📜

กามาวจรกุสลํ

นิทฺเทสวารกถาวณฺณนา

. ผุสนกวเสนาติ สนฺเต อสนฺเตปิ วิสเย อาปาถคเต จิตฺตสฺส สนฺนิปตนวเสน ‘‘จิตฺตํ มโน’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๖, ๑๗) วิย กิจฺจวิเสสํ, ‘‘มานส’’นฺติอาทีสุ (ธ. ส. ๖, ๑๗) วิย สมาเน อตฺเถ สทฺทวิเสสํ, ‘‘ปณฺฑร’’นฺติอาทีสุ (ธ. ส. ๖, ๑๗) วิย คุณวิเสสํ, ‘‘เจตสิกํ สาต’’นฺติอาทีสุ (ธ. ส. ๒, ๑๘) วิย นิสฺสยวิเสสํ, ‘‘จิตฺตสฺส ิตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๕, ๒๔) วิย อฺสฺส อวตฺถาภาววิเสสํ, ‘‘อลุพฺภนา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๓๒) วิย อฺสฺส กิริยาภาววิเสสํ, ‘‘อลุพฺภิตตฺต’’นฺติอาทีสุ (ธ. ส. ๓๒) วิย อฺสฺส กิริยาภาวภูตตาวิเสสนฺติอาทิกํ อนเปกฺขิตฺวา ธมฺมมตฺตทีปนํ สภาวปทํ. ผุสนฺตสฺส หิ จิตฺตสฺส ผุสนกิริยา ผุสนากาโร. สมฺผุสนาติ อารมฺมณสมาคมผุสนา, น ปฏิลาภสมฺผุสนา. สมฺผุสิตสฺส อารมฺมเณน สมาคตสฺส จิตฺตสฺส ภาโว สมฺผุสิตตฺตํ. ยสฺมึ สติ จิตฺตํ สมฺผุสิตนฺติ วุจฺจติ, โส ตสฺส ภาโว. เอวํ อฺเสุปิ ภาวนิทฺเทเสสุ ทฏฺพฺพํ.

อปรสฺส เววจนสฺส, อปเรน วา ปุริมตฺถสฺส ทีปนา อปรทีปนา. ‘‘ปณฺฑิจฺจํ โกสลฺล’’นฺติ เอวมาทโย ปฺาวิเสสา นานากาเล ลพฺภมานาปิ เอกสฺมึ จิตฺเต ลพฺภนฺติ. เอกสฺมิฺจ วิเสเส อิตเรปิ อนุคตา โหนฺตีติ ทสฺเสตุํ ตถา วิภตฺติ อตฺถโต วิภตฺติ โหติ อตฺถนานตฺเตน กตตฺตา. อถ วา ยถา ‘‘โกโธ กุชฺฌนา กุชฺฌิตตฺต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๐๖๖) สภาวาการภาวนิทฺเทเสหิ โกโธติ เอวมากาโรว อตฺโถ วุตฺโต, น เอวมิธ, อิธ ปน ปณฺฑิตาทิภาวาการภินฺโน อตฺโถ วุตฺโตติ อิทํ วิภตฺติคมนํ อตฺถวเสน โหติ. สมฺผุสิตตฺตนฺติ เอตฺถาปิ น ‘‘ผสฺโส’’ติ เอวมากาโรว อตฺโถ วุตฺโต. สมฺผสฺโสติ เอวมากาโร ปน วุตฺโตติ อตฺถโต วิภตฺติคมนนฺติ วุตฺตํ.

โทโส พฺยาปาโทติ อุทฺเทเสปิ นามนานตฺเตน นานาภูโต อุทฺทิฏฺโ. นิทฺเทเสปิ เตเนว นานตฺเตน นิทฺทิฏฺโ. เอโกว ขนฺโธ โหตีติ เอเกน ขนฺธสทฺเทน วตฺตพฺพตํ สนฺธายาห. เจตนาติ สงฺขารกฺขนฺธํ ทสฺเสติ ตปฺปมุขตฺตา. อสทฺธมฺมาติ อสตํ, อสนฺโต วา ธมฺมา, น วา สทฺธมฺมาติ อสทฺธมฺมาติ อสทฺธมฺมวจนียภาเวน เอกีภูโตปิ อสทฺธมฺโม โกธครุตาทิวิสิฏฺเน สทฺธมฺมครุตาปฏิกฺเขปนานตฺเตน นานตฺตํ คโตติ ‘‘จตฺตาโร’’ติ วุตฺตํ. น สทฺธมฺมครุตาติ วุจฺจมานา วา อสทฺธมฺมครุตา อสทฺธมฺมครุตาภาเวน เอกีภูตาปิ โกธาทิวิสิฏฺปฏิกฺเขปนานตฺเตน นานตฺตํ คตา. ปฏิปกฺโข วา ปฏิกฺขิปียติ เตน, สยํ วา ปฏิกฺขิปตีติ ปฏิกฺเขโปติ วุจฺจตีติ สทฺธมฺมครุตาปฏิกฺเขปนานตฺเตน อสทฺธมฺมครุตา อสทฺธมฺมา วา นานตฺตํ คตา. อโลโภติอาทีนํ ผสฺสาทีหิ นานตฺตํ โลภาทิวิสิฏฺเน ปฏิกฺเขเปน โลภาทิปฏิปกฺเขน วา เวทิตพฺพํ. อโลภาโทสาโมหานํ อฺมฺนานตฺตํ ยถาวุตฺเตน ปฏิกฺเขปนานตฺเตน โยเชตพฺพํ. ปทตฺถสฺส ปทนฺตเรน วิภาวนํ ปทตฺถุติ. เตน หิ ตํ ปทํ มหตฺถนฺติ ทีปิตํ โหติ อลงฺกตฺจาติ. อตฺถวิเสสาภาเวปิ อาภรณวเสน จ อาทรวเสน จ ปุน วจนํ ทฬฺหีกมฺมํ.

. ตชฺชนฺติ ตสฺส ผลสฺส อนุจฺฉวิกํ. น เกวลํ นิทฺทิสิยมานํ สาตเมว อธิกตํ , อถ โข ยถานิทฺทิฏฺานิ อารมฺมณานิปีติ ‘‘เตหิ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺส วา ชาตา การณภาเวน ผสฺสตฺถํ ปวตฺตาติ ตชฺชา. ตํสมงฺคีปุคฺคลํ, สมฺปยุตฺตธมฺเม วา อตฺตนิ สาทยตีติ สาตํ ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา. สุฏฺุ ขาทติ, ขณติ วา ทุกฺขนฺติ สุขํ.

. ปาโสติ ราคปาโส. โส หิ นิราวรณตฺตา อนฺตลิกฺขจโร. อกุสลมฺปิ ปณฺฑรนฺติ วุตฺตํ, โก ปน วาโท กุสลนฺติ อธิปฺปาโย. ตฺหิ ปณฺฑรโต นิกฺขนฺตํ สยฺจ ปณฺฑรนฺติ. อถ วา สพฺพมฺปิ จิตฺตํ สภาวโต ปณฺฑรเมว, อาคนฺตุโกปกฺกิเลสโวทาเนหิ ปน สาวชฺชานวชฺชานํ อุปกฺกิลิฏฺวิสุทฺธตรตา โหนฺตีติ. ทารุปฺปมาเณสุ สิลาทีสุ ขนฺธปฺตฺติยา อภาวา กิฺจิ นิมิตฺตํ อนเปกฺขิตฺวา ทารุมฺหิ ปวตฺตา ขนฺธปฺตฺตีติ ‘‘ปณฺณตฺติมตฺตฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ. ตํ-สทฺเทน มโนวิฺาณธาตุเยว วุจฺเจยฺย นิทฺทิสิตพฺพตฺตาติ น ตสฺสา ตชฺชตา. เตหิ อารมฺมเณหิ ชาตา ตชฺชาติ จ วุจฺจมาเน สมฺผสฺสชตา น วตฺตพฺพา. น หิ โส อารมฺมณํ, นาปิ วิเสสปจฺจโย. ‘‘ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติ วิฺาณเมว ผสฺสสฺส วิเสสปจฺจโยติ วุตฺโตติ ตสฺมา น วิฺาณํ วิเสสปจฺจยภูตํ สมฺผสฺสชตาย ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชาปฺตฺตึ ลภติ, น จ ตเทว ตสฺส การณภาเวน ผลภาเวน จ วุจฺจมานํ สุวิฺเยฺยํ โหตีติ. กึ วา เอเตน, ยถา ภควตา วุตฺตา ตํสภาวาเยว เต ธมฺมาติ น เอวํวิเธสุ การณํ มคฺคิตพฺพํ.

. เอวํตกฺกนวเสน โลกสิทฺเธนาติ อธิปฺปาโย. เอวฺเจวฺจ ภวิตพฺพนฺติ วิวิธํ ตกฺกนํ กูเป วิย อุทกสฺส อารมฺมณสฺส อากฑฺฒนํ วิตกฺกนํ.

. สมนฺตโต จรณํ วิจรณํ.

. อตฺตมนตาติ เอตฺถ อตฺต-สทฺเทน น จิตฺตํ วุตฺตํ. น หิ จิตฺตสฺส มโน อตฺถีติ. อตฺตมนสฺส ปน ปุคฺคลสฺส ภาโว อตฺตมนตาติ วตฺวา ปุน ปุคฺคลทิฏฺินิเสธนตฺถํ ‘‘จิตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ.

๑๑. น พลวตี, กสฺมา อวฏฺิติ วุตฺตาติ? เอกคฺคจิตฺเตน ปาณวธาทิกรเณ ตถา อวฏฺานมตฺตภาวโต . วิรูปํ, วิวิธํ วา สํหรณํ วิกิรณํ วิสาหาโร, สํหรณํ วา สมฺปิณฺฑนํ, ตทภาโว วิสาหาโร.

๑๒. อฺสฺมึ ปริยาเยติ อฺสฺมึ การเณ. สมานาธิกรณภาโว ทฺวินฺนํ พหูนํ วา ปทานํ เอกสฺมึ อตฺเถ ปวตฺติ.

๑๓. อารมฺภติ จาติ อาปชฺชติ จ. อุทฺธํ ยมนํ อุยฺยาโม. ธุรนฺติ นิปฺผาเทตุํ อารทฺธํ กุสลํ, ปฏิฺํ วา.

๑๔. ติณฺณนฺติ พุทฺธาทีนํ. จิตฺเต อารมฺมณสฺส อุปฏฺานํ โชตนฺจ สติเยวาติ ตสฺสา เอตํ ลกฺขณํ.

๑๖. ปาสาณสกฺขรวาลิกาทิรหิตา ภูมิ สณฺหาติ ‘‘สณฺหฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ.

๑๙. อยนฺตีติ เอกกมฺมนิพฺพตฺตมนุสฺสาทิสนฺตติอวิจฺเฉทวเสน ปวตฺตนฺติ. กุสลากุสเลสุปิ หิ ชีวิตํ อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน สมฺปยุตฺเต ปวตฺตยมานเมว ตทวิจฺเฉทสฺส ปจฺจโย โหติ.

๓๐. ยํ หิรียตีติ หิรียติ-สทฺเทน วุตฺโต ภาโว ยํ-สทฺเทน วุจฺจตีติ นฺติ ภาวนปุํสกํ วา เอตํ ทฏฺพฺพํ. หิริยิตพฺเพนาติ จ เหตุอตฺเถ กรณวจนํ ยุชฺชติ.

๓๒. อลุพฺภนกวเสนาติ เอตฺถ อลุพฺภนเมว อลุพฺภนกนฺติ ภาวนิทฺเทโส ทฏฺพฺโพ.

๓๓. อพฺยาปชฺโชติ พฺยาปาเทน ทุกฺเขน โทมนสฺสสงฺขาเตน โทเสน วิย น พฺยาปาเทตพฺโพติปิ อตฺโถ ยุชฺชติ.

๔๒-๔๓. ถินมิทฺธาทิปฏิปกฺขภาเวน กุสลธมฺเม อนิจฺจาทิมนสิกาเร จ สีฆํ สีฆํ ปริวตฺตนสมตฺถตา ลหุปริณามตา, อวิชฺชานีวรณานฺหิ ตณฺหาสํโยชนานํ สตฺตานํ อกุสลปฺปวตฺติ ปกติภูตาติ น ตตฺถ ลหุปริณามตาย อตฺโถ. เตสฺจ ภาโว ครุตาเยวาติ ตพฺพิธุรสภาวานํ ลหุตา ทฏฺพฺพา. สา หิ ปวตฺตมานา สีฆํ ภวงฺควุฏฺานสฺส ปจฺจโย โหติ.

๔๔-๔๕. เย จ ธมฺมา โมหสมฺปยุตฺตา วิย อวิปนฺนลหุตา, เตสฺจ กุสลกรเณ อปฺปฏิฆาโต มุทุตา. อปฺปฏิฆาเตน มุทุตาทิรูปสทิสตาย อรูปธมฺมานมฺปิ มุทุตา มทฺทวตาติอาทิ วุตฺตํ.

๔๖-๔๗. สิเนหวเสน กิลินฺนํ อติมุทุกํ จิตฺตํ อกมฺมฺํ โหติ วิลีนํ วิย สุวณฺณํ, มานาทิวเสน อติถทฺธฺจ อตาปิตํ วิย สุวณฺณํ, ยํ ปนานุรูปมุทุตายุตฺตํ, ตํ กมฺมฺํ โหติ ยุตฺตมทฺทวํ วิย สุวณฺณํ. ตสฺเสว มุทุกสฺส โย กมฺมฺากาโร, สา กมฺมฺตาติ มุทุตาวิสิฏฺา กมฺมฺตา เวทิตพฺพา.

๕๐-๕๑. ปจฺโจสกฺกนภาเวน ปวตฺตํ อกุสลเมว ปจฺโจสกฺกนํ. เอกวีสติ อเนสนา นาม เวชฺชกมฺมํ กโรติ, ทูตกมฺมํ กโรติ, ปหิณกมฺมํ กโรติ, คณฺฑํ ผาเลติ, อรุมกฺขนํ เทติ, อุทฺธํวิเรจนํ เทติ, อโธวิเรจนํ เทติ, นตฺถุเตลํ ปจติ, จกฺขุเตลํ ปจติ, เวฬุทานํ เทติ, ปณฺณทานํ เทติ, ปุปฺผทานํ เทติ, ผลทานํ เทติ, สินานทานํ เทติ, ทนฺตกฏฺทานํ เทติ, มุโขทกทานํ เทติ, จุณฺณทานํ เทติ, มตฺติกาทานํ เทติ, จาฏุกกมฺมํ กโรติ, มุคฺคสูปิยํ, ปาริภฏฺยํ, ชงฺฆเปสนิยํ ทฺวาวีสติมํ ทูตกมฺเมน สทิสํ, ตสฺมา เอกวีสติ. ฉ อโคจรา เวสิยาโคจโร, วิธวา, ถุลฺลกุมารี, ปณฺฑก, ปานาคาร, ภิกฺขุนีอโคจโรติ. สงฺเขปโตติ สรูเปน อนุทฺทิฏฺตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ฉนฺโท’’ติอาทิ น สกฺกา วตฺตุนฺติ ‘‘โย ฉนฺโท ฉนฺทิกตา’’ติอาทินิทฺเทสํ สงฺขิปิตฺวา ‘‘เย วา ปนา’’ติ นิทฺเทโส กโตติ อตฺโถ.

นิทฺเทสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โกฏฺาสวารวณฺณนา

๕๘-๑๒๐. นิทฺเทสวาเร ปุจฺฉาทีนํ ปจฺเจกํ อเนกตฺเตปิ ปุจฺฉาทิภาเวน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา จตุปริจฺเฉทตา วุตฺตา. จตฺตาโร ทฺเวติ เอวมาทิกํ สงฺขิปิตฺวา สห วา คหณํ สงฺคโห. เปตฺวา เยวาปนเกติ สงฺคเหตพฺเพ สนฺธาย วุตฺตํ. เต หิ วิสุํ วิสุํ อุทฺทิฏฺตฺตา นิทฺทิฏฺตฺตา จ วิปฺปกิณฺณาติ สงฺคเหตพฺพา โหนฺติ, น เยวาปนกา สงฺคหคมเนเนว ตถา อวิปฺปกิณฺณตฺตา. ยสฺมา ปน สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนา โหนฺติ, ตสฺมา ตํนิทฺเทเส อขนฺธภาวนิวารณตฺถํ เยวาปนาตฺเวว วุตฺตาติ น เยวาปนกา เปตพฺพาติ. ปจฺจยสงฺขาเตนาติ อาหารปจฺจยสงฺขาเตนาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ‘‘เหตุ ปจฺจโย’’ติ เอเตสุ ทฺวีสุ ชนโก เหตุ อุปตฺถมฺภโก ปจฺจโยติ เอวํ วิเสสวนฺเตสุ ปจฺจยสงฺขาเตน. ยถา หิ กพฬีการาหาโร โอชฏฺมกรูปาหรเณน รูปกายํ อุปตฺถมฺเภติ, เอวมิเมปิ เวทนาทิอาหรเณน นามกายนฺติ. ตถา จ โหนฺตีติ สาธารเณ สหชาตาทิปจฺจเย สนฺธายาห. อฺถา จาติ อฺเน จ เอเกนากาเรน ปจฺจยา โหนฺติเยวาติ อาหาราติ วุจฺจนฺตีติ อตฺโถ. ตสฺมา อาหรณกิจฺจรหิตานํ เหตุอธิปติอาทีนํ นตฺถิ อาหารภาวปฺปสงฺโค. ติสฺโส จ เวทนา อาหรตีติอาทิ ยถาสมฺภววเสน วุตฺตํ, น อิมสฺมึเยว จิตฺเต ผสฺสาทิวเสน. ตโย จ ภเวติ กามาทิภวภูตํ วิฺาณํ วิเสเสน, อวิเสเสน จ ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ.

อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา นิชฺฌายนํ จินฺตนํ อุปนิชฺฌายนํ. เหตฺวฏฺเนาติ อุปายตฺเถน, น มูลตฺเถน. ปุพฺพภาเค คโต ปฏิปนฺโน นานากฺขณิโก อฏฺงฺคิโก มคฺโค โลกุตฺตรกฺขเณว สห ปวตฺโต ยถาคตมคฺโคติ วุตฺโต. วิปสฺสนากฺขณโต ปุพฺเพว กายกมฺมาทีนํ สุปริสุทฺธตาย อฏฺงฺคิกมคฺคุปนิสฺสยสฺส ‘‘อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๑) เอวํ วุตฺเตน ปริยาเยน ปุพฺพภาคมคฺคสฺส อฏฺงฺคิกตา ยถาคตวจเนน ทีปิตา, น เอกกฺขเณ อฏฺนฺนํ องฺคานํ สพฺภาวาติ เอวมสฺสปิ ปริยายเทสนตา เวทิตพฺพา. วิชานนเมว จิตฺตวิจิตฺตตาติ ‘‘จิตฺตวิจิตฺตฏฺเน เอโกว ธมฺโม วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ อาห. จตฺตาโร ขนฺธา โหนฺตีติอาทีสุ เวทนากฺขนฺธาทีนํ สงฺคเห กเตปิ ปุน ‘‘เอโก เวทนากฺขนฺโธ โหตี’’ติอาทิวจนํ น อเนเก เวทนากฺขนฺธาทโย ชาตินิทฺเทเสน อิธ วุตฺตาติ ทสฺสนตฺถํ. อินฺทฺริเยสุ จ เอกสฺส ชาตินิทฺเทสภาเว ปฏิกฺขิตฺเต อฺเสํ อินฺทฺริยานํ อาหาราทีนฺจ ตปฺปฏิกฺเขโป กโต โหตีติ ปุพฺพงฺคมสฺส มนินฺทฺริยสฺเสว กโตติ ทฏฺพฺโพ.

โกฏฺาสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุฺตวารวณฺณนา

๑๒๑-๑๔๕. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ยถาวุตฺเต สมเย, เอเตสุ วา ธมฺเมสุ. ภาโวติ สตฺโต, โย โกจิ วา อตฺโถ.

ทุติยจิตฺตาทิวณฺณนา

๑๔๖. สปฺปโยเคนาติ ลีนสฺส จิตฺตสฺส อุสฺสาหนปโยคสหิเตน. สอุปาเยนาติ กุสลสฺส กรณากรเณสุ อาทีนวานิสํสปจฺจเวกฺขณํ ปเรหิ อุสฺสาหนนฺติ เอวมาทิอุปายสหิเตน.

๑๕๖-๑๕๙. มหาอฏฺกถายํ อนุฺาตา นาติสมาหิตาย ภาวนายาติ เยวาปนเกหิปิ นิพฺพิเสสตํ ทสฺเสติ.

ปุฺกิริยวตฺถาทิกถาวณฺณนา

อปจิติ เอว อปจิติสหคตํ ปุฺกิริยาวตฺถุ ยถา ‘‘นนฺทิราคสหคตา’’ติ. อปจิติ วา เจตนาสมฺปยุตฺตกธมฺมา กายวจีกิริยา วา, ตํสหิตา เจตนา อปจิติสหคตํ. หิตผรเณนาติ เทสเก เมตฺตาผรเณน, ‘‘เอวํ เม หิตํ ภวิสฺสตี’’ติ ปวตฺเตน หิตจิตฺเตน วา. กมฺมสฺสกตาาณํ ทิฏฺิชุกมฺมํ. นิยมลกฺขณนฺติ มหปฺผลตานิยมสฺส ลกฺขณํ. สีลมเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ จาริตฺตวเสน. อนวชฺชวตฺถุํ ปริจฺจชนฺโต วิย อพฺภนุโมทมาโนปิ ปรสฺส สมฺปตฺติยา โมทตีติ อพฺภนุโมทนา ทานมเย สงฺคหิตา. ภาเวนฺโตปีติ อสมตฺตภาวนํ สนฺธายาห. สมตฺตา หิ อปฺปนา โหตีติ. อฏฺเว โกฏฺาเส กตฺวาติ เอกสฺส สตฺตสฺส เอกสฺมึ ขเณ อุปฺปนฺนเมกํ ปมจิตฺตํ ทสฺเสตฺวา อฺานิ ตาทิสานิ อทสฺเสนฺเตน สพฺพานิ ตานิ สริกฺขฏฺเน เอกีกตานิ โหนฺติ, ตถา เสสานิปีติ เอวํ อฏฺ กตฺวา.

กามาวจรกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.

รูปาวจรกุสลํ

จตุกฺกนโย

ปมชฺฌานกถาวณฺณนา

๑๖๐. อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา รูปภโว รูปนฺติ วุตฺโต. ฌานสฺส อมคฺคภาเวปิ สติ มคฺควจนํ อฺมคฺคภาวนิวารณตฺถนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ มคฺคคฺคหณสฺส ปโยชนํ วุตฺตํ, น สพฺพสฺส กุสลชฺฌานสฺส มคฺคภาโวติ. ตตฺถ มคฺคสฺส ภาวนาย สมยววตฺถานสฺส กตตฺตา อมคฺคภาวนาสมเย ปวตฺตานํ ผสฺสาทีนํ กุสลภาโว น ทสฺสิโต สิยา, ตสฺมา สพฺพสฺส มคฺคภาโว ทสฺเสตพฺโพติ. อิโต อฺโ มคฺโค นตฺถีติ เอวํ อฺภูมิกวิธุโร สติ ปจฺจยนฺตเร รูปูปปตฺติชนกสภาโว วิปากธมฺมสภาโว วิย วิปากธมฺมวเสน สพฺพสมาโน มคฺคสทฺเทน วุตฺโตติ ทสฺเสตีติ เวทิตพฺพํ. กุสลํ ทานนฺติ อโลโภ ทฏฺพฺโพ. อถ วา เจตนา ทานํ, ตํ วชฺเชตฺวา อิตเร ทฺเว เจตนาสมฺปยุตฺตกาติ วุตฺตา. วฏฺฏนฺตีติ มคฺคภาวโต ฌานวจเนน สงฺคเหตฺวา มคฺโคติ วตฺตุํ วฏฺฏนฺตีติ อตฺโถ. โอกปฺปนาติ สทฺทหนา. อฺตฺถ ทิฏฺํ อตฺถํ ปริจฺจชิตฺวา ‘‘ชเนติ วฑฺเฒตี’’ติ อยมตฺโถ กสฺมา วุตฺโตติ นิรุปสคฺคสฺส อฺตฺถ เอวมตฺถสฺเสว ทิฏฺตฺตาติ อิมมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘ปุน จปรํ อุทายี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๔๖ อาทโย) สุตฺตมาหฏํ. เกสฺจิ อริยานํ อริยมคฺเคน สิทฺธานิ อฺานิ จ ฌานานิ ภาวนาสภาวาเนวาติ เตสุปิ ภาเวนฺเตน สมยววตฺถานํ อิชฺฌตีติ.

นิสฺสรนฺติ นิคฺคจฺฉนฺติ เอเตน, เอตฺถ วาติ นิสฺสรณํ. เก นิคฺคจฺฉนฺติ? กามา. เตสํ กามานํ นิสฺสรณํ ปหานนฺติ อตฺโถ. เอวฺหิ ‘‘กามาน’’นฺติ กตฺตริ สามิวจนํ ยุชฺชติ. วตฺถุกาเมหิปีติ วตฺถุกาเมหิ วิวิจฺเจวาติปิ อตฺโถ ยุชฺชตีติ เอวํ ยุชฺชมานตฺถนฺตรสมุจฺจยตฺโถ ปิ-สทฺโท, น กิเลสกามสมุจฺจยตฺโถ. กสฺมา? อิมสฺมึ อตฺเถ กิเลสกามานํ ทุติยปเทน วิเวกสฺส วุตฺตตฺตา. อกุสลสทฺเทน ยทิปิ กิเลสกามา, อถาปิ สพฺพากุสลา คหิตา, สพฺพถา ปน กิเลสกาเมหิ วิเวโก วุตฺโตติ อาห ‘‘ทุติเยน กิเลสกาเมหิ วิเวกวจนโต’’ติ. กามคุณาธิคมเหตุปิ ปาณาติปาตาทิอสุทฺธปฺปโยโค โหตีติ ตพฺพิเวเกน ปโยคสุทฺธิ วิภาวิตา. ตณฺหาสํกิเลสโสธเนน อาสยโปสนํ.

อฺเสมฺปิจาติ ทิฏฺิมานาทีนํ ผสฺสาทีนฺจ. อุปริ วุจฺจมานานิ ฌานงฺคานิ อุปริชฺฌานงฺคานิ, เตสํ อตฺตโน วิปจฺจนีกานํ ปฏิปกฺขภาวทสฺสนตฺถํ ตปฺปจฺจนีกนีวรณวจนํ. พฺยาปาทวิเวกวจเนน ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทิอาฆาตวตฺถุเภทวิสยสฺส โทสสฺส โมหาธิกานํ ถินมิทฺธาทีนํ วิเวกวจเนน ปฏิจฺฉาทนวเสน ทุกฺขาทิปุพฺพนฺตาทิเภทวิสยสฺส โมหสฺส วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต. กามราคพฺยาปาทตเทกฏฺถินมิทฺธาทิวิกฺขมฺภนกฺเจทํ สพฺพากุสลปฏิปกฺขสภาวตฺตา สพฺพกุสลานํ เตน สภาเวน สพฺพากุสลานํ ปหานํ โหนฺตมฺปิ กามราคาทิวิกฺขมฺภนสภาวเมวาติ ตํสภาวตฺตา อวิเสเสตฺวา นีวรณากุสลมูลาทีนํ วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหตีติ อาห.

วิตกฺกสฺส กิจฺจวิเสเสน ถิรภาวปฺปตฺเต ปมชฺฌานสมาธิมฺหิ ปจฺจนีกทูรีภาวกเตน ถิรภาเวน ตํสทิเสสุ วิตกฺกรหิเตสุ ทุติยชฺฌานาทิสมาธีสุ จ อปฺปนาติ อฏฺกถาโวหาโรติ วิตกฺกสฺส อปฺปนาโยโค วุตฺโต, อฺถา วิตกฺโกว อปฺปนาติ ตสฺส ตํสมฺปโยโค น สิยาติ. อตฺโถ…เป… ทฏฺพฺโพ ฌานสมงฺคิโน วิตกฺกวิจารสมงฺคิตาทสฺสเนน ฌานสฺเสว สวิตกฺกสวิจารภาวสฺส วุตฺตตฺตา.

วิเวกชํ ปีติสุขนฺติ เอตฺถ ปุริมสฺมึ อตฺเถ วิเวกชนฺติ ฌานํ. ปีติสุขสทฺทโต จ อตฺถิอตฺถวิเสสวโต อสฺส, อสฺมึ วาติ เอตฺถ -กาโร วุตฺโต. ทุติเย ปีติสุขเมว วิเวกชํ. วิเวกชํปีติสุขนฺติ จ อฺปทตฺเถ สมาโส ปจฺจตฺตนิทฺเทสสฺส จ อโลโป กโต, โลเป วา สติ ‘‘วิเวกชปีติสุข’’นฺติ ปาโติ อยํ วิเสโส. คณนานุปุพฺพตาติ คณนานุปุพฺพตาย, คณนานุปุพฺพตามตฺตํ วา ปมนฺติ วจนนฺติ อตฺโถ. นิจฺจาทิวิปลฺลาสปฺปหาเนน มคฺโค อสมฺโมหโต อนิจฺจาทิลกฺขณานิ ปฏิวิชฺฌตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. อสมฺโมสธมฺมํ นิพฺพานํ อวิปรีตลกฺขณตฺตา อนฺถาภาวโต ตถลกฺขณํ.

ทุติยชฺฌานกถาวณฺณนา

๑๖๑-๒. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ เอเตน เยหิ วิตกฺกวิจาเรหิ ปมชฺฌานสฺส โอฬาริกตา, เตสํ สมติกฺกมา ทุติยชฺฌานสฺส สมธิคโม, น สภาวโต อโนฬาริกานํ ผสฺสาทีนํ สมติกฺกมาติ อยมตฺโถ ทีปิโต โหติ. เอวํ ‘‘ปีติยา จ วิราคา’’ติอาทีสุ นโย . ตสฺมา วิตกฺกวิจารปีติสุขสมติกฺกมวจนานิ โอฬาริโกฬาริกงฺคสมติกฺกมา ทุติยาทิอธิคมปริทีปกานีติ เตสํ เอกเทสภูตํ วิตกฺกวิจารสมติกฺกมวจนํ ตํทีปกนฺติ วุตฺตํ. อถ วา วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนเนว ตํสมติกฺกมา ทุติยาธิคมทีปเกน ปีติวิราคาทิวจนานํ ปีติยาทิสมติกฺกมา ตติยาทิอธิคมทีปกตา โหตีติ ตสฺส ตํทีปกตา วุตฺตา.

นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิยาติ นีลโยคโต วตฺถํ นีลํ วิยาติ อธิปฺปาโย. เยน สมฺปสาทเนน โยคา ฌานํ สมฺปสาทนํ, ตสฺมึ ทสฺสิเต ‘‘สมฺปสาทนํ ฌาน’’นฺติ สมานาธิกรณนิทฺเทเสเนว ตํโยคา ฌาเน ตํสทฺทปฺปวตฺติ ทสฺสิตาติ อวิโรโธ ยุตฺโต. เอโกทิภาเว กถนฺติ เอโกทิมฺหิ ทสฺสิเต ‘‘เอโกทิภาวํ ฌาน’’นฺติ สมานาธิกรณนิทฺเทเสเนว ฌานสฺส เอโกทิวฑฺฒนตา วุตฺตา โหตีติ. เอโกทิภาวนฺติ ปนิทํ อุทฺธริตฺวา เอโกทิสฺส นิทฺเทโส น กตฺตพฺโพ สิยาติ เอโกทิภาวสทฺโท เอว สมาธิมฺหิ ปวตฺโต สมฺปสาทนสทฺโท วิย ฌานมฺหิ ปวตฺตตีติ ยุตฺตํ.

อปฺปิตาติ คมิตา วินาสํ. ทุติยชฺฌานาทิอธิคมุปายทีปเกน อชฺฌตฺตสมฺปสาทนตาย เจตโส เอโกทิภาวตาย จ เหตุทีปเกน อวิตกฺกาวิจารภาวเหตุทีปเกน จ วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนเนว วิตกฺกวิจาราภาโว ทีปิโตติ กึ ปุน อวิตกฺกอวิจารวจเนน กเตนาติ? น, อทีปิตตฺตา. น หิ วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนน วิตกฺกวิจารานํ อปฺปวตฺติ วุตฺตา โหติ. วิตกฺกวิจาเรสุ หิ ตณฺหาปหานฺจ เอเตสํ วูปสมนํ. เย จ สงฺขาเรสุ ตณฺหาปหานํ กโรนฺติ, เตสุ มคฺเคสุ ปหีนตณฺเหสุ ผเลสุ จ สงฺขารปฺปวตฺติ โหติ, เอวมิธาปิ วิกฺขมฺภิตวิตกฺกวิจารตณฺหสฺส ทุติยชฺฌานสฺส วิตกฺกวิจารสมฺปโยโค ปุริเมน น นิวาริโต สิยาติ ตํนิวารณตฺถํ อาวชฺชิตุกามตาทิอติกฺกโมว เตสํ วูปสโมติ ทสฺสนตฺถฺจ ‘‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ วุตฺตํ.

ตติยชฺฌานกถาวณฺณนา

๑๖๓. ปริสุทฺธปกติ ขีณาสวปกติ นิกฺกิเลสตา. อุเปกฺขานิมิตฺตนฺติ เอตฺถ ลีนุทฺธจฺจปกฺขปาตรหิตํ มชฺฌตฺตํ วีริยํ ‘‘อุเปกฺขา’’ติ วุตฺตํ, ตเทว ตํ อาการํ คเหตฺวา ปวตฺเตตพฺพสฺส ตาทิสสฺส วีริยสฺส นิมิตฺตภาวโต อุเปกฺขานิมิตฺตํ. ปมชฺฌานปฺปฏิลาภตฺถาย นีวรเณ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติปฏิลาภตฺถาย อากิฺจฺายตนสฺํ ปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนาปฺาสงฺขารุเปกฺขาสุ าณนฺติ อิมา อฏฺ สมาปตฺติวเสน อุปฺปชฺชนฺติ. โสตาปตฺติมคฺคปฏิลาภตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ นิมิตฺตํ อายูหนํ ปฏิสนฺธึ คตึ นิพฺพตฺตึ อุปปตฺตึ ชาตึ ชรามรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสอุปายาเส. โสตาปตฺติผลสมาปตฺตตฺถาย อุปฺปาทํ…เป… อุปายาเส…เป… อรหตฺตมคฺคปฏิลาภตฺถาย อุปฺปาทํ…เป… อุปายาเส. อรหตฺตผลสมาปตฺตตฺถาย…เป… สุฺตวิหารสมาปตฺตตฺถาย…เป… อนิมิตฺตวิหารสมาปตฺตตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ อายูหนํ ปฏิสนฺธึ…เป… ปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณนฺติ อิมา ทส วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ.

ยทตฺถิ ยํ ภูตนฺติ ขนฺธปฺจกํ, ตํ มุฺจิตุกมฺยตาาเณน ปชหติ. ทิฏฺโสวตฺถิกตฺตยสฺส สปฺปลกฺขณวิจินเน วิย ทิฏฺลกฺขณตฺตยสฺส ภูตสฺส สงฺขารลกฺขณวิจินเน อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. อนาโภครสาติ ปณีตสุเขปิ ตสฺมึ อวนติ ปฏิปกฺขกิจฺจาติ อตฺโถ. นามกาเยน เจตสิกสุขํ กายิกสุขเหตุ รูปสมุฏฺาปเนน กายิกสุขฺจ ฌานสมงฺคี ปฏิสํเวเทตีติ วุจฺจติ. ผุฏตฺตา พฺยาปิตตฺตา. ยถา หิ อุทเกน ผุฏสรีรสฺส ตาทิเส นาติปจฺจนีเก วาตาทิเก โผฏฺพฺเพ ผุฏฺเ สุขํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ เอเตหิ ผุฏสรีรสฺสปิ.

จตุตฺถชฺฌานกถาวณฺณนา

๑๖๕. อวิภูตปจฺจุปฏฺานาติ สุขทุกฺขานิ วิย อวิภูตาการา ปิฏฺิปาสาณคตมิคมคฺโค วิย ตทนุมาตพฺพาวิภูตากาโรปฏฺานา.

จตุกฺกนยวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจกนยวณฺณนา

๑๖๗. ยสฺสา ปน ธมฺมธาตุยาติ สพฺพฺุตฺาณสฺส. เตน หิ ธมฺมานํ อาการเภทํ ตฺวา ตทนุรูปํ เทสนํ นิยาเมตีติ. เอตฺถ จ ปฺจกนเย ทุติยชฺฌานํ จตุกฺกนเย ทุติยชฺฌานปกฺขิกํ กตฺวา วิภตฺตํ ‘‘ยสฺมึ…เป… มคฺคํ ภาเวติ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ. กสฺมา? เอกตฺตกายนานตฺตสฺีสตฺตาวาสผลตาย ทุติยชฺฌาเนน สมานผลตฺตา ปมชฺฌานสมาธิโต ชาตตฺตา จ. ปมชฺฌานเมว หิ กาเมหิ อกุสเลหิ จ วิวิตฺตนฺติ ตทภาวา น อิธ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหี’’ติ สกฺกา วตฺตุํ, นาปิ ‘‘วิเวกช’’นฺติ. สุตฺตนฺตเทสนาสุ จ ปฺจกนเย ทุติยตติยชฺฌานานิ ทุติยชฺฌานเมว ภชนฺติ วิตกฺกวูปสมา วิจารวูปสมา อวิตกฺกตฺตา อวิจารตฺตา จาติ.

ปฏิปทาจตุกฺกวณฺณนา

๑๗๖-๑๘๐. ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารนฺติ นีวรณวิตกฺกวิจารนิกนฺติยาทีนํ วูปสมา ถิรภูโต กามาวจรสมาธิ. ตทนุธมฺมตาติ ตทนุรูปตาภูตา, สา ปน ตทสฺสาทสงฺขาตา ตทสฺสาทสมฺปยุตฺตกฺขนฺธสงฺขาตา วา มิจฺฉาสตีติ วทนฺติ. อวิคตนิกนฺติกา ตํตํปริหรณสตีติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ เอวฺจ กตฺวา ‘‘สติยา วา นิกนฺติยา วา’’ติ วิกปฺโป กโต. อาคมนวเสนาปิ จ ปฏิปทา โหนฺติเยวาติ อิทํ กทาจิ ทุติยาทีนํ ปมาทิอาคมนกตปฏิปทตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อปิ-สทฺโท หิ อเนกนฺติกตํ ทีเปติ, เอตสฺส อเนกนฺติกตฺตา เอว จ ปาฬิยํ เอเกกสฺมึ ฌาเน จตสฺโส ปฏิปทา จตฺตาริ อารมฺมณานิ โสฬสกฺขตฺตุกฺจ วิสุํ วิสุํ โยชิตํ. อฺถา เอเกกสฺมึ ปฏิปทาทิมฺหิ นว นว ฌานานิ โยเชตพฺพานิ สิยุนฺติ.

อารมฺมณจตุกฺกวณฺณนา

๑๘๑. อปฺปคุณนฺติ ปฺจหิ วสิตาหิ อวสีกตํ.

อารมฺมณปฏิปทามิสฺสกวณฺณนา

๑๘๖. เหฏฺาติ โสฬสกฺขตฺตุกโต ปุพฺเพ. เย เกจิ ฌานํ อุปฺปาเทนฺติ นามาติ วจเนน เย กตาธิการา เสกฺขา มคฺเคเนว อุปฺปาทิตชฺฌานา, เตสํ ฌานานิ มคฺคปฏิพทฺธตาย สุทฺธิกนวกสงฺคหิตานีติ เวทิตพฺพานิ. น หิ เต อุปฺปาเทนฺติ นามาติ.

กสิณกถาวณฺณนา

๒๐๓. นิโรธปาทกตาวจเนน อารุปฺปปาทกตา จ ทสฺสิตา. ขิปฺปทสฺสนํ ขิปฺปาภิฺตา ขิปฺปนิสนฺติภาโว.

อภิภายตนกถาวณฺณนา

๒๐๔. อฺมฺปีติ เกวลํ กสิณายตนสงฺขาตเมว อหุตฺวา อภิภายตนสงฺขาตมฺปิ ปวตฺตตีติ สติปิ อภิภายตนานํ กสิณายตนตฺเต กสิณายตนภาวโต อฺโ อภิภายตนภาโว กสิณนิมิตฺตาภิภวนกภาวนานิมิตฺตนานตฺตโตติ ทสฺเสติ. ตตฺถ อภิภวตีติ อภิภุ, ปริกมฺมํ, าณํ วา. อภิภุ อายตนํ เอตสฺสาติ อภิภายตนํ, ฌานํ. อภิภวิตพฺพํ วา อารมฺมณสงฺขาตํ อายตนํ เอตสฺสาติ อภิภายตนํ, ฌานํ. อารมฺมณาภิภวนโต อภิภุ จ ตํ อายตนฺจ โยคิโน สุขวิเสสานํ อธิฏฺานภาวโต มนายตนธมฺมายตนภาวโต จาติปิ สสมฺปยุตฺตํ ฌานํ อภิภายตนํ. มคฺคปฺปฏิพทฺธตาย ตทา สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺส อาโภโค ปุพฺพภาคภาวนาวเสน ฌานกฺขเณ ปวตฺตํ อภิภวนาการํ คเหตฺวา ปวตฺโต วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. อาคเมสุ ปน ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก…เป… ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๗๓; ม. นิ. ๒.๒๔๙; อ. นิ. ๘.๖๕) อิเมสํ จตุนฺนํ อภิภายตนานํ อาคตตฺตา อาคมฏฺกถาสุ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๒. ๒๔๙-๒๕๐; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๘.๖๕) ‘‘วณฺณวเสน อาโภเค วิชฺชมาเนปิ ปริตฺตอปฺปมาณวเสเนว อิมานิ อภิภายตนานิ เทสิตานี’’ติ วุตฺตํ. ปริตฺตอปฺปมาณตา หิ อภิภวนสฺส การณํ วณฺณาโภเค สติปิ อสติปิ. ตตฺถ จ วณฺณาโภครหิตานิ สหิตานิ จ สพฺพานิ ปริตฺตานิ ‘‘สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ วุตฺตานิ, ตถา อปฺปมาณานีติ ทฏฺพฺพานิ. อตฺถิ หิ เอโส ปริยาโย ปริตฺตานิ อภิภุยฺย ตานิ เจ กทาจิ วณฺณวเสน อาภุชิตานิ โหนฺติ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ อภิภุยฺยาติ. อิธ ปน นิปฺปริยายเทสนตฺตา วณฺณาโภครหิตานิ วิสุํ วุตฺตานิ สหิตานิ จ. อตฺถิ หิ อุภยตฺถ อภิภวนวิเสโสติ.

ตตฺถ จ ปริยายเทสนตฺตา วิโมกฺขานมฺปิ อภิภวนปริยาโย อตฺถีติ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี’’ติ อภิภายตนทฺวยํ วุตฺตํ, ตติยจตุตฺถอภิภายตเนสุ ทุติยวิโมกฺโข วณฺณาภิภายตเนสุ ตติยวิโมกฺโข จ อภิภวนปฺปวตฺติโต สงฺคหิโต, อิธ ปน นิปฺปริยายเทสนตฺตา วิโมกฺขาภิภายตนานิ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ วิโมกฺเข วชฺเชตฺวา อภิภายตนานิ กถิตานิ. สพฺพานิ จ วิโมกฺขกิจฺจานิ วิโมกฺขเทสนาย วุตฺตานิ, ตเทตํ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี’’ติ อาคตสฺส อภิภายตนทฺวยสฺส อภิภายตเนสุ อวจนโต ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีนฺจ สพฺพวิโมกฺขกิจฺจสาธารณวจนภาวโต ววตฺถานํ กตนฺติ วิฺายติ.

อชฺฌตฺตรูปานํ อนภิภวนียโตติ อิทํ กตฺถจิปิ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปานิ ปสฺสตี’’ติ อวตฺวา สพฺพตฺถ ยํ วุตฺตํ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ, ตสฺส การณวจนํ. เตน ยํ อฺเหตุกํ, ตํ เตน เหตุนา วุตฺตํ. ยํ ปน เทสนาวิลาสเหตุกํ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺิตาย เอว อิธ วจนํ, น ตสฺส อฺํ การณํ มคฺคิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อชฺฌตฺตรูปานํ อนภิภวนียตา จ พหิทฺธารูปานํ วิย อวิภูตตฺตา, เทสนาวิลาโส จ ยถาวุตฺตววตฺถานวเสน เวทิตพฺโพ. สุวณฺณทุพฺพณฺณานีติ เอเตเนว สิทฺธตฺตา นีลาทิอภิภายตนานิ น วตฺตพฺพานีติ เจ? น, นีลาทีสุ กตาธิการานํ นีลาทิภาวสฺเสว อภิภวนการณตฺตา. น หิ เตสํ ปริสุทฺธาปริสุทฺธวณฺณปริตฺตตา ตทปฺปมาณตา วา อภิภวนการณํ, อถ โข นีลาทิภาโว เอวาติ.

อภิภายตนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วิโมกฺขกถาวณฺณนา

๒๔๘. รูปีติ เยนายํ สสนฺตติปริยาปนฺเนน รูเปน สมนฺนาคโต, ตํ ยสฺส ฌานสฺส เหตุภาเวน วิสิฏฺํ รูปํ โหติ. เยน วิสิฏฺเน รูปีติ วุจฺเจยฺย, ตเทว สสนฺตติปริยาปนฺนรูปนิมิตฺตํ ฌานมิว ปรมตฺถโต รูปีภาวสาธกนฺติ ทฏฺพฺพํ. กสิณเทสนา ฌานานเมว กสิณภาเวน ปวตฺตา อภิธมฺเม, สุตฺเต ปน อารมฺมณานนฺติ ‘‘อภิธมฺมวเสนา’’ติ วุตฺตํ.

วิโมกฺขกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

พฺรหฺมวิหารกถาวณฺณนา

๒๕๑. โสมนสฺสโทมนสฺสรหิตํ อฺาณเมว อฺาณุเปกฺขา. กิเลโสธีนํ มคฺโคธีหิ อชิตตฺตา อโนธิชินสฺส. สตฺตมภวาทิโต อุทฺธํ ปวตฺตวิปากสฺส อชิตตฺตา อวิปากชินสฺส. นิทฺโทสภาเวนาติ นิปฺปฏิฆภาเวน. เอกสฺสปิ สตฺตสฺส อปฺปฏิภาคนิมิตฺตตฺตา ปริจฺเฉทคฺคหณํ นตฺถิ, น จ สมฺมุติสจฺจวเสน ปวตฺตํ สตฺตคฺคหณํ ปริจฺฉินฺนรูปาทิคฺคหณํ โหตีติ อปฺปนาปฺปตฺติยาปิ อปรามาสสตฺตคฺคหณมุทฺธภูตานํ เมตฺตาทีนํ เอกสตฺตารมฺมณานมฺปิ อปฺปมาณโคจรตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

พฺรหฺมวิหารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อสุภกถาวณฺณนา

๒๖๓. อุทฺธํ ธุมาตตฺตา อุทฺธุมาตํ. เสตรตฺเตหิ ปริภินฺนํ วิมิสฺสิตํ นีลํ วินีลํ, ปุริมวณฺณวิปริณามภูตํ วา นีลํ วินีลํ. สงฺฆาโฏ องฺคานํ สุสมฺพทฺธตา. อารมฺมณสฺส ทุพฺพลตา ปฏิปกฺขภาเวน จิตฺตํ เปตุํ อสมตฺถตา. อตฺตนิ อานิสํสทสฺสนนีวรณโรควูปสมานํ ยถากฺกมํ ปุปฺผฉฑฺฑกวมนวิเรจนอุปมา โยเชตพฺพา. ปฏิกูลมนสิการสามฺเน อสุเภหิ เกสาทีหิ ปฏิกูลชฺฌานสฺส คหณํ สิวถิกาวณฺณชฺฌานสฺส จ. ตมฺปิ หิ ปฏิกูลมนสิการวเสเนว อุปฺปชฺชตีติ, สิวถิกปฺปการานิ วา สิวถิกาวณฺณานิ.

อสุภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

รูปาวจรกุสลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อรูปาวจรกุสลกถาวณฺณนา

๒๖๕. สพฺพากาเรนาติ เอวํ รูปนิมิตฺตํ ทณฺฑาทานสมฺภวทสฺสนาทินา สพฺเพน รูปรูปนิมิตฺเตสุ ตทารมฺมณชฺฌาเนสุ โทสทสฺสนากาเรน, รูปาทีสุ นิกนฺติปฺปหานอนาวชฺชิตุกามตาทินา วา. วิราคาติ ชิคุจฺฉนา. อาเนฺชาภิสงฺขารวจนาทีหิ อาเนฺชตา ‘‘สนฺตา อิเม จุนฺท อริยสฺส วินเย วิโมกฺขา’’ติอาทินา สนฺตวิโมกฺขตา จ วุตฺตา. โทสทสฺสนปฏิปกฺขภาวนาวเสน ปฏิฆสฺานํ สุปฺปหีนตฺตา มหตาปิ สทฺเทน อรูปสมาปตฺติโต น วุฏฺาติ. ตถา ปน น สุปฺปหีนตฺตา สพฺพรูปสมาปตฺติโต วุฏฺานํ สิยา, ปมชฺฌานํ ปน อปฺปกมฺปิ สทฺทํ น สหตีติ ตํ สมาปนฺนสฺส สทฺโท กณฺฏโกติ วุตฺตํ.

อารุปฺปภาวนาย อภาเว จุติโต อุทฺธํ อุปฺปตฺติรหานํ รูปสฺาปฏิฆสฺานํ ยาว อตฺตโน วิปากปฺปวตฺติ, ตาว อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน สมติกฺกโม อตฺถงฺคโม จ วุตฺโต. นานตฺตสฺาสุ ปน ยา ตสฺมึ ภเว น อุปฺปชฺชนฺติ, ตา อโนกาสตาย น อุปฺปชฺชนฺติ, น อารุปฺปภาวนาย นิวาริตตฺตา. อนิวาริตตฺตา จ กาจิ อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺมา ตาสํ อมนสิกาโร อนาวชฺชนํ อปจฺจเวกฺขณํ, ชวนปฏิปาทเกน วา ภวงฺคมนสฺส อนฺตเร อกรณํ อปฺปเวสนํ วุตฺตํ, เตน จ นานตฺตสฺามนสิการเหตูนํ รูปานํ สมติกฺกมา สมาธิสฺส ถิรภาวํ ทสฺเสติ. รูปสมติกฺกมาภาเวเนว หิ รูปสมาปตฺตีสุ ‘‘นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’’ติ เอกสฺส อวจนนฺติ. โก อานิสํโส, น หิ สพฺพสฺสาทวตฺถุรหิเต อากาเส ปวตฺติตสฺาย อานิสํโส ทิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติ. รูปสฺาสมติกฺกมนาทิกํ วจนํ อานิสํสสฺส ปกาสนํ, น อตฺโถ.

อฺตฺถาติ สุตฺเตสุ. ตตฺถ หิ ปริตฺตกสิณุคฺฆาฏเนปิ รูปวิเวกมตฺตคฺคหเณน ปริจฺเฉทสฺส อคฺคหณโต อนนฺตผรณตา จ วุตฺตา, อิธ ปน อนนฺตผรณตาสพฺภาเวปิ อุคฺฆาฏิตกสิณวเสน ปริตฺตานนฺตตา โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อนนฺโต อากาโส’’ติ น วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. สมยววตฺถาปนฌานวิเสสเนเนเวตฺถ อตฺโถ, น ปฏิปตฺติยาติ ตทวจนํ.

๒๖๖. ปมารุปฺปวิฺาณํ อตฺตโน ผรณากาเรเนว อนนฺตนฺติ มนสิกาตพฺพตฺตา ‘‘อนนฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อุคฺฆาฏภาโว อุคฺฆาฏิมํ.

๒๖๗. อกิฺจนนฺติ วิฺาณสฺส กิฺจิ ปการํ อคฺคเหตฺวา สพฺเพน สพฺพํ วิภาวนํ อาห.

๒๖๘. ยายาติ สงฺขาราวเสสสฺาย. ตํ ตาว ปฏิปตฺตึ. อาวชฺชิสฺสามีติอาทินา ตนฺนินฺนาวชฺชนาทิปวตฺติยา อภาวํ ทสฺเสติ, น ตทติกฺกมนตฺถาย อาวชฺชนภาวนาปวตฺติยา. นาสฺาติ สฺาภาโว จ เอติสฺสา อตฺถีติ อตฺโถ. สมูหคหณวเสน ปวตฺตํ กลาปสมฺมสนํ. ผสฺสาทิเอเกกธมฺมคหณวเสน ปวตฺตา อนุปทธมฺมวิปสฺสนา.

อากาเส ปวตฺติตวิฺาณาติกฺกมโต ตติยา. ตทติกฺกมโต หิ ตสฺเสว วิภาวนํ โหติ. ทุติยารุปฺปวิฺาณวิภาวเน หิ ตเทว อติกฺกนฺตํ สิยา, น ตสฺส อารมฺมณํ, น จารมฺมเณ โทสํ ทิสฺวา อนารมฺมณสฺส วิภาวนาติกฺกโม ยุชฺชติ. ปาฬิยฺจ ‘‘วิฺาณฺจายตนสมาปตฺตึ สโต สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺหิตฺวา ตฺเว วิฺาณํ อภาเวตี’’ติ (จูฬนิ. อุปสีวมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๓๙) ตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘ตฺเว วิฺาณฺจายตนํ อภาเวตี’’ติ, ‘‘ตฺเว อภาเวตี’’ติ วา. ‘‘อนนฺตํ วิฺาณนฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺชา’’ติ (วิภ. ๕๐๘) เอตฺถ ปน ทฺวยํ วุตฺตํ อารมฺมณฺจ วิฺาณํ วิฺาณฺจายตนฺจ. ตสฺมึ ทฺวเย เยน เกนจิ ยโต วา วุฏฺิโต, เตเนว ปฏฺานนิทฺทิฏฺเน ตํสทฺทสฺส สมฺพนฺเธ อาปนฺเน วิฺาณฺจายตนสฺส นิวตฺตนตฺถํ วิฺาณวจนํ, ตสฺมา ปมารุปฺปวิฺาณสฺเสว อภาวนาติกฺกโม วุตฺโต. ตนฺนิสฺสิตนฺติ เตน นิสฺสิตํ. ตํ มณฺฑปลคฺคํ อนิสฺสาย เตน วินาภูเต วิวิตฺเต พหิ โอกาเส านํ วิย อากาสลคฺควิฺาณสฺส วิเวเก ตทปคเม ตติยารุปฺปสฺส านํ.

อรูปาวจรกุสลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เตภูมกกุสลวณฺณนา

๒๖๙. อิเมตาว ฉนฺทาธิปเตยฺเย ปฺจ นยาติ ฉนฺทาธิปเตยฺยนเย อนฺเต ปุริมนยานํ ตํนยาภิมุขปฺปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ, อยํ ปน ปกาโร น ปาฬิอนุคโต. น หิ ปาฬิยํ สุทฺธิกนยาทโย วตฺวา วีริยาธิปเตยฺยาทินยา วุตฺตาติ. มหาปกรเณ สตฺตหิ มหาวาเรหิ อนุโลมาทินยวิจิตฺเตหิ หีนตฺติโก วิภตฺโต. ตตฺถ จ มชฺฌิมธมฺเมกเทสภูตา อิเม วีสติ โลกิยมหานยาติ กตฺวา ‘‘ตตฺถ วิภตฺตา’’ติ วุตฺตํ, น เอเตน กเมน อิเมสํ นยานํ ตตฺถ อาคตตฺตา.

เอวเมเตสํ วิภตฺตฏฺานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เอตสฺมึ เตภูมกกุสลกถาวสานฏฺาเน อฏฺารสกมฺมทฺวารทสฺสนตฺถํ ‘‘อิมสฺมึ ปน าเน’’ติอาทิมาห. อถ วา หีนปณีเตหิ วินิวตฺเตตฺวา มชฺฌิมราสิอนฺโตคธภาวํ ทสฺเสนฺเตน เอเตสํ เตภูมกกุสลนยานํ หีนตฺติเก วิภาโค กโต. ‘‘อิมสฺมึ ปน าเน’’ติอาทิกสฺส ยถาวุตฺโตว สมฺพนฺโธ. หีนตฺติเก มชฺฌิมราสิมฺหิ เย สวิปากา วฏฺฏนิสฺสิเตเนว ทานาทิวเสน ปวตฺติตา, เต หีนาติ กาตพฺพา. เย วิวฏฺฏนิสฺสิเตน ทานาทิวเสน ปวตฺติตา, เต ปณีตาติ กาตพฺพา. อวิปากา มชฺฌิมาติ กาตพฺพา. อวิปากตฺตา จ เตสุ มชฺฌิมราสึ เปตฺวา อิตเร ทฺเว เอกนฺตวฏฺฏนิสฺสิตา นว, วิวฏฺฏุปนิสฺสยภูตา จ นวาติ อฏฺารส กมฺมทฺวารานิ, กมฺมานิ จ ตานิ ตสฺส ตสฺส ผลสฺส การณภาเวน ทฺวารานิ จาติ กมฺมทฺวารานิ. ตตฺถ ตตฺถ วา จิตฺตานิ กมฺมทฺวารานีติ อาห. ตํตํทฺวารานิ วา กายาทีนิ. อฏฺารส ขตฺติยา จ อภพฺพา หีนหีนตฺตยาทโย นว, ภพฺพา จ ปณีตปณีตตฺตยาทโย นวาติ กมฺมานุรูเปเนว เวทิตพฺพา. เอวํ พฺราหฺมณาทโย เทวา จ โยเชตพฺพา. อฏฺจตฺตาลีส โคตฺตจรณานิ เตสฺเว ขตฺติยาทีนํ เภทา. ‘‘กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ…เป… จิตฺตาธิปเตยฺย’’นฺติ (ธ. ส. ๒๖๙-๒๗๐) เอวํ วุตฺโต จิตฺตสฺส จิตฺตาธิปเตยฺยภาโว, จิตฺตเจตสิกสมุทาเย สมยววตฺถาปโก จิตฺตสทฺโท ปวตฺโตติ ‘‘สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วเสน วุตฺโต’’ติ อาห.

เตภูมกกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.

โลกุตฺตรกุสลวณฺณนา

๒๗๗. โลกํตรตีติ เอเตน โลกสมติกฺกมปฏิปตฺติมาห. อุตฺตรตีติ เอเตน โลกสฺสนฺตคมนํ ผเล ปติฏฺานํ ผลํ. สมติกฺกมฺมาติอาทินา นิพฺพานํ. สมติกฺกมฺมาติ หิ นิสฺสริตฺวา. อภิภุยฺยาติ วิสํยุตฺตํ หุตฺวาติ อตฺโถ. ติวิโธปิ จตฺโถ มคฺคาทีสุ เอเกกสฺมึ โยเชตพฺโพ, มคฺเคเยว วา อิธ ตสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เอกจิตฺตกฺขณิกนฺติ เอกมคฺคสฺส ทฺเว วาเร อนุปฺปตฺตึ สนฺธายาห. อฺมฺํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิสาธิกาย ปฺาย วฑฺเฒติ. ‘‘นิยฺยาตีติ นิยฺยานีย’’นฺติ วตฺตพฺเพ อี-การสฺส รสฺสตฺตํ ย-การสฺส จ ก-การํ กตฺวา ‘‘นิยฺยานิก’’นฺติ วุตฺตํ. นิยฺยาติ เอเตนาติ นิยฺยานํ, นิยฺยานเมว นิยฺยานิกํ เวนยิโก วิย. เอตฺถ ‘‘เนยฺยานิก’’นฺติ วตฺตพฺเพ อิ-การสฺส เอ-การตฺตํ อกตฺวา วุตฺตํ.

ผลนฺติ จิตฺตเจตสิกราสิ วุจฺจติ, ตํ อฺมฺํ สมฺปยุตฺตานํ ธมฺมานํ อตฺตโน อวยวภูตานํ นิสฺสโย โหติ. ผลาณํ วา ผลํ, สมฺมาทิฏฺิอาทโย องฺคานิ วา. โลกุตฺตรภาเวติ โลกํ อุตฺติณฺณภาเว. เตน ผลนิพฺพานานิ สงฺคณฺหาติ. เตสุ ยํ ภวติ ผลํ, ตํ ‘‘ภูมี’’ติ วุจฺจติ. ยถา วา กมฺมนิพฺพตฺตา กามภวาทโย ตํสมงฺคิโน นิสฺสยภาเวน ‘‘ภูมี’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํ มคฺเคน นิพฺพตฺตํ ผลํ อริยสาวกสฺส กาเลน กาลํ สมาปชฺชิตพฺพตาย นิสฺสยภาวโต ‘‘ภูมี’’ติ วุจฺจติ, ตโตเยว อริยา จิรตรํ ติฏฺนฺติ. สมุจฺเฉทวิเวกวเสนาติ เอตฺถ อปายคมนียานํ อจฺจนฺตสมุจฺเฉโท อิตเรสฺจ วิชฺชุโตภาเสน วิย ตมสฺส สมุจฺเฉโท ทฏฺพฺโพ. โลกิยชฺฌานมฺปิ ปุถุชฺชนสฺส อริยสฺส จ อกตาธิการสฺส น วินา ปฏิปทาย อิชฺฌติ, กตาธิการสฺส ปน อริยสฺส มคฺเคเนว สมิชฺฌนโต วิปากานํ วิย กุสเลน ตถา สมิทฺธสฺส อริยมคฺเคน สทิสตาย อภาวโต อตพฺพิปากตฺตา จ น มคฺคปฏิปทา ตสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาติ สกฺกา วตฺตุนฺติ ตตฺถ ตถา ครุํ กตฺวา ปฏิปทาหิ เอว เทสนา น กตา, ยถาวุตฺตชฺฌานสงฺคหตฺถํ สุทฺธิกเทสนาปิ กตา.

อิธ ปน กสฺสจิ วินา ปฏิปทาย อสิทฺธิโต ครุํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกฺขปฏิปท’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. โย โกจิ วาโรติ สกึ ทฺวิกฺขตฺตุํ ติกฺขตฺตุํ จตุกฺขตฺตุํ อเนกกฺขตฺตุนฺติ เอวมาทีสุ วิกฺขมฺภนวาเรสุ โย โกจิ. สกึ ทฺวิกฺขตฺตุฺจ วิกฺขมฺภนวารา สุขา ปฏิปทา เอว, น จ ตโต อุทฺธํ สุขา ปฏิปทา โหตีติ ติกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภนวารํ ทุกฺขา ปฏิปทาติ โรเจสุํ อฏฺกถาจริยา. ตสฺมึ ตถาโรจิเต ตโต ปเรสุ จตุกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภนวาราทีสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ. รูปารูปานํ ลกฺขณาทีหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา คหณํ รูปารูปปริคฺคโห, นามรูปมตฺตเมตํ, น อฺโ โกจิ สตฺตาทิโกติ ววตฺถาปนํ นามรูปววตฺถาปนํ. ปริคฺคหิตรูปารูปสฺส มคฺคปาตุภาวทนฺธตา จ นามรูปววตฺถาปนาทีนํ กิจฺฉสิทฺธิโต สิยาติ น รูปารูปปริคฺคหกิจฺฉตาย เอว ทุกฺขปฏิปทตา วตฺตพฺพาติ เจ? ตํ น, นามรูปววตฺถาปนาทีนํ ปจฺจนีกกิเลสมนฺทตาย สุขสิทฺธิยมฺปิ ตถาสิทฺธวิปสฺสนาสหคตานํ อินฺทฺริยานํ มนฺทตาย มคฺคปาตุภาวทนฺธภาวโต.

รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวาติ อกิจฺเฉนปิ ปริคฺคเหตฺวา. กิจฺเฉน ปริคฺคหิเต วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เอวํ เสเสสุปิ. อิมํ วารํ โรเจสุนฺติ กลาปสมฺมสนาวสาเน อุทยพฺพยานุปสฺสนาย วตฺตมานาย อุปฺปนฺนสฺส วิปสฺสนุปกฺกิเลสสฺส ติกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภเนน กิจฺฉตาวารํ ทุกฺขา ปฏิปทาติ โรเจสุํ เอตทนฺตตฺตา ปฏิปทาย. เอตสฺส อกิจฺฉตฺเตปิ ปุริมานํ กิจฺฉตฺเต ทุกฺขปฏิปทตา วุตฺตนยาวาติ น ปฏิสิทฺธาติ ทฏฺพฺพํ. ยถาวุตฺตํ วา สพฺพํ รูปารูปปริคฺคหาทิกิจฺฉตํ ติกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภนวารตาวเสน ‘‘อิมํ วาร’’นฺติ อาห. ยสฺส ปน สพฺพตฺถ อกิจฺฉตา, ตสฺส สุขา ปฏิปทา เวทิตพฺพา.

มุสาวาทาทีนํ วิสํวาทนาทิกิจฺจตาย ลูขานํ อปริคฺคาหกานํ ปฏิปกฺขภาวโต ปริคฺคาหกสภาวา สมฺมาวาจา. สา สินิทฺธภาวโต สมฺปยุตฺตธมฺเม ปริคฺคณฺหาติ สมฺมาวาจาปจฺจยสุภาสิตโสตารฺจ ชนํ. กายิกกิริยากิจฺจํ กตฺตพฺพํ สมุฏฺาเปติ, สยฺจ สมุฏฺหนํ ฆฏนํ โหตีติ สมฺมากมฺมนฺตสงฺขาตา วิรติปิ สมุฏฺานสภาวาติ วุตฺตา. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา อุกฺขิปนํ สมุฏฺหนํ กายิกกิริยาย ภารุกฺขิปนํ วิย, ชีวมานสฺส สตฺตสฺส, สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา สุทฺธิ โวทานํ อาชีวสฺเสว วา ชีวิตินฺทฺริยวุตฺติยา.

๒๘๓. มคฺคสนฺนิสฺสิตนฺติ ปรมตฺถมคฺคสภาวตฺตา มคฺคาวยวภาเวน สมุทายสนฺนิสฺสิตนฺติ อตฺโถ.

๒๘๕. ปติฏฺานํ กิเลสวเสน, อายูหนํ อภิสงฺขารวเสน. ตณฺหาวเสน วา ปติฏฺานํ, ทิฏฺิวเสน อายูหนํ. โพธีติ ยา อยํ ธมฺมสามคฺคี วุจฺจตีติ โยเชตพฺพา. เสนงฺครถงฺคาทโย วิยาติ เอเตน ปุคฺคลปฺตฺติยา อวิชฺชมานปฺตฺติภาวํ ทสฺเสติ. องฺค-สทฺโท การณตฺโถปิ โหตีติ จตุสจฺจโพธาย สํวตฺตนฺตีติ โพชฺฌงฺคา. พุชฺฌนฺตีติ โพธิโย, โพธิโย เอว องฺคาติ ‘‘อนุพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา’’ติ วุตฺตํ. วิปสฺสนาทีนํ การณานํ พุชฺฌิตพฺพานฺจ สจฺจานํ อนุรูปํ ปจฺจกฺขภาเวน ปฏิมุขํ อวิปรีตตาย สมฺมา จ พุชฺฌนฺตีติ เอวมตฺถวิเสสทีปเกหิ อุปสคฺเคหิ ‘‘อนุพุชฺฌนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โพธิ-สทฺโท หิ สพฺพวิเสสยุตฺตํ พุชฺฌนํ สามฺเน สงฺคณฺหาตีติ.

๒๙๙. ติณฺณนฺติ ราคาทีนํ. กโรติ นาม กึ ทุจฺจริตานิ อนุวตฺตมานานิ.

๓๐๑. ปาณาติปาตาทินิปฺผาทิตปจฺจยานํ นิจฺจเสวนํ ธุวปฏิเสวนํ. สกิจฺจโกติ วิสุํ อตฺตโน กิจฺจวา. น โหตีติ อตฺถนฺตรภาวํ ปฏิกฺขิปติ. ปจฺจยปฏิเสวนสามนฺตชปฺปนอิริยาปถปฺปวตฺตนานิ ปาปิจฺฉตานิพฺพตฺตานิ ตีณิ กุหนวตฺถูนีติ.

๓๔๓. วุฏฺานคามินีวิปสฺสนา สงฺขารุเปกฺขา สานุโลมา, สา สุฺโต ปสฺสนฺตี ‘‘สุฺตา’’ติ วุจฺจติ, ทุกฺขโต ปสฺสนฺตี ตณฺหาปณิธิโสสนโต ‘‘อปฺปณิหิต’’นฺติ. สา อาคมนียฏฺาเน มคฺคาธิคมตฺถํ อาคมนปฏิปทาาเน ตฺวา สุฺตาปฺปณิหิตนฺติ นามํ เทติ. อาคมนโต นาเม ลทฺเธ สคุณโต อารมฺมณโต จ นามํ สิทฺธเมว โหติ, น ปน สคุณารมฺมเณหิ นามลาเภ สพฺพตฺถ อาคมนโต นามํ สิทฺธํ โหตีติ ปริปุณฺณนามสิทฺธิเหตุตฺตา สคุณารมฺมเณหิ สพฺเพสมฺปิ นามตฺตยโยโค, น อาคมนโตติ ววตฺถานกรตฺตา จ นิปฺปริยายเทสนาย อาคมนโตว อิธ นามํ ลภติ, น อิตเรหีติ วุตฺตํ.

๓๕๐. อนิมิตฺตวิปสฺสนนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนํ. นิมิตฺตธมฺเมสูติ สมูหาทิฆนวเสน จ สกิจฺจปริจฺเฉทตาย จ สปริคฺคเหสุ ขนฺเธสุ. อนิมิตฺตวิโมกฺโขติ อนิจฺจานุปสฺสนมาห. เอวํสมฺปทมิทนฺติ กถมิธ อุปมาสํสนฺทนํ โหติ. น หิ ฉนฺทจิตฺตานํ มคฺคสงฺขาตอธิปติภาวาภาโว วิย สทฺธินฺทฺริยาธิกสฺส อนิมิตฺตวิโมกฺขสฺส อนิมิตฺตภาวาภาโว อตฺถิ, น จ อมคฺคาธิปตีนํ มคฺคาธิปตินามทานาภาโว วิย อนิมิตฺตสฺส อนิมิตฺตนามทานาภาโวติ สกฺกา วตฺตุํ อนิมิตฺตวิโมกฺขสฺส อนนิมิตฺตตาย อภาวโต . มคฺโค อธิปติ เอเตสนฺติ จ มคฺคาธิปติโนติ ยุตฺโต ตตฺถ ฉนฺทจิตฺเตหิ ตํสมฺปยุตฺตานํ มคฺคาธิปติภาวาภาโว. อิธ ปน มคฺโค อนิมิตฺตํ เอตสฺสาติ มคฺคานิมิตฺโตติ อยมตฺโถ น สมฺภวตีติ น เตน อมคฺเคน มคฺคสฺส อนิมิตฺตภาโว น ยุชฺชติ, กึ วา เอตฺถ สามฺํ อธิปฺเปตนฺติ. อมคฺคงฺคมคฺคนามาภาโว. ยถา สติปิ อธิปติภาเว ฉนฺทจิตฺตานํ น มคฺคาธิปตีติ มคฺคนามํ, น จ เตหิ มคฺคสฺส เตสํ อมคฺคงฺคตฺตา, ตถา สติปิ สทฺธาย อาคมนภาเวน ตสฺสา อนิมิตฺตนฺติ มคฺคนามํ, น จ ตาย มคฺคสฺส ตสฺสา อมคฺคงฺคตฺตา. เอวํ อนิมิตฺตวิปสฺสนายปิ อนิมิตฺตภาโว นิปฺปริยาเยน นตฺถีติ ทีปิโต โหติ.

นนุ จ อิธ ฌานํ สุฺตาทินาเมน วุตฺตํ, น มคฺโคติ เจ? น, มคฺคสมฺปโยคโต ฌานสฺส สุฺตาทินามกตฺตา. สุตฺตนฺตปริยาเยน สคุณารมฺมเณหิ อิธ อภิธมฺเมปิ นามํ ลภตีติ อาหํสุ. ตสฺมา ปฏิกฺขิตฺตา ‘‘น ปน ลภนฺตี’’ติ. กึ การณา? อภิธมฺเม สรสํ อนามสิตฺวา ปจฺจนีกโตว นามลาภาติ อธิปฺปาโย. โย หิ สคุณารมฺมเณหิ นามลาโภ, โส สรสปฺปธาโน โหติ. สรเสเนว จ นามลาเภ สพฺพมคฺคานํ สุฺตาทิภาโวติ ววตฺถานํ น สิยา. ตสฺมา อภิธมฺเม สติปิ ทฺวีหิ นามลาเภ ปจฺจนีกโต นามววตฺถานกรํ คหิตนฺติ สคุณารมฺมเณหิ สุฺตาปฺปณิหิตมคฺคา นามํ น ลภนฺตีติ อาห. อถ วา น ปน ลภนฺตีติ อฺนิรเปกฺเขหิ สคุณารมฺมเณหิ น ลภนฺติ. กึ การณา? อภิธมฺเม สรสปจฺจนีเกหิ สหิเตหิ นามลาภาติ อตฺโถ. ปจฺจนีกฺหิ ววตฺถานกรํ อนเปกฺขิตฺวา เกวลสฺส สรสสฺส นามเหตุภาโว อภิธมฺเม นตฺถิ อววตฺถานาปตฺติโต. ตสฺมา อตฺตาภินิเวสปณิธิปฏิปกฺขวิปสฺสนานุโลมา มคฺคา สติปิ สรสนฺตเร ปจฺจนีกสหิเตน สรเสน นามํ ลภนฺติ. อนิมิตฺตมคฺคสฺส ปน วิปสฺสนา นิมิตฺตปฏิปกฺขา น โหติ สยํ นิมิตฺตคฺคหณโต นิมิตฺตคฺคหณานิวารณาติ ตทนุโลมมคฺโคปิ น นิมิตฺตสฺส ปฏิปกฺโข. ยทิ สิยา, นิมิตฺตคตวิปสฺสนายปิ ปฏิปกฺโข สิยาติ. ตสฺมา วิชฺชมาโนปิ สรโส ววตฺถานกรปจฺจนีกาภาวา อภิธมฺเม อนิมิตฺตนฺติ นามทายโก น คหิโต. อนิจฺจานุปสฺสนานุโลโม ปน มคฺโค สุทฺธิกปฏิปทานเยเยว สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ. ตสฺมา เอว จ โส นโย วุตฺโตติ. เอวนฺติ ยํ วกฺขติ ‘‘อนิจฺจโต วุฏฺหนฺตสฺส มคฺโค อนิมิตฺโต โหตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐), เอวํ อาหริตฺวา อฏฺกถาจริเยหิ โส อนิมิตฺตมคฺโค ทีปิโตติ อตฺโถ.

วุฏฺาน…เป… กิมารมฺมณาติ อนิจฺจาทิโต วุฏฺหนฺตสฺส วุฏฺานคามินิยา ลกฺขณารมฺมณตฺเต สติ สงฺขาเรหิ วุฏฺานํ น สิยา, สงฺขารารมฺมณตฺเต จ ลกฺขณปฏิเวโธติ มฺมาโน ปุจฺฉติ. ‘‘อนิจฺจ’’นฺติอาทินา สงฺขาเรสุ ปวตฺตมาเนน าเณน ลกฺขณานิปิ ปฏิวิทฺธานิ โหนฺติ ตทาการสงฺขารคหณโตติ อาห ‘‘ลกฺขณารมฺมณา’’ติ. สงฺขารารมฺมณา เอว ยถาวุตฺตาธิปฺปาเยน ‘‘ลกฺขณารมฺมณา’’ติ วุตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ลกฺขณํ นามา’’ติอาทิมาห. อนิจฺจตา ทุกฺขตา อนตฺตตาติ หิ วิสุํ คยฺหมานํ ลกฺขณํ ปฺตฺติคติกํ ปรมตฺถโต อวิชฺชมานํ, อวิชฺชมานตฺตา เอว ปริตฺตาทิวเสน นวตฺตพฺพธมฺมภูตํ. ตสฺมา วิสุํ คเหตพฺพสฺส ลกฺขณสฺส ปรมตฺถโต อภาวา ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา’’ติ สงฺขาเร สภาวโต สลฺลกฺเขนฺโตว ลกฺขณานิ สลฺลกฺเขติ นามาติ อาห ‘‘โย ปน อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ ตีณิ ลกฺขณานิ สลฺลกฺเขตี’’ติ. ยสฺมา จ อนิจฺจนฺติอาทินา สงฺขาราว ทิสฺสมานา, ตสฺมา เต กณฺเ พทฺธกุณปํ วิย ปฏินิสฺสชฺชนียา โหนฺติ.

โลกุตฺตรกุสลํ

ปกิณฺณกกถาวณฺณนา

ตตฺราติ โลกุตฺตรชฺฌาเน. อชฺฌตฺตฺจาติ อุปฑฺฒคาถาย อภินิวิสิตพฺพํ วุฏฺาตพฺพํ วิปสฺสนาภูมึ ปฺจธา อุทฺทิสติ. สตฺตอฏฺาทีนิ องฺคานิ สตฺตฏฺงฺคานีติ อาทิสทฺทสฺส โลโป ทฏฺพฺโพ. นิมิตฺตนฺติ ยโต วุฏฺานํ, ตานิ นิมิตฺตปวตฺตานิ นิมิตฺตวจเนเนว อุทฺทิสติ. สงฺขารุเปกฺขาาณเมว อริยมคฺคสฺส โพชฺฌงฺคาทิวิเสสํ นิยเมติ. กสฺมา? ตโต ตโต ทุติยาทิปาทกชฺฌานโต อุปฺปนฺนสฺส สสงฺขารุเปกฺขาาณสฺส ปาทกชฺฌานาติกฺกนฺตานํ องฺคานํ อสมาปชฺชิตุกามตาวิราคภาวนาภาวโต อิตรสฺส จ อตพฺภาวโต. เตสมฺปิ วาเทสุ…เป… วิปสฺสนาว นิยเมตีติ เวทิตพฺพา. กสฺมา? วิปสฺสนานิยเมเนว หิ ปมตฺเถรวาเทปิ อปาทกปมชฺฌานปาทกมคฺคา ปมชฺฌานิกาว โหนฺติ, อิตเร จ ปาทกชฺฌานวิปสฺสนานิยเมหิ ตํตํฌานิกา. เอวํ เสสวาเทสุปิ วิปสฺสนานิยโม ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ.

ปกิณฺณกสงฺขาเรติ ปาทกชฺฌานโต อฺสงฺขาเร. เตน ปาทกชฺฌานสงฺขาเรสุ สมฺมสิเตสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. ตตฺราปีติ ทุติยตฺเถรวาเทปิ. ตํตํฌานิกตา ตํตํสมฺมสิตสงฺขารวิปสฺสนานิยเมหิ โหติ. ตตฺราปิ หิ วิปสฺสนา ตํตํวิราคาวิราคภาวนาภาเวน โสมนสฺสสหคตา อุเปกฺขาสหคตา จ หุตฺวา ฌานงฺคาทินิยมํ มคฺคสฺส กโรตีติ เอวํ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

นฺติ ตํตํฌานสทิสภวนํ. สฺวายมตฺโถ ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานุปนิสฺสเยหิ วินา อชฺฌาสยมตฺเตน อสิชฺฌนา อุปนิสฺสเยน วินา สงฺกปฺปมตฺเตน สกทาคามิผลาทีนํ อสิชฺฌนทีปเกน นนฺทโกวาเทน (ม. นิ. ๓.๓๙๘ อาทโย) ทีเปตพฺโพ. ตตฺถ หิ โสตาปนฺนายปิ ปริปุณฺณสงฺกปฺปภาวํ วทนฺเตน ภควตา ยสฺส ยสฺส อุปนิสฺสโย อตฺถิ, ตสฺส ตสฺเสว อชฺฌาสโย นิยามโก, นาฺสฺสาติ เตน เตน ปริปุณฺณสงฺกปฺปตา โหติ, น ตโต ปรํ สงฺกปฺปสพฺภาเวปิ อสิชฺฌนโตติ อยมตฺโถ ทีปิโต โหติ. เอวมิธาปิ ยสฺส ยสฺส ทุติยาทิฌานิกสฺส มคฺคสฺส ยถาวุตฺโต อุปนิสฺสโย อตฺถิ, ตสฺส ตสฺเสว อชฺฌาสโย นิยามโก, นาฺสฺส สติปิ ตสฺมึ อสิชฺฌนโต. อิมสฺมึ ปน วาเท ปาทกสมฺมสิตชฺฌานุปนิสฺสยสพฺภาเว อชฺฌาสโย เอกนฺเตน โหติ, ตํตํผลูปนิสฺสยสพฺภาเว ตํตํสงฺกปฺโป วิยาติ ตทภาวาภาวโต อชฺฌาสโย นิยเมตีติ วุตฺตํ.

ยสฺมึ ปน ปาทกชฺฌานํ นตฺถีติ จตุตฺถชฺฌานิกวชฺชานํ ปาทกานิ โลกิยชฺฌานานิ สนฺธาย วุตฺตํ. อปฺปนาปฺปตฺติ จ โอฬาริกงฺคาติกฺกมนุปนิสฺสยาภาเว ปฺจหิ องฺเคหิ วินา น โหตีติ ‘‘โสมนสฺสสหคตมคฺโค โหตี’’ติ อาห. อุเปกฺขาสหคตมคฺโคติ เอเตน จตุตฺถชฺฌานิกตาปิ สมานา อนุสยสมุคฺฆาฏนสมตฺถสฺส น สงฺขาราวเสสตาติ ทสฺเสติ. เต จ วาทา น วิรุชฺฌนฺติ อชฺฌาสยวเสน ปฺจมชฺฌานิกตาย ปมาทิชฺฌานิกตาย จ สมฺภวโตติ อธิปฺปาโย. อชฺฌาสโย จ สาตฺถโก โหติ, อฺถา ปาทกสมฺมสิตชฺฌาเนเหว นิยมสฺส สิทฺธตฺตา อชฺฌาสโย นิยามโก วุจฺจมาโน นิรตฺถโก สิยาติ. อิธ ปน อฏฺสาลินิยา นิยามเน เอกนฺติกํ วิปสฺสนาสงฺขาตํ อตฺถเมว อุทฺธริตฺวา ‘‘เตสมฺปิ วาเทสุ อยํ…เป… วิปสฺสนาว นิยเมตี’’ติ วทนฺเตน ตโยเปเต วาเท วิปสฺสนาว นิยเมตีติ ทสฺสิตํ. ตํตํวาทานฺหิ วิปสฺสนาสหิตานเมว สิทฺธิ, นาฺถาติ ทสฺสิตนฺติ.

ปเวธตีติ โคตฺรภุสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. ยทิ ปฺจมจิตฺตกฺขเณ ชวนํ ปติตํ นาม โหติ, กถํ ตทา โคตฺรภุ ตทนนฺตรฺจ มคฺโค ชวนสฺส ปติตกฺขเณ อุปฺปชฺชตีติ? อปุพฺพสฺส ชวนนฺตรสฺส ปติตตาภาวโต. ตเทว หิ ชวนํ อเนกกฺขตฺตุํ ปวตฺตมานํ ปติตํ สิยาติ, โคตฺรภุ ปน อารมฺมณนฺตเร อุปฺปนฺนํ อปุพฺพํ ชวนํ, ตถา มคฺโค ภูมนฺตรโต จาติ. นนุ จ สตฺตมชวนเจตนาย พลวตาย อุปปชฺชเวทนียภาโว โหติ อานนฺตริยตาปีติ, ตตฺถายํ อธิปฺปาโย สิยา ‘‘ปฏิสนฺธิยา อนนฺตรปจฺจยภาวิโน วิปากสนฺตานสฺส อนนฺตรปจฺจยภาเวน อนฺติมชวนเจตนาย สุสงฺขตตฺตา สา สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียา อานนฺตริกา จ โหติ, น อปติตชวนเจตนา วิย พลวตายา’’ติ.

ปุน อนุโลมํ ตํ อนุพนฺเธยฺยาติ โคตฺรภุสฺส หิ สงฺขารารมฺมณตฺเต สติ ตทปิ อนุโลมเมวาติ ปุริมอนุโลมํ วิย ตํ ตทปิ อฺํ อนุโลมํ อนุพนฺเธยฺย, น มคฺโคติ มคฺควุฏฺานเมว จ น ภเวยฺย อตฺตโน สทิสาลมฺพนสฺส อาวชฺชนฏฺานิยสฺส ปจฺจยสฺส อลาภา. อปฺปหีนภาเวน ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อนุสยิตา กิเลสา สา ภูมิ เอเตหิ ลทฺธาติ กตฺวา ภูมิลทฺธา. วฏฺฏํ สิโนนฺติ พนฺธนฺตีติ กตฺวา วฏฺฏเสตู จ, เตสํ สมุคฺฆาตกรณนฺติปิ เอตเทวสฺส โลภกฺขนฺธาทิปทาลนํ วุจฺจติ. นฺติ ปวตฺตํ. เอกํ ภวนฺติ อนาคามิโน อเนกกฺขตฺตุฺจ ตตฺเถว อุปปชฺชนฺตสฺส เหฏฺา อนาคมนวเสน เอโก ภโวติ คเหตฺวา วุตฺตํ.

อิมสฺส ปนตฺถสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส อุปาทินฺนกปวตฺตโต วุฏฺานสฺส. อปาเยสุ สตฺตมภวโต อุทฺธํ สุคติยฺจ วิปากทายกสฺส อภิสงฺขารวิฺาณสฺส ปจฺจยฆาโต โสตาปตฺติมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรโธ ทฏฺพฺโพ. ทฺวีสุ ภเวสูติ อนาคามิมคฺเค อภาวิเต สกทาคามิสฺส กามธาตุยํ เย ทฺเว ภวา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสูติ อตฺโถ. จลตีติ เอเตน จลนสภาวเมว ทสฺเสติ, น อจลนาภาวํ, ตสฺมา อจลนํ ทสฺเสตฺวา ปุน จลนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตถาคตสฺส หี’’ติอาทิมาห. เยปิ วา กตฺถจิ จตฺตาโรปิ มคฺเค สมานปฏิปเท ทิสฺวา สภาวโต อจลนเมว คณฺเหยฺยุํ, เตสํ ตํคหณนิวารณตฺถํ ‘‘จลตี’’ติ วุตฺตํ, น จลนาวธารณตฺถนฺติ ยุตฺตํ อุภยทสฺสนํ. อถ วา ยทิปิ เกสฺจิ จตฺตาโรปิ มคฺคา สมานปฏิปทา, ตถาปิ กิเลสินฺทฺริเยหิ สิชฺฌมานา ปฏิปทา เตสํ วเสน จลนปกติกา เอวาติ ‘‘จลติ’’จฺเจว วุตฺตํ, น ‘‘น จลตี’’ติ.

โลกุตฺตรกุสลปกิณฺณกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมมคฺควีสติมหานยวณฺณนา

๓๕๗. ยสฺส ปุพฺพภาเค ‘‘มคฺคํ ภาเวมี’’ติ อชฺฌาสโย ปวตฺโต, โส มคฺคํ ภาเวติ. เอวํ สพฺพตฺถ อชฺฌาสยวิเสเสน ตํตํภาวนาวิเสโส ทฏฺพฺโพ.

๓๕๘. ฉนฺทาธิปเตยฺยนฺติอาทีสุ เอกจิตฺตกฺขเณ วตฺตมาเนสุ ธมฺเมสุ กถํ ฉนฺทสฺส ตํสหชาตสฺส อธิปติภาโว วีริยาทีนฺจาติ? อุปนิสฺสยวเสน. ยสฺส หิ สเจ ฉนฺทวโต กุสลํ นิปฺผชฺชติ, ‘‘อหํ นิปฺผาเทสฺสามี’’ติ ปวตฺตมานสฺส กุสลํ นิปฺผนฺนํ, ตสฺส ตํสหชาโต ฉนฺโท เตน ปุริมุปนิสฺสเยน วิสิฏฺโ สหชาตธมฺเม อตฺตโน วเส วตฺเตติ. ตสฺมิฺจ ปวตฺตมาเน เต ปวตฺตนฺติ, นิวตฺตมาเน นิวตฺตนฺติ, ตทนุรูปพลา จ โหนฺติ ราชปุริสา วิยาติ. เอวํ วีริยาทีสุ. เสสธมฺมานํ ปน กตฺถจิ วุตฺตปฺปการปฺปวตฺติสพฺภาเวปิ อตํสภาวตฺตา อธิปติภาโว นตฺถีติ ทฏฺพฺโพ.

ทุติยมคฺควณฺณนา

๓๖๑. อา-การสฺส รสฺสตฺตํ กตฺวา อฺินฺทฺริยํ วุตฺตํ, อา-กาโร จ ธมฺมมริยาทตฺโถ.

ตติยจตุตฺถมคฺควณฺณนา

๓๖๒. มคฺคงฺคานิ น ปูเรนฺติ อกิจฺจกตฺตา สมฺมาทิฏฺิยาติ อธิปฺปาโย. มาเรนฺโต คจฺฉตีติ หิ มคฺโค, น เจตาย มาเรตพฺพํ อตฺถีติ. มานสฺส ทิฏฺิสทิสา ปวตฺติ อหมสฺมีติ ปวตฺตมานสฺส ทิฏฺิฏฺาเน านํ. อาโลกสฺเสว ปวตฺติกาโล วิยาติ จิรปฺปวตฺตึ สนฺธายาห. เอกเทสสามฺเน หิ ยถาธิปฺเปเตน อุปมา โหตีติ. ขาเร วาติ กฏฺาทีนํ ขารจฺฉาริกายํ. สมฺมทฺทิตฺวาติ กิเลเทตฺวา. ฉนฺโทติ ตณฺหา. อนุสโยติ ตณฺหา มานานุสโย จ. เอตสฺมิฺจ สุตฺเต อสมูหตสฺส คนฺธสฺส สมุคฺฆาฏนํ วิย อสมูหตมานาทิสมุคฺฆาตํ ทสฺเสนฺเตน อฺมฺเ กิเลเส ปชหตีติ ทสฺสิตนฺติ อานีตํ, น ยถาวุตฺตนเยน อุปมาย วุตฺตตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. นิรนฺตรํ ปวตฺตมาเน จิตฺเต ตสฺส สํกิเลสโวทานกรา สาวชฺชานวชฺชา เจตสิกา อุปฺปชฺชมานา ตสฺสงฺคภูตา อวยวา วิย โหนฺตีติ ‘‘จิตฺตงฺควเสนา’’ติ วุตฺตํ.

โลกุตฺตรกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.

กุสลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อกุสลปทํ

ธมฺมุทฺเทสวาโร

ปมจิตฺตกถาวณฺณนา

๓๖๕. กุสเล วุตฺตนยํ อนุคนฺตฺวา ยถานุรูปํ เวทิตพฺพตาย ‘‘วุตฺตนเยนา’’ติ อาห. คนฺตพฺพาภาวโตติ พุชฺฌิตพฺพาภาวโต. ทิฏฺิยา คตมตฺตนฺติ ทิฏฺิยา คติมตฺตํ คหณมตฺตํ. อาสนฺนการณตฺตา อโยนิโสมนสิการสฺส วิสุํ คหณํ เอกนฺตการณตฺตา จ. สติสํวโรติ อิธ สีตาทีหิ ผุฏฺสฺส อปฺปมชฺชนํ ขมนํ ทฏฺพฺพํ. ปหานสํวโรติ วีริยสํวโร.

อสฺสาททสฺสนนฺติ อสฺสาททิฏฺิ. ผลฏฺเน ปจฺจุปฏฺาเนน อสมฺมาปฏิปตฺติปจฺจุปฏฺาโนโมโห, สมฺมาปฏิปตฺติปฏิปกฺขภาวคฺคหณากาโร วา. สพฺพสฺส โลภสฺส อภิชฺฌาภาเว สติปิ วิเสสยุตฺตาย อภิชฺฌาย กมฺมปถปฺปตฺตาย อิธุปฺปชฺชมานาย ลกฺขณาทึ ทสฺเสตุํ ‘‘สา ปรสมฺปตฺตีน’’นฺติอาทิมาห. อตฺตโน ปริณามนสฺส ปุเรจาริกา ตณฺหาภิรติ อภิรติ.

อนุปปริกฺขา โมโห. โมหวเสน หิ ทิฏฺิวเสน วา อวตฺถุสฺมึ สานุนโย อธิโมกฺโข อุปฺปชฺชตีติ. อสติยจิตฺเตติ อหิริกาทีหิ อารกฺขรหิตจิตฺเต. สติรหิตตฺตา สติปฏิปกฺขตฺตา จาติ เอเตน สติรหิตา สติปฏิปกฺขา จ อกุสลา ขนฺธา เอว มิจฺฉาสตีติ ทสฺเสติ. เต ปน อุปนาหาทิปฺปวตฺติยํ จิรกตาทิสลฺลกฺขเณ ปฏุสฺาสมฺปยุตฺตา ทฏฺพฺพา. สทรถาทิภาโว อวิเสเสน กิเลสสมฺปโยคโต วุตฺโต ลหุตาทิเอกนฺตปฏิปกฺขานํ ถินมิทฺธาทีนํ เกสฺจิ อิธ อภาวา. อวูปสโมติ อสนฺนิสินฺนสพฺภาวมาห. อนวฏฺานรสนฺติ จลนกิจฺจํ. เจตโส อวูปสเมติ นิปฺผาเทตพฺเพ ปโยชเน ภุมฺมํ, อวูปสมปจฺจยภูตํ อารมฺมณํ วา ‘‘อวูปสโม’’ติ วุตฺตํ.

ธมฺมุทฺเทสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิทฺเทสวารกถาวณฺณนา

๓๗๗. สหชาตธมฺเมสุอกมฺปนํ น โกสชฺเชสุ อกมฺปนํ วิย ตปฺปฏิปกฺขภาวโต ทฏฺพฺพํ, ตํตํปาปกิริยาย อุสฺสหนวเสน ปน ถิรตา ตตฺถ อกมฺปนํ.

๓๘๑. ทิฏฺิยา วิรูปํ ผนฺทิตนฺติ ตถา ตถา สสฺสตาทิวเสน ปวตฺตา ทิฏฺิ เอว วุจฺจติ. ตรนฺตีติ ติตฺเถ วิย ปิลวนฺติ. วิปริเยสโตติ วตฺถุสฺส วิปรีตโต.

๓๙๐. สภาวปฏิจฺฉาทนวเสน ปกติอตฺตาทิอสนฺตคหณสฺส อนิจฺจาทีนํ นิจฺจาทิวิสมคหณสฺส จ สฺาทิวิปริเยสสฺส นิสฺสยตฺตา ‘‘อสนฺตํ อสมฺจ พุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ.

ทุติยจิตฺตวณฺณนา

๓๙๙. กิฺจาปิ…เป… ปรามสนฺตสฺส อุปฺปชฺชตีติ ปุริมจิตฺเตน อวิเสสํ ทสฺเสติ. อนุสฺสาหนาวสีทนภาเวน สํหตภาโว ถินํ.

ตติยจิตฺตวณฺณนา

๔๐๐. อิธ มาเนน สทฺธึ ปฺจ อปณฺณกงฺคานีติ อวิรชฺฌนกงฺคานิ อุปฺปตฺติอรหงฺคานิ โหนฺตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. มานสฺส อนิยตตฺตา น นิยตเยวาปนกาติ . ปฏฺาเน หิ ‘‘สํโยชนํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ สํโยชโน ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยา’’ติ (ปฏฺา. ๓.๔.๑) เอตฺถ ‘‘จตุกฺขตฺตุํ กามราเคน ติกฺขตฺตุํ ปฏิเฆน จ มาโน วิจิกิจฺฉา ภวราโค ตโยเปเต สกทาคามิโน สํโยชนานํ สํโยชเนหิ ทสวิธา โยชนา’’ติ ทสฺสิตาย ทสวิธาย โยชนาย ‘‘กามราคสํโยชนํ ปฏิจฺจ มานสํโยชนํ อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ วตฺวา ‘‘กามราคสํโยชนํ ปฏิจฺจ อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ ‘‘มานสํโยชนํ ปฏิจฺจ ภวราคสํโยชนํ อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ จ วตฺวา ‘‘ภวราคสํโยชนํ ปฏิจฺจ อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ วุตฺตาหิ โยชนาหิ มานสฺส อนิยตภาโว ปกาสิโต, ตถา กิเลสทุเกปิ. อิธ จ วกฺขติ ‘‘ทสวิธา สํโยชนานํ โยชนา, ตถา ทสวิธา กิเลสาน’’นฺติ จ. อุนฺนมนวเสเนว สมฺปคฺคหรโส, น วีริยํ วิย ตํตํกิจฺจสาธเน อพฺภุสฺสาหนวเสน. โอมานสฺสปิ อตฺตานํ อวํกตฺวา คหณํ สมฺปคฺคโหติ ทฏฺพฺโพ.

จตุตฺถจิตฺตวณฺณนา

๔๐๒. ปริหรณตฺถํ วิกฺขิตฺตา หุตฺวา อุสฺสาหํ ชเนนฺตา ‘‘ปริหรณตฺถํ สอุสฺสาหา’’ติ วุตฺตา, เตสํ.

นวมจิตฺตวณฺณนา

๔๑๓. วิสปฺปนอนิฏฺรูปสมุฏฺานวเสน อตฺตโน ปวตฺติอาการวเสน จ วิสปฺปนรโส. โทโส อุปโยคผเลสุ อนิฏฺตฺตา วิสสํสฏฺปูติมุตฺตํ วิย ทฏฺพฺโพ. อนภิรติรสาติ เอวํปกาเรสุ ปฏิกฺเขเปน รสวจเนสุ ตํตํปฏิปกฺขกิจฺจคหณํ ทฏฺพฺพํ. กฏุกาการคติ กฏุกฺจุกตา, อตฺตสมฺปตฺติ อาวาสาทิ, ปรายตฺตตาย ทาสพฺยํ วิย ทฏฺพฺพํ. ยถา หิ ทาสพฺเย สติ ทาโส ปรายตฺโต โหติ, เอวํ กุกฺกุจฺเจ สติ ตํสมงฺคี. น หิ โส อตฺตโน ธมฺมตาย ปวตฺติตุํ สกฺโกติ กุสเลติ. อถ วา กตากตากุสลกุสลานุโสจเน อายตฺตตาย ตทุภยวเสน กุกฺกุจฺเจน ตํสมงฺคี โหตีติ ทาสพฺยํ วิย ตํ โหติ.

๔๑๘. วิรุทฺธากาโรติ วิรุทฺธสฺส ปุคฺคลสฺส, จิตฺตสฺส วา อากาโร วิรุทฺธภาโว. เตน วิรุชฺฌนํ วิโรโธติ ทสฺเสติ. วจนนฺติ เอตํ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. สพฺพเมว หิ กิจฺจํ เอเตน กริยมานํ สุโรปิตํ สุชนิตํ น โหตีติ. โรปสทฺทวจนตฺถเมว เกจิ วณฺเณนฺติ. ตํ อปฺปมาณนฺติ โกธสฺส ตถาปวตฺตนสภาวาภาวา อฺเน เกนจิ การเณน ปริปุณฺณตา สิยาติ สนฺธาย วุตฺตํ.

เอกาทสมจิตฺตวณฺณนา

๔๒๒. วิคตา จิกิจฺฉาติ จิกิจฺฉิตุํ ทุกฺกรตาย วุตฺตํ, น สพฺพถา จิกิจฺฉาภาวา วิจิกิจฺฉายาติ ตทตฺถํ ทสฺเสติ.

๔๒๔. นิจฺฉยาภาวา อสณฺหนโต เจตโส ปวตฺติปจฺจยมตฺตตาย ‘‘ปวตฺติฏฺิติมตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.

๔๒๕. เอกํ อาการํ คนฺตุํ อสมตฺถตาย อตฺตโน อามุขํ สปฺปนโต โอสกฺกติ.

ทฺวาทสมจิตฺตวณฺณนา

๔๒๙. อุทฺธจฺจํ อตฺตโน คหิตากาเร เอว ตฺวา ภมตีติ เอการมฺมณสฺมึเยว วิปฺผนฺทนํ โหติ. วิจิกิจฺฉา ปน ยทิปิ รูปาทีสุ เอกสฺมิฺเวารมฺมเณ อุปฺปชฺชติ, ตถาปิ ‘‘เอวํ นุ โข, อิทํ นุ โข’’ติ อุปฺปชฺชมานา ‘‘นนุ โข, อฺํ นุ โข’’ติ อฺํ คเหตพฺพาการํ อเปกฺขตีติ นานารมฺมเณ จลนํ โหติ.

‘‘เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพ’’นฺติ เอตฺตาวตา อิมสฺมึ จิตฺตทฺวเย วุตฺตปกิณฺณกํ ทสฺเสตฺวา ทฺวาทสสุ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺเพสุปี’’ติอาทิมาห. กุสเลสุปิ อารมฺมณาธิปตึ อนุทฺธริตฺวา สหชาตาธิปติโน เอว อุทฺธฏตฺตา อิธาปิ โส เอว อุทฺธริตพฺโพ สิยาติ ‘‘สหชาตาธิปติ ลพฺภมาโนปิ น อุทฺธโฏ’’ติ วุตฺตํ นารมฺมณาธิปติโน อลพฺภมานตฺตา. โสปิ หิ อฏฺสุ โลภสหคเตสุ ลพฺภตีติ. เสโสปีติ วีมํสโต อฺโปิ สหชาตาธิปติ นตฺถิ, โย อุทฺธริตพฺโพ สิยา. อารมฺมณาธิปติมฺหิ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. กฺจิ ธมฺมนฺติ ฉนฺทาทีสุ เอกมฺปิ สหชาตํ. กุสลตฺติเก ตาว ปฏิจฺจวาราทีสุ ‘‘น เหตุปจฺจยา อธิปติปจฺจยา’’ติ เอกสฺสปิ ปฺหสฺส อนุทฺธฏตฺตา ปฏฺาเน ปฏิสิทฺธตา เวทิตพฺพา. อฺถา หิ ‘‘อกุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อกุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ น เหตุปจฺจยา อธิปติปจฺจยา’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๘๖) เอตสฺส วเสน ‘‘เอก’’นฺติ วตฺตพฺพํ สิยา.

ทสฺสเนน ปหาตพฺพาภาวโตติ ทสฺสเนน ปหาตพฺพสฺส อภาวโต, ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ วา อภาวโต. เอเตน ปฏิสนฺธิอนากฑฺฒนโต ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ อนาคมนนฺติ ตตฺถ อนาคมเนน ปฏิสนฺธิอนากฑฺฒนํ สาเธติ. อนากฑฺฒนโต อนาคมนํ ปน สาเธตุํ ‘‘เตสุ หี’’ติอาทิมาห. เอตฺเถว ปฏิสนฺธิทานํ ภเวยฺย. ตถา จ สติ ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ สิยา อปายคมนียสฺส ทสฺสเนน ปหาตพฺพภาวโต. น เจตํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ สิยา, ตสฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพวิภงฺเค นาคตนฺติ อธิปฺปาโย.

กถํ ปเนตํ ายติ ‘‘ปฏิสนฺธิอนากฑฺฒนโต ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ อนาคมน’’นฺติ? ทสฺสเนน ปหาตพฺพานฺเว นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาวสฺส วุตฺตตฺตา. ทุวิธา หิ อกุสลา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพาติ. ตตฺถ ภาวนาย ปหาตพฺพเจตนานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว น วุตฺโต, อิตราสฺเว วุตฺโต. ‘‘ภาวนาย ปหาตพฺโพ ธมฺโม เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส ธมฺมสฺส กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอตฺถ หิ สหชาตเมว วิภตฺตํ, น นานากฺขณิกนฺติ. ตถา ปจฺจนีเยปิ ‘‘ภาวนาย ปหาตพฺโพ ธมฺโม เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย…เป… สหชาตปจฺจเยน…เป… อุปนิสฺสยปจฺจเยน…เป…. ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. อิตรตฺถ จ วุตฺตํ. อุทฺธจฺจสหคตา จ เจตนา ภาวนาย ปหาตพฺเพสุ เอว อาคตาติ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโย น สิยาติ. ยทิ สิยา, ภาวนาย ปหาตพฺพเจตนาย จ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว วุจฺเจยฺย, น ตุ วุตฺโต. ตสฺมา อุทฺธจฺจสหคตา นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาเว สติ ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ วตฺตพฺพา สิยา, ตทภาวา น วุตฺตาติ. ปฏิสนฺธิอนากฑฺฒนโต ตตฺถ อนาคตาติ อยเมตฺถาธิปฺปาโย. นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยาวจเนน ปน ภาวนาย ปหาตพฺพานํ ปวตฺติวิปากตา ปฏิกฺขิตฺตา. ปวตฺติวิปากสฺสปิ หิ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยตา น สกฺกา นิวาเรตุํ. วุตฺตฺจ ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺโต ธมฺโม ทุกฺขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตสฺส ธมฺมสฺส กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย, นานากฺขณิกา’’ติอาทิ (ปฏฺา. ๑.๓.๕๖-๕๗). ยทิ ภาวนาย ปหาตพฺพานํ วิปากทานํ นตฺถิ, กถํ เต วิปากธมฺมธมฺมา โหนฺตีติ? อภิฺาจิตฺตาทีนํ วิย วิปาการหสภาวตฺตา. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘ยสฺมึ สมเย อกุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ อุเปกฺขาสหคตํ อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตํ…เป… อวิกฺเขโป โหติ, อิเมสุ ธมฺเมสุ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา, เตสํ วิปาเก าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๓๐-๗๓๑) อิทมฺปิ เตสํ วิปาการหตฺเว สนฺธาย วุตฺตํ สิยา. อิทํ ปน านํ สุฏฺุ วิจาเรตพฺพํ. อตฺถิ หิ เอตฺถ วจโนกาโส. น หิ วิปาเกติ วจนํ วิปากธมฺมวจนํ วิย วิปาการหตํ วทตีติ.

อกุสลปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

อพฺยากตปทํ

อเหตุกกุสลวิปากวณฺณนา

๔๓๑. เตสุวิปากาพฺยากตนฺติอาทีนํ ‘‘ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ เอเตน สมฺพนฺโธ. ตสฺสาปีติ เอตสฺส ‘‘อุปฺปตฺตึ ทีเปตุํ กามา…เป… อาทิ วุตฺต’’นฺติ เอเตน สมฺพนฺโธ. อุปจิตตฺตาติ ยถา อฺสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากาภิมุขํ โหติ ตถา วฑฺฒิตตฺตา. รูปาทีนํ ปจฺจยานํ อฺวิฺาณสาธารณตฺตา อสาธารเณน วตฺถุนา จกฺขุวิฺาณํ โสตวิฺาณนฺติ นามํ อุทฺธฏํ. จกฺขาทีนํ ติกฺขมนฺทภาเว วิฺาณานํ ติกฺขมนฺทภาวา วิเสสปจฺจยตฺตา จ.

จกฺขุสนฺนิสฺสิตฺจ ตํ รูปวิชานนฺจาติ จกฺขุสนฺนิสฺสิตรูปวิชานนํ. เอวํลกฺขณํ จกฺขุวิฺาณํ. ตตฺถ จกฺขุสนฺนิสฺสิตวจเนน รูปารมฺมณํ อฺวิฺาณํ ปฏิกฺขิปติ. รูปวิชานนวจเนน จกฺขุนิสฺสเย ผสฺสาทโย นิวตฺเตติ. จกฺขุรูปวจเนหิ จ นิสฺสยโต อารมฺมณโต จ วิชานนํ วิภาเวติ. รูปมตฺตสฺส อารมฺมณสฺส คหณํ กิจฺจเมตสฺสาติ รูปมตฺตารมฺมณรสํ. ฌานงฺควเสนาติ อิทํ ทฺวิปฺจวิฺาณวชฺเชสุ วิชฺชมานานํ อุเปกฺขาสุขทุกฺเขกคฺคตานํ ฌานงฺคิกตฺตา อิธาปิ ตํสทิสานํ ตทุปจารํ กตฺวา วุตฺตํ. น หิ ฌานปจฺจยตฺตาภาเว ฌานงฺคตา อตฺถิ. วุตฺตฺหิ ‘‘ฌานงฺคานิ ฌานสมฺปยุตฺต…เป… รูปานํ ฌานปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๓.๑๑๒). เอเตสฺจ ฌานปจฺจยภาโว ปฏิกฺขิตฺโต. ยถาห ‘‘อพฺยากตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อพฺยากโต ธมฺโม อุปฺปชฺชติ น ฌานปจฺจยา. ปฺจวิฺาณสหคตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ตโย ขนฺธา’’ติอาทิ (ปฏฺา. ๑.๑.๙๘). ฌานปจฺจยตฺตาภาเวปิ เวทนาจิตฺตฏฺิตีนํ อุเปกฺขาทิภาวโต ตถาภูตานํ วจเน อฺฏฺานาภาวโต จ ทุติยราสินิทฺเทโส.

๔๓๖. วตฺถุปณฺฑรตฺตาติ สยํ กณฺหธมฺมานํ อปฺปฏิปกฺขตฺตา สภาวปริสุทฺธานํ ปสาทหทยวตฺถุนิสฺสยานํ วเสน ปณฺฑรสภาวํ ชาตนฺติ อธิปฺปาโย. อยํ ปน นโย จตุโวกาเร น ลพฺภตีติ ตตฺถ ภวงฺคสฺส ตโต นิกฺขนฺตากุสลสฺส จ ปณฺฑรตา น สิยา, ตสฺมา ตตฺถ ปณฺฑรตาย การณํ วตฺตพฺพํ. สภาโว วายํ จิตฺตสฺส ปณฺฑรตาติ.

๔๓๙. อิทมฺปีติ ปิ-สทฺโท ิติมตฺตสหิตํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วิจิกิจฺฉาสหคตํ อเปกฺขิตฺวา วุตฺโต. ปกติยาติ อนติกฺกมเนน. โสปิ วิเสโส. กายปฺปสาทํ ฆฏฺเฏตฺวา ปสาทปจฺจเยสุ มหาภูเตสุ ปฏิหฺตีติ อาปาถํ คนฺตฺวา ปฏิหฺตีติ อตฺโถ. ยถา จ ‘‘รูปํ อารพฺภ อุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺเต น อารมฺมณุปฺปาทานํ ปุพฺพาปรกาลตา โหติ, เอวมิธาปิ ฆฏฺฏนปฏิหนเนสุ ทฏฺพฺพํ. อุปมาปิ อุภยฆฏฺฏนทสฺสนตฺถํ วุตฺตา, น นิสฺสิตนิสฺสยฆฏฺฏนานํ ปุพฺพาปรตาทสฺสนตฺถํ. เอตฺถ จ พหิทฺธาติ เอตํ นิทสฺสนมตฺตํ. อชฺฌตฺตมฺปิ หิ อารมฺมณํ โหตีติ. วิฺาณธาตุนิสฺสยภูเตหิ วา อฺํ ‘‘พหิทฺธา’’ติ วุตฺตํ. ปฏิฆฏฺฏนานิฆํโส พลวา โหติ, ตโต เอว อิฏฺานิฏฺโผฏฺพฺพสมาโยเค สุขทุกฺขปจฺจยา ธาตุอนุคฺคหธาตุกฺโขภา จิรํ อนุวตฺตนฺติ.

๔๕๕. อฺเสํ จิตฺตานํ สภาวสุฺตสพฺภาวา มโนธาตุภาโว อาปชฺชตีติ เจ? น, วิเสสสพฺภาวา. จกฺขุวิฺาณาทีนฺหิ จกฺขาทินิสฺสิตตา จกฺขาทีนํ สวิสเยสุ ทสฺสนาทิปฺปวตฺติภาวตา จ วิเสโส. มโนวิฺาณสฺส ปน อนฺนิสฺสยมโนปุพฺพงฺคมตาย อฺนิสฺสยวิฺาณสฺส อนนฺตรปจฺจยตฺตาภาเวน มโนทฺวารนิคฺคมนมุขภาวาภาวโต จ สาติสยวิชานนกิจฺจตา วิเสโส. ตพฺพิเสสวิรหา มโนมตฺตา ธาตุ มโนธาตูติ ติวิธา มโนธาตุ เอว วุจฺจติ, น วิเสสมโน. ตสฺมา เอตฺถ มโน เอว ธาตุ มโนธาตูติ เอว-สทฺโท มตฺตสทฺทตฺโถ ทฏฺพฺโพ. วิเสสนิวตฺตนตฺโถ หิ โส วิฺาณสฺสาติ. มโนทฺวารนิคฺคมนปเวสมุขภาวโต ปน มโนธาตุยา วิชานนวิเสสวิรโห ทฏฺพฺโพ, ตโต เอว มโนวิฺาณนฺติปิ น วุจฺจติ. น หิ ตํ วิฺาณํ มนโต ปวตฺตํ มนโส ปจฺจโย, นาปิ มนโส ปจฺจยภูตํ มนโต ปวตฺตํ, ทสฺสนาทีนํ ปน ปจฺจโย, เตหิ จ ปวตฺตํ เตสํ ปุเรจรํ อนุจรฺจาติ. สมฺมาสงฺกปฺโปติ อวจนํ มหาวิปากานํ วิย ชนกสทิสตฺตาภาวโต. ตตฺถ หิ ติเหตุกโต ทุเหตุกมฺปิ อุปฺปชฺชมานํ สมฺมาสงฺกปฺปตาทีหิ สทิสํ สเหตุกตายาติ. ปฺจวิฺาณโสเตติ เอตฺถ ยถา ปคุณํ คนฺถํ สชฺฌายนฺโต สชฺฌายโสเต ปติตํ กฺจิ กฺจิ วาจนามคฺคํ น สลฺลกฺเขติ, เอวํ ตถาคตสฺส อสลฺลกฺขณา นาม นตฺถิ, น จ ปฺจวิฺาณโสเต ฌานงฺคาภาโว อิธ อวจนสฺส การณํ. ยทิ ตทนนฺตรํ นิทฺเทโส ตํโสตปติตตา, อิโต ปเรสํ ทฺวินฺนํ มโนวิฺาณธาตูนํ ตํโสตปติตตา น สิยา. ตสฺมา ปฺจวิฺาณานํ วิย อเหตุกตาย มคฺคปจฺจยวิรหา จ วิชฺชมาเนสุปิ วิตกฺกวิจาเรสุ ฌานงฺคธมฺมานํ ทุพฺพลตฺตา ปฺจวิฺาเณสุ วิย อคณนุปคภาวา จ ปฺจวิฺาณโสตปติตตา. ตโต เอว หิ อเหตุกกิริยตฺตเยปิ ฌานงฺคานิ พลานิ จ สงฺคหวาเร น อุทฺธฏานิ, ฌานปจฺจยกิจฺจมตฺตโต ปน ปฏฺาเน ทุพฺพลานํ เอตฺถ วิตกฺกาทีนํ ฌานปจฺจยตา วุตฺตา.

๔๖๙. สมานวตฺถุกํ อนนฺตรปจฺจยํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชมานํ สนฺตีรณํ มโนธาตุโต พลวตรํ โหตีติ ตํ ยถารมฺมณํ อารมฺมณรสํ อนุภวนฺตํ อิฏฺเ โสมนสฺสสหคตํ โหติ, อิฏฺมชฺฌตฺเต อุเปกฺขาสหคตํ สาติสยานุภวตฺตา, ตสฺมา ‘‘อยฺหิ อิฏฺารมฺมณสฺมึ เยวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โวฏฺพฺพนํ ปน สติปิ พลวภาเว วิปากปฺปวตฺตึ นิวตฺเตตฺวา วิสทิสํ มนํ กโรนฺตํ มนสิการกิจฺจนฺตรโยคโต วิปาโก วิย อนุภวนเมว น โหตีติ สพฺพตฺถ อุเปกฺขาสหคตเมว โหติ, ตถา ปฺจทฺวาราวชฺชนํ มโนทฺวาราวชฺชนฺจ กิจฺจวเสน อปุพฺพตฺตา.

อเหตุกกุสลวิปากวณฺณนา นิฏฺิตา.

อฏฺมหาวิปากจิตฺตวณฺณนา

๔๙๘. อโลโภอพฺยากตมูลนฺติอาทีสุ กุสลปกฺเข ตาว อโลภาโทสานํ นิทฺเทเสสุ ‘‘โย ตสฺมึ สมเย อโลโภ อลุพฺภนา…เป… อโลโภ กุสลมูล’’นฺติ (ธ. ส. ๓๒), ‘‘โย ตสฺมึ สมเย อโทโส อทุสฺสนา…เป… อโทโส กุสลมูล’’นฺติ (ธ. ส. ๓๓) จ วุตฺตตฺตา อิธาปิ ตํนิทฺเทเสสุ ‘‘อโลโภ อพฺยากตมูล’’นฺติ ‘‘อโทโส อพฺยากตมูล’’นฺติ วจนํ ยุชฺเชยฺย. ปฺินฺทฺริยาทินิทฺเทเสสุ ปน ‘‘ปฺารตนํ อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺี’’ติ (ธ. ส. ๓๔, ๓๗) เอวํ ตตฺถปิ วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘อโมโห กุสลมูล’’นฺติ. ตสฺมา อิธาปิ ‘‘อโมโห อพฺยากตมูล’’นฺติ ปาเน น ภวิตพฺพํ สิยา. อโลภาโทสานํ วิย อโมหสฺสปิ อพฺยากตมูลทสฺสนตฺถํ ปเนตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อวิฺตฺติชนกโตติ กายวจีกมฺมทฺวารนิวารณํ กโรติ. อวิปากธมฺมโตติ มโนกมฺมทฺวารนิวารณฺจ. วิปากธมฺมานฺหิ กมฺมทฺวารํ วุตฺตนฺติ. ตถา อปฺปวตฺติโตติ ทานาทิปุฺกิริยภาเวน อปฺปวตฺติโต. เอเตน ปุฺกิริยวตฺถุเภทเมว นิวาเรติ.

พลวปจฺจเยหีติ ปโยเคน วินา นิปฺผนฺเนหิ อารมฺมณาทิปจฺจเยหิ. อสงฺขาริกาทีสุ หิ เยน เกนจิ จิตฺเตน กมฺเม อายูหิเต อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน กมฺมกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตปจฺจุปฏฺาเน ปฏิสนฺธิ อุปฺปชฺชมานา อสงฺขาริกา โหติ, สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กมฺมาทิปจฺจุปฏฺาเน สสงฺขาริกา. ภวงฺคจุติโย ปน ปฏิสนฺธิสทิสาว. ตทารมฺมณฺจ กุสลากุสลานิ วิย อสงฺขาริกํ สสงฺขาริกฺจ ทฏฺพฺพนฺติ. เอเตสุ พลวํ ทุพฺพลฺจ วิจาเรตุํ ‘‘ตตฺถ สพฺเพปิ สพฺพฺุโพธิสตฺตา’’ติอาทิมาห. กาลวเสน ปน ปริณมตีติ อปฺปายุกสํวตฺตนิกกมฺมพหุเล กาเล ตํกมฺมสหิตสนฺตานชนิตสุกฺกโสณิตปจฺจยานํ ตํมูลกานํ จนฺทสูริยวิสมปริวตฺตาทิชนิตอุตาหาราทิวิสมปจฺจยานฺจ วเสน ปริณมติ.

วิปากุทฺธารกถาวณฺณนา

ยโต ยตฺตโก จ วิปาโก โหติ, ยสฺมิฺจ าเน วิปจฺจติ, ตํ ทสฺเสตุํ วิปากุทฺธารกถา อารทฺธา. เอตฺเถวาติ เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเตเยว. ทุเหตุกปฏิสนฺธิวเสน ทฺวาทสกมคฺโคปิ โหติ , ทฺวาทสกปฺปกาโรปีติ อตฺโถ. อเหตุกปฏิสนฺธิวเสน อเหตุกฏฺกมฺปิ. อสงฺขาริกสสงฺขาริกานํ สสงฺขาริกอสงฺขาริกวิปากสงฺกรํ อนิจฺฉนฺโต ทุติยตฺเถโร ‘‘ทฺวาทสา’’ติอาทิมาห. ปุริมสฺส หิ ปจฺจยโตสสงฺขาริกอสงฺขาริกภาโว, อิตเรสํ กมฺมโต. ตติโย ติเหตุกโต ทุเหตุกมฺปิ อนิจฺฉนฺโต ‘‘ทสา’’ติอาทิมาห.

อิมสฺมึ วิปากุทฺธารฏฺาเน กมฺมปฏิสนฺธิววตฺถานตฺถํ สาเกตปฺหํ คณฺหึสุ. กมฺมวเสน วิปากสฺส ตํตํคุณโทสุสฺสทนิมิตฺตตํ ทสฺเสตุํ อุสฺสทกิตฺตนํ คณฺหึสุ. เหตุกิตฺตนํ อิธ ปมตฺเถรสฺส อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. ทุติยตฺเถรวาทาทีสุ วิเสสํ ตตฺถ ตตฺเถว วกฺขามิ. าณสฺส ชจฺจนฺธาทิวิปตฺตินิมิตฺตปฏิปกฺขภาวโต ติเหตุกํ อติทุพฺพลมฺปิ สมานํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒนฺตํ ทุเหตุกํ อากฑฺเฒยฺยาติ ‘‘อเหตุกา น โหตี’’ติ อาห. ยํ ปน ปฏิสมฺภิทามคฺเค สุคติยํ ชจฺจนฺธพธิราทิวิปตฺติยา อเหตุกอุปปตฺตึ วชฺเชตฺวา คติสมฺปตฺติยา สเหตุโกปปตฺตึ ทสฺเสนฺเตน ‘‘คติสมฺปตฺติยา าณสมฺปยุตฺเต กตเมสํ อฏฺนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหติ’’จฺเจว (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๒) วุตฺตํ. เตน าณวิปฺปยุตฺเตน กมฺมุนา าณสมฺปยุตฺตปฏิสนฺธิ น โหตีติ ทีปิตํ โหติ. อฺถา ‘‘สตฺตนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหตี’’ติ อิทมฺปิ วุจฺเจยฺย. ตถา หิ ‘‘คติสมฺปตฺติยา าณสมฺปยุตฺเต กตเมสํ อฏฺนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหติ? กุสลสฺส กมฺมสฺส ชวนกฺขเณ ตโย เหตู กุสลา ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนาย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ. เตน วุจฺจติ กุสลมูลปจฺจยาปิ สงฺขารา. นิกนฺติกฺขเณ ทฺเว เหตู อกุสลา ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนาย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ. เตน วุจฺจติ อกุสลมูลปจฺจยาปิ สงฺขารา. ปฏิสนฺธิกฺขเณ ตโย เหตู อพฺยากตา ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนาย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ. เตน วุจฺจติ นามรูปปจฺจยาปิ วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยาปิ นามรูป’’นฺติ วิสฺสชฺชิตํ าณสมฺปยุตฺโตปปตฺติยํ.

เอวํ าณวิปฺปยุตฺตโต าณสมฺปยุตฺตุปปตฺติยา จ วิชฺชมานาย ‘‘คติสมฺปตฺติยา าณสมฺปยุตฺเต กตเมสํ สตฺตนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหติ? กุสลสฺส กมฺมสฺส ชวนกฺขเณ ทฺเว เหตู กุสลา’’ติ วตฺวา อฺตฺถ จ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว สกฺกา วิสฺสชฺชนํ กาตุนฺติ. ยถา ปน ‘‘าณสมฺปยุตฺเต สตฺตนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา’’ติ อวจนโต าณวิปฺปยุตฺตโต าณสมฺปยุตฺตา ปฏิสนฺธิ น โหติ, เอวํ ‘‘คติสมฺปตฺติยา าณวิปฺปยุตฺเต ฉนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหติ’’จฺเจว (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๓) วตฺวา ‘‘สตฺตนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา’’ติ อวจนโต าณสมฺปยุตฺตโต าณวิปฺปยุตฺตาปิ ปฏิสนฺธิ น โหตีติ อาปนฺนํ. เอตฺถาปิ หิ น น สกฺกา กมฺมนิกนฺติกฺขเณสุ ตโย จ ทฺเว จ เหตู โยเชตฺวา ปฏิสนฺธิกฺขเณ ทฺเว โยเชตุนฺติ. อิมสฺส ปน เถรสฺส อยมธิปฺปาโย สิยา ‘‘กมฺมสริกฺขกวิปากทสฺสนวเสน อิธ ปาโ สาวเสโส กถิโต’’ติ. ‘‘าณสมฺปยุตฺเต อฏฺนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา’’ติ เอตฺถาปิ ปาสฺส สาวเสสตาปตฺตีติ เจ? น, ทุพฺพลสฺส ทุเหตุกกมฺมสฺส าณสมฺปยุตฺตวิปากทาเน อสมตฺถตฺตา. ติเหตุกสฺส ปน อเหตุกวิปจฺจเน วิย ทุเหตุกวิปจฺจเนปิ นตฺถิ สมตฺถตาวิฆาโตติ. อารมฺมเณน เวทนา ปริวตฺเตตพฺพาติ สนฺตีรณตทารมฺมเณ สนฺธาย วุตฺตํ. วิภาคคฺคหณสมตฺถตาภาวโต หิ จกฺขุวิฺาณาทีนิ อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺเตสุ อุเปกฺขาสหคตาเนว โหนฺติ, กายวิฺาณฺจ สุขสหคตเมว ปฏิฆฏฺฏนาวิเสเสนาติ.

วิเสสวตา กาเลน ตทารมฺมณปจฺจยสพฺพชวนวตา วิปากปฺปวตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘สํวราสํวเร…เป… อุปคตสฺสา’’ติ วุตฺตํ อฺกาเล ปฺจวิฺาณาทิปริปุณฺณวิปากปฺปวตฺติอภาวา. กกฺกฏก…เป… ภวงฺโคตรณนฺติ เอเตน อิทํ ทสฺเสติ – เกทาเร ปูเรตฺวา นทีปเวสนมคฺคภูตํ มาติกํ อปฺปวิสิตฺวา กกฺกฏกมคฺคาทินา อมคฺเคน นทีโอตรณํ วิย จิตฺตสฺส ชวิตฺวา ภวงฺคปฺปเวสนมคฺคภูเต ตทารมฺมเณ อนุปฺปนฺเน มคฺเคน วินา ภวงฺโคตรณนฺติ.

เอเตสุ ตีสุ โมฆวาเรสุ ทุติโย อุปปริกฺขิตฺวา คเหตพฺโพ. ยทิ หิ อนุโลเม เวทนาตฺติเก ปฏิจฺจวาราทีสุ ‘‘อาเสวนปจฺจยา น มคฺเค ทฺเว’’ติ ‘‘น มคฺคปจฺจยา อาเสวเน ทฺเว’’ติ จ วุตฺตํ สิยา, โสปิ โมฆวาโร ลพฺเภยฺย. ยทิ ปน โวฏฺพฺพนมฺปิ อาเสวนปจฺจโย สิยา, กุสลากุสลานมฺปิ สิยา. น หิ อาเสวนปจฺจยํ ลทฺธุํ ยุตฺตสฺส อาเสวนปจฺจยภาวี ธมฺโม อาเสวนปจฺจโยติ อวุตฺโต อตฺถิ. โวฏฺพฺพนสฺส ปน กุสลากุสลานํ อาเสวนปจฺจยภาโว อวุตฺโต. ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ นาเสวนปจฺจยา. อกุสลํ ธมฺมํ…เป… นาเสวนปจฺจยา’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๙๓) วจนโต ปฏิกฺขิตฺโตว. อถาปิ สิยา ‘‘อสมานเวทนานํ วเสน เอวํ วุตฺต’’นฺติ, เอวมปิ ยถา ‘‘อาวชฺชนา กุสลานํ ขนฺธานํ อกุสลานํ ขนฺธานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) วุตฺตํ, เอวํ ‘‘อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโยติ’’ปิ วตฺตพฺพํ สิยา, ชาติเภทา น วุตฺตนฺติ เจ? ภูมิภินฺนสฺส กามาวจรสฺส รูปาวจราทีนํ อาเสวนปจฺจยภาโว วิย ชาติภินฺนสฺสปิ ภเวยฺยาติ วตฺตพฺโพ เอว สิยา. อภินฺนชาติกสฺส จ วเสน ยถา ‘‘อาวชฺชนา สเหตุกานํ ขนฺธานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติปิ วตฺตพฺพํ สิยา, น ตุ วุตฺตํ. ตสฺมา เวทนาตฺติเกปิ สงฺขิตฺตาย คณนาย ‘‘อาเสวนปจฺจยา น มคฺเค เอกํ, น มคฺคปจฺจยา อาเสวเน เอก’’นฺติ เอวํ คณนาย นิทฺธาริยมานาย โวฏฺพฺพนสฺส อาเสวนปจฺจยตฺตสฺส อภาวา ยถาวุตฺตปฺปกาโร ทุติโย โมฆวาโร วีมํสิตพฺโพ.

โวฏฺพฺพนํ ปน วีถิวิปากสนฺตติยา อาวฏฺฏนโต อาวชฺชนา, ตโต วิสทิสสฺส ชวนสฺส กรณโต มนสิกาโร จ. เอวฺจ กตฺวา ปฏฺาเน ‘‘โวฏฺพฺพนํ กุสลานํ ขนฺธานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิ น วุตฺตํ, ‘‘อาวชฺชนา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. ตสฺมา โวฏฺพฺพนโต จตุนฺนํ วา ปฺจนฺนํ วา ชวนานํ อารมฺมณปุเรชาตํ ภวิตุํ อสกฺโกนฺตํ รูปาทิอาวชฺชนาทีนํ ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกติ, อยเมตสฺส สภาโวติ ชวนาปาริปูริยา ทุติโย โมฆวาโร ทสฺเสตุํ ยุตฺโต สิยา, อยมฺปิ อฏฺกถายํ อนาคตตฺตา สุฏฺุ วิจาเรตพฺโพ. ภวงฺคสฺส ชวนานุพนฺธนภูตตฺตา ‘‘ตทารมฺมณํ ภวงฺค’’นฺติ วุตฺตํ. ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๓.๑.๑๐๒) จ วุตฺตํ ‘‘สเหตุกํ ภวงฺคํ อเหตุกสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ, ‘‘อเหตุกํ ภวงฺคํ สเหตุกสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ จ. กุสลากุสลานํ สุขทุกฺขวิปากมตฺโต วิปาโก น อิฏฺานิฏฺานํ วิภาคํ กโรติ, ชวนํ ปน รชฺชนวิรชฺชนาทิวเสน อิฏฺานิฏฺวิภาคํ กโรตีติ ‘‘อารมฺมณรสํ ชวนเมว อนุภวตี’’ติ วุตฺตํ.

อวิชฺชมาเน การเก กถํ อาวชฺชนาทิภาเวน ปวตฺติ โหตีติ ตํ ทสฺเสตุํ ปฺจวิธํ นิยามํ นาม คณฺหึสุ. นิยาโม จ ธมฺมานํ สภาวกิจฺจปจฺจยภาววิเสโสว. ตํตํสทิสผลทานนฺติ ตสฺส ตสฺส อตฺตโน อนุรูปผลสฺส ทานํ. สทิสวิปากทานนฺติ จ อนุรูปวิปากทานนฺติ อตฺโถ. อิทํ วตฺถุนฺติ เอกวจนนิทฺเทโส เอกคาถาวตฺถุภาเวน กโต. ชคติปฺปเทโสติ ยถาวุตฺตโต อฺโปิ โลกปฺปเทโส. กาลคติอุปธิปโยคปฏิพาฬฺหฺหิ ปาปํ น วิปจฺเจยฺย, น ปเทสปฏิพาฬฺหนฺติ. สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานปฏิสนฺธิยาทิธมฺมานํ นิยาโม ทสสหสฺสิกมฺปนปจฺจยภาโว ธมฺมนิยาโม. อยํ อิธ อธิปฺเปโตติ เอเตน นิยามวเสน อาวชฺชนาทิภาโว, น การกวเสนาติ เอตมตฺถํ ทสฺเสติ.

อิมสฺมึ าเนติ โสฬสวิปากกถาาเน. ทฺวาทสหิ วาเหตพฺพา นาฬิยนฺโตปมา น ทฺวาทสนฺนํ จิตฺตานํ เอกสฺมึ ทฺวาเร เอการมฺมเณ สห กิจฺจกรณวเสน วุตฺตา, อถ โข ทฺวาทสนฺนํ เอกสฺมึ ทฺวาเร สกิจฺจกรณมตฺตวเสน. อเหตุกปฏิสนฺธิชนกสทิสชวนานนฺตรํ อเหตุกตทารมฺมณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตุนฺนํ ปน ทุเหตุกกุสลจิตฺตานํ อฺตรชวนสฺส…เป… ปติฏฺาตี’’ติ อาห. อเหตุกปฏิสนฺธิกสฺส ปน ติเหตุกชวเน ชวิเต ปฏิสนฺธิทายเกน กมฺเมน อเหตุกสฺส ตทารมฺมณสฺส นิพฺพตฺติ น ปฏิเสธิตา. เอวํ ทุเหตุกปฏิสนฺธิกสฺสปิ ติเหตุกานนฺตรํ ทุเหตุกตทารมฺมณํ อปฺปฏิสิทฺธํ ทฏฺพฺพํ. ปริปุณฺณวิปากสฺส จ ปฏิสนฺธิชนกกมฺมสฺส วเสนายํ วิปากวิภาวนา ตสฺสา มุขนิทสฺสนมตฺตเมวาติ ปวตฺติวิปากสฺส จ เอกสฺส ติเหตุกาทิกมฺมสฺส โสฬสวิปากจิตฺตาทีนิ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพานิ. ตสฺมา เยน เกนจิ กมฺมุนา เอเกน อเนกํ ตทารมฺมณํ ปวตฺตมานํ กมฺมวิเสสาภาวา เยสํ ตํ อนุพนฺธภูตํ, เตสํ ชวนสงฺขาตานํ ปจฺจยานํ วิเสเสน วิสิฏฺํ โหตีติ ชวเนนายํ ตทารมฺมณนิยาโม วุตฺโต, น นานากมฺมุนา นิพฺพตฺตมานสฺส วเสน. เอวฺจ กตฺวา ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๓.๑.๙๘) ‘‘สเหตุเก ขนฺเธ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสติ. กุสลากุสเล นิรุทฺเธ อเหตุโก วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ าณานนฺตรํ อเหตุกตทารมฺมณํ, ‘‘กุสลากุสเล นิรุทฺเธ สเหตุโก วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ อกุสลานนฺตรฺจ สเหตุกตทารมฺมณํ วุตฺตํ, น จ ‘‘ตํ เอเตน เถเรน อทสฺสิต’’นฺติ กตฺวา ตสฺส ปฏิเสโธ กโต โหตีติ.

ยํปน ชวเนน…เป… ตํ กุสลํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อิทํ กุสลสฺส วิย อกุสลสฺส สทิโส วิปาโก นตฺถีติ กตฺวา วุตฺตํ. สสงฺขาริกาสงฺขาริกนิยมนํ ปน สนฺธาย ตสฺมึ วุตฺเต อกุสเลปิ น ตํ น ยุชฺชตีติ. อฏฺานเมตนฺติ อิทํ นิยมิตาทิวเสน โยนิโส อโยนิโส วา อาวฏฺฏิเต อโยนิโส โยนิโส วา ววตฺถาปนสฺส อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ.

ปฏิสิทฺธนฺติ อวจนเมว ปฏิเสโธติ กตฺวา วุตฺตํ. กามตณฺหานิพฺพตฺเตน กมฺมุนา มหคฺคตโลกุตฺตรานุภวนวิปาโก น โหตีติ ตตฺถ ตทารมฺมณาภาโว เวทิตพฺโพ. อาปาถคเต วิสเย ตนฺนินฺนํ ภวงฺคํ อาวชฺชนํ อุปฺปาเทตีติ อาวชฺชนํ วิสเย นินฺนตฺตา อุปฺปชฺชติ. ภวงฺคํ ปน สพฺพทา สวิสเย นินฺนเมวาติ วิสยนฺตรวิฺาณสฺส ปจฺจโย หุตฺวาปิ ตทภาวา วินา อาวชฺชเนน สวิสเย นินฺนตฺตาว อุปฺปชฺชติ. จิณฺณตฺตาติ อาวชฺชเนน วินา พหุลํ อุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา. สมุทาจารตฺตาติ อาปาถคเต วิสเย ปฏิสนฺธิวิสเย จ พหุลํ อุปฺปาทิตปุพฺพตฺตา. จิณฺณตฺตาติ วา ปุคฺคเลน อาเสวิตภาโว วุตฺโต. สมุทาจารตฺตาติ สยํ พหุลํ ปวตฺตภาโว. นิโรธสฺส อนนฺตรปจฺจยํ เนวสฺานาสฺายตนนฺติ อิทํ ตทนนฺตรเมว นิโรธผุสนํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อรูปกฺขนฺธานํ วิย นิโรธสฺส อนนฺตรปจฺจยภาวํ. เนวสฺานาสฺายตนํ ปน กิฺจิ ปริกมฺเมน วินา อุปฺปชฺชมานํ นตฺถิ. ปริกมฺมาวชฺชนเมว ตสฺส อาวชฺชนนฺติ อฺสฺส วิย เอตสฺสปิ สาวชฺชนตาย ภวิตพฺพํ.

อยํ ปเนตฺถาธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ – เนวสฺานาสฺายตนสฺส น นิโรธสฺส อนนฺตรปจฺจยภาเว นินฺนาทิตา อฺตฺถ ทิฏฺา อตทตฺถปริกมฺมภาเว จ อุปฺปตฺติยา, อถ จ ตํ ตสฺส อนนฺตรปจฺจโย โหติ, ตถา จ อุปฺปชฺชติ. เอวํ ยถาวุตฺตา มโนวิฺาณธาตุ อสติปิ นิราวชฺชนุปฺปตฺติยํ นินฺนาทิภาเว นิราวชฺชนา อุปฺปชฺชตีติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘อริยมคฺคจิตฺตํ มคฺคานนฺตรานิ ผลจิตฺตานี’’ติ อิทํ วุตฺตํ. ยทิ หิ นิพฺพานารมฺมณาวชฺชนาภาวํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ สิยา, โคตฺรภุโวทานานิ นิทสฺสนานิ สิยุํ เตเหว เอเตสํ นิราวชฺชนตาสิทฺธิโต. ผลสมาปตฺติกาเล จ ‘‘ปริตฺตารมฺมณํ มหคฺคตารมฺมณํ อนุโลมํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วจนโต สมานารมฺมณาวชฺชนรหิตตฺตา ‘‘มคฺคานนฺตรานิ ผลจิตฺตานี’’ติ เอวํ ผลสมาปตฺติจิตฺตานิ น วชฺเชตพฺพานิ สิยุํ, โคตฺรภุโวทานานิ ปน ยทิปิ นิพฺพาเน จิณฺณานิ สมุทาจารานิ จ น โหนฺติ, อารมฺมณนฺตเร จิณฺณสมุทาจาราเนว. ผลสมาปตฺติจิตฺตานิ จ มคฺควีถิโต อุทฺธํ ตทตฺถปริกมฺมสพฺภาวาติ เตสํ คหณํ น กตํ, อนุโลมานนฺตรฺจ ผลสมาปตฺติจิตฺตํ จิณฺณํ สมุทาจารํ, น เนวสฺานาสฺายตนานนฺตรํ มคฺคานนฺตรสฺส วิย ตทตฺถปริกมฺมาภาวาติ ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺสา’’ติ ตฺจ นิทสฺสนํ. อารมฺมเณน ปน วินา นุปฺปชฺชตีติ อิทํ เอตสฺส มหคฺคตารมฺมณตฺตาภาวา ปุจฺฉํ กาเรตฺวา อารมฺมณนิทฺธารณตฺถํ วุตฺตํ.

ตตฺถาติ วิปากกถายํ. ชจฺจนฺธปีสปฺปิอุปมานิทสฺสนํ วิปากสฺส นิสฺสเยน วินา อปฺปวตฺติทสฺสนตฺถํ. วิสยคฺคาโหติ อิทํ จกฺขาทีนํ สวิสยคฺคหเณน จกฺขุวิฺาณาทิวิปากสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อุปนิสฺสยโต จกฺขาทีนํ ทสฺสนาทิอตฺถโต จ ตสฺเสว วิปากสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘อุปนิสฺสยมตฺถโส’’ติ วุตฺตํ. หทยวตฺถุเมวาติ ยถา ปุริมจิตฺตานิ หทยวตฺถุนิสฺสิตานิ จ ปสาทวตฺถุอนุคตานิ จ อฺารมฺมณานิ โหนฺติ, น เอวํ ภวงฺคํ, ตํ ปเนตํ วตฺถารมฺมณนฺตรรหิตํ เกวลํ หทยวตฺถุเมว นิสฺสาย ปวตฺตตีติ วุตฺตํ โหติ. หทยรูปวตฺถุกนฺติ อิธาปิ อฺวตฺถานุคตนฺติ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. มกฺกฏกสฺส หิ สุตฺตาโรหณํ วิย ปสาทวตฺถุกํ จิตฺตํ, สุตฺเตน คมนาทีนิ วิย ตทนุคตานิ เสสจิตฺตานีติ. สุตฺตฆฏฺฏนมกฺกฏกจลนานิ วิย ปสาทฆฏฺฏนภวงฺคจลนานิ สห โหนฺตีติ ทีปนโต ‘‘เอเกกํ…เป… อาคจฺฉตี’’ติปิ ทีเปติ.

ภวงฺคสฺส อาวฏฺฏิตกาโลติ อิทํ โทวาริกสทิสานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ปาทปริมชฺชกสทิสสฺส อาวชฺชนสฺส สฺาทานสทิโส อนนฺตรปจฺจยภาโว เอว ภวงฺคาวฏฺฏนนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. วิปากมโนธาตุอาทีนํ อทิสฺวาว สมฺปฏิจฺฉนาทิกรณํ คาฬฺหคฺคหณมตฺตปุถุลจตุรสฺสภาววิชานนมตฺตกหาปณภาววิชานนมตฺตกมฺโมปนยนมตฺตสามฺวเสน วุตฺตํ, น คาฬฺหคฺคาหกาทีนํ กหาปณทสฺสนสฺส อภาโว ตํสมานภาโว จ สมฺปฏิจฺฉนาทีนํ อธิปฺเปโตติ เวทิตพฺโพ.

ปณฺฑรํเอตนฺติ ปณฺฑรรูปทสฺสนสามฺโต จกฺขุวิฺาณเมว ทสฺสนกิจฺจํ สาเธตีติ ทีปนํ เวทิตพฺพํ. เอวํ โสตทฺวาราทีสุปิ โยเชตพฺพํ สวนาทิวเสน. สนฺตาปนวเสน คุฬสีโล คุฬปฺปโยชโน วา โคฬิยโก. อุปนิสฺสยโตติ น อุปนิสฺสยปจฺจยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยสฺมึ ปน อสติ โย น โหติ, โส อิธ ‘‘อุปนิสฺสโย’’ติ อธิปฺเปโต. อาโลกสนฺนิสฺสิตนฺติ อิทมฺปิ อาโลเก สติ สพฺภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อุปนิสฺสยปจฺจยตํ. มนฺทถามคตํ นาม กิริยจิตฺตสฺส ปจฺจยภาวํ อนุปคนฺตฺวา สยเมว ปวตฺตมานํ.

อสงฺขาริกสสงฺขาริเกสุโทสํ ทิสฺวาติ น กมฺมสฺส วิรุทฺธสภาเวน วิปาเกน ภวิตพฺพนฺติ อสงฺขาริกกมฺมสฺส สสงฺขาริกวิปาเกสุ, สสงฺขาริกกมฺมสฺส จ อสงฺขาริกวิปาเกสุ โทสํ ทิสฺวา. อเหตุกานํ ปน รูปาทีสุ อภินิปาตมตฺตาทิกิจฺจานํ น สสงฺขาริกวิรุทฺโธ สภาโวติ อสงฺขาริกตา นตฺถิ, อสงฺขาริกวิรุทฺธสภาวาภาวา นาปิ สสงฺขาริกตาติ อุภยาวิโรธา อุภเยนปิ เตสํ นิพฺพตฺตึ อนุชานาติ. จิตฺตนิยามนฺติ ตทารมฺมณนิยามํ. กิริยโต ปฺจาติ อิเมสํ…เป… ปติฏฺาตีติ กิริยชวนานนฺตรฺจ ตทารมฺมณํ วุตฺตํ. ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๑.๓.๙๔) ปน ‘‘กุสลากุสเล นิรุทฺเธ วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ วิปากธมฺมธมฺมานเมว อนนฺตรา ตทารมฺมณํ วุตฺตํ. กุสลตฺติเก จ ‘‘เสกฺขา วา ปุถุชฺชนา วา กุสลํ อนิจฺจโต’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๐๖) กุสลากุสลชวนเมว วตฺวา ตทนนฺตรํ ตทารมฺมณํ วุตฺตํ, น อพฺยากตานนฺตรํ, น จ กตฺถจิ กิริยานนฺตรํ ตทารมฺมณสฺส วุตฺตฏฺานํ ทิสฺสติ. วิชฺชมาเน จ ตสฺมึ อวจเน การณํ นตฺถิ, ตสฺมา อุปปริกฺขิตพฺโพ เอโส เถรวาโท. วิปฺผาริกฺหิ ชวนํ นาวํ วิย นทีโสโต ภวงฺคํ อนุพนฺธตีติ ยุตฺตํ, น ปน ฉฬงฺคุเปกฺขวโต สนฺตวุตฺตึ กิริยชวนํ ปณฺณปุฏํ วิย นทีโสโตติ.

ปิณฺฑชวนํ ชวตีติ กุสลากุสลกิริยชวนานิ ปิณฺเฑตฺวา กถิตานีติ ตถา กถิตานิ ชวนานิ ปิณฺฑิตานิ วิย วุตฺตานิ, เอกสฺมึ วา ตทารมฺมเณ ปิณฺเฑตฺวา ทสฺสิตานิ หุตฺวา ชวิตาเนว วุตฺตานิ. อิมฺจ ปน ปิณฺฑชวนํ วทนฺเตน อกุสลโต จตฺตาริเยว อุเปกฺขาสหคตานิ คเหตฺวา ทฺวาทสุเปกฺขาสหคตชวนานิ ปิณฺฑิตานิ วิย วุตฺตานิ. ปฏฺาเน ปน ‘‘กุสลํ อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ อารพฺภ ราโค อุปฺปชฺชติ. ทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา , อุทฺธจฺจํ, โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อกุสเล นิรุทฺเธ วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตตฺตา อิตรานิ ทฺเว อิฏฺารมฺมเณ ปวตฺตวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตานิปิ กุสลวิปาเก ตทารมฺมเณ ปิณฺเฑตพฺพานิ สิยุํ. เตสํ ปน อนนฺตรํ อเหตุกวิปาเกเนว ตทารมฺมเณน ภวิตพฺพํ, โส จ สนฺตีรณภาเวเนว คหิโตติ อปุพฺพํ คเหตพฺพํ นตฺถิ. อเหตุเก จ ปิณฺเฑตพฺพํ นารหนฺตีติ อธิปฺปาเยน น ปิณฺเฑตีติ.

ติเหตุกชวนาวสาเน ปเนตฺถาติ เอตสฺมึ ทุติยวาเท ติเหตุกชวนาวสาเน ติเหตุกตทารมฺมณํ ยุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ยุตฺตํ วทติ ชวนสมานตฺตา, นาลพฺภมานตฺตา อฺสฺส. ปมตฺเถเรน อกุสลานนฺตรํ วุตฺตสฺส อเหตุกตทารมฺมณสฺส, กุสลานนฺตรํ วุตฺตสฺส จ สเหตุกตทารมฺมณสฺส อกุสลานนฺตรํ อุปฺปตฺตึ วทนฺตสฺส หิ ปฏิสนฺธิชนกํ ติเหตุกกมฺมํ ทุเหตุกาเหตุกํ วิปากํ ชนยนฺตมฺปิ ติเหตุกชวนานนฺตรํ น ชเนตีติ น เอตฺถ การณํ ทิสฺสตีติ เอวํ ยุตฺตํ คเหตพฺพํ อวุตฺตมฺปีติ อธิปฺปาโย. อถ วา ตสฺมึ ตสฺมึ เถรวาเท เยน อธิปฺปาเยน สสงฺขาราสงฺขารวิธานาทิ วุตฺตํ, ตํ เตเนว อธิปฺปาเยน ยุตฺตํ คเหตพฺพํ, น อธิปฺปายนฺตรํ อธิปฺปายนฺตเรน อาโลเฬตพฺพนฺติ อตฺโถ. เหตุสทิสเมวาติ ชนกกมฺมเหตุสทิสเมว. มหาปกรเณ อาวิ ภวิสฺสตีติ มหาปกรเณ อาคตปาฬิยา ปากฏํ อุปฺปตฺติวิธานํ อาวิ ภวิสฺสตีติ อธิปฺปาเยน วทติ.

กามาวจรกุสลวิปากกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

รูปาวจรารูปาวจรวิปากกถาวณฺณนา

๔๙๙. อนนฺตราเยนาติ ปริหานิปจฺจยวิรเหน. ปฏิปทาทิเภโทติ ปฏิปทารมฺมณเภโท. ตถา หิ ทุกฺขปฏิปทํ ทนฺธาภิฺํ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ปุนปฺปุนํ สมาปชฺชนฺตสฺส ตํ ฌานํ ตํปฏิปทเมว โหติ. เอตสฺมึ อปริหีเน ตสฺส วิปาโก นิพฺพตฺตมาโน ตปฺปฏิปโทว ภวิตุํ อรหตีติ. ฉนฺทาธิปเตยฺยาทิภาโว ปน ตสฺมึ ขเณ วิชฺชมานานํ ฉนฺทาทีนํ อธิปติปจฺจยภาเวน โหติ, น อาคมนวเสน. ตถา หิ เอกเมว ฌานํ นานากฺขเณสุ นานาธิปเตยฺยํ โหติ. จตุตฺถชฺฌานสฺเสว หิ จตุริทฺธิปาทภาเวน ภาวนา โหติ, ตสฺมา วิปากสฺส อาคมนวเสน ฉนฺทาธิปเตยฺยาทิตา น วุตฺตา.

รูปาวจรารูปาวจรวิปากกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โลกุตฺตรวิปากกถาวณฺณนา

๕๐๕. ยถา วฏฺฏํ อาจินติ, ตถา ตณฺหาทีหิ อภิสงฺขตํ โลกิยกมฺมํ อุปจิตนฺติ วุจฺจติ . โลกุตฺตรํ ปน เอวํ น โหตีติ ตถา น วุตฺตํ. สุทฺธาคมนวเสนาติ อนิมิตฺตาปฺปณิหิตนามทายเกหิ สคุณารมฺมเณหิ วิชฺชมาเนหิปิ ผลสฺส สุฺตนามทานทีปเน อคฺคหิตภาเวเนว อโวมิสฺเสนาติ อตฺโถ. อาคมนโต สุฺตาปฺปณิหิตนามวโต มคฺคสฺส อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามตฺตยทานํ โยชิตํ, อิตรสฺสปิ ปน ตเถว โยเชตพฺพํ. นยมตฺตทสฺสนฺเหตํ. สคุณารมฺมเณหิ ปน นามตฺตยวโต อนิจฺจานุปสฺสนานนฺตรสฺสปิ มคฺคสฺส อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามตฺตยทานํ น นิวาริตนฺติ. วฬฺชนกผลสมาปตฺติยา จ วิปสฺสนาคมนวเสน นามลาเภ มคฺคสฺส วิย อนิมิตฺตนามลาโภ น สิยา. ยถา ปน มคฺคานนฺตรสฺส วิย วฬฺชนกผลสมาปตฺติยาปิ ฌานปฏิปทาเภโท โหติ, เอวํ สุฺตาทินามลาเภ สติ อนิมิตฺตนามฺจ ลภตีติ. อวูปสนฺตายาติ อิทํ เกนจิ อฺเน อนนฺตริตตฺตา ตาทิสาย เอว สทฺธาย…เป… ปฺาย จ อนนฺตรปจฺจยภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตน ฉนฺทาทโยปิ อตฺตโน อนนฺตรสทิสานํ ฉนฺทาทีนํ อุปฺปาทกา อธิปติภูตา อธิปติภูเต เอว อุปฺปาเทนฺตีติ อิมมตฺถํ ทีเปติ.

๕๕๕. กิเลสสมุจฺเฉทกสฺส มคฺคสฺส สมฺมาทิฏฺิอาทิกสฺส นิยฺยานิกสภาวสฺส ผเลนปิ ปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลเสน นิยฺยานสภาเวเนว ภวิตพฺพํ, ตสฺมา ผเลปิ ‘‘มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺน’’นฺติ วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา มคฺควิภงฺเค ผเลสุ จ อฏฺงฺคิโก ปฺจงฺคิโก จ มคฺโค อุทฺธโฏ, เอวํ โพชฺฌงฺคาปีติ. มคฺคํ อุปาทายาติ มคฺคสทิสตาย มคฺโคติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห.

โลกุตฺตรวิปากกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อกุสลวิปากกถาวณฺณนา

๕๕๖. อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺเตสุ วิย น อนิฏฺอนิฏฺมชฺฌตฺเตสุ สนฺตีรณวิเสโส อตฺถิ, อนิฏฺารมฺมณเมว ปน อธิมตฺตํ มนฺทฺจ เอวํ ทฺวิธา วุตฺตํ.

อกุสลวิปากกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

กิริยาพฺยากตํ

มโนธาตุจิตฺตวณฺณนา

๕๖๖. วาตปุปฺผนฺติ โมฆปุปฺผํ. ตํ อจฺฉินฺเนปิ รุกฺเข น ผลติ, ฉินฺนรุกฺขปุปฺผํ ปน อจฺฉินฺเน ผเลยฺย. เอวํ อจฺฉินฺนภวมูลสฺสปิ ปวตฺตมานํ ยํ น ผลติ, ตํ วาตปุปฺผสทิสํ. อิตรสฺเสว ปน ปวตฺตมานํ ฉินฺนรุกฺขปุปฺผสทิสํ. ตฺหิ อจฺฉินฺเน ภวมูเล ผเลยฺยาติ.

กิริยมโนวิฺาณธาตุจิตฺตวณฺณนา

๕๖๘. โลลุปฺปตณฺหา ปหีนาติ อิมสฺส จิตฺตสฺส ปจฺจยภูตา ปุริมา ปวตฺติ ทสฺสิตา. อิทํ ปน จิตฺตํ วิจารณปฺารหิตนฺติ เกวลํ โสมนสฺสมตฺตํ อุปฺปาเทนฺตสฺส โหตีติ. เอวํ เจติยปูชาทีสุปิ ทฏฺพฺพํ. วตฺตํ กโรนฺโตติ อิทํ วตฺตํ กโรนฺตสฺส โผฏฺพฺพารมฺมเณ กายทฺวารจิตฺตปฺปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฺจทฺวารานุคตํ หุตฺวา ลพฺภมานํ สนฺธาย ปฺจทฺวาเร เอว วา โลลุปฺปตณฺหาปหานาทิปจฺจเวกฺขณเหตุภูตํ อิทเมว ปวตฺตึ สนฺธาย ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต โหตี’’ติ วุตฺตนฺติ ‘‘เอวํ ตาว ปฺจทฺวาเร ลพฺภตี’’ติ อาห. อตีตํสาทีสุ อปฺปฏิหตํ าณํ วตฺวา ‘‘อิเมหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต สพฺพํ กายกมฺมํ าณานุปริวตฺตี’’ติอาทิวจนโต (มหานิ. ๑๕๖ อตฺถโต สมานํ) ‘‘ภควโต อิทํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตวจนํ วิจาเรตพฺพํ. อเหตุกสฺส มูลาภาเวน สุปฺปติฏฺิตตา นตฺถีติ พลภาโว อปริปุณฺโณ, ตสฺมา อุทฺเทสวาเร ‘‘สมาธิพลํ โหติ, วีริยพลํ โหตี’’ติ น วุตฺตํ. ตโต เอว หิ อเหตุกานํ สงฺคหวาเร ฌานงฺคานิ จ น อุทฺธฏานิ. เตเนว อิมสฺมิมฺปิ อเหตุกทฺวเย พลานิ อนุทฺเทสาสงฺคหิตานิ. ยสฺมา ปน วีริยสฺส วิชฺชมานตฺตา เสสาเหตุเกหิ พลวํ, ยสฺมา จ เอตฺถ วิตกฺกาทีนํ ฌานปจฺจยมตฺตตา วิย สมาธิวีริยานํ พลมตฺตตา อตฺถิ, ตสฺมา นิทฺเทสวาเร ‘‘สมาธิพลํ วีริยพล’’นฺติ วตฺวา ปิตํ. ยสฺมา ปน เนว กุสลํ นากุสลํ, ตสฺมา สมฺมาสมาธิ มิจฺฉาสมาธีติ, สมฺมาวายาโม มิจฺฉาวายาโมติ จ น วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. เอวํ สติ มหากิริยจิตฺเตสุ จ เอตํ น วตฺตพฺพํ สิยา, วุตฺตฺจ, ตสฺมา สมฺมา, มิจฺฉา วา นิยฺยานิกสภาวาภาวโต มคฺคปจฺจยภาวํ อปฺปตฺตา สมาธิวายามา อิธ ตถา น วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา.

๕๗๔. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตอาสยานุสยสพฺพฺุตานาวรณาณานิ อิมสฺสานนฺตรํ อุปฺปชฺชมานานิ ยมกปาฏิหาริยมหากรุณาสมาปตฺติาณานิ จ อิมสฺส อนนฺตรํ อุปฺปนฺนปริกมฺมานนฺตรานิ อิมินา อาวชฺชิตารมฺมเณเยว ปวตฺตนฺตีติ อาห ‘‘ฉ…เป… คณฺหนฺตี’’ติ. มหาวิสยตฺตา มหาคโช วิย มหนฺตนฺติ มหาคชํ.

รูปาวจรารูปาวจรกิริยจิตฺตวณฺณนา

๕๗๗. อิทานิ ยานิ กิริยานิ ชาตานิ, ตานิ เวทิตพฺพานีติ เอวํ โยชนา กาตพฺพา. อตฺตภาโวติ ปฺจกฺขนฺธา วุจฺจนฺติ.

จิตฺตุปฺปาทกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.