📜
๗. สติปฏฺานวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ อุทฺเทสวารวณฺณนา
๓๕๕. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร สติปฏฺานวิภงฺเค จตฺตาโรติ คณนปริจฺเฉโท. เตน น ตโต เหฏฺา น อุทฺธนฺติ สติปฏฺานปริจฺเฉทํ ทีเปติ. สติปฏฺานาติ ตโย สติปฏฺานา – สติโคจโรปิ, ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิธานุนยวีติวตฺตตาปิ, สติปิ. ‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺานานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ…เป… โก จ, ภิกฺขเว, กายสฺส สมุทโย? อาหารสมุทยา กายสฺส สมุทโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) หิ สติโคจโร สติปฏฺานนฺติ วุจฺจติ. ตถา ‘‘กาโย อุปฏฺานํ, โน สติ. สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จา’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕). ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาติ อสฺมินฺติ ปฏฺานํ. กา ปติฏฺาติ? สติ. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ, ปธานํ านนฺติ วา ปฏฺานํ; สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ หตฺถิฏฺานอสฺสฏฺานาทีนิ วิย.
‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณํ อนุสาสิตุมรหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๔, ๓๑๑) เอตฺถ ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตา สติปฏฺานนฺติ วุตฺตา. ตสฺสตฺโถ – ปฏฺเปตพฺพโต ปฏฺานํ, ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ. เกน ปฏฺเปตพฺพโตติ? สติยา; สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๔๗) ปน สติเยว สติปฏฺานนฺติ วุจฺจติ. ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาตีติ ปฏฺานํ, อุปฏฺาติ โอกฺกนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ; สติเยว ปฏฺานฏฺเน สติปฏฺานํ; อถวา สรณฏฺเน สติ, อุปฏฺานฏฺเน ¶ ปฏฺานํ. อิติ สติ จ สา ปฏฺานฺจาติปิ สติปฏฺานํ. อิทมิธ ¶ อธิปฺเปตํ. ยทิ เอวํ, กสฺมา สติปฏฺานาติ พหุวจนํ กตนฺติ? สติยา พหุตฺตา; อารมฺมณเภเทน หิ พหุกา ตา สติโยติ.
กสฺมา ¶ ปน ภควตา จตฺตาโรว สติปฏฺานา วุตฺตา, อนูนา อนธิกาติ? เวเนยฺยหิตตฺตา. ตณฺหาจริตทิฏฺิจริตสมถยานิกวิปสฺสนายานิเกสุ หิ มนฺทติกฺขวเสน ทฺวิธา ปวตฺเตสุ มนฺทสฺส ตณฺหาจริตสฺส โอฬาริกํ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส สุขุมํ เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. ทิฏฺิจริตสฺสปิ มนฺทสฺส นาติปฺปเภทคตํ จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส อติปฺปเภทคตํ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. สมถยานิกสฺส จ มนฺทสฺส อกิจฺเฉน อธิคนฺตพฺพนิมิตฺตํ ปมํ สติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส โอฬาริการมฺมเณ อสณฺหนโต ทุติยํ. วิปสฺสนายานิกสฺสาปิ มนฺทสฺส นาติปฺปเภทคตารมฺมณํ ตติยํ, ติกฺขสฺส อติปฺปเภทคตารมฺมณํ จตุตฺถํ. อิติ จตฺตาโรว วุตฺตา, อนูนา อนธิกาติ.
สุภสุขนิจฺจอตฺตภาววิปลฺลาสปฺปหานตฺถํ วา. กาโย หิ อสุโภ. ตตฺถ สุภวิปลฺลาสวิปลฺลตฺถา สตฺตา. เตสํ ตตฺถ อสุภภาวทสฺสเนน ตสฺส วิปลฺลาสสฺส ปหานตฺถํ ปมํ สติปฏฺานํ วุตฺตํ. สุขํ, นิจฺจํ, อตฺตาติ คหิเตสุปิ จ เวทนาทีสุ เวทนา ทุกฺขา, จิตฺตํ อนิจฺจํ, ธมฺมา อนตฺตา. เอเตสุ จ สุขนิจฺจอตฺตภาววิปลฺลาสวิปลฺลตฺถา สตฺตา. เตสํ ตตฺถ ทุกฺขาทิภาวทสฺสเนน เตสํ วิปลฺลาสานํ ปหานตฺถํ เสสานิ ตีณิ วุตฺตานีติ. เอวํ สุภสุขนิจฺจอตฺตภาววิปลฺลาสปฺปหานตฺถํ วา จตฺตาโรว วุตฺตา อนูนา อนธิกาติ เวทิตพฺพา. น เกวลฺจ วิปลฺลาสปหานตฺถเมว, อถ โข จตุโรฆโยคาสวคนฺถอุปาทานอคติปฺปหานตฺถมฺปิ จตุพฺพิธาหารปริฺตฺถฺจ จตฺตาโรว วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อยํ ตาว ปกรณนโย.
อฏฺกถายํ ปน ‘‘สรณวเสน เจว เอกตฺตสโมสรณวเสน จ เอกเมว สติปฏฺานํ อารมฺมณวเสน จตฺตาโรติ เอตเทว วุตฺตํ. ยถา ¶ หิ จตุทฺวาเร นคเร ปาจีนโต อาคจฺฉนฺตา ปาจีนทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา ปาจีนทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, ทกฺขิณโต, ปจฺฉิมโต, อุตฺตรโต อาคจฺฉนฺตา อุตฺตรทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา อุตฺตรทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. นครํ วิย หิ นิพฺพานมหานครํ, ทฺวารํ วิย อฏฺงฺคิโก โลกุตฺตรมคฺโค. ปาจีนทิสาทโย วิย กายาทโย.
ยถา ¶ ปาจีนโต อาคจฺฉนฺตา ปาจีนทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา ปาจีนทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ กายานุปสฺสนามุเขน อาคจฺฉนฺตา ¶ จุทฺทสวิเธน กายานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา กายานุปสฺสนาภาวนานุภาวนิพฺพตฺเตน อริยมคฺเคน เอกํ นิพฺพานเมว โอสรนฺติ. ยถา ทกฺขิณโต อาคจฺฉนฺตา ทกฺขิณทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา ทกฺขิณทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ เวทนานุปสฺสนามุเขน อาคจฺฉนฺตา นววิเธน เวทนานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา เวทนานุปสฺสนาภาวนานุภาวนิพฺพตฺเตน อริยมคฺเคน เอกํ นิพฺพานเมว โอสรนฺติ. ยถา ปจฺฉิมโต อาคจฺฉนฺตา ปจฺฉิมทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา ปจฺฉิมทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ จิตฺตานุปสฺสนามุเขน อาคจฺฉนฺตา โสฬสวิเธน จิตฺตานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา จิตฺตานุปสฺสนาภาวนานุภาวนิพฺพตฺเตน อริยมคฺเคน เอกํ นิพฺพานเมว โอสรนฺติ. ยถา อุตฺตรโต อาคจฺฉนฺตา อุตฺตรทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา อุตฺตรทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ ธมฺมานุปสฺสนามุเขน อาคจฺฉนฺตา ปฺจวิเธน ธมฺมานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา ธมฺมานุปสฺสนาภาวนานุภาวนิพฺพตฺเตน อริยมคฺเคน เอกํ นิพฺพานเมว โอสรนฺตีติ. เอวํ สรณวเสน เจว เอกตฺตสโมสรณวเสน จ เอกเมว สติปฏฺานํ อารมฺมณวเสน จตฺตาโรติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
อิธ ภิกฺขูติ เอตฺถ กิฺจาปิ ภควตา เทวโลเก นิสีทิตฺวา อยํ สติปฏฺานวิภงฺโค กถิโต, เอกภิกฺขุปิ ตตฺถ ภควโต สนฺติเก นิสินฺนโก นาม นตฺถิ. เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน ภิกฺขู ภาเวนฺติ, ภิกฺขุโคจรา หิ เอเต, ตสฺมา อิธ ภิกฺขูติ อาลปติ. กึ ปเนเต สติปฏฺาเน ภิกฺขูเยว ภาเวนฺติ, น ภิกฺขุนีอาทโยติ? ภิกฺขุนีอาทโยปิ ¶ ภาเวนฺติ. ภิกฺขู ปน อคฺคปริสา. อิติ อคฺคปริสตฺตา อิธ ภิกฺขูติ อาลปติ. ปฏิปตฺติยา วา ภิกฺขุภาวทสฺสนโต เอวมาห. โย หิ อิมํ ปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชติ, โส ภิกฺขุ นาม โหติ. ปฏิปนฺนโก หิ เทโว วา โหตุ มนุสฺโส วา, ภิกฺขูติ สงฺขํ คจฺฉติเยว. ยถาห –
‘‘อลงฺกโต เจปิ สมฺจเรยฺย,
สนฺโต ทนฺโต นิยโต พฺรหฺมจารี;
สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ,
โส พฺราหฺมโณ โส สมโณ ส ภิกฺขู’’ติ. (ธ. ป. ๑๔๒);
กายานุปสฺสนาอุทฺเทสวณฺณนา
อชฺฌตฺตนฺติ ¶ ¶ นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ. ตสฺมา อชฺฌตฺตํ กาเยติ อตฺตโน กาเยติ อตฺโถ. ตตฺถ กาเยติ รูปกาเย. รูปกาโย หิ อิธ องฺคปจฺจงฺคานํ เกสาทีนฺจ ธมฺมานํ สมูหฏฺเน, หตฺถิกายอสฺสกายรถกายาทโย วิย, กาโยติ อธิปฺเปโต. ยถา จ สมูหฏฺเน เอวํ กุจฺฉิตานํ อายฏฺเน. กุจฺฉิตานฺหิ ปรมเชคุจฺฉานํ โส อาโยติปิ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อายนฺติ ตโตติ อาโย. เก อายนฺติ? กุจฺฉิตา เกสาทโย. อิติ กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ อาโยติ กาโย.
กายานุปสฺสีติ กายํ อนุปสฺสนสีโล, กายํ วา อนุปสฺสมาโน กาเยติ จ วตฺวาปิ ปุน กายานุปสฺสีติ ทุติยํ กายคฺคหณํ อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตน น กาเย เวทนานุปสฺสี จิตฺตธมฺมานุปสฺสี วา; อถ โข กาเย กายานุปสฺสี เยวาติ กายสงฺขาเต วตฺถุสฺมึ กายานุปสฺสนาการสฺเสว ทสฺสเนน อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานํ ทสฺสิตํ โหติ. ตถา น กาเย องฺคปจฺจงฺควินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสี, นาปิ เกสโลมาทิวินิมุตฺตอิตฺถิปุริสานุปสฺสี. โยปิ เจตฺถ เกสโลมาทิโก ภูตุปาทายสมูหสงฺขาโต กาโย, ตตฺถาปิ น ภูตุปาทายวินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสี; อถ โข รถสมฺภารานุปสฺสโก วิย องฺคปจฺจงฺคสมูหานุปสฺสี, นคราวยวานุปสฺสโก วิย เกสโลมาทิสมูหานุปสฺสี, กทลิกฺขนฺธปตฺตวฏฺฏิวินิภฺุชโก วิย ริตฺตมุฏฺิวินิเวโก ¶ วิย จ ภูตุปาทายสมูหานุปสฺสีเยวาติ นานปฺปการโต สมูหวเสน กายสงฺขาตสฺส วตฺถุโน ทสฺสเนน ฆนวินิพฺโภโค ทสฺสิโต โหติ. น เหตฺถ ยถาวุตฺตสมูหวินิมุตฺโต กาโย วา อิตฺถี วา ปุริโส วา อฺโ วา โกจิ ธมฺโม ทิสฺสติ. ยถาวุตฺตธมฺมสมูหมตฺเตเยว ปน ตถา ตถา สตฺตา มิจฺฉาภินิเวสํ กโรนฺติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยํ ปสฺสติ น ตํ ทิฏฺํ, ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสติ;
อปสฺสํ พชฺฌเต มูฬฺโห, พชฺฌมาโน น มุจฺจตี’’ติ.
ฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถนฺติ ¶ วุตฺตํ. อาทิสทฺเทน เจตฺถ อยมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ – อยฺหิ เอตสฺมึ กาเย กายานุปสฺสีเยว, น อฺธมฺมานุปสฺสี. กึ วุตฺตํ โหติ? ยถา อนุทกภูตายปิ มรีจิยา อุทกานุปสฺสิโน โหนฺติ, น เอวํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตอสุภภูเตเยว อิมสฺมึ ¶ กาเย นิจฺจสุขอตฺตสุภภาวานุปสฺสี; อถ โข กายานุปสฺสี อนิจฺจทุกฺขานตฺตอสุภาการสมูหานุปสฺสีเยวาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยฺวายํ มหาสติปฏฺาเน ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา…เป… โส สโตว อสฺสสตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. ๑.๑๐๗) นเยน อสฺสาสปสฺสาสาทิจุณฺณกชาตอฏฺิกปริโยสาโน กาโย วุตฺโต, โย จ ‘‘อิเธกจฺโจ ปถวีกายํ อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, ตถา อาโปกายํ, เตโชกายํ, วาโยกายํ, เกสกายํ, โลมกายํ, ฉวิกายํ, จมฺมกายํ, มํสกายํ, รุธิรกายํ, นฺหารุกายํ, อฏฺิกายํ, อฏฺิมิฺชกาย’’นฺติ ปฏิสมฺภิทายํ กาโย วุตฺโต, ตสฺส สพฺพสฺส อิมสฺมึเยว กาเย อนุปสฺสนโต กาเย กายานุปสฺสีติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อถ วา กาเย อหนฺติ วา มมนฺติ วา เอวํ คเหตพฺพสฺส กสฺสจิ อนนุปสฺสนโต, ตสฺส ตสฺเสว ปน เกสโลมาทิกสฺส นานาธมฺมสมูหสฺส อนุปสฺสนโต กาเย เกสาทิธมฺมสมูหสงฺขาเต กายานุปสฺสีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อปิจ ‘‘อิมสฺมึ กาเย อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) อนุกฺกเมน ปฏิสมฺภิทายํ อาคตนยสฺส สพฺพสฺเสว อนิจฺจลกฺขณาทิโน อาการสมูหสงฺขาตสฺส กายสฺส ¶ อนุปสฺสนโตปิ กาเย กายานุปสฺสีติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ตถา หิ อยํ กาเย กายานุปสฺสนาปฏิปทํ ปฏิปนฺโน ภิกฺขุ อิมํ กายํ อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ วเสน อนิจฺจโต อนุปสฺสติ โน นิจฺจโต, ทุกฺขโต อนุปสฺสติ โน สุขโต, อนตฺตโต อนุปสฺสติ โน อตฺตโต, นิพฺพินฺทติ โน นนฺทติ, วิรชฺชติ โน รชฺชติ, นิโรเธติ โน สมุเทติ, ปฏินิสฺสชฺชติ โน อาทิยติ. โส ตํ อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหติ, ทุกฺขโต อนุปสฺสนฺโต สุขสฺํ ปชหติ, อนตฺตโต อนุปสฺสนฺโต อตฺตสฺํ ปชหติ ¶ , นิพฺพินฺทนฺโต นนฺทึ ปชหติ, วิรชฺชนฺโต ราคํ ปชหติ, นิโรเธนฺโต สมุทยํ ปชหติ, ปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาทานํ ปชหตีติ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) เวทิตพฺโพ.
วิหรตีติ จตูสุ อิริยาปถวิหาเรสุ อฺตรวิหารสมาโยคปริทีปนเมตํ, เอกํ อิริยาปถพาธนํ อปเรน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อปตมานํ อตฺตภาวํ หรติ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ.
พหิทฺธา ¶ กาเยติ ปรสฺส กาเย. อชฺฌตฺตพหิทฺธา กาเยติ กาเลน อตฺตโน กาเย, กาเลน ปรสฺส กาเย. ปมนเยน หิ อตฺตโน กาเย กายปริคฺคโห วุตฺโต, ทุติยนเยน ปรสฺส กาเย, ตติยนเยน กาเลน อตฺตโน กาเลน ปรสฺส กาเย. อชฺฌตฺตพหิทฺธา ปน ฆฏิตารมฺมณํ นาม นตฺถิ. ปคุณกมฺมฏฺานสฺส ปน อปราปรํ สฺจรณกาโล เอตฺถ กถิโต. อาตาปีติ กายปริคฺคาหกวีริยสมาโยคปริทีปนเมตํ. โส หิ ยสฺมา ตสฺมึ สมเย ยํ ตํ วีริยํ ตีสุ ภเวสุ กิเลสานํ อาตาปนโต อาตาโปติ วุจฺจติ, เตน สมนฺนาคโต โหติ, ตสฺมา อาตาปีติ วุจฺจติ.
สมฺปชาโนติ กายปริคฺคาหเกน สมฺปชฺสงฺขาเตน าเณน สมนฺนาคโต. สติมาติ กายปริคฺคาหิกาย สติยา สมนฺนาคโต. อยํ ปน ยสฺมา สติยา อารมฺมณํ ปริคฺคเหตฺวา ปฺาย อนุปสฺสติ, น หิ สติวิรหิตสฺส อนุปสฺสนา นาม อตฺถิ, เตเนวาห – ‘‘สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔), ตสฺมา เอตฺถ ‘‘กาเย กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติ เอตฺตาวตา กายานุปสฺสนาสติปฏฺานกมฺมฏฺานํ ¶ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยสฺมา อนาตาปิโน อนฺโตสงฺเขโป อนฺตรายกโร โหติ, อสมฺปชาโน อุปายปริคฺคเห อนุปายปริวชฺชเน จ สมฺมุยฺหติ, มุฏฺสฺสตี อุปายาปริจฺจาเค อนุปายาปริคฺคเห จ อสมตฺโถว โหติ, เตนสฺส ตํ กมฺมฏฺานํ น สมฺปชฺชติ; ตสฺมา เยสํ ธมฺมานํ อานุภาเวน ตํ สมฺปชฺชติ เตสํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อาตาปี สมฺปชาโน สติมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิติ ¶ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ สมฺปโยคงฺคฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปหานงฺคํ ทสฺเสตุํ วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ วิเนยฺยาติ ตทงฺควินเยน วา วิกฺขมฺภนวินเยน วา วินยิตฺวา. โลเกติ เอตฺถ ยฺวายํ อชฺฌตฺตาทิเภโท กาโย ปริคฺคหิโต สฺเวว อิธ โลโก นาม. ตสฺมึ โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ วินยิตฺวาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปเนตฺถ อภิชฺฌาคหเณน กามจฺฉนฺโท, โทมนสฺสคฺคหเณน พฺยาปาโท สงฺคหํ คจฺฉติ, ตสฺมา นีวรณปริยาปนฺนพลวธมฺมทฺวยทสฺสเนน นีวรณปฺปหานํ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
วิเสเสน เจตฺถ อภิชฺฌาวินเยน กายสมฺปตฺติมูลกสฺส อนุโรธสฺส, โทมนสฺสวินเยน กายวิปตฺติมูลกสฺส วิโรธสฺส, อภิชฺฌาวินเยน จ กาเย อภิรติยา, โทมนสฺสวินเยน กายภาวนาย อนภิรติยา, อภิชฺฌาวินเยน กาเย อภูตานํ สุภสุขภาวาทีนํ ปกฺเขปสฺส, โทมนสฺสวินเยน ¶ กาเย ภูตานํ อสุภาสุขภาวาทีนํ อปนยนสฺส จ ปหานํ วุตฺตํ. เตน โยคาวจรสฺส โยคานุภาโว โยคสมตฺถตา จ ทีปิตา โหติ. โยคานุภาโว หิ เอส ยทิทํ อนุโรธวิโรธวิปฺปมุตฺโต, อรติรติสโห, อภูตปกฺเขปภูตาปนยนวิรหิโต จ โหติ. อนุโรธวิโรธวิปฺปมุตฺโต เจส อรติรติสโห อภูตํ อปกฺขิปนฺโต ภูตฺจ อนปเนนฺโต โยคสมตฺโถ โหตีติ.
อปโร นโย – ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติ เอตฺถ อนุปสฺสนาย กมฺมฏฺานํ วุตฺตํ. วิหรตีติ เอตฺถ วุตฺตวิหาเรน กมฺมฏฺานิกสฺส กายปริหรณํ. อาตาปีติอาทีสุ อาตาเปน สมฺมปฺปธานํ, สติสมฺปชฺเน สพฺพตฺถิกกมฺมฏฺานํ, กมฺมฏฺานปริหรณูปาโย วา; สติยา วา กายานุปสฺสนาวเสน ปฏิลทฺธสมโถ, สมฺปชฺเน วิปสฺสนา ¶ , อภิชฺฌาโทมนสฺสวินเยน ภาวนาผลํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ ตาว กายานุปสฺสนาสติปฏฺานุทฺเทสสฺส อตฺถวณฺณนา.
เวทนานุปสฺสนาทิอุทฺเทสวณฺณนา
เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานุทฺเทสาทีสุปิ อชฺฌตฺตาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอเตสุปิ หิ อตฺตโน เวทนาทีสุ, ปรสฺส เวทนาทีสุ, กาเลน อตฺตโน กาเลน ปรสฺส เวทนาทีสูติ ติวิโธ ปริคฺคโห ¶ วุตฺโต. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสีติอาทีสุ จ เวทนาทีนํ ปุนวจเน ปโยชนํ กายานุปสฺสนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี, จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสีติ เอตฺถ ปน เวทนาติ ติสฺโส เวทนา. ตา จ โลกิยา เอว; จิตฺตมฺปิ โลกิยํ, ตถา ธมฺมา. เตสํ วิภาโค นิทฺเทสวาเร ปากโฏ ภวิสฺสติ. เกวลํ ปนิธ ยถา เวทนา อนุปสฺสิตพฺพา ตถา อนุปสฺสนฺโต ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี’’ติ เวทิตพฺโพ. เอส นโย จิตฺตธมฺเมสุ. กถฺจ เวทนา อนุปสฺสิตพฺพาติ? สุขา ตาว เวทนา ทุกฺขโต, ทุกฺขา สลฺลโต, อทุกฺขมสุขา อนิจฺจโต. ยถาห –
‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท, ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;
อทุกฺขมสุขํ สนฺตํ, อทฺทกฺขิ นํ อนิจฺจโต;
ส เว สมฺมทโส ภิกฺขุ, อุปสนฺโต จริสฺสตี’’ติ. (สํ. นิ. ๔.๒๕๓);
สพฺพา ¶ เอว เจตา ทุกฺขาติปิ อนุปสฺสิตพฺพา. วุตฺตฺเจตํ – ‘‘ยํ กิฺจิ เวทยิตํ ตํ ทุกฺขสฺมินฺติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๙). สุขทุกฺขโตปิ จ อนุปสฺสิตพฺพา, ยถาห – ‘‘สุขา โข, อาวุโส วิสาข, เวทนา ิติสุขา, วิปริณามทุกฺขา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕) สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. อปิจ อนิจฺจาทิสตฺตานุปสฺสนาวเสนปิ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) อนุปสฺสิตพฺพา. เสสํ นิทฺเทสวาเรเยว ปากฏํ ภวิสฺสติ.
จิตฺตธมฺเมสุปิ จิตฺตํ ตาว อารมฺมณาธิปติสหชาตภูมิกมฺมวิปากกิริยาทินานตฺตเภทานํ อนิจฺจาทินุปสฺสนานํ นิทฺเทสวาเร อาคตสราคาทิเภทานฺจ วเสน ¶ อนุปสฺสิตพฺพํ. ธมฺมา สลกฺขณสามฺลกฺขณานํ สฺุตาธมฺมสฺส อนิจฺจาทิสตฺตานุปสฺสนานํ นิทฺเทสวาเร อาคตสนฺตาสนฺตาทิเภทานฺจ วเสน อนุปสฺสิตพฺพา. เสสํ วุตฺตนยเมว. กามฺเจตฺถ ยสฺส กายสงฺขาเต โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ ปหีนํ, ตสฺส เวทนาทิโลเกสุปิ ตํ ปหีนเมว. นานาปุคฺคลวเสน ปน นานาจิตฺตกฺขณิกสติปฏฺานภาวนาวเสน จ สพฺพตฺถ วุตฺตํ. ยโต วา เอกตฺถ ปหีนํ, เสเสสุปิ ปหีนํ โหติ. เตเนวสฺส ตตฺถ ปหานทสฺสนตฺถมฺปิ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพนฺติ.
อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
กายานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๕๖. อิทานิ ¶ เสยฺยถาปิ นาม เฉโก วิลีวการโก ถูลกิลฺชสณฺหกิลฺชจงฺโกฏกเปฬาปุฏาทีนิ อุปกรณานิ กตฺตุกาโม เอกํ มหาเวฬุํ ลภิตฺวา จตุธา ฉินฺทิตฺวา ตโต เอเกกํ เวฬุขณฺฑํ คเหตฺวา ผาเลตฺวา ตํ ตํ อุปกรณํ กเรยฺย, ยถา วา ปน เฉโก สุวณฺณกาโร นานาวิหิตํ ปิฬนฺธนวิกตึ กตฺตุกาโม สุปริสุทฺธํ สุวณฺณฆฏิกํ ลภิตฺวา จตุธา ภินฺทิตฺวา ตโต เอเกกํ โกฏฺาสํ คเหตฺวา ตํ ตํ ปิฬนฺธนํ กเรยฺย, เอวเมว ภควา สติปฏฺานเทสนาย สตฺตานํ อเนกปฺปการํ วิเสสาธิคมํ กตฺตุกาโม เอกเมว สมฺมาสตึ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา – อิธ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กาเย กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทินา นเยน อารมฺมณวเสน ¶ จตุธา ภินฺทิตฺวา ตโต เอเกกํ สติปฏฺานํ คเหตฺวา วิภชนฺโต กถฺจ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กาเยติอาทินา นเยน นิทฺเทสวารํ วตฺตุมารทฺโธ.
ตตฺถ กถฺจาติอาทิ วิตฺถาเรตุํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – เกน จ อากาเรน เกน ปกาเรน ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กาเย กายานุปสฺสี วิหรตีติ? เสสปุจฺฉาวาเรสุปิ เอเสว นโย. อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. อยฺเหตฺถ อิธ-สทฺโท อชฺฌตฺตาทิวเสน สพฺพปฺปการกายานุปสฺสนานิพฺพตฺตกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปโน อฺสาสนสฺส ตถาภาวปฏิเสธโน จ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภิ ¶ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑). เตน วุตฺตํ ‘‘อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขู’’ติ.
อชฺฌตฺตํ กายนฺติ อตฺตโน กายํ. อุทฺธํ ปาทตลาติ ปาทตลโต อุปริ. อโธ เกสมตฺถกาติ เกสคฺคโต เหฏฺา. ตจปริยนฺตนฺติ ติริยํ ตจปริจฺฉินฺนํ. ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขตีติ นานปฺปการเกสาทิอสุจิภริโต อยํ กาโยติ ปสฺสติ. กถํ? อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา…เป… มุตฺตนฺติ. ตตฺถ อตฺถีติ สํวิชฺชนฺติ. อิมสฺมินฺติ ยฺวายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ติริยํ ตจปริยนฺโต ปูโร นานปฺปการสฺส อสุจิโนติ วุจฺจติ ตสฺมึ. กาเยติ สรีเร. สรีรฺหิ ¶ อสุจิสฺจยโต กุจฺฉิตานํ เกสาทีนฺเจว จกฺขุโรคาทีนฺจ โรคสตานํ อายภูตโต กาโยติ วุจฺจติ.
เกสา โลมาติ เอเต เกสาทโย ทฺวตฺตึสาการา. ตตฺถ อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา, อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย โลมาติ เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมิฺหิ ปาทตลโต ปฏฺาย อุปริ, เกสมตฺถกา ปฏฺาย เหฏฺา, ตจโต ปฏฺาย ติริยนฺตโตติ เอตฺตเก พฺยามมตฺเต กเฬวเร สพฺพากาเรนปิ วิจินนฺโต น โกจิ กิฺจิ มุตฺตํ วา มณึ วา เวฬุริยํ วา อครุํ วา กุงฺกุมํ วา กปฺปูรํ วา วาสจุณฺณาทึ วา อณุมตฺตมฺปิ สุจิภาวํ ปสฺสติ, อถ โข ปรมทุคฺคนฺธเชคุจฺฉํ อสฺสิรีกทสฺสนํ นานปฺปการํ เกสโลมาทิเภทํ อสุจึเยว ปสฺสติ. เตน วุตฺตํ – อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา…เป… มุตฺตนฺติ. อยเมตฺถ ปทสมฺพนฺธโต วณฺณนา.
อิมํ ปน กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตุกาเมน กุลปุตฺเตน อาทิโตว จตุพฺพิธํ สีลํ ¶ โสเธตฺวา สุปริสุทฺธสีเล ปติฏฺิเตน, ยฺวายํ ทสสุ ปลิโพเธสุ ปลิโพโธ อตฺถิ ตํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา, ปฏิกฺกูลมนสิการกมฺมฏฺานภาวนาย ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา, ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา, อรหตฺตํ อนาคามิผลาทีสุ วา อฺตรํ ปตฺตสฺส สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน สาฏฺกถาย ปาฬิยา กตปริจยสฺส ตนฺติอาจริยสฺสาปิ กลฺยาณมิตฺตสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตพฺพํ. วิสุทฺธํ ตถารูปํ ¶ กลฺยาณมิตฺตํ เอกวิหาเร อลภนฺเตน ตสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา อุคฺคเหตพฺพํ. ตตฺถ จตุพฺพิธสีลวิโสธนฺเจว (วิสุทฺธิ. ๑.๑๙) ปลิโพโธ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) จ ปลิโพธุปจฺเฉโท จ อาจริยสฺส สนฺติกํ อุปสงฺกมนวิธานฺจ สพฺพมฺปิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถารโต กถิตํ. ตสฺมา ตํ ตตฺถ กถิตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อาจริเยน ปน กมฺมฏฺานํ กเถนฺเตน ติวิเธน กเถตพฺพํ. เอโก ภิกฺขุ ปกติยา อุคฺคหิตกมฺมฏฺาโน โหติ. ตสฺส เอกํ ทฺเว นิสชฺชวาเร สชฺฌายํ กาเรตฺวา กเถตพฺพํ. เอโก สนฺติเก วสิตฺวา อุคฺคณฺหิตุกาโม โหติ. ตสฺส อาคตาคตเวลาย กเถตพฺพํ. เอโก อุคฺคณฺหิตฺวา อฺตฺถ คนฺตุกาโม โหติ. ตสฺส นาติปปฺจํ นาติสงฺเขปํ กตฺวา ¶ นิชฺชฏํ นิคฺคณฺิกํ กมฺมฏฺานํ กเถตพฺพํ. กเถนฺเตน กึ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ? สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ ทสธา จ มนสิการโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ.
ตตฺถ วจสา มนสา วณฺณโต สณฺานโต ทิสโต โอกาสโต ปริจฺเฉทโตติ เอวํ สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ. อิมสฺมิฺหิ ปฏิกฺกูลมนสิการกมฺมฏฺาเน โยปิ ติปิฏโก โหติ, เตนปิ มนสิการกาเล ปมํ วาจาย สชฺฌาโย กาตพฺโพ. เอกจฺจสฺส หิ สชฺฌายํ กโรนฺตสฺเสว กมฺมฏฺานํ ปากฏํ โหติ, มลยวาสีมหาเทวตฺเถรสฺส สนฺติเก อุคฺคหิตกมฺมฏฺานานํ ทฺวินฺนํ เถรานํ วิย. เถโร กิร เตหิ กมฺมฏฺานํ ยาจิโต ‘จตฺตาโร มาเส อิมํ เอวํ สชฺฌายํ กโรถา’ติ ทฺวตฺติสาการปาฬึ อทาสิ. เต, กิฺจาปิ เตสํ ทฺเว ตโย นิกายา ปคุณา, ปทกฺขิณคฺคาหิตาย ปน จตฺตาโร มาเส ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายนฺตาว โสตาปนฺนา อเหสุํ.
ตสฺมา กมฺมฏฺานํ กเถนฺเตน อาจริเยน อนฺเตวาสิโก วตฺตพฺโพ – ‘ปมํ ตาว วาจาย สชฺฌายํ กโรหี’ติ. กโรนฺเตน จ ตจปฺจกาทีนิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนุโลมปฏิโลมวเสน สชฺฌาโย กาตพฺโพ. ‘‘เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ’’ติ หิ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ. ตทนนฺตรํ วกฺกปฺจเก ‘‘มํสํ นฺหารุ อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ ¶ วกฺก’’นฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘วกฺกํ ¶ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ. ตโต ปปฺผาสปฺจเก ‘‘หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาส’’นฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ.
ตโต อิมํ ตนฺตึ อนารุฬฺหมฺปิ ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๔) อาคตํ มตฺถลุงฺคํ กรีสาวสาเน ตนฺตึ อาโรเปตฺวา อิมสฺมึ มตฺถลุงฺคปฺจเก ‘‘อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ มตฺถลุงฺค’’นฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘มตฺถลุงฺคํ กรีสํ อุทริยํ อนฺตคุณํ อนฺตํ ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ.
ตโต ¶ เมทฉกฺเก ‘‘ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท’’ติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘เมโท เสโท โลหิตํ ปุพฺโพ เสมฺหํ ปิตฺตํ มตฺถลุงฺคํ กรีสํ อุทริยํ อนฺตคุณํ อนฺตํ ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ.
ตโต มุตฺตฉกฺเก ‘‘อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’’นฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘มุตฺตํ ลสิกา สิงฺฆาณิกา เขโฬ วสา อสฺสุ เมโท เสโท โลหิตํ ปุพฺโพ เสมฺหํ ปิตฺตํ มตฺถลุงฺคํ กรีสํ อุทริยํ อนฺตคุณํ อนฺตํ ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ เอวํ กาลสตมฺปิ กาลสหสฺสมฺปิ กาลสตสหสฺสมฺปิ วาจาย สชฺฌาโย กาตพฺโพ. วจสา สชฺฌาเยน หิ กมฺมฏฺานตนฺติ ปคุณา โหติ; น อิโต จิโต จ จิตฺตํ วิธาวติ; โกฏฺาสา ปากฏา โหนฺติ, หตฺถสงฺขลิกา วิย ขายนฺติ, วติปาทปนฺติ วิย จ ขายนฺติ. ยถา จ ปน วจสา, ตเถว มนสาปิ สชฺฌาโย กาตพฺโพ. วจสา สชฺฌาโย หิ มนสา สชฺฌายสฺส ปจฺจโย โหติ. มนสา สชฺฌาโย ลกฺขณปฏิเวธสฺส ปจฺจโย โหติ. ลกฺขณปฏิเวโธ มคฺคผลปฏิเวธสฺส ปจฺจโย โหติ.
‘วณฺณโต’ติ เกสาทีนํ วณฺโณ ววตฺถเปตพฺโพ. ‘สณฺานโต’ติ เตสํเยว สณฺานํ ววตฺถเปตพฺพํ ¶ . ‘ทิสโต’ติ ¶ อิมสฺมึ สรีเร นาภิโต อุทฺธํ อุปริมา ทิสา, อโธ เหฏฺิมา ทิสา. ตสฺมา ‘‘อยํ โกฏฺาโส อิมิสฺสา นาม ทิสายา’’ติ ทิสา ววตฺถเปตพฺพา. ‘โอกาสโต’ติ ‘‘อยํ โกฏฺาโส อิมสฺมึ นาม โอกาเส ปติฏฺิโต’’ติ เอวํ ตสฺส ตสฺส โอกาโส ววตฺถเปตพฺโพ. ‘ปริจฺเฉทโต’ติ สภาคปริจฺเฉโท วิสภาคปริจฺเฉโทติ ทฺเว ปริจฺเฉทา. ตตฺถ ‘‘อยํ โกฏฺาโส เหฏฺา จ อุปริ จ ติริยฺจ อิมินา นาม ปริจฺฉินฺโน’’ติ เอวํ สภาคปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. ‘‘เกสา น โลมา, โลมาปิ น เกสา’’ติ เอวํ อมิสฺสีกตวเสน วิสภาคปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
เอวํ ¶ สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ อาจิกฺขนฺเตน ปน ‘‘อิทํ กมฺมฏฺานํ อสุกสฺมึ สุตฺเต ปฏิกฺกูลวเสน กถิตํ, อสุกสฺมึ ธาตุวเสนา’’ติ ตฺวา อาจิกฺขิตพฺพํ. อิทฺหิ มหาสติปฏฺาเน (ที. นิ. ๒.๓๗๒; ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย) ปฏิกฺกูลวเสเนว กถิตํ, มหาหตฺถิปโทปม (ม. นิ. ๑.๓๐๐ อาทโย) -มหาราหุโลวาท (ม. นิ. ๒.๑๑๓ อาทโย) -ธาตุวิภงฺเคสุ (ม. นิ. ๓.๓๔๒ อาทโย) ธาตุวเสน กถิตํ. กายคตาสติสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๑๕๓ อาทโย) ปน ยสฺส วณฺณโต อุปฏฺาติ, ตํ สนฺธาย จตฺตาริ ฌานานิ วิภตฺตานิ. ตตฺถ ธาตุวเสน กถิตํ วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ โหติ, ปฏิกฺกูลวเสน กถิตํ สมถกมฺมฏฺานํ. ตเทตํ อิธ สมถกมฺมฏฺานํ อวิเสสโต สพฺพสาธารณวเสน กถิตนฺติ วทนฺติเยวาติ.
เอวํ สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘อนุปุพฺพโต, นาติสีฆโต, นาติสณิกโต, วิกฺเขปปฏิพาหนโต, ปณฺณตฺติสมติกฺกมนโต, อนุปุพฺพมฺุจนโต, อปฺปนาโต, ตโย จ สุตฺตนฺตา’’ติ เอวํ ทสธา มนสิการโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ตตฺถ ‘อนุปุพฺพโต’ติ อิทฺหิ สชฺฌายกรณโต ปฏฺาย อนุปฏิปาฏิยา มนสิกาตพฺพํ, น เอกนฺตริกาย. เอกนฺตริกาย หิ มนสิกโรนฺโต ยถา นาม อกุสโล ปุริโส ทฺวตฺตึสปทํ นิสฺเสณึ เอกนฺตริกาย อาโรหนฺโต กิลนฺตกาโย ปตติ, น อาโรหนํ สมฺปาเทติ; เอวเมว ภาวนาสมฺปตฺติวเสน อธิคนฺตพฺพสฺส อสฺสาทสฺส อนธิคมา กิลนฺตจิตฺโต ปตติ, น ภาวนํ สมฺปาเทติ.
อนุปุพฺพโต มนสิกโรนฺเตนาปิ จ ‘นาติสีฆโต’ มนสิกาตพฺพํ. อติสีฆโต มนสิกโรโต หิ ¶ ยถา นาม ติโยชนํ มคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา โอกฺกมนวิสฺสชฺชนํ อสลฺลกฺเขตฺวา ¶ สีเฆน ชเวน สตฺตกฺขตฺตุมฺปิ คมนาคมนํ กโรโต ปุริสสฺส กิฺจาปิ อทฺธานํ ปริกฺขยํ คจฺฉติ, อถ โข ปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ โหติ; เอวเมว เกวลํ กมฺมฏฺานํ ปริโยสานํ ปาปุณาติ, อวิภูตํ ปน โหติ, น วิเสสํ อาวหติ. ตสฺมา นาติสีฆโต มนสิกาตพฺพํ.
ยถา จ นาติสีฆโต เอวํ ‘นาติสณิกโต’ปิ. อติสณิกโต มนสิกโรโต หิ ยถา นาม ตทเหว ติโยชนํ มคฺคํ คนฺตุกามสฺส ปุริสสฺส ¶ อนฺตรามคฺเค รุกฺขปพฺพตคหนาทีสุ วิลมฺพมานสฺส มคฺโค ปริกฺขยํ น คจฺฉติ, ทฺวีหตีเหน ปริโยสาเปตพฺโพ โหติ; เอวเมว กมฺมฏฺานํ ปริโยสานํ น คจฺฉติ, วิเสสาธิคมสฺส ปจฺจโย น โหติ.
‘วิกฺเขปปฏิพาหนโต’ติ กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ เจตโส วิกฺเขโป ปฏิพาหิตพฺโพ. อปฺปฏิพาหโต หิ ยถา นาม เอกปทิกํ ปปาตมคฺคํ ปฏิปนฺนสฺส ปุริสสฺส อกฺกมนปทํ อสลฺลกฺเขตฺวา อิโต จิโต จ วิโลกยโต ปทวาโร วิรชฺฌติ, ตโต สตโปริเส ปปาเต ปติตพฺพํ โหติ; เอวเมว พหิทฺธา วิกฺเขเป สติ กมฺมฏฺานํ ปริหายติ, ปริธํสติ. ตสฺมา วิกฺเขปปฏิพาหนโต มนสิกาตพฺพํ.
‘ปณฺณตฺติสมติกฺกมนโต’ติ ยา อยํ ‘‘เกสา โลมา’’ติ อาทิกา ปณฺณตฺติ ตํ อติกฺกมิตฺวา ปฏิกฺกูลนฺติ จิตฺตํ เปตพฺพํ. ยถา หิ อุทกทุลฺลภกาเล มนุสฺสา อรฺเ อุทปานํ ทิสฺวา ตตฺถ ตาลปณฺณาทิกํ กิฺจิเทว สฺาณํ พนฺธิตฺวา เตน สฺาเณน อาคนฺตฺวา นฺหายนฺติ เจว ปิวนฺติ จ, ยทา ปน เตสํ อภิณฺหสฺจาเรน อาคตาคตปทํ ปากฏํ โหติ, ตทา สฺาเณน กิจฺจํ น โหติ, อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ คนฺตฺวา นฺหายนฺติ เจว ปิวนฺติ จ; เอวเมว ปุพฺพภาเค ‘เกสา โลมา’ติ ปณฺณตฺติวเสน มนสิกโรโต ปฏิกฺกูลภาโว ปากโฏ โหติ. อถ ‘เกสา โลมา’ติ ปณฺณตฺตึ สมติกฺกมิตฺวา ปฏิกฺกูลภาเวเยว จิตฺตํ เปตพฺพํ.
‘อนุปุพฺพมฺุจนโต’ติ โย โย โกฏฺาโส น อุปฏฺาติ, ตํ ตํ มฺุจนฺเตน อนุปุพฺพมฺุจนโต มนสิกาตพฺพํ. อาทิกมฺมิกสฺส หิ ‘เกสา’ติ มนสิกโรโต มนสิกาโร คนฺตฺวา ‘มุตฺต’นฺติ ¶ อิมํ ปริโยสานโกฏฺาสเมว อาหจฺจ ติฏฺติ. ‘มุตฺต’นฺติ จ มนสิกโรโต มนสิกาโร คนฺตฺวา ‘เกสา’ติ อิมํ อาทิโกฏฺาสเมว อาหจฺจ ติฏฺติ. อถสฺส มนสิกโรโต เกจิ ¶ โกฏฺาสา อุปฏฺหนฺติ, เกจิ น อุปฏฺหนฺติ. เตน เย เย อุปฏฺหนฺติ เตสุ เตสุ ตาว กมฺมํ กาตพฺพํ, ยาว ทฺวีสุ อุปฏฺิเตสุ เตสมฺปิ เอโก สุฏฺุตรํ อุปฏฺหติ. เอวํ อุปฏฺิตํ ปน ตเมว ปุนปฺปุนํ มนสิกโรนฺเตน อปฺปนา อุปฺปาเทตพฺพา.
ตตฺรายํ อุปมา – ยถา หิ ทฺวตฺตึสตาลเก ตาลวเน วสนฺตํ มกฺกฏํ คเหตุกาโม ลุทฺโท อาทิมฺหิ ิตตาลสฺส ปณฺณํ สเรน วิชฺฌิตฺวา อุกฺกุฏฺึ กเรยฺย; อถ โส มกฺกโฏ ปฏิปาฏิยา ตสฺมึ ตสฺมึ ตาเล ¶ ปติตฺวา ปริยนฺตตาลเมว คจฺเฉยฺย; ตตฺถปิ คนฺตฺวา ลุทฺเทน ตเถว กเต ปุน เตเนว นเยน อาทิตาลํ อาคจฺเฉยฺย; โส เอวํ ปุนปฺปุนํ ปฏิปาฏิยา คจฺฉนฺโต อุกฺกุฏฺุกฺกุฏฺิฏฺาเนเยว อุฏฺหิตฺวา ปุน อนุกฺกเมน เอกสฺมึ ตาเล นิปติตฺวา ตสฺส เวมชฺเฌ มกุฬตาลปณฺณสูจึ ทฬฺหํ คเหตฺวา วิชฺฌิยมาโนปิ น อุฏฺเหยฺย, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.
ตตฺริทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ยถา หิ ตาลวเน ทฺวตฺตึสตาลา, เอวํ อิมสฺมึ กาเย ทฺวตฺตึส โกฏฺาสา; มกฺกโฏ วิย จิตฺตํ; ลุทฺโท วิย โยคาวจโร; มกฺกฏสฺส ทฺวตฺตึสตาลเก ตาลวเน นิวาโส วิย โยคิโน จิตฺตสฺส ทฺวตฺตึสโกฏฺาสเก กาเย อารมฺมณวเสน อนุสํจรณํ; ลุทฺเทน อาทิมฺหิ ิตตาลสฺส ปณฺณํ สเรน วิชฺฌิตฺวา อุกฺกุฏฺิยา กตาย มกฺกฏสฺส ตสฺมึ ตสฺมึ ตาเล ปติตฺวา ปริยนฺตตาลคมนํ วิย โยคิโน ‘เกสา’ติ มนสิกาเร อารทฺเธ ปฏิปาฏิยา คนฺตฺวา ปริโยสานโกฏฺาเส เอว จิตฺตสฺส สณฺานํ; ปุน ปจฺจาคมเนปิ เอเสว นโย; ปุนปฺปุนํ ปฏิปาฏิยา คจฺฉมานสฺส มกฺกฏสฺส อุกฺกุฏฺุกฺกุฏฺิฏฺาเน อุฏฺานํ วิย ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต เกสุจิ เกสุจิ อุปฏฺิเตสุ อนุปฏฺหนฺเต วิสฺสชฺเชตฺวา อุปฏฺิเตสุ ปริกมฺมกรณํ; อนุกฺกเมน เอกสฺมึ ตาเล นิปติตฺวา ตสฺส เวมชฺเฌ มกุฬตาลปณฺณสูจึ ทฬฺหํ คเหตฺวา วิชฺฌิยมานสฺสาปิ ¶ อนุฏฺานํ วิย อวสาเน ทฺวีสุ อุปฏฺิเตสุ โย สุฏฺุตรํ อุปฏฺาติ ตเมว ปุนปฺปุนํ มนสิกริตฺวา อปฺปนาย อุปฺปาทนํ.
อปราปิ อุปมา – ยถา นาม ปิณฺฑปาติโก ภิกฺขุ ทฺวตฺตึสกุลํ คามํ อุปนิสฺสาย วสนฺโต ปมเคเห เอว ทฺเว ภิกฺขา ลภิตฺวา ปรโต เอกํ วิสฺสชฺเชยฺย; ปุนทิวเส ติสฺโส ลภิตฺวา ปรโต ทฺเว วิสฺสชฺเชยฺย; ตติยทิวเส อาทิมฺหิเยว ปตฺตปูรํ ลภิตฺวา อาสนสาลํ คนฺตฺวา ปริภฺุเชยฺย, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. ทฺวตฺตึสกุลคาโม วิย หิ ทฺวตฺตึสากาโร; ปิณฺฑปาติโก วิย โยคาวจโร; ตสฺส ตํ คามํ อุปนิสฺสาย วาโส วิย โยคิโน ทฺวตฺตึสากาเร ปริกมฺมกรณํ; ปมเคเห ¶ ทฺเว ภิกฺขา ลภิตฺวา ปรโต เอกิสฺสา วิสฺสชฺชนํ วิย ทุติยทิวเส ติสฺโส ลภิตฺวา ปรโต ทฺวินฺนํ วิสฺสชฺชนํ วิย จ มนสิกโรโต มนสิกโรโต อนุปฏฺหนฺเต อนุปฏฺหนฺเต วิสฺสชฺเชตฺวา อุปฏฺิเตสุ อุปฏฺิเตสุ ¶ ยาว โกฏฺาสทฺวเย ปริกมฺมกรณํ; ตติยทิวเส อาทิมฺหิเยว ปตฺตปูรํ ลภิตฺวา อาสนสาลายํ นิสีทิตฺวา ปริโภโค วิย ทฺวีสุ โย สุฏฺุตรํ อุปฏฺหติ ตเมว ปุนปฺปุนํ มนสิกริตฺวา อปฺปนาย อุปฺปาทนํ.
‘อปฺปนาโต’ติ อปฺปนาโกฏฺาสโต. เกสาทีสุ เอเกกสฺมึ โกฏฺาเส อปฺปนา โหตีติ เวทิตพฺพาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.
‘ตโย จ สุตฺตนฺตา’ติ อธิจิตฺตํ, สีติภาโว, โพชฺฌงฺคโกสลฺลนฺติ อิเม ตโย สุตฺตนฺตา วีริยสมาธิโยชนตฺถํ เวทิตพฺพาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. ตตฺถ –
‘‘อธิจิตฺตมนุยุตฺเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ตีณิ นิมิตฺตานิ กาเลน กาลํ มนสิกาตพฺพานิ…กาเลน กาลํ สมาธินิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ, กาเลน กาลํ ปคฺคหนิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ, กาเลน กาลํ อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ. สเจ, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ เอกนฺตํ สมาธินิมิตฺตํเยว มนสิกเรยฺย, านํ ตํ จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺย. สเจ, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ เอกนฺตํ ปคฺคหนิมิตฺตํเยว มนสิกเรยฺย, านํ ตํ จิตฺตํ อุทฺธจฺจาย สํวตฺเตยฺย. สเจ, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ เอกนฺตํ อุเปกฺขานิมิตฺตํเยว มนสิกเรยฺย, านํ ตํ จิตฺตํ น สมฺมาสมาธิเยยฺย ¶ อาสวานํ ขยาย. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ กาเลน กาลํ สมาธินิมิตฺตํ, ปคฺคหนิมิตฺตํ, อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิกโรติ, ตํ โหติ จิตฺตํ มุทุ จ กมฺมนิยฺจ ปภสฺสรฺจ, น จ ปภงฺคุ, สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา อุกฺกํ พนฺธติ, อุกฺกํ พนฺธิตฺวา อุกฺกามุขํ อาลิมฺเปติ, อุกฺกามุขํ อาลิมฺเปตฺวา สณฺฑาเสน ชาตรูปํ คเหตฺวา อุกฺกามุเข ปกฺขิเปยฺย, อุกฺกามุเข ปกฺขิปิตฺวา กาเลน กาลํ อภิธมติ, กาเลน กาลํ อุทเกน ปริปฺโผเสติ, กาเลน กาลํ อชฺฌุเปกฺขติ ¶ . สเจ, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร ¶ วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา ตํ ชาตรูปํ เอกนฺตํ อภิธเมยฺย, านํ ตํ ชาตรูปํ ฑเหยฺย. สเจ, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา ตํ ชาตรูปํ เอกนฺตํ อุทเกน ปริปฺโผเสยฺย, านํ ตํ ชาตรูปํ นิพฺพาเยยฺย. สเจ, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา ตํ ชาตรูปํ เอกนฺตํ อชฺฌุเปกฺเขยฺย, านํ ตํ ชาตรูปํ น สมฺมา ปริปากํ คจฺเฉยฺย.
‘‘ยโต จ โข, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา ตํ ชาตรูปํ กาเลน กาลํ อภิธมติ, กาเลน กาลํ อุทเกน ปริปฺโผเสติ, กาเลน กาลํ อชฺฌุเปกฺขติ, ตํ โหติ ชาตรูปํ มุทุ จ กมฺมนิยฺจ ปภสฺสรฺจ, น จ ปภงฺคุ, สมฺมา อุเปติ กมฺมาย; ยสฺสา ยสฺสา จ ปิฬนฺธนวิกติยา อากงฺขติ – ยทิ ปฏฺฏิกาย ยทิ กุณฺฑลาย ยทิ คีเวยฺยกาย ยทิ สุวณฺณมาลาย, ตฺจสฺส อตฺถํ อนุโภติ.
‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺเตน…เป… สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย; ยสฺส ยสฺส จ อภิฺาสจฺฉิกรณียสฺส ธมฺมสฺส จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ อภิฺา สจฺฉิกิริยาย, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๐๓) อิทํ สุตฺตํ อธิจิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อนุตฺตรํ สีติภาวํ สจฺฉิกาตุํ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคณฺหาติ, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ, ยสฺมึ สมเย ¶ จิตฺตํ สมฺปหํสิตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสติ, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, ปณีตาธิมุตฺติโก จ โหติ นิพฺพานาภิรโต จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อนุตฺตรํ สีติภาวํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ (อ. นิ. ๖.๘๕) อิทํ สุตฺตํ สีติภาโวติ เวทิตพฺพํ.
โพชฺฌงฺคโกสลฺลํ ¶ ปน ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย ลีนํ จิตฺตํ โหติ, อกาโล ¶ ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔) สํยุตฺตมหาวคฺเค โพชฺฌงฺคสํยุตฺเต อาคตเมว.
อิติ อิทํ สตฺตวิธํ อุคฺคหโกสลฺลํ สุคฺคหิตํ กตฺวา อิมฺจ ทสวิธํ มนสิการโกสลฺลํ สุฏฺุ ววตฺถเปตฺวา เตน โยคินา อุภยโกสลฺลวเสน กมฺมฏฺานํ สาธุกํ อุคฺคเหตพฺพํ. สเจ ปนสฺส อาจริเยน สทฺธึ เอกวิหาเรเยว ผาสุ โหติ, เอวํ วิตฺถาเรน อกถาเปตฺวา กมฺมฏฺานมนุยฺุชนฺเตน วิเสสํ ลภิตฺวา อุปรูปริ กถาเปตพฺพํ. อฺตฺถ วสิตุกาเมน ยถาวุตฺเตน วิธินา วิตฺถารโต กถาเปตฺวา ปุนปฺปุนํ ปริวตฺเตตฺวา สพฺพํ คณฺิฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา กมฺมฏฺานภาวนาย อนนุรูปํ เสนาสนํ ปหาย มหาวาสตาทิอฏฺารสโทสวชฺชิเต อนุรูเป วิหาเร วิหรนฺเตน ขุทฺทกปลิโพธุปจฺเฉทํ กตฺวา โย ตาว ราคจริโต โหติ, เตน ยสฺมา ราโค ปหาตพฺโพ, ตสฺมา ปฏิกฺกูลมนสิกาเร ปริกมฺมํ กาตพฺพํ.
กโรนฺเตน ปน เกเสสุ ตาว นิมิตฺตํ คเหตพฺพํ. กถํ? เอกํ วา ทฺเว วา เกเส ลฺุจิตฺวา หตฺถตเล เปตฺวา วณฺโณ ตาว ววตฺถเปตพฺโพ. ฉินฺนฏฺาเนปิ เกเส โอโลเกตุํ วฏฺฏติ; อุทกปตฺเต วา ยาคุปตฺเต วา โอโลเกตุมฺปิ วฏฺฏติเยว. กาฬกกาเล ทิสฺวา กาฬกาติ มนสิกาตพฺพา; เสตกาเล เสตาติ. มิสฺสกกาเล ปน อุสฺสทวเสน มนสิกาตพฺพา โหนฺติ. ยถา จ เกเสสุ, เอวํ สกเลปิ ตจปฺจเก ทิสฺวาว นิมิตฺตํ คเหตพฺพํ. เอวํ นิมิตฺตํ คเหตฺวา สพฺพโกฏฺาเสสุ วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน ววตฺถเปตฺวา วณฺณสณฺานคนฺธอาสโยกาสวเสน ปฺจธา ปฏิกฺกูลโต ววตฺถเปตพฺพา.
ตตฺรายํ ¶ สพฺพโกฏฺาเสสุ อนุปุพฺพกถา – เกสา ตาว ปกติวณฺเณน กาฬกา อทฺทาริฏฺกวณฺณา, สณฺานโต ทีฆวฏฺฏลิกา ตุลาทณฺฑสณฺานา, ทิสโต อุปริมทิสาย ชาตา, โอกาสโต อุโภสุ ปสฺเสสุ กณฺณจูฬิกาหิ, ปุรโต นลาฏนฺเตน, ปจฺฉโต คลวาฏเกน ¶ ปริจฺฉินฺนา. สีสกฏาหเวนํ อลฺลจมฺมํ เกสานํ โอกาโส. ปริจฺเฉทโต เกสา สีสเวนจมฺเม วีหคฺคมตฺตํ ปวิสิตฺวา ปติฏฺิเตน เหฏฺา อตฺตโน มูลตเลน, อุปริ อากาเสน, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา. ทฺเว เกสา เอกโต นตฺถีติ อยํ สภาคปริจฺเฉโท.
‘เกสา น โลมา, โลมา น เกสา’ติ เอวํ อวเสเสหิ เอกตึสโกฏฺาเสหิ อมิสฺสีกตา ¶ เกสา นาม ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโสติ อยํ วิสภาคปริจฺเฉโท. อิทํ เกสานํ วณฺณาทิโต ววตฺถาปนํ.
อิทํ ปน เตสํ วณฺณาทิวเสน ปฺจธา ปฏิกฺกูลโต ววตฺถาปนํ – เกสา จ นาเมเต วณฺณโตปิ ปฏิกฺกูลา, สณฺานโตปิ คนฺธโตปิ อาสยโตปิ โอกาสโตปิ ปฏิกฺกูลา. มนฺุเปิ หิ ยาคุปตฺเต วา ภตฺตปตฺเต วา เกสวณฺณํ กิฺจิ ทิสฺวา ‘เกสมิสฺสกมิทํ, หรถ น’นฺติ ชิคุจฺฉนฺติ. เอวํ เกสา วณฺณโต ปฏิกฺกูลา. รตฺตึ ภฺุชนฺตาปิ เกสสณฺานํ อกฺกวากํ วา มกจิวากํ วา ฉุปิตฺวาปิ ตเถว ชิคุจฺฉนฺติ. เอวํ สณฺานโต ปฏิกฺกูลา.
เตลมกฺขนปุปฺผธูมาทิสงฺขารวิรหิตานฺจ เกสานํ คนฺโธ ปรมเชคุจฺโฉ โหติ, ตโต เชคุจฺฉตโร อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตานํ. เกสา หิ วณฺณสณฺานโต อปฺปฏิกฺกูลาปิ สิยุํ, คนฺเธน ปน ปฏิกฺกูลาเยว. ยถา หิ ทหรสฺส กุมารสฺส วจฺจํ วณฺณโต หฬิทฺทิวณฺณํ, สณฺานโตปิ หลิทฺทิปิณฺฑสณฺานํ; สงฺขารฏฺาเน ฉฑฺฑิตฺจ อุทฺธุมาตกกาฬสุนขสรีรํ วณฺณโต ตาลปกฺกวณฺณํ, สณฺานโต วฏฺเฏตฺวา วิสฺสฏฺมุทิงฺคสณฺานํ, ทาาปิสฺส สุมนมกุฬสทิสาติ ¶ อุภยมฺปิ วณฺณสณฺานโต สิยา อปฺปฏิกฺกูลํ, คนฺเธน ปน ปฏิกฺกูลเมว; เอวํ เกสาปิ สิยุํ วณฺณสณฺานโต อปฺปฏิกฺกูลา, คนฺเธน ปน ปฏิกฺกูลา เอวาติ.
ยถา ปน อสุจิฏฺาเน คามนิสฺสนฺเทน ชาตานิ สูเปยฺยปณฺณานิ นาคริกมนุสฺสานํ เชคุจฺฉานิ โหนฺติ อปริโภคานิ, เอวํ เกสาปิ ปุพฺพโลหิตมุตฺตกรีสปิตฺตเสมฺหาทินิสฺสนฺเทน ชาตตฺตา อติเชคุจฺฉาติ อิทํ เนสํ ‘อาสยโต’ ปาฏิกุลฺยํ. อิเม จ เกสา นาม คูถราสิมฺหิ อุฏฺิตกณฺณิกํ ¶ วิย เอกตฺตึสโกฏฺาสราสิมฺหิ ชาตา. เต สุสานสงฺการฏฺานาทีสุ ชาตสากํ วิย, ปริขาทีสุ ชาตกมลกุวลยาทิปุปฺผํ วิย จ อสุจิฏฺาเน ชาตตฺตา ปรมเชคุจฺฉาติ อิทํ เตสํ ‘โอกาสโต’ ปาฏิกฺกูลฺยํ.
ยถา จ เกสานํ, เอวํ สพฺพโกฏฺาสานํ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน ปฺจธา ปฏิกฺกูลตา ววตฺถเปตพฺพา. วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน ปน สพฺเพปิ วิสุํ วิสุํ ววตฺถเปตพฺพา.
ตตฺถ ¶ โลมา ตาว ปกติวณฺณโต น เกสา วิย อสมฺภินฺนกาฬกา, กาฬปิงฺคลา ปน โหนฺติ; สณฺานโต โอนตคฺคตาลมูลสณฺานา; ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา; โอกาสโต เปตฺวา เกสานํ ปติฏฺิโตกาสฺจ หตฺถปาทตลานิ จ เยภุยฺเยน อวเสสสรีรเวนจมฺเม ชาตา; ปริจฺเฉทโต สรีรเวนจมฺเม ลิกฺขามตฺตํ ปวิสิตฺวา ปติฏฺิเตน เหฏฺา อตฺตโน มูลตเลน, อุปริ อากาเสน, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา. ทฺเว โลมา เอกโต นตฺถิ. อยํ เตสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
นขาติ วีสติยา นขปฏฺฏานํ นามํ. เต สพฺเพปิ วณฺณโต เสตา; สณฺานโต มจฺฉสกลิกสณฺานา; ทิสโต ปาทนขา เหฏฺิมทิสาย ชาตา, หตฺถนขา อุปริมทิสายาติ ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา; โอกาสโต องฺคุลีนํ อคฺคปิฏฺเสุ ปติฏฺิตา; ปริจฺเฉทโต ทฺวีสุ ทิสาสุ องฺคุลิโกฏิมํเสหิ, อนฺโต องฺคุลิปิฏฺิมํเสน, พหิ เจว อคฺเค จ อากาเสน, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา. ทฺเว นขา เอกโต นตฺถิ. อยํ ¶ เนสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
ทนฺตาติ ปริปุณฺณทนฺตสฺส ทฺวตฺตึส ทนฺตฏฺิกานิ. เตปิ วณฺณโต เสตา; สณฺานโต อเนกสณฺานา. เตสฺหิ เหฏฺิมาย ตาว ทนฺตปาฬิยา มชฺเฌ จตฺตาโร ทนฺตา มตฺติกาปิณฺเฑ ปฏิปาฏิยา ปิตอลาพุพีชสณฺานา. เตสํ อุโภสุ ปสฺเสสุ เอเกโก เอกมูลโก เอกโกฏิโก มลฺลิกมกุฬสณฺาโน. ตโต เอเกโก ทฺวิมูลโก ทฺวิโกฏิโก ยานกอุปตฺถมฺภนิกสณฺาโน. ตโต ทฺเว ทฺเว ติมูลา ติโกฏิกา. ตโต ทฺเว ทฺเว จตุมูลา จตุโกฏิกาติ. อุปริมปาฬิยาปิ เอเสว นโย ¶ . ทิสโต อุปริมทิสาย ชาตา. โอกาสโต ทฺวีสุ หนุกฏฺิเกสุ ปติฏฺิตา. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา หนุกฏฺิเก ปติฏฺิเตน อตฺตโน มูลตเลน, อุปริ อากาเสน, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา. ทฺเว ทนฺตา เอกโต นตฺถิ. อยํ เนสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
ตโจติ สกลสรีรํ เวเตฺวา ิตจมฺมํ. ตสฺส อุปริ กาฬสามปีตาทิวณฺณา ฉวิ นาม, ยา สกลสรีรโตปิ สงฺกฑฺฒิยมานา พทรฏฺิมตฺตา โหติ. ตโจ ปน วณฺณโต เสโตเยว. โส จสฺส เสตภาโว อคฺคิชาลาภิฆาตปหรณปหาราทีหิ วิทฺธํสิตาย ฉวิยา ปากโฏ โหติ. สณฺานโต สรีรสณฺาโนว โหติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป.
วิตฺถารโต ¶ ปน ปาทงฺคุลิตฺตโจ โกสการกโกสสณฺาโน. ปิฏฺิปาทตฺตโจ ปุฏพนฺธอุปาหนสณฺาโน. ชงฺฆตฺตโจ ภตฺตปุฏกตาลปณฺณสณฺาโน. อูรุตฺตโจ ตณฺฑุลภริตทีฆตฺถวิกสณฺาโน. อานิสทตฺตโจ อุทกปูริตปฏปริสฺสาวนสณฺาโน. ปิฏฺิตฺตโจ ผลโกนทฺธจมฺมสณฺาโน. กุจฺฉิตฺตโจ วีณาโทณิโกนทฺธจมฺมสณฺาโน. อุรตฺตโจ เยภุยฺเยน จตุรสฺสสณฺาโน. อุภยพาหุตฺตโจ ตูณีโรนทฺธจมฺมสณฺาโน. ปิฏฺิหตฺถตฺตโจ ขุรโกสกสณฺาโน, ผณกตฺถวิกสณฺาโน วา. หตฺถงฺคุลิตฺตโจ กฺุจิกาโกสกสณฺาโน. คีวตฺตโจ คลกฺจุกสณฺาโน. มุขตฺตโจ ฉิทฺทาวจฺฉิทฺโท กีฏกุลาวกสณฺาโน. สีสตฺตโจ ปตฺตตฺถวิกสณฺาโนติ.
ตจปริคฺคณฺหเกน จ โยคาวจเรน อุตฺตโรฏฺโต ปฏฺาย ¶ อุปริ มุขํ าณํ เปเสตฺวา ปมํ ตาว มุขํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตจมฺมํ ววตฺถเปตพฺพํ. ตโต นลาฏฏฺิจมฺมํ. ตโต ถวิกาย ปกฺขิตฺตปตฺตสฺส จ ถวิกาย จ อนฺตเรน หตฺถมิว สีสฏฺิกสฺส จ สีสจมฺมสฺส จ อนฺตเรน าณํ เปเสตฺวา อฏฺิเกน สทฺธึ จมฺมสฺส เอกาพทฺธภาวํ วิโยเชนฺเตน สีสจมฺมํ ววตฺถเปตพฺพํ. ตโต ขนฺธจมฺมํ. ตโต อนุโลเมน ปฏิโลเมน จ ทกฺขิณหตฺถจมฺมํ. อถ เตเนว นเยน วามหตฺถจมฺมํ. ตโต ปิฏฺิจมฺมํ. ตํ ตํ ววตฺถเปตฺวา อนุโลเมน จ ปฏิโลเมน จ ทกฺขิณปาทจมฺมํ. อถ เตเนว ¶ นเยน วามปาทจมฺมํ. ตโต อนุกฺกเมเนว วตฺถิอุทรหทยคีวจมฺมานิ ววตฺถเปตพฺพานิ. อถ คีวาจมฺมานนฺตรํ เหฏฺิมหนุจมฺมํ ววตฺถเปตฺวา อธโรฏฺปริโยสานํ ปาเปตฺวา นิฏฺเปตพฺพํ. เอวํ โอฬาริโกฬาริกํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส สุขุมมฺปิ ปากฏํ โหติ.
ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาโต. โอกาสโต สกลสรีรํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิโต. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา ปติฏฺิตตเลน, อุปริ อากาเสน ปริจฺฉินฺโน. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
มํสนฺติ นว มํสเปสิสตานิ. ตํ สพฺพมฺปิ วณฺณโต รตฺตํ กึสุกปุปฺผสทิสํ; สณฺานโต ชงฺฆปิณฺฑิกมํสํ ตาลปณฺณปุฏภตฺตสณฺานํ, อูรุมํสํ นิสทโปตกสณฺานํ, อานิสทมํสํ อุทฺธนโกฏิสณฺานํ, ปิฏฺิมํสํ ตาลคุฬปฏลสณฺานํ, ผาสุกทฺวยมํสํ โปตฺถลิกาย กุจฺฉิยํ ตนุมตฺติกาเลปนสณฺานํ, ถนมํสํ วฏฺเฏตฺวา อวกฺขิตฺตมตฺติกาปิณฺฑสณฺานํ, พาหุทฺวยมํสํ ¶ ทิคุณํ กตฺวา ปิตนิจฺจมฺมมหามูสิกสณฺานํ. เอวํ โอฬาริโกฬาริกํ มํสํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส สุขุมมฺปิ ปากฏํ โหติ. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต สาธิกานิ ตีณิ อฏฺิสตานิ อนุลิมฺเปตฺวา ิตํ. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา อฏฺิสงฺฆาเต ปติฏฺิตตเลน, อุปริ ตเจน, ติริยํ อฺมฺเน ¶ ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
‘นฺหารู’ติ นว นฺหารุสตานิ. วณฺณโต สพฺเพปิ นฺหารู เสตา; สณฺานโต นานาสณฺานา. เอเตสุ หิ คีวาย อุปริภาคโต ปฏฺาย ปฺจ มหานฺหารู สรีรํ วินทฺธมานา หทยสฺส ปุริมปสฺเสน โอติณฺณา, ปฺจ ปจฺฉิมปสฺเสน, ปฺจ ทกฺขิณปสฺเสน, ปฺจ วามปสฺเสน, ทกฺขิณหตฺถํ วินทฺธมานาปิ หตฺถสฺส ปุริมปสฺเสน ปฺจ, ปจฺฉิมปสฺเสน ปฺจ, ตถา วามหตฺถํ วินทฺธมานาปิ. ทกฺขิณปาทํ วินทฺธมานาปิ ปาทสฺส ปุริมปสฺเสน ปฺจ, ปจฺฉิมปสฺเสน ปฺจ, ตถา วามปาทํ วินทฺธมานาปีติ. เอวํ สรีรธารกา นาม สฏฺิ มหานฺหารู กายํ วินทฺธมานา โอติณฺณา, เย กณฺฑราติปิ วุจฺจนฺติ. เต สพฺเพปิ กนฺทลมกุฬสณฺานา.
อฺเ ¶ ปน ตํ ตํ ปเทสํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตา ตโต สุขุมตรา สุตฺตรชฺชุกสณฺานา. อฺเ ตโต สุขุมตรา ปูติลตาสณฺานา. อฺเ ตโต สุขุมตรา มหาวีณาตนฺติสณฺานา. อฺเ ถูลสุตฺตกสณฺานา. หตฺถปาทปิฏฺิยํ นฺหารู สกุณปาทสณฺานา. สีสนฺหารู ทารกานํ สีสชาลกสณฺานา. ปิฏฺินฺหารู อาตเป ปสาริตอลฺลชาลสณฺานา. อวเสสา ตํตํองฺคปจฺจงฺคานุคตา นฺหารู สรีเร ปฏิมุกฺกชาลกฺจุกสณฺานา. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา. โอกาสโต สกลสรีเร อฏฺีนิ อาพนฺธิตฺวา ิตา. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา ติณฺณํ อฏฺิสตานํ อุปริ ปติฏฺิตตเลหิ, อุปริ มํสจมฺมานิ อาหจฺจ ิตปเทเสหิ, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา. อยํ เนสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
อฏฺีติ เปตฺวา ทฺวตฺตึส ทนฺตฏฺีนิ อวเสสานิ จตุสฏฺิ หตฺถฏฺีนิ, จตุสฏฺิ ปาทฏฺีนิ, จตุสฏฺิ มํสนิสฺสิตานิ มุทุอฏฺีนิ, ทฺเว ปณฺหิกฏฺีนิ, เอเกกสฺมึ ปาเท ทฺเว โคปฺผกฏฺีนิ, ทฺเว ชงฺฆฏฺีนิ, ทฺเว ชณฺณุกฏฺีนิ, ทฺเว ¶ อูรุฏฺีนิ, ทฺเว กฏิฏฺีนิ, อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏกฏฺีนิ, จตุวีสติ ¶ ผาสุกฏฺีนิ, จุทฺทส อุรฏฺีนิ, เอกํ หทยฏฺิ, ทฺเว อกฺขกฏฺีนิ, ทฺเว โกฏฺฏฺีนิ, ทฺเว พาหฏฺีนิ, ทฺเว ทฺเว อคฺคพาหฏฺีนิ, สตฺต คีวฏฺีนิ, ทฺเว หนุกฏฺีนิ, เอกํ นาสิกฏฺิ, ทฺเว อกฺขิฏฺีนิ, ทฺเว กณฺณฏฺีนิ, เอกํ นลาฏฏฺิ, เอกํ มุทฺธฏฺิ, นว สีสกปาลฏฺีนีติ เอวํ ติมตฺตานิ อฏฺิสตานิ.
ตานิ สพฺพานิปิ วณฺณโต เสตานิ, สณฺานโต นานาสณฺานานิ. ตตฺถ หิ อคฺคปาทงฺคุลิฏฺีนิ กตกพีชสณฺานานิ. ตทนนฺตรานิ มชฺฌปพฺพฏฺีนิ ปนสฏฺิสณฺานานิ. มูลปพฺพฏฺีนิ ปณวสณฺานานิ. ปิฏฺิปาทฏฺีนิ โกฏฺิตกนฺทลกนฺทราสิสณฺานานิ. ปณฺหิกฏฺิ เอกฏฺิตาลผลพีชสณฺานํ. โคปฺผกฏฺีนิ พนฺธกีฬาโคฬกสณฺานานิ. ชงฺฆฏฺีนํ โคปฺผกฏฺีสุ ปติฏฺิตฏฺานํ อนปนีตตจสินฺทิกฬีรสณฺานํ. ขุทฺทกชงฺฆฏฺิกํ ธนุกทณฺฑสณฺานํ, มหนฺตํ มิลาตสปฺปปิฏฺิสณฺานํ. ชณฺณุกฏฺิ เอกโต ปริกฺขีณเผณกสณฺานํ.
ตตฺถ ชงฺฆฏฺิกสฺส ปติฏฺิตฏฺานํ อติขิณคฺคโคสิงฺคสณฺานํ. อูรุฏฺิ ทุตฺตจฺฉิตวาสิผรสุทณฺฑกสณฺานํ. ตสฺส กฏิฏฺิมฺหิ ปติฏฺิตฏฺานํ กีฬาโคฬกสณฺานํ. เตน กฏิฏฺิโน ปติฏฺิตฏฺานํ อคฺคจฺฉินฺนมหาปุนฺนาคผลสณฺานํ. กฏิฏฺีนิ ทฺเวปิ เอกาพทฺธานิ หุตฺวา กุมฺภการกอุทฺธนสณฺานานิ, ปาฏิเยกฺกํ กมฺมารกูฏโยตฺตกสณฺานานิ. โกฏิยํ ิตอานิสทฏฺิ ¶ อโธมุขํ กตฺวา คหิตสปฺปผณสณฺานํ สตฺตสุ าเนสุ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ. ปิฏฺิกณฺฏกฏฺีนิ ¶ อพฺภนฺตรโต อุปรูปริ ปิตสีสกปฏฺฏเวกสณฺานานิ, พาหิรโต วฏฺฏนาวฬิสณฺานานิ. เตสํ อนฺตรนฺตรา กกจทนฺตสทิสา ทฺเว ตโย กณฺฏกา โหนฺติ. จตุวีสติยา ผาสุกฏฺีสุ อปริปุณฺณานิ อปริปุณฺณาสิตสณฺานานิ, ปริปุณฺณานิ ปริปุณฺณาสิตสณฺานานิ. สพฺพานิปิ โอทาตกุกฺกุฏสฺส ปสาริตปกฺขสณฺานานิ.
จุทฺทส อุรฏฺีนิ ชิณฺณสนฺทมานิกปฺชรสณฺานานิ. หทยฏฺิ ทพฺพิผณสณฺานํ. อกฺขกฏฺีนิ ขุทฺทกโลหวาสิทณฺฑสณฺานานิ. โกฏฺฏฺีนิ เอกโต ปริกฺขีณสีหฬกุทาลสณฺานานิ. พาหุฏฺีนิ อาทาสทณฺฑกสณฺานานิ. อคฺคพาหุฏฺีนิ ยมกตาลกนฺทสณฺานานิ. มณิพนฺธฏฺีนิ เอกโต อลฺลียาเปตฺวา ปิตสีสกปฏฺฏเวกสณฺานานิ. ปิฏฺิหตฺถฏฺีนิ โกฏฺฏิตกนฺทลกนฺทราสิสณฺานานิ. หตฺถงฺคุลีสุ มูลปพฺพฏฺีนิ ปณวสณฺานานิ; มชฺฌปพฺพฏฺีนิ อปริปุณฺณปนสฏฺิสณฺานานิ; อคฺคปพฺพฏฺีนิ กตกพีชสณฺานานิ. สตฺต คีวฏฺีนิ ¶ ทณฺเฑน วิชฺฌิตฺวา ปฏิปาฏิยา ปิตวํสกฬีรจกฺกลิกสณฺานานิ. เหฏฺิมหนุกฏฺิ กมฺมารานํ อโยกูฏโยตฺตกสณฺานํ, อุปริมํ อวเลขนสตฺถกสณฺานํ.
อกฺขิกูปนาสากูปฏฺีนิ อปนีตมิฺชตรุณตาลฏฺิสณฺานานิ. นลาฏฏฺิ อโธมุขปิตสงฺขถาลกกปาลสณฺานํ. กณฺณจูฬิกฏฺีนิ นฺหาปิตขุรโกสกสณฺานานิ. นลาฏกณฺณจูฬิกานํ อุปริ ปฏฺฏพนฺธโนกาเส อฏฺิ สงฺกุฏิตฆฏปุณฺณปฏลขณฺฑสณฺานํ. มุทฺธฏฺิ มุขจฺฉินฺนวงฺกนาฬิเกรสณฺานํ. สีสฏฺีนิ สิพฺเพตฺวา ปิตชชฺชรลาพุกฏาหสณฺานานิ.
ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตานิ. โอกาสโต อวิเสเสน สกลสรีเร ¶ ิตานิ. วิเสเสน ปเนตฺถ สีสฏฺีนิ คีวฏฺีสุ ปติฏฺิตานิ, คีวฏฺีนิ ปิฏฺิกณฺฏกฏฺีสุ, ปิฏฺิกณฺฏกฏฺีนิ กฏิฏฺีสุ, กฏิฏฺีนิ อูรุฏฺีสุ, อูรุฏฺีนิ ชณฺณุกฏฺีสุ, ชณฺณุกฏฺีนิ ชงฺฆฏฺีสุ, ชงฺฆฏฺีนิ โคปฺผกฏฺีสุ, โคปฺผกฏฺีนิ ปิฏฺิปาทฏฺีสุ ปติฏฺิตานิ. ปริจฺเฉทโต อนฺโต อฏฺิมิฺเชน, อุปริ มํเสน, อคฺเค มูเล จ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนานิ. อยํ เนสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
อฏฺิมิฺชนฺติ ¶ เตสํ เตสํ อฏฺีนํ อพฺภนฺตรคตํ มิฺชํ. ตํ วณฺณโต เสตํ. สณฺานโต มหนฺตมหนฺตานํ อฏฺีนํ อพฺภนฺตรคตํ เวฬุนาฬิยํ ปกฺขิตฺตเสทิตมหาเวตฺตคฺคสณฺานํ, ขุทฺทานุขุทฺทกานํ อพฺภนฺตรคตํ เวฬุยฏฺิปพฺเพสุ ปกฺขิตฺตเสทิตตนุเวตฺตคฺคสณฺานํ. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต อฏฺีนํ อพฺภนฺตเร ปติฏฺิตํ. ปริจฺเฉทโต อฏฺีนํ อพฺภนฺตรตเลหิ ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
วกฺกนฺติ เอกพนฺธนา ทฺเว มํสปิณฺฑา. ตํ วณฺณโต มนฺทรตฺตํ ปาฬิภทฺทกฏฺิวณฺณํ. สณฺานโต ทารกานํ ยมกกีฬาโคฬกสณฺานํ, เอกวณฺฏปฏิพทฺธอมฺพผลทฺวยสณฺานํ วา. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต คลวาฏกา นิกฺขนฺเตน เอกมูเลน โถกํ คนฺตฺวา ทฺวิธา ภินฺเนน ถูลนฺหารุนา วินิพทฺธํ หุตฺวา หทยมํสํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ. ปริจฺเฉทโต วกฺกํ วกฺกภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
หทยนฺติ หทยมํสํ. ตํ วณฺณโต รตฺตํ ปทุมปตฺตปิฏฺิวณฺณํ. สณฺานโต พาหิรปตฺตานิ อปเนตฺวา ¶ อโธมุขปิตปทุมมกุฬสณฺานํ. พหิ มฏฺํ; อนฺโต โกสาตกีผลสฺส อพฺภนฺตรสทิสํ. ปฺวนฺตานํ โถกํ วิกสิตํ, มนฺทปฺานํ มกุฬิตเมว. อนฺโต จสฺส ปุนฺนาคฏฺิปติฏฺานมตฺโต อาวาฏโก โหติ, ยตฺถ อฑฺฒปสตมตฺตํ โลหิตํ สณฺาติ; ยํ นิสฺสาย มโนธาตุ มโนวิฺาณธาตุ จ วตฺตนฺติ. ตํ ปเนตํ ราคจริตสฺส ¶ รตฺตํ โหติ, โทสจริตสฺส กาฬกํ, โมหจริตสฺส มํสโธวนุทกสทิสํ, วิตกฺกจริตสฺส กุลตฺถยูสวณฺณํ, สทฺธาจริตสฺส กณิการปุปฺผวณฺณํ, ปฺาจริตสฺส อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ ปณฺฑรํ ปริสุทฺธํ นิทฺโธตชาติมณิ วิย ชุติมนฺตํ ขายติ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต สรีรพฺภนฺตเร ทฺวินฺนํ ถนานํ มชฺเฌ ปติฏฺิตํ. ปริจฺเฉทโต หทยํ หทยภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
ยกนนฺติ ยมกมํสปฏลํ. ตํ วณฺณโต รตฺตปณฺฑุกธาตุกํ, นาติรตฺตกุมุทสฺส ปตฺตปิฏฺิวณฺณํ. สณฺานโต มูเล เอกํ, อคฺเค ยมกํ โกวิฬารปตฺตสณฺานํ ¶ . ตฺจ ทนฺธานํ เอกเมว โหติ มหนฺตํ, ปฺวนฺตานํ ทฺเว วา ตีณิ วา ขุทฺทกานิ. ทิสโต อุปริมทิสาย ชาตํ. โอกาสโต ทฺวินฺนํ ถนานํ อพฺภนฺตเร ทกฺขิณปสฺสํ นิสฺสาย ิตํ. ปริจฺเฉทโต ยกนํ ยกนภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
กิโลมกนฺติ ปฏิจฺฉนฺนาปฏิจฺฉนฺนเภทโต ทุวิธํ ปริโยนหนมํสํ. ตํ ทุวิธมฺปิ วณฺณโต เสตํ, ทุกูลปิโลติกวณฺณํ. สณฺานโต อตฺตโน โอกาสสณฺานํ. ทิสโต ปฏิจฺฉนฺนกิโลมกํ อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. อิตรํ ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต ปฏิจฺฉนฺนกิโลมกํ หทยฺจ วกฺกฺจ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตํ. อปฏิจฺฉนฺนกิโลมกํ สกลสรีเร จมฺมสฺส เหฏฺโต มํสํ ปริโยนทฺธิตฺวา ิตํ. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา มํเสน, อุปริ จมฺเมน, ติริยํ กิโลมกภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
ปิหกนฺติ อุทรชิวฺหามํสํ. ตํ วณฺณโต นีลํ นิคฺคุณฺฑิกปุปฺผวณฺณํ. สณฺานโต สตฺตงฺคุลปฺปมาณํ อพนฺธนํ กาฬวจฺฉกชิวฺหาสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต หทยสฺส วามปสฺเส อุทรปฏลสฺส มตฺถกปสฺสํ นิสฺสาย ิตํ, ยสฺมึ ปหรณปฺปหาเรน พหิ นิกฺขนฺเต สตฺตานํ ชีวิตกฺขโย โหติ. ปริจฺเฉทโต ¶ ปิหกภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
ปปฺผาสนฺติ ¶ ทฺวตฺตึสมํสขณฺฑปฺปเภทํ ปปฺผาสมํสํ. ตํ วณฺณโต รตฺตํ นาติปกฺกอุทุมฺพรผลวณฺณํ. สณฺานโต วิสมจฺฉินฺนพหลปูวขณฺฑสณฺานํ. อพฺภนฺตเร อสิตปีตานํ อภาเว อุคฺคเตน กมฺมชเตชุสฺมนา อพฺภาหตตฺตา สงฺขาทิตปลาลปิณฺฑมิว นิรสํ นิโรชํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต สรีรพฺภนฺตเร ทฺวินฺนํ ถนานมนฺตเร หทยฺจ ยกนฺจ ปฏิจฺฉาเทตฺวา โอลมฺพนฺตํ ิตํ. ปริจฺเฉทโต ผปฺผาสภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
อนฺตนฺติ ปุริสสฺส ทฺวตฺตึส หตฺถา, อิตฺถิยา อฏฺวีสติหตฺถา เอกวีสติยา าเนสุ โอภคฺคา อนฺตวฏฺฏิ. ตเทตํ วณฺณโต เสตํ สกฺขรสุธาวณฺณํ ¶ . สณฺานโต โลหิตโทณิยํ อาภุชิตฺวา ปิตสีสจฺฉินฺนสปฺปสณฺานํ. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต อุปริ คลวาฏเก เหฏฺา จ กรีสมคฺเค วินิพนฺธตฺตา คลวาฏกกรีสมคฺคปริยนฺเต สรีรพฺภนฺตเร ิตํ. ปริจฺเฉทโต อนฺตภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
อนฺตคุณนฺติ อนฺตโภคฏฺาเนสุ พนฺธนํ. ตํ วณฺณโต เสตํ ทกสีตลิกมูลวณฺณํ. สณฺานโต ทกสีตลิกมูลสณฺานเมว. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต กุทาฬผรสุกมฺมาทีนิ กโรนฺตานํ ยนฺตากฑฺฒนกาเล ยนฺตสุตฺตมิว, ยนฺตผลกานิ อนฺตโภเค เอกโต อคฬนฺเต อาพนฺธิตฺวา ปาทปฺุฉนรชฺชุมณฺฑลกสฺส อนฺตรา ตํ สิพฺเพตฺวา ิตรชฺชุกา วิย เอกวีสติยา าเนสุ อนฺตโภคานํ อนฺตรา ิตํ. ปริจฺเฉทโต อนฺตคุณภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
อุทริยนฺติ อุทเร ภวํ อสิตปิตขายิตสายิตํ. ตํ วณฺณโต อชฺโฌหฏาหารวณฺณํ. สณฺานโต ปริสฺสาวเน สิถิลพนฺธตณฺฑุลสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต อุทเร ิตํ. อุทรํ นาม อุภโต นิปฺปีฬิยมานสฺส ¶ อลฺลสาฏกสฺส มชฺเฌ สฺชาตโผฏกสทิสํ อนฺตปฏลํ; พหิ มฏฺํ, อนฺโต มํสกสมฺพุกปลิเวนกิลิฏฺปาวารกปุปฺผกสทิสํ, กุถิตปนสตจสฺส อพฺภนฺตรสทิสนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ; ยตฺถ ตกฺโกฏกา, คณฺฑุปฺปาทกา, ตาลหีรกา, สูจิมุขกา, ปฏตนฺตสุตฺตกา อิจฺเจวมาทิทฺวตฺตึสกุลปฺปเภทา กิมโย อากุลพฺยากุลา สณฺฑสณฺฑจาริโน หุตฺวา นิวสนฺติ; เย ปานโภชนาทิมฺหิ อวิชฺชมาเน อุลฺลงฺฆิตฺวา วิรวนฺตา หทยมํสํ อภิหนนฺติ, ปานโภชนาทิอชฺโฌหรณเวลาย จ อุทฺธํมุขา หุตฺวา ปมชฺโฌหเฏ ทฺเว ตโย ¶ อาโลเป ตุริตตุริตา วิลุมฺปนฺติ; ยํ เตสํ กิมีนํ สูติฆรํ, วจฺจกุฏิ, คิลานสาลา, สุสานฺจ โหติ.
ยตฺถ เสยฺยถาปิ นาม จณฺฑาลคามทฺวาเร จนฺทนิกาย นิทาฆสมเย ถูลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต อุทเกน วุยฺหมานํ มุตฺตกรีสจมฺมอฏฺินฺหารุขณฺฑเขฬสิงฺฆาณิกโลหิตปฺปภุติ นานากุณปชาตํ นิปติตฺวา กทฺทโมทกาลุฬิตํ ¶ ทฺวีหตีหจฺจเยน สฺชาตกิมิกุลํ สูริยาตปเวคสนฺตาปกุถิตํ อุปริ เผณปุพฺพุลเก มฺุจนฺตํ อภินีลวณฺณํ ปรมทุคฺคนฺธเชคุจฺฉํ เนว อุปคนฺตุํ น ทฏฺุํ อรหรูปตํ อาปชฺชิตฺวา ติฏฺติ, ปเคว ฆายิตุํ วา สายิตุํ วา; เอวเมว นานปฺปการปานโภชนาทิทนฺตมุสลสฺจุณฺณิตํ ชิวฺหาหตฺถปริวตฺติตเขฬลาลาปลิพุทฺธํ ตงฺขณวิคตวณฺณคนฺธรสาทิสมฺปทํ ตนฺตวายขลิสุวานวมถุสทิสํ นิปติตฺวา ปิตฺตเสมฺหวาตปลิเวิตํ หุตฺวา อุทรคฺคิสนฺตาปเวคกุถิตํ กิมิกุลากุลํ อุปรูปริ เผณปุพฺพุลกานิ มฺุจนฺตํ ปรมกสมฺพุทุคฺคนฺธเชคุจฺฉภาวํ อาปชฺชิตฺวา ติฏฺติ; ยํ สุตฺวาปิ ปานโภชนาทีสุ อมนฺุตา สณฺาติ, ปเคว ปฺาจกฺขุนา อวโลเกตฺวา, ยตฺถ จ ปติตํ ปานโภชนาทิ ปฺจธา วิภาคํ คจฺฉติ – เอกํ ภาคํ ปาณกา ขาทนฺติ, เอกํ ภาคํ อุทรคฺคิ ฌาเปติ, เอโก ภาโค มุตฺตํ โหติ, เอโก กรีสํ, เอโก รสภาวํ อาปชฺชิตฺวา โสณิตมํสาทีนิ อุปพฺรูหยติ. ปริจฺเฉทโต อุทรปฏเลน ¶ เจว อุทริยภาเคน จ ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
กรีสนฺติ วจฺจํ. ตํ วณฺณโต เยภุยฺเยน อชฺโฌหฏาหารวณฺณเมว โหติ. สณฺานโต โอกาสสณฺานํ. ทิสโต เหฏฺิมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต ปกฺกาสเย ิตํ. ปกฺกาสโย นาม เหฏฺา นาภิปิฏฺิกณฺฏกมูลานมนฺตเร อนฺตาวสาเน อุพฺเพเธน อฏฺงฺคุลมตฺโต เวฬุนาฬิกสทิโส, ยตฺถ เสยฺยถาปิ นาม อุปรูปริ ภูมิภาเค ปติตํ วสฺโสทกํ โอคฬิตฺวา เหฏฺา ภูมิภาคํ ปูเรตฺวา ติฏฺติ; เอวเมว ยํ กิฺจิ อามาสเย ปติตํ ปานโภชนาทิกํ อุทรคฺคินา เผณุทฺเทหกํ ปกฺกํ ปกฺกํ นิสทาย ปิสิตมิว สณฺหภาวํ อาปชฺชิตฺวา อนฺตพิเลน โอคฬิตฺวา โอคฬิตฺวา มทฺทิตฺวา เวฬุปพฺเพ ปกฺขิปมานปณฺฑุมตฺติกา วิย สนฺนิจิตํ หุตฺวา ติฏฺติ. ปริจฺเฉทโต ปกฺกาสยปฏเลน เจว กรีสภาเคน จ ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
มตฺถลุงฺคนฺติ ¶ สีสกฏาหพฺภนฺตเร ิตมิฺชราสิ. ตํ วณฺณโต เสตํ อหิจฺฉตฺตกปิณฺฑิกวณฺณํ, ทธิภาวํ อสมฺปตฺตทุฏฺขีรวณฺณนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สณฺานโต โอกาสสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต ¶ สีสกฏาหพฺภนฺตเร จตฺตาโร สิพฺพินิมคฺเค นิสฺสาย สโมธาเนตฺวา ปิตา จตฺตาโร ปิฏฺปิณฺฑา วิย สโมหิตํ ติฏฺติ. ปริจฺเฉทโต สีสกฏาหสฺส อพฺภนฺตรตเลหิ เจว มตฺถลุงฺคภาเคน จ ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
ปิตฺตนฺติ ทฺเว ปิตฺตานิ – พทฺธปิตฺตฺจ อพทฺธปิตฺตฺจ. ตตฺถ พทฺธปิตฺตํ วณฺณโต พหลมธุกเตลวณฺณํ, อพทฺธปิตฺตํ มิลาตอากุลิตปุปฺผวณฺณํ. ตํ สณฺานโต อุภยมฺปิ โอกาสสณฺานํ. ทิสโต พทฺธปิตฺตํ อุปริมาย ทิสาย ชาตํ, อิตรํ ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต อพทฺธปิตฺตํ เปตฺวา เกสโลมทนฺตนขานํ มํสวินิมุตฺตฏฺานฺเจว ถทฺธสุกฺขจมฺมฺจ อุทกมิว เตลพินฺทุํ อวเสสสรีรํ พฺยาเปตฺวา ิตํ, ยมฺหิ กุปิเต อกฺขีนิ ปีตกานิ โหนฺติ ภมนฺติ, คตฺตํ กมฺปติ กณฺฑุยติ. พทฺธปิตฺตํ หทยปปฺผาสานมนฺตเร ยกนมํสํ ¶ นิสฺสาย ปติฏฺิเต มหาโกสาตกีโกสกสทิเส ปิตฺตโกสเก ิตํ, ยมฺหิ กุปิเต สตฺตา อุมฺมตฺตกา โหนฺติ, วิปลฺลตฺถจิตฺตา หิโรตฺตปฺปํ ฉฑฺเฑตฺวา อกตฺตพฺพํ กโรนฺติ, อภาสิตพฺพํ ภาสนฺติ, อจินฺเตตพฺพํ จินฺเตนฺติ. ปริจฺเฉทโต ปิตฺตภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
เสมฺหนฺติ สรีรพฺภนฺตเร เอกปตฺตปูรปฺปมาณํ เสมฺหํ. ตํ วณฺณโต เสตํ นาคพลปณฺณรสวณฺณํ. สณฺานโต โอกาสสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต อุทรปฏเล ิตํ, ยํ ปานโภชนาทีนิ อชฺโฌหรณกาเล เสยฺยถาปิ นาม อุทเก เสวาลปณกํ กฏฺเ วา กปาเล วา ปตนฺเต ฉิชฺชิตฺวา ทฺวิธา หุตฺวา ปุน อชฺโฌตฺถริตฺวา ติฏฺติ, เอวเมว ปานโภชนาทิมฺหิ นิปตนฺเต ฉิชฺชิตฺวา ทฺวิธา หุตฺวา ปุน อชฺโฌตฺถริตฺวา ติฏฺติ; ยมฺหิ จ มนฺทีภูเต ปกฺกคณฺโฑ วิย ปูติกุกฺกุฏณฺฑมิว จ อุทรํ ปรมเชคุจฺฉํ กุณปคนฺธํ โหติ; ตโต อุคฺคเตน จ คนฺเธน อุทฺเทโกปิ มุขมฺปิ ทุคฺคนฺธํ ปูติกุณปสทิสํ โหติ; โส จ ปุริโส ‘อเปหิ, ทุคฺคนฺธํ วายสี’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ; ยฺจ วฑฺฒิตฺวา พหลตฺตมาปนฺนํ ปิธานผลกมิว วจฺจกุฏิยา อุทรปฏลสฺส อพฺภนฺตเรเยว กุณปคนฺธํ สนฺนิรุชฺฌิตฺวา ติฏฺติ. ปริจฺเฉทโต ¶ เสมฺหภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
ปุพฺโพติ ¶ ปูติโลหิตวเสน ปวตฺตปุพฺโพ. โส วณฺณโต ปณฺฑุปลาสวณฺโณ, มตกสรีเร ปน ปูติพหลาจามวณฺโณ โหติ. สณฺานโต โอกาสสณฺาโน. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาโต. โอกาสโต ปน ปุพฺพสฺส โอกาโส นาม นิพทฺโธ นตฺถิ ยตฺถ โส สนฺนิจิโต ติฏฺเยฺย; ยตฺร ยตฺร ปน ขาณุกณฺฏกปฺปหรณคฺคิชาลาทีหิ อภิหเต สรีรปฺปเทเส โลหิตํ สณฺหิตฺวา ปจฺจติ, คณฺฑปิฬกาทโย วา อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺร ตตฺเรว ติฏฺติ. ปริจฺเฉทโต ปุพฺพภาเคน ปริจฺฉินฺโน ¶ . อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
โลหิตนฺติ ทฺเว โลหิตานิ – สนฺนิจิตโลหิตฺจ สํสรณโลหิตฺจ. ตตฺถ สนฺนิจิตโลหิตํ วณฺณโต นิปกฺกพหลลาขารสวณฺณํ, สํสรณโลหิตํ อจฺฉลาขารสวณฺณํ. สณฺานโต อุภยมฺปิ โอกาสสณฺานํ. ทิสโต สนฺนิจิตโลหิตํ อุปริมาย ทิสาย ชาตํ, อิตรํ ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต สํสรณโลหิตํ, เปตฺวา เกสโลมทนฺตนขานํ มํสวินิมฺมุตฺตฏฺานฺเจว ถทฺธสุกฺขจมฺมฺจ, ธมนิชาลานุสาเรน สพฺพํ อุปาทินฺนกสรีรํ ผริตฺวา ิตํ; สนฺนิจิตโลหิตํ ยกนฏฺานสฺส เหฏฺาภาคํ ปูเรตฺวา เอกปตฺตปูรมตฺตํ หทยวกฺกปปฺผาสานํ อุปริ โถกํ โถกํ ปคฺฆรนฺตํ วกฺกหทยยกนปปฺผาเส เตมยมานํ ิตํ. ตสฺมิฺหิ วกฺกหทยาทีนิ อเตเมนฺเต สตฺตา ปิปาสิตา โหนฺติ. ปริจฺเฉทโต โลหิตภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
เสโทติ โลมกูปาทีหิ ปคฺฆรณกอาโปธาตุ. โส วณฺณโต วิปฺปสนฺนติลเตลวณฺโณ. สณฺานโต โอกาสสณฺาโน. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาโต. โอกาสโต เสทสฺโสกาโส นาม นิพทฺโธ นตฺถิ, ยตฺถ โส โลหิตํ วิย สทา ติฏฺเยฺย; ยทา ปน อคฺคิสนฺตาปสูริยสนฺตาปอุตุวิการาทีหิ สรีรํ สนฺตปฺปติ ตทา อุทกโต อพฺพุฬฺหมตฺตวิสมจฺฉินฺนภิสมูฬาลกุมุทนาฬกลาโป วิย สพฺพเกสโลมกูปวิวเรหิ ปคฺฆรติ. ตสฺมา ตสฺส สณฺานมฺปิ เกสโลมกูปวิวรานํเยว วเสน เวทิตพฺพํ. เสทปริคฺคณฺหเกน จ โยคินา เกสโลมกูปวิวเร ปูเรตฺวา ิตวเสเนว เสโท มนสิกาตพฺโพ. ปริจฺเฉทโต เสทภาเคน ปริจฺฉินฺโน. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
เมโทติ ¶ ¶ ถินสิเนโห. โส วณฺณโต ผาลิตหลิทฺทิวณฺโณ. สณฺานโต ถูลสรีรสฺส ตาว จมฺมมํสนฺตเร ปิตหลิทฺทิวณฺณทุกูลปิโลติกสณฺาโน โหติ, กิสสรีรสฺส ชงฺฆมํสํ อูรุมํสํ ปิฏฺิกณฺฏกนิสฺสิตํ ปิฏฺมํสํ อุทรวฏฺฏิมํสนฺติ เอตานิ นิสฺสาย ทิคุณํ ติคุณํ กตฺวา ปิตหลิทฺทิวณฺณทุกูลปิโลติกสณฺาโน. ทิสโต ทฺวีสุ ¶ ทิสาสุ ชาโต. โอกาสโต ถูลสฺส สกลสรีรํ ผริตฺวา, กิสสฺส ชงฺฆมํสาทีนิ นิสฺสาย ิโต, ยํ สิเนหสงฺขํ คตมฺปิ ปรมเชคุจฺฉตฺตา เนว มุทฺธนิ เตลตฺถาย, น นาสาเตลาทีนํ อตฺถาย คณฺหนฺติ. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา มํเสน, อุปริ จมฺเมน, ติริยํ เมทภาเคน ปริจฺฉินฺโน. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
อสฺสูติ อกฺขีหิ ปคฺธรณกอาโปธาตุ. ตํ วณฺณโต วิปฺปสนฺนติลเตลวณฺณํ. สณฺานโต โอกาสสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต อกฺขิกูปเกสุ ิตํ. น เจตํ ปิตฺตโกสเก ปิตฺตมิว อกฺขิกูปเกสุ สทา สนฺนิจิตํ ติฏฺติ; ยทา ปน สตฺตา โสมนสฺสชาตา มหาหสิตํ หสนฺติ, โทมนสฺสชาตา โรทนฺติ ปริเทวนฺติ ตถารูปํ วิสภาคาหารํ อาหรนฺติ, ยทา จ เนสํ อกฺขีนิ ธูมรชปํสุกาทีหิ อภิหฺนฺติ, ตทา เอเตหิ โสมนสฺสโทมนสฺสวิสภาคาหารอุตูหิ สมุฏฺหิตฺวา อกฺขิกูปเก ปูเรตฺวา ติฏฺติ วา ปคฺฆรติ วา. อสฺสุปริคฺคณฺหเกน ปน โยคินา อกฺขิกูปเก ปูเรตฺวา ิตวเสเนว ปริคฺคณฺหิตพฺพํ. ปริจฺเฉทโต อสฺสุภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
วสาติ วิลีนสฺเนโห. สา วณฺณโต นาฬิเกรเตลวณฺณา, อาจาเม อาสิตฺตเตลวณฺณาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สณฺานโต นฺหานกาเล ปสนฺนอุทกสฺส อุปริ ปริพฺภมนฺตสิเนหพินฺทุวิสฏสณฺานา. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา. โอกาสโต เยภุยฺเยน หตฺถตลหตฺถปิฏฺิปาทตลปาทปิฏฺินาสาปุฏนลาฏอํสกูเฏสุ ิตา. น เจสา เอเตสุ โอกาเสสุ สทา วิลีนาว หุตฺวา ติฏฺติ; ยทา ปน อคฺคิสนฺตาปสูริยสนฺตาปอุตุวิสภาคธาตุวิสภาเคหิ เต ปเทสา อุสฺมา ชาตา โหนฺติ, ตทา ตตฺถ นฺหานกาเล ปสนฺนอุทกูปริ สิเนหพินฺทุวิสโฏ วิย อิโต จิโต จ สํสรติ. ปริจฺเฉทโต วสาภาเคน ปริจฺฉินฺนา ¶ . อยมสฺสา สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
เขโฬติ ¶ อนฺโตมุเข เผณมิสฺสา อาโปธาตุ. โส วณฺณโต เสโต เผณวณฺโณ. สณฺานโต โอกาสสณฺาโน, เผณสณฺานโตติปิ ¶ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาโต. โอกาสโต อุโภหิ กโปลปสฺเสหิ โอรุยฺห ชิวฺหาย ิโต. น เจส เอตฺถ สทา สนฺนิจิโต หุตฺวา ติฏฺติ. ยทา ปน สตฺตา ตถารูปํ อาหารํ ปสฺสนฺติ วา สรนฺติ วา อุณฺหติตฺตกฏุกโลณมฺพิลานํ วา กิฺจิ มุเข เปนฺติ, ยทา วา เนสํ หทยํ อากิลายติ, กิสฺมิฺจิเทว วา ชิคุจฺฉา อุปฺปชฺชติ, ตทา เขโฬ อุปฺปชฺชิตฺวา อุโภหิ กโปลปสฺเสหิ โอรุยฺห ชิวฺหาย สณฺาติ. อคฺคชิวฺหาย เจส ตนุโก โหติ, มูลชิวฺหาย พหโล; มุเข ปกฺขิตฺตฺจ ปุถุกํ วา ตณฺฑุลํ วา อฺํ วา กิฺจิ ขาทนียํ, นทีปุฬิเน ขตกูปกสลิลํ วิย, ปริกฺขยํ อคจฺฉนฺโตว เตเมตุํ สมตฺโถ โหติ. ปริจฺเฉทโต เขฬภาเคน ปริจฺฉินฺโน. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
สิงฺฆาณิกาติ มตฺถลุงฺคโต ปคฺฆรณกอสุจิ. สา วณฺณโต ตรุณตาลฏฺิมิฺชวณฺณา. สณฺานโต โอกาสสณฺานา. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตา. โอกาสโต นาสาปุเฏ ปูเรตฺวา ิตา. น เจสา เอตฺถ สทา สนฺนิจิตา หุตฺวา ติฏฺติ; อถ โข ยถา นาม ปุริโส ปทุมินีปตฺเตน ทธึ พนฺธิตฺวา เหฏฺา กณฺฏเกน วิชฺเฌยฺย, อถ เตน ฉิทฺเทน ทธิมตฺถุ คฬิตฺวา พหิ ปเตยฺย, เอวเมว ยทา สตฺตา โรทนฺติ วา วิสภาคาหารอุตุวเสน วา สฺชาตธาตุกฺโขภา โหนฺติ, ตทา อนฺโตสีสโต ปูติเสมฺหภาวํ อาปนฺนํ มตฺถลุงฺคํ คฬิตฺวา ตาลุมตฺถกวิวเรน โอตริตฺวา นาสาปุเฏ ปูเรตฺวา ติฏฺติ วา ปคฺฆรติ วา. สิงฺฆาณิกา ปริคฺคณฺหเกน ปน โยคินา นาสาปุเฏ ปูเรตฺวา ิตวเสเนว ปริคฺคณฺหิตพฺพา. ปริจฺเฉทโต สิงฺฆาณิกาภาเคน ปริจฺฉินฺนา. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
ลสิกาติ สรีรสนฺธีนํ อพฺภนฺตเร ปิจฺฉิลกุณปํ. สา วณฺณโต กณิการนิยฺยาสวณฺณา. สณฺานโต โอกาสสณฺานา. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา. โอกาสโต อฏฺิสนฺธีนํ อพฺภฺชนกิจฺจํ สาธยมานา อสีติสตสนฺธีนํ อพฺภนฺตเร ิตา. ยสฺส เจสา มนฺทา โหติ, ตสฺส อุฏฺหนฺตสฺส ¶ นิสีทนฺตสฺส อภิกฺกมนฺตสฺส ปฏิกฺกมนฺตสฺส สมฺมิฺชนฺตสฺส ปสาเรนฺตสฺส อฏฺิกานิ กฏกฏายนฺติ, อจฺฉราสทฺทํ กโรนฺโต วิย วิจรติ, เอกโยชนทฺวิโยชนมตฺตมฺปิ อทฺธานํ คตสฺส ¶ วาโยธาตุ กุปฺปติ, คตฺตานิ ทุกฺขนฺติ. ยสฺส ปน พหุกา โหติ ตสฺส อุฏฺานนิสชฺชาทีสุ น อฏฺีนิ กฏกฏายนฺติ, ทีฆมฺปิ อทฺธานํ คตสฺส ¶ น วาโยธาตุ กุปฺปติ, น คตฺตานิ ทุกฺขนฺติ. ปริจฺเฉทโต ลสิกาภาเคน ปริจฺฉินฺนา. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
มุตฺตนฺติ วณฺณโต มาสขาโรทกวณฺณํ. สณฺานโต อโธมุขปิตอุทกกุมฺภนฺตรคตอุทกสณฺานํ. ทิสโต เหฏฺิมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต วตฺถิสฺส อพฺภนฺตเร ิตํ. วตฺถิ นาม วตฺถิปุโฏ วุจฺจติ, ยตฺถ เสยฺยถาปิ นาม จนฺทนิกาย ปกฺขิตฺเต อมุเข รวณฆเฏ จนฺทนิกรโส ปวิสติ, น จสฺส ปวิสนมคฺโค ปฺายติ; เอวเมว สรีรโต มุตฺตํ ปวิสติ, น จสฺส ปวิสนมคฺโค ปฺายติ, นิกฺขมนมคฺโค ปน ปากโฏ โหติ; ยมฺหิ จ มุตฺตสฺส ภริเต ‘ปสฺสาวํ กโรมา’ติ สตฺตานํ อายูหนํ โหติ. ปริจฺเฉทโต วตฺถิอพฺภนฺตเรน เจว มุตฺตภาเคน จ ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
เอวฺหิ เกสาทิเก โกฏฺาเส วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน ววตฺถเปตฺวา อนุปุพฺพโต นาติสีฆโต นาติสณิกโตติอาทินา นเยน วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน ปฺจธา ‘ปฏิกฺกูลา ปฏิกฺกูลา’ติ มนสิกโรโต ปณฺณตฺติสมติกฺกมวเสน, เสยฺยถาปิ จกฺขุมโต ปุริสสฺส ทฺวตฺตึสวณฺณานํ กุสุมานํ เอกสุตฺตคณฺิตํ มาลํ โอโลเกนฺตสฺส สพฺพปุปฺผานิ อปุพฺพาปริยมิว ปากฏานิ โหนฺติ, เอวเมว ‘‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา’’ติ อิมํ กายํ โอโลเกนฺตสฺส สพฺเพ เต ธมฺมา อปุพฺพาปริยมิว ปากฏา โหนฺติ. เตน วุตฺตํ มนสิการโกสลฺลกถายํ ‘‘อาทิกมฺมิกสฺส หิ ‘เกสา’ติ มนสิกโรโต มนสิกาโร คนฺตฺวา ‘มุตฺต’นฺติ อิมํ ปริโยสานโกฏฺาสเมว อาหจฺจ ติฏฺตี’’ติ.
สเจ ปน พหิทฺธาปิ มนสิการํ อุปสํหรติ, อถสฺส เอวํ สพฺพโกฏฺาเสสุ ปากฏีภูเตสุ อาหิณฺฑนฺตา มนุสฺสติรจฺฉานาทโย สตฺตาการํ วิชหิตฺวา โกฏฺาสราสิวเสเนว อุปฏฺหนฺติ; เตหิ จ อชฺโฌหริยมานํ ปานโภชนาทิ โกฏฺาสราสิมฺหิ ปกฺขิปิยมานมิว อุปฏฺาติ. อถสฺส อนุปุพฺพมฺุจนาทิวเสน ¶ ¶ ‘ปฏิกูลา ปฏิกูลา’ติ ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต อนุกฺกเมน อปฺปนา อุปฺปชฺชติ.
ตตฺถ เกสาทีนํ วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน อุปฏฺานํ อุคฺคหนิมิตฺตํ, สพฺพาการโต ปฏิกูลวเสน อุปฏฺานํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ. ตํ ปุนปฺปุนํ อาวชฺเชนฺตสฺส มนสิกโรนฺตสฺส ¶ ตกฺกาหตํ วิตกฺกาหตํ กโรนฺตสฺส จตฺตาโร ขนฺธา ปฏิกูลารมฺมณา โหนฺติ, ปมชฺฌานวเสน อปฺปนา ปวตฺตติ. ปุพฺพภาเค ปริกมฺมอุปจารจิตฺตานิ สวิตกฺกสวิจารานิ สปฺปีติกานิ โสมนสฺสสหคตานิ ปฏิกูลนิมิตฺตารมฺมณานิ; อปฺปนาปิ สวิตกฺกสวิจารา สปฺปีติกา โสมนสฺสสหคตาว. ภูมนฺตเรน ปน มหคฺคตา รูปาวจรา โหนฺติ. ปฏิกฺกูเลปิ จ เอตสฺมึ อารมฺมเณ อานิสํสทสฺสาวิตาย โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, เอกตฺตารมฺมณพเลเนว วา ตํ อุปฺปชฺชติ. ทุติยชฺฌานาทีนิ ปเนตฺถ น นิพฺพตฺตนฺติ. กสฺมา? โอฬาริกตฺตา. อิทฺหิ อารมฺมณํ โอฬาริกํ. วิตกฺกพเลเนเวตฺถ จิตฺเตกคฺคตา ชายติ, น วิตกฺกสมติกฺกเมนาติ. อยํ ตาว สมถวเสน กมฺมฏฺานกถา.
อวิเสสโต ปน สาธารณวเสน เอวํ เวทิตพฺพํ – อิทฺหิ กมฺมฏฺานํ ภาเวตุกาเมน กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา สชฺฌายกาเล เอว เกสาทีนํ วณฺณนิมิตฺตสณฺานนิมิตฺตทิสานิมิตฺตโอกาสนิมิตฺตปริจฺเฉทนิมิตฺตานิ วาจาย โปเถตฺวา โปเถตฺวา เอเกกโกฏฺาเส ‘อยํ เอตํสริกฺขโก’ติ ติวิเธน สชฺฌาโย กาตพฺโพ. กถํ? ตจปฺจเก ตาว เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อนุโลมโต ปฺจาหํ, ปฏิโลมโต ปฺจาหํ, อนุโลมปฏิโลมโต ปฺจาหนฺติ อทฺธมาสํ สชฺฌาโย กาตพฺโพ. ตโต อาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วกฺกปฺจกํ อุคฺคณฺหิตฺวา ตเถว อทฺธมาสํ สชฺฌาโย กาตพฺโพ. ตโต เต ทสปิ โกฏฺาเส เอกโต กตฺวา อทฺธมาสํ. ปุน ปปฺผาสปฺจกาทีสุปิ เอเกกํ อุคฺคณฺหิตฺวา อทฺธมาสํ. ตโต เต ปฺจทสปิ โกฏฺาเส อทฺธมาสํ. มตฺถลุงฺคปฺจกํ อทฺธมาสํ. ตโต เตวีสติ โกฏฺาเส อทฺธมาสํ. เมทฉกฺกํ อทฺธมาสํ. ตโต เต ฉพฺพีสติปิ โกฏฺาเส เอกโต กตฺวา อทฺธมาสํ. มุตฺตฉกฺกํ อทฺธมาสํ. ตโต สพฺเพปิ ¶ ทฺวตฺตึส โกฏฺาเส เอกโต กตฺวา อทฺธมาสนฺติ เอวํ ฉ มาเส สชฺฌาโย กาตพฺโพ.
ตตฺถ – อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺส สปฺปฺสฺส ภิกฺขุโน กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหนฺตสฺเสว โกฏฺาสา อุปฏฺหนฺติ, เอกจฺจสฺส น อุปฏฺหนฺติ. เตน ‘น อุปฏฺหนฺตี’ติ วีริยํ ¶ น วิสฺสชฺเชตพฺพํ. ยตฺตกา โกฏฺาสา อุปฏฺหนฺติ ตตฺตเก คเหตฺวา สชฺฌาโย กาตพฺโพ. เอวํ กมฺมฏฺานํ กเถนฺเตน ปน เนว ปฺวโต น มนฺทปฺสฺส วเสน กเถตพฺพํ, มชฺฌิมปฺสฺส วเสน กเถตพฺพํ. มชฺฌิมปฺสฺส หิ วเสน อาจริยา ฉหิ มาเสหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ตนฺตึ ปยึสุ. ยสฺส ปน เอตฺตาวตาปิ โกฏฺาสา ปากฏา น โหนฺติ, เตน ตโต ปรมฺปิ สชฺฌาโย กาตพฺโพ เอว; โน จ โข อปริจฺฉินฺทิตฺวา, ฉ ฉ มาเส ปริจฺฉินฺทิตฺวาว กาตพฺโพ.
สชฺฌายํ ¶ กโรนฺเตน วณฺโณ น ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ, น ลกฺขณํ มนสิกาตพฺพํ, โกฏฺาสวเสเนว สชฺฌาโย กาตพฺโพ. อาจริเยนาปิ ‘วณฺณวเสน สชฺฌายํ กโรหี’ติ นิยเมตฺวา น กเถตพฺพํ. นิยเมตฺวา กถิเต โก โทโสติ? สมฺปตฺติยมฺปิ วิปตฺติสฺาอาปชฺชนํ. สเจ หิ อาจริเยน ‘วณฺณวเสน สชฺฌายํ กโรหี’ติ วุตฺเต อิมสฺส ภิกฺขุโน ตถา กโรนฺตสฺส กมฺมฏฺานํ วณฺณโต น อุปฏฺาติ, ปฏิกูลวเสน วา ธาตุวเสน วา อุปฏฺาติ, อเถส ‘น อิทํ กมฺมฏฺานํ วิลกฺขณ’นฺติ สฺี โหติ, อาจริเยน กถิตเมว กปฺเปตฺวา คณฺหาติ. ‘ปฏิกูลวเสน สชฺฌายํ กโรหี’ติ วุตฺเตปิ สเจ ตสฺส ตถา กโรนฺตสฺส ปฏิกฺกูลโต น อุปฏฺาติ, วณฺณวเสน วา ธาตุวเสน วา อุปฏฺาติ, อเถส ‘นยิทํ กมฺมฏฺานํ วิลกฺขณ’นฺติ สฺี โหติ, อาจริเยน กถิตเมว กปฺเปตฺวา คณฺหาติ. ‘ธาตุวเสน ตํ สชฺฌายํ กโรหี’ติ วุตฺเตปิ สเจ ตสฺส ตถา กโรนฺตสฺส ธาตุโต น อุปฏฺาติ, วณฺณวเสน วา ปฏิกูลวเสน วา อุปฏฺาติ, อเถส ‘นยิทํ กมฺมฏฺานํ วิลกฺขณ’นฺติ สฺี โหติ, อาจริเยน กถิตเมว กปฺเปตฺวา คณฺหาติ. อยํ อาจริเยน นิยเมตฺวา กถิเต โทโส.
กินฺติ ปน วตฺตพฺโพ โหตีติ? ‘โกฏฺาสวเสน สชฺฌายํ กโรหี’ติ วตฺตพฺโพ. กถํ? ‘เกสโกฏฺาโส โลมโกฏฺาโสติ สชฺฌายํ กโรหี’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ ปนสฺส เอวํ โกฏฺาสวเสน สชฺฌายํ กโรนฺตสฺส วณฺณโต ¶ อุปฏฺาติ, อถาเนน โอวาทาจริยสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘อหํ ทฺวตฺตึสาการํ โกฏฺาสวเสน สชฺฌายํ กโรมิ; มยฺหํ ปน วณฺณโต อุปฏฺาตี’ติ. อาจริเยน ‘กมฺมฏฺานํ วิย อกมฺมฏฺานํ, วิลกฺขณํ เอต’นฺติ น วิสํวาเทตพฺพํ. ‘สาธุ, สปฺปุริส, ปุพฺเพ ตยา วณฺณกสิเณ ปริกมฺมํ กตปุพฺพํ ภวิสฺสติ. เอตเทว กมฺมฏฺานํ ตุยฺหํ สปฺปายํ. วณฺณวเสเนว ¶ สชฺฌายํ กโรหี’ติ วตฺตพฺโพ. เตนปิ วณฺณวเสเนว สชฺฌาโย กาตพฺโพ.
โส เอวํ กโรนฺโต อชฺฌตฺตํ นีลกํ ปีตกํ โลหิตกํ โอทาตกนฺติ จตฺตาริ วณฺณกสิณานิ ลภติ. กถํ? ตสฺส หิ เกสโลมปิตฺเตสุ เจว อกฺขีนฺจ กาฬกฏฺาเน วณฺณํ ‘นีลํ นีล’นฺติ มนสิกโรนฺตสฺส จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ อุปฺปชฺชนฺติ; ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เมทสฺมึ ปน อกฺขีนฺจ ปีตกฏฺาเน วณฺณํ ‘ปีตกํ ปีตก’นฺติ มนสิกโรนฺตสฺส จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ อุปฺปชฺชนฺติ; ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. มํสโลหิเตสุ ปน อกฺขีนฺจ รตฺตฏฺาเน วณฺณํ ‘โลหิตกํ โลหิตก’นฺติ มนสิกโรนฺตสฺส จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ อุปฺปชฺชนฺติ; ฌานํ ปาทกํ กตฺวา ¶ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. นขทนฺตจมฺมอฏฺีสุ ปน อกฺขีนฺจ ปณฺฑรฏฺาเน วณฺณํ ‘โอทาตํ โอทาต’นฺติ มนสิกโรนฺตสฺส จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อิทํ วณฺณวเสน อภินิวิฏฺสฺส ภิกฺขุโน ยาว อรหตฺตา นิคมนํ.
อปรสฺส โกฏฺาสวเสน สชฺฌายํ กโรนฺตสฺส ปฏิกูลโต อุปฏฺาติ. อถาเนน โอวาทาจริยสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ. อาจริเยน ‘กมฺมฏฺานํ วิย อกมฺมฏฺานํ, วิลกฺขณํ เอต’นฺติ น วิสํวาเทตพฺพํ. ‘สาธุ, สปฺปุริส, ปุพฺเพ ตยา ปฏิกูลมนสิกาเร โยโค กโต ภวิสฺสติ. เอตเทว กมฺมฏฺานํ ตุยฺหํ สปฺปายํ. ปฏิกูลวเสเนว สชฺฌายํ กโรหี’ติ วตฺตพฺโพ. เตนปิ ปฏิกูลวเสน สชฺฌาโย กาตพฺโพ. ตสฺส เกสา นาม ‘อชฺา ทุคฺคนฺธา เชคุจฺฉา ปฏิกูลา’ติ เอวํ ปฏิกูลวเสน สชฺฌายํ กโรนฺตสฺส ปฏิกูลารมฺมเณ ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺตติ. โส ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อิทํ ¶ ปฏิกูลวเสน อภินิวิฏฺสฺส ภิกฺขุโน ยาว อรหตฺตา นิคมนํ.
อปรสฺส โกฏฺาสวเสน สชฺฌายํ กโรนฺตสฺส ธาตุโต อุปฏฺาติ. ธาตุโต อุปฏฺหนฺตํ กีทิสํ หุตฺวา อุปฏฺาตีติ? เกสา ตาว วมฺมิกมตฺถเก ชาตกุนฺถติณกานิ วิย หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. โลมา ปุราณคามฏฺาเน ชาตทพฺพติณกานิ วิย. นขา ทณฺฑเกสุ ปิตมธุกผลฏฺิโกสกา วิย. ทนฺตา มตฺติกาปิณฺเฑ ปเวเสตฺวา ปิตอลาพุพีชานิ วิย. ตโจ วีณาปพฺพเก ปริโยนทฺธอลฺลโคจมฺมํ วิย, มํสํ ภิตฺติยํ อนุลิตฺตมตฺติกา ¶ วิย. นฺหารุ ทพฺพสมฺภารพทฺธวลฺลี วิย. อฏฺิ อุสฺสาเปตฺวา ปิตภิตฺติทพฺพสมฺภาโร วิย. อฏฺิมิฺชํ มหาเวฬุมฺหิ ปกฺขิตฺตเสทิตเวตฺตคฺคํ วิย. วกฺกํ, หทยํ, ยกนํ, กิโลมกํ, ปิหกํ, ปปฺผาสนฺติ อิเม ฉ โกฏฺาสา สูนการฆรํ วิย หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. ทฺวตฺตึสหตฺถํ อนฺตํ โลหิตโทณิยํ สํเวลฺลิตฺวา ปิตฆรสปฺโป วิย. อนฺตคุณํ ปาทปฺุฉนเก สิพฺพิตรชฺชุกา วิย. อุทริยํ ปริสฺสาวเน สิถิลพนฺธตณฺฑุลํ วิย. กรีสํ เวณุปพฺเพ ปกฺขิตฺตปณฺฑุมตฺติกา วิย. มตฺถลุงฺคํ โอมทฺทิตฺวา ปิตา จตฺตาโร ตณฺฑุลปิฏฺปิณฺฑา วิย. ทฺวาทสวิธา อาโปธาตุ ปฏิปาฏิยา ปิเตสุ ทฺวาทสสุ อุทกสราวเกสุ ปูริตอุทกํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาติ.
อถาเนน โอวาทาจริยสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ. อาจริเยน ‘กมฺมฏฺานํ วิย อกมฺมฏฺานํ, วิลกฺขณํ ¶ เอต’นฺติ น วิสํวาเทตพฺพํ. ‘สาธุ, สปฺปุริส, ปุพฺเพ ตยา ธาตุมนสิกาเร โยโค กโต ภวิสฺสติ. เอตเทว กมฺมฏฺานํ ตุยฺหํ สปฺปายํ. ธาตุวเสเนว สชฺฌายํ กโรหี’ติ วตฺตพฺโพ. เตนปิ ธาตุวเสน สชฺฌาโย กาตพฺโพ.
ตตฺริทํ มนสิการมุเขเนว สชฺฌายวิธานํ – อิธ ภิกฺขุ ‘เกสา สีสํ ปริโยนทฺธิตฺวา ิตจมฺเม ชาตา. เต น ชานนฺติ ‘มยํ สีสํ ปริโยนทฺธิตฺวา ิตจมฺเม ชาตา’ติ; สีสํ ปริโยนทฺธิตฺวา ิตจมฺมมฺปิ น ชานาติ ‘เกสา มยิ ชาตา’ติ; อเจตนา เอเต อพฺยากตา สฺุา ถทฺธา ปตฺถินฺนา ปถวีธาตุ เอสา’ติ มนสิกโรติ. ‘โลมา สรีรํ ปริโยนหนจมฺเม ชาตา. เต น ชานนฺติ ‘มยํ สรีรํ ปริโยนหนจมฺเม ¶ ชาตา’ติ. สรีรํ ปริโยนหนจมฺมมฺปิ น ชานาติ ‘โลมา มยิ ชาตา’ติ เอเตปิ อเจตนา. นขา องฺคุลีนํ อคฺเคสุ ชาตา. เต น ชานนฺติ ‘มยํ องฺคุลีนํ อคฺเคสุ ชาตา’ติ. องฺคุลีนํ อคฺคานิปิ น ชานนฺติ ‘นขา อมฺเหสุ ชาตา’ติ. เอเตปิ อเจตนา. ทนฺตา หนุกฏฺิเก ชาตา. เต น ชานนฺติ ‘มยํ หนุกฏฺิเก ชาตา’ติ. หนุกฏฺิกมฺปิ น ชานาติ ‘ทนฺตา มยิ ชาตา’ติ. เอเตปิ อเจตนา. ตโจ น ชานาติ ‘สรีรํ มยา ปริโยนทฺธ’นฺติ. สรีรมฺปิ น ชานาติ ‘อหํ ตเจน ปริโยนทฺธ’นฺติ. อยมฺปิ อเจตโน. มํสํ น ชานาติ ‘มยา สรีรํ อนุลิตฺต’นฺติ. สรีรมฺปิ น ชานาติ ‘อหํ มํเสน อนุลิตฺต’นฺติ. อิทมฺปิ อเจตนํ. นฺหารุ น ชานาติ ‘อหํ ¶ อฏฺิปฺุชํ อาพนฺธิตฺวา ิต’นฺติ. อฏฺิปฺุโชปิ น ชานาติ ‘นฺหารุชาเลนาหํ อาพทฺโธ’ติ. อิทมฺปิ อเจตนํ.
สีสฏฺิ น ชานาติ ‘อหํ คีวฏฺิเก ปติฏฺิต’นฺติ. คีวฏฺิกมฺปิ น ชานาติ ‘มยิ สีสฏฺิกํ ปติฏฺิต’นฺติ. คีวฏฺิ น ชานาติ ‘อหํ ปิฏฺิกณฺฏเก ิต’นฺติ. ปิฏฺิกณฺฏฏฺิโกปิ กฏิฏฺิกํ อูรุฏฺิกํ ชงฺฆฏฺิกํ โคปฺผกฏฺิกํ น ชานาติ ‘อหํ ปณฺหิกฏฺิเก ปติฏฺิต’นฺติ. ปณฺหิกฏฺิกมฺปิ น ชานาติ ‘อหํ โคปฺผกฏฺิกํ อุกฺขิปิตฺวา ิตนฺติ…เป… คีวฏฺิกํ น ชานาติ ‘อหํ สีสฏฺิกํ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ.
ปฏิปาฏิยา อฏฺีนิ ิตานิ โกฏิยา,
อเนกสนฺธิยมิโต น เกหิจิ;
พทฺโธ ¶ นหารูหิ ชราย โจทิโต,
อเจตโน กฏฺกลิงฺครูปโม.
‘อิทมฺปิ อเจตนํ. อฏฺิมิฺชํ; วกฺกํ…เป… มตฺถลุงฺคํ อเจตนํ อพฺยากตํ สฺุํ ถทฺธํ ปตฺถินฺนํ ปถวีธาตู’ติ มนสิกโรติ. ‘ปิตฺตํ เสมฺหํ…เป… มุตฺตํ อเจตนํ อพฺยากตํ สฺุํ ยูสคตํ อาโปธาตู’ติ มนสิกโรติ.
อิเม ทฺเว มหาภูเต ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อุทเร อุสฺสทา เตโชธาตุ ปากฏา โหติ, นาสาย อุสฺสทา วาโยธาตุ ปากฏา โหติ. อิเม จตฺตาโร มหาภูเต ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อุปาทารูปํ ปากฏํ โหติ. มหาภูตํ นาม อุปาทารูเปน ปริจฺฉินฺนํ, อุปาทารูปํ มหาภูเตน. ยถา อาตโป นาม ฉายาย ปริจฺฉินฺโน, ฉายา อาตเปน; เอวเมว มหาภูตํ อุปาทารูเปน ปริจฺฉินฺนํ ¶ , อุปาทารูปํ มหาภูเตน. อถสฺส เอวํ ‘‘จตฺตาริ มหาภูตานิ เตวีสติ อุปาทารูปานิ รูปกฺขนฺโธ’’ติ รูปกฺขนฺธํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อายตนทฺวารวเสน อรูปิโน ขนฺธา ปากฏา โหนฺติ. อิติ รูปารูปปริคฺคโห ปฺจกฺขนฺธา โหนฺติ, ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ โหนฺติ, ทฺวาทสายตนานิ อฏฺารส ธาตุโย โหนฺตีติ ขนฺธายตนธาตุวเสน ยมกตาลกนฺธํ ผาเลนฺโต วิย ทฺเว โกฏฺาเส กตฺวา นามรูปํ ววตฺถเปติ.
โส ‘‘อิทํ นามรูปํ น อเหตุ น อปฺปจฺจยา นิพฺพตฺตํ, สเหตุ สปฺปจฺจยา นิพฺพตฺตํ. โก ปนสฺส เหตุ? โก ปน ปจฺจโย’’ติ อุปปริกฺขนฺโต ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา ¶ ตณฺหาปจฺจยา กมฺมปจฺจยา อาหารปจฺจยา จา’’ติ ตสฺส ปจฺจยํ ววตฺถเปตฺวา ‘‘อตีเตปิ ปจฺจยา เจว ปจฺจยสมุปฺปนฺนธมฺมา จ อนาคเตปิ เอตรหิปิ ปจฺจยา เจว ปจฺจยสมุปฺปนฺนธมฺมา จ, ตโต อุทฺธํ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา นตฺถิ, สุทฺธสงฺขารปฺุโช เอวา’’ติ – เอวํ ตีสุ อทฺธาสุ กงฺขํ วิตรติ. อยํ ปน วิปสฺสนาสงฺขารสลฺลกฺขณา าตปริฺา นาม.
เอวํ สงฺขาเร สลฺลกฺเขตฺวา ิตสฺส ปน ภิกฺขุสฺส ทสพลสฺส สาสเน มูลํ โอติณฺณํ นาม โหติ, ปติฏฺา ลทฺธา นาม, จูฬโสตาปนฺโน นาม โหติ นิยตคติโก. ตถารูปํ ปน อุตุสปฺปายํ, ปุคฺคลสปฺปายํ, โภชนสปฺปายํ, ธมฺมสวณสปฺปายํ ลภิตฺวา เอกาสเน เอกปลฺลงฺกวรคโต ¶ ตีณิ ลกฺขณานิ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ คณฺหาตีติ อิทํ ธาตุวเสน อภินิวิฏฺสฺส ภิกฺขุโน ยาว อรหตฺตา นิคมนํ.
ยสฺส ปน เนว วณฺณโต อุปฏฺาติ น ปฏิกูลโต น สฺุโต เตน ‘น เม อุปฏฺาตี’ติ น กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา นิสีทิตพฺพํ, โกฏฺาสมนสิกาเรเยว ปน โยโค กาตพฺโพ. โปราณกตฺเถรา กิร ‘โกฏฺาสมนสิกาโรว ปมาณ’นฺติ อาหํสุ. อิจฺจสฺส ปุนปฺปุนํ โกฏฺาสวเสน สชฺฌายํ กโรนฺตสฺส โกฏฺาสา ปคุณา โหนฺติ. กทา ปน ปคุณา นาม โหนฺตีติ? ยทา ‘เกสา’ติ อาวชฺชิตมตฺเต มนสิกาโร คนฺตฺวา ‘มตฺถลุงฺค’นฺติ อนฺติมโกฏฺาเส ปติฏฺาติ, ‘มตฺถลุงฺค’นฺติ อาวชฺชิตมตฺเต มนสิกาโร อาคนฺตฺวา ‘เกสา’ติ อาทิโกฏฺาเส ปติฏฺาติ.
อถสฺส ยถา นาม จกฺขุมโต ปุริสสฺส ทฺวตฺตึสวณฺณานํ ¶ ปุปฺผานํ เอกสุตฺตคนฺถิตํ มาลํ โอโลเกนฺตสฺส ปฏิปาฏิยา วา ปน นิขาเต ทฺวตฺตึสวติปาเท ปฏิกฺกมิตฺวา โอโลเกนฺตสฺส ปฏิปาฏิยาว ทฺวตฺตึสวณฺณานิ ปุปฺผานิ วติปาทา วา ปากฏา โหนฺติ, เอวเมว ทฺวตฺตึส โกฏฺาสา อุปฏฺหนฺติ, วิจรนฺตา ติรจฺฉานคตาปิ มนุสฺสาปิ สตฺตาติ น อุปฏฺหนฺติ, โกฏฺาสาติ อุปฏฺหนฺติ, ขาทนียโภชนียํ โกฏฺาสนฺตเร ปกฺขิปฺปมานํ วิย โหติ.
โกฏฺาสานํ ปคุณกาลโต ปฏฺาย ตีสุ มุเขสุ เอเกน มุเขน วิมุจฺจิสฺสติ. กมฺมฏฺานํ วณฺณโต วา ปฏิกูลโต วา สฺุโต วา อุปฏฺาติ ¶ . ยถา นาม ปูเว ปจิตุกามา อิตฺถี มทฺทิตฺวา ปิตปิฏฺโต ยํ ยํ อิจฺฉติ ตํ ตํ ปจติ, ยถา วา ปน สเม ภูมิปฺปเทเส ปิตํ อุทกปูรํ กุมฺภํ ยโต ยโต อาวิชฺฌนฺติ ตโต ตโตว อุทกํ นิกฺขมติ; เอวเมว โกฏฺาสานํ ปคุณกาลโต ปฏฺาย ตีสุ มุเขสุ เอเกน มุเขน วิมุจฺจิสฺสติ. อากงฺขมานสฺส วณฺณโต, อากงฺขมานสฺส ปฏิกูลโต, อากงฺขมานสฺส สฺุโต กมฺมฏฺานํ อุปฏฺหิสฺสติเยว. อยํ เอตฺตโก อุคฺคหสนฺธิ นาม. อิมสฺมึ อุคฺคหสนฺธิสฺมึ ตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตา ภิกฺขุ คณนปถํ วีติวตฺตา.
ยสฺส ปน อุคฺคหสนฺธิสฺมึ กมฺมฏฺานํ น อุปฏฺาติ, เตน กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา, สเจ ยตฺถ อาจริโย วสติ, โส อาวาโส สปฺปาโย โหติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ, สปฺปายฏฺาเน วสิตพฺพํ. วสนฺเตน อฏฺารส วิหารโทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๕๒) วชฺเชตฺวา ปฺจงฺคสมนฺนาคเต เสนาสเน ¶ วสิตพฺพํ, สยมฺปิ ปฺจงฺคสมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ. ตโต ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺเตน รตฺติฏฺานํ วา ทิวาฏฺานํ วา ปวิสิตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกาตพฺพํ.
กถํ? อาทิโต ตาว เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อนุปุพฺพโต มนสิกาตพฺพํ, น เอกนฺตริกา. อนุปุพฺพโต มนสิกโรนฺโต หิ ทฺวตฺตึสปทํ นิสฺเสณึ ปทปฏิปาฏิยา อกฺกมนฺโต ปาสาทํ อารุยฺห ปาสาทานิสํสํ อนุภวนกปุริโส วิย ‘เกสา โลมา’ติ ปฏิปาฏิยา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต กมฺมฏฺานโต จ น ปริหายติ, ปาสาทานิสํสสทิเส จ นว โลกุตฺตรธมฺเม อนุภวติ. อนุปุพฺพโต มนสิกโรนฺเตนาปิ จ นาติสีฆโต นาติสณิกโต ¶ มนสิกาตพฺพํ. อติสีฆโต มนสิกโรนฺตสฺส หิ กิฺจาปิ กมฺมฏฺานํ ปคุณํ โหติ, อวิภูตํ ปน โหติ. ตตฺถ โอปมฺมํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
อติสณิกโต มนสิกโรนฺตสฺส กมฺมฏฺานํ ปริโยสานํ น คจฺฉติ, อนฺตราว โอสกฺกิตพฺพํ โหติ. ยถา หิ ปุริโส ติโยชนํ มคฺคํ สายํ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา ปฏิปนฺโน นิกฺขนฺตฏฺานโต ปฏฺาย สีตลจฺฉายํ ทิสฺวา วิสฺสมติ, รมณียํ วาลิกตลํ ทิสฺวา ปิฏฺึ ปสาเรติ, วนโปกฺขรณึ ทิสฺวา ปานียํ ปิวติ นฺหายติ, ปพฺพตํ ทิสฺวา อารุยฺห ปพฺพตรามเณยฺยกํ ปสฺสติ, ตํ อนฺตราเยว สีโห วา พฺยคฺโฆ วา ทีปิ วา หนติ, โจรา วา ปน ¶ วิลุปฺปนฺติ เจว หนนฺติ จ; เอวเมว อติสณิกํ มนสิกโรนฺตสฺส กมฺมฏฺานํ ปริโยสานํ น คจฺฉติ, อนฺตราว โอสกฺกิตพฺพํ โหติ.
ตสฺมา นาติสีฆํ นาติสณิกํ เอกทิวสํ ตึสวาเร มนสิกาตพฺพํ; ปาโตว ทส วาเร, มชฺฌนฺหิเก ทสวาเร, สายนฺเห ทส วาเร สชฺฌาโย กาตพฺโพ, โน กาตุํ น วฏฺฏติ. ยถา หิ ปาโตว อุฏฺาย มุขํ โน โธวิตุํ น วฏฺฏติ, ขาทนียํ โภชนียํ โน ขาทิตุํ โน ภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ; เอตํ ปน วฏฺเฏยฺย; อิทเมว เอกนฺเตน โน กาตุํ น วฏฺฏติ; กโรนฺโต มหนฺตํ อตฺถํ คเหตฺวา ติฏฺติ. ยถา หิ เอกสฺส ปุริสสฺส ตีณิ เขตฺตานิ; เอกํ เขตฺตํ อฏฺกุมฺภํ เทติ, เอกํ โสฬส, เอกํ ทฺวตฺตึส; เตน ตีณิปิ เขตฺตานิ ปฏิชคฺคิตุํ อสกฺโกนฺเตน ทฺเว ฉฑฺเฑตฺวา เอกํ ทฺวตฺตึสกุมฺภทายกเมว ปฏิชคฺคิตพฺพํ; ตตฺเถว กสนวปนนิทฺทานาทีนิ กาตพฺพานิ; ตเทวสฺส อิตเรสุ ทฺวีสุ อุฏฺานกทายํ ทสฺสติ; เอวเมว เสสํ มุขโธวนาทิกมฺมํ ฉฑฺเฑตฺวาปิ เอตฺเถว ¶ กมฺมํ กาตพฺพํ, โน กาตุํ น วฏฺฏติ. กโรนฺโต มหนฺตํ อตฺถํ คณฺหิตฺวา ติฏฺตีติ เอตฺตาวตา มชฺฌิมา ปฏิปทา นาม กถิตา.
เอวํ ปฏิปนฺเนนาปิ วิกฺเขโป ปฏิพาหิตพฺโพ. กมฺมฏฺานฺหิ วิสฺสชฺเชตฺวา จิตฺเต พหิทฺธา วิกฺเขปํ คจฺฉนฺเต กมฺมฏฺานโต ปริหายติ, วฏฺฏภยํ สมติกฺกมิตุํ น สกฺโกติ. ยถา หิ เอโก ปุริโส สหสฺสุทฺธารํ สาเธตฺวา วฑฺฒึ ลภิตฺวา อทฺธานํ ปฏิปนฺโน อนฺตรามคฺเค กุมฺภีลมกรคาหรกฺขสสมุฏฺิตาย ¶ คมฺภีรคิริกนฺทราย อุปริ อตฺถตํ เอกปทิกํ ทณฺฑกเสตุํ อารุยฺห คจฺฉนฺโต อกฺกมนปทํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต ปริปติตฺวา กุมฺภีลาทิภตฺตํ โหติ, เอวเมว อยมฺปิ กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา สจิตฺเต พหิทฺธา วิกฺเขปํ คจฺฉนฺเต กมฺมฏฺานโต ปริหายติ, วฏฺฏภยํ สมติกฺกมิตุํ น สกฺโกติ.
ตตฺริทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ปุริสสฺส สหสฺสุทฺธารํ สาเธตฺวา วฑฺฒึ ลทฺธกาโล วิย หิ อิมสฺส ภิกฺขุโน อาจริยสนฺติเก กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคหิตกาโล; อนฺตรา คมฺภีรคิริกนฺทรา วิย สํสาโร; ตสฺส กุมฺภีลาทีหิ ทฏฺกาโล วิย วฏฺฏมูลกานิ มหาทุกฺขานิ; เอกปทิกทณฺฑกเสตุ วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน สชฺฌายวีถิ; ตสฺส ปุริสสฺส เอกปทิกํ ¶ ทณฺฑกเสตุํ อารุยฺห อกฺกมนปทํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิโต จิโต จ โอโลเกนฺตสฺส ปริปติตฺวา กุมฺภีลาทีนํ ภตฺตภาวํ อาปนฺนกาโล วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา พหิทฺธา วิกฺขิตฺตจิตฺตสฺส กมฺมฏฺานโต ปริหายิตฺวา วฏฺฏภยํ สมติกฺกมิตุํ อสมตฺถภาโว เวทิตพฺโพ.
ตสฺมา เกสา มนสิกาตพฺพา. เกเส มนสิกริตฺวา จิตฺตุปฺปาทสฺส พหิทฺธา วิกฺเขปํ ปฏิพาหิตฺวา สุทฺธจิตฺเตเนว ‘โลมา นขา ทนฺตา ตโจ’ติ มนสิกาตพฺพํ. เอวํ มนสิกโรนฺโต กมฺมฏฺานโต น ปริหายติ, วฏฺฏภยํ สมติกฺกมติ. โอปมฺมํ ปเนตฺถ ตเทว ปริวตฺเตตฺวา เวทิตพฺพํ. สหสฺสุทฺธารํ สาเธตฺวา วฑฺฒึ ลภิตฺวา เฉกสฺส ปุริสสฺส ทณฺฑกเสตุํ อารุยฺห นิวาสนปารุปนํ สํวิธาย ธาตุปตฺถทฺธกายํ กตฺวา โสตฺถินา ปรตีรคมนํ วิย เฉกสฺส ภิกฺขุโน เกเส มนสิกริตฺวา จิตฺตุปฺปาทสฺส พหิทฺธา วิกฺเขปํ ปฏิพาหิตฺวา สุทฺธจิตฺเตเนว ‘โลมา นขา ทนฺตา ตโจ’ติ มนสิกโรนฺตสฺส กมฺมฏฺานโต อปริหายิตฺวา วฏฺฏภยํ สมติกฺกมนํ เวทิตพฺพํ.
เอวํ ¶ พหิทฺธา วิกฺเขปํ ปฏิพาหนฺเตนาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปณฺณตฺตึ สมติกฺกมนโต มนสิกาตพฺพํ. ‘เกสา โลมา’ติ ปณฺณตฺตึ วิสฺสชฺเชตฺวา ‘ปฏิกูลํ ปฏิกูล’นฺติ สติ เปตพฺพา. ปมํเยว ปน ปฏิกูลโต น อุปฏฺาติ ¶ . ยาว น อุปฏฺาติ ตาว ปณฺณตฺติ น วิสฺสชฺเชตพฺพา. ยทา อุปฏฺาติ ตทา ปณฺณตฺตึ วิสฺสชฺเชตฺวา ‘ปฏิกูล’นฺติ มนสิกาตพฺพํ. กโรนฺเตน จ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปฺจหากาเรหิ ปฏิกูลโต มนสิกาตพฺพา. ตจปฺจกสฺมิฺหิ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสเนว ปฺจวิธมฺปิ ปาฏิกูลฺยํ ลพฺภติ. เสเสสุปิ ยํ ยํ ลพฺภติ, ตสฺส ตสฺส วเสน มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ.
ตตฺถ เกสาทโย ปฺจ โกฏฺาสา สุภนิมิตฺตํ ราคฏฺานิยํ อิฏฺารมฺมณนฺติ สงฺขํ คตา. เย เกจิ รชฺชนกสตฺตา นาม, สพฺเพ เต อิเมสุ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ รชฺชนฺติ. อยํ ปน ภิกฺขุ มหาชนสฺส รชฺชนฏฺาเน ‘ปฏิกูล’นฺติ อปฺปนํ ปาเปติ. ตตฺถ อปฺปนาปฺปตฺติโต ปฏฺาย ปรโต อกิลมนฺโตว อปฺปนํ ปาปุณาติ.
ตตฺริทํ โอปมฺมํ – ยถา หิ เฉโก ธนุคฺคโห ราชานํ อาราเธตฺวา สตสหสฺสุฏฺานกํ คามวรํ ลภิตฺวา สนฺนทฺธปฺจาวุโธ ตตฺถ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค ¶ ทฺวตฺตึส โจเร ทิสฺวา เตสุ ปฺจโจรเชฏฺเก ฆาเตยฺย; เตสํ ฆาติตกาลโต ปฏฺาย เตสุ ทฺเว เอกมคฺคํ ปฏิปชฺชมานา นาม น โหนฺติ; เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. ธนุคฺคหสฺส ราชานํ อาราเธตฺวา คามวรํ ลทฺธกาโล วิย หิ อิมสฺส ภิกฺขุโน อาจริยสนฺติเก กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา ิตกาโล; ทฺวตฺตึส โจรา วิย ทฺวตฺตึส โกฏฺาสา; ปฺจ โจรเชฏฺกา วิย เกสาทโย ปฺจ; โจรเชฏฺกานํ ฆาติตกาโล วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน สพฺพสตฺตานํ รชฺชนฏฺาเน ตจปฺจเก ‘ปฏิกูล’นฺติ อปฺปนาย ปาปิตกาโล; เสสโจรานํ ปาณิปฺปหาเรเนว ปลายิตกาโล วิย เสสโกฏฺาเสสุ อกิลมนฺตสฺเสว อปฺปนาปฺปตฺติ เวทิตพฺพา.
เอวํ ปณฺณตฺตึ สมติกฺกมนฺเตน จ อนุปุพฺพมฺุจนโต มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ – เกเส มนสิกโรนฺเตน มนสิกโรนฺเตเนว เกเสสุ สาเปกฺเขน หุตฺวา โลเมสุ สติ เปเสตพฺพา. ยาว โลมา น อุปฏฺหนฺติ ตาว ‘เกสา เกสา’ติ มนสิกาตพฺพา. ยทา ปน โลมา อุปฏฺหนฺติ ตทา เกเส วิสฺสชฺเชตฺวา โลเมสุ สติ อุปฏฺเปตพฺพา. เอวํ นขาทีสุปิ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ.
ตตฺริทํ ¶ โอปมฺมํ – ยถา หิ ชลูกา คจฺฉมานา ยาว ปุรโต ¶ ปติฏฺํ น ลภติ ตาว ปจฺฉโต นงฺคุฏฺเน คหิตฏฺานํ น มฺุจติ; ยทา ปน ปุรโต ปติฏฺํ ลภติ ตทา นงฺคุฏฺํ อุกฺขิปิตฺวา มุเขน คหิตฏฺาเน เปติ; เอวเมว เกเส มนสิกโรนฺเตน มนสิกโรนฺเตเนว เกเสสุ สาเปกฺเขน หุตฺวา โลเมสุ สติ เปเสตพฺพา. ยาว โลมา น อุปฏฺหนฺติ ตาว ‘เกสา เกสา’ติ มนสิกาตพฺพา. ยทา โลมา อุปฏฺหนฺติ ตทา เกเส วิสฺสชฺเชตฺวา โลเมสุ สติ อุปฏฺเปตพฺพา. เอวํ นขาทีสุปิ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ.
เอวํ ปวตฺเตนฺเตน อปฺปนา โหตีติ วุตฺตมนสิการโกสลฺลํ สมฺปาเทตพฺพํ. กถํ? อิทฺหิ อปฺปนากมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺตสฺส อปฺปนํ ปาปุณาติ; ปมํเยว ตาว น อุปฏฺาติ; อนมตคฺคสฺมิฺหิ สํสารวฏฺเฏ จ นานารมฺมเณสุ วฑฺฒิตํ จิตฺตํ ‘เกสา’ติ อาวชฺชิตมตฺเต สชฺฌายโสตานุสาเรน คนฺตฺวา มตฺถลุงฺเค ปติฏฺาติ. ‘มตฺถลุงฺค’นฺติ อาวชฺชิตมตฺเต สชฺฌายโสตานุสาเรน อาคนฺตฺวา เกเสสุ ปติฏฺาติ. มนสิกโรนฺตสฺส มนสิกโรนฺตสฺส ปน โส โส โกฏฺาโส อุปฏฺาติ. สติ ¶ สมาธินาปิ ติฏฺมานา ปวตฺตติ. เตน โย โย โกฏฺาโส อธิกตรํ อุปฏฺาติ ตตฺถ ตตฺถ ทฺวิคุเณน โยคํ กตฺวา อปฺปนา ปาเปตพฺพา. เอวํ อปฺปนาย ปาปิตกาลโต ปฏฺาย เสสโกฏฺาเสสุ อกิลมนฺโต อปฺปนํ ปาเปติ. ตตฺถ ตาลวนมกฺกโฏว โอปมฺมํ.
อปิเจตฺถ เอวมฺปิ โยชนา เวทิตพฺพา – ทฺวตฺตึสตาลกสฺมิฺหิ ตาลวเน มกฺกโฏ ปฏิวสติ. ตํ คเหตุกาโม ลุทฺโท โกฏิยํ ิตตาลมูเล ตฺวา อุกฺกุฏฺิมกาสิ. มานชาติโก มกฺกโฏ ตํ ตํ ตาลํ ลงฺฆิตฺวา ปริยนฺตตาเล อฏฺาสิ. ลุทฺโท ตตฺถปิ คนฺตฺวา อุกฺกุฏฺิมกาสิ. มกฺกโฏ ปุน ตเถว ปุริมตาเล ปติฏฺาสิ. โส อปราปรํ อนุพนฺธิยมาโน กิลมนฺโต ตสฺส ตสฺเสว ตาลสฺส มูเล ตฺวา อุกฺกุฏฺุกฺกุฏฺิกาเล อุฏฺหิตฺวา คจฺฉนฺโต คจฺฉนฺโต อติกิลมนฺโต เอกสฺส ตาลสฺส มกุฬปณฺณสูจึ ทฬฺหํ คเหตฺวา ธนุโกฏิยา วิชฺฌิตฺวา คณฺหนฺโตปิ น ปลายติ.
ตตฺถ ทฺวตฺตึส ตาลา วิย ทฺวตฺตึส โกฏฺาสา; มกฺกโฏ วิย จิตฺตํ; ลุทฺโท วิย โยคาวจโร; ลุทฺเทน ตาลมูเล ตฺวา ¶ อุกฺกุฏฺิกาเล มานชาติกสฺส มกฺกฏสฺส ปลายิตฺวา ปริยนฺตโกฏิยํ ิตกาโล วิย อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ จ นานารมฺมเณสุ วฑฺฒิตจิตฺตสฺส ‘เกสา’ติ อาวชฺชิตมตฺเต สชฺฌายโสตานุสาเรน คนฺตฺวา มตฺถลุงฺเค ปติฏฺานํ; ปริยนฺตโกฏิยํ ตฺวา ¶ อุกฺกุฏฺเ โอริมโกฏึ อาคมนกาโล วิย ‘มตฺถลุงฺค’นฺติ อาวชฺชิตมตฺเต สชฺฌายโสตานุสาเรน คนฺตฺวา เกเสสุ ปติฏฺานํ; อปราปรํ อนุพนฺธิยมานสฺส กิลมนฺตสฺส อุกฺกุฏฺุกฺกุฏฺิฏฺาเน อุฏฺานกาโล วิย มนสิกโรนฺตสฺส มนสิกโรนฺตสฺส ตสฺมึ ตสฺมึ โกฏฺาเส อุปฏฺหนฺเต สติยา ปติฏฺาย ปติฏฺาย คมนํ; ธนุโกฏิยา วิชฺฌิตฺวา คณฺหนฺตสฺสาปิ อปลายนกาโล วิย โย โกฏฺาโส อธิกตรํ อุปฏฺาติ, ตสฺมึ ทฺวิคุณํ มนสิการํ กตฺวา อปฺปนาย ปาปนํ.
ตตฺถ อปฺปนาย ปาปิตกาลโต ปฏฺาย เสสโกฏฺาเสสุ อกิลมนฺโตว อปฺปนํ ปาเปสฺสติ. ตสฺมา ‘ปฏิกูลํ ปฏิกูล’นฺติ ปุนปฺปุนํ อาวชฺชิตพฺพํ สมนฺนาหริตพฺพํ, ตกฺกาหตํ วิตกฺกาหตํ กาตพฺพํ. เอวํ กโรนฺตสฺส จตฺตาโร ขนฺธา ปฏิกูลารมฺมณา โหนฺติ, อปฺปนํ ปาปุณาติ. ปุพฺพภาคจิตฺตานิ ปริกมฺมอุปจารสงฺขาตานิ สวิตกฺกสวิจารานีติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตสทิสเมว. เอกํ ปน โกฏฺาสํ มนสิกโรนฺตสฺส เอกเมว ¶ ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺตติ. ปาฏิเยกฺกํ มนสิกโรนฺตสฺส ทฺวตฺตึส ปมชฺฌานานิ นิพฺพตฺตนฺติ. หตฺเถ คหิตปฺหาวตฺถุ ปากติกเมว.
โส ตํ นิมิตฺตนฺติ โส ภิกฺขุ ตํ กมฺมฏฺานนิมิตฺตํ. อาเสวตีติ เสวติ ภชติ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ. พหุลีกโรตีติ ปุนปฺปุนํ กโรติ. สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตีติ สุววตฺถิตํ กโรติ. พหิทฺธา กาเย จิตฺตํ อุปสํหรตีติ เอวํ กตฺวา พหิทฺธา ปรสฺส กาเย อตฺตโน จิตฺตํ อุปสํหรติ เปติ เปเสติ.
อตฺถิสฺส กาเยติ อตฺถิ อสฺส กาเย. อชฺฌตฺตพหิทฺธากาเย จิตฺตํ อุปสํหรตีติ กาเลน อตฺตโน กาเลน ปเรสํ กาเย จิตฺตํ อุปนาเมติ. อตฺถิ ¶ กาเยติ อิทํ ยสฺมา น เอกนฺเตน อตฺตโน กาโย นาปิ ปรสฺเสว กาโย อธิปฺเปโต, ตสฺมา วุตฺตํ. เอตฺถ ปน อตฺตโน ชีวมานกสรีเร ‘ปฏิกูล’นฺติ ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส อปฺปนาปิ อุปจารมฺปิ ชายติ. ปรสฺส ชีวมานกสรีเร ‘ปฏิกูล’นฺติ มนสิกโรนฺตสฺส เนว อปฺปนา ชายติ, น อุปจารํ. นนุ จ ทสสุ อสุเภสุ อุภยมฺเปตํ ชายตีติ? อาม, ชายติ. ตานิ หิ อนุปาทินฺนกปกฺเข ิตานิ. ตสฺมา ตตฺถ อปฺปนาปิ อุปจารมฺปิ ชายติ. อิทํ ปน อุปาทินฺนกปกฺเข ิตํ. เตเนเวตฺถ อุภยมฺเปตํ น ชายติ. อสุภานุปสฺสนาสงฺขาตา ปน วิปสฺสนาภาวนา โหตีติ เวทิตพฺพา. อิมสฺมึ ปพฺเพ กึ กถิตนฺติ? สมถวิปสฺสนา กถิตา.
อิทาเนตฺถ ¶ เอวํ สพฺพํ มนสิการสาธารณํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ. เอเตสฺหิ –
นิมิตฺตโต ลกฺขณโต, ธาตุโต อถ สฺุโต;
ขนฺธาทิโต จ วิฺเยฺโย, เกสาทีนํ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ ‘นิมิตฺตโต’ติ ทฺวตฺตึสากาเร สฏฺิสตํ นิมิตฺตานิ, เยสํ วเสน โยคาวจโร ทฺวตฺตึสาการํ โกฏฺาสโต ปริคฺคณฺหาติ, เสยฺยถิทํ – เกสสฺส วณฺณนิมิตฺตํ, สณฺานนิมิตฺตํ, ทิสานิมิตฺตํ, โอกาสนิมิตฺตํ, ปริจฺเฉทนิมิตฺตนฺติ ปฺจ นิมิตฺตานิ โหนฺติ. โลมาทีสุปิ เอเสว นโย.
‘ลกฺขณโต’ติ ทฺวตฺตึสากาเร อฏฺวีสติสตํ ลกฺขณานิ โหนฺติ, เยสํ วเสน โยคาวจโร ทฺวตฺตึสาการํ ลกฺขณโต มนสิกโรติ, เสยฺยถิทํ ¶ – เกเส ถทฺธตฺตลกฺขณํ, อาพนฺธตฺตลกฺขณํ, อุณฺหตฺตลกฺขณํ, วิตฺถมฺภนลกฺขณนฺติ จตฺตาริ ลกฺขณานิ โหนฺติ. โลมาทีสุปิ เอเสว นโย.
‘ธาตุโต’ติ ทฺวตฺตึสากาเร ‘‘จตุธาตุโร อยํ, ภิกฺขุ, ปุริโส’’ติ วุตฺตาสุ ธาตูสุ อฏฺวีสติสตํ ธาตุโย โหนฺติ, ยาสํ วเสน โยคาวจโร ทฺวตฺตึสาการํ ธาตุโต ปริคฺคณฺหาติ, เสยฺยถิทํ – เกเส กกฺขฬตา ปถวีธาตุ, อาพนฺธนตา อาโปธาตุ, อุณฺหตา เตโชธาตุ, วิตฺถมฺภนตา วาโยธาตูติ จตสฺโส ธาตุโย โหนฺติ. โลมาทีสุปิ เอเสว นโย.
‘สฺุโต’ติ ทฺวตฺตึสากาเร ฉนฺนวุติ สฺุตา โหนฺติ, ยาสํ วเสน ¶ โยคาวจโร ทฺวตฺตึสาการํ สฺุโต วิปสฺสติ, เสยฺยถิทํ – เกสา สฺุา อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา นิจฺเจน วา ธุเวน วา สสฺสเตน วา อวิปริณามธมฺเมน วาติ. เกเส ตาว อตฺตสฺุตา, อตฺตนิยสฺุตา, นิจฺจภาวสฺุตาติ ติสฺโส สฺุตา โหนฺติ. โลมาทีสุปิ เอเสว นโย.
‘ขนฺธาทิโต’ติ ทฺวตฺตึสากาเร เกสาทีสุ ขนฺธาทิวเสน ปริคฺคยฺหมาเนสุ เกสา กติ ขนฺธา โหนฺติ, กติ อายตนานิ, กติ ธาตุโย, กติ สจฺจานิ, กติ สติปฏฺานานีติอาทินา นเยน เปตฺถ วินิจฺฉโย วิฺาตพฺโพ.
๓๕๗. เอวํ ¶ อชฺฌตฺตาทิเภทโต ติวิเธน กายานุปสฺสนํ วิตฺถารโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน’’ติอาทีนิ ปทานิ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ อนุปสฺสีติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยาย อนุปสฺสนาย กายานุปสฺสี นาม โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตมา อนุปสฺสนา? ยา ปฺา ปชานนาติอาทิ วุตฺตํ. อาตาปีติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ปฺา ปชานนาติอาทีนิ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺฑวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๖) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. อุเปโตติอาทีนิ สพฺพานิ อฺมฺเววจนานิ. อปิจ อาเสวนวเสน อุเปโต, ภาวนาวเสน สุฏฺุ อุเปโตติ สมุเปโต ¶ . อุปาคโต สมุปาคโต, อุปปนฺโน สมฺปนฺโนติ อิเมสุปิ ทฺวีสุ ทุเกสุ อยเมว นโย. พหุลีการวเสน ปน สมนฺนาคโตติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมินา อาตาเปน อุเปโตติ อาทีสุปิ เอเสว นโย.
วิหรตีติ ปเท ‘ตตฺถ กตโม วิหาโร’ติ ปุจฺฉํ อกตฺวา ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย เทเสนฺโต อิริยตีติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – จตุนฺนํ อิริยาปถานํ อฺตรสมงฺคีภาวโต อิริยติ. เตหิ อิริยาปถจตุกฺเกหิ กายสกฏวตฺตเนน วตฺตติ. เอกํ อิริยาปถทุกฺขํ อปเรน อิริยาปเถน พาธิตฺวา จิรฏฺิติกภาเวน สรีรกฺขนโต ปาเลติ. เอกสฺมึ อิริยาปเถ อสณฺหิตฺวา สพฺพิริยาปถวตนโต ยเปติ. เตน เตน อิริยาปเถน ตถา ตถา กายสฺส ยาปนโต ยาเปติ. จิรกาลวตฺตาปนโต จรติ. อิริยาปเถน อิริยาปถํ วิจฺฉินฺทิตฺวา ชีวิตหรณโต วิหรติ.
๓๖๒. สฺเวว กาโย โลโกติ ยสฺมึ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, สฺเวว กาโย ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก. ยสฺมา ปนสฺส กาเย ปหียมานํ อภิชฺฌาโทมนสฺสํ เวทนาทีสุปิ ปหียติ เอว, ตสฺมา ปฺจปิ อุปาทานกฺขนฺธา โลโกติ วุตฺตํ.
สนฺตาติอาทีสุปิ ¶ นิโรธวเสน สนฺตตาย สนฺตา. ภาวนาย สมิตตฺตา สมิตา. วตฺถุปริฺาย อปฺปวตฺติวูปสมวเสน วูปสนฺตา. นิโรธสงฺขาตํ อตฺถํ คตาติ อตฺถงฺคตา. ปุนปฺปุนํ นิพฺพตฺติยา ปฏิพาหิตตฺตา อติวิย อตฺถํ คตาติ อพฺภตฺถงฺคตา. อปฺปิตาติ วินาสิตา, อปฺปวตฺติยํ ปิตาติปิ อตฺโถ. พฺยปฺปิตาติ สุวินาสิตา, อติวิย อปฺปวตฺติยํ ปิตาติปิ อตฺโถ. ยถา ปุน น อนฺวสฺสวนฺติ เอวํ โสสิตตฺตา โสสิตา. สุฏฺุ โสสิตาติ วิโสสิตา ¶ , สุกฺขาปิตาติ อตฺโถ. วิคตนฺตา กตาติ พฺยนฺตี กตา. เอตฺถ จ อนุปสฺสนาย กมฺมฏฺานวิหาเรน กมฺมฏฺานิกสฺส กายปริหรณํ, อาตาเปน สมฺมปฺปธานํ, สติสมฺปชฺเน กมฺมฏฺานปริหรณูปาโย; สติยา วา กายานุปสฺสนาวเสน ปฏิลทฺโธ สมโถ, สมฺปชฺเน วิปสฺสนา, อภิชฺฌาโทมนสฺสวินเยน ภาวนาผลํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
กายานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
เวทนานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๖๓. เวทนานุปสฺสนานิทฺเทเสปิ ¶ เหฏฺา วุตฺตสทิสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สุขํ เวทนํ เวทยมาโนติอาทีสุ ปน สุขํ เวทนนฺติ กายิกํ วา เจตสิกํ วา สุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘อหํ สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาตีติ อตฺโถ. ตตฺถ กามํ อุตฺตานเสยฺยกาปิ ทารกา ถฺปิวนาทิกาเล สุขํ เวทยมานา ‘สุขํ เวทนํ เวทยามา’ติ ปชานนฺติ, น ปเนตํ เอวรูปํ ชานนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอวรูปฺหิ ชานนํ สตฺตูปลทฺธึ นปฺปชหติ, สตฺตสฺํ น อุคฺฆาเฏติ, กมฺมฏฺานํ วา สติปฏฺานภาวนา วา น โหติ. อิมสฺส ปน ภิกฺขุโน ชานนํ สตฺตูปลทฺธึ ปชหติ, สตฺตสฺํ อุคฺฆาเฏติ, กมฺมฏฺานฺเจว สติปฏฺานภาวนา จ โหติ. ‘อิทฺหิ โก เวทยติ, กสฺส เวทนา, กึ การณา เวทนา’ติ เอวํ สมฺปชานเวทิยนํ สนฺธาย วุตฺตํ.
ตตฺถ โก เวทยตีติ? น โกจิ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา เวทยติ. กสฺส เวทนาติ? น กสฺสจิ สตฺตสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา เวทนา. กึ การณา เวทนาติ? วตฺถุอารมฺมณา จ ปเนสา เวทนา. ตสฺมา เอส เอวํ ปชานาติ – ‘ตํ ตํ สุขาทีนํ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวทนาว เวทยติ; ตํ ปน เวทนาปวตฺตึ ¶ อุปาทาย ‘อหํ เวทยามี’ติ โวหารมตฺตํ โหตี’ติ. เอวํ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวทนาว เวทยตีติ สลฺลกฺเขนฺโต ‘เอส สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาตีติ เวทิตพฺโพ, จิตฺตลปพฺพเต อฺตโร เถโร วิย.
เถโร กิร อผาสุกกาเล พลวเวทนาย นิตฺถุนนฺโต อปราปรํ ปริวตฺตติ. ตเมโก ทหโร อาห ¶ – ‘‘กตรํ โว, ภนฺเต, านํ รุชตี’’ติ? ‘‘อาวุโส, ปาฏิเยกฺกํ รุชนฏฺานํ นาม นตฺถิ; วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวทนาว เวทยตี’’ติ. ‘‘เอวํ ชานนกาลโต ปฏฺาย อธิวาเสตุํ วฏฺฏติ โน, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อธิวาเสมิ, อาวุโส’’ติ. ‘‘อธิวาสนา, ภนฺเต, เสยฺโย’’ติ. เถโร อธิวาเสสิ. วาโต ยาว หทยา ผาเลสิ. มฺจเก อนฺตานิ ราสีกตานิ อเหสุํ. เถโร ทหรสฺส ทสฺเสสิ – ‘‘วฏฺฏตาวุโส, เอตฺตกา อธิวาสนา’’ติ? ทหโร ตุณฺหี อโหสิ. เถโร วีริยสมาธึ โยเชตฺวา สหปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา สมสีสี หุตฺวา ปรินิพฺพายิ.
ยถา ¶ จ สุขํ, เอวํ ทุกฺขํ…เป… นิรามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘นิรามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ ปชานาติ. อิติ ภควา รูปกมฺมฏฺานํ กเถตฺวา อรูปกมฺมฏฺานํ กเถนฺโต เวทนาวเสน กเถสิ. ทุวิธฺหิ กมฺมฏฺานํ – รูปกมฺมฏฺานํ อรูปกมฺมฏฺานฺจ; รูปปริคฺคโห อรูปปริคฺคโหติปิ เอตเทว วุจฺจติ. ตตฺถ ภควา รูปกมฺมฏฺานํ กเถนฺโต สงฺเขปมนสิการวเสน วา วิตฺถารมนสิการวเสน วา จตุธาตุววตฺถานํ กเถสิ. ตทุภยมฺปิ วิสุทฺธิมคฺเค สพฺพาการโต ทสฺสิตเมว.
อรูปกมฺมฏฺานํ ปน กเถนฺโต เยภุยฺเยน เวทนาวเสน กเถสิ. ติวิโธ หิ อรูปกมฺมฏฺาเน อภินิเวโส – ผสฺสวเสน, เวทนาวเสน, จิตฺตวเสนาติ. กถํ? เอกจฺจสฺส หิ สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา ปริคฺคหิเต รูปกมฺมฏฺาเน ตสฺมึ อารมฺมเณ จิตฺตเจตสิกานํ ปมาภินิปาโต ตํ อารมฺมณํ ผุสนฺโต อุปฺปชฺชมาโน ผสฺโส ปากโฏ โหติ. เอกจฺจสฺส ตํ อารมฺมณํ อนุภวนฺตี อุปฺปชฺชมานา เวทนา ปากฏา โหติ. เอกจฺจสฺส ตํ อารมฺมณํ ปริคฺคเหตฺวา วิชานนฺตํ อุปฺปชฺชมานํ วิฺาณํ ปากฏํ โหติ.
ตตฺถ ¶ ยสฺส ผสฺโส ปากโฏ โหติ, โสปิ ‘น เกวลํ ผสฺโสว อุปฺปชฺชติ; เตน สทฺธึ ตเทวารมฺมณํ อนุภวมานา เวทนาปิ อุปฺปชฺชติ, สฺชานมานา สฺาปิ, เจตยมานา เจตนาปิ, วิชานนมานํ วิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’ติ ผสฺสปฺจมเกเยว ปริคฺคณฺหาติ. ยสฺส เวทนา ปากฏา โหติ, โสปิ ‘น เกวลํ เวทนาว อุปฺปชฺชติ; ตาย สทฺธึ ตเทวารมฺมณํ ผุสมาโน ผสฺโสปิ อุปฺปชฺชติ, สฺชานนมานา สฺาปิ, เจตยมานา เจตนาปิ, วิชานนมานํ วิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’ติ ผสฺสปฺจมเกเยว ปริคฺคณฺหาติ. ยสฺส วิฺาณํ ปากฏํ โหติ, โสปิ ‘น เกวลํ วิฺาณเมว อุปฺปชฺชติ; เตน สทฺธึ ตเทวารมฺมณํ ผุสมาโน ผสฺโสปิ ¶ อุปฺปชฺชติ, อนุภวมานา เวทนาปิ, สฺชานนมานา สฺาปิ, เจตยมานา เจตนาปิ อุปฺปชฺชตี’ติ ผสฺสปฺจมเกเยว ปริคฺคณฺหาติ.
โส ‘อิเม ผสฺสปฺจมกา ธมฺมา กึนิสฺสิตา’ติ อุปธาเรนฺโต ‘วตฺถุนิสฺสิตา’ติ ปชานาติ. วตฺถุ นาม กรชกาโย; ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อิทฺจ ปน เม วิฺาณํ เอตฺถสิตํ, เอตฺถปฏิพทฺธ’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๒๓๕). โส อตฺถโต ภูตานิ ¶ เจว อุปาทารูปานิ จ. เอวเมตฺถ วตฺถุ รูปํ, ผสฺสปฺจมกา นามนฺติ นามรูปเมว ปสฺสติ. รูปฺเจตฺถ รูปกฺขนฺโธ, นามํ จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธาติ ปฺจกฺขนฺธมตฺตํ โหติ. นามรูปวินิมุตฺตา หิ ปฺจกฺขนฺธา ปฺจกฺขนฺธวินิมุตฺตํ วา นามรูปํ นตฺถิ.
โส ‘อิเม ปฺจกฺขนฺธา กึเหตุกา’ติ อุปปริกฺขนฺโต ‘อวิชฺชาทิเหตุกา’ติ ปสฺสติ; ตโต ปจฺจโย เจว ปจฺจยุปฺปนฺนฺจ อิทํ; อฺโ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา นตฺถิ; สุทฺธสงฺขารปฺุชมตฺตเมวาติ สปฺปจฺจยนามรูปวเสนว ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา ‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ สมฺมสนฺโต วิจรติ. โส ‘อชฺช อชฺชา’ติ ปฏิเวธํ อากงฺขมาโน ตถารูเป ทิวเส อุตุสปฺปายํ, ปุคฺคลสปฺปายํ, โภชนสปฺปายํ, ธมฺมสวนสปฺปายํ วา ลภิตฺวา เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโนว วิปสฺสนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาติ. เอวํ อิเมสํ ติณฺณมฺปิ ชนานํ ยาว อรหตฺตา กมฺมฏฺานํ กถิตํ โหติ.
อิธ ปน ภควา อรูปกมฺมฏฺานํ กเถนฺโต เวทนาวเสน ¶ กเถสิ. ผสฺสวเสน วา หิ วิฺาณวเสน วา กถิยมานํ น ปากฏํ โหติ, อนฺธการํ วิย ขายติ. เวทนาวเสน ปน ปากฏํ โหติ. กสฺมา? เวทนานํ อุปฺปตฺติปากฏตาย. สุขทุกฺขเวทนานฺหิ อุปฺปตฺติ ปากฏา. ยทา สุขํ อุปฺปชฺชติ, สกลสรีรํ โขเภนฺตํ มทฺทนฺตํ ผรมานํ อภิสนฺทยมานํ สตโธตสปฺปึ ขาทาปยนฺตํ วิย, สตปากเตลํ มกฺขาปยมานํ วิย, อุทกฆฏสหสฺเสน ปริฬาหํ นิพฺพาปยมานํ วิย, ‘อโห สุขํ! อโห สุขนฺติ’! วาจํ นิจฺฉารยมานเมว อุปฺปชฺชติ. ยทา ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, สกลสรีรํ โขเภนฺตํ มทฺทนฺตํ ผรมานํ อภิสนฺทยมานํ ตตฺตผาลํ ปเวเสนฺตํ วิย, วิลีนตมฺพโลเหน อาสิฺจนฺตํ วิย, สุกฺขติณวนปฺปติมฺหิ อรฺเ ทารุอุกฺกากลาปํ ปกฺขิปมานํ วิย ‘อโห ทุกฺขํ! อโห ทุกฺขนฺติ!’ วิปฺปลาปยมานเมว อุปฺปชฺชติ. อิติ สุขทุกฺขเวทนานํ อุปฺปตฺติ ปากฏา โหติ.
อทุกฺขมสุขา ¶ ปน ทุทฺทีปนา อนฺธการา อวิภูตา. สา สุขทุกฺขานํ อปคเม สาตาสาตปฏิกฺเขปวเสน มชฺฌตฺตาการภูตา อทุกฺขมสุขา เวทนาติ นยโต คณฺหนฺตสฺส ปากฏา โหติ. ยถา กึ? อนฺตรา ปิฏฺิปาสาณํ อารุหิตฺวา ปลายนฺตสฺส มิคสฺส อนุปถํ คจฺฉนฺโต มิคลุทฺทโก ปิฏฺิปาสาณสฺส โอรภาเค อปรภาเคปิ ปทํ ทิสฺวา มชฺเฌ อปสฺสนฺโตปิ ¶ ‘อิโต อารุฬฺโห, อิโต โอรุฬฺโห, มชฺเฌ ปิฏฺิปาสาเณ อิมินา ปเทเสน คโต ภวิสฺสตี’ติ นยโต ชานาติ. เอวํ อารุฬฺหฏฺาเน ปทํ วิย หิ สุขาย เวทนาย อุปฺปตฺติ ปากฏา โหติ; โอรุฬฺหฏฺาเน ปทํ วิย ทุกฺขาย เวทนาย อุปฺปตฺติ ปากฏา โหติ. ‘อิโต อารุฬฺโห, อิโต โอรุฬฺโห, มชฺเฌ เอวํ คโต’ติ นยโต คหณํ วิย สุขทุกฺขานํ อปคเม สาตาสาตปฏิกฺเขปวเสน มชฺฌตฺตาการภูตา อทุกฺขมสุขา เวทนาติ นยโต คณฺหนฺตสฺส ปากฏา โหติ.
เอวํ ภควา ปมํ รูปกมฺมฏฺานํ กเถตฺวา ปจฺฉา อรูปกมฺมฏฺานํ กเถนฺโต เวทนาวเสน วินิวตฺเตตฺวา ทสฺเสสิ; น เกวลฺจ อิเธว เอวํ ทสฺเสติ, ทีฆนิกายมฺหิ มหานิทาเน, สกฺกปฺเห, มหาสติปฏฺาเน ¶ , มชฺฌิมนิกายมฺหิ สติปฏฺาเน จ จูฬตณฺหาสงฺขเย, มหาตณฺหาสงฺขเย, จูฬเวทลฺเล, มหาเวทลฺเล, รฏฺปาลสุตฺเต, มาคณฺฑิยสุตฺเต, ธาตุวิภงฺเค, อาเนฺชสปฺปาเย, สํยุตฺตนิกายมฺหิ จูฬนิทานสุตฺเต, รุกฺโขปเม, ปริวีมํสนสุตฺเต, สกเล เวทนาสํยุตฺเตติ เอวํ อเนเกสุ สุตฺเตสุ ปมํ รูปกมฺมฏฺานํ กเถตฺวา ปจฺฉา อรูปกมฺมฏฺานํ เวทนาวเสน วินิวตฺเตตฺวา ทสฺเสสิ. ยถา จ เตสุ เตสุ, เอวํ อิมสฺมิมฺปิ สติปฏฺานวิภงฺเค ปมํ รูปกมฺมฏฺานํ กเถตฺวา ปจฺฉา อรูปกมฺมฏฺานํ เวทนาวเสน วินิวตฺเตตฺวา ทสฺเสสิ.
ตตฺถ สุขํ เวทนนฺติอาทีสุ อยํ อปโรปิ ปชานนปริยาโย – สุขํ เวทนํ เวทยามีติ ปชานาตีติ สุขเวทนากฺขเณ ทุกฺขาย เวทนาย อภาวโต สุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ. เตน ยา ปุพฺเพ ภูตปุพฺพา ทุกฺขา เวทนา, ตสฺสา อิทานิ อภาวโต อิมิสฺสา จ สุขาย อิโต ปมํ อภาวโต เวทนา นาม อนิจฺจา อทฺธุวา วิปริณามธมฺมาติ อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา –
‘‘ยสฺมึ, อคฺคิเวสฺสน, สมเย สุขํ เวทนํ เวเทติ, เนว ตสฺมึ สมเย ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ, น อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวเทติ, สุขํเยว ตสฺมึ สมเย เวทนํ เวเทติ. ยสฺมึ ¶ , อคฺคิเวสฺสน, สมเย ทุกฺขํ…เป… อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวเทติ, เนว ตสฺมึ สมเย สุขํ เวทนํ เวเทติ, น ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ, อทุกฺขมสุขํเยว ตสฺมึ สมเย เวทนํ เวเทติ. สุขาปิ โข, อคฺคิเวสฺสน ¶ , เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา. ทุกฺขาปิ โข…เป… อทุกฺขมสุขาปิ โข, อคฺคิเวสฺสน, เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา…เป… นิโรธธมฺมา. เอวํ ปสฺสํ, อคฺคิเวสฺสน, สุตวา อริยสาวโก สุขายปิ เวทนาย นิพฺพินฺทติ, ทุกฺขายปิ เวทนาย นิพฺพินฺทติ, อทุกฺขมสุขายปิ เวทนาย นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ, วิราคา วิมุจฺจติ, วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ; ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๐๕).
สามิสํ ¶ วา สุขนฺติอาทีสุ สามิสา สุขา นาม ปฺจกามคุณามิสนิสฺสิตา ฉ เคหสฺสิตโสมนสฺสเวทนา; นิรามิสา สุขา นาม ฉ เนกฺขมฺมสฺสิตโสมนสฺสเวทนา; สามิสา ทุกฺขา นาม ฉ เคหสฺสิตโทมนสฺสเวทนา; นิรามิสา ทุกฺขา นาม ฉ เนกฺขมฺมสฺสิตโทมนสฺสเวทนา; สามิสา อทุกฺขมสุขา นาม ฉ เคหสิตอุเปกฺขาเวทนา; นิรามิสา อทุกฺขมสุขา นาม ฉ เนกฺขมฺมสฺสิตอุเปกฺขาเวทนา. ตาสํ วิภาโค อุปริปณฺณาเส ปาฬิยํ (ม. นิ. ๓.๓๐๔ อาทโย) อาคโตเยว. โส ตํ นิมิตฺตนฺติ โส ตํ เวทนานิมิตฺตํ. พหิทฺธา เวทนาสูติ ปรปุคฺคลสฺส เวทนาสุ. สุขํ เวทนํ เวทยมานนฺติ ปรปุคฺคลํ สุขเวทนํ เวทยมานํ. อชฺฌตฺตพหิทฺธาติ กาเลน อตฺตโน กาเลน ปรสฺส เวทนาสุ จิตฺตํ อุปสํหรติ. อิมสฺมึ วาเร ยสฺมา เนว อตฺตา, น ปโร นิยมิโต; ตสฺมา เวทนาปริคฺคหมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อิธ ภิกฺขุ สุขํ เวทนํ สุขา เวทนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อิมสฺมึ ปน ปพฺเพ สุทฺธวิปสฺสนาว กถิตาติ.
เวทนานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๖๕. จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทเสปิ ¶ เหฏฺา วุตฺตสทิสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สราคํ วา จิตฺตนฺติอาทีสุ ปน สราคนฺติ อฏฺวิธํ โลภสหคตํ. วีตราคนฺติ โลกิยกุสลาพฺยากตํ. อิทํ ปน ยสฺมา สมฺมสนํ น ¶ ธมฺมสโมธานํ, ตสฺมา อิธ เอกปเทปิ โลกุตฺตรํ น ลพฺภติ. ยสฺมา ปหาเนกฏฺวเสน ราคาทีหิ สห วตฺตนฺติ ปหียนฺติ, ตสฺมา ทฺวีสุ ปเทสุ นิปฺปริยาเยน น ลพฺภนฺตีติ น คหิตานิ. เสสานิ จตฺตาริ อกุสลจิตฺตานิ เนว ปุริมปทํ, น ปจฺฉิมปทํ ภชนฺติ. สโทสนฺติ ทุวิธํ โทมนสฺสสหคตํ. วีตโทสนฺติ โลกิยกุสลาพฺยากตํ. เสสานิ ทส อกุสลจิตฺตานิ เนว ปุริมปทํ, น ปจฺฉิมปทํ ภชนฺติ. สโมหนฺติ วิจิกิจฺฉาสหคตฺเจว อุทฺธจฺจสหคตฺจาติ ทุวิธํ. ยสฺมา ปน โมโห สพฺพากุสเลสุ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ¶ เสสานิปิ อิธ วฏฺฏนฺติ เอว. อิมสฺมึ เยว หิ ทุเก ทฺวาทสากุสลจิตฺตานิ ปริยาทิณฺณานีติ. วีตโมหนฺติ โลกิยกุสลาพฺยากตํ. สํขิตฺตนฺติ ถินมิทฺธานุปติตํ. เอตฺหิ สงฺกุฏิตจิตฺตํ นาม. วิกฺขิตฺตนฺติ อุทฺธจฺจสหคตํ. เอตฺหิ ปสฏจิตฺตํ นาม.
มหคฺคตนฺติ รูปาวจรํ อรูปาวจรฺจ. อมหคฺคตนฺติ กามาวจรํ. สอุตฺตรนฺติ กามาวจรํ. อนุตฺตรนฺติ รูปาวจรฺจ อรูปาวจรฺจ. ตตฺราปิ สอุตฺตรํ รูปาวจรํ, อนุตฺตรํ อรูปาวจรเมว. สมาหิตนฺติ ยสฺส อปฺปนาสมาธิ อุปจารสมาธิ วา อตฺถิ. อสมาหิตนฺติ อุภยสมาธิวิรหิตํ. วิมุตฺตนฺติ ตทงฺควิกฺขมฺภนวิมุตฺตีหิ วินิมุตฺตํ. อวิมุตฺตนฺติ อุภยวิมุตฺติรหิตํ; สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิมุตฺตีนํ ปน อิธ โอกาโสว นตฺถิ. สราคมสฺส จิตฺตนฺติ สราคํ อสฺส จิตฺตํ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว. อิมสฺมิมฺปิ ปพฺเพ สุทฺธวิปสฺสนาว กถิตาติ.
จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ธมฺมานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
นีวรณปพฺพวณฺณนา
๓๖๗. เอตฺตาวตา ¶ ยสฺมา กายานุปสฺสนาย รูปกฺขนฺธปริคฺคโหว กถิโต, เวทนานุปสฺสนาย เวทนากฺขนฺธปริคฺคโหว จิตฺตานุปสฺสนาย วิฺาณกฺขนฺธปริคฺคโหว ตสฺมา อิทานิ สมฺปยุตฺตธมฺมสีเสน สฺาสงฺขารกฺขนฺธปริคฺคหมฺปิ กเถตุํ ธมฺมานุปสฺสนํ ทสฺเสนฺโต กถฺจ ภิกฺขูติอาทิมาห. ตตฺถ สนฺตนฺติ อภิณฺหสมุทาจารวเสน สํวิชฺชมานํ. อสนฺตนฺติ อสมุทาจารวเสน ¶ วา ปหีนตฺตา วา อวิชฺชมานํ. ยถา จาติ เยน การเณน กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาโท โหติ. ตฺจ ปชานาตีติ ตฺจ การณํ ปชานาติ. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ สุภนิมิตฺเต อโยนิโสมนสิกาเรน ¶ กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาโท โหติ. สุภนิมิตฺตํ นาม สุภมฺปิ สุภนิมิตฺตํ, สุภารมฺมณมฺปิ สุภนิมิตฺตํ. อโยนิโสมนสิกาโร นาม อนุปายมนสิกาโร อุปฺปถมนสิกาโร, อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ วา ทุกฺเข สุขนฺติ วา อนตฺตนิ อตฺตาติ วา อสุเภ สุภนฺติ วา มนสิกาโร. ตํ ตตฺถ พหุลํ ปวตฺตยโต กามจฺฉนฺโท อุปฺปชฺชติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, สุภนิมิตฺตํ. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา กามจฺฉนฺทสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
อสุภนิมิตฺเต ปน โยนิโสมนสิกาเรนสฺส ปหานํ โหติ. อสุภนิมิตฺตํ นาม อสุภมฺปิ อสุภนิมิตฺตํ, อสุภารมฺมณมฺปิ อสุภนิมิตฺตํ. โยนิโสมนสิกาโร นาม อุปายมนสิกาโร ปถมนสิกาโร, อนิจฺเจ อนิจฺจนฺติ วา ทุกฺเข ทุกฺขนฺติ วา อนตฺตนิ อนตฺตาติ วา อสุเภ อสุภนฺติ วา มนสิกาโร. ตํ ตตฺถ พหุลํ ปวตฺตยโต กามจฺฉนฺโท ปหียติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อสุภนิมิตฺตํ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร อยมนาหาโร ¶ อนุปฺปนฺนสฺส วา กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา กามจฺฉนฺทสฺส ภิยฺโยภาวาย, เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
อปิจ ฉ ธมฺมา กามจฺฉนฺทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – อสุภนิมิตฺตสฺส อุคฺคโห, อสุภภาวนานุโยโค, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตฺุตา, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ. ทสวิธฺหิ อสุภนิมิตฺตํ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ กามจฺฉนฺโท ปหียติ, ภาเวนฺตสฺสาปิ; อินฺทฺริเยสุ ปิหิตทฺวารสฺสาปิ ¶ ; จตุนฺนํ ปฺจนฺนํ อาโลปานํ โอกาเส สติ อุทกํ ปิวิตฺวา ยาปนสีลตาย โภชเน มตฺตฺุโนปิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;
อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. (เถรคา. ๙๘๓);
อสุภกมฺมิกติสฺสตฺเถรสทิเส อสุภภาวนารเต กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ กามจฺฉนฺโท ปหียติ; านนิสชฺชาทีสุ ทสอสุภนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน ¶ วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา กามจฺฉนฺทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อรหตฺตมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหตีติ ปชานาติ.
ปฏิฆนิมิตฺเต อโยนิโสมนสิกาเรน ปน พฺยาปาทสฺส อุปฺปาโท โหติ. ตตฺถ ปฏิฆมฺปิ ปฏิฆนิมิตฺตํ นาม; ปฏิฆารมฺมณมฺปิ ปฏิฆนิมิตฺตํ. อโยนิโสมนสิกาโร สพฺพตฺถ เอกลกฺขโณว. ตํ ตสฺมึ นิมิตฺเต พหุลํ ปวตฺตยโต พฺยาปาโท อุปฺปชฺชติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปฏิฆนิมิตฺตํ. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา พฺยาปาทสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา พฺยาปาทสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
เมตฺตาย ปน เจโตวิมุตฺติยา โยนิโสมนสิกาเรนสฺส ปหานํ โหติ. ตตฺถ เมตฺตาติ วุตฺเต อปฺปนาปิ อุปจาโรปิ วฏฺฏติ; เจโตวิมุตฺตีติ อปฺปนาว. โยนิโสมนสิกาโร วุตฺตลกฺขโณว. ตํ ตตฺถ พหุลํ ปวตฺตยโต พฺยาปาโท ปหียติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา พฺยาปาทสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา พฺยาปาทสฺส ภิยฺโยภาวาย, เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒ โถกํ วิสทิสํ).
อปิจ ฉ ธมฺมา พฺยาปาทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – เมตฺตานิมิตฺตสฺส อุคฺคโห, เมตฺตาภาวนานุโยโค, กมฺมสฺสกตาปจฺจเวกฺขณา, ปฏิสงฺขานพหุลีกตา ¶ , กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ. โอทิสฺสกาโนทิสฺสกทิสาผรณานฺหิ อฺตรวเสน เมตฺตํ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ พฺยาปาโท ปหียติ. โอธิโส อโนธิโส ทิสาผรณวเสน เมตฺตํ ภาเวนฺตสฺสาปิ. ‘ตฺวํ เอตสฺส กุทฺโธ กึ กริสฺสสิ, กิมสฺส สีลาทีนิ วินาเสตุํ สกฺขิสฺสสิ? นนุ ตฺวํ อตฺตโน กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโน กมฺเมเนว คมิสฺสสิ? ปรสฺส กุชฺฌนํ นาม วีตจฺจิตงฺคารตตฺตอโยสลากคูถาทีนิ คเหตฺวา ปรสฺส ปหริตุกามตาสทิสํ โหติ. เอโสปิ ตว กุทฺโธ กึ กริสฺสติ? กึ เต สีลาทีนิ วินาเสตุํ สกฺขิสฺสติ? เอส อตฺตโน กมฺเมนาคนฺตฺวา อตฺตโน กมฺเมเนว คมิสฺสติ; อปฺปฏิจฺฉิตปเหณกํ วิย ปฏิวาตขิตฺตรโชมุฏฺิ วิย ¶ จ เอตสฺเสเวส โกโธ มตฺถเก ปติสฺสตี’ติ. เอวํ อตฺตโน จ ปรสฺส จ กมฺมสฺสกตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ, อุภยกมฺมสฺสกตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปฏิสงฺขาเน ิตสฺสาปิ, อสฺสคุตฺตตฺเถรสทิเส เมตฺตาภาวนารเต กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ พฺยาปาโท ปหียติ; านนิสชฺชาทีสุ เมตฺตานิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา พฺยาปาทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนสฺส พฺยาปาทสฺส อนาคามิมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหตีติ ปชานาติ.
อรตีติอาทีสุ อโยนิโสมนสิกาเรน ถินมิทฺธสฺส อุปฺปาโท โหติ. อรติ นาม อุกฺกณฺิตตา. ตนฺที นาม กายาลสิยตา. วิชมฺภิกา นาม กายวินามนา. ภตฺตสมฺมโท นาม ภตฺตมุจฺฉา ภตฺตปริฬาโห. เจตโส ลีนตฺตํ นาม จิตฺตสฺส ลีนากาโร. อิเมสุ อรติอาทีสุ อโยนิโสมนสิการํ พหุลํ ปวตฺตยโต ถินมิทฺธํ อุปฺปชฺชติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อรติ ตนฺที วิชมฺภิกา ภตฺตสมฺมโท เจตโส จ ลีนตฺตํ. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ถินมิทฺธสฺส อุปฺปาทาย ¶ , อุปฺปนฺนสฺส วา ถินมิทฺธสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
อารมฺภธาตุอาทีสุ ปน โยนิโสมนสิกาเรนสฺส ปหานํ โหติ. อารมฺภธาตุ นาม ปมารมฺภวีริยํ. นิกฺกมธาตุ นาม โกสชฺชโต ¶ นิกฺขนฺตตฺตา ตโต พลวตรํ. ปรกฺกมธาตุ นาม ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนโต ตโตปิ พลวตรํ. อิมสฺมึ ติปฺปเภเท วีริเย โยนิโสมนสิการํ พหุลํ ปวตฺตยโต ถินมิทฺธํ ปหียติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อารมฺภธาตุ, นิกฺกมธาตุ, ปรกฺกมธาตุ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมนาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ถินมิทฺธสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา ถินมิทฺธสฺส ภิยฺโยภาวาย, เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
อปิจ ฉ ธมฺมา ถินมิทฺธสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – อติโภชเน ¶ นิมิตฺตคฺคาโห, อิริยาปถสมฺปริวตฺตนตา, อาโลกสฺามนสิกาโร, อพฺโภกาสวาโส, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ. อาหรหตฺถก ภุตฺตวมิตก ตตฺรวฏฺฏก อลํสาฏก กากมาสกโภชนํ ภฺุชิตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเน นิสินฺนสฺส หิ สมณธมฺมํ กโรโต ถินมิทฺธํ มหาหตฺถี วิย โอตฺถรนฺตํ อาคจฺฉติ. จตุปฺจอาโลปโอกาสํ ปน เปตฺวา ปานียํ ปิวิตฺวา ยาปนสีลสฺส ภิกฺขุโน ตํ น โหตีติ อติโภชเน นิมิตฺตํ คณฺหนฺตสฺสาปิ ถินมิทฺธํ ปหียติ. ยสฺมึ อิริยาปเถ ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ ตโต อฺํ ปริวตฺเตนฺตสฺสาปิ, รตฺตึ จนฺทาโลกทีปาโลกอุกฺกาโลเก ทิวา สูริยาโลกํ มนสิกโรนฺตสฺสาปิ, อพฺโภกาเส วสนฺตสฺสาปิ, มหากสฺสปตฺเถรสทิเส ปหีนถินมิทฺเธ กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ ถินมิทฺธํ ปหียติ; านนิสชฺชาทีสุ ธุตงฺคนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา ถินมิทฺธสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนสฺส ถินมิทฺธสฺส อรหตฺตมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหตีติ ปชานาติ.
เจตโส อวูปสเม อโยนิโสมนสิกาเรน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส อุปฺปาโท โหติ. อวูปสโม นาม อวูปสนฺตากาโร; อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจเมเวตํ อตฺถโต. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการํ พหุลํ ปวตฺตยโต อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺชติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, เจตโส อวูปสโม. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ¶ อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
สมาธิสงฺขาเต ปน เจตโส วูปสเม โยนิโสมนสิกาเรนสฺส ปหานํ โหติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, เจตโส วูปสโม. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมนาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ภิยฺโยภาวาย, เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
อปิจ ฉ ธมฺมา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – พหุสฺสุตตา, ปริปุจฺฉกตา, วินเย ปกตฺุตา, วุฑฺฒเสวิตา ¶ , กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ. พาหุสจฺเจนปิ หิ เอกํ วา ทฺเว วา ตโย วา จตฺตาโร วา ปฺจ วา นิกาเย ปาฬิวเสน จ อตฺถวเสน จ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียติ. กปฺปิยากปฺปิยปริปุจฺฉาพหุลสฺสาปิ, วินยปฺตฺติยํ จิณฺณวสีภาวตาย ปกตฺุโนปิ, วุฑฺเฒ มหลฺลกตฺเถเร อุปสงฺกมนฺตสฺสาปิ, อุปาลิตฺเถรสทิเส วินยธเร กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสปิ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียติ; านนิสชฺชาทีสุ กปฺปิยากปฺปิยนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีเน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺเจ อุทฺธจฺจสฺส อรหตฺตมคฺเคน กุกฺกุจฺจสฺส อนาคามิมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหตีติ ปชานาติ.
วิจิกิจฺฉาานีเยสุ ธมฺเมสุ อโยนิโสมนสิกาเรน วิจิกิจฺฉาย อุปฺปาโท โหติ. วิจิกิจฺฉาานียา ธมฺมา นาม ปุนปฺปุนํ วิจิกิจฺฉาย การณตฺตา วิจิกิจฺฉาว. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการํ พหุลํ ปวตฺตยโต วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, วิจิกิจฺฉาานียา ธมฺมา. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการพหุลีกาโร ¶ – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนาย วา วิจิกิจฺฉาย อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนาย วา วิจิกิจฺฉาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
กุสลาทิธมฺเมสุ ¶ โยนิโสมนสิกาเรน ปนสฺสา ปหานํ โหติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กุสลากุสลา ธมฺมา, สาวชฺชานวชฺชา ธมฺมา, หีนปฺปณีตา ธมฺมา, กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคา ธมฺมา. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมนาหาโร อนุปฺปนฺนาย วา วิจิกิจฺฉาย อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนาย วา วิจิกิจฺฉาย ภิยฺโยภาวาย, เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
อปิจ ฉ ธมฺมา วิจิกิจฺฉาย ปหานาย สํวตฺตนฺติ – พหุสฺสุตตา, ปริปุจฺฉกตา, วินเย ปกตฺุตา, อธิโมกฺขพหุลตา, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ. พาหุสจฺเจนปิ หิ เอกํ วา…เป… ปฺจ วา นิกาเย ปาฬิวเสน จ อตฺถวเสน จ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ. ตีณิ รตนานิ อารพฺภ ปริปุจฺฉาพหุลสฺสาปิ, วินเย จิณฺณวสีภาวสฺสาปิ, ตีสุ รตเนสุ โอกปฺปนิยสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺขพหุลสฺสาปิ ¶ , สทฺธาธิมุตฺเต วกฺกลิตฺเถรสทิเส กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ. านนิสฺสชฺชาทีสุ ติณฺณํ รตนานํ คุณนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา วิจิกิจฺฉาย ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนาย วิจิกิจฺฉาย โสตาปตฺติมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหตีติ ปชานาติ.
นีวรณปพฺพวณฺณนา.
โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา
โพชฺฌงฺคปพฺเพ สนฺตนฺติ ปฏิลาภวเสน วิชฺชมานํ. อสนฺตนฺติ อปฺปฏิลาภวเสน อวิชฺชมานํ. ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺสาติอาทีสุ ปน สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ตาว –
‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, สติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ¶ ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๘๓) – เอวํ อุปฺปาโท โหติ. ตตฺถ สติเยว สติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา. โยนิโสมนสิกาโร วุตฺตลกฺขโณเยว. ตํ ตตฺถ พหุลํ ปวตฺตยโต สติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ.
อปิจ จตฺตาโร ธมฺมา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – สติสมฺปชฺํ, มุฏฺสฺสติปุคฺคลปริวชฺชนตา, อุปฏฺิตสฺสติปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ. อภิกฺกนฺตาทีสุ หิ สตฺตสุ าเนสุ สติสมฺปชฺเน, ภตฺตนิกฺขิตฺตกากสทิเส มุฏฺสฺสติปุคฺคเล ปริวชฺชเนน, ติสฺสทตฺตตฺเถรอภยตฺเถรสทิเส อุปฏฺิตสฺสติปุคฺคเล เสวเนน, านนิสชฺชาทีสุ สติสมุฏฺาปนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตาย จ สติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ. เอวํ จตูหิ การเณหิ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ.
ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปน –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กุสลากุสลา ธมฺมา…เป… กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคา ธมฺมา. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) –
เอวํ อุปฺปาโท โหติ.
อปิจ ¶ สตฺต ธมฺมา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – ปริปุจฺฉกตา, วตฺถุวิสทกิริยา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา, ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา, ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา, คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา, ตทธิมุตฺตตาติ. ตตฺถ ปริปุจฺฉกตาติ ขนฺธธาตุอายตนอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานสมถวิปสฺสนานํ อตฺถสนฺนิสฺสิตปริปุจฺฉาพหุลตา. วตฺถุวิสทกิริยาติ อชฺฌตฺติกพาหิรานํ วตฺถูนํ วิสทภาวกรณํ. ยทา หิสฺส เกสนขโลมานิ ทีฆานิ โหนฺติ, สรีรํ ¶ วา อุสฺสนฺนโทสฺเจว เสทมลมกฺขิตฺจ, ตทา อชฺฌตฺติกํ วตฺถุ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ. ยทา ¶ ปน จีวรํ ชิณฺณํ กิลิฏฺํ ทุคฺคนฺธํ โหติ, เสนาสนํ วา อุกฺลาปํ, ตทา พาหิรํ วตฺถุ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ. ตสฺมา เกสาทิเฉทเนน อุทฺธํวิเรจนอโธวิเรจนาทีหิ สรีรสลฺลหุกภาวกรเณน, อุจฺฉาทนนฺหาปเนน จ อชฺฌตฺติกวตฺถุ วิสทํ กาตพฺพํ. สูจิกมฺมโธวนรชนปริภณฺฑกรณาทีหิ พาหิรวตฺถุ วิสทํ กาตพฺพํ. เอตสฺมิฺหิ อชฺฌตฺติกพาหิรวตฺถุมฺหิ อวิสเท อุปฺปนฺเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ าณมฺปิ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ; อปริสุทฺธานิ ทีปกปลฺลกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนทีปสิขาย โอภาโส วิย. วิสเท ปน อชฺฌตฺติกพาหิรวตฺถุมฺหิ อุปฺปนฺเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ าณมฺปิ วิสทํ โหติ ปริสุทฺธานิ ทีปกปลฺลกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนทีปสิขาย โอภาโส วิย. เตน วุตฺตํ ‘‘วตฺถุวิสทกิริยา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตตี’’ติ.
อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา นาม สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ สมภาวกรณํ. สเจ หิสฺส สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ, อิตรานิ มนฺทานิ, ตโต วีริยินฺทฺริยํ ปคฺคหกิจฺจํ, สตินฺทฺริยํ อุปฏฺานกิจฺจํ, สมาธินฺทฺริยํ อวิกฺเขปกิจฺจํ, ปฺินฺทฺริยํ ทสฺสนกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา ตํ ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน วา ยถา วา มนสิกโรโต พลวํ ชาตํ, ตถา อมนสิกาเรน หาเปตพฺพํ. วกฺกลิตฺเถรวตฺถุ เจตฺถ นิทสฺสนํ. สเจ ปน วีริยินฺทฺริยํ ¶ พลวํ โหติ, อถ เนว สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺขกิจฺจํ กาตุํ สกฺโกติ, น อิตรานิ อิตรกิจฺจเภทํ. ตสฺมา ตํ ปสฺสทฺธาทิภาวนาย หาเปตพฺพํ. ตตฺราปิ โสณตฺเถรวตฺถุ ทสฺเสตพฺพํ. เอวํ เสเสสุปิ เอกสฺส พลวภาเว สติ อิตเรสํ อตฺตโน กิจฺเจสุ อสมตฺถตา เวทิตพฺพา.
วิเสสโต ปเนตฺถ สทฺธาปฺานํ สมาธิวีริยานฺจ สมตํ ปสํสนฺติ. พลวสทฺโธ หิ มนฺทปฺโ มุทฺธปฺปสนฺโน โหติ, อวตฺถุสฺมึ ปสีทติ. พลวปฺโ มนฺทสทฺโธ เกราฏิกปกฺขํ ภชติ, เภสชฺชสมุฏฺิโต วิย โรโค อเตกิจฺโฉ โหติ ‘จิตฺตุปฺปาทมตฺเตเนว กุสลํ โหตี’ติ อติธาวิตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ อกโรนฺโต นิรเย อุปฺปชฺชติ. อุภินฺนํ ปน สมตาย วตฺถุสฺมึเยว ปสีทติ. พลวสมาธึ ปน มนฺทวีริยํ, สมาธิสฺส โกสชฺชปกฺขตฺตา, โกสชฺชํ อธิภวติ. พลววีริยํ มนฺทสมาธึ, วีริยสฺส อุทฺธจฺจปกฺขตฺตา, อุทฺธจฺจํ อธิภวติ. สมาธิ ปน วีริเยน สํโยชิโต โกสชฺเช ปติตุํ น ลภติ. วีริยํ สมาธินา สํโยชิตํ อุทฺธจฺเจ ปติตุํ น ลภติ. ตสฺมา ตทุภยมฺปิ สมํ กาตพฺพํ. อุภยสมตาย หิ อปฺปนา โหติ ¶ ¶ . อปิจ สมาธิกมฺมิกสฺส พลวตีปิ สทฺธา วฏฺฏติ. เอวํ โส สทฺทหนฺโต โอกปฺเปนฺโต อปฺปนํ ปาปุณิสฺสติ.
สมาธิปฺาสุ ปน สมาธิกมฺมิกสฺส เอกคฺคตา พลวตี วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส อปฺปนํ ปาปุณาติ. วิปสฺสนากมฺมิกสฺส ปฺา พลวตี วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส ลกฺขณปฏิเวธํ ปาปุณาติ. อุภินฺนํ ปน สมตาย อปฺปนา โหติเยว. สติ ปน สพฺพตฺถ พลวตี วฏฺฏติ. สติ หิ จิตฺตํ อุทฺธจฺจปกฺขิกานํ สทฺธาวีริยปฺานํ วเสน อุทฺธจฺจปาตโต, โกสชฺชปกฺขิเกน จ สมาธินา โกสชฺชปาตโต รกฺขติ. ตสฺมา สา, โลณธูปนํ วิย สพฺพพฺยฺชเนสุ, สพฺพกมฺมิกอมจฺโจ วิย จ สพฺพราชกิจฺเจสุ, สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพา. เตนาห ‘‘สติ จ ปน สพฺพตฺถิกา วุตฺตา ภควตา. กึ การณา? จิตฺตฺหิ สติปฏิสรณํ, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา ¶ จ สติ; น วินา สติยา จิตฺตสฺส ปคฺคหนิคฺคโห โหตี’’ติ.
ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา นาม ขนฺธาทิเภเท อโนคาฬฺหปฺานํ ทุมฺเมธปุคฺคลานํ อารกา ปริวชฺชนํ. ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา นาม สมปฺาสลกฺขณปริคฺคาหิกาย อุทยพฺพยปฺาย สมนฺนาคตปุคฺคลเสวนา. คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา นาม คมฺภีเรสุ ขนฺธาทีสุ ปวตฺตาย คมฺภีรปฺาย ปเภทปจฺจเวกฺขณา. ตทธิมุตฺตตา นาม านนิสชฺชาทีสุ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตา. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ.
วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อารมฺภธาตุ นิกฺกมธาตุ ปรกฺกมธาตุ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) –
เอวํ อุปฺปาโท โหติ.
อปิจ ¶ เอกาทส ธมฺมา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – อปายภยปจฺจเวกฺขณตา, อานิสํสทสฺสาวิตา, คมนวีถิปจฺจเวกฺขณตา, ปิณฺฑปาตาปจายนตา ¶ , ทายชฺชมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, สตฺถุมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, สพฺรหฺมจาริมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนตา, อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ.
ตตฺถ นิรเยสุ ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณโต ปฏฺาย มหาทุกฺขํ อนุภวนกาเลปิ, ติรจฺฉานโยนิยํ ชาลกฺขิปกุมีนาทีหิ คหิตกาเลปิ, ปาจนกณฺฏกาทิปฺปหาราวิตุนฺนสฺส ปน สกฏวหนาทิกาเลปิ, เปตฺติวิสเย อเนกานิปิ วสฺสสหสฺสานิ เอกํ พุทฺธนฺตรมฺปิ ขุปฺปิปาสาหิ อาตุรีภูตกาเลปิ, กาลกฺชิกอสุเรสุ สฏฺิหตฺถอสีติหตฺถปฺปมาเณน ¶ อฏฺิจมฺมมตฺเตเนว อตฺตภาเวน วาตาตปาทิทุกฺขานุภวนกาเลปิ น สกฺกา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ อุปฺปาเทตุํ. ‘อยเมว เต, ภิกฺขุ, กาโล วีริยกรณายา’ติ เอวํ อปายภยํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ. ‘น สกฺกา กุสีเตน นว โลกุตฺตรธมฺมา ลทฺธุํ; อารทฺธวีริเยเนว สกฺกา; อยมานิสํโส วีริยสฺสา’ติ เอวํ อานิสํสทสฺสาวิโนปิ อุปฺปชฺชติ. ‘สพฺพพุทฺธปจฺเจกพุทฺธมหาสาวเกเหว เต คตมคฺโค คนฺตพฺโพ; โส จ น สกฺกา กุสีเตน คนฺตุ’นฺติ เอวํ คมนวีถึ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. ‘เย ตํ ปิณฺฑปาตาทีหิ อุปฏฺหนฺติ, อิเม เต มนุสฺสา เนว าตกา, น ทาสกมฺมกรา, นาปิ ตํ นิสฺสาย ‘ชีวิสฺสามา’ติ เต ปณีตานิ ปิณฺฑปาตาทีนิ เทนฺติ; อถ โข อตฺตโน การานํ มหปฺผลตํ ปจฺจาสึสมานา เทนฺติ. สตฺถาราปิ ‘อยํ อิเม ปจฺจเย ปริภฺุชิตฺวา กายทฬฺหีพหุโล สุขํ วิหริสฺสตี’ติ น เอวฺจ สมฺปสฺสตา ตุยฺหํ ปจฺจยา อนฺุตา; อถ โข ‘อยํ อิเม ปริภฺุชมาโน สมณธมฺมํ กตฺวา วฏฺฏทุกฺขโต มุจฺจิสฺสตี’ติ เต ปจฺจยา อนฺุาตา. โส ทานิ ตฺวํ กุสีโต วิหรนฺโต น ตํ ปิณฺฑปาตํ อปจายิสฺสสิ. อารทฺธวีริยสฺเสว หิ ปิณฺฑปาตาปจายนํ นาม โหตี’ติ เอวํ ปิณฺฑปาตาปจายนํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ, มหามิตฺตตฺเถรสฺส วิย.
เถโร กิร กสฺสกเลเณ นาม ปฏิวสติ. ตสฺส จ โคจรคาเม เอกา มหาอุปาสิกา เถรํ ปุตฺตํ กตฺวา ปฏิชคฺคติ. สา เอกทิวสํ อรฺํ คจฺฉนฺตี ธีตรํ อาห – ‘‘อมฺม, อสุกสฺมึ าเน ปุราณตณฺฑุลา, อสุกสฺมึ ขีรํ, อสุกสฺมึ สปฺปิ, อสุกสฺมึ ผาณิตํ. ตว ¶ ภาติกสฺส อยฺยมิตฺตสฺส อาคตกาเล ภตฺตํ ปจิตฺวา ขีรสปฺปิผาณิเตหิ สทฺธึ เทหิ ¶ , ตฺวฺจ ภฺุเชยฺยาสี’’ติ. ‘‘ตฺวํ ปน กึ ภฺุชิสฺสสิ, อมฺมา’’ติ? ‘‘อหํ ปน หิยฺโย ปกฺกํ ปาริวาสิกภตฺตํ กฺชิเยน ภุตฺตมฺหี’’ติ. ‘‘ทิวา กึ ภฺุชิสฺสสิ, อมฺมา’’ติ? ‘‘สากปณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา กณตณฺฑุเลหิ อมฺพิลยาคุํ ปจิตฺวา เปหิ, อมฺมา’’ติ.
เถโร จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตํ นีหรนฺโตว ตํ สทฺทํ สุตฺวา อตฺตานํ โอวทิ – ‘มหาอุปาสิกา กิร กฺชิเยน ¶ ปาริวาสิกภตฺตํ ภฺุชิ; ทิวาปิ กณปณฺณมฺพิลยาคุํ ภฺุชิสฺสติ; ตุยฺหํ อตฺถาย ปน ปุราณตณฺฑุลาทีนิ อาจิกฺขติ. ตํ นิสฺสาย โข ปเนสา เนว เขตฺตํ, น วตฺถุํ, น ภตฺตํ, น วตฺถํ ปจฺจาสีสติ; ติสฺโส ปน สมฺปตฺติโย ปตฺถยมานา เทติ. ตฺวํ เอติสฺสา ตา สมฺปตฺติโย ทาตุํ สกฺขิสฺสสิ, น สกฺขิสฺสสีติ? อยํ โข ปน ปิณฺฑปาโต ตยา สราเคน สโทเสน สโมเหน น สกฺกา ภฺุชิตุ’นฺติ ปตฺตํ ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา คณฺิกํ มฺุจิตฺวา นิวตฺติตฺวา กสฺสกเลณเมว คนฺตฺวา ปตฺตํ เหฏฺามฺเจ จีวรํ จีวรวํเส เปตฺวา ‘อรหตฺตํ อปาปุณิตฺวา น นิกฺขมิสฺสามี’ติ วีริยํ อธิฏฺหิตฺวา นิสีทิ. ทีฆรตฺตํ อปฺปมตฺโต หุตฺวา นิวุตฺถภิกฺขุ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปุเรภตฺตเมว อรหตฺตํ ปตฺวา วิกสมานมิว ปทุมํ มหาขีณาสโว สิตํ กโรนฺโตว นิสีทิ. เลณทฺวาเร รุกฺขมฺหิ อธิวตฺถา เทวตา –
‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
ยสฺส เต อาสวา ขีณา, ทกฺขิเณยฺโยสิ มาริสา’’ติ.
อุทานํ อุทาเนตฺวา – ‘ภนฺเต, ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ตุมฺหาทิสานํ อรหนฺตานํ ภิกฺขํ ทตฺวา มหลฺลกิตฺถิโย ทุกฺขา มุจฺจิสฺสนฺตี’ติ อาห.
เถโร อุฏฺหิตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา กาลํ โอโลเกนฺโต ‘ปาโตเยวา’ติ ตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย คามํ ปาวิสิ. ทาริกาปิ ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา ‘อิทานิ เม ภาตา อาคมิสฺสติ, อิทานิ เม ภาตา อาคมิสฺสตีติ ทฺวารํ วิวริตฺวา โอโลกยมานา นิสีทิ. สา, เถเร ฆรทฺวารํ สมฺปตฺเต, ปตฺตํ คเหตฺวา สปฺปิผาณิตโยชิตสฺส ขีรปิณฺฑปาตสฺส ปูเรตฺวา หตฺเถ เปสิ. เถโร ‘สุขํ โหตู’ติ อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. สาปิ ตํ โอโลกยมานา อฏฺาสิ.
เถรสฺส ¶ ¶ หิ ตทา อติวิย ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ อโหสิ, วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานิ, มุขํ พนฺธนา มุตฺตตาลปกฺกํ วิย อติวิย วิโรจิตฺถ. มหาอุปาสิกา อรฺา อาคนฺตฺวา – ‘‘กึ, อมฺม, ภาติโก เต อาคโต’’ติ ปุจฺฉิ. สา สพฺพํ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. อุปาสิกา ‘อชฺช เม ปุตฺตสฺส ปพฺพชิตกิจฺจํ มตฺถกํ ปตฺต’นฺติ ตฺวา ‘‘อภิรมติ เต, อมฺม, ภาตา พุทฺธสาสเน, น อุกฺกณฺตี’’ติ อาห.
มหนฺตํ โข ปเนตํ สตฺถุ ทายชฺชํ ยทิทํ สตฺต อริยธนานิ นาม. ตํ น สกฺกา กุสีเตน คเหตุํ. ยถา หิ ¶ วิปฺปฏิปนฺนํ ปุตฺตํ มาตาปิตโร ‘อยํ อมฺหากํ อปุตฺโต’ติ ปริพาหิรํ กโรนฺติ; โส เตสํ อจฺจเยน ทายชฺชํ น ลภติ; เอวํ กุสีโตปิ อิทํ อริยธนทายชฺชํ น ลภติ, อารทฺธวีริโยว ลภตีติ ทายชฺชมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ. ‘มหา โข ปน เต สตฺถา. สตฺถุโน หิ เต มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคณฺหนกาเลปิ อภินิกฺขมเนปิ อภิสมฺโพธิยมฺปิ ธมฺมจกฺกปวตฺตนยมกปาฏิหาริยเทโวโรหนอายุสงฺขารโวสฺสชฺชเนสุปิ ปรินิพฺพานกาเลปิ ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปิตฺถ. ยุตฺตํ นุ เต เอวรูปสฺส สตฺถุโน สาสเน ปพฺพชิตฺวา กุสีเตน ภวิตุ’นฺติ เอวํ สตฺถุมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ.
‘ชาติยาปิ ตฺวํ อิทานิ น ลามกชาติโกสิ; อสมฺภินฺนาย มหาสมฺมตปเวณิยา อาคเต โอกฺกากราชวํเส ชาโต; สิริสุทฺโธทนมหาราชสฺส จ มหามายาเทวิยา จ นตฺตา; ราหุลภทฺทสฺส กนิฏฺโ. ตยา นาม เอวรูเปน ชินปุตฺเตน หุตฺวา น ยุตฺตํ กุสีเตน วิหริตุ’นฺติ เอวํ ชาติมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ. ‘สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา เจว อสีติมหาสาวกา จ วีริเยเนว โลกุตฺตรธมฺมํ ปฏิวิชฺฌึสุ. ตฺวํ เอเตสํ สพฺรหฺมจารีนํ มคฺคํ ปฏิปชฺชสิ, นปฺปฏิปชฺชสี’ติ เอวํ สพฺรหฺมจาริมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ.
กุจฺฉึ ปูเรตฺวา ิตอชครสทิเส วิสฺสฏฺกายิกเจตสิกวีริเย กุสีตปุคฺคเล ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ อารทฺธวีริเย ปหิตตฺเต ปุคฺคเล เสวนฺตสฺสาปิ านนิสชฺชาทีสุ วิริยุปฺปาทนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ.
ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ¶ –
‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) –
เอวํ อุปฺปาโท โหติ. ตตฺถ ปีติเยว ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา นาม. ตสฺสา อุปฺปาทกมนสิกาโร ¶ โยนิโสมนสิกาโร นาม.
อปิจ เอกาทส ธมฺมา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมสงฺฆสีลจาคเทวตานุสฺสติ, อุปสมานุสฺสติ, ลูขปุคฺคลปริวชฺชนตา, สินิทฺธปุคฺคลเสวนตา, ปสาทนียสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณตา, ตทธิมุตฺตตาติ.
พุทฺธคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ หิ ยาว อุปจารา สกลสรีรํ ผรมาโน ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ; ธมฺมสงฺฆคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ, ทีฆรตฺตํ อกฺขณฺฑํ กตฺวา รกฺขิตํ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, คิหิโน ทสสีลํ ปฺจสีลํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, ทุพฺภิกฺขภยาทีสุ ปณีตํ โภชนํ สพฺรหฺมจารีนํ ทตฺวา ‘เอวํ นาม อทมฺหา’ติ จาคํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, คิหิโนปิ เอวรูเป กาเล สีลวนฺตานํ ทินฺนทานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, เยหิ คุเณหิ สมนฺนาคตา เทวตา เทวตฺตํ ปตฺตา ตถารูปานํ คุณานํ อตฺตนิ อตฺถิตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, สมาปตฺติยา วิกฺขมฺภิเต กิเลเส สฏฺิปิ สตฺตติปิ วสฺสานิ น สมุทาจรนฺตีติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, เจติยทสฺสนโพธิทสฺสนเถรทสฺสเนสุ อสกฺกจฺจกิริยาย สํสูจิตลูขภาเว พุทฺธาทีสุ ปสาทสิเนหาภาเวน คทฺรภปิฏฺเ รชสทิเส ลูขปุคฺคเล ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, พุทฺธาทีสุ ปสาทพหุเล มุทุจิตฺเต สินิทฺธปุคฺคเล เสวนฺตสฺสาปิ, รตนตฺตยคุณปริทีปเก ปสาทนียสุตฺตนฺเต ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, านนิสชฺชาทีสุ ปีติอุปฺปาทนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ.
ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ¶ –
‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, กายปสฺสทฺธิ จิตฺตปสฺสทฺธิ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) –
เอวํ อุปฺปาโท โหติ. อปิจ สตฺต ธมฺมา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – ปณีตโภชนเสวนตา, อุตุสุขเสวนตา ¶ , อิริยาปถสุขเสวนตา, มชฺฌตฺตปโยคตา, สารทฺธกายปุคฺคลปริวชฺชนตา, ปสฺสทฺธิกายปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ. ปณีตฺหิ สินิทฺธํ สปฺปายโภชนํ ภฺุชนฺตสฺสาปิ, สีตุณฺเหสุ อุตูสุ านาทีสุ จ อิริยาปเถสุ สปฺปายํ อุตฺุจ อิริยาปถฺจ เสวนฺตสฺสาปิ ปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชติ. โย ปน มหาปุริสชาติโก สพฺพอุตุอิริยาปถกฺขโมว โหติ, น ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยสฺส สภาควิสภาคตา อตฺถิ, ตสฺเสว วิสภาเค อุตุอิริยาปเถ วชฺเชตฺวา สภาเค เสวนฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. มชฺฌตฺตปโยโค วุจฺจติ อตฺตโน จ ปรสฺส จ กมฺมสฺสกตปจฺจเวกฺขณา; อิมินา มชฺฌตฺตปโยเคน อุปฺปชฺชติ. โย เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ ปรํ วิเหยมาโนว วิจรติ, เอวรูปํ สารทฺธกายํ ปุคฺคลํ ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, สํยตปาทปาณึ ปสฺสทฺธกายํ ปุคฺคลํ เสวนฺตสฺสาปิ, านนิสชฺชาทีสุ ปสฺสทฺธิอุปฺปาทนตฺถาย นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ.
สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมถนิมิตฺตํ อพฺยคฺคนิมิตฺตํ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) –
เอวํ อุปฺปาโท โหติ. ตตฺถ สมโถว สมถนิมิตฺตํ, อวิกฺเขปฏฺเน จ อพฺยคฺคนิมิตฺตนฺติ.
อปิจ ¶ เอกาทส ธมฺมา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – วตฺถุวิสทกิริยตา ¶ , อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา, นิมิตฺตกุสลตา, สมเย จิตฺตสฺส ปคฺคณฺหนตา, สมเย จิตฺตสฺส นิคฺคหณนตา, สมเย สมฺปหํสนตา, สมเย อชฺฌุเปกฺขณตา, อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนตา, สมาหิตปุคฺคลเสวนตา, ฌานวิโมกฺขปจฺจเวกฺขณตา, ตทธิมุตฺตตาติ. ตตฺถ วตฺถุวิสทกิริยตา จ อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา จ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
นิมิตฺตกุสลตา นาม กสิณนิมิตฺตสฺส อุคฺคหณกุสลตา. สมเย จิตฺตสฺส ปคฺคหณนตาติ ยสฺมึ สมเย อติสิถิลวีริยตาทีหิ ¶ ลีนํ จิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยวีริยปีติสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปเนน ตสฺส ปคฺคณฺหนํ. สมเย จิตฺตสฺส นิคฺคหณนตาติ ยสฺมึ สมเย อจฺจารทฺธวีริยตาทีหิ อุทฺธฏํ จิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปเนน ตสฺส นิคฺคณฺหนํ. สมเย สมฺปหํสนตาติ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปฺาปโยคมนฺทตาย วา อุปสมสุขานธิคเมน วา นิรสฺสาทํ โหติ, ตสฺมึ สมเย อฏฺสํเวควตฺถุปจฺจเวกฺขเณน สํเวเชติ. อฏฺ สํเวควตฺถูนิ นาม ชาติชราพฺยาธิมรณานิ จตฺตาริ, อปายทุกฺขํ ปฺจมํ, อตีเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, อนาคเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อาหารปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขนฺติ. รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณน จ ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ สมเย สมฺปหํสนตาติ.
สมเย อชฺฌุเปกฺขนตา นาม ยสฺมึ สมเย สมฺมาปฏิปตฺตึ อาคมฺม อลีนํ อนุทฺธฏํ อนิรสฺสาทํ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ สมถวีถิปฏิปนฺนํ จิตฺตํ โหติ, ตทายํ ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ น พฺยาปารํ อาปชฺชติ สารถี วิย สมปฺปวตฺเตสุ อสฺเสสุ. อยํ วุจฺจติ สมเย อชฺฌุเปกฺขนตาติ. อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนตา นาม อุปจารํ วา อปฺปนํ วา อปฺปตฺตานํ วิกฺขิตฺตจิตฺตานํ ปุคฺคลานํ อารกา ปริวชฺชนํ. สมาหิตปุคฺคลเสวนตา นาม อุปจาเรน วา อปฺปนาย วา สมาหิตจิตฺตานํ เสวนา ภชนา ปยิรุปาสนา. ตทธิมุตฺตตา นาม านนิสชฺชาทีสุ สมาธิอุปฺปาทนตฺถํเยว นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตา. เอวฺหิ ปฏิปชฺชโต เอส อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ.
อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร ¶ – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส ¶ วา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ¶ อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) –
เอวํ อุปฺปาโท โหติ. ตตฺถ อุเปกฺขาว อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา นาม. อปิจ ปฺจ ธมฺมา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – สตฺตมชฺฌตฺตตา, สงฺขารมชฺฌตฺตตา, สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนตา, สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺตปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ.
ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ สตฺตมชฺฌตฺตตํ สมุฏฺาเปติ – ‘ตฺวํ อตฺตโน กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโนว กมฺเมน คมิสฺสสิ. เอโสปิ อตฺตโน กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโนว กมฺเมน คมิสฺสติ. ตฺวํ กํ เกลายสี’ติ เอวํ กมฺมสฺสกตปจฺจเวกฺขเณน จ ‘ปรมตฺถโต สตฺโตเยว นตฺถิ. โส ตฺวํ กํ เกลายสี’ติ เอวํ นิสฺสตฺตปจฺจเวกฺขเณน จ. ทฺวีเหวากาเรหิ สงฺขารมชฺฌตฺตตํ สมุฏฺาเปติ – ‘อิทํ จีวรํ อนุปุพฺเพน วณฺณวิการฺเจว ชิณฺณภาวฺจ อุปคนฺตฺวา ปาทปฺุฉนโจฬกํ หุตฺวา ยฏฺิโกฏิยา ฉฑฺฑนียํ ภวิสฺสติ. สเจ ปนสฺส สามิโก ภเวยฺย, นาสฺส เอวํ วินสฺสิตุํ ทเทยฺยา’ติ เอวํ อสฺสามิกภาวปจฺจเวกฺขเณน จ. ‘อนทฺธนิยํ อิทํ ตาวกาลิก’นฺติ เอวํ ตาวกาลิกภาวปจฺจเวกฺขเณน จ. ยถา จ จีวเร, เอวํ ปตฺตาทีสุปิ โยชนา กาตพฺพา.
สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนตาติ เอตฺถ โย ปุคฺคโล คิหี วา อตฺตโน ปุตฺตธีตาทิเก, ปพฺพชิโต วา อตฺตโน อนฺเตวาสิกสมานุปชฺฌายกาทิเก มมายติ, สหตฺเถเนว เนสํ เกสจฺเฉทนสูจิกมฺมจีวรโธวนรชนปตฺตปจนาทีนิ กโรติ, มุหุตฺตมฺปิ อปสฺสนฺโต ‘อสุโก สามเณโร กุหึ? อสุโก ทหโร กุหิ’นฺติ? ภนฺตมิโค วิย อิโต จิโต จ อาโลเกติ; อฺเน เกสจฺเฉทนาทีนํ อตฺถาย ‘มุหุตฺตํ ตาว อสุกํ เปเสถา’ติ ยาจิยมาโนปิ ‘อมฺเหปิ ตํ อตฺตโน กมฺมํ น กาเรม, ตุมฺเห นํ คเหตฺวา กิลเมสฺสถา’ติ น เทติ – อยํ สตฺตเกลายโน นาม.
โย ¶ ปน จีวรปตฺตถาลกกตฺตรยฏฺิอาทีนิ ¶ มมายติ, อฺสฺส หตฺเถน ปรามสิตุมฺปิ น เทติ, ตาวกาลิกํ ยาจิโตปิ ‘มยมฺปิ อิมํ มมายนฺตา น ปริภฺุชาม, ตุมฺหากํ กึ ทสฺสามา’ติ วทติ – อยํ สงฺขารเกลายโน นาม. โย ปน เตสุ ทฺวีสุปิ วตฺถูสุ มชฺฌตฺโต อุทาสีโน – อยํ สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺโต นาม. อิติ อยํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค เอวรูเป สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคเล ¶ อารกา ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺตปุคฺคเล เสวนฺตสฺสาปิ, านนิสชฺชาทีสุ ตทุปฺปาทนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา.
อิเมสุปิ ทฺวีสุ ปพฺเพสุ สุทฺธวิปสฺสนาว กถิตา. อิติ อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน กายํ ปริคฺคณฺหาติ, อฺเน เวทนํ, อฺเน จิตฺตํ, อฺเน ธมฺเม ปริคฺคณฺหาติ; โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภนฺติ. อาทิโต หิ กายํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อาคตสฺส วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ กายานุปสฺสนา นาม. ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล กายานุปสฺสี นาม. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺคํ ปตฺตสฺส มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ กายนุปสฺสนา นาม. ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล กายานุปสฺสี นาม. เวทนํ ปริคฺคณฺหิตฺวา…. จิตฺตํ ปริคฺคณฺหิตฺวา…. ธมฺเม ปริคฺคณฺหิตฺวา อาคตสฺส วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม. ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ธมฺมานุปสฺสี นาม. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺคํ ปตฺตสฺส มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม. ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ธมฺมานุปสฺสี นาม. เอวํ ตาว เทสนา ปุคฺคเล ติฏฺติ. กาเย ปน ‘สุภ’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา กายปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ กายานุปสฺสนา นาม. เวทนาย ‘สุข’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา เวทนาปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ เวทนานุปสฺสนา นาม. จิตฺเต ‘นิจฺจ’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา จิตฺตปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ จิตฺตานุปสฺสนา นาม. ธมฺเมสุ ‘อตฺตา’ติ วิปลฺลาสปฺปหานา ธมฺมปริคฺคาหิกา ¶ สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม. อิติ เอกาว มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ จตุกิจฺจสาธนฏฺเน จตฺตาริ ¶ นามานิ ลภติ. เตน วุตฺตํ – ‘โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภนฺตี’ติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๓๗๔. อภิธมฺมภาชนีเย ¶ โลกุตฺตรสติปฏฺานวเสน เทสนาย อารทฺธตฺตา ยถา กายาทิอารมฺมเณสุ โลกิยสติปฏฺาเนสุ ตนฺติ ปิตา, เอวํ อฏฺเปตฺวา สพฺพานิปิ กายานุปสฺสาทีนิ สติปฏฺานานิ ธมฺมสงฺคณิยํ (ธ. ส. ๓๕๕ อาทโย) วิภตฺตสฺส เทสนานยสฺส มุขมตฺตเมว ทสฺเสนฺเตน นิทฺทิฏฺานิ.
ตตฺถ นยเภโท เวทิตพฺโพ. กถํ? กายานุปสฺสนาย ตาว โสตาปตฺติมคฺเค ฌานาภินิเวเส สุทฺธิกปฏิปทา, สุทฺธิกสฺุตา, สฺุตปฏิปทา, สุทฺธิกอปฺปณิหิตํ, อปฺปณิหิตปฏิปทาติ อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ จตุกฺกปฺจกนยานํ วเสน ทส นยา โหนฺติ. เอวํ เสเสสุปีติ วีสติยา อภินิเวเสสุ ทฺเว นยสตานิ. ตานิ จตูหิ อธิปตีหิ จตุคุณิตานิ อฏฺ. อิติ สุทฺธิกานิ ทฺเว สาธิปตีนิ อฏฺาติ สพฺพมฺปิ นยสหสฺสํ โหติ. ตถา เวทนานุปสฺสนาทีสุ สุทฺธิกสติปฏฺาเน จาติ โสตาปตฺติมคฺเค ปฺจ นยสหสฺสานิ. ยถา จ โสตาปตฺติมคฺเค, เอวํ เสสมคฺเคสุปีติ กุสเล วีสติ นยสหสฺสานิ; สฺุตาปณิหิตานิมิตฺตาทิเภเทสุ ปน ตโต ติคุเณ วิปาเก สฏฺิ นยสหสฺสานีติ. เอวเมว สกิจฺจสาธกานฺเจว สํสิทฺธิกกิจฺจานฺจ กุสลวิปากสติปฏฺานานํ นิทฺเทสวเสน ทุวิโธ กายานุปสฺสนาทิวเสน จ สุทฺธิกวเสน จ กุสเล ปฺจนฺนํ วิปาเก ปฺจนฺนนฺติ ทสนฺนํ นิทฺเทสวารานํ วเสน ทสปฺปเภโท อสีตินยสหสฺสปติมณฺฑิโต อภิธมฺมภาชนียนิทฺเทโส.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๓๘๖. ปฺหาปุจฺฉเก ปาฬิอนุสาเรเนว สติปฏฺานานํ กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน สพฺพานิปิ เอตานิ อปฺปมาณํ นิพฺพานํ ¶ อารพฺภ ปวตฺตนโต อปฺปมาณารมฺมณาเนว, น มคฺคารมฺมณานิ; สหชาตเหตุวเสน ปน มคฺคเหตุกานิ; วีริยํ วา วีมํสํ วา เชฏฺกํ กตฺวา มคฺคภาวนากาเล มคฺคาธิปตีนิ; ฉนฺทจิตฺตเชฏฺกาย ¶ มคฺคภาวนาย นวตฺตพฺพานิ มคฺคาธิปตีนีติ ผลกาเลปิ นวตฺตพฺพาเนว; อตีตาทีสุ เอการมฺมณภาเวนปิ นวตฺตพฺพานิ; นิพฺพานสฺส ปน พหิทฺธาธมฺมตฺตา พหิทฺธารมฺมณานิ นาม โหนฺตีติ. เอวเมตสฺมึ ปฺหาปุจฺฉเก นิพฺพตฺติตโลกุตฺตราเนว สติปฏฺานานิ กถิตานิ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ สุตฺตนฺตภาชนียสฺมึเยว ¶ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา สติปฏฺานา กถิตา; อภิธมฺมภาชนียปฺหาปุจฺฉเกสุ ปน โลกุตฺตราเยวาติ. เอวมยํ สติปฏฺานวิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวา ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
สติปฏฺานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.