📜
กามาวจรกุสลปทภาชนียวณฺณนา
๑. ‘‘เย วา ปน…เป… อรูปิโน ธมฺมา’’ติ อิทํ ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติ เอวมาทิกํ วิย น วิสุํ ‘‘เตปิ โหนฺตี’’ติ โหติ-สทฺเทน สมฺพนฺธํ กตฺวา วุตฺตํ, อุทฺทิฏฺาวเสเส จ ปน คเหตฺวา ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลา’’ติ อปฺเปตุํ วุตฺตนฺติ อปฺปนาย อวโรธิตํ. เอวฺจ กตฺวา นิทฺเทเสปิ เอตสฺส ปทภาชนียํ น วุตฺตนฺติ. สรูเปน ปน อทสฺสิตตฺตา ‘‘อตฺถี’’ติ วตฺวา ทุติเยน โหติ-สทฺเทน สมฺพนฺโธ นิทฺเทโส จ น กโต, สงฺเขเปน ปน อุทฺทิสิตฺวา สงฺเขเปเนว เย วา ปน ธมฺมา นิทฺทิฏฺาติ เอตสฺส ธมฺมสฺส อุทฺเทเส อวโรโธ ยุตฺโต. ธมฺมนิทฺเทเส จ นิทฺเทสาวสาเน วุตฺตสฺสาติ.
ปุจฺฉาปริจฺเฉทวจเนเนว ปุจฺฉาภาเว วิฺาเต ปุจฺฉาวิเสสาปนตฺถํ อาห ‘‘อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา’’ติ. ปฺจวิธา หีติ มหานิทฺเทเส (มหานิ. ๑๕๐; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๒; เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๘) อาคตา ปุจฺฉา ทสฺเสติ. ลกฺขณนฺติ าตุํ อิจฺฉิโต โย โกจิ สภาโว. อฺาตนฺติ เยน เกนจิ าเณน อฺาตภาวํ อาห. อทิฏฺนฺติ ทสฺสนภูเตน าเณน ปจฺจกฺขํ วิย อทิฏฺตํ. อตุลิตนฺติ ‘‘เอตฺตกํ อิท’’นฺติ ตุลาภูตาย ปฺาย อตุลิตตํ. อตีริตนฺติ ตีรณภูตาย ปฺาย อกตาณกิริยาสมาปนตํ. อวิภูตนฺติ าณสฺส อปากฏภาวํ ¶ . อวิภาวิตนฺติ าเณน อปากฏีกตภาวํ. อทิฏฺํ โชตียติ เอตายาติ อทิฏฺโชตนา. อนุมติยา ปุจฺฉา อนุมติปุจฺฉา ¶ . ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว’’ติอาทิปุจฺฉาย หิ ‘‘กา ตุมฺหากํ อนุมตี’’ติ อนุมติ ปุจฺฉิตา โหติ. กเถตุกมฺยตาติ กเถตุกมฺยตาย.
ปเภทโต ธมฺมานํ เทสนนฺติ มาติกาเทสนํ อาห. ตตฺถ หิ ปุรโต กุสลาทิเก ปเภเท วตฺวา ปจฺฉโต ธมฺมา วุตฺตาติ ‘‘ปเภทวนฺตทสฺสนตฺถ’’นฺติ นิทฺเทสํ อาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มาติกาย สวิเสสนา ธมฺมา วุตฺตา, เต จ วิเสสิตพฺพตฺตา ปธานา, ปธานฺจ อิติกตฺตพฺพตาย ยุชฺชตีติ ธมฺมานเมว ปธานานํ ปุจฺฉิตพฺพตา วิสฺสชฺชิตพฺพตา จ โหติ, ตสฺมา เต ปุจฺฉิตพฺเพ ทสฺเสตุํ ‘‘กตเม ธมฺมา’’ติ วุตฺตํ, เต ปน วิเสสวนฺโต ปุจฺฉิตาติ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘กุสลา’’ติ วุตฺตนฺติ เอวํ ปเภทวนฺตทสฺสนตฺถํ อยํ ปทานุกฺกโม กโตติ. ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลา’’ติ วิสฺสชฺชเนปิ เอวเมว โยชนา กาตพฺพา. ‘‘ปเภทโต ธมฺมานํ เทสนํ ทีเปตฺวา’’ติ เอตสฺส อตฺถํ วิวริตุํ ‘‘อิมสฺมิฺหี’’ติอาทิมาห. อเนกปฺปเภทา เทเสตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. ตสฺมาติ อโวหารเทสนโต ธมฺมานเมว เทเสตพฺพตฺตา เตสฺจ ฆนวินิพฺโภคปฏิสมฺภิทาาณาวหนโต ปเภทวนฺตานํ เทเสตพฺพตฺตา ‘‘กุสลา…เป… ทีเปตฺวา’’ติ เอเตน สมฺพนฺโธ. เอวเมว หิ ยถาวุตฺตทีปนสฺส เหตุํ สการณํ ปกาเสตุํ ปุน ‘‘ธมฺมาเยวา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ. ธมฺมาติ สามฺมตฺตวจเนน สมูหาทิฆนวเสน เอกตฺตคฺคหณํ โหตีติ เอกตฺตวินิพฺโภคกรณํ ฆนวินิพฺโภคาณํ อาวหติ ปเภทเทสนา, ตถา กุสลาทิธมฺมานํ อพฺยากตาทิอตฺถานฺจ ทีปนโต ธมฺมปฏิสมฺภิทาทิาณฺจ อาวหติ. ‘‘ปเภทวนฺตทสฺสนตฺถ’’นฺติ เอตํ วิวริตุํ ‘‘อิทานิ เย เตนา’’ติอาทิมาห. ปเภท…เป… ยุชฺชติ อิติกตฺตพฺพตายุตฺตสฺส วิเสสนตฺตา. อถ วา อุทฺเทโส ธมฺมปฺปธาโน, ปุจฺฉา สํสยิตปฺปธานา, น จ ธมฺมภาโว สํสยิโต, กุสลาทิเภโท ปน สํสยิโตติ นิจฺฉิตสํสยิตวเสนายํ ปทานุกฺกโม กโต.
เอตฺถาติ เอตสฺมึ วจเน. กิมตฺถมาห ภควาติ ตํ ทสฺเสตุํ อาห ‘‘สมเย นิทฺทิสิ จิตฺต’’นฺติ. ปริโยสาเนติ สมเย จิตฺตนิทฺเทสสฺส ‘‘ยสฺมึ…เป… อารพฺภา’’ติ เอตสฺส ปริโยสาเน. ตสฺมึ สมเยติ ตสฺมึ จิตฺตุปฺปาทสมเย ¶ . จิตฺเตน สมยํ นิยเมตฺวาน อถ ปจฺฉา โพเธตุนฺติ สมฺพนฺโธ. วิชฺชมาเนปิ โภชนคมนาทิสมยนานตฺเต สมวายาทินานตฺเต จ ยถาวุตฺตจิตฺตนิยมิตา วิเสสิตา อฺสฺมึ สมเย ยถาธิปฺเปตานํ ผสฺสาทีนํ อภาวา จิตฺตนิยมิเต สมเย ผสฺสาทโย โพเธตุํ วิเสสนเมว ตาว จิตฺตํ ทสฺเสตุํ สมเย จิตฺตํ นิทฺทิสีติ อตฺโถ. วิเสสิตพฺโพปิ หิ สมโย อตฺตโน อุปการตฺถํ วิเสสนภาวํ อาปชฺชติ, วิเสสนภูตฺจ ¶ จิตฺตํ ตทุปการตฺถํ วิเสสิตพฺพภาวนฺติ. สนฺตติฆนาทีนํ อยํ วิเสโส – ปุริมปจฺฉิมานํ นิรนฺตรตาย เอกีภูตานมิว ปวตฺติ สนฺตติฆนตา, ตถา ผสฺสาทีนํ เอกสมูหวเสน ทุพฺพิฺเยฺยกิจฺจเภทวเสน เอการมฺมณตาวเสน จ เอกีภูตานมิว ปวตฺติ สมูหาทิฆนตาติ.
กาลฺจ สมยฺจาติ ยุตฺตกาลฺจ ปจฺจยสามคฺคิฺจ. ขโณติ โอกาโส. ตถาคตุปฺปาทาทิโก หิ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส โอกาโส ตปฺปจฺจยปฏิลาภเหตุตฺตา. ขโณ เอว จ สมโย. โย ‘‘ขโณ’’ติ จ ‘‘สมโย’’ติ จ วุจฺจติ, โส เอโกวาติ อตฺโถ. มหาสมโยติ มหาสมูโห. สมโยปิ โขติ สิกฺขาปริปูรณสฺส เหตุปิ. สมยปฺปวาทเกติ ทิฏฺิปฺปวาทเก. ตตฺถ หิ นิสินฺนา ติตฺถิยา อตฺตโน อตฺตโน สมยํ ปวทนฺตีติ. อตฺถาภิสมยาติ หิตปฏิลาภา. อภิสเมตพฺโพติ อภิสมโย, อภิสมโย อตฺโถ อภิสมยฏฺโติ ปีฬนาทีนิ อภิสมิตพฺพภาเวน เอกีภาวํ อุปเนตฺวา วุตฺตานิ, อภิสมยสฺส วา ปฏิเวธสฺส วิสยภูโต อตฺโถ อภิสมยฏฺโติ ตาเนว ตถา เอกตฺเตน วุตฺตานิ. ตตฺถ ปีฬนํ ทุกฺขสจฺจสฺส ตํสมงฺคิโน หึ สนํ อวิปฺผาริกตากรณํ. สนฺตาโป ทุกฺขทุกฺขตาทิภาเวน สนฺตาปนํ ปริทหนํ.
‘‘อิธา’’ติ วจนํ อกุสเลสุ อพฺยากเตสุ จ เกสุจิ ขณสฺส อสมฺภวโต. นนุ กุสลานฺจ นวเมน ขเณน วินา อุปฺปตฺติ โหตีติ? โน น โหติ, น ปน นวโม เอว ขโณ, จตุจกฺกานิปิ ขโณติ วุตฺตานิ. สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน อตฺตสมฺมาปณิธิขณมนฺตเรน นตฺถิ กุสลสฺส อุปฺปตฺตีติ ขโณ อิธ คหิโต. อินฺทฺริยวิสยมนสิการาธีนํ วิฺาณนฺติ เอวมาทิ สาธารณผลํ ทฏฺพฺพํ. นวโมติ อฏฺกฺขเณ อุปาทาย วุตฺตํ. จตุจกฺกํ วตฺตตีติ ปุน ปติรูปเทสวาสาทิสมฺปตฺติ จตุจกฺกํ วิปริวตฺตตีติ ¶ อตฺโถ. โอกาสภูตานีติ อตฺตโน นิพฺพตฺติยา ‘‘อิทานิ อุปฺปชฺชนฺตุ กุสลานี’’ติ อนุมติทานํ วิย ภูตานิ.
จิตฺตกาโลติ ธมฺเมเนว สตา กาโล วิเสสิโต, น ตสฺส ปวตฺติตฺถ ปวตฺติสฺสติ ปวตฺตตีติ เอเตน อวตฺถาวิเสเสน, นาปิ ตสฺส วิชานนกิจฺเจน, ตสฺมา เอวํวิเธ ธมฺเม อุปาทาย ปฺตฺโตติ วุตฺโต. กมปฺปวตฺตา วิเสสา เอว ปฏิปาฏีติ พีชภาโว จ ปฏิปาฏีติ วตฺตุมรหตีติ อิมินาธิปฺปาเยน ‘‘พีชกาโลติ ธมฺมปฏิปาฏึ อุปาทาย ปฺตฺโต’’ติ อาห. ธมฺมปฏิปาฏึ วาติ อฏฺกลาปธมฺเม สนฺธายาห. สฺจิตา วิย คยฺหมานกาลา เอว กาลสฺจโย ¶ , ยถา วา ตถา วา กาโลติ เอกํ สภาวํ คเหตฺวา อภินิเวสํ กโรนฺตสฺส ตทภินิเวสนิเสธนตฺถํ ‘‘โส ปเนส สภาวโต อวิชฺชมานตฺตา ปฺตฺติมตฺตโก’’ติ อาห. ตฺวา วิฺเยฺโยติ สมฺพนฺโธ. อิตโร ปน เหตูติ เอส สมโย ปจฺจโยว วิฺเยฺโย. เอตฺถาติ เอตสฺมึ อธิกาเร น เหตุเหตุ สาธารณเหตุ จาติ อตฺโถ. สมวาโย ปจฺจยสามคฺคี, เหตุ ปน เอเกโก ปจฺจโยติ อยเมเตสํ วิเสโส เวทิตพฺโพ. จกฺขุวิฺาณาทีนํ อเนกปจฺจยทสฺสเนน ตํตํทฺวาริกานํ กุสลานฺจ ตปฺปจฺจยตํ ทสฺเสติ.
ปริคฺคโห กโต อฏฺกถาจริเยหิ. เอกการณวาโทติ ปกติการณวาโท, อิสฺสรการณวาโท วา. อฺมฺาเปกฺโขติ อวยวานํ อฺมฺาเปกฺขตาย สมุทาโย วุตฺโต. อเปกฺขา จ ยาว สหายการณสมาคโม น โหติ, ตาว ผลสฺส อนิปฺผาทนํ สมาคเม นิปฺผาทนสมตฺถสฺส นิปฺผาทนฺจ. สมาคโม จ เยสุ ยุชฺชมาเนสุ นิพฺยาปาเรสุปิ ผลสฺส ปวตฺติ, เตสํ สพฺภาโวติ.
อสามคฺคี…เป… ปตฺติโตติ จกฺขุรูปาโลกมนสิการานํ อสมเวตานํ จกฺขุวิฺาณสฺส อเหตุภาเว สติ สมเวตานฺจ ตํสภาวาวินิวตฺติโต เหตุภาวานาปตฺติโตติ อตฺโถ. น หิ สภาวนฺตรํ อฺเน สหิตํ สภาวนฺตรํ โหตีติ. เอกสฺมินฺติ อนฺธสเต เอเกกสฺมึ อนฺเธติ อธิปฺปาโย. อฺถา ยถารุตวเสน อตฺเถ คยฺหมาเน เอกสฺส อนฺธสฺส ทสฺสนาสมตฺถตา สพฺเพสมฺปิ น โหติ, นาปิ เอกสฺส อสมตฺถตาย สพฺเพสมฺปิ อสมตฺถตา วุตฺตา, กินฺตุ สพฺเพสํ วิสุํ อสมตฺถตาย เอวาติ อุปมาวจนํ น ยุชฺเชยฺย, นาปิ อุปโมปมิตพฺพสมฺพนฺโธ. น ¶ หิ อุปมิตพฺเพสุ จกฺขาทีสุ เอกสฺส อสมตฺถตาย สพฺเพสมฺปิ อสมตฺถตา วุตฺตา, กินฺตุ สพฺเพสํ วิสุํ อสมตฺถตาย สหิตานํ อสมตฺถตาติ. อนฺธสตํ ปสฺสตีติ จ อนฺธสตํ สหิตํ ปสฺสตีติ อธิปฺปาโย อฺถา วุตฺตนเยน อุปมิตพฺพาสมานตาปตฺติโต. สาธา…เป… ิตภาโวติ เยสุ วิชฺชมาเนสุ ผลปฺปวตฺติ เตสํ สโมธาเน, ยถา ปวตฺตมาเนสุ เตสุ ผลปฺปวตฺติ, ตถา ปวตฺติมาห. น เยสํ เกสฺจิ อเนเกสํ สโมธานมตฺตํ สามคฺคี. น หิ สทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพสโมธานํ จกฺขุวิฺาณสฺส, กฏฺกปาลปาสาณสโมธานํ วา โสตวิฺาณสฺส เหตูติ. ตนฺติ ตํ ทสฺสนํ. อสา…เป… สิทฺโธติ นายมตฺโถ สาเธตพฺโพ วิสุํ อเหตูนํ จกฺขาทีนํ สหิตานํ เหตุภาวสฺส ปจฺจกฺขสิทฺธตฺตาติ อตฺโถ. น หิ ปจฺจกฺขสิทฺเธ ยุตฺติมคฺคนํ ยุตฺตนฺติ.
มนุสฺสตฺตาทีนํ ¶ ขณาวยวานํ สามคฺคี ขณสามคฺคี, ตํ วินา โส นวมจกฺกสมฺปตฺติสงฺขาโต ขโณ นตฺถิ. สา เอว หิ ขณสามคฺคี โส ขโณติ อตฺโถ. ขณ…เป… ทีเปติ อตฺตโน ทุลฺลภตายาติ อตฺโถ. ขณตฺโถ วา สมยสทฺโท ขณสงฺขาโต สมโยติ วุตฺโต. โส ยสฺมึ ทุลฺลเภ ขเณ สตีติ อิมสฺสตฺถสฺส วิภาวนวเสน ตทายตฺตาย กุสลุปฺปตฺติยา ทุลฺลภภาวํ ทีเปติ. เอเตนุปาเยน สมวาย…เป… วุตฺตึ ทีเปตีติ เอตฺถ อิโต ปเรสุ จ โยชนา ตสฺส ตสฺส ตํตํทีปเน กาตพฺพา.
ตสฺส ปุริสสฺสาติ ‘‘เสยฺยถาปิ ภิกฺขเว จตฺตาโร ทฬฺหธมฺมา ธนุคฺคหา สิกฺขิตา กตหตฺถา กตุปาสนา จตุทฺทิสา ิตา อสฺสุ, อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ‘อหํ อิเมสํ…เป… กตุปาสนานํ กณฺเฑ ขิตฺเต ขิตฺเต อปฺปติฏฺิเต ปถวิยํ คเหตฺวา อาหริสฺสามี’’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒๒๘) เอวํ วุตฺตชวนปุริสสฺส. ตาว ปริตฺตโกติ คมนสฺสาทานํ เทวปุตฺตานํ เหฏฺุปริยาเยน ปฏิมุขํ ธาวนฺตานํ สิรสิ ปาเท จ พทฺธขุรธาราสนฺนิปาตโต จ ปริตฺตตโร กาโล. กาลสงฺขาโต สมโย จิตฺตปริจฺฉินฺโน วุจฺจมาโน เตเนว ปริจฺเฉทกจิตฺเตน ‘‘เอวํ ปริตฺโต อห’’นฺติ อตฺตโน ปริตฺตตํ ทีเปติ. ยถา จาหํ, เอวํ สพฺโพ กุสลจิตฺตปฺปวตฺติกาโลติ ตสฺส ปริตฺตตํ ทีเปติ. สทฺทสฺส ทีปนา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพา.
ปกติวาทีนํ ¶ มหโต วิย อณุวาทีนํ ทฺวิอณุกสฺส วิย จ เอกสฺเสว. เหตุ…เป… วุตฺติตํ ทีเปตีติ ปจฺจยายตฺตวุตฺติทีปนโต ตปฺปรภาวา เหตุสงฺขาตสฺส ปรายตฺตวุตฺติทีปนตา วุตฺตา. สติ ปน ปจฺจยายตฺตภาเว ปจฺจยสามคฺคีอายตฺตตา สมวายสงฺขาเตน ทีปิยตีติ อตปฺปรภาวโต ตสฺส ตํทีปนตา น วุตฺตา. อเนน สมเยน กตฺตุภูเตน, อเนน สมเยน วา กรณภูเตน ภควตา ปฏิเสธิโตติ อตฺโถ. เอส นโย ปุริมาสุ ทีปนาสุ.
อธิกรณวเสนาติ อาธารวเสน. เอตฺถาติ กาลสมูหสงฺขาเต สมเย คหิเตติ อตฺโถ. กาโลปิ หิ จิตฺตปริจฺฉินฺโน สภาวโต อวิชฺชมาโนปิ อาธารภาเวเนว สฺาโต ‘‘อธิกรณ’’นฺติ วุตฺโต ตํขณปฺปวตฺตานํ ตโต ปุพฺเพ ปรโต จ อภาวา. ภาโวติ กิริยา. กิริยาย กิริยนฺตรลกฺขณํ ภาเวนภาวลกฺขณํ. ยถา คาวีสุ ทุยฺหมานาสุ คโต, ทุทฺธาสุ อาคโตติ โทหนกิริยา คมนกิริยาย ลกฺขณํ โหติ, เอวมิหาปิ ‘‘ยสฺมึ สมเย ตสฺมึ สมเย’’ติ จ วุตฺเต สตีติ อยมตฺโถ วิฺายมาโน เอว โหติ อฺกิริยาสมฺพนฺธาภาเวน ปทตฺถสฺส ¶ สตฺตาวิรหาภาวโตติ สมยสฺส สตฺตากิริยาย จิตฺตุปฺปาทกิริยา ผสฺสาทิภวนกิริยา จ ลกฺขียตีติ อุภยตฺถ สมยสทฺเท ภุมฺมนิทฺเทโส กโต ลกฺขณภูตภาวยุตฺโตติ.
อุทฺทานโตติ อุทฺเทสโต สงฺเขปโต. กิเลสกาโม วตฺถุกามภาวํ ภชนฺโต กามนียวเสน ภชติ, น กามนวเสนาติ กามนวเสน กิเลสกาโม เอว โหติ, น วตฺถุกาโม. ทุวิโธเปโสติ วจเนน ทุวิธสฺสปิ สหิตสฺส อวจรณปฺปเทสํ สงฺคณฺหาติ. เตน วตฺถุกามสฺเสว ปวตฺติเทโส รูปารูปธาตุทฺวยํ อปนีตํ โหติ. นนุ จ ทุวิโธปิ สหิโต รูปารูปธาตูสุ ปวตฺตติ รูปารูปาวจรธมฺมานํ วตฺถุกามตฺตา ตทารมฺมณานํ รูปารูปราคานฺจ กิเลสกามภาวสิทฺธิโตติ? ตํ น, พหลกิเลสสฺส กามราคสฺส กิเลสกามภาเวน อิธ สงฺคหิตตฺตา. เอวฺจ กตฺวา รูปารูปธาตูสุ ปวตฺตมาเนสุ กามาวจรธมฺเมสุ นิกนฺติ อิธ น สงฺคหิตา สุขุมตฺตา. ‘‘อุทฺทานโต ทฺเว กามา’’ติ สพฺพกาเม อุทฺทิสิตฺวาปิ หิ ‘‘ทุวิโธเปโส’’ติ เอตฺถ ตเทกเทสภูตา อฺมฺสหิตตาปริจฺฉินฺนา กามราคตพฺพตฺถุกธมฺมาว สงฺคหิตาติ, นิรวเสโส ¶ วา กิเลสกาโม กามราโค กามตณฺหารูปตณฺหาอรูปตณฺหานิโรธตณฺหาเภโท อิธ ปวตฺตตีติ อนวเสสปฺปวตฺติตํ สนฺธาย ‘‘ทุวิโธเปโส’’ติ วุตฺตํ, วตฺถุกาโมปิ จ อปฺปโก อิธาปิ น วตฺตติ รูปารูปาวจรวิปากมตฺโต, ตถาปิ ปริปุณฺณวตฺถุกามตฺตา กามาวจรธมฺมาว อิธ คหิตา. เอวฺจ กตฺวา สสตฺถาวจโรปมา ยุตฺตา โหติ. ‘‘รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตี’’ติ (ธ. ส. ๑๖๓; วิภ. ๖๒๕) เอตฺถ รูปภโว อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา ‘‘รูป’’นฺติ วุตฺโต, เอวมิธาปิ อุตฺตรปทโลโป ทฏฺพฺโพ. อฺถา หิ จิตฺตํ กามาวจราวจรนฺติ วุจฺเจยฺยาติ. อารมฺมณกรณวเสนาติอาทิเก ‘‘กาโม’’ติ สพฺพํ ตณฺหมาห, ตสฺมา ‘‘กามฺเจสา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ‘‘กาเม อวจาเรตีติ กามาวจาร’’นฺติ วตฺตพฺเพ จา-สทฺทสฺส รสฺสตฺตํ กตํ.
รุฬฺหิสทฺเทนาติ าณสมฺปยุตฺเตสุ รุฬฺเหน สทฺเทน, าณสมฺปยุตฺเตสุ วา ปวตฺติตฺวา อนวชฺชสุขวิปากตาย ตํสทิเสสุ าณวิปฺปยุตฺเตสุ รุฬฺเหน สทฺเทน. อถ วา กิฺจิ นิมิตฺตํ คเหตฺวา สติปิ อฺสฺมึ ตํนิมิตฺตยุตฺเต กิสฺมิฺจิเทว วิสเย สมฺมุติยา จิรกาลตาวเสน นิมิตฺตวิรเหปิ ปวตฺติ รุฬฺหิ นาม ยถา ‘‘มหิยํ เสตีติ มหึโส, คจฺฉนฺตีติ คาโว’’ติ, เอวํ กุสลสทฺทสฺสปิ รุฬฺหิภาโว เวทิตพฺโพ. ปฺานิทฺเทเส ‘‘โกสลฺล’’นฺติ อภิธมฺเม (ธ. ส. ๑๖) วุตฺตํ, ตสฺส จ ภาวา กุสลสทฺทปฺปวตฺตีติ โกสลฺลโยคา กุสลนฺติ อยํ อภิธมฺมปริยาโย โหติ. กุสลนฺติ กุสลภาวํ อาห.
วิปากาทีนํ ¶ อวชฺชปฏิปกฺขตา นตฺถีติ กุสลเมว อนวชฺชลกฺขณํ วุตฺตํ. อนวชฺชลกฺขณเมวาติ สุขวิปากสภาวสฺส ลกฺขณภาวนิวารณตฺถํ อวธารณํ กตํ, ตํนิวารณฺจ ตสฺส ปจฺจุปฏฺานตํ วตฺถุกามตาย กตํ. สมฺปตฺติอตฺเถน รเสน โวทานภาวรสํ. ผลฏฺเน ปจฺจุปฏฺาเนน อิฏฺวิปากปจฺจุปฏฺานํ. สภาโว กกฺขฬาทิผุสนาทิโก อสาธารโณ. สามฺํ สาธารโณ อนิจฺจาทิสภาโว. อิธ จ กุสลลกฺขณํ สพฺพกุสลสาธารณสภาวตฺตา สามฺํ ทฏฺพฺพํ, อกุสลาทีหิ อสาธารณตาย สภาโว วา. อุปฏฺานากาโรติ คเหตพฺพภาเวน าณสฺส อุปฏฺหนากาโร. ผลํ ปน อตฺตโน การณํ ปฏิจฺจ ตปฺปฏิพิมฺพภาเวน, ปฏิมุขํ วา อุปฏฺาตีติ ปจฺจุปฏฺานํ.
วิชานาตีติ ¶ สฺาปฺากิจฺจวิสิฏฺํ วิสยคฺคหณํ อาห. สพฺพจิตฺตสาธารณตฺตา ยตฺถ ยตฺถ ยถา ยถา อตฺโถ ลพฺภติ, ตตฺถ ตตฺถ ตถา ตถา คเหตพฺโพติ. ยํ อาเสวนปจฺจยภาเวน จิโนติ, ยฺจ กมฺมุนา อภิสงฺขตตฺตา จิตํ, ตํ ตถา ‘‘จิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ยํ ปน ตถา น โหติ, ตํ ปริตฺตกิริยทฺวยํ อนฺติมชวนฺจ ลพฺภมานจินฺตนวิจิตฺตตาทิวเสน ‘‘จิตฺต’’นฺติ เวทิตพฺพํ. หสิตุปฺปาโท ปน อฺชวนคติโกว. จิตฺตานํ ปนาติ วิจิตฺรานนฺติ อตฺโถ. ตทนฺโตคธตฺตา หิ สมุทายโวหาเรน อวยโวปิ ‘‘จิตฺต’’นฺติ วุจฺจติ ยถา ปพฺพตนทีสมุทฺทาทิเอกเทเสสุ ทิฏฺเสุ ปพฺพตาทโย ทิฏฺาติ วุจฺจนฺตีติ. จรณํ นาม คเหตฺวา จริตพฺพจิตฺตปโฏ. รูปานีติ พิมฺพานิ.
อชฺฌตฺติกนฺติ อินฺทฺริยพทฺธํ วทติ. จิตฺตกตเมวาติ จิตฺตสฺส มูลการณตํ สนฺธาย วุตฺตํ. กมฺมสฺส เหตํ จิตฺตํ การณนฺติ. ตํ ปน อตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘กายกมฺมาทิเภท’’นฺติอาทิมาห. ลิงฺคนานตฺตนฺติ สณฺานนานตฺตํ, ภินฺนสณฺานงฺคปจฺจงฺควโต สรีรสฺส วา นานตฺตํ. โวหารวเสน อิตฺถิปุริสาทิภาเวน โวหริตพฺเพสุ ปตฺถนาวิเสสา อุปฺปชฺชนฺติ, ตโต กมฺมวิเสสา. เอวมิทํ กมฺมนานตฺตํ โวหารนานตฺตโต โหติ. อปา…เป… กาทิตาติ เอวมาทีสุ อาทิ-สทฺเทหิ คติยา อุปปตฺติยา อตฺตภาเว โลกธมฺเมสุ จ นานากรณานิ สุตฺตาคตานิ สงฺคณฺหาติ.
กมฺมนานตฺตาทิวเสนาติ เอตฺถ กุสลากุสลวเสน กมฺมนานตฺตํ เวทิตพฺพํ. วิสทิสสภาวตา หิ นานตฺตนฺติ. กุสลกมฺมสฺส ทานาทิวเสน กายสุจริตาทิภาเวน จ ปุถุตฺตํ, อกุสลกมฺมสฺส จ มจฺฉริยาทีหิ กายทุจฺจริตาทีหิ จ ปุถุตฺตํ เวทิตพฺพํ. พหุปฺปการตา หิ ปุถุตฺตนฺติ ¶ . อนฺนทานาทิวเสน ทานาทีนํ ปาณาติปาตาวิรติอาทิวเสน กายสุจริตาทีนํ อาวาสมจฺฉริยาทิวเสน มจฺฉริยาทีนํ ปาณาติปาตาทิวเสน กายทุจฺจริตาทีนฺจ ปเภโท เวทิตพฺโพ. เอเกกสฺส หิ ปการสฺส เภโท ปเภโทติ. นานตฺตาทีนํ ววตฺถานํ ตถา ตถา ววตฺถิตตา นิจฺฉิตตา. เอเตนุปาเยน ลิงฺคนานตฺตาทีนิ เวทิตพฺพานิ. กมฺมนานตฺตาทีหิ นิพฺพตฺตานิ หิ ตานีติ.
ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ลิงฺคสฺส กมฺมโต ปวตฺตึ ตทนุกฺกเมน ปจฺจุปฺปนฺนกมฺมสฺส นิปฺผตฺติฺจ ทสฺเสตฺวา ตโต อนาคตลิงฺคนานตฺตาทินิปฺผตฺติทสฺสเนน สํสารํ ฆเฏนฺโต ‘‘กมฺมนานากรณํ ปฏิจฺจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปุริเมน กมฺมวจเนน ¶ อวิชฺชาสงฺขารา, ลิงฺคาทิวจเนน วิฺาณาทีนิ ภวปริโยสานานิ, คติอาทิวจเนน ชาติชรามรณานิ คหิตานีติ ทฏฺพฺพานิ. ตตฺถ คตีติ นิรยาทโย ปฺจ คติโย วุจฺจนฺติ, ตาสํ นานากรณํ อปทาทิภาโว. ตา หิ ตถา ภินฺนาติ. อุปปตฺตีติ โคมหึสาทิขตฺติยาทิจาตุมหาราชิกาทิอุปปตฺติโย, ตาสํ นานากรณํ อุจฺจาทิตา. ขตฺติโย เอว หิ เอกจฺโจ กุลโภคอิสฺสริยาทีหิ อุจฺโจ โหติ, เอกจฺโจ นีโจ. เตหิ เอว หีนตาย หีโน, ปธานภาวํ นีตตาย ปณีโต, อฑฺฒตาย สุคโต, ทลิทฺทตาย ทุคฺคโต. กุลวเสน วา อุจฺจนีจตา, อิสฺสริยวเสน หีนปณีตตา, โภควเสน สุคตทุคฺคตตา โยเชตพฺพา. สุวณฺณทุพฺพณฺณตาติ โอทาตสามาทิวณฺณสุทฺธิอสุทฺธิวเสน วุตฺตํ. สุชาตทุชฺชาตตาติ นิคฺโรธปริมณฺฑลาทิอาโรหปริณาเหหิ ลกฺขเณหิ วา อตฺตภาวปริปุณฺณาปริปุณฺณชาตตาวเสน. สุสณฺิตทุสฺสณฺิตตาติ องฺคปจฺจงฺคานํ สณฺานวเสน.
อปรมฺปิ วุตฺตํ อชฺฌตฺติกจิตฺตสฺส ยถาวุตฺตสฺส จิตฺตกตภาวสาธกํ สุตฺตํ ‘‘กมฺมโต’’ติอาทิ. กมฺมฺหิ จิตฺตโต นิพฺพตฺตนฺติ ตโต นิปฺผชฺชมานํ สพฺพมฺปิ จิตฺตํ จิตฺตกตเมวาติ สาเธติ. กมฺมนิพฺพตฺตโต ลิงฺคโต ปวตฺตมานลิงฺคสฺา มูลการณโต กมฺมโต อาสนฺนการณโต ลิงฺคโต จ ปวตฺตา โหตีติ ‘‘กมฺมโต…เป… ปวตฺตเร’’ติ อาห. อถ วา ลิงฺคฺจ สฺา จ ลิงฺคสฺา, ตา ยถาสงฺขฺยํ กมฺมโต ลิงฺคโต จ ปวตฺตเรติ อตฺโถ. สฺาโต เภทํ คจฺฉนฺตีติ เต อิตฺถิปุริสาทิลิงฺคสฺาโต อิตฺถิปุริสาทิโวหารเภทํ ธมฺมา คจฺฉนฺติ, ตถา ตถา โวหริตพฺพาติ อตฺโถ. อิมาย คาถาย อตีตปจฺจุปฺปนฺนทฺธปฏิจฺจสมุปฺปาทวเสน จิตฺตกตํ จิตฺตํ ทสฺสิตํ.
โลโก ¶ เอว ปชาตตฺตา ปชาติ ปุริมปาทสฺส วิวรณํ ปจฺฉิมปาโท ทฏฺพฺโพ. ยถา รถสฺส อาณิ นิพนฺธนา, เอวํ สตฺตโลกรถสฺส กมฺมํ นิพนฺธนนฺติ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ. อิมาย จ คาถาย อทฺธทฺวยวเสน จิตฺตสฺส กมฺมวิฺาณกตตา ทสฺสิตา. กิตฺตินฺติ ปรมฺมุขา กิตฺตนํ ปตฺถฏยสตํ. ปสํสนฺติ สมฺมุขา ปสํสนํ ถุตึ. กมฺมนานากรณนฺติ กมฺมโต นิพฺพตฺตนานากรณํ กมฺมเชหิ อนุมิยมานํ กมฺมสฺเสว วา นานากรณํ.
กมฺมสฺสกาติ ¶ กมฺมสยา. กมฺมสฺส ทายํ เตน ทาตพฺพํ อาทิยนฺตีติ กมฺมทายาทา. อณฺฑชาทีนฺจ โยนีนํ กมฺมโต นิพฺพตฺตตฺตา กมฺมเมว โยนิ อตฺตภาวปฏิลาภนิมิตฺตํ เอเตสนฺติ กมฺมโยนี. พนฺธนฏฺเน กมฺมํ พนฺธุ เอเตสนฺติ กมฺมพนฺธู.
จิตฺตสฺสาติ กมฺมวิฺาณสฺส. ตสฺส ปน อลทฺโธกาสตา อฺเน กมฺเมน ปฏิพาหิตตฺตา ตทวิปจฺจโนกาเส ปุคฺคลสฺส นิพฺพตฺตตฺตา จ เวทิตพฺพา. วิชฺชมานมฺปิ อปราปริยเวทนียกมฺมวิฺาณํ กาลคติปโยคาทิสหการีปจฺจยวิกลตาย อวเสสปจฺจยเวกลฺลํ ทฏฺพฺพํ. เอกจฺจจิตฺตนฺติ จิตฺเตน กตฺตพฺพจิตฺเรน เอกจฺจภูตํ เตน กตฺตพฺพจิตฺรมาห.
อนุภวิตฺวา ภวิตฺวา จ อปคตํ ภูตาปคตํ. อนุภูตภูตตา หิ ภูตตาสามฺเน ภูตสทฺเทน วุตฺตา. สามฺเมว หิ อุปสคฺเคน วิเสสียตีติ. อนุภูตสทฺโท จ กมฺมวจนิจฺฉาภาวโต อนุภวกวาจโก ทฏฺพฺโพ. วิกปฺปคาหวเสน ราคาทีหิ ตพฺพิปกฺเขหิ จ อกุสลํ กุสลฺจ อารมฺมณรสํ อนุภวติ, น วิปาโก กมฺมเวคกฺขิตฺตตฺตา, นาปิ กิริยา อเหตุกานํ อติทุพฺพลตาย สเหตุกานฺจ ขีณกิเลสสฺส ฉฬงฺคุเปกฺขาวโต อุปฺปชฺชมานานํ อติสนฺตวุตฺติตฺตา. เอตฺถ จ ปุริมนเย กุสลากุสลเมว วตฺตุํ อธิปฺปายวเสน ‘‘ภูตาปคต’’นฺติ วุตฺตํ. ยํ ‘‘อุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๖๕๑-๖๖๒; วิภ. ๓๙๐-๓๙๑) เอตฺถ อุปฺปนฺนนฺติ คเหตฺวา ตํสทิสานํ ปหานํ, วุทฺธิ จ วุตฺตา, ปจฺฉิมนเย ปน จ-สทฺเทน กุสลากุสลฺจ อากฑฺฒิตฺวา สพฺพํ สงฺขตํ วุตฺตํ ภูตาปคตภาวาภิธานาธิปฺปาเยน.
วิปจฺจิตุํ โอกาสกรณวเสน อุปฺปติตํ อตีตกมฺมฺจ ตโต อุปฺปชฺชิตุํ อารทฺโธ อนาคโต วิปาโก จ ‘‘โอกาสกตุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺโต. ยํ อุปฺปนฺนสทฺเทน วินาปิ วิฺายมานํ อุปฺปนฺนํ ¶ , ตํ สนฺธาย ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกาน’’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๑๐.๒๑๗, ๒๑๙) วุตฺตํ. ตาสุ ตาสุ ภูมีสูติ มนุสฺสเทวาทิอตฺตภาวสงฺขาเตสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ. ตสฺมึ ตสฺมึ สนฺตาเน อนุปฺปตฺติอนาปาทิตตาย อสมูหตํ. เอตฺถ จ ลทฺธภูมิกํ ‘‘ภูมิลทฺธ’’นฺติ วุตฺตํ อคฺคิอาหิโต วิย. โอกาสกตุปฺปนฺนสทฺเทปิ จ โอกาโส กโต เอเตนาติ, โอกาโส กโต เอตสฺสาติ จ ทุวิธตฺเถปิ เอวเมว กตสทฺทสฺส ปรนิปาโต เวทิตพฺโพ.
สพฺพทา ¶ อวตฺตมานมฺปิ คมิยจิตฺตํ ปฏิปกฺขปจฺจเวกฺขณาย อวิกฺขมฺภิตตฺตา ‘‘อุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตํ. อนฺตรธาเปตีติ วิกฺขมฺภิกา อานาปานสฺสติ วิกฺขมฺเภติ. อนฺตราเยวาติ ภูมิลทฺเธ สภูมิยํ อพฺโพจฺฉินฺเน วิจฺฉินฺทิตฺวาติ อตฺโถ. อนตีตํ อนนาคตฺจ ขณตฺตเยกเทสคตมฺปิ อุปฺปชฺชมานํ ‘‘ขณตฺตยคต’’นฺติ วุตฺตํ. เทสนาย ปธาเนน คหิโต อตฺโถ ‘‘สีส’’นฺติ วุจฺจติ. โลกิยธมฺมฺหิ เทเสตพฺพํ ปตฺวา เทสนาย จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ โหติ, ธมฺมสภาวํ วา สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อกุสลาติ สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมา วุตฺตา. เจตนาติ เกจิ. อกุสลภาคิยาติ ราคาทโย เอกนฺตอกุสลา. อกุสลปกฺขิกาติ ผสฺสาทโยปิ ตปฺปกฺขิกา. มโน เตสํ ธมฺมานํ ปมํ อุปฺปชฺชตีติ สหชาโตปิ มโน สมฺปยุตฺเต สงฺคณฺหิตฺวา อธิปติภาเวน ปวตฺตมาโน ปมํ อุปฺปนฺโน วิย โหตีติ เอวํ วุตฺโต. สมฺปยุตฺตาปิ ตทนุวตฺตนตาย อนฺวเทว อกุสลา ธมฺมาติ วุตฺตา, อนนฺตรปจฺจยมนํ วา สนฺธาย มโนปุพฺพงฺคมตา วุตฺตา. จิตฺเตน นียตีติ อภิสงฺขารวิฺาณํ สนฺธายาห, ตณฺหาสมฺปยุตฺตํ วา. ปภสฺสรนฺติ สภาวปณฺฑรตํ สนฺธายาห. อรกฺขิเตติ สติยา อนุนยปฏิฆาทีหิ อรกฺขิเต, ราคาทีหิ พฺยาปนฺเน, เตหิ เอว อวสฺสุเต. จิตฺตสฺส ปุพฺพงฺคมภาวสาธเน อฺมฺํ พลทานวเสน สุตฺตานุรกฺขณํ, อิธ วา อุปสํหตานํ อาภิธมฺมิเกหิ วิฺาตานํ จิรกาลปฺปวตฺติวเสน เวทิตพฺพํ.
กตรปฺํ ตฺวนฺติอาทิ น ปาฬิอารุฬฺหํ, เอวํ ภควา ปุจฺฉตีติ อฏฺกถายเมว วุตฺตํ. ปฺา ปน กิมตฺถิยาติ อิทมฺปิ เอกํ สุตฺตํ. ‘‘อภิฺตฺถา ปริฺตฺถา ปหานตฺถา’’ติ ตสฺส วิสฺสชฺชนํ.
สาตนฺติ สภาววเสน วุตฺตํ, มธุรนฺติ มธุรํ วิยาติ อุปมาวเสน. โปโนพฺภวิกาติ ปุนพฺภวกรณสีลา. ตตฺรตตฺราภินนฺทนโต นนฺที, นนฺทิภูโต ราโค นนฺทิราโค, นนฺทิราคภาเวน สหคตาติ ¶ นนฺทิราคสหคตาติ น เอตฺถ สมฺปโยควเสน สหคตภาโว อตฺถีติ สหคตสทฺโท ตณฺหาย นนฺทิราคภาวํ โชเตติ. นนฺทิราคภูตาติ จสฺส อตฺโถ. นิสฺสเยติ ปาทเก. รูปารูปารมฺมณานนฺติ ปถวีกสิณาทิอากาสาทิอารมฺมณานํ. สํสฏฺเติ ขีโรทกํ วิย สโมทิเต เอกีภาวมิว คเต. สหชาเตติ สมฺปยุตฺตสหชาเต, น สหชาตมตฺเต. อิธาปีติ ‘‘อิมสฺมิมฺปิ ปเท อยเมว อตฺโถ อธิปฺเปโต’’ติ อิมิสฺสา อฏฺกถาย ยถาทสฺสิตสํสฏฺสทฺโท ¶ สหชาเต อธิปฺเปโตติ. อรูปํ รูเปนาติ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุนา. อุกฺกฏฺนิทฺเทโสติ อนวเสสสงฺคเหน กโต อติสยนิทฺเทโส.
อนาภฏฺตาเยวาติ ‘‘ทิฏฺํ สุต’’นฺติอาทีสุ ทิฏฺตาทโย วิย อภาสิตพฺพตา อนาภฏฺตา. สพฺพากาเรน สทิสสฺส ทุติยจิตฺตสฺส สสงฺขาริกตาวจเนน อิมสฺส อสงฺขาริกตา วิฺายติ, ตสฺมา อภาสิตพฺพตาย น คหิโตติ อตฺโถ ยุชฺชติ. อธิปฺปาโย ปน ปาฬิยํ อภาสิตตฺตา เอว ตตฺถ เทเสตพฺพภาเวน น คหิโต น สงฺคหิโต น ตสฺสตฺถสฺส อภาวาติ. อถ วา ปาฬิยํ อนาภฏฺตาย เอว อฏฺกถายํ น คหิโต น ตสฺสตฺโถ วุตฺโต. นิยเมตฺวาวาติ ปรโต เอวํวิธสฺเสว สสงฺขาริกภาววจนโต อิธ ตทวจเนเนว อสงฺขาริกภาวํ นิยเมตฺวา.
มโนวิฺาณนฺติ เอตฺถ ทฺวารํ วตฺถูติ วุตฺตํ, ทฺวาเรน วา ตํสหายภูตํ หทยวตฺถุ วุตฺตํ. สรสภาเวนาติ สกิจฺจภาเวน. อวิชฺชา หิ สงฺขารานํ ปจฺจยภาวกิจฺจา, อฺาสาธารโณ วา รสิตพฺโพ วิฺาตพฺโพ ภาโว สรสภาโว, อวิชฺชาสภาโว สงฺขารสภาโวติ เอวมาทิโก. ‘‘สรสสภาเวนา’’ติปิ ปาโ, โสเยว อตฺโถ. อวิชฺชาปจฺจยาติ วา สรเสน, สงฺขาราติ สภาเวน.
เอกสมุฏฺานาทิตา รูปธมฺเมสุ เอว โยเชตพฺพา เตสุ ตพฺโพหารพาหุลฺลโต. อตีตาทิภาโว รูปารูปธมฺเมสุ, จิตฺตเจตสิกนิพฺพานานมฺปิ วา ยถาสภาวํ เอกทฺวินกุโตจิสมุฏฺานตา โยเชตพฺพา. อนาปาถคตาติ จกฺขาทีนํ อโคจรคตา สุขุมรชาทิรูปํ วิย วตฺถุปริตฺตตาย ตตฺตาโยคุเฬ ปติโตทกพินฺทุรูปํ วิย ขณปริตฺตตาย อติทูรตาย อจฺจาสนฺนาทิตาย อตีตานาคตตาย จ. วิสโย อนฺตฺถภาเวน, โคจโร จ ตตฺถ จรเณน วุตฺโต, ตพฺพิสยนิจฺฉเยน มโน ปฏิสรณํ. อยมตฺโถ สิทฺโธ โหติ อฺถา เตสํ ธมฺมารมฺมณภาเวน ‘‘เนสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตี’’ติ วจนสฺส อนุปปตฺติโต. ทิพฺพจกฺขุทิพฺพโสตอิทฺธิวิธาเณหิ ¶ ยถาวุตฺตนเยน อนาปาถคตานิ รูปาทีนิ อาลมฺพิยมานานิ น ธมฺมารมฺมณนฺติ กตฺถจิ วุจฺจมานานิ ทิฏฺานิ, อิตรถา จ ทิฏฺานิ ‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา รูปํ ปสฺสตี’’ติอาทีสูติ.
อาปาถมาคจฺฉติ ¶ มนสา ปฺจวิฺาเณหิ จ คเหตพฺพภาวูปคมเนน. ฆฏฺเฏตฺวาติ ปฏิมุขภาวาปาถํ คนฺตฺวา. สรภาณกสฺส โอสารกสฺส. ปกติยา ทิฏฺาทิวเสน อาปาถคมนฺจ โภชนปริณามอุตุโภชนวิเสสอุสฺสาหาทีหิ กลฺยํ, โรคิโน วาตาทีหิ จ อุปทฺทุตํ วา กายํ อนุวตฺตนฺตสฺส ชาครสฺส ภวงฺคสฺส จลนปจฺจยานํ กายิกสุขทุกฺขอุตุโภชนาทิอุปนิสฺสยานํ จิตฺตปณิทหนสทิสาสทิสสมฺพนฺธทสฺสนาทิปจฺจยานํ, สุตฺตสฺส จ สุปินทสฺสเน ธาตุกฺโขภาทิปจฺจยานํ วเสน เวทิตพฺพํ. อทิฏฺสฺส อสุตสฺส อนาคตพุทฺธรูปาทิโน ปสาททาตุกามตาวตฺถุสฺส ตํสทิสตาสงฺขาเตน ทิฏฺสุตสมฺพนฺเธเนว. น เกวลํ ตํสทิสตาว อุภยสมฺพนฺโธ, กินฺตุ ตพฺพิปกฺขตา ตเทกเทสตา ตํสมฺปยุตฺตตาทิโก จ เวทิตพฺโพ. เกนจิ วุตฺเต กิสฺมิฺจิ สุเต อวิจาเรตฺวา สทฺทหนํ สทฺธา, สยเมว ตํ วิจาเรตฺวา โรจนํ รุจิ, ‘‘เอวํ วา เอวํ วา ภวิสฺสตี’’ติ อาการวิจารณํ อาการปริวิตกฺโก, วิจาเรนฺตสฺส กตฺถจิ ทิฏฺิยา นิชฺฌานกฺขมนํ ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติ.
เครุกหริตาลฺชนาทิธาตูสุ. สุภนิมิตฺตํ สุภคฺคหณสฺส นิมิตฺตํ. ตํ สุภนิมิตฺตตฺตา รฺชนียตฺตา จ โลภสฺส วตฺถุ. นิยมิตสฺส จิตฺตสฺส วเสน นิยมิตวเสน. เอวมิตเรสุ ทฺวีสุ. อาโภโค อาภุชิตํ. ลูขปุคฺคลา โทสพหุลา. อโทสพหุลา สินิทฺธปุคฺคลา. ตทธิมุตฺตตาติ ปีตินินฺนจิตฺตตา. อิเมหิ…เป… เวทิตพฺโพ ปีติยา โสมนสฺสวิปฺปโยคาสมฺภวโตติ อธิปฺปาโย.
ชีวิตวุตฺติยา อายตนภาวโต หตฺถาโรหาทิสิปฺปเมว สิปฺปายตนํ. กสิวาณิชฺชาทิกมฺมเมว กมฺมายตนํ. อายุเวทาทิวิชฺชา เอว วิชฺชาฏฺานํ. อพฺยาปชฺเชติ โทมนสฺสพฺยาปาทรหิเต รูปภเว. ธมฺมปทาติ ธมฺมโกฏฺาสา. ปิลวนฺตีติ อุปฏฺหนฺติ ปทิสฺสนฺติ. โยคาติ ภาวนาภิโยคา สมาธิโต. วตฺถุวิสทกิริยาติ อชฺฌตฺติกพาหิรานํ วตฺถูนํ นิมฺมลภาวกิริยา. สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ อฺมฺานติวตฺตนํ อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา ¶ . คมฺภีรานํ าเณน จริตพฺพานํ, คมฺภีราเณน วา จริตพฺพานํ สุตฺตนฺตานํ ปจฺจเวกฺขณา คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา.
วํโสติ อนุกฺกโม. ตนฺตีติ สนฺตติ. ปเวณีติ สมฺพนฺโธ. สพฺพเมตํ จาริตฺตกิริยาปพนฺธสฺส วจนํ. จาริตฺตสีลตฺตา สีลมยํ. ‘‘ทสฺสามี’’ติ วจีเภเทน วตฺถุสฺส ปริณตตฺตา ตโต ปฏฺาย ทานํ อารทฺธํ นาม โหติ ¶ , ยโต ตสฺส อตฺตโน ปริณามนาทีสุ อาปตฺติ โหติ. วิชฺชมานวตฺถุสฺมึ จินฺตนกาลโต ปฏฺาย ทานํ อารทฺธนฺติ ตตฺถ ทานมยํ กุสลํ โหตีติ อธิปฺปาโย. น หิ ทานวตฺถุํ อวิชฺชมานกมฺปิ สงฺขโรนฺตสฺส กุสลํ น โหตีติ. ตํ ปน ทานมยสฺส ปุพฺพภาโคติ ตเทว ภเชยฺย, วุตฺตํ อฏฺกถายํ. กุลวํสาทิวเสนาติ อุทาหรณมตฺตเมเวตํ. อตฺตนา สมาทินฺนวตฺตวเสน สปฺปุริสวตฺตคามชนปทวตฺตาทิวเสน จ จาริตฺตสีลตา เวทิตพฺพา.
สวตฺถุกนฺติ เภริอาทิวตฺถุสหิตํ กตฺวา. วิชฺชมานกวตฺถุนฺติ เภริอาทิวตฺถุํ. ธมฺมสฺสวนโฆสนาทีสุ จ สวตฺถุกํ กตฺวา สทฺทสฺส ทานํ สทฺทวตฺถูนํ านกรณานํ สสทฺทปฺปวตฺติกรณเมวาติ ตสฺส จินฺตนํ วิชฺชมานวตฺถุปริจฺจาโค เวทิตพฺโพ. ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา อิธ จ รูปารมฺมณาทิภาวํ, อฺตฺถ จ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปฺุกิริยวตฺถูนี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๕) ทานมยาทิภาวํ, อปรตฺถ จ ‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา? ตีณิ…เป… ตํสมุฏฺานํ กายกมฺม’’นฺติอาทินา กายกมฺมาทิภาวฺจ วทนฺโต. อปริยาปนฺนา จาติ ปรมตฺถโต อวิชฺชมานตฺตา อฺายตนตฺตา จ อสงฺคหิตา.
ปริโภครโส ปริโภคปจฺจยํ ปีติโสมนสฺสํ. อยํ ปน รสสมานตาวเสน คหณํ อุปาทาย รสารมฺมณนฺติ วุตฺโต, น สภาวโต. สภาเวน ปน คหณํ อุปาทาย ปีติโสมนสฺสํ ธมฺมารมฺมณเมว โหตีติ ‘‘สุขา เวทนา ธมฺมารมฺมณ’’นฺติ วุตฺตํ. อารมฺมณเมว นิพทฺธนฺติ รูปารมฺมณํ…เป… ธมฺมารมฺมณนฺติ เอวํ นิยเมตฺวา วุตฺตํ. กมฺมสฺส อนิพทฺธตฺตาติ กมฺมสฺส อนิยตตฺตา. ยถา หิ รูปาทีสุ เอการมฺมณํ จิตฺตํ อนฺารมฺมณํ โหติ, น เอวํ กายทฺวาราทีสุ เอกทฺวาริกกมฺมํ อฺสฺมึ ทฺวาเร นุปฺปชฺชติ, ตสฺมา กมฺมสฺส ทฺวารนิยมรหิตตฺตา ทฺวารมฺปิ กมฺมนิยมรหิตนฺติ อิธ อารมฺมณํ วิย นิยเมตฺวา น วุตฺตํ. วินา อารมฺมเณน อนุปฺปชฺชนโตติ เอตสฺสปิ จตฺโถ ‘‘ยถา กายกมฺมาทีสุ เอกํ กมฺมํ เตน ทฺวาเรน วินา อฺสฺมึ ¶ ทฺวาเร จรติ, น เอวํ รูปาทีสุ เอการมฺมณํ จิตฺตํ เตนารมฺมเณน วินา อารมฺมณนฺตเร อุปฺปชฺชตี’’ติ เวทิตพฺโพ. น หิ ยถา วจีทฺวาเร อุปฺปชฺชมานมฺปิ ‘‘กายกมฺม’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ สทฺทารมฺมเณ อุปฺปชฺชมานํ ‘‘รูปารมฺมณ’’นฺติ วุจฺจติ.
กามาวจรกุสลํ
กายกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา
อิมสฺส ¶ ปนตฺถสฺสาติ กมฺมทฺวารานํ อฺมฺสฺมึ อนิยตตาย ‘‘ทฺวาเร จรนฺติ กมฺมานี’’ติอาทินา ปกาสนตฺถํ. ปฺจ วิฺาณานีติ เอตฺถ ฉฏฺสฺส วิฺาณสฺส ตสฺส จ ทฺวารสฺส อนุทฺเทโส ทฺวารทฺวารวนฺตานํ สหาภาวา. นิยตรูปรูปวเสน จตุสมุฏฺานิกกายา วุตฺตาติ สทฺทสฺส วิการรูปาทีนฺจ อสงฺคโห.
ปมชวนสมุฏฺิตา วาโยธาตุ ยทิปิ ตสฺมึ ขเณ รูปานํ เทสนฺตรุปฺปตฺติเหตุภาเวน จาเลตุํ น สกฺโกติ, ตถาปิ วิฺตฺติวิการสหิตาว สา เวทิตพฺพา. ทสสุ หิ ทิสาสุ ยํ ทิสํ คนฺตุกาโม องฺคปจฺจงฺคานิ วา ขิปิตุกาโม, ตํทิสาภิมุขาเนว รูปานิ สา สนฺถมฺเภติ สนฺธาเรติ จาติ ตทภิมุขภาววิการวตี โหติ, อธิปฺปายสหภาวี จ วิกาโร วิฺตฺตีติ. เอวฺจ กตฺวา อาวชฺชนสฺสปิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกภาโว ยถาธิปฺปายวิการรูปุปฺปาทเนน อุปปนฺโน โหติ, ยโต พาตฺตึส จิตฺตานิ รูปิริยาปถวิฺตฺติชนกานิ วุตฺตานีติ. โยชนํ คโต, ทสโยชนํ คโตติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชาเปติ อเนกสหสฺสวารํ อุปฺปนฺนา.
วาโยธาตุยา…เป… ปจฺจโย ภวิตุนฺติ ถมฺภนจลเนสุ วาโยธาตุยา ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺโถ จิตฺตสมุฏฺานมหาภูตานํ เอโก อาการวิเสโส อตฺถิ, อยํ วิฺตฺติ นาม. เตสฺหิ ตทาการตฺตา วาโยธาตุ ถมฺเภติ จาเลติ จาติ. น จิตฺตสมุฏฺานาติ เอเตน ปรมตฺถโต อภาวํ ทสฺเสติ. น หิ รูปํ อปฺปจฺจยํ อตฺถิ, น จ นิพฺพานวชฺโช อตฺโถ นิจฺโจ อตฺถีติ. วิฺตฺติตายาติ วิฺตฺติวิการตาย. จิตฺตสมุฏฺานภาโว วิย มหาภูตวิการตาย อุปาทารูปภาโว จ อธิปฺเปโตติ เวทิตพฺโพ.
กายิกกรณนฺติ ¶ กายทฺวารปฺปวตฺตํ จิตฺตกิริยํ, อธิปฺปายนฺติ อตฺโถ. กาเรติ มฺเติ เอเตน วณฺณคฺคหณานุสาเรน คหิตาย วิฺตฺติยา ยํ กรณํ วิฺาตพฺพํ, ตสฺส วิชานเนน วิฺตฺติยา วิฺาตตฺตํ ทสฺเสติ. น หิ วิฺตฺติรหิเตสุ รุกฺขจลนาทีสุ ‘‘อิทเมส กาเรตี’’ติ วิชานนํ โหตีติ. จกฺขุวิฺาณสฺส หิ รูเป อภินิปาตมตฺตํ กิจฺจํ, น อธิปฺปายสหภุโน จลนวิการสฺส คหณํ. จิตฺตสฺส ปน ลหุปริวตฺติตาย จกฺขุวิฺาณวีถิยา ¶ อนนฺตรํ มโนวิฺาเณน วิฺาตมฺปิ จลนํ จกฺขุนา ทิฏฺํ วิย มฺนฺติ อวิเสสวิทุโน, ตสฺมา ยถา นีลาภินิปาตวสปฺปวตฺตาย จกฺขุวิฺาณวีถิยา นีลนฺติ ปวตฺตาย มโนวิฺาณวีถิยา จ อนฺตรํ น วิฺายติ, เอวํ อวิฺายมานนฺตเรน มโนทฺวารวิฺาเณน คหิเต ตสฺมึ จิตฺเตน สเหว อนุปริวตฺเต กายถมฺภนวิการโจปนสงฺขาเต ‘‘อิทเมส กาเรติ, อยมสฺส อธิปฺปาโย’’ติ วิชานนํ โหติ.
ตาลปณฺณาทิรูปานิ ทิสฺวา ตทนนฺตรปฺปวตฺตาย มโนทฺวารวีถิยา อวิฺายมานนฺตราย ตาลปณฺณาทีนํ อุทกาทิสหจาริปฺปการตํ สฺาณาการํ คเหตฺวา อุทกาทิคฺคหณํ วิย. เอตฺถ อุทกํ ภวิสฺสตีติอาทินา จ อุทกาทิสมฺพนฺธนากาเรน รูปคฺคหณานุสารวิฺาเณน ยํ อุทกาทิ วิฺาตพฺพํ, ตสฺส วิชานเนน ตทาการสฺส วิฺาตตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา. เอตสฺส ปน กายิกกรณคฺคหณสฺส อุทกาทิคฺคหณสฺส จ ปุริมสิทฺธสมฺพนฺธคฺคหณํ อุปนิสฺสโย โหตีติ ทฏฺพฺพํ. อถ ปน นาลมฺพิตาปิ วิฺตฺติ กายิกกรณคฺคหณสฺส จ ปจฺจโย ปุริมสิทฺธสมฺพนฺธคฺคหโณปนิสฺสยวเสน สาธิปฺปายวิการภูตวณฺณคฺคหณานนฺตรํ ปวตฺตมานสฺส อธิปฺปายคฺคหณสฺส อธิปฺปายสหภูวิการาภาเว อภาวโต, เอวํ สติ วณฺณคฺคหณานนฺตเรน อุทกาทิคฺคหเณเนว ตาลปณฺณาทิสฺาณากาโร วิย วณฺณคฺคหณานนฺตเรน อธิปฺปายคฺคหเณเนว วิฺตฺติ ปากฏา โหตีติ ‘‘อิทฺจิทฺจ เอส กาเรติ มฺเ’’ติ อธิปฺปายวิชานเนเนว วิฺตฺติยา วิฺาตตา วุตฺตา.
อยํ โน ปหริตุกาโมติ อธิปฺปายวิชานเนน วิฺตฺติยา ปากฏภาวํ ทสฺเสติ. น หิ ตทปากฏภาเว อธิปฺปายวิชานนํ โหตีติ. สมฺมุขี…เป… เยว นาม โหตีติ อสมฺมุขีภูตตาย อนาปาถคตานํ รูปาทีนํ จกฺขุวิฺเยฺยาทิภาโว วิย สภาวภูตํ ตํ ทฺวิธา วิฺตฺติภาวํ สาเธติ. ปรํ โพเธตุกามตาย วินาปิ อภิกฺกมนาทิปฺปวตฺตเนน โส จิตฺตสหภูวิกาโร ¶ อธิปฺปายํ วิฺาเปติ, สยฺจ วิฺายตีติ ทฺวิธาปิ วิฺตฺติเยวาติ เวทิตพฺพา.
ตสฺมึ ทฺวาเร สิทฺธาติ เตน ทฺวาเรน วิฺาตพฺพภาวโต เตเนว ทฺวาเรน นามลาภโต ตสฺมึ ทฺวาเร ปากฏภาววเสน สิทฺธา. กุสลํ วา อกุสลํ วาติ เปตพฺพํ. กสฺมา? ยสฺมา ปรวาทิโน อวิปากสฺส กมฺมภาโว ¶ น สิทฺโธ, อิตรสฺส ปน สิทฺโธติ วิฺตฺติสมุฏฺาปกานํ เอกาทสนฺนํ กิริยจิตฺตานํ วเสน ติกํ ปูเรตฺวา เปตพฺพํ.
ทฺวาเร จรนฺติ กมฺมานีติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ยทิ ทฺวารา ทฺวารนฺตรจาริโน โหนฺติ, ทฺวารสมฺเภทา กมฺมสมฺเภโทปีติ กายกมฺมํ กายกมฺมทฺวารนฺติ อฺมฺววตฺถานํ น สิยา, กมฺมานมฺปิ กมฺมนฺตรจรเณ เอเสว นโย. ยทิ ปน ทฺวารานมฺปิ ทฺวารภาเวน กมฺมนฺตรจรณํ กมฺมานฺจ ทฺวารนฺตรจรณํ น สิยา, สุฏฺุตรํ กมฺมทฺวารววตฺถานํ สิยา. น ปน กมฺมานํ ทฺวารนฺตเร อจรณํ อตฺถิ, กินฺตุ ทฺวาเร อฺสฺมิฺจ จรนฺติ กมฺมานิ อฺานิปิ. ยสฺมา ปน ทฺวาเร ทฺวารานิ น จรนฺติ, ตสฺมา อทฺวารจารีหิ ทฺวาเรหิ การณภูเตหิ กมฺมานิ ทฺวารนฺตเร จรนฺตานิปิ ววตฺถิตานิ. น เกวลํ กมฺมาเนว, เตหิ ปน ทฺวารานิปีติ เอวํ กมฺมทฺวารานิ อฺมฺํ ววตฺถิตานิ ‘‘เยภุยฺเยนวุตฺติตาย ตพฺพหุลวุตฺติตาย จา’’ติ วุจฺจมานาย ววตฺถานยุตฺติยา. ตตฺถ ทฺวาราเปกฺขตฺตา กมฺมานํ กายกมฺมาทิภาวสฺส อทฺวารจารีหิ ทฺวาเรหิ ววตฺถานํ โหติ, น ปน ทฺวารนฺตรจารีหิ กมฺเมหิ ทฺวารานํ อววตฺถานํ กมฺมานเปกฺขกายทฺวาราทิภาเวหิ ทฺวาเรหิ ววตฺถิตานํ กายกมฺมาทีนํ กายกมฺมทฺวาราทิววตฺถานกรตฺตา. อถ วา ทฺวารนฺตเร จรนฺตานิปิ กายาทีหิ อุปลกฺขิตาเนว จรนฺติ ปาณาติปาตาทีนํ เอวํสภาวตฺตา อาณตฺติหตฺถวิการาทีหิ วุจฺจมานสฺสปิ กายาทีหิ สาเธตพฺพสภาวาวโพธโต, ตสฺมา น กมฺมนฺตรสฺส อตฺตนิ จรนฺตสฺสปิ ทฺวารนฺตรํ สนามํ เทติ, นาปิ กมฺมํ ทฺวารสฺส, ตํตํทฺวารเมว ปน กมฺมสฺส กมฺมฺจ ทฺวารนฺตเร จรนฺตมฺปิ อตฺตโนเยว ทฺวารสฺส นามํ เทตีติ สิทฺธํ อฺมฺววตฺถานํ. ปุพฺเพ ปน ทฺวาเรสุ อนิพทฺธตา กมฺมานํ ทฺวารนฺตรจรณเมว สนฺธาย วุตฺตา, น เอตํ ววตฺถานนฺติ.
ตตฺถาติ เตสุ ทฺวารกมฺเมสุ. กายกมฺมสฺส อุปฺปชฺชนฏฺานนฺติ ตํสหชาตา วิฺตฺติเยว วุจฺจติ. กิฺจาปิ หิ สา ตสฺส เกนจิ ปกาเรน ปจฺจโย น โหติ, ตถาปิ กมฺมสฺส วิเสสิกา ¶ วิฺตฺติ ตํสหชาตา โหตีติ ตสฺส อุปฺปตฺติฏฺานภาเวน วุตฺตา ยถาวุตฺตนิยเมน อฺวิเสสนสฺส กมฺมสฺส วิเสสนนฺตเร อุปฺปตฺติอภาวา. กาเยน ปน กตตฺตาติ กายวิฺตฺตึ ชเนตฺวา ตาย ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทาทินิปฺผาทนโต อตฺตโน นิปฺผตฺติวเสน ‘‘กาเยน กตํ กมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. การณภูโต หิ ปเนตฺถ กาโยติ.
อฺมฺํ ¶ ววตฺถิตาติ เอตฺถ กมฺมุนา กาโย กายกมฺมทฺวารนฺติ เอวํ ววตฺถิโต, น กาโย อิจฺเจว. ยถา สูจิกมฺมุนา สูจิกมฺมกรณนฺติ ววตฺถิตา, น สูจิ อิจฺเจว, ตถา อิทมฺปิ ทฏฺพฺพํ. อฺมฺํ ววตฺถิตาติ จ อฺมฺํ วิเสสิตาติ อตฺโถ. เอวํ สนฺเตติ ยถาวุตฺตํ ววตฺถานนิยมํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ทฺวาเร จรนฺติ กมฺมานี’’ติอาทิวจนเมว คเหตฺวา โจเทติ. ตตฺถ เอวํ สนฺเตติ กมฺมานํ ทฺวารจรเณ อฺมฺเน จ ววตฺถาเน นามลาเภ วิเสสเน สตีติ อตฺโถ.
กายกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
วจีกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา
จตูหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตาติ เอตฺถ สุภาสิตภาสนสงฺขาตา อปิสุณวาจา, ธมฺมภาสนสงฺขาโต อสมฺผปฺปลาโป, ปิยภาสนสงฺขาตา อผรุสวาจา, สจฺจภาสนสงฺขาโต อมุสาวาโท จาติ เอตา วาจา ตถาปวตฺตา เจตนา ทฏฺพฺพา. สหสทฺทา ปนาติ ตสฺส วิการสฺส สทฺเทน สห สมฺภูตตฺตา วุตฺตํ. จิตฺตานุปริวตฺติตาย ปน โส น ยาว สทฺทภาวีติ ทฏฺพฺโพ, วิตกฺกวิปฺผารสทฺโท น โสตวิฺเยฺโยติ ปวตฺเตน มหาอฏฺกถาวาเทน จิตฺตสมุฏฺานสทฺโท วินาปิ วิฺตฺติฆฏฺฏเนน อุปฺปชฺชตีติ อาปชฺชติ. ‘‘ยา ตาย วาจาย วิฺตฺตี’’ติ (ธ. ส. ๖๓๖) หิ วจนโต อโสตวิฺเยฺยสทฺเทน สห วิฺตฺติยา อุปฺปตฺติ นตฺถีติ วิฺายตีติ.
จิตฺตสมุฏฺานํ สทฺทายตนนฺติ เอตฺถ จ น โกจิ จิตฺตสมุฏฺาโน สทฺโท อสงฺคหิโต นาม อตฺถีติ อธิปฺปาเยน มหาอฏฺกถาวาทํ ปฏิเสเธติ. ฉพฺพิเธน รูปสงฺคหาทีสุ หิ ‘‘โสตวิฺเยฺย’’นฺติ ‘‘ทิฏฺํ สุต’’นฺติ เอตฺถ ‘‘สุต’’นฺติ จ น โกจิ สทฺโท น สงฺคยฺหตีติ. มหาอฏฺกถายํ ¶ ปน วิฺตฺติสหชเมว ชิวฺหาตาลุจลนาทิกรวิตกฺกสมุฏฺิตํ สุขุมสทฺทํ ‘‘ทิพฺพโสเตน สุตฺวา อาทิสตี’’ติ สุตฺเต ปฏฺาเน จ โอฬาริกสทฺทํ สนฺธาย ‘‘โสตวิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตนฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน อโสตวิฺเยฺยตา วุตฺตา สิยา. สทฺโท ¶ จ อโสตวิฺเยฺโย จาติ วิรุทฺธเมตนฺติ ปน ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. วิฺตฺติปจฺจยา ฆฏฺฏนา วิฺตฺติฆฏฺฏนา. วิฺตฺติ เอว วา. ฆฏฺฏนาการปฺปวตฺตภูตวิกาโร หิ ‘‘ฆฏฺฏนา’’ติ วุตฺโต. สงฺฆฏฺฏเนน สเหว สทฺโท อุปฺปชฺชติ, น ปุพฺพาปรภาเวน. ปถวีธาตุยาติ อิทํ วาโยธาตุยา วิย จาลนํ ปถวีธาตุยา สงฺฆฏฺฏนํ กิจฺจํ อธิกนฺติ กตฺวา วุตฺตํ, วิการสฺส จ ตปฺปจฺจยภาโว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตพฺพิการานฺหิ ภูตานํ อฺมฺสฺส ปจฺจยภาโวติ. อฺมฺปิ สพฺพํ วิธานํ กายวิฺตฺติยํ วิย เวทิตพฺพํ.
ติสมุฏฺานิกกายํ…เป… น ลพฺภติ. น หิ จาลนํ อุปาทินฺนฆฏฺฏนนฺติ. จาลนฺหิ เทสนฺตรุปฺปาทนปรมฺปรตา, ฆฏฺฏนํ ปจฺจยวิเสเสน ภูตกลาปานํ อาสนฺนตรุปฺปาโทติ. อุปตฺถมฺภนกิจฺจมฺปิ นตฺถีติ อุปตฺถมฺภเนน วินา ปมจิตฺตสมุฏฺานาปิ ฆฏฺฏนากาเรน ปวตฺตตีติ ฆฏฺฏนตฺถํ อุปตฺถมฺภเนน ปโยชนํ นตฺถิ, ลทฺธาเสวเนน จิตฺเตเนว ฆฏฺฏนสฺส พลวภาวโต จาติ อธิปฺปาโย. อุปตฺถมฺภนํ นตฺถิ อตฺถีติ วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ.
วจีกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
มโนกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา
อยํ นาม เจตนา กมฺมํ น โหตีติ น วตฺตพฺพาติ อิทํ ยสฺส ทฺวารํ มโน, ตํทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. กปฺเปตีติ ‘‘ตฺวํ ผุสนํ กโรหิ, ตฺวํ เวทยิต’’นฺติ เอวํ กปฺเปนฺตํ วิย ปวตฺตตีติ อตฺโถ. ปกปฺปนฺจ ตเทว. กึ ปิณฺฑํ กโรตีติ อายูหนตฺถวเสน ปุจฺฉติ. ผสฺสาทิธมฺเม หิ อวิปฺปกิณฺเณ กตฺวา สกิจฺเจสุ ปวตฺตนํ อายูหนํ, ตตฺเถว พฺยาปารณํ เจตยนํ, ตถากรณํ อภิสงฺขรณนฺติ. เตภูมกสฺเสว คหณํ โลกุตฺตรกมฺมสฺส กมฺมกฺขยกรตฺตา.
มโนกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กมฺมกถาวณฺณนา
เจตยิตฺวา ¶ ¶ กมฺมํ กโรตีติ เอตฺถ ยสฺมา ปุริมเจตนาย เจตยิตฺวา สนฺนิฏฺานกมฺมํ กโรติ, ตสฺมา เจตนาปุพฺพกํ กมฺมํ ตํเจตนาสภาวเมวาติ เจตนํ อหํ กมฺมํ วทามีติ อตฺโถ. อถ วา สมานกาลตฺเตปิ การณกิริยา ปุพฺพกาลา วิย วตฺตุํ ยุตฺตา, ผลกิริยา จ อปรกาลา วิย. ยสฺมา จ เจตนาย เจตยิตฺวา กายวาจาหิ โจปนกิริยํ มนสา จ อภิชฺฌาทิกิริยํ กโรติ, ตสฺมา ตสฺสา กิริยาย การิกํ เจตนํ อหํ กมฺมํ วทามีติ อตฺโถ. กาเย วาติ กายวิฺตฺติสงฺขาเต กาเย วา. สตีติ ธรมาเน, อนิโรธิเต วา. กายสมุฏฺาปิกา เจตนา กายสฺเจตนา. เอตฺถ จ สุขทุกฺขุปฺปาทเกน กมฺเมน ภวิตพฺพํ, เจตนา จ สุขทุกฺขุปฺปาทิกา วุตฺตาติ ตสฺสา กมฺมภาโว สิทฺโธ โหติ. สฺเจตนิยนฺติ สฺเจตนสภาววนฺตํ. สมิทฺธิตฺเถเรน ‘‘สฺเจตนิยํ, อาวุโส…เป… มนสา สุขํ โส เวทยตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๐; กถา. ๕๓๙) อวิภชิตฺวา พฺยากโต. สุขเวทนียนฺติอาทินา ปน วิภชิตฺวา พฺยากาตพฺโพ โส ปฺโห, ตสฺมา สมฺมา พฺยากโต นาม น โหติ. อิตรทฺวเยปิ เอเสว นโย. ยถา ปน สุตฺตานิ ิตานิ, ตถา โจปนกิริยานิสฺสยภูตา กายวาจา อภิชฺฌาทิกิริยานิสฺสโย จ มโนทฺวารานิ, ยาย ปน เจตนาย เตหิ กายาทีหิ กรณภูเตหิ โจปนาภิชฺฌาทิกิริยํ กโรนฺติ วาสิอาทีหิ วิย เฉทนาทึ, สา เจตนา กมฺมนฺติ ทฺวารปฺปวตฺติยมฺปิ กมฺมทฺวาราเภทนฺจ กมฺมทฺวารววตฺถานฺจ ทิสฺสติ, เอวฺจ สติ ‘‘กาเยน เจ กตํ กมฺม’’นฺติอาทิคาถาโย (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กายกมฺมทฺวาร) อติวิย ยุชฺชนฺติ.
โลกุตฺตรมคฺโค อิธ โลกิยกมฺมกถายํ อนธิปฺเปโตปิ ภชาปิยมาโน ตีณิ กมฺมานิ ภชติ. มเนน ทุสฺสีลฺยนฺติ กายิกวาจสิกวีติกฺกมวชฺชํ สพฺพํ อกุสลํ สงฺคณฺหาติ, มิจฺฉาทิฏฺิสงฺกปฺปวายามสติสมาธึ วา. ตมฺปิ เจตํ ‘‘มนสา สํวโร สาธู’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๑๖; ธ. ป. ๓๖๑) วุตฺตสฺส สํวรสฺส ปฏิปกฺขวเสน วุตฺตํ, น สีลวิปตฺติวเสน. น หิ สา มานสิกา อตฺถีติ มคฺคสฺเสว ภชาปนํ มหาวิสยตฺตา. โพชฺฌงฺคา หิ มโนกมฺมเมว ภเชยฺยุํ, น จ น สกฺกา มคฺคภชาปเนเนว เตสํ ภชาปนํ วิฺาตุนฺติ.
กมฺมปถํ ¶ อปฺปตฺตานมฺปิ ตํตํทฺวาเร สํสนฺทนํ อวโรธนํ ทฺวารนฺตเร กมฺมนฺตรุปฺปตฺติยมฺปิ กมฺมทฺวาราเภทนฺจ ¶ ทฺวารสํสนฺทนํ นาม. ‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา อกุสลํ กายกมฺม’’นฺติอาทินา (กถา. ๕๓๙) กมฺมปถปฺปตฺตาว สนฺนิฏฺาปกเจตนา กมฺมนฺติ วุตฺตาติ ปุริมเจตนา สพฺพา กายกมฺมํ น โหตีติ วุตฺตํ. อาณาเปตฺวา…เป… อลภนฺตสฺสาติ อาณตฺเตหิ อมาริตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, วจีทุจฺจริตํ นาม โหติ อกมฺมปถภาวโตติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิเม สตฺตา หฺนฺตู’’ติ ปวตฺตพฺยาปาทวเสน เจตนาปกฺขิกา วา ภวนฺติ กายกมฺมโวหารลาภา. อพฺโพหาริกา วา มโนกมฺมโวหารวิรหา. สสมฺภารปถวีอาทีสุ อาปาทโย เอตฺถ นิทสฺสนํ.
กุลุมฺพสฺสาติ คพฺภสฺส, กุลสฺเสว วา. ติสฺโสปิ สงฺคีติโย อารุฬฺหตาย อนนุชานนโต ‘‘ตว สุตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ทสวิธา อิทฺธิ ปฏิสมฺภิทามคฺเค อิทฺธิกถาย คเหตพฺพา. ภาวนามยนฺติ อธิฏฺานิทฺธึ สนฺธาย วทติ. ฆฏเภโท วิย ปรูปฆาโต, อุทกวินาโส วิย อิทฺธิวินาโส จ โหตีติ อุปมา สํสนฺทติ. ตว ปฺโหติ ภาวนามยาย ปรูปฆาโต โหตีติ วุตฺโต าเปตุํ อิจฺฉิโต อตฺโถ. อาถพฺพณิทฺธิ วิชฺชามยิทฺธิ โหติ. สตฺตเม ปเทติ มณฺฑลาทิโต สตฺตเม ปเท.
วจนนฺตเรน คเมตพฺพตฺถํ เนยฺยตฺถํ, สยเมว คมิตพฺพตฺถํ นีตตฺถํ. กิริยโต สมุฏฺาติ, อุทาหุ อกิริยโตติ เตนาธิปฺเปตํ สมฺปชานมุสาวาทํ สนฺธาย ปุจฺฉติ, น อุโปสถกฺขนฺธเก วุตฺตํ. ตตฺถ อวุตฺตเมว หิ โส อนริยโวหารํ วุตฺตนฺติ คเหตฺวา โวหรตีติ. วาจาคิรนฺติ วาจาสงฺขาตํ คิรํ, วาจานุจฺจารณํ วา.
ขนฺทสิวาทโย เสฏฺาติ ขนฺทาติ กุมารา. สิวาติ มเหสฺสรา, มิจฺฉาทิฏฺิยา นิทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นตฺถิกทิฏฺาทโย เอว หิ กมฺมปถปฺปตฺตา กมฺมนฺติ. เจตนา ปเนตฺถ อพฺโพหาริกาติ กายทฺวาเร วจีทฺวาเร จ สมุฏฺิตาปิ กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺติ จ โวหารํ น ลภติ อภิชฺฌาทิปฺปธานตฺตา. ‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว, มโนสฺเจตนา อกุสลํ มโนกมฺม’’นฺติ ปน วจนโต สภาเวเนว สา มโนกมฺมํ, น อภิชฺฌาทิปกฺขิกตฺตาติ ‘‘อภิชฺฌาทิปกฺขิกาวา’’ติ น วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน าเน กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา จินฺตนกาเล เจตนาปิ เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ มโนทฺวาเร ¶ เอว สมุฏฺหนฺติ, ตสฺมา เจตนาย อพฺโพหาริกภาโว กถฺจิ นตฺถีติ อธิปฺปาโย.
‘‘ติวิธา ¶ , ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา กุสลํ กายกมฺม’’นฺติอาทิวจนโต (กถา. ๕๓๙) ปาณาติปาตาทิปฏิปกฺขภูตา ตพฺพิรติวิสิฏฺา เจตนาว ปาณาติปาตวิรติอาทิกา โหนฺตีติ ‘‘เจตนาปกฺขิกา วา’’ติ วุตฺตํ, น ‘‘วิรติปกฺขิกา’’ติ. รกฺขตีติ อวินาเสตฺวา กเถติ. ภินฺทตีติ วินาเสตฺวา กเถติ.
กมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จกฺขุวิฺาณทฺวารนฺติ จกฺขุวิฺาณสฺส ทฺวารํ. จกฺขุ จ ตํ วิฺาณทฺวารฺจาติ วา จกฺขุวิฺาณทฺวารํ. จกฺขุ วิฺาณทฺวารนฺติ วา อสมาสนิทฺเทโส. ตํ ปน จกฺขุเมว. เอส นโย เสเสสุปิ. ‘‘จกฺขุนา สํวโร สาธู’’ติอาทิกาย (ธ. ป. ๓๖๐) คาถาย ปสาทกายโจปนกายสํวเร เอกชฺฌํ กตฺวา กาเยน สํวโร วุตฺโต, ตํ อิธ ภินฺทิตฺวา อฏฺ สํวรา, ตปฺปฏิปกฺขภาเวน อสํวรา อฏฺ กถิตา. สีลสํวราทโยปิ ปฺเจว สํวรา สพฺพทฺวาเรสุ อุปฺปชฺชมานาปิ, ตปฺปฏิปกฺขภาเวน ทุสฺสีลฺยาทีนิ อสํวราติ วุตฺตานิ. ตตฺถ ทุสฺสีลฺยํ ปาณาติปาตาทิเจตนา. มุฏฺสฺสจฺจํ สติปฏิปกฺขา อกุสลา ธมฺมา. ปมาทนฺติ เกจิ. สีตาทีสุ ปฏิโฆ อกฺขนฺติ. ถินมิทฺธํ โกสชฺชํ.
วินา วจีทฺวาเรน สุทฺธํ กายทฺวารสงฺขาตนฺติ อิทํ วจีทฺวารสลฺลกฺขิตสฺส มุสาวาทาทิโนปิ กายทฺวาเร ปวตฺติสพฺภาวา อสุทฺธตา อตฺถีติ ตํนิวารณตฺถํ วุตฺตํ. น หิ ตํ กายกมฺมํ โหติ. สุทฺธวจีทฺวาโรปลกฺขิตํ ปน วจีกมฺมเมว โหตีติ. เอตฺถ อสํวโรติ เอเตน สุทฺธกายทฺวาเรน อุปลกฺขิโต อสํวโร ทฺวารนฺตเร อุปฺปชฺชมาโนปิ วุตฺโต. ทฺวารนฺตรานุปลกฺขิตํ สพฺพํ ตํทฺวาริกากุสลฺเจติ เวทิตพฺพํ. เอวฺจ กตฺวา กมฺมปถสํสนฺทเน ‘‘โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปชฺชมาโน อสํวโร อกุสลํ กายกมฺมเมว โหตี’’ติอาทิ ‘‘อกุสลํ กายกมฺมํ โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน วจีอสํวรวเสน จ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา สห อวิรุทฺธํ โหติ. อสํวโร หิ ทฺวารนฺตเร ¶ อุปฺปชฺชมาโนปิ สทฺวาเร เอวาติ วุจฺจติ, สทฺวารวเสน อุปฺปนฺโนติ จ, กมฺมํ อฺทฺวาเร อฺทฺวารวเสน จาติ เอวํ อวิรุทฺธํ.
อถ วา เอตฺถาติ สุทฺธํ อสุทฺธนฺติ เอตํ อวิจาเรตฺวา เอตสฺมึ โจปเนติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ สติ ทฺวารนฺตโรปลกฺขิตํ กมฺมปถภาวปฺปตฺตตาย วจีมโนกมฺมํ โจปนกายอสํวรทฺวาเร อุปฺปนฺนํ, เสสํ ¶ สพฺพํ ตํทฺวารุปฺปนฺนากุสลํ วิย ‘‘โจปนกายอสํวโร’’ติ วุจฺจติ. กมฺมปถภาวปฺปตฺติยา ทฺวารนฺตรุปฺปนฺนํ กายกมฺมฺจ ตถา น วุจฺจตีติ กมฺมปถสํสนฺทนวิโรโธ สิยา, ตทวิโรธํ ตตฺเถว วกฺขาม. สีลสํวราทโย ปฺจ นิกฺเขปกณฺเฑ อาวิ ภวิสฺสนฺติ. ตตฺถ าณสํวเร ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส, วีริยสํวเร จ อาชีวปาริสุทฺธิยา อนฺโตคธตา ทฏฺพฺพา.
อกุสลกมฺมปถกถาวณฺณนา
สรเสเนว จ ปตนสภาวสฺส ปาณสฺส อนฺตรา เอว อตีว ปาตนํ อติปาโต, สณิกํ ปติตุํ อทตฺวาว สีฆํ ปาตนนฺติ อตฺโถ. อติกฺกมฺม วา สตฺถาทีหิ อภิภวิตฺวา ปาตนํ อติปาโต. ปโยควตฺถุมหนฺตตาทีหิ มหาสาวชฺชตา เตหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชมานาย เจตนาย พลวภาวโต. ยถาวุตฺตปจฺจยวิปริยาเยปิ ตํตํปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชมานาย เจตนาย พลวาพลววเสเนว อปฺปสาวชฺชมหาสาวชฺชตา เวทิตพฺพา. อิทฺธิมโย กมฺมวิปากชิทฺธิมโย ทาาโกฏิกาทีนํ วิย.
โคตฺตรกฺขิตา สโคตฺเตหิ รกฺขิตา. ธมฺมรกฺขิตา สหธมฺมิเกหิ รกฺขิตา. สสามิกา สารกฺขา. ยสฺสา คมเน รฺา ทณฺโฑ ปิโต, สา สปริทณฺฑา. อตฺถภฺชโกติ กมฺมปถปฺปตฺตํ วุตฺตํ. กมฺมปถกถา เหสาติ. อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตายาติอาทิ มุสาวาทสามฺโต วุตฺตํ. หสาธิปฺปาเยน วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺเสว มุสาวาโท. สฺุภาวนฺติ ปีติวิรหิตตาย ริตฺตตํ. อตฺถวิปนฺนตาย น หทยงฺคมา. อคฺคณฺหนฺเตติ อสทฺทหนฺเต กมฺมปถเภโท น โหติ. โย โกจิ ปน สมฺผปฺปลาโป ทฺวีหิ สมฺภาเรหิ สิชฺฌตีติ. อตฺตโน ปริณามนํ จิตฺเตเนวาติ เวทิตพฺพํ. มิจฺฉา ปสฺสตีติ วิตถํ ปสฺสติ.
โกฏฺาสโตติ ¶ ผสฺสปฺจมกาทีสุ จิตฺตงฺคโกฏฺาเสสุ เย โกฏฺาสา โหนฺติ, ตโตติ อตฺโถ. นนุ จ เจตนา กมฺมปเถสุ น วุตฺตาติ ปฏิปาฏิยา สตฺตนฺนํ กมฺมปถภาโว น ยุตฺโตติ? น, อวจนสฺส อฺเหตุตฺตา. น หิ เจตนาย อกมฺมปถตฺตา กมฺมปถราสิมฺหิ อวจนํ, กทาจิ ปน กมฺมปโถ โหติ, น สพฺพทาติ กมฺมปถภาวสฺส อนิยตตฺตา อวจนํ. ยทา ปน กมฺมปโถ โหติ, ตทา กมฺมปถราสิสงฺคโห น นิวาริโตติ. ‘‘ปฺจ สิกฺขาปทา ปริตฺตารมฺมณา เอวา’’ติ เอเตน อทินฺนาทานาทีนํ สตฺตารมฺมณภาววิโรธํ ‘‘สตฺตสงฺขาเต สงฺขาเร เอว ¶ อารพฺภ ปวตฺติโต’’ติ สยเมว ปริหริสฺสติ. ‘‘นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา’’ติ ปวตฺตมานา ทิฏฺิ เตภูมกธมฺมวิสยาวาติ สงฺขารารมฺมณตา วุตฺตา. วิปากนิสฺสนฺทผลานิ ยถากฺกมํ นิรยาทิวิปากทุคฺคตตาทีนิ.
อกุสลกมฺมปถกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กุสลกมฺมปถกถาวณฺณนา
ปาณาติปาตาทีหิ ปน วิรติโยติ เอตํ ยาหิ วิรตีหิ สมฺปยุตฺตา เจตนา ‘‘กายวจีกมฺมานี’’ติ วุจฺจนฺติ, ตาสฺจ กมฺมปถภาโว ยุตฺโตติ กตฺวา วุตฺตํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต เจตนาปิ วฏฺฏนฺติ วิรติโยปี’’ติ. อลฺลสสมํสนฺติ ชีวมานกสสมํสํ. โวโรเปตา หุตฺวา นาภิชานามิ. ทุสฺสีลฺยาทารมฺมณา ตทารมฺมณา. ชีวิตินฺทฺริยาทิอารมฺมณา กถํ ทุสฺสีลฺยาทีนิ ปชหนฺตีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อนภิชฺฌา…เป… วิรมนฺตสฺสาติ อภิชฺฌํ ปชหนฺตสฺสาติ อตฺโถ. น หิ มโนทุจฺจริตา วิรติ อตฺถิ อนภิชฺฌาทีเหว ตปฺปหานโต.
กมฺมปถสํสนฺทนกถาวณฺณนา
กมฺมปถปฺปตฺตานํ ทุสฺสีลฺยาทีนํ อสํวรานํ ตถา ทุจฺจริตานฺจ อกุสลกมฺมปเถหิ กมฺมปถปฺปตฺตานเมว จ สุสีลฺยาทีนํ สํวรานํ ตถา สุจริตานฺจ กุสลกมฺมปเถหิ อตฺถโต นานตฺตาภาวทสฺสนํ. อถ วา เตสํ ผสฺสทฺวาราทีหิ อวิโรธภาเวน ทีปนํ กมฺมปถสํสนฺทนนฺติ เกจิ วทนฺติ ¶ , ตเทตํ วิจาเรตพฺพํ. น หิ ปฺจผสฺสทฺวารปฺจอสํวรทฺวารปฺจสํวรทฺวาเรสุ อุปฺปนฺนานํ อสํวรานํ สํวรานฺจ กมฺมปถตา อตฺถิ ปาณาติปาตาทีนํ ปรสนฺตกวตฺถุโลภปรสตฺตารมฺมณพฺยาปาทอเหตุกทิฏฺิอาทีนฺจ เตสุ ทฺวาเรสุ อนุปฺปตฺติโต. ติวิธกอายทุจฺจริตาทีนิ จ กมฺมปถาติ ปากฏา เอวาติ กึ เตสํ กมฺมปเถหิ นานตฺตาภาวทสฺสเนน, น จ ทุจฺจริตานํ สุจริตานฺจ ผสฺสทฺวาราทิวเสน อุปฺปตฺติ ทีปิตา, นาปิ อสํวรานํ สํวรานฺจ ยโต เตสํ ผสฺสทฺวาราทีหิ อวิโรธภาเวน ทีปนา สิยา, เกวลํ ปน ผสฺสทฺวาราทิวเสน ¶ อุปฺปนฺนานํ อสํวรานํ สํวรานฺจ กายกมฺมาทิตา ทีปิตา. ยทิ จ เอตฺตกํ กมฺมปถสํสนฺทนํ, ‘‘อกุสลํ กายกมฺมํ ปฺจผสฺสทฺวารวเสน นุปฺปชฺชตี’’ติอาทิ กมฺมปถสํสนฺทนํ น สิยา. เอสาปิ ฉผสฺสทฺวาราทีหิ อวิโรธทีปนาติ เจ, วุตฺตเมว ปการนฺตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติ น วตฺตพฺพํ. สมุจฺจยตฺเถ จ อถ วา-สทฺเท กมฺมปถปฺปตฺตาเนว ทุสฺสีลฺยาทีนิ กายกมฺมาทินาเมหิ วทนฺเตหิ มโนกมฺมสฺส ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปตฺติ น วตฺตพฺพา. น หิ ตํ จกฺขุทฺวาราทิวเสน อุปฺปชฺชตีติ. ยทิ จ กมฺมปถปฺปตฺตา เอว อสํวราทโย คหิตา, ทุจฺจริเตหิ อฺเสํ อสํวรานํ อภาวา เตสฺจ ตํตํกมฺมภาวสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน อสํวโร อกุสลํ กายกมฺมเมว โหตี’’ติอาทิ น วตฺตพฺพํ สิยา. วุจฺจมาเน หิ ตสฺมึ สงฺกโร สิยา, วจีมโนกมฺมานิปิ หิ กายทฺวาเร อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา เสสทฺวาเรสุปิ กมฺมนฺตรานีติ.
อถ ปน ทฺวารนฺตเร อุปฺปชฺชมานํ กมฺมนฺตรมฺปิ ตํทฺวาริกกมฺมเมว สิยา, ‘‘ติวิธํ กายทุจฺจริตํ อกุสลํ กายกมฺมเมวา’’ติอาทิ, ‘‘อกุสลํ กายกมฺมํ โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน วาจาอสํวรทฺวารวเสน จ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิ จ วิรุชฺเฌยฺย. ทุจฺจริตานฺหิ อฺทฺวารจรณํ อตฺถิ, น จสฺส ทฺวารนฺตรุปฺปนฺนํ กมฺมนฺตรํ โหตีติ. ตสฺมา เหฏฺา กมฺมปถปฺปตฺตานํ เอว กายกมฺมาทิภาวสฺส วุตฺตตฺตา เสสานฺจ ตํตํทฺวารุปฺปนฺนานํ กุสลากุสลานํ ทฺวารสํสนฺทเน ตํตํทฺวารปกฺขิกภาวสฺส กตตฺตา อิธ กมฺมปถํ อปฺปตฺตานฺจ เจตนาภาวโต อกมฺมานฺจ อสํวรานํ สํวรานฺจ ภชาปิยมานานํ กมฺมปถานํ วิย กายกมฺมาทิตาทีปนํ, กมฺมปถปฺปตฺตานํ ติวิธกายทุจฺจริตาทีนํ ติวิธกายสุจริตาทีนฺจ ทฺวารนฺตรจรเณปิ กายกมฺมาทิภาวาวิชหนทีปนํ, ยถาปกาสิตานฺจ กมฺมปถภาวํ ปตฺตานํ ¶ อปตฺตานฺจ อกุสลกายกมฺมาทีนฺจ กุสลกายกมฺมาทีนฺจ ผสฺสทฺวาราทีหิ อุปฺปตฺติปกาสนฺจ กมฺมปถสํสนฺทนํ นาม. กสฺมา? อกมฺมปถานํ กมฺมปเถสุ กมฺมปถานฺจ อกมฺมปเถสุ สมานนามตาวเสน, กมฺมปถานํ กมฺมปเถสุ สามฺนามาวิชหนวเสน, อุภเยสฺจ อุปฺปตฺติวเสน ทฺวาเรสุ เอตฺถ สํสนฺทิตตฺตา.
ตตฺถ ติวิธกมฺมทฺวารวเสน อุปฺปนฺนานํ กมฺมานํ าตกมฺมภาวตาย ตํตํกมฺมภาวสฺส อวจนียตฺตา กมฺมทฺวาเรสุ เตสํ อุปฺปตฺติยา จ วุตฺตตฺตา ปฺจวิฺาณทฺวารวเสน อสํวราทีนํ อุปฺปตฺติปริยายวจนาภาวโต จ กมฺมทฺวารวิฺาณทฺวารานิ วิรชฺฌิตฺวา ‘‘ปฺจผสฺสทฺวารวเสน หิ อุปฺปนฺโน’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. ‘‘ยมฺปิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ สุขํ วา’’ติอาทินา ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา เวทนากฺขนฺโธ อตฺถิ กุสโล’’ติอาทินา จ ปฺจผสฺสทฺวารวเสน อสํวราทีนํ อุปฺปตฺติปริยาโย วุตฺโต, น จ ‘‘ยมิทํ จกฺขุวิฺาณปจฺจยา’’ติอาทิวจนํ อตฺถีติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘จกฺขุวิฺาณสหชาโต หิ ผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโส’’ติอาทิ (ธ. ส. ๑ กมฺมกถา; มหานิ. อฏฺ. ๘๖). เตน หิ อสํวรานํ สํวรานฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทีหิ อสหชาตตฺตา มโนสมฺผสฺสสหชาตานฺจ จกฺขุสมฺผสฺสทฺวาราทิวเสน อุปฺปตฺติ ทีปิตาติ. ‘‘โส หิ กายทฺวาเร โจปนํ ปตฺโต อกุสลํ กายกมฺมํ โหตี’’ติอาทินา ‘‘โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน อกุสลํ กายกมฺมเมว โหตี’’ติอาทินา จ วจีกมฺมาทีนฺจ กมฺมปถปฺปตฺตานํ อสํวรภูตานํ กายกมฺมาทิภาเว อาปนฺเน ‘‘จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ อกุสลํ วจีกมฺมเมว โหตี’’ติอาทินา อปวาเทน นิวตฺติ ทฏฺพฺพา. เอวฺจ กตฺวา ปุพฺเพ ทสฺสิเตสุ อสํวรวินิจฺฉเยสุ ทุติยวินิจฺฉเยสุ จ น โกจิ วิโรโธ. น หิ วจีกมฺมาทิภูโต โจปนกายอสํวโร กายกมฺมาทิ โหตีติ.
อกุสลํ มโนกมฺมํ ปน ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปชฺชติ, ตํ กายวจีทฺวาเรสุ โจปนํ ปตฺตํ อกุสลํ กายวจีกมฺมํ โหตีติ เอตฺถ กึ ตํ อกุสลํ มโนกมฺมํ นาม, เหฏฺา ทสฺสิตนเยน จ กายวจีทฺวาเรสุ อุปฺปนฺนํ ติวิธํ มโนทุจฺจริตํ โจปนํ อปฺปตฺตํ สพฺพากุสลฺจ. ยทิ เอวํ ตสฺส กายวจีกมฺมภาโว นตฺถีติ ‘‘โจปนปฺปตฺตํ กายวจีกมฺมํ โหตี’’ติ น ยุชฺชตีติ ¶ ? โน น ยุชฺชติ โจปนปฺปตฺตํ กาเย วาจาย จ อกุสลํ กมฺมํ โหตีติ อตฺถสิทฺธิโต. กมฺมํ ปน โหนฺตํ กึ กมฺมํ โหตีติ? มโนกมฺมเมว โหตีติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โจปนปฺปตฺตํ อกุสลํ กายทฺวาเร วจีทฺวาเร จ มโนกมฺมํ โหตีติ. อถ วา ตํ-สทฺทสฺส มโนกมฺเมน สมฺพนฺธํ อกตฺวา ฉผสฺสทฺวารวเสน ยํ อุปฺปชฺชติ, ตนฺติ ยถาวุตฺตอุปฺปาทมตฺตปริจฺฉินฺเนน สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ. กึ ปน ตนฺติ? กมฺมกถาย ปวตฺตมานตฺตา กมฺมนฺติ วิฺายติ, ตฺจ มโนสมฺผสฺสทฺวาเร อุปฺปชฺชมานมฺปิ ติวิธํ กมฺมํ โหตีติ. ยถา ตํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กายวจีทฺวาเรสุ โจปนํ ปตฺต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ นิยมสฺส อกตตฺตา โจปนปฺปตฺติ อุปลกฺขณภาเวน กายวจีกมฺมนามสาธิกาว, น ปน สพฺพมฺปิ โจปนปฺปตฺตํ กายวจีกมฺมเมว, นาปิ กุสลปกฺเข โจปนํ อปฺปตฺตํ กายวจีกมฺมํ น โหตีติ อยมตฺโถ สิทฺโธว โหตีติ.
อถ ¶ วา ตนฺติ ตํ ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปชฺชมานํ มโนกมฺมนฺติ สพฺพํ มนสาปิ นิปฺผชฺชมานํ กมฺมํ มโนกมฺมนฺติ โจทกาธิปฺปาเยน คเหตฺวา วทติ, น ปุพฺเพ ทสฺสิตมโนกมฺมนฺติ. โย หิ ปรสฺส อธิปฺปาโย ‘‘มนสา นิปฺผตฺติโต สพฺเพน มโนกมฺเมเนว ภวิตพฺพํ, น กายวจีกมฺเมนา’’ติ, ตํ นิวตฺเตตฺวา กมฺมตฺตยนิยมํ ทสฺเสตุํ อิทมารทฺธํ ‘‘ตํ กายวจีทฺวาเรสุ โจปนํ ปตฺต’’นฺติอาทิ. เอตฺถ จ สงฺกราภาโว ปุริมนเยเนว เวทิตพฺโพ. อถ วา กมฺมนฺติ อวิเสเสน กมฺมสทฺทมตฺเตน สมฺพนฺธํ กตฺวา ยถาวุตฺโต กมฺมปฺปเภโท ยถา โหติ, ตํ ปการํ ทสฺเสติ. อสงฺกโร จ วุตฺตนโยว. ยํ ปน วทนฺติ ‘‘กายวจีกมฺมสหชาตา อภิชฺฌาทโย ยทา เจตนาปกฺขิกา โหนฺติ, ตทา ตานิ มโนกมฺมานิ กายวจีกมฺมานิ โหนฺตี’’ติ, ตฺจ น, เจตนาปกฺขิกานํ มโนกมฺมตฺตาภาวา. อพฺโพหาริกตฺเต จ มโนกมฺมตา สุฏฺุตรํ นตฺถิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อพฺโพหาริกา วา’’ติ. ตสฺมา มโนกมฺมสฺส กายวจีกมฺมตา น วตฺตพฺพา. อภิชฺฌาทิกิริยาการิกาย เอว เจตนาย สมฺปยุตฺตา อภิชฺฌาทโย มโนกมฺมํ, น ปาณาติปาตาทิกายวจีกิริยาการิกายาติ ภิยฺโยปิ เตสํ มโนกมฺมตาติ น เตสํ มโนกมฺมานํ สตํ กายวจีกมฺมตา วตฺตพฺพาติ. เอวํ กมฺมานํ ทฺวาเรสุ ทฺวารานฺจ กมฺเมสุ อนิยตตฺตา ทฺวารนิพนฺธนํ น กตํ. อิทานิ อกเตปิ จ ทฺวารนิพนฺธเน เยสํ ทฺวารานํ วเสน อิทํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, เตสํ ตํตํทฺวารกมฺมปถานฺจ วเสน อุปฺปตฺติยา ยถาภฏฺปาฬิยา วุตฺตาย ¶ จ ทีปนตฺถํ ‘‘ตตฺถ กามาวจร’’นฺติอาทิมาห. จิตฺตํ ติวิธกมฺมทฺวารวเสน อุปฺปชฺชตีติ อิทํ มโนกมฺมทฺวารภูตสฺส เตน สภาเวน อุปฺปตฺตึ คเหตฺวา วุตฺตํ. ยถา วา จิตฺตํ จิตฺตาธิปเตยฺยนฺติ สมฺปยุตฺตวเสน วุจฺจติ, เอวมิธาปีติ เวทิตพฺพํ. โจปนทฺวยรหิตสฺส มโนปพนฺธสฺส มโนกมฺมทฺวารภาเว ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.
กมฺมปถสํสนฺทนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อยํ โยชนาติ ‘‘รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา’’ติ เอเตน สห ‘‘ยํ ยํ วา ปนา’’ติ เอตสฺส อยํ สมฺพนฺโธติ อตฺโถ. โก ปนายํ สมฺพนฺโธติ? เยน วจนานิ อฺมฺํ สมฺพชฺฌนฺติ, ตํ ปุพฺพาปรวจเน ปโยชนํ สมฺพนฺโธ. อิธ จ สพฺพารมฺมณตาทิทสฺสนํ ‘‘รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา’’ติ เอตสฺส อนนฺตรํ ‘‘ยํ ยํ วา ปนา’’ติ เอตสฺส วจเน ปโยชนํ โยชนา ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ ‘‘รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา อารพฺภา’’ติ เอตฺตเกน ¶ อาปนฺนํ โทสํ ทสฺเสตฺวา ตนฺนิวตฺตนวเสน ‘‘ยํ ยํ วา ปนา’’ติ เอตสฺส ปโยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘เหฏฺา’’ติอาทิมาห. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป ‘‘ยํ ยํ วาปนา’’ติ เอเตน อปฺปธานมฺปิ รูปาทึ อากฑฺฒติ. น หิ ปธานสฺส จิตฺตสฺส อตฺตโนเยว อารมฺมณภาโว อตฺถีติ. เหฏฺา วุตฺตนเยนาติ สพฺพารมฺมณตาทินเยน. ‘‘เหฏฺา คหิตเมว คหิตนฺติ วตฺวา ตสฺส วจเน ปโยชนํ ทสฺเสตุํ ‘รูปํ วา…เป… อิทํ วา อิทํ วา อารพฺภา’ติ กเถตุํ อิทํ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ อิทํ วา อิทํ วาติ เอตํ สพฺพารมฺมณตาทึ สนฺธาย กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ธมฺมุทฺเทสวารกถา
ผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา
อาจริยานนฺติ เรวตาจริยสฺส. น ปเนตํ สารโต ทฏฺพฺพํ. น หิ ผสฺสาทีนํ กามาวจราทิภาวทสฺสนตฺถํ อิทมารทฺธํ, กินฺตุ ตสฺมึ สมเย ผสฺสาทิสภาวทสฺสนตฺถนฺติ.
จิตฺตสฺส ปมาภินิปาตตฺตาติ สพฺเพ เจตสิกา จิตฺตายตฺตา จิตฺตกิริยาภาเวน วุจฺจนฺตีติ ผสฺโส ‘‘จิตฺตสฺส ปมาภินิปาโต’’ติ วุตฺโต. กามํ ¶ อุปฺปนฺนผสฺโส ปุคฺคโล จิตฺตเจตสิกราสิ วา อารมฺมเณน ผุฏฺโ ผสฺสสหชาตาย เวทนาย ตํสมกาลเมว เวเทติ, ผสฺโส ปน โอภาสสฺส ปทีโป วิย เวทนาทีนํ ปจฺจยวิเสโส โหตีติ ปุริมกาโล วิย วุตฺโต. โคปานสีนํ อุปริ ติริยํ ปิตกฏฺํ ปกฺขปาโส. กฏฺทฺวยาทิ วิย เอกเทเสน เอกปสฺเสน อนลฺลียมาโนปิ รูเปน สห ผสฺสสฺส สามฺํ อนลฺลียมานํ สงฺฆฏฺฏนเมว, น วิสยภาโว, สงฺฆฏฺฏนฺจ ผสฺสสฺส จิตฺตารมฺมณานํ สนฺนิปตนภาโว เอว. วตฺถารมฺมณสนฺนิปาเตน สมฺปชฺชตีติ สงฺฆฏฺฏนสมฺปตฺติโก ผสฺโส. ปาณิทฺวยสฺส สนฺนิปาโต วิย จิตฺตารมฺมณสนฺนิปาโต ผสฺโส จิตฺตสฺส อารมฺมเณ สนฺนิปติตปฺปวตฺติยา ปจฺจโย โหตีติ กิจฺจฏฺเเนว รเสน สงฺฆฏฺฏนรโส. ตถา ปจฺจยภาโว หิ ตสฺส ผสฺสสฺส สงฺฆฏฺฏนกิจฺจนฺติ. ยถา หิ ปาณิยา ปาณิมฺหิ สงฺฆฏฺฏนํ ตพฺพิเสสภูตา รูปธมฺมา, เอวํ จิตฺตสฺส อารมฺมเณ สงฺฆฏฺฏนํ ตพฺพิเสสภูโต เอโก เจตสิกธมฺโม ทฏฺพฺโพ. จิตฺเตเยวาติ เอเตน เจตสิกสภาวตํ วตฺถารมฺมเณหิ อสํสฏฺํ สงฺฆฏฺฏนํ เวทนาย ทสฺเสติ, น ปน วตฺถุนิสฺสยตํ ปฏิกฺขิปติ. ตสฺส ผสฺสสฺส การณภูโต ตทนุรูโป ¶ สมนฺนาหาโร ตชฺชาสมนฺนาหาโร. อินฺทฺริยสฺส ตทภิมุขภาโว อาวชฺชนาย จ อารมฺมณกรณํ วิสยสฺส ปริกฺขตตา อภิสงฺขตตา วิฺาณสฺส วิสยภาวกรณนฺติ อตฺโถ.
สุขเวทนายเมว ลพฺภติ อสฺสาทภาวโตติ อธิปฺปาโย. วิสฺสวิตายาติ อรหตาย. อเนกตฺถตฺตา หิ ธาตูนํ อรหตฺโถ วิปุพฺโพ สุสทฺโท. วิสฺสวํ วา สชนํ วสิตา กามการิตา วิสฺสวิตา. อารมฺมณรเสกเทสเมว อนุภวนฺตีติ อิทํ ผุสนาทิกิจฺจํ เอกเทสานุภวนมิว โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. เวทยิตสภาโว เอว หิ อนุภวนนฺติ. ผุสนาทิภาเวน วา อารมฺมณคฺคหณํ เอกเทสานุภวนํ, เวทยิตภาเวน คหณํ ยถากามํ สพฺพานุภวนํ. เอวํ สภาวาเนว ตานิ คหณานีติ น เวทนาย วิย ผสฺสาทีนมฺปิ ยถาสกกิจฺจกรเณน สามิภาวานุภวนํ โจเทตพฺพํ. อยํ อิธาติ เอเตน ปฺจสุ เวทนาสุ อิมสฺมึ จิตฺเต อธิปฺเปตํ โสมนสฺสเวทนํ วทติ, ตสฺมา อโสมนสฺสเวทนํ อปเนตฺวา คหิตาย โสมนสฺสเวทนาย สมานา อิฏฺาการสมฺโภครสตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
นิมิตฺเตน ¶ ปุนสฺชานนกิจฺจา ปจฺจาภิฺาณรสา. ปุนสฺชานนสฺส ปจฺจโย ปุนสฺชานนปจฺจโย, ตเทว นิมิตฺตํ ปุน…เป… นิมิตฺตํ, ตสฺส กรณํ ปุน…เป… กรณํ. ปุนสฺชานนปจฺจยภูตํ วา นิมิตฺตกรณํ ปุน…เป… กรณํ, ตทสฺสา กิจฺจนฺติ อตฺโถ. ปุนสฺชานนปจฺจยนิมิตฺตกรณํ นิมิตฺตการิกาย นิมิตฺเตน สฺชานนฺติยา จ สพฺพาย สฺาย สมานํ เวทิตพฺพํ. าณเมว อนุวตฺตติ, ตสฺมา อภินิเวสการิกา วิปรีตคฺคาหิกา จ น โหตีติ อธิปฺปาโย. เอเตนุปาเยน สมาธิสมฺปยุตฺตาย อจิรฏฺานตา จ น โหตีติ ทฏฺพฺพา.
อภิสนฺทหตีติ ปพนฺธติ ปวตฺเตติ. เจตนาภาโว พฺยาปารภาโว. ทิคุณุสฺสาหาติ น ทิคุณํ วีริยโยคํ สนฺธาย วุตฺตํ, อตฺตโน เอว ปน พฺยาปารกิจฺจสฺส มหนฺตภาวํ ทีเปติ. อุสฺสาหนภาเวนาติ อาทรภาเวน. สา หิ สยํ อาทรภูตา สมฺปยุตฺเต อาทรยตีติ.
วิชานนํ อารมฺมณสฺส อุปลทฺธิ. สนฺทหนํ จิตฺตนฺตรสฺส อนุปฺปพนฺธนํ. จกฺขุนา หิ ทิฏฺนฺติ จกฺขุนา ทฏฺพฺพํ. ยถา ‘‘ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาต’’นฺติ ทฏฺพฺพาทิ วุจฺจติ, เอวมิธาปิ เวทิตพฺพํ. จกฺขุนา หีติอาทีสุ จกฺขุนา…เป… มนสา ทฺวาเรนาติ อตฺโถ. นครคุตฺติกสฺส ¶ วิย จิตฺตสฺส อารมฺมณวิภาวนมตฺตํ อุปธารณมตฺตํ อุปลทฺธิมตฺตํ กิจฺจํ, อารมฺมณปฏิเวธนปจฺจาภิฺาณาทิ ปน กิจฺจํ ปฺาสฺาทีนนฺติ เวทิตพฺพํ. ปุริมนิทฺทิฏฺนฺติ สมยววตฺถาเน นิทฺทิฏฺํ. ภาเวนฺโต วิย น น อุปฺปชฺชติ, กินฺตุ อุปฺปชฺชตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘จิตฺตํ โหตี’’ติ วุตฺตนฺติ เอตํ โหติ-สทฺทสฺส อุปฺปชฺชติ-สทฺทสฺส จ สมานตฺถตฺเต สติ ยุชฺเชยฺย, ตทตฺถตฺเต จ ตตฺถ อุปฺปนฺนํ โหตีติ น วุจฺเจยฺย. น หิ ยุตฺตํ อุปฺปนฺนํ อุปฺปชฺชตีติ วตฺตุํ. จิตฺตสฺส จ อุปฺปนฺนตา สมยววตฺถาเน วุตฺตา เอวาติ กึ ตสฺส ปุน อุปฺปตฺติทสฺสเนน. เยน จ สมยววตฺถานํ กตํ, ตสฺส นิทฺเทโส น น สกฺกา กาตุนฺติ กึ ตํ นิทฺเทสตฺถํ อุทฺเทเสน ทุติเยน, นิทฺเทเสเนว จ ผสฺสาทีหิ จ อฺตฺตํ จิตฺตสฺส สิชฺฌตีติ กึ ตทตฺเถน ปุน วจเนน, อฺปฺปโยชนตฺตา ปน ปุริมสฺส จิตฺตวจนสฺส ปจฺฉิมํ วุตฺตํ. ปุริมฺหิ สมยววตฺถานตฺถเมว วุตฺตํ, น ววตฺถิตสมเย วิชฺชมานธมฺมทสฺสนตฺถํ, อิตรฺจ ตสฺมึ สมเย วิชฺชมานธมฺมทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น สมยววตฺถานตฺถํ, น จ อฺทตฺถํ วจนํ อฺทตฺถํ วทติ, น จ เลเสน วุตฺโตติ กตฺวา มหาการุณิโก อตฺถํ ปากฏํ น กโรตีติ.
ผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฌานงฺคราสิวณฺณนา
วิตกฺเกตีติ ¶ ธมฺมโต อฺสฺส กตฺตุนิวตฺตนตฺถํ ธมฺมเมว กตฺตารํ นิทฺทิสติ. ตสฺส ปน วสวตฺติภาวนิวารณตฺถํ ‘‘วิตกฺกนํ วา’’ติ ภาวนิทฺเทโส. รูปํ รูปนฺติ ปถวี ปถวีติ วา อาโกเฏนฺโต วิย โหตีติ อาโกฏนลกฺขโณ. อาทิโต, อภิมุขํ วา หนนํ อาหนนํ, ปริโต, ปริวตฺเตตฺวา วา อาหนนํ ปริยาหนนํ. วิจารโต โอฬาริกฏฺเน วิจารสฺเสว ปุพฺพงฺคมฏฺเน อนุรวโต โอฬาริโก ตสฺส จ ปุพฺพงฺคโม ฆณฺฏาภิฆาโต วิย โหติ วิตกฺโก. โส ยถา ฆณฺฏาภิฆาโต ปมาภินิปาโต โหติ, เอวํ อารมฺมณาภิมุขนิโรปนฏฺเน ปมาภินิปาโต โหติ. วิปฺผารวาติ วิจลนยุตฺโต. อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺติยนฺติ อุปจาเร วา อปฺปนายํ วา สนฺตาเนน ปวตฺติยํ. ตตฺถ หิ วิตกฺโก นิจฺจโล หุตฺวา อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา ปวตฺตติ. มณฺฑลนฺติ ขลมณฺฑลํ.
ปิณยตีติ ¶ ตปฺเปติ, วฑฺเฒติ วา. ผรณรสาติ ปณีตรูเปหิ กายสฺส พฺยาปนรสา. อุทคฺคภาโว โอทคฺยํ. ขุทฺทิกา ลหุํ โลมหํสนมตฺตํ กตฺวา ภินฺนา น ปุน อุปฺปชฺชติ. ขณิกา พหุลํ อุปฺปชฺชติ. อุพฺเพคโต ผรณา นิจฺจลตฺตา จิรฏฺิติกตฺตา จ ปณีตตรา. ปสฺสทฺธิยา นิมิตฺตภาเวน คพฺภํ คณฺหนฺตี. อปฺปนาสมฺปยุตฺตาว ปีติ อปฺปนาสมาธิปูริกาติ กตฺวา สา ปิตา. อิตรา ทฺเว ขณิโกปจารสมาธิปูริกา ปีตี.
สมาธิจิตฺเตนาติ สมาธิสหิตจิตฺเตน. อวิสาโร อตฺตโน เอว อวิสรณสภาโว. อวิกฺเขโป สมฺปยุตฺตานํ อวิกฺขิตฺตตา. เยน สมฺปยุตฺตา อวิกฺขิตฺตา โหนฺติ, โส ธมฺโม อวิกฺเขโปติ. วิเสสโตติ เยภุยฺเยน. สุขวิรหิโตปิ หิ อตฺถิ สมาธีติ. ปทีปนิทสฺสเนน สนฺตานฏฺิติภาวํ สมาธิสฺส ทสฺเสติ.
ฌานงฺคราสิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อินฺทฺริยราสิวณฺณนา
สทฺทหนฺติ เอตายาติ สทฺทหนกิริยาย ปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ ตตฺถ อาธิปจฺจภาเวน สทฺธาย ปจฺจยตํ ทสฺเสติ. ตสฺสา หิ ธมฺมานํ ตถาปจฺจยภาเว ¶ สติ ‘‘ปุคฺคโล สทฺทหตี’’ติ โวหาโร โหติ. ปสาทนียฏฺาเนสุ ปสาทสฺส ปฏิปกฺขภูตํ อกุสลํ อสฺสทฺธิยํ มิจฺฉาธิโมกฺโข จ. ปสาทภูโต นิจฺฉโย วตฺถุคโต อธิโมกฺขลกฺขณํ, น เยวาปนกาธิโมกฺโขติ. อินฺทฏฺํ กาเรตีติ ‘‘มํ อนฺตเรน ตุมฺหากํ อธิมุจฺจนํ นตฺถิ, มยา สทฺทหถา’’ติ วิย อตฺตานํ อนุวตฺเตติ สมฺปยุตฺตธมฺเม. เอวํ เสเสสุปิ. ปกฺขนฺทนนฺติ สํสีทนํ. ปงฺโก กทฺทมโต ฆนีภูโต โหติ. ปณกํ ปิจฺฉิลํ อุทกมลํ. ปีตํ อุทกํ. โอกปฺปนลกฺขณาติ อนุปวิสิตฺวา เอวเมตนฺติ กปฺปนลกฺขณา. อกลุสภาโว อกาลุสิยํ, อนาวิลภาโวติ อตฺโถ. พุทฺธาทิวตฺถูนิ สทฺเธยฺยานิ. สปฺปุริสูปเสวนสทฺธมฺมสวนโยนิโสมนสิการธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติโย โสตาปตฺติยงฺคานิ. กุสลธมฺมานํ อาทาเน หตฺโถ วิย, สพฺพสมฺปตฺตินิปฺผาทเน วิตฺตํ วิย, อมตกสิผลผลเน พีชํ วิย ทฏฺพฺพา.
วีรภาโวติ ¶ เยน วีโร นาม โหติ, โส ธมฺโมติ อตฺโถ. อนุพลปฺปทานํ ปคฺคโห. มคฺโค คนฺตพฺโพ โหติ, มคฺโค คโต, กมฺมํ กตฺตพฺพํ, กมฺมํ กตํ, อปฺปมตฺตโก อาพาโธ อุปฺปนฺโน, คิลานา วุฏฺิโต โหติ อจิรวุฏฺิโต เคลฺา, คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต น ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ลภติ…เป… ปาริปูรินฺติ เอตานิ อนุรูปปจฺจเวกฺขณาสหิตานิ อฏฺ วีริยารมฺภวตฺถูนิ ตํมูลกานิ วา ปจฺจเวกฺขณานิ.
จิรกตาทิอารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา านํ, อนิสฺสชฺชนํ วา อารมฺมณสฺส อุปฏฺานํ. อุทเก อลาพุ วิย อารมฺมณํ ปิลวิตฺวา คนฺตุํ อปฺปทานํ ปาสาณสฺส วิย นิจฺจลสฺส อารมฺมณสฺส ปนํ สารณํ อสมฺมุฏฺตากรณํ อปิลาปนํ. อปิลาเป กโรติ อปิลาเปติ. คติโยติ นิปฺผตฺติโย สมฺภวโต ผลโต จ. อปโร นโยติ รสาทิทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ. สมฺโมสปจฺจนีกํ กิจฺจํ อสมฺโมโส, น สมฺโมสาภาวมตฺตํ. สติยา วตฺถุภูตา กายาทโย กายาทิสติปฏฺานา, สติโยเยว วา ปุริมา ปจฺฉิมานํ ปทฏฺานํ.
วิกฺเขปสฺส อุทฺธจฺจสฺส. ปฺาเปตีติ ปกาเรหิ ชานาเปติ. เอกาโลกา โหตีติ วิปสฺสนุปกฺกิเลโสภาสํ สนฺธายาห. มนเต วิชานาติ เอเตนาติ วา มโน, เอวฺจ กตฺวา ‘‘มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔, ๔๐๐; ๓.๔๒๑, ๔๒๕) การณภาเวน ¶ มโน วุตฺโต. สพฺโพ หิ มโน อตฺตโน อนนฺตรสฺส วิฺาณสฺส การณนฺติ. วิชานาตีติ ปริจฺฉินฺโนปลทฺธิวเสน ชานาติ, น สฺาปฺา วิย สฺชานนปฏิวิชฺฌนวเสน.
ปีติโสมนสฺสสมฺปโยคโตติ วุตฺเต เยน โยคา สุมโน โหติ, ตํ โสมนสฺสนฺติ วุจฺจตีติ ปีติยา จ โสมนสฺสภาโว อาปชฺชติ, ตสฺมา วินาปิ กาเยน วตฺถุนา สาตเวทนาสมฺปโยคโตติ โยเชตพฺพํ. เอวฺจ นิปฺปีติกํ โสมนสฺสฺจ สงฺคหิตํ โหติ, ปีติอุปลกฺขิตํ วา โสมนสฺสํ สปฺปีติกํ นิปฺปีติกฺจ โสมนสฺสนฺติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ปวตฺตสนฺตตาธิปเตยฺยนฺติ ปวตฺตสงฺขาตาย สนฺตติยา อธิปติภูตํ. ชีวิตินฺทฺริยสฺส หิ อตฺตโน วิชฺชมานกฺขเณ อนุปาเลนฺตสฺส อนนฺตรฺจ สานุปาลนานํ อุปฺปตฺติยา เหตุภูตสฺส วเสน ปวตฺตํ จิรฏฺิติกํ โหติ, ตํตํกมฺมวิเสเสน วิเสสยุตฺตํ ยาว จุติ อวิเสเสน วา ยาว ปรินิพฺพานํ อวิจฺฉินฺนํ ปวตฺตติ ชีวมานตาวิเสสยุตฺตฺจาติ รูปารูปชีวิตินฺทฺริยานํ สมานลกฺขณาทึ ¶ วตฺตุํ ‘‘อตฺตนา อวินิภุตฺตธมฺมาน’’นฺติ อาห. อนุปาเลตพฺพานํ อตฺถิกฺขเณเยว. อสติ หิ อนุปาเลตพฺเพ อุปฺปลาทิมฺหิ กึ อุทกํ อนุปาเลยฺยาติ. ตสฺส ตสฺสาติ อนุปาลนาทิกสฺส. สาธนโตติ สาธเนน. ตํสาธนฺจ ชีวมานวิเสสปจฺจยภาวโต.
อินฺทฺริยราสิวณฺณนา นิฏฺิตา.
มคฺคงฺคราสิวณฺณนา
สมฺมาติ อวิปรีตนิยฺยานิกภาเวน. ปสตฺถตา จ เอวเมว ทฏฺพฺพา.
พลราสิวณฺณนา
อสฺสทฺธิเยติ อสฺสทฺธิยการณา. อุภยปทวเสนาติ สทฺธาปทํ พลปทนฺติ เอวมาทิปททฺวยวเสน. นิยกชฺฌตฺตํ ชาติอาทิสมุฏฺานํ เอติสฺสาติ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา. ครุนา กิสฺมิฺจิ วุตฺเต คารววเสน ปติสฺสวนํ ปติสฺสโว, สห ปติสฺสเวน สปฺปติสฺสวํ, ปติสฺสวภูตํ ตํสภาคฺจ ยํกิฺจิ ¶ คารวนฺติ อตฺโถ. ชาติอาทิมหตฺตปจฺจเวกฺขเณน อุปฺปชฺชมานา จ หิรี ตตฺถ คารววเสน ปวตฺตตีติ ‘‘สปฺปติสฺสวลกฺขณา’’ติ วุจฺจติ. วชฺชํ ภายติ ตฺจ ภยโต ปสฺสตีติ วชฺชภีรุกภยทสฺสาวี. เอวํสภาวํ โอตฺตปฺปํ. หิรี ปาปธมฺเม คูถํ วิย ปสฺสติ, โอตฺตปฺปํ อุณฺหํ วิย. ทายชฺชํ นวโลกุตฺตรธมฺมาทิ. อชฺฌตฺตสมุฏฺานาทิตา จ หิรีโอตฺตปฺปานํ ตตฺถ ตตฺถ ปากฏภาเวน วุตฺตา, น ปน เตสํ กทาจิ อฺมฺํ วิปฺปโยคา. น หิ ลชฺชนํ นิพฺภยํ ปาปภยํ วา อลชฺชนํ โหตีติ.
มูลราสิวณฺณนา
อเคโธ อนภิชฺฌนํ อนภิกงฺขนํ. อนลฺลีโน ภาโว อธิปฺปาโย เอตสฺสาติ อนลฺลีนภาโว, เอวฺหิ อุปมาย สเมติ. อนุกูลมิตฺโต อนุวตฺตโก. วินยรโสติ วินยนรโส. อโทโส ทุสฺสีลฺยมลสฺสาติ อิทํ ทุสฺสีลฺยสฺส โทสสมุฏฺานตํ โทสูปนิสฺสยตฺจ สนฺธาย ¶ วุตฺตํ. อภาวนายาติ ‘‘ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน ภาวนาอินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน ภาวนา ตทุปควีริยวาหนฏฺเน ภาวนา อาเสวนฏฺเน ภาวนา’’ติ เอวํ วุตฺตาย ปฺาสาธนาย ภาวนาย อปฺปวตฺติ, ตปฺปฏิปกฺขภูตา วา อกุสลา อภาวนา. นิคฺคุเณปิ คุณคฺคหณํ อธิกคฺคหณํ. วิชฺชมานมฺปิ คุณํ วิทฺธํเสตฺวา คหณํ อูนคฺคหณํ. จตุวิปลฺลาสคฺคหณํ วิปรีตคฺคหณํ.
ยาถาวสภาเวติ ‘‘เอตฺตโก เอตสฺส คุโณ, เอตฺตโก โทโส’’ติ คุณโทสานํ สภาเว ‘‘ชราธมฺโม ชีรติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา มา ชีรี’’ติ เอวมาทิปจฺจเวกฺขณสมฺภวโต. อโลเภน จ คหฏฺานํ เขตฺตวตฺถาทีสุ วิวาทาภาวโต. อโมเหน ปพฺพชิตานํ ทิฏฺิคตวิวาทาภาวโต. กามราคาภินิเวสวินิพนฺธา หิ คหฏฺา คหฏฺเหิ วิวทนฺติ, ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธา สมณา สมเณหีติ. ราควเสน มิตฺตสนฺถโว โทสวเสน วิโรโธ จ ตพฺพิเสเสน อุปคมาปคมา, อารมฺมเณ วา รูปาทิมฺหิ อนุโรธวิโรธา. อมชฺฌตฺตภาวสฺส ปฏิฆานุนยสงฺขาตสฺส โมเหน ปวตฺติ. สุขวิปริณาเม ทุกฺขสมาโยเค จ ปฏิฆปวตฺติยํ เวทนาปริคฺคโห น สิชฺฌตีติ อโทสานุภาเวน เวทนาสติปฏฺานํ สิชฺฌติ. ทิพฺพวิหารสฺสาติ จตุนฺนํ ฌานานํ. อริยวิหาโร ผลสมาปตฺติ. โมเหน อวิจาเรนฺโต อุทาสีนปกฺเขสุปิ สตฺตสงฺขาเรสุ สพฺเพสุ ¶ อภิสงฺคํ กโรตีติ อมูฬฺหสฺส ตทภาโว เวทิตพฺโพ. ทุกฺขทสฺสนสฺส อาสนฺนปฏิปกฺขตฺตา โทสสฺส ตปฺปฏิปกฺเขน อโทเสน ทุกฺขทสฺสนํ โหติ.
กมฺมปถราสิวณฺณนา
สุขาทีนิ อตฺตโน น พฺยาปาเทติ น วินาเสติ ปรสฺส จาติ ทฏฺพฺพํ. กมฺมปถตาตํสภาคตาหิ กมฺมปถวเสน.
ปสฺสทฺธาทิยุคลวณฺณนา
ทรโถ สารมฺโภ, ทุกฺขโทมนสฺสปจฺจยานํ อุทฺธจฺจาทิกานํ กิเลสานํ จตุนฺนํ วา ขนฺธานํ เอตํ อธิวจนํ. อุทฺธจฺจปฺปธานา กิเลสา อุทฺธจฺจาทิกิเลสา, อุทฺธจฺจํ วา อาทึ กตฺวา สพฺพกิเลเส สงฺคณฺหาติ. สุวณฺณวิสุทฺธิ วิยาติ ยถา สุวณฺณวิสุทฺธิ อลงฺการวิกติวินิโยคกฺขมา, เอวํ อยมฺปิ หิตกิริยาวินิโยคกฺขมา.
สมํ ¶ , สมนฺตโต วา ปกาเรหิ ชานนํ สมฺปชฺํ. เจติยวนฺทนาทิอตฺถํ อภิกฺกมาทีสุ อตฺถานตฺถปริคฺคณฺหนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. สติ จ อตฺเถ สปฺปายาสปฺปายรูปาทิปริคฺคณฺหนํ สปฺปายสมฺปชฺํ. โคจรคามาภิกฺกมนาทีสุ กมฺมฏฺานาวิชหนํ โคจรสมฺปชฺํ. อภิกฺกมนาทีนํ ธาตุอาทิวเสน ปวิจโย อสมฺโมหสมฺปชฺํ. สพฺพกมฺมฏฺานภาวนานุยุตฺตานํ สพฺพโยคีนํ สพฺพทา อุปการกา อิเม ทฺเว ธมฺมา ปาริปนฺถกหรณโต ภาวนาวฑฺฒนโต จ. ยถาห ‘‘ทฺเว ธมฺมา พหุการา สติ จ สมฺปชฺฺจา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๒). ยุเค นทฺธา วิยาติ ยุคนทฺธา, อฺมฺํ นิมิตฺตภาเวน สมํ ปวตฺตาติ อตฺโถ. ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๗๐; ปฏิ. ม. ๒.๑) หิ สุตฺเต เอเตสํ ยุคนทฺธตา วุตฺตา. สพฺพกุสลธมฺเมสุ ลีนุทฺธจฺจาภาโว เอเตหิ ทฺวีหิ สมํ ยุตฺเตหีติ ‘‘วีริยสมาธิโยชนตฺถายา’’ติ อาห, โยควจนตฺถายาติ อตฺโถ.
เยวาปนกวณฺณนา
รูปาภาเวนาติ รุปฺปนาภาเวน. ธมฺมาติ เอตสฺส อตฺโถ สภาวโต อุปลพฺภมานาติ. เมตฺตาปุพฺพภาโคติ อปฺปนาปฺปตฺตาย เมตฺตาย ปุพฺพภาโค ¶ , ปริกมฺมเมตฺตา เอตสฺมึ จิตฺเต อตฺถีติ อตฺโถ. วิรติวเสนาติ วจีปวตฺติยา น ปูเรติ, กินฺตุ วิรติโยเคนาติ อตฺโถ. อปณฺณกงฺคานีติ อวิรทฺธงฺคานิ. ยถา ตถา วา อารมฺมเณ วินิจฺฉยนํ อธิมุจฺจนํ. น หิ อนธิมุจฺจนฺโต ปาณาติปาตาทีสุ ทานาทีสุ วา ปวตฺตติ, สทฺธา ปน ปสาทนีเยสุ ปสาทาธิโมกฺโขติ อยเมเตสํ วิเสโส. ทารกสฺส วิย อิโต จิโต จ สํสปฺปนสฺส กริสฺสามิ น กริสฺสามีติ อวินิจฺฉยสฺส ปฏิปกฺขกิริยา อสํสปฺปนํ. ปุริมมนโตติ ภวงฺคโต. วิสทิสํ วีถิชวนํ มนํ กโรตีติ มนสิการสามฺเน วีถิชวนปฏิปาทเก ทสฺเสติ. เตสุ ธมฺเมสูติ จิตฺตเจตสิกธมฺเมสุ. อตทารมฺมณตฺเตปิ หิ เตสุ สมปฺปวตฺเตสุ อุทาสีนภาวโต ตตฺรมชฺฌตฺตตาติ วุจฺจติ. อลีนานุทฺธตปฺปวตฺติปจฺจยตฺตา อูนาธิกนิวารณรสา. กายทุจฺจริตาทิวตฺถูนนฺติ ปาณาทีนํ. อมทฺทนา มทฺทนปฏิปกฺขภาโวว.
ตํตํราสิกิจฺจวเสน วิภาครหิตา อวิภตฺติกา. เอตฺถาติ เอเตสุ สวิภตฺติเกสุ ทุติยฏฺานาทีสุปิ ภาชิยมาเนสุ อปุพฺพํ นตฺถีติ อตฺโถ. ปทํ ปูริตนฺติ ฌานาทิปทํ ปฺจกาทิวเสน ปูริตํ. ปฺจ หิ องฺคานิ ฌานปทสฺส อตฺโถ, เตสุ เอกสฺมิฺจ อูเน ฌานปทํ ¶ อูนํ โหตีติ. ปทสมูโห ปทโกฏฺาโส วา ตํ ตเมว วา ปทํ, อวุตฺตํ หาปิตํ นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปูริต’’นฺติ. วุตฺตสฺมิฺเว วุจฺจมาเน อเนเกสํ ปุริสสทฺทานํ วิย โกจิ สมฺพนฺโธ นตฺถีติ มฺมาโน อาห ‘‘อนนุสนฺธิกา กถา’’ติ. อนฺตรนฺตรา วุตฺตสฺมิฺเว วุจฺจมาเน อนุกฺกเมน ธมฺมา กถิตา น โหนฺตีติ อาห ‘‘อุปฺปฏิปาฏิยา’’ติ. ผสฺสปฺจมกราสิ สพฺพจิตฺตุปฺปาทสาธารณวเสน จตุกฺขนฺธตปฺปจฺจยสงฺคหวเสน จ วุตฺโต. ยถาวุตฺเตสุ ปน ราสีสุ เอกราสิกิจฺจสฺสปิ อภาวา ฉนฺทาทโย เยวาปนกวเสน วุตฺตา. วุตฺตานมฺปิ จ ธมฺมานํ ยถา เวทนาทีนํ ฌานงฺคาทิภาโว วุตฺโต, น เอวํ โสวจสฺสตากลฺยาณมิตฺตตาทิวิเสโส วุตฺโตติ ตสฺส สงฺคณฺหนตฺถํ เกจิ ธมฺเม วิสุํ เปตฺวา เต จ ตฺจ วิเสสํ ‘‘เย วา ปนา’’ติ อาห. เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน วา สาวเสเส ธมฺเม วตฺวา ‘‘เย วา ปนา’’ติ วุตฺตํ.
เยวาปนกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ธมฺมุทฺเทสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.