📜
๑๔. สิกฺขาปทวิภงฺโค
๑. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๗๐๓. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร สิกฺขาปทวิภงฺเค ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท. สิกฺขาปทานีติ สิกฺขิตพฺพปทานิ; สิกฺขาโกฏฺาสาติ อตฺโถ. อปิจ อุปริ อาคตา สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขา. ปฺจสุ ปน สีลงฺเคสุ ยํกิฺจิ องฺคํ ตาสํ สิกฺขานํ ปติฏฺานฏฺเน ปทนฺติ สิกฺขานํ ปทตฺตา สิกฺขาปทานิ. ปาณาติปาตาติ ปาณสฺส อติปาตา ฆาตนา มารณาติ อตฺโถ. เวรมณีติ วิรติ. อทินฺนาทานาติ อทินฺนสฺส อาทานา; ปรปริคฺคหิตสฺส หรณาติ อตฺโถ. กาเมสูติ วตฺถุกาเมสุ. มิจฺฉาจาราติ กิเลสกามวเสน ลามกาจารา. มุสาวาทาติ อภูตวาทโต. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานาติ เอตฺถ สุราติ ปิฏฺสุรา, ปูวสุรา, โอทนสุรา, กิณฺณปกฺขิตฺตา, สมฺภารสํยุตฺตาติ ปฺจ สุรา. เมรยนฺติ ปุปฺผาสโว, ผลาสโว, คุฬาสโว, มธฺวาสโว, สมฺภารสํยุตฺโตติ ปฺจ อาสวา. ตทุภยมฺปิ มทนียฏฺเน มชฺชํ. ยาย เจตนาย ตํ ปิวนฺติ, สา ปมาทการณตฺตา ปมาทฏฺานํ; ตสฺมา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา. อยํ ตาเวตฺถ มาติกานิกฺเขปสฺส อตฺโถ.
๗๐๔. ปทภาชนีเย ปน ยสฺมึ สมเย กามาวจรนฺติอาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว. ยสฺมา ปน น เกวลํ วิรติเยว สิกฺขาปทํ, เจตนาปิ สิกฺขาปทเมว, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ทุติยนโย ทสฺสิโต. ยสฺมา จ น เกวลํ เอเตเยว ทฺเว ธมฺมา สิกฺขาปทํ, เจตนาสมฺปยุตฺตา ปน ปโรปณฺณาสธมฺมาปิ สิกฺขิตพฺพโกฏฺาสโต สิกฺขาปทเมว, ตสฺมา ตติยนโยปิ ทสฺสิโต.
ตตฺถ ¶ ทุวิธํ สิกฺขาปทํ ปริยายสิกฺขาปทํ นิปฺปริยายสิกฺขาปทฺจ. ตตฺถ วิรติ นิปฺปริยายสิกฺขาปทํ. สา หิ ‘‘ปาณาติปาตา เวรมณี’’ติ ¶ ปาฬิยํ อาคตา, โน เจตนา. วิรมนฺโต จ ตาย เอว ตโต ตโต วิรมติ, น เจตนาย. เจตนํ ปน อาหริตฺวา ทสฺเสสิ. ตถา เสสเจตนาสมฺปยุตฺตธมฺเม. วีติกฺกมกาเล หิ เวรเจตนา ทุสฺสีลฺยํ นาม. ตสฺมา สา วิรติกาเลปิ สุสีลฺยวเสน วุตฺตา. ผสฺสาทโย ตํสมฺปยุตฺตตฺตา คหิตาติ.
อิทานิ ¶ เอเตสุ สิกฺขาปเทสุ าณสมุตฺเตชนตฺถํ อิเมสํ ปาณาติปาตาทีนํ ธมฺมโต, โกฏฺาสโต, อารมฺมณโต, เวทนาโต, มูลโต, กมฺมโต, สาวชฺชโต, ปโยคโต จ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ‘ธมฺมโต’ติ ปฺจเปเต ปาณาติปาตาทโย เจตนาธมฺมาว โหนฺติ. ‘โกฏฺาสโต’ ปฺจปิ กมฺมปถา เอว.
‘อารมฺมณโต’ ปาณาติปาโต ชีวิตินฺทฺริยารมฺมโณ. อทินฺนาทานํ สตฺตารมฺมณํ วา สงฺขารารมฺมณํ วา. มิจฺฉาจาโร อิตฺถิปุริสารมฺมโณ. มุสาวาโท สตฺตารมฺมโณ วา สงฺขารารมฺมโณ วา. สุราปานํ สงฺขารารมฺมณํ.
‘เวทนาโต’ ปาณาติปาโต ทุกฺขเวทโน. อทินฺนาทานํ ติเวทนํ. ตฺหิ หฏฺตุฏฺสฺส อทินฺนํ อาทิยโต สุขเวทนํ โหติ, ภีตกาเล ทุกฺขเวทนํ, มชฺฌตฺตสฺส หุตฺวา คณฺหโต อทุกฺขมสุขเวทนํ. มิจฺฉาจาโร สุขเวทโน วา อทุกฺขมสุขเวทโน วา. มุสาวาโท อทินฺนาทานํ วิย ติเวทโน. สุราปานํ สุขมชฺฌตฺตเวทนํ.
‘มูลโต’ ปาณาติปาโต โทสโมหมูโล. อทินฺนาทานํ กิฺจิกาเล โลภโมหมูลํ, กิฺจิกาเล โทสโมหมูลํ. มิจฺฉาจาโร โลภโมหมูโล. มุสาวาโท กิฺจิกาเล โลภโมหมูโล, กิฺจิกาเล โทสโมหมูโล. สุราปานํ โลภโมหมูลํ.
‘กมฺมโต’ มุสาวาโท เจตฺถ วจีกมฺมํ. เสสา กายกมฺมเมว.
‘สาวชฺชโต’ ¶ ปาณาติปาโต อตฺถิ อปฺปสาวชฺโช, อตฺถิ มหาสาวชฺโช. ตถา อทินฺนาทานาทีนิ. เตสํ นานากรณํ เหฏฺา ทสฺสิตเมว.
อยํ ปน อปโร นโย – กุนฺถกิปิลฺลิกสฺส หิ วโธ อปฺปสาวชฺโช, ตโต มหนฺตตรสฺส มหาสาวชฺโช; โสปิ อปฺปสาวชฺโช, ตโต มหนฺตตราย สกุณิกาย มหาสาวชฺโช; ตโต โคธาย, ตโต สสกสฺส, ตโต มิคสฺส, ตโต ควยสฺส, ตโต อสฺสสฺส, ตโต หตฺถิสฺส วโธ มหาสาวชฺโช, ตโตปิ ทุสฺสีลมนุสฺสสฺส ¶ , ตโต โครูปสีลกมนุสฺสสฺส, ตโต สรณคตสฺส, ตโต ปฺจสิกฺขาปทิกสฺส, ตโต สามเณรสฺส, ตโต ปุถุชฺชนภิกฺขุโน ¶ , ตโต โสตาปนฺนสฺส, ตโต สกทาคามิสฺส, ตโต อนาคามิสฺส, ตโต ขีณาสวสฺส วโธ อติมหาสาวชฺโชเยว.
อทินฺนาทานํ ทุสฺสีลสฺส สนฺตเก อปฺปสาวชฺชํ, ตโต โครูปสีลกสฺส สนฺตเก มหาสาวชฺชํ; ตโต สรณคตสฺส, ตโต ปฺจสิกฺขาปทิกสฺส, ตโต สามเณรสฺส, ตโต ปุถุชฺชนภิกฺขุโน, ตโต โสตาปนฺนสฺส, ตโต สกทาคามิสฺส, ตโต อนาคามิสฺส สนฺตเก มหาสาวชฺชํ, ตโต ขีณาสวสฺส สนฺตเก อติมหาสาวชฺชํเยว.
มิจฺฉาจาโร ทุสฺสีลาย อิตฺถิยา วีติกฺกเม อปฺปสาวชฺโช, ตโต โครูปสีลกาย มหาสาวชฺโช; ตโต สรณคตาย, ปฺจสิกฺขาปทิกาย, สามเณริยา, ปุถุชฺชนภิกฺขุนิยา, โสตาปนฺนาย, สกทาคามินิยา, ตโต อนาคามินิยา วีติกฺกเม มหาสาวชฺโช, ขีณาสวาย ปน ภิกฺขุนิยา เอกนฺตมหาสาวชฺโชว.
มุสาวาโท กากณิกมตฺตสฺส อตฺถาย มุสากถเน อปฺปสาวชฺโช, ตโต อฑฺฒมาสกสฺส, มาสกสฺส, ปฺจมาสกสฺส, อฑฺฒกหาปณสฺส, กหาปณสฺส, ตโต อนคฺฆนิยภณฺฑสฺส อตฺถาย มุสากถเน มหาสาวชฺโช, มุสา กเถตฺวา ปน สงฺฆํ ภินฺทนฺตสฺส เอกนฺตมหาสาวชฺโชว.
สุราปานํ ปสตมตฺตสฺส ปาเน อปฺปสาวชฺชํ, อฺชลิมตฺตสฺส ปาเน มหาสาวชฺชํ; กายจาลนสมตฺถํ ปน พหุํ ปิวิตฺวา คามฆาตนิคมฆาตกมฺมํ กโรนฺตสฺส เอกนฺตมหาสาวชฺชเมว.
ปาณาติปาตฺหิ ¶ ปตฺวา ขีณาสวสฺส วโธ มหาสาวชฺโช; อทินฺนาทานํ ปตฺวา ขีณาสวสนฺตกสฺส หรณํ, มิจฺฉาจารํ ปตฺวา ขีณาสวาย ภิกฺขุนิยา วีติกฺกมนํ, มุสาวาทํ ปตฺวา มุสาวาเทน สงฺฆเภโท, สุราปานํ ปตฺวา กายจาลนสมตฺถํ พหุํ ปิวิตฺวา คามนิคมฆาตนํ มหาสาวชฺชํ. สพฺเพหิปิ ปเนเตหิ มุสาวาเทน สงฺฆเภทนเมว มหาสาวชฺชํ. ตฺหิ กปฺปํ นิรเย ปาจนสมตฺถํ มหากิพฺพิสํ.
‘ปโยคโต’ติ ¶ ปาณาติปาโต สาหตฺถิโกปิ โหติ อาณตฺติโกปิ. ตถา อทินฺนาทานํ. มิจฺฉาจารมุสาวาทสุราปานานิ สาหตฺถิกาเนวาติ.
เอวเมตฺถ ¶ ปาณาติปาตาทีนํ ธมฺมาทิวเสน วินิจฺฉยํ ตฺวา ปาณาติปาตา เวรมณีติอาทีนมฺปิ ธมฺมโต, โกฏฺาสโต, อารมฺมณโต, เวทนาโต, มูลโต, กมฺมโต, ขณฺฑโต, สมาทานโต, ปโยคโต จ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ‘ธมฺมโต’ติ ปริยายสีลวเสน ปฏิปาฏิยา ปฺจ เจตนาธมฺมาว. ‘โกฏฺาสโต’ติ ปฺจปิ กมฺมปถา เอว. ‘อารมฺมณโต’ติ ปาณาติปาตา เวรมณี ปรสฺส ชีวิตินฺทฺริยํ อารมฺมณํ กตฺวา อตฺตโน เวรเจตนาย วิรมติ. อิตราสุปิ เอเสว นโย. สพฺพาปิ หิ เอตา วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวรเจตนาหิเยว วิรมนฺติ. ‘เวทนาโต’ติ สพฺพาปิ สุขเวทนา วา โหนฺติ มชฺฌตฺตเวทนา วา. ‘มูลโต’ติ าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส อโลภอโทสอโมหมูลา โหนฺติ, าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส อโลภอโทสมูลา โหนฺติ. ‘กมฺมโต’ติ มุสาวาทา เวรมณีเยเวตฺถ วจีกมฺมํ; เสสา กายกมฺมํ. ‘ขณฺฑโต’ติ คหฏฺา ยํ ยํ วีติกฺกมนฺติ, ตํ ตเทว ขณฺฑํ โหติ ภิชฺชติ, อวเสสํ น ภิชฺชติ. กสฺมา? คหฏฺา หิ อนิพทฺธสีลา โหนฺติ, ยํ ยํ สกฺโกนฺติ ตํ ตเทว โคเปนฺติ. สามเณรานํ ปน เอกสฺมึ วีติกฺกมนฺเต สพฺพานิ ภิชฺชนฺติ. น เกวลฺจ เอตานิ, เสสสีลานิปิ ภิชฺชนฺติเยว. เตสํ ปน วีติกฺกโม ทณฺฑกมฺมวตฺถุโก. ‘ปุน เอวรูปํ น กริสฺสามี’ติ ทณฺฑกมฺเม กเต สีลํ ปริปุณฺณํ โหติ. ‘สมาทานโต’ติ สยเมว ‘ปฺจ สีลานิ อธิฏฺหามี’ติ อธิฏฺหนฺเตนปิ, ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ สมาทิยนฺเตนปิ สมาทิณฺณานิ โหนฺติ. อฺสฺส สนฺติเก นิสีทิตฺวา ‘ปฺจ สีลานิ สมาทิยามี’ติ สมาทิยนฺเตนปิ, ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ สมาทิยนฺเตนปิ ¶ สมาทินฺนาเนว โหนฺติ. ‘ปโยคโต’ สพฺพานิปิ สาหตฺถิกปโยคาเนวาติ เวทิตพฺพานิ.
๗๑๒. อิทานิ ยาสํ สิกฺขานํ โกฏฺาสภาเวน อิมานิ ปฺจ สิกฺขาปทานิ วุตฺตานิ, ตานิ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา สิกฺขาติ อยํ สิกฺขาวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ ¶ ยสฺมา สพฺเพปิ จตุภูมกกุสลา ธมฺมา สิกฺขิตพฺพภาวโต ¶ สิกฺขา, ตสฺมา เต ทสฺเสตุํ ยสฺมึ สมเย กามาวจรนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ (ธ. ส. ๑) วุตฺตนเยเนว ปาฬึ วิตฺถาเรตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิธ ปน มุขมตฺตเมว ทสฺสิตนฺติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๗๑๔. ปฺหาปุจฺฉเก ปาฬิอนุสาเรเนว สิกฺขาปทานํ กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน ยานิ สิกฺขาปทานิ เอตฺถ สตฺตารมฺมณานีติ วุตฺตานิ, ตานิ ยสฺมา สตฺโตติ สงฺขํ คเต สงฺขาเรเยว อารมฺมณํ กโรนฺติ, ยสฺมา จ สพฺพานิปิ เอตานิ สมฺปตฺตวิรติวเสเนว นิทฺทิฏฺานิ, ตสฺมา ‘‘ปริตฺตารมฺมณา’’ติ จ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา’’ติ จ วุตฺตํ. ยโต ปน วิรมติ ตสฺส วตฺถุโน อจฺจนฺตพหิทฺธตฺตา สพฺเพสมฺปิ พหิทฺธารมฺมณตา เวทิตพฺพาติ.
อิมสฺมึ ปน สิกฺขาปทวิภงฺเค สมฺมาสมฺพุทฺเธน อภิธมฺมภาชนีเยปิ ปฺหาปุจฺฉเกปิ โลกิยาเนว สิกฺขาปทานิ กถิตานิ. อุโภปิ หิ เอเต นยา โลกิยตฺตา เอกปริจฺเฉทา เอว. เอวมยํ สิกฺขาปทวิภงฺโค ทฺเวปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
สิกฺขาปทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.