📜
๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺโค
๑. เอกกมาติกาทิวณฺณนา
๘๓๒. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเคปิ ปมํ มาติกํ เปตฺวา นิกฺขิตฺตปทานุกฺกเมน นิทฺเทโส กโต. ตตฺรายํ นิกฺเขปปริจฺเฉโท. อาทิโต ตาว ชาติมโทติอาทโย เตสตฺตติ เอกกา นิกฺขิตฺตา, ตโต โกโธ จ อุปนาโห จาติอาทโย อฏฺารส ทุกา, อกุสลมูลาทโย ปฺจตึส ติกา, อาสวจตุกฺกาทโย จุทฺทส จตุกฺกา, โอรมฺภาคิยสํโยชนาทโย ปนฺนรส ปฺจกา, วิวาทมูลาทโย จุทฺทส ฉกฺกา, อนุสยาทโย สตฺต สตฺตกา, กิเลสวตฺถุอาทโย อฏฺ อฏฺกา, อาฆาตวตฺถุอาทโย นว นวกา, กิเลสวตฺถุอาทโย สตฺต ทสกา, อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานีติอาทโย ฉ อฏฺารสกาติ สพฺพานิปิ เอตานิ อฏฺ กิเลสสตานิ นิกฺขิตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. อยํ ตาว นิกฺเขปปริจฺเฉโท.
(๑.) เอกกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๔๓-๘๔๔. อิทานิ ยถานิกฺขิตฺตาย มาติกาย ตตฺถ กตโม ชาติมโทติอาทินา นเยน อารทฺเธ นิทฺเทสวาเร ชาตึ ปฏิจฺจาติ ชาตึ นิสฺสาย. เอตฺถ จ อตฺถิปฏิจฺจํ นาม กถิตํ, ตสฺมา ชาติยา สตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. โคตฺตํ ปฏิจฺจาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. มทนวเสน มโท. มชฺชนากาโร มชฺชนา. มชฺชิตภาโว มชฺชิตตฺตํ. มาโน มฺนาติอาทีนิ เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๑๒๑) วุตฺตตฺถาเนว. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวํ ชาติยา สติ ตํ ชาตึ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน มชฺชนาการปฺปวตฺโต มาโน ชาติมโทติ วุจฺจติ. สฺวายํ ¶ ขตฺติยาทีนํ จตุนฺนมฺปิ วณฺณานํ อุปฺปชฺชติ. ชาติสมฺปนฺโน หิ ขตฺติโย ‘มาทิโส อฺโ นตฺถิ. อวเสสา อนฺตรา อุฏฺาย ขตฺติยา ชาตา. อหํ ปน วํสาคตขตฺติโย’ติ มานํ กโรติ. พฺราหฺมณาทีสุปิ เอเสว นโย. โคตฺตมทนิทฺเทสาทีสุปิ อิมินาวุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ขตฺติโยปิ ¶ หิ ‘อหํ โกณฺฑฺโคตฺโต, อหํ อาทิจฺจโคตฺโต’ติ มานํ กโรติ. พฺราหฺมโณปิ ‘อหํ กสฺสปโคตฺโต ¶ , อหํ ภารทฺวาชโคตฺโต’ติ มานํ กโรติ. เวสฺโสปิ สุทฺโทปิ อตฺตโน อตฺตโน กุลโคตฺตํ นิสฺสาย มานํ กโรติ. อฏฺารสาปิ เสณิโย ‘เอกิสฺสา เสณิยา ชาตมฺหา’ติ มานํ กโรนฺติเยว.
อาโรคฺยมทาทีสุ ‘อหํ อโรโค, อวเสสา โรคพหุลา, คทฺทุหนมตฺตมฺปิ มยฺหํ พฺยาธิ นาม นตฺถี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อาโรคฺยมโท นาม.
‘อหํ ตรุโณ, อวเสสสตฺตานํ อตฺตภาโว ปปาเต ิตรุกฺขสทิโส, อหํ ปน ปมวเย ิโต’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน โยพฺพนมโท นาม.
‘อหํ จิรํ ชีวึ, จิรํ ชีวามิ, จิรํ ชีวิสฺสามิ; สุขํ ชีวึ, สุขํ ชีวามิ, สุขํ ชีวิสฺสามี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ชีวิตมโท นาม.
‘อหํ ลาภี, อวเสสา สตฺตา อปฺปลาภา, มยฺหํ ปน ลาภสฺส ปมาณํ นาม นตฺถี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ลาภมโท นาม.
‘อวเสสา สตฺตา ยํ วา ตํ วา ลภนฺติ, อหํ ปน สุกตํ ปณีตํ จีวราทิปจฺจยํ ลภามี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สกฺการมโท นาม.
‘อวเสสภิกฺขูนํ ปาทปิฏฺิยํ อกฺกมิตฺวา คจฺฉนฺตา มนุสฺสา อยํ สมโณติปิ น วนฺทนฺติ, มํ ปน ทิสฺวาว วนฺทนฺติ, ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุํ กตฺวา อคฺคิกฺขนฺธํ วิย จ ทุราสทํ กตฺวา มฺนฺตี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ครุการมโท นาม.
‘อุปฺปนฺโน ¶ ปฺโห มยฺหเมว มุเขน ฉิชฺชติ, ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตาปิ มเมว ปุรโต กตฺวา ปริวาเรตฺวา คจฺฉนฺตี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปุเรกฺขารมโท นาม.
อคาริกสฺส ตาว มหาปริวารสฺส ‘ปุริสสตมฺปิ ปุริสสหสฺสมฺปิ มํ ปริวาเรติ,’ อนคาริยสฺส ปน ‘สมณสตมฺปิ สมณสหสฺสมฺปิ มํ ปริวาเรติ, เสสา อปฺปปริวารา, อหํ มหาปริวาโร เจว สุจิปริวาโร จา’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปริวารมโท นาม.
โภโค ¶ ปน กิฺจาปิ ลาภคฺคหเณเนว คหิโต โหติ, อิมสฺมึ ปน าเน นิกฺเขปราสิ นาม คหิโต; ตสฺมา ‘อวเสสา สตฺตา อตฺตโน ปริโภคมตฺตมฺปิ น ลภนฺติ, มยฺหํ ปน นิธานคตสฺเสว ธนสฺส ปมาณํ นตฺถี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน โภคมโท นาม.
วณฺณํ ¶ ปฏิจฺจาติ สรีรวณฺณมฺปิ คุณวณฺณมฺปิ ปฏิจฺจ. ‘อวเสสา สตฺตา ทุพฺพณฺณา ทุรูปา, อหํ ปน อภิรูโป ปาสาทิโก; อวเสสา สตฺตา นิคฺคุณา ปตฺถฏอกิตฺติโน, มยฺหํ ปน กิตฺติสทฺโท เทวมนุสฺเสสุ ปากโฏ – อิติปิ เถโร พหุสฺสุโต, อิติปิ สีลวา, อิติปิ ธุตคุณยุตฺโต’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน วณฺณมโท นาม.
‘อวเสสา สตฺตา อปฺปสฺสุตา, อหํ ปน พหุสฺสุโต’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สุตมโท นาม.
‘อวเสสา สตฺตา อปฺปฏิภานา, มยฺหํ ปน ปฏิภานสฺส ปมาณํ นตฺถี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปฏิภานมโท นาม.
‘อหํ รตฺตฺู อสุกํ พุทฺธวํสํ, ราชวํสํ, ชนปทวํสํ, คามวํสํ, รตฺตินฺทิวปริจฺเฉทํ, นกฺขตฺตมุหุตฺตโยคํ ชานามี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน รตฺตฺุมโท นาม.
‘อวเสสา ภิกฺขู อนฺตรา ปิณฺฑปาติกา ชาตา, อหํ ปน ชาติปิณฺฑปาติโก’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปิณฺฑปาติกมโท นาม.
‘อวเสสา ¶ สตฺตา อฺุาตา อวฺาตา, อหํ ปน อนฺุาโต อนวฺาโต’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อนวฺาตมโท นาม.
‘อวเสสานํ อิริยาปโถ อปาสาทิโก, มยฺหํ ปน ปาสาทิโก’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อิริยาปถมโท นาม.
‘อวเสสา สตฺตา ฉินฺนปกฺขกากสทิสา, อหํ ปน มหิทฺธิโก มหานุภาโว’ติ วา ‘อหํ ยํ ยํ กมฺมํ กโรมิ, ตํ ตํ อิชฺฌตี’ติ วา มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อิทฺธิมโท นาม.
เหฏฺา ปริวารคฺคหเณน ยโส คหิโตว โหติ. อิมสฺมึ ปน าเน อุปฏฺากมโท นาม คหิโต. โส อคาริเกนปิ อนคาริเกนปิ ทีเปตพฺโพ. อคาริโก หิ เอกจฺโจ อฏฺารสสุ เสณีสุ เอกิสฺสา เชฏฺโก โหติ, ตสฺส ‘อวเสเส ปุริเส อหํ ปฏฺเปมิ, อหํ วิจาเรมี’ติ ¶ ; อนคาริโกปิ เอกจฺโจ กตฺถจิ เชฏฺโก โหติ, ตสฺส ‘อวเสสา ภิกฺขู มยฺหํ โอวาเท วตฺตนฺติ, อหํ เชฏฺโก’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ยสมโท นาม.
‘อวเสสา สตฺตา ทุสฺสีลา, อหํ ปน สีลวา’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สีลมโท นาม. ‘อวเสสสตฺตานํ กุกฺกุฏสฺส อุทกปานมตฺเตปิ กาเล จิตฺเตกคฺคตา นตฺถิ, อหํ ปน อุปจารปฺปนานํ ลาภี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ฌานมโท ¶ นาม.
‘อวเสสา สตฺตา นิสฺสิปฺปา, อหํ ปน สิปฺปวา’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สิปฺปมโท นาม. ‘อวเสสา สตฺตา รสฺสา, อหํ ปน ทีโฆ’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อาโรหมโท นาม. ‘อวเสสา สตฺตา รสฺสา วา โหนฺติ ทีฆา วา, อหํ นิคฺโรธปริมณฺฑโล’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปริณาหมโท นาม. ‘อวเสสสตฺตานํ สรีรสณฺานํ วิรูปํ พีภจฺฉํ, มยฺหํ ปน มนาปํ ปาสาทิก’นฺติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สณฺานมโท นาม. ‘อวเสสานํ สตฺตานํ สรีเร พหู โทสา, มยฺหํ ปน สรีเร เกสคฺคมตฺตมฺปิ วชฺชํ นตฺถี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปาริปูริมโท นาม.
๘๔๕. อิมินา ¶ เอตฺตเกน าเนน สวตฺถุกํ มานํ กเถตฺวา อิทานิ อวตฺถุกํ นิพฺพตฺติตมานเมว ทสฺเสนฺโต ตตฺถ กตโม มโทติอาทิมาห. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.
๘๔๖. ปมาทนิทฺเทเส จิตฺตสฺส โวสฺสคฺโคติ อิเมสุ เอตฺตเกสุ าเนสุ สติยา อนิคฺคณฺหิตฺวา จิตฺตสฺส โวสฺสชฺชนํ; สติวิรโหติ อตฺโถ. โวสฺสคฺคานุปฺปทานนฺติ โวสฺสคฺคสฺส อนุปฺปทานํ; ปุนปฺปุนํ วิสฺสชฺชนนฺติ อตฺโถ. อสกฺกจฺจกิริยตาติ เอเตสํ ทานาทีนํ กุสลธมฺมานํ ภาวนาย ปุคฺคลสฺส วา เทยฺยธมฺมสฺส วา อสกฺกจฺจกรณวเสน อสกฺกจฺจกิริยา. สตตภาโว สาตจฺจํ. น สตตภาโว อสาตจฺจํ. น สาตจฺจกิริยตา อสาตจฺจกิริยตา. อนฏฺิตกรณํ อนฏฺิตกิริยตา. ยถา นาม กกณฺฏโก โถกํ คนฺตฺวา โถกํ ติฏฺติ, น นิรนฺตรํ คจฺฉติ, เอวเมว โย ปุคฺคโล เอกทิวสํ ทานํ วา ทตฺวา ปูชํ วา กตฺวา ธมฺมํ วา สุตฺวา สมณธมฺมํ วา กตฺวา ปุน จิรสฺสํ กโรติ, น นิรนฺตรํ ปวตฺเตติ, ตสฺส สา ¶ กิริยา อนฏฺิตกิริยตาติ วุจฺจติ. โอลีนวุตฺติตาติ นิรนฺตรกรณสงฺขาตสฺส วิปฺผารสฺเสว อภาเวน ลีนวุตฺติตา. นิกฺขิตฺตฉนฺทตาติ กุสลกิริยาย วีริยฉนฺทสฺส นิกฺขิตฺตภาโว. นิกฺขิตฺตธุรตาติ วีริยธุรสฺส โอโรปนํ, โอสกฺกิตมานสตาติ อตฺโถ. อนธิฏฺานนฺติ ¶ กุสลกรเณ ปติฏฺาภาโว. อนนุโยโคติ อนนุยฺุชนํ. ปมาโทติ ปมชฺชนํ. โย เอวรูโป ปมาโทติ อิทํ อตฺถปริยายสฺส พฺยฺชนปริยายสฺส จ ปริยนฺตาภาวโต อาการทสฺสนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยฺวายํ อาทิโต ปฏฺาย ทสฺสิโต ปมาโท, โย อฺโปิ เอวมากาโร เอวํชาติโก ปมาโท ปมชฺชนาการวเสน ปมชฺชนา, ปมชฺชิตภาววเสน ปมชฺชิตตฺตนฺติ สงฺขํ คโต – อยํ วุจฺจติ ปมาโทติ. ลกฺขณโต ปเนส ปฺจสุ กามคุเณสุ สติโวสฺสคฺคลกฺขโณ, ตตฺเถว สติยา วิสฺสฏฺากาโร เวทิตพฺโพ.
๘๔๗. ถมฺภนิทฺเทเส ถทฺธฏฺเน ถมฺโภ; ขลิยา ถทฺธสาฏกสฺส วิย จิตฺตสฺส ถทฺธตา เอตฺถ กถิตา. ถมฺภนากาโร ถมฺภนา. ถมฺภิตสฺส ภาโว ถมฺภิตตฺตํ. กกฺขฬสฺส ปุคฺคลสฺส ภาโว กกฺขฬิยํ. ผรุสสฺส ปุคฺคลสฺส ภาโว ผารุสิยํ. อภิวาทนาทิสามีจิรหานํ ตสฺสา สามีจิยา อกรณวเสน อุชุเมว ปิตจิตฺตภาโว อุชุจิตฺตตา. ถทฺธสฺส อมุทุโน ภาโว อมุทุตา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ถมฺโภ นาม วุจฺจติ, เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล คิลิตนงฺคลสีโส วิย อชคโร, วาตภริตา วิย ภสฺตา เจติยํ วา วุฑฺฒตเร วา ทิสฺวา โอนมิตุํ ¶ น สกฺโกติ, ปริยนฺเตเนว จรติ. สฺวายํ จิตฺตสฺส อุทฺธุมาตภาวลกฺขโณติ เวทิตพฺโพ.
๘๔๘. สารมฺภนิทฺเทเส สารมฺภนวเสน สารมฺโภ. ปฏิปฺผริตฺวา สารมฺโภ ปฏิสารมฺโภ. สารมฺภนากาโร สารมฺภนา. ปฏิปฺผริตฺวา สารมฺภนา ปฏิสารมฺภนา. ปฏิสารมฺภิตสฺส ภาโว ปฏิสารมฺภิตตฺตํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ สารมฺโภ นาม วุจฺจติ. สฺวายํ ลกฺขณโต กรณุตฺตริยลกฺขโณ นาม วุจฺจติ, เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณํ กโรติ. อคาริโก สมาโน เอเกเนกสฺมึ ฆรวตฺถุสฺมึ สชฺชิเต อปโร ทฺเว วตฺถูนิ สชฺเชติ, อปโร จตฺตาริ, อปโร ¶ อฏฺ, อปโร โสฬส. อนคาริโก สมาโน เอเกเนกสฺมึ นิกาเย คหิเต, ‘นาหํ เอตสฺส เหฏฺา ภวิสฺสามี’ติ อปโร ทฺเว คณฺหาติ, อปโร ตโย, อปโร จตฺตาโร, อปโร ปฺจ. สารมฺภวเสน หิ คณฺหิตุํ น ¶ วฏฺฏติ. อกุสลปกฺโข เอส นิรยคามิมคฺโค. กุสลปกฺขวเสน ปน เอกสฺมึ เอกํ สลากภตฺตํ เทนฺเต ทฺเว ทาตุํ, ทฺเว เทนฺเต จตฺตาริ ทาตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนาปิ ปเรน เอกสฺมึ นิกาเย คหิเต, ‘ทฺเว นิกาเย คเหตฺวา สชฺฌายนฺตสฺส เม ผาสุ โหตี’ติ วิวฏฺฏปกฺเข ตฺวา ตทุตฺตริ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.
๘๔๙. อตฺริจฺฉตานิทฺเทเส ยถา อริยวํสสุตฺเต (อ. นิ. ๔.๒๘) ‘ลามกลามกฏฺโ อิตรีตรฏฺโ’ เอวํ อคฺคเหตฺวา จีวราทีสุ ยํ ยํ ลทฺธํ โหติ, เตน เตน อสนฺตุฏฺสฺส; คิหิโน วา ปน รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺเพสุ ยํ ยํ ลทฺธํ โหติ, เตน เตน อสนฺตุฏฺสฺส. ภิยฺโยกมฺยตาติ วิเสสกามตา. อิจฺฉนกวเสน อิจฺฉา. อิจฺฉาว อิจฺฉาคตา, อิจฺฉนากาโร วา. อตฺตโน ลาภํ อติจฺจ อิจฺฉนภาโว อติจฺฉตา. ราโคติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนว. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อติจฺฉตา นาม วุจฺจติ. อตฺริจฺฉตาติปิ เอติสฺสา เอว นามํ. ลกฺขณโต ปน สกลาเภ อสนฺตุฏฺิ ปรลาเภ จ ปตฺถนา – เอตํ อตฺริจฺฉตาลกฺขณํ. อตฺริจฺฉปุคฺคลสฺส หิ อตฺตนา ลทฺธํ ปณีตมฺปิ ลามกํ วิย ขายติ, ปเรน ลทฺธํ ลามกมฺปิ ปณีตํ วิย ขายติ; เอกภาชเน ปกฺกยาคุ วา ภตฺตํ วา ปูโว วา อตฺตโน ปตฺเต ปกฺขิตฺโต ลามโก วิย, ปรสฺส ปตฺเต ปณีโต วิย ขายติ. อยํ ปน อตฺริจฺฉตา ปพฺพชิตานมฺปิ โหติ คิหีนมฺปิ ติรจฺฉานคตานมฺปิ.
ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – เอโก กิร กุฏุมฺพิโก ตึส ภิกฺขุนิโย นิมนฺเตตฺวา สปูวํ ภตฺตํ อทาสิ ¶ . สงฺฆตฺเถรี สพฺพภิกฺขูนีนํ ปตฺเต ปูวํ ปริวตฺตาเปตฺวา ปจฺฉา อตฺตนา ลทฺธเมว ขาทิ. พาราณสิราชาปิ ‘องฺคารปกฺกมํสํ ขาทิสฺสามี’ติ เทวึ อาทาย อรฺํ ปวิฏฺโ เอกํ กินฺนรึ ทิสฺวา, เทวึ ปหาย, ตสฺสานุปทํ คโต. เทวี นิวตฺติตฺวา อสฺสมปทํ คนฺตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ จ อภิฺาโย ปตฺวา นิสินฺนา ¶ ราชานํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา อคมาสิ. รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา อิมํ คาถมาห –
อตฺริจฺฉํ อติโลเภน, อติโลภมเทน จ;
เอวํ หายติ อตฺถมฺหา, อหํว อสิตาภุยาติ. (ชา. ๑.๒.๑๖๘);
ยถา ¶ จนฺทกินฺนรึ ปตฺถยนฺโต อสิตาภุยา ราชธีตาย หีโน ปริหีโน, เอวํ อตฺริจฺฉํ อติโลเภน อตฺถมฺห หายติ ชียตีติ เทวตา รฺา สทฺธึ เกฬิมกาสิ.
กสฺสปพุทฺธกาเลปิ มิตฺตวินฺทโก นาม เสฏฺิปุตฺโต อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน มาตรา ‘ตาต, อชฺช อุโปสถิโก หุตฺวา วิหาเร สพฺพรตฺตึ ธมฺมสวนํ สุณ, สหสฺสํ เต ทสฺสามี’ติ วุตฺเต ธนโลเภน อุโปสถงฺคานิ สมาทาย วิหารํ คนฺตฺวา ‘อิทํ านํ อกุโตภย’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา ธมฺมาสนสฺส เหฏฺา นิปนฺโน สพฺพรตฺตึ นิทฺทายิตฺวา ฆรํ อคมาสิ. มาตา ปาโตว ยาคุํ ปจิตฺวา อุปนาเมสิ. โส สหสฺสํ คเหตฺวาว ยาคุํ ปิวิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘ธนํ สํหริสฺสามี’ติ. โส นาวาย สมุทฺทํ ปกฺขนฺทิตุกาโม อโหสิ. อถ นํ มาตา ‘‘ตาต, อิมสฺมึ กุเล จตฺตาลีสโกฏิธนํ อตฺถิ; อลํ คมเนนา’’ติ วาเรสิ. โส ตสฺสา วจนํ อนาทิยิตฺวา คจฺฉติ เอว. สา ปุรโต อฏฺาสิ. อถ นํ กุชฺฌิตฺวา ‘อยํ มยฺหํ ปุรโต ติฏฺตี’ติ ปาเทน ปหริตฺวา ปติตํ มาตรํ อนฺตรํ กตฺวา อคมาสิ. มาตา อุฏฺหิตฺวา ‘‘มาทิสาย มาตริ เอวรูปํ กมฺมํ กตฺวา คตสฺส เม คตฏฺาเน สุขํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํสฺี นาม ตฺวํ ปุตฺตาติ อาห. ตสฺส นาวํ อารุยฺห คจฺฉโต สตฺตเม ทิวเส นาวา อฏฺาสิ. อถ เต มนุสฺสา ‘‘อทฺธา เอตฺถ ปาปปุริโส อตฺถิ; สลากํ เทถา’’ติ สลากา ทียมานา ตสฺเสว ติกฺขตฺตุํ ปาปุณิ. เต ตสฺส อุฬุมฺปํ ทตฺวา ตํ สมุทฺเท ปกฺขิปึสุ. โส เอกํ ทีปํ คนฺตฺวา วิมานเปตีหิ สทฺธึ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต ตาหิ ‘‘ปุรโต มา อคมาสี’’ติ วุจฺจมาโนปิ ตทฺทิคุณํ สมฺปตฺตึ ปสฺสนฺโต อนุปุพฺเพน ขุรจกฺกธรํ เอกํ ปุริสํ อทฺทส. ตสฺส ตํ จกฺกํ ปทุมปุปฺผํ วิย อุปฏฺาติ. โส ตํ อาห – ‘‘อมฺโภ, อิทํ ตยา ปิฬนฺธปทุมํ ¶ มยฺหํ เทหี’’ติ. ‘‘นยิทํ, สามิ ¶ , ปทุมํ; ขุรจกฺกํ เอต’’นฺติ. โส ‘‘วฺเจสิ มํ ตฺวํ. กึ เม ปทุมํ น ทิฏฺปุพฺพ’’นฺติ วตฺวา ‘‘ตฺวฺหิ โลหิตจนฺทนํ ลิมฺเปตฺวา ปิฬนฺธนํ ปทุมปุปฺผํ มยฺหํ น ทาตุกาโมสี’’ติ อาห. โส จินฺเตสิ – ‘อยมฺปิ มยา กตสทิสํ กมฺมํ กตฺวา ตสฺส ผลํ อนุภวิตุกาโม’ติ. อถ นํ ‘‘หนฺท เร’’ติ วตฺวา ¶ ตสฺส มตฺถเก จกฺกํ ปกฺขิปิตฺวา ปลายิ. เอตมตฺถํ วิทิตฺวา สตฺถา อิมํ คาถมาห –
‘‘จตุพฺภิ อฏฺชฺฌคมา, อฏฺหิ ปิจ โสฬส;
โสฬสาหิ จ พาตฺตึส, อตฺริจฺฉํ จกฺกมาสโท;
อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ. (ชา. ๑.๑.๑๐๔);
อฺตโรปิ อตฺริจฺโฉ อมจฺโจ สกวิสยํ อติกฺกมิตฺวา ปรวิสยํ ปาวิสิ. ตตฺถ โปถิโต ปลายิตฺวา เอกสฺส ตาปสสฺส วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย นิปชฺชิ. โส ตาปเสน ‘กึ เต กต’นฺติ ปุจฺฉิโต อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘สกํ นิเกตํ อติหีฬยาโน,
อตฺริจฺฉตา มลฺลคามํ อคจฺฉึ;
ตโต ชนา นิกฺขมิตฺวาน คามา,
โกทณฺฑเกน ปริโปถยึสุ มํ.
‘‘โส ภินฺนสีโส รุหิรมกฺขิตงฺโค,
ปจฺจาคมาสึ สกํ นิเกตํ;
ตสฺมา อหํ โปสถํ ปาลยามิ,
อตฺริจฺฉตา มา ปุนราคมาสี’’ติ. (ชา. ๑.๑๔.๑๓๘-๑๓๙);
๘๕๐. มหิจฺฉตานิทฺเทเส มหนฺตานิ วตฺถูนิ อิจฺฉติ, มหตี วาสฺส อิจฺฉาติ มหิจฺโฉ, ตสฺส ภาโว มหิจฺฉตา. ลกฺขณโต ปน อสนฺตคุณสมฺภาวนตา ปฏิคฺคหเณ จ ปริโภเค จ อมตฺตฺุตา – เอตํ มหิจฺฉตาลกฺขณํ. มหิจฺโฉ หิ ปุคฺคโล ยถา นาม กจฺฉปุฏวาณิโช ปิฬนฺธนภณฺฑกํ หตฺเถน คเหตฺวา อุจฺฉงฺเคปิ ปกฺขิปิตพฺพยุตฺตกํ ปกฺขิปิตฺวา มหาชนสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว ¶ ‘‘อมฺมา, อสุกํ คณฺหถ, อสุกํ คณฺหถา’’ติ มุเขน สํวิทหติ. เอวเมว โส อปฺปมตฺตกมฺปิ อตฺตโน สีลํ วา คนฺถํ วา ธุตคุณํ วา อนฺตมโส อรฺวาสมตฺตกมฺปิ มหาชนสฺส ชานนฺตสฺเสว สมฺภาเวตุกาโม ¶ โหติ, สมฺภาเวตฺวา จ ปน สกเฏหิปิ อุปนีเต ปจฺจเย ‘อล’นฺติ อวตฺวา คณฺหาติ. ตโย หิ ปูเรตุํ น สกฺกา – อคฺคิ อุปาทาเนน, สมุทฺโท อุทเกน, มหิจฺโฉ ปจฺจเยหีติ.
อคฺคิกฺขนฺโธ สมุทฺโท จ, มหิจฺโฉ จาปิ ปุคฺคโล;
พหุเก ปจฺจเย เทนฺเต, ตโย เปเต น ปูรเย.
มหิจฺฉปุคฺคโล ¶ หิ วิชาตมาตุยาปิ มนํ คณฺหิตุํ น สกฺโกติ, ปเคว อุปฏฺากานํ.
ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – เอโก กิร ทหรภิกฺขุ ปิฏฺปูเว ปิยายติ. อถสฺส มาตา ปฏิปตฺตึ วีมํสมานา ‘สเจ เม ปุตฺโต ปฏิคฺคหเณ มตฺตํ ชานาติ, สกลมฺปิ นํ เตมาสํ ปูเวเหว อุปฏฺหิสฺสามี’ติ วสฺสูปนายิกทิวเส ปริวีมํสมานา ปมํ เอกํ ปูวํ อทาสิ, ตสฺมึ นิฏฺิเต ทุติยํ, ตสฺมิมฺปิ นิฏฺิเต ตติยํ. ทหโร ‘อล’นฺติ อวตฺวา ขาทิเยว. มาตา ตสฺส อมตฺตฺุภาวํ ตฺวา ‘อชฺเชว เม ปุตฺเตน สกลเตมาสสฺส ปูวา ขาทิตา’ติ ทุติยทิวสโต ปฏฺาย เอกปูวมฺปิ น อทาสิ.
ติสฺสมหาราชาปิ เทวสิกํ เจติยปพฺพเต ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ ททมาโน ‘มหาราช, กึ เอกเมว านํ ภชสิ? กึ อฺตฺถ ทาตุํ น วฏฺฏตี’ติ ชานปเทหิ วุตฺโต ทุติยทิวเส อนุราธปุเร มหาทานํ ทาเปสิ. เอกภิกฺขุปิ ปฏิคฺคหเณ มตฺตํ น อฺาสิ. เอกเมเกน ปฏิคฺคหิตํ ขาทนียโภชนียํ ทฺเว ตโย ชนา อุกฺขิปึสุ. ราชา ทุติยทิวเส เจติยปพฺพเต ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺตาเปตฺวา ราชนฺเตปุรํ อาคตกาเล ‘‘ปตฺตํ เทถา’’ติ อาห. ‘‘อลํ, มหาราช, อตฺตโน ปมาเณน ภิกฺขํ คณฺหิสฺสตี’’ติ เอกภิกฺขุปิ ปตฺตํ น อทาสิ. สพฺเพ ปมาณยุตฺตกเมว ปฏิคฺคเหสุํ. อถ ราชา อาห – ‘‘ปสฺสถ ตุมฺหากํ ภิกฺขูสุ เอโกปิ มตฺตํ น ชานาติ. หิยฺโย กิฺจิ อวเสสํ นาโหสิ. อชฺช คหิตํ มนฺทํ, อวเสสเมว พหู’’ติ เตสํ มตฺตฺุตาย อตฺตมโน อิตเรสฺจ อมตฺตฺุตาย อนตฺตมโน อโหสิ.
๘๕๑. ปาปิจฺฉตานิทฺเทเส ¶ อสฺสทฺโธ สมาโน สทฺโธติ มํ ชโน ชานาตูติอาทีสุ เอวํ อิจฺฉนฺโต กึ กโรติ? อสฺสทฺโธ สทฺธาการํ ทสฺเสติ; ทุสฺสีลาทโย สีลวนฺตาทีนํ อาการํ ทสฺเสนฺติ. กถํ? อสฺสทฺโธ ¶ ตาว มหามหทิวเส มนุสฺสานํ วิหารํ อาคมนเวลาย สมฺมชฺชนึ อาทาย วิหารํ สมฺมชฺชติ, กจวรํ ฉฑฺเฑติ, มนุสฺเสหิ ทิฏฺภาวํ ตฺวา เจติยงฺคณํ คจฺฉติ, ตตฺถาปิ สมฺมชฺชิตฺวา กจวรํ ฉฑฺเฑติ, วาลิกํ สมํ กโรติ, อาสนานิ โธวติ, โพธิมฺหิ อุทกํ สิฺจติ. มนุสฺสา ทิสฺวา ‘นตฺถิ มฺเ อฺโ ภิกฺขุ วิหารชคฺคนโก, อยเมว อิมํ วิหารํ ปฏิชคฺคติ, สทฺโธ เถโร’ติ คมนกาเล นิมนฺเตตฺวา คจฺฉนฺติ. ทุสฺสีโลปิ ¶ อุปฏฺากานํ สมฺมุเข วินยธรํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉติ ‘‘ภนฺเต, มยิ คจฺฉนฺเต โคโณ อุพฺพิคฺโค. เตน ธาวตา ติณานิ ฉินฺนานิ. สมฺมชฺชนฺตสฺส เม ติณานิ ฉิชฺชนฺติ. จงฺกมนฺตสฺส เม ปาณกา มียนฺติ. เขฬํ ปาเตนฺตสฺส อสติยา ติณมตฺถเก ปตติ; ตตฺถ ตตฺถ กึ โหตี’’ติ? ‘‘อนาปตฺติ, อาวุโส, อสฺจิจฺจ อสติยา อชานนฺตสฺสา’’ติ จ วุตฺเต ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ ครุกํ วิย อุปฏฺาติ; สุฏฺุ วีมํสถา’’ติ ภณติ. ตํ สุตฺวา มนุสฺสา ‘อมฺหากํ อยฺโย เอตฺตเกปิ กุกฺกุจฺจายติ! อฺสฺมึ โอฬาริเก กึ นาม กริสฺสติ; นตฺถิ อิมินา สทิโส สีลวาติ ปสนฺนา สกฺการํ กโรนฺติ. อปฺปสฺสุโตปิ อุปฏฺากมชฺเฌ นิสินฺโน ‘‘อสุโก ติปิฏกธโร, อสุโก จตุนิกายิโก มยฺหํ อนฺเตวาสิโก, มม สนฺติเก เตหิ ธมฺโม อุคฺคหิโต’’ติ วทติ. มนุสฺสา ‘อมฺหากํ อยฺเยน สทิโส พหุสฺสุโต นตฺถิ, เอตสฺส กิร สนฺติเก อสุเกน จ อสุเกน จ ธมฺโม อุคฺคหิโต’ติ ปสนฺนา สกฺการํ กโรนฺติ.
สงฺคณิการาโมปิ มหามหทิวเส ทีฆปีฺจ อปสฺสยฺจ คาหาเปตฺวา วิหารปจฺจนฺเต รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทติ. มนุสฺสา อาคนฺตฺวา ‘‘เถโร กุหิ’’นฺติ ปุจฺฉนฺติ. ‘‘คณฺิกปุตฺตา นาม คณฺิกา เอว โหนฺติ. เตน เถโร เอวรูเป กาเล อิธ น นิสีทติ, วิหารปจฺจนฺเต ทิวาฏฺาเน ทีฆจงฺกเม วิหรตี’’ติ วทนฺติ. โสปิ ทิวสภาคํ วีตินาเมตฺวา นลาเฏ มกฺกฏสุตฺตํ อลฺลิยาเปตฺวา ปีํ คาหาเปตฺวา อาคมฺม ปริเวณทฺวาเร นิสีทติ. มนุสฺสา ‘‘กหํ, ภนฺเต, คตตฺถ? อาคนฺตฺวา น อทฺทสมฺหา’’ติ วทนฺติ. ‘‘อุปาสกา, อนฺโตวิหาโร อากิณฺโณ; ทหรสามเณรานํ วิจรณฏฺานเมตํ สฏฺิหตฺถจงฺกเม ทิวาฏฺาเน นิสีทิมฺหา’’ติ อตฺตโน ปวิวิตฺตภาวํ ชานาเปติ.
กุสีโตปิ อุปฏฺากมชฺเฌ นิสินฺโน ‘‘อุปาสกา, ตุมฺเหหิ อุกฺกาปาโต ทิฏฺโ’’ติ วทติ. ‘‘น ¶ ปสฺสาม, ภนฺเต; กาย เวลาย อโหสี’’ติ ¶ จ ปุฏฺโ ‘‘อมฺหากํ จงฺกมนเวลายา’’ติ วตฺวา ‘‘ภูมิจาลสทฺทํ อสฺสุตฺถา’’ติ ปุจฺฉติ. ‘‘น สุณาม, ภนฺเต; กาย เวลายา’’ติ ปุฏฺโ ‘‘มชฺฌิมยาเม อมฺหากํ อาลมฺพนผลกํ อปสฺสาย ิตกาเล’’ติ วตฺวา ‘‘มหาโอภาโส อโหสิ; โส โว ทิฏฺโ’’ติ ปุจฺฉติ. ‘‘กาย เวลาย, ภนฺเต’’ติ จ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ จงฺกมมฺหา โอตรณกาเล’’ติ วทติ. มนุสฺสา ¶ ‘อมฺหากํ เถโร ตีสุปิ ยาเมสุ จงฺกเมเยว โหติ; นตฺถิ อยฺเยน สทิโส อารทฺธวีริโย’ติ ปสนฺนา สกฺการํ กโรนฺติ.
มุฏฺสฺสตีปิ อุปฏฺากมชฺเฌ นิสินฺโน ‘‘มยา อสุกกาเล นาม ทีฆนิกาโย อุคฺคหิโต, อสุกกาเล มชฺฌิโม, สํยุตฺตโก, องฺคุตฺตริโก; อนฺตรา โอโลกนํ นาม นตฺถิ, อิจฺฉิติจฺฉตฏฺาเน มุขารุฬฺโหว ตนฺติ อาคจฺฉติ; อิเม ปนฺเ ภิกฺขู เอฬกา วิย มุขํ ผนฺทาเปนฺตา วิหรนฺตี’’ติ วทติ. มนุสฺสา ‘นตฺถิ อยฺเยน สทิโส อุปฏฺิตสตี’ติ ปสนฺนา สกฺการํ กโรนฺติ.
อสมาหิโตปิ อุปฏฺากานํ สมฺมุเข อฏฺกถาจริเย ปฺหํ ปุจฺฉติ – ‘กสิณํ นาม กถํ ภาเวติ? กิตฺตเกน นิมิตฺตํ อุปฺปนฺนํ นาม โหติ? กิตฺตเกน อุปจาโร? กิตฺตเกน อปฺปนา? ปมสฺส ฌานสฺส กติ องฺคานิ? ทุติยสฺส ตติยสฺส จตุตฺถสฺส ฌานสฺส กติ องฺคานิ’’ติ ปุจฺฉติ. เตหิ อตฺตโน อุคฺคหิตานุรูเปน กถิตกาเล สิตํ กตฺวา ‘กึ, อาวุโส, เอวํ น โหสี’ติ วุตฺเต ‘วฏฺฏติ, ภนฺเต’ติ อตฺตโน สมาปตฺติลาภิตํ สูเจติ. มนุสฺสา ‘สมาปตฺติลาภี อยฺโย’ติ ปสนฺนา สกฺการํ กโรนฺติ.
ทุปฺปฺโปิ อุปฏฺากานํ มชฺเฌ นิสินฺโน ‘มชฺฌิมนิกาเย เม ปฺจตฺตยํ โอโลเกนฺตสฺส สหิทฺธิยาว มคฺโค อาคโต. ปริยตฺติ นาม อมฺหากํ น ทุกฺกรา. ปริยตฺติวาวโฏ ปน ทุกฺขโต น มุจฺจตีติ ปริยตฺตึ วิสฺสชฺชยิมฺหา’ติอาทีนิ วทนฺโต อตฺตโน มหาปฺตํ ทีเปติ. เอวํ วทนฺโต ปนสฺส สาสเน ปหารํ เทติ. อิมินา สทิโส มหาโจโร นาม นตฺถิ. น หิ ปริยตฺติธโร ทุกฺขโต น มุจฺจตีติ. อขีณาสโวปิ คามทารเก ทิสฺวา ‘ตุมฺหากํ มาตาปิตโร อมฺเห กึ วทนฺตี’’ติ? ‘‘อรหาติ ¶ วทนฺติ, ภนฺเต’’ติ. ‘ยาว เฉกา คหปติกา, น สกฺกา วฺเจตุ’นฺติ อตฺตโน ขีณาสวภาวํ ทีเปติ.
อฺเปิ ¶ เจตฺถ จาฏิอรหนฺตปาโรหอรหนฺตาทโย เวทิตพฺพา – เอโก กิร กุหโก อนฺโตคพฺเภ จาฏึ นิขณิตฺวา มนุสฺสานํ อาคมนกาเล ปวิสติ. มนุสฺสา ‘กหํ เถโร’ติ ปุจฺฉนฺติ. ‘อนฺโตคพฺเภ’ติ จ วุตฺเต ปวิสิตฺวา วิจินนฺตาปิ อทิสฺวา ¶ นิกฺขมิตฺวา ‘นตฺถิ เถโร’ติ วทนฺติ. ‘อนฺโตคพฺเภเยว เถโร’ติ จ วุตฺเต ปุน ปวิสนฺติ. เถโร จาฏิโต นิกฺขมิตฺวา ปีเ นิสินฺโน โหติ. ตโต เตหิ ‘มยํ, ภนฺเต, ปุพฺเพ อทิสฺวา นิกฺขนฺตา, กหํ ตุมฺเห คตตฺถา’’ติ วุตฺเต ‘สมณา นาม อตฺตโน อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ คจฺฉนฺตี’ติ วจเนน อตฺตโน ขีณาสวภาวํ ทีเปติ.
อปโรปิ กุหโก เอกสฺมึ ปพฺพเต ปณฺณสาลายํ วสติ. ปณฺณสาลาย จ ปจฺฉโต ปปาตฏฺาเน เอโก กจฺฉกรุกฺโข อตฺถิ. ตสฺส ปาโรโห คนฺตฺวา ปรภาเค ภูมิยํ ปติฏฺิโต. มนุสฺสา มคฺเคนาคนฺตฺวา นิมนฺเตนฺติ. โส ปตฺตจีวรมาทาย ปาโรเหน โอตริตฺวา คามทฺวาเร อตฺตานํ ทสฺเสติ. ตโต มนุสฺเสหิ ปจฺฉา อาคนฺตฺวา ‘กตเรน มคฺเคน อาคตตฺถ, ภนฺเต’ติ ปุฏฺโ ‘สมณานํ อาคตมคฺโค นาม ปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, อตฺตโน อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺาเนเนว อาคจฺฉนฺตี’ติ วจเนน ขีณาสวภาวํ ทีเปติ. ตํ ปน กุหกํ เอโก วิทฺธกณฺโณ ตฺวา ‘ปริคฺคเหสฺสามิ น’นฺติ เอกทิวสํ ปาโรเหน โอตรนฺตํ ทิสฺวา ปจฺฉโต ฉินฺทิตฺวา อปฺปมตฺตเกน เปสิ. โส ‘ปาโรหโต โอตริสฺสามี’ติ ‘’นฺติ ปติโต, มตฺติกา ปตฺโต ภิชฺชิ. โส ‘าโตมฺหี’ติ นิกฺขมิตฺวา ปลายิ. ปาปิจฺฉสฺส ภาโว ปาปิจฺฉตา. ลกฺขณโต ปน อสนฺตคุณสมฺภาวนตา, ปฏิคฺคหเณ จ อมตฺตฺุตา; เอตํ ปาปิจฺฉตาลกฺขณนฺติ เวทิตพฺพํ.
๘๕๒. สิงฺคนิทฺเทเส วิชฺฌนฏฺเน สิงฺคํ; นาคริกภาวสงฺขาตสฺส กิเลสสิงฺคสฺเสตํ นามํ. สิงฺคารภาโว สิงฺคารตา, สิงฺคารกรณากาโร วา. จตุรภาโว จตุรตา. ตถา จาตุริยํ. ปริกฺขตภาโว ปริกฺขตตา; ปริขณิตฺวา ปิตสฺเสว ทฬฺหสิงฺคารภาวสฺเสตํ นามํ ¶ . อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. เอวํ สพฺเพหิปิ ปเทหิ กิเลสสิงฺคารตาว กถิตา.
๘๕๓. ตินฺติณนิทฺเทเส ตินฺติณนฺติ ขียนํ. ตินฺติณายนากาโร ตินฺติณายนา. ตินฺติเณน อยิตสฺส ตินฺติณสมงฺคิโน ภาโว ตินฺติณายิตตฺตํ. โลลุปภาโว โลลุปฺปํ. อิตเร ทฺเว ¶ อาการภาวนิทฺเทสา. ปุจฺฉฺชิกตาติ ¶ ลาภลภนกฏฺาเน เวธนากมฺปนา นีจวุตฺติตา. สาธุกมฺยตาติ ปณีตปณีตานํ ปตฺถนา. เอวํ สพฺเพหิปิ ปเทหิ สุวานโทณิยํ กฺชิยํ ปิวนกสุนขสฺส อฺํ สุนขํ ทิสฺวา ภุภุกฺกรณํ วิย ‘ตว สนฺตกํ, มม สนฺตก’นฺติ กิเลสวเสน ขียนากาโร กถิโต.
๘๕๔. จาปลฺยนิทฺเทเส อาโกฏิตปจฺจาโกฏิตภาวาทีหิ จีวรสฺส มณฺฑนา จีวรมณฺฑนา. มณิวณฺณจฺฉวิกรณาทีหิ ปตฺตสฺส มณฺฑนา ปตฺตมณฺฑนา. จิตฺตกมฺมาทีหิ ปุคฺคลิกเสนาสนสฺส มณฺฑนา เสนาสนมณฺฑนา. อิมสฺส วา ปูติกายสฺสาติ อิมสฺส มนุสฺสสรีรสฺส. ยถา หิ ตทหุชาโตปิ สิงฺคาโล ชรสิงฺคาโลตฺเวว อูรุปฺปมาณาปิ จ คโฬจิลตา ปูติลตาตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ, เอวํ สุวณฺณวณฺโณปิ มนุสฺสกาโย ปูติกาโยตฺเวว วุจฺจติ. ตสฺส อนฺตรนฺตรา รตฺตวณฺณปณฺฑุวณฺณาทีหิ นิวาสนปารุปนาทีหิ สชฺชนา มณฺฑนา นาม. พาหิรานํ วา ปริกฺขารานนฺติ เปตฺวา ปตฺตจีวรํ เสสปริกฺขารานํ; อถวา ยา เอสา จีวรมณฺฑนา ปตฺตมณฺฑนาติ วุตฺตา, สา เตหิ วา ปริกฺขาเรหิ กายสฺส มณฺฑนา เตสํ วา พาหิรปริกฺขารานํ มณฺเฑตฺวา ปนวเสน มณฺฑนาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มณฺฑนา วิภูสนาติ เอตฺถ อูนฏฺานสฺส ปูรณวเสน มณฺฑนา, ฉวิราคาทิวเสน วิภูสนาติ เวทิตพฺพา. เกฬนาติ กีฬนา. ปริเกฬนาติ ปริกีฬนา. คิทฺธิกตาติ เคธยุตฺตตา. คิทฺธิกตฺตนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. จปลภาโว จปลตา. ตถา จาปลฺยํ. อิทํ วุจฺจตีติ อิทํ จาปลฺยํ นาม วุจฺจติ, เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล วสฺสสติโกปิ สมาโน ตทหุชาตทารโก วิย โหติ.
๘๕๕. อสภาควุตฺตินิทฺเทเส วิปฺปฏิกูลคฺคาหิตาติ อนนุโลมคฺคาหิตา. วิปจฺจนีกสาตตาติ ¶ วิปจฺจนีเกน ปฏิวิรุทฺธกรเณน สุขายนา. อนาทรภาโว อนาทริยํ. ตถา อนาทริยตา. อคารวสฺส ภาโว อคารวตา. เชฏฺกภาวสฺส อกรณํ อปฺปติสฺสวตา. อยํ ¶ วุจฺจตีติ อยํ อสภาควุตฺติ นาม วุจฺจติ; วิสภาคชีวิกตาติ อตฺโถ; ยาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล มาตรํ ปิตรํ วา คิลานํ ปฏิวตฺติตฺวาปิ น โอโลเกติ; ปิตุสนฺตกสฺส การณา มาตรา สทฺธึ, มาตุสนฺตกสฺส การณา ปิตรา สทฺธึ กลหํ กโรติ; วิสภาคชีวิตํ ชีวติ, มาตาปิตูนํ สนฺตกสฺส การณา เชฏฺเน วา กนิฏฺเน วา ภาตรา สทฺธึ กลหํ กโรติ, นิลฺลชฺชวจนํ วทติ, อาจริยสฺส วา อุปชฺฌายสฺส วา วตฺตปฏิวตฺตํ น กโรติ, คิลานํ น อุปฏฺาติ, พุทฺธสฺส ภควโต เจติยทสฺสนฏฺาเน อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กโรติ, เขฬมฺปิ ¶ สิงฺฆาณิกมฺปิ ฉฑฺเฑติ, ฉตฺตํ ธาเรติ, อุปาหนา อารุยฺห คจฺฉติ, พุทฺธสาวเกสุ น ลชฺชติ, สงฺเฆ จิตฺตีการํ น กโรติ, มาติมตฺตปิติมตฺตาทีสุ ครุฏฺานีเยสุ หิโรตฺตปฺปํ น ปจฺจุปฏฺาเปติ. ตสฺเสวํ ปวตฺตมานสฺส สพฺพา เปสา กิริยา มาตรีติอาทีสุปิ วตฺถูสุ อสภาควุตฺติตา นาม โหติ.
๘๕๖. อรตินิทฺเทเส ปนฺเตสูติ ทูเรสุ วิวิตฺเตสุ วา. อธิกุสเลสูติ สมถวิปสฺสนาธมฺเมสุ. อรตีติ รติปฏิกฺเขโป. อรติตาติ อรมณากาโร. อนภิรตีติ อนภิรตภาโว. อนภิรมณาติ อนภิรมณากาโร. อุกฺกณฺิตาติ อุกฺกณฺนากาโร. ปริตสฺสิตาติ อุกฺกณฺนวเสเนว ปริตสฺสนา.
๘๕๗. ตนฺทีนิทฺเทเส ตนฺทีติ ชาติอาลสิยํ. ตนฺทิยนาติ ตนฺทิยนากาโร. ตนฺทิมนกตาติ ตนฺทิยา อภิภูตจิตฺตตา. อลสสฺส ภาโว อาลสฺยํ. อาลสฺยายนากาโร อาลสฺยายนา. อลสฺยายิตสฺส ภาโว อาลสฺยายิตตฺตํ. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กิเลสวเสน กายาลสิยํ กถิตํ.
๘๕๘. วิชมฺภิตานิทฺเทเส ชมฺภนาติ ผนฺทนา. ปุนปฺปุนํ ชมฺภนา วิชมฺภนา. อานมนาติ ¶ ปุรโต นมนา. วินมนาติ ปจฺฉโต นมนา. สนฺนมนาติ สมนฺตโต นมนา. ปณมนาติ ยถา หิ ตนฺตโต อุฏฺิตเปสกาโร กิสฺมิฺจิเทว คเหตฺวา อุชุกํ กายํ อุสฺสาเปติ, เอวํ กายสฺส อุทฺธํ ปนา. พฺยาธิยกนฺติ อุปฺปนฺนพฺยาธิตา. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กิเลสวเสน กายผนฺทนเมว กถิตํ.
๘๕๙. ภตฺตสมฺมทนิทฺเทเส ¶ ภุตฺตาวิสฺสาติ ภุตฺตวโต. ภตฺตมุจฺฉาติ ภตฺตเคลฺํ; พลวภตฺเตน หิ มุจฺฉาปตฺโต วิย โหติ. ภตฺตกิลมโถติ ภตฺเตน กิลนฺตภาโว. ภตฺตปริฬาโหติ ภตฺตทรโถ. ตสฺมิฺหิ สมเย ปริฬาหุปฺปตฺติยา อุปหตินฺทฺริโย โหติ, กาโย ชีรติ. กายทุฏฺุลฺลนฺติ ภตฺตํ นิสฺสาย กายสฺส อกมฺมฺตา.
๘๖๐. เจตโส ลีนตฺตนิทฺเทโส เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตตฺโถเยว. อิเมหิ ปน สพฺเพหิปิ ปเทหิ กิเลสวเสน จิตฺตสฺส คิลานากาโร กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
๘๖๑. กุหนานิทฺเทเส ¶ ลาภสกฺการสิโลกสนฺนิสฺสิตสฺสาติ ลาภฺจ สกฺการฺจ กิตฺติสทฺทฺจ นิสฺสิตสฺส, ปตฺถยนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ปาปิจฺฉสฺสาติ อสนฺตคุณทีปนกามสฺส. อิจฺฉาปกตสฺสาติ อิจฺฉาย อปกตสฺส, อุปทฺทุตสฺสาติ อตฺโถ.
อิโต ปรํ ยสฺมา ปจฺจยปฏิเสวน สามนฺตชปฺปนอิริยาปถสนฺนิสฺสิตวเสน มหานิทฺเทเส ติวิธํ กุหนวตฺถุ อาคตํ, ตสฺมา ติวิธมฺปิ ตํ ทสฺเสตุํ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาเตน วาติ เอวมาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ จีวราทีหิ นิมนฺติตสฺส ตทตฺถิกสฺเสว สโต ปาปิจฺฉตํ นิสฺสาย ปฏิกฺขิปเนน, เต จ คหปติเก อตฺตนิ สุปฺปติฏฺิตสทฺเธ ตฺวา ปุน เตสํ ‘อโห อยฺโย อปฺปิจฺโฉ, น กิฺจิ ปฏิคฺคณฺหิตุํ อิจฺฉติ, สุลทฺธํ วต โน อสฺส สเจ อปฺปมตฺตกํ กิฺจิ ปฏิคฺคณฺเหยฺยา’ติ นานาวิเธหิ อุปาเยหิ ปณีตานิ จีวราทีนิ อุปเนนฺตานํ ตทนุคฺคหกามตํเยว อาวิกตฺวา ปฏิคฺคหเณน จ ตโต ปภุติ อสีติสกฏภาเรหิ อุปนามนเหตุภูตํ วิมฺหาปนํ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาตํ กุหนวตฺถูติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ มหานิทฺเทเส (มหานิ. ๘๗) –
‘‘กตมํ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาตํ กุหนวตฺถุ? อิธ คหปติกา ภิกฺขุํ นิมนฺเตนฺติ ¶ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ. โส ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต อตฺถิโก จีวร ¶ …เป… ปริกฺขารานํ ภิยฺโยกมฺยตํ อุปาทาย จีวรํ ปจฺจกฺขาติ, ปิณฺฑปาตํ ปจฺจกฺขาติ, เสนาสนํ ปจฺจกฺขาติ, คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปจฺจกฺขาติ. โส เอวมาห – ‘‘กึ สมณสฺส มหคฺเฆน จีวเรน? เอตํ สารุปฺปํ ยํ สมโณ สุสานา วา สงฺการกูฏา วา ปาปณิกา วา นนฺตกานิ อุจฺจินิตฺวา สงฺฆาฏึ กตฺวา ธาเรยฺย. กึ สมณสฺส มหคฺเฆน ปิณฺฑปาเตน? เอตํ สารุปฺปํ ยํ สมโณ อฺุฉาจริยาย ปิณฺฑิยาโลเปน ชีวิกํ กปฺเปยฺย. กึ สมณสฺส มหคฺเฆน เสนาสเนน? เอตํ สารุปฺปํ ยํ สมโณ รุกฺขมูลิโก วา อสฺส โสสานิโก วา อพฺโภกาสิโก วา. กึ สมณสฺส มหคฺเฆน คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน? เอตํ สารุปฺปํ ยํ สมโณ ปูติมุตฺเตน วา หรีตกีขณฺเฑน วา โอสธํ กเรยฺยาติ. ตทุปาทาย ลูขํ จีวรํ ธาเรติ, ลูขํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชติ, ลูขํ เสนาสนํ ปฏิเสวติ, ลูขํ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปฏิเสวติ. ตเมนํ คหปติกา เอวํ ชานนฺติ – ‘อยํ สมโณ ¶ อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโ อารทฺธวีริโย ธุตวาโท’ติ ภิยฺโย ภิยฺโย นิมนฺเตนฺติ จีวร…เป… ปริกฺขาเรหิ. โส เอวมาห – ‘ติณฺณํ สมฺมุขีภาวา สทฺโธ กุลปุตฺโต พหุํ ปฺุํ ปสวติ – สทฺธาย สมฺมุขีภาวา สทฺโธ กุลปุตฺโต พหุํ ปฺุํ ปสวติ, เทยฺยธมฺมสฺส…เป… ทกฺขิเณยฺยานํ สมฺมุขีภาวา สทฺโธ กุลปุตฺโต พหุํ ปฺุํ ปสวติ. ตุมฺหากฺเจวายํ สทฺธา อตฺถิ, เทยฺยธมฺโม จ สํวิชฺชติ, อหฺจ ปฏิคฺคาหโก. สจาหํ น ปฏิคฺคเหสฺสามิ, เอวํ ตุมฺเห ปฺุเน ปริพาหิรา ภวิสฺสถ; น มยฺหํ อิมินา อตฺโถ, อปิจ ตุมฺหากํ เอว อนุกมฺปาย ปฏิคฺคณฺหามี’ติ. ตทุปาทาย พหุมฺปิ จีวรํ ปฏิคฺคณฺหาติ, พหุมฺปิ ปิณฺฑปาตํ…เป… เภสชฺชปริกฺขารํ ปฏิคฺคณฺหาติ. ยา เอวรูปา ภากุฏิกา ภากุฏิยํ กุหนา กุหายนา กุหิตตฺตํ – อิทํ วุจฺจติ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาตํ กุหนวตฺถู’’ติ.
ปาปิจฺฉสฺเสว ปน สโต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมปริทีปนวาจาย ¶ ตถา ตถา วิมฺหาปนํ สามนฺตชปฺปนสงฺขาตํ กุหนวตฺถูติ เวทิตพฺพํ. ยถาห – ‘‘กตมํ สามนฺตชปฺปนสงฺขาตํ กุหนวตฺถุ ¶ ? อิเธกจฺโจ ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต สมฺภาวนาธิปฺปาโย ‘เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตี’ติ อริยธมฺมสนฺนิสฺสิตํ วาจํ ภาสติ – ‘โย เอวรูปํ จีวรํ ธาเรติ, โส สมโณ มเหสกฺโข’ติ ภณติ; ‘โย เอวรูปํ ปตฺตํ, โลหถาลกํ, ธมกรณํ, ปริสาวนํ, กฺุจิกํ, อุปาหนํ, กายพนฺธนํ, อาโยคํ ธาเรติ, โส สมโณ มเหสกฺโข’ติ ภณติ; ‘ยสฺส เอวรูโป อุปชฺฌาโย, อาจริโย, สมานุปชฺฌาโย, สมานาจริยโก, มิตฺโต สนฺทิฏฺโ, สมฺภตฺโต, สหาโย; โย เอวรูเป วิหาเร วสติ – อฑฺฒโยเค, ปาสาเท, หมฺมิเย, คุหายํ, เลเณ, กุฏิยา, กูฏาคาเร, อฏฺเฏ, มาเฬ, อุโทสิเต, อุทฺทณฺเฑ, อุปฏฺานสาลายํ, มณฺฑเป, รุกฺขมูเล วสติ, โส สมโณ มเหสกฺโข’ติ ภณติ.
‘‘อถ วา โกรชิกโกรชิโก ภากุฏิกภากุฏิโก กุหกกุหโก ลปกลปโก มุขสมฺภาวิโต ‘อยํ สมโณ อิมาสํ เอวรูปานํ สนฺตานํ วิหารสมาปตฺตีนํ ลาภี’ติ ตาทิสํ คมฺภีรํ คูฬฺหํ นิปุณํ ปฏิจฺฉนฺนํ โลกุตฺตรํ สฺุตาปฏิสํยุตฺตํ กถํ กเถติ. ยา เอวรูปา ภากุฏิกา ภากุฏิยํ กุหนา กุหายนา กุหิตตฺตํ – อิทํ วุจฺจติ สามนฺตชปฺปนสงฺขาตํ กุหนวตฺถู’’ติ.
ปาปิจฺฉสฺเสว ¶ ปน สโต สมฺภาวนาธิปฺปายกเตน อิริยาปเถน วิมฺหาปนํ อิริยาปถสนฺนิสฺสิตํ กุหนวตฺถูติ เวทิตพฺพํ. ยถาห – ‘‘กตมํ อิริยาปถสงฺขาตํ กุหนวตฺถุ? อิเธกจฺโจ ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต สมฺภาวนาธิปฺปาโย ‘เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตี’ติ คมนํ สณฺเปติ, สยนํ สณฺเปติ, ปณิธาย คจฺฉติ, ปณิธาย ติฏฺติ, ปณิธาย นิสีทติ, ปณิธาย เสยฺยํ กปฺเปติ, สมาหิโต วิย คจฺฉติ, สมาหิโต วิย ติฏฺติ, นิสีทติ, เสยฺยํ กปฺเปติ, อาปาถกชฺฌายีว โหติ. ยา เอวรูปา อิริยาปถสฺส อาปนา ปนา สณฺปนา ภากุฏิกา ภากุฏิยํ กุหนา กุหายนา กุหิตตฺตํ – อิทํ วุจฺจติ อิริยาปถสงฺขาตํ กุหนวตฺถู’’ติ.
ตตฺถ ¶ ¶ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาเตนาติ ปจฺจยปฏิเสวนนฺติ เอวํ สงฺขาเตน ปจฺจยปฏิเสวเนน. สามนฺตชปฺปิเตนาติ สมีเป ภณิเตน. อิริยาปถสฺสาติ จตุอิริยาปถสฺส. อาปนาติ อาทิปนา, อาทเรน วา ปนา. ปนาติ ปนากาโร. สณฺปนาติ อภิสงฺขรณา, ปาสาทิกภาวกรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ภากุฏิกาติ ปธานปุริมฏฺิตภาวทสฺสเนน ภากุฏิกรณํ, มุขสงฺโกโจติ วุตฺตํ โหติ. ภากุฏิกรณํ สีลมสฺสาติ ภากุฏิโก; ภากุฏิกสฺส ภาโว ภากุฏิยํ. กุหนาติ วิมฺหาปนํ, กุหสฺส อายนา กุหายนา. กุหิตสฺส ภาโว กุหิตตฺตนฺติ.
๘๖๒. ลปนานิทฺเทเส อาลปนาติ วิหารํ อาคตมนุสฺเส ทิสฺวา กิมตฺถาย โภนฺโต อาคตา? กึ ภิกฺขู นิมนฺเตตุํ? ยทิ เอวํ คจฺฉถ; อหํ ปจฺฉโต ภิกฺขู คเหตฺวา อาคจฺฉามี’ติ เอวํ อาทิโตว ลปนา. อถ วา อตฺตานํ อุปเนตฺวา ‘อหํ ติสฺโส, มยิ ราชา ปสนฺโน, มยิ อสุโก จ อสุโก จ ราชมหามตฺโต ปสนฺโน’ติ เอวํ อตฺตุปนายิกา ลปนา อาลปนา. ลปนาติ ปุฏฺสฺส สโต วุตฺตปฺปการเมว ลปนํ. สลฺลปนาติ คหปติกานํ อุกฺกณฺเน ภีตสฺส โอกาสํ ทตฺวา สุฏฺุ ลปนา. อุลฺลปนาติ ‘มหากุฏุมฺพิโก, มหานาวิโก, มหาทานปตี’ติ เอวํ อุทฺธํ กตฺวา ลปนา. สมุลฺลปนาติ สพฺพโตภาเคน อุทฺธํ กตฺวา ลปนา. อุนฺนหนาติ ‘อุปาสกา, ปุพฺเพ อีทิเส กาเล ทานํ เทถ; อิทานิ กึ น เทถา’ติ เอวํ ยาว ‘ทสฺสาม, ภนฺเต, โอกาสํ น ลภามา’ติอาทีนิ วทนฺติ ตาว อุทฺธํ นหนา, เวนาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา อุจฺฉุหตฺถํ ทิสฺวา ‘กุโต อาคตา, อุปาสกา’ติ ปุจฺฉติ. ‘อุจฺฉุเขตฺตโต, ภนฺเต’ติ. ‘กึ ตตฺถ อุจฺฉุ มธุร’นฺติ? ‘ขาทิตฺวา, ภนฺเต, ชานิตพฺพ’นฺติ. ‘น, อุปาสกา, ภิกฺขุสฺส ‘อุจฺฉุํ เทถา’ติ วตฺตุํ วฏฺฏตี’ติ ยา เอวรูปา นิพฺเพเนฺตสฺสาปิ ¶ เวนกกถา, สา อุนฺนหนา ¶ . สพฺพโตภาเคน ปุนปฺปุนํ อุนฺนหนา สมุนฺนหนา. อุกฺกาจนาติ ‘เอตํ กุลํ มํเยว ชานาติ, สเจ เอตฺถ เทยฺยธมฺโม อุปฺปชฺชติ, มยฺหเมว เทตี’ติ เอวํ อุกฺขิปิตฺวา กาจนา อุกฺกาจนา; อุทฺทีปนาติ วุตฺตํ โหติ.
เตลกนฺทริกวตฺถุ เจตฺถ วตฺตพฺพํ. ทฺเว กิร ภิกฺขู เอกํ คามํ ปวิสิตฺวา อาสนสาลาย นิสีทิตฺวา เอกํ กุมาริกํ ทิสฺวา ปกฺโกสึสุ. ตาย ¶ อาคตาย ตตฺเรโก เอกํ ปุจฺฉิ – ‘อยํ, ภนฺเต, กสฺส กุมาริกา’ติ? ‘อมฺหากํ อุปฏฺายิกาย เตลกนฺทริกาย ธีตา, อาวุโส. อิมิสฺสา มาตา มยิ เคหํ คเต สปฺปึ ททมานา ฆเฏเนว เทติ, อยมฺปิ มาตา วิย ฆเฏเนว เทตี’ติ อุกฺกาเจติ.
สพฺพโตภาเคน ปุนปฺปุนํ อุกฺกาจนา สมุกฺกาจนา. อนุปฺปิยภาณิตาติ สจฺจานุรูปํ วา ธมฺมานุรูปํ วา อนปโลเกตฺวา ปุนปฺปุนํ ปิยภณนเมว. จาฏุกมฺยตาติ นีจวุตฺติตา; อตฺตานํ เหฏฺโต เปตฺวา วตฺตนํ. มุคฺคสูปฺยตาติ มุคฺคสูปสทิสตา. ยถา มุคฺเคสุ ปจฺจมาเนสุ โกจิเทว น ปจฺจติ, อวเสสา ปจฺจนฺติ; เอวํ ยสฺส ปุคฺคลสฺส วจเน กิฺจิเทว สจฺจํ โหติ, เสสํ อลิกํ – อยํ ปุคฺคโล มุคฺคสูปฺโยติ วุจฺจติ. ตสฺส ภาโว มุคฺคสูปฺยตา. ปาริภฏยตาติ ปาริภฏยภาโว. โย หิ กุลทารเก ธาตี วิย องฺเกน วา ขนฺเธน วา ปริภฏติ, ธาเรตีติ อตฺโถ; ตสฺส ปริภฏสฺส กมฺมํ ปาริภฏยํ; ปาริภฏยสฺส ภาโว ปาริภฏยตาติ.
๘๖๓. เนมิตฺติกตานิทฺเทเส นิมิตฺตนฺติ ยํกิฺจิ ปเรสํ ปจฺจยทานสํโยชนกํ กายวจีกมฺมํ. นิมิตฺตกมฺมนฺติ นิมิตฺตสฺส กรณโกสลฺลํ.
ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร ปิณฺฑปาติโก อุปฏฺากกมฺมารสฺส เคหทฺวารํ คนฺตฺวา ‘กึ ภนฺเต’ติ ปุจฺฉิโต จีวรนฺตเรน หตฺถํ นีหริตฺวา ¶ วาสิปหรณาการํ อกาสิ. กมฺมาโร ‘สลฺลกฺขิตํ เม, ภนฺเต’ติ วาสึ กตฺวา อทาสิ. โอภาโสติ ปจฺจยปฏิสํยุตฺตกถา. โอภาสกมฺมนฺติ วจฺฉกปาลเก ทิสฺวา ‘กึ อิเม วจฺฉา ขีรโควจฺฉา, ตกฺกโควจฺฉา’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘ขีรโควจฺฉา, ภนฺเต’ติ วุตฺเต ‘น ขีรโควจฺฉา, ยทิ ขีรโควจฺฉา สิยุํ ภิกฺขูปิ ขีรํ ลเภยฺยุ’นฺติ เอวมาทินา นเยน เตสํ ทารกานํ มาตาปิตูนํ นิเวเทตฺวา ขีรทาปนาทิกํ โอภาสกรณํ. สามนฺตชปฺปาติ สมีปํ กตฺวา ชปฺปนํ.
ชาตกภาณกวตฺถุ ¶ เจตฺถ กเถตพฺพํ. เอโก กิร ชาตกภาณกตฺเถโร ภฺุชิตุกาโม อุปฏฺายิกาย เคหํ ปวิสิตฺวา นิสีทิ. สา อทาตุกามา ‘ตณฺฑุลา นตฺถี’ติ ภณนฺตี ตณฺฑุเล อาหริตุกามา วิย ปฏิวิสฺสกฆรํ คตา. ภิกฺขุ อนฺโตคพฺภํ ปวิสิตฺวา โอโลเกนฺโต กวาฏโกเณ ¶ อุจฺฉุํ, ภาชเน คุฬํ, ปิฏเก โลณมจฺฉผาลํ, กุมฺภิยํ ตณฺฑุเล, ฆเฏ ฆตํ ทิสฺวา นิกฺขมิตฺวา นิสีทิ. ฆรณี ‘ตณฺฑุลํ นาลตฺถ’นฺติ อาคตา. เถโร ‘อุปาสิเก, อชฺช ภิกฺขา น สมฺปชฺชิสฺสตี’ติ ปฏิกจฺเจว นิมิตฺตํ อทฺทส’นฺติ อาห. ‘กึ, ภนฺเต’ติ? ‘กวาฏโกเณ นิกฺขิตฺตํ อุจฺฉุํ วิย สปฺปํ อทฺทสํ; ‘ตํ ปหริสฺสามี’ติ โอโลเกนฺโต ภาชเน ปิตํ คุฬปิณฺฑํ วิย ปาสาณํ เลฑฺฑุเกน; ปหเฏน สปฺเปน กตํ, ปิฏเก นิกฺขิตฺตโลณมจฺฉผาลสทิสํ, ผณํ; ตสฺส ตํ เลฑฺฑุํ ฑํสิตุกามสฺส, กุมฺภิยา ตณฺฑุลสทิเส ทนฺเต; อถสฺส กุปิตสฺส, ฆเฏ ปกฺขิตฺตฆตสทิสํ, มุขโต นิกฺขมนฺตํ วิสมิสฺสกํ เขฬ’นฺติ. สา ‘น สกฺกา มุณฺฑกํ วฺเจตุ’นฺติ อุจฺฉุํ ทตฺวา โอทนํ ปจิตฺวา ฆตคุฬมจฺเฉหิ สทฺธึ อทาสีติ. เอวํ สมีปํ กตฺวา ชปฺปนํ สามนฺตชปฺปาติ เวทิตพฺพํ. ปริกถาติ ยถา ตํ ลภติ ตถา ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา กถนํ.
๘๖๔. นิปฺเปสิกตานิทฺเทเส อกฺโกสนาติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนา. วมฺภนาติ ปริภวิตฺวา กถนํ. ครหนาติ ¶ ‘อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน’ติอาทินา นเยน โทสาโรปนา. อุกฺเขปนาติ ‘มา เอตํ เอตฺถ กเถถา’ติ วาจาย อุกฺขิปนํ. สพฺพโตภาเคน สวตฺถุกํ สเหตุกํ กตฺวา อุกฺเขปนา สมุกฺเขปนา. อถวา อเทนฺตํ ‘อโห ทานปตี’ติ เอวํ อุกฺขิปนํ อุกฺเขปนา. ‘มหาทานปตี’ติ เอวํ สุฏฺุ อุกฺเขปนา สมุกฺเขปนา. ขิปนาติ ‘กึ อิมสฺส ชีวิตํ พีชโภชิโน’ติ เอวํ อุปฺปณฺฑนา. สงฺขิปนาติ ‘กึ อิมํ อทายโกติ ภณถ โย นิจฺจกาลํ สพฺเพสมฺปิ นตฺถีติ วจนํ เทตี’ติ เอวํ สุฏฺุตรํ อุปฺปณฺฑนา. ปาปนาติ อทายกตฺตสฺส อวณฺณสฺส วา ปาปนํ. สพฺพโตภาเคน ปาปนา สมฺปาปนา. อวณฺณหาริกาติ ‘เอวํ เม อวณฺณภยาปิ ทสฺสตี’ติ เคหโต เคหํ, คามโต คามํ, ชนปทโต ชนปทํ อวณฺณหรณํ. ปรปิฏฺิมํสิกตาติ ปุรโต มธุรํ ภณิตฺวา ปรมฺมุเข อวณฺณภาสิตา. เอสา หิ อภิมุขํ โอโลเกตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ปรมฺมุขานํ ปิฏฺิมํสขาทนํ วิย โหติ. ตสฺมา ปรปิฏฺิมํสิกตาติ วุตฺตา. อยํ วุจฺจติ นิปฺเปสิกตาติ อยํ ยสฺมา เวฬุเปสิกา วิย อพฺภงฺคํ ปรสฺส คุณํ นิปฺเปเสติ นิปฺุฉติ, ยสฺมา วา คนฺธชาตํ นิปิสิตฺวา คนฺธมคฺคนา วิย ¶ ปรคุเณ ¶ นิปิสิตฺวา วิจุณฺเณตฺวา เอสา ลาภมคฺคนา โหติ, ตสฺมา นิปฺเปสิกตาติ วุจฺจตีติ.
๘๖๕. ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตานิทฺเทเส นิชิคีสนตาติ มคฺคนา. อิโต ลทฺธนฺติ อิมมฺหา เคหา ลทฺธํ. อมุตฺราติ อมุกมฺหิ เคเห. เอฏฺีติ อิจฺฉนา. คเวฏฺีติ มคฺคนา. ปริเยฏฺีติ ปุนปฺปุนํ มคฺคนา. อาทิโต ปฏฺาย ลทฺธํ ลทฺธํ ภิกฺขํ ตตฺร ตตฺร กุลทารกานํ ทตฺวา อนฺเต ขีรยาคุํ ลภิตฺวา คตภิกฺขุวตฺถุ เจตฺถ กเถตพฺพํ. เอสนาติอาทีนิ เอฏฺีติอาทีนํ เววจนานิ, ตสฺมา เอฏฺีติ เอสนา, คเวฏฺีติ คเวสนา, ปริเยฏฺีติ ปริเยสนา. อิจฺเจวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.
๘๖๖. เสยฺยมานนิทฺเทเส ¶ ชาติยาติ ขตฺติยภาวาทิชาติสมฺปตฺติยา. โคตฺเตนาติ โคตมโคตฺตาทินา อุกฺกฏฺโคตฺเตน. โกลปุตฺติเยนาติ มหากุลภาเวน. วณฺณโปกฺขรตายาติ วณฺณสมฺปนฺนสรีรตาย. สรีรฺหิ โปกฺขรนฺติ วุจฺจติ, ตสฺส วณฺณสมฺปตฺติยา อภิรูปภาเวนาติ อตฺโถ. ธเนนาติอาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว. มานํ ชปฺเปตีติ เอเตสุ เยน เกนจิ วตฺถุนา ‘เสยฺโยหมสฺมี’ติ มานํ ปวตฺเตติ กโรติ.
๘๖๗. สทิสมานนิทฺเทเส มานํ ชปฺเปตีติ เอเตสุ เยน เกนจิ วตฺถุนา ‘สทิโสหมสฺมี’ติ มานํ ปวตฺเตติ. อยเมตฺถ อตฺถโต วิเสโส. ปาฬิยํ ปน นานากรณํ นตฺถิ.
๘๖๘. หีนมานนิทฺเทเส โอมานํ ชปฺเปตีติ เหฏฺามานํ ปวตฺเตติ. โอมาโนติ ลามโก เหฏฺามาโน. โอมฺนา โอมฺิตตฺตนฺติ อาการภาวนิทฺเทโส. หีฬนาติ ชาติอาทีหิ อตฺตชิคุจฺฉนา. โอหีฬนาติ อติเรกโต หีฬนา. โอหีฬิตตฺตนฺติ ตสฺเสว ภาวนิทฺเทโส. อตฺตฺุาติ อตฺตานํ หีนํ กตฺวา ชานนา. อตฺตาวฺาติ อตฺตานํ อวชานนา. อตฺตปริภโวติ ชาติอาทิสมฺปตฺตินามเมว ชาตาติ อตฺตานํ ปริภวิตฺวา มฺนา. เอวมิเม ตโย มานา ปุคฺคลํ อนิสฺสาย ชาติอาทิวตฺถุวเสเนว กถิตา. เตสุ เอเกโก ติณฺณมฺปิ เสยฺยสทิสหีนานํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ ‘เสยฺโยหมสฺมี’ติ มาโน เสยฺยสฺเสว ยาถาวมาโน, เสสานํ อยาถาวมาโน. ‘สทิโสหมสฺมี’ติ ¶ มาโน ¶ สทิสสฺเสว ยาถาวมาโน, เสสานํ อยาถาวมาโน. ‘หีโนหมสฺมี’ติ มาโน หีนสฺเสว ยาถาวมาโน, เสสานํ อยาถาวมาโน.
๘๖๙. ตตฺถ กตโม เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติอาทโย ปน นว มานา ปุคฺคลํ นิสฺสาย กถิตา. เตสุ ตโย ตโย เอเกกสฺส อุปฺปชฺชนฺติ. ตตฺถ ทหตีติ เปติ. ตํ นิสฺสายาติ ตํ เสยฺยโต ทหนํ นิสฺสาย. เอตฺถ ปน เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน ราชูนฺเจว ปพฺพชิตานฺจ อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ ‘รฏฺเน วา ธเนน วา วาหเนหิ วา โก มยา สทิโส อตฺถี’ติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ ‘สีลธุตงฺคาทีหิ ¶ โก มยา สทิโส อตฺถี’ติ เอตํ มานํ กโรติ.
๘๗๐. เสยฺยสฺส สทิโสหมสฺมีติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ ‘รฏฺเน วา ธเนน วา วาหเนหิ วา อฺราชูหิ สทฺธึ มยฺหํ กึ นานากรณ’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ ‘สีลธุตงฺคาทีหิ อฺเน ภิกฺขุนา สทฺธึ มยฺหํ กึ นานากรณ’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ.
๘๗๑. เสยฺยสฺส หีโนหมสฺมีติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ยสฺส หิ รฺโ รฏฺํ วา ธนํ วา วาหนานิ วา สมฺปนฺนานิ น โหนฺติ, โส ‘มยฺหํ ราชาติ โวหารสุขมตฺตเมว; กึ ราชา นาม อห’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ ‘อปฺปลาภสกฺกาโร อหํ. ธมฺมกถิโก พหุสฺสุโต มหาเถโรติ กถามตฺตเมว. กึ ธมฺมกถิโก นามาหํ, กึ พหุสฺสุโต นามาหํ, กึ มหาเถโร นามาหํ ยสฺส เม ลาภสกฺกาโร นตฺถี’ติ เอตํ มานํ กโรติ.
๘๗๒. สทิสสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มานาทโย อมจฺจาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. อมจฺโจ หิ รฏฺิโย วา ‘โภคยานวาหนาทีหิ โก มยา สทิโส อฺโ ราชปุริโส อตฺถี’ติ วา ‘มยฺหํ อฺเหิ สทฺธึ กึ นานากรณ’นฺติ วา ‘อมจฺโจติ นามมตฺตเมว มยฺหํ; ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ เม นตฺถิ. กึ อมจฺโจ นามาห’นฺติ เอเต มาเน กโรติ.
๘๗๕. หีนสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มานาทโย ทาสาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. ทาโส หิ ‘มาติโต วา ปิติโต วา โก มยา สทิโส อฺโ ทาโส ¶ นาม อตฺถิ’ อฺเ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา กุจฺฉิเหตุ ¶ ทาสา นาม ชาตา. อหํ ปน ปเวณีอาคตตฺตา เสยฺโย’ติ วา ‘ปเวณีอาคตภาเวน อุภโตสุทฺธิกทาสตฺเตน อสุกทาเสน นาม สทฺธึ กึ มยฺหํ นานากรณ’นฺติ วา ‘กุจฺฉิวเสนาหํ ทาสพฺยํ อุปคโต. มาตาปิตุโกฏิยา ปน เม ทาสฏฺานํ นตฺถิ. กึ ทาโส นาม อห’นฺติ วา เอเต มาเน กโรติ. ยถา จ ทาโส เอวํ ปุกฺกุสจณฺฑาลาทโยปิ เอเต มาเน กโรนฺติเยว.
เอตฺถ จ ‘เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมี’ติ อุปฺปนฺนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. ตถา ‘สทิสสฺส สทิโสหมสฺมี’ติ ‘หีนสฺส หีโนหมสฺมี’ติ อุปฺปนฺนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. ตตฺถ ยาถาวมานา อรหตฺตมคฺควชฺฌา, อยาถาวมานา โสตาปตฺติมคฺควชฺฌา.
๘๗๘. เอวํ สวตฺถุเก มาเน กเถตฺวา อิทานิ อวตฺถุกํ นิพฺพตฺติตมานเมว ¶ ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม มาโนติอาทิ วุตฺตํ.
๘๗๙. อติมานนิทฺเทเส เสยฺยาทิวเสน ปุคฺคลํ อนามสิตฺวา ชาติอาทีนํ วตฺถุวเสเนว นิทฺทิฏฺโ. ตตฺถ อติมฺตีติ ‘ชาติอาทีหิ มยา สทิโส นตฺถี’ติ อติกฺกมิตฺวา มฺติ.
๘๘๐. มานาติมานนิทฺเทเส โย เอวรูโปติ โย เอโส ‘อยํ ปุพฺเพ มยา สทิโส, อิทานิ อหํ เสฏฺโ, อหํ หีนตโร’ติ อุปฺปนฺโน มาโน. อยํ ภาราติภาโร วิย ปุริมํ สทิสมานํ อุปาทาย มานาติมาโนติ ทสฺเสตุํ เอวมาห.
๘๘๑. โอมานนิทฺเทโส หีนมานนิทฺเทสสทิโสเยว. เวเนยฺยวเสน ปน โส ‘หีโนหมสฺมี’ติ มาโน นาม วุตฺโต – อยํ โอมาโน นาม. อปิเจตฺถ ‘ตฺวํ ชาติมา, กากชาติ วิย เต ชาติ; ตฺวํ โคตฺตวา, จณฺฑาลโคตฺตํ วิย เต โคตฺตํ; ตุยฺหํ สโร อตฺถิ, กากสฺสโร วิย เต สโร’ติ เอวํ อตฺตานํ เหฏฺา กตฺวา ปวตฺตนวเสน อยํ โอมาโนติ เวทิตพฺโพ.
๘๘๒. อธิมานนิทฺเทเส ¶ อปฺปตฺเต ปตฺตสฺิตาติ จตฺตาริ สจฺจานิ อปฺปตฺวา ปตฺตสฺิตาย ¶ . อกเตติ จตูหิ มคฺเคหิ กตฺตพฺพกิจฺเจ อกเตเยว. อนธิคเตติ จตุสจฺจธมฺเม อนธิคเต. อสจฺฉิกเตติ อรหตฺเตน อปจฺจกฺขกเต. อยํ วุจฺจติ อธิมาโนติ อยํ อธิคตมาโน นาม วุจฺจติ.
อยํ ปน กสฺส อุปฺปชฺชติ, กสฺส นุปฺปชฺชตีติ? อริยสาวกสฺส ตาว นุปฺปชฺชติ. โส หิ มคฺคผลนิพฺพานปหีนกิเลสาวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขเณน สฺชาตโสมนสฺโส อริยคุณปฏิเวเธ นิกฺกงฺโข. ตสฺมา โสตาปนฺนาทีนํ ‘อหํ สกทาคามี’ติอาทิวเสน มาโน นุปฺปชฺชติ; ทุสฺสีลสฺสาปิ นุปฺปชฺชติ; โส หิ อริยคุณาธิคเม นิราโสว. สีลวโตปิ ปริจฺจตฺตกมฺมฏฺานสฺส นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตสฺส นุปฺปชฺชติ.
ปริสุทฺธสีลสฺส ปน กมฺมฏฺาเน อปฺปมตฺตสฺส นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ปจฺจยปริคฺคเหน วิติณฺณกงฺขสฺส ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส อุปฺปชฺชติ; อุปฺปนฺเน จ สุทฺธสมถลาภี วา สุทฺธวิปสฺสนาลาภี วา อนฺตรา เปติ. โส หิ ทสปิ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ วสฺสานิ กิเลสสมุทาจารํ ¶ อปสฺสนฺโต ‘อหํ โสตาปนฺโน’ติ วา ‘สกทาคามี’ติ วา ‘อนาคามี’ติ วา มฺติ. สมถวิปสฺสนาลาภี ปน อรหตฺเตเยว เปติ. ตสฺส หิ สมาธิพเลน กิเลสา วิกฺขมฺภิตา, วิปสฺสนาพเลน สงฺขารา สุปริคฺคหิตา. ตสฺมา สฏฺิปิ วสฺสานิ อสีติปิ วสฺสานิ วสฺสสตมฺปิ กิเลสา น สมุทาจรนฺติ; ขีณาสวสฺเสว จิตฺตจาโร โหติ. โส เอวํ ทีฆรตฺตํ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสนฺโต อนฺตรา อฏฺตฺวาว ‘อรหา อห’นฺติ มฺติ, อุจฺจมาลงฺกวาสี มหานาคตฺเถโร วิย, หงฺกนกวาสี มหาทตฺตตฺเถโร วิย, จิตฺตลปพฺพเต นิงฺกโปณฺณปธานฆรวาสี จูฬสุมตฺเถโร วิย จ.
ตตฺริทํ เอกวตฺถุปริทีปนํ – ตลงฺครวาสี ธมฺมทินฺนตฺเถโร กิร นาม เอโก ปภินฺนปฏิสมฺภิโท มหาขีณาสโว มหโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส โอวาททายโก อโหสิ. โส เอกทิวสํ อตฺตโน ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา ‘กินฺนุ โข อมฺหากํ อาจริยสฺส อุจฺจตลิงฺกวาสีมหานาคตฺเถรสฺส สมณกิจฺจํ ¶ มตฺถกํ ปตฺโต, โน’ติ อาวชฺชนฺโต ปุถุชฺชนภาวเมวสฺส ทิสฺวา ‘มยิ อคจฺฉนฺเต ปุถุชฺชนกาลกิริยเมว กริสฺสตี’ติ จ ตฺวา อิทฺธิยา เวหาสํ อุปฺปติตฺวา ทิวาฏฺาเน นิสินฺนสฺส เถรสฺส สมีเป โอโรหิตฺวา วนฺทิตฺวา วตฺตํ ทสฺเสตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. ‘กึ, อาวุโส ธมฺมทินฺน, อกาเล อาคโตสี’ติ จ วุตฺโต ‘ปฺหํ, ภนฺเต, ปุจฺฉิตุํ อาคโตมฺหี’ติ อาห.
ตโต ‘ปุจฺฉาวุโส, ชานมาโน กถยิสฺสามี’ติ วุตฺโต ปฺหาสหสฺสํ ปุจฺฉิ. เถโร ปุจฺฉิตปุจฺฉิตํ ปฺหํ อสชฺชมาโนว กเถสิ. ตโต ‘อติติกฺขํ เต, ภนฺเต, าณํ. กทา ตุมฺเหหิ อยํ ธมฺโม อธิคโต’ติ วุตฺโต ‘อิโต สฏฺิวสฺสกาเล, อาวุโส’ติ อาห. ‘สมาธิมฺปิ, ภนฺเต, วฬฺเชถา’ติ? ‘น อิทํ, อาวุโส, ภาริย’นฺติ. ‘เตน หิ, ภนฺเต, เอกํ หตฺถึ มาเปถา’ติ. เถโร สพฺพเสตํ หตฺถึ มาเปสิ. ‘อิทานิ, ภนฺเต, ยถา อยํ หตฺถี อฺจิตกณฺโณ ปสาริตนงฺคุฏฺโ โสณฺฑํ มุเข ปกฺขิปิตฺวา เภรวํ โกฺจนาทํ กโรนฺโต ตุมฺหากํ อภิมุโข อาคจฺฉติ ตถา ตํ กโรถา’ติ. เถโร ตถา กตฺวา เวเคน อาคจฺฉโต หตฺถิสฺส เภรวํ อาการํ ทิสฺวา อุฏฺาย ปลายิตุํ อารทฺโธ. ตเมนํ ขีณาสวตฺเถโร หตฺถํ ¶ ปสาเรตฺวา จีวรกณฺเณ คเหตฺวา ‘ภนฺเต, ขีณาสวสฺส สารชฺชํ นาม โหตี’ติ อาห. โส ตสฺมึ กาเล อตฺตโน ปุถุชฺชนภาวํ ตฺวา ‘อวสฺสโย เม, อาวุโส ธมฺมทินฺน, โหหี’ติ วตฺวา ปาทมูเล อุกฺกุฏิกํ นิสีทิ. ‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ อวสฺสโย ภวิสฺสามิจฺเจวาหํ อาคโต, มา จินฺตยิตฺถา’ติ กมฺมฏฺานํ กเถสิ. เถโร กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา จงฺกมํ อารุยฺห ตติเย ปทวาเร อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เถโร กิร โทสจริโต อโหสิ.
๘๘๓. อสฺมิมานนิทฺเทเส รูปํ อสฺมีติ มาโนติ ‘อหํ รูป’นฺติ อุปฺปนฺนมาโน. ฉนฺโทติ มานํ อนุคตจฺฉนฺโทว. ตถา อนุสโย. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย.
๘๘๔. มิจฺฉามานนิทฺเทเส ปาปเกน วา กมฺมายตเนนาติ อาทีสุ ปาปกํ กมฺมายตนํ นาม เกวฏฺฏมจฺฉพนฺธเนสาทาทีนํ กมฺมํ. ปาปกํ สิปฺปายตนํ ¶ นาม มจฺฉชาลขิปนกุมินกรเณสุ เจว ปาสโอฑฺฑนสูลาโรปนาทีสุ จ เฉกตา. ปาปกํ วิชฺชาฏฺานํ นาม ยา กาจิ ปรูปฆาตวิชฺชา. ปาปกํ สุตํ นาม ภารตยุทฺธสีตาหรณาทิปฏิสํยุตฺตํ. ปาปกํ ปฏิภานํ นาม ทุพฺภาสิตยุตฺตํ กปฺปนาฏกวิลปฺปนาทิปฏิภานํ. ปาปกํ สีลํ นาม อชสีลํ โคสีลํ. วตมฺปิ อชวตโควตเมว. ปาปิกา ทิฏฺิ ปน ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺิคเตสุ ยา กาจิ ทิฏฺิ.
๘๘๕. าติวิตกฺกนิทฺเทสาทีสุ ‘มยฺหํ าตโย สุขชีวิโน สมฺปตฺติยุตฺตา’ติ เอวํ ปฺจกามคุณสนฺนิสฺสิเตน ¶ เคหสิตเปเมน าตเก อารพฺภ อุปฺปนฺนวิตกฺโกว าติวิตกฺโก นาม. ‘ขยํ คตา วยํ คตา สทฺธา ปสนฺนา’ติ เอวํ ปวตฺโต ปน าติวิตกฺโก นาม น โหติ.
๘๘๖. ‘อมฺหากํ ชนปโท สุภิกฺโข สมฺปนฺนสสฺโส’ติ ตุฏฺมานสฺส เคหสิตเปมวเสเนว อุปฺปนฺนวิตกฺโก ชนปทวิตกฺโก นาม. ‘อมฺหากํ ชนปเท มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตา วยํ คตา’ติ เอวํ ปวตฺโต ปน ชนปทวิตกฺโก นาม น โหติ.
๘๘๗. อมรตฺถาย วิตกฺโก, อมโร วา วิตกฺโกติ อมรวิตกฺโก. ตตฺถ ‘อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีหิ ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สมฺปราเย อตฺตา ¶ สุขี โหติ อมโร’ติ ทุกฺกรการิกํ กโรนฺตสฺส ตาย ทุกฺกรการิกาย ปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก อมรตฺถาย วิตกฺโก นาม. ทิฏฺิคติโก ปน ‘สสฺสตํ วเทสี’ติอาทีนิ ปุฏฺโ ‘เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โน’ อฺถาติปิ เม โน, โนติปิ เม โน, โน โนติปิ เม โน’ติ (ที. นิ. ๑.๖๒) วิกฺเขปํ อาปชฺชติ, ตสฺส โส ทิฏฺิคตปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก. ยถา อมโร นาม มจฺโฉ อุทเก คเหตฺวา มาเรตุํ น สกฺกา, อิโต จิโต จ ธาวติ, คาหํ น คจฺฉติ; เอวเมว เอกสฺมึ ปกฺเข อสณฺหนโต น มรตีติ อมโร นาม โหติ. ตํ ทุวิธมฺปิ เอกโต กตฺวา อยํ วุจฺจติ อมรวิตกฺโกติ วุตฺตํ.
๘๘๘. ปรานุทฺทยตาปฏิสํยุตฺโตติ อนุทฺทยตาปติรูปเกน เคหสิตเปเมน ปฏิสํยุตฺโต. สหนนฺทีติอาทีสุ อุปฏฺาเกสุ นนฺทนฺเตสุ โสจนฺเตสุ จ เตหิ สทฺธึ ทิคุณํ นนฺทติ, ทิคุณํ โสจติ; เตสุ สุขิเตสุ ¶ ทิคุณํ สุขิโต โหติ, ทุกฺขิเตสุ ทิคุณํ ทุกฺขิโต โหติ. อุปฺปนฺเนสุ กิจฺจกรณีเยสูติ เตสุ มหนฺเตสุ วา ขุทฺทเกสุ วา กมฺเมสุ อุปฺปนฺเนสุ. อตฺตนา วา โยคํ อาปชฺชตีติ ตานิ ตานิ กิจฺจานิ สาเธนฺโต ปฺตฺตึ วีติกฺกมติ, สลฺเลขํ โกเปติ. โย ตตฺถาติ โย ตสฺมึ สํสฏฺวิหาเร, ตสฺมึ วา โยคาปชฺชเน เคหสิโต วิตกฺโก – อยํ ปรานุทฺทยตาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก นาม.
๘๘๙. ลาภสกฺการสิโลกปฏิสํยุตฺโตติ จีวราทิลาเภน เจว สกฺกาเรน จ กิตฺติสทฺเทน จ สทฺธึ อารมฺมณกรณวเสน ปฏิสํยุตฺโต.
๘๙๐. อนวฺตฺติปฏิสํยุตฺโตติ ¶ ‘อโห วต มํ ปเร น อวชาเนยฺยุํ, น โปเถตฺวา วิเหเตฺวา กเถยฺยุ’นฺติ เอวํ อนวฺาตภาวปตฺถนาย สทฺธึ อุปฺปชฺชนวิตกฺโก. โย ตตฺถ เคหสิโตติ โย ตสฺมึ ‘มา มํ ปเร อวชานึสู’ติ อุปฺปนฺเน จิตฺเต ปฺจกามคุณสงฺขาตเคหนิสฺสิโต หุตฺวา อุปฺปนฺนวิตกฺโก. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมวาติ.
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๒.) ทุกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๙๑. ทุเกสุ โกธนิทฺเทสาทโย เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เหฏฺา อนาคเตสุ ปน อุปนาหนิทฺเทสาทีสุ ปุพฺพกาลํ โกธํ อุปนยฺหตีติ อปรกาลโกโธ อุปนาโห นาม. อุปนยฺหนากาโร ¶ อุปนยฺหนา. อุปนยฺหิตสฺส ภาโว อุปนยฺหิตตฺตํ. อฏฺปนาติ ปมุปฺปนฺนสฺส อนนฺตรฏฺปนา มริยาทฏฺปนา วา. ปนาติ ปกติปนา. สณฺปนาติ สพฺพโตภาเคน ปุนปฺปุนํ อาฆาตฏฺปนา. อนุสํสนฺทนาติ ปมุปฺปนฺเนน โกเธน สทฺธึ อนฺตรํ อทสฺเสตฺวา เอกีภาวกรณา. อนุปฺปพนฺธนาติ ปุริเมน สทฺธึ ปจฺฉิมสฺส ฆฏนา. ทฬฺหีกมฺมนฺติ ถิรกรณํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อุปนนฺธนลกฺขโณ เวรํ อปฺปฏินิสฺสชฺชนรโส อุปนาโหติ วุจฺจติ; เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล เวรํ นิสฺสชฺชิตุํ น สกฺโกติ; ‘เอวํ นาม มํ เอส วตฺตุํ อนนุจฺฉวิโก’ติ อปราปรํ อนุพนฺธติ; อาทิตฺตปูติอลาตํ วิย ชลเตว ¶ ; โธวิยมานํ อจฺฉจมฺมํ วิย, วสาเตลมกฺขิตปิโลติกา วิย จ น ปริสุชฺฌติ.
๘๙๒. มกฺขนภาววเสน มกฺโข; ปรคุณมกฺขนาย ปวตฺเตนฺโตปิ อตฺตโน การณํ, คูถปหรณกํ คูโถ วิย, ปมตรํ มกฺเขตีติ อตฺโถ. ตโต ปรา ทฺเว อาการภาวนิทฺเทสา. นิฏฺุรภาโว นิฏฺุริยํ; ‘ตํ นิสฺสาย เอตฺตกมฺปิ นตฺถี’ติ เขฬปาตนนฺติ อตฺโถ. นิฏฺุริยกมฺมนฺติ นิฏฺุริยกรณํ. คหฏฺโ วา หิ คหฏฺํ, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุํ นิสฺสาย วสนฺโต อปฺปมตฺตเกเนว กุชฺฌิตฺวา ‘ตํ นิสฺสาย เอตฺตกมฺปิ นตฺถี’ติ เขฬํ ปาเตตฺวา ปาเทน มทฺทนฺโต วิย นิฏฺุริยํ นาม กโรติ. ตสฺส ตํ กมฺมํ นิฏฺุริยกมฺมนฺติ วุจฺจติ. ลกฺขณาทิโต ปเนส ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ ¶ มกฺโข, เตสํ วินาสนรโส, ปเรน สุกตานํ กิริยานํ อวจฺฉาทนปจฺจุปฏฺาโน.
ปฬาสตีติ ปฬาโส; ปรสฺส คุเณ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน คุเณหิ สมํ กโรตีติ อตฺโถ. ปฬาสสฺส อายนา ปฬาสายนา. ปฬาโส จ โส อตฺตโน ชยาหรณโต อาหาโร จาติ ปฬาสาหาโร. วิวาทฏฺานนฺติ วิวาทการณํ. ยุคคฺคาโหติ สมธุรคฺคหณํ. อปฺปฏินิสฺสคฺโคติ อตฺตนา คหิตสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชนํ. ลกฺขณาทิโต ¶ ปเนส ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส, ปรคุเณหิ อตฺตโน คุณานํ สมกรณรโส, ปเรสํ คุณปฺปมาเณน อุปฏฺานปจฺจุปฏฺาโน. ปฬาสี หิ ปุคฺคโล ทุติยสฺส ธุรํ น เทติ, สมํ ปสาเรตฺวา ติฏฺติ, สากจฺฉมณฺฑเล อฺเน ภิกฺขุนา พหูสุ สุตฺเตสุ จ การเณสุ จ อาภเตสุปิ ‘ตว จ มม จ วาเท กึ นาม นานากรณํ? นนุ มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณํ วิย เอกสทิสเมว อมฺหากํ วจน’นฺติ วทติ. อิสฺสามจฺฉริยนิทฺเทสา วุตฺตตฺถา เอว.
๘๙๔. มายานิทฺเทเส ¶ วาจํ ภาสตีติ ชานํเยว ‘ปณฺณตฺตึ วีติกฺกมนฺตา ภิกฺขู ภาริยํ กโรนฺติ, อมฺหากํ ปน วีติกฺกมฏฺานํ นาม นตฺถี’ติ อุปสนฺโต วิย ภาสติ. กาเยน ปรกฺกมตีติ ‘มยา กตํ อิทํ ปาปกมฺมํ มา เกจิ ชานึสู’ติ กาเยน วตฺตํ กโรติ. วิชฺชมานโทสปฏิจฺฉาทนโต จกฺขุโมหนมายา วิยาติ มายา. มายาวิโน ภาโว มายาวิตา. กตฺวา ปาปํ ปุน ปฏิจฺฉาทนโต อติจฺจ อาสรนฺติ เอตาย ¶ สตฺตาติ อจฺจาสรา. กายวาจากิริยาหิ อฺถา ทสฺสนโต วฺเจตีติ วฺจนา. เอตาย สตฺตา นิกโรนฺตีติ นิกติ; มิจฺฉากโรนฺตีติ อตฺโถ. ‘นาหํ เอวํ กโรมี’ติ ปาปานํ วิกฺขิปนโต วิกิรณา. ‘นาหํ เอวํ กโรมี’ติ ปริวชฺชนโต ปริหรณา. กายาทีหิ สํวรณโต คูหนา. สพฺพโตภาเคน คูหนา ปริคูหนา. ติณปณฺเณหิ วิย คูถํ กายวจีกมฺเมหิ ปาปํ ฉาเทตีติ ฉาทนา. สพฺพโตภาเคน ฉาทนา ปฏิจฺฉาทนา. น อุตฺตานํ กตฺวา ทสฺเสตีติ อนุตฺตานีกมฺมํ. น ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตีติ อนาวิกมฺมํ. สุฏฺุ ฉาทนา โวจฺฉาทนา. กตปฏิจฺฉาทนวเสน ปุนปิ ปาปสฺส กรณโต ปาปกิริยา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ กตปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา นาม วุจฺจติ; ยาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ภสฺมาปฏิจฺฉนฺโน วิย องฺคาโร, อุทกปฏิจฺฉนฺโน วิย ขาณุ, ปิโลติกาปลิเวิตํ วิย จ สตฺถํ โหติ.
สาเยฺยนิทฺเทเส ¶ สโติ อสนฺตคุณปริทีปนโต น สมฺมา ภาสิตา. สพฺพโตภาเคน สโ ปริสโ. ยํ ตตฺถาติ ยํ ตสฺมึ ปุคฺคเล. สนฺติ อสนฺตคุณทีปนํ เกราฏิยํ. สตาติ สากาโร. กกฺกรตาติ ปทุมนาลิสฺส วิย อปรามสนกฺขโม ขรผรุสภาโว. กกฺกริยนฺติปิ ตสฺเสว เววจนํ. ปริกฺขตฺตตา ปาริกฺขตฺติยนฺติ ปททฺวเยน นิขณิตฺวา ปิตํ วิย ทฬฺหเกราฏิยํ วุตฺตํ. อิทํ วุจฺจตีติ อิทํ อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ สาเยฺยํ นาม วุจฺจติ; เยน สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส กุจฺฉึ วา ปิฏฺึ วา ชานิตุํ น สกฺกา.
วาเมน สูกโร โหติ, ทกฺขิเณน อชามิโค;
สเรน เนลโก โหติ, วิสาเณน ชรคฺคโวติ.
เอวํ วุตฺตยกฺขสูกรสทิโส โหติ. อวิชฺชาทินิทฺเทสา วุตฺตตฺถา เอว.
๙๐๒. อนชฺชวนิทฺเทเส อนชฺชโวติ อนุชุตากาโร. อนชฺชวภาโว อนชฺชวตา. ชิมฺหตาติ จนฺทวงฺกตา. วงฺกตาติ โคมุตฺตวงฺกตา. กุฏิลตาติ นงฺคลโกฏิวงฺกตา. สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กายวจีจิตฺตวงฺกตาว กถิตา.
อมทฺทวนิทฺเทเส น มุทุภาโว อมุทุตา. อมทฺทวากาโร อมทฺทวตา. กกฺขฬภาโว กกฺขฬิยํ. มทฺทวกรสฺส สิเนหสฺส อภาวโต ผรุสภาโว ผารุสิยํ. อนีจวุตฺติตาย อุชุกเมว ิตจิตฺตภาโว อุชุจิตฺตตา ¶ . ปุน อมุทุตาคหณํ ตสฺสา วิเสสนตฺถํ ‘อมุทุตาสงฺขาตา อุชุจิตฺตตา, น อชฺชวสงฺขาตา อุชุจิตฺตตา’ติ.
๙๐๓. อกฺขนฺตินิทฺเทสาทโย ขนฺตินิทฺเทสาทิปฏิปกฺขโต เวทิตพฺพา.
๙๐๘. สํโยชนนิทฺเทเส อชฺฌตฺตนฺติ กามภโว. พหิทฺธาติ รูปารูปภโว. กิฺจาปิ หิ สตฺตา กามภเว อปฺปํ ¶ กาลํ วสนฺติ กปฺปสฺส จตุตฺถเมว โกฏฺาสํ, อิตเรสุ ตีสุ โกฏฺาเสสุ กามภโว สฺุโ โหติ ตุจฺโฉ, รูปารูปภเว พหุํ กาลํ วสนฺติ, ตถาปิ เนสํ ยสฺมา กามภเว จุติปฏิสนฺธิโย พหุกา โหนฺติ, อปฺปา รูปารูปภเวสุ, ยตฺถ จ จุติปฏิสนฺธิโย พหุกา ตตฺถ อาลโยปิ ปตฺถนาปิ อภิลาโสปิ พหุ โหติ, ยตฺถ อปฺปา ตตฺถ อปฺโป, ตสฺมา กามภโว ¶ อชฺฌตฺตํ นาม ชาโต, รูปารูปภวา พหิทฺธา นาม. อิติ อชฺฌตฺตสงฺขาเต กามภเว พนฺธนํ อชฺฌตฺตสํโยชนํ นาม, พหิทฺธาสงฺขาเตสุ รูปารูปภเวสุ พนฺธนํ พหิทฺธาสํโยชนํ นาม. ตตฺถ เอเกกํ ปฺจปฺจวิธํ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปฺโจรมฺภาคิยานิ ปฺจุทฺธมฺภาคิยานี’’ติ. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ, ตตฺถ อุปปตฺตินิปฺผาทนโต ตํ โอรํ ภชนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ. อุทฺธํ วุจฺจติ รูปารูปธาตุ, ตตฺถ อุปปตฺตินิปฺผาทนโต ตํ อุทฺธํ ภชนฺตีติ อุทฺธมฺภาคิยานีติ.
ทุกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๓.) ติกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๐๙. ติกนิทฺเทเส ตีหิ อกุสลมูเลหิ วฏฺฏมูลสมุทาจาโร กถิโต. อกุสลวิตกฺกาทีสุ วิตกฺกนวเสน วิตกฺโก, สฺชานนวเสน สฺา, สภาวฏฺเน ธาตูติ เวทิตพฺพา. ทุจฺจริตนิทฺเทเส ปมนโย กมฺมปถวเสน วิภตฺโต, ทุติโย สพฺพสงฺคาหิกกมฺมวเสน, ตติโย นิพฺพตฺติตเจตนาวเสเนว.
๙๑๔. อาสวนิทฺเทเส สุตฺตนฺตปริยาเยน ตโยว อาสวา กถิตา.
๙๑๙. เอสนานิทฺเทเส ¶ สงฺเขปโต ตตฺถ กตมา กาเมสนาติ อาทินา นเยน วุตฺโต กามคเวสนราโค กาเมสนา. โย ภเวสุ ภวจฺฉนฺโทติอาทินา นเยน วุตฺโต ภวคเวสนราโค ภเวสนา. สสฺสโต โลโกติอาทินา นเยน วุตฺตา ทิฏฺิคติกสมฺมตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส คเวสนา ทิฏฺิ พฺรหฺมจริเยสนาติ เวทิตพฺพา. ยสฺมา จ น เกวลํ ราคทิฏฺิโย เอว เอสนา, ตเทกฏฺํ ปน กมฺมมฺปิ เอสนา เอว, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ทุติยนโย วิภตฺโต. ตตฺถ ตเทกฏฺนฺติ สมฺปยุตฺเตกฏฺํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ¶ กามราเคกฏฺํ กามาวจรสตฺตานเมว ปวตฺตติ; ภวราเคกฏฺํ ปน มหาพฺรหฺมานํ. สมาปตฺติโต วุฏฺาย จงฺกมนฺตานํ ฌานงฺคานํ อสฺสาทนกาเล อกุสลกายกมฺมํ โหติ, ‘อโห สุขํ อโห สุข’นฺติ วาจํ ภินฺทิตฺวา อสฺสาทนกาเล วจีกมฺมํ, กายงฺควาจงฺคานิ ¶ อโจเปตฺวา มนสาว อสฺสาทนกาเล มโนกมฺมํ. อนฺตคฺคาหิกทิฏฺิวเสน สพฺเพสมฺปิ ทิฏฺิคติกานํ จงฺกมนาทิวเสน ตานิ โหนฺติเยว.
๙๒๐. วิธานิทฺเทเส ‘‘กถํวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ, กถํวิธํ ปฺวนฺตํ วทนฺตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๙๕) อาการสณฺานํ วิธา นาม. ‘‘เอกวิเธน าณวตฺถู’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๕๑) โกฏฺาโส. ‘‘วิธาสุ น วิกมฺปตี’’ติอาทีสุ (เถรคา. ๑๐๗๙) มาโน. อิธาปิ มาโนว วิธา นาม. โส หิ เสยฺยาทิวเสน วิทหนโต วิธาติ วุจฺจติ. ปนฏฺเน วา วิธา. ตสฺมา ‘เสยฺโยหมสฺมี’ติ เอวํ อุปฺปนฺนา มานวิธา มานปนา เสยฺโยหมสฺมีติ วิธาติ เวทิตพฺพา. เสสปททฺวเยสุปิ เอเสว นโย.
๙๒๑. ภยนิทฺเทเส ชาตึ ปฏิจฺจ ภยนฺติ ชาติปจฺจยา อุปฺปนฺนภยํ. ภยานกนฺติ อาการนิทฺเทโส. ฉมฺภิตตฺตนฺติ ภยวเสน คตฺตจลนํ. โลมหํโสติ โลมานํ หํสนํ, อุทฺธคฺคภาโว. อิมินา ปททฺวเยน กิจฺจโต ภยํ ทสฺเสตฺวา ปุน เจตโส อุตฺราโสติ สภาวโต ทสฺสิตํ.
๙๒๒. ตมนิทฺเทเส วิจิกิจฺฉาสีเสน อวิชฺชา กถิตา. ‘‘ตมนฺธกาโร สมฺโมโห, อวิชฺโชโฆ มหพฺภโย’’ติ วจนโต หิ อวิชฺชา ตโม ¶ นาม. ติณฺณํ ปน อทฺธานํ วเสน เทสนาสุขตาย วิจิกิจฺฉาสีเสน เทสนา กตา. ตตฺถ ‘กึ นุ โข อหํ อตีเต ขตฺติโย อโหสึ อุทาหุ พฺราหฺมโณ เวสฺโส สุทฺโท กาโฬ โอทาโต รสฺโส ทีโฆ’ติ กงฺขนฺโต อตีตํ อทฺธานํ อารพฺภ กงฺขติ นาม. ‘กึ นุ โข อหํ อนาคเต ขตฺติโย ภวิสฺสามิ อุทาหุ พฺราหฺมโณ เวสฺโส…เป… ทีโฆ’ติ กงฺขนฺโต อนาคตํ อทฺธานํ อารพฺภ กงฺขติ นาม. ‘กึ นุ โข อหํ เอตรหิ ขตฺติโย อุทาหุ พฺราหฺมโณ เวสฺโส สุทฺโท; กึ วา อหํ รูปํ อุทาหุ เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณ’นฺติ กงฺขนฺโต ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อารพฺภ กงฺขติ นาม.
ตตฺถ กิฺจาปิ ขตฺติโย วา อตฺตโน ขตฺติยภาวํ, พฺราหฺมโณ วา พฺราหฺมณภาวํ, เวสฺโส วา เวสฺสภาวํ, สุทฺโท วา สุทฺทภาวํ อชานนโก นาม นตฺถิ, ชีวลทฺธิโก ¶ ปน สตฺโต ขตฺติยชีวาทีนํ วณฺณาทิเภทํ สุตฺวา ‘กีทิโส นุ โข อมฺหากํ อพฺภนฺตเร ชีโว – กึ นุ โข ¶ นีลโก อุทาหุ ปีตโก โลหิตโก โอทาโต จตุรํโส ฉฬํโส อฏฺํโส’ติ กงฺขนฺโต เอวํ กงฺขติ นาม.
๙๒๓. ติตฺถายตนานีติ ติตฺถภูตานิ อายตนานิ, ติตฺถิยานํ วา อายตนานิ. ตตฺถ ติตฺถํ นาม ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย. ติตฺถิยา นาม เยสํ ตา ทิฏฺิโย รุจฺจนฺติ ขมนฺติ. อายตนฏฺโ เหฏฺา วุตฺโตเยว. ตตฺถ ยสฺมา สพฺเพปิ ทิฏฺิคติกา สฺชายมานา อิเมสุเยว ตีสุ าเนสุ สฺชายนฺติ, สโมสรมานาปิ เอเตสุเยว สโมสรนฺติ สนฺนิปตนฺติ, ทิฏฺิคติกภาเว จ เนสํ เอตานิเยว การณานิ, ตสฺมา ติตฺถานิ จ ตานิ สฺชาตานีติอาทินา อตฺเถน อายตนานิ จาติ ติตฺถายตนานิ; เตเนวตฺเถน ติตฺถิยานํ อายตนานีติปิ ติตฺถายตนานิ. ปุริสปุคฺคโลติ สตฺโต. กามฺจ ปุริโสติปิ ปุคฺคโลติปิ วุตฺเต สตฺโตเยว วุตฺโต, อยํ ปน สมฺมุติกถา นาม โย ยถา ชานาติ ตสฺส ตถา วุจฺจติ. ปฏิสํเวเทตีติ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปนฺนํ ชานาติ, ปฏิสํวิทิตํ กโรติ อนุภวติ วา. ปุพฺเพกตเหตูติ ปุพฺเพ กตการณา, ปุพฺเพ กตกมฺมปจฺจเยเนว ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยํ นิคณฺสมโย. เอวํวาทิโน ปน เต กมฺมเวทนฺจ กิริยเวทนฺจ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ วิปากเวทนเมว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. ปิตฺตสมุฏฺานาทีสุ (มหานิ. ๕) จ อฏฺสุ อาพาเธสุ ¶ สตฺต ปฏิกฺขิปิตฺวา อฏฺมํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ, ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีสุ จ ตีสุ กมฺเมสุ ทฺเว ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ อปราปริยเวทนียเมว สมฺปฏิจฺฉนฺติ, กุสลากุสลวิปากกิริยสงฺขาตาสุ จ จตูสุ เจตนาสุ วิปากเจตนํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ.
อิสฺสรนิมฺมานเหตูติ อิสฺสรนิมฺมานการณา; พฺรหฺมุนา วา ปชาปตินา วา อิสฺสเรน นิมฺมิตตฺตา ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยํ พฺราหฺมณสมโย. อยฺหิ เนสํ อธิปฺปาโย – อิมา ติสฺโส เวทนา ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตนา กตมูลเกน วา อาณตฺติมูลเกน วา ปุพฺเพ กเตน วา อเหตุอปฺปจฺจยา วา ปฏิสํเวเทตุํ นาม น สกฺกา; อิสฺสรนิมฺมานการณา เอว ปน อิมา ปฏิสํเวเทตีติ. เอวํวาทิโน ปเนเต เหฏฺา วุตฺเตสุ อฏฺสุ อาพาเธสุ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิพาหนฺติ. ตถา ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีสุปิ สพฺพโกฏฺาเสสุ ¶ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิพาหนฺติ.
อเหตุ อปฺปจฺจยาติ เหตฺุจ ปจฺจยฺจ วินา อการเณเนว ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยํ ¶ อาชีวกสมโย. เอวํ วาทิโน เอเตปิ เหฏฺา วุตฺเตสุ การเณสุ จ พฺยาธีสุ จ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิกฺขิปนฺติ.
๙๒๔. กิฺจนาติ ปลิโพธา. ราโค กิฺจนนฺติ ราโค อุปฺปชฺชมาโน สตฺเต พนฺธติ ปลิพุนฺเธติ, ตสฺมา กิฺจนนฺติ วุจฺจติ. โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย. องฺคณานีติ ‘‘อุทงฺคเณ ตตฺถ ปปํ อวินฺทุ’’นฺติ (ชา. ๑.๑.๒) อาคตฏฺาเน ภูมิปฺปเทโส องฺคณํ. ‘‘ตสฺเสว รชสฺส วา องฺคณสฺส วา ปหานาย วายมตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘๔; อ. นิ. ๑๐.๕๑) อาคตฏฺาเน ยํ กิฺจิ มลํ วา ปงฺโก วา. ‘‘สางฺคโณว สมาโน’’ติ (ม. นิ. ๑.๕๗) อาคตฏฺาเน นานปฺปกาโร ติพฺพกิเลโส. อิธาปิ ตเทว กิเลสงฺคณํ อธิปฺเปตํ. เตเนว ราโค องฺคณนฺติอาทิมาห.
มลานีติ มลินภาวกรณานิ. ราโค มลนฺติ ราโค อุปฺปชฺชมาโน จิตฺตํ มลินํ กโรติ, มลํ คาหาเปติ, ตสฺมา มลนฺติ วุจฺจติ. อิตเรสุปิ ทฺวีสุ เอเสว นโย.
วิสมนิทฺเทเส ¶ ยสฺมา ราคาทีสุ เจว กายทุจฺจริตาทีสุ จ สตฺตา ปกฺขลนฺติ, ปกฺขลิตา จ ปน สาสนโตปิ สุคติโตปิ ปตนฺติ, ตสฺมา ปกฺขลนปาตเหตุโต ราโค วิสมนฺติอาทิ วุตฺตํ.
อคฺคีติ อนุทหนฏฺเน อคฺคิ. ราคคฺคีติ ราโค อุปฺปชฺชมาโน สตฺเต อนุทหติ ฌาเปติ, ตสฺมา อคฺคีติ วุจฺจติ. โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ วตฺถูนิ – เอกา กิร ทหรภิกฺขุนี จิตฺตลปพฺพตวิหาเร อุโปสถาคารํ คนฺตฺวา ทฺวารปาลกรูปํ โอโลกยมานา ิตา. อถสฺสา อนฺโต ราโค อุปฺปนฺโน. สา เตเนว ฌายิตฺวา กาลมกาสิ. ภิกฺขุนิโย คจฺฉมานา ‘อยํ ทหรา ิตา, ปกฺโกสถ น’นฺติ อาหํสุ. เอกา คนฺตฺวา ‘กสฺมา ิตาสี’ติ หตฺเถ คณฺหิ. คหิตมตฺตา ปริวตฺติตฺวา ปติตา. อิทํ ตาว ราคสฺส อนุทหนตาย วตฺถุ. โทสสฺส ปน อนุทหนตาย มโนปโทสิกา เทวา ทฏฺพฺพา. โมหสฺส อนุทหนตาย ขิฑฺฑาปโทสิกา เทวา ทฏฺพฺพา. โมหนวเสน หิ เตสํ สติสมฺโมโส โหติ. ตสฺมา ขิฑฺฑาวเสน อาหารกาลํ อติวตฺติตฺวา กาลํ กโรนฺติ. กสาวาติ ¶ กสฏา นิโรชา. ราคาทีสุ จ กายทุจฺจริตาทีสุ จ เอกมฺปิ ปณีตํ โอชวนฺตํ นตฺถิ, ตสฺมา ราโค กสาโวติอาทิ วุตฺตํ.
๙๒๕. อสฺสาททิฏฺีติ ¶ อสฺสาทสมฺปยุตฺตา ทิฏฺิ. นตฺถิ กาเมสุ โทโสติ กิเลสกาเมน วตฺถุกามปฏิเสวนโทโส นตฺถีติ วทติ. ปาตพฺยตนฺติ ปาตพฺพภาวํ ปริภฺุชนํ อชฺโฌหรณํ. เอวํวาที หิ โส วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามํ ปิวนฺโต วิย อชฺโฌหรนฺโต วิย ปริภฺุชติ. อตฺตานุทิฏฺีติ อตฺตานํ อนุคตา ทิฏฺิ. มิจฺฉาทิฏฺีติ ลามกา ทิฏฺิ. อิทานิ ยสฺมา เอตฺถ ปมา สสฺสตทิฏฺิ โหติ, ทุติยา สกฺกายทิฏฺิ, ตติยา อุจฺเฉททิฏฺิ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ สสฺสตทิฏฺิ อสฺสาททิฏฺีติอาทิมาห.
๙๒๖. อรตินิทฺเทโส จ วิเหสานิทฺเทโส จ วุตฺตตฺโถเยว. อธมฺมสฺส จริยา อธมฺมจริยา, อธมฺมกรณนฺติ อตฺโถ. วิสมา จริยา, วิสมสฺส วา กมฺมสฺส จริยาติ วิสมจริยา. โทวจสฺสตาปาปมิตฺตตา นิทฺเทสา วุตฺตตฺถา เอว. ปุถุนิมิตฺตารมฺมเณสุ ปวตฺติโต นานตฺเตสุ สฺา นานตฺตสฺา. ยสฺมา วา อฺาว กามสฺา, อฺา พฺยาปาทาทิสฺา, ตสฺมา ¶ นานตฺตา สฺาติปิ นานตฺตสฺา. โกสชฺชปมาทนิทฺเทเสสุ ปฺจสุ กามคุเณสุ วิสฺสฏฺจิตฺตสฺส กุสลธมฺมภาวนาย อนนุโยควเสน ลีนวุตฺติตา โกสชฺชํ, ปมชฺชนวเสน ปมตฺตภาโว ปมาโทติ เวทิตพฺโพ. อสนฺตุฏฺิตาทินิทฺเทสา วุตฺตตฺถา เอว.
๙๓๑. อนาทริยนิทฺเทเส โอวาทสฺส อนาทิยนวเสน อนาทรภาโว อนาทริยํ. อนาทริยนากาโร อนาทรตา. สครุวาสํ อวสนฏฺเน อคารวภาโว อคารวตา. สเชฏฺกวาสํ อวสนฏฺเน อปฺปติสฺสวตา. อนทฺทาติ อนาทิยนา. อนทฺทายนาติ อนาทิยนากาโร. อนทฺทาย อยิตสฺส ภาโว อนทฺทายิตตฺตํ. อสีลสฺส ภาโว อสีลฺยํ. อจิตฺตีกาโรติ ครุจิตฺตีการสฺส อกรณํ.
๙๓๒. อสฺสทฺธภาโว อสฺสทฺธิยํ. อสทฺทหนากาโร อสทฺทหนา. โอกปฺเปตฺวา อนุปวิสิตฺวา อคฺคหณํ อโนกปฺปนา. อปฺปสีทนฏฺเน อนภิปฺปสาโท.
อวทฺุตาติ ถทฺธมจฺฉริยวเสน ‘เทหิ, กโรหี’ติ วจนสฺส อชานตา.
๙๓๔. พุทฺธา ¶ จ พุทฺธสาวกา จาติ เอตฺถ พุทฺธคฺคหเณน ปจฺเจกพุทฺธาปิ คหิตาว. อสเมตุกมฺยตาติ ¶ เตสํ สมีปํ อคนฺตุกามตา. สทฺธมฺมํ อโสตุกมฺยตาติ สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา สทฺธมฺโม นาม, ตํ อสุณิตุกามตา. อนุคฺคเหตุกมฺยตาติ น อุคฺคเหตุกามตา.
อุปารมฺภจิตฺตตาติ อุปารมฺภจิตฺตภาโว. ยสฺมา ปน โส อตฺถโต อุปารมฺโภว โหติ, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม อุปารมฺโภติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุปารมฺภนวเสน อุปารมฺโภ. ปุนปฺปุนํ อุปารมฺโภ อนุปารมฺโภ อุปารมฺภนากาโร อุปารมฺภนา. ปุนปฺปุนํ อุปารมฺภนา อนุปารมฺภนา. อนุปารมฺภิตสฺส ภาโว อนุปารมฺภิตตฺตํ. อฺุาติ เหฏฺา กตฺวา ชานนา. อวฺาติ อวชานนา. ปริภวนํ ปริภโว. รนฺธสฺส คเวสิตา รนฺธคเวสิตา. รนฺธํ วา คเวสตีติ รนฺธคเวสี, ตสฺส ภาโว รนฺธคเวสิตา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ปรวชฺชานุปสฺสนลกฺขโณ อุปารมฺโภ นาม วุจฺจติ, เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล, ยถา นาม ตุนฺนกาโร ¶ สาฏกํ ปสาเรตฺวา ฉิทฺทเมว โอโลเกติ, เอวเมว ปรสฺส สพฺเพปิ คุเณ มกฺเขตฺวา อคุเณสุเยว ปติฏฺาติ.
๙๓๖. อโยนิโส มนสิกาโรติ อนุปายมนสิกาโร. อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ อนิจฺเจเยว วตฺถุสฺมึ ‘อิทํ นิจฺจ’นฺติ เอวํ ปวตฺโต. ทุกฺเข สุขนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. สจฺจวิปฺปฏิกุเลน จาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ อนนุโลมวเสน. จิตฺตสฺส อาวฏฺฏนาติอาทีนิ สพฺพานิปิ อาวชฺชนสฺเสว เววจนาเนว. อาวชฺชนฺหิ ภวงฺคจิตฺตํ อาวฏฺเฏตีติ จิตฺตสฺส อาวฏฺฏนา. อนุอนุ อาวฏฺเฏตีติ อนาวฏฺฏนา. อาภุชตีติ อาโภโค. ภวงฺคารมฺมณโต อฺํ อารมฺมณํ สมนฺนาหรตีติ สมนฺนาหาโร. ตเทวารมฺมณํ อตฺตานํ อนุพนฺธิตฺวา อุปฺปชฺชมาเน มนสิกโรตีติ มนสิกาโร. กโรตีติ เปติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อนุปายมนสิกาโร อุปฺปถมนสิการลกฺขโณ อโยนิโสมนสิกาโร นาม วุจฺจติ. ตสฺส วเสน ปุคฺคโล ทุกฺขาทีนิ สจฺจานิ ยาถาวโต อาวชฺชิตุํ น สกฺโกติ.
กุมฺมคฺคเสวนานิทฺเทเส ยํ กุมฺมคฺคํ เสวโต เสวนา กุมฺมคฺคเสวนาติ วุจฺจติ, ตํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม กุมฺมคฺโคติ ¶ ทุติยปุจฺฉา กตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ติกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๔.) จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๓๙. จตุกฺกนิทฺเทเส ¶ ตณฺหุปฺปาเทสุ จีวรเหตูติ ‘กตฺถ มนาปํ จีวรํ ลภิสฺสามี’ติ จีวรการณา อุปฺปชฺชติ. อิติภวาภวเหตูติ เอตฺถ อิตีติ นิทสฺสนตฺเถ นิปาโต; ยถา จีวราทิเหตุ เอวํ ภวาภวเหตูติปิ อตฺโถ. ภวาภโวติ เจตฺถ ปณีตปณีตตรานิ เตลมธุผาณิตาทีนิ อธิปฺเปตานิ. อิเมสํ ปน จตุนฺนํ ตณฺหุปฺปาทานํ ปหานตฺถาย ปฏิปาฏิยาว จตฺตาโร อริยวํสา เทสิตาติ เวทิตพฺพา.
อคติคมเนสุ ¶ ฉนฺทาคตึ คจฺฉตีติ ฉนฺเทน เปเมน อคตึ คจฺฉติ, อกตฺตพฺพํ กโรติ. ปรปเทสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ โย ‘อยํ เม มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา สมฺภตฺโต วา าตโก วา ลฺชํ วา ปน เม เทตี’ติ ฉนฺทวเสน อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ – อยํ ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ‘อยํ เม เวรี’ติ ปกติเวรวเสน วา ตงฺขณุปฺปนฺนโกธวเสน วา สามิกํ อสฺสามิกํ กโรติ – อยํ โทสาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ปน มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ยํ วา ตํ วา วตฺวา อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ – อยํ โมหาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ปน ‘อยํ ราชวลฺลโภ วา วิสมนิสฺสิโต วา อนตฺถมฺปิ เม กเรยฺยา’ติ ภีโต อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ – อยํ ภยาคตึ คจฺฉติ นาม. โย วา ปน ภาชิยฏฺาเน กิฺจิ ภาเชนฺโต ‘อยํ เม มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา สมฺภตฺโต วา’ติ เปมวเสน อติเรกํ เทติ, ‘อยํ เม เวรี’ติ โทสวเสน อูนกํ เทติ, โมมูหตฺตา ทินฺนาทินฺนํ อชานมาโน กสฺสจิ อูนกํ กสฺสจิ อธิกํ เทติ, ‘อยํ อิมสฺมึ อทียมาเน มยฺหํ อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’ติ ภีโต กสฺสจิ อติเรกํ เทติ, โส จตุพฺพิโธปิ ยถานุกฺกเมน ฉนฺทาคติอาทีนิ คจฺฉติ นาม. อริยา เอตาย น คจฺฉนฺตีติ อคติ, อนริยา อิมินา อคตึ คจฺฉนฺตีติ อคติคมนํ. อิมํ ทฺวยํ จตุนฺนมฺปิ สาธารณวเสน วุตฺตํ. ฉนฺเทน คมนํ ฉนฺทคมนํ. อิทํ โทสาทีนํ อสาธารณวเสน วุตฺตํ. สกปกฺขราคฺจ ปรปกฺขโทสฺจ ปุรกฺขตฺวา อสมคฺคภาเวน คมนํ วคฺคคมนํ. อิทํ ฉนฺทโทสสาธารณวเสน วุตฺตํ. วาริโน วิย ยถานินฺนํ คมนนฺติ วาริคมนํ. อิทํ จตุนฺนมฺปิ สาธารณวเสน วุตฺตํ.
วิปริยาเสสุ ¶ อนิจฺจาทีนิ วตฺถูนิ นิจฺจนฺติอาทินา นเยน วิปรีตโต เอสนฺตีติ วิปริยาสา, สฺาย วิปริยาโส สฺาวิปริยาโส. อิตเรสุปิ ทฺวีสุ เอเสว นโย. เอวเมเต จตุนฺนํ ¶ วตฺถูนํ วเสน จตฺตาโร, เยสุ วตฺถูสุ สฺาทีนํ วเสน ทฺวาทส โหนฺติ. เตสุ อฏฺ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ. อสุเภ สุภนฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา สกทาคามิมคฺเคน ตนุกา โหนฺติ, อนาคามิมคฺเคน ปหียนฺติ. ทุกฺเข สุขนฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา อรหตฺตมคฺเคน ปหียนฺตีติ เวทิตพฺพา.
อนริยโวหาเรสุ ¶ อนริยโวหาราติ อนริยานํ ลามกานํ โวหารา. ทิฏฺวาทิตาติ ‘ทิฏฺํ มยา’ติ เอวํ วาทิตา. เอตฺถ จ ตํ ตํ สมุฏฺาปิกเจตนาวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สห สทฺเทน เจตนา กถิตาติปิ วุตฺตเมว. ทุติยจตุกฺเกปิ เอเสว นโย. อริโย หิ อทิสฺวา วา ‘ทิฏฺํ มยา’ติ ทิสฺวา วา ‘น ทิฏฺํ มยา’ติ วตฺตา นาม นตฺถิ; อนริโยว เอวํ วทติ. ตสฺมา เอวํ วทนฺตสฺส เอตา สห สทฺเทน อฏฺ เจตนา อนริยโวหาราติ เวทิตพฺพา.
ทุจฺจริเตสุ ปมจตุกฺกํ เวรเจตนาวเสน วุตฺตํ, ทุติยํ วจีทุจฺจริตวเสน.
ภเยสุ ปมจตุกฺเก ชาตึ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ภยํ ชาติภยํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ทุติยจตุกฺเก ราชโต อุปฺปนฺนํ ภยํ ราชภยํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
ตติยจตุกฺเก จตฺตาริ ภยานีติ มหาสมุทฺเท อุทกํ โอโรหนฺตสฺส วุตฺตภยานิ. มหาสมุทฺเท กิร มหินฺทวีจิ นาม สฏฺิ โยชนานิ อุคฺคจฺฉติ. คงฺคาวีจิ นาม ปณฺณาส. โรหณวีจิ นาม จตฺตาลีส โยชนานิ อุคฺคจฺฉติ. เอวรูปา อูมิโย ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ภยํ อูมิภยํ นาม. กุมฺภีลโต อุปฺปนฺนํ ภยํ กุมฺภีลภยํ. อุทกาวฏฺฏโต ภยํ อาวฏฺฏภยํ. สุสุกา วุจฺจติ จณฺฑมจฺโฉ; ตโต ภยํ สุสุกาภยํ.
จตุตฺถจตุกฺเก อตฺตานุวาทภยนฺติ ปาปกมฺมิโน อตฺตานํ อนุวทนฺตสฺส อุปฺปชฺชนกภยํ. ปรานุวาทภยนฺติ ปรสฺส อนุวาทโต อุปฺปชฺชนกภยํ. ทณฺฑภยนฺติ อคาริกสฺส รฺา ปวตฺติตทณฺฑํ, อนคาริกสฺส วินยทณฺฑํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํ. ทุคฺคติภยนฺติ จตฺตาโร อปาเย ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํ. อิติ ¶ อิเมหิ จตูหิ จตุกฺเกหิ โสฬส มหาภยานิ นาม กถิตานิ.
ทิฏฺิจตุกฺเก ¶ ติมฺพรุกทิฏฺิ (สํ. นิ. ๒.๑๘) นาม กถิตา. ตตฺถ สยํกตํ สุขทุกฺขนฺติ เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสโต เวทนาย เอว เวทนา กตาติ อุปฺปนฺนา ทิฏฺิ. เอวฺจ สติ ตสฺสา เวทนาย ปุพฺเพปิ อตฺถิตา อาปชฺชตีติ อยํ สสฺสตทิฏฺิ นาม โหติ. สจฺจโต เถตโตติ สจฺจโต ถิรโต. ปรํกตนฺติ ¶ ปจฺจุปฺปนฺนเวทนโต อฺํ เวทนาการณํ เวทนตฺตานํ สมนุปสฺสโต ‘อฺาย เวทนาย อยํ เวทนา กตา’ติ อุปฺปนฺนา ทิฏฺิ. เอวํ สติ ปุริมาย การณเวทนาย อุจฺเฉโท อาปชฺชตีติ อยํ อุจฺเฉททิฏฺิ นาม โหติ. สยํกตฺจ ปรํกตฺจาติ ยถาวุตฺเตเนว อตฺเถน ‘อุปฑฺฒํ สยํกตํ, อุปฑฺฒํ ปเรน กต’นฺติ คณฺหโต อุปฺปนฺนา ทิฏฺิ – อยํ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิ นาม. จตุตฺถา อการณา เอว สุขทุกฺขํ โหตีติ คณฺหโต อุปฺปนฺนา ทิฏฺิ. เอวํ สติ อยํ อเหตุกทิฏฺิ นาม. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมวาติ.
จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๕.) ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๔๐. ปฺจกนิทฺเทเส ยสฺมา เยสํ สกฺกายทิฏฺิอาทีนิ อปฺปหีนานิ, เต ภวคฺเคปิ นิพฺพตฺเต เอตานิ อากฑฺฒิตฺวา กามภเวเยว ปาเตนฺติ, ตสฺมา โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานีติ วุตฺตานิ. อิติ เอตานิ ปฺจ คจฺฉนฺตํ น วาเรนฺติ, คตํ ปน อาเนนฺติ. รูปราคาทีนิปิ ปฺจ คจฺฉนฺตํ น วาเรนฺติ, อาคนฺตุํ ปน น เทนฺติ. ราคาทโย ปฺจ ลคฺคนฏฺเน สงฺคา, อนุปวิฏฺฏฺเน ปน สลฺลาติ วุตฺตา.
๙๔๑. เจโตขิลาติ จิตฺตสฺส ถทฺธภาวา กจวรภาวา ขาณุกภาวา. สตฺถริ กงฺขตีติ สตฺถุ สรีเร วา คุเณ วา กงฺขติ. สรีเร กงฺขมาโน ‘ทฺวตฺตึสวรลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ นาม สรีรํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ. คุเณ กงฺขมาโน ‘อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนชานนสมตฺถํ สพฺพฺุตาณํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ. วิจิกิจฺฉตีติ วิจินนฺโต กิจฺฉติ, ทุกฺขํ อาปชฺชติ, วินิจฺเฉตุํ น สกฺโกติ. นาธิมุจฺจตีติ ¶ ‘เอวเมต’นฺติ อธิโมกฺขํ น ปฏิลภติ ¶ . น สมฺปสีทตีติ คุเณสุ โอตริตฺวา นิพฺพิจิกิจฺฉภาเวน ปสีทิตุํ อนาวิโล ภวิตุํ น สกฺโกติ.
ธมฺเมติ ปริยตฺติธมฺเม จ ปฏิเวธธมฺเม จ. ปริยตฺติธมฺเม กงฺขมาโน ‘เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานีติ วทนฺติ, อตฺถิ นุ โข เอตํ นตฺถี’ติ กงฺขติ. ปฏิเวธธมฺเม กงฺขมาโน ‘วิปสฺสนานิสฺสนฺโท มคฺโค นาม ¶ , มคฺคนิสฺสนฺโท ผลํ นาม, สพฺพสงฺขารปฏินิสฺสคฺโค นิพฺพานํ นามาติ วทนฺติ, ตํ อตฺถิ นุ โข นตฺถีติ กงฺขติ’.
สงฺเฆ กงฺขตีติ ‘อุชุปฺปฏิปนฺโนติอาทีนํ ปทานํ วเสน เอวรูปํ ปฏิปทํ ปฏิปนฺนา จตฺตาโร มคฺคฏฺา จตฺตาโร ผลฏฺาติ อฏฺนฺนํ ปุคฺคลานํ สมูหภูโต สงฺโฆ นาม อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ. สิกฺขาย กงฺขมาโน ‘อธิสีลสิกฺขา นาม อธิจิตฺตสิกฺขา นาม อธิปฺา สิกฺขา นามาติ วทนฺติ, สา อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ.
เจตโสวินิพนฺธาติ จิตฺตํ พนฺธิตฺวา มุฏฺิยํ กตฺวา วิย คณฺหนฺตีติ เจตโสวินิพนฺธา. กาเมติ วตฺถุกาเมปิ กิเลสกาเมปิ. กาเยติ อตฺตโน กาเย. รูเปติ พหิทฺธา รูเป. ยาวทตฺถนฺติ ยตฺตกํ อิจฺฉติ ตตฺตกํ. อุทราวเทหกนฺติ อุทรปูรํ. ตฺหิ อุทรํ อวเทหนโต อุทราวเทหกนฺติ วุจฺจติ. เสยฺยสุขนฺติ มฺจปีสุขํ อุตุสุขํ วา. ปสฺสสุขนฺติ ยถา สมฺปริวตฺตกํ สยนฺตสฺส ทกฺขิณปสฺสวามปสฺสานํ สุขํ โหติ, เอวํ อุปฺปนฺนสุขํ. มิทฺธสุขนฺติ นิทฺทาสุขํ. อนุยุตฺโตติ ยุตฺตปยุตฺโต วิหรติ. ปณิธายาติ ปตฺถยิตฺวา. สีเลนาติอาทีสุ สีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. วตนฺติ วตสมาทานํ. ตโปติ ตปจรณํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เมถุนวิรติ. เทโว วา ภวิสฺสามีติ มเหสกฺขเทโว วา ภวิสฺสามิ. เทวฺตโร วาติ อปฺเปสกฺขเทเวสุ วา อฺตโร. กุสลธมฺเม อาวรนฺติ นิวาเรนฺตีติ นีวรณานิ.
มาตา ชีวิตา โวโรปิตา โหตีติ มนุสฺเสเนว สกชนิกา มนุสฺสมาตา ชีวิตา โวโรปิตา โหติ. ปิตาปิ ¶ มนุสฺสปิตาว. อรหาปิ มนุสฺสอรหาว. ทุฏฺเน จิตฺเตนาติ วธกจิตฺเตน.
สฺีติ สฺาสมงฺคี. อโรโคติ นิจฺโจ. อิตฺเถเก อภิวทนฺตีติ อิตฺถํ เอเก อภิวทนฺติ, เอวเมเก อภิวทนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา โสฬส สฺีวาทา กถิตา. อสฺีติ ¶ สฺาวิรหิโต. อิมินา ปเทน อฏฺ อสฺีวาทา กถิตา. ตติยปเทน อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา กถิตา. สโต วา ปน สตฺตสฺสาติ อถวา ปน วิชฺชมานสฺเสว สตฺตสฺส. อุจฺเฉทนฺติ อุปจฺเฉทํ. วินาสนฺติ อทสฺสนํ. วิภวนฺติ ภาววิคมํ. สพฺพาเนตานิ อฺมฺเววจนาเนว. ตตฺถ ทฺเว ชนา อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหนฺติ – ลาภี ¶ จ อลาภี จ. ตตฺถ ลาภี อรหโต ทิพฺเพน จกฺขุนา จุตึ ทิสฺวา อุปปตฺตึ อปสฺสนฺโต, โย วา จุติมตฺตเมว ทฏฺุํ สกฺโกติ น อุปปาตํ, โส อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาติ. อลาภี ‘โก ปรโลกํ ชานาตี’ติ กามสุขคิทฺธตาย วา ‘ยถา รุกฺขโต ปณฺณานิ ปติตานิ น ปุน วิรุหนฺติ, เอวํ สตฺตา’ติอาทินา วิตกฺเกน วา อุจฺเฉทํ คณฺหาติ. อิธ ปน ตณฺหาทิฏฺีนํ วเสน ตถา จ อฺถา จ วิกปฺเปตฺวาว อุปฺปนฺนา สตฺต อุจฺเฉทวาทา กถิตา. เตสฺหิ อิทํ สงฺคหวจนํ. ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ วา ปเนเกติ เอตฺถ ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺขธมฺโม วุจฺจติ. ตตฺถ ตตฺถ ปฏิลทฺธตฺตภาวสฺเสตํ อธิวจนํ. ทิฏฺธมฺเม นิพฺพานํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ; อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ทุกฺขา วูปสมฺมนฺติ อตฺโถ. อิทํ ปฺจนฺนํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทานํ สงฺคหวจนํ.
๙๔๒. เวราติ เวรเจตนา. พฺยสนาติ วินาสา. อกฺขนฺติยาติ อนธิวาสนาย. อปฺปิโยติ ทสฺสนสวนปฏิกูลตาย น ปิยายิตพฺโพ. จินฺเตตุมฺปิ ปฏิกูลตฺตา มโน เอตสฺมึ น อปฺเปตีติ อมนาโป. เวรพหุโลติ พหุเวโร. วชฺชพหุโลติ พหุโทโส.
อาชีวกภยนฺติ อาชีวํ ชีวิตวุตฺตึ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ภยํ ¶ . ตํ อคาริกสฺสปิ โหติ อนคาริกสฺสปิ. ตตฺถ อคาริเกน ตาว อาชีวเหตุ พหุํ อกุสลํ กตํ โหติ. อถสฺส มรณสมเย นิรเย อุปฏฺหนฺเต ภยํ อุปฺปชฺชติ. อนคาริเกนาปิ พหุ อเนสนา กตา โหติ. อถสฺส มรณกาเล นิรเย อุปฏฺหนฺเต ภยํ อุปฺปชฺชติ. อิทํ อาชีวกภยํ นาม. อสิโลกภยนฺติ ครหภยํ ปริสสารชฺชภยนฺติ กตปาปสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิปติตํ ปริสํ อุปสงฺกมนฺตสฺส สารชฺชสงฺขาตํ ภยํ อุปฺปชฺชติ. อิทํ ปริสสารชฺชภยํ นาม. อิตรทฺวยํ ปากฏเมว.
๙๔๓. ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาเรสุ ปฺจหิ กามคุเณหีติ มนาปิยรูปาทีหิ ปฺจหิ กามโกฏฺาเสหิ พนฺธเนหิ วา. สมปฺปิโตติ สุฏฺุ อปฺปิโต อลฺลีโน หุตฺวา. สมงฺคีภูโตติ สมนฺนาคโต. ปริจาเรตีติ เตสุ กามคุเณสุ ยถาสุขํ อินฺทฺริยานิ จาเรติ สฺจาเรติ อิโต จิโต ¶ จ อุปเนติ; อถ วา ปน ลฬติ รมติ กีฬตีติ. เอตฺถ จ ทุวิธา กามคุณา – มานุสฺสกา เจว ทิพฺพา จ. มานุสฺสกา มนฺธาตุกามคุณสทิสา ทฏฺพฺพา; ทิพฺพา ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทวราชสฺส กามคุณสทิสาติ. เอวรูเป กาเม ¶ อุปคตฺหิ เต ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานปฺปตฺโต โหตีติ วทนฺติ. ตตฺถ ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานนฺติ ปรมํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ, อุตฺตมนฺติ อตฺโถ.
ทุติยวาเร หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจา; ปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺขา; ปกติชหนฏฺเน วิปริณามธมฺมาติ เวทิตพฺพา. เตสํ วิปริณามฺถาภาวาติ เตสํ กามานํ วิปริณามสงฺขาตา อฺถาภาวา. ‘ยมฺปิ เม อโหสิ ตมฺปิ เม นตฺถี’ติ วุตฺตนเยน อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา. ตตฺถ อนฺโตนิชฺฌายนลกฺขโณ โสโก; ตนฺนิสฺสิตลาลปฺปลกฺขโณ ปริเทโว; กายปฏิปีฬนลกฺขณํ ทุกฺขํ; มโนวิฆาตลกฺขณํ โทมนสฺสํ; วิฆาตลกฺขโณ อุปายาโส.
วิตกฺกิตนฺติ อภินิโรปนวเสน ปวตฺโต วิตกฺโก. วิจาริตนฺติ อนุมชฺชนวเสน ปวตฺโต วิจาโร. เอเตน เอตนฺติ เอเตน วิตกฺเกน จ วิจาเรน จ เอตํ ปมชฺฌานํ โอฬาริกํ สกณฺฏกํ วิย ขายติ.
ปีติคตนฺติ ปีติเมว. เจตโส อุปฺปิลาวิตนฺติ จิตฺตสฺส อุปฺปิลภาวกรณํ. เจตโส อาโภโคติ ฌานา วุฏฺาย ¶ ตสฺมึ สุเข ปุนปฺปุนํ จิตฺตสฺส อาโภโค มนสิกาโรติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๖.) ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๔๔. ฉกฺกนิทฺเทเส ยสฺมา กุทฺโธ วา โกธวเสน, สนฺทิฏฺิปรามาสี วา สนฺทิฏฺิปรามาสิตาย ¶ กลหํ วิคฺคหํ วิวาทํ อาปชฺชติ, ตสฺมา โกธาทโย ‘วิวาทมูลานี’ติ วุตฺตา.
ฉนฺทราคนิทฺเทเส กามเคหสิตตฺตา ฉนฺทราคา เคหสฺสิตา ธมฺมาติ สงฺคหโต วตฺวา ปุน ปเภทโต ทสฺเสตุํ มนาปิเยสุ รูเปสูติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ มนาปิเยสูติ มนวฑฺฒนเกสุ อิฏฺเสุ. วิโรธา เอว วิโรธวตฺถูนิ. อมนาปิเยสูติ อนิฏฺเสุ.
๙๔๕. อคารเวสุ อคารโวติ คารววิรหิโต. อปฺปติสฺโสติ อปฺปติสฺสโย อนีจวุตฺติ. เอตฺถ ปน โย ภิกฺขุ สตฺถริ ธรมาเน ตีสุ กาเลสุ อุปฏฺานํ น ยาติ, สตฺถริ อนุปาหเน จงฺกมนฺเต สอุปาหโน จงฺกมติ ¶ , นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมติ, เหฏฺา วสนฺเต อุปริ วสติ, สตฺถุทสฺสนฏฺาเน อุโภ อํเส ปารุปติ, ฉตฺตํ ธาเรติ, อุปาหนํ ธาเรติ, นฺหายติ, อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กโรติ, ปรินิพฺพุเต วา ปน เจติยํ วนฺทิตุํ น คจฺฉติ, เจติยสฺส ปฺายนฏฺาเน สตฺถุทสฺสนฏฺาเน วุตฺตํ สพฺพํ กโรติ – อยํ สตฺถริ อคารโว นาม. โย ปน ธมฺมสวเน สงฺฆุฏฺเ สกฺกจฺจํ น คจฺฉติ, สกฺกจฺจํ ธมฺมํ น สุณาติ, สมุลฺลปนฺโต นิสีทติ, น สกฺกจฺจํ คณฺหาติ, น สกฺกจฺจํ วาเจติ – ‘อยํ ธมฺเม อคารโว นาม. โย ปน เถเรน ภิกฺขุนา อนชฺฌิฏฺโ ธมฺมํ เทเสติ, ปฺหํ กเถติ, วุฑฺเฒ ภิกฺขู ฆฏฺเฏนฺโต คจฺฉติ, ติฏฺติ, นิสีทติ, ทุสฺสปลฺลตฺถิกํ วา หตฺถปลฺลตฺถิกํ วา กโรติ, สงฺฆมชฺเฌ อุโภ อํเส ปารุปติ, ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ – อยํ สงฺเฆ อคารโว นาม. เอกภิกฺขุสฺมิมฺปิ หิ อคารเว กเต สงฺเฆ อคารโว กโตว โหติ. ติสฺโส สิกฺขา ปน อปูรยมาโนว สิกฺขาย อคารโว นาม. อปฺปมาทลกฺขณํ อนนุพฺรูหยมาโน อปฺปมาเท อคารโว นาม. ทุวิธํ ปฏิสนฺถารํ อกโรนฺโต ปฏิสนฺถาเร อคารโว นาม.
ปริหานิยา ธมฺมาติ ปริหานกรา ธมฺมา. กมฺมารามตาติ ¶ นวกมฺเม วา จีวรวิจารณาทีสุ วา กมฺเมสุ อภิรติ ยุตฺตปยุตฺตตา. ภสฺสารามตาติ ติรจฺฉานกถาวเสน ภสฺเส ยุตฺตปยุตฺตตา. นิทฺทารามตาติ นิทฺทาย ยุตฺตปยุตฺตตา. สงฺคณิการามตาติ สงฺคณิกาย ยุตฺตปยุตฺตตา. สํสคฺคารามตาติ สวนสํสคฺเค, ทสฺสนสํสคฺเค, สมุลฺลาปสํสคฺเค, ปริโภคสํสคฺเค, กายสํสคฺเคติ ปฺจวิเธ สํสคฺเค ยุตฺตปยุตฺตตา. ปปฺจารามตาติ ตณฺหามานทิฏฺิปปฺเจสุ ยุตฺตปยุตฺตตา.
๙๔๖. โสมนสฺสุปวิจาราทีสุ ¶ โสมนสฺเสน สทฺธึ อุปวิจรนฺตีติ โสมนสฺสุปวิจารา. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวา. โสมนสฺสฏฺานิยนฺติ โสมนสฺสสฺส อารมฺมณวเสน การณภูตํ. อุปวิจรตีติ ตตฺถ วิจารปฺปวตฺตเนน อุปวิจรติ. วิตกฺโก ปน ตํสมฺปยุตฺโต วาติ อิมินา นเยน ตีสุปิ ฉกฺเกสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๙๔๗. เคหสิตานีติ กามคุณนิสฺสิตานิ. โสมนสฺสานีติ เจตสิกสุขานิ. โทมนสฺสานีติ เจตสิกทุกฺขานิ. อุเปกฺขาติ อฺาณสมฺปยุตฺตา ¶ อุเปกฺขา เวทนา, อฺาณุเปกฺขาติปิ เอตาสํเยว นามํ.
๙๔๘. อตฺถิ เม อตฺตาติ วาติ สพฺพปเทสุ วา-สทฺโท วิกปฺปตฺโถ; เอวํ วา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ. อตฺถิ เม อตฺตาติ เจตฺถ สสฺสตทิฏฺิ สพฺพกาเลสุ อตฺตโน อตฺถิตํ คณฺหาติ. สจฺจโต เถตโตติ ภูตโต จ ถิรโต จ; อิทํ สจฺจนฺติ สุฏฺุ ทฬฺหภาเวนาติ วุตฺตํ โหติ. นตฺถิ เม อตฺตาติ อยํ ปน อุจฺเฉททิฏฺิ, สโต สตฺตสฺส ตตฺถ ตตฺถ วิภวคฺคหณโต. อถ วา ปุริมาปิ ตีสุ กาเลสุ อตฺถีติ คหณโต สสฺสตทิฏฺิ, ปจฺจุปฺปนฺนเมว อตฺถีติ คณฺหนฺตี อุจฺเฉททิฏฺิ. ปจฺฉิมาปิ อตีตานาคเตสุ นตฺถีติ คหณโต ‘ภสฺมนฺตา อาหุติโย’ติ คหิตทิฏฺิกานํ วิย อุจฺเฉททิฏฺิ, อตีเตเยว นตฺถีติ คณฺหนฺตี อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกสฺเสว สสฺสตทิฏฺิ. อตฺตนา วา อตฺตานํ สฺชานามีติ สฺากฺขนฺธสีเสน ขนฺเธ อตฺตาติ คเหตฺวา สฺาย อวเสสกฺขนฺเธ สฺชานนโต ‘อิมินา อตฺตนา อิมํ อตฺตานํ สฺชานามี’ติ เอวํ โหติ. อตฺตนา วา อนตฺตานนฺติ สฺากฺขนฺธํเยว อตฺตาติ คเหตฺวา อิตเร จตฺตาโร ขนฺเธ อนตฺตาติ คเหตฺวา สฺาย เตสํ ชานนโต เอวํ โหติ. อนตฺตนา วา อตฺตานนฺติ สฺากฺขนฺธํ อนตฺตาติ ¶ อิตเร จ จตฺตาโร ขนฺเธ อตฺตาติ คเหตฺวา สฺาย เตสํ ชานนโต เอวํ โหติ. สพฺพาปิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิโยว.
วโท เวเทยฺโยติ อาทโย ปน สสฺสตทิฏฺิยา เอว อภินิเวสาการา. ตตฺถ วทตีติ วโท; วจีกมฺมสฺส การโกติ วุตฺตํ โหติ. เวทยตีติ เวเทยฺโย; ชานาติ อนุภวติ จาติ วุตฺตํ โหติ. อิทานิ ยํ โส เวเทติ ตํ ทสฺเสตุํ ตตฺร ตตฺร ทีฆรตฺตํ กลฺยาณปาปกานนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺร ตตฺราติ เตสุ เตสุ โยนิคติิตินิวาสนิกาเยสุ อารมฺมเณสุ วา. ทีฆรตฺตนฺติ จิรรตฺตํ. ปจฺจนุโภตีติ ปฏิสํเวทยติ. น โส ชาโต นาโหสีติ โส อตฺตา อชาติธมฺมโต ¶ น ชาโต นาม; สทา วิชฺชมาโน เยวาติ อตฺโถ. เตเนว อตีเต นาโหสิ, อนาคเตปิ น ภวิสฺสติ. โย หิ ชาโต โส อโหสิ, โย จ ชายิสฺสติ โส ภวิสฺสตีติ. อถวา ‘น โส ชาโต นาโหสี’ติ โส สทา วิชฺชมานตฺตา อตีเตปิ น ชาตุ นาโหสิ ¶ , อนาคเตปิ น ชาตุ น ภวิสฺสติ. นิจฺโจติ อุปฺปาทวยรหิโต. ธุโวติ ถิโร สารภูโต. สสฺสโตติ สพฺพกาลิโก. อวิปริณามธมฺโมติ อตฺตโน ปกติภาวํ อวิชหนธมฺโม กกณฺฏโก วิย นานปฺปการตฺตํ นาปชฺชติ. เอวมยํ สพฺพาสวทิฏฺิ (ม. นิ. ๑.๑๗ อาทโย) นาม กถิตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๗.) สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๔๙. สตฺตกนิทฺเทเส ถามคตฏฺเน อปฺปหีนฏฺเน จ อนุเสนฺตีติ อนุสยา. วฏฺฏสฺมึ สตฺเต สํโยเชนฺติ ฆเฏนฺตีติ สํโยชนานิ. สมุทาจารวเสน ปริยุฏฺหนฺตีติ ปริยุฏฺานานิ. กามราโคว ปริยุฏฺานํ กามราคปริยุฏฺานํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
๙๕๐. อสตํ ธมฺมา, ลามกฏฺเน วา อสนฺตา ธมฺมาติ อสทฺธมฺมา. ราคาทีหิ โทเสหิ ทุฏฺานิ จริตานีติ ทุจฺจริตานิ. เตน เตนากาเรน มฺนฺตีติ มานา.
๙๕๑. ทิฏฺินิทฺเทเส รูปีติ รูปวา. จาตุมหาภูติโกติ จตุมหาภูตมโย. มาตาปิตูนํ เอตนฺติ มาตาเปตฺติกํ. กินฺตํ? สุกฺกโสณิตํ. มาตาเปตฺติเก สมฺภูโต ชาโตติ มาตาเปตฺติกสมฺภโว. อิธ รูปกายสีเสน มนุสฺสตฺตภาวํ อตฺตาติ วทติ. ทุติโย ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ทิพฺพตฺตภาวํ วทติ. ทิพฺโพติ เทวโลเก สมฺภูโต. กามาวจโรติ ฉกามาวจรเทวปริยาปนฺโน ¶ . กพฬีการํ ภกฺขยตีติ กพฬีการภกฺโข. มโนมโยติ ฌานมเนน นิพฺพตฺโต. สพฺพงฺคปจฺจงฺคีติ สพฺพงฺคปจฺจงฺคยุตฺโต. อหีนินฺทฺริโยติ ปริปุณฺณินฺทฺริโย; ยานิ พฺรหฺมโลเก อตฺถิ เตสํ วเสน, อิตเรสฺจ สณฺานวเสเนตํ วุตฺตํ. อากาสานฺจายตนูปโคติ ¶ อากาสานฺจายตนภาวํ อุปคโต. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๘.) อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๕๒. อฏฺกนิทฺเทเส ¶ กิเลสาเยว กิเลสวตฺถูนิ. กุสีตวตฺถูนีติ กุสีตสฺส อลสสฺส วตฺถูนิ, ปติฏฺา, โกสชฺชการณานีติ อตฺโถ. กมฺมํ กาตพฺพํ โหตีติ จีวรวิจารณาทิกมฺมํ กาตพฺพํ โหติ. น วีริยํ อารภตีติ ทุวิธมฺปิ วีริยํ นารภติ. อปฺปตฺตสฺสาติ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลธมฺมสฺส อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา. อนธิคตสฺสาติ ตสฺเสว อนธิคตสฺส อธิคมตฺถาย. อสจฺฉิกตสฺสาติ ตสฺเสว อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกรณตฺถาย. อิทํ ปมนฺติ ‘อิทํ หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ เอวํ โอสีทนํ ปมํ กุสีตวตฺถุ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
มาสาจิตํ มฺเติ เอตฺถ ปน มาสาจิตํ นาม ตินฺตมาโส; ยถา ตินฺตมาโส ครุโก โหติ, เอวํ ครุโกติ อธิปฺปาโย. คิลานา วุฏฺิโต โหตีติ คิลาโน หุตฺวา ปจฺฉา วุฏฺิโต โหติ.
๙๕๔. อฏฺสุ โลกธมฺเมสูติ เอตฺถ โลกสฺส ธมฺมาติ โลกธมฺมา. เอเตหิ วิมุตฺโต นาม นตฺถิ, พุทฺธานมฺปิ โหนฺติ เอว. ตสฺมา ‘โลกธมฺมา’ติ วุจฺจนฺติ. ปฏิฆาโตติ ปฏิหฺนากาโร. ลาเภ สาราโคติ ‘อหํ ลาภํ ลภามี’ติ เอวํ เคหสิตโสมนสฺสวเสน อุปฺปนฺโน สาราโค; โส จิตฺตํ ปฏิหนติ. อลาเภ ปฏิวิโรโธติ ‘อหํ ลาภํ น ลภามี’ติ โทมนสฺสวเสน อุปฺปนฺนวิโรโธ; โสปิ จิตฺตํ ปฏิหนติ. ตสฺมา ‘ปฏิฆาโต’ติ วุตฺโต. ยสาทีสุปิ ‘อหํ มหาปริวาโร, อหํ อปฺปปริวาโร, อหํ ปสํสปฺปตฺโต, อหํ ครหปฺปตฺโต, อหํ สุขปฺปตฺโต, อหํ ทุกฺขปฺปโต’ติ เอวเมเตสํ อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. อนริยโวหาราติ อนริยานํ โวหารา.
๙๕๗. ปุริสโทสาติ ¶ ปุริสานํ โทสา. น สรามีติ ‘มยา เอตสฺส กมฺมสฺส กตฏฺานํ น สรามิ น สลฺลกฺเขมี’ติ ¶ เอวํ อสฺสติภาเวน นิพฺเพเติ โมเจติ. โจทกํเยว ปฏิปฺผรตีติ ปฏิวิรุทฺโธ หุตฺวา ผรติ, ปฏิภาณิตภาเวน ติฏฺติ. กึ นุ โข ตุยฺหนฺติ ‘ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน นาม กึ’ โย ตฺวํ เนว วตฺถุนา อาปตฺตึ, น โจทนํ ชานาสี’ติ ทีเปติ; ‘ตฺวํ ปิ นาม เอวํ กิฺจิ อชานนฺโต ภณิตพฺพํ มฺิสฺสสี’ติ ¶ อชฺโฌตฺถรติ. ปจฺจาโรเปตีติ ‘ตฺวํ ปิ โขสี’ติอาทีนิ วทนฺโต ปฏิอาโรเปติ. ปฏิกโรหีติ เทสนาคามินึ เทเสหิ, วุฏฺานคามินิโต วุฏฺาหิ ตโต สุทฺธนฺเต ปติฏฺิโต อฺํ โจเทสฺสสี’ติ ทีเปติ.
อฺเนาฺํ ปฏิจรตีติ อฺเน การเณน วจเนน วา อฺํ การณํ วจนํ วา ปฏิจฺฉาเทติ. ‘อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’ติ วุตฺโต ‘โก อาปนฺโน? กึ อาปนฺโน? กถํ อาปนฺโน? กิสฺมึ อาปนฺโน? กํ ภณถ? กึ ภณถา’ติ วทติ. ‘เอวรูปํ กิฺจิ ตยา ทิฏฺ’นฺติ วุตฺเต ‘น สุณามี’ติ โสตํ วา อุปเนติ. พหิทฺธา กถํ อปนาเมตีติ ‘อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’ติ ปุฏฺโ ‘ปาฏลิปุตฺตํ คโตมฺหี’ติ วตฺวา ปุน ‘ตว ปาฏลิปุตฺตคมนํ น ปุจฺฉามา’ติ วุตฺเต ‘ตโต ราชคหํ คโตมฺหี’ติ ‘ราชคหํ วา ยาหิ, พฺราหฺมณเคหํ วา; อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’ติ? ‘ตตฺถ เม สูกรมํสํ ลทฺธ’นฺติอาทีนิ วทนฺโต กถํ พหิทฺธา วิกฺขิปติ. โกปนฺติ กุปิตภาวํ. โทสนฺติ ทุฏฺภาวํ. อุภยมฺเปตํ โกธสฺเสว นามํ. อปฺปจฺจยนฺติ อสนฺตุฏฺาการํ; โทมนสฺสสฺเสตํ นามํ. ปาตุกโรตีติ ทสฺเสติ ปกาเสติ. พาหาวิกฺเขปกํ ภณตีติ พาหา วิกฺขิปิตฺวา อลชฺชิวจนํ วทติ. วิเหเสตีติ วิเหเติ พาธติ. อนาทิยิตฺวาติ จิตฺตีกาเรน อคฺคเหตฺวา อวชานิตฺวา; อนาทโร หุตฺวาติ อตฺโถ.
อติพาฬฺหนฺติ อติทฬฺหํ อติปฺปมาณํ. มยิ พฺยาวฏาติ มยิ พฺยาปารํ อาปนฺนา. หีนายาวตฺติตฺวาติ หีนสฺส คิหิภาวสฺส อตฺถาย อาวตฺติตฺวา; คิหี หุตฺวาติ อตฺโถ. อตฺตมนา โหถาติ ตุฏฺจิตฺตา โหถ, ‘มยา ลภิตพฺพํ ลภถ, มยา วสิตพฺพฏฺาเน วสถ, ผาสุวิหาโร โว มยา กโต’ติ อธิปฺปาเยน วทติ.
๙๕๘. อสฺีติ ปวตฺโต วาโท อสฺีวาโท; โส เตสํ อตฺถีติ อสฺีวาทา. รูปี อตฺตาติอาทีสุ ลาภิโน กสิณรูปํ อตฺตาติ คเหตฺวา รูปีติ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ; อลาภิโน ตกฺกมตฺเตเนว ¶ ¶ , อาชีวกานํ วิย. ลาภิโนเยว จ ปน อรูปสมาปตฺตินิมิตฺตํ อตฺตาติ คเหตฺวา อรูปีติ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ; อลาภิโน ตกฺกมตฺเตเนว, นิคณฺานํ วิย. อสฺีภาเว ปเนตฺถ เอกนฺเตเนว การณํ น ปริเยสิตพฺพํ. ทิฏฺิคติโก ¶ หิ อุมฺมตฺตโก วิย ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ. รูปี จ อรูปี จาติ รูปารูปมิสฺสกคาหวเสน วุตฺตํ. อยํ ทิฏฺิ รูปาวจรารูปาวจรสมาปตฺติลาภิโนปิ ตกฺกิกสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เนว รูปี นารูปีติ ปน เอกนฺตโต ตกฺกิกทิฏฺิเยว. อนฺตวาติ ปริตฺตกสิณํ อตฺตโต คณฺหนฺตสฺส ทิฏฺิ. อนนฺตวาติ อปฺปมาณกสิณํ. อนฺตวา จ อนนฺตวา จาติ อุทฺธมโธ สปริยนฺตํ ติริยํ อปริยนฺตํ กสิณํ อตฺตาติ คเหตฺวา อุปฺปนฺนทิฏฺิ. เนวนฺตวา นานนฺตวาติ ตกฺกิกทิฏฺิเยว. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๙.) นวกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๖๐. นวกนิทฺเทเส นว อาฆาตวตฺถูนีติ สตฺเตสุ อุปฺปตฺติวเสเนว กถิตานิ. ปุริสานํ มลานีติ ปุริสมลานิ. นววิธาติ นวโกฏฺาสา นวปฺปเภทา วา.
๙๖๓. ตณฺหํ ปฏิจฺจาติ ตณฺหํ นิสฺสาย. ปริเยสนาติ รูปาทิอารมฺมณปริเยสนา. สา หิ ตณฺหาย สติ โหติ. ลาโภติ รูปาทิอารมฺมณปฏิลาโภ. โส หิ ปริเยสนาย สติ โหติ. วินิจฺฉโย ปน าณตณฺหาทิฏฺิวิตกฺกวเสน จตุพฺพิโธ. ตตฺถ ‘‘สุขวินิจฺฉยํ ชฺา, สุขวินิจฺฉยํ ตฺวา อชฺฌตฺตํ สุขมนุยฺุเชยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๒๓) อยํ าณวินิจฺฉโย. ‘‘วินิจฺฉโยติ ทฺเว วินิจฺฉยา – ตณฺหาวินิจฺฉโย จ ทิฏฺิวินิจฺฉโย จา’’ติ (มหานิ. ๑๐๒) เอวํ อาคตานิ อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ ตณฺหาวินิจฺฉโย. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺิวินิจฺฉโย. ‘‘ฉนฺโท โข, เทวานมินฺท, วิตกฺกนิทาโน’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕๘) อิมสฺมึ ปน สุตฺเต อิธ วินิจฺฉโยติ วุตฺโต วิตกฺโกเยว อาคโต. ลาภํ ลภิตฺวา หิ อิฏฺานิฏฺํ สุนฺทราสุนฺทรฺจ วิตกฺเกเนว วินิจฺฉินาติ – ‘เอตฺตกํ เม รูปารมฺมณตฺถาย ภวิสฺสติ ¶ , เอตฺตกํ สทฺทาทิอารมฺมณตฺถาย ¶ , เอตฺตกํ มยฺหํ ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ ปรสฺส, เอตฺตกํ ปริภฺุชิสฺสามิ, เอตฺตกํ นิทหิสฺสามี’ติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย’’ติ.
ฉนฺทราโคติ เอวํ อกุสลวิตกฺเกน วิตกฺกิเต วตฺถุสฺมึ ทุพฺพลราโค จ พลวราโค จ อุปฺปชฺชติ. อิทฺหิ อิธ ฉนฺโทติ ทุพฺพลราคสฺสาธิวจนํ ¶ . อชฺโฌสานนฺติ อหํ มมนฺติ พลวสนฺนิฏฺานํ. ปริคฺคโหติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปริคฺคหกรณํ. มจฺฉริยนฺติ ปเรหิ สาธารณภาวสฺส อสหนตา. เตเนวสฺส โปราณา เอวํ วจนตฺถํ วทนฺติ – ‘‘อิทํ อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺส อจฺฉริยํ โหตูติ ปวตฺตตฺตา มจฺฉริยนฺติ วุจฺจตี’’ติ. อารกฺโขติ ทฺวารปิทหนมฺชุสโคปนาทิวเสน สุฏฺุ รกฺขณํ. อธิกโรตีติ อธิกรณํ; การณสฺเสตํ นามํ. อารกฺขาธิกรณนฺติ ภาวนปุํสกํ; อารกฺขเหตูติ อตฺโถ. ทณฺฑาทานาทีสุ ปรนิเสธนตฺถํ ทณฺฑสฺส อาทานํ ทณฺฑาทานํ. เอกโตธาราทิโน สตฺถสฺส อาทานํ สตฺถาทานํ. กลโหติ กายกลโหปิ วาจากลโหปิ. ปุริโม ปุริโม วิโรโธ วิคฺคโห, ปจฺฉิโม ปจฺฉิโม วิวาโท. ตุวํ ตุวนฺติ อคารววจนํ, ตฺวํ ตฺวนฺติ อตฺโถ.
๙๖๔. อิฺชิตานีติ อิฺชนานิ จลนานิ. อสฺมีติ อิฺชิตเมตนฺติอาทีหิ สพฺพปเทหิ มาโนว กถิโต. อหนฺติ ปวตฺโตปิ หิ มาโน อิฺชิตเมว, อยมหนฺติ ปวตฺโตปิ, เนวสฺีนาสฺี ภวิสฺสนฺติ ปวตฺโตปิ. เสสนวเกหิปิ มาโนว กถิโต. มาโน หิ อิฺชนโต อิฺชิตํ, มฺนโต มฺิตํ, ผนฺทนโต ผนฺทิตํ, ปปฺจนโต ปปฺจิตํ. เตหิ เตหิ การเณหิ สงฺขตตฺตา สงฺขตนฺติ จ วุจฺจติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
นวกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๑๐.) ทสกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๖๖. ทสกนิทฺเทเส กิเลสา เอว กิเลสวตฺถูนิ. อาฆาตวตฺถูนิ ปเนตฺถ ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทีนํ ¶ วเสน อวิโกเปตพฺเพ ขาณุกณฺฏกาทิมฺหิปิ อฏฺาเน อุปฺปนฺนาฆาเตน สทฺธึ วุตฺตานิ.
๙๗๐. มิจฺฉตฺเตสุ มิจฺฉาาณนฺติ ปาปกิริยาสุ อุปายจินฺตาวเสน ปาปํ กตฺวา ‘สุกตํ มยา’ติ ปจฺจเวกฺขณากาเรน อุปฺปนฺโน โมโห. มิจฺฉาวิมุตฺตีติ ¶ อวิมุตฺตสฺเสว สโต วิมุตฺตสฺิตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ทสกนิทฺเทสวณฺณนา.
ตณฺหาวิจริตนิทฺเทสวณฺณนา
๙๗๓. ตณฺหาวิจริตนิทฺเทเส ตณฺหาวิจริตานีติ ตณฺหาสมุทาจารา ตณฺหาปวตฺติโย. อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทายาติ อชฺฌตฺติกํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. อิทฺหิ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. อสฺมีติ โหตีติ ยเทตํ อชฺฌตฺตํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย ตณฺหามานทิฏฺิวเสน สมูหคาหโต ‘อสฺมี’ติ โหติ, ตสฺมึ สตีติ ¶ อตฺโถ. อิตฺถสฺมีติ โหตีติอาทีสุ ปน เอวํ สมูหโต ‘อห’นฺติ คหเณ สติ ตโต อนุปนิธาย จ อุปนิธาย จาติ ทฺวิธา คหณํ โหติ. ตตฺถ อนุปนิธายาติ อฺํ อาการํ อนุปคมฺม สกภาวเมว อารมฺมณํ กตฺวา ‘อิตฺถสฺมี’ติ โหติ; ขตฺติยาทีสุ ‘อิทํปกาโร อห’นฺติ เอวํ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน โหตีติ อตฺโถ. อิทํ ตาว อนุปนิธาย คหณํ. อุปนิธาย คหณํ ปน ทุวิธํ โหติ – สมโต จ อสมโต จ. ตํ ทสฺเสตุํ เอวสฺมีติ จ อฺถาสฺมีติ จ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวสฺมีติ อิทํ สมโต อุปนิธาย คหณํ; ยถา อยํ ขตฺติโย, ยถา อยํ พฺราหฺมโณ, เอวํ อหมฺปีติ อตฺโถ. อฺถาสฺมีติ อิทํ ปน อสมโต คหณํ; ยถายํ ขตฺติโย, ยถายํ พฺราหฺมโณ, ตโต อฺถา อหํ หีโน วา อธิโก วาติ อตฺโถ. อิมานิ ตาว ปจฺจุปฺปนฺนวเสน จตฺตาริ ตณฺหาวิจริตานิ. ภวิสฺสนฺติอาทีนิ ปน จตฺตาริ อนาคตวเสน วุตฺตานิ. เสสํ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อสฺมีติ สสฺสโต อสฺมิ. สาตสฺมีติ อสสฺสโต อสฺมิ. อสสฺมีติ สตสฺมีติ วา ปาโ. ตตฺถ อตฺถีติ อสํ; นิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ. สีทตีติ สตํ; อนิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ. อิติ อิมานิ ¶ ทฺเว สสฺสตุจฺเฉทวเสน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. อิโต ปรานิ สิยนฺติอาทีนิ จตฺตาริ สํสยปริวิตกฺกวเสน วุตฺตานิ. ตานิ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. อปาหํ สิยนฺติอาทีนิ ปน จตฺตาริ ‘‘อปิ นามาหํ ภเวยฺย’’นฺติ เอวํ ปตฺถนากปฺปนวเสน วุตฺตานิ. ตานิ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอวเมเตสุ –
ทฺเว ¶ ทิฏฺิสีสา จตฺตาโร, สุทฺธสีสา สีสมูลกา;
ตโย ตโยติ เอตานิ, อฏฺารส วิภาวเย.
เอเตสุ หิ สสฺสตุจฺเฉทวเสน วุตฺตา ทฺเว ทิฏฺิสีสา นาม. อสฺมีติ, ภวิสฺสนฺติ, สิยนฺติ, อปาหํ สิยนฺติ เอเต จตฺตาโร สุทฺธสีสาเอว. อิตฺถสฺมีติ อาทโย ตโย ตโยติ ทฺวาทส สีสมูลกา นามาติ. เอวเมเต ทฺเว ทิฏฺิสีสา, จตฺตาโร สุทฺธสีสา, ทฺวาทส สีสมูลกาติ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตธมฺมา เวทิตพฺพา.
๙๗๔. อิทานิ ปฏิปาฏิยาว เต ธมฺเม ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กถฺจ อสฺมีติ โหตีติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กฺจิ ธมฺมํ อนวการึ กริตฺวาติ รูปเวทนาทีสุ กฺจิ เอกธมฺมมฺปิ อวินิพฺโภคํ ¶ กตฺวา, เอเกกโต อคฺคเหตฺวา, สมูหโตว คเหตฺวาติ อตฺโถ. อสฺมีติ ฉนฺทํ ปฏิลภตีติ ปฺจกฺขนฺเธ นิรวเสสโต คเหตฺวา ‘อห’นฺติ ตณฺหํ ปฏิลภติ. มานทิฏฺีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ กิฺจาปิ อยํ ตณฺหาวิจริตนิทฺเทโส, มานทิฏฺิโย ปน น วินา ตณฺหาย, ตสฺมา ตเทกฏฺวเสน อิธ วุตฺตา. ตณฺหาสีเสน วา ปปฺจตฺตยมฺปิ อุทฺทิฏฺํ. ตํ อุทฺเทสานุรูเปเนว นิทฺทิสิตุมฺปิ มานทิฏฺิโย คหิตา. ตณฺหาปปฺจํ วา ทสฺเสนฺโต เตเนว สทฺธึ เสสปปฺเจปิ ทสฺเสตุํ เอวมาห.
ตสฺมึ สติ อิมานิ ปปฺจิตานีติ ตสฺมึ ‘‘อสฺมีติ ฉนฺทํ ปฏิลภตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺเต ปปฺจตฺตเย สติ ปุน อิมานิ ‘‘อิตฺถสฺมีติ วา’’ติอาทีนิ ปปฺจิตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ.
ขตฺติโยสฺมีติอาทีสุ อภิเสกเสนามจฺจาทินา ‘ขตฺติโย อหํ’, มนฺตชฺเฌน โปโรหิจฺจาทินา ‘พฺราหฺมโณ อหํ’, กสิโครกฺขาทินา ‘เวสฺโส อหํ’, อสิตพฺยาภงฺคิตาย ‘สุทฺโท อหํ’ ¶ , คิหิพฺยฺชเนน ‘คหฏฺโ อห’นฺติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ อิตฺถสฺมีติ โหตีติ เอวํ ขตฺติยาทีสุ ขตฺติยาทิปฺปการํ อตฺตนิ อุปฺปาทยิตฺวา ‘อิตฺถํปกาโร อห’นฺติ โหติ.
ยถา โส ขตฺติโยติอาทีสุ ‘ยถา โส อภิเสกเสนามจฺจาทินา ขตฺติโย, ตถา ‘อหมฺปิ ขตฺติโย’ติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ทุติยนเย ‘ยถา โส อภิเสกเสนามจฺจาทินา ขตฺติโย, นาหํ ตถา ขตฺติโย; อหํ ปน ตโต หีโน วา เสฏฺโ วา’ติ ¶ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภวิสฺสนฺติอาทินิทฺเทสาทีสุปิ เอเสว นโย.
๙๗๕. เอวํ อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย ตณฺหาวิจริตานิ ภาเชตฺวา อิทานิ พาหิรสฺส อุปาทาย ตณฺหาวิจริตานิ ภาเชตุํ ตตฺถ กตมานีติอาทิมาห. ตตฺถ พาหิรสฺส อุปาทายาติ พาหิรํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. อิทมฺปิ หิ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. อิมินาติ อิมินา รูเปน วา…เป… วิฺาเณน วา. อวเสสํ ปน อุทฺเทสวาเร ตาว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๙๗๖. นิทฺเทสวาเร ปน อวการึ กริตฺวาติ วินิพฺโภคํ กตฺวา. อิมินา อสฺมีติ ฉนฺทํ ปฏิลภตีติอาทีสุ อิมินา รูเปน วา…เป… วิฺาเณน วาติ เอวํ ปฺจกฺขนฺเธ เอกเทสโต คเหตฺวา อิมินา ‘อห’นฺติ ฉนฺทาทีนิ ปฏิลภตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อิมินา ขตฺติโยสฺมีติอาทีสุ ‘อิมินา ฉตฺเตน ¶ วา ขคฺเคน วา อภิเสกเสนามจฺจาทินา วา ขตฺติโย อห’นฺติ เอวํ ปุริมนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมินาติ ปทมตฺตเมว เหตฺถ วิเสโส.
ยถา โส ขตฺติโยติอาทีสุปิ อิมินาติ วุตฺตปทเมว วิเสโส. ตสฺมา ตสฺส วเสน ยถา ขตฺติโย, เอวํ อหมฺปิ อิมินา ขคฺเคน วา ฉตฺเตน วา อภิเสกเสนามจฺจาทินา วา ขตฺติโยติ เอวํ โยเชตฺวา สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมินา นิจฺโจสฺมีติ ปฺจกฺขนฺเธ อนวการึ กตฺวา รูปาทีสุ เอกเมว ธมฺมํ ‘อห’นฺติ คเหตฺวา ‘อิมินา ขคฺเคน วา ฉตฺเตน วา อหํ นิจฺโจ ธุโว’ติ มฺติ. อุจฺเฉททิฏฺิยมฺปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อิติ เอวรูปานิ อตีตานิ ฉตฺตึสาติ เอเกกสฺส ปุคฺคลสฺส อตีเต ฉตฺตึส. อนาคตานิ ฉตฺตึสาติ เอเกกสฺเสว อนาคเต ฉตฺตึส. ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึสาติ เอเกกสฺส วา ปุคฺคลสฺส ¶ ยถาลาภวเสน พหุนํ วา ปจฺจุปฺปนฺเน ฉตฺตึส. สพฺพสตฺตานํ ปน เอกํเสเนว อตีเต ฉตฺตึส, อนาคเต ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺเน ฉตฺตึสาติ เวทิตพฺพานิ. อนนฺตา หิ อสทิสตณฺหามานทิฏฺิเภทา สตฺตา. อฏฺตณฺหาวิจริตสตํ โหตีติ เอตฺถ ปน อฏฺสตสงฺขาตํ ตณฺหาวิจริตํ โหตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ตณฺหาวิจริตนิทฺเทสวณฺณนา.
ทิฏฺิคตนิทฺเทสวณฺณนา
๙๗๗. ทิฏฺิคตนิทฺเทเส ¶ พฺรหฺมชาเล เวยฺยากรเณติ พฺรหฺมชาลนามเก เวยฺยากรเณ, ทีฆนิกายสฺส ปมสุตฺตนฺเต. วุตฺตานิ ภควตาติ สตฺถารา สยํ อาหจฺจ ภาสิตานิ. จตฺตาโร สสฺสตวาทาติอาทีสุ ‘‘เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺาเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๙-๓๐) พฺรหฺมชาเล วุตฺตนเยเนว ปเภโท จ อตฺโถ จ เวทิตพฺโพติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.