📜
ทุกมาติกาปทวณฺณนา
๑-๖. มูลฏฺเนาติ สุปฺปติฏฺิตภาวสาธเนน มูลภาเวน, น ปจฺจยมตฺตฏฺเน เหตุธมฺมา เหตู ธมฺมาติ สมาสาสมาสนิทฺเทสภาโว ทฺวินฺนํ ปาานํ วิเสโส. ตเถวาติ สมฺปโยคโตว. สเหตุกานํ เหตุสมฺปยุตฺตภาวโต ¶ ‘‘สมฺปโยคโต’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, น สหสทฺทสฺส สมฺปโยคตฺถตฺตา. สห-สทฺโท ปน เอกปฺุเช อุปฺปาทโต ยาว ภงฺคา สเหตุกานํ เหตูหิ สมานเทสคหณานํ เหตุอาทิสพฺภาวํ ทีเปติ, สมฺปยุตฺต-สทฺโท เอกุปฺปาทาทิวเสน สห เหตูหิ เอกีภาวุปคมนํ, ตโต เอว จ ทฺวินฺนํ ทุกานํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. ธมฺมนานตฺตาภาเวปิ หิ ปทตฺถนานตฺเตน ทุกนฺตรํ วุจฺจติ. น หิ เหตุทุกสงฺคหิเตหิ ธมฺเมหิ อฺเ สเหตุกทุกาทีหิ วุจฺจนฺติ, เต เอว ปน สเหตุกาเหตุกาทิภาวโต สเหตุกทุกาทีหิ วุตฺตา. เอวํ สเหตุกทุกสงฺคหิตา เอว เหตุสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตภาวโต เหตุสมฺปยุตฺตทุเกน วุตฺตา. น หิ ธมฺมานํ อวุตฺตตาเปกฺขํ ทุกนฺตรวจนนฺติ นตฺถิ ปุนรุตฺติโทโส. เทเสตพฺพปฺปการชานนฺหิ เทสนาวิลาโส ตถา เทสนาาณฺจาติ. เตน ธมฺมานํ ตปฺปการตา วุตฺตา โหติ. สกเลกเทสวเสน ปมทุกํ ทุติยตติเยหิ สทฺธึ โยเชตฺวา จตุตฺถาทโย ตโย ทุกา วุตฺตา. สกลฺหิ ปมทุกํ ทุติยทุเกกเทเสน สเหตุกปเทน ตติยทุเกกเทเสน เหตุสมฺปยุตฺตปเทน จ โยเชตฺวา ยถากฺกมํ จตุตฺถปฺจมทุกา วุตฺตา, ตถา ปมทุเกกเทสํ นเหตุปทํ สกเลน ทุติยทุเกน โยเชตฺวา ฉฏฺทุโก วุตฺโต. อิทมฺปิ สมฺภวตีติ เอเตน อวุตฺตมฺปิ สมฺภววเสน ทีปิตนฺติ ทสฺเสติ. สมฺภโว หิ คหณสฺส การณนฺติ. ยถา เหตุสเหตุกาติ อิทํ สมฺภวตีติ กตฺวา คหิตํ, เอวํ เหตุอเหตุกาติ อิทมฺปิ สมฺภวตีติ กตฺวา คเหตพฺพเมวาติ เอวํ อฺตฺถาปิ โยเชตพฺพํ.
เอวํ ¶ ปมทุกํ ทุติยตติยทุเกสุ ทุติยปเทหิ โยเชตฺวา ‘‘เหตู เจว ธมฺมา อเหตุกา จ, อเหตุกา เจว ธมฺมา น จ เหตู, เหตู เจว ธมฺมา เหตุวิปฺปยุตฺตา จ, เหตุวิปฺปยุตฺตา เจว ธมฺมา น จ เหตู’’ติ เย ทฺเว ทุกา กาตพฺพา, เตสํ สมฺภววเสเนว สงฺคหํ ทสฺเสตฺวา โข ปน-ปเทน อปเรสมฺปิ ทุกานํ สงฺคหํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺร ยเทต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺราติ ปาฬิยํ. อยํ อติเรกตฺโถติ อิทานิ ยํ วกฺขติ, ตมตฺถมาห. ตตฺถ ปน อฺเปิ อฺถาปีติ เอเตสํ วิสุํ ปวตฺติยา ทฺเว ทุกา ทสฺสิตา, สห ปวตฺติยา ปน อยมฺปิ ทุโก เวทิตพฺโพ ‘‘เหตู เจว ธมฺมา เหตุสมฺปยุตฺตาปิ เหตุวิปฺปยุตฺตาปี’’ติ, เอเตสุ ปน ปฺจสุ ทุเกสุ ทุติยทุเกน ตติยทุโก วิย, จตุตฺถทุเกน ปฺจมทุโก วิย จ ฉฏฺทุเกน นินฺนานตฺถตฺตา ‘‘น เหตุ โข ปน ธมฺมา เหตุสมฺปยุตฺตาปิ เหตุวิปฺปยุตฺตาปี’’ติ อยํ ทุโก น วุตฺโต. ทสฺสิตนินฺนานตฺถนโย หิ โส ปุริมทุเกหีติ. อิตเรสุ จตูสุ เหตู เจว อเหตุกทุเกน สมานตฺถตฺตา เหตู เจว เหตุวิปฺปยุตฺตทุโก, เหตุสเหตุกทุเกน สมานตฺถตฺตา เหตุเหตุสมฺปยุตฺตทุโก จ นเหตุเหตุสมฺปยุตฺตทุโก วิย น วตฺตพฺโพ. เตสุ ปน ทฺวีสุ ปจฺฉิมทุเก ‘‘เหตู โข ปน ธมฺมา สเหตุกา’’ติ ปทํ จตุตฺถทุเก ปมปเทน นินฺนานากรณตฺตา ¶ น วตฺตพฺพํ, ‘‘เหตู โข ปน ธมฺมา อเหตุกา’’ติ ปทํ ‘‘เหตู เจว ธมฺมา อเหตุกา’’ติ เอเตน นินฺนานตฺตา น วตฺตพฺพํ. อวสิฏฺเ ปน เอกสฺมึ ทุเก ‘‘อเหตุกา เจว ธมฺมา น จ เหตู’’ติ ปทํ ฉฏฺทุเก ทุติยปเทน เอกตฺถตฺตา น วตฺตพฺพํ. อิทานิ ‘‘เหตู เจว ธมฺมา อเหตุกา จา’’ติ อิทเมเวกํ ปทํ อวสิฏฺํ, น จ เอเกน ปเทน ทุโก โหตีติ ตฺจ น วุตฺตนฺติ. จตุตฺถทุเก ทุติยปเทน ปน สมานตฺถสฺส ฉฏฺทุเก ปมปทสฺส วจนํ ทุกปูรณตฺถํ, เอเตน วา คติทสฺสเนน สพฺพสฺส สมฺภวนฺตสฺส สงฺคโห กโตติ ทฏฺพฺโพ. ตถา หิ สพฺโพ สมฺภวทุโก ปมทุเก ทุติยตติยทุกปกฺเขเปน ทสฺสิโต, เตสุ จ ปมทุกปกฺเขเปนาติ.
๗-๑๓. สมานกาเลน อสมานกาเลน กาลวิมุตฺเตน จ ปจฺจเยน นิปฺผนฺนานํ ปจฺจยายตฺตานํ ปจฺจยภาวมตฺเตน เตสํ ปจฺจยานํ อตฺถิตํ ทีเปตุํ สปฺปจฺจยวจนํ, น สเหตุกวจนํ วิย สมานกาลานเมว, นาปิ สนิทสฺสนํ วิย ตํสภาวสฺส อนตฺถนฺตรภูตสฺส. สงฺขต-สทฺโท ปน สเมเตหิ ¶ นิปฺผาทิตภาวํ ทีเปตีติ อยเมเตสํ วิเสโส ทุกนฺตรวจเน การณํ. เอตฺถ จ อปฺปจฺจยา อสงฺขตาติ พหุวจนนิทฺเทโส อวินิจฺฉิตตฺถปริจฺเฉททสฺสนวเสน มาติกาปนโต กโตติ เวทิตพฺโพ. อุทฺเทเสน หิ กุสลาทิสภาวานํ ธมฺมานํ อตฺถิตามตฺตํ วุจฺจติ, น ปริจฺเฉโทติ อปริจฺเฉเทน พหุวจเนน อุทฺเทโส วุตฺโตติ. รูปนฺติ รูปายตนํ ปถวิยาทิ วา. ปุริมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป รูปายตนสฺส อสงฺคหิตตา อาปชฺชตีติ รุปฺปนลกฺขณํ วา รูปนฺติ อยํ อตฺถนโย วุตฺโต. ตตฺถ รูปนฺติ รุปฺปนสภาโว. น ลุชฺชติ น ปลุชฺชตีติ โย คหิโต ตถา น โหติ, โส โลโกติ ตํคหณรหิตานํ โลกุตฺตรานํ นตฺถิ โลกตา. ทุกฺขสจฺจํ วา โลโก, ตตฺถ เตเนว โลกสภาเวน วิทิตาติ โลกิยา.
เอวํ สนฺเต จกฺขุวิฺาเณน วิชานิตพฺพสฺส รูปายตนสฺส เตเนว นวิชานิตพฺพสฺส สทฺทายตนาทิกสฺส จ นานตฺตา ทฺวินฺนมฺปิ ปทานํ อตฺถนานตฺตโต ทุโก โหติ. เอวํ ปน ทุเก วุจฺจมาเน ทุกพหุตา อาปชฺชติ, ยตฺตกานิ วิฺาณานิ, ตตฺตกา ทุกา วุตฺตา สมตฺตา เปตฺวา สพฺพธมฺมารมฺมณานิ วิฺาณานิ. เตสุ จ ทุกสฺส ปจฺเฉโท อาปชฺชติ, ตถา จ สติ ‘‘เกนจี’’ติ ปทํ สพฺพวิฺาณสงฺคาหกํ น สิยา, นิทฺเทเสน จ วิรุทฺธํ อิทํ วจนํ. โย จ ตตฺถ ‘‘เย เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา, น เต ธมฺมา โสตวิฺเยฺยาติ อยํ ทุโก น โหตี’’ติ ปฏิเสโธ กโต, โส จ กถํ ยุชฺเชยฺย. น หิ สมตฺถา อฏฺกถา ปาฬึ ปฏิเสเธตุนฺติ, น จ เกนจิ-สทฺทสฺส เตเนวาติ อยํ ปทตฺโถ สมฺภวติ, ‘‘เกนจี’’ติ เอตสฺส อาทิปทสฺส อนิยมิตํ ยํ ¶ กิฺจิ เอกํ ปทตฺโถ, ตํ วตฺวา วุจฺจมานสฺส ‘‘เกนจี’’ติ ทุติยปทสฺส ยํ กิฺจิ อปรํ อนิยมิตํ ปทตฺโถติ โลกสิทฺธเมตํ, ตเถว จ นิทฺเทโส ปวตฺโต, น เจตฺถ วิฺาตพฺพธมฺมเภเทน ทุกเภโท สมตฺโต อาปชฺชติ ยตฺตกา วิฺาตพฺพา, ตตฺตกา ทุกาติ, ตสฺมา นตฺถิ ทุกพหุตา. น หิ เอกํเยว วิฺาตพฺพํ เกนจิ วิฺเยฺยํ เกนจิ น วิฺเยฺยฺจ, กินฺตุ อปรมฺปิ อปรมฺปีติ สพฺพวิฺาตพฺพสงฺคเห ทุโก สมตฺโต โหติ, เอวฺจ สติ ‘‘เกนจี’’ติ ปทํ อนิยเมน สพฺพวิฺาณสงฺคาหกนฺติ สิทฺธํ โหติ, วิฺาณนานตฺเตน จ วิฺาตพฺพํ ภินฺทิตฺวา อยํ ทุโก วุตฺโต, น วิฺาตพฺพานํ อตฺถนฺตรตายาติ. เอตสฺส ปน ทุกสฺส นิกฺเขปราสินิทฺเทโส ทุกสงฺคหิตธมฺเมกเทเสสุ ¶ ทุกปททฺวยปฺปวตฺติทสฺสนวเสน ปวตฺโต. อตฺถุทฺธารนิทฺเทโส นิรวเสสทุกสงฺคหิตธมฺมทสฺสนวเสนาติ เวทิตพฺโพ.
๑๔-๑๙. จกฺขุโตปิ…เป… มนโตปีติ จกฺขุวิฺาณาทิวีถีสุ ตทนุคตมโนวิฺาณวีถีสุ จ กิฺจาปิ กุสลาทีนมฺปิ ปวตฺติ อตฺถิ, กามาสวาทโย เอว ปน วณโต ยูสํ วิย ปคฺฆรณกอสุจิภาเวน สนฺทนฺติ, ตสฺมา เต เอว ‘‘อาสวา’’ติ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ หิ ปคฺฆรณกอสุจิมฺหิ นิรุฬฺโห อาสวสทฺโทติ. ธมฺมโต ยาว โคตฺรภุนฺติ ตโต ปรํ มคฺคผเลสุ อปฺปวตฺติโต วุตฺตํ. เอเต หิ อารมฺมณกรณวเสน ธมฺเม คจฺฉนฺตา ตโต ปรํ น คจฺฉนฺตีติ. นนุ ตโต ปรํ ภวงฺคาทีนิปิ คจฺฉนฺตีติ เจ? น, เตสมฺปิ ปุพฺเพ อาลมฺพิเตสุ โลกิยธมฺเมสุ สาสวภาเวน อนฺโตคธตฺตา ตโต ปรตาภาวโต. เอตฺถ จ โคตฺรภุวจเนน โคตฺรภุโวทานผลสมาปตฺติปุเรจาริกปริกมฺมานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ, ปมมคฺคปุเรจาริกเมว วา โคตฺรภุ อวธินิทสฺสนภาเวน คหิตํ, ตโต ปรํ มคฺคผลสมานตาย ปน อฺเสุ มคฺเคสุ มคฺควีถิยํ ผลสมาปตฺติวีถิยํ นิโรธานนฺตรฺจ ปวตฺตมาเนสุ ผเลสุ นิพฺพาเน จ ปวตฺติ นิวาริตา อาสวานนฺติ เวทิตพฺพา. สวนฺตีติ คจฺฉนฺติ. ทุวิโธ หิ อวธิ อภิวิธิวิสโย อนภิวิธิวิสโย จ. อภิวิธิวิสยํ กิริยา พฺยาเปตฺวา ปวตฺตติ ‘‘อาภวคฺคา ภควโต ยโส คโต’’ติ, อิตรํ พหิ กตฺวา ‘‘อาปาฏลิปุตฺตา วุฏฺโ เทโว’’ติ. อยฺจ อา-กาโร อภิวิธิอตฺโถ อิธ คหิโตติ ‘‘อนฺโตกรณตฺโถ’’ติ วุตฺตํ.
จิรปาริวาสิยฏฺโ จิรปริวุตฺถตา ปุราณภาโว. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ ภวตณฺหายา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๒) อิทํ สุตฺตํ สงฺคหิตํ. อวิชฺชาสวภวาสวานฺจ ¶ จิรปริวุตฺถตาย ทสฺสิตาย ตพฺภาวภาวีนํ กามาสวทิฏฺาสวานฺจ จิรปริวุตฺถตา ทสฺสิตา โหติ. อฺเสุปิ ยถาวุตฺเต ธมฺเม โอกาสฺจ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมาเนสุ มานาทีสุ วิชฺชมาเนสุ อตฺตตฺตนิยาทิคฺคาหวเสน อภิพฺยาปนํ มทกรณวเสน อาสวสทิสตา จ เอเตสํเยว, นาฺเสนฺติ เอเตสฺเวว อาสวสทฺโท นิรุฬฺโห ทฏฺพฺโพ. อายตํ วา สวนฺติ ผลนฺตีติ อาสวา ¶ . น หิ กิฺจิ สํสารทุกฺขํ อาสเวหิ วินา อุปฺปชฺชมานํ อตฺถีติ. อารมฺมณภาเวน เย ธมฺมา วโณ วิย อาสเว ปคฺฆรนฺติ, เต อสมฺปโยเค อตพฺภาเวปิ สห อาสเวหีติ สาสวา, อาสววนฺโตติ อตฺโถ.
โอสานทุเก ‘‘โน อาสวา โข ปนา’’ติ อวตฺวา ‘‘อาสววิปฺปยุตฺตา โข ปนา’’ติ วจนํ สาสวานํ สเหตุกานํ วิย สมฺปยุตฺเตหิ ตํสหิตตา น โหตีติ ทสฺสนตฺถํ. เอวํ เสสโคจฺฉเกสุปิ ยถาสมฺภวํ วิปฺปยุตฺตคฺคหเณ ปโยชนํ ทฏฺพฺพํ. อปิจ ‘‘โน อาสวา โข ปน ธมฺมา สาสวา’’ติ อิทํ ปทํ จตุตฺถทุเก ทุติยปเทน นินฺนานํ, น จ เอเกน ทุโก โหติ, ตสฺมา อาสววิปฺปยุตฺตปทเมว คเหตฺวา โอสานทุกโยชนา ายาคตาติ กตา. เหตุโคจฺฉเก ปน เหตุวิปฺปยุตฺตานํ สเหตุกตา นตฺถีติ เต คเหตฺวา ทุกโยชนาย อสกฺกุเณยฺยตฺตา นเหตุปทํ คเหตฺวา โอสานทุกโยชนา กตา. เย วา ปน ปเม ทุเก ทุติยสฺส ปกฺเขเป เอโก, ตติยสฺส ทฺเว, ปมสฺส ทุติเย เอโก, ตติเย ทฺเว, ทุติยสฺส ตติเย เอโก, ทุติเย จ ตติยสฺส เอโกติ อฏฺ ทุกา ลพฺภนฺติ, เตสุ ตีหิ อิตเร จ นยโต ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. เอส นโย เสสโคจฺฉเกสุปิ.
๒๐-๒๕. กิเลสกมฺมวิปากวฏฺฏานํ ปจฺจยภาเวน ตตฺถ สํโยเชนฺติ, สติปิ อฺเสํ ตปฺปจฺจยภาเว น วินา สํโยชนานิ เตสํ ตปฺปจฺจยภาโว อตฺถิ, โอรมฺภาคิยุทฺธมฺภาคิยสงฺคหิเตหิ จ ตํตํภวนิพฺพตฺตกกมฺมนิยโม ภวนิยโม จ โหติ, น จ อุปจฺฉินฺนสํโยชนสฺส กตานิปิ กมฺมานิ ภวํ นิพฺพตฺเตนฺตีติ. สํโยเชตพฺพาติ วา สํโยชนิยา, สํโยชเน นิยุตฺตาติ วา. ทูรคตสฺสปิ อากฑฺฒนโต นิสฺสริตุํ อปฺปทานวเสน พนฺธนํ สํโยชนํ, คนฺถกรณํ สงฺขลิกจกฺกลกานํ วิย ปฏิพทฺธตากรณํ วา คนฺถนํ คนฺโถ, สํสิลิสกรณํ โยชนํ โยโคติ อยเมเตสํ วิเสโสติ เวทิตพฺโพ. ธมฺมานํ สภาวกิจฺจวิเสสฺุนา ปน ภควตา สมฺปยุตฺเตสุ อารมฺมเณสุ ตปฺปจฺจเยสุ จ เตหิ เตหิ นิปฺผาทิยมานํ ตํ ตํ กิจฺจวิเสสํ ปสฺสนฺเตน เต เต ธมฺมา ตถา ตถา อาสวสํโยชนคนฺถาทิวเสน ¶ วุตฺตาติ ‘‘กิมตฺถํ เอเตเยว ธมฺมา เอวํ วุตฺตา, กสฺมา จ วุตฺตา เอว ปุน วุตฺตา’’ติ น โจเทตพฺพเมตํ.
๒๖-๓๗. คนฺถนิยาติ ¶ เอตฺถ อยมฺโ อตฺโถ ‘‘คนฺถกรณํ คนฺถนํ, คนฺถเน นิยุตฺตาติ คนฺถนิยา, คนฺถยิตุํ สกฺกุเณยฺยา, คนฺถยิตุํ อรหนฺตีติ วา คนฺถนิยา’’ติ. เอวํ โอฆนิยาทีสุปิ ทฏฺพฺพํ. เตนาติกฺกมตีติ เอตํ ธาตฺวตฺถํ คเหตฺวา โอฆนิยาติ ปทสิทฺธิ กตา.
๕๐-๕๔. ธมฺมสภาวํ อคฺคเหตฺวา ปรโต อามสนฺตีติ ปรามาสา. ปรโตติ นิจฺจาทิโต. อามสนฺตีติ สภาวปฏิเสเธน ปริมชฺชนฺติ.
๕๕-๖๘. สภาวโต วิชฺชมานํ อวิชฺชมานํ วา วิจิตฺตสฺาย สฺิตํ อารมฺมณํ อคฺคเหตฺวา อปฺปวตฺติโต อาลมฺพมานา ธมฺมา สารมฺมณา. จินฺตนํ คหณํ อารมฺมณูปลทฺธิ. เจตสิ นิยุตฺตา, เจตสา สํสฏฺา วา เจตสิกา. ทุพฺพิฺเยฺยนานตฺตตาย เอกีภาวมิวุปคมนํ นิรนฺตรภาวุปคมนํ. เยสํ รูปานํ จิตฺตํ สหชาตปจฺจโย โหติ, เตสํ จิตฺตสฺส จ สุวิฺเยฺยนานตฺตนฺติ นิรนฺตรภาวานุปคมนํ เวทิตพฺพํ. เอกโต วตฺตมานาปีติ อปิ-สทฺโท โก ปน วาโท เอกโต อวตฺตมานาติ เอตมตฺถํ ทีเปติ. อิทเมตฺถ วิจาเรตพฺพํ – อวินิพฺโภครูปานํ กึ อฺมฺํ สํสฏฺตา, อุทาหุ วิสํสฏฺตาติ? วิสุํ อารมฺมณภาเวน สุวิฺเยฺยนานตฺตตฺตา น สํสฏฺตา, นาปิ วิสํสฏฺตา สํสฏฺาติ อนาสงฺกนียสภาวตฺตา. จตุนฺนฺหิ ขนฺธานํ อฺมฺํ สํสฏฺสภาวตฺตา รูปนิพฺพาเนหิปิ โส สํสฏฺภาโว อตฺถิ นตฺถีติ สิยา อาสงฺกา, ตสฺมา เตสํ อิตเรหิ, อิตเรสฺจ เตหิ วิสํสฏฺสภาวตา วุจฺจติ, น ปน รูปานํ รูเปหิ กตฺถจิ สํสฏฺตา อตฺถีติ ตทาสงฺกาภาวโต วิสํสฏฺตา จ รูปานํ รูเปหิ น วุจฺจตีติ. เอส หิ เตสํ สภาโวติ. จิตฺตสํสฏฺสมุฏฺานาทิปเทสุ สํสฏฺสมุฏฺานาทิสทฺทา จิตฺตสทฺทาเปกฺขาติ ปจฺเจกํ จิตฺตสทฺทสมฺพนฺธตฺตา จิตฺตสํสฏฺา จ เต จิตฺตสมุฏฺานา จาติ ปจฺเจกํ โยเชตฺวา อตฺโถ วุตฺโต. อุปาทิยนฺเตวาติ ภูตานิ คณฺหนฺติ เอว, นิสฺสยนฺติ เอวาติ อตฺโถ. ยถา ภูตานิ อุปาทิยนฺติ คยฺหนฺติ นิสฺสียนฺติ, น ตถา เอตานิ คยฺหนฺติ นิสฺสียนฺติ, ตสฺมา อุปาทา. อถ วา ภูตานิ อมฺุจิตฺวา เตสํ วณฺณนิภาทิภาเวน คเหตพฺพโต อุปาทา.
๗๕-๘๒. สํกิลิฏฺตฺติเก ¶ วุตฺตนเยนาติ สํ-สทฺทํ อปเนตฺวา กิลิสนฺตีติ กิเลสาติอาทินา นเยน.
๘๓-๑๐๐. กามาวจราทีสุ ¶ อยมปโร อตฺโถ – กามตณฺหา กาโม, เอวํ รูปารูปตณฺหา รูปํ อรูปฺจ. อารมฺมณกรณวเสน ตานิ ยตฺถ อวจรนฺติ, เต กามาวจราทโยติ. เอวฺหิ สติ อฺภูมีสุ อุปฺปชฺชมานานํ อกามาวจราทิตา กามาวจราทิตา จ นาปชฺชตีติ สิทฺธํ โหติ. นิกฺเขปกณฺเฑปิ ‘‘เอตฺถาวจรา’’ติ วจนํ อวีจิปรนิมฺมิตปริจฺฉินฺโนกาสาย กามตณฺหาย อารมฺมณภาวํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, ตโทกาสตา จ ตณฺหาย ตนฺนินฺนตาย เวทิตพฺพา. ยทิ ปริยาปนฺนสทฺทสฺส อนฺโตคธาติ อยมตฺโถ, มคฺคาทิธมฺมานฺจ โลกุตฺตรนฺโตคธตฺตา ปริยาปนฺนตา อาปชฺชติ. น หิ ‘‘ปริยาปนฺนา’’ติ เอตฺถ เตภูมกคหณํ อตฺถีติ? นาปชฺชติ สพฺพทา ปวตฺตมานสฺส ปจฺจกฺขสฺส โลกสฺส วเสน ปริยาปนฺนนิจฺฉยโต. อถ วา ปริจฺเฉทการิกาย ตณฺหาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา อาปนฺนา ปฏิปนฺนา คหิตาติ ปริยาปนฺนา.
อนีย-สทฺโท พหุลา กตฺตุอภิธายโกติ วฏฺฏจารกโต นิยฺยนฺตีติ นิยฺยานียา, นี-การสฺส รสฺสตฺตํ ย-การสฺส จ ก-การตฺตํ กตฺวา ‘‘นิยฺยานิกา’’ติ วุตฺตํ, นิยฺยานกรณสีลา วา นิยฺยานิกา. อุตฺตริตพฺพสฺส อฺสฺส นิทฺทิฏฺสฺส อภาวา นิทฺทิสิยมานา สอุตฺตรา ธมฺมาว อุตฺตริตพฺพาติ ‘‘อตฺตาน’’นฺติ อาห. ราคาทีนนฺติ ราคาทีนํ ทสนฺนํ กิเลสานํ สพฺพนิยตากุสลานํ วา. เตหิ นานปฺปการทุกฺขนิพฺพตฺตเกหิ อภิภูตา สตฺตา กนฺทนฺติ อกนฺทนฺตาปิ กนฺทนการณภาวโต. ยสฺมา ปน ปหาเนกฏฺตาวเสน จ ‘‘สรณา’’ติ อาห, ตสฺมา ‘‘ราคาทีน’’นฺติ วจเนน ราคโทสโมหาว คหิตาติ ายติ. รณ-สทฺโท วา ราคาทิเรณูสุ นิรุฬฺโห ทฏฺพฺโพ, รณํ วา ยุทฺธํ, ‘‘กามา เต ปมา เสนา’’ติ (สุ. นิ. ๔๓๘; มหานิ. ๒๘, ๖๘, ๑๔๙; จูฬนิ. นนฺทมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๔๗) เอวมาทิกา จ อกุสลา เสนา อริยมคฺคยุทฺเธน เชตพฺพตฺตา สยุทฺธตฺตา ‘‘สรณา’’ติ วุจฺจนฺตีติ. อรณวิภงฺคสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๓๒๓ อาทโย) ปน สทุกฺขา สอุปฆาตา สอุปายาสา สปริฬาหา มิจฺฉาปฏิปทาภูตา กามสุขานุโยคาทโย ‘‘สรณา’’ติ วุตฺตาติ ทุกฺขาทีนํ รณภาโว ตนฺนิพฺพตฺตกสภาวานํ อกุสลานํ สรณตา จ เวทิตพฺพา.
ปิฏฺิทุกา สมตฺตา.
สุตฺตนฺติกทุกมาติกาปทวณฺณนา
๑๐๑-๑๐๘. วิชฺชาราสนฺโตคธธมฺมา ¶ ¶ วิชฺชาสภาคตาย ตเทกเทเส วิชฺชาโกฏฺาเส วตฺตนฺตีติ วุตฺตา. วชิรสฺส ยตฺถ ตํ ปตติ, ตตฺถ อเภชฺชํ นาม กิฺจิ มณิปาสาณาทิ นตฺถิ, น จ เตน คมนมคฺโค วิรุหติ, เอวเมว อรหตฺตมคฺเคน ยตฺถ โส อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ สนฺตาเน อเภชฺโช กิเลโส นาม นตฺถิ, น จ ภินฺโน ปุน วิรุหตีติ วชิรุปมตา เวทิตพฺพา. ตทุปจาเรน พาลา ยถา ‘‘มฺจา โฆสนฺตี’’ติ. กณฺหาภิชาตีติ อปายา วุจฺจนฺติ มนุสฺเสสุ จ โทภคฺคิยํ. ตปนสฺส วา ทุกฺขสฺส หิตาติ ตปนิยา.
ทาสาทีสุปิ สิริวฑฺฒกาทิสทฺทา วิย อตถตฺตา วจนมตฺตเมว อธิการํ กตฺวา ปวตฺตา อธิวจนา. ยสฺมา ปน อธิวจนนิรุตฺติปฺตฺติปทานิ สมานตฺถานิ, สพฺพฺจ วจนํ อธิวจนาทิภาวํ ภชติ, ตสฺมา เตสุปิ วจนวิเสเสสุ วิเสเสน ปวตฺเตหิ อธิวจนาทิสทฺเทหิ สพฺพานิ วจนานิ อตฺถปฺปกาสนสามฺเน วุตฺตานีติ เอเตนาธิปฺปาเยน อยํ อตฺถโยชนา กตาติ เวทิตพฺพา. อถ วา อธิ-สทฺโท อุปริภาเค, อุปริ วจนํ อธิวจนํ. กสฺส อุปริ? ปกาเสตพฺพสฺส อตฺถสฺสาติ วิทิโตวายมตฺโถ. อธีนํ วา วจนํ อธิวจนํ. เกน อธีนํ? อตฺเถน. ตถา ตํตํอตฺถปฺปกาสเน นิจฺฉิตํ, นิยตํ วา วจนํ นิรุตฺติ. ปถวีธาตุปุริสาทิตํตํปกาเรน าปนโต ปฺตฺตีติ เอวํ อธิวจนาทิปทานํ สพฺพวจเนสุ ปวตฺติ เวทิตพฺพา. อฺถา สิริวฑฺฒกธนวฑฺฒกปฺปการานเมว อภิลาปานํ อธิวจนตา, อภิสงฺขโรนฺตีติ เอวํปการานเมว นิทฺธารณวจนานํ นิรุตฺติตา, ตกฺโก วิตกฺโกติ เอวํปการานเมว เอกเมวตฺถํ เตน เตน ปกาเรน าเปนฺตานํ ปฺตฺติตา จ อาปชฺเชยฺยาติ.
๑๐๙-๑๑๘. ผสฺโส เวทนาติ สพฺพทาปิ อรูปธมฺมานํ ผสฺสาทินามกตฺตา ปถวิยาทีนํ เกสกุมฺภาทินามนฺตราปตฺติ วิย นามนฺตรานาปชฺชนโต จ สทา อตฺตนาว กตนามตาย จตุกฺขนฺธนิพฺพานานิ นามกรณฏฺเน นามํ. นมนํ อวินาภาวโต อารมฺมณาภิมุขตา, นมนเหตุภูตตา นามนํ. อถ วา อธิวจนสมฺผสฺโส วิย อธิวจนํ นามมนฺตเรน เย อนุปจิตโพธิสมฺภารานํ คหณํ น คจฺฉนฺติ, เต นามายตฺตคฺคหณา นามํ. รูปํ ปน วินาปิ นามสาธนํ อตฺตโน รุปฺปนสภาเวน คหณํ อุปยาตีติ รูปํ.
๑๑๙-๑๒๓. อิโต ¶ ¶ ปุพฺเพ ปริกมฺมํ ปวตฺตํ, อิโต ปรํ ภวงฺคํ, มชฺเฌ สมาปตฺตีติ เอวํ สมาปตฺตีนํ อปฺปนาปริจฺเฉทปฺา สมาปตฺติกุสลตา. วุฏฺาเน กุสลภาโว ปุพฺเพ วุฏฺาเน ปริจฺเฉทกรณาณํ. ลกฺขณาทิวเสน อนิจฺจาทิวเสน จ มนสิ กรณํ มนสิกาโร.
๑๒๔-๑๓๔. สุจิสีลตา โสรจฺจํ. สา หิ โสภนกมฺมรตตาติ. สมฺโมทกสฺส, สมฺโมทโก วา มุทุภาโว สมฺโมทกมุทุภาโว, สณฺหวาจตา. ‘‘อคุตฺตทฺวารตา’’ติ วุตฺเต เกสุ ทฺวาเรสูติ น ปฺายตีติ ‘‘อินฺทฺริเยสู’’ติ วุตฺตํ. สมฺปชานาตีติ สมฺปชาโน, ตสฺส ภาโว สมฺปชฺํ. ตทปิ าณํ ยสฺมา สมฺปชานาติ, ตสฺมา ‘‘สมฺปชานาตีติ สมฺปชฺ’’นฺติ อาห. อปฺปฏิสงฺขาเน นิมิตฺเต วิสเย วา. วีริยสีเสนาติ วีริยปาโมกฺเขน. อุปฺปนฺนํ พลนฺติ วีริโยปตฺถมฺเภน หิ กุสลภาวนา พลวตี ถิรา อุปฺปชฺชตีติ ตถา อุปฺปนฺนา พลวตี กุสลภาวนา พลวนฺโต สตฺต โพชฺฌงฺคาติปิ วุจฺจนฺติ. กสิณนิมิตฺตํ วิย สฺาณํ วิย สวิคฺคหํ วิย จ สุฏฺุ อุปลกฺเขตพฺพาการํ ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. สมโถ จ เอวํ อากาโรติ ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ วุตฺโต. ตถา หิ โส ปจฺจเวกฺขนฺเตน ปจฺจเวกฺขณโต คยฺหตีติ. อุทฺธจฺจมิว จิตฺตํ น วิกฺขิปตีติ, วิกฺเขปปฏิกฺเขโป วา อวิกฺเขโป.
๑๓๕-๑๔๒. สีลเมว ปุนปฺปุนํ อาเสวิยมานํ โลกิยํ โลกุตฺตรมฺปิ สีลํ ปริปูเรตีติ ‘‘สีลปริปูรณโต’’ติ วุตฺตํ. สีลสฺส สมฺปทาติ การณสีลมฺปิ ผลสีลมฺปิ สมฺปนฺนสมุทายสฺส เอกเทสวเสน วุตฺตํ. อถ วา ‘‘กตเม จ ถปติ อกุสลา สีลา? อกุสลํ กายกมฺมํ อกุสลํ วจีกมฺมํ ปาปโก อาชีโว’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๖๔) วุตฺตตฺตา สพฺพมฺปิ กุสลากุสลํ ‘‘สีล’’นฺติ คเหตฺวา ตตฺถ กุสลสีลํ นิทฺธาเรตฺวา ‘‘สีลสมฺปทา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ ทิฏฺิสมฺปทาปิ เวทิตพฺพา.
ทิฏฺิวิสุทฺธิ โข ปน ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ กมฺมสฺสกตาณาทิสงฺขาตา ทิฏฺิวิสุทฺธิ เจวาติ ปฏิปาฏิยา ทิฏฺิวิสุทฺธิ ทิฏฺิวิสุทฺธิ โข ปนาติ จ ปททฺวยสฺส สมานตฺตา ปฺา. ยถาทิฏฺิสฺสาติ นิพฺพตฺติตปฺปการทิฏฺิสฺส นิพฺพตฺเตตพฺพปธานานุรูปทิฏฺิสฺส วา ยถาทิฏฺิปวตฺตกิริยสฺส วา. สํเวโคติ สโหตฺตปฺปํ าณํ, โอตฺตปฺปเมว วา. สมตฺตํ ตุสฺสนํ ติตฺติ ¶ สนฺตุฏฺิ, นตฺถิ เอตสฺส สนฺตุฏฺีติ อสนฺตุฏฺิ, อสนฺตุฏฺิสฺส ภาโว อสนฺตุฏฺิตา. วีริยปฺปวาเห ปวตฺตมาเน อนฺตรา เอว ปฏิคมนํ นิวตฺตนํ ปฏิวานํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ ปฏิวานี ¶ , น ปฏิวานี อปฺปฏิวานี, ตสฺส ภาโว อปฺปฏิวานิตา. วิมุจฺจนํ นาม อารมฺมเณ อธิมุตฺตตา กิเลเสหิ สพฺพสงฺขาเรหิ จ นิสฺสฏตา จ. ปฏิสนฺธิวเสนาติ กิเลสานํ ตํตํมคฺควชฺฌานํ อุปฺปนฺนมคฺเค ขนฺธสนฺตาเน ปุน สํทหนวเสน. อนุปฺปาทภูเตติ ตํตํผเล. อนุปฺปาทปริโยสาเนติ อนุปฺปาทกโร มคฺโค อนุปฺปาโท, ตสฺส ปริโยสาเน.
สุตฺตนฺติกทุกมาติกาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกมาติกาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.