📜

๒. รูปกณฺฑํ

อุทฺเทสวณฺณนา

อิทานิ รูปมพฺยากตํ ภาเชตพฺพํ, ตฺจ เกนจิ สมยววตฺถานํ กตฺวา น สกฺกา ภาเชตุํ. น หิ รูปสฺส จิตฺตุปฺปาเทน สมยววตฺถานํ สกฺกา กาตุํ อจิตฺตสมุฏฺานสพฺภาวโต, จิตฺตสมุฏฺานสฺส จ อเนกจิตฺตสมุฏฺานตาย รูปสมุฏฺาปกจิตฺตานฺจ เกสฺจิ กตฺถจิ อสมุฏฺาปนตาย ววตฺถานาภาวโต, วิฺตฺติทฺวยวชฺชิตสฺส รูปสฺส อจิตฺตสหภุภาวโต จ, น จ รูปานํ อุปสมฺปชฺช วิหรเณน สมยววตฺถานํ ยุชฺชติ มหคฺคตปฺปมาณานํ ฌานานํ วิย รูปานํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพตาภาวา, อุปาทารูเปหิ จ น ยุชฺชติ เตสํ สหชาตาทิปจฺจยภาเวน อปฺปวตฺตนโต, นาปิ มหาภูเตหิ ยุชฺชติ เกสฺจิ มหาภูตานํ เกหิจิ อุปาทารูเปหิ วินา ปวตฺติโต อสมานกาลานฺจ สพฺภาวโต. น หิ ‘‘ยสฺมึ สมเย ปถวีธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ, ตสฺมึ สมเย จกฺขายตนํ โหตี’’ติ สกฺกา วตฺตุํ โสตาทินิสฺสยภูตาย ปถวิยา จิตฺตาทิสมุฏฺานาย จ สห จกฺขายตนสฺส อภาวา. เอวํ โสตายตนาทีสุปิ โยเชตพฺพํ.

มหาภูเตหิ อสมานกาลานิ วิฺตฺติอุปจยาทีนิปิ ตสฺมึ สมเย โหนฺตีติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ. เอกสฺมิฺจ กาเล อเนกานิ กลาปสหสฺสานิ อุปฺปชฺชนฺติ ปวตฺตนฺติ จ, น อรูปธมฺมานํ วิย รูปานํ กลาปทฺวยสหาภาโว อตฺถิ. เอกสฺมิฺจ กลาเป วตฺตมาเน เอว อฺสฺส นิโรโธ, อฺสฺส จุปฺปตฺติ โหตีติ สพฺพถา รูปาพฺยากตํ สมยววตฺถานํ กตฺวา น สกฺกา วิภชิตุํ. เอกกาทีหิ ปน นเยหิ น เหตุอาทินา สภาเวน วิภชิตุํ สกฺกาติ ตถา วิภชนตฺถํ จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ ตาว อวิภตฺตํ อพฺยากตํ อตฺถีติ ทสฺเสตุํ สมยววตฺถาเนน วินา อพฺยากตสฺส สภาวโตเยว นิทฺเทเส เอกเทสํ นิทฺทิสิตฺวา นิคมนกรณสฺส อนุปปตฺติโต จ วิภตฺตฺจ อวิภตฺตฺจ สพฺพํ สงฺคณฺหนฺโต อาห ‘‘กตเม ธมฺมา อพฺยากตา? กุสลา…เป… อสงฺขตา จ ธาตุ. อิเม ธมฺมา อพฺยากตา’’ติ. อวิภตฺเต หิ วิภชิตพฺเพ ทสฺสิเต วิภชนํ ยุตฺตํ าตุํ อิจฺฉาย อุปฺปาทิตายาติ. เอตฺถ ปน วิปากกิริยาพฺยากตํ วิภตฺตตฺตา น วิภชิตพฺพํ, อสงฺขตา จ ธาตุ เภทาภาวโต. ยํ ปเนตฺถ เภทยุตฺตตฺตา อวิภตฺตตฺตา จ วิภชิตพฺพํ, ตํ วิภชนฺโต อาห ‘‘ตตฺถ กตมํ สพฺพํ รูป’’นฺติอาทิ. อยเมตฺถ ปาฬิโยชนา.

นยํ ทสฺเสตฺวาติ เอตฺถ เหฏฺา คหณเมว นยทสฺสนํ. ตํ วิปาเกสุ กตฺวา วิฺาตตฺตา กิริยาพฺยากเตสุ นิสฺสฏฺํ. กามาวจราทิภาเวน วตฺตพฺพสฺส กิริยาพฺยากตสฺส วา ทสฺสนํ, ตํ กตฺวา กามาวจราติอาทิกํ คเหตฺวา วุตฺตตฺตา นิสฺสฏฺํ. ปฺจวีสติ รูปานีติ ปาฬิยํ วุตฺตานิ ทสายตนานิ ปฺจทส จ สุขุมรูปานิ, อุปจยสนฺตติโย วา เอกนฺติ กตฺวา หทยวตฺถุฺจ. ฉนฺนวุตีติ จกฺขาทิทสกา สตฺต อุตุสมุฏฺานาทโย ตโย อฏฺกา อุตุจิตฺตชา ทฺเว สทฺทา จ. กลาปภาเวน ปวตฺตรูปรูปานิ ‘‘รูปโกฏฺาสา’’ติ วุตฺตานิ รูปกลาปโกฏฺาสภาวโต. โกฏฺาสาติ จ อํสา, อวยวาติ อตฺโถ. โกฏฺนฺติ วา สรีรํ, ตสฺส อํสา เกสาทโย โกฏฺาสาติ อฺเปิ อวยวา โกฏฺาสา วิย โกฏฺาสา. นิพฺพานํ นิปฺปเทสโต คหิตนฺติ โสปาทิเสสนิรุปาทิเสสราคกฺขยาทิอสงฺขตาทิวจนียภาเวน ภินฺนํ นิปฺปเทสโต คหิตํ. อตฺถโต หิ เอกาว อสงฺขตา ธาตูติ.

๕๘๔. สพฺพนฺติ สกลํ จกฺกวาฬํ. ปริมณฺฑลํ ปริมณฺฑลสณฺานํ, ปริกฺเขปโต ฉตฺตึส สตสหสฺสานิ ทส เจว สหสฺสานิ อฑฺฒจตุตฺถานิ จ โยชนสตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ วฏฺฏํ ‘‘ปริมณฺฑล’’นฺติ วุตฺตํ. จตฺตาริ นหุตานีติ จตฺตาลีส สหสฺสานิ. นควฺหยาติ นคาติ อวฺหาตพฺพา นคสทฺทนามาติ อตฺโถ.

เทวทานวาทีนํ ติคาวุตาทิสรีรวเสน มหนฺตานิ ปาตุภูตานิ. ตตฺถายํ วจนตฺโถ – ภูตานิ ชาตานิ นิพฺพตฺตานิ มหนฺตานิ มหาภูตานีติ. อเนกจฺฉริยทสฺสเนน อเนกาภูตวิเสสทสฺสนวเสน จ มายากาโร มหนฺโต ภูโตติ มหาภูโต. ยกฺขาทโย ชาติวเสเนว มหนฺตา ภูตาติ มหาภูตา. นิรุฬฺโห วา อยํ มหาภูตสทฺโท เตสุ ทฏฺพฺโพ. ปถวิยาทโย ปน มหาภูตา วิย มหาภูตา. ภูตสทฺทสฺส อุภยลิงฺคตฺตา นปุํสกตา กตา. มหาปริหารโตติ เอตฺถ วจนตฺถํ วทนฺโต อาห ‘‘มหนฺเตหิ ภูตานิ, มหาปริหารานิวา ภูตานี’’ติ. ตตฺถ ปจฺฉิมตฺเถ ปุริมปเท อุตฺตรปทสฺส ปริหารสทฺทสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘มหาภูตานี’’ติ วุจฺจนฺติ.

อจฺจิมโตติ อคฺคิสฺส. โกฏิสตสหสฺสํ เอกํ โกฏิสตสหสฺเสกํ. จกฺกวาฬนฺติ ตํ สพฺพํ อาณากฺเขตฺตวเสน เอกํ กตฺวา โวหรนฺติ. วิลียติ ขาโรทเกน. วิกีรตีติ วิทฺธํสติ. อุปาทินฺนเกสุ วิการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปตฺถทฺโธ’’ติอาทิมาห. กฏฺมุเขน วาติ วา-สทฺโท อุปมตฺโถ. ยถา กฏฺมุขสปฺเปน ทฏฺโ ปตฺถทฺโธ โหติ, เอวํ ปถวีธาตุปฺปโกเปน โส กาโย กฏฺมุเขว โหติ, กฏฺมุขมุขคโต วิย ปตฺถทฺโธ โหตีติ อตฺโถ. อถ วา วา-สทฺโท เอวสทฺทสฺสตฺเถ. ‘‘ปถวีธาตุปฺปโกเปนา’’ติ เอตสฺส จ ปรโต อาหริตฺวา เวทิตพฺโพ. ตตฺรายมตฺโถ – ‘‘กฏฺมุเขน ทฏฺโปิ กาโย ปถวีธาตุปฺปโกเปเนว ปตฺถทฺโธ โหติ, ตสฺมา ปถวีธาตุยา อวิยุตฺโต โส กาโย สพฺพทา กฏฺมุขมุขคโต วิย โหตี’’ติ. อถ วา อนิยมตฺโถ วา-สทฺโท. ตตฺรายมตฺโถ – ‘‘กฏฺมุเขน ทฏฺโ กาโย ปตฺถทฺโธ โหติ วา น วา โหติ มนฺตาคทวเสน, ปถวีธาตุปฺปโกเปน ปน มนฺตาคทรหิโต โส กาโย กฏฺมุขมุขคโต วิย โหติ เอกนฺตปตฺถทฺโธ’’ติ. ปูติโยติ กุถิโต. มหาวิการานิ ภูตานีติ มหาวิการานิ ชาตานิ, วิชฺชมานานีติ วา อตฺโถ. เอตฺถ จ ปุริมปเท อุตฺตรปทสฺส วิการสทฺทสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘มหาภูตานี’’ติ วุตฺตานิ.

ปถวีติอาทินา สพฺพโลกสฺส ปากฏานิปิ วิปลฺลาสํ มุฺจิตฺวา ยถาสภาวโต ปริคฺคยฺหมานานิ มหนฺเตน วายาเมน วินา น ปริคฺคยฺหนฺตีติ ปากฏานิปิ ทุวิฺเยฺยสภาวตฺตา ‘‘มหนฺตานี’’ติ วุจฺจนฺติ. ตานิ หิ สุวิฺเยฺยานิ อมหนฺตานีติ คเหตฺวา ิโต เตสํ ทุปฺปริคฺคหิตตํ ทิสฺวา ‘‘อโห มหนฺตานิ เอตานี’’ติ ปชานาติ. อุปาทายาติ เอเตน วิฺายมานา ปจฺฉิมกาลกิริยา ปวตฺตีติ กตฺวา ‘‘ปวตฺตรูป’’นฺติ วุตฺตํ. เอวฺหิ ‘‘อุปาทายา’’ติ เอเตน ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนตา วุตฺตา โหตีติ. อถ วา อุปาทายติ นิสฺสยตีติ อุปาทายํ, อุปาทายเมว รูปํ อุปาทายรูปํ, อฺนิสฺสยสฺส เอกนฺตนิสฺสิตสฺส รูปสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ ปน น สตฺตสฺส, นาปิ เวทนาทิโน ตทภาเวปิ ภาวโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘จตุนฺนํ มหาภูตาน’’นฺติอาทิมาห. ภวติ หิ นิสฺสยรูปานํ สามิภาโวติ.

ติวิธรูปสงฺคหวณฺณนา

๕๘๕. ปกิณฺณกทุเกสุ อชฺฌตฺติกทุกํ มุฺจิตฺวา อฺโ สพฺพทุเกหิ ติกวเสน โยชนํ คจฺฉนฺโต นตฺถิ, วิฺตฺติทุโก จ โยชนํ น คจฺฉตีติ สพฺพทุกโยคีสุ อาทิภูตํ อชฺฌตฺติกทุกเมว คเหตฺวา เสเสหิ สพฺพทุเกหิ โยเชตฺวา ติกา วุตฺตา. สกฺกา หิ เอเตน นเยน อฺเสมฺปิ ทุกานํ ทุกนฺตเรหิ ลพฺภมานา ติกโยชนา วิฺาตุนฺติ.

จตุพฺพิธาทิรูปสงฺคหวณฺณนา

๕๘๖. จตุกฺเกสุ เอกนฺตจิตฺตสมุฏฺานสฺส วิฺตฺติทฺวยภาวโต วิฺตฺติทุกาทีหิ สมานคติโก จิตฺตสมุฏฺานทุโกติ เตน สห อุปาทาทุกสฺส โยชนาย ลพฺภมาโนปิ จตุกฺโก น วุตฺโต, ตถา สนิทสฺสนทุกาทีนํ เตน ตสฺส จ โอฬาริกทูรทุเกหิ โยชนาย ลพฺภมานา น วุตฺตา, ธมฺมานํ วา สภาวกิจฺจานิ โพเธตพฺพาการฺจ ยาถาวโต ชานนฺเตน ภควตา เตน อฺเสํ ตสฺส จ อฺเหิ โยชนา น กตาติ กึ เอตฺถ การณปริเยสนาย, อทฺธา สา โยชนา น กาตพฺพา, ยโต ภควตา น กตาติ เวทิตพฺพา. อฺเ ปน ปกิณฺณกทุกา อฺเหิ ปกิณฺณกทุเกหิ โยเชตุํ ยุตฺตา, เตหิ โยชิตา เอว. วตฺถุทุกาทีสุ ปน โสตสมฺผสฺสารมฺมณทุกาทโย วชฺเชตฺวา อฺเหิ อารมฺมณพาหิรายตนาทิลพฺภมานทุเกหิ อุปาทินฺนกทุกสฺส อุปาทินฺนุปาทานิยทุกสฺส จ โยชนาย จตุกฺกา ลพฺภนฺติ, จิตฺตสมุฏฺานทุกสฺส จ สพฺพารมฺมณพาหิรายตนาทิลพฺภมานทุเกหิ. อวเสเสหิ ปน เตสํ อฺเสฺจ สพฺพวตฺถุทุกาทีหิ โยชนาย น ลพฺภนฺตีติ เวทิตพฺพา.

อุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

รูปวิภตฺติ

เอกกนิทฺเทสวณฺณนา

๕๙๔. อวิชฺชมานวิภาคสฺส วิภาคาภาวทสฺสนเมว นิทฺเทโส นิจฺฉยกรณโต, ตสฺมา ‘‘สพฺพํ รูปํ น เหตุเมวา’’ติอาทินา วิภาคาภาวาวธารเณน เอว-สทฺเทน นิทฺเทสํ กโรติ. เหตุเหตูติ มูลเหตุ, เหตุปจฺจยเหตูติ วา อยมตฺโถ. มหาภูตา เหตูติ อยเมวตฺโถ มหาภูตา ปจฺจโยติ เอเตนปิ วุตฺโตติ. เหตุปจฺจยสทฺทานํ สมานตฺถตฺตา ปจฺจโย เอว เหตุ ปจฺจยเหตุ. โย จ รูปกฺขนฺธสฺส เหตุ, โส เอว ตสฺส ปฺาปนาย เหตูติ วุตฺโต ตทภาเว อภาวโต. อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากนฺติ เอตฺถ วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ ปจฺจเยสุ อิฏฺานิฏฺวิปากนิยามกตฺตา อุตฺตมํ ปธานํ กุสลากุสลํ คติอุปธิกอาลปโยคสมฺปตฺติวิปตฺติฏฺานนิปฺผาทิตํ อิฏฺานิฏฺารมฺมณฺจ กมฺมมิว ปธานตฺตา ‘‘เหตู’’ติ วุตฺตนฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน กมฺมารมฺมณานิ ‘‘อุตฺตมเหตู’’ติ วุตฺตานิ. วกฺขติ จ ‘‘คติอุปธิกาลปโยคา วิปากสฺส านํ, กมฺมํ เหตู’’ติ. อิธ ปน กมฺมมิว อุตฺตมตฺตา อารมฺมณมฺปิ เหตุวจนํ อรหตีติ ‘‘อุตฺตมเหตู’’ติ วุตฺตํ. สงฺขารานนฺติ ปุฺาภิสงฺขาราทีนํ อวิชฺชา สาธารณปจฺจยตฺตา ‘‘เหตู’’ติ วุตฺตา. ผรตีติ คจฺฉติ ปาปุณาติ. ปฏิกฺเขปนิทฺเทโสติ อิทํ มาติกาย อาคตปฏิกฺเขปวเสน วุตฺตํ. อิธ ปน มาติกาย น เหตุปทาทิสงฺคหิตตา จ รูปสฺส วุตฺตา ตํตํสภาวตฺตา, อวธาริตตา จ อนฺสภาวโต.

รูปีทุเก รูปีปทเมว อิธ ‘‘รูป’’นฺติ วุตฺตํ. เตน รูปีรูปปทานํ เอกตฺถตา สิทฺธา โหติ รุปฺปนลกฺขณยุตฺตสฺเสว รูปีรูปภาวโต. อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยนฺติ อรูปโต วิธุรํ รูปสฺส สภาวํ ทสฺเสติ. น หิ อรูปํ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยํ ยถา รูปํ, เตน รูปํ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยํ, น อรูปนฺติ อรูปโต นิวตฺเตตฺวา รูเป เอว เอตํ สภาวํ นิยเมติ, น รูปํ เอตสฺมึ สภาเว. อตฺถิ หิ รูปํ อตีตานาคตํ ยํ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยสภาวํ น โหตีติ. เอตเมว จ นิยมํ ปุน เอวสทฺเทน นิยเมติ ‘‘ยถาวุตฺโต นิยโม รูเป อตฺถิ เอว, อรูเป วิย น นตฺถี’’ติ. อถ วา สพฺพํ รูปนฺติ ภูตุปาทายรูปํ กาลเภทํ อนามสิตฺวา ‘‘สพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ อรูเปหิ สมานวิฺเยฺยสภาวํ อตีตานาคตํ นิวตฺเตตุํ อุปฺปนฺนนฺติ เอเตน วิเสเสติ, ตํ อุปฺปนฺนํ สพฺพํ รูปํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยเมวาติ อตฺโถ.

นนุ เอวํ รูปายตนสฺสปิ โสตวิฺาณาทีหิ วิฺเยฺยตา อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ รูปํ สพฺพํ สมฺปิณฺเฑตฺวา เอกนฺตลกฺขณทสฺสนวเสน เอกีภาเวน คเหตฺวา อรูปโต วิธุรสฺส ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยสภาวสฺส ทสฺสนโต. ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมว ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยนฺติ เอตสฺมึ ปน นิยเม ‘‘สพฺพํ รูป’’นฺติ เอตฺถายํ วิฺเยฺยภาวนิยโม น วุตฺโต, อถ โข ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ สพฺพรูปสฺส เอกนฺตลกฺขณนิยโม ทสฺสิโต น สิยา. ปาฬิยฺจ วิฺเยฺยเมวาติ เอว-กาโร วุตฺโต, น อุปฺปนฺนเมวาติ. ตสฺมา อุปฺปนฺนสฺเสว มโนวิฺเยฺยนิยมาปตฺติ นตฺถีติ กึ โสตปติตตฺเตน, ตสฺมา วุตฺตนเยนตฺโถ โยเชตพฺโพ.

กถํวิธนฺติ คุเณหิ กถํ สณฺิตํ. าณเมว าณวตฺถุ. สมานชาติกานํ สงฺคโห, สมานชาติยา วา สงฺคโห สชาติสงฺคโห. สฺชายนฺติ เอตฺถาติ สฺชาติ, สฺชาติยา สงฺคโห สฺชาติสงฺคโห, สฺชาติเทเสน สงฺคโหติ อตฺโถ. อฺมฺโปการวเสน อวิปฺปโยเคน จ สมาธิเทเส ชาตา สมฺมาสติอาทโย สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา. ยตฺถ จ สติอาทิสหายวโต สมาธิสฺส อตฺตโน กิจฺจกรณํ, โส จิตฺตุปฺปาโท สมาธิเทโส. สมฺมาสงฺกปฺปสฺส จ อปฺปนาภาวโต ปฏิเวธสทิสํ กิจฺจนฺติ สมาเนน ปฏิเวธกิจฺเจน ทิฏฺิสงฺกปฺปา ปฺกฺขนฺเธ สงฺคหิตา.

รูปวิภตฺติเอกกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุกนิทฺเทโส

อุปาทาภาชนียกถาวณฺณนา

๕๙๖. อปฺปรชกฺขาทิสตฺตสมูหทสฺสนํ พุทฺธจกฺขุ, ฉสุ อสาธารณาเณสุ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณํ ทฏฺพฺพํ. สพฺพสงฺขตาสงฺขตทสฺสนํ สมนฺตจกฺขุ. ‘‘ทุกฺขํ ปริฺเยฺยํ ปริฺาต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๕) เอวมาทินา อากาเรน ปวตฺตํ าณทสฺสนํ าณจกฺขุ, ตมฺปิ ปุริมทฺวยมิว กามาวจรํ. จตุสจฺจธมฺมทสฺสนํ ธมฺมจกฺขุ. อุปตฺถมฺภภูตา จตุสมุฏฺานิกรูปสนฺตติโย สมฺภารา. สห สมฺภาเรหิ สสมฺภารํ, สมฺภารวนฺตํ. สมฺภโวติ อาโปธาตุเมว สมฺภวสมฺภูตมาห. สณฺานนฺติ วณฺณายตนเมว ปริมณฺฑลาทิสณฺานภูตํ. เตสํ ปน วิสุํ วจนํ ตถาภูตานํ อตถาภูตานฺจ อาโปธาตุวณฺณายตนานํ ยถาวุตฺเต มํสปิณฺเฑ วิชฺชมานตฺตา. จุทฺทสสมฺภาโร หิ มํสปิณฺโฑ. สมฺภวสฺส จตุธาตุนิสฺสิเตหิ สห วุตฺตสฺส ธาตุตฺตยนิสฺสิตตา โยเชตพฺพา. อาโปธาตุวณฺณายตนานเมว วา สมฺภวสณฺานาภาวา วิสุํ วุตฺตาติ จตุธาตุนิสฺสิตตา จ น วิรุชฺฌติ. ยํ มํสปิณฺฑํ เสตาทินา สฺชานนฺโต น ปสาทจกฺขุํ สฺชานาติ, ปตฺถิณฺณตาทิวิเสสํ วตฺตุกาโม ‘‘ปถวีปิ อตฺถี’’ติอาทิ วุตฺตมฺปิ วทติ.

สรีรสณฺานุปฺปตฺติเทสภูเตติ เอเตน อวเสสํ กณฺหมณฺฑลํ ปฏิกฺขิปติ. สฺเนหมิว สตฺตกฺขิปฏลานิ พฺยาเปตฺวา ิตาเหว อตฺตโน นิสฺสยภูตาหิ จตูหิ ธาตูหิ กตูปการํ ตํนิสฺสิเตหิ เอว อายุวณฺณาทีหิ อนุปาลิตปริวาริตํ ติสนฺตติรูปสมุฏฺาปเกหิ อุตุจิตฺตาหาเรหิ อุปตฺถมฺภิยมานํ ติฏฺติ. สตฺตกฺขิปฏลานํ พฺยาปนวจเนน จ อเนกกลาปคตภาวํ จกฺขุสฺส ทสฺเสติ. ปมาณโต อูกาสิรมตฺตนฺติ อูกาสิรมตฺเต ปเทเส ปวตฺตนโต วุตฺตํ. รูปานิ มนุปสฺสตีติ -กาโร ปทสนฺธิกโร. อถ วา มนูติ มจฺโจ. อุปการภูเตหิ สงฺคหิโต. ปริยาเยนาติ จตุนฺนํ ปสาโท เตสุ เอกสฺส ทฺวินฺนฺจาติปิ วตฺตุํ ยุตฺโต สมานธนานํ ธนํ วิยาติ เอเตน ปริยาเยน. สรีรํ รูปกฺขนฺโธ เอว. ปฏิฆฏฺฏนเมว นิฆํโส ปฏิฆฏฺฏนานิฆํโส. รูปาภิมุขภาเวน จกฺขุวิฺาณสฺส นิสฺสยภาวาปตฺติสงฺขาโต ปฏิฆฏฺฏนโต ชาโต วา นิฆํโส ปฏิฆฏฺฏนานิฆํโส.

ปริกปฺปวจนํ ‘‘สเจ อาปาถํ อาคจฺเฉยฺยา’’ติ เหตุกิริยํ, ‘‘ปสฺเสยฺยา’’ติ ผลกิริยฺจ ปริกปฺเปตฺวา เตน ปริกปฺเปน วจนํ. เอตฺถ จ เหตุกิริยา อเนกตฺตา อวุตฺตาปิ วิฺายตีติ ทฏฺพฺพา. ‘‘ปสฺเส วา’’ติ อิมินา วจเนน ตีสุปิ กาเลสุ จกฺขุวิฺาณสฺส นิสฺสยภาวํ อนุปคจฺฉนฺตํ จกฺขุํ สงฺคณฺหาติ. ทสฺสเน ปริณายกภาโว ทสฺสนปริณายกฏฺโ. ยถา หิ อิสฺสโร ‘‘อิทฺจิทฺจ กโรถา’’ติ วทนฺโต ตสฺมึ ตสฺมึ กิจฺเจ สปุริเส ปริณายติ ปวตฺตยติ, เอวมิทมฺปิ จกฺขุสมฺผสฺสาทีนํ นิสฺสยภาเวน เต ธมฺเม ทสฺสนกิจฺเจ อาณาเปนฺตํ วิย ปริณายตีติ จกฺขูติ วุจฺจติ. จกฺขตีติ หิ จกฺขุ, ยถาวุตฺเตน นเยน อาจิกฺขติ ปริณายตีติ อตฺโถ. อถ วา สมวิสมานิ รูปานิ จกฺขติ อาจิกฺขติ, ปกาเสตีติ วา จกฺขุ. สฺชายนฺติ เอตฺถาติ สฺชาติ. เก สฺชายนฺติ? ผสฺสาทีนิ . ตถา สโมสรณํ. จกฺขุสมฺผสฺสาทีนํ อตฺตโน ติกฺขมนฺทภาวานุปวตฺตเนน อินฺทฏฺํ กาเรตีติ. นิจฺจํ ธุวํ อตฺตาติ คหิตสฺสปิ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน. วฬฺชนฺติ ปวิสนฺติ เอเตนาติ วฬฺชนํ, ตํทฺวาริกานํ ผสฺสาทีนํ วฬฺชนฏฺเน.

๕๙๗. ปุพฺเพ วุตฺโต ปริกปฺโป เอว วิกปฺปนตฺโถ. ฆฏฺฏยมานเมวาติ ปสาทสฺส อภิมุขภาววิเสสํ คจฺฉนฺตเมว.

๕๙๙. รูปํ อารพฺภ จกฺขุสมฺผสฺสาทีนํ อุปฺปตฺติวจเนเนว เตสํ ตํทฺวาริกานํ อฺเสฺจ รูปํ อารพฺภ อุปฺปตฺติ วุตฺตา โหติ. ยถา จ เตสํ รูปํ ปจฺจโย โหติ, เตน ปจฺจเยน อุปฺปตฺติ วุตฺตา โหตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘อิมินา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุปสาทวตฺถุกานํ ผสฺสาทีนนฺติ อิมินา วจเนน ตทาลมฺพนรูปารมฺมณตาย ตํสทิสานํ มโนธาตุอาทีนฺจ ปุเรชาตปจฺจเยน อุปฺปตฺติ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพา. ยตฺถ ปน วิเสโส อตฺถิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จกฺขุทฺวารชวนวีถิปริยาปนฺนาน’’นฺติอาทิมาห. ตานิ หิ รูปํ ครุํ กตฺวา ปวตฺตมานสฺสาทนาภินนฺทนภูตานิ ตํสมฺปยุตฺตานิ จ อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสเยหิ อุปฺปชฺชนฺติ, อฺานิ อารมฺมณปุเรชาเตเนวาติ เอวํ ‘‘อารพฺภา’’ติ วจนํ อารมฺมณปจฺจยโต อฺปจฺจยภาวสฺสปิ ทีปกํ, อารมฺมณวจนํ อารมฺมณปจฺจยภาวสฺเสวาติ อยเมเตสํ วิเสโส.

๖๐๐. สุณาตีติ โสตวิฺาณสฺส นิสฺสยภาเวน สุณาติ. ชิวฺหาสทฺเทน วิฺายมานา กิริยา สายนนฺติ กตฺวา ‘‘สายนฏฺเนา’’ติ อาห. กุจฺฉิตานํ ทุกฺขสมฺปยุตฺตผสฺสาทีนํ อาโยติ กาโย, ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขานํ วา. กายายตนสฺส พฺยาปิตาย จกฺขุปสาเท กายปสาทภาโวปิ อตฺถิ, เตน จกฺขุปสาทสฺส อนุวิทฺธตฺตา โน พฺยาปิตา จ น สิยา, วุตฺตา จ สา. ตสฺมา จกฺขุปสาทสฺส โผฏฺพฺพาวภาสนํ กายปสาทสฺส จ รูปาวภาสนํ อาปนฺนนฺติ ลกฺขณสมฺมิสฺสตํ โจเทติ. จกฺขุกายานํ อฺนิสฺสยตฺตา กลาปนฺตรคตตาย ‘‘อฺสฺส อฺตฺถ อภาวโต’’ติ อาห. รูปรสาทินิทสฺสนํ สมานนิสฺสยานฺจ อฺมฺสภาวานุปคเมน อฺมฺสฺมึ อภาโว, โก ปน วาโท อสมานนิสฺสยานนฺติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ.

รูปาภิฆาตารโห จ โส ภูตปฺปสาโท จาติ รูปาภิฆาตารหภูตปฺปสาโท. เอวํลกฺขณํ จกฺขุ. รูปาภิฆาโตติ จ รูเป, รูปสฺส วา อภิฆาโตติ อตฺโถ. ปริปุณฺณาปริปุณฺณายตนตฺตภาวนิพฺพตฺตกสฺส กมฺมสฺส นิทานภูตา กามตณฺหา รูปตณฺหา จ ตทายตนิกภวปตฺถนาภาวโต ทฏฺุกามตาทิโวหารํ อรหตีติ ทุติโย นโย สพฺพตฺถ วุตฺโต. ตตฺถ ทฏฺุกามตานิทานํ กมฺมํ สมุฏฺานเมเตสนฺติ ทฏฺุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานานิ, เอวํวิธานํ ภูตานํ ปสาทลกฺขณํ จกฺขุ, เอวํวิโธ วา ภูตปฺปสาโท ทฏฺุกามตานิ…เป… ปสาโท. เอวํลกฺขณํ จกฺขุ. รูเปสุ ปุคฺคลสฺส วา วิฺาณสฺส วา อาวิฺฉนรสํ.

กาโย สพฺเพสนฺติ โก เอตฺถ วิเสโส, นนุ เตชาทิอธิกานฺจ ภูตานํ ปสาทา สพฺเพสํเยวาติ? สจฺจเมตํ, อิทํ ปน ‘‘สพฺเพส’’นฺติ วจนํ ‘‘สมานาน’’นฺติ อิมมตฺถํ ทีเปติ อนุวตฺตมานสฺส เอกเทสาธิกภาวสฺส นิวารณวเสน วุตฺตตฺตา. เตชาทีนนฺติ ปทีปสงฺขาตสฺส เตชสฺส โอภาเสน วายุสฺส สทฺเทน ปถวิยา คนฺเธน เขฬสงฺขาตสฺส อุทกสฺส รเสนาติ ปุริมวาเท ปจฺฉิมวาเท จ ยถาโยคํ ตํตํภูตคุเณหิ อนุคฺคยฺหภาวโต รูปาทิคฺคหเณ อุปกริตพฺพโตติ อตฺโถ. รูปาทีนํ อธิกภาวทสฺสนโตติ อคฺคิมฺหิ รูปสฺส ปภสฺสรสฺส วายุมฺหิ สทฺทสฺส สภาเวน สุยฺยมานสฺส ปถวิยา สุรภิอาทิโน คนฺธสฺส อาเป จ รสสฺส มธุรสฺส วิเสสยุตฺตานํ ทสฺสนโต ‘‘รูปาทโย เตสํ คุณา’’ติ ปมวาที อาห. ตสฺเสว จ ‘‘อิจฺเฉยฺยามา’’ติอาทินา อุตฺตรมาห. อิมินาวุปาเยน ทุติยวาทิสฺสปิ นิคฺคโห โหตีติ.

อถ วา รูปาทิวิเสสคุเณหิ เตชอากาสปถวีอาปวายูหิ จกฺขาทีนิ กตานีติ วทนฺตสฺส กณาทสฺส วาทํ ตติยํ อุทฺธริตฺวา ตํ นิคฺคเหตุํ ‘‘อถาปิ วเทยฺยุ’’นฺติอาทิ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อาสเว อุปลพฺภมาโนปิ คนฺโธ ปถวิยา อาโปสํยุตฺตาย กปฺปาสโต วิสทิสายาติ น กปฺปาสคนฺธสฺส อธิกภาวาปตฺตีติ เจ? น, อนภิภูตตฺตา. อาสเวหิ อุทกสํยุตฺตา ปถวี อุทเกน อภิภูตา, น กปฺปาสปถวีติ ตสฺสาเยว อธิเกน คนฺเธน ภวิตพฺพนฺติ. อุณฺโหทกสฺุตฺโต จ อคฺคิ อุปลพฺภนีโย มหนฺโตติ กตฺวา ตสฺส ผสฺโส วิย วณฺโณปิ ปภสฺสโร อุปลพฺภิตพฺโพติ อุณฺโหทกวณฺณโต อคฺคินา อนภิสมฺพนฺธสฺส สีตุทกสฺส วณฺโณ ปริหาเยถ. ตสฺมาติ เอตสฺสุภยสฺส อภาวา. ตทภาเวน หิ รูปาทีนํ เตชาทิวิเสสคุณตา นิวตฺติตา, ตํนิวตฺตเนน ‘‘เตชาทีนํ คุเณหิ รูปาทีหิ อนุคฺคยฺหภาวโต’’ติ อิทํ การณํ นิวตฺติตนฺติ. เอวํ ปรมฺปราย อุภยาภาโว วิเสสกปฺปนปฺปหานสฺส การณํ โหตีติ อาห ‘‘ตสฺมา ปหาเยเถต’’นฺติอาทิ. เอกกลาเปปิ รูปรสาทโย วิสทิสา, โก ปน วาโท นานากลาเป จกฺขาทโย ภูตวิเสสาภาเวปีติ ทสฺเสตุํ รูปรสาทินิทสฺสนํ วุตฺตํ.

ยทิ ภูตวิเสโส นตฺถิ, กึ ปน จกฺขาทิวิเสสสฺส การณนฺติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ อฺมฺสฺสา’’ติอาทิมาห. เอกมฺปิ กมฺมํ ปฺจายตนิกตฺตภาวปตฺถนานิปฺผนฺนํ จกฺขาทีนํ วิเสสเหตุตฺตา ‘‘อฺมฺสฺส อสาธารณ’’นฺติ จ ‘‘กมฺมวิเสโส’’ติ จ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. น หิ ตํ เยน วิเสเสน จกฺขุสฺส ปจฺจโย, เตเนว โสตสฺส โหติ อินฺทฺริยนฺตราภาวปฺปตฺติโต. ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ มหคฺคตา เอกา เจตนา กฏตฺตารูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๒.๗๘) วจเนน ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิชฺชมานานํ สพฺเพสํ กฏตฺตารูปานํ เอกา เจตนา กมฺมปจฺจโย โหตีติ วิฺายติ. นานาเจตนาย หิ ตทา อินฺทฺริยุปฺปตฺติยํ สติ ปริตฺเตน จ มหคฺคเตน จ กมฺมุนา นิพฺพตฺติตํ กฏตฺตารูปํ อาปชฺเชยฺยาติ น เจกา ปฏิสนฺธิ อเนกกมฺมนิพฺพตฺตา โหตีติ สิทฺธเมเกน กมฺเมน อเนกินฺทฺริยุปฺปตฺติ โหตีติ. อนลฺลีโน นิสฺสโย เอตสฺสาติ อนลฺลีนนิสฺสโย, รูปสทฺทสงฺขาโต วิสโย. คนฺธรสานํ นิสฺสยา ฆานชิวฺหานิสฺสเย อลฺลียนฺตีติ เต นิสฺสยวเสน อลฺลีนา, โผฏฺพฺพํ สยํ กายนิสฺสยอลฺลีนํ ภูตตฺตยตฺตา. ทูเร…เป… สมฺปตฺโต เอว นาม ปฏิฆฏฺฏนนิฆํสชนกโตติ อธิปฺปาโย. สทฺโท ปน ธาตุปรมฺปราย วายุ วิย อาคนฺตฺวา นิสฺสยวเสน โสตนิสฺสเย อลฺลียิตฺวา โสตํ ฆฏฺเฏตฺวา ววตฺถานํ คจฺฉนฺโต สณิกํ ววตฺถานํ คจฺฉตีติ วุตฺโต. เอวํ ปน สติจิตฺตสมุฏฺานํ สทฺทายตนํ โสตวิฺาณสฺส กทาจิปิ อารมฺมณปจฺจโย น สิยา. น หิ พหิทฺธา จิตฺตสมุฏฺานุปฺปตฺติ อุปปชฺชตีติ.

จิเรน สุยฺเยยฺยาติ กสฺมา เอตํ วุตฺตํ, นนุ ทูเร ิเตหิ รชกาทิสทฺทา จิเรน สุยฺยนฺตีติ? น, ทูราสนฺนานํ ยถาปากเฏ สทฺเท คหณวิเสสโต. ยถา หิ ทูราสนฺนานํ วจนสทฺเท ยถา ปากฏีภูเต คหณวิเสสโต อาการวิเสสานํ อคฺคหณํ คหณฺจ โหติ, เอวํ รชกาทิสทฺเทปิ อาสนฺนสฺส อาทิโต ปภุติ ยาวาวสานา กเมน ปากฏีภูเต ทูรสฺส จาวสาเน มชฺเฌ วา ปิณฺฑวเสน ปวตฺติปากฏีภูเต นิจฺฉยคหณานํ โสตวิฺาณวีถิยา ปรโต ปวตฺตานํ วิเสสโต ลหุกํ สุโต จิเรน สุโตติ อภิมาโน โหติ. โส ปน สทฺโท ยตฺถ อุปฺปนฺโน, ตํ นิสฺสิโตว อตฺตโน วิชฺชมานกฺขเณ โสตสฺส อาปาถมาคจฺฉติ. ทูเร ิโต ปน สทฺโท อฺตฺถ ปฏิโฆสุปฺปตฺติยา ภาชนาทิจลนสฺส จ อโยกนฺโต วิย อโยจลนสฺส ปจฺจโย โหตีติ ทฏฺพฺโพ. ยถา วา ฆณฺฏาภิฆาตานุชานิ ภูตานิ อนุรวสฺส นิสฺสยภูตานิ ฆฏฺฏนสภาวานิ, เอวํ ฆฏฺฏนานุชานิ ยาว โสตปฺปสาทา อุปฺปตฺติวเสน อาคตานิ ภูตานิ ฆฏฺฏนสภาวาเนวาติ ตํนิสฺสิโต สทฺโท นิสฺสยวเสน ธาตุปรมฺปราย ฆฏฺเฏตฺวา สณิกํ ววตฺถานํ คจฺฉตีติ วุตฺโต. อสุกทิสาย นามาติ น ปฺาเยยฺย. กสฺมา? โสตปฺปเทสสฺเสว สทฺทสฺส คหณโต.

วิสเม อชฺฌาสโย เอตสฺสาติ วิสมชฺฌาสโย, อชฺฌาสยรหิตมฺปิ จกฺขุ วิสมนินฺนตฺตา วิสมชฺฌาสยํ วิย โหตีติ ‘‘วิสมชฺฌาสย’’นฺติ วุตฺตํ. จกฺขุมโต วา ปุคฺคลสฺส อชฺฌาสยวเสน จกฺขุ ‘‘วิสมชฺฌาสย’’นฺติ วุตฺตํ.

กณฺณกูปฉิทฺเทเยว ปวตฺตนโต อารมฺมณคฺคหณเหตุโต จ ตตฺเถว ‘‘อชฺฌาสยํ กโรตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส โสตสฺส โสตวิฺาณนิสฺสยภาเวน สทฺทสวเน. อชฏากาโสปิ วฏฺฏตีติ เอตสฺส อฏฺกถาธิปฺปาเยน อตฺถํ วทนฺโต ‘‘อนฺโตเลณสฺมิ’’นฺติอาทิมาห. อตฺตโน อธิปฺปาเยน วทนฺโต ‘‘กึ เอตาย ธมฺมตายา’’ติอาทิมโวจ.

วาตูปนิสฺสโย คนฺโธ โคจโร เอตสฺสาติ วาตูปนิสฺสยคนฺธโคจรํ. เอตฺถ จ คนฺธคฺคหณสฺส วาโต อุปนิสฺสโย, ตพฺโพหาเรน ปน คนฺโธ ‘‘วาตูปนิสฺสโย’’ติ วุตฺโต. อถ วา วาโต เอว อุปนิสฺสโย วาตูปนิสฺสโย. กสฺสาติ? ฆานวิฺาณสฺส. โส สหการีปจฺจยนฺตรภูโต เอตสฺส อตฺถีติ วาตูปนิสฺสโย, คนฺโธ ปจฺจโย.

อาโป จ สหการีปจฺจยนฺตรภูโต เขฬาทิโก. ตถา ปถวี. คเหตพฺพสฺส หิ โผฏฺพฺพสฺส อุปฺปีฬิยมานสฺส อาธารภูตา ปถวี กายสฺส จ โผฏฺพฺเพน อุปฺปีฬิยมานสฺส นิสฺสยภูตานํ อาธารภูตา สพฺพทา โผฏฺพฺพคหณสฺส อุปนิสฺสโยติ. อุปฺปีฬเนน ปน วินา โผฏฺพฺพคหเณ กายายตนสฺส นิสฺสยภูตา ปถวี อุปนิสฺสโยติ ทฏฺพฺพา. สพฺพทาปิ จ ตสฺสา อุปนิสฺสยภาโว ยุตฺโต เอว.

ปฺจวณฺณานนฺติ วจนํ ตทาธารานํ สุตฺตานํ นานตฺตทสฺสนตฺถํ. ปฺจปฺปการา ปฺจวณฺณา. เอกนฺตโตติ อิทํ สพฺพทา อุปฺปีฬเนน วินิพฺภุชฺชิตุํ อสกฺกุเณยฺยานํ กลาปนฺตรรูปานํ สพฺภาวา เตสํ นิวตฺตนตฺถํ วุตฺตํ. น หิ ตานิ เอกนฺเตน อวินิภุตฺตานิ กลาปนฺตรคตตฺตาติ.

๖๑๖. วณฺณนิภาติ รูปายตนเมว นิทฺทิฏฺนฺติ ตเทว อเปกฺขิตฺวา ‘‘สนิทสฺสน’’นฺติ นปุํสกนิทฺเทโส กโต. ตสฺมาติ นิปฺปริยายรูปานํ นีลาทีนํ ผุสิตฺวา อชานิตพฺพโต ทีฆาทีนฺจ ผุสิตฺวา ชานิตพฺพโต น นิปฺปริยาเยน ทีฆํ รูปายตนํ. ตํ ตํ นิสฺสายาติ ทีฆาทิสนฺนิเวสํ ภูตสมุทายํ นิสฺสาย. ตถา ตถา ิตนฺติ ทีฆาทิสนฺนิเวเสน ิตํ วณฺณสมุทายภูตํ รูปายตนเมว ทีฆาทิโวหาเรน ภาสิตํ. อฺมฺปริจฺฉินฺนํ เอกสฺมึ อิตรสฺส อภาวา. วิสยโคจรานํ วิเสโส อนฺตฺถภาโว ตพฺพหุลจาริตา จ จกฺขุวิฺาณสฺส.

๖๒๐. เภริสทฺทาทีนฺจ วาทิตสทฺทตฺตา ‘‘วุตฺตาวเสสาน’’นฺติ อาห. อมนุสฺสวจเนน น มนุสฺเสหิ อฺเ ปาณิโน เอว คหิตา, อถ โข กฏฺาทโยปีติ อธิปฺปาเยน ‘‘เสโส สพฺโพปี’’ติ อาห. เอวํ สนฺเตปิ วตฺถุวิเสสกิตฺตนวเสน ปาฬิยํ อนาคโต ตถา กิตฺเตตพฺโพ เย วา ปนาติ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย.

๖๒๔. วิสฺสคนฺโธติ วิรูโป มํสาทิคนฺโธ. ลมฺพิลนฺติ มธุรมฺพิลํ.

๖๓๒. สฺชานนฺติ เอเตนาติ สฺชานนํ, อุปลกฺขณํ. สเกน สเกน กมฺมจิตฺตาทินา ปจฺจเยน สมุฏฺิตานิปิ อิตฺถิลิงฺคาทีนิ อินฺทฺริยสหิเต สรีเร อุปฺปชฺชมานานิ ตํตทาการานิ หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ ‘‘อิตฺถินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ สมุฏฺหนฺตี’’ติ วุตฺตานิ. อิตฺถิลิงฺคาทีสุ เอว จ อธิปติภาวา เอตสฺส อินฺทฺริยตา วุตฺตา, อินฺทฺริยสหิเต สนฺตาเน อิตฺถิลิงฺคาทิอาการรูปปจฺจยานํ อฺถา อนุปฺปาทนโต อิตฺถิคฺคหณสฺส จ เตสํ รูปานํ ปจฺจยภาวโต. ยสฺมา ปน ภาวทสเกปิ รูปานํ อิตฺถินฺทฺริยํ น ชนกํ, นาปิ อนุปาลกํ อุปตฺถมฺภกํ วา, น จ อฺกลาปรูปานํ, ตสฺมา ตํ ชีวิตินฺทฺริยํ วิย สกลาปรูปานํ อาหาโร วิย วา กลาปนฺตรรูปานฺจ อินฺทฺริยอตฺถิอวิคตปจฺจโยติ น วุตฺตํ. เอส นโย ปุริสินฺทฺริเยปิ. ลิงฺคาทิอากาเรสุ รูเปสุ รูปายตนสฺส จกฺขุวิฺเยฺยตฺตา ลิงฺคาทีนํ จกฺขุวิฺเยฺยตา วุตฺตา.

๖๓๓. อุภยมฺปิ…เป… กุสเลน ปติฏฺาตีติ สุคตึ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ทุคฺคติยฺหิ ปฏิสนฺธิ อกุสเลเนวาติ ตทา อุปฺปชฺชมาโน ภาโวปิ อกุสเลเนว ภเวยฺย, ปฏิสนฺธิยํ วิย ปวตฺเตปีติ. ตยิทํ ทฺวยํ ยสฺมา สนฺตาเน สห น ปวตฺตติ ‘‘ยสฺส อิตฺถินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปุริสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ? โน’’ติอาทิวจนโต (ยม. ๓.อินฺทฺริยยมก.๑๘๘), ตสฺมา อุภโตพฺยฺชนกสฺสปิ เอกเมวินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตํ.

๖๓๕. เอกนฺตํ กายวิฺตฺติยํ กายโวหารสฺส ปวตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘กาเยน สํวโร สาธู’’ติ (ธ. ป. ๓๖๑; สํ. นิ. ๑.๑๑๖) สาธกสุตฺตํ อาหฏํ. ภาวสฺส คมนํ ปกาสนํ โจปนํ. ถมฺภนาติ วาโยธาตุอธิกานํ ภูตานํ ถมฺภนากาโร วิฺตฺตีติ อตฺโถ. อุทฺธงฺคมวาตาทโย วิย หิ โย วาตาธิโก กลาโป, ตตฺถ ภูตานํ วิฺตฺติอาการตา โหตีติ. เตเนว ‘‘กายํ ถมฺเภตฺวา ถทฺธํ กโรตีติ ถมฺภนา’’ติ วาโยธาตุกิจฺจวเสน วิฺตฺติ วุตฺตา. ตโต เอว จ ‘‘วาโยธาตุยา อากาโร กายวิฺตฺตี’’ติ จ วตฺตุํ วฏฺฏติ, ตถา ‘‘ปถวีธาตุยา วจีวิฺตฺตี’’ติ ปถวีธาตุอธิกภูตวิการโต.

๖๓๖. ปเภทคตา วาจา เอวาติ ติสฺส ผุสฺสาติ ปเภทคตา. อถ วา วจีสงฺขาเรหิ วิตกฺกวิจาเรหิ ปริคฺคหิตา สวนวิสยภาวํ อนุปนีตตาย อภินฺนา ตพฺภาวํ นียมานา วาจา ‘‘วจีเภโท’’ติ วุจฺจติ. อิริยาปถมฺปิ อุปตฺถมฺเภนฺตีติ ยถาปวตฺตํ อิริยาปถํ อุปตฺถมฺเภนฺติ. ยถา หิ อพฺโพกิณฺเณ ภวงฺเค วตฺตมาเน องฺคานิ โอสีทนฺติ ปวิฏฺานิ วิย โหนฺติ, น เอวํ ‘‘ทฺวตฺตึส ฉพฺพีสา’’ติ วุตฺเตสุ ชาครณจิตฺเตสุ วตฺตมาเนสุ. เตสุ ปน วตฺตมาเนสุ องฺคานิ อุปตฺถทฺธานิ ยถาปวตฺติริยาปถภาเวเนว ปวตฺตนฺตีติ. ขีณาสวานํ จุติจิตฺตนฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ, ‘‘กามาวจรานํ ปจฺฉิมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ยสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา กามาวจรานํ ปจฺฉิมจิตฺตํ อุปฺปชฺชิสฺสติ, รูปาวจเร อรูปาวจเร ปจฺฉิมภวิกานํ, เย จ รูปาวจรํ อรูปาวจรํ อุปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ, เตสํ จวนฺตานํ เตสํ วจีสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสติ, โน จ เตสํ กายสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๘๘) ปน วจนโต อฺเสมฺปิ จุติจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปตีติ วิฺายติ. น หิ รูปสมุฏฺาปกจิตฺตสฺส คพฺภคมนาทิวินิพทฺธาภาเวน กายสงฺขาราสมุฏฺาปนํ อตฺถิ, น จ ยุตฺตํ ‘‘จุโต จ จิตฺตสมุฏฺานฺจสฺส ปวตฺตตี’’ติ, นาปิ ‘‘จุติจิตฺตํ รูปํ สมุฏฺาเปตี’’ติ ปาฬิ อตฺถีติ.

๖๓๗. น กสฺสตีติ น วิเลขิยติ. คตนฺติ วิฺาตํ. อสมฺผุฏฺํ จตูหิ มหาภูเตหีติ ยสฺมึ กลาเป ภูตานํ ปริจฺเฉโท, เตเหว อสมฺผุฏฺํ. วิชฺชมาเนปิ หิ กลาปนฺตรภูตานํ กลาปนฺตรภูตสมฺผุฏฺภาเว ตํตํภูตวิวิตฺตตา รูปปริยนฺโต อากาโสติ เยสํ โย ปริจฺเฉโท, เตหิ โส อสมฺผุฏฺโว, อฺถา ปริจฺฉินฺนภาโว น สิยา เตสํ ภูตานํ พฺยาปิตภาวาปตฺติโต. อพฺยาปิตา หิ อสมฺผุฏฺตาติ.

๖๓๘. ลหุตาทีนํ อฺมฺาวิชหเนน ทุพฺพิฺเยฺยนานตฺตตา วุตฺตาติ ตํตํวิการาธิกรูเปหิ ตํตํนานตฺตปฺปกาสนตฺถํ ‘‘เอวํ สนฺเตปี’’ติอาทิมาห. ยถาวุตฺตา จ ปจฺจยา ตํตํวิการสฺส วิเสสปจฺจยภาวโต วุตฺตา, อวิเสเสน ปน สพฺเพ สพฺเพสํ ปจฺจยาติ.

๖๔๑. อาทิโต จโย อาจโย, ปมุปฺปตฺติ. อุปริ จโย อุปจโย. ปพนฺโธ สนฺตติ. ตตฺถ อุทฺเทเส อวุตฺโตปิ อาจโย อุปจยสทฺเทเนว วิฺายตีติ ‘‘โย อายตนานํ อาจโย ปุนปฺปุนํ นิพฺพตฺตมานานํ, โสว รูปสฺส อุปจโย’’ติ อาห. ปาฬิยํ ปน อุป-สทฺโท ปมตฺโถ อุปริอตฺโถ จ โหตีติ ‘‘อาทิจโย อุปจโย, อุปริจโย สนฺตตี’’ติ อยมตฺโถ วิฺายตีติ. อฺถา หิ อาจยสงฺขาตสฺส ปมุปฺปาทสฺส อวุตฺตตา อาปชฺเชยฺย.

เอวนฺติ ‘‘โย อายตนานํ อาจโย’’ติอาทินิทฺเทเสน กึ กถิตํ โหติ? อายตเนน อาจโย กถิโต. อาจยูปจยสนฺตติโย หิ นิพฺพตฺติภาเวน อาจโย เอวาติ อายตเนหิ อาจยาทีนํ ปกาสิตตฺตา เตหิ อาจโย กถิโต. อายตนานํ อาจยาทิวจเนเนว อาจยสภาวานิ อุปฺปาทธมฺมานิ อายตนานีติ อาจเยน ตํปกติกานิ อายตนานิ กถิตานิ. ลกฺขณฺหิ อุปฺปาโท, น รูปรูปนฺติ. เตเนวาธิปฺปาเยนาห ‘‘อายตนเมว กถิต’’นฺติ. อาจยฺหิ ลกฺขณํ กถยนฺเตน ตํลกฺขณานิ อายตนาเนว กถิตานิ โหนฺตีติ. เอวมฺปิ กึ กถิตํ โหตีติ อายตนาจเยหิ อาจยายตเนหิ อาจยเมว อายตนเมว กเถนฺเตน อุทฺเทเส นิทฺเทเส จ อาจโยติ อิทเมว อวตฺวา อุปจยสนฺตติโย อุทฺทิสิตฺวา เตสํ วิภชนวเสน อายตเนน อาจยกถนาทินา กึ กถิตํ โหตีติ อธิปฺปาโย. อาจโยติ อุปจยมาห, อุปจโยติ จ สนฺตตึ. ตเทวุภยํ ยถากฺกมํ วิวรนฺโต ‘‘นิพฺพตฺติ วฑฺฒิ กถิตา’’ติ อาห. อุปจยสนฺตติโย หิ อตฺถโต เอกตฺตา อาจโยวาติ ตทุทฺเทสวิภชนวเสน อายตเนน อาจยกถนาทินา นิพฺพตฺติวฑฺฒิอาการนานตฺตํ อาจยสฺส กถิตนฺติ อตฺโถ. อิมเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘อตฺถโต หี’’ติอาทิมาห. ยสฺมา จ อุภยมฺปิ เอตํ ชาติรูปสฺเสวาธิวจนํ, ตสฺมา ชาติรูปสฺส ลกฺขณาทิวิเสเสสุ อาจยาทีสุ ปวตฺติอาทีสุ จ อาจยาทิลกฺขณาทิโก อุปจโย, ปวตฺติอาทิลกฺขณาทิกา สนฺตตีติ เวทิตพฺพาติ อตฺโถ.

๖๔๓. ปกตินิทฺเทสาติ ผลวิปจฺจนปกติยา นิทฺเทสา, ชราย ปาปุณิตพฺพํ ผลเมว วา ปกติ. น จ ขณฺฑิจฺจาทีเนว ชราติ กลลกาลโต ปภุติ ปุริมรูปานํ ชราปตฺตกฺขเณ อุปฺปชฺชมานานิ ปจฺฉิมรูปานิ ปริปกฺกรูปานุรูปานิ ปริณตปริณตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ อนุกฺกเมน สุปริณตรูปปริปากกาเล อุปฺปชฺชมานานิ ขณฺฑิจฺจาทิสภาวานิ อุปฺปชฺชนฺติ. ตานิ อุทกาทิมคฺเคสุ ติณรุกฺขสํภคฺคตาทโย วิย ปริปากคตมคฺคสงฺขาเตสุ ปริปกฺกรูเปสุ อุปฺปนฺนานิ ชราย คตมคฺโคอิจฺเจว วุตฺตานิ, น ชราติ. อวิฺายมานนฺตรชรา อวีจิชรา. มรเณ อุปนยนรสา.

๖๔๔. ตํ ปตฺวาติ ตํ อตฺตโน เอว ขยวยสงฺขาตํ สภาวํ ปตฺวา รูปํ ขียติ เวติ ภิชฺชติ. โปเถตฺวา ปาติตสฺส ทุพฺพลตา ปราธีนตา สยนปรายณตา จ โหติ, ตถา ชราภิภูตสฺสาติ โปถกสทิสี ชรา.

๖๔๕. กตฺตพฺพโตติ กตฺตพฺพสภาวโต. วิสาณาทีนํ ตรจฺฉเขฬเตมิตานํ ปาสาณานํ วิย ถทฺธภาวาภาวโต อหิวิจฺฉิกานํ วิย สวิสตฺตาภาวโต จ สุขุมตา วุตฺตา. โอชาลกฺขโณติ เอตฺถ องฺคมงฺคานุสาริโน รสสฺส สาโร อุปตฺถมฺภพลกาโร ภูตนิสฺสิโต เอโก วิเสโส โอชาติ.

อุปาทาภาชนียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โนอุปาทาภาชนียกถาวณฺณนา

๖๔๖. น อุปาทิยเตวาติ น นิสฺสยติ เอว, กินฺตุ นิสฺสยติ จ นิสฺสียติ จาติ อตฺโถ.

๖๔๗. ปุริมา ปนาติ ปฺจวิธสงฺคเห ปถวีธาตุอาโปธาตุเตโชธาตุวาโยธาตูนํ ปุริมุทฺเทสวเสน วุตฺตํ. โผฏฺพฺพายตนนิทฺเทเส วา วุตฺตานํ ปถวีธาตุอาทีนํ ปุริมา อุทฺเทเส วุตฺตา อาโปธาตูติ อธิปฺปาโย, วุตฺตสฺส วา โผฏฺพฺพายตนสฺส อตีตตาย ปจฺฉิมตา, อนาคตตาย จ อาโปธาตุยา ปุริมตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา. อายูติ ชีวิตินฺทฺริยํ. กมฺมชเตชํ อุสฺมา. ยํ กิฺจิ ธาตุํ…เป… เอกปฺปหาเรน นุปฺปชฺชตีติ เอกสฺมึ ขเณ อเนกาสุ ปถวีสุ อาปาถคตาสุ ตาสุ ตาสุ สห นุปฺปชฺชติ, ตถา เตชวายูสุ จาติ อตฺโถ. อเนเกสุ อารมฺมเณสุ สนฺนิปติเตสุ อาภุชิตวเสน อารมฺมณปสาทาธิมตฺตตาวเสน จ ปมํ กตฺถจิ อุปฺปตฺติ ทสฺสิตา, อฺตฺถ จ ปน อุปฺปตฺติ อตฺถิ เอว. สายํ อารมฺมณโต อารมฺมณนฺตรสงฺกนฺติ เยน อุปาเยน โหติ, ตสฺส วิชานนตฺถํ ปุจฺฉติ ‘‘กถํ ปน จิตฺตสฺส อารมฺมณโต สงฺกนฺติ โหตี’’ติ.

๖๕๑. อยปิณฺฑิอาทีสุ ปถวีธาตุ ตาทิสาย อาโปธาตุยา อนาพทฺธา สนฺตี วิสเรยฺย, ตสฺมา ‘‘ตานิ อาโปธาตุ อาพนฺธิตฺวา พทฺธานิ กโรตี’’ติ วุตฺตํ. ยถา หิ ยุตฺตปฺปมาณํ อุทกํ ปํสุจุณฺณานิ อาพนฺธิตฺวา มตฺติกาปิณฺฑํ กตฺวา เปติ, เอวํ อโยปิณฺฑิอาทีสุปิ ตทนุรูปปจฺจเยหิ ตตฺเถว อุปฺปนฺนา อาโปธาตุ ตถา อาพนฺธิตฺวา เปตีติ ทฏฺพฺพา.

อผุสิตฺวา ปติฏฺา โหตีติ อาโปธาตุยา อโผฏฺพฺพภาวโต วุตฺตํ, ตถา ‘‘อผุสิตฺวาว อาพนฺธตี’’ติ. น หิ ยถา โผฏฺพฺพธาตูนํ โผฏฺพฺพภาเวน อฺมฺนิสฺสยตา, เอวํ โผฏฺพฺพาโผฏฺพฺพธาตูนํ โหตีติ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. อวินิพฺโภควุตฺตีสุ หิ ภูเตสุ อฺมฺนิสฺสยตา อฺมฺปจฺจยภูเตสุ น สกฺกา นิวาเรตุํ, นาปิ สหชาเตสุ อวินิพฺโภคตาย เอกีภูเตสุ ผุสนาผุสนานิ วิจาเรตุํ ยุตฺตานีติ. น อุณฺหา หุตฺวา ฌายตีติ เตโชสภาวตํเยว ปฏิกฺขิปติ, น สีตตฺตํ อนุชานาติ, เตโชสภาวปฏิกฺเขเปเนว จ สีตตฺตฺจ ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ. เตโช เอว หิ สีตํ หิมปาตสมยาทีสุ สีตสฺส ปริปาจกตาทสฺสนโต, สีตุณฺหานฺจ อฺมฺปฏิปกฺขภาวโต อุณฺเหน สห น สีตํ ภูตนฺตรํ ปวตฺตตีติ ยุชฺชติ. อุณฺหกลาเป ปน สีตสฺส อปฺปวตฺติ สีตกลาเป จ อุณฺหสฺส ทฺวินฺนํ อฺมฺปฏิปกฺขตฺตา เตโชวิเสสภาเว ยุชฺชตีติ. ภาวฺถตฺตนฺติ ขรานํ คุฬาทีนํ ทวตา มุทุตา รสาทีนฺจ ทวานํ ขรตา ปจฺจยวิเสเสหิ โอมตฺตาธิมตฺตปถวีธาตุอาทิกานํ อุปฺปตฺติ. ลกฺขณฺถตฺตํ กกฺขฬาทิลกฺขณวิชหนํ, ตํ เอเตสํ น โหติ, โอมตฺตาธิมตฺตตาสงฺขาตํ ภาวฺถตฺตํเยว โหตีติ อตฺโถ.

๖๕๒. อนุปาทินฺนาทีนํเยวาติ เอกนฺตอนุปาทินฺนเอกนฺตนจิตฺตสมุฏฺานาทีนํ นิทฺเทเสสุ คหเณสุ คหิตาติ อตฺโถ. ยํ วา ปนฺมฺปีติ ปน วจเนน ปุริมานมฺปิ นกมฺมสฺสกตตฺตาภาวาทิกํ ทีเปติ. ตา หิ อนุปาทินฺนาทินกมฺมสฺสกตตฺตาทิวจนานํ สมานตฺถตฺตา เอเกน อวตฺตพฺพตฺเต อิตเรนปิ อวตฺตพฺพา สิยุํ, วตฺตพฺพตฺเต วา วตฺตพฺพา. ตสฺมา เอกนฺตากมฺมชาทีสฺเวว คเหตพฺพตฺตา ตา อเนกนฺเตสุ น คหิตาติ ทฏฺพฺพา.

๖๖๖. เอกนฺต…เป… ปฺายติ เตสํ วิการตฺตา, อนิปฺผนฺนตฺตา ปน ตสฺส อุปฺปาโท น เกนจิ สกฺกา วตฺตุนฺติ อธิปฺปาโย.

ทุกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๙๖๖. ปจฺฉิมปทสฺสาติ วิฺาตปทสฺส. สพฺพเมว หิ รูปํ วิฺาตนฺติ ตสฺส อภินฺทิตพฺพตฺตา วิฺาตโต อฺํ ทิฏฺํ สุตํ มุตฺจ น โหตีติ ปุจฺฉํ อกตฺวาว วิสฺสชฺชิตํ. น หิ สกฺกา วิฺาตโต อฺํ ‘‘กตมํ รูปํ ทิฏฺ’’นฺติ ปุจฺฉิตุนฺติ อธิปฺปาโย. ยถา หิ ทฺวีสุ อุทฺทิฏฺเสุ โนปาทโต อฺตฺตํ สนฺธาย ‘‘กตมํ ตํ รูปํ อุปาทา’’ติ ปุจฺฉิตํ, เอวํ ทิฏฺาทีสุ จตูสุ อุทฺทิฏฺเสุ สุตาทีหิ ตีหิปิ อฺตฺตํ สนฺธาย ‘‘กตมํ ตํ รูปํ ทิฏฺ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพํ สิยา, ตทภาโว น ปุจฺฉิตํ, เอวํ สุตาทีสุปีติ. ทสฺสนาทิคฺคหณวิเสสโต ปน ทิฏฺาทีหิ อฺสฺส วิฺาตสฺส สพฺภาวโต จ จตุกฺโก วุตฺโต.

ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา

๙๖๙. เตโชภาวํ คตนฺติ สภาเวเนว เตโชภาวํ ปตฺตนฺติ อตฺโถ. วุตฺตสฺสปิ อฺเน ปกาเรน สงฺคหารหสฺส สงฺคณฺหนํ นยกรณํ อิธ ทฏฺพฺพํ, ตยิทํ ‘‘วิฺาต’’นฺติ จตุกฺกปเทปิ โยเชตพฺพํ. โผฏฺพฺพสฺส เภทสพฺภาโว อฏฺเก นโย.

ปกิณฺณกกถาวณฺณนา

๙๗๕. นตฺถิ นีวรณาติ วจเนน มิทฺธสฺสปิ นีวรณสฺส ปหานํ วุตฺตํ, น จ รูปํ ปหาตพฺพํ, น จ รูปกายเคลฺํ มุนิโน นตฺถีติ สกฺกา วตฺตุํ ‘‘ปิฏฺิ เม อาคิลายติ, ตมหํ อายมิสฺสามี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๒) วจนโต. สวิฺาณกสทฺโทติ วิฺาเณน ปวตฺติโต วจีโฆสาทิสทฺโท. น หิ เอตานิ ชายนฺตีติ ปริปจฺจมานสฺส รูปสฺส ปริปจฺจนํ ชรา , ขียมานสฺส ขโย อนิจฺจตาติ รูปภาวมตฺตานิ เอตานิ, น สยํ สภาววนฺตานีติ สนฺธาย วุตฺตํ. ตถา ชายมานสฺส ชนนํ ชาติ, สา จ รูปภาโวว, น สยํ สภาววตีติ ‘‘น ปน ปรมตฺถโต ชาติ ชายตี’’ติ วุตฺตํ.

เตสํ ปจฺจโย เอติสฺสาติ ตปฺปจฺจยา, ตปฺปจฺจยาย ภาโว ตปฺปจฺจยภาโว, ตปฺปจฺจยภาเวน ปวตฺโต โวหาโร ตปฺปจฺจยภาวโวหาโร, ตํ ลภติ. อภินิพฺพตฺติตธมฺมกฺขณสฺมินฺติ อภินิพฺพตฺติยมานธมฺมกฺขณสฺมินฺติ อธิปฺปาโย. น หิ ตทา เต ธมฺมา น ชายนฺตีติ ชายมานภาโวว ชาตีติ ยุตฺตา ตสฺสา กมฺมาทิสมุฏฺานตา ตํนิพฺพตฺตตา จ, น ปน ตทา เต ธมฺมา ชียนฺติ ขียนฺติ จ, ตสฺมา น เตสํ เต ชีรณภิชฺชนภาวา จิตฺตาทิสมุฏฺานา ตํนิพฺพตฺตา จาติ วจนํ อรหนฺติ. เอวมปิ อุปาทินฺน-สทฺโท อุเปเตน กมฺมุนา อาทินฺนตํ วทติ, น นิพฺพตฺตินฺติ อุปาทินฺนปากเภทานํ อุปาทินฺนตา เตสํ วตฺตพฺพาติ เจ? น, อาทินฺน-สทฺทสฺส นิพฺพตฺติวาจกตฺตา. อุเปเตน นิพฺพตฺตฺหิ อุปาทินฺนนฺติ ปจฺจยานุภาวกฺขณฺจ นิพฺพตฺติฺจ คเหตฺวาว ปวตฺโต อยํ โวหาโร ตทา อภาวา ชรามรเณ น ปวตฺตตีติ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ ชรามรณตฺตา เตสํ อุปฺปาเท สติ ชรามรณํ โหติ, อสติ น โหติ. น หิ อชาตํ ปริปจฺจติ ภิชฺชติ วา, ตสฺมา ชาติปจฺจยตํ สนฺธาย ‘‘ชรามรณํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตํ.

นิสฺสยปฏิพทฺธวุตฺติโตติ ชายมานปริปจฺจมานภิชฺชมานานํ ชายมานาทิภาวมตฺตตฺตา ชายมานาทินิสฺสยปฏิพทฺธวุตฺติกา ชาติอาทโยติ วุตฺตํ โหติ. ยทิ เอวํ อุปาทายรูปานฺจ จกฺขายตนาทีนํ อุปฺปาทาทิสภาวภูตา ชาติอาทโย ตํนิสฺสิตา โหนฺตีติ ภูตนิสฺสิตานํ เตสํ ลกฺขณานํ อุปาทายภาโว วิย อุปาทายรูปนิสฺสิตานํ อุปาทายุปาทายภาโว อาปชฺชตีติ เจ? น, ภูตปฏิพทฺธอุปาทายรูปลกฺขณานฺจ ภูตปฏิพทฺธภาวสฺส อวินิวตฺตนโต. อปิจ เอกกลาปปริยาปนฺนานํ รูปานํ สเหว อุปฺปาทาทิปฺปวตฺติโต เอกสฺส กลาปสฺส อุปฺปาทาทโย เอเกกาว โหนฺตีติ ยถา เอเกกสฺส กลาปสฺส ชีวิตินฺทฺริยํ กลาปานุปาลกํ ‘‘อุปาทายรูป’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ กลาปุปฺปาทาทิสภาวา ชาติอาทโย ‘‘อุปาทายรูปานิ’’จฺเจว วุจฺจนฺติ. เอวํ วิการปริจฺเฉทรูปานิ จ โยเชตพฺพานิ.

กมฺมสมุฏฺานสมฺพนฺธํ อุตุสมุฏฺานํ กมฺมวิเสเสน สุวณฺณทุพฺพณฺณสุสณฺิตทุสฺสณฺิตาทิวิเสสํ โหตีติ ‘‘กมฺมปจฺจย’’นฺติ วุตฺตํ. กมฺมวิปากานุภวนสฺส การณภูตํ พาหิรอุตุสมุฏฺานํ กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ. กมฺมสหาโย ปจฺจโย, กมฺมสฺส วา สหายภูโต ปจฺจโย กมฺมปจฺจโย, โสว อุตุ กมฺมปจฺจยอุตุ, โส สมุฏฺานํ เอตสฺสาติ กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺานนฺติ วจนตฺโถ. สีเต อุณฺเห วา กิสฺมิฺจิ อุตุมฺหิ สมาคเต ตโต สุทฺธฏฺกํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส โส อุตุ สมุฏฺานํ. ทุติยสฺส สุทฺธฏฺกสฺส อุตุสมุฏฺานิกปฏิพนฺธกสฺส โส เอว ปุริโม อุตุ ปจฺจโย. ตติยํ ปน สุทฺธฏฺกํ ปุริมอุตุสหาเยน อุตุนา นิพฺพตฺตตฺตา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ‘‘อุตุปจฺจยอุตุสมุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. เอวมยํ ปุริโม อุตุ ติสฺโส สนฺตติโย ฆฏฺเฏติ, ตโต ปรํ อฺอุตุสมาคเม อฺสนฺตติตฺตยํ, ตโต จ อฺเน อฺนฺติ เอวํ ปวตฺติ ทฏฺพฺพา. ตเทตํ สีตุณฺหานํ อปฺปพหุภาเว ตํสมฺผสฺสสฺส อจิรปฺปวตฺติยา จิรปฺปวตฺติยา จ เวทิตพฺพํ, อนุปาทินฺเนน ทีปนา น สนฺตติตฺตยวเสน, อถ โข เมฆสมุฏฺาปกมูลอุตุวเสน ปการนฺตเรน ทฏฺพฺพา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุตุสมุฏฺาโน นาม วลาหโก’’ติอาทิมาห. รูปรูปานํ วิการาทิมตฺตภาวโต อปรินิปฺผนฺนตา วุตฺตา. เตสฺหิ รูปวิการาทิภาวโต รูปตาติ อธิปฺปาโย. รูปวิการาทิภาวโต เอว ปน รูเป สติ สนฺติ, อสติ น สนฺตีติ อสงฺขตภาวนิวารณตฺถํ ปรินิปฺผนฺนตา วุตฺตาติ.

รูปกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.