📜

๔. สจฺจวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา

อุทฺเทสวณฺณนา

๑๘๙. สจฺจวินิมุตฺตํนตฺถิ ปวตฺตินิวตฺติตทุภยเหตุสนฺทสฺสนวเสน ปวตฺตนโต. สจฺเจสุ กมตีติ สจฺเจสุ วิสยภูเตสุ ปวตฺตติ. เทเสตพฺพตฺถวิสยา หิ เทสนาติ. เอเตสุ กมตีติ เอเตสุ อริยสจฺเจสุ ปริฺาทิกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺตติ. ‘‘สีลสมาธิปฺาสงฺขาต’’นฺติ วุตฺตํ อตฺถสภาวํ กมนกิริยาย กตฺตุภาเวน คหิตนฺติ ปากฏตรํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กึ กมตี’’ติ ปุจฺฉติ. ตพฺโพหาเรนาติ ตทุปจาเรน. เอเตน นิปฺปริยาเยน อตฺถสภาวํ สาสนํ, ปริยาเยน วจนสภาวนฺติ ทสฺเสติ.

ตํสภาวาติ ทุกฺขาทิสภาวา. อมุสาสภาวาติ พาธนาทิภาเวน ภูตสภาวา. อฺาการรหิตาติ อพาธนาทิอาการวิวิตฺตา. ทฺวิธาติ ทุกฺขทุกฺขตาตนฺนิมิตฺตตาหิ. ราคาทิกิเลสปริฬาโห กิเลสทาโห. สนฺตานสฺส อวิปฺผาริกตากรณํ ปุคฺคลหึสนํ. อตฺตโน เอว ติขิณภาโวติ สงฺขตธมฺมสฺส อตฺตโน สภาเวเนว รุชาวหติกฺขภาโว. สรเสเนวาติ สภาเวเนว. สมฺปิณฺฑกสฺส สมุทยสฺส, กิเลสสนฺตาปรหิตสฺส มคฺคสฺส, อวิปริณามสฺส นิโรธสฺส ทสฺสเนน ยถาสงฺขฺยํ ทุกฺขสฺส สงฺขตสนฺตาปวิปริณามฏฺา อาวิ ภวนฺตีติ อาห ‘‘อิตเร ยถากฺกมํ สมุทยมคฺคนิโรธทสฺสเนหิ อาวิภวนาการา’’ติ. พฺยาเปตฺวาติ ภวาทีสุ นานารมฺมเณสุ จ วิสฏา หุตฺวา. อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ ‘‘อูหนํ ราสิกรณ’’นฺติ วตฺวา ปุน ตทตฺถํ วิวรติ ‘‘ทุกฺขนิพฺพตฺตน’’นฺติ. เอกโวการภเวปิ หิ ราสิภูตเมว ทุกฺขํ นิพฺพตฺตติ อเนกธมฺมสมูหโต , ปเคว จตุปฺจโวการภเวสุ. เอตฺถ จ พฺยาปนตฺถํ อาการํ, ตสฺส จ ย-การาคมํ กตฺวา สมฺปิณฺฑนตฺถํ อายูหนนฺติ ปทํ เวทิตพฺพํ. นิททาตีติ ทุกฺขสฺส เอกนฺตการณตฺตา ตํ นิทสฺเสนฺตํ วิย ชเนตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทํ ตํ ทุกฺข’’นฺติอาทิมาห. ทุกฺข…เป… อาวิ ภวติ โรคทสฺสเนน วิย โรคนิทานํ. สํโยค…เป… ทสฺสเนหีติ สํโยคฏฺโ วิสํโยคสภาวสฺส นิโรธสฺส, ปลิโพธฏฺโ นิยฺยานสภาวสฺส มคฺคสฺส ทสฺสเนน อาวิ ภวตีติ อตฺโถ. เตติ สํโยคปลิโพธฏฺา.

เอตฺถาติ เอตสฺมึ อารมฺมณภูเต สติ. สมุทยโต วิเวโก วิเวกฏฺโ. นิโรโธ จ ตณฺหากฺขยภาวโต สมุทยโต วิวิตฺโต, ตสฺมา อวิเวกภูตสฺส สมุทยสฺส ทสฺสเนน นิโรธสฺส วิเวกฏฺโ อาวิ ภวติ, นิพฺพานาธิคมเหตุภูตสฺสาปิ มคฺคสฺส สปฺปจฺจยตาย สงฺขตภาวํ ปสฺสโต อปฺปจฺจยสฺส นิโรธสฺส อสงฺขตฏฺโ อาวิ ภวติ, ตถา มรณธมฺมตาย ทุกฺขํ วินสฺสนฺตํ ปสฺสโต อมรณธมฺมสฺส นิโรธสฺส อมตฏฺโ อาวิ ภวตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘วิเวกา’’ติอาทินา. อิตเร สมุทยนิโรธทุกฺขทสฺสเนหีติ เอตฺถ สมุทยทสฺสเนน ‘‘นายํ เหตุ นิพฺพานาธิคมาย, อยํ ปน เหตู’’ติ เหตุฏฺโ อาวิ ภวติ. ตถา ปรมคมฺภีรสฺส นิปุณตรสฺส ทุทฺทสสฺส นิโรธสฺส ทสฺสเนน ทสฺสนฏฺโ สุขุมรูปทสฺสเนน จกฺขุโน วิย, ทุกฺขทสฺสเนน ปน อเนกโรคาตุรกปณชนทสฺสเนน อิสฺสรชนสฺส อุฬารภาโว วิย มคฺคสฺส อาธิปเตยฺยฏฺโ อาวิ ภวติ.

เต ปเนเต เหตุฏฺาทิเก สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ปลิโพธุปจฺเฉทวเสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปลิโพธุปจฺเฉทวเสนาติ สมุทยปฺปหานวเสน. ‘‘มคฺคาธิปติโน ธมฺมา’’ติ วจนโตติ ยสฺมา สติปิ ฌานาทีนํ อารมฺมณาธิปติภาเว ‘‘ฌานาธิปติโน ธมฺมา’’ติ เอวมาทิ น วุตฺตํ, ‘‘มคฺคาธิปติโน ธมฺมา’’ อิจฺเจว ปน วุตฺตํ. ตสฺมา สาติสโย มคฺคงฺคธมฺมานํ อารมฺมณาธิปติภาโว. เตนาห ‘‘วิเสสโต วา อารมฺมณาธิปติภูตา มคฺคงฺคธมฺมา โหนฺตี’’ติ. โส เตสํ อากาโรติ โย มคฺคงฺคานํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณวเสน ปวตฺตธมฺมานํ อารมฺมณาธิปติปจฺจยตาสงฺขาโต อากาโร, โส มคฺคสฺส อาธิปเตยฺยฏฺโ. ปุริโม ปน อาธิปเตยฺยฏฺโ สหชาตาธิปติวเสน วุตฺโต. อภิสเมตพฺพฏฺโติ ยถาวุตฺตปีฬนาทิอตฺถเมว ปฏิวิชฺฌิตพฺพตาย เอกชฺฌํ กตฺวา วทติ. เตน อภิสมยสทฺทํ กมฺมตฺถํ ทสฺเสติ. อภิสมยสฺสาติ าณสฺส. ปวตฺติอากาโรติ ปริชานนาทิวิเสสากาโร. โส หิ มคฺคกฺขเณ อสมฺโมหโต สิทฺโธ, ปจฺฉา ปจฺจเวกฺขณาทินา ปากโฏ โหติ. อากาโรปิ าเณน อรณียโต อตฺโถติ วุจฺจตีติ กตฺวา ตติยนโย ทสฺสิโต. ปีฬนาทินา ทสฺสิโต วิสยวิภาเคนปิ วิสยิวิภาโค โหติ ยถา ‘‘รูปสฺา, สทฺทสฺา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕๗).

กุจฺฉิตํนฺติ ครหิตํ หุตฺวา อสารํ. ‘‘สมาคโม’’ติอาทินา อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ สํ-สทฺทสฺส สํโยคตฺถโชตกตฺตมาห. ‘‘อุปฺปนฺนํ อุทิต’’นฺติอาทีสุ เกวลสฺส ปนฺน-สทฺทสฺส, อิต-สทฺทสฺส จ ปโยเค อุปฺปตฺติอตฺถสฺส อนุปลพฺภนโต, อุ-สทฺทสฺส จ ปโยเค อุปลพฺภนโต โส อุปฺปตฺติอตฺถํ ทีเปตีติ อาห ‘‘เอวํ อุปฺปนฺนํ อุทิตนฺติ เอตฺถาปี’’ติ. วิสุํ ปยุชฺชมานาติ อาคม-อิต-ปเทหิ วินา ปยุชฺชมานา. สธาตุกนฺติ อนฺโตนีเตน ธาตุนา สธาตุกํ. เตเนว เต ‘‘อุปสคฺคา’’ติ จ วุตฺตา.

ทุกฺขวิเวกภาวนฺติ ทุกฺขวิวิตฺตตํ. นิวตฺติยาติ นิพฺพานสฺส. นิวตฺเตตฺวาติ อนุปฺปาทสทฺเทน วิเสสนวเสน นิวตฺเตตฺวา. นิโรธปจฺจยตา นิโรธสฺส มคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยตา. ปุคฺคลสจฺฉิกิริยาธมฺมภาเวหีติ ปุคฺคลธมฺมภาเวน สจฺฉิกรณธมฺมภาเวน จ. ผลนฺติ อริยผลํ. ตสฺสาติ นิฏฺานภูตาย ผลสงฺขาตาย ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา อภิสมยภูตาย ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา ปฏิปทตา ทฏฺพฺพา.

ปฏิวิชฺฌนกาเล นิปฺปริยาเยน พุทฺธาทิสมฺาติ อาห ‘‘ปฏิวิทฺธกาเล ปวตฺต’’นฺติ. ตโต เอวาติ เตน ปกาสิตตฺตา เอว.

ตนฺนิมิตฺตภาโวติ ชาติอาทิ วิย อธิฏฺานภาเวน ทุกฺขสฺส การณภาโว, น สมุทยสจฺจํ วิย ปภวภาเวน. อุทยพฺพยปีฬิตภาโว สงฺขารทุกฺขตา. ปวตฺตนเมวาติ ปวตฺติ เอว. กิจฺจํ รโสติ รสสฺส กิจฺจตฺถตํ ทสฺเสติ. ปวตฺตินิวตฺตีสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. อวิการตา วิการาภาโว นิจฺจตา.

มรีจิมายาอตฺตานนฺติ มรีจิยา มายาย อตฺตโน จ อริยาณสฺสาติ อริยานํ าณสฺส. เตน อริยานํ มคฺคาณานุสาเรน ปวตฺตนกาณมฺปิ สงฺคหิตํ โหติ. เตนาห ‘‘อวิตถคาหกสฺสา’’ติอาทิ . เตสนฺติ ปฏิเวธปจฺจเวกฺขณาณานํ. ตตฺถ ปฏิเวธาณสฺส ปฏิวิชฺฌิตพฺพตา โคจรภาโว, อิตรสฺส อารมฺมณภาโว. ปฏิวิชฺฌิตพฺพตา, อารมฺมณภาโว วา ปฏิเวธาณสฺส โคจรภาโว, อิตรสฺส อารมฺมณภาโวว.

พาธกปฺปภวภาเวนาติ พาธกสฺส อุปฺปาทกภาเวน วิสุํ คหิตตฺตา น ตณฺหา พาธกภาเวน คหิตา ปวตฺติปวตฺติเหตูนํ อสงฺกรวเสน โพธนโต. เอวฺจ กตฺวา อภิธมฺมภาชนีเยปิ อยมตฺถวณฺณนา ยุชฺชเตว . ยทิปิ เอวํ ‘‘ทุกฺขเมว พาธก’’นฺติ นิยมานุปปตฺติ, สมุทยภาวปฺปสงฺโค จาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ชาติอาทีนํ วิย วา’’ติอาทิ. พาธกตฺตสฺส พาธกตฺเต จ นิยโมติ อาห ‘‘ทฺวิธาปิ พาธกตฺถาวธารเณนา’’ติ. ยถา หิ พาธกตฺตสฺส ทุกฺเข นิยตตา, เอวํ ทุกฺขสฺส จ พาธกตฺเต นิยตตาติ. สุตฺตนฺตภาชนีเย ตณฺหาย เอว สมุทยภาวสฺส ทสฺสิตตฺตา ตณฺหาวเสน นิยมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น ตณฺหาย วินา’’ติอาทิมาห. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา เหสาติ. ‘‘กุสเลหิ วินา’’ติอาทินา ทุกฺขเหตุตาย ตณฺหาย ปธานภาวมาห. ตถา หิ สา กมฺมวิจิตฺตตาย เหตุภาวํ คจฺฉนฺตี วิเสเสน กมฺมสฺส สหการิการณํ โหตีติ. ทฺวิธาปิ นิยเมนาติ มคฺโคว นิยฺยานํ, นิยฺยานเมว จ มคฺโคติ ทฺวิปฺปกาเรน นิยเมน.

วจีสจฺจํ สจฺจวาจา, ตํสมุฏฺาปิกา เจตนา จาติ อาห ‘‘วิรติสจฺเจติ มุสาวาทวิรติย’’นฺติ. เกจิ ปน ‘‘วิรติสจฺจํ สมาทานวิรตี’’ติ วทนฺติ, เตสมฺปิ น สมาทานมตฺตํ วิรติสจฺจํ, อถ โข สมาทานาวิสํวาทนํ. ตํ ปน ปฏิฺาสจฺจตฺตา มุสาวาทวิรติเยว โหติ. เตนาห ‘‘น หิ อฺวิรตีสุ สจฺจสทฺโท นิรุฬฺโห’’ติ. สติปิ ทุกฺขสมุทยาวโพเธ ยาวเทว นิโรธมคฺคาธิคมตฺถา ปฺาภาวนาติ ปจฺฉิมทฺวยสฺเสว สจฺจตฺถํ สาติสยํ, ตทธิคมสฺส จ อวิวาทเหตุกํ สุตฺเต วิภาวิตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺส ปนา’’ติอาทิมาห.

านํ นตฺถีติ อตฺตโน วาทปติฏฺาปนการณํ นตฺถีติ อตฺโถ. อตฺตภาวปฏิลาเภเนว สตฺตานํ ชาติอาทีนํ ปตฺติ สมฺมุขีภาโว จ ชายตีติ อาห ‘‘สมฺปตฺตตา, ปจฺจกฺขตา จ ปมตา’’ติ. ภควโต เทสนากฺกเมเนว วา ปมาทิตา ทฏฺพฺพา.

ปริชนนาทีหีติ ปริฺาปฺปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาหิ, นิสฺสกฺกวจนฺเจตํ อฺสทฺทเปกฺขาย. ธมฺมาณกิจฺจนฺติ สภาวธมฺมาวโพธกิจฺจํ. ปริฺเยฺยาทีนิ เอตปฺปรมาเนวาติ อิโต ปรํ เนยฺยํ นตฺถีติ ทสฺเสติ.

ทุกฺขาทีนํ อริยสจฺจภาวสฺส อนุรูปํ ยุตฺตํ, อาจริยปรมฺปราคตํ วา สวนํ อนุสฺสโว. สุตานุสาเรน, อฺถา วา กกฺขฬผุสนาทิอนิจฺจาทิสภาวสามฺาการปริคฺคณฺหนํ อาการปริวิตกฺโก. ยถาวิตกฺกิตาการสฺส ทิฏฺิสงฺขาตาย ทสฺสนภูตาย ปฺาย นิชฺฌานกฺขมนํ โรจนํ ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติ. อาทิจฺโจ วิย ปภาย นิโรธํ ผุสติ สจฺฉิกโรติ กิเลสนฺธการํ วิทฺธํเสติ. จตฺตาริปิ สจฺจานิ ปสฺสตีติ วุตฺตํ ‘‘โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสตี’’ติอาทินา.

กาลนฺตรทสฺสนนฺติ นานาภิสมยํ วทติ. เอกทสฺสิโนติ เอกสจฺจทสฺสิโน. น โยเชตพฺพา สิยาติ โยชนายฺจ สพฺพทสฺสนํ ทสฺสนนฺตรปรมนฺติ ทสฺสนานุปรโม อาปชฺเชยฺย, สจฺจานฺจ นานาภิสมเย ทุกฺขทสฺสนาทีหิ ปมมคฺคาทิปฺปเหยฺยานํ สํโยชนตฺตยาทีนํ เอกเทสปฺปหานํ อาปชฺชติ. ตถา จ สติ เอกเทสโสตาปตฺติมคฺคฏฺตา, ตทนนฺตรฺจ ปตฺตพฺเพน ผเลน เอกเทสโสตาปนฺนตา จ อาปชฺชติ, ตสฺมา น สจฺจานํ นานาภิสมโย ยุตฺโต. ยถา จ นานาภิสมโย น ยุตฺโต, เอวํ อารมฺมณาภิสมโยปิ. ยทิ หิ อารมฺมณกรเณน จตุสจฺจาภิสมโย อิจฺฉิโต, น มคฺโค สยเมว อตฺตานํ อารมฺมณํ กโรตีติ อปริปุณฺโณ สจฺจาภิสมโย สิยา. อฺเน มคฺเคน มคฺโค อาลมฺพียตีติ ปริปุณฺโณวาติ เจ? เอวํ สติ เยน มคฺเคน มคฺโค อาลมฺพิโต, โสปิ อฺเน, โสปิ อฺเนาติ อนวฏฺานํ สิยา, ตสฺมา น อารมฺมณปฏิเวธโต จตุสจฺจาภิสมโย ยุตฺโต, วุตฺตนเยเนว ปน ยุตฺโต. กิฺจ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ สมุจฺฉินฺทิตพฺพฺจ อาลมฺพิตฺวา ปริจฺเฉทสมุจฺเฉทภาวนา มคฺคาณสฺส น ยุตฺตา ตโต อนิสฺสฏภาวโต, สพฺพสงฺขตวินิสฺสฏํ นิพฺพานเมว ปน อารมฺมณตา ยุตฺตา. อเหตุกทิฏฺิ อกิริยทิฏฺิคฺคหเณน คหิตา เหตุพฺยาปาโรว ปรมตฺถโต กิริยาติ กตฺวา.

ปวตฺเตตีติ สชฺชติ, ปวตฺติยา วา เหตุ โหติ. นิวตฺเตตีติ สํหรติ ปลยํ คเมติ, ปโลกตาทิวเสน วา โมกฺขเหตุ โหติ. ปธานโตติ ปกติโต, ยํ ‘‘อพฺยตฺต’’นฺติปิ วุจฺจติ.

‘‘กาโล กโรติ ภูตานิ, กาโล สํหรตี ปชา;

กาโล สุตฺเต ชาครติ, กาโล หิ ทุรติกฺกโม’’ติ. –

เอวํวาทา กาลวาทิโน. ‘‘กณฺฏกสฺส ติขิณตา, กปิฏฺผลาทีนํ ปริมณฺฑลตา, มิคปกฺขิสรีสปาทีนํ วิจิตฺตภาโวติ เอวมาทโย เกน การิตา? สภาเวเนว สิทฺธา, เอวํ สพฺพมฺปิ, น เอตฺถ กสฺสจิ กามกาโร’’ติ เอวํวาทา สภาววาทิโน. ‘‘โลโก นิยโต อจฺเฉชฺชสุตฺตาวุตาเภชฺชมณิสทิโส , น เอตฺถ กสฺสจิ ปุริสกาโร’’ติ เอวํปวตฺตวาทา นิยติวาทิโน,

‘‘ยทิจฺฉาย ปวตฺตนฺติ, ยทิจฺฉาย นิวตฺตเร;

ยทิจฺฉาย สุขทุกฺขํ, ตสฺมา ยทิจฺฉตี ปชา’’ติ. –

เอวํปวตฺตวาทา ยทิจฺฉาวาทิสงฺขาตา อธิจฺจสมุปฺปตฺติวาทิโน จ เอตฺถ สภาววาเท เอว อนฺโตคธาติ ทฏฺพฺพา. อณูหิ โลโก ปวตฺตตีติ อาชีวกวาทํ สนฺธายาห. โส หิ อการณปริคฺคโห. กณาทวาโท ปน อิสฺสริจฺฉาวเสน อณูนํ สํโยควิโยคโต โลกสฺส ปวตฺตินิวตฺตึ วทติ. ปธานสฺส อปฺปวตฺตีติ มหตาทิภาเวน อปริณาโม, อนภิพฺยตฺติ วา. ‘‘อหมฺโ, ปกติ อฺา’’ติ เอวํ ปวตฺตปกติปุริสนฺตรชานเนน อตฺตสุขทุกฺขโมเหสุ อวิภาคคฺคหเณ นิวตฺติเต กิร วุตฺตนเยน ปธานํ นปฺปวตฺตติ, โส วิโมกฺโขติ กาปิลา. เอวมาทีติ อาทิ-สทฺเทน มหาพฺรหฺมุโน สมีปตา, สํโยโคติ เอวมาทีนมฺปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ.

เอกตฺตาติ เอกภาวโต เอโกปิ วุตฺโต. ตโยติ กิจฺจวิภาเคน. ตานีติ สมฺมาวาจาทิสีลานิ. ฉนฺทสฺส สทฺทหนานุกูลาปิ ฉนฺทนวเสน ปวตฺติ โหตีติ สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพเลหิ สทฺธึ ฉนฺทิทฺธิปาโท วุตฺโต. ตาทิเส กาเล อุเปกฺขานิมิตฺตานุพฺรูหเนน อุปการา สมาธิสฺส สมวาหิตาวเสน ตาทิสกิจฺจาว อุเปกฺขา เวทิตพฺพา.

วิฆาตกตฺตาติ สํหรณียวเสน วิหนฺตภาวโต.

อริยสจฺจทฺวยนฺติ สมุทยมคฺคสจฺจทฺวยํ. เตเนวาติ ยถาวุตฺตทุกฺขาทิสทฺทานํ ปริฺเยฺยาทิวาจกตฺตา เอว. อาทิปทสงฺคโหติ ‘‘ทุกฺขํ, น อริยสจฺจ’’นฺติ อิมินา จตุกฺเก อาทิปเท สงฺคโห. ตทเปกฺขนฺติ อริยสจฺจสทฺทาเปกฺขํ ทุกฺขสทฺทํ. จตุตฺถปทสงฺคโหติ ‘‘เนว ทุกฺขํ, น อริยสจฺจ’’นฺติ อิมินา ปเทน สงฺคโห. อวเสสกิเลสาทโยติ ตณฺหาวชฺชกิเลสา อวเสสากุสลา, สาสวานิ กุสลมูลานิ, สาสวา จ กุสลธมฺมา. เต หิ อภิธมฺมภาชนีเย สมุทยภาเวน วุตฺตา, น อริยสจฺจภาเวนาติ อาห ‘‘สมุทโย, น อริยสจฺจ’’นฺติ. อฺานิ มคฺคงฺคานีติ ผลสมฺมาทิฏฺิอาทโย. อิมินา นเยนาติ เอตฺถายํ โยชนา – อตฺถิ สมุทโย, น อริยสจฺจํ, อตฺถิ อริยสจฺจํ, น สมุทโย, อตฺถิ สมุทโย เจว อริยสจฺจฺจ, อตฺถิ เนว สมุทโย, น อริยสจฺจํ. ตตฺถ ปมปทํ วุตฺตตฺถํ. นิโรโธ อริยสจฺจํ, น สมุทโย, ตณฺหา สมุทโย เจว อริยสจฺจฺจ, มคฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา สามฺผลานิ จ ยสฺส ปหานาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ, ตทภาวโต เนว สมุทโย, น อริยสจฺจํ. อิตรสจฺจทฺวยํ อริยสจฺจํ ตสฺส ตสฺส ปภาวกฏฺเน สิยา สมุทโย, น ปน ยสฺส ปหานาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน. อิตรจตุกฺกทฺวเยปิ อาทิปทํ วุตฺตตฺถเมว. เสเสสุ สมุทโย อริยสจฺจํ, น นิโรโธ, อสงฺขตธาตุ นิโรโธ เจว อริยสจฺจฺจ, มคฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา, สามฺผลานิ จ ยสฺส สจฺฉิกิริยาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน เนว นิโรโธ, น อริยสจฺจํ. อิตรสจฺจทฺวยํ อริยสจฺจํ, นิโรธธมฺมตาย สิยา นิโรโธ, น ปน ยสฺส สจฺฉิกิริยาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน. ตถา นิโรโธ อริยสจฺจํ, น มคฺโค, อริยมคฺโค มคฺโค เจว อริยสจฺจฺจ, มคฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา, สามฺผลานิ จ ยสฺส ภาวนาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน เนว มคฺโค, น อริยสจฺจํ. อิตรสจฺจทฺวยํ สิยา มคฺโค อุปปตฺติมคฺคภาวโต, น ปน ยสฺส ภาวนาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน.

สนฺตนฺติ สมานํ. เอวํ อิตเรสุปีติ กาตพฺพาปิ กิริยา การกรหิตา เกวลํ อตฺตโน ปจฺจเยหิ ตาย ปวตฺตมานาย ปจฺจยสามคฺคี กิริยํ กโรตีติ โวหารมตฺตํ โหติ. นิพฺพุติคมเกสุปิ เอเสว นโย.

สาสวตา อสุภตา กิเลสาสุจิปคฺฆรณโต. ทุกฺขาทีนนฺติ ทุกฺขสมุทยมคฺคานํ. สมุทยาทิภาโวติ ทุกฺขสฺส สมุทยมคฺคภาโว, สมุทยสฺส มคฺคทุกฺขภาโว, มคฺคสฺส ทุกฺขสมุทยภาโว จ, น ปน นิโรธภาโว ทุกฺขาทีนนฺติ สมฺพนฺโธ. อฺมฺสมงฺคิตาติ ทุกฺขาทีนํ อิตรีตรสภาวโยโค. ตณฺหายาติ อาธาเร ภุมฺมํ. ปุนพฺภวสฺสาติ ปุนภวสงฺขาตสฺส อายติทุกฺขสฺส. ปกติวาทีนนฺติ กาปิลานํ. วิการาติ มหตาทโย พฺยตฺตา. วิภาวโตติ อภิพฺยตฺติโต, ปริณามโต วา ปุพฺเพ. ปฏิปฺปลีนา จาติ ปจฺฉา ปกติยํ ปลยํ คตา เวสมฺมํ มุฺจิตฺวา สตฺตาทิสมภาเวน อนฺโต สโมรุทฺธา. เตนาห ‘‘ปกติภาเวเนว ติฏฺนฺตี’’ติ. ปกติภาเวเนวาติ อพฺยตฺตภาเวเนว . สมุทยภาเวนาติ ตณฺหาสงฺขาตปภวภาเวน. อฺถา ตํสมฺปยุตฺตอวิชฺชาทีนมฺปิ สมุทยภาโว ลพฺภเตวาติ. อวิภตฺเตหีติ เวสมฺมวิรเหน ปกติภาวํ คเตหิ. ‘‘วิกาเรหี’’ติ สามฺโต วุตฺเต ‘‘มหนฺตา’’ติอาทินา สรูปโต ทสฺเสติ. ตตฺถ มหนฺโตติ มหาพุทฺธิ. ตฺหิ กาปิลา ‘‘มหาอชฺฌาสโย’’ติ จ โวหรนฺติ. รูปตมฺมตฺตาทโย ปฺจ ตมฺมตฺตา, อหํกาโร จาติ ฉ อวิเสสา. จกฺขุ โสตํ ฆานํ ชิวฺหา กาโย วาจา ปาณิ ปาโท ปายุ อุปตฺถํ มโนติ เอกาทสินฺทฺริยานิ. ปถวี อาโป เตโช วาโย อากาสนฺติ ปฺจ ภูตวิเสสา, เตหิ. ‘‘ปกติภาเวเนว ิเตหี’’ติ อิมินา ‘‘อวิภตฺเตหี’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วทติ. สคพฺภาติ สพีชา อสุฺตา. ตนฺตูสูติ สุตฺเตสุ สมวายิการณภูเตสุ. ตถา กปาเลสุ. ติวิธฺหิ เต การณํ วทนฺติ อุปาทานการณํ นิมิตฺตการณํ สมวายิการณนฺติ. ตตฺถ ตุริเวมสลากาทโย อุปาทานการณํ. ตนฺตวาโย นิมิตฺตการณํ. ตนฺตโว สมวายิการณนฺติ. ทฺวีสุ อณูสูติ ปถวีภูเตสุ วา อาโปเตโชวาโยภูเตสุ วา ทฺวีสุ ปรมาณูสุ. อิธพุทฺธิโวหารชนโกติ ‘‘อิธ ตนฺตูสุ ปโฏ, อิธ กปาเลสุ ฆโฏ, อิธ พีรเณสุ ฆโฏ’’ติอาทินา นเยน เหตุผลานํ สมฺพนฺธภูเตน สตฺตานํ อิธพุทฺธิโวหารา ชายนฺติ. โส โควิสาณานํ วิย อวิสุํ สหสิทฺธานํ สมฺพนฺโธ สมวาโย. ขาณุเสนานํ วิย ปน วิสุํสิทฺธานํ สมฺพนฺโธ สํโยโค. ตีสุ อณูสุ ติอณุกํ ผลํ สมเวตํ เอกีภูตมิว สมฺพนฺธนฺติ โยชนา. ‘‘สมเวต’’นฺติ เอตสฺส ‘‘เอกีภูตมิว สมฺพนฺธ’’นฺติ อิทํ อตฺถวิวรณํ. มหาปริมาณนฺติ มหนฺตปริมาณํ มหาปถวีอาทิกํ เอกํ ผลํ, ยํ เต ‘‘การิยํ ทฺรพฺย’’นฺติ วทนฺติ. เยหิ การเณหิ อารทฺธํ การิยทฺรพฺยํ, ตทนฺโตคธานิ เอว ตานิ การณานิ มฺนฺตีติ อาห ‘‘อตฺตโน อนฺโตคเธหิ การเณหี’’ติ. สติ สมวาเย เหตุมฺหิ ผลํ สมเวตนฺติ ผเล เหตุ สิยา, ตํ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมวายาภาวา ผเล เหตุ นตฺถีติ เหตุสุฺํ ผล’’นฺติ.

อาหารเภเทติ กพฬีการาทิอาหารวิเสเส. ตปฺปจฺจยธมฺมเภเทติ อชฺโฌหรณียวตฺถุสฬายตนอวิชฺชาอภิสงฺขารสงฺขาเต เตสํ ปจฺจยภูตธมฺมวิเสเส, โอชฏฺมกรูปเวทนาปฏิสนฺธิวิฺาณนามรูปสงฺขาเต วา ตนฺนิพฺพตฺตธมฺมวิเสเส, เต ปจฺจยา เอเตสํ ธมฺมวิเสสานนฺติ ตปฺปจฺจยธมฺมเภทา. รูปาทิอารมฺมณวเสน วาติ โยชนา. ยานทฺวยวเสนาติ สมถวิปสฺสนายานทฺวยวเสน. กิฺจาปิ มคฺคกฺขเณ สมถวิปสฺสนา ยุคนทฺธาว, ยถา ปน สุฺตาทิสมฺา, เอวํ สมถวิปสฺสนาสมฺาปิ อาคมนโต มคฺคสฺส สิยุนฺติ อาห ‘‘อาคมนวเสน วุตฺโต’’ติ. ยสฺส วา ปฺินฺทฺริยํ อธิกํ, ตสฺส มคฺโค วิปสฺสนา, อิตรสฺส สมโถติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

สมาธิชาติ สมาธานฏฺโว. ตโต เอวาติ สมาธิอนุคุณกิริยตฺตาว.

อาทาย อูหิตฺวาติ คเหตฺวา วิย ตกฺเกตฺวา วิตกฺเกตฺวา. ทฺวินฺนนฺติ สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺปานํ. ปุริมกาลสฺส วิย นิทฺเทโส ยถา ‘‘เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ตโย ขนฺธา’’ติ, ‘‘เอกํ มหาภูตํ ปฏิจฺจ ตโย มหาภูตา’’ติ จ.

โอคาหิตุนฺติ าเณน ปฏิวิชฺฌิตุํ. คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย สณฺหตฺตํ. สุขุมาย ปฺาย คเหตพฺพตาย สุขุมตฺตํ. อิตีติ อิมินา กเมนาติ อยมตฺโถติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อิติสทฺเทน วิชานนกฺกมํ ทสฺเสตี’’ติ. เอวํ ปกาเรหีติ เอวํ-สทฺเทน โชติยมาโน เอว อตฺโถ ปการ-สทฺเทน วุจฺจตีติ ‘‘เอวํ-สทฺเทน วิชานนการณภูเต นเย ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ. อิตีติ วา นิทสฺสนตฺโถ. เตน วุตฺตปฺปเภเท ปจฺจามสนวเสน นิทสฺเสติ. เอวํ-สทฺโท อิทมตฺโถ. เตน เอวํ ปกาเรหีติ อิทํปกาเรหิ, อีทิเสหีติ อตฺโถ.

อุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑. ทุกฺขสจฺจนิทฺเทโส

ชาตินิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๐. ‘‘ชาติอาทินิทฺเทเส’’ติ อิมินา ‘‘ตตฺถา’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วทติ. ทุกฺขมาติกาติ ทุกฺขทุกฺขาทีนํ ทุกฺขวิเสสานํ อุทฺเทโส. ปททฺวเยติ ‘‘ปริยายทุกฺขํ, นิปฺปริยายทุกฺข’’นฺติ เอตสฺมึ ปททฺวเย.

ทุกฺขตฺตาเยวาติ นิปฺปริยายทุกฺขตํ วทติ. สภาเวน นามํ วิเสเสตีติ อนฺวตฺถสฺตํ ทสฺเสติ. ปุริเมน สภาวทุกฺขวาจเกน ทุกฺขสทฺเทน. โส หิ วิเสสนํ อวจฺเฉทกภาวโต ปจฺฉิมํ สงฺขารทุกฺขฏฺํ วิเสเสติ. โส หิ นิวตฺเตตพฺพคเหตพฺพสาธารณตฺตา อวจฺฉินฺทิตพฺโพ. เตนาติ วิปริณามอธิฏฺานาทิปการวิเสเสน.

เทเสตพฺพสฺส อตฺถสฺส สงฺขิปนํ อิธ สงฺเขโป, โส จ ตพฺพิภาคานํ สาธารณภาโวติ อาห ‘‘สงฺเขโป สามฺ’’นฺติ. อนฺโตกริตฺวาติ อนฺโตคเธ กตฺวา, สงฺคเหตฺวา วา. อุภยถาปีติ สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ. สาธารณภาคานํ วิภชนํ วิภาโค, วิตฺถาโรติ อาห ‘‘วิตฺถาโร ปน วิเสโส’’ติ. วิเสสนฺตรนิวตฺตโกติ วิภาคนฺตราสงฺคาหโก.

๑๙๑. อปรตฺถาติ ภุมฺมวจนํ สามิอตฺเถ ยถา ‘‘สพฺพตฺถ ปาทก’’นฺติ อาห ‘‘สามิอตฺเถปิ หิ อปรตฺถสทฺโท สิชฺฌตี’’ติ. สิทฺธิ ปน ‘‘อิตราหิปิ ทิสฺสตี’’ติ อิมินา เวทิตพฺพา. ยสฺมา จ เอวํ สทฺโท สมฺภวติ, ตสฺมา ปาฬิยํ สามิวเสน วุตฺตํ อฏฺกถายํ ภุมฺมวเสน ทสฺสิตนฺติ ทีเปนฺโต ‘‘เตสํ เตสนฺติ วา’’ติอาทิมาห. อปรสฺสาติ อปรสฺส สตฺตสฺส. มนุสฺสาทิเภโท อุปปตฺติภโว คติ, ตพฺพิเสสภูตา ขตฺติยาทิสามฺาธิฏฺานา ขนฺธา ชาตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจคติวเสนา’’ติอาทิมาห.

ติณากาโรติ ติณวิกปฺโป, ติณวิเสโสติ อตฺโถ. เอวนฺติ นิทสฺสเน. เตน วุตฺตปฺปการํ ปมํ วิฺาณปาตุภาวํ ปจฺจามสติ. ตทุปาทายาติ ตโต ปฏฺาย. อริยภาวกรณตฺตาติ อริยภาวการณตฺตา. กโรตีติ หิ กรณํ. อริยสทิสตฺตา วา อริยสีลํ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกานมฺปิ หิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ อริยสีลสทิสํ. อาการวิการาติ อุปฺปชฺชนาทิอาการวิกติโย. สหุปฺปาทกาติ อุปฺปาทสหิตา อุปฺปาทาวตฺถา ขนฺธา. อายตนวเสนาติ ปริปุณฺณาปริปุณฺณายตนวเสน. โยนิวเสนาติ อณฺฑชาทิโยนิวเสน. เอเกเกเนว ปเทนาติ ยถา ทุติยนเย ชาติอาทิปเทสุ ทฺวีหิ ทฺวีหิ ปเทหิ ปริปุณฺณาปริปุณฺณายตนโยนิวิภาเคน สพฺพสตฺเต ปริยาทิยิตฺวา ชาติ ทสฺสิตา, น เอวมิธ. อิธ ปเนเตสุ เอเกเกเนว ปเทน อวิภาคโต สพฺพสตฺเต ปริยาทิยิตฺวา. อุภยตฺถาติ ปุริมปจฺฉิมนเยสุ ภาวนิทฺเทโสว ยุตฺโต. อนภิหิเต วิภตฺติวิธานํ, นาภิหิเตติ. ปากฏา นิพฺพตฺตีติ อภิพฺยตฺตา นิพฺพตฺติ.

ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนนฺติ เอกโวการภเว รูปายตนธมฺมายตนวเสน ทฺวินฺนํ, จตุโวการภเว มนายตนธมฺมายตนวเสน ทฺวินฺนํ. เสเสติ ปฺจโวการภเว. ปฺจนฺนนฺติ จกฺขุโสตมโนรูปธมฺมายตนวเสน ปฺจนฺนํ. ตานิ หิ รูปภเว ปฺจโวกาเร อุปปตฺติกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺติ. กามธาตุยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปชฺชมานานนฺติ โยชนา. วิกลาวิกลินฺทฺริยานนฺติ อปริปุณฺณปริปุณฺณายตนานํ สตฺตานํ. อินฺทฺริยวเสเนว หิ อายตนานํ เวกลฺลํ อิจฺฉิตพฺพํ. ตตฺถ วิกลินฺทฺริยสฺส สตฺตนฺนํ นวนฺนํ ทสนฺนํ ปุนปิ ทสนฺนํ, อิตรสฺส เอกาทสนฺนํ อายตนานํ วเสน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. สตฺตนฺนนฺติ กายมโนรูปคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺมายตนวเสน สตฺตนฺนํ. คพฺภเสยฺยกฺหิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. นวนฺนนฺติ จกฺขุโสตสทฺทายตนวชฺชานํ นวนฺนํ. อนฺธพธิรวเสน หิทํ วุตฺตํ. ทสนฺนนฺติ จกฺขุสทฺทวชฺชานํ. ปุน ทสนฺนนฺติ โสตสทฺทวชฺชานํ. อนฺธวเสน, พธิรวเสน เจตํ ทฺวยํ วุตฺตํ. เอกาทสนฺนนฺติ สทฺทวชฺชานํ.

ตํทุกฺขภาโวติ ปริยายทุกฺขภาโว. ตตฺถ นิพฺพตฺตินิวารเณนาติ อุปฺปลปทุมาทีสุ อุปฺปตฺติปฏิกฺเขเปน อภาวกถเนน. ทุกฺขุปฺปตฺติการเณติ ทุกฺขุปฺปตฺติยา เหตุภูเต ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺาเน.

มรณนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๓. ขนฺธเภทสฺสาติ ขนฺธวินาสสฺส. โสติ ขนฺธเภโท. ปพนฺธสมุจฺเฉโทติ ปพนฺธสฺส อจฺจนฺตสมุจฺเฉโท. ตพฺภาวโตติ สมฺมุติมรณภาวโต. ตเทกเทสภาวโตติ ตทวยวภาวโต. ตสฺเสว นามนฺติ อสมฺโมหตฺถํ วุตฺตํ สพฺพสฺสาปิ เอกกมฺมนิพฺพตฺตชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺธวิจฺเฉทภาวโต. สมฺมุติมรณเมว หิ ชาติกฺขยมรณํ, ตํ ปน ชาติกฺขยมรณํ อุปกฺกมมรณํ, สรสมรณนฺติ ทุวิธํ. ตตฺถ สรสมรณมฺปิ อายุกฺขยมรณํ, ปุฺกฺขยมรณนฺติ ทุวิธํ. เอวเมเตสํ ตเทกเทสตา เวทิตพฺพา. ยฺเจตฺถ อุปกฺกมมรณํ, ตํ อกาลมรณํ. สรสมรณํ กาลมรณํ. มรเณน สตฺตา ยถาลทฺธอตฺตภาเวน วิยุชฺชนฺตีติ อาห ‘‘สมฺปตฺติภวกฺขนฺเธหิ วิโยเชตี’’ติ.

การณตฺโถติ มูลตฺโถ. มูลฺหิ ‘‘อาที’’ติ วุจฺจติ ‘‘โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ? สีลฺจ สุวิสุทฺธํ, ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙). เตนาห ‘‘สนฺธิพนฺธนจฺเฉทมูลกนฺติ อตฺโถ’’ติ.

ผลกิริยาคพฺภา อีทิสี เหตุกิริยาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อนฺโตคธา’’ติ. พฺยสนสฺส หิ อาปาทเกหิ อาปาทนํ อาปาเทตพฺพอาปตฺติยา สเหว สิชฺฌตีติ.

โสกนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๔. สุขํ หิโนติ ปวตฺตติ เอเตนาติ สุขการณํ หิตํ. โภคพฺยสนาทิปทตฺถวิเสสนฺติ โภคพฺยสนํ, สีลพฺยสนนฺติ เอวํ โภคสีลปทานํ วเสน อตฺถวิเสสํ. สมาสวิเสสนฺติ ‘‘โรโคเยว พฺยสนํ, ทิฏฺิ เอว พฺยสน’’นฺติ สมานาธิกรณวเสน สมาสวิเสสํ. อนฺนปานวตฺถยานาทิ ปริภุฺชิตพฺพโต โภโคติ อธิปฺเปโต, โส จ ธมฺมสมูหภาเวน. ตพฺพินาสาติ าติโภคพฺยสนานิ วุตฺตานีติ เต วิการภาเวน ปฺาเปตพฺพตฺตา ปณฺณตฺติมตฺตา. ปรินิปฺผนฺนํ นาม ขนฺธปฺจกํ. อตํสภาวตฺตา ปณฺณตฺติ อปรินิปฺผนฺนา, อนิปฺผนฺนา จ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อปรินิปฺผนฺนตํ สนฺธาย อนิปฺผนฺนานีติ อาหา’’ติ. น หิ ปณฺณตฺติ เกนจิ นิปฺผาทียติ. อฺตฺถาปิ อปรินิปฺผนฺเน อนิปฺผนฺนโวหาโร อาคโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปรินิปฺผนฺนตํเยวา’’ติอาทิมาห. กามฺเจตฺถ อปรินิปฺผนฺนํ ‘‘อนิปฺผนฺน’’นฺติ วุตฺตํ, ‘‘นิปฺผนฺน’’นฺติ ปน น ปรินิปฺผนฺนเมว วุจฺจติ, นาปิ สพฺโพ สภาวธมฺโมติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ขนฺธวิภงฺเค จา’’ติอาทิมาห. นิปฺผนฺนตา วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. อนิปฺผนฺนตา สภาวธมฺมตฺเตปิ เกนจิ น นิปฺผาทียตีติ กตฺวา.

สงฺกุจิตํ จินฺตนนฺติ ปีติโสมนสฺสปฏิปกฺขโต, โทสสมฺปโยคโต จ อารมฺมเณ อนภิรติปฺปวตฺติมาห. อนฺโต อตฺตโน นิสฺสยสฺส นิทฺทหนวเสน วา ฌานํ จินฺตนํ อนฺโตนิชฺฌานํ. สติปิ อนุโสจนภาเว อตฺตโน กตากตกุสลากุสลวิสโย มโนวิเลขภูโต วิปฺปฏิสาโร กุกฺกุจฺจํ, ยถาวุตฺตอนฺโตนิชฺฌานํ โสโกติ อุภินฺนํ วิเสโส เวทิตพฺโพ.

‘‘มโนทฺวารชวนกฺขเณ’’ติ ปริพฺยตฺตมนฺโตนิชฺฌานํ สนฺธายาห, อิตรํ ปน ปฺจทฺวารชวเนสุปิ ลพฺภเตว. เตนาห ‘‘กายวิฺาณาที’’ติอาทิ. โทมนสฺสสฺสาติ อโสจนาการสฺส โทมนสฺสสฺส, โสจนาการสฺสาปิ วา นานาวีถิกสฺส. ตมฺปิ หิ ทุกฺขเมวาติ. อฺถาติ มโนทฺวารชวเน เอว คหิเต. ตตฺถาติ กายวตฺถุกมโนทฺวาริเกสุ.

ปริเทวนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๕. อาเทวนสทฺทํ กตฺวาติ อาเทวิตฺวา, วิลปิตฺวาติ อตฺโถ. ปุคฺคลสฺส สมฺภมภาโวติ ยสฺส สตฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, ตสฺส อนวฏฺานภาโว. สมฺภมํ วา อพฺภนฺตรคตํ ตสฺส ปจฺจุปฏฺาเปติ ปากฏภาวกรเณนาติ สมฺภมปจฺจุปฏฺาโน.

มุฏฺีหิ โปถนาทีนิ มุฏฺิโปถนาทีนิ.

เยน โทมนสฺเสน. ปุพฺเพ วุตฺตทุกฺขโตติ ‘‘อตฺตโน ขนฺธํ มุฏฺีหิ โปเถตี’’ติอาทินา วุตฺตทุกฺขโต. ตํนิทานนฺติ ปริเทวนิทานํ.

ทุกฺขโทมนสฺสนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๖-๗. กายทุกฺขาภิภูตสฺส ปติการาภิลาสาย ตาทิสทุกฺขาวหปโยคกาลาทีสุ กายิกทุกฺขสฺส ตทุปนิสฺสยตา เวทิตพฺพา. เอเตน ทุกฺเขนาติ อนาถตาหตฺถปาทจฺเฉทนาทิทุกฺเขน.

อุปายาสนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๘. ทุกฺขฏฺานนิสชฺชาทีนิ ทุกฺขฏฺานาทีนิ. โทมนสฺสสฺส วตฺถุ โหติ อุปายาโสติ สมฺพนฺโธ.

อปฺปิยสมฺปโยคนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๙. อฺสาเปกฺขสทฺโท อสมตฺถสมาโสติ ตํ ทสฺเสติ ‘‘เยน สมาโส, น ตสฺสายํ ปฏิเสธโก อ-กาโร’’ติ.

ปจฺฉิมทฺวยนฺติ ‘‘สโมธานํ มิสฺสีภาโว’’ติ อิทํ ปททฺวยํ. ตทตฺถวเสนาติ สโมธานตฺถสฺส, มิสฺสีภาวตฺถสฺส จ วเสน สงฺขาเรสุ ลพฺภติ. อาคเตหิ จ เตหิ สงฺขาเรหิ ปุคฺคลสฺส สํโยโค โหตีติ โยชนา.

ตํคหณมตฺตนฺติ อาปาถคตารมฺมณคฺคหณมตฺตํ.

อิจฺฉานิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๑. ตํกาลนฺติ จุติจิตฺตนิโรธโต อุทฺธํ กาลํ. ‘‘ยมฺปี’’ติ ยํ-สทฺโท กรณตฺเถ ปจฺจตฺตนฺติ เยนปีติ อตฺโถ วุตฺโต. ‘‘ยํ อิจฺฉ’’นฺติ ยํ-สทฺโท ยทา อิจฺฉาเปกฺโข, ตทา ‘‘น ลภตี’’ติ เอตฺถ อลาภปธานาภาวโต อิจฺฉา วิเสสียตีติ อาห ‘‘อลาภวิสิฏฺา อิจฺฉา วุตฺตา โหตี’’ติ. ‘‘อิจฺฉํ น ลภติ ย’’นฺติ เอวํ กิริยาปรามสนภูโต ยํ-สทฺโท ยทา ‘‘น ลภตี’’ติ เอตํ อเปกฺขติ, ตตฺถ คุณภูตา อิจฺฉา, ปธานภูโต อลาโภติ อาห ‘‘ตทา อิจฺฉาวิสิฏฺโ อลาโภ วุตฺโต โหตี’’ติ.

หิโรตฺตปฺปรหิตา ฉินฺนิกา, ธุตฺติกาติ วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘ฉินฺนภินฺนคเณนาติ นิลฺลชฺเชน ธุตฺตคเณนา’’ติ. กปฺปฏิกา สิพฺพิตปิโลติกธาริโน.

อลพฺภเนยฺยอิจฺฉนฺติ อลพฺภเนยฺยวตฺถุสฺมึ อิจฺฉํ.

อุปาทานกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๒. ตาทิสสฺส วตฺถุโน สพฺภาวาติ สามฺโต อนวเสสคฺคหณํ สนฺธายาห.

อติปากเฏน อติ วิย ปกาเสน ทุกฺเขนาติ อตฺโถ.

ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๓. มโน วิยาติ มโน-สทฺทสฺส วิย. อิก-สทฺเทนาติ ‘‘โปโนภวิกา’’ติ เอตฺถ อิก-สทฺเทน. คมิยตฺถตฺตาติ าปิตตฺถตฺตา. กรณสีลตา หิ อิธ สีลตฺโถ, โส จ อิก-สทฺเทน วุจฺจตีติ กิริยาวาจกสฺส กรณสทฺทสฺส อทสฺสนํ อปฺปโยโค. วุตฺตตฺถานฺหิ อปฺปโยโค. สติ ปจฺจยนฺตรสมวาเย ปุนพฺภวสฺส ทายิกา, ตทภาเว อทายิกาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อทายิกาปิ ปุนพฺภวํ เทติจฺเจวา’’ติ ตํสภาวานติวตฺตนโต. เตเนวาห ‘‘สมานสภาวตฺตา, ตทานุภาวตฺตา จา’’ติ. ตตฺถ สภาโว ตณฺหายนํ. อานุภาโว ปจฺจยสมวาเย ผลนิปฺผาทนสมตฺถตา. อิตเรสูติ อวสิฏฺกิเลสาทีสุ. ปวตฺติวิปากทายิโน กมฺมสฺส สหายภูตา ตณฺหา ‘‘อุปธิเวปกฺกา’’ติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อุปธิมฺหิ ยถานิพฺพตฺเต’’ติอาทิ. ยถานิพฺพตฺเตติ อตฺตโน ปจฺจเยหิ นิพฺพตฺตปฺปกาเร. นนฺทนํ สํอุปฺปิลาวนํ อภิตสฺสนํ. รฺชนํ วตฺถสฺส วิย รงฺคชาเตน จิตฺตสฺส วิปริณามนํ, รมาปนํ วา. ราคสมฺพนฺเธนาติ ราคปทสมฺพนฺเธน ‘‘อุปฺปนฺนสฺสา’’ติ ปุลฺลิงฺควเสน วุตฺตํ. รูปารูปภวราโค วิสุํ วกฺขตีติ เอตฺถ วกฺขติ-กิริยาปทํ กมฺมตฺเถ เวทิตพฺพํ.

‘‘สวตฺถุกํ จกฺขุ’’นฺติ อิมินา สกลํ จกฺขุทสกมาห, ทุติเยน สสมฺภารจกฺขุํ. ฉิทฺทนฺติ กณฺณสฺส ฉิทฺทปเทสํ. กณฺณพทฺธนฺติ กณฺณปาฬิ. วณฺณสณฺานโต รตฺตกมฺพลปฏลํ วิย, กิจฺจโต มุทุสินิทฺธมธุรรสทํ มฺนฺติ. สามฺเน คหิตาติ วิสเยน อวิเสเสตฺวา คหิตา. วิสยวิสิฏฺาติ จกฺขาทิวิสยวิสิฏฺา. เอตฺถ อุปฺปชฺชตีติ สมุทายาวยเวหิ วิย สามฺวิเสเสหิ น นานตฺตโวหาโร น โหติ ยถา ‘‘รุกฺโข สึสปา’’ติ. น หิ สพฺโพ รุกฺโข สึสปา. ตสฺมา กิริยาเภทสพฺภาวโต ‘‘สยานา ภุฺชนฺติ สธนา’’ติอาทีสุ วิย ‘‘อุปฺปชฺชมานา’’ติ เอตฺถ กิริยาย ลกฺขณตา, อิตรตฺถ ลกฺขิตพฺพตา จ วุตฺตา. ยทิ อุปฺปชฺชมานาโหตีติ อนิจฺฉิตตฺตา สาสงฺกํ อุปฺปาทกิริยาย อตฺถิภาวมาห. เตน อุปฺปาเท สตีติ อยเมตสฺส อตฺโถติ ‘‘อุปฺปชฺชมานา’’ติ เอตฺถ อุปฺปาโท เหตุภาเวน วุตฺโต, อิตโร จ ตสฺส ผลภาเวนาติ อาห ‘‘โส หิ เตน อุปโยชิโต วิย โหตี’’ติ. อุปฺปชฺชมานาติ วา ตณฺหาย ตตฺถ อุปฺปชฺชนสีลตา อุปฺปชฺชนสภาโว, อุปฺปชฺชนสมตฺถตา วา วุตฺตา. ตตฺเถว จสฺสา อุปฺปชฺชนสีลตา สกฺกายโต อฺสฺมึ วิสเย ปวตฺติยา อภาวโต, สมตฺถตา ปจฺจยสมวาเยน, อฺถา อสมตฺถตา, ยโต กทาจิ น อุปฺปชฺชติ. นิวิสมานา นิวิสตีติ เอตฺถาปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๔. ตณฺหาย วิรชฺชนํ หลิทฺทิราคสฺส วิย ปลุชฺชนนฺติ กตฺวา อาห ‘‘ขยคมนวเสนา’’ติ. วิจฺฉินฺนํ นิรุชฺฌนนฺติ วุตฺตํ ‘‘อปฺปวตฺติคมนวเสนา’’ติ. จชนํ ฉฑฺฑนํ, หาปนํ วาติ อาห ‘‘อนเปกฺขตาย จชนวเสน, หานิวเสน จา’’ติ.

ตทปฺปวตฺติ วิยาติ ตสฺสา ติตฺตอลาพุวลฺลิยา อปฺปวตฺติ วิย. อปฺปวตฺติเหตุภูตมฺปิ นิพฺพานํ ตณฺหาย อปฺปวตฺติ วิย คยฺหตีติ อาห ‘‘ตทปฺปวตฺติ วิยา’’ติ ยถา ‘‘ราคกฺขโย’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๑๕, ๓๓๐). อปฺปวตฺติภูตนฺติ ตณฺหาย อปฺปวตฺติยา ปตฺตํ, ปตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. นิพฺพานํ อาคมฺม นิรุทฺธายปิ ตณฺหาย ปิยรูปสาตรูเปสุ นิรุทฺธาติ วตฺตพฺพตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตาติ โยชนา. เอตฺถ จ ยสฺมา มคฺโค, นิพฺพานฺจ ตณฺหาย สมุจฺเฉทสาธนํ, ตสฺมา ‘‘ปุริมา วา อุปมา’’ติอาทินา อุปมาทฺวยํ อุภยตฺถ ยถากฺกมํ โยชิตํ, อุภยฏฺานิยํ ปน อุภยตฺถาปิ ลพฺภเตว.

นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๕. ติตฺถิเยหิกปฺปิตสฺส มคฺคสฺส ปกติปุริสนฺตราณาทิกสฺส. อริยํ ลภาเปตีติ อริยํ สามฺผลํ ลภาเปติ.

ตพฺพิปกฺขวิรติสภาวาติ ตสฺสา สมฺมาวาจาย วิปกฺขโต มิจฺฉาวาจาย วิรติสภาวา. เภทกรมิจฺฉาวาจา ปิสุณวาจา, สพฺพาปิ วา มิจฺฉาวาจา วิสํวาทนาทิวเสน เภทกรีติ อาห ‘‘เภทกรมิจฺฉาวาจาปหาเนนา’’ติ. วิสํวาทนาทิกิจฺจตาย หิ ลูขานํ อปริคฺคาหกานํ มุสาวาทาทีนํ ปฏิปกฺขภูตา สินิทฺธภาเวน ปริคฺคาหกสภาวา สมฺมาวาจา ตปฺปจฺจยสุภาสิตสมฺปฏิคฺคาหเก ชเน, สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ปริคฺคณฺหนฺตี ปวตฺตตีติ ปริคฺคหลกฺขณา. เตนาห ‘‘ชเน, สมฺปยุตฺเต จ ปริคฺคณฺหนกิจฺจวตี’’ติ. จีวรกมฺมาทิโก ตาทิโส ปโยโค. กาตพฺพํ จีวรรชนาทิกํ. นิรวชฺชสมุฏฺาปนกิจฺจวาติ นิรวชฺชสฺส กตฺตพฺพสฺส, นิรวชฺชากาเรน วา สมุฏฺาปนกิจฺจวา. สมฺปยุตฺตธมฺเม จ สมุฏฺาเปนฺโตติ เอตฺถ สมุฏฺาปนํ มิจฺฉากมฺมนฺตปฏิปกฺขภูตสฺส อตฺตโน กิจฺจสฺส อนุคุณภาเวน สมฺปยุตฺตานํ ปวตฺตนเมว, อุกฺขิปนํ วา เนสํ กายิกกิริยาย ภารุกฺขิปนํ วิย. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ, อาชีวสฺเสว วา วิโสธนํ โวทาปนํ.

ทิฏฺเกฏฺาติ ทิฏฺิยา สหชปหาเนกฏฺา, ปมมคฺคสมฺมาทิฏฺิวเสเนว ตํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ทิฏฺเกฏฺอวิชฺชาทโย’’ติปิ ปาโ. เอตสฺมึ ปกฺเข จตุมคฺคสมฺมาทิฏฺิยา สงฺคโห กโต โหติ. อุปริมคฺคสมฺมาทิฏฺิยา ปน ทิฏฺิฏฺาเน ตํตํมคฺควชฺโฌ มาโน คเหตพฺโพ. โส หิ ‘‘อห’’นฺติ ปวตฺติอาการโต ทิฏฺิฏฺานิโย. ปกาเสตีติ กิจฺจปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ. เตเนว หิ องฺเคนาติ เตเนว สมฺมาทิฏฺิสงฺขาเตน มคฺคงฺเคน. ตถาปวตฺติเตน กรณภูเตน, เตน วา การเณน. องฺค-สทฺโท หิ การณตฺโถปิ โหตีติ. ตตฺถาติ มคฺเค, มคฺคจิตฺตุปฺปาเท วา.

อิมสฺเสวาติ อริยมคฺคปริยาปนฺนสฺเสว. ยทิปิ วิรมิตพฺพโต วิรมนฺตสฺส เจตนาปิ ลพฺภเตว, วิรติยา เอว ปน ตทา ปธานภาโวติ อาห ‘‘วิรมณกาเล วา วิรติโย’’ติ. สุภาสิตาทีติ อสมฺผปฺปลาปาทิ. อาทิ-สทฺเทน อปิสุณาทิ สงฺคหิตา. ภาสนาทีติ เอตฺถ ปน กายสุจริตาทิ. อมคฺคงฺคตฺตาติ อมคฺคสภาวตฺตา. ตเมว เจตนาย อมคฺคสภาวตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกสฺสาณสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมฺมาวาจาทิกิจฺจตฺตยํ นาม มิจฺฉาวาจาทีนํ ติณฺณํ ปาปธมฺมานํ สมุจฺฉินฺทนํ, มคฺคเจตนา จ ตํสภาวา น โหตีติ น ตสฺสา มคฺคกฺขเณ สมฺมาวาจาทิภาวสิทฺธิ. ตํสิทฺธิยนฺติ กิจฺจตฺตยสิทฺธิยํ. ยถา ปนสฺสา ปุพฺพภาเค สุภาสิตวาจาทิภาโว, เอวํ มคฺคกฺขเณปิ สิยา. เอวํ สนฺเต ยถา ตตฺถ เอกสฺส สมฺมาสงฺกปฺปสฺส ติกิจฺจตา, สมฺมาทิฏฺิอาทีนฺจ เอเกกานํ จตุกิจฺจตา, เอวํ เอกา มคฺคเจตนา สมฺมาวาจาทิกิจฺจตฺตยสฺส สาธิกา ภเวยฺย, ตถา จ สติ มคฺเค สมฺมาวาจาทีนิ ตีณิ องฺคานิ น ภเวยฺยุํ, ฉฬงฺคิโก จ อริยมคฺโค สิยาติ ตยิทมาห ‘‘เอกาย เจตนายา’’ติอาทินา. ยสฺมา ปเนตํ นตฺถิ, ตสฺมา มคฺคปจฺจยตาวจนโต จ น เจตนาย มคฺคภาโวติ มคฺคกฺขเณ วิรติโยว สมฺมาวาจาทโย.

พฺรูหนํ สุขํ. สนฺตสุขํ อุเปกฺขา. สา หิ ‘‘อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๔๔; วิภ. อฏฺ. ๒๓๒) วุตฺตา. วิตกฺกาทีนนฺติ เตเยว อภินิโรปนาทโย ปากฏปริยาเยน วุตฺตา.

วจีสงฺขารภาวโต วจีเภทสฺส อุปการโก วิตกฺโก. ‘‘สาวชฺชา…เป… อุปการโก เอวา’’ติ อิมินา วจีเภทตํ สมุฏฺาปกเจตนานํ วิย วิรติยาปิ วิเสสปจฺจโย วิตกฺโกติ ทสฺเสติ. วจีเภทนิยามิกา วาจาติ วจีทุจฺจริตวิรติมาห. สา หิ สมฺมาวาจาภูตา มิจฺฉาวาจาสุ สํยมินี. ตตฺถ ยถา วิสํวาทนาทิมิจฺฉาวาจโต อวิรโต มิจฺฉากมฺมนฺตโตปิ น วิรมเตว. ยถาห – ‘‘เอกํ ธมฺมํ…เป… อการิย’’นฺติ (ธ. ป. ๑๗๖). ตถา อวิสํวาทนาทินา สมฺมาวาจาย ิโต สมฺมากมฺมนฺตมฺปิ ปูเรติเยวาติ อาห ‘‘วจีเภท…เป… อุปการิกา’’ติ. ธมฺมานํ ปวตฺตินิฏฺาภาวโต ยถา คตีติ นิพฺพตฺติ วุจฺจติ, เอวํ ปวตฺติภาวโต รสลกฺขณานิปีติ อาห ‘‘กิจฺจาทิสภาเว วา’’ติ.

อภินนฺทนนฺติ ตณฺหาทิวเสน อภินนฺทนํ.

วาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโห, อตฺถปริปุจฺฉนํ ปริปุจฺฉาติ ตทุภยํ สวนาธีนนฺติ อาห ‘‘สวนาเณ เอว อวโรธํ คจฺฉนฺตี’’ติ. าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา คหณํ ปริคฺคณฺหนํ.

ตสฺสาติ ปโยคสฺส.

โสติ กามวิตกฺกปฺปวตฺติยา การณภูโต สุภนิมิตฺเต อโยนิโสมนสิกาโร. ตสฺสาติ กามวิตกฺกสฺส. คตํ คมนํ ปวตฺติ, ตสฺส อุปาโยติ คตมคฺโค.

ปหาตพฺพเอกตฺตนฺติ ปหาตพฺพตาสามฺํ.

มคฺคภาเวน จตุพฺพิธมฺปิ เอกตฺเตนาติ โสตาปตฺติมคฺคาทิวเสน จตุพฺพิธมฺปิ มคฺคภาเวน เอกตฺเตน สามฺโต คเหตฺวา ‘‘อสฺสา’’ติ เอกวจเนน วุตฺตนฺติ อตฺโถ. สพฺพสฺส มคฺคสฺส อฺมฺํ สทิสตา, ตถา อสทิสตา จ เอกจฺจสทิสตา จ ฌานงฺควเสน สพฺพสทิสสพฺพาสทิสเอกจฺจสทิสตา, โส เอว วิเสโสติ โยเชตพฺพํ. วิปสฺสนานิยามํ ธุรํ กตฺวา อาหาติ สมฺพนฺโธ. อิธ ปนาติ อิมิสฺสา สมฺโมหวิโนทนิยํ. สมฺมสิ…เป… นิวตฺตนโตติ ปมตฺเถรวาทํ วทนฺโต ตทชฺฌาสยํ ปุรกฺขตฺวา วทตีติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. อิตรถา อิตรวาทาเปตฺถ ทสฺสิตา เอวาติ. ปาทกชฺฌานนิยามนฺติ ปาทกชฺฌานนิยามํ ธุรํ กตฺวา อาหาติ โยชนา. ‘‘วิปสฺสนา …เป… ทฏฺพฺโพ’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. น หิ ตสฺสา อิธ ปฏิกฺเขปตา อตฺถิ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘เกจิ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา นิยาเมตีติ วทนฺตี’’ติ? นยิทเมวํ. อิธาปีติ อิธ ปาทกชฺฌานนิยาเมปิ วิปสฺสนานิยาโม น ปฏิกฺขิตฺโตติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘สาธารณตฺตา’’ติ. ‘‘อิธ ปนา’’ติ อิมินาปิ ปมตฺเถรวาโท สงฺคหิโตติ เวทิตพฺโพ. ยทิ เอวํ กสฺมา วิปสฺสนานิยาโม วิสุํ คหิโตติ? วาทตฺตยาวิธุรตาทสฺสนตฺถํ. อฺเ จาจริยวาทาติ สมฺมสิตชฺฌานปุคฺคลชฺฌาสยวาทา.

‘‘อารุปฺเป ติกจตุกฺกชฺฌานํ…เป… น โลกิย’’นฺติ อิทํ เถรวาเท อาคตํ โปราณฏฺกถายํ ตนฺตึ กตฺวา ปิตนฺติ อฏฺสาลินิยํ สงฺคเหตฺวา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วุตฺตํ อฏฺสาลินิยนฺติ อธิปฺปาโย’’ติ. เยสูติ ปจฺฉิมชฺฌานวชฺชานิ สนฺธาย วทติ. ตตฺถ หิ อรูปุปฺปตฺติยํ สํสโย, น อิตรสฺมึ. ‘‘จตุกฺกปฺจกชฺฌาน’’นฺติ วุตฺเต อวิเสสโต สาสวานาสวํ อเปกฺขียติ, นิวตฺเตตพฺพคเหตพฺพสาธารณวจเนเนตฺถ สาสวโต อวจฺฉินฺทนตฺถํ ‘‘ตฺจ โลกุตฺตร’’นฺติ วตฺวา นิวตฺติตธมฺมทสฺสนตฺถํ ‘‘น โลกิย’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมุทายฺจ…เป… อาหา’’ติ. อิตรถา พฺยภิจาราภาวโต ‘‘โลกุตฺตร’’นฺติ วิเสสนํ นิรตฺถกํ สิยา. ตโย มคฺคาติ ทุติยมคฺคาทโย. ตชฺฌานิกนฺติ ติกจตุกฺกชฺฌานิกํ โสตาปตฺติผลาทึ. อฺฌานิกาปีติ ติกจตุกฺกชฺฌานโต อฺฌานิกาปิ จตุกฺกชฺฌานิกาปิ มคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ. ปิ-สทฺเทน ตชฺฌานิกาปิ ติกจตุกฺกชฺฌานิกาติ อตฺโถ. ยทิ เอวํ จตุโวการภเวปิ ปฺจโวการภเว วิย มคฺคสฺส ติกจตุกฺกชฺฌานิกภาเว เกนสฺส ฌานงฺคาทินิยาโมติ อาห ‘‘ฌานงฺคาทินิยามิกา ปุพฺพาภิสงฺขารสมาปตฺตี’’ติ. ปุพฺพาภิสงฺขารสมาปตฺตีติ จ ปาทกภูตา อตฺตนา อติกฺกนฺตธมฺมวิราคภาเวน วิปสฺสนาย ปุพฺพาภิสงฺขารการี อรูปสมาปตฺติ, ผลสมาปตฺติ วา. เตนาห ‘‘ปาทก’’นฺติ. น สมฺมสิตพฺพาติ น สมฺมสิตพฺพา สมาปตฺติ ฌานงฺคาทินิยามิกา สมฺมสิตพฺพานํ ติกจตุกฺกชฺฌานานํ ตตฺถ อนุปฺปชฺชนโต, อิตรตฺถ จ วิเสสาภาวโต. ผลสฺสปีติ จตุตฺถปฺจมชฺฌานิกผลสฺสปิ.

ทุกฺขาณาทีนนฺติ ทุกฺขสมุทยาณานํ. ตํตํกุสลารมฺมณารมฺมณตฺตาติ กามาวจราทีสุ เยน เยน กุสเลน สทฺธึ เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺส ตสฺส กุสลสฺส อารมฺมณํ อารมฺมณํ เอเตสนฺติ ตํตํกุสลารมฺมณารมฺมณา , ตพฺภาวโต. ตํตํวิรมิตพฺพาทิอารมฺมณตฺตาติ วิสํวาทนวตฺถุอาทิอารมฺมณตฺตา. วีติกฺกมิตพฺพโต เอว หิ วิรตีติ. ‘‘องฺคาน’’นฺติ อิทํ ‘‘เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทีน’’นฺติ เอตฺถาปิ โยเชตพฺพํ อวยเวน วินา สมุทายาภาวโต. วิเสสปจฺจโยติ ภินฺนสีลสฺส, อปริสุทฺธสีลสฺส วา สมฺมปฺปธานาสมฺภวโต สมาธานสฺส วิย วายามสฺส สีลํ วิเสสปจฺจโย. อยฺจ อตฺโถ ยทิปิ ปุริมสิทฺธสีลวเสน ยุตฺโต, สหชาตวเสนาปิ ปน ลพฺภเตวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺปยุตฺตสฺสาปี’’ติ อาห. สหชเมว เจตฺถ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘สมฺปยุตฺตสฺเสว จา’’ติอาทิ. สมฺโมโส ปมาโท, ตปฺปฏิปกฺโข อสมฺโมโส อปฺปมาโท, โส จิตฺตสฺส อารกฺขาติ อาห ‘‘เจตโส รกฺขิตตา’’ติ.

สีลกฺขนฺโธ จาติ -สทฺเทน สมาธิกฺขนฺโธ จ. ขนฺติปฺปธานตฺตา สีลสฺส อโทสสาธนตา, นีวรณเชฏฺกสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อุชุวิปจฺจนีกภาวโต สมาธิสฺส อโลภสาธนตา ทฏฺพฺพา. สาสนนฺติ ปฏิเวธสาสนํ, ‘‘สาสนพฺรหฺมจริย’’นฺติ จ วทนฺติ.

มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๒๐๖-๒๑๔. ‘‘ปริฺเยฺยภาวรหิเต เอกนฺตปหาตพฺเพ’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ตณฺหายปิ จกฺขาทีนํ วิย ตณฺหาวตฺถุตาวจเนน ปริฺเยฺยตา วุตฺตา. ยถาห ‘‘รูปตณฺหา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสตี’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๑๓๓; วิภ. ๒๐๓). ตปฺปฏิพทฺธสํกิเลสปฺปหานวเสน สมติกฺกมิตพฺพตา หิ ปริฺเยฺยตา. เอกนฺตปหาตพฺพตา จ น ตณฺหาย เอว, อถ โข อวเสสานํ สํกิเลสธมฺมานมฺปิ. ตถา หิ เตสํ สพฺพโส อจฺจนฺตปฺปหายิกา ทสฺสนภาวนาติ? สจฺจเมตํ, ตถาปิ ยถา ‘‘ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปริฺเยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๙) ตณฺหาวชฺเช อุปาทานกฺขนฺธปฺจเก ปริฺเยฺยภาโว นิรุฬฺโห, น ตถา ตณฺหาย, ตณฺหาย ปน ‘‘ยายํ ตณฺหา โปโนภวิกา’’ติอาทินา (วิภ. ๒๐๓; ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๙๑, ๔๖๐; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๔; ปฏิ. ม. ๑.๓๔) สมุทยภาโว วิย สาติสยํ ปหาตพฺพภาโว นิรุฬฺโหติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปริฺเยฺยภาวรหิเต เอกนฺตปฺปหาตพฺเพ’’ติ วุตฺตํ. ยสฺส อสงฺคหิโต ปเทโส อตฺถิ, โส สปฺปเทโส, เอกเทโสติ อตฺโถ. ตตฺถาติ อริยสจฺจสทฺเท. สมุทโยติ สมุทยตฺโถ. ‘‘นิปฺปเทสโต สมุทยํ ทสฺเสตุ’’นฺติ สมุทยสฺเสเวตฺถ คหเณ การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกฺขนิโรธา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทุกฺขนิโรธาติ ทุกฺขํ, นิโรโธ จ. อริยสจฺจเทสนายนฺติ อริยสจฺจเทสนายมฺปิ สจฺจเทสนายํ วิย. ธมฺมโตติ เทเสตพฺพธมฺมโต นิปฺปเทสา เอว. ‘‘อวเสสา จ กิเลสา’’ติอาทินา เทสนาเภโท เอว หิ ตตฺถ วิเสโส. เตนาห ‘‘น หิ ตโต อฺโ’’ติอาทิ. อปุพฺโพ นตฺถีติ ธมฺมโต อปุพฺโพ นตฺถีติ อตฺโถ. ตสฺสาติ สมุทยสฺส. สพฺพตฺถ ตีสุปิ วาเรสูติ อฏฺงฺคิกปฺจงฺคิกสพฺพสงฺคาหิกเภเทสุ มหาวาเรสุ, ตทนฺโตคเธสุ จ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ. อปุพฺพสฺสาติ ‘‘อวเสสา จ กิเลสา’’ติอาทินา ตณฺหาย อปุพฺพสฺส. อวสิฏฺกิเลสาทีนฺหิ สมุทยตาวจนํ อิธ อปุพฺพทสฺสนํ. ตสฺส ยทิปิ ทุติยตติยวาเรสุ วิเสโส นตฺถิ, ปฺจสุ ปน โกฏฺาเสสุ อุปรูปริ อปุพฺพํ ทสฺสิตนฺติ กตฺวา เอวํ วุตฺตํ. ตฺหิ สมุทยวิเสสทสฺสนํ, อิตรํ ปน มคฺควิเสสทสฺสนํ. ตสฺส จ ธมฺมโต อปุพฺพาภาโว ทสฺสิโตเยว. ยทิ เอวํ ทุติยาทิโกฏฺาเสสุ, ปมโกฏฺาเสปิ วา กสฺมา ตณฺหา คหิตาติ อาห ‘‘อปุพฺพสมุทยทสฺสนตฺถายปิ หี’’ติอาทิ. เกวลายาติ ตทฺกิเลสาทินิรเปกฺขาย. เทสนาวเสน น วุตฺโตติ น ธมฺมวเสนาติ อธิปฺปาโย. ตสฺมา ทุกฺขาทีนิ ตตฺถ อริยสจฺจเทสนายํ สปฺปเทสานิ ทสฺสิตานิ โหนฺติ ปริยาเยนาติ ทฏฺพฺพํ. อภิธมฺมเทสนา ปน นิปฺปริยายกถาติ กตฺวา อฏฺกถายํ ‘‘นิปฺปเทสโต สมุทยํ ทสฺเสตุํ’’อิจฺเจว วุตฺตํ. ปจฺจยสงฺขาตนฺติ ปจฺจยาภิมตํ ปจฺจยภูตํ, ปจฺจยโกฏฺาสํ วา.

เตสนฺติ กุสลธมฺมานํ. ปจฺจยานํ ปหานวเสนาติ เหตุนิโรเธน ผลนิโรธํ ทสฺเสติ, ตปฺปฏิพทฺธกิเลสปฺปหาเนน วา กุสลานํ ปหานํ วุตฺตํ. ยถา ‘‘ธมฺมาปิ โว, ภิกฺขเว, ปหาตพฺพา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๐). อิติ ปริยายโต กุสลานํ ปหานํ วุตฺตํ, น นิปฺปริยายโต ตทภาวโตติ อาห ‘‘น หิ กุสลา ปหาตพฺพา’’ติ. ยถา จ กุสลธมฺเมสุ, อพฺยากตธมฺเมสุปิ เอเสว นโย. นิโรธนฺติ อสงฺขตธาตุํ. อปฺปวตฺติภาโวติ โย นิโรธสฺส นิพฺพานสฺส ตณฺหาทิอปฺปวตฺติเหตุภาโว, ตํ ปหานนฺติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.

กายกมฺมาทิสุทฺธิยาติ ปุพฺพภาคกายกมฺมวจีกมฺมอาชีวสุทฺธิยา ทูรตรูปนิสฺสยตํ อริยมคฺคสฺส ทสฺเสตีติ สมฺพนฺโธ. ปฺจงฺคิกํ…เป… ปวตฺตตํ ทีเปติ, น ปน อริยมคฺคสฺส ปฺจงฺคิกตฺตาติ อธิปฺปาโย. าปกนิทสฺสนนฺติ าปกภาวนิทสฺสนํ, เอเตน ‘‘วจนโต’’ติ อิทํ เหตุอตฺเถ นิสฺสกฺกวจนนฺติ ทสฺเสติ. วจนโตติ วา อีทิสสฺส วจนสฺส สพฺภาวโต. ปฏิปทาย เอกเทโสปิ ปฏิปทา เอวาติ อตฺโถ. นิทฺทิฏฺโ ธมฺมสงฺคาหเกหิ สงฺคายนวเสน.

ฌาเนหิ เทสนาปเวโส ‘‘โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวตี’’ติ (ธ. ส. ๒๗๗) ฌานสีเสน เทสนาว. ตถา ภาวนาปเวโส. ปาฬิคมนนฺติ ปาฬิปวตฺติ ปาเทสนา. ยถาวิชฺชมานธมฺมวเสนาติ ตสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท ลพฺภมานวิตกฺกาทิธมฺมวเสน.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

๒๑๕. ตสฺสาติ สุตฺตนฺตภาชนียสฺส. เอวํ ปนาติ ‘‘อปิเจสา สมฺมาทิฏฺิ นาม ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา’’ติอาทิปฺปกาเรน. เอวฺจ กตฺวาติ โลกุตฺตรมคฺคสฺเสว มคฺคสจฺจภาวสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เตนาติ เตน การเณน, อริยมคฺคสฺเสว อุทฺทิสิตฺวา นิทฺทิฏฺตฺตาติ อตฺโถ.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

สจฺจวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.