📜

๓. นิกฺเขปกณฺโฑ

ติกนิกฺเขปกถา

๙๘๕. เอตฺตาวตา กุสลตฺติโก สพฺเพสํ กุสลาทิธมฺมานํ ปทภาชนนเยน วิตฺถาริโต โหติ. ยสฺมา ปน ยฺวายํ กุสลตฺติกสฺส วิภชนนโย วุตฺโต, เสสติกทุกานมฺปิ เอเสว วิภชนนโย โหติ – ยถา หิ เอตฺถ, เอวํ ‘กตเม ธมฺมา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ รูปารมฺมณํ วา…เป… เย วา ปน ตสฺมึ สมเย อฺเปิ อตฺถิ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา อรูปิโน ธมฺมา เปตฺวา เวทนาขนฺธํ, อิเม ธมฺมา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา’ติอาทินา อนุกฺกเมน สพฺพติกทุเกสุ สกฺกา ปณฺฑิเตหิ วิภาชนนยํ สลฺลกฺเขตุํ – ตสฺมา ตํ วิตฺถารเทสนํ นิกฺขิปิตฺวา, อฺเน นาติสงฺเขปนาติวิตฺถารนเยน สพฺพติกทุกธมฺมวิภาคํ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา กุสลาติ นิกฺเขปกณฺฑํ อารทฺธํ. จิตฺตุปฺปาทกณฺฑฺหิ วิตฺถารเทสนา, อฏฺกถากณฺฑํ สงฺเขปเทสนา. อิทํ ปน นิกฺเขปกณฺฑํ จิตฺตุปฺปาทกณฺฑํ อุปาทาย สงฺเขโป, อฏฺกถากณฺฑํ อุปาทาย วิตฺถาโรติ สงฺขิตฺตวิตฺถารธาตุกํ โหติ. ตยิทํ, วิตฺถารเทสนํ นิกฺขิปิตฺวา เทสิตตฺตาปิ, เหฏฺา วุตฺตการณวเสนาปิ, นิกฺเขปกณฺฑํ นามาติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ –

มูลโต ขนฺธโต จาปิ, ทฺวารโต จาปิ ภูมิโต;

อตฺถโต ธมฺมโต จาปิ, นามโต จาปิ ลิงฺคโต;

นิกฺขิปิตฺวา เทสิตตฺตา, นิกฺเขโปติ ปวุจฺจตีติ.

อิทฺหิ ตีณิ กุสลมูลานีติอาทินา นเยน มูลโต นิกฺขิปิตฺวา เทสิตํ. ตํสมฺปยุตฺโต เวทนากฺขนฺโธติ ขนฺธโต. ตํสมุฏฺานํ กายกมฺมนฺติ ทฺวารโต. กายทฺวารปฺปวตฺตฺหิ กมฺมํ กายกมฺมนฺติ วุจฺจติ. สุขภูมิยํ, กามาวจเรติ ภูมิโต นิกฺขิปิตฺวา เทสิตํ. ตตฺถ ตตฺถ อตฺถธมฺมนามลิงฺคานํ วเสน เทสิตตฺตา อตฺถาทีหิ นิกฺขิปิตฺวา เทสิตํ นามาติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ กุสลปทนิทฺเทเส ตาว ตีณีติ คณนปริจฺเฉโท. กุสลานิ จ ตานิ มูลานิ จ, กุสลานํ วา ธมฺมานํ เหตุปจฺจยปภวชนกสมุฏฺานนิพฺพตฺตกฏฺเน มูลานีติ กุสลมูลานิ. เอวํ อตฺถวเสน ทสฺเสตฺวา อิทานิ นามวเสน ทสฺเสตุํ อโลโภ อโทโส อโมโหติ อาห. เอตฺตาวตา ยสฺมา มูเลน มุตฺตํ กุสลํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา จตุภูมกกุสลํ ตีหิ มูเลหิ ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา. ตํสมฺปยุตฺโตติ เตหิ อโลภาทีหิ สมฺปยุตฺโต. ตตฺถ อโลเภน สมฺปยุตฺเต สงฺขารกฺขนฺเธ, อโทสาโมหาปิ อโลเภน สมฺปยุตฺตสงฺขารกฺขนฺธคณนํเยว คจฺฉนฺติ. เสสทฺวยวเสน สมฺปโยเคปิ เอเสว นโย. อิติ จตุภูมกกุสลํ ปุน ตํสมฺปยุตฺตกจตุกฺขนฺธวเสน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา. ตํสมุฏฺานนฺติ เตหิ อโลภาทีหิ สมุฏฺิตํ. อิมินาปิ นเยน ตเทว จตุภูมิกกุสลํ ติณฺณํ กมฺมทฺวารานํ วเสน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา. เอวํ ตาว กุสลํ ตีสุ าเนสุ ปริยาทิยิตฺวา ทสฺสิตํ.

๙๘๖. อกุสเลปิ เอเสว นโย. ทฺวาทสนฺนฺหิ อกุสลจิตฺตานํ เอกมฺปิ มูเลน มุตฺตํ นาม นตฺถีติ มูเลน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา. ตํสมฺปยุตฺตจตุกฺขนฺธโต จ อุทฺธํ อกุสลํ นาม นตฺถีติ ตาเนว ทฺวาทส อกุสลจิตฺตานิ จตุกฺขนฺธวเสน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสสิ. ธมฺมราชา กายกมฺมาทิวเสน ปน เนสํ ปวตฺติสพฺภาวโต กมฺมทฺวารวเสน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา. ยํ ปเนตฺถ ตเทกฏฺา จ กิเลสาติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ เอกสฺมึ จิตฺเต ปุคฺคเล วา ิตนฺติ ‘เอกฏฺํ’. ตตฺถ เอกสฺมึ จิตฺเต ิตํ สหเชกฏฺํ นาม โหติ. เอกสฺมึ ปุคฺคเล ิตํ ปหาเนกฏฺํ นาม. เตน โลภาทินา อฺเน วา ตตฺถ ตตฺถ นิทฺทิฏฺเน สห เอกสฺมึ ิตนฺติ ตเทกฏฺํ. ตตฺถ ‘กตเม ธมฺมา สํกิลิฏฺสํกิเลสิกา? ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ โทโส โมโห, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’ติ สํกิลิฏฺตฺติเก; ‘กตเม ธมฺมา หีนา? ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ โทโส โมโห, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’ติ หีนตฺติเก ‘กตเม ธมฺมา อกุสลา? ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ โทโส โมโห, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’ติ อิมสฺมึ กุสลตฺติเก; ‘กตเม ธมฺมา สํกิลิฏฺา? ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ โทโส โมโห, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’ติ กิเลสโคจฺฉเก ‘กตเม ธมฺมา สรณา? ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ โทโส โมโห, ตเทกฏฺา จ กิเลสาติ สรณทุเก’ติ – อิเมสุ เอตฺตเกสุ าเนสุ ‘สหเชกฏฺํ’ อาคตํ.

ทสฺสเนนปหาตพฺพตฺติเก ปน ‘อิมานิ ตีณิ สํโยชนานิ, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’ติ, ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกตฺติเกปิ ‘อิมานิ ตีณิ สํโยชนานิ, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’ติ, ปุน ตตฺเถว ตีณิ สํโยชนานิ – สกฺกายทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา สีลพฺพตปรามาโส, อิเม ธมฺมา ทสฺสเนนปหาตพฺพา; ตเทกฏฺโ โลโภ โทโส โมโห, อิเม ธมฺมา ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตู; ตเทกฏฺา จ กิเลสา ตํสมฺปยุตฺโต เวทนาขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ, ตํสมุฏฺานํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ, อิเม ธมฺมา ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกาติ; สมฺมปฺปธานวิภงฺเค ‘‘ตตฺถ กตเม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา? ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ โทโส โมโห, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’’ติ (วิภ. ๓๙๑) – อิเมสุ ปน เอตฺตเกสุ าเนสุ ‘ปหาเนกฏฺํ’ อาคตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๙๘๗. อพฺยากตปทนิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถเยวาติ. อิมสฺมึ ติเก ตีณิ ลกฺขณานิ ติสฺโส ปฺตฺติโย กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ อชฏากาสํ อากิฺจฺายตนสฺส อารมฺมณํ นิโรธสมาปตฺติ จ น ลพฺภตีติ วุตฺตํ.

๙๘๘. เวทนาตฺติกนิทฺเทเส สุขภูมิยนฺติ เอตฺถ ยถา ตมฺพภูมิ กณฺหภูมีติ ตมฺพกณฺหภูมิโยว วุจฺจนฺติ, เอวํ สุขมฺปิ สุขภูมิ นาม. ยถา อุจฺฉุภูมิ สาลิภูมีติ อุจฺฉุสาลีนํ อุปฺปชฺชนฏฺานานิ วุจฺจนฺติ, เอวํ สุขสฺส อุปฺปชฺชนฏฺานํ จิตฺตมฺปิ สุขภูมิ นาม. ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. ยสฺมา ปน สา กามาวจเร วา โหติ, รูปาวจราทีสุ วา, ตสฺมาสฺสา ตํ ปเภทํ ทสฺเสตุํ กามาวจเรติอาทิ วุตฺตํ. สุขเวทนํ เปตฺวาติ ยา สา สุขภูมิยํ สุขเวทนา, ตํ เปตฺวา. ตํสมฺปยุตฺโตติ ตาย ปิตาย สุขเวทนาย สมฺปยุตฺโต. เสสปททฺวเยปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

อิมสฺมึ ติเก ติสฺโส เวทนา, สพฺพํ รูปํ, นิพฺพานนฺติ อิทมฺปิ น ลพฺภติ. อยฺหิ ติโก กุสลตฺติเก จ อลพฺภมาเนหิ อิเมหิ จ ตีหิ โกฏฺาเสหิ มุตฺตโก นาม. อิโต ปเรสุ ปน ติกทุเกสุ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา ตํ สพฺพํ ปทานุกฺกเมน มาติกากถายฺเจว กุสลาทีนํ นิทฺเทเส จ วุตฺตเมว. ยํ ปน ยตฺถ วิเสสมตฺตํ ตเทว วกฺขาม.

๙๙๑. ตตฺถ วิปากตฺติเก ตาว กิฺจาปิ อรูปธมฺมา วิย รูปธมฺมาปิ กมฺมสมุฏฺานา อตฺถิ, อนารมฺมณตฺตา ปน เต กมฺมสริกฺขกา น โหนฺตีติ สารมฺมณา อรูปธมฺมาว กมฺมสริกฺขกตฺตา วิปากาติ วุตฺตา, พีชสริกฺขกํ ผลํ วิย. สาลิพีชสฺมิฺหิ วปิเต องฺกุรปตฺตาทีสุ นิกฺขนฺเตสุปิ สาลิผลนฺติ น วุจฺจติ. ยทา ปน สาลิสีสํ ปกฺกํ โหติ ปริณตํ, ตทา พีชสริกฺขโก สาลิ เอว สาลิผลนฺติ วุจฺจติ. องฺกุรปตฺตาทีนิ ปน พีชชาตานิ พีชโต นิพฺพตฺตานีติ วุจฺจนฺติ, เอวเมว รูปมฺปิ กมฺมชนฺติ วา อุปาทิณฺณนฺติ วา วตฺตุํ วฏฺฏติ.

๙๙๔. อุปาทิณฺณตฺติเก กิฺจาปิ ขีณาสวสฺส ขนฺธา ‘อมฺหากํ มาตุลตฺเถโร อมฺหากํ จูฬปิตุตฺเถโร’ติ วทนฺตานํ ปเรสํ อุปาทานสฺส ปจฺจยา โหนฺติ, มคฺคผลนิพฺพานานิ ปน อคฺคหิตานิ อปรามฏฺานิ อนุปาทิณฺณาเนว. ตานิ หิ, ยถา ทิวสํ สนฺตตฺโต อโยคุโฬ มกฺขิกานํ อภินิสีทนสฺส ปจฺจโย น โหติ, เอวเมว เตชุสฺสทตฺตา ตณฺหามานทิฏฺิวเสน คหณสฺส ปจฺจยา น โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – อิเม ธมฺมา อนุปาทิณฺณอนุปาทานิยาติ.

๙๙๘. อสํกิลิฏฺอสํกิเลสิเกสุปิ เอเสว นโย.

๑๐๐๐. วิตกฺกตฺติเก วิตกฺกสหชาเตน วิจาเรน สทฺธึ กุสลตฺติเก อลพฺภมานาว น ลพฺภนฺติ.

๑๐๐๓. ปีติสหคตตฺติเก ปีติอาทโย อตฺตนา สหชาตธมฺมานํ ปีติสหคตาทิภาวํ ทตฺวา สยํ ปิฏฺิวฏฺฏกา ชาตา. อิมสฺมิฺหิ ติเก ทฺเว โทมนสฺสสหคตจิตฺตุปฺปาทา ทุกฺขสหคตํ กายวิฺาณํ อุเปกฺขาเวทนา รูปํ นิพฺพานนฺติ – อิทมฺปิ น ลพฺภติ. อยฺหิ ติโก กุสลตฺติเก จ อลพฺภมาเนหิ อิเมหิ จ ปฺจหิ โกฏฺาเสหิ มุตฺตโก นาม.

๑๐๐๖. ทสฺสเนนปหาตพฺพตฺติเก สฺโชนานีติ พนฺธนานิ. สกฺกายทิฏฺีติ วิชฺชมานฏฺเน สติ ขนฺธปฺจกสงฺขาเต กาเย; สยํ วา สตี ตสฺมึ กาเย ทิฏฺีติ ‘สกฺกายทิฏฺิ’. สีเลน สุชฺฌิตุํ สกฺกา, วเตน สุชฺฌิตุํ สกฺกา, สีลวเตหิ สุชฺฌิตุํ สกฺกาติ คหิตสมาทานํ ปน สีลพฺพตปรามาโส นาม.

๑๐๐๗. อิธาติ เทสาปเทเส นิปาโต. สฺวายํ กตฺถจิ โลกํ อุปาทาย วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๘๙). กตฺถจิ สาสนํ. ยถาห – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑). กตฺถจิ โอกาสํ. ยถาห –

‘‘อิเธว ติฏฺมานสฺส, เทวภูตสฺส เม สโต;

ปุนรายุ จ เม ลทฺโธ, เอวํ ชานาหิ มาริสา’’ติ. (ที. นิ. ๒.๓๖๙);

กตฺถจิ ปทปูรณมตฺตเมว. ยถาห – ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, ภุตฺตาวี อสฺสํ ปวาริโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๐). อิธ ปน โลกํ อุปาทาย วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

อสฺสุตวา ปุถุชฺชโนติ เอตฺถ ปน ‘อาคมาธิคมาภาวา เยฺโย อสฺสุตวา อิติ’. ยสฺส หิ ขนฺธธาตุอายตนปจฺจยาการสติปฏฺานาทีสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาวินิจฺฉยรหิตตฺตา ทิฏฺิปฏิเสธโก เนว ‘อาคโม’, ปฏิปตฺติยา อธิคนฺตพฺพสฺส อนธิคตตฺตา เนว ‘อธิคโม’ อตฺถิ, โส ‘อาคมาธิคมาภาวา เยฺโย อสฺสุตวา อิติ’. สฺวายํ –

ปุถูนํ ชนนาทีหิ, การเณหิ ปุถุชฺชโน;

ปุถุชฺชนนฺโตคธตฺตา, ปุถุวายํ ชโน อิติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๕๑; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๓๐; จูฬนิ. อฏฺ. ๘๘; เนตฺติ. อฏฺ. ๕๖);

โส หิ ปุถูนํ นานปฺปการานํ กิเลสาทีนํ ชนนาทีหิ การเณหิ ปุถุชฺชโน. ยถาห – ‘‘ปุถุ กิเลเส ชเนนฺตีติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ อวิหตสกฺกายทิฏฺิกาติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ สตฺถารานํ มุขุลฺโลกิกาติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ สพฺพคตีหิ อวุฏฺิตาติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ นานาภิสงฺขาเร อภิสงฺขโรนฺตีติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ นานาโอเฆหิ วุยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ นานาสนฺตาเปหิ สนฺตปฺปนฺตีติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ นานาปริฬาเหหิ ปริฑยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ ปฺจสุ กามคุเณสุ รตฺตา คิทฺธา คธิตา มุจฺฉิตา อชฺโฌสนฺนา ลคฺคา ลคฺคิตา ปลิพุทฺธาติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ ปฺจหิ นีวรเณหิ อาวุตา นิวุตา โอวุตา ปิหิตา ปฏิจฺฉนฺนา ปฏิกุชฺชิตาติ ปุถุชฺชนา’’ติ (มหานิ. ๙๔). ปุถูนํ วา คณนปถมตีตานํ อริยธมฺมปรมฺมุขานํ นีจธมฺมสมาจารานํ ชนานํ อนฺโตคธตฺตาปิ ปุถุชฺชนา. ปุถุ วา อยํ – วิสุํเยว สงฺขฺยํ คโต, วิสํสฏฺโ สีลสุตาทิคุณยุตฺเตหิ อริเยหิ – ชโนติปิ ปุถุชฺชโน. เอวเมเตหิ ‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’ติ ทฺวีหิ ปเทหิ เย เต –

‘‘ทุเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;

อนฺโธ ปุถุชฺชโน เอโก, กลฺยาเณโก ปุถุชฺชโน’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๕๑; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๓๐; จูฬนิ. อฏฺ. ๘๘);

ทฺเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, เตสุ อนฺธปุถุชฺชโน วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ.

อริยานํ อทสฺสาวีติอาทีสุ อริยาติ อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย อิริยนโต, สเทวเกน โลเกน จ อรณียโต พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ พุทฺธสาวกา จ วุจฺจนฺติ. พุทฺธา เอว วา อิธ อริยา. ยถาห – ‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… ตถาคโต อริโยติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๘).

สปฺปุริสาติ เอตฺถ ปน ปจฺเจกพุทฺธา ตถาคตสาวกา จ สปฺปุริสาติ เวทิตพฺพา. เต หิ โลกุตฺตรคุณโยเคน โสภนา ปุริสาติ สปฺปุริสา. สพฺเพว วา เอเต ทฺเวธาปิ วุตฺตา. พุทฺธาปิ หิ อริยา จ สปฺปุริสา จ ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธสาวกาปิ. ยถาห –

‘‘โย เว กตฺู กตเวทิ ธีโร,

กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหติ;

ทุขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจํ,

ตถาวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺตี’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๗๘);

‘กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหตี’ติ เอตฺตาวตา หิ พุทฺธสาวโก วุตฺโต. กตฺุตาทีหิ ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธาติ. อิทานิ โย เตสํ อริยานํ อทสฺสนสีโล, น จ ทสฺสเน สาธุการี, โส อริยานํ อทสฺสาวีติ เวทิตพฺโพ. โส จกฺขุนา อทสฺสาวี าเณน อทสฺสาวีติ ทุวิโธ. เตสุ าเณน อทสฺสาวี อิธ อธิปฺเปโต. มํสจกฺขุนา หิ ทิพฺพจกฺขุนา วา อริยา ทิฏฺาปิ อทิฏฺาว โหนฺติ, เตสํ จกฺขูนํ วณฺณมตฺตคฺคหณโต, น อริยภาวโคจรโต. โสณสิงฺคาลาทโยปิ จกฺขุนา อริเย ปสฺสนฺติ, น จ เต อริยานํ ทสฺสาวิโน.

ตตฺริทํ วตฺถุ – จิตฺตลปพฺพตวาสิโน กิร ขีณาสวตฺเถรสฺส อุปฏฺาโก วุฑฺฒปพฺพชิโต เอกทิวสํ เถเรน สทฺธึ ปิณฺฑาย จริตฺวา เถรสฺส ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา ปิฏฺิโต อาคจฺฉนฺโต เถรํ ปุจฺฉิ – ‘อริยา นาม ภนฺเต กีทิสา’ติ? เถโร อาห – ‘อิเธกจฺโจ มหลฺลโก อริยานํ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา วตฺตปฏิปตฺตึ กตฺวา สห จรนฺโตปิ เนว อริเย ชานาติ, เอวํทุชฺชานาวุโส, อริยา’ติ. เอวํ วุตฺเตปิ โส เนว อฺาสิ. ตสฺมา น จกฺขุนา ทสฺสนํ ‘ทสฺสนํ’, าณทสฺสนเมว ‘ทสฺสนํ’. ยถาห – ‘‘กึ เต วกฺกลิ อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเน? โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๗). ตสฺมา จกฺขุนา ปสฺสนฺโตปิ, าเณน อริเยหิ ทิฏฺํ อนิจฺจาทิลกฺขณํ อปสฺสนฺโต, อริยาธิคตฺจ ธมฺมํ อนธิคจฺฉนฺโต, อริยกรธมฺมานํ อริยภาวสฺส จ อทิฏฺตฺตา, ‘อริยานํ อทสฺสาวี’ติ เวทิตพฺโพ.

อริยธมฺมสฺสอโกวิโทติ สติปฏฺานาทิเภเท อริยธมฺเม อกุสโล. อริยธมฺเม อวินีโตติ, เอตฺถ ปน

ทุวิโธ วินโย นาม, เอกเมเกตฺถ ปฺจธา;

อภาวโต ตสฺส อยํ, อวินีโตติ วุจฺจติ.

อยฺหิ สํวรวินโย ปหานวินโยติ ทุวิโธ วินโย. เอตฺถ จ ทุวิเธปิ วินเย เอกเมโก วินโย ปฺจธา ภิชฺชติ. สํวรวินโยปิ หิ สีลสํวโร สติสํวโร าณสํวโร ขนฺติสํวโร วีริยสํวโรติ ปฺจวิโธ. ปหานวินโยปิ ตทงฺคปหานํ วิกฺขมฺภนปหานํ สมุจฺเฉทปหานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานํ นิสฺสรณปหานนฺติ ปฺจวิโธ.

ตตฺถ ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติ (วิภ. ๕๑๑) อยํ สีลสํวโร. ‘‘รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๑๓; ม. นิ. ๑.๒๙๕; สํ. นิ. ๔.๒๓๙; อ. นิ. ๓.๑๖) อยํ สติสํวโร.

‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, (อชิตาติ ภควา)

สติ เตสํ นิวารณํ;

โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ,

ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๔๑) –

อยํ าณสํวโร นาม. ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺสา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) อยํ ขนฺติสํวโร. ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) อยํ วีริยสํวโร. สพฺโพปิ จายํ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ วิเนตพฺพานฺจ กายทุจฺจริตาทีนํ สํวรณโต สํวโร, วินยนโต วินโยติ วุจฺจติ. เอวํ ตาว ‘สํวรวินโย’ ปฺจธา ภิชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.

ตถา ยํ นามรูปปริจฺเฉทาทีสุ วิปสฺสนาาเณสุ ปฏิปกฺขภาวโต, ทีปาโลเกเนว ตมสฺส, เตน เตน วิปสฺสนาาเณน ตสฺส ตสฺส อนตฺถสฺส ปหานํ, เสยฺยถิทํ – นามรูปววตฺถาเนน สกฺกายทิฏฺิยา, ปจฺจยปริคฺคเหน อเหตุวิสมเหตุทิฏฺีนํ, ตสฺเสว อปรภาเคน กงฺขาวิตรเณน กถํกถิภาวสฺส, กลาปสมฺมสเนน ‘อหํ มมา’ติ คาหสฺส, มคฺคามคฺคววตฺถาเนน อมคฺเค มคฺคสฺาย, อุทยทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺิยา, วยทสฺสเนน สสฺสตทิฏฺิยา, ภยทสฺสเนน สภเย อภยสฺาย, อาทีนวทสฺสเนน อสฺสาทสฺาย, นิพฺพิทานุปสฺสนาย อภิรติสฺาย, มุจฺจิตุกมฺยตาาเณน อมุจฺจิตุกามตาย, อุเปกฺขาาเณน อนุเปกฺขาย, อนุโลเมน ธมฺมฏฺิติยํ นิพฺพาเน จ ปฏิโลมภาวสฺส, โคตฺรภุนา สงฺขารนิมิตฺตคฺคาหสฺส ปหานํ, เอตํ ‘ตทงฺคปหานํ’ นาม.

ยํ ปน อุปจารปฺปนาเภเทน สมาธินา ปวตฺติภาวนิวารณโต, ฆฏปฺปหาเรเนว อุทกปิฏฺเ เสวาลสฺส, เตสํ เตสํ นีวรณาทิธมฺมานํ ปหานํ, เอตํ ‘วิกฺขมฺภนปหานํ’ นาม. ‘‘ยํ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา ตํตํมคฺควโต อตฺตโน อตฺตโน สนฺตาเน ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒๗๗) นเยน วุตฺตสฺส สมุทยปกฺขิกสฺส กิเลสคณสฺส อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติภาเวน ปหานํ, อิทํ ‘สมุจฺเฉทปหานํ’ นาม. ยํ ปน ผลกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตํ กิเลสานํ, เอตํ ‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานํ’ นาม. ยํ สพฺพสงฺขตนิสฺสฏตฺตา ปหีนสพฺพสงฺขตํ นิพฺพานํ, เอตํ ‘นิสฺสรณปหานํ’ นาม. สพฺพมฺปิ เจตํ ปหานํ ยสฺมา จาคฏฺเน ปหานํ, วินยนฏฺเน วินโย, ตสฺมา ‘ปหานวินโย’ติ วุจฺจติ. ตํตํปหานวโต วา ตสฺส ตสฺส วินยสฺส สมฺภวโตเปตํ ปหานวินโยติ วุจฺจติ. เอวํ ปหานวินโยปิ ปฺจธา ภิชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.

เอวมยํ สงฺเขปโต ทุวิโธ, เภทโต จ ทสวิโธ วินโย, ภินฺนสํวรตฺตา, ปหาตพฺพสฺส จ อปฺปหีนตฺตา, ยสฺมา เอตสฺส อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส นตฺถิ, ตสฺมา อภาวโต ตสฺส, อยํ ‘อวินีโต’ติ วุจฺจตีติ. เอส นโย สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโตติ เอตฺถาปิ. นินฺนานากรณฺเหตํ อตฺถโต. ยถาห – ‘‘เยว เต อริยา เตว เต สปฺปุริสา, เยว เต สปฺปุริสา เตว เต อริยา. โย เอว โส อริยานํ ธมฺโม โส เอว โส สปฺปุริสานํ ธมฺโม, โย เอว โส สปฺปุริสานํ ธมฺโม โส เอว โส อริยานํ ธมฺโม. เยว เต อริยวินยา เตว เต สปฺปุริสวินยา, เยว เต สปฺปุริสวินยา เตว เต อริยวินยา. อริเยติ วา สปฺปุริเสติ วา, อริยธมฺเมติ วา สปฺปุริสธมฺเมติ วา, อริยวินเยติ วา สปฺปุริสวินเยติ วา, เอเสเส เอเก เอกฏฺเ สเม สมภาเค ตชฺชาเต ตฺเวา’’ติ.

รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ – ‘ยํ รูปํ โส อหํ, โย อหํ ตํ รูป’นฺติ รูปฺจ อตฺตานฺจ อทฺวยํ สมนุปสฺสติ. ‘‘เสยฺยถาปิ นาม เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต ยา อจฺจิ โส วณฺโณ, โย วณฺโณ สา อจฺจีติ อจฺจิฺจ วณฺณฺจ อทฺวยํ สมนุปสฺสติ,’’ เอวเมว อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ เอวํ รูปํ อตฺตาติ ทิฏฺิปสฺสนาย ปสฺสติ. รูปวนฺตํ วา อตฺตานนฺติ ‘อรูปํ อตฺตา’ติ คเหตฺวา, ฉายาวนฺตํ รุกฺขํ วิย, ตํ รูปวนฺตํ สมนุปสฺสติ. อตฺตนิ วา รูปนฺติ ‘อรูปเมว อตฺตา’ติ คเหตฺวา, ปุปฺผมฺหิ คนฺธํ วิย, อตฺตนิ รูปํ สมนุปสฺสติ. รูปสฺมึวา อตฺตานนฺติ ‘อรูปเมว อตฺตา’ติ คเหตฺวา, กรณฺฑเก มณึ วิย, อตฺตานํ รูปสฺมึ สมนุปสฺสติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ ‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’ติ สุทฺธรูปเมว อตฺตาติ กถิตํ. ‘รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’ติ อิเมสุ สตฺตสุ าเนสุ ‘อรูปํ อตฺตา’ติ กถิตํ. เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา เวทนํ, เวทนาย วา อตฺตานนฺติ เอวํ จตูสุ ขนฺเธสุ ติณฺณํ ติณฺณํ วเสน ทฺวาทสสุ าเนสุ ‘รูปารูปมิสฺสโก อตฺตา’ กถิโต. ตตฺถ ‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ เวทนํ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’ติ อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ อุจฺเฉททิฏฺิ กถิตา. อวเสเสสุ สสฺสตทิฏฺิ. เอวเมตฺถ ปนฺนรส ภวทิฏฺิโย ปฺจ วิภวทิฏฺิโย โหนฺติ. ตา สพฺพาปิ มคฺคาวรณา, น สคฺคาวรณา, ปมมคฺควชฺฌาติ เวทิตพฺพา.

๑๐๐๘. สตฺถริ กงฺขตีติ สตฺถุ สรีเร วา คุเณ วา อุภยตฺถ วา กงฺขติ. สรีเร กงฺขมาโน ‘ทฺวตฺตึสวรลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ นาม สรีรํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ. คุเณ กงฺขมาโน ‘อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนชานนสมตฺถํ สพฺพฺุตาณํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ. อุภยตฺถ กงฺขมาโน ‘อสีติอนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภานุรฺชิตาย สรีรนิปฺผตฺติยา สมนฺนาคโต สพฺพเยฺยชานนสมตฺถํ สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต โลกตารโก พุทฺโธ นาม อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ. อยฺหิสฺส อตฺตภาเว คุเณ วา กงฺขนโต อุภยตฺถ กงฺขติ นาม. วิจิกิจฺฉตีติ อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺโต กิจฺฉติ กิลมติ. นาธิมุจฺจตีติ ตตฺเถว อธิโมกฺขํ น ลภติ. น สมฺปสีทตีติ จิตฺตํ อนาวิลํ กตฺวา ปสีทิตุํ น สกฺโกติ, คุเณสุ นปฺปสีทติ.

ธมฺเม กงฺขตีติอาทีสุ ปน ‘กิเลเส ปชหนฺตา จตฺตาโร อริยมคฺคา, ปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลสานิ จตฺตาริ สามฺผลานิ, มคฺคผลานํ อารมฺมณปจฺจยภูตํ อมตํ มหานิพฺพานํ นาม อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขนฺโตปิ ‘อยํ ธมฺโม นิยฺยานิโก นุ โข อนิยฺยานิโก’ติ กงฺขนฺโตปิ ธมฺเม กงฺขติ นาม. ‘จตฺตาโร มคฺคฏฺกา จตฺตาโร ผลฏฺกาติ อิทํ สงฺฆรตนํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขนฺโตปิ, ‘อยํ สงฺโฆ สุปฺปฏิปนฺโน นุ โข ทุปฺปฏิปนฺโน’ติ กงฺขนฺโตปิ, ‘เอตสฺมึ สงฺฆรตเน ทินฺนสฺส วิปากผลํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขนฺโตปิ สงฺเฆ กงฺขติ นาม. ‘ติสฺโส ปน สิกฺขา อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขนฺโตปิ, ‘ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขิตปจฺจเยน อานิสํโส อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขนฺโตปิ สิกฺขาย กงฺขติ นาม.

ปุพฺพนฺโต วุจฺจติ อตีตานิ ขนฺธธาตายตนานิ. อปรนฺโต อนาคตานิ. ตตฺถ อตีเตสุ ขนฺธาทีสุ ‘อตีตานิ นุ โข, น นุ โข’ติ กงฺขนฺโต ปุพฺพนฺเต กงฺขติ นาม. อนาคเตสุ ‘อนาคตานิ นุ โข, น นุ โข’ติ กงฺขนฺโต อปรนฺเต กงฺขติ นาม. อุภยตฺถ กงฺขนฺโต ปุพฺพนฺตาปรนฺเต กงฺขติ นาม. ‘ทฺวาทสปทิกํ ปจฺจยวฏฺฏํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขนฺโต อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ กงฺขติ นาม. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อิเมสํ ชรามรณาทีนํ ปจฺจยา ‘อิทปฺปจฺจยา’. อิทปฺปจฺจยานํ ภาโว ‘อิทปฺปจฺจยตา’. อิทปฺปจฺจยา เอว วา ‘อิทปฺปจฺจยตา’; ชาติอาทีนเมตํ อธิวจนํ. ชาติอาทีสุ ตํ ตํ ปฏิจฺจ อาคมฺม สมุปฺปนฺนาติ ‘ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา’. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิทปฺปจฺจยตาย จ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ จ ธมฺเมสุ กงฺขตีติ.

๑๐๐๙. สีเลนาติ โคสีลาทินา. วเตนาติ โควตาทินาว. สีลพฺพเตนาติ ตทุภเยน. สุทฺธีติ กิเลสสุทฺธิ; ปรมตฺถสุทฺธิภูตํ วา นิพฺพานเมว. ตเทกฏฺาติ อิธ ปหาเนกฏฺํ ธุรํ. อิมิสฺสา จ ปาฬิยา ทิฏฺิกิเลโส วิจิกิจฺฉากิเลโสติ ทฺเวเยว อาคตา. โลโภ โทโส โมโห มาโน ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม ปน อฏฺ อนาคตา. อาหริตฺวา ปน ทีเปตพฺพา. เอตฺถ หิ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสุ ปหียมานาสุ อปายคมนีโย โลโภ โทโส โมโห มาโน ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ สพฺเพปิเม ปหาเนกฏฺา หุตฺวา ปหียนฺติ. สหเชกฏฺํ ปน อาหริตฺวา ทีเปตพฺพํ. โสตาปตฺติมคฺเคน หิ จตฺตาริ ทิฏฺิสหคตานิ วิจิกิจฺฉาสหคตฺจาติ ปฺจ จิตฺตานิ ปหียนฺติ. ตตฺถ ทฺวีสุ อสงฺขาริกทิฏฺิจิตฺเตสุ ปหียนฺเตสุ เตหิ สหชาโต โลโภ โมโห อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ. เสสทิฏฺิกิเลโส จ วิจิกิจฺฉากิเลโส จ ปหาเนกฏฺวเสน ปหียนฺติ. ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตสสงฺขาริกจิตฺเตสุปิ ปหียนฺเตสุ เตหิ สหชาโต โลโภ โมโห ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ. เสสทิฏฺิกิเลโส จ วิจิกิจฺฉากิเลโส จ ปหาเนกฏฺวเสน ปหียนฺติ. เอวํ ปหาเนกฏฺสฺมึเยว สหเชกฏฺํ ลพฺภตีติ อิทํ สหเชกฏฺํ อาหริตฺวา ทีปยึสุ.

ตํสมฺปยุตฺโตติ เตหิ ตเทกฏฺเหิ อฏฺหิ กิเลเสหิ สมฺปยุตฺโต. วินิพฺโภคํ วา กตฺวา เตน โลเภน เตน โทเสนาติ เอวํ เอเกเกน สมฺปยุตฺตตา ทีเปตพฺพา. ตตฺถ โลเภ คหิเต, โมโห มาโน ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อยํ สงฺขารกฺขนฺเธ กิเลสคโณ โลภสมฺปยุตฺโต นาม. โทเส คหิเต, โมโห ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อยํ กิเลสคโณ โทสสมฺปยุตฺโต นาม. โมเห คหิเต, โลโภ โทโส มาโน ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อยํ กิเลสคโณ โมหสมฺปยุตฺโต นาม. มาเน คหิเต, เตน สหุปฺปนฺโน โลโภ โมโห ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อยํ กิเลสคโณ มานสมฺปยุตฺโต นาม. อิมินา อุปาเยน เตน ถิเนน เตน อุทฺธจฺเจน เตน อหิริเกน เตน อโนตฺตปฺเปน สมฺปยุตฺโต ตํสมฺปยุตฺโตติ โยชนา กาตพฺพา. ตํสมุฏฺานนฺติ เตน โลเภน…เป… เตน อโนตฺตปฺเปน สมุฏฺิตนฺติ อตฺโถ.

อิเม ธมฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพาติ เอตฺถ ทสฺสนํ นาม โสตาปตฺติมคฺโค; เตน ปหาตพฺพาติ อตฺโถ. ‘กสฺมา ปน โสตาปตฺติมคฺโค ทสฺสนํ นาม ชาโต’ติ? ‘ปมํ นิพฺพานทสฺสนโต’. ‘นนุ โคตฺรภุ ปมตรํ ปสฺสตี’ติ ? ‘โน น ปสฺสติ; ทิสฺวาปิ กตฺตพฺพกิจฺจํ ปน น กโรติ, สํโยชนานํ อปฺปหานโต. ตสฺมา ปสฺสตี’ติ น วตฺตพฺโพ. ยตฺถ กตฺถจิ ราชานํ ทิสฺวาปิ ปณฺณาการํ ทตฺวา กิจฺจนิปฺผตฺติยา อทิฏฺตฺตา ‘อชฺชาปิ ราชานํ น ปสฺสามี’ติ วทนฺโต เจตฺถ ชานปทปุริโส นิทสฺสนํ.

๑๐๑๑. อวเสโส โลโภติ ทสฺสเนน ปหีนาวเสโส. โลโภ โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย. ทสฺสเนน หิ อปายคมนียาว ปหีนา. เตหิ ปน อฺเ ทสฺเสตุํ อิทํ วุตฺตํ. ‘ตเทกฏฺา’ติ เตหิ ปาฬิยํ อาคเตหิ ตีหิ กิเลเสหิ สมฺปโยคโตปิ ปหานโตปิ เอกฏฺา ปฺจ กิเลสา. เนว ทสฺสเนน น ภาวนายาติ อิทํ สํโยชนาทีนํ วิย เตหิ มคฺเคหิ อปฺปหาตพฺพตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน ‘‘โสตาปตฺติมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน สตฺต ภเว เปตฺวา อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ, นามฺจ รูปฺจ เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺตี’’ติอาทินา นเยน กุสลาทีนมฺปิ ปหานํ อนุฺาตํ, ตํ เตสํ มคฺคานํ อภาวิตตฺตา เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เต อุปนิสฺสยปจฺจยานํ กิเลสานํ ปหีนตฺตา ปหีนาติ อิมํ ปริยายํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๐๑๓. ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกตฺติเก อิเม ธมฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพเหตุกาติ นิฏฺเปตฺวา, ปุน ‘ตีณิ สํโยชนานี’ติอาทิ ปหาตพฺเพ ทสฺเสตฺวา, ตเทกฏฺภาเวน เหตู เจว สเหตุเก จ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘กิฺจาปิ ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ เหตูสุ โลภสหคโต โมโห โลเภน สเหตุโก โหติ, โทสสหคโต โมโห โทเสน, โลภโทสา จ โมเหนาติ ปหาตพฺพเหตุกปเทเปเต สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, วิจิกิจฺฉาสหคโต ปน โมโห อฺสฺส สมฺปยุตฺตเหตุโน อภาเวน เหตุเยว, น สเหตุโกติ ตสฺส ปหานํ ทสฺเสตุํ อิเม ธมฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพเหตู’ติ วุตฺตํ.

๑๐๑๘. ทุติยปเท อุทฺธจฺจสหคตสฺส โมหสฺส ปหานํ ทสฺเสตุํ อิเม ธมฺมา ภาวนาย ปหาตพฺพเหตูติ วุตฺตํ. โส หิ อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺเม สเหตุเก กตฺวา ปิฏฺิวฏฺฏโก ชาโต, วิจิกิจฺฉาสหคโต วิย อฺสฺส สมฺปยุตฺตเหตุโน อภาวา ปหาตพฺพเหตุกปทํ น ภชติ. ตติยปเท อวเสสา อกุสลาติ ปุน อกุสลคฺคหณํ วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตานํ โมหานํ สงฺคหตฺถํ กตํ. เต หิ สมฺปยุตฺตเหตุโน อภาวา ปหาตพฺพเหตุกา นาม น โหนฺติ.

๑๐๒๙. ปริตฺตารมฺมณตฺติเก อารพฺภาติ อารมฺมณํ กตฺวา. สยฺหิ ปริตฺตา วา โหนฺตุ มหคฺคตา วา, ปริตฺตธมฺเม อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนา ปริตฺตารมฺมณา, มหคฺคเต อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนา มหคฺคตารมฺมณา, อปฺปมาเณ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนา อปฺปมาณารมฺมณา. เต ปน ปริตฺตาปิ โหนฺติ มหคฺคตาปิ อปฺปมาณาปิ.

๑๐๓๕. มิจฺฉตฺตตฺติเก อานนฺตริกานีติ อนนฺตราเยน ผลทายกานิ; มาตุฆาตกกมฺมาทีนเมตํ อธิวจนํ. เตสุ หิ เอกสฺมิมฺปิ กมฺเม กเต ตํ ปฏิพาหิตฺวา อฺํ กมฺมํ อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กาตุํ น สกฺโกติ. สิเนรุปฺปมาเณปิ หิ สุวณฺณถูเป กตฺวา จกฺกวาฬมตฺตํ วา รตนมยปาการํ วิหารํ กาเรตฺวา ตํ ปูเรตฺวา นิสินฺนสฺส พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ยาวชีวํ จตฺตาโร ปจฺจเย ททโตปิ ตํ กมฺมํ เอเตสํ กมฺมานํ วิปากํ ปฏิพาเหตุํ น สกฺโกติ เอว. ยา จ มิจฺฉาทิฏฺิ นิยตาติ อเหตุกวาทอกิริยวาทนตฺถิกวาเทสุ อฺตรา. ตฺหิ คเหตฺวา ิตํ ปุคฺคลํ พุทฺธสตมฺปิ พุทฺธสหสฺสมฺปิ โพเธตุํ น สกฺโกติ.

๑๐๓๘. มคฺคารมฺมณตฺติเก อริยมคฺคํ อารพฺภาติ โลกุตฺตรมคฺคํ อารมฺมณํ กตฺวา. เต ปน ปริตฺตาปิ โหนฺติ มหคฺคตาปิ.

๑๐๓๙. มคฺคเหตุกนิทฺเทเส ปมนเยน ปจฺจยฏฺเน เหตุนา มคฺคสมฺปยุตฺตานํ ขนฺธานํ สเหตุกภาโว ทสฺสิโต. ทุติยนเยน มคฺคภูเตน สมฺมาทิฏฺิสงฺขาเตน เหตุนา เสสมคฺคงฺคานํ สเหตุกภาโว ทสฺสิโต. ตติยนเยน มคฺเค อุปฺปนฺนเหตูหิ สมฺมาทิฏฺิยา สเหตุกภาโว ทสฺสิโตติ เวทิตพฺโพ.

๑๐๔๐. อธิปตึ กริตฺวาติ อารมฺมณาธิปตึ กตฺวา. เต จ โข ปริตฺตธมฺมาว โหนฺติ. อริยสาวกานฺหิ อตฺตโน มคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณกาเล อารมฺมณาธิปติ ลพฺภติ. เจโตปริยาเณน ปน อริยสาวโก ปรสฺส มคฺคํ ปจฺจเวกฺขมาโน ครุํ กโรนฺโตปิ อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺคํ วิย ครุํ น กโรติ. ‘ยมกปาฏิหาริยํ กโรนฺตํ ตถาคตํ ทิสฺวา ตสฺส มคฺคํ ครุํ กโรติ น กโรตี’ติ? กโรติ, น ปน อตฺตโน มคฺคํ วิย. อรหา น กิฺจิ ธมฺมํ ครุํ กโรติ เปตฺวา มคฺคํ ผลํ นิพฺพานนฺติ. เอตฺถาปิ อยเมวตฺโถ. วีมํสาธิปเตยฺยนฺติ อิทํ สหชาตาธิปตึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ฉนฺทฺหิ เชฏฺกํ กตฺวา มคฺคํ ภาเวนฺตสฺส ฉนฺโท อธิปติ นาม โหติ, น มคฺโค. เสสธมฺมาปิ ฉนฺทาธิปติโน นาม โหนฺติ, น มคฺคาธิปติโน. จิตฺเตปิ เอเสว นโย. วีมํสํ ปน เชฏฺกํ กตฺวา มคฺคํ ภาเวนฺตสฺส วีมํสาธิปติ เจว โหติ มคฺโค จาติ. เสสธมฺมา มคฺคาธิปติโน นาม โหนฺติ. วีริเยปิ เอเสว นโย.

๑๐๔๑. อุปฺปนฺนตฺติกนิทฺเทเส ชาตาติ นิพฺพตฺตา, ปฏิลทฺธตฺตภาวา. ภูตาติอาทีนิ เตสํเยว เววจนานิ. ชาตา เอว หิ ภาวปฺปตฺติยา ภูตา. ปจฺจยสํโยเค ชาตตฺตา สฺชาตา. นิพฺพตฺติลกฺขณปฺปตฺตตฺตา นิพฺพตฺตา. อุปสคฺเคน ปน ปทํ วฑฺเฒตฺวา อภินิพฺพตฺตาติ วุตฺตา. ปากฏีภูตาติ ปาตุภูตา. ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ ปนฺนาติ อุปฺปนฺนา. อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺเฒตฺวา สมุปฺปนฺนาติ วุตฺตา. นิพฺพตฺตฏฺเเนว อุทฺธํ ิตาติ อุฏฺิตา. ปจฺจยสํโยเค อุฏฺิตาติ สมุฏฺิตา. ปุน อุปฺปนฺนาติวจเน การณํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อุปฺปนฺนํเสน สงฺคหิตาติ อุปฺปนฺนโกฏฺาเสน คณนํ คตา. รูปํ เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณนฺติ อิทํ เนสํ สภาวทสฺสนํ. ทุติยปทนิทฺเทโส วุตฺตปฏิเสธนเยน เวทิตพฺโพ. ตติยปทนิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถเยว.

อยํ ปน ติโก ทฺวินฺนํ อทฺธานํ วเสน ปูเรตฺวา ทสฺสิโต. ลทฺโธกาสสฺส หิ กมฺมสฺส วิปาโก ทุวิโธ – ขณปฺปตฺโต, จ อปฺปตฺโต จ. ตตฺถ ‘ขณปฺปตฺโต’ อุปฺปนฺโน นาม. ‘อปฺปตฺโต’ จิตฺตานนฺตเร วา อุปฺปชฺชตุ, กปฺปสตสหสฺสาติกฺกเม วา. ธุวปจฺจยฏฺเน นตฺถิ นาม น โหติ, อุปฺปาทิโน ธมฺมา นาม ชาโต. ยถา หิ – ‘‘ติฏฺเตว สายํ, โปฏฺปาท, อรูปี อตฺตา สฺามโย . อถ อิมสฺส ปุริสสฺส อฺา จ สฺา อุปฺปชฺชนฺติ อฺา จ สฺา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๑๙). เอตฺถ อารุปฺเป กามาวจรสฺาปวตฺติกาเล กิฺจาปิ มูลภวงฺคสฺา นิรุทฺธา กามาวจรสฺาย ปน นิรุทฺธกาเล อวสฺสํ สา อุปฺปชฺชิสฺสตีติ อรูปสงฺขาโต อตฺตา นตฺถีติ สงฺขฺยํ อคนฺตฺวา ‘ติฏฺเตว’ นามาติ ชาโต. เอวเมว ลทฺโธกาสสฺส กมฺมสฺส วิปาโก ทุวิโธ…เป… ธุวปจฺจยฏฺเน นตฺถิ นาม น โหติ, อุปฺปาทิโน ธมฺมา นาม ชาโต.

ยทิ ปน อายูหิตํ กุสลากุสลกมฺมํ สพฺพํ วิปากํ ทเทยฺย, อฺสฺส โอกาโส น ภเวยฺย. ตํ ปน ทุวิธํ โหติ – ธุววิปากํ, อธุววิปากฺจ. ตตฺถ ปฺจ อานนฺตริยกมฺมานิ, อฏฺ สมาปตฺติโย, จตฺตาโร อริยมคฺคาติ เอตํ ‘ธุววิปากํ’ นาม. ตํ ปน ขณปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ, อปฺปตฺตมฺปิ. ตตฺถ ‘ขณปฺปตฺตํ’ อุปฺปนฺนํ นาม. ‘อปฺปตฺตํ’ อนุปฺปนฺนํ นาม. ตสฺส วิปาโก จิตฺตานนฺตเร วา อุปฺปชฺชตุ กปฺปสตสหสฺสาติกฺกเม วา. ธุวปจฺจยฏฺเน อนุปฺปนฺนํ นาม น โหติ, อุปฺปาทิโน ธมฺมา นาม ชาตํ. เมตฺเตยฺยโพธิสตฺตสฺส มคฺโค อนุปฺปนฺโน นาม, ผลํ อุปฺปาทิโน ธมฺมาเยว นาม ชาตํ.

๑๐๔๔. อตีตตฺติกนิทฺเทเส อตีตาติ ขณตฺตยํ อติกฺกนฺตา. นิรุทฺธาติ นิโรธปฺปตฺตา. วิคตาติ วิภวํ คตา, วิคจฺฉิตา วา. วิปริณตาติ ปกติวิชหเนน วิปริณามํ คตา. นิโรธสงฺขาตํ อตฺถํ คตาติ อตฺถงฺคตา. อพฺภตฺถงฺคตาติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. อุปฺปชฺชิตฺวา วิคตาติ นิพฺพตฺติตฺวา วิคจฺฉิตา. ปุน อตีตวจเน การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ปรโต อนาคตาทีสุปิ เอเสว นโย. อตีตํเสน สงฺคหิตาติ อตีตโกฏฺาเสน คณนํ คตา. กตเม เตติ? รูปํ เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณํ. ปรโต อนาคตาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑๐๔๗. อตีตารมฺมณตฺติกนิทฺเทเส อตีเต ธมฺเม อารพฺภาติอาทีสุ ปริตฺตมหคฺคตาว ธมฺมา เวทิตพฺพา. เต หิ อตีตาทีนิ อารพฺภ อุปฺปชฺชนฺติ.

๑๐๕๐. อชฺฌตฺตตฺติกนิทฺเทเส เตสํ เตสนฺติ ปททฺวเยน สพฺพสตฺเต ปริยาทิยติ. อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตนฺติ อุภยํ นิยกชฺฌตฺตาธิวจนํ. นิยตาติ อตฺตนิ ชาตา. ปาฏิปุคฺคลิกาติ ปาฏิเยกฺกสฺส ปาฏิเยกฺกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺตกา. อุปาทิณฺณาติ สรีรฏฺกา. เต หิ กมฺมนิพฺพตฺตา วา โหนฺตุ มา วา, อาทินฺนคหิตปรามฏฺวเสน ปน อิธ อุปาทิณฺณาติ วุตฺตา.

๑๐๕๑. ปรสตฺตานนฺติ อตฺตานํ เปตฺวา อวเสสสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตสทิสเมว. ตทุภยนฺติ ตํ อุภยํ.

๑๐๕๓. อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติกสฺส ปมปเท ปริตฺตมหคฺคตา ธมฺมา เวทิตพฺพา. ทุติเย อปฺปมาณาปิ. ตติเย ปริตฺตมหคฺคตาว. อปฺปมาณา ปน กาเลน พหิทฺธา กาเลน อชฺฌตฺตํ อารมฺมณํ น กโรนฺติ. สนิทสฺสนตฺติกนิทฺเทโส อุตฺตาโนเยวาติ.

ทุกนิกฺเขปกถา

๑๐๖๒. ทุเกสุ อโทสนิทฺเทเส เมตฺตายนวเสน เมตฺติ. เมตฺตากาโร เมตฺตายนา. เมตฺตาย อยิตสฺส เมตฺตาสมงฺคิโน จิตฺตสฺส ภาโว เมตฺตายิตตฺตํ. อนุทยตีติ อนุทฺทา, รกฺขตีติ อตฺโถ. อนุทฺทากาโร อนุทฺทายนา. อนุทฺทายิตสฺส ภาโว อนุทฺทายิตตฺตํ. หิตสฺส เอสนวเสน หิเตสิตา. อนุกมฺปนวเสน อนุกมฺปา. สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ อุปจารปฺปนาปฺปตฺตา เมตฺตาว วุตฺตา. เสสปเทหิ โลกิยโลกุตฺตโร อโทโส กถิโต.

๑๐๖๓. อโมหนิทฺเทเส ทุกฺเข าณนฺติ ทุกฺขสจฺเจ ปฺา. ทุกฺขสมุทเยติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ทุกฺเข าณํ สวนสมฺมสนปฏิเวธปจฺจเวกฺขณาสุ วตฺตติ. ตถา ทุกฺขสมุทเย. นิโรเธ ปน สวนปฏิเวธปจฺจเวกฺขณาสุ เอว. ตถา ปฏิปทาย. ปุพฺพนฺเตติ อตีตโกฏฺาเส. อปรนฺเตติ อนาคตโกฏฺาเส. ปุพฺพนฺตาปรนฺเตติ ตทุภเย. อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ าณนฺติ อยํ ปจฺจโย, อิทํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ, อิทํ ปฏิจฺจ อิทํ นิพฺพตฺตนฺติ, เอวํ ปจฺจเยสุ จ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเมสุ จ าณํ.

๑๐๖๕. โลภนิทฺเทเสปิ เหฏฺา อนาคตานํ ปทานํ อยมตฺโถ – รฺชนวเสน ราโค. พลวรฺชนฏฺเน สาราโค. วิสเยสุ สตฺตานํ อนุนยนโต อนุนโย. อนุรุชฺฌตีติ อนุโรโธ, กาเมตีติ อตฺโถ. ยตฺถ กตฺถจิ ภเว สตฺตา เอตาย นนฺทนฺติ, สยํ วา นนฺทตีติ นนฺที. นนฺที จ สา รฺชนฏฺเน ราโค จาติ นนฺทีราโค. ตตฺถ เอกสฺมึ อารมฺมเณ สกึ อุปฺปนฺนา ตณฺหา ‘นนฺที’. ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมานา ‘นนฺทีราโค’ติ วุจฺจติ. จิตฺตสฺส สาราโคติ โย เหฏฺา พลวรฺชนฏฺเน สาราโคติ วุตฺโต, โส น สตฺตสฺส, จิตฺตสฺเสว สาราโคติ อตฺโถ.

อิจฺฉนฺติ เอตาย อารมฺมณานีติ อิจฺฉา. พหลกิเลสภาเวน มุจฺฉนฺติ เอตาย ปาณิโนติ มุจฺฉา. คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา คหณวเสน อชฺโฌสานํ. อิมินา สตฺตา คิชฺฌนฺติ, เคธํ อาปชฺชนฺตีติ เคโธ; พหลฏฺเน วา เคโธ. ‘‘เคธํ วา ปวนสณฺฑ’’นฺติ หิ พหลฏฺเเนว วุตฺตํ. อนนฺตรปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. สพฺพโตภาเคน วา เคโธติ ปลิเคโธ. สฺชนฺติ เอเตนาติ สงฺโค; ลคฺคนฏฺเน วา สงฺโค. โอสีทนฏฺเน ปงฺโก. อากฑฺฒนวเสน เอชา. ‘‘เอชา อิมํ ปุริสํ ปริกฑฺฒติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา’’ติ หิ วุตฺตํ. วฺจนฏฺเน มายา. วฏฺฏสฺมึ สตฺตานํ ชนนฏฺเน ชนิกา. ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ จิตฺตมสฺส วิธาวตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๕๕-๕๗) หิ วุตฺตํ. วฏฺฏสฺมึ สตฺเต ทุกฺเขน สํโยชยมานา ชเนตีติ สฺชนนี. ฆฏนฏฺเน สิพฺพินี. อยฺหิ วฏฺฏสฺมึ สตฺเต จุติปฏิสนฺธิวเสน สิพฺพติ ฆเฏติ, ตุนฺนกาโร วิย ปิโลติกาย ปิโลติกํ; ตสฺมา ฆฏนฏฺเน สิพฺพินีติ วุตฺตา. อเนกปฺปการํ วิสยชาลํ ตณฺหาวิปฺผนฺทิตนิเวสสงฺขาตํ วา ชาลมสฺสา อตฺถีติ ชาลินี.

อากฑฺฒนฏฺเน สีฆโสตา สริตา วิยาติ สริตา. อลฺลฏฺเน วา สริตา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สริตานิ สิเนหิตานิ จ โสมนสฺสานิ ภวนฺติ ชนฺตุโน’’ติ (ธ. ป. ๓๔๑). อลฺลานิ เจว สินิทฺธานิ จาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. วิสตาติ วิสตฺติกา. วิสฏาติ วิสตฺติกา. วิสาลาติ วิสตฺติกา. วิสกฺกตีติ วิสตฺติกา. วิสํวาทิกาติ วิสตฺติกา. วิสํหรตีติ วิสตฺติกา. วิสมูลาติ วิสตฺติกา. วิสผลาติ วิสตฺติกา. วิสปริโภคาติ วิสตฺติกา. วิสตา วา ปน สา ตณฺหา รูเป สทฺเท คนฺเธ รเส โผฏฺพฺเพ ธมฺเม กุเล คเณ วิตฺถตาติ วิสตฺติกา (มหานิ. ๓). อนยพฺยสนปาปนฏฺเน กุมฺมานุพนฺธสุตฺตกํ วิยาติ สุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สุตฺตกนฺติ โข, ภิกฺขเว, นนฺทีราคสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๙). รูปาทีสุ วิตฺถตฏฺเน วิสฏา. ตสฺส ตสฺส ปฏิลาภตฺถาย สตฺเต อายูหาเปตีติ อายูหินี. อุกฺกณฺิตุํ อปฺปทานโต สหายฏฺเน ทุติยา. อยฺหิ สตฺตานํ วฏฺฏสฺมึ อุกฺกณฺิตุํ น เทติ, คตคตฏฺาเน ปิยสหาโย วิย อภิรมาเปติ. เตน วุตฺตํ –

‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส, ทีฆมทฺธาน สํสรํ;

อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตตี’’ติ. (อ. นิ. ๔.๙; อิติวุ. ๑๕; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. ปารายนานุคีติคาถานิทฺเทส ๑๐๗);

ปณิธานกวเสน ปณิธิ. ภวเนตฺตีติ ภวรชฺชุ. เอตาย หิ สตฺตา, รชฺชุยา คีวาย พทฺธา โคณา วิย, อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ นิยฺยนฺติ. ตํ ตํ อารมฺมณํ วนติ ภชติ อลฺลียตีติ วนํ. วนติ ยาจตีติ วา วนํ. วนโถติ พฺยฺชเนน ปทํ วฑฺฒิตํ. อนตฺถทุกฺขานํ วา สมุฏฺาปนฏฺเน คหนฏฺเน จ วนํ วิยาติ ‘วนํ’; พลวตณฺหาเยตํ นามํ. คหนตรฏฺเน ปน ตโต พลวตโร ‘วนโถ’ นาม. เตน วุตฺตํ –

‘‘วนํ ฉินฺทถ มา รุกฺขํ, วนโต ชายเต ภยํ;

เฉตฺวา วนฺจ วนถฺจ, นิพฺพนา โหถ ภิกฺขโว’’ติ. (ธ. ป. ๒๘๓);

สนฺถวนวเสน สนฺถโว; สํสคฺโคติ อตฺโถ. โส ทุวิโธ – ตณฺหาสนฺถโว มิตฺตสนฺถโว จ. เตสุ อิธ ตณฺหาสนฺถโว อธิปฺเปโต. สิเนหวเสน สิเนโห. อาลยกรณวเสน อเปกฺขตีติ อเปกฺขา. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘อิมานิ เต เทว จตุราสีตินครสหสฺสานิ กุสาวตีราชธานีปมุขานิ. เอตฺถ เทว ฉนฺทํ ชเนหิ, ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๖๖). อาลยํ กโรหีติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. ปาฏิเยกฺเก ปาฏิเยกฺเก อารมฺมเณ พนฺธตีติ ปฏิพนฺธุ. าตกฏฺเน วา ปาฏิเยกฺโก พนฺธูติปิ ปฏิพนฺธุ. นิจฺจสนฺนิสฺสิตฏฺเน หิ สตฺตานํ ตณฺหาสโม พนฺธุ นาม นตฺถิ.

อารมฺมณานํ อสนโต อาสา. อชฺโฌตฺถรณโต เจว ติตฺตึ อนุปคนฺตฺวาว ปริภุฺชนโต จาติ อตฺโถ. อาสิสนวเสน อาสิสนา. อาสิสิตสฺส ภาโว อาสิสิตตฺตํ. อิทานิ ตสฺสา ปวตฺติฏฺานํ ทสฺเสตุํ รูปาสาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาสิสนวเสน อาสาติ อาสาย อตฺถํ คเหตฺวา รูเป อาสา รูปาสาติ เอวํ นวปิ ปทานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ปฺจ ปฺจกามคุณวเสน วุตฺตานิ. ปริกฺขารโลภวเสน ฉฏฺํ. ตํ วิเสสโต ปพฺพชิตานํ. ตโต ปรานิ ตีณิ อติตฺติยวตฺถุวเสน คหฏฺานํ. น หิ เตสํ ธนปุตฺตชีวิเตหิ อฺํ ปิยตรํ อตฺถิ. ‘เอตํ มยฺหํ เอตํ มยฺห’นฺติ วา ‘อสุเกน เม อิทํ ทินฺนํ อิทํ ทินฺน’นฺติ วา เอวํ สตฺเต ชปฺปาเปตีติ ชปฺปา. ปรโต ทฺเว ปทานิ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตานิ. ตโต ปรํ อฺเนากาเรน วิภชิตุํ อารทฺธตฺตา ปุน ชปฺปาติ วุตฺตํ. ชปฺปนากาโร ชปฺปนา. ชปฺปิตสฺส ภาโว ชปฺปิตตฺตํ. ปุนปฺปุนํ วิสเย ลุมฺปติ อากฑฺฒตีติ โลลุโป. โลลุปสฺส ภาโว โลลุปฺปํ. โลลุปฺปากาโร โลลุปฺปายนา. โลลุปฺปสมงฺคิโน ภาโว โลลุปฺปายิตตฺตํ.

ปุจฺฉฺชิกตาติ ยาย ตณฺหาย ลาภฏฺาเนสุ, ปุจฺฉํ จาลยมานา สุนขา วิย, กมฺปมานา วิจรนฺติ, ตํ ตสฺสา กมฺปนตณฺหาย นามํ. สาธุ มนาปมนาเป วิสเย กาเมตีติ สาธุกาโม. ตสฺส ภาโว สาธุกมฺยตา. มาตา มาตุจฺฉาติอาทิเก อยุตฺตฏฺาเน ราโคติ อธมฺมราโค. ยุตฺตฏฺาเนปิ พลวา หุตฺวา อุปฺปนฺนโลโภ วิสมโลโภ. ‘‘ราโค วิสม’’นฺติอาทิวจนโต (วิภ. ๙๒๔) วา ยุตฺตฏฺาเน วา อยุตฺตฏฺาเน วา อุปฺปนฺโน ฉนฺทราโค อธมฺมฏฺเน ‘อธมฺมราโค’, วิสมฏฺเน ‘วิสมโลโภ’ติ เวทิตพฺโพ.

อารมฺมณานํ นิกามนวเสน นิกนฺติ. นิกามนากาโร นิกามนา. ปตฺถนาวเสน ปตฺถนา. ปิหายนวเสน ปิหนา. สุฏฺุ ปตฺถนา สมฺปตฺถนา. ปฺจสุ กามคุเณสุ ตณฺหา กามตณฺหา. รูปารูปภเว ตณฺหา ภวตณฺหา. อุจฺเฉทสงฺขาเต วิภเว ตณฺหา วิภวตณฺหา. สุทฺเธ รูปภวสฺมึเยว ตณฺหา รูปตณฺหา. อรูปภเว ตณฺหา อรูปตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค ทิฏฺิราโค. นิโรเธ ตณฺหา นิโรธตณฺหา. รูเป ตณฺหา รูปตณฺหา. สทฺเท ตณฺหา สทฺทตณฺหา. คนฺธตณฺหาทีสุปิ เอเสว นโย. โอฆาทโย วุตฺตตฺถาว.

กุสลธมฺเม อาวรตีติ อาวรณํ. ฉาทนวเสน ฉาทนํ. สตฺเต วฏฺฏสฺมึ พนฺธตีติ พนฺธนํ. จิตฺตํ อุปคนฺตฺวา กิลิสฺสติ สํกิลิฏฺํ กโรตีติ อุปกฺกิเลโส. ถามคตฏฺเน อนุเสตีติ อนุสโย. อุปฺปชฺชมานา จิตฺตํ ปริยุฏฺาตีติ ปริยุฏฺานํ; อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนน กุสลจารํ คณฺหาตีติ อตฺโถ. ‘‘โจรา มคฺเค ปริยุฏฺึสุ ธุตฺตา มคฺเค ปริยุฏฺึสู’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๔๓๐) หิ มคฺคํ คณฺหึสูติ อตฺโถ. เอวมิธาปิ คหณฏฺเน ปริยุฏฺานํ เวทิตพฺพํ. ปลิเวนฏฺเน ลตา วิยาติ ลตา. ‘‘ลตา อุพฺภิชฺช ติฏฺตี’’ติ (ธ. ป. ๓๔๐) อาคตฏฺาเนปิ อยํ ตณฺหา ลตาติ วุตฺตา. วิวิธานิ วตฺถูนิ อิจฺฉตีติ เววิจฺฉํ. วฏฺฏทุกฺขสฺส มูลนฺติ ทุกฺขมูลํ. ตสฺเสว ทุกฺขสฺส นิทานนฺติ ทุกฺขนิทานํ. ตํ ทุกฺขํ อิโต ปภวตีติ ทุกฺขปฺปภโว. พนฺธนฏฺเน ปาโส วิยาติ ปาโส. มารสฺส ปาโส มารปาโส. ทุรุคฺคิลนฏฺเน พฬิสํ วิยาติ พฬิสํ. มารสฺส พฬิสํ มารพฬิสํ. ตณฺหาภิภูตา มารสฺส วิสยํ นาติกฺกมนฺติ, เตสํ อุปริ มาโร วสํ วตฺเตตีติ อิมินา ปริยาเยน มารสฺส วิสโยติ มารวิสโย. สนฺทนฏฺเน ตณฺหาว นที ตณฺหานที. อชฺโฌตฺถรณฏฺเน ตณฺหาว ชาลํ ตณฺหาชาลํ. ยถา สุนขา คทฺทุลพทฺธา ยทิจฺฉกํ นียนฺติ, เอวํ ตณฺหาพทฺธา สตฺตาปีติ ทฬฺหพนฺธนฏฺเน คทฺทุลํ วิยาติ คทฺทุลํ. ตณฺหาว คทฺทุลํ ตณฺหาคทฺทุลํ. ทุปฺปูรณฏฺเน ตณฺหาว สมุทฺโท ตณฺหาสมุทฺโท.

๑๐๖๖. โทสนิทฺเทเส อนตฺถํ เม อจรีติ อวุฑฺฒึ เม อกาสิ. อิมินา อุปาเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อฏฺาเน วา ปน อาฆาโตติ อการเณ โกโป – เอกจฺโจ หิ ‘เทโว อติวสฺสตี’ติ กุปฺปติ, ‘น วสฺสตี’ติ กุปฺปติ, ‘สูริโย ตปฺปตี’ติ กุปฺปติ, ‘น ตปฺปตี’ติ กุปฺปติ, วาเต วายนฺเตปิ กุปฺปติ, อวายนฺเตปิ กุปฺปติ, สมฺมชฺชิตุํ อสกฺโกนฺโต โพธิปณฺณานํ กุปฺปติ, จีวรํ ปารุปิตุํ อสกฺโกนฺโต วาตสฺส กุปฺปติ, อุปกฺขลิตฺวา ขาณุกสฺส กุปฺปติ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – อฏฺาเน วา ปน อาฆาโต ชายตีติ. ตตฺถ เหฏฺา นวสุ าเนสุ สตฺเต อารพฺภ อุปฺปนฺนตฺตา กมฺมปถเภโท โหติ. อฏฺานาฆาโต ปน สงฺขาเรสุ อุปฺปนฺโน กมฺมปถเภทํ น กโรติ. จิตฺตํ อาฆาเตนฺโต อุปฺปนฺโนติ จิตฺตสฺส อาฆาโต. ตโต พลวตโร ปฏิฆาโต. ปฏิหฺนวเสน ปฏิฆํ. ปฏิวิรุชฺฌตีติ ปฏิวิโรโธ. กุปฺปนวเสน โกโป. ปโกโป สมฺปโกโปติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. ทุสฺสนวเสน โทโส. ปโทโส สมฺปโทโสติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. จิตฺตสฺส พฺยาปตฺตีติ จิตฺตสฺส วิปนฺนตา, วิปริวตฺตนากาโร. มนํ ปทูสยมาโน อุปฺปชฺชตีติ มโนปโทโส. กุชฺฌนวเสน โกโธ. กุชฺฌนากาโร กุชฺฌนา. กุชฺฌิตสฺส ภาโว กุชฺฌิตตฺตํ.

อิทานิ อกุสลนิทฺเทเส วุตฺตนยํ ทสฺเสตุํ โทโส ทุสฺสนาติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘โย เอวรูโป จิตฺตสฺส อาฆาโต…เป… กุชฺฌิตตฺต’’นฺติ จ อิธ วุตฺโต, ‘‘โทโส ทุสฺสนา’’ติอาทินา นเยน เหฏฺา วุตฺโต, อยํ วุจฺจติ โทโสติ. เอวเมตฺถ โยชนา กาตพฺพา. เอวฺหิ สติ ปุนรุตฺติโทโส ปฏิเสธิโต โหติ. โมหนิทฺเทโส อโมหนิทฺเทเส วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. สพฺพากาเรน ปเนส วิภงฺคฏฺกถายํ อาวิ ภวิสฺสติ.

๑๐๗๙. เตหิธมฺเมหิ เย ธมฺมา สเหตุกาติ เตหิ เหตุธมฺเมหิ เย อฺเ เหตุธมฺมา วา นเหตุธมฺมา วา เต สเหตุกา. อเหตุกปเทปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ เหตุ เหตุเยว จ โหติ, ติณฺณํ วา ทฺวินฺนํ วา เอกโต อุปฺปตฺติยํ สเหตุโก จ. วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคโต ปน โมโห เหตุ อเหตุโก. เหตุสมฺปยุตฺตทุกนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย.

๑๐๙๑. สงฺขตทุกนิทฺเทเส ปุริมทุเก วุตฺตํ อสงฺขตธาตุํ สนฺธาย โย เอว โส ธมฺโมติ เอกวจนนิทฺเทโส กโต. ปุริมทุเก ปน พหุวจนวเสน ปุจฺฉาย อุทฺธฏตฺตา อิเม ธมฺมา อปฺปจฺจยาติ ปุจฺฉานุสนฺธินเยน พหุวจนํ กตํ. อิเม ธมฺมา สนิทสฺสนาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑๑๐๑. เกนจิ วิฺเยฺยทุกนิทฺเทเส จกฺขุวิฺเยฺยาติ จกฺขุวิฺาเณน วิชานิตพฺพา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ เกนจิ วิฺเยฺยาติ จกฺขุวิฺาณาทีสุ เกนจิ เอเกน จกฺขุวิฺาเณน วา โสตวิฺาเณน วา วิชานิตพฺพา. เกนจิ น วิฺเยฺยาติ เตเนว จกฺขุวิฺาเณน วา โสตวิฺาเณน วา น วิชานิตพฺพา. ‘เอวํ สนฺเต ทฺวินฺนมฺปิ ปทานํ อตฺถนานตฺตโต ทุโก โหตี’ติ เหฏฺา วุตฺตตฺตา ‘เย เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา น เต ธมฺมา โสตวิฺเยฺยา’ติ อยํ ทุโก น โหติ. รูปํ ปน จกฺขุวิฺเยฺยํ สทฺโท น จกฺขุวิฺเยฺโยติ อิมมตฺถํ คเหตฺวา ‘เย เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา น เต ธมฺมา โสตวิฺเยฺยา, เย วา ปน เต ธมฺมา โสตวิฺเยฺยา น เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา’ติ อยเมโก ทุโกติ เวทิตพฺโพ. เอวํ เอเกกอินฺทฺริยมูลเก จตฺตาโร จตฺตาโร กตฺวา วีสติ ทุกา วิภตฺตาติ เวทิตพฺพา.

กึ ปน ‘มโนวิฺาเณน เกนจิ วิฺเยฺยา เกนจิ น วิฺเยฺยา’ นตฺถิ? เตเนตฺถ ทุกา น วุตฺตาติ? โน นตฺถิ, ววตฺถานาภาวโต ปน น วุตฺตา. น หิ, ยถา จกฺขุวิฺาเณน อวิฺเยฺยา เอวาติ ววตฺถานํ อตฺถิ, เอวํ มโนวิฺาเณนาปีติ ววตฺถานาภาวโต เอตฺถ ทุกา น วุตฺตา. มโนวิฺาเณน ปน เกนจิ วิฺเยฺยา เจว อวิฺเยฺยา จาติ อยมตฺโถ อตฺถิ. ตสฺมา โส อวุตฺโตปิ ยถาลาภวเสน เวทิตพฺโพ. มโนวิฺาณนฺติ หิ สงฺขฺยํ คเตหิ กามาวจรธมฺเมหิ กามาวจรธมฺมา เอว ตาว เกหิจิ วิฺเยฺยา เกหิจิ อวิฺเยฺยา. เตหิเยว รูปาวจราทิธมฺมาปิ เกหิจิ วิฺเยฺยา เกหิจิ อวิฺเยฺยา. รูปาวจเรหิปิ กามาวจรา เกหิจิ วิฺเยฺยา เกหิจิ อวิฺเยฺยา. เตเหว รูปาวจราทโยปิ เกหิจิ วิฺเยฺยา เกหิจิ อวิฺเยฺยา. อรูปาวจเรหิ ปน กามาวจรา รูปาวจรา อปริยาปนฺนา จ เนว วิฺเยฺยา. อรูปาวจรา ปน เกหิจิ วิฺเยฺยา เกหิจิ อวิฺเยฺยา. เตปิ จ เกจิเทว วิฺเยฺยา เกจิ อวิฺเยฺยา. อปริยาปนฺเนหิ กามาวจราทโย เนว วิฺเยฺยา. อปริยาปนฺนา ปน นิพฺพาเนน อวิฺเยฺยตฺตา เกหิจิ วิฺเยฺยา เกหิจิ อวิฺเยฺยา. เตปิ จ มคฺคผลานํ อวิฺเยฺยตฺตา เกจิเทว วิฺเยฺยา เกจิ อวิฺเยฺยาติ.

๑๑๐๒. อาสวนิทฺเทเส ปฺจกามคุณิโก ราโค กามาสโว นาม. รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ฌานนิกนฺติ สสฺสตทิฏฺิสหชาโต ราโค ภววเสน ปตฺถนา ภวาสโว นาม. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺาสโว นาม. อฏฺสุ าเนสุ อฺาณํ อวิชฺชาสโว นาม. ตตฺถ ตตฺถ อาคเตสุ ปน อาสเวสุ อสมฺโมหตฺถํ เอกวิธาทิเภโท เวทิตพฺโพ. อตฺถโต เหเต จิรปาริวาสิยฏฺเน อาสวาติ เอวํ เอกวิธาว โหนฺติ. วินเย ปน ‘‘ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตายา’’ติ (ปารา. ๓๙) ทุวิเธน อาคตา. สุตฺตนฺเต สฬายตเน ตาว ‘‘ตโยเม, อาวุโส, อาสวา – กามาสโว ภวาสโว อวิชฺชาสโว’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๒๑) ติวิเธน อาคตา. นิพฺเพธิกปริยาเย ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา นิรยคมนียา , อตฺถิ อาสวา ติรจฺฉานโยนิคมนียา, อตฺถิ อาสวา เปตฺติวิสยคมนียา, อตฺถิ อาสวา มนุสฺสโลกคมนียา, อตฺถิ อาสวา เทวโลกคมนียา’’ติ (อ. นิ. ๖.๖๓) ปฺจวิเธน อาคตา. ฉกฺกนิปาเต อาหุเนยฺยสุตฺเต – ‘‘อตฺถิ อาสวา สํวรา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ปฏิเสวนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา อธิวาสนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ปริวชฺชนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา วิโนทนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ภาวนา ปหาตพฺพา’’ติ (อ. นิ. ๖.๕๘) ฉพฺพิเธน อาคตา. สพฺพาสวปริยาเย (ม. นิ. ๑.๑๔ อาทโย) ‘ทสฺสนปหาตพฺเพหิ’ สทฺธึ สตฺตวิเธน อาคตา. อิธ ปเนเต กามาสวาทิเภทโต จตุพฺพิเธน อาคตา. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – ปฺจกามคุณสงฺขาเต กาเม อาสโว ‘กามาสโว’. รูปารูปสงฺขาเต กมฺมโต จ อุปปตฺติโต จ ทุวิเธปิ ภเว อาสโว ‘ภวาสโว’. ทิฏฺิ เอว อาสโว ‘ทิฏฺาสโว’. อวิชฺชาว อาสโว ‘อวิชฺชาสโว’.

๑๑๐๓. กาเมสูติ ปฺจสุ กามคุเณสุ. กามจฺฉนฺโทติ กามสงฺขาโต ฉนฺโท, น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท, น ธมฺมจฺฉนฺโท. กามนวเสน รชฺชนวเสน จ กาโมเยว ราโค กามราโค. กามนวเสน นนฺทนวเสน จ กาโมว นนฺทีติ กามนนฺที. เอวํ สพฺพตฺถ กามตฺถํ วิทิตฺวา ตณฺหายนฏฺเน กามตณฺหา, สิเนหนฏฺเน กามสิเนโห, ปริฑยฺหนฏฺเน กามปริฬาโห, มุจฺฉนฏฺเน กามมุจฺฉา, คิลิตฺวา ปรินิฏฺาปนฏฺเน กามชฺโฌสานนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อฏฺหิ ปเทหิ วิภตฺโต กามาสโว นาม วุจฺจติ.

๑๑๐๔. ภเวสุ ภวฉนฺโทติ รูปารูปภเวสุ ภวปตฺถนาวเสเนว ปวตฺโต ฉนฺโท ‘ภวฉนฺโท’. เสสปทานิปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺพานิ.

๑๑๐๕. สสฺสโต โลโกติ วาติอาทีหิ ทสหากาเรหิ ทิฏฺิปฺปเภโทว วุตฺโต. ตตฺถ สสฺสโต โลโกติ เอตฺถ ขนฺธปฺจกํ โลโกติ คเหตฺวา ‘อยํ โลโก นิจฺโจ ธุโว สพฺพกาลิโก’ติ คณฺหนฺตสฺส ‘สสฺสต’นฺติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. อสสฺสโตติ ตเมว โลกํ ‘อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตี’ติ คณฺหนฺตสฺส อุจฺเฉทคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. อนฺตวาติ ปริตฺตกสิณลาภิโน ‘สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา’ กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปารูปธมฺเม โลโกติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน จ ‘อนฺตวา’ติ คณฺหนฺตสฺส ‘อนฺตวา โลโก’ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. สา สสฺสตทิฏฺิปิ โหติ อุจฺเฉททิฏฺิปิ. วิปุลกสิณลาภิโน ปน ตสฺมึ กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปารูปธมฺเม โลโกติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน จ ‘อนนฺโต’ติ คณฺหนฺตสฺส ‘อนนฺตวา โลโก’ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. สา สสฺสตทิฏฺิปิ โหติ, อุจฺเฉททิฏฺิปิ.

ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ เภทนธมฺมสฺส สรีรสฺเสว ‘ชีว’นฺติ คหิตตฺตา สรีเร อุจฺฉิชฺชมาเน ‘ชีวมฺปิ อุจฺฉิชฺชตี’ติ อุจฺเฉทคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. ทุติยปเท สรีรโต อฺสฺส ชีวสฺส คหิตตฺตา สรีเร อุจฺฉิชฺชมาเนปิ ‘ชีวํ น อุจฺฉิชฺชตี’ติ สสฺสตคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติอาทีสุ สตฺโต ตถาคโต นาม. โส ปรํ มรณา โหตีติ คณฺหโต ปมา สสฺสตทิฏฺิ. น โหตีติ คณฺหโต ทุติยา อุจฺเฉททิฏฺิ. โหติ จ น จ โหตีติ คณฺหโต ตติยา เอกจฺจสสฺสตทิฏฺิ. เนว โหติ น นโหตีติ คณฺหโต จตุตฺถา อมราวิกฺเขปทิฏฺิ. อิเม ธมฺมา อาสวาติ อิเม กามาสวฺจ ภวาสวฺจ ราควเสน เอกโต กตฺวา, สงฺเขปโต ตโย, วิตฺถารโต จตฺตาโร ธมฺมา อาสวา นาม.

โย ปน พฺรหฺมานํ วิมานกปฺปรุกฺขอาภรเณสุ ฉนฺทราโค อุปฺปชฺชติ, โส กามาสโว โหติ น โหตีติ? น โหติ. กสฺมา? ปฺจกามคุณิกสฺส ราคสฺส อิเธว ปหีนตฺตา. เหตุโคจฺฉกํ ปน ปตฺวา โลโภ เหตุ นาม โหติ. คนฺถโคจฺฉกํ ปตฺวา อภิชฺฌากายคนฺโถ นาม. กิเลสโคจฺฉกํ ปตฺวา โลโภ กิเลโส นาม โหติ. ทิฏฺิสหชาโต ปน ราโค กามาสโว โหติ น โหตีติ? น โหติ; ทิฏฺิราโค นาม โหติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ทิฏฺิราครตฺเต ปุริสปุคฺคเล ทินฺนทานํ น มหปฺผลํ โหติ, น มหานิสํส’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๙).

อิเม ปน อาสเว กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ, มคฺคปฏิปาฏิยาปิ. กิเลสปฏิปาฏิยา กามาสโว อนาคามิมคฺเคน ปหียติ, ภวาสโว อรหตฺตมคฺเคน, ทิฏฺาสโว โสตาปตฺติมคฺเคน, อวิชฺชาสโว อรหตฺตมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา โสตาปตฺติมคฺเคน ทิฏฺาสโว ปหียติ, อนาคามิมคฺเคน กามาสโว, อรหตฺตมคฺเคน ภวาสโว อวิชฺชาสโว จาติ.

๑๑๒๑. สํโยชเนสุ มานนิทฺเทเส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโนติ อุตฺตมฏฺเน ‘อหํ เสยฺโย’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน. สทิโสหมสฺมีติ มาโนติ สมสมฏฺเน ‘อหํ สทิโส’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน. หีโนหมสฺมีติ มาโนติ ลามกฏฺเน ‘อหํ หีโน’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน. เอวํ เสยฺยมาโน สทิสมาโน หีนมาโนติ อิเม ตโย มานา ติณฺณํ ชนานํ อุปฺปชฺชนฺติ. เสยฺยสฺสาปิ หิ ‘อหํ เสยฺโย สทิโส หีโน’ติ ตโย มานา อุปฺปชฺชนฺติ. สทิสสฺสาปิ, หีนสฺสาปิ. ตตฺถ เสยฺยสฺส เสยฺยมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. สทิสสฺส สทิสมาโนว…เป… หีนสฺส หีนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. อิมินา กึ กถิตํ? เอกสฺส ตโย มานา อุปฺปชฺชนฺตีติ กถิตํ. ขุทฺทกวตฺถุเก ปน ปมกมานภาชนีเย เอโก มาโน ติณฺณํ ชนานํ อุปฺปชฺชตีติ กถิโต.

มานกรณวเสน มาโน. มฺนา มฺิตตฺตนฺติ อาการภาวนิทฺเทสา. อุสฺสิตฏฺเน อุนฺนติ. ยสฺสุปฺปชฺชติ ตํ ปุคฺคลํ อุนฺนาเมติ, อุกฺขิปิตฺวา เปตีติ อุนฺนโม. สมุสฺสิตฏฺเน ธโช. อุกฺขิปนฏฺเน จิตฺตํ สมฺปคฺคณฺหาตีติ สมฺปคฺคาโห. เกตุ วุจฺจติ พหูสุ ธเชสุ อจฺจุคฺคตธโช. มาโนปิ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมาโน อปราปเร อุปาทาย อจฺจุคฺคตฏฺเน เกตุ วิยาติ ‘เกตุ’. เกตุํ อิจฺฉตีติ เกตุกมฺยํ, ตสฺส ภาโว เกตุกมฺยตา. สา ปน จิตฺตสฺส, น อตฺตโน. เตน วุตฺตํ – ‘เกตุกมฺยตา จิตฺตสฺสา’ติ. มานสมฺปยุตฺตฺหิ จิตฺตํ เกตุํ อิจฺฉติ. ตสฺส จ ภาโว เกตุกมฺยตา; เกตุสงฺขาโต มาโนติ.

๑๑๒๖. อิสฺสานิทฺเทเส ยา ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ อิสฺสาติ ยา เอเตสุ ปเรสํ ลาภาทีสุ ‘กึ อิมินา อิเมส’นฺติ ปรสมฺปตฺติขิยฺยนลกฺขณา อิสฺสา. ตตฺถ ลาโภติ จีวราทีนํ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ปฏิลาโภ. อิสฺสุกี หิ ปุคฺคโล ปรสฺส ตํ ลาภํ ขิยฺยติ, ‘กึ อิมสฺส อิมินา’ติ น อิจฺฉติ. สกฺกาโรติ เตสํเยว ปจฺจยานํ สุกตานํ สุนฺทรานํ ปฏิลาโภ. ครุกาโรติ ครุกิริยา, ภาริยกรณํ. มานนนฺติ มเนน ปิยกรณํ. วนฺทนนฺติ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทนํ. ปูชนาติ คนฺธมาลาทีหิ ปูชนา. อิสฺสายนวเสน อิสฺสา. อิสฺสากาโร อิสฺสายนา. อิสฺสายิตภาโว อิสฺสายิตตฺตํ. อุสูยาทีนิ อิสฺสาทิเววจนานิ.

อิมิสฺสา ปน อิสฺสาย ขิยฺยนลกฺขณํ อาคาริเกนาปิ อนาคาริเกนาปิ ทีเปตพฺพํ. อาคาริโก หิ เอกจฺโจ กสิวณิชฺชาทีสุ อฺตเรน อาชีเวน อตฺตโน ปุริสการํ นิสฺสาย ภทฺทกํ ยานํ วา วาหนํ วา รตนํ วา ลภติ. อปโร ตสฺส อลาภตฺถิโก เตน ลาเภน น ตุสฺสติ. ‘กทา นุ โข เอส อิมาย สมฺปตฺติยา ปริหายิตฺวา กปโณ หุตฺวา จริสฺสตี’ติ จินฺเตตฺวา เอเกน การเณน ตสฺมึ ตาย สมฺปตฺติยา ปริหีเน อตฺตมโน โหติ. อนาคาริโกปิ เอโก อิสฺสามนโก อฺํ อตฺตโน สุตปริยตฺติอาทีนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนลาภาทิสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘กทา นุ โข เอโส อิเมหิ ลาภาทีหิ ปริหายิสฺสตี’ติ จินฺเตตฺวา, ยทา ตํ เอเกน การเณน ปริหีนํ ปสฺสติ, ตทา อตฺตมโน โหติ. เอวํ ปรสมฺปตฺติขิยฺยนลกฺขณา ‘อิสฺสา’ติ เวทิตพฺพา.

๑๑๒๗. มจฺฉริยนิทฺเทเส วตฺถุโต มจฺฉริยทสฺสนตฺถํ ‘ปฺจ มจฺฉริยานิ อาวาสมจฺฉริย’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาวาเส มจฺฉริยํ อาวาสมจฺฉริยํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.

อาวาโส นาม สกลาราโมปิ ปริเวณมฺปิ เอโกวรโกปิ รตฺติฏฺานทิวาฏฺานาทีนิปิ. เตสุ วสนฺตา สุขํ วสนฺติ ปจฺจเย ลภนฺติ. เอโก ภิกฺขุ วตฺตสมฺปนฺนสฺเสว เปสลสฺส ภิกฺขุโน ตตฺถ อาคมนํ น อิจฺฉติ. อาคโตปิ ‘ขิปฺปํ คจฺฉตู’ติ จินฺเตติ. อิทํ ‘อาวาสมจฺฉริยํ’ นาม. ภณฺฑนการกาทีนํ ปน ตตฺถ วาสํ อนิจฺฉโต อาวาสมจฺฉริยํ นาม น โหติ.

กุลนฺติ อุปฏฺากกุลมฺปิ าติกุลมฺปิ. ตตฺถ อฺสฺส อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉโต กุลมจฺฉริยํ โหติ. ปาปปุคฺคลสฺส ปน อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉนฺโตปิ มจฺฉรี นาม น โหติ. โส หิ เตสํ ปสาทเภทาย ปฏิปชฺชติ. ปสาทํ รกฺขิตุํ สมตฺถสฺเสว ปน ภิกฺขุโน ตตฺถ อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉนฺโต มจฺฉรี นาม โหติ.

ลาโภติ จตุปจฺจยลาโภว. ตํ อฺสฺมึ สีลวนฺเตเยว ลภนฺเต ‘มา ลภตู’ติ จินฺเตนฺตสฺส ลาภมจฺฉริยํ โหติ. โย ปน สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ, อปริโภคทุปฺปริโภคาทิวเสน วินาเสติ, ปูติภาวํ คจฺฉนฺตมฺปิ อฺสฺส น เทติ, ตํ ทิสฺวา ‘สเจ อิมํ เอส น ลเภยฺย , อฺโ สีลวา ลเภยฺย, ปริโภคํ คจฺเฉยฺยา’ติ จินฺเตนฺตสฺส มจฺฉริยํ นาม นตฺถิ.

วณฺโณ นาม สรีรวณฺโณปิ คุณวณฺโณปิ. ตตฺถ สรีรวณฺเณ มจฺฉริปุคฺคโล ‘ปโร ปาสาทิโก รูปวา’ติ วุตฺเต ตํ น กเถตุกาโม โหติ. คุณวณฺณมจฺฉรี สีเลน ธุตงฺเคน ปฏิปทาย อาจาเรน วณฺณํ น กเถตุกาโม โหติ.

ธมฺโมติ ปริยตฺติธมฺโม จ ปฏิเวธธมฺโม จ. ตตฺถ อริยสาวกา ปฏิเวธธมฺมํ น มจฺฉรายนฺติ, อตฺตนา ปฏิวิทฺธธมฺเม สเทวกสฺส โลกสฺส ปฏิเวธํ อิจฺฉนฺติ. ตํ ปน ปฏิเวธํ ‘ปเร ชานนฺตู’ติ อิจฺฉนฺติ. ตนฺติธมฺเมเยว ปน ธมฺมมจฺฉริยํ นาม โหติ. เตน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยํ คุฬฺหํ คนฺถํ วา กถามคฺคํ วา ชานาติ ตํ อฺํ น ชานาเปตุกาโม โหติ. โย ปน ปุคฺคลํ อุปปริกฺขิตฺวา ธมฺมานุคฺคเหน, ธมฺมํ วา อุปปริกฺขิตฺวา ปุคฺคลานุคฺคเหน น เทติ, อยํ ธมฺมมจฺฉรี นาม น โหติ.

ตตฺถ เอกจฺโจ ปุคฺคโล โลโล โหติ, กาเลน สมโณ โหติ, กาเลน พฺราหฺมโณ, กาเลน นิคณฺโ. โย หิ ภิกฺขุ ‘อยํ ปุคฺคโล ปเวณิอาคตํ ตนฺตึ สณฺหํ สุขุมํ ธมฺมนฺตรํ ภินฺทิตฺวา อาลุฬิสฺสตี’ติ น เทติ, อยํ ปุคฺคลํ อุปปริกฺขิตฺวา ธมฺมานุคฺคเหน น เทติ นาม . โย ปน ‘อยํ ธมฺโม สณฺโห สุขุโม, สจายํ ปุคฺคโล คณฺหิสฺสติ อฺํ พฺยากริตฺวา อตฺตานํ อาวิกตฺวา นสฺสิสฺสตี’ติ น เทติ, อยํ ธมฺมํ อุปปริกฺขิตฺวา ปุคฺคลานุคฺคเหน น เทติ นาม. โย ปน ‘สจายํ อิมํ ธมฺมํ คณฺหิสฺสติ, อมฺหากํ สมยํ ภินฺทิตุํ สมตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ น เทติ, อยํ ธมฺมมจฺฉรี นาม โหติ.

อิเมสุ ปฺจสุ มจฺฉริเยสุ อาวาสมจฺฉริเยน ตาว ยกฺโข วา เปโต วา หุตฺวา ตสฺเสว อาวาสสฺส สงฺการํ สีเสน อุกฺขิปิตฺวา วิจรติ. กุลมจฺฉริเยน ตสฺมึ กุเล อฺเสํ ทานมานนาทีนิ กโรนฺเต ทิสฺวา ‘ภินฺนํ วติทํ กุลํ มมา’ติ จินฺตยโต โลหิตมฺปิ มุขโต อุคฺคจฺฉติ, กุจฺฉิวิเรจนมฺปิ โหติ, อนฺตานิปิ ขณฺฑาขณฺฑานิ หุตฺวา นิกฺขมนฺติ. ลาภมจฺฉริเยน สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา สนฺตเก ลาเภ มจฺฉรายิตฺวา ปุคฺคลิกปริโภคํ วิย ปริภุฺชิตฺวา ยกฺโข วา เปโต วา มหาอชคโร วา หุตฺวา นิพฺพตฺตติ. สรีรวณฺณคุณวณฺณมจฺฉเรน ปริยตฺติธมฺมมจฺฉริเยน จ อตฺตโนว วณฺณํ วณฺเณติ, ปเรสํ วณฺเณ ‘กึ วณฺโณ เอโส’ติ ตํ ตํ โทสํ วทนฺโต ปริยตฺติธมฺมฺจ กสฺสจิ กิฺจิ อเทนฺโต ทุพฺพณฺโณ เจว เอฬมูโค จ โหติ.

อปิจ อาวาสมจฺฉริเยน โลหเคเห ปจฺจติ. กุลมจฺฉริเยน อปฺปลาโภ โหติ. ลาภมจฺฉริเยน คูถนิรเย นิพฺพตฺตติ. วณฺณมจฺฉริเยน ภเว ภเว นิพฺพตฺตสฺส วณฺโณ นาม น โหติ. ธมฺมมจฺฉริเยน กุกฺกุฬนิรเย นิพฺพตฺตตีติ.

มจฺฉรายนวเสน มจฺเฉรํ. มจฺฉรายนากาโร มจฺฉรายนา. มจฺฉเรน อยิตสฺส มจฺเฉรสมงฺคิโน ภาโว มจฺฉรายิตตฺตํ. ‘มยฺหเมว โหนฺตุ มา อฺสฺสา’ติ สพฺพาปิ อตฺตโน สมฺปตฺติโย พฺยาเปตุํ น อิจฺฉตีติ วิวิจฺโฉ. วิวิจฺฉสฺส ภาโว เววิจฺฉํ, มุทุมจฺฉริยสฺเสตํ นามํ. กทริโย วุจฺจติ อนาทโร. ตสฺส ภาโว กทริยํ. ถทฺธมจฺฉริยสฺเสตํ นามํ. เตน หิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ปรมฺปิ ปเรสํ ททมานํ นิวาเรติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

กทริโย ปาปสงฺกปฺโป, มิจฺฉาทิฏฺิ อนาทโร;

ททมานํ นิวาเรติ, ยาจมานาน โภชนนฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๓๒);

ยาจเก ทิสฺวา กฏุกภาเวน จิตฺตํ อฺจติ สงฺโกเจตีติ กฏุกฺจุโก. ตสฺส ภาโว กฏุกฺจุกตา. อปโร นโย – กฏุกฺจุกตา วุจฺจติ กฏจฺฉุคฺคาโห. สมติตฺติกปุณฺณาย หิ อุกฺขลิยา ภตฺตํ คณฺหนฺโต สพฺพโตภาเคน สงฺกุฏิเตน อคฺคกฏจฺฉุนา คณฺหาติ, ปูเรตฺวา คเหตุํ น สกฺโกติ; เอวํ มจฺฉริปุคฺคลสฺส จิตฺตํ สงฺกุจติ. ตสฺมึ สงฺกุจิเต กาโยปิ ตเถว สงฺกุจติ, ปฏิกุฏติ, ปฏินิวตฺตติ, น สมฺปสาริยตีติ มจฺเฉรํ ‘กฏุกฺจุกตา’ติ วุตฺตํ.

อคฺคหิตตฺตํ จิตฺตสฺสาติ ปเรสํ อุปการกรเณ ทานาทินา อากาเรน ยถา น สมฺปสาริยติ, เอวํ อาวริตฺวา คหิตภาโว จิตฺตสฺส. ยสฺมา ปน มจฺฉริปุคฺคโล อตฺตโน สนฺตกํ ปเรสํ อทาตุกาโม โหติ ปรสนฺตกํ คณฺหิตุกาโม, ตสฺมา ‘อิทํ อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺสา’ติ ปวตฺติวเสนสฺส อตฺตสมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณตา อตฺตสมฺปตฺติคฺคหณลกฺขณตา วา เวทิตพฺพา. เสสํ อิมสฺมึ โคจฺฉเก อุตฺตานตฺถเมว.

อิมานิ ปน สํโยชนานิ กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ มคฺคปฏิปาฏิยาปิ. กิเลสปฏิปาฏิยา กามราคปฏิฆสํโยชนานิ อนาคามิมคฺเคน ปหียนฺติ, มานสํโยชนํ อรหตฺตมคฺเคน, ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสา โสตาปตฺติมคฺเคน, ภวราคสํโยชนํ อรหตฺตมคฺเคน, อิสฺสามจฺฉริยานิ โสตาปตฺติมคฺเคน, อวิชฺชา อรหตฺตมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสอิสฺสามจฺฉริยานิ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ, กามราคปฏิฆา อนาคามิมคฺเคน, มานภวราคอวิชฺชา อรหตฺตมคฺเคนาติ.

๑๑๔๐. คนฺถโคจฺฉเก นามกายํ คนฺเถติ, จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ ฆเฏตีติ กายคนฺโถ. สพฺพฺุภาสิตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา สสฺสโต โลโก อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ อิมินา อากาเรน อภินิวิสตีติ อิทํสจฺจาภินิเวโส. ยสฺมา ปน อภิชฺฌากามราคานํ วิเสโส อตฺถิ, ตสฺมา อภิชฺฌากายคนฺถสฺส ปทภาชเน ‘‘โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโท กามราโค’’ติ อวตฺวา โย ราโค สาราโคติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา ยํ เหฏฺา วุตฺตํ ‘พฺรหฺมานํ วิมานาทีสุ ฉนฺทราโค กามาสโว น โหติ, คนฺถโคจฺฉกํ ปตฺวา อภิชฺฌากายคนฺโถ โหตี’ติ ตํ สุวุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปรโต กิเลสโคจฺฉเกปิ เอเสว นโย. เปตฺวา สีลพฺพตปรามาสนฺติ อิทํ ยสฺมา สีลพฺพตปรามาโส ‘อิทเมว สจฺจ’นฺติอาทินา อากาเรน นาภินิวิสติ, ‘สีเลน สุทฺธี’ติอาทินา เอว ปน อภินิวิสติ, ตสฺมา มิจฺฉาทิฏฺิภูตมฺปิ ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘เปตฺวา’ติ อาห.

๑๑๖๒. นีวรณโคจฺฉกสฺส ถินมิทฺธนิทฺเทเส จิตฺตสฺส อกลฺลตาติ จิตฺตสฺส คิลานภาโว. คิลาโน หิ อกลฺลโกติ วุจฺจติ. วินเยปิ วุตฺตํ – ‘‘นาหํ, ภนฺเต, อกลฺลโก’’ติ (ปารา. ๑๕๑). อกมฺมฺตาติ จิตฺตเคลฺสงฺขาโตว อกมฺมฺตากาโร. โอลียนาติ โอลียนากาโร. อิริยาปถิกจิตฺตฺหิ อิริยาปถํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตํ, รุกฺเข วคฺคุลิ วิย, ขีเล ลคฺคิตผาณิตวารโก วิย จ, โอลียติ. ตสฺส ตํ อาการํ สนฺธาย โอลียนาติ วุตฺตํ. ทุติยปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. ลีนนฺติ อวิปฺผาริกตาย ปฏิกุฏิตํ. อิตเร ทฺเว อาการภาวนิทฺเทสา. ถินนฺติ สปฺปิปิณฺโฑ วิย อวิปฺผาริกตาย ฆนภาเวน ิตํ. ถิยนาติ อาการนิทฺเทโส. ถิยิตภาโว ถิยิตตฺตํ, อวิปฺผารวเสเนว ถทฺธตาติ อตฺโถ.

๑๑๖๓. กายสฺสาติ ขนฺธตฺตยสงฺขาตสฺส นามกายสฺส. อกลฺลตา อกมฺมฺตาติ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. เมโฆ วิย อากาสํ กายํ โอนยฺหตีติ โอนาโห. สพฺพโตภาเคน โอนาโห ปริโยนาโห. อพฺภนฺตเร สโมรุนฺธตีติ อนฺโตสโมโรโธ. ยถา หิ นคเร รุนฺธิตฺวา คหิเต มนุสฺสา พหิ นิกฺขมิตุํ น ลภนฺติ, เอวมฺปิ มิทฺเธน สโมรุทฺธา ธมฺมา วิปฺผารวเสน นิกฺขมิตุํ น ลภนฺติ. ตสฺมา อนฺโตสโมโรโธติ วุตฺตํ. เมธตีติ มิทฺธํ; อกมฺมฺภาเวน วิหึสตีติ อตฺโถ. สุปนฺติ เตนาติ โสปฺปํ. อกฺขิทลาทีนํ ปจลภาวํ กโรตีติ ปจลายิกา. สุปนา สุปิตตฺตนฺติ อาการภาวนิทฺเทสา. ยํ ปน เตสํ ปุรโต โสปฺปปทํ ตสฺส ปุนวจเน การณํ วุตฺตเมว. อิทํ วุจฺจติ ถินมิทฺธนีวรณนฺติ อิทํ ถินฺจ มิทฺธฺจ เอกโต กตฺวา อาวรณฏฺเน ถินมิทฺธนีวรณนฺติ วุจฺจติ. ยํ เยภุยฺเยน เสกฺขปุถุชฺชนานํ นิทฺทาย ปุพฺพภาคอปรภาเคสุ อุปฺปชฺชติ ตํ อรหตฺตมคฺเคน สมุจฺฉิชฺชติ. ขีณาสวานํ ปน กรชกายสฺส ทุพฺพลภาเวน ภวงฺโคตรณํ โหติ, ตสฺมึ อสมฺมิสฺเส วตฺตมาเน เต สุปนฺติ, สา เนสํ นิทฺทา นาม โหติ. เตนาห ภควา – ‘‘อภิชานามิ โข ปนาหํ, อคฺคิเวสฺสน, คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺเปตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สโต สมฺปชาโน นิทฺทํ โอกฺกมิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗). เอวรูโป ปนายํ กรชกายสฺส ทุพฺพลภาโว น มคฺควชฺโฌ, อุปาทินฺนเกปิ อนุปาทินฺนเกปิ ลพฺภติ. อุปาทินฺนเก ลพฺภมาโน ยทา ขีณาสโว ทีฆมคฺคํ คโต โหติ, อฺตรํ วา ปน กมฺมํ กตฺวา กิลนฺโต, เอวรูเป กาเล ลพฺภติ. อนุปาทินฺนเก ลพฺภมาโน ปณฺณปุปฺเผสุ ลพฺภติ. เอกจฺจานฺหิ รุกฺขานํ ปณฺณานิ สูริยาตเปน ปสาริยนฺติ รตฺตึ ปฏิกุฏนฺติ, ปทุมปุปฺผาทีนิ สูริยาตเปน ปุปฺผนฺติ, รตฺตึ ปุน ปฏิกุฏนฺติ . อิทํ ปน มิทฺธํ อกุสลตฺตา ขีณาสวานํ น โหตีติ.

ตตฺถ สิยา – ‘‘น มิทฺธํ อกุสลํ. กสฺมา? รูปตฺตา. รูปฺหิ อพฺยากตํ. อิทฺจ รูปํ. เตเนเวตฺถ ‘กายสฺส อกลฺลตา อกมฺมฺตา’ติ กายคฺคหณํ กต’’นฺติ. ยทิ ‘กายสฺสา’ติ วุตฺตมตฺเตเนเวตํ รูปํ, กายปสฺสทฺธาทโยปิ ธมฺมา รูปเมว ภเวยฺยุํ. ‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ’ (ธ. ส. ๑๖๓; ที. นิ. ๑.๒๓๐) ‘กาเยน เจว ปรมสจฺจํ สจฺฉิกโรตี’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๓; อ. นิ. ๔.๑๑๓) สุขปฏิสํเวทนปรมตฺถสจฺจสจฺฉิกรณานิปิ รูปกาเยเนว สิยุํ. ตสฺมา น วตฺตพฺพเมตํ ‘รูปํ มิทฺธ’นฺติ. นามกาโย เหตฺถ กาโย นาม. ยทิ นามกาโย, อถ กสฺมา ‘โสปฺปํ ปจลายิกา’ติ วุตฺตํ? น หิ นามกาโย สุปติ, น จ ปจลายตีติ. ‘ลิงฺคาทีนิ วิย อินฺทฺริยสฺส, ตสฺส ผลตฺตา. ยถา หิ ‘อิตฺถิลิงฺคํ อิตฺถินิมิตฺตํ อิตฺถิกุตฺตํ อิตฺถากปฺโป’ติ อิมานิ ลิงฺคาทีนิ อิตฺถินฺทฺริยสฺส ผลตฺตา วุตฺตานิ, เอวํ อิมสฺสาปิ นามกายเคลฺสงฺขาตสฺส มิทฺธสฺส ผลตฺตา โสปฺปาทีนิ วุตฺตานิ. มิทฺเธ หิ สติ ตานิ โหนฺตีติ. ผลูปจาเรน, มิทฺธํ อรูปมฺปิ สมานํ ‘โสปฺปํ ปจลายิกา สุปนา สุปิตตฺต’นฺติ วุตฺตํ.

‘อกฺขิทลาทีนํ ปจลภาวํ กโรตีติ ปจลายิกา’ติ วจนตฺเถนาปิ จายมตฺโถ สาธิโตเยวาติ น รูปํ มิทฺธํ. โอนาหาทีหิปิ จสฺส อรูปภาโว ทีปิโตเยว. น หิ รูปํ นามกายสฺส ‘โอนาโห ปริโยนาโห อนฺโตสโมโรโธ’ โหตีติ. ‘นนุ จ อิมินาว การเณเนตํ รูปํ? น หิ อรูปํ กสฺสจิ โอนาโห, น ปริโยนาโห, น อนฺโตสโมโรโธ โหตี’ติ. ยทิ เอวํ, อาวรณมฺปิ น ภเวยฺย. ตสฺมา. ยถา กามจฺฉนฺทาทโย อรูปธมฺมา อาวรณฏฺเน นีวรณา, เอวํ อิมสฺสาปิ โอนาหนาทิอตฺเถน โอนาหาทิตา เวทิตพฺพา. อปิจ ‘‘ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๔๖; สํ. นิ. ๕.๒๓๓) วจนโตเปตํ อรูปํ. น หิ รูปํ จิตฺตุปกฺกิเลโส, น ปฺาย ทุพฺพลีกรณํ โหตีติ.

กสฺมา น โหติ? นนุ วุตฺตํ –

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา สุรํ ปิวนฺติ เมรยํ, สุราเมรยปานา อปฺปฏิวิรตา, อยํ, ภิกฺขเว, ปโม สมณพฺราหฺมณานํ อุปกฺกิเลโส’’ติ (อ. นิ. ๔.๕๐).

อปรมฺปิ วุตฺตํ ‘‘ฉ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานานุโยเค – สนฺทิฏฺิกา ธนชานิ, กลหปฺปวฑฺฒนี, โรคานํ อายตนํ, อกิตฺติสฺชนนี, โกปีนนิทํสนี, ปฺาย ทุพฺพลีกรณีตฺเวว ฉฏฺํ ปทํ ภวตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๔๘). ปจฺจกฺขโตปิ เจตํ สิทฺธเมว. ยถา มชฺเช อุทรคเต, จิตฺตํ สํกิลิสฺสติ, ปฺา ทุพฺพลา โหติ, ตสฺมา มชฺชํ วิย มิทฺธมฺปิ จิตฺตสํกิเลโส เจว ปฺาย ทุพฺพลีกรณฺจ สิยาติ. น, ปจฺจยนิทฺเทสโต. ยทิ หิ มชฺชํ สํกิเลโส ภเวยฺย, โส ‘‘อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๙๗) วา, ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ปฺจิเม จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา, เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺํ จิตฺตํ น เจว มุทุ โหติ, น จ กมฺมนิยํ, น จ ปภสฺสรํ, ปภงฺคุ จ, น จ สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย. กตเม ปฺจ? กามจฺฉนฺโท, ภิกฺขเว, จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๑๔) วา, ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา? อภิชฺฌา วิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’’ติ (ม. นิ. ๑.๗๑) วา – เอวมาทีสุ อุปกฺกิเลสนิทฺเทเสสุ นิทฺเทสํ อาคจฺเฉยฺย. ยสฺมา ปน ตสฺมึ ปีเต อุปกฺกิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ เย จิตฺตสํกิเลสา เจว ปฺาย จ ทุพฺพลีกรณา โหนฺติ, ตสฺมา ตํ เตสํ ปจฺจยตฺตา ปจฺจยนิทฺเทสโต เอวํ วุตฺตํ. มิทฺธํ ปน สยเมว จิตฺตสฺส สํกิเลโส เจว ปฺาย ทุพฺพลีกรณฺจาติ อรูปเมว มิทฺธํ.

กิฺจ ภิยฺโย? สมฺปโยควจนโต. ‘‘ถินมิทฺธนีวรณํ อวิชฺชานีวรเณน นีวรณฺเจว นีวรณสมฺปยุตฺตฺจา’’ติ (ธ. ส. ๑๑๗๖) หิ วุตฺตํ. ตสฺมา สมฺปโยควจนโต นยิทํ รูปํ. น หิ รูปํ สมฺปยุตฺตสงฺขฺยํ ลภตีติ. อถาปิ สิยา – ‘ยถาลาภวเสเนตํ วุตฺตํ. ยถา หิ ‘‘สิปฺปิสมฺพุกมฺปิ สกฺขรกถลมฺปิ มจฺฉคุมฺพมฺปิ จรนฺตมฺปิ ติฏฺนฺตมฺปี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๔๙; ม. นิ. ๑.๔๓๓) เอวํ เอกโต กตฺวา ยถาลาภวเสน วุตฺตํ. สกฺขรกถลฺหิ ติฏฺติ เยว น จรติ, อิตรทฺวยํ ติฏฺติปิ จรติปิ. เอวมิธาปิ มิทฺธํ นีวรณเมว, น สมฺปยุตฺตํ , ถินํ นีวรณมฺปิ สมฺปยุตฺตมฺปีติ สพฺพํ เอกโต กตฺวา ยถาลาภวเสน ‘‘นีวรณฺเจว นีวรณสมฺปยุตฺตฺจา’’ติ วุตฺตํ. มิทฺธํ ปน ยถา สกฺขรกถลํ ติฏฺเตว น จรติ, เอวํ นีวรณเมว, น สมฺปยุตฺตํ. ตสฺมา รูปเมว มิทฺธนฺติ. น, รูปภาวาสิทฺธิโต. สกฺขรกถลฺหิ น จรตีติ วินาปิ สุตฺเตน สิทฺธํ. ตสฺมา ตตฺถ ยถาลาภวเสนตฺโถ โหตุ . มิทฺธํ ปน รูปนฺติ อสิทฺธเมตํ. น สกฺกา ตสฺส อิมินา สุตฺเตน รูปภาโว สาเธตุนฺติ มิทฺธสฺส รูปภาวาสิทฺธิโต น อิทํ ยถาลาภวเสน วุตฺตนฺติ อรูปเมว มิทฺธํ.

กิฺจ ภิยฺโย? ‘จตฺตตฺตา’ติอาทิวจนโต. วิภงฺคสฺมิฺหิ ‘‘วิคตถินมิทฺโธติ ตสฺส ถินมิทฺธสฺส จตฺตตฺตา วนฺตตฺตา มุตฺตตฺตา ปหีนตฺตา ปฏินิสฺสฏฺตฺตา, เตน วุจฺจติ วิคตถินมิทฺโธ’’ติ (วิภ. ๕๔๗) จ, ‘‘อิทํ จิตฺตํ อิมมฺหา ถินมิทฺธา โสเธติ วิโสเธติ ปริโสเธติ โมเจติ วิโมเจติ ปริโมเจติ, เตน วุจฺจติ ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ’’ จาติ (วิภ. ๕๕๑) – เอวํ ‘จตฺตตฺตา’ติอาทิ วุตฺตํ. น จ ‘รูปํ’ เอวํ วุจฺจติ, ตสฺมาปิ อรูปเมว มิทฺธนฺติ. น, จิตฺตชสฺสาสมฺภววจนโต. ติวิธฺหิ มิทฺธํ – จิตฺตชํ อุตุชํ อาหารชฺจ. ตสฺมา ยํ ตตฺถ จิตฺตชํ ตสฺส วิภงฺเค ฌานจิตฺเตหิ อสมฺภโว วุตฺโต, น อรูปภาโว สาธิโตติ รูปเมว มิทฺธนฺติ. น, รูปภาวาสิทฺธิโตว. มิทฺธสฺส หิ รูปภาเว สิทฺเธ สกฺกา เอตํ ลทฺธุํ. ตตฺถ จิตฺตชสฺสาสมฺภโว วุตฺโต. โส เอว จ น สิชฺฌตีติ อรูปเมว มิทฺธํ.

กิฺจ ภิยฺโย? ปหานวจนโต. ภควตา หิ ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ; กตเม ฉ? กามจฺฉนฺทํ, พฺยาปาทํ, ถินมิทฺธํ, อุทฺธจฺจํ, กกฺกุจฺจํ, วิจิกิจฺฉํ; กาเมสุ โข ปนสฺส อาทีนโว สมฺมปฺาย สุทิฏฺโ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๖.๗๓) จ, ‘‘อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย พลวติยา ปฺาย อตฺตตฺถํ วา ปรตฺถํ วา สฺสตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๕๑) จ อาทีสุ มิทฺธสฺสาปิ ปหานํ วุตฺตํ. น จ รูปํ ปหาตพฺพํ. ยถาห – ‘‘รูปกฺขนฺโธ อภิฺเยฺโย, ปริฺเยฺโย, น ปหาตพฺโพ, น ภาเวตพฺโพ น สจฺฉิกาตพฺโพ’’ติ (วิภ. ๑๐๓๑) อิมสฺสาปิ ปหานวจนโต อรูปเมว มิทฺธนฺติ. น, รูปสฺสาปิ ปหานวจนโต. ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, น ตุมฺหากํ, ตํ ปชหถา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๗; สํ. นิ. ๓.๓๓). เอตฺถ หิ รูปสฺสาปิ ปหานํ วุตฺตเมว. ตสฺมา อการณเมตนฺติ. น, อฺถา วุตฺตตฺตา. ตสฺมิฺหิ สุตฺเต ‘‘โย, ภิกฺขเว, รูเป ฉนฺทราควินโย ตํ ตตฺถ ปหาน’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๒๕) เอวํ ฉนฺทราคปฺปหานวเสน รูปสฺส ปหานํ วุตฺตํ, น ยถา ‘‘ฉ ธมฺเม ปหาย ปฺจ นีวรเณ ปหายา’’ติ เอวํ ปหาตพฺพเมว วุตฺตนฺติ, อฺถา วุตฺตตฺตา, น รูปํ มิทฺธํ. ตสฺมา ยาเนตานิ ‘‘โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส’’ติอาทีนิ สุตฺตานิ วุตฺตานิ, เอเตหิ เจว อฺเหิ จ สุตฺเตหิ อรูปเมว มิทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ –

‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อาวรณา นีวรณา เจตโส อชฺฌารุหา ปฺาย ทุพฺพลีกรณา. กตเม ปฺจ? กามจฺฉนฺโท, ภิกฺขเว, อาวรโณ นีวรโณ…เป… ถินมิทฺธํ, ภิกฺขเว, อาวรณํ นีวรณํ เจตโส อชฺฌารุหํ ปฺาย ทุพฺพลีกรณ’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๒๒๐) จ, ‘‘ถินมิทฺธนีวรณํ, ภิกฺขเว, อนฺธกรณํ อจกฺขุกรณํ อฺาณกรณํ ปฺานิโรธิกํ วิฆาตปกฺขิกํ อนิพฺพานสํวตฺตนิก’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๒๒๑) จ, ‘‘เอวเมว โข, พฺราหฺมณ, ยสฺมึ สมเย ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ ถินมิทฺธปเรเตนา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๖) จ, ‘‘อโยนิโส, ภิกฺขเว, มนสิกโรโต อนุปฺปนฺโน เจว กามจฺฉนฺโท อุปฺปชฺชติ…เป… อนุปฺปนฺนฺเจว ถินมิทฺธํ อุปฺปชฺชตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๑๖) จ, ‘‘เกวโลหายํ, ภิกฺขเว, อกุสลราสิ ยทิทํ ปฺจ นีวรณา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๑) จ –

เอวมาทีนิ จ อเนกานิ เอตสฺส อรูปภาวโชตกาเนว สุตฺตานิ วุตฺตานิ. ยสฺมา เจตํ อรูปํ ตสฺมา อารุปฺเปปิ อุปฺปชฺชติ. วุตฺตฺเหตํ มหาปกรเณ ปฏฺาเน – ‘‘นีวรณํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ นีวรโณ ธมฺโม อุปฺปชฺชติ, น ปุเรชาตปจฺจยา’’ติ เอตสฺส วิภงฺเค ‘‘อารุปฺเป กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปฏิจฺจ ถินมิทฺธํ… อุทฺธจฺจํ อวิชฺชานีวรณ’’นฺติ (ปฏฺา. ๓.๘.๘) สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. ตสฺมา สนฺนิฏฺานเมตฺถ คนฺตพฺพํ อรูปเมว มิทฺธนฺติ.

๑๑๖๖. กุกฺกุจฺจนิทฺเทเส อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาติอาทีนิ มูลโต กุกฺกุจฺจทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ. เอวํสฺิตาย หิ กเต วีติกมฺเม, นิฏฺิเต วตฺถุชฺฌาจาเร, ปุน สฺชาตสติโนปิ ‘ทุฏฺุ มยา กต’นฺติ เอวํ อนุตปฺปมานสฺส ปจฺฉานุตาปวเสเนตํ อุปฺปชฺชติ. เตน ตํ มูลโต ทสฺเสตุํ ‘อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตา’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อกปฺปิยโภชนํ กปฺปิยสฺี หุตฺวา ปริภุฺชติ, อกปฺปิยมํสํ กปฺปิยมํสสฺี หุตฺวา, อจฺฉมํสํ สูกรมํสนฺติ, ทีปิมํสํ วา มิคมํสนฺติ ขาทติ; กาเล วีติวตฺเต กาลสฺาย, ปวาเรตฺวา อปฺปวาริตสฺาย, ปตฺตสฺมึ รเช ปติเต ปฏิคฺคหิตสฺาย ภุฺชติ – เอวํ ‘อกปฺปิเย กปฺปิยสฺาย’ วีติกฺกมํ กโรติ นาม. สูกรมํสํ ปน อจฺฉมํสสฺาย ขาทมาโน, กาเล จ วิกาลสฺาย ภุฺชมาโน ‘กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย’ วีติกฺกมํ กโรติ นาม. อนวชฺชํ ปน กิฺจิเทว วชฺชสฺิตาย, วชฺชฺจ อนวชฺชสฺิตาย กโรนฺโต ‘อนวชฺเช วชฺชสฺาย วชฺเช จ อนวชฺชสฺาย’ วีติกฺกมํ กโรติ นาม. ยสฺมา ปเนตํ ‘‘อกตํ วต เม กลฺยาณํ, อกตํ กุสลํ, อกตํ ภีรุตฺตาณํ, กตํ ปาปํ, กตํ ลุทฺทํ, กตํ กิพฺพิส’’นฺติ เอวํ อนวชฺเช วชฺชสฺิตายปิ กเต วีติกฺกเม อุปฺปชฺชติ, ตสฺมาสฺส อฺมฺปิ วตฺถุํ อนุชานนฺโต ยํ เอวรูปนฺติอาทิมาห.

ตตฺถ กุกฺกุจฺจปทํ วุตฺตตฺถเมว. กุกฺกุจฺจายนากาโร กุกฺกุจฺจายนา. กุกฺกุจฺเจน อยิตสฺส ภาโว กุกฺกุจฺจายิตตฺตํ. เจตโส วิปฺปฏิสาโรติ เอตฺถ กตากตสฺส สาวชฺชานวชฺชสฺส วา อภิมุขคมนํ ‘วิปฺปฏิสาโร’ นาม. ยสฺมา ปน โส กตํ วา ปาปํ อกตํ น กโรติ, อกตํ วา กลฺยาณํ กตํ น กโรติ, ตสฺมา วิรูโป กุจฺฉิโต วา ปฏิสาโรติ ‘วิปฺปฏิสาโร’. โส ปน เจตโส, น สตฺตสฺสาติ าปนตฺถํ ‘เจตโส’ วิปฺปฏิสาโรติ วุตฺตํ. อยมสฺส สภาวนิทฺเทโส. อุปฺปชฺชมานํ ปน กุกฺกุจฺจํ อารคฺคมิว กํสปตฺตํ มนํ วิลิขมานเมว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา มโนวิเลโขติ วุตฺตํ. อยมสฺส กิจฺจนิทฺเทโส. ยํ ปน วินเย ‘‘อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควตา ปฏิกฺขิตฺตํ อนุวสิตฺวา อนุวสิตฺวา อาวสถปิณฺฑํ ปริภุฺชิตุ’’นฺติ กุกฺกุจฺจายนฺโต น ปฏิคฺคเหสีติ (ปาจิ. ๒๐๔) กุกฺกุจฺจํ อาคตํ, น ตํ นีวรณํ. น หิ อรหโต ‘ทุฏฺุ มยา อิทํ กต’นฺติ เอวํ อนุตาโป อตฺถิ. นีวรณปติรูปกํ ปเนตํ ‘กปฺปติ น กปฺปตี’ติ วีมํสนสงฺขาตํ วินยกุกฺกุจฺจํ นาม.

๑๑๗๖. ‘‘กตเม ธมฺมา นีวรณา เจว นีวรณสมฺปยุตฺตา จา’’ติ ปทสฺส นิทฺเทเส ยสฺมา ถินมิทฺธํ อฺมฺํ น วิชหติ, ตสฺมา ถินมิทฺธนีวรณํ อวิชฺชานีวรเณน นีวรณฺเจว นีวรณสมฺปยุตฺตฺจาติ อภินฺทิตฺวา วุตฺตํ. ยสฺมา ปน อุทฺธจฺเจ สติปิ กุกฺกุจฺจสฺส อภาวา กุกฺกุจฺเจน วินาปิ อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตํ ภินฺทิตฺวา วุตฺตํ. ยฺจ เยน สมฺปโยคํ น คจฺฉติ, ตํ น โยชิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิเม ปน นีวรเณ กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ มคฺคปฏิปาฏิยาปิ. กิเลสปฏิปาฏิยา กามจฺฉนฺทพฺยาปาทา อนาคามิมคฺเคน ปหียนฺติ, ถินมิทฺธุทฺธจฺจานิ อรหตฺตมคฺเคน, กุกฺกุจฺจวิจิกิจฺฉา โสตาปตฺติมคฺเคน, อวิชฺชา อรหตฺตมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา โสตาปตฺติมคฺเคน กุกฺกุจฺจวิจิกิจฺฉา ปหียนฺติ, อนาคามิมคฺเคน กามจฺฉนฺทพฺยาปาทา, อรหตฺตมคฺเคน ถินมิทฺธุทฺธจฺจาวิชฺชาติ.

๑๑๘๒. ปรามาสโคจฺฉเก เต ธมฺเม เปตฺวาติ ปุจฺฉาสภาเคน พหุวจนํ กตํ.

๑๒๑๙. อุปาทานนิทฺเทเส วตฺถุสงฺขาตํ กามํ อุปาทิยตีติ กามุปาทานํ กาโม จ โส อุปาทานฺจาติปิ กามุปาทานํ. อุปาทานนฺติ ทฬฺหคฺคหณํ. ทฬฺหตฺโถ หิ เอตฺถ อุปสทฺโท อุปายาสอุปกฏฺาทีสุ วิย. ตถา ทิฏฺิ จ สา อุปาทานฺจาติ ทิฏฺุปาทานํ. ทิฏฺึ อุปาทิยตีติ ทิฏฺุปาทานํ. ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๓๑) หิ ปุริมทิฏฺึ อุตฺตรทิฏฺิ อุปาทิยหิ. ตถา สีลพฺพตํ อุปาทิยตีติ สีลพฺพตุปาทานํ. สีลพฺพตฺจ ตํ อุปาทานฺจาติปิ สีลพฺพตุปาทานํ. โคสีลโควตาทีนิ หิ ‘เอวํ สุทฺธี’ติ อภินิเวสโต สยเมว อุปาทานานิ. ตถา, วทนฺติ เอเตนาติ ‘วาโท’; อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ ‘อุปาทานํ’. กึ วทนฺติ, อุปาทิยนฺติ วา? อตฺตานํ. อตฺตโน วาทุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานํ; ‘อตฺตวาทมตฺตเมว วา อตฺตา’ติ อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ อตฺตวาทุปาทานํ.

๑๒๒๐. โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโทติ เอตฺถาปิ วตฺถุกามาว อนวเสสโต กามาติ อธิปฺเปตา. ตสฺมา วตฺถุกาเมสุ กามจฺฉนฺโท อิธ กามุปาทานนฺติ อนาคามิโนปิ ตํ สิทฺธํ โหติ. ปฺจกามคุณวตฺถุโก ปนสฺส กามราโคว นตฺถีติ.

๑๒๒๑. ทิฏฺุปาทานนิทฺเทเส นตฺถิ ทินฺนนฺติ. ทินฺนํ นาม อตฺถิ, สกฺกา กสฺสจิ กิฺจิ ทาตุนฺติ ชานาติ; ทินฺนสฺส ปน ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ ยิฏฺนฺติ. ยิฏฺํ วุจฺจติ มหายาโค. ตํ ยชิตุํ สกฺกาติ ชานาติ; ยิฏฺสฺส ปน ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ หุตนฺติ อาหุนปาหุนมงฺคลกิริยา. ตํ กาตุํ สกฺกาติ ชานาติ; ตสฺส ปน ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ, สุกตทุกฺกฏานนฺติ เอตฺถ ทส กุสลกมฺมปถา สุกตกมฺมานิ นาม. ทส อกุสลกมฺมปถา ทุกฺกฏกมฺมานิ นาม. เตสํ อตฺถิภาวํ ชานาติ ผลํ วิปาโก ปน นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ อยํ โลโกติ ปรโลเก ิโต อิมํ โลกํ นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ ปรโลโกติ อิธ โลเก ิโต ปรโลกํ นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ มาตา นตฺถิ ปิตาติ มาตาปิตูนํ อตฺถิภาวํ ชานาติ, เตสุ กตปจฺจเยน โกจิ ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกาติ จวนกอุปปชฺชนกา สตฺตา นตฺถีติ คณฺหาติ. สมฺมคฺคตา สมฺมา ปฏิปนฺนาติ อนุโลมปฏิปทํ ปฏิปนฺนา ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณา โลกสฺมึ นตฺถีติ คณฺหาติ. เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตีติ อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ อตฺตนาว อภิวิสิฏฺเน าเณน ตฺวา ปเวทนสมตฺโถ สพฺพฺู พุทฺโธ นาม นตฺถีติ คณฺหาติ.

อิมานิ ปน อุปาทานานิ กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ มคฺคปฏิปาฏิยาปิ. กิเลสปฏิปาฏิยา กามุปาทานํ จตูหิ มคฺเคหิ ปหียติ, เสสานิ ตีณิ โสตาปตฺติมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา โสตาปตฺติมคฺเคน ทิฏฺุปาทานาทีนิ ปหียนฺติ, จตูหิ มคฺเคหิ กามุปาทานนฺติ.

๑๒๓๕. กิเลสโคจฺฉเก กิเลสา เอว กิเลสวตฺถูนิ. วสนฺติ วา เอตฺถ อขีณาสวา สตฺตา โลภาทีสุ ปติฏฺิตตฺตาติ ‘วตฺถูนิ’. กิเลสา จ เต ตปฺปติฏฺานํ สตฺตานํ วตฺถูนิ จาติ ‘กิเลสวตฺถูนิ’. ยสฺมา เจตฺถ อนนฺตรปจฺจยาทิภาเวน อุปฺปชฺชมานา กิเลสาปิ วสนฺติ เอว นาม, ตสฺมา กิเลสานํ วตฺถูนีติปิ ‘กิเลสวตฺถูนิ’.

๑๒๓๖. ตตฺถ กตโม โลโภ? โย ราโค สาราโคติ อยํ ปน โลโภ เหตุโคจฺฉเก คนฺถโคจฺฉเก อิมสฺมึ กิเลสโคจฺฉเกติ ตีสุ าเนสุ อติเรกปทสเตน นิทฺทิฏฺโ. อาสวสํโยชนโอฆโยคนีวรณอุปาทานโคจฺฉเกสุ อฏฺหิ อฏฺหิ ปเทหิ นิทฺทิฏฺโ. สฺวายํ อติเรกปทสเตน นิทฺทิฏฺฏฺาเนปิ อฏฺหิ อฏฺหิ ปเทหิ นิทฺทิฏฺฏฺาเนปิ นิปฺปเทสโตว คหิโตติ เวทิตพฺโพ. เตสุ เหตุคนฺถนีวรณอุปาทานกิเลสโคจฺฉเกสุ จตุมคฺควชฺฌา ตณฺหา เอเกเนว โกฏฺาเสน ิตา. อาสวสํโยชนโอฆโยเคสุ จตุมคฺควชฺฌาปิ ทฺเว โกฏฺาสา หุตฺวา ิตา. กถํ? อาสเวสุ กามาสโว ภวาสโวติ, สํโยชเนสุ กามราคสํโยชนํ ภวราคสํโยชนนฺติ, โอเฆสุ กาโมโฆ ภโวโฆติ, โยเคสุ กามโยโค ภวโยโคติ.

อิมานิ ปน กิเลสวตฺถูนิ กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ มคฺคปฏิปาฏิยาปิ. กิเลสปฏิปาฏิยา โลโภ จตูหิ มคฺเคหิ ปหียติ, โทโส อนาคามิมคฺเคน, โมหมานา อรหตฺตมคฺเคน, ทิฏฺิวิจิกิจฺฉา โสตาปตฺติมคฺเคน, ถินาทีนิ อรหตฺตมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา โสตาปตฺติมคฺเคน ทิฏฺิวิจิกิจฺฉา ปหียนฺติ, อนาคามิมคฺเคน โทโส, อรหตฺตมคฺเคน เสสา สตฺตาติ.

๑๒๘๗. กามาวจรนิทฺเทเส เหฏฺโตติ เหฏฺาภาเคน. อวีจินิรยนฺติ วา อคฺคิชาลานํ วา สตฺตานํ วา ทุกฺขเวทนาย วีจิ, อนฺตรํ, ฉิทฺทํ เอตฺถ นตฺถีติ อวีจิ. สุขสงฺขาโต อโย เอตฺถ นตฺถีติ นิรโย. นิรติอตฺเถนปิ นิรสฺสาทตฺเถนปิ นิรโย. ปริยนฺตํ กริตฺวาติ ตํ อวีจิสงฺขาตํ นิรยํ อนฺตํ กตฺวา. อุปริโตติ อุปริภาเคน. ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเวติ ปรนิมฺมิเตสุ กาเมสุ วสํ วตฺตนโต เอวํลทฺธโวหาเร เทเว. อนฺโต กริตฺวาติ อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา. ยํ เอตสฺมึ อนฺตเรติ เย เอตสฺมึ โอกาเส. เอตฺถาวจราติ อิมินา ยสฺมา เอตสฺมึ อนฺตเร อฺเปิ จรนฺติ กทาจิ กตฺถจิ สมฺภวโต, ตสฺมา เตสํ อสงฺคณฺหนตฺถํ ‘อวจรา’ติ วุตฺตํ. เตน เย เอตสฺมึ อนฺตเร โอคาฬฺหา หุตฺวา จรนฺติ สพฺพตฺถ สทา จ สมฺภวโต, อโธภาเค จรนฺติ อวีจินิรยสฺส เหฏฺา ภูตุปาทายปวตฺติภาเวน, เตสํ สงฺคโห กโต โหติ. เต หิ อวคาฬฺหาว จรนฺติ, อโธภาเคว จรนฺตีติ อวจรา. เอตฺถ ปริยาปนฺนาติ อิมินา ปน ยสฺมา เอเต เอตฺถาวจรา อฺตฺถาปิ อวจรนฺติ, น ปน ตตฺถ ปริยาปนฺนา โหนฺติ, ตสฺมา เตสํ อฺตฺถาปิ อวจรนฺตานํ ปริคฺคโห กโต โหติ. อิทานิ เต เอตฺถ ปริยาปนฺนธมฺเม ราสิสุฺตปจฺจยภาวโต เจว สภาวโต จ ทสฺเสนฺโต ขนฺธาติอาทิมาห.

๑๒๘๙. รูปาวจรนิทฺเทเส พฺรหฺมโลกนฺติ ปมชฺฌานภูมิสงฺขาตํ พฺรหฺมฏฺานํ. เสสเมตฺถ กามาวจรนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สมาปนฺนสฺส วาติอาทีสุ ปมปเทน กุสลชฺฌานํ วุตฺตํ, ทุติเยน วิปากชฺฌานํ, วุตฺตํ ตติเยน กิริยชฺฌานํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๒๙๑. อรูปาวจรนิทฺเทเส อากาสานฺจายตนูปเคติ อากาสานฺจายตนสงฺขาตํ ภวํ อุปคเต. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๑๓๐๑. สรณทุกนิทฺเทเส ยฺวายํ ตีสุ อกุสลมูเลสุ โมโห, โส โลภสมฺปยุตฺโต จ โลเภน สรโณ, โทสสมฺปยุตฺโต จ โทเสน สรโณ. วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสมฺปยุตฺโต ปน โมโห ทิฏฺิสมฺปยุตฺเตน เจว รูปราคอรูปราคสงฺขาเตน จ ราครเณน ปหาเนกฏฺภาวโต สรโณ สรโชติ เวทิตพฺโพ.

สุตฺตนฺติกทุกนิกฺเขปกถา

๑๓๐๓. สุตฺตนฺติกทุเกสุ มาติกากถายํ อตฺถโต วิเวจิตตฺตา ยานิ จ เนสํ นิทฺเทสปทานิ เตสมฺปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สุวิฺเยฺยตฺตา เยภุยฺเยน อุตฺตานตฺถานิ เอว. อิทํ ปเนตฺถ วิเสสมตฺตํ – วิชฺชูปมทุเก ตาว จกฺขุมา กิร ปุริโส เมฆนฺธกาเร รตฺตึ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ตสฺส อนฺธการตาย มคฺโค น ปฺายิ. วิชฺชุ นิจฺฉริตฺวา อนฺธการํ วิทฺธํเสสิ. อถสฺส อนฺธการวิคมา มคฺโค ปากโฏ อโหสิ. โส ทุติยมฺปิ คมนํ อภินีหริ. ทุติยมฺปิ อนฺธกาโร โอตฺถริ. มคฺโค น ปฺายิ. วิชฺชุ นิจฺฉริตฺวา ตํ วิทฺธํเสสิ. วิคเต อนฺธกาเร มคฺโค ปากโฏ อโหสิ. ตติยมฺปิ คมนํ อภินีหริ. อนฺธกาโร โอตฺถริ. มคฺโค น ปฺายิ. วิชฺชุ นิจฺฉริตฺวา อนฺธการํ วิทฺธํเสสิ.

ตตฺถ จกฺขุมโต ปุริสสฺส อนฺธกาเร มคฺคปฏิปชฺชนํ วิย อริยสาวกสฺส โสตาปตฺติมคฺคตฺถาย วิปสฺสนารมฺโภ. อนฺธกาเร มคฺคสฺส อปฺายนกาโล วิย สจฺจจฺฉาทกตมํ. วิชฺชุยา นิจฺฉริตฺวา อนฺธการสฺส วิทฺธํสิตกาโล วิย โสตาปตฺติมคฺโคภาเสน อุปฺปชฺชิตฺวา สจฺจจฺฉาทกตมสฺส วิโนทิตกาโล. วิคเต อนฺธกาเร มคฺคสฺส ปากฏกาโล วิย โสตาปตฺติมคฺคสฺส จตุนฺนํ สจฺจานํ ปากฏกาโล. มคฺคสฺส ปากฏํ ปน มคฺคสมงฺคิปุคฺคลสฺส ปากฏเมว. ทุติยคมนาภินีหาโร วิย สกทาคามิมคฺคตฺถาย วิปสฺสนารมฺโภ. อนฺธกาเร มคฺคสฺส อปฺายนกาโล วิย สจฺจจฺฉาทกตมํ. ทุติยํ วิชฺชุยา นิจฺฉริตฺวา อนฺธการสฺส วิทฺธํสิตกาโล วิย สกทาคามิมคฺโคภาเสน อุปฺปชฺชิตฺวา สจฺจจฺฉาทกตมสฺส วิโนทิตกาโล. วิคเต อนฺธกาเร มคฺคสฺส ปากฏกาโล วิย สกทาคามิมคฺคสฺส จตุนฺนํ สจฺจานํ ปากฏกาโล. มคฺคสฺส ปากฏํ ปน มคฺคสมงฺคิปุคฺคลสฺส ปากฏเมว. ตติยคมนาภินีหาโร วิย อนาคามิมคฺคตฺถาย วิปสฺสนารมฺโภ. อนฺธกาเร มคฺคสฺส อปฺายนกาโล วิย สจฺจจฺฉาทกตมํ. ตติยํ วิชฺชุยา นิจฺฉริตฺวา อนฺธการสฺส วิทฺธํสิตกาโล วิย อนาคามิมคฺโคภาเสน อุปฺปชฺชิตฺวา สจฺจจฺฉาทกตมสฺส วิโนทิตกาโล. วิคเต อนฺธกาเร มคฺคสฺส ปากฏกาโล วิย อนาคามิมคฺคสฺส จตุนฺนํ สจฺจานํ ปากฏกาโล. มคฺคสฺส ปากฏํ ปน มคฺคสมงฺคิปุคฺคลสฺส ปากฏเมว.

วชิรสฺส ปน ปาสาโณ วา มณิ วา อเภชฺโช นาม นตฺถิ. ยตฺถ ปตติ ตํ วินิวิทฺธเมว โหติ. วชิรํ เขเปนฺตํ อเสเสตฺวา เขเปติ. วชิเรน คตมคฺโค นาม ปุน ปากติโก น โหติ. เอวเมว อรหตฺตมคฺคสฺส อวชฺฌกิเลโส นาม นตฺถิ. สพฺพกิเลเส วินิวิชฺฌติ วชิรํ วิย. อรหตฺตมคฺโคปิ กิเลเส เขเปนฺโต อเสเสตฺวา เขเปติ. วชิเรน คตมคฺคสฺส ปุน ปากติกตฺตาภาโว วิย อรหตฺตมคฺเคน ปหีนกิเลสานํ ปุน ปจฺจุทาวตฺตนํ นาม นตฺถีติ.

๑๓๐๗. พาลทุกนิทฺเทเส พาเลสุ อหิริกาโนตฺตปฺปานิ ปากฏานิ, มูลานิ จ เสสานํ พาลธมฺมานํ. อหิริโก หิ อโนตฺตปฺปี จ น กิฺจิ อกุสลํ น กโรติ นามาติ. เอตานิ ทฺเว ปมํเยว วิสุํ วุตฺตานิ. สุกฺกปกฺเขปิ อยเมว นโย. ตถา กณฺหทุเก.

๑๓๑๑. ตปนียทุกนิทฺเทเส กตตฺตา จ อกตตฺตา จ ตปนํ เวทิตพฺพํ. กายทุจฺจริตาทีนิ หิ กตตฺตา ตปนฺติ, กายสุจริตาทีนิ อกตตฺตา. ตถา หิ ปุคฺคโล ‘กตํ เม กายทุจฺจริต’นฺติ ตปฺปติ, ‘อกตํ เม กายสุจริต’นฺติ ตปฺปติ. ‘กตํ เม วจีทุจฺจริต’นฺติ ตปฺปติ…เป… ‘อกตํ เม มโนสุจริต’นฺติ ตปฺปติ. อตปนีเยปิ เอเสว นโย. กลฺยาณการี หิ ปุคฺคโล ‘กตํ เม กายสุจริต’นฺติ น ตปฺปติ, ‘อกตํ เม กายทุจฺจริต’นฺติ น ตปฺปติ…เป… ‘อกตํ เม มโนทุจฺจริต’นฺติ น ตปฺปตีติ (อ. นิ. ๒.๓).

๑๓๑๓. อธิวจนทุกนิทฺเทเส ยา เตสํ เตสํ ธมฺมานนฺติ สพฺพธมฺมคฺคหณํ. สงฺขายตีติ สงฺขา, สํกถิยตีติ อตฺโถ. กินฺติ สํกถิยติ? อหนฺติ มมนฺติ ปโรติ ปรสฺสาติ สตฺโตติ ภาโวติ โปโสติ ปุคฺคโลติ นโรติ มาณโวติ ติสฺโสติ ทตฺโตติ, ‘มฺโจ ปีํ ภิสิ พิมฺโพหนํ’ ‘วิหาโร ปริเวณํ ทฺวารํ วาตปาน’นฺติ เอวํ อเนเกหิ อากาเรหิ สํกถิยตีติ ‘สงฺขา’. สมฺายตีติ สมฺา. กินฺติ สมฺายติ? ‘อหนฺติ…เป… วาตปาน’นฺติ สมฺายตีติ ‘สมฺา’. ปฺาปิยตีติ ปฺตฺติ. โวหริยตีติ โวหาโร. กินฺติ โวหริยติ? ‘อห’นฺติ…เป… ‘วาตปาน’นฺติ โวหริยตีติ โวหาโร.

นามนฺติ จตุพฺพิธํ นามํ – สามฺนามํ คุณนามํ กิตฺติมนามํ โอปปาติกนามนฺติ. ตตฺถ ปมกปฺปิเกสุ มหาชเนน สมฺมนฺนิตฺวา ปิตตฺตา มหาสมฺมโตติ รฺโ นามํ ‘สามฺนามํ’ นาม. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘มหาชนสมฺมโตติ โข, วาเสฏฺ, มหาสมฺมโต ตฺเวว ปมํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๓๑). ธมฺมกถิโก ปํสุกูลิโก วินยธโร เตปิฏโก สทฺโธ ปสนฺโนติ เอวรูปํ คุณโต อาคตนามํ ‘คุณนามํ’ นาม. ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทีนิปิ ตถาคตสฺส อเนกานิ นามสตานิ คุณนามาเนว. เตน วุตฺตํ –

‘‘อสงฺขฺเยยฺยานิ นามานิ, สคุเณน มเหสิโน;

คุเณน นามมุทฺเธยฺยํ, อปิ นามสหสฺสโต’’ติ.

ยํ ปน ชาตสฺส กุมารกสฺส นามคฺคหณทิวเส ทกฺขิเณยฺยานํ สกฺการํ กตฺวา สมีเป ิตา าตกา กปฺเปตฺวา ปกปฺเปตฺวา ‘อยํ อสุโกนามา’ติ นามํ กโรนฺติ, อิทํ ‘กิตฺติมนาม’ นาม. ยา ปน ปุริมปฺตฺติ ปจฺฉิมปฺตฺติยํ ปตติ, ปุริมโวหาโร ปจฺฉิมโวหาเร ปตติ, เสยฺยถิทํ – ปุริมกปฺเปปิ จนฺโท จนฺโทเยว นาม, เอตรหิปิ จนฺโทว. อตีเต สูริโย… สมุทฺโท… ปถวี… ปพฺพโต ปพฺพโตเยว, นาม, เอตรหิปิ ปพฺพโตเยวาติ อิทํ ‘โอปปาติกนามํ’ นาม. อิทํ จตุพฺพิธมฺปิ นามํ เอตฺถ นามเมว โหติ.

นามกมฺมนฺติ นามกรณํ. นามเธยฺยนฺติ นามฏฺปนํ. นิรุตฺตีติ นามนิรุตฺติ. พฺยฺชนนฺติ นามพฺยฺชนํ. ยสฺมา ปเนตํ อตฺถํ พฺยฺเชติ ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. อภิลาโปติ นามาภิลาโปว. สพฺเพว ธมฺมา อธิวจนปถาติ อธิวจนสฺส โนปถธมฺโม นาม นตฺถิ. เอกธมฺโม สพฺพธมฺเมสุ นิปตติ, สพฺพธมฺมา เอกธมฺมสฺมึ นิปตนฺติ. กถํ? อยฺหิ นามปฺตฺติ เอกธมฺโม, โส สพฺเพสุ จตุภูมกธมฺเมสุ นิปตติ. สตฺโตปิ สงฺขาโรปิ นามโต มุตฺตโก นาม นตฺถิ.

อฏวีปพฺพตาทีสุ รุกฺโขปิ ชานปทานํ ภาโร. เต หิ ‘อยํ กึ รุกฺโข นามา’ติ ปุฏฺา ‘ขทิโร’ ‘ปลาโส’ติ อตฺตนา ชานนกนามํ กเถนฺติ. ยสฺส นามํ น ชานนฺติ ตมฺปิ ‘อนามโก’ นามาติ วทนฺติ. ตมฺปิ ตสฺส นามเธยฺยเมว หุตฺวา ติฏฺติ. สมุทฺเท มจฺฉกจฺฉปาทีสุปิ เอเสว นโย. อิตเร ทฺเว ทุกา อิมินา สมานตฺถา เอว.

๑๓๑๖. นามรูปทุเก นามกรณฏฺเน จ นมนฏฺเน จ นามนฏฺเน จ นามํ. ตตฺถ จตฺตาโร ขนฺธา ตาว นามกรณฏฺเน ‘นามํ’. ยถา หิ มหาชนสมฺมตตฺตา มหาสมฺมตสฺส มหาสมฺมโตติ นามํ อโหสิ, ยถา วา มาตาปิตโร ‘อยํ ติสฺโส นาม โหตุ, ผุสฺโส นาม โหตู’ติ เอวํ ปุตฺตสฺส กิตฺติมนามํ กโรนฺติ, ยถา วา ‘ธมฺมกถิโก’ ‘วินยธโร’ติ คุณโต นามํ อาคจฺฉติ, น เอวํ เวทนาทีนํ. เวทนาทโย หิ มหาปถวีอาทโย วิย อตฺตโน นามํ กโรนฺตาว อุปฺปชฺชนฺติ. เตสุ อุปฺปนฺเนสุ เตสํ นามํ อุปฺปนฺนเมว โหติ. น หิ เวทนํ อุปฺปนฺนํ ‘ตฺวํ เวทนา นาม โหหี’ติ โกจิ ภณติ. น จ ตสฺสา นามคฺคหณกิจฺจํ อตฺถิ. ยถา ปถวิยา อุปฺปนฺนาย ‘ตฺวํ ปถวี นาม โหหี’ติ นามคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, จกฺกวาฬสิเนรุจนฺทิมสูริยนกฺขตฺเตสุ อุปฺปนฺเนสุ ‘ตฺวํ จกฺกวาฬํ นาม โหหิ ตฺวํ นกฺขตฺตํ นาม โหหี’ติ นามคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, นามํ อุปฺปนฺนเมว โหติ, โอปปาติกปฺตฺติยํ นิปตติ, เอวํ เวทนาย อุปฺปนฺนาย ‘ตฺวํ เวทนา นาม โหหี’ติ นามคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. ตาย อุปฺปนฺนาย เวทนาติ นามํ อุปฺปนฺนเมว โหติ. โอปปาติกปฺตฺติยํ นิปตติ. สฺาทีสุปิ เอเสว นโย. อตีเตปิ หิ เวทนา เวทนาเยว, สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ วิฺาณเมว. อนาคเตปิ, ปจฺจุปฺปนฺเนปิ. นิพฺพานํ ปน สทาปิ นิพฺพานเมวาติ. ‘นามกรณฏฺเน’ นามํ.

‘นมนฏฺเนา’ปิ เจตฺถ จตฺตาโร ขนฺธา นามํ. เต หิ อารมฺมณาภิมุขา นมนฺติ. ‘นามนฏฺเน’ สพฺพมฺปิ นามํ. จตฺตาโร หิ ขนฺธา อารมฺมเณ อฺมฺํ นาเมนฺติ. นิพฺพานํ อารมฺมณาธิปติปจฺจยตาย อตฺตนิ อนวชฺชธมฺเม นาเมติ.

๑๓๑๘. อวิชฺชาภวตณฺหา วฏฺฏมูลสมุทาจารทสฺสนตฺถํ คหิตา.

๑๓๒๐. ภวิสฺสติ อตฺตา จ โลโก จาติ ขนฺธปฺจกํ อตฺตา จ โลโก จาติ คเหตฺวา ‘ตํ ภวิสฺสตี’ติ คหณากาเรน นิวิฏฺา สสฺสตทิฏฺิ. ทุติยา ‘น ภวิสฺสตี’ติ อากาเรน นิวิฏฺา อุจฺเฉททิฏฺิ.

๑๓๒๖. ปุพฺพนฺตํอารพฺภาติ อตีตโกฏฺาสํ อารมฺมณํ กริตฺวา. อิมินา พฺรหฺมชาเล อาคตา อฏฺารส ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโย คหิตา. อปรนฺตํ อารพฺภาติ อนาคตโกฏฺาสํ อารมฺมณํ กริตฺวา. อิมินา ตตฺเถว อาคตา จตุจตฺตาลีส อปรนฺตานุทิฏฺิโย คหิตา.

๑๓๓๒. โทวจสฺสตานิทฺเทเส สหธมฺมิเก วุจฺจมาเนติ สหธมฺมิกํ นาม ยํ ภควตา ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ, ตสฺมึ วตฺถุํ ทสฺเสตฺวา อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา ‘อิทํ นาม ตฺวํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, อิงฺฆ เทเสหิ วุฏฺาหิ ปฏิกโรหี’ติ วุจฺจมาเน. โทวจสฺสายนฺติอาทีสุ เอวํ โจทิยมานสฺส ปฏิโจทนาย วา อปฺปทกฺขิณคาหิตาย วา ทุพฺพจสฺส กมฺมํ โทวจสฺสายํ. ตเทว โทวจสฺสนฺติปิ วุจฺจติ. ตสฺส ภาโว โทวจสฺสิยํ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. วิปฺปฏิกูลคาหิตาติ วิโลมคาหิตา. วิโลมคหณสงฺขาเตน วิปจฺจนีเกน สาตํ อสฺสาติ วิปจฺจนีกสาโต. ‘ปฏาณิกคหณํ คเหตฺวา เอกปเทเนว ตํ นิสฺสทฺทมกาสิ’นฺติ สุขํ ปฏิลภนฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. ตสฺส ภาโว วิปจฺจนีกสาตตา. โอวาทํ อนาทิยนวเสน อนาทรสฺส ภาโว อนาทริยํ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. อนาทิยนากาโร วา อนาทรตา. ครุวาสํ อวสนวเสน อุปฺปนฺโน อคารวภาโว อคารวตา. สเชฏฺกวาสํ อวสนวเสน อุปฺปนฺโน อปฺปฏิสฺสวภาโว อปฺปฏิสฺสวตา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูปา โทวจสฺสตา นาม วุจฺจติ. อตฺถโต ปเนสา เตนากาเรน ปวตฺตา จตฺตาโร ขนฺธา, สงฺขารกฺขนฺโธเยว วาติ. ปาปมิตฺตตาทีสุปิ เอเสว นโย. โทวจสฺสตา ปาปมิตฺตตาทโย หิ วิสุํ เจตสิกธมฺมา นาม นตฺถิ.

๑๓๓๓. นตฺถิ เอเตสํ สทฺธาติ อสฺสทฺธา; พุทฺธาทีนิ วตฺถูนิ น สทฺทหนฺตีติ อตฺโถ. ทุสฺสีลาติ สีลสฺส ทุนฺนามํ นตฺถิ, นิสฺสีลาติ อตฺโถ. อปฺปสฺสุตาติ สุตรหิตา. ปฺจ มจฺฉริยานิ เอเตสํ อตฺถีติ มจฺฉริโน. ทุปฺปฺาติ นิปฺปฺา. เสวนกวเสน เสวนา. พลวเสวนา นิเสวนา. สพฺพโตภาเคน เสวนา สํเสวนา. อุปสคฺควเสน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. ตีหิปิ เสวนาว กถิตา. ภชนาติ อุปสงฺกมนา. สมฺภชนาติ สพฺพโตภาเคน ภชนา. อุปสคฺควเสน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. ภตฺตีติ ทฬฺหภตฺติ. สมฺภตฺตีติ สพฺพโตภาเคน ภตฺติ. อุปสคฺควเสน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. ทฺวีหิปิ ทฬฺหภตฺติ เอว กถิตา. ตํสมฺปวงฺกตาติ เตสุ ปุคฺคเลสุ กาเยน เจว จิตฺเตน จ สมฺปวงฺกภาโว; ตนฺนินฺนตา ตปฺโปณตา ตปฺปพฺภารตาติ อตฺโถ.

๑๓๓๔. โสวจสฺสตาทุกนิทฺเทโสปิ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ.

๑๓๓๖. ปฺจปิอาปตฺติกฺขนฺธาติ มาติกานิทฺเทเสน ‘ปาราชิกํ สงฺฆาทิเสสํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏ’นฺติ อิมา ปฺจ อาปตฺติโย. สตฺตปิ อาปตฺติกฺขนฺธาติ วินยนิทฺเทเสน ‘ปาราชิกํ สงฺฆาทิเสสํ ถุลฺลจฺจยํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏํ ทุพฺภาสิต’นฺติ อิมา สตฺต อาปตฺติโย. ตตฺถ สห วตฺถุนา ตาสํ อาปตฺตีนํ ปริจฺเฉทชานนกปฺา อาปตฺติกุสลตา นาม. สห กมฺมวาจาย อาปตฺติวุฏฺานปริจฺเฉทชานนกปฺา ปน อาปตฺติวุฏฺานกุสลตา นาม.

๑๓๓๘. สมาปชฺชิตพฺพโต สมาปตฺติ. สห ปริกมฺเมน อปฺปนาปริจฺเฉทชานนกปฺา ปน สมาปตฺติกุสลตา นาม. ‘จนฺเท วา สูริเย วา นกฺขตฺเต วา เอตฺตกํ านํ คเต วุฏฺหิสฺสามี’ติ อวิรชฺฌิตฺวา ตสฺมึเยว สมเย วุฏฺานกปฺาย อตฺถิตาย สมาปตฺติวุฏฺานกุสลตา นาม.

๑๓๔๐. อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ อุคฺคหมนสิการสวนธารณปริจฺเฉทชานนกปฺา ธาตุกุสลตา นาม. ตาสํเยว อุคฺคหมนสิการชานนกปฺา มนสิการกุสลตา นาม.

๑๓๔๒. ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ อุคฺคหมนสิการสวนธารณปริจฺเฉทชานนกปฺา ลตา นาม. ตีสุปิ วา เอตาสุ กุสลตาสุ อุคฺคโห มนสิกาโร สวนํ สมฺมสนํ ปฏิเวโธ ปจฺจเวกฺขณาติ สพฺพํ วฏฺฏติ. ตตฺถ สวนอุคฺคหปจฺจเวกฺขณา โลกิยา, ปฏิเวโธ โลกุตฺตโร. สมฺมสนมนสิการา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา. ‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’ติอาทีนิ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๕) ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค อาวิภวิสฺสนฺติ. ‘อิมินา ปน ปจฺจเยน อิทํ โหตี’ติ ชานนกปฺา ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลตา นาม.

๑๓๔๔. านาฏฺานกุสลตาทุกนิทฺเทเส เหตู ปจฺจยาติ อุภยมฺเปตํ อฺมฺเววจนํ. จกฺขุปสาโท หิ รูปํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชนกสฺส จกฺขุวิฺาณสฺส เหตุ เจว ปจฺจโย จ. ตถา โสตปสาทาทโย โสตวิฺาณาทีนํ, อมฺพพีชาทีนิ จ อมฺพผลาทีนํ. ทุติยนเย เย เย ธมฺมาติ วิสภาคปจฺจยธมฺมานํ นิทสฺสนํ. เยสํ เยสนฺติ วิสภาคปจฺจยสมุปฺปนฺนธมฺมนิทสฺสนํ. น เหตู น ปจฺจยาติ จกฺขุปสาโท สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชนกสฺส โสตวิฺาณสฺส น เหตุ น ปจฺจโย. ตถา โสตปสาทาทโย อวเสสวิฺาณาทีนํ. อมฺพาทโย จ ตาลาทีนํ อุปฺปตฺติยาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๓๔๖. อชฺชวมทฺทวนิทฺเทเส นีจจิตฺตตาติ ปทมตฺตเมว วิเสโส. ตสฺสตฺโถ – มานาภาเวน นีจํ จิตฺตํ อสฺสาติ นีจจิตฺโต. นีจจิตฺตสฺส ภาโว นีจจิตฺตตา. เสสํ จิตฺตุชุกตาจิตฺตมุทุตานํ ปทภาชนีเย อาคตเมว.

๑๓๔๘. ขนฺตินิทฺเทเส ขมนกวเสน ขนฺติ. ขมนากาโร ขมนตา. อธิวาเสนฺติ เอตาย, อตฺตโน อุปริ อาโรเปตฺวา วาเสนฺติ, น ปฏิพาหนฺติ, น ปจฺจนีกตาย ติฏฺนฺตีติ อธิวาสนตา. อจณฺฑิกสฺส ภาโว อจณฺฑิกฺกํ. อนสุโรโปติ อสุโรโป วุจฺจติ น สมฺมาโรปิตตฺตา ทุรุตฺตวจนํ. ตปฺปฏิปกฺขโต อนสุโรโป สุรุตฺตวาจาติ อตฺโถ. เอวเมตฺถ ผลูปจาเรน การณํ นิทฺทิฏฺํ. อตฺตมนตา จิตฺตสฺสาติ โสมนสฺสวเสน จิตฺตสฺส สกมนตา, อตฺตโน จิตฺตสภาโวเยว, น พฺยาปนฺนจิตฺตตาติ อตฺโถ.

๑๓๔๙. โสรจฺจนิทฺเทเส กายิโก อวีติกฺกโมติ ติวิธํ กายสุจริตํ. วาจสิโก อวีติกฺกโมติ จตุพฺพิธํ วจีสุจริตํ. กายิกวาจสิโกติ อิมินา กายวจีทฺวารสมุฏฺิตํ อาชีวฏฺมกสีลํ ปริยาทิยติ. อิทํ วุจฺจติ โสรจฺจนฺติ อิทํ ปาปโต สุฏฺุ โอรตตฺตา โสรจฺจํ นาม วุจฺจติ. สพฺโพปิ สีลสํวโรติ อิทํ ยสฺมา น เกวลํ กายวาจาเหว อนาจารํ อาจรติ มนสาปิ อาจรติ เอว, ตสฺมา มานสิกสีลํ ปริยาทาย ทสฺเสตุํ วุตฺตํ.

๑๓๕๐. สาขลฺยนิทฺเทเส อณฺฑกาติ ยถา สโทเส รุกฺเข อณฺฑกานิ อุฏฺหนฺติ, เอวํ สโทสตาย ขุํสนวมฺภนาทิวจเนหิ อณฺฑกา ชาตา. กกฺกสาติ ปูติกา สา ยถา นาม ปูติรุกฺโข กกฺกโส โหติ ปคฺฆริตจุณฺโณ เอวํ กกฺกสา โหติ. โสตํ ฆํสยมานา วิย ปวิสติ. เตน วุตฺตํ ‘กกฺกสา’ติ. ปรกฏุกาติ ปเรสํ กฏุกา อมนาปา โทสชนนี. ปราภิสชฺชนีติ กุฏิลกณฺฏกสาขา วิย จมฺเมสุ วิชฺฌิตฺวา ปเรสํ อภิสชฺชนี, คนฺตุกามานมฺปิ คนฺตุํ อทตฺวา ลคฺคนการี. โกธสามนฺตาติ โกธสฺส อาสนฺนา. อสมาธิสํวตฺตนิกาติ อปฺปนาสมาธิสฺส วา อุปจารสมาธิสฺส วา อสํวตฺตนิกา. อิติ สพฺพาเนเวตานิ สโทสวาจาย เววจนานิ. ตถารูปึ วาจํ ปหายาติ อิทํ ผรุสวาจํ อปฺปชหิตฺวา ิตสฺส อนฺตรนฺตเร ปวตฺตาปิ สณฺหวาจา อสณฺหวาจา เอว นามาติ ทีปนตฺถํ วุตฺตํ.

เนฬาติ เอฬํ วุจฺจติ โทโส. นาสฺสา เอฬนฺติ เนฬา; นิทฺโทสาติ อตฺโถ. ‘‘เนฬงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ (อุทา. ๖๕; สํ. นิ. ๔.๓๔๗; เปฏโก. ๒๕) เอตฺถ วุตฺตเนฬํ วิย. กณฺณสุขาติ พฺยฺชนมธุรตาย กณฺณานํ สุขา, สูจิวิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. อตฺถมธุรตาย สรีเร โกปํ อชเนตฺวา เปมํ ชเนตีติ เปมนียา. หทยํ คจฺฉติ, อปฺปฏิหฺมานา สุเขน จิตฺตํ ปวิสตีติ หทยงฺคมา. คุณปริปุณฺณตาย ปุเร ภวาติ โปรี. ปุเร สํวฑฺฒนารี วิย สุกุมาราติปิ โปรี. ปุรสฺส เอสาติปิ โปรี; นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. นครวาสิโน หิ ยุตฺตกถา โหนฺติ. ปิติมตฺตํ ปิตาติ ภาติมตฺตํ ภาตาติ วทนฺติ. เอวรูปี กถา พหุโน ชนสฺส กนฺตา โหตีติ พหุชนกนฺตา. กนฺตภาเวเนว พหุโน ชนสฺส มนาปา จิตฺตวุฑฺฒิกราติ พหุชนมนาปา. ยา ตตฺถาติ ยา ตสฺมึ ปุคฺคเล. สณฺหวาจตาติ มฏฺวาจตา. สขิลวาจตาติ มุทุวาจตา. อผรุสวาจตาติ อกกฺขฬวาจตา.

๑๓๕๑. ปฏิสนฺถารนิทฺเทเส อามิสปฏิสนฺถาโรติ อามิสอลาเภน อตฺตนา สห ปเรสํ ฉิทฺทํ ยถา ปิหิตํ โหติ ปฏิจฺฉนฺนํ เอวํ อามิเสน ปฏิสนฺถรณํ. ธมฺมปฏิสนฺถาโรติ ธมฺมสฺส อปฺปฏิลาเภน อตฺตนา สห ปเรสํ ฉิทฺทํ ยถา ปิหิตํ โหติ ปฏิจฺฉนฺนํ, เอวํ ธมฺเมน ปฏิสนฺถรณํ. ปฏิสนฺถารโก โหตีติ ทฺเวเยว หิ โลกสนฺนิวาสสฺส ฉิทฺทานิ, เตสํ ปฏิสนฺถารโก โหติ. อามิสปฏิสนฺถาเรน วา ธมฺมปฏิสนฺถาเรน วาติ อิมินา ทุวิเธน ปฏิสนฺถาเรน ปฏิสนฺถารโก โหติ, ปฏิสนฺถรติ, นิรนฺตรํ กโรติ.

ตตฺรายํ อาทิโต ปฏฺาย กถา – ปฏิสนฺถารเกน หิ ภิกฺขุนา อาคนฺตุกํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาว ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ คเหตพฺพํ, อาสนํ ทาตพฺพํ, ตาลวณฺเฏน พีชิตพฺพํ, ปาทา โธวิตฺวา มกฺเขตพฺพา, สปฺปิผาณิเต สติ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ, ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ, อาวาโส ปฏิชคฺคิตพฺโพ. เอวํ เอกเทเสน อามิสปฏิสนฺถาโร กโต นาม โหติ.

สายํ ปน นวกตเรปิ อตฺตโน อุปฏฺานํ อนาคเตเยว, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา นิสีทิตฺวา อวิสเย อปุจฺฉิตฺวา ตสฺส วิสเย ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ. ‘ตุมฺเห กตรภาณกา’ติ อปุจฺฉิตฺวา ตุมฺหากํ ‘อาจริยุปชฺฌายา กตรํ คนฺถํ วฬฺเชนฺตี’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปโหนกฏฺาเน ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ. สเจ กเถตุํ สกฺโกติ อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ สกฺโกติ สยํ กเถตฺวา ทาตพฺพํ. เอวํ เอกเทเสน ธมฺมปฏิสนฺถาโร กโต นาม โหติ.

สเจ อตฺตโน สนฺติเก วสติ ตํ อาทาย นิพทฺธํ ปิณฺฑาย จริตพฺพํ. สเจ คนฺตุกาโม โหติ ปุนทิวเส คมนสภาเคน ตํ อาทาย เอกสฺมึ คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา อุยฺโยเชตพฺโพ. สเจ อฺสฺมึ ทิสาภาเค ภิกฺขู นิมนฺติตา โหนฺติ ตํ ภิกฺขุํ อิจฺฉมานํ อาทาย คนฺตพฺพํ. ‘น มยฺหํ เอสา ทิสา สภาคา’ติ คนฺตุํ อนิจฺฉนฺเต เสสภิกฺขู เปเสตฺวา ตํ อาทาย ปิณฺฑาย จริตพฺพํ. อตฺตนา ลทฺธามิสํ ตสฺส ทาตพฺพํ. เอวํ ‘อามิสปฏิสนฺถาโร’ กโต นาม โหติ.

อามิสปฏิสนฺถารเกน ปน อตฺตนา ลทฺธํ กสฺส ทาตพฺพนฺติ? อาคนฺตุกสฺส ตาว ทาตพฺพํ. สเจ คิลาโน วา อวสฺสิโก วา อตฺถิ, เตสมฺปิ ทาตพฺพํ. อาจริยุปชฺฌายานํ ทาตพฺพํ. ภณฺฑคาหกสฺส ทาตพฺพํ. สาราณียธมฺมปูรเกน ปน สตวารมฺปิ สหสฺสวารมฺปิ อาคตาคตานํ เถราสนโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ. ปฏิสนฺถารเกน ปน เยน เยน น ลทฺธํ, ตสฺส ตสฺส ทาตพฺพํ. พหิคามํ นิกฺขมิตฺวา ชิณฺณกํ วา อนาถํ ภิกฺขุํ วา ภิกฺขุนึ วา ทิสฺวา เตสมฺปิ ทาตพฺพํ.

ตตฺริทํ วตฺถุ – โจเรหิ กิร คุตฺตสาลคาเม ปหเต ตงฺขณฺเว เอกา นิโรธโต วุฏฺิตา ขีณาสวตฺเถรี ทหรภิกฺขุนิยา ภณฺฑกํ คาหาเปตฺวา มหาชเนน สทฺธึ มคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา ิตมชฺฌนฺหิเก นกุลนครคามทฺวารํ ปตฺวา รุกฺขมูเล นิสีทิ. ตสฺมึ สมเย กาฬวลฺลิมณฺฑปวาสี มหานาคตฺเถโร นกุลนครคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา นิกฺขนฺโต เถรึ ทิสฺวา ภตฺเตน อาปุจฺฉิ. สา ‘ปตฺโต เม นตฺถี’ติ อาห. เถโร ‘อิมินาว ภุฺชถา’ติ สห ปตฺเตน อทาสิ. เถรี ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ปตฺตํ โธวิตฺวา เถรสฺส ทตฺวา อาห – ‘อชฺช ตาว ภิกฺขาจาเรน กิลมิสฺสถ, อิโต ปฏฺาย ปน โว ภิกฺขาจารปริตฺตาโส นาม น ภวิสฺสติ, ตาตา’ติ. ตโต ปฏฺาย เถรสฺส อูนกหาปณคฺฆนโก ปิณฺฑปาโต นาม น อุปฺปนฺนปุพฺโพ. อยํ ‘อามิสปฏิสนฺถาโร’ นาม.

อิมํ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ภิกฺขุนา สงฺคหปกฺเข ตฺวา ตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมฏฺานํ กเถตพฺพํ, ธมฺโม วาเจตพฺโพ, กุกฺกุจฺจํ วิโนเทตพฺพํ, อุปฺปนฺนํ กิจฺจํ กรณียํ กาตพฺพํ, อพฺภานวุฏฺานมานตฺตปริวาสา ทาตพฺพา. ปพฺพชฺชารโห ปพฺพาเชตพฺโพ อุปสมฺปทารโห อุปสมฺปาเทตพฺโพ. ภิกฺขุนิยาปิ อตฺตโน สนฺติเก อุปสมฺปทํ อากงฺขมานาย กมฺมวาจํ กาตุํ วฏฺฏติ. อยํ ‘ธมฺมปฏิสนฺถาโร’ นาม.

อิเมหิ ทฺวีหิ ปฏิสนฺถาเรหิ ปฏิสนฺถารโก ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนํ ลาภํ อุปฺปาเทติ, อุปฺปนฺนํ ถาวรํ กโรติ, สภยฏฺาเน อตฺตโน ชีวิตํ รกฺขติ โจรนาครฺโ ปตฺตคฺคหณหตฺเถเนว อคฺคํ คเหตฺวา ปตฺเตเนว ภตฺตํ อากิรนฺโต เถโร วิย. อลทฺธลาภุปฺปาทเน ปน อิโต ปลายิตฺวา ปรตีรํ คเตน มหานาครฺา เอกสฺส เถรสฺส สนฺติเก สงฺคหํ ลภิตฺวา ปุน อาคนฺตฺวา รชฺเช ปติฏฺิเตน เสตมฺพงฺคเณ ยาวชีวํ ปวตฺติตํ มหาเภสชฺชทานวตฺถุ กเถตพฺพํ. อุปฺปนฺนลาภถาวรกรเณ ทีฆภาณกอภยตฺเถรสฺส หตฺถโต ปฏิสนฺถารํ ลภิตฺวา เจติยปพฺพเต โจเรหิ ภณฺฑกสฺส อวิลุตฺตภาเว วตฺถุ กเถตพฺพํ.

๑๓๕๒. อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตานิทฺเทเส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ การณวเสน จกฺขูติ ลทฺธโวหาเรน รูปทสฺสนสมตฺเถน จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวา. โปราณา ปนาหุ – ‘‘จกฺขุ รูปํ น ปสฺสติ, อจิตฺตกตฺตา; จิตฺตํ น ปสฺสติ, อจกฺขุกตฺตา; ทฺวารารมฺมณสงฺฆฏฺฏเนน ปน ปสาทวตฺถุเกน จิตฺเตน ปสฺสติ. อีทิสี ปเนสา ‘ธนุนา วิชฺชตี’ติอาทีสุ วิย สสมฺภารกถา นาม โหติ. ตสฺมา จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวา’’ติ อยเมเวตฺถ อตฺโถติ. นิมิตฺตคฺคาหีติ อิตฺถิปุริสนิมิตฺตํ วา สุภนิมิตฺตาทิกํ วา กิเลสวตฺถุภูตํ นิมิตฺตํ ฉนฺทราควเสน คณฺหาติ, ทิฏฺมตฺเตเยว น สณฺาติ. อนุพฺยฺชนคฺคาหีติ กิเลสานํ อนุพฺยฺชนโต ปากฏภาวกรณโต อนุพฺยฺชนนฺติ ลทฺธโวหารํ หตฺถปาทสิตหสิตกถิตอาโลกิตวิโลกิตาทิเภทํ อาการํ คณฺหาติ. ยตฺวาธิกรณเมนนฺติอาทิมฺหิ ยํการณา ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตุ, เอตํ ปุคฺคลํ สติกวาเฏน จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ อปิหิตจกฺขุทฺวารํ หุตฺวา วิหรนฺตํ เอเต อภิชฺฌาทโย ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ อนุพนฺเธยฺยุํ อชฺโฌตฺถเรยฺยุํ. ตสฺส สํวราย น ปฏิปชฺชตีติ ตสฺส จกฺขุนฺทฺริยสฺส สติกวาเฏน ปิทหนตฺถาย น ปฏิปชฺชติ. เอวํภูโตเยว จ น รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, น จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตีติ วุจฺจติ.

ตตฺถ กิฺจาปิ จกฺขุนฺทฺริเย สํวโร วา อสํวโร วา นตฺถิ, น หิ จกฺขุปสาทํ นิสฺสาย สติ วา มุฏฺสฺสจฺจํ วา อุปฺปชฺชติ. อปิจ ยทา รูปารมฺมณํ จกฺขุสฺส อาปาถมาคจฺฉติ ตทา ภวงฺเค ทฺวิกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ กิริยมโนธาตุ อาวชฺชนกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ. ตโต จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ, ตโต วิปากมโนธาตุ สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ, ตโต วิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ สนฺตีรณกิจฺจํ, ตโต กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ โวฏฺพฺพนกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ. ตทนนฺตรํ ชวนํ ชวติ. ตตฺราปิ เนว ภวงฺคสมเย น อาวชฺชนาทีนํ อฺตรสมเย สํวโร วา อสํวโร วา อตฺถิ. ชวนกฺขเณ ปน ทุสฺสีลฺยํ วา มุฏฺสฺสจฺจํ วา อฺาณํ วา อกฺขนฺติ วา โกสชฺชํ วา อุปฺปชฺชติ, อสํวโร โหติ.

เอวํ โหนฺโต ปน โส ‘จกฺขุนฺทฺริเย อสํวโร’ติ วุจฺจติ. กสฺมา? ยสฺมา ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ, อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานิ. ยถา กึ? ยถา นคเร จตูสุ ทฺวาเรสุ อสํวุเตสุ กิฺจาปิ อนฺโตฆรทฺวารโกฏฺกคพฺภาทโย สุสํวุตา, ตถาปิ อนฺโตนคเร สพฺพํ ภณฺฑํ อรกฺขิตํ อโคปิตเมว โหติ. นครทฺวาเรน หิ ปวิสิตฺวา โจรา ยทิจฺฉกํ กเรยฺยุํ. เอวเมว ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ, อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานีติ.

โสเตน สทฺทํ สุตฺวาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ยา อิเมสนฺติ เอวํ สํวรํ อนาปชฺชนฺตสฺส อิเมสํ ฉนฺนํ อินฺทฺริยานํ ยา อคุตฺติ ยา อโคปนา โย อนารกฺโข โย อสํวโร, อถกนํ, อปิทหนนฺติ อตฺโถ.

๑๓๕๓. โภชเน อมตฺตฺุตานิทฺเทเส อิเธกจฺโจติ อิมสฺมึ สตฺตโลเก เอกจฺโจ. อปฺปฏิสงฺขาติ ปฏิสงฺขานปฺาย อชานิตฺวา อนุปธาเรตฺวา. อโยนิโสติ อนุปาเยน. อาหารนฺติ อสิตปีตาทิอชฺโฌหรณียํ. อาหาเรตีติ ปริภุฺชติ อชฺโฌหรติ. ทวายาติอาทิ อนุปายทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อนุปาเยน หิ อาหาเรนฺโต ทวตฺถาย มทตฺถาย มณฺฑนตฺถาย วิภูสนตฺถาย วา อาหาเรติ, โน อิทมตฺถิตํ ปฏิจฺจ. ยา ตตฺถ อสนฺตุฏฺิตาติ ยา ตสฺมึ อโยนิโส อาหารปริโภเค อสนฺตุสฺสนา อสนฺตุฏฺิภาโว. อมตฺตฺุตาติ อมตฺตฺุภาโว, ปมาณสงฺขาตาย มตฺตาย อชานนํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อปจฺจเวกฺขิตปริโภควเสน ปวตฺตา โภชเน อมตฺตฺุตา นาม วุจฺจติ.

๑๓๕๔. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตานิทฺเทเส จกฺขุนาติอาทิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. น นิมิตฺตคฺคาหี โหตีติ ฉนฺทราควเสน วุตฺตปฺปการํ นิมิตฺตํ น คณฺหาติ. เอวํ เสสปทานิปิ วุตฺตปฏิปกฺขนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ยถา จ เหฏฺา ‘ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ, ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ, อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานี’ติ วุตฺตํ, เอวมิธ ตสฺมึ สีลาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ทฺวารมฺปิ คุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ, อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานิ. ยถา กึ? ยถา นครทฺวาเรสุ สุสํวุเตสุ, กิฺจาปิ อนฺโตฆราทโย อสํวุตา โหนฺติ, ตถาปิ อนฺโตนคเร สพฺพํ ภณฺฑํ สุรกฺขิตํ สุโคปิตเมว โหติ – นครทฺวาเรสุ ปิหิเตสุ โจรานํ ปเวโส นตฺถิ – เอวเมว ชวเน สีลาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ทฺวารมฺปิ คุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ, อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานิ. ตสฺมา ชวนกฺขเณ อุปฺปชฺชมาโนปิ ‘จกฺขุนฺทฺริเย สํวโร’ติ วุตฺโต. โสเตน สทฺทํ สุตฺวาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑๓๕๕. โภชเน มตฺตฺุตานิทฺเทเส ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรตีติ ปฏิสงฺขานปฺาย ชานิตฺวา อุปาเยน อาหารํ ปริภุฺชติ. อิทานิ ตํ อุปายํ ทสฺเสตุํ เนว ทวายาติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ‘เนว ทวายา’ติ ทวตฺถาย น อาหาเรติ. ตตฺถ นฏลงฺฆกาทโย ทวตฺถาย อาหาเรนฺติ นาม. ยฺหิ โภชนํ ภุตฺตสฺส นจฺจคีตกพฺยสิโลกสงฺขาโต ทโว อติเรกตเรน ปฏิภาติ, ตํ โภชนํ อธมฺเมน วิสเมน ปริเยสิตฺวา เต อาหาเรนฺติ. อยํ ปน ภิกฺขุ เอวํ น อาหาเรติ.

มทายาติ มานมทปุริสมทานํ วฑฺฒนตฺถาย น อาหาเรติ. ตตฺถ ราชราชมหามตฺตา มทตฺถาย อาหาเรนฺติ นาม. เต หิ อตฺตโน มานมทปุริสมทานํ วฑฺฒนตฺถาย ปิณฺฑรสโภชนาทีนิ ปณีตโภชนานิ ภุฺชนฺติ. อยํ ปน ภิกฺขุ เอวํ น อาหาเรติ.

น มณฺฑนายาติ สรีรมณฺฑนตฺถาย น อาหาเรติ. ตตฺถ รูปูปชีวินิโย มาตุคามา อนฺเตปุริกาทโย จ สปฺปิผาณิตํ นาม ปิวนฺติ, เต หิ สินิทฺธํ มุทุํ มนฺทํ โภชนํ อาหาเรนฺติ ‘เอวํ โน องฺคลฏฺิ สุสณฺิตา ภวิสฺสติ, สรีเร ฉวิวณฺโณ ปสนฺโน ภวิสฺสตี’ติ. อยํ ปน ภิกฺขุ เอวํ น อาหาเรติ.

น วิภูสนายาติ สรีเร มํสวิภูสนตฺถาย น อาหาเรติ. ตตฺถ นิพฺพุทฺธมลฺลมุฏฺิกมลฺลาทโย สุสินิทฺเธหิ มจฺฉมํสาทีหิ สรีรมํสํ ปีเณนฺติ ‘เอวํ โน มํสํ อุสฺสทํ ภวิสฺสติ ปหารสหนตฺถายา’ติ. อยํ ปน ภิกฺขุ เอวํ สรีเร มํสวิภูสนตฺถาย น อาหาเรติ.

ยาวเทวาติ อาหาราหรเณ ปโยชนสฺส ปริจฺเฉทนิยมทสฺสนํ. อิมสฺส กายสฺส ิติยาติ อิมสฺส จตุมหาภูติกกรชกายสฺส ปนตฺถาย อาหาเรติ. อิทมสฺส อาหาราหรเณ ปโยชนนฺติ อตฺโถ. ยาปนายาติ ชีวิตินฺทฺริยยาปนตฺถาย อาหาเรติ. วิหึสูปรติยาติ วิหึสา นาม อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกา ขุทฺทา. ตสฺสา อุปรติยา วูปสมนตฺถาย อาหาเรติ. พฺรหฺมจริยานุคฺคหายาติ พฺรหฺมจริยํ นาม ติสฺโส สิกฺขา, สกลํ สาสนํ, ตสฺส อนุคฺคณฺหนตฺถาย อาหาเรติ.

อิตีติ อุปายนิทสฺสนํ; อิมินา อุปาเยนาติ อตฺโถ. ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามีติ ปุราณเวทนา นาม อภุตฺตปฺปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนา. ตํ ปฏิหนิสฺสามีติ อาหาเรติ. นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามีติ นวเวทนา นาม อติภุตฺตปฺปจฺจเยน อุปฺปชฺชนกเวทนา. ตํ น อุปฺปาเทสฺสามีติ อาหาเรติ. อถ วา, ‘นวเวทนา’ นาม ภุตฺตปฺปจฺจยา นอุปฺปชฺชนกเวทนา. ตสฺสา อนุปฺปนฺนาย อนุปฺปชฺชนตฺถเมว อาหาเรติ. ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตีติ ยาปนา จ เม ภวิสฺสติ. อนวชฺชตา จาติ เอตฺถ อตฺถิ สาวชฺชํ อตฺถิ อนวชฺชํ. ตตฺถ อธมฺมิกปริเยสนา อธมฺมิกปฏิคฺคหณํ อธมฺเมน ปริโภโคติ อิทํ ‘สาวชฺชํ’ นาม. ธมฺเมน ปริเยสิตฺวา ธมฺเมน ปฏิคฺคเหตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนํ ‘อนวชฺชํ’ นาม. เอกจฺโจ อนวชฺเชเยว สาวชฺชํ กโรติ, ‘ลทฺธํ เม’ติ กตฺวา ปมาณาติกฺกนฺตํ ภุฺชติ. ตํ ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺโต อุทฺธํวิเรจนอโธวิเรจนาทีหิ กิลมติ. สกลวิหาเร ภิกฺขู ตสฺส สรีรปฏิชคฺคนเภสชฺชปริเยสนาทีสุ อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชนฺติ. ‘กึ อิท’นฺติ วุตฺเต ‘อสุกสฺส นาม อุทรํ อุทฺธุมาต’นฺติอาทีนิ วทนฺติ. ‘เอส นิจฺจกาลมฺปิ เอวํปกติโกเยว, อตฺตโน กุจฺฉิปมาณํ นาม น ชานาตี’ติ นินฺทนฺติ ครหนฺติ. อยํ อนวชฺเชเยว สาวชฺชํ กโรติ นาม. เอวํ อกตฺวา ‘อนวชฺชตา จ ภวิสฺสตี’ติ อาหาเรติ.

ผาสุวิหาโร จาติ เอตฺถาปิ อตฺถิ ผาสุวิหาโร อตฺถิ น ผาสุวิหาโร. ตตฺถ ‘อาหรหตฺถโก อลํสาฏโก ตตฺถวฏฺฏโก กากมาสโก ภุตฺตวมิตโก’ติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ พฺราหฺมณานํ โภชนํ น ผาสุวิหาโร นาม. เอเตสุ หิ ‘อาหรหตฺถโก’ นาม พหุํ ภุฺชิตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘อาหร หตฺถ’นฺติ วทติ. ‘อลํสาฏโก’ นาม อจฺจุทฺธุมาตกุจฺฉิตาย อุฏฺิโตปิ สาฏกํ นิวาเสตุํ น สกฺโกติ. ‘ตตฺถวฏฺฏโก’ นาม อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว ปริวฏฺฏติ. ‘กากมาสโก’ นาม ยถา กาเกหิ อามสิตุํ สกฺกา โหติ, เอวํ ยาว มุขทฺวารา อาหาเรติ. ‘ภุตฺตวมิตโก’ นาม มุเขน สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว วมติ. เอวํ อกตฺวา ‘ผาสุวิหาโร จ เม ภวิสฺสตี’ติ อาหาเรติ. ผาสุวิหาโร นาม จตูหิ ปฺจหิ อาโลเปหิ อูนูทรตา. เอตฺตกฺหิ ภุฺชิตฺวา ปานียํ ปิวโต จตฺตาโร อิริยาปถา สุเขน ปวตฺตนฺติ. ตสฺมา ธมฺมเสนาปติ เอวมาห –

‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;

อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. (เถรคา. ๙๘๓);

อิมสฺมึ ปน าเน องฺคานิ สโมธาเนตพฺพานิ. ‘เนว ทวายา’ติหิ เอกํ องฺคํ, ‘น มทายา’ติ เอกํ, ‘น มณฺฑนายา’ติ เอกํ, ‘น วิภูสนายา’ติ เอกํ, ‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนายา’ติ เอกํ, ‘วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหายา’ติ เอกํ, ‘อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามี’ติ เอกํ, ‘ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตี’ติ เอกํ องฺคํ. อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จาติ อยเมตฺถ โภชนานิสํโส. มหาสีวตฺเถโร ปนาห – เหฏฺา จตฺตาริ องฺคานิ ปฏิกฺเขโป นาม. อุปริ ปน อฏฺงฺคานิ สโมธาเนตพฺพานีติ – ตตฺถ ‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา’ติ เอกํ องฺคํ, ‘ยาปนายา’ติ เอกํ, ‘วิหึสูปรติยาติ’ เอกํ, ‘พฺรหฺมจริยานุคฺคหายา’ติ เอกํ, ‘อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามี’ติ เอกํ, ‘นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามี’ติ เอกํ, ‘ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตี’ติ เอกํ, ‘อนวชฺชตา’ จาติ เอกํ. ผาสุวิหาโร ปน โภชนานิสํโสติ. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อาหารํ อาหาเรนฺโต โภชเน มตฺตฺู นาม โหติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ปริเยสนปฏิคฺคหณปริโภเคสุ ยุตฺตปฺปมาณชานนวเสน ปวตฺโต ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค โภชเน มตฺตฺุตา นาม วุจฺจติ.

๑๓๕๖. มุฏฺสฺสจฺจนิทฺเทเส อสตีติ สติวิรหิตา จตฺตาโร ขนฺธา. อนนุสฺสติ อปฺปฏิสฺสตีติ อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺฒิตํ. อสรณตาติ อสรณากาโร. อธารณตาติ ธาเรตุํ อสมตฺถตา. ตาย หิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล อาธานปฺปตฺโต นิธานกฺขโม น โหติ. อุทเก อลาพุกฏาหํ วิย อารมฺมเณ ปิลวตีติ ปิลาปนตา. สํมุสนตาติ นฏฺมุฏฺสฺสติตา. ตาย หิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล นิกฺขิตฺตภตฺโต วิย กาโก, นิกฺขิตฺตมํโส วิย จ สิงฺคาโล โหติ.

๑๓๖๑. ภาวนาพลนิทฺเทเส กุสลานํ ธมฺมานนฺติ โพธิปกฺขิยธมฺมานํ อาเสวนาติ อาทิเสวนา. ภาวนาติ วฑฺฒนา. พหุลีกมฺมนฺติ ปุนปฺปุนํ กรณํ.

๑๓๖๘. สีลวิปตฺตินิทฺเทโส สีลสมฺปทานิทฺเทสปฏิปกฺขโต เวทิตพฺโพ. ทิฏฺิวิปตฺตินิทฺเทโส จ ทิฏฺิสมฺปทานิทฺเทสปฏิปกฺขโต ทิฏฺิสมฺปทานิทฺเทโส จ ทิฏฺุปาทานนิทฺเทสปฏิปกฺขโต. สีลวิสุทฺธินิทฺเทโส กิฺจาปิ สีลสมฺปทานิทฺเทเสน สมาโน, ตตฺถ ปน วิสุทฺธิสมฺปาปกํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ กถิตํ, อิธ วิสุทฺธิปฺปตฺตํ สีลํ. สติ จ สมฺปชฺฺจ, ปฏิสงฺขานพลฺจ ภาวนาพลฺจ, สมโถ จ วิปสฺสนา จ, สมถนิมิตฺตฺจ ปคฺคหนิมิตฺตฺจ, ปคฺคาโห จ อวิกฺเขโป จ, สีลสมฺปทา จ ทิฏฺิสมฺปทา จาติ อิเมหิ ปน ฉหิ ทุเกหิ จตุภูมกาปิ โลกิยโลกุตฺตรธมฺมาว กถิตา.

๑๓๗๓. ทิฏฺิวิสุทฺธินิทฺเทเส กมฺมสฺสกตฺาณนฺติ ‘อิทํ กมฺมํ สกํ, อิทํ โน สก’นฺติ ชานนปฺา. ตตฺถ อตฺตนา วา กตํ โหตุ ปเรน วา สพฺพมฺปิ อกุสลกมฺมํ โน สกํ. กสฺมา? อตฺถภฺชนโต อนตฺถชนนโต จ. กุสลกมฺมํ ปน อนตฺถภฺชนโต อตฺถชนนโต จ ‘สกํ’ นาม. ตตฺถ ยถา นาม สธโน สโภโค ปุริโส อทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา อนฺตรามคฺเค คามนิคมาทีสุ นกฺขตฺเต สงฺฆุฏฺเ ‘อหํ อาคนฺตุโก, กํ นุ โข นิสฺสาย นกฺขตฺตํ กีเฬยฺย’นฺติ อจินฺเตตฺวา ยถา ยถา อิจฺฉติ เตน เตน นีหาเรน นกฺขตฺตํ กีฬนฺโต สุเขน กนฺตารํ อติกฺกมติ, เอวเมว อิมสฺมึ กมฺมสฺสกตฺาเณ ตฺวา อิเม สตฺตา พหุํ วฏฺฏคามิกมฺมํ อายูหิตฺวา สุเขน สุขํ อนุภวนฺตา อรหตฺตํ ปตฺตา คณนปถํ วีติวตฺตา. สจฺจานุโลมิกาณนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ อนุโลมํ วิปสฺสนาาณํ. มคฺคสมงฺคิสฺส าณํ ผลสมงฺคิสฺส าณนฺติ มคฺคาณผลาณานิเยว.

๑๓๗๔. ‘ทิฏฺิวิสุทฺธิ โข ปนา’ติปทสฺส นิทฺเทเส ยา ปฺา ปชานนาติอาทีหิ ปเทหิ เหฏฺา วุตฺตานิ กมฺมสฺสกตฺาณาทีเนว จตฺตาริ าณานิ วิภตฺตานิ.

๑๓๗๕. ‘ยถาทิฏฺิสฺสจ ปธาน’นฺติ ปทสฺส นิทฺเทเส โย เจตสิโก วีริยารมฺโภติอาทีหิ ปเทหิ นิทฺทิฏฺํ วีริยํ ปฺาคติกเมว; ปฺาย หิ โลกิยฏฺาเน โลกิยํ โลกุตฺตรฏฺาเน โลกุตฺตรนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๓๗๖. สํเวคทุกนิทฺเทเส ชาติภยนฺติ ชาตึ ภยโต ทิสฺวา ิตาณํ. ชรามรณภยาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑๓๗๗. อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานนฺติอาทีหิ ชาติอาทีนิ ภยโต ทิสฺวา ชาติชราพฺยาธิมรเณหิ มุจฺจิตุกามสฺส อุปายปธานํ กถิตํ. ปทภาชนียสฺส ปนตฺโถ วิภงฺคฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๓๖๗ โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา) อาวิ ภวิสฺสติ.

๑๓๗๘. ‘อสนฺตุฏฺิตา จ กุสเลสุ ธมฺเมสู’ติ ปทนิทฺเทเส ภิยฺโยกมฺยตาติ วิเสสกามตา. อิเธกจฺโจ หิ อาทิโตว ปกฺขิกภตฺตํ วา สลากภตฺตํ วา อุโปสถิกํ วา ปาฏิปทิกํ วา เทติ, โส เตน อสนฺตุฏฺโ หุตฺวา ปุน ธุรภตฺตํ สงฺฆภตฺตํ วสฺสาวาสิกํ เทติ, อาวาสํ กาเรติ, จตฺตาโรปิ ปจฺจเย เทติ. ตตฺราปิ อสนฺตุฏฺโ หุตฺวา สรณานิ คณฺหาติ, ปฺจ สีลานิ สมาทิยติ. ตตฺราปิ อสนฺตุฏฺโ หุตฺวา ปพฺพชติ. ปพฺพชิตฺวา เอกํ นิกายํ ทฺเว นิกาเยติ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ คณฺหาติ, อฏฺ สมาปตฺติโย ภาเวติ, วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ คณฺหาติ . อรหตฺตปฺปตฺติโต ปฏฺาย มหาสนฺตุฏฺโ นาม โหติ. เอวํ ยาว อรหตฺตา วิเสสกามตา ‘ภิยฺโยกมฺยตา’ นาม.

๑๓๗๙. ‘อปฺปฏิวานิตา จ ปธานสฺมิ’นฺติ ปทสฺส นิทฺเทเส ยสฺมา ปนฺตเสนาสเนสุ อธิกุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย อุกฺกณฺมาโน ปธานํ ปฏิวาเสติ นาม , อนุกฺกณฺมาโน โน ปฏิวาเสติ นาม, ตสฺมา ตํ นยํ ทสฺเสตุํ ยา กุสลานํ ธมฺมานนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สกฺกจฺจกิริยตาติ กุสลานํ กรเณ สกฺกจฺจการิตา. สาตจฺจกิริยตาติ สตตเมว กรณํ. อฏฺิตกิริยตาติ ขณฺฑํ อกตฺวา อฏฺเปตฺวา กรณํ. อโนลีนวุตฺติตาติ อลีนชีวิตา, อลีนปวตฺติตา วา. อนิกฺขิตฺตฉนฺทตาติ กุสลจฺฉนฺทสฺส อนิกฺขิปนํ. อนิกฺขิตฺตธุรตาติ กุสลกรเณ วีริยธุรสฺส อนิกฺขิปนํ.

๑๓๘๐. ‘ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํวิชฺชา’ติ เอตฺถ ปุพฺเพนิวาโสติ ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธา จ ขนฺธปฏิพทฺธฺจ. ปุพฺเพนิวาสสฺส อนุสฺสติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ. ตาย สมฺปยุตฺตํ าณํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ. ตยิทํ ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธปฏิจฺฉาทกํ ตมํ วิชฺฌตีติ วิชฺชา. ตํ ตมํ วิชฺฌิตฺวา เต ขนฺเธ วิทิเต ปากเฏ กโรตีติ วิทิตกรณฏฺเนาปิ วิชฺชา.

จุตูปปาเต าณนฺติ จุติยฺจ อุปปาเต จ าณํ. อิทมฺปิ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิจฺฉาทกํ ตมํ วิชฺฌตีติ วิชฺชา. ตํ ตมํ วิชฺฌิตฺวา สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิโย วิทิตา ปากฏา กโรตีติ วิทิตกรณฏฺเนาปิ วิชฺชา. อาสวานํ ขเย าณนฺติ สพฺพกิเลสานํ ขยสมเย าณํ. ตยิทํ จตุสจฺจจฺฉาทกตมํ วิชฺฌตีติ วิชฺชา. ตํ ตมํ วิชฺฌิตฺวา จตฺตาริ สจฺจานิ วิทิตานิ ปากฏานิ กโรตีติ วิทิตกรณฏฺเนาปิ วิชฺชา.

๑๓๘๑. ‘จิตฺตสฺสจ อธิมุตฺติ นิพฺพานฺจา’ติ เอตฺถ อารมฺมเณ อธิมุจฺจนฏฺเน, ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ สุฏฺุมุตฺตฏฺเน อฏฺ สมาปตฺติโย จิตฺตสฺส อธิมุตฺติ นาม. อิตรํ ปน ‘นตฺถิ เอตฺถ ตณฺหาสงฺขาตํ วานํ’, ‘นิคฺคตํ วา ตสฺมา วานา’ติ นิพฺพานํ. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย สยํ วิกฺขมฺภิตกิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺตีติ วุตฺตา, นิพฺพานํ ปน สพฺพกิเลเสหิ อจฺจนฺตํ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺตีติ.

๑๓๘๒. มคฺคสมงฺคิสฺสาณนฺติ จตฺตาริ มคฺคาณานิ. ผลสมงฺคิสฺส าณนฺติ จตฺตาริ ผลาณานิ. ตตฺถ ปมมคฺคาณํ ปฺจ กิเลเส เขเปนฺตํ นิโรเธนฺตํ วูปสเมนฺตํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ขเย าณํ นาม ชาตํ. ทุติยมคฺคาณํ จตฺตาโร กิเลเส. ตถา ตติยมคฺคาณํ. จตุตฺถมคฺคาณํ ปน อฏฺ กิเลเส เขเปนฺตํ นิโรเธนฺตํ วูปสเมนฺตํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ‘ขเย าณํ’ นาม ชาตํ. ตํ ตํ มคฺคผลาณํ ปน เตสํ เตสํ กิเลสานํ ขีณนฺเต นิรุทฺธนฺเต วูปสมนฺเต ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺเต อนุปฺปาทนฺเต อปฺปวตฺตนฺเต อุปฺปนฺนนฺติ อนุปฺปาเท าณํ นาม ชาตนฺติ.

อฏฺสาลินิยา ธมฺมสงฺคหอฏฺกถาย

นิกฺเขปกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.