📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมปิฏเก

สมฺโมหวิโนทนี นาม

วิภงฺค-อฏฺกถา

๑. ขนฺธวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา

จตุสจฺจทโส นาโถ, จตุธา ธมฺมสงฺคณึ;

ปกาสยิตฺวา สมฺพุทฺโธ, ตสฺเสว สมนนฺตรํ.

อุเปโต พุทฺธธมฺเมหิ, อฏฺารสหิ นายโก;

อฏฺารสนฺนํ ขนฺธาทิ-วิภงฺคานํ วเสน ยํ.

วิภงฺคํ เทสยี สตฺถา, ตสฺส สํวณฺณนากฺกโม;

อิทานิ ยสฺมา สมฺปตฺโต, ตสฺมา ตสฺสตฺถวณฺณนํ.

กริสฺสามิ วิคาเหตฺวา, โปราณฏฺกถานยํ;

สทฺธมฺเม คารวํ กตฺวา, ตํ สุณาถ สมาหิตาติ.

. ปฺจกฺขนฺธา – รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธติ อิทํ วิภงฺคปฺปกรณสฺส อาทิภูเต ขนฺธวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียํ นาม. ตตฺถ ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท. เตน น ตโต เหฏฺา น อุทฺธนฺติ ทสฺเสติ. ขนฺธาติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. ตตฺรายํ ขนฺธ-สทฺโท สมฺพหุเลสุ าเนสุ ทิสฺสติ – ราสิมฺหิ, คุเณ, ปณฺณตฺติยํ, รุฬฺหิยนฺติ. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท น สุกรํ อุทกสฺส ปมาณํ คเหตุํ – เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสหสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตสหสฺสานีติ วา, อถ โข อสงฺขฺเยยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๕๑; ๖.๓๗) หิ ราสิโต ขนฺโธ นาม. นหิ ปริตฺตกํ อุทกํ อุทกกฺขนฺโธติ วุจฺจติ, พหุกเมว วุจฺจติ. ตถา น ปริตฺตโก รโช รชกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกา คาโว ควกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกํ พลํ พลกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกํ ปุฺํ ปุฺกฺขนฺโธติ วุจฺจติ. พหุกเมว หิ รโช รชกฺขนฺโธ, พหุกาว ควาทโย ควกฺขนฺโธ, พลกฺขนฺโธ, ปุฺกฺขนฺโธติ วุจฺจนฺติ. ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๕๕) ปน คุณโต ขนฺโธ นาม. ‘‘อทฺทสา โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธํ คงฺคาย นทิยา โสเตน วุยฺหมาน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑). เอตฺถ ปณฺณตฺติโต ขนฺโธ นาม. ‘‘ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ…เป… วิฺาณํ วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๖๓, ๖๕) รุฬฺหิโต ขนฺโธ นาม. สฺวายมิธ ราสิโต อธิปฺเปโต. อยฺหิ ขนฺธฏฺโ นาม ปิณฺฑฏฺโ ปูคฏฺโ ฆฏฏฺโ ราสฏฺโ. ตสฺมา ‘ราสิลกฺขณา ขนฺธา’ติ เวทิตพฺพา. โกฏฺาสฏฺโติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ; โลกสฺมิฺหิ อิณํ คเหตฺวา โจทิยมานา ‘ทฺวีหิ ขนฺเธหิ ทสฺสาม, ตีหิ ขนฺเธหิ ทสฺสามา’ติ วทนฺติ. อิติ ‘โกฏฺาสลกฺขณา ขนฺธา’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวเมตฺถ รูปกฺขนฺโธติ รูปราสิ รูปโกฏฺาโส, เวทนากฺขนฺโธติ เวทนาราสิ เวทนาโกฏฺาโสติ อิมินา นเยน สฺากฺขนฺธาทีนํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอตฺตาวตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ ยฺวายํ ‘‘จตฺตาโร จ มหาภูตา จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’’นฺติ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนาทีสุ เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต ‘ปฺจวีสติ รูปโกฏฺาสา’ติ จ ‘ฉนฺนวุติ รูปโกฏฺาสา’ติ จ เอวํปเภโท รูปราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา รูปกฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ. โย ปนายํ ‘‘สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกเวทนาราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา เวทนากฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ. โย ปนายํ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา สฺา…เป… มโนสมฺผสฺสชา สฺา’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกสฺาราสิ , ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา สฺากฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ. โย ปนายํ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เจตนา…เป… มโนสมฺผสฺสชา เจตนา’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกเจตนาราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา สงฺขารกฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ. โย ปนายํ ‘‘จกฺขุวิฺาณํ, โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณํ, มโนธาตุ, มโนวิฺาณธาตู’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกจิตฺตราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา วิฺาณกฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ.

อปิเจตฺถ สพฺพมฺปิ จตุสมุฏฺานิกํ รูปํ รูปกฺขนฺโธ, กามาวจรอฏฺกุสลจิตฺตาทีหิ เอกูนนวุติจิตฺเตหิ สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, ผสฺสาทโย ธมฺมา สงฺขารกฺขนฺโธ, เอกูนนวุติ จิตฺตานิ วิฺาณกฺขนฺโธติ. เอวมฺปิ ปฺจสุ ขนฺเธสุ ธมฺมปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.

๑. รูปกฺขนฺธนิทฺเทโส

. อิทานิ เต รูปกฺขนฺธาทโย วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม รูปกฺขนฺโธติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ. กตโมติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. รูปกฺขนฺโธติ ปุจฺฉิตธมฺมนิทสฺสนํ. อิทานิ ตํ วิภชนฺโต ยํ กิฺจิ รูปนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยํ กิฺจีติ อนวเสสปริยาทานํ. รูปนฺติ อติปฺปสงฺคนิยมนํ. เอวํ ปททฺวเยนาปิ รูปสฺส อนวเสสปริคฺคโห กโต โหติ.

ตตฺถ เกนฏฺเน รูปนฺติ? รุปฺปนฏฺเน รูปํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘กิฺจ , ภิกฺขเว, รูปํ วเทถ? รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจติ. เกน รุปฺปติ? สีเตนปิ รุปฺปติ, อุณฺเหนปิ รุปฺปติ, ชิฆจฺฉายปิ รุปฺปติ, ปิปาสายปิ รุปฺปติ, ฑํสมกสวาตาตปสริสปสมฺผสฺเสนปิ รุปฺปติ. รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙).

ตตฺถ กินฺติ การณปุจฺฉา; เกน การเณน รูปํ วเทถ, เกน การเณน ตํ รูปํ นามาติ อตฺโถ. รุปฺปตีติ เอตฺถ อิตีติ การณุทฺเทโส. ยสฺมา รุปฺปติ ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. รุปฺปตีติ กุปฺปติ ฆฏฺฏียติ ปีฬิยติ ภิชฺชตีติ อตฺโถ. เอวํ อิมินา เอตฺตเกน าเนน รุปฺปนฏฺเน รูปํ วุตฺตํ. รุปฺปนลกฺขเณน รูปนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. รุปฺปนลกฺขณฺเหตํ.

สีเตนปิรุปฺปตีติอาทีสุ ปน สีเตน ตาว รุปฺปนํ โลกนฺตริกนิรเย ปากฏํ. ติณฺณํ ติณฺณฺหิ จกฺกวาฬานํ อนฺตเร เอเกโก โลกนฺตริกนิรโย นาม โหติ อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาโณ, ยสฺส เนว เหฏฺา ปถวี อตฺถิ, น อุปริ จนฺทิมสูริยทีปมณิอาโลโก, นิจฺจนฺธกาโร. ตตฺถ นิพฺพตฺตสตฺตานํ ติคาวุโต อตฺตภาโว โหติ. เต วคฺคุลิโย วิย ปพฺพตปาเท ทีฆปุถุเลหิ นเขหิ ลคฺคิตฺวา อวํสิรา โอลมฺพนฺติ. ยทา สํสปฺปนฺตา อฺมฺสฺส หตฺถปาสคตา โหนฺติ อถ ‘ภกฺโข โน ลทฺโธ’ติ มฺมานา ตตฺถ พฺยาวฏา วิปริวตฺติตฺวา โลกสนฺธารเก อุทเก ปตนฺติ, สีตวาเต ปหรนฺเตปิ ปกฺกมธุกผลานิ วิย ฉิชฺชิตฺวา อุทเก ปตนฺติ. ปติตมตฺตาว อจฺจนฺตขาเรน สีโตทเกน ฉินฺนจมฺมนฺหารุมํสอฏฺีหิ ภิชฺชมาเนหิ ตตฺตเตเล ปติตปิฏฺปิณฺฑิ วิย ปฏปฏายมานา วิลียนฺติ. เอวํ สีเตน รุปฺปนํ โลกนฺตริกนิรเย ปากฏํ. มหึสกรฏฺาทีสุปิ หิมปาตสีตเลสุ ปเทเสสุ เอตํ ปากฏเมว. ตตฺถ หิ สตฺตา สีเตน ภินฺนจฺฉินฺนสรีรา ชีวิตกฺขยมฺปิ ปาปุณนฺติ.

อุณฺเหน รุปฺปนํ อวีจิมหานิรเย ปากฏํ. ตตฺถ หิ ตตฺตาย โลหปถวิยา นิปชฺชาเปตฺวา ปฺจวิธพนฺธนาทิกรณกาเล สตฺตา มหาทุกฺขํ อนุภวนฺติ.

ชิฆจฺฉาย รุปฺปนํ เปตฺติวิสเย เจว ทุพฺภิกฺขกาเล จ ปากฏํ. เปตฺติวิสยสฺมิฺหิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ กิฺจิเทว อามิสํ หตฺเถน คเหตฺวา มุเข ปกฺขิปนฺตา นาม น โหนฺติ . อนฺโตอุทรํ อาทิตฺตสุสิรรุกฺโข วิย โหติ. ทุพฺภิกฺเข กฺชิกมตฺตมฺปิ อลภิตฺวา มรณปฺปตฺตานํ ปมาณํ นาม นตฺถิ.

ปิปาสาย รุปฺปนํ กาลกฺชิกาทีสุ ปากฏํ. ตตฺถ หิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ หทยเตมนมตฺตํ วา ชิวฺหาเตมนมตฺตํ วา อุทกพินฺทุํ ลทฺธุํ น สกฺโกนฺติ. ‘ปานียํ ปิวิสฺสามา’ติ นทึ คตานมฺปิ นที วาลิกาตลํ สมฺปชฺชติ. มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺตานมฺปิ มหาสมุทฺโท ปิฏฺิปาสาโณ โหติ. เต สุสฺสนฺตา พลวทุกฺขปีฬิตา วิจรนฺติ.

เอโก กิร กาลกฺชิกอสุโร ปิปาสํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต โยชนคมฺภีรวิตฺถารํ มหาคงฺคํ โอตริ. ตสฺส คตคตฏฺาเน อุทกํ ฉิชฺชติ, ธูโม อุคฺคจฺฉติ, ตตฺเต ปิฏฺิปาสาเณ จงฺกมนกาโล วิย โหติ. ตสฺส อุทกสทฺทํ สุตฺวา อิโต จิโต จ วิจรนฺตสฺเสว รตฺติ วิภายิ. อถ นํ ปาโตว ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตา ตึสมตฺตา ปิณฺฑจาริกภิกฺขู ทิสฺวา – ‘‘โก นาม ตฺวํ, สปฺปุริสา’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘เปโตหมสฺมิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปริเยสสี’’ติ? ‘‘ปานียํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อยํ คงฺคา ปริปุณฺณา, กึ ตฺวํ น ปสฺสสี’’ติ? ‘‘น อุปกปฺปติ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ คงฺคาปิฏฺเ นิปชฺช, มุเข เต ปานียํ อาสิฺจิสฺสามา’’ติ. โส วาลิกาปุฬิเน อุตฺตาโน นิปชฺชิ. ภิกฺขู ตึสมตฺเต ปตฺเต นีหริตฺวา อุทกํ อาหริตฺวา อาหริตฺวา ตสฺส มุเข อาสิฺจึสุ. เตสํ ตถา กโรนฺตานํเยว เวลา อุปกฏฺา ชาตา. ตโต ‘‘ภิกฺขาจารกาโล อมฺหากํ, สปฺปุริส; กจฺจิ เต อสฺสาทมตฺตา ลทฺธา’’ติ อาหํสุ. เปโต ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, ตึสมตฺตานํ อยฺยานํ ตึสมตฺเตหิ ปตฺเตหิ อาสิตฺตอุทกโต อฑฺฒปสตมตฺตมฺปิ ปรคลคตํ, เปตตฺตภาวโต โมกฺโข มา โหตู’’ติ อาห. เอวํ ปิปาสาย รุปฺปนํ เปตฺติวิสเย ปากฏํ.

ฑํสาทีหิ รุปฺปนํ ฑํสมกฺขิกาทิสมฺพพหุเลสุ ปเทเสสุ ปากฏํ. เอตฺถ จ ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา, มกสาติ มกสาว วาตาติ กุจฺฉิวาตปิฏฺิวาตาทิวเสน เวทิตพฺพา. สรีรสฺมิฺหิ วาตโรโค อุปฺปชฺชิตฺวา หตฺถปาทปิฏฺิอาทีนิ ภินฺทติ, กาณํ กโรติ, ขุชฺชํ กโรติ, ปีสปฺปึ กโรติ. อาตโปติ สูริยาตโป. เตน รุปฺปนํ มรุกนฺตาราทีสุ ปากฏํ. เอกา กิร อิตฺถี มรุกนฺตาเร รตฺตึ สตฺถโต โอหีนา ทิวา สูริเย อุคฺคจฺฉนฺเต วาลิกาย ตปฺปมานาย ปาเท เปตุํ อสกฺโกนฺตี สีสโต ปจฺฉึ โอตาเรตฺวา อกฺกมิ. กเมน ปจฺฉิยา อุณฺหาภิตตฺตาย าตุํ อสกฺโกนฺตี ตสฺสา อุปริ สาฏกํ เปตฺวา อกฺกมิ. ตสฺมิมฺปิ สนฺตตฺเต องฺเกน คหิตํ ปุตฺตกํ อโธมุขํ นิปชฺชาเปตฺวา กนฺทนฺตํ กนฺทนฺตํ อกฺกมิตฺวา สทฺธึ เตน ตสฺมึเยว าเน อุณฺหาภิตตฺตา กาลมกาสิ.

สรีสปาติ เย เกจิ ทีฆชาติกา สรนฺตา คจฺฉนฺติ. เตสํ สมฺผสฺเสน รุปฺปนํ อาสีวิสทฏฺาทีนํ วเสน เวทิตพฺพํ.

อิทานิ ‘ยํ กิฺจิ รูป’นฺติ ปเทน สํคหิตํ ปฺจวีสติโกฏฺาสฉนฺนวุติโกฏฺาสปฺปเภทํ สพฺพมฺปิ รูปํ อตีตาทิโกฏฺาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา ทสฺเสตุํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนฺติ อาห. ตโต ปรํ ตเทว อชฺฌตฺตทุกาทีสุ จตูสุ ทุเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ทสฺเสตุํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วาติอาทิ วุตฺตํ. ตโต ปรํ สพฺพมฺเปตํ เอกาทสสุ ปเทเสสุ ปริยาทิยิตฺวา ทสฺสิตํ รูปํ เอกโต ปิณฺฑํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ตเทกชฺฌนฺติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ตเทกชฺฌนฺติ ตํ เอกชฺฌํ; อภิสฺูหิตฺวาติ อภิสํหริตฺวา; อภิสงฺขิปิตฺวาติ สงฺเขปํ กตฺวา; อิทํ วุตฺตํ โหติ – สพฺพมฺเปตํ วุตฺตปฺปการํ รูปํ รุปฺปนลกฺขณสงฺขาเต เอกวิธภาเว ปฺาย ราสึ กตฺวา รูปกฺขนฺโธ นามาติ วุจฺจตีติ. เอเตน สพฺพมฺปิ รูปํ รุปฺปนลกฺขเณ ราสิภาวูปคมเนน รูปกฺขนฺโธติ ทสฺสิตํ โหติ. น หิ รูปโต อฺโ รูปกฺขนฺโธ นาม อตฺถิ. ยถา จ รูปํ, เอวํ เวทนาทโยปิ เวทยิตลกฺขณาทีสุ ราสิภาวูปคมเนน. น หิ เวทนาทีหิ อฺเ เวทนากฺขนฺธาทโย นาม อตฺถิ.

. อิทานิ เอเกกสฺมึ โอกาเส ปกฺขิตฺตํ รูปํ วิสุํ วิสุํ ภาเชตฺวา ทสฺเสนฺโต ตตฺถ กตมํ รูปํ อตีตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ เอกาทสสุ โอกาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา ปิตมาติกาย ภุมฺมํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนฺติอาทินา นเยน ปิตาย มาติกาย ยํ อตีตํ รูปนฺติ วุตฺตํ, ตํ กตมนฺติ? อิมินา อุปาเยน สพฺพปุจฺฉาสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อตีตํ นิรุทฺธนฺติอาทีนิ ปทานิ นิกฺเขปกณฺฑสฺส อตีตตฺติกภาชนียวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๔๔) วุตฺตาเนว. จตฺตาโร จ มหาภูตาติ อิทํ อตีตนฺติ วุตฺตรูปสฺส สภาวทสฺสนํ. ยถา เจตฺถ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมินา อิทํ ทสฺเสติ – อตีตรูปมฺปิ ภูตานิ เจว ภูตานิ อุปาทาย นิพฺพตฺตรูปฺจ, อนาคตมฺปิ…เป… ทูรสนฺติกมฺปิ . น หิ ภูเตหิ เจว ภูตานิ อุปาทาย ปวตฺตรูปโต จ อฺํ รูปํ นาม อตฺถีติ.

อปโร นโย – อตีตํเสน สงฺคหิตนฺติ อตีตโกฏฺาเสเนว สงฺคหิตํ, เอตฺเถว คณนํ คตํ. กินฺติ? จตฺตาโร จ มหาภูตา จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปนฺติ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อนาคตปจฺจุปฺปนฺนนิทฺเทสปทานิปิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนว.

อิทํ ปน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ นาม สุตฺตนฺตปริยายโต อภิธมฺมนิทฺเทสโตติ ทุวิธํ. ตํ สุตฺตนฺตปริยาเย ภเวน ปริจฺฉินฺนํ. ปฏิสนฺธิโต หิ ปฏฺาย อตีตภเวสุ นิพฺพตฺตํ รูปํ, อนนฺตรภเว วา นิพฺพตฺตํ โหตุ กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺพํ อตีตเมว นาม. จุติโต ปฏฺาย อนาคตภเวสุ นิพฺพตฺตนกรูปํ, อนนฺตรภเว วา นิพฺพตฺตํ โหตุ กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺพํ อนาคตเมว นาม. จุติปฏิสนฺธิอนนฺตเร ปวตฺตรูปํ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. อภิธมฺมนิทฺเทเส ปน ขเณน ปริจฺฉินฺนํ. ตโย หิ รูปสฺส ขณา – อุปฺปาโท, ิติ, ภงฺโคติ. อิเม ตโย ขเณ ปตฺวา นิรุทฺธํ รูปํ, สมนนฺตรนิรุทฺธํ วา โหตุ อตีเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺพํ อตีตเมว นาม. ตโย ขเณ อสมฺปตฺตํ รูปํ, เอกจิตฺตกฺขณมตฺเตน วา อสมฺปตฺตํ โหตุ อนาคเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺพํ อนาคตเมว นาม. อิเม ตโย ขเณ สมฺปตฺตํ รูปํ ปน ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ตตฺถ กิฺจาปิ อิทํ สุตฺตนฺตภาชนียํ, เอวํ สนฺเตปิ อภิธมฺมนิทฺเทเสเนว อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนรูปํ นิทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ.

อปโร นโย – อิทฺหิ รูปํ อทฺธาสนฺตติสมยขณวเสน จตุธา อตีตํ นาม โหติ. ตถา อนาคตปจฺจุปฺปนฺนํ. อทฺธาวเสน ตาว เอกสฺส เอกสฺมึ ภเว ปฏิสนฺธิโต ปุพฺเพ อตีตํ, จุติโต อุทฺธํ อนาคตํ, อุภินฺนมนฺตเร ปจฺจุปฺปนฺนํ. สนฺตติวเสน สภาคเอกอุตุสมุฏฺานํ เอกาหารสมุฏฺานฺจ ปุพฺพาปริยวเสน ปวตฺตมานมฺปิ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตโต ปุพฺเพ วิสภาคอุตุอาหารสมุฏฺานํ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. จิตฺตชํ เอกวีถิเอกชวนเอกสมาปตฺติสมุฏฺานํ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. กมฺมสมุฏฺานสฺส ปาฏิเยกฺกํ สนฺตติวเสน อตีตาทิเภโท นตฺถิ. เตสฺเว ปน อุตุอาหารจิตฺตสมุฏฺานานํ อุปตฺถมฺภกวเสน ตสฺส อตีตาทิเภโท เวทิตพฺโพ. สมยวเสน เอกมุหุตฺตปุพฺพณฺหสายนฺหรตฺติทิวาทีสุ สมเยสุ สนฺตานวเสน ปวตฺตมานํ ตํ ตํ สมยํ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. ขณวเสน อุปฺปาทาทิกฺขณตฺตยปริยาปนฺนํ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ.

อปิจ อติกฺกเหตุปจฺจยกิจฺจํ อตีตํ. นิฏฺิตเหตุกิจฺจํ อนิฏฺิตปจฺจยกิจฺจํ ปจฺจุปฺปนฺนํ. อุภยกิจฺจมสมฺปตฺตํ อนาคตํ. สกิจฺจกฺขเณ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. เอตฺถ จ ขณาทิกถาว นิปฺปริยายา, เสสา สปริยายา. ตาสุ นิปฺปริยายกถา อิธ อธิปฺเปตา. อชฺฌตฺตทุกสฺสาปิ นิทฺเทสปทานิ เหฏฺา อชฺฌตฺตตฺติกนิทฺเทเส (ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๕๐) วุตฺตตฺถาเนว. โอฬาริกาทีนิ รูปกณฺฑวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๖๗๔) วุตฺตตฺถาเนว.

. หีนทุกนิทฺเทเส เตสํ เตสํ สตฺตานนฺติ พหูสุ สตฺเตสุ สามิวจนํ. อปรสฺสาปิ อปรสฺสาปีติ หิ วุจฺจมาเน ทิวสมฺปิ กปฺปสตสหสฺสมฺปิ วทนฺโต เอตฺตกเมว วเทยฺย. อิติ สตฺถา ทฺวีเหว ปเทหิ อนวเสเส สตฺเต ปริยาทิยนฺโต ‘เตสํ เตสํ สตฺตาน’นฺติ อาห. เอตฺตเกน หิ สพฺพมฺปิ อปรทีปนํ สิทฺธํ โหติ. อุฺาตนฺติ อวมตํ. อวฺาตนฺติ วมฺเภตฺวา าตํ. รูปนฺติปิ น วิทิตํ. หีฬิตนฺติ อคเหตพฺพฏฺเน ขิตฺตํ ฉฑฺฑิตํ, ชิคุจฺฉิตนฺติปิ วทนฺติ. ปริภูตนฺติ กิเมเตนาติ วาจาย ปริภวิตํ. อจิตฺตีกตนฺติ น ครุกตํ. หีนนฺติ ลามกํ. หีนมตนฺติ หีนนฺติ มตํ, ลามกํ กตฺวา าตํ. หีนสมฺมตนฺติ หีนนฺติ โลเก สมฺมตํ, หีเนหิ วา สมฺมตํ, คูถภกฺเขหิ คูโถ วิย. อนิฏฺนฺติ อปฺปิยํ, ปฏิลาภตฺถาย วา อปริเยสิตํ. สเจปิ นํ โกจิ ปริเยเสยฺย, ปริเยสตุ. เอตสฺส ปน อารมฺมณสฺส เอตเทว นามํ. อกนฺตนฺติ อกามิตํ, นิสฺสิริกํ วา. อมนาปนฺติ มนสฺมึ น อปฺปิตํ. ตาทิสฺหิ อารมฺมณํ มนสฺมึ น อปฺปียติ. อถ วา มนํ อปฺปายติ วฑฺเฒตีติ มนาปํ, น มนาปํ อมนาปํ.

อปโร นโย – อนิฏฺํ สมฺปตฺติวิรหโต. ตํ เอกนฺเตน กมฺมสมุฏฺาเนสุ อกุสลกมฺมสมุฏฺานํ. อกนฺตํ สุขสฺส อเหตุภาวโต. อมนาปํ ทุกฺขสฺส เหตุภาวโต. รูปา สทฺทาติ อิทมสฺส สภาวทีปนํ. อิมสฺมิฺหิ ปเท อกุสลกมฺมชวเสน อนิฏฺา ปฺจ กามคุณา วิภตฺตา. กุสลกมฺมชํ ปน อนิฏฺํ นาม นตฺถิ, สพฺพํ อิฏฺเมว.

ปณีตปทนิทฺเทโส วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปน ปเท กุสลกมฺมชวเสน อิฏฺา ปฺจ กามคุณา วิภตฺตา. กุสลกมฺมชฺหิ อนิฏฺํ นาม นตฺถิ, สพฺพํ อิฏฺเมว. ยถา จ กมฺมเชสุ เอวํ อุตุสมุฏฺานาทีสุปิ อิฏฺานิฏฺตา อตฺถิ เอวาติ อิมสฺมึ ทุเก อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ ปฏิวิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ ตาว อาจริยานํ สมานตฺถกถา. วิตณฺฑวาที ปนาห – อิฏฺานิฏฺํ นาม ปาฏิเยกฺกํ ปฏิวิภตฺตํ นตฺถิ, เตสํ เตสํ รุจิวเสน กถิตํ.

ยถาห –

‘‘มนาปปริยนฺตํ ขฺวาหํ, มหาราช, ปฺจสุ กามคุเณสุ อคฺคนฺติ วทามิ. เตว, มหาราช, รูปา เอกจฺจสฺส มนาปา โหนฺติ, เอกจฺจสฺส อมนาปา โหนฺติ. เตว, มหาราช, สทฺทา, คนฺธา, รสา, โผฏฺพฺพา เอกจฺจสฺส มนาปา โหนฺติ, เอกจฺจสฺส อมนาปา โหนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๒๓).

เอวํ ยสฺมา เตเยว รูปาทโย เอโก อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตตฺถ โลภํ อุปฺปาเทติ. เอโก กุชฺฌติ ปฏิหฺติ, ตตฺถ โทสํ อุปฺปาเทติ. เอกสฺส อิฏฺา โหนฺติ กนฺตา มนาปา, เอกสฺส อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา. เอโก เจเต ‘อิฏฺา กนฺตา มนาปา’ติ ทกฺขิณโต คณฺหาติ, เอโก ‘อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา’ติ วามโต. ตสฺมา อิฏฺานิฏฺํ นาม ปาฏิเยกฺกํ ปฏิวิภตฺตํ นาม นตฺถิ. ปจฺจนฺตวาสีนฺหิ คณฺฑุปฺปาทาปิ อิฏฺา โหนฺติ กนฺตา มนาปา, มชฺฌิมเทสวาสีนํ อติเชคุจฺฉา. เตสฺจ โมรมํสาทีนิ อิฏฺานิ โหนฺติ, อิตเรสํ ตานิ อติเชคุจฺฉานีติ.

โส วตฺตพฺโพ – ‘‘กึ ปน ตฺวํ อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ ปาฏิเยกฺกํ ปฏิวิภตฺตํ นาม นตฺถีติ วเทสี’’ติ? ‘‘อาม นตฺถี’’ติ วทามิ. ปุน ตเถว ยาวตติยํ ปติฏฺาเปตฺวา ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘‘นิพฺพานํ นาม อิฏฺํ อุทาหุ อนิฏฺ’’นฺติ? ชานมาโน ‘‘อิฏฺ’’นฺติ วกฺขติ. สเจปิ น วเทยฺย, มา วทตุ. นิพฺพานํ ปน เอกนฺตอิฏฺเมว. ‘‘นนุ เอโก นิพฺพานสฺส วณฺเณ กถิยมาเน กุชฺฌิตฺวา – ‘ตฺวํ นิพฺพานสฺส วณฺณํ กเถสิ, กึ ตตฺถ อนฺนปานมาลาคนฺธวิเลปนสยนจฺฉาทนสมิทฺธา ปฺจ กามคุณา อตฺถี’ติ วตฺวา ‘นตฺถี’ติ วุตฺเต ‘อลํ ตว นิพฺพาเนนา’ติ นิพฺพานสฺส วณฺเณ กถิยมาเน กุชฺฌิตฺวา อุโภ กณฺเณ ถเกตีติ อิฏฺเตํ. เอตสฺส ปน วเสน ตว วาเท นิพฺพานํ อนิฏฺํ นาม โหติ . น ปเนตํ เอวํ คเหตพฺพํ. เอโส หิ วิปรีตสฺาย กเถติ. สฺาวิปลฺลาเสน จ ตเทว อารมฺมณํ เอกสฺส อิฏฺํ โหติ, เอกสฺส อนิฏฺํ’’.

อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ ปน ปาฏิเยกฺกํ วิภตฺตํ อตฺถีติ. กสฺส วเสน วิภตฺตนฺติ? มชฺฌิมกสตฺตสฺส. อิทฺหิ น อติอิสฺสรานํ มหาสมฺมตมหาสุทสฺสนธมฺมาโสกาทีนํ วเสน วิภตฺตํ. เตสฺหิ ทิพฺพกปฺปมฺปิ อารมฺมณํ อมนาปํ อุปฏฺาติ. น อติทุคฺคตานํ ทุลฺลภนฺนปานานํ วเสน วิภตฺตํ. เตสฺหิ กณาชกภตฺตสิตฺถานิปิ ปูติมํสรโสปิ อติมธุโร อมตสทิโส จ โหติ. มชฺฌิมกานํ ปน คณกมหามตฺตเสฏฺิกุฏุมฺพิกวาณิชาทีนํ กาเลน อิฏฺํ กาเลน อนิฏฺํ ลภมานานํ วเสน วิภตฺตํ. เอวรูปา หิ อิฏฺานิฏฺํ ปริจฺฉินฺทิตุํ สกฺโกนฺตีติ.

ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ปนาห – ‘‘อิฏฺานิฏฺํ นาม วิปากวเสเนว ปริจฺฉินฺนํ, น ชวนวเสน. ชวนํ ปน สฺาวิปลฺลาสวเสน อิฏฺสฺมึเยว รชฺชติ, อิฏฺสฺมึเยว ทุสฺสติ; อนิฏฺสฺมึเยว รชฺชติ, อนิฏฺสฺมึเยว ทุสฺสตี’’ติ. วิปากวเสเนว ปเนตํ เอกนฺตโต ปริจฺฉิชฺชติ. น หิ สกฺกา วิปากจิตฺตํ วฺเจตุํ. สเจ อารมฺมณํ อิฏฺํ โหติ, กุสลวิปากํ อุปฺปชฺชติ. สเจ อนิฏฺํ, อกุสลวิปากํ อุปฺปชฺชติ. กิฺจาปิ หิ มิจฺฉาทิฏฺิกา พุทฺธํ วา สงฺฆํ วา มหาเจติยาทีนิ วา อุฬารานิ อารมฺมณานิ ทิสฺวา อกฺขีนิ ปิทหนฺติ, โทมนสฺสํ อาปชฺชนฺติ, ธมฺมสทฺทํ สุตฺวา กณฺเณ ถเกนฺติ, จกฺขุวิฺาณโสตวิฺาณานิ ปน เนสํ กุสลวิปากาเนว โหนฺติ.

กิฺจาปิ คูถสูกราทโย คูถคนฺธํ ฆายิตฺวา ‘ขาทิตุํ ลภิสฺสามา’ติ โสมนสฺสชาตา โหนฺติ, คูถทสฺสเน ปน เตสํ จกฺขุวิฺาณํ, ตสฺส คนฺธฆายเน ฆานวิฺาณํ, รสสายเน ชิวฺหาวิฺาณฺจ อกุสลวิปากเมว โหติ. พนฺธิตฺวา วรสยเน สยาปิตสูกโร จ กิฺจาปิ วิรวติ, สฺาวิปลฺลาเสน ปนสฺส ชวนสฺมึเยว โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, กายวิฺาณํ กุสลวิปากเมว. กสฺมา? อารมฺมณสฺส อิฏฺตาย.

อปิจ ทฺวารวเสนาปิ อิฏฺานิฏฺตา เวทิตพฺพา. สุขสมฺผสฺสฺหิ คูถกลลํ จกฺขุทฺวารฆานทฺวาเรสุ อนิฏฺํ, กายทฺวาเร อิฏฺํ โหติ. จกฺกวตฺติโน มณิรตเนน โปถิยมานสฺส, สุวณฺณสูเล อุตฺตาสิตสฺส จ มณิรตนสุวณฺณสูลานิ จกฺขุทฺวาเร อิฏฺานิ โหนฺติ, กายทฺวาเร อนิฏฺานิ. กสฺมา? มหาทุกฺขสฺส อุปฺปาทนโต. เอวํ อิฏฺานิฏฺํ เอกนฺตโต วิปาเกเนว ปริจฺฉิชฺชตีติ เวทิตพฺพํ.

ตํ ตํ วา ปนาติ เอตฺถ น เหฏฺิมนโย โอโลเกตพฺโพ. น หิ ภควา สมฺมุติมนาปํ ภินฺทติ, ปุคฺคลมนาปํ ปน ภินฺทติ. ตสฺมา ตํตํวาปนวเสเนว อุปาทายุปาทาย หีนปฺปณีตตา เวทิตพฺพา. เนรยิกานฺหิ รูปํ โกฏิปฺปตฺตํ หีนํ นาม; ตํ อุปาทาย ติรจฺฉาเนสุ นาคสุปณฺณานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสํ รูปํ หีนํ; ตํ อุปาทาย เปตานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ชานปทานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย คามโภชกานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ชนปทสามิกานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ปเทสราชูนํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย จกฺกวตฺติรฺโ รูปํ ปณีตํ นาม. ตสฺสาปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ภุมฺมเทวานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ตาวตึสานํ เทวานํ รูปํ ปณีตํ นาม…เป… อกนิฏฺเทวานํ ปน รูปํ มตฺถกปฺปตฺตํ ปณีตํ นาม.

. ทูรทุกนิทฺเทเส อิตฺถินฺทฺริยาทีนิ เหฏฺา วิภตฺตาเนว. อิมสฺมึ ปน ทุเก ทุปฺปริคฺคหฏฺเน ลกฺขณทุปฺปฏิวิชฺฌตาย สุขุมรูปํ ทูเรติ กถิตํ. สุขปริคฺคหฏฺเน ลกฺขณสุปฺปฏิวิชฺฌตาย โอฬาริกรูปํ สนฺติเกติ. กพฬีการาหารปริโยสาเน จ นิยฺยาตนฏฺาเนปิ ‘อิทํ วุจฺจติ รูปํ ทูเร’ติ น นียฺยาติตํ. กสฺมา? ทุวิธฺหิ ทูเร นาม – ลกฺขณโต จ โอกาสโต จาติ. ตตฺถ ลกฺขณโต ทูเรติ น กถิตํ, ตํ โอกาสโต กเถตพฺพํ. ตสฺมา ทูเรติ อกถิตํ. โอฬาริกรูปํ โอกาสโต ทูเรติ ทสฺเสตุํ อนิยฺยาเตตฺวาว ยํ วา ปนฺมฺปีติอาทิมาห. สนฺติกปทนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อนาสนฺเนติ น อาสนฺเน, อนุปกฏฺเติ นิสฺสเฏ, ทูเรติ ทูรมฺหิ, อสนฺติเกติ น สนฺติเก. อิทํ วุจฺจติ รูปํ ทูเรติ อิทํ ปณฺณรสวิธํ สุขุมรูปํ ลกฺขณโต ทูเร, ทสวิธํ ปน โอฬาริกรูปํ เยวาปนกวเสน โอกาสโต ทูเรติ วุจฺจติ. สนฺติกปทนิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถเยว.

อิทํวุจฺจติ รูปํ สนฺติเกติ อิทํ ทสวิธํ โอฬาริกรูปํ ลกฺขณโต สนฺติเก, ปฺจทสวิธํ ปน สุขุมรูปํ เยวาปนกวเสน โอกาสโต สนฺติเกติ วุจฺจติ. กิตฺตกโต ปฏฺาย ปน รูปํ โอกาสวเสน สนฺติเก นาม? กิตฺตกโต ปฏฺาย ทูเร นามาติ? ปกติกถาย กเถนฺตานํ ทฺวาทสหตฺโถ สวนูปจาโร นาม โหติ. ตสฺส โอรโต รูปํ สนฺติเก, ปรโต ทูเร. ตตฺถ สุขุมรูปํ ทูเร โหนฺตํ ลกฺขณโตปิ โอกาสโตปิ ทูเร โหติ; สนฺติเก โหนฺตํ ปน โอกาสโตว สนฺติเก โหติ, น ลกฺขณโต. โอฬาริกรูปํ สนฺติเก โหนฺตํ ลกฺขณโตปิ โอกาสโตปิ สนฺติเก โหติ; ทูเร โหนฺตํ โอกาสโตว ทูเร โหติ, น ลกฺขณโต.

ตํ ตํ วา ปนาติ เอตฺถ น เหฏฺิมนโย โอโลเกตพฺโพ. เหฏฺา หิ ภินฺทมาโน คโต. อิธ ปน น ลกฺขณโต ทูรํ ภินฺทติ, โอกาสโต ทูรเมว ภินฺทติ. อุปาทายุปาทาย ทูรสนฺติกฺหิ เอตฺถ ทสฺสิตํ. อตฺตโน หิ รูปํ สนฺติเก นาม; อนฺโตกุจฺฉิคตสฺสาปิ ปรสฺส ทูเร. อนฺโตกุจฺฉิคตสฺส สนฺติเก; พหิิตสฺส ทูเร. เอกมฺเจ สยิตสฺส สนฺติเก; พหิปมุเข ิตสฺส ทูเร. อนฺโตปริเวเณ รูปํ สนฺติเก; พหิปริเวเณ ทูเร. อนฺโตสงฺฆาราเม รูปํ สนฺติเก; พหิสงฺฆาราเม ทูเร. อนฺโตสีมาย รูปํ สนฺติเก; พหิสีมาย ทูเร. อนฺโตคามเขตฺเต รูปํ สนฺติเก; พหิคามกฺเขตฺเต ทูเร. อนฺโตชนปเท รูปํ สนฺติเก; พหิชนปเท ทูเร. อนฺโตรชฺชสีมาย รูปํ สนฺติเก; พหิรชฺชสีมาย ทูเร. อนฺโตสมุทฺเท รูปํ สนฺติเก; พหิสมุทฺเทรูปํ ทูเร. อนฺโตจกฺกวาเฬ รูปํ สนฺติเก; พหิจกฺกวาเฬ ทูเรติ.

อยํ รูปกฺขนฺธนิทฺเทโส.

๒. เวทนากฺขนฺธนิทฺเทโส

. เวทนากฺขนฺธนิทฺเทสาทีสุ เหฏฺา วุตฺตสทิสํ ปหาย อปุพฺพเมว วณฺณยิสฺสาม. ยา กาจิ เวทนาติ จตุภูมิกเวทนํ ปริยาทิยติ. สุขา เวทนาติอาทีนิ อตีตาทิวเสน นิทฺทิฏฺเวทนํ สภาวโต ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ตตฺถ สุขา เวทนา อตฺถิ กายิกา, อตฺถิ เจตสิกา . ตถา ทุกฺขา เวทนา. อทุกฺขมสุขา ปน จกฺขาทโย ปสาทกาเย สนฺธาย ปริยาเยน ‘อตฺถิ กายิกา, อตฺถิ เจตสิกา’. ตตฺถ สพฺพาปิ กายิกา กามาวจรา. ตถา เจตสิกา ทุกฺขา เวทนา . เจตสิกา สุขา ปน เตภูมิกา. อทุกฺขมสุขา จตุภูมิกา. ตสฺสา สพฺพปฺปการายปิ สนฺตติวเสน, ขณาทิวเสน จ อตีตาทิภาโว เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ สนฺตติวเสน เอกวีถิเอกชวนเอกสมาปตฺติปริยาปนฺนา, เอกวิธวิสยสมาโยคปฺปวตฺตา จ ปจฺจุปฺปนฺนา. ตโต ปุพฺเพ อตีตา, ปจฺฉา อนาคตา. ขณาทิวเสน ขณตฺตยปริยาปนฺนา ปุพฺพนฺตาปรนฺตมชฺฌคตา สกิจฺจฺจ กุรุมานา เวทนา ปจฺจุปฺปนฺนา. ตโต ปุพฺเพ อตีตา, ปจฺฉา อนาคตา. ตตฺถ ขณาทิวเสน อตีตาทิภาวํ สนฺธาย อยํ นิทฺเทโส กโตติ เวทิตพฺโพ.

๑๑. โอฬาริกสุขุมนิทฺเทเส อกุสลา เวทนาติอาทีนิ ชาติโต โอฬาริกสุขุมภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ทุกฺขา เวทนา โอฬาริกาติอาทีนิ สภาวโต. อสมาปนฺนสฺส เวทนาติอาทีนิ ปุคฺคลโต. สาสวาติอาทีนิ โลกิยโลกุตฺตรโต โอฬาริกสุขุมภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ตตฺถ อกุสลา ตาว สทรถฏฺเน ทุกฺขวิปากฏฺเน จ โอฬาริกา. กุสลา นิทฺทรถฏฺเน สุขวิปากฏฺเน จ สุขุมา. อพฺยากตา นิรุสฺสาหฏฺเน อวิปากฏฺเน จ สุขุมา. กุสลากุสลา สอุสฺสาหฏฺเน สวิปากฏฺเน จ โอฬาริกา. อพฺยากตา วุตฺตนเยเนว สุขุมา.

ทุกฺขา อสาตฏฺเน ทุกฺขฏฺเน จ โอฬาริกา. สุขา สาตฏฺเน สุขฏฺเน จ สุขุมา. อทุกฺขมสุขา สนฺตฏฺเน ปณีตฏฺเน จ สุขุมา. สุขทุกฺขา โขภนฏฺเน ผรณฏฺเน จ โอฬาริกา. สุขเวทนาปิ หิ โขเภติ ผรติ. ตถา ทุกฺขเวทนาปิ. สุขฺหิ อุปฺปชฺชมานํ สกลสรีรํ โขเภนฺตํ อาลุเฬนฺตํ อภิสนฺทยมานํ มทฺทยมานํ ฉาทยมานํ สีโตทกฆเฏน อาสิฺจยมานํ วิย อุปฺปชฺชติ. ทุกฺขํ อุปฺปชฺชมานํ ตตฺตผาลํ อนฺโต ปเวสนฺตํ วิย ติณุกฺกาย พหิ ฌาปยมานํ วิย อุปฺปชฺชติ. อทุกฺขมสุขา ปน วุตฺตนเยเนว สุขุมา. อสมาปนฺนสฺส เวทนา นานารมฺมเณ วิกฺขิตฺตภาวโต โอฬาริกา . สมาปนฺนสฺส เวทนา เอกตฺตนิมิตฺเตเยว จรตีติ สุขุมา. สาสวา อาสวุปฺปตฺติเหตุโต โอฬาริกา. อาสวจาโร นาม เอกนฺตโอฬาริโก. อนาสวา วุตฺตวิปริยาเยน สุขุมา.

ตตฺถ เอโก เนว กุสลตฺติเก โกวิโท โหติ, น เวทนาตฺติเก. โส ‘กุสลตฺติกํ รกฺขามี’ติ เวทนาตฺติกํ ภินฺทติ; ‘เวทนาตฺติกํ รกฺขามี’ติ กุสลตฺติกํ ภินฺทติ. เอโก ‘ติกํ รกฺขามี’ติ ภูมนฺตรํ ภินฺทติ. เอโก น ภินฺทติ. กถํ? ‘‘สุขทุกฺขา เวทนา โอฬาริกา, อทุกฺขมสุขา เวทนา สุขุมา’’ติ หิ เวทนาตฺติเก วุตฺตํ. ตํ เอโก ปฏิกฺขิปติ – น สพฺพา อทุกฺขมสุขา สุขุมา. สา หิ กุสลาปิ อตฺถิ อกุสลาปิ อพฺยากตาปิ. ตตฺถ กุสลากุสลา โอฬาริกา, อพฺยากตา สุขุมา. กสฺมา? กุสลตฺติเก ปาฬิยํ อาคตตฺตาติ. เอวํ กุสลตฺติโก รกฺขิโต โหติ, เวทนาตฺติโก ปน ภินฺโน.

กุสลากุสลา เวทนา โอฬาริกา, อพฺยากตา เวทนา สุขุมา’’ติ ยํ ปน กุสลตฺติเก วุตฺตํ, ตํ เอโก ปฏิกฺขิปติ – น สพฺพา อพฺยากตา สุขุมา. สา หิ สุขาปิ อตฺถิ ทุกฺขาปิ อทุกฺขมสุขาปิ. ตตฺถ สุขทุกฺขา โอฬาริกา, อทุกฺขมสุขา สุขุมา. กสฺมา? เวทนาตฺติเก ปาฬิยํ อาคตตฺตาติ. เอวํ เวทนาตฺติโก รกฺขิโต โหติ, กุสลตฺติโก ปน ภินฺโน. กุสลตฺติกสฺส ปน อาคตฏฺาเน เวทนาตฺติกํ อโนโลเกตฺวา เวทนาตฺติกสฺส อาคตฏฺาเน กุสลตฺติกํ อโนโลเกตฺวา กุสลาทีนํ กุสลตฺติกลกฺขเณน, สุขาทีนํ เวทนาตฺติกลกฺขเณน โอฬาริกสุขุมตํ กเถนฺโต น ภินฺทติ นาม.

ยมฺปิ ‘‘กุสลากุสลา เวทนา โอฬาริกา, อพฺยากตา เวทนา สุขุมา’’ติ กุสลตฺติเก วุตฺตํ, ตตฺเถโก ‘กุสลา โลกุตฺตรเวทนาปิ สมานา โอฬาริกา นาม, วิปากา อนฺตมโส ทฺวิปฺจวิฺาณสหชาตาปิ สมานา สุขุมา นาม โหตี’ติ วทติ. โส เอวรูปํ สนฺตํ ปณีตํ โลกุตฺตรเวทนํ โอฬาริกํ นาม กโรนฺโต, ทฺวิปฺจวิฺาณสมฺปยุตฺตํ อเหตุกํ หีนํ ชฬํ เวทนํ สุขุมํ นาม กโรนฺโต ‘ติกํ รกฺขิสฺสามี’ติ ภูมนฺตรํ ภินฺทติ นาม. ตตฺถ ตตฺถ ภูมิยํ กุสลํ ปน ตํตํภูมิวิปาเกเนว สทฺธึ โยเชตฺวา กเถนฺโต น ภินฺทติ นาม. ตตฺรายํ นโย – กามาวจรกุสลา หิ โอฬาริกา; กามาวจรวิปากา สุขุมา . รูปาวจรารูปาวจรโลกุตฺตรกุสลา โอฬาริกา; รูปาวจรารูปาวจรโลกุตฺตรวิปากา สุขุมาติ. อิมินา นีหาเรน กเถนฺโต น ภินฺทติ นาม.

ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ปนาห – ‘‘อกุสเล โอฬาริกสุขุมตา นาม น อุทฺธริตพฺพา. ตฺหิ เอกนฺตโอฬาริกเมว. โลกุตฺตเรปิ โอฬาริกสุขุมตา น อุทฺธริตพฺพา. ตฺหิ เอกนฺตสุขุม’’นฺติ . อิมํ กถํ อาหริตฺวา ติปิฏกจูฬาภยตฺเถรสฺส กถยึสุ – เอวํ เถเรน กถิตนฺติ. ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร อาห – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน อภิธมฺมํ ปตฺวา เอกปทสฺสาปิ ทฺวินฺนมฺปิ ปทานํ อาคตฏฺาเน นยํ ทาตุํ ยุตฺตฏฺาเน นโย อทินฺโน นาม นตฺถิ, นยํ กาตุํ ยุตฺตฏฺาเน นโย อกโต นาม นตฺถิ. อิธ ปเนกจฺโจ ‘อาจริโย อสฺมี’ติ วิจรนฺโต อกุสเล โอฬาริกสุขุมตํ อุทฺธรมาโน กุกฺกุจฺจายติ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปน โลกุตฺตเรปิ โอฬาริกสุขุมตา อุทฺธริตา’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา อิทํ สุตฺตํ อาหริ – ‘‘ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ ปฏิปทา ทุกฺขา ทนฺธาภิฺา, อยํ, ภนฺเต, ปฏิปทา อุภเยเนว หีนา อกฺขายติ – ทุกฺขตฺตา ทนฺธตฺตา จา’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๕๒). เอตฺถ หิ จตสฺโส ปฏิปทา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา.

ตํ ตํ วา ปนาติ เอตฺถ น เหฏฺิมนโย โอโลเกตพฺโพ. ตํตํวาปนวเสเนว กเถตพฺพํ. ทุวิธา หิ อกุสลา – โลภสหคตา โทสสหคตา จ. ตตฺถ โทสสหคตา โอฬาริกา, โลภสหคตา สุขุมา. โทสสหคตาปิ ทุวิธา – นิยตา อนิยตา จ. ตตฺถ นิยตา โอฬาริกา, อนิยตา สุขุมา. นิยตาปิ กปฺปฏฺิติกา โอฬาริกา, โนกปฺปฏฺิติกา สุขุมา. กปฺปฏฺิติกาปิ อสงฺขาริกา โอฬาริกา, สสงฺขาริกา สุขุมา. โลภสหคตาปิ ทฺวิธา – ทิฏฺิสมฺปยุตฺตา ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตา จ. ตตฺถ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตา โอฬาริกา, ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตา สุขุมา. ทิฏฺิสมฺปยุตฺตาปิ นิยตา โอฬาริกา, อนิยตา สุขุมา. สาปิ อสงฺขาริกา โอฬาริกา, สสงฺขาริกา สุขุมา.

สงฺเขปโต อกุสลํ ปตฺวา ยา วิปากํ พหุํ เทติ สา โอฬาริกา, ยา อปฺปํ สา สุขุมา. กุสลํ ปตฺวา ปน อปฺปวิปากา โอฬาริกา, พหุวิปากา สุขุมา. จตุพฺพิเธ กุสเล กามาวจรกุสลา โอฬาริกา, รูปาวจรกุสลา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อรูปาวจรกุสลา สุขุมา . สาปิ โอฬาริกา, โลกุตฺตรกุสลา สุขุมา. อยํ ตาว ภูมีสุ อเภทโต นโย.

เภทโต ปน กามาวจรา ทานสีลภาวนามยวเสน ติวิธา. ตตฺถ ทานมยา โอฬาริกา, สีลมยา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, ภาวนามยา สุขุมา. สาปิ ทุเหตุกา ติเหตุกาติ ทุวิธา. ตตฺถ ทุเหตุกา โอฬาริกา, ติเหตุกา สุขุมา. ติเหตุกาปิ สสงฺขาริกอสงฺขาริกเภทโต ทุวิธา. ตตฺถ สสงฺขาริกา โอฬาริกา, อสงฺขาริกา สุขุมา. รูปาวจเร ปมชฺฌานกุสลเวทนา โอฬาริกา, ทุติยชฺฌานกุสลเวทนา สุขุมา…เป… จตุตฺถชฺฌานกุสลเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อากาสานฺจายตนกุสลเวทนา สุขุมา อากาสานฺจายตนกุสลเวทนา โอฬาริกา…เป…. เนวสฺานาสฺายตนกุสลเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, วิปสฺสนาสหชาตา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, โสตาปตฺติมคฺคสหชาตา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา…เป… อรหตฺตมคฺคสหชาตา สุขุมา.

จตุพฺพิเธ วิปาเก กามาวจรวิปากเวทนา โอฬาริกา, รูปาวจรวิปากเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา…เป… โลกุตฺตรวิปากเวทนา สุขุมา. เอวํ ตาว อเภทโต.

เภทโต ปน กามาวจรวิปากา อตฺถิ อเหตุกา, อตฺถิ สเหตุกา. สเหตุกาปิ อตฺถิ ทุเหตุกา, อตฺถิ ติเหตุกา. ตตฺถ อเหตุกา โอฬาริกา, สเหตุกา สุขุมา. สาปิ ทุเหตุกา โอฬาริกา, ติเหตุกา สุขุมา. ตตฺถาปิ สสงฺขาริกา โอฬาริกา, อสงฺขาริกา สุขุมา. ปมชฺฌานวิปากา โอฬาริกา, ทุติยชฺฌานวิปากา สุขุมา…เป… จตุตฺถชฺฌานวิปากา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อากาสานฺจายตนวิปากา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา…เป… เนวสฺานาสฺายตนวิปากา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, โสตาปตฺติผลเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, สกทาคามิ…เป… อรหตฺตผลเวทนา สุขุมา.

ตีสุ กิริยาสุ กามาวจรกิริยเวทนา โอฬาริกา, รูปาวจรกิริยเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อรูปาวจรกิริยเวทนา สุขุมา. เอวํ ตาว อเภทโต. เภทโต ปน อเหตุกาทิวเสน ภินฺนาย กามาวจรกิริยาย อเหตุกกิริยเวทนา โอฬาริกา, สเหตุกา สุขุมา. สาปิ ทุเหตุกา โอฬาริกา, ติเหตุกา สุขุมา. ตตฺถาปิ สสงฺขาริกา โอฬาริกา, อสงฺขาริกา สุขุมา. ปมชฺฌาเน กิริยเวทนา โอฬาริกา, ทุติยชฺฌาเน สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, ตติเย…เป… จตุตฺเถ สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อากาสานฺจายตนกิริยเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, วิฺาณฺจา…เป… เนวสฺานาสฺายตนกิริยเวทนา สุขุมา. ยา โอฬาริกา สา หีนา. ยา สุขุมา สา ปณีตา.

๑๓. ทูรทุกนิทฺเทเส อกุสลเวทนา วิสภาคฏฺเน วิสํสฏฺเน จ กุสลาพฺยากตาหิ ทูเร. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ ทูรตา เวทิตพฺพา. สเจปิ หิ อกุสลาทิเวทนาสมงฺคิโน ทุกฺขาทิเวทนาสมงฺคิโน จ ตโย ตโย ชนา เอกมฺเจ นิสินฺนา โหนฺติ, เตสมฺปิ ตา เวทนา วิสภาคฏฺเน วิสํสฏฺเน จ ทูเรเยว นาม. สมาปนฺนเวทนาทิสมงฺคีสุปิ เอเสว นโย. อกุสลา ปน อกุสลาย สภาคฏฺเน สริกฺขฏฺเน จ สนฺติเก นาม. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ สนฺติกตา เวทิตพฺพา. สเจปิ หิ อกุสลาทิเวทนาสมงฺคีสุ ตีสุ ชเนสุ เอโก กามภเว, เอโก รูปภเว, เอโก อรูปภเว, เตสมฺปิ ตา เวทนา สภาคฏฺเน สริกฺขฏฺเน จ สนฺติเกเยว นาม. กุสลาทิเวทนาสมงฺคีสุปิ เอเสว นโย.

ตํ ตํ วา ปนาติ เอตฺถ เหฏฺิมนยํ อโนโลเกตฺวา ตํ ตํ วาปนวเสเนว กเถตพฺพํ. กเถนฺเตน จ น ทูรโต สนฺติกํ อุทฺธริตพฺพํ, สนฺติกโต ปน ทูรํ อุทฺธริตพฺพํ. ทุวิธา หิ อกุสลา – โลภสหคตา โทสสหคตา จ. ตตฺถ โลภสหคตา โลภสหคตาย สนฺติเก นาม, โทสสหคตาย ทูเร นาม. โทสสหคตา โทสสหคตาย สนฺติเก นาม, โลภสหคตาย ทูเร นาม. โทสสหคตาปิ นิยตา นิยตาย สนฺติเก นามาติ. เอวํ อนิยตา. กปฺปฏฺิติกอสงฺขาริกสสงฺขาริกเภทํ โลภสหคตาทีสุ จ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตาทิเภทํ สพฺพํ โอฬาริกทุกนิทฺเทเส วิตฺถาริตวเสน อนุคนฺตฺวา เอเกกโกฏฺาสเวทนา ตํตํโกฏฺาสเวทนาย เอว สนฺติเก, อิตรา อิตราย ทูเรติ เวทิตพฺพาติ.

อยํ เวทนากฺขนฺธนิทฺเทโส.

๓. สฺากฺขนฺธนิทฺเทโส

๑๔. สฺากฺขนฺธนิทฺเทเส ยา กาจิ สฺาติ จตุภูมิกสฺํ ปริยาทิยติ. จกฺขุสมฺผสฺสชา สฺาติอาทีนิ อตีตาทิวเสน นิทฺทิฏฺสฺํ สภาวโต ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ตตฺถ จกฺขุสมฺผสฺสโต จกฺขุสมฺผสฺสสฺมึ วา ชาตา จกฺขุสมฺผสฺสชา นาม. เสสาสุปิ เอเสว นโย . เอตฺถ จ ปุริมา ปฺจ จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกาว. มโนสมฺผสฺสชา หทยวตฺถุกาปิ อวตฺถุกาปิ. สพฺพา จตุภูมิกสฺา.

๑๗. โอฬาริกทุกนิทฺเทเส ปฏิฆสมฺผสฺสชาติ สปฺปฏิเฆ จกฺขุปสาทาทโย วตฺถุํ กตฺวา สปฺปฏิเฆ รูปาทโย อารพฺภ อุปฺปนฺโน ผสฺโส ปฏิฆสมฺผสฺโส นาม. ตโต ตสฺมึ วา ชาตา ปฏิฆสมฺผสฺสชา นาม. จกฺขุสมฺผสฺสชา สฺา…เป… กายสมฺผสฺสชา สฺาติปิ ตสฺสาเยว วตฺถุโต นามํ. รูปสฺา…เป… โผฏฺพฺพสฺาติปิ ตสฺสาเยว อารมฺมณโต นามํ. อิทํ ปน วตฺถารมฺมณโต นามํ. สปฺปฏิฆานิ หิ วตฺถูนิ นิสฺสาย, สปฺปฏิฆานิ จ อารมฺมณานิ อารพฺภ อุปฺปตฺติโต เอสา ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺาติ วุตฺตา. มโนสมฺผสฺสชาติปิ ปริยาเยน เอติสฺสา นามํ โหติเยว. จกฺขุวิฺาณฺหิ มโน นาม. เตน สหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม. ตสฺมึ มโนสมฺผสฺเส, ตสฺมา วา มโนสมฺผสฺสา ชาตาติ มโนสมฺผสฺสชา. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณํ มโน นาม. เตน สหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม. ตสฺมึ มโนสมฺผสฺเส, ตสฺมา วา มโนสมฺผสฺสา ชาตาติ มโนสมฺผสฺสชา.

อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺาติปิ ปริยาเยน เอติสฺสา นามํ โหติเยว. ตโย หิ อรูปิโน ขนฺธา สยํ ปิฏฺิวฏฺฏกา หุตฺวา อตฺตนา สหชาตาย สฺาย อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺาติปิ นามํ กโรนฺติ. นิปฺปริยาเยน ปน ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺา นาม ปฺจทฺวาริกสฺา , อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺา นาม มโนทฺวาริกสฺา. ตตฺถ ปฺจทฺวาริกสฺา โอโลเกตฺวาปิ ชานิตุํ สกฺกาติ โอฬาริกา. รชฺชิตฺวา อุปนิชฺฌายนฺตฺหิ ‘รชฺชิตฺวา อุปนิชฺฌายตี’ติ, กุชฺฌิตฺวา อุปนิชฺฌายนฺตํ ‘กุชฺฌิตฺวา อุปนิชฺฌายตี’ติ โอโลเกตฺวาว ชานนฺติ.

ตตฺริทํ วตฺถุ – ทฺเว กิร อิตฺถิโย นิสีทิตฺวา สุตฺตํ กนฺตนฺติ. ทฺวีสุ ทหเรสุ คาเม จรนฺเตสุ เอโก ปุรโต คจฺฉนฺโต เอกํ อิตฺถึ โอโลเกสิ. อิตรา ตํ ปุจฺฉิ ‘กสฺมา นุ โข ตํ เอโส โอโลเกสี’ติ? ‘น เอโส ภิกฺขุ มํ วิสภาคจิตฺเตน โอโลเกสิ, กนิฏฺภคินีสฺาย ปน โอโลเกสี’ติ. เตสุปิ คาเม จริตฺวา อาสนสาลาย นิสินฺเนสุ อิตโร ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉิ – ‘ตยา สา อิตฺถี โอโลกิตา’ติ? ‘อาม โอโลกิตา’. ‘กิมตฺถายา’ติ? ‘มยฺหํ ภคินีสริกฺขตฺตา ตํ โอโลเกสิ’นฺติ อาห. เอวํ ปฺจทฺวาริกสฺา โอโลเกตฺวาปิ ชานิตุํ สกฺกาติ เวทิตพฺพา. สา ปเนสา ปสาทวตฺถุกา เอว. เกจิ ปน ชวนปฺปวตฺตาติ ทีเปนฺติ. มโนทฺวาริกสฺา ปน เอกมฺเจ วา เอกปีเ วา นิสีทิตฺวาปิ อฺํ จินฺเตนฺตํ วิตกฺเกนฺตฺจ ‘กึ จินฺเตสิ, กึ วิตกฺเกสี’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตสฺส วจนวเสเนว ชานิตพฺพโต สุขุมา. เสสํ เวทนากฺขนฺธสทิสเมวาติ.

อยํ สฺากฺขนฺธนิทฺเทโส.

๔. สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทโส

๒๐. สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทเส เย เกจิ สงฺขาราติ จตุภูมิกสงฺขาเร ปริยาทิยติ. จกฺขุสมฺผสฺสชา เจตนาติอาทีนิ อตีตาทิวเสน นิทฺทิฏฺสงฺขาเร สภาวโต ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. จกฺขุสมฺผสฺสชาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. เจตนาติ เหฏฺิมโกฏิยา ปธานสงฺขารวเสน วุตฺตํ. เหฏฺิมโกฏิยา หิ อนฺตมโส จกฺขุวิฺาเณน สทฺธึ ปาฬิยํ อาคตา จตฺตาโร สงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ. เตสุ เจตนา ปธานา อายูหนฏฺเน ปากฏตฺตา. ตสฺมา อยเมว คหิตา. ตํสมฺปยุตฺตสงฺขารา ปน ตาย คหิตาย คหิตาว โหนฺติ. อิธาปิ ปุริมา ปฺจ จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกาว. มโนสมฺผสฺสชา หทยวตฺถุกาปิ อวตฺถุกาปิ. สพฺพา จตุภูมิกเจตนา. เสสํ เวทนากฺขนฺธสทิสเมวาติ.

อยํ สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทโส.

๕. วิฺาณกฺขนฺธนิทฺเทโส

๒๖. วิฺาณกฺขนฺธนิทฺเทเส ยํ กิฺจิ วิฺาณนฺติ จตุภูมกวิฺาณํ ปริยาทิยติ. จกฺขุวิฺาณนฺติอาทีนิ อตีตาทิวเสน นิทฺทิฏฺวิฺาณํ สภาวโต ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ตตฺถ จกฺขุวิฺาณาทีนิ ปฺจ จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกาเนว, มโนวิฺาณํ หทยวตฺถุกมฺปิ อวตฺถุกมฺปิ. สพฺพํ จตุภูมกวิฺาณํ. เสสํ เวทนากฺขนฺธสทิสเมวาติ.

อยํ วิฺาณกฺขนฺธนิทฺเทโส.

ปกิณฺณกกถา

อิทานิ ปฺจสุปิ ขนฺเธสุ สมุคฺคมโต, ปุพฺพาปรโต, อทฺธานปริจฺเฉทโต, เอกุปฺปาทนานานิโรธโต, นานุปฺปาทเอกนิโรธโต, เอกุปฺปาทเอกนิโรธโต, นานุปฺปาทนานานิโรธโต, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนโต, อชฺฌตฺติกพาหิรโต, โอฬาริกสุขุมโต, หีนปณีตโต, ทูรสนฺติกโต, ปจฺจยโต, สมุฏฺานโต, ปรินิปฺผนฺนโต, สงฺขตโตติ โสฬสหากาเรหิ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ ทุวิโธ สมุคฺคโม – คพฺภเสยฺยกสมุคฺคโม, โอปปาติกสมุคฺคโมติ. ตตฺถ คพฺภเสยฺยกสมุคฺคโม เอวํ เวทิตพฺโพ – คพฺภเสยฺยกสตฺตานฺหิ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฺจกฺขนฺธา อปจฺฉาอปุเร เอกโต ปาตุภวนฺติ. ตสฺมึ ขเณ ปาตุภูตา กลลสงฺขาตา รูปสนฺตติ ปริตฺตา โหติ. ขุทฺทกมกฺขิกาย เอกวายาเมน ปาตพฺพมตฺตาติ วตฺวา ปุน ‘อติพหุํ เอตํ, สณฺหสูจิยา เตเล ปกฺขิปิตฺวา อุกฺขิตฺตาย ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘เอกเกเส เตลโต อุทฺธริตฺวา คหิเต ตสฺส ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘อิมสฺมึ ชนปเท มนุสฺสานํ เกเส อฏฺธา ผาลิเต ตโต เอกโกฏฺาสปฺปมาโณ อุตฺตรกุรุกานํ เกโส; ตสฺส ปสนฺนติลเตลโต อุทฺธฏสฺส อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘เอตํ พหุ, ชาติอุณฺณา นาม สุขุมา; ตสฺสา เอกอํสุโน ปสนฺนติลเตเล ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธฏสฺส ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’นฺติ วุตฺตํ. ตํ ปเนตํ อจฺฉํ โหติ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ ปริสุทฺธํ ปสนฺนติลเตลพินฺทุสมานวณฺณํ . วุตฺตมฺปิ เจตํ –

ติลเตลสฺส ยถา พินฺทุ, สปฺปิมณฺโฑ อนาวิโล;

เอวํ วณฺณปฏิภาคํ, กลลนฺติ ปวุจฺจตีติ.

เอวํ ปริตฺตาย รูปสนฺตติยา ตีณิ สนฺตติสีสานิ โหนฺติ – วตฺถุทสกํ, กายทสกํ, อิตฺถิยา อิตฺถินฺทฺริยวเสน ปุริสสฺส ปุริสินฺทฺริยวเสน ภาวทสกนฺติ. ตตฺถ วตฺถุรูปํ, ตสฺส นิสฺสยานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, ตํนิสฺสิตา วณฺณคนฺธรโสชา, ชีวิตนฺติ – อิทํ วตฺถุทสกํ นาม. กายปสาโท, ตสฺส นิสฺสยานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, ตนฺนิสฺสิตา วณฺณคนฺธรโสชา, ชีวิตนฺติ – อิทํ กายทสกํ นาม. อิตฺถิยา อิตฺถิภาโว, ปุริสสฺส ปุริสภาโว, ตสฺส นิสฺสยานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, ตนฺนิสฺสิตา วณฺณคนฺธรโสชา, ชีวิตนฺติ – อิทํ ภาวทสกํ นาม.

เอวํ คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิยํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน สมตึส กมฺมชรูปานิ รูปกฺขนฺโธ นาม โหติ. ปฏิสนฺธิจิตฺเตน ปน สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, สงฺขารา สงฺขารกฺขนฺโธ, ปฏิสนฺธิจิตฺตํ วิฺาณกฺขนฺโธติ. เอวํ คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา โหนฺติ. สเจ ปน นปุํสกปฏิสนฺธิ โหติ, ภาวทสกํ หายติ. ทฺวินฺนํ ทสกานํ วเสน สมวีสติ กมฺมชรูปานิ รูปกฺขนฺโธ นาม โหติ. เวทนากฺขนฺธาทโย วุตฺตปฺปการา เอวาติ. เอวมฺปิ คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา โหนฺติ.

อิมสฺมึ าเน ติสมุฏฺานิกปฺปเวณี กเถตพฺพา ภเวยฺย. ตํ ปน อกเถตฺวา ‘โอปปาติกสมุคฺคโม’ นาม ทสฺสิโต. โอปปาติกานฺหิ ปริปุณฺณายตนานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ เหฏฺา วุตฺตานิ ตีณิ, จกฺขุโสตฆานชิวฺหาทสกานิ จาติ สตฺต รูปสนฺตติสีสานิ ปาตุภวนฺติ. ตตฺถ จกฺขุทสกาทีนิ กายทสกสทิสาเนว. นปุํสกสฺส ปน ภาวทสกํ นตฺถิ. เอวํ ปริปุณฺณายตนานํ โอปปาติกานํ สมสตฺตติ เจว สมสฏฺิ จ กมฺมชรูปานิ รูปกฺขนฺโธ นาม. เวทนากฺขนฺธาทโย วุตฺตปฺปการา เอวาติ. เอวํ โอปปาติกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา โหนฺติ. อยํ ‘โอปปาติกสมุคฺคโม’ นาม. เอวํ ตาว ปฺจกฺขนฺธา ‘สมุคฺคมโต’ เวทิตพฺพา.

‘ปุพฺพาปรโต’ติ เอวํ ปน คพฺภเสยฺยกานํ อปจฺฉาอปุเร อุปฺปนฺเนสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ กึ รูปํ ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปติ อุทาหุ อรูปนฺติ? รูปํ รูปเมว สมุฏฺาเปติ, น อรูปํ. กสฺมา? ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส น รูปชนกตฺตา. สพฺพสตฺตานฺหิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ, ขีณาสวสฺส จุติจิตฺตํ, ทฺวิปฺจวิฺาณานิ, จตฺตาริ อรูปฺปวิปากานีติ โสฬส จิตฺตานิ รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. ตตฺถ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ตาว วตฺถุโน ทุพฺพลตาย อปฺปติฏฺิตตาย ปจฺจยเวกลฺลตาย อาคนฺตุกตาย จ รูปํ น สมุฏฺาเปติ. ตตฺถ หิ สหชาตํ วตฺถุ อุปฺปาทกฺขเณ ทุพฺพลํ โหตีติ วตฺถุโน ทุพฺพลตาย รูปํ น สมุฏฺาเปติ. ยถา จ ปปาเต ปตนฺโต ปุริโส อฺสฺส นิสฺสโย ภวิตุํ น สกฺโกติ, เอวํ เอตมฺปิ กมฺมเวคกฺขิตฺตตฺตา ปปาเต ปตมานํ วิย อปฺปติฏฺิตํ. อิติ กมฺมเวคกฺขิตฺตตฺตา, อปฺปติฏฺิตตายปิ รูปํ น สมุฏฺาเปติ.

ปฏิสนฺธิจิตฺตฺจ วตฺถุนา สทฺธึ อปจฺฉาอปุเร อุปฺปนฺนํ. ตสฺส วตฺถุ ปุเรชาตํ หุตฺวา ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกติ. สเจ สกฺกุเณยฺย, รูปํ สมุฏฺาเปยฺย. ยตฺราปิ วตฺถุ ปุเรชาตํ หุตฺวา ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺโกติ, ปเวณี ฆฏิยติ, ตตฺราปิ จิตฺตํ องฺคโต อปริหีนํเยว รูปํ สมุฏฺาเปติ. ยทิ หิ จิตฺตํ านกฺขเณ วา ภงฺคกฺขเณ วา รูปํ สมุฏฺาเปยฺย, ปฏิสนฺธิจิตฺตมฺปิ รูปํ สมุฏฺาเปยฺย. น ปน จิตฺตํ ตสฺมึ ขณทฺวเย รูปํ สมุฏฺาเปติ. ยถา ปน อหิจฺฉตฺตกมกุลํ ปถวิโต อุฏฺหนฺตํ ปํสุจุณฺณํ คเหตฺวาว อุฏฺหติ, เอวํ จิตฺตํ ปุเรชาตํ วตฺถุํ นิสฺสาย อุปฺปาทกฺขเณ อฏฺ รูปานิ คเหตฺวาว อุฏฺหติ. ปฏิสนฺธิกฺขเณ จ วตฺถุ ปุเรชาตํ หุตฺวา ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกตีติ ปจฺจยเวกลฺลตายปิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปติ.

ยถา จ อาคนฺตุกปุริโส อคตปุพฺพํ ปเทสํ คโต อฺเสํ – ‘เอถ โภ, อนฺโตคาเม โว อนฺนปานคนฺธมาลาทีนิ ทสฺสามี’ติ วตฺตุํ น สกฺโกติ, อตฺตโน อวิสยตาย อปฺปหุตตาย, เอวเมว ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อาคนฺตุกนฺติ อตฺตโน อาคนฺตุกตายปิ รูปํ น สมุฏฺาเปติ. อปิจ สมตึส กมฺมชรูปานิ จิตฺตสมุฏฺานรูปานํ านํ คเหตฺวา ิตานีติปิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปติ.

ขีณาสวสฺส ปน จุติจิตฺตํ วฏฺฏมูลสฺส วูปสนฺตตฺตา น สมุฏฺาเปติ. ตสฺส หิ สพฺพภเวสุ วฏฺฏมูลํ วูปสนฺตํ อภพฺพุปฺปตฺติกํ ปุนพฺภเว ปเวณี นาม นตฺถิ. โสตาปนฺนสฺส ปน สตฺต ภเว เปตฺวา อฏฺเมว วฏฺฏมูลํ วูปสนฺตํ. ตสฺมา ตสฺส จุติจิตฺตํ สตฺตสุ ภเวสุ รูปํ สมุฏฺาเปติ , สกทาคามิโน ทฺวีสุ, อนาคามิโน เอกสฺมึ. ขีณาสวสฺส สพฺพภเวสุ วฏฺฏมูลสฺส วูปสนฺตตฺตา เนว สมุฏฺาเปติ.

ทฺวิปฺจวิฺาเณสุ ปน ฌานงฺคํ นตฺถิ, มคฺคงฺคํ นตฺถิ, เหตุ นตฺถีติ จิตฺตงฺคํ ทุพฺพลํ โหตีติ จิตฺตงฺคทุพฺพลตาย ตานิ รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. จตฺตาริ อรูปวิปากานิ ตสฺมึ ภเว รูปสฺส นตฺถิตาย รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. น เกวลฺจ ตาเนว, ยานิ อฺานิปิ ตสฺมึ ภเว อฏฺ กามาวจรกุสลานิ, ทส อกุสลานิ, นว กิริยจิตฺตานิ, จตฺตาริ อารุปฺปกุสลานิ, จตสฺโส อารุปฺปกิริยา, ตีณิ มคฺคจิตฺตานิ, จตฺตาริ ผลจิตฺตานีติ ทฺเวจตฺตาลีส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตานิปิ ตตฺถ รูปสฺส นตฺถิตาย เอว รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. เอวํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปติ.

อุตุ ปน ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปติ. โก เอส อุตุ นามาติ? ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปนฺนานํ สมตึสกมฺมชรูปานํ อพฺภนฺตรา เตโชธาตุ. สา านํ ปตฺวา อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. อุตุ นาม เจส ทนฺธนิโรโธ; จิตฺตํ ขิปฺปนิโรธํ. ตสฺมึ ธรนฺเตเยว โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. เตสุ ปฏิสนฺธิอนนฺตรํ ปมภวงฺคจิตฺตํ อุปฺปาทกฺขเณเยว อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. ยทา ปน สทฺทสฺส อุปฺปตฺติกาโล ภวิสฺสติ, ตทา อุตุจิตฺตานิ สทฺทนวกํ นาม สมุฏฺาเปสฺสนฺติ. กพฬีการาหาโรปิ านํ ปตฺวา อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. กุโต ปนสฺส กพฬีการาหาโรติ? มาติโต. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ยฺจสฺส ภุฺชตี มาตา, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;

เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, มาตุกุจฺฉิคโต นโร’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๕);

เอวํ กุจฺฉิคโต ทารโก มาตรา อชฺโฌหฏอนฺนปานโอชาย ยาเปติ. สาว านปฺปตฺตา อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. นนุ จ สา โอชา ขรา? วตฺถุ สุขุมํ? กถํ ตตฺถ ปติฏฺาตีติ? ปมํ ตาว น ปติฏฺาติ; เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา สตฺตาหานํ คตกาเล ปติฏฺาติ. ตโต ปน ปุเร วา ปติฏฺาตุ ปจฺฉา วา; ยทา มาตรา อชฺโฌหฏอนฺนปานโอชา ทารกสฺส สรีเร ปติฏฺาติ, ตทา อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ.

โอปปาติกสฺสาปิ ปกติปฏิยตฺตานํ ขาทนียโภชนียานํ อตฺถิฏฺาเน นิพฺพตฺตสฺส ตานิ คเหตฺวา อชฺโฌหรโต านปฺปตฺตา โอชา รูปํ สมุฏฺาเปติ. เอโก อนฺนปานรหิเต อรฺเ นิพฺพตฺตติ, มหาฉาตโก โหติ, อตฺตโนว ชิวฺหาย เขฬํ ปริวตฺเตตฺวา คิลติ. ตตฺราปิสฺส านปฺปตฺตา โอชา รูปํ สมุฏฺาเปติ.

เอวํ ปฺจวีสติยา โกฏฺาเสสุ ทฺเวว รูปานิ รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ – เตโชธาตุ จ กพฬีการาหาโร จ. อรูเปปิ ทฺเวเยว ธมฺมา รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ – จิตฺตฺเจว กมฺมเจตนา จ. ตตฺถ รูปํ อุปฺปาทกฺขเณ จ ภงฺคกฺขเณ จ ทุพฺพลํ, านกฺขเณ พลวนฺติ านกฺขเณ รูปํ สมุฏฺาเปติ. จิตฺตํ านกฺขเณ จ ภงฺคกฺขเณ จ ทุพฺพลํ, อุปฺปาทกฺขเณเยว พลวนฺติ อุปฺปาทกฺขเณเยว รูปํ สมุฏฺาเปติ. กมฺมเจตนา นิรุทฺธาว ปจฺจโย โหติ. อตีเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเกปิ หิ อายูหิตํ กมฺมํ เอตรหิ ปจฺจโย โหติ. เอตรหิ อายูหิตํ อนาคเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสปริโยสาเนปิ ปจฺจโย โหตีติ. เอวํ ‘ปุพฺพาปรโต’ เวทิตพฺพา.

‘อทฺธานปริจฺเฉทโต’ติ รูปํ กิตฺตกํ อทฺธานํ ติฏฺติ? อรูปํ กิตฺตกนฺติ? รูปํ ครุปริณามํ ทนฺธนิโรธํ. อรูปํ ลหุปริณามํ ขิปฺปนิโรธํ. รูเป ธรนฺเตเยว โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. ตํ ปน สตฺตรสเมน จิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌติ. ยถา หิ ปุริโส ‘ผลํ ปาเตสฺสามี’ติ มุคฺคเรน รุกฺขสาขํ ปหเรยฺย, ผลานิ จ ปตฺตานิ จ เอกกฺขเณเยว วณฺฏโต มุจฺเจยฺยุํ. ตตฺถ ผลานิ อตฺตโน ภาริกตาย ปมตรํ ปถวิยํ ปตนฺติ, ปตฺตานิ ลหุกตาย ปจฺฉา. เอวเมว มุคฺครปฺปหาเรน ปตฺตานฺจ ผลานฺจ เอกกฺขเณ วณฺฏโต มุตฺตกาโล วิย ปฏิสนฺธิกฺขเณ รูปารูปธมฺมานํ เอกกฺขเณ ปาตุภาโว; ผลานํ ภาริกตาย ปมตรํ ปถวิยํ ปตนํ วิย รูเป ธรนฺเตเยว โสฬสนฺนํ จิตฺตานํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนํ; ปตฺตานํ ลหุกตาย ปจฺฉา ปถวิยํ ปตนํ วิย รูปสฺส สตฺตรสเมน จิตฺเตน สห นิรุชฺฌนํ.

ตตฺถ กิฺจาปิ รูปํ ทนฺธนิโรธํ ครุปริณามํ, จิตฺตํ ขิปฺปนิโรธํ ลหุปริณามํ, รูปํ ปน อรูปํ อรูปํ วา รูปํ โอหาย ปวตฺติตุํ น สกฺโกนฺติ. ทฺวินฺนมฺปิ เอกปฺปมาณาว ปวตฺติ. ตตฺรายํ อุปมา – เอโก ปุริโส ลกุณฺฏกปาโท, เอโก ทีฆปาโท. เตสุ เอกโต มคฺคํ คจฺฉนฺเตสุ ยาว ทีฆปาโท เอกปทวารํ อกฺกมติ, ตาว อิตโร ปเท ปทํ อกฺกมิตฺวา โสฬสปทวาเรน คจฺฉติ. ทีฆปาโท ลกุณฺฏกปาทสฺส โสฬส ปทวาเร อตฺตโน ปาทํ อฺฉิตฺวา อากฑฺฒิตฺวา เอกเมว ปทวารํ กโรติ. อิติ เอโกปิ เอกํ อติกฺกมิตุํ น สกฺโกติ. ทฺวินฺนมฺปิ คมนํ เอกปฺปมาณเมว โหติ. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. ลกุณฺฏกปาทปุริโส วิย อรูปํ; ทีฆปาทปุริโส วิย รูปํ; ทีฆปาทสฺส เอกํ ปทวารํ อกฺกมณกาเล อิตรสฺส โสฬสปทวารอกฺกมนํ วิย รูเป ธรนฺเตเยว อรูปธมฺเมสุ โสฬสนฺนํ จิตฺตานํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนํ; ทฺวินฺนํ ปุริสานํ ลกุณฺฏกปาทปุริสสฺส โสฬส ปทวาเร อิตรสฺส อตฺตโน ปาทํ อฺฉิตฺวา อากฑฺฒิตฺวา เอกปทวารกรณํ วิย รูปสฺส สตฺตรสเมน จิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌนํ; ทฺวินฺนํ ปุริสานํ อฺมฺํ อโนหาย เอกปฺปมาเณเนว คมนํ วิย อรูปสฺส รูปํ รูปสฺส อรูปํ อโนหาย เอกปฺปมาเณเนว ปวตฺตนนฺติ. เอวํ ‘อทฺธานปริจฺเฉทโต’ เวทิตพฺพา.

‘เอกุปฺปาทนานานิโรธโต’ติ อิทํ ปจฺฉิมกมฺมชํ เปตฺวา ทีเปตพฺพํ. ปมฺหิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ, ทุติยํ ภวงฺคํ, ตติยํ ภวงฺคํ…เป… โสฬสมํ ภวงฺคํ. เตสุ เอเกกสฺส อุปฺปาทฏฺิติภงฺควเสน ตโย ตโย ขณา. ตตฺถ เอเกกสฺส จิตฺตสฺส ตีสุ ตีสุ ขเณสุ สมตึส สมตึส กมฺมชรูปานิ อุปฺปชฺชนฺติ. เตสุ ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ สมุฏฺิตํ กมฺมชรูปํ สตฺตรสมสฺส ภวงฺคจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ; ิติกฺขเณ สมุฏฺิตํ ิติกฺขเณเยว; ภงฺคกฺขเณ สมุฏฺิตํ ภงฺคกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ. เอวํ ทุติยภวงฺคจิตฺตํ อาทึ กตฺวา อตฺตโน อตฺตโน สตฺตรสเมน จิตฺเตน สทฺธึ โยเชตฺวา นโย เนตพฺโพ. อิติ โสฬส ติกา อฏฺจตฺตาลีส โหนฺติ. อยํ อฏฺจตฺตาลีสกมฺมชรูปปเวณี นาม. สา ปเนสา รตฺติฺจ ทิวา จ ขาทนฺตานมฺปิ ภุฺชนฺตานมฺปิ สุตฺตานมฺปิ ปมตฺตานมฺปิ นทีโสโต วิย เอกนฺตํ ปวตฺตติ เยวาติ. เอวํ ‘เอกุปฺปาทนานานิโรธโต’ เวทิตพฺพา.

‘นานุปฺปาทเอกนิโรธตา’ ปจฺฉิมกมฺมเชน ทีเปตพฺพา. ตตฺถ อายุสํขารปริโยสาเน โสฬสนฺนํ จิตฺตานํ วาเร สติ เหฏฺาโสฬสกํ อุปริโสฬสกนฺติ ทฺเว เอกโต โยเชตพฺพานิ. เหฏฺาโสฬสกสฺมิฺหิ ปมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ สมุฏฺิตํ สมตึสกมฺมชรูปํ อุปริโสฬสกสฺมึ ปมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ; ิติกฺขเณ สมุฏฺิตํ ตสฺส ิติกฺขเณเยว ภงฺคกฺขเณ สมุฏฺิตํ ตสฺส ภงฺคกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ. เหฏฺิมโสฬสกสฺมึ ปน ทุติยจิตฺตสฺส…เป… โสฬสมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ สมุฏฺิตํ สมตึสกมฺมชรูปํ จุติจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ; ตสฺส ิติกฺขเณ สมุฏฺิตํ จุติจิตฺตสฺส ิติกฺขเณเยว; ภงฺคกฺขเณ สมุฏฺิตํ จุติจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ. ตโต ปฏฺาย กมฺมชรูปปเวณี น ปวตฺตติ. ยทิ ปวตฺเตยฺย, สตฺตา อกฺขยา อวยา อชรา อมรา นาม ภเวยฺยุํ.

เอตฺถ ปน ยเทตํ ‘สตฺตรสมสฺส ภวงฺคจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว นิรุชฺฌตี’ติอาทินา นเยน ‘เอกสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ รูปํ อฺสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิรุชฺฌตี’ติ อฏฺกถายํ อาคตตฺตา วุตฺตํ, ตํ ‘‘ยสฺส กายสงฺขาโร นิรุชฺฌติ, ตสฺส จิตฺตสงฺขาโร นิรุชฺฌตี’’ติ? ‘‘อามนฺตา’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๗๙) อิมาย ปาฬิยา วิรุชฺฌติ. กถํ? กายสงฺขาโร หิ จิตฺตสมุฏฺาโน อสฺสาสปสฺสาสวาโต. จิตฺตสมุฏฺานรูปฺจ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปชฺชิตฺวา ยาว อฺานิ โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ ตาว ติฏฺติ. เตสํ โสฬสนฺนํ สพฺพปจฺฉิเมน สทฺธึ นิรุชฺฌติ. อิติ เยน จิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปชฺชติ, ตโต ปฏฺาย สตฺตรสเมน สทฺธึ นิรุชฺฌติ; น กสฺสจิ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ วา ิติกฺขเณ วา นิรุชฺฌติ, นาปิ ิติกฺขเณ วา ภงฺคกฺขเณ วา อุปฺปชฺชติ. เอสา จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส ธมฺมตาติ นิยมโต จิตฺตสงฺขาเรน สทฺธึ เอกกฺขเณ นิรุชฺฌนโต ‘‘อามนฺตา’’ติ วุตฺตํ.

โย จายํ จิตฺตสมุฏฺานสฺส ขณนิยโม วุตฺโต กมฺมาทิสมุฏฺานสฺสาปิ อยเมว ขณนิยโม. ตสฺมา ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สหุปฺปนฺนํ กมฺมชรูปํ ตโต ปฏฺาย สตฺตรสเมน สทฺธึ นิรุชฺฌติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฏฺารสมสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิรุชฺฌติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฏฺารสมสฺส านกฺขเณ นิรุชฺฌตีติ อิมินา นเยเนตฺถ โยชนา กาตพฺพา. ตโต ปรํ ปน อุตุสมุฏฺานิกปเวณีเยว ติฏฺติ. ‘นีหริตฺวา ฌาเปถา’ติ วตฺตพฺพํ โหติ. เอวํ ‘นานุปฺปาทเอกนิโรธโต’ เวทิตพฺพา.

‘เอกุปฺปาทเอกนิโรธโต’ติ รูปํ ปน รูเปน สห เอกุปฺปาทํ เอกนิโรธํ. อรูปํ อรูเปน สห เอกุปฺปาทํ เอกนิโรธํ. เอวํ ‘เอกุปฺปาทเอกนิโรธโต’ เวทิตพฺพา.

‘นานุปฺปาทนานานิโรธตา’ ปน จตุสนฺตติรูเปน ทีเปตพฺพา. อิมสฺส หิ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตสฺส สรีรสฺส ตตฺถ ตตฺถ จตุสนฺตติรูปํ ฆนปุฺชภาเวน วตฺตติ. เอวํ วตฺตมานสฺสาปิสฺส น เอกุปฺปาทาทิตา สลฺลกฺเขตพฺพา. ยถา ปน อุปจิกราชิ วา กิปิลฺลิกราชิ วา โอโลกิยมานา เอกาพทฺธา วิย โหติ, น ปน เอกาพทฺธา. อฺิสฺสา หิ สีสสนฺติเก อฺิสฺสา สีสมฺปิ อุทรมฺปิ ปาทาปิ, อฺิสฺสา อุทรสนฺติเก อฺิสฺสา สีสมฺปิ อุทรมฺปิ ปาทาปิ, อฺิสฺสา ปาทสนฺติเก อฺิสฺสา สีสมฺปิ อุทรมฺปิ ปาทาปิ โหนฺติ. เอวเมว จตุสนฺตติรูปานมฺปิ อฺสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อฺสฺส อุปฺปาโทปิ โหติ ิติปิ ภงฺโคปิ, อฺสฺส ิติกฺขเณ อฺสฺส อุปฺปาโทปิ โหติ ิติปิ ภงฺโคปิ, อฺสฺส ภงฺคกฺขเณ อฺสฺส อุปฺปาโทปิ โหติ ิติปิ ภงฺโคปิ. เอวเมตฺถ ‘นานุปฺปาทนานานิโรธตา’ เวทิตพฺพา.

‘อตีตาทีนิ’ ปน ทูรทุกปริโยสานานิ ปาฬิยํ อาคตาเนว. ‘ปจฺจยสมุฏฺานานิ’ปิ ‘‘กมฺมชํ, กมฺมปจฺจยํ, กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺาน’’นฺติอาทินา (ธ. ส. อฏฺ. ๙๗๕) นเยน เหฏฺา กถิตานิเยว. ปฺจปิ ปน ขนฺธา ปรินิปฺผนฺนาว โหนฺติ, โน อปรินิปฺผนฺนา; สงฺขตาว โน อสงฺขตา; อปิจ นิปฺผนฺนาปิ โหนฺติเยว. สภาวธมฺเมสุ หิ นิพฺพานเมเวกํ อปรินิปฺผนฺนํ อนิปฺผนฺนฺจ. นิโรธสมาปตฺติ ปน นามปฺตฺติ จ กถนฺติ? นิโรธสมาปตฺติ โลกิยโลกุตฺตราติ วา สงฺขตาสงฺขตาติ วา ปรินิปฺผนฺนาปรินิปฺผนฺนาติ วา น วตฺตพฺพา. นิปฺผนฺนา ปน โหติ สมาปชฺชนฺเตน สมาปชฺชิตพฺพโต. ตถา นามปฺตฺติ. สาปิ หิ โลกิยาทิเภทํ น ลภติ; นิปฺผนฺนา ปน โหติ โน อนิปฺผนฺนา; นามคฺคหณฺหิ คณฺหนฺโตว คณฺหาตีติ.

กมาทิวินิจฺฉยกถา

เอวํ ปกิณฺณกโต ขนฺเธ วิทิตฺวา ปุน เอเตสุเยว –

ขนฺเธสุ าณเภทตฺถํ, กมโตถ วิเสสโต;

อนูนาธิกโต เจว, อุปมาโต ตเถว จ.

ทฏฺพฺพโต ทฺวิธา เอวํ, ปสฺสนฺตสฺสตฺถสิทฺธิโต;

วินิจฺฉยนโย สมฺมา, วิฺาตพฺโพ วิภาวินา.

ตตฺถ ‘กมโต’ติ อิธ อุปฺปตฺติกฺกโม, ปหานกฺกโม, ปฏิปตฺติกฺกโม, ภูมิกฺกโม, เทสนากฺกโมติ พหุวิโธ กโม.

ตตฺถ ‘‘ปมํ กลลํ โหติ, กลลา โหติ อพฺพุท’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๓๕) เอวมาทิ อุปฺปตฺติกฺกโม. ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ธมฺมา, ภาวนาย ปหาตพฺพา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ติกมาติกา ๘) เอวมาทิ ปหานกฺกโม. ‘‘สีลวิสุทฺธิ, จิตฺตวิสุทฺธี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๙; ปฏิ. ม. ๓.๔๑) เอวมาทิ ปฏิปตฺติกฺกโม. ‘‘กามาวจรา , รูปาวจรา’’ติ เอวมาทิ ภูมิกฺกโม. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๔๕) วา ‘‘ทานกถํ สีลกถ’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๖๙; ที. นิ. ๑.๒๙๘) วา เอวมาทิ เทสนากฺกโม. เตสุ อิธ อุปฺปตฺติกฺกโม ตาว น ยุชฺชติ, กลลาทีนํ วิย ขนฺธานํ ปุพฺพาปริยววตฺถาเนน อนุปฺปตฺติโต; น ปหานกฺกโม กุสลาพฺยากตานํ อปฺปหาตพฺพโต; น ปฏิปตฺติกฺกโม อกุสลานํ อปฺปฏิปชฺชนียโต; น ภูมิกฺกโม เวทนาทีนํ จตุภูมกปริยาปนฺนตฺตา.

เทสนากฺกโม ปน ยุชฺชติ. อเภเทน หิ ยํ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อตฺตคฺคาหปติตํ เวเนยฺยชนํ สมูหฆนวินิพฺโภคทสฺสเนน อตฺตคฺคาหโต โมเจตุกาโม ภควา หิตกาโม ตสฺส ชนสฺส สุขคฺคหณตฺถํ จกฺขุอาทีนมฺปิ วิสยภูตํ โอฬาริกํ ปมํ รูปกฺขนฺธํ เทเสสิ. ตโต อิฏฺานิฏฺรูปสํเวทิตํ เวทนํ, ยํ เวทยติ ตํ สฺชานาตีติ เอวํ เวทนาวิสยสฺส อาการคฺคาหิกํ สฺํ, สฺาวเสน อภิสงฺขารเก สงฺขาเร, เตสํ เวทนาทีนํ นิสฺสยํ อธิปติภูตฺจ วิฺาณนฺติ เอวํ ตาว ‘กมโต’ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ.

‘วิเสสโต’ติ ขนฺธานฺจ อุปาทานกฺขนฺธานฺจ วิเสสโต. โก ปน เตสํ วิเสโส? ขนฺธา ตาว อวิเสสโต วุตฺตา, อุปาทานกฺขนฺธา สาสวอุปาทานียภาเวน วิเสเสตฺวา. ยถาห –

‘‘ปฺจ, ภิกฺขเว, ขนฺเธ เทเสสฺสามิ ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ จ, ตํ สุณาถ. กตเม จ, ภิกฺขเว, ปฺจกฺขนฺธา? ยํ กิฺจิ, ภิกฺขเว, รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… สนฺติเก วา – อยํ วุจฺจติ, รูปกฺขนฺโธ. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยา กาจิ สฺา…เป… เย เกจิ สงฺขารา…เป… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ …เป… สนฺติเก วา – อยํ วุจฺจติ, วิฺาณกฺขนฺโธ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ปฺจกฺขนฺธา. กตเม จ, ภิกฺขเว, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา? ยํ กิฺจิ, ภิกฺขเว, รูปํ…เป… สนฺติเก วา สาสวํ อุปาทานิยํ – อยํ วุจฺจติ, รูปูปาทานกฺขนฺโธ. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ…เป… สนฺติเก วา สาสวํ อุปาทานิยํ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๔๘).

เอตฺถ จ ยถา เวทนาทโย อนาสวาปิ สาสวาปิ อตฺถิ, น เอวํ รูปํ. ยสฺมา ปนสฺส ราสฏฺเน ขนฺธภาโว ยุชฺชติ ตสฺมา ขนฺเธสุ วุตฺตํ. ยสฺมา ราสฏฺเน จ สาสวฏฺเน จ อุปาทานกฺขนฺธภาโว ยุชฺชติ ตสฺมา อุปาทานกฺขนฺเธสุ วุตฺตํ. เวทนาทโย ปน อนาสวาว ขนฺเธสุ วุตฺตา, สาสวา อุปาทานกฺขนฺเธสุ. ‘อุปาทานกฺขนฺธา’ติ เอตฺถ จ อุปาทานโคจรา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิธ ปน สพฺเพเปเต เอกชฺฌํ กตฺวา ขนฺธาติ อธิปฺเปตา.

‘อนูนาธิกโต’ติ กสฺมา ปน ภควตา ปฺเจว ขนฺธา วุตฺตา อนูนา อนธิกาติ? สพฺพสงฺขตสภาเคกสงฺคหโต, อตฺตตฺตนิยคฺคาหวตฺถุสฺส เอตปฺปรมโต, อฺเสฺจ ตทวโรธโต. อเนกปฺปเภเทสุ หิ สงฺขตธมฺเมสุ สภาควเสน สงฺคยฺหมาเนสุ รูปํ รูปสภาคสงฺคหวเสน เอโก ขนฺโธ โหติ, เวทนา เวทนาสภาคสงฺคหวเสน เอโก ขนฺโธ โหติ. เอส นโย สฺาทีสุปิ. ตสฺมา สพฺพสงฺขตสภาคสงฺคหโต ปฺเจว วุตฺตา. เอตปรมฺเจตํ อตฺตตฺตนิยคฺคาหวตฺถุ ยทิทํ รูปาทโย ปฺจ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘รูเป โข, ภิกฺขเว, สติ รูปํ อุปาทาย รูปํ อภินิวิสฺส เอวํ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ (สํ. นิ. ๓.๒๐๗). เวทนาย… สฺาย… สงฺขาเรสุ…. วิฺาเณ สติ วิฺาณํ อุปาทาย วิฺาณํ อภินิวิสฺส เอวํ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ. ตสฺมา อตฺตตฺตนิยคฺคาหวตฺถุสฺส เอตปรมโตปิ ปฺเจว วุตฺตา. เยปิ จฺเ สีลาทโย ปฺจ ธมฺมกฺขนฺธา วุตฺตา, เตปิ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา เอตฺเถว อวโรธํ คจฺฉนฺติ. ตสฺมา อฺเสํ ตทวโรธโตปิ ปฺเจว วุตฺตาติ. เอวํ ‘อนูนาธิกโต’ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ.

‘อุปมาโต’ติ เอตฺถ หิ คิลานสาลูปโม รูปุปาทานกฺขนฺโธ คิลานูปมสฺส วิฺาณุปาทานกฺขนฺธสฺส วตฺถุทฺวารารมฺมณวเสน นิวาสนฏฺานโต, เคลฺูปโม เวทนุปาทานกฺขนฺโธ อาพาธกตฺตา, เคลฺสมุฏฺานูปโม สฺุปาทานกฺขนฺโธ กามสฺาทิวเสน ราคาทิสมฺปยุตฺตเวทนาสมฺภวา, อสปฺปายเสวนูปโม สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ เวทนาเคลฺสฺส นิทานตฺตา. ‘‘เวทนํ เวทนตฺตาย สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙) หิ วุตฺตํ. ตถา ‘‘อกุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ กายวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหติ ทุกฺขสหคต’’นฺติ (ธ. ส. ๕๕๖). คิลานูปโม วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ เวทนาเคลฺเน อปริมุตฺตตฺตา. อปิจ จารกการณอปราธการณการกอปราธิกูปมา เอเต ภาชนโภชนพฺยฺชนปริเวสกภุฺชกูปมา จาติ, เอวํ ‘อุปมาโต’ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ.

‘ทฏฺพฺพโต ทฺวิธา’ติ สงฺเขปโต วิตฺถารโต จาติ เอวํ ทฺวิธา ทฏฺพฺพโต เปตฺถ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ. สงฺเขปโต หิ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา อาสิวิสูปเม (สํ. นิ. ๔.๒๓๘) วุตฺตนเยน อุกฺขิตฺตาสิกปจฺจตฺถิกโต, ภารสุตฺตวเสน (สํ. นิ. ๓.๒๒) ภารโต, ขชฺชนียปริยายวเสน (สํ. นิ. ๓.๗๙) ขาทกโต, ยมกสุตฺตวเสน (สํ. นิ. ๓.๘๕) อนิจฺจทุกฺขานตฺตสงฺขตวธกโต ทฏฺพฺพา.

วิตฺถารโต ปเนตฺถ เผณปิณฺโฑ วิย รูปํ ทฏฺพฺพํ, อุทกปุพฺพุโฬ วิย เวทนา, มรีจิกา วิย สฺา, กทลิกฺขนฺโธ วิย สงฺขารา, มายา วิย วิฺาณํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘เผณปิณฺฑูปมํ รูปํ, เวทนา ปุพฺพุฬูปมา;

มรีจิกูปมา สฺา, สงฺขารา กทลูปมา;

มายูปมฺจ วิฺาณํ, เทสิตาทิจฺจพนฺธุนา’’ติ. (สํ. นิ. ๓.๙๕);

ตตฺถ รูปาทีนํ เผณปิณฺฑาทีหิ เอวํ สทิสตา เวทิตพฺพา – ยถา หิ เผณปิณฺโฑ นิสฺสาโรว เอวํ รูปมฺปิ นิจฺจสารธุวสารอตฺตสารวิรเหน นิสฺสารเมว. ยถา จ โส ‘อิมินา ปตฺตํ วา ถาลกํ วา กริสฺสามี’ติ คเหตุํ น สกฺกา, คหิโตปิ ตมตฺถํ น สาเธติ ภิชฺชเตว; เอวํ รูปมฺปิ ‘นิจฺจ’นฺติ วา ‘ธุว’นฺติ วา ‘อห’นฺติ วา ‘มม’นฺติ วา คเหตุํ น สกฺกา, คหิตมฺปิ น ตถา ติฏฺติ, อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา อสุภฺเว โหตีติ. เอวํ ‘เผณปิณฺฑสทิสเมว’ โหติ.

ยถา วา ปน เผณปิณฺโฑ ฉิทฺทาวฉิทฺโท อเนกสนฺธิฆฏิโต พหูนฺนํ อุทกสปฺปาทีนํ ปาณานํ อาวาโส, เอวํ รูปมฺปิ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ อเนกสนฺธิฆฏิตํ. กุลวเสน เจตฺถ อสีติ กิมิกุลานิ วสนฺติ. ตเทว เตสํ สูติฆรมฺปิ วจฺจกุฏิปิ คิลานสาลาปิ สุสานมฺปิ. น เต อฺตฺถ คนฺตฺวา คพฺภวุฏฺานาทีนิ กโรนฺติ. เอวมฺปิ เผณปิณฺฑสทิสํ. ยถา จ เผณปิณฺโฑ อาทิโตว พทรปกฺกมตฺโต หุตฺวา อนุปุพฺเพน ปพฺพตกูฏมตฺโตปิ โหติ, เอวํ รูปมฺปิ อาทิโต กลลมตฺตํ หุตฺวา อนุปุพฺเพน พฺยามมตฺตมฺปิ โคมหึสหตฺถิอาทีนํ วเสน ปพฺพตกูฏมตฺตมฺปิ โหติ, มจฺฉกจฺฉปาทีนํ วเสน อเนกโยชนสตปฺปมาณมฺปิ. เอวมฺปิ เผณปิณฺฑสทิสํ. ยถา จ เผณปิณฺโฑ อุฏฺิตมตฺโตปิ ภิชฺชติ, โถกํ คนฺตฺวาปิ, สมุทฺทํ ปตฺวา ปน อวสฺสเมว ภิชฺชติ; เอวเมว รูปมฺปิ กลลภาเวปิ ภิชฺชติ, อพฺพุทาทิภาเว, อนฺตรา ปน อเภชฺชมานมฺปิ วสฺสสตายุกานํ วสฺสสตํ ปตฺวา อวสฺสเมว ภิชฺชติ, มรณมุเข จุณฺณวิจุณฺณํ โหติ. เอวมฺปิ เผณปิณฺฑสทิสํ.

ยถา ปน ปุพฺพุโฬ อสาโร, เอวํ เวทนาปิ. ยถา จ โส อพโล, อคยฺหุปโค, น สกฺกา ตํ คเหตฺวา ผลกํ วา อาสนํ วา กาตุํ, คหิตคฺคหิโตปิ ภิชฺชเตว; เอวํ เวทนาปิ อพลา, อคยฺหุปคา, น สกฺกา ‘นิจฺจา’ติ วา ‘ธุวา’ติ วา คเหตุํ, คหิตาปิ น ตถา ติฏฺติ. เอวํ อคยฺหุปคตายปิ เวทนา ‘ปุพฺพุฬสทิสา’. ยถา ปน ตสฺมึ ตสฺมึ อุทกพินฺทุมฺหิ ปุพฺพุโฬ อุปฺปชฺชติ เจว นิรุชฺฌติ จ, น จิรฏฺิติโก โหติ; เอวํ เวทนาปิ อุปฺปชฺชติ เจว นิรุชฺฌติ จ, น จิรฏฺิติกา โหติ, เอกจฺฉรกฺขเณ โกฏิสตสหสฺสสงฺขฺยา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ. ยถา จ ปุพฺพุโฬ อุทกตลํ, อุทกพินฺทุํ , อุทกชลฺลกํ สงฺกฑฺฒิตฺวา ปุฏํ กตฺวา คหณวาตฺจาติ จตฺตาริ การณานิ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ; เอวํ เวทนาปิ วตฺถุํ, อารมฺมณํ, กิเลสชาลํ, ผสฺสสงฺฆฏฺฏนฺจาติ จตฺตาริ การณานิ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ. เอวมฺปิ เวทนา ปุพฺพุฬสทิสา.

สฺาปิ อสารกฏฺเน ‘มรีจิสทิสา’. ตถา อคยฺหุปคฏฺเน; น หิ สกฺกา ตํ คเหตฺวา ปิวิตุํ วา นฺหายิตุํ วา ภาชนํ วา ปูเรตุํ. อปิจ ยถา มรีจิ วิปฺผนฺทติ, สฺชาตูมิเวโค วิย ขายติ; เอวํ นีลสฺาทิเภทา สฺาปิ นีลาทิอนุภวนตฺถาย ผนฺทติ วิปฺผนฺทติ. ยถา จ มรีจิ มหาชนํ วิปฺปลมฺเภติ , ‘ปริปุณฺณวาปี วิย ปริปุณฺณนที วิย ทิสฺสตี’ติ วทาเปติ; เอวํ สฺาปิ วิปฺปลมฺเภติ, ‘อิทํ นีลกํ สุภํ สุขํ นิจฺจ’นฺติ วทาเปติ. ปีตกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ วิปฺปลมฺภเนนาปิ มรีจิสทิสา.

สงฺขาราปิ อสารกฏฺเน ‘กทลิกฺขนฺธสทิสา’. ตถา อคยฺหุปคฏฺเน. ยเถว หิ กทลิกฺขนฺธโต กิฺจิ คเหตฺวา น สกฺกา โคปานสีอาทีนมตฺถาย อุปเนตุํ, อุปนีตมฺปิ น ตถา โหติ; เอวํ สงฺขาราปิ น สกฺกา นิจฺจาทิวเสน คเหตุํ, คหิตาปิ น ตถา โหนฺติ. ยถา จ กทลิกฺขนฺโธ พหุวฏฺฏิสโมธาโน โหติ, เอวํ สงฺขารกฺขนฺโธปิ พหุธมฺมสโมธาโน. ยถา จ กทลิกฺขนฺโธ นานาลกฺขโณ, อฺโเยว หิ พาหิราย ปตฺตวฏฺฏิยา วณฺโณ, อฺโ ตโต อพฺภนฺตรพฺภนฺตรานํ; เอวเมว สงฺขารกฺขนฺโธปิ อฺเทว ผสฺสสฺส ลกฺขณํ, อฺํ เจตนาทีนํ. สโมธาเนตฺวา ปน สงฺขารกฺขนฺโธตฺเวว วุจฺจตีติ. เอวมฺปิ สงฺขารกฺขนฺโธ กทลิกฺขนฺธสทิโส.

วิฺาณมฺปิ อสารกฏฺเน ‘มายาสทิสํ’. ตถา อคยฺหุปคฏฺเน. ยถา จ มายา อิตฺตรา ลหุปจฺจุปฏฺานา, เอวํ วิฺาณํ. ตฺหิ ตโตปิ อิตฺตรตรฺเจว ลหุปจฺจุปฏฺานตรฺจ. เตเนว หิ จิตฺเตน ปุริโส อาคโต วิย, คโต วิย, ิโต วิย, นิสินฺโน วิย โหติ. อฺเทว จาคมนกาเล จิตฺตํ, อฺํ คมนกาลาทีสุ. เอวมฺปิ วิฺาณํ มายาสทิสํ. มายา จ มหาชนํ วฺเจติ, ยํ กิฺจิเทว ‘อิทํ สุวณฺณํ รชตํ มุตฺตา’ติปิ คหาเปติ. วิฺาณมฺปิ มหาชนํ วฺเจติ, เตเนว จิตฺเตน อาคจฺฉนฺตํ วิย, คจฺฉนฺตํ วิย, ิตํ วิย, นิสินฺนํ วิย กตฺวา คาหาเปติ. อฺเทว จ อาคมเน จิตฺตํ, อฺํ คมนาทีสุ. เอวมฺปิ วิฺาณํ มายาสทิสํ. วิเสสโต จ สุภารมฺมณมฺปิ โอฬาริกมฺปิ อชฺฌตฺติกรูปํ อสุภนฺติ ทฏฺพฺพํ. เวทนา ตีหิ ทุกฺขตาหิ อวินิมุตฺตโต ทุกฺขาติ สฺาสงฺขารา อวิเธยฺยโต อนตฺตาติ วิฺาณํ อุทยพฺพยธมฺมโต อนิจฺจนฺติ ทฏฺพฺพํ.

‘เอวํ ปสฺสนฺตสฺสตฺถสิทฺธิโต’ติ เอวฺจ สงฺเขปวิตฺถารวเสน ทฺวิธา ปสฺสโต ยา อตฺถสิทฺธิ โหติ, ตโตปิ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ, เสยฺยถิทํ – สงฺเขปโต ตาว ปฺจุปาทานกฺขนฺเธสุ อุกฺขิตฺตาสิกปจฺจตฺถิกาทิภาเวน ปสฺสนฺโต ขนฺเธหิ น วิหฺติ. วิตฺถารโต ปน รูปาทีนิ เผณปิณฺฑาทิสทิสภาเวน ปสฺสนฺโต น อสาเรสุ สารทสฺสี โหติ. วิเสสโต จ อชฺฌตฺติกรูปํ อสุภโต ปสฺสนฺโต กพฬีการาหารํ ปริชานาติ , อสุเภ สุภนฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, กาโมฆํ อุตฺตรติ, กามโยเคน วิสํยุชฺชติ, กามาสเวน อนาสโว โหติ, อภิชฺฌากายคนฺถํ ภินฺทติ, กามุปาทานํ น อุปาทิยติ. เวทนํ ทุกฺขโต ปสฺสนฺโต ผสฺสาหารํ ปริชานาติ, ทุกฺเข สุขนฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, ภโวฆํ อุตฺตรติ, ภวโยเคน วิสํยุชฺชติ, ภวาสเวน อนาสโว โหติ, พฺยาปาทกายคนฺถํ ภินฺทติ, สีลพฺพตุปาทานํ น อุปาทิยติ. สฺํ สงฺขาเร จ อนตฺตโต ปสฺสนฺโต มโนสฺเจตนาหารํ ปริชานาติ, อนตฺตนิ อตฺตาติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, ทิฏฺโฆํ อุตฺตรติ, ทิฏฺิโยเคน วิสํยุชฺชติ, ทิฏฺาสเวน อนาสโว โหติ, อิทํ สจฺจาภินิเวสกายคนฺถํ ภินฺทติ, อตฺตวาทุปาทานํ น อุปาทิยติ. วิฺาณํ อนิจฺจโต ปสฺสนฺโต วิฺาณาหารํ ปริชานาติ, อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, อวิชฺโชฆํ อุตฺตรติ, อวิชฺชาโยเคน วิสํยุชฺชติ, อวิชฺชาสเวน อนาสโว โหติ, สีลพฺพตปรามาสกายคนฺถํ ภินฺทติ, ทิฏฺุปาทานํ น อุปาทิยติ.

เอวํ มหานิสํสํ, วธกาทิวเสน ทสฺสนํ ยสฺมา;

ตสฺมา ขนฺเธ ธีโร, วธกาทิวเสน ปสฺเสยฺยาติ.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๓๒. อิทานิ อภิธมฺมภาชนียํ โหติ. ตตฺถ รูปกฺขนฺธนิทฺเทโส เหฏฺา รูปกณฺเฑ วิตฺถาริตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

๓๔. เวทนากฺขนฺธนิทฺเทเส เอกวิเธนาติ เอกโกฏฺาเสน. ผสฺสสมฺปยุตฺโตติ ผสฺเสน สมฺปยุตฺโต. สพฺพาปิ จตุภูมิกเวทนา. สเหตุกทุเก สเหตุกา จตุภูมิกเวทนา, อเหตุกา กามาวจราว. อิมินา อุปาเยน กุสลปทาทีหิ วุตฺตา เวทนา ชานิตพฺพา. อปิจายํ เวทนากฺขนฺโธ เอกวิเธน ผสฺสสมฺปยุตฺตโต ทสฺสิโต, ทุวิเธน สเหตุกาเหตุกโต, ติวิเธน ชาติโต , จตุพฺพิเธน ภูมนฺตรโต, ปฺจวิเธน อินฺทฺริยโต. ตตฺถ สุขินฺทฺริยทุกฺขินฺทฺริยานิ กายปฺปสาทวตฺถุกานิ กามาวจราเนว. โสมนสฺสินฺทฺริยํ ฉฏฺวตฺถุกํ วา อวตฺถุกํ วา เตภูมกํ . โทมนสฺสินฺทฺริยํ ฉฏฺวตฺถุกํ กามาวจรํ. อุเปกฺขินฺทฺริยํ จกฺขาทิจตุปฺปสาทวตฺถุกํ ฉฏฺวตฺถุกํ อวตฺถุกฺจ จตุภูมกํ. ฉพฺพิเธน วตฺถุโต ทสฺสิโต. ตตฺถ ปุริมา ปฺจ เวทนา ปฺจปฺปสาทวตฺถุกา กามาวจราว ฉฏฺา อวตฺถุกา วา สวตฺถุกา วา จตุภูมิกา.

สตฺตวิเธน ตตฺถ มโนสมฺผสฺสชา เภทโต ทสฺสิตา, อฏฺวิเธน ตตฺถ กายสมฺผสฺสชา เภทโต, นววิเธน สตฺตวิธเภเท มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา เภทโต, ทสวิเธน อฏฺวิธเภเท มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา เภทโต. เอเตสุ หิ สตฺตวิธเภเท มโนสมฺผสฺสชา มโนธาตุสมฺผสฺสชา, มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชาติ ทฺวิธา ภินฺนา. อฏฺวิธเภเท ตาย สทฺธึ กายสมฺผสฺสชาปิ สุขา ทุกฺขาติ ทฺวิธา ภินฺนา. นววิธเภเท สตฺตวิเธ วุตฺตา มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา กุสลาทิวเสน ติธา ภินฺนา. ทสวิธเภเท อฏฺวิเธ วุตฺตา มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา กุสลาทิวเสเนว ติธา ภินฺนา.

กุสลตฺติโก เจตฺถ เกวลํ ปูรณตฺถเมว วุตฺโต. สตฺตวิธอฏฺวิธนววิธเภเทสุ ปน นยํ ทาตุํ ยุตฺตฏฺาเน นโย ทินฺโน. อภิธมฺมฺหิ ปตฺวา ตถาคเตน นยํ ทาตุํ ยุตฺตฏฺาเน นโย อทินฺโน นาม นตฺถิ. อยํ ตาว ทุกมูลเก เอโก วาโร.

สตฺถา หิ อิมสฺมึ อภิธมฺมภาชนีเย เวทนากฺขนฺธํ ภาเชนฺโต ติเก คเหตฺวา ทุเกสุ ปกฺขิปิ, ทุเก คเหตฺวา ติเกสุ ปกฺขิปิ, ติเก จ ทุเก จ อุภโตวฑฺฒนนีหาเรน อาหริ; สตฺตวิเธน, จตุวีสติวิเธน, ตึสวิเธน, พหุวิเธนาติ สพฺพถาปิ พหุวิเธน เวทนากฺขนฺธํ ทสฺเสสิ. กสฺมา? ปุคฺคลชฺฌาสเยน เจว เทสนาวิลาเสน จ. ธมฺมํ โสตุํ นิสินฺนเทวปริสาย หิ เย เทวปุตฺตา ติเก อาทาย ทุเกสุ ปกฺขิปิตฺวา กถิยมานํ ปฏิวิชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ, เตสํ สปฺปายวเสน ตถา กตฺวา เทเสสิ. เย อิตเรหิ อากาเรหิ กถิยมานํ ปฏิวิชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ, เตสํ เตหากาเรหิ เทเสสีติ. อยเมตฺถ ‘ปุคฺคลชฺฌาสโย’. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน อตฺตโน มหาวิสยตาย ติเก วา ทุเกสุ ปกฺขิปิตฺวา, ทุเก วา ติเกสุ อุภโตวฑฺฒเนน วา, สตฺตวิธาทินเยน วา, ยถา ยถา อิจฺฉติ ตถา ตถา เทเสตุํ สกฺโกติ. ตสฺมาปิ อิเมหากาเรหิ เทเสสีติ อยมสฺส ‘เทสนาวิลาโส’.

ตตฺถ ติเก อาทาย ทุเกสุ ปกฺขิปิตฺวา เทสิตวาโร ทุกมูลโก นาม. ทุเก อาทาย ติเกสุ ปกฺขิปิตฺวา เทสิตวาโร ติกมูลโก นาม. ติเก จ ทุเก จ อุภโต วฑฺเฒตฺวา เทสิตวาโร อุภโตวฑฺฒิตโก นาม. อวสาเน สตฺตวิเธนาติอาทิวาโร พหุวิธวาโร นามาติ อิเม ตาว จตฺตาโร มหาวารา.

ตตฺถ ทุกมูลเก ทุเกสุ ลพฺภมาเนน เอเกเกน ทุเกน สทฺธึ ติเกสุ อลพฺภมาเน เวทนาตฺติกปีติตฺติกสนิทสฺสนตฺติเก อปเนตฺวา, เสเส ลพฺภมานเก เอกูนวีสติ ติเก โยเชตฺวา, ทุติยทุกปมตฺติกโยชนวาราทีนิ นววารสตานิ ปฺาสฺจ วารา โหนฺติ. เต สพฺเพปิ ปาฬิยํ สํขิปิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ทสฺเสตพฺพยุตฺตกํ ทสฺเสตฺวา วุตฺตา. อสมฺมุยฺหนฺเตน ปน วิตฺถารโต เวทิตพฺพา.

ติกมูลเกปิ ติเกสุ ลพฺภมาเนน เอเกเกน ติเกน สทฺธึ ทุเกสุ อลพฺภมาเน ปมทุกาทโย ทุเก อปเนตฺวา, เสเส ลพฺภมานเก สเหตุกทุกาทโย ปฺาส ทุเก โยเชตฺวา, ปมตฺติกทุติยทุกโยชนวาราทีนิ นววารสตานิ ปฺาสฺจ วารา โหนฺติ. เตปิ สพฺเพ ปาฬิยํ สงฺขิปิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ทสฺเสตพฺพยุตฺตกํ ทสฺเสตฺวา วุตฺตา. อสมฺมุยฺหนฺเตน ปน วิตฺถารโต เวทิตพฺพา.

อุภโตวฑฺฒิตเก ทุวิธเภเท ทุติยทุกํ ติวิธเภเท จ ปมติกํ อาทึ กตฺวา ลพฺภมาเนหิ เอกูนวีสติยา ทุเกหิ ลพฺภมาเน เอกูนวีสติติเก โยเชตฺวา ทุติยทุกปมติกโยชนวาราทโย เอกูนวีสติวารา วุตฺตา. เอส ทุกติกานํ วเสน อุภโตวฑฺฒิตตฺตา อุภโตวฑฺฒิตโก นาม ตติโย มหาวาโร.

พหุวิธวารสฺส สตฺตวิธนิทฺเทเส อาทิโต ปฏฺาย ลพฺภมาเนสุ เอกูนวีสติยา ติเกสุ เอเกเกน สทฺธึ จตสฺโส ภูมิโย โยเชตฺวา เอกูนวีสติ สตฺตวิธวารา วุตฺตา. จตุวีสติวิธนิทฺเทเสปิ เตสํเยว ติกานํ วเสน เอกูนวีสติวารา วุตฺตา. ตถา พหุวิธวาเร จาติ . ตึสวิธวาโร เอโกเยวาติ สพฺเพปิ อฏฺปฺาส วารา โหนฺติ. อยํ ตาเวตฺถ วารปริจฺเฉทวเสน ปาฬิวณฺณนา.

อิทานิ อตฺถวณฺณนา โหติ. ตตฺถ สตฺตวิธนิทฺเทโส ตาว อุตฺตานตฺโถเยว. จตุวีสติวิธนิทฺเทเส จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา เวทนากฺขนฺโธ อตฺถิ กุสโลติ กามาวจรอฏฺกุสลจิตฺตวเสน เวทิตพฺโพ. อตฺถิ อกุสโลติ ทฺวาทสอกุสลจิตฺตวเสน เวทิตพฺโพ. อตฺถิ อพฺยากโตติ ติสฺโส มโนธาตุโย, ติสฺโส อเหตุกมโนวิฺาณธาตุโย, อฏฺ มหาวิปากานิ, ทส กามาวจรกิริยาติ จตุวีสติยา จิตฺตานํ วเสน เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ อฏฺ กุสลานิ ทฺวาทส อกุสลานิ จ ชวนวเสน ลพฺภนฺติ. กิริยมโนธาตุ อาวชฺชนวเสน ลพฺภติ. ทฺเว วิปากมโนธาตุโย สมฺปฏิจฺฉนวเสน, ติสฺโส วิปากมโนวิฺาณธาตุโย สนฺตีรณตทารมฺมณวเสน, กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ โวฏฺพฺพนวเสน, อฏฺ มหาวิปากจิตฺตานิ ตทารมฺมณวเสน, นว กิริยจิตฺตานิ ชวนวเสน ลพฺภนฺติ. โสตฆานชิวฺหากายทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย.

มโนทฺวาเร ปน อตฺถิ กุสโลติ จตุภูมกกุสลวเสน กถิตํ, อตฺถิ อกุสโลติ ทฺวาทสอกุสลวเสน. อตฺถิ อพฺยากโตติ เอกาทสนฺนํ กามาวจรวิปากานํ, ทสนฺนํ กิริยานํ , นวนฺนํ รูปาวจรารูปาวจรกิริยานํ, จตุนฺนํ สามฺผลานนฺติ จตุตฺตึสจิตฺตุปฺปาทวเสน กถิตํ. ตตฺถ จตุภูมกกุสลฺเจว อกุสลฺจ ชวนวเสน ลพฺภติ. กิริยโต อเหตุกมโนวิฺาณธาตุ อาวชฺชนวเสน, เอกาทส วิปากจิตฺตานิ ตทารมฺมณวเสน, เตภูมกกิริยา เจว สามฺผลานิ จ ชวนวเสเนว ลพฺภนฺติ. ตานิ สตฺตวิธาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ตฺวา กเถตุํ วฏฺฏนฺติ. ตึสวิเธ ปน ตฺวา ทีปิยมานานิ สุขทีปนานิ โหนฺตีติ ตึสวิธสฺมึเยว ตฺวา ทีปยึสุ.

เอตานิ หิ สพฺพานิปิ จิตฺตานิ จกฺขุทฺวาเร อุปนิสฺสยโกฏิยา, สมติกฺกมวเสน, ภาวนาวเสนาติ ตีหากาเรหิ ลพฺภนฺติ. ตถา โสตทฺวารมโนทฺวาเรสุปิ. ฆานชิวฺหากายทฺวาเรสุ ปน สมติกฺกมวเสน, ภาวนาวเสนาติ ทฺวีเหวากาเรหิ ลพฺภนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. กถํ? อิธ ภิกฺขุ วิหารจาริกํ จรมาโน กสิณมณฺฑลํ ทิสฺวา ‘กึ นาเมต’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘กสิณมณฺฑล’นฺติ วุตฺเต ปุน ‘กึ อิมินา กโรนฺตี’ติ ปุจฺฉติ. อถสฺส อาจิกฺขนฺติ – ‘เอวํ ภาเวตฺวา ฌานานิ อุปฺปาเทตฺวา, สมาปตฺติปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา, อรหตฺตํ ปาปุณนฺตี’ติ. อชฺฌาสยสมฺปนฺโน กุลปุตฺโต ‘ภาริยํ เอต’นฺติ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘มยาปิ เอส คุโณ นิพฺพตฺเตตุํ วฏฺฏติ, น โข ปน สกฺกา เอส นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตน นิพฺพตฺเตตุํ, อาทิโตว วีริยํ กาตุํ สีลํ โสเธตุํ วฏฺฏตี’ติ จินฺเตตฺวา สีลํ โสเธติ. ตโต สีเล ปติฏฺาย ทส ปลิโพเธ อุปจฺฉินฺทิตฺวา, ติจีวรปรเมน สนฺโตเสน สนฺตุฏฺโ, อาจริยุปชฺฌายานํ วตฺตปฏิวตฺตํ กตฺวา, กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหิตฺวา, กสิณปริกมฺมํ กตฺวา, สมาปตฺติโย อุปฺปาเทตฺวา, สมาปตฺติปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา, อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ จกฺขุวิฺาณํ จตุภูมิกเวทนานิพฺพตฺติยา พลวปจฺจโย โหตีติ จตุภูมิกเวทนา จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ตาว ‘อุปนิสฺสยวเสน’ ลพฺภนฺติ.

จกฺขุทฺวาเร ปน รูเป อาปาถคเต ‘อิฏฺเ เม อารมฺมเณ ราโค อุปฺปนฺโน, อนิฏฺเ ปฏิโฆ, อสมเปกฺขนาย โมโห, วินิพนฺธสฺส ปน เม มาโน อุปฺปนฺโน, ปรามฏฺสฺส ทิฏฺิ, วิกฺเขปคตสฺส อุทฺธจฺจํ, อสนฺนิฏฺาคตสฺส วิจิกิจฺฉา, ถามคตสฺส อนุสโย อุปฺปนฺโน’ติ ปริคฺคเห ิโต กุลปุตฺโต อตฺตโน กิเลสุปฺปตฺตึ ตฺวา ‘อิเม เม กิเลสา วฑฺฒมานา อนยพฺยสนาย สํวตฺติสฺสนฺติ, หนฺท เน นิคฺคณฺหามี’ติ จินฺเตตฺวา ‘น โข ปน สกฺกา นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตน กิเลเส นิคฺคณฺหิตุํ; อาทิโตว วีริยํ กาตุํ วฏฺฏติ สีลํ โสเธตุ’นฺติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ รูปารมฺมเณ อุปฺปนฺนํ กิเลสํ สมติกฺกมิตฺวา คตาติ จตุภูมิกเวทนา จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘สมติกฺกมวเสน’ ลพฺภนฺติ.

จกฺขุทฺวาเร ปน รูเป อาปาถคเต เอโก เอวํ ปริคฺคหํ ปฏฺเปติ – ‘อิทํ รูปํ กึ นิสฺสิต’นฺติ? ตโต นํ ‘ภูตนิสฺสิต’นฺติ ตฺวา จตฺตาริ มหาภูตานิ อุปาทารูปฺจ รูปนฺติ ปริคฺคณฺหาติ, ตทารมฺมเณ ธมฺเม อรูปนฺติ ปริคฺคณฺหาติ. ตโต สปฺปจฺจยํ นามรูปํ ปริคณฺหิตฺวา ตีณิ ลกฺขณานิ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ รูปารมฺมณํ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตาติ อยํ เวทนา จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘ภาวนาวเสน’ ลพฺภนฺติ.

อปโร ภิกฺขุ สุณาติ – ‘กสิณปริกมฺมํ กิร กตฺวา สมาปตฺติโย อุปฺปาเทตฺวา สมาปตฺติปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณนฺตี’ติ. อชฺฌาสยสมฺปนฺโน กุลปุตฺโต ‘ภาริยํ เอต’นฺติ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘มยาปิ เอส คุโณ นิพฺพตฺเตตุํ วฏฺฏตี’ติ ปุริมนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ โสตวิฺาณํ จตุภูมิกเวทนา นิพฺพตฺติยา พลวปจฺจโย โหตีติ จตุภูมิกเวทนา โสตสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ตาว ‘อุปนิสฺสยวเสน’ ลพฺภนฺติ.

โสตทฺวาเร ปน สทฺเท อาปาถคเตติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ สทฺทารมฺมเณ อุปฺปนฺนํ กิเลสํ สมติกฺกมิตฺวา คตาติ จตุภูมิกเวทนา โสตสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘สมติกฺกมวเสน’ ลพฺภนฺติ.

โสตทฺวาเร ปน สทฺเท อาปาถคเต เอโก เอวํ ปริคฺคหํ ปฏฺเปติ – อยํ สทฺโท กึ นิสฺสิโตติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ สทฺทารมฺมณํ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตาติ อยํ เวทนา โสตสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘ภาวนาวเสน’ ลพฺภนฺติ.

ฆานชิวฺหากายทฺวาเรสุ ปน คนฺธารมฺมณาทีสุ อาปาถคเตสุ ‘อิฏฺเ เม อารมฺมเณ ราโค อุปฺปนฺโน’ติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ คนฺธารมฺมณาทีสุ อุปฺปนฺนํ กิเลสํ สมติกฺกมิตฺวา คตาติ จตุภูมิกเวทนา ฆานชิวฺหากายสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ตีสุ ทฺวาเรสุ ‘สมติกฺกมวเสน’ ลพฺภนฺติ.

ฆานทฺวาราทีสุ ปน คนฺธาทีสุ อาปาถคเตสุ เอโก เอวํ ปริคฺคหํ ปฏฺเปติ – ‘อยํ คนฺโธ, อยํ รโส, อิทํ โผฏฺพฺพํ กึ นิสฺสิต’นฺติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ คนฺธารมฺมณาทีนิ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตาติ อยํ เวทนา ฆานชิวฺหากายสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘ภาวนาวเสน’ ลพฺภนฺติ.

มโนทฺวาเร ปน ตีหิปิ อากาเรหิ ลพฺภนฺติ. เอกจฺโจ หิ ชาตึ ภยโต ปสฺสติ, ชรํ พฺยาธึ มรณํ ภยโต ปสฺสติ, ภยโต ทิสฺวา ‘ชาติชราพฺยาธิมรเณหิ มุจฺจิตุํ วฏฺฏติ, น โข ปน สกฺกา นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตน ชาติอาทีหิ มุจฺจิตุํ, อาทิโตว วีริยํ กาตุํ สีลํ โสเธตุํ วฏฺฏตี’ติ จินฺเตตฺวา จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ ชาติชราพฺยาธิมรณํ จตุภูมิกเวทนานิพฺพตฺติยา พลวปจฺจโย โหตีติ จตุภูมิกเวทนา มโนสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ตาว ‘อุปนิสฺสยวเสน’ ลพฺภนฺติ.

มโนทฺวาเร ปน ธมฺมารมฺมเณ อาปาถคเตติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ ธมฺมารมฺมเณ อุปฺปนฺนํ กิเลสํ สมติกฺกมิตฺวา คตาติ จตุภูมิกเวทนา มโนสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘สมติกฺกมวเสน’ ลพฺภนฺติ.

มโนทฺวาเร ปน ธมฺมารมฺมเณ อาปาถคเต เอโก เอวํ ปริคฺคหํ ปฏฺเปติ – ‘เอตํ ธมฺมารมฺมณํ กึ นิสฺสิต’นฺติ? ‘วตฺถุนิสฺสิต’นฺติ. ‘วตฺถุ กึ นิสฺสิต’นฺติ? ‘มหาภูตานิ นิสฺสิต’นฺติ. โส จตฺตาริ มหาภูตานิ อุปาทารูปฺจ รูปนฺติ ปริคฺคณฺหาติ, ตทารมฺมเณ ธมฺเม อรูปนฺติ ปริคฺคณฺหาติ. ตโต สปฺปจฺจยํ นามรูปํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ตีณิ ลกฺขณานิ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ ธมฺมารมฺมณํ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตาติ อยํ เวทนา มโนสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘ภาวนาวเสน’ ลพฺภนฺติ. ยา ปเนตา สพฺเพสมฺปิ จตุวีสติวิธาทีนํ วารานํ ปริโยสาเนสุ จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา…เป… มโนสมฺผสฺสชา เวทนาติ ฉ ฉ เวทนา วุตฺตา, ตา สมฺปยุตฺตปจฺจยวเสน วุตฺตาติ.

อยํ เวทนากฺขนฺธนิทฺเทโส.

สฺากฺขนฺธาทโยปิ อิมินา อุปาเยน เวทิตพฺพา. เกวลฺหิ สฺากฺขนฺธนิทฺเทเส ติเกสุ เวทนาตฺติกปีติตฺติกาปิ ลพฺภนฺติ, ทุเกสุ จ สุขสหคตทุกาทโยปิ. สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทเส ผสฺสสฺสาปิ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา ผสฺสสมฺปยุตฺโตติ อวตฺวา จิตฺตสมฺปยุตฺโตติ วุตฺตํ. ทุเกสุ เจตฺถ เหตุทุกาทโยปิ ลพฺภนฺติ. ติกา สฺากฺขนฺธสทิสา เอว . วิฺาณกฺขนฺธนิทฺเทเส จกฺขุสมฺผสฺสชาทิภาวํ อวตฺวา จกฺขุวิฺาณนฺติอาทิ วุตฺตํ. น หิ สกฺกา วิฺาณํ มโนสมฺผสฺสชนฺติ นิทฺทิสิตุํ. เสสเมตฺถ สฺากฺขนฺเธ วุตฺตสทิสเมว. อิเมสํ ปน ติณฺณมฺปิ ขนฺธานํ นิทฺเทเสเยว เวทนากฺขนฺธนิทฺเทสโต อติเรกติกทุกา ลทฺธา. เตสํ วเสน วารปฺปเภโท เวทิตพฺโพติ.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.

๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา

๑๕๐. อิทานิ ปฺหาปุจฺฉกํ โหติ. ตตฺถ ปฺหาปุจฺฉเน ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ‘‘กติกุสลา? กติอกุสลา? กติอพฺยากตา’’ติอาทินา นเยน ยํ ลพฺภติ, ยฺจ น ลพฺภติ, ตํ สพฺพํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชเน ‘‘รูปกฺขนฺโธ อพฺยากโต’’ติอาทินา นเยน ยํ ลพฺภติ ตเทว อุทฺธฏนฺติ เวทิตพฺพํ. ยตฺถ ยตฺถ จ ‘เอโก ขนฺโธ’ติ วา ‘ทฺเว ขนฺธา’ติ วา ปริจฺเฉทํ อกตฺวา ‘‘สิยา อุปฺปนฺนา, สิยา อนุปฺปนฺนา’’ติอาทินา นเยน ตนฺติ ปิตา, ตตฺถ ตตฺถ ปฺจนฺนมฺปิ ขนฺธานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. เสโส เตสํ เตสํ ขนฺธานํ กุสลาทิวิภาโค เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๙๘๕) วุตฺโตเยว.

อารมฺมณตฺติเกสุ ปน จตฺตาโร ขนฺธา ปฺจปณฺณาส กามาวจรธมฺเม อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส สมฺมสนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส จ ปริตฺตารมฺมณา โหนฺติ, สตฺตวีสติ รูปารูปาวจรธมฺเม อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส ปริคฺคหํ ปฏฺเปนฺตสฺส มหคฺคตารมฺมณา, มคฺคผลนิพฺพานานิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อปฺปมาณารมฺมณา, ปฺตฺตึ ปจฺจเวกฺขณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณาติ.

เตเยว เสกฺขาเสกฺขานํ มคฺคปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคารมฺมณา โหนฺติ, มคฺคกาเล สหชาตเหตุนา มคฺคเหตุกา, มคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณกาเล อารมฺมณาธิปตินา มคฺคาธิปติโน , วีริยเชฏฺกํ วา วีมํสเชฏฺกํ วา มคฺคํ ภาเวนฺตสฺส สหชาตาธิปตินา มคฺคาธิปติโน, ฉนฺทเชฏฺกํ ปน จิตฺตเชฏฺกํ วา ภาเวนฺตสฺส นวตฺตพฺพารมฺมณา นาม โหนฺติ.

อตีตานิ ปน ขนฺธธาตุอายตนานิ อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส ปริคฺคหํ ปฏฺเปนฺตสฺส อตีตารมฺมณา โหนฺติ, อนาคตานิ อารพฺภ อนาคตารมฺมณา โหนฺติ, ปจฺจุปฺปนฺนานิ อารพฺภ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา โหนฺติ, ปฺตฺตึ วา นิพฺพานํ วา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส นวตฺตพฺพารมฺมณา โหนฺติ.

ตถา อตฺตโน ขนฺธธาตุอายตนานิ อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส ปริคฺคหํ ปฏฺเปนฺตสฺส อชฺฌตฺตารมฺมณา โหนฺติ, ปเรสํ ขนฺธธาตุอายตนานิ อารพฺภ เอวํ ปวตฺเตนฺตสฺส พหิทฺธารมฺมณา, ปณฺณตฺตินิพฺพานปจฺจเวกฺขณกาเลปิ พหิทฺธารมฺมณาเยว, กาเลน อชฺฌตฺตํ กาเลน พหิทฺธา ธมฺเมสุ เอวํ ปวตฺเตนฺตสฺส อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา, อากิฺจฺายตนกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณาติ เวทิตพฺพา.

อิติ ภควา อิมํ ขนฺธวิภงฺคํ สุตฺตนฺตภาชนียาทิวเสน ตโย ปริวฏฺเฏ นีหริตฺวา ภาเชนฺโต ทสฺเสสิ. ตีสุปิ หิ ปริวฏฺเฏสุ เอโกว ปริจฺเฉโท. รูปกฺขนฺโธ หิ สพฺพตฺถ กามาวจโรเยว. จตฺตาโร ขนฺธา จตุภูมกา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตาติ.

สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย

ขนฺธวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.