📜
๖. ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ อุทฺเทสวารวณฺณนา
๒๒๕. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค ยา ‘‘อยํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา นเยน ตนฺติ นิกฺขิตฺตา, ตสฺสา อตฺถสํวณฺณนํ กโรนฺเตน วิภชฺชวาทิมณฺฑลํ โอตริตฺวา อาจริเย อนพฺภาจิกฺขนฺเตน สกสมยํ อโวกฺกมนฺเตน ปรสมยํ อนายูหนฺเตน สุตฺตํ อปฺปฏิพาหนฺเตน วินยํ อนุโลเมนฺเตน มหาปเทเส โอโลเกนฺเตน ธมฺมํ ทีเปนฺเตน อตฺถํ สงฺคหนฺเตน ตเมวตฺถํ ปุน อาวตฺเตตฺวา อปเรหิปิ ปริยาเยหิ นิทฺทิสนฺเตน จ ยสฺมา อตฺถสํวณฺณนา กาตพฺพา โหติ, ปกติยาปิ จ ทุกฺกราว ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส อตฺถสํวณฺณนา, ยถาหุ โปราณา –
‘‘สจฺจํ สตฺโต ปฏิสนฺธิ, ปจฺจยาการเมว จ;
ทุทฺทสา จตุโร ธมฺมา, เทเสตฺุจ สุทุกฺกรา’’ติ.
ตสฺมา ‘‘อฺตฺร อาคมาธิคมปฺปตฺเตหิ น สุกรา ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส อตฺถวณฺณนา’’ติ ปริตุลยิตฺวา –
วตฺตุกาโม อหํ อชฺช, ปจฺจยาการวณฺณนํ;
ปติฏฺํ นาธิคจฺฉามิ, อชฺโฌคาฬฺโหว สาครํ.
สาสนํ ¶ ปนิทํ นานา-เทสนานยมณฺฑิตํ;
ปุพฺพาจริยมคฺโค จ, อพฺโพจฺฉินฺโน ปวตฺตติ.
ยสฺมา ตสฺมา ตทุภยํ, สนฺนิสฺสายตฺถวณฺณนํ;
อารภิสฺสามิ เอตสฺส, ตํ สุณาถ สมาหิตา.
วุตฺตฺเหตํ ปุพฺพาจริเยหิ –
‘‘โย โกจิมํ อฏฺึ กตฺวา สุเณยฺย,
ลเภถ ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ;
ลทฺธาน ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ,
อทสฺสนํ มจฺจุราชสฺส คจฺเฉ’’ติ.
อวิชฺชาปจฺจยา ¶ ¶ สงฺขาราติอาทีสุ หิ อาทิโตเยว ตาว –
เทสนาเภทโต อตฺถ-ลกฺขเณกวิธาทิโต;
องฺคานฺจ ววตฺถานา, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ ‘เทสนาเภทโต’ติ ภควโต หิ วลฺลิหารกานํ จตุนฺนํ ปุริสานํ วลฺลิคฺคหณํ วิย อาทิโต วา มชฺฌโต วา ปฏฺาย ยาว ปริโยสานํ, ตถา ปริโยสานโต วา มชฺฌโต วา ปฏฺาย ยาว อาทีติ จตุพฺพิธา ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนา. ยถา หิ วลฺลิหารเกสุ จตูสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา มูลเมว ปมํ ปสฺสติ, โส ตํ มูเล เฉตฺวา สพฺพํ อากฑฺฒิตฺวา อาทาย กมฺเม อุปเนติ, เอวํ ภควา ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป… ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ อาทิโต (ม. นิ. ๑.๔๐๒) ปฏฺาย ยาว ปริโยสานาปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ เทเสติ.
ยถา ปน เตสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา มชฺฌํ ปมํ ปสฺสติ, โส มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา อุปริภาคํเยว อากฑฺฒิตฺวา อาทาย กมฺเม อุปเนติ, เอวํ ภควา ‘‘ตสฺส ตํ เวทนํ อภินนฺทโต ¶ อภิวทโต อชฺโฌสาย ติฏฺโต อุปฺปชฺชติ นนฺที; ยา เวทนาสุ นนฺที, ตทุปาทานํ, ตสฺสุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๙; สํ. นิ. ๓.๕) มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานาปิ เทเสติ.
ยถา จ เตสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา อคฺคํ ปมํ ปสฺสติ, โส อคฺเค คเหตฺวา อคฺคานุสาเรน ยาว มูลา สพฺพํ อาทาย กมฺเม อุปเนติ, เอวํ ภควา ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ชาติปจฺจยา นุ โข, ภิกฺขเว, ชรามรณํ โน วา กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘ชาติปจฺจยา, ภนฺเต, ชรามรณํ; เอวํ โน เอตฺถ โหติ – ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ. ‘‘ภวปจฺจยา ชาติ…เป… อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, อวิชฺชาปจฺจยา นุ โข, ภิกฺขเว, สงฺขารา โน วา กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา, ภนฺเต, สงฺขารา; เอวํ โน เอตฺถ โหติ – อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ ปริโยสานโต ปฏฺาย ยาว อาทิโตปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ เทเสติ.
ยถา ปน เตสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา มชฺฌเมว ปมํ ปสฺสติ, โส มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา เหฏฺา โอตรนฺโต ยาว มูลา ¶ อาทาย กมฺเม อุปเนติ ¶ , เอวํ ภควา ‘‘อิเม, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาหารา กึ นิทานา, กึ สมุทยา, กึ ชาติกา, กึ ปภวา? อิเม จตฺตาโร อาหารา ตณฺหานิทานา, ตณฺหาสมุทยา, ตณฺหาชาติกา, ตณฺหาปภวา. ตณฺหา จายํ, ภิกฺขเว, กึ นิทานา? เวทนา, ผสฺโส, สฬายตนํ, นามรูปํ, วิฺาณํ. สงฺขารา กึ นิทานา…เป… สงฺขารา อวิชฺชานิทานา, อวิชฺชาสมุทยา, อวิชฺชาชาติกา, อวิชฺชาปภวา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๑) มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว อาทิโต เทเสติ.
กสฺมา ปเนวํ เทเสตีติ? ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส สมนฺตภทฺทกตฺตา, สยฺจ เทสนาวิลาสปฺปตฺตตฺตา. สมนฺตภทฺทโก หิ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ตโต ตโต ายปฺปฏิเวธาย สํวตฺตติเยว. เทสนาวิลาสปฺปตฺโต จ ภควา จตุเวสารชฺชปฺปฏิสมฺภิทาโยเคน จตุพฺพิธคมฺภีรภาวปฺปตฺติยา จ. โส เทสนาวิลาสปฺปตฺตตฺตา นานานเยเหว ธมฺมํ เทเสติ. วิเสสโต ปนสฺส ยา อาทิโต ปฏฺาย อนุโลมเทสนา, สา ปวตฺติการณวิภาคสมฺมูฬฺหํ เวเนยฺยชนํ สมนุปสฺสโต ยถาสเกหิ การเณหิ ปวตฺติสนฺทสฺสนตฺถํ อุปฺปตฺติกฺกมสนฺทสฺสนตฺถฺจ ปวตฺติตาติ าตพฺพา.
ยา ¶ ปริโยสานโต ปฏฺาย ปฏิโลมเทสนา, สา ‘‘กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน ชายติ จ ชียติ จ มียติ จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๕๗) อาทินา นเยน กิจฺฉาปนฺนํ โลกมนุวิโลกยโต ปุพฺพภาคปฺปฏิเวธานุสาเรน ตสฺส ตสฺส ชรามรณาทิกสฺส ทุกฺขสฺส อตฺตนาธิคตการณสนฺทสฺสนตฺถํ. ยา ปน มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว อาทิ, สา อาหารนิทานววตฺถาปนานุสาเรน ยาว อตีตํ อทฺธานํ อติหริตฺวา ปุน อตีตทฺธโต ปภุติ เหตุผลปฏิปาฏิสนฺทสฺสนตฺถํ. ยา ปน มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา ปวตฺตา, สา ปจฺจุปฺปนฺเน อทฺธาเน อนาคตทฺธเหตุสมุฏฺานโต ปภุติ อนาคตทฺธสนฺทสฺสนตฺถํ. ตาสุ ยา สา ปวตฺติการณสมฺมูฬฺหสฺส เวเนยฺยชนสฺส ยถาสเกหิ การเณหิ ปวตฺติสนฺทสฺสนตฺถํ อุปฺปตฺติกฺกมสนฺทสฺสนตฺถฺจ อาทิโต ปฏฺาย อนุโลมเทสนา วุตฺตา, สา อิธ นิกฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพา.
กสฺมา ¶ ปเนตฺถ อวิชฺชา อาทิโต วุตฺตา? กึ ปกติวาทีนํ ปกติ วิย อวิชฺชาปิ อการณํ มูลการณํ โลกสฺสาติ? น อการณํ. ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ หิ อวิชฺชาย การณํ วุตฺตํ. อตฺถิ ¶ ปน ปริยาโย เยน มูลการณํ สิยา. โก ปน โสติ? วฏฺฏกถาย สีสภาโว. ภควา หิ วฏฺฏกถํ กเถนฺโต ทฺเว ธมฺเม สีสํ กตฺวา กเถสิ – อวิชฺชํ วา ภวตณฺหํ วา. ยถาห – ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย ‘อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’ติ. เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ, อถ จ ปน ปฺายติ ‘อิทปฺปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๑); ภวตณฺหํ วา, ยถาห – ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ ภวตณฺหาย ‘อิโต ปุพฺเพ ภวตณฺหา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’ติ. เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ, อถ จ ปน ปฺายติ ‘อิทปฺปจฺจยา ภวตณฺหา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๒).
กสฺมา ปน ภควา วฏฺฏกถํ กเถนฺโต อิเม ทฺเวว ธมฺเม สีสํ กตฺวา กเถสีติ? สุคติทุคฺคติคามิโน กมฺมสฺส วิเสสเหตุภูตตฺตา. ทุคฺคติคามิโน หิ กมฺมสฺส วิเสสเหตุ อวิชฺชา. กสฺมา? ยสฺมา อวิชฺชาภิภูโต ปุถุชฺชโน, อคฺคิสนฺตาปลคุฬาภิฆาตปริสฺสมาภิภูตา วชฺฌคาวี ตาย ปริสฺสมาตุรตาย นิรสฺสาทมฺปิ อตฺตโน อนตฺถาวหมฺปิ จ อุณฺโหทกปานํ วิย, กิเลสสนฺตาปโต นิรสฺสาทมฺปิ ทุคฺคติวินิปาตโต จ อตฺตโน อนตฺถาวหมฺปิ ปาณาติปาตาทิมเนกปฺปการํ ทุคฺคติคามิกมฺมํ อารภติ. สุคติคามิโน ปน กมฺมสฺส วิเสสเหตุ ภวตณฺหา. กสฺมา? ยสฺมา ภวตณฺหาภิภูโต ปุถุชฺชโน, ยถา วุตฺตปฺปการา คาวี ¶ สีตุทกตณฺหาย สอสฺสาทํ อตฺตโน ปริสฺสมวิโนทนฺจ สีตุทกปานํ วิย, กิเลสสนฺตาปวิรหโต สอสฺสาทํ สุคติสมฺปาปเนน อตฺตโน ทุคฺคติทุกฺขปริสฺสมวิโนทนฺจ ปาณาติปาตาเวรมณีอาทิมเนกปฺปการํ สุคติคามิกมฺมํ อารภติ.
เอเตสุ ปน วฏฺฏกถาย สีสภูเตสุ ธมฺเมสุ กตฺถจิ ภควา ¶ เอกธมฺมมูลิกํ เทสนํ เทเสติ, เสยฺยถิทํ – ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชูปนิสา สงฺขารา, สงฺขารูปนิสํ วิฺาณ’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๒๓). ตถา ‘‘อุปาทานีเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา ปวฑฺฒติ, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๕๒). กตฺถจิ อุภยมูลิกมฺปิ, เสยฺยถิทํ – ‘‘อวิชฺชานีวรณสฺส, ภิกฺขเว, พาลสฺส ตณฺหาย สมฺปยุตฺตสฺส เอวมยํ กาโย สมุทาคโต. อิติ อยฺเจว กาโย พหิทฺธา จ นามรูปํ อิตฺเถตํ ¶ ทฺวยํ, ทฺวยํ ปฏิจฺจ ผสฺโส, สเฬวายตนานิ เยหิ ผุฏฺโ พาโล สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๑๙). ตาสุ ตาสุ เทสนาสุ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อยมิธ อวิชฺชาวเสน เอกธมฺมมูลิกา เทสนาติ เวทิตพฺพา. เอวํ ตาเวตฺถ เทสนาเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘อตฺถโต’ติ อวิชฺชาทีนํ ปทานํ อตฺถโต, เสยฺยถิทํ – ปูเรตุํ อยุตฺตฏฺเน กายทุจฺจริตาทิ อวินฺทิยํ นาม; อลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถ. ตํ อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชา. ตพฺพิปรีตโต กายสุจริตาทิ วินฺทิยํ นาม. ตํ วินฺทิยํ น วินฺทตีติ อวิชฺชา. ขนฺธานํ ราสฏฺํ, อายตนานํ อายตนฏฺํ, ธาตูนํ สฺุฏฺํ, สจฺจานํ ตถฏฺํ, อินฺทฺริยานํ อาธิปเตยฺยฏฺํ อวิทิตํ กโรตีติ อวิชฺชา. ทุกฺขาทีนํ ปีฬนาทิวเสน วุตฺตํ จตุพฺพิธํ จตุพฺพิธํ อตฺถํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชา. อนฺตวิรหิเต สํสาเร สพฺพโยนิคติภววิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สตฺเต ชวาเปตีติ อวิชฺชา. ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเนสุ อิตฺถิปุริสาทีสุ ชวติ, วิชฺชมาเนสุปิ ขนฺธาทีสุ น ชวตีติ อวิชฺชา. อปิจ จกฺขุวิฺาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานฺจ ธมฺมานํ ฉาทนโตปิ อวิชฺชา.
ยํ ปฏิจฺจ ผลเมติ โส ปจฺจโย. ปฏิจฺจาติ น วินา เตน; ตํ อปจฺจกฺขิตฺวาติ อตฺโถ. เอตีติ อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จาติ อตฺโถ. อปิ จ อุปการกฏฺโ ปจฺจยฏฺโ. อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโย. ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา.
สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตีติ ¶ สงฺขารา. อปิจ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขารา จาติ ทุวิธา สงฺขารา. ตตฺถ ปฺุาปฺุาเนฺชาภิสงฺขารา ตโย, กายวจีจิตฺตสงฺขารา ตโยติ อิเม ฉ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา ¶ . เต สพฺเพปิ โลกิยกุสลากุสลเจตนามตฺตเมว โหนฺติ.
สงฺขตสงฺขาโร, อภิสงฺขตสงฺขาโร, อภิสงฺขรณสงฺขาโร, ปโยคาภิสงฺขาโรติ อิเม ปน จตฺตาโร สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขารา. ตตฺถ ¶ ‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๒๑, ๒๗๒; สํ. นิ. ๑.๑๘๖; ๒.๑๔๓) วุตฺตา สพฺเพปิ สปฺปจฺจยา ธมฺมา ‘สงฺขตสงฺขารา’ นาม. กมฺมนิพฺพตฺตา เตภูมกา รูปารูปธมฺมา ‘อภิสงฺขตสงฺขารา’ติ อฏฺกถาสุ วุตฺตา. เตปิ ‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. วิสุํ ปน เนสํ อาคตฏฺานํ น ปฺายติ. เตภูมกกุสลากุสลเจตนา ปน ‘อภิสงฺขรณกสงฺขาโร’ติ วุจฺจติ. ตสฺส ‘‘อวิชฺชาคโตยํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล ปฺฺุเจ อภิสงฺขโรตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๕๑) อาคตฏฺานํ ปฺายติ. กายิกเจตสิกํ ปน วีริยํ ‘ปโยคาภิสงฺขาโร’ติ วุจฺจติ. โส ‘‘ยาวติกา อภิสงฺขารสฺส คติ, ตาวติกํ คนฺตฺวา อกฺขาหตํ มฺเ อฏฺาสี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑๕) อาคโต.
น เกวลฺจ เอเตเยว, อฺเปิ ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน ปมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโร, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต จิตฺตสงฺขาโร’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๔๖๔) นเยน สงฺขารสทฺเทน อาคตา อเนกสงฺขารา. เตสุ นตฺถิ โส สงฺขาโร, โย สงฺขตสงฺขาเร สงฺคหํ น คจฺเฉยฺย. อิโต ปรํ สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติอาทีสุ ยํ วุตฺตํ ตํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อวุตฺเต ปน วิชานาตีติ วิฺาณํ. นมตีติ นามํ. รุปฺปตีติ รูปํ. อาเย ตโนติ, อายตฺจ นยตีติ อายตนํ. ผุสตีติ ผสฺโส. เวทยตีติ เวทนา. ปริตสฺสตีติ ตณฺหา. อุปาทิยตีติ อุปาทานํ. ภวติ ภาวยติ จาติ ภโว. ชนนํ ชาติ. ชีรณํ ชรา. มรนฺติ ¶ เอเตนาติ มรณํ. โสจนํ โสโก. ปริเทวนํ ปริเทโว. ทุกฺขยตีติ ทุกฺขํ; อุปฺปาทฏฺิติวเสน วา ทฺเวธา ขณตีติ ทุกฺขํ. ทุมฺมนสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. ภุโส อายาโส อุปายาโส.
สมฺภวนฺตีติ ¶ นิพฺพตฺตนฺติ. น เกวลฺจ โสกาทีเหว, อถ โข สพฺพปเทหิ ‘สมฺภวนฺตี’ติ สทฺทสฺส โยชนา กาตพฺพา. อิตรถา หิ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ วุตฺเต กึ กโรนฺตีติ น ปฺาเยยฺยุํ. ‘‘สมฺภวนฺตี’’ติ ปน โยชนาย สติ ‘‘อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโย; ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา สมฺภวนฺตี’’ติ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนววตฺถานํ กตํ โหติ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
เอวนฺติ ¶ นิทฺทิฏฺนยนิทสฺสนํ. เตน อวิชฺชาทีเหว การเณหิ, น อิสฺสรนิมฺมานาทีหีติ ทสฺเสติ. เอตสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส. เกวลสฺสาติ อสมฺมิสฺสสฺส สกลสฺส วา. ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ ทุกฺขสมูหสฺส, น สตฺตสฺส, น สุขสุภาทีนํ. สมุทโยติ นิพฺพตฺติ. โหตีติ สมฺภวติ. เอวเมตฺถ อตฺถโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ลกฺขณาทิโต’ติ อวิชฺชาทีนํ ลกฺขณาทิโต, เสยฺยถิทํ – อฺาณลกฺขณา อวิชฺชา, สมฺโมหนรสา, ฉาทนปจฺจุปฏฺานา, อาสวปทฏฺานา. อภิสงฺขรณลกฺขณา สงฺขารา, อายูหนรสา, เจตนาปจฺจุปฏฺานา, อวิชฺชาปทฏฺานา. วิชานนลกฺขณํ วิฺาณํ, ปุพฺพงฺคมรสํ, ปฏิสนฺธิปจฺจุปฏฺานํ, สงฺขารปทฏฺานํ, วตฺถารมฺมณปทฏฺานํ วา. นมนลกฺขณํ นามํ, สมฺปโยครสํ, อวินิพฺโภคปจฺจุปฏฺานํ, วิฺาณปทฏฺานํ. รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ, วิกิรณรสํ, อพฺยากตปจฺจุปฏฺานํ, วิฺาณปทฏฺานํ. อายตนลกฺขณํ สฬายตนํ, ทสฺสนาทิรสํ, วตฺถุทฺวารภาวปจฺจุปฏฺานํ ¶ , นามรูปปทฏฺานํ. ผุสนลกฺขโณ ผสฺโส, สงฺฆฏฺฏนรโส, สงฺคติปจฺจุปฏฺาโน, สฬายตนปทฏฺาโน. อนุภวนลกฺขณา เวทนา, วิสยรสสมฺโภครสา, สุขทุกฺขปจฺจุปฏฺานา, ผสฺสปทฏฺานา. เหตุลกฺขณา ตณฺหา, อภินนฺทนรสา, อติตฺติภาวปจฺจุปฏฺานา, เวทนาปทฏฺานา. คหณลกฺขณํ อุปาทานํ, อมฺุจนรสํ, ตณฺหาทฬฺหตฺตทิฏฺิปจฺจุปฏฺานํ, ตณฺหาปทฏฺานํ. กมฺมกมฺมผลลกฺขโณ ภโว, ภาวนภวนรโส, กุสลากุสลาพฺยากตปจฺจุปฏฺาโน, อุปาทานปทฏฺาโน. ชาติอาทีนํ ลกฺขณาทีนิ สจฺจวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอวเมตฺถ ลกฺขณาทิโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘เอกวิธาทิโต’ติ เอตฺถ อวิชฺชา อฺาณาทสฺสนโมหาทิภาวโต เอกวิธา, อปฺปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺติโต ทุวิธา ตถา สงฺขาราสงฺขารโต, เวทนาตฺตยสมฺปโยคโต ติวิธา, จตุสจฺจอปฺปฏิเวธโต ¶ จตุพฺพิธา, คติปฺจกาทีนวจฺฉาทนโต ปฺจวิธา, ทฺวารารมฺมณโต ปน สพฺเพสุปิ อรูปธมฺเมสุ ฉพฺพิธตา เวทิตพฺพา.
สงฺขารา สาสววิปากธมฺมธมฺมาทิภาวโต เอกวิธา, กุสลากุสลโต ทุวิธา ตถา ปริตฺตมหคฺคตหีนมชฺฌิมมิจฺฉตฺตนิยตานิยตโต, ติวิธา ปฺุาภิสงฺขาราทิภาวโต, จตุพฺพิธา จตุโยนิสํวตฺตนโต, ปฺจวิธา ปฺจคติคามิโต.
วิฺาณํ ¶ โลกิยวิปากาทิภาวโต เอกวิธํ, สเหตุกาเหตุกาทิโต ทุวิธํ, ภวตฺตยปริยาปนฺนโต เวทนาตฺตยสมฺปโยคโต อเหตุกทุเหตุกติเหตุกโต จ ติวิธํ, โยนิคติวเสน จตุพฺพิธํ ปฺจวิธฺจ.
นามรูปํ วิฺาณสนฺนิสฺสยโต กมฺมปจฺจยโต จ เอกวิธํ, สารมฺมณานารมฺมณโต ทุวิธํ, อตีตาทิโต ติวิธํ, โยนิคติวเสน จตุพฺพิธํ ปฺจวิธฺจ.
สฬายตนํ สฺชาติสโมสรณฏฺานโต เอกวิธํ, ภูตปฺปสาทวิฺาณาทิโต ทุวิธํ, สมฺปตฺตาสมฺปตฺตโนภยโคจรโต ติวิธํ, โยนิคติปริยาปนฺนโต จตุพฺพิธํ ปฺจวิธฺจาติ อิมินา นเยน ผสฺสาทีนมฺปิ เอกวิธาทิภาโว เวทิตพฺโพติ. เอวเมตฺถ เอกวิธาทิโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘องฺคานฺจ ¶ ววตฺถานา’ติ โสกาทโย เจตฺถ ภวจกฺกสฺส อวิจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺตา. ชรามรณพฺภาหตสฺส หิ พาลสฺส เต สมฺภวนฺติ. ยถาห – ‘‘อสฺสุตวา, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน สารีริกาย ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ อุรตฺตาฬึ กนฺทติ สมฺโมหมาปชฺชตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๒). ยาว จ เตสํ ปวตฺติ ตาว อวิชฺชายาติ ปุนปิ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ สมฺพนฺธเมว โหติ ภวจกฺกํ. ตสฺมา เตสมฺปิ ชรามรเณเนว เอกสงฺเขปํ กตฺวา ทฺวาทเสว ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานีติ เวทิตพฺพานิ. เอวเมตฺถ องฺคานํ ววตฺถานโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย. อยํ ตาเวตฺถ อุทฺเทสวารวเสน สงฺเขปกถา.
อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
อวิชฺชาปทนิทฺเทโส
๒๒๖. อิทานิ ¶ นิทฺเทสวารวเสน วิตฺถารกถา โหติ. ‘‘อวิชฺชา ปจฺจยา สงฺขารา’’ติ หิ วุตฺตํ. ตตฺถ อวิชฺชาปจฺจเยสุ สงฺขาเรสุ ทสฺเสตพฺเพสุ ยสฺมา ปุตฺเต กเถตพฺเพ ปมํ ปิตา กถียติ. เอวฺหิ สติ ‘มิตฺตสฺส ¶ ปุตฺโต, ทตฺตสฺส ปุตฺโต’ติ ปุตฺโต สุกถิโต โหติ. ตสฺมา เทสนากุสโล สตฺถา สงฺขารานํ ชนกตฺเถน ปิตุสทิสํ อวิชฺชํ ตาว ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตมา อวิชฺชา? ทุกฺเข อฺาณนฺติอาทิมาห.
ตตฺถ ยสฺมา อยํ อวิชฺชา ทุกฺขสจฺจสฺส ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา คนฺเถตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา ‘‘ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติ วุจฺจติ. ตถา ยสฺมา ทุกฺขสมุทยสฺส ทุกฺขนิโรธสฺส ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา คนฺเถตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อฺาณนฺติ วุจฺจติ. อิเมสุ จตูสุ าเนสุ สุตฺตนฺติกปริยาเยน อฺาณํ อวิชฺชาติ กถิตํ.
นิกฺเขปกณฺเฑ (ธ. ส. ๑๐๖๗) ปน อภิธมฺมปริยาเยน ‘‘ปุพฺพนฺเต อฺาณ’’นฺติ อปเรสุปิ จตูสุ าเนสุ อฺาณํ คหิตํ. ตตฺถ ¶ ปุพฺพนฺเตติ อตีโต อทฺธา, อตีตานิ ขนฺธธาตุอายตนานิ. อปรนฺเตติ อนาคโต อทฺธา, อนาคตานิ ขนฺธธาตุอายตนานิ. ปุพฺพนฺตาปรนฺเตติ ตทุภยํ. อิทปฺปจฺจยตาติ สงฺขาราทีนํ การณานิ อวิชฺชาทีนิ องฺคานิ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมาติ อวิชฺชาทีหิ นิพฺพตฺตา สงฺขาราทโย ธมฺมา. ตตฺรายํ อวิชฺชา ยสฺมา อตีตานํ ขนฺธาทีนํ ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา คนฺเถตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา ‘‘ปุพฺพนฺเต อฺาณ’’นฺติ วุจฺจติ. ตถา ยสฺมา อนาคตานํ ขนฺธาทีนํ, อตีตานาคตานํ ขนฺธาทีนํ อิทปฺปจฺจยตาย เจว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมานฺจ ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา คนฺเถตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาณนฺติ วุจฺจติ. อิเมสุ อฏฺสุ าเนสุ อภิธมฺมปริยาเยน อฺาณํ อวิชฺชาติ กถิตํ.
เอวํ กึ กถิตํ โหติ? กิจฺจโต เจว ชาติโต จ อวิชฺชา กถิตา นาม โหติ. กถํ ¶ ? อยฺหิ อวิชฺชา อิมานิ อฏฺ านานิ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทตีติ กิจฺจโต กถิตา; อุปฺปชฺชมานาปิ อิเมสุ อฏฺสุ าเนสุ อุปฺปชฺชตีติ ชาติโตปิ กถิตา. เอวํ กเถตฺวา ปุน ‘‘ยํ ¶ เอวรูปํ อฺาณํ อทสฺสน’’นฺติอาทีนิ ปฺจวีสติ ปทานิ อวิชฺชาย ลกฺขณํ ทสฺเสตุํ คหิตานิ.
ตตฺถ ยสฺมา อยํ อวิชฺชา อิเมหิ อฏฺหิ ปเทหิ กถิตาปิ ปุน ปฺจวีสติยา ปเทหิ ลกฺขเณ อกถิเต สุกถิตา นาม น โหติ, ลกฺขเณ ปน กถิเตเยว สุกถิตา นาม โหติ. ยถา ปุริโส นฏฺํ โคณํ ปริเยสมาโน มนุสฺเส ปุจฺเฉยฺย – ‘‘อปิ, อยฺยา, เสตํ โคณํ ปสฺสถ, รตฺตํ โคณํ ปสฺสถา’’ติ? เต เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘อิมสฺมึ รฏฺเ เสตรตฺตานํ โคณานํ อนฺโต นตฺถิ, กึ เต โคณสฺส ลกฺขณ’’นฺติ? อถ เตน ‘สงฺฆาฏิ’ วา ‘นงฺคลํ’ วาติ วุตฺเต โคโณ สุกถิโต นาม ภเวยฺย; เอวเมว ยสฺมา อยํ อวิชฺชา อฏฺหิ ปเทหิ กถิตาปิ ปุน ปฺจวีสติยา ปเทหิ ลกฺขเณ อกถิเต สุกถิตา ¶ นาม น โหติ, ลกฺขเณ ปน กถิเตเยว สุกถิตา นาม โหติ. ตสฺมา ยานสฺสา ลกฺขณทสฺสนตฺถํ ปฺจวีสติ ปทานิ กถิตานิ, เตสมฺปิ วเสน เวทิตพฺพา.
เสยฺยถิทํ – าณํ นาม ปฺา. สา อตฺถตฺถํ การณการณํ จตุสจฺจธมฺมํ วิทิตํ ปากฏํ กโรติ. อยํ ปน อวิชฺชา อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ วิทิตํ ปากฏํ กาตุํ น เทตีติ าณปจฺจนีกโต อฺาณํ. ทสฺสนนฺติปิ ปฺา. สาปิ ตํ อาการํ ปสฺสติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ ปสฺสิตุํ น เทตีติ อทสฺสนํ. อภิสมโยติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ อภิสเมติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ อภิสเมตุํ น เทตีติ อนภิสมโย. อนุโพโธ สมฺโพโธ ปฏิเวโธติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ อนุพุชฺฌติ สมฺพุชฺฌติ ปฏิวิชฺฌติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ อนุพุชฺฌิตุํ สํพุชฺฌิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทตีติ อนนุโพโธ อสมฺโพโธ อปฺปฏิเวโธ. สงฺคาหนาติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ คเหตฺวา ฆํสิตฺวา คณฺหาติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ คเหตฺวา ฆํสิตฺวา คณฺหิตุํ น เทตีติ อสงฺคาหนา. ปริโยคาหนาติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ โอคาหิตฺวา อนุปวิสิตฺวา คณฺหาติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ โอคาหิตฺวา อนุปวิสิตฺวา คณฺหิตุํ น เทตีติ อปริโยคาหนา. สมเปกฺขนาติปิ ปฺา ¶ . สา ตํ อาการํ สมํ สมฺมา จ เปกฺขติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ สมํ สมฺมา จ เปกฺขิตุํ น เทตีติ อสมเปกฺขนา. ปจฺจเวกฺขณาติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ ปจฺจเวกฺขติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ ปจฺจเวกฺขิตุํ น เทตีติ อปจฺจเวกฺขณา. นาสฺสา ¶ กิฺจิ กมฺมํ ปจฺจกฺขํ อตฺถิ, สยฺจ อปจฺจเวกฺขิตฺวา กตํ กมฺมนฺติ อปจฺจกฺขกมฺมํ. ทุมฺเมธภาวตาย ทุมฺเมชฺฌํ. พาลภาวตาย พาลฺยํ.
สมฺปชฺนฺติปิ ปฺา. สา อตฺถตฺถํ การณการณํ จตุสจฺจธมฺมํ สมฺมา ปชานาติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ อาการํ ปชานิตุํ น เทตีติ อสมฺปชฺํ. โมหนวเสน โมโห. ปโมหนวเสน ปโมโห. สมฺโมหนวเสน สมฺโมโห. อวินฺทิยํ วินฺทตีติอาทิวเสน อวิชฺชา. วฏฺฏสฺมึ โอหนติ โอสีทาเปตีติ อวิชฺโชโฆ. วฏฺฏสฺมึ โยเชตีติ อวิชฺชาโยโค. อปฺปหีนวเสน ¶ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต จ อวิชฺชานุสโย. มคฺเค ปริยุฏฺิตโจรา อทฺธิเก วิย กุสลจิตฺตํ ปริยุฏฺาติ คณฺหาติ วิลุมฺปตีติ อวิชฺชาปริยุฏฺานํ. ยถา นครทฺวาเร ปลิฆสงฺขาตาย ลงฺคิยา ปติตาย อนฺโตนคเร มนุสฺสานํ พหินครคมนมฺปิ พหินคเร มนุสฺสานํ อนฺโตนครปเวสนมฺปิ ปจฺฉิชฺชติ, เอวเมว ยสฺส สกฺกายนคเร อยํ ปติตา ตสฺส นิพฺพานสมฺปาปกํ าณคมนํ ปจฺฉิชฺชตีติ อวิชฺชาลงฺคี นาม โหติ. อกุสลฺจ ตํ มูลฺจ, อกุสลานํ วา มูลนฺติ อกุสลมูลํ. ตํ ปน น อฺํ, อิธาธิปฺเปโต โมโหติ โมโห อกุสลมูลํ. อยํ วุจฺจติ อวิชฺชาติ อยํ เอวํลกฺขณา อวิชฺชา นามาติ วุจฺจติ. เอวํ ปฺจวีสติปทวเสน อวิชฺชาย ลกฺขณํ เวทิตพฺพํ.
เอวํลกฺขณา ปนายํ อวิชฺชา ทุกฺขาทีสุ อฺาณนฺติ วุตฺตาปิ ทุกฺขสจฺจสฺส เอกเทโส โหติ, สหชาตา โหติ, ตํ อารมฺมณํ กโรติ, ฉาเทติ; สมุทยสจฺจสฺส น เอกเทโส โหติ, สหชาตา โหติ, ตํ อารมฺมณํ กโรติ, ฉาเทติ; นิโรธสจฺจสฺส เนว เอกเทโส โหติ, น สหชาตา, น ตํ อารมฺมณํ กโรติ, เกวลํ ฉาเทติ; มคฺคสจฺจสฺสาปิ น เอกเทโส, น สหชาตา, น ตํ อารมฺมณํ กโรติ, เกวลํ ฉาเทติ. ทุกฺขารมฺมณตา อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ, ตฺจ ฉาเทติ. สมุทยารมฺมณตา อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ, ตฺจ ฉาเทติ. นิโรธารมฺมณตา อวิชฺชา นุปฺปชฺชติ, ตฺจ ฉาเทติ. มคฺคารมฺมณตา อวิชฺชา นูปฺปชฺชติ, ตฺจ ฉาเทติ.
ทฺเว สจฺจา ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรา. ทฺเว สจฺจา คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสา. อปิจ โข ปน ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ คมฺภีรฺเจว ทุทฺทสฺจ. ตตฺถ ทุกฺขํ นาม ปากฏํ, ลกฺขณสฺส ปน ทุทฺทสตฺตา ¶ คมฺภีรํ นาม ชาตํ. สมุทเยปิ เอเสว นโย. ยถา ปน มหาสมุทฺทํ มนฺเถตฺวา โอชาย นีหรณํ นาม ภาโร, สิเนรุปาทโต ¶ วาลิกาย อุทฺธรณํ นาม ภาโร, ปพฺพตํ ปีเฬตฺวา รสสฺส นีหรณํ นาม ภาโร; เอวเมว ทฺเว สจฺจานิ คมฺภีรตาย เอว ทุทฺทสานิ, นิโรธสจฺจํ ปน อติคมฺภีรฺจ อติทุทฺทสฺจาติ. เอวํ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานํ คมฺภีรตฺตา จ ทุทฺทสานํ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปฏิจฺฉาทกํ โมหนฺธการํ อยํ วุจฺจติ อวิชฺชาติ.
อวิชฺชาปทนิทฺเทโส.
สงฺขารปทนิทฺเทโส
สงฺขารปเท ¶ เหฏฺา วุตฺตสงฺขาเรสุ สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขาเร อนามสิตฺวา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาเรเยว ทสฺเสนฺโต ตตฺถ กตเม อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา? ปฺุาภิสงฺขาโรติอาทิมาห. ตตฺถ ปุนาติ อตฺตโน การกํ, ปูเรติ จสฺส อชฺฌาสยํ, ปุชฺชฺจ ภวํ นิพฺพตฺเตตีติ ปฺุโ. อภิสงฺขโรติ วิปากํ กฏตฺตารูปฺจาติ อภิสงฺขาโร. ปฺุโว อภิสงฺขาโร ปฺุาภิสงฺขาโร. ปฺุปฏิปกฺขโต อปฺุโ. อปฺุโว อภิสงฺขาโร อปฺุาภิสงฺขาโร. น อิฺชตีติ อาเนฺชํ. อาเนฺชเมว อภิสงฺขาโร, อาเนฺชฺจ ภวํ อภิสงฺขโรตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร. กาเยน ปวตฺติโต, กายโต วา ปวตฺโต, กายสฺส วา สงฺขาโรติ กายสงฺขาโร. วจีสงฺขารจิตฺตสงฺขาเรสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ปมตฺติโก ปริวีมํสนสุตฺตวเสน คหิโต. ตตฺถ หิ ‘‘ปฺฺุเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ปฺุูปคํ โหติ วิฺาณํ. อปฺฺุเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อปฺุุปคํ โหติ วิฺาณํ. อาเนฺชฺเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อาเนฺชุปคํ โหติ วิฺาณ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๕๑) วุตฺตํ. ทุติยตฺติโก ตทนนฺตรสฺส วิภงฺคสุตฺตสฺส วเสน คหิโต, สมฺมาทิฏฺิสุตฺตปริยาเยน (ม. นิ. ๑.๑๐๒) คหิโตติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. ตตฺถ หิ ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, สงฺขารา. กตเม ตโย? กายสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร, จิตฺตสงฺขาโร’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒) วุตฺตํ. กสฺมา ปเนเตสํ สุตฺตานํ วเสน เต คหิตาติ? อยํ อภิธมฺโม นาม ¶ น อธุนากโต, นาปิ พาหิรกอิสีหิ วา สาวเกหิ วา เทวตาหิ ¶ วา ภาสิโต. สพฺพฺุชินภาสิโต ปน อยํ. อภิธมฺเมปิ หิ สุตฺเตปิ เอกสทิสาว ตนฺติ นิทฺทิฏฺาติ อิมสฺสตฺถสฺส ทีปนตฺถํ.
อิทานิ เต สงฺขาเร ปเภทโต ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม ปฺุาภิสงฺขาโรติอาทิมาห. ตตฺถ กุสลา เจตนาติ อนิยมโต จตุภูมิกเจตนาปิ วุตฺตา. กามาวจรา รูปาวจราติ นิยมิตตฺตา ปน อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ปฺจ รูปาวจรกุสลเจตนาติ เตรส เจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร ¶ นาม. ทานมยาติอาทีหิ ตาสํเยว เจตนานํ ปฺุกิริยวตฺถุวเสน ปวตฺติ ทสฺสิตา. ตตฺถ อฏฺ กามาวจราว ทานสีลมยา โหนฺติ. ภาวนามยา ปน เตรสปิ. ยถา หิ ปคุณํ ธมฺมํ สชฺฌายมาโน เอกํ ทฺเว อนุสนฺธิคเตปิ น ชานาติ, ปจฺฉา อาวชฺชนฺโต ชานาติ; เอวเมว กสิณปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส ปคุณชฺฌานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปคุณกมฺมฏฺานฺจ มนสิกโรนฺตสฺส าณวิปฺปยุตฺตาปิ ภาวนา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ภาวนามยา ปน เตรสปี’’ติ.
ตตฺถ ทานมยาทีสุ ‘‘ทานํ อารพฺภ ทานมธิกิจฺจ ยา อุปฺปชฺชติ เจตนา สฺเจตนา เจตยิตตฺตํ – อยํ วุจฺจติ ทานมโย ปฺุาภิสงฺขาโรติ. สีลํ อารพฺภ…เป… ภาวนํ อารพฺภ ภาวนมธิกิจฺจ ยา อุปฺปชฺชติ เจตนา สฺเจตนา เจตยิตตฺตํ – อยํ วุจฺจติ ภาวนามโย ปฺุาภิสงฺขาโร’’ติ (วิภ. ๗๖๙) อยํ สงฺเขปเทสนา.
จีวราทีสุ ปน จตูสุ ปจฺจเยสุ รูปาทีสุ วา ฉสุ อารมฺมเณสุ อนฺนาทีสุ วา ทสสุ ทานวตฺถูสุ ตํ ตํ เทนฺตสฺส เตสํ อุปฺปาทนโต ปฏฺาย ปุพฺพภาเค ปริจฺจาคกาเล ปจฺฉา โสมนสฺสจิตฺเตน อนุสฺสรเณ จาติ ตีสุ กาเลสุ ปวตฺตา เจตนา ทานมยา นาม. สีลํ ปริปูรณตฺถาย ปน ‘ปพฺพชิสฺสามี’ติ วิหารํ คจฺฉนฺตสฺส ปพฺพชนฺตสฺส มโนรถํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ‘ปพฺพชิโต วตมฺหิ, สาธุ สุฏฺู’ติ อาวชฺชนฺตสฺส ปาติโมกฺขํ สํวรนฺตสฺส จีวราทโย ปจฺจเย ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อาปาถคเตสุ รูปาทีสุ จกฺขุทฺวาราทีนิ สํวรนฺตสฺส อาชีวํ โสเธนฺตสฺส จ ปวตฺตา เจตนา สีลมยา นาม. ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺเตน วิปสฺสนามคฺเคน จกฺขุํ อนิจฺจโต ¶ ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส รูเป…เป… ธมฺเม, จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณํ, จกฺขุสมฺผสฺสํ…เป… มโนสมฺผสฺสํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ, รูปสฺํ ¶ …เป… ธมฺมสฺํ ชรามรณํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส ปวตฺตา เจตนา ภาวนามยา นามาติ อยํ วิตฺถารกถา.
อปฺุาภิสงฺขารนิทฺเทเส อกุสลา เจตนาติ ทฺวาทสอกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตา เจตนา. กามาวจราติ กิฺจาปิ ตตฺถ ¶ เปตฺวา ทฺเว โทมนสฺสสหคตเจตนา เสสา รูปารูปภเวปิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ ปน ปฏิสนฺธึ น อากฑฺฒนฺติ, กามาวจเรเยว ปฏิสนฺธิวเสน วิปากํ อวจาเรนฺตีติ กามาวจราตฺเวว วุตฺตา.
อาเนฺชาภิสงฺขารนิทฺเทเส กุสลา เจตนา อรูปาวจราติ จตสฺโส อรูปาวจรกุสลเจตนา. เอตา หิ จตสฺโส อนิฺชนฏฺเน อนิฺชนสฺส จ อภิสงฺขรณฏฺเน อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ วุจฺจนฺติ. รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานโต หิ ติสฺโส กุสลวิปากกิริยาเจตนา ทฺวาทส อรูปาวจรเจตนาติ ปฺจทส ธมฺมา อนิจฺจลฏฺเน อผนฺทนฏฺเน อาเนฺชา นาม. ตตฺถ รูปาวจรา กุสลา เจตนา อนิฺชา สมานาปิ อตฺตนา สริกฺขกมฺปิ อสริกฺขกมฺปิ สอิฺชนมฺปิ อนิฺชนมฺปิ รูปารูปํ ชเนตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร นาม น โหติ. วิปากกิริยเจตนา ปน อวิปากตฺตา วิปากํ น อภิสงฺขโรนฺติ, ตถา อรูปาวจรา วิปากกิริยเจตนาปีติ เอกาทสาปิ เอตา เจตนา อาเนฺชาว น อภิสงฺขารา. จตุพฺพิธา ปน อรูปาวจรกุสลเจตนา ยถา หตฺถิอสฺสาทีนํ สทิสาว ฉายา โหนฺติ, เอวํ อตฺตนา สทิสํ นิจฺจลํ อรูปเมว ชเนตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ วุจฺจตีติ.
เอวํ ปฺุชาภิสงฺขารวเสน เตรส, อปฺุาภิสงฺขารวเสน ทฺวาทส, อาเนฺชาภิสงฺขารวเสน จตสฺโสติ สพฺพาเปตา ปริปิณฺฑิตา เอกูนตึส เจตนา โหนฺติ. อิติ ภควา อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ อุปฺปชฺชนกกุสลากุสลเจตนา มหาตุลาย ธารยมาโน วิย, นาฬิยํ ปกฺขิปิตฺวา มินมาโน วิย จ สพฺพฺุตาเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา เอกูนตึสเมว ทสฺเสสิ.
อิทานิ ¶ อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณา สตฺตา กุสลากุสลกมฺมํ อายูหมานา เยหิ ทฺวาเรหิ อายูหนฺติ, ตานิ ตีณิ กมฺมทฺวารานิ ทสฺเสนฺโต ตตฺถ กตโม กายสงฺขาโร? กายสฺเจตนาติอาทิมาห. ตตฺถ กายสฺเจตนาติ กายวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา กายทฺวารโต ปวตฺตา ¶ อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา ทฺวาทส อกุสลเจตนาติ สมวีสติ เจตนา; กายทฺวาเร อาทานคฺคหณโจปนํ ปาปยมานา อุปฺปนฺนา วีสติ กุสลากุสลเจตนาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
วจีสฺเจตนาติ ¶ วจีวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา วจีทฺวารโต ปวตฺตา ตาเยว วีสติ เจตนา; วจีทฺวาเร หนุสฺโจปนํ วากฺยเภทํ ปาปยมานา อุปฺปนฺนา วีสติ เจตนาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อภิฺาเจตนา ปเนตฺถ ปรโต วิฺาณสฺส ปจฺจโย น โหตีติ น คหิตา. ยถา จ อภิฺาเจตนา, เอวํ อุทฺธจฺจเจตนาปิ น โหติ. ตสฺมา สาปิ วิฺาณสฺส ปจฺจยภาเว อปเนตพฺพา. อวิชฺชาปจฺจยา ปน สพฺพาเปตา โหนฺติ.
มโนสฺเจตนาติ อุโภปิ วิฺตฺติโย อสมุฏฺาเปตฺวา มโนทฺวาเร อุปฺปนฺนา สพฺพาปิ เอกูนตึส เจตนา. อิติ ภควา อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณา สตฺตา กุสลากุสลกมฺมํ อายูหมานา อิเมหิ ตีหิ ทฺวาเรหิ อายูหนฺตีติ อายูหนกมฺมทฺวารํ ทสฺเสสิ.
อิเมสํ ปน ทฺวินฺนมฺปิ ติกานํ อฺมฺํ สมฺปโยโค เวทิตพฺโพ. กถํ? ปฺุาภิสงฺขาโร หิ กายทุจฺจริตา วิรมนฺตสฺส สิยา กายสงฺขาโร, วจีทุจฺจริตา วิรมนฺตสฺส สิยา วจีสงฺขาโร. เอวํ อฏฺ กุสลเจตนา กามาวจรา ปฺุาภิสงฺขาโร จ โหติ กายสงฺขาโร จ วจีสงฺขาโร จ. มโนทฺวาเร อุปฺปนฺนา ปน เตรส เจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร จ โหติ จิตฺตสงฺขาโร จ. อปฺุาภิสงฺขาโรปิ กายทุจฺจริตวเสน ปวตฺติยํ สิยา กายสงฺขาโร, วจีทุจฺจริตวเสน ปวตฺติยํ สิยา วจีสงฺขาโร, ทฺเว ทฺวารานิ มฺุจิตฺวา มโนทฺวาเร ปวตฺติยํ สิยา จิตฺตสงฺขาโรติ. เอวํ อปฺุาภิสงฺขาโร กายสงฺขาโรปิ โหติ วจีสงฺขาโรปิ จิตฺตสงฺขาโรปิ.
กายสงฺขาโร ปน สิยา ปฺุาภิสงฺขาโร, สิยา อปฺุาภิสงฺขาโร, น อาเนฺชาภิสงฺขาโร. ตถา วจีสงฺขาโร. จิตฺตสงฺขาโร ปน สิยา ปฺุาภิสงฺขาโร ¶ , สิยา อปฺุาภิสงฺขาโร, สิยา อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ. อิเม อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา นาม.
กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ – อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตีติ? อวิชฺชาภาเว ภาวโต. ยสฺส หิ ทุกฺขาทีสุ อวิชฺชาสงฺขาตํ อฺาณํ อปฺปหีนํ โหติ, โส ทุกฺเข ตาว ปุพฺพนฺตาทีสุ จ อฺาเณน สํสารทุกฺขํ สุขสฺาย คเหตฺวา ตสฺส เหตุภูเต ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ ¶ , สมุทเย อฺาเณน ทุกฺขเหตุภูเตปิ ตณฺหาปริกฺขาเร สงฺขาเร สุขเหตุโต มฺมาโน อารภติ, นิโรเธ ปน มคฺเค จ อฺาเณน ทุกฺขสฺส อนิโรธภูเตปิ คติวิเสเส ทุกฺขนิโรธสฺี ¶ หุตฺวา นิโรธสฺส จ อมคฺคภูเตสุปิ ยฺามรตปาทีสุ นิโรธมคฺคสฺี หุตฺวา ทุกฺขนิโรธํ ปตฺถยมาโน ยฺามรตปาทิมุเขน ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ.
อปิจ โส ตาย จตูสุ สจฺเจสุ อปฺปหีนาวิชฺชตาย วิเสสโต ชาติชราโรคมรณาทิอเนกาทีนวโวกิณฺณํ ปฺุผลสงฺขาตํ ทุกฺขํ ทุกฺขโต อชานนฺโต ตสฺส อธิคมาย กายวจีจิตฺตสงฺขารเภทํ ปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ เทวจฺฉรกามโก วิย มรุปปาตํ; สุขสมฺมตสฺสาปิ จ ตสฺส ปฺุผลสฺส อนฺเต มหาปริฬาหชนกํ วิปริณามทุกฺขตํ อปฺปสฺสาทตฺจ อปสฺสนฺโตปิ ตปฺปจฺจยํ วุตฺตปฺปการเมว ปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ สลโภ วิย ทีปสิขาภินิปาตํ, มธุพินฺทุคิทฺโธ วิย จ มธุลิตฺตสตฺถธาราเลหนํ.
กามูปเสวนาทีสุ จ สวิปาเกสุ อาทีนวํ อปสฺสนฺโต สุขสฺาย เจว กิเลสาภิภูตตาย จ ทฺวารตฺตยปฺปวตฺตมฺปิ อปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ พาโล วิย คูถกีฬนํ, มริตุกาโม วิย จ วิสขาทนํ. อารุปฺปวิปาเกสุ จาปิ สงฺขารวิปริณามทุกฺขตํ อนวพุชฺฌมาโน สสฺสตาทิวิปลฺลาเสน จิตฺตสงฺขารภูตํ อาเนฺชาภิสงฺขารํ อารภติ ทิสามูฬฺโห วิย ปิสาจนคราภิมุขมคฺคคมนํ.
เอวํ ยสฺมา อวิชฺชาภาวโตว สงฺขารภาโว, น อภาวโต; ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ – อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตีติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘อวิทฺวา, ภิกฺขเว, อวิชฺชาคโต ปฺุาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรติ, อปฺุาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรติ, อาเนฺชาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรติ. ยโต ¶ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชา ปหีนา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา, โส อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา เนว ปฺุาภิสงฺขารํ อภิสงฺขโรตี’’ติ.
เอตฺถาห – คณฺหาม ตาว เอตํ ‘อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย’ติ. อิทํ ปน วตฺตพฺพํ – ‘กตเมสํ สงฺขารานํ กถํ ปจฺจโย โหตี’ติ? ตตฺริทํ วุจฺจติ –
ปจฺจโย ¶ โหติ ปฺุานํ, ทุวิธาเนกธา ปน;
ปเรสํ ปจฺฉิมานํ สา, เอกธา ปจฺจโย มตา.
ตตฺถ ¶ ‘ปฺุานํ ทุวิธา’ติ อารมฺมณปจฺจเยน จ อุปนิสฺสยปจฺจเยน จาติ ทฺเวธา ปจฺจโย โหติ. สา หิ อวิชฺชํ ขยโต วยโต สมฺมสนกาเล กามาวจรานํ ปฺุาภิสงฺขารานํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, อภิฺาจิตฺเตน สโมหจิตฺตชานนกาเล รูปาวจรานํ, อวิชฺชาสมติกฺกมนตฺถาย ปน ทานาทีนิ เจว กามาวจรปฺุกิริยวตฺถูนิ ปูเรนฺตสฺส รูปาวจรชฺฌานานิ จ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทฺวินฺนมฺปิ เตสํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ; ตถา อวิชฺชาสมฺมูฬฺหตฺตา กามภวรูปภวสมฺปตฺติโย ปตฺเถตฺวา ตาเนว ปฺุานิ กโรนฺตสฺส.
‘อเนกธา ปน ปเรส’นฺติ อปฺุาภิสงฺขารานํ อเนกธา ปจฺจโย โหติ. กถํ? เอสา หิ อวิชฺชํ อารพฺภ ราคาทีนํ อุปฺปชฺชนกาเล อารมฺมณปจฺจเยน, ครุํ กตฺวา อสฺสาทนกาเล อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสเยหิ, อวิชฺชาสมฺมูฬฺหสฺส อนาทีนวทสฺสาวิโน ปาณาติปาตาทีนิ กโรนฺตสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน, ทุติยชวนาทีนํ อนนฺตรสมนนฺตรานนฺตรูปนิสฺสยาเสวนนตฺถิวิคตปจฺจเยหิ, ยํ กิฺจิ อกุสลํ กโรนฺตสฺส เหตุสหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหีติ อเนกธา ปจฺจโย โหติ.
‘ปจฺฉิมานํ สา เอกธา ปจฺจโย มตา’ติ อาเนฺชาภิสงฺขารานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยเนว เอกธา ปจฺจโย มตา. โส ปนสฺสา อุปนิสฺสยภาโว ปฺุาภิสงฺขาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ.
เอตฺถาห – ‘กึ ปนายเมกาว อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย อุทาหุ อฺเปิ ปจฺจยา โหนฺตี’ติ? กิฺเจตฺถ ยทิ ตาว เอกาว เอกการณวาโท อาปชฺชติ. อถ ‘อฺเปิ สนฺติ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’ติ เอกการณนิทฺเทโส นุปปชฺชตีติ? น นุปปชฺชติ. กสฺมา? ยสฺมา –
เอกํ ¶ น เอกโต อิธ, นาเนกมเนกโตปิ โน เอกํ;
ผลมตฺถิ อตฺถิ ปน เอก-เหตุผลทีปเน อตฺโถ.
เอกโต ¶ หิ การณโต น อิธ กิฺจิ เอกํ ผลมตฺถิ, น อเนกํ. นาปิ อเนเกหิ การเณหิ เอกํ. อเนเกหิ ปน การเณหิ อเนกเมว โหติ. ตถา หิ อเนเกหิ อุตุปถวีพีชสลิลสงฺขาเตหิ การเณหิ อเนกเมว รูปคนฺธรสาทิองฺกุรสงฺขาตํ ผลมุปฺปชฺชมานํ ทิสฺสติ. ยํ ปเนตํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา ¶ สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เอเกกเหตุผลทีปนํ กตํ, ตตฺถ อตฺโถ อตฺถิ, ปโยชนํ วิชฺชติ.
ภควา หิ กตฺถจิ ปธานตฺตา, กตฺถจิ ปากฏตฺตา, กตฺถจิ อสาธารณตฺตา, เทสนาวิลาสสฺส จ เวเนยฺยานฺจ อนุรูปโต เอกเมวเหตุํ วา ผลํ วา ทีเปติ; ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติ (ที. นิ. ๒.๙๗) หิ เอกเมว เหตุํ ผลฺจาห. ผสฺโส หิ เวทนาย ปธานเหตุ ยถาผสฺสํ เวทนาววตฺถานโต. เวทนา จ ผสฺสสฺส ปธานผลํ ยถาเวทนํ ผสฺสววตฺถานโต.
‘‘เสมฺหสมุฏฺานา อาพาธา’’ติ (มหานิ. ๕) ปากฏตฺตา เอกํ เหตุมาห. ปากโฏ เหตฺถ เสมฺโห, น กมฺมาทโย. ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, อกุสลา ธมฺมา, สพฺเพเต อโยนิโสมนสิการมูลกา’’ติ อสาธารณตฺตา เอกํ เหตุมาห; อสาธารโณ หิ อโยนิโสมนสิกาโร อกุสลานํ, สาธารณานิ วตฺถารมฺมณาทีนีติ.
ตสฺมา อยมิธ อวิชฺชา วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ วตฺถารมฺมณสหชาตธมฺมาทีสุ สงฺขารการเณสุ ‘‘อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๒) จ ‘‘อวิชฺชาสมุทยา อาสวสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๔) จ วจนโต อฺเสมฺปิ ตณฺหาทีนํ สงฺขารเหตูนํ เหตูติ ปธานตฺตา, ‘‘อวิทฺวา, ภิกฺขเว, อวิชฺชาคโต ปฺุาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรตี’’ติ ปากฏตฺตา อสาธารณตฺตา จ สงฺขารานํ เหตุภาเวน ทีปิตาติ เวทิตพฺพา. เอเตเนว จ เอเกกเหตุผลทีปนปริหารวจเนน สพฺพตฺถ เอเกกเหตุผลทีปเน ปโยชนํ เวทิตพฺพนฺติ.
เอตฺถาห ¶ – เอวํ สนฺเตปิ เอกนฺตานิฏฺผลาย สาวชฺชาย อวิชฺชาย กถํ ปฺุาเนฺชาภิสงฺขารปจฺจยตฺตํ ยุชฺชติ? น หิ นิมฺพพีชโต อุจฺฉุ อุปฺปชฺชตีติ. กถํ น ยุชฺชิสฺสติ? โลกสฺมิฺหิ –
วิรุทฺโธ ¶ จาวิรุทฺโธ จ, สทิสาสทิโส ตถา;
ธมฺมานํ ปจฺจโย สิทฺโธ, วิปากา เอว เต จ น.
ธมฺมานฺหิ านสภาวกิจฺจาทิวิรุทฺโธ จ อวิรุทฺโธ จ ปจฺจโย โลเก สิทฺโธ. ปุริมจิตฺตฺหิ อปรจิตฺตสฺส านวิรุทฺโธ ปจฺจโย, ปุริมสิปฺปาทิสิกฺขา จ ปจฺฉาปวตฺตมานานํ สิปฺปาทิกิริยานํ. กมฺมํ รูปสฺส สภาววิรุทฺโธ ปจฺจโย, ขีราทีนิ จ ทธิอาทีนํ. อาโลโก จกฺขุวิฺาณสฺส กิจฺจวิรุทฺโธ, คุฬาทโย จ อาสวาทีนํ. จกฺขุรูปาทโย ปน จกฺขุวิฺาณาทีนํ านาวิรุทฺธา ปจฺจยา ¶ . ปุริมชวนาทโย ปจฺฉิมชวนาทีนํ สภาวาวิรุทฺธา กิจฺจาวิรุทฺธา จ.
ยถา จ วิรุทฺธาวิรุทฺธา ปจฺจยา สิทฺธา, เอวํ สทิสาสทิสาปิ. สทิสเมว หิ อุตุอาหารสงฺขาตํ รูปํ รูปสฺส ปจฺจโย โหติ, สาลิพีชาทีนิ จ สาลิผลาทีนํ. อสทิสมฺปิ รูปํ อรูปสฺส, อรูปฺจ รูปสฺส ปจฺจโย โหติ; โคโลมาวิโลมวิสาณทธิติลปิฏฺาทีนิ จ ทพฺพภูติณกาทีนํ. เยสฺจ ธมฺมานํ เย วิรุทฺธาวิรุทฺธา สทิสาสทิสา ปจฺจยา, น เต ธมฺมา เตสํ ธมฺมานํ วิปากาเยว. อิติ อยํ อวิชฺชา วิปากวเสน เอกนฺตานิฏฺผลสภาววเสน จ สาวชฺชาปิ สมานา สพฺเพสมฺปิ เอเตสํ ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ ยถานุรูปํ านกิจฺจสภาววิรุทฺธาวิรุทฺธปจฺจยวเสน สทิสาสทิสปจฺจยวเสน จ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพา.
โส จสฺสา ปจฺจยภาโว ‘‘ยสฺส หิ ทุกฺขาทีสุ อวิชฺชาสงฺขาตํ อฺาณํ อปฺปหีนํ โหติ, โส ทุกฺเข ตาว ปุพฺพนฺตาทีสุ จ อฺาเณน สํสารทุกฺขํ สุขสฺาย คเหตฺวา ตสฺส เหตุภูเต ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต เอว.
อปิจ อยํ อฺโปิ ปริยาโย –
จุตูปปาเต สํสาเร, สงฺขารานฺจ ลกฺขเณ;
โย ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน-ธมฺเมสุ จ วิมุยฺหติ.
อภิสงฺขโรติ ¶ โส เอเต, สงฺขาเร ติวิเธ ยโต;
อวิชฺชา ปจฺจโย เตสํ, ติวิธานมฺปิ ยํ ตโตติ.
กถํ ¶ ปน โย เอเตสุ วิมุยฺหติ, โส ติวิเธเปเต สงฺขาเร กโรตีติ เจ? จุติยา ตาว วิมูฬฺโห สพฺพตฺถ ‘‘ขนฺธานํ เภโท มรณ’’นฺติ จุตึ อคณฺหนฺโต ‘สตฺโต มรติ, สตฺตสฺส เทสนฺตรสงฺกมน’นฺติอาทีนิ วิกปฺเปติ. อุปปาเต วิมูฬฺโห สพฺพตฺถ ‘‘ขนฺธานํ ปาตุภาโว ชาตี’’ติ อุปปาตํ อคณฺหนฺโต ‘สตฺโต อุปปชฺชติ, สตฺตสฺส นวสรีรปาตุภาโว’ติอาทีนิ วิกปฺเปติ. สํสาเร วิมูฬฺโห โย เอส –
‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;
อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจตี’’ติ.
เอวํ ¶ วณฺณิโต สํสาโร. ตํ เอวํ อคณฺหนฺโต ‘อยํ สตฺโต อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ คจฺฉติ, ปรสฺมา โลกา อิมํ โลกํ อาคจฺฉตี’ติอาทีนิ วิกปฺเปติ. สงฺขารานํ ลกฺขเณ วิมูฬฺโห สงฺขารานํ สภาวลกฺขณํ สามฺลกฺขณฺจ อคณฺหนฺโต สงฺขาเร อตฺตโต อตฺตนิยโต ธุวโต สุภโต สุขโต จ วิกปฺเปติ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเมสุ วิมูฬฺโห อวิชฺชาทีหิ สงฺขาราทีนํ ปวตฺตึ อคณฺหนฺโต ‘‘อตฺตา ชานาติ วา น ชานาติ วา, โส เอว กโรติ จ กาเรติ จ โส ปฏิสนฺธิยํ อุปปชฺชติ, ตสฺส อณุอิสฺสราทโย กลลาทิภาเวน สรีรํ สณฺเปตฺวา อินฺทฺริยานิ สมฺปาเทนฺติ, โส อินฺทฺริยสมฺปนฺโน ผุสติ เวทิยติ ตณฺหิยติ อุปาทิยติ ฆฏิยติ, โส ปุน ภวนฺตเร ภวตี’’ติ วา ‘‘สพฺเพ สตฺตา นิยติสงฺคติภาวปริณตา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๘) วา วิกปฺเปติ. โส เอวํ อวิชฺชาย อนฺธีกโต เอวํ วิกปฺเปนฺโต ยถา นาม อนฺโธ ปถวิยํ วิจรนฺโต มคฺคมฺปิ อมคฺคมฺปิ ถลมฺปิ นินฺนมฺปิ สมมฺปิ วิสมมฺปิ ปฏิปชฺชติ, เอวํ ปฺุมฺปิ อปฺุมฺปิ อาเนฺชมฺปิ สงฺขารํ อภิสงฺขโรตีติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
ยถาปิ นาม ชจฺจนฺโธ, นโร อปรินายโก;
เอกทา ยาติ มคฺเคน, กุมฺมคฺเคนาปิ เอกทา.
สํสาเร ¶ สํสรํ พาโล, ตถา อปรินายโก;
กโรติ เอกทา ปฺุํ, อปฺุมปิ เอกทา.
ยทา ¶ ตฺวา จ โส ธมฺมํ, สจฺจานิ อภิสเมสฺสติ;
ตทา อวิชฺชูปสมา, อุปสนฺโต จริสฺสตีติ.
อยํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ ปทสฺมึ วิตฺถารกถา.
อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารปทนิทฺเทโส.
วิฺาณปทนิทฺเทโส
๒๒๗. สงฺขารปจฺจยา วิฺาณปทนิทฺเทเส จกฺขุวิฺาณนฺติอาทีสุ จกฺขุวิฺาณํ กุสลวิปากํ อกุสลวิปากนฺติ ทุวิธํ โหติ. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ. มโนวิฺาณํ ปน กุสลากุสลวิปากา ทฺเว มโนธาตุโย, ติสฺโส อเหตุกมโนวิฺาณธาตุโย, อฏฺ สเหตุกานิ กามาวจรวิปากจิตฺตานิ, ปฺจ รูปาวจรานิ, จตฺตาริ อรูปาวจรานีติ พาวีสติวิธํ ¶ โหติ. อิติ อิเมหิ ฉหิ วิฺาเณหิ สพฺพานิปิ พาตฺตึส โลกิยวิปากวิฺาณานิ สงฺคหิตานิ โหนฺติ. โลกุตฺตรานิ ปน วฏฺฏกถายํ น ยุชฺชนฺตีติ น คหิตานิ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘อิทํ วุตฺตปฺปการํ วิฺาณํ สงฺขารปจฺจยา โหตี’ติ? อุปจิตกมฺมาภาเว วิปากาภาวโต. วิปากฺเหตํ, วิปากฺจ น อุปจิตกมฺมาภาเว อุปฺปชฺชติ. ยทิ อุปฺปชฺเชยฺย, สพฺเพสํ สพฺพวิปากานิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ; น จ อุปฺปชฺชนฺตีติ ชานิตพฺพเมตํ – ‘สงฺขารปจฺจยา อิทํ วิฺาณํ โหตี’ติ.
กตรสงฺขารปจฺจยา กตรวิฺาณนฺติ เจ? กามาวจรปฺุาภิสงฺขารปจฺจยา ตาว กุสลวิปากานิ ¶ ปฺจ จกฺขุวิฺาณาทีนิ, มโนวิฺาเณ เอกา มโนธาตุ, ทฺเว มโนวิฺาณธาตุโย, อฏฺ กามาวจรมหาวิปากานีติ โสฬส. ยถาห –
‘‘กามาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหติ. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหติ, วิปากา มโนธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ, มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ โสมนสฺสสหคตา, มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ อุเปกฺขาสหคตา, มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ โสมนสฺสสหคตา าณสมฺปยุตฺตา, โสมนสฺสสหคตา ¶ าณสมฺปยุตฺตา สสงฺขาเรน, โสมนสฺสสหคตา าณวิปฺปยุตฺตา, โสมนสฺสสหคตา าณวิปฺปยุตฺตา สสงฺขาเรน, อุเปกฺขาสหคตา าณสมฺปยุตฺตา, อุเปกฺขาสหคตา าณสมฺปยุตฺตา สสงฺขาเรน, อุเปกฺขาสหคตา าณวิปฺปยุตฺตา, อุเปกฺขาสหคตา าณวิปฺปยุตฺตา สสงฺขาเรนา’’ติ (ธ. ส. ๔๓๑, ๔๙๘).
รูปาวจรปฺุาภิสงฺขารปจฺจยา ปน ปฺจ รูปาวจรวิปากานิ. ยถาห –
‘‘ตสฺเสว รูปาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ…เป… ปฺจมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๔๙๙).
เอวํ ปฺุาภิสงฺขารปจฺจยา เอกวีสติวิธํ วิฺาณํ โหติ.
อปฺุาภิสงฺขารปจฺจยา ปน อกุสลวิปากานิ ปฺจ จกฺขุวิฺาณาทีนิ, เอกา มโนธาตุ, เอกา มโนวิฺาณธาตูติ เอวํ สตฺตวิธํ วิฺาณํ โหติ. ยถาห –
‘‘อกุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหติ. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณํ ¶ , วิปากา มโนธาตุ, วิปากา มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหตี’’ติ (ธ. ส. ๕๕๖).
อาเนฺชาภิสงฺขารปจฺจยา ¶ ปน จตฺตาริ อรูปวิปากานีติ เอวํ จตุพฺพิธํ วิฺาณํ โหตีติ. ยถาห –
‘‘ตสฺเสว อรูปาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา อากาสานฺจายตนสฺาสหคตํ…เป… วิฺาณฺจายตนสฺาสหคตํ…เป… อากิฺจฺายตนสฺาสหคตํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสฺาสหคตํ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๕๐๑).
เอวํ ยํ สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ โหติ, ตํ ตฺวา อิทานิสฺส เอวํ ปวตฺติ เวทิตพฺพา – สพฺพเมว หิ อิทํ ปวตฺติปฏิสนฺธิวเสน ทฺวิธา ปวตฺตติ. ตตฺถ ¶ ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ, ทฺเว มโนธาตุโย, โสมนสฺสสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตูติ อิมานิ เตรส ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํเยว ปวตฺตนฺติ. เสสานิ เอกูนวีสติ ตีสุ ภเวสุ ยถานุรูปํ ปวตฺติยมฺปิ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺตนฺติ.
กถํ? กุสลวิปากานิ ตาว จกฺขุวิฺาณาทีนิ ปฺจ กุสลวิปาเกน วา อกุสลวิปาเกน วา นิพฺพตฺตสฺส ยถากฺกมํ ปริปากมุปคตินฺทฺริยสฺส จกฺขาทีนํ อาปาถคตํ อิฏฺํ วา อิฏฺมชฺฌตฺตํ วา รูปาทิอารมฺมณํ อารพฺภ จกฺขาทิปสาทํ นิสฺสาย ทสฺสนสวนฆายนสายนผุสนกิจฺจํ สาธยมานานิ ปวตฺตนฺติ. ตถา อกุสลวิปากานิ ปฺจ. เกวลฺหิ เตสํ อนิฏฺํ อนิฏฺมชฺฌตฺตํ วา รูปาทิอารมฺมณํ โหติ, อยเมว วิเสโส. ทสาปิ เจตานิ นิยตทฺวารารมฺมณวตฺถุฏฺานานิ นิยตกิจฺจาเนว จ ภวนฺติ.
ตโต กุสลวิปากานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ อนนฺตรํ กุสลวิปากมโนธาตุ เตสฺเว อารมฺมณมารพฺภ หทยวตฺถุํ นิสฺสาย สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ สาธยมานา ปวตฺตติ. ตถา อกุสลวิปากานํ อนนฺตรํ อกุสลวิปากา ¶ . อิทฺจ ปน ทฺวยํ อนิยตทฺวารารมฺมณํ นิยตวตฺถุฏฺานํ นิยตกิจฺจฺจ โหติ.
โสมนสฺสสหคตา ปน อเหตุกมโนวิฺาณธาตุ กุสลวิปากมโนธาตุยา อนนฺตรํ ตสฺสา เอว ¶ อารมฺมณํ อารพฺภ หทยวตฺถุํ นิสฺสาย สนฺตีรณกิจฺจํ สาธยมานา จ ฉสุ ทฺวาเรสุ พลวารมฺมเณ กามาวจรสตฺตานํ เยภุยฺเยน โลภสมฺปยุตฺตชวนาวสาเน ภวงฺควีถึ ปจฺฉินฺทิตฺวา ชวเนน คหิตารมฺมเณ ตทารมฺมณวเสน จ สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ปวตฺตติ. จิตฺตปฺปวตฺติคณนายํ ปน สพฺพทฺวาเรสุ ตทารมฺมเณ ทฺเว เอว จิตฺตวารา อาคตา. อิทํ ปน จิตฺตํ ตทารมฺมณนฺติ จ ปิฏฺิภวงฺคนฺติ จาติ ทฺเว นามานิ ลภติ, อนิยตทฺวารารมฺมณํ นิยตวตฺถุกํ อนิยตฏฺานกิจฺจฺจ โหตีติ. เอวํ ตาว เตรส ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํเยว ปวตฺตนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. เสเสสุ เอกูนวีสติยา จิตฺเตสุ น กิฺจิ อตฺตโน อนุรูปาย ปฏิสนฺธิยา น ปวตฺตติ.
ปวตฺติยํ ปน กุสลากุสลวิปากา ตาว ทฺเว อเหตุกมโนวิฺาณธาตุโย ปฺจทฺวาเร กุสลากุสลวิปากมโนธาตูนํ อนนฺตรํ สนฺตีรณกิจฺจํ ¶ , ฉสุ ทฺวาเรสุ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ตทารมฺมณกิจฺจํ, อตฺตนา ทินฺนปฏิสนฺธิโต อุทฺธํ อสติ ภวงฺคุปจฺเฉทเก จิตฺตุปฺปาเท ภวงฺคกิจฺจํ, อนฺเต จุติกิจฺจฺจาติ จตฺตาริ กิจฺจานิ สาธยมานา นิยตวตฺถุกา อนิยตทฺวารารมฺมณฏฺานกิจฺจา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ.
อฏฺ กามาวจรสเหตุกจิตฺตานิ ปวตฺติยํ วุตฺตนเยเนว ฉสุ ทฺวาเรสุ ตทารมฺมณกิจฺจํ, อตฺตนา ทินฺนปฏิสนฺธิโต อุทฺธํ อสติ ภวงฺคุปจฺเฉทเก จิตฺตุปฺปาเท ภวงฺคกิจฺจํ, อนฺเต จุติกิจฺจฺจาติ ตีณิ กิจฺจานิ สาธยมานานิ นิยตวตฺถุกานิ อนิยตทฺวารารมฺมณฏฺานกิจฺจานิ หุตฺวา ปวตฺตนฺติ.
ปฺจ รูปาวจรานิ จตฺตาริ จ อรูปาวจรานิ อตฺตนา ทินฺนปฏิสนฺธิโต อุทฺธํ อสติ ภวงฺคุปจฺเฉทเก จิตฺตุปฺปาเท ภวงฺคกิจฺจํ, อนฺเต จุติกิจฺจฺจาติ กิจฺจทฺวยํ สาธยมานานิ ปวตฺตนฺติ. เตสุ รูปาวจรานิ นิยตวตฺถารมฺมณานิ อนิยตฏฺานกิจฺจานิ, อิตรานิ อวตฺถุกานิ นิยตารมฺมณานิ อนิยตฏฺานกิจฺจานิ ¶ หุตฺวา ปวตฺตนฺตีติ. เอวํ ตาว พาตฺตึสวิธมฺปิ วิฺาณํ ปวตฺติยํ สงฺขารปจฺจยา ปวตฺตติ. ตตฺรสฺส เต เต สงฺขารา กมฺมปจฺจเยน จ อุปนิสฺสยปจฺจเยน จ ปจฺจยา โหนฺติ.
ตตฺถ ยาเนตานิ เอกาทส ตทารมฺมณจิตฺตานิ วุตฺตานิ, เตสุ เอกมฺปิ รูปารูปภเว ตทารมฺมณํ ¶ หุตฺวา น ปวตฺตติ. กสฺมา? พีชาภาวา. ตตฺถ หิ กามาวจรวิปากสงฺขาตํ ปฏิสนฺธิพีชํ นตฺถิ, ยํ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺติยํ ตสฺส ชนกํ ภเวยฺย. จกฺขุวิฺาณาทีนมฺปิ รูปภเว อภาโว อาปชฺชตีติ เจ? น; อินฺทฺริยปฺปวตฺติอานุภาวโต ทฺวารวีถิเภเท จิตฺตนิยมโต จ.
ยถา เจตํ ตทารมฺมณํ เอกนฺเตน รูปารูปภเว นปฺปวตฺตติ ตถา สพฺเพปิ อกามาวจเร ธมฺเม นานุพนฺธติ. กสฺมา? อชนกตฺตา เจว ชนกสฺส จ อสทิสตฺตา. ตฺหิ ยถา นาม เคหา นิกฺขมิตฺวา พหิ คนฺตุกาโม ตรุณทารโก อตฺตโน ชนกํ ปิตรํ วา อฺํ วา ปิตุสทิสํ หิตกามํ าตึ องฺคุลิยํ คเหตฺวา อนุพนฺธติ, น อฺํ ราชปุริสาทึ, ตถา เอตมฺปิ ภวงฺคารมฺมณโต พหิ นิกฺขมิตุกามํ สภาคตาย อตฺตโน ชนกํ ปิตรํ วา ปิตุสทิสํ วา กามาวจรชวนเมว อนุพนฺธติ, น อฺํ มหคฺคตํ อนุตฺตรํ วา.
ยถา ¶ เจตํ มหคฺคตโลกุตฺตเร ธมฺเม นานุพนฺธติ, ตถา ยทา เอเต กามาวจรธมฺมาปิ มหคฺคตารมฺมณา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ ตทา เตปิ นานุพนฺธติ. กสฺมา? อปริจิตเทสตฺตา อจฺจนฺตปริตฺตารมฺมณตฺตา จ. ตฺหิ ยถา ปิตรํ วา ปิตุสทิสํ วา าตึ อนุพนฺธนฺโตปิ ตรุณทารโก ฆรทฺวารอนฺตรวีถิจตุกฺกาทิมฺหิ ปริจิเตเยว เทเส อนุพนฺธติ, น อรฺํ วา ยุทฺธภูมึ วา คจฺฉนฺตํ; เอวํ กามาวจรธมฺเม อนุพนฺธนฺตมฺปิ อมหคฺคตาทิมฺหิ ปริจิเตเยว เทเส ปวตฺตมาเน ธมฺเม อนุพนฺธติ, น มหคฺคตโลกุตฺตรธมฺเม อารพฺภ ปวตฺตมาเนติ.
ยสฺมา จสฺส ‘‘สพฺโพ กามาวจรวิปาโก กิริยมโนธาตุ กิริยอเหตุกมโนวิฺาณธาตุ โสมนสฺสสหคตา อิเม ธมฺมา ปริตฺตารมฺมณา’’ติ เอวํ อจฺจนฺตปริตฺตเมว อารมฺมณํ วุตฺตํ, ตสฺมาเปตํ มหคฺคตโลกุตฺตรารมฺมเณ ¶ กามาวจรธมฺเมปิ นานุพนฺธตีติ เวทิตพฺพํ.
กึ วา อิมาย ยุตฺติกถาย? อฏฺกถายฺหิ เอกนฺเตเนว วุตฺตํ – เอกาทส ตทารมฺมณจิตฺตานิ นามโคตฺตํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น คณฺหนฺติ. ปณฺณตฺตึ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. ติลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. วุฏฺานคามินิยา พลววิปสฺสนาย ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. รูปารูปธมฺเม อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. มิจฺฉตฺตนิยตธมฺเมสุ ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. สมฺมตฺตนิยตธมฺเมสุ ¶ ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. โลกุตฺตรธมฺเม อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. อภิฺาาณํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. ปฏิสมฺภิทาาณํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. กามาวจเร ทุพฺพลารมฺมเณ ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ, ฉสุ ทฺวาเรสุ พลวารมฺมเณ อาปาถคเตเยว ลพฺภติ, ลพฺภมานฺจ กามาวจเรเยว ลพฺภติ. รูปารูปภเว ตทารมฺมณํ นาม นตฺถีติ.
ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘เสเสสุ เอกูนวีสติยา จิตฺเตสุ น กิฺจิ อตฺตโน อนุรูปาย ปฏิสนฺธิยา น ปวตฺตตี’’ติ, ตํ อติสํขิตฺตตฺตา ทุพฺพิชานํ. เตนสฺส วิตฺถารนยทสฺสนตฺถํ วุจฺจติ – ‘‘กติ ปฏิสนฺธิโย? กติ ปฏิสนฺธิจิตฺตานิ? เกน กตฺถ ปฏิสนฺธิ โหติ? กึ ปฏิสนฺธิยา อารมฺมณ’’นฺติ?
อสฺปฏิสนฺธิยา ¶ สทฺธึ วีสติ ปฏิสนฺธิโย. วุตฺตปฺปการาเนว เอกูนวีสติ ปฏิสนฺธิจิตฺตานิ. ตตฺถ อกุสลวิปากาย อเหตุกมโนวิฺาณธาตุยา อปาเยสุ ปฏิสนฺธิ โหติ, กุสลวิปากาย มนุสฺสโลเก ชจฺจนฺธชาติพธิรชาติอุมฺมตฺตกเอฬมูคนปุํสกาทีนํ. อฏฺหิ สเหตุกมหาวิปาเกหิ กามาวจรเทเวสุ เจว มนุสฺเสสุ จ ปฺุวนฺตานํ ปฏิสนฺธิ โหติ, ปฺจหิ รูปาวจรวิปาเกหิ รูปีพฺรหฺมโลเก, จตูหิ อรูปาวจรวิปาเกหิ อรูปโลเกติ. เยน จ ยตฺถ ปฏิสนฺธิ โหติ, สา เอว ตสฺสา อนุรูปปฏิสนฺธิ นาม.
สงฺเขปโต ปฏิสนฺธิยา ตีณิ อารมฺมณานิ โหนฺติ – กมฺมํ, กมฺมนิมิตฺตํ ¶ , คตินิมิตฺตนฺติ. ตตฺถ กมฺมํ นาม อายูหิตา กุสลากุสลเจตนา. กมฺมนิมิตฺตํ นาม ยํ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา กมฺมํ อายูหติ. ตตฺถ อตีเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถกสฺมิมฺปิ กมฺเม กเต ตสฺมึ ขเณ กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อาคนฺตฺวา อุปฏฺาติ.
ตตฺริทํ กมฺมนิมิตฺตสฺส อุปฏฺาเน วตฺถุ – โคปกสีวลี กิร นาม ตาลปิฏฺิกวิหาเร เจติยํ กาเรสิ. ตสฺส มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส เจติยํ อุปฏฺาสิ. โส ตเทว นิมิตฺตํ คณฺหิตฺวา กาลํกตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติ. อฺา สมฺมูฬฺหกาลกิริยา นาม โหติ. ปรมฺมุขํ คจฺฉนฺตสฺส หิ ปจฺฉโต ติขิเณน อสินา สีสํ ฉินฺทนฺติ. นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺตสฺสาปิ ติขิเณน อสินา สีสํ ฉินฺทนฺติ. อุทเก โอสีทาเปตฺวา มาเรนฺติ. เอวรูเปปิ กาเล อฺตรํ ¶ กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อุปฏฺาติ. อฺํ ลหุกมรณํ นาม อตฺถิ. นิขาทนทณฺฑกมตฺถกสฺมิฺหิ นิลีนมกฺขิกํ มุคฺคเรน ปหริตฺวา ปิสนฺติ. เอวรูเปปิ กาเล กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อุปฏฺาติ. เอวํ ปิสิยมานาย ปน มกฺขิกาย ปมํ กายทฺวาราวชฺชนํ ภวงฺคํ นาวฏฺเฏติ, มโนทฺวาราวชฺชนเมว อาวฏฺเฏติ. อถ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ทุติยวาเร กายทฺวาราวชฺชนํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ. ตโต กายวิฺาณํ, สมฺปฏิจฺฉนํ, สนฺตีรณํ, โวฏฺปนนฺติ วีถิจิตฺตานิ ปวตฺตนฺติ. ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ตติยวาเร มโนทฺวาราวชฺชนํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ. อถ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. เอตสฺมึ าเน กาลกิริยํ กโรติ. อิทํ กิมตฺถํ อาภตํ? อรูปธมฺมานํ วิสโย นาม เอวํ ลหุโกติ ทีปนตฺถํ.
คตินิมิตฺตํ ¶ นาม นิพฺพตฺตนกโอกาเส เอโก วณฺโณ อุปฏฺาติ. ตตฺถ นิรเย อุปฏฺหนฺเต โลหกุมฺภิสทิโส หุตฺวา อุปฏฺาติ. มนุสฺสโลเก อุปฏฺหนฺเต มาตุกุจฺฉิกมฺพลยานสทิสา หุตฺวา อุปฏฺาติ. เทวโลเก อุปฏฺหนฺเต กปฺปรุกฺขวิมานสยนาทีนิ อุปฏฺหนฺติ. เอวํ กมฺมํ, กมฺมนิมิตฺตํ, คตินิมิตฺตนฺติ สงฺเขปโต ปฏิสนฺธิยา ตีณิ อารมฺมณานิ โหนฺติ.
อปโร นโย – ปฏิสนฺธิยา ตีณิ อารมฺมณานิ โหนฺติ? อตีตํ, ปจฺจุปฺปนฺนํ ¶ , นวตฺตพฺพฺจ. อสฺีปฏิสนฺธิ อนารมฺมณาติ. ตตฺถ วิฺาณฺจายตนเนวสฺานาสฺายตนปฏิสนฺธีนํ อตีตเมว อารมฺมณํ. ทสนฺนํ กามาวจรานํ อตีตํ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วา. เสสานํ นวตฺตพฺพํ. เอวํ ตีสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตมานา ปน ปฏิสนฺธิ ยสฺมา อตีตารมฺมณสฺส วา นวตฺตพฺพารมฺมณสฺส วา จุติจิตฺตสฺส อนนฺตรเมว โหติ. ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ ปน จุตฺติจิตฺตํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา ทฺวีสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรํ ตีสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณาย ปฏิสนฺธิยา สุคติทุคฺคติวเสน ปวตฺตนากาโร เวทิตพฺโพ.
เสยฺยถิทํ – กามาวจรสุคติยํ ตาว ิตสฺส ปาปกมฺมิโน ปุคฺคลสฺส ‘‘ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺตี’’ติอาทิวจนโต (ม. นิ. ๓.๒๔๘) มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส ยถูปจิตํ ปาปกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. ตํ อารพฺภ อุปฺปนฺนาย ตทารมฺมณปริโยสานาย สุทฺธาย วา ชวนวีถิยา อนนฺตรํ ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา จุติจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ นิรุทฺเธ ตเทว อาปาถคตํ กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อารพฺภ อนุปจฺฉินฺนกิเลสพลวินามิตํ ¶ ทุคฺคติปริยาปนฺนํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา อตีตารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส มรณสมเย วุตฺตปฺปการกมฺมวเสน นรกาทีสุ อคฺคิชาลวณฺณาทิกํ ทุคฺคตินิมิตฺตํ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. ตสฺส ทฺวิกฺขตฺตุํ ภวงฺเค อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ ตํ อารมฺมณํ อารพฺภ เอกํ อาวชฺชนํ, มรณสฺส อาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ, ทฺเว ตทารมฺมณานีติ ตีณิ วีถิจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. ตโต ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา ¶ เอกํ จุติจิตฺตํ. เอตฺตาวตา เอกาทส จิตฺตกฺขณา อตีตา โหนฺติ. อถาวเสสปฺจจิตฺตกฺขณายุเก ตสฺมึเยว อารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส มรณสมเย ปฺจนฺนํ ทฺวารานํ อฺตรสฺมึ ทฺวาเร ¶ ราคาทิเหตุภูตํ หีนารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ. ตสฺส ยถากฺกเมน อุปฺปนฺนโวฏฺพฺพนาวสาเน มรณสฺส อาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ ทฺเว ตทารมฺมณานิ จ อุปฺปชฺชนฺติ. ตโต ภวงฺควิสยมารมฺมณํ กตฺวา เอกํ จุติจิตฺตํ. เอตฺตาวตา ทฺเว ภวงฺคานิ, อาวชฺชนํ, ทสฺสนํ, สมฺปฏิจฺฉนํ, สนฺตีรณํ, โวฏฺพฺพนํ, ปฺจ ชวนานิ, ทฺเว ตทารมฺมณานิ, เอกํ จุติจิตฺตนฺติ ปฺจทส จิตฺตกฺขณา อตีตา โหนฺติ. อถาวเสสเอกจิตฺตกฺขณายุเก ตสฺมึ เยว อารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยมฺปิ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ. เอส ตาว อตีตารมฺมณาย สุคติจุติยา อนนฺตรา อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาย ทุคฺคติปฏิสนฺธิยา ปวตฺตนากาโร.
ทุคฺคติยํ ิตสฺส ปน อุปจิตานวชฺชกมฺมสฺส วุตฺตนเยเนว ตํ อนวชฺชกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉตีติ กณฺหปกฺเข สุกฺกปกฺขํ เปตฺวา สพฺพํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ อตีตารมฺมณาย ทุคฺคติจุติยา อนนฺตรา อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาย สุคติปฏิสนฺธิยา ปวตฺตนากาโร.
สุคติยํ ิตสฺส ปน อุปจิตานวชฺชกมฺมสฺส ‘‘ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺตี’’ติอาทิวจนโต มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส ยถูปจิตํ อนวชฺชกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. ตฺจ โข อุปจิตกามาวจรานวชฺชกมฺมสฺเสว. อุปจิตมหคฺคตกมฺมสฺส ¶ ปน กมฺมนิมิตฺตเมว อาปาถมาคจฺฉติ. ตํ อารพฺภ อุปฺปนฺนาย ตทารมฺมณปริโยสานาย สุทฺธาย วา ชวนวีถิยา อนนฺตรํ ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา จุติจิตฺตมุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ นิรุทฺเธ ตเทว อาปาถคตํ กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อารพฺภ อนุปจฺฉินฺนกิเลสพลวินามิตํ สุคติปริยาปนฺนํ ปฏิสนฺธิจิตฺตมุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา อตีตารมฺมณา นวตฺตพฺพารมฺมณา วา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส ¶ มรณสมเย กามาวจรานวชฺชกมฺมวเสน มนุสฺสโลเก มาตุกุจฺฉิวณฺณสงฺขาตํ วา เทวโลเก อุยฺยานกปฺปรุกฺขาทิวณฺณสงฺขาตํ วา สุคตินิมิตฺตํ มโนทฺวาเร ¶ อาปาถมาคจฺฉติ. ตสฺส ทุคฺคตินิมิตฺเต ทสฺสิตานุกฺกเมเนว จุติจิตฺตานนฺตรํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส มรณสมเย าตกา ‘อยํ, ตาต, ตวตฺถาย พุทฺธปูชา กรียติ, จิตฺตํ ปสาเทหี’ติ วตฺวา ปุปฺผทามธชปฏากาทิวเสน รูปารมฺมณํ วา ธมฺมสฺสวนตูริยปูชาทิวเสน สทฺทารมฺมณํ วา ธูมวาสคนฺธาทิวเสน คนฺธารมฺมณํ วา ‘อิทํ, ตาต, สายสฺสุ, ตวตฺถาย ทาตพฺพํ เทยฺยธมฺม’นฺติ วตฺวา มธุผาณิตาทิวเสน รสารมฺมณํ วา ‘อิทํ, ตาต, ผุสสฺสุ, ตวตฺถาย ทาตพฺพํ เทยฺยธมฺม’นฺติ วตฺวา จีนปฏโสมารปฏาทิวเสน โผฏฺพฺพารมฺมณํ วา ปฺจทฺวาเร อุปสํหรนฺติ. ตสฺส ตสฺมึ อาปาถคเต รูปาทิอารมฺมเณ ยถากฺกเมน อุปฺปนฺนโวฏฺปนาวสาเน มรณสฺส อาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ ทฺเว ตทารมฺมณานิ จ อุปฺปชฺชนฺติ. ตโต ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา เอกํ จุติจิตฺตํ, ตทวสาเน ตสฺมิฺเว เอกจิตฺตกฺขณฏฺิติเก อารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยมฺปิ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส ปน ปถวีกสิณชฺฌานาทิวเสน ปฏิลทฺธมหคฺคตสฺส สุคติยํ ิตสฺส มรณสมเย กามาวจรกุสลกมฺม-กมฺมนิมิตฺต-คตินิมิตฺตานํ อฺตรํ ปถวีกสิณาทิกํ วา นิมิตฺตํ มหคฺคตจิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. จกฺขุโสตานํ วา อฺตรสฺมึ กุสลุปฺปตฺติเหตุภูตํ ปณีตมารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ. ตสฺส ยถากฺกเมน อุปฺปนฺนโวฏฺพฺพนาวสาเน มรณสฺส อาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ อุปฺปชฺชนฺติ. มหคฺคตคติกานํ ปน ตทารมฺมณํ นตฺถิ. ตสฺมา ชวนานนฺตรํเยว ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา เอกํ จุติจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ ¶ . ตสฺสาวสาเน กามาวจรมหคฺคตสุคตีนํ อฺตรสุคติปริยาปนฺนํ ยถูปฏฺิเตสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ¶ อุปฺปชฺชติ. อยํ นวตฺตพฺพารมฺมณาย สุคติจุติยา อนนฺตรา อตีตปจฺจุปฺปนฺนนวตฺตพฺพานํ อฺตรารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
เอเตนานุสาเรน อารุปฺปจุติยาปิ อนนฺตรา ปฏิสนฺธิ เวทิตพฺพา. อยํ อตีตนวตฺตพฺพารมฺมณาย สุคติจุติยา อนนฺตรา อตีตนวตฺตพฺพปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาย ปฏิสนฺธิยา ปวตฺตนากาโร.
ทุคฺคติยํ ¶ ิตสฺส ปน ปาปกมฺมิโน วุตฺตนเยเนว ตํ กมฺมํ กมฺมนิมิตฺตํ คตินิมิตฺตํ วา มโนทฺวาเร, ปฺจทฺวาเร ปน อกุสลุปฺปตฺติเหตุภูตํ อารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ. อถสฺส ยถากฺกเมน จุติจิตฺตาวสาเน ทุคฺคติปริยาปนฺนํ เตสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย ทุคฺคติจุติยา อนนฺตรา อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาย ปฏิสนฺธิยา ปวตฺตนากาโรติ. เอตฺตาวตา เอกูนวีสติวิธสฺสาปิ วิฺาณสฺส ปฏิสนฺธิวเสน ปวตฺติ ทีปิตา โหติ.
ตยิทํ สพฺพมฺปิ เอวํ –
ปวตฺตมานํ สนฺธิมฺหิ, ทฺวิธา กมฺเมน วตฺตติ;
มิสฺสาทีหิ จ เภเทหิ, เภทสฺส ทุวิธาทิโก.
อิทฺหิ เอกูนวีสติวิธมฺปิ วิปากวิฺาณํ ปฏิสนฺธิมฺหิ ปวตฺตมานํ ทฺวิธา กมฺเมน วตฺตติ. ยถาสกฺหิ เอตสฺส ชนกํ กมฺมํ นานากฺขณิกกมฺมปฺปจฺจเยน เจว อุปนิสฺสยปจฺจเยน จ ปจฺจโย โหติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘กุสลากุสลํ กมฺมํ วิปากสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓). เอวํ วตฺตมานสฺส ปนสฺส มิสฺสาทีหิ เภเทหิ ทุวิธาทิโกปิ เภโท เวทิตพฺโพ, เสยฺยถิทํ – อิทฺหิ ปฏิสนฺธิวเสน เอกธา วตฺตมานมฺปิ รูเปน สห มิสฺสามิสฺสเภทโต ทุวิธํ, กามรูปารูปภวเภทโต ติวิธํ, อณฺฑชชลาพุชสํเสทชโอปปาติกโยนิวเสน จตุพฺพิธํ, คติวเสน ปฺจวิธํ, วิฺาณฏฺิติวเสน สตฺตวิธํ, สตฺตาวาสวเสน อฏฺวิธํ โหติ. ตตฺถ –
มิสฺสํ ¶ ทฺวิธา ภาวเภทา, สภาวํ ตตฺถ จ ทฺวิธา;
ทฺเว วา ตโย วา ทสกา, โอมโต อาทินา สห.
‘มิสฺสํ ¶ ทฺวิธา ภาวเภทา’ติ ยฺเหตเมตฺถ อฺตฺร อรูปภวา รูปมิสฺสํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตํ รูปภเว อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยสงฺขาเตน ภาเวน วินา อุปฺปตฺติโต กามภเว อฺตฺร ชาติปณฺฑกปฏิสนฺธิยา ภาเวน สห อุปฺปตฺติโต สภาวํ อภาวนฺติ ทุวิธํ โหติ.
‘สภาวํ ตตฺถ จ ทฺวิธา’ติ ตตฺถาปิ จ ยํ สภาวํ ตํ อิตฺถิปุริสภาวานํ อฺตเรน สห อุปฺปตฺติโต ทุวิธเมว โหติ.
‘ทฺเว ¶ วา ตโย วา ทสกา, โอมโต อาทินา สหา’ติ ยฺเหตเมตฺถ มิสฺสํ อมิสฺสนฺติ ทฺวเย อาทิภูตํ รูปมิสฺสํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ, เตน สห วตฺถุกายทสกวเสน ทฺเว วา วตฺถุกายภาวทสกวเสน ตโย วา ทสกา โอมโต อุปฺปชฺชนฺติ, นตฺถิ อิโต ปรํ รูปปริหานีติ. ตํ ปเนตํ เอวํ โอมกปริมาณํ อุปฺปชฺชมานํ อณฺฑชชลาพุชนามิกาสุ ทฺวีสุ โยนีสุ ชาติอุณฺณาย เอเกน อํสุนา อุทฺธตเตลสปฺปิมณฺฑปฺปมาณํ กลลนฺติ ลทฺธสงฺขํ หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ โยนีนํ คติวเสน สมฺภวเภโท เวทิตพฺโพ. เอตาสุ หิ –
นิรเย ภุมฺมวชฺเชสุ, เทเวสุ จ น โยนิโย;
ติสฺโส ปุริมิกา โหนฺติ, จตสฺโสปิ คติตฺตเย.
ตตฺถ เทเวสุ จาติ จสทฺเทน ยถา นิรเย จ ภุมฺมวชฺเชสุ จ เทเวสุ, เอวํ นิชฺฌามตณฺหิกเปเตสุ จ ปุริมิกา ติสฺโส โยนิโย น สนฺตีติ เวทิตพฺพา. โอปปาติกา เอว หิ เต โหนฺติ. เสเส ปน ติรจฺฉานเปตฺติวิสยมนุสฺสสงฺขาเต คติตฺตเย ปุพฺเพ วชฺชิตภุมฺมเทเวสุ จ จตสฺโส โยนิโย โหนฺติ. ตตฺถ –
ตึส นว เจว รูปีสุ, สตฺตติ อุกฺกํสโตว รูปานิ;
สํเสทโชปปาตีสุ, อถ วา อวกํสโต ตึส.
รูปีพฺรหฺเมสุ ¶ ตาว โอปปาติกโยนิเกสุ จกฺขุโสตวตฺถุทสกานํ ชีวิตนวกสฺส จาติ จตุนฺนํ กลาปานํ วเสน ตึส จ นว จ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน สห รูปานิ อุปฺปชฺชนฺติ. รูปีพฺรหฺเม ปน เปตฺวา อฺเสุ สํเสทชโอปปาติเกสุ อุกฺกํสโต จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายภาววตฺถุทสกานํ ¶ วเสน สตฺตติ. ตานิ จ นิจฺจํ เทเวสุ. ตตฺถ วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา จตสฺโส จาปิ ธาตุโย จกฺขุปสาโท ชีวิตินฺทฺริยนฺติ อยํ ทสรูปปริมาโณ รูปปฺุโช จกฺขุทสโก นาม. เอวํ เสสา เวทิตพฺพา. อวกํสโต ปน ชจฺจนฺธพธิรอฆานกนปุํสกสฺส ชิวฺหากายวตฺถุทสกานํ วเสน ตึส รูปานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อุกฺกํสาวกํสานํ ปน อนฺตเร อนุรูปโต วิกปฺโป เวทิตพฺโพ.
เอวํ วิทิตฺวา ปุน –
ขนฺธารมฺมณคติเหตุ-เวทนาปีติวิตกฺกวิจาเรหิ;
เภทาเภทวิเสโส, จุติสนฺธีนํ ปริฺเยฺโย.
ยาเหสา ¶ มิสฺสามิสฺสโต ทุวิธา ปฏิสนฺธิ, ยา จสฺสา อตีตานนฺตรา จุติ, ตาสํ อิเมหิ ขนฺธาทีหิ เภทาเภทวิเสโส าตพฺโพติ อตฺโถ.
กถํ? กทาจิ จตุกฺขนฺธาย อารุปฺปจุติยา อนนฺตรา จตุกฺขนฺธาว อารมฺมณโตปิ อภินฺนา ปฏิสนฺธิ โหติ, กทาจิ อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณาย มหคฺคตอชฺฌตฺตารมฺมณา. อยํ ตาว อรูปภูมีสุเยว นโย. กทาจิ ปน จตุกฺขนฺธาย อารุปฺปจุติยา อนนฺตรา ปฺจกฺขนฺธา กามาวจรา ปฏิสนฺธิ. กทาจิ ปฺจกฺขนฺธาย กามาวจรจุติยา รูปาวจรจุติยา วา อนนฺตรา จตุกฺขนฺธา อารุปฺปปฏิสนฺธิ. เอวํ อตีตารมฺมณจุติยา อตีตนวตฺตพฺพปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ, เอกจฺจสุคติจุติยา เอกจฺจทุคฺคติปฏิสนฺธิ, อเหตุกจุติยา สเหตุกปฏิสนฺธิ, ทุเหตุกจุติยา ติเหตุกปฏิสนฺธิ, อุเปกฺขาสหคตจุติยา โสมนสฺสสหคตปฏิสนฺธิ, อปฺปีติกจุติยา สปฺปีติกปฏิสนฺธิ, อวิตกฺกจุติยา สวิตกฺกปฏิสนฺธิ, อวิจารจุติยา สวิจารปฏิสนฺธิ, อวิตกฺกอวิจารจุติยา สวิตกฺกสวิจารปฏิสนฺธีติ ตสฺส ตสฺส วิปรีตโต จ ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ.
ลทฺธปฺปจฺจยมิติธมฺม-มตฺตเมตํ ¶ ภวนฺตรมุเปติ;
นาสฺส ตโต สงฺกนฺติ, น ตโต เหตุํ วินา โหติ.
อิติ ¶ เหตํ ลทฺธปจฺจยํ รูปารูปธมฺมมตฺตํ อุปฺปชฺชมานํ ภวนฺตรํ อุเปตีติ วุจฺจติ, น สตฺโต, น ชีโว. ตสฺส นาปิ อตีตภวโต อิธ สงฺกนฺติ อตฺถิ, นาปิ ตโต เหตุํ วินา อิธ ปาตุภาโว. ตยิทํ ปากเฏน มนุสฺสจุติปฏิสนฺธิกฺกเมน ปกาสยิสฺสาม –
อตีตภวสฺมิฺหิ สรเสน อุปกฺกเมน วา สมาสนฺนมรณสฺส อสยฺหานํ สพฺพงฺคปจฺจงฺคสนฺธิพนฺธนจฺเฉทกานํ มารณนฺติกเวทนาสตฺตานํ สนฺนิปาตํ อสหนฺตสฺส อาตเป ปกฺขิตฺตหริตตาลปณฺณมิว กเมน อุปสุสฺสมาเน สรีเร นิรุทฺเธสุ จกฺขาทีสุ อินฺทฺริเยสุ หทยวตฺถุมตฺเต ปติฏฺิเตสุ กายินฺทฺริยมนินฺทฺริยชีวิตินฺทฺริเยสุ ตงฺขณาวเสสํ หทยวตฺถุสนฺนิสฺสิตํ วิฺาณํ ครุสมาเสวิตาสนฺนปุพฺพกตานํ อฺตรํ ลทฺธาวเสสปจฺจยสงฺขารสงฺขาตํ กมฺมํ วา ตทุปฏฺาปิตํ วา กมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตสงฺขาตํ วิสยมารพฺภ ปวตฺตติ. ตเทวํ ปวตฺตมานํ ตณฺหาอวิชฺชานํ อปฺปหีนตฺตา อวิชฺชาปฏิจฺฉาทิตาทีนเว ตสฺมึ วิสเย ตณฺหา นาเมติ ¶ , สหชาตสงฺขารา ขิปนฺติ. ตํ สนฺตติวเสน ตณฺหาย นามิยมานํ สงฺขาเรหิ ขิปฺปมานํ โอริมตีรรุกฺขวินิพทฺธรชฺชุมาลมฺพิตฺวา มาติกาติกฺกมโก วิย ปุริมฺจ นิสฺสยํ ชหติ, อปรฺจ กมฺมสมุฏฺาปิตํ นิสฺสยํ อสฺสาทยมานํ วา อนสฺสาทยมานํ วา อารมฺมณาทีหิเยว ปจฺจเยหิ ปวตฺตติ.
เอตฺถ จ ปุริมํ จวนโต จุติ, ปจฺฉิมํ ภวนฺตราทิปฏิสนฺธานโต ปฏิสนฺธีติ วุจฺจติ. ตเทตํ นาปิ ปุริมภวา อิธ อาคตํ, นาปิ ตโต กมฺมสงฺขารนติวิสยาทิเหตุํ วินา ปาตุภูตนฺติ เวทิตพฺพํ.
สิยุํ นิทสฺสนาเนตฺถ, ปฏิโฆสาทิกา อถ;
สนฺตานพนฺธโต นตฺถิ, เอกตา นาปิ นานตา.
เอตฺถ ¶ เจตสฺส วิฺาณสฺส ปุริมภวโต อิธ อนาคมเน อตีตภวปริยาปนฺนเหตูหิ จ อุปฺปาเท ปฏิโฆสปทีปมุทฺทาปฏิพิมฺพปฺปการา ธมฺมา นิทสฺสนานิ สิยุํ. ยถา หิ ปฏิโฆสปทีปมุทฺทจฺฉายา ¶ สทฺทาทิเหตุกา อฺตฺร อคนฺตฺวา โหนฺติ, เอวเมว อิทํ จิตฺตํ. เอตฺถ จ ‘สนฺตานพนฺธโต นตฺถิ เอกตา นาปิ นานตา’. ยทิ หิ สนฺตานพนฺเธ สติ เอกนฺตเมกตา ภเวยฺย, น ขีรโต ทธิ สมฺภูตํ สิยา. อถาปิ เอกนฺตนานตา ภเวยฺย, น ขีรสฺสาธีโน ทธิ สิยา. เอส นโย สพฺพเหตุเหตุสมุปฺปนฺเนสุ. เอวฺจ สติ สพฺพโลกโวหารโลโป สิยา. โส จ อนิฏฺโ. ตสฺมา เอตฺถ น เอกนฺตเมกตา วา นานตา วา อุปคนฺตพฺพาติ.
เอตฺถาห – นนุ เอวํ อสงฺกนฺติปาตุภาเว สติ เย อิมสฺมึ มนุสฺสตฺตภาเว ขนฺธา, เตสํ นิรุทฺธตฺตา ผลปจฺจยสฺส จ กมฺมสฺส ตตฺถ อคมนโต อฺสฺส อฺโต จ ตํ ผลํ สิยา? อุปภฺุชเก จ อสติ กสฺส ตํ ผลํ สิยา? ตสฺมา น สุนฺทรมิทํ วิธานนฺติ. ตตฺริทํ วุจฺจติ –
สนฺตาเน ยํ ผลํ เอตํ, นาฺสฺส น จ อฺโต;
พีชานํ อภิสงฺขาโร, เอตสฺสตฺถสฺส สาธโก.
เอกสนฺตานสฺมิฺหิ ผลมุปฺปชฺชมานํ ตตฺถ เอกนฺตํ เอกตฺตนานตฺตานํ ปฏิสิทฺธตฺตา อฺสฺสาติ วา อฺโตติ วา น โหติ. เอตสฺส จ ปนตฺถสฺส พีชานํ อภิสงฺขาโร สาธโก. อมฺพพีชาทีนฺหิ อภิสงฺขาเรสุ กเตสุ ตสฺส พีชสฺส สนฺตาเน ลทฺธปจฺจโย กาลนฺตเร ผลวิเสโส อุปฺปชฺชมาโน น อฺพีชานํ นาปิ อฺาภิสงฺขารปจฺจยา อุปฺปชฺชติ, น จ ตานิ พีชานิ ¶ เต อภิสงฺขารา วา ผลฏฺานํ ปาปุณนฺติ. เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. วิชฺชาสิปฺโปสธาทีหิ จาปิ พาลสรีเร อุปยุตฺเตหิ กาลนฺตเร วุฑฺฒสรีราทีสุ ผลเทหิ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ยมฺปิ วุตฺตํ ‘อุปภฺุชเก จ อสติ กสฺส ตํ ผลํ สิยา’ติ? ตตฺถ –
ผลสฺสุปฺปตฺติยา เอว, สิทฺธา ภฺุชกสมฺมุติ;
ผลุปฺปาเทน รุกฺขสฺส, ยถา ผลติ สมฺมุติ.
ยถา ¶ หิ รุกฺขสงฺขาตานํ ธมฺมานํ เอกเทสภูตสฺส รุกฺขผลสฺส อุปฺปตฺติยา เอว รุกฺโข ผลตีติ ¶ วา ผลิโตติ วา วุจฺจติ, ตถา เทวมนุสฺสสงฺขาตานํ ขนฺธานํ เอกเทสภูตสฺส อุปโภคสงฺขาตสฺส สุขทุกฺขผลสฺส อุปฺปาเทเนว เทโว วา มนุสฺโส วา อุปภฺุชตีติ วา สุขิโตติ วา ทุกฺขิโตติ วา วุจฺจติ. ตสฺมา น เอตฺถ อฺเน อุปภฺุชเกน นาม โกจิ อตฺโถ อตฺถีติ.
โยปิ วเทยฺย – ‘เอวํ สนฺเตปิ เอเต สงฺขารา วิชฺชมานา วา ผลสฺส ปจฺจยา สิยุํ, อวิชฺชมานา วา. ยทิ จ วิชฺชมานา ปวตฺติกฺขเณเยว เนสํ วิปาเกน ภวิตพฺพํ. อถ อวิชฺชมานา, ปวตฺติโต ปุพฺเพ จ ปจฺฉา จ นิจฺจํ ผลาวหา สิยุ’นฺติ. โส เอวํ วตฺตพฺโพ –
กตตฺตา ปจฺจยา เอเต, น จ นิจฺจํ ผลาวหา;
ปาฏิโภคาทิกํ ตตฺถ, เวทิตพฺพํ นิทสฺสนํ.
กตตฺตา เอว หิ สงฺขารา อตฺตโน ผลสฺส ปจฺจยา โหนฺติ, น วิชฺชมานตฺตา วา อวิชฺชมานตฺตา วา. ยถาห ‘‘กามาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติอาทิ (ธ. ส. ๔๓๑). ยถารหสฺส อตฺตโน ผลสฺส จ ปจฺจยา หุตฺวา น ปุน ผลาวหา โหนฺติ วิปกฺกวิปากตฺตา. เอตสฺส จตฺถสฺส วิภาวเน อิทํ ปาฏิโภคาทิกํ นิทสฺสนํ เวทิตพฺพํ.
ยถา หิ โลเก โย กสฺสจิ อตฺถสฺส นิยฺยาตนตฺถํ ปาฏิโภโค โหติ, ภณฺฑํ วา กิณาติ, อิณํ วา คณฺหาติ. ตสฺส ตํ กิริยากรณมตฺตเมว ตทตฺถนิยฺยาตนาทิมฺหิ ปจฺจโย โหติ, น กิริยาย วิชฺชมานตา วา อวิชฺชมานตา วา. น จ ตทตฺถนิยฺยาตนาทิโต ปรมฺปิ ธารโกว ¶ โหติ. กสฺมา? นิยฺยาตนาทีนํ กตตฺตา. เอวํ กตตฺตาว สงฺขาราปิ อตฺตโน ผลสฺส ปจฺจยา โหนฺติ, น จ ยถารหํ ผลทานโต ปรมฺปิ ผลาวหา โหนฺตีติ. เอตฺตาวตา มิสฺสามิสฺสวเสน ทฺวิธาปิ ปวตฺตมานสฺส ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส สงฺขารปจฺจยา ปวตฺติ ทีปิตา โหติ.
อิทานิ สพฺเพสฺเวเตสุ พตฺตึสวิฺาเณสุ สมฺโมหวิฆาตตฺถํ –
ปฏิสนฺธิปฺปวตฺตีนํ ¶ , วเสเนเต ภวาทิสุ;
วิชานิตพฺพา สงฺขารา, ยถา เยสฺจ ปจฺจยา.
ตตฺถ ¶ ตโย ภวา, จตสฺโส โยนิโย, ปฺจ คติโย, สตฺต วิฺาณฏฺิติโย, นว สตฺตาวาสาติ เอเต ภวาทโย นาม. เอเตสุ ภวาทีสุ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ เอเต เยสํ วิปากวิฺาณานํ ปจฺจยา ยถา จ ปจฺจยา โหนฺติ ตถา วิชานิตพฺพาติ อตฺโถ.
ตตฺถ – ปฺุาภิสงฺขาเร ตาว กามาวจรอฏฺเจตนาเภโท ปฺุาภิสงฺขาโร อวิเสเสน กามภเว สุคติยํ นวนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ปฏิสนฺธิยํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน เจว อุปนิสฺสยปจฺจเยน จาติ ทฺวิธา ปจฺจโย. รูปาวจรปฺจกุสลเจตนาเภโท ปฺุาภิสงฺขาโร รูปภเว ปฏิสนฺธิยํ เอว ปฺจนฺนํ. วุตฺตปฺปเภทกามาวจโร ปน กามภเว สุคติยํ อุเปกฺขาสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตุวชฺชานํ สตฺตนฺนํ ปริตฺตวิปากวิฺาณานํ วุตฺตนเยเนว ทฺวิธา ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. สฺเวว รูปภเว ปฺจนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. กามภเว ปน ทุคฺคติยํ อฏฺนฺนมฺปิ ปริตฺตวิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ.
ตตฺถ นิรเย มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส นรกจาริกาทีสุ อิฏฺารมฺมณสมาโยเค โส ปจฺจโย โหติ. ติรจฺฉาเนสุ ปน นาคสุปณฺณเปตมหิทฺธิเกสุ จ อิฏฺารมฺมณํ ลพฺภติเยว. สฺเวว กามภเว สุคติยํ โสฬสนฺนมฺปิ กุสลวิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ. อวิเสเสน ปฺุาภิสงฺขาโร รูปภเว ทสนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ.
ทฺวาทสากุสลเจตนาเภโท อปฺุาภิสงฺขาโร กามภเว ทุคฺคติยํ เอกสฺส วิฺาณสฺส ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ, โน ปวตฺเต; ฉนฺนํ ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ; สตฺตนฺนมฺปิ อกุสลวิปากวิฺาณานํ ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ ¶ . กามภเว ปน สุคติยํ เตสํเยว สตฺตนฺนํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ; รูปภเว จตุนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. โส จ โข กามาวจเร อนิฏฺรูปทสฺสนสทฺทสวนวเสน ¶ . พฺรหฺมโลเก ปน อนิฏฺา รูปาทโย นาม นตฺถิ, ตถา กามาวจรเทวโลเกปิ.
อาเนฺชาภิสงฺขาโร ¶ อรูปภเว จตุนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ.
กามาวจรกุสลากุสลโต ปน สพฺพสงฺคาหิกนเยน วีสติเจตนาเภโทปิ กายสงฺขาโร กามภเว ทสนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ปฏิสนฺธิยํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน เจว อุปนิสฺสยปจฺจเยน จาติ ทฺวิธา ปจฺจโย. สฺเวว กามภเว เตรสนฺนํ, รูปภเว นวนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. สฺเวว กามภเว เตวีสติยา วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ. วจีสงฺขาเรปิ เอเสว นโย.
อฏฺวีสติเอกูนตึสเจตนาเภโทปิ ปน จิตฺตสงฺขาโร ตีสุ ภเวสุ เอกูนวีสติยา วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ, โน ปวตฺเต. สฺเวว ทฺวีสุ ภเวสุ เหฏฺาวุตฺตานํ เตรสนฺนฺจ นวนฺนฺจาติ ทฺวาวีสติยา วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. ตีสุ ปน ภเวสุ ทฺวตฺตึสายปิ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต เจว ปฏิสนฺธิยฺจ. เอวํ ตาว ภเวสุ ปฏิสนฺธิปวตฺตีนํ วเสน เต สงฺขารา เยสํ ปจฺจยา, ยถา จ ปจฺจยา โหนฺติ ตถา วิชานิตพฺพา. เอเตเนว นเยน โยนิอาทีสุปิ เวทิตพฺพา.
ตตฺริทํ อาทิโต ปฏฺาย มุขมตฺตปฺปกาสนํ – อิเมสุ หิ สงฺขาเรสุ ยสฺมา ปฺุาภิสงฺขาโร ตาว ทฺวีสุ ภเวสุ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา สพฺพํ อตฺตโน วิปากํ ชเนติ, ตถา อณฺฑชาทีสุ จตูสุ โยนีสุ, เทวมนุสฺสสงฺขาตาสุ ทฺวีสุ คตีสุ, นานตฺตกายนานตฺตสฺีนานตฺตกายเอกตฺตสฺีเอกตฺตกายนานตฺตสฺีเอกตฺตกายเอกตฺตสฺีสงฺขาตาสุ มนุสฺสานฺเจว ปมทุติยตติยชฺฌานภูมีนฺจ วเสน จตูสุ วิฺาณฏฺิตีสุ. อสฺสตฺตาวาเส ปเนส รูปมตฺตเมวาภิสงฺขโรตีติ จตูสุเยว สตฺตาวาเสสุ จ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา สพฺพํ อตฺตโน วิปากํ ชเนติ. ตสฺมา เอส ¶ เอเตสุ ทฺวีสุ ภเวสุ, จตูสุ โยนีสุ, ทฺวีสุ คตีสุ, จตูสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, จตูสุ ¶ สตฺตาวาเสสุ จ เอกวีสติยา วิปากวิฺาณานํ วุตฺตนเยเนว ปจฺจโย โหติ ยถาสมฺภวํ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ.
อปฺุาภิสงฺขาโร ปน ยสฺมา เอกสฺมิฺเว กามภเว, จตูสุ โยนีสุ, อวเสสาสุ ตีสุ คตีสุ, นานตฺตกายเอกตฺตสฺีสงฺขาตาย เอกิสฺสา วิฺาณฏฺิติยา, ตาทิเสเยว จ เอกสฺมึ ¶ สตฺตาวาเส ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ, ตสฺมา เอส เอกสฺมึ ภเว จตูสุ โยนีสุ, ตีสุ คตีสุ, เอกิสฺสา วิฺาณฏฺิติยา, เอกมฺหิ จ สตฺตาวาเส สตฺตนฺนํ วิปากวิฺาณานํ วุตฺตนเยเนว ปจฺจโย โหติ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ.
อาเนฺชาภิสงฺขาโร ปน ยสฺมา เอกสฺมึ อรูปภเว, เอกิสฺสา โอปปาติกโยนิยา, เอกิสฺสา เทวคติยา, อากาสานฺจายตนาทีสุ ตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, อากาสานฺจายตนาทีสุ จ จตูสุ สตฺตาวาเสสุ ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ, ตสฺมา เอส เอกสฺมึเยว ภเว, เอกิสฺสา โยนิยา, เอกิสฺสา เทวคติยา, ตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ จตูสุ สตฺตาวาเสสุ, จตุนฺนํ วิฺาณานํ วุตฺตนเยเนว ปจฺจโย โหติ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ.
กายสงฺขาโรปิ ยสฺมา เอกสฺมึ กามภเว, จตูสุ โยนีสุ, ปฺจสุ คตีสุ, ทฺวีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, ทฺวีสุ จ สตฺตาวาเสสุ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา สพฺพํ อตฺตโน วิปากํ ชเนติ, ตสฺมา เอส เอกสฺมึ ภเว, จตูสุ โยนีสุ, ปฺจสุ คตีสุ, ทฺวีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, ทฺวีสุ จ สตฺตาวาเสสุ เตวีสติยา วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ. วจีสงฺขาเรปิ เอเสว นโย.
จิตฺตสงฺขาโร ปน ยสฺมา เอกํ สตฺตาวาสํ เปตฺวา น กตฺถจิ น วิปจฺจติ, ตสฺมา เอส ตีสุ ภเวสุ, จตูสุ โยนีสุ, ปฺจสุ คตีสุ, สตฺตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, อฏฺสุ สตฺตาวาเสสุ ยถาโยคํ ทฺวตฺตึสาย วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ. อวิฺาณเก ปน สตฺตาวาเส สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ นตฺถิ.
อปิจ ปฺุาภิสงฺขาโร อสฺสตฺเตสุ กฏตฺตารูปานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโยติ. เอวํ –
ปฏิสนฺธิปวตฺตีนํ ¶ , วเสเนเต ภวาทิสุ;
วิชานิตพฺพา สงฺขารา, ยถา เยสฺจ ปจฺจยาติ.
สงฺขารปจฺจยา วิฺาณปทนิทฺเทโส.
นามรูปปทนิทฺเทโส
๒๒๘. วิฺาณปจฺจยา ¶ ¶ นามรูปนิทฺเทเส –
เทสนาเภทโต สพฺพ-ภวาทีสุ ปวตฺติโต;
สงฺคหา ปจฺจยนยา, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘เทสนาเภทโต’ติ ‘‘ตตฺถ กตมํ รูปํ? จตฺตาโร จ มหาภูตา จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทาย รูป’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒; ม. นิ. ๑.๑๐๐) เอวํ ตาว สุตฺตนฺเต จ อิธ รูปปทสฺส อเภทโต เอกสทิสา เทสนา กตา; นามปทสฺส ปน เภทโต.
สุตฺตนฺตสฺมิฺหิ ‘‘ตตฺถ กตมํ นามํ? เวทนา สฺา เจตนา ผสฺโส มนสิกาโร’’ติ วุตฺตํ. อิธ ‘‘เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ’’ติ. ตตฺถ หิ ยมฺปิ จกฺขุวิฺาณปจฺจยา นามํ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนฺจ จิตฺตสฺส ิติ อรูปีนํ ธมฺมานํ อายูติ เอวํ อฺธมฺมสนฺนิสฺสเยน อคฺคเหตพฺพโต ปากฏํ, ตํ ทสฺเสนฺโต เจตนาผสฺสมนสิการวเสน สงฺขารกฺขนฺธํ ติธา ภินฺทิตฺวา ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สทฺธึ เทเสสิ. อิธ ปน ตตฺถ วุตฺตฺจ อวุตฺตฺจ สพฺพํ นามํ สงฺคณฺหนฺโต ‘‘ตโย ขนฺธา – เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ’’ติ อาห.
กึ ปน อิเม ตโย ขนฺธาว นามํ, วิฺาณํ นามํ นาม น โหตีติ? โน น โหติ. ตสฺมึ ปน วิฺาเณ คยฺหมาเน นามวิฺาณสฺส จ ปจฺจยวิฺาณสฺส จาติ ทฺวินฺนํ วิฺาณานํ สหภาโว อาปชฺชติ. ตสฺมา วิฺาณํ ปจฺจยฏฺาเน เปตฺวา ปจฺจยนิพฺพตฺตํ นามํ ทสฺเสตุํ ตโยว ขนฺธา วุตฺตาติ. เอวํ ตาว ‘เทสนาเภทโต’ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สพฺพภวาทีสุ ปวตฺติโต’ติ เอตฺถ ปน นามํ เอกํ สตฺตาวาสํ เปตฺวา สพฺพภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติเสสสตฺตาวาเสสุ ปวตฺตติ. รูปํ ¶ ทฺวีสุ ภเวสุ, จตูสุ โยนีสุ, ปฺจสุ คตีสุ, ปุริมาสุ จตูสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, ปฺจสุ จ สตฺตาวาเสสุ ปวตฺตติ. เอวํ ปวตฺตมาเน เจตสฺมึ นามรูเป ยสฺมา อภาวกคพฺภเสยฺยกานํ อณฺฑชานฺจ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุกายวเสน รูปโต ทฺเว สนฺตติสีสานิ ตโย จ อรูปิโน ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, ตสฺมา เตสํ วิตฺถาเรน ¶ รูปรูปโต วีสติ ธมฺมา ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ ¶ เอเต เตวีสติ ธมฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพา. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน เอกสนฺตติสีสโต นว รูปธมฺเม อปเนตฺวา จุทฺทส, สภาวกานํ ภาวทสกํ ปกฺขิปิตฺวา เตตฺตึส. เตสมฺปิ อคหิตคฺคหเณน สนฺตติสีสทฺวยโต อฏฺารส รูปธมฺเม อปเนตฺวา ปนฺนรส.
ยสฺมา จ โอปปาติกสตฺเตสุ พฺรหฺมกายิกาทีนํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จกฺขุโสตวตฺถุทสกานํ ชีวิตินฺทฺริยนวกสฺส จ วเสน รูปรูปโต จตฺตาริ สนฺตติสีสานิ ตโย จ อรูปิโน ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, ตสฺมา เตสํ วิตฺถาเรน รูปรูปโต เอกูนจตฺตาลีส ธมฺมา ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต ทฺวาจตฺตาลีส ธมฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพา. อคหิตคฺคหเณน ปน สนฺตติสีสตฺตยโต สตฺตวีสติ ธมฺเม อปเนตฺวา ปนฺนรส.
กามภเว ปน ยสฺมา เสสโอปปาติกานํ วา สํเสทชานํ วา สภาวกปริปุณฺณายตนานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ รูปรูปโต สตฺต สนฺตติสีสานิ ตโย จ อรูปิโน ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, ตสฺมา เตสํ วิตฺถาเรน รูปรูปโต สตฺตติ ธมฺมา ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต เตสตฺตติ ธมฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพา. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน สนฺตติสีสฉกฺกโต จตุปฺาส ธมฺเม อปเนตฺวา เอกูนวีสติ. เอส อุกฺกํสโต. อวกํเสน ปน ตํตํรูปสนฺตติสีสวิกลานํ ตสฺส ตสฺส วเสน หาเปตฺวา หาเปตฺวา สงฺเขปโต จ วิตฺถารโต จ ปฏิสนฺธิวิฺาณปจฺจยา นามรูปสงฺขาตา เวทิตพฺพา. อรูปีนํ ปน ตโยว อรูปิโน ขนฺธา. อสฺีนํ รูปโต ชีวิตินฺทฺริยนวกเมวาติ. เอส ตาว ปฏิสนฺธิยํ นโย.
ปวตฺเต ปน สพฺพตฺถ รูปปฺปวตฺติเทเส ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สห ปวตฺตอุตุโต อุตุสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกํ ปาตุภวติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ปน รูปํ น สมุฏฺาเปติ. ตฺหิ ยถา ปปาเต ปติตปุริโส ปรสฺส ¶ ปจฺจโย โหตุํ น สกฺโกติ, เอวํ วตฺถุทุพฺพลตาย ทุพฺพลตฺตา รูปํ สมุฏฺาเปตุํ น สกฺโกติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตโต ปน อุทฺธํ ปมภวงฺคโต ปภุติ จิตฺตสมุฏฺานกํ ¶ สุทฺธฏฺกํ. สทฺทปาตุภาวกาเล ปฏิสนฺธิกฺขณโต อุทฺธํ ปวตฺตอุตุโต เจว จิตฺตโต จ สทฺทนวกํ. เย ปน กพฬิการาหารูปชีวิโน คพฺภเสยฺยกสตฺตา เตสํ –
‘‘ยฺจสฺส ¶ ภฺุชตี มาตา, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;
เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, มาตุกุจฺฉิคโต นโร’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๕);
วจนโต มาตรา อชฺโฌหริตาหาเรน อนุคเต สรีเร, โอปปาติกานํ สพฺพปมํ อตฺตโน มุขคตํ เขฬํ อชฺโฌหรณกาเล อาหารสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกนฺติ อิทํ อาหารสมุฏฺานสฺส สุทฺธฏฺกสฺส อุตุจิตฺตสมุฏฺานานฺจ อุกฺกํสโต ทฺวินฺนํ นวกานํ วเสน ฉพฺพีสติวิธํ, ปุพฺเพ เอเกกจิตฺตกฺขเณ ติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชมานํ วุตฺตํ กมฺมสมุฏฺานํ สตฺตติวิธนฺติ ฉนฺนวุติวิธํ รูปํ ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ สมาสโต นวนวุติ ธมฺมา. ยสฺมา วาสทฺโท อนิยโต กทาจิเทว ปาตุภาวโต, ตสฺมา ทุวิธมฺปิ ตํ อปเนตฺวา อิเม สตฺตนวุติ ธมฺมา ยถาสมฺภวํ สพฺพสตฺตานํ วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพา. เตสฺหิ สุตฺตานมฺปิ ปมตฺตานมฺปิ จรนฺตานมฺปิ ขาทนฺตานมฺปิ ปิวนฺตานมฺปิ ทิวา จ รตฺติฺจ เอเต วิฺาณปจฺจยา ปวตฺตนฺติ. ตฺจ เตสํ วิฺาณปจฺจยภาวํ ปรโต วณฺณยิสฺสาม.
ยํ ปเนตเมตฺถ กมฺมชรูปํ ตํ ภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สพฺพปมํ ปติฏฺหนฺตมฺปิ ติสมุฏฺานิกรูเปน อนุปตฺถทฺธํ น สกฺโกติ สณฺาตุํ, นาปิ ติสมุฏฺานิกํ เตน อนุปตฺถทฺธํ. อถ โข วาตพฺภาหตาปิ จตุทฺทิสววตฺถาปิตา นฬกลาปิโย วิย, อูมิเวคพฺภาหตาปิ มหาสมุทฺเท กตฺถจิ ลทฺธปติฏฺา ภินฺนวาหนิกา วิย จ อฺมฺูปตฺถทฺธาเนเวตานิ อปตมานานิ สณฺหิตฺวา เอกมฺปิ วสฺสํ ทฺเวปิ วสฺสานิ…เป… วสฺสสตมฺปิ ยาว เตสํ สตฺตานํ อายุกฺขโย วา ปฺุกฺขโย วา ตาว ปวตฺตนฺตีติ. เอวํ ‘สพฺพภวาทีสุ ปวตฺติโต’เปตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สงฺคหา’ติ ¶ ¶ เอตฺถ จ ยํ อารุปฺเป ปวตฺติปฏิสนฺธีสุ ปฺจโวการภเว จ ปวตฺติยา วิฺาณปจฺจยา นามเมว, ยฺจ อสฺีสุ สพฺพตฺถ ปฺจโวการภเว จ ปวตฺติยา วิฺาณปจฺจยา รูปเมว, ยฺจ ปฺจโวการภเว สพฺพตฺถ วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, ตํ สพฺพํ นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูปนฺติ เอวํ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน สงฺคเหตฺวา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพํ. อสฺีสุ วิฺาณาภาวา อยุตฺตนฺติ เจ นายุตฺตํ. อิทฺหิ –
นามรูปสฺส ¶ ยํ เหตุ, วิฺาณํ ตํ ทฺวิธา มตํ;
วิปากมวิปากฺจ, ยุตฺตเมว ยโต อิทํ.
ยฺหิ นามรูปสฺส เหตุ วิฺาณํ ตํ วิปากาวิปากเภทโต ทฺวิธา มตํ. อิทฺจ อสฺสตฺเตสุ กมฺมสมุฏฺานตฺตา ปฺจโวการภเว ปวตฺตอภิสงฺขารวิฺาณปจฺจยา รูปํ, ตถา ปฺจโวกาเร ปวตฺติยํ กุสลาทิจิตฺตกฺขเณ กมฺมสมุฏฺานนฺติ ยุตฺตเมว อิทํ. เอวํ ‘สงฺคหโต’เปตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ปจฺจยนยา’ติ เอตฺถ หิ –
นามสฺส ปากวิฺาณํ, นวธา โหติ ปจฺจโย;
วตฺถุรูปสฺส นวธา, เสสรูปสฺส อฏฺธา.
อภิสงฺขารวิฺาณํ, โหติ รูปสฺส เอกธา;
ตทฺํ ปน วิฺาณํ, ตสฺส ตสฺส ยถารหํ.
ยฺเหตํ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺติยํ วา วิปากสงฺขาตํ นามํ, ตสฺส รูปมิสฺสสฺส วา รูปอมิสฺสสฺส วา ปฏิสนฺธิกํ วา อฺํ วา วิปากวิฺาณํ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตวิปากอาหารอินฺทฺริยอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ นวธา ปจฺจโย โหติ. วตฺถุรูปสฺส ปฏิสนฺธิยํ สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ นวธา ปจฺจโย โหติ. เปตฺวา ปน วตฺถุรูปํ เสสรูปสฺส อิเมสุ นวสุ อฺมฺปจฺจยํ อปเนตฺวา เสเสหิ อฏฺหิ ปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหติ. อภิสงฺขารวิฺาณํ ปน อสฺสตฺตรูปสฺส วา ปฺจโวกาเร วา กมฺมชสฺส สุตฺตนฺติกปริยาเยน อุปนิสฺสยวเสน ¶ เอกธาว ปจฺจโย โหติ. อวเสสํ ปมภวงฺคโต ปภุติ สพฺพมฺปิ วิฺาณํ ตสฺส ตสฺส นามรูปสฺส ยถารหํ ¶ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ. วิตฺถารโต ปน ตสฺส ปจฺจยนเย ทสฺสิยมาเน สพฺพาปิ ปฏฺานกถา วิตฺถาเรตพฺพา โหตีติ น ตํ อารภาม.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ปฏิสนฺธินามรูปํ วิฺาณปจฺจยา โหตี’’ติ? สุตฺตโต ¶ ยุตฺติโต จ. สุตฺเต หิ ‘‘จิตฺตานุปริวตฺติโน ธมฺมา’’ติอาทินา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๖๒) นเยน พหุธา เวทนาทีนํ วิฺาณปจฺจยตา สิทฺธา. ยุตฺติโต ปน –
จิตฺตเชน หิ รูเปน, อิธ ทิฏฺเน สิชฺฌติ;
อทิฏฺสฺสาปิ รูปสฺส, วิฺาณํ ปจฺจโย อิติ.
จิตฺเต หิ ปสนฺเน อปฺปสนฺเน วา ตทนุรูปานิ รูปานิ อุปฺปชฺชมานานิ ทิฏฺานิ. ทิฏฺเน จ อทิฏฺสฺส อนุมานํ โหตีติ อิมินา อิธ ทิฏฺเน จิตฺตชรูเปน อทิฏฺสฺสาปิ ปฏิสนฺธิรูปสฺส วิฺาณํ ปจฺจโย โหตีติ ชานิตพฺพเมตํ. กมฺมสมุฏฺานสฺสาปิ หิ ตสฺส จิตฺตสมุฏฺานสฺเสว วิฺาณปจฺจยตา ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๑.๑.๕๓, ๔๑๙) อาคตาติ. เอวํ ปจฺจยนยโต เปตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
เอตฺถ จ ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ ภาสมาเนน ภควตา ยสฺมา อุปปริกฺขมานานํ ปณฺฑิตานํ ปรมตฺถโต นามรูปมตฺตเมว ปวตฺตมานํ ทิสฺสติ, น สตฺโต, น โปโส; ตสฺมา อปฺปฏิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ โหตีติ.
วิฺาณปจฺจยา นามรูปปทนิทฺเทโส.
สฬายตนปทนิทฺเทโส
๒๒๙. นามรูปปจฺจยา สฬายตนนิทฺเทเส –
นามํ ขนฺธตฺตยํ รูปํ, ภูตวตฺถาทิกํ มตํ;
กเตกเสสํ ตํ ตสฺส, ตาทิสสฺเสว ปจฺจโย.
ยฺเหตํ ¶ ¶ สฬายตนสฺส ปจฺจยภูตํ นามรูปํ, ตตฺถ นามนฺติ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยํ, รูปํ ปน สกสนฺตติปริยาปนฺนํ นิยมโต จตฺตาริ ภูตานิ ฉ วตฺถูนิ ¶ ชีวิตินฺทฺริยนฺติ เอวํ ภูตวตฺถาทิกํ มตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตํ ปน ‘‘นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูป’’นฺติ เอวํ กเตกเสสํ ‘‘ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตน’’นฺติ เอวํ กเตกเสสสฺเสว สฬายตนสฺส ปจฺจโยติ เวทิตพฺพํ. กสฺมา? ยสฺมา อารุปฺเป นามเมว ปจฺจโย. ตฺจ ฉฏฺายตนสฺเสว, น อฺสฺส. ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตน’’นฺติ หิ อพฺยากตวาเร วกฺขติ. อิธ สงฺคหิตเมว หิ ตตฺถ วิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘นามรูปํ สฬายตนสฺส ปจฺจโย’’ติ? นามรูปภาเว ภาวโต. ตสฺส ตสฺส หิ นามสฺส รูปสฺส จ ภาเว ตํ ตํ อายตนํ โหติ, น อฺถา. สา ปนสฺส ตพฺภาวภาวีภาวตา ปจฺจยนยสฺมิฺเว อาวิภวิสฺสติ. ตสฺมา –
ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต วา, โหติ ยํ ยสฺส ปจฺจโย;
ยถา จ ปจฺจโย โหติ, ตถา เนยฺยํ วิภาวินา.
ตตฺรายํ อตฺถทีปนา –
นามเมว หิ อารุปฺเป, ปฏิสนฺธิปวตฺติสุ;
ปจฺจโย สตฺตธา ฉฏฺา, โหติ ตํ อวกํสโต.
กถํ? ‘ปฏิสนฺธิยํ’ ตาว อวกํสโต สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตวิปากอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ สตฺตธา นามํ ฉฏฺายตนสฺส ปจฺจโย โหติ. กิฺจิ ปเนตฺถ เหตุปจฺจเยน, กิฺจิ อาหารปจฺจเยนาติ เอวํ อฺถาปิ ปจฺจโย โหติ. ตสฺส วเสน อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ.
‘ปวตฺเต’ปิ วิปากํ วุตฺตนเยเนว ปจฺจโย โหติ. อิตรํ ปน อวกํสโต วุตฺตปฺปกาเรสุ ปจฺจเยสุ วิปากปจฺจยวชฺเชหิ ฉหิ ปจฺจโย โหติ. กิฺจิ ปเนตฺถ เหตุปจฺจเยน, กิฺจิ อาหารปจฺจเยนาติ เอวํ อฺถาปิ ปจฺจโย โหติ. ตสฺส วเสน อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ.
อฺสฺมิมฺปิ ¶ ภเว นามํ, ตเถว ปฏิสนฺธิยํ;
ฉฏฺสฺส อิตเรสํ ตํ, ฉหากาเรหิ ปจฺจโย.
อารุปฺปโต ¶ หิ อฺสฺมิมฺปิ ปฺจโวการภเว ตํ วิปากนามํ หทยวตฺถุโน สหายํ หุตฺวา ฉฏฺสฺส มนายตนสฺส ¶ ยถา อารุปฺเป วุตฺตํ ตเถว อวกํสโต สตฺตธา ปจฺจโย โหติ. อิตเรสํ ปเนตํ ปฺจนฺนํ จกฺขายตนาทีนํ จตุมหาภูตสหายํ หุตฺวา สหชาต นิสฺสยวิปากวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉหากาเรหิ ปจฺจโย โหติ. กิฺจิ ปเนตฺถ เหตุปจฺจเยน, กิฺจิ อาหารปจฺจเยนาติ เอวํ อฺถาปิ ปจฺจโย โหติ. ตสฺส วเสน อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ.
ปวตฺเตปิ ตถา โหติ, ปากํ ปากสฺส ปจฺจโย;
อปากํ อวิปากสฺส, ฉธา ฉฏฺสฺส ปจฺจโย.
ปวตฺเตปิ หิ ปฺจโวการภเว ยถา ปฏิสนฺธิยํ, ตเถว วิปากนามํ วิปากสฺส ฉฏฺายตนสฺส อวกํสโต สตฺตธา ปจฺจโย โหติ. อวิปากํ ปน อวิปากสฺส ฉฏฺสฺส อวกํสโตว ตโต วิปากปจฺจยํ อปเนตฺวา ฉธาว ปจฺจโย โหติ. วุตฺตนเยเนว ปเนตฺถ อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ.
ตตฺเถว เสสปฺจนฺนํ, วิปากํ ปจฺจโย ภเว;
จตุธา อวิปากมฺปิ, เอวเมว ปกาสิตํ.
ตตฺเถว หิ ปวตฺเต เสสานํ จกฺขายตนาทีนํ ปฺจนฺนํ จกฺขุปฺปสาทาทิวตฺถุกมฺปิ อิตรมฺปิ วิปากนามํ ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ จตุธา ปจฺจโย โหติ. ยถา จ วิปากํ, อวิปากมฺปิ เอวเมว ปกาสิตํ. ตสฺมา กุสลาทิเภทมฺปิ เตสํ จตุธา ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ. เอวํ ตาว นามเมว ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต วา ยสฺส ยสฺส อายตนสฺส ปจฺจโย โหติ, ยถา จ โหติ, ตถา เวทิตพฺพํ.
รูปํ ปเนตฺถ อารุปฺป-ภเว ภวติ ปจฺจโย;
น เอกายตนสฺสาปิ, ปฺจกฺขนฺธภเว ปน.
รูปโต ¶ สนฺธิยํ วตฺถุ, ฉธา ฉฏฺสฺส ปจฺจโย;
ภูตานิ จตุธา โหนฺติ, ปฺจนฺนํ อวิเสสโต.
รูปโต หิ ปฏิสนฺธิยํ วตฺถุรูปํ ฉฏฺสฺส มนายตนสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ฉธา ปจฺจโย โหติ. จตฺตาริ ปน ภูตานิ อวิเสสโต ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ ยํ ยํ อายตนํ ¶ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ตสฺส วเสน ปฺจนฺนมฺปิ จกฺขายตนาทีนํ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ¶ จตุธา ปจฺจยา โหนฺติ.
ติธา ชีวิตเมเตสํ, อาหาโร จ ปวตฺติยํ;
ตาเนว ฉธา ฉฏฺสฺส, วตฺถุ ตสฺเสว ปฺจธา.
เอเตสํ ปน จกฺขาทีนํ ปฺจนฺนํ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ อตฺถิอวิคตอินฺทฺริยวเสน รูปชีวิตํ ติธา ปจฺจโย โหติ.
‘อาหาโร จา’ติ อาหาโร จ อตฺถิอวิคตอาหารวเสน ติธา ปจฺจโย โหติ. โส จ โข เย สตฺตา อาหารูปชีวิโน, เตสํ อาหารานุคเต กาเย ปวตฺติยํเยว, โน ปฏิสนฺธิยํ. ตานิ ปน ปฺจ จกฺขายตนาทีนิ ฉฏฺสฺส จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวิฺาณสงฺขาตสฺส มนายตนสฺส นิสฺสยปุเรชาตอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉหากาเรหิ ปจฺจยา โหนฺติ ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. เปตฺวา ปน ปฺจ วิฺาณานิ ตสฺเสว อวเสสมนายตนสฺส วตฺถุรูปํ นิสฺสยปุเรชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ปฺจธา ปจฺจโย โหติ ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. เอวํ รูปเมว ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต วา ยสฺส ยสฺส อายตนสฺส ปจฺจโย โหติ ยถา จ โหติ ตถา เวทิตพฺพํ.
นามรูปํ ปนุภยํ, โหติ ยํ ยสฺส ปจฺจโย;
ยถา จ ตมฺปิ สพฺพตฺถ, วิฺาตพฺพํ วิภาวินา.
เสยฺยถิทํ – ปฏิสนฺธิยํ ตาว ปฺจโวการภเว ขนฺธตฺตยวตฺถุรูปสงฺขาตํ นามรูปํ ฉฏฺายตนสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจยาทีหิ ปจฺจโย ¶ โหตีติ อิทเมตฺถ มุขมตฺตํ. วุตฺตนยานุสาเรน ปน สกฺกา สพฺพํ โยเชตุนฺติ น เอตฺถ วิตฺถาโร ทสฺสิโตติ.
นามรูปปจฺจยา สฬายตนปทนิทฺเทโส.
ผสฺสปทนิทฺเทโส
๒๓๐. สฬายตนปจฺจยา ¶ ผสฺสนิทฺเทเส –
ฉเฬว ผสฺสา สงฺเขปา, จกฺขุสมฺผสฺสอาทโย;
วิฺาณมิว พตฺตึส, วิตฺถาเรน ภวนฺติ เต.
‘สงฺเขปโต’ ¶ หิ ปาฬิยํ จกฺขุสมฺผสฺโสติ อาทโย ฉเฬว ผสฺสา อาคตา. วิตฺถาเรน ปน จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ปฺจ กุสลวิปากา ปฺจ อกุสลวิปากาติ ทส, เสสา พาวีสติ โลกิยวิปากวิฺาณสมฺปยุตฺตา จ พาวีสตีติ เอวํ สพฺเพปิ สงฺขารปจฺจยา วุตฺตวิฺาณมิว พาตฺตึส โหนฺติ. ยํ ปเนตสฺส พาตฺตึสวิธสฺสาปิ ผสฺสสฺส ปจฺจโย สฬายตนํ. ตตฺถ –
ฉฏฺเน สห อชฺฌตฺตํ, จกฺขาทึ พาหิเรหิปิ;
สฬายตนมิจฺฉนฺติ, ฉหิ สทฺธึ วิจกฺขณา.
ตตฺถ เย ตาว ‘‘อุปาทินฺนกปวตฺติกถา อย’’นฺติ เอกสนฺตติปริยาปนฺนเมว ปจฺจยํ ปจฺจยุปฺปนฺนฺจ ทีเปนฺติ, เต ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโสติ ปาฬิอนุสารโต อารุปฺเป ฉฏฺายตนฺจ อฺตฺถ สพฺพสงฺคหโต สฬายตนฺจ ผสฺสสฺส ปจฺจโยติ เอกเทสสรูเปกเสสํ กตฺวา ฉฏฺเน สห อชฺฌตฺตํ จกฺขาทึ สฬายตนนฺติ อิจฺฉนฺติ. ตฺหิ ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตนนฺตฺเวว สงฺฆํ คจฺฉติ. เย ปน ปจฺจยุปฺปนฺนเมว เอกสนฺตติปริยาปนฺนํ ทีเปนฺติ, ปจฺจยํ ปน ภินฺนสนฺตานมฺปิ, เต ยํ ยํ อายตนํ ผสฺสสฺส ปจฺจโย โหติ ตํ สพฺพํ ทีเปนฺตา ¶ พาหิรมฺปิ ปริคฺคเหตฺวา ตเทว ฉฏฺเน สห อชฺฌตฺตํ พาหิเรหิปิ รูปายตนาทีหิ สทฺธึ สฬายตนนฺติ อิจฺฉนฺติ. ตมฺปิ หิ ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตนนฺติ เอเตสํ เอกเสเส กเต สฬายตนนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
เอตฺถาห – น สพฺพายตเนหิ เอโก ผสฺโส สมฺโภติ, นาปิ เอกมฺหา อายตนา สพฺเพ ผสฺสา, อยฺจ สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ เอโกว วุตฺโต, โส กสฺมาติ? ตตฺริทํ วิสฺสชฺชนํ – สจฺจเมตํ. สพฺเพหิ เอโก เอกมฺหา วา สพฺเพ น สมฺโภนฺติ, สมฺโภติ ปน อเนเกหิ เอโก; ยถา จกฺขุสมฺผสฺโส จกฺขายตนา รูปายตนา จกฺขุวิฺาณสงฺขาตา มนายตนา อวเสสา สมฺปยุตฺตธมฺมายตนา จาติ เอวํ สพฺพตฺถ ยถานุรูปํ โยเชตพฺพํ. ตสฺมา เอว หิ –
เอโก ¶ ปเนกายตน-ปฺปภโว อิติ ทีปิโต;
ผสฺโสยํ เอกวจน-นิทฺเทเสนิธ ตาทินา.
‘เอกวจนนิทฺเทเสนา’ติ ¶ สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ อิมินา หิ เอกวจนนิทฺเทเสน อเนเกหิ อายตเนหิ เอโก ผสฺโส โหตีติ ตาทินา ทีปิโตติ อตฺโถ. อายตเนสุ ปน –
ฉธา ปฺจ ตโต เอกํ, นวธา พาหิรานิ ฉ;
ยถาสมฺภวเมตสฺส, ปจฺจยตฺเต วิภาวเย.
ตตฺรายํ วิภาวนา – จกฺขายตนาทีนิ ตาว ปฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทิเภทโต ปฺจวิธสฺส ผสฺสสฺส นิสฺสยปุเรชาตอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉธา ปจฺจยา โหนฺติ. ตโต ปรํ เอกํ วิปากมนายตนํ อเนกเภทสฺส วิปากมโนสมฺผสฺสสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารอินฺทฺริยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน นวธา ปจฺจโย โหติ. พาหิเรสุ ปน รูปายตนํ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อารมฺมณปุเรชาตอตฺถิอวิคตวเสน จตุธา ปจฺจโย โหติ. ตถา สทฺทายตนาทีนิ โสตสมฺผสฺสาทีนํ. มโนสมฺผสฺสสฺส ปน ตานิ ธมฺมายตนฺจ ตถา จ อารมฺมณปจฺจยมตฺเตเนว จาติ เอวํ พาหิรานิ ฉ ยถาสมฺภวเมตสฺส ปจฺจยตฺเต วิภาวเยติ.
สฬายตนปจฺจยา ผสฺสปทนิทฺเทโส.
เวทนาปทนิทฺเทโส
๒๓๑. ผสฺสปจฺจยา ¶ เวทนานิทฺเทเส –
ทฺวารโต เวทนา วุตฺตา, จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา;
ฉเฬว ตา ปเภเทน, เอกูนนวุตี มตา.
จกฺขุสมฺผสฺสชาเวทนาติอาทินา หิ นเยน ปาฬิยํ อิมา จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา ทฺวารโต ฉเฬว เวทนา วุตฺตา. ตา ปน ปเภเทน เอกูนนวุติยา จิตฺเตหิ สมฺปยุตฺตตฺตา เอกูนนวุตีติ มตา.
เวทนาสุ ปเนตาสุ, อิธ พาตฺตึส เวทนา;
วิปากจิตฺตยุตฺตาว, อธิปฺเปตาติ ภาสิตา.
อฏฺธา ¶ ตตฺถ ปฺจนฺนํ, ปฺจทฺวารมฺหิ ปจฺจโย;
เสสานํ เอกธา ผสฺโส, มโนทฺวาเรปิ โส ตถา.
ตตฺถ หิ ปฺจทฺวาเร จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกานํ ปฺจนฺนํ เวทนานํ จกฺขุสมฺผสฺสาทิโก ผสฺโส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ¶ อฏฺธา ปจฺจโย โหติ. เสสานํ ปน เอเกกสฺมึ ทฺวาเร สมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณตทารมฺมณวเสน ปวตฺตานํ กามาวจรวิปากเวทนานํ จกฺขุสมฺผสฺสาทิโก ผสฺโส อุปนิสฺสยวเสน เอกธาว ปจฺจโย โหติ.
‘มโนทฺวาเรปิ โส ตถา’ติ มโนทฺวาเรปิ หิ ตทารมฺมณวเสน ปวตฺตานํ กามาวจรวิปากเวทนานํ โส สหชาตมโนสมฺผสฺสสงฺขาโต ผสฺโส ตเถว อฏฺธา ปจฺจโย โหติ, ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน จ ปวตฺตานํ เตภูมกวิปากเวทนานมฺปิ. ยา ปเนตา มโนทฺวาเร ตทารมฺมณวเสน ปวตฺตา กามาวจรเวทนา, ตาสํ มโนทฺวาเร อาวชฺชนสมฺปยุตฺโต มโนสมฺผสฺโส อุปนิสฺสยวเสน เอกธา ปจฺจโย โหตีติ.
ผสฺสปจฺจยา เวทนาปทนิทฺเทโส.
ตณฺหาปทนิทฺเทโส
๒๓๒. เวทนาปจฺจยา ¶ ตณฺหานิทฺเทเส –
รูปตณฺหาทิเภเทน, ฉ ตณฺหา อิธ ทีปิตา;
เอเกกา ติวิธา ตตฺถ, ปวตฺตาการโต มตา.
อิมสฺมิฺหิ เวทนาปจฺจยา ตณฺหานิทฺเทเส ‘เสฏฺิปุตฺโต พฺราหฺมณปุตฺโต’ติ ปิติโต นามวเสน ปุตฺโต วิย อิมา รูปตณฺหา…เป… ธมฺมตณฺหาติ อารมฺมณโต นามวเสน ฉ ตณฺหา ทีปิตา ปกาสิตา กถิตาติ อตฺโถ. ตตฺถ รูเป ตณฺหา รูปตณฺหาติ อิมินา นเยน ปทตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ตาสุ จ ปน ตณฺหาสุ เอเกกา ตณฺหา ปวตฺติอาการโต กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหาติ เอวํ ติวิธา มตา. รูปตณฺหา เอว หิ ยทา จกฺขุสฺส อาปาถคตํ รูปารมฺมณํ กามสฺสาทวเสน อสฺสาทยมานา ¶ ปวตฺตติ, ตทา กามตณฺหา นาม โหติ. ยทา ตเทวารมฺมณํ ธุวํ สสฺสตนฺติ ปวตฺตาย สสฺสตทิฏฺิยา สทฺธึ ปวตฺตติ, ตทา ภวตณฺหา นาม โหติ. สสฺสตทิฏฺิสหคโต หิ ราโค ภวตณฺหาติ วุจฺจติ. ยทา ปน ตเทวารมฺมณํ ‘‘อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตี’’ติ ปวตฺตาย อุจฺเฉททิฏฺิยา สทฺธึ ปวตฺตติ, ตทา วิภวตณฺหา นาม โหติ. อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต หิ ¶ ราโค วิภวตณฺหาติ วุจฺจติ. เอเสว นโย สทฺทตณฺหาทีสุปีติ เอตา อฏฺารส ตณฺหา โหนฺติ.
ตา อชฺฌตฺตรูปาทีสุ อฏฺารส, พหิทฺธา อฏฺารสาติ ฉตฺตึส. อิติ อตีตา ฉตฺตึส, อนาคตา ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺนา ฉตฺตึสาติ อฏฺสตํ ตณฺหา โหนฺติ. ตา ปน สํงฺขิปฺปมานา รูปาทิอารมฺมณวเสน ฉ, กามตณฺหาทิวเสน วา ติสฺโสว ตณฺหา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ยสฺมา ปนิเม สตฺตา ปุตฺตํ อสฺสาเทตฺวา ปุตฺเต มมตฺเตน ธาติยา วิย รูปาทิอารมฺมณวเสน อุปฺปชฺชมานํ เวทนํ อสฺสาเทตฺวา เวทนาย มมตฺเตน รูปาทิอารมฺมณทายกานํ จิตฺตการคนฺธพฺพคนฺธิกสูทตนฺตวายรสายนวิธายกเวชฺชาทีนํ มหาสกฺการํ กโรนฺติ, ตสฺมา สพฺพาเปสา เวทนาปจฺจยา ตณฺหา โหตีติ เวทิตพฺพา.
ยสฺมา เจตฺถ ¶ อธิปฺเปตา, วิปากสุขเวทนา;
เอกาว เอกธา เจสา, ตสฺมา ตณฺหาย ปจฺจโย.
‘เอกธา’ติ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. ยสฺมา วา –
ทุกฺขี สุขํ ปตฺถยติ, สุขี ภิยฺโยปิ อิจฺฉติ;
อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา.
ตณฺหาย ปจฺจยา ตสฺมา, โหนฺติ ติสฺโสปิ เวทนา;
เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, อิติ วุตฺตา มเหสินา.
เวทนา ปจฺจยา จาปิ, ยสฺมา นานุสยํ วินา;
โหติ ตสฺมา น สา โหติ, พฺราหฺมณสฺส วุสีมโตติ.
เวทนาปจฺจยา ตณฺหาปทนิทฺเทโส.
อุปาทานปทนิทฺเทโส
๒๓๓. ตณฺหาปจฺจยา ¶ อุปาทานนิทฺเทเส –
อุปาทานานิ จตฺตาริ, ตานิ อตฺถวิภาคโต;
ธมฺมสงฺเขปวิตฺถารา, กมโต จ วิภาวเย.
ปาฬิยฺหิ อุปาทานนฺติ กามุปาทานํ…เป… อตฺตวาทุปาทานนฺติ อิมานิ จตฺตาริ อุปาทานานิ อาคตานิ. เตสํ อยํ อตฺถวิภาโค – วตฺถุสงฺขาตํ กามํ อุปาทิยตีติ กามุปาทานํ. กาโม จ โส อุปาทานฺจาติปิ กามุปาทานํ. อุปาทานนฺติ ¶ ทฬฺหคฺคหณํ. ทฬฺหตฺโถ เหตฺถ อุปสทฺโท อุปายาส-อุปกฏฺาทีสุ วิย. ตถา ทิฏฺิ จ สา อุปาทานฺจาติ ทิฏฺุปาทานํ. ทิฏฺึ อุปาทิยตีติ วา ทิฏฺุปาทานํ ¶ . สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จาติอาทีสุ หิ ปุริมทิฏฺึ อุตฺตรทิฏฺิ อุปาทิยติ. ตถา สีลพฺพตํ อุปาทิยตีติ สีลพฺพตุปาทานํ. สีลพฺพตฺจ ตํ อุปาทานฺจาติปิ สีลพฺพตุปาทานํ. โคสีลโควตาทีนิ หิ เอวํ สุทฺธีติ อภินิเวสโต สยเมว อุปาทานานีติ. ตถา วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ อุปาทานํ. กึ วทนฺติ อุปาทิยนฺติ วา? อตฺตานํ. อตฺตโน วาทุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานํ. อตฺตวาทมตฺตเมว วา อตฺตาติ อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ อตฺตวาทุปาทานํ. อยํ ตาว เตสํ อตฺถวิภาโค.
‘ธมฺมสงฺเขปวิตฺถาเร’ ปน กามุปาทานํ ตาว ‘‘ตตฺถ กตมํ กามุปาทานํ? โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโท กามราโค กามนนฺที กามตณฺหา กามสฺเนโห กามปริฬาโห กามมุจฺฉา กามชฺโฌสานํ – อิทํ วุจฺจติ กามุปาทาน’’นฺติ อาคตตฺตา สงฺเขปโต ตณฺหาทฬฺหตฺตํ วุตฺตํ. ตณฺหาทฬฺหตฺตํ นาม ปุริมตณฺหาอุปนิสฺสยปจฺจเยน ทฬฺหสมฺภูตา อุตฺตรตณฺหา เอว. เกจิ ปนาหุ – อปฺปตฺตวิสยปตฺถนา ตณฺหา, อนฺธกาเร โจรสฺส หตฺถปฺปสารณํ วิย. สมฺปตฺตวิสยคฺคหณํ อุปาทานํ, ตสฺเสว ภณฺฑคฺคหณํ วิย. อปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺิตาปฏิปกฺขา จ เต ธมฺมา. ตถา ปริเยสนารกฺขทุกฺขมูลาติ. เสสุปาทานตฺตยํ ปน สงฺเขปโต ทิฏฺิมตฺตเมว.
วิตฺถารโต ปน ปุพฺเพ รูปาทีสุ วุตฺตาย อฏฺสตปฺปเภทายปิ ตณฺหาย ทฬฺหภาโว กามุปาทานํ. ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ ทิฏฺุปาทานํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมํ ทิฏฺุปาทานํ? นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ…เป… สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตีติ ยา ¶ เอวรูปา ทิฏฺิ…เป… วิปริเยสคฺคาโห – อิทํ วุจฺจติ ทิฏฺุปาทาน’’นฺติ (ธ. ส. ๑๒๒๑; วิภ. ๙๓๘) สีลวเตหิ สุทฺธิปรามสนํ ปน สีลพฺพตุปาทานํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ ¶ กตมํ สีลพฺพตุปาทานํ? อิโต พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณานํ สีเลน สุทฺธิ, วเตน สุทฺธิ, สีลพฺพเตน สุทฺธีติ ยา เอวรูปา ทิฏฺิ…เป… วิปริเยสคฺคาโห – อิทํ วุจฺจติ สีลพฺพตุปาทาน’’นฺติ (ธ. ส. ๑๒๒๒; วิภ. ๙๓๘). วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺิ อตฺตวาทุปาทานํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมํ อตฺตวาทุปาทานํ? อิธ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน…เป… สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ…เป… วิปริเยสคฺคาโห – อิทํ วุจฺจติ อตฺตวาทุปาทาน’’นฺติ (ธ. ส. ๑๒๒๓; วิภ. ๙๓๘). อยเมตฺถ ธมฺมสงฺเขปวิตฺถาโร.
‘กมโต’ติ ¶ เอตฺถ ปน ติวิโธ กโม – อุปฺปตฺติกฺกโม, ปหานกฺกโม, เทสนากฺกโม จ. ตตฺถ อนมตคฺเค สํสาเร อิมสฺส ปมํ อุปฺปตฺตีติ อภาวโต กิเลสานํ นิปฺปริยาเยน อุปฺปตฺติกฺกโม น วุจฺจติ. ปริยาเยน ปน เยภุยฺเยน เอกสฺมึ ภเว อตฺตคฺคาหปุพฺพงฺคโม สสฺสตุจฺเฉทาภินิเวโส. ตโต ‘‘สสฺสโต อยํ อตฺตา’’ติ คณฺหโต อตฺตวิสุทฺธตฺถํ สีลพฺพตุปาทานํ, อุจฺฉิชฺชตีติ คณฺหโต ปรโลกนิรเปกฺขสฺส กามุปาทานนฺติ เอวํ ปมํ อตฺตวาทุปาทานํ, ตโต ทิฏฺิสีลพฺพตกามุปาทานานีติ อยเมเตสํ เอกสฺมึ ภเว อุปฺปตฺติกฺกโม.
ทิฏฺุปาทานาทีนิ เจตฺถ ปมํ ปหียนฺติ โสตาปตฺติมคฺควชฺฌตฺตา. กามุปาทานํ ปจฺฉา อรหตฺตมคฺควชฺฌตฺตาติ. อยเมเตสํ ปหานกฺกโม.
มหาวิสยตฺตา ปน ปากฏตฺตา จ เอเตสุ กามุปาทานํ ปมํ เทสิตํ. มหาวิสยฺหิ ตํ อฏฺจิตฺตสมฺปโยคา. อปฺปวิสยานิ อิตรานิ จตุจิตฺตสมฺปโยคา. เยภุยฺเยน จ อาลยรามตาย ปชาย ปากฏํ กามุปาทานํ, น อิตรานิ. กามุปาทานวา วตฺถุกามานํ สมธิคมตฺถํ โกตูหลมงฺคลาทิพหุโล โหติ, น สสฺสตทิฏฺีติ ตทนนฺตรํ ทิฏฺุปาทานํ. ตํ ปภิชฺชมานํ สีลพฺพตอตฺตวาทุปาทานวเสน ทุวิธํ โหติ. ตสฺมึ ทฺวเย โคกิริยํ วา กุกฺกุรกิริยํ วา ทิสฺวาปิ เวทิตพฺพโต โอฬาริกนฺติ สีลพฺพตุปาทานํ ปมํ เทสิตํ, สุขุมตฺตา อนฺเต อตฺตวาทุปาทานนฺติ อยเมเตสํ เทสนากฺกโม.
ตณฺหา ¶ จ ปุริมสฺเสตฺถ, เอกธา โหติ ปจฺจโย;
สตฺตธา อฏฺธา วาปิ, โหติ เสสตฺตยสฺส สา.
เอตฺถ ¶ จ เอวํ เทสิเต อุปาทานจตุกฺเก ปุริมสฺส กามุปาทานสฺส กามตณฺหา อุปนิสฺสยวเสน เอกธาว ปจฺจโย โหติ ตณฺหาภินนฺทิเตสุ วิสเยสุ อุปฺปตฺติโต. เสสตฺตยสฺส ปน สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตเหตุวเสน สตฺตธา วา อุปนิสฺสเยน สห อฏฺธา วาปิ ปจฺจโย โหติ. ยทา จ สา อุปนิสฺสยวเสน ปจฺจโย โหติ ตทา อสหชาตาว โหตีติ.
ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานปทนิทฺเทโส.
ภวปทนิทฺเทโส
๒๓๔. อุปาทานปจฺจยา ¶ ภวนิทฺเทเส –
อตฺถโต ธมฺมโต เจว, สาตฺถโต เภทสงฺคหา;
ยํ ยสฺส ปจฺจโย เจว, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ ภวตีติ ภโว. ทุวิเธนาติ ทฺวีหิ อากาเรหิ ปวตฺติโตติ อตฺโถ. อถวา ทุวิเธนาติ ปจฺจเต กรณวจนํ, ทุวิโธติ วุตฺตํ โหติ. อตฺถีติ สํวิชฺชติ. กมฺมเมว ภโว กมฺมภโว. อุปปตฺติเยว ภโว อุปปตฺติภโว. เอตฺถ จ อุปปตฺติ ภวตีติ ภโว. กมฺมํ ปน ยถา สุขการณตฺตา ‘‘สุโข พุทฺธานมุปฺปาโท’’ติ (ธ. ป. ๑๙๔) วุตฺโต, เอวํ ภวการณตฺตา ผลโวหาเรน ภโวติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ กตโม กมฺมภโวติ เตสุ ทฺวีสุ ภเวสุ โย กมฺมภโวติ วุตฺโต, โส กตโมติ อตฺโถ. ปฺุาภิสงฺขาราทโย วุตฺตตฺถา เอว. สพฺพนฺติ อนวเสสํ. ภวํ คจฺฉติ คเมติ จาติ ภวคามิ. อิมินา โลกุตฺตรํ ปฏิกฺขิปติ. อยฺหิ วฏฺฏกถา, ตฺจ วิวฏฺฏนิสฺสิตนฺติ. กรียตีติ กมฺมํ.
กามภวาทีสุ กามสงฺขาโต ภโว กามภโว. เอส นโย รูปารูปภเวสุ. สฺาวตํ ภโว, สฺา วา เอตฺถ ภเว อตฺถีติ สฺาภโว. วิปริยาเยน ¶ อสฺาภโว. โอฬาริกสฺาย อภาวา ¶ สุขุมาย จ ภาวา เนว สฺา นาสฺา อสฺมึ ภเวติ เนวสฺานาสฺาภโว. เอเกน รูปกฺขนฺเธน โวกิณฺโณ ภโว เอกโวการภโว. เอโก วา โวกาโร อสฺส ภวสฺสาติ เอกโวการภโว. เอเสว นโย จตุโวการปฺจโวการภเวสุ. อยํ วุจฺจติ อุปปตฺติภโวติ เอส นววิโธปิ อุปปตฺติภโว นาม วุจฺจตีติ. เอวํ ตาเวตฺถ ‘อตฺถโต’ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ธมฺมโต’ ปน เอตฺถ หิ ปฺุาภิสงฺขาโร ธมฺมโต เตรส เจตนา, อปฺุาภิสงฺขาโร ทฺวาทส, อาเนฺชาภิสงฺขาโร จตสฺโส. ‘‘สพฺพมฺปิ ภวคามิกมฺม’’นฺติ เอเตน สพฺเพเปเต ธมฺมา เจตนา สมฺปยุตฺตา วา กมฺมสงฺขาตา อาจยคามิโน ธมฺมา สงฺคหิตา. กามภโว ปฺจ อุปาทินฺนกฺขนฺธา, ตถา รูปภโว, อรูปภโว จตฺตาโร, สฺาภโว จตุปฺจ, อสฺาภโว เอโก ¶ อุปาทินฺนกฺขนฺโธ, เนวสฺานาสฺาภโว จตฺตาโร. เอกโวการภวาทโย เอกจตุปฺจกฺขนฺธา อุปาทินฺนกฺขนฺเธหีติ เอวเมตฺถ ‘ธมฺมโต’ปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สาตฺถโต’ติ ยถา จ ภวนิทฺเทเส ตเถว กามฺจ สงฺขารนิทฺเทเสปิ ปฺุาภิสงฺขาราทโยว วุตฺตา, เอวํ สนฺเตปิ ปุริมา อตีตกมฺมวเสน อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยตฺตา วุตฺตา. อิเม ปจฺจุปฺปนฺนกมฺมวเสน อายตึ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยตฺตาติ ปุนวจนํ สาตฺถกเมว. ปุพฺเพ วา ‘‘ตตฺถ กตโม ปฺุาภิสงฺขาโร? กุสลเจตนา กามาวจรา’’ติ เอวมาทินา นเยน เจตนาว สงฺขาราติ วุตฺตา. อิธ ปน ‘‘สพฺพมฺปิ ภวคามิกมฺม’’นฺติ วจนโต เจตนาสมฺปยุตฺตาปิ. ปุพฺเพ จ วิฺาณปจฺจยเมว กมฺมํ สงฺขาราติ วุตฺตํ, อิทานิ อสฺาภวนิพฺพตฺตกมฺปิ. กึ วา พหุนา? ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอตฺถ ปฺุาภิสงฺขาราทโยว กุสลากุสลธมฺมา วุตฺตา. ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ อิธ ปน อุปปตฺติภวสฺสาปิ สงฺคหิตตฺตา กุสลากุสลาพฺยากตา ธมฺมา วุตฺตา. ตสฺมา สพฺพถาปิ ¶ สาตฺถกเมวิทํ ปุนวจนนฺติ. เอวเมตฺถ ‘สาตฺถโต’ปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘เภทสงฺคหา’ติ อุปาทานปจฺจยา ภวสฺส เภทโต เจว สงฺคหโต จ. ยฺหิ กามุปาทานปจฺจยา กามภวนิพฺพตฺตกํ กมฺมํ กริยติ, โส กมฺมภโว. ตทภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. เอส นโย รูปารูปภเวสุ. เอวํ กามุปาทานปจฺจยา ¶ ทฺเว กามภวา, ตทนฺโตคธาว สฺาภวปฺจโวการภวา; ทฺเว รูปภวา, ตทนฺโตคธาว สฺาภวอสฺาภวเอกโวการภวปฺจโวการภวา; ทฺเว อรูปภวา, ตทนฺโตคธาว สฺาภวเนวสฺานาสฺาภวจตุโวการภวาติ สทฺธึ อนฺโตคเธหิ ฉ ภวา. ยถา จ กามุปาทานปจฺจยา สทฺธึ อนฺโตคเธหิ ฉ ภวา ตถา เสสุปาทานปจฺจยาปีติ เอวํ อุปาทานปจฺจยา เภทโต สทฺธึ อนฺโตคเธหิ จตุวีสติ ภวา.
สงฺคหโต ปน กมฺมภวํ อุปปตฺติภวฺจ เอกโต กตฺวา กามุปาทานปจฺจยา สทฺธึ อนฺโตคเธหิ เอโก กามภโว, ตถา รูปารูปภวาติ ตโย ภวา. ตถา เสสุปาทานปจฺจยาปีติ เอวํ อุปาทานปจฺจยา สงฺคหโต สทฺธึ อนฺโตคเธหิ ทฺวาทส ภวา. อปิจ อวิเสเสน อุปาทานปจฺจยา กามภวูปคํ กมฺมํ กมฺมภโว. ตทภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. เอส นโย รูปารูปภเวสุ. เอวํ อุปาทานปจฺจยา สทฺธึ อนฺโตคเธหิ ทฺเว กามภวา, ทฺเว รูปภวา, ทฺเว ¶ อรูปภวาติ อปเรนปิ ปริยาเยน สงฺคหโต ฉ ภวา. กมฺมภวอุปปตฺติภวเภทํ วา อนุปคมฺม สทฺธึ อนฺโตคเธหิ กามภวาทิวเสน ตโย ภวา โหนฺติ. กามภวาทิเภทฺจาปิ อนุปคมฺม กมฺมภวอุปปตฺติภววเสน ทฺเว ภวา โหนฺติ. กมฺมุปปตฺติเภทฺจ อนุปคมฺม อุปาทานปจฺจยา ภโวติ ภววเสน เอโก ภโว โหตีติ. เอวเมตฺถ อุปาทานปจฺจยสฺส ภวสฺส เภทสงฺคหาปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ยํ ยสฺส ปจฺจโย เจวา’ติ ยฺเจตฺถ อุปาทานํ ยสฺส ปจฺจโย โหติ, ตโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ อตฺโถ. กึ ปเนตฺถ กสฺส ปจฺจโย โหติ? ยํ กิฺจิ ยสฺส กสฺสจิ ปจฺจโย ¶ โหติเยว. อุมฺมตฺตโก วิย หิ ปุถุชฺชโน. โส ‘อิทํ ยุตฺตํ, อิทํ อยุตฺต’นฺติ อวิจาเรตฺวา ยสฺส กสฺสจิ อุปาทานสฺส วเสน ยํ กิฺจิ ภวํ ปตฺเถตฺวา ยํ กิฺจิ กมฺมํ กโรติเยว. ตสฺมา ยเทกจฺเจ ‘‘สีลพฺพตุปาทาเนน รูปารูปภวา น โหนฺตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. สพฺเพน ปน สพฺโพ โหตีติ คเหตพฺพํ, เสยฺยถิทํ – อิเธกจฺโจ อนุสฺสววเสน วา ทิฏฺานุสาเรน วา ‘‘กามา นาเมเต มนุสฺสโลเก เจว ขตฺติยมหาสาลกุลาทีสุ ฉกามาวจรเทวโลเก จ สมิทฺธา’’ติ จินฺเตตฺวา เตสํ อธิคมตฺถํ อสทฺธมฺมสวนาทีหิ วฺจิโต ‘อิมินา กมฺเมน กามา สมฺปชฺชนฺตี’ติ มฺมาโน ¶ กามุปาทานวเสน กายทุจฺจริตาทีนิปิ กโรติ. โส ทุจฺจริตปาริปูริยา อปาเย อุปฺปชฺชติ; สนฺทิฏฺิเก วา ปน กาเม ปตฺถยมาโน ปฏิลทฺเธ วา โคปยมาโน กามุปาทานวเสน กายทุจฺจริตาทีนิปิ กโรติ. โส ทุจฺจริตปาริปูริยา อปาเย อุปฺปชฺชติ. ตตฺราสฺส อุปปตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมาภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว สฺาภวปฺจโวการภวา ปน ตทนฺโตคธา เอว.
อปโร ปน สทฺธมฺมสวนาทีหิ อุปพฺรูหิตาโณ ‘‘อิมินา กมฺเมน กามา สมฺปชฺชนฺตี’’ติ มฺมาโน กามุปาทานวเสน กายสุจริตาทีนิ กโรติ. โส สุจริตปาริปูริยา เทเวสุ วา มนุสฺเสสุ วา อุปฺปชฺชติ. ตตฺราสฺส อุปปตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมาภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาภวปฺจโวการภวา ปน ตทนฺโตคธา เอว. อิติ กามุปาทานํ สปฺปเภทสฺส สานฺโตคธสฺส กามภวสฺส ปจฺจโย โหติ.
อปโร ‘‘รูปารูปภเวสุ ตโต สมิทฺธตรา กามา’’ติ สุตฺวา วา ปริกปฺเปตฺวา วา กามุปาทานวเสเนว ¶ รูปารูปสมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา สมาปตฺติพเลน รูปารูปพฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชติ. ตตฺราสฺส อุปปตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมาภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาอสฺา เนวสฺา นาสฺาเอกโวการจตุโวการปฺจโวการภวา ปน ตทนฺโตคธา เอว. อิติ กามุปาทานํ สปฺปเภทานํ สานฺโตคธานํ รูปารูปภวานมฺปิ ปจฺจโย โหติ ¶ .
อปโร ‘‘อยํ อตฺตา นาม กามาวจรสมฺปตฺติภเว วา รูปารูปภวานํ วา อฺตรสฺมึ อุจฺฉินฺโน สุอุจฺฉินฺโน โหตี’’ติ อุจฺเฉททิฏฺึ อุปาทาย ตทุปคํ กมฺมํ กโรติ. ตสฺส ตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมาภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาภวาทโย ปน ตทนฺโตคธา เอว. อิติ ทิฏฺุปาทานํ สปฺปเภทานํ สานฺโตคธานํ ติณฺณมฺปิ กามรูปารูปภวานํ ปจฺจโย โหติ.
อปโร ‘‘อยํ อตฺตา นาม กามาวจรสมฺปตฺติภเว วา รูปารูปภวานํ วา อฺตรสฺมึ สุขี โหติ, วิคตปริฬาโห โหตี’’ติ อตฺตวาทุปาทาเนน ตทุปคํ กมฺมํ กโรติ. ตสฺส ตํ กมฺมํ กมฺมภโว, ตทภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาภวาทโย ปน ตทนฺโตคธา เอว ¶ . อิติ อตฺตวาทุปาทานํ สปฺปเภทานํ สานฺโตคธานํ ติณฺณํ ภวานํ ปจฺจโย โหติ.
อปโร ‘‘อิทํ สีลพฺพตํ นาม กามาวจรสมฺปตฺติภเว วา รูปารูปภวานํ วา อฺตรสฺมึ ปริปูเรนฺตสฺส สุขํ ปาริปูรึ คจฺฉตี’’ติ สีลพฺพตุปาทานวเสน ตทุปคํ กมฺมํ กโรติ. ตสฺส ตํ กมฺมํ กมฺมภโว, ตทภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาภวาทโย ปน ตทนฺโตคธา เอว. อิติ สีลพฺพตุปาทานมฺปิ สปฺปเภทานํ สานฺโตคธานํ ติณฺณํ ภวานํ ปจฺจโย โหตีติ เอวเมตฺถ ยํ ยสฺส ปจฺจโย โหติ ตโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
กึ ปเนตฺถ กสฺส ภวสฺส กถํ ปจฺจโย โหตีติ เจ?
รูปารูปภวานํ, อุปนิสฺสยปจฺจโย อุปาทานํ;
สหชาตาทีหิปิ ตํ, กามภวสฺสาติ วิฺเยฺยํ.
รูปารูปภวานฺหิ กามภวปริยาปนฺนสฺส จ กามภเว กุสลกมฺมสฺเสว อุปปตฺติภวสฺส เจตํ จตุพฺพิธมฺปิ อุปาทานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน เอกธา ปจฺจโย โหติ. กามภเว อตฺตนา สมฺปยุตฺตอกุสลกมฺมภวสฺส ¶ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตเหตุปจฺจยปฺปเภเทหิ สหชาตาทีหิ ปจฺจโย โหติ. วิปฺปยุตฺตสฺส ปน อุปนิสฺสยปจฺจเยเนวาติ.
อุปาทานปจฺจยา ภวปทนิทฺเทโส.
ชาติชรามรณาทิปทนิทฺเทโส
๒๓๕. ภวปจฺจยา ¶ ชาตินิทฺเทสาทีสุ ชาติอาทีนํ วินิจฺฉโย สจฺจวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ภโวติ ปเนตฺถ กมฺมภโวว อธิปฺเปโต. โส หิ ชาติยา ปจฺจโย, น อุปปตฺติภโว. โส ปน กมฺมปจฺจยอุปนิสฺสยปจฺจยวเสน ทฺวิธาว ปจฺจโย โหตีติ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ เจ? พาหิรปจฺจยสมตฺเตปิ หีนปณีตตาทิวิเสสทสฺสนโต. พาหิรานฺหิ ชนกชเนตฺติสุกฺกโสณิตาหาราทีนํ ปจฺจยานํ สมตฺเตปิ สตฺตานํ ยมกานมฺปิ สตํ หีนปณีตตาทิวิเสโส ทิสฺสติ. โส จ น อเหตุโก ¶ , สพฺพทา จ สพฺเพสฺจ อภาวโต; น กมฺมภวโต อฺเหตุโก, ตทภินิพฺพตฺตกสตฺตานํ อชฺฌตฺตสนฺตาเน อฺสฺส การณสฺส อภาวโตติ กมฺมภวเหตุโกว. กมฺมฺหิ สตฺตานํ หีนปณีตาทิวิเสสเหตุ. เตนาห ภควา – ‘‘กมฺมํ สตฺเต วิภชติ ยทิทํ หีนปฺปณีตตายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๙). ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ – ‘‘ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ.
ยสฺมา จ อสติ ชาติยา ชรามรณํ นาม น โหติ, โสกาทโย จ ธมฺมา น โหนฺติ, ชาติยา ปน สติ ชรามรณฺเจว ชรามรณสงฺขาตทุกฺขธมฺมผุฏฺสฺส จ พาลสฺส ชรามรณาภิสมฺพนฺธา วา เตน เตน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส อนภิสมฺพนฺธา วา โสกาทโย จ ธมฺมา โหนฺติ, ตสฺมา อยํ ชาติชรามรณสฺส เจว โสกาทีนฺจ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพา. สา ปน อุปนิสฺสยโกฏิยา เอกธาว ปจฺจโย โหตีติ.
ภวปจฺจยา ชาติอาทิปทนิทฺเทโส.
๒๔๒. เอวเมตสฺสาติอาทีนํ ¶ อตฺโถ อุทฺเทสวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สงฺคติอาทีนิ สมุทยเววจนาเนว.
ยสฺมา ปเนตฺถ โสกาทโย อวสาเน วุตฺตา, ตสฺมา ยา สา อวิชฺชา ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา ¶ สงฺขารา’’ติ เอวเมตสฺส ภวจกฺกสฺส อาทิมฺหิ วุตฺตา, สา –
โสกาทีหิ อวิชฺชา, สิทฺธา ภวจกฺกมวิทิตาทิมิทํ;
การกเวทกรหิตํ, ทฺวาทสวิธสฺุตาสฺุํ.
สตตํ สมิตํ ปวตฺตตีติ เวทิตพฺพํ. กถํ ปเนตฺถ โสกาทีหิ อวิชฺชา สิทฺธา? กถมิทํ ภวจกฺกํ อวิทิตาทิ? กถํ การกเวทกรหิตํ? กถํ ทฺวาทสวิธสฺุตาสฺุนฺติ เจ? เอตฺถ หิ โสกทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา อวิชฺชาย อวิโยคิโน, ปริเทโว จ นาม มูฬฺหสฺสาติ เตสุ ตาว สิทฺเธสุ สิทฺธาว โหติ อวิชฺชา. อปิจ ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ หิ วุตฺตํ. อาสวสมุทยา เจเต โสกาทโย โหนฺติ. กถํ? วตฺถุกามวิโยเค ตาว โสโก กามาสวสมุทโย โหติ? ยถาห –
‘‘ตสฺส ¶ เจ กามยานสฺส, ฉนฺทชาตสฺส ชนฺตุโน;
เต กามา ปริหายนฺติ, สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตี’’ติ. (สุ. นิ. ๗๗๓);
ยถา จาห – ‘‘กามโต ชายตี โสโก’’ติ (ธ. ป. ๒๑๕). สพฺเพปิ เจเต ทิฏฺาสวสมุทยา โหนฺติ, ยถาห – ‘‘ตสฺส อหํ รูปํ, มม รูปนฺติ ปริยุฏฺฏฺายิโน ตํ รูปํ วิปริณมติ อฺถา โหติ. ตสฺส รูปวิปริณามฺถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑). ยถา จ ทิฏฺาสวสมุทยา เอวํ ภวาสวสมุทยาปิ, ยถาห – ‘‘เยปิ เต เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา อุจฺเจสุ วิมาเนสุ จิรฏฺิติกา เตปิ ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา เยภุยฺเยน ภยํ สํเวคํ สนฺตาสํ อาปชฺช’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๗๘; อ. นิ. ๔.๓๓) ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ทิสฺวา มรณภเยน สนฺตชฺชิตานํ เทวานํ วิยาติ. ยถา จ ภวาสวสมุทยา เอวํ อวิชฺชาสวสมุทยาปิ ¶ , ยถาห – ‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, พาโล ทิฏฺเว ธมฺเม ติวิธํ ทุกฺขโทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๔๖).
อิติ ยสฺมา อาสวสมุทยา เอเต โหนฺติ, ตสฺมา เอเต สิชฺฌมานา อวิชฺชาย เหตุภูเต อาสเว สาเธนฺติ. อาสเวสุ จ สิทฺเธสุ ปจฺจยภาเว ภาวโต อวิชฺชาปิ สิทฺธาว โหตีติ. เอวํ ตาเวตฺถ ‘โสกาทีหิ อวิชฺชา สิทฺธา’ โหตีติ เวทิตพฺพา.
ยสฺมา ปน เอวํ ปจฺจยภาเว ภาวโต อวิชฺชาย สิทฺธาย ปุน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เอวํ เหตุผลปรมฺปราย ¶ ปริโยสานํ นตฺถิ, ตสฺมา ตํ เหตุผลสมฺพนฺธวเสน ปวตฺตํ ทฺวาทสงฺคํ ‘ภวจกฺกํ อวิทิตาที’ติ สิทฺธํ โหติ.
เอวํ สติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อิทํ อาทิมตฺตกถนํ วิรุชฺฌตีติ เจ? นยิทํ อาทิมตฺตกถนํ, ปธานธมฺมกถนํ ปเนตํ. ติณฺณฺหิ วฏฺฏานํ อวิชฺชา ปธานา. อวิชฺชาคฺคหเณน หิ อวเสสํ กิเลสวฏฺฏฺจ กมฺมาทีนิ จ พาลํ ปลิเวเนฺติ, สปฺปสิรคฺคหเณน เสสํ สปฺปสรีรํ วิย พาหํ. อวิชฺชาสมุจฺเฉเท ปน กเต เตหิ วิโมกฺโข โหติ, สปฺปสิรจฺเฉเท กเต ปลิเวิตพาหาวิโมกฺโข วิย. ยถาห – ‘‘อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา ¶ สงฺขารนิโรโธ’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๑; มหาว. ๑). อิติ ยํ คณฺหโต พนฺโธ มฺุจโต จ โมกฺโข โหติ, ตสฺส ปธานธมฺมสฺส กถนมิทํ, น อาทิมตฺตกถนนฺติ เอวมิทํ ภวจกฺกํ อวิทิตาทีติ เวทิตพฺพํ. ตยิทํ ยสฺมา อวิชฺชาทีหิ การเณหิ สงฺขาราทีนํ ปวตฺติ, ตสฺมา ตโต อฺเน ‘‘พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา เสฏฺโ สชิตา’’ติ เอวํ ปริกปฺปิเตน พฺรหฺมาทินา วา สํสารสฺส การเกน ‘‘โส โข ปน เม อยํ อตฺตา วโท เวเทยฺโย’’ติ เอวํ ปริกปฺปิเตน อตฺตนา วา สุขทุกฺขานํ เวทเกน รหิตํ. อิติ ‘การกเวทกรหิต’นฺติ เวทิตพฺพํ.
ยสฺมา ปเนตฺถ อวิชฺชา อุทยพฺพยธมฺมกตฺตา ธุวภาเวน, สํกิลิฏฺตฺตา สํกิเลสิกตฺตา จ สุภภาเวน, อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตฺตา สุขภาเวน, ปจฺจยายตฺตวุตฺติตฺตา วสวตฺตนภูเตน อตฺตภาเวน จ สฺุา, ตถา สงฺขาราทีนิปิ องฺคานิ; ยสฺมา วา อวิชฺชา น อตฺตา, น อตฺตโน ¶ , น อตฺตนิ, น อตฺตวตี, ตถา สงฺขาราทีนิปิ องฺคานิ; ตสฺมา ‘ทฺวาทสวิธสฺุตาสฺุมิทํ’ ภวจกฺกนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอวฺจ วิทิตฺวา ปุน –
ตสฺส อวิชฺชาตณฺหา, มูลมตีตาทโย ตโย กาลา;
ทฺเว อฏฺ ทฺเว เอว จ, สรูปโต เตสุ องฺคานิ.
ตสฺส ¶ โข ปเนตสฺส ภวจกฺกสฺส อวิชฺชา ตณฺหา จาติ ทฺเว ธมฺมา มูลนฺติ เวทิตพฺพา. ตเทตํ ปุพฺพนฺตาหรณโต อวิชฺชามูลํ เวทนาวสานํ, อปรนฺตสนฺตานโต ตณฺหามูลํ ชรามรณาวสานนฺติ ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ ปุริมํ ทิฏฺิจริตวเสน วุตฺตํ, ปจฺฉิมํ ตณฺหาจริตวเสน. ทิฏฺิจริตานฺหิ อวิชฺชา, ตณฺหาจริตานํ ตณฺหา สํสารนายิกา. อุจฺเฉททิฏฺิสมุคฺฆาตาย วา ปมํ, ผลุปฺปตฺติยา เหตูนํ อนุปจฺเฉทปกาสนโต; สสฺสตทิฏฺิสมุคฺฆาตาย ทุติยํ, อุปฺปนฺนานํ ชรามรณปกาสนโต; คพฺภเสยฺยกวเสน วา ปุริมํ, อนุปุพฺพปวตฺติทีปนโต; โอปปาติกวเสน ปจฺฉิมํ สหุปฺปตฺติทีปนโต.
อตีตปจฺจุปฺปนฺนานาคตา จสฺส ตโย กาลา. เตสุ ปาฬิยํ สรูปโต อาคตวเสน อวิชฺชา สงฺขารา จาติ ทฺเว องฺคานิ อตีตกาลานิ ¶ , วิฺาณาทีนิ ภวาวสานานิ อฏฺ ปจฺจุปฺปนฺนกาลานิ, ชาติ เจว ชรามรณฺจ ทฺเว อนาคตกาลานีติ เวทิตพฺพานิ. ปุน –
เหตุผลเหตุปุพฺพก-ติสนฺธิจตุเภทสงฺคหฺเจตํ;
วีสติอาการารํ, ติวฏฺฏมนวฏฺิตํ ภมติ.
อิติปิ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ สงฺขารานฺจ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส จ อนฺตรา เอโก เหตุผลสนฺธิ นาม. เวทนาย จ ตณฺหาย จ อนฺตรา เอโก ผลเหตุสนฺธิ นาม. ภวสฺส จ ชาติยา จ อนฺตรา เอโก เหตุผลสนฺธีติ. เอวมิทํ เหตุผลเหตุปุพฺพกติสนฺธีติ เวทิตพฺพํ. สนฺธีนํ อาทิปริโยสานววตฺถิตา ปนสฺส จตฺตาโร สงฺคหา โหนฺติ, เสยฺยถิทํ – อวิชฺชาสงฺขารา เอโก ¶ สงฺคโห, วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนา ทุติโย, ตณฺหุปาทานภวา ตติโย, ชาติชรามรณํ จตุตฺโถติ. เอวมิทํ จตุเภทสงฺคหนฺติ เวทิตพฺพํ.
อตีเต เหตโว ปฺจ, อิทานิ ผลปฺจกํ;
อิทานิ เหตโว ปฺจ, อายตึ ผลปฺจกนฺติ.
เอเตหิ ปน วีสติยา อากาเรหิ อเรหิ วีสติอาการารนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ‘อตีเต เหตโว ปฺจา’ติ อวิชฺชา สงฺขารา จาติ อิเม ตาว ทฺเว วุตฺตา ¶ เอว. ยสฺมา ปน อวิทฺวา ปริตสฺสติ, ปริตสิโต อุปาทิยติ, ตสฺส อุปาทานปจฺจยา ภโว, ตสฺมา ตณฺหุปาทานภวาปิ คหิตา โหนฺติ. เตนาห ‘‘ปุริมกมฺมภวสฺมึ โมโห อวิชฺชา, อายูหนา สงฺขารา, นิกนฺติ ตณฺหา, อุปคมนํ อุปาทานํ, เจตนา ภโว, อิเม ปฺจ ธมฺมา ปุริมกมฺมภวสฺมึ อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗).
ตตฺถ ปุริมกมฺมภวสฺมินฺติ ปุริเม กมฺมภเว, อตีตชาติยํ กมฺมภเว กริยมาเนติ อตฺโถ. โมโห อวิชฺชาติ โย ตทา ทุกฺขาทีสุ โมโห, เยน มูฬฺโห กมฺมํ กโรติ, สา อวิชฺชา. อายูหนา สงฺขาราติ ตํ กมฺมํ กโรโต ปุริมเจตนาโย, ยถา ‘ทานํ ทสฺสามี’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา มาสมฺปิ สํวจฺฉรมฺปิ ทานูปกรณานิ สชฺเชนฺตสฺส อุปฺปนฺนา ปุริมเจตนาโย. ปฏิคฺคาหกานํ ปน หตฺเถ ทกฺขิณํ ปติฏฺาปยโต เจตนา ภโวติ วุจฺจติ. เอกาวชฺชเนสุ วา ฉสุ ชวเนสุ เจตนา อายูหนสงฺขารา นาม. สตฺตมา เจตนา ภโว. ยา กาจิ วา ปน เจตนา ¶ ภโว, ตํสมฺปยุตฺตา อายูหนสงฺขารา นาม. นิกนฺติ ตณฺหาติ ยา กมฺมํ กโรนฺตสฺส ตสฺส ผเล อุปฺปตฺติภเว นิกามนา ปตฺถนา สา ตณฺหา นาม. อุปคมนํ อุปาทานนฺติ ยํ กมฺมํ ภวสฺส ปจฺจยภูตํ; ‘อิทํ กตฺวา อสุกสฺมึ นาม าเน กาเม เสวิสฺสามิ อุจฺฉิชฺชิสฺสามี’ติอาทินา นเยน ปวตฺตํ อุปคมนํ คหณํ ปรามสนํ – อิทํ อุปาทานํ นาม. เจตนา ภโวติ อายูหนาวสาเน วุตฺตเจตนา ภโวติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
‘อิทานิ ผลปฺจก’นฺติ วิฺาณาทิ เวทนาวสานํ ปาฬิยํ อาคตเมว. ยถาห ‘‘อิธ ปฏิสนฺธิ วิฺาณํ, โอกฺกนฺติ นามรูปํ, ปสาโท อายตนํ, ผุฏฺโ ผสฺโส, เวทยิตํ เวทนา อิเม ปฺจ ธมฺมา อิธูปปตฺติภวสฺมึ ปุเรกตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗). ตตฺถ ¶ ปฏิสนฺธิ วิฺาณนฺติ ยํ ภวนฺตรปฏิสนฺธานวเสน อุปฺปนฺนตฺตา ปฏิสนฺธีติ วุจฺจติ, ตํ วิฺาณํ. โอกฺกนฺติ นามรูปนฺติ ยา คพฺเภ รูปารูปธมฺมานํ โอกฺกนฺติ, อาคนฺตฺวา ปวิสนํ วิย – อิทํ นามรูปํ. ปสาโท อายตนนฺติ อิทํ จกฺขาทิปฺจายตนวเสน ¶ วุตฺตํ. ผุฏฺโ ผสฺโสติ โย อารมฺมณํ ผุฏฺโ ผุสนฺโต อุปฺปนฺโน – อยํ ผสฺโส. เวทยิตํ เวทนาติ ยํ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน วา สฬายตนปจฺจเยน วา ผสฺเสน สหุปฺปนฺนํ วิปากเวทยิตํ, สา เวทนาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
‘อิทานิ เหตโว ปฺจา’ติ ตณฺหาทโย ปาฬิยํ อาคตาว ตณฺหุปาทานภวา. ภเว ปน คหิเต ตสฺส ปุพฺพภาคา ตํสมฺปยุตฺตา วา สงฺขารา คหิตาว โหนฺติ, ตณฺหุปาทานคฺคหเณน จ ตํสมฺปยุตฺตา, ยาย วา มูฬฺโห กมฺมํ กโรติ สา อวิชฺชา คหิตาว โหตีติ เอวํ ปฺจ. เตนาห ‘‘อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนานํ โมโห อวิชฺชา, อายูหนา สงฺขารา, นิกนฺติ ตณฺหา, อุปคมนํ อุปาทานํ, เจตนา ภโว. อิเม ปฺจ ธมฺมา อิธ กมฺมภวสฺมึ อายตึ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗). ตตฺถ อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนานนฺติ ปริปกฺกายตนสฺส กมฺมกรณกาเล สมฺโมโห ทสฺสิโต. เสสํ อุตฺตานเมว.
‘อายตึ ผลปฺจก’นฺติ วิฺาณาทีนิ ปฺจ. ตานิ ชาติคฺคหเณน วุตฺตานิ. ชรามรณํ ปน เตสํเยว ชรามรณํ. เตนาห ‘‘อายตึ ปฏิสนฺธิ ¶ วิฺาณํ, โอกฺกนฺติ นามรูปํ, ปสาโท อายตนํ, ผุฏฺโ ผสฺโส, เวทยิตํ เวทนา. อิเม ปฺจ ธมฺมา อายตึ อุปปตฺติภวสฺมึ อิธ กตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗). เอวมิทํ วีสติอาการารํ โหติ.
ตตฺถ ปุริมภวสฺมึ ปฺจ กมฺมสมฺภารา, เอตรหิ ปฺจ วิปากสมฺภารา, เอตรหิ ปฺจ กมฺมสมฺภารา, อนาคเต ปฺจ วิปากธมฺมาติ ทส ธมฺมา กมฺมํ, ทส วิปาโกติ. ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมํ นาม, ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปาโก นามาติ สพฺพมฺเปตํ ภวจกฺกํ ปจฺจยาการวฏฺฏํ กมฺมฺเจว กมฺมวิปาโก จ. ตถา ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมสงฺเขโป, ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปากสงฺเขโปติ สพฺพมฺเปตํ กมฺมสงฺเขโป เจว วิปากสงฺเขโป จ. ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมวฏฺฏํ, ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปากวฏฺฏนฺติ สพฺพมฺเปตํ กมฺมวฏฺฏฺเจว วิปากวฏฺฏฺจ. ตถา ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมภโว, ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปากภโวติ สพฺพมฺเปตํ ¶ กมฺมภโว เจว วิปากภโว จ. ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมปวตฺตํ ¶ , ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปากปวตฺตนฺติ สพฺพมฺเปตํ กมฺมปวตฺตฺเจว วิปากปวตฺตฺจ. ตถา ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมสนฺตติ, ทฺวีสุ วิปาโก วิปากสนฺตตีติ สพฺพมฺเปตํ กมฺมสนฺตติ เจว วิปากสนฺตติ จ. ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กิริยา นาม, ทฺวีสุ วิปาโก กิริยาผลํ นามาติ สพฺพมฺเปตํ กิริยา เจว กิริยาผลฺจาติ.
เอวํ สมุปฺปนฺนมิทํ สเหตุกํ,
ทุกฺขํ อนิจฺจํ จลมิตฺตรทฺธุวํ;
ธมฺเมหิ ธมฺมา ปภวนฺติ เหตุโส,
น เหตฺถ อตฺตาว ปโรว วิชฺชติ.
ธมฺมา ธมฺเม สฺชเนนฺติ, เหตุสมฺภารปจฺจยา;
เหตูนฺจ นิโรธาย, ธมฺโม พุทฺเธน เทสิโต;
เหตูสุ อุปรุทฺเธสุ, ฉินฺนํ วฏฺฏํ น วฏฺฏติ.
เอวํ ทุกฺขนฺตกิริยาย, พฺรหฺมจริยีธ วิชฺชติ;
สตฺเต จ นูปลพฺภนฺเต, เนวุจฺเฉโท น สสฺสตํ.
ติวฏฺฏมนวฏฺิตํ ภมตีติ เอตฺถ ปน สงฺขารภวา กมฺมวฏฺฏํ, อวิชฺชาตณฺหูปาทานานิ กิเลสวฏฺฏํ, วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนา วิปากวฏฺฏนฺติ อิเมหิ ตีหิ วฏฺเฏหิ ติวฏฺฏมิทํ ภวจกฺกํ ยาว กิเลสวฏฺฏํ น อุปจฺฉิชฺชติ ¶ ตาว อนุปจฺฉินฺนปจฺจยตฺตา อนวฏฺิตํ ปุนปฺปุนํ ปริวฏฺฏนโต ภมติเยวาติ เวทิตพฺพํ.
ตยิทเมวํ ภมมานํ –
สจฺจปฺปภวโต กิจฺจา, วารณา อุปมาหิ จ;
คมฺภีรนยเภทา จ, วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ตตฺถ ¶ ยสฺมา กุสลากุสลกมฺมํ อวิเสเสน สมุทยสจฺจนฺติ สจฺจวิภงฺเค วุตฺตํ, ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ อวิชฺชาย สงฺขารา ทุติยสจฺจปฺปภวํ ทุติยสจฺจํ, สงฺขาเรหิ วิฺาณํ ทุติยสจฺจปฺปภวํ ปมสจฺจํ, วิฺาณาทีหิ นามรูปาทีนิ วิปากเวทนาปริโยสานานิ ปมสจฺจปฺปภวํ ปมสจฺจํ, เวทนาย ตณฺหา ปมสจฺจปฺปภวํ ทุติยสจฺจํ, ตณฺหาย อุปาทานํ ทุติยสจฺจปฺปภวํ ทุติยสจฺจํ, อุปาทานโต ภโว ทุติยสจฺจปฺปภวํ ปมทุติยสจฺจทฺวยํ, ภวโต ชาติ ¶ ทุติยสจฺจปฺปภวํ ปมสจฺจํ, ชาติยา ชรามรณํ ปมสจฺจปฺปภวํ ปมสจฺจนฺติ. เอวํ ตาวิทํ ‘สจฺจปฺปภวโต’ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ยสฺมา ปเนตฺถ อวิชฺชา วตฺถูสุ จ สตฺเต สมฺโมเหติ ปจฺจโย จ โหติ สงฺขารานํ ปาตุภาวาย, ตถา สงฺขารา สงฺขตฺจ อภิสงฺขโรนฺติ ปจฺจยา จ โหนฺติ วิฺาณสฺส, วิฺาณมฺปิ วตฺถฺุจ ปฏิชานาติ ปจฺจโย จ โหติ นามรูปสฺส, นามรูปมฺปิ อฺมฺฺจ อุปตฺถมฺเภติ ปจฺจโย จ โหติ สฬายตนสฺส, สฬายตนมฺปิ สวิสเย จ วตฺตติ ปจฺจโย จ โหติ ผสฺสสฺส, ผสฺโสปิ อารมฺมณฺจ ผุสติ ปจฺจโย จ โหติ เวทนาย, เวทนาปิ อารมฺมณรสฺจ อนุภวติ ปจฺจโย จ โหติ ตณฺหาย, ตณฺหาปิ รชฺชนีเย จ ธมฺเม รชฺชติ ปจฺจโย จ โหติ อุปาทานสฺส, อุปาทานมฺปิ อุปาทานีเย จ ธมฺเม อุปาทิยติ ปจฺจโย จ โหติ ภวสฺส, ภโวปิ นานาคตีสุ จ วิกฺขิปติ ปจฺจโย จ โหติ ชาติยา, ชาติปิ ขนฺเธ จ ชเนติ เตสํ อภินิพฺพตฺติภาเวน ปวตฺตตา ปจฺจโย จ โหติ ชรามรณสฺส, ชรามรณมฺปิ ขนฺธานํ ปากเภทภาวฺจ อธิติฏฺติ ปจฺจโย จ โหติ ภวนฺตรปาตุภาวาย โสกาทีนํ อธิฏฺานตฺตา, ตสฺมา สพฺพปเทสุ ทฺวิธา ปวตฺต‘กิจฺจโต’ปิ อิทํ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ยสฺมา ¶ เจตฺถ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อิทํ การกทสฺสนนิวารณํ, ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ อตฺตสงฺกนฺติทสฺสนนิวารณํ, ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ อตฺตาติปริกปฺปิตวตฺถุเภททสฺสนโต ฆนสฺานิวารณํ, ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติอาทีสุ ‘‘อตฺตา ปสฺสติ…เป… วิชานาติ ผุสติ เวทยติ ตณฺหิยติ อุปาทิยติ ภวติ ชายติ ชียติ มียตี’’ติ เอวมาทิทสฺสนนิวารณํ, ตสฺมา มิจฺฉาทสฺสนนิวารณโตเปตํ ภวจกฺกํ ‘นิวารณโต’ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ยสฺมา ปเนตฺถ สลกฺขณสามฺลกฺขณวเสน ธมฺมานํ อทสฺสนโต อนฺโธ วิย อวิชฺชา ¶ , อนฺธสฺส อุปกฺขลนํ วิย อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, อุปกฺขลิตสฺส ปตนํ ¶ วิย สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, ปติตสฺส คณฺฑปาตุภาโว วิย วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, คณฺฑเภทปีฬกา วิย นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, คณฺฑปีฬกาฆฏฺฏนํ วิย สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ฆฏฺฏนทุกฺขํ วิย ผสฺสปจฺจยา เวทนา, ทุกฺขสฺส ปฏิการาภิลาโส วิย เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ปฏิการาภิลาเสน อสปฺปายคฺคหณํ วิย ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทินฺนอสปฺปายาเลปนํ วิย อุปาทานปจฺจยา ภโว, อสปฺปายาเลปเนน คณฺฑวิการปาตุภาโว วิย ภวปจฺจยา ชาติ, คณฺฑวิการโต คณฺฑเภโท วิย ชาติปจฺจยา ชรามรณํ.
ยสฺมา วา ปเนตฺถ อวิชฺชา อปฺปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺติภาเวน สตฺเต อภิภวติ ปฏลํ วิย อกฺขีนิ, ตทภิภูโต จ พาโล โปโนพฺภวิเกหิ สงฺขาเรหิ อตฺตานํ เวเติ โกสการกิมิ วิย โกสปฺปเทเสหิ, สงฺขารปริคฺคหิตํ วิฺาณํ คตีสุ ปติฏฺํ ลภติ ปริณายกปริคฺคหิโต วิย ราชกุมาโร รชฺเช, อุปปตฺตินิมิตฺตํ ปริกปฺปนโต วิฺาณํ ปฏิสนฺธิยํ อเนกปฺปการํ นามรูปํ อภินิพฺพตฺเตติ มายากาโร วิย มายํ, นามรูเป ปติฏฺิตํ สฬายตนํ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ ปาปุณาติ สุภูมิยํ ปติฏฺิโต วนปฺปคุมฺโพ วิย, อายตนฆฏฺฏนโต ผสฺโส ชายติ อรณีสหิตาภิมทฺทนโต อคฺคิ วิย, ผสฺเสน ผุฏฺสฺส เวทนา ปาตุภวติ อคฺคินา ผุฏฺสฺส ฑาโห วิย, เวทยมานสฺส ตณฺหา วฑฺฒติ โลณูทกํ ปิวโต ปิปาสา วิย, ตสิโต ภเวสุ อภิลาสํ กโรติ ปิปาสิโต วิย ปานีเย, ตทสฺสุปาทานํ อุปาทาเนน ภวํ อุปาทิยติ อามิสโลเภน มจฺโฉ พฬิสํ วิย, ภเว สติ ชาติ โหติ พีเช สติ องฺกุโร วิย, ชาตสฺส อวสฺสํ ชรามรณํ อุปฺปนฺนสฺส ¶ รุกฺขสฺส ปตนํ วิย, ตสฺมา เอวํ ‘อุปมาหิ’ เปตํ ภวจกฺกํ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ยสฺมา จ ภควตา อตฺถโตปิ ธมฺมโตปิ เทสนาโตปิ ปฏิเวธโตปิ คมฺภีรภาวํ สนฺธาย ‘‘คมฺภีโร จายํ, อานนฺท, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท คมฺภีราวภาโส จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๙๕; สํ. นิ. ๒.๖๐) วุตฺตํ, ตสฺมา ¶ ‘คมฺภีรเภทโต’เปตํ ภวจกฺกํ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ตตฺถ ยสฺมา น ชาติโต ชรามรณํ น โหติ, น จ ชาตึ วินา อฺโต โหติ, อิตฺถฺจ ชาติโต สมุทาคจฺฉตีติ เอวํ ชาติปจฺจยสมุทาคตฏฺสฺส ทุรวโพธนียโต ชรามรณสฺส ชาติปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ คมฺภีโร, ตถา ชาติยา ภวปจฺจย…เป… สงฺขารานํ ¶ อวิชฺชาปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ คมฺภีโร, ตสฺมา อิทํ ภวจกฺกํ อตฺถคมฺภีรนฺติ. อยํ ตาเวตฺถ ‘อตฺถคมฺภีรตา’ เหตุผลฺหิ อตฺโถติ วุจฺจติ, ยถาห ‘‘เหตุผเล าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๒๐).
ยสฺมา ปน เยนากาเรน ยทวตฺถา จ อวิชฺชา เตสํ เตสํ สงฺขารานํ ปจฺจโย โหติ, ตสฺส ทุรวโพธนียโต อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยฏฺโ คมฺภีโร, ตถา สงฺขารานํ…เป… ชาติยา ชรามรณสฺส ปจฺจยฏฺโ คมฺภีโร, ตสฺมา อิทํ ภวจกฺกํ ธมฺมคมฺภีรนฺติ อยเมตฺถ ‘ธมฺมคมฺภีรตา’ เหตุโน หิ ธมฺโมติ นามํ, ยถาห ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ.
ยสฺมา จสฺส เตน เตน การเณน ตถา ตถา ปวตฺเตตพฺพตฺตา เทสนาปิ คมฺภีรา, น ตตฺถ สพฺพฺุตาณโต อฺํ าณํ ปติฏฺํ ลภติ, ตถา เหตํ กตฺถจิ สุตฺเต อนุโลมโต, กตฺถจิ ปฏิโลมโต; กตฺถจิ อนุโลมปฏิโลมโต, กตฺถจิ เวมชฺฌโต ปฏฺาย อนุโลมโต วา ปฏิโลมโต วา, กตฺถจิ ติสนฺธิจตุสงฺเขปํ, กตฺถจิ ทฺวิสนฺธิติสงฺเขปํ, กตฺถจิ เอกสนฺธิทฺวิสงฺเขปํ เทสิตํ, ตสฺมา อิทํ ภวจกฺกํ เทสนาคมฺภีรนฺติ อยํ เทสนาคมฺภีรตา.
ยสฺมา ปเนตฺถ โย อวิชฺชาทีนํ สภาโว, เยน ปฏิวิทฺเธน อวิชฺชาทโย ธมฺมา สลกฺขณโต ปฏิวิทฺธา โหนฺติ, โส ทุปฺปริโยคาหตฺตา คมฺภีโร, ตสฺมา อิทํ ภวจกฺกํ ปฏิเวธคมฺภีรํ. ตถา เหตฺถ อวิชฺชาย อฺาณาทสฺสนสจฺจาสมฺปฏิเวธฏฺโ ¶ คมฺภีโร, สงฺขารานํ อภิสงฺขรณายูหนสราควิราคฏฺโ, วิฺาณสฺส สฺุตอพฺยาปารอสงฺกนฺติปฏิสนฺธิปาตุภาวฏฺโ ¶ , นามรูปสฺส เอกุปฺปาทวินิพฺโภคาวินิพฺโภคนมนรุปฺปนฏฺโ, สฬายตนสฺส อธิปติโลกทฺวารเขตฺตวิสยวิสยีภาวฏฺโ, ผสฺสสฺส ผุสนสงฺฆฏฺฏนสงฺคติสนฺนิปาตฏฺโ, เวทนาย อารมฺมณรสานุภวนสุขทุกฺขมชฺฌตฺตภาวนิชฺชีวเวทยิตฏฺโ, ตณฺหาย อภินนฺทิตชฺโฌสานสริตาลตานทีตณฺหาสมุทฺททุปฺปูรณฏฺโ, อุปาทานสฺส อาทานคฺคหณาภินิเวสปรามาสทุรติกฺกมนฏฺโ, ภวสฺส อายูหนาภิสงฺขรณโยนิคติิตินิวาเสสุ ขิปนฏฺโ, ชาติยา ชาติสฺชาติโอกฺกนฺตินิพฺพตฺติปาตุภาวฏฺโ, ชรามรณสฺส ขยวยเภทวิปริณามฏฺโ คมฺภีโรติ อยเมตฺถ ปฏิเวธคมฺภีรตา.
ยสฺมา ปเนตฺถ เอกตฺตนโย, นานตฺตนโย, อพฺยาปารนโย, เอวํธมฺมตานโยติ จตฺตาโร อตฺถนยา โหนฺติ ¶ , ตสฺมา ‘นยเภทโต’เปตํ ภวจกฺกํ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ. ตตฺถ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เอวํ พีชสฺส องฺกุราทิภาเวน รุกฺขภาวปฺปตฺติ วิย สนฺตานานุปจฺเฉโท ‘เอกตฺตนโย’ นาม; ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต เหตุผลสมฺพนฺเธน ปวตฺตมานสฺส สนฺตานสฺส อนุปจฺเฉทาวโพธโต อุจฺเฉททิฏฺึ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต เหตุผลสมฺพนฺเธน ปวตฺตมานสฺส สนฺตานานุปจฺเฉทสฺส เอกตฺตคฺคหณโต สสฺสตทิฏฺึ อุปาทิยติ.
อวิชฺชาทีนํ ปน ยถาสกลกฺขณววตฺถานํ ‘นานตฺตนโย’ นาม; ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต นวนวานํ อุปฺปาททสฺสนโต สสฺสตทิฏฺึ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต เอกสนฺตานปติตสฺส ภินฺนสนฺตานสฺเสว นานตฺตคฺคหณโต อุจฺเฉททิฏฺึ อุปาทิยติ.
อวิชฺชาย ‘สงฺขารา มยา อุปฺปาเทตพฺพา’, สงฺขารานํ วา ‘วิฺาณํ อมฺเหหี’ติ เอวมาทิพฺยาปาราภาโว ‘อพฺยาปารนโย’ นาม; ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต การกสฺส อภาวาวโพธโต อตฺตทิฏฺึ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต โย อสติปิ พฺยาปาเร อวิชฺชาทีนํ สภาวนิยมสิทฺโธ เหตุภาโว ตสฺส อคฺคหณโต อกิริยทิฏฺึ อุปาทิยติ.
อวิชฺชาทีหิ ปน การเณหิ สงฺขาราทีนํเยว สมฺภโว ขีราทีหิ ¶ ทธิอาทีนํ วิย, น อฺเสนฺติ อยํ ‘เอวํธมฺมตานโย’ นาม; ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต ¶ ปจฺจยานุรูปโต ผลาวโพธโต อเหตุกทิฏฺิฺจ อกิริยทิฏฺิฺจ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต ปจฺจยานุรูปํ ผลปฺปวตฺตึ อคฺคเหตฺวา ยโต กุโตจิ ยสฺส กสฺสจิ อสมฺภวคฺคหณโต อเหตุกทิฏฺิฺเจว นิยตวาทฺจ อุปาทิยตีติ เอวมิทํ ภวจกฺกํ –
สจฺจปฺปภวโต กิจฺจา, วารณา อุปมาหิ จ;
คมฺภีรนยเภทา จ, วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
อิทฺหิ คมฺภีรโต อคาธํ นานานยคฺคหณโต ทุรภิยานํ าณาสินา สมาธิปวรสิลายํ สุนิสิเตน –
ภวจกฺกมปทาเลตฺวา ¶ ,
อสนิวิจกฺกมิว นิจฺจนิมฺมถนํ;
สํสารภยมตีโต,
น โกจิ สุปินนฺตเรปฺยตฺถิ.
วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา – ‘‘คมฺภีโร จายํ, อานนฺท, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท คมฺภีราวภาโส จ. เอตสฺส, อานนฺท, ธมฺมสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมยํ ปชา ตนฺตากุลกชาตา กุลคณฺิกชาตา มฺุชปพฺพชภูตา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ สํสารํ นาติวตฺตตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๙๕; สํ. นิ. ๒.๖๐). ตสฺมา อตฺตโน วา ปเรสํ วา หิตาย สุขาย ปฏิปนฺโน อวเสสกิจฺจานิ ปหาย –
คมฺภีเร ปจฺจยาการ-ปฺปเภเท อิธ ปณฺฑิโต;
ยถา คาธํ ลเภเถว-มนุยฺุเช สทา สโตติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๔๓. เอวํ มหาปถวึ ปตฺถรนฺโต วิย อากาสํ วิตฺถารยนฺโต วิย จ สพฺพธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาโณ สตฺถา สุตฺตนฺตภาชนีเย นิคฺคณฺึ นิชฺชฏํ ปจฺจยาการํ นานาจิตฺตวเสน ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา น เกวลํ อยํ ปจฺจยากาโร นานาจิตฺเตสุเยว ¶ โหติ, เอกจิตฺเตปิ โหติเยว, ตสฺมา อภิธมฺมภาชนียวเสน เอกจิตฺตกฺขณิกํ ปจฺจยาการํ นานปฺปการโต ¶ ทสฺเสตุํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโรติอาทินา นเยน มาติกํ ตาว เปสิ. เอวํ ปิตาย ปน มาติกาย –
อวิชฺชาทีหิ ¶ มูเลหิ, นว มูลปทา นว;
นยา ตตฺถ จตุกฺกานิ, วารเภทฺจ ทีปเย.
ตตฺรายํ ทีปนา – เอตฺถ หิ อวิชฺชาสงฺขารวิฺาณนามฉฏฺายตนผสฺสเวทนาตณฺหาอุปาทานปฺปเภเทหิ อวิชฺชาทีหิ นวหิ มูลปเทหิ อวิชฺชาทิโก, สงฺขาราทิโก, วิฺาณาทิโก, นามาทิโก, ฉฏฺายตนาทิโก, ผสฺสาทิโก, เวทนาทิโก, ตณฺหาทิโก, อุปาทานาทิโกติ อิเม นว มูลปทา นว นยา โหนฺติ.
เตสุ โย ตาว อยํ อวิชฺชาทิโก นโย, ตตฺถ ปจฺจยจตุกฺกํ, เหตุจตุกฺกํ, สมฺปยุตฺตจตุกฺกํ, อฺมฺจตุกฺกนฺติ จตฺตาริ จตุกฺกานิ โหนฺติ. ยถา เจตฺถ เอวํ เสเสสุปีติ เอเกกสฺมึ นเย จตุนฺนํ จตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน ฉตฺตึส จตุกฺกานิ. ตตฺถ เอเกเกน จตุกฺเกน จตุนฺนํ จตุนฺนํ วารานํ สงฺคหิตตฺตา จตุนฺนมฺปิ จตุกฺกานํ วเสน เอเกกสฺมึ นเย โสฬส โสฬส วาราติ จตุจตฺตาลีสาธิกํ วารสตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
๑. ปจฺจยจตุกฺกํ
ตตฺถ ยเทตํ สพฺพปเม อวิชฺชามูลเก นเย ปจฺจยจตุกฺกํ, ตสฺมึ ปโม นามรูปฏฺาเน นามสฺส, สฬายตนฏฺาเน ฉฏฺายตนสฺส จ วุตฺตตฺตา อปริปุณฺณองฺคทฺวยยุตฺโต ทฺวาทสงฺคิกวาโร นาม. ทุติโย นามรูปฏฺาเน นามสฺเสว, สฬายตนฏฺาเน จ น กสฺสจิ วุตฺตตฺตา อปริปุณฺณเอกงฺคยุตฺโต เอกาทสงฺคิกวาโร นาม. ตติโย สฬายตนฏฺาเน ฉฏฺายตนสฺส วุตฺตตฺตา ปริปุณฺณเอกงฺคยุตฺโต ทฺวาทสงฺคิกวาโร นาม. จตุตฺโถ ปน ปริปุณฺณทฺวาทสงฺคิโกเยว.
ตตฺถ สิยา – อยมฺปิ ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโสติ วุตฺตตฺตา อปริปุณฺเณกงฺคยุตฺโตเยวาติ? น, ตสฺส อนงฺคตฺตา. ผสฺโสเยว เหตฺถ องฺคํ, น ฉฏฺายตนํ. ตสฺมา ตสฺส อนงฺคตฺตา นายํ อปริปุณฺเณกงฺคยุตฺโตติ. อฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ‘‘ปโม สพฺพสงฺคาหิกฏฺเน ¶ , ทุติโย ปจฺจยวิเสสฏฺเน, ตติโย คพฺภเสยฺยกสตฺตานํ วเสน, จตุตฺโถ โอปปาติกสตฺตานํ ¶ วเสน คหิโต. ตถา ปโม สพฺพสงฺคาหิกฏฺเน, ทุติโย ปจฺจยวิเสสฏฺเน, ตติโย อปริปุณฺณายตนวเสน, จตุตฺโถ ปริปุณฺณายตนวเสน คหิโต. ตถา ปโม สพฺพสงฺคาหิกฏฺเน, ทุติโย ¶ มหานิทานสุตฺตนฺตวเสน (ที. นิ. ๒.๙๕ อาทโย), ตติโย รูปภววเสน, จตุตฺโถ กามภววเสน คหิโต’’ติ.
ตตฺถ ปโม อิเมสุ ทุติยาทีสุ ตีสุ วาเรสุ น กตฺถจิ น ปวิสตีติ สพฺพสงฺคาหิโกติ วุตฺโต. เสสานํ วิเสโส ปรโต อาวิภวิสฺสติ. ตสฺสาวิภาวตฺถํ –
ยํ ยตฺถ อฺถา วุตฺตํ, อวุตฺตฺจาปิ ยํ ยหึ;
ยํ ยถา ปจฺจโย ยสฺส, ตํ สพฺพมุปลกฺขเย.
ตตฺรายํ นโย – อวิเสเสน ตาว จตูสุปิ เอเตสุ สุตฺตนฺตภาชนิเย วิย สงฺขาราติ อวตฺวา สงฺขาโรติ วุตฺตํ, ตํ กสฺมาติ? เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา. ตตฺร หิ นานาจิตฺตกฺขณิโก ปจฺจยากาโร วิภตฺโต. อิธ เอกจิตฺตกฺขณิโก อารทฺโธ. เอกจิตฺตกฺขเณ จ พหู เจตนา น สนฺตีติ สงฺขาราติ อวตฺวา สงฺขาโรติ วุตฺตํ.
ปมวาเร ปเนตฺถ เอกจิตฺตกฺขณปริยาปนฺนธมฺมสงฺคหณโต สพฺพฏฺานสาธารณโต จ รูปํ ฉฑฺเฑตฺวา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นาม’’นฺตฺเวว วุตฺตํ. ตฺหิ เอกจิตฺตกฺขณปริยาปนฺนํ สพฺพฏฺานสาธารณฺจ, น กตฺถจิ วิฺาณปฺปวตฺติฏฺาเน น ปวตฺตติ. ยสฺมา จ เอกจิตฺตกฺขณปริยาปนฺโน เอโกเวตฺถ ผสฺโส, ตสฺมา ตสฺสานุรูปํ ปจฺจยภูตํ อายตนํ คณฺหนฺโต สฬายตนฏฺาเน ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตน’’นฺติ เอกํ มนายตนํเยว อาห. ตฺหิ เอกสฺส อกุสลผสฺสสฺส อนุรูปํ ปจฺจยภูตํ. กามฺเจตํ สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติ เอตฺถาปิ วุตฺตํ, เหตุผลวิเสสทสฺสนตฺถํ ปน องฺคปุณฺณตฺถฺจ ปุน อิธ คหิตํ. ตตฺร หิ เอตสฺส วิเสเสน สงฺขาโร เหตุ, อวิเสเสน นามํ ผลํ. อิธ ปนสฺส อวิเสเสน นามํ เหตุ, วิเสเสน ผสฺโส ผลนฺติ. โสกาทโย ปน ยสฺมา สพฺเพ เอกจิตฺตกฺขเณ น สมฺภวนฺติ, สพฺพสฺมิฺจ จิตฺตปฺปวตฺติฏฺาเน เจว จิตฺเต จ น ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา น คหิตา. ชาติชรามรณานิ ¶ ปน อจิตฺตกฺขณมตฺตานิปิ สมานานิ จิตฺตกฺขเณ อนฺโตคธตฺตา องฺคปริปูรณตฺถํ ¶ คหิตานิ. เอวํ ตาเวตฺถ ‘ยํ อฺถา วุตฺตํ. ยฺจ อวุตฺตํ’ ตํ เวทิตพฺพํ.
ยํ ¶ ปเนตฺถ อิโต ปเรสุ วาเรสุ วุตฺตํ, ตสฺสตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยสฺมึ ยสฺมึ ปน วาเร โย โย วิเสโส อาคโต, ตํ ตํ ตตฺถ ตตฺเถว ปกาสยิสฺสาม.
‘ยํ ยถา ปจฺจโย ยสฺสา’ติ เอตฺถ ปน สงฺขารสฺส อวิชฺชา สมฺปยุตฺตธมฺมสาธารเณหิ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ฉหิ เหตุปจฺจเยน จาติ สตฺตธา ปจฺจโย. ตตฺถ ยสฺมา ปรโต เหตุจตุกฺกาทีนิ ตีณิ จตุกฺกานิ อวิคตสมฺปยุตฺตอฺมฺปจฺจยวเสน วุตฺตานิ, ตสฺมา อิธ ตานิ อปเนตฺวา อวเสสานํ วเสน อวิชฺชา สงฺขารสฺส จตุธา ปจฺจโยติ เวทิตพฺโพ.
สงฺขาโร วิฺาณสฺส สาธารเณหิ ฉหิ, กมฺมาหารปจฺจเยหิ จาติ อฏฺธา ปจฺจโย. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา ปฺจธา. วิฺาณํ นามสฺส สาธารเณหิ ฉหิ, อินฺทฺริยาหาราธิปตีหิ จาติ นวธา. อิธ ปน ตโย อปเนตฺวา ฉธา. นามํ ฉฏฺายตนสฺส สาธารเณหิ ฉหิ. กิฺจิ ปเนตฺถ อธิปติปจฺจเยน, กิฺจิ อาหารปจฺจยาทีหีติ อเนกธา. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา ติธา จตุธา ปฺจธา วา. ฉฏฺายตนํ ผสฺสสฺส ยถา วิฺาณํ นามสฺส. เอวํ ผสฺโส เวทนาย สาธารเณหิ ฉหิ อาหารปจฺจเยน จาติ สตฺตธา. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา จตุธา. เวทนา ตณฺหาย สาธารเณหิ ฉหิ ฌานินฺทฺริยปจฺจเยหิ จาติ อฏฺธา. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา ปฺจธา. ตณฺหา อุปาทานสฺส, ยถา อวิชฺชา สงฺขารสฺส. เอวํ อุปาทานํ ภวสฺส สาธารเณหิ ฉหิ มคฺคปจฺจเยน จาติ สตฺตธา. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา จตุธา. ภโว ชาติยา, ยสฺมา ชาตีติ อิธ สงฺขตลกฺขณํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา ปริยาเยน อุปนิสฺสยปจฺจเยเนว ปจฺจโย. ตถา ชาติ ชรามรณสฺสาติ.
เย ปน เอวํ วทนฺติ – ‘‘อิมสฺมึ จตุกฺเก สพฺเพสมฺปิ สงฺขาราทีนํ อวิชฺชาทโย สหชาตปจฺจเยน ปจฺจยา โหนฺติ. สหชาตปจฺจยวเสเนว หิ ปมวาโร อารทฺโธ’’ติ, เต ภวาทีนํ ตถา อภาวํ เสสปจฺจยานฺจ สมฺภวํ ¶ ทสฺเสตฺวา ปฏิกฺขิปิตพฺพา. น หิ ภโว ชาติยา สหชาตปจฺจโย ¶ โหติ, น ชาติ ชรามรณสฺส. เย เจเตสํ สงฺขราทีนํ อวเสสา ปจฺจยา วุตฺตา, เตปิ สมฺภวนฺติเยว. ตสฺมา น สกฺกา ฉฑฺเฑตุนฺติ. เอวํ ตาว ปมวาเร ยํ ยตฺถ อฺถา วุตฺตํ, อวุตฺตฺจาปิ ยํ ยหึ, ยฺจ ยถา ยสฺส ปจฺจโย โหติ, ตํ เวทิตพฺพํ. ทุติยวาราทีสุปิ เอเสว นโย.
อยํ ¶ ปน วิเสโส – ทุติยวาเร ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วตฺวา สฬายตนฏฺาเน น กิฺจิ วุตฺตํ, ตํ กิมตฺถนฺติ? ปจฺจยวิเสสทสฺสนตฺถฺเจว มหานิทานเทสนาสงฺคหตฺถฺจ. ผสฺสสฺส หิ น เกวลฺจ ฉฏฺายตนเมว ปจฺจโย, เวทนากฺขนฺธาทโย ปน ตโย ขนฺธาปิ ปจฺจยาเยว. มหานิทานสุตฺตนฺเต จสฺส ‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา ผสฺโสติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. กึ ปจฺจยา ผสฺโสติ? อิติ เจ วเทยฺย, นามปจฺจยา ผสฺโสติ อิจฺจสฺส วจนีย’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๙๖). เอวํ สฬายตนํ ฉฑฺเฑตฺวา เอกาทสงฺคิโก ปฏิจฺจสมุปฺปาโท วุตฺโต. ตสฺมา อิมสฺส ปจฺจยวิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ อิมิสฺสา จ มหานิทานสุตฺตนฺตเทสนาย ปริคฺคหตฺถํ ทุติยวาเร ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วตฺวา สฬายตนฏฺาเน น กิฺจิ วุตฺตนฺติ. เอส ตาว ทุติยวาเร วิเสโส.
ตติยวาเร ปน ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ สุตฺตนฺตภาชนีเย อาคตเมว จตุตฺถมงฺคํ วุตฺตํ, ตํ เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา ปจฺจยาการสฺส อิธ อยุตฺตนฺติ เจ? ตํ นายุตฺตํ. กสฺมา? สกกฺขเณ ปจฺจยภาวโต. สเจปิ หิ ตตฺถ รูปํ จิตฺตกฺขณโต อุทฺธํ ติฏฺติ, ตถาปิสฺส ตํ วิฺาณํ สกกฺขเณ ปจฺจโย โหติ. กถํ? ปุเรชาตสฺส ตาว จิตฺตสมุฏฺานสฺส อฺสฺส วา ปจฺฉาชาตปจฺจเยน. วุตฺตฺเจตํ ‘‘ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๑). สหชาตสฺส ปน จิตฺตสมุฏฺานสฺส นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย. ยถาห ‘‘จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๘).
ยทิ ¶ เอวํ, ปุริมวาเรสุ กสฺมา เอวํ น วุตฺตนฺติ ¶ ? รูปปฺปวตฺติเทสํ สนฺธาย เทสิตตฺตา. อยฺหิ ปจฺจยากาโร รูปปฺปวตฺติเทเส กามภเว คพฺภเสยฺยกานฺเจว อปริปุณฺณายตนโอปปาติกานฺจ รูปาวจรเทวานฺจ วเสน เทสิโต. เตเนเวตฺถ ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ อวตฺวา ฉฏฺายตนนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ นามํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. รูปํ ปน หทยรูปํ เวทิตพฺพํ. ตํ ปเนตสฺส ฉฏฺายตนสฺส นิสฺสยปจฺจเยน เจว ปุเรชาตปจฺจเยน จาติ ทฺวิธา ปจฺจโย โหตีติ เอส ตติยวาเร วิเสโส.
จตุตฺถวาโร ปน โยนิวเสน โอปปาติกานํ, อายตนวเสน ปริปุณฺณายตนานํ, ภววเสน กามาวจรสตฺตานํ วเสน วุตฺโต. เตเนเวตฺถ ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ นามํ ฉฏฺายตนสฺส ¶ สหชาตาทีหิ, จกฺขายตนาทีนํ ปจฺฉาชาตปจฺจเยน. รูเป หทยรูปํ ฉฏฺายตนสฺส นิสฺสยปจฺจยปุเรชาตปจฺจเยหิ, จตฺตาริ มหาภูตานิ จกฺขายตนาทีนํ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคเตหิ. ยสฺมา ปเนส เอกจิตฺตกฺขณิโก ปจฺจยากาโร, ตสฺมา เอตฺถ สฬายตนปจฺจยาติ อวตฺวา ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วุตฺโตติ อยํ จตุตฺถวาเร วิเสโส.
เอวเมเตสํ นานากรณํ ตฺวา ปุน สพฺเพสฺเวว เตสุ วิเสเสน ปมกา ทฺเว วารา อรูปภเว ปจฺจยาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อรูปภวสฺมิฺหิ รูเปน อสมฺมิสฺสานิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ ปวตฺตนฺติ. ตติโย รูปภเว ปจฺจยาการทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. รูปภวสฺมิฺหิ สติปิ รูปสมฺมิสฺสตฺเต สฬายตนํ น ปวตฺตติ. จตุตฺโถ กามภเว ปจฺจยาการทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. กามภวสฺมิฺหิ สกลํ สฬายตนํ ปวตฺตติ. ตติโย วา รูปภเว เจว กามภเว จ อปริปุณฺณายตนานํ อกุสลปฺปวตฺติกฺขณํ สนฺธาย วุตฺโต. จตุตฺโถ วา กามภเว ปริปุณฺณายตนานํ. ปโม วา สพฺพตฺถคามิตํ สนฺธาย วุตฺโต. โส หิ น กตฺถจิ จิตฺตปฺปวตฺติเทเส น ปวตฺตติ. ทุติโย ปจฺจยวิเสสํ สนฺธาย วุตฺโต. เอกาทสงฺคิกตฺตฺเหตฺถ ผสฺสสฺส จ นามปจฺจยตฺตํ ปจฺจยวิเสโส. ตติโย ปุริมโยนิทฺวยํ สนฺธาย วุตฺโต. ปุริมาสุ หิ ทฺวีสุ โยนีสุ ¶ โส สมฺภวติ, ตตฺถ สทา สฬายตนสฺส อสมฺภวโต. จตุตฺโถ ปจฺฉิมโยนิทฺวยํ สนฺธาย วุตฺโต. ปจฺฉิมาสุ หิ โส ทฺวีสุ โยนีสุ สมฺภวติ, ตตฺถ สทา สฬายตนสฺส สมฺภวโตติ.
เอตฺตาวตา ¶ จ ยํ วุตฺตํ จตูสุปิ วาเรสุ –
ยํ ยตฺถ อฺถา วุตฺตํ, อวุตฺตฺจาปิ ยํ ยหึ;
ยํ ยถา ปจฺจโย ยสฺส, ตํ สพฺพมุปลกฺขเยติ.
คาถาย อตฺถทีปนา กตา โหติ.
เอเตเนวานุสาเรน, สพฺพเมตํ นยํ อิโต;
วิเสโส โย จ ตํ ชฺา, จตุกฺเกสุ ปเรสุปิ.
๒. เหตุจตุกฺกํ
๒๔๔. ตตฺถ ¶ โย ตาว อิธ วุตฺโต นโย, โส สพฺพตฺถ ปากโฏเยว. วิเสโส ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – เหตุจตุกฺเก ตาว อวิชฺชา เหตุ อสฺสาติ อวิชฺชาเหตุโก. อวิชฺชา อสฺส สหวตฺตนโต ยาวภงฺคา ปวตฺติกา คมิกาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา’’ติ จ เอตฺตาวตา สหชาตาทิปจฺจยวเสน สาธารณโต สงฺขารสฺส อวิชฺชา ปจฺจโยติ ทสฺเสตฺวา, ปุน ‘‘อวิชฺชาเหตุโก’’ติ เอเตเนว วิเสสโต อวิคตปจฺจยตา ทสฺสิตา. สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ สงฺขารเหตุกนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
กสฺมา ปน ภวาทีสุ เหตุกคฺคหณํ น กตนฺติ? อวิคตปจฺจยนิยมาภาวโต อภาวโต จ อวิคตปจฺจยสฺส. ‘‘ตตฺถ กตโม อุปาทานปจฺจยา ภโว? เปตฺวา อุปาทานํ เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ – อยํ วุจฺจติ อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ วจนโต อุปาทานปจฺจยา จตุนฺนํ ขนฺธานํ อิธ ภโวติ นามํ. สงฺขารกฺขนฺเธ จ ‘‘ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติอาทิวจนโต (ธาตุ. ๗๑) ชาติชรามรณานิ อนฺโตคธานิ.
ตตฺถ ยาว อุปาทานํ ตาว ชาติชรามรณานํ อนุปลพฺภนโต อุปาทานํ ภวสฺส น นิยมโต อวิคตปจฺจโย โหติ. ‘‘ยา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ชาตี’’ติ อาทิวจนโต สงฺขตลกฺขเณสุ ชาติยา ชรามรณสงฺขาตสฺส ภวสฺส ชาติกฺขณมตฺเตเยว อภาวโต อวิคตปจฺจยภาโว น สมฺภวติ. ตถา ชาติยา ชรามรณกฺขเณ อภาวโต ¶ . อุปนิสฺสยปจฺจเยเนว ปน ภโว ชาติยา. ชาติ ชรามรณสฺส ปจฺจโยติ สพฺพถาปิ อวิคตปจฺจยนิยมาภาวโต อภาวโต จ อวิคตปจฺจยสฺส ภวาทีสุ เหตุกคฺคหณํ น กตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เกจิ ¶ ปนาหุ – ‘‘ภโว ทุวิเธนา’’ติ วจนโต อุปปตฺติมิสฺสโก ภโว, น จ อุปปตฺติภวสฺส อุปาทานํ อวิคตปจฺจโย โหตีติ ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว อุปาทานเหตุโก’’ติ อวตฺวา ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ วุตฺโต. อิธ ปจฺฉินฺนตฺตา ปรโตปิ น วุตฺตนฺติ. ตํ อิธ อุปปตฺติมิสฺสกสฺส ภวสฺส อนธิปฺเปตตฺตา อยุตฺตํ. อรูปกฺขนฺธา หิ อิธ ภโวติ อาคตา.
ภวปจฺจยา ¶ ชาตีติ เอตฺถ จ เปตฺวา ชาติชรามรณานิ อวเสโส ภโว ชาติยา ปจฺจโยติ เวทิตพฺโพ. กสฺมา? ชาติอาทีนํ ชาติยา อปฺปจฺจยตฺตา. ยทิ เอวํ, เปตฺวา ชาติชรามรณานิ ภโว ชาติยา ปจฺจโยติ วตฺตพฺโพติ? อาม วตฺตพฺโพ, วตฺตพฺพปเทสาภาวโต ปน น วุตฺโต. ทสมงฺคนิทฺเทเส หิ อุปาทานปจฺจยสมฺภูโต ภโว วตฺตพฺโพ. เอกาทสมงฺคนิทฺเทเส ชาติ วตฺตพฺพา. โย ปน ภโว ชาติยา ปจฺจโย, ตสฺส วตฺตพฺพปเทโส นตฺถีติ วตฺตพฺพปเทสาภาวโต น วุตฺโต. อวุตฺโตปิ ปน ยุตฺติโต คเหตพฺโพติ. วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติอาทีสุ จ วิฺาณาทีนํ อวิคตปจฺจยภาวสมฺภวโต วิฺาณเหตุกาทิวจนํ กตนฺติ เอส เหตุจตุกฺเก วิเสโส.
๓. สมฺปยุตฺตจตุกฺกํ
๒๔๕. สมฺปยุตฺตจตุกฺเกปิ อวิชฺชาปจฺจยาติ เอตฺตาวตา สหชาตาทิปจฺจยวเสน สงฺขารสฺส อวิชฺชาปจฺจยตํ ทสฺเสตฺวา ปุน ‘‘อวิชฺชาสมฺปยุตฺโต’’ติ สมฺปยุตฺตปจฺจยตา ทสฺสิตา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ยสฺมา ปน อรูปีนํ ธมฺมานํ รูปธมฺเมหิ สมฺปโยโค นตฺถิ, ตสฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติอาทีสุ ตติยจตุตฺถวารปเทสุ ‘‘วิฺาณสมฺปยุตฺตํ นาม’’นฺติอาทินา นเยน ยํ ลพฺภติ, ตเทว คหิตนฺติ เอส สมฺปยุตฺตจตุกฺเก วิเสโส.
๔. อฺมฺจตุกฺกํ
๒๔๖. อฺมฺจตุกฺเกปิ ¶ อวิชฺชาปจฺจยาติ สหชาตาทิปจฺจยวเสน สงฺขารสฺส อวิชฺชาปจฺจยตํ ทสฺเสตฺวา ‘‘สงฺขารปจฺจยาปิ อวิชฺชา’’ติ อฺมฺปจฺจยตา ทสฺสิตา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ยสฺมา ปน ภโว นิปฺปเทโส, อุปาทานํ สปฺปเทสํ, สปฺปเทสธมฺโม จ นิปฺปเทสธมฺมสฺส ปจฺจโย โหติ, น นิปฺปเทสธมฺโม สปฺปเทสธมฺมสฺส, ตสฺมา เอตฺถ ‘‘ภวปจฺจยาปิ อุปาทาน’’นฺติ น วุตฺตํ; เหฏฺา วา เทสนาย ปจฺฉินฺนตฺตา เอวํ น วุตฺตํ ¶ . ยสฺมา จ นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ อตฺถิ, สฬายตนปจฺจยา เอกจิตฺตกฺขเณ นามรูปํ นตฺถิ, ยสฺส สฬายตนํ อฺมฺปจฺจโย ภเวยฺย, ตสฺมา จตุตฺถวาเร ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยาปิ นามรูป’’นฺติ ยํ ลพฺภติ ตเทว คหิตนฺติ เอส อฺมฺจตุกฺเก วิเสโส.
อวิชฺชามูลกนยมาติกา.
สงฺขาราทิมูลกนยมาติกา
๒๔๗. อิทานิ ¶ สงฺขารปจฺจยา อวิชฺชาติ สงฺขารมูลกนโย อารทฺโธ. ตตฺถาปิ ยถา อวิชฺชามูลเก เอวํ จตฺตาริ จตุกฺกานิ โสฬส จ วารา เวทิตพฺพา. ปมจตุกฺเก ปน ปมวารเมว ทสฺเสตฺวา เทสนา สํขิตฺตา. ยถา เจตฺถ เอวํ วิฺาณมูลกาทีสุปิ. ตตฺถ สพฺเพสฺเวว เตสุ สงฺขารมูลกาทีสุ อฏฺสุ นเยสุ ‘‘สงฺขารปจฺจยา อวิชฺชา’’ติอาทินา นเยน สหชาตาทิปจฺจยวเสน อวิชฺชาย สงฺขาราทิปจฺจยตํ ทสฺเสตฺวา ปุน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา นเยน เอกจิตฺตกฺขเณปิ ปจฺจยาการจกฺกสฺส ปวตฺติ ทสฺสิตา.
กสฺมา ปน ภวมูลกา ชาติชรามรณมูลกา วา นยา น วุตฺตา? กึ ภวปจฺจยา อวิชฺชา น โหตีติ? โน น โหติ. ‘‘สงฺขารปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ เอวมาทีสุ ปน วุจฺจมาเนสุ น โกจิ ภวปริยาปนฺโน ธมฺโม อวิชฺชาย ปจฺจโย น วุตฺโต. ตสฺมา อปุพฺพสฺส อฺสฺส อวิชฺชาปจฺจยสฺส วตฺตพฺพสฺส อภาวโต ภวมูลโก นโย น วุตฺโต. ภวคฺคหเณน จ อวิชฺชาปิ สงฺคหํ คจฺฉติ. ตสฺมา ‘‘ภวปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ วุจฺจมาเน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา อวิชฺชา’’ติปิ วุตฺตํ สิยา. น จ เอกจิตฺตกฺขเณ อวิชฺชา อวิชฺชาย ¶ ปจฺจโย นาม โหติ. ตตฺถ ปจฺฉินฺนตฺตาว ชาติชรามรณมูลกาปิ นยา น คหิตา. อปิจ ภเว ชาติชรามรณานิปิ อนฺโตคธานิ. น เจตานิ เอกจิตฺตกฺขเณ อวิชฺชาย ปจฺจยา โหนฺตีติ ภวมูลกา ชาติชรามรณมูลกา วา นยา น วุตฺตาติ.
มาติกาวณฺณนา.
อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา
๒๔๘-๒๔๙. อิทานิ ยถา เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ กุสลตฺติกํ อาทึ กตฺวา นิกฺขิตฺตมาติกาย ปฏิปาฏิยา ปมํ กุสลํ ภาชิตํ, ตถา อิธ มาติกาย อนิกฺขิตฺตตฺตา ปมํ กุสลํ อนามสิตฺวา ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร’’ติ อกุสลธมฺมวเสน มาติกาย นิกฺขิตฺตตฺตา นิกฺเขปปฏิปาฏิยาว อวิชฺชาทีนิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ ¶ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา ¶ อกุสลาติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๖๕) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปน เอกจิตฺตกฺขเณ ตณฺหาย จ กามุปาทานสฺส จ สมฺภโว นตฺถิ, ตสฺมา ยํ เอตฺถ ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ ลพฺภติ, ตเทว ทสฺเสตุํ ทิฏฺิ ทิฏฺิคตนฺติอาทิ วุตฺตํ.
ภวนิทฺเทเส จ ยสฺมา อุปาทานํ สงฺขารกฺขนฺเธ สงฺคหํ คจฺฉติ, ตสฺมา ‘‘เปตฺวา อุปาทานํ เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ. เอวฺหิ วุจฺจมาเน อุปาทานสฺส อุปาทานปจฺจยตฺตํ อาปชฺเชยฺย. น จ ตเทว ตสฺส ปจฺจโย โหติ. ชาติอาทินิทฺเทเสสุ ยสฺมา เอเต อรูปธมฺมานํ ชาติอาทโย, ตสฺมา ‘‘ขณฺฑิจฺจํ, ปาลิจฺจํ, วลิตฺตจตา, จุติ, จวนตา’’ติ น วุตฺตํ.
๒๕๐. เอวํ ปมวารํ นิฏฺเปตฺวา ปุน ทุติยวาเร ยสฺมึ สมเย ปมวาเรน ปจฺจยากาโร ทสฺสิโต, ตสฺมึเยว สมเย อปเรนปิ นเยน ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ วิสุํ สมยววตฺถานวารํ อวตฺวา ตสฺมึ สมเย อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโรติอาทินาว นเยน เทสนา กตา. ตตฺถ เปตฺวา ผสฺสนฺติ อิทํ ยสฺมา ผสฺโสปิ นามปริยาปนฺโน, ตสฺมา ผสฺสสฺส นามโต นีหรณตฺถํ วุตฺตํ.
๒๕๒. ตติยวาเร ¶ ยสฺส จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส วิฺาณํ ปจฺจโย, ตสฺมึ ปวตฺตมาเน ยสฺมา เตนุปตฺถทฺธานํ จกฺขายตนาทีนํ อุปจิตตฺตํ ปฺายติ, ตสฺมา จกฺขายตนสฺส อุปจโยติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมา จ กมฺมชรูปสฺสปิ ตสฺมึ สมเย วตฺตมานสฺส วิฺาณํ ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, ตสฺมาปิ เอวํ วุตฺตํ. ตตฺถ กิฺจาปิ กมฺมชํ จิตฺตสมุฏฺานนฺติ ทฺเวว สนฺตติโย คหิตา, อิตราปิ ปน ทฺเว สนฺตติโย คเหตพฺพา. ตาสมฺปิ หิ วิฺาณํ ปจฺจโย โหติเยว.
๒๕๔. จตุตฺถวาเร ปน ยสฺมา เอกจิตฺตกฺขเณปิ มหาภูตรูปปจฺจยา จกฺขายตนาทีนิ, หทยรูปปจฺจยา ฉฏฺายตนํ, นามปจฺจยา จ ปจฺฉาชาตสหชาตาทิวเสน ยถานุรูปํ สพฺพานิปิ ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา ตตฺถ กตมํ นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ? จกฺขายตนนฺติอาทิ วุตฺตํ.
๒๕๖. ทุติยจตุกฺเก ¶ ¶ สพฺพํ อุตฺตานเมว.
๒๖๔. ตติยจตุกฺเก ยสฺส สมฺปยุตฺตปจฺจยภาโว น โหติ, ยสฺส จ โหติ, ตํ วิสุํ วิสุํ ทสฺเสตุํ อิทํ วุจฺจติ วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ วิฺาณสมฺปยุตฺตํ นามนฺติอาทิ วุตฺตํ.
๒๗๒. จตุตฺถจตุกฺเก ผสฺสปจฺจยา นามนิทฺเทเส กิฺจาปิ ‘‘เปตฺวา ผสฺสํ เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ – อิทํ วุจฺจติ ผสฺสปจฺจยา นาม’’นฺติ น วุตฺตํ, ตถาปิ อนนฺตราตีตปทนิทฺเทเส ‘‘เปตฺวา ผสฺสํ เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตตฺตา อวุตฺตมฺปิ ตํ วุตฺตเมว โหติ. ยเทว หิ นามํ ผสฺสสฺส ปจฺจโย, ผสฺโสปิ ตสฺเสว ปจฺจโยติ.
ยถา จายํ จตุจตุกฺโก โสฬสวารปฺปเภโท อวิชฺชามูลโก ปมนโย เอตสฺมึ ปมากุสลจิตฺเต ปกาสิโต, เอวํ สงฺขารมูลกาทโย อฏฺ นยาปิ เวทิตพฺพา. ปาฬิ ปน สํขิตฺตา. เอวเมว ตสฺมึ ปมากุสลจิตฺเตเยว นว นยา, ฉตฺตึส จตุกฺกานิ, จตุจตฺตาลีสาธิกฺจ วารสตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
๒๘๐. อิทานิ อิมินาว นเยน เสสากุสลจิตฺเตสุปิ ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา อกุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยสฺมา ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุ ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ นตฺถิ, ตสฺมา อุปาทานฏฺาเน อุปาทานํ วิย ¶ ทฬฺหนิปาตินา อธิโมกฺเขน ปทํ ปูริตํ. โทมนสฺสสหคเตสุ จ ยสฺมา เวทนาปจฺจยา ตณฺหาปิ นตฺถิ, ตสฺมา ตณฺหาฏฺาเน ตณฺหา วิย พลวกิเลเสน ปฏิเฆน ปทํ ปูริตํ. อุปาทานฏฺาเน อธิโมกฺเขเนว. วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺเต ปน ยสฺมา สนฺนิฏฺานาภาวโต อธิโมกฺโขปิ นตฺถิ, ตสฺมา ตณฺหาฏฺาเน พลวกิเลสภูตาย วิจิกิจฺฉาย ปทํ ปูริตํ. อุปาทานฏฺานํ ปริหีนเมว. อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺเต ปน ยสฺมา อธิโมกฺโข อตฺถิ, ตสฺมา ตณฺหาฏฺาเน พลวกิเลเสน อุทฺธจฺเจน ปทํ ปูริตํ. อุปาทานฏฺาเน อธิโมกฺเขเนว. สพฺพตฺเถว จ วิเสสมตฺตํ ทสฺเสตฺวา ปาฬิ สํขิตฺตา. โย ¶ จายํ วิเสโส ทสฺสิโต, ตตฺถ เกวลํ อธิโมกฺขนิทฺเทโสว อปุพฺโพ. เสสํ เหฏฺา อาคตเมว.
อธิโมกฺขนิทฺเทเส ปน อธิมุจฺจนวเสน อธิโมกฺโข. อธิมุจฺจติ วา เตน อารมฺมเณ จิตฺตํ ¶ นิพฺพิจิกิจฺฉตาย สนฺนิฏฺานํ คจฺฉตีติ อธิโมกฺโข. อธิมุจฺจนากาโร อธิมุจฺจนา. ตสฺส จิตฺตสฺส, ตสฺมึ วา อารมฺมเณ อธิมุตฺตตฺตาติ ตทธิมุตฺตตา. สพฺพจิตฺเตสุ จ ปมจิตฺเต วุตฺตนเยเนว นยจตุกฺกวารปฺปเภโท เวทิตพฺโพ. เกวลฺหิ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺเต อุปาทานมูลกสฺส นยสฺส อภาวา อฏฺ นยา, ทฺวตฺตึส จตุกฺกานิ, อฏฺวีสาธิกฺจ วารสตํ โหตีติ.
อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา.
กุสลนิทฺเทสวณฺณนา
๒๙๒. อิทานิ อิมินาว นเยน กุสลจิตฺตาทีสุปิ ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ยถา ปน อกุสเล ปมํ มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา นิทฺเทโส กโต, น ตถา อิธ. กสฺมา? อปฺปนาวาเร นานตฺตสมฺภวโต. โลกิยกุสลาทีสุ หิ เตสํ ธมฺมานํ ทุกฺขสจฺจปริยาปนฺนตฺตา ‘‘เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺสา’’ติ อปฺปนา โหติ, โลกุตฺตรกุสลาทีสุ ‘‘เอวเมเตสํ ธมฺมาน’’นฺติ. ตสฺมา เอตฺถ สาธารณโต มาติกํ เปตุํ น สกฺกาติ ปาฏิเยกฺกํ เตสํ เตสํ กุสลาทีนํ มาติกํ อุทฺทิสิตฺวาว นิทฺเทโส กโตติ.
ตตฺถ ยสฺมา เอกจิตฺตกฺขเณ กุสลสงฺขาเรน สทฺธึ อวิชฺชา นตฺถิ, ตสฺมา ตํ อวตฺวา, อวิชฺชา วิย อกุสลานํ, กุสลานํ มูลโต กุสลมูลํ, ตณฺหุปาทานานฺจ ¶ อภาวโต ตณฺหาฏฺาเน ตณฺหา วิย อารมฺมเณ อชฺโฌคาฬฺโห ปสาโท, อุปาทานฏฺาเน อุปาทานํ วิย ทฬฺหนิปาตี นาม อธิโมกฺโข วุตฺโต. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
กุสลนิทฺเทสวณฺณนา.
อพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา
๓๐๖. อพฺยากตํ ¶ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ อาคตปฏิปาฏิยาว วิภตฺตํ. สพฺพวาเรสุ จ อวิชฺชามูลกา นยา ปริหีนา. กสฺมา? อวิชฺชาฏฺาเน เปตพฺพสฺส อภาวโต. กุสลจิตฺเตสุ ¶ หิ อวิชฺชาฏฺาเน เปตพฺพํ กุสลมูลํ อตฺถิ, จกฺขุวิฺาณาทีสุ นตฺถิ. สเหตุเกสุ ปน กิฺจาปิ อตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ อิธ ปจฺฉินฺนตฺตา ตตฺถ น คหิตํ. ปฺจวิฺาณโสเต โสตปติตาว หุตฺวา เทสนา กตาติ เวทิตพฺพา.
วิเสสโต ปเนตฺถ จกฺขุวิฺาณาทีสุ ตณฺหาฏฺานํ อุปาทานฏฺานฺจ ปริหีนํ. กสฺมา? ตณฺหาฏฺานารหสฺส พลวธมฺมสฺส อภาวา อธิโมกฺขรหิตตฺตา จ. เสสาเหตุเกสุ ตณฺหาฏฺานเมว ปริหีนํ. สเหตุเกสุ ปสาทสพฺภาวโต ตณฺหาฏฺาเน ปสาเทน ปทํ ปูริตํ. เอวเมตฺถ กุสลากุสลวิปาเกสุ จกฺขุวิฺาณาทีสุ สงฺขารวิฺาณนามฉฏฺายตนผสฺสเวทนามูลกา ฉ ฉ, เสสาเหตุเกสุ อธิโมกฺขมูลเกน สทฺธึ สตฺต สตฺต, สเหตุเกสุ ปสาทมูลเกน สทฺธึ อฏฺ อฏฺ นยา เวทิตพฺพา.
ตตฺถ จกฺขุวิฺาณาทีสุปิ จตุนฺนมฺปิ จตุกฺกานํ อาทิวาโรว วุตฺโต. ทุติยวาโร ปจฺจยวิเสสฏฺเน ลพฺภมาโนปิ น วุตฺโต. ตติยจตุตฺถวารา อสมฺภวโตเยว. รูปมิสฺสกา หิ เต, น จ จกฺขุวิฺาณาทีนิ รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ. ยถา จ ปมจตุกฺเก ทฺเว วารา ลพฺภนฺติ, เอวํ เสสจตุกฺเกสุปิ. ตสฺมา ปมจตุกฺเก ทุติยวาโร, เสสจตุกฺเกสุ จ ทฺเว ทฺเว วารา อวุตฺตาปิ วุตฺตาว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. เสสาเหตุกาพฺยากเต สพฺพจตุกฺเกสุ สพฺเพปิ วารา ลพฺภนฺติ. อิธ ปจฺฉินฺนตฺตา ปน ปรโต น คหิตา. โสตปติตาว หุตฺวา เทสนา กตาติ. เสสสเหตุกวิปาเกสุปิ ¶ เอเสว นโย อฺตฺร อรูปาวจรวิปากา. อรูปาวจรวิปากสฺมิฺหิ วารทฺวยเมว ลพฺภตีติ.
อพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา.
อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา
๓๓๔. อิทานิ อปเรน ปริยาเยน เอกจิตฺตกฺขเณ ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา ¶ กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อวิชฺชาปจฺจยาติ อุปนิสฺสยปจฺจยตํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนว นิทฺเทสวาเร ‘‘ตตฺถ กตมา อวิชฺชา’’ติ อวิภชิตฺวา ‘‘ตตฺถ กตโม อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร’’ติ วิภตฺตํ. กุสลเจตนาสงฺขาโต ¶ หิ สงฺขาโรเยว ตสฺมึ สมเย จิตฺเตน สหชาโต โหติ, น อวิชฺชา.
ตตฺถ โลกิยกุสลสฺส เหฏฺา สุตฺตนฺตภาชนีเย วุตฺตนเยเนว อวิชฺชา ปจฺจโย โหติ. ยสฺมา ปน อปฺปหีนาวิชฺโช อวิชฺชาย ปหานตฺถํ โลกุตฺตรํ ภาเวติ, ตสฺมา ตสฺสาปิ สมติกฺกมวเสน ปจฺจโย โหติ. อวิชฺชาวโตเยว หิ กุสลายูหนํ โหติ, น อิตรสฺส. ตตฺถ เตภูมกกุสเล สมฺโมหวเสนปิ สมติกฺกมภาวนาวเสนปิ อายูหนํ ลพฺภติ; โลกุตฺตเร สมุจฺเฉทภาวนาวเสนาติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อยํ ปน วิเสโส – ยถา เหฏฺา เอเกกกุสเล จตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน นว โสฬสกา ลทฺธา, ตถา อิธ น ลพฺภนฺติ. กสฺมา? อวิชฺชาย อวิคตสมฺปยุตฺตอฺมฺปจฺจยาภาวโต. อุปนิสฺสยวเสน ปเนตฺถ ปมจตุกฺกเมว ลพฺภติ. ตมฺปิ ปมวารเมว ทสฺเสตฺวา สํขิตฺตํ. นีหริตฺวา ปน ทสฺเสตพฺพนฺติ.
อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา.
กุสลมูลกวิปากนิทฺเทสวณฺณนา
๓๔๓. อิทานิ อพฺยากเตสุปิ อปเรเนว นเยน ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กุสลมูลปจฺจยาติ อิทมฺปิ อุปนิสฺสยปจฺจยตํ สนฺธาย วุตฺตํ. กุสลวิปากสฺส หิ กุสลมูลํ ¶ , อกุสลวิปากสฺส จ อกุสลมูลํ อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ; นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเย ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตสฺมา เอส อุปนิสฺสยปจฺจเยน เจว นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน จ ปจฺจโย โหติ. เตเนว นิทฺเทสวาเร ‘‘ตตฺถ ¶ กตมํ กุสลมูล’’นฺติ อวิภชิตฺวา ‘‘ตตฺถ กตโม กุสลมูลปจฺจยา สงฺขาโร’’ติ วิภตฺตํ. อกุสลวิปาเกปิ เอเสว นโย.
อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทเส วิย จ อิมสฺมิมฺปิ วิปากนิทฺเทเส ปมํ ปจฺจยจตุกฺกเมว ลพฺภติ. ตมฺปิ ปมวารํ ทสฺเสตฺวา สํขิตฺตํ. ตสฺมา เอเกกสฺมึ วิปากจิตฺเต เอกเมกสฺเสว จตุกฺกสฺส วเสน กุสลมูลมูลเก อกุสลมูลมูลเก จ นเย วารปฺปเภโท เวทิตพฺโพ. กิริยาธมฺมานํ ปน ยสฺมา เนว อวิชฺชา น กุสลากุสลมูลานิ อุปนิสฺสยปจฺจยตํ ลภนฺติ, ตสฺมา กิริยวเสน ปจฺจยากาโร น วุตฺโตติ.
เอวเมส ¶ –
อกุสลกุสลาพฺยากต-ธมฺเมสุ อเนกเภทโต วตฺวา;
กุสลากุสลานํ ปน, วิปาเก จ อุปนิสฺสยวเสน.
ปุน เอกธาว วุตฺโต, วาทิปฺปวเรน ปจฺจยากาโร;
ธมฺมปฺปจฺจยเภเท, าณสฺส ปเภทชนนตฺถํ.
ปริยตฺติสวนจินฺตน-ปฏิปตฺติกฺกมวิวชฺชิตานฺจ;
ยสฺมา าณปเภโท, น กทาจิปิ โหติ เอตสฺมึ.
ปริยตฺติสวนจินฺตน-ปฏิปตฺติกฺกมโต สทา ธีโร;
ตตฺถ กยิรา น หฺํ, กรณียตรํ ตโต อตฺถีติ.
อยํ ปน ปจฺจยากาโร สุตฺตนฺตอภิธมฺมภาชนียวเสน ทฺเวปริวฏฺฏเมว นีหริตฺวา ภาเชตฺวา ทสฺสิโต โหติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.