📜

๒. อายตนวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา

๑๕๒. วิเสสโตติ อายตน-สทฺทตฺโถ วิย อสาธารณโต จกฺขาทิสทฺทตฺถโตติ อตฺโถ. อสฺสาเทตีติ จกฺขติ-สทฺโท ‘‘มธุํ จกฺขติ พฺยฺชนํ จกฺขตี’’ติ รสสายนตฺโถ อตฺถีติ ตสฺส วเสน อตฺถํ วทติ. ‘‘จกฺขุํ โข, มาคณฺฑิย, รูปารามํ รูปรตํ รูปสมฺมุทิต’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๒๐๙) วจนโต จกฺขุ รูปํ อสฺสาเทติ. สติปิ โสตาทีนํ สทฺทารมฺมณาทิรติภาเว นิรุฬฺหตฺตา จกฺขุมฺหิเยว จกฺขุ-สทฺโท ปวตฺตติ ปทุมาทีสุ ปงฺกชาทิสทฺทา วิยาติ ทฏฺพฺพํ. วิภาเวติ จาติ สทฺทลกฺขณสิทฺธสฺส จกฺขติ-สทฺทสฺส วเสน อตฺถํ วทติ. จกฺขตีติ หิ อาจิกฺขติ, อภิพฺยตฺตํ วทตีติ อตฺโถ. นยนสฺส จ วทนฺตสฺส วิย สมวิสมวิภาวนเมว อาจิกฺขนนฺติ กตฺวา อาห ‘‘วิภาเวติ จาติ อตฺโถ’’ติ. อเนกตฺถตฺตา วา ธาตูนํ วิภาวนตฺถตา จกฺขุ-สทฺทสฺส ทฏฺพฺพา. รตฺตทุฏฺาทิกาเลสุ กกณฺฏกรูปํ วิย อุทฺทรูปํ วิย จ วณฺณวิการํ อาปชฺชมานํ รูปํ หทยงฺคตภาวํ รูปยติ รูปมิว ปกาสํ กโรติ, สวิคฺคหมิว กตฺวา ทสฺเสตีติ อตฺโถ. วิตฺถารณํ วา รูป-สทฺทสฺส อตฺโถ, วิตฺถารณฺจ ปกาสนเมวาติ อาห ‘‘ปกาเสตี’’ติ. อเนกตฺถตฺตา วา ธาตูนํ ปกาสนตฺโถเยว รูป-สทฺโท ทฏฺพฺโพ, วณฺณวาจกสฺส รูป-สทฺทสฺส รูปยตีติ นิพฺพจนํ, รูปวาจกสฺส รุปฺปตีติ อยํ วิเสโส.

อุทาหรียตีติ วุจฺจตีติ-อตฺเถ วจนเมว คหิตํ สิยา, น จ วจน-สทฺโทเยว เอตฺถ สทฺโท, อถ โข สพฺโพปิ โสตวิฺเยฺโยติ สปฺปตีติ สเกหิ ปจฺจเยหิ สปฺปียติ โสตวิฺเยฺยภาวํ คมียตีติ อตฺโถ. สูจยตีติ อตฺตโน วตฺถุํ คนฺธวเสน อปากฏํ ‘‘อิทํ สุคนฺธํ ทุคฺคนฺธ’’นฺติ ปกาเสติ, ปฏิจฺฉนฺนํ วา ปุปฺผาทิวตฺถุํ ‘‘เอตฺถ ปุปฺผํ อตฺถิ จมฺปกาทิ, ผลมตฺถิ อมฺพาที’’ติ เปสุฺํ กโรนฺตํ วิย โหตีติ อตฺโถ. รสคฺคหณมูลกตฺตา อาหารชฺโฌหรณสฺส ชีวิตเหตุมฺหิ อาหารรเส นินฺนตาย ชีวิตํ อวฺหายตีติ ชิวฺหา วุตฺตา นิรุตฺติลกฺขเณน. กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโยติ วิเสเสน กาโย วุตฺโต อนุตฺตริยเหตุภาวํ อนาคจฺฉนฺเตสุ กามราคนิทานกมฺมชนิเตสุ กามราคสฺส จ วิเสสปจฺจเยสุ ฆานชิวฺหากาเยสุ กายสฺส วิเสสตรสาสวปจฺจยตฺตา. เตน หิ โผฏฺพฺพํ อสฺสาเทนฺตา สตฺตา เมถุนมฺปิ เสวนฺติ. อุปฺปตฺติเทโสติ อุปฺปตฺติการณนฺติ อตฺโถ. กายินฺทฺริยวตฺถุกา วา จตฺตาโร ขนฺธา พลวกามาสวาทิเหตุภาวโต วิเสเสน ‘‘สาสวา’’ติ วุตฺตา, เตสํ อุปฺปชฺชนฏฺานนฺติ อตฺโถ. อตฺตโน ลกฺขณํ ธารยนฺตีติ เย วิเสสลกฺขเณน อายตนสทฺทปรา วตฺตพฺพา, เต จกฺขาทโย ตถา วุตฺตาติ อฺเ มโนโคจรภูตา ธมฺมา สามฺลกฺขเณเนว เอกายตนตฺตํ อุปเนตฺวา วุตฺตา. โอฬาริกวตฺถารมฺมณมนนสงฺขาเตหิ วิสยวิสยิภาเวหิ ปุริมานิ ปากฏานีติ ตถา อปากฏา จ อฺเ มโนโคจรา น อตฺตโน สภาวํ น ธาเรนฺตีติ อิมสฺสตฺถสฺส ทีปนตฺโถ ธมฺม-สทฺโทติ.

วายมนฺตีติ อตฺตโน กิจฺจํ กโรนฺติจฺเจว อตฺโถ. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ อายตนฺติ เอตฺถาติ อายตนนฺติ อธิกรณตฺโถ อายตน-สทฺโท, ทุติยตติเยสุ กตฺตุอตฺโถ. เต จาติ จิตฺตเจตสิกธมฺเม. เต หิ ตํตํทฺวารารมฺมเณสุ อายนฺติ อาคจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติ อายาติ. วิตฺถาเรนฺตีติ ปุพฺเพ อนุปฺปนฺนตฺตา ลีนานิ อปากฏานิ ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ ปสาเรนฺติ ปากฏานิ กโรนฺติ อุปฺปาเทนฺตีติ อตฺโถ.

รุฬฺหีวเสน อายตน-สทฺทสฺสตฺถํ วตฺตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตํ นิสฺสิตตฺตาติ เอตฺถ มโน มโนวิฺาณาทีนํ จิตฺตเจตสิกานํ นิสฺสยปจฺจโย น โหตีติ ตสฺส เนสํ ทฺวารภาโว นิสฺสยภาโวติ ทฏฺพฺโพ. อตฺถโตติ วจนตฺถโต, น วจนียตฺถโต. วจนตฺโถ เหตฺถ วุตฺโต ‘‘จกฺขตี’’ติอาทินา, น วจนียตฺโถ ‘‘ยํ จกฺขุ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท’’ติอาทินา (ธ. ส. ๕๙๗) วิยาติ.

ตาวตฺวโตติ อนูนาธิกภาวํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ทฺวาทสายตนวินิมุตฺตสฺส กสฺสจิ ธมฺมสฺส อภาวา อธิกภาวโต โจทนา นตฺถิ, สลกฺขณธารณํ ปน สพฺเพสํ สามฺลกฺขณนฺติ อูนโจทนา สมฺภวตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘จกฺขาทโยปิ หี’’ติอาทิ. อสาธารณนฺติ จกฺขุวิฺาณาทีนํ อสาธารณํ. สติปิ อสาธารณารมฺมณภาเว จกฺขาทีนํ ทฺวารภาเวน คหิตตฺตา ธมฺมายตเน อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. ทฺวารารมฺมณภาเวหิ วา อสาธารณตํ สนฺธาย ‘‘อสาธารณ’’นฺติ วุตฺตํ.

เยภุยฺยสหุปฺปตฺติอาทีหิ อุปฺปตฺติกฺกมาทิอยุตฺติ โยเชตพฺพา. อชฺฌตฺติเกสุ หีติ เอเตน อชฺฌตฺติกภาเวน วิสยิภาเวน จ อชฺฌตฺติกานํ ปมํ เทเสตพฺพตํ ทสฺเสติ. เตสุ หิ ปมํ เทเสตพฺเพสุ ปากฏตฺตา ปมตรํ จกฺขายตนํ เทสิตนฺติ. ตโต ฆานายตนาทีนีติ เอตฺถ พหูปการตฺตาภาเวน จกฺขุโสเตหิ ปุริมตรํ อเทเสตพฺพานิ สห วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา เอเกน กเมน เทเสตพฺพานีติ ฆานาทิกฺกเมน เทสิตานีติ อธิปฺปาโย. อฺถาปิ หิ เทสิเตสุ น น สกฺกา โจเทตุํ, น จ สกฺกา โสเธตพฺพานิ น เทเสตุนฺติ. โคจโร วิสโย เอตสฺสาติ โคจรวิสโย, มโน. กสฺส ปน โคจโร เอตสฺส วิสโยติ? จกฺขาทีนํ ปฺจนฺนมฺปิ. วิฺาณุปฺปตฺติการณววตฺถานโตติ เอเตน จ จกฺขาทิอนนฺตรํ รูปาทิวจนสฺส การณมาห.

ปจฺจยเภโท กมฺมาทิเภโท. นิรยาทิโก อปทาทิคตินานากรณฺจ คติเภโท. หตฺถิอสฺสาทิโก ขตฺติยาทิโก จ นิกายเภโท. ตํตํสตฺตสนฺตานเภโท ปุคฺคลเภโท. ยา จ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ อนนฺตเภทตา วุตฺตา, โสเยว หทยวตฺถุสฺส จ เภโท โหติ. ตโต มนายตนสฺส อนนฺตปฺปเภทตา โยเชตพฺพา ทุกฺขาปฏิปทาทิโต อารมฺมณาธิปติอาทิเภทโต จ. อิมสฺมึ สุตฺตนฺตภาชนีเย วิปสฺสนา วุตฺตาติ วิปสฺสนุปคมนฺจ วิฺาณํ คเหตฺวา เอกาสีติเภทตา มนายตนสฺส วุตฺตา นิทฺเทสวเสน. นีลํ นีลสฺเสว สภาคํ, อฺํ วิสภาคํ, เอวํ กุสลสมุฏฺานาทิเภเทสุ โยเชตพฺพํ. เตภูมกธมฺมารมฺมณวเสนาติ ปุพฺเพ วุตฺตํ จกฺขาทิวชฺชํ ธมฺมารมฺมณํ สนฺธาย วุตฺตํ.

สปริปฺผนฺทกิริยาวเสน อีหนํ อีหา. จินฺตนวเสน พฺยาปารกรณํ พฺยาปาโร. ตตฺถ พฺยาปารํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น หิ จกฺขุ รูปาทีนํ เอวํ โหตี’’ติ. อีหํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น จ ตานี’’ติอาทิ. อุภยมฺปิ ปน อีหา จ โหติ พฺยาปาโร จาติ อุปฺปฏิปาฏิวจนํ. ธมฺมตาวาติ สภาโวว, การณสมตฺถตา วา. อีหาพฺยาปารรหิตานํ ทฺวาราทิภาโว ธมฺมตา. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ นฺติ เอตสฺส ยสฺมาติ อตฺโถ. ปุริมสฺมึ สมฺภวนวิเสสนํ ยํ-สทฺโท. ‘‘สุฺโ คาโมติ โข, ภิกฺขเว, ฉนฺเนตํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๓๘) วจนโต สุฺคาโม วิย ทฏฺพฺพานิ. อนฺนปานสโมหิตนฺติ คหิเต สุฺคาเม ยฺเทว ภาชนํ ปรามสียติ, ตํ ตํ ริตฺตกํเยว ปรามสียติ, เอวํ ธุวาทิภาเวน คหิตานิ อุปปริกฺขิยมานานิ ริตฺตกาเนว เอตานิ ทิสฺสนฺตีติ. จกฺขาทิทฺวาเรสุ อภิชฺฌาโทมนสฺสุปฺปาทกภาเวน รูปาทีนิ จกฺขาทีนํ อภิฆาตกานีติ วุตฺตานิ. อหิสุสุมารปกฺขิกุกฺกุรสิงฺคาลมกฺกฏา ฉ ปาณกา. วิสมพิลากาสคามสุสานวนานิ เตสํ โคจรา. ตตฺถ วิสมาทิอชฺฌาสเยหิ จกฺขาทีหิ วิสมภาวพิลากาสคามสุสานสนฺนิสฺสิตสทิสุปาทินฺนธมฺมวนภาเวหิ อภิรมิตตฺตา รูปาทีนมฺปิ วิสมาทิสทิสตา โยเชตพฺพา.

หุตฺวา อภาวฏฺเนาติ อิทํ อิตเรสํ จตุนฺนํ อาการานํ สงฺคหกตฺตา วิสุํ วุตฺตํ. หุตฺวา อภาวากาโร เอว หิ อุปฺปาทวยตฺตาการาทโยติ. ตตฺถ หุตฺวาติ เอเตน ปุริมนฺตวิวิตฺตตาปุพฺพกํ มชฺเฌ วิชฺชมานตํ ทสฺเสติ, ตํ วตฺวา อภาววจเนน มชฺเฌ วิชฺชมานตาปุพฺพกํ, อปรนฺเต อวิชฺชมานตํ, อุภเยนปิ สทา อภาโว อนิจฺจลกฺขณนฺติ ทสฺเสติ. สภาววิชหนํ วิปริณาโม, ชราภงฺเคหิ วา ปริวตฺตนํ, สนฺตานวิการาปตฺติ วา. สทา อภาเวปิ จิรฏฺานํ สิยาติ ตํนิวารณตฺถํ ‘‘ตาวกาลิกโต’’ติ อาห. อุปฺปาทวยฺถตฺตรหิตํ นิจฺจํ, น อิตรถาติ นิจฺจปฏิกฺเขปโต อนิจฺจํ, นิจฺจปฏิปกฺขโตติ อธิปฺปาโย.

ชาติธมฺมตาทีหิ อนิฏฺตา ปฏิปีฬนํ. ปฏิปีฬนฏฺเนาติ จ ยสฺส ตํ ปวตฺตติ, ตํ ปุคฺคลํ ปฏิปีฬนโต, สยํ วา ชราทีหิ ปฏิปีฬนตฺตาติ อตฺโถ. ปริตฺตฏฺิติกสฺสปิ อตฺตโน วิชฺชมานกฺขเณ อุปฺปาทาทีหิ อภิณฺหํ สมฺปฏิปีฬนตฺตา ‘‘อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนโต’’ติ ปุริมํ สามฺลกฺขณํ วิเสเสตฺวา วทติ, ปุคฺคลสฺส ปีฬนโต ทุกฺขมํ. สุขปฏิปกฺขภาวโต ทุกฺขํ สุขํ ปฏิกฺขิปติ นิวาเรติ, ทุกฺขวจนํ วา อตฺถโต สุขํ ปฏิกฺขิปตีติ อาห ‘‘สุขปฏิกฺเขปโต’’ติ.

นตฺถิ เอตสฺส วสวตฺตนโก, นาปิ อิทํ วสวตฺตนกนฺติ อวสวตฺตนกํ, อตฺตโน ปรสฺมึ ปรสฺส จ อตฺตนิ วสวตฺตนภาโว วา วสวตฺตนกํ, ตํ เอตสฺส นตฺถีติ อวสวตฺตนกํ, อวสวตฺตนกสฺส อวสวตฺตนโก วา อตฺโถ สภาโว อวสวตฺตนกฏฺโ, อิทฺจ สามฺลกฺขณํ. เตนาติ ปรสฺส อตฺตนิ วสวตฺตนากาเรน สุฺํ. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ สุฺโตติ เอตสฺเสว วิเสสนํ ‘‘อสฺสามิกโต’’ติ. อถ วา ‘‘ยสฺมา วา เอตํ…เป… มา ปาปุณาตู’’ติ เอวํ จินฺตยมานสฺส กสฺสจิ ตีสุ าเนสุ วสวตฺตนภาโว นตฺถิ, สุฺํ ตํ เตน อตฺตโนเยว วสวตฺตนากาเรนาติ อตฺโถ. น อิทํ กสฺสจิ กามการิยํ, นาปิ เอตสฺส กิฺจิ กามการิยํ อตฺถีติ อกามการิยํ. เอเตน อวสวตฺตนตฺถํ วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ.

วิภวคติ วินาสคมนํ. สนฺตติยํ ภวนฺตรุปฺปตฺติเยว ภวสงฺกนฺติคมนํ. สนฺตติยา ยถาปวตฺตาการวิชหนํ ปกติภาววิชหนํ. ‘‘จกฺขุ อนิจฺจ’’นฺติ วุตฺเต จกฺขุอนิจฺจ-สทฺทานํ เอกตฺถตฺตา อนิจฺจานํ เสสธมฺมานมฺปิ จกฺขุภาโว อาปชฺชตีติ เอติสฺสา โจทนาย นิวารณตฺถํ วิเสสสามฺลกฺขณวาจกานฺจ สทฺทานํ เอกเทสสมุทายโพธนวิเสสํ ทีเปตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห.

กึ ทสฺสิตนฺติ วิปสฺสนาจารํ กเถนฺเตน กึ ลกฺขณํ ทสฺสิตนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘กตมา จานนฺท, อนตฺตสฺา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘จกฺขุ อนตฺตา’ติ…เป… ‘ธมฺมา อนตฺตา’ติ. อิติ อิเมสุ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ อนตฺตานุปสฺสี วิหรตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๐) อวิเสเสสุ อายตเนสุ อนตฺตานุปสฺสนา วุตฺตาติ การณภูตานํ จกฺขาทีนํ, ผลภูตานฺจ จกฺขุวิฺาณาทีนํ การณผลมตฺตตาย อนตฺตตาย อนตฺตลกฺขณวิภาวนตฺถาย อายตนเทสนาติ อาห ‘‘ทฺวาทสนฺนํ…เป… อนตฺตลกฺขณ’’นฺติ. ยทิปิ อนิจฺจทุกฺขลกฺขณานิ เอตฺถ ทสฺสิตานิ, เตหิ จ อนตฺตลกฺขณเมว วิเสเสน ทสฺสิตนฺติ อธิปฺปาโย. เวติ จาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท สมาปนตฺโถ. อิจฺจสฺสาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ยถาสมาปิตสฺส อาโรเปตพฺพโทสสฺส นิทสฺสนตฺโถ. เอวนฺติ ‘‘จกฺขุ อตฺตา’’ติ เอวํ วาเท สตีติ อตฺโถ. อิจฺจสฺสาติ วา อิติ-สทฺโท ‘‘อิติ วทนฺตสฺสา’’ติ ปรวาทิสฺส โทสลกฺขณาการนิทสฺสนตฺโถ. เอวนฺติ โทสคมนปฺปการนิทสฺสนตฺโถ. รูเป อตฺตนิ ‘‘เอวํ เม รูปํ โหตู’’ติ อตฺตนิเย วิย สามินิทฺเทสาปตฺตีติ เจ? น, ‘‘มม อตฺตา’’ติ คหิตตฺตา. ‘‘มม อตฺตา’’ติ หิ คหิตํ รูปํ วสวตฺติตาย ‘‘เอวํ เม โหตู’’ติ อิจฺฉิยมานฺจ ตเถว ภเวยฺย, อิจฺฉโตปิ หิ ตสฺส รูปสงฺขาโต อตฺตา อวสวตฺติ จาติ. อาพาธายาติ เอวํ ทุกฺเขน. ปฺาปนนฺติ ปเรสํ าปนํ. อนตฺตลกฺขณปฺาปนสฺส อฺเสํ อวิสยตฺตา อนตฺตลกฺขณทีปกานํ อนิจฺจทุกฺขลกฺขณานฺจ ปฺาปนสฺส อวิสยตา ทสฺสิตา โหติ.

เอวํ ปน ทุปฺปฺาปนตา เอเตสํ ทุรูปฏฺานตาย โหตีติ เตสํ อนุปฏฺหนการณํ ปุจฺฉนฺโต อาห ‘‘อิมานิ ปนา’’ติอาทิ. านาทีสุ นิรนฺตรํ ปวตฺตมานสฺส เหฏฺา วุตฺตสฺส อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนสฺส. ธาตุมตฺตตาย จกฺขาทีนํ สมูหโต วินิพฺภุชฺชนํ นานาธาตุวินิพฺโภโค. ฆเนนาติ จตฺตาริปิ ฆนานิ ฆนภาเวน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา วทติ. ปฺาเยว สนฺตติวิโกปนาติ ทฏฺพฺพํ. ยาถาวสรสโตติ อวิปรีตสภาวโต. สภาโว หิ รสิยมาโน อวิรทฺธปฏิเวเธน อสฺสาทิยมาโน ‘‘รโส’’ติ วุจฺจติ. อนิจฺจาทีหิ อนิจฺจลกฺขณาทีนํ อฺตฺถ วจนํ รุปฺปนาทิวเสน ปวตฺตรูปาทิคฺคหณโต วิสิฏฺสฺส อนิจฺจาทิคฺคหณสฺส สพฺภาวา. น หิ นามรูปปริจฺเฉทมตฺเตน กิจฺจสิทฺธิ โหติ, อนิจฺจาทโย จ รูปาทีนํ อาการา ทฏฺพฺพา. เต ปนาการา ปรมตฺถโต อวิชฺชมานา รูปาทีนํ อาการมตฺตาเยวาติ กตฺวา อฏฺสาลินิยํ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐) ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย ขนฺธารมฺมณตา วุตฺตาติ อธิปฺปายมตฺเต าตุํ ยุตฺตํ, นาติธาวิตุํ. ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ จ คณฺหนฺโต ‘‘ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ น คณฺหาติ, ตถา ทุกฺขาทิคฺคหเณ อิตรสฺสาคหณํ. อนิจฺจาทิคฺคหณานิ จ นิจฺจสฺาทินิวตฺตนกานิ สทฺธาสมาธิปฺินฺทฺริยาธิกานิ ติวิธวิโมกฺขมุขภูตานิ. ตสฺมา เอเตสํ อาการานํ ปริคฺคยฺหมานานํ อฺมฺํ วิเสโส จ อตฺถีติ ตีณิ ลกฺขณานิ วุตฺตานิ.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๑๖๗. นามรูปปริจฺเฉทกถา อภิธมฺมกถาติ สุตฺตนฺเต วิย ปจฺจยยุคฬวเสน อกเถตฺวา อชฺฌตฺติกพาหิรวเสน อภิฺเยฺยานิ อายตนานิ อพฺโพการโต อภิธมฺมภาชนีเย กถิตานิ. อาคมฺมาติ สพฺพสงฺขาเรหิ นิพฺพินฺทสฺส วิสงฺขารนินฺนสฺส โคตฺรภุนา วิวฏฺฏิตมานสสฺส มคฺเคน สจฺฉิกรเณนาติ อตฺโถ. สจฺฉิกิริยมานฺหิ ตํ อธิคนฺตฺวา อารมฺมณปจฺจยภูตฺจ ปฏิจฺจ อธิปติปจฺจยภูเต จ ตมฺหิ ปรมสฺสาสภาเวน วินิมุตฺตสงฺขารสฺส จ คติภาเวน ปติฏฺานภูเต ปติฏฺาย ขยสงฺขาโต มคฺโค ราคาทโย เขเปตีติ ตํสจฺฉิกรณาภาเว ราคาทีนํ อนุปฺปตฺตินิโรธคมนาภาวา ‘‘ตํ อาคมฺม ราคาทโย ขียนฺตี’’ติ วุตฺตํ. สุตฺตโต มุฺจิตฺวาติ สุตฺตปทานิ มุฺจิตฺวา. อฺโ สุตฺตสฺส อตฺโถ ‘‘มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๙๔-๒๙๕) วิย อาหริตพฺโพ, นตฺถิ สุตฺตปเทเหว นีโต อตฺโถติ อตฺโถ.

เอกํ นานนฺติ จุณฺณิตํ ขุทฺทกํ วา กรณํ, จุณฺณีกรณนฺติ อพหุมาเนน วทติ. น ตฺวํ เอกํ นานํ ชานาสีติ กึ เอตฺตกํ ตฺวเมว น ชานาสีติ อตฺโถ. นนุ าเตติ ‘‘ยทิปิ ปุพฺเพ น าตํ, อธุนาปิ าเต นนุ สาธุ โหตี’’ติ อตฺตโน ชานนํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา วิกฺเขปํ กโรนฺตํ นิพนฺธติ. วิภชิตฺวาติ อกฺขรตฺถมตฺเต อฏฺตฺวา ลีนํ อตฺถํ วิภชิตฺวา อุทฺธริตฺวา นีหริตฺวา กถิตนฺติ อตฺโถ. ราคาทีนํ ขโย นาม อภาวมตฺโต, น จ อภาวสฺส พหุภาโว อตฺถิ อตฺตโน อภาวตฺตาติ วทนฺตสฺส วจนปจฺฉินฺทนตฺถํ ปุจฺฉติ ‘‘ราคกฺขโย นาม ราคสฺเสว ขโย’’ติอาทิ. ยทิ หิ ราคกฺขโย โทสาทีนํ ขโย น โหติ, โทสกฺขยาทโย จ ราคาทีนํ ขยา, อฺมฺวิสิฏฺา ภินฺนา อาปนฺนา โหนฺตีติ พหุนิพฺพานตา อาปนฺนา เอว โหติ, อฺมฺวิเสโส จ นาม นิสฺสภาวสฺส นตฺถีติ สสภาวตา จ นิพฺพานสฺส. นว ตณฺหามูลกา ‘‘ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๐๓; ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๙.๒๓; วิภ. ๙๖๓) อาทโย, เตสุ ปริเยสนาทโย จ ปริเยสนาทิกรกิเลสา ทฏฺพฺพา. ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ นิทานกถายํ วุตฺตํ.

โอฬาริกตาย กาเรตพฺโพติ อติสุขุมสฺส นิพฺพานสฺส โอฬาริกภาวโทสาปตฺติยา โพเธตพฺโพ, นิคฺคเหตพฺโพ วา. วตฺถุนฺติ อุปาทินฺนกโผฏฺพฺพํ เมถุนํ. อจฺฉาทีนมฺปิ นิพฺพานปฺปตฺติ กสฺมา วุตฺตา, นนุ ‘‘กิเลสานํ อจฺจนฺตํ อนุปฺปตฺตินิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ อิจฺฉนฺตสฺส กิเลสานํ วินาโส กฺจิ กาลํ อปฺปวตฺติ นิพฺพานํ น โหตีติ? น, อภาวสามฺโต. อจฺจนฺตาปวตฺติ หิ กฺจิ กาลฺจ อปฺปวตฺติ อภาโวเยวาติ นตฺถิ วิเสโส. สวิเสสํ วา วทนฺตสฺส อภาวตา อาปชฺชตีติ. ติรจฺฉานคเตหิปิ ปาปุณิตพฺพตฺตา เตสมฺปิ ปากฏํ ปิฬนฺธนํ วิย โอฬาริกํ ถูลํ. เกวลํ ปน กณฺเณ ปิฬนฺธิตุํ น สกฺโกติ, ปิฬนฺธนโตปิ วา ถูลตฺตา น สกฺกาติ อุปฺปณฺเฑนฺโต วิย นิคฺคณฺหาติ.

นิพฺพานารมฺมณกรเณน โคตฺรภุกฺขเณ กิเลสกฺขยปฺปตฺติ ปนสฺส อาปนฺนาติ มฺมาโน อาห ‘‘ตฺวํ อขีเณสุเยวา’’ติอาทิ. นนุ อารมฺมณกรณมตฺเตน กิเลสกฺขโย อนุปฺปตฺโตติ น สกฺกา วตฺตุํ. จิตฺตฺหิ อตีตานาคตาทิสพฺพํ อาลมฺเพติ, น นิปฺผนฺนเมวาติ โคตฺรภุปิ มคฺเคน กิเลสานํ ยา อนุปฺปตฺติธมฺมตา กาตพฺพา, ตํ อารพฺภ ปวตฺติสฺสตีติ? น, อปฺปตฺตนิพฺพานสฺส นิพฺพานารมฺมณาณาภาวโต. น หิ อฺธมฺมา วิย นิพฺพานํ, ตํ ปน อติคมฺภีรตฺตา อปฺปตฺเตน อาลมฺพิตุํ น สกฺกา. ตสฺมา เตน โคตฺรภุนา ปตฺตพฺเพน ติกาลิกสภาวาติกฺกนฺตคมฺภีรภาเวน ภวิตพฺพํ, กิเลสกฺขยมตฺตตํ วา อิจฺฉโต โคตฺรภุโต ปุเรตรํ นิปฺผนฺเนน กิเลสกฺขเยน. เตนาห ‘‘ตฺวํ อขีเณสุเยว กิเลเสสุ กิเลสกฺขยํ นิพฺพานํ ปฺเปสี’’ติ. อปฺปตฺตกิเลสกฺขยารมฺมณกรเณ หิ สติ โคตฺรภุโต ปุเรตรจิตฺตานิปิ อาลมฺเพยฺยุนฺติ.

มคฺคสฺส กิเลสกฺขยํ นิพฺพานนฺติ มคฺคสฺส อารมฺมณภูตํ นิพฺพานํ กตมนฺติ อตฺโถ. มคฺโคติอาทินา ปุริมปุจฺฉาทฺวยเมว วิวรติ.

น จ กิฺจีติ รูปาทีสุ นิพฺพานํ กิฺจิ น โหติ, น จ กทาจิ โหติ, อตีตาทิภาเวน น วตฺตพฺพนฺติ วทนฺติ, ตํ อาคมฺม อวิชฺชาตณฺหานํ กิฺจิ เอกเทสมตฺตมฺปิ น โหติ, ตเทว ตํ อาคมฺม กทาจิ น จ โหตีติ อตฺโถ ยุตฺโต.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

๑๖๘. น…เป… นวตฺตพฺพธมฺมารมฺมณตฺตาติ ยถา สารมฺมณา ปริตฺตาทิภาเวน นวตฺตพฺพํ กิฺจิ อารมฺมณํ กโรนฺติ, เอวํ กิฺจิ อาลมฺพนโต น นวตฺตพฺพโกฏฺาสํ ภชตีติ อตฺโถ.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

อายตนวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.