📜
๑๖. าณวิภงฺโค
๑. เอกกมาติกาทิวณฺณนา
๗๕๑. โอกาสฏฺเน ¶ ¶ สมฺปยุตฺตา ธมฺมา อารมฺมณฺจาปิ าณสฺส วตฺถุ. ยาถาวกวตฺถุวิภาวนาติ นเหตาทิอวิตเถกปฺปการวตฺถุวิภาวนา. ยถา เอกํ นเหตุ, ตถา เอกํ อฺมฺปีติ หิ คเหตพฺพํ อวิตถสามฺยุตฺตํ าณารมฺมณํ ยาถาวกวตฺถุ. ยาถาวเกน วา อวิตถสามฺเน วตฺถุวิภาวนา ยาถาวกวตฺถุวิภาวนา.
ทุกานุรูเปหีติ ทุกมาติกานุรูเปหีติ วทนฺติ. โอสานทุกสฺส ปน ทุกมาติกํ อนิสฺสาย วุตฺตตฺตา ทุกภาวานุรูเปหีติ วตฺตพฺพํ. เอวํ ติกานุรูเปหีติ เอตฺถาปิ ทฏฺพฺพํ. โอสานทุเก ปน อตฺโถติ ผลํ, อเนกตฺถตฺตา ธาตุสทฺทานํ ตํ ชเนตีติ อตฺถชาปิกา, การณคตา ปฺา. ชาปิโต ชนิโต อตฺโถ เอติสฺสาติ ชาปิตตฺถา, การณปฺาสทิสี ผลปฺปกาสนภูตา ผลสมฺปยุตฺตา ปฺา.
๑๐. ทสกมาติกาวณฺณนา
๗๖๐. ‘‘จตสฺโส โข อิมา, สาริปุตฺต, โยนิโย. กตมา…เป… โย โข มํ, สาริปุตฺต, เอวํ ชาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๕๒) วจเนน จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ วุตฺตํ, ‘‘นิรยฺจาหํ, สาริปุตฺต, ปชานามี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๕๓) ปฺจคติปริจฺเฉทกํ. ‘‘สํยุตฺตเก อาคตานิ เตสตฺตติ าณานิ, สตฺตสตฺตติ าณานี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ ปน นิทานวคฺเค สตฺตสตฺตติ อาคตานิ จตุจตฺตารีสฺจ, เตสตฺตติ ปน ปฏิสมฺภิทามคฺเค สุตมยาทีนิ อาคตานิ ¶ ทิสฺสนฺติ, น สํยุตฺตเกติ. อฺานิปีติ เอเตน อิธ เอกกาทิวเสน วุตฺตํ, อฺตฺถ จ ‘‘ปุพฺพนฺเต าณ’’นฺติอาทินา, พฺรหฺมชาลาทีสุ จ ‘‘ตยิทํ ตถาคโต ปชานาติ ‘อิมานิ ทิฏฺิฏฺานานิ เอวํ คหิตานี’ติ’’อาทินา วุตฺตํ อเนกาณปฺปเภทํ สงฺคณฺหาติ. ยาถาวปฏิเวธโต สยฺจ อกมฺปิยํ ปุคฺคลฺจ ตํสมงฺคึ เยฺเยสุ อธิพลํ กโรตีติ อาห ‘‘อกมฺปิยฏฺเน อุปตฺถมฺภกฏฺเน จา’’ติ.
เสฏฺฏฺานํ ¶ สพฺพฺุตํ. ปฏิชานนวเสน สพฺพฺุตํ อภิมุขํ คจฺฉนฺติ, อฏฺ วา ปริสา อุปสงฺกมนฺตีติ อาสภา, พุทฺธา. อิทํ ปนาติ พุทฺธานํ านํ สพฺพฺุตเมว วทติ. ติฏฺมาโนวาติ อวทนฺโตปิ ติฏฺมาโนว ปฏิชานาติ นามาติ อตฺโถ. อฏฺสุ ปริสาสุ ‘‘อภิชานามหํ, สาริปุตฺต, อเนกสตํ ขตฺติยปริสํ…เป… ตตฺร วต มํ ภยํ วา สารชฺชํ วา โอกฺกมิสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, สาริปุตฺต, น สมนุปสฺสามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๑) วจเนน ทสฺสิตอกมฺปิยาณยุตฺโต ทสพโลหนฺติ อภีตนาทํ นทติ. สีหนาทสุตฺเตน ขนฺธกวคฺเค อาคเตน.
‘‘เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ วตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๑) สุตฺตเสเสน สปฺปุริสูปสฺสยาทีนํ ผลสมฺปตฺติ ปวตฺติ, ปุริมสปฺปุริสูปสฺสยาทึ อุปนิสฺสาย ปจฺฉิมสปฺปุริสูปสฺสยาทีนํ สมฺปตฺติ ปวตฺติ วา วุตฺตาติ อาทิ-สทฺเทน ตตฺถ จ จกฺก-สทฺทสฺส คหณํ เวทิตพฺพํ. ปฏิเวธนิฏฺตฺตา อรหตฺตมคฺคาณํ ปฏิเวโธติ ‘‘ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นามา’’ติ วุตฺตํ. เตน ปฏิลทฺธสฺสปิ เทสนาาณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติปรสฺส พุชฺฌนมตฺเตน โหตีติ ‘‘อฺาสิโกณฺฑฺสฺส โสตาปตฺติผลกฺขเณ ปวตฺตํ นามา’’ติ วุตฺตํ. ตโต ปรํ ปน ยาว ปรินิพฺพานา เทสนาาณปฺปวตฺติ ตสฺเสว ปวตฺติตสฺส ธมฺมจกฺกสฺส านนฺติ เวทิตพฺพํ, ปวตฺติตจกฺกสฺส จกฺกวตฺติโน จกฺกรตนฏฺานํ วิย.
สมาทียนฺตีติ สมาทานานิ, ตานิ ปน สมาทิยิตฺวา กตานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘สมาทิยิตฺวา กตาน’’นฺติ. กมฺมเมว วา กมฺมสมาทานนฺติ เอเตน สมาทาน-สทฺทสฺส อปุพฺพตฺถาภาวํ ทสฺเสติ มุตฺตคต-สทฺเท คต-สทฺทสฺส วิย.
อคติคามินินฺติ ¶ นิพฺพานคามินึ. วุตฺตฺหิ ‘‘นิพฺพานฺจาหํ, สาริปุตฺต, ปชานามิ นิพฺพานคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๕๓).
หานภาคิยธมฺมนฺติ หานภาคิยสภาวํ, กามสหคตสฺาทิธมฺมํ วา. ตํ การณนฺติ ปุพฺเพว กตาภิสงฺขาราทึ.
‘‘อิทานี’’ติ เอตสฺส ‘‘อิมินา อนุกฺกเมน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานี’’ติ อิมินา สห โยชนา กาตพฺพา. กิเลสาวรณํ ตทภาวฺจาติ กิเลสาวรณาภาวํ. กิเลสกฺขยาธิคมสฺส หิ กิเลสาวรณํ อฏฺานํ, ตทภาโว านํ. อนธิคมสฺส กิเลสาวรณํ านํ, ตทภาโว ¶ อฏฺานนฺติ. ตตฺถ ตทภาวคฺคหเณน คหิตํ ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกาย สมฺมาทิฏฺิยา ิตึ ตพฺพิปรีตาย านาภาวฺจ อธิคมสฺส านํ ปสฺสนฺเตน อิมินา าเณน อธิคมานธิคมานํ านาฏฺานภูเต กิเลสาวรณตทภาเว ปสฺสติ ภควาติ อิมมตฺถํ สาเธนฺโต อาห ‘‘โลกิยสมฺมาทิฏฺิิติทสฺสนโต นิยตมิจฺฉาทิฏฺิานาภาวทสฺสนโต จา’’ติ. เอตฺถ จ อธิคมฏฺานทสฺสนเมว อธิปฺเปตํ อุปริ ภพฺพปุคฺคลวเสเนว วิปากาวรณาภาวทสฺสนาทิกสฺส วกฺขมานตฺตา. อิมินา ปน าเณน สิชฺฌนโต ปสงฺเคน อิตรมฺปิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ธาตุเวมตฺตทสฺสนโตติ ราคาทีนํ อธิมตฺตตาทิวเสน ตํสหิตานํ ธาตูนํ เวมตฺตตาทสฺสนโต, ‘‘อยํ อิมิสฺสา ธาตุยา อธิมตฺตตฺตา ราคจริโต’’ติอาทินา จริยาเหตูนํ วา, ราคาทโย เอว วา ปกติภาวโต ธาตูติ ราคาทิเวมตฺตทสฺสนโตติ อตฺโถ. ปโยคํ อนาทิยิตฺวาติ สนฺตติมหามตฺตองฺคุลิมาลาทีนํ วิย กามราคพฺยาปาทาทิวเสน ปโยคํ อนาทิยิตฺวา.
(๑.) เอกกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๖๑. น เหตุเมวาติ เอตฺถ จ น เหตู เอวาติ อตฺโถ, พฺยฺชนสิลิฏฺตาวเสน ปน รสฺสตฺตํ ม-กาโร จ กโต ‘‘อทุกฺขมสุขา’’ติ เอตฺถ วิย. อิมินาปิ นเยนาติ เอตฺถ ปุริมนเยน เหตุภาวาทิปฏิกฺเขโป, ปจฺฉิมนเยน นเหตุธมฺมาทิโกฏฺาสสงฺคโหติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ. จุติคฺคหเณน จุติปริจฺฉินฺนาย เอกาย ชาติยา คหณํ ทฏฺพฺพํ, ภวคฺคหเณน นวธา วุตฺตภวสฺส. ตทนฺโตคธตาย ตตฺถ ตตฺถ ปริยาปนฺนตา วุตฺตา. อุปฺปนฺนํ มโนวิฺาณวิฺเยฺยเมวาติ ¶ ‘‘น รูปํ วิย อุปฺปนฺนา ฉวิฺาณวิฺเยฺยา’’ติ รูปโต เอเตสํ วิเสสนํ กโรติ.
๗๖๒. กปฺปโต กปฺปํ คนฺตฺวาปิ น อุปฺปชฺชตีติ น กทาจิ ตถา อุปฺปชฺชติ. น หิ ขีราทีนํ วิย เอเตสํ ยถาวุตฺตลกฺขณวิลกฺขณตา อตฺถีติ ทสฺเสติ.
๗๖๓. สโมธาเนตฺวาติ โลเก วิชฺชมานํ สพฺพํ รูปํ สโมธาเนตฺวา. เอเตน มหตฺเตปิ อวิภาวกตฺตํ ทสฺเสนฺโต สุขุมตฺตา น วิภาเวสฺสตีติ ¶ วาทปถํ ฉินฺทติ. จกฺขุปสาเท มม วตฺถุมฺหีติ อตฺโถ. วิสโยติ อิสฺสริยฏฺานนฺติ อธิปฺปาโย.
๗๖๔. อพฺโพกิณฺณาติ อพฺยวหิตา, อนนฺตริตาติ อตฺโถ. ววตฺถิตานมฺปิ ปฏิปาฏินิยโม เตน ปฏิกฺขิตฺโตติ อตฺโถ. อนนฺตรตาติ อนนฺตรปจฺจยตา เอเตน ปฏิกฺขิตฺตาติ อตฺโถ.
๗๖๕. สมนนฺตรตาติ จ สมนนฺตรปจฺจยตา.
๗๖๖. อาภุชนโตติ อาภุคฺคกรณโต, นิวตฺตนโต อิจฺเจว อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘ปฺจ วิฺาณา อนาโภคา’’ติ อาโภคสภาวา น โหนฺตีติ อตฺโถ, ‘‘ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ นตฺถิ อาวฏฺฏนา วา’’ติอาทีสุปิ อาวฏฺฏนภาโว วาติอาทินา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตีติ เอตฺถ น สพฺเพ รูปาทิธมฺมา ธมฺมคฺคหเณน คหิตาติ ยถาธิปฺเปตธมฺมทสฺสนตฺถํ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมาติ เอวํ วุตฺต’’นฺติ อาห.
รูปาทีสุ อภินิปตนํ เตหิ สมาคโม เตสนฺติปิ วตฺตุํ ยุชฺชตีติ อาห ‘‘รูปาทีนํ อภินิปาตมตฺต’’นฺติ. กมฺมตฺเถ วา สามิวจนํ. วิฺาเณหิ อภินิปติตพฺพานิ หิ รูปาทีนีติ. อิทํ วุตฺตํ โหตีติอาทีสุ หิ อยํ อธิปฺปาโย – อารมฺมณกรเณน ปฏิวิชานิตพฺพานิ รูปาทีนิ เปตฺวา กุสลากุสลเจตนาย ตํสมฺปยุตฺตานฺจ ยถาวุตฺตานํ สหชปุพฺพงฺคมธมฺเมน ปฏิวิชานิตพฺพานํ ปฏิวิชานนํ เอเตสํ นตฺถีติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘ทสฺสนาทิมตฺตโต ¶ ปน มุตฺตา อฺา เอเตสํ กุสลาทิปฏิวิฺตฺติ นาม นตฺถี’’ติ กิจฺจนฺตรํ ปฏิเสเธติ.
อวิปากภาเวน อฺํ อพฺยากตสามฺํ อนิวาเรนฺโต กุสลากุสลคฺคหณฺจ กโรตีติ จวนปริโยสานฺจ กิจฺจํ. ปิ-สทฺเทน สหชวนกานิ วีถิจิตฺตานิ สมฺปิณฺเฑตฺวา ปฺจทฺวาเร ปฏิเสธเน อยํ อธิปฺปาโย สิยา – ‘‘มนสา เจ ปทุฏฺเน…เป… ปสนฺเนน ภาสติ วา กโรติ วา’’ติ (ธ. ป. ๑-๒) เอวํ วุตฺตา ภาสนกรณกรา, ตํสทิสา จ สุขทุกฺขุปฺปาทกา พลวนฺโต ฉฏฺทฺวาริกา เอว ธมฺมคฺคหเณน คหิตาติ น เตสํ ปฺจทฺวาริกชวเนน ปฏิวิชานนํ อตฺถิ, ทุพฺพลานํ ปน ปุพฺพงฺคมปฏิวิชานนํ ตตฺถ น ปฏิสิทฺธํ ‘‘น ¶ กายกมฺมํ น วจีกมฺมํ ปฏฺเปตี’’ติ วิฺตฺติทฺวยชนกสฺเสว ปฏฺปนปฏิกฺเขเปน ทุพฺพลสฺส มโนกมฺมสฺส อนฺุาตตฺตา. ตถา กายสุจริตาทิกุสลกมฺมํ กโรมีติ, ตพฺพิปรีตํ อกุสลํ กมฺมํ กโรมีติ จ กุสลากุสลสมาทานํ ปฺจทฺวาริกชวเนน น โหติ. ตถา ปฏิจฺจสมุปฺปาทวณฺณนายํ วุตฺตา ‘‘ปฺจทฺวาริกจุติ จ น ปฺจทฺวาริกจิตฺเตหิ โหติ จุติจิตฺตสฺส อตํทฺวาริกตฺตา’’ติ. ยา ปนายํ ปาฬิ ‘‘ปฺจหิ วิฺาเณหิ น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาติ อฺตฺร อภินิปาตมตฺตา’’ติ, ตสฺสา รูปาทีนํ อาปาถมตฺตํ มฺุจิตฺวา อฺํ กฺจิ ธมฺมสภาวํ น ปฏิวิชานาตีติ อยมตฺโถ ทิสฺสติ. น หิ รูปํ ปฏิคฺคณฺหนฺตมฺปิ จกฺขุวิฺาณํ รูปนฺติ จ คณฺหาตีติ. สมฺปฏิจฺฉนสฺสปิ รูปนีลาทิอาการปฏิวิชานนํ นตฺถีติ กิฺจิ ธมฺมสฺส ปฏิวิชานนํ ปฏิกฺขิตฺตํ, ปฺจหิ ปน วิฺาเณหิ สาติสยํ ตสฺส วิชานนนฺติ ‘‘อฺตฺร อภินิปาตมตฺตา’’ติ น วุตฺตํ. ยสฺส ปาฬิยํ พหิทฺธาปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา วุตฺตา, ตโต อฺํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทํ อิจฺฉนฺเตหิ ปฺจทฺวารชวเนน ปฏิสมฺภิทาาณสฺส สหุปฺปตฺติ ปฏิสิทฺธา. รูปารูปธมฺเมติ รูปารูปาวจรธมฺเมติ อตฺโถ.
ปฺจทฺวาริกจิตฺเตน น ปฏิพุชฺฌตีติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ รูปาทีนํ อาปาถคมเน นิทฺทาปฏิโพโธ โหตีติ? น, ปมํ มโนทฺวาริกชวนสฺส อุปฺปตฺติโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘นิทฺทายนฺตสฺส หี’’ติอาทิ. ปโลเภตฺวา สจฺจสุปิเนน.
อพฺยากโตเยว อาวชฺชนมตฺตสฺเสว อุปฺปชฺชนโตติ วทนฺติ. เอวํ วทนฺเตหิ มโนทฺวาเรปิ อาวชฺชนํ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา ชวนฏฺาเน ตฺวา ภวงฺคํ โอตรตีติ อธิปฺเปตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ตสฺสา ¶ เอว วเสนาติ ตสฺสา วเสน เอกวิเธน าณวตฺถุ โหตีติ จ, เวทิตพฺพนฺติ จ โยชนา กาตพฺพา.
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๒.) ทุกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๖๗. อตฺถ-สทฺโท อฺตฺร สภาวํ คเหตฺวา อธิกรเณสุ ปวตฺตมาโน อธิกรณวเสน ลิงฺคปริวตฺตึ คจฺฉตีติ อธิปฺปาเยน ชาปิตา ¶ จ สา อตฺถา จาติ ชาปิตตฺถาติ อยมตฺโถ วิภาวิโตติ ทฏฺพฺโพ.
ทุกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๓.) ติกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๖๘. ปฺาปริณามิเตสูติ ปฺาย ปริปาจิเตสุ. ‘‘โยควิหิเตสูติ อิทฺจ วิสยวิเสสนมตฺตเมว, ตสฺมา ยานิ ปฺาย วิหิตานิ อเหสุํ โหนฺติ ภวิสฺสนฺติ จ, สพฺพานิ ตานิ โยควิหิตานีติ ทฏฺพฺพานิ. สิกฺขิตฺวา กาตพฺพํ สิปฺปํ, อิตรํ กมฺมํ. อยเมเตสํ วิเสโส. วฑฺฒกีกมฺมนฺติ จ อสิกฺขิตฺวาปิ กาตพฺพํ ถูลกมฺมํ ‘‘กมฺม’’นฺติ ทฏฺพฺพํ, ปฺา เอว วา ตตฺถ ตตฺถ ‘‘กมฺมํ สิปฺป’’นฺติ จ เวทิตพฺพา. นาคมณฺฑลํ นาม มณฺฑลํ กตฺวา สปฺเป วิชฺชาย ปกฺโกสิตฺวา พลึ ทตฺวา วิสาปนยนํ. ปริตฺตํ รกฺขา, เยน ‘‘ผู’’ติ มุขวาตํ ทตฺวา วิสํ อปนยนฺติ, โส อุณฺณนาภิอาทิมนฺโต ผุธมนกมนฺโต. ‘‘อ อา’’ติอาทิกา มาติกา ‘‘ก กา’’ติอาทิโก ตปฺปเภโท จ เลขา.
กุสลํ ธมฺมํ สกํ, อิตรํ โนสกํ. จตุนฺนํ สจฺจานํ ปฏิวิชฺฌิตพฺพานํ ตปฺปฏิเวธปจฺจยภาเวน อนุโลมนํ ทฏฺพฺพํ. ปุพฺเพ ‘‘โยควิหิเตสุ วา กมฺมายตเนสู’’ติอาทินา ปฺา ¶ วุตฺตา, ปุน ตสฺสา เววจนวเสน ‘‘อนุโลมิกํ ขนฺติ’’นฺติอาทิ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘อนุ…เป… ปฺาเววจนานี’’ติ อาห. เอตฺถ จ เอวรูปินฺติ ยถาวุตฺตกมฺมายตนาทิวิสยํ กมฺมสฺสกตสจฺจานุโลมิกสภาวํ อนิจฺจาทิปวตฺติอาการฺจาติ อตฺโถ. ยถาวุตฺตา จ ภูมิสภาวปวตฺติอาการนิทฺเทสา ขนฺติอาทีหิ โยเชตพฺพา. ยสฺสา ปฺาย ธมฺมา นิชฺฌานปชานนกิจฺจสงฺขาตํ โอโลกนํ ขมนฺติ อวิปรีตสภาวตฺตา, สา ปฺา ธมฺมานํ นิชฺฌานกฺขมนํ เอติสฺสา อตฺถีติ ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺตีติ อตฺโถ.
๗๖๙. อสํวรํ มฺุจตีติ สมาทานสมฺปตฺตวิรติสมฺปยุตฺตเจตนา ‘‘สีลํ ปูเรนฺตสฺส มฺุจเจตนา’’ติ วุตฺตา. ปุพฺพาปรปฺาย จ ทานสีลมยตาวจนโต มฺุจอปรเจตนาวเสน ‘‘อารพฺภา’’ติ, ปุพฺพเจตนาวเสน ‘‘อธิกิจฺจา’’ติ จ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ ‘‘อธิกิจฺจา’’ติปิ ปาโ ยุชฺชติ.
๗๗๐. ปฺจสีลทสสีลานิ ¶ วิฺาณสฺส ชาติยา จ ปจฺจยภูเตสุ สงฺขารภเวสุ อนฺโตคธานีติ ‘‘อุปฺปาทา วา’’ติอาทิกาย ธมฺมฏฺิติปาฬิยา สงฺคหิตานิ. ภวนิพฺพตฺตกสีลสฺส ปฺาปนํ สติปิ สวเน น ตถาคตเทสนายตฺตนฺติ ภิกฺขุอาทีนมฺปิ ตํ วุตฺตํ.
อธิปฺาย ปฺาติ อธิปฺาย อนฺโตคธา ปฺา. อถ วา อธิปฺานิพฺพตฺเตสุ, ตทธิฏฺาเนสุ วา ธมฺเมสุ อธิปฺา-สทฺโท ทฏฺพฺโพ, ตตฺถ ปฺา อธิปฺาย ปฺา.
๗๗๑. อปายุปฺปาทนกุสลตา อปายโกสลฺลํ สิยาติ มฺมาโน ปุจฺฉติ ‘‘อปายโกสลฺลํ กถํ ปฺา นาม ชาตา’’ติ. ตํ ปน ปรสฺส อธิปฺปายํ นิวตฺเตนฺโต ‘‘ปฺวาเยว หี’’ติอาทิมาห. ตตฺรุปายาติ ตตฺร ตตฺร อุปายภูตา. าเน อุปฺปตฺติ เอตสฺสาติ านุปฺปตฺติยํ. กึ ตํ? การณชานนํ, ภยาทีนํ อุปฺปตฺติกฺขเณ ตสฺมึเยว าเน ลหุอุปฺปชฺชนกนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ติกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๔.) จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๙๓. น ¶ ปริตสฺสตีติ ‘‘อปิ นาม เม ตณฺฑุลาทีนิ สิยุ’’นฺติ น ปตฺเถติ, ตทภาเวน วา น อุตฺตสติ.
๗๙๖. อปรปฺปจฺจเยติ ปเรน นปตฺติยายิตพฺเพ. ธมฺเม าณนฺติ สจฺจวิสยํ าณํ. อริยสจฺเจสุ หิ ธมฺม-สทฺโท เตสํ อวิปรีตสภาวตฺตาติ. สงฺขตปวโร วา อริยมคฺโค ตสฺส จ ผลํ ธมฺโม, ตตฺถ ปฺา ตํสหคตา ธมฺเม าณํ. น อฺาณุปฺปาทนํ นยนยนํ, าณสฺเสว ปน ปวตฺติวิเสโสติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ปจฺจเวกฺขณาณสฺส กิจฺจ’’นฺติ. เอตฺถ จ อิมินา ธมฺเมนาติ มคฺคาเณนาติ วุตฺตํ, ทุวิธมฺปิ ปน มคฺคผลาณํ ปจฺจเวกฺขณาย จ มูลํ, การณฺจ นยนยนสฺสาติ ทุวิเธนปิ เตน ธมฺเมนาติ น น ยุชฺชติ, ตถา จตุสจฺจธมฺมสฺส าตตฺตา, มคฺคผลสงฺขาตสฺส จ ธมฺมสฺส สจฺจปฏิเวธสมฺปโยคํ คตตฺตา นยนํ โหตีติ เตน อิมินา ธมฺเมน ¶ าณวิสยภาเวน, าณสมฺปโยเคน วา าเตนาติ จ อตฺโถ น น ยุชฺชติ.
ยทิปิ สพฺเพน สพฺพํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ ทุกฺขํ อภิชานนฺติ, ตถาปิ ปจฺจุปฺปนฺเน สสนฺตติปริยาปนฺเน สวิเสเส อภินิเวโส โหตีติ อาห ‘‘น ตฺเว อิม’’นฺติ. ทิฏฺเน อทิฏฺเน นยโต นยนาณํ, อทิฏฺสฺส ทิฏฺตาย การณภูตตฺตา การณาณํ, อนุรูปตฺถวาจโก วา การณ-สทฺโทติ ธมฺเม าณสฺส อนุรูปาณนฺติ อตฺโถ.
สมฺมุติมฺหิ าณนฺติ ธมฺเม าณาทีนํ วิย สาติสยสฺส ปฏิเวธกิจฺจสฺส อภาวา วิสโยภาสนมตฺตชานนสามฺเน าณนฺติ สมฺมเตสุ อนฺโตคธนฺติ อตฺโถ. สมฺมุติวเสน วา ปวตฺตํ สมฺมุติมฺหิ าณํ, อวเสสํ ปน อิตราณตฺตยวิสภาคํ าณํ ตพฺพิสภาคสามฺเน สมฺมุติาณมฺหิ ปวิฏฺตฺตา สมฺมุติาณํ นาม โหตีติ.
๗๙๗. กิเลสมูลเก จาติ นีวรณมูลเก จ กามภวธมฺเม.
๗๙๘. สา หิสฺสาติ เอตฺถ อสฺสาติ โย ‘‘กาเมสุ วีตราโค โหตี’’ติ เอวํ วุตฺโต, อสฺส ¶ ปมชฺฌานสมงฺคิสฺสาติ อตฺโถ. สฺเววาติ เอเตน กาเมสุ วีตราคภาวนาวตฺถสฺเสว ปมชฺฌานสมงฺคิสฺส คหเณ ปวตฺเต ตสฺส ตโต ปรํ อวตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กาเมสุ วีตราโค สมาโน’’ติ วุตฺตํ. จตุตฺถมคฺคปฺา ฉฏฺาภิฺาภาวปฺปตฺติยา ตํ ปฏิวิชฺฌติ นาม, อิตรา ตทุปนิสฺสยตฺตา. ยถานุรูปํ วา อาสวกฺขยภาวโต, ผเล วา อาสวกฺขเย สติ ยถานุรูปํ ตํนิพฺพตฺตนโต จตูสุปิ มคฺเคสุ ปฺา ฉฏฺํ อภิฺํ ปฏิวิชฺฌตีติ ทฏฺพฺพา.
๗๙๙. กามสหคตาติ วตฺถุกามารมฺมณา. โจเทนฺตีติ กามาภิมุขํ ตนฺนินฺนํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. ตทนุธมฺมตาติ ตทนุธมฺมา อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. ตา-สทฺทสฺส อปุพฺพตฺถาภาวโตติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ตทนุรูปสภาวา’’ติ. นิกนฺตึ, นิกนฺติสหคตจิตฺตุปฺปาทํ วา ‘‘มิจฺฉาสตี’’ติ วทติ. ‘‘อโห วต เม อวิตกฺกํ อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ อวิตกฺการมฺมณา อวิตกฺกสหคตา.
๘๐๑. อธิคมภาเวน ¶ อภิมุขํ ชานนฺตสฺส อภิชานนฺตสฺส, อภิวิสิฏฺเน วา าเณน ชานนฺตสฺส, อนารมฺมณภูตฺจ ตํ านํ ปากฏํ กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
๘๐๒. วสิตาปฺจกรหิตํ ฌานํ อปฺปคุณํ. เอตฺถ จตสฺโส ปฏิปทา จตฺตาริ อารมฺมณานีติ ปฺาย ปฏิปทารมฺมณุทฺเทเสน ปฺา เอว อุทฺทิฏฺาติ สา เอว วิภตฺตาติ.
จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๕.) ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๔. ปฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธีติ สมาธิองฺคภาเวน ปฺา อุทฺทิฏฺาติ. ปีติผรณตาทิวจเนน หิ ตเมว วิภชติ, ‘‘โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๒๖; ม. นิ. ๑.๔๒๗) นเยน ปีติยา สุขสฺส จ ผรณํ เวทิตพฺพํ. ปีติผรณตาสุขผรณตาหิ อารมฺมเณ ตฺวา จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปฺปาทนโต ‘‘ปาทา วิยา’’ติ ตา วุตฺตา.
ทุติยปฺจเก ¶ จ ‘‘ปฺจาณิโก’’ติ สมาธิมุเขน ปฺจาณาเนว อุทฺทิฏฺานิ นิทฺทิฏฺานิ จาติ ทฏฺพฺพานิ. โลกิยสมาธิสฺส ปจฺจนีกานิ นีวรณปมชฺฌานนิกนฺติอาทีนิ นิคฺคเหตพฺพานิ. อฺเ กิเลสา วาเรตพฺพา, อิมสฺส ปน อรหตฺตสมาธิสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธสพฺพกิเลสตฺตา น นิคฺคเหตพฺพํ วาเรตพฺพฺจ อตฺถีติ มคฺคานนฺตรํ สมาปตฺติกฺขเณ จ อปฺปโยเคเนว อธิคตตฺตา จ ปิตตฺตา จ, อปริหานิวเสน ปิตตฺตา วา น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต. สติเวปุลฺลปฺปตฺตตฺตาติ เอเตน อปฺปวตฺตมานายปิ สติยา สติพหุลตาย สโต เอว นามาติ ทสฺเสติ. ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสนาติ เอเตน ปริจฺฉินฺทนสติยา สโตติ.
ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๖.) ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๕. วิสุทฺธิภาวํ ¶ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทูร…เป… รมฺมณายา’’ติ อาห. โสตธาตุวิสุทฺธีติ จ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา วุตฺตาติ ตตฺถ าณํ โสตธาตุวิสุทฺธิยา าณํ. ‘‘เจโตปริยาณ’’นฺติ อิทเมว อตฺถวเสน ‘‘ปรจิตฺเต าณ’’นฺติ อุทฺธฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. จุตูปปาตาณสฺส ทิพฺพจกฺขุาเณกเทสตฺตา ‘‘วณฺณธาตุอารมฺมณา’’ติ วุตฺตํ. มุทฺธปฺปตฺเตน จุตูปปาตาณสงฺขาเตน ทิพฺพจกฺขุาเณน สพฺพํ ทิพฺพจกฺขุาณนฺติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๗.) สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๖. ตเทว าณนฺติ ฉพฺพิธมฺปิ ปจฺจเวกฺขณาณํ วิปสฺสนารมฺมณภาเวน สห คเหตฺวา วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ธมฺมฏฺิติาเณนาติ ฉปิ าณานิ สงฺขิปิตฺวา วุตฺเตน าเณน. ขยธมฺมนฺติอาทินา ¶ หิ ปกาเรน ปวตฺตาณสฺส ทสฺสนํ, าณวิปสฺสนาทสฺสนโต วิปสฺสนาปฏิวิปสฺสนาทสฺสนมตฺตเมวาติ น ตํ องฺคนฺติ อธิปฺปาโย. ปาฬิยํ ปน สพฺพตฺถ าณวจเนน องฺคานํ วุตฺตตฺตา นิโรธธมฺมนฺติ าณนฺติ อิติ-สทฺเทน ปกาเสตฺวา วุตฺตํ วิปสฺสนาาณํ สตฺตมํ าณนฺติ อยมตฺโถ ทิสฺสติ. น หิ ยมฺปิ ตํ ธมฺมฏฺิติาณํ, ตมฺปิ าณนฺติ สมฺพนฺโธ โหติ ตําณคฺคหเณ เอตสฺมึ าณภาวทสฺสนสฺส อนธิปฺเปตตฺตา, ‘‘ขยธมฺมํ…เป… นิโรธธมฺม’’นฺติ เอเตสํ สมฺพนฺธาภาวปฺปสงฺคโต จาติ.
สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๘.) อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๘. วิหาริตพฺพฏฺเนาติ ปจฺจนีกธมฺเม, ทุกฺขํ วา วิจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺเตตพฺพฏฺเน.
อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๑๐.) ทสกนิทฺเทโส
ปมพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๙. อวิชฺชมานํ ¶ านํ อฏฺานํ, นตฺถิ านนฺติ วา อฏฺานํ. เอส ‘‘อนวกาโส’’ติ เอตฺถาปิ นโย. ตทตฺถนิคมนมตฺตเมว หิ ‘‘เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ วจนนฺติ. อสุเข สุขนฺติ ทิฏฺิวิปลฺลาโสว อิธ สุขโต อุปคมนสฺส านนฺติ อธิปฺเปตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกนฺต…เป… อตฺตทิฏฺิวเสนา’’ติ ปธานทิฏฺิมาห. เภทานุรูปสฺส สาวนํ อนุสฺสาวนํ, เภทานุรูเปน วา วจเนน วิฺาปนํ.
ลิงฺเค ¶ ปริวตฺเต จ โส เอว เอกกมฺมนิพฺพตฺติโต ภวงฺคปฺปพนฺโธ ชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺโธ จ, นาฺโติ อาห ‘‘อปิ ปริวตฺตลิงฺค’’นฺติ. อยํ ปฺโหติ าปนิจฺฉานิพฺพตฺตา กถา.
สงฺคามจตุกฺกํ สปตฺตวเสน โยเชตพฺพํ. สพฺพตฺถ จ ปุริมํ อภิสนฺธิจิตฺตํ อปฺปมาณํ, วธกจิตฺตํ ปน ตทารมฺมณฺจ ชีวิตินฺทฺริยํ อานนฺตริยานานนฺตริยภาเว ปมาณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปุถุชฺชนสฺเสว ตํ ทินฺนํ โหติ. กสฺมา? ยถา วธกจิตฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณมฺปิ ชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺธวิจฺเฉทนวเสน อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตติ, น เอวํ จาคเจตนา. สา หิ จชิตพฺพํ อารมฺมณํ กตฺวา จชนมตฺตเมว โหติ, อฺสกกรณฺจ ตสฺส จชนํ, ตสฺมา ยสฺส ตํ สกํ กตํ, ตสฺเสว ทินฺนํ โหตีติ.
สณฺ…เป… กปฺปวินาเสเยว มุจฺจตีติ อิทํ กปฺปฏฺกถาย น สเมติ. ตตฺถ หิ อฏฺกถายํ (กถา. อฏฺ. ๖๕๔-๖๕๗) วุตฺตํ ‘‘อาปายิโกติ อิทํ สุตฺตํ ยํ โส เอกํ กปฺปํ อสีติภาเค กตฺวา ตโต เอกภาคมตฺตํ กาลํ ติฏฺเยฺย, ตํ อายุกปฺปํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. กปฺปวินาเสเยวาติ ปน อายุกปฺปวินาเสเยวาติ อตฺเถ สติ นตฺถิ วิโรโธ. เอตฺถ จ สณฺหนฺเตติ อิทํ สฺเว วินสฺสิสฺสตีติ วิย อภูตปริกปฺปวเสน วุตฺตํ. เอกทิวสเมว ปจฺจติ ตโต ปรํ กปฺปาภาเวน อายุกปฺปสฺสปิ อภาวโตติ อวิโรธโต อตฺถโยชนา ทฏฺพฺพา.
ปกตตฺโตติ อนุกฺขิตฺโต. สมานสํวาสโกติ อปาราชิโก.
กึ ¶ ปน ตนฺติ โย โส ‘‘นิยโต’’ติ วุตฺโต, ตํ กึ นิยเมตีติ อตฺโถ. ตสฺเสว ปน ยถาปุจฺฉิตสฺส นิยตสฺส มิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยตธมฺมานํ วิย สภาวโต วิชฺชมานตํ ยถาปุจฺฉิตฺจ นิยามกเหตุํ ปฏิเสเธตฺวา เยน ‘‘นิยโต’’ติ ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิโก’’ติ จ วุจฺจติ, ตํ ยถาธิปฺเปตการณํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน หี’’ติอาทิมาห. ชาตสฺส กุมารสฺส วิย อริยาย ชาติยา ชาตสฺส นามมตฺตเมตํ นิยตสตฺตกฺขตฺตุปรมาทิกํ, นิยตานิยตเภทํ นามนฺติ อตฺโถ. ยทิ ปุพฺพเหตุ นิยามโก, โสตาปนฺโน จ นิยโตติ โสตาปตฺติมคฺคโต อุทฺธํ ติณฺณํ มคฺคานํ อุปนิสฺสยภาวโต ปุพฺพเหตุกิจฺจํ, ตโต ปุพฺเพ ปน ปุพฺพเหตุกิจฺจํ นตฺถีติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อุปนิสฺสยาภาโว อาปชฺชติ. ยทิ หิ ตสฺสปิ ปุพฺพเหตุ อุปนิสฺสโย สิยา, โส จ นิยามโกติ โสตาปตฺติมคฺคุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ เอว นิยโต สิยา, ตฺจ อนิฏฺํ, ตสฺมาสฺส ¶ ปุพฺพเหตุนา อเหตุกตา อาปนฺนาติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘อิจฺจสฺส อเหตุ อปฺปจฺจยา นิพฺพตฺตึ ปาปุณาตี’’ติ.
ปฏิลทฺธมคฺโค โสตาปตฺติมคฺโค, เตเนว สตฺตกฺขตฺตุปรมาทินิยเม สติ สตฺตมภวาทิโต อุทฺธํ ปวตฺตนกสฺส ทุกฺขสฺส มูลภูตา กิเลสา เตเนว ขีณาติ อุปริ ตโย มคฺคา อกิจฺจกา โหนฺตีติ อตฺโถ. ยทิ อุปริ ตโย มคฺคา สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิกํ นิยเมนฺติ, ตโต จ อฺโ โสตาปนฺโน นตฺถีติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อกิจฺจกตา นิปฺปโยชนตา อาปชฺชตีติ อตฺโถ. อถ สกฺกายทิฏฺาทิปฺปหานํ ทสฺสนกิจฺจํ, เตสํ ปหาเนน สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิตาย ภวิตพฺพํ. สา จุปริมคฺเคหิ เอว โหตีติ สตฺตมภวาทิโต อุทฺธํ ปวตฺติโต เตน วินา วุฏฺาเน สกฺกายทิฏฺาทิปฺปหาเนน จ เตน วินา ภวิตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปมมคฺเคน จ อนุปฺปชฺชิตฺวาว กิเลสา เขเปตพฺพา โหนฺตี’’ติ. น อฺโ โกจิ นิยเมตีติ นามกรณนิมิตฺตโต วิปสฺสนาโต อฺโ โกจิ นิยามโก นาม นตฺถีติ อตฺโถ. วิปสฺสนาว นิยเมตีติ จ นามกรณนิมิตฺตตํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อิติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน คหิตนามมตฺตเมว ต’’นฺติ.
น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถีติ ‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชตี’’ติอาทึ (ม. นิ. ๑.๒๘๕; ๒.๓๔๑; มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕) อิมิสฺสา โลกธาตุยา ตฺวา วทนฺเตน ภควตา ‘‘กึ ปนาวุโส ¶ สาริปุตฺต, อตฺเถตรหิ อฺเ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภควตา สมสมา สมฺโพธิยนฺติ เอวํ ปุฏฺาหํ, ภนฺเต, โนติ วเทยฺย’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๖๑) วตฺวา ตสฺส การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๙) อิมํ สุตฺตํ ทสฺเสนฺเตน ธมฺมเสนาปตินา จ พุทฺธกฺเขตฺตภูตํ อิมํ โลกธาตุํ เปตฺวา อฺตฺถ อนุปฺปตฺติ วุตฺตา โหตีติ อธิปฺปาโย.
‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติอาทินา วุตฺตานิ สิกฺขาปทานิ มาติกา, ตาย อนฺตรหิตาย นิทานุทฺเทสสงฺขาเต ปาติโมกฺเข ปพฺพชฺชูปสมฺปทากมฺเมสุ จ สาสนํ ติฏฺตีติ อตฺโถ. ปาติโมกฺเข วา อนฺโตคธา ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา จ ตทุภยาภาเว ปาติโมกฺขาภาวโต, ตสฺมา ปาติโมกฺเข, ตาสุ จ สาสนํ ติฏฺตีติ วุตฺตํ. โอสกฺกิตํ นามาติ ปจฺฉิมปฏิเวธสีลเภททฺวยํ เอกโต กตฺวา ตโต ปรํ วินฏฺํ นาม โหตีติ อตฺโถ.
ตาติ รสฺมิโย. การฺุนฺติ ปริเทวนการฺุํ.
อนจฺฉริยตฺตาติ ¶ ทฺวีสุ อุปฺปชฺชมาเนสุ อจฺฉริยตฺตาภาวโทสโตติ อตฺโถ. วิวาทภาวโตติ วิวาทาภาวตฺถํ ทฺเว น อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ.
เอกํ พุทฺธํ ธาเรตีติ เอกพุทฺธธารณี. เอเตน เอวํสภาวา เอเต พุทฺธคุณา, เยน ทุติยพุทฺธคุเณ ธาเรตุํ อสมตฺถา อยํ โลกธาตูติ ทสฺเสติ. ปจฺจยวิเสสนิปฺผนฺนานฺหิ ธมฺมานํ สภาววิเสโส น สกฺกา ธาเรตุนฺติ. สมํ อุทฺธํ ปชฺชตีติ สมุปาทิกา, อุทกสฺโสปริ สมํ คามินีติ อตฺโถ. ทฺวินฺนมฺปีติ ทฺเวปิ, ทฺวินฺนมฺปิ วา สรีรภารํ. ฉาเทนฺตนฺติ โรจยมานํ. สกึ ภุตฺโตวาติ เอกมฺปิ อาโลปํ อชฺโฌหริตฺวาว มเรยฺยาติ อตฺโถ.
อติธมฺมภาเรนาติ ธมฺเมน นาม ปถวี ติฏฺเยฺย, สา กึ เตเนว จลตีติ อธิปฺปาโย. ปุน เถโร ‘‘รตนํ นาม โลเก กุฏุมฺพํ สนฺธาเรนฺตํ อภิมตฺจ โลเกน อตฺตโน ครุสภาวตาย สกฏภงฺคสฺส การณํ อติภารภูตํ ทิฏฺํ. เอวํ ธมฺโม จ หิตสุขวิเสเสหิ ตํสมงฺคินํ ธาเรนฺโต อภิมโต จ วิฺูหิ คมฺภีราปฺปเมยฺยภาเวน ครุสภาวตฺตา อติภารภูโต ปถวีจลนสฺส การณํ โหตี’’ติ ทสฺเสนฺโต ¶ ‘‘อิธ, มหาราช, ทฺเว สกฏา’’ติอาทิมาห. เอกสฺสาติ เอกสฺมา, เอกสฺส วา สกฏสฺส รตนํ, ตสฺมา สกฏโต คเหตฺวาติ อตฺโถ. โอสาริตนฺติ ปเวสิตํ อาหฏํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
สภาวปกติกาติ อกิตฺติมปกติกาติ อตฺโถ. การณมหนฺตตฺตาติ มหนฺเตหิ ปารมิตาการเณหิ พุทฺธคุณานํ นิพฺพตฺติโตติ วุตฺตํ โหติ. ปถวีอาทโย มหนฺตา อตฺตโน อตฺตโน วิสเย เอเกกาว, เอวํ สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ มหนฺโต อตฺตโน วิสเย เอโก เอว. โก จ ตสฺส วิสโย? ยาวตกํ เยฺยํ, เอวํ อากาโส วิย อนนฺตวิสโย ภควา เอโก เอว โหตีติ วทนฺโต โลกธาตฺวนฺตเรสุปิ ทุติยสฺส อภาวํ ทสฺเสติ.
ปุพฺพภาเค อายูหนวเสน อายูหนสมงฺคิตา สนฺนิฏฺานเจตนาวเสน เจตนาสมงฺคิตา จ เวทิตพฺพา, สนฺตติขณวเสน วา. วิปาการหนฺติ ทุติยภวาทีสุ วิปจฺจนปกติตํ สนฺธาย วทติ. จลตีติ ปริวตฺตติ. สุนเขหิ วชนสีโล สุนขวาชิโก.
ปมพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๑๐. คติโต ¶ อฺา คติสมฺปตฺติ นาม นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺปนฺนา คตี’’ติ อาห. มหาสุทสฺสนาทิสุราชกาโล ปมกปฺปิกาทิสุมนุสฺสกาโล จ กาลสมฺปตฺติ.
เอกนฺตํ กุสลสฺเสว โอกาโสติ อิทํ ยทิปิ โกจิ กายสุจริตาทิปโยคสมฺปตฺติยํ ิตํ พาเธยฺย, ตํ ปน พาธนํ พาธกสฺเสว อิสฺสาทินิมิตฺเตน วิปรีตคฺคาเหน ชาตํ. สา ปโยคสมฺปตฺติ สภาวโต สุขวิปากสฺเสว ปจฺจโย, น ทุกฺขวิปากสฺสาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. มกฺกโฏ ภตฺตปุฏํ พนฺธฏฺาเน มฺุจิตฺวา ภฺุชิตุํ น ชานาติ, ยตฺถ วา ตตฺถ วา ภินฺทิตฺวา วินาเสติ, เอวํ อนุปายฺูปิ โภเค. สุสาเน ฉฑฺเฑตฺวาติอาทินา ฆาเตตฺวา ฉฑฺฑิตสฺส วุฏฺานาภาโว วิย อปายโต วุฏฺานาภาโวติ ทสฺเสติ.
‘‘ปจฺจรี’’ติปิ ¶ อุฬุมฺปสฺส นามํ, เตน เอตฺถ กตา ‘‘มหาปจฺจรี’’ติ วุจฺจติ. อุทเก มรณํ ถเล มรณฺจ เอกเมวาติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ สกฺเกน ‘‘สมุทฺทารกฺขํ กริสฺสามี’’ติ วุตฺตนฺติ? สจฺจํ วุตฺตํ, ชีวิตสฺส ลหุปริวตฺติตํ ปกาเสนฺเตหิ เถเรหิ เอวํ วุตฺตํ, ลหุปริวตฺติตาย ชีวิตเหตุ น คมิสฺสามาติ อธิปฺปาโย. อถ วา อุทเกติ นาคทีปํ สนฺธาย วุตฺตํ, ถเลติ ชมฺพุทีปํ.
เถโร น เทตีติ กถมหํ เอเตน าโต, เกนจิ กิฺจิ อาจิกฺขิตํ สิยาติ สฺาย น อทาสิ. เตเนว ‘‘มยมฺปิ น ชานามา’’ติ วุตฺตํ. อปรสฺสาติ อปรสฺส ภิกฺขุโน ปตฺตํ อาทาย…เป… เถรสฺส หตฺเถ เปสีติ โยชนา. อนายตเนติ นิกฺการเณ, อยุตฺเต วา นสฺสนฏฺาเน. ตุวํ อตฺตานํ รกฺเขยฺยาสิ, มยํ ปน มหลฺลกตฺตา กึ รกฺขิตฺวา กริสฺสาม, มหลฺลกตฺตา เอว จ รกฺขิตุํ น สกฺขิสฺสามาติ อธิปฺปาโย. อนาคามิตฺตา วา เถโร อตฺตนา วตฺตพฺพํ ชานิตฺวา โอวทติ.
สมฺมาปโยคสฺส คตมคฺโคติ สมฺมาปโยเคน นิปฺผาทิตตฺตา ตสฺส สฺชานนการณนฺติ อตฺโถ.
ภูตมตฺถํ ¶ กตฺวา อภูโตปมํ กถยิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. มนุสฺสาติ ภณฺฑาคาริกาทินิยุตฺตา มนุสฺสา มหนฺตตฺตา สมฺปฏิจฺฉิตุํ นาสกฺขึสุ.
ทุติยพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๑๑. อฺจิตาติ คตา. เปจฺจาติ ปุน, มริตฺวาติ วา อตฺโถ. อุสฺสนฺนตฺตาติ วิตกฺกพหุลตาย อุสฺสนฺนตฺตาติ วทนฺติ, สูรตาทีหิ วา อุสฺสนฺนตฺตา. ทิพฺพนฺตีติ กีฬนฺติ.
สฺชีวกาฬสุตฺตสงฺฆาตโรรุวมหาโรรุวตาปนมหาตาปนอวีจิโย อฏฺ มหานิรยา. เอเกกสฺส จตฺตาริ ทฺวารานิ, เอเกกสฺมึ ทฺวาเร จตฺตาโร จตฺตาโร คูถนิรยาทโยติ เอวํ โสฬส อุสฺสทนิรเย วณฺณยนฺติ.
สกฺกสุยามาทโย ¶ วิย เชฏฺกเทวราชา. ปชาปติวรุณอีสานาทโย วิย ทุติยาทิฏฺานนฺตรการโก ปริจารโก หุตฺวา.
ตติยพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุตฺถพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๑๒. กปฺโปติ ทฺเวธาภูตคฺโค. เอตฺถ จ พีชาทิธาตุนานตฺตวเสน ขนฺธาทิธาตุนานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
จตุตฺถพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจมพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๑๓. อชฺฌาสยธาตูติ ¶ อชฺฌาสยสภาโว. ยถา คูถาทีนํ ธาตุสภาโว เอโส, ยํ คูถาทีเหว สํสนฺทติ, เอวํ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยสฺเสเวส สภาโว, ยํ ทุสฺสีลาทโย ทุสฺสีลาทิเกเหว สํสนฺทนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ภิกฺขูปิ อาหํสูติ อฺมฺํ อาหํสุ. อาวุโส อิเม มนุสฺสา ‘‘ยถาสภาเคน ปริภฺุชถา’’ติ วทนฺตา อมฺเห สภาคาสภาเค วิทิตฺวา หีนชฺฌาสยปณีตชฺฌาสยตํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ธาตุสํยุตฺตกมฺเม อุปเนนฺติ ตสฺส ปโยคํ ทฏฺุกามาติ อตฺโถ, เอวํ สภาควเสเนว อชฺฌาสยธาตุปริจฺฉินฺทนโต อชฺฌาสยธาตุสภาควเสน นิยเมตีติ อธิปฺปาโย.
ปฺจมพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฉฏฺพลนิทฺเทสวณฺณนา
จริตนฺติ อิธ ทุจฺจริตํ สุจริตนฺติ วุตฺตํ. อปฺปรชํ อกฺขํ เอเตสนฺติ อปฺปรชกฺขาติ อตฺโถ วิภาวิโต, อปฺปรชํ อกฺขิมฺหิ เอเตสนฺติ อปฺปรชกฺขาติปิ สทฺทตฺโถ สมฺภวติ. เอตฺถ จ อาสยชานนาทินา เยหิ ¶ อินฺทฺริเยหิ ปโรปเรหิ สตฺตา กลฺยาณปาปาสยาทิกา โหนฺติ, เตสํ ชานนํ วิภาเวตีติ เวทิตพฺพํ. เอวฺจ กตฺวา อินฺทฺริยปโรปริยตฺตอาสยานุสยาณานํ วิสุํ อสาธารณตา, อินฺทฺริยปโรปริยตฺตนานาธิมุตฺติกตาาณานํ วิสุํ พลตา จ สิทฺธา โหติ.
๘๑๕. ยทริยาติ เย อริยา. อาวสึสูติ นิสฺสาย วสึสุ. เก ปน เต? ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต เอการกฺโข จตุราปสฺเสโน ปนุณฺณปจฺเจกสจฺโจ สมวยสฏฺเสโน อนาวิลสงฺกปฺโป ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร สุวิมุตฺตจิตฺโต สุวิมุตฺตปฺโ’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘; อ. นิ. ๑๐.๑๙) เอวํ วุตฺตา. เอเตสุ ปฺจงฺควิปฺปหีนปจฺเจกสจฺจปโนทนเอสนาสมวยสชฺชนานิ ‘‘สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ อธิวาเสติ ปริวชฺเชติ วิโนเทตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๖๘) วุตฺเตสุ อปสฺเสเนสุ วิโนทนฺจ มคฺคกิจฺจาเนว, อิตเร จ มคฺเคเนว สมิชฺฌนฺติ. เตนาห ‘‘เอตฺหิ สุตฺตํ…เป… ทีเปตี’’ติ.
๘๑๖. อารมฺมณสนฺตานานุสยเนสุ ¶ อิฏฺารมฺมเณ อารมฺมณานุสยเนน อนุเสติ. อาจิณฺณสมาจิณฺณาติ เอเตน สมนฺตโต เวเตฺวา วิย ิตภาเวน อนุสยิตตํ ทสฺเสติ. ภวสฺสปิ วตฺถุกามตฺตา, ราควเสน วา สมานตฺตา ‘‘ภวราคานุสโย…เป… สงฺคหิโต’’ติ อาห.
๘๑๘. ‘‘ปณีตาธิมุตฺติกา ติกฺขินฺทฺริยา, อิตเร มุทินฺทฺริยา’’ติ เอวํ อินฺทฺริยวิเสสทสฺสนตฺถเมว อธิมุตฺติคฺคหณนฺติ อาห ‘‘ติกฺขินฺทฺริยมุทินฺทฺริยภาวทสฺสนตฺถ’’นฺติ.
๘๑๙. ปหานกฺกมวเสนาติ เอตฺถ ปหาตพฺพปชหนกฺกโม ปหานกฺกโมติ ทฏฺพฺโพ, ยสฺส ปหาเนน ภวิตพฺพํ, ตํ เตเนว ปหาเนน ปมํ วุจฺจติ, ตโต อปฺปหาตพฺพนฺติ อยํ วา ปหานกฺกโม.
๘๒๐. มคฺคสฺส อุปนิสฺสยภูตานิ อินฺทฺริยานิ อุปนิสฺสยอินฺทฺริยานิ.
๘๒๖. นิพฺพุติฉนฺทรหิตตฺตา อจฺฉนฺทิกฏฺานํ ปวิฏฺา. ยสฺมึ ภวงฺเค ปวตฺตมาเน ตํสนฺตติยํ โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺตติ, ตํ ตสฺส ปาทกํ.
ฉฏฺพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สตฺตมพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๒๘. นิทฺทายิตฺวาติ ¶ กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรนฺโต นิทฺทํ โอกฺกมิตฺวา ปฏิพุทฺโธ สมาปตฺตึ สมาปนฺโนมฺหีติ อตฺโถ. นีวรณาทีหิ วิสุทฺธจิตฺตสนฺตติ เอว จิตฺตมฺชูสา, สมาธิ วา, กมฺมฏฺานํ วา. จิตฺตํ เปตุนฺติ สมาปตฺติจิตฺตํ เปตุํ. สฺาเวทยิตานํ อปคโม เอว อปคมวิโมกฺโข.
สฺามนสิการานํ กามาทิทุติยชฺฌานาทิปกฺขนฺทนานิ ‘‘หานภาคิยวิเสสภาคิยธมฺมา’’ติ ¶ ทสฺสิตานิ, เตหิ ปน ฌานานํ ตํสภาวตา ธมฺม-สทฺเทน วุตฺตา. ปคุณภาวโวทานํ ปคุณโวทานํ. ตเทว ปมชฺฌานาทีหิ วุฏฺหิตฺวา ทุติยชฺฌานาทิอธิคมสฺส ปจฺจยตฺตา ‘‘วุฏฺานํ นามา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺานํ, ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ อิมาย วุฏฺานปาฬิยา อสงฺคหิตตฺตา นิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺานํ ‘‘ปาฬิมุตฺตกวุฏฺานํ นามา’’ติ วุตฺตํ. เย ปน ‘‘นิโรธโต ผลสมาปตฺติยา วุฏฺาน’’นฺติ ปาฬิ นตฺถีติ วเทยฺยุํ, เต ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส เนวสฺานาสฺายตนํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) อิมาย ปาฬิยา ปฏิเสเธตพฺพา.
สตฺตมพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทสมพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๓๑. ราคาทีหิ เจตโส วิมุตฺติภูโต สมาธิ เจโตวิมุตฺติ. ปฺาว วิมุตฺติ ปฺาวิมุตฺติ. กมฺมนฺตรวิปากนฺตรเมวาติ กมฺมนฺตรสฺส วิปากนฺตรเมวาติ อตฺโถ. เจตนาเจตนาสมฺปยุตฺตกธมฺเม นิรยาทินิพฺพานคามินิปฏิปทาภูเต กมฺมนฺติ คเหตฺวา อาห ‘‘กมฺมปริจฺเฉทเมวา’’ติ. อปฺเปตุํ น สกฺโกติ อฏฺมนวมพลานิ วิย, ตํสทิสํ อิทฺธิวิธาณํ วิย วิกุพฺพิตุํ. เอเตน ทสพลสทิสตฺจ วาเรติ, ฌานาทิาณํ วิย วา อปฺเปตุํ วิกุพฺพิตฺุจ. ยทิปิ หิ ฌานาทิปจฺจเวกฺขณาณํ สตฺตมพลนฺติ ตสฺส สวิตกฺกสวิจารตา วุตฺตา, ตถาปิ ฌานาทีหิ ¶ วินา ปจฺจเวกฺขณา นตฺถีติ ฌานาทิสหคตํ าณํ ตทนฺโตคธํ กตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา สพฺพฺุตฺาณํ ฌานาทิกิจฺจํ วิย น สพฺพํ พลกิจฺจํ กาตุํ สกฺโกตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตฺหิ ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุํ อิทฺธิ หุตฺวา วิกุพฺพิตฺุจ น สกฺโกตี’’ติ วุตฺตํ, น ปน กสฺสจิ พลสฺส ฌานอิทฺธิภาวโตติ ทฏฺพฺพํ.
ทสมพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
าณวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.