมสฺเสว อานุภาเวน อิชฺฌนฺติ.
อโลโภ เจตฺถ อาโรคฺยสฺส ปจฺจโย โหติ; อลุทฺโธ หิ โลภนียมฺปิ อสปฺปายํ น เสวติ, เตน โข อโรโค โหติ. อโทโส ¶ โยพฺพนสฺส; อทุฏฺโ หิ วลิปลิตาวเหน โทสคฺคินา อฑยฺหมาโน ทีฆรตฺตํ ยุวา โหติ. อโมโห ทีฆายุกตาย; อมูฬฺโห หิ หิตาหิตํ ตฺวา อหิตํ ปริวชฺชนฺโต หิตฺจ ปฏิเสวมาโน ทีฆายุโก โหติ.
อโลโภ เจตฺถ โภคสมฺปตฺติยา ปจฺจโย โหติ, อลุทฺธสฺส หิ จาเคน โภคปฏิลาโภ. อโทโส มิตฺตสมฺปตฺติยา, เมตฺตาย มิตฺตานํ ปฏิลาภโต เจว อปริหานโต จ. อโมโห อตฺตสมฺปตฺติยา ¶ , อมูฬฺโห หิ อตฺตโน หิตเมว กโรนฺโต อตฺตานํ สมฺปาเทติ ¶ . อโลโภ จ ทิพฺพวิหารสฺส ปจฺจโย โหติ, อโทโส พฺรหฺมวิหารสฺส, อโมโห อริยวิหารสฺส.
อโลเภน เจตฺถ สกปกฺเขสุ สตฺตสงฺขาเรสุ นิพฺพุโต โหติ, เตสํ วินาเสน อภิสงฺคเหตุกสฺส ทุกฺขสฺส อภาวา; อโทเสน ปรปกฺเขสุ, อทุฏฺสฺส หิ เวรีสุปิ เวริสฺาย อภาวโต; อโมเหน อุทาสีนปกฺเขสุ, อมูฬฺหสฺส สพฺพาภิสงฺคตาย อภาวโต.
อโลเภน จ อนิจฺจทสฺสนํ โหติ; ลุทฺโธ หิ อุปโภคาสาย อนิจฺเจปิ สงฺขาเร อนิจฺจโต น ปสฺสติ. อโทเสน ทุกฺขทสฺสนํ; อโทสชฺฌาสโย หิ ปริจฺจตฺตอาฆาตวตฺถุปริคฺคโห สงฺขาเรเยว ทุกฺขโต ปสฺสติ. อโมเหน อนตฺตทสฺสนํ; อมูฬฺโห หิ ยาถาวคหณกุสโล อปริณายกํ ขนฺธปฺจกํ อปริณายกโต พุชฺฌติ. ยถา จ เอเตหิ อนิจฺจทสฺสนาทีนิ เอวเมเตปิ อนิจฺจทสฺสนาทีหิ โหนฺติ. อนิจฺจทสฺสเนน หิ อโลโภ โหติ, ทุกฺขทสฺสเนน อโทโส, อนตฺตทสฺสเนน อโมโห โหติ. โก หิ นาม ‘อนิจฺจมิท’นฺติ สมฺมา ตฺวา ตสฺสตฺถาย ปิหํ อุปฺปาเทยฺย, สงฺขาเร วา ‘ทุกฺข’นฺติ ชานนฺโต อปรมฺปิ อจฺจนฺตติขิณํ โกธทุกฺขํ อุปฺปาเทยฺย, อตฺตสฺุตฺจ พุชฺฌิตฺวา ปุน สมฺโมหมาปชฺเชยฺยาติ?
กมฺมปถราสิวณฺณนา
นาภิชฺฌายตีติ อนภิชฺฌา. กายิกเจตสิกสุขํ อิธโลกปรโลกหิตํ คุณานุภาวปฏิลทฺธํ กิตฺติสทฺทฺจ น พฺยาปาเทตีติ อพฺยาปาโท. สมฺมา ปสฺสติ, โสภนา วา ทิฏฺีติ สมฺมาทิฏฺิ. อโลภาทีนํเยว ตานิ นามานิ. เหฏฺา ปเนเต ธมฺมา มูลวเสน คหิตา, อิธ กมฺมปถวเสนาติ เวทิตพฺพา.
โลกปาลทุกวณฺณนา
หิโรตฺตปฺปานิปิ เหฏฺา พลวเสน คหิตานิ, อิธ โลกปาลวเสน. โลกฺหิ อิเม ทฺเว ธมฺมา ปาลยนฺติ. ยถาห –
‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ. กตเม ทฺเว? หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ ¶ . อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ¶ สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ ¶ . สเจ, ภิกฺขเว, ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ น ปาเลยฺยุํ, นยิธ ปฺาเยถ มาตาติ วา, มาตุจฺฉาติ วา, มาตุลานีติ วา, อาจริยภริยาติ วา, ครูนํ ทาราติ วา. สมฺเภทํ โลโก อคมิสฺส ยถา อเชฬกา กุกฺกุฏสูกรา โสณสิงฺคาลา. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อิเม ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ, ตสฺมา ปฺายติ มาตาติ วา มาตุจฺฉาติ วา มาตุลานีติ วา อาจริยภริยาติ วา ครูนํ ทาราติ วา’’ติ (อ. นิ. ๒.๙).
ปสฺสทฺธาทิยุคลวณฺณนา
กายสฺส ปสฺสมฺภนํ กายปสฺสทฺธิ. จิตฺตสฺส ปสฺสมฺภนํ จิตฺตปสฺสทฺธิ. กาโยติ เจตฺถ เวทนาทโย ตโย ขนฺธา. อุโภปิ ปเนตา เอกโต กตฺวา กายจิตฺตทรถวูปสมลกฺขณา กายจิตฺตปสฺสทฺธิโย, กายจิตฺตทรถนิมฺมทฺทนรสา, กายจิตฺตานํ อปริปฺผนฺทสีติภาวปจฺจุปฏฺานา, กายจิตฺตปทฏฺานา. กายจิตฺตานํ อวูปสมกรอุทฺธจฺจาทิกิเลสปฏิปกฺขภูตาติ ทฏฺพฺพา.
กายสฺส ลหุภาโว กายลหุตา. จิตฺตสฺส ลหุภาโว จิตฺตลหุตา. ตา กายจิตฺตครุภาววูปสมลกฺขณา, กายจิตฺตครุภาวนิมฺมทฺทนรสา, กายจิตฺตานํ อทนฺธตาปจฺจุปฏฺานา, กายจิตฺตปทฏฺานา. กายจิตฺตานํ ครุภาวกรถินมิทฺธาทิกิเลสปฏิปกฺขภูตาติ ทฏฺพฺพา.
กายสฺส มุทุภาโว กายมุทุตา. จิตฺตสฺส มุทุภาโว จิตฺตมุทุตา. ตา กายจิตฺตถทฺธภาววูปสมลกฺขณา, กายจิตฺตถทฺธภาวนิมฺมทฺทนรสา, อปฺปฏิฆาตปจฺจุปฏฺานา, กายจิตฺตปทฏฺานา. กายจิตฺตานํ ถทฺธภาวกรทิฏฺิมานาทิกิเลสปฏิปกฺขภูตาติ ทฏฺพฺพา.
กายสฺส กมฺมฺภาโว กายกมฺมฺตา. จิตฺตสฺส กมฺมฺภาโว จิตฺตกมฺมฺตา. ตา กายจิตฺตอกมฺมฺภาววูปสมลกฺขณา, กายจิตฺตานํ อกมฺมฺภาวนิมฺมทฺทนรสา, กายจิตฺตานํ อารมฺมณกรณสมฺปตฺติปจฺจุปฏฺานา, กายจิตฺตปทฏฺานา. กายจิตฺตานํ อกมฺมฺภาวกราวเสสนีวรณปฏิปกฺขภูตาติ ทฏฺพฺพา. ตา ปสาทนียวตฺถูสุ ปสาทาวหา, หิตกิริยาสุ ¶ วินิโยคกฺเขมภาวาวหา สุวณฺณวิสุทฺธิ วิยาติ ทฏฺพฺพา.
กายสฺส ¶ ¶ ปาคฺุภาโว กายปาคฺุตา. จิตฺตสฺส ปาคฺุภาโว จิตฺตปาคฺุตา. ตา กายจิตฺตานํ อเคลฺภาวลกฺขณา, กายจิตฺตเคลฺนิมฺมทฺทนรสา, นิราทีนวปจฺจุปฏฺานา, กายจิตฺตปทฏฺานา. กายจิตฺตเคลฺกรอสฺสทฺธิยาทิกิเลสปฏิปกฺขภูตาติ ทฏฺพฺพา.
กายสฺส อุชุกภาโว กายุชุกตา. จิตฺตสฺส อุชุกภาโว จิตฺตุชุกตา. ตา กายจิตฺตานํ อชฺชวลกฺขณา, กายจิตฺตกุฏิลภาวนิมฺมทฺทนรสา, อชิมฺหตาปจฺจุปฏฺานา, กายจิตฺตปทฏฺานา. กายจิตฺตานํ กุฏิลภาวกรมายาสาเยฺยาทิกิเลสปฏิปกฺขภูตาติ ทฏฺพฺพา.
สรตีติ สติ. สมฺปชานาตีติ สมฺปชฺํ; สมนฺตโต ปกาเรหิ ชานาตีติ อตฺโถ. สาตฺถกสมฺปชฺํ สปฺปายสมฺปชฺํ โคจรสมฺปชฺํ อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ ปนสฺส วเสน เภโท เวทิตพฺโพ. ลกฺขณาทีนิ จ เตสํ สตินฺทฺริยปฺินฺทฺริเยสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. อิติ เหฏฺา วุตฺตเมเวตํ ธมฺมทฺวยํ ปุน อิมสฺมึ าเน อุปการวเสน คหิตํ.
กามจฺฉนฺทาทโย ปจฺจนีกธมฺเม สเมตีติ สมโถ. อนิจฺจาทิวเสน วิวิเธหิ อากาเรหิ ธมฺเม ปสฺสตีติ วิปสฺสนา. ปฺาเวสา อตฺถโต. อิเมสมฺปิ ทฺวินฺนํ ลกฺขณาทีนิ เหฏฺา วุตฺตาเนว. อิธ ปเนเต ยุคนทฺธวเสน คหิตา.
สหชาตธมฺเม ปคฺคณฺหาตีติ ปคฺคาโห. อุทฺธจฺจสงฺขาตสฺส วิกฺเขปสฺส ปฏิปกฺขภาวโต น วิกฺเขโปติ อวิกฺเขโป. เอเตสมฺปิ ลกฺขณาทีนิ เหฏฺา วุตฺตาเนว. อิธ ปเนตํ ทฺวยํ วีริยสมาธิโยชนตฺถาย คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เยวาปนกวณฺณนา
เย วา ปน ตสฺมึ สมเย อฺเปิ อตฺถิ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา อรูปิโน ธมฺมา, อิเม ธมฺมา กุสลาติ ‘ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตี’ติ น เกวลํ ปทปฏิปาฏิยา อุทฺทิฏฺา อิเม ปโรปณฺณาสธมฺมา เอว, อถ โข ยสฺมึ ¶ สมเย กามาวจรํ ติเหตุกํ โสมนสฺสสหคตํ ปมํ อสงฺขาริกํ มหาจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมึ สมเย เย วา ปน อฺเปิ เตหิเยว ผสฺสาทีหิ สมฺปยุตฺตา ¶ หุตฺวา ปวตฺตมานา อตฺถิ, อตฺตโน ¶ อตฺตโน อนุรูปํ ปจฺจยํ ปฏิจฺจ สมุปฺปนฺนา รูปาภาเวน อรูปิโน, สภาวโต อุปลพฺภมานา ธมฺมา สพฺเพปิ อิเม ธมฺมา กุสลา.
เอตฺตาวตา จิตฺตงฺควเสน ปาฬิยํ อารุฬฺเห ปโรปณฺณาสธมฺเม ทีเปตฺวา เยวาปนกวเสน อปเรปิ นว ธมฺเม ธมฺมราชา ทีเปติ. เตสุ เตสุ หิ สุตฺตปเทสุ ‘ฉนฺโท อธิโมกฺโข มนสิกาโร ตตฺรมชฺฌตฺตตา กรุณา มุทิตา กายทุจฺจริตวิรติ วจีทุจฺจริตวิรติ มิจฺฉาชีววิรตี’ติ อิเม นว ธมฺมา ปฺายนฺติ. อิมสฺมิฺจาปิ มหาจิตฺเต กตฺตุกมฺยตากุสลธมฺมจฺฉนฺโท อตฺถิ, จิตฺตงฺควเสน ปน ปาฬิยํ น อารุฬฺโห. โส อิธ เยวาปนกวเสน คหิโต.
อธิโมกฺโข อตฺถิ, มนสิกาโร อตฺถิ, ตตฺรมชฺฌตฺตตา อตฺถิ. เมตฺตาปุพฺพภาโค อตฺถิ; โส อโทเส คหิเต คหิโต เอว โหติ. กรุณาปุพฺพภาโค อตฺถิ, มุทิตาปุพฺพภาโค อตฺถิ. อุเปกฺขาปุพฺพภาโค อตฺถิ; โส ปน ตตฺรมชฺฌตฺตตาย คหิตาย คหิโตว โหติ. สมฺมาวาจา อตฺถิ, สมฺมากมฺมนฺโต อตฺถิ. สมฺมาอาชีโว อตฺถิ; จิตฺตงฺควเสน ปน ปาฬิยํ น อารุฬฺโห. โสปิ อิธ เยวาปนกวเสน คหิโต.
อิเมสุ ปน นวสุ ฉนฺโท อธิโมกฺโข มนสิกาโร ตตฺรมชฺฌตฺตตาติ อิเม จตฺตาโรว เอกกฺขเณ ลพฺภนฺติ, เสสา นานากฺขเณ. ยทา หิ อิมินา จิตฺเตน มิจฺฉาวาจํ ปชหติ, วิรติวเสน สมฺมาวาจํ ปูเรติ, ตทา ฉนฺทาทโย จตฺตาโร, สมฺมาวาจา จาติ อิเม ปฺจ เอกกฺขเณ ลพฺภนฺติ. ยทา มิจฺฉากมฺมนฺตํ ปชหติ, วิรติวเสน สมฺมากมฺมนฺตํ ปูเรติ…เป… มิจฺฉาอาชีวํ ปชหติ, วิรติวเสน สมฺมาอาชีวํ ปูเรติ…เป… ยทา กรุณาย ปริกมฺมํ กโรติ…เป… ยทา มุทิตาย ปริกมฺมํ กโรติ, ตทา ฉนฺทาทโย จตฺตาโร, มุทิตาปุพฺพภาโค จาติ อิเม ปฺจ เอกกฺขเณ ลพฺภนฺติ. อิโต ปน มฺุจิตฺวา, ทานํ เทนฺตสฺส สีลํ ปูเรนฺตสฺส โยเค กมฺมํ กโรนฺตสฺส จตฺตาริ อปณฺณกงฺคาเนว ลพฺภนฺติ.
เอวเมเตสุ นวสุ เยวาปนกธมฺเมสุ ‘ฉนฺโท’ติ กตฺตุกมฺยตาเยตํ อธิวจนํ. ตสฺมา โส กตฺตุกมฺยตาลกฺขโณ ฉนฺโท, อารมฺมณปริเยสนรโส, อารมฺมเณน อตฺถิกตาปจฺจุปฏฺาโน ¶ . ตเทวสฺส ปทฏฺานํ ¶ . อารมฺมณสฺส คหเณ จายํ เจตโส หตฺถปฺปสารณํ วิย ทฏฺพฺโพ.
อธิมุจฺจนํ ¶ ‘อธิโมกฺโข’. โส สนฺนิฏฺานลกฺขโณ, อสํสปฺปนรโส, นิจฺฉยปจฺจุปฏฺาโน สนฺนิฏฺาตพฺพธมฺมปทฏฺาโน. อารมฺมเณ นิจฺจลภาเวน อินฺทขีโล วิย ทฏฺพฺโพ.
กิริยา กาโร, มนสฺมึ กาโร ‘มนสิกาโร’. ปุริมมนโต วิสทิสํ มนํ กโรตีติปิ มนสิกาโร. สฺวายํ อารมฺมณปฏิปาทโก วีถิปฏิปาทโก ชวนปฏิปาทโกติ ติปฺปกาโร. ตตฺถ อารมฺมณปฏิปาทโก มนสฺมึ กาโรติ มนสิกาโร. โส สารณลกฺขโณ, สมฺปยุตฺตานํ อารมฺมเณ สมฺปโยชนรโส, อารมฺมณาภิมุขภาวปจฺจุปฏฺาโน, สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺโน. อารมฺมณปฏิปาทกตฺเตน สมฺปยุตฺตานํ สารถิ วิย ทฏฺพฺโพ. วีถิปฏิปาทโกติ ปน ปฺจทฺวาราวชฺชนสฺเสตํ อธิวจนํ. ชวนปฏิปาทโกติ มโนทฺวาราวชฺชนสฺส. น เต อิธ อธิปฺเปตา.
เตสุ ธมฺเมสุ มชฺฌตฺตตา ‘ตตฺรมชฺฌตฺตตา’. สา จิตฺตเจตสิกานํ สมวาหิตลกฺขณา, อูนาธิกนิวารณรสา, ปกฺขปาตุปจฺเฉทนรสา วา; มชฺฌตฺตภาวปจฺจุปฏฺานา. จิตฺตเจตสิกานํ อชฺฌุเปกฺขนวเสน สมปฺปวตฺตานํ อาชาเนยฺยานํ อชฺฌุเปกฺขนสารถิ วิย ทฏฺพฺพา.
‘กรุณามุทิตา’ พฺรหฺมวิหารนิทฺเทเส อาวิ ภวิสฺสนฺติ. เกวลฺหิ ตา อปฺปนปฺปตฺตา รูปาวจรา, อิธ กามาวจราติ อยเมว วิเสโส.
กายทุจฺจริตโต วิรติ ‘กายทุจฺจริตวิรติ’. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ลกฺขณาทิโต ปเนตา ติสฺโสปิ กายทุจฺจริตาทิวตฺถูนํ อวีติกฺกมลกฺขณา; อมทฺทนลกฺขณาติ วุตฺตํ โหติ. กายทุจฺจริตาทิวตฺถุโต สงฺโกจนรสา, อกิริยปจฺจุปฏฺานา, สทฺธาหิโรตฺตปฺปอปฺปิจฺฉตาทิคุณปทฏฺานา. ปาปกิริยโต จิตฺตสฺส วิมุขีภาวภูตาติ ทฏฺพฺพา.
อิติ ผสฺสาทีนิ ฉปฺปฺาส เยวาปนกวเสน วุตฺตานิ นวาติ สพฺพานิปิ อิมสฺมึ ธมฺมุทฺเทสวาเร ปฺจสฏฺิ ธมฺมปทานิ ภวนฺติ. เตสุ เอกกฺขเณ กทาจิ เอกสฏฺิ ภวนฺติ, กทาจิ สมสฏฺิ. ตานิ หิ สมฺมาวาจาปูรณาทิวเสน. อุปฺปตฺติยํ ¶ ปฺจสุ าเนสุ เอกสฏฺิ ภวนฺติ. เตหิ มุตฺเต เอกสฺมึ าเน สมสฏฺิ ภวนฺติ. เปตฺวา ¶ ปน เยวาปนเก ปาฬิยํ ยถารุตวเสน คยฺหมานานิ ฉปฺปฺาสาว โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปเนตฺถ ผสฺสปฺจกํ, วิตกฺโก วิจาโร ปีติ จิตฺเตกคฺคตา, ปฺจินฺทฺริยานิ, หิริพลํ โอตฺตปฺปพลนฺติ ทฺเว พลานิ, อโลโภ ¶ อโทโสติ ทฺเว มูลานิ, กายปสฺสทฺธิจิตฺตปสฺสทฺธิอาทโย ทฺวาทส ธมฺมาติ สมตึส ธมฺมา โหนฺติ.
เตสุ สมตึสาย ธมฺเมสุ อฏฺารส ธมฺมา อวิภตฺติกา โหนฺติ, ทฺวาทส สวิภตฺติกา. กตเม อฏฺารส? ผสฺโส สฺา เจตนา วิจาโร ปีติ ชีวิตินฺทฺริยํ, กายปสฺสทฺธิอาทโย ทฺวาทส ธมฺมาติ อิเม อฏฺารส อวิภตฺติกา. เวทนา จิตฺตํ วิตกฺโก จิตฺเตกคฺคตา, สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ, หิริพลํ โอตฺตปฺปพลํ, อโลโภ อโทโสติ อิเม ทฺวาทส ธมฺมา สวิภตฺติกา. เตสุ สตฺต ธมฺมา ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตา, เอโก ตีสุ, ทฺเว จตูสุ, เอโก ฉสุ, เอโก สตฺตสุ าเนสุ วิภตฺโต.
กถํ? จิตฺตํ วิตกฺโก สทฺธา หิรี โอตฺตปฺปํ อโลโภ อโทโสติ อิเม สตฺต ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตา.
เอเตสุ หิ จิตฺตํ ตาว ผสฺสปฺจกํ ปตฺวา จิตฺตํ โหตีติ วุตฺตํ, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา มนินฺทฺริยนฺติ. วิตกฺโก ฌานงฺคานิ ปตฺวา วิตกฺโก โหตีติ วุตฺโต, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาสงฺกปฺโปติ. สทฺธา อินฺทฺริยานิ ปตฺวา สทฺธินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตา, พลานิ ปตฺวา สทฺธาพลนฺติ. หิรี พลานิ ปตฺวา หิริพลํ โหตีติ วุตฺตา, โลกปาลทุกํ ปตฺวา หิรีติ. โอตฺตปฺเปปิ เอเสว นโย. อโลโภ มูลํ ปตฺวา อโลโภ โหตีติ วุตฺโต, กมฺมปถํ ปตฺวา อนภิชฺฌาติ. อโทโส มูลํ ปตฺวา อโทโส โหตีติ วุตฺโต, กมฺมปถํ ปตฺวา อพฺยาปาโทติ. อิเม สตฺต ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตา.
เวทนา ปน ผสฺสปฺจกํ ปตฺวา เวทนา โหตีติ วุตฺตา, ฌานงฺคานิ ปตฺวา สุขนฺติ, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา โสมนสฺสินฺทฺริยนฺติ. เอวํ เอโก ธมฺโม ตีสุ าเนสุ วิภตฺโต.
วีริยํ ปน อินฺทฺริยานิ ปตฺวา วีริยินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตํ, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาวายาโมติ, พลานิ ปตฺวา วีริยพลนฺติ, ปิฏฺิทุกํ ปตฺวา ปคฺคาโหติ. สติปิ ¶ อินฺทฺริยานิ ปตฺวา สตินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตา, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาสตีติ, พลานิ ปตฺวา สติพลนฺติ, ปิฏฺิทุกํ ¶ ปตฺวา สติ โหตีติ วุตฺตา. เอวํ อิเม ทฺเว ธมฺมา จตูสุ าเนสุ วิภตฺตา.
สมาธิ ¶ ปน ฌานงฺคานิ ปตฺวา จิตฺตสฺเสกคฺคตา โหตีติ วุตฺโต, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา สมาธินฺทฺริยนฺติ, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาสมาธีติ. พลานิ ปตฺวา สมาธิพลนฺติ, ปิฏฺิทุกํ ปตฺวา สมโถ อวิกฺเขโปติ. เอวมยํ เอโก ธมฺโม ฉสุ าเนสุ วิภตฺโต.
ปฺา ปน อินฺทฺริยานิ ปตฺวา ปฺินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตา, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาทิฏฺีติ, พลานิ ปตฺวา ปฺาพลนฺติ, มูลานิ ปตฺวา อโมโหติ, กมฺมปถํ ปตฺวา สมฺมาทิฏฺีติ, ปิฏฺิทุกํ ปตฺวา สมฺปชฺํ วิปสฺสนาติ. เอวํ เอโก ธมฺโม สตฺตสุ าเนสุ วิภตฺโต.
สเจ ปน โกจิ วเทยฺย – ‘เอตฺถ อปุพฺพํ นาม นตฺถิ, เหฏฺา คหิตเมว คณฺหิตฺวา ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ปทํ ปูริตํ, อนนุสนฺธิกา กถา อุปฺปฏิปาฏิยา โจเรหิ อาภตภณฺฑสทิสา, โคยูเถน คตมคฺเค อาลุลิตติณสทิสา อชานิตฺวา กถิตา’ติ, โส ‘มาเหว’นฺติ ปฏิเสเธตฺวา วตฺตพฺโพ – ‘พุทฺธานํ เทสนา อนนุสนฺธิกา นาม นตฺถิ, สานุสนฺธิกา ว โหติ. อชานิตฺวา กถิตาปิ นตฺถิ, สพฺพา ชานิตฺวา กถิตาเยว. สมฺมาสมฺพุทฺโธ หิ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ กิจฺจํ ชานาติ, ตํ ตฺวา กิจฺจวเสน วิภตฺตึ อาโรเปนฺโต อฏฺารส ธมฺมา เอเกกกิจฺจาติ ตฺวา เอเกกสฺมึ าเน วิภตฺตึ อาโรเปสิ. สตฺต ธมฺมา ทฺเวทฺเวกิจฺจาติ ตฺวา ทฺวีสุ ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตึ อาโรเปสิ. เวทนา ติกิจฺจาติ ตฺวา ตีสุ าเนสุ วิภตฺตึ อาโรเปสิ. วีริยสตีนํ จตฺตาริ จตฺตาริ กิจฺจานีติ ตฺวา จตูสุ จตูสุ าเนสุ วิภตฺตึ อาโรเปสิ. สมาธิ ฉกิจฺโจติ ตฺวา ฉสุ าเนสุ วิภตฺตึ อาโรเปสิ. ปฺา สตฺตกิจฺจาติ ตฺวา สตฺตสุ าเนสุ วิภตฺตึ อาโรเปสิ’.
ตตฺริทํ โอปมฺมํ – เอโก กิร ปณฺฑิโต ราชา รโหคโต จินฺเตสิ – ‘อิมํ ราชกุลสนฺตกํ น ยถา วา ตถา วา ขาทิตพฺพํ, สิปฺปานุจฺฉวิกํ เวตนํ ¶ วฑฺเฒสฺสามี’ติ. โส สพฺเพ สิปฺปิเก สนฺนิปาตาเปตฺวา ‘เอเกกสิปฺปชานนเก ปกฺโกสถา’ติ อาห. เอวํ ปกฺโกสิยมานา อฏฺารส ชนา อุฏฺหึสุ. เตสํ เอเกกํ ปฏิวีสํ ทาเปตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. ‘ทฺเว ทฺเว สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺเต ปน สตฺต ชนา อาคมํสุ. เตสํ ทฺเว ทฺเว ปฏิวีเส ทาเปสิ. ‘ตีณิ สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺเต เอโกว อาคจฺฉิ. ตสฺส ตโย ปฏิวีเส ทาเปสิ. ‘จตฺตาริ สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺเต ทฺเว ชนา อาคมํสุ. เตสํ จตฺตาริ จตฺตาริ ปฏิวีเส ทาเปสิ. ‘ปฺจ สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺเต เอโกปิ นาคจฺฉิ ¶ . ‘ฉ สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺเต เอโกว อาคจฺฉิ. ตสฺส ฉ ปฏิวีเส ทาเปสิ. ‘สตฺต สิปฺปานิ ชานนฺตา ¶ อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺเต เอโกว อาคจฺฉิ. ตสฺส สตฺต ปฏิวีเส ทาเปสิ.
ตตฺถ ปณฺฑิโต ราชา วิย อนุตฺตโร ธมฺมราชา. สิปฺปชานนกา วิย จิตฺตจิตฺตงฺควเสน อุปฺปนฺนา ธมฺมา. สิปฺปานุจฺฉวิกเวตนวฑฺฒนํ วิย กิจฺจวเสน เตสํ เตสํ ธมฺมานํ วิภตฺติอาโรปนํ.
สพฺเพปิ ปเนเต ธมฺมา ผสฺสปฺจกวเสน ฌานงฺควเสน อินฺทฺริยวเสน มคฺควเสน พลวเสน มูลวเสน กมฺมปถวเสน โลกปาลวเสน ปสฺสทฺธิวเสน ลหุตาวเสน มุทุตาวเสน กมฺมฺตาวเสน ปาคฺุตาวเสน อุชุกตาวเสน สติสมฺปชฺวเสน สมถวิปสฺสนาวเสน ปคฺคาหาวิกฺเขปวเสนาติ สตฺตรส ราสโย โหนฺตีติ.
ธมฺมุทฺเทสวารกถา นิฏฺิตา.
กามาวจรกุสลํ นิทฺเทสวารกถา
๒. อิทานิ ตาเนว ธมฺมุทฺเทสวาเร ปาฬิอารุฬฺหานิ ฉปฺปฺาส ปทานิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘กตโม ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตี’ติอาทินา นเยน นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ.
ตตฺถ ปุจฺฉาย ตาว อยมตฺโถ – ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ โสมนสฺสสหคตํ ติเหตุกํ อสงฺขาริกํ มหาจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ ¶ สมเย ผสฺโส โหตีติ วุตฺโต, กตโม โส ผสฺโสติ อิมินา นเยน สพฺพปุจฺฉาสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
โย ตสฺมึ สมเย ผสฺโสติ ตสฺมึ สมเย โย ผุสนกวเสน อุปฺปนฺโน ผสฺโส, โส ผสฺโสติ. อิทํ ผสฺสสฺส สภาวทีปนโต สภาวปทํ นาม. ผุสนาติ ผุสนากาโร. สมฺผุสนาติ ผุสนากาโรว อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺเฒตฺวา วุตฺโต. สมฺผุสิตตฺตนฺติ สมฺผุสิตภาโว. อยํ ปเนตฺถ โยชนา ¶ – โย ตสฺมึ สมเย ผุสนกวเสน ผสฺโส, ยา ตสฺมึ สมเย ผุสนา, ยา ตสฺมึ สมเย สมฺผุสนา, ยํ ตสฺมึ สมเย สมฺผุสิตตฺตํ; อถ วา, โย ตสฺมึ สมเย ผุสนวเสน ผสฺโส, อฺเนาปิ ปริยาเยน ผุสนา สมฺผุสนา สมฺผุสิตตฺตนฺติ วุจฺจติ, อยํ ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตีติ. เวทนาทีนมฺปิ นิทฺเทเสสุ อิมินาว นเยน ปทโยชนา เวทิตพฺพา.
อยํ ปเนตฺถ สพฺพสาธารโณ วิภตฺติวินิจฺฉโย. ยานิมานิ ภควตา ปมํ กามาวจรํ กุสลํ ¶ มหาจิตฺตํ ภาเชตฺวา ทสฺเสนฺเตน อติเรกปณฺณาสปทานิ มาติกาวเสน เปตฺวา ปุน เอเกกปทํ คเหตฺวา วิภตฺตึ อาโรปิตานิ, ตานิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺตานิ ตีหิ การเณหิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺติ; นานา โหนฺตานิ จตูหิ การเณหิ นานา ภวนฺติ. อปรทีปนา ปเนตฺถ ทฺเว านานิ คจฺฉติ. กถํ? เอตานิหิ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสนาติ อิเมหิ ตีหิ การเณหิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ โกโธ กุชฺฌนา กุชฺฌิตตฺตํ, โทโส ทุสฺสนา ทุสฺสิตตฺตนฺติ เอวํ พฺยฺชนวเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ หิ เอโกว โกโธ พฺยฺชนวเสน เอวํ วิภตฺตึ คโต. จาโร วิจาโร อนุวิจาโร อุปวิจาโรติ เอวํ ปน อุปสคฺควเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ. ปณฺฑิจฺจํ โกสลฺลํ เนปฺุํ เวภพฺยา จินฺตา อุปปริกฺขาติ เอวํ อตฺถวเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ. เตสุ ผสฺสปทนิทฺเทเส ตาว อิมา ติสฺโสปิ วิภตฺติโย ลพฺภนฺติ. ‘ผสฺโส ผุสนา’ติ หิ พฺยฺชนวเสน วิภตฺติคมนํ โหติ. ‘สมฺผุสนา’ติ อุปสคฺควเสน. ‘สมฺผุสิตตฺต’นฺติ อตฺถวเสน. อิมินา นเยน สพฺพปทนิทฺเทเสสุ วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ.
นานา โหนฺตานิปิ ปน นามนานตฺเตน ลกฺขณนานตฺเตน กิจฺจนานตฺเตน ปฏิกฺเขปนานตฺเตนาติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ นานา โหนฺติ. ตตฺถ กตโม ตสฺมึ สมเย พฺยาปาโท โหติ? โย ตสฺมึ ¶ สมเย โทโส ทุสฺสนาติ (ธ. ส. ๔๑๙) เอตฺถ พฺยาปาโทติ วา, โทโสติ วา, ทฺเวปิ เอเต โกโธ เอว, นาเมน นานตฺตํ คตาติ. เอวํ ‘นามนานตฺเตน’ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
ราสฏฺเน จ ปฺจปิ ขนฺธา เอโกว ขนฺโธ โหติ. เอตฺถ ปน รูปํ รุปฺปนลกฺขณํ, เวทนา เวทยิตลกฺขณา, สฺา สฺชานนลกฺขณา, เจตนา เจตยิตลกฺขณา, วิฺาณํ วิชานนลกฺขณนฺติ อิมินา ลกฺขณนานตฺเตน ปฺจกฺขนฺธา โหนฺติ. เอวํ ‘ลกฺขณนานตฺเตน’ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
จตฺตาโร ¶ สมฺมปฺปธานา – ‘‘อิธ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย…เป… ¶ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหตี’’ติ (วิภ. ๓๙๐; ที. นิ. ๒.๔๐๒) เอกเมว วีริยํ กิจฺจนานตฺเตน จตูสุ าเนสุ อาคตํ. เอวํ ‘กิจฺจนานตฺเตน’ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
จตฺตาโร อสทฺธมฺมา – โกธครุตา น สทฺธมฺมครุตา, มกฺขครุตา น สทฺธมฺมครุตา, ลาภครุตา น สทฺธมฺมครุตา, สกฺการครุตา น สทฺธมฺมครุตาติ, เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๔.๔๔) ปน ‘ปฏิกฺเขปนานตฺเตน’ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
อิมานิ ปน จตฺตาริ นานตฺตานิ น ผสฺเสเยว ลพฺภนฺติ, สพฺเพสุปิ ผสฺสปฺจกาทีสุ ลพฺภนฺติ. ผสฺสสฺส หิ ผสฺโสติ นามํ…เป… จิตฺตสฺส จิตฺตนฺติ. ผสฺโส จ ผุสนลกฺขโณ, เวทนา เวทยิตลกฺขณา, สฺา สฺชานนลกฺขณา, เจตนา เจตยิตลกฺขณา, วิฺาณํ วิชานนลกฺขณํ. ตถา ผสฺโส ผุสนกิจฺโจ, เวทนา อนุภวนกิจฺจา, สฺา สฺชานนกิจฺจา, เจตนา เจตยิตกิจฺจา, วิฺาณํ วิชานนกิจฺจนฺติ. เอวํ กิจฺจนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
ปฏิกฺเขปนานตฺตํ ผสฺสปฺจมเก นตฺถิ. อโลภาทินิทฺเทเส ปน อโลโภ อลุพฺภนา อลุพฺภิตตฺตนฺติอาทินา นเยน ลพฺภตีติ เอวํ ปฏิกฺเขปนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. เอวํ สพฺพปทนิทฺเทเสสุ ลพฺภมานวเสน จตุพฺพิธมฺปิ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
อปรทีปนา ปน ปทตฺถุติ วา โหติ ทฬฺหีกมฺมํ วาติ เอวํ ทฺเว านานิ คจฺฉติ. ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺเตน วิย หิ สกิเมว ผสฺโสติ วุตฺเต เอตํ ปทํ ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ นาม น โหติ. ปุนปฺปุนํ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน ¶ อตฺถวเสน ‘ผสฺโส ผุสนา สมฺผุสนา สมฺผุสิตตฺต’นฺติ วุตฺเต ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ นาม โหติ. ยถา หิ ทหรกุมารํ นฺหาเปตฺวา, มโนรมํ วตฺถํ ปริทหาเปตฺวา ปุปฺผานิ ปิฬนฺธาเปตฺวา อกฺขีนิ อฺเชตฺวา อถสฺส นลาเฏ เอกเมว มโนสิลาพินฺทุํ กเรยฺยุํ, ตสฺส น เอตฺตาวตา จิตฺตติลโก นาม โหติ. นานาวณฺเณหิ ปน ปริวาเรตฺวา พินฺทูสุ กเตสุ จิตฺตติลโก นาม โหติ. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อยํ ‘ปทตฺถุติ’ นาม.
พฺยฺชนวเสน ¶ อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน จ ปุนปฺปุนํ ภณนเมว ทฬฺหีกมฺมํ นาม. ยถา หิ ‘อาวุโส’ติ วา ‘ภนฺเต’ติ วา ‘ยกฺโข’ติ วา ‘สปฺโป’ติ ¶ วา วุตฺเต ทฬฺหีกมฺมํ นาม น โหติ. ‘อาวุโส อาวุโส’‘ภนฺเต ภนฺเต’‘ยกฺโข ยกฺโข’‘สปฺโป สปฺโป’ติ วุตฺเต ปน ทฬฺหีกมฺมํ นาม โหติ. เอวเมว สกิเทว ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺเตน วิย ‘ผสฺโส’ติ วุตฺเต ปทํ ทฬฺหีกมฺมํ นาม น โหติ. ปุนปฺปุนํ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน ‘ผสฺโส ผุสนา สมฺผุสนา สมฺผุสิตตฺต’นฺติ วุตฺเตเยว ‘ทฬฺหีกมฺมํ’ นาม โหตีติ. เอวํ อปรทีปนา ทฺเว านานิ คจฺฉติ. เอตสฺสาปิ วเสน ลพฺภมานกปทนิทฺเทเสสุ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อยํ ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตีติ ยสฺมึ สมเย ปมํ กามาวจรํ มหากุสลจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ สมเย อยํ ผสฺโส นาม โหตีติ อตฺโถ. อยํ ตาว ผสฺสปทนิทฺเทสสฺส วณฺณนา. อิโต ปเรสุ ปน เวทนาทีนํ ปทานํ นิทฺเทเสสุ วิเสสมตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม. เสสํ อิธ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๓. ยํ ตสฺมึ สมเยติ เอตฺถ กิฺจาปิ กตมา ตสฺมึ สมเย เวทนา โหตีติ อารทฺธํ, ‘สาตปทวเสน ปน ‘ย’นฺติ วุตฺตํ. ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชนฺติ เอตฺถ ‘ตชฺชา’ วุจฺจติ ตสฺส สาตสุขสฺส อนุจฺฉวิกา สารุปฺปา. อนุจฺฉวิกตฺโถปิ หิ อยํ ‘ตชฺชา’-สทฺโท โหติ. ยถาห – ‘‘ตชฺชํ ตสฺสารุปฺปํ กถํ มนฺเตตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๔๖). เตหิ วา รูปาทีหิ อารมฺมเณหิ อิมสฺส จ สุขสฺส ปจฺจเยหิ ชาตาติปิ ตชฺชา. มโนวิฺาณเมว นิสฺสตฺตฏฺเน ธาตูติ มโนวิฺาณธาตุ. สมฺผสฺสโต ชาตํ, สมฺผสฺเส วา ชาตนฺติ สมฺผสฺสชํ. จิตฺตนิสฺสิตตฺตา เจตสิกํ. มธุรฏฺเน ¶ สาตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ ตสฺมึ สมเย ยถาวุตฺเตน อตฺเถน ตชฺชาย มโนวิฺาณธาตุยา สมฺผสฺสชํ เจตสิกํ สาตํ, อยํ ตสฺมึ สมเย เวทนา โหตีติ. เอวํ สพฺพปเทหิ สทฺธึ โยชนา เวทิตพฺพา.
อิทานิ เจตสิกํ สุขนฺติอาทีสุ เจตสิกปเทน กายิกสุขํ ปฏิกฺขิปติ, สุขปเทน เจตสิกํ ทุกฺขํ. เจโตสมฺผสฺสชนฺติ จิตฺตสมฺผสฺเส ชาตํ. สาตํ สุขํ เวทยิตนฺติ ¶ สาตํ เวทยิตํ, น อสาตํ เวทยิตํ; สุขํ เวทยิตํ, น ทุกฺขํ เวทยิตํ. ปรโต ตีณิ ปทานิ อิตฺถิลิงฺควเสน วุตฺตานิ. สาตา เวทนา, น อสาตา; สุขา เวทนา, น ทุกฺขาติ. อยเมว ปเนตฺถ อตฺโถ.
๔. สฺานิทฺเทเส ¶ ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชาติ ตสฺสากุสลสฺาย อนุจฺฉวิกาย มโนวิฺาณธาตุยา สมฺผสฺสมฺหิ ชาตา. สฺาติ สภาวนามํ. สฺชานนาติ สฺชานนากาโร. สฺชานิตตฺตนฺติ สฺชานิตภาโว.
๕. เจตนานิทฺเทเสปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺโพ.
จิตฺตนิทฺเทเส จิตฺตวิจิตฺตตาย จิตฺตํ. อารมฺมณํ มินมานํ ชานาตีติ มโน. มานสนฺติ มโน เอว. ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส ยฺวายํ จรติ มานโส’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๕๑; มหาว. ๓๓) หิ เอตฺถ ปน สมฺปยุตฺตกธมฺโม ‘มานโส’ติ วุตฺโต.
‘‘กถฺหิ ภควา ตุยฺหํ, สาวโก สาสเน รโต;
อปฺปตฺตมานโส เสกฺโข, กาลํ กยิรา ชเน สุตา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๙);
เอตฺถ อรหตฺตํ ‘มานส’นฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน ‘มโนว’ มานสํ. พฺยฺชนวเสน เหตํ ปทํ วฑฺฒิตํ.
หทยนฺติ จิตฺตํ. ‘‘จิตฺตํ วา เต ขิปิสฺสามิ, หทยํ วา เต ผาเลสฺสามี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๓๗; สุ. นิ. อาฬวกสุตฺต) เอตฺถ อุโร หทยนฺติ วุตฺตํ. ‘‘หทยา หทยํ มฺเ อฺาย ตจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๓) เอตฺถ จิตฺตํ. ‘‘วกฺกํ หทย’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐) เอตฺถ หทยวตฺถุ. อิธ ¶ ปน จิตฺตเมว อพฺภนฺตรฏฺเน ‘หทย’นฺติ วุตฺตํ. ตเมว ปริสุทฺธฏฺเน ปณฺฑรํ. ภวงฺคํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยถาห – ‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺ’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๙). ตโต นิกฺขนฺตตฺตา ปน อกุสลมฺปิ, คงฺคาย นิกฺขนฺตา นที คงฺคา วิย, โคธาวริโต นิกฺขนฺตา โคธาวรี วิย จ, ปณฺฑรนฺตฺเวว วุตฺตํ.
มโน มนายตนนฺติ อิธ ปน มโนคฺคหณํ มนสฺเสว อายตนภาวทีปนตฺถํ. เตเนตํ ทีเปติ – ‘นยิทํ เทวายตนํ วิย มนสฺส อายตนตฺตา มนายตนํ, อถ โข มโน เอว อายตนํ ¶ มนายตน’นฺติ. ตตฺถ นิวาสานฏฺเน อากรฏฺเน สโมสรณานฏฺเน ¶ สฺชาติเทสฏฺเน การณฏฺเน จ อายตนํ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ โลเก ‘อิสฺสรายตนํ วาสุเทวายตน’นฺติอาทีสุ นิวาสฏฺานํ อายตนนฺติ วุจฺจติ. ‘สุวณฺณายตนํ รชตายตน’นฺติอาทีสุ อากโร. สาสเน ปน ‘‘มโนรเม อายตเน เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๓๘) สโมสรณฏฺานํ. ‘‘ทกฺขิณาปโถ คุนฺนํ อายตน’’นฺติอาทีสุ สฺชาติเทโส. ‘‘ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๕๘) การณํ. อิธ ปน สฺชาติเทสฏฺเน สโมสรณานฏฺเน การณฏฺเนาติ ติธาปิ วฏฺฏติ.
ผสฺสาทโย หิ ธมฺมา เอตฺถ สฺชายนฺตีติ สฺชาติเทสฏฺเนปิ เอตํ อายตนํ. พหิทฺธา รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพา อารมฺมณภาเวเนตฺถ โอสรนฺตีติ สโมสรณานฏฺเนปิ อายตนํ. ผสฺสาทีนํ ปน สหชาตาทิปจฺจยฏฺเน การณตฺตา การณฏฺเนปิ อายตนนฺติ เวทิตพฺพํ. มนินฺทฺริยํ วุตฺตตฺถเมว.
วิชานาตีติ วิฺาณํ วิฺาณเมว ขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ. ตสฺส ราสิอาทิวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ (อ. นิ. ๔.๕๑). เอตฺถ หิ ราสฏฺเน ขนฺโธ วุตฺโต. ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๕๕) คุณฏฺเน. ‘‘อทฺทสา โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธ’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑) เอตฺถ ปณฺณตฺติมตฺตฏฺเน. อิธ ปน รุฬฺหิโต ขนฺโธ วุตฺโต. ราสฏฺเน หิ วิฺาณกฺขนฺธสฺส ¶ เอกเทโส เอกํ วิฺาณํ. ตสฺมา ยถา รุกฺขสฺส เอกเทสํ ฉินฺทนฺโต รุกฺขํ ฉินฺทตีติ วุจฺจติ, เอวเมว วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทสภูตํ เอกมฺปิ วิฺาณํ รุฬฺหิโต วิฺาณกฺขนฺโธติ วุตฺตํ.
ตชฺชามโนวิฺาณธาตูติ เตสํ ผสฺสาทีนํ ธมฺมานํ อนุจฺฉวิกา มโนวิฺาณธาตุ. อิมสฺมิฺหิ ปเท เอกเมว จิตฺตํ มินนฏฺเน มโน, วิชานนฏฺเน วิฺาณํ, สภาวฏฺเน นิสฺสตฺตฏฺเน วา ธาตูติ ตีหิ นาเมหิ วุตฺตํ. อิติ อิมสฺมึ ผสฺสปฺจมเก ผสฺโส ตาว ยสฺมา ผสฺโส เอว, น ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสโช, จิตฺตฺจ ยสฺมา ตชฺชามโนวิฺาณธาตุ เอว, ตสฺมา อิมสฺมึ ปททฺวเย ¶ ‘ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา’ติ ปฺตฺติ น อาโรปิตา. วิตกฺกปทาทีสุ ปน ลพฺภมานาปิ อิธ ปจฺฉินฺนตฺตา น อุทฺธฏา.
อิเมสฺจ ¶ ปน ผสฺสปฺจมกานํ ธมฺมานํ ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ วินิพฺโภคํ กตฺวา ปฺตฺตึ อุทฺธรมาเนน ภควตา ทุกฺกรํ กตํ. นานาอุทกานฺหิ นานาเตลานํ วา เอกภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ทิวสํ นิมฺมถิตานํ วณฺณ คนฺธรสานํ นานตาย ทิสฺวา วา ฆายิตฺวา วา สายิตฺวา วา นานากรณํ สกฺกา ภเวยฺย าตุํ. เอวํ สนฺเตปิ ตํ ทุกฺกรนฺติ วุตฺตํ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปน อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ ปวตฺตมานานํ ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ วินิพฺโภคํ กตฺวา ปฺตฺตึ อุทฺธรมาเนน อติทุกฺกรํ กตํ. เตนาห อายสฺมา นาคเสนตฺเถโร –
‘‘ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กตนฺติ. ‘กึ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ทุกฺกรํ กต’นฺติ. ‘ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กตํ, ยํ อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ ปวตฺตมานานํ ววตฺถานํ อกฺขาตํ – อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ จิตฺต’นฺติ. ‘โอปมฺมํ, ภนฺเต, กโรหี’ติ. ‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส นาวาย สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา หตฺถปุเฏน อุทกํ คเหตฺวา ชิวฺหาย สายิตฺวา ชาเนยฺย นุ โข, มหาราช, โส ปุริโส – อิทํ คงฺคาย อุทกํ, อิทํ ยมุนาย อุทกํ, อิทํ อจิรวติยา อุทกํ, อิทํ สรภุยา อุทกํ, อิทํ มหิยา อุทก’นฺติ? ‘ทุกฺกรํ, ภนฺเต, ชานิตุ’นฺติ. ‘ตโต ทุกฺกรตรํ ¶ โข, มหาราช, ภควตา กตํ ยํ อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ…เป… อิทํ จิตฺต’’’นฺติ (มิ. ป. ๒.๗.๑๖).
๗. วิตกฺกนิทฺเทเส ตกฺกนวเสน ตกฺโก. ตสฺส ติตฺตกํ ตกฺเกสิ กุมฺภํ ตกฺเกสิ สกฏํ ตกฺเกสิ โยชนํ ตกฺเกสิ อทฺธโยชนํ ตกฺเกสีติ เอวํ ตกฺกนวเสน ปวตฺติ เวทิตพฺพา. อิทํ ตกฺกสฺส สภาวปทํ. วิตกฺกนวเสน วิตกฺโก. พลวตรตกฺกสฺเสตํ นามํ. สุฏฺุ กปฺปนวเสน สงฺกปฺโป. เอกคฺคํ จิตฺตํ อารมฺมเณ อปฺเปตีติ อปฺปนา. ทุติยปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ ¶ . พลวตรา วา อปฺปนา พฺยปฺปนา. อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ ปติฏฺาเปตีติ เจตโส อภินิโรปนา. ยาถาวตาย นิยฺยานิกตาย จ กุสลภาวปฺปตฺโต ปสตฺโถ สงฺกปฺโปติ สมฺมาสงฺกปฺโป.
๘. วิจารนิทฺเทเส อารมฺมเณ จรณกวเสน จาโร. อิทมสฺส สภาวปทํ. วิจรณวเสน วิจาโร ¶ . อนุคนฺตฺวา วิจรณวเสน อนุวิจาโร. อุปคนฺตฺวา วิจรณวเสน อุปวิจาโรติ. อุปสคฺควเสน วา ปทานิ วฑฺฒิตานิ. อารมฺมเณ จิตฺตํ, สรํ วิย ชิยาย, อนุสนฺทหิตฺวา ปนโต จิตฺตสฺส อนุสนฺธานตา. อารมฺมณํ อนุเปกฺขมาโน วิย ติฏฺตีติ อนุเปกฺขนตา. วิจรณวเสน วา อุเปกฺขนตา อนุเปกฺขนตา.
๙. ปีตินิทฺเทเส ปีตีติ สภาวปทํ. ปมุทิตสฺส ภาโว ปาโมชฺชํ. อาโมทนากาโร อาโมทนา. ปโมทนากาโร ปโมทนา. ยถา วา เภสชฺชานํ วา เตลานํ วา อุณฺโหทกสีโตทกานํ วา เอกโตกรณํ โมทนาติ วุจฺจติ, เอวมยมฺปิ ปีติ ธมฺมานํ เอกโตกรเณน โมทนา. อุปสคฺควเสน ปน มณฺเฑตฺวา อาโมทนา ปโมทนาติ วุตฺตา. หาเสตีติ หาโส. ปหาเสตีติ ปหาโส. หฏฺปหฏฺาการานเมตํ อธิวจนํ. วิตฺตีติ วิตฺตํ; ธนสฺเสตํ นามํ. อยํ ปน โสมนสฺสปจฺจยตฺตา วิตฺติสริกฺขตาย วิตฺติ. ยถา หิ ธนิโน ธนํ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปีติมโตปิ ปีตึ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา วิตฺตีติ วุตฺตา. ตุฏฺิสภาวสณฺิตาย ปีติยา เอตํ นามํ. ปีติมา ปน ปุคฺคโล กายจิตฺตานํ อุคฺคตตฺตา อพฺภุคฺคตตฺตา อุทคฺโคติ วุจฺจติ ¶ . อุทคฺคสฺส ภาโว โอทคฺยํ. อตฺตโน มนตา อตฺตมนตา. อนภิรทฺธสฺส หิ มโน ทุกฺขปทฏฺานตฺตา อตฺตโน มโน นาม น โหติ, อภิรทฺธสฺส ปน สุขปทฏฺานตฺตา อตฺตโน มโน นาม โหติ. อิติ อตฺตโน มนตา อตฺตมนตา, สกมนตา. สกมนสฺส ภาโวติ อตฺโถ. สา ปน ยสฺมา น อฺสฺส กสฺสจิ อตฺตโน มนตา, จิตฺตสฺเสว ปเนโส ภาโว, เจตสิโก ธมฺโม, ตสฺมา อตฺตมนตา จิตฺตสฺสาติ วุตฺตา.
๑๑. เอกคฺคตานิทฺเทเส อจลภาเวน อารมฺมเณ ติฏฺตีติ ิติ. ปรโต ปททฺวยํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. อปิจ สมฺปยุตฺตธมฺเม อารมฺมณมฺหิ สมฺปิณฺเฑตฺวา ติฏฺตีติ ¶ สณฺิติ. อารมฺมณํ โอคาเหตฺวา อนุปวิสิตฺวา ติฏฺตีติ อวฏฺิติ. กุสลปกฺขสฺมิฺหิ จตฺตาโร ธมฺมา อารมฺมณํ โอคาหนฺติ – สทฺธา สติ สมาธิ ปฺาติ. เตเนว สทฺธา โอกปฺปนาติ วุตฺตา, สติ อปิลาปนตาติ, สมาธิ อวฏฺิตีติ, ปฺา ปริโยคาหนาติ. อกุสลปกฺเข ปน ตโย ธมฺมา อารมฺมณํ โอคาหนฺติ – ตณฺหา ทิฏฺิ อวิชฺชาติ. เตเนว เต โอฆาติ วุตฺตา. จิตฺเตกคฺคตา ปเนตฺถ น พลวตี โหติ. ยถา หิ รชุฏฺานฏฺาเน อุทเกน สิฺจิตฺวา สมฺมฏฺเ โถกเมว กาลํ รโช สนฺนิสีทติ, สุกฺขนฺเต สุกฺขนฺเต ปุน ปกติภาเวน วุฏฺาติ, เอวเมว อกุสลปกฺเข จิตฺเตกคฺคตา น พลวตี โหติ. ยถา ปน ตสฺมึ าเน ฆเฏหิ อุทกํ อาสิฺจิตฺวา ¶ กุทาเลน ขนิตฺวา อาโกฏนมทฺทนฆฏฺฏนานิ กตฺวา อุปลิตฺเต อาทาเส วิย ฉายา ปฺายติ, วสฺสสตาติกฺกเมปิ ตํมุหุตฺตกตํ วิย โหติ, เอวเมว กุสลปกฺเข จิตฺเตกคฺคตา พลวตี โหติ.
อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสน ปวตฺตสฺส วิสาหารสฺส ปฏิปกฺขโต อวิสาหาโร. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสเนว คจฺฉนฺตํ จิตฺตํ วิกฺขิปติ นาม. อยํ ปน ตถาวิโธ วิกฺเขโป น โหตีติ อวิกฺเขโป. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสเนว จ จิตฺตํ วิสาหฏํ นาม โหติ, อิโต จิโต จ หรียติ. อยํ ปน เอวํ อวิสาหฏสฺส มานสสฺส ภาโวติ อวิสาหฏมานสตา.
สมโถติ ติวิโธ สมโถ – จิตฺตสมโถ, อธิกรณสมโถ, สพฺพสงฺขารสมโถติ. ตตฺถ อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ จิตฺเตกคฺคตา จิตฺตสมโถ ¶ นาม. ตฺหิ อาคมฺม จิตฺตจลนํ จิตฺตวิปฺผนฺทิตํ สมฺมติ วูปสมฺมติ, ตสฺมา โส จิตฺตสมโถติ วุจฺจติ. สมฺมุขาวินยาทิสตฺตวิโธ สมโถ อธิกรณสมโถ นาม. ตฺหิ อาคมฺม ตานิ ตานิ อธิกรณานิ สมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา โส อธิกรณสมโถติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน สพฺเพ สงฺขารา นิพฺพานํ อาคมฺม สมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา ตํ สพฺพสงฺขารสมโถติ วุจฺจติ. อิมสฺมึ อตฺเถ จิตฺตสมโถ อธิปฺเปโต. สมาธิลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สมาธินฺทฺริยํ. อุทฺธจฺเจ น กมฺปตีติ สมาธิพลํ. สมฺมาสมาธีติ ยาถาวสมาธิ นิยฺยานิกสมาธิ กุสลสมาธิ.
๑๒. สทฺธินฺทฺริยนิทฺเทเส ¶ พุทฺธาทิคุณานํ สทฺทหนวเสน สทฺธา. พุทฺธาทีนิ วา รตนานิ สทฺทหติ ปตฺติยายตีติ สทฺธา. สทฺทหนาติ สทฺทหนากาโร. พุทฺธาทีนํ คุเณ โอคาหติ, ภินฺทิตฺวา วิย อนุปวิสตีติ โอกปฺปนา. พุทฺธาทีนํ คุเณสุ เอตาย สตฺตา อติวิย ปสีทนฺติ, สยํ วา อภิปฺปสีทตีติ อภิปฺปสาโท. อิทานิ ยสฺมา สทฺธินฺทฺริยาทีนํ สมาสปทานํ วเสน อฺสฺมึ ปริยาเย อารทฺเธ อาทิปทํ คเหตฺวาว ปทภาชนํ กรียติ – อยํ อภิธมฺเม ธมฺมตา – ตสฺมา ปุน สทฺธาติ วุตฺตํ. ยถา วา อิตฺถิยา อินฺทฺริยํ อิตฺถินฺทฺริยํ, น ตถา อิทํ. อิทํ ปน สทฺธาว อินฺทฺริยํ สทฺธินฺทฺริยนฺติ. เอวํ สมานาธิกรณภาวาปนตฺถมฺปิ ปุน สทฺธาติ วุตฺตํ. เอวํ สพฺพปทนิทฺเทเสสุ อาทิปทสฺส ปุน วจเน ปโยชนํ เวทิตพฺพํ. อธิโมกฺขลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สทฺธินฺทฺริยํ. อสทฺธิเย น กมฺปตีติ สทฺธาพลํ.
๑๓. วีริยินฺทฺริยนิทฺเทเส ¶ เจตสิโกติ อิทํ วีริยสฺส นิยมโต เจตสิกภาวทีปนตฺถํ วุตฺตํ. อิทฺหิ วีริยํ ‘‘ยทปิ, ภิกฺขเว, กายิกํ วีริยํ ตทปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค, ยทปิ เจตสิกํ วีริยํ ตทปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโคติ. อิติหิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๓) เอวมาทีสุ สุตฺเตสุ จงฺกมาทีนิ กโรนฺตสฺส อุปฺปนฺนตฺตา ‘กายิก’นฺติ วุจฺจมานมฺปิ กายวิฺาณํ วิย กายิกํ นาม นตฺถิ, เจตสิกเมว ปเนตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘เจตสิโก’ติ วุตฺตํ. วีริยารมฺโภติ วีริยสงฺขาโต อารมฺโภ. อิมินา เสสารมฺเภ ปฏิกฺขิปติ. อยฺหิ ‘อารมฺภ’-สทฺโท กมฺเม อาปตฺติยํ กิริยายํ วีริเย หึสาย วิโกปเนติ อเนเกสุ อตฺเถสุ อาคโต.
‘‘ยํกิฺจิ ¶ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ อารมฺภปจฺจยา;
อารมฺภานํ นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว’’ติ. (สุ. นิ. ๗๔๙);
เอตฺถ หิ กมฺมํ ‘อารมฺโภ’ติ อาคตํ. ‘‘อารมฺภติ จ วิปฺปฏิสารี จ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๔๒; ปุ. ป. ๑๙๑) เอตฺถ อาปตฺติ. ‘‘มหายฺา มหารมฺภา น เต โหนฺติ มหปฺผลา’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๙; สํ. นิ. ๑.๑๒๐) เอตฺถ ยูปุสฺสาปนาทิกิริยา. ‘‘อารมฺภถ ¶ นิกฺกมถ ยฺุชถ พุทฺธสาสเน’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕) เอตฺถ วีริยํ. ‘‘สมณํ โคตมํ อุทฺทิสฺส ปาณํ อารภนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๕๑-๕๒) เอตฺถ หึสา. ‘‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐; ม. นิ. ๑.๒๙๓) เอตฺถ เฉทนภฺชนาทิกํ วิโกปนํ. อิธ ปน วีริยเมว อธิปฺเปตํ. เตนาห – ‘วีริยารมฺโภติ วีริยสงฺขาโต อารมฺโภ’ติ. วีริยฺหิ อารมฺภนกวเสน อารมฺโภติ วุจฺจติ. อิทมสฺส สภาวปทํ. โกสชฺชโต นิกฺขมนวเสน นิกฺกโม. ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนวเสน ปรกฺกโม. อุคฺคนฺตฺวา ยมนวเสน อุยฺยาโม. พฺยายมนวเสน วายาโม. อุสฺสาหนวเสน อุสฺสาโห. อธิมตฺตุสฺสาหนวเสน อุสฺโสฬฺหี. ถิรภาวฏฺเน ถาโม. จิตฺตเจตสิกานํ ธารณวเสน อวิจฺเฉทโต วา ปวตฺตนวเสน กุสลสนฺตานํ ธาเรตีติ ธิติ.
อปโร นโย – นิกฺกโม เจโส กามานํ ปนุทนาย, ปรกฺกโม เจโส พนฺธนจฺเฉทาย, อุยฺยาโม เจโส โอฆนิตฺถรณาย, วายาโม เจโส ปารงฺคมนฏฺเน, อุสฺสาโห เจโส ปุพฺพงฺคมฏฺเน, อุสฺโสฬฺหี ¶ เจโส อธิมตฺตฏฺเน, ถาโม เจโส ปลิฆุคฺฆาฏนตาย, ธิติ เจโส อวฏฺิติการิตายาติ.
‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตู’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๔; สํ. นิ. ๒.๒๒, ๒๓๗; อ. นิ. ๒.๕; มหานิ. ๑๙๖; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๕๔) เอวํ ปวตฺติกาเล อสิถิลปรกฺกมวเสน อสิถิลปรกฺกมตา; ถิรปรกฺกโม, ทฬฺหปรกฺกโมติ อตฺโถ. ยสฺมา ปเนตํ วีริยํ กุสลกมฺมกรณฏฺาเน ฉนฺทํ น นิกฺขิปติ, ธุรํ น นิกฺขิปติ, น โอตาเรติ, น วิสฺสชฺเชติ, อโนสกฺกิตมานสตํ อาวหติ, ตสฺมา อนิกฺขิตฺตฉนฺทตา อนิกฺขิตฺตธุรตาติ วุตฺตํ. ยถา ปน ตชฺชาติเก อุทกสมฺภินฺนฏฺาเน ธุรวาหโคณํ คณฺหถาติ วทนฺติ ¶ , โส ชณฺณุนา ภูมึ อุปฺปีเฬตฺวาปิ ธุรํ วหติ, ภูมิยํ ปติตุํ น เทติ, เอวเมว วีริยํ กุสลกมฺมกรณฏฺาเน ธุรํ อุกฺขิปติ ปคฺคณฺหาติ, ตสฺมา ธุรสมฺปคฺคาโหติ วุตฺตํ. ปคฺคหลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ วีริยินฺทฺริยํ. โกสชฺเช ¶ น กมฺปตีติ วีริยพลํ. ยาถาวนิยฺยานิกกุสลวายามตาย สมฺมาวายาโม.
๑๔. สตินฺทฺริยนิทฺเทเส สรณกวเสน สติ. อิทํ สติยา สภาวปทํ. ปุนปฺปุนํ สรณโต อนุสฺสรณวเสน อนุสฺสติ. อภิมุขํ คนฺตฺวา วิย สรณโต ปฏิสรณวเสน ปฏิสฺสติ. อุปสคฺควเสน วา วฑฺฒิตมตฺตเมตํ. สรณากาโร สรณตา. ยสฺมา ปน สรณตาติ ติณฺณํ สรณานมฺปิ นามํ, ตสฺมา ตํ ปฏิเสเธตุํ ปุน สติคฺคหณํ กตํ. สติสงฺขาตา สรณตาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. สุตปริยตฺตสฺส ธารณภาวโต ธารณตา. อนุปวิสนสงฺขาเตน โอคาหนฏฺเน อปิลาปนภาโว อปิลาปนตา. ยถา หิ ลาพุกฏาหาทีนิ อุทเก ปฺลวนฺติ, น อนุปวิสนฺติ, น ตถา อารมฺมเณ สติ. อารมฺมณฺเหสา อนุปวิสติ, ตสฺมา อปิลาปนตาติ วุตฺตา. จิรกตจิรภาสิตานํ อสมฺมุสฺสนภาวโต อสมฺมุสฺสนตา. อุปฏฺานลกฺขเณ โชตนลกฺขเณ จ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. สติสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ. ปมาเท น กมฺปตีติ สติพลํ. ยาถาวสติ นิยฺยานิกสติ กุสลสตีติ สมฺมาสติ.
๑๖. ปฺินฺทฺริยนิทฺเทเส ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ปากฏกรณสงฺขาเตน ปฺาปนฏฺเน ปฺา. เตน เตน วา อนิจฺจาทินา ปกาเรน ธมฺเม ชานาตีติปิ ปฺา. อิทมสฺสา สภาวปทํ. ปชานนากาโร ปชานนา. อนิจฺจาทีนิ วิจินาตีติ วิจโย. ปวิจโยติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ ¶ . จตุสจฺจธมฺเม วิจินาตีติ ธมฺมวิจโย. อนิจฺจาทีนํ สลฺลกฺขณวเสน สลฺลกฺขณา. สาเยว ปุน อุปสคฺคนานตฺเตน อุปลกฺขณา ปจฺจุปลกฺขณาติ วุตฺตา. ปณฺฑิตสฺส ภาโว ปณฺฑิจฺจํ. กุสลสฺส ภาโว โกสลฺลํ. นิปุณสฺส ภาโว เนปฺุํ. อนิจฺจาทีนํ วิภาวนวเสน เวภพฺยา. อนิจฺจาทีนํ จินฺตนกวเสน จินฺตา. ยสฺส วา อุปฺปชฺชติ ตํ อนิจฺจาทีนิ จินฺตาเปตีติปิ จินฺตา. อนิจฺจาทีนิ อุปปริกฺขตีติ อุปปริกฺขา. ภูรีติ ปถวิยา ¶ นามํ. อยมฺปิ สณฺหฏฺเน วิตฺถฏฏฺเน จ ภูรี วิยาติ ภูรี. เตน วุตฺตํ – ‘‘ภูรี วุจฺจติ ปถวี ¶ . ตาย ปถวีสมาย วิตฺถฏาย วิปุลาย ปฺาย สมนฺนาคโตติ ภูริปฺโติ (มหานิ. ๒๗). อปิจ ปฺาย เอตํ อธิวจนํ ภูรี’’ติ. ภูเต อตฺเถ รมตีติปิ ภูรี. อสนิ วิย สิลุจฺจเย กิเลเส เมธติ หึสตีติ เมธา. ขิปฺปํ คหณธารณฏฺเน วา เมธา. ยสฺส อุปฺปชฺชติ ตํ อตฺตหิตปฏิปตฺติยํ สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ยาถาวลกฺขณปฏิเวเธ ปริเนตีติ ปริณายิกา. อนิจฺจาทิวเสน ธมฺเม วิปสฺสตีติ วิปสฺสนา. สมฺมา ปกาเรหิ อนิจฺจาทีนิ ชานาตีติ สมฺปชฺํ. อุปฺปถปฏิปนฺเน สินฺธเว วีถิอาโรปนตฺถํ ปโตโท วิย อุปฺปเถ ธาวนกํ กูฏจิตฺตํ วีถิอาโรปนตฺถํ วิชฺฌตีติ ปโตโท วิย ปโตโท. ทสฺสนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. ปฺาสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. อวิชฺชาย น กมฺปตีติ ปฺาพลํ. กิเลสจฺเฉทนฏฺเน ปฺาว สตฺถํ ปฺาสตฺถํ. อจฺจุคฺคตฏฺเน ปฺาว ปาสาโท ปฺาปาสาโท.
อาโลกนฏฺเน ปฺาว อาโลโก ปฺาอาโลโก. โอภาสนฏฺเน ปฺาว โอภาโส ปฺาโอภาโส. ปชฺโชตนฏฺเน ปฺาว ปชฺโชโต ปฺาปชฺโชโต. ปฺวโต หิ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส ทสสหสฺสิโลกธาตุ เอกาโลกา เอโกภาสา เอกปชฺโชตา โหติ, เตเนตํ วุตฺตํ. อิเมสุ ปน ตีสุ ปเทสุ เอกปเทนปิ เอตสฺมึ อตฺเถ สิทฺเธ, ยานิ ปเนตานิ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาโลกา. กตเม จตฺตาโร? จนฺทาโลโก สูริยาโลโก อคฺยาโลโก ปฺาโลโก. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาโลกา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ จตุนฺนํ อาโลกานํ ยทิทํ ปฺาโลโก’’. ตถา ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, โอภาสา…เป… จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปชฺโชตา’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๔๔) สตฺตานํ อชฺฌาสยวเสน สุตฺตานิ เทสิตานิ, ตทนุรูเปเนว อิธาปิ เทสนา กตา. อตฺโถ หิ อเนเกหิ อากาเรหิ วิภชฺชมาโน สุวิภตฺโต โหติ. อฺถา จ อฺโ พุชฺฌติ, อฺถา จ อฺโติ.
รติกรณฏฺเน ปน รติทายกฏฺเน รติชนกฏฺเน จิตฺตีกตฏฺเน ทุลฺลภปาตุภาวฏฺเน อตุลฏฺเน ¶ อโนมสตฺตปริโภคฏฺเน จ ปฺาว รตนํ ปฺารตนํ. น เตน สตฺตา มุยฺหนฺติ, สยํ วา อารมฺมเณ น มุยฺหตีติ ¶ อโมโห. ธมฺมวิจยปทํ วุตฺตตฺถเมว. กสฺมา ปเนตํ ปุน วุตฺตนฺติ? อโมหสฺส โมหปฏิปกฺขภาวทีปนตฺถํ ¶ . เตเนตํ ทีเปติ – ยฺวายํ อโมโห โส น เกวลํ โมหโต อฺโ ธมฺโม, โมหสฺส ปน ปฏิปกฺโข, ธมฺมวิจยสงฺขาโต อโมโห นาม อิธ อธิปฺเปโตติ. สมฺมาทิฏฺีติ ยาถาวนิยฺยานิกกุสลทิฏฺิ.
๑๙. ชีวิตินฺทฺริยนิทฺเทเส โย เตสํ อรูปีนํ ธมฺมานํ อายูติ เตสํ สมฺปยุตฺตกานํ อรูปธมฺมานํ โย อายาปนฏฺเน อายุ, ตสฺมิฺหิ สติ อรูปธมฺมา อยนฺติ คจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา อายูติ วุจฺจติ. อิทมสฺส สภาวปทํ. ยสฺมา ปเนเต ธมฺมา อายุสฺมึเยว สติ ติฏฺนฺติ ยเปนฺติ ยาเปนฺติ อิริยนฺติ วตฺตนฺติ ปาลยนฺติ, ตสฺมา ิตีติอาทีนิ วุตฺตานิ. วจนตฺโถ ปเนตฺถ – เอตาย ติฏฺนฺตีติ ิติ. ยเปนฺตีติ ยปนา. ตถา ยาปนา. เอวํ พุชฺฌนฺตานํ ปน วเสน ปุริมปเท รสฺสตฺตํ กตํ. เอตาย อิริยนฺตีติ อิริยนา. วตฺตนฺตีติ วตฺตนา. ปาลยนฺตีติ ปาลนา. ชีวนฺติ เอเตนาติ ชีวิตํ. อนุปาลนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ ชีวิตินฺทฺริยํ.
๓๐. หิริพลนิทฺเทเส ยํ ตสฺมึ สมเยติ เยน ธมฺเมน ตสฺมึ สมเย. ลิงฺควิปลฺลาสํ วา กตฺวา โย ธมฺโม ตสฺมึ สมเยติปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. หิริยิตพฺเพนาติ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ. หิริยิตพฺพยุตฺตกํ กายทุจฺจริตาทิธมฺมํ หิริยติ ชิคุจฺฉตีติ อตฺโถ. ปาปกานนฺติ ลามกานํ. อกุสลานํ ธมฺมานนฺติ อโกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ. สมาปตฺติยาติ อิทมฺปิ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ. เตสํ ธมฺมานํ สมาปตฺตึ ปฏิลาภํ สมงฺคีภาวํ หิริยติ ชิคุจฺฉตีติ อตฺโถ.
๓๑. โอตฺตปฺปพลนิทฺเทเส โอตฺตปฺปิตพฺเพนาติ เหตฺวตฺเถ กรณวจนํ. โอตฺตปฺปิตพฺพยุตฺตเกน โอตฺตปฺปสฺส เหตุภูเตน กายทุจฺจริตาทินา วุตฺตปฺปการาย จ สมาปตฺติยา โอตฺตปฺปสฺส เหตุภูตาย โอตฺตปฺปติ, ภายตีติ อตฺโถ.
๓๒. อโลภนิทฺเทเส อลุพฺภนกวเสน อโลโภ. น ลุพฺภตีติปิ อโลโภ. อิทมสฺส สภาวปทํ. อลุพฺภนาติ อลุพฺภนากาโร. โลภสมงฺคี ปุคฺคโล ลุพฺภิโต นาม. น ลุพฺภิโต อลุพฺภิโต ¶ ¶ . อลุพฺภิตสฺส ¶ ภาโว อลุพฺภิตตฺตํ. สาราคปฏิปกฺขโต น สาราโคติ อสาราโค. อสารชฺชนาติ อสารชฺชนากาโร. อสารชฺชิตสฺส ภาโว อสารชฺชิตตฺตํ. น อภิชฺฌายตีติ อนภิชฺฌา. อโลโภ กุสลมูลนฺติ อโลภสงฺขาตํ กุสลมูลํ. อโลโภ หิ กุสลานํ ธมฺมานํ มูลํ ปจฺจยฏฺเนาติ กุสลมูลํ. กุสลฺจ ตํ ปจฺจยฏฺเน มูลฺจาติปิ กุสลมูลํ.
๓๓. อโทสนิทฺเทเส อทุสฺสนกวเสน อโทโส. น ทุสฺสตีติปิ อโทโส. อิทมสฺส สภาวปทํ. อทุสฺสนาติ อทุสฺสนากาโร. อทุสฺสิตสฺส ภาโว อทุสฺสิตตฺตํ. พฺยาปาทปฏิปกฺขโต น พฺยาปาโทติ อพฺยาปาโท. โกธทุกฺขปฏิปกฺขโต น พฺยาปชฺโชติ อพฺยาปชฺโช. อโทสสงฺขาตํ กุสลมูลํ อโทโส กุสลมูลํ. ตํ วุตฺตตฺถเมว.
๔๐-๔๑. กายปสฺสทฺธินิทฺเทสาทีสุ ยสฺมา กาโยติ ตโย ขนฺธา อธิปฺเปตา, ตสฺมา เวทนากฺขนฺธสฺสาติอาทิ วุตฺตํ. ปสฺสมฺภนฺติ เอตาย เต ธมฺมา, วิคตทรถา ภวนฺติ, สมสฺสาสปฺปตฺตาติ ปสฺสทฺธิ. ทุติยปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. ปสฺสมฺภนาติ ปสฺสมฺภนากาโร. ทุติยปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. ปสฺสทฺธิสมงฺคิตาย ปฏิปฺปสฺสมฺภิตสฺส ขนฺธตฺตยสฺส ภาโว ปฏิปฺปสฺสมฺภิตตฺตํ. สพฺพปเทหิปิ ติณฺณํ ขนฺธานํ กิเลสทรถปฏิปฺปสฺสทฺธิ เอว กถิตา. ทุติยนเยน วิฺาณกฺขนฺธสฺส ทรถปฏิปฺปสฺสทฺธิ กถิตา.
๔๒-๔๓. ลหุตาติ ลหุตากาโร. ลหุปริณามตาติ ลหุปริณาโม เอเตสํ ธมฺมานนฺติ ลหุปริณามา; เตสํ ภาโว ลหุปริณามตา; สีฆํ สีฆํ ปริวตฺตนสมตฺถตาติ วุตฺตํ โหติ. อทนฺธนตาติ ครุภาวปฏิกฺเขปวจนเมตํ; อภาริยตาติ อตฺโถ. อวิตฺถนตาติ มานาทิกิเลสภารสฺส อภาเวน อถทฺธตา. เอวํ ปเมน ติณฺณํ ขนฺธานํ ลหุตากาโร กถิโต. ทุติเยน วิฺาณกฺขนฺธสฺส ลหุตากาโร กถิโต.
๔๔-๔๕. มุทุตาติ ¶ มุทุภาโว. มทฺทวตาติ มทฺทวํ วุจฺจติ สินิทฺธํ, มฏฺํ; มทฺทวสฺส ภาโว มทฺทวตา. อกกฺขฬตาติ อกกฺขฬภาโว. อกถินตาติ อกถินภาโว. อิธาปิ ปุริมนเยน ติณฺณํ ขนฺธานํ, ปจฺฉิมนเยน วิฺาณกฺขนฺธสฺส มุทุตากาโรว กถิโต.
๔๖-๔๗. กมฺมฺตาติ ¶ ¶ กมฺมนิ สาธุตา; กุสลกิริยาย วินิโยคกฺขมตาติ อตฺโถ. เสสปททฺวยํ พฺยฺชนวเสน วฑฺฒิตํ. ปททฺวเยนาปิ หิ ปุริมนเยน ติณฺณํ ขนฺธานํ, ปจฺฉิมนเยน วิฺาณกฺขนฺธสฺส กมฺมนิยากาโรว กถิโต.
๔๘-๔๙. ปคุณตาติ ปคุณภาโว, อนาตุรตา นิคฺคิลานตาติ อตฺโถ. เสสปททฺวยํ พฺยฺชนวเสน วฑฺฒิตํ. อิธาปิ ปุริมนเยน ติณฺณํ ขนฺธานํ, ปจฺฉิมนเยน วิฺาณกฺขนฺธสฺส นิคฺคิลานากาโรว กถิโต.
๕๐-๕๑. อุชุกตาติ อุชุกภาโว, อุชุเกนากาเรน ปวตฺตนตาติ อตฺโถ. อุชุกสฺส ขนฺธตฺตยสฺส วิฺาณกฺขนฺธสฺส จ ภาโว อุชุกตา. อชิมฺหตาติ โคมุตฺตวงฺกภาวปฏิกฺเขโป. อวงฺกตาติ จนฺทเลขาวงฺกภาวปฏิกฺเขโป. อกุฏิลตาติ นงฺคลโกฏิวงฺกภาวปฏิกฺเขโป.
โย หิ ปาปํ กตฺวาว ‘น กโรมี’ติ ภาสติ, โส คนฺตฺวา ปจฺโจสกฺกนตาย ‘โคมุตฺตวงฺโก’ นาม โหติ. โย ปาปํ กโรนฺโตว ‘ภายามหํ ปาปสฺสา’ติ ภาสติ, โส เยภุยฺเยน กุฏิลตาย ‘จนฺทเลขาวงฺโก’ นาม โหติ. โย ปาปํ กโรนฺโตว ‘โก ปาปสฺส น ภาเยยฺยา’ติ ภาสติ, โส นาติกุฏิลตาย ‘นงฺคลโกฏิวงฺโก’ นาม โหติ. ยสฺส วา ตีณิปิ กมฺมทฺวารานิ อสุทฺธานิ, โส ‘โคมุตฺตวงฺโก’ นาม โหติ. ยสฺส ยานิ กานิจิ ทฺเว, โส ‘จนฺทเลขาวงฺโก’ นาม. ยสฺส ยํกิฺจิ เอกํ, โส ‘นงฺคลโกฏิวงฺโก นาม.
ทีฆภาณกา ปนาหุ – เอกจฺโจ ภิกฺขุ สพฺพวเย เอกวีสติยา อเนสนาสุ, ฉสุ จ อโคจเรสุ จรติ, อยํ ‘โคมุตฺตวงฺโก’ นาม. เอโก ปมวเย จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปริปูเรติ, ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ, มชฺฌิมวยปจฺฉิมวเยสุ ปุริมสทิโส, อยํ ¶ ‘จนฺทเลขาวงฺโก’ นาม. เอโก ปมวเย มชฺฌิมวเยปิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปูเรติ, ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ, ปจฺฉิมวเย ปุริมสทิโส. อยํ ‘นงฺคลโกฏิวงฺโก’ นาม.
ตสฺส กิเลสวเสน เอวํ วงฺกสฺส ปุคฺคลสฺส ภาโว ชิมฺหตา วงฺกตา กุฏิลตาติ วุจฺจติ. ตาสํ ปฏิกฺเขปวเสน อชิมฺหตาทิกา วุตฺตา. ขนฺธาธิฏฺานาว ¶ เทสนา กตา. ขนฺธานฺหิ เอตา อชิมฺหตาทิกา, โน ปุคฺคลสฺสาติ. เอวํ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ ปุริมนเยน ¶ ติณฺณํ ขนฺธานํ, ปจฺฉิมนเยน วิฺาณกฺขนฺธสฺสาติ อรูปีนํ ธมฺมานํ นิกฺกิเลสตาย อุชุตากาโรว กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
อิทานิ ยฺวายํ เยวาปนาติ อปฺปนาวาโร วุตฺโต, เตน ธมฺมุทฺเทสวาเร ทสฺสิตานํ ‘เยวาปนกานํ’เยว สงฺเขปโต นิทฺเทโส กถิโต โหตีติ.
นิทฺเทสวารกถา นิฏฺิตา.
เอตฺตาวตา ปุจฺฉา สมยนิทฺเทโส ธมฺมุทฺเทโส อปฺปนาติ อุทฺเทสวาเร จตูหิ ปริจฺเฉเทหิ, ปุจฺฉา สมยนิทฺเทโส ธมฺมุทฺเทโส อปฺปนาติ นิทฺเทสวาเร จตูหิ ปริจฺเฉเทหีติ อฏฺปริจฺเฉทปฏิมณฺฑิโต ธมฺมววตฺถานวาโร นิฏฺิโตว โหติ.
โกฏฺาสวาโร
๕๘-๑๒๐. อิทานิ ตสฺมึ โข ปน สมเย จตฺตาโร ขนฺธา โหนฺตีติ สงฺคหวาโร อารทฺโธ. โส อุทฺเทสนิทฺเทสปฏินิทฺเทสานํ วเสน ติวิโธ โหติ. ตตฺถ ‘ตสฺมึ โข ปน สมเย จตฺตาโร ขนฺธา’ติ เอวมาทิโก อุทฺเทโส. กตเม ตสฺมึ สมเย จตฺตาโร ขนฺธา’ติอาทิโก นิทฺเทโส. กตโม ตสฺมึ สมเย เวทนากฺขนฺโธติอาทิโก ปฏินิทฺเทโสติ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ อุทฺเทสวาเร จตฺตาโร ขนฺธาติอาทโย เตวีสติ โกฏฺาสา โหนฺติ. เตสํ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ ปมํ มหากุสลจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, เย ตสฺมึ สมเย จิตฺตงฺควเสน อุปฺปนฺนา, เปตฺวา เยวาปนเก, ปาฬิอารุฬฺหา อติเรกปณฺณาสธมฺมา, เต สพฺเพปิ สงฺคยฺหมานา ราสฏฺเน จตฺตาโรว ขนฺธา โหนฺติ ¶ . เหฏฺา วุตฺเตน อายตนฏฺเน ทฺเว อายตนานิ โหนฺติ. สภาวฏฺเน สฺุตฏฺเน นิสฺสตฺตฏฺเน ทฺเวว ธาตุโย โหนฺติ. ปจฺจยสงฺขาเตน อาหารฏฺเน ตโยเวตฺถ ธมฺมา อาหารา โหนฺติ. อวเสสา โน อาหารา.
‘กึ ¶ ปเนเต อฺมฺํ วา ตํสมุฏฺานรูปสฺส วา ปจฺจยา น โหนฺตี’ติ? ‘โน น โหนฺติ. อิเม ปน ตถา จ โหนฺติ, อฺถา จาติ สมาเนปิ ปจฺจยตฺเต อติเรกปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา ¶ อาหาราติ วุตฺตา. กถํ? เอเตสุ หิ ผสฺสาหาโร, เยสํ ธมฺมานํ อวเสสา จิตฺตเจตสิกา ปจฺจยา โหนฺติ, เตสฺจ ปจฺจโย โหติ, ติสฺโส จ เวทนา อาหรติ. มโนสฺเจตนาหาโร เตสฺจ ปจฺจโย โหติ ตโย จ ภเว อาหรติ. วิฺาณาหาโร เตสฺจ ปจฺจโย โหติ ปฏิสนฺธินามรูปฺจ อาหรตี’ติ. ‘นนุ จ โส วิปาโกว อิทํ ปน กุสลวิฺาณ’นฺติ? ‘กิฺจาปิ กุสลวิฺาณํ, ตํสริกฺขตาย ปน วิฺาณาหาโร’ตฺเวว วุตฺตํ. อุปตฺถมฺภกฏฺเน วา อิเม ตโย อาหาราติ วุตฺตา. อิเม หิ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ, กพฬีการาหาโร วิย รูปกายสฺส, อุปตฺถมฺภกปจฺจยา โหนฺติ. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘อรูปิโน อาหารา สมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๕).
อปโร นโย – อชฺฌตฺติกสนฺตติยา วิเสสปจฺจยตฺตา กพฬีการาหาโร จ อิเม จ ตโย ธมฺมา อาหาราติ วุตฺตา. วิเสสปจฺจโย หิ กพฬีการาหารภกฺขานํ สตฺตานํ รูปกายสฺส กพฬีกาโร อาหาโร; นามกาเย เวทนาย ผสฺโส, วิฺาณสฺส มโนสฺเจตนา, นามรูปสฺส วิฺาณํ. ยถาห –
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อยํ กาโย อาหารฏฺิติโก, อาหารํ ปฏิจฺจ ติฏฺติ, อนาหาโร โน ติฏฺติ’’ (สํ. นิ. ๕.๑๘๓). ตถา ผสฺสปจฺจยา เวทนา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ (สํ. นิ. ๒.๑).
อธิปติยฏฺเน ปน อฏฺเว ธมฺมา อินฺทฺริยานิ โหนฺติ, น อวเสสา. เตน วุตฺตํ – อฏฺินฺทฺริยานิ โหนฺตีติ. อุปนิชฺฌายนฏฺเน ปฺเจว ธมฺมา ฌานงฺคานิ โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ปฺจงฺคิกํ ฌานํ โหตีติ.
นิยฺยานฏฺเน ¶ จ เหตฺวฏฺเน จ ปฺเจว ธมฺมา มคฺคงฺคานิ โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ปฺจงฺคิโก มคฺโค โหตีติ. กิฺจาปิ หิ อฏฺงฺคิโก อริยมคฺโค, โลกิยจิตฺเต ¶ ปน เอกกฺขเณ ติสฺโส วิรติโย น ลพฺภนฺติ, ตสฺมา ปฺจงฺคิโกติ วุตฺโต. ‘นนุ จ ‘‘ยถาคตมคฺโคติ โข, ภิกฺขุ, อริยสฺเสตํ อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๕) อิมสฺมึ สุตฺเต ‘ยเถว โลกุตฺตรมคฺโค อฏฺงฺคิโก, ปุพฺพภาควิปสฺสนามคฺโคปิ ตเถว อฏฺงฺคิโก’ติ ยถาคตวจเนน อิมสฺสตฺถสฺส ทีปิตตฺตา, โลกิยมคฺเคนาปิ อฏฺงฺคิเกน ภวิตพฺพนฺติ? น ภวิตพฺพํ ¶ . อยฺหิ สุตฺตนฺติกเทสนา นาม ปริยายเทสนา. เตนาห – ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๑). อยํ ปน นิปฺปริยายเทสนา. โลกิยจิตฺตสฺมิฺหิ ติสฺโส วิรติโย เอกกฺขเณ น ลพฺภนฺติ, ตสฺมา ‘ปฺจงฺคิโก’ว วุตฺโตติ.
อกมฺปิยฏฺเน ปน สตฺเตว ธมฺมา พลานิ โหนฺติ. มูลฏฺเน ตโยว ธมฺมา เหตู. ผุสนฏฺเน เอโกว ธมฺโม ผสฺโส. เวทยิตฏฺเน เอโกว ธมฺโม เวทนา. สฺชานนฏฺเน เอโกว ธมฺโม สฺา. เจตยนฏฺเน เอโกว ธมฺโม เจตนา. จิตฺตวิจิตฺตฏฺเน เอโกว ธมฺโม จิตฺตํ. ราสฏฺเน เจว เวทยิตฏฺเน จ เอโกว ธมฺโม เวทนากฺขนฺโธ. ราสฏฺเน จ สฺชานนฏฺเน จ เอโกว ธมฺโม สฺากฺขนฺโธ. ราสฏฺเน จ อภิสงฺขรณฏฺเน จ เอโกว ธมฺโม สงฺขารกฺขนฺโธ. ราสฏฺเน จ จิตฺตวิจิตฺตฏฺเน จ เอโกว ธมฺโม วิฺาณกฺขนฺโธ. วิชานนฏฺเน เจว เหฏฺา วุตฺตอายตนฏฺเน จ เอกเมว มนายตนํ. วิชานนฏฺเน จ อธิปติยฏฺเน จ เอกเมว มนินฺทฺริยํ. วิชานนฏฺเน จ สภาวสฺุตนิสฺสตฺตฏฺเน จ เอโกว ธมฺโม มโนวิฺาณธาตุ นาม โหติ, น อวเสสา. เปตฺวา ปน จิตฺตํ, ยถาวุตฺเตน อตฺเถน อวเสสา สพฺเพปิ ธมฺมา เอกํ ธมฺมายตนเมว, เอกา จ ธมฺมธาตุเยว โหตีติ.
เย วา ปน ตสฺมึ สมเยติ อิมินา ปน อปฺปนาวาเรน อิธาปิ เหฏฺา วุตฺตา เยวาปนกาว สงฺคหิตา. ยถา จ อิธ เอวํ สพฺพตฺถ ¶ . อิโต ปรฺหิ เอตฺตกมฺปิ น วิจารยิสฺสาม. นิทฺเทสปฏินิทฺเทสวาเรสุ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
สงฺคหวาโร นิฏฺิโต.
โกฏฺาสวาโรติปิ เอตสฺเสว นามํ.
สฺุตวาโร
๑๒๑-๑๔๕. อิทานิ ¶ ตสฺมึ โข ปน สมเย ธมฺมา โหนฺตีติ สฺุตวาโร อารทฺโธ. โส ¶ อุทฺเทสนิทฺเทสวเสน ทฺวิธา ววตฺถิโต. ตตฺถ อุทฺเทสวาเร ‘ธมฺมา โหนฺตี’ติ อิมินา สทฺธึ จตุวีสติ โกฏฺาสา โหนฺติ. สพฺพโกฏฺาเสสุ จ ‘จตฺตาโร ทฺเว ตโย’ติ คณนปริจฺเฉโท น วุตฺโต. กสฺมา? สงฺคหวาเร ปริจฺฉินฺนตฺตา. ตตฺถ ปริจฺฉินฺนธมฺมาเยว หิ อิธาปิ วุตฺตา. น เหตฺถ สตฺโต วา ภาโว วา อตฺตา วา อุปลพฺภติ. ธมฺมาว เอเต ธมฺมมตฺตา อสารา อปริณายกาติ อิมิสฺสา สฺุตาย ทีปนตฺถํ วุตฺตา. ตสฺมา เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ – ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ ปมํ มหากุสลจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตงฺควเสน อุปฺปนฺนา อติเรกปณฺณาสธมฺมา สภาวฏฺเน ธมฺมา เอว โหนฺติ. น อฺโ โกจิ สตฺโต วา ภาโว วา โปโส วา ปุคฺคโล วา โหตีติ. ตถา ราสฏฺเน ขนฺธาว โหนฺตีติ. เอวํ ปุริมนเยเนว สพฺพปเทสุ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. ยสฺมา ปน ฌานโต อฺํ ฌานงฺคํ, มคฺคโต วา อฺํ มคฺคงฺคํ นตฺถิ, ตสฺมา อิธ ‘ฌานํ โหติ, มคฺโค โหติ’ อิจฺเจว วุตฺตํ. อุปนิชฺฌายนฏฺเน หิ ฌานเมว เหตฺวฏฺเน มคฺโคว โหติ. น อฺโ โกจิ สตฺโต วา ภาโว วาติ. เอวํ สพฺพปเทสุ อตฺถโยชนา กาตพฺพา. นิทฺเทสวาโร อุตฺตานตฺโถเยวาติ.
สฺุตวาโร นิฏฺิโต.
นิฏฺิตา จ ตีหิ มหาวาเรหิ มณฺเฑตฺวา นิทฺทิฏฺสฺส
ปมจิตฺตสฺส อตฺถวณฺณนา.
ทุติยจิตฺตํ
๑๔๖. อิทานิ ทุติยจิตฺตาทีนิ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘กตเม ธมฺมา’’ติอาทิ อารทฺธํ. เตสุ สพฺเพสุปิ ปมจิตฺเต วุตฺตนเยเนว ¶ ตโย ตโย มหาวารา เวทิตพฺพา. น เกวลฺจ มหาวารา เอว, ปมจิตฺเต วุตฺตสทิสานํ สพฺพปทานํ อตฺโถปิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิโต ปรมฺปิ อปุพฺพปทวณฺณนํเยว กริสฺสาม. อิมสฺมึ ตาว ทุติยจิตฺตนิทฺเทเส สสงฺขาเรนาติ อิทเมว อปุพฺพํ. ตสฺสตฺโถ – สห สงฺขาเรนาติ สสงฺขาโร. เตน สสงฺขาเรน ¶ สปฺปโยเคน สอุปาเยน ปจฺจยคเณนาติ อตฺโถ. เยน หิ อารมฺมณาทินา ปจฺจยคเณน ปมํ มหาจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, เตเนว สปฺปโยเคน สอุปาเยน อิทํ อุปฺปชฺชติ.
ตสฺเสวํ ¶ อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา – อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ วิหารปจฺจนฺเต วสมาโน เจติยงฺคณสมฺมชฺชนเวลาย วา เถรุปฏฺานเวลาย วา สมฺปตฺตาย, ธมฺมสวนทิวเส วา สมฺปตฺเต ‘มยฺหํ คนฺตฺวา ปจฺจาคจฺฉโต อติทูรํ ภวิสฺสติ, น คมิสฺสามี’ติ จินฺเตตฺวา ปุน จินฺเตติ – ‘ภิกฺขุสฺส นาม เจติยงฺคณํ วา เถรุปฏฺานํ วา ธมฺมสวนํ วา อคนฺตุํ อสารุปฺปํ, คมิสฺสามี’ติ คจฺฉติ. ตสฺเสวํ อตฺตโน ปโยเคน วา, ปเรน วา วตฺตาทีนํ อกรเณ จ อาทีนวํ กรเณ จ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา โอวทิยมานสฺส, นิคฺคหวเสเนว วา ‘เอหิ, อิทํ กโรหี’ติ การิยมานสฺส อุปฺปนฺนํ กุสลจิตฺตํ สสงฺขาเรน ปจฺจยคเณน อุปฺปนฺนํ นาม โหตีติ.
ทุติยจิตฺตํ.
ตติยจิตฺตํ
๑๔๗-๑๔๘. ตติเย าเณน วิปฺปยุตฺตนฺติ าณวิปฺปยุตฺตํ. อิทมฺปิ หิ อารมฺมเณ หฏฺปหฏฺํ โหติ ปริจฺฉินฺทกาณํ ปเนตฺถ น โหติ. ตสฺมา อิทํ ทหรกุมารกานํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ‘อยํ เถโร มยฺห’นฺติ วนฺทนกาเล, เตเนว นเยน เจติยวนฺทนธมฺมสวนกาลาทีสุ จ อุปฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. ปาฬิยํ ปเนตฺถ สตฺตสุ าเนสุ ปฺา ปริหายติ. เสสํ ปากติกเมวาติ.
ตติยจิตฺตํ.
จตุตฺถจิตฺตํ
๑๔๙. จตุตฺถจิตฺเตปิ เอเสว นโย. อิทํ ปน สสงฺขาเรนาติ วจนโต ยทา มาตาปิตโร ทหรกุมารเก สีเส คเหตฺวา เจติยาทีนิ วนฺทาเปนฺติ เต จ อนตฺถิกา สมานาปิ หฏฺปหฏฺาว วนฺทนฺติ. เอวรูเป กาเล ลพฺภตีติ เวทิตพฺพํ.
จตุตฺถจิตฺตํ.
ปฺจมจิตฺตํ
๑๕๐. ปฺจเม ¶ ¶ อุเปกฺขาสหคตนฺติ อุเปกฺขาเวทนาย สมฺปยุตฺตํ ¶ . อิทฺหิ อารมฺมเณ มชฺฌตฺตํ โหติ. ปริจฺฉินฺทกาณํ ปเนตฺถ โหติเยว. ปาฬิยํ ปเนตฺถ ฌานจตุกฺเก อุเปกฺขา โหตีติ อินฺทฺริยฏฺเก อุเปกฺขินฺทฺริยํ โหตีติ วตฺวา สพฺเพสมฺปิ เวทนาทิปทานํ นิทฺเทเส สาตาสาตสุขทุกฺขปฏิกฺเขปวเสน เทสนํ กตฺวา อทุกฺขมสุขเวทนา กถิตา. ตสฺสา มชฺฌตฺตลกฺขเณ อินฺทตฺตกรณวเสน อุเปกฺขินฺทฺริยภาโว เวทิตพฺโพ. ปทปฏิปาฏิยา จ เอกสฺมึ าเน ปีติ ปริหีนา. ตสฺมา จิตฺตงฺควเสน ปาฬิอารุฬฺหา ปฺจปณฺณาเสว ธมฺมา โหนฺติ. เตสํ วเสน สพฺพโกฏฺาเสสุ สพฺพวาเรสุ จ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ปฺจมจิตฺตํ.
ฉฏฺจิตฺตาทิ
๑๕๖-๙. ฉฏฺสตฺตมอฏฺมานิ ทุติยตติยจตุตฺเถสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เกวลฺหิ อิเมสุ เวทนาปริวตฺตนฺเจว ปีติปริหานฺจ โหติ. เสสํ สทฺธึ อุปฺปตฺตินเยน ตาทิสเมว. กรุณามุทิตา ปริกมฺมกาเลปิ หิ อิเมสํ อุปฺปตฺติ มหาอฏฺกถายํ อนฺุาตา เอว. อิมานิ อฏฺ กามาวจรกุสลจิตฺตานิ นาม.
ปฺุกิริยวตฺถาทิกถา
ตานิ สพฺพานิปิ ทสหิ ปฺุกิริยวตฺถูหิ ทีเปตพฺพานิ. กถํ? ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ, สีลมยํ… ภาวนามยํ… อปจิติสหคตํ… เวยฺยาวจฺจสหคตํ… ปตฺตานุปฺปทานํ… อพฺภนุโมทนํ… เทสนามยํ… สวนมยํ… ทิฏฺิชุกมฺมํ ปฺุกิริยวตฺถูติ อิมานิ ทส ปฺุกิริยวตฺถูนิ นาม. ตตฺถ ทานเมว ทานมยํ. ปฺุกิริยา จ สา เตสํ เตสํ อานิสํสานํ วตฺถุ จาติ ปฺุกิริยวตฺถุ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ¶ จีวราทีสุ จตูสุ ปจฺจเยสุ, รูปาทีสุ วา ฉสุ อารมฺมเณสุ, อนฺนาทีสุ วา ทสสุ ทานวตฺถูสุ, ตํ ตํ เทนฺตสฺส เตสํ เตสํ อุปฺปาทนโต ปฏฺาย ¶ ปุพฺพภาเค, ปริจฺจาคกาเล, ปจฺฉา โสมนสฺสจิตฺเตน อนุสฺสรณกาเล จาติ ตีสุ กาเลสุ ปวตฺตา เจตนา ‘ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ’ นาม.
ปฺจสีลํ อฏฺสีลํ ทสสีลํ สมาทิยนฺตสฺส, ‘ปพฺพชิสฺสามี’ติ วิหารํ คจฺฉนฺตสฺส, ปพฺพชนฺตสฺส, ‘มโนรถํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ปพฺพชิโต วต’มฺหิ, ‘สาธุ สาธู’ติ อาวชฺเชนฺตสฺส, ปาติโมกฺขํ สํวรนฺตสฺส, จีวราทโย ปจฺจเย ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, อาปาถคเตสุ รูปาทีสุ จกฺขุทฺวาราทีนิ สํวรนฺตสฺส ¶ , อาชีวํ โสเธนฺตสฺส จ ปวตฺตา เจตนา ‘สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ’ นาม.
ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺเตน วิปสฺสนามคฺเคน จกฺขุํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส…เป… มนํ… รูเป…เป… ธมฺเม… จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณํ,… จกฺขุสมฺผสฺสํ…เป… มโนสมฺผสฺสํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ, …เป… รูปสฺํ…เป… ชรามรณํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส ปวตฺตา เจตนา, อฏฺตึสาย วา อารมฺมเณสุ อปฺปนํ อปฺปตฺตา สพฺพาปิ เจตนา ‘ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุ’ นาม.
มหลฺลกํ ปน ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนปตฺตจีวรปฏิคฺคหณอภิวาทนมคฺคสมฺปทานาทิวเสน ‘อปจิติสหคตํ’ เวทิตพฺพํ.
วุฑฺฒตรานํ วตฺตปฺปฏิปตฺติกรณวเสน คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา คาเม ภิกฺขํ สมาทเปตฺวา อุปสํหรณวเสน, ‘คจฺฉ ภิกฺขูนํ ปตฺตํ อาหรา’ติ สุตฺวา เวเคน คนฺตฺวา ปตฺตาหรณาทิวเสน จ กายเวยฺยาวฏิกกาเล ‘เวยฺยาวจฺจสหคตํ’ เวทิตพฺพํ.
ทานํ ทตฺวา คนฺธาทีหิ ปูชํ กตฺวา ‘อสุกสฺส นาม ปตฺติ โหตู’ติ วา, ‘สพฺพสตฺตานํ โหตู’ติ วา ปตฺตึ ททโต ‘ปตฺตานุปฺปทานํ’ เวทิตพฺพํ. กึ ปเนวํ ปตฺตึ ททโต ปฺุกฺขโย โหตีติ? น โหติ. ยถา ปน เอกํ ทีปํ ชาเลตฺวา ตโต ทีปสหสฺสํ ชาเลนฺตสฺส ปมทีโป ขีโณติ ¶ น วตฺตพฺโพ; ปุริมาโลเกน ปน สทฺธึ ปจฺฉิมาโลโก เอกโต หุตฺวา อติมหา โหติ. เอวเมว ปตฺตึ ททโต ปริหานิ นาม นตฺถิ. วุฑฺฒิเยว ปน โหตีติ เวทิตพฺโพ.
ปเรหิ ¶ ทินฺนาย ปตฺติยา วา อฺาย วา ปฺุกิริยาย ‘สาธุ สาธู’ติ อนุโมทนวเสน ‘อพฺภนุโมทนํ’ เวทิตพฺพํ.
เอโก ‘เอวํ มํ ธมฺมกถิโกติ มํ ชานิสฺสนฺตี’ติ อิจฺฉาย ตฺวา ลาภครุโก หุตฺวา เทเสติ, ตํ น มหปฺผลํ. เอโก อตฺตโน ปคุณํ ธมฺมํ อปจฺจาสีสมาโน วิมุตฺตายตนสีเสน ปเรสํ เทเสติ, อิทํ ‘เทสนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุ’ นาม.
เอโก สุณนฺโต ‘อิติ มํ สทฺโธติ ชานิสฺสนฺตี’ติ สุณาติ, ตํ น มหปฺผลํ. เอโก ‘เอวํ เม มหปฺผลํ ภวิสฺสตี’ติ หิตผรเณน มุทุจิตฺเตน ธมฺมํ สุณาติ, อิทํ ‘สวนมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ’ นาม.
ทิฏฺึ ¶ อุชุํ กโรนฺตสฺส ‘ทิฏฺิชุกมฺมํ ปฺุกิริยวตฺถุ’ นาม. ทีฆภาณกา ปนาหุ – ‘ทิฏฺิชุกมฺมํ สพฺเพสํ นิยมลกฺขณํ, ยํกิฺจิ ปฺุํ กโรนฺตสฺส หิ ทิฏฺิยา อุชุกภาเวเนว มหปฺผลํ โหตี’ติ.
เอเตสุ ปน ปฺุกิริยวตฺถูสุ ทานมยํ ตาว ‘ทานํ ทสฺสามี’ติ จินฺเตนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, ทานํ ททโต อุปฺปชฺชติ, ‘ทินฺนํ เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. เอวํ ปุพฺพเจตนํ มฺุจนเจตนํ อปรเจตนนฺติ ติสฺโสปิ เจตนา เอกโต กตฺวา ‘ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ’ นาม โหติ. สีลมยมฺปิ ‘สีลํ ปูเรสฺสามี’ติ จินฺเตนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, สีลปูรณกาเล อุปฺปชฺชติ, ‘ปูริตํ เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. ตา สพฺพาปิ เอกโต กตฺวา ‘สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ’ นาม โหติ…เป… ทิฏฺิชุกมฺมมฺปิ ‘ทิฏฺึ อุชุกํ กริสฺสามี’ติ จินฺเตนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, ทิฏฺึ อุชุํ กโรนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, ‘ทิฏฺิ เม อุชุกา กตา’ติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. ตา สพฺพาปิ เอกโต กตฺวา ‘ทิฏฺิชุกมฺมํ ปฺุกิริยวตฺถุ’ นาม โหติ.
สุตฺเต ¶ ปน ตีณิเยว ปฺุกิริยวตฺถูนิ อาคตานิ. เตสุ อิตเรสมฺปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. อปจิติเวยฺยาวจฺจานิ หิ สีลมเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ปตฺตานุปฺปทานอพฺภนุโมทนานิ ทานมเย. เทสนาสวนทิฏฺิชุกมฺมานิ ภาวนามเย. เย ปน ‘ทิฏฺิชุกมฺมํ สพฺเพสํ นิยมลกฺขณ’นฺติ วทนฺติ เตสํ ตํ ตีสุปิ สงฺคหํ คจฺฉติ. เอวเมตานิ สงฺเขปโต ตีณิ หุตฺวา วิตฺถารโต ทส โหนฺติ.
เตสุ ¶ ‘ทานํ ทสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโต อฏฺนฺนํ กามาวจรกุสลจิตฺตานํ อฺตเรเนว จินฺเตติ; ททมาโนปิ เตสํเยว อฺตเรน เทติ; ‘ทานํ เม ทินฺน’นฺติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘สีลํ ปูเรสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ; สีลํ ปูเรนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปูเรติ, ‘สีลํ เม ปูริต’นฺติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘ภาวนํ ภาเวสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ; ภาเวนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ภาเวติ; ‘ภาวนา เม ภาวิตา’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ.
‘เชฏฺาปจิติกมฺมํ ¶ กริสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ, กโรนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน กโรติ, ‘กตํ เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘กายเวยฺยาวฏิกกมฺมํ กริสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ, กโรนฺโตปิ, ‘กตํ เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘ปตฺตึ ทสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ, ททนฺโตปิ, ‘ทินฺนํ เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ, ‘ปตฺตึ วา เสสกุสลํ วา อนุโมทิสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ; อนุโมทนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน อนุโมทติ, ‘อนุโมทิตํ เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘ธมฺมํ เทเสสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ, เทเสนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน เทเสติ, ‘เทสิโต เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘ธมฺมํ โสสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ, สุณนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน สุณาติ, ‘สุโต เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘ทิฏฺึ อุชุกํ กริสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ, อุชุํ กโรนฺโต ปน จตุนฺนํ าณสมฺปยุตฺตานํ อฺตเรน กโรติ, ‘ทิฏฺิ เม อุชุกา กตา’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโต อฏฺนฺนํ อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ.
อิมสฺมึ ¶ าเน จตฺตาริ อนนฺตานิ นาม คหิตานิ. จตฺตาริ หิ อนนฺตานิ – อากาโส อนนฺโต, จกฺกวาฬานิ อนนฺตานิ, สตฺตนิกาโย อนนฺโต, พุทฺธฺาณํ ¶ อนนฺตํ. อากาสสฺส หิ ปุรตฺถิมาย ทิสาย วา ปจฺฉิมุตฺตรทกฺขิณาสุ วา เอตฺตกานิ วา โยชนสตานิ เอตฺตกานิ วา โยชนสหสฺสานีติ ปริจฺเฉโท นตฺถิ. สิเนรุมตฺตมฺปิ อโยกูฏํ ปถวึ ทฺวิธา กตฺวา เหฏฺา ขิตฺตํ ภสฺเสเถว, โน ปติฏฺํ ลเภถ, เอวํ อากาสํ อนนฺตํ นาม.
จกฺกวาฬานมฺปิ สเตหิ วา สหสฺเสหิ วา ปริจฺเฉโท นตฺถิ. สเจปิ หิ อกนิฏฺภวเน นิพฺพตฺตา, ทฬฺหถามธนุคฺคหสฺส ลหุเกน สเรน ติริยํ ตาลจฺฉายํ อติกฺกมนมตฺเตน กาเลน จกฺกวาฬสตสหสฺสํ อติกฺกมนสมตฺเถน ชเวน สมนฺนาคตา จตฺตาโร มหาพฺรหฺมาโน ¶ ‘จกฺกวาฬปริยนฺตํ ปสฺสิสฺสามา’ติ เตน ชเวน ธาเวยฺยุํ, จกฺกวาฬปริยนฺตํ อทิสฺวาว ปรินิพฺพาเยยฺยุํ, เอวํ จกฺกวาฬานิ อนนฺตานิ นาม.
เอตฺตเกสุ ปน จกฺกวาเฬสุ อุทกฏฺกถลฏฺกสตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ. เอวํ สตฺตนิกาโย อนนฺโต นาม. ตโตปิ พุทฺธาณํ อนนฺตเมว.
เอวํ อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ กามาวจรโสมนสฺสสหคตาณสมฺปยุตฺตอสงฺขาริกกุสลจิตฺตานิ เอกสฺส พหูนิ อุปฺปชฺชนฺติ. พหูนมฺปิ พหูนิ อุปฺปชฺชนฺติ. ตานิ สพฺพานิปิ กามาวจรฏฺเน โสมนสฺสสหคตฏฺเน าณสมฺปยุตฺตฏฺเน อสงฺขาริกฏฺเน เอกตฺตํ คจฺฉนฺติ. เอกเมว โสมนสฺสสหคตํ ติเหตุกํ อสงฺขาริกํ มหาจิตฺตํ โหติ. ตถา สสงฺขาริกํ มหาจิตฺตํ…เป… ตถา อุเปกฺขาสหคตํ าณวิปฺปยุตฺตํ ทฺวิเหตุกํ สสงฺขาริกจิตฺตนฺติ. เอวํ สพฺพานิปิ อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ อุปฺปชฺชมานานิ กามาวจรกุสลจิตฺตานิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ มหาตุลาย ตุลยมาโน วิย, ตุมฺเพ ปกฺขิปิตฺวา มินมาโน วิย, สพฺพฺุตฺาเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘อฏฺเเวตานี’ติ สริกฺขฏฺเน อฏฺเว โกฏฺาเส กตฺวา ทสฺเสสิ.
ปุน อิมสฺมึ าเน ฉพฺพิเธน ปฺุายูหนํ นาม คหิตํ. ปฺฺุหิ อตฺถิ สยํการํ อตฺถิ ปรํการํ, อตฺถิ สาหตฺถิกํ อตฺถิ อาณตฺติกํ, อตฺถิ สมฺปชานกตํ อตฺถิ อสมฺปชานกตนฺติ.
ตตฺถ ¶ อตฺตโน ธมฺมตาย กตํ ‘สยํการํ’ นาม. ปรํ กโรนฺตํ ทิสฺวา กตํ ‘ปรํการํ’ นาม. สหตฺเถน กตํ ‘สาหตฺถิกํ’ นาม. อาณาเปตฺวา การิตํ ¶ ‘อาณตฺติกํ’ นาม. กมฺมฺจ ผลฺจ สทฺทหิตฺวา กตํ ‘สมฺปชานกตํ’ นาม. กมฺมมฺปิ ผลมฺปิ อชานิตฺวา กตํ ‘อสมฺปชานกตํ’ นาม. เตสุ สยํการํ กโรนฺโตปิ อิเมสํ อฏฺนฺนํ กุสลจิตฺตานํ อฺตเรเนว กโรติ. ปรํการํ กโรนฺโตปิ, สหตฺเถน กโรนฺโตปิ, อาณาเปตฺวา กโรนฺโตปิ อิเมสํ อฏฺนฺนํ กุสลจิตฺตานํ อฺตเรเนว กโรติ. สมฺปชานกรณํ ปน จตูหิ าณสมฺปยุตฺเตหิ โหติ. อสมฺปชานกรณํ จตูหิ าณวิปฺปยุตฺเตหิ.
อปราปิ อิมสฺมึ าเน จตสฺโส ทกฺขิณาวิสุทฺธิโย คหิตา – ปจฺจยานํ ธมฺมิกตา, เจตนามหตฺตํ, วตฺถุสมฺปตฺติ, คุณาติเรกตาติ. ตตฺถ ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนา ปจฺจยา ‘ธมฺมิกา’ นาม. สทฺทหิตฺวา ¶ โอกปฺเปตฺวา ททโต ปน ‘เจตนามหตฺตํ’ นาม โหติ. ขีณาสวภาโว ‘วตฺถุสมฺปตฺติ’ นาม. ขีณาสวสฺเสว นิโรธา วุฏฺิตภาโว ‘คุณาติเรกตา’ นาม. อิมานิ จตฺตาริ สโมธาเนตฺวา ทาตุํ สกฺโกนฺตสฺส กามาวจรํ กุสลํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. ปุณฺณกเสฏฺิกากวลิยสุมนมาลาการาทีนํ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๒๒๕ ปุณฺณทาสีวตฺถุ) (ธ. ป. อฏฺ. ๑.๖๗ สุมนมาลาการวตฺถุ) วิย.
สงฺเขปโต ปเนตํ สพฺพมฺปิ กามาวจรกุสลจิตฺตํ ‘จิตฺต’นฺติ กริตฺวา จิตฺตวิจิตฺตฏฺเน เอกเมว โหติ. เวทนาวเสน โสมนสฺสสหคตํ อุเปกฺขาสหคตนฺติ ทุวิธํ โหติ. าณวิภตฺติเทสนาวเสน จตุพฺพิธํ โหติ. โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ มหาจิตฺตฺหิ อุเปกฺขาสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ มหาจิตฺตฺจ าณสมฺปยุตฺตฏฺเน อสงฺขาริกฏฺเน จ เอกเมว โหติ. ตถา าณสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ, าณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ, าณวิปฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกฺจาติ. เอวํ าณวิภตฺติเทสนาวเสน จตุพฺพิเธ ปเนตสฺมึ อสงฺขารสสงฺขารวิภตฺติโต จตฺตาริ อสงฺขาริกานิ จตฺตาริ สสงฺขาริกานีติ อฏฺเว กุสลจิตฺตานิ โหนฺติ. ตานิ ยาถาวโต ตฺวา ภควา สพฺพฺู คณีวโร มุนิเสฏฺโ อาจิกฺขติ เทเสติ ปฺเปติ ปฏฺเปติ วิวรติ วิภชติ อุตฺตานีกโรตีติ.
อฏฺสาลินิยา ธมฺมสงฺคหฏฺกถาย
กามาวจรกุสลนิทฺเทโส สมตฺโต.
รูปาวจรกุสลวณฺณนา
จตุกฺกนโย ปมชฺฌานํ
๑๖๐. อิทานิ ¶ ¶ รูปาวจรกุสลํ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตีติ รูปํ วุจฺจติ รูปภโว. อุปปตฺตีติ นิพฺพตฺติ ชาติ สฺชาติ. มคฺโคติ อุปาโย. วจนตฺโถ ปเนตฺถ – ตํ อุปปตฺตึ มคฺคติ คเวสติ ชเนติ นิปฺผาเทตีติ มคฺโค. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เยน มคฺเคน รูปภเว อุปปตฺติ โหติ นิพฺพตฺติ ชาติ สฺชาติ, ตํ มคฺคํ ภาเวตีติ. กึ ปเนเตน นิยมโต รูปภเว อุปปตฺติ โหตีติ? น โหติ. ‘‘สมาธึ, ภิกฺขเว, ภาเวถ, สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕; ๔.๙๙; ๕.๑๐๗๑; เนตฺติ. ๔๐; มิ. ป. ๒.๑.๑๕) เอวํ วุตฺเตน หิ นิพฺเพธภาคิเยน รูปภวาติกฺกโมปิ โหติ. รูปูปปตฺติยา ปน อิโต อฺโ มคฺโค นาม ¶ นตฺถิ, เตน วุตฺตํ ‘รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตี’ติ. อตฺถโต จายํ มคฺโค นาม เจตนาปิ โหติ, เจตนาย สมฺปยุตฺตธมฺมาปิ, ตทุภยมฺปิ. ‘‘นิรยฺจาหํ, สาริปุตฺต, ปชานามิ นิรยคามิฺจ มคฺค’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๕๓) หิ เอตฺถ เจตนา มคฺโค นาม.
‘‘สทฺธา หิริยํ กุสลฺจ ทานํ, ธมฺมา เอเต สปฺปุริสานุยาตา;
เอตฺหิ มคฺคํ ทิวิยํ วทนฺติ, เอเตน หิ คจฺฉติ เทวโลก’’นฺติ. (อ. นิ. ๘.๓๒);
เอตฺถ เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมา มคฺโค นาม. ‘‘อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค, อยํ ปฏิปทา’’ติ สงฺขารุปปตฺติสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๖๑ อาทโย) เจตนาปิ เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ มคฺโค นาม. อิมสฺมึ ปน าเน ‘ฌาน’นฺติ วจนโต เจตนาสมฺปยุตฺตา อธิปฺเปตา. ยสฺมา ปน ฌานเจตนา ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒติ, ตสฺมา เจตนาปิ เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ วฏฺฏนฺติเยว.
ภาเวตีติ ชเนติ อุปฺปาเทติ วฑฺเฒติ. อยํ ตาว อิธ ภาวนาย อตฺโถ. อฺตฺถ ปน อุปสคฺควเสน สมฺภาวนา ปริภาวนา วิภาวนาติ เอวํ อฺถาปิ อตฺโถ โหติ. ตตฺถ ‘‘อิธุทายิ มม สาวกา อธิสีเล สมฺภาเวนฺติ – สีลวา สมโณ โคตโม, ปรเมน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต’’ติ ¶ ¶ (ม. นิ. ๒.๒๔๓) อยํ สมฺภาวนา นาม; โอกปฺปนาติ อตฺโถ. ‘‘สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส, สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา, ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๘๖) อยํ ปริภาวนา นาม; วาสนาติ อตฺโถ. ‘‘อิงฺฆ รูปํ วิภาเวหิ, เวทนํ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ วิภาเวหี’’ติ อยํ วิภาวนา นาม; อนฺตรธาปนาติ อตฺโถ. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา จตฺตาโร สติปฏฺาเน ภาเวนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๔๗), อยํ ปน อุปฺปาทนวฑฺฒนฏฺเน ภาวนา นาม. อิมสฺมิมฺปิ าเน อยเมว อธิปฺเปตา. เตน วุตฺตํ – ‘ภาเวตีติ ชเนติ อุปฺปาเทติ วฑฺเฒตี’ติ.
กสฺมา ปเนตฺถ, ยถา กามาวจรกุสลนิทฺเทเส ธมฺมปุพฺพงฺคมา เทสนา กตา ตถา อกตฺวา, ปุคฺคลปุพฺพงฺคมา ¶ กตาติ? ปฏิปทาย สาเธตพฺพโต. อิทฺหิ จตูสุ ปฏิปทาสุ อฺตราย สาเธตพฺพํ; น กามาวจรํ วิย วินา ปฏิปทาย อุปฺปชฺชติ. ปฏิปทา จ นาเมสา ปฏิปนฺนเก สติ โหตีติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ปุคฺคลปุพฺพงฺคมํ เทสนํ กโรนฺโต ‘รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตี’ติ อาห.
วิวิจฺเจว กาเมหีติ กาเมหิ วิวิจฺจิตฺวา, วินา หุตฺวา, อปกฺกมิตฺวา. โย ปนายเมตฺถ ‘เอว’-กาโร โส นิยมตฺโถติ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา จ นิยมตฺโถ, ตสฺมา ตสฺมึ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณสมเย อวิชฺชมานานมฺปิ กามานํ ตสฺส ปมชฺฌานสฺส ปฏิปกฺขภาวํ, กามปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคมํ ทีเปติ. กถํ? ‘วิวิจฺเจว กาเมหี’ติ เอวฺหิ นิยเม กริยมาเน อิทํ ปฺายติ – นูนิมสฺส กามา ปฏิปกฺขภูตา เยสุ สติ อิทํ น ปวตฺตติ, อนฺธกาเร สติ ปทีโปภาโส วิย? เตสํ ปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคโม โหติ โอริมตีรปริจฺจาเคน ปาริมตีรสฺเสว. ตสฺมา นิยมํ กโรตีติ.
ตตฺถ สิยา – ‘กสฺมา ปเนส ปุพฺพปเทเยว วุตฺโต, น อุตฺตรปเท? กึ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจาปิ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’ติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ. ตํนิสฺสรณโต หิ ปุพฺพปเท เอส วุตฺโต. กามธาตุสมติกฺกมนโต ¶ หิ กามราคปฏิปกฺขโต จ อิทํ ฌานํ กามานเมว นิสฺสรณํ. ยถาห – ‘‘กามานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ (อิติวุ. ๗๒; ที. นิ. ๓.๓๕๓). อุตฺตรปเทปิ ปน, ยถา ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ ¶ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑) เอตฺถ ‘เอว’-กาโร อาเนตฺวา วุจฺจติ, เอวํ วตฺตพฺโพ. น หิ สกฺกา อิโต อฺเหิปิ นีวรณสงฺขาเตหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ, ตสฺมา ‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺเจว อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ เอวํ ปททฺวเยปิ เอส ทฏฺพฺโพ. ปททฺวเยปิ จ กิฺจาปิ วิวิจฺจาติ อิมินา สาธารณวจเนน ตทงฺควิเวกาทโย กายวิเวกาทโย จ สพฺเพปิ วิเวกา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ตถาปิ กายวิเวโก จิตฺตวิเวโก วิกฺขมฺภนวิเวโกติ ตโย เอว อิธ ทฏฺพฺพา.
กาเมหีติ อิมินา ปน ปเทน เย จ นิทฺเทเส ‘‘กตเม วตฺถุกามา? มนาปิยา รูปา’’ติอาทินา (มหานิ. ๑) นเยน วตฺถุกามา วุตฺตา, เย จ ตตฺเถว วิภงฺเค จ ‘‘ฉนฺโท กาโม, ราโค ¶ กาโม, ฉนฺทราโค กาโม; สงฺกปฺโป กาโม, ราโค กาโม, สงฺกปฺปราโค กาโม; อิเม วุจฺจนฺติ กามา’’ติ (มหานิ. ๑; วิภ. ๕๖๔) เอวํ กิเลสกามา วุตฺตา, เต สพฺเพปิ สงฺคหิตาอิจฺเจว ทฏฺพฺพา. เอวฺหิ สติ วิวิจฺเจว กาเมหีติ วตฺถุกาเมหิปิ วิวิจฺเจวาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน กายวิเวโก วุตฺโต โหติ.
วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ กิเลสกาเมหิ สพฺพากุสเลหิ วา วิวิจฺจาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน จิตฺตวิเวโก วุตฺโต โหติ. ปุริเมน เจตฺถ วตฺถุกาเมหิ วิเวกวจนโต เอว กามสุขปริจฺจาโค, ทุติเยน กิเลสกาเมหิ วิเวกวจนโต เนกฺขมฺมสุขปริคฺคโห วิภาวิโต โหติ. เอวํ วตฺถุกามกิเลสกามวิเวกวจนโตเยว จ เอเตสํ ปเมน สํกิเลสวตฺถุปฺปหานํ, ทุติเยน สํกิเลสปฺปหานํ; ปเมน โลลภาวสฺส เหตุปริจฺจาโค, ทุติเยน พาลภาวสฺส; ปเมน จ ปโยคสุทฺธิ, ทุติเยน อาสยโปสนํ วิภาวิตํ โหตีติ าตพฺพํ. เอส ตาว นโย ‘กาเมหี’ติ เอตฺถ วุตฺตกาเมสุ วตฺถุกามปกฺเข.
กิเลสกามปกฺเข ปน ‘ฉนฺโทติ จ ราโค’ติ จ เอวมาทีหิ อเนกเภโท กามจฺฉนฺโทเยว กาโมติ อธิปฺเปโต. โส จ อกุสลปริยาปนฺโนปิ ¶ สมาโน ‘‘ตตฺถ กตโม กามจฺฉนฺโท กาโม’’ติอาทินา นเยน วิภงฺเค (วิภ. ๕๖๔) ฌานปฏิปกฺขโต วิสุํ วุตฺโต. กิเลสกามตฺตา วา ปุริมปเท วุตฺโต, อกุสลปริยาปนฺนตฺตา ทุติยปเท. อเนกเภทโต จสฺส ‘กามโต’ติ อวตฺวา ‘กาเมหี’ติ วุตฺตํ. อฺเสมฺปิ จ ธมฺมานํ อกุสลภาเว วิชฺชมาเน ‘‘ตตฺถ กตเม อกุสลา ธมฺมา? กามจฺฉนฺโท’’ติอาทินา นเยน วิภงฺเค อุปริฌานงฺคปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต ¶ นีวรณาเนว วุตฺตานิ. นีวรณานิ หิ ฌานงฺคปจฺจนีกานิ. เตสํ ฌานงฺคาเนว ปฏิปกฺขานิ, วิทฺธํสกานิ, วิฆาตกานีติ วุตฺตํ โหติ. ตถา หิ ‘‘สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺส ปฏิปกฺโข, ปีติ พฺยาปาทสฺส, วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺส, สุขํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส, วิจาโร วิจิกิจฺฉายา’’ติ เปฏเก วุตฺตํ.
เอวเมตฺถ ‘วิวิจฺเจว กาเมหี’ติ อิมินา กามจฺฉนฺทสฺส วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหติ. ‘วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ อิมินา ปฺจนฺนมฺปิ นีวรณานํ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน ปเมน กามจฺฉนฺทสฺส, ทุติเยน เสสนีวรณานํ; ตถา ปเมน ตีสุ อกุสลมูเลสุ ปฺจกามคุณเภทวิสยสฺส โลภสฺส, ทุติเยน อาฆาตวตฺถุเภทาทิวิสยานํ ¶ โทสโมหานํ. โอฆาทีสุ วา ธมฺเมสุ ปเมน กาโมฆกามโยคกามาสวกามุปาทานอภิชฺฌากายคนฺถกามราคสํโยชนานํ, ทุติเยน อวเสสโอฆโยคาสวอุปาทานคนฺถสํโยชนานํ. ปเมน จ ตณฺหาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ, ทุติเยน อวิชฺชาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ. อปิจ ปเมน โลภสมฺปยุตฺตอฏฺจิตฺตุปฺปาทานํ, ทุติเยน เสสานํ จตุนฺนํ อกุสลจิตฺตุปฺปาทานํ วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ. อยํ ตาว ‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ เอตฺถ อตฺถปฺปกาสนา.
เอตฺตาวตา จ ปมสฺส ฌานสฺส ปหานงฺคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺปโยคงฺคํ ทสฺเสตุํ สวิตกฺกํ สวิจารนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เหฏฺา วุตฺตลกฺขณาทิวิภาเคน อปฺปนาสมฺปโยคโต รูปาวจรภาวปฺปตฺเตน วิตกฺเกน เจว วิจาเรน จ สห วตฺตติ. รุกฺโข วิย ปุปฺเผน จ ผเลน จาติ อิทํ ฌานํ สวิตกฺกํ สวิจารนฺติ วุจฺจติ. วิภงฺเค ปน ‘‘อิมินา จ วิตกฺเกน อิมินา จ วิจาเรน ¶ อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติอาทินา (วิภ. ๕๖๕) นเยน ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา กตา. อตฺโถ ปน ตตฺรปิ เอวเมว ทฏฺพฺโพ.
วิเวกชนฺติ – เอตฺถ วิวิตฺติ วิเวโก. นีวรณวิคโมติ อตฺโถ. วิวิตฺโตติ วา วิเวโก, นีวรณวิวิตฺโต ฌานสมฺปยุตฺตธมฺมราสีติ อตฺโถ. ตสฺมา วิเวกา, ตสฺมึ วา วิเวเก, ชาตนฺติ วิเวกชํ. ปีติสุขนฺติ – เอตฺถ ปีติสุขานิ เหฏฺา ปกาสิตาเนว. เตสุ ปน วุตฺตปฺปการาย ปฺจวิธาย ปีติยา ยา อปฺปนาสมาธิสฺส มูลํ หุตฺวา วฑฺฒมานา สมาธิสมฺปโยคํ คตา ผรณาปีติ – อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา ปีตีติ. อยฺจ ปีติ อิทฺจ สุขํ อสฺส ¶ ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน อตฺถีติ อิทํ ฌานํ ปีติสุขนฺติ วุจฺจติ. อถ วา ปีติ จ สุขฺจ ปีติสุขํ, ธมฺมวินยาทโย วิย. วิเวกชํ ปีติสุขมสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน, อตฺถีติ เอวมฺปิ วิเวกชํ ปีติสุขํ. ยเถว หิ ฌานํ เอวํ ปีติสุขมฺเปตฺถ วิเวกชเมว โหติ. ตฺจสฺส อตฺถิ. ตสฺมา เอกปเทเนว ‘วิเวกชํ ปีติสุข’นฺติ วตฺตุํ ยุชฺชติ. วิภงฺเค ปน ‘‘อิทํ สุขํ อิมาย ปีติยา สหคต’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตํ. อตฺโถ ปน ตตฺถาปิ เอวเมว ทฏฺพฺโพ.
ปมํ ¶ ฌานนฺติ – เอตฺถ คณนานุปุพฺพตา ปมํ. ปมํ อุปฺปนฺนนฺติ ปมํ. ปมํ สมาปชฺชิตพฺพนฺติปิ ปมํ. อิทํ ปน น เอกนฺตลกฺขณํ. จิณฺณวสีภาโว หิ อฏฺสมาปตฺติลาภี อาทิโต ปฏฺาย มตฺถกํ ปาเปนฺโตปิ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ. มตฺถกโต ปฏฺาย อาทึ ปาเปนฺโตปิ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ. อนฺตรนฺตรา โอกฺกมนฺโตปิ สกฺโกติ. เอวํ ปุพฺพุปฺปตฺติยฏฺเน ปน ปมํ นาม โหติ.
ฌานนฺติ ทุวิธํ ฌานํ – อารมฺมณูปนิชฺฌานํ ลกฺขณูปนิชฺฌานนฺติ. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย ปถวิกสิณาทิอารมฺมณํ อุปนิชฺฌายนฺตีติ อารมฺมณูปนิชฺฌานนฺติ สงฺขฺยํ คตา. วิปสฺสนามคฺคผลานิ ปน ลกฺขณูปนิชฺฌานํ นาม. ตตฺถ วิปสฺสนา อนิจฺจาทิลกฺขณสฺส อุปนิชฺฌานโต ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. วิปสฺสนาย กตกิจฺจสฺส มคฺเคน อิชฺฌนโต มคฺโค ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. ผลํ ปน นิโรธสจฺจํ ตถลกฺขณํ อุปนิชฺฌายตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ นาม. เตสุ อิมสฺมึ อตฺเถ อารมฺมณูปนิชฺฌานํ อธิปฺเปตํ. ตสฺมา อารมฺมณูปนิชฺฌานโต ปจฺจนีกชฺฌาปนโต วา ฌานนฺติ เวทิตพฺพํ.
อุปสมฺปชฺชาติ ¶ อุปคนฺตฺวา, ปาปุณิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปสมฺปาทยิตฺวา วา นิปฺผาเทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วิภงฺเค ปน ‘‘อุปสมฺปชฺชาติ ปมสฺส ฌานสฺส ลาโภ ปฏิลาโภ ปตฺติ สมฺปตฺติ ผุสนา สจฺฉิกิริยา อุปสมฺปทา’’ติ (วิภ. ๕๗๐) วุตฺตํ. ตสฺสาปิ เอวเมวตฺโถ ทฏฺพฺโพ. วิหรตีติ ตทนุรูเปน อิริยาปถวิหาเรน อิติวุตฺตปฺปการชฺฌานสมงฺคี หุตฺวา อตฺตภาวสฺส อิริยนํ วุตฺตึ ปาลนํ ยปนํ ยาปนํ จารํ วิหารํ อภินิปฺผาเทติ. วุตฺตฺเหตํ วิภงฺเค – ‘‘วิหรตีติ อิริยติ วตฺตติ ปาเลติ ยเปติ ยาเปติ จรติ วิหรติ, เตน วุจฺจติ วิหรตี’’ติ (วิภ. ๕๑๒, ๕๗๑).
ปถวิกสิณนฺติ ¶ เอตฺถ ปถวิมณฺฑลมฺปิ สกลฏฺเน ปถวิกสิณนฺติ วุจฺจติ. ตํ นิสฺสาย ปฏิลทฺธํ นิมิตฺตมฺปิ. ปถวิกสิณนิมิตฺเต ปฏิลทฺธชฺฌานมฺปิ. ตตฺถ อิมสฺมึ อตฺเถ ฌานํ ปถวีกสิณนฺติ เวทิตพฺพํ. ปถวิกสิณสงฺขาตํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ. อิมสฺมึ ปน ¶ ปถวิกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตุกาเมน กุลปุตฺเตน กึ กตฺตพฺพนฺติ? อาทิโต ตาว ปาติโมกฺขสํวรอินฺทฺริยสํวรอาชีวปาริสุทฺธิปจฺจยสนฺนิสฺสิตสงฺขาตานิ จตฺตาริ สีลานิ วิโสเธตฺวา สุปริสุทฺเธ สีเล ปติฏฺิเตน, ยฺวาสฺส อาวาสาทีสุ ทสสุ ปลิโพเธสุ ปลิโพโธ อตฺถิ, ตํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา กมฺมฏฺานทายกํ กลฺยาณมิตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปาฬิยา อาคเตสุ อฏฺตึสาย กมฺมฏฺาเนสุ อตฺตโน จริยานุกูลํ กมฺมฏฺานํ อุปปริกฺขนฺเตน สจสฺส อิทํ ปถวิกสิณํ อนุกูลํ โหติ, อิทเมว กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ฌานภาวนาย อนนุรูปํ วิหารํ ปหาย อนุรูเป วิหาเร วิหรนฺเตน ขุทฺทกปลิโพธุปจฺเฉทํ กตฺวา กสิณปริกมฺมนิมิตฺตานุรกฺขณสตฺตอสปฺปายปริวชฺชนสตฺตสปฺปายเสวนทสวิธอปฺปนาโกสลฺลปฺปเภทํ สพฺพํ ภาวนาวิธานํ อปริหาเปนฺเตน ฌานาธิคมตฺถาย ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๕๑ อาทโย) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยถา เจตฺถ เอวํ อิโต ปเรสุปิ. สพฺพกมฺมฏฺานานฺหิ ภาวนาวิธานํ สพฺพํ อฏฺกถานเยน คเหตฺวา วิสุทฺธิมคฺเค ¶ วิตฺถาริตํ. กึ เตน ตตฺถ ตตฺถ ปุน วุตฺเตนาติ น นํ ปุน วิตฺถารยาม. ปาฬิยา ปน เหฏฺา อนาคตํ อตฺถํ อปริหาเปนฺตา นิรนฺตรํ อนุปทวณฺณนเมว กริสฺสาม.
ตสฺมึ สมเยติ ตสฺมึ ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณสมเย. ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตีติ อิเม กามาวจรปมกุสลจิตฺเต วุตฺตปฺปการาย ปทปฏิปาฏิยา ฉปณฺณาส ธมฺมา โหนฺติ. เกวลฺหิ เต กามาวจรา, อิเม ภูมนฺตรวเสน มหคฺคตา รูปาวจราติ อยเมตฺถ วิเสโส. เสสํ ตาทิสเมว. เยวาปนกา ปเนตฺถ ฉนฺทาทโย จตฺตาโรว ลพฺภนฺติ. โกฏฺาสวารสฺุตวารา ปากติกา เอวาติ.
ปมํ.
ทุติยชฺฌานํ
๑๖๑-๑๖๒. ทุติยชฺฌานนิทฺเทเส ¶ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ ¶ วิตกฺกสฺส จ วิจารสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ วูปสมา, สมติกฺกมา; ทุติยชฺฌานกฺขเณ อปาตุภาวาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ทุติยชฺฌาเน สพฺเพปิ ปมชฺฌานธมฺมา น สนฺติ, อฺเเยว หิ ปมชฺฌาเน ผสฺสาทโย อฺเ อิธ, โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ อธิคโม โหตีติ ทีปนตฺถํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อชฺฌตฺตนฺติ อิธ – นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ. วิภงฺเค ปน ‘‘อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๗๓) เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ยสฺมา นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา อตฺตนิ ชาตํ, อตฺตโน สนฺตาเน นิพฺพตฺตนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
สมฺปสาทนนฺติ สมฺปสาทนํ วุจฺจติ สทฺธา. สมฺปสาทนโยคโต ฌานมฺปิ สมฺปสาทนํ, นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิย. ยสฺมา วา ตํ ฌานํ สมฺปสาทนสมนฺนาคตตฺตา วิตกฺกวิจารกฺโขภวูปสมเนน จ เจโต สมฺปสาทยติ, ตสฺมาปิ สมฺปสาทนนฺติ วุตฺตํ. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเป ‘สมฺปสาทนํ เจตโส’ติ เอวํ ปทสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปุริมสฺมึ ปน อตฺถวิกปฺเป ‘เจตโส’ติ เอตํ เอโกทิภาเวน สทฺธึ โยเชตพฺพํ.
ตตฺรายํ อตฺถโยชนา – เอโก อุเทตีติ เอโกทิ, วิตกฺกวิจาเรหิ อนชฺฌารุฬฺหตฺตา อคฺโค เสฏฺโ หุตฺวา อุเทตีติ อตฺโถ. เสฏฺโปิ ¶ หิ โลเก เอโกติ วุจฺจติ. วิตกฺกวิจารวิรหโต วา เอโก อสหาโย หุตฺวาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อถ วา สมฺปยุตฺตธมฺเม อุทายตีติ อุทิ. อุฏฺาเปตีติ อตฺโถ. เสฏฺฏฺเน เอโก จ โส อุทิ จาติ เอโกทิ. สมาธิสฺเสตํ อธิวจนํ. อิติ อิมํ เอโกทึ ภาเวติ วฑฺเฒตีติ อิทํ ทุติยชฺฌานํ เอโกทิภาวํ. โส ปนายํ เอโกทิ ยสฺมา เจตโส, น สตฺตสฺส, น ชีวสฺส, ตสฺมา เอตํ ‘เจตโส เอโกทิภาว’นฺติ วุตฺตํ.
‘นนุ จายํ สทฺธา ปมชฺฌาเนปิ อตฺถิ, อยฺจ เอโกทินามโก สมาธิ, อถ กสฺมา อิทเมว สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวฺจาติ วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – ‘อทฺุหิ ปมชฺฌานํ วิตกฺกวิจารกฺโขเภน วีจิตรงฺคสมากุลมิว ชลํ น สุปฺปสนฺนํ โหติ, ตสฺมา สติยาปิ สทฺธาย ¶ สมฺปสาทน’นฺติ ¶ น วุตฺตํ. น สุปฺปสนฺนตฺตา เอว เจตฺถ สมาธิปิ น สุฏฺุ ปากโฏ. ตสฺมา เอโกทิภาวนฺติปิ น วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน ฌาเน วิตกฺกวิจารปลิโพธาภาเวน ลทฺโธกาสา พลวตี สทฺธา, พลวสทฺธาสหายปฏิลาเภเนว สมาธิปิ ปากโฏ. ตสฺมา อิทเมว เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. วิภงฺเค ปน ‘‘สมฺปสาทนนฺติ ยา สทฺธา สทฺทหนา โอกปฺปนา อภิปฺปสาโท; เจตโส เอโกทิภาวนฺติ ยา จิตฺตสฺส ิติ…เป… สมฺมาสมาธี’’ติ (วิภ. ๕๗๔-๕๗๕) เอตฺตกเมว วุตฺตํ. เอวํ วุตฺเตน ปเนเตน สทฺธึ อยํ อตฺถวณฺณนา ยถา น วิรุชฺฌติ อฺทตฺถุ สํสนฺทติ เจว สเมติ จ, เอวํ เวทิตพฺพา.
อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ ภาวนาย ปหีนตฺตา เอตสฺมึ เอตสฺส วา วิตกฺโก นตฺถีติ อวิตกฺกํ. อิมินาว นเยน อวิจารํ. วิภงฺเคปิ วุตฺตํ – ‘‘อิติ อยฺจ วิตกฺโก อยฺจ วิจาโร สนฺตา โหนฺติ สมิตา วูปสนฺตา อตฺถงฺคตา อพฺภตฺถงฺคตา อปฺปิตา พฺยปฺปิตา โสสิตา วิโสสิตา พฺยนฺตีกตา, เตน วุจฺจติ อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ.
เอตฺถาห – นนุ จ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ อิมินาปิ อยมตฺโถ สิทฺโธ? อถ กสฺมา ปุน ‘วุตฺตํ อวิตกฺกํ อวิจาร’นฺติ? วุจฺจเต – เอวเมตํ, สิทฺโธวายมตฺโถ, น ปเนตํ ตทตฺถทีปกํ. นนุ อโวจุมฺห – ‘โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ ¶ สมธิคโม โหตีติ ทีปนตฺถํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ เอวํ วุตฺต’นฺติ.
อปิจ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ สมฺปสาทนํ, น กิเลสกาลุสิยสฺส; วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา เอโกทิภาวํ, น อุปจารชฺฌานมิว นีวรณปฺปหานา; น ปมชฺฌานมิว จ องฺคปาตุภาวาติ เอวํ สมฺปสาทนเอโกทิภาวานํ เหตุปริทีปกมิทํ วจนํ. ตถา วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ อวิตกฺกํ อวิจารํ, น ตติยจตุตฺถชฺฌานานิ วิย, จกฺขุวิฺาณาทีนิ วิย จ, อภาวาติ เอวํ อวิตกฺกอวิจารภาวสฺส เหตุปริทีปกฺจ, น วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกํ. วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกเมว ปน อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ อิทํ วจนํ, ตสฺมา ปุริมํ วตฺวาปิ ปุน วตฺตพฺพเมวาติ.
สมาธิชนฺติ ปมชฺฌานสมาธิโต สมฺปยุตฺตสมาธิโต วา ชาตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ กิฺจาปิ ¶ ¶ ปมมฺปิ สมฺปยุตฺตสมาธิโต ชาตํ, อถ โข อยเมว สมาธิ ‘สมาธี’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, วิตกฺกวิจารกฺโขภวิรเหน อติวิย อจลตฺตา สุปฺปสนฺนตฺตา จ. ตสฺมา อิมสฺส วณฺณภณนตฺถํ อิทเมว สมาธิชนฺติ วุตฺตํ. ปีติสุขนฺติ อิทํ วุตฺตนยเมว.
ทุติยนฺติ คณนานุปุพฺพตา ทุติยํ. อิทํ ทุติยํ สมาปชฺชตีติปิ ทุติยํ. ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตีติอาทีสุ ฌานปฺจเก วิตกฺกวิจารปทานิ มคฺคปฺจเก จ สมฺมาสงฺกปฺปปทํ ปริหีนํ. เตสํ วเสน สวิภตฺติกาวิภตฺติกปทวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. โกฏฺาสวาเรปิ ติวงฺคิกํ ฌานํ โหติ, จตุรงฺคิโก มคฺโค โหตีติ อาคตํ. เสสํ ปมชฺฌานสทิสเมวาติ.
ทุติยํ.
ตติยชฺฌานํ
๑๖๓. ตติยชฺฌานนิทฺเทเส ปีติยา จ วิราคาติ วิราโค นาม วุตฺตปฺปการาย ปีติยา ชิคุจฺฉนํ วา สมติกฺกโม วา. อุภินฺนํ ปน อนฺตรา ‘จ’-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. โส วูปสมํ วา สมฺปิณฺเฑติ วิตกฺกวิจารวูปสมํ วา. ตตฺถ ยทา วูปสมเมว สมฺปิณฺเฑติ ตทา ปีติยา วิราคา จ, กิฺจ ภิยฺโย ‘วูปสมา’ จาติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนาย วิราโค ชิคุจฺฉนตฺโถ โหติ. ตสฺมา ปีติยา ชิคุจฺฉนา จ วูปสมา ¶ จาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยทา ปน วิตกฺกวิจารานํ วูปสมํ สมฺปิณฺเฑติ ตทา ปีติยา จ วิราคา กิฺจ ภิยฺโย ‘วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา’ติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนาย วิราโค สมติกฺกมนตฺโถ โหติ, ตสฺมา ปีติยา จ สมติกฺกมา วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
กามฺเจเต วิตกฺกวิจารา ทุติยชฺฌาเนเยว วูปสนฺตา, อิมสฺส ปน ฌานสฺส มคฺคปริทีปนตฺถํ วณฺณภณนตฺถฺเจตํ วุตฺตํ. วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ หิ วุตฺเต อิทํ ปฺายติ – นูน วิตกฺกวิจารวูปสโม มคฺโค อิมสฺส ฌานสฺสาติ? ยถา จ ตติเย อริยมคฺเค ¶ อปฺปหีนานมฺปิ สกฺกายทิฏฺาทีนํ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ ¶ สํโยชนานํ ปหานา’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๓๒) เอวํ ปหานํ วุจฺจมานํ วณฺณภณนํ โหติ, ตทธิคมาย อุสฺสุกฺกานํ อุสฺสาหชนกํ, เอวเมว อิธ อวูปสนฺตานมฺปิ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม วุจฺจมาโน วณฺณภณนํ โหติ. เตนายมตฺโถ วุตฺโต – ‘ปีติยา จ สมติกฺกมา วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา’ติ.
อุเปกฺขโก จ วิหรตีติ – เอตฺถ อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา. สมํ ปสฺสติ, อปกฺขปติตา หุตฺวา ปสฺสตีติ อตฺโถ. ตาย วิสทาย วิปุลาย ถามคตาย สมนฺนาคตตฺตา ตติยชฺฌานสมงฺคี อุเปกฺขโกติ วุจฺจติ.
อุเปกฺขา ปน ทสวิธา โหติ – ฉฬงฺคุเปกฺขา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา โพชฺฌงฺคุเปกฺขา วีริยุเปกฺขา สงฺขารุเปกฺขา เวทนุเปกฺขา วิปสฺสนุเปกฺขา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา ฌานุเปกฺขา ปาริสุทฺธุเปกฺขาติ.
ตตฺถ ยา ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ, น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติ (อ. นิ. ๕.๑; มหานิ. ๙๐; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๘; ปฏิ. ม. ๓.๑๗) เอวมาคตา ขีณาสวสฺส ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺานิฏฺฉฬารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ ‘ฉฬงฺคุเปกฺขา’ นาม.
ยา ¶ ปน ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ม. นิ. ๑.๗๗) เอวมาคตา สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ ‘พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา’ นาม.
ยา ‘‘อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิต’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๗; ๓.๒๔๗) เอวมาคตา สหชาตธมฺมานํ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ ‘โพชฺฌงฺคุเปกฺขา’ นาม.
ยา ¶ ปน ‘‘กาเลน กาลํ อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๐๓) เอวมาคตา อนจฺจารทฺธนาติสิถิลวีริยสงฺขาตา อุเปกฺขา, อยํ ‘วีริยุเปกฺขา’ นาม.
ยา ‘‘กติ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, กติ สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ? อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, ทส สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๗) เอวมาคตา นีวรณาทิปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนาคหเณ มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ ‘สงฺขารุเปกฺขา’ นาม.
ยา ปน ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ อุเปกฺขาสหคต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๕๐) เอวมาคตา อทุกฺขมสุขสงฺขาตา อุเปกฺขา อยํ ‘เวทนุเปกฺขา’ นาม.
ยา ‘‘ยทตฺถิ, ยํ ภูตํ, ตํ ปชหติ, อุเปกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ ¶ (ม. นิ. ๓.๗๑; อ. นิ. ๗.๕๕) เอวมาคตา วิจินเน มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ ‘วิปสฺสนุเปกฺขา’ นาม.
ยา ปน ฉนฺทาทีสุ เยวาปนเกสุ อาคตา สหชาตานํ สมวาหิตภูตา อุเปกฺขา อยํ, ‘ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา’ นาม.
ยา ‘‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๑๖๓; ที. นิ. ๑.๒๓๐) เอวมาคตา อคฺคสุเขปิ ตสฺมึ อปกฺขปาตชนนี อุเปกฺขา, อยํ ‘ฌานุเปกฺขา’ นาม.
ยา ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌาน’’นฺติ เอวมาคตา สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธา ปจฺจนีกวูปสมเนปิ อพฺยาปารภูตา อุเปกฺขา, อยํ ‘ปาริสุทฺธุเปกฺขา’ นาม.
ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา จ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา จ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา จ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ ฌานุเปกฺขา จ ปาริสุทฺธุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ. เตน เตน อวตฺถาเภเทน ปนสฺสา อยํ เภโท ¶ . เอกสฺสาปิ สโต สตฺตสฺส กุมารยุวเถร เสนาปติราชาทิวเสน เภโท วิย. ตสฺมา ตาสุ ยตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา น ตตฺถ โพชฺฌงฺคุเปกฺขาทโย, ยตฺถ วา ปน โพชฺฌงฺคุเปกฺขา น ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขาทโย โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.
ยถา ¶ เจตาสํ อตฺถโต เอกีภาโว, เอวํ สงฺขารุเปกฺขาวิปสฺสนุเปกฺขานมฺปิ. ปฺา เอว หิ เอสา กิจฺจวเสน ทฺวิธา ภินฺนา. ยถา หิ ปุริสสฺส สายํ เคหํ ปวิฏฺํ สปฺปํ อชปททณฺฑํ คเหตฺวา ปริเยสมานสฺส ตํ ถุสโกฏฺเก นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘สปฺโป นุ โข โน’ติ อวโลเกนฺตสฺส โสวตฺถิกตฺตยํ ทิสฺวา นิพฺเพมติกสฺส ‘สปฺโป, น สปฺโป’ติ วิจินเน มชฺฌตฺตตา โหติ; เอวเมว ยา อารทฺธวิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาาเณน ลกฺขณตฺตเย ทิฏฺเ สงฺขารานํ อนิจฺจภาวาทิวิจินเน มชฺฌตฺตตา อุปฺปชฺชติ, อยํ ‘วิปสฺสนุเปกฺขา’. ยถา ปน ตสฺส ปุริสสฺส อชปททณฺฑเกน คาฬฺหํ สปฺปํ คเหตฺวา ‘กินฺตาหํ อิมํ สปฺปํ อวิเหเนฺโต อตฺตานฺจ อิมินา อฑํสาเปนฺโต มฺุเจยฺย’นฺติ มฺุจนาการเมว ปริเยสโต คหเณ มชฺฌตฺตตา โหติ; เอวเมว ยา ลกฺขณตฺตยสฺส ทิฏฺตฺตา, อาทิตฺเต วิย ตโย ภเว ปสฺสโต, สงฺขารคฺคหเณ มชฺฌตฺตตา, อยํ ‘สงฺขารุเปกฺขา’. อิติ วิปสฺสนุเปกฺขาย สิทฺธาย สงฺขารุเปกฺขาปิ สิทฺธาว โหติ. อิมินา ปเนสา วิจินนคฺคหเณสุ มชฺฌตฺตสงฺขาเตน กิจฺเจน ทฺวิธา ภินฺนาติ. วิริยุเปกฺขา ปน เวทนุเปกฺขา จ อฺมฺฺจ อวเสสาหิ ¶ จ อตฺถโต ภินฺนาเยวาติ.
อิมาสุ ทสสุ อุเปกฺขาสุ ‘ฌานุเปกฺขา’ อิธ อธิปฺเปตา. สา มชฺฌตฺตลกฺขณา อนาโภครสา อพฺยาปารปจฺจุปฏฺานา ปีติวิราคปทฏฺานาติ. เอตฺถาห – นนุ จายํ อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ? สา จ ปมทุติยชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ, ตสฺมา ตตฺราปิ ‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’ติ เอวมยํ วตฺตพฺพา สิยา. สา กสฺมา น วุตฺตาติ? อปริพฺยตฺตกิจฺจโต. อปริพฺยตฺตฺหิ ตสฺสา ตตฺถ กิจฺจํ, วิตกฺกาทีหิ อภิภูตตฺตา. อิธ ปนายํ วิตกฺกวิจารปีตีหิ อนภิภูตตฺตา อุกฺขิตฺตสิรา วิย หุตฺวา ปริพฺยตฺตกิจฺจา ชาตา, ตสฺมา วุตฺตาติ.
นิฏฺิตา อุเปกฺขโก จ วิหรตีติ เอตสฺส
สพฺพโส อตฺถวณฺณนา.
อิทานิ ¶ สโต จ สมฺปชาโนติ เอตฺถ สรตีติ สโต. สมฺปชานาตีติ สมฺปชาโน. อิติ ปุคฺคเลน สติ จ สมฺปชฺฺจ วุตฺตํ. ตตฺถ สรณลกฺขณา สติ, อสมฺมุสฺสนรสา, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา. อสมฺโมหลกฺขณํ สมฺปชฺํ, ตีรณรสํ, ปวิจยปจฺจุปฏฺานํ.
ตตฺถ กิฺจาปิ อิทํ สติสมฺปชฺํ ปุริมชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ – มุฏฺสฺสติสฺส หิ อสมฺปชานสฺส ¶ อุปจารมตฺตมฺปิ น สมฺปชฺชติ, ปเคว อปฺปนา – โอฬาริกตฺตา ปน เตสํ ฌานานํ, ภูมิยํ วิย ปุริสสฺส, จิตฺตสฺส คติ สุขา โหติ, อพฺยตฺตํ ตตฺถ สติสมฺปชฺกิจฺจํ. โอฬาริกงฺคปฺปหาเนน ปน สุขุมตฺตา อิมสฺส ฌานสฺส, ปุริสสฺส ขุรธารายํ วิย, สติสมฺปชฺกิจฺจปริคฺคหิตา เอว จิตฺตสฺส คติ อิจฺฉิตพฺพาติ อิเธว วุตฺตํ. กิฺจ ภิยฺโย? ยถา เธนุปโค วจฺโฉ เธนุโต อปนีโต อรกฺขิยมาโน ปุนเทว เธนุํ อุปคจฺฉติ, เอวมิทํ ตติยชฺฌานสุขํ ปีติโต อปนีตมฺปิ สติสมฺปชฺารกฺเขน อรกฺขิยมานํ ปุนเทว ปีตึ อุปคจฺเฉยฺย, ปีติสมฺปยุตฺตเมว สิยา. สุเข วาปิ สตฺตา สารชฺชนฺติ, อิทฺจ อติมธุรํ สุขํ, ตโต ปรํ สุขาภาวา. สติสมฺปชฺานุภาเวน ปเนตฺถ สุเข อสารชฺชนา โหติ, โน อฺถาติ อิมมฺปิ อตฺถวิเสสํ ทสฺเสตุํ อิทมิเธว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ เอตฺถ ¶ กิฺจาปิ ตติยชฺฌานสมงฺคิโน สุขปฏิสํเวทนาโภโค นตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขํ, ยํ วา ตํ นามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ, ตํสมุฏฺาเนนสฺส ยสฺมา อติปณีเตน รูเปน รูปกาโย ผุโฏ, ยสฺส ผุฏตฺตา ฌานา วุฏฺิโตปิ สุขํ ปฏิสํเวเทยฺย, ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตี’ติ อาห.
อิทานิ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ เอตฺถ ยํฌานเหตุ ยํฌานการณา ตํ ตติยชฺฌานสมงฺคีปุคฺคลํ พุทฺธาทโย อริยา ‘‘อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺาเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ ปกาเส’’นฺติ ปสํสนฺตีติ อธิปฺปาโย – กินฺติ? ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ – ตํ ตติยชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.
กสฺมา ¶ ปน ตํ เต เอวํ ปสํสนฺตีติ? ปสํสารหโต. อยฺหิ ยสฺมา อติมธุรสุเข สุขปารมิปฺปตฺเตปิ ตติยชฺฌาเน อุเปกฺขโก, น ตตฺถ สุขาภิสงฺเคน อากฑฺฒียติ, ‘ยถา จ ปีติ น อุปฺปชฺชติ’ เอวํ อุปฏฺิตสติตาย สติมา, ยสฺมา จ อริยกนฺตํ อริยชนเสวิตเมว อสํกิลิฏฺํ สุขํ นามกาเยน ปฏิสํเวเทติ ตสฺมา ปสํสารโห; อิติ ปสํสารหโต นํ อริยา เต เอวํ ปสํสาเหตุภูเต คุเณ ปกาเสนฺตา ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ เอวํ ปสํสนฺตีติ เวทิตพฺพํ.
ตติยนฺติ ¶ คณนานุปุพฺพตา ตติยํ. อิทํ ตติยํ สมาปชฺชตีติปิ ตติยํ. ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตีติอาทีสุ ฌานปฺจเก ปีติปทมฺปิ ปริหีนํ. ตสฺสาปิ วเสน สวิภตฺติกาวิภตฺติกปทวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. โกฏฺาสวาเรปิ ทุวงฺคิกํ ฌานํ โหตีติ อาคตํ. เสสํ ทุติยชฺฌานสทิสเมวาติ.
ตติยํ.
จตุตฺถชฺฌานํ
๑๖๕. จตุตฺถชฺฌานนิทฺเทเส สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานาติ กายิกสุขสฺส จ กายิกทุกฺขสฺส จ ปหานา. ปุพฺเพวาติ ตฺจ โข ปุพฺเพว น จตุตฺถชฺฌานกฺขเณ. โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาติ เจตสิกสุขสฺส จ เจตสิกทุกฺขสฺส จาติ อิเมสมฺปิ ¶ ทฺวินฺนํ ปุพฺเพว อตฺถงฺคมา; ปหานา อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. กทา ปน เนสํ ปหานํ โหติ? จตุนฺนํ ฌานานํ อุปจารกฺขเณ. โสมนสฺสฺหิ จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียติ. ทุกฺขโทมนสฺสสุขานิ ปมทุติยตติยชฺฌานานํ อุปจารกฺขเณสุ. เอวเมเตสํ ปหานกฺกเมน อวุตฺตานํ อินฺทฺริยวิภงฺเค ปน อินฺทฺริยานํ อุทฺเทสกฺกเมเนว อิธาปิ วุตฺตานํ สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสานํ ปหานํ เวทิตพฺพํ.
ยทิ ปเนตานิ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียนฺติ, อถ กสฺมา ‘‘กตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว ¶ กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. กตฺถ จุปฺปนฺนํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ… สุขินฺทฺริยํ… โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถุปฺปนฺนํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๐) เอวํ ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ? อติสยนิโรธตฺตา. อติสยนิโรโธ หิ เตสํ ปมชฺฌานาทีสุ, น นิโรโธเยว. นิโรโธเยว ปน อุปจารกฺขเณ, นาติสยนิโรโธ. ตถา หิ นานาวชฺชเน ปมชฺฌานุปจาเร ¶ นิรุทฺธสฺสาปิ ทุกฺขินฺทฺริยสฺส ฑํสมกสาทิสมฺผสฺเสน วา, วิสมาสนุปตาเปน วา สิยา อุปฺปตฺติ, นตฺเวว อนฺโตอปฺปนายํ. อุปจาเร วา นิรุทฺธมฺเปตํ น สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ, ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา. อนฺโตอปฺปนายํ ปน ปีติผรเณน สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหติ. สุโขกฺกนฺตกายสฺส จ สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ ทุกฺขินฺทฺริยํ, ปฏิปกฺเขน วิหตตฺตา. นานาวชฺชเนเยว จ ทุติยชฺฌานุปจาเร ปหีนสฺส โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส ยสฺมา เอตํ วิตกฺกวิจารปจฺจเยปิ กายกิลมเถ จิตฺตุปฆาเต จ สติ อุปฺปชฺชติ, วิตกฺกวิจาราภาเว เนว อุปฺปชฺชติ; ยตฺถ ปน อุปฺปชฺชติ ตตฺถ วิตกฺกวิจารภาเว; อปฺปหีนา เอว จ ทุติยชฺฌานุปจาเร วิตกฺกวิจาราติ ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, นตฺเวว ทุติยชฺฌาเน, ปหีนปจฺจยตฺตา. ตถา ตติยชฺฌานุปจาเร ปหีนสฺสาปิ สุขินฺทฺริยสฺส ปีติสมุฏฺานปณีตรูปผุฏกายสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, นตฺเวว ตติยชฺฌาเน. ตติยชฺฌาเน หิ สุขสฺส ปจฺจยภูตา ปีติ สพฺพโส นิรุทฺธาติ. ตถา ¶ จตุตฺถชฺฌานุปจาเร ปหีนสฺสาปิ โสมนสฺสินฺทฺริยสฺส อาสนฺนตฺตา, อปฺปนาปฺปตฺตาย อุเปกฺขาย อภาเวน สมฺมา อนติกฺกนฺตตฺตา จ, สิยา อุปฺปตฺติ, นตฺเวว จตุตฺถชฺฌาเน. ตสฺมา เอว จ ‘เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’ติ ตตฺถ ตตฺถ อปริเสสคฺคหณํ กตนฺติ.
เอตฺถาห – ‘อเถวํ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺสุปจาเร ปหีนาปิ เอตา เวทนา อิธ กสฺมา สมาหฏา’ติ? ‘สุขคฺคหณตฺถํ’. ยา หิ อยํ ‘อทุกฺขมสุข’นฺติ เอตฺถ อทุกฺขมสุขา เวทนา วุตฺตา, สา สุขุมา, ทุพฺพิฺเยฺยา, น สกฺกา สุเขน คเหตุํ. ตสฺมา ยถา นาม ทุฏฺสฺส ยถา ตถา วา อุปสงฺกมิตฺวา คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยสฺส โคณสฺส คหณตฺถํ โคโป เอกสฺมึ วเช สพฺพา คาโว สมาหรติ, อเถเกกํ นีหรนฺโต ปฏิปาฏิยา อาคตํ ‘อยํ ¶ โส, คณฺหถ น’นฺติ ตมฺปิ คาหาปยติ; เอวเมว ภควา สุขคหณตฺถํ สพฺพาปิ เอตา สมาหรีติ. เอวฺหิ สมาหฏา เอตา ทสฺเสตฺวา ยํ เนว สุขํ น ทุกฺขํ, น โสมนสฺสํ น โทมนสฺสํ, อยํ อทุกฺขมสุขาเวทนาติ สกฺกา โหติ เอสา คาหยิตุํ.
อปิจ อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา ปจฺจยทสฺสนตฺถฺจาปิ เอตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. สุขทุกฺขปฺปหานาทโย หิ ตสฺสา ปจฺจยา. ยถาห – ‘‘จตฺตาโร โข, อาวุโส, ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา. อิธาวุโส ภิกฺขุ, สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อิเม โข, อาวุโส, จตฺตาโร ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย ¶ เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘). ยถา วา อฺตฺถ ปหีนาปิ สกฺกายทิฏฺิอาทโย ตติยมคฺคสฺส วณฺณภณนตฺถํ ตตฺถ ปหีนาติ วุตฺตา, เอวํ วณฺณภณนตฺถมฺเปตสฺส ฌานสฺเสตา อิธ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ปจฺจยฆาเตน วา เอตฺถ ราคโทสานํ อติทูรภาวํ ทสฺเสตุมฺเปตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอตาสุ หิ สุขํ โสมนสฺสสฺส ปจฺจโย, โสมนสฺสํ ราคสฺส; ทุกฺขํ โทมนสฺสสฺส, โทมนสฺสํ โทสสฺส. สุขาทิฆาเตน จ สปฺปจฺจยา ราคโทสา หตาติ อติทูเร โหนฺตีติ.
อทุกฺขมสุขนฺติ ทุกฺขาภาเวน อทุกฺขํ, สุขาภาเวน อสุขํ. เอเตเนตฺถ ทุกฺขสุขปฺปฏิปกฺขภูตํ ตติยเวทนํ ทีเปติ, น ทุกฺขสุขาภาวมตฺตํ. ตติยเวทนา นาม อทุกฺขมสุขา. อุเปกฺขาติปิ วุจฺจติ. สา ¶ อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณา, มชฺฌตฺตรสา, อวิภูตปจฺจุปฏฺานา, สุขนิโรธปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.
อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ อุเปกฺขาย ชนิตสติปาริสุทฺธึ. อิมสฺมิฺหิ ฌาเน สุปริสุทฺธา สติ. ยา จ ตสฺสา สติยา ปาริสุทฺธิ สา อุเปกฺขาย กตา, น อฺเน. ตสฺมา เอตํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธีติ วุจฺจติ. วิภงฺเคปิ วุตฺตํ – ‘‘อยํ สติ อิมาย อุเปกฺขาย วิสทา โหติ ปริสุทฺธา ปริโยทาตา, เตน วุจฺจติ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธี’’ติ (วิภ. ๕๙๗). ยาย จ อุเปกฺขาย เอตฺถ สติ ปาริสุทฺธิ โหติ สา อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตตาติ เวทิตพฺพา. น เกวลฺเจตฺถ ตาย สติเยว ปริสุทฺธา อปิจ โข สพฺเพปิ สมฺปยุตฺตธมฺมา. สติสีเสน ปน เทสนา วุตฺตา.
ตตฺถ ¶ กิฺจาปิ อยํ อุเปกฺขา เหฏฺาปิ ตีสุ ฌาเนสุ วิชฺชติ – ยถา ปน ทิวา สูริยปฺปภาภิภวา โสมฺมภาเวน จ อตฺตโน อุปการกตฺเตน วา สภาคาย รตฺติยา อลาภา ทิวา วิชฺชมานาปิ จนฺทเลขา อปริสุทฺธา โหติ อปริโยทาตา – เอวมยมฺปิ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา อปฺปฏิลาภา วิชฺชมานาปิ ปมาทิชฺฌานเภเทสุ อปริสุทฺธา โหติ. ตสฺสา จ อปริสุทฺธาย ทิวา อปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย อปริสุทฺธาว โหนฺติ. ตสฺมา เตสุ เอกมฺปิ ‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธี’ติ น วุตฺตํ. อิธ ปน วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวาภาวา สภาคาย จ อุเปกฺขา เวทนารตฺติยา ปฏิลาภา อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา ¶ อติวิย ปริสุทฺธา. ตสฺสา ปริสุทฺธตฺตา ปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย ปริสุทฺธา โหนฺติ ปริโยทาตา. ตสฺมา อิทเมว อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธีติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
จตุตฺถนฺติ คณนานุปุพฺพตา จตุตฺถํ. อิทํ จตุตฺถํ สมาปชฺชตีติปิ จตุตฺถํ. ผสฺโส โหตีติอาทีสุ ผสฺสปฺจเก ตาว เวทนาติ อุเปกฺขาเวทนา เวทิตพฺพา. ฌานปฺจกอินฺทฺริยอฏฺเกสุ ปน อุเปกฺขา โหติ อุเปกฺขินฺทฺริยํ ¶ โหตีติ (ธ. ส. ๑๖๕) วุตฺตเมว. เสสานิ ตติเย ปริหีนปทานิ อิธาปิ ปริหีนาเนว. โกฏฺาสวาเรปิ ทุวงฺคิกํ ฌานนฺติ อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาวเสเนว เวทิตพฺพํ. เสสํ สพฺพํ ตติยสทิสเมวาติ.
จตุกฺกนโย นิฏฺิโต.
ปฺจกนโย
๑๖๗. อิทานิ กตเม ธมฺมา กุสลาติ ปฺจกนโย อารทฺโธ. กสฺมาติ เจ, ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน เจว เทสนาวิลาเสน จ. สนฺนิสินฺนเทวปริสาย กิร เอกจฺจานํ เทวานํ วิตกฺโก เอว โอฬาริกโต อุปฏฺาสิ, วิจารปีติสุขจิตฺเตกคฺคตา สนฺตโต. เตสํ สปฺปายวเสน สตฺถา จตุรงฺคิกํ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ ทุติยชฺฌานํ นาม ภาเชสิ. เอกจฺจานํ ¶ วิจาโร โอฬาริกโต อุปฏฺาสิ, ปีติสุขจิตฺเตกคฺคตา สนฺตโต. เตสํ สปฺปายวเสน ติวงฺคิกํ ตติยชฺฌานํ นาม ภาเชสิ. เอกจฺจานํ ปีติ โอฬาริกโต อุปฏฺาสิ, สุขจิตฺเตกคฺคตา สนฺตโต. เตสํ สปฺปายวเสน ทุวงฺคิกํ จตุตฺถชฺฌานํ นาม ภาเชสิ. เอกจฺจานํ สุขํ โอฬาริกโต อุปฏฺาสิ, อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตา สนฺตโต. เตสํ สปฺปายวเสน ทุวงฺคิกํ ปฺจมชฺฌานํ นาม ภาเชสิ. อยํ ตาว ‘ปุคฺคลชฺฌาสโย’.
ยสฺสา ปน ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา เทสนาวิลาสปฺปตฺโต นาม โหติ – สา ตถาคตสฺส สุฏฺุ ปฏิวิทฺธา – ตสฺมา าณมหตฺตตาย เทสนาวิธาเนสุ กุสโล เทสนาวิลาสปฺปตฺโต สตฺถา ยํ ยํ ¶ องฺคํ ลพฺภติ ตสฺส ตสฺส วเสน ยถา ยถา อิจฺฉติ ตถา ตถา เทสนํ นิยาเมตีติ โส อิธ ปฺจงฺคิกํ ปมชฺฌานํ ภาเชสิ, จตุรงฺคิกํ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ ทุติยชฺฌานํ, ภาเชสิ ติวงฺคิกํ ตติยชฺฌานํ, ภาเชสิ ทุวงฺคิกํ จตุตฺถชฺฌานํ, ทุวงฺคิกเมว ปฺจมชฺฌานํ ภาเชสิ. อยํ ‘เทสนาวิลาโส’ นาม.
อปิจ เย ภควตา ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, สมาธี – สวิตกฺกสวิจาโร สมาธิ, อวิตกฺกวิจารมตฺโต สมาธิ, อวิตกฺกอวิจาโร สมาธี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๕) สุตฺตนฺเต ตโย สมาธี เทสิตา, เตสุ เหฏฺา สวิตกฺกสวิจาโร สมาธิ อวิตกฺกอวิจาโร ¶ สมาธิ จ ภาเชตฺวา ทสฺสิโต, อวิตกฺกวิจารมตฺโต น ทสฺสิโต. ตํ ทสฺเสตุมฺปิ อยํ ปฺจกนโย อารทฺโธติ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ทุติยชฺฌานนิทฺเทเส ผสฺสาทีสุ วิตกฺกมตฺตํ ปริหายติ, โกฏฺาสวาเร ‘‘จตุรงฺคิกํ ฌานํ โหติ จตุรงฺคิโก มคฺโค โหตี’’ติ อยเมว วิเสโส. เสสํ สพฺพํ ปมชฺฌานสทิสเมว. ยานิ จ จตุกฺกนเย ทุติยตติยจตุตฺถานิ ตาเนว อิธ ตติยจตุตฺถปฺจมานิ. เตสํ อธิคมปฏิปาฏิทีปนตฺถํ อยํ นโย เวทิตพฺโพ –
เอโก กิร อมจฺจปุตฺโต ราชานํ อุปฏฺาตุํ ชนปทโต นครํ อาคโต. โส เอกทิวสเมว ราชานํ ทิสฺวา ปานพฺยสเนน สพฺพํ วิภวชาตํ นาเสสิ. ตํ เอกทิวสํ สุรามทมตฺตํ นิจฺโจฬํ กตฺวา ชิณฺณกฏสารกมตฺเตน ¶ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปานาคารโต นีหรึสุ. ตเมนํ สงฺการกูเฏ นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺตํ เอโก องฺควิชฺชาปาโก ทิสฺวา ‘อยํ ปุริโส มหาชนสฺส อวสฺสโย ภวิสฺสติ, ปฏิชคฺคิตพฺโพ เอโส’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา มตฺติกาย นฺหาเปตฺวา ถูลสาฏกยุคํ นิวาสาเปตฺวา ปุน คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา สุขุเมน ทุกูลยุคเฬน อจฺฉาเทตฺวา ปาสาทํ อาโรเปตฺวา สุโภชนํ โภเชตฺวา ‘เอวํ นํ ปริจาเรยฺยาถา’ติ ปริจารเก ปฏิปาเทตฺวา ปกฺกามิ. อถ นํ เต สยนํ อาโรเปสุํ. ปานาคารคมนปฏิพาหนตฺถฺจ นํ จตฺตาโร ตาว ชนา จตูสุ หตฺถปาเทสุ อุปฺปีเฬตฺวา อฏฺํสุ. เอโก ปาเท ปริมชฺชิ. เอโก ตาลวณฺฏํ คเหตฺวา พีชิ. เอโก วีณํ วาทยมาโน คายนฺโต นิสีทิ.
โส สยนุปคมเนน วิคตกิลมโถ โถกํ นิทฺทายิตฺวา วุฏฺิโต หตฺถปาทนิปฺปีฬนํ อสหมาโน ¶ ‘โก เม หตฺถปาเท อุปฺปีเฬติ? อปคจฺฉถา’ติ ตชฺเชสิ. เต เอกวจเนเนว อปคจฺฉึสุ. ตโต ปุน โถกํ นิทฺทายิตฺวา วุฏฺิโต ปาทปริมชฺชนํ อสหมาโน ‘โก เม ปาเท ปริมชฺชติ? อปคจฺฉา’ติ อาห. โสปิ เอกวจเนเนว อปคจฺฉิ. ปุน โถกํ นิทฺทายิตฺวา วุฏฺิโต วาตวุฏฺิ วิย ตาลวณฺฏวาตํ อสหนฺโต ‘โก เอส? อปคจฺฉตู’ติ อาห. โสปิ เอกวจเนเนว อปคจฺฉิ. ปุน โถกํ นิทฺทายิตฺวา วุฏฺิโต กณฺณสูลํ วิย คีตวาทิตสทฺทํ อสหมาโน วีณาวาทกํ ตชฺเชสิ. โสปิ เอกวจเนเนว อปคจฺฉิ. อเถวํ ¶ อนุกฺกเมน ปหีนกิลมถุปฺปีฬนปริมชฺชนวาตปฺปหารคีตวาทิตสทฺทุปทฺทโว สุขํ สยิตฺวา วุฏฺาย รฺโ สนฺติกํ อคมาสิ. ราชาปิสฺส มหนฺตํ อิสฺสริยมทาสิ. โส มหาชนสฺส อวสฺสโย ชาโต.
ตตฺถ ปานพฺยสเนน ปาริชฺุปฺปตฺโต โส อมจฺจปุตฺโต วิย อเนกพฺยสนปาริชฺุปฺปตฺโต ฆราวาสคโต กุลปุตฺโต ทฏฺพฺโพ. องฺควิชฺชาปาโก ปุริโส วิย ตถาคโต. ตสฺส ปุริสสฺส ‘อยํ มหาชนสฺส อวสฺสโย ภวิสฺสติ, ปฏิชคฺคนํ อรหตี’ติ สนฺนิฏฺานํ วิย ตถาคตสฺส ‘อยํ มหาชนสฺส อวสฺสโย ภวิสฺสติ, ปพฺพชฺชํ อรหติ กุลปุตฺโต’ติ สนฺนิฏฺานกรณํ.
อถสฺส ¶ อมจฺจปุตฺตสฺส มตฺติกามตฺเตน นฺหาปนํ วิย กุลปุตฺตสฺสาปิ ปพฺพชฺชาปฏิลาโภ. อถสฺส ถูลสาฏกนิวาสนํ วิย อิมสฺสาปิ ทสสิกฺขาปทสงฺขาตสีลวตฺถนิวาสนํ. ปุน ตสฺส คนฺโธทกนฺหาปนํ วิย อิมสฺสาปิ ปาติโมกฺขสํวราทิสีลคนฺโธทกนฺหาปนํ. ปุน ตสฺส สุขุมทุกูลยุคฬจฺฉาทนํ วิย อิมสฺสาปิ ยถาวุตฺตสีลวิสุทฺธิสมฺปทาสงฺขาตทุกูลจฺฉาทนํ.
ทุกูลจฺฉาทิตสฺส ปนสฺส ปาสาทาโรปนํ วิย อิมสฺสาปิ สีลวิสุทฺธิทุกูลจฺฉาทิตสฺส สมาธิภาวนาปาสาทาโรหนํ. ตโต ตสฺส สุโภชนภฺุชนํ วิย อิมสฺสาปิ สมาธิอุปการกสติสมฺปชฺาทิธมฺมามตปริภฺุชนํ.
ภุตฺตโภชนสฺส ปน ตสฺส ปริจารเกหิ สยนาโรปนํ วิย อิมสฺสาปิ วิตกฺกาทีหิ อุปจารชฺฌานาโรปนํ. ปุน ตสฺส ปานาคารคมนปฏิพาหนตฺถํ หตฺถปาทุปฺปีฬนกปุริสจตุกฺกํ วิย อิมสฺสาปิ กามสฺาภิมุขคมนปฏิพาหนตฺถํ อารมฺมเณ จิตฺตุปฺปีฬนโก เนกฺขมฺมวิตกฺโก. ตสฺส ¶ ปาทปริมชฺชกปุริโส วิย อิมสฺสาปิ อารมฺมเณ จิตฺตานุมชฺชนโก วิจาโร. ตสฺส ตาลวณฺฏวาตทายโก วิย อิมสฺสาปิ เจตโส สีตลภาวทายิกา ปีติ.
ตสฺส โสตานุคฺคหกโร คนฺธพฺพปุริโส วิย อิมสฺสาปิ จิตฺตานุคฺคาหกํ โสมนสฺสํ. ตสฺส สยนุปคมเนน วิคตกิลมถสฺส โถกํ นิทฺทุปคมนํ วิย อิมสฺสาปิ อุปจารชฺฌานสนฺนิสฺสเยน วิคตนีวรณกิลมถสฺส ปมชฺฌานุปคมนํ.
อถสฺส นิทฺทายิตฺวา วุฏฺิตสฺส หตฺถปาทุปฺปีฬนาสหเนน หตฺถปาทุปฺปีฬกานํ สนฺตชฺชนํ เตสฺจ อปคมเนน ปุน โถกํ นิทฺทุปคมนํ วิย อิมสฺสาปิ ปมชฺฌานโต วุฏฺิตสฺส ¶ จิตฺตุปฺปีฬกวิตกฺกาสหเนน วิตกฺกโทสทสฺสนํ, วิตกฺกปฺปหานา จ ปุน อวิตกฺกวิจารมตฺตทุติยชฺฌานุปคมนํ.
ตโต ตสฺส ปุนปฺปุนํ นิทฺทายิตฺวา วุฏฺิตสฺส ยถาวุตฺเตน กเมน ปาทปริมชฺชนาทีนํ อสหเนน ปฏิปาฏิยา ปาทปริมชฺชกาทีนํ สนฺตชฺชนํ, เตสํ เตสฺจ อปคมเนน ปุนปฺปุนํ โถกํ นิทฺทุปคมนํ วิย อิมสฺสาปิ ปุนปฺปุนํ ทุติยาทีหิ ฌาเนหิ วุฏฺิตสฺส ยถาวุตฺตโทสานํ วิจาราทีนํ อสหเนน ¶ ปฏิปาฏิยา วิจาราทิโทสทสฺสนํ. เตสํ เตสฺจ ปหานา ปุนปฺปุนํ อวิตกฺกอวิจารนิปฺปีติก ปหีนโสมนสฺสชฺฌานุปคมนํ.
ตสฺส ปน สยนา วุฏฺาย รฺโ สนฺติกํ คตสฺส อิสฺสริยปฺปตฺติ วิย อิมสฺสาปิ ปฺจมชฺฌานโต วุฏฺิตสฺส วิปสฺสนา มคฺคํ อุปคตสฺส อรหตฺตปฺปตฺติ.
ตสฺส ปตฺติสฺสริยสฺส พหูนํ ชนานํ อวสฺสยภาโว วิย อิมสฺสาปิ อรหตฺตปฺปตฺตสฺส พหูนํ อวสฺสยภาโว เวทิตพฺโพ. เอตฺตาวตา หิ เอส อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ นาม โหตีติ.
ปฺจกนโย นิฏฺิโต.
เอตฺตาวตา จตุกฺกปฺจกนยทฺวยเภโท สุทฺธิกนวโก นาม ปกาสิโต โหติ. อตฺถโต ปเนส ปฺจกนเย จตุกฺกนยสฺส ปวิฏฺตฺตา ฌานปฺจโก เอวาติ เวทิตพฺโพ.
ปฏิปทาจตุกฺกํ
๑๗๖-๑๘๐. อิทานิ ¶ ยสฺมา เอตํ ฌานํ นาม ปฏิปทากเมน สิชฺฌติ, ตสฺมา ตสฺส ปฏิปทาเภทํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ทุกฺขา ปฏิปทา อสฺสาติ ทุกฺขปฏิปทํ. ทนฺธา อภิฺา อสฺสาติ ทนฺธาภิฺํ. อิติ ทุกฺขปฏิปทนฺติ วา ทนฺธาภิฺนฺติ วา ปถวีกสิณนฺติ วา ตีณิปิ ฌานสฺเสว นามานิ. ทุกฺขปฏิปทํ ขิปฺปาภิฺนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ปมสมนฺนาหารโต ปฏฺาย ยาว ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารํ อุปฺปชฺชติ ตาว ปวตฺตา ฌานภาวนา ‘ปฏิปทา’ติ วุจฺจติ. อุปจารโต ปน ปฏฺาย ยาว อปฺปนา ตาว ปวตฺตา ปฺา ‘อภิฺา’ติ วุจฺจติ. สา ปเนสา ปฏิปทา เอกจฺจสฺส ทุกฺขา โหติ. นีวรณาทิปจฺจนีกธมฺมสมุทาจารคหนตาย ¶ กิจฺฉา อสุขเสวนาติ อตฺโถ. เอกจฺจสฺส ตทภาเวน สุขา. อภิฺาปิ เอกจฺจสฺส ทนฺธา โหติ, มนฺทา, อสีฆปฺปวตฺติ. เอกจฺจสฺส ขิปฺปา อมนฺทา สีฆปฺปวตฺติ. ตสฺมา โย อาทิโต กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต ทุกฺเขน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิลมนฺโต วิกฺขมฺเภติ ¶ , ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา นาม โหติ. โย ปน วิกฺขมฺภิตกิเลโส อปฺปนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน องฺคปาตุภาวํ ปาปุณาติ, ตสฺส ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. โย ขิปฺปํ องฺคปาตุภาวํ ปาปุณาติ ตสฺส ขิปฺปาภิฺา นาม โหติ. โย กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต สุเขน อกิลมนฺโต วิกฺขมฺเภติ, ตสฺส สุขา ปฏิปทา นาม โหติ.
ตตฺถ ยานิ สปฺปายาสปฺปายานิ จ ปลิโพธุปจฺเฉทาทีนิ ปุพฺพกิจฺจานิ จ อปฺปนาโกสลฺลานิ จ วิสุทฺธิมคฺเค จิตฺตภาวนานิทฺเทเส นิทฺทิฏฺานิ, เตสุ โย อสปฺปายเสวี โหติ, ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธา จ อภิฺา โหติ. สปฺปายเสวิโน สุขา ปฏิปทา ขิปฺปา จ อภิฺา. โย ปน ปุพฺพภาเค อสปฺปายํ เสวิตฺวา อปรภาเค สปฺปายเสวี โหติ, ปุพฺพภาเค วา สปฺปายํ เสวิตฺวา อปรภาเค อสปฺปายเสวี, ตสฺส โวมิสฺสกตา เวทิตพฺพา. ตถา ปลิโพธุปจฺเฉทาทิกํ ปุพฺพกิจฺจํ อสมฺปาเทตฺวา ภาวนํ อนุยุตฺตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ, วิปริยาเยน สุขา. อปฺปนาโกสลฺลานิ ปน อสมฺปาเทนฺตสฺส ทนฺธา อภิฺา โหติ, สมฺปาเทนฺตสฺส ขิปฺปา.
อปิจ ¶ ตณฺหาอวิชฺชาวเสน สมถวิปสฺสนากตาธิการวเสน จาปิ เอตาสํ ปเภโท เวทิตพฺโพ. ตณฺหาภิภูตสฺส หิ ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ, อนภิภูตสฺส สุขา. อวิชฺชาภิภูตสฺส จ ทนฺธา อภิฺา โหติ, อนภิภูตสฺส ขิปฺปา. โย จ สมเถ อกตาธิกาโร ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ, กตาธิการสฺส สุขา. โย ปน วิปสฺสนาย อกตาธิกาโร โหติ, ตสฺส ทนฺธา อภิฺา โหติ, กตาธิการสฺส ขิปฺปา.
กิเลสินฺทฺริยวเสน จาปิ เอตาสํ ปเภโท เวทิตพฺโพ. ติพฺพกิเลสสฺส หิ มุทินฺทฺริยสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ ทนฺธา จ อภิฺา, ติกฺขินฺทฺริยสฺส ปน ขิปฺปา อภิฺา. มนฺทกิเลสสฺส จ มุทินฺทฺริยสฺส สุขา ปฏิปทา โหติ ทนฺธา จ อภิฺา, ติกฺขินฺทฺริยสฺส ปน ขิปฺปา อภิฺาติ.
อิติ อิมาสุ ปฏิปทาอภิฺาสุ โย ปุคฺคโล ทุกฺขาย ปฏิปทาย ¶ ทนฺธาย อภิฺาย ฌานํ ปาปุณาติ, ตสฺส ตํ ฌานํ ทุกฺขปฏิปทํ ทนฺธาภิฺนฺติ วุจฺจติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ¶ ‘ตทนุธมฺมตา สติ สนฺติฏฺติ ิติภาคินี ปฺา’ติ (วิภ. ๗๙๙) เอวํ วุตฺตสติยา วา ตํตํฌานนิกนฺติยา วา วิกฺขมฺภเน ปฏิปทา, ตํตํฌานุปจารปฺปตฺตสฺส อปฺปนาย ปริวาเส อภิฺา จ เวทิตพฺพา. อาคมนวเสนาปิ จ ปฏิปทา อภิฺา โหนฺติเยว. ทุกฺขปฏิปทฺหิ ทนฺธาภิฺํ ปมชฺฌานํ ปตฺวา ปวตฺตํ ทุติยมฺปิ ตาทิสเมว โหติ. ตติยจตุตฺเถสุปิ เอเสว นโย. ยถา จ จตุกฺกนเย เอวํ ปฺจกนเยปิ ปฏิปทาวเสน จตุธา เภโท เวทิตพฺโพ. อิติ ปฏิปทาวเสนปิ จตฺตาโร นวกา วุตฺตา โหนฺติ. เตสุ ปาโต ฉตฺตึส จิตฺตานิ, อตฺถโต ปน ปฺจกนเย จตุกฺกนยสฺส ปวิฏฺตฺตา วีสติเมว ภวนฺตีติ.
ปฏิปทาจตุกฺกํ.
อารมฺมณจตุกฺกํ
๑๘๑. อิทานิ ¶ ยสฺมา เอตํ ฌานํ นาม ยถา ปฏิปทาเภเทน เอวํ อารมฺมณเภเทนาปิ จตุพฺพิธํ โหติ. ตสฺมาสฺส ตํ ปเภทํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปริตฺตํ ปริตฺตารมฺมณนฺติอาทีสุ ยํ อปฺปคุณํ โหติ, อุปริชฺฌานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกติ, อิทํ ปริตฺตํ นาม. ยํ ปน อวฑฺฒิเต สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา อารมฺมเณ ปวตฺตํ, ตํ ปริตฺตํ อารมฺมณํ อสฺสาติ ปริตฺตารมฺมณํ. ยํ ปคุณํ สุภาวิตํ อุปริชฺฌานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺโกติ, อิทํ อปฺปมาณํ นาม. ยํ วิปุเล อารมฺมเณ ปวตฺตํ ตํ วุฑฺฒิปฺปมาณตฺตา อปฺปมาณํ อารมฺมณํ อสฺสาติ อปฺปมาณารมฺมณํ. วุตฺตลกฺขณโวมิสฺสกตาย ปน โวมิสฺสกนโย เวทิตพฺโพ. อิติ อารมฺมณวเสนปิ จตฺตาโร นวกา วุตฺตา โหนฺติ. จิตฺตคณนาเปตฺถ ปุริมสทิสา เอวาติ.
อารมฺมณจตุกฺกํ.
อารมฺมณปฏิปทามิสฺสกํ
๑๘๖. อิทานิ อารมฺมณปฏิปทามิสฺสกํ โสฬสกฺขตฺตุกนยํ ¶ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปมนเย วุตฺตชฺฌานํ ¶ ทุกฺขปฏิปทตฺตา ทนฺธาภิฺตฺตา ปริตฺตตฺตา ปริตฺตารมฺมณตฺตาติ จตูหิ การเณหิ หีนํ, โสฬสมนเย วุตฺตชฺฌานํ สุขปฏิปทตฺตา ขิปฺปาภิฺตฺตา อปฺปมาณตฺตา อปฺปมาณารมฺมณตฺตาติ จตูหิ การเณหิ ปณีตํ. เสเสสุ จุทฺทสสุ เอเกน ทฺวีหิ ตีหิ จ การเณหิ หีนปฺปณีตตา เวทิตพฺพา.
กสฺมา ปนายํ นโย เทสิโตติ? ฌานุปฺปตฺติการณตฺตา. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ ปถวีกสิเณ สุทฺธิกชฺฌานํ จตุกฺกนยวเสน ปฺจกนยวเสน จ ทสฺสิตํ; ตถา สุทฺธิกปฏิปทา, ตถา สุทฺธิการมฺมณํ. ตตฺถ ยา เทวตา ปถวีกสิเณ สุทฺธิกชฺฌานํ จตุกฺกนยวเสน เทสิยมานํ พุชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ, ตาสํ สปฺปายวเสน สุทฺธิกชฺฌาเน จตุกฺกนโย เทสิโต. ยา ปฺจกนยวเสน เทสิยมานํ พุชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ, ตาสํ สปฺปายวเสน ปฺจกนโย. ยา สุทฺธิกปฏิปทาย ¶ , สุทฺธิการมฺมเณ จตุกฺกนยวเสน เทสิยมานํ พุชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ, ตาสํ สปฺปายวเสน สุทฺธิกปฏิปทาย สุทฺธิการมฺมเณ จตุกฺกนโย เทสิโต. ยา ปฺจกนยวเสน เทสิยมานํ พุชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ ตาสํ สปฺปายวเสน ปฺจกนโย. อิติ เหฏฺา ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน เทสนา กตา.
เทสนาวิลาสปฺปตฺโต เจส ปภินฺนปฏิสมฺภิโท ทสพลจตุเวสารชฺชวิสทาโณ ธมฺมานํ ยาถาวสรสลกฺขณสฺส สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ธมฺมปฺตฺติกุสลตาย โย โย นโย ลพฺภติ ตสฺส ตสฺส วเสน เทสนํ นิยเมตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา อิมาย เทสนาวิลาสปฺปตฺติยาปิ เตน เอสา ปถวีกสิเณ สุทฺธิกจตุกฺกนยาทิวเสน เทสนา กตา.
ยสฺมา ปน เย เกจิ ฌานํ อุปฺปาเทนฺติ นาม น เต อารมฺมณปฏิปทาหิ วินา อุปฺปาเทตุํ สกฺโกนฺติ, ตสฺมา นิยมโต ฌานุปฺปตฺติการณตฺตา อยํ โสฬสกฺขตฺตุกนโย กถิโต.
เอตฺตาวตา สุทฺธิกนวโก, จตฺตาโร ปฏิปทานวกา, จตฺตาโร อารมฺมณนวกา, อิเม จ โสฬส นวกาติ ปฺจวีสติ นวกา กถิตา โหนฺติ. ตตฺถ เอเกกสฺมึ นวเก จตุกฺกปฺจกวเสน ทฺเว ทฺเว นยาติ ปฺาส นยา. ตตฺถ ‘‘ปฺจวีสติยา จตุกฺกนเยสุ ¶ สตํ, ปฺจกนเยสุ ปฺจวีสสต’’นฺติ ปาโต ปฺจวีสาธิกานิ ทฺเว ฌานจิตฺตสตานิ โหนฺติ. ปฺจกนเย ปน จตุกฺกนยสฺส ปวิฏฺตฺตา อตฺถโต ปฺจวีสาธิกเมว จิตฺตสตํ ¶ โหติ. ยานิ เจตานิ ปาเ ปฺจวีสาธิกานิ ทฺเว จิตฺตสตานิ เตสุ เอเกกสฺส นิทฺเทเส ธมฺมววตฺถานาทโย ตโย ตโย มหาวารา โหนฺติ. เต ปน ตตฺถ ตตฺถ นยมตฺตเมว ทสฺเสตฺวา สํขิตฺตาติ.
ปถวีกสิณํ.
๒๐๓. อิทานิ ยสฺมา อาโปกสิณาทีสุปิ เอตานิ ฌานานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา เตสํ ทสฺสนตฺถํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. เตสุ สพฺโพ ปาฬินโย จ อตฺถวิภาวนา จ จิตฺตคณนา จ วารสงฺเขโป จ ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ภาวนานโย ปน กสิณปริกมฺมํ อาทึ กตฺวา สพฺโพ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ ๑.๙๑ อาทโย) ปกาสิโตเยว. มหาสกุลุทายิสุตฺเต ปน ทสกสิณานิ (ม. นิ. ๒.๒๕๐) วุตฺตานิ. เตสุ วิฺาณกสิณํ อากาเส ¶ ปวตฺติตมหคฺคตวิฺาณมฺปิ ตตฺถ ปริกมฺมํ กตฺวา นิพฺพตฺตา วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติปิ โหตีติ สพฺพปฺปกาเรน อารุปฺปเทสนเมว ภชติ, ตสฺมา อิมสฺมึ าเน น กถิตํ.
อากาสกสิณนฺติ ปน กสิณุคฺฆาฏิมมากาสมฺปิ, ตํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตกฺขนฺธาปิ, ภิตฺติจฺฉิทฺทาทีสุ อฺตรสฺมึ คเหตพฺพนิมิตฺตปริจฺเฉทากาสมฺปิ, ตํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนํ จตุกฺกปฺจกชฺฌานมฺปิ วุจฺจติ. ตตฺถ ปุริมนโย อารุปฺปเทสนํ ภชติ, ปจฺฉิมนโย รูปาวจรเทสนํ. อิติ มิสฺสกตฺตา อิมํ รูปาวจรเทสนํ น อารุฬฺหํ. ปริจฺเฉทากาเส นิพฺพตฺตชฺฌานํ ปน รูปูปปตฺติยา มคฺโค โหติ ตสฺมา ตํ คเหตพฺพํ. ตสฺมึ ปน จตุกฺกปฺจกชฺฌานเมว อุปฺปชฺชติ, อรูปชฺฌานํ นุปฺปชฺชติ. กสฺมา? กสิณุคฺฆาฏนสฺส อลาภโต. ตฺหิ ปุนปฺปุนํ อุคฺฆาฏิยมานมฺปิ อากาสเมว โหตีติ น ตตฺถ กสิณุคฺฆาฏนํ ลพฺภติ, ตสฺมา ตตฺถุปฺปนฺนํ ฌานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติ, อภิฺาปาทกํ โหติ, วิปสฺสนาปาทกํ โหติ, นิโรธปาทกํ น โหติ. อนุปุพฺพนิโรโธ ปเนตฺถ ยาว ¶ ปฺจมชฺฌานา ลพฺภติ วฏฺฏปาทกํ โหติเยว. ยถา เจตํ เอวํ ปุริมกสิเณสุ อุปฺปนฺนํ ฌานมฺปิ. นิโรธปาทกภาโว ปเนตฺถ วิเสโส. เสสเมตฺถ อากาสกสิเณ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๙๘-๙๙) วุตฺตเมว.
‘เอโกปิ ¶ หุตฺวา พหุธา โหตี’ติอาทินยํ (ที. นิ. ๑.๒๓๙; ปฏิ. ม. ๑.๑๐๒) ปน วิกุพฺพนํ อิจฺฉนฺเตน ปุริเมสุ อฏฺสุ กสิเณสุ อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา กสิณานุโลมโต กสิณปฏิโลมโต, กสิณานุโลมปฏิโลมโต; ฌานานุโลมโต, ฌานปฏิโลมโต, ฌานานุโลมปฏิโลมโต; ฌานุกฺกนฺติกโต, กสิณุกฺกนฺติกโต, ฌานกสิณุกฺกนฺติกโต; องฺคสงฺกนฺติกโต, อารมฺมณสงฺกนฺติกโต, องฺคารมฺมณสงฺกนฺติกโต; องฺคววตฺถานโต, อารมฺมณววตฺถานโตติ อิเมหิ จุทฺทสหากาเรหิ จิตฺตํ ปริทเมตพฺพํ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๕-๓๖๖) วุตฺตาเยว.
เอวํ ปน จุทฺทสหากาเรหิ จิตฺตํ อปริทเมตฺวา, ปุพฺเพ อภาวิตภาวโน อาทิกมฺมิโก โยคาวจโร อิทฺธิวิกุพฺพนํ สมฺปาเทสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. อาทิกมฺมิกสฺส หิ กสิณปริกมฺมมฺปิ ภาโร; สเตสุ สหสฺเสสุ วา เอโกว สกฺโกติ. กตกสิณปริกมฺมสฺส นิมิตฺตุปฺปาทนํ ภาโร; สเตสุ สหสฺเสสุ วา เอโกว สกฺโกติ. อุปฺปนฺเน นิมิตฺเต ตํ วฑฺเฒตฺวา อปฺปนาธิคโม ¶ ภาโร, สเตสุ สหสฺเสสุ วา เอโกว สกฺโกติ. อธิคตปฺปนสฺส จุทฺทสหากาเรหิ จิตฺตปริทมนํ ภาโร; สเตสุ สหสฺเสสุ วา เอโกว สกฺโกติ. จุทฺทสหากาเรหิ ปริทมิตจิตฺตสฺสาปิ อิทฺธิวิกุพฺพนํ นาม ภาโร, สเตสุ สหสฺเสสุ วา เอโกว สกฺโกติ. วิกุพฺพนปฺปตฺตสฺสาปิ ขิปฺปนิสนฺติภาโว นาม ภาโร; สเตสุ สหสฺเสสุ วา เอโกว ขิปฺปนิสนฺติ โหติ. เถรมฺพตฺถเล มหาโรหนคุตฺตตฺเถรสฺส คิลานุปฏฺานํ อาคเตสุ ตึสมตฺเตสุ อิทฺธิมนฺตสหสฺเสสุ อุปสมฺปทาย อฏฺวสฺสิโก รกฺขิตตฺเถโร วิย. สพฺพํ วตฺถุ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๗) วิตฺถาริตเมวาติ.
กสิณกถา.
อภิภายตนกถา
๒๐๔. เอวํ อฏฺสุ กสิเณสุ รูปาวจรกุสลํ นิทฺทิสิตฺวา, อิทานิ ยสฺมา สมาเนปิ อารมฺมเณ ภาวนาย อสมานํ อิเมสุ อฏฺสุ กสิเณสุ อฺมฺปิ อภิภายตนสงฺขาตํ รูปาวจรกุสลํ ¶ ปวตฺตติ, ตสฺมา ¶ ตํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อลาภิตาย วา อนตฺถิกตาย วา อชฺฌตฺตรูเป ปริกมฺมสฺาวิรหิโต. พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ พหิทฺธา อฏฺสุ กสิเณสุ กตปริกมฺมตาย ปริกมฺมวเสน เจว อปฺปนาวเสน จ ตานิ พหิทฺธา อฏฺสุ กสิเณสุ รูปานิ ปสฺสติ. ปริตฺตานีติ อวฑฺฒิตานิ. ตานิ อภิภุยฺยาติ ยถา นาม สมฺปนฺนคหณิโก กฏจฺฉุมตฺตํ ภตฺตํ ลภิตฺวา ‘กึ เอตฺถ ภฺุชิตพฺพํ อตฺถี’ติ สงฺกฑฺฒิตฺวา เอกกพฬเมว กโรติ, เอวเมว าณุตฺตริโก ปุคฺคโล วิสทาโณ ‘กิเมตฺถ ปริตฺตเก อารมฺมเณ สมาปชฺชิตพฺพํ อตฺถิ, นายํ มม ภาโร’ติ ตานิ รูปานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ. สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ นิพฺพตฺเตตีติ อตฺโถ. ชานามิ ปสฺสามีติ อิมินา ปนสฺส ปุพฺพภาโค กถิโต. อาคมฏฺกถาสุ ปน วุตฺตํ – อิมินาสฺส ปน อาโภโค กถิโต. โส จ โข สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺส, น อนฺโตสมาปตฺติยนฺติ (อ. นิ. อฏฺ. ๓.๘.๖๕).
อปฺปมาณานีติ ¶ วฑฺฒิตปฺปมาณานิ. อภิภุยฺยาติ เอตฺถ ปน ยถา มหคฺฆโส ปุริโส เอกํ ภตฺตวฑฺฒิตกํ ลภิตฺวา ‘อฺาปิ โหตุ ‘กิเมสา มยฺหํ กริสฺสตี’ติ ตํ น มหนฺตโต ปสฺสติ, เอวเมว าณุตฺตโร ปุคฺคโล วิสทฺาโณ ‘กิเมตฺถ สมาปชฺชิตพฺพํ, น อิทํ อปฺปมาณํ, น มยฺหํ จิตฺเตกคฺคตากรเณ ภาโร อตฺถี’ติ ตานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ. สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ นิพฺพตฺเตตีติ อตฺโถ.
ปริตฺตํ ปริตฺตารมฺมณํ อปฺปมาณํ ปริตฺตารมฺมณนฺติ อิธ ปริตฺตานีติ อาคตตฺตา อปฺปมาณารมฺมณตา น คหิตา, ปรโต อปฺปมาณานีติ อาคตตฺตา ปริตฺตารมฺมณตา. อฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ‘อิมสฺมึ าเน จตฺตาริ จตฺตาริ อารมฺมณานิ อคฺคเหตฺวา ทฺเว ทฺเวว คหิตานิ ¶ . กึ การณา? จตูสุ หิ คหิเตสุ เทสนา โสฬสกฺขตฺตุกา โหติ, สตฺถารา จ เหฏฺา โสฬสกฺขตฺตุกา เทสนา กิลฺชมฺหิ ติเล ปตฺถรนฺเตน วิย วิตฺถารโต กถิตา. ตสฺส อิมสฺมึ าเน อฏฺกฺขตฺตุกํ เทสนํ กาตุํ อชฺฌาสโย. ตสฺมา ทฺเว ทฺเวเยว คหิตานีติ เวทิตพฺพานีติ.
สุวณฺณทุพฺพณฺณานีติ ¶ ปริสุทฺธาปริสุทฺธวณฺณานิ. ปริสุทฺธานิ หิ นีลาทีนิ สุวณฺณานิ, อปริสุทฺธานิ จ ทุพฺพณฺณานีติ อิธ อธิปฺเปตานิ. อาคมฏฺกถาสุ ปน ‘สุวณฺณานิ วา โหนฺตุ ทุพฺพณฺณานิ วา, ปริตฺตอปฺปมาณวเสเนว อิมานิ อภิภายตนานิ เทสิตานี’ติ (อ. นิ. อฏฺ. ๓.๘.๖๕) วุตฺตํ. อิเมสุ ปน จตูสุ ปริตฺตํ วิตกฺกจริตวเสน อาคตํ, อปฺปมาณํ โมหจริตวเสน, สุวณฺณํ โทสจริตวเสน, ทุพฺพณฺณํ ราคจริตวเสน. เอเตสฺหิ เอตานิ สปฺปายานิ. สา จ เตสํ สปฺปายตา วิตฺถารโต วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๔๓) จริยนิทฺเทเส วุตฺตา.
กสฺมา ปน, ยถา สุตฺตนฺเต ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานี’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๑๗๓; ม. นิ. ๒.๒๔๙; อ. นิ. ๘.๖๕) วุตฺตํ, เอวํ อวตฺวา อิธ จตูสุปิ อภิภายตเนสุ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺิตาว วุตฺตาติ? อชฺฌตฺตรูปานํ อนภิภวนียโต. ตตฺถ วา หิ อิธ วา พหิทฺธารูปาเนว อภิภวิตพฺพานิ, ตสฺมา ตานิ นิยมโต วตฺตพฺพานีติ ตตฺรปิ อิธปิ วุตฺตานิ. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อิทํ ปน สตฺถุ เทสนาวิลาสมตฺตเมว. อยํ ตาว จตูสุ อภิภายตเนสุ อปุพฺพปทวณฺณนา. สุทฺธิกนยปฏิปทาเภโท ปเนตฺถ ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยเนว เอเกกสฺมึ อภิภายตเน เวทิตพฺโพ. เกวลฺเจตฺถ ¶ อารมฺมณจตุกฺกํ อารมฺมณทุกํ โหติ, โสฬสกฺขตฺตุกฺจ อฏฺกฺขตฺตุกํ. เสสํ ตาทิสเมว. เอวเมตฺถ เอเกกสฺมึ อภิภายตเน เอโก สุทฺธิกนวโก, จตฺตาโร ปฏิปทานวกา, ทฺเว อารมฺมณนวกา, อารมฺมณปฏิปทามิสฺสเก อฏฺ นวกาติ ปนฺนรส นวกาติ จตูสุปิ อภิภายตเนสุ สมสฏฺิ นวกา เวทิตพฺพา.
๒๔๖. ปฺจมอภิภายตนาทีสุ ¶ นีลานีติ สพฺพสงฺคาหิกวเสน วุตฺตํ. นีลวณฺณานีติ วณฺณวเสน, นีลนิทสฺสนานีติ นิทสฺสนวเสน, อปฺายมานวิวรานิ, อสมฺภินฺนวณฺณานิ, เอกนีลาเนว หุตฺวา ทิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. นีลนิภาสานีติ อิทํ ปน โอภาสนวเสน วุตฺตํ; นีโลภาสานิ นีลปฺปภายุตฺตานีติ อตฺโถ. เอเตน เนสํ สุวิสุทฺธตํ ทสฺเสติ. สุวิสุทฺธวณฺณวเสน หิ อิมานิ จตฺตาริ อภิภายตนานิ วุตฺตานิ. ปีตานีติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นีลกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต นีลสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหาติ. ปุปฺผสฺมึ วา วตฺถสฺมึ วา วณฺณธาตุยา วาติอาทิกํ ¶ ปเนตฺถ กสิณกรณฺจ ปริกมฺมฺจ อปฺปนาวิธานฺจ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๙๓ อาทโย) วิตฺถารโต วุตฺตเมว. ยถา จ ปถวีกสิเณ เอวเมตฺถ เอเกกสฺมึ อภิภายตเน ปฺจวีสติ ปฺจวีสติ นวกา เวทิตพฺพา.
อภิภายตนกถา.
วิโมกฺขกถา
๒๔๘. อิทานิ ยสฺมา อิทํ รูปาวจรกุสลํ นาม น เกวลํ อารมฺมณสงฺขาตานํ อายตนานํ อภิภวนโต อภิภายตนวเสเนว อุปฺปชฺชติ, อถ โข วิโมกฺขวเสนปิ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตมฺปิ นยํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ.
เกนฏฺเน ปน วิโมกฺโข เวทิตพฺโพติ? อธิมุจฺจนฏฺเน. โก อยํ อธิมุจฺจนฏฺโ นาม? ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ สุฏฺุ วิมุจฺจนฏฺโ, อารมฺมเณ จ อภิรติวเสน สุฏฺุ วิมุจฺจนฏฺโ ¶ . ปิตุองฺเก วิสฺสฏฺองฺคปจฺจงฺคสฺส ทารกสฺส สยนํ วิย อนิคฺคหิตภาเวน นิราสงฺกตาย อารมฺมเณ ปวตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํลกฺขณฺหิ วิโมกฺขภาวปฺปตฺตํ รูปาวจรกุสลํ ทสฺเสตุํ อยํ นโย อารทฺโธ.
ตตฺถ รูปีติ อชฺฌตฺตํ เกสาทีสุ อุปฺปาทิตํ รูปชฺฌานํ รูปํ, ตทสฺสตฺถีติ รูปี. อชฺฌตฺตฺหิ นีลปริกมฺมํ กโรนฺโต เกเส วา ปิตฺเต วา อกฺขิตารกาย วา กโรติ. ปีตปริกมฺมํ กโรนฺโต เมเท วา ฉวิยา วา อกฺขีนํ ¶ ปีตฏฺาเน วา กโรติ. โลหิตปริกมฺมํ กโรนฺโต มํเส วา โลหิเต วา ชิวฺหาย วา หตฺถตลปาทตเลสุ วา อกฺขีนํ รตฺตฏฺาเน วา กโรติ. โอทาตปริกมฺมํ กโรนฺโต อฏฺิมฺหิ วา ทนฺเต วา นเข วา อกฺขีนํ เสตฏฺาเน วา กโรติ. เอวํ ปริกมฺมํ กตฺวา อุปฺปนฺนชฺฌานสมงฺคินํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. รูปานิ ปสฺสตีติ พหิทฺธาปิ นีลกสิณาทิรูปานิ ฌานจกฺขุนา ปสฺสติ. อิมินา อชฺฌตฺตพหิทฺธาวตฺถุเกสุ กสิเณสุ ฌานปฏิลาโภ ทสฺสิโต.
อชฺฌตฺตํ ¶ อรูปสฺีติ อชฺฌตฺตํ น รูปสฺี. อตฺตโน เกสาทีสุ อนุปฺปาทิตรูปาวจรชฺฌาโนติ อตฺโถ. อิมินา พหิทฺธา ปริกมฺมํ กตฺวา พหิทฺธาว ปฏิลทฺธชฺฌานตา ทสฺสิตา.
สุภนฺติ อิมินา สุวิสุทฺเธสุ นีลาทีสุ วณฺณกสิเณสุ ฌานานิ ทสฺสิตานิ. ตตฺถ กิฺจาปิ อนฺโตอปฺปนาย ‘สุภ’นฺติ อาโภโค นตฺถิ, โย ปน สุวิสุทฺธํ สุภกสิณํ อารมฺมณํ กตฺวา วิหรติ, โส ยสฺมา ‘สุภ’นฺติ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ตถา ทุติยาทีนิ, ตสฺมา เอวํ เทสนา กตา. ปฏิสมฺภิทามคฺเค ปน ‘‘กถํ สุภนฺตฺเวว อธิมุตฺโต โหตีติ วิโมกฺโข? อิธ ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ…เป… วิหรติ, เมตฺตาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ; กรุณา… มุทิตา… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ…เป… วิหรติ, อุเปกฺขาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ, เอวํ สุภนฺตฺเวว อธิมุตฺโต โหตี’’ติ วิโมกฺโขติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๒) วุตฺตํ. อิธ ปน อุปริ ปาฬิยํเยว พฺรหฺมวิหารานํ อาคตตฺตา ตํ นยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สุนีลกสุปีตกสุโลหิตกสุโอทาตกปริสุทฺธนีลกปริสุทฺธปีตกปริสุทฺธโลหิตกปริสุทฺธโอทาตกวเสเนว สุภวิโมกฺโข อนฺุาโต. อิติ กสิณนฺติ วา อภิภายตนนฺติ วา วิโมกฺโขติ วา รูปาวจรชฺฌานเมว ¶ . ตฺหิ อารมฺมณสฺส สกลฏฺเน กสิณํ นาม, อารมฺมณํ อภิภวนฏฺเน อภิภายตนํ นาม, อารมฺมเณ อธิมุจฺจนฏฺเน ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ วิมุจฺจนฏฺเน ¶ วิโมกฺโข นามาติ วุตฺตํ. ตตฺถ กสิณเทสนา อภิธมฺมวเสน, อิตรา ปน สุตฺตนฺตเทสนาวเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อยเมตฺถ อปุพฺพปทวณฺณนา. เอเกกสฺมึ ปน วิโมกฺเข ปถวีกสิเณ วิย ปฺจวีสติ ปฺจวีสตีติ กตฺวา ปฺจสตฺตติ นวกา เวทิตพฺพา.
วิโมกฺขกถา.
พฺรหฺมวิหารกถา
๒๕๑. อิทานิ เมตฺตาทิพฺรหฺมวิหารวเสน ปวตฺตมานํ รูปาวจรกุสลํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เมตฺตาสหคตนฺติ ¶ เมตฺตาย สมนฺนาคตํ. ปรโต กรุณาสหคตาทีสุปิ เอเสว นโย. เยน ปเนส วิธาเนน ปฏิปนฺโน เมตฺตาทิสหคตานิ ฌานานิ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ตํ เมตฺตาทีนํ ภาวนาวิธานํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๐) วิตฺถาริตเมว. อวเสสาย ปาฬิยา อตฺโถ ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
เกวลฺหิ ปถวีกสิเณ ปฺจวีสติ นวกา, อิธ ปุริมาสุ ตีสุ ติกจตุกฺกชฺฌานิกวเสน ปฺจวีสติ สตฺตกา, อุเปกฺขาย จตุตฺถชฺฌานวเสน ปฺจวีสติ เอกกา, กรุณามุทิตาสุ จ ฉนฺทาทีหิ จตูหิ สทฺธึ กรุณามุทิตาติ อิเมปิ เยวาปนกา ลพฺภนฺติ. ทุกฺขปฏิปทาทิภาโว เจตฺถ เมตฺตาย ตาว พฺยาปาทวิกฺขมฺภนวเสน, กรุณาย วิหึสาวิกฺขมฺภนวเสน, มุทิตาย อรติวิกฺขมฺภนวเสน, อุเปกฺขาย ราคปฏิฆวิกฺขมฺภนวเสน เวทิตพฺโพ. ปริตฺตารมฺมณตา ปน นพหุสตฺตารมฺมณวเสน; อปฺปมาณารมฺมณตา พหุสตฺตารมฺมณวเสน โหตีติ อยํ วิเสโส. เสสํ ตาทิสเมว.
เอวํ ตาว ปาฬิวเสเนว –
พฺรหฺมุตฺตเมน ¶ กถิเต, พฺรหฺมวิหาเร อิเม อิติ วิทิตฺวา;
ภิยฺโย เอเตสุ อยํ, ปกิณฺณกกถาปิ วิฺเยฺยา.
เอตาสุ หิ เมตฺตากรุณามุทิตาอุเปกฺขาสุ อตฺถโต ตาว เมชฺชตีติ เมตฺตา, สินิยฺหตีติ อตฺโถ. มิตฺเต วา ภวา, มิตฺตสฺส วา เอสา ปวตฺตตีปิ เมตฺตา. ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ หทยกมฺปนํ กโรตีติ กรุณา. กิณาติ วา ปรทุกฺขํ หึสติ วินาเสตีติ กรุณา ¶ . กิรียติ วา ทุกฺขิเตสุ ผรณวเสน ปสาริยตีติ กรุณา. โมทนฺติ ตาย ตํสมงฺคิโน, สยํ วา โมทติ, โมทนมตฺตเมว วา ตนฺติ มุทิตา. ‘อเวรา โหนฺตู’ติอาทิพฺยาปารปฺปหาเนน มชฺฌตฺตภาวูปคมเนน จ อุเปกฺขตีติ อุเปกฺขา.
ลกฺขณาทิโต ปเนตฺถ หิตาการปฺปวตฺติลกฺขณา ‘เมตฺตา’, หิตูปสํหารรสา, อาฆาตวินยปจฺจุปฏฺานา, สตฺตานํ มนาปภาวทสฺสนปทฏฺานา. พฺยาปาทูปสโม เอติสฺสา สมฺปตฺติ, สิเนหสมฺภโว วิปตฺติ. ทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺติลกฺขณา ‘กรุณา’, ปรทุกฺขาสหนรสา, อวิหึสาปจฺจุปฏฺานา ¶ , ทุกฺขาภิภูตานํ อนาถภาวทสฺสนปทฏฺานา. วิหึสูปสโม ตสฺสา สมฺปตฺติ, โสกสมฺภโว วิปตฺติ. สตฺเตสุ ปโมทนลกฺขณา ‘มุทิตา’, อนิสฺสายนรสา, อรติวิฆาตปจฺจุปฏฺานา, สตฺตานํ สมฺปตฺติทสฺสนปทฏฺานา. อรติวูปสโม ตสฺสา สมฺปตฺติ, ปหาสสมฺภโว วิปตฺติ. สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺติลกฺขณา ‘อุเปกฺขา’, สตฺเตสุ สมภาวทสฺสนรสา, ปฏิฆานุนยวูปสมปจฺจุปฏฺานา, ‘‘กมฺมสฺสกา สตฺตา, เต กสฺส รุจิยา สุขิตา วา ภวิสฺสนฺติ, ทุกฺขโต วา มุจฺจิสฺสนฺติ, ปตฺตสมฺปตฺติโต วา น ปริหายิสฺสนฺตี’’ติ? เอวํ ปวตฺตกมฺมสฺสกตาทสฺสนปทฏฺานา. ปฏิฆานุนยวูปสโม ตสฺสา สมฺปตฺติ, เคหสฺสิตาย อฺาณุเปกฺขาย สมฺภโว วิปตฺติ.
จตุนฺนมฺปิ ปเนเตสํ พฺรหฺมวิหารานํ วิปสฺสนาสุขฺเจว ภวสมฺปตฺติ จ สาธารณปฺปโยชนํ, พฺยาปาทาทิปฏิฆาโต อาเวณิกํ. พฺยาปาทปฏิฆาตปฺปโยชนา เหตฺถ เมตฺตา, วิหึสาอรติราคปฏิฆาตปฺปโยชนา อิตรา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, พฺยาปาทสฺส ยทิทํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ, นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, วิเหสาย ยทิทํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ; นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, อรติยา ยทิทํ ¶ มุทิตาเจโตวิมุตฺติ, นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, ราคสฺส ยทิทํ อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๖; อ. นิ. ๖.๑๓).
เอกเมกสฺส เจตฺถ อาสนฺนทูรวเสน ทฺเว ทฺเว ปจฺจตฺถิกา. เมตฺตาพฺรหฺมวิหารสฺส หิ, สมีปจาโร วิย ปุริสสฺส สปตฺโต, คุณทสฺสนสภาคตาย ราโค อาสนฺนปจฺจตฺถิโก. โส ลหุํ โอตารํ ลภติ. ตสฺมา ตโต สุฏฺุ เมตฺตา รกฺขิตพฺพา. ปพฺพตาทิคหนนิสฺสิโต วิย ปุริสสฺส สปตฺโต สภาววิสภาคตาย พฺยาปาโท ทูรปจฺจตฺถิโก. ตสฺมา ตโต ¶ นิพฺภเยน เมตฺตายิตพฺพํ. เมตฺตายิสฺสติ จ นาม โกปฺจ กริสฺสตีติ อฏฺานเมตํ.
กรุณาพฺรหฺมวิหารสฺส ‘‘จกฺขุวิฺเยฺยานํ รูปานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ มโนรมานํ โลกามิสปฏิสํยุตฺตานํ อปฺปฏิลาภํ วา อปฺปฏิลาภโต สมนุปสฺสโต ปุพฺเพ วา ปฏิลทฺธปุพฺพํ อตีตํ นิรุทฺธํ วิปริณตํ สมนุสฺสรโต ¶ อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ. ยํ เอวรูปํ โทมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ เคหสฺสิตํ โทมนสฺส’’นฺติอาทินา นเยน อาคตํ เคหสฺสิตํ โทมนสฺสํ วิปตฺติทสฺสนสภาคตาย อาสนฺนปจฺจตฺถิกํ. สภาววิสภาคตาย วิเหสา ทูรปจฺจตฺถิกา. ตสฺมา ตโต นิพฺภเยน กรุณายิตพฺพํ. กรุณฺจ นาม กริสฺสติ ปาณิอาทีหิ จ วิเหสิสฺสตีติ อฏฺานเมตํ.
มุทิตาพฺรหฺมวิหารสฺส ‘‘จกฺขุวิฺเยฺยานํ รูปานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ มโนรมานํ โลกามิสปฏิสํยุตฺตานํ ปฏิลาภํ วา ปฏิลาภโต สมนุปสฺสโต ปุพฺเพ วา ปฏิลทฺธปุพฺพํ อตีตํ นิรุทฺธํ วิปริณตํ สมนุสฺสรโต อุปฺปชฺชติ โสมนสฺสํ. ยํ เอวรูปํ โสมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ เคหสฺสิตํ โสมนสฺส’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๓.๓๐๖) นเยน อาคตํ เคหสฺสิตํ โสมนสฺสํ สมฺปตฺติทสฺสนสภาคตาย อาสนฺนปจฺจตฺถิกํ. สภาววิสภาคตาย อรติ ทูรปจฺจตฺถิกา. ตสฺมา ตโต นิพฺภเยน มุทิตา ภาเวตพฺพา. ปมุทิโต จ นาม ภวิสฺสติ ปนฺตเสนาสเนสุ จ อธิกุสลธมฺเมสุ จ อุกฺกณฺิสฺสตีติ อฏฺานเมตํ.
อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารสฺส ปน ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ อุเปกฺขา พาลสฺส มูฬฺหสฺส ปุถุชฺชนสฺส อโนธิชินสฺส อวิปากชินสฺส อนาทีนวทสฺสาวิโน อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส. ยา เอวรูปา อุเปกฺขา รูปํ สา นาติวตฺตติ. ตสฺมา สา อุเปกฺขา เคหสฺสิตาติ วุจฺจตี’’ติอาทินา ¶ (ม. นิ. ๓.๓๐๘) นเยน อาคตา เคหสฺสิตา อฺาณุเปกฺขา โทสคุณานํ อวิจารณวเสน สภาคตฺตา อาสนฺนปจฺจตฺถิกา. สภาววิสภาคตาย ราคปฏิฆา ทูรปจฺจตฺถิกา. ตสฺมา ตโต นิพฺภเยน อุเปกฺขิตพฺพํ. อุเปกฺขิสฺสติ จ นาม รชฺชิสฺสติ จ ปฏิหฺิสฺสติ จาติ อฏฺานเมตํ.
สพฺเพสมฺปิ จ เอเตสํ กตฺตุกามตาฉนฺโท อาทิ, นีวรณาทิวิกฺขมฺภนํ มชฺฌํ, อปฺปนา ปริโยสานํ, ปฺตฺติธมฺมวเสน ¶ เอโก วา สตฺโต อเนกา วา สตฺตา อารมฺมณํ, อุปจาเร วา อปฺปนาย วา ปตฺตาย อารมฺมณวฑฺฒนํ.
ตตฺรายํ วฑฺฒนกฺกโม – ยถา หิ กุสโล กสฺสโก กสิตพฺพฏฺานํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กสติ, เอวํ ปมเมว เอกํ อาวาสํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ตตฺถ สตฺเตสุ ‘อิมสฺมึ อาวาเส สตฺตา อเวรา โหนฺตู’ติอาทินา นเยน เมตฺตา ภาเวตพฺพา. ตตฺถ จิตฺตํ มุทุํ กมฺมนิยํ กตฺวา ทฺเว อาวาสา ปริจฺฉินฺทิตพฺพา ¶ . ตโต อนุกฺกเมน ตโย จตฺตาโร ปฺจ ฉ สตฺต อฏฺ นว ทส, เอกา รจฺฉา, อุปฑฺฒคาโม, คาโม, ชนปโท, รชฺชํ, เอกา ทิสาติ เอวํ ยาว เอกํ จกฺกวาฬํ, ตโต วา ปน ภิยฺโย ตตฺถ ตตฺถ สตฺเตสุ เมตฺตา ภาเวตพฺพา. ตถา กรุณาทโยติ. อยเมตฺถ อารมฺมณวฑฺฒนกฺกโม.
ยถา ปน กสิณานํ นิสฺสนฺโท อารุปฺปา, สมาธีนํ นิสฺสนฺโท เนวสฺานาสฺายตนํ, วิปสฺสนานํ นิสฺสนฺโท ผลสมาปตฺติ, สมถวิปสฺสนานํ นิสฺสนฺโท นิโรธสมาปตฺติ, เอวํ ปุริมพฺรหฺมวิหารตฺตยสฺส นิสฺสนฺโท เอตฺถ อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาโร. ยถา หิ ถมฺเภ อนุสฺสาเปตฺวา ตุลาสงฺฆาฏํ อนาโรเปตฺวา น สกฺกา อากาเส กูฏโคปานสิโย เปตุํ, เอวํ ปุริเมสุ ตติยชฺฌานํ วินา น สกฺกา จตุตฺถํ ภาเวตุํ. กสิเณสุ ปน อุปฺปนฺนตติยชฺฌานสฺสเปสา นุปฺปชฺชติ วิสภาคารมฺมณตฺตาติ.
เอตฺถ สิยา – ‘กสฺมา ปเนตา เมตฺตา กรุณา มุทิตา อุเปกฺขา พฺรหฺมวิหาราติ วุจฺจนฺติ? กสฺมา จ, จตสฺโสว? โก จ เอตาสํ กโม? วิภงฺเค จ กสฺมา อปฺปมฺาติ วุตฺตา’ติ? วุจฺจเต – เสฏฺฏฺเน ตาว นิทฺโทสภาเวน เจตฺถ พฺรหฺมวิหารตา เวทิตพฺพา. สตฺเตสุ สมฺมาปฏิปตฺติภาเวน หิ เสฏฺา เอเต วิหารา. ยถา จ พฺรหฺมาโน นิทฺโทสจิตฺตา วิหรนฺติ, เอวํ เอเตหิ ¶ สมฺปยุตฺตา โยคิโน พฺรหฺมสมาว หุตฺวา วิหรนฺตีติ เสฏฺฏฺเน นิทฺโทสภาเวน จ พฺรหฺมวิหาราติ วุจฺจนฺติ.
กสฺมา จ จตสฺโสติอาทิปฺหสฺส ปน อิทํ วิสฺสชฺชนํ –
วิสุทฺธิมคฺคาทิวสา จตสฺโส,
หิตาทิอาการวสา ปนาสํ;
กโม ปวตฺตนฺติ จ อปฺปมาเณ,
ตา โคจเร เยน ตทปฺปมฺา.
เอตาสุ หิ ยสฺมา เมตฺตา พฺยาปาทพหุลสฺส, กรุณา วิหึสาพหุลสฺส, มุทิตา อรติพหุลสฺส, อุเปกฺขา ราคพหุลสฺส วิสุทฺธิมคฺโค; ยสฺมา จ หิตูปสํหารอหิตาปนยนสมฺปตฺติโมทนอนาโภควเสน ¶ จตุพฺพิโธเยว สตฺเตสุ มนสิกาโร; ยสฺมา จ ยถา มาตา ทหรคิลานโยพฺพนปฺปตฺตสกิจฺจปสุเตสุ ¶ จตูสุ ปุตฺเตสุ ทหรสฺส อภิวุฑฺฒิกามา โหติ, คิลานสฺส เคลฺาปนยนกามา, โยพฺพนปฺปตฺตสฺส โยพฺพนสมฺปตฺติยา จิรฏฺิติกามา, สกิจฺจปสุตสฺส กิสฺมิฺจิปิ ปริยาเย อพฺยาวฏา โหติ, ตถา อปฺปมฺาวิหาริเกนาปิ สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตาทิวเสน ภวิตพฺพํ, ตสฺมา อิโต วิสุทฺธิมคฺคาทิวสา จตสฺโสว อปฺปมฺา.
ยสฺมา ปน จตสฺโสเปตา ภาเวตุกาเมน ปมํ หิตาการปฺปวตฺติวเสน สตฺเตสุ ปฏิปชฺชิตพฺพํ, หิตาการปฺปวตฺติลกฺขณา จ เมตฺตา; ตโต เอวํ ปตฺถิตหิตานํ สตฺตานํ ทุกฺขาภิภวํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา สมฺภาเวตฺวา วา ทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺติวเสน, ทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺติลกฺขณา จ กรุณา; อเถวํ ปตฺถิตหิตานํ ปตฺถิตทุกฺขาปคมานฺจ เนสํ สมฺปตฺตึ ทิสฺวา สมฺปตฺติปฺปโมทนวเสน, ปโมทนลกฺขณา จ มุทิตา; ตโต ปรํ ปน กตฺตพฺพาภาวโต อชฺฌุเปกฺขกตาสงฺขาเตน มชฺฌตฺตากาเรน ปฏิปชฺชิตพฺพํ, มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺติลกฺขณา จ อุเปกฺขา; ตสฺมา อิโต หิตาทิอาการวสา ปนาสํ ปมํ เมตฺตา วุตฺตา. อถ กรุณา มุทิตา อุเปกฺขาติ อยํ กโม เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา ปน สพฺพาเปตา อปฺปมาเณ โคจเร ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา อปฺปมฺาติ วุจฺจนฺติ. อปฺปมาณา ¶ หิ สตฺตา เอตาสํ โคจรภูตา, ‘เอกสตฺตสฺสาปิ จ เอตฺตเก ปเทเส เมตฺตาทโย ภาเวตพฺพา’ติ เอวํ ปมาณํ อคฺคเหตฺวา สกลผรณวเสเนว ปวตฺตาติ, เตน วุตฺตํ –
วิสุทฺธิมคฺคาทิวสา จตสฺโส,
หิตาทิอาการวสา ปนาสํ;
กโม ปวตฺตนฺติ จ อปฺปมาเณ,
ตา โคจเร เยน ตทปฺปมฺาติ.
เอวํ อปฺปมาณโคจรตาย เอกลกฺขณาสุ จาปิ เอตาสุ ปุริมา ติสฺโส ติกจตุกฺกชฺฌานิกาว โหนฺติ. กสฺมา? โสมนสฺสาวิปฺปโยคโต. กสฺมา ปนาสํ โสมนสฺเสน อวิปฺปโยโคติ? โทมนสฺสสมุฏฺิตานํ ¶ พฺยาปาทาทีนํ นิสฺสรณตฺตา. ปจฺฉิมา ปน อวเสเสกชฺฌานิกาว. กสฺมา? อุเปกฺขาเวทนาสมฺปโยคโต. น หิ สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺตา ¶ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา อุเปกฺขาเวทนํ วินา วตฺตตีติ.
พฺรหฺมวิหารกถา.
อสุภกถา
๒๖๓. อิทานิ ราคจริตสตฺตานํ เอกนฺตหิตํ นานารมฺมเณสุ เอเกกชฺฌานวเสเนว ปวตฺตมานํ รูปาวจรกุสลํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ.
ตตฺถ อุทฺธุมาตกสฺาสหคตนฺติอาทีสุ, ภสฺตา วิย วายุนา, อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา ยถานุกฺกมํ สมุคฺคเตน สูนภาเวน ธุมาตตฺตา อุทฺธุมาตํ. อุทฺธุมาตเมว อุทฺธุมาตกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ อุทฺธุมาตนฺติ อุทฺธุมาตกํ. ตถารูปสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. วินีลํ วุจฺจติ วิปริภินฺนนีลวณฺณํ. วินีลเมว วินีลกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วินีลนฺติ วินีลกํ. มํสุสฺสทฏฺาเนสุ รตฺตวณฺณสฺส, ปุพฺพสนฺนิจยฏฺาเนสุ เสตวณฺณสฺส, เยภุยฺเยน จ นีลวณฺณสฺส ¶ , นีลฏฺาเน นีลสาฏกปารุตสฺเสว ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. ปริภินฺนฏฺาเนสุ วิสฺสนฺทมานํ ปุพฺพํ วิปุพฺพํ. วิปุพฺพเมว วิปุพฺพกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิปุพฺพนฺติ วิปุพฺพกํ. ตถารูปสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. วิจฺฉิทฺทํ วุจฺจติ ทฺวิธา ฉินฺทเนน อปธาริตํ, วิจฺฉิทฺทเมว วิจฺฉิทฺทกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิจฺฉิทฺทนฺติ วิจฺฉิทฺทกํ. เวมชฺเฌ ฉินฺนสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. อิโต จ เอตฺโต จ วิวิธากาเรน โสณสิงฺคาลาทีหิ ขายิตํ วิกฺขายิตํ. วิกฺขายิตเมว วิกฺขายิตกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิกฺขายิตนฺติ วิกฺขายิตกํ. ตถารูปสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. วิวิธา ขิตฺตํ วิกฺขิตฺตํ. วิกฺขิตฺตเมว วิกฺขิตฺตกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิกฺขิตฺตนฺติ วิกฺขิตฺตกํ. ‘อฺเน หตฺถํ อฺเน ปาทํ อฺเน สีส’นฺติ เอวํ ตโต ตโต ขิตฺตสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. หตฺจ ตํ ปุริมนเยเนว วิกฺขิตฺตกฺจาติ หตวิกฺขิตฺตกํ. กากปทากาเรน องฺคปจฺจงฺเคสุ สตฺเถน หนิตฺวา ¶ วุตฺตนเยน วิกฺขิตฺตกสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ ¶ อธิวจนํ. โลหิตํ กิรติ, วิกฺขิปติ, อิโต จิโต จ ปคฺฆรตีติ โลหิตกํ. ปคฺฆริตโลหิตมกฺขิตสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. ปุฬวา วุจฺจนฺติ กิมโย. ปุฬเว วิกิรตีติ ปุฬวกํ. กิมิปริปุณฺณสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. อฏฺิเยว อฏฺิกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ อฏฺีติ อฏฺิกํ. อฏฺิสงฺขลิกายปิ เอกฏฺิกสฺสปิ เอตํ อธิวจนํ. อิมานิ จ ปน อุทฺธุมาตกาทีนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนนิมิตฺตานมฺปิ นิมิตฺเตสุ ปฏิลทฺธชฺฌานานมฺปิ เอตาเนว นามานิ.
ตตฺถ อุทฺธุมาตกนิมิตฺเต อปฺปนาวเสน อุปฺปนฺนา สฺา อุทฺธุมาตกสฺา. ตาย อุทฺธุมาตกสฺาย สมฺปโยคฏฺเน สหคตํ อุทฺธุมาตกสฺาสหคตํ. วินีลกสฺาสหคตาทีสุปิ เอเสว นโย. ยํ ปเนตฺถ ภาวนาวิธานํ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย, ตํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๐๓ อาทโย) วุตฺตเมว. อวเสสา ปาฬิวณฺณนา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เกวลฺหิ อิธ, จตุตฺถชฺฌานวเสน อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาเร วิย, ปมชฺฌานวเสน เอเกกสฺมึ ปฺจวีสติ เอกกา โหนฺติ. อสุภารมฺมณสฺส จ อวฑฺฒนียตฺตา, ปริตฺเต อุทฺธุมาตกฏฺาเน อุปฺปนฺนนิมิตฺตารมฺมณํ ปริตฺตารมฺมณํ, มหนฺเต อปฺปมาณารมฺมณํ เวทิตพฺพํ. เสเสสุปิ เอเสว นโยติ.
อิติ ¶ อสุภานิ สุภคุโณ,
ทสสตโลจเนน ถุตกิตฺติ;
ยานิ อโวจ ทสพโล,
เอเกกชฺฌานเหตูนิ.
เอวํ ปาฬินเยเนว, ตาว สพฺพานิ ตานิ ชานิตฺวา;
เตสฺเวว อยํ ภิยฺโย, ปกิณฺณกกถาปิ วิฺเยฺยา. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๐);
เอเตสุ หิ ยตฺถ กตฺถจิ อธิคตชฺฌาโน สุวิกฺขมฺภิตราคตฺตา วีตราโค วิย นิลฺโลลุปฺปจาโร โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ยฺวายํ อสุภเภโท วุตฺโต, โส สรีรสภาวปฺปตฺติวเสน จ ราคจริตเภทวเสน จาติ เวทิตพฺโพ.
ฉวสรีรฺหิ ปฏิกูลภาวํ อาปชฺชมานํ อุทฺธุมาตกสภาวปฺปตฺตํ วา สิยา, วินีลกาทีนํ วา อฺตรสภาวปฺปตฺตํ. อิติ ยาทิสํ ยาทิสํ สกฺกา ¶ โหติ ลทฺธุํ ตาทิเส ¶ ตาทิเส อุทฺธุมาตกปฏิกูลํ วินีลกปฏิกูลนฺติ เอวํ นิมิตฺตํ คณฺหิตพฺพเมวาติ สรีรสภาวปฺปตฺติวเสน ทสธา อสุภปฺปเภโท วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
วิเสสโต เจตฺถ อุทฺธุมาตกํ สรีรสณฺานวิปตฺติปฺปกาสนโต สรีรสณฺานราคิโน สปฺปายํ. วินีลกํ ฉวิราควิปตฺติปฺปกาสนโต สรีรวณฺณราคิโน สปฺปายํ. วิปุพฺพกํ กายวณปฏิพทฺธสฺส ทุคฺคนฺธภาวสฺส ปกาสนโต มาลาคนฺธาทิวเสน สมุฏฺาปิตสรีรคนฺธราคิโน สปฺปายํ. วิจฺฉิทฺทกํ อนฺโตสุสิรภาวปฺปกาสนโต สรีเร ฆนภาวราคิโน สปฺปายํ. วิกฺขายิตกํ มํสูปจยสมฺปตฺติวินาสปฺปกาสนโต ถนาทีสุ สรีรปฺปเทเสสุ มํสูปจยราคิโน สปฺปายํ. วิกฺขิตฺตกํ องฺคปจฺจงฺคานํ วิกฺเขปปฺปกาสนโต องฺคปจฺจงฺคลีลาราคิโน สปฺปายํ. หตวิกฺขิตฺตกํ สรีรสงฺฆาฏเภทวิการปฺปกาสนโต สรีรสงฺฆาฏสมฺปตฺติราคิโน สปฺปายํ. โลหิตกํ โลหิตมกฺขิตปฏิกูลภาวปฺปกาสนโต อลงฺการชนิตโสภราคิโน สปฺปายํ. ปุฬวกํ กายสฺส อเนกกิมิกุลสาธารณภาวปฺปกาสนโต กาเย มมตฺตราคิโน สปฺปายํ. อฏฺิกํ สรีรฏฺีนํ ปฏิกูลภาวปฺปกาสนโต ทนฺตสมฺปตฺติราคิโน สปฺปายนฺติ. เอวํ ราคจริตวเสนาปิ ทสธา อสุภปฺปเภโท วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา ¶ ปน ทสวิเธปิ เอตสฺมึ อสุเภ เสยฺยถาปิ นาม อปริสณฺิตชลาย สีฆโสตาย นทิยา อริตฺตพเลเนว นาวา ติฏฺติ, วินา อริตฺเตน น สกฺกา เปตุํ, เอวเมว ทุพฺพลตฺตา อารมฺมณสฺส วิตกฺกพเลเนว จิตฺตํ เอกคฺคํ หุตฺวา ติฏฺติ, วินา วิตกฺเกน น สกฺกา เปตุํ, ตสฺมา ปมชฺฌานเมเวตฺถ โหติ, น ทุติยาทีนิ. ปฏิกูเลปิ เจตสฺมึ อารมฺมเณ ‘อทฺธา อิมาย ปฏิปทาย ชรามรณมฺหา ปริมุจฺจิสฺสามี’ติ เอวํ อานิสํสทสฺสาวิตาย เจว นีวรณสนฺตาปปฺปหาเนน จ ปีติโสมนสฺสํ ¶ อุปฺปชฺชติ, ‘พหุํ ทานิ เวตนํ ลภิสฺสามี’ติ อานิสํสทสฺสาวิโน ปุปฺผฉฑฺฑกสฺส คูถราสิมฺหิ วิย, อุสฺสนฺนพฺยาธิทุกฺขสฺส โรคิโน วมนวิเรจนปฺปวตฺติยํ วิย จ.
ทสวิธมฺปิ เจตํ อสุภํ ลกฺขณโต เอกเมว โหติ. ทสวิธสฺสปิ หิ เอตสฺส อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกูลภาโว เอว ลกฺขณํ. ตเทตํ อิมินา ¶ ลกฺขเณน น เกวลํ มตสรีเรเยว ทนฺตฏฺิกทสฺสาวิโน ปน เจติยปพฺพตวาสิโน มหาติสฺสตฺเถรสฺส วิย, หตฺถิกฺขนฺธคตํ ราชานํ อุลฺโลเกนฺตสฺส สงฺฆรกฺขิตตฺเถรุปฏฺากสามเณรสฺส วิย จ, ชีวมานกสรีเรปิ อุปฏฺาติ. ยเถว หิ มตสรีรํ เอวํ ชีวมานกมฺปิ อสุภเมว. อสุภลกฺขณํ ปเนตฺถ อาคนฺตุเกน อลงฺกาเรน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา น ปฺายตีติ.
อสุภกถา.
กึ ปน ปถวีกสิณํ อาทึ กตฺวา อฏฺิกสฺาปริโยสานาเวสา รูปาวจรปฺปนา, อุทาหุ อฺาปิ อตฺถีติ? อตฺถิ; อานาปานชฺฌานฺหิ กายคตาสติภาวนา จ อิธ น กถิตา. กิฺจาปิ น กถิตา วาโยกสิเณ ปน คหิเต อานาปานชฺฌานํ คหิตเมว; วณฺณกสิเณสุ จ คหิเตสุ เกสาทีสุ จตุกฺกปฺจกชฺฌานวเสน อุปฺปนฺนา กายคตาสติ, ทสสุ อสุเภสุ คหิเตสุ ทฺวตฺตึสากาเร ปฏิกูลมนสิการชฺฌานวเสน เจว นวสิวถิกาวณฺณชฺฌานวเสน จ ปวตฺตา กายคตาสติ คหิตาวาติ. สพฺพาปิ รูปาวจรปฺปนา อิธ กถิตาว โหตีติ.
รูปาวจรกุสลกถา นิฏฺิตา.
อรูปาวจรกุสลวณฺณนา
อากาสานฺจายตนํ
๒๖๕. อิทานิ ¶ อรูปาวจรกุสลํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อรูปูปปตฺติยาติ อรูปภโว อรูปํ, อรูเป อุปปตฺติ อรูปูปปตฺติ, ตสฺสา อรูปูปปตฺติยา. มคฺคํ ภาเวตีติ อุปายํ เหตุํ การณํ อุปฺปาเทติ วฑฺเฒติ. สพฺพโสติ สพฺพากาเรน. สพฺพาสํ วา อนวเสสานนฺติ อตฺโถ. รูปสฺานนฺติ สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรชฺฌานานฺเจว ¶ ตทารมฺมณานฺจ. รูปาวจรชฺฌานมฺปิ หิ รูปนฺติ วุจฺจติ ‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๔๘; ที. นิ. ๒.๑๒๙). ตสฺส อารมฺมณมฺปิ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๔๔-๒๔๖; ที. นิ. ๒.๑๗๓); ตสฺมา อิธ รูเป สฺา รูปสฺาติ เอวํ สฺาสีเสน ¶ วุตฺตรูปาวจรชฺฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. รูปํ สฺา อสฺสาติ รูปสฺํ, รูปมสฺส นามนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ปถวีกสิณาทิเภทสฺส ตทารมฺมณสฺส เจตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ.
สมติกฺกมาติ วิราคา นิโรธา จ. กึ วุตฺตํ โหติ? เอตาสํ กุสลวิปากกิริยวเสน ปฺจทสนฺนํ ฌานสงฺขาตานํ รูปสฺานํ, เอเตสฺจ ปถวีกสิณาทิวเสน อฏฺนฺนํ อารมฺมณสงฺขาตานํ รูปสฺานํ, สพฺพากาเรน อนวเสสานํ วา วิราคา จ นิโรธา จ วิราคเหตุ เจว นิโรธเหตุ จ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. น หิ สกฺกา สพฺพโส อนติกฺกนฺตรูปสฺเน เอตํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุนฺติ.
ตตฺถ ยสฺมา อารมฺมเณ อวิรตฺตสฺส สฺาสมติกฺกโม น โหติ, สมติกฺกนฺตาสุ จ สฺาสุ อารมฺมณํ สมติกฺกนฺตเมว โหติ, ตสฺมา อารมฺมณสมติกฺกมํ อวตฺวา ‘‘ตตฺถ กตมา รูปสฺา? รูปาวจรสมาปตฺตึ สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา สฺา สฺชานนา สฺชานิตตฺตํ, อิมา วุจฺจนฺติ รูปสฺาโย. อิมา รูปสฺาโย อติกฺกนฺโต โหติ, วีติกฺกนฺโต, สมติกฺกนฺโต, เตน วุจฺจติ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา’’ติ (วิภ. ๖๐๒) เอวํ วิภงฺเค สฺานํเยว สมติกฺกโม วุตฺโต. ยสฺมา ปน อารมฺมณสมติกฺกเมน ¶ ปตฺตพฺพา เอตา สมาปตฺติโย, น เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ ปมชฺฌานาทีนิ วิย, ตสฺมา อยํ อารมฺมณสมติกฺกมวเสนาปิ อตฺถวณฺณนา กตาติ เวทิตพฺพา.
ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมาติ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ รูปาทีนํ อารมฺมณานฺจ ปฏิฆาเตน สมุปฺปนฺนา สฺา ปฏิฆสฺา. รูปสฺาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมา ปฏิฆสฺา? รูปสฺา สทฺทสฺา คนฺธสฺา รสสฺา โผฏฺพฺพสฺา, อิมา วุจฺจนฺติ ปฏิฆสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๓). ตาสํ กุสลวิปากานํ ปฺจนฺนํ อกุสลวิปากานํ ปฺจนฺนนฺติ สพฺพโส ¶ ทสนฺนมฺปิ ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา ปหานา อสมุปฺปาทา อปฺปวตฺตึ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
กามฺเจตา ปมชฺฌานาทีนิ สมาปนฺนสฺสาปิ น สนฺติ – น หิ ตสฺมึ สมเย ปฺจทฺวารวเสน จิตฺตํ ปวตฺตติ – เอวํ สนฺเตปิ, อฺตฺถ ปหีนานํ สุขทุกฺขานํ ¶ จตุตฺถชฺฌาเน วิย, สกฺกายทิฏฺาทีนํ ตติยมคฺเค วิย จ, อิมสฺมึ ฌาเน อุสฺสาหชนนตฺถํ อิมสฺส ฌานสฺส ปสํสาวเสน เอตาสํ เอตฺถ วจนํ เวทิตพฺพํ. อถ วา กิฺจาปิ ตา รูปาวจรํ สมาปนฺนสฺส น สนฺติ, อถ โข น ปหีนตฺตา น สนฺติ. น หิ รูปวิราคาย รูปาวจรภาวนา สํวตฺตติ, รูปายตฺตา จ เอตาสํ ปวตฺติ. อยํ ปน ภาวนา รูปวิราคาย สํวตฺตติ. ตสฺมา ตา เอตฺถ ปหีนาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. น เกวลฺจ วตฺตุํ, เอกํเสเนว เอวํ ธาเรตุมฺปิ วฏฺฏติ. ตาสฺหิ อิโต ปุพฺเพ อปฺปหีนตฺตาเยว ปมชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส ‘‘สทฺโท กณฺฏโก’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๗๒) วุตฺโต ภควตา. อิธ จ ปหีนตฺตาเยว อรูปสมาปตฺตีนํ อาเนฺชตา สนฺตวิโมกฺขตา จ วุตฺตา. อาฬาโร จ กาฬาโม อารุปฺปสมาปนฺโน ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ นิสฺสาย นิสฺสาย อติกฺกนฺตานิ เนว อทฺทส, น ปน สทฺทํ อสฺโสสีติ (ที. นิ. ๒.๑๙๒).
นานตฺตสฺานํ อมนสิการาติ นานตฺเต โคจเร ปวตฺตานํ สฺานํ นานตฺตานํ วา สฺานํ. ยสฺมา หิ เอตา ‘‘ตตฺถ กตมา นานตฺตสฺา? อสมาปนฺนสฺส มโนธาตุสมงฺคิสฺส วา มโนวิฺาณธาตุสมงฺคิสฺส วา สฺา สฺชานนา สฺชานิตตฺตํ, อิมา วุจฺจนฺติ นานตฺตสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๔) เอวํ วิภงฺเค วิภชิตฺวา วุตฺตา อิธ อธิปฺเปตา; อสมาปนฺนสฺส มโนธาตุมโนวิฺาณธาตุสงฺคหิตา สฺา รูปสทฺทาทิเภเท นานตฺเต นานาสภาเว โคจเร ปวตฺตนฺติ; ยสฺมา เจตา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, ทฺวาทส อกุสลสฺา, เอกาทส กามาวจรกุสลวิปากสฺา ¶ , ทฺเว อกุสลวิปากสฺา, เอกาทส กามาวจรกิริยสฺาติ เอวํ จตุจตฺตาลีสมฺปิ สฺา นานตฺตา นานาสภาวา อฺมฺํ อสทิสา, ตสฺมา นานตฺตสฺาติ วุตฺตา. ตาสํ สพฺพโส นานตฺตสฺานํ อมนสิการา อนาวชฺชนา อสมนฺนาหารา อปจฺจเวกฺขณา. ยสฺมา ตา นาวชฺชติ, น มนสิกโรติ, น ปจฺจเวกฺขติ, ตสฺมาติ ¶ วุตฺตํ โหติ.
ยสฺมา เจตฺถ ปุริมา รูปสฺา ปฏิฆสฺา จ อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺเต ภเวปิ น วิชฺชนฺติ, ปเคว ตสฺมึ ภเว อิมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณกาเล, ตสฺมา ตาสํ ‘สมติกฺกมา อตฺถงฺคมา’ติ ทฺเวธาปิ อภาโวเยว วุตฺโต. นานตฺตสฺาสุ ปน ยสฺมา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, นว ¶ กิริยาสฺา, ทส อกุสลสฺาติ อิมา สตฺตวีสติ สฺา อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺเต ภเว วิชฺชนฺติ, ตสฺมา ตาสํ อมนสิการาติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺราปิ หิ อิมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺโต ตาสํ อมนสิการาเยว อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตา ปน มนสิกโรนฺโต อสมาปนฺโน โหตีติ. สงฺเขปโต เจตฺถ ‘รูปสฺานํ สมติกฺกมา’ติ อิมินา สพฺพรูปาวจรธมฺมานํ ปหานํ วุตฺตํ. ‘ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’ติ อิมินา สพฺเพสํ กามาวจรจิตฺตเจตสิกานฺจ ปหานํ อมนสิกาโร จ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
อิติ ภควา ‘ปนฺนรสนฺนํ รูปสฺานํ สมติกฺกเมน, ทสนฺนํ ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคเมน, จตุจตฺตาลีสาย นานตฺตสฺานํ อมนสิกาเรนา’ติ ตีหิ ปเทหิ อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา วณฺณํ กเถสิ. กึ การณาติ เจ โสตูนํ อุสฺสาหชนนตฺถฺเจว ปโลภนตฺถฺจ. สเจ หิ เกจิ อปณฺฑิตา วเทยฺยุํ ‘สตฺถา อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตถาติ วทติ, โก นุ โข เอตาย นิพฺพตฺติตาย อตฺโถ? โก อานิสํโส’ติ เต เอวํ วตฺตุํ มา ลภนฺตูติ อิเมหิ อากาเรหิ สมาปตฺติยา วณฺณํ กเถสิ. ตฺหิ เนสํ สุตฺวา เอวํ ภวิสฺสติ – ‘เอวํสนฺตา กิร อยํ สมาปตฺติ, เอวํปณีตา, นิพฺพตฺเตสฺสาม น’นฺติ. อถสฺส นิพฺพตฺตนตฺถาย อุสฺสาหํ กริสฺสนฺตีติ.
ปโลภนตฺถฺจาปิ เนสํ เอติสฺสา วณฺณํ กเถสิ, วิสกณฺฏกวาณิโช วิย. วิสกณฺฏกวาณิโช นาม คุฬวาณิโช วุจฺจติ. โส กิร คุฬผาณิตขณฺฑสกฺกราทีนิ สกเฏนาทาย ¶ ปจฺจนฺตคามํ คนฺตฺวา ‘วิสกณฺฏกํ คณฺหถ วิสกณฺฏกํ คณฺหถา’ติ อุคฺโฆเสสิ. ตํ สุตฺวา คามิกา ‘วิสํ นาม กกฺขฬํ, โย นํ ขาทติ โส มรติ, กณฺฏโกปิ วิชฺฌิตฺวา มาเรติ. อุโภเปเต กกฺขฬา, โก เอตฺถ อานิสํโส’ติ เคหทฺวารานิ ถเกสุํ, ทารเก จ ปลาเปสุํ. ตํ ทิสฺวา วาณิโช ‘อโวหารกุสลา อิเม ¶ คามิกา, หนฺท เน อุปาเยน คณฺหาเปมี’ติ ‘อติมธุรํ คณฺหถ อติสาทุํ คณฺหถ, คุฬํ ผาณิตํ สกฺกรํ สมคฺฆํ ลพฺภติ, กูฏมาสกกูฏกหาปณาทีหิปิ ลพฺภตี’ติ อุคฺโฆเสสิ. ตํ สุตฺวา คามิกา หฏฺปหฏฺา นิคฺคนฺตฺวา พหุมฺปิ มูลํ ทตฺวา คเหสุํ.
ตตฺถ วาณิชสฺส ‘วิสกณฺฏกํ คณฺหถา’ติ อุคฺโฆสนํ วิย ภควโต ‘อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตถา’ติ วจนํ. ‘อุโภเปเต กกฺขฬา ¶ , โก เอตฺถ อานิสํโส’ติ? คามิกานํ จินฺตนํ วิย ‘ภควา อากาสานฺจายตนํ นิพฺพตฺเตถาติ อาห, โก เอตฺถ อานิสํโส? นาสฺส คุณํ ชานามา’ติ โสตูนํ จินฺตนํ. อถสฺส วาณิชสฺส ‘อติมธุรํ คณฺหถา’ติอาทิวจนํ วิย ภควโต รูปสฺาสมติกฺกมนาทิกํ อานิสํสปฺปกาสนํ. อิทฺหิ สุตฺวา เต พหุมฺปิ มูลํ ทตฺวา, คามิกา วิย คุฬํ, อิมินา อานิสํเสน ปโลภิตจิตฺตา มหนฺตมฺปิ อุสฺสาหํ กตฺวา อิมํ สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตสฺสนฺตีติ อุสฺสาหชนนตฺถํ ปโลภนตฺถฺจ กเถสิ.
อากาสานฺจายตนสฺาสหคตนฺติ เอตฺถ นาสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ. อากาสํ อนนฺตํ อากาสานนฺตํ. อากาสานนฺตเมว อากาสานฺจํ. ตํ อากาสานฺจํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส, เทวานํ เทวายตนมิวาติ อากาสานฺจายตนํ. อิติ อากาสานฺจํ จ ตํ อายตนฺจาติปิ อากาสานฺจายตนํ. กสิณุคฺฆาฏิมากาสสฺเสตํ อธิวจนํ. ตสฺมึ อากาสานฺจายตเน อปฺปนาปฺปตฺตาย สฺาย สหคตํ อากาสานฺจายตนสฺาสหคตํ.
ยถา ปน อฺตฺถ ‘อนนฺโต อากาโส’ติ (วิภ. ๕๐๘; ที. นิ. ๒.๑๒๙) วุตฺตํ, เอวมิธ อนนฺตนฺติ วา ปริตฺตนฺติ วา น คหิตํ. กสฺมา? อนนฺเต หิ คหิเต ปริตฺตํ น คยฺหติ, ปริตฺเต คหิเต อนนฺตํ น คยฺหติ. เอวํ สนฺเต อารมฺมณจตุกฺกํ น ปูรติ, เทสนา โสฬสกฺขตฺตุกา น โหติ. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส จ อิมสฺมึ าเน เทสนํ โสฬสกฺขตฺตุกํ กาตุํ ¶ อชฺฌาสโย, ตสฺมา อนนฺตนฺติ วา ปริตฺตนฺติ วา อวตฺวา ‘อากาสานฺจายตนสฺาสหคต’นฺติ อาห. เอวฺหิ สติ อุภยมฺปิ คหิตเมว โหติ. อารมฺมณจตุกฺกํ ปูรติ, เทสนา โสฬสกฺขตฺตุกา สมฺปชฺชติ. อวเสโส ปาฬิอตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานนิกนฺติปริยาทานทุกฺขตาย ¶ เจตฺถ ทุกฺขา ปฏิปทา, ปริยาทินฺนนิกนฺติกสฺส อปฺปนาปริวาสทนฺธตาย ทนฺธาภิฺา โหติ. วิปริยาเยน สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา จ เวทิตพฺพา. ปริตฺตกสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปน ปวตฺตํ ฌานํ ปริตฺตารมฺมณํ วิปุลกสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺตํ อปฺปมาณารมฺมณนฺติ เวทิตพฺพํ. อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาเร วิย จ อิธาปิ จตุตฺถชฺฌานวเสน ปฺจวีสติ เอกกา โหนฺติ ¶ . ยถา เจตฺถ เอวํ อิโต ปเรสุปิ. วิเสสมตฺตเมว ปน เตสุ วณฺณยิสฺสาม.
วิฺาณฺจายตนํ
๒๖๖. อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมาติ, เอตฺถ ตาว ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อากาสานฺจํ อายตนมสฺส อธิฏฺานฏฺเนาติ ฌานมฺปิ อากาสานฺจายตนํ. วุตฺตนเยเนว อารมฺมณมฺปิ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตํ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
วิฺาณฺจายตนสฺาสหคตนฺติ, เอตฺถ ปน อนนฺตนฺติ มนสิกาตพฺพวเสน นาสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ. อนนฺตเมว อานฺจํ. วิฺาณํ อานฺจํ วิฺาณานฺจนฺติ อวตฺวา วิฺาณฺจนฺติ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ รูฬฺหีสทฺโท. ตเทว วิฺาณฺจํ อธิฏฺานฏฺเน อิมาย สฺาย อายตนนฺติ วิฺาณฺจายตนํ. ตสฺมึ วิฺาณฺจายตเน ปวตฺตาย สฺาย สหคตนฺติ วิฺาณฺจายตนสฺาสหคตํ. อากาเส ปวตฺตวิฺาณารมฺมณสฺส ฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. อิธ อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา นิกนฺติปริยาทานทุกฺขตาย ทุกฺขา ปฏิปทา, ปริยาทินฺนนิกนฺติกสฺส อปฺปนาปริวาสทนฺธตาย ทนฺธาภิฺา. วิปริยาเยน สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา จ. ปริตฺตกสิณุคฺฆาฏิมากาสารมฺมณํ สมาปตฺตึ อารพฺภ ปวตฺติยา ปริตฺตารมฺมณตา, วิปริยาเยน อปฺปมาณารมฺมณตา เวทิตพฺพา. เสสํ ปุริมสทิสเมว.
อากิฺจฺายตนํ
๒๖๗. วิฺาณฺจายตนํ ¶ สมติกฺกมฺมาติ เอตฺถาปิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วิฺาณฺจ อายตนมสฺส อธิฏฺานฏฺเนาติ ฌานมฺปิ วิฺาณฺจายตนํ. วุตฺตนเยเนว จ อารมฺมณมฺปิ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ ¶ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตํ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อากิฺจฺายตนสฺาสหคตนฺติ ¶ เอตฺถ ปน นาสฺส กิฺจนนฺติ อกิฺจนํ; อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ อสฺส อวสิฏฺํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อกิฺจนสฺส ภาโว อากิฺจฺํ. อากาสานฺจายตนวิฺาณาปคมสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ อากิฺจฺํ อธิฏฺานฏฺเน อิมิสฺสา สฺาย อายตนนฺติ อากิฺจฺายตนํ. ตสฺมึ อากิฺจฺายตเน ปวตฺตาย สฺาย สหคตนฺติ อากิฺจฺายตนสฺาสหคตํ. อากาเส ปวตฺติตวิฺาณาปคมารมฺมณสฺส ฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. อิธ วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยา นิกนฺติปริยาทานทุกฺขตาย ทุกฺขา ปฏิปทา, ปริยาทินฺนนิกนฺติกสฺส อปฺปนา ปริวาสทนฺธตาย ทนฺธาภิฺา. วิปริยาเยน สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา จ. ปริตฺตกสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺติตวิฺาณาปคมารมฺมณตาย ปริตฺตารมฺมณตา, วิปริยาเยน อปฺปมาณารมฺมณตา เวทิตพฺพา. เสสํ ปุริมสทิสเมว.
เนวสฺานาสฺายตนํ
อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺมาติ เอตฺถาปิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อากิฺจฺํ อายตนมสฺส อธิฏฺานฏฺเนาติ ฌานมฺปิ อากิฺจฺายตนํ. วุตฺตนเยเนว อารมฺมณมฺปิ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณ จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตํ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺมา’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เนวสฺานาสฺายตนสฺาสหคตนฺติ เอตฺถ ปน ยาย สฺาย ภาวโต ตํ เนวสฺานาสฺายตนนฺติ วุจฺจติ, ยถา ปฏิปนฺนสฺส สา สฺา โหติ, ตํ ตาว ทสฺเสตุํ วิภงฺเค ‘‘เนวสฺีนาสฺี’’ติ อุทฺธริตฺวา ‘‘ตฺเว อากิฺจฺายตนํ สนฺตโต มนสิกโรติ ¶ ¶ สงฺขาราวเสสสมาปตฺตึ ภาเวติ, เตน วุจฺจติ เนวสฺีนาสฺี’’ติ (วิภ. ๖๑๙) วุตฺตํ. ตตฺถ ‘สนฺตโต มนสิกโรตี’ติ ‘สนฺตา วตายํ สมาปตฺติ, ยตฺร หิ นาม นตฺถิภาวมฺปิ อารมฺมณํ กริตฺวา สฺสตี’ติ เอวํ สนฺตารมฺมณตาย นํ ‘สนฺตา’ติ มนสิกโรติ. สนฺตโต เจ มนสิกโรติ, กถํ สมติกฺกโม โหตีติ? อนาวชฺชิตุกามตาย. โส หิ กิฺจาปิ นํ สนฺตโต ¶ มนสิกโรติ, อถ ขฺวสฺส ‘อหเมตํ อาวชฺชิสฺสามิ สมาปชฺชิสฺสามิ อธิฏฺหิสฺสามิ วุฏฺหิสฺสามิ ปจฺจเวกฺขิสฺสามี’ติ เอส อาโภโค สมนฺนาหาโร มนสิกาโร น โหติ. กสฺมา? อากิฺจฺายตนโต เนวสฺานาสฺายตนสฺส สนฺตตรปณีตตรตาย.
ยถา หิ ราชา มหจฺจราชานุภาเวน หตฺถิกฺขนฺธคโต นครวีถิยํ วิจรนฺโต ทนฺตการาทโย สิปฺปิเก เอกํ วตฺถํ ทฬฺหํ นิวาเสตฺวา เอเกน สีสํ เวเตฺวา ทนฺตจุณฺณาทีหิ สโมกิณฺณคตฺเต อเนกานิ ทนฺตวิกติอาทีนิ กโรนฺเต ทิสฺวา ‘อโห วต เร เฉกา อาจริยา, อีทิสานิปิ นาม สิปฺปานิ กริสฺสนฺตี’ติ, เอวํ เตสํ เฉกตาย ตุสฺสติ, น จสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ รชฺชํ ปหาย เอวรูโป สิปฺปิโก ภเวยฺย’นฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? รชฺชสิริยา มหานิสํสตาย. โส สิปฺปิเก สมติกฺกมิตฺวาว คจฺฉติ. เอวเมเวส กิฺจาปิ ตํ สมาปตฺตึ สนฺตโต มนสิกโรติ, อถ ขฺวสฺส ‘อหเมตํ สมาปตฺตึ อาวชฺชิสฺสามิ สมาปชฺชิสฺสามิ อธิฏฺหิสฺสามิ วุฏฺหิสฺสามิ ปจฺจเวกฺขิสฺสามี’ติ เนว เอส อาโภโค สมนฺนาหาโร มนสิกาโร โหติ. โส ตํ สนฺตโต มนสิ กโรนฺโต ตํ ปรมสุขุมํ อปฺปนาปฺปตฺตํ สฺํ ปาปุณาติ, ยาย ‘เนวสฺีนาสฺี นาม โหติ, สงฺขาราวเสสสมาปตฺตึ ภาเวตี’ติ วุจฺจติ. ‘สงฺขาราวเสสสมาปตฺติ’นฺติ อจฺจนฺตสุขุมภาวปฺปตฺตสงฺขารํ จตุตฺถารุปฺปสมาปตฺตึ.
อิทานิ ยํ ตํ เอวํ อธิคตาย สฺาย วเสน เนวสฺานาสฺายตนนฺติ วุจฺจติ, ตํ อตฺถโต ทสฺเสตุํ ‘‘เนวสฺานาสฺายตนนฺติ เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปนฺนสฺส วา, อุปปนฺนสฺส วา, ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา’’ติ (วิภ. ๖๒๐) วุตฺตํ. เตสุ อิธ สมาปนฺนสฺส จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา อธิปฺเปตา.
วจนตฺโถ ปเนตฺถ – โอฬาริกาย สฺาย อภาวโต, สุขุมาย จ ภาวโต, เนวสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส สฺา, นาสฺาติ เนวสฺานาสฺํ. เนวสฺานาสฺฺจ ตํ มนายตนธมฺมายตนปริยาปนฺนตฺตา ¶ อายตนฺจาติ ¶ เนวสฺานาสฺายตนํ. อถ วา ยายเมตฺถ สฺา, สา ปฏุสฺากิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย เนวสฺา ¶ , สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวน วิชฺชมานตฺตา นาสฺาติ เนวสฺานาสฺา. เนวสฺานาสฺา จ สา เสสธมฺมานํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนฺจาติ เนวสฺานาสฺายตนํ.
น เกวลฺเจตฺถ สฺาว เอทิสี, อถ โข เวทนาปิ เนวเวทนา นาเวทนา, จิตฺตมฺปิ เนวจิตฺตํ นาจิตฺตํ, ผสฺโสปิ เนวผสฺโส นาผสฺโสติ. เอส นโย เสสสมฺปยุตฺตธมฺเมสุ. สฺาสีเสน ปนายํ เทสนา กตาติ เวทิตพฺพา. ปตฺตมกฺขนเตลปฺปภุตีหิ จ อุปมาหิ เอสมตฺโถ วิภาเวตพฺโพ – สามเณโร กิร เตเลน ปตฺตํ มกฺเขตฺวา เปสิ. ตํ ยาคุปานกาเล เถโร ‘ปตฺตมาหรา’ติ อาห. โส ‘ปตฺเต เตลมตฺถิ, ภนฺเต’ติ อาห. ตโต ‘อาหร, สามเณร, เตลํ นาฬึ ปูเรสฺสามี’ติ วุตฺเต ‘นตฺถิ, ภนฺเต, เตล’นฺติ อาห. ตตฺถ ยถา อนฺโตวุตฺถตฺตา ยาคุยา สทฺธึ อกปฺปิยฏฺเน เตลํ อตฺถีติ โหติ, นาฬิปูรณาทีนํ อภาววเสน นตฺถีติ โหติ, เอวํ สาปิ สฺา ปฏุสฺากิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย เนวสฺา, สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวน วิชฺชมานตฺตา นาสฺา โหติ.
กิมฺปเนตฺถ สฺากิจฺจนฺติ? อารมฺมณสฺชานนฺเจว วิปสฺสนาย จ วิสยภาวํ อุปคนฺตฺวา นิพฺพิทาชนนํ. ทหนกิจฺจมิว หิ สุโขทเก เตโชธาตุ, สฺชานนกิจฺจมฺเปสา ปฏุํ กาตุํ น สกฺโกติ. เสสสมาปตฺตีสุ สฺา วิย วิปสฺสนาย วิสยภาวํ อุปคนฺตฺวา นิพฺพิทาชนนมฺปิ กาตุํ น สกฺโกติ. อฺเสุ หิ ขนฺเธสุ อกตาภินิเวโส ภิกฺขุ เนวสฺานาสฺายตนกฺขนฺเธ สมฺมสิตฺวา นิพฺพิทํ ปตฺตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. อปิจ อายสฺมา สาริปุตฺโต, ปกติวิปสฺสโก ปน มหาปฺโ สาริปุตฺตสทิโสว สกฺกุเณยฺย. โสปิ ‘‘เอวํ กิริเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๙๕) เอวํ กลาปสมฺมสนวเสเนว, โน อนุปทธมฺมวิปสฺสนาวเสน. เอวํ สุขุมตฺตํ คตา เอสา สมาปตฺติ.
ยถา จ ปตฺตมกฺขนเตลูปมาย เอวํ มคฺคุทกูปมายปิ อยมตฺโถ วิภาเวตพฺโพ. มคฺคปฏิปนฺนสฺส ¶ กิร เถรสฺส ปุรโต คจฺฉนฺโต สามเณโร โถกมุทกํ ทิสฺวา ‘อุทกํ, ภนฺเต, อุปาหนา โอมฺุจถา’ติ อาห. ตโต เถเรน ‘สเจ อุทกมตฺถิ, อาหร นฺหานสาฏกํ, นฺหายิสฺสามี’ติ ¶ วุตฺเต ‘นตฺถิ, ภนฺเต’ติ อาห. ตตฺถ ยถา อุปาหนเตมนมตฺตฏฺเน อุทกํ อตฺถีติ โหติ ¶ , นฺหานฏฺเน นตฺถีติ โหติ, เอวมฺปิ สา ปฏุสฺากิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย เนว สฺา, สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวน วิชฺชมานตฺตา นาสฺา โหติ. น เกวลฺจ เอตาเหว, อฺาหิปิ อนุรูปาหิ อุปมาหิ เอส อตฺโถ วิภาเวตพฺโพ. อิติ อิมาย เนวสฺานาสฺายตเน ปวตฺตาย สฺาย เนวสฺานาสฺายตนภูตาย วา สฺาย สหคตนฺติ เนวสฺานาสฺายตนสฺาสหคตํ. อากิฺจฺายตนสมาปตฺติอารมฺมณสฺส ฌานสฺเสตํ อธิวจนํ.
อิธ อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยา นิกนฺติปริยาทานทุกฺขตาย ทุกฺขา ปฏิปทา, ปริยาทินฺนนิกนฺติกสฺส อปฺปนาปริวาสทนฺธตาย ทนฺธาภิฺา. วิปริยาเยน สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา จ. ปริตฺตกสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺติตวิฺาณาปคมารมฺมณํ สมาปตฺตึ อารพฺภ ปวตฺติตาย ปริตฺตารมฺมณตา, วิปริยาเยน อปฺปมาณารมฺมณตา เวทิตพฺพา. เสสํ ปุริมสทิสเมว.
อสทิสรูโป นาโถ, อารุปฺปํ ยํ จตุพฺพิธํ อาห;
ตํ อิติ ตฺวา ตสฺมึ, ปกิณฺณกกถาปิ วิฺเยฺยา.
อรูปสมาปตฺติโย หิ –
อารมฺมณาติกฺกมโต, จตสฺโสปิ ภวนฺติมา;
องฺคาติกฺกมเมตาสํ, น อิจฺฉนฺติ วิภาวิโน.
เอตาสุ หิ รูปนิมิตฺตาติกฺกมโต ปมา, อากาสาติกฺกมโต ทุติยา, อากาเส ปวตฺติตวิฺาณาติกฺกมโต ตติยา, อากาเส ปวตฺติตวิฺาณสฺส อปคมาติกฺกมโต จตุตฺถาติ สพฺพถา ‘อารมฺมณาติกฺกมโต จตสฺโสปิ ภวนฺติมา’ อรูปสมาปตฺติโยติ เวทิตพฺพา. องฺคาติกฺกมํ ปน เอตาสํ น อิจฺฉนฺติ ปณฺฑิตา. น หิ รูปาวจรสมาปตฺตีสุ วิย เอตาสุ องฺคาติกฺกโม อตฺถิ. สพฺพาสุปิ หิ เอตาสุ อุเปกฺขา จิตฺเตกคฺคตาติ ทฺเว เอว ฌานงฺคานิ โหนฺติ. เอวํ สนฺเตปิ –
สุปณีตตรา โหนฺติ, ปจฺฉิมา ปจฺฉิมา อิธ;
อุปมา ตตฺถ วิฺเยฺยา, ปาสาทตลสาฏิกา.
ยถา ¶ ¶ ¶ หิ จตุภูมกปาสาทสฺส เหฏฺิมตเล ทิพฺพนจฺจคีตวาทิตสุรภิคนฺธมาลาสาทุรสปานโภชนสยนจฺฉาทนาทิวเสน ปณีตา ปฺจ กามคุณา ปจฺจุปฏฺิตา อสฺสุ, ทุติเย ตโต ปณีตตรา, ตติเย ตโต ปณีตตมา, จตุตฺเถ สพฺพปณีตา; ตตฺถ กิฺจาปิ ตานิ จตฺตาริปิ ปาสาทตลาเนว, นตฺถิ เนสํ ปาสาทตลภาเวน วิเสโส, ปฺจกามคุณสมิทฺธิวิเสเสน ปน เหฏฺิมโต เหฏฺิมโต อุปริมํ อุปริมํ ปณีตตรํ โหติ.
ยถา จ เอกาย อิตฺถิยา กนฺติตถูลสณฺหสณฺหตรสณฺหตมสุตฺตานํ จตุปลติปลทฺวิปลเอกปลสาฏิกา อสฺสุ, อายาเมน วิตฺถาเรน จ สมปฺปมาณา; ตตฺถ กิฺจาปิ ตา สาฏิกา จตสฺโสปิ อายามโต จ วิตฺถารโต จ สมปฺปมาณา, นตฺถิ ตาสํ ปมาณโต วิเสโส, สุขสมฺผสฺสสุขุมภาวมหคฺฆภาเวหิ ปน ปุริมาย ปุริมาย ปจฺฉิมา ปจฺฉิมา ปณีตตรา โหนฺติ, เอวเมว กิฺจาปิ จตูสุปิ เอตาสุ อุเปกฺขา จิตฺเตกคฺคตาติ เอตานิ ทฺเวเยว องฺคานิ โหนฺติ, อถ โข ภาวนาวิเสเสน เตสํ องฺคานํ ปณีตปณีตตรภาเวน สุปณีตตรา โหนฺติ ปจฺฉิมา ปจฺฉิมา อิธาติ เวทิตพฺพา. เอวํ อนุปุพฺเพน ปณีตปณีตา เจตา –
อสุจิมฺหิ มณฺฑเป ลคฺโค, เอโก ตํ นิสฺสิโต ปโร;
อฺโ พหิ อนิสฺสาย, ตํ ตํ นิสฺสาย จาปโร.
ิโต จตูหิ เอเตหิ, ปุริเสหิ ยถากฺกมํ;
สมานตาย าตพฺพา, จตสฺโสปิ วิภาวินา. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๙๑);
ตตฺรายมตฺถโยชนา – อสุจิมฺหิ กิร เทเส เอโก มณฺฑโป. อเถโก ปุริโส อาคนฺตฺวา ตํ อสุจึ ชิคุจฺฉมาโน ตํ มณฺฑปํ หตฺเถหิ อาลมฺพิตฺวา ตตฺถ ลคฺโค, ลคฺคิโต วิย อฏฺาสิ. อถาปโร อาคนฺตฺวา ตํ มณฺฑปลคฺคํ ปุริสํ นิสฺสิโต. อถฺโ อาคนฺตฺวา จินฺเตสิ – ‘โย เอส มณฺฑเป ลคฺโค, โย จ ตํ นิสฺสิโต, อุโภเปเต ทุฏฺิตา; ธุโว จ เนสํ มณฺฑปปปาเต ปาโต, หนฺทาหํ พหิเยว ติฏฺามี’ติ โส ตนฺนิสฺสิตํ อนิสฺสาย พหิเยว อฏฺาสิ. อถาปโร อาคนฺตฺวา มณฺฑปลคฺคสฺส ¶ ตนฺนิสฺสิตสฺส จ อเขมภาวํ จินฺเตตฺวา พหิิตฺจ สุฏฺิโตติ มนฺตฺวา ตํ นิสฺสาย อฏฺาสิ.
ตตฺถ ¶ อสุจิมฺหิ เทเส มณฺฑโป วิย กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ ทฏฺพฺพํ. อสุจิชิคุจฺฉาย มณฺฑปลคฺโค ปุริโส วิย รูปนิมิตฺตชิคุจฺฉาย อากาสารมฺมณํ อากาสานฺจายตนํ ¶ . มณฺฑปลคฺคํ ปุริสํ นิสฺสิโต วิย อากาสารมฺมณํ อากาสานฺจายตนํ อารพฺภ ปวตฺตํ วิฺาณฺจายตนํ. เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ อเขมภาวํ จินฺเตตฺวา อนิสฺสาย ตํ มณฺฑปลคฺคํ, พหิิโต วิย, อากาสานฺจายตนํ อารมฺมณํ อกตฺวา ตทภาวารมฺมณํ อากิฺจฺายตนํ. มณฺฑปลคฺคสฺส ตนฺนิสฺสิตสฺส จ อเขมตํ จินฺเตตฺวา พหิิตฺจ ‘สุฏฺิโต’ติ มนฺตฺวา ตํ นิสฺสาย ิโต วิย วิฺาณาภาวสงฺขาเต พหิปเทเส ิตํ อากิฺจฺายตนํ อารพฺภ ปวตฺตํ เนวสฺานาสฺายตนํ ทฏฺพฺพํ. เอวํ ปวตฺตมานฺจ –
อารมฺมณํ กโรเตว, อฺาภาเวน ตํ อิทํ;
ทิฏฺโทสมฺปิ ราชานํ, วุตฺติเหตุ ยถา ชโน. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๙๒);
อิทฺหิ เนวสฺานาสฺายตนํ ‘อาสนฺนวิฺาณฺจายตนปจฺจตฺถิกา อยํ สมาปตฺตี’ติ เอวํ ทิฏฺโทสมฺปิ ตํ อากิฺจฺายตนํ อฺสฺส อารมฺมณสฺส อภาวา อารมฺมณํ กโรเตว. ยถา กึ? ‘ทิฏฺโทสมฺปิ ราชานํ วุตฺติเหตุ ยถา ชโน’. ยถา หิ อสํยตํ ผรุสกายวจีมโนสมาจารํ กฺจิ สพฺพทิสมฺปตึ ราชานํ ‘ผรุสสมาจาโร อย’นฺติ เอวํ ทิฏฺโทสมฺปิ อฺตฺถ วุตฺตึ อลภมาโน ชโน วุตฺติเหตุ นิสฺสาย วตฺตติ, เอวํ ทิฏฺโทสมฺปิ ตํ อากิฺจฺายตนํ อฺํ อารมฺมณํ อลภมานมิทํ เนวสฺานาสฺายตนํ อารมฺมณํ กโรเตว. เอวํ กุรุมานฺจ –
อารุฬฺโห ทีฆนิสฺเสณึ, ยถา นิสฺเสณิพาหุกํ;
ปพฺพตคฺคฺจ อารุฬฺโห, ยถา ปพฺพตมตฺถกํ.
ยถา วา คิริมารุฬฺโห, อตฺตโนเยว ชณฺณุกํ;
โอลุพฺภติ ตเถเวตํ, ฌานโมลุพฺภ วตฺตตีติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๙๓);
อรูปาวจรกุสลกถา นิฏฺิตา.
เตภูมกกุสลวณฺณนา
๒๖๙. อิทานิ ¶ ¶ ยสฺมา สพฺพานิเปตานิ เตภูมกกุสลานิ หีนาทินา ปเภเทน วตฺตนฺติ, ตสฺมา เตสํ ตํ ปเภทํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ หีนนฺติ ลามกํ. ตํ อายูหนวเสน เวทิตพฺพํ. หีนุตฺตมานํ ¶ มชฺเฌ ภวํ มชฺฌิมํ. ปธานภาวํ นีตํ ปณีตํ, อุตฺตมนฺติ อตฺโถ. ตานิปิ อายูหนวเสเนว เวทิตพฺพานิ. ยสฺส หิ อายูหนกฺขเณ ฉนฺโท วา หีโน โหติ, วีริยํ วา, จิตฺตํ วา, วีมํสา วา, ตํ หีนํ นาม. ยสฺส เต ธมฺมา มชฺฌิมา เจว ปณีตา, จ ตํ มชฺฌิมฺเจว ปณีตฺจ. ยํ ปน กตฺตุกามตาสงฺขาตํ ฉนฺทํ ธุรํ ฉนฺทํ เชฏฺกํ ฉนฺทํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา อายูหิตํ, ตํ ฉนฺทาธิปติโต อาคตตฺตา ฉนฺทาธิปเตยฺยํ นาม. วีริยาธิปเตยฺยาทีสุปิ เอเสว นโย.
อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา นยา คเณตพฺพา. สพฺพปมํ วิภตฺโต หิ เอโก นโย, หีนนฺติ เอโก, มชฺฌิมนฺติ เอโก, ปณีตนฺติ เอโก, ฉนฺทาธิปเตยฺยนฺติ เอโก. อิเม ตาว ฉนฺทาธิปเตยฺเย ปฺจ นยา. เอวํ วีริยาธิปเตยฺยาทีสุปีติ จตฺตาโร ปฺจกา วีสติ โหนฺติ. ปุริโม วา เอโก สุทฺธิกนโย, หีนนฺติอาทโย ตโย, ฉนฺทาธิปเตยฺยนฺติอาทโย จตฺตาโร, ฉนฺทาธิปเตยฺยํ หีนนฺติอาทโย ทฺวาทสาติ เอวมฺปิ วีสติ นยา โหนฺติ.
อิเม วีสติ มหานยา กตฺถ วิภตฺตาติ? มหาปกรเณ (ปฏฺา. ๒.๑๔.๑) หีนตฺติเก วิภตฺตา. อิมสฺมึ ปน าเน หีนตฺติกโต มชฺฌิมราสึ คเหตฺวา หีนมชฺฌิมปณีตวเสน ตโย โกฏฺาสา กาตพฺพา. ตโตปิ มชฺฌิมราสึ เปตฺวา หีนปณีเต คเหตฺวา นว นว โกฏฺาสา กาตพฺพา. หีนสฺมึเยว หิ หีนํ อตฺถิ มชฺฌิมํ อตฺถิ ปณีตํ อตฺถิ. ปณีตสฺมิมฺปิ หีนํ อตฺถิ มชฺฌิมํ อตฺถิ ปณีตํ อตฺถิ. ตถา หีนหีนสฺมึ หีนํ, หีนหีนสฺมึ มชฺฌิมํ, หีนหีนสฺมึ ปณีตํ. หีนมชฺฌิมสฺมึ หีนํ, หีนมชฺฌิมสฺมึ มชฺฌิมํ, หีนมชฺฌิมสฺมึ ปณีตํ. หีนปณีตสฺมึ หีนํ, หีนปณีตสฺมึ มชฺฌิมํ, หีนปณีตสฺมึ ปณีตนฺติ อยเมโก นวโก. ปณีตหีนสฺมิมฺปิ หีนํ นาม อตฺถิ, ปณีตหีนสฺมึ มชฺฌิมํ, ปณีตหีนสฺมึ ปณีตํ. ตถา ปณีตมชฺฌิมสฺมึ หีนํ, ปณีตมชฺฌิมสฺมึ มชฺฌิมํ, ปณีตมชฺฌิมสฺมึ ปณีตํ. ปณีตปณีตสฺมึ หีนํ, ปณีตปณีตสฺมึ มชฺฌิมํ, ปณีตปณีตสฺมึ ปณีตนฺติ. อยํ ทุติโย นวโกติ ทฺเว นวกา อฏฺารส. อิมานิ อฏฺารส กมฺมทฺวารานิ ¶ นาม ¶ . อิเมหิ ปภาวิตตฺตา ¶ , อิเมสํ วเสน, อฏฺารส ขตฺติยา, อฏฺารส พฺราหฺมณา, อฏฺารส เวสฺสา, อฏฺารส สุทฺทา, อฏฺจตฺตาลีส โคตฺตจรณานิ เวทิตพฺพานิ.
อิเมสุ จ ปน เตภูมเกสุ กุสเลสุ กามาวจรกุสลํ ติเหตุกมฺปิ ทุเหตุกมฺปิ โหติ าณสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตวเสน. รูปาวจรารูปาวจรํ ปน ติเหตุกเมว าณสมฺปยุตฺตเมว. กามาวจรมฺเปตฺถ อธิปตินา สหาปิ อุปฺปชฺชติ วินาปิ. รูปาวจรารูปาวจรํ อธิปติสมฺปนฺนเมว โหติ. กามาวจรกุสเล เจตฺถ อารมฺมณาธิปติ สหชาตาธิปตีติ ทฺเวปิ อธิปตโย ลพฺภนฺติ. รูปาวจรารูปาวจเรสุ อารมฺมณาธิปติ น ลพฺภติ, สหชาตาธิปติเยว ลพฺภติ. ตตฺถ จิตฺตสฺส จิตฺตาธิปเตยฺยภาโว สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วเสน วุตฺโต. ทฺวินฺนํ ปน จิตฺตานํ เอกโต อภาเวน สมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส จิตฺตาธิปติ นาม นตฺถิ. ตถา ฉนฺทาทีนํ ฉนฺทาธิปติอาทโย. เกจิ ปน ‘สเจ จิตฺตวโต กุสลํ โหติ, มยฺหํ ภวิสฺสตีติ เอวํ ยํ จิตฺตํ ธุรํ กตฺวา เชฏฺกํ กตฺวา อปรํ กุสลจิตฺตํ อายูหิตํ, ตสฺส ตํ ปุริมจิตฺตํ จิตฺตาธิปติ นาม โหติ, ตโต อาคตตฺตา อิทํ จิตฺตาธิปเตยฺยํ นามา’ติ เอวํ อาคมนวเสนาปิ อธิปตึ นาม อิจฺฉนฺติ. อยํ ปน นโย เนว ปาฬิยํ น อฏฺกถายํ ทิสฺสติ. ตสฺมา วุตฺตนเยเนว อธิปติภาโว เวทิตพฺโพ. อิเมสุ จ เอกูนวีสติยา มหานเยสุ ปุริเม สุทฺธิกนเย วุตฺตปริมาณาเนว จิตฺตานิ จ นวกา จ ปาวารา จ โหนฺติ. ตสฺมา าณสมฺปยุตฺเตสุ วุตฺตปริมาณโต วีสติคุโณ จิตฺตนวกวารเภโท เวทิตพฺโพ, จตูสุ าณวิปฺปยุตฺเตสุ โสฬสคุโณติ, อยํ เตภูมกกุสเล ปกิณฺณกกถา นามาติ.
เตภูมกกุสลํ.
โลกุตฺตรกุสลวณฺณนา
๒๗๗. เอวํ ภวตฺตยสมฺปตฺตินิพฺพตฺตกํ กุสลํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สพฺพภวสมติกฺกมนาย โลกุตฺตรกุสลํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ โลกุตฺตรนฺติ เกนฏฺเน โลกุตฺตรํ? โลกํ ¶ ¶ ตรตีติ, โลกุตฺตรํ โลกํ อุตฺตรตีติ โลกุตฺตรํ; โลกํ ¶ สมติกฺกมฺม อภิภุยฺย ติฏฺตีติ โลกุตฺตรํ (ปฏิ. ม. ๒.๔๓). ฌานํ ภาเวตีติ เอกจิตฺตกฺขณิกํ อปฺปนาฌานํ ภาเวติ ชเนติ วฑฺเฒติ.
โลกโต นิยฺยาติ วฏฺฏโต นิยฺยาตีติ นิยฺยานิกํ. นิยฺยาติ วา เอเตนาติ นิยฺยานิกํ. ตํสมงฺคี หิ ปุคฺคโล ทุกฺขํ ปริชานนฺโต นิยฺยาติ, สมุทยํ ปชหนฺโต นิยฺยาติ, นิโรธํ สจฺฉิกโรนฺโต นิยฺยาติ, มคฺคํ ภาเวนฺโต นิยฺยาติ. ยถา จ ปน เตภูมกกุสลํ วฏฺฏสฺมึ จุติปฏิสนฺธิโย อาจินาติ วฑฺเฒตีติ อาจยคามี นาม โหติ, น ตถา อิทํ. อิทํ ปน ยถา เอกสฺมึ ปุริเส อฏฺารสหตฺถํ ปาการํ จินนฺเต อปโร มหามุคฺครํ คเหตฺวา เตน จิตจิตฏฺานํ อปจินนฺโต วิทฺธํเสนฺโต เอว คจฺเฉยฺย, เอวเมว เตภูมกกุสเลน จิตา จุติปฏิสนฺธิโย ปจฺจยเวกลฺลกรเณน อปจินนฺตํ วิทฺธํเสนฺตํ คจฺฉตีติ อปจยคามิ.
ทิฏฺิคตานํ ปหานายาติ, เอตฺถ ทิฏฺิโย เอว ทิฏฺิคตานิ, คูถคตํ มุตฺตคตนฺติอาทีนิ (อ. นิ. ๙.๑๑) วิย. ทฺวาสฏฺิยา วา ทิฏฺีนํ อนฺโตคธตฺตา ทิฏฺีสุ คตานีติปิ ทิฏฺิคตานิ. ทิฏฺิยา วา คตํ เอเตสนฺติปิ ทิฏฺิคตานิ. ทิฏฺิสทิสคมนานิ ทิฏฺิสทิสปฺปวตฺตานีติ อตฺโถ. กานิ ปน ตานีติ? สสมฺปยุตฺตานิ สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสอปายคมนียราคโทสโมหากุสลานิ. ตานิ หิ ยาว ปมมคฺคภาวนา ตาว ปวตฺติสพฺภาวโต ทิฏฺิสทิสคมนานีติ วุจฺจนฺติ. อิติ ทิฏฺิโย จ ทิฏฺิคตานิ จ ทิฏฺิคตานิ. เตสํ ทิฏฺิคตานํ. ปหานายาติ สมุจฺเฉทวเสเนว ปชหนตฺถาย. ปมายาติ คณนวเสนปิ ปมุปฺปตฺติวเสนปิ ปมาย. ภูมิยาติ ‘‘อนนฺตรหิตาย ภูมิยา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๒๗; ม. นิ. ๒.๒๙๖) ตาว อยํ มหาปถวี ภูมีติ วุจฺจติ. ‘‘สุขภูมิยํ กามาวจเร’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๙๘๘) จิตฺตุปฺปาโท. อิธ ปน สามฺผลํ อธิปฺเปตํ. ตฺหิ สมฺปยุตฺตานํ นิสฺสยภาวโต เต ธมฺมา ภวนฺติ เอตฺถาติ ภูมิ. ยสฺมา วา สมาเนปิ โลกุตฺตรภาเว สยมฺปิ ภวติ อุปฺปชฺชติ, น นิพฺพานํ วิย อปาตุภาวํ, ตสฺมาปิ ภูมีติ วุจฺจติ; ตสฺสา ปมาย ภูมิยา. ปตฺติยาติ โสตาปตฺติผลสงฺขาตสฺส ¶ ปมสฺส สามฺผลสฺส ¶ ปตฺตตฺถาย ปฏิลาภตฺถายาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. วิวิจฺจาติ สมุจฺเฉทวิเวกวเสน วิวิจฺจิตฺวา, วินา หุตฺวา.
อิทานิ กิฺจาปิ โลกิยชฺฌานมฺปิ น วินา ปฏิปทาย อิชฺฌติ, เอวํ สนฺเตปิ อิธ สุทฺธิกนยํ ¶ ปหาย โลกุตฺตรชฺฌานํ ปฏิปทาย สทฺธึเยว ครุํ กตฺวา เทเสตุกามตาย ทุกฺขปฏิปทํ ทนฺธาภิฺนฺติอาทิมาห.
ตตฺถ โย อาทิโตว กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต ทุกฺเขน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิลมนฺโต วิกฺขมฺเภติ ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ; โย ปน วิกฺขมฺภิต กิเลโส วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคปาตุภาวํ ปาปุณาติ ตสฺส ทนฺธาภิฺา โหติ. อิติ โย โกจิ วาโร ทุกฺขปฏิปททนฺธาภิฺโ นาม กโต.
กตมํ ปน วารํ โรเจสุนฺติ? ยตฺถ สกึ วิกฺขมฺภิตา กิเลสา สมุทาจริตฺวา ทุติยมฺปิ วิกฺขมฺภิตา ปุน สมุทาจรนฺติ, ตติยํ วิกฺขมฺภิเต ปน ตถาวิกฺขมฺภิเตว กตฺวา มคฺเคน สมุคฺฆาตํ ปาเปติ, อิมํ วารํ โรเจสุํ. อิมสฺส วารสฺส ทุกฺขาปฏิปทา ทนฺธาภิฺาติ นามํ กตํ. เอตฺตเกน ปน น ปากฏํ โหติ. ตสฺมา เอวเมตฺถ อาทิโต ปฏฺาย วิภาวนา เวทิตพฺพา – โย หิ จตฺตาริ มหาภูตานิ ปริคฺคเหตฺวา อุปาทารูปํ ปริคฺคณฺหาติ, อรูปํ ปริคฺคณฺหาติ, ‘รูปารูปํ’ ปน ปริคฺคณฺหนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา นาม โหติ. ปริคฺคหิตรูปารูปสฺส ปน วิปสฺสนาปริวาเส มคฺคปาตุภาวทนฺธตาย ทนฺธาภิฺา นาม โหติ.
โยปิ รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวา ‘นามรูปํ’ ววตฺถเปนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ววตฺถเปติ, ววตฺถาปิเต จ นามรูเป วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทตุํ สกฺโกติ, ตสฺสาปิ ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ.
อปโร นามรูปมฺปิ ววตฺถเปตฺวา ‘ปจฺจเย’ ปริคฺคณฺหนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริคฺคณฺหาติ, ปจฺจเย จ ปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ ¶ อุปฺปาเทติ, เอวมฺปิ ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ.
อปโร ¶ ปจฺจเยปิ ปริคฺคเหตฺวา ‘ลกฺขณานิ’ ปฏิวิชฺฌนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปฏิวิชฺฌติ, ปฏิวิทฺธลกฺขโณ จ วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทติ, เอวมฺปิ ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ.
อปโร ¶ ลกฺขณานิปิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา วิปสฺสนาาเณ ติกฺเข สูเร ปสนฺเน วหนฺเต อุปฺปนฺนํ ‘วิปสฺสนานิกนฺตึ’ ปริยาทิยมาโน ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริยาทิยติ, นิกนฺติฺจ ปริยาทิยิตฺวา วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทติ, เอวมฺปิ ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. อิมํ วารํ โรเจสุํ. อิมสฺส วารสฺส เอตํ นามํ กตํ. อิมินาว อุปาเยน ปรโต ติสฺโส ปฏิปทา เวทิตพฺพา.
ผสฺโส โหตีติอาทีสุ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโวติ จตฺตาริ ปทานิ อธิกานิ. นิทฺเทสวาเร จ วิตกฺกาทินิทฺเทเสสุ ‘มคฺคงฺค’นฺติอาทีนิ ปทานิ อธิกานิ. เสสํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตสทิสเมว. ภูมนฺตรวเสน ปน โลกุตฺตรตาว อิธ วิเสโส.
ตตฺถ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยนฺติ ‘อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ อนฺาตํ อมตํ ปทํ จตุสจฺจธมฺมเมว วา ชานิสฺสามี’ติ ปฏิปนฺนสฺส อิมินา ปุพฺพาโภเคน อุปฺปนฺนํ อินฺทฺริยํ. ลกฺขณาทีนิ ปนสฺส เหฏฺา ปฺินฺทฺริเย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
สุนฺทรา ปสตฺถา วา วาจา สมฺมาวาจา. วจีทุจฺจริตสมุคฺฆาฏิกาย มิจฺฉาวาจาวิรติยา เอตํ อธิวจนํ. สา ปริคฺคหลกฺขณา วิรมณรสา มิจฺฉาวาจปฺปหานปจฺจุปฏฺานา. สุนฺทโร ปสตฺโถ วา กมฺมนฺโต สมฺมากมฺมนฺโต. มิจฺฉากมฺมนฺตสมุจฺเฉทิกาย ปาณาติปาตาทิวิรติยา เอตํ นามํ. โส สมุฏฺานลกฺขโณ วิรมณรโส มิจฺฉากมฺมนฺตปฺปหานปจฺจุปฏฺาโน. สุนฺทโร ปสตฺโถ วา อาชีโว สมฺมาอาชีโว. มิจฺฉาชีววิรติยา เอตํ อธิวจนํ. โส โวทานลกฺขโณ ายาชีวปฺปวตฺติรโส ¶ มิจฺฉาชีวปฺปหานปจฺจุปฏฺาโน.
อปิจ เหฏฺา วิรติตฺตเย วุตฺตวเสนเปตฺถ ลกฺขณาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อิติ อิเมสํ ติณฺณํ ธมฺมานํ วเสน เหฏฺา วุตฺตํ มคฺคปฺจกํ อิธ มคฺคฏฺกํ เวทิตพฺพํ. เยวาปนเกสุ จ อิเมสํ อภาโว. ตถา กรุณามุทิตานํ. อิเม ¶ หิ ตโย ธมฺมา อิธ ปาฬิยํ อาคตตฺตาว เยวาปนเกสุ น คหิตา. กรุณามุทิตา ปน สตฺตารมฺมณา, อิเม ธมฺมา นิพฺพานารมฺมณาติ ตาเปตฺถ น คหิตา. อยํ ตาว อุทฺเทสวาเร วิเสสตฺโถ.
๒๘๓. นิทฺเทสวาเร ¶ ปน มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนนฺติ เอตฺถ ตาว มคฺคสฺส องฺคนฺติ มคฺคงฺคํ; มคฺคโกฏฺาโสติ อตฺโถ. ยถา ปน อรฺเ ปริยาปนฺนํ อรฺปริยาปนฺนํ นาม โหติ, เอวํ มคฺเค ปริยาปนฺนนฺติ มคฺคปริยาปนฺนํ. มคฺคสนฺนิสฺสิตนฺติ อตฺโถ.
๒๘๕. ปีติสมฺโพชฺฌงฺโคติ เอตฺถ ปีติ เอว สมฺโพชฺฌงฺโคติ ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค. ตตฺถ โพธิยา โพธิสฺส วา องฺโคติ โพชฺฌงฺโค. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยา อยํ ธมฺมสามคฺคี ยาย โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขตฺตกิลมถานุโยคอุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวสาทีนํ อเนเกสํ อุปทฺทวานํ ปฏิปกฺขภูตาย สติธมฺมวิจยวีริยปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสงฺขาตาย ธมฺมสามคฺคิยา อริยสาวโก พุชฺฌตีติ กตฺวา โพธีติ วุจฺจติ. พุชฺฌตีติ กิเลสสนฺตานนิทฺทาย อุฏฺหติ, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, นิพฺพานเมว วา สจฺฉิกโรติ. ตสฺสา ธมฺมสามคฺคีสงฺขาตาย โพธิยา องฺโคติปิ โพชฺฌงฺโค, ฌานงฺคมคฺคงฺคาทีนิ วิย. โยเปส ยถาวุตฺตปฺปการาย เอตาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌตีติ กตฺวา อริยสาวโก โพธีติ วุจฺจติ, ตสฺส โพธิสฺส องฺโคติปิ โพชฺฌงฺโค; เสนงฺครถงฺคาทโย วิย. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา – ‘‘พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ วา โพชฺฌงฺคา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๔๖๖; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๑๘๒).
อปิจ ‘‘โพชฺฌงฺคาติ เกนฏฺเน โพชฺฌงฺคา? โพธาย สํวตฺตนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, อนุพุชฺฌนฺตีติ ¶ โพชฺฌงฺคา, ปฏิพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, สมฺพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๑๗) อิมินา ปฏิสมฺภิทานเยนาปิ โพชฺฌงฺคตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปสตฺโถ สุนฺทโร วา โพชฺฌงฺโคติ สมฺโพชฺฌงฺโค. เอวํ ปีติ เอว สมฺโพชฺฌงฺโค ปีติสมฺโพชฺฌงฺโคติ. จิตฺเตกคฺคตานิทฺเทสาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๒๙๖. เตสํ ธมฺมานนฺติ เย ตสฺมึ สมเย ปฏิเวธํ คจฺฉนฺติ จตุสจฺจธมฺมา, เตสํ ธมฺมานํ. อนฺาตานนฺติ กิฺจาปิ ปมมคฺเคน เต ธมฺมา าตา ¶ นาม โหนฺติ, ยถา ปน ปกติยา อนาคตปุพฺพํ วิหารํ อาคนฺตฺวา วิหารมชฺเฌ ิโตปิ ปุคฺคโล ปกติยา อนาคตภาวํ อุปาทาย ‘อนาคตปุพฺพํ านํ อาคโตมฺหี’ติ วทติ, ยถา จ ปกติยา อปิฬนฺธปุพฺพํ มาลํ ปิฬนฺธิตฺวา, อนิวตฺถปุพฺพํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา, อภุตฺตปุพฺพํ โภชนํ ภฺุชิตฺวา, ปกติยา อภุตฺตภาวํ อุปาทาย อภุตฺตปุพฺพํ โภชนํ ภุตฺโตมฺหีติ วทติ, เอวมิธาปิ ¶ ยสฺมา ปกติยา อิมินา ปุคฺคเลน อิเม ธมฺมา น าตปุพฺพา ตสฺมา อนฺาตานนฺติ วุตฺตํ. อทิฏฺาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อทิฏฺานนฺติ อิโต ปุพฺเพ ปฺาจกฺขุนา อทิฏฺานํ. อปฺปตฺตานนฺติ อธิคมนวเสน อปฺปตฺตานํ. อวิทิตานนฺติ าเณน อปากฏกตานํ. อสจฺฉิกตานนฺติ อปจฺจกฺขกตานํ. สจฺฉิกิริยายาติ ปจฺจกฺขกรณตฺถํ. ยถา จ อิมินา ปเทน, เอวํ เสเสหิปิ สทฺธึ อนฺาตานํ าณาย, อทิฏฺานํ ทสฺสนาย, อปฺปตฺตานํ ปตฺติยา, อวิทิตานํ เวทายาติ โยชนา กาตพฺพา.
๒๙๙. จตูหิ วจีทุจฺจริเตหีติอาทีสุ วจีติ วจีวิฺตฺติ เวทิตพฺพา. ติณฺณํ โทสานํ เยน เกนจิ ทุฏฺานิ จริตานีติ ทุจฺจริตานิ. วจีโต ปวตฺตานิ ทุจฺจริตานิ วจีทุจฺจริตานิ, วจิยา วา นิปฺผาทิตานิ ทุจฺจริตานิ วจีทุจฺจริตานิ. เตหิ วจีทุจฺจริเตหิ. อารกา รมตีติ อารติ. วินา เตหิ รมตีติ วิรติ. ตโต ตโต ปฏินิวตฺตาว หุตฺวา เตหิ วินา รมตีติ ปฏิวิรติ. อุปสคฺควเสน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. สพฺพมิทํ โอรมณภาวสฺเสวาธิวจนํ. เวรํ มณติ, วินาเสตีติ เวรมณี. อิทมฺปิ โอรมณสฺเสว เววจนํ. ยาย ¶ ปน เจตนาย มุสาวาทาทีนิ ภาสมาโน กโรติ นาม, อยํ โลกุตฺตรมคฺควิรติ. อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ กิริยํ กาตุํ น เทติ, กิริยาปถํ ปจฺฉินฺทตีติ อกิริยา. ตถา ตํ กรณํ กาตุํ น เทติ, กรณปถํ ปจฺฉินฺทตีติ อกรณํ. ยาย จ เจตนาย จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ ภาสมาโน อชฺฌาปชฺชติ นาม, อยํ อุปฺปชฺชิตฺวา ตถา อชฺฌาปชฺชิตุํ น เทตีติ อนชฺฌาปตฺติ.
เวลาอนติกฺกโมติ เอตฺถ ‘‘ตาย เวลายา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๕๔; มหาว. ๑-๓; อุทา. ๑ อาทโย) ตาว กาโล เวลาติ อาคโต. ‘‘อุรุเวลายํ วิหรตี’’ติ (มหาว. ๑; สํ. นิ. ๑.๑๓๗) เอตฺถ ราสิ. ‘‘ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตตี’’ติ (จูฬว. ๓๘๔; อ. นิ. ๘.๑๙; อุทา. ๔๕) เอตฺถ สีมา. อิธาปิ สีมาว. อนติกฺกมนียฏฺเน ¶ หิ จตฺตาริ วจีสุจริตานิ เวลาติ อธิปฺเปตานิ. อิติ ยาย เจตนาย จตฺตาริ วจีทุจฺจริตานิ ภาสมาโน เวลํ อติกฺกมติ นาม, อยํ อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ เวลํ อติกฺกมิตุํ น เทตีติ เวลาอนติกฺกโมติ วุตฺตา. เวลายตีติ วา เวลา, จลยติ วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ. กึ เวลายติ? จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ. อิติ เวลายนโต ‘เวลา’. ปุริสสฺส ¶ ปน หิตสุขํ อนติกฺกมิตฺวา วตฺตตีติ ‘อนติกฺกโม’. เอวเมตฺถ ปททฺวยวเสนาปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เสตุํ หนตีติ เสตุฆาโต; จตุนฺนํ วจีทุจฺจริตานํ ปทฆาโต ปจฺจยฆาโตติ อตฺโถ. ปจฺจโย หิ อิธ เสตูติ อธิปฺเปโต. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – ราคาทิโก จตุนฺนํ วจีทุจฺจริตานํ ปจฺจโย วฏฺฏสฺมึ ปุคฺคลํ สิโนติ พนฺธตีติ เสตุ. เสตุสฺส ฆาโต เสตุฆาโต. วจีทุจฺจริตปจฺจยสมุคฺฆาฏิกาย วิรติยา เอตํ อธิวจนํ. อยํ ปน สมฺมาวาจาสงฺขาตา วิรติ ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน มุสาวาทา วิรมติ, อฺเน เปสฺุาทีหิ. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺตสฺมึเยว ลพฺภติ. จตุพฺพิธาย หิ วจีทุจฺจริตเจตนาย ปทปจฺเฉทํ กุรุมานา มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว วิรติ อุปฺปชฺชติ.
๓๐๐. กายทุจฺจริเตหีติ กายโต ปวตฺเตหิ กาเยน วา นิปฺผาทิเตหิ ปาณาติปาตาทีหิ ทุจฺจริเตหิ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยมฺปิ สมฺมากมฺมนฺตสงฺขาตา วิรติ ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน ปาณาติปาตา ¶ วิรมติ, อฺเน อทินฺนาทานมิจฺฉาจาเรหิ. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺตสฺมึเยว ลพฺภติ. ติวิธาย หิ กายทุจฺจริตเจตนาย ปทปจฺเฉทํ กุรุมานา มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว วิรติ อุปฺปชฺชติ.
๓๐๑. สมฺมาอาชีวนิทฺเทเส อกิริยาติอาทีสุ ยาย เจตนาย มิจฺฉาชีวํ อาชีวมาโน กิริยํ กโรติ นาม, อยํ อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ กิริยํ กาตุํ น เทตีติ อกิริยาติ. อิมินา นเยน โยชนา เวทิตพฺพา. อาชีโว จ นาเมส ปาฏิเยกฺโก นตฺถิ, วาจากมฺมนฺเตสุ คหิเตสุ คหิโตว โหติ, ตปฺปกฺขิกตฺตา. ธุวปฏิเสวนวเสน ปนายํ ตโต นีหริตฺวา ทสฺสิโตติ. เอวํ สนฺเต สมฺมาอาชีโว สกิจฺจโก น โหติ ¶ , อฏฺ มคฺคงฺคานิ น ปริปูเรนฺติ, ตสฺมา สมฺมาอาชีโว สกิจฺจโก กาตพฺโพ, อฏฺ มคฺคงฺคานิ ปริปูเรตพฺพานีติ. ตตฺรายํ นโย – อาชีโว นาม ภิชฺชมาโน กายวจีทฺวาเรสุเยว ภิชฺชติ. มโนทฺวาเร อาชีวเภโท นาม นตฺถิ. ปูรยมาโนปิ ตสฺมึเยว ทฺวารทฺวเย ปูรติ. มโนทฺวาเร อาชีวปูรณํ นาม นตฺถิ. กายทฺวาเร ปน วีติกฺกโม อาชีวเหตุโกปิ อตฺถิ นอาชีวเหตุโกปิ. ตถา วจีทฺวาเร.
ตตฺถ ¶ ยํ ราชราชมหามตฺตา ขิฑฺฑาปสุตา สูรภาวํ ทสฺเสนฺตา มิควธํ วา ปนฺถทุหนํ วา ปรทารวีติกฺกมํ วา กโรนฺติ, อิทํ อกุสลํ กายกมฺมํ นาม. ตโต วิรติปิ ‘สมฺมากมฺมนฺโต’ นาม. ยํ ปน นอาชีวเหตุกํ จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ ภาสนฺติ, อิทํ อกุสลํ วจีกมฺมํ นาม. ตโต วิรติปิ ‘สมฺมาวาจา’ นาม.
ยํ ปน อาชีวเหตุ เนสาทมจฺฉพนฺธาทโย ปาณํ หนนฺติ, อทินฺนํ อาทิยนฺติ, มิจฺฉาจารํ จรนฺติ, อยํ มิจฺฉาชีโว นาม. ตโต วิรติ ‘สมฺมาอาชีโว’ นาม. ยมฺปิ ลฺชํ คเหตฺวา มุสา ภณนฺติ, เปสฺุผรุสสมฺผปฺปลาเป ปวตฺเตนฺติ, อยมฺปิ มิจฺฉาชีโว นาม. ตโต วิรติ สมฺมาอาชีโว นาม.
มหาสีวตฺเถโร ปนาห – ‘กายวจีทฺวาเรสุปิ วีติกฺกโม อาชีวเหตุโก ¶ วา โหตุ โน วา อาชีวเหตุโก, อกุสลํ กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตโต วิรติปิ สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาวาจาตฺเวว วุจฺจตี’ติ. ‘อาชีโว กุหิ’นฺติ วุตฺเต ปน ‘ตีณิ กุหนวตฺถูนิ นิสฺสาย จตฺตาโร ปจฺจเย อุปฺปาเทตฺวา เตสํ ปริโภโค’ติ อาห. อยํ ปน โกฏิปฺปตฺโต มิจฺฉาชีโว. ตโต วิรติ สมฺมาอาชีโว นาม.
อยมฺปิ สมฺมาอาชีโว ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภติ, อฺเเนว หิ จิตฺเตน กายทฺวารวีติกฺกมา วิรมติ, อฺเน วจีทฺวารวีติกฺกมา. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺตสฺมึเยว ลพฺภติ. กายวจีทฺวาเรสุ หิ สตฺตกมฺมปถวเสน อุปฺปนฺนาย มิจฺฉาชีวสงฺขาตาย ทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทปจฺเฉทํ กุรุมานา มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว วิรติ อุปฺปชฺชตีติ. อยํ นิทฺเทสวาเร วิเสโส.
ยํ ¶ ปเนตํ อินฺทฺริเยสุ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ วฑฺฒิตํ, มคฺคงฺเคสุ จ สมฺมาวาจาทีนิ, เตสํ วเสน สงฺคหวาเร ‘‘นวินฺทฺริยานิ, อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ วุตฺตํ. สฺุตวาโร ปากติโกเยวาติ. อยํ ตาว สุทฺธิกปฏิปทาย วิเสโส.
๓๔๓. อิโต ปรํ สุทฺธิกสฺุตา สฺุตปฏิปทา สุทฺธิกอปฺปณิหิตา อปฺปณิหิตปฏิปทาติ อยํ เทสนาเภโท โหติ. ตตฺถ สฺุตนฺติ โลกุตฺตรมคฺคสฺส นามํ. โส หิ ¶ อาคมนโต สคุณโต อารมฺมณโตติ ตีหิ การเณหิ นามํ ลภติ. กถํ? อิธ ภิกฺขุ อนตฺตโต อภินิวิสิตฺวา อนตฺตโต สงฺขาเร ปสฺสติ. ยสฺมา ปน อนตฺตโต ทิฏฺมตฺเตเนว มคฺควุฏฺานํ นาม น โหติ, อนิจฺจโตปิ ทุกฺขโตปิ ทฏฺุเมว วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา’ติ ติวิธํ อนุปสฺสนํ อาโรเปตฺวา สมฺมสนฺโต จรติ. วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา ปนสฺส เตภูมเกปิ สงฺขาเร สฺุโตว ปสฺสติ. อยํ วิปสฺสนา สฺุตา นาม โหติ. สา อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส ‘สฺุต’นฺติ นามํ เทติ. เอวํ มคฺโค ‘อาคมนโต’ สฺุตนามํ ลภติ. ยสฺมา ปน โส ราคาทีหิ สฺุโ ตสฺมา ‘สคุเณเนว’ สฺุตนามํ ลภติ. นิพฺพานมฺปิ ราคาทีหิ สฺุตฺตา สฺุตนฺติ วุจฺจติ. ตํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนตฺตา มคฺโค ‘อารมฺมณโต’ สฺุตนามํ ลภติ.
ตตฺถ สุตฺตนฺติกปริยาเยน ¶ สคุณโตปิ อารมฺมณโตปิ นามํ ลภติ. ปริยายเทสนา เหสา. อภิธมฺมกถา ปน นิปฺปริยายเทสนา. ตสฺมา อิธ สคุณโต วา อารมฺมณโต วา นามํ น ลภติ, อาคมนโตว ลภติ. อาคมนเมว หิ ธุรํ. ตํ ทุวิธํ โหติ – วิปสฺสนาคมนํ มคฺคาคมนนฺติ. ตตฺถ มคฺคสฺส อาคตฏฺาเน วิปสฺสนาคมนํ ธุรํ, ผลสฺส อาคตฏฺาเน มคฺคาคมนํ ธุรํ. อิธ มคฺคสฺส อาคตตฺตา วิปสฺสนาคมนเมว ธุรํ ชาตํ.
๓๕๐. อปฺปณิหิตนฺติ, เอตฺถาปิ อปฺปณิหิตนฺติ มคฺคสฺเสว นามํ. อิทมฺปิ นามํ มคฺโค ตีเหว การเณหิ ลภติ. กถํ? อิธ ภิกฺขุ อาทิโตว ทุกฺขโต อภินิวิสิตฺวา ทุกฺขโตว สงฺขาเร ปสฺสติ. ยสฺมา ปน ทุกฺขโต ทิฏฺมตฺเตเนว มคฺควุฏฺานํ นาม น โหติ, อนิจฺจโตปิ อนตฺตโตปิ ทฏฺุเมว วฏฺฏติ, ตสฺมา อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา’ติ ติวิธํ อนุปสฺสนํ อาโรเปตฺวา ¶ สมฺมสนฺโต จรติ. วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา ปนสฺส เตภูมกสงฺขาเรสุ ปณิธึ โสเสตฺวา ปริยาทิยิตฺวา วิสฺสชฺเชติ. อยํ วิปสฺสนา อปฺปณิหิตา นาม โหติ. สา อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส ‘อปฺปณิหิต’นฺติ นามํ เทติ. เอวํ มคฺโค ‘อาคมนโต’ อปฺปณิหิตนามํ ลภติ. ยสฺมา ปน ตตฺถ ราคโทสโมหปณิธโย นตฺถิ, ตสฺมา ‘สคุเณเนว’ อปฺปณิหิตนามํ ลภติ. นิพฺพานมฺปิ เตสํ ปณิธีนํ อภาวา อปฺปณิหิตนฺติ วุจฺจติ. ตํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนตฺตา มคฺโค อปฺปณิหิตนามํ ลภติ.
ตตฺถ สุตฺตนฺติกปริยาเยน สคุณโตปิ อารมฺมณโตปิ นามํ ลภติ. ปริยายเทสนา เหสา ¶ . อภิธมฺมกถา ปน นิปฺปริยายเทสนา. ตสฺมา อิธ สคุณโต วา อารมฺมณโต วา นามํ น ลภติ, อาคมนโตว ลภติ. อาคมนเมว หิ ธุรํ. ตํ ทุวิธํ โหติ – วิปสฺสนาคมนํ มคฺคาคมนนฺติ. ตตฺถ มคฺคสฺส อาคตฏฺาเน วิปสฺสนาคมนํ ธุรํ, ผลสฺส อาคตฏฺาเน ¶ มคฺคาคมนํ ธุรํ. อิธ มคฺคสฺส อาคตตฺตา วิปสฺสนาคมนเมว ธุรํ ชาตํ.
นนุ จ สฺุโต อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโตติ ตีณิ มคฺคสฺส นามานิ? ยถาห – ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, วิโมกฺขา – สฺุโต วิโมกฺโข, อนิมิตฺโต วิโมกฺโข, อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙). เตสุ อิธ ทฺเว มคฺเค คเหตฺวา อนิมิตฺโต กสฺมา น คหิโตติ? อาคมนาภาวโต. อนิมิตฺตวิปสฺสนา หิ สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ ทาตุํ น สกฺโกติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน อตฺตโน ปุตฺตสฺส ราหุลตฺเถรสฺส.
‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวหิ, มานานุสยมุชฺชห;
ตโต มานาภิสมยา, อุปสนฺโต จริสฺสสี’’ติ. (สุ. นิ. ๓๔๔);
อนิมิตฺตวิปสฺสนํ กเถสิ. วิปสฺสนา หิ นิจฺจนิมิตฺตํ ธุวนิมิตฺตํ สุขนิมิตฺตํ อตฺตนิมิตฺตฺจ อุคฺฆาเฏติ. ตสฺมา อนิมิตฺตาติ กถิตา. สา จ กิฺจาปิ ตํ นิมิตฺตํ อุคฺฆาเฏติ, สยํ ปน นิมิตฺตธมฺเมสุ จรตีติ สนิมิตฺตาว โหติ. ตสฺมา สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ ทาตุํ น สกฺโกติ.
อปโร ¶ นโย – อภิธมฺโม นาม ปรมตฺถเทสนา. อนิมิตฺตมคฺคสฺส จ ปรมตฺถโต เหตุเวกลฺลเมว โหติ. กถํ? อนิจฺจานุปสฺสนาย หิ วเสน อนิมิตฺตวิโมกฺโข กถิโต. เตน จ วิโมกฺเขน สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ. ตํ อริยมคฺเค เอกงฺคมฺปิ น โหติ, อมคฺคงฺคตฺตา อตฺตโน มคฺคสฺส ปรมตฺถโต นามํ ทาตุํ น สกฺโกติ. อิตเรสุ ปน ทฺวีสุ อนตฺตานุปสฺสนาย ตาว วเสน สฺุตวิโมกฺโข, ทุกฺขานุปสฺสนาย วเสน อปฺปณิหิตวิโมกฺโข กถิโต. เตสุ สฺุตวิโมกฺเขน ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน สมาธินฺทฺริยํ. ตานิ อริยมคฺคสฺส องฺคตฺตา อตฺตโน มคฺคสฺส ปรมตฺถโต นามํ ทาตุํ สกฺโกนฺติ. มคฺคารมฺมณตฺติเกปิ หิ มคฺคาธิปติธมฺมวิภชเน ฉนฺทจิตฺตานํ อธิปติกาเล ¶ เตสํ ธมฺมานํ อมคฺคงฺคตฺตาว มคฺคาธิปติภาโว น วุตฺโต. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพนฺติ. อยเมตฺถ อฏฺกถามุตฺตโก เอกสฺส อาจริยสฺส มติวินิจฺฉโย.
เอวํ ¶ สพฺพถาปิ อนิมิตฺตวิปสฺสนา สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ ทาตุํ น สกฺโกตีติ อนิมิตฺตมคฺโค น คหิโต. เกจิ ปน ‘อนิมิตฺตมคฺโค อาคมนโต นามํ อลภนฺโตปิ สุตฺตนฺตปริยาเยน สคุณโต จ อารมฺมณโต จ นามํ ลภตี’ติ อาหํสุ. เต อิทํ วตฺวา ปฏิกฺขิตฺตา – อนิมิตฺตมคฺเค สคุณโต จ อารมฺมณโต จ นามํ ลภนฺเต สฺุตอปฺปณิหิตมคฺคาปิ สคุณโตเยว อารมฺมณโตเยว จ อิธ นามํ ลเภยฺยุํ. น ปน ลภนฺติ. กึ การณา? อยฺหิ มคฺโค นาม ทฺวีหิ การเณหิ นามํ ลภติ – สรสโต จ ปจฺจนีกโต จ; สภาวโต จ ปฏิปกฺขโต จาติ อตฺโถ. ตตฺถ สฺุตอปฺปณิหิตมคฺคา สรสโตปิ ปจฺจนีกโตปิ นามํ ลภนฺติ. สฺุตอปฺปณิหิตมคฺคา หิ ราคาทีหิ สฺุา, ราคปณิธิอาทีหิ จ อปฺปณิหิตาติ เอวํ ‘สรสโต’ นามํ ลภนฺติ. สฺุโต จ อตฺตาภินิเวสสฺส ปฏิปกฺโข, อปฺปณิหิโต ปณิธิสฺสาติ เอวํ ‘ปจฺจนีกโต’ นามํ ลภนฺติ. อนิมิตฺตมคฺโค ปน ราคาทินิมิตฺตานํ นิจฺจนิมิตฺตาทีนฺจ อภาเวน สรสโตว นามํ ลภติ, โน ปจฺจนีกโต. น หิ โส สงฺขารนิมิตฺตารมฺมณาย อนิจฺจานุปสฺสนาย ปฏิปกฺโข. อนิจฺจานุปสฺสนา ปนสฺส อนุโลมภาเว ิตาติ. สพฺพถาปิ อภิธมฺมปริยาเยน อนิมิตฺตมคฺโค นาม นตฺถีติ.
สุตฺตนฺติกปริยาเยน ¶ ปเนส เอวํ อาหริตฺวา ทีปิโต – ยสฺมิฺหิ วาเร มคฺควุฏฺานํ โหติ, ตีณิ ลกฺขณานิ เอกาวชฺชเนน วิย อาปาถมาคจฺฉนฺติ, ติณฺณฺจ เอกโต อาปาถคมนํ นาม นตฺถิ. กมฺมฏฺานสฺส ปน วิภูตภาวทีปนตฺถํ เอวํ วุตฺตํ. อาทิโต หิ ยตฺถ กตฺถจิ อภินิเวโส โหตุ, วุฏฺานคามินี ปน วิปสฺสนา ยํ ยํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ ตสฺส ตสฺเสว วเสน อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ เทติ. กถํ? อนิจฺจาทีสุ หิ ยตฺถ กตฺถจิ อภินิวิสิตฺวา อิตรมฺปิ ลกฺขณทฺวยํ ทฏฺุํ วฏฺฏติ เอว. เอกลกฺขณทสฺสนมตฺเตเนว หิ มคฺควุฏฺานํ นาม น โหติ, ตสฺมา อนิจฺจโต อภินิวิฏฺโ ภิกฺขุ ¶ น เกวลํ อนิจฺจโตว วุฏฺาติ, ทุกฺขโตปิ อนตฺตโตปิ วุฏฺาติเยว. ทุกฺขโต อนตฺตโต อภินิวิฏฺเปิ เอเสว นโย. อิติ อาทิโต ยตฺถ กตฺถจิ อภินิเวโส โหตุ, วุฏฺานคามินี ปน วิปสฺสนา ยํ ยํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ ตสฺส ตสฺเสว วเสน อาคมนียฏฺาเน ตฺวา ¶ อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ เทติ. ตตฺถ อนิจฺจโต วุฏฺหนฺตสฺส มคฺโค อนิมิตฺโต นาม โหติ, ทุกฺขโต วุฏฺหนฺตสฺส อปฺปณิหิโต, อนตฺตโต วุฏฺหนฺตสฺส สฺุโตติ. เอวํ สุตฺตนฺตปริยาเยน อาหริตฺวา ทีปิโต.
วุฏฺานคามินี ปน วิปสฺสนา กิมารมฺมณาติ? ลกฺขณารมฺมณาติ. ลกฺขณํ นาม ปฺตฺติคติกํ น วตฺตพฺพธมฺมภูตํ. โย ปน อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ ตีณิ ลกฺขณานิ สลฺลกฺเขติ, ตสฺส ปฺจกฺขนฺธา กณฺเ พทฺธกุณปํ วิย โหนฺติ. สงฺขารารมฺมณเมว าณํ สงฺขารโต วุฏฺาติ. ยถา หิ เอโก ภิกฺขุ ปตฺตํ กิณิตุกาโม ปตฺตวาณิเชน ปตฺตํ อาภตํ ทิสฺวา หฏฺปหฏฺโ คณฺหิสฺสามีติ จินฺเตตฺวา วีมํสมาโน ตีณิ ฉิทฺทานิ ปสฺเสยฺย, โส น ฉิทฺเทสุ นิราลโย โหติ, ปตฺเต ปน นิราลโย โหติ; เอวเมว ตีณิ ลกฺขณานิ สลฺลกฺเขตฺวา สงฺขาเรสุ นิราลโย โหติ. สงฺขารารมฺมเณเนว าเณน สงฺขารโต วุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ. ทุสฺโสปมายปิ เอเสว นโย.
อิติ ภควา โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเชนฺโต สุทฺธิกปฏิปทาย จตุกฺกนยํ ปฺจกนยนฺติ ทฺเวปิ นเย อาหริ. ตถา สุทฺธิกสฺุตาย สฺุตปฏิปทาย สุทฺธิกอปฺปณิหิตาย อปฺปณิหิตปฏิปทายาติ. กสฺมา เอวํ อาหรีติ? ปุคฺคลชฺฌาสเยน เจว เทสนาวิลาเสน จ. ตทุภยมฺปิ เหฏฺา ¶ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวตีติ เอตฺถ สุทฺธิกปฏิปทาย จตุกฺกปฺจกวเสน ทฺเว นยา, ตถา เสเสสูติ สพฺเพสุปิ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ ทส นยา ภาชิตา.
โลกุตฺตรกุสลํ ปกิณฺณกกถา
ตตฺริทํ ปกิณฺณกํ –
อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, รูปารูเปสุ ปฺจสุ;
สตฺตฏฺงฺคปริณามํ, นิมิตฺตํ ปฏิปทาปตีติ.
โลกุตฺตรมคฺโค หิ อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา อชฺฌตฺตํ วุฏฺาติ ¶ , อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา พหิทฺธา วุฏฺาติ, พหิทฺธา อภินิวิสิตฺวา ¶ พหิทฺธา วุฏฺาติ, พหิทฺธา อภินิวิสิตฺวา อชฺฌตฺตํ วุฏฺาติ. รูเป อภินิวิสิตฺวา รูปา วุฏฺาติ, รูเป อภินิวิสิตฺวา อรูปา วุฏฺาติ. อรูเป อภินิวิสิตฺวา อรูปา วุฏฺาติ, อรูเป อภินิวิสิตฺวา รูปา วุฏฺาติ, เอกปฺปหาเรเนว ปฺจหิ ขนฺเธหิ วุฏฺาติ.
‘สตฺตฏฺงฺคปริณาม’นฺติ โส ปเนส มคฺโค อฏฺงฺคิโกปิ โหติ สตฺตงฺคิโกปิ. โพชฺฌงฺคาปิ สตฺต วา โหนฺติ ฉ วา. ฌานํ ปน ปฺจงฺคิกํ วา โหติ จตุรงฺคิกํ วา; ติวงฺคิกํ วา ทุวงฺคิกํ วา. เอวํ สตฺตอฏฺาทีนํ องฺคานํ ปริณาโม เวทิตพฺโพติ อตฺโถ.
‘นิมิตฺตํ ปฏิปทาปตี’ติ นิมิตฺตนฺติ ยโต วุฏฺานํ โหติ; ‘ปฏิปทาปตี’ติ ปฏิปทาย จ อธิปติโน จ จลนาจลนํ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา อชฺฌตฺตํ วุฏฺาตีติอาทีสุ ตาว อิเธกจฺโจ อาทิโตว อชฺฌตฺตํ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อภินิวิสติ, อภินิวิสิตฺวา เต อนิจฺจาทิโต ปสฺสติ, ยสฺมา ปน น สุทฺธอชฺฌตฺตทสฺสนมตฺเตเนว มคฺควุฏฺานํ โหติ, พหิทฺธาปิ ทฏฺพฺพเมว, ตสฺมา ปรสฺส ขนฺเธปิ อนุปาทินฺนสงฺขาเรปิ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ ปสฺสติ. โส กาเลน อชฺฌตฺตํ สมฺมสติ กาเลน พหิทฺธาติ. ตสฺเสวํ สมฺมสโต อชฺฌตฺตํ สมฺมสนกาเล วิปสฺสนา มคฺเคน สทฺธึ ฆฏิยติ. เอวํ อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา อชฺฌตฺตํ วุฏฺาติ นาม. สเจ ปนสฺส พหิทฺธา สมฺมสนกาเล วิปสฺสนา มคฺเคน ¶ สทฺธึ ฆฏิยติ, เอวํ อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา พหิทฺธา วุฏฺาติ นาม. เอเสว นโย พหิทฺธา อภินิวิสิตฺวา พหิทฺธา จ อชฺฌตฺตฺจ วุฏฺาเนปิ.
อปโร อาทิโตว รูเป อภินิวิสติ อภินิวิสิตฺวา ภูตรูปฺจ อุปาทารูปฺจ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนิจฺจาทิโต ปสฺสติ, ยสฺมา ปน น สุทฺธรูปทสฺสนมตฺเตเนว วุฏฺานํ โหติ อรูปมฺปิ ทฏฺพฺพเมว, ตสฺมา ตํ รูปํ อารมฺมณํ กตฺวา ¶ อุปฺปนฺนํ เวทนํ สฺํ สงฺขาเร วิฺาณฺจ อิทํ อรูปนฺติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนิจฺจาทิโต ปสฺสติ. โส กาเลน รูปํ สมฺมสติ กาเลน อรูปํ. ตสฺเสวํ สมฺมสโต รูปสมฺมสนกาเล วิปสฺสนา มคฺเคน สทฺธึ ฆฏิยติ. เอวํ รูเป อภินิวิสิตฺวา รูปา วุฏฺาติ นาม. สเจ ปนสฺส อรูปสมฺมสนกาเล วิปสฺสนา ¶ มคฺเคน สทฺธึ ฆฏิยติ, เอวํ รูเป อภินิวิสิตฺวา อรูปา วุฏฺาติ นาม. เอส นโย อรูเป อภินิวิสิตฺวา อรูปา จ รูปา จ วุฏฺาเนปิ.
‘‘ยํกิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ (มหาว. ๑๖; ที. นิ. ๑.๒๙๘) เอวํ อภินิวิสิตฺวา เอวเมว วุฏฺานกาเล ปน เอกปฺปหาเรน ปฺจหิ ขนฺเธหิ วุฏฺาติ นามาติ. อยํ ติกฺขวิปสฺสกสฺส มหาปฺสฺส ภิกฺขุโน วิปสฺสนา.
ยถา หิ ฉาตชฺฌตฺตสฺส ปุริสสฺส มชฺเฌ คูถปิณฺฑํ เปตฺวา นานคฺครสโภชนปุณฺณํ ปาตึ อุปเนยฺยุํ, โส พฺยฺชนํ หตฺเถน วิยูหนฺโต ตํ คูถปิณฺฑํ ทิสฺวา ‘กิมิท’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา คูถปิณฺโฑติ วุตฺเต ‘ธิ ธิ, อปเนถา’ติ ภตฺเตปิ ปาติยมฺปิ นิราลโย โหติ. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.
โภชนปาติทสฺสนสฺมิฺหิ ตสฺส อตฺตมนกาโล วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน พาลปุถุชฺชนกาเล ปฺจกฺขนฺเธ ‘อหํ มมา’ติ คหิตกาโล. คูถปิณฺฑสฺส ทิฏฺกาโล วิย ติณฺณํ ลกฺขณานํ สลฺลกฺขิตกาโล. ภตฺเตปิ ปาติยมฺปิ นิราลยกาโล วิย ติกฺขวิปสฺสกสฺส มหาปฺสฺส ภิกฺขุโน ‘‘ยํกิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ ปฺจหิ ขนฺเธหิ เอกปฺปหาเรน วุฏฺิตกาโล เวทิตพฺโพ.
‘สตฺตฏฺงฺคปริณาม’นฺติ เอตฺถ อยํ วุตฺตปฺปเภโท องฺคปริณาโม ยถา โหติ ตถา เวทิตพฺโพ. สงฺขารุเปกฺขาาณเมว หิ อริยมคฺคสฺส โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺควิเสสํ ¶ นิยเมติ. เกจิ ปน เถรา ‘โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺควิเสสํ ปาทกชฺฌานํ นิยเมตี’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺตี’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตี’ติ วทนฺติ. เตสมฺปิ วาเทสุ อยํ สงฺขารุเปกฺขาสงฺขาตา ปุพฺพภาคา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาว นิยเมตีติ เวทิตพฺพา.
ตตฺรายํ อนุปุพฺพีกถา – วิปสฺสนานิยเมน หิ สุกฺขวิปสฺสกสฺส ¶ อุปฺปนฺนมคฺโคปิ สมาปตฺติลาภิโน ฌานํ ปาทกํ อกตฺวา อุปฺปนฺนมคฺโคปิ ปมชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา ปกิณฺณกสงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโคปิ ปมชฺฌานิโกว โหติ. สพฺเพสุ สตฺต โพชฺฌงฺคานิ อฏฺ มคฺคงฺคานิ ปฺจ ฌานงฺคานิ โหนฺติ. เตสฺหิ ปุพฺพภาควิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตาปิ ¶ อุเปกฺขาสหคตาปิ หุตฺวา วุฏฺานกาเล สงฺขารุเปกฺขาภาวํ ปตฺตา โสมนสฺสสหคตาว โหติ.
ปฺจกนเย ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานานิ ปาทกานิ กตฺวา อุปฺปาทิตมคฺเคสุ ยถากฺกเมเนว ฌานํ จตุรงฺคิกํ ติวงฺคิกํ ทุวงฺคิกฺจ โหติ. สพฺเพสุ ปน สตฺต มคฺคงฺคานิ โหนฺติ, จตุตฺเถ ฉ โพชฺฌงฺคานิ. อยํ วิเสโส ปาทกชฺฌานนิยเมน เจว วิปสฺสนานิยเมน จ โหติ. เตสมฺปิ หิ ปุพฺพภาควิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตาปิ อุเปกฺขาสหคตาปิ โหติ. วุฏฺานคามินี โสมนสฺสสหคตาว.
ปฺจมชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตมคฺเค ปน อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาวเสน ทฺเว ฌานงฺคานิ โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคานิ ฉ สตฺต เจว. อยมฺปิ วิเสโส อุภยนิยมวเสน โหติ. อิมสฺมิฺหิ นเย ปุพฺพภาควิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตา วา อุเปกฺขาสหคตา วา โหติ, วุฏฺานคามินี อุเปกฺขาสหคตาว. อรูปชฺฌานานิ ปาทกานิ กตฺวา อุปฺปาทิตมคฺเคปิ เอเสว นโย. เอวํ ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย เย เกจิ สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตมคฺคสฺส อาสนฺนปเทเส วุฏฺิตา สมาปตฺติ อตฺตนา สทิสภาวํ กโรติ, ภูมิวณฺโณ วิย โคธาวณฺณสฺส.
ทุติยตฺเถรวาเท ปน ยโต ยโต สมาปตฺติโต วุฏฺาย เย เย สมาปตฺติธมฺเม สมฺมสิตฺวา มคฺโค นิพฺพตฺติโต โหติ ตํตํสมาปตฺติสทิโสว โหติ, สมฺมสิตสมาปตฺติสทิโสติ อตฺโถ. สเจ ¶ ปน กามาวจรธมฺเม สมฺมสติ ปมชฺฌานิโกว โหติ. ตตฺราปิ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
ตติยตฺเถรวาเท ¶ ‘อโห วตาหํ สตฺตงฺคิกํ มคฺคํ ปาปุเณยฺยํ, อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ปาปุเณยฺย’นฺติ อตฺตโน อชฺฌาสยานุรูเปน ยํ ยํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา เย วา เย วา ฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา มคฺโค นิพฺพตฺติโต ตํตํฌานสทิโสว โหติ. ปาทกชฺฌานํ ปน สมฺมสิตชฺฌานํ วา วินา, อชฺฌาสยมตฺเตเนว ตํ น อิชฺฌติ. สฺวายมตฺโถ นนฺทโกวาทสุตฺเตน ทีเปตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส น โหติ พหุโน ชนสฺส กงฺขา วา วิมติ ¶ วา ‘อูโน นุ โข จนฺโท ปุณฺโณ นุ โข จนฺโท’ติ, อถ โข ปุณฺโณ จนฺโทตฺเวว โหติ, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ตา ภิกฺขุนิโย นนฺทกสฺส ธมฺมเทสนาย อตฺตมนา เจว ปริปุณฺณสงฺกปฺปา จ. ตาสํ, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ ภิกฺขุนิสตานํ ยา ปจฺฉิมิกา ภิกฺขุนี สา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๑๕).
ตาสุ หิ ยสฺสา ภิกฺขุนิยา โสตาปตฺติผลสฺส อุปนิสฺสโย, สา โสตาปตฺติผเลเนว ปริปุณฺณสงฺกปฺปา อโหสิ…เป… ยสฺสา อรหตฺตสฺส อุปนิสฺสโย สา อรหตฺเตเนว. เอวเมว อตฺตโน อชฺฌาสยานุรูเปน ยํ ยํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา เย วา เย วา ฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา มคฺโค นิพฺพตฺติโต ตํตํฌานสทิโสว โส โหติ. ปาทกชฺฌานํ ปน สมฺมสิตชฺฌานํ วา วินา, อชฺฌาสยมตฺเตเนว ตํ น อิชฺฌตีติ. เอตฺถาปิ จ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ‘ปาทกชฺฌานเมว นิยเมตี’ติ เอวํวาทึ ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรํ อนฺเตวาสิกา อาหํสุ – ‘ภนฺเต, ยตฺถ ตาว ปาทกชฺฌานํ อตฺถิ ตตฺถ ตํ นิยเมตุ; ยสฺมึ ปน ปาทกชฺฌานํ นตฺถิ, ตสฺมึ อรูปภเว กึ นิยเมตี’ติ? ‘อาวุโส, ตตฺถปิ ปาทกชฺฌานเมว นิยเมติ. โย หิ ภิกฺขุ อฏฺสมาปตฺติลาภี ปมชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา โสตาปตฺติมคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา อรูปภเว นิพฺพตฺโต, ปมชฺฌานิกาย โสตาปตฺติผลสมาปตฺติยา วุฏฺาย วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อุปริ ¶ ตีณิ มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตติ, ตสฺส ตานิ ปมชฺฌานิกาเนว โหนฺติ. ทุติยชฺฌานิกาทีสุปิ เอเสว นโย. อรูเป ¶ ติกจตุกฺกชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ, ตฺจ โข โลกุตฺตรํ น โลกิยํ. เอวํ ตตฺถาปิ ปาทกชฺฌานเมว นิยเมติ อาวุโส’ติ. ‘สุกถิโต, ภนฺเต, ปฺโห’ติ.
‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺติ; ยํ ยํ หิ ปฺจกฺขนฺธํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ ตํตํสทิโสว มคฺโค โหตี’ติ วาทึ โมรวาปิวาสิมหาทตฺตตฺเถรมฺปิ อนฺเตวาสิกา อาหํสุ ‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ วาเท โทโส ปฺายติ – รูปํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺิตภิกฺขุโน หิ รูปสทิเสน อพฺยากเตน มคฺเคน ภวิตพฺพํ, เนวสฺานาสฺายตนํ นยโต ปริคฺคเหตฺวา วุฏฺิตสฺส ตํสทิเสเนว เนวสฺานาสฺาภาวปฺปตฺเตน มคฺเคน ภวิตพฺพ’นฺติ. ‘น, อาวุโส, เอวํ โหติ. โลกุตฺตรมคฺโค หิ อปฺปนํ อปฺปตฺโต นาม นตฺถิ, ตสฺมา รูปํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺิตสฺส อฏฺงฺคิโก โสมนสฺสสหคตมคฺโค ¶ โหติ, เนวสฺานาสฺายตนํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺิตสฺสปิ น สพฺพากาเรน ตาทิโส โหติ, สตฺตงฺคิโก ปน อุเปกฺขาสหคตมคฺโค โหตี’ติ.
‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตี’ติวาทิโน จูฬาภยตฺเถรสฺสาปิ วาทํ อาหริตฺวา ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรสฺส กถยึสุ. โส อาห – ‘ยสฺส ตาว ปาทกชฺฌานํ อตฺถิ ตสฺส ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตุ, ยสฺส ตํ นตฺถิ ตสฺส กตรชฺฌาสโย นิยเมสฺสติ นิทฺธนสฺส วุฑฺฒิคเวสนกาโล วิย โหตี’ติ.
ตํ กถํ อาหริตฺวา ติปิฏกจูฬาภยตฺเถรสฺส ปุน กถยึสุ. โส ‘ปาทกชฺฌานวโต อิทํ กถิตํ อาวุโส’ติ อาห. ยถา ปน ปาทกชฺฌานวโต, สมฺมสิตชฺฌานวโตปิ ตเถว เวทิตพฺพํ. ปฺจมชฺฌานโต วุฏฺาย หิ ปมาทีนิ สมฺมสโต อุปฺปนฺนมคฺโค ปมตฺเถรวาเทน ปฺจมชฺฌานิโก. ทุติยวาเทน ปมาทิชฺฌานิโก อาปชฺชตีติ ทฺเวปิ วาทา วิรุชฺฌนฺติ. ตติยวาเทน ปเนตฺถ ‘ยํ อิจฺฉติ ตชฺฌานิโก โหตี’ติ เต จ วาทา น วิรุชฺฌนฺติ, อชฺฌาสโย จ สาตฺถโก โหตีติ. เอวํ ตโยปิ เถรา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา พุทฺธิสมฺปนฺนาว ¶ . เตน เตสํ วาทํ ตนฺตึ กตฺวา ปยึสุ. อิธ ปน อตฺถเมว อุทฺธริตฺวา ตโยเปเต วาเท วิปสฺสนาว นิยเมตีติ ทสฺสิตํ.
อิทานิ ¶ ‘นิมิตฺตํ ปฏิปทาปตี’ติ เอตฺถ เอวํ องฺคปริณามวโต มคฺคสฺส อุปฺปาทกาเล โคตฺรภุ กุโต วุฏฺาติ? มคฺโค กุโตติ? โคตฺรภุ ตาว นิมิตฺตโต วุฏฺาติ, ปวตฺตํ เฉตฺตุํ น สกฺโกติ, เอกโตวุฏฺาโน เหส. มคฺโค นิมิตฺตโต วุฏฺาติ, ปวตฺตมฺปิ ฉินฺทติ อุภโตวุฏฺาโน เหส. เตสํ อยํ อุปฺปตฺตินโย – ยสฺมิฺหิ วาเร มคฺควุฏฺานํ โหติ, ตสฺมึ อนุโลมํ เนว เอกํ โหติ, น ปฺจมํ. เอกฺหิ อาเสวนํ น ลภติ, ปฺจมํ ภวงฺคสฺส อาสนฺนตฺตา ปเวธติ. ตทา หิ ชวนํ ปติตํ นาม โหติ. ตสฺมา เนว เอกํ โหติ น ปฺจมํ. มหาปฺสฺส ปน ทฺเว อนุโลมานิ โหนฺติ, ตติยํ โคตฺรภุ, จตุตฺถํ มคฺคจิตฺตํ, ตีณิ ผลานิ, ตโต ภวงฺโคตรณํ. มชฺฌิมปฺสฺส ตีณิ อนุโลมานิ โหนฺติ, จตุตฺถํ โคตฺรภุ, ปฺจมํ มคฺคจิตฺตํ, ทฺเว ผลานิ, ตโต ภวงฺโคตรณํ. มนฺทปฺสฺส จตฺตาริ อนุโลมานิ, โหนฺติ ปฺจมํ โคตฺรภุ, ฉฏฺํ มคฺคจิตฺตํ, สตฺตมํ ผลํ, ตโต ภวงฺโคตรณํ. ตตฺร มหาปฺมนฺทปฺานํ วเสน อกเถตฺวา มชฺฌิมปฺสฺส วเสน กเถตพฺพํ.
ยสฺมิฺหิ ¶ วาเร มคฺควุฏฺานํ โหติ, ตสฺมึ กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ อุเปกฺขาสหคตา มโนทฺวาราวชฺชนํ หุตฺวา วิปสฺสนาโคจเร ขนฺเธ อารมฺมณํ กตฺวา ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ. ตทนนฺตรํ เตเนว อาวชฺชเนน คหิตกฺขนฺเธ คเหตฺวา อุปฺปชฺชติ ปมํ ชวนํ อนุโลมาณํ. ตํ เตสุ ขนฺเธสุ อนิจฺจาติ วา ทุกฺขาติ วา อนตฺตาติ ¶ วา ปวตฺติตฺวา โอฬาริกํ โอฬาริกํ สจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ วิโนเทตฺวา ตีณิ ลกฺขณานิ ภิยฺโย ภิยฺโย ปากฏานิ กตฺวา นิรุชฺฌติ. ตทนนฺตรํ อุปฺปชฺชติ ทุติยานุโลมํ. เตสุ ปุริมํ อนาเสวนํ. ทุติยสฺส ปุริมํ อาเสวนํ โหติ. ตมฺปิ ลทฺธาเสวนตฺตา ติกฺขํ สูรํ ปสนฺนํ หุตฺวา ตสฺมึเยวารมฺมเณ เตเนวากาเรน ปวตฺติตฺวา มชฺฌิมปฺปมาณํ สจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ วิโนเทตฺวา ตีณิ ลกฺขณานิ ภิยฺโย ภิยฺโย ปากฏานิ กตฺวา นิรุชฺฌติ. ตทนนฺตรํ อุปฺปชฺชติ ตติยานุโลมํ. ตสฺส ทุติยํ อาเสวนํ โหติ. ตมฺปิ ลทฺธาเสวนตฺตา ติกฺขํ สูรํ ปสนฺนํ หุตฺวา ตสฺมึเยวารมฺมเณ เตเนวากาเรน ปวตฺติตฺวา ตทวเสสํ อณุสหคตํ สจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ วิโนเทตฺวา นิรวเสสํ กตฺวา ตีณิ ลกฺขณานิ ภิยฺโย ภิยฺโย ปากฏานิ ¶ กตฺวา นิรุชฺฌติ. เอวํ ตีหิ อนุโลเมหิ สจฺจปฏิจฺฉาทกตเม วิโนทิเต ตทนนฺตรํ อุปฺปชฺชติ โคตฺรภฺุาณํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กุรุมานํ.
ตตฺรายํ อุปมา – เอโก กิร จกฺขุมา ปุริโส นกฺขตฺตโยคํ ชานิสฺสามีติ รตฺติภาเค นิกฺขมิตฺวา จนฺทํ ปสฺสิตุํ อุทฺธํ อุลฺโลเกสิ. ตสฺส วลาหเกหิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา จนฺโท น ปฺายิตฺถ. อเถโก วาโต อุฏฺหิตฺวา ถูลถูเล วลาหเก วิทฺธํเสสิ. อปโร มชฺฌิเม. อปโร สุขุเม. ตโต โส ปุริโส วิคตวลาหเก นเภ จนฺทํ ทิสฺวา นกฺขตฺตโยคํ อฺาสิ.
ตตฺถ ตโย วลาหกา วิย สจฺจปฏิจฺฉาทกถูลมชฺฌิมสุขุมกิเลสนฺธการา. ตโย วาตา วิย ตีณิ อนุโลมจิตฺตานิ. จกฺขุมา ปุริโส วิย โคตฺรภฺุาณํ. จนฺโท วิย นิพฺพานํ. เอเกกสฺส วาตสฺส ยถากฺกเมน วลาหกตฺตยวิทฺธํสนํ วิย เอเกกสฺส อนุโลมจิตฺตสฺส สจฺจปฏิจฺฉาทกตมวิโนทนํ. วิคตวลาหเก นเภ ตสฺส ปุริสสฺส วิสุทฺธจนฺททสฺสนํ วิย วิคเต สจฺจปฏิจฺฉาทเก ¶ ตเม โคตฺรภฺุาณสฺส สุวิสุทฺธนิพฺพานารมฺมณกรณํ.
ยเถว หิ ตโย วาตา จนฺทปฏิจฺฉาทเก วลาหเกเยว วิทฺธํเสตุํ สกฺโกนฺติ, น จนฺทํ ทฏฺุํ, เอวํ อนุโลมานิ สจฺจปฏิจฺฉาทกตเมเยว วิโนเทตุํ สกฺโกนฺติ, น นิพฺพานํ อารมฺมณํ กาตุํ ¶ . ยถา โส ปุริโส จนฺทเมว ทฏฺุํ สกฺโกติ น วลาหเก วิทฺธํเสตุํ, เอวํ โคตฺรภฺุาณํ นิพฺพานเมว อารมฺมณํ กาตุํ สกฺโกติ น กิเลสตมํ วิโนเทตุํ. เอวํ อนุโลมํ สงฺขารารมฺมณํ โหติ, โคตฺรภุ นิพฺพานารมฺมณํ.
ยทิ หิ โคตฺรภุ อนุโลเมน คหิตารมฺมณํ คณฺเหยฺย ปุน อนุโลมํ ตํ อนุพนฺเธยฺยาติ มคฺควุฏฺานเมว น ภเวยฺย. โคตฺรภฺุาณํ ปน อนุโลมสฺส อารมฺมณํ อคฺคเหตฺวา ตํ อปจฺฉโตปวตฺติกํ กตฺวา สยํ อนาวชฺชนมฺปิ สมานํ อาวชฺชนฏฺาเน ตฺวา เอวํ นิพฺพตฺตาหีติ มคฺคสฺส สฺํ ทตฺวา วิย นิรุชฺฌติ. มคฺโคปิ เตน ทินฺนสฺํ อมฺุจิตฺวาว อวีจิสนฺตติวเสน ตํ าณํ อนุพนฺธมาโน อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ โทสกฺขนฺธํ โมหกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌมาโนว ปทาลยมาโนว นิพฺพตฺตติ.
ตตฺรายํ ¶ อุปมา – เอโก กิร อิสฺสาโส ธนุสตมตฺถเก ผลกสตํ ปาเปตฺวา วตฺเถน มุขํ เวเตฺวา สรํ สนฺนยฺหิตฺวา จกฺกยนฺเต อฏฺาสิ. อฺโ ปุริโส จกฺกยนฺตํ อาวฺฉิตฺวา ยทา อิสฺสาสสฺส ผลกสตํ อภิมุขํ โหติ ตทา ตตฺถ ทณฺฑเกน สฺํ เทติ, อิสฺสาโส ทณฺฑกสฺํ อมฺุจิตฺวาว สรํ ขิปิตฺวา ผลกสตํ นิพฺพิชฺฌติ. ตตฺถ ทณฺฑกสฺา วิย โคตฺรภฺุาณํ. อิสฺสาโส วิย มคฺคาณํ. อิสฺสาสสฺส ทณฺฑกสฺํ อมฺุจิตฺวาว ผลกสตนิพฺพิชฺฌนํ วิย มคฺคาณสฺส โคตฺรภฺุาเณน ทินฺนสฺํ อมฺุจิตฺวาว นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา อนิพฺพิทฺธปุพฺพอปทาลิตปุพฺพานํ โลภกฺขนฺธาทีนํ นิพฺพิชฺฌนปทาลนํ. ภูมิลทฺธวฏฺฏเสตุสมุคฺฆาตกรณนฺติปิ ¶ เอตเทว. มคฺคสฺส หิ เอกเมว กิจฺจํ อนุสยปฺปชหนํ. อิติ โส อนุสเย ปชหนฺโต นิมิตฺตา วุฏฺาติ นาม, ปวตฺตํ ฉินฺทติ นาม. ‘นิมิตฺต’นฺติ รูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณนิมิตฺตํ. ‘ปวตฺต’มฺปิ รูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณปวตฺตเมว. ตํ ทุวิธํ โหติ – อุปาทินฺนกํ อนุปาทินฺนกนฺติ. เตสุ มคฺคสฺส อนุปาทินฺนกโต วุฏฺานจฺฉายา ทิสฺสตีติ วตฺวา อนุปาทินฺนกโต วุฏฺาตีติ วทึสุ.
โสตาปตฺติมคฺเคน หิ จตฺตาริ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตานิ วิจิกิจฺฉาสหคตนฺติ ปฺจ จิตฺตานิ ปหียนฺติ. ตานิ รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ. ตํ อนุปาทินฺนกรูปกฺขนฺโธ. ตานิ จิตฺตานิ วิฺาณกฺขนฺโธ. ตํสมฺปยุตฺตา เวทนา สฺา สงฺขารา ตโย อรูปกฺขนฺธา. ตตฺถ สเจ โสตาปนฺนสฺส โสตาปตฺติมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺส ตานิ ปฺจ จิตฺตานิ ฉสุ อารมฺมเณสุ ปริยุฏฺานํ ¶ ปาปุเณยฺยุํ. โสตาปตฺติมคฺโค ปน เตสํ ปริยุฏฺาเนนปฺปตฺตึ วารยมาโน เสตุสมุคฺฆาตํ อภพฺพุปฺปตฺติกภาวํ กุรุมาโน อนุปาทินฺนกโต วุฏฺาติ นาม.
สกทาคามิมคฺเคน จตฺตาริ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตานิ ทฺเว โทมนสฺสสหคตานีติ โอฬาริกกามราคพฺยาปาทวเสน ฉ จิตฺตานิ ปหียนฺติ. อนาคามิมคฺเคน อณุสหคตกามราคพฺยาปาทวเสน ตานิ เอว ฉ จิตฺตานิ ปหียนฺติ. อรหตฺตมคฺเคน จตฺตาริ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตานิ อุทฺธจฺจสหคตฺจาติ ปฺจ อกุสลจิตฺตานิ ปหียนฺติ. ตตฺถ สเจ เตสํ อริยานํ เต มคฺคา อภาวิตา อสฺสุ, ตานิ จิตฺตานิ ฉสุ อารมฺมเณสุ ปริยุฏฺานํ ปาปุเณยฺยุํ. เต ปน เตสํ มคฺคา ปริยุฏฺานปฺปตฺตึ วารยมานา เสตุสมุคฺฆาตํ ¶ อภพฺพุปฺปตฺติกภาวํ กุรุมานา อนุปาทินฺนกโต วุฏฺหนฺติ นาม.
อุปาทินฺนกโต วุฏฺานจฺฉายา ทิสฺสตีติ วตฺวา อุปาทินฺนกโต ¶ วุฏฺาตีติปิ วทึสุ. สเจ หิ โสตาปนฺนสฺส โสตาปตฺติมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺส, เปตฺวา สตฺต ภเว อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺเตยฺย. กสฺมา? ตสฺส ปวตฺติยา เหตูนํ อตฺถิตาย. ตีณิ สํโยชนานิ ทิฏฺานุสโย วิจิกิจฺฉานุสโยติ อิเม ปน ปฺจ กิเลเส โสตาปตฺติมคฺโค อุปฺปชฺชมาโนว สมุคฺฆาเตติ. อิทานิ กุโต โสตาปนฺนสฺส สตฺต ภเว เปตฺวา อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺติสฺสติ? เอวํ โสตาปตฺติมคฺโค อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ อปฺปวตฺตํ กุรุมาโน อุปาทินฺนกโต วุฏฺาติ นาม.
สเจ สกทาคามิสฺส สกทาคามิมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺส, เปตฺวา ทฺเว ภเว ปฺจสุ ภเวสุ อุปาทินฺนกปวตฺตํ ปวตฺเตยฺย. กสฺมา? ตสฺส ปวตฺติยา เหตูนํ อตฺถิตาย. โอฬาริกานิ กามราคปฏิฆสํโยชนานิ โอฬาริโก กามราคานุสโย ปฏิฆานุสโยติ อิเม ปน จตฺตาโร กิเลเส โส มคฺโค อุปฺปชฺชมาโนว สมุคฺฆาเตติ. อิทานิ กุโต สกทาคามิสฺส ทฺเว ภเว เปตฺวา ปฺจสุ ภเวสุ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺติสฺสติ? เอวํ สกทาคามิมคฺโค อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ อปฺปวตฺตํ กุรุมาโน อุปาทินฺนกโต วุฏฺาติ นาม.
สเจ อนาคามิสฺส อนาคามิมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺส, เปตฺวา เอกํ ภวํ ทุติยภเว อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺเตยฺย. กสฺมา? ตสฺส ปวตฺติยา เหตูนํ อตฺถิตาย. อณุสหคตานิ ¶ กามราคปฏิฆสํโยชนานิ อณุสหคโต กามราคานุสโย ปฏิฆานุสโยติ อิเม ปน จตฺตาโร กิเลเส โส มคฺโค อุปฺปชฺชมาโนว สมุคฺฆาเตติ. อิทานิ กุโต อนาคามิสฺส เอกํ ภวํ เปตฺวา ทุติยภเว อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺติสฺสติ? เอวํ อนาคามิมคฺโค อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ อปฺปวตฺตํ กุรุมาโน อุปาทินฺนกโต วุฏฺาติ นาม.
สเจ อรหโต อรหตฺตมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺส, รูปารูปภเวสุ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺเตยฺย. กสฺมา? ตสฺส ปวตฺติยา เหตูนํ อตฺถิตาย ¶ . รูปราโค อรูปราโค มาโน อุทฺธจฺจํ อวิชฺชา มานานุสโย ภวราคานุสโย อวิชฺชานุสโยติ อิเม ปน อฏฺ กิเลเส โส มคฺโค อุปฺปชฺชมาโนว สมุคฺฆาเตติ. อิทานิ กุโต ขีณาสวสฺส ปุนพฺภเว อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺติสฺสติ? เอวํ อรหตฺตมคฺโค ¶ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ อปฺปวตฺตํ กุรุมาโน อุปาทินฺนกโต วุฏฺาติ นาม.
โสตาปตฺติมคฺโค เจตฺถ อปายภวโต วุฏฺาติ, สกทาคามิมคฺโค สุคติกามภเวกเทสโต, อนาคามิมคฺโค กามภวโต, อรหตฺตมคฺโค รูปารูปภวโต สพฺพภเวหิปิ วุฏฺาติ เอวาติ วทนฺติ.
อิมสฺส ปนตฺถสฺส วิภาวนตฺถํ อยํ ปาฬิ – ‘‘โสตาปตฺติมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน สตฺต ภเว เปตฺวา อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ, นามฺจ รูปฺจ เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺติ วูปสมนฺติ อตฺถํ คจฺฉนฺติ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ.
‘สกทาคามิมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน ทฺเว ภเว เปตฺวา ปฺจสุ ภเวสุ เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ, นามฺจ รูปฺจ เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺติ วูปสมนฺติ อตฺถํ คจฺฉนฺติ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ.
‘อนาคามิมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน เอกํ ภวํ เปตฺวา กามธาตุยา ทฺวีสุ ภเวสุ เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ, นามฺจ รูปฺจ เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺติ วูปสมนฺติ อตฺถํ คจฺฉนฺติ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ.
‘อรหตฺตมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน รูปธาตุยา วา อรูปธาตุยา วา เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ ¶ , นามฺจ รูปฺจ เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺติ วูปสมนฺติ อตฺถํ คจฺฉนฺติ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ. อรหโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺตสฺส จริมวิฺาณสฺส นิโรเธน ปฺา จ สติ จ นามฺจ รูปฺจ เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺติ วูปสมนฺติ อตฺถํ คจฺฉนฺติ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ (จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๖). อยํ ตาว นิมิตฺเต วินิจฺฉโย.
‘ปฏิปทาปตี’ติ – เอตฺถ ปน ปฏิปทา จลติ น จลตีติ? จลติ. ตถาคตสฺส หิ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส จ จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา อเหสุํ. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส ปมมคฺโค สุขปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโ, อุปริ ตโย มคฺคา ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. กสฺมา? นิทฺทาภิภูตตฺตา. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ¶ กิร สตฺตาหํ ทหรกุมารกํ วิย เถรํ ปริหริ. เถโรปิ เอกทิวสํ นิทฺทายมาโน นิสีทิ. อถ นํ สตฺถา อาห – ‘‘ปจลายสิ โน ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, ปจลายสิ โน ตฺวํ โมคฺคลฺลานา’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๑). เอวรูปสฺสปิ มหาภิฺปฺปตฺตสฺส สาวกสฺส ปฏิปทา ¶ จลติ, เสสานํ กึ น จลิสฺสติ? เอกจฺจสฺส หิ ภิกฺขุโน จตฺตาโรปิ มคฺคา ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา โหนฺติ, เอกจฺจสฺส ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, เอกจฺจสฺส สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, เอกจฺจสฺส สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. เอกจฺจสฺส ปมมคฺโค ทุกฺขปฏิปโท ทนฺธาภิฺโ โหติ, ทุติยมคฺโค ทุกฺขปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโ, ตติยมคฺโค สุขปฏิปโท ทนฺธาภิฺโ, จตุตฺถมคฺโค สุขปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโติ.
ยถา จ ปฏิปทา เอวํ อธิปติปิ จลติ เอว. เอกจฺจสฺส หิ ภิกฺขุโน จตฺตาโรปิ มคฺคา ฉนฺทาธิปเตยฺยา โหนฺติ, เอกจฺจสฺส วีริยาธิปเตยฺยา, เอกจฺจสฺส จิตฺตาธิปเตยฺยา, เอกจฺจสฺส วีมํสาธิปเตยฺยา. เอกจฺจสฺส ปน ปมมคฺโค ฉนฺทาธิปเตยฺโย โหติ, ทุติโย วีริยาธิปเตยฺโย, ตติโย จิตฺตาธิปเตยฺโย, จตุตฺโถ วีมํสาธิปเตยฺโยติ.
ปกิณฺณกกถา นิฏฺิตา.
ปมมคฺควีสติมหานโย
๓๕๗. อิทานิ ¶ ยสฺมา โลกุตฺตรกุสลํ ภาเวนฺโต น เกวลํ อุปนิชฺฌายนฏฺเน ฌานํเยว ภาเวติ, นิยฺยานฏฺเน ปน มคฺคมฺปิ ภาเวติ, อุปฏฺานฏฺเน สติปฏฺานมฺปิ, ปทหนฏฺเน สมฺมปฺปธานมฺปิ, อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธิปาทมฺปิ, อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยมฺปิ, อกมฺปิยฏฺเน พลมฺปิ, พุชฺฌนฏฺเน โพชฺฌงฺคมฺปิ, ตถฏฺเน สจฺจมฺปิ, อวิกฺเขปฏฺเน สมถมฺปิ, สฺุตฏฺเน ธมฺมมฺปิ, ราสฏฺเน ขนฺธมฺปิ, อายตนฏฺเน อายตนมฺปิ, สฺุสภาวนิสฺสตฺตฏฺเน ธาตุมฺปิ, ปจฺจยฏฺเน อาหารมฺปิ, ผุสนฏฺเน ผสฺสมฺปิ, เวทยิตฏฺเน เวทนมฺปิ, สฺชานนฏฺเน สฺมฺปิ, เจตยิตฏฺเน เจตนมฺปิ, วิชานนฏฺเน จิตฺตมฺปิ ภาเวติ, ตสฺมา เอเตสํ เอกูนวีสติยา ปทานํ ทสฺสนตฺถํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ ‘อิทมฺปิ ภาเวติ, อิทมฺปิ ภาเวตี’ติ ปุคฺคลชฺฌาสเยน เจว เทสนาวิลาเสน จ วีสติ นยา เทสิตา โหนฺติ ¶ . ธมฺมํ โสตุํ นิสินฺนเทวปริสาย หิ เย อุปนิชฺฌายนฏฺเน โลกุตฺตรํ ¶ ‘ฌาน’นฺติ กถิเต พุชฺฌนฺติ, เตสํ สปฺปายวเสน ฌานนฺติ กถิตํ…เป… เย วิชานนฏฺเน ‘จิตฺต’นฺติ วุตฺเต พุชฺฌนฺติ, เตสํ สปฺปายวเสน จิตฺตนฺติ กถิตํ. อยเมตฺถ ‘ปุคฺคลชฺฌาสโย’.
สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน อตฺตโน พุทฺธสุโพธิตาย ทสพลจตุเวสารชฺชจตุปฏิสมฺภิทตาย ฉอสาธารณาณโยเคน จ เทสนํ ยทิจฺฉกํ นิยเมตฺวา ทสฺเสติ. อิจฺฉนฺโต อุปนิชฺฌายนฏฺเน โลกุตฺตรํ ฌานนฺติ ทสฺเสติ, อิจฺฉนฺโต นิยฺยานฏฺเน…เป… วิชานนฏฺเน โลกุตฺตรํ จิตฺตนฺติ. อยํ ‘เทสนาวิลาโส’ นาม. ตตฺถ ยเถว โลกุตฺตรํ ฌานนฺติ วุตฺตฏฺาเน ทส นยา วิภตฺตา, เอวํ มคฺคาทีสุปิ เตเยว เวทิตพฺพา. อิติ วีสติยา าเนสุ ทส ทส กตฺวา ทฺเว นยสตานิ วิภตฺตานิ โหนฺติ.
๓๕๘. อิทานิ อธิปติเภทํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ฉนฺทํ ธุรํ เชฏฺกํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ โลกุตฺตรํ ฌานํ ฉนฺทาธิปเตยฺยํ นาม. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อิติ ปุริมสฺมึ สุทฺธิเก ทฺเวนยสตานิ ฉนฺทาธิปเตยฺยาทีสุปิ ทฺเว ทฺเวติ นยสหสฺเสน ภาเชตฺวา ปมมคฺคํ ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.
ปมมคฺโค นิฏฺิโต.
ทุติยมคฺโค
๓๖๑. อิทานิ ¶ ทุติยมคฺคาทีนํ ทสฺสนตฺถํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวายาติ เอเตสํ กิเลสานํ ตนุภาวตฺถาย. ตตฺถ ทฺวีหิ การเณหิ ตนุภาโว เวทิตพฺโพ – อธิจฺจุปฺปตฺติยา จ ปริยุฏฺานมนฺทตาย จ. สกทาคามิสฺส หิ, วฏฺฏานุสาริมหาชนสฺเสว, กิเลสา อภิณฺหํ นุปฺปชฺชนฺติ, กทาจิ กทาจิ อุปฺปชฺชนฺติ; อุปฺปชฺชนฺตาปิ วิรฬาการา หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ, วิรฬวาปิตเขตฺเต องฺกุรา วิย. อุปฺปชฺชมานาปิ, จ วฏฺฏานุสาริมหาชนสฺเสว, มทฺทนฺตา ผรนฺตา ฉาเทนฺตา อนฺธการํ ¶ กโรนฺตา นุปฺปชฺชนฺติ. ทฺวีหิ ปน มคฺเคหิ ปหีนตฺตา มนฺทา มนฺทา ¶ อุปฺปชฺชนฺติ. ตนุกาการา หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ, อพฺภปฏลํ วิย มกฺขิกาปตฺตํ วิย จ.
ตตฺถ เกจิ เถรา วทนฺติ – ‘สกทาคามิสฺส กิเลสา กิฺจาปิ จิเรน อุปฺปชฺชนฺติ, พหลาว ปน หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา หิสฺส ปุตฺตา จ ธีตโร จ ทิสฺสนฺตี’ติ. เอตํ ปน อปฺปมาณํ. ปุตฺตธีตโร หิ องฺคปจฺจงฺคปรามสนมตฺเตนปิ โหนฺติ. ทฺวีหิ ปน มคฺเคหิ ปหีนตฺตา นตฺถิ กิเลสานํ พหลตาติ. ทฺวีหิ เอว การเณหิสฺส กิเลสานํ ตนุภาโว เวทิตพฺโพ – อธิจฺจุปฺปตฺติยา จ ปริยุฏฺานมนฺทตาย จาติ.
ทุติยายาติ คณนวเสนาปิ ทุติยุปฺปตฺติวเสนาปิ ทุติยาย. ภูมิยา ปตฺติยาติ สามฺผลสฺส ปฏิลาภตฺถาย. ตติยจตุตฺเถสุปิ เอเสว นโย. วิเสสมตฺตํเยว ปน วกฺขาม.
อฺินฺทฺริยนฺติ อาชานนกํ อินฺทฺริยํ. ปมมคฺเคน าตมริยาทํ อนติกฺกมิตฺวา เตสํเยว เตน มคฺเคน าตานํ จตุสจฺจธมฺมานํ ชานนกํ อินฺทฺริยนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิทฺเทสวาเรปิสฺส อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. โกฏฺาสวาเรปิ อิมินาว สทฺธึ นวินฺทฺริยานิ โหนฺติ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
ทุติยมคฺโค นิฏฺิโต.
ตติยจตุตฺถมคฺคา
๓๖๒. ตติเย ¶ อนวเสสปฺปหานายาติ เตสํเยว สกทาคามิมคฺเคน ตนุภูตานํ สํโยชนานํ นิสฺเสสปชหนตฺถาย.
จตุตฺเถ รูปราคอรูปราคมานอุทฺธจฺจอวิชฺชาย อนวเสสปฺปหานายาติ เอเตสํ ปฺจนฺนํ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานํ นิสฺเสสปชหนตฺถาย. ตตฺถ รูปราโคติ รูปภเว ฉนฺทราโค. อรูปราโคติ อรูปภเว ฉนฺทราโค. มาโนติ อรหตฺตมคฺควชฺฌโก มาโน เอว. ตถา ¶ อุทฺธจฺจาวิชฺชา. อิเมสุปิ ทฺวีสุ มคฺเคสุ นวมํ อฺินฺทฺริยเมว โหติ.
จตุมคฺคนยสหสฺสํ
สพฺพมคฺเคสุ ¶ ปทปฏิปาฏิยา สมสฏฺิปทานิ, จตูหิ อปณฺณกงฺเคหิ สทฺธึ จตุสฏฺิ โหนฺติ. อสมฺภินฺนโต ปน เตตฺตึส. โกฏฺาสวารสฺุตวารา ปากติกา เอว. ยถา จ ปน ปมมคฺเค เอวํ ทุติยาทีสุปิ นยสหสฺสเมวาติ จตฺตาโร มคฺเค จตูหิ นยสหสฺเสหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.
สจฺจวิภงฺเค ปน สฏฺิ นยสหสฺสานิ โลกุตฺตรานิ อิเมสํ เอว วเสน นิกฺขิตฺตานิ. สติปฏฺานวิภงฺเค วีสติ นยสหสฺสานิ โลกุตฺตรานิ, สมฺมปฺปธานวิภงฺเค วีสติ, อิทฺธิปาทวิภงฺเค ทฺวตฺตึส, โพชฺฌงฺควิภงฺเค ทฺวตฺตึส, มคฺคงฺควิภงฺเค อฏฺวีสติ นยสหสฺสานิ โลกุตฺตรานิ อิเมสํ เอว วเสน นิกฺขิตฺตานิ.
อิธ ปน จตูสุ มคฺเคสุ จตฺตาริเยว นยสหสฺสานิ. เตสุ ปมชฺฌานิเก ปมมคฺเค อฏฺงฺคานิ ภาชิตานิ; ตถา ทุติยาทีสุ. ตตฺถ ปมมคฺเค สมฺมาทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหตีติ สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีนํ ปชหนฏฺเเนว เวทิตพฺพา. เอวํ สนฺเต ‘ปมมคฺเคเนว ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺิคตานํ ปหีนตฺตา อุปริมคฺคตฺตเยน ปหาตพฺพา ทิฏฺิ นาม นตฺถิ. ตตฺถ สมฺมาทิฏฺีติ นามํ กถํ โหตี’ติ? ‘ยถา วิสํ อตฺถิ วา, โหตุ มา วา, อคโท อคโท ตฺเวว วุจฺจติ, เอวํ มิจฺฉาทิฏฺิ อตฺถิ วา, โหตุ มา วา, อยํ สมฺมาทิฏฺิ เอว นาม’.
‘ยทิ ¶ เอวํ นามมตฺตเมเวตํ โหติ, อุปริมคฺคตฺตเย ปน สมฺมาทิฏฺิยา กิจฺจาภาโว อาปชฺชติ, มคฺคงฺคานิ น ปริปูเรนฺติ, ตสฺมา สมฺมาทิฏฺิ สกิจฺจกา กาตพฺพา มคฺคงฺคานิ ปูเรตพฺพานี’ติ. สกิจฺจกา เจตฺถ สมฺมาทิฏฺิ ยถาลาภนิยเมน ทีเปตพฺพา. อุปริมคฺคตฺตยวชฺโฌ หิ เอโก มาโน อตฺถิ, โส ทิฏฺิฏฺาเน ติฏฺติ. สา ตํ มานํ ปชหตีติ สมฺมาทิฏฺิ. โสตาปตฺติมคฺคสฺมิฺหิ สมฺมาทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ. โสตาปนฺนสฺส ปน สกทาคามิมคฺควชฺโฌ มาโน อตฺถิ, โส ทิฏฺิฏฺาเน ติฏฺติ สา ตํ มานํ ปชหตีติ สมฺมาทิฏฺิ. ตสฺเสว สตฺตอกุสลจิตฺตสหชาโต สงฺกปฺโป อตฺถิ. เตเหว จิตฺเตหิ วาจงฺคโจปนํ อตฺถิ, กายงฺคโจปนํ อตฺถิ ¶ , ปจฺจยปริโภโค อตฺถิ, สหชาตวายาโม ¶ อตฺถิ, อสติภาโว อตฺถิ, สหชาตจิตฺเตกคฺคตา อตฺถิ. เอเต มิจฺฉาสงฺกปฺปาทโย นาม สกทาคามิมคฺเค สมฺมาสงฺกปฺปาทโย. เตสํ ปหาเนน สมฺมาสงฺกปฺปาทโยติ เวทิตพฺพา. เอวํ สกทาคามิมคฺเค อฏฺงฺคานิ สกิจฺจกานิ กตฺวา อาคตานิ. สกทาคามิสฺส อนาคามิมคฺควชฺโฌ มาโน อตฺถิ. โส ทิฏฺิฏฺาเน ติฏฺติ. ตสฺเสว สตฺตหิ จิตฺเตหิ สหชาตา สงฺกปฺปาทโย. เตสํ ปหาเนน อนาคามิมคฺเค อฏฺนฺนํ องฺคานํ สกิจฺจกตา เวทิตพฺพา. อนาคามิสฺส อรหตฺตมคฺควชฺโฌ มาโน อตฺถิ. โส ทิฏฺิฏฺาเน ติฏฺติ. ยานิ ปนสฺส ปฺจ อกุสลจิตฺตานิ, เตหิ สหชาตา สงฺกปฺปาทโย. เตสํ ปหาเนน อรหตฺตมคฺเค อฏฺนฺนํ องฺคานํ สกิจฺจกตา เวทิตพฺพา.
อิเมสุ จตูสุ มคฺเคสุ ปมมคฺเคน จตฺตาริ สจฺจานิ ทิฏฺานิ. ‘อุปริมคฺคตฺตยํ ทิฏฺกเมว ปสฺสติ, อทิฏฺกํ ปสฺสตี’ติ ทิฏฺกเมว ปสฺสตีติ อยํ อาจริยานํ สมานตฺถกถา. วิตณฺฑวาที ปนาห ‘อทิฏฺํ ปสฺสตี’ติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘ปมมคฺเค กตมํ อินฺทฺริยํ ภาเชสี’ติ? ชานมาโน ‘อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริย’นฺติ วกฺขติ. ‘อุปริมคฺเคสุ กตร’นฺติ? วุตฺเตปิ ‘อฺินฺทฺริย’นฺติ วกฺขติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘อทิฏฺสจฺจทสฺสเน สติ อุปริมคฺเคสุปิ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยเมว ภาเชหิ. เอวํ เต ปฺโห สเมสฺสตี’ติ. ‘กิเลเส ปน อฺเ อฺโ ปชหติ; ปหีเน เอว ปชหตี’ติ? ‘อฺเ อฺโ ปชหตี’ติ. ‘ยทิ อฺเ อฺโ, อปฺปหีเน กิเลเส ปชหติ. สจฺจานิปิ อทิฏฺาเนว ปสฺสตี’ติ เอวํวาที ปุคฺคโล ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘สจฺจานิ นาม กตี’ติ? ชานนฺโต ‘จตฺตารี’ติ วกฺขติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘ตว วาเท โสฬส สจฺจานิ อาปชฺชนฺติ. ตฺวํ พุทฺเธหิปิ อทิฏฺํ ปสฺสสิ. พหุสจฺจโก นาม ตฺวํ. เอวํ มา คณฺห. สจฺจทสฺสนํ นาม อปุพฺพํ นตฺถิ, กิเลเส ปน อปฺปหีเน ปชหตี’ติ.
ตตฺถ ¶ ¶ สจฺจทสฺสนสฺส อปุพฺพาภาเว เปโฬปมํ นาม คหิตํ – เอกสฺส กิร จตฺตาโร รตนเปฬา สารคพฺเภ ปิตา. โส รตฺติภาเค เปฬาสุ อุปฺปนฺนกิจฺโจ ทฺวารํ วิวริตฺวา, ทีปํ ชาเลตฺวา, ทีเปน วิหเต อนฺธกาเร, เปฬาสุ ปากฏภาวํ คตาสุ, ตาสุ กิจฺจํ กตฺวา ทฺวารํ ปิทหิตฺวา คโต. ปุน อนฺธการํ อวตฺถริ. ทุติยวาเรปิ ตติยวาเรปิ ตเถว อกาสิ. จตุตฺถวาเร ทฺวาเร วิวเฏ อนฺธกาเร เปฬา น ปฺายนฺตีติ วีมํสนฺตสฺเสว ¶ สูริโย อุคฺคฺฉิ, สูริโยภาเสน วิหเต อนฺธกาเร เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา ปกฺกามิ.
ตตฺถ จตฺตาโร เปฬา วิย จตฺตาริ สจฺจานิ. ตาสุ กิจฺเจ อุปฺปนฺเน ทฺวารวิวรณกาโล วิย โสตาปตฺติมคฺคสฺส วิปสฺสนาภินีหรณกาโล. อนฺธการํ วิย สจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ. ทีโป ภาโส วิย โสตาปตฺติมคฺโคภาโส. วิหเต อนฺธกาเร ตสฺส ปุริสสฺส เปฬานํ ปากฏภาโว วิย มคฺคาณสฺส สจฺจานํ ปากฏภาโว. มคฺคาณสฺส ปากฏานิ ปน มคฺคสมงฺคิสฺส ปุคฺคลสฺส ปากฏาเนว โหนฺติ. เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา คตกาโล วิย โสตาปตฺติมคฺคสฺส อตฺตนา ปหาตพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา นิรุทฺธกาโล. ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อุปริมคฺคตฺตยวชฺฌสจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ.
ทุติยวาเร ทฺวารวิวรณกาโล วิย สกทาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนาภินีหรณกาโล. ทีโปภาโส วิย สกทาคามิมคฺโคภาโส. เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา คตกาโล วิย สกทาคามิมคฺคสฺส อตฺตนา ปหาตพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา นิรุทฺธกาโล. ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อุปริมคฺคทฺวยวชฺฌสจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ.
ตติยวาเร ทฺวารวิวรณกาโล วิย อนาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนาภินีหรณกาโล. ทีโปภาโส วิย อนาคามิมคฺโคภาโส. เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา คตกาโล วิย อนาคามิมคฺคสฺส อตฺตนา ปหาตพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา นิรุทฺธกาโล. ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อุปริอรหตฺตมคฺควชฺฌสจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ.
จตุตฺถวาเร ทฺวารวิวรณกาโล วิย อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนาภินีหรณกาโล. สูริยุคฺคมนํ วิย อรหตฺตมคฺคุปฺปาโท. อนฺธการวิธมนํ วิย อรหตฺตมคฺคสฺส สจฺจปฏิจฺฉาทกตมวิโนทนํ ¶ . วิหเต อนฺธกาเร ตสฺส เปฬานํ ปากฏภาโว วิย อรหตฺตมคฺคาณสฺส จตุนฺนํ ¶ สจฺจานํ ปากฏภาโว. าณสฺส ปากฏานิ ปน ปุคฺคลสฺส ปากฏาเนว โหนฺติ. เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา คตกาโล วิย อรหตฺตมคฺคสฺส สพฺพกิเลสเขปนํ. สูริยุคฺคมนโต ปฏฺาย อาโลกสฺเสว ปวตฺติกาโล วิย อรหตฺตมคฺคสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย ปุน สจฺจปฏิจฺฉาทกตมาภาโว ¶ . อิทํ ตาว สจฺจทสฺสนสฺส อปุพฺพาภาเว โอปมฺมํ.
ทิฏฺกเมว หิ ปสฺสติ. ‘กิเลเส ปน อฺเ อฺโ ปชหตี’ติ เอตฺถ ขาโรปมํ นาม คหิตํ. เอโก ปุริโส กิลิฏฺํ วตฺถํ รชกสฺส อทาสิ. รชโก อูสขารํ ฉาริกขารํ โคมยขารนฺติ ตโย ขาเร ทตฺวา ขาเรหิ ขาทิตภาวํ ตฺวา อุทเก วิกฺขาเลตฺวา โอฬาริโกฬาริกํ มลํ ปวาเหสิ. ตโต น ตาว ปริสุทฺธนฺติ ทุติยมฺปิ ตเถว ขาเร ทตฺวา, อุทเก วิกฺขาเลตฺวา, ตโต นาติสณฺหตรํ มลํ ปวาเหสิ. ตโต น ตาว ปริสุทฺธนฺติ ตติยมฺปิ เต ขาเร ทตฺวา อุทเก วิกฺขาเลตฺวา ตโต สณฺหตรํ มลํ ปวาเหสิ. ตโต น ตาว ปริสุทฺธนฺติ จตุตฺถมฺปิ เต ขาเร ทตฺวา, อุทเก วิกฺขาเลตฺวา อํสุอพฺภนฺตรคตมฺปิ นิสฺเสสํ มลํ ปวาเหตฺวา สามิกสฺส อทาสิ. โส คนฺธกรณฺฑเก ปกฺขิปิตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตกาเล ปริทหติ.
ตตฺถ กิลิฏฺวตฺถํ วิย กิเลสานุคตํ จิตฺตํ. ติวิธขารทานกาโล วิย ตีสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมสฺส ปวตฺตนกาโล. อุทเก วิกฺขาเลตฺวา โอฬาริโกฬาริกมลปฺปวาหนํ วิย โสตาปตฺติมคฺเคน ปฺจกิเลสเขปนํ. ทุติยมฺปิ เตสํ ขารานํ อนุปฺปทานํ วิย ‘น ตาว ปริสุทฺธํ อิทํ จิตฺต’นฺติ ตาสุเยว ตีสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมปฺปวตฺตนํ. ตโต นาติสณฺหตรมลปฺปวาหนํ วิย สกทาคามิมคฺเคน โอฬาริกสํโยชนทฺวยเขปนํ. ตโต ‘น ตาว ปริสุทฺธํ วตฺถ’นฺติ ปุน ขารตฺตยทานํ วิย ‘น ตาว ปริสุทฺธํ ¶ อิทํ จิตฺต’นฺติ ตาสุเยว ตีสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมปฺปวตฺตนํ. ตโต สณฺหตรมลปฺปวาหนํ วิย อนาคามิมคฺเคน อณุสหคตสํโยชนทฺวยเขปนํ. ‘น ตาว ปริสุทฺธํ วตฺถ’นฺติ ปุน ขารตฺตยทานํ วิย ‘น ตาว ปริสุทฺธํ อิทํ จิตฺต’นฺติ ตาสุเยว ตีสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมปฺปวตฺตนํ. ตโต วิกฺขาลเนน อํสุอพฺภนฺตรคเต มเล ปวาเหตฺวา ปริสุทฺธสฺส รชตปฏฺฏสทิสสฺส คนฺธกรณฺฑเก นิกฺขิตฺตสฺส วตฺถสฺส อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปริทหนํ วิย อรหตฺตมคฺเคน อฏฺนฺนํ กิเลสานํ เขปิตตฺตา ปริสุทฺธสฺส ขีณาสวจิตฺตสฺส อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ผลสมาปตฺติวิหาเรน วีตินามนํ. อิทํ ‘อฺเ อฺโ กิเลเส ปชหตี’ติ เอตฺถ โอปมฺมํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , อาวุโส, วตฺถํ สํกิลิฏฺํ มลคฺคหิตํ, ตเมนํ สามิกา รชกสฺส อนุปทชฺเชยฺยุํ. ตเมนํ รชโก อูเส วา ¶ ขาเร วา โคมเย วา สมฺมทฺทิตฺวา อจฺเฉ อุทเก วิกฺขาเลติ. กิฺจาปิ ตํ โหติ วตฺถํ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ, อถ ขฺวสฺส โหติเยว ‘อณุสหคโต อูสคนฺโธ วา ขารคนฺโธ วา โคมยคนฺโธ วา อสมูหโต’. ตเมนํ รชโก สามิกานํ เทติ. ตเมนํ สามิกา คนฺธปริภาวิเต กรณฺฑเก นิกฺขิปนฺติ. โยปิสฺส โหติ อณุสหคโต อูสคนฺโธ วา ขารคนฺโธ วา โคมยคนฺโธ วา อสมูหโต, โสปิ สมุคฺฆาตํ คจฺฉติ. เอวเมว โข, อาวุโส, กิฺจาปิ อริยสาวกสฺส ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ ภวนฺติ, อถ ขฺวสฺส โหติเยว ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อณุสหคโต ‘อสฺมี’ติ มาโน, ‘อสฺมี’ติ ฉนฺโท, ‘อสฺมี’ติ อนุสโย อสมูหโต, โส อปเรน สมเยน ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติ – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา อิติ สฺา อิติ สงฺขารา อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ. ตสฺสิเมสุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสิโน วิหรโต โยปิสฺส โหติ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อณุสหคโต ‘อสฺมี’ติ มาโน, ‘อสฺมี’ติ ฉนฺโท, ‘อสฺมี’ติ อนุสโย อสมูหโต, โสปิ สมุคฺฆาตํ คจฺฉตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๙).
ตตฺถ ¶ โสตาปตฺติมคฺเคน ปฺจ อกุสลจิตฺตานิ ปหียนฺติ สทฺธึ จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกปาปธมฺเมหิ. สกทาคามิมคฺเคน ทฺเว โทมนสฺสสหคตจิตฺตานิ ตนุกานิ ภวนฺติ สทฺธึ จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกปาปธมฺเมหิ. อนาคามิมคฺเคน ตานิเยว ปหียนฺติ สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. อรหตฺตมคฺเคน ปฺจ อกุสลจิตฺตานิ ปหียนฺติ สทฺธึ จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกปาปธมฺเมหิ. อิเมสํ ทฺวาทสนฺนํ อกุสลจิตฺตานํ ปหีนกาลโต ปฏฺาย ขีณาสวสฺส จิตฺตงฺควเสน ปุน ปจฺฉโตปวตฺตนกกิเลโส นาม น โหติ.
ตตฺริทํ โอปมฺมํ – เอโก กิร มหาราชา ปจฺจนฺเต อารกฺขํ ทตฺวา มหานคเร อิสฺสริยํ อนุภวนฺโต วสติ. อถสฺส ปจฺจนฺโต กุปฺปิ. ตสฺมึ สมเย ทฺวาทส โจรเชฏฺกา อเนเกหิ ปุริสสหสฺเสหิ สทฺธึ ¶ รฏฺํ วิลุมฺปนฺติ. ปจฺจนฺตวาสิโน มหามตฺตา ‘ปจฺจนฺโต กุปิโต’ติ รฺโ ปหิณึสุ. ราชา ‘วิสฺสฏฺา คณฺหถ, อหํ ตุมฺหากํ กตฺตพฺพํ กริสฺสามี’ติ สาสนํ ปหิณิ ¶ . เต ปมสมฺปหาเรเนว อเนเกหิ ปุริสสหสฺเสหิ สทฺธึ ปฺจ โจรเชฏฺเก ฆาตยึสุ. เสสา สตฺต ชนา อตฺตโน อตฺตโน ปริวาเร คเหตฺวา ปพฺพตํ ปวิสึสุ. อมจฺจา ตํ ปวตฺตึ รฺโ เปสยึสุ.
ราชา ‘ตุมฺหากํ กตฺตพฺพยุตฺตํ อหํ ชานิสฺสามิ, เตปิ คณฺหถา’ติ ธนํ ปหิณิ. เต ทุติยสมฺปหาเรน ทฺเว โจรเชฏฺเก ปหรึสุ, ปริวาเรปิ เตสํ ทุพฺพเล อกํสุ. เต สพฺเพปิ ปลายิตฺวา ปพฺพตํ ปวิสึสุ. ตมฺปิ ปวตฺตึ อมจฺจา รฺโ เปสยึสุ.
ปุน ราชา ‘วิสฺสฏฺา คณฺหนฺตู’ติ ธนํ ปหิณิ. เต ตติยสมฺปหาเรน สทฺธึ สหายปุริเสหิ ทฺเว โจรเชฏฺเก ฆาตยิตฺวา ตํ ปวตฺตึ รฺโ เปสยึสุ.
ปุน ราชา ‘อวเสเส วิสฺสฏฺา คณฺหนฺตู’ติ ธนํ ปหิณิ. เต จตุตฺถสมฺปหาเรน สปริวาเร ปฺจ โจรเชฏฺเก ฆาตยึสุ. ทฺวาทสนฺนํ โจรเชฏฺกานํ ฆาติตกาลโต ปฏฺาย โกจิ โจโร นาม นตฺถิ. เขมา ชนปทา อุเร ปุตฺเต นจฺเจนฺตา มฺเ วิหรนฺติ. ราชา วิชิตสงฺคาเมหิ โยเธหิ ปริวุโต ¶ วรปาสาทคโต มหาสมฺปตฺตึ อนุภวิ.
ตตฺถ มหนฺโต ราชา วิย ธมฺมราชา. ปจฺจนฺตวาสิโน อมจฺจา วิย โยคาวจรา กุลปุตฺตา. ทฺวาทส โจรเชฏฺกา วิย ทฺวาทส อกุสลจิตฺตานิ. เตสํ สหายา อเนกสหสฺสปุริสา วิย จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกปาปธมฺมา. รฺโ ปจฺจนฺโต กุปิโตติ ปหิตกาโล วิย อารมฺมเณ กิเลเสสุ อุปฺปนฺเนสุ ‘ภนฺเต, กิเลโส เม อุปฺปนฺโน’ติ สตฺถุ อาโรจนกาโล. ‘วิสฺสฏฺา คณฺหนฺตู’ติ ธนทานํ วิย ‘กิเลเส นิคฺคณฺห ภิกฺขู’ติ ธมฺมรฺโ กมฺมฏฺานาจิกฺขนํ. สปริวารานํ ปฺจนฺนํ โจรเชฏฺกานํ ฆาติตกาโล วิย โสตาปตฺติมคฺเคน สมฺปยุตฺตานํ ปฺจนฺนํ อกุสลจิตฺตานํ ปหานํ.
ปุน ¶ รฺโ ปวตฺติเปสนํ วิย สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฏิลทฺธคุณาโรจนํ. ‘เสสเก จ คณฺหนฺตู’ติ ปุน ธนทานํ วิย ภควโต สกทาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนาจิกฺขนํ. ทุติยสมฺปหาเรน สปริวารานํ ทฺวินฺนํ โจรเชฏฺกานํ ทุพฺพลีกรณํ วิย สกทาคามิมคฺเคน สสมฺปยุตฺตานํ ทฺวินฺนํ โทมนสฺสจิตฺตานํ ตนุภาวกรณํ.
ปุน ¶ รฺโ ปวตฺติเปสนํ วิย สตฺถุ ปฏิลทฺธคุณาโรจนํ. ‘วิสฺสฏฺา คณฺหนฺตู’ติ ปุน ธนทานํ วิย ภควโต อนาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนาจิกฺขนํ. ตติยสมฺปหาเรน สปริวารานํ ทฺวินฺนํ โจรเชฏฺกานํ ฆาตนํ วิย อนาคามิมคฺเคน สสมฺปยุตฺตานํ ทฺวินฺนํ โทมนสฺสจิตฺตานํ ปหานํ.
ปุน รฺโ ปวตฺติเปสนํ วิย ตถาคตสฺส ปฏิลทฺธคุณาโรจนํ. ‘วิสฺสฏฺา คณฺหนฺตู’ติ ปุน ธนทานํ วิย ภควโต อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนาจิกฺขนํ. จตุตฺถสมฺปหาเรน สปริวารานํ ปฺจนฺนํ โจรเชฏฺกานํ ฆาติตกาลโต ปฏฺาย ชนปทสฺส เขมกาโล วิย อรหตฺตมคฺเคน สสมฺปยุตฺเตสุ ปฺจสุ อกุสลจิตฺเตสุ ปหีเนสุ ทฺวาทสนฺนํ อกุสลจิตฺตานํ ปหีนกาลโต ปฏฺาย ปุน จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกสฺส อกุสลธมฺมสฺส อภาโว. รฺโ วิชิตสงฺคามสฺส อมจฺจคณปริวุตสฺส วรปาสาเท มหาสมฺปตฺติอนุภวนํ วิย ขีณาสวปริวุตสฺส ธมฺมรฺโ สฺุตอนิมิตฺตอปฺปณิหิตเภเทสุ สมาปตฺติสุเขสุ ¶ อิจฺฉิติจฺฉิตผลสมาปตฺติสุขานุภวนํ เวทิตพฺพนฺติ.
กุสลา ธมฺมาติปทสฺส วณฺณนา นิฏฺิตา.
อกุสลปทํ
ธมฺมุทฺเทสวารกถา
ปมจิตฺตํ
๓๖๕. อิทานิ อกุสลธมฺมปทํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา อกุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ธมฺมววตฺถานาทิวารปฺปเภโท จ เหฏฺา อาคตานํ ปทานํ อตฺถวินิจฺฉโย จ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ตตฺถ ปน วิเสสมตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม. ตตฺถ สมยววตฺถาเน ตาว ยสฺมา, กุสลสฺส วิย, อกุสลสฺส ภูมิเภโท นตฺถิ, ตสฺมา เอกนฺตํ กามาวจรมฺปิ สมานํ เอตํ ‘กามาวจร’นฺติ น วุตฺตํ. ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตนฺติ เอตฺถ ทิฏฺิ ¶ เอว ทิฏฺิคตํ ‘คูถคตํ ¶ มุตฺตคต’นฺติอาทีนิ (อ. นิ. ๙.๑๑) วิย. คนฺตพฺพาภาวโต วา ทิฏฺิยา คตมตฺตเมเวตนฺติปิ ทิฏฺิคตํ. เตน สมฺปยุตฺตํ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตํ.
ตตฺถ อสทฺธมฺมสวนํ, อกลฺยาณมิตฺตตา, อริยานํ อทสฺสนกามตาทีนิ อโยนิโส มนสิกาโรติ เอวมาทีหิ การเณหิ อิมสฺส ทิฏฺิคตสงฺขาตสฺส มิจฺฉาทสฺสนสฺส อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. เย หิ เอเต ทิฏฺิวาทปฏิสํยุตฺตา อสทฺธมฺมา เตสํ พหุมานปุพฺพงฺคเมน อติกฺกนฺตมชฺฌตฺเตน อุปปริกฺขารหิเตน สวเนน, เย จ ทิฏฺิวิปนฺนา อกลฺยาณมิตฺตา ตํสมฺปวงฺกตาสงฺขาตาย อกลฺยาณมิตฺตตาย, พุทฺธาทีนํ อริยานฺเจว สปฺปุริสานฺจ อทสฺสนกามตาย จตุสติปฏฺานาทิเภเท อริยธมฺเม อโกวิทตฺเตน ปาติโมกฺขสํวรอินฺทฺริยสํวรสติสํวราณสํวรปหานสํวรปฺปเภเท อริยธมฺเม เจว สปฺปุริสธมฺเม จ สํวรเภทสงฺขาเตน อวินเยน เตเหว การเณหิ ปริภาวิเตน อโยนิโส มนสิกาเรน โกตูหลมงฺคลาทิปสุตตาย จ เอตํ อุปฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. อสงฺขารภาโว ปนสฺส จิตฺตสฺส เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
ธมฺมุทฺเทสวาเร ¶ ผสฺโสติ อกุสลจิตฺตสหชาโต ผสฺโส. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ อกุสลมตฺตเมว เอเตสํ ปุริเมหิ วิเสโส.
จิตฺตสฺเสกคฺคตา โหตีติ ปาณาติปาตาทีสุปิ อวิกฺขิตฺตภาเวน จิตฺตสฺส เอกคฺคตา โหติ. มนุสฺสา หิ จิตฺตํ สมาทหิตฺวา อวิกฺขิตฺตา หุตฺวา อวิรชฺฌมานานิ สตฺถานิ ปาณสรีเรสุ นิปาเตนฺติ, สุสมาหิตา ปเรสํ สนฺตกํ หรนฺติ, เอกรเสน จิตฺเตน มิจฺฉาจารํ อาปชฺชนฺติ. เอวํ อกุสลปฺปวตฺติยมฺปิ จิตฺตสฺส เอกคฺคตา โหติ.
มิจฺฉาทิฏฺีติ อยาถาวทิฏฺิ, วิรชฺฌิตฺวา คหณโต วา วิตถา ทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺิ. อนตฺถาวหตฺตา ปณฺฑิเตหิ ชิคุจฺฉิตา ทิฏฺีติปิ มิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีสุปิ เอเสว นโย. อปิจ มิจฺฉา ปสฺสนฺติ ตาย, สยํ วา มิจฺฉา ปสฺสติ, มิจฺฉาทสฺสนมตฺตเมว วา เอสาติ มิจฺฉาทิฏฺิ. สา อโยนิโส อภินิเวสลกฺขณา, ปรามาสรสา, มิจฺฉาภินิเวสปจฺจุปฏฺานา, อริยานํ อทสฺสนกามตาทิปทฏฺานา; ปรมํ วชฺชนฺติ ทฏฺพฺพา. มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีสุ ¶ ‘มิจฺฉา’ติ ปทมตฺตเมว วิเสโส. เสสํ กุสลาธิกาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อหิริกพลํ ¶ อโนตฺตปฺปพลนฺติ เอตฺถ พลตฺโถ นิทฺเทสวาเร อาวิ ภวิสฺสติ. อิตเรสุ ปน – น หิริยตีติ อหิริโก. อหิริกสฺส ภาโว อหิริกํ. น โอตฺตปฺปํ อโนตฺตปฺปํ. เตสุ อหิริกํ กายทุจฺจริตาทีหิ อชิคุจฺฉนลกฺขณํ, อลชฺชาลกฺขณํ วา. อโนตฺตปฺปํ เตเหว อสารชฺชนลกฺขณํ อนุตฺตาสนลกฺขณํ วา. อหิริกเมว พลํ อหิริกพลํ. อโนตฺตปฺปเมว พลํ อโนตฺตปฺปพลํ. อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ. วิตฺถาโร ปน เหฏฺา วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺโพ.
ลุพฺภนฺติ เตน, สยํ วา ลุพฺภติ, ลุพฺภนมตฺตเมว ¶ วา ตนฺติ โลโภ. มุยฺหนฺติ เตน, สยํ วา มุยฺหติ, มุยฺหนมตฺตเมว วา ตนฺติ โมโห. เตสุ โลโภ อารมฺมณคฺคหณลกฺขโณ มกฺกฏาเลโป วิย, อภิสงฺครโส ตตฺตกปาเล ขิตฺตมํสเปสิ วิย, อปริจฺจาคปจฺจุปฏฺาโน เตลฺชนราโค วิย, สํโยชนิยธมฺเมสุ อสฺสาททสฺสนปทฏฺาโน. โส ตณฺหานทีภาเวน วฑฺฒมาโน, สีฆโสตา นที วิย มหาสมุทฺทํ, อปายเมว คเหตฺวา คจฺฉตีติ ทฏฺพฺโพ.
โมโห จิตฺตสฺส อนฺธภาวลกฺขโณ อฺาณลกฺขโณ วา, อสมฺปฏิเวธรโส อารมฺมณสภาวจฺฉาทนรโส วา, อสมฺมาปฏิปตฺติปจฺจุปฏฺาโน อนฺธการปจฺจุปฏฺาโน วา, อโยนิโสมนสิการปทฏฺาโน. สพฺพากุสลานํ มูลนฺติ ทฏฺพฺโพ.
อภิชฺฌายนฺติ ตาย, สยํ วา อภิชฺฌายติ, อภิชฺฌายนมตฺตเมว วา เอสาติ อภิชฺฌา. สา ปรสมฺปตฺตีนํ สกกรณอิจฺฉาลกฺขณา, เตนากาเรน เอสนภาวรสา, ปรสมฺปตฺติ-อภิมุขภาวปจฺจุปฏฺานา, ปรสมฺปตฺตีสุ อภิรติปทฏฺานา. ปรสมฺปตฺติอภิมุขา เอว หิ สา อุปฏฺหติ. ตาสุ จ อภิรติยา สติ ปวตฺตติ, ปรสมฺปตฺตีสุ เจตโส หตฺถปฺปสาโรวิยาติ ทฏฺพฺพา.
สมโถ โหตีติอาทีสุ อฺเสุ กิจฺเจสุ วิกฺเขปสมนโต สมโถ. อกุสลปฺปวตฺติยํ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ ปคฺคาโห. น วิกฺขิปตีติ อวิกฺเขโป.
อิมสฺมึ ¶ จิตฺเต สทฺธา, สติ, ปฺา, ฉ ยุคฬกานีติ อิเม ธมฺมา น คหิตา. กสฺมา? อสฺสทฺธิยจิตฺเต ปสาโท นาม นตฺถิ. ตสฺมา ตาว สทฺธา น คหิตา. กึ ปน ทิฏฺิคติกา ¶ อตฺตโน อตฺตโน สตฺถารานํ น สทฺทหนฺตีติ? สทฺทหนฺติ. สา ปน สทฺธา นาม น โหติ, วจนสมฺปฏิจฺฉนมตฺตเมเวตํ. อตฺถโต อนุปปริกฺขา วา ¶ โหติ, ทิฏฺิ วา. อสติยจิตฺเต ปน สติ นตฺถีติ น คหิตา. กึ ทิฏฺิคติกา อตฺตนา กตกมฺมํ น สรนฺตีติ? สรนฺติ. สา ปน สติ นาม น โหติ. เกวลํ เตนากาเรน อกุสลจิตฺตปฺปวตฺติ. ตสฺมา สติ น คหิตา. อถ กสฺมา ‘‘มิจฺฉาสตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๓๓; สํ. นิ. ๕.๑) สุตฺตนฺเต วุตฺตา? สา ปน อกุสลกฺขนฺธานํ สติวิรหิตตฺตา สติปฏิปกฺขตฺตา จ มิจฺฉามคฺคมิจฺฉตฺตานํ ปูรณตฺถํ ตตฺถ ปริยาเยน เทสนา กตา. นิปฺปริยาเยน ปเนสา นตฺถิ. ตสฺมา น คหิตา. อนฺธพาลจิตฺเต ปน ปฺา นตฺถีติ น คหิตา. กึ ทิฏฺิคติกานํ วฺจนาปฺา นตฺถีติ? อตฺถิ. น ปเนสา ปฺา, มายา นาเมสา โหติ. สา อตฺถโต ตณฺหาว. อิทํ ปน จิตฺตํ สทรถํ ครุกํ ภาริยํ กกฺขฬํ ถทฺธํ อกมฺมฺํ คิลานํ วงฺกํ กุฏิลํ. ตสฺมา ปสฺสทฺธาทีนิ ฉ ยุคฬกานิ น คหิตานิ.
เอตฺตาวตา ปทปฏิปาฏิยา จิตฺตงฺควเสน ปาฬิอารุฬฺหานิ ทฺวตฺตึส ปทานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เยวาปนกธมฺเม ทสฺเสตุํ เย วา ปน ตสฺมึ สมเยติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺเพสุปิ อกุสลจิตฺเตสุ ฉนฺโท อธิโมกฺโข มนสิกาโร มาโน อิสฺสา มจฺฉริยํ ถินํ มิทฺธํ อุทฺธจฺจํ กุกฺกุจฺจนฺติ อิเม ทเสว เยวาปนกา โหนฺติ ธมฺมา, สุตฺตาคตา, สุตฺตปเทสุ ทิสฺสเรติ วุตฺตา. อิมสฺมึ ปน จิตฺเต ฉนฺโท อธิโมกฺโข มนสิกาโร อุทฺธจฺจนฺติ อิเม อปณฺณกงฺคสงฺขาตา จตฺตาโรว เยวาปนกา โหนฺติ.
ตตฺถ ฉนฺทาทโย เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เกวลฺหิ เต กุสลา, อิเม อกุสลา. อิตรํ ปน อุทฺธตสฺส ภาโว ‘อุทฺธจฺจํ’. ตํ เจตโส อวูปสมลกฺขณํ วาตาภิฆาตจลชลํ วิย, อนวฏฺานรสํ วาตาภิฆาตจลธชปฏากา วิย, ภนฺตตฺตปจฺจุปฏฺานํ ปาสาณาภิฆาตสมุทฺธตภสฺมา วิย, เจตโส อวูปสเม อโยนิโสมนสิการปทฏฺานํ. จิตฺตวิกฺเขโปติ ทฏฺพฺพํ.
อิติ ผสฺสาทีนิ ทฺวตฺตึส, เยวาปนกวเสน วุตฺตานิ จตฺตารีติ สพฺพานิปิ ¶ อิมสฺมึ ธมฺมุทฺเทสวาเร ฉตฺตึส ธมฺมปทานิ ภวนฺติ. จตฺตาริ อปณฺณกงฺคานิ หาเปตฺวา ¶ ปาฬิยํ อาคตานิ ทฺวตฺตึสเมว. อคฺคหิตคฺคหเณน ปเนตฺถ ผสฺสปฺจกํ, วิตกฺโก วิจาโร ปีติ จิตฺตสฺเสกคฺคตา ¶ วีริยินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยํ มิจฺฉาทิฏฺิ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ โลโภ โมโหติ โสฬส ธมฺมา โหนฺติ.
เตสุ โสฬสสุ สตฺต ธมฺมา อวิภตฺติกา นว สวิภตฺติกา โหนฺติ. กตเม สตฺต? ผสฺโส สฺา เจตนา วิจาโร ปีติ ชีวิตินฺทฺริยํ โมโหติ อิเม สตฺต อวิภตฺติกา. เวทนา จิตฺตํ วิตกฺโก จิตฺตสฺเสกคฺคตา วีริยินฺทฺริยํ มิจฺฉาทิฏฺิ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ โลโภติ อิเม นว สวิภตฺติกา.
เตสุ ฉ ธมฺมา ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตา, เอโก ตีสุ, เอโก จตูสุ, เอโก ฉสุ. กถํ? จิตฺตํ วิตกฺโก มิจฺฉาทิฏฺิ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ โลโภติ อิเม ฉ ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตา. เตสุ หิ จิตฺตํ ตาว ผสฺสปฺจกํ ปตฺวา จิตฺตํ โหตีติ วุตฺตํ, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา มนินฺทฺริยนฺติ. วิตกฺโก ฌานงฺคานิ ปตฺวา วิตกฺโก โหตีติ วุตฺโต, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา มิจฺฉาสงฺกปฺโปติ. มิจฺฉาทิฏฺิ มคฺคงฺเคสุปิ กมฺมปเถสุปิ มิจฺฉาทิฏฺิเยว. อหิริกํ พลานิ ปตฺวา อหิริกพลํ โหตีติ วุตฺตํ, โลกนาสกทุกํ ปตฺวา อหิริกนฺติ. อโนตฺตปฺเปปิ เอเสว นโย. โลโภ มูลํ ปตฺวา โลโภ โหตีติ วุตฺโต. กมฺมปถํ ปตฺวา อภิชฺฌาติ. อิเม ฉ ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตา.
เวทนา ปน ผสฺสปฺจกํ ปตฺวา เวทนา โหตีติ วุตฺตา, ฌานงฺคานิ ปตฺวา สุขนฺติ, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา โสมนสฺสินฺทฺริยนฺติ. เอวํ เอโกว ธมฺโม ตีสุ าเนสุ วิภตฺโต.
วีริยํ ปน อินฺทฺริยานิ ปตฺวา วีริยินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตํ, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา มิจฺฉาวายาโม โหตีติ, พลานิ ปตฺวา วีริยพลนฺติ, ปิฏฺิทุกํ ปตฺวา ปคฺคาโห โหตีติ. เอวํ อยํ เอโก ธมฺโม จตูสุ าเนสุ วิภตฺโต.
สมาธิ ปน ฌานงฺคานิ ปตฺวา จิตฺตสฺเสกคฺคตา โหตีติ วุตฺโต, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา สมาธินฺทฺริยนฺติ, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา มิจฺฉาสมาธีติ, พลานิ ปตฺวา สมาธิพลนฺติ, ปิฏฺิทุกํ ปตฺวา ทุติยทุเก ¶ เอกกวเสเนว สมโถติ ¶ , ตติเย อวิกฺเขโปติ. เอวมยํ เอโก ธมฺโม ฉสุ าเนสุ วิภตฺโต.
สพฺเพปิ ¶ ปเนเต ธมฺมา ผสฺสปฺจกวเสน ฌานงฺควเสน อินฺทฺริยวเสน มคฺคงฺควเสน พลวเสน มูลวเสน กมฺมปถวเสน โลกนาสกวเสน ปิฏฺิทุกวเสนาติ นว ราสโย โหนฺติ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ ปมกุสลจิตฺตนิทฺเทเส วุตฺตเมวาติ.
ธมฺมุทฺเทสวารกถา นิฏฺิตา.
นิทฺเทสวารกถา
๓๗๕. นิทฺเทสวาเร จิตฺตสฺเสกคฺคตานิทฺเทเส ตาว สณฺิติ อวฏฺิตีติ. อิทํ ทฺวยํ ิติเววจนเมว. ยํ ปน กุสลนิทฺเทเส ‘อารมฺมณํ โอคาเหตฺวา อนุปวิสิตฺวา ติฏฺตีติ อวฏฺิตี’ติ วุตฺตํ, ตํ อิธ น ลพฺภติ. อกุสลสฺมิฺหิ ทุพฺพลา จิตฺตสฺเสกคฺคตาติ เหฏฺา ทีปิตเมว.
๓๘๔. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสน ปวตฺตสฺส วิสาหารสฺส ปฏิปกฺขโต อวิสาหาโรติ เอวรูโปปิ อตฺโถ อิธ น ลพฺภติ. สหชาตธมฺเม ปน น วิสาหรตีติ อวิสาหาโร. น วิกฺขิปตีติ อวิกฺเขโป. อกุสลจิตฺเตกคฺคตาวเสน อวิสาหฏสฺส มานสสฺส ภาโว อวิสาหฏมานสตา. สหชาตธมฺเมสุ น กมฺปตีติ สมาธิพลํ. อยาถาวสมาธานโต มิจฺฉาสมาธีติ เอวมิธ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
๓๘๕. วีริยินฺทฺริยนิทฺเทเส โย เหฏฺา ‘นิกฺกโม เจโส กามานํ ปนุทนายา’ติอาทิ นโย วุตฺโต, โส อิธ น ลพฺภติ. สหชาตธมฺเมสุ อกมฺปนฏฺเเนว วีริยพลํ เวทิตพฺพํ.
๓๘๖. มิจฺฉาทิฏฺินิทฺเทเส อยาถาวทสฺสนฏฺเน มิจฺฉาทิฏฺิ. ทิฏฺีสุ คตํ อิทํ ทสฺสนํ, ทฺวาสฏฺิทิฏฺิอนฺโตคตตฺตาติ ทิฏฺิคตํ. เหฏฺาปิสฺส อตฺโถ วุตฺโตเยว. ทิฏฺิเยว ทุรติกฺกมนฏฺเน ทิฏฺิคหนํ, ติณคหนวนคหนปพฺพตคหนานิ วิย. ทิฏฺิเยว สาสงฺกสปฺปฏิภยฏฺเน ทิฏฺิกนฺตาโร ¶ , โจรกนฺตารวาฬกนฺตารมรุกนฺตารนิรุทกกนฺตารทุพฺภิกฺขกนฺตารา ¶ วิย. สมฺมาทิฏฺิยา ¶ วินิวิชฺฌนฏฺเน วิโลมนฏฺเน จ ทิฏฺิวิสูกายิกํ. มิจฺฉาทสฺสนฺหิ อุปฺปชฺชมานํ สมฺมาทสฺสนํ วินิวิชฺฌติ เจว วิโลเมติ จ. กทาจิ สสฺสตสฺส กทาจิ อุจฺเฉทสฺส คหณโต ทิฏฺิยา วิรูปํ ผนฺทิตนฺติ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ. ทิฏฺิคติโก หิ เอกสฺมึ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ, กทาจิ สสฺสตํ อนุปตติ กทาจิ อุจฺเฉทํ. ทิฏฺิเยว พนฺธนฏฺเน สํโยชนนฺติ ทิฏฺิสํโยชนํ.
สุสุมาราทโย วิย ปุริสํ, อารมฺมณํ ทฬฺหํ คณฺหาตีติ คาโห. ปติฏฺหนโต ปติฏฺาโห. อยฺหิ พลวปฺปวตฺติภาเวน ปติฏฺหิตฺวา คณฺหาติ. นิจฺจาทิวเสน อภินิวิสตีติ อภินิเวโส. ธมฺมสภาวํ อติกฺกมิตฺวา นิจฺจาทิวเสน ปรโต อามสตีติ ปรามาโส. อนตฺถาวหตฺตา กุจฺฉิโต มคฺโค, กุจฺฉิตานํ วา อปายานํ มคฺโคติ กุมฺมคฺโค. อยาถาวปถโต มิจฺฉาปโถ. ยถา หิ ทิสามูฬฺเหน อยํ อสุกคามสฺส นาม ปโถติ คหิโตปิ ตํ คามํ น สมฺปาเปติ, เอวํ ทิฏฺิคติเกน สุคติปโถติ คหิตาปิ ทิฏฺิ สุคตึ น ปาเปตีติ อยาถาวปถโต, มิจฺฉาปโถ. มิจฺฉาสภาวโต มิจฺฉตฺตํ. ตตฺเถว ปริพฺภมนโต ตรนฺติ เอตฺถ พาลาติ ติตฺถํ. ติตฺถฺจ ตํ อนตฺถานฺจ อายตนนฺติ ติตฺถายตนํ. ติตฺถิยานํ วา สฺชาติเทสฏฺเน นิวาสานฏฺเน จ อายตนนฺติปิ ติตฺถายตนํ. วิปริเยสภูโต คาโห, วิปริเยสโต วา คาโหติ วิปริเยสคฺคาโห; วิปลฺลตฺถ คาโหติ อตฺโถ.
๓๘๗-๓๘๘. อหิริกาโนตฺตปฺปนิทฺเทเสสุ หิโรตฺตปฺปนิทฺเทสวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สหชาตธมฺเมสุ ปน อกมฺปนฏฺเเนว อหิริกพลํ อโนตฺตปฺปพลฺจ เวทิตพฺพํ.
๓๘๙. โลภโมหนิทฺเทเสสุ ลุพฺภตีติ โลโภ. ลุพฺภนาติ ลุพฺภนากาโร. โลภสมฺปยุตฺตจิตฺตํ, ปุคฺคโล วา ลุพฺภิโต; ลุพฺภิตสฺส ภาโว ลุพฺภิตตฺตํ. สารชฺชตีติ สาราโค. สารชฺชนากาโร สารชฺชนา. สารชฺชิตสฺส ภาโว สารชฺชิตตฺตํ. อภิชฺฌายนฏฺเน อภิชฺฌา ¶ . ปุน ‘โลภ’-วจเน การณํ ¶ วุตฺตเมว. อกุสลฺจ ตํ มูลฺจ อกุสลานํ วา มูลนฺติ อกุสลมูลํ.
๓๙๐. าณทสฺสนปฏิปกฺขโต อฺาณํ อทสฺสนํ. อภิมุโข หุตฺวา ธมฺเมน น สเมติ, น สมาคจฺฉตีติ อนภิสมโย. อนุรูปโต ธมฺเม พุชฺฌตีติ อนุโพโธ. ตปฺปฏิปกฺขตาย ¶ อนนุโพโธ. อนิจฺจาทีหิ สทฺธึ โยเชตฺวา น พุชฺฌตีติ อสมฺโพโธ. อสนฺตํ อสมฺจ พุชฺฌตีติปิ อสมฺโพโธ. จตุสจฺจธมฺมํ นปฺปฏิวิชฺฌตีติ อปฺปฏิเวโธ. รูปาทีสุ เอกธมฺมมฺปิ อนิจฺจาทิสามฺโต น สงฺคณฺหาตีติ อสํคาหนา. ตเมว ธมฺมํ น ปริโยคาหตีติ อปริโยคาหนา. น สมํ เปกฺขตีติ อสมเปกฺขณา. ธมฺมานํ สภาวํ ปติ น อเปกฺขตีติ อปจฺจเวกฺขณา.
กุสลากุสลกมฺเมสุ วิปรีตวุตฺติยา สภาวคฺคหณาภาเวน วา เอกมฺปิ กมฺมํ เอตสฺส ปจฺจกฺขํ นตฺถิ, สยํ วา กสฺสจิ กมฺมสฺส ปจฺจกฺขกรณํ นาม น โหตีติ อปฺปจฺจกฺขกมฺมํ. ยํ เอตสฺมึ อนุปฺปชฺชมาเน จิตฺตสนฺตานํ เมชฺฌํ ภเวยฺย, สุจิ, โวทานํ, ตํ ทุฏฺํ เมชฺฌํ อิมินาติ ทุมฺเมชฺฌํ. พาลานํ ภาโวติ พาลฺยํ. มุยฺหตีติ โมโห. พลวตโร โมโห ปโมโห. สมนฺตโต มุยฺหตีติ สมฺโมโห. วิชฺชาย ปฏิปกฺขภาวโต น วิชฺชาติ อวิชฺชา. โอฆโยคตฺโถ วุตฺโตเยว. ถามคตฏฺเน อนุเสตีติ อนุสโย. จิตฺตํ ปริยุฏฺาติ, อภิภวตีติ ปริยุฏฺานํ. หิตคฺคหณาภาเวน หิตาภิมุขํ คนฺตุํ น สกฺโกติ, อฺทตฺถุ ลงฺคติเยวาติ ลงฺคี; ขฺชตีติ อตฺโถ. ทุรุคฺฆาฏนฏฺเน วา ลงฺคี. ยถา หิ มหาปลิฆสงฺขาตา ลงฺคี ทุรุคฺฆาฏา โหติ, เอวมยมฺปิ ลงฺคี วิยาติ ลงฺคี. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว. สงฺคหวารสฺุตวาราปิ ¶ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺถโต เวทิตพฺพาติ.
ทุติยจิตฺตํ
๓๙๙. ทุติยจิตฺเต สสงฺขาเรนาติ ปทํ วิเสสํ. ตมฺปิ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว. อิทํ ปน จิตฺตํ กิฺจาปิ ฉสุ อารมฺมเณสุ โสมนสฺสิตสฺส โลภํ อุปฺปาเทตฺวา ‘สตฺโต สตฺโต’ติอาทินา นเยน ปรามสนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, ตถาปิ สสงฺขาริกตฺตา สปฺปโยเคน สอุปาเยน อุปฺปชฺชนโต – ยทา ¶ กุลปุตฺโต มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส กุลสฺส กุมาริกํ ปตฺเถติ. เต จ ‘อฺทิฏฺิกา ตุมฺเห’ติ กุมาริกํ น เทนฺติ. อถฺเ าตกา ‘ยํ ตุมฺเห กโรถ ตเมวายํ กริสฺสตี’ติ ทาเปนฺติ. โส เตหิ สทฺธึ ติตฺถิเย อุปสงฺกมติ. อาทิโตว เวมติโก โหติ. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล เอเตสํ กิริยา มนาปาติ ลทฺธึ โรเจติ, ทิฏฺึ คณฺหาติ – เอวรูเป กาเล อิทํ ลพฺภตีติ เวทิตพฺพํ.
เยวาปนเกสุ ¶ ปเนตฺถ ถินมิทฺธํ อธิกํ. ตตฺถ ถินนตา ‘ถินํ’. มิทฺธนตา ‘มิทฺธํ’; อนุสฺสาหสํหนนตา อสตฺติวิฆาโต จาติ อตฺโถ. ถินฺจ มิทฺธฺจ ถินมิทฺธํ. ตตฺถ ถินํ อนุสฺสาหลกฺขณํ, วีริยวิโนทนรสํ, สํสีทนปจฺจุปฏฺานํ. มิทฺธํ อกมฺมฺตาลกฺขณํ, โอนหนรสํ, ลีนภาวปจฺจุปฏฺานํ ปจลายิกานิทฺทาปจฺจุปฏฺานํ วา. อุภยมฺปิ อรติตนฺทีวิชมฺภิตาทีสุ อโยนิโสมนสิการปทฏฺานนฺติ.
ตติยจิตฺตํ
๔๐๐. ตติยํ ฉสุ อารมฺมเณสุ โสมนสฺสิตสฺส โลภํ อุปฺปาเทตฺวา ‘สตฺโต สตฺโต’ติอาทินา นเยน อปรามสนฺตสฺส นารายณวิราชนมลฺลยุทฺธนฏสมชฺชาทีนิ ปสฺสโต มนาปิยสทฺทสวนาทิปสุตสฺส ¶ วา อุปฺปชฺชติ. อิธ มาเนน สทฺธึ ปฺจ อปณฺณกงฺคานิ โหนฺติ. ตตฺถ มฺตีติ ‘มาโน’. โส อุนฺนติลกฺขโณ, สมฺปคฺคหรโส, เกตุกมฺยตาปจฺจุปฏฺาโน, ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตโลภปทฏฺาโน, อุมฺมาโท วิย ทฏฺพฺโพติ.
จตุตฺถจิตฺตํ
๔๐๒. จตุตฺถํ วุตฺตปฺปกาเรสุ เอว าเนสุ ยทา สีเส เขฬํ ขิปนฺติ, ปาทปํสุํ โอกิรนฺติ, ตทา ตสฺส ปริหรณตฺถํ สอุสฺสาเหน อนฺตรนฺตรา โอโลเกนฺตานํ ราชนาฏเกสุ นิกฺขนฺเตสุ อุสฺสารณาย วตฺตมานาย เตน เตน ฉิทฺเทน โอโลเกนฺตานฺจาติ เอวมาทีสุ าเนสุ อุปฺปชฺชติ. อิธ ¶ ปน ถินมิทฺเธหิ สทฺธึ สตฺต เยวาปนกา โหนฺติ. อุภยตฺถาปิ มิจฺฉาทิฏฺิ ปริหายติ. ตํ เปตฺวา เสสานํ วเสน ธมฺมคณนา เวทิตพฺพาติ.
ปฺจมจิตฺตํ
๔๐๓. ปฺจมํ ฉสุ อารมฺมเณสุ เวทนาวเสน มชฺฌตฺตสฺส โลภํ อุปฺปาเทตฺวา ‘สตฺโต สตฺโต’ติอาทินา นเยน ปรามสนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. โสมนสฺสฏฺาเน ปเนตฺถ อุเปกฺขาเวทนา โหติ, ปีติปทํ ปริหายติ. เสสํ สพฺพํ ปมจิตฺตสทิสเมว.
ฉฏฺจิตฺตาทิ
๔๐๙-๔๑๒. ฉฏฺสตฺตมฏฺมานิปิ ¶ เวทนํ ปริวตฺเตตฺวา ปีติปทฺจ หาเปตฺวา ทุติยตติยจตุตฺเถสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. อิเมสุ อฏฺสุ โลภสหคตจิตฺเตสุ สหชาตาธิปติ อารมฺมณาธิปตีติ ทฺเวปิ อธิปตโย ลพฺภนฺติ.
นวมจิตฺตํ
๔๑๓. นวมํ ฉสุ อารมฺมเณสุ โทมนสฺสิตสฺส ปฏิฆํ อุปฺปาทยโต อุปฺปชฺชติ. ตสฺส สมยววตฺถานวาเร ตาว ทุฏฺุ มโน, หีนเวทนตฺตา วา กุจฺฉิตํ มโนติ ทุมฺมโน; ทุมฺมนสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. เตน สหคตนฺติ โทมนสฺสสหคตํ. อสมฺปิยายนภาเวน อารมฺมณสฺมึ ปฏิหฺตีติ ปฏิฆํ. เตน สมฺปยุตฺตนฺติ ปฏิฆสมฺปยุตฺตํ.
ธมฺมุทฺเทเส ¶ ตีสุปิ าเนสุ โทมนสฺสเวทนาว อาคตา. ตตฺถ เวทนาปทํ วุตฺตเมว. ตถา ทุกฺขโทมนสฺสปทานิ ลกฺขณาทิโต ปน อนิฏฺารมฺมณานุภวนลกฺขณํ โทมนสฺสํ, ยถาตถา วา อนิฏฺาการสมฺโภครสํ, เจตสิกาพาธปจฺจุปฏฺานํ, เอกนฺเตเนว หทยวตฺถุปทฏฺานํ.
มูลกมฺมปเถสุ ยถา ปุริมจิตฺเตสุ โลโภ โหติ, อภิชฺฌา โหตีติ อาคตํ, เอวํ โทโส โหติ, พฺยาปาโท โหตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ ทุสฺสนฺติ เตน, สยํ วา ทุสฺสติ, ทุสฺสนมตฺตเมว วา ตนฺติ โทโส ¶ โส จณฺฑิกฺกลกฺขโณ ปหฏาสิวิโส วิย, วิสปฺปนรโส วิสนิปาโต วิย, อตฺตโน นิสฺสยทหนรโส วา ทาวคฺคิ วิย, ทุสฺสนปจฺจุปฏฺาโน ลทฺโธกาโส วิย สปตฺโต, อาฆาตวตฺถุปทฏฺาโน วิสสํสฏฺปูติมุตฺตํ วิย ทฏฺพฺโพ.
พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตํ, ปูติภาวํ อุปคจฺฉติ, พฺยาปาทยติ วา วินยาจารรูปสมฺปตฺติหิตสุขาทีนีติ พฺยาปาโท. อตฺถโต ปเนส โทโสเยว. อิธ ปทปฏิปาฏิยา เอกูนตึส ปทานิ โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน จุทฺทส. เตสํ วเสน สวิภตฺติกาวิภตฺติกราสิเภโท เวทิตพฺโพ.
เยวาปนเกสุ ฉนฺทาธิโมกฺขมนสิการอุทฺธจฺจานิ นิยตานิ. อิสฺสามจฺฉริยกุกฺกุจฺเจสุ ปน ¶ อฺตเรน สทฺธึ ปฺจ ปฺจ หุตฺวาปิ อุปฺปชฺชนฺติ. เอวเมปิ ตโย ธมฺมา อนิยตเยวาปนกา นาม. เตสุ อิสฺสตีติ ‘อิสฺสา’. สา ปรสมฺปตฺตีนํ อุสูยนลกฺขณา, ตตฺเถว อนภิรติรสา, ตโต วิมุขภาวปจฺจุปฏฺานา, ปรสมฺปตฺติปทฏฺานา. สํโยชนนฺติ ทฏฺพฺพา. มจฺเฉรภาโว ‘มจฺฉริยํ’. ตํ ลทฺธานํ วา ลภิตพฺพานํ วา อตฺตโน สมฺปตฺตีนํ นิคูหนลกฺขณํ, ตาสํเยว ปเรหิ สาธารณภาวอกฺขมนรสํ, สงฺโกจนปจฺจุปฏฺานํ ¶ กฏุกฺจุกตาปจฺจุปฏฺานํ วา, อตฺตสมฺปตฺติปทฏฺานํ. เจตโส วิรูปภาโวติ ทฏฺพฺพํ. กุจฺฉิตํ กตํ กุกตํ. ตสฺส ภาโว ‘กุกฺกุจฺจํ’. ตํ ปจฺฉานุตาปลกฺขณํ, กตากตานุโสจนรสํ, วิปฺปฏิสารปจฺจุปฏฺานํ, กตากตปทฏฺานํ. ทาสพฺยํ วิย ทฏฺพฺพํ. อยํ ตาว อุทฺเทสวาเร วิเสโส.
๔๑๕. นิทฺเทสวาเร เวทนานิทฺเทเส อสาตํ สาตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพํ.
๔๑๘. โทสนิทฺเทเส ทุสฺสตีติ โทโส. ทุสฺสนาติ ทุสฺสนากาโร. ทุสฺสิตตฺตนฺติ ทุสฺสิตภาโว. ปกติภาววิชหนฏฺเน พฺยาปชฺชนํ พฺยาปตฺติ. พฺยาปชฺชนาติ พฺยาปชฺชนากาโร. วิรุชฺฌตีติ วิโรโธ. ปุนปฺปุนํ วิรุชฺฌตีติ ปฏิวิโรโธ. วิรุทฺธาการปฏิวิรุทฺธาการวเสน วา อิทํ วุตฺตํ. จณฺฑิโก วุจฺจติ จณฺโฑ, ถทฺธปุคฺคโล; ตสฺส ภาโว จณฺฑิกฺกํ. น เอเตน สุโรปิตํ วจนํ โหติ, ทุรุตฺตํ อปริปุณฺณเมว โหตีติ อสุโรโป. กุทฺธกาเล หิ ปริปุณฺณวจนํ นาม นตฺถิ. สเจปิ กสฺสจิ โหติ ตํ อปฺปมาณํ. อปเร ¶ ปน อสฺสุชนนฏฺเน อสฺสุโรปนโต อสฺสุโรโปติ วทนฺติ. ตํ อการณํ, โสมนสฺสสฺสาปิ อสฺสุชนนโต. เหฏฺา วุตฺตอตฺตมนตาปฏิปกฺขโต น อตฺตมนตาติ อนตฺตมนตา. สา ปน ยสฺมา จิตฺตสฺเสว, น สตฺตสฺส, ตสฺมา จิตฺตสฺสาติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ สงฺคหสฺุตวาเรสุ จ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
ทสมจิตฺตํ
๔๒๑. ทสมํ สสงฺขารตฺตา ปเรหิ อุสฺสาหิตสฺส วา, ปเรสํ วา อปราธํ สาริตสฺส, สยเมว วา ปเรสํ อปราธํ อนุสฺสริตฺวา กุชฺฌมานสฺส อุปฺปชฺชติ.
อิธาปิ ปทปฏิปาฏิยา เอกูนตึส, อคฺคหิตคฺคหเณน จ จุทฺทเสว ปทานิ โหนฺติ. เยวาปนเกสุ ¶ ปน ถินมิทฺธมฺปิ ลพฺภติ. ตสฺมา เอตฺถ วินา อิสฺสามจฺฉริยกุกฺกุจฺเจหิ จตฺตาริ อปณฺณกงฺคานิ ถินมิทฺธนฺติ อิเม ฉ อิสฺสาทีนํ อุปฺปตฺติกาเล เตสุ อฺตเรน สทฺธึ สตฺต เยวาปนกา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺติ. เสสํ สพฺพํ สพฺพวาเรสุ นวมสทิสเมว. อิเมสุ ปน ทฺวีสุ โทมนสฺสจิตฺเตสุ สหชาตาธิปติเยว ¶ ลพฺภติ, น อารมฺมณาธิปติ. น หิ กุทฺโธ กิฺจิ ครุํ กโรตีติ.
เอกาทสมจิตฺตํ
๔๒๒. เอกาทสมํ ฉสุ อารมฺมเณสุ เวทนาวเสน มชฺฌตฺตสฺส กงฺขาปวตฺติกาเล อุปฺปชฺชติ. ตสฺส สมยววตฺถาเน วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตนฺติ ปทํ อปุพฺพํ. ตสฺสตฺโถ – วิจิกิจฺฉาย สมฺปยุตฺตนฺติ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตํ. ธมฺมุทฺเทเส ‘วิจิกิจฺฉา โหตี’ติ ปทเมว วิเสโส. ตตฺถ วิคตา จิกิจฺฉาติ วิจิกิจฺฉา. สภาวํ วา วิจินนฺโต เอตาย กิจฺฉติ กิลมตีติ วิจิกิจฺฉา. สา สํสยลกฺขณา, กมฺปนรสา, อนิจฺฉยปจฺจุปฏฺานา อเนกํสคาหปจฺจุปฏฺานา วา, อโยนิโสมนสิการปทฏฺานา. ปฏิปตฺติอนฺตรายกราติ ทฏฺพฺพา.
อิธ ปทปฏิปาฏิยา เตวีสติ ปทานิ โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน จุทฺทส. เตสํ วเสน สวิภตฺติกาวิภตฺติกราสิวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. มนสิกาโร อุทฺธจฺจนฺติ ทฺเวเยว เยวาปนกา.
๔๒๔. นิทฺเทสวารสฺส ¶ จิตฺตสฺเสกคฺคตานิทฺเทเส ยสฺมา อิทํ ทุพฺพลํ จิตฺตํ ปวตฺติฏฺิติมตฺตกเมเวตฺถ โหติ, ตสฺมา ‘สณฺิตี’ติอาทีนิ อวตฺวา จิตฺตสฺส ‘ิตี’ติ เอกเมว ปทํ วุตฺตํ. เตเนว จ การเณน อุทฺเทสวาเรปิ ‘สมาธินฺทฺริย’นฺติอาทิ น วุตฺตํ.
๔๒๕. วิจิกิจฺฉานิทฺเทเส กงฺขนวเสน กงฺขา. กงฺขาย อายนาติ กงฺขายนา. ปุริมกงฺขา หิ อุตฺตรกงฺขํ อาเนติ นาม. อาการวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. กงฺขาสมงฺคิจิตฺตํ กงฺขาย อายิตตฺตา กงฺขายิตํ นาม. ตสฺส ภาโว กงฺขายิตตฺตํ. วิมตีติ นมติ. วิจิกิจฺฉา วุตฺตตฺถา เอว. กมฺปนฏฺเน ทฺวิธา เอฬยตีติ ทฺเวฬฺหกํ. ปฏิปตฺตินิวารเณน ทฺวิธาปโถ วิยาติ ทฺเวธาปโถ. ‘นิจฺจํ นุ โข อิทํ, อนิจฺจํ นุ โข’ติอาทิปวตฺติยา เอกสฺมึ อากาเร สณฺาตุํ อสมตฺถตาย สมนฺตโต ¶ เสตีติ สํสโย. เอกํสํ คเหตุํ อสมตฺถตาย น เอกํสคฺคาโหติ อเนกํสคฺคาโห ¶ . นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺตี อารมฺมณโต โอสกฺกตีติ อาสปฺปนา. โอคาหิตุํ อสกฺโกนฺตี ปริสมนฺตโต สปฺปตีติ ปริสปฺปนา. ปริโยคาหิตุํ อสมตฺถตาย อปริโยคาหนา. นิจฺฉยวเสน อารมฺมเณ ปวตฺติตุํ อสมตฺถตาย ถมฺภิตตฺตํ; จิตฺตสฺส ถทฺธภาโวติ อตฺโถ. วิจิกิจฺฉา หิ อุปฺปชฺชิตฺวา จิตฺตํ ถทฺธํ กโรติ. ยสฺมา ปเนสา อุปฺปชฺชมานา อารมฺมณํ คเหตฺวา มนํ วิลิขนฺตี วิย, ตสฺมา มโนวิเลโขติ วุตฺตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
ทฺวาทสมจิตฺตํ
๔๒๗. ทฺวาทสมสฺส สมยววตฺถาเน อุทฺธจฺเจน สมฺปยุตฺตนฺติ อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตํ. อิทฺหิ จิตฺตํ ฉสุ อารมฺมเณสุ เวทนาวเสน มชฺฌตฺตํ หุตฺวา อุทฺธตํ โหติ. อิธ ธมฺมุทฺเทเส ‘วิจิกิจฺฉา’-าเน ‘อุทฺธจฺจํ โหตี’ติ อาคตํ. ปทปฏิปาฏิยา อฏฺวีสติ ปทานิ โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน จุทฺทส. เตสํ วเสน สวิภตฺติกาวิภตฺติกราสิวิธานํ เวทิตพฺพํ. อธิโมกฺโข มนสิกาโรติ ทฺเวเยว เยวาปนกา.
๔๒๙. นิทฺเทสวารสฺส อุทฺธจฺจนิทฺเทเส จิตฺตสฺสาติ น สตฺตสฺส, น โปสสฺส. อุทฺธจฺจนฺติ อุทฺธตากาโร. น วูปสโมติ อวูปสโม. เจโต วิกฺขิปตีติ ¶ เจตโสวิกฺเขโป. ภนฺตตฺตํ จิตฺตสฺสาติ จิตฺตสฺส ภนฺตภาโว, ภนฺตยานภนฺตโคณาทีนิ วิย. อิมินา เอการมฺมณสฺมึเยว วิปฺผนฺทนํ กถิตํ. อุทฺธจฺจฺหิ เอการมฺมเณ วิปฺผนฺทติ, วิจิกิจฺฉา นานารมฺมเณ. เสสํ สพฺพวาเรสุ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อิทานิ อิมสฺมึ จิตฺตทฺวเย ปกิณฺณกวินิจฺฉโย โหติ. ‘อารมฺมเณ ปวฏฺฏนกจิตฺตานิ นาม กตี’ติ? หิ วุตฺเต ‘อิมาเนว ทฺเว’ติ วตฺตพฺพํ. ตตฺถ วิจิกิจฺฉาสหคตํ ¶ เอกนฺเตน ปวฏฺฏติ, อุทฺธจฺจสหคตํ ปน ลทฺธาธิโมกฺขตฺตา ลทฺธปติฏฺํ ปวฏฺฏติ. ยถา หิ วฏฺฏจตุรสฺเสสุ ทฺวีสุ มณีสุ ปพฺภารฏฺาเน ปวฏฺเฏตฺวา วิสฺสฏฺเสุ วฏฺฏมณิ เอกนฺเตเนว ปวฏฺฏติ, จตุรสฺโส ปติฏฺาย ปติฏฺาย ปวฏฺฏติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. สพฺเพสุปิ หีนาทิเภโท น อุทฺธโฏ, สพฺเพสํ เอกนฺตหีนตฺตา. สหชาตาธิปติ ลพฺภมาโนปิ น อุทฺธโฏ, เหฏฺา ทสฺสิตนยตฺตา. าณาภาวโต ปเนตฺถ วีมํสาธิปติ นาม นตฺถิ. ปจฺฉิมทฺวเย เสโสปิ นตฺถิ เอว. กสฺมา? กฺจิ ธมฺมํ ธุรํ กตฺวา อนุปฺปชฺชนโต, ปฏฺาเน จ ปฏิสิทฺธโต.
อิเมหิ ¶ ปน ทฺวาทสหิปิ อกุสลจิตฺเตหิ กมฺเม อายูหิเต, เปตฺวา อุทฺธจฺจสหคตํ, เสสานิ เอกาทเสว ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒนฺติ. วิจิกิจฺฉาสหคเต อลทฺธาธิโมกฺเข ทุพฺพเลปิ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒมาเน อุทฺธจฺจสหคตํ ลทฺธาธิโมกฺขํ พลวํ กสฺมา นากฑฺฒตีติ? ทสฺสเนน ปหาตพฺพาภาวโต. ยทิ หิ อากฑฺเฒยฺย ‘ทสฺสเนนปหาตพฺพ’-ปทวิภงฺเค อาคจฺเฉยฺย, ตสฺมา, เปตฺวา ตํ, เสสานิ เอกาทส อากฑฺฒนฺติ. เตสุ หิ เยน เกนจิ กมฺเม อายูหิเต ตาย เจตนาย จตูสุ อปาเยสุ ปฏิสนฺธิ โหติ. อกุสลวิปาเกสุ อเหตุกมโนวิฺาณธาตุอุเปกฺขาสหคตาย ปฏิสนฺธึ คณฺหาติ. อิตรสฺสาปิ เอตฺเถว ปฏิสนฺธิทานํ ภเวยฺย. ยสฺมา ปเนตํ นตฺถิ, ตสฺมา ‘ทสฺสเนนปหาตพฺพ’-ปทวิภงฺเค นาคตนฺติ.
อกุสลา ธมฺมาติปทสฺส วณฺณนา นิฏฺิตา.
อพฺยากตปทํ
อเหตุกกุสลวิปาโก
๔๓๑. อิทานิ ¶ อพฺยากตปทํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ จตุพฺพิธํ อพฺยากตํ – วิปากํ กิริยํ รูปํ นิพฺพานนฺติ. เตสุ วิปากาพฺยากตํ. วิปากาพฺยากเตปิ กุสลวิปากํ. ตสฺมิมฺปิ ปริตฺตวิปากํ. ตสฺมิมฺปิ อเหตุกํ. ตสฺมิมฺปิ ปฺจวิฺาณํ. ตสฺมิมฺปิ ทฺวารปฏิปาฏิยา จกฺขุวิฺาณํ ¶ . ตสฺสาปิ, เปตฺวา ทฺวารารมฺมณาทิสาธารณปจฺจยํ, อสาธารณกมฺมปจฺจยวเสเนว อุปฺปตฺตึ ทีเปตุํ กามาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กตตฺตาติ กตการณา. อุปจิตตฺตาติ อาจิตตฺตา, วฑฺฒิตการณา. จกฺขุวิฺาณนฺติ การณภูตสฺส จกฺขุสฺส วิฺาณํ, จกฺขุโต วา ปวตฺตํ, จกฺขุสฺมึ วา นิสฺสิตํ วิฺาณนฺติ จกฺขุวิฺาณํ. ปรโต โสตวิฺาณาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ จกฺขุสนฺนิสฺสิตรูปวิชานนลกฺขณํ จกฺขุวิฺาณํ, รูปมตฺตารมฺมณรสํ, รูปาภิมุขภาวปจฺจุปฏฺานํ ¶ , รูปารมฺมณาย กิริยมโนธาตุยา อปคมปทฏฺานํ. ปรโต อาคตานิ โสตาทิสนฺนิสฺสิตสทฺทาทิวิชานนลกฺขณานิ โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ สทฺทาทิมตฺตารมฺมณรสานิ, สทฺทาทิอภิมุขภาวปจฺจุปฏฺานานิ, สทฺทาทิอารมฺมณานํ กิริยมโนธาตูนํ อปคมปทฏฺานานิ.
อิธ ปทปฏิปาฏิยา ทส ปทานิ โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน สตฺต. เตสุ ปฺจ อวิภตฺติกานิ, ทฺเว สวิภตฺติกานิ. เตสุ จิตฺตํ ผสฺสปฺจกวเสน เจว อินฺทฺริยวเสน จ ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตึ คจฺฉติ, เวทนา ผสฺสปฺจกฌานงฺคอินฺทฺริยวเสน ตีสุเยว. ราสโยปิ อิเมว ตโย โหนฺติ. เยวาปนโก เอโก มนสิกาโร เอว.
๔๓๖. นิทฺเทสวาเร จกฺขุวิฺาณํ ปณฺฑรนฺติ วตฺถุโต วุตฺตํ. กุสลฺหิ อตฺตโน ปริสุทฺธตาย ปณฺฑรํ นาม, อกุสลํ ภวงฺคนิสฺสนฺเทน, วิปากํ วตฺถุปณฺฑรตฺตา.
๔๓๙. จิตฺตสฺเสกคฺคตานิทฺเทเส จิตฺตสฺส ิตีติ เอกเมว ปทํ วุตฺตํ. อิทมฺปิ หิ ทุพฺพลํ จิตฺตํ ปวตฺติฏฺิติมตฺตเมเวตฺถ ลพฺภติ, ‘สณฺิติอวฏฺิติ’-ภาวํ ¶ ปาปุณิตุํ น สกฺโกติ. สงฺคหวาเร ฌานงฺคมคฺคงฺคานิ น อุทฺธฏานิ. กสฺมา? วิตกฺกปจฺฉิมกฺหิ ฌานํ นาม, เหตุปจฺฉิมโก มคฺโค นาม. ปกติยา อวิตกฺกจิตฺเต ฌานงฺคํ น ลพฺภติ, อเหตุกจิตฺเต จ มคฺคงฺคานิ. ตสฺมา อิธ อุภยมฺปิ ¶ น อุทฺธฏํ. สงฺขารกฺขนฺโธเปตฺถ จตุรงฺคิโกเยว ภาชิโต. สฺุตวาโร ปากติโกเยว. โสตวิฺาณาทินิทฺเทสาปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺพา.
เกวลฺหิ จกฺขุวิฺาณาทีสุ ‘อุเปกฺขา’ ภาชิตา, กายวิฺาเณ ‘สุข’นฺติ, อยเมตฺถ วิเสโส. โสปิ จ ฆฏฺฏนวเสน โหตีติ เวทิตพฺโพ. จกฺขุทฺวาราทีสุ หิ จตูสุ อุปาทารูปเมว อุปาทารูปํ ฆฏฺเฏติ, อุปาทารูเปเยว อุปาทารูปํ ฆฏฺเฏนฺเต ปฏิฆฏฺฏนานิฆํโส พลวา น โหติ. จตุนฺนํ อธิกรณีนํ อุปริ จตฺตาโร กปฺปาสปิจุปิณฺเฑ เปตฺวา ปิจุปิณฺเฑเหว ปหตกาโล วิย ผุฏฺมตฺตเมว โหติ. เวทนา มชฺฌตฺตฏฺาเน ติฏฺติ. กายทฺวาเร ปน พหิทฺธา มหาภูตารมฺมณํ อชฺฌตฺติกกายปสาทํ ฆฏฺเฏตฺวา ปสาทปจฺจเยสุ มหาภูเตสุ ปฏิหฺติ. ยถา อธิกรณีมตฺถเก กปฺปาสปิจุปิณฺฑํ เปตฺวา กูเฏน ปหรนฺตสฺส กปฺปาสปิจุปิณฺฑํ ฉินฺทิตฺวา กูฏํ ¶ อธิกรณึ คณฺหตีติ, นิฆํโส พลวา โหติ, เอวเมว ปฏิฆฏฺฏนานิฆํโส พลวา โหติ. อิฏฺเ อารมฺมเณ สุขสหคตํ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, อนิฏฺเ ทุกฺขสหคตํ.
อิเมสํ ปน ปฺจนฺนํ จิตฺตานํ วตฺถุทฺวารารมฺมณานิ นิพทฺธาเนว โหนฺติ, วตฺถาทิสงฺกมนํ นาเมตฺถ นตฺถิ. กุสลวิปากจกฺขุวิฺาณฺหิ จกฺขุปสาทํ วตฺถุํ กตฺวา อิฏฺเ จ อิฏฺมชฺฌตฺเต จ จตุสมุฏฺานิกรูปารมฺมเณ ทสฺสนกิจฺจํ สาธยมานํ จกฺขุทฺวาเร ตฺวา วิปจฺจติ. โสตวิฺาณาทีนิ โสตปสาทาทีนิ วตฺถุํ กตฺวา อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺเตสุ สทฺทาทีสุ สวนฆายนสายนผุสนกิจฺจานิ สาธยมานานิ โสตทฺวาราทีสุ ตฺวา วิปจฺจนฺติ. สทฺโท ปเนตฺถ ทฺวิสมุฏฺานิโกเยว โหติ.
๔๕๕. มโนธาตุนิทฺเทเส สภาวสฺุตนิสฺสตฺตฏฺเน มโนเยว ธาตุ มโนธาตุ. สา จกฺขุวิฺาณาทีนํ อนนฺตรํ รูปาทิวิชานนลกฺขณา, รูปาทีนํ สมฺปฏิจฺฉนรสา, ตถาภาวปจฺจุปฏฺานา, จกฺขุวิฺาณาทิอปคมปทฏฺานา ¶ . อิธ ธมฺมุทฺเทเส ทฺวาทส ปทานิ โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน ¶ นว. เตสุ สตฺต อวิภตฺติกานิ ทฺเว สวิภตฺติกานิ. อธิโมกฺโข มนสิกาโรติ ทฺเว เยวาปนกา. วิตกฺกนิทฺเทโส อภินิโรปนํ ปาเปตฺวา ปิโต. ยสฺมา ปเนตํ จิตฺตํ เนว กุสลํ นากุสลํ, ตสฺมา สมฺมาสงฺกปฺโปติ วา มิจฺฉาสงฺกปฺโปติ วา น วุตฺตํ. สงฺคหวาเร ลพฺภมานมฺปิ ฌานงฺคํ ปฺจวิฺาณโสเต ปติตฺวา คตนฺติ. มคฺคงฺคํ ปน น ลพฺภติเยวาติ น อุทฺธฏํ. สฺุตวาโร ปากติโกเยว. อิมสฺส จิตฺตสฺส วตฺถุ นิพทฺธํ หทยวตฺถุเมว โหติ. ทฺวารารมฺมณานิ อนิพทฺธานิ. ตตฺถ กิฺจาปิ ทฺวารารมฺมณานิ สงฺกมนฺติ, านํ ปน เอกํ. สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจเมว เหตํ โหติ. อิทฺหิ ปฺจทฺวาเร ปฺจสุ อารมฺมเณสุ สมฺปฏิจฺฉนํ หุตฺวา วิปจฺจติ. กุสลวิปาเกสุ จกฺขุวิฺาณาทีสุ นิรุทฺเธสุ ตํสมนนฺตรา ตาเนว านปฺปตฺตานิ รูปารมฺมณาทีนิ สมฺปฏิจฺฉติ.
๔๖๙. มโนวิฺาณธาตุนิทฺเทเสสุ ปมมโนวิฺาณธาตุยํ ‘ปีติ’ปทํ อธิกํ. เวทนาปิ ‘โสมนสฺส’-เวทนา โหติ. อยฺหิ อิฏฺารมฺมณสฺมึเยว ปวตฺตติ. ทุติยมโนวิฺาณธาตุ อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ. ตสฺมา ตตฺถ ‘อุเปกฺขา’ เวทนา โหตีติ. ปทานิ มโนธาตุนิทฺเทสสทิสาเนว. อุภยตฺถาปิ ปฺจวิฺาณโสเต ปติตฺวา คตตฺตาเยว ฌานงฺคานิ น อุทฺธฏานิ. มคฺคงฺคานิ อลาภโตเยว. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ลกฺขณาทิโต ปเนสา ทุวิธาปิ มโนวิฺาณธาตุ ¶ อเหตุกวิปากา, ฉฬารมฺมณวิชานนลกฺขณา, สนฺตีรณาทิรสา, ตถาภาวปจฺจุปฏฺานา, หทยวตฺถุปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.
ตตฺถ ปมา ทฺวีสุ าเนสุ วิปจฺจติ. สา หิ ปฺจทฺวาเร กุสลวิปากจกฺขุวิฺาณาทิอนนฺตรํ, วิปากมโนธาตุยา ตํ อารมฺมณํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา นิรุทฺธาย, ตสฺมึ เยวารมฺมเณ สนฺตีรณกิจฺจํ สาธยมานา ปฺจสุ ทฺวาเรสุ ตฺวา วิปจฺจติ. ฉสุ ทฺวาเรสุ ปน พลวารมฺมเณ ¶ ตทารมฺมณา หุตฺวา วิปจฺจติ. กถํ? ยถา หิ จณฺฑโสเต, ติริยํ นาวาย คจฺฉนฺติยา, อุทกํ ฉิชฺชิตฺวา โถกํ านํ นาวํ อนุพนฺธิตฺวา ยถาโสตเมว คจฺฉติ, เอวเมว ฉสุ ทฺวาเรสุ พลวารมฺมเณ ปโลภยมาเน อาปาถคเต ชวนํ ชวติ. ตสฺมึ ชวิเต ภวงฺคสฺส วาโร. อิทํ ปน จิตฺตํ ภวงฺคสฺส วารํ อทตฺวา ชวเนน คหิตารมฺมณํ คเหตฺวา เอกํ ทฺเว จิตฺตวาเร ปวตฺติตฺวา ภวงฺคเมว ¶ โอตรติ. ควกฺขนฺเธ นทึ ตรนฺเตปิ เอวเมว อุปมา วิตฺถาเรตพฺพา. เอวเมสา ยํ ชวเนน คหิตารมฺมณํ ตสฺเสว คหิตตฺตา ตทารมฺมณํ นาม หุตฺวา วิปจฺจติ.
ทุติยา ปน ปฺจสุ าเนสุ วิปจฺจติ. กถํ? มนุสฺสโลเก ตาว ชจฺจนฺธชจฺจพธิรชจฺจเอฬชจฺจุมฺมตฺตกอุภโตพฺยฺชนกนปุํสกานํ ปฏิสนฺธิคฺคหณกาเล ปฏิสนฺธิ หุตฺวา วิปจฺจติ. ปฏิสนฺธิยา วีติวตฺตาย ยาวตายุกํ ภวงฺคํ หุตฺวา วิปจฺจติ. อิฏฺมชฺฌตฺเต ปฺจารมฺมณวีถิยา สนฺตีรณํ หุตฺวา, พลวารมฺมเณ ฉสุ ทฺวาเรสุ ตทารมฺมณํ หุตฺวา, มรณกาเล จุติ หุตฺวาติ อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ วิปจฺจตีติ.
มโนวิฺาณธาตุทฺวยํ นิฏฺิตํ.
อฏฺมหาวิปากจิตฺตวณฺณนา
๔๙๘. อิทานิ อฏฺมหาวิปากจิตฺตานิ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปาฬิยํ นยมตฺตํ ทสฺเสตฺวา สพฺพวารา สํขิตฺตา. เตสํ อตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. โย ปเนตฺถ วิเสโส ตํ ทสฺเสตุํ อโลโภ อพฺยากตมูลนฺติอาทิ วุตฺตํ. ยมฺปิ น วุตฺตํ ¶ ตํ เอวํ เวทิตพฺพํ – โย หิ กามาวจรกุสเลสุ กมฺมทฺวารกมฺมปถปฺุกิริยวตฺถุเภโท วุตฺโต โส อิธ นตฺถิ. กสฺมา? อวิฺตฺติชนกโต อวิปากธมฺมโต ตถา อปฺปวตฺติโต จ. ยาปิ ตา เยวาปนเกสุ ¶ กรุณามุทิตา วุตฺตา, ตา สตฺตารมฺมณตฺตา วิปาเกสุ น สนฺติ. เอกนฺตปริตฺตารมฺมณานิ หิ กามาวจรวิปากานิ. น เกวลฺจ กรุณามุทิตา, วิรติโยเปตฺถ น สนฺติ. ‘ปฺจ สิกฺขาปทานิ กุสลาเนวา’ติ (วิภ. ๗๑๕) หิ วุตฺตํ.
อสงฺขารสสงฺขารวิธานฺเจตฺถ กุสลโต เจว ปจฺจยเภทโต จ เวทิตพฺพํ. อสงฺขาริกสฺส หิ กุสลสฺส อสงฺขาริกเมว วิปากํ, สสงฺขาริกสฺส สสงฺขาริกํ. พลวปจฺจเยหิ จ อุปฺปนฺนํ อสงฺขาริกํ, อิตเรหิ อิตรํ. หีนาทิเภเทปิ อิมานิ หีนมชฺฌิมปณีเตหิ ฉนฺทาทีหิ อนิปฺผาทิตตฺตา หีนมชฺฌิมปณีตานิ นาม น โหนฺติ. หีนสฺส ปน กุสลสฺส วิปากํ หีนํ, มชฺฌิมสฺส ¶ มชฺฌิมํ, ปณีตสฺส ปณีตํ. อธิปติโน เปตฺถ น สนฺติ. กสฺมา? ฉนฺทาทีนิ ธุรํ กตฺวา อนุปฺปาเทตพฺพโต. เสสํ สพฺพํ อฏฺสุ กุสเลสุ วุตฺตสทิสเมว.
อิทานิ อิเมสํ อฏฺนฺนํ มหาวิปากจิตฺตานํ วิปจฺจนฏฺานํ เวทิตพฺพํ. เอตานิ หิ จตูสุ าเนสุ วิปจฺจนฺติ – ปฏิสนฺธิยํ, ภวงฺเค, จุติยํ, ตทารมฺมเณติ. กถํ? มนุสฺเสสุ ตาว กามาวจรเทเวสุ จ ปฺุวนฺตานํ ทุเหตุกติเหตุกานํ ปฏิสนฺธิคฺคหณกาเล ปฏิสนฺธิ หุตฺวา วิปจฺจนฺติ. ปฏิสนฺธิยา วีติวตฺตาย ปวตฺเต สฏฺิปิ อสีติปิ วสฺสานิ อสงฺขฺเยยฺยมฺปิ อายุกาลํ ภวงฺคํ หุตฺวา, พลวารมฺมเณ ฉสุ ทฺวาเรสุ ตทารมฺมณํ หุตฺวา, มรณกาเล จุติ หุตฺวาติ. เอวํ จตูสุ าเนสุ วิปจฺจนฺติ.
ตตฺถ สพฺเพปิ สพฺพฺุโพธิสตฺตา ปจฺฉิมปฏิสนฺธิคฺคหเณ ปเมน โสมนสฺสสหคตติเหตุกอสงฺขาริกมหาวิปากจิตฺเตน ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺติ. ตํ ปน เมตฺตาปุพฺพภาคจิตฺตสฺส วิปากํ โหติ. เตน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา อสงฺขฺเยยฺยํ อายุ. กาลวเสน ปน ปริณมติ. มหาสีวตฺเถโร ปนาห – ‘โสมนสฺสสหคตโต อุเปกฺขาสหคตํ พลวตรํ. เตน ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺติ. เตน คหิตปฏิสนฺธิกา หิ มหชฺฌาสยา โหนฺติ. ทิพฺเพสุปิ อารมฺมเณสุ อุปฺปิลาวิโน น โหนฺติ, ติปิฏกจูฬนาคตฺเถราทโย วิยา’ติ ¶ . อฏฺกถายํ ปน – ‘อยํ เถรสฺส มโนรโถ,’‘นตฺถิ เอต’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘สพฺพฺุโพธิสตฺตานํ หิตูปจาโร พลวา โหติ ¶ , ตสฺมา เมตฺตาปุพฺพภาคกามาวจรกุสลวิปากโสมนสฺสสหคตติเหตุกอสงฺขาริกจิตฺเตน ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺตี’ติ วุตฺตํ.
วิปากุทฺธารกถา
อิทานิ วิปากุทฺธารกถาย มาติกา เปตพฺพา – ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ตาว อาห – เอกาย กุสลเจตนาย โสฬส วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. เอตฺเถว ทฺวาทสกมคฺโคปิ อเหตุกฏฺกมฺปีติ. โมรวาปิวาสี มหาทตฺตตฺเถโร ปนาห – เอกาย กุสลเจตนาย ทฺวาทส วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. เอตฺเถว ทสกมคฺโคปิ อเหตุกฏฺกมฺปีติ. ติปิฏกมหาธมฺมรกฺขิตตฺเถโร อาห – เอกาย กุสลเจตนาย ทส วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, เอตฺเถว อเหตุกฏฺกนฺติ.
อิมสฺมึ ¶ าเน สาเกตปฺหํ นาม คณฺหึสุ. สาเกเต กิร อุปาสกา สาลายํ นิสีทิตฺวา ‘กึ นุ โข เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต เอกา ปฏิสนฺธิ โหติ อุทาหุ นานา’ติ? ปฺหํ นาม สมุฏฺาเปตฺวา นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺตา อาภิธมฺมิกตฺเถเร อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉึสุ. เถรา ‘ยถา เอกสฺมา อมฺพพีชา เอโกว องฺกุโร นิกฺขมติ, เอวํ เอกาว ปฏิสนฺธิ โหตี’ติ สฺาเปสุํ. อเถกทิวสํ ‘กึ นุ โข นานาเจตนาหิ กมฺเม อายูหิเต ปฏิสนฺธิโย นานา โหนฺติ อุทาหุ เอกา’ติ? ปฺหํ สมุฏฺาเปตฺวา นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺตา เถเร ปุจฺฉึสุ. เถรา ‘ยถา พหูสุ อมฺพพีเชสุ โรปิเตสุ พหู องฺกุรา นิกฺขมนฺติ, เอวํ พหุกาว ปฏิสนฺธิโย โหนฺตี’ติ สฺาเปสุํ.
อปรมฺปิ อิมสฺมึ าเน อุสฺสทกิตฺตนํ นาม คหิตํ. อิเมสฺหิ สตฺตานํ โลโภปิ อุสฺสนฺโน โหติ, โทโสปิ โมโหปิ; อโลโภปิ อโทโสปิ อโมโหปิ. ตํ เนสํ อุสฺสนฺนภาวํ โก นิยาเมตีติ? ปุพฺพเหตุ นิยาเมติ. กมฺมายูหนกฺขเณเยว นานตฺตํ โหติ. กถํ? ‘‘ยสฺส หิ กมฺมายูหนกฺขเณ โลโภ พลวา โหติ อโลโภ มนฺโท, อโทสาโมหา พลวนฺโต โทสโมหา มนฺทา, ตสฺส มนฺโท อโลโภ โลภํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ, อโทสาโมหา ปน พลวนฺโต โทสโมเห ¶ ปริยาทาตุํ สกฺโกนฺติ. ตสฺมา โส เตน กมฺเมน ทินฺนปฏิสนฺธิวเสน นิพฺพตฺโต ลุทฺโธ โหติ, สุขสีโล อกฺโกธโน, ปฺวา ปน โหติ วชิรูปมาโณ’’ติ.
‘ยสฺส ¶ ปน กมฺมายูหนกฺขเณ โลภโทสา พลวนฺโต โหนฺติ อโลภาโทสา มนฺทา, อโมโห พลวา โมโห มนฺโท, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทุฏฺโ จ, ปฺวา ปน โหติ วชิรูปมาโณ ทตฺตาภยตฺเถโร วิย.
‘ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ โลภาโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทนฺโธ จ, สุขสีลโก ปน โหติ อกฺโกธโน.
‘ตถา ยสฺส กมฺมายูหนกฺขเณ ตโยปิ โลภโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อโลภาทโย มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทุฏฺโ จ มูฬฺโห จ.
‘ยสฺส ¶ ปน กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อปฺปกิเลโส โหติ, ทิพฺพารมฺมณมฺปิ ทิสฺวา นิจฺจโล, ทุฏฺโ ปน โหติ ทนฺธปฺโ จาติ.
‘ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภาโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อลุทฺโธ เจว โหติ, สุขสีลโก จ, ทนฺโธ ปน โหติ.
‘ตถา ยสฺส กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภโทสาโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อลุทฺโธ เจว โหติ ปฺวา จ, ทุฏฺโ จ ปน โหติ โกธโน.
‘ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ ตโยปิ อโลภาทโย พลวนฺโต โหนฺติ โลภาทโย มนฺทา, โส มหาสงฺฆรกฺขิตตฺเถโร วิย อลุทฺโธ อทุฏฺโ ปฺวา จ โหตี’ติ.
อปรมฺปิ อิมสฺมึ าเน เหตุกิตฺตนํ นาม คหิตํ. ติเหตุกกมฺมฺหิ ติเหตุกมฺปิ ทุเหตุกมฺปิ อเหตุกมฺปิ วิปากํ เทติ. ทุเหตุกกมฺมํ ติเหตุกวิปากํ น เทติ, อิตรํ เทติ. ติเหตุกกมฺเมน ปฏิสนฺธิ ติเหตุกาปิ โหติ, ทุเหตุกาปิ; อเหตุกา น โหติ. ทุเหตุเกน ทุเหตุกาปิ โหติ อเหตุกาปิ; ติเหตุกา น โหติ. อสงฺขาริกํ กุสลํ อสงฺขาริกมฺปิ สสงฺขาริกมฺปิ ¶ วิปากํ เทติ. สสงฺขาริกํ ¶ สสงฺขาริกมฺปิ อสงฺขาริกมฺปิ วิปากํ เทติ. อารมฺมเณน เวทนา ปริวตฺเตตพฺพา. ชวเนน ตทารมฺมณํ นิยาเมตพฺพํ.
อิทานิ ตสฺส ตสฺส เถรสฺส วาเท โสฬสมคฺคาทโย เวทิตพฺพา. ปมกามาวจรกุสลสทิเสน หิ ปมมหาวิปากจิตฺเตน คหิตปฏิสนฺธิกสฺส คพฺภาวาสโต นิกฺขมิตฺวา สํวราสํวเร ปฏฺเปตุํ สมตฺถภาวํ อุปคตสฺส จกฺขุทฺวารสฺมึ ‘อิฏฺารมฺมเณ’ อาปาถมาคเต กิริยมโนธาตุยา ภวงฺเค อนาวฏฺฏิเตเยว อติกฺกมนอารมฺมณานํ ปมาณํ นตฺถิ. กสฺมา เอวํ โหติ? อารมฺมณทุพฺพลตาย. อยํ ตาว เอโก โมฆวาโร.
สเจ ปน ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ, กิริยมโนธาตุยา ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต, โวฏฺพฺพนํ อปาเปตฺวาว อนฺตรา, จกฺขุวิฺาเณ วา สมฺปฏิจฺฉเน วา สนฺตีรเณ ¶ วา ตฺวา นิวตฺติสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โวฏฺพฺพนวเสน ปน ตฺวา เอกํ วา ทฺเว วา จิตฺตานิ ปวตฺตนฺติ. ตโต อาเสวนํ ลภิตฺวา ชวนฏฺาเน ตฺวา ปุน ภวงฺคํ โอตรติ อิทมฺปิ อารมฺมณทุพฺพลตาย เอว โหติ. อยํ ปน วาโร ‘ทิฏฺํ วิย เม, สุตํ วิย เม’ติอาทีนิ วทนกาเล ลพฺภติ. อยมฺปิ ทุติโย โมฆวาโร.
อปรสฺส กิริยมโนธาตุยา ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต วีถิจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ชวนํ ชวติ. ชวนปริโยสาเน ปน ตทารมฺมณสฺส วาโร. ตสฺมึ อนุปฺปนฺเนเยว ภวงฺคํ โอตรติ. ตตฺรายํ อุปมา – ยถา หิ นทิยา อาวรณํ พนฺธิตฺวา มหามาติกาภิมุเข อุทเก กเต อุทกํ คนฺตฺวา อุโภสุ ตีเรสุ เกทาเร ปูเรตฺวา อติเรกํ กกฺกฏกมคฺคาทีหิ ปลายิตฺวา ปุน นทึเยว โอตรติ, เอวเมตํ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ หิ นทิยํ อุทกปฺปวตฺตนกาโล วิย ภวงฺควีถิปฺปวตฺตนกาโล ¶ . อาวรณพนฺธนกาโล วิย กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคสฺส อาวฏฺฏนกาโล. มหามาติกาย อุทกปฺปวตฺตนกาโล วิย วีถิจิตฺตปฺปวตฺติ. อุโภสุ ตีเรสุ เกทารปูรณํ วิย ชวนํ. กกฺกฏกมคฺคาทีหิ ปลายิตฺวา ปุน อุทกสฺส นทีโอตรณํ วิย ชวนํ ชวิตฺวา ตทารมฺมเณ อนุปฺปนฺเนเยว ปุน ภวงฺโคตรณํ. เอวํ ภวงฺคํ โอตรณจิตฺตานมฺปิ คณนปโถ นตฺถิ. อิทฺจาปิ อารมฺมณทุพฺพลตาย เอว โหติ. อยํ ตติโย โมฆวาโร.
สเจ ปน พลวารมฺมณํ อาปาถคตํ โหติ กิริยมโนธาตุยา ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต จกฺขุวิฺาณาทีนิ ¶ อุปฺปชฺชนฺติ. ชวนฏฺาเน ปน ปมกามาวจรกุสลจิตฺตํ ชวนํ หุตฺวา ฉสตฺตวาเร ชวิตฺวา ตทารมฺมณสฺส วารํ เทติ. ตทารมฺมณํ ปติฏฺหมานํ ตํสทิสเมว มหาวิปากจิตฺตํ ปติฏฺาติ. อิทํ ทฺเว นามานิ ลภติ – ปฏิสนฺธิจิตฺตสทิสตฺตา ‘มูลภวงฺค’นฺติ จ, ยํ ชวเนน คหิตํ อารมฺมณํ ตสฺส คหิตตฺตา ‘ตทารมฺมณ’นฺติ จ. อิมสฺมึ าเน จกฺขุวิฺาณํ สมฺปฏิจฺฉนํ สนฺตีรณํ ตทารมฺมณนฺติ จตฺตาริ วิปากจิตฺตานิ คณนูปคานิ โหนฺติ.
ยทา ปน ทุติยกุสลจิตฺตํ ชวนํ โหติ, ตทา ตํสทิสํ ทุติยวิปากจิตฺตเมว ตทารมฺมณํ หุตฺวา ปติฏฺาติ. อิทฺจ ทฺเว นามานิ ลภติ ¶ . ปฏิสนฺธิจิตฺเตน อสทิสตฺตา ‘อาคนฺตุกภวงฺค’นฺติ จ ปุริมนเยเนว ‘ตทารมฺมณ’นฺติ จ. อิมินา สทฺธึ ปุริมานิ จตฺตาริ ปฺจ โหนฺติ.
ยทา ปน ตติยกุสลจิตฺตํ ชวนํ โหติ, ตทา ตํสทิสํ ตติยวิปากจิตฺตํ ตทารมฺมณํ หุตฺวา ปติฏฺาติ. อิทมฺปิ วุตฺตนเยเนว ‘อาคนฺตุกภวงฺคํ’‘ตทารมฺมณ’นฺติ จ ทฺเว นามานิ ลภติ. อิมินา สทฺธึ ปุริมานิ ปฺจ ฉ โหนฺติ.
ยทา ปน จตุตฺถกุสลจิตฺตํ ชวนํ โหติ, ตทา ตํสทิสํ จตุตฺถวิปากจิตฺตํ ตทารมฺมณํ หุตฺวา ปติฏฺาติ. อิทมฺปิ วุตฺตนเยเนว ‘อาคนฺตุกภวงฺคํ’‘ตทารมฺมณ’นฺติ ¶ จ ทฺเว นามานิ ลภติ. อิมินา สทฺธึ ปุริมานิ ฉ สตฺต โหนฺติ.
ยทา ปน ตสฺมึ ทฺวาเร ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณํ’ อาปาถมาคจฺฉติ, ตตฺราปิ วุตฺตนเยเนว ตโย โมฆวารา ลพฺภนฺติ. ยสฺมา ปน อารมฺมเณน เวทนา ปริวตฺตติ ตสฺมา ตตฺถ อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ. จตุนฺนฺจ อุเปกฺขาสหคตมหากุสลชวนานํ ปริโยสาเน จตฺตาริ อุเปกฺขาสหคตมหาวิปากจิตฺตาเนว ตทารมฺมณภาเวน ปติฏฺหนฺติ. ตานิปิ วุตฺตนเยเนว ‘อาคนฺตุกภวงฺคํ’‘ตทารมฺมณ’นฺติ จ ทฺเว นามานิ ลภนฺติ. ‘ปิฏฺิภวงฺคานี’ติปิ วุจฺจนฺติ เอว. อิติ อิมานิ ปฺจ ปุริเมหิ สตฺตหิ สทฺธึ ทฺวาทส โหนฺติ. เอวํ จกฺขุทฺวาเร ทฺวาทส, โสตทฺวาราทีสุ ทฺวาทส ทฺวาทสาติ, สมสฏฺิ โหนฺติ. เอวํ เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต สมสฏฺิ ¶ วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน จกฺขุทฺวาเร ทฺวาทส, โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ จตฺตารีติ โสฬส โหนฺติ.
อิมสฺมึ าเน อมฺโพปมํ นาม คณฺหึสุ – เอโก กิร ปุริโส ผลิตมฺพรุกฺขมูเล สสีสํ ปารุปิตฺวา นิปนฺโน นิทฺทายติ. อเถกํ อมฺพปกฺกํ วณฺฏโต มุจฺจิตฺวา ตสฺส กณฺณสกฺขลึ ปฺุฉมานํ วิย ‘ถ’นฺติ ภูมิยํ ปติ. โส ตสฺส สทฺเทน ปพุชฺฌิตฺวา อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกสิ. ตโต หตฺถํ ปสาเรตฺวา ผลํ คเหตฺวา มทฺทิตฺวา อุปสิงฺฆิตฺวา ปริภฺุชิ.
ตตฺถ, ตสฺส ปุริสสฺส อมฺพรุกฺขมูเล นิทฺทายนกาโล วิย ภวงฺคสมงฺคิกาโล. อมฺพปกฺกสฺส วณฺฏโต มุจฺจิตฺวา กณฺณสกฺขลึ ปฺุฉมานสฺส ปตนกาโล วิย อารมฺมณสฺส ปสาทฆฏฺฏนกาโล. เตน สทฺเทน ปพุทฺธกาโล ¶ วิย กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคสฺส อาวฏฺฏิตกาโล. อุมฺมีเลตฺวา โอโลกิตกาโล วิย จกฺขุวิฺาณสฺส ทสฺสนกิจฺจสาธนกาโล. หตฺถํ ปสาเรตฺวา คหิตกาโล วิย วิปากมโนธาตุยา อารมฺมณสฺส สมฺปฏิจฺฉิตกาโล. คเหตฺวา มทฺทิตกาโล วิย วิปากมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสฺส สนฺตีรณกาโล. อุปสิงฺฆิตกาโล วิย กิริยมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสฺส ววตฺถาปิตกาโล ¶ . ปริภุตฺตกาโล วิย ชวนสฺส อารมฺมณรสํ อนุภวิตกาโล. อยํ อุปมา กึ ทีเปติ? อารมฺมณสฺส ปสาทฆฏฺฏนเมว กิจฺจํ. เตน ปสาเท ฆฏฺฏิเต กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคาวฏฺฏนเมว, จกฺขุวิฺาณสฺส ทสฺสนมตฺตกเมว, วิปากมโนธาตุยา อารมฺมณสมฺปฏิจฺฉนมตฺตกเมว, วิปากมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสนฺตีรณมตฺตกเมว, กิริยมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณววตฺถาปนมตฺตกเมว กิจฺจํ. เอกนฺเตน ปน อารมฺมณรสํ ชวนเมว อนุภวตีติ ทีเปติ.
เอตฺถ จ ‘ตฺวํ ภวงฺคํ นาม โหหิ, ตฺวํ อาวชฺชนํ นาม, ตฺวํ ทสฺสนํ นาม, ตฺวํ สมฺปฏิจฺฉนํ นาม, ตฺวํ สนฺตีรณํ นาม, ตฺวํ โวฏฺพฺพนํ นาม, ตฺวํ ชวนํ นาม, โหหี’ติ โกจิ กตฺตา วา กาเรตา วา นตฺถิ.
อิมสฺมึ ปน าเน ปฺจวิธํ นิยามํ นาม คณฺหึสุ – พีชนิยามํ อุตุนิยามํ กมฺมนิยามํ ธมฺมนิยามํ จิตฺตนิยามนฺติ. ตตฺถ กุลตฺถคจฺฉสฺส อุตฺตรคฺคภาโว, ทกฺขิณวลฺลิยา ทกฺขิณโต ¶ รุกฺขปริหรณํ, สูริยาวฏฺฏปุปฺผานํ สูริยาภิมุขภาโว, มาลุวลตาย รุกฺขาภิมุขคมนเมว, นาฬิเกรสฺส มตฺถเก ฉิทฺทสพฺภาโวติ เตสํ เตสํ พีชานํ ตํตํสทิสผลทานํ พีชนิยาโม นาม. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย เตสํ เตสํ รุกฺขานํ เอกปฺปหาเรเนว ปุปฺผผลปลฺลวคฺคหณํ อุตุนิยาโม นาม. ติเหตุกกมฺมํ ติเหตุกทุเหตุกาเหตุกวิปากํ เทติ. ทุเหตุกกมฺมํ ทุเหตุกาเหตุกวิปากํ เทติ, ติเหตุกํ น เทตีติ, เอวํ ตสฺส ตสฺส กมฺมสฺส ตํตํสทิสวิปากทานเมว กมฺมนิยาโม นาม.
อปโรปิ กมฺมสริกฺขกวิปากวเสเนว กมฺมนิยาโม โหติ. ตสฺส ทีปนตฺถมิทํ วตฺถุํ กเถนฺติ – สมฺมาสมฺพุทฺธกาเล สาวตฺถิยา ทฺวารคาโม ฌายิ ¶ . ตโต ปชฺชลิตํ ติณกรฬํ อุฏฺหิตฺวา อากาเสน คจฺฉโต กากสฺส คีวาย ปฏิมฺุจิ. โส วิรวนฺโต ภูมิยํ ปติตฺวา กาลมกาสิ. มหาสมุทฺเทปิ ¶ เอกา นาวา นิจฺจลา อฏฺาสิ. เหฏฺา เกนจิ นิรุทฺธภาวํ อปสฺสนฺตา กาฬกณฺณิสลากํ วิจาเรสุํ. สา นาวิกสฺเสว อุปาสิกาย หตฺเถ ปติ. ตโต เอกิสฺสา การณา มา สพฺเพ นสฺสนฺตุ, อุทเก นํ ขิปามาติ อาหํสุ. นาวิโก ‘น สกฺขิสฺสามิ เอตํ อุทเก อุปฺปิลวมานํ ปสฺสิตุ’นฺติ วาลิกาฆฏํ คีวายํ พนฺธาเปตฺวา ขิปาเปสิ. ตงฺขณฺเว นาวา ขิตฺตสโร วิย ปกฺขนฺทิ. เอโก ภิกฺขุ เลเณ วสติ. มหนฺตํ ปพฺพตกูฏํ ปติตฺวา ทฺวารํ ปิทหิ. ตํ สตฺตเม ทิวเส สยเมว อปคตํ. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เชตวเน นิสีทิตฺวา ธมฺมํ กเถนฺตสฺส อิมานิ ตีณิ วตฺถูนิ เอกปฺปหาเรเนว อาโรเจสุํ. สตฺถา ‘น เอตํ อฺเหิ กตํ, เตหิ กตกมฺมเมว ต’นฺติ อตีตํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห –
กาโก ปุริมตฺตภาเว มนุสฺโส หุตฺวา เอกํ ทุฏฺโคณํ ทเมตุํ อสกฺโกนฺโต คีวาย ปลาลเวณึ พนฺธิตฺวา อคฺคึ อทาสิ. โคโณ เตเนว มโต. อิทานิ ตํ กมฺมํ เอตสฺส อากาเสน คจฺฉโตปิ น มุจฺจิตุํ อทาสิ. สาปิ อิตฺถี ปุริมตฺตภาเว เอกา อิตฺถีเยว. เอโก กุกฺกุโร ตาย ปริจิโต หุตฺวา อรฺํ คจฺฉนฺติยา สทฺธึ คจฺฉติ, สทฺธิเมวาคจฺฉติ. มนุสฺสา ‘นิกฺขนฺโต อิทานิ อมฺหากํ สุนขลุทฺทโก’ติ อุปฺปณฺเฑนฺติ. สา เตน อฏฺฏียมานา กุกฺกุรํ นิวาเรตุํ อสกฺโกนฺตี วาลิกาฆฏํ คีวาย พนฺธิตฺวา อุทเก ขิปิ. ตํ กมฺมํ ตสฺสา สมุทฺทมชฺเฌ มุจฺจิตุํ นาทาสิ. โสปิ ภิกฺขุ ปุริมตฺตภาเว โคปาลโก หุตฺวา พิลํ ปวิฏฺาย โคธาย สาขาภงฺคมุฏฺิยา ทฺวารํ ถเกสิ. ตโต สตฺตเม ทิวเส สยํ อาคนฺตฺวา วิวริ. โคธา กมฺปมานา ¶ นิกฺขมิ. กรุณาย ตํ น มาเรสิ. ตํ กมฺมํ ตสฺส ปพฺพตนฺตรํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนสฺส มุจฺจิตุํ นาทาสีติ. อิมานิ ตีณิ วตฺถูนิ สโมธาเนตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘น อนฺตลิกฺเข น สมุทฺทมชฺเฌ,
น ¶ ปพฺพตานํ วิวรํ ปวิสฺส;
น วิชฺชเต โส ชคติปฺปเทโส,
ยตฺถฏฺิโต มุจฺเจยฺย ปาปกมฺมา’’ติ. (ธ. ป. ๑๒๗);
อยมฺปิ ¶ กมฺมนิยาโมเยว นาม. อฺานิปิ เอวรูปานิ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิ.
โพธิสตฺตานํ ปน ปฏิสนฺธิคฺคหเณ, มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมเน, อภิสมฺโพธิยํ ตถาคตสฺส ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน, อายุสงฺขารสฺส โอสฺสชฺชเน, ปรินิพฺพาเน จ ทสสหสฺสจกฺกวาฬกมฺปนํ ธมฺมนิยาโม นาม.
อารมฺมเณน ปน ปสาเท ฆฏฺฏิเต ‘ตฺวํ อาวชฺชนํ นาม โหหิ…เป… ตฺวํ ชวนํ นาม โหหี’ติ โกจิ กตฺตา วา กาเรตา วา นตฺถิ, อตฺตโน อตฺตโน ปน ธมฺมตาย เอว อารมฺมเณน ปสาทสฺส ฆฏฺฏิตกาลโต ปฏฺาย กิริยมโนธาตุจิตฺตํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ, จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ สาเธติ, วิปากมโนธาตุ สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ สาเธติ, วิปากมโนวิฺาณธาตุ สนฺตีรณกิจฺจํ สาเธติ, กิริยมโนวิฺาณธาตุ โวฏฺพฺพนกิจฺจํ สาเธติ, ชวนํ อารมฺมณรสํ อนุภวตีติ อยํ จิตฺตนิยาโม นาม. อยํ อิธ อธิปฺเปโต.
สสงฺขาริกติเหตุกกุสเลนาปิ อุเปกฺขาสหคเตหิ อสงฺขาริกสสงฺขาริกกุสลจิตฺเตหิปิ กมฺเม อายูหิเต ตํสทิสวิปากจิตฺเตหิ อาทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา เอเสว นโย. อุเปกฺขาสหคตทฺวเย ปน ปมํ ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณวเสน’ ปวตฺตึ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉา ‘อิฏฺารมฺมณวเสน’ ทสฺเสตพฺพา.
เอวมฺปิ เอเกกสฺมึ ทฺวาเร ทฺวาทส ทฺวาทส หุตฺวา สมสฏฺิ โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน โสฬส วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ.
อิมสฺมึ ¶ าเน ปฺจอุจฺฉุนาฬิยนฺโตปมํ นาม คณฺหึสุ. อุจฺฉุปีฬนสมเย กิร เอกสฺมา คามา เอกาทส ยนฺตวาหา นิกฺขมิตฺวา เอกํ อุจฺฉุวาฏํ ทิสฺวา ตสฺส ปริปกฺกภาวํ ตฺวา อุจฺฉุสามิกํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘ยนฺตวาหา ¶ มย’นฺติ อาโรเจสุํ. โส ‘อหํ ตุมฺเหเยว ปริเยสามี’ติ อุจฺฉุสาลํ เต คเหตฺวา อคมาสิ. เต ตตฺถ นาฬิยนฺตํ สชฺเชตฺวา ‘มยํ เอกาทส ชนา, อปรมฺปิ เอกํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, เวตเนน คณฺหถา’ติ อาหํสุ. อุจฺฉุสามิโก ‘อหเมว สหาโย ภวิสฺสามี’ติ อุจฺฉูนํ สาลํ ปูราเปตฺวา เตสํ สหาโย อโหสิ. เต อตฺตโน อตฺตโน กิจฺจานิ กตฺวา, ผาณิตปาจเกน ¶ อุจฺฉุรเส ปกฺเก, คุฬพนฺธเกน พทฺเธ, อุจฺฉุสามิเกน ตุลยิตฺวา ภาเคสุ ทินฺเนสุ, อตฺตโน อตฺตโน ภาคํ อาทาย อุจฺฉุสาลํ สามิกสฺส ปฏิจฺฉาเปตฺวา, เอเตเนว อุปาเยน อปราสุปิ จตูสุ สาลาสุ กมฺมํ กตฺวา ปกฺกมึสุ.
ตตฺถ ปฺจ ยนฺตสาลา วิย ปฺจ ปสาทา ทฏฺพฺพา. ปฺจ อุจฺฉุวาฏา วิย ปฺจ อารมฺมณานิ. เอกาทส วิจรณกยนฺตวาหา วิย เอกาทส วิปากจิตฺตานิ. ปฺจ อุจฺฉุสาลาสามิโน วิย ปฺจวิฺาณานิ. ปมกสาลายํ สามิเกน สทฺธึ ทฺวาทสนฺนํ ชนานํ เอกโตว หุตฺวา กตกมฺมานํ ภาคคฺคหณกาโล วิย เอกาทสนฺนํ วิปากจิตฺตานํ จกฺขุวิฺาเณน สทฺธึ เอกโต หุตฺวา จกฺขุทฺวาเร รูปารมฺมเณ สกสกกิจฺจกรณกาโล. สาลาสามิกสฺส สาลาย สมฺปฏิจฺฉนกาโล วิย จกฺขุวิฺาณสฺส ทฺวารสงฺกนฺติอกรณํ. ทุติย ตติย จตุตฺถ ปฺจมสาลาย ทฺวาทสนฺนํ เอกโต หุตฺวา กตกมฺมานํ ภาคคฺคหณกาโล วิย เอกาทสนฺนํ วิปากจิตฺตานํ กายวิฺาเณน สทฺธึ เอกโต หุตฺวา กายทฺวาเร โผฏฺพฺพารมฺมเณ สกสกกิจฺจกรณกาโล. สาลาสามิกสฺส สาลาย สมฺปฏิจฺฉนกาโล วิย กายวิฺาณสฺส ทฺวารสงฺกนฺติอกรณํ เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตา ติเหตุกกมฺเมน ปฏิสนฺธิ ติเหตุกา โหตีติ วาโร กถิโต. ยา ปน เตน ทุเหตุกปฏิสนฺธิ โหติ, สา ปฏิจฺฉนฺนาว หุตฺวา คตา.
อิทานิ ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิ โหตีติ วาโร กเถตพฺโพ. ทุเหตุเกน หิ โสมนสฺสสหคตอสงฺขาริกจิตฺเตน กมฺเม อายูหิเต ตํสทิเสเนว ทุเหตุกวิปากจิตฺเตน คหิตปฏิสนฺธิกสฺส วุตฺตนเยเนว จกฺขุทฺวาเร ¶ ‘อิฏฺารมฺมเณ’ อาปาถมาคเต ตโย โมฆวารา. ทุเหตุกโสมนสฺสสหคตอสงฺขาริกชวนาวสาเน ตํสทิสเมว มูลภวงฺคสงฺขาตํ ตทารมฺมณํ. สสงฺขาริกชวนาวสาเน ตํสทิสเมว อาคนฺตุกภวงฺคสงฺขาตํ ตทารมฺมณํ. ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ’ ทฺวินฺนํ อุเปกฺขาสหคตชวนานํ อวสาเน ตาทิสาเนว ทฺเว ตทารมฺมณานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อิธ เอเกกสฺมึ ¶ ทฺวาเร อฏฺ อฏฺ กตฺวา สมจตฺตาลีส จิตฺตานิ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน จกฺขุทฺวาเร อฏฺ, โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ จตฺตารีติ ทฺวาทส โหนฺติ. เอวํ เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต ทฺวาทส ¶ วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อมฺโพปมปฺจนิยามกถา ปากติกา เอว. ทุเหตุกเสสจิตฺตตฺตยสทิสวิปาเกน คหิตปฏิสนฺธิเกปิ เอเสว นโย. ยนฺตวาโหปมาย ปเนตฺถ สตฺต ยนฺตวาหา. เตหิ ตตฺถ ยนฺเต นาม สชฺชิเต สาลาสามิกํ อฏฺมํ กตฺวา วุตฺตนยานุสาเรน โยชนา เวทิตพฺพา. เอตฺตาวตา ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกปฏิสนฺธิ โหตีติ วาโร กถิโต.
อิทานิ อเหตุกปฏิสนฺธิกถา โหติ – จตุนฺนฺหิ ทุเหตุกกุสลจิตฺตานํ อฺตเรน กมฺเม อายูหิเต กุสลวิปากอุเปกฺขาสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตุจิตฺเตน คหิตปฏิสนฺธิกสฺส ปฏิสนฺธิ กมฺมสทิสาติ น วตฺตพฺพา. กมฺมฺหิ ทุเหตุกํ ปฏิสนฺธิ อเหตุกา. ตสฺส วุฑฺฒิปฺปตฺตสฺส จกฺขุทฺวาเร ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ’ อาปาถมาคเต ปุริมนเยเนว ตโย โมฆวารา เวทิตพฺพา. จตุนฺนํ ปน ทุเหตุกกุสลจิตฺตานํ อฺตรชวนสฺส ปริโยสาเน อเหตุกจิตฺตํ ตทารมฺมณภาเวน ปติฏฺาติ. ตํ ‘มูลภวงฺคํ’‘ตทารมฺมณ’นฺติ ทฺเว นามานิ ลภติ. เอวเมตฺถ จกฺขุวิฺาณํ สมฺปฏิจฺฉนํ อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ ตทารมฺมณมฺปิ อุเปกฺขาสหคตเมวาติ เตสุ เอกํ คเหตฺวา คณนูปคานิ ตีเณว โหนฺติ.
‘อิฏฺารมฺมเณ’ ปน สนฺตีรณมฺปิ ตทารมฺมณมฺปิ โสมนสฺสสหคตเมว. เตสุ เอกํ คเหตฺวา ปุริมานิ ตีณิ จตฺตาริ โหนฺติ. เอวํ ปฺจสุ ทฺวาเรสุ จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต วีสติ วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ ¶ เวทิตพฺพานิ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน จกฺขุทฺวาเร จตฺตาริ โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ จตฺตารีติ อฏฺ โหนฺติ. อิทํ ‘อเหตุกฏฺกํ’ นาม. อิทํ มนุสฺสโลเกน คหิตํ.
จตูสุ ปน อปาเยสุ ปวตฺเต ลพฺภติ. ยทา หิ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร นิรเย ปทุมํ มาเปตฺวา ปทุมกณฺณิกาย นิสินฺโน เนรยิกานํ ธมฺมกถํ กเถสิ, ตทา เตสํ เถรํ ปสฺสนฺตานํ กุสลวิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ. สทฺทํ สุณนฺตานํ โสตวิฺาณํ, จนฺทนวเน ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา คตสฺส จีวรคนฺธฆายนกาเล ฆานวิฺาณํ, นิรยคฺคึ นิพฺพาเปตุํ เทวํ วสฺสาเปตฺวา ปานียทานกาเล ชิวฺหาวิฺาณํ, มนฺทมนฺทวาตสมุฏฺาปนกาเล กายวิฺาณนฺติ เอวํ จกฺขุวิฺาณาทีนิ ปฺจ ¶ , เอกํ สมฺปฏิจฺฉนํ, ทฺเว สนฺตีรณานีติ อเหตุกฏฺกํ ลพฺภติ ¶ . นาคสุปณฺณเวมานิกเปตานมฺปิ อกุสเลน ปฏิสนฺธิ โหติ. ปวตฺเต กุสลํ วิปจฺจติ. ตถา จกฺกวตฺติโน มงฺคลหตฺถิอสฺสาทีนํ. อยํ ตาว ‘อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณสุ’ กุสลชวนวเสน กถามคฺโค.
‘อิฏฺารมฺมเณ’ ปน จตูสุ โสมนสฺสสหคตากุสลจิตฺเตสุ ชวิเตสุ กุสลวิปากํ โสมนสฺสสหคตาเหตุกจิตฺตํ ตทารมฺมณํ โหติ. ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ’ จตูสุ อุเปกฺขาสหคตโลภสมฺปยุตฺเตสุ ชวิเตสุ กุสลวิปากํ อุเปกฺขาสหคตาเหตุกจิตฺตํ ตทารมฺมณํ โหติ. ยํ ปน ‘ชวเนน ตทารมฺมณํ นิยเมตพฺพ’นฺติ วุตฺตํ ตํ กุสลํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. โทมนสฺสสหคตชวนานนฺตรํ ตทารมฺมณํ อุปฺปชฺชมานํ กึ อุปฺปชฺชตีติ? อกุสลวิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ.
อิทํ ปน ชวนํ กุสลตฺถาย วา อกุสลตฺถาย วา โก นิยาเมตีติ? อาวชฺชนฺเจว โวฏฺพฺพนฺจ. อาวชฺชเนน หิ โยนิโส อาวฏฺฏิเต โวฏฺพฺพเนน โยนิโส ววตฺถาปิเต ชวนํ อกุสลํ ภวิสฺสตีติ อฏฺานเมตํ. อาวชฺชเนน ¶ อโยนิโส อาวฏฺฏิเต โวฏฺพฺพเนน อโยนิโส ววตฺถาปิเต ชวนํ กุสลํ ภวิสฺสตีติปิ อฏฺานเมตํ. อุภเยน ปน โยนิโส อาวฏฺฏิเต ววตฺถาปิเต จ ชวนํ กุสลํ โหติ, อโยนิโส อกุสลนฺติ เวทิตพฺพํ.
‘อิฏฺารมฺมเณ’ ปน กงฺขโต อุทฺธตสฺส จ ตทารมฺมณํ กึ โหตีติ? อิฏฺารมฺมณสฺมึ กงฺขตุ วา มา วา, อุทฺธโต วา โหตุ มา วา, กุสลวิปากาเหตุกโสมนสฺสจิตฺตเมว ตทารมฺมณํ โหติ, ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ’ ‘กุสลวิปากาเหตุกอุเปกฺขาสหคต’นฺติ, อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปโต อตฺถทีปโน มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรวาโท นาม. โสมนสฺสสหคตสฺมิฺหิ ชวเน ชวิเต ปฺจ ตทารมฺมณานิ คเวสิตพฺพานีติ. อุเปกฺขาสหคตสฺมึ ชวเน ชวิเต ฉ คเวสิตพฺพานีติ.
อถ ยทา โสมนสฺสสหคตปฏิสนฺธิกสฺส ปวตฺเต ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปมาเทน ปริหีนชฺฌานสฺส ‘ปณีตธมฺโม เม นฏฺโ’ติ ปจฺจเวกฺขโต วิปฺปฏิสารวเสน ¶ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตทา กึ อุปฺปชฺชติ? ‘โสมนสฺสานนฺตรฺหิ โทมนสฺสํ โทมนสฺสานนฺตรฺจ โสมนสฺสํ’ ปฏฺาเน ปฏิสิทฺธํ. มหคฺคตธมฺมํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณมฺปิ ตตฺเถว ปฏิสิทฺธนฺติ? กุสลวิปากา วา อกุสลวิปากา วา อุเปกฺขาสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ อุปฺปชฺชติ ¶ , กิมสฺสา อาวชฺชนนฺติ? ‘ภวงฺคาวชฺชนานํ วิย นตฺถสฺสา อาวชฺชนกิจฺจ’นฺติ. ‘เอตานิ ตาว อตฺตโน นินฺนตฺตา จ จิณฺณตฺตา จ สมุทาจารตฺตา จ อุปฺปชฺชนฺตุ, อยํ กถํ อุปฺปชฺชตี’ติ? ‘ยถา นิโรธสฺส อนนฺตรปจฺจยํ เนวสฺานาสฺายตนํ, นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส ผลสมาปตฺติจิตฺตํ, อริยมคฺคจิตฺตํ, มคฺคานนฺตรานิ ผลจิตฺตานิ, เอวํ อสนฺเตปิ อาวชฺชเน, นินฺนจิณฺณสมุทาจารภาเวน อุปฺปชฺชติ. วินา หิ อาวชฺชเนน จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, อารมฺมเณน ปน วินา นุปฺปชฺชตี’ติ. ‘อถ กิมสฺสารมฺมณ’นฺติ? ‘รูปาทีสุ ปริตฺตธมฺเมสุ อฺตรํ. เอเตสุ หิ ยเทว ตสฺมึ สมเย อาปาถมาคตํ โหติ, ตํ อารพฺภ เอตํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’ติ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ สพฺเพสมฺปิ ¶ เอเตสํ จิตฺตานํ ปากฏภาวตฺถํ อยํ ปกิณฺณกนโย วุตฺโต –
สุตฺตํ โทวาริโก จ, คามิลฺโล อมฺโพ โกลิยเกน จ;
ชจฺจนฺโธ ปีสปฺปี จ, วิสยคฺคาโห จ อุปนิสฺสยมตฺถโสติ.
ตตฺถ ‘สุตฺต’นฺติ, เอโก ปนฺถมกฺกฏโก ปฺจสุ ทิสาสุ สุตฺตํ ปสาเรตฺวา ชาลํ กตฺวา มชฺเฌ นิปชฺชติ. ปมทิสาย ปสาริตสุตฺเต ปาณเกน วา ปฏงฺเคน วา มกฺขิกาย วา ปหเฏ นิปนฺนฏฺานโต จลิตฺวา นิกฺขมิตฺวา สุตฺตานุสาเรน คนฺตฺวา ตสฺส ยูสํ ปิวิตฺวา ปุนอาคนฺตฺวา ตตฺเถว นิปชฺชติ. ทุติยทิสาทีสุ ปหฏกาเลปิ เอวเมว กโรติ.
ตตฺถ ปฺจสุ ทิสาสุ ปสาริตสุตฺตํ วิย ปฺจปสาทา. มชฺเฌ นิปนฺนมกฺกฏโก วิย จิตฺตํ. ปาณกาทีหิ สุตฺตฆฏฺฏนกาโล วิย อารมฺมเณน ปสาทสฺส ฆฏฺฏิตกาโล. มชฺเฌ นิปนฺนมกฺกฏกสฺส จลนํ วิย ปสาทฆฏฺฏนกํ อารมฺมณํ คเหตฺวา กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคสฺส อาวฏฺฏิตกาโล. สุตฺตานุสาเรน คมนกาโล วิย วีถิจิตฺตปฺปวตฺติ. สีเส วิชฺฌิตฺวา ¶ ยูสปิวนํ วิย ชวนสฺส อารมฺมเณ ชวิตกาโล. ปุนอาคนฺตฺวา มชฺเฌ นิปชฺชนํ วิย จิตฺตสฺส หทยวตฺถุเมว นิสฺสาย ปวตฺตนํ.
อิทํ โอปมฺมํ กึ ทีเปติ? อารมฺมเณน ปสาเท ฆฏฺฏิเต ปสาทวตฺถุกจิตฺตโต หทยรูปวตฺถุกจิตฺตํ ปมตรํ อุปฺปชฺชตีติ ทีเปติ. เอเกกํ อารมฺมณํ ทฺวีสุ ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ อาปาถมาคจฺฉตีติปิ.
‘โทวาริโก’ติ ¶ , เอโก ราชา สยนคโต นิทฺทายติ. ตสฺส ปริจารโก ปาเท ปริมชฺชนฺโต นิสีทิ. พธิรโทวาริโก ทฺวาเร ิโต. ตโย ปฏิหารา ปฏิปาฏิยา ิตา. อเถโก ปจฺจนฺตวาสี มนุสฺโส ปณฺณาการํ อาทาย อาคนฺตฺวา ทฺวารํ อาโกเฏสิ. พธิรโทวาริโก สทฺทํ น สุณาติ. ปาทปริมชฺชโก สฺํ อทาสิ. ตาย สฺาย ทฺวารํ วิวริตฺวา ปสฺสิ. ปมปฏิหาโร ปณฺณาการํ คเหตฺวา ทุติยสฺส อทาสิ, ทุติโย ตติยสฺส, ตติโย รฺโ. ราชา ปริภฺุชิ.
ตตฺถ ¶ โส ราชา วิย ชวนํ ทฏฺพฺพํ. ปาทปริมชฺชโก วิย อาวชฺชนํ. พธิรโทวาริโก วิย จกฺขุวิฺาณํ. ตโย ปฏิหารา วิย สมฺปฏิจฺฉนาทีนิ ตีณิ วีถิจิตฺตานิ. ปจฺจนฺตวาสิโน ปณฺณาการํ อาทาย อาคนฺตฺวา ทฺวาราโกฏนํ วิย อารมฺมณสฺส ปสาทฆฏฺฏนํ. ปาทปริมชฺชเกน สฺาย ทินฺนกาโล วิย กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคสฺส อาวฏฺฏิตกาโล. เตน ทินฺนสฺาย พธิรโทวาริกสฺส ทฺวารวิวรณกาโล วิย จกฺขุวิฺาณสฺส อารมฺมเณ ทสฺสนกิจฺจสาธนกาโล. ปมปฏิหาเรน ปณฺณาการสฺส คหิตกาโล วิย วิปากมโนธาตุยา อารมฺมณสฺส สมฺปฏิจฺฉิตกาโล. ปเมน ทุติยสฺส ทินฺนกาโล วิย วิปากมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสฺส สนฺตีรณกาโล. ทุติเยน ตติยสฺส ทินฺนกาโล วิย กิริยมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสฺส ววตฺถาปิตกาโล. ตติเยน รฺโ ทินฺนกาโล วิย โวฏฺพฺพเนน ชวนสฺส นิยฺยาทิตกาโล. รฺโ ปริโภคกาโล วิย ชวนสฺส อารมฺมณรสานุภวนกาโล.
อิทํ โอปมฺมํ กึ ทีเปติ? อารมฺมณสฺส ปสาทฆฏฺฏมตฺตนเมว กิจฺจํ, กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคาวฏฺฏนมตฺตเมว, จกฺขุวิฺาณาทีนํ ทสฺสนสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณววตฺถาปนมตฺตาเนว กิจฺจานิ. เอกนฺเตน ปน ชวนเมว อารมฺมณรสํ อนุโภตีติ ทีเปติ.
‘คามิลฺโล’ติ ¶ , สมฺพหุลา คามทารกา อนฺตรวีถิยํ ปํสุกีฬํ กีฬนฺติ. ตตฺเถกสฺส หตฺเถ กหาปโณ ปฏิหฺิ. โส ‘มยฺหํ หตฺเถ ปฏิหตํ, กึ นุ โข เอต’นฺติ อาห. อเถโก ‘ปณฺฑรํ เอต’นฺติ อาห. อปโร สห ปํสุนา คาฬฺหํ คณฺหิ. อฺโ ‘ปุถุลํ จตุรสฺสํ เอต’นฺติ อาห. อปโร ‘กหาปโณ เอโส’ติ อาห. อถ นํ อาหริตฺวา มาตุ อทาสิ. สา กมฺเม อุปเนสิ.
ตตฺถ ¶ สมฺพหุลานํ ทารกานํ อนฺตรวีถิยํ กีฬนฺตานํ นิสินฺนกาโล วิย ภวงฺคจิตฺตปฺปวตฺติ ทฏฺพฺพา. กหาปณสฺส หตฺเถ ปฏิหตกาโล วิย อารมฺมเณน ปสาทสฺส ฆฏฺฏิตกาโล. ‘กึ นุ โข เอต’นฺติ วุตฺตกาโล วิย ตํ อารมฺมณํ คเหตฺวา กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคสฺส อาวฏฺฏิตกาโล. ‘ปณฺฑรํ เอต’นฺติ วุตฺตกาโล วิย จกฺขุวิฺาเณน ทสฺสนกิจฺจสฺส สาธิตกาโล. สห ปํสุนา คาฬฺหํ คหิตกาโล วิย วิปากมโนธาตุยา ¶ อารมฺมณสฺส สมฺปฏิจฺฉิตกาโล. ‘ปุถุลํ จตุรสฺสํ เอต’นฺติ วุตฺตกาโล วิย วิปากมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสฺส สนฺตีรณกาโล. ‘เอโส กหาปโณ’ติ วุตฺตกาโล วิย กิริยมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสฺส ววตฺถาปิตกาโล. มาตรา กมฺเม อุปนีตกาโล วิย ชวนสฺส อารมฺมณรสานุภวนํ เวทิตพฺพํ.
อิทํ โอปมฺมํ กึ ทีเปติ? กิริยมโนธาตุ อทิสฺวาว ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ, วิปากมโนธาตุ อทิสฺวาว สมฺปฏิจฺฉติ, วิปากมโนวิฺาณธาตุ อทิสฺวาว สนฺตีเรติ, กิริยมโนวิฺาณธาตุ อทิสฺวาว ววตฺถาเปติ, ชวนํ อทิสฺวาว อารมฺมณรสํ อนุโภติ. เอกนฺเตน ปน จกฺขุวิฺาณเมว ทสฺสนกิจฺจํ สาเธตีติ ทีเปติ.
‘อมฺโพ โกลิยเกน จา’ติ, อิทํ เหฏฺา วุตฺตํ อมฺโพปมฺจ อุจฺฉุสาลาสามิโกปมฺจ สนฺธาย วุตฺตํ.
‘ชจฺจนฺโธ ปีสปฺปี จา’ติ, อุโภปิ กิร เต นครทฺวาเร สาลายํ นิสีทึสุ. ตตฺถ ปีสปฺปี อาห – ‘โภ อนฺธก, กสฺมา ตฺวํ อิธ สุสฺสมาโน วิจรสิ, อสุโก ปเทโส สุภิกฺโข พหฺวนฺนปาโน, กึ ตตฺถ คนฺตฺวา สุเขน ชีวิตุํ น วฏฺฏตี’ติ? ‘มยฺหํ ตาว ตยา อาจิกฺขิตํ, ตุยฺหํ ปน ตตฺถ คนฺตฺวา สุเขน ชีวิตุํ กึ น วฏฺฏตี’ติ? ‘มยฺหํ คนฺตุํ ปาทา นตฺถี’ติ. ‘มยฺหมฺปิ ปสฺสิตุํ จกฺขูนิ นตฺถี’ติ. ‘ยทิ เอวํ, ตว ปาทา โหนฺตุ, มม จกฺขูนี’ติ อุโภปิ ‘สาธู’ติ ¶ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ชจฺจนฺโธ ปีสปฺปึ ขนฺธํ อาโรเปสิ. โส ตสฺส ขนฺเธ นิสีทิตฺวา วามหตฺเถนสฺส สีสํ ปริกฺขิปิตฺวา ทกฺขิณหตฺเถน ‘อิมสฺมึ าเน มูลํ อาวริตฺวา ิตํ, อิมสฺมึ ปาสาโณ, วามํ มฺุจ ทกฺขิณํ คณฺห, ทกฺขิณํ มฺุจ วามํ คณฺหา’ติ มคฺคํ นิยเมตฺวา อาจิกฺขติ. เอวํ ชจฺจนฺธสฺส ปาทา ปีสปฺปิสฺส จกฺขูนีติ อุโภปิ สมฺปโยเคน อิจฺฉิตฏฺานํ คนฺตฺวา สุเขน ชีวึสุ.
ตตฺถ ¶ ชจฺจนฺโธ วิย รูปกาโย, ปีสปฺปี วิย อรูปกาโย. ปีสปฺปินา วินา ชจฺจนฺธสฺส ทิสํ คนฺตุํ คมนาภิสงฺขารสฺส อนิพฺพตฺติตกาโล ¶ วิย รูปสฺส อรูเปน วินา อาทานคหณโจปนํ ปาเปตุํ อสมตฺถตา. ชจฺจนฺเธน วินา ปีสปฺปิสฺส ทิสํ คนฺตุํ คมนาภิสงฺขารสฺส อปฺปวตฺตนํ วิย ปฺจโวกาเร รูปํ, วินา อรูปสฺส อปฺปวตฺติ. ทฺวินฺนมฺปิ สมฺปโยเคน อิจฺฉิตฏฺานํ คนฺตฺวา สุเขน ชีวิตกาโล วิย รูปารูปธมฺมานํ อฺมฺโยเคน สพฺพกิจฺเจสุ ปวตฺติสมฺภาโวติ. อยํ ปฺโห ปฺจโวการภววเสน กถิโต.
‘วิสยคฺคาโห’ จาติ, จกฺขุ รูปวิสยํ คณฺหาติ. โสตาทีนิ สทฺทาทิวิสเย.
‘อุปนิสฺสยมตฺถโส’ติ, ‘อุปนิสฺสยโต’ จ ‘อตฺถโต’ จ. ตตฺถ อสมฺภินฺนตฺตา จกฺขุสฺส, อาปาถคตตฺตา รูปานํ, อาโลกสนฺนิสฺสิตํ, มนสิการเหตุกํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. ตตฺถ มตสฺสาปิ จกฺขุ สมฺภินฺนํ โหติ. ชีวโต นิรุทฺธมฺปิ, ปิตฺเตน วา เสมฺเหน วา รุหิเรน วา ปลิพุทฺธมฺปิ, จกฺขุวิฺาณสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ อสกฺโกนฺตํ ‘สมฺภินฺนํ’ นาม โหติ. สกฺโกนฺตํ อสมฺภินฺนํ นาม. โสตาทีสุปิ เอเสว นโย. จกฺขุสฺมึ ปน อสมฺภินฺเนปิ พหิทฺธา รูปารมฺมเณ อาปาถํ อนาคจฺฉนฺเต จกฺขุวิฺาณํ นุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ ปน อาปาถํ อาคจฺฉนฺเตปิ อาโลกสนฺนิสฺสเย อสติ นุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ สนฺเตปิ กิริยมโนธาตุยา ภวงฺเค อนาวฏฺฏิเต นุปฺปชฺชติ. อาวฏฺฏิเตเยว อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปชฺชมานํ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ สทฺธึเยว อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเม จตฺตาโร ปจฺจเย ลภิตฺวา อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ (ม. นิ. ๑.๓๐๖ โถกํ วิสทิสํ).
อสมฺภินฺนตฺตา ¶ โสตสฺส, อาปาถคตตฺตา สทฺทานํ, อากาสสนฺนิสฺสิตํ, มนสิการเหตุกํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติ โสตวิฺาณํ, สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. ตตฺถ ‘อากาสสนฺนิสฺสิต’นฺติ อากาสสนฺนิสฺสยํ ลทฺธาว อุปฺปชฺชติ, น วินา เตน. น หิ ปิหิตกณฺณจฺฉิทฺทสฺส โสตวิฺาณํ ปวตฺตติ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. ยถา เจตฺถ เอวํ อิโต ปเรสุปิ. วิเสสมตฺตํ ปน วกฺขาม.
อสมฺภินฺนตฺตา ฆานสฺส, อาปาถคตตฺตา คนฺธานํ, วาโยสนฺนิสฺสิตํ, มนสิการเหตุกํ จตูหิ ปจฺจเยหิ ¶ อุปฺปชฺชติ ฆานวิฺาณํ ¶ , สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. ตตฺถ ‘วาโยสนฺนิสฺสิต’นฺติ ฆานพิลํ วายุมฺหิ ปวิสนฺเตเยว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ อสติ นุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ.
อสมฺภินฺนตฺตา ชิวฺหาย, อาปาถคตตฺตา รสานํ, อาโปสนฺนิสฺสิตํ, มนสิการเหตุกํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติ ชิวฺหาวิฺาณํ, สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. ตตฺถ ‘อาโปสนฺนิสฺสิต’นฺติ ชิวฺหาเตมนํ อาปํ ลทฺธาว อุปฺปชฺชติ, น วินา เตน. สุกฺขชิวฺหานฺหิ สุกฺขขาทนีเย ชิวฺหาย ปิเตปิ ชิวฺหาวิฺาณํ นุปฺปชฺชเตว.
อสมฺภินฺนตฺตา กายสฺส, อาปาถคตตฺตา โผฏฺพฺพานํ, ปถวิสนฺนิสฺสิตํ, มนสิการเหตุกํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติ กายวิฺาณํ, สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. ตตฺถ ‘ปถวิสนฺนิสฺสิต’นฺติ กายปสาทปจฺจยํ ปถวิสนฺนิสฺสยํ ลทฺธาว อุปฺปชฺชติ, น เตน วินา. กายทฺวารสฺมิฺหิ พหิทฺธามหาภูตารมฺมณํ อชฺฌตฺติกํ กายปสาทํ ฆฏฺเฏตฺวา ปสาทปจฺจเยสุ มหาภูเตสุ ปฏิหฺติ.
อสมฺภินฺนตฺตา มนสฺส, อาปาถคตตฺตา ธมฺมานํ, วตฺถุสนฺนิสฺสิตํ, มนสิการเหตุกํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ, สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. ตตฺถ ‘มโน’ติ ภวงฺคจิตฺตํ. ตํ นิรุทฺธมฺปิ, อาวชฺชนจิตฺตสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ อสมตฺถํ มนฺทถามคตเมว ปวตฺตมานมฺปิ, สมฺภินฺนํ นาม โหติ. อาวชฺชนสฺส ปน ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺถํ อสมฺภินฺนํ นาม. ‘อาปาถคตตฺตา ธมฺมาน’นฺติ ธมฺมารมฺมเณ อาปาถคเต. ‘วตฺถุสนฺนิสฺสิต’นฺติ หทยวตฺถุสนฺนิสฺสยํ ลทฺธาว อุปฺปชฺชติ, น เตน วินา. อยมฺปิ ปฺโห ปฺจโวการภวํ ¶ สนฺธาย กถิโต. ‘มนสิการเหตุก’นฺติ กิริยมโนวิฺาณธาตุยา ภวงฺเค อาวฏฺฏิเตเยว อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. อยํ ตาว ‘อุปนิสฺสยมตฺถโส’ติ เอตฺถ อุปนิสฺสยวณฺณนา.
‘อตฺถโต’ ปน จกฺขุ ทสฺสนตฺถํ, โสตํ สวนตฺถํ, ฆานํ ฆายนตฺถํ, ชิวฺหา สายนตฺถา, กาโย ผุสนตฺโถ ¶ , มโน วิชานนตฺโถ. ตตฺถ ทสฺสนํ อตฺโถ อสฺส. ตฺหิ เตน นิปฺผาเทตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เอตฺตาวตา ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรวาเท โสฬสกมคฺโค นิฏฺิโต, สทฺธึ ทฺวาทสกมคฺเคน เจว อเหตุกฏฺเกน จาติ.
อิทานิ โมรวาปีวาสีมหาทตฺตตฺเถรวาเท ทฺวาทสกมคฺคกถา โหติ. ตตฺถ สาเกตปฺหอุสฺสทกิตฺตนเหตุกิตฺตนานิ ¶ ปากติกาเนว. อยํ ปน เถโร อสงฺขาริกสสงฺขาริเกสุ โทสํ ทิสฺวา ‘อสงฺขาริกํ อสงฺขาริกเมว วิปากํ เทติ, โน สสงฺขาริกํ; สสงฺขาริกมฺปิ สสงฺขาริกเมว โน อสงฺขาริก’นฺติ อาห. ชวเนน เจส จิตฺตนิยามํ น กเถติ. อารมฺมเณน ปน เวทนานิยามํ กเถติ. เตนสฺส วิปากุทฺธาเร ทฺวาทสกมคฺโค นาม ชาโต. ทสกมคฺโคปิ, อเหตุกฏฺกมฺปิ เอตฺเถว ปวิฏฺํ.
ตตฺรายํ นโย – โสมนสฺสสหคตติเหตุกอสงฺขาริกจิตฺเตน หิ กมฺเม อายูหิเต ตาทิเสเนว วิปากจิตฺเตน คหิตปฏิสนฺธิกสฺส วุฑฺฒิปฺปตฺตสฺส จกฺขุทฺวาเร ‘อิฏฺารมฺมเณ’ อาปาถคเต เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ตโย โมฆวารา โหนฺติ. ตสฺส กุสลโต จตฺตาริ โสมนสฺสสหคตานิ, อกุสลโต จตฺตาริ, กิริยโต ปฺจาติ อิเมสํ เตรสนฺนํ จิตฺตานํ อฺตเรน ชวิตปริโยสาเน ตทารมฺมณํ ปติฏฺหมานํ โสมนสฺสสหคตอสงฺขาริกติเหตุกจิตฺตมฺปิ ทุเหตุกจิตฺตมฺปิ ปติฏฺาติ. เอวมสฺส จกฺขุทฺวาเร จกฺขุวิฺาณาทีนิ ตีณิ, ตทารมฺมณานิ ทฺเวติ, ปฺจ คณนูปคจิตฺตานิ โหนฺติ.
อารมฺมเณน ปน เวทนํ ปริวตฺเตตฺวา กุสลโต จตุนฺนํ, อกุสลโต จตุนฺนํ, กิริยโต จตุนฺนนฺติ, ทฺวาทสนฺนํ อุเปกฺขาสหคตจิตฺตานํ อฺตเรน ชวิตาวสาเน อุเปกฺขาสหคตติเหตุกอสงฺขาริกวิปากมฺปิ ทุเหตุกอสงฺขาริกวิปากมฺปิ ตทารมฺมณํ หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. เอวมสฺส จกฺขุทฺวาเร อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ, อิมานิ ทฺเว ตทารมฺมณานีติ, ตีณิ คณนูปคจิตฺตานิ ¶ โหนฺติ. ตานิ ปุริเมหิ ปฺจหิ สทฺธึ ¶ อฏฺ. โสตทฺวาราทีสุปิ อฏฺ อฏฺาติ เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต สมจตฺตาลีส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน จกฺขุทฺวาเร อฏฺ, โสตวิฺาณาทีนิ จตฺตารีติ, ทฺวาทส โหนฺติ. ตตฺถ ‘มูลภวงฺคตา’‘อาคนฺตุกภวงฺคตา’‘อมฺโพปมนิยามกถา’ จ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
โสมนสฺสสหคตติเหตุกสสงฺขาริกกุสลจิตฺเตน กมฺเม อายูหิเตปิ อุเปกฺขาสหคตติเหตุกอสงฺขาริกสสงฺขาริเกหิ กมฺเม อายูหิเตปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ยนฺโตปมาปิ เอตฺถ ปากติกา เอว. เอตฺตาวตา ติเหตุกกมฺเมน ติเหตุกปฏิสนฺธิ โหตีติ วาโร กถิโต. ติเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกปฏิสนฺธิ โหตีติ วาโร ปน ปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา คโต.
อิทานิ ¶ ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกปฏิสนฺธิกถา โหติ. โสมนสฺสสหคตทุเหตุกอสงฺขาริกจิตฺเตน หิ กมฺเม อายูหิเต ตาทิเสเนว วิปากจิตฺเตน คหิตปฏิสนฺธิกสฺส วุฑฺฒิปฺปตฺตสฺส จกฺขุทฺวาเร อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ตโย โมฆวารา โหนฺติ. ทุเหตุกสฺส ปน ชวนกิริยา นตฺถิ. ตสฺมา กุสลโต จตฺตาริ โสมนสฺสสหคตานิ, อกุสลโต จตฺตารีติ อิเมสํ อฏฺนฺนํ อฺตเรน ชวิตปริโยสาเน ทุเหตุกเมว โสมนสฺสสหคตอสงฺขาริกํ ตทารมฺมณํ โหติ. เอวมสฺส จกฺขุวิฺาณาทีนิ ตีณิ, อิทฺจ ตทารมฺมณนฺติ, จตฺตาริ คณนูปคจิตฺตานิ โหนฺติ. ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ’ ปน กุสลโต อุเปกฺขาสหคตานํ จตุนฺนํ, อกุสลโต จตุนฺนนฺติ, อฏฺนฺนํ อฺตเรน ชวิตปริโยสาเน ทุเหตุกเมว อุเปกฺขาสหคตํ อสงฺขาริกํ ตทารมฺมณํ โหติ. เอวมสฺส อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ, อิทฺจ ตทารมฺมณนฺติ, ทฺเว คณนูปคจิตฺตานิ โหนฺติ. ตานิ ปุริเมหิ จตูหิ สทฺธึ ฉ. โสตทฺวาราทีสุปิ ฉ ฉาติ เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต สมตึส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน จกฺขุทฺวาเร ฉ, โสตวิฺาณาทีนิ จตฺตารีติ ทส โหนฺติ. อมฺโพปมนิยามกถา ปากติกา เอว. ยนฺโตปมา อิธ น ลพฺภตีติ วุตฺตํ.
โสมนสฺสสหคตทุเหตุกสสงฺขาริกกุสลจิตฺเตน ¶ ¶ กมฺเม อายูหิเตปิ อุเปกฺขาสหคตทุเหตุกอสงฺขาริกสสงฺขาริเกหิ กมฺเม อายูหิเตปิ เอเสว นโย. เอตฺตาวตา ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกปฏิสนฺธิ โหตีติ วาโร กถิโต.
อเหตุกปฏิสนฺธิ โหตีติ วาโร ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – กุสลโต จตูหิ าณวิปฺปยุตฺเตหิ กมฺเม อายูหิเต, กุสลวิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุยา อุเปกฺขาสหคตาย ปฏิสนฺธิยา คหิตาย, กมฺมสทิสา ปฏิสนฺธีติ น วตฺตพฺพา. อิโต ปฏฺาย เหฏฺา วุตฺตนเยเนว กเถตฺวา อิฏฺเปิ อิฏฺมชฺฌตฺเตปิ จิตฺตปฺปวตฺติ เวทิตพฺพา. อิมสฺส หิ เถรสฺส วาเท ปิณฺฑชวนํ ชวติ. เสสา อิทํ ปน ชวนํ กุสลตฺถาย วา อกุสลตฺถาย วา โก นิยาเมตีติอาทิกถา สพฺพา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ. เอตฺตาวตา โมรวาปีวาสีมหาทตฺตตฺเถรวาเท ทฺวาทสกมคฺโค นิฏฺิโต สทฺธึ ทสกมคฺเคน เจว อเหตุกฏฺเกน จ.
อิทานิ มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรวาเท ทสกมคฺคกถา โหติ. ตตฺถ สาเกตปฺหอุสฺสทกิตฺตนานิ ปากติกาเนว. เหตุกิตฺตเน ปน อยํ วิเสโส. ติเหตุกกมฺมํ ติเหตุกวิปากมฺปิ ทุเหตุกวิปากมฺปิ ¶ อเหตุกวิปากมฺปิ เทติ. ทุเหตุกกมฺมํ ติเหตุกเมว น เทติ, อิตรํ เทติ. ติเหตุกกมฺเมน ปฏิสนฺธิ ติเหตุกาว โหติ; ทุเหตุกาเหตุกา น โหติ. ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกาเหตุกา โหติ, ติเหตุกา น โหติ. อสงฺขาริกกมฺมํ วิปากํ อสงฺขาริกเมว เทติ, โน สสงฺขาริกํ. สสงฺขาริกมฺปิ สสงฺขาริกเมว เทติ, โน อสงฺขาริกํ. อารมฺมเณน เวทนา ปริวตฺเตตพฺพา. ชวนํ ปิณฺฑชวนเมว ชวติ. อาทิโต ปฏฺาย จิตฺตานิ กเถตพฺพานิ.
ตตฺรายํ กถา – เอโก ปมกุสลจิตฺเตน กมฺมํ อายูหติ, ปมวิปากจิตฺเตเนว ปฏิสนฺธึ คณฺหาติ. อยํ กมฺมสทิสา ปฏิสนฺธิ. ตสฺส วุฑฺฒิปฺปตฺตสฺส จกฺขุทฺวาเร ‘อิฏฺารมฺมเณ’ อาปาถคเต วุตฺตนเยเนว ตโย โมฆวารา โหนฺติ. อถสฺส เหฏฺา วุตฺตานํ เตรสนฺนํ โสมนสฺสสหคตชวนานํ ¶ อฺตเรน ชวิตปริโยสาเน ปมวิปากจิตฺตเมว ตทารมฺมณํ ¶ โหติ. ตํ ‘มูลภวงฺคํ’ ‘ตทารมฺมณ’นฺติ ทฺเว นามานิ ลภติ. เอวมสฺส จกฺขุวิฺาณาทีนิ ตีณิ, อิทฺจ ตทารมฺมณนฺติ, จตฺตาริ คณนูปคจิตฺตานิ โหนฺติ. ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ’ เหฏฺา วุตฺตานํเยว ทฺวาทสนฺนํ อุเปกฺขาสหคตชวนานํ อฺตเรน ชวิตปริโยสาเน อุเปกฺขาสหคตํ ติเหตุกํ อสงฺขาริกจิตฺตํ ตทารมฺมณตาย ปวตฺตติ. ตํ ‘อาคนฺตุกภวงฺคํ’‘ตทารมฺมณ’นฺติ ทฺเว นามานิ ลภติ. เอวมสฺส อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ อิทฺจ ตทารมฺมณนฺติ ทฺเว คณนูปคจิตฺตานิ. ตานิ ปุริเมหิ จตูหิ สทฺธึ ฉ โหนฺติ. เอวํ เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต ปฺจสุ ทฺวาเรสุ สมตึส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน จกฺขุทฺวาเร ฉ, โสตวิฺาณาทีนิ จตฺตารีติ ทส โหนฺติ. อมฺโพปมนิยามกถา ปากติกาเยว.
ทุติยตติยจตุตฺถกุสลจิตฺเตหิ กมฺเม อายูหิเตปิ เอตฺตกาเนว วิปากจิตฺตานิ โหนฺติ. จตูหิ อุเปกฺขาสหคตจิตฺเตหิ อายูหิเตปิ เอเสว นโย. อิธ ปน ปมํ อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณํ ทสฺเสตพฺพํ. ปจฺฉา อิฏฺารมฺมเณน เวทนา ปริวตฺเตตพฺพา. อมฺโพปมนิยามกถา ปากติกา เอว. ยนฺโตปมา น ลพฺภติ. ‘กุสลโต ปน จตุนฺนํ าณวิปฺปยุตฺตานํ อฺตเรน กมฺเม อายูหิเต’ติ อิโต ปฏฺาย สพฺพํ วิตฺถาเรตฺวา อเหตุกฏฺกํ กเถตพฺพํ. เอตฺตาวตา มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรวาเท ทสกมคฺโค นิฏฺิโต โหติ, สทฺธึ อเหตุกฏฺเกนาติ.
อิเมสํ ปน ติณฺณํ เถรานํ กตรสฺส วาโท คเหตพฺโพติ? น กสฺสจิ เอกํเสน. สพฺเพสํ ปน วาเทสุ ยุตฺตํ คเหตพฺพํ. ปมวาทสฺมิฺหิ สสงฺขาราสงฺขารวิธานํ ปจฺจยเภทโต อธิปฺเปตํ. เตเนตฺถ ¶ , อสงฺขาริกกุสลสฺส ทุพฺพลปจฺจเยหิ อุปฺปนฺนํ สสงฺขาริกวิปากํ, สสงฺขาริกกุสลสฺส พลวปจฺจเยหิ อุปฺปนฺนํ อสงฺขาริกวิปากฺจ คเหตฺวา, ลพฺภมานานิปิ กิริยชวนานิ ปหาย, กุสลชวเนน ตทารมฺมณํ อารมฺมเณน จ เวทนํ ¶ นิยาเมตฺวา, เสกฺขปุถุชฺชนวเสน โสฬสกมคฺโค กถิโต. ยํ ปเนตฺถ อกุสลชวนาวสาเน อเหตุกวิปากเมว ตทารมฺมณํ ทสฺสิตํ, ตํ อิตเรสุ น ทสฺสิตเมว. ตสฺมา ตํ ตตฺถ เตสุ วุตฺตํ สเหตุกวิปากฺจ, เอตฺถาปิ สพฺพมิทํ ลพฺภเตว. ตตฺรายํ นโย – ยทา หิ กุสลชวนานํ อนฺตรนฺตรา อกุสลํ ชวติ, ตทา กุสลาวสาเน อาจิณฺณสทิสเมว, อกุสลาวสาเน ¶ สเหตุกํ ตทารมฺมณํ ยุตฺตํ. ยทา นิรนฺตรํ อกุสลเมว ตทา อเหตุกํ. เอวํ ตาว ปมวาเท ยุตฺตํ คเหตพฺพํ.
ทุติยวาเท ปน กุสลโต สสงฺขาราสงฺขารวิธานํ อธิปฺเปตํ. เตเนตฺถ อสงฺขาริกกุสลสฺส อสงฺขาริกเมว วิปากํ, สสงฺขาริกกุสลสฺส จ สสงฺขาริกเมว คเหตฺวา, ชวเนน ตทารมฺมณนิยามํ อกตฺวา, สพฺเพสมฺปิ เสกฺขาเสกฺขปุถุชฺชนานํ อุปฺปตฺติรโห ปิณฺฑชวนวเสเนว ทฺวาทสกมคฺโค กถิโต. ติเหตุกชวนาวสาเน ปเนตฺถ ติเหตุกํ ตทารมฺมณํ ยุตฺตํ. ทุเหตุกชวนาวสาเน ทุเหตุกํ, อเหตุกชวนาวสาเน อเหตุกํ ภาเชตฺวา ปน น วุตฺตํ. เอวํ ทุติยวาเท ยุตฺตํ คเหตพฺพํ.
ตติยวาเทปิ กุสลโตว อสงฺขารสสงฺขารวิธานํ อธิปฺเปตํ. ‘ติเหตุกกมฺมํ ติเหตุกวิปากมฺปิ ทุเหตุกวิปากมฺปิ อเหตุกวิปากมฺปิ เทตี’ติ ปน วจนโต อสงฺขาริกติเหตุกปฏิสนฺธิกสฺส อสงฺขาริกทุเหตุเกนปิ ตทารมฺมเณน ภวิตพฺพํ. ตํ อทสฺเสตฺวา เหตุสทิสเมว ตทารมฺมณํ ทสฺสิตํ. ตํ ปุริมาย เหตุกิตฺตนลทฺธิยา น ยุชฺชติ. เกวลํ ทสกมคฺควิภาวนตฺถเมว วุตฺตํ. อิตรมฺปิ ปน ลพฺภเตว. เอวํ ตติยวาเทปิ ยุตฺตํ คเหตพฺพํ. อยฺจ สพฺพาปิ ปฏิสนฺธิชนกสฺเสว กมฺมสฺส วิปากํ สนฺธาย ตทารมฺมณกถา. ‘สเหตุกํ ภวงฺคํ อเหตุกสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’ติ (ปฏฺา. ๓.๑.๑๐๒) วจนโต ปน นานากมฺเมน อเหตุกปฏิสนฺธิกสฺสาปิ สเหตุกวิปากํ ตทารมฺมณํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺส อุปฺปตฺติวิธานํ มหาปกรเณ อาวิ ภวิสฺสตีติ.
กามาวจรกุสลวิปากกถา นิฏฺิตา.
รูปาวจรารูปาวจรวิปากกถา
๔๙๙. อิทานิ ¶ ¶ รูปาวจราทิวิปากํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยสฺมา กามาวจรวิปากํ อตฺตโน กุสเลน สทิสมฺปิ โหติ, อสทิสมฺปิ, ตสฺมา น ตํ กุสลานุคติกํ กตฺวา ภาชิตํ. รูปาวจรารูปาวจรวิปากํ ปน ยถา หตฺถิอสฺสปพฺพตาทีนํ ฉายา หตฺถิอาทิสทิสาว โหนฺติ, ตถา อตฺตโน กุสลสทิสเมว โหตีติ กุสลานุคติกํ กตฺวา ภาชิตํ. กามาวจรกมฺมฺจ ยทา กทาจิ ¶ วิปากํ เทติ, รูปาวจรารูปาวจรํ ปน อนนฺตราเยน, ทุติยสฺมึเยว อตฺตภาเว, วิปากํ เทตีติปิ กุสลานุคติกเมว กตฺวา ภาชิตํ. เสสํ กุสเล วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ปฏิปทาทิเภโท จ หีนปณีตมชฺฌิมภาโว จ เอเตสุ ฌานาคมนโต เวทิตพฺโพ. ฉนฺทาทีนํ ปน อฺตรํ ธุรํ กตฺวา อนุปฺปาทนียตฺตา นิรธิปติกาเนว เอตานีติ.
รูปาวจรารูปาวจรวิปากกถา นิฏฺิตา.
โลกุตฺตรวิปากกถา
๕๐๕. โลกุตฺตรวิปากมฺปิ กุสลสทิสตฺตา กุสลานุคติกเมว กตฺวา ภาชิตํ. ยสฺมา ปน เตภูมกกุสลํ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏํ อาจินาติ วฑฺเฒติ, ตสฺมา ตตฺถ กตตฺตา อุปจิตตฺตาติ วุตฺตํ. โลกุตฺตรํ ปน เตน อาจิตมฺปิ อปจินาติ, สยมฺปิ จุติปฏิสนฺธิวเสน น อาจินาติ, เตเนตฺถ ‘กตตฺตา อุปจิตตฺตา’ติ อวตฺวา กตตฺตา ภาวิตตฺตาติ วุตฺตํ.
สฺุตนฺติอาทีสุ ‘มคฺโค’ ตาว ‘อาคมนโต สคุณโต อารมฺมณโตติ ตีหิ การเณหิ นามํ ลภตี’ติ, อิทํ เหฏฺา กุสลาธิกาเร วิตฺถาริตํ. ตตฺถ สุตฺตนฺติกปริยาเยน สคุณโตปิ อารมฺมณโตปิ นามํ ลภติ. ปริยายเทสนา เหสา. อภิธมฺมกถา ปน นิปฺปริยายเทสนา. ตสฺมา อิธ สคุณโต วา อารมฺมณโต วา นามํ น ลภติ, อาคมนโตว ลภติ. อาคมนเมว หิ ธุรํ. ตํ ทุวิธํ โหติ – วิปสฺสนาคมนํ มคฺคาคมนนฺติ.
ตตฺถ ¶ มคฺคสฺส อาคตฏฺาเน วิปสฺสนาคมนํ ธุรํ, ผลสฺส ¶ อาคตฏฺาเน มคฺคาคมนํ ธุรนฺติ, อิทมฺปิ เหฏฺา วุตฺตเมว. เตสุ อิทํ ผลสฺส อาคตฏฺานํ, ตสฺมา อิธ มคฺคาคมนํ ธุรนฺติ เวทิตพฺพํ. โส ปเนส มคฺโค อาคมนโต ‘สฺุต’นฺติ นามํ ลภิตฺวา สคุณโต จ อารมฺมณโต จ ‘อนิมิตฺโต’‘อปฺปณิหิโต’ติปิ วุจฺจติ. ตสฺมา สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส ตีณิ นามานิ เทติ. กถํ? อยฺหิ สุทฺธาคมนวเสเนว ลทฺธนาโม ‘สฺุตมคฺโค’ สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามํ ททมาโน ‘สฺุต’นฺติ นามํ อกาสิ. ‘สฺุตอนิมิตฺตมคฺโค’ สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามํ ททมาโน ‘อนิมิตฺต’นฺติ นามํ อกาสิ. ‘สฺุตอปฺปณิหิตมคฺโค’ สยํ อาคมนียฏฺาเน ¶ ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามํ ททมาโน ‘อปฺปณิหิต’นฺติ นามํ อกาสิ. อิมานิ ปน ตีณิ นามานิ มคฺคานนฺตเร ผลจิตฺตสฺมึเยว อิมินา นเยน ลพฺภนฺติ, โน อปรภาเค วฬฺชนกผลสมาปตฺติยา. อปรภาเค ปน อนิจฺจตาทีหิ ตีหิ วิปสฺสนาหิ วิปสฺสิตุํ สกฺโกติ. อถสฺส วุฏฺิตวุฏฺิตวิปสฺสนาวเสน อนิมิตฺตอปฺปณิหิตสฺุตสงฺขาตานิ ตีณิ ผลานิ อุปฺปชฺชนฺติ. เตสํ ตาเนว สงฺขารารมฺมณานิ. อนิจฺจานุปสฺสนาทีนิ าณานิ อนุโลมาณานิ นาม โหนฺติ.
โย จายํ สฺุตมคฺเค วุตฺโต. อปฺปณิหิตมคฺเคปิ เอเสว นโย. อยมฺปิ หิ สุทฺธาคมนวเสน ลทฺธนาโม ‘อปฺปณิหิตมคฺโค’ สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามํ ททมาโน ‘อปฺปณิหิต’นฺติ นามํ อกาสิ. ‘อปฺปณิหิตอนิมิตฺตมคฺโค’ สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามํ ททมาโน ‘อนิมิตฺต’นฺติ นามํ อกาสิ. ‘อปฺปณิหิตสฺุตมคฺโค’ สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามํ ททมาโน ‘สฺุต’นฺติ นามํ ¶ อกาสิ. อิมานิปิ ตีณิ นามานิ มคฺคานนฺตเร ผลจิตฺตสฺมึเยว อิมินา นเยน ลพฺภนฺติ, น อปรภาเค วฬฺชนกผลสมาปตฺติยาติ. เอวํ อิมสฺมึ วิปากนิทฺเทเส กุสลจิตฺเตหิ ติคุณานิ วิปากจิตฺตานิ เวทิตพฺพานิ.
ยถา ปน เตภูมกกุสลานิ อตฺตโน วิปากํ อธิปตึ ลภาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, น เอวํ โลกุตฺตรกุสลานิ. กสฺมา? เตภูมกกุสลานฺหิ อฺโ อายูหนกาโล อฺโ วิปจฺจนกาโล. เตน ตานิ อตฺตโน วิปากํ อธิปตึ ลภาเปตุํ น สกฺโกนฺติ. โลกุตฺตรานิ ปน ตาย สทฺธาย, ตสฺมึ วีริเย, ตาย สติยา, ตสฺมึ สมาธิมฺหิ, ตาย ปฺาย อวูปสนฺตาย ¶ , อปณฺณกํ อวิรทฺธํ มคฺคานนฺตรเมว วิปากํ ปฏิลภนฺติ, เตน อตฺตโน วิปากํ อธิปตึ ลภาเปตุํ สกฺโกนฺติ.
ยถา หิ ปริตฺตกสฺส อคฺคิโน คตฏฺาเน อคฺคิสฺมึ นิพฺพุตมตฺเตเยว อุณฺหากาโร นิพฺพายิตฺวา กิฺจิ น โหติ, มหนฺตํ ปน อาทิตฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตฺวา ¶ โคมยปริภณฺเฑ กเตปิ อุณฺหากาโร อวูปสนฺโตว โหติ, เอวเมว เตภูมกกุสเล อฺโ กมฺมกฺขโณ อฺโ วิปากกฺขโณ ปริตฺตอคฺคิฏฺาเน อุณฺหภาวนิพฺพุตกาโล วิย โหติ. ตสฺมา ตํ อตฺตโน วิปากํ อธิปตึ ลภาเปตุํ น สกฺโกติ. โลกุตฺตเร ปน ตาย สทฺธาย…เป… ตาย ปฺาย อวูปสนฺตาย, มคฺคานนฺตรเมว ผลํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตํ อตฺตโน วิปากํ อธิปตึ ลภาเปตีติ เวทิตพฺพํ. เตนาหุ โปราณา – ‘วิปาเก อธิปติ นตฺถิ เปตฺวา โลกุตฺตร’นฺติ.
๕๕๕. จตุตฺถผลนิทฺเทเส อฺาตาวินฺทฺริยนฺติ อฺาตาวิโน จตูสุ สจฺเจสุ นิฏฺิตาณกิจฺจสฺส อินฺทฺริยํ, อฺาตาวีนํ วา จตูสุ สจฺเจสุ นิฏฺิตกิจฺจานํ จตฺตาริ สจฺจานิ ตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตานํ ธมฺมานํ อพฺภนฺตเร ¶ อินฺทฏฺสาธเนน อินฺทฺริยํ. นิทฺเทสวาเรปิสฺส อฺาตาวีนนฺติ อาชานิตฺวา ิตานํ. ธมฺมานนฺติ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อพฺภนฺตเร. อฺาติ อาชานนา, ปฺา ปชานนาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนนฺติ ผลมคฺคสฺส องฺคํ, ผลมคฺเค จ ปริยาปนฺนนฺติ อตฺโถ.
อปิเจตฺถ อิทํ ปกิณฺณกํ – เอกํ อินฺทฺริยํ เอกํ านํ คจฺฉติ, เอกํ ฉ านานิ คจฺฉติ, เอกํ เอกํ านํ คจฺฉติ. เอกฺหิ ‘อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ’ เอกํ านํ คจฺฉติ โสตาปตฺติมคฺคํ. เอกํ ‘อฺินฺทฺริยํ’ เหฏฺา ตีณิ ผลานิ, อุปริ ตโย มคฺเคติ ฉ านานิ คจฺฉติ. เอกํ ‘อฺาตาวินฺทฺริยํ’ เอกํ านํ คจฺฉติ อรหตฺตผลํ. สพฺเพสุปิ มคฺคผเลสุ อตฺถโต อฏฺ อฏฺ อินฺทฺริยานีติ จตุสฏฺิ โลกุตฺตรินฺทฺริยานิ กถิตานิ. ปาฬิโต ปน นว นว กตฺวา ทฺวาสตฺตติ โหนฺติ. มคฺเค มคฺคงฺคนฺติ วุตฺตํ. ผเลปิ มคฺคงฺคํ. มคฺเค โพชฺฌงฺโคติ วุตฺโต ผเลปิ โพชฺฌงฺโค. มคฺคกฺขเณ อารติ วิรตีติ วุตฺตา ผลกฺขเณปิ อารติ วิรตีติ. ตตฺถ มคฺโค มคฺคภาเวเนว มคฺโค, ผลํ ปน มคฺคํ อุปาทาย มคฺโค นาม; ผลงฺคํ ผลปริยาปนฺนนฺติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. มคฺเค พุชฺฌนกสฺส องฺโคติ สมฺโพชฺฌงฺโค, ผเล พุทฺธสฺส ¶ องฺโคติ สมฺโพชฺฌงฺโค. มคฺเค อารมณวิรมณวเสเนว อารติ วิรติ. ผเล ปน อารติวิรติวเสนาติ.
โลกุตฺตรวิปากกถา นิฏฺิตา.
อกุสลวิปากกถา
๕๕๖. อิโต ¶ ปรานิ อกุสลวิปากานิ – ปฺจ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ, เอกา มโนธาตุ, เอกา มโนวิฺาณธาตูติ อิมานิ สตฺต จิตฺตานิ – ปาฬิโต จ อตฺถโต จ เหฏฺา วุตฺเตหิ ตาทิเสเหว กุสลวิปากจิตฺเตหิ สทิสานิ.
เกวลฺหิ ตานิ กุสลกมฺมปจฺจยานิ อิมานิ อกุสลกมฺมปจฺจยานิ. ตานิ จ อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺเตสุ อารมฺมเณสุ วตฺตนฺติ, อิมานิ อนิฏฺอนิฏฺมชฺฌตฺเตสุ. ตตฺถ จ สุขสหคตํ กายวิฺาณํ, อิธ ทุกฺขสหคตํ ¶ . ตตฺถ จ อุเปกฺขาสหคตา มโนวิฺาณธาตุ มนุสฺเสสุ ชจฺจนฺธาทีนํ ปฏิสนฺธึ อาทึ กตฺวา ปฺจสุ าเนสุ วิปจฺจติ. อิธ ปน เอกาทสวิเธนาปิ อกุสลจิตฺเตน กมฺเม อายูหิเต กมฺมกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺเตสุ อฺตรํ อารมฺมณํ กตฺวา จตูสุ อปาเยสุ ปฏิสนฺธิ หุตฺวา วิปจฺจติ; ทุติยวารโต ปฏฺาย ยาวตายุกํ ภวงฺคํ หุตฺวา, อนิฏฺอนิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณาย ปฺจวิฺาณวีถิยา สนฺตีรณํ หุตฺวา, พลวารมฺมเณ ฉสุ ทฺวาเรสุ ตทารมฺมณํ หุตฺวา, มรณกาเล จุติ หุตฺวาติ, เอวํ ปฺจสุ เอว าเนสุ วิปจฺจตีติ.
อกุสลวิปากกถา นิฏฺิตา.
กิริยาพฺยากตวณฺณนา
มโนธาตุจิตฺตํ
๕๖๖. อิทานิ ¶ กิริยาพฺยากตํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กิริยาติ กรณมตฺตํ. สพฺเพสุเยว หิ กิริยจิตฺเตสุ ยํ ชวนภาวํ อปฺปตฺตํ ตํ วาตปุปฺผํ วิย. ยํ ชวนภาวปฺปตฺตํ ตํ ฉินฺนมูลกรุกฺขปุปฺผํ วิย อผลํ โหติ, ตํตํ กิจฺจสาธนวเสน ปวตฺตตฺตา ปน กรณมตฺตเมว โหติ. ตสฺมา กิริยาติ วุตฺตํ. เนวกุสลานากุสลาติอาทีสุ กุสลมูลสงฺขาตสฺส กุสลเหตุโน อภาวา ‘เนวกุสลา’; อกุสลมูลสงฺขาตสฺส อกุสลเหตุโน อภาวา ‘เนวอกุสลา’; โยนิโสมนสิการอโยนิโสมนสิการสงฺขาตานมฺปิ ¶ กุสลากุสลปจฺจยานํ อภาวา ‘เนวกุสลานากุสลา’. กุสลากุสลสงฺขาตสฺส ชนกเหตุโน อภาวา เนวกมฺมวิปากา.
อิธาปิ จิตฺตสฺเสกคฺคตานิทฺเทเส ปวตฺติฏฺิติมตฺตเมว ลพฺภติ. ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ, ติสฺโส มโนธาตุโย, ติสฺโส มโนวิฺาณธาตุโย, วิจิกิจฺฉาสหคตนฺติ อิเมสุ สตฺตรสสุ จิตฺเตสุ ทุพฺพลตฺตา สณฺิติ อวฏฺิติอาทีนิ น ลพฺภนฺติ. เสสํ สพฺพํ วิปากมโนธาตุนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว ¶ เวทิตพฺพํ, อฺตฺร อุปฺปตฺติฏฺานา. ตฺหิ จิตฺตํ ปฺจวิฺาณานนฺตรํ อุปฺปชฺชติ. อิทํ ปน ปฺจทฺวาเร วฬฺชนกปฺปวตฺติกาเล สพฺเพสํ ปุเร อุปฺปชฺชติ. กถํ? จกฺขุทฺวาเร ตาว อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตอนิฏฺอนิฏฺมชฺฌตฺเตสุ รูปารมฺมเณสุ เยน เกนจิ ปสาเท ฆฏฺฏิเต ตํ อารมฺมณํ คเหตฺวา อาวชฺชนวเสน ปุเรจาริกํ หุตฺวา ภวงฺคํ อาวฏฺฏยมานํ อุปฺปชฺชติ. โสตทฺวาราทีสุปิ เอเสว นโยติ.
กิริยมโนธาตุจิตฺตํ นิฏฺิตํ.
กิริยมโนวิฺาณธาตุจิตฺตานิ
๕๖๘. มโนวิฺาณธาตุ ¶ อุปฺปนฺนา โหติ…เป… โสมนสฺสสหคตาติ, อิทํ จิตฺตํ อฺเสํ อสาธารณํ. ขีณาสวสฺเสว ปาฏิปุคฺคลิกํ. ฉสุ ทฺวาเรสุ ลพฺภติ. จกฺขุทฺวาเร หิ ปธานสารุปฺปํ านํ ทิสฺวา ขีณาสโว อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต โหติ. โสตทฺวาเร ภณฺฑภาชนียฏฺานํ ปตฺวา มหาสทฺทํ กตฺวา ลุทฺธลุทฺเธสุ คณฺหนฺเตสุ ‘เอวรูปา นาม เม โลลุปฺปตณฺหา ปหีนา’ติ อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต โหติ. ฆานทฺวาเร คนฺเธหิ วา ปุปฺเผหิ วา เจติยํ ปูเชนฺโต อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต โหติ. ชิวฺหาทฺวาเร รสสมฺปนฺนํ ปิณฺฑปาตํ ลทฺธา ภาเชตฺวา ปริภฺุชนฺโต ‘สารณียธมฺโม วต เม ปูริโต’ติ อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต โหติ. กายทฺวาเร อภิสมาจาริกวตฺตํ กโรนฺโต ‘กายทฺวาเร เม วตฺตํ ปูริต’นฺติ อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต โหติ. เอวํ ตาว ปฺจทฺวาเร ลพฺภติ.
มโนทฺวาเร ¶ ปน อตีตานาคตมารพฺภ อุปฺปชฺชติ. โชติปาลมาณว(ม. นิ. ๒.๒๘๒ อาทโย) มคฺฆเทวราช(ม. นิ. ๒.๓๐๘ อาทโย) กณฺหตาปสาทิกาลสฺมิฺหิ (ชา. ๑.๑๐.๑๑ อาทโย) กตํ การณํ อาวชฺเชตฺวา ตถาคโต สิตํ ปาตฺวากาสิ. ตํ ปน ปุพฺเพนิวาสาณสพฺพฺุตฺาณานํ กิจฺจํ. เตสํ ปน ทฺวินฺนํ าณานํ จิณฺณปริยนฺเต อิทํ จิตฺตํ หาสยมานํ อุปฺปชฺชติ. อนาคเต ‘ตนฺติสฺสโร มุทิงฺคสฺสโร ¶ ปจฺเจกพุทฺโธ ภวิสฺสตี’ติ สิตํ ปาตฺวากาสิ. ตมฺปิ อนาคตํสาณสพฺพฺุตฺาณานํ กิจฺจํ. เตสํ ปน ทฺวินฺน าณานํ จิณฺณปริยนฺเต อิทํ จิตฺตํ หาสยมานํ อุปฺปชฺชติ.
นิทฺเทสวาเร ปนสฺส เสสอเหตุกจิตฺเตหิ พลวตรตาย จิตฺเตกคฺคตา สมาธิพลํ ปาเปตฺวา ปิตา. วีริยมฺปิ วีริยพลํ ปาเปตฺวา. อุทฺเทสวาเร ปน ‘สมาธิพลํ โหติ วีริยพลํ โหตี’ติ อนาคตตฺตา ปริปุณฺเณน พลฏฺเเนตํ ทฺวยํ พลํ นาม น โหติ. ยสฺมา ปน ‘เนว กุสลํ นากุสลํ’ ตสฺมา พลนฺติ วตฺวาน ปิตํ. ยสฺมา จ น นิปฺปริยาเยน พลํ, ตสฺมา สงฺคหวาเรปิ ‘ทฺเว พลานิ โหนฺตี’ติ น วุตฺตํ. เสสํ สพฺพํ โสมนสฺสสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตุนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๕๗๔. อุเปกฺขาสหคตาติ อิทํ จิตฺตํ ตีสุ ภเวสุ สพฺเพสํ สจิตฺตกสตฺตานํ สาธารณํ, น ¶ กสฺสจิ สจิตฺตกสฺส นุปฺปชฺชติ นาม. อุปฺปชฺชมานํ ปน ปฺจทฺวาเร โวฏฺพฺพนํ โหติ, มโนทฺวาเร อาวชฺชนํ. ฉ อสาธารณาณานิปิ อิมินา คหิตารมฺมณเมว คณฺหนฺติ. มหาคชํ นาเมตํ จิตฺตํ; อิมสฺส อนารมฺมณํ นาม นตฺถิ. ‘อสพฺพฺุตฺาณํ สพฺพฺุตฺาณคติกํ นาม กตม’นฺติ วุตฺเต ‘อิท’นฺติ วตฺตพฺพํ. เสสเมตฺถ ปุริมจิตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เกวลฺหิ ตตฺถ สปฺปีติกตฺตา นวงฺคิโก สงฺขารกฺขนฺโธ วิภตฺโต. อิธ นิปฺปีติกตฺตา อฏฺงฺคิโก.
อิทานิ ¶ ยานิ กุสลโต อฏฺ มหาจิตฺตาเนว ขีณาสวสฺส อุปฺปชฺชนตาย กิริยานิ ชาตานิ, ตสฺมา ตานิ กุสลนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
อิธ ตฺวา หสนกจิตฺตานิ สโมธาเนตพฺพานิ. กติ ปเนตานิ โหนฺตีติ? วุจฺจเต เตรส. ปุถุชฺชนา หิ กุสลโต จตูหิ โสมนสฺสสหคเตหิ, อกุสลโต จตูหีติ, อฏฺหิ จิตฺเตหิ หสนฺติ. เสกฺขา กุสลโต จตูหิ โสมนสฺสสหคเตหิ, อกุสลโต ทฺวีหิ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺเตหิ โสมนสฺสสหคเตหีติ, ฉหิ จิตฺเตหิ หสนฺติ. ขีณาสวา กิริยโต ปฺจหิ โสมนสฺสสหคเตหิ หสนฺตีติ.
รูปาวจรารูปาวจรกิริยํ
๕๗๗. รูปาวจรารูปาวจรกิริยนิทฺเทเสสุ ¶ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารนฺติ ทิฏฺธมฺเม, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว, สุขวิหารมตฺตํ. ตตฺถ ขีณาสวสฺส ปุถุชฺชนกาเล นิพฺพตฺติตา สมาปตฺติ ยาว น นํ สมาปชฺชติ ตาว กุสลาว สมาปนฺนกาเล กิริยา โหติ. ขีณาสวกาเล ปนสฺส นิพฺพตฺติตา สมาปตฺติ กิริยาว โหติ. เสสํ สพฺพํ ตํสทิสตฺตา กุสลนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
อฏฺสาลินิยา ธมฺมสงฺคหอฏฺกถาย
จิตฺตุปฺปาทกณฺฑกถา นิฏฺิตา.
อพฺยากตปทํ ปน เนว ตาว นิฏฺิตนฺติ.
จิตฺตุปฺปาทกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.