📜

๒. รูปกณฺโฑ

อุทฺเทสวณฺณนา

อิทานิ รูปกณฺฑํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กิฺจาปิ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ วิปากาพฺยากตฺเจว กิริยาพฺยากตฺจ นิสฺเสสํ กตฺวา ภาชิตํ, รูปาพฺยากตนิพฺพานาพฺยากตานิ ปน อกถิตานิ, ตานิ กเถตุํ จตุพฺพิธมฺปิ อพฺยากตํ สโมธาเนตฺวา ทสฺเสนฺโต กุสลากุสลานํ ธมฺมานํ วิปากาติอาทิมาห. ตตฺถ กุสลากุสลานนฺติ จตุภูมกกุสลานฺเจว อกุสลานฺจ. เอวํ ตาว วิปากาพฺยากตํ กุสลวิปากากุสลวิปากวเสน ทฺวีหิ ปเทหิ ปริยาทิยิตฺวา ทสฺสิตํ. ยสฺมา ปน ตํ สพฺพมฺปิ กามาวจรํ วา โหติ, รูปาวจราทีสุ วา อฺตรํ, ตสฺมา ‘กามาวจรา’ติอาทินา นเยน ตเทว วิปากาพฺยากตํ ภูมนฺตรวเสน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺสิตํ. ยสฺมา ปน ตํ เวทนากฺขนฺโธปิ โหติ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธปิ, ตสฺมา ปุน สมฺปยุตฺตจตุกฺขนฺธวเสน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺสิตํ.

เอวํ วิปากาพฺยากตํ กุสลากุสลวเสน ภูมนฺตรวเสน สมฺปยุตฺตกฺขนฺธวเสนาติ ตีหิ นเยหิ ปริยาทาย ทสฺเสตฺวา, ปุน กิริยาพฺยากตํ ทสฺเสนฺโต เย จ ธมฺมา กิริยาติอาทิมาห. ตตฺถ ‘กามาวจรา รูปาวจรา อรูปาวจรา เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’ติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย. เหฏฺา ปน คหิตเมวาติ นยํ ทสฺเสตฺวา นิสฺสชฺชิตํ. อิทานิ อวิภตฺตํ ทสฺเสนฺโต สพฺพฺจ รูปํ อสงฺขตา จ ธาตูติ อาห. ตตฺถ ‘สพฺพฺจ รูป’นฺติ ปเทน ปฺจวีสติ รูปานิ ฉนฺนวุติรูปโกฏฺาสา นิปฺปเทสโต คหิตาติ เวทิตพฺพา. ‘อสงฺขตา จธาตู’ติ ปเทน นิพฺพานํ นิปฺปเทสโต คหิตนฺติ. เอตฺตาวตา ‘อพฺยากตา ธมฺมา’ติ ปทํ นิฏฺิตํ โหติ.

๕๘๔. ตตฺถ กตมํ สพฺพํ รูปนฺติ อิทํ กสฺมา คหิตํ? เหฏฺา รูปาพฺยากตํ สงฺเขเปน กถิตํ. อิทานิ ตํ เอกกทุกติกจตุกฺก…เป… เอกาทสกวเสน วิตฺถารโต ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ อิทํ คหิตํ. ตสฺสตฺโถ – ยํ วุตฺตํ ‘สพฺพฺจ รูปํ, อสงฺขตา จ ธาตู’ติ, ตสฺมึ ปททฺวเย ‘กตมํ สพฺพํ รูปํ นาม’? อิทานิ ตํ ทสฺเสนฺโต จตฺตาโร จ มหาภูตาติอาทิมาห . ตตฺถ จตฺตาโรติ คณนปริจฺเฉโท. เตน เตสํ อูนาธิกภาวํ นิวาเรติ. ‘จ’-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เตน น เกวลํ ‘จตฺตาโร มหาภูตาว’ รูปํ, อฺมฺปิ อตฺถีติ ‘อุปาทารูปํ’ สมฺปิณฺเฑติ.

มหาภูตาติ เอตฺถ มหนฺตปาตุภาวาทีหิ การเณหิ มหาภูตตา เวทิตพฺพา. เอตานิ หิ มหนฺตปาตุภาวโต, มหาภูตสามฺโต, มหาปริหารโต, มหาวิการโต, มหนฺตภูตตฺตา จาติ อิเมหิ การเณหิ มหาภูตานีติ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ ‘มหนฺตปาตุภาวโต’ติ, เอตานิ หิ อนุปาทินฺนกสนฺตาเนปิ อุปาทินฺนกสนฺตาเนปิ มหนฺตานิ ปาตุภูตานิ. เตสํ อนุปาทินฺนกสนฺตาเน เอวํ มหนฺตปาตุภาวตา เวทิตพฺพา – เอกฺหิ จกฺกวาฬํ อายามโต จ วิตฺถารโต จ โยชนานํ ทฺวาทส สตสหสฺสานิ ตีณิ สหสฺสานิ จตฺตาริ สตานิ ปฺาสฺจ โยชนานิ. ปริกฺเขปโต –

สพฺพํ สตสหสฺสานิ, ฉตฺตึส ปริมณฺฑลํ;

ทส เจว สหสฺสานิ, อฑฺฒุฑฺฒานิ สตานิ จ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๑; วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๗);

ตตฺถ –

ทุเว สตสหสฺสานิ, จตฺตาริ นหุตานิ จ;

เอตฺตกํ พหลตฺเตน, สงฺขาตายํ วสุนฺธรา. (ปารา. อฏฺ. ๑.๑; วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๗);

ตสฺสาเยว สนฺธารกํ –

จตฺตาริ สตสหสฺสานิ, อฏฺเว นหุตานิ จ;

เอตฺตกํ พหลตฺเตน, ชลํ วาเต ปติฏฺิตํ.

ตสฺสาปิ สนฺธารโก –

นวสตสหสฺสานิ, มาลุโต นภมุคฺคโต;

สฏฺิ เจว สหสฺสานิ, เอสา โลกสฺส สณฺิติ.

เอวํ สณฺิเต เจตฺถ โยชนานํ –

จตุราสีติสหสฺสานิ, อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว;

อจฺจุคฺคโต ตาวเทว, สิเนรุ ปพฺพตุตฺตโม.

ตโต อุปฑฺฒุปฑฺเฒน, ปมาเณน ยถากฺกมํ;

อชฺโฌคาฬฺหุคฺคตา ทิพฺพา, นานารตนจิตฺติตา.

ยุคนฺธโร อีสธโร, กรวีโก สุทสฺสโน;

เนมินฺธโร วินตโก, อสฺสกณฺโณ คิริ พฺรหา.

เอเต สตฺต มหาเสลา, สิเนรุสฺส สมนฺตโต;

มหาราชานมาวาสา เทวยกฺขนิเสวิตา.

โยชนานํ สตานุจฺโจ, หิมวา ปฺจ ปพฺพโต;

โยชนานํ สหสฺสานิ, ตีณิ อายตวิตฺถโต;

จตุราสีติสหสฺเสหิ, กูเฏหิ ปฏิมณฺฑิโต.

ติปฺจโยชนกฺขนฺธปริกฺเขปา นควฺหยา;

ปฺาสโยชนกฺขนฺธสาขายามา สมนฺตโต.

สตโยชนวิตฺถิณฺณา , ตาวเทว จ อุคฺคตา;

ชมฺพู ยสฺสานุภาเวน, ชมฺพุทีโป ปกาสิโต. (ปารา. อฏฺ. ๑.๑; วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๗);

ยฺเจตํ ชมฺพุยา ปมาณํ ตเทว อสุรานํ จิตฺตปาฏลิยา, ครุฬานํ สิมฺพลิรุกฺขสฺส, อปรโคยาเน กทมฺพรุกฺขสฺส, อุตฺตรกุรุมฺหิ กปฺปรุกฺขสฺส, ปุพฺพวิเทเห สิรีสสฺส, ตาวตึเสสุ ปาริจฺฉตฺตกสฺสาติ. เตนาหุ โปราณา –

ปาฏลี สิมฺพลี ชมฺพู, เทวานํ ปาริจฺฉตฺตโก;

กทมฺโพ กปฺปรุกฺโข จ, สิรีเสน ภวติ สตฺตมนฺติ.

ทฺเวอสีติสหสฺสานิ, อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว;

อุอจฺจุคฺคโต ตาวเทว, จกฺกวาฬสิลุจฺจโย;

ปริกฺขิปิตฺวา ตํ สพฺพํ, โลกธาตุมยํ ิโตติ.

อุปาทินฺนกสนฺตาเนปิ มจฺฉกจฺฉปเทวทานวาทิสรีรวเสน มหนฺตาเนว ปาตุภูตานิ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวาติ’’อาทิ.

‘มหาภูตสามฺโต’ติ เอตานิ หิ ยถา มายากาโร อมณึเยว อุทกํ มณึ กตฺวา ทสฺเสติ, อสุวณฺณํเยว เลฑฺฑุํ สุวณฺณํ กตฺวา ทสฺเสติ, ยถา จ สยํ เนว ยกฺโข น ปกฺขี สมาโน ยกฺขภาวมฺปิ ปกฺขิภาวมฺปิ ทสฺเสติ, เอวเมว สยํ อนีลาเนว หุตฺวา นีลํ อุปาทารูปํ ทสฺเสนฺติ, อปีตานิ… อโลหิตานิ… อโนทาตาเนว หุตฺวา โอทาตํ อุปาทารูปํ ทสฺเสนฺตีติ มายาการมหาภูตสามฺโต มหาภูตานิ. ยถา จ ยกฺขาทีนิ มหาภูตานิ ยํ คณฺหนฺติ เนว เตสํ ตสฺส อนฺโต น พหิานํ อุปลพฺภติ, น จ ตํ นิสฺสาย น ติฏฺนฺติ, เอวเมว เอตานิปิ เนว อฺมฺสฺส อนฺโต น พหิ ิตานิ หุตฺวา อุปลพฺภนฺติ, น จ อฺมฺํ นิสฺสาย น ติฏฺนฺตีติ. อจินฺเตยฺยฏฺานตาย ยกฺขาทิมหาภูตสามฺโตปิ มหาภูตานิ.

ยถา จ ยกฺขินีสงฺขาตานิ มหาภูตานิ มนาเปหิ วณฺณสณฺานวิกฺเขเปหิ อตฺตโน ภยานกภาวํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา สตฺเต วฺเจนฺติ, เอวเมว เอตานิปิ อิตฺถิปุริสสรีราทีสุ มนาเปน ฉวิวณฺเณน, มนาเปน องฺคปจฺจงฺคสณฺาเนน, มนาเปน จ หตฺถปาทงฺคุลิภมุกวิกฺเขเปน อตฺตโน กกฺขฬตาทิเภทํ สรสลกฺขณํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา พาลชนํ วฺเจนฺติ, อตฺตโน สภาวํ ทฏฺุํ น เทนฺติ. อิติ วฺจกฏฺเน ยกฺขินีมหาภูตสามฺโตปิ มหาภูตานิ.

‘มหาปริหารโต’ติ มหนฺเตหิ ปจฺจเยหิ ปริหริตพฺพโต. เอตานิ หิ ทิวเส ทิวเส อุปเนตพฺพตฺตา มหนฺเตหิ ฆาสจฺฉาทนาทีหิ ภูตานิ ปวตฺตานีติ มหาภูตานิ. มหาปริหารานิ วา ภูตานีติ มหาภูตานิ.

‘มหาวิการโต’ติ ภูตานํ มหาวิการโต. เอตานิ หิ อุปาทิณฺณานิปิ อนุปาทิณฺณานิปิ มหาวิการานิ โหนฺติ. ตตฺถ อนุปาทิณฺณานํ กปฺปวุฏฺาเน วิการมหตฺตํ ปากฏํ โหติ, อุปาทิณฺณานํ ธาตุกฺโขภกาเล. ตถา หิ –

ภูมิโต วุฏฺิตา ยาว, พฺรหฺมโลกา วิธาวติ;

อจฺจิ อจฺจิมโต โลเก, ทยฺหมานมฺหิ เตชสา.

โกฏิสตสหสฺเสกํ, จกฺกวาฬํ วิลียติ;

กุปิเตน ยทา โลโก, สลิเลน วินสฺสติ.

โกฏิสตสหสฺเสกํ , จกฺกวาฬํ วิกีรติ;

วาโยธาตุปฺปโกเปน, ยทา โลโก วินสฺสติ.

ปตฺถทฺโธ ภวติ กาโย, ทฏฺโ กฏฺมุเขน วา;

ปถวีธาตุปฺปโกเปน, โหติ กฏฺมุเขว โส.

ปูติโย ภวติ กาโย, ทฏฺโ ปูติมุเขน วา;

อาโปธาตุปฺปโกเปน, โหติ ปูติมุเขว โส.

สนฺตตฺโต ภวติ กาโย, ทฏฺโ อคฺคิมุเขน วา;

เตโชธาตุปฺปโกเปน, โหติ อคฺคิมุเขว โส.

สฺฉินฺโน ภวติ กาโย, ทฏฺโ สตฺถมุเขน วา;

วาโยธาตุปฺปโกเปน, โหติ สตฺถมุเขว โส. (สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๔.๒๓๘);

อิติ มหาวิการานิ ภูตานีติ มหาภูตานิ.

‘มหนฺตภูตตฺตา จา’ติ เอตานิ หิ มหนฺตานิ มหตา วายาเมน ปริคฺคเหตพฺพตฺตา, ภูตานิ วิชฺชมานตฺตาติ, มหนฺตภูตตฺตา จ มหาภูตานิ. เอวํ มหนฺตปาตุภาวาทีหิ การเณหิ มหาภูตานิ.

จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทาย รูปนฺติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. จตฺตาริ มหาภูตานิ อุปาทาย, นิสฺสาย, อมุฺจิตฺวา ปวตฺตรูปนฺติ อตฺโถ. อิทํ วุจฺจติ สพฺพํ รูปนฺติ อิทํ จตฺตาริ มหาภูตานิ, ปทปฏิปาฏิยา นิทฺทิฏฺานิ เตวีสติ อุปาทารูปานีติ, สตฺตวีสติปฺปเภทํ สพฺพํ รูปํ นาม.

เอกวิธรูปสงฺคโห

อิทานิ ตํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ เอกวิธาทีหิ เอกาทสหิ สงฺคเหหิ มาติกํ เปนฺโต สพฺพํ รูปํ น เหตูติอาทิมาห.

ตตฺถ ‘สพฺพํ รูป’นฺติ อิทํ ปทํ ‘สพฺพํ รูปํ น เหตุ’ ‘สพฺพํ รูปํ อเหตุก’นฺติ เอวํ สพฺพปเทหิ สทฺธึ โยเชตพฺพํ. สพฺพาเนว เจตานิ ‘น เหตู’ติอาทีนิ เตจตฺตาลีสปทานิ อุทฺทิฏฺานิ. เตสุ ปฏิปาฏิยา จตฺตาลีสปทานิ มาติกโต คเหตฺวา ปิตานิ, อวสาเน ตีณิ มาติกามุตฺตกานีติ. เอวํ ตาว ปเม สงฺคเห ปาฬิววตฺถานเมว เวทิตพฺพํ. ตถา ทุติยสงฺคหาทีสุ.

ทุวิธรูปสงฺคโห

ตตฺรายํ นโย – ทุติยสงฺคเห ตาว สตํ จตฺตาโร จ ทุกา. ตตฺถ อตฺถิ รูปํ อุปาทา, อตฺถิ รูปํ โนอุปาทาติอาทโย อาทิมฺหิ จุทฺทส ทุกา อฺมฺสมฺพนฺธาภาวโต ปกิณฺณกทุกา นาม. ตโต อตฺถิ รูปํ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส วตฺถูติอาทโย ปฺจวีสติ ทุกา วตฺถุอวตฺถุอุปปริกฺขณวเสน ปวตฺตตฺตา วตฺถุทุกา นาม. ตโต อตฺถิ รูปํ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อารมฺมณนฺติอาทโย ปฺจวีสติ อารมฺมณานารมฺมณอุปปริกฺขณวเสน ปวตฺตตฺตา อารมฺมณทุกา นาม. ตโต อตฺถิ รูปํ จกฺขายตนนฺติ อาทโย ทส อายตนานายตนอุปปริกฺขณวเสน ปวตฺตตฺตา อายตนทุกา นาม. ตโต อตฺถิ รูปํ จกฺขุธาตูติอาทโย ทส ธาตุอธาตุอุปปริกฺขณวเสน ปวตฺตตฺตา ธาตุทุกา นาม. ตโต อตฺถิ รูปํ จกฺขุนฺทฺริยนฺติอาทโย อฏฺ อินฺทฺริยานินฺทฺริยอุปปริกฺขณวเสน ปวตฺตตฺตา อินฺทฺริยทุกา นาม. ตโต อตฺถิ รูปํ กายวิฺตฺตีติอาทโย ทฺวาทส สุขุมาสุขุมรูปอุปปริกฺขณวเสน ปวตฺตตฺตา สุขุมรูปทุกา นามาติ. อิทํ ทุติยสงฺคเห ปาฬิววตฺถานํ.

ติวิธรูปสงฺคโห

๕๘๕. ตติยสงฺคเห สตํ ตีณิ จ ติกานิ. ตตฺถ ทุติยสงฺคเห วุตฺเตสุ จุทฺทสสุ ปกิณฺณกทุเกสุ เอกํ อชฺฌตฺติกทุกํ เสเสหิ เตรสหิ โยเชตฺวา ยํ ตํ รูปํ อชฺฌตฺติกํ ตํ อุปาทา; ยํ ตํ รูปํ พาหิรํ ตํ อตฺถิ อุปาทา , อตฺถิ โนอุปาทาติอาทินา นเยน ปิตา เตรส ปกิณฺณกติกา นาม. ตโต ตเมว ทุกํ เสสทุเกหิ สทฺธึ โยเชตฺวา ยํ ตํ รูปํ พาหิรํ ตํ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส น วตฺถุ, ยํ ตํ รูปํ อชฺฌตฺติกํ ตํ อตฺถิ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส วตฺถุ, อตฺถิ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส น วตฺถูติอาทินา นเยน เสสติกา ปิตา. เตสํ นามฺจ คณนา จ เตสํเยว วตฺถุทุกาทีนํ วเสน เวทิตพฺพาติ. อิทํ ตติยสงฺคเห ปาฬิววตฺถานํ.

จตุพฺพิธาทิรูปสงฺคหา

๕๘๖. จตุตฺถสงฺคเห ทฺวาวีสติ จตุกฺกา. ตตฺถ สพฺพปจฺฉิโม อตฺถิ รูปํ อุปาทา อตฺถิ รูปํ โนอุปาทาติ เอวํ อิธ วุตฺตํ มาติกํ อนามสิตฺวา ปิโต . อิตเร ปน อามสิตฺวา ปิตา. กถํ? เย ตาว อิธ ทุวิธสงฺคเห ปกิณฺณเกสุ อาทิโต ตโย ทุกา, เตสุ เอเกกํ คเหตฺวา ยํ ตํ รูปํ อุปาทา ตํ อตฺถิ อุปาทิณฺณํ, อตฺถิ อนุปาทิณฺณนฺติอาทินา นเยน ปฺจหิ ปฺจหิ ทุเกหิ สทฺธึ โยเชตฺวา ทุกตฺตยมูลกา อาทิมฺหิ ปฺจทส จตุกฺกา ปิตา.

อิทานิ โย ยํ จตุกฺโก สนิทสฺสนทุโก โส ยสฺมา ยํ ตํ รูปํ สนิทสฺสนํ ตํ อตฺถิ สปฺปฏิฆํ, อตฺถิ อปฺปฏิฆนฺติอาทินา นเยน ปเรหิ วา, อตฺถิ อุปาทา อตฺถิ โนอุปาทาติอาทินา นเยน ปุริเมหิ วา, ทุเกหิ สทฺธึ อตฺถาภาวโต กมาภาวโต วิเสสาภาวโต จ โยคํ น คจฺฉติ. สนิทสฺสนฺหิ ‘อปฺปฏิฆํ’ นาม, ‘โน อุปาทา’ วา นตฺถีติ อตฺถาภาวโต โยคํ น คจฺฉติ. ‘อุปาทิณฺณํ ปน อนุปาทิณฺณฺจ อตฺถิ ตํ กมาภาวา โยคํ น คจฺฉติ. สพฺพทุกา หิ ปจฺฉิมปจฺฉิเมเหว สทฺธึ โยชิตา. อยเมตฺถ กโม. ปุริเมหิ ปน สทฺธึ กมาภาโวติ. ‘สติ อตฺเถ กมาภาโว อการณํ. ตสฺมา อุปาทิณฺณปทาทีหิ สทฺธึ โยเชตพฺโพ’ติ เจ – น, วิเสสาภาวา; อุปาทิณฺณปทาทีนิ หิ อิมินา สทฺธึ โยชิตานิ. ตตฺถ ‘อุปาทิณฺณํ วา สนิทสฺสนํ, สนิทสฺสนํ วา อุปาทิณฺณ’นฺติ วุตฺเต วิเสโส นตฺถีติ วิเสสาภาวาปิ โยคํ น คจฺฉติ. ตสฺมา ตํ จตุตฺถทุกํ อนามสิตฺวา, ตโต ปเรหิ อตฺถิ รูปํ สปฺปฏิฆนฺติอาทีหิ ตีหิ ทุเกหิ สทฺธึ ‘ยํ ตํ รูปํ สปฺปฏิฆํ ตํ อตฺถิ อินฺทฺริยํ, อตฺถิ น อินฺทฺริยํ, ยํ ตํ รูปํ อปฺปฏิฆํ ตํ อตฺถิ อินฺทฺริยํ, อตฺถิ น อินฺทฺริย’นฺติอาทินา นเยน ยุชฺชมาเน ทฺเว ทฺเว ทุเก โยเชตฺวา ฉ จตุกฺกา ปิตา.

ยถา จายํ จตุตฺถทุโก โยคํ น คจฺฉติ, ตถา เตน สทฺธึ อาทิทุโกปิ. กสฺมา? อนุปาทารูปสฺส เอกนฺเตน อนิทสฺสนตฺตา. โส หิ ยํ ตํ รูปํ โนอุปาทา ตํ อตฺถิ สนิทสฺสนํ, อตฺถิ อนิทสฺสนนฺติ – เอวํ จตุตฺเถน ทุเกน สทฺธึ โยชิยมาโน โยคํ น คจฺฉติ. ตสฺมา ตํ อติกฺกมิตฺวา ปฺจเมน สห โยชิโต. เอวํ โย เยน สทฺธึ โยคํ คจฺฉติ, โย จ น คจฺฉติ โส เวทิตพฺโพติ. อิทํ จตุตฺถสงฺคเห ปาฬิววตฺถานํ. อิโต ปเร ปน ปฺจวิธสงฺคหาทโย สตฺต สงฺคหา อสมฺมิสฺสา เอว. เอวํ สกลายปิ มาติกาย ปาฬิววตฺถานํ เวทิตพฺพํ.

รูปวิภตฺติเอกกนิทฺเทสวณฺณนา

๕๙๔. อิทานิ ตสฺสา อตฺถํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ สพฺพํ รูปํ น เหตุเมวาติอาทิ อารทฺธํ. กสฺมา ปเนตฺถ ‘กตมํ ตํ สพฺพํ รูปํ น เหตู’ติ ปุจฺฉา น กตาติ? เภทาภาวโต. ยถา หิ ทุกาทีสุ ‘อุปาทารูป’มฺปิ อตฺถิ ‘โนอุปาทารูป’มฺปิ, เอวมิธ เหตุ น เหตูติปิ สเหตุกมเหตุกนฺติปิ เภโท นตฺถิ, ตสฺมา ปุจฺฉํ อกตฺวาว วิภตฺตํ. ตตฺถ ‘สพฺพ’นฺติ สกลํ, นิรวเสสํ. ‘รูป’นฺติ อยมสฺส สีตาทีหิ รุปฺปนภาวทีปโน สามฺลกฺขณนิทฺเทโส. น เหตุเมวาติ สาธารณเหตุปฏิกฺเขปนิทฺเทโส.

ตตฺถ เหตุเหตุ ปจฺจยเหตุ อุตฺตมเหตุ สาธารณเหตูติ จตุพฺพิโธ เหตุ. เตสุ ‘ตโย กุสลเหตู, ตโย อกุสลเหตู, ตโย อพฺยากตเหตู’ติ (ธ. ส. ๑๐๕๙) อยํ ‘เหตุเหตุ’ นาม. ‘‘จตฺตาโร โข, ภิกฺขุ, มหาภูตา เหตุ, จตฺตาโร มหาภูตา ปจฺจโย รูปกฺขนฺธสฺส ปฺาปนายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๘๕; สํ. นิ. ๓.๘๒) อยํ ‘ปจฺจยเหตุ’ นาม. ‘‘กุสลากุสลํ อตฺตโน วิปากฏฺาเน, อุตฺตมํ อิฏฺารมฺมณํ กุสลวิปากฏฺาเน, อุตฺตมํ อนิฏฺารมฺมณํ อกุสลวิปากฏฺาเน’’ติ อยํ ‘อุตฺตมเหตุ’ นาม. ยถาห – ‘อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ ปชานาตี’ติ (ม. นิ. ๑.๑๔๘; วิภ. ๘๑๐; ปาฏิ. ม. ๒.๔๔), ‘‘เอเสว เหตุ เอส ปจฺจโย สงฺขารานํ ยทิทํ อวิชฺชา’’ติ อวิชฺชา สงฺขารานํ สาธารณเหตุ หุตฺวา ปจฺจยฏฺํ ผรตีติ อยํ ‘สาธารณเหตุ’ นาม. ยถา หิ ปถวีรโส อาโปรโส จ มธุรสฺสาปิ อมธุรสฺสาปิ ปจฺจโย, เอวํ อวิชฺชา กุสลสงฺขารานมฺปิ อกุสลสงฺขารานมฺปิ สาธารณปจฺจโย โหติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ ‘เหตุเหตุ’ อธิปฺเปโต. อิติ ‘เหตู ธมฺมา น เหตู ธมฺมา’ติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑) มาติกาย อาคตํ เหตุภาวํ รูปสฺส นิยเมตฺวา ปฏิกฺขิปนฺโต ‘น เหตุเมวา’ติ อาห. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ ปฏิกฺเขปนิทฺเทโส จ อปฺปฏิกฺเขปนิทฺเทโส จ เวทิตพฺโพ. วจนตฺโถ ปน สพฺพปทานํ มาติกาวณฺณนายํ วุตฺโตเยว.

สปฺปจฺจยเมวาติ เอตฺถ ปน กมฺมสมุฏฺานํ กมฺมปจฺจยเมว โหติ, อาหารสมุฏฺานาทีนิ อาหาราทิปจฺจยาเนวาติ เอวํ รูปสฺเสว วุตฺตจตุปจฺจยวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. รูปเมวาติ ‘รูปิโน ธมฺมา อรูปิโน ธมฺมา’ติ มาติกาย วุตฺตํ อรูปีภาวํ ปฏิกฺขิปติ. อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิฺาเณหีติ ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมว จกฺขุวิฺาณาทีหิ ฉหิ เวทิตพฺพํ. นิยาโม ปน จกฺขุวิฺาณาทีนิ สนฺธาย คหิโต. น หิ ตานิ อตีตานาคตํ วิชานนฺติ. มโนวิฺาณํ ปน อตีตมฺปิ อนาคตมฺปิ วิชานาติ. ตํ อิมสฺมึ ปฺจวิฺาณโสเต ปติตตฺตา โสตปติตเมว หุตฺวา คตํ. หุตฺวา อภาวฏฺเน ปน อนิจฺจเมว. ชราย อภิภวิตพฺพธมฺมกตฺตา ชราภิภูตเมว. ยสฺมา วา รูปกาเย ชรา ปากฏา โหติ, ตสฺมาปิ ‘ชราภิภูตเมวา’ติ วุตฺตํ.

เอวํ เอกวิเธน รูปสงฺคโหติ เอตฺถ ‘วิธา’-สทฺโท มานสณฺานโกฏฺาเสสุ ทิสฺสติ. ‘‘เสยฺโยหมสฺมีติ วิธา, สทิโสหมสฺมีติ วิธา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๙๖๒) หิ มาโน วิธา นาม. ‘‘กถํวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ, กถํวิธํ ปฺวนฺตํ วทนฺตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๙๕) สณฺานํ. ‘กถํวิธ’นฺติ หิ ปทสฺส กถํสณฺานนฺติ อตฺโถ. ‘‘เอกวิเธน าณวตฺถุํ ทุวิเธน าณวตฺถู’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๕๑-๗๕๒) โกฏฺาโส วิธา นาม. อิธาปิ โกฏฺาโสว อธิปฺเปโต.

สงฺคหสทฺโทปิ สชาติสฺชาติกิริยาคณนวเสน จตุพฺพิโธ. ตตฺถ ‘‘สพฺเพ ขตฺติยา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ พฺราหฺมณา สพฺเพ เวสฺสา สพฺเพ สุทฺทา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา, โย จ สมฺมากมฺมนฺโต, โย จ สมฺมาอาชีโว – อิเม ธมฺมา สีลกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ ‘สชาติสงฺคโห’ นาม. ‘เอกชาติกา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺตฏฺาเน วิย หิ อิธ สพฺเพ ชาติยา เอกสงฺคหํ คตา. ‘‘สพฺเพ โกสลกา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ มาคธกา, สพฺเพ ภารุกจฺฉกา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘โย จาวุโส วิสาข, สมฺมาวายาโม, ยา จ สมฺมาสติ, โย จ สมฺมาสมาธิ – อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ อยํ ‘สฺชาติสงฺคโห’ นาม. เอกฏฺาเน ชาตา สํวุทฺธา อาคจฺฉนฺตูติ วุตฺตฏฺาเน วิย หิ อิธ สพฺเพ สฺชาติฏฺาเนน นิวุตฺโถกาเสน เอกสงฺคหํ คตา. ‘‘สพฺเพ หตฺถาโรหา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ อสฺสาโรหา, สพฺเพ รถิกา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาทิฏฺิ, โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป – อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ ‘กิริยาสงฺคโห’ นาม. สพฺเพว เหเต อตฺตโน กิริยากรเณน เอกสงฺคหํ คตา. ‘‘จกฺขายตนํ กตมกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ? จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ. หฺจิ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ, เตน วต เร วตฺตพฺเพ – จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิต’’นฺติ (กถา. ๔๗๑), อยํ ‘คณนสงฺคโห’ นาม. อยมิธ อธิปฺเปโต. เอกโกฏฺาเสน รูปคณนาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ.

ทุกนิทฺเทสวณฺณนา

อุปาทาภาชนียกถา

๕๙๕. อิทานิ ทุวิธสงฺคหาทีสุ ‘อตฺถิ รูปํ อุปาทา, อตฺถิ รูปํ โนอุปาทา’ติ เอวํ เภทสพฺภาวโต ปุจฺฉาปุพฺพงฺคมํ ปทภาชนํ ทสฺเสนฺโต กตมํ ตํ รูปํ อุปาทาติอาทิมาห. ตตฺถ อุปาทิยตีติ ‘อุปาทา’; มหาภูตานิ คเหตฺวา, อมุฺจิตฺวา, ตานิ นิสฺสาย ปวตฺตตีติ อตฺโถ. อิทานิ ตํ ปเภทโต ทสฺเสนฺโต จกฺขายตนนฺติอาทิมาห.

๕๙๖. เอวํ เตวีสติวิธํ อุปาทารูปํ สงฺเขปโต อุทฺทิสิตฺวา ปุน ตเทว วิตฺถารโต นิทฺทิสนฺโต กตมํ ตํ รูปํ จกฺขายตนนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ทุวิธํ จกฺขุ – มํสจกฺขุ ปฺาจกฺขุ จ. เอเตสุ ‘พุทฺธจกฺขุ สมนฺตจกฺขุ าณจกฺขุ ทิพฺพจกฺขุ ธมฺมจกฺขู’ติ ปฺจวิธํ ปฺาจกฺขุ. ตตฺถ ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต สตฺเต อปฺปรชกฺเข…เป… ทุวิฺาปเย’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๓) อิทํ พุทฺธจกฺขุ นาม. ‘‘สมนฺตจกฺขุ วุจฺจติ สพฺพฺุตฺาณ’’นฺติ อิทํ สมนฺตจกฺขุ นาม. ‘‘จกฺขุํ อุทปาทิ าณํ อุทปาที’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๕) อิทํ าณจกฺขุ นาม. ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธนา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๔) อิทํ ทิพฺพจกฺขุ นาม. ‘‘ตสฺมึ เยวาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาที’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๕) อิทํ เหฏฺิมมคฺคตฺตยสงฺขาตํ าณํ ธมฺมจกฺขุ นาม.

มํสจกฺขุปิ ปสาทจกฺขุ สสมฺภารจกฺขูติ ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ โยยํ อกฺขิกูปเก ปติฏฺิโต เหฏฺา อกฺขิกูปกฏฺิเกน, อุปริ ภมุกฏฺิเกน, อุภโต อกฺขิกูเฏหิ, อนฺโต มตฺถลุงฺเคน, พหิทฺธา อกฺขิโลเมหิ ปริจฺฉินฺโน มํสปิณฺโฑ. สงฺเขปโต ‘จตสฺโส ธาตุโย, วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา, สมฺภโว สณฺานํ, ชีวิตํ ภาโว กายปสาโท จกฺขุปสาโท’ติ จุทฺทสสมฺภาโร. วิตฺถารโต ‘จตสฺโส ธาตุโย, ตํสนฺนิสฺสิตวณฺณคนฺธรสโอชาสณฺานสมฺภวา จา’ติ อิมานิ ทส จตุสมุฏฺานิกตฺตา จตฺตาลีสํ โหนฺติ. ชีวิตํ ภาโว กายปสาโท จกฺขุปสาโทติ จตฺตาริ เอกนฺตกมฺมสมุฏฺานาเนวาติ อิเมสํ จตุจตฺตาลีสาย รูปานํ วเสน จตุจตฺตาลีสสมฺภาโร. ยํ โลโก เสตํ จกฺขุํ ปุถุลํ วิสฏํ วิตฺถิณฺณํ ‘จกฺขุ’นฺติ สฺชานนฺโต น จกฺขุํ สฺชานาติ, วตฺถุํ จกฺขุโต สฺชานาติ, โส มํสปิณฺโฑ อกฺขิกูเป ปติฏฺิโต, นฺหารุสุตฺตเกน มตฺถลุงฺเค อาพทฺโธ, ยตฺถ เสตมฺปิ อตฺถิ, กณฺหมฺปิ โลหิตกมฺปิ, ปถวีปิ อาโปปิ เตโชปิ วาโยปิ, ยํ เสมฺหูสฺสทตฺตา เสตํ, ปิตฺตุสฺสทตฺตา กณฺหํ, รุหิรุสฺสทตฺตา โลหิตกํ, ปถวุสฺสทตฺตา ปตฺถิณฺณํ โหติ, อาปุสฺสทตฺตา ปคฺฆรติ, เตชุสฺสทตฺตา ปริทยฺหติ, วายุสฺสทตฺตา สมฺภมติ, อิทํ สสมฺภารจกฺขุ นาม.

โย ปเนตฺถ สิโต เอตฺถ ปฏิพทฺโธ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท, อิทํ ปสาทจกฺขุ นาม. ตเทตํ ตสฺส สสมฺภารจกฺขุโน เสตมณฺฑลปริกฺขิตฺตสฺส กณฺหมณฺฑลสฺส มชฺเฌ, อภิมุเข ิตานํ สรีรสณฺานุปฺปตฺติเทสภูเต ทิฏฺิมณฺฑเล, สตฺตสุ ปิจุปฏเลสุ อาสิตฺตเตลํ ปิจุปฏลานิ วิย, สตฺตกฺขิปฏลานิ พฺยาเปตฺวา, ธารณนฺหาปนมณฺฑนพีชนกิจฺจาหิ จตูหิ ธาตีหิ ขตฺติยกุมาโร วิย, สนฺธารณอาพนฺธนปริปาจนสมุทีรณกิจฺจาหิ จตูหิ ธาตูหิ กตูปการํ, อุตุจิตฺตาหาเรหิ อุปตฺถมฺภิยมานํ, อายุนา อนุปาลิยมานํ, วณฺณคนฺธรสาทีหิ ปริวุตํ, ปมาณโต อูกาสิรมตฺตํ, จกฺขุวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ธมฺมเสนาปตินา –

‘‘เยน จกฺขุปฺปสาเทน, รูปานิ มนุปสฺสติ;

ปริตฺตํ สุขุมํ เอตํ, อูกาสิรสมูปม’’นฺติ.

จกฺขุ จ ตํ อายตนฺจาติ จกฺขายตนํ. ยํ จกฺขุ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโทติ อิธาปิ อุปโยคตฺเถเยว สามิวจนํ; จตฺตาริ มหาภูตานิ อุปาทิยิตฺวา ปวตฺตปฺปสาโทติ อตฺโถ. อิมินา ปสาทจกฺขุเมว คณฺหาติ, เสสจกฺขุํ ปฏิกฺขิปติ. ยํ ปน อินฺทฺริยโคจรสุตฺเต ‘‘เอกํ มหาภูตํ อุปาทาย ปสาโท ปถวีธาตุยา ตีหิ มหาภูเตหิ สงฺคหิโต อาโปธาตุยา จ เตโชธาตุยา จ วาโยธาตุยา จ,’’ จตุปริวตฺตสุตฺเต ‘‘ทฺวินฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท ปถวีธาตุยา จ อาโปธาตุยา จ ทฺวีหิ มหาภูเตหิ สงฺคหิโต เตโชธาตุยา จ วาโยธาตุยา จา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปริยาเยน วุตฺตํ. อยฺหิ สุตฺตนฺติกกถา นาม ปริยายเทสนา . โย จ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท โส เตสุ เอเกกสฺสาปิ ทินฺนํ ทฺวินฺนมฺปิ ปสาโทเยวาติ อิมินา ปริยาเยน ตตฺถ เทสนา อาคตา. อภิธมฺโม ปน นิปฺปริยายเทสนา นาม. ตสฺมา อิธ ‘จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท’ติ วุตฺตํ.

‘อยํ เม อตฺตา’ติ พาลชเนน ปริคฺคหิตตฺตา อตฺตภาโว วุจฺจติ สรีรมฺปิ ขนฺธปฺจกมฺปิ. ตสฺมึ ปริยาปนฺโน ตนฺนิสฺสิโตติ อตฺตภาวปริยาปนฺโน จกฺขุวิฺาเณน ปสฺสิตุํ น สกฺกาติ อนิทสฺสโน. ปฏิฆฏฺฏนานิฆํโส เอตฺถ ชายตีติ สปฺปฏิโฆ.

เยนาติอาทีสุ อยํ สงฺเขปตฺโถ – เยน กรณภูเตน จกฺขุนา อยํ สตฺโต อิทํ วุตฺตปฺปการํ รูปํ อตีเต ปสฺสิ วา, วตฺตมาเน ปสฺสติ วา, อนาคเต ปสฺสิสฺสติ วา, สจสฺส อปริภินฺนํ จกฺขุ ภเวยฺย, อถาเนน อาปาถคตํ รูปํ ปสฺเส วา, อตีตํ วา รูปํ อตีเตน จกฺขุนา ปสฺสิ, ปจฺจุปฺปนฺนํ ปจฺจุปฺปนฺเนน ปสฺสติ, อนาคตํ อนาคเตน ปสฺสิสฺสติ, สเจ ตํ รูปํ จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺเฉยฺย จกฺขุนา ตํ รูปํ ปสฺเสยฺยาติ อิทเมตฺถ ปริกปฺปวจนํ. ทสฺสนปริณายกฏฺเน จกฺขุํเปตํ, สฺชาติสโมสรณฏฺเน จกฺขายตนํเปตํ, สุฺตภาวนิสฺสตฺตฏฺเน จกฺขุธาตุเปสา. ทสฺสนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ จกฺขุนฺทฺริยํเปตํ. ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกเปโส. วฬฺชนฏฺเน ทฺวาราเปสา. อปูรณียฏฺเน สมุทฺโทเปโส. ปริสุทฺธฏฺเน ปณฺฑรํเปตํ. ผสฺสาทีนํ อภิชายนฏฺเน เขตฺตํเปตํ. เตสํเยว ปติฏฺานฏฺเน วตฺถุํเปตํ. สมวิสมํ ทสฺเสนฺตํ อตฺตภาวํ เนตีติ เนตฺตํเปตํ. เตเนวฏฺเน นยนํเปตํ. สกฺกายปริยาปนฺนฏฺเน โอริมํ ตีรํเปตํ. พหุสาธารณฏฺเน อสฺสามิกฏฺเน จ สุฺโ คาโมเปโสติ.

เอตฺตาวตา ‘ปสฺสิ วา’ติอาทีหิ จตูหิ ปเทหิ จกฺขุํเปตนฺติอาทีนิ จุทฺทส นามานิ โยเชตฺวา จกฺขายตนสฺส จตฺตาโร ววตฺถาปนนยา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. กถํ? เอตฺถ หิ เยน จกฺขุนา อนิทสฺสเนน สปฺปฏิเฆน รูปํ สนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ ปสฺสิ วา จกฺขุํเปตํ…เป… สุฺโ คาโมเปโส, อิทํ ตํ รูปํ จกฺขายตนนฺติ อยเมโก นโย. เอวํ เสสาปิ เวทิตพฺพา.

๕๙๗. อิทานิ ยสฺมา วิชฺชุนิจฺฉรณาทิกาเลสุ อโนโลเกตุกามสฺสาปิ รูปํ จกฺขุปสาทํ ฆฏฺเฏติ, ตสฺมา ตํ อาการํ ทสฺเสตุํ ทุติโย นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ ยมฺหิ จกฺขุมฺหีติ ยมฺหิ อธิกรณภูเต จกฺขุมฺหิ. รูปนฺติ ปจฺจตฺตวจนเมตํ. ตตฺถ ปฏิหฺิ วาติ อตีตตฺโถ. ปฏิหฺติวาติ ปจฺจุปฺปนฺนตฺโถ. ปฏิหฺิสฺสติ วาติ อนาคตตฺโถ. ปฏิหฺเ วาติ วิกปฺปนตฺโถ. อตีตฺหิ รูปํ อตีเต จกฺขุสฺมึ ปฏิหฺิ นาม. ปจฺจุปฺปนฺนํ ปจฺจุปฺปนฺเน ปฏิหฺติ นาม. อนาคตํ อนาคเต ปฏิหฺิสฺสติ นาม. สเจ ตํ รูปํ จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺเฉยฺย, จกฺขุมฺหิ ปฏิหฺเยฺย ตํ รูปนฺติ อยเมตฺถ ปริกปฺโป. อตฺถโต ปน ปสาทํ ฆฏฺฏยมานเมว รูปํ ปฏิหฺติ นาม. อิธาปิ ปุริมนเยเนว จตฺตาโร ววตฺถาปนนยา เวทิตพฺพา.

๕๙๘. อิทานิ ยสฺมา อตฺตโน อิจฺฉาย โอโลเกตุกามสฺส รูเป จกฺขุํ อุปสํหรโต จกฺขุ รูปสฺมึ ปฏิหฺติ, ตสฺมา ตํ อาการํ ทสฺเสตุํ ตติโย นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. โส อตฺถโต ปากโฏเยว. เอตฺถ ปน จกฺขุ อารมฺมณํ สมฺปฏิจฺฉมานเมว รูปมฺหิ ปฏิหฺติ นาม. อิธาปิ ปุริมนเยเนว จตฺตาโร ววตฺถาปนนยา เวทิตพฺพา.

๕๙๙. อิโต ปรํ ผสฺสปฺจมกานํ อุปฺปตฺติทสฺสนวเสน ปฺจ, เตสํเยว อารมฺมณปฏิพทฺธอุปฺปตฺติทสฺสนวเสน ปฺจาติ, ทส วารา ทสฺสิตา. ตตฺถ จกฺขุํ นิสฺสายาติ จกฺขุํ นิสฺสาย, ปจฺจยํ กตฺวา. รูปํ อารพฺภาติ รูปารมฺมณํ อาคมฺม, สนฺธาย, ปฏิจฺจ. อิมินา จกฺขุปสาทวตฺถุกานํ ผสฺสาทีนํ ปุเรชาตปจฺจเยน จกฺขุทฺวารชวนวีถิปริยาปนฺนานํ อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยปจฺจเยหิ รูปสฺส ปจฺจยภาโว ทสฺสิโต. อิตเรสุ ปฺจสุ วาเรสุ รูปํ อารมฺมณมสฺสาติ รูปารมฺมโณติ เอวํ อารมฺมณปจฺจยมตฺเตเนว ปจฺจยภาโว ทสฺสิโต. ยถา ปน ปุริเมสุ ตีสุ, เอวํ อิเมสุปิ ทสสุ วาเรสุ จตฺตาโร จตฺตาโร ววตฺถาปนนยา เวทิตพฺพา. เอวํ กตมํ ตํ รูปํ จกฺขายตนนฺติ ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ จกฺขุํ ‘อิทํ ต’นฺติ นานปฺปการโต ทสฺเสตุํ, ปุริมา ตโย, อิเม ทสาติ, เตรส นิทฺเทสวารา ทสฺสิตา. เอเกกสฺมิฺเจตฺถ จตุนฺนํ จตุนฺนํ ววตฺถาปนนยานํ อาคตตฺตา ทฺวิปฺาสาย นเยหิ ปฏิมณฺเฑตฺวาว ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.

๖๐๐. อิโต ปเรสุ โสตายตนาทินิทฺเทเสสุปิ เอเสว นโย. วิเสสมตฺตํ ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพํ – สุณาตีติ โสตํ. ตํ สสมฺภารโสตพิลสฺส อนฺโต ตนุตมฺพโลมาจิเต องฺคุลิเวธกสณฺาเน ปเทเส วุตฺตปฺปการาหิ ธาตูหิ กตูปการํ, อุตุจิตฺตาหาเรหิ อุปตฺถมฺภิยมานํ, อายุนา อนุปาลิยมานํ, วณฺณาทีหิ ปริวุตํ โสตวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ.

ฆายตีติ ฆานํ. ตํ สสมฺภารฆานพิลสฺส อนฺโต อชปฺปทสณฺาเน ปเทเส ยถาวุตฺตปฺปการอุปการุปตฺถมฺภนานุปาลนปริวารํ หุตฺวา ฆานวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ.

สายนฏฺเน ชิวฺหา. สา สสมฺภารชิวฺหามชฺฌสฺส อุปริ อุปฺปลทลคฺคสณฺาเน ปเทเส ยถาวุตฺตปฺปการอุปการุปตฺถมฺภนานุปาลนปริวารา หุตฺวา ชิวฺหาวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานา ติฏฺติ.

ยาวตา ปน อิมสฺมึ กาเย อุปาทิณฺณกรูปํ นาม อตฺถิ, สพฺพตฺถ กายายตนํ, กปฺปาสปฏเล สฺเนโห วิย, ยถาวุตฺตปฺปการอุปการุปตฺถมฺภนานุปาลนปริวารเมว หุตฺวา กายวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. อยเมตฺถ วิเสโส. เสโส ปาฬิปฺปเภโท จ อตฺโถ จ จกฺขุนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เกวลฺหิ อิธ จกฺขุปทสฺส าเน โสตปทาทีนิ, รูปปทสฺส าเน สทฺทปทาทีนิ, ปสฺสีติ อาทีนํ าเน สุณีติอาทิปทานิ จ อาคตานิ. ‘เนตฺตํเปตํ , นยนํเปต’นฺติ อิมสฺส จ ปททฺวยสฺส อภาวา ทฺวาทส ทฺวาทส นามานิ โหนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตสทิสเมว.

ตตฺถ สิยา – ยทิ ยาวตา อิมสฺมึ กาเย อุปาทิณฺณกรูปํ นาม อตฺถิ, สพฺพตฺถ กายายตนํ, กปฺปาสปฏเล สฺเนโห วิย. ‘เอวํ สนฺเต ลกฺขณสมฺมิสฺสตา อาปชฺชตี’ติ. ‘นาปชฺชตี’ติ. ‘กสฺมา’? ‘อฺสฺส อฺตฺถ อภาวโต’. ‘ยทิ เอวํ, น สพฺพตฺถ กายายตน’นฺติ? ‘เนว ปรมตฺถโต สพฺพตฺถ. วินิพฺภุชิตฺวา ปนสฺส นานากรณํ ปฺาเปตุํ น สกฺกา, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. ยถา หิ รูปรสาทโย, วาลิกาจุณฺณานิ วิย, วิเวเจตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อฺมฺพฺยาปิโนติ วุจฺจนฺติ, น จ ปรมตฺถโต รูเป รโส อตฺถิ. ยทิ สิยา รูปคฺคหเณเนว รสคฺคหณํ คจฺเฉยฺย. เอวํ กายายตนมฺปิ ปรมตฺถโต เนว สพฺพตฺถ อตฺถิ, น จ สพฺพตฺถ นตฺถิ, วิเวเจตุํ อสกฺกุเณยฺยตายาติ. เอวเมตฺถ น ลกฺขณสมฺมิสฺสตา อาปชฺชตีติ เวทิตพฺพา’.

อปิจ ลกฺขณาทิววตฺถาปนโตเปเตสํ อสมฺมิสฺสตา เวทิตพฺพา – เอเตสุ หิ รูปาภิฆาตารหภูตปฺปสาทลกฺขณํ ทฏฺุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานภูตปฺปสาทลกฺขณํ วา จกฺขุ, รูเปสุ อาวิฺฉนรสํ, จกฺขุวิฺาณสฺส อาธารภาวปจฺจุปฏฺานํ, ทฏฺุกามตานิทานกมฺมชภูตปทฏฺานํ.

สทฺทาภิฆาตารหภูตปฺปสาทลกฺขณํ โสตุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานภูตปฺปสาทลกฺขณํ วา โสตํ, สทฺเทสุ อาวิฺฉนรสํ, โสตวิฺาณสฺส อาธารภาวปจฺจุปฏฺานํ, โสตุกามตานิทานกมฺมชภูตปทฏฺานํ.

คนฺธาภิฆาตารหภูตปฺปสาทลกฺขณํ ฆายิตุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานภูตปฺปสาทลกฺขณํ วา ฆานํ, คนฺเธสุ อาวิฺฉนรสํ, ฆานวิฺาณสฺส อาธารภาวปจฺจุปฏฺานํ ฆายิตุกามตานิทานกมฺมชภูตปทฏฺานํ.

รสาภิฆาตารหภูตปฺปสาทลกฺขณา สายิตุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานภูตปฺปสาทลกฺขณา วา ชิวฺหา, รเสสุ อาวิฺฉนรสา, ชิวฺหาวิฺาณสฺส อาธารภาวปจฺจุปฏฺานา, สายิตุกามตานิทานกมฺมชภูตปทฏฺานา.

โผฏฺพฺพาภิฆาตารหภูตปฺปสาทลกฺขโณ ผุสิตุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานภูตปฺปสาทลกฺขโณ วา กาโย, โผฏฺพฺเพสุ อาวิฺฉนรโส, กายวิฺาณสฺส อาธารภาวปจฺจุปฏฺาโน, ผุสิตุกามตานิทานกมฺมชภูตปทฏฺาโน.

เกจิ ปน ‘เตชาธิกานํ ภูตานํ ปสาโท จกฺขุ, วายุปถวีอาปาธิกานํ ภูตานํ ปสาทา โสตฆานชิวฺหา, กาโย สพฺเพส’นฺติ วทนฺติ. อปเร ‘เตชาธิกานํ ปสาโท จกฺขุ, วิวรวายุอาปปถวาธิกานํ ปสาทา โสตฆานชิวฺหากายา’ติ วทนฺติ. เต วตฺตพฺพา – ‘สุตฺตํ อาหรถา’ติ. อทฺธา สุตฺตเมว น ทกฺขิสฺสนฺติ. เกจิ ปเนตฺถ ‘เตชาทีนํ คุเณหิ รูปาทีหิ อนุคฺคยฺหภาวโต’ติ การณํ วทนฺติ. เต จ วตฺตพฺพา – ‘โก ปเนวมาห – รูปาทโย เตชาทีนํ คุณา’ติ? อวินิพฺโภเคสุ หิ รูเปสุ ‘อยํ อิมสฺส คุโณ, อยํ อิมสฺส คุโณ’ติ น ลพฺภา วตฺตุํ. อถาปิ วเทยฺยุํ – ‘ยถา เตสุ เตสุ สมฺภาเรสุ ตสฺส ตสฺส ภูตสฺส อธิกตาย ปถวีอาทีนํ สนฺธารณาทีนิ กิจฺจานิ อิจฺฉถ, เอวํ เตชาทิอธิเกสุ สมฺภาเรสุ รูปาทีนํ อธิกภาวทสฺสนโต อิจฺฉิตพฺพเมตํ รูปาทโย เตสํ คุณา’ติ. เต วตฺตพฺพา – อิจฺเฉยฺยาม , ยทิ อาปาธิกสฺส อาสวสฺส คนฺธโต ปถวีอธิเก กปฺปาเส คนฺโธ อธิกตโร สิยา, เตชาธิกสฺส จ อุณฺโหทกสฺส วณฺณโตปิ สีตูทกสฺส วณฺโณ ปริหาเยถ. ยสฺมา ปเนตํ อุภยมฺปิ นตฺถิ, ตสฺมา ปหาเยเถตํ เอเตสํ นิสฺสยภูตานํ วิเสสกปฺปนํ, ยถา อวิเสเสปิ เอกกลาเป ภูตานํ รูปรสาทโย อฺมฺํ วิสทิสา โหนฺติ, เอวํ จกฺขุปสาทาทโย, อวิชฺชมาเนปิ อฺสฺมึ วิเสสการเณติ คเหตพฺพเมตํ.

กึ ปน ตํ ยํ อฺมฺสฺส อสาธารณํ? กมฺมเมว เนสํ วิเสสการณํ. ตสฺมา กมฺมวิเสสโต เอเตสํ วิเสโส, น ภูตวิเสสโต. ภูตวิเสเส หิ สติ ปสาโทว นุปฺปชฺชติ. สมานานฺหิ ปสาโท, น วิสมานานนฺติ โปราณา. เอวํ กมฺเมวิสสโต วิเสสวนฺเตสุ จ เอเตสุ จกฺขุโสตานิ อสมฺปตฺตวิสยคฺคาหกานิ อตฺตโน นิสฺสยํ อนลฺลีนนิสฺสเย เอว วิสเย วิฺาณเหตุตฺตา. ฆานชิวฺหากายา สมฺปตฺตวิสยคฺคาหกา, นิสฺสยวเสน เจว สยฺจ อตฺตโน นิสฺสยํ อลฺลีเนเยว วิสเย วิฺาณเหตุตฺตา.

อฏฺกถายํ ปน ‘‘อาปาถคตตฺตาว อารมฺมณํ สมฺปตฺตํ นาม. จนฺทมณฺฑลสูริยมณฺฑลานฺหิ ทฺวาจตฺตาลีสโยชนสหสฺสมตฺถเก ิตานํ วณฺโณ จกฺขุปสาทํ ฆฏฺเฏติ. โส ทูเร ตฺวา ปฺายมาโนปิ สมฺปตฺโตเยว นาม. ตํโคจรตฺตา จกฺขุ สมฺปตฺตโคจรเมว นาม. ทูเร รุกฺขํ ฉินฺทนฺตานมฺปิ, รชกานฺจ วตฺถํ โธวนฺตานํ ทูรโตว กายวิกาโร ปฺายติ. สทฺโท ปน ธาตุปรมฺปราย อาคนฺตฺวา โสตํ ฆฏฺเฏตฺวา สณิกํ ววตฺถานํ คจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺถ กิฺจาปิ อาปาถคตตฺตา อารมฺมณํ สมฺปตฺตนฺติ วุตฺตํ, จนฺทมณฺฑลาทิวณฺโณ ปน จกฺขุํ อสมฺปตฺโต ทูเร ิโตว ปฺายติ. สทฺโทปิ สเจ สณิกํ อาคจฺเฉยฺย, ทูเร อุปฺปนฺโน จิเรน สุยฺเยยฺย, ปรมฺปรฆฏฺฏนาย จ อาคนฺตฺวา โสตํ ฆฏฺเฏนฺโต อสุกทิสาย นามาติ น ปฺาเยยฺย. ตสฺมา อสมฺปตฺตโคจราเนว ตานิ.

อหิอาทิสมานานิ เจตานิ. ยถา หิ อหิ นาม พหิ สิตฺตสมฺมฏฺฏฺาเน นาภิรมติ, สงฺการฏฺานติณปณฺณคหนวมฺมิกานิเยว ปน ปวิสิตฺวา นิปนฺนกาเล อภิรมติ, เอกคฺคตํ อาปชฺชติ, เอวเมว จกฺขุเปตํ วิสมชฺฌาสยํ มฏฺเสุ สุวณฺณภิตฺติอาทีสุ นาภิรมติ, โอโลเกตุมฺปิ น อิจฺฉติ, รูปจิตฺตปุปฺผลตาทิจิตฺเตสุเยว ปน อภิรมติ. ตาทิเสสุ หิ าเนสุ จกฺขุมฺหิ อปฺปโหนฺเต มุขมฺปิ วิวริตฺวา โอโลเกตุกามา โหนฺติ.

สุสุมาโรปิ พหิ นิกฺขนฺโต คเหตพฺพํ น ปสฺสติ, อกฺขีนิ นิมฺมีเลตฺวาว จรติ. ยทา ปน พฺยามสตมตฺตํ อุทกํ โอคาหิตฺวา พิลํ ปวิสิตฺวา นิปนฺโน โหติ, ตทา ตสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ สุขํ สุปติ, เอวเมว โสตํ ตมฺเป พิลชฺฌาสยํ อากาสสนฺนิสฺสิตํ กณฺณจฺฉิทฺทกูปเกเยว อชฺฌาสยํ กโรติ. กณฺณจฺฉิทฺทากาโสเยว ตสฺส สทฺทสวเน ปจฺจโย โหติ. อชฏากาโสปิ วฏฺฏติเยว. อนฺโตเลณสฺมิฺหิ สชฺฌาเย กริยมาเน น เลณจฺฉทนํ ภินฺทิตฺวา สทฺโท พหิ นิกฺขมติ, ทฺวารวาตปานจฺฉิทฺเทหิ ปน นิกฺขมิตฺวา ธาตุปรมฺปราเยว ฆฏฺเฏนฺโต คนฺตฺวา โสตปสาทํ ฆฏฺเฏติ. อถ ตสฺมึ กาเล ‘อสุโก นาม สชฺฌายตี’ติ เลณปิฏฺเ นิสินฺนา ชานนฺติ.

เอวํ สนฺเต สมฺปตฺตโคจรตา โหติ. ‘กึ ปเนตํ สมฺปตฺตโคจร’นฺติ? ‘อาม, สมฺปตฺตโคจรํ’. ‘ยทิ เอวํ, ทูเร เภรีอาทีสุ วชฺชมาเนสุ ทูเร สทฺโทติ ชานนํ น ภเวยฺยา’ติ? ‘โน น ภวติ. โสตปสาทสฺมิฺหิ ฆฏฺฏิเต ทูเร สทฺโท อาสนฺเน สทฺโท, ปรตีเร โอริมตีเรติ ตถา ตถา ชานนากาโร โหติ. ธมฺมตา เอสา’ติ. ‘กึ เอตาย ธมฺมตาย? ยโต ยโต ฉิทฺทํ ตโต ตโต สวนํ โหติ, จนฺทิมสูริยาทีนํ ทสฺสนํ วิยาติ อสมฺปตฺตโคจรเมเวตํ’.

ปกฺขีปิ รุกฺเข วา ภูมิยํ วา น รมติ. ยทา ปน เอกํ วา ทฺเว วา เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺม อชฏากาสํ ปกฺขนฺโท โหติ, ตทา เอกคฺคจิตฺตตํ อาปชฺชติ, เอวเมว ฆานมฺปิ อากาสชฺฌาสยํ วาตูปนิสฺสยคนฺธโคจรํ. ตถา หิ คาโว นววุฏฺเ เทเว ภูมิยํ ฆายิตฺวา ฆายิตฺวา อากาสาภิมุขา หุตฺวา วาตํ อากฑฺฒนฺติ. องฺคุลีหิ คนฺธปิณฺฑํ คเหตฺวาปิ จ อุปสิงฺฆนกาเล วาตํ อนากฑฺฒนฺโต เนว ตสฺส คนฺธํ ชานาติ.

กุกฺกุโรปิ พหิ วิจรนฺโต เขมฏฺานํ น ปสฺสติ เลฑฺฑุปหาราทีหิ อุปทฺทุโต โหติ. อนฺโตคามํ ปวิสิตฺวา อุทฺธนฏฺาเน ฉาริกํ พฺยูหิตฺวา นิปนฺนสฺส ปน ผาสุกํ โหติ, เอวเมว ชิวฺหาปิ คามชฺฌาสยา อาโปสนฺนิสฺสิตรสารมฺมณา. ตถา หิ ติยามรตฺตึ สมณธมฺมํ กตฺวาปิ ปาโตว ปตฺตจีวรมาทาย คาโม ปวิสิตพฺโพ โหติ. สุกฺขขาทนียสฺส จ น สกฺกา เขเฬน อเตมิตสฺส รสํ ชานิตุํ.

สิงฺคาโลปิ พหิ จรนฺโต รตึ น วินฺทติ, อามกสุสาเน มนุสฺสมํสํ ขาทิตฺวา นิปนฺนสฺเสว ปนสฺส ผาสุกํ โหติ, เอวเมว กาโยปิ อุปาทิณฺณกชฺฌาสโย ปถวีนิสฺสิตโผฏฺพฺพารมฺมโณ. ตถา หิ อฺํ อุปาทิณฺณกํ อลภมานา สตฺตา อตฺตโนว หตฺถตเล สีสํ กตฺวา นิปชฺชนฺติ. อชฺฌตฺติกพาหิรา จสฺส ปถวี อารมฺมณคฺคหเณ ปจฺจโย โหติ. สุสนฺถตสฺสปิ หิ สยนสฺส, หตฺเถ ปิตานมฺปิ วา ผลานํ, น สกฺกา อนิสีทนฺเตน วา อนิปฺปีเฬนฺเตน วา ถทฺธมุทุภาโว ชานิตุนฺติ. อชฺฌตฺติกพาหิราปถวี เอตสฺส กายปสาทสฺส โผฏฺพฺพชานเน ปจฺจโย โหติ. เอวํ ลกฺขณาทิววตฺถานโตเปเตสํ อสมฺมิสฺสตา เวทิตพฺพา. อฺเเยว หิ จกฺขุปสาทสฺส ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานโคจรชฺฌาสยนิสฺสยา อฺเ โสตปสาทาทีนนฺติ อสมฺมิสฺสาเนว จกฺขายตนาทีนิ.

อปิจ เนสํ อสมฺมิสฺสตาย อยํ อุปมาปิ เวทิตพฺพา – ยถา หิ ปฺจวณฺณานํ ธชานํ อุสฺสาปิตานํ กิฺจาปิ ฉายา เอกาพทฺธา วิย โหติ, ตสฺส ตสฺส ปน อฺมฺํ อสมฺมิสฺสาว ยถา จ ปฺจวณฺเณน กปฺปาเสน วฏฺฏึ กตฺวา ทีเป ชาลิเต กิฺจาปิ ชาลา เอกาพทฺธา วิย โหติ, ตสฺส ตสฺส ปน อํสุโน ปาฏิเยกฺกา ปาฏิเยกฺกา ชาลา อสมฺมิสฺสา เอว, เอวเมว กิฺจาปิ อิมานิ ปฺจายตนานิ เอกสฺมึ อตฺตภาเว สโมสฏานิ อฺมฺํ ปน อสมฺมิสฺสาเนว. น เกวลฺจ อิมาเนว ปฺจ, เสสรูปานิปิ อสมฺมิสฺสาเนว. อิมสฺมิฺหิ สรีเร เหฏฺิมกาโย มชฺฌิมกาโย อุปริมกาโยติ ตโย โกฏฺาสา. ตตฺถ นาภิโต ปฏฺาย เหฏฺา เหฏฺิมกาโย นาม. ตสฺมึ กายทสกํ, ภาวทสกํ, อาหารสมุฏฺานานิ อฏฺ, อุตุสมุฏฺานานิ อฏฺ, จิตฺตสมุฏฺานานิ อฏฺาติ จตุจตฺตาลีส รูปานิ. นาภิโต อุทฺธํ ยาว คลวาฏกา มชฺฌิมกาโย นาม. ตตฺถ จ กายทสกํ, ภาวทสกํ, วตฺถุทสกํ, อาหารสมุฏฺานาทีนิ ตีณิ อฏฺกานีติ จตุปฺาส รูปานิ. คลวาฏกโต อุทฺธํ อุปริมกาโย นาม. ตตฺถ จกฺขุทสกํ, โสตทสกํ, ฆานทสกํ, ชิวฺหาทสกํ, กายทสกํ, ภาวทสกํ, อาหารสมุฏฺานาทีนิ ตีณิ อฏฺกานีติ จตุราสีติ รูปานิ.

ตตฺถ จกฺขุปสาทสฺส ปจฺจยานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา, ชีวิตินฺทฺริยํ จกฺขุปสาโทติ อิทํ เอกนฺตโต อวินิภุตฺตานํ ทสนฺนํ นิปฺผนฺนรูปานํ วเสน จกฺขุทสกํ นาม. อิมินา นเยน เสสานิปิ เวทิตพฺพานิ. เตสุ เหฏฺิมกาเย รูปํ มชฺฌิมกายอุปริมกายรูเปหิ สทฺธึ อสมฺมิสฺสํ. เสสกายทฺวเยปิ รูปํ อิตเรหิ สทฺธึ อสมฺมิสฺสเมว. ยถา หิ สายนฺหสมเย ปพฺพตจฺฉายา จ รุกฺขจฺฉายา จ กิฺจาปิ เอกาพทฺธา วิย โหนฺติ อฺมฺํ ปน อสมฺมิสฺสาว เอวํ อิเมสุปิ กาเยสุ จตุจตฺตาลีส จตุปฺาส จตุราสีติ รูปานิ จ กิฺจาปิ เอกาพทฺธานิ วิย โหนฺติ, อฺมฺํ ปน อสมฺมิสฺสาเนวาติ.

๖๑๖. รูปายตนนิทฺเทเส วณฺโณว วณฺณนิภา; นิภาตีติ วา นิภา. จกฺขุวิฺาณสฺส ปากฏา โหตีติ อตฺโถ. วณฺโณว นิภา วณฺณนิภา. สทฺธึ นิทสฺสเนน สนิทสฺสนํ, จกฺขุวิฺาเณน ปสฺสิตพฺพนฺติ อตฺโถ. สทฺธึ ปฏิเฆน สปฺปฏิฆํ, ปฏิฆฏฺฏนนิฆํสชนกนฺติ อตฺโถ. นีลาทีสุ อุมาปุปฺผสมานํ นีลํ, กณิการปุปฺผสมานํ ปีตกํ, พนฺธุชีวกปุปฺผสมานํ โลหิตกํ, โอสธิตารกสมานํ โอทาตํ. ฌามงฺคารสมานํ กาฬกํ, มนฺทรตฺตํ สินฺทุวารกรวีรมกุฬสมานํ มฺชิฏฺกํ. ‘‘หริตฺตจเหมวณฺณกามํสุมุขปกฺกมา’’ติ (ชา. ๑.๑๕.๑๓๓) เอตฺถ ปน กิฺจาปิ ‘หรี’ติ สุวณฺณํ วุตฺตํ, ปรโต ปนสฺส ชาตรูปคฺคหเณน คหิตตฺตา อิธ สามํ หริ นาม. อิมานิ สตฺต วตฺถุํ อนามสิตฺวา สภาเวเนว ทสฺสิตานิ.

หริวณฺณนฺติ หริตสทฺทลวณฺณํ. อมฺพงฺกุรวณฺณนฺติ อมฺพงฺกุเรน สมานวณฺณํ. อิมานิ ทฺเว วตฺถุํ อามสิตฺวา ทสฺสิตานิ. ทีฆาทีนิ ทฺวาทส โวหารโต ทสฺสิตานิ. โส จ เนสํ โวหาโร อุปนิธายสิทฺโธ เจว สนฺนิเวสสิทฺโธ จ. ทีฆาทีนิ หิ อฺมฺํ อุปนิธายสิทฺธานิ, วฏฺฏาทีนิ สนฺนิเวสวิเสเสน. ตตฺถ รสฺสํ อุปนิธาย ตโต อุจฺจตรํ ทีฆํ, ตํ อุปนิธาย ตโต นีจตรํ รสฺสํ. ถูลํ อุปนิธาย ตโต ขุทฺทกตรํ อณุํ, ตํ อุปนิธาย ตโต มหนฺตตรํ ถูลํ. จกฺกสณฺานํ วฏฺฏํ, กุกฺกุฏณฺฑสณฺานํ ปริมณฺฑลํ. จตูหิ อํเสหิ ยุตฺตํ จตุรํสํ. ฉฬํสาทีสุปิ เอเสว นโย. นินฺนนฺติ โอนตํ, ถลนฺติ อุนฺนตํ.

ตตฺถ ยสฺมา ทีฆาทีนิ ผุสิตฺวา สกฺกา ชานิตุํ, นีลาทีนิ ปเนวํ น สกฺกา, ตสฺมา น นิปฺปริยาเยน ทีฆํ รูปายตนํ; ตถา รสฺสาทีนิ. ตํ ตํ นิสฺสาย ปน ตถา ตถา ิตํ ทีฆํ รสฺสนฺติ เตน เตน โวหาเรน รูปายตนเมเวตฺถ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ฉายา อาตโปติ อิทํ อฺมฺปริจฺฉินฺนํ; ตถา อาโลโก อนฺธกาโร จ. อพฺภา มหิกาติอาทีนิ จตฺตาริ วตฺถุนาว ทสฺสิตานิ. ตตฺถ ‘อพฺภา’ติ วลาหโก. ‘มหิกา’ติ หิมํ. อิเมหิ จตูหิ อพฺภาทีนํ วณฺณา ทสฺสิตา. จนฺทมณฺฑลสฺส วณฺณนิภาติอาทีหิ เตสํ เตสํ ปภาวณฺณา ทสฺสิตา.

ตตฺถ จนฺทมณฺฑลาทีนํ วตฺถูนํ เอวํ วิเสโส เวทิตพฺโพ – มณิมยํ รชตปฏิจฺฉนฺนํ เอกูนปฺาสโยชนายามวิตฺถารํ จนฺทสฺส เทวปุตฺตสฺส วิมานํ จนฺทมณฺฑลํ นาม. โสวณฺณมยํ ผลิกปฏิจฺฉนฺนํ สมปณฺณาสโยชนายามวิตฺถารํ สูริยสฺส เทวปุตฺตสฺส วิมานํ สูริยมณฺฑลํ นาม. สตฺตรตนมยานิ สตฺตฏฺทสทฺวาทสโยชนายามวิตฺถารานิ เตสํ เตสํ เทวปุตฺตานํ วิมานานิ ตารกรูปานิ นาม.

ตตฺถ เหฏฺา จนฺโท, สูริโย อุปริ, อุภินฺนมนฺตรํ โยชนํ โหติ. จนฺทสฺส เหฏฺิมนฺตโต สูริยสฺส อุปริมนฺโต โยชนสตํ โหติ. ทฺวีสุ ปสฺเสสุ นกฺขตฺตตารกา คจฺฉนฺติ. เอเตสุ ปน ตีสุ จนฺโท ทนฺธคมโน, สูริโย สีฆคมโน, นกฺขตฺตตารกา สพฺพสีฆคมนา. กาเลน จนฺทิมสูริยานํ ปุรโต โหนฺติ กาเลน ปจฺฉา.

อาทาสมณฺฑลนฺติ กํสมยํ. มณีติ เปตฺวา เวฬุริยํ เสโส โชติรสาทิอเนกปฺปเภโท. สงฺโขติ สามุทฺทิโก; มุตฺตา สามุทฺทิกาปิ, เสสาปิ. เวฬุริโยติ เวฬุวณฺณมณิ. ชาตรูปํ วุจฺจติ สตฺถุวณฺโณ. สตฺถา หิ สุวณฺณวณฺโณ, สุวณฺณมฺปิ สตฺถุวณฺณํ. รชตํ วุจฺจติ กหาปโณ – โลหมาสโก ทารุมาสโก ชตุมาสโก, เย ‘โวหารํ คจฺฉนฺตี’ติ (ปารา. ๕๘๔) วุตฺตํ ตํ สพฺพมฺปิ อิธ คหิตํ.

ยํ วา ปนฺมฺปีติ อิมินา ปาฬิอาคตํ เปตฺวา เสสํ ตฏฺฏิกปิโลติกกณฺณิกวณฺณาทิเภทํ รูปํ คหิตํ. ตฺหิ สพฺพํ เยวาปนเกสุ ปวิฏฺํ.

เอวเมตํ นีลาทินา เภเทน ภินฺนมฺปิ รูปํ สพฺพํ ลกฺขณาทีหิ อภินฺนเมว. สพฺพฺเหตํ จกฺขุปฏิหนนลกฺขณํ รูปํ, จกฺขุวิฺาณสฺส วิสยภาวรสํ, ตสฺเสว โคจรปจฺจุปฏฺานํ, จตุมหาภูตปทฏฺานํ. ยถา เจตํ ตถา สพฺพานิปิ อุปาทารูปานิ. ยตฺถ ปน วิเสโส อตฺถิ ตตฺถ วกฺขาม. เสสเมตฺถ จกฺขายตนนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เกวลฺหิ ตตฺถ จกฺขุปุพฺพงฺคโม นิทฺเทโส อิธ รูปปุพฺพงฺคโม. ตตฺถ ‘จกฺขุํ เปต’นฺติอาทีนิ จุทฺทส นามานิ, อิธ ‘รูปํเปต’นฺติอาทีนิ ตีณิ. เสสํ ตาทิสเมว. ยถา หิ จตูหิ จตูหิ นเยหิ ปฏิมณฺเฑตฺวา จกฺขุํ ววตฺถาเปตุํ เตรส วารา วุตฺตา, อิธาปิ เต ตเถว วุตฺตาติ.

๖๒๐. สทฺทายตนนิทฺเทเส เภริสทฺโทติ มหาเภรีปหฏเภรีนํ สทฺโท. มุทิงฺคสงฺขปณวสทฺทาปิ มุทิงฺคาทิปจฺจยา สทฺทา. คีตสงฺขาโต สทฺโท คีตสทฺโท. วุตฺตาวเสสานํ วีณาทีนํ ตนฺติพทฺธานํ สทฺโท วาทิตสทฺโท. สมฺมสทฺโทติ กํสตาลกฏฺตาลสทฺโท. ปาณิสทฺโทติ ปาณิปฺปหารสทฺโท. สตฺตานํ นิคฺโฆสสทฺโทติ พหูนํ สนฺนิปติตานํ อปฺายมานปทพฺยฺชนนิคฺโฆสสทฺโท. ธาตูนํ สนฺนิฆาตสทฺโทติ รุกฺขานํ อฺมฺนิฆํสนฆณฺฏิกาโกฏนาทิสทฺโท. วาตสฺส วายโต สทฺโท วาตสทฺโท. อุทกสฺส สนฺทมานสฺส วา ปฏิหตสฺส วา สทฺโท อุทกสทฺโท. มนุสฺสานํ สลฺลาปาทิสทฺโท มนุสฺสสทฺโท. ตํ เปตฺวา เสโส สพฺโพปิ อมนุสฺสสทฺโท. อิมินา ปททฺวเยน สพฺโพปิ สทฺโท ปริยาทินฺโน. เอวํ สนฺเตปิ วํสผาลนปิโลติกผาลนาทีสุ ปวตฺโต ปาฬิยํ อนาคตสทฺโท เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺโติ เวทิตพฺโพ.

เอวมยํ เภรีสทฺทาทินา เภเทน ภินฺโนปิ สทฺโท ลกฺขณาทีหิ อภินฺโนเยว. สพฺโพปิ เหส โสตปฏิหนนลกฺขโณ สทฺโท โสตวิฺาณสฺส วิสยภาวรโส, ตสฺเสว โคจรปจฺจุปฏฺาโน. เสสํ จกฺขายตนนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิธาปิ หิ จตูหิ จตูหิ นเยหิ ปฏิมณฺฑิตา เตรส วารา วุตฺตา. เตสํ อตฺโถ สกฺกา วุตฺตนเยเนว ชานิตุนฺติ น วิตฺถาริโต.

๖๒๔. คนฺธายตนนิทฺเทเส มูลคนฺโธติ ยํ กิฺจิ มูลํ ปฏิจฺจ นิพฺพตฺโต คนฺโธ. สารคนฺธาทีสุปิ เอเสว นโย. อสิทฺธทุสิทฺธานํ ฑากาทีนํ คนฺโธ อามกคนฺโธ. มจฺฉสกลิกาปูติมํสสํกิลิฏฺสปฺปิอาทีนํ คนฺโธ วิสฺสคนฺโธ. สุคนฺโธติ อิฏฺคนฺโธ. ทุคฺคนฺโธติ อนิฏฺคนฺโธ. อิมินา ปททฺวเยน สพฺโพปิ คนฺโธ ปริยาทินฺโน. เอวํ สนฺเตปิ กณฺณกคนฺธปิโลติกคนฺธาทโย ปาฬิยํ อนาคตา สพฺเพปิ คนฺธา เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺาติ เวทิตพฺพา.

เอวมยํ มูลคนฺธาทินา เภเทน ภินฺโนปิ คนฺโธ ลกฺขณาทีหิ อภินฺโนเยว. สพฺโพปิ เหส ฆานปฏิหนนลกฺขโณ คนฺโธ, ฆานวิฺาณสฺส วิสยภาวรโส, ตสฺเสว โคจรปจฺจุปฏฺาโน. เสสํ จกฺขายตนนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิธาปิ หิ ตเถว ทฺวิปฺาสนยปฏิมณฺฑิตา เตรส วารา วุตฺตา. เต อตฺถโต ปากฏาเยว.

๖๒๘. รสายตนนิทฺเทเส มูลรโสติ ยํกิฺจิ มูลํ ปฏิจฺจ นิพฺพตฺตรโส. ขนฺธรสาทีสุปิ เอเสว นโย. อมฺพิลนฺติ ตกฺกมฺพิลาทิ. มธุรนฺติ เอกนฺตโต โคสปฺปิอาทิ. มธุ ปน กสาวยุตฺตํ จิรนิกฺขิตฺตํ กสาวํ โหติ. ผาณิตํ ขาริยุตฺตํ จิรนิกฺขิตฺตํ ขาริยํ โหติ. สปฺปิ ปน จิรนิกฺขิตฺตํ วณฺณคนฺเธ ชหนฺตมฺปิ รสํ น ชหตีติ ตเทว เอกนฺตมธุรํ. ติตฺตกนฺติ นิมฺพปณฺณาทิ. กฏุกนฺติ สิงฺคิเวรมริจาทิ. โลณิกนฺติ สามุทฺทิกโลณาทิ. ขาริกนฺติ วาติงฺคณกฬีราทิ. ลมฺพิลนฺติ พทรามลกกปิฏฺสาลวาทิ. กสาวนฺติ หริตกาทิ. อิเม สพฺเพปิ รสา วตฺถุวเสน วุตฺตา. ตํตํวตฺถุโต ปเนตฺถ รโสว อมฺพิลาทีหิ นาเมหิ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. สาทูติ อิฏฺรโส, อสาทูติ อนิฏฺรโส. อิมินา ปททฺวเยน สพฺโพปิ รโส ปริยาทินฺโน. เอวํ สนฺเตปิ เลฑฺฑุรสภิตฺติรสปิโลติกรสาทโย ปาฬิยํ อนาคตา สพฺเพปิ รสา เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺาติ เวทิตพฺพา.

เอวมยํ มูลรสาทินาเภเทน ภินฺโนปิ รโส ลกฺขณาทีหิ อภินฺโนเยว. สพฺโพปิ เหส ชิวฺหาปฏิหนนลกฺขโณ รโส, ชิวฺหาวิฺาณสฺส วิสยภาวรโส, ตสฺเสว โคจรปจฺจุปฏฺาโน. เสสํ จกฺขายตนนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิธาปิ หิ ตเถว ทฺวิปฺาสนยปฏิมณฺฑิตา เตรส วารา วุตฺตา.

๖๓๒. อิตฺถินฺทฺริยนิทฺเทเส นฺติ กรณวจนํ. เยน การเณน อิตฺถิยา อิตฺถิลิงฺคาทีนิ โหนฺตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ตตฺถ ‘ลิงฺค’นฺติ สณฺานํ. อิตฺถิยา หิ หตฺถปาทคีวาอุราทีนํ สณฺานํ น ปุริสสฺส วิย โหติ. อิตฺถีนฺหิ เหฏฺิมกาโย วิสโท โหติ, อุปริมกาโย อวิสโท. หตฺถปาทา ขุทฺทกา, มุขํ ขุทฺทกํ. นิมิตฺตนฺติ สฺชานนํ. อิตฺถีนฺหิ อุรมํสํ อวิสทํ โหติ, มุขํ นิมฺมสฺสุทาิกํ. เกสพนฺธวตฺถคฺคหณมฺปิ น ปุริสานํ วิย โหติ. กุตฺตนฺติ กิริยา. อิตฺถิโย หิ ทหรกาเล สุปฺปกมุสลเกหิ กีฬนฺติ, จิตฺตธีตลิกาย กีฬนฺติ, มตฺติกวาเกน สุตฺตกํ นาม กนฺตนฺติ. อากปฺโปติ คมนาทิอากาโร. อิตฺถิโย หิ คจฺฉมานา อวิสทา คจฺฉนฺติ, ติฏฺมานา นิปชฺชมานา นิสีทมานา ขาทมานา ภุฺชมานา อวิสทา ภุฺชนฺติ. ปุริสมฺปิ หิ อวิสทํ ทิสฺวา มาตุคาโม วิย คจฺฉติ ติฏฺติ นิปชฺชติ นิสีทติ ขาทติ ภุฺชตีติ วทนฺติ.

อิตฺถตฺตํ อิตฺถิภาโวติ อุภยมฺปิ เอกตฺถํ; อิตฺถิสภาโวติ อตฺโถ. อยํ กมฺมโช ปฏิสนฺธิสมุฏฺิโต. อิตฺถิลิงฺคาทีนิ ปน อิตฺถินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ ปวตฺเต สมุฏฺิตานิ. ยถา หิ พีเช สติ, พีชํ ปฏิจฺจ, พีชปจฺจยา รุกฺโข วฑฺฒิตฺวา สาขาวิฏปสมฺปนฺโน หุตฺวา อากาสํ ปูเรตฺวา ติฏฺติ, เอวเมว อิตฺถิภาวสงฺขาเต อิตฺถินฺทฺริเย สติ อิตฺถิลิงฺคาทีนิ โหนฺติ. พีชํ วิย หิ อิตฺถินฺทฺริยํ, พีชํ ปฏิจฺจ วฑฺฒิตฺวา อากาสํ ปูเรตฺวา ิตรุกฺโข วิย อิตฺถินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ อิตฺถิลิงฺคาทีนิ ปวตฺเต สมุฏฺหนฺติ. ตตฺถ อิตฺถินฺทฺริยํ น จกฺขุวิฺเยฺยํ, มโนวิฺเยฺยเมว. อิตฺถิลิงฺคาทีนิ จกฺขุวิฺเยฺยานิปิ มโนวิฺเยฺยานิปิ.

อิทํ ตํ รูปํ อิตฺถินฺทฺริยนฺติ อิทํ ตํ รูปํ, ยถา จกฺขุนฺทฺริยาทีนิ ปุริสสฺสาปิ โหนฺติ, น เอวํ; นิยมโต ปน อิตฺถิยา เอว อินฺทฺริยํ ‘อิตฺถินฺทฺริยํ’.

๖๓๓. ปุริสินฺทฺริเยปิ เอเสว นโย. ปุริสลิงฺคาทีนิ ปน อิตฺถิลิงฺคาทีนํ ปฏิปกฺขโต เวทิตพฺพานิ. ปุริสสฺส หิ หตฺถปาทคีวาอุราทีนํ สณฺานํ น อิตฺถิยา วิย โหติ. ปุริสานฺหิ อุปริมกาโย วิสโท โหติ เหฏฺิมกาโย อวิสโท, หตฺถปาทา มหนฺตา, มุขํ มหนฺตํ, อุรมํสํ วิสทํ, มสฺสุทาิกา อุปฺปชฺชนฺติ. เกสพนฺธนวตฺถคฺคหณํ น อิตฺถีนํ วิย โหติ. ทหรกาเล รถนงฺคลาทีหิ กีฬนฺติ, วาลิกปาฬึ กตฺวา วาปึ นาม ขนนฺติ, คมนาทีนิ วิสทานิ โหนฺติ. อิตฺถิมฺปิ คมนาทีนิ วิสทานิ กุรุมานํ ทิสฺวา ‘ปุริโส วิย คจฺฉตี’ติอาทีนิ วทนฺติ. เสสํ อิตฺถินฺทฺริเย วุตฺตสทิสเมว.

ตตฺถ อิตฺถิภาวลกฺขณํ อิตฺถินฺทฺริยํ, อิตฺถีติ ปกาสนรสํ, อิตฺถิลิงฺคนิมิตฺตกุตฺตากปฺปานํ การณภาวปจฺจุปฏฺานํ. ปุริสภาวลกฺขณํ ปุริสินฺทฺริยํ, ปุริโสติ ปกาสนรสํ, ปุริสลิงฺคนิมิตฺตกุตฺตากปฺปานํ การณภาวปจฺจุปฏฺานํ. อุภยมฺเปตํ ปมกปฺปิกานํ ปวตฺเต สมุฏฺาติ. อปรภาเค ปฏิสนฺธิยํ. ปฏิสนฺธิสมุฏฺิตมฺปิ ปวตฺเต จลติ ปริวตฺตติ.

ยถาห

‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภูตํ โหติ. เตน โข ปน สมเยน อฺตริสฺสา ภิกฺขุนิยา ปุริสลิงฺคํ ปาตุภูตํ โหตี’’ติ (ปารา. ๖๙).

อิเมสุ ปน ทฺวีสุ ปุริสลิงฺคํ อุตฺตมํ, อิตฺถิลิงฺคํ หีนํ. ตสฺมา ปุริสลิงฺคํ พลวอกุสเลน อนฺตรธายติ, อิตฺถิลิงฺคํ ทุพฺพลกุสเลน ปติฏฺาติ. อิตฺถิลิงฺคํ ปน อนฺตรธายนฺตํ ทุพฺพลอกุสเลน อนฺตรธายติ, ปุริสลิงฺคํ พลวกุสเลน ปติฏฺาติ. เอวํ อุภยมฺปิ อกุสเลน อนฺตรธายติ, กุสเลน ปติฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ.

อุภโตพฺยฺชนกสฺส ปน กึ เอกํ อินฺทฺริยํ อุทาหุ ทฺเวติ? เอกํ. ตฺจ โข อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถินฺทฺริยํ, ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสินฺทฺริยํ. ‘เอวํ สนฺเต ทุติยพฺยฺชนกสฺส อภาโว อาปชฺชติ. อินฺทฺริยฺหิ พฺยฺชนการณํ วุตฺตํ. ตฺจสฺส นตฺถี’ติ? ‘น ตสฺส อินฺทฺริยํ พฺยฺชนการณํ’. ‘กสฺมา’? ‘สทา อภาวโต. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส หิ ยทา อิตฺถิยา ราคจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตทาว ปุริสพฺยฺชนํ ปากฏํ โหติ, อิตฺถิพฺยฺชนํ ปฏิจฺฉนฺนํ คุฬฺหํ โหติ. ตถา อิตรสฺส อิตรํ.

ยทิ จ เตสํ อินฺทฺริยํ ทุติยพฺยฺชนการณํ ภเวยฺย, สทาปิ พฺยฺชนทฺวยํ ติฏฺเยฺย. น ปน ติฏฺติ. ตสฺมา เวทิตพฺพเมตํ น ตสฺส ตํ พฺยฺชนการณํ. กมฺมสหายํ ปน ราคจิตฺตเมเวตฺถ การณํ. ยสฺมา จสฺส เอกเมว อินฺทฺริยํ โหติ, ตสฺมา อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก สยมฺปิ คพฺภํ คณฺหาติ, ปรมฺปิ คณฺหาเปติ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนโก ปรํ คพฺภํ คณฺหาเปติ, สยํ ปน น คณฺหาตีติ.

๖๓๔. ชีวิตินฺทฺริยนิทฺเทเส ยํ วตฺตพฺพํ ตํ เหฏฺา อรูปชีวิตินฺทฺริเย วุตฺตเมว. เกวลฺหิ ตตฺถ โย เตสํ อรูปีนํ ธมฺมานนฺติ วุตฺตํ, อิธ รูปชีวิตินฺทฺริยตฺตา โย เตสํ รูปีนํ ธมฺมานนฺติ อยเมว วิเสโส. ลกฺขณาทีนิ ปนสฺส เอวํ เวทิตพฺพานิ – สหชาตรูปานุปาลนลกฺขณํ ชีวิตินฺทฺริยํ, เตสํ ปวตฺตนรสํ, เตสํ เยว ปนปจฺจุปฏฺานํ, ยาปยิตพฺพภูตปทฏฺานนฺติ.

๖๓๕. กายวิฺตฺตินิทฺเทเส กายวิฺตฺตีติ เอตฺถ ตาว กาเยน อตฺตโน ภาวํ วิฺาเปนฺตานํ ติรจฺฉาเนหิปิ ปุริสานํ, ปุริเสหิ วา ติรจฺฉานานมฺปิ กายคหณานุสาเรน คหิตาย เอตาย ภาโว วิฺายตีติ ‘วิฺตฺติ’. สยํ กายคหณานุสาเรน วิฺายตีติปิ ‘วิฺตฺติ’. ‘‘กาเยน สํวโร สาธู’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๖๑) อาคโต โจปนสงฺขาโต กาโยว วิฺตฺติ ‘กายวิฺตฺติ’. กายวิปฺผนฺทเนน อธิปฺปายวิฺาปนเหตุตฺตา, สยฺจ ตถา วิฺเยฺยตฺตา กาเยน วิฺตฺตีติปิ ‘กายวิฺตฺติ’.

กุสลจิตฺตสฺส วาติอาทีสุ อฏฺหิ กามาวจเรหิ อภิฺาจิตฺเตน จาติ นวหิ กุสลจิตฺเตหิ กุสลจิตฺตสฺส วา, ทฺวาทสหิปิ อกุสลจิตฺเตหิ อกุสลจิตฺตสฺส วา, อฏฺหิ มหากิริเยหิ ทฺวีหิ อเหตุกกิริเยหิ อภิฺาปฺปตฺเตน เอเกน รูปาวจรกิริเยนาติ เอกาทสหิ กิริยจิตฺเตหิ อพฺยากตจิตฺตสฺส วา. อิโต อฺานิ หิ จิตฺตานิ วิฺตฺตึ น ชเนนฺติ. เสกฺขาเสกฺขปุถุชฺชนานํ ปน เอตฺตเกเหว จิตฺเตหิ วิฺตฺติ โหตีติ เอเตสํ กุสลาทีนํ วเสน ตีหิ ปเทหิ ‘เหตุโต’ ทสฺสิตา.

อิทานิ ฉหิ ปเทหิ ‘ผลโต’ ทสฺเสตุํ อภิกฺกมนฺตสฺส วาติอาทิ วุตฺตํ. อภิกฺกมาทโย หิ วิฺตฺติวเสน ปวตฺตตฺตา วิฺตฺติผลํ นาม. ตตฺถ ‘อภิกฺกมนฺตสฺสา’ติ ปุรโต กายํ อภิหรนฺตสฺส. ปฏิกฺกมนฺตสฺสาติ ปจฺฉโต ปจฺจาหรนฺตสฺส. อาโลเกนฺตสฺสาติ อุชุกํ เปกฺขนฺตสฺส. วิโลเกนฺตสฺสาติ อิโต จิโต จ เปกฺขนฺตสฺส. สมิฺเชนฺตสฺสาติ สนฺธโย สงฺโกเจนฺตสฺส. ปสาเรนฺตสฺสาติ สนฺธโย ปฏิปณาเมนฺตสฺส.

อิทานิ ฉหิ ปเทหิ ‘สภาวโต’ ทสฺเสตุํ กายสฺส ถมฺภนาติ อาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘กายสฺสา’ติ สรีรสฺส. กายํ ถมฺเภตฺวา ถทฺธํ กโรตีติ ถมฺภนา. ตเมว อุปสคฺเคน วฑฺเฒตฺวา สนฺถมฺภนาติ อาห. พลวตรา วา ถมฺภนา ‘สนฺถมฺภนา’. สนฺถมฺภิตตฺตนฺติ สนฺถมฺภิตภาโว. วิฺาปนวเสน วิฺตฺติ. วิฺาปนาติ วิฺาปนากาโร. วิฺาปิตภาโว วิฺาปิตตฺตํ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ เหฏฺา ทฺวารกถายํ วุตฺตเมว. ตถา วจีวิฺตฺติยํ.

๖๓๖. วจีวิฺตฺตีติปทสฺส ปน นิทฺเทสปทานฺจ อตฺโถ ตตฺถ น วุตฺโต, โส เอวํ เวทิตพฺโพ – วาจาย อตฺตโน ภาวํ วิฺาเปนฺตานํ ติรจฺฉาเนหิปิ ปุริสานํ, ปุริเสหิ วา ติรจฺฉานานมฺปิ , วจีคหณานุสาเรน คหิตาย เอตาย ภาโว วิฺายตีติ วิฺตฺติ. สยฺจ วจีคหณานุสาเรน วิฺายตีติปิ วิฺตฺติ. ‘‘สาธุ วาจาย สํวโร’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๖๑) อาคตา โจปนสงฺขาตา วจี เอว วิฺตฺติ ‘วจีวิฺตฺติ’. วจีโฆเสน อธิปฺปายวิฺาปนเหตุตฺตา สยฺจ ตถาวิฺเยฺยตฺตา วาจาย วิฺตฺตีติปิ ‘วจีวิฺตฺติ’. วาจา คิราติอาทีสุ วุจฺจตีติ ‘วาจา’. คิริยตีติ ‘คิรา’. พฺยปฺปโถติ วากฺยเภโท. วากฺยฺจ ตํ ปโถ จ อตฺถํ าตุกามานํ าเปตุกามานฺจาติปิ ‘พฺยปฺปโถ’. อุทีริยตีติ อุทีรณํ. ฆุสฺสตีติ โฆโส. กริยตีติ กมฺมํ. โฆโสว กมฺมํ โฆสกมฺมํ. นานปฺปกาเรหิ กโต โฆโสติ อตฺโถ. วจิยา เภโท วจีเภโท. โส ปน ‘น ภงฺโค, ปเภทคตา วาจา เอวา’ติ าปนตฺถํ วาจา วจีเภโทติ วุตฺตํ. อิเมหิ สพฺเพหิปิ ปเทหิ ‘สทฺทวาจาว’ ทสฺสิตา. อิทานิ ตาย วาจาย สทฺธึ โยเชตฺวา เหฏฺา วุตฺตตฺถานํ วิฺตฺติอาทีนํ ปทานํ วเสน ตีหากาเรหิ สภาวโต ตํ ทสฺเสตุํ ยา ตาย วาจาย วิฺตฺตีติอาทิ วุตฺตํ. ตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว.

อิทานิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกจิตฺเตสุ อสมฺโมหตฺถํ ทฺวตฺตึส ฉพฺพีส เอกูนวีสติ โสฬส ปจฺฉิมานีติ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ – ทฺวตฺตึส จิตฺตานิ หิ รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ, อิริยาปถมฺปิ อุปตฺถมฺเภนฺติ, ทุวิธมฺปิ วิฺตฺตึ ชเนนฺติ. ฉพฺพีสติ วิฺตฺติเมว น ชเนนฺติ, อิตรทฺวยํ กโรนฺติ. เอกูนวีสติ รูปเมว สมุฏฺาเปนฺติ, อิตรทฺวยํ น กโรนฺติ. โสฬส อิเมสุ ตีสุ เอกมฺปิ น กโรนฺติ.

ตตฺถ ทฺวตฺตึสาติ เหฏฺา วุตฺตาเนว กามาวจรโต อฏฺ กุสลานิ, ทฺวาทส อกุสลานิ, กิริยโต ทส จิตฺตานิ, เสกฺขปุถุชฺชนานํ อภิฺาจิตฺตํ, ขีณาสวานํ อภิฺาจิตฺตนฺติ. ฉพฺพีสาติ รูปาวจรโต ปฺจ กุสลานิ, ปฺจ กิริยานิ, อรูปาวจรโต จตฺตาริ กุสลานิ, จตฺตาริ กิริยานิ, จตฺตาริ มคฺคจิตฺตานิ, จตฺตาริ ผลจิตฺตานีติ. เอกูนวีสตีติ กามาวจรกุสลวิปากโต เอกาทส, อกุสลวิปากโต ทฺเว , กิริยโต กิริยมโนธาตุ, รูปาวจรโต ปฺจ วิปากจิตฺตานีติ. โสฬสาติ ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ, สพฺพสตฺตานํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ, ขีณาสวานํ จุติจิตฺตํ, อรูเป จตฺตาริ วิปากจิตฺตานีติ. อิมานิ โสฬส รูปิริยาปถวิฺตฺตีสุ เอกมฺปิ น กโรนฺติ. อฺานิปิ พหูนิ อรูเป อุปฺปนฺนานิ อโนกาสคตตฺตา รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. น ตาเนว, กายวจีวิฺตฺติโยปิ.

๖๓๗. อากาสธาตุนิทฺเทเส น กสฺสติ, น นิกสฺสติ, กสิตุํ วา ฉินฺทิตุํ วา ภินฺทิตุํ วา น สกฺกาติ อากาโส. อากาโสว อากาสคตํ, เขฬคตาทิ วิย. อากาโสติ วา คตนฺติ ‘อากาสคตํ’. น หฺตีติ อฆํ, อฆฏฺฏนียนฺติ อตฺโถ. อฆเมว อฆคตํ. ฉิทฺทฏฺเน วิวโร. วิวโรว วิวรคตํ. อสมฺผุฏฺํ จตูหิ มหาภูเตหีติ เอเตหิ อสมฺผุฏฺํ นิชฺชฏากาสํว กถิตํ. ลกฺขณาทิโต ปน รูปปริจฺเฉทลกฺขณา อากาสธาตุ, รูปปริยนฺตปฺปกาสนรสา, รูปมริยาทปจฺจุปฏฺานา อสมฺผุฏฺภาวฉิทฺทวิวรภาวปจฺจุปฏฺานา วา, ปริจฺฉินฺนรูปปทฏฺานา, ยาย ปริจฺฉินฺเนสุ รูเปสุ ‘อิทมิโต อุทฺธํ อโธ ติริย’นฺติ จ โหติ.

๖๓๘. อิโต ปเร รูปสฺสลหุตาทีนํ นิทฺเทสา จิตฺตสฺสลหุตาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. ลกฺขณาทิโต ปเนตฺถ อทนฺธตาลกฺขณา รูปสฺส ลหุตา, รูปานํ ครุภาววิโนทนรสา, ลหุปริวตฺติตาปจฺจุปฏฺานา, ลหุรูปปทฏฺานา. อถทฺธตาลกฺขณา รูปสฺส มุทุตา, รูปานํ ถทฺธภาววิโนทนรสา, สพฺพกิริยาสุ อวิโรธิตาปจฺจุปฏฺานา, มุทุรูปปทฏฺานา. สรีรกิริยานุกูลกมฺมฺภาวลกฺขณา รูปสฺส กมฺมฺตา, อกมฺมฺตาวิโนทนรสา, อทุพฺพลภาวปจฺจุปฏฺานา, กมฺมฺรูปปทฏฺานา.

เอตา ปน ติสฺโส น อฺมฺํ วิชหนฺติ. เอวํ สนฺเตปิ โย อโรคิโน วิย รูปานํ ลหุภาโว, อทนฺธตาลหุปริวตฺติปฺปกาโร, รูปทนฺธตฺตกรธาตุกฺโขภปฏิปกฺขปจฺจยสมุฏฺาโน, โส รูปวิกาโร ‘รูปสฺสลหุตา’. โย สุปริมทฺทิตจมฺมสฺเสว รูปานํ มุทุภาโว สพฺพกิริยาวิเสเสสุ สรสวตฺตนภาโว วสวตฺตนภาวมทฺทวปฺปกาโร รูปถทฺธตฺตกรธาตุกฺโขภปฏิปกฺขปจฺจยสมุฏฺาโน , โส รูปวิกาโร ‘รูปสฺส มุทุตา’. โย ปน สุธนฺตสุวณฺณสฺเสว รูปานํ กมฺมฺภาโว สรีรกิริยานุกูลภาวปฺปกาโร สรีรกิริยานํ อนนุกูลกรธาตุกฺโขภปฏิปกฺขปจฺจยสมุฏฺาโน, โส รูปวิกาโร ‘รูปสฺส กมฺมฺตา’ติ. เอวเมตาสํ วิเสโส เวทิตพฺโพ.

เอตา ปน ติสฺโสปิ กมฺมํ กาตุํ น สกฺโกติ, อาหาราทโยว กโรนฺติ. ตถา หิ โยคิโน ‘อชฺช อมฺเหหิ โภชนสปฺปายํ ลทฺธํ, กาโย โน ลหุ มุทุ กมฺมฺโ’ติ วทนฺติ. ‘อชฺช อุตุสปฺปายํ ลทฺธํ, อชฺช อมฺหากํ จิตฺตํ เอกคฺคํ, กาโย โน ลหุ มุทุ กมฺมฺโ’ติ วทนฺตีติ.

๖๔๑. อุปจยสนฺตตินิทฺเทเสสุ อายตนานนฺติ อฑฺเฒกาทสนฺนํ รูปายตนานํ. อาจโยติ นิพฺพตฺติ. โส รูปสฺส อุปจโยติ โย อายตนานํ อาจโย ปุนปฺปุนํ นิพฺพตฺตมานานํ, โสว รูปสฺส อุปจโย นาม โหติ; วฑฺฒีติ อตฺโถ. โย รูปสฺส อุปจโย สา รูปสฺส สนฺตตีติ ยา เอวํ อุปจิตานํ รูปานํ วฑฺฒิ, ตโต อุตฺตริตรํ ปวตฺติกาเล สา รูปสฺส สนฺตติ นาม โหติ; ปวตฺตีติ อตฺโถ. นทิตีเร ขตกูปสฺมิฺหิ อุทกุคฺคมนกาโล วิย อาจโย, นิพฺพตฺติ; ปริปุณฺณกาโล วิย อุปจโย, วฑฺฒิ; อชฺโฌตฺถริตฺวา คมนกาโล วิย สนฺตติ, ปวตฺตีติ เวทิตพฺพา.

เอวํ กึ กถิตํ โหตีติ? อายตเนน หิ อาจโย กถิโต, อาจเยน อายตนํ กถิตํ. อาจโยว กถิโต อายตนเมว กถิตํ. เอวมฺปิ กึ กถิตํ โหตีติ? จตุสนฺตติรูปานํ อาจโย อุปจโย นิพฺพตฺติ วฑฺฒิ กถิตา. อตฺถโต หิ อุภยมฺเปตํ ชาติรูปสฺเสว อธิวจนํ. อาการนานตฺเตน ปน เวเนยฺยวเสน จ อุปจโย สนฺตตีติ อุทฺเทสเทสนํ กตฺวา ยสฺมา เอตฺถ อตฺถโต นานตฺตํ นตฺถิ, ตสฺมา นิทฺเทเส ‘‘โย อายตนานํ อาจโย โส รูปสฺส อุปจโย, โย รูปสฺส อุปจโย สา รูปสฺส สนฺตตี’’ติ วุตฺตํ.

ยสฺมา จ อุภยมฺเปตํ ชาติรูปสฺเสว อธิวจนํ ตสฺมา เอตฺถ อาจยลกฺขโณ รูปสฺส อุปจโย, ปุพฺพนฺตโต รูปานํ อุมฺมุชฺชาปนรโส, นิยฺยาตนปจฺจุปฏฺาโน ปริปุณฺณภาวปจฺจุปฏฺาโน วา, อุปจิตรูปปทฏฺาโน. ปวตฺติลกฺขณา รูปสฺส สนฺตติ, อนุปฺปพนฺธรสา, อนุปจฺเฉทปจฺจุปฏฺานา, อนุปฺปพนฺธรูปปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.

๖๔๓. ชรตานิทฺเทเส ชีรณกวเสน ชรา; อยเมตฺถ สภาวนิทฺเทโส . ชีรณากาโร ชีรณตา. ขณฺฑิจฺจนฺติ อาทโย ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา. ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสา. อยฺหิ ‘ชรา’ติ อิมินา ปเทน สภาวโต ทีปิตา; เตนสฺสายํ สภาวนิทฺเทโส. ‘ชีรณตา’ติ อิมินา อาการโต; เตนสฺสายํ อาการนิทฺเทโส. ขณฺฑิจฺจนฺติ อิมินา กาลาติกฺกเม ทนฺตนขานํ ขณฺฑิตภาวกรณกิจฺจโต. ปาลิจฺจนฺติ อิมินา เกสโลมานํ ปลิตภาวกรณกิจฺจโต. วลิตฺตจตาติ อิมินา มํสํ มิลาเปตฺวา ตเจ วลิภาวกรณกิจฺจโต ทีปิตา. เตนสฺสา อิเม ‘ขณฺฑิจฺจ’นฺติอาทโย ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา. เตหิ อิเมสํ วิการานํ ทสฺสนวเสน ปากฏีภูตา ปากฏชรา ทสฺสิตา. ยเถว หิ อุทกสฺส วา อคฺคิโน วา ติณรุกฺขาทีนํ สํภคฺคปลิภคฺคตาย วา ฌามตาย วา คตมคฺโค ปากโฏ โหติ, น จ โส คตมคฺโค ตาเนว อุทกาทีนิ, เอวเมว ชราย ทนฺตาทีสุ ขณฺฑิจฺจาทิวเสน คตมคฺโค ปากโฏ, จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวาปิ คยฺหติ, น จ ขณฺฑิจฺจาทีเนว ชรา. น หิ ชรา จกฺขุวิฺเยฺยา โหติ.

อายุโน สํหานิ อินฺทฺริยานํ ปริปาโกติ อิเมหิ ปน ปเทหิ กาลาติกฺกเมเยว อภิพฺยตฺตาย อายุกฺขยจกฺขาทิอินฺทฺริยปริปากสฺิตาย ปกติยา ทีปิตา. เตนสฺสิเม ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ยสฺมา ชรํ ปตฺตสฺส อายุ หายติ, ตสฺมา ชรา ‘อายุโน สํหานี’ติ ผลูปจาเรน วุตฺตา. ยสฺมา จ ทหรกาเล สุปฺปสนฺนานิ, สุขุมมฺปิ อตฺตโน วิสยํ สุเขเนว คณฺหนสมตฺถานิ จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ ชรํ ปตฺตสฺส ปริปกฺกานิ อาลุฬิตานิ อวิสทานิ, โอฬาริกมฺปิ อตฺตโน วิสยํ คเหตุํ อสมตฺถานิ โหนฺติ, ตสฺมา ‘อินฺทฺริยานํ ปริปาโก’ติปิ ผลูปจาเรเนว วุตฺตา.

สา ปนายํ เอวํ นิทฺทิฏฺา สพฺพาปิ ชรา ปากฏา ปฏิจฺฉนฺนาติ ทุวิธา โหติ. ตตฺถ ทนฺตาทีสุ ขณฺฑภาวาทิทสฺสนโต รูปธมฺเมสุ ชรา ปากฏชรา นาม . อรูปธมฺเมสุ ปน ชรา ตาทิสสฺส วิการสฺส อทสฺสนโต ปฏิจฺฉนฺนชรา นาม. ปุน อวีจิ สวีจีติ เอวมฺปิ ทุวิธา โหติ. ตตฺถ มณิกนกรชตปวาฬจนฺทิมสูริยาทีนํ วิย, มนฺททสกาทีสุ ปาณีนํ วิย จ, ปุปฺผผลปลฺลวาทีสุ จ อปาณีนํ วิย, อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ ทุวิฺเยฺยตฺตา ชรา อวีจิชรา นาม; นิรนฺตรชราติ อตฺโถ. ตโต อฺเสุ ปน ยถาวุตฺเตสุ อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ สุวิฺเยฺยตฺตา ชรา สวีจิชรา นามาติ เวทิตพฺพา.

ลกฺขณาทิโตปิ รูปปริปากลกฺขณา รูปสฺส ชรตา, อุปนยนรสา, สภาวานปคเมปิ นวภาวาปคมปจฺจุปฏฺานา, วีหิปุราณภาโว วิย ปริปจฺจมานรูปปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.

๖๔๔. อนิจฺจตานิทฺเทเส ขยคมนวเสน ขโย, วยคมนวเสน วโย, ภิชฺชนวเสน เภโท. อถ วา, ยสฺมา ตํ ปตฺวา รูปํ ขียติ, เวติ, ภิชฺชติ จ, ตสฺมา ขียติ เอตสฺมินฺติ ‘ขโย’, เวติ เอตสฺมินฺติ ‘วโย’, ภิชฺชติ เอตสฺมินฺติ ‘เภโท’. อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺเฒตฺวา เภโทว ปริเภโท. หุตฺวา อภาวฏฺเน, น นิจฺจนฺติ อนิจฺจํ. ตสฺส ภาโว อนิจฺจตา. อนฺตรธายติ เอตฺถาติ อนฺตรธานํ. มรณฺหิ ปตฺวา รูปํ อนฺตรธายติ, อทสฺสนํ คจฺฉติ. น เกวลฺจ รูปเมว, สพฺเพปิ ปฺจกฺขนฺธา. ตสฺมา ปฺจนฺนมฺปิ ขนฺธานํ อนิจฺจตาย อิทเมว ลกฺขณนฺติ เวทิตพฺพํ. ลกฺขณาทิโต ปน ปริเภทลกฺขณา รูปสฺส อนิจฺจตา, สํสีทนรสา, ขยวยปจฺจุปฏฺานา, ปริภิชฺชมานรูปปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.

เหฏฺา ชาติ คหิตา ชรา คหิตา, อิมสฺมึ าเน มรณํ คหิตํ. อิเม ตโย ธมฺมา อิเมสํ สตฺตานํ อุกฺขิตฺตาสิกปจฺจามิตฺตสทิสา. ยถา หิ ปุริสสฺส ตโย ปจฺจามิตฺตา โอตารํ คเวสมานา วิจเรยฺยุํ. เตสุ เอโก เอวํ วเทยฺย – ‘เอตํ นีหริตฺวา อฏวิปเวสนํ มยฺหํ ภาโร โหตู’ติ. ทุติโย ‘อฏวิคตกาเล โปเถตฺวา ปถวิยํ ปาตนํ มยฺหํ ภาโร’ติ. ตติโย ‘ปถวิคตกาลโต ปฏฺาย อสินา สีสจฺเฉทนํ มยฺหํ ภาโร’ติ. เอวรูปา อิเม ชาติ อาทโย. นีหริตฺวา อฏวิปเวสนปจฺจามิตฺตสทิสา เหตฺถ ชาติ, ตสฺมึ ตสฺมึ าเน นิพฺพตฺตาปนโต. อฏวิคตํ โปเถตฺวา ปถวิยํ ปาตนปจฺจามิตฺตสทิสา ชรา , นิพฺพตฺตกฺขนฺธานํ ทุพฺพลปราธีนมฺจปรายณภาวกรณโต. ปถวิคตสฺส อสินา สีสจฺเฉทกปจฺจามิตฺตสทิสํ มรณํ, ชราปฺปตฺตานํ ขนฺธานํ ชีวิตกฺขยปาปนโตติ.

๖๔๕. กพฬีการาหารนิทฺเทเส กพฬํ กรียตีติ กพฬีกาโร. อาหรียตีติ อาหาโร. กพฬํ กตฺวา อชฺโฌหรียตีติ อตฺโถ. รูปํ วา อาหรตีติปิ ‘อาหาโร’. เอวํ วตฺถุวเสน นามํ อุทฺธริตฺวา ปุน วตฺถุวเสเนเวตํ ปเภทโต ทสฺเสตุํ โอทโน กุมฺมาโสติอาทิ วุตฺตํ. โอทนาทีนิ หิ ผาณิตปริยนฺตานิ ทฺวาทส อิธาธิปฺเปตสฺส อาหารสฺส วตฺถูนิ. ปาฬิยํ อนาคตานิ มูลผลาทีนิ เยวาปนกํ ปวิฏฺานิ.

อิทานิ ตานิ มูลผลาทีนิ กตฺตพฺพโต ทสฺเสตุํ ยมฺหิ ยมฺหิ ชนปเทติอาทิมาห. ตตฺถ มุเขน อสิตพฺพํ ภุฺชิตพฺพนฺติ มุขาสิยํ. ทนฺเตหิ วิขาทิตพฺพนฺติ ทนฺตวิขาทนํ. คเลน อชฺโฌหริตพฺพนฺติ คลชฺโฌหรณียํ. อิทานิ ตํ กิจฺจวเสน ทสฺเสตุํ กุจฺฉิวิตฺถมฺภนนฺติ อาห. ตฺหิ มูลผลาทิ โอทนกุมฺมาสาทิ วา อชฺโฌหฏํ กุจฺฉึ วิตฺถมฺเภติ. อิทมสฺส กิจฺจํ. ยาย โอชาย สตฺตา ยาเปนฺตีติ เหฏฺา สพฺพปเทหิ สวตฺถุกํ อาหารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิพฺพฏฺฏิตโอชเมว ทสฺเสตุํ อิทํ วุตฺตํ.

กึ ปเนตฺถ วตฺถุสฺส กิจฺจํ? กึ โอชาย? ปริสฺสยหรณปาลนานิ. วตฺถุหิ ปริสฺสยํ หรติ ปาเลตุํ น สกฺโกติ, โอชา ปาเลติ ปริสฺสยํ หริตุํ น สกฺโกติ. ทฺเวปิ เอกโต หุตฺวา ปาเลตุมฺปิ สกฺโกนฺติ ปริสฺสยมฺปิ หริตุํ. โก ปเนส ปริสฺสโย นาม? กมฺมชเตโช. อนฺโตกุจฺฉิยฺหิ โอทนาทิวตฺถุสฺมึ อสติ, กมฺมชเตโช อุฏฺหิตฺวา อุทรปฏลํ คณฺหาติ, ‘ฉาโตมฺหิ, อาหารํ เม เทถา’ติ วทาเปติ. ภุตฺตกาเล อุทรปฏลํ มุฺจิตฺวา วตฺถุํ คณฺหาติ. อถ สตฺโต เอกคฺโค โหติ.

ยถา หิ ฉายารกฺขโส ฉายํ ปวิฏฺํ คเหตฺวา เทวสงฺขลิกาย พนฺธิตฺวา อตฺตโน ภวเน โมทนฺโต ฉาตกาเล อาคนฺตฺวา สีเส ฑํสติ. โส ฑฏฺตฺตา วิรวติ. ตํ วิรวํ สุตฺวา ‘ทุกฺขปฺปตฺโต เอตฺถ อตฺถี’ติ ตโต ตโต มนุสฺสา อาคจฺฉนฺติ. โส อาคตาคเต คเหตฺวา ขาทิตฺวา ภวเน โมทติ. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. ฉายารกฺขโส วิย หิ กมฺมชเตโช, เทวสงฺขลิกาย พนฺธิตฺวา ปิตสตฺโต วิย อุทรปฏลํ, ปุน อาคตมนุสฺสา วิย โอทนาทิวตฺถุ, โอตริตฺวา สีเส ฑํสนํ วิย กมฺมชเตชสฺส วตฺถุโต มุตฺตสฺส อุทรปฏลคฺคหณํ, ฑฏฺสฺส วิรวนกาโล วิย ‘อาหารํ เทถา’ติ วจนกาโล, ตาย สฺาย อาคตาคเต คเหตฺวา ขาทิตฺวา ภวเน โมทนกาโล วิย กมฺมชเตเชน อุทรปฏลํ มุฺจิตฺวา วตฺถุสฺมึ คหิเต เอกคฺคจิตฺตตา.

ตตฺถ โอฬาริเก วตฺถุสฺมึ โอชา มนฺทา โหติ. สุขุเม พลวตี. กุทฺรูสกภตฺตาทีนิ หิ ภุฺชิตฺวา มุหุตฺเตเนว ฉาโต โหติ. สปฺปิอาทีนิ ปิวิตฺวา ิตสฺส ทิวสมฺปิ ภตฺตํ น รุจฺจติ. เอตฺถ จ อุปาทายุปาทาย โอฬาริกสุขุมตา เวทิตพฺพา. กุมฺภีลานฺหิ อาหารํ อุปาทาย โมรานํ อาหาโร สุขุโม. กุมฺภีลา กิร ปาสาเณ คิลนฺติ. เต จ เนสํ กุจฺฉิปฺปตฺตา วิลียนฺติ. โมรา สปฺปวิจฺฉิกาทิปาเณ ขาทนฺติ. โมรานํ ปน อาหารํ อุปาทาย ตรจฺฉานํ อาหาโร สุขุโม. เต กิร ติวสฺสฉฑฺฑิตานิ วิสาณานิ เจว อฏฺีนิ จ ขาทนฺติ. ตานิ จ เนสํ เขเฬน เตมิตมตฺตาเนว กนฺทมูลํ วิย มุทุกานิ โหนฺติ. ตรจฺฉานมฺปิ อาหารมุปาทาย หตฺถีนํ อาหาโร สุขุโม. เต หิ นานารุกฺขสาขาทโย ขาทนฺติ. หตฺถีนํ อาหารโต ควยโคกณฺณมิคาทีนํ อาหาโร สุขุโม. เต กิร นิสฺสารานิ นานารุกฺขปณฺณาทีนิ ขาทนฺติ. เตสมฺปิ อาหารโต คุนฺนํ อาหาโร สุขุโม. เต อลฺลสุกฺขติณานิ ขาทนฺติ. เตสมฺปิ อาหารโต สสานํ อาหาโร สุขุโม. สสานํ อาหารโต สกุณานํ อาหาโร สุขุโม. สกุณานํ อาหารโต ปจฺจนฺตวาสีนํ อาหาโร สุขุโม. ปจฺจนฺตวาสีนํ อาหารโต คามโภชกานํ อาหาโร สุขุโม. คามโภชกานํ อาหารโต ราชราชมหามตฺตานํ อาหาโร สุขุโม. เตสมฺปิ อาหารโต จกฺกวตฺติโน อาหาโร สุขุโม. จกฺกวตฺติโน อาหารโต ภุมฺมเทวานํ อาหาโร สุขุโม. ภุมฺมเทวานํ อาหารโต จาตุมหาราชิกานํ อาหาโร สุขุโม. เอวํ ยาว ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ อาหาโร วิตฺถาเรตพฺโพ. เตสํ ปนาหาโร สุขุโมตฺเวว นิฏฺํ ปตฺโต.

ลกฺขณาทิโตปิ โอชาลกฺขโณ กพฬีกาโร อาหาโร, รูปาหรณรโส, อุปตฺถมฺภนปจฺจุปฏฺาโน, กพฬํ กตฺวา อาหริตพฺพวตฺถุปทฏฺาโนติ เวทิตพฺโพ.

๖๔๖. โนอุปาทานิทฺเทเส ยถา อุปาทารูปํ อุปาทิยเตว, น อฺเน อุปาทิยติ, เอวเมตํ น อุปาทิยเตวาติ โนอุปาทา.

๖๔๗. ผุสิตพฺพนฺติ โผฏฺพฺพํ. ผุสิตฺวา ชานิตพฺพนฺติ อตฺโถ. โผฏฺพฺพฺจ ตํ อายตนฺจาติ โผฏฺพฺพายตนํ. อาโป จ ตํ นิสฺสตฺตสุฺตสภาวฏฺเน ธาตุ จาติ อาโปธาตุ. อิทานิ ยสฺมา ตีณิ รูปานิ ผุสิตฺวา ชานิตพฺพานิ ตสฺมา ตานิ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กตมํ ตํ รูปํ โผฏฺพฺพายตนํ? ปถวีธาตูติอาทิมาห. ตตฺถ กกฺขฬตฺตลกฺขณา ปถวีธาตุ, ปติฏฺานรสา, สมฺปฏิจฺฉนปจฺจุปฏฺานา. เตโชธาตุ อุณฺหตฺตลกฺขณา, ปริปาจนรสา, มทฺทวานุปฺปทานปจฺจุปฏฺานา. วาโยธาตุ วิตฺถมฺภนลกฺขณา, สมุทีรณรสา, อภินีหารปจฺจุปฏฺานา. ปุริมา ปน ‘อาโปธาตุ’ ปคฺฆรณลกฺขณา, พฺรูหนรสา, สงฺคหปจฺจุปฏฺานา. เอเกกา เจตฺถ เสสตฺตยปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.

กกฺขฬนฺติ ถทฺธํ. มุทุกนฺติ อถทฺธํ. สณฺหนฺติ มฏฺํ. ผรุสนฺติ ขรํ. สุขสมฺผสฺสนฺติ สุขเวทนาปจฺจยํ อิฏฺโผฏฺพฺพํ. ทุกฺขสมฺผสฺสนฺติ ทุกฺขเวทนาปจฺจยํ อนิฏฺโผฏฺพฺพํ. ครุกนฺติ ภาริยํ. ลหุกนฺติ อภาริยํ, สลฺลหุกนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘กกฺขฬํ มุทุกํ สณฺหํ ผรุสํ ครุกํ ลหุก’นฺติ ปเทหิ ปถวีธาตุ เอว ภาชิตา. ‘‘ยทายํ กาโย อายุสหคโต จ โหติ อุสฺมาสหคโต จ วิฺาณสหคโต จ ตทา ลหุตโร จ โหติ มุทุตโร จ กมฺมฺตโร จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๔๒๔) สุตฺเตปิ ลหุมุทุภูตํ ปถวีธาตุเมว สนฺธาย วุตฺตํ.

‘สุขสมฺผสฺสํ ทุกฺขสมฺผสฺส’นฺติ ปททฺวเยน ปน ตีณิปิ มหาภูตานิ ภาชิตานิ. ปถวีธาตุ หิ สุขสมฺผสฺสาปิ อตฺถิ ทุกฺขสมฺผสฺสาปิ. ตถา เตโชธาตุวาโยธาตุโย. ตตฺถ สุขสมฺผสฺสา ปถวีธาตุ มุทุตลุณหตฺเถ ทหเร ปาเท สมฺพาหนฺเต อสฺสาเทตฺวา อสฺสาเทตฺวา ‘สมฺพาห ตาต, สมฺพาห ตาตา’ติ วทาปนาการํ กโรติ. สุขสมฺผสฺสา เตโชธาตุ สีตสมเย องฺคารกปลฺลํ อาหริตฺวา คตฺตํ เสเทนฺเต อสฺสาเทตฺวา อสฺสาเทตฺวา ‘เสเทหิ ตาต, เสเทหิ ตาตา’ติ วทาปนาการํ กโรติ. สุขสมฺผสฺสา วาโยธาตุ อุณฺหสมเย วตฺตสมฺปนฺเน ทหเร พีชเนน พีชนฺเต อสฺสาเทตฺวา อสฺสาเทตฺวา ‘พีช ตาต, พีช ตาตา’ติ วทาปนาการํ กโรติ. ถทฺธหตฺเถ ปน ทหเร ปาเท สมฺพาหนฺเต อฏฺีนํ ภิชฺชนกาโล วิย โหติ. โสปิ ‘อเปหี’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. อุณฺหสมเย องฺคารกปลฺเล อาภเต ‘อปเนหิ น’นฺติ วตฺตพฺพํ โหติ. สีตสมเย พีชเนน พีชนฺเต ‘อเปหิ, มา พีชา’ติ วตฺตพฺพํ โหติ. เอวเมตาสํ สุขสมฺผสฺสตา ทุกฺขสมฺผสฺสตา จ เวทิตพฺพา.

ยํ โผฏฺพฺพํ อนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆนฺติอาทินา นเยน วุตฺตา ปน จตูหิ จตูหิ นเยหิ ปฏิมณฺฑิตา เตรส วารา เหฏฺา รูปายตนาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.

กึ ปเนตานิ ตีณิ มหาภูตานิ เอกปฺปหาเรเนว อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ อุทาหุ โนติ? อาคจฺฉนฺติ. เอวํ อาคตานิ กายปสาทํ ฆฏฺเฏนฺติ น ฆฏฺเฏนฺตีติ? ฆฏฺเฏนฺติ. เอกปฺปหาเรเนว ตานิ อารมฺมณํ กตฺวา กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ นุปฺปชฺชตีติ? นุปฺปชฺชติ. อาภุชิตวเสน วา หิ อุสฺสทวเสน วา อารมฺมณกรณํ โหติ.

ตตฺถ อาภุชิตวเสน ตาว, ปตฺตสฺมิฺหิ โอทเนน ปูเรตฺวา อาภเต เอกํ สิตฺถํ คเหตฺวา ถทฺธํ วา มุทุกํ วาติ วีมํสนฺโต กิฺจาปิ ตตฺถ เตโชปิ อตฺถิ วาโยปิ อตฺถิ, ปถวีธาตุเมว ปน อาภุชติ. อุณฺโหทเก หตฺถํ โอตาเรตฺวา วีมํสนฺโต กิฺจาปิ ตตฺถ ปถวีปิ อตฺถิ วาโยปิ อตฺถิ, เตโชธาตุเมว ปน อาภุชติ. อุณฺหสมเย วาตปานํ วิวริตฺวา วาเตน สรีรํ ปหราเปนฺโต ิโต มนฺทมนฺเท วาเต ปหรนฺเต กิฺจาปิ ตตฺถ ปถวีปิ อตฺถิ เตโชปิ อตฺถิ, วาโยธาตุเมว ปน อาภุชติ. เอวํ อาภุชิตวเสน อารมฺมณํ กโรติ นาม.

โย ปน อุปกฺขลติ วา สีเสน วา รุกฺขํ ปหรติ ภุฺชนฺโต วา สกฺขรํ ฑํสติ, โส กิฺจาปิ ตตฺถ เตโชปิ อตฺถิ วาโยปิ อตฺถิ, อุสฺสทวเสน ปน ปถวีธาตุเมว อารมฺมณํ กโรติ. อคฺคึ อกฺกมนฺโตปิ กิฺจาปิ ตตฺถ ปถวีปิ อตฺถิ วาโยปิ อตฺถิ, อุสฺสทวเสน ปน เตโชธาตุเมว อารมฺมณํ กโรติ. พลววาเต กณฺณสกฺขลึ ปหริตฺวา พธิรภาวํ กโรนฺเต. กิฺจาปิ ตตฺถ ปถวีปิ อตฺถิ เตโชปิ อตฺถิ, อุสฺสทวเสน ปน วาโยธาตุเมว อารมฺมณํ กโรติ.

ยํกิฺจิ ธาตุํ อารมฺมณํ กโรนฺตสฺส กายวิฺาณมฺปิ เอกปฺปหาเรน นุปฺปชฺชติ. สูจิกลาเปน วิทฺธสฺส เอกปฺปหาเรน กาโย ฆฏฺฏิยติ. ยสฺมึ ยสฺมึ ปน าเน กายปสาโท อุสฺสนฺโน โหติ, ตตฺถ ตตฺถ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ. ยตฺถ ยตฺถาปิ ปฏิฆฏฺฏนนิฆํโส พลวา โหติ ตตฺถ ตตฺถ ปมํ อุปฺปชฺชติ. กุกฺกุฏปตฺเตน วเณ โธวิยมาเน อํสุอํสุ กายปสาทํ ฆฏฺเฏติ. ยตฺถ ยตฺถ ปน ปสาโท อุสฺสนฺโน โหติ, ตตฺถ ตตฺเถว กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุสฺสทวเสน อารมฺมณํ กโรติ. อุสฺสทวเสเนว จ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ นาม.

กถํ ปน จิตฺตสฺส อารมฺมณโต สงฺกนฺติ โหตีติ? ทฺวีหากาเรหิ โหติ – อชฺฌาสยโต วา วิสยาธิมตฺตโต วา. วิหารปูชาทีสุ หิ ‘ตานิ ตานิ เจติยานิ เจว ปฏิมาโย จ วนฺทิสฺสามิ, โปตฺถกมฺมจิตฺตกมฺมานิ จ โอโลเกสฺสามี’ติ อชฺฌาสเยน คโต เอกํ วนฺทิตฺวา วา ปสฺสิตฺวา วา อิตรสฺส วนฺทนตฺถาย วา ทสฺสนตฺถาย วา มนํ กตฺวา วนฺทิตุมฺปิ ปสฺสิตุมฺปิ คจฺฉติเยว, เอวํ อชฺฌาสยโต สงฺกมติ นาม.

เกลาสกูฏปฏิภาคํ ปน มหาเจติยํ โอโลเกนฺโต ิโตปิ อปรภาเค สพฺพตูริเยสุ ปคฺคหิเตสุ รูปารมฺมณํ วิสฺสชฺเชตฺวา สทฺทารมฺมณํ สงฺกมติ. มนุฺคนฺเธสุ ปุปฺเผสุ วา คนฺเธสุ วา อาภเตสุ สทฺทารมฺมณํ วิสฺสชฺเชตฺวา คนฺธารมฺมณํ สงฺกมติ. เอวํ วิสยาธิมตฺตโต สงฺกมติ นาม.

๖๕๑. อาโปธาตุนิทฺเทเส อาโปติ สภาวนิทฺเทโส. อาโปว อาโปคตํ. สิเนหวเสน สิเนโห, สิเนโหว สิเนหคตํ. พนฺธนตฺตํรูปสฺสาติ ปถวีธาตุอาทิกสฺส ภูตรูปสฺส พนฺธนภาโว. อโยปิณฺฑิอาทีนิ หิ อาโปธาตุ อาพนฺธิตฺวา พทฺธานิ กโรติ. ตาย อาพทฺธตฺตา ตานิ พทฺธานิ นาม โหนฺติ. ปาสาณปพฺพตตาลฏฺิหตฺถิทนฺตโคสิงฺคาทีสุปิ เอเสว นโย . สพฺพานิ เหตานิ อาโปธาตุ เอว อาพนฺธิตฺวา พทฺธานิ กโรติ. อาโปธาตุยา อาพทฺธตฺตาว พทฺธานิ โหนฺติ.

กึ ปน ปถวีธาตุ เสสธาตูนํ ปติฏฺา โหติ น โหตีติ โหติ ผุสิตฺวา โหติ อุทาหุ อผุสิตฺวา? อาโปธาตุ วา เสสา อาพนฺธมานา ผุสิตฺวา อาพนฺธติ อุทาหุ อผุสิตฺวาติ? ปถวีธาตุ ตาว อาโปธาตุยา อผุสิตฺวาว ปติฏฺา โหติ, เตโชธาตุยา จ วาโยธาตุยา จ ผุสิตฺวา. อาโปธาตุ ปน ปถวีธาตุมฺปิ เตโชวาโยธาตุโยปิ อผุสิตฺวาว อาพนฺธติ. ยทิ ผุสิตฺวา อาพนฺเธยฺย โผฏฺพฺพายตนํ นาม ภเวยฺย.

เตโชธาตุวาโยธาตูนมฺปิ เสสธาตูสุ สกสกกิจฺจกรเณ เอเสว นโย. เตโชธาตุ หิ ปถวีธาตุํ ผุสิตฺวา ฌาเปติ. สา ปน น อุณฺหา หุตฺวา ฌายติ. ยทิ อุณฺหา หุตฺวา ฌาเยยฺย อุณฺหตฺตลกฺขณา นาม ภเวยฺย. อาโปธาตุํ ปน อผุสิตฺวาว ตาเปติ. สาปิ ตปมานา น อุณฺหา หุตฺวา ตปติ. ยทิ อุณฺหา หุตฺวา ตเปยฺย อุณฺหตฺตลกฺขณา นาม ภเวยฺย. วาโยธาตุํ ปน ผุสิตฺวาว ตาเปติ. สาปิ ตปมานา น อุณฺหา หุตฺวา ตปติ. ยทิ อุณฺหา หุตฺวา ตเปยฺย อุณฺหตฺตลกฺขณา นาม ภเวยฺย. วาโยธาตุ ปถวีธาตุํ ผุสิตฺวา วิตฺถมฺเภติ, ตถา เตโชธาตุํ อาโปธาตุํ ปน อผุสิตฺวาว วิตฺถมฺเภติ.

อุจฺฉุรสํ ปจิตฺวา ผาณิตปิณฺเฑ กริยมาเน อาโปธาตุ ถทฺธา โหติ น โหตีติ? น โหติ. สา หิ ปคฺฆรณลกฺขณา. ปถวีธาตุ กกฺขฬลกฺขณา. โอมตฺตํ ปน อาโป อธิมตฺตปถวีคติกํ ชาตํ. สา หิ รสากาเรน ิตภาวํ วิชหติ, ลกฺขณํ น วิชหติ. ผาณิตปิณฺเฑ วิลียมาเนปิ ปถวีธาตุ น วิลียติ. กกฺขฬลกฺขณา หิ ปถวีธาตุ ปคฺฆรณลกฺขณา อาโปธาตุ. โอมตฺตา ปน ปถวี อธิมตฺตอาปคติกา โหติ. สา ปิณฺฑากาเรน ิตภาวํ วิชหติ, ลกฺขณํ น วิชหติ. จตุนฺนฺหิ มหาภูตานํ ภาวฺถตฺตเมว โหติ, ลกฺขณฺถตฺตํ นาม นตฺถิ. ตสฺส อภาโว อฏฺานปริกปฺปสุตฺเตน ทีปิโต. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สิยา, อานนฺท, จตุนฺนํ มหาภูตานํ อฺถตฺตํ, ปถวีธาตุยา…เป… วาโยธาตุยา ; น ตฺเวว พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตสฺส อริยสาวกสฺส สิยา อฺถตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๓.๗๖).

อยฺเหตฺถ อตฺโถ – อานนฺท, กกฺขฬตฺตลกฺขณา ปถวีธาตุ ปริวตฺติตฺวา ปคฺฆรณลกฺขณา อาโปธาตุ นาม ภเวยฺย, อริยสาวกสฺส ปน อฺถตฺตํ นาม นตฺถีติ. เอวเมตฺถ อฏฺานปริกปฺโป อาคโต.

๖๕๒. อิโต ปเรสุ อุปาทิณฺณรูปาทินิทฺเทเสสุ อุปาทิณฺณปทาทีนํ อตฺโถ มาติกากถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. จกฺขายตนาทีนิ เหฏฺา วิตฺถาริตาเนว. ตตฺถ ตตฺถ ปน วิเสสมตฺตเมว วกฺขาม.

อุปาทิณฺณนิทฺเทเส ตาว จกฺขายตนาทีนิ เอกนฺตอุปาทิณฺณตฺตา วุตฺตานิ. ยสฺมา ปน รูปายตนาทีนิ อุปาทิณฺณานิปิ อตฺถิ อนุปาทิณฺณานิปิ, ตสฺมา ตานิ ยํ วา ปนาติ สงฺเขปโต ทสฺเสตฺวา ปุน กมฺมสฺส กตตฺตา รูปายตนนฺติอาทินา นเยน วิตฺถาริตานิ. อิมินา อุปาเยน สพฺพเยวาปนเกสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

กสฺมา ปน ‘กมฺมสฺส กตตฺตา’ติ จ ‘น กมฺมสฺส กตตฺตา’ติ จ อุภินฺนมฺปิ นิทฺเทเส ‘ชรตา จ อนิจฺจตา จ’ น คหิตา, อนุปาทิณฺณาทีนํเยว นิทฺเทเสสุ คหิตาติ? น กมฺมสฺส กตตฺตาติ เอตฺถ ตาว กมฺมโต อฺปจฺจยสมุฏฺานํ สงฺคหิตํ. ‘กมฺมสฺส กตตฺตา’ติ เอตฺถ กมฺมสมุฏฺานเมว. อิมานิ จ ทฺเว รูปานิ เนว กมฺมโต น อฺสฺมา รูปชนกปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา น คหิตานิ. สา จ เนสํ อนุปฺปตฺติ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. อนุปาทิณฺณนฺติอาทีสุ ปน เกวลํ อนุปาทิณฺณาทิคฺคหเณน กมฺมาทิสมุฏฺานตา ปฏิกฺขิตฺตา, นอฺปจฺจยสมุฏฺานตา อนุฺาตา. ตสฺมา ตตฺถ คหิตานีติ เวทิตพฺพานิ.

๖๖๖. จิตฺตสมุฏฺานนิทฺเทเส กายวิฺตฺติ วจีวิฺตฺตีติ อิทํ ทฺวยํ ยสฺมา เอกนฺตจิตฺตสมุฏฺานานิ ภูตานิ อุปาทาย ปฺายติ, ตสฺมา วุตฺตํ. ปรมตฺถโต ปน ตสฺส นิสฺสยภูตานิ ภูตาเนว จิตฺตสมุฏฺานานิ, ตํนิสฺสิตตฺตา. ยถา อนิจฺจสฺส รูปสฺส ชรามรณํ อนิจฺจํ นาม โหติ, เอวมิทมฺปิ จิตฺตสมุฏฺานํ นาม ชาตํ.

๖๖๘. จิตฺตสหภุนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย. ยาว จิตฺตํ ตาว ปฺายนโต อิทเมว ทฺวยํ วุตฺตํ. น ปเนตํ จิตฺเตน สห ภูตานิ วิย, เจตนาทโย วิย จ อุปฺปชฺชติ.

๖๗๐. จิตฺตานุปริวตฺติตายปิ เอเสว นโย. ยาว จิตฺตํ ตาว ปฺายนโต เอว เหตํ ทฺวยํ จิตฺตานุปริวตฺตีติ วุตฺตํ.

๖๗๔. โอฬาริกนฺติ วตฺถารมฺมณภูตตฺตา สํงฺฆฏฺฏนวเสน คเหตพฺพโต ถูลํ. วุตฺตวิปลฺลาสโต สุขุมํ เวทิตพฺพํ.

๖๗๖. ทูเรติ ฆฏฺฏนวเสน อคฺคเหตพฺพตฺตา ทุพฺพิฺเยฺยภาเวน สมีเป ิตมฺปิ ทูเร. อิตรํ ปน ฆฏฺฏนวเสน คเหตพฺพตฺตา สุวิฺเยฺยภาเวน ทูเร ิตมฺปิ สนฺติเก. จกฺขายตนาทินิทฺเทสา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว วิตฺถารโต เวทิตพฺพา. อิทํ ตาว ทุวิเธน รูปสงฺคเห วิเสสมตฺตํ. ติวิธสงฺคโห อุตฺตานตฺโถว.

จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๙๖๖. จตุพฺพิธสงฺคหาวสาเน ทิฏฺาทีนํ ปจฺฉิมปทสฺส เภทาภาเวน อาทิโต ปฏฺาย ปุจฺฉํ อกตฺวาว รูปายตนํ ทิฏฺํ สทฺทายตนํ สุตนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ รูปายตนํ จกฺขุนา โอโลเกตฺวา ทกฺขิตุํ สกฺกาติ ‘ทิฏฺํ’ นาม ชาตํ. สทฺทายตนํ โสเตน สุตฺวา ชานิตุํ สกฺกาติ ‘สุตํ’ นาม ชาตํ. คนฺธายตนาทิตฺตยํ ฆานชิวฺหากาเยหิ ปตฺวา คเหตพฺพโต มุนิตฺวา ชานิตพฺพฏฺเน มุตํ นาม ชาตํ. ผุสิตฺวา วิฺาณุปฺปตฺติการณโต ‘มุตํ’ นามาติปิ วุตฺตํ. สพฺพเมว ปน รูปํ มโนวิฺาเณน ชานิตพฺพนฺติ มนสา วิฺาตํ นาม ชาตํ.

ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา

๙๖๗. ปฺจวิธสงฺคหนิทฺเทเส กกฺขฬนฺติ ถทฺธํ. ขรเมว ขรคตํ, ผรุสนฺติ อตฺโถ. อิตเร ทฺเวปิ สภาวนิทฺเทสา เอว. อชฺฌตฺตนฺติ นิยกชฺฌตฺตํ. พหิทฺธาติ พาหิรํ. อุปาทิณฺณนฺติ น กมฺมสมุฏฺานเมว. อวิเสเสน ปน สรีรฏฺกสฺเสตํ คหณํ. สรีรฏฺกฺหิ อุปาทิณฺณํ วา โหตุ อนุปาทิณฺณํ วา, อาทินฺนคหิตปรามฏฺวเสน สพฺพํ อุปาทิณฺณเมว นาม.

๙๖๙. เตโชคตนฺติ สพฺพเตเชสุ คตํ อุณฺหตฺตลกฺขณํ, เตโช เอว วา เตโชภาวํ คตนฺติ ‘เตโชคตํ’. อุสฺมาติ อุสฺมากาโร. อุสฺมาคตนฺติ อุสฺมาภาวํ คตํ. อุสฺมาการสฺเสเวตํ นามํ. อุสุมนฺติ พลวอุสฺมา. อุสุมเมว อุสุมภาวํ คตนฺติ อุสุมคตํ.

๙๗๐. วายนกวเสน วาโย. วาโยว วาโยภาวํ คตตฺตา วาโยคตํ. ถมฺภิตตฺตนฺติ อุปฺปลนาฬตจาทีนํ วิย วาตปุณฺณานํ ถมฺภิตภาโว รูปสฺส.

ฉกฺกาทินิทฺเทสวณฺณนา

๙๗๒-๔. ฉพฺพิธาทิสงฺคหานํ ติณฺณํ โอสานปทสฺส เภทาภาวโต อาทิโต ปฏฺาย อปุจฺฉิตฺวาว นิทฺเทโส กโต. ตตฺถ จกฺขุวิฺาเณน ชานิตุํ สกฺกาติ จกฺขุวิฺเยฺยํ…เป… มโนวิฺาเณน ชานิตุํ สกฺกาติ มโนวิฺเยฺยํ. ติวิธาย มโนธาตุยา ชานิตุํ สกฺกาติ มโนธาตุวิฺเยฺยํ สพฺพํ รูปนฺติ เอตฺถ ยสฺมา เอกํ รูปมฺปิ มโนวิฺาณธาตุยา อชานิตพฺพํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘สพฺพํ รูป’นฺติ วุตฺตํ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ อภิธมฺมํ ปตฺวา นยํ กาตุํ ยุตฺตฏฺาเน นโย อกโต นาม นตฺถิ. อิทฺจ เอกรูปสฺสาปิ มโนวิฺาณธาตุยา อชานิตพฺพสฺส อภาเวน นยํ กาตุํ ยุตฺตฏฺานํ นาม, ตสฺมา นยํ กโรนฺโต ‘สพฺพํ รูป’นฺติ อาห.

๙๗๔. สุขสมฺผสฺโสติ สุขเวทนาปฏิลาภปจฺจโย. ทุกฺขสมฺผสฺโสติ ทุกฺขเวทนาปฏิลาภปจฺจโย. อิธาปิ โผฏฺพฺพารมฺมณสฺส สุขทุกฺขสฺส สพฺภาวโต อยํ นโย ทินฺโน.

นวกาทินิทฺเทสวณฺณนา

๙๗๕. นวเก ปน อินฺทฺริยรูปสฺส นาม อตฺถิตาย นโย ทินฺโน. ตสฺเสว สปฺปฏิฆอปฺปฏิฆตาย ทสเก นโย ทินฺโน. เอกาทสเก อฑฺเฒกาทส อายตนานิ วิภตฺตานิ. เตสํ นิทฺเทสวารา เหฏฺา วุตฺตนเยน วิตฺถารโต เวทิตพฺพา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

ปกิณฺณกกถา

อิเมสุ ปน รูเปสุ อสมฺโมหตฺถํ สโมธานํ สมุฏฺานํ ปรินิปฺผนฺนฺจ สงฺขตนฺติ อิทํ ‘ปกิณฺณกํ’ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ ‘สโมธาน’นฺติ สพฺพเมว หิทํ รูปํ สโมธานโต จกฺขายตนํ…เป… กพฬีกาโร อาหาโร, โผฏฺพฺพายตนํ อาโปธาตูติ ปฺจวีสติสงฺขฺยํ โหติ. ตํ วตฺถุรูเปน สทฺธึ ฉพฺพีสติสงฺขฺยํ เวทิตพฺพํ. อิโต อฺํ รูปํ นาม นตฺถิ. เกจิ ปน ‘มิทฺธรูปํ นาม อตฺถี’ติ วทนฺติ. เต ‘‘อทฺธา มุนีสิ สมฺพุทฺโธ, นตฺถิ นีวรณา ตวา’’ติอาทีนิ (สุ. นิ. ๕๔๖) วตฺวา มิทฺธรูปํ นาม นตฺถีติ ปฏิเสเธตพฺพา. อปเร พลรูเปน สทฺธึ สตฺตวีสติ, สมฺภวรูเปน สทฺธึ อฏฺวีสติ, ชาติรูเปน สทฺธึ เอกูนตึสติ, โรครูเปน สทฺธึ สมตึสติ รูปานีติ วทนฺติ. เตปิ เตสํ วิสุํ อภาวํ ทสฺเสตฺวา ปฏิกฺขิปิตพฺพา. วาโยธาตุยา หิ คหิตาย พลรูปํ คหิตเมว, อฺํ พลรูปํ นาม นตฺถิ. อาโปธาตุยา สมฺภวรูปํ, อุปจยสนฺตตีหิ ชาติรูปํ, ชรตาอนิจฺจตาหิ คหิตาหิ โรครูปํ คหิตเมว. อฺํ โรครูปํ นาม นตฺถิ. โยปิ กณฺณโรคาทิ อาพาโธ โส วิสมปจฺจยสมุฏฺิตธาตุมตฺตเมว. น อฺโ ตตฺถ โรโค นาม อตฺถีติ สโมธานโต ฉพฺพีสติเมว รูปานิ.

‘สมุฏฺาน’นฺติ กติ รูปานิ กติสมุฏฺานานิ? ทส เอกสมุฏฺานานิ, เอกํ ทฺวิสมุฏฺานํ, ตีณิ ติสมุฏฺานานิ, นว จตุสมุฏฺานานิ, ทฺเว น เกนจิ สมุฏฺหนฺติ.

ตตฺถ จกฺขุปสาโท…เป… ชีวิตินฺทฺริยนฺติ อิมานิ อฏฺ เอกนฺตํ กมฺมโตว สมุฏฺหนฺติ. กายวิฺตฺติวจีวิฺตฺติทฺวยํ เอกนฺเตน จิตฺตโต สมุฏฺาตีติ ทส‘เอกสมุฏฺานานิ’ นาม. สทฺโท อุตุโต จ จิตฺตโต จ สมุฏฺาตีติ เอโก ‘ทฺวิสมุฏฺาโน’ นาม. ตตฺถ อวิฺาณกสทฺโท อุตุโต สมุฏฺาติ, สวิฺาณกสทฺโท จิตฺตโต. ลหุตาทิตฺตยํ ปน อุตุจิตฺตาหาเรหิ สมุฏฺาตีติ ตีณิ ‘ติสมุฏฺานานิ’ นาม. อวเสสานิ นว รูปานิ เตหิ กมฺเมน จาติ จตูหิ สมุฏฺหนฺตีติ นว ‘จตุสมุฏฺานานิ’ นาม. ชรตา อนิจฺจตา ปน เอเตสุ เอกโตปิ น สมุฏฺหนฺตีติ ทฺเว ‘น เกนจิ สมุฏฺหนฺติ’ นาม. กสฺมา? อชายนโต. น หิ เอตานิ ชายนฺติ. กสฺมา? ชาตสฺส ปากเภทตฺตา. อุปฺปนฺนฺหิ รูปํ ชีรติ ภิชฺชตีติ อวสฺสํ ปเนตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. น หิ อุปฺปนฺนํ รูปํ อรูปํ วา อกฺขยํ นาม ทิสฺสติ. ยาว ปน น ภิชฺชติ ตาวสฺส ปริปาโกติ สิทฺธเมตํ. ‘ชาตสฺส ปากเภทตฺตา’ติ ยทิ จ ตานิ ชาเยยฺยุํ เตสมฺปิ ปากเภทา ภเวยฺยุํ. น จ ปาโก ปจฺจติ, เภโท วา ภิชฺชตีติ ชาตสฺส ปากเภทตฺตา เนตํ ทฺวยํ ชายติ.

ตตฺถ สิยา – ยถา ‘กมฺมสฺส กตตฺตา’ติ อาทินิทฺเทเสสุ ‘รูปสฺส อุปจโย รูปสฺส สนฺตตี’ติ วจเนน ‘ชาติ’ ชายตีติ สมฺปฏิจฺฉิตํ โหติ, เอวํ ‘ปาโก’ปิ ปจฺจตุ ‘เภโท’ปิ ภิชฺชตูติ. ‘‘น ตตฺถ ‘ชาติ ชายตี’ติ สมฺปฏิจฺฉิตํ. เย ปน ธมฺมา กมฺมาทีหิ นิพฺพตฺตนฺติ เตสํ อภินิพฺพตฺติภาวโต ชาติยา ตปฺปจฺจยภาวโวหาโร อนุมโต. น ปน ปรมตฺถโต ชาติ ชายติ. ชายมานสฺส หิ อภินิพฺพตฺติมตฺตํ ชาตี’’ติ.

ตตฺถ สิยา – ‘ยเถว ชาติ เยสํ ธมฺมานํ อภินิพฺพตฺติ ตปฺปจฺจยภาวโวหารํ อภินิพฺพตฺติโวหารฺจ ลภติ, ตถา ปากเภทาปิ เยสํ ธมฺมานํ ปากเภทา ตปฺปจฺจยภาวโวหารํ อภินิพฺพตฺติโวหารฺจ ลภนฺตุ. เอวํ อิทมฺปิ ทฺวยํ กมฺมาทิสมุฏฺานเมวาติ วตฺตพฺพํ ภวิสฺสตี’ติ. ‘น ปากเภทา ตํ โวหารํ ลภนฺติ. กสฺมา? ชนกปจฺจยานุภาวกฺขเณ อภาวโต. ชนกปจฺจยานฺหิ อุปฺปาเทตพฺพธมฺมสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว อานุภาโว, น ตโต อุตฺตริ. เตหิ อภินิพฺพตฺติตธมฺมกฺขณสฺมิฺจ ชาติ ปฺายมานา ตปฺปจฺจยภาวโวหารํ อภินิพฺพตฺติโวหารฺจ ลภติ, ตสฺมึ ขเณ สพฺภาวโต; น อิตรทฺวยํ, ตสฺมึ ขเณ อภาวโตติ เนเวตํ ชายตี’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘ชรามรณํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒๐) อาคตตฺตา อิทมฺปิ ทฺวยํ ชายตีติ เจ – ‘น, ปริยายเทสิตตฺตา. ตตฺถ หิ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ ชรามรณตฺตา ปริยาเยน ตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน’นฺติ วุตฺตํ.

‘ยทิ เอวํ, ตยมฺเปตํ อชาตตฺตา สสวิสาณํ วิย นตฺถิ; นิพฺพานํ วิย วา นิจฺจ’นฺติ เจ – น, นิสฺสยปฏิพทฺธวุตฺติโต; ปถวีอาทีนฺหิ นิสฺสยานํ ภาเว ชาติอาทิตฺตยํ ปฺายติ, ตสฺมา น นตฺถิ. เตสฺจ อภาเว น ปฺายติ, ตสฺมา น นิจฺจํ. เอตมฺปิ จ อภินิเวสํ ปฏิเสเธตุํ เอว อิทํ วุตฺตํ – ‘‘ชรามรณํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒๐). เอวมาทีหิ นเยหิ ตานิ ทฺเว รูปานิ น เกหิจิ สมุฏฺหนฺตีติ เวทิตพฺพํ.

อปิจ ‘สมุฏฺาน’นฺติ เอตฺถ อยมฺโปิ อตฺโถ. ตสฺสายํ มาติกา – ‘กมฺมชํ กมฺมปจฺจยํ กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ, อาหารสมุฏฺานํ อาหารปจฺจยํ อาหารปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ, อุตุสมุฏฺานํ อุตุปจฺจยํ อุตุปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ, จิตฺตสมุฏฺานํ จิตฺตปจฺจยํ จิตฺตปจฺจยอุตุสมุฏฺาน’นฺติ.

ตตฺถ จกฺขุปสาทาทิ อฏฺวิธํ รูปํ สทฺธึ หทยวตฺถุนา ‘กมฺมชํ’ นาม. เกสมสฺสุ หตฺถิทนฺตา อสฺสวาลา จมรวาลาติ เอวมาทิ ‘กมฺมปจฺจยํ’ นาม. จกฺกรตนํ เทวตานํ อุยฺยานวิมานาทีนีติ เอวมาทิ ‘กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ’ นาม.

อาหารโต สมุฏฺิตํ สุทฺธฏฺกํ ‘อาหารสมุฏฺานํ’ นาม. กพฬีกาโร อาหาโร ทฺวินฺนมฺปิ รูปสนฺตตีนํ ปจฺจโย โหติ อาหารสมุฏฺานสฺส จ อุปาทินฺนสฺส จ. อาหารสมุฏฺานสฺส ชนโก หุตฺวา ปจฺจโย โหติ, กมฺมชสฺส อนุปาลโก หุตฺวาติ อิทํ อาหารานุปาลิตํ กมฺมชรูปํ ‘อาหารปจฺจยํ’ นาม. วิสภาคาหารํ เสวิตฺวา อาตเป คจฺฉนฺตสฺส ติลกกาฬกุฏฺาทีนิ อุปฺปชฺชนฺติ, อิทํ ‘อาหารปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ’ นาม.

อุตุโต สมุฏฺิตํ สุทฺธฏฺกํ ‘อุตุสมุฏฺานํ’ นาม. ตสฺมึ อุตุ อฺํ อฏฺกํ สมุฏฺาเปติ, อิทํ ‘อุตุปจฺจยํ’ นาม. ตสฺมิมฺปิ อุตุ อฺํ อฏฺกํ สมุฏฺาเปติ, อิทํ ‘อุตุปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ’ นาม. เอวํ ติสฺโสเยว สนฺตติโย ฆฏฺเฏตุํ สกฺโกติ. น ตโต ปรํ. อิมมตฺถํ อนุปาทินฺนเกนาปิ ทีเปตุํ วฏฺฏติ. อุตุสมุฏฺาโน นาม วลาหโก. อุตุปจฺจยา นาม วุฏฺิธารา. เทเว ปน วุฏฺเ พีชานิ วิรูหนฺติ, ปถวี คนฺธํ มุฺจติ, ปพฺพตา นีลา ขายนฺติ, สมุทฺโท วฑฺฒติ, เอตํ อุตุปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ นาม.

จิตฺตโต สมุฏฺิตํ สุทฺธฏฺกํ ‘จิตฺตสมุฏฺานํ’ นาม. ‘‘ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๑) อิทํ ‘จิตฺตปจฺจยํ’ นาม. อากาเส อนฺตลิกฺเข หตฺถิมฺปิ ทสฺเสติ, อสฺสมฺปิ ทสฺเสติ, รถมฺปิ ทสฺเสติ , วิวิธมฺปิ เสนาพฺยูหํ ทสฺเสติตี (ปฏิ. ม. ๓.๑๘) อิทํ ‘จิตฺตปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ’ นาม.

‘ปรินิปฺผนฺน’นฺติ ปนฺนรส รูปานิ ปรินิปฺผนฺนานิ นาม, ทส อปรินิปฺผนฺนานิ นาม. ‘ยทิ อปรินิปฺผนฺนา, อสงฺขตา นาม ภเวยฺยุํ’. ‘‘เตสํเยว ปน รูปานํ กายวิกาโร ‘กายวิฺตฺติ’ นาม, วจีวิกาโร ‘วจีวิฺตฺติ’ นาม, ฉิทฺทํ วิวรํ ‘อากาสธาตุ’ นาม, ลหุภาโว ‘ลหุตา’ นาม, มุทุภาโว ‘มุทุตา’ นาม, กมฺมฺภาโว ‘กมฺมฺตา’ นาม, นิพฺพตฺติ ‘อุปจโย’ นาม, ปวตฺติ ‘สนฺตติ’ นาม, ชีรณากาโร ‘ชรตา’ นาม, หุตฺวา อภาวากาโร ‘อนิจฺจตา’ นามาติ. สพฺพํ ปรินิปฺผนฺนํ สงฺขตเมว โหตี’’ติ.

อฏฺสาลินิยา ธมฺมสงฺคหอฏฺกถาย

รูปกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.