📜
๔. สจฺจวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๑๘๙. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร สจฺจวิภงฺเค จตฺตารีติ คณนปริจฺเฉโท. อริยสจฺจานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติอาทิมฺหิ ปน อุทฺเทสวาเร –
วิภาคโต นิพฺพจน-ลกฺขณาทิปฺปเภทโต;
อตฺถตฺถุทฺธารโต เจว, อนูนาธิกโต ตถา.
กมโต อริยสจฺเจสุ, ยํ าณํ ตสฺส กิจฺจโต;
อนฺโตคธานํ ปเภโท, อุปมาโต จตุกฺกโต.
สฺุเตกวิธาทีหิ, สภาควิสภาคโต;
วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ, วิฺุนา สาสนกฺกเม.
ตตฺถ ‘วิภาคโต’ติ ทุกฺขาทีนฺหิ จตฺตาโร จตฺตาโร อตฺถา วิภตฺตา ตถา อวิตถา อนฺถา, เย ทุกฺขาทีนิ อภิสเมนฺเตหิ อภิสเมตพฺพา. ยถาห, ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ, สงฺขตฏฺโ, สนฺตาปฏฺโ, วิปริณามฏฺโ – อิเม จตฺตาโร ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺา ตถา อวิตถา อนฺถา. สมุทยสฺส อายูหนฏฺโ, นิทานฏฺโ, สํโยคฏฺโ, ปลิโพธฏฺโ…เป… นิโรธสฺส นิสฺสรณฏฺโ, วิเวกฏฺโ, อสงฺขตฏฺโ, อมตฏฺโ…เป… มคฺคสฺส นิยฺยานฏฺโ, เหตฺวฏฺโ, ทสฺสนฏฺโ, อาธิปเตยฺยฏฺโ – อิเม จตฺตาโร มคฺคสฺส มคฺคฏฺา ตถา อวิตถา อนฺถา’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๘). ตถา ¶ ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ, สงฺขตฏฺโ, สนฺตาปฏฺโ, วิปรินามฏฺโ, อภิสมยฏฺโ’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๑๑) เอวมาทิ. อิติ เอวํ วิภตฺตานํ จตุนฺนํ จตุนฺนํ อตฺถานํ วเสน ทุกฺขาทีนิ เวทิตพฺพานีติ. อยํ ตาเวตฺถ วิภาคโต วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘นิพฺพจนลกฺขณาทิปฺปเภทโต’ติ ¶ เอตฺถ ปน ‘นิพฺพจนโต’ ตาว อิธ ‘ทุ’อิติ อยํ สทฺโท กุจฺฉิเต ทิสฺสติ; กุจฺฉิตฺหิ ปุตฺตํ ทุปุตฺโตติ วทนฺติ. ‘ขํ’สทฺโท ปน ตุจฺเฉ; ตุจฺฉฺหิ อากาสํ ขนฺติ วุจฺจติ. อิทฺจ ปมสจฺจํ กุจฺฉิตํ อเนกอุปทฺทวาธิฏฺานโต, ตุจฺฉํ พาลชนปริกปฺปิตธุวสุภสุขตฺตภาววิรหิตโต. ตสฺมา กุจฺฉิตตฺตา ตุจฺฉตฺตา จ ทุกฺขนฺติ วุจฺจติ. ‘สํ’อิติ จ อยํ ¶ สทฺโท ‘‘สมาคโม สเมต’’นฺติอาทีสุ (วิภ. ๑๙๙; ที. นิ. ๒.๓๙๖) สํโยคํ ทีเปติ; ‘อุ’อิติ อยํ สทฺโท ‘‘อุปฺปนฺนํ อุทิต’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๑๗๒; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๔๑) อุปฺปตฺตึ. ‘อย’สทฺโท ปน การณํ ทีเปติ. อิทฺจาปิ ทุติยสจฺจํ อวเสสปจฺจยสมาโยเค สติ ทุกฺขสฺสุปฺปตฺติการณํ. อิติ ทุกฺขสฺส สํโยเค อุปฺปตฺติการณตฺตา ทุกฺขสมุทยนฺติ วุจฺจติ.
ตติยสจฺจํ ปน ยสฺมา ‘นิ’สทฺโท อภาวํ ‘โรธ’สทฺโท จ จารกํ ทีเปติ, ตสฺมา อภาโว เอตฺถ สํสารจารกสงฺขาตสฺส ทุกฺขโรธสฺส สพฺพคติสฺุตฺตา, สมธิคเต วา ตสฺมึ สํสารจารกสงฺขาตสฺส ทุกฺขโรธสฺส อภาโว โหติ ตปฺปฏิปกฺขตฺตาติปิ ทุกฺขนิโรธนฺติ วุจฺจติ, ทุกฺขสฺส วา อนุปฺปาทนิโรธปจฺจยตฺตา ทุกฺขนิโรธนฺติ. จตุตฺถสจฺจํ ปน ยสฺมา เอตํ ทุกฺขนิโรธํ คจฺฉติ อารมฺมณวเสน ตทภิมุขีภูตตฺตา, ปฏิปทา จ โหติ ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา, ตสฺมา ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ วุจฺจติ.
ยสฺมา ปเนตานิ พุทฺธาทโย อริยา ปฏิวิชฺฌนฺติ, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺติ. ยถาห – ‘‘จตาริมานิ, ภิกฺขเว, อริยสจฺจานิ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๗). กตมานิ…เป… อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. อริยา อิมานิ ปฏิวิชฺฌนฺติ, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตี’’ติ. อปิจ อริยสฺส สจฺจานีติปิ อริยสจฺจานิ. ยถาห – ‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ตถาคโต อริโย, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตี’’ติ. อถ วา เอเตสํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา อริยภาวสิทฺธิโตปิ อริยสจฺจานิ. ยถาห – ‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ¶ ยถาภูตํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ‘อริโย’ติ วุจฺจตี’’ติ. อปิจ โข ปน อริยานิ ¶ สจฺจานีติปิ อริยสจฺจานิ; อริยานีติ ตถานิ อวิตถานิ อวิสํวาทกานีติ อตฺโถ. ยถาห – ‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตี’’ติ. เอวเมตฺถ นิพฺพจนโต วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
กถํ ‘ลกฺขณาทิปฺปเภทโต’? เอตฺถ หิ พาธนลกฺขณํ ทุกฺขสจฺจํ, สนฺตาปนรสํ, ปวตฺติปจฺจุปฏฺานํ. ปภวลกฺขณํ สมุทยสจฺจํ, อนุปจฺเฉทกรณรสํ, ปลิโพธปจฺจุปฏฺานํ. สนฺติลกฺขณํ นิโรธสจฺจํ, อจฺจุติรสํ, อนิมิตฺตปจฺจุปฏฺานํ ¶ . นิยฺยานลกฺขณํ มคฺคสจฺจํ, กิเลสปฺปหานกรณรสํ, วุฏฺานปจฺจุปฏฺานํ. อปิจ ปวตฺติปวตฺตกนิวตฺตินิวตฺตกลกฺขณานิ ปฏิปาฏิยา. ตถา สงฺขตตณฺหาอสงฺขตทสฺสนลกฺขณานิ จาติ เอวเมตฺถ ‘ลกฺขณาทิปฺปเภทโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อตฺถตฺถุทฺธารโต เจวา’ติ เอตฺถ ปน อตฺถโต ตาว โก สจฺจฏฺโติ เจ? โย ปฺาจกฺขุนา อุปปริกฺขมานานํ มายาว วิปรีตโก, มรีจีว วิสํวาทโก, ติตฺถิยานํ อตฺตาว อนุปลพฺภสภาโว จ น โหติ; อถ โข พาธนปภวสนฺตินิยฺยานปฺปกาเรน ตจฺฉาวิปรีตภูตภาเวน อริยาณสฺส โคจโร โหติเยว; เอส อคฺคิลกฺขณํ วิย, โลกปกติ วิย จ ตจฺฉาวิปรีตภูตภาโว สจฺจฏฺโติ เวทิตพฺโพ. ยถาห – ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ โข, ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมตํ อนฺถเมต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐) วิตฺถาโร. อปิจ –
นาพาธกํ ยโต ทุกฺขํ, ทุกฺขา อฺํ น พาธกํ;
พาธกตฺตนิยาเมน, ตโต สจฺจมิทํ มตํ.
ตํ วินา นาฺโต ทุกฺขํ, น โหติ น จ ตํ ตโต;
ทุกฺขเหตุนิยาเมน, อิติ สจฺจํ วิสตฺติกา.
นาฺา นิพฺพานโต สนฺติ, สนฺตํ น จ น ตํ ยโต;
สนฺตภาวนิยาเมน, ตโต สจฺจมิทํ มตํ.
มคฺคา ¶ อฺํ น นิยฺยานํ, อนิยฺยาโน น จาปิ โส;
ตจฺฉนิยฺยานภาวตฺตา, อิติ โส สจฺจสมฺมโต.
อิติ ตจฺฉาวิปลฺลาส-ภูตภาวํ จตูสุปิ;
ทุกฺขาทีสฺววิเสเสน, สจฺจฏฺํ อาหุ ปณฺฑิตาติ.
เอวํ ¶ ‘อตฺถโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
กถํ ‘อตฺถุทฺธารโต’? อิธายํ ‘สจฺจ’สทฺโท อเนเกสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ, เสยฺยถิทํ – ‘‘สจฺจํ ภเณ, น กุชฺเฌยฺยา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๒๔) วาจาสจฺเจ. ‘‘สจฺเจ ิตา สมณพฺราหฺมณา จา’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๑.๔๓๓) วิรติสจฺเจ. ‘‘กสฺมา นุ สจฺจานิ ¶ วทนฺติ นานา, ปวาทิยาเส กุสลาวทานา’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๙๑) ทิฏฺิสจฺเจ. ‘‘เอกฺหิ สจฺจํ น ทุติยมตฺถี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๙๐) ปรมตฺถสจฺเจ นิพฺพาเน เจว มคฺเค จ. ‘‘จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ กติ กุสลา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๒๑๖) อริยสจฺเจ. สฺวายมิธาปิ อริยสจฺเจ วตฺตตีติ เอวเมตฺถ ‘อตฺถุทฺธารโต’ปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อนูนาธิกโต’ติ กสฺมา ปน จตฺตาเรว อริยสจฺจานิ วุตฺตานิ, อนูนานิ อนธิกานีติ เจ? อฺสฺสาสมฺภวโต, อฺตรสฺส จ อนปเนยฺยภาวโต; น หิ เอเตหิ อฺํ อธิกํ วา เอเตสํ วา เอกมฺปิ อปเนตพฺพํ สมฺโภติ. ยถาห – ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อาคจฺเฉยฺย สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ‘เนตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, อฺํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ยํ สมเณน โคตเมน เทสิตํ. อหเมตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ เปตฺวา อฺํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปฺเปสฺสามี’ติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติอาทิ. ยถา จาห – ‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํ วเทยฺย ‘เนตํ ทุกฺขํ ปมํ อริยสจฺจํ, ยํ สมเณน โคตเมน เทสิตํ. อหเมตํ ทุกฺขํ ปมํ อริยสจฺจํ ปจฺจกฺขาย อฺํ ทุกฺขํ ปมํ อริยสจฺจํ ปฺเปสฺสามี’ติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๖).
อปิจ ปวตฺติมาจิกฺขนฺโต ภควา สเหตุกํ อาจิกฺขิ, นิวตฺติฺจ สอุปายํ. อิติ ปวตฺตินิวตฺติตทุภยเหตูนํ ¶ เอตปฺปรมโต จตฺตาเรว วุตฺตานิ. ตถา ปริฺเยฺย ปหาตพฺพ สจฺฉิกาตพฺพ ภาเวตพฺพานํ, ตณฺหาวตฺถุตณฺหาตณฺหานิโรธตณฺหานิโรธุปายานํ, อาลยาลยรามตาอาลยสมุคฺฆาตอาลยสมุคฺฆาตูปายานฺจ วเสนาปิ จตฺตาเรว วุตฺตานีติ. เอวเมตฺถ ‘อนูนาธิกโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘กมโต’ติ อยมฺปิ เทสนากฺกโมว. เอตฺถ จ โอฬาริกตฺตา สพฺพสตฺตสาธารณตฺตา จ สุวิฺเยฺยนฺติ ทุกฺขสจฺจํ ปมํ ¶ วุตฺตํ, ตสฺเสว เหตุทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมุทยสจฺจํ, เหตุนิโรธา ผลนิโรโธติ าปนตฺถํ ตโต นิโรธสจฺจํ, ตทธิคมุปายทสฺสนตฺถํ อนฺเต มคฺคสจฺจํ. ภวสุขสฺสาทคธิตานํ วา สตฺตานํ สํเวคชนนตฺถํ ปมํ ทุกฺขมาห. ตํ เนว อกตํ อาคจฺฉติ, น อิสฺสรนิมฺมานาทิโต โหติ, อิโต ปน โหตีติ ¶ าปนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมุทยํ. ตโต สเหตุเกน ทุกฺเขน อภิภูตตฺตา สํวิคฺคมานสานํ ทุกฺขนิสฺสรณคเวสีนํ นิสฺสรณทสฺสเนน อสฺสาสชนนตฺถํ นิโรธํ. ตโต นิโรธาธิคมตฺถํ นิโรธสมฺปาปกํ มคฺคนฺติ เอวเมตฺถ ‘กมโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อริยสจฺเจสุ ยํ าณํ ตสฺส กิจฺจโต’ติ สจฺจาณกิจฺจโตปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. ทุวิธฺหิ สจฺจาณํ – อนุโพธาณฺจ ปฏิเวธาณฺจ. ตตฺถ อนุโพธาณํ โลกิยํ อนุสฺสวาทิวเสน นิโรเธ มคฺเค จ ปวตฺตติ. ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ นิโรธารมฺมณํ กตฺวา กิจฺจโต จตฺตาริปิ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ. ยถาห – ‘‘โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสติ ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธมฺปิ ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธคามินึ ปฏิปทมฺปิ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) สพฺพํ วตฺตพฺพํ. ยํ ปเนตํ โลกิยํ, ตตฺถ ทุกฺขาณํ ปริยุฏฺานาภิภวนวเสน ปวตฺตมานํ สกฺกายทิฏฺึ นิวตฺเตติ, สมุทยาณํ อุจฺเฉททิฏฺึ, นิโรธาณํ สสฺสตทิฏฺึ, มคฺคาณํ อกิริยทิฏฺึ; ทุกฺขาณํ วา ธุวสุภสุขตฺตภาวรหิเตสุ ขนฺเธสุ ธุวสุภสุขตฺตภาวสฺาสงฺขาตํ ผเล วิปฺปฏิปตฺตึ, สมุทยาณํ อิสฺสรปฺปธานกาลสภาวาทีหิ โลโก ปวตฺตตีติ อการเณ การณาภิมานปฺปวตฺตํ เหตุมฺหิ วิปฺปฏิปตฺตึ, นิโรธาณํ อรูปโลกโลกถูปิกาทีสุ อปวคฺคคฺคาหภูตํ นิโรเธ วิปฺปฏิปตฺตึ, มคฺคาณํ กามสุขลฺลิกอตฺตกิลมถานุโยคปฺปเภเท ¶ อวิสุทฺธิมคฺเค วิสุทฺธิมคฺคคฺคาหวเสน ปวตฺตํ อุปาเย วิปฺปฏิปตฺตึ นิวตฺเตติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
โลเก ¶ โลกปฺปภเว, โลกตฺถคเม สิเว จ ตทุปาเย;
สมฺมุยฺหติ ตาว นโร, น วิชานาติ ยาว สจฺจานีติ.
เอวเมตฺถ ‘าณกิจฺจโต’ปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อนฺโตคธานํ ปเภทา’ติ ทุกฺขสจฺจสฺมิฺหิ, เปตฺวา ตณฺหฺเจว อนาสวธมฺเม จ, เสสา สพฺพธมฺมา อนฺโตคธา; สมุทยสจฺเจ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ; นิโรธสจฺจํ อสมฺมิสฺสํ; มคฺคสจฺเจ สมฺมาทิฏฺิมุเขน วีมํสิทฺธิปาทปฺินฺทฺริยปฺาพลธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคานิ. สมฺมาสงฺกปฺปาปเทเสน ตโย เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย, สมฺมาวาจาปเทเสน จตฺตาริ วจีสุจริตานิ, สมฺมากมฺมนฺตาปเทเสน ตีณิ กายสุจริตานิ, สมฺมาอาชีวมุเขน อปฺปิจฺฉตา สนฺตุฏฺิตา ¶ จ, สพฺเพสํเยว วา เอเตสํ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวานํ อริยกนฺตสีลตฺตา สีลสฺส จ สทฺธาหตฺเถน ปฏิคฺคเหตพฺพตฺตา เตสํ อตฺถิตาย จ อตฺถิภาวโต สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพลฉนฺทิทฺธิปาทา, สมฺมาวายามาปเทเสน จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวีริยินฺทฺริยวีริยพลวีริยสมฺโพชฺฌงฺคานิ, สมฺมาสติอปเทเสน จตุพฺพิธสติปฏฺานสตินฺทฺริยสติพลสติสมฺโพชฺฌงฺคานิ, สมฺมาสมาธิอปเทเสน สวิตกฺกสวิจาราทโย ตโย ตโย สมาธี, จิตฺตสมาธิสมาธินฺทฺริยสมาธิพลปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคานิ อนฺโตคธานีติ. เอวเมตฺถ ‘อนฺโตคธานํ ปเภทา’ปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อุปมาโต’ติ ภาโร วิย หิ ทุกฺขสจฺจํ ทฏฺพฺพํ, ภาราทานมิว สมุทยสจฺจํ, ภารนิกฺเขปนมิว นิโรธสจฺจํ, ภารนิกฺเขปนูปาโย วิย มคฺคสจฺจํ; โรโค วิย จ ทุกฺขสจฺจํ, โรคนิทานมิว สมุทยสจฺจํ, โรควูปสโม วิย นิโรธสจฺจํ, เภสชฺชมิว มคฺคสจฺจํ; ทุพฺภิกฺขมิว วา ทุกฺขสจฺจํ, ทุพฺพุฏฺิ วิย สมุทยสจฺจํ, สุภิกฺขมิว นิโรธสจฺจํ ¶ , สุวุฏฺิ วิย มคฺคสจฺจํ. อปิจ เวรีเวรมูลเวรสมุคฺฆาตเวรสมุคฺฆาตุปาเยหิ, วิสรุกฺขรุกฺขมูลมูลุปจฺเฉทตทุปจฺเฉทุปาเยหิ, ภยภยมูลนิพฺภยตทธิคมุปาเยหิ, โอริมตีรมโหฆปาริมตีรตํสมฺปาปกวายาเมหิ จ โยเชตฺวาเปตานิ อุปมาโต เวทิตพฺพานีติ. เอวเมตฺถ ‘อุปมาโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘จตุกฺกโต’ติ อตฺถิ เจตฺถ ทุกฺขํ น อริยสจฺจํ, อตฺถิ อริยสจฺจํ น ทุกฺขํ, อตฺถิ ทุกฺขฺเจว ¶ อริยสจฺจฺจ, อตฺถิ เนว ทุกฺขํ น อริยสจฺจํ. เอส นโย สมุทยาทีสุ. ตตฺถ มคฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา สามฺผลานิ จ ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) วจนโต สงฺขารทุกฺขตาย ทุกฺขํ น อริยสจฺจํ. นิโรโธ อริยสจฺจํ น ทุกฺขํ. อิตรํ ปน อริยสจฺจทฺวยํ สิยา ทุกฺขํ อนิจฺจโต, น ปน ยสฺส ปริฺาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน. สพฺพากาเรน ปน อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ ทุกฺขฺเจว อริยสจฺจฺจ อฺตฺร ตณฺหาย. มคฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา สามฺผลานิ จ ยสฺส ปริฺตฺถํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน เนว ทุกฺขํ น อริยสจฺจํ. เอวํ สมุทยาทีสุปิ ยถาโยคํ โยเชตฺวา ‘จตุกฺกโต’เปตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘สฺุเตกวิธาทีหี’ติ ¶ เอตฺถ สฺุโต ตาว ปรมตฺเถน หิ สพฺพาเนว สจฺจานิ เวทกการกนิพฺพุตคมกาภาวโต สฺุานีติ เวทิตพฺพานิ. เตเนตํ วุจฺจติ –
ทุกฺขเมว หิ น โกจิ ทุกฺขิโต, การโก น กิริยาว วิชฺชติ;
อตฺถิ นิพฺพุติ น นิพฺพุโต ปุมา, มคฺคมตฺถิ คมโก น วิชฺชตีติ.
อถ วา –
ธุวสุภสุขตฺตสฺุํ, ปุริมทฺวยมตฺตสฺุมมตปทํ;
ธุวสุขอตฺตวิรหิโต, มคฺโค อิติ สฺุโต เตสุ.
นิโรธสฺุานิ ¶ วา ตีณิ, นิโรโธ จ เสสตฺตยสฺุโ. ผลสฺุโ วา เอตฺถ เหตุ สมุทเย ทุกฺขสฺสาภาวโต มคฺเค จ นิโรธสฺส, น ผเลน สคพฺโภ ปกติวาทีนํ ปกติ วิย. เหตุสฺฺุจ ผลํ ทุกฺขสมุทยานํ นิโรธมคฺคานฺจ อสมวายา, น เหตุสมเวตํ เหตุผลํ เหตุผลสมวายวาทีนํ ทฺวิอณุกาทีนิ วิย. เตเนตํ วุจฺจติ –
ตยมิธ นิโรธสฺุํ, ตเยน เตนาปิ นิพฺพุติ สฺุา;
สฺุโ ผเลน เหตุ, ผลมฺปิ ตํ เหตุนา สฺุนฺติ.
เอวํ ¶ ตาว ‘สฺุโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘เอกวิธาทีหี’ติ สพฺพเมว เจตฺถ ทุกฺขํ เอกวิธํ ปวตฺติภาวโต, ทุวิธํ นามรูปโต, ติวิธํ กามรูปารูปูปปติภวเภทโต, จตุพฺพิธํ จตุอาหารเภทโต, ปฺจวิธํ ปฺจุปาทานกฺขนฺธเภทโต. สมุทโยปิ เอกวิโธ ปวตฺตกภาวโต, ทุวิโธ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตาสมฺปยุตฺตโต, ติวิโธ กามภววิภวตณฺหาเภทโต, จตุพฺพิโธ จตุมคฺคปฺปเหยฺยโต, ปฺจวิโธ รูปาภินนฺทนาทิเภทโต, ฉพฺพิโธ ฉตณฺหากายเภทโต. นิโรโธปิ เอกวิโธ อสงฺขตธาตุภาวโต, ปริยาเยน ปน ทุวิโธ สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสโต, ติวิโธ ภวตฺตยวูปสมโต, จตุพฺพิโธ จตุมคฺคาธิคมนียโต, ปฺจวิโธ ปฺจาภินนฺทนวูปสมโต, ฉพฺพิโธ ฉตณฺหากายกฺขยเภทโต. มคฺโคปิ เอกวิโธ ภาเวตพฺพโต, ทุวิโธ สมถวิปสฺสนาเภทโต ทสฺสนภาวนาเภทโต วา ¶ , ติวิโธ ขนฺธตฺตยเภทโต. อยฺหิ สปฺปเทสตฺตา นครํ วิย รชฺเชน นิปฺปเทเสหิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิโต. ยถาห –
‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, อริเยน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน ตโย ขนฺธา สงฺคหิตา. ตีหิ จ โข, อาวุโส วิสาข, ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโต. ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา, โย จ สมฺมากมฺมนฺโต, โย จ สมฺมาอาชีโว – อิเม ธมฺมา สีลกฺขนฺเธ สงฺคหิตา; โย จ สมฺมาวายาโม, ยา จ สมฺมาสติ, โย จ สมฺมาสมาธิ – อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา; ยา จ สมฺมาทิฏฺิ, โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป – อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ ¶ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒).
เอตฺถ หิ สมฺมาวาจาทโย ตโย สีลเมว. ตสฺมา เต สชาติโต สีลกฺขนฺเธน สงฺคหิตา. กิฺจาปิ หิ ปาฬิยํ สีลกฺขนฺเธติ ภุมฺเมน นิทฺเทโส กโต, อตฺโถ ปน กรณวเสเนว เวทิตพฺโพ. สมฺมาวายามาทีสุ ปน ตีสุ สมาธิ อตฺตโน ธมฺมตาย อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ น สกฺโกติ, วีริเย ปน ปคฺคหกิจฺจํ สาเธนฺเต สติยา จ อปิลาปนกิจฺจํ สาเธนฺติยา ลทฺธูปกาโร หุตฺวา สกฺโกติ.
ตตฺรายํ อุปมา – ยถา หิ นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามาติ อุยฺยานํ ปวิฏฺเสุ ตีสุ สหาเยสุ เอโก สุปุปฺผิตํ จมฺปกรุกฺขํ ทิสฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวาปิ คเหตุํ น สกฺกุเณยฺย. อถสฺส ทุติโย ¶ โอนมิตฺวา ปิฏฺึ ทเทยฺย. โส ตสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวาปิ กมฺปมาโน คเหตุํ น สกฺกุเณยฺย. อถสฺส อิตโร อํสกูฏํ อุปนาเมยฺย. โส เอกสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวา เอกสฺส อํสกูฏํ โอลุพฺภ ยถารุจิ ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ปิฬนฺธิตฺวา นกฺขตฺตํ กีเฬยฺย. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.
เอกโต อุยฺยานํ ปวิฏฺา ตโย สหายา วิย หิ เอกโต ชาตา สมฺมาวายามาทโย ตโย ธมฺมา, สุปุปฺผิตจมฺปกรุกฺโข วิย อารมฺมณํ, หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวาปิ คเหตุํ อสกฺโกนฺโต วิย อตฺตโน ธมฺมตาย อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ อสกฺโกนฺโต สมาธิ, ปิฏฺึ ทตฺวา โอนตสหาโย วิย วายาโม, อํสกูฏํ ทตฺวา ิตสหาโย ¶ วิย สติ. ยถา เตสุ เอกสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวา เอกสฺส อํสกูฏํ โอลุพฺภ อิตโร ยถารุจิ ปุปฺผํ คเหตุํ สกฺโกติ, เอวเมว วีริเย ปคฺคหกิจฺจํ สาเธนฺเต สติยา จ อปิลาปนกิจฺจํ สาเธนฺติยา ลทฺธูปกาโร สมาธิ สกฺโกติ อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ. ตสฺมา สมาธิเยเวตฺถ สชาติโต สมาธิกฺขนฺเธน สงฺคหิโต. วายามสติโย ปน กิริยโต สงฺคหิตา โหนฺติ.
สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺเปสุปิ ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย ‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ น สกฺโกติ, วิตกฺเก ปน อาโกเฏตฺวา อาโกเฏตฺวา เทนฺเต สกฺโกติ. กถํ? ยถา หิ เหรฺิโก กหาปณํ หตฺเถ เปตฺวา สพฺพภาเคสุ ¶ โอโลเกตุกาโม สมาโนปิ น จกฺขุตเลเนว ปริวตฺเตตุํ สกฺโกติ, องฺคุลิปพฺเพหิ ปน ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา อิโต จิโต จ โอโลเกตุํ สกฺโกติ; เอวเมว น ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย อนิจฺจาทิวเสน อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ สกฺโกติ, อภินิโรปนลกฺขเณน ปน อาหนนปริยาหนนรเสน วิตกฺเกน อาโกเฏนฺเตน วิย ปริวตฺเตนฺเตน วิย จ อาทาย อาทาย ทินฺนเมว นิจฺเฉตุํ สกฺโกติ. ตสฺมา อิธาปิ สมฺมาทิฏฺิเยว สชาติโต ปฺากฺขนฺเธน สงฺคหิตา, สมฺมาสงฺกปฺโป ปน กิริยโต สงฺคหิโต โหติ. อิติ อิเมหิ ตีหิ ขนฺเธหิ มคฺโค สงฺคหํ คจฺฉติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ติวิโธ ขนฺธตฺตยเภทโต’’ติ. จตุพฺพิโธ โสตาปตฺติมคฺคาทิวเสน.
อปิจ สพฺพาเนว สจฺจานิ เอกวิธานิ อวิตถตฺตา อภิฺเยฺยตฺตา วา, ทุวิธานิ โลกิยโลกุตฺตรโต สงฺขตาสงฺขตโต จ, ติวิธานิ ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺพโต อปฺปหาตพฺพโต เนวปหาตพฺพนาปหาตพฺพโต ¶ จ, จตุพฺพิธานิ ปริฺเยฺยาทิเภทโตติ. เอวเมตฺถ ‘เอกวิธาทีหิ’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘สภาควิสภาคโต’ติ สพฺพาเนว จ สจฺจานิ อฺมฺํ สภาคานิ อวิตถโต อตฺตสฺุโต ทุกฺกรปฏิเวธโต จ. ยถาห –
‘‘ตํ กึ มฺสิ, อานนฺท, กตมํ นุ โข ทุกฺกรตรํ วา ทุรภิสมฺภวตรํ วา – โย ทูรโตว สุขุเมน ตาลจฺฉิคฺคเฬน อสนํ อติปาเตยฺย โปงฺขานุโปงฺขํ อวิราธิตํ, โย วา สตฺตธา ¶ ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺยา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภนฺเต, ทุกฺกรตรฺเจว ทุรภิสมฺภวตรฺจ – โย สตฺตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺยา’’ติ. ‘‘ตโต โข เต, อานนฺท, ทุปฺปฏิวิชฺฌตรํ ปฏิวิชฺฌนฺติ เย อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปฏิวิชฺฌนฺติ…เป… อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปฏิวิชฺฌนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๑๕).
วิสภาคานิ สลกฺขณววตฺถานโต. ปุริมานิ จ ทฺเว สภาคานิ ทุรวคาหตฺเถน คมฺภีรตฺตา โลกิยตฺตา สาสวตฺตา จ, วิสภาคานิ ผลเหตุเภทโต ¶ ปริฺเยฺยปฺปหาตพฺพโต จ. ปจฺฉิมานิปิ ทฺเว สภาคานิ คมฺภีรตฺเถน ทุรวคาหตฺตา โลกุตฺตรตฺตา อนาสวตฺตา จ, วิสภาคานิ วิสยวิสยีเภทโต สจฺฉิกาตพฺพภาเวตพฺพโต จ. ปมตติยานิ จาปิ สภาคานิ ผลาปเทสโต, วิสภาคานิ สงฺขตาสงฺขตโต. ทุติยจตุตฺถานิ จาปิ สภาคานิ เหตุอปเทสโต, วิสภาคานิ เอกนฺตกุสลากุสลโต. ปมจตุตฺถานิ จาปิ สภาคานิ สงฺขตโต, วิสภาคานิ โลกิยโลกุตฺตรโต. ทุติยตติยานิ จาปิ สภาคานิ เนวเสกฺขานาเสกฺขภาวโต, วิสภาคานิ สารมฺมณานารมฺมณโต.
อิติ เอวํ ปกาเรหิ, นเยหิ จ วิจกฺขโณ;
วิชฺา อริยสจฺจานํ, สภาควิสภาคตนฺติ.
สุตฺตนฺตภาชนียอุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑. ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
ชาตินิทฺเทโส
๑๙๐. อิทานิ ¶ สงฺเขปโต อุทฺทิฏฺานิ ทุกฺขาทีนิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ อยํ ตตฺถ กตมํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ชาติปิ ทุกฺขาติ นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ ชาติ เวทิตพฺพา, ชาติยา ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ; ชรา, มรณํ, โสโก ¶ , ปริเทโว, ทุกฺขํ, โทมนสฺสํ, อุปายาโส, อปฺปิยสมฺปโยโค, ปิยวิปฺปโยโค เวทิตพฺโพ; อปฺปิยสมฺปโยคสฺส ปิยวิปฺปโยคสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ; อิจฺฉา เวทิตพฺพา, อิจฺฉาย ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ; ขนฺธา เวทิตพฺพา, ขนฺธานํ ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส กถนตฺถาย อยํ มาติกา – อิทฺหิ ทุกฺขํ นาม อเนกํ นานปฺปการํ, เสยฺยถิทํ – ทุกฺขทุกฺขํ, วิปริณามทุกฺขํ, สงฺขารทุกฺขํ, ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ, อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ, ปริยายทุกฺขํ, นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ.
ตตฺถ กายิกเจตสิกา ทุกฺขเวทนา สภาวโต จ นามโต จ ทุกฺขตฺตา ‘ทุกฺขทุกฺขํ’ นาม. สุขเวทนา วิปริณาเมน ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุโต ‘วิปริณามทุกฺขํ’ นาม. อุเปกฺขาเวทนา เจว อวเสสา จ เตภูมกา สงฺขารา อุทยพฺพยปีฬิตตฺตา ‘สงฺขารทุกฺขํ’ นาม. ตถา ปีฬนํ ปน มคฺคผลานมฺปิ อตฺถิ. ตสฺมา เอเต ธมฺมา ทุกฺขสจฺจปริยาปนฺนตฺเตน สงฺขารทุกฺขํ นามาติ เวทิตพฺพา. กณฺณสูลทนฺตสูลราคชปริฬาหโทสชปริฬาหาทิ กายิกเจตสิโก อาพาโธ ปุจฺฉิตฺวา ชานิตพฺพโต ¶ อุปกฺกมสฺส จ อปากฏภาวโต ‘ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ’ นาม, อปากฏทุกฺขนฺติปิ วุจฺจติ. ทฺวตฺตึสกมฺมการณาทิสมุฏฺาโน อาพาโธ อปุจฺฉิตฺวาว ชานิตพฺพโต อุปกฺกมสฺส จ ปากฏภาวโต ‘อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ’ นาม, ปากฏทุกฺขนฺติปิ วุจฺจติ. เปตฺวา ทุกฺขทุกฺขํ เสสํ ทุกฺขสจฺจวิภงฺเค อาคตํ ชาติอาทิ สพฺพมฺปิ ตสฺส ตสฺส ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ‘ปริยายทุกฺขํ’ นาม. ทุกฺขทุกฺขํ ‘นิปฺปริยายทุกฺขํ’ นาม.
ตตฺถ ปริยายทุกฺขํ นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ อิมสฺมึ ปททฺวเย ตฺวา ทุกฺขํ อริยสจฺจํ กเถตพฺพํ. อริยสจฺจฺจ นาเมตํ ปาฬิยํ สงฺเขปโตปิ อาคจฺฉติ วิตฺถารโตปิ. สงฺเขปโต อาคตฏฺาเน สงฺเขเปนปิ วิตฺถาเรนปิ กเถตุํ วฏฺฏติ ¶ . วิตฺถารโต อาคตฏฺาเน ปน วิตฺถาเรเนว กเถตุํ วฏฺฏติ, น สงฺเขเปน. ตํ อิทํ อิมสฺมึ าเน วิตฺถาเรน อาคตนฺติ วิตฺถาเรเนว กเถตพฺพํ. ตสฺมา ยํ ตํ นิทฺเทสวาเร ‘‘ตตฺถ กตมํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ? ชาติปิ ทุกฺขา’’ติอาทีนิ ปทานิ คเหตฺวา ‘‘ชาติ เวทิตพฺพา, ชาติยา ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ชาติอาทีนิ ตาว ‘‘ตตฺถ กตมา ชาติ? ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย ชาติ สฺชาตี’’ติ อิมสฺส ปน ปทภาชนียสฺส วเสน เวทิตพฺพานิ.
๑๙๑. ตตฺรายํ ¶ อตฺถวณฺณนา – เตสํ เตสํ สตฺตานนฺติ อยํ สงฺเขปโต อเนเกสํ สตฺตานํ สาธารณนิทฺเทโส. ยา เทวทตฺตสฺส ชาติ, ยา โสมทตฺตสฺส ชาตีติ เอวฺหิ ทิวสมฺปิ กถิยมาเน เนว สตฺตา ปริยาทานํ คจฺฉนฺติ, น สพฺพํ อปรตฺถทีปนํ สิชฺฌติ. อิเมหิ ปน ทฺวีหิ ปเทหิ น โกจิ สตฺโต อปริยาทินฺโน โหติ, น กิฺจิ อปรตฺถทีปนํ น สิชฺฌติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ยา เตสํ เตสํ สตฺตาน’’นฺติ. ตมฺหิ ตมฺหีติ อยํ ชาติคติวเสน อเนเกสํ สตฺตนิกายานํ สาธารณนิทฺเทโส. สตฺตนิกาเยติ สตฺตานํ นิกาเย, สตฺตฆฏายํ สตฺตสมูเหติ อตฺโถ.
ชาตีติ อยํ ชาติสทฺโท อเนกตฺโถ. ตถา เหส ‘‘เอกมฺปิ ชาตึ, ทฺเวปิ ชาติโย’’ติ (ปารา. ๑๒; ม. นิ. ๒.๒๕๗) เอตฺถ ภเว อาคโต. ‘‘อตฺถิ วิสาเข ¶ , นิคณฺา นาม สมณชาติกา’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๑) เอตฺถ นิกาเย. ‘‘ติริยา นาม ติณชาติ นาภิยา อุคฺคนฺตฺวา นภํ อาหจฺจ ิตา อโหสี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๙๖) เอตฺถ ปฺตฺติยํ. ‘‘ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติ (ธาตุ. ๗๑) เอตฺถ สงฺขตลกฺขเณ. ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มาตุกุจฺฉิมฺหิ ปมํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ปมํ วิฺาณํ ปาตุภูตํ, ตทุปาทาย สาวสฺส ชาตี’’ติ (มหาว. ๑๒๔) เอตฺถ ปฏิสนฺธิยํ. ‘‘สมฺปติชาโต, อานนฺท, โพธิสตฺโต’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๐๗) เอตฺถ ปสูติยํ. ‘‘อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๓๑) เอตฺถ กุเล. ‘‘ยโตหํ, ภคินิ, อริยาย ชาติยา ชาโต’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๕๑) เอตฺถ อริยสีเล. อิธ ปนายํ สวิกาเรสุ ปมาภินิพฺพตฺตกฺขนฺเธสุ วตฺตติ. ตสฺมา ชายมานกวเสน ชาตีติ อิทเมตฺถ สภาวปจฺจตฺตํ. สฺชายนวเสน สฺชาตีติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. โอกฺกมนวเสน โอกฺกนฺติ. ชายนฏฺเน วา ชาติ, สา อปริปุณฺณายตนวเสน ยุตฺตา. สฺชายนฏฺเน สฺชาติ, สา ปริปุณฺณายตนวเสน ยุตฺตา. โอกฺกมนฏฺเน โอกฺกนฺติ, สา อณฺฑชชลาพุชวเสน ยุตฺตา. เต หิ อณฺฑโกสฺจ วตฺถิโกสฺจ ¶ โอกฺกมนฺติ, โอกฺกมนฺตาปิ ปวิสนฺตา วิย ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺติ. อภินิพฺพตฺตนฏฺเน อภินิพฺพตฺติ. สา สํเสทชโอปปาติกวเสน ยุตฺตา. เต หิ ปากฏา เอว หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ. อยํ ตาว สมฺมุติกถา.
อิทานิ ¶ ปรมตฺถกถา โหติ. ขนฺธา เอว หิ ปรมตฺถโต ปาตุภวนฺติ, น สตฺตา. ตตฺถ จ ขนฺธานนฺติ เอกโวการภเว เอกสฺส, จตุโวการภเว จตุนฺนํ, ปฺจโวการภเว ปฺจนฺนํ คหณํ เวทิตพฺพํ. ปาตุภาโวติ อุปฺปตฺติ. อายตนานนฺติ เอตฺถ ตตฺร ตตฺร อุปฺปชฺชมานายตนวเสน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ปฏิลาโภติ สนฺตติยํ ปาตุภาโวเยว; ปาตุภวนฺตาเนว หิ ตานิ ปฏิลทฺธานิ นาม โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ชาตีติ อยํ ชาติ นาม กถิยติ. สา ปเนสา ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปมาภินิพฺพตฺติลกฺขณา, นียฺยาตนรสา, อตีตภวโต อิธ อุมฺมุชฺชนปจฺจุปฏฺานา, ผลวเสน ทุกฺขวิจิตฺตตาปจฺจุปฏฺานา วา.
อิทานิ ‘ชาติยา ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ อยฺหิ ชาติ สยํ น ทุกฺขา, ทุกฺขุปฺปตฺติยา ปน วตฺถุภาเวน ทุกฺขาติ ¶ วุตฺตา. กตรทุกฺขสฺส ปนายํ วตฺถูติ? ยํ ตํ พาลปณฺฑิตสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๔๖ อาทโย) ภควตาปิ อุปมาวเสน ปกาสิตํ อาปายิกํทุกฺขํ, ยฺจ สุคติยํ มนุสฺสโลเก คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส สพฺพสฺสาปิ เอสา วตฺถุ. ตตฺริทํ คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ – อยฺหิ สตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตมาโน น อุปฺปลปทุมปุณฺฑรีกาทีสุ นิพฺพตฺตติ. อถ โข เหฏฺา อามาสยสฺส อุปริ ปกฺกาสยสฺส อุทรปฏลปิฏฺิกณฺฑกานํ เวมชฺเฌ ปรมสมฺพาเธ ติพฺพนฺธกาเร นานากุณปคนฺธปริภาวิเต อสุจิปรมทุคฺคนฺธปวนวิจริเต อธิมตฺตเชคุจฺเฉ กุจฺฉิปฺปเทเส ปูติมจฺฉปูติกุมฺมาสจนฺทนิกาทีสุ กิมิ วิย นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ นิพฺพตฺโต ทส มาเส มาตุกุจฺฉิสมฺภเวน อุสฺมนา ปุฏปากํ วิย ปจฺจมาโน ปิฏฺปิณฺฑิ วิย เสทิยมาโน สมิฺชนปสารณาทิรหิโต อธิมตฺตํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภตีติ. อิทํ ตาว ‘คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ’ ทุกฺขํ.
ยํ ปน โส มาตุ สหสา อุปกฺขลนคมนนิสีทนอุฏฺานปริวตฺตนาทีสุ สุราธุตฺตหตฺถคโต เอฬโก วิย อหิคุณฺิกหตฺถคโต สปฺปโปตโก วิย จ อากฑฺฒนปริกฑฺฒนโอธุนนนิทฺธุนนาทินา อุปกฺกเมน อธิมตฺตํ ทุกฺขมนุภวติ, ยฺจ มาตุ สีตุทกปานกาเล สีตนรกูปปนฺโน ¶ วิย, อุณฺหยาคุภตฺตาทิอชฺโฌหรณกาเล องฺคารวุฏฺิสมฺปริกิณฺโณ วิย, โลณมฺพิลาทิอชฺโฌหรณกาเล ขาราปฏิจฺฉกาทิกมฺมการณปฺปตฺโต วิย ติพฺพํ ทุกฺขมนุโภติ – อิทํ ‘คพฺภปริหรณมูลกํ’ ทุกฺขํ.
ยํ ¶ ปนสฺส มูฬฺหคพฺภาย มาตุยา มิตฺตามจฺจสุหชฺชาทีหิปิ อทสฺสนารเห ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺาเน เฉทนผาลนาทีหิ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ – อิทํ ‘คพฺภวิปตฺติมูลกํ’ ทุกฺขํ. ยํ วิชายมานาย มาตุยา กมฺมเชหิ วาเตหิ ปริวตฺเตตฺวา นรกปปาตํ วิย อติภยานกํ โยนิมคฺคํ ปฏิปาติยมานสฺส ¶ ปรมสมฺพาเธน โยนิมุเขน ตาฬจฺฉิคฺคเฬน วิย นิกฺกฑฺฒิยมานสฺส มหานาคสฺส นรกสตฺตสฺส วิย จ สงฺฆาฏปพฺพเตหิ วิจุณฺณิยมานสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ – อิทํ ‘วิชายนมูลกํ’ ทุกฺขํ. ยํ ปน ชาตสฺส ตรุณวณสทิสสฺส สุกุมารสรีรสฺส หตฺถคฺคหณนฺหาปนโธวนโจฬปริมชฺชนาทิกาเล สูจิมุขขุรธารวิชฺฌนผาลนสทิสํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ – อิทํ มาตุกุจฺฉิโต ‘พหิ นิกฺขมนมูลกํ’ ทุกฺขํ. ยํ ตโต ปรํ ปวตฺติยํ อตฺตนาว อตฺตานํ วธนฺตสฺส, อเจลกวตาทิวเสน อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺตสฺส, โกธวเสน อภฺุชนฺตสฺส, อุพฺพนฺธนฺตสฺส จ ทุกฺขํ โหติ – อิทํ ‘อตฺตูปกฺกมมูลกํ’ ทุกฺขํ.
ยํ ปน ปรโต วธพนฺธนาทีนิ อนุภวนฺตสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ – อิทํ ‘ปรูปกฺกมมูลกํ’ ทุกฺขนฺติ. อิติ อิมสฺส สพฺพสฺสาปิ ทุกฺขสฺส อยํ ชาติ วตฺถุเมว โหตีติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
ชาเยถ โน เจ นรเกสุ สตฺโต,
ตตฺถคฺคิทาหาทิกมปฺปสยฺหํ;
ลเภถ ทุกฺขํ นุ กุหึ ปติฏฺํ,
อิจฺจาห ทุกฺขาติ มุนีธ ชาติ.
ทุกฺขํ ติรจฺเฉสุ กสาปโตท-
ทณฺฑาภิฆาตาทิภวํ อเนกํ;
ยํ ¶ ตํ กถํ ตตฺถ ภเวยฺย ชาตึ,
วินา ตหึ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา.
เปเตสุ ทุกฺขํ ปน ขุปฺปิปาสา-
วาตาตปาทิปฺปภวํ วิจิตฺตํ;
ยสฺมา อชาตสฺส น ตตฺถ อตฺถิ,
ตสฺมาปิ ทุกฺขํ มุนิ ชาติมาห.
ติพฺพนฺธกาเร ¶ จ อสยฺหสีเต,
โลกนฺตเร ยํ อสุเรสุ ทุกฺขํ;
น ตํ ภเว ตตฺถ น จสฺส ชาติ,
ยโต อยํ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา.
ยฺจาปิ ¶ คูถนรเก วิย มาตุคพฺเภ,
สตฺโต วสํ จิรมโต พหิ นิกฺขมนฺจ;
ปปฺโปติ ทุกฺขมติโฆรมิทมฺปิ นตฺถิ,
ชาตึ วินา อิติปิ ชาติรยฺหิ ทุกฺขา.
กึ ภาสิเตน พหุนา นนุ ยํ กุหิฺจิ,
อตฺถีธ กิฺจิทปิ ทุกฺขมิทํ กทาจิ;
เนวตฺถิ ชาติวิรเห ยทโต มเหสี,
ทุกฺขาติ สพฺพปมํ อิมมาห ชาตินฺติ.
ชรานิทฺเทโส
๑๙๒. ชรานิทฺเทเส ชราติ สภาวปจฺจตฺตํ. ชีรณตาติ อาการนิทฺเทโส. ขณฺฑิจฺจนฺติอาทโย ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา. ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสา. อยฺหิ ชราติ อิมินา ปเทน สภาวโต ทีปิตา, เตนสฺสา อิทํ สภาวปจฺจตฺตํ. ชีรณตาติ อิมินา อาการโต ¶ , เตนสฺสายํ อาการนิทฺเทโส. ขณฺฑิจฺจนฺติ อิมินา กาลาติกฺกเม ทนฺตนขานํ ขณฺฑิตภาวกรณกิจฺจโต. ปาลิจฺจนฺติ อิมินา เกสโลมานํ ปลิตภาวกรณกิจฺจโต. วลิตฺตจตาติ อิมินา มํสํ มิลาเปตฺวา ตเจ วลิตฺตภาวกรณกิจฺจโต ทีปิตา. เตนสฺสา อิเม ขณฺฑิจฺจนฺติ อาทโย ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา. เตหิ อิเมสํ วิการานํ ทสฺสนวเสน ปากฏีภูตาติ ปากฏชรา ทสฺสิตา. ยเถว หิ อุทกสฺส วา วาตสฺส วา อคฺคิโน วา ติณรุกฺขาทีนํ สํสคฺคปลิภคฺคตาย วา ฌามตาย วา คตมคฺโค ปากโฏ โหติ, น จ โส คตมคฺโค ตาเนว อุทกาทีนิ, เอวเมว ชราย ทนฺตาทีสุ ขณฺฑิจฺจาทิวเสน คตมคฺโค ปากโฏ, จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวาปิ คยฺหติ. น จ ขณฺฑิจฺจาทีเนว ชรา; น หิ ชรา จกฺขุวิฺเยฺยา โหติ.
อายุโน ¶ สํหานิ อินฺทฺริยานํ ปริปาโกติ อิเมหิ ปน ปเทหิ กาลาติกฺกเมเยว อภิพฺยตฺตาย อายุกฺขยจกฺขาทิอินฺทฺริยปริปากสงฺขาตาย ปกติยา ทีปิตา. เตนสฺสิเม ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ยสฺมา ชรํ ปตฺตสฺส อายุ หายติ ตสฺมา ชรา ‘‘อายุโน สํหานี’’ติ ผลูปจาเรน วุตฺตา. ยสฺมา ทหรกาเล สุปฺปสนฺนานิ สุขุมมฺปิ ¶ อตฺตโน วิสยํ สุเขเนว คณฺหนสมตฺถานิ จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ ชรํ ปตฺตสฺส ปริปกฺกานิ อาลุฬิตานิ อวิสทานิ โอฬาริกมฺปิ อตฺตโน วิสยํ คเหตุํ อสมตฺถานิ โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘อินฺทฺริยานํ ปริปาโก’’ติ ผลูปจาเรเนว วุตฺตา.
สา ปเนสา เอวํ นิทฺทิฏฺา สพฺพาปิ ชรา ปากฏา ปฏิจฺฉนฺนาติ ทุวิธา โหติ. ตตฺถ ทนฺตาทีสุ ขณฺฑาทิภาวทสฺสนโต รูปธมฺเมสุ ชรา ‘ปากฏชรา’ นาม. อรูปธมฺเมสุ ปน ชรา ตาทิสสฺส วิการสฺส อทสฺสนโต ‘ปฏิจฺฉนฺนชรา’ นาม. ตตฺถ ยฺวายํ ขณฺฑาทิภาโว ทิสฺสติ, โส ตาทิสานํ ทนฺตาทีนํ สุวิฺเยฺยตฺตา วณฺโณเยว. ตํ จกฺขุนา ทิสฺวา มโนทฺวาเรน จินฺเตตฺวา ‘‘อิเม ทนฺตา ชราย ปหฏา’’ติ ชรํ ชานาติ, อุทกฏฺาเน พทฺธานิ โคสิงฺคาทีนิ โอโลเกตฺวา เหฏฺา อุทกสฺส อตฺถิภาวํ ชานนํ วิย. ปุน อวีจิ สวีจีติ เอวมฺปิ อยํ ชรา ทุวิธา โหติ. ตตฺถ มณิกนกรชตปวาฬจนฺทสูริยาทีนํ มนฺททสกาทีสุ ปาณีนํ วิย จ ปุปฺผผลปลฺลวาทีสุ อปาณีนํ วิย จ อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ ทุพฺพิฺเยฺยตฺตา ชรา ‘อวีจิชรา’ นาม, นิรนฺตรชราติ อตฺโถ. ตโต อฺเสุ ปน ยถาวุตฺเตสุ อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ สุวิฺเยฺยตฺตา ชรา ‘สวีจิชรา’ นาม.
ตตฺถ ¶ สวีจิชรา อุปาทินฺนานุปาทินฺนกวเสน เอวํ ทีเปตพฺพา – ทหรกุมารกานฺหิ ปมเมว ขีรทนฺตา นาม อุฏฺหนฺติ, น เต ถิรา. เตสุ ปน ปติเตสุ ปุน ทนฺตา อุฏฺหนฺติ. เต ปมเมว เสตา โหนฺติ, ชราวาเตน ปน ปหฏกาเล กาฬกา โหนฺติ. เกสา ปน ปมเมว ตมฺพาปิ โหนฺติ กาฬกาปิ เสตาปิ. ฉวิ ปน สโลหิติกา โหติ. วฑฺฒนฺตานํ วฑฺฒนฺตานํ โอทาตานํ โอทาตภาโว, กาฬกานํ กาฬกภาโว ปฺายติ, ชราวาเตน ปน ปหฏกาเล วฬึ คณฺหาติ. สพฺพมฺปิ สสฺสํ วปิตกาเล เสตํ โหติ, ปจฺฉา นีลํ, ชราวาเตน ปน ปหฏกาเล ปณฺฑุกํ โหติ. อมฺพงฺกุเรนาปิ ทีเปตุํ วฏฺฏติ เอว. อยํ วุจฺจติ ชราติ อยํ ¶ ชรา นาม กถิยติ. สา ปเนสา ¶ ขนฺธปริปากลกฺขณา, มรณูปนยนรสา, โยพฺพนวินาสปจฺจุปฏฺานา.
‘ชราย ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อยมฺปิ สยํ น ทุกฺขา, ทุกฺขสฺส ปน วตฺถุภาเวน ทุกฺขาติ วุตฺตา. กตรสฺส ทุกฺขสฺส? กายทุกฺขสฺส เจว โทมนสฺสทุกฺขสฺส จ. ชิณฺณสฺส หิ อตฺตภาโว ชรสกฏํ วิย ทุพฺพโล โหติ, าตุํ วา คนฺตุํ วา นิสีทิตุํ วา วายมนฺตสฺส พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ; ปุตฺตทาเร ยถาปุเร อสลฺลกฺเขนฺเต โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺขาติ เวทิตพฺพา. อปิจ –
องฺคานํ สิถิลภาวา, อินฺทฺริยานํ วิการโต;
โยพฺพนสฺส วินาเสน, พลสฺส อุปฆาตโต.
วิปฺปวาสา สตาทีนํ, ปุตฺตทาเรหิ อตฺตโน;
อปสาทนียโต เจว, ภียฺโย พาลตฺตปตฺติยา.
ปปฺโปติ ทุกฺขํ ยํ มจฺโจ, กายิกํ มานสํ ตถา;
สพฺพเมตํ ชราเหตุ, ยสฺมา ตสฺมา ชรา ทุขาติ.
มรณนิทฺเทโส
๑๙๓. มรณนิทฺเทเส จวนกวเสน จุติ; เอกจตุปฺจกฺขนฺธาย จุติยา สามฺวจนเมตํ. จวนตาติ ภาววจเนน ลกฺขณนิทสฺสนํ. เภโทติ จุติขนฺธานํ ภงฺคุปฺปตฺติปริทีปนํ ¶ . อนฺตรธานนฺติ ฆฏสฺส วิย ภินฺนสฺส ภินฺนานํ จุติขนฺธานํ เยน เกนจิ ปริยาเยน านาภาวปริทีปนํ. มจฺจุ มรณนฺติ มจฺจุสงฺขาตํ มรณํ. กาโล นาม อนฺตโก, ตสฺส กิริยา กาลกิริยา. เอตฺตาวตา สมฺมุติยา มรณํ ทีปิตํ โหติ.
อิทานิ ปรมตฺเถน ทีเปตุํ ขนฺธานํ เภโทติอาทิมาห. ปรมตฺเถน หิ ขนฺธาเยว ภิชฺชนฺติ, น สตฺโต นาม โกจิ มรติ. ขนฺเธสุ ปน ภิชฺชมาเนสุ สตฺโต มรติ ภินฺเนสุ มโตติ โวหาโร โหติ. เอตฺถ จ จตุปฺจโวการวเสน ขนฺธานํ เภโท, เอกโวการวเสน กเฬวรสฺส นิกฺเขโป; จตุโวการวเสน วา ขนฺธานํ เภโท, เสสทฺวยวเสน ¶ กเฬวรสฺส ¶ นิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. กสฺมา? ภวทฺวเยปิ รูปกายสงฺขาตสฺส กเฬวรสฺส สมฺภวโต. ยสฺมา วา จาตุมหาราชิกาทีสุ ขนฺธา ภิชฺชนฺเตว, น กิฺจิ นิกฺขิปติ, ตสฺมา เตสํ วเสน ขนฺธานํ เภโท. มนุสฺสาทีสุ กเฬวรสฺส นิกฺเขโป. เอตฺถ จ กเฬวรสฺส นิกฺเขปกรณโต มรณํ ‘‘กเฬวรสฺส นิกฺเขโป’’ติ วุตฺตํ.
ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉโทติ อิมินา อินฺทฺริยพทฺธสฺเสว มรณํ นาม โหติ, อนินฺทฺริยพทฺธสฺส มรณํ นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ. ‘สสฺสํ มตํ, รุกฺโข มโต’ติ อิทํ ปน โวหารมตฺตเมว. อตฺถโต ปน เอวรูปานิ วจนานิ สสฺสาทีนํ ขยวยภาวเมว ทีเปนฺติ. อิทํ วุจฺจติ มรณนฺติ อิทํ สพฺพมฺปิ มรณํ นาม กถิยติ.
อปิเจตฺถ ขณิกมรณํ, สมฺมุติมรณํ, สมุจฺเฉทมรณนฺติ อยมฺปิ เภโท เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ‘ขณิกมรณํ’ นาม ปวตฺเต รูปารูปธมฺมานํ เภโท. ‘ติสฺโส มโต, ผุสฺโส มโต’ติ อิทํ ‘สมฺมุติมรณํ’ นาม. ขีณาสวสฺส อปฺปฏิสนฺธิกา กาลกิริยา ‘สมุจฺเฉทมรณํ’ นาม. อิมสฺมึ ปนตฺเถ สมฺมุติมรณํ อธิปฺเปตํ. ชาติกฺขยมรณํ, อุปกฺกมมรณํ, สรสมรณํ, อายุกฺขยมรณํ, ปฺุกฺขยมรณนฺติปิ ตสฺเสว นามํ. ตยิทํ จุติลกฺขณํ, วิโยครสํ, วิปฺปวาสปจฺจุปฏฺานํ.
‘มรณสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อิทมฺปิ สยํ น ทุกฺขํ, ทุกฺขสฺส ปน วตฺถุภาเวน ทุกฺขนฺติ วุตฺตํ. มรณนฺติกาปิ หิ สารีริกา เวทนา, ปฏิวาเต คหิตา อาทิตฺตติณุกฺกา ¶ วิย, สรีรํ นิทหนฺติ. นรกนิมิตฺตาทีนํ อุปฏฺานกาเล พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺขนฺติ เวทิตพฺพํ. อปิ จ –
ปาปสฺส ปาปกมฺมาทิ, นิมิตฺตมนุปสฺสโต;
ภทฺทสฺสาปสหนฺตสฺส, วิโยคํ ปิยวตฺถุกํ.
มียมานสฺส ¶ ยํ ทุกฺขํ, มานสํ อวิเสสโต;
สพฺเพสฺจาปิ ยํ สนฺธิ-พนฺธนจฺเฉทนาทิกํ.
วิตุชฺชมานมมฺมานํ, โหติ ทุกฺขํ สรีรชํ;
อสยฺหมปฺปฏิการํ, ทุกฺขสฺเสตสฺสิทํ ยโต;
มรณํ วตฺถุ เตเนตํ, ทุกฺขมิจฺเจว ภาสิตนฺติ.
อปิจ ¶ อิมานิ ชาติชรามรณานิ นาม อิเมสํ สตฺตานํ วธกปจฺจามิตฺตา วิย โอตารํ คเวสนฺตานิ วิจรนฺติ. ยถา หิ ปุริสสฺส ตีสุ ปจฺจามิตฺเตสุ โอตาราเปกฺเขสุ วิจรนฺเตสุ เอโก วเทยฺย – ‘‘อหํ อสุกอรฺสฺส นาม วณฺณํ กเถตฺวา เอตํ อาทาย ตตฺถ คมิสฺสามิ, เอตฺถ มยฺหํ ทุกฺกรํ นตฺถี’’ติ. ทุติโย วเทยฺย ‘‘อหํ ตว เอตํ คเหตฺวา คตกาเล โปเถตฺวา ทุพฺพลํ กริสฺสามิ, เอตฺถ มยฺหํ ทุกฺกรํ นตฺถี’’ติ. ตติโย วเทยฺย – ‘‘ตยา เอตสฺมึ โปเถตฺวา ทุพฺพเล กเต ติณฺเหน อสินา สีสจฺเฉทนํ นาม มยฺหํ ภาโร โหตู’’ติ. เต เอวํ วตฺวา ตถา กเรยฺยุํ.
ตตฺถ ปมปจฺจามิตฺตสฺส อรฺสฺส วณฺณํ กเถตฺวา ตํ อาทาย ตตฺถ คตกาโล วิย สุหชฺชาติมณฺฑลโต นิกฺกฑฺฒิตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺตาปนํ นาม ชาติยา กิจฺจํ. ทุติยสฺส โปเถตฺวา ทุพฺพลกรณํ วิย นิพฺพตฺตกฺขนฺเธสุ นิปติตฺวา ปราธีนมฺจปรายณภาวกรณํ ชราย กิจฺจํ. ตติยสฺส ติณฺเหน อสินา สีสจฺเฉทนํ วิย ชีวิตกฺขยปาปนํ มรณสฺส กิจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ.
อปิเจตฺถ ชาติทุกฺขํ สาทีนวมหากนฺตารปฺปเวโส วิย ทฏฺพฺพํ. ชราทุกฺขํ ตตฺถ อนฺนปานรหิตสฺส ¶ ทุพฺพลฺยํ วิย ทฏฺพฺพํ. มรณทุกฺขํ ทุพฺพลสฺส อิริยาปถปวตฺตเน วิหตปรกฺกมสฺส วาฬาทีหิ อนยพฺยสนาปาทนํ วิย ทฏฺพฺพนฺติ.
โสกนิทฺเทโส
๑๙๔. โสกนิทฺเทเส พฺยสตีติ พฺยสนํ; หิตสุขํ ขิปติ วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ. าตีนํ พฺยสนํ าติพฺยสนํ; โจรโรคภยาทีหิ าติกฺขโย าติวินาโสติ อตฺโถ. เตน าติพฺยสเนน ผุฏฺสฺสาติ ¶ อชฺโฌตฺถฏสฺส อภิภูตสฺส สมนฺนาคตสฺสาติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – โภคานํ พฺยสนํ โภคพฺยสนํ; ราชโจราทิวเสน โภคกฺขโย โภควินาโสติ อตฺโถ. โรโคเยว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ; โรโค หิ อาโรคฺยํ พฺยสติ วินาเสตีติ พฺยสนํ. สีลสฺส พฺยสนํ สีลพฺยสนํ; ทุสฺสีลฺยสฺเสตํ นามํ. สมฺมาทิฏฺึ วินาสยมานา อุปฺปนฺนา ทิฏฺิเยว พฺยสนํ ทิฏฺิพฺยสนํ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ทฺเว อนิปฺผนฺนานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ นิปฺผนฺนานิ ติลกฺขณพฺภาหตานิ. ปุริมานิ จ ตีณิ เนว กุสลานิ น อกุสลานิ. สีลทิฏฺิพฺยสนทฺวยํ อกุสลํ.
อฺตรฺตเรนาติ ¶ คหิเตสุ วา เยน เกนจิ อคฺคหิเตสุ วา มิตฺตามจฺจพฺยสนาทีสุ เยน เกนจิ. สมนฺนาคตสฺสาติ สมนุพนฺธสฺส อปริมุจฺจมานสฺส. อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมนาติ เยน เกนจิ โสกทุกฺขสฺส อุปฺปตฺติเหตุนา. โสโกติ โสจนกวเสน โสโก; อิทํ เตหิ การเณหิ อุปชฺชนกโสกสฺส สภาวปจฺจตฺตํ. โสจนาติ โสจนากโร. โสจิตตฺตนฺติ โสจิตภาโว. อนฺโตโสโกติ อพฺภนฺตเร โสโก. ทุติยปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. โส หิ อพฺภนฺตเร สุกฺขาเปนฺโต วิย ปริสุกฺขาเปนฺโต วิย อุปฺปชฺชตีติ ‘‘อนฺโตโสโก อนฺโตปริโสโก’’ติ วุจฺจติ.
เจตโส ปริชฺฌายนาติ จิตฺตสฺส ฌายนากาโร. โสโก หิ อุปฺปชฺชมาโน อคฺคิ วิย จิตฺตํ ฌาเปติ ปริทหติ, ‘‘จิตฺตํ เม ฌามํ, น เม กิฺจิ ปฏิภาตี’’ติ วทาเปติ. ทุกฺขิโต มโน ทุมฺมโน, ตสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. อนุปวิฏฺฏฺเน โสโกว สลฺลนฺติ โสกสลฺลํ. อยํ วุจฺจติ โสโกติ อยํ โสโก นาม กถิยติ. โส ปนายํ กิฺจาปิ อตฺถโต โทมนสฺสเวทนาว ¶ โหติ, เอวํ ¶ สนฺเตปิ อนฺโตนิชฺฌานลกฺขโณ, เจตโส ปรินิชฺฌายนรโส, อนุโสจนปจฺจุปฏฺาโน.
‘โสกสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อยํ สภาวทุกฺขตฺตา เจว ทุกฺขสฺส จ วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ วุตฺโต. กตรทุกฺขสฺสาติ? กายิกทุกฺขสฺส เจว ชวนกฺขเณ จ โทมนสฺสทุกฺขสฺส. โสกเวเคน หิ หทเย มหาคณฺโฑ อุฏฺหิตฺวา ปริปจฺจิตฺวา ภิชฺชติ, มุขโต วา กาฬโลหิตํ นิกฺขมติ, พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ‘‘เอตฺตกา เม าตโย ขยํ คตา, เอตฺตกา เม โภคา’’ติ จินฺเตนฺตสฺส จ พลวํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวนเปส ทุกฺโขติ เวทิตพฺโพ. อปิจ –
สตฺตานํ หทยํ โสโก, สลฺลํ วิย วิตุชฺชติ;
อคฺคิตตฺโตว นาราโจ, ภุสฺจ ฑหเต ปุน.
สมาวหติ จ พฺยาธิ-ชรามรณเภทนํ;
ทุกฺขมฺปิ วิวิธํ ยสฺมา, ตสฺมา ทุกฺโขติ วุจฺจตีติ.
ปริเทวนิทฺเทโส
๑๙๕. ปริเทวนิทฺเทเส ¶ ‘มยฺหํ ธีตา, มยฺหํ ปุตฺโต’ติ เอวํ อาทิสฺส อาทิสฺส เทวนฺติ โรทนฺติ เอเตนาติ อาเทโว. ตํ ตํ วณฺณํ ปริกิตฺเตตฺวา ปริกิตฺเตตฺวา เทวนฺติ เอเตนาติ ปริเทโว. ตโต ปรานิ ทฺเว ทฺเว ปทานิ ปุริมทฺวยสฺเสว อาการภาวนิทฺเทสวเสน วุตฺตานิ. วาจาติ วจนํ. ปลาโปติ ตุจฺฉํ นิรตฺถกวจนํ. อุปฑฺฒภณิตอฺภณิตาทิวเสน วิรูโป ปลาโป วิปฺปลาโป. ลาลปฺโปติ ปุนปฺปุนํ ลปนํ. ลาลปฺปนากาโร ลาลปฺปนา. ลาลปฺปิตสฺส ภาโว ลาลปฺปิตตฺตํ. อยํ วุจฺจติ ปริเทโวติ อยํ ปริเทโว นาม กถิยติ. โส ลาลปฺปนลกฺขโณ, คุณโทสปริกิตฺตนรโส, สมฺภมปจฺจุปฏฺาโน.
‘ปริเทวสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อยมฺปิ สยํ น ทุกฺโข, กายทุกฺขโทมนสฺสทุกฺขานํ ปน วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ วุตฺโต. ปริเทวนฺโต หิ อตฺตโน ขนฺธํ มุฏฺีหิ ¶ โปเถติ, อุโภหิ หตฺเถหิ อุรํ ปหรติ ¶ ปึสติ, สีเสน ภิตฺติยา สทฺธึ ยุชฺฌติ. เตนสฺส พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ‘เอตฺตกา เม าตโย ขยํ วยํ อพฺภตฺถํ คตา’ติอาทีนิ จินฺเตติ. เตนสฺส พลวํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ เวทิตพฺโพ. อปิจ –
ยํ โสกสลฺลวิหโต ปริเทวมาโน,
กณฺโฏฺตาลุตลโสสชมปฺปสยฺหํ;
ภิยฺโยธิมตฺตมธิคจฺฉติเยว ทุกฺขํ,
ทุกฺโขติ เตน ภควา ปริเทวมาหาติ.
ทุกฺขโทมนสฺสนิทฺเทโส
๑๙๖-๗. ทุกฺขโทมนสฺสนิทฺเทสา เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วณฺณิตตฺตา ปากฏา เอว. ลกฺขณาทีนิ ปน เตสํ ตตฺถ วุตฺตาเนว.
‘ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ, โทมนสฺสสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อุภยมฺเปตํ สยฺจ ทุกฺขตฺตา กายิกเจตสิกทุกฺขานฺจ วตฺถุภาเวน ทุกฺขนฺติ วุตฺตํ. หตฺถปาทานฺหิ กณฺณนาสิกานฺจ เฉทนทุกฺเขน ทุกฺขิตสฺส ¶ , อนาถสาลายํ อุจฺฉิฏฺกปาลํ ปุรโต กตฺวา นิปนฺนสฺส, วณมุเขหิ ปุฬุวเกสุ นิกฺขมนฺเตสุ พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ; นานารงฺครตฺตวตฺถมนฺุาลงฺการํ นกฺขตฺตํ กีฬนฺตํ มหาชนํ ทิสฺวา พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. เอวํ ตาว ทุกฺขสฺส ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาโว เวทิตพฺโพ. อปิจ –
ปีเฬติ กายิกมิทํ, ทุกฺขํ ทุกฺขฺจ มานสํ ภิยฺโย;
ชนยติ ยสฺมา ตสฺมา, ทุกฺขนฺติ วิเสสโต วุตฺตนฺติ.
เจโตทุกฺขสมปฺปิตา ปน เกเส ปกิริย อุรานิ ปติปิเสนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ, ฉินฺนปปาตํ ปปตนฺติ, สตฺถํ อาหรนฺติ, วิสํ ขาทนฺติ, รชฺชุยา อุพฺพนฺธนฺติ, อคฺคึ ปวิสนฺติ ¶ . ตํ ตํ วิปรีตํ วตฺถุํ ตถา ตถา วิปฺปฏิสาริโน ปริฑยฺหมานจิตฺตา จินฺเตนฺติ. เอวํ โทมนสฺสสฺส อุภินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาโว เวทิตพฺโพ. อปิจ –
ปีเฬติ ยโต จิตฺตํ, กายสฺส จ ปีฬนํ สมาวหติ;
ทุกฺขนฺติ โทมนสฺสมฺปิ, โทมนสฺสํ ตโต อหูติ.
อุปายาสนิทฺเทโส
๑๙๘. อุปายาสนิทฺเทเส ¶ อายาสนฏฺเน อายาโส; สํสีทนวิสีทนาการปฺปวตฺตสฺส จิตฺตกิลมถสฺเสตํ นามํ. พลวํ อายาโส อุปายาโส. อายาสิตภาโว อายาสิตตฺตํ. อุปายาสิตภาโว อุปายาสิตตฺตํ. อยํ วุจฺจติ อุปายาโสติ อยํ อุปายาโส นาม กถิยติ. โส ปเนส พฺยาสตฺติลกฺขโณ, นิตฺถุนนรโส, วิสาทปจฺจุปฏฺาโน.
‘อุปายาสสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อยมฺปิ สยํ น ทุกฺโข, อุภินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ วุตฺโต. กุปิเตน หิ รฺา อิสฺสริยํ อจฺฉินฺทิตฺวา หตปุตฺตภาติกานํ อาณตฺตวธานํ ภเยน อฏวึ ปวิสิตฺวา นิลีนานํ มหาวิสาทปฺปตฺตานํ ทุกฺขฏฺาเนน ทุกฺขเสยฺยาย ทุกฺขนิสชฺชาย พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ‘เอตฺตกา โน าตกา, เอตฺตกา โภคา นฏฺา’ติ จินฺเตนฺตานํ พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ เวทิตพฺโพติ. อปิจ –
จิตฺตสฺส ¶ ปริทหนา, กายสฺส วิสาทนา จ อธิมตฺตํ;
ยํ ทุกฺขมุปายาโส, ชเนติ ทุกฺโข ตโต วุตฺโต.
เอตฺถ จ มนฺทคฺคินา อนฺโตภาชเนเยว เตลาทีนํ ปาโก วิย โสโก. ติกฺขคฺคินา ปจฺจมานสฺส ภาชนโต พหินิกฺขมนํ วิย ปริเทโว. พหินิกฺขนฺตาวเสสสฺส นิกฺขมิตุมฺปิ อปฺปโหนฺตสฺส อนฺโตภาชเนเยว ยาว ปริกฺขยา ปาโก วิย อุปายาโส ทฏฺพฺโพ.
อปฺปิยสมฺปโยคนิทฺเทโส
๑๙๙. อปฺปิยสมฺปโยคนิทฺเทเส ¶ ยสฺสาติ เย อสฺส. อนิฏฺาติ อปริเยสิตา. ปริเยสิตา วา โหนฺตุ อปริเยสิตา วา, นามเมเวตํ อมนาปารมฺมณานํ. มนสฺมึ น กมนฺติ, น ปวิสนฺตีติ อกนฺตา. มนสฺมึ น อปฺปิยนฺติ, น วา มนํ วฑฺเฒนฺตีติ อมนาปา. รูปาติอาทิ เตสํ สภาวนิทสฺสนํ. อนตฺถํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อนตฺถกามา. อหิตํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อหิตกามา. อผาสุกํ ทุกฺขวิหารํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อผาสุกกามา. จตูหิ ¶ โยเคหิ เขมํ นิพฺภยํ วิวฏฺฏํ น อิจฺฉนฺติ, สภยํ วฏฺฏเมว เนสํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อาโยคกฺเขมกามา.
อปิจ สทฺธาทีนํ วุทฺธิสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส อกามนโต เตสํเยว หานิสงฺขาตสฺส อนตฺถสฺส จ กามนโต อนตฺถกามา. สทฺธาทีนํเยว อุปายภูตสฺส หิตสฺส อกามนโต สทฺธาหานิอาทีนํ อุปายภูตสฺส อหิตสฺส จ กามนโต อหิตกามา. ผาสุกวิหารสฺส อกามนโต อผาสุกวิหารสฺส จ กามนโต อผาสุกกามา. ยสฺส กสฺสจิ นิพฺภยสฺส อกามนโต ภยสฺส จ กามนโต อโยคกฺเขมกามาติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
สงฺคตีติ คนฺตฺวา สํโยโค. สมาคโมติ อาคเตหิ สํโยโค. สโมธานนฺติ านนิสชฺชาทีสุ สหภาโว. มิสฺสีภาโวติ สพฺพกิจฺจานํ สหกรณํ. อยํ สตฺตวเสน โยชนา. สงฺขารวเสน ปน ยํ ลพฺภติ ตํ คเหตพฺพํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อปฺปิยสมฺปโยโค นาม กถิยติ. โส อนิฏฺสโมธานลกฺขโณ, จิตฺตวิฆาตกรณรโส, อนตฺถภาวปจฺจุปฏฺาโน.
โส ¶ อตฺถโต เอโก ธมฺโม นาม นตฺถิ. เกวลํ อปฺปิยสมฺปยุตฺตานํ ทุวิธสฺสาปิ ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ทุกฺโขติ วุตฺโต. อนิฏฺานิ หิ วตฺถูนิ สโมธานคตานิ วิชฺฌนเฉทนผาลนาทีหิ กายิกมฺปิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ, อุพฺเพคชนนโต มานสมฺปิ. เตเนตํ วุจฺจติ –
ทิสฺวาว อปฺปิเย ทุกฺขํ, ปมํ โหติ เจตสิ;
ตทุปกฺกมสมฺภูต-มถ กาเย ยโต อิธ.
ตโต ¶ ทุกฺขทฺวยสฺสาปิ, วตฺถุโต โส มเหสินา;
ทุกฺโข วุตฺโตติ วิฺเยฺโย, อปฺปิเยหิ สมาคโมติ.
ปิยวิปฺปโยคนิทฺเทโส
๒๐๐. ปิยวิปฺปโยคนิทฺเทโส วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. มาตา วาติอาทิ ปเนตฺถ อตฺถกาเม สรูเปน ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ มมายตีติ มาตา. ปิยายตีติ ¶ ปิตา. ภชตีติ ภาตา. ตถา ภคินี. เมตฺตายนฺตีติ มิตฺตา, มินนฺตีติ วา มิตฺตา; สพฺพคุยฺเหสุ อนฺโต ปกฺขิปนฺตีติ อตฺโถ. กิจฺจกรณีเยสุ สหภาวฏฺเน อมา โหนฺตีติ อมจฺจา. อยํ อมฺหากํ อชฺฌตฺติโกติ เอวํ ชานนฺติ ายนฺตีติ วา าตี. โลหิเตน สมฺพนฺธาติ สาโลหิตา. เอวเมตานิ ปทานิ อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ปิเยหิ วิปฺปโยโค นาม กถิยติ. โส อิฏฺวตฺถุวิโยคลกฺขโณ, โสกุปฺปาทนรโส, พฺยสนปจฺจุปฏฺาโน.
โส อตฺถโต เอโก ธมฺโม นาม นตฺถิ. เกวลํ ปิยวิปฺปยุตฺตานํ ทุวิธสฺสาปิ ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ทุกฺโขติ วุตฺโต. อิฏฺานิ หิ วตฺถูนิ วิยุชฺชมานานิ สรีรสฺส โสสนมิลาปนาทิภาเวน กายิกมฺปิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ, ‘ยมฺปิ โน อโหสิ, ตมฺปิ โน นตฺถี’ติ อนุโสจาปนโต มานสมฺปิ. เตเนตํ วุจฺจติ –
าติธนาทิวิโยคา, โสกสรสมปฺปิตา วิตุชฺชนฺติ;
พาลา ยโต ตโต ยํ, ทุกฺโขติ มโต ปิยวิโยโคติ.
อิจฺฉานิทฺเทโส
๒๐๑. อิจฺฉานิทฺเทเส ชาติธมฺมานนฺติ ชาติสภาวานํ ชาติปกติกานํ. อิจฺฉา อุปฺปชฺชตีติ ตณฺหา อุปฺปชฺชติ. อโห วตาติ ปตฺถนา. น ¶ โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพนฺติ ยํ เอตํ ‘‘อโห วต มยํ น ชาติธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน ชาติ อาคจฺเฉยฺยา’’ติ เอวํ ปหีนสมุทเยสุ สาธูสุ วิชฺชมานํ อชาติธมฺมตฺตํ, ปรินิพฺพุเตสุ จ วิชฺชมานํ ชาติยา อนาคมนํ อิจฺฉิตํ, ตํ อิจฺฉนฺตสฺสาปิ มคฺคภาวนาย วินา อปตฺตพฺพโต อนิจฺฉนฺตสฺส จ ภาวนาย ปตฺตพฺพโต น อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ นาม โหติ. อิทมฺปีติ เอตมฺปิ; อุปริ เสสานิ อุปาทาย ¶ ปิกาโร. ยมฺปิจฺฉนฺติ เยนปิ ธมฺเมน อลพฺภเนยฺยํ วตฺถุํ อิจฺฉนฺโต น ลภติ, ตํ อลพฺภเนยฺยวตฺถุอิจฺฉนํ ทุกฺขนฺติ เวทิตพฺพํ. ชราธมฺมานนฺติอาทีสุปิ ¶ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ อลพฺภเนยฺยวตฺถูสุ อิจฺฉาว ‘‘ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺข’’นฺติ วุตฺตา. สา อลพฺภเนยฺยวตฺถุอิจฺฉนลกฺขณา, ตปฺปริเยสนรสา, เตสํ อปฺปตฺติปจฺจุปฏฺานา.
ทฺวินฺนํ ปน ทุกฺขานํ วตฺถุภาวโต ทุกฺขาติ วุตฺตา. เอกจฺโจ หิ ราชา ภวิสฺสตีติ สมฺภาวิโต โหติ. โส ฉินฺนภินฺนคเณน ปริวาริโต ปพฺพตวิสมํ วา วนคหนํ วา ปวิสติ. อถ ราชา ตํ ปวตฺตึ ตฺวา พลกายํ เปเสติ. โส ราชปุริเสหิ นิหตปริวาโร สยมฺปิ ลทฺธปฺปหาโร ปลายมาโน รุกฺขนฺตรํ วา ปาสาณนฺตรํ วา ปวิสติ. ตสฺมึ สมเย มหาเมโฆ อุฏฺหติ, ติพฺพนฺธการา กาฬวทฺทลิกา โหติ. อถ นํ สมนฺตโต กาฬกิปิลฺลิกาทโย ปาณา ปริวาเรตฺวา คณฺหนฺติ. เตนสฺส พลวกายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ‘มํ เอกํ นิสฺสาย เอตฺตกา าตี จ โภคา จ วินฏฺา’ติ จินฺเตนฺตสฺส พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อยํ อิจฺฉา อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺขาติ เวทิตพฺพา. อปิจ –
ตํ ตํ ปตฺถยมานานํ, ตสฺส ตสฺส อลาภโต;
ยํ วิฆาตมยํ ทุกฺขํ, สตฺตานํ อิธ ชายติ.
อลพฺภเนยฺยวตฺถูนํ, ปตฺถนา ตสฺส การณํ;
ยสฺมา ตสฺมา ชิโน ทุกฺขํ, อิจฺฉิตาลาภมพฺรวีติ.
อุปาทานกฺขนฺธนิทฺเทโส
๒๐๒. อุปาทานกฺขนฺธนิทฺเทเส สํขิตฺเตนาติ เทสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทุกฺขฺหิ เอตฺตกานิ ทุกฺขสตานีติ วา เอตฺตกานิ ทุกฺขสหสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ ทุกฺขสตสหสฺสานีติ ¶ วา สํขิปิตุํ น สกฺกา, เทสนา ปน สกฺกา, ตสฺมา ‘‘ทุกฺขํ นาม อฺํ กิฺจิ นตฺถิ, สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ เทสนํ สงฺขิเปนฺโต เอวมาห. เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต; ตสฺส เต กตเมติ เจติ อตฺโถ. รูปูปาทานกฺขนฺโธติอาทีนํ อตฺโถ ขนฺธวิภงฺเค วณฺณิโตเยว.
‘ขนฺธานํ ¶ ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน –
ชาติปฺปภุติกํ ¶ ทุกฺขํ, ยํ วุตฺตํ อิธ ตาทินา;
อวุตฺตํ ยฺจ ตํ สพฺพํ, วินา เอเต น วิชฺชติ.
ยสฺมา ตสฺมา อุปาทาน-กฺขนฺธา สงฺเขปโต อิเม;
ทุกฺขาติ วุตฺตา ทุกฺขนฺต-เทสเกน มเหสินา.
ตถา หิ อินฺธนมิว ปาวโก, ลกฺขมิว ปหรณานิ, โครูปมิว ฑํสมกสาทโย, เขตฺตมิว ลาวกา, คามํ วิย คามฆาตกา, อุปาทานกฺขนฺธปฺจกเมว ชาติอาทโย นานปฺปกาเรหิ พาธยมานา, ติณลตาทีนิ วิย ภูมิยํ, ปุปฺผผลปลฺลวาทีนิ วิย รุกฺเขสุ, อุปาทานกฺขนฺเธสุเยว นิพฺพตฺตนฺติ. อุปาทานกฺขนฺธานฺจ อาทิทุกฺขํ ชาติ, มชฺเฌทุกฺขํ ชรา, ปริโยสานทุกฺขํ มรณํ. มารณนฺติกทุกฺขาภิฆาเตน ปริฑยฺหมานทุกฺขํ โสโก, ตทสหนโต ลาลปฺปนทุกฺขํ ปริเทโว. ตโต ธาตุกฺโขภสงฺขาตอนิฏฺโผฏฺพฺพสมาโยคโต กายสฺส อาพาธนทุกฺขํ ทุกฺขํ. เตน พาธิยมานานํ ปุถุชฺชนานํ ตตฺถ ปฏิฆุปฺปตฺติโต เจโตพาธนทุกฺขํ โทมนสฺสํ. โสกาทิวุฑฺฒิยา ชนิตวิสาทานํ อนุตฺถุนนทุกฺขํ อุปายาโส. มโนรถวิฆาตปฺปตฺตานํ อิจฺฉาวิฆาตทุกฺขํ อิจฺฉิตาลาโภติ เอวํ นานปฺปการโต อุปปริกฺขิยมานา อุปาทานกฺขนฺธาว ทุกฺขาติ ยเทตํ เอกเมกํ ทสฺเสตฺวา วุจฺจมานํ อเนเกหิ กปฺเปหิ น สกฺกา อเสสโต วตฺตุํ, ตํ สพฺพมฺปิ ทุกฺขํ เอกชลพินฺทุมฺหิ สกลสมุทฺทชลรสํ วิย เยสุ เกสุจิ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ ภควา อโวจาติ.
ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๓. สมุทยสจฺจนิทฺเทเส ¶ ยายํ ตณฺหาติ ยา อยํ ตณฺหา. โปโนพฺภวิกาติ ปุนพฺภวกรณํ ¶ ปุโนพฺภโว, ปุโนพฺภโว สีลมสฺสาติ โปโนพฺภวิกา. อปิจ ปุนพฺภวํ ¶ เทติ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตติ, ปุนปฺปุนํ ภเว นิพฺพตฺเตตีติ โปโนพฺภวิกา. สา ปเนสา ปุนพฺภวสฺส ทายิกาปิ อตฺถิ อทายิกาปิ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตนิกาปิ อตฺถิ อสํวตฺตนิกาปิ, ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา อุปธิเวปกฺกมตฺตาปิ. สา ปุนพฺภวํ ททมานาปิ อททมานาปิ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตมานาปิ อสํวตฺตมานาปิ, ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา อุปธิเวปกฺกมตฺตาปิ โปโนพฺภวิกา เอวาติ นามํ ลภติ. อภินนฺทนสงฺขาเตน นนฺทิราเคน สหคตาติ นนฺทิราคสหคตา, นนฺทิราเคน สทฺธึ อตฺถโต เอกตฺตเมว คตาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺรตตฺราภินนฺทินีติ ยตฺร ยตฺร อตฺตภาโว ตตฺรตตฺราภินนฺทินี, รูปาทีสุ วา อารมฺมเณสุ ตตฺรตตฺราภินนฺทินี; รูปาภินนฺทินี สทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺมาภินนฺทินีติ อตฺโถ. เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต; ตสฺส สา กตมาติ เจติ อตฺโถ. กามตณฺหาติ กาเม ตณฺหา กามตณฺหา; ปฺจกามคุณิกราคสฺเสตํ อธิวจนํ. ภเว ตณฺหา ภวตณฺหา; ภวปตฺถนาวเสน อุปฺปนฺนสฺส สสฺสตทิฏฺิสหคตสฺส รูปารูปภวราคสฺส จ ฌานนิกนฺติยา เจตํ อธิวจนํ. วิภเว ตณฺหา วิภวตณฺหา; อุจฺเฉททิฏฺิสหคตสฺส ราคสฺเสตํ อธิวจนํ.
อิทานิ ตสฺสา ตณฺหาย วตฺถุํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ สา โข ปเนสาติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปชฺชตีติ ชายติ. นิวิสตีติ ปุนปฺปุนํ ปวตฺติวเสน ปติฏฺหติ. ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปนฺติ ยํ โลกสฺมึ ปิยสภาวฺเจว มธุรสภาวฺจ. จกฺขุํ โลเกติอาทีสุ โลกสฺมิฺหิ จกฺขาทีสุ มมตฺเตน อภินิวิฏฺา สตฺตา สมฺปตฺติยํ ปติฏฺิตา อตฺตโน จกฺขุํ อาทาสาทีสุ นิมิตฺตคฺคหณานุสาเรน วิปฺปสนฺนปฺจปสาทํ สุวณฺณวิมาเน อุคฺฆาฏิตมณิสีหปฺชรํ วิย มฺนฺติ, โสตํ รชตปนาฬิกํ วิย ปามงฺคสุตฺตกํ วิย จ ¶ มฺนฺติ, ตุงฺคนาสาติ ลทฺธโวหารํ ฆานํ วฏฺเฏตฺวา ปิตหริตาลวฏฺฏึ วิย มฺนฺติ, ชิวฺหํ รตฺตกมฺพลปฏลํ วิย มุทุสินิทฺธมธุรรสทํ มฺนฺติ, กายํ สาลลฏฺึ วิย สุวณฺณโตรณํ วิย จ มฺนฺติ, มนํ อฺเสํ มเนน อสทิสํ อุฬารํ มฺนฺติ, รูปํ สุวณฺณกณิการปุปฺผาทิวณฺณํ วิย ¶ , สทฺทํ มตฺตกรวีกโกกิลมนฺทธมิตมณิวํสนิคฺโฆสํ วิย, อตฺตนา ปฏิลทฺธานิ จตุสมุฏฺานิกคนฺธารมฺมณาทีนิ ‘กสฺส อฺสฺส เอวรูปานิ อตฺถี’ติ มฺนฺติ. เตสํ เอวํ มฺมานานํ ตานิ จกฺขาทีนิ ปิยรูปานิ เจว โหนฺติ สาตรูปานิ จ. อถ เนสํ ตตฺถ อนุปฺปนฺนา เจว ตณฺหา อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนา จ ปุนปฺปุนํ ปวตฺติวเสน นิวิสติ. ตสฺมา ภควา – ‘‘จกฺขุํ โลเก ¶ ปิยรูปํ สาตรูปํ. เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปชฺชมานาติ ยทา อุปฺปชฺชติ ตทา เอตฺถ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถาปีติ.
สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๔. นิโรธสจฺจนิทฺเทเส โย ตสฺสาเยว ตณฺหายาติ เอตฺถ ‘โย ตสฺเสว ทุกฺขสฺสา’ติ วตฺตพฺเพ ยสฺมา สมุทยนิโรเธเนว ทุกฺขํ นิรุชฺฌติ โน อฺถา, ยถาห –
‘‘ยถาปิ มูเล อนุปทฺทเว ทฬฺเห,
ฉินฺโนปิ รุกฺโข ปุนเรว รูหติ;
เอวมฺปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต,
นิพฺพตฺตติ ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุน’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๓๘);
ตสฺมา ตํ ทุกฺขนิโรธํ ทสฺเสนฺโต สมุทยนิโรเธน ทสฺเสตุํ เอวมาห. สีหสมานวุตฺติโน หิ ตถาคตา. เต ทุกฺขํ นิโรเธนฺตา ทุกฺขนิโรธฺจ ทสฺเสนฺตา เหตุมฺหิ ปฏิปชฺชนฺติ, น ผเล. สุวานวุตฺติโน ปน อฺติตฺถิยา. เต ทุกฺขํ นิโรเธนฺตา ทุกฺขนิโรธฺจ ทสฺเสนฺตา อตฺตกิลมถานุโยเคน ¶ เจว ตสฺเสว จ เทสนาย ผเล ปฏิปชฺชนฺติ, น เหตุมฺหีติ. สีหสมานวุตฺติตาย สตฺถา เหตุมฺหิ ปฏิปชฺชนฺโต โย ตสฺสาเยวาติอาทิมาห.
ตตฺถ ตสฺสาเยวาติ ยา สา อุปฺปตฺติ นิเวสวเสน เหฏฺา ปกาสิตา ตสฺสาเยว. อเสสวิราคนิโรโธติอาทีนิ สพฺพานิ นิพฺพานเววจนาเนว ¶ . นิพฺพานฺหิ อาคมฺม ตณฺหา อเสสา วิรชฺชติ นิรุชฺฌติ. ตสฺมา ตํ ‘‘ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ’’ติ วุจฺจติ. นิพฺพานฺจ อาคมฺม ตณฺหา จชิยติ, ปฏินิสฺสชฺชิยติ, มุจฺจติ, น อลฺลิยติ. ตสฺมา นิพฺพานํ ‘‘จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย’’ติ วุจฺจติ. เอกเมว หิ ¶ นิพฺพานํ. นามานิ ปนสฺส สพฺพสงฺขตานํ นามปฏิปกฺขวเสน อเนกานิ นิพฺพานเววจนาเนว โหนฺติ, เสยฺยถิทํ – อเสสวิราคนิโรโธ, จาโค, ปฏินิสฺสคฺโค, มุตฺติ, อนาลโย, ราคกฺขโย, โทสกฺขโย, โมหกฺขโย, ตณฺหากฺขโย, อนุปฺปาโท, อปฺปวตฺตํ, อนิมิตฺตํ, อปฺปณิหิตํ, อนายูหนํ, อปฺปฏิสนฺธิ, อนุปปตฺติ, อคติ, อชาตํ, อชรํ, อพฺยาธิ, อมตํ, อโสกํ, อปริเทวํ, อนุปายาสํ, อสํกิลิฏฺนฺติอาทีนิ.
อิทานิ มคฺเคน ฉินฺนาย นิพฺพานํ อาคมฺม อปฺปวตฺติปตฺตายปิ จ ตณฺหาย เยสุ วตฺถูสุ ตสฺสา อุปฺปตฺติ ทสฺสิตา, ตตฺเถว อภาวํ ทสฺเสตุํ สา โข ปเนสาติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา ปุริโส เขตฺเต ชาตํ ติตฺตอลาพุวลฺลึ ทิสฺวา อคฺคโต ปฏฺาย มูลํ ปริเยสิตฺวา ฉินฺเทยฺย, สา อนุปุพฺเพน มิลายิตฺวา อปฺปวตฺตึ คจฺเฉยฺย. ตโต ตสฺมึ เขตฺเต ติตฺตอลาพุ นิรุทฺธา ปหีนาติ วุจฺเจยฺย. เอวเมว เขตฺเต ติตฺตอลาพุ วิย จกฺขาทีสุ ตณฺหา. สา อริยมคฺเคน มูลจฺฉินฺนา นิพฺพานํ อาคมฺม อปฺปวตฺตึ คจฺฉติ. เอวํ คตา ปน เตสุ วตฺถูสุ เขตฺเต ติตฺตอลาพุ วิย น ปฺายติ. ยถา จ อฏวิโต โจเร อาเนตฺวา นครสฺส ทกฺขิณทฺวาเร ฆาเตยฺยุํ, ตโต อฏวิยํ โจรา มตาติ วา มาริตาติ วา วุจฺเจยฺยุํ; เอวเมว อฏวิยํ โจรา วิย ยา จกฺขาทีสุ ตณฺหา, สา ทกฺขิณทฺวาเร โจรา วิย นิพฺพานํ อาคมฺม นิรุทฺธตฺตา นิพฺพาเน นิรุทฺธา. เอวํ นิรุทฺธา ปน เตสุ วตฺถูสุ อฏวิยํ ¶ โจรา วิย น ปฺายติ. เตนสฺสา ตตฺเถว นิโรธํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จกฺขุํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌตี’’ติอาทิมาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๕. มคฺคสจฺจนิทฺเทเส ¶ อยเมวาติ อฺมคฺคปฏิกฺเขปนตฺถํ นิยมนํ. อริโยติ ตํตํมคฺควชฺเฌหิ กิเลเสหิ อารกตฺตา อริยภาวกรตฺตา อริยผลปฏิลาภกรตฺตา จ อริโย. อฏฺงฺคานิ อสฺสาติ อฏฺงฺคิโก. สฺวายํ จตุรงฺคิกา วิย เสนา, ปฺจงฺคิกํ วิย ตูริยํ องฺคมตฺตเมว ¶ โหติ, องฺควินิมุตฺโต นตฺถิ. นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคียติ, นิพฺพานํ วา มคฺคติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโค. เสยฺยถิทนฺติ โส กตโมติ เจติ อตฺโถ.
อิทานิ องฺคมตฺตเมว มคฺโค โหติ, องฺควินิมฺมุตฺโต นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธีติ อาห. ตตฺถ สมฺมา ทสฺสนลกฺขณา สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมา อภินิโรปนลกฺขโณ สมฺมาสงฺกปฺโป. สมฺมา ปริคฺคหลกฺขณา สมฺมาวาจา. สมฺมา สมุฏฺาปนลกฺขโณ สมฺมากมฺมนฺโต. สมฺมา โวทานลกฺขโณ สมฺมาอาชีโว. สมฺมา ปคฺคหลกฺขโณ สมฺมาวายาโม. สมฺมา อุปฏฺานลกฺขณา สมฺมาสติ. สมฺมา สมาธานลกฺขโณ สมฺมาสมาธิ.
เตสุ จ เอเกกสฺส ตีณิ ตีณิ กิจฺจานิ โหนฺติ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ ตาว อฺเหิปิ อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลเสหิ สทฺธึ มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ, นิโรธํ อารมฺมณํ กโรติ, สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ปสฺสติ ตปฺปฏิจฺฉาทกโมหวิธมนวเสน อสมฺโมหโต. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ตเถว มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีนิ จ ปชหนฺติ, นิโรธฺจ อารมฺมณํ กโรนฺติ. วิเสสโต ปเนตฺถ สมฺมาสงฺกปฺโป สหชาตธมฺเม ¶ อภินิโรเปติ, สมฺมาวาจา สมฺมา ปริคฺคณฺหาติ, สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมา สมุฏฺาเปติ, สมฺมาอาชีโว สมฺมา โวทาเปติ, สมฺมาวายาโม สมฺมา ปคฺคณฺหาติ, สมฺมาสติ สมฺมา อุปฏฺาติ, สมฺมาสมาธิ สมฺมา ปทหติ.
อปิเจสา สมฺมาทิฏฺิ นาม ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา โหติ, มคฺคกาเล เอกกฺขณา เอการมฺมณา, กิจฺจโต ปน ทุกฺเข าณนฺติอาทีนิ จตฺตาริ นามานิ ลภติ. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา โหนฺติ, มคฺคกาเล เอกกฺขณา เอการมฺมณา. เตสุ สมฺมาสงฺกปฺโป กิจฺจโต เนกฺขมฺมสงฺกปฺโปติอาทีนิ ตีณิ ¶ นามานิ ลภติ. สมฺมาวาจาทโย ตโย ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา วิรติโยปิ โหนฺติ เจตนาโยปิ, มคฺคกฺขเณ ปน วิรติโยว. สมฺมาวายาโม สมฺมาสตีติ อิทมฺปิ ทฺวยํ กิจฺจโต สมฺมปฺปธานสติปฏฺานวเสน จตฺตาริ นามานิ ลภติ. สมฺมาสมาธิ ปน ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ สมฺมาสมาธิเยว.
อิติ อิเมสุ อฏฺสุ ธมฺเมสุ ภควตา นิพฺพานาธิคมาย ปฏิปนฺนสฺส โยคิโน พหูปการตฺตา ปมํ สมฺมาทิฏฺิ เทสิตา. อยฺหิ ‘‘ปฺาปชฺโชโต ปฺาสตฺถ’’นฺติ (ธ. ส. ๑๖, ๒๐, ๒๙, ๓๔) จ ¶ วุตฺตา. ตสฺมา เอตาย ปุพฺพภาเค วิปสฺสนาาณสงฺขาตาย สมฺมาทิฏฺิยา อวิชฺชนฺธการํ วิทฺธํเสตฺวา กิเลสโจเร ฆาเตนฺโต เขเมน โยคาวจโร นิพฺพานํ ปาปุณาติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นิพฺพานาธิคมาย ปฏิปนฺนสฺส โยคิโน พหูปการตฺตา ปมํ สมฺมาทิฏฺิ เทสิตา’’ติ.
สมฺมาสงฺกปฺโป ปน ตสฺสา พหูปกาโร, ตสฺมา ตทนนฺตรํ วุตฺโต. ยถา หิ เหรฺิโก หตฺเถน ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา จกฺขุนา กหาปณํ โอโลเกนฺโต ‘อยํ กูโฏ, อยํ เฉโก’ติ ชานาติ, เอวํ โยคาวจโรปิ ปุพฺพภาเค วิตกฺเกน วิตกฺเกตฺวา วิปสฺสนาปฺาย โอโลกยมาโน ‘อิเม ธมฺมา กามาวจรา, อิเม ธมฺมา รูปาวจราทโย’ติ ชานาติ. ยถา วา ปน ปุริเสน โกฏิยํ คเหตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ทินฺนํ มหารุกฺขํ ตจฺฉโก วาสิยา ตจฺเฉตฺวา กมฺเม อุปเนติ, เอวํ วิตกฺเกน วิตกฺเกตฺวา วิตกฺกตฺวา ทินฺนธมฺเม โยคาวจโร ปฺาย ‘อิเม ธมฺมา กามาวจรา, อิเม ธมฺมา รูปาวจรา’ติอาทินา นเยน ปริจฺฉินฺทิตฺวา กมฺเม อุปเนติ. เตน ¶ วุตฺตํ ‘สมฺมาสงฺกปฺโป ปน ตสฺสา พหูปกาโร, ตสฺมา ตทนนฺตรํ วุตฺโต’’ติ.
สฺวายํ ยถา สมฺมาทิฏฺิยา, เอวํ สมฺมาวาจายปิ อุปการโก. ยถาห – ‘‘ปุพฺเพ โข, คหปติ, วิตกฺเกตฺวา วิจาเรตฺวา ปจฺฉา วาจํ ภินฺทตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓). ตสฺมา ตทนนฺตรํ สมฺมาวาจา วุตฺตา.
ยสฺมา ปน ‘อิทฺจิทฺจ กริสฺสามา’ติ ปมํ วาจาย สํวิทหิตฺวา โลเก กมฺมนฺเต ปโยเชนฺติ, ตสฺมา วาจา กายกมฺมสฺส อุปการิกาติ สมฺมาวาจาย อนนฺตรํ สมฺมากมฺมนฺโต วุตฺโต.
จตุพฺพิธํ ¶ ปน วจีทุจฺจริตํ, ติวิธํ กายทุจฺจริตํ ปหาย อุภยํ สุจริตํ ปูเรนฺตสฺเสว ยสฺมา อาชีวฏฺมกสีลํ ปูรติ, น อิตรสฺส, ตสฺมา ตทุภยานนฺตรํ สมฺมาอาชีโว วุตฺโต.
เอวํ สุทฺธาชีเวน ‘ปริสุทฺโธ เม อาชีโว’ติ เอตฺตาวตา ปริโตสํ อกตฺวา สุตฺตปฺปมตฺเตน วิหริตุํ น ยุตฺตํ, อถ โข สพฺพอิริยาปเถสุ อิทํ วีริยมารภิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ตทนนฺตรํ สมฺมาวายาโม วุตฺโต.
ตโต ¶ อารทฺธวีริเยนาปิ กายาทีสุ จตูสุ วตฺถูสุ สติ สุปฺปติฏฺิตา กาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมฺมาสติ เทสิตา.
ยสฺมา ปน เอวํ สุปฺปติฏฺิตา สติ สมาธิสฺส อุปการานุปการานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสิตฺวา ปโหติ เอกตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ สมาธาตุํ, ตสฺมา สมฺมาสติอนนฺตรํ สมฺมาสมาธิ เทสิโตติ เวทิตพฺโพ.
สมฺมาทิฏฺินิทฺเทเส ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทินา จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ ทสฺสิตํ. ตตฺถ ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ วฏฺฏํ, ปจฺฉิมานิ วิวฏฺฏํ. เตสุ ภิกฺขุโน วฏฺเฏ กมฺมฏฺานาภินิเวโส โหติ, วิวฏฺเฏ นตฺถิ อภินิเวโส. ปุริมานิ หิ ทฺเว สจฺจานิ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขํ, ตณฺหา สมุทโย’’ติ เอวํ สงฺเขเปน จ ‘‘กตเม ปฺจกฺขนฺธา? รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทินา นเยน วิตฺถาเรน จ อาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิตฺวา วาจาย ปุนปฺปุนํ ปริวตฺเตนฺโต โยคาวจโร กมฺมํ กโรติ; อิตเรสุ ปน ทฺวีสุ สจฺเจสุ ‘‘นิโรธสจฺจํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ, มคฺคสจฺจํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาป’’นฺติ เอวํ สวเนเนว กมฺมํ กโรติ. โส เอวํ กมฺมํ กโรนฺโต จตฺตาริ สจฺจานิ เอเกน ปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, เอกาภิสมเยน อภิสเมติ; ทุกฺขํ ¶ ปริฺาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, สมุทยํ ปหานปฏิเวเธน, นิโรธํ สจฺฉิกิริยปฏิเวเธน, มคฺคํ ภาวนาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ; ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน…เป… มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมติ.
เอวมสฺส ปุพฺพภาเค ทฺวีสุ สจฺเจสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนธารณสมฺมสนปฏิเวโธ โหติ, ทฺวีสุ สวนปฏิเวโธเยว; อปรภาเค ตีสุ กิจฺจโต ปฏิเวโธ โหติ, นิโรเธ อารมฺมณปฏิเวโธ. ตตฺถ สพฺพมฺปิ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, สวนธารณสมฺมสนาณํ โลกิยํ กามาวจรํ, ปจฺจเวกฺขณา ปน ปตฺตสจฺจสฺส โหติ. อยฺจ อาทิกมฺมิโก. ตสฺมา สา อิธ น วุตฺตา. อิมสฺส จ ภิกฺขุโน ปุพฺเพ ปริคฺคหโต ‘ทุกฺขํ ปริชานามิ ¶ , สมุทยํ ปชหามิ, นิโรธํ สจฺฉิกโรมิ, มคฺคํ ภาเวมี’ติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิการปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ, ปริคฺคหโต ปฏฺาย โหติ; อปรภาเค ปน ทุกฺขํ ปริฺาตเมว โหติ…เป… มคฺโค ภาวิโตว โหติ.
ตตฺถ ทฺเว สจฺจานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ, ทฺเว คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ. ทุกฺขสจฺจฺหิ อุปฺปตฺติโต ปากฏํ; ขาณุกณฺฏกปฺปหาราทีสุ ‘อโห ทุกฺข’นฺติ วตฺตพฺพตมฺปิ อาปชฺชติ. สมุทยมฺปิ ¶ ขาทิตุกามตาภฺุชิตุกามตาทิวเสน อุปฺปตฺติโต ปากฏํ. ลกฺขณปฏิเวธโต ปน อุภยมฺปิ คมฺภีรํ. อิติ ตานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ. อิตเรสํ ปน ทฺวินฺนํ ทสฺสนตฺถาย ปโยโค ภวคฺคคหณตฺถํ หตฺถปฺปสารณํ วิย, อวีจิผุสนตฺถํ ปาทปฺปสารณํ วิย, สตธา ภินฺนวาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาทนํ วิย จ โหติ. อิติ ตานิ คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ. เอวํ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีเรสุ คมฺภีรตฺตา จ ทุทฺทเสสุ จตูสุ สจฺเจสุ อุคฺคหาทิวเสน ปุพฺพภาคาณุปฺปตฺตึ สนฺธาย อิทํ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปฏิเวธกฺขเณ ปน เอกเมว าณํ โหติ.
สมฺมาสงฺกปฺปนิทฺเทเส กามโต นิสฺสโฏติ เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป. พฺยาปาทโต นิสฺสโฏติ อพฺยาปาทสงฺกปฺโป. วิหึสาย นิสฺสโฏติ อวิหึสาสงฺกปฺโป. ตตฺถ เนกฺขมฺมวิตกฺโก กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตํ ปทจฺเฉทํ กโรนฺโต ¶ อุปฺปชฺชติ, อพฺยาปาทวิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺกสฺส, อวิหึสาวิตกฺโก วิหึสาวิตกฺกสฺส. เนกฺขมฺมวิตกฺโก จ กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, อพฺยาปาทอวิหึสาวิตกฺกา พฺยาปาทวิหึสาวิตกฺกานํ.
ตตฺถ โยคาวจโร กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตนตฺถํ กามวิตกฺกํ วา สมฺมสติ อฺํ วา ปน กิฺจิ สงฺขารํ. อถสฺส วิปสฺสนากฺขเณ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป ตทงฺควเสน กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตํ ปทจฺเฉทํ กโรนฺโต อุปฺปชฺชติ, วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคํ ปาเปติ. อถสฺส มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป สมุจฺเฉทวเสน กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตํ ปทจฺเฉทํ กโรนฺโต อุปฺปชฺชติ; พฺยาปาทวิตกฺกสฺสาปิ ปทฆาตนตฺถํ พฺยาปาทวิตกฺกํ วา อฺํ วา สงฺขารํ สมฺมสติ; วิหึสาวิตกฺกสฺส ปทฆาตนตฺถํ วิหึสาวิตกฺกํ วา อฺํ วา สงฺขารํ สมฺมสติ. อถสฺส วิปสฺสนากฺขเณติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
กามวิตกฺกาทีนํ ¶ ปน ติณฺณํ ปาฬิยํ วิภตฺเตสุ อฏฺตึสารมฺมเณสุ เอกกมฺมฏฺานมฺปิ อปจฺจนีกํ นาม นตฺถิ. เอกนฺตโต ปน กามวิตกฺกสฺส ตาว อสุเภสุ ปมชฺฌานเมว ปจฺจนีกํ, พฺยาปาทวิตกฺกสฺส เมตฺตาย ติกจตุกฺกชฺฌานานิ, วิหึสาวิตกฺกสฺส กรุณาย ติกจตุกฺกชฺฌานานิ. ตสฺมา อสุเภ ปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ สมาปนฺนสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป วิกฺขมฺภนวเสน กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปนฺตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป ตทงฺควเสน กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคํ ปาเปนฺตสฺส มคฺคกฺขเณ ¶ มคฺคสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป สมุจฺเฉทวเสน กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺโน เนกฺขมฺมสงฺกปฺโปติ วุจฺจตีติ เวทิตพฺโพ.
เมตฺตาย ปน ปริกมฺมํ กตฺวา, กรุณาย ปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ สมาปชฺชตีติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. เอวํ อุปฺปนฺโน อพฺยาปาทสงฺกปฺโปติ วุจฺจติ, อวิหึสาสงฺกปฺโปติ จ วุจฺจตีติ ¶ เวทิตพฺโพ. เอวเมเต เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย วิปสฺสนาฌานวเสน อุปฺปตฺตีนํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา; มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุ ตีสุ าเนสุ อุปฺปนฺนสฺส อกุสลสงฺกปฺปสฺส ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมาโน เอโกว กุสลสงฺกปฺโป อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาสงฺกปฺโป นาม.
สมฺมาวาจานิทฺเทเสปิ ยสฺมา อฺเเนว จิตฺเตน มุสาวาทา วิรมติ, อฺเนฺเน ปิสุณวาจาทีหิ, ตสฺมา จตสฺโสเปตา เวรมณิโย ปุพฺพภาเค นานา; มคฺคกฺขเณ ปน มิจฺฉาวาจาสงฺขาตาย จตุพฺพิธาย อกุสลทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว สมฺมาวาจาสงฺขาตา กุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาวาจา นาม.
สมฺมากมฺมนฺตนิทฺเทเสปิ ยสฺมา อฺเเนว จิตฺเตน ปาณาติปาตา วิรมติ, อฺเน อทินฺนาทานา, อฺเน กาเมสุมิจฺฉาจารา, ตสฺมา ติสฺโสเปตา เวรมณิโย ปุพฺพภาเค นานา; มคฺคกฺขเณ ปน มิจฺฉากมฺมนฺตสงฺขาตาย ติวิธาย อกุสลทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว สมฺมากมฺมนฺตสงฺขาตา อกุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมากมฺมนฺโต นาม.
สมฺมาอาชีวนิทฺเทเส ¶ อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. อริยสาวโกติ อริยสฺส พุทฺธสฺส สาวโก. มิจฺฉาอาชีวํ ปหายาติ ปาปกํ อาชีวํ ปชหิตฺวา. สมฺมาอาชีเวนาติ พุทฺธปสตฺเถน กุสลอาชีเวน. ชีวิกํ กปฺเปตีติ ชีวิตปฺปวตฺตึ ปวตฺเตติ. อิธาปิ ยสฺมา อฺเเนว จิตฺเตน กายทฺวารวีติกฺกมา วิรมติ; อฺเน วจีทฺวารวีติกฺกมา, ตสฺมา ปุพฺพภาเค นานากฺขเณสุ อุปฺปชฺชติ; มคฺคกฺขเณ ปน ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ สตฺตนฺนํ กมฺมปถานํ วเสน อุปฺปนฺนาย มิจฺฉาอาชีวทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว สมฺมาอาชีวสงฺขาตา กุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาอาชีโว นาม.
สมฺมาวายามนิทฺเทโส ¶ สมฺมปฺปธานวิภงฺเค อนุปทวณฺณนาวเสน อาวิภวิสฺสติ. อยํ ปน ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลภติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ ¶ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย วายามํ กโรติ, อฺเน อุปฺปนฺนานํ ปหานาย; อฺเเนว จ อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย, อฺเน อุปฺปนฺนานํ ิติยา; มคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภติ. เอกเมว หิ มคฺคสมฺปยุตฺตํ วีริยํ จตุกิจฺจสาธนฏฺเน จตฺตาริ นามานิ ลพฺภติ.
สมฺมาสตินิทฺเทโสปิ สติปฏฺานวิภงฺเค อนุปทวณฺณนาวเสน อาวิภวิสฺสติ. อยมฺปิ จ ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน กายํ ปริคฺคณฺหาติ, อฺเนฺเน เวทนาทีนิ; มคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภติ. เอกาเยว หิ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ จตุกิจฺจสาธนฏฺเน จตฺตาริ นามานิ ลภติ.
สมฺมาสมาธินิทฺเทเส จตฺตาริ ฌานานิ ปุพฺพภาเคปิ นานา, มคฺคกฺขเณปิ. ปุพฺพภาเค สมาปตฺติวเสน นานา, มคฺคกฺขเณ นานามคฺควเสน. เอกสฺส หิ ปมมคฺโค ปมชฺฌานิโก โหติ, ทุติยมคฺคาทโยปิ ปมชฺฌานิกา, ทุติยาทีสุ อฺตรชฺฌานิกา วา. เอกสฺส ปมมคฺโค ทุติยาทีนํ อฺตรชฺฌานิโก โหติ, ทุติยาทโยปิ ทุติยาทีนํ อฺตรชฺฌานิกา วา ปมชฺฌานิกา วา. เอวํ จตฺตาโรปิ มคฺคา ฌานวเสน สทิสา วา อสทิสา วา เอกจฺจสทิสา วา โหนฺติ.
อยํ ปนสฺส วิเสโส ปาทกชฺฌานนิยาเมน โหติ. ปาทกชฺฌานนิยาเมน ตาว ปมชฺฌานลาภิโน ปมชฺฌานา วุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺนมคฺโค ¶ ปมชฺฌานิโก โหติ; มคฺคงฺคโพชฺฌงฺคานิ ปเนตฺถ ปริปุณฺณาเนว โหนฺติ. ทุติยชฺฌานโต อุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน มคฺโค ทุติยชฺฌานิโก โหติ; มคฺคงฺคานิ ปเนตฺถ สตฺต โหนฺติ. ตติยชฺฌานโต อุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน มคฺโค ตติยชฺฌานิโก โหติ; มคฺคงฺคานิ ปเนตฺถ สตฺต, โพชฺฌงฺคานิ ฉ โหนฺติ. เอส นโย จตุตฺถชฺฌานโต ปฏฺาย ยาว เนวสฺานาสฺายตนา.
อารุปฺเป จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ. ตฺจ โข โลกุตฺตรํ โน โลกิยนฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ กถนฺติ? เอตฺถาปิ ปมชฺฌานาทีสุ ยโต อุฏฺาย โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภิตฺวา อารุปฺปสมาปตฺตึ ภาเวตฺวา โย อารุปฺเป อุปฺปนฺโน, ตํฌานิกาว ตสฺส ตตฺถ ตโย มคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ ¶ . เอวํ ¶ ปาทกชฺฌานเมว นิยาเมติ. เกจิ ปน เถรา ‘‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยาเมนฺตี’’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยาเมตี’’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘‘วุฏฺานคามินีวิปสฺสนา นิยาเมตี’’ติ วทนฺติ. เตสํ วาทวินิจฺฉโย เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ โลกุตฺตรปทภาชนียวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจติ สมฺมาสมาธีติ ยา อิเมสุ จตูสุ ฌาเนสุ เอกคฺคตา, อยํ ปุพฺพภาเค โลกิโย, อปรภาเค โลกุตฺตโร สมฺมาสมาธิ นาม วุจฺจตีติ. เอวํ โลกิยโลกุตฺตรวเสน ภควา มคฺคสจฺจํ เทเสสิ.
ตตฺถ โลกิยมคฺเค สพฺพาเนว มคฺคงฺคานิ ยถานุรูปํ ฉสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณานิ โหนฺติ. โลกุตฺตรมคฺเค ปน จตุสจฺจปฏิเวธาย ปวตฺตสฺส อริยสฺส นิพฺพานารมฺมณํ อวิชฺชานุสยสมุคฺฆาตกํ ปฺาจกฺขุ สมฺมาทิฏฺิ. ตถา สมฺปนฺนทิฏฺิสฺส ตํสมฺปยุตฺตํ ติวิธมิจฺฉาสงฺกปฺปสมุคฺฆาตกํ เจตโส นิพฺพานปทาภินิโรปนํ สมฺมาสงฺกปฺโป. ตถา ปสฺสนฺตสฺส วิตกฺเกนฺตสฺส จ ตํสมฺปยุตฺตาว จตุพฺพิธวจีทุจฺจริตสมุคฺฆาติกาย มิจฺฉาวาจาย วิรติ สมฺมาวาจา. ตถา วิรมนฺตสฺส ตํสมฺปยุตฺตาว มิจฺฉากมฺมนฺตสมุจฺเฉทิกา ติวิธกายทุจฺจริตวิรติ สมฺมากมฺมนฺโต. เตสํเยว สมฺมาวาจากมฺมนฺตานํ โวทานภูตา ตํสมฺปยุตฺตาว กุหนาทิสมุจฺเฉทิกา มิจฺฉาอาชีววิรติ สมฺมาอาชีโว. อิมิสฺสา สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวสํขาตาย สีลภูมิยํ ปติฏฺมานสฺส ตทนุรูโป ตํสมฺปยุตฺโตว โกสชฺชสมุจฺเฉทโก ¶ อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อกุสลกุสลานํ อนุปฺปาทปหานุปฺปาทฏฺิติสาธโก จ วีริยารมฺโภ สมฺมาวายาโม. เอวํ วายมนฺตสฺส ตํสมฺปยุตฺโตว มิจฺฉาสติวินิทฺธุนนโก กายาทีสุ กายานุปสฺสนาทิสาธโก จ เจตโส อสมฺโมโส สมฺมาสติ. อิติ อนุตฺตราย สติยา สุวิหิตจิตฺตารกฺขสฺส ตํสมฺปยุตฺตาว มิจฺฉาสมาธิสมุคฺฆาติกา จิตฺเตกคฺคตา สมฺมาสมาธีติ. เอส ¶ โลกุตฺตโร อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค โย สห โลกิเยน มคฺเคน ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ สงฺขํ คโต.
โส โข ปเนส มคฺโค สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺปานํ วิชฺชาย, เสสธมฺมานํ จรเณน สงฺคหิตตฺตา วิชฺชา เจว จรณฺจ. ตถา เตสํ ทฺวินฺนํ วิปสฺสนายาเนน, อิตเรสํ สมถยาเนน สงฺคหิตตฺตา สมโถ เจว วิปสฺสนา จ. เตสํ วา ทฺวินฺนํ ปฺากฺขนฺเธน, ตทนนฺตรานํ ติณฺณํ สีลกฺขนฺเธน, อวเสสานํ สมาธิกฺขนฺเธน อธิปฺาอธิสีลอธิจิตฺตสิกฺขาหิ จ สงฺคหิตตฺตา ขนฺธตฺตยฺเจว สิกฺขาตฺตยฺจ โหติ; เยน สมนฺนาคโต อริยสาวโก ทสฺสนสมตฺเถหิ จกฺขูหิ คมนสมตฺเถหิ จ ¶ ปาเทหิ สมนฺนาคโต อทฺธิโก วิย วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน หุตฺวา วิปสฺสนายาเนน กามสุขลฺลิกานุโยคํ, สมถยาเนน อตฺตกิลมถานุโยคนฺติ อนฺตทฺวยํ ปริวชฺเชตฺวา มชฺฌิมปฏิปทํ ปฏิปนฺโน ปฺากฺขนฺเธน โมหกฺขนฺธํ, สีลกฺขนฺเธน โทสกฺขนฺธํ, สมาธิกฺขนฺเธน จ โลภกฺขนฺธํ ปทาเลนฺโต อธิปฺาสิกฺขาย ปฺาสมฺปทํ, อธิสีลสิกฺขาย สีลสมฺปทํ, อธิจิตฺตสิกฺขาย สมาธิสมฺปทนฺติ ติสฺโส สมฺปตฺติโย ปตฺวา อมตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณํ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมรตนวิจิตฺตํ สมฺมตฺตนิยามสงฺขาตํ อริยภูมิฺจ โอกฺกนฺโต โหตีติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๐๖-๒๑๔. อิทานิ อภิธมฺมภาชนียํ โหติ. ตตฺถ ‘‘อริยสจฺจานี’’ติ อวตฺวา นิปฺปเทสโต ปจฺจยสงฺขาตํ สมุทยํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาริ สจฺจานี’’ติ วุตฺตํ ¶ . อริยสจฺจานีติ หิ วุตฺเต อวเสสา จ กิเลสา, อวเสสา จ อกุสลา ธมฺมา, ตีณิ จ กุสลมูลานิ สาสวานิ, อวเสสา จ สาสวา กุสลา ธมฺมา น สงฺคยฺหนฺติ. น จ เกวลํ ตณฺหาว ทุกฺขํ สมุทาเนติ, อิเมปิ อวเสสา จ กิเลสาทโย ปจฺจยา สมุทาเนนฺติเยว. อิติ อิเมปิ ปจฺจยา ทุกฺขํ สมุทาเนนฺติเยวาติ นิปฺปเทสโต ปจฺจยสงฺขาตํ สมุทยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อริยสจฺจานี’’ติ อวตฺวา ‘‘จตฺตาริ สจฺจานี’’ติ วุตฺตํ.
นิทฺเทสวาเร ¶ จ เนสํ ปมํ ทุกฺขํ อนิทฺทิสิตฺวา ตสฺเสว ทุกฺขสฺส สุขนิทฺเทสตฺถํ ทุกฺขสมุทโย นิทฺทิฏฺโ. ตสฺมิฺหิ นิทฺทิฏฺเ ‘‘อวเสสา จ กิเลสา’’ติอาทินา นเยน ทุกฺขสจฺจํ สุขนิทฺเทสํ โหติ. นิโรธสจฺจมฺเปตฺถ ตณฺหาย ปหานํ ‘‘ตณฺหาย จ อวเสสานฺจ กิเลสานํ ปหาน’’นฺติ เอวํ ยถาวุตฺตสฺส สมุทยสฺส ปหานวเสน ปฺจหากาเรหิ นิทฺทิฏฺํ. มคฺคสจฺจํ ปเนตฺถ ปมชฺฌานิกโสตาปตฺติมคฺควเสน ธมฺมสงฺคณิยํ วิภตฺตสฺส เทสนานยสฺส มุขมตฺตเมว ทสฺเสนฺเตน นิทฺทิฏฺํ. ตตฺถ นยเภโท เวทิตพฺโพ. ตํ อุปริ ปกาสยิสฺสาม.
ยสฺมา ¶ ปน น เกวลํ อฏฺงฺคิโก มคฺโคว ปฏิปทา ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๓) วจนโต ปน ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน ปฺจงฺคิโกปิ มคฺโค ปฏิปทา เอวาติ เทสิโต, ตสฺมา ตํ นยํ ทสฺเสตุํ ปฺจงฺคิกวาโรปิ นิทฺทิฏฺโ. ยสฺมา จ น เกวลํ อฏฺงฺคิกปฺจงฺคิกมคฺคาว ปฏิปทา, สมฺปยุตฺตกา ปน อติเรกปฺาสธมฺมาปิ ปฏิปทา เอว, ตสฺมา ตํ นยํ ทสฺเสตุํ ตติโย สพฺพสงฺคาหิกวาโรปิ นิทฺทิฏฺโ. ตตฺถ ‘‘อวเสสา ธมฺมา ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย สมฺปยุตฺตา’’ติ อิทํ ปริหายติ. เสสํ สพฺพตฺถ สทิสเมว.
ตตฺถ อฏฺงฺคิกวารสฺส ‘‘ตณฺหาย อวเสสานฺจ กิเลสานํ ปหาน’’นฺติอาทีสุ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ ปมโกฏฺาเส ตาว โสตาปตฺติมคฺเค ฌานาภินิเวเส สุทฺธิกปฏิปทา, สุทฺธิกสฺุตา, สฺุตปฏิปทา, สุทฺธิกอปฺปณิหิตํ, อปฺปณิหิตปฏิปทาติ อิเมสุ ปฺจสุ วาเรสุ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ จตุกฺกปฺจกนยานํ วเสน ทส นยา โหนฺติ. เอวํ เสเสสุปีติ วีสติยา อภินิเวเสสุ ทฺเว นยสตานิ. ตานิ จตูหิ อธิปตีหิ จตุคฺคุณิตานิ อฏฺ ¶ . อิติ สุทฺธิกานิ ทฺเว สาธิปตี อฏฺาติ สพฺพมฺปิ นยสหสฺสํ โหติ. ยถา จ โสตาปตฺติมคฺเค, เอวํ เสสมคฺเคสุปีติ จตฺตาริ นยสหสฺสานิ โหนฺติ. ยถา จ ปมโกฏฺาเส จตฺตาริ, เอวํ เสเสสุปีติ อฏฺงฺคิกวาเร ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ วีสติ นยสหสฺสานิ โหนฺติ. ตถา ปฺจงฺคิกวาเร สพฺพสงฺคาหิกวาเร จาติ สพฺพานิปิ สฏฺิ ¶ นยสหสฺสานิ สตฺถารา วิภตฺตานิ. ปาฬิ ปน สงฺเขเปน อาคตา. เอวมิทํ ติวิธมหาวารํ ปฺจทสโกฏฺาสํ สฏฺินยสหสฺสปฏิมณฺฑิตํ อภิธมฺมภาชนียํ นาม นิทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๒๑๕. ปฺหาปุจฺฉเก จตุนฺนมฺปิ สจฺจานํ ขนฺธวิภงฺเค วุตฺตนยานุสาเรเนว กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน สมุทยสจฺจํ กามาวจรธมฺเม อสฺสาเทนฺตสฺส ปริตฺตารมฺมณํ โหติ, มหคฺคตธมฺเม อสฺสาเทนฺตสฺส มหคฺคตารมฺมณํ, ปฺตฺตึ อสฺสาเทนฺตสฺส นวตฺตพฺพารมฺมณํ. ทุกฺขสจฺจํ ¶ กามาวจรธมฺเม อารพฺภ อุปฺปนฺนํ ปริตฺตารมฺมณํ, รูปารูปาวจรธมฺเม อารพฺภ อุปฺปตฺติกาเล มหคฺคตารมฺมณํ, นว โลกุตฺตรธมฺเม ปจฺจเวกฺขณกาเล อปฺปมาณารมฺมณํ, ปณฺณตฺตึ ปจฺจเวกฺขณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ. มคฺคสจฺจํ สหชาตเหตุวเสน สพฺพทาปิ มคฺคเหตุกํ วีริยํ วา วีมํสํ วา เชฏฺกํ กตฺวา มคฺคภาวนากาเล มคฺคาธิปติ, ฉนฺทจิตฺเตสุ อฺตราธิปติกาเล นวตฺตพฺพํ นาม โหติ. ทุกฺขสจฺจํ อริยานํ มคฺคปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคารมฺมณํ, เตสํเยว มคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคาธิปติ, เสสธมฺมปจฺจเวกฺขณกาเล นวตฺตพฺพํ โหติ.
ทฺเว สจฺจานีติ ทุกฺขสมุทยสจฺจานิ. เอตานิ หิ อตีตาทิเภเท ธมฺเม อารพฺภ อุปฺปตฺติกาเล อตีตาทิอารมฺมณานิ โหนฺติ. สมุทยสจฺจํ อชฺฌตฺตาทิเภเท ธมฺเม อสฺสาเทนฺตสฺส อชฺฌตฺตาทิอารมฺมณํ โหติ, ทุกฺขสจฺจํ อากิฺจฺายตนกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณมฺปีติ เวทิตพฺพํ. อิติ อิมสฺมึ ปฺหาปุจฺฉเก ทฺเว สจฺจานิ โลกิยานิ โหนฺติ, ทฺเว โลกุตฺตรานิ. ยถา ¶ จ อิมสฺมึ, เอวํ ปุริเมสุปิ ทฺวีสุ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ ตีสุปิ สุตฺตนฺตภาชนียาทีสุ โลกิยโลกุตฺตราเนว สจฺจานิ กถิตานิ. เอวมยํ สจฺจวิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนียา วิภงฺคฏฺกถาย
สจฺจวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.