📜

๖. ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ

อุทฺเทสวารวณฺณนา

๒๒๕. ‘‘วุตฺตตฺตา’’ติ อิทํ นิสฺสกฺกํ กึ ลกฺขณํ? เหตุลกฺขณํ. ยทิ เอวํ ตํเหตุโก วิภชฺชวาทิภาโว อาปชฺชติ. น หิ โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถเรน วุตฺตตฺตา พุทฺธสาวกา วิภชฺชวาทิโน อเหสุนฺติ? นยิทเมวํ. ติวิโธ หิ เหตุ าปโก, การโก, สมฺปาปโกติ. เตสุ าปกเหตุ อิธาธิปฺเปโต, ตสฺมา เตน มหาเถเรน ‘‘กึ วาที, ภนฺเต, สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ ปุฏฺเน ‘‘วิภชฺชวาที, มหาราชา’’ติ ตทา วุตฺตวจเนน ายติ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสาวกา วิภชฺชวาทิโน’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ กึ…เป… วุตฺตตฺตา…เป… วิภชฺชวาทิโน’’ติ. ‘‘อหฺหิ, พฺราหฺมณ, วินยาย ธมฺมํ เทเสมิ ราคสฺสา’’ติอาทึ วตฺวา ‘‘โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติอาทินา (ปารา. ๕-๙) เวรฺชพฺราหฺมณสฺส ภควตา เวนยิกาทิภาโว วิภชฺช วุตฺโตติ ตํ อนุวทนฺตา สาวกาปิ ตถา วทนฺตีติ อาห ‘‘เต หิ เวนยิกาทิภาวํ วิภชฺช วทนฺตี’’ติ. จีวราทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน โสมนสฺสาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตานิปิ หิ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพภาเวน วิภชฺช วุตฺตานิ. วิภชฺชวาทิปริสา วิภชฺชวาทิมณฺฑลนฺติ เอตสฺมึ อตฺเถ ยถา ตํ โอติณฺโณ นาม โหติ, ตํทสฺสนตฺถํ ‘‘อาจริเย อนพฺภาจิกฺขนฺเตนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สกสมยาโวกฺกมาทิ หิ ปรมตฺถโต ตโทตาโร. ‘‘อสํกิลิฏฺาปิ อวิชฺชา อตฺถิ อมคฺควชฺฌา, ยาย นิวุตา ขีณาสวาปิ นามโคตฺตาทีสุ เอกจฺจํ น ชานนฺติ, สา กุสลจิตฺตุปฺปาเทสุปิ ปวตฺตตี’’ติ นิกายนฺตริยา. ตํ สนฺธายาห ‘‘อวิชฺชา ปุฺาเนฺชาภิสงฺขารานํ เหตุปจฺจโย โหตีติอาทึ วทนฺโต’’ติ. อุปลกฺขณฺเหตํ สหชาตโกฏิยา. อาทิ-สทฺเทน อกุสลจิตฺเตนปิ าณํ อุปฺปชฺชติ, ยา สํกิลิฏฺา ปฺาติ, อเจตสิกํ สีลํ, อวิฺตฺติสงฺขาตํ รูปภาวํ ทุสฺสิลฺยนฺติ เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ. ปรสมยายูหนํ ปรสมเย พฺยาปาราปตฺติยา. โย ตตฺถ สกสมเยน วิรุทฺโธ อตฺโถ, ตสฺส วา ทีปเนน สิยา, ปรสมเย วาทาโรปเนน วา . เตสุ ปุริมํ ‘‘อาจริเย อนพฺภาจิกฺขนฺเตนา’’ติ อิมินา อปนีตนฺติ อิตรํ ทสฺเสติ ‘‘ปรสมยํ…เป… อนายูหนฺเตนา’’ติ. อสมฺปิณฺเฑนฺเตนาติ อุปจยตฺถํ สนฺธาย วทนฺติ. อายูหน-สทฺโท ปน อุปจยตฺโถ น โหตีติ เกจิวาโท น สารโต คเหตพฺโพ.

ตพฺพิปริยาเยนาติ ยถาวินยํ อวฏฺาเนน. สาวชฺชสฺส อนวชฺชตาทีปนาทินา กมฺมนฺตรํ ภินฺทนฺโต วินาเสนฺโต, อาโลเฬนฺโต วา ธมฺมตํ ธมฺมสภาวํ วิโลเมติ วิปรีตโต ทหติ. มหาปเทเสติ มหาอปเทเส, พุทฺธาทโย มหนฺเต มหนฺเต อปทิสิตฺวา วุตฺตานิ มหาการณานิ. มหาปเทเสติ วา มหาโอกาเส, มหนฺตานิ ธมฺมสฺส ปติฏฺานฏฺานานีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อปทิสียตีติ อปเทโส, พุทฺโธ อปเทโส เอตสฺสาติ พุทฺธาปเทโส. เอส นโย เสเสสุปิ. อตฺถโต จายํ มหาปเทโส ‘‘สมฺมุขา เมตํ ภควโต สุต’’นฺติอาทินา เกนจิ อาภตสฺส ‘‘ธมฺโม’’ติ วา ‘‘อธมฺโม’’ติ วา วินิจฺฉยเน การณํ. กึ ปน ตนฺติ? ตสฺส ยถาภตสฺส สุตฺโตตรณาทิ เอว. ยทิ เอวํ กถํ จตฺตาโรติ? ธมฺมสฺส ทฺเว สมฺปทาโย ภควา, สาวกา จ. เตสุ สาวกา สงฺฆคณปุคฺคลวเสน ติวิธา. เอวํ ‘‘อมุมฺหา มยา อยํ ธมฺโม ปฏิคฺคหิโต’’ติ อปทิสิตพฺพานํ เภเทน จตฺตาโร. เตนาห ‘‘สมฺมุขา เมตํ ภควโต สุต’’นฺติอาทิ. เนตฺติยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘พุทฺธาปเทโส สงฺฆาปเทโส สมฺพหุลตฺเถราปเทโส เอกตฺเถราปเทโส’’ติ.

สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมติมหาปเทเสติ เอตฺถ ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺหานิ ตีณิ ปิฏกานิ อตฺถสูจนาทิอตฺเถน สุตฺตํ. ยถาวุตฺตสฺส สุตฺตสฺส อนุโลมโต ยถาวุตฺตา เอว จตฺตาโร มหาปเทสา สุตฺตานุโลมํ. ปาฬิยา อตฺถคาหเณน ธมฺมตายํ ปติฏฺาปนโต อฏฺกถา อาจริยวาโท. นยคฺคาเหน อนุพุทฺธิยา อตฺตโน ปฏิภานํ อตฺตโนมติ. เอตฺถ จ สุตฺตอาจริยวาทอตฺตโนมตีนมฺปิ เกนจิ อาภตสฺส ธมฺมาธมฺมาทิภาววินิจฺฉยเน การณภาวสภาวโต มหาปเทสตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. สนฺติฏฺติ อปฺปฏิพาหนฺโต, อวิโลเมนฺโต จ. ตพฺพิปริยาเยน อติธาวติ. เอกสฺส ปทสฺส เอเกน ปกาเรน อตฺถํ วตฺวา ตสฺเสว ปุน ปการนฺตเรน อตฺถํ วทนฺโต วา อปเรหิ ปริยาเยหิ นิทฺทิสติ นาม ยถา ‘‘อวิชฺชา ทุกฺขสจฺจสฺส ยาถาวสรสลกฺขณํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทตี’’ติอาทึ วตฺวา ปุน ‘‘อยํ อวิชฺชา ทุกฺขาทีสุ อฺาณ’’นฺติ วุตฺตาปิ ‘‘ทุกฺขสจฺจสฺส เอกเทโส โหตี’’ติอาทิวจนํ. อถ วา เหตุภาเวน วุตฺตสฺส อตฺถสฺส ปุน ผลภาเวน วจนํ ตเมวตฺถํ ปุนราวตฺเตตฺวา นิทฺทิสนํ ยถา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ วตฺวา ปุน ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ วจนํ. อถ วา ‘‘สพฺพเมตํ ภวจกฺกํ กมฺมฺเจว วิปาโก จ. กิเลสกมฺมวิปากวเสน ติวิธ’’นฺติ จ อาทินา วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ทุวิธติวิธาทิวิภาคทสฺสนํ ตเมวตฺถํ ปุนราวตฺเตตฺวา นิทฺทิสนนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สตฺตโวหาโรติ ‘‘สตฺโต’’ติ สมฺา. เย หิ ธมฺเม สมูหภูเต สนฺตานวเสน วตฺตมาเน อุปาทาย สตฺตปฺตฺติ, ตสฺสา ตโต อฺถานาฺถาอจฺจนฺตาภาวสงฺขาเต อนฺเต อนุปคมฺม ยาถาวโต สงฺคหณํ, โพธนฺจ ธมฺมตายํ อกุสลสฺส ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวนฺติ. อวิชฺชาทิกสฺส ปจฺจยธมฺมสฺส สงฺขาราทิปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมํ ปติ เหตุอาทินา ปจฺจเยน ปจฺจยภาโว ปจฺจยากาโร, ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ อตฺโถ.

วุตฺตนเยนาติ ‘‘อาจริเย อนพฺภาจิกฺขนฺเตนา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน. กามฺเจตฺถ สพฺพาปิ อตฺถวณฺณนา อิมินาว นเยน กาตพฺพา, ปฏิจฺจสมุปฺปาทวณฺณนาย ปน ครุตรภาวํ ทสฺเสนฺโต เอวํ วทติ.

ปาฬิธมฺมนฺติ เตปิฏกพุทฺธวจนํ. ปฏิจฺจสมุปฺปาทนฺติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปาฬึ.

อตฺถํ กตฺวาติ หิตํ กตฺวา. ยถายํ หิตาวโห โหติ, เอวํ กตฺวา. อฏฺึ กตฺวาติ วา อตฺตานํ อตฺถิกํ กตฺวา. สุตจินฺตามยาทึ าณวิเสสํ. ตทงฺควิกฺขมฺภนาทินา กิเลสกฺขยวิเสสํ.

ภวาทีสุ อาทีนวปฺปฏิจฺฉาทนโต, พลวูปนิสฺสยโต, กมฺมสฺส วิเสสเหตุภาวโต จ วฏฺฏสฺส มูลการณํ อวิชฺชา. วิปากวฏฺฏนิมิตฺตสฺส กมฺมวฏฺฏสฺส การณภูตมฺปิ กิเลสวฏฺฏํ อวิชฺชามูลกนฺติ ทสฺสนตฺถํ อวิชฺชา อาทิโต วุตฺตา. ตณฺหาปิ หิ อวิชฺชาย ปฏิจฺฉาทิตาทีนเว เอว วิสเย อสฺสาทานุปสฺสิโน ปวตฺตติ, น อฺถา. มูลาทิทสฺสนสามฺฺจาติ วลฺลิยา มูลมชฺฌปริโยสานสฺส ทสฺสเนน ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส ตํทสฺสนสามฺฺจ โยเชตพฺพํ, สมนฺตจกฺขุนา สพฺพสฺส ทิฏฺตฺเตปิ เทสนากาเล เทสนาาณจกฺขุนา โพเธตพฺพตาวเสน เอกเทสทสฺสนสฺส อธิปฺเปตตฺตา.

ทิฏฺิสหิตาย มานสหิตาย วา ตณฺหาย ‘‘อห’’นฺติ, อิตราย ‘‘มม’’นฺติ อภิวทโต. ‘‘อภินนฺทนโต’’ติ หิ อิมินา สปฺปีติกาย ตณฺหาย ปวตฺติ ทสฺสิตา. ‘‘อภิวทโต’’ติ อิมินา ตโต พลวตราย ทิฏฺิสหิตาย มานสหิตาย วา. ‘‘อชฺโฌสาย ติฏฺโต’’ติ อิมินา ปน ตโตปิ พลวตมาย ทิฏฺิสหิตาย, เกวลาย วา ตณฺหาย ปวตฺติ ทสฺสิตา. คิลิตฺวา ปรินิฏฺาเปตฺวา านฺหิ อชฺโฌสานํ. ตปฺปจฺจยนฺติ ตณฺหาปจฺจยํ. กถํ ปน นนฺทิวจเนน จตุพฺพิธมฺปิ อุปาทานํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘นนฺทิตา’’ติอาทิ. ตตฺถ นนฺทิตาตทวิปฺปโยคตาหีติ นนฺทิภาเวน สภาวโต ตณฺหุปาทานํ, ตาย นนฺทิยา ตณฺหาย อวิปฺปโยเคน อวินาภาเวน ทิฏฺุปาทานํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ทิฏฺาภินนฺทนภาเวนา’’ติ อิมินา ทิฏฺิยาปิ นนฺทิภาวมาห.

ปฏิสนฺธิปวตฺติผสฺสาทโยติ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ อุปฺปนฺนผสฺสมโนสฺเจตนาวิฺาณานิ. ‘‘วิปากวฏฺฏภูเต’’ติ จ อิทํ ปวตฺตวิเสสนํ ทฏฺพฺพํ. วฏฺฏูปตฺถมฺภกาติ วฏฺฏตฺตยูปนิสฺสยา. อิตเรติ อกมฺมชา. ตสฺมินฺติ ยถาวุตฺเต อาหารจตุกฺเก. วตฺตุํ วฏฺฏนฺตีติ ตณฺหานิทานูปนิสฺสยโต ‘‘ตณฺหานิทานา’’ติ วตฺตุํ ยุชฺชนฺติ.

ยถา อริยมคฺโค อนฺตทฺวยวชฺชิตมชฺฌิมปฏิปทาภาวโต ‘‘าโย’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ปฏิจฺจสมุปฺปาโทปีติ อาห ‘‘าโยติ มคฺโค, โสเยว วา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ. อตฺตโน ปฏิเวธาย สํวตฺตติ อสมฺโมหปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌิตพฺพตฺตา. สํวตฺตตีติ จ นิมิตฺตสฺส กตฺตูปจารวเสเนตํ วุตฺตํ ยถา ‘‘อริยภาวกรานิ สจฺจานิ อริยสจฺจานี’’ติ. ปกติอาทโย เหฏฺา สจฺจวิภงฺเค เหตุวิปฺปฏิปตฺติกถายํ ทสฺสิตา เอว. อการณํ ‘‘การณ’’นฺติ คณฺหนฺติ ยถา กาปิลาทโย. น กิฺจิ การณํ พุชฺฌนฺติ ยถา ตํ อฺเ พาลปุถุชฺชนา. อิตราสนฺติ มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา เทสนาทีนํ ติสฺสนฺนํ. ตทตฺถตาสมฺภเวปีติ ยถาสเกหิ การเณหิ ปวตฺติทสฺสนตฺถตาสมฺภเวปิ. อตฺถนฺตรสพฺภาวโตติ ปโยชนนฺตรสพฺภาวโต. วุตฺตานิ หิ อฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๕) ‘‘ชรามรณาทิกสฺส ทุกฺขสฺส อตฺตนา อธิคตการณสนฺทสฺสนตฺถํ. อาหารนิทานววตฺถาปนานุสาเรน ยาว อตีตํ อทฺธานํ อติหริตฺวา ปุน อตีตทฺธโต ปภุติ เหตุผลปฏิปาฏิสนฺทสฺสนตฺถํ. อนาคตทฺธเหตุสมุฏฺานโต ปภุติ อนาคตทฺธสนฺทสฺสนตฺถ’’นฺติ ติสฺสนฺนํ ยถากฺกมํ ตีณิ ปโยชนานิ.

ตํตํผลปฏิเวโธติ ชาติอาทีนํ ชรามรณาทิตํตํผลาวคโม. อนุวิโลกยโตติ ปุริเม วิกปฺเป วิปสฺสนานิมิตฺตํ อนุวิโลกนํ, ทุติเย เทสนานิมิตฺตํ. กามุปาทานภูตา ตณฺหา มโนสฺเจตนาหารสงฺขาตสฺส ภวสฺส, ตํสมฺปยุตฺตานํ, ตนฺนิมิตฺตานฺจ เสสาหารานํ วิเสสปจฺจโย โหตีติ อาห ‘‘อาหารตณฺหาทโย ปจฺจุปฺปนฺนทฺธา’’ติ. อาทิ-สทฺเทน ยาว วิฺาณํ คเหตพฺพํ. อาหารตณฺหาทโยติ เอตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนกมฺมวฏฺฏปริยาปนฺเน อาหาเร คเหตฺวา อทฺธโยชนํ กตฺวา อนาคตวิปากวฏฺฏปริยาปนฺเน คเหตฺวา โยเชตุํ วุตฺตํ ‘‘อาหารา วา ตณฺหาย ปภาเวตพฺพา อนาคโต อทฺธา’’ติ. ปภาเวตพฺพาติ อายตึ อุปฺปาเทตพฺพา. ยุชฺชตีติ ผลภูเต อาหาเร ปจฺจุปฺปนฺเน ปจฺจกฺขโต ทสฺเสตฺวา ‘‘ตํนิทานํ ตณฺหํ ตสฺสา นิทาน’’นฺติอาทินา ผลปรมฺปราย การณปรมฺปราย จ ทสฺสนํ ตถาพุชฺฌนกานํ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยานุโลมโต, ธมฺมสภาวาวิโลมนโต จ ยุตฺติยา สงฺคยฺหติ. ยทิ ตณฺหาทโย อตีโต อทฺธา, ตณฺหาคฺคหเณเนว สงฺขาราวิชฺชา คหิตาติ กิมตฺถํ ปุน เต คหิตาติ อาห ‘‘สงฺขาราวิชฺชา ตโตปิ อตีตตโร อทฺธา วุตฺโต สํสารสฺส อนาทิภาวทสฺสนตฺถ’’นฺติ. อตีตนฺติ วา อตีตตาสามฺเน อตีตตรมฺปิ สงฺคหิตํ ทฏฺพฺพํ.

ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติอาหารกาติ ปุนพฺภวูปปตฺติปจฺจยา. อิติ วจนโตติ เอวํ วุตฺตวจนสพฺภาวโต. วิฺาณาหาโร ตาว ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา เหตุ, อิตเร ปน กถนฺติ อาห ‘‘ตํสมฺปยุตฺตตฺตา…เป… กพฬีการาหารสฺสา’’ติ. ตสฺส อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติอาหารกา จตฺตาโร อาหาราติ สมฺพนฺโธ. สทฺธาทีนํ อุปนิสฺสยตา ปริจฺจาคาทิกาเล, ราคาทีนํ คธิตสฺส โภชนาทิกาเล. เตน ยถากฺกมํ กุสลากุสลกมฺมวิฺาณายูหนํ ทสฺสิตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติอาหารกา จตฺตาโร อาหารา คยฺหนฺติ, ตสฺมา. ปุริโมเยวตฺโถติ ‘‘อาหารตณฺหาทโย ปจฺจุปฺปนฺนทฺธา’’ติอาทินา วุตฺตอตฺโถ. อตีเตติ อตีเต อทฺธนิ. ตโต ปรนฺติ ตโต อตีตทฺธโต ปรํ ปจฺจุปฺปนฺเน อนาคเต จ อทฺธนิ ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติอาทินา. ปจฺจกฺขานนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนภวปริยาปนฺนตาย ปจฺจกฺขภูตานํ. ปจฺจุปฺปนฺนํ เหตุนฺติ เอตรหิ วตฺตมานํ ตณฺหาทิกํ อาหาราทีนํ เหตุํ.

สุตฺตํอาหรติ ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓). วฏฺฏเหตุโนติ วิปากวฏฺฏเหตุโน, สกลวฏฺฏเหตุโน วา. อกุสลฺหิ กมฺมํ กมฺมวฏฺฏสฺส กิเลสวฏฺฏสฺส จ ปจฺจโย โหติเยว. ‘‘ภวตณฺหายปิ เหตุภูตา’’ติ อิมินา กิเลสวฏฺฏสฺสาปิ อวิชฺชาย ปจฺจยภาวมาห. เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจตี’’ติอาทินา วฏฺฏสีสานมฺปิ อวิชฺชาตณฺหานํ สปฺปจฺจยตาทสฺสนาปเทเสน สพฺเพสมฺปิ สงฺขตธมฺมานํ เหตุผลปรมฺปราวิจฺเฉทวุตฺติยา ปุริมาย โกฏิยา อปฺายนํ วิภาเวติ.

อวิชฺชํ ตณฺหา อนุวตฺตตีติ ทุกฺเข ตณฺหํ อภิภวิตฺวา ปวตฺติยา ตโต อวิชฺชาย พลวภาวมาห. อวิชฺชาภิภูตา หิ สตฺตา สติปิ ตณฺหาปริตสฺสิเต เอกนฺตานตฺถสฺิตํ อตฺตกิลมถานุโยคทุกฺขมนุยุฺชนฺติ. ตณฺหํ อวิชฺชา อนุวตฺตตีติ สุเข อวิชฺชํ อภิภวิตฺวา ปวตฺติยา ตโต ตณฺหาย พลวภาวมาห. ยทิปิ สาวชฺชสุขานุภเว พลวตีเยว อวิชฺชา วิชฺชมานอาทีนวํ ปฏิจฺฉาเทนฺตี ติฏฺติ, ตณฺหา ปน ตโตปิ พลวตรตาย สตฺเต วิปุลานตฺถสฺหิเต อนริเย สุเข นิโยเชตีติ อวิชฺชาย ตทนุวตฺตนํ วุตฺตํ.

อายตนฉกฺกํ วา กาโยติ สมฺพนฺโธ. จกฺขาทินิสฺสเย เสสธมฺเมติ จกฺขาทินิสฺสยภูเต, ตปฺปฏิพทฺเธ จ สสนฺตานปริยาปนฺเน ธมฺเม. จกฺขาทินิสฺสิเต เอว กตฺวาติ จกฺขาทิคฺคหเณเนว คหิเต กตฺวา. จกฺขาทิกายนฺติ จกฺขาทิธมฺมสมูหํ ปเรสํ ปฺจกฺขนฺธํ. ผสฺเสน ผุฏฺโติ อารมฺมณํ ผุสนฺเตน วิย อุปฺปนฺเนน สุขเวทนิเยน, ทุกฺขเวทนิเยน จ ผสฺเสน ผุฏฺโ. ผสฺเส หิ ตถา อุปฺปนฺเน ตํสมงฺคีปุคฺคโล ผุฏฺโติ โวหาโร โหตีติ.

ยถา สฬายตนานิ ผสฺสสฺส วิเสสปจฺจโย, เอวํ เวทนายปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สฬายตนานํ เวทนาย วิเสสปจฺจยภาว’’นฺติ อาห. ตนฺนิสฺสิตนฺติ สฬายตนนิสฺสิตํ. อตีตทฺธาวิชฺชาตณฺหามูลโกติ อตีตทฺธภูตอวิชฺชาตณฺหามูลโก. กายสฺส เภทา กายูปโคติ อุภยตฺถาปิ กายสทฺเทน อุปาทินฺนกฺขนฺธปฺจโก คหิโต. ตทุปคตา อุปปชฺชนํ ปฏิสนฺธิคฺคหณํ. อุภยมูโลติ อวิชฺชาตณฺหามูโล.

อนภิสมยภูตตฺตาติ อภิสมยสฺส ปฏิปกฺขภูตตฺตา. อวิชฺชายาติ อวิชฺชาย สติ.

คหณนฺติ คเหตพฺพตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา สติ สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขารตฺเตปิ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา ปธานตาย วิสุํ วุตฺตา โคพลีพทฺทาเยน, ตสฺมา. ตตฺถ วุตฺตมฺปีติ สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขาเรสุ วุตฺตมฺปิ อภิสงฺขรณกสงฺขารํ วชฺเชตฺวา อคฺคเหตฺวา อิตเร สงฺขารา โยเชตพฺพา. เอวฺหิ อตฺถสฺส อุทฺธรณุทฺธริตพฺพตาทฺวยํ อสงฺกรโต ทสฺสิตํ โหติ. ‘‘อิธ วณฺเณตพฺพภาเวนา’’ติ อิมินา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารานํ สติปิ สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขารภาเว ยถาวุตฺตเมว ปธานภาวํ อุลฺลิงฺเคติ. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ ตเทกเทโส วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ. อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป สงฺคณฺหนวเสน สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขาเรหิ สงฺคหิตาปิ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา อิธ วณฺเณตพฺพภาเวน ปธานาติ วิสุํ คหิตา, ปุริมสฺมึ เต วชฺเชตฺวาติ อยํ วิเสโส. เตนาห ‘‘วณฺเณตพฺพสพฺพสงฺคหณวเสน ทุวิธตา วุตฺตา’’ติ. สามฺโต สงฺคยฺหมานมฺปิ ปธานภาวโชตนตฺถํ วิสุํ คยฺหติ ยถา ตํ ‘‘ปุฺาณสมฺภารา’’ติ.

เยน กุสลากุสลธมฺมา ‘‘วิปากธมฺมา’’ติ วุจฺจนฺติ, ตํ อายูหนํ, กึ ปน ตนฺติ? อนุปจฺฉินฺนตณฺหาวิชฺชามาเน สนฺตาเน สพฺยาปารตา. เตนาห ‘‘ปฏิสนฺธิ…เป… อายูหนรสา’’ติ. เจตนาปธานตฺตา ปน ตสฺส เจตนากิจฺจํ กตฺวา วุตฺตํ. ราสิกรณํ, อายูหนนฺติ จ ราสิภูตสฺส รูปารูปสงฺขาตสฺส ผลสฺส นิพฺพตฺตนโต วุตฺตํ. ‘‘อนารมฺมณตา อพฺยากตตา’’ติ อิทํ อพฺยากตสฺเสว อนารมฺมณตฺตา อพฺยากตสมฺพนฺธินี อนารมฺมณตาติ กตฺวา วุตฺตํ. อายตนํ, ฆฏนนฺติ จ ตํตํทฺวาริกธมฺมปฺปวตฺตนเมว ทฏฺพฺพํ.

อนนุโพธาทโย อวิชฺชาปทนิทฺเทเส อาคตา. อวิชฺชาปทสมฺพนฺเธน ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตาติ อิตฺถิลิงฺคนิทฺเทโส. อสณฺานตฺตาติ อวิคฺคหตฺตา.

โสกาทีนํสพฺภาวาติ ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ อนิฏฺาเปตฺวา ตทนนฺตรํ โสกาทีนมฺปิ วุตฺตานํ วิชฺชมานตฺตา เตสํ วเสน องฺคพหุตฺตปฺปสงฺเค ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานํ พหุภาเว อาปนฺเน. ทฺวาทเสวาติ กถํ ทฺวาทเสว, นนุ โสกาทโยปิ ธมฺมนฺตรภูตา ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนายํ วุตฺตาติ? สจฺจํ วุตฺตา, น ปน องฺคนฺตรภาเวนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ผเลนาติ ผลภูเตน ชรามรณงฺคสงฺคหิเตน โสกาทินา. มูลงฺคํ ทสฺเสตุนฺติ อิมาย ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนาย มูลภูตํ อวิชฺชงฺคํ โสจนาทีหิ สมฺโมหาปตฺติกถเนน ทสฺเสตุํ เต โสกาทโย วุตฺตา ภวจกฺกสฺส อวิจฺเฉททสฺสนตฺถํ. ชรามรณํ การณํ เอเตสนฺติ ชรามรณการณา , โสกาทโย, ตพฺภาโว ชรามรณการณตา. ชรามรณํ นิมิตฺตํ เอตสฺสาติ ชรามรณนิมิตฺตํ. ตํ ตนฺนิมิตฺตานนฺติ เอตฺถ ตนฺติ สุตฺตํ. ตนฺนิมิตฺตานํ ทุกฺขนิมิตฺตานํ โสกาทีนํ. ตโต ปรายาติ อนาคเต ทุติยตฺตภาวโต ปราย ตติยตฺตภาวาทีสุ ปฏิสนฺธิยา. เหตุเหตุภูตาติ การณสฺส การณภูตา. ปฏิสนฺธิยา หิ สงฺขารา การณํ, เตสํ อวิชฺชา. สุตฺตนฺติ ‘‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติ (ม. นิ. ๑.๒, ๑๗; สํ. นิ. ๒.๖๑; ธ. ส. ๑๐๐๗) อิมํ สุตฺตํ สนฺธาย วทติ. อวิชฺชา โสกาทีนํ การณนฺติ ทสฺสิตา อสฺสุตวตาย อวิชฺชาภิภวนทีปนิยา ตทุปฺปตฺติวจนโต. ‘‘น โสกาทีนํ พาลสฺส ชรามรณนิมิตฺตตามตฺตสฺส สาธกํ สุตฺต’’นฺติ วุตฺตมตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘น จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน น จ ชรามรณนิมิตฺตเมว ทุกฺขํ ทุกฺขํ, อถ โข อวิชฺชานิมิตฺตมฺเปตฺถ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เอวํ ชรามรเณน โสกาทีนํ เอกสงฺเขปํ กตฺวา ทฺวาทเสว ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ เวทิตพฺพานิ.

กสฺมา ปเนตฺถ ชรามรณนฺตา เอว เทสนา กตา, กึ ตโต ปรา ปวตฺติ นตฺถีติ? โน นตฺถิ, อปฺปหีนกิเลสสฺส หิ กมฺมโต, วิฺาณาทิปริโยสานภูตาย จ จุติยา ปฏิสนฺธิปาตุภาโวติ ปวตฺติตทุปรมภูตํ ชรามรณํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตินิมิตฺตํ. ตํ ปน กมฺมูปปตฺติภวโต ชาติยา ทสฺสิตตฺตา ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ อิมินาว ปกาสิตนฺติ น ปุน วุจฺจติ, น ตโต ปรํ ปวตฺติยา อภาวโต. เอกกมฺมนิพฺพตฺตสฺส จ สนฺตานสฺส ชรามรณํ ปริโยสานํ. สติ กิเลสวฏฺเฏ กมฺมุนา ตโต ปุนพฺภวูปปตฺติ, อสติ ปน ตสฺมึ ‘‘เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ ชรามรณปริโยสานาว เทสนา กตา. ยสฺมา ปน น อมรณา ชรา อตฺถิ สพฺเพสํ อุปฺปตฺติมนฺตานํ ปากานนฺตรเภทโต, น จาชรํ มรณํ อปากเภทาภาวา, ตสฺมา ตทุภยเมกมงฺคํ กตํ, น นามรูปํ วิย อุภยฏฺาเน เอกชฺฌํ อุปฺปตฺติยา, สฬายตนํ วิย วา อายตนภาเวน กิจฺจสมตาย. ยา ปนายํ โอสานํ คตา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ทีปิตา, ตาย ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติอาทิ, กิเลสกมฺมาภาเว ตทภาวโต ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอวมาทิ เอว วา อตฺถโต ปกาสิโต โหตีติ วฏฺฏตฺตยสฺส อนวฏฺาเนน ปริพฺภมนํ ทสฺสิตํ โหติ. อถ วา ชราคหเณน ปริปกฺกปริปกฺกตราทิกฺกเมน วตฺตมานํ นามรูปาทิ, โสกาทิ จ คยฺหติ, ตถาสฺส ปริปากกาลวตฺตินี อวิชฺชา จ. ยถาห –

‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, กุมาโร วุทฺธิมนฺวาย อินฺทฺริยานํ ปริปากมนฺวาย ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ จกฺขุวิฺเยฺเยหิ รูเปหิ…เป… กายวิฺเยฺเยหิ โผฏฺพฺเพหิ…เป… รชนีเยหิ. โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา ปิยรูเป รูเป สารชฺชติ, อปฺปิยรูเป รูเป พฺยาปชฺชติ, อนุปฏฺิตกายสติ จ วิหรติ ปริตฺตเจตโส, ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๔๐๘).

เอตฺถ หิ ปริปกฺกินฺทฺริยสฺส ฉสุ ทฺวาเรสุ สราคาทิคฺคหเณน ตทวินาภาวิตาย วิมุตฺติยา อปฺปชานเน จ โสกาทีนํ ปจฺจยภูตา อวิชฺชา ปกาสิตา. อปิจ ‘‘ปิยปฺปภวา โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ วจนโต กามาสวภวาสเวหิ, ‘‘ตสฺส ‘อหํ รูปํ, มม รูปนฺติ ปริยุฏฺฏฺายิโน…เป… รูปวิปริณามฺถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑) วจนโต ทิฏฺาสวโต, ‘‘อสฺสุตวา’’ติอาทิวจนโต อวิชฺชาสวโต โสกาทีนํ ปวตฺติ ทีปิตาติ เตสํ เหตุตาย ตคฺคหเณน คหิตา อาสวา. เตสํ สยฺจ ชราสภาวตาย ชราคหเณน คยฺหนฺติ, ตโต จ ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ วจนโต อาสวนิมิตฺตาย จ อวิชฺชาย ชราคหเณน คหณํ. ตโต จ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อาวฏฺฏติ ภวจกฺกํ. อปิจ ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ วตฺวา ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ วทนฺเตนปิ ภวจกฺกสฺส อนวฏฺานโต ปริพฺภมนํ ทสฺสิตํ. เอตฺถ หิ วิฺาเณน อวิชฺชานิวุตสฺส ปุนพฺภโว ทสฺสิโต, ชาติยา ตณฺหาย สมฺปยุตฺตสฺส, อุภยตฺถ อุภินฺนํ อนุวตฺตมานตฺตาติ อวิชฺชาตณฺหานิมิตฺตํ ภวจกฺกํ อนวฏฺานโต ปริพฺภมตีติ อยมตฺโถ ทีปิโตติ ชรามรณนฺตาปิ เทสนา น ตโต ปรํ ปวตฺติยา อภาวํ สูเจติ อตทตฺถตฺตา, น จ ปจฺจยนฺตรทสฺสนตฺถเมว ปุน วจนนฺติ สกฺกา วิฺาตุํ เอกตฺเรว ตทุภยเทสนาย ตสฺส สิทฺธตฺตา. ตถา ยํ กมฺมํ อวิชฺชาเหตุกํ, ตํ ตณฺหาเหตุกมฺปิ. ยํ ตณฺหาเหตุกํ, ตํ อวิชฺชาเหตุกมฺปิ เวทิตพฺพํ. กสฺมา? ทฺวินฺนํ ภวมูลานํ อฺมฺาวิรหโต. ยถา หิ ตณฺหาปจฺจยา กามุปาทานเหตุกํ กมฺมภวสงฺขารํ วทนฺโต น วินา ภวตณฺหาย อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโยติ ทสฺเสติ. ตถา ตเมว อวิชฺชาปจฺจยํ เทเสนฺโต น อนฺตเรน อวิชฺชาย ภวตณฺหา กมฺมภวสฺส ปจฺจโยติ. ตโต จ ปุพฺเพ ปวตฺตา อวิชฺชาทิปจฺจยา สงฺขาราทโย , ตณฺหุปาทานาทิปจฺจยา ภวาทโย จ, ตถา ตณฺหาเหตุอุปาทานปจฺจยา ภโว, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, ภวปจฺจยา ชาติ, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ, วิฺาณาทิปจฺจยานามรูปาทีติ เอวเมเตสํ องฺคานํ ปุพฺพาปรสมฺพนฺโธ ทสฺสิโต โหตีติ เวทิตพฺพํ.

อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

อวิชฺชาปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๒๖. ปิตากถียตีติ อสุโก อสุกสฺส ปิตาติ ปิตุภาเวน กถียติ. กถิยมาโน จ อสนฺเทหตฺถํ อฺเหิ มิตฺตทตฺเตหิ วิเสเสตฺวา กถียตีติ ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ทีโฆ…เป… ทตฺโต’’ติ.

ยาถาโวติ อวิปรีโต. กิจฺจชาติโตติ ปฏิจฺฉาทนกิจฺจโต, อุปฺปชฺชนฏฺานโต จ.

คหณการณวเสนาติ คหณสฺส การณภาววเสน. อฺเสตาทีนํ นิวตฺตกานีติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ.

ฉาเทนฺติยาติ ฉาทนากาเรน ปวตฺตนฺติยา. ตถา ปวตฺตนเหตุ ตํสมฺปยุตฺตา อวิชฺชาสมฺปยุตฺตา ทุกฺขารมฺมณา โหนฺติ.

ตสฺมาติ สภาวโต อคมฺภีรตฺตา เตสํ ทุทฺทสภาวกรณี ตทารมฺมณตา อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ. อิตเรสนฺติ นิโรธมคฺคานํ. สมาเนปิ ปณีตอสํกิเลสิกาทิภาเว สปฺปจฺจยโต อปฺปจฺจยสฺส วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘มคฺคสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

อวิชฺชาปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สงฺขารปทนิทฺเทสวณฺณนา

‘‘โสเธติอปุฺผลโต’’ติ อิมินา ปุฺสฺส วิปากทุกฺขวิวิตฺตตํ อาห, ‘‘ทุกฺขโต’’ติ อิมินา เจโตทุกฺขวิวิตฺตตํ, ‘‘สํกิเลสโต’’ติ อิมินา กิเลสทุกฺขวิวิตฺตตํ. ‘‘อปุฺผลโต’’ติ วา อิมินา ปุฺสฺส อายตึ หิตตํ ทสฺเสติ. ‘‘ทุกฺขสํกิเลสโต’’ติ อิมินา ปวตฺติหิตตํ ปวตฺติสุขตฺจ ทสฺเสติ. ตํนิปฺผาทเนนาติ หิตสุขนิพฺพตฺตเนน. ปุชฺชภวนิพฺพตฺตโก ปุชฺชนิพฺพตฺตโก.

‘‘เอวมิทํ ปุฺํ ปวฑฺฒตี’’ติอาทีสุ ปุฺผลมฺปิ ปุฺนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ปุฺุปคนฺติ ภวสมฺปตฺตุปค’’นฺติ.

อาทิภาวนาติ ‘‘ปถวี ปถวี’’ติอาทินา กสิเณสุ ปวตฺตภาวนา. ปถวี ปถวีติ วา เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, ปการตฺโถ วา. เตน อิตรกสิณานํ คหณํ. อาทิภาวนาติอาทิภูตา ภาวนา. สา หิ ‘‘ปริกมฺม’’นฺติ วุจฺจติ. มณฺฑลกรณํ กสิณมณฺฑลกรณํ.

ทานวเสนาติ เทยฺยธมฺมปริจฺจาควเสน. จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ทานํ ทิยฺยติ เอเตนาติ. ตตฺถาติ เตสุ จิตฺตเจตสิเกสุ. ทานํ อารพฺภาติ เตหิ นิพฺพตฺติยมานํ ปริจฺจาคํ อุทฺทิสฺส. ยถา วา โส นิปฺปชฺชติ, ตถา เปตฺวา. อธิกิจฺจาติ ตสฺเสว เววจนํ. ยถา วา สมฺปยุตฺเตหิ นิพฺพตฺติยมานา ทานกิริยา นิปฺผตฺติวเสน อธิกตํ ปาปุณาติ, ตถา กตฺวา. เจตนาวเสเนว หิ ทานาทิกมฺมนิปฺผตฺติ. อิตเรสูติ ‘‘สีลํ อารพฺภา’’ติอาทีสุ.

อสริกฺขกมฺปีติ อตฺตนา อสทิสมฺปิ กฏตฺตารูปนฺติ สมฺพนฺโธ. วินาปิ จตุตฺถชฺฌานวิปาเกน. รูปตณฺหาสงฺขาตสฺสาติ ‘‘รูปตณฺหา’’ติ เอตฺถ วุตฺตรูปตณฺหมาห. คุฺชนฺติ คุฺชผลปริมาณํ ธารณียวตฺถุํ. ตถา ตณฺฑุลํ.

‘‘วจนวิเสสมตฺตเมวา’’ติ อตฺถวิเสสาภาโว วุตฺโตติ อตฺถวิเสสาภาวมาห ‘‘กายทฺวาเร ปวตฺติเอว หิ อาทานาทิปาปนา’’ติ. ปุริเมนาติ ‘‘กายทฺวาเร ปวตฺตา’’ติ อิมินา. ตฺหิ ปวตฺติมตฺตกถนโต ทฺวารูปลกฺขณํ โหติ. ปจฺฉิเมนาติ ‘‘อาทานา’’ทิวจเนน.

กายวจีสงฺขารคฺคหเณติ อุทฺเทสํ สนฺธายาห. กายวจีสฺเจตนาคหเณติ นิทฺเทสํ. วิฺาณสฺสาติ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส. สหชาตสฺส ปน อนนฺตรสฺส จ ปจฺจโย โหติเยว. ‘‘กุสลา วิปากธมฺมา จา’’ติ อิทํ เสกฺขปุถุชฺชนสนฺตาเน อภิฺาเจตนา อิธาธิปฺเปตา, น อิตราติ กตฺวา วุตฺตํ. เตน ยถาวุตฺตอภิฺาเจตนาปิ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส ปจฺจโย สิยา กุสลสภาวตฺตา, วิปากธมฺมตฺตา วา ตทฺกุสลากุสลเจตนา วิยาติ ทสฺเสติ. ตยิทํ โลกุตฺตรกุสลาย อเนกนฺติกํ. น หิ สา ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส ปจฺจโย. อถ วิปากทายินีติ วุจฺเจยฺย, เอวมฺปิ อโหสิกมฺเมน อเนกนฺติกํ. น หิ ตสฺสา วิปากุปฺปาทนํ อตฺถีติ อาห ‘‘น วิปากุปฺปาทเนน กุสลตา วิปากธมฺมตา จา’’ติ. เกวลฺหิ ยา อฺเสํ วิปากธมฺมานํ สพฺยาปารา สอุสฺสาหา ปวตฺติ, ตทาการาวสฺสา อปฺปหีนกิเลเส สนฺตาเน ปวตฺตีติ วิปากธมฺมตา, อนวชฺชฏฺเน กุสลตา จ วุตฺตา. เอวมฺปิ ยทิ วิปากธมฺมา อภิฺาเจตนา, กถํ อวิปากาติ? อสมฺภวโตติ ตํ อสมฺภวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อภิฺาเจตนา หิ ยทิ วิปากํ อุปฺปาเทยฺย, สภูมิกํ วา อุปฺปาเทยฺย อฺภูมิกํ วา. ตตฺถ อฺภูมิกสฺส ตาว อุปฺปาทนํ อยุตฺตํ ปจฺจยาภาวโต, ตถา อทสฺสนโต จ. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. สภูมิกํ นวตฺตพฺพารมฺมณํ วา อุปฺปาเทยฺย ปริตฺตาทิอารมฺมณํ วา, เตสุ อตฺตโน กมฺมสมานารมฺมณตาย รูปาวจรวิปากสฺส ทสฺสิตตฺตา, ปริตฺตาทิอารมฺมณตฺตา จ อภิฺาเจตนาย นวตฺตพฺพารมฺมณํ น อุปฺปาเทยฺย. ตถา เอกนฺตนวตฺตพฺพารมฺมณตฺตา รูปาวจรวิปากสฺส ปริตฺตาทิอารมฺมณฺจ น อุปฺปาเทยฺยาติ อยมสมฺภโว. เตนาห ‘‘อตฺตนา สทิสารมฺมณฺจา’’ติอาทิ. ตตฺถ ติฏฺานิกนฺติ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน านตฺตยวนฺตํ. ‘‘ปถวีกสิณํ อาโปกสิณ’’นฺติอาทินา กุสเลน อภินฺนํ กตฺวา วิปากสฺส อารมฺมณํ เทสิตนฺติ อาห ‘‘จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ…เป… วุตฺตตฺตา’’ติ. ‘‘รูปาวจรติกจตุกฺกชฺฌานานิ กุสลโต จ วิปากโต จ กิริยโต จ จตุตฺถสฺส ฌานสฺส วิปาโก อากาสานฺจายตนํ อากิฺจฺายตนํ อิเม ธมฺมา นวตฺตพฺพา ‘‘ปริตฺตารมฺมณา’’ติปิ ‘มหคฺคตารมฺมณา’ติปิ ‘อปฺปมาณารมฺมณา’ติปี’’ติ วจนโต รูปาวจรวิปาโก เอกนฺตนวตฺตพฺพารมฺมโณติ อาห ‘‘น จ รูปาวจรวิปาโก ปริตฺตาทิอารมฺมโณ อตฺถี’’ติ. สฺวายมสมฺภโว ปริตฺตาทิอารมฺมณาย อภิฺาเจตนาย วิปากาภาวํ สาเธติ, น นวตฺตพฺพารมฺมณาย . นวตฺตพฺพารมฺมณาปิ หิ สา อตฺถีติ น พฺยาปีติ วิปากานุปฺปาทเน ตสฺสา อฺํ การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘กสิเณสุ จา’’ติอาทิมาห. สมาธิวิชมฺภนภูตา อภิฺา สมาธิสฺส อานิสํสมตฺตนฺติ ‘‘สมาธิผลสทิสา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส ตสฺส อธิฏฺานวิกุพฺพนทิพฺพสทฺทสวนาทิกสฺส ยทิจฺฉิตสฺส กิจฺจสฺส นิปฺผาทนมตฺตํ ปน อภิฺาเจตนา, น กาลนฺตรผลา, ทิฏฺธมฺมเวทนียํ วิย นาปิ วิปากผลา, อถ โข ยถาวุตฺตอานิสํสผลา ทฏฺพฺพา.

เกจิ ปน ‘‘สมานภูมิกโต อาเสวนลาเภน พลวนฺตานิ ฌานานีติ ตานิ วิปากํ เทนฺติ สมาปตฺติภาวโต, อภิฺา ปน สติปิ ฌานภาเว ตทภาวโต ตสฺมึ ตสฺมึ อารมฺมเณ อาคนฺตุกาวาติ ทุพฺพลา, ตสฺมา วิปากํ น เทตี’’ติ วทนฺติ. ตํ อการณํ ปุนปฺปุนํ ปริกมฺมวเสน อภิฺายปิ วสีภาวสพฺภาวโต. ยํ ปน วทนฺติ ‘‘ปาทกชฺฌาเน อตฺตนา สมานสภาเวหิ ชวเนหิ ลทฺธาเสวเน สมฺมเทว วสีภาวปฺปตฺเต ปริสุทฺธตาทิอฏฺงฺคสมนฺนาคเมน สาติสเย ชาเต อภิฺา นิพฺพตฺตนฺติ, ตาสฺจ จตุตฺถชฺฌานิกตฺตา จตุตฺถชฺฌานภูมิโก เอว วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย, โส จ ยถาวุตฺตคุเณน พลวตา ปาทกชฺฌาเนเนว กโตกาเสน สิชฺฌตีติ อโนกาสตาย อภิฺา น วิปากํ เทตี’’ติ. ตมฺปิ อการณํ อวิปากภาวโต ตาสํ. สติ หิ วิปากทายิภาเว วิปากสฺส อโนกาสโจทนา ยุตฺตา, อวิปากตา จ ตาสํ วุตฺตนยา เอว.

น โหตีติ วิฺาณสฺส ปจฺจโย น โหตีติ. อุทฺธจฺจเจตนาปิ อภิฺาเจตนาโต นิพฺพิเสเสน วุตฺตาติ มฺมาโน ‘‘วิปาเก’’ติ จ วจนํ น วิปาการหตามตฺตวาจโก, อถ โข วิปากสพฺภาววาจโกติ อาห ‘‘วิจาเรตพฺพ’’นฺติ. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘น หิ ‘วิปาเก’ติ วจนํ วิปากธมฺมวจนํ วิย วิปาการหตํ วทตี’’ติ. ตตฺถ ยํ วิจาเรตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อิทํ ปเนตฺถ สนฺนิฏฺานํ – ยสฺมา อุทฺธจฺจเจตนา ปวตฺติวิปากเมว เทติ, น ปฏิสนฺธิวิปากํ, ตสฺมา ตสฺสา ปวตฺติวิปากสฺส วเสน วิภงฺเค วิปาโก อุทฺธโฏ. อุภยวิปากทายิกาย ปน เจตนาย นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโย วุจฺจตีติ ตทภาวโต ปฏฺาเน ตสฺสา โส น วุตฺโต. ยํ ปน อฏฺกถายํ ‘‘วิฺาณสฺส ปจฺจยภาเว อปเนตพฺพา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๖ สงฺขารปทนิทฺเทส) วุตฺตํ, ตํ ปฏิสนฺธิวิฺาณเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘เอวํ อุทฺธจฺจเจตนาปิน โหตี’’ติ อิทมฺปิ วิฺาณสฺส ปจฺจยตาภาวมตฺตํ คเหตฺวา วุตฺตํ. เอวฺเหตฺถ อฺมฺํ ปาฬิยา อฏฺกถาย จ อวิโรโธ ทฏฺพฺโพ.

เอตฺถาติ อุทฺธจฺจเจตนาย วิปากทาเน. อมตคฺคปเถติ เอวํนามเก ปกรเณ. ‘‘ปุถุชฺชนสนฺตาเน อกุสลา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา, เสกฺขสนฺตาเน ภาวนาย ปหาตพฺพา’’ติ อิมสฺส อตฺถสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘ปุถุชฺชนานํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘น วุจฺจนฺตี’’ติ อิมินา ปุถุชฺชเน ปวตฺตพหิทฺธาสํโยชนาทีนํ ภาวนาย ปหาตพฺพปริยายาภาวํ ทสฺเสติ. ‘‘ยทิ วุจฺเจยฺยุ’’นฺติอาทินา ตเมวตฺถํ ยุตฺติโต จ อาคมโต จ วิภาเวติ. ตตฺถ เกสฺจีติ สกภณฺเฑ ฉนฺทราคาทีนํ. เกจีติ สกฺกายทิฏฺิอาทโย. กทาจีติ อตีตาทิเก กิสฺมิฺจิ กาเล. จตฺตตฺตาติอาทิ ปริยายวจนํ. อุปนิสฺสายาติ อุปนิสฺสยปจฺจเย กตฺวา.

อิตเรสนฺติ นทสฺสเนนปหาตพฺพานํ. น จ น โหนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เอวฺจ กตฺวาติ ยถาวุตฺตปาฬิยํ อุทฺธจฺจคฺคหเณน อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปาโท คหิโต, น ยตฺถ กตฺถจิ อุทฺธจฺจนฺติ เอวมตฺเถ สติ. นฺติ ทิฏฺึ. ‘‘อตีตาทิภาเวน นวตฺตพฺพตฺเต’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ อนาคตา เอว ปหาตพฺพาติ? น, อุปฺปชฺชนารหา นิปฺปริยาเยน อนาคตา นาม, ปหาตพฺพา ปน น อุปฺปชฺชนารหาติ เตสํ อตีตาทิภาเวน นวตฺตพฺพตา วุตฺตา. ทสฺสนํ อเปกฺขิตฺวาติ ภาวิตํ ทสฺสนมคฺคํ อุปนิธาย. สหายวิรหาติ ทสฺสนปหาตพฺพสงฺขาตสหการิการณาภาวโต. วิปากํ น ชนยนฺตีติ สกลกิเลสปริกฺขเย วิย เอกจฺจปริกฺขเยปิ ตนฺนิมิตฺตํ ตํ เอกจฺจํ กมฺมํ น วิปจฺจตีติ อธิปฺปาโย. วิปาโก วิภงฺเค วุตฺโตติ ปฏิสนฺธิปวตฺติเภทํ ทุวิธมฺปิ วิปากํ สนฺธายาห.

อกุสลานนฺติ ยถาวุตฺตวิเสสานํ ปุถุชฺชนสนฺตาเน อกุสลานํ. อปฺปหาตพฺพานนฺติ อปฺปหาตพฺพสภาวานํ กุสลาทีนํ. อปฺปหาตพฺพวิรุทฺธสภาวตา สาวชฺชตา. ‘‘เอวมฺปี’’ติอาทิ โทสนฺตรทสฺสนํ. เตน ยทิปิ เตสํ อกุสลานํ อิมสฺมึ ติเก ตติยปทสงฺคโห น สิยา, นวตฺตพฺพตา ปน อาปชฺชตีติ ทีเปติ. สพฺเพน สพฺพํ ธมฺมวเสน อสงฺคหิตสฺส ติกทุเกสุ นวตฺตพฺพตาปตฺตีติ อาห ‘‘นาปชฺชตี’’ติ. อิทานิ ตํ นวตฺตพฺพตานาปชฺชนํ ‘‘จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ’’ติอาทินา การณโต, นิทสฺสนโต จ วิภาเวติ. ยตฺถาติ ยสฺมึ ติเก. นิโยคโตติ นิยมโต เอกนฺตโต. เตสนฺติ ปทตฺตยสงฺคหิตธมฺมานํ. ยถาวุตฺตปเทสุ วิยาติ ยถาวุตฺเตสุ ปมาทีสุ ตีสุ ปเทสุ. ยถา ภินฺทิตพฺพา จิตฺตุปฺปาทา, อิตเร จ ยถารหํ ราสิตฺตยวเสน ภินฺทิตฺวา ภชาปิตา ตํตํโกฏฺาสโต กตา, เอวํ. ตตฺถาปีติ จตุตฺถโกฏฺาเสปิ. ภชาเปตพฺเพติ นวตฺตพฺพภาวํ ภชาเปตพฺเพ. ตทภาวาติ ตสฺส จตุตฺถโกฏฺาสสฺส อภาวา. ตถาติ นวตฺตพฺพภาเวน.

อุปฺปนฺนตฺติเก อตีตา, อิธ ยถาวุตฺตอกุสลา น วุตฺตา, อเปกฺขิตพฺพภาเวนารหิตาปิ ตํสภาวานติวตฺตนโต ตถา วุจฺจนฺตีติ นวตฺตพฺพตาปตฺติโทสํ ปริหรนฺโต ตสฺส อุทาหรณํ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘อถวา ยถา สปฺปฏิเฆหี’’ติอาทิมาห. ตํสภาโว เจตฺถ สาวชฺชตาวิสิฏฺโ ทสฺสนปหาตพฺพภาวาภาโว. ‘‘เอวฺจ สตี’’ติอาทินา อิมสฺมึ ปกฺเข ลทฺธคุณํ ทสฺเสติ. ภาวนาย ปหาตพฺพานนฺติ ปริยาเยน นิปฺปริยาเยน จ ภาวนาย ปหาตพฺพานํ, ตตฺถ ปุริมานํ อมุขฺยสภาวตฺตา, ปจฺฉิมานํ อวิปากตฺตา นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยตา น วุตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยถา จ ภาวนาย ปหาตพฺพานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว นตฺถิ, เอวํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพานํ วเสน เตสํ ปจฺจยลาโภปิ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น จ…เป… วุตฺตา’’ติ วตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘เย หิ…เป… ปวตฺตนฺตี’’ติ. ตตฺถ น เต ทสฺสนโต อุทฺธํ ปวตฺตนฺตีติ เย ทสฺสเนน ปหาตพฺพปจฺจยา กิเลสา, เต ทสฺสเนน ปหาตพฺพปกฺขิกา เอวาติ เตสํ ภาวนาย ปหาตพฺพปริยาโย เอว นตฺถิ, กถํ เตสํ วเสน ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพานํ เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโยติ วุจฺเจยฺยาติ อตฺโถ. อถ วา เย ปุถุชฺชนสนฺตาเน น ทสฺสเนน ปหาตพฺพา, น เต ปรมตฺถโต ภาวนาย ปหาตพฺพา. เย ปน เต เสกฺขสนฺตาเน, น เตสํ ปจฺจยภูตา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา อตฺถีติ เอวมฺปิ ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพานํ เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโยติ น วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. ยทิ ทสฺสเนนปหาตพฺพปจฺจยา กิเลสา ทสฺสนปกฺขิกา, ตปฺปจฺจยํ อุทฺธจฺจสหคตํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ สิยาติ กถํ ตสฺส เอกนฺตภาวนาย ปหาตพฺพตา วุตฺตาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺพปจฺจยสฺสา’’ติอาทิ. ตสฺมาติ ยสฺมา สราควีตราคสนฺตาเนสุ สหายเวกลฺเลน กมฺมสฺส วิปากาวิปากธมฺมตา วิย ปุถุชฺชนเสกฺขสนฺตาเนสุ อุทฺธจฺจสหคตสฺส วุตฺตนเยน สวิปากาวิปากตา สิทฺธา, ตสฺมา. ตสฺสาติ อุทฺธจฺจสหคตสฺส. ตาทิสสฺเสวาติ อุทฺธจฺจสหคตภาเวน เอกสภาวสฺส.

เอตฺถ จ ยํ ‘‘น ภาวนาย ปหาตพฺพมฺปิ อตฺถิ อุทฺธจฺจสหคต’’นฺติอาทิ อมตคฺคปเถ วุตฺตํ, ตํ อการณํ, กสฺมา? ตสฺส เอกนฺเตน ภาวนาย ปหาตพฺพตฺตา. ยถาห ‘‘กตเม ธมฺมา ภาวนาย ปหาตพฺพา? อุทฺธจฺจสหคโต จิตฺตุปฺปาโท’’ติ (ธ. ส. ๑๕๘๓). ยทิ หิ อุทฺธจฺจสหคตํ น ภาวนาย ปหาตพฺพมฺปิ อภวิสฺส, ยถา อตีตารมฺมณตฺติเก ‘‘นิโยคา อนาคตารมฺมณา นตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘กามาวจรกุสลสฺส วิปากโต ทส จิตฺตุปฺปาทา’’ติอาทินา ปุน วิภชิตฺวา วุตฺตํ, เอวมิธาปิ ‘‘กตเม ธมฺมา ภาวนาย ปหาตพฺพา? นิโยคา ภาวนาย ปหาตพฺพา นตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘อุทฺธจฺจสหคโต จิตฺตุปฺปาโท สิยา ภาวนาย ปหาตพฺโพ, สิยา น วตฺตพฺโพ ‘ทสฺสเนน ปหาตพฺโพ’ติปิ ‘ภาวนาย ปหาตพฺโพ’ติปี’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ สิยา, น จ ตถา วุตฺตํ. ยา จ ตมตฺถํ ปฏิปาเทนฺเตน ‘‘ยทิ วุจฺเจยฺยุ’’นฺติอาทินา ยุตฺติ วุตฺตา, สาปิ อยุตฺติ. กสฺมา? ทสฺสเนน ปหาตพฺพารมฺมณานํ ราคทิฏฺิวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจานํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพภาวสฺเสว อิจฺฉิตตฺตา.

ยฺจ ‘‘อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชตี’’ติ อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปาโท วุตฺโตติ ทสฺเสตุํ อธิปติปจฺจยนิทฺเทเส อุทฺธจฺจสฺส อนุทฺธรณํ การณภาเวน วุตฺตํ, ตมฺปิ อการณํ อฺถาปิ สาวเสสปาทสฺสนโต. ตถา หิ ‘‘อตีโต ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส, อนาคโต ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๘.๒) เอเตสํ วิภงฺเค เจโตปริยาณคฺคหณํ กตฺวา ‘‘ปจฺจุปฺปนฺโน ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺสา’’ติ อิมสฺส วิภงฺเค ลพฺภมานมฺปิ เจโตปริยาณคฺคหณํ น กตํ.

สหายภาโว จ ทสฺสเนน ปหาตพฺพานํ ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส วิปากทานํ ปติ วิจาเรตพฺโพ. กึ อวิชฺชาทิ วิย ทานาทีนํ อุปฺปตฺติยา เอว วิกุปฺปาทนสมตฺถตาปาทเนน ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพานํ สหการิการณํ โหนฺติ, อุทาหุ กิเลโส วิย กมฺมสฺส ปฏิสนฺธิทาเน สตีติ, กิฺเจตฺถ – ยทิ ปุริมนโย, โสตาปนฺนาทิเสกฺขสนฺตาเน ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส กิริยภาโว อาปชฺชติ, สหายเวกลฺเลน อวิปากสภาวตาย อาปาทิตตฺตา ขีณตณฺหาวิชฺชามาเน สนฺตาเน ทานาทิ วิย. อถ ทุติโย, ภาวนาย ปหาตพฺพาภิมตสฺสาปิ ทสฺสเนน ปหาตพฺพภาโว อาปชฺชติ, ปฏิสนฺธิทาเน สติ อปายคมนียสภาวานติวตฺตนโต. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว, ตสฺมา ปาฬิยา อฏฺกถาย จ อวิรุชฺฌนวเสเนตฺถ อตฺถวินิจฺฉโย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

สาติ อุทฺธจฺจเจตนา. วิฺาณปจฺจยภาเวติ สมฺปุณฺณวิปากวิฺาณปจฺจยภาเว. การณํ ทสฺเสนฺโตติ อวิกลผลุปฺปาทนาธิกาเร ตทภาวโต ยทิปิ อุทฺธจฺจเจตนา วิฺาณสฺส ปจฺจยภาเว อปเนตพฺพา, อวิชฺชาย ปน ปจฺจยุปฺปนฺนภาเว คเหตพฺพาติ อิมํ การณํ ทสฺเสนฺโต. สพฺพาปีติ วีสติปิ. เตนาห ‘‘เอกวีสตีติ วตฺตพฺพ’’นฺติ. นฺติ เยน การเณน สงฺขารคฺคหเณน อภิฺาเจตนาย อคฺคหณํ, ตํ การณํ. อิตราวจนสฺสาปีติ อุทฺธจฺจเจตนาวจนสฺสาปิ. กึ ปน ตํ? วิฺาณสฺส ปจฺจยภาวาภาโว เอว. เภทาภาวาติ กายวจีสงฺขารวเสน วิภาคาภาวโต. สํโยโคติ ติกนฺตรปทวเสน สํโยชนํ, ตถา สงฺคโหติ อตฺโถ.

สุขสฺาย คหณํ อสฺสาทนนฺติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘สุขสฺาย…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ‘‘สุขสฺายา’’ติ จ อิทํ กรณตฺเถ กรณวจนํ. วิปลฺลาโส หิ ทุกฺเข สุขสฺา. ยํ ปน อฏฺกถายํ ‘‘อฺาเณนา’’ติ วุตฺตํ, ตํ เหตุมฺหิ กรณวจนํ วิปลฺลาสสฺสาทนานํ อวิชฺชาย เหตุภาวทสฺสนโต. ‘‘รโถ เสตปริกฺขาโร’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔) ปริวารตฺโถปิ ปริกฺขารสทฺโท โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ตณฺหาย ปริวาเร’’ติ. ตณฺหาปริวาเรติ จ ตณฺหาย กิจฺจสาธเนน สงฺขารานํ สหการิการณภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริกฺขารฏฺโ สงฺขารฏฺโ วิย ภูสนฏฺโ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สงฺขเต อลงฺกเต’’ติ อาห. ปริกฺขโรติ ยถา ผลทานสมตฺถา โหนฺติ, ตถา สงฺขโรติ. อมรณตฺถาติ อมตตฺถา, นิพฺพานตฺถาติ อตฺโถ. ทุกฺกรกิริยาติ ปฺจาตปตปฺปนาทิทุกฺกรจริยา. เทวภาวาย ตโป เทวภาวตฺถํ ตโป. มาเรตีติ มโร เหตุอตฺถํ อนฺโตนีตํ กตฺวา. อมงฺคลมฺปิ มงฺคลปริยาเยน โวหรนฺติ มงฺคลิกาติ วุตฺตํ ‘‘ทิฏฺเ อทิฏฺสทฺโท วิยา’’ติ ยถา ‘‘อสิเว สิวา’’ติ.

ปปาตํ ปตนทุกฺขสทิสนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ชาติอาทิปปาตทุกฺข’’นฺติ. อินฺททุทฺทพฺรหฺมกูฏสฺิตปพฺพตสิขรปฺปปาโต มรุปปาโต. ตํ ปุฺผลํ อตฺโถ ปโยชนํ เอตสฺสาติ ตทตฺโถ.

ปริพฺพาชิกาย ตรุณิยา. อสวโส อเสริวิหารี. กิเลสาสุจิปคฺฆรเณน ปณฺฑิเตหิ ชิคุจฺฉนียํ. ราคาทิปริฬาเหน, กฏุกวิปากตาย จ ทุกฺขํ. อารภติ กโรติ. สภยสฺสาปิ ปิสาจนครสฺส กามคุณสมิทฺธิยา สุขวิปลฺลาสเหตุภาโว วิยาติ โยชนา. ภินฺนชาติเยน อโวมิสฺสตา นิรนฺตรตา. ชราย มรเณน จ อฺถตฺตํ วิปริณาโม.

‘‘น ตาวาหํ ปาปิม ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ วจนโต ‘‘ตาต เอหิ, ตาว อิทํ รชฺชํ ปฏิปชฺชาหี’’ติอาทีสุ ยทิปิ ปริมาณนิยมนกมปทปูรณมตฺตาทีสุปิ ตาว-สทฺโท ทิสฺสติ, อิธ ปน วกฺขมานตฺตาเปกฺโข อธิปฺเปโตติ วุตฺตํ ‘‘ตาวาติ วตฺตพฺพนฺตราเปกฺโข นิปาโต’’ติ. อวิชฺชาปจฺจยา ปน…เป… ทสฺเสตีติ ปุพฺเพนาปรํ อฏฺกถายํ อวิรุชฺฌนมาห.

ราคาทิอสฺสาทนกาเลสูติ ราคาทีนํ อสฺสาทนกาเลสุ. ‘‘ราคทิฏฺิสมฺปยุตฺตายา’’ติ เอตฺถ ราคสมฺปยุตฺตาย ตาว อวิชฺชาย โยชนา โหตุ ราคสฺส อสฺสาทนภาวโต, ทิฏฺิสมฺปยุตฺตาย ปน กถนฺติ อาห ‘‘ตทวิปฺปยุตฺตา จ ทิฏฺี…เป… เวทิตพฺพา’’ติ. ตํสมฺปยุตฺตสงฺขารสฺสาติ ราคาทิสมฺปยุตฺตสงฺขารสฺส. อวิชฺชารมฺมณาทิตนฺติ อวิชฺชาย อารมฺมณาทิตํ. อาทิ-สทฺเทน อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยปกตูปนิสฺสเย, อนนฺตราทิเก จ ปจฺจเย สงฺคณฺหาติ. อนวิชฺชารมฺมณสฺสาติ น อวิชฺชารมฺมณสฺส อวิชฺชํ อนารพฺภ ปวตฺตสฺส. อารมฺมณาธิปติอนนฺตราทิปจฺจยวจเนสูติ อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยปจฺจยวจเนสุ อวุตฺตสฺส อนวิชฺชารมฺมณสฺส, อนนฺตราทิปจฺจยวจเนสุ อวุตฺตสฺส ปมชวนสฺส, ทฺวีสุปิ วุตฺตสฺส อวิชฺชารมฺมณสฺส ทุติยาทิชวนสฺสาติ โยเชตพฺพํ. อนนฺตรปจฺจยลาภิโน อนนฺตราทินา, สหชาตสฺส เหตุอาทินา, อสหชาตสฺส อุปนิสฺสยาทินา สงฺขารสฺส อวิชฺชา ปจฺจโย โหตีติ อยมตฺโถ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติอาทินา ทสฺสิโตติ เวทิตพฺพํ. สมติกฺกมภวปตฺถนาวเสนาติ อวิชฺชาสมติกฺกมตฺถาย อรูปาวจรชฺฌานานิ อุปฺปาเทนฺตสฺส, อวิชฺชาสมฺมูฬฺหตฺตา อรูปภวสมฺปตฺติโย ปตฺเถตฺวา ตาเนว ฌานานิ นิพฺพตฺเตนฺตสฺสาติ ปุฺาภิสงฺขาเร วุตฺเตน นเยน, วุตฺตนยานุสาเรนาติ อตฺโถ.

เอกการณวาโทอาปชฺชติ ยถา ปกติอิสฺสรปชาปติปุริสกาลาทิวาทา. เอกสฺมึเยว โลกสฺส การณภูเต สติ ตโต สกลาย ปวตฺติยา อนวเสสโต, สพฺพทา จ ปวตฺติตพฺพํ อเปกฺขิตพฺพสฺส การณนฺตรสฺส อภาวโต. น เจตํ อตฺถิ กเมเนว ปวตฺติยา ทสฺสนโต. การณนฺตราเปกฺขตาย ปน เอกการณวาโท อปหโต สิยา เอกสฺส จ อเนกสภาวตาภาวา. ยตฺตกา ตโต นิพฺพตฺตนฺติ, สพฺเพหิ เตหิ สมานสภาเวเหว ภวิตพฺพํ, น วิสทิเสหิ, อิตรถา ตสฺส เอกภาโว เอว น สิยาติ อิมมตฺถมาห ‘‘สพฺพสฺส…เป… ปตฺติโต จา’’ติ. ปาริเสเสนาติ เอกโต เอกํ, เอกโต อเนกํ, อเนกโต เอกนฺติ อิเมสุ ตีสุ ปกาเรสุ อวิชฺชมาเนสุ อนุปลพฺภมาเนสุ ปาริเสสาเยน. อเนกโต อเนกนฺติ เอกสฺมึ จตุตฺเถ เอว จ ปกาเร วิชฺชมาเน. ยทิทํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติอาทินา เอกเหตุผลทีปนํ, ตํ เอตฺถ เทสนาวิลาเสน, วิเนยฺยชฺฌาสยวเสน วา ธมฺมานํ ปธานปากฏาสาธารณภาววิภาวนตฺถนฺติ เอกเหตุผลทีปนํ น นุปปชฺชติ อุปปชฺชติเยวาติ ทสฺเสติ ‘‘ยสฺมา’’ติอาทินา.

ยถาผสฺสนฺติ สุขเวทนียาทิจกฺขุสมฺผสฺสาทิตํตํผสฺสานุรูปนฺติ วุตฺตํ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุขเวทนีย’’นฺติอาทึ วตฺวา ‘‘เวทนาววตฺถานโต’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมาเนสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมาเนสูติ อวิสิฏฺเสุ. ผสฺสวเสนาติ สุขเวทนียาทิผสฺสวเสน. วิปริยายาภาวโตติ พฺยตฺตยาภาวโต. น หิ กทาจิ สุขเวทนียํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ ทุกฺขเวทนา, ทุกฺขาทิเวทนียํ วา ผสฺสํ ปฏิจฺจ สุขเวทนา อุปฺปชฺชติ. สุขาทิจกฺขุสมฺผสฺสชาทีนนฺติ สุขาทีนํ, จกฺขุสมฺผสฺสชาทีนฺจ เวทนานํ. โอฬาริกสุขุมาทีติ อาทิ-สทฺเทน หีนปณีตาทิสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ ยํ อุปาทาย ยา เวทนา ‘‘โอฬาริกา, หีนา’’ติ วา วุจฺจติ, น ตํเยว อุปาทาย ตสฺสา กทาจิปิ สุขุมตา ปณีตตา วา อตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘โอฬาริกสุขุมาทิสงฺกราภาวโต’’ติ. ยถาวุตฺตสมฺผสฺสสฺสาติ สุขเวทนียาทิผสฺสสฺส. สุขเวทนียผสฺสโตเยว สุขเวทนา, น อิตรผสฺสโต. สุขเวทนียผสฺสโต สุขเวทนาว, น อิตรเวทนา. ตถา เสเสสุปีติ อุภยปทนิยมวเสน ยถาผสฺสํ เวทนาววตฺถานํ, ยถาเวทนํ ผสฺสววตฺถานนฺติ ปททฺวเยน การณนฺตราสมฺมิสฺสตา ผลสฺส, ผลนฺตราสมฺมิสฺสตา จ การณสฺส ทสฺสิตา ปมปกฺเข อสํกิณฺณตาววตฺถานนฺติ กตฺวา. ทุติยปกฺเข ปน ปจฺจยเภทภินฺเนน การณวิเสเสน ผลวิเสโส, ผลวิเสเสน จ การณวิเสโส นิจฺฉียตีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต สนฺนิฏฺานํ ววตฺถานนฺติ กตฺวา. ปุริมสฺมิฺจ ปกฺเข ธมฺมานํ อสงฺกรโต ววตฺถานํ วุตฺตํ, ทุติยสฺมิฺจ ยถาววตฺถิตภาวชานนนฺติ อยเมเตสํ วิเสโส. อุตุอาทโยติ อาทิ-สทฺเทน จิตฺตวิสมาจารา ปิตฺตวาตาทโยปิ สงฺคยฺหนฺติ. เอกสฺมึ โทเส กุปิเต อิตเรปิ โขภํ คจฺฉนฺติ. สนฺเตสุปิ เตสุ เสมฺหปฏิกาเรน โรควูปสมโต เสมฺโห ปากโฏติ อตฺโถ.

‘‘ภโว’’ติ วุตฺตานํ สงฺขารานํ การณสฺส ปการณํ, การณเมว วา ตณฺหาติ อาห ‘‘ตณฺหาย สงฺขารการณภาวสฺส วุตฺตตฺตา’’ติ. ตสฺสาปีติ ตณฺหายปิ. ตณฺหา หิ กามาสโว ภวาสโว จ. กามาสวภวาสวา กามุปาทานํ, ทิฏฺาสโว อิตรุปาทานนฺติ อาห ‘‘จตุรุปาทานภูตากามภวทิฏฺาสวา’’ติ. เต จ ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ วจนโต อุปาทานฺจ, ‘‘ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติ วจนโต ตณฺหา จ สงฺขารสฺส การณนฺติ ปากฏา. อนสฺสาทนีเยสุ อเนกาทีนวโวกิณฺเณสุ สงฺขาเรสุ อสฺสาทานุปสฺสนา อวิชฺชาย วินา น โหตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อสฺสาทานุปสฺสิโน…เป… ทสฺสิตา โหตี’’ติ. ขีณาสวสฺส สงฺขาราภาวโตติ พฺยติเรเกนปิ อวิชฺชาย สงฺขารการณภาวํ วิภาเวติ. เอกนฺเตน หิ ขีณาสโวว วิทฺทสุ. เอเตน พาลานํ เอว สมฺภวโต อวิชฺชาย อสาธารณตา วุตฺตาติ ทสฺเสติ. วตฺถารมฺมณาทีนิ หิ อิตเรสมฺปิ สาธารณานิ. วตฺถารมฺมณตณฺหุปาทานาทีนิ วิย อวิชฺชาปิ ปุฺาภิสงฺขาราทีนํ สาธารณการณนฺติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ปุฺภวาที’’ติอาทิ. ตตฺถ อาทิ-สทฺเทน อปุฺาเนฺชภวา คเหตพฺพา. ปุฺภโวติ ปุฺาภิสงฺขารเหตุโก อุปปตฺติภโว. เอส นโย เสเสสุ. เอตฺถ จ กิจฺจกรณฏฺานเภเทน กิจฺจวตี อวิชฺชา ภินฺทิตฺวา ทสฺสิตา. น หิ ยทวตฺถา อวิชฺชา ปุฺาภิสงฺขารานํ อุปนิสฺสโย, ตทวตฺถา เอว อิตเรสํ อุปนิสฺสโยติ สกฺกา วิฺาตุํ. เอตฺถ จ ภวาทีนวปฺปฏิจฺฉาทนนฺติ อตฺถโต ปุฺาภิสงฺขาราทีนํ ตํตํภวสงฺขาตทุกฺขเหตุสภาวานภิสมยนิมิตฺตตา.

านนฺติ ธรมานตา อธิปฺเปตาติ วุตฺตํ ‘‘านวิรุทฺโธติ อตฺถิตาวิรุทฺโธ’’ติ. านาวิรุทฺธา จกฺขุรูปาทโย. ‘‘ปุริมจิตฺตฺหี’’ติอาทินา านวิรุทฺโธ จ อุทาหโฏติ อาห ‘‘น อิทํ เอกนฺติกํ สิยา’’ติ. ‘‘จกฺขุรูปาทโย’’ติอาทินา หิ ปรโต านาวิรุทฺธา อุทาหรียนฺตีติ. ปุริมสิปฺปาทิสิกฺขา หิ ปจฺฉา ปวตฺตมานสิปฺปาทิกิริยานํ สโมธานาสมฺภวา านวิโรโธติ ยถาวุตฺตมตฺถํ สมตฺเถตุํ ‘‘น จ สิปฺปาทีน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นฺติ ปฏิสนฺธิอาทิานํ. อิธาติ านสภาวกิจฺจาทิคฺคหเณ. อาทิ-สทฺเทน อารมฺมณภูมิสนฺตานาทิวิรุทฺธา คเหตพฺพา, เต จ อนุโลมโต โคตฺรภุสฺส, โคตฺรภุโต มคฺคสฺส ลิงฺคปริวตฺตนาทิวเสน จ ปวตฺติยํ เวทิตพฺพา. นมนรุปฺปนวิโรธา สภาววิรุทฺโธ ปจฺจโยติ โยชนา. ตตฺถ นมนรุปฺปนนฺติ อรูปรูปภาวเมว ทสฺเสติ. กมฺมํ เจตนาสภาวํ, รูปํ รุปฺปนสภาวนฺติ สภาววิรุทฺธํ. มธุรมฺพิลรสาทีติ ขีรํ มธุรรสํ ปิตฺตุปสมนํ มธุรวิปากสภาวํ, ทธิ อมฺพิลรสํ ปิตฺตพฺรูหนํ กฏุกวิปากสภาวนฺติ อโต สภาววิโรธา.

ทธิอาทีนีติ ทธิปลาลานิ. ภูติณกสฺสาติ ภูติณกนามกสฺส โอสธิวิเสสสฺส. อวี นาม เอฬกา, ตา ปน เยภุยฺเยน รตฺตโลมกา โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘รตฺตา เอฬกา’’ติ. วิปากานมฺปิ ปจฺจยภาวโต, อวิปากานมฺปิ ปจฺจยุปฺปนฺนภาวโต น วิปากธมฺมวิปากาเปกฺขา ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตาติ วุตฺตํ ‘‘วิปากาเยว เต จ นา’’ติ. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ตทวิปากานนฺติ ตสฺสา อวิชฺชาย อวิปากภูตานํ. น น ยุชฺชติ ยุชฺชติ เอว ปจฺจยุปฺปนฺนตามตฺตสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ตทวิรุทฺธานนฺติ ตาย อวิชฺชาย อวิรุทฺธานํ.

ปุพฺพาปริยววตฺถานนฺติ กายปวตฺติคติชาติอาทีนํ ยถารหํ ปุพฺพาปรภาเวน ปวตฺติ, สา ปน เกนจิ อกฏา อกฏวิธา ปฏินิยตสภาวาติ ทสฺเสตุํ นิยติวาทินา วุตฺตนิทสฺสนํ อาหรนฺโต ‘‘อจฺเฉชฺชสุตฺตาวุตาเภชฺชมณีนํ วิยา’’ติ อาห. ทุติยวิกปฺเป สงฺคตีติ อธิจฺจสมุปฺปาโท ยาทิจฺฉิกตา, ยํ สนฺธาย ‘‘ยทิจฺฉาย ปวตฺตนํ นิวตฺตนํ ยทิจฺฉายา’’ติอาทิ วุจฺจติ. ภาโวติ ธมฺมานํ สภาวสิทฺธิตา, ยํ สนฺธาย วทนฺติ ‘‘กณฺฏกสฺส โกฏิติขิณภาวํ, กปิฏฺผลสฺส วฏฺฏภาวํ, มิคปกฺขีนํ วา วิจิตฺตวณฺณสณฺานาทิตํ โก อภิสงฺขโรติ, เกวลํ สภาวสิทฺโธวายํ วิเสโส’’ติ. เตนาห ‘‘สพฺเพ สตฺตา, สพฺเพ ปาณา , สพฺเพ ภูตา, สพฺเพ ชีวา อวสา อพลา อวีริยา นิยติสงฺคติภาวปริณตา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๘). เอเตหิ วิกปฺปเนหีติ จุติอาทีสุ สมฺมูฬฺหตาย ‘‘สตฺโต มรตี’’ติอาทิวิกปฺปเนหิ การณภูเตหิ. อกุสลํ จิตฺตํ กตฺวาติ อโยนิโสมนสิการปริพฺรูหเนน จิตฺตํ อกุสลํ กตฺวา.

สุตฺตาทิธมฺมนฺติ สุตฺตเคยฺยาทิปริยตฺติธมฺมํ. ปริยตฺติธมฺมฺหิ สมฺมเทว ชานนฺโต ปฏิปตฺติธมฺมํ ปริปูเรตฺวา ปฏิเวธธมฺเม ปติฏฺหติ. นฺติ ตํ ชานนํ, นิพฺพานาภิสมโยติ อตฺโถ.

สงฺขารปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

วิฺาณปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๒๗. ยถาวุตฺตสงฺขารปจฺจยาติ ปุฺาภิสงฺขาราทิวุตฺตปฺปการสงฺขารปจฺจยา. วิฺาณาทโย เวทนาปริโยสานา เอตรหิ วิปากวฏฺฏภูตา อิธาธิปฺเปตาติ อาห ‘‘ตํกมฺมนิพฺพตฺตเมว วิฺาณํ ภวิตุํ อรหตี’’ติ. อยฺจ อตฺถวณฺณนา ธาตุกถาปาฬิยา น สเมตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธาตุกถายํ ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ธาตุกถายํ วจนโต สพฺพวิฺาณผสฺสเวทนาปริคฺคโห กโต ธาตุกถายนฺติ โยชนา. สปฺปเทสาติ สาวเสสา, วิปากา เอวาติ อธิปฺปาโย. วิฺาณาทีสุ หิ วิปาเกสุเยว อธิปฺเปเตสุ ยถา –

‘‘วิปาเกหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา อสงฺขตํ ขนฺธโต เปตฺวา ปฺจหิ ขนฺเธหิ ทฺวาทสหายตเนหิ เตรสหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา. กติหิ อสงฺคหิตา? น เกหิจิ ขนฺเธหิ น เกหิจิ อายตเนหิ ปฺจหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา’’ติ (ธาตุ. ๔๗๗) –

วิปากวิปฺปยุตฺตานํ สงฺคหาสงฺคหา วิสฺสชฺชิตา, เอวมิธาปิ วิสฺสชฺชิตพฺพํ สิยา. เตนาห ‘‘วิปากา ธมฺมาติ อิมสฺส วิย วิสฺสชฺชนํ สิยา’’ติ. ตสฺมาติ ยสฺมา วิปฺปยุตฺเตน สงฺคหิตาสงฺคหิตปทนิทฺเทเส นิปฺปเทสาว วิฺาณผสฺสเวทนา คหิตา, ตสฺมา. ตตฺถาติ ธาตุกถายํ. อภิธมฺมภาชนียวเสนาติ อิมสฺมึ ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค อภิธมฺมภาชนียวเสน. เตนาห ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา จา’’ติอาทิ. เตน ยถาวุตฺตอตฺถวณฺณนา สุตฺตนฺตภาชนียวเสน วุตฺตาติ ยถาทสฺสิตํ วิโรธํ ปริหรติ. ยทิ อภิธมฺมภาชนียวเสน ธาตุกถาปาฬิ ปวตฺตา, อถ กสฺมา ‘‘กามภโว ปฺจหิ ขนฺเธหิ เอกาทสหายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหิ สงฺคหิโต. รูปภโว ปฺจหิ ขนฺเธหิ ปฺจหายตเนหิ อฏฺหิ ธาตูหิ สงฺคหิโต’’ติอาทินา (ธาตุ. ๖๗-๖๘) อุปาทินฺนกฺขนฺธวเสน ภโว วิสฺสชฺชิโตติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ภโว ปน…เป… น อภิธมฺมภาชนียวเสน คหิโต’’ติ. เอวฺจ กตฺวาติ อภิธมฺมภาชนียวเสน อคฺคหิตตฺตา เอว. ตตฺถาติ ธาตุกถายํ. วิปากฺเหตนฺติ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา ยถาวุตฺตพาตฺตึสวิธวิฺาณํ วิปากํ, ตสฺมา ตํ สงฺขารปจฺจยนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิฺาณสฺส วิปากตฺตา’’ติอาทิมาห.

‘‘โสมนสฺสสหคตาเนว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ อิทํ วิจาเรตพฺพํ อุเปกฺขาสหคตกุสลากุสลชวนานนฺตรมฺปิ โสมนสฺสสหคตตทารมฺมณสฺส อิจฺฉิตตฺตา. ตถา หิ อฏฺกถายํ ‘‘จตุนฺนํ ปน ทุเหตุกกุสลจิตฺตานํ อฺตรชวนสฺส ปริโยสาเน อเหตุกจิตฺตํ ตทารมฺมณภาเวน ปติฏฺาตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘ วิปากุทฺธารกถา) วตฺวา ‘‘อิฏฺารมฺมเณ ปน สนฺตีรณมฺปิ ตทารมฺมณมฺปิ โสมนสฺสสหคตเมวา’’ติ วุตฺตํ. กุสลากุสลฺหิ อภิอิฏฺมฺปิ อารมฺมณํ ตถาภิสงฺขรเณน กทาจิ น มชฺฌตฺตํ กตฺวา น ปวตฺตติ, วิปากํ ปน ยถาสภาวโตว อารมฺมณรสํ อนุภวติ. เตนาห ‘‘น สกฺกา วิปากํ วฺเจตุ’’นฺติ. กิริยชวนานํ ปน วิสยาภิสงฺขรณสฺส พลวภาวโต ตทนนฺตรานํ ตทารมฺมณานํ ยถาวิสยํ เวทนาวเสน ตทนุคุณตา อิจฺฉิตา. เย ปน กิริยชวนานนฺตรํ ตทารมฺมณํ น อิจฺฉนฺติ, เตสํ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ยํ ปน ‘‘ชวเนน ตทารมฺมณํ นิยเมตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ กุสลํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ จ วุตฺตํ. ตสฺมา ยถาวุตฺโต วิจาเรตพฺโพ. ติเหตุกชวนาวสาเน จ ทุเหตุกชวนาวสาเน จาติ สมุจฺจยตฺโถ -สทฺโท. เกจิ ปน วิภาคํ อกตฺวา ‘‘กุสลชวนาวสาเนปิ อเหตุกตทารมฺมณํ โหตีติ ‘เยภุยฺเยนา’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. โลภจิตฺตสฺส วา สตฺตานํ พหุลํ อุปฺปชฺชนโต ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สกึ วา’’ติ วจนสิลิฏฺตาวเสน วุตฺตํ ยถา ‘‘อฏฺ วา ทส วา’’ติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทิรตฺตติรตฺตาทีสุ วิย เวทิตพฺพ’’นฺติ อาห. วา-สทฺทสฺส อภาวาติ สุยฺยมานสฺส วา-สทฺทสฺส อภาเวน วุตฺตํ. อตฺถโต ปน ตตฺถาปิ วา-สทฺโท ลพฺภเตว. ติรตฺตํ ปน วาสาทิเก ลพฺภมาเน ทิรตฺเต วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทิรตฺตคฺคหณํ วิสุํ น โยเชตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘วจนสิลิฏฺตามตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. เกวลํ ‘‘ติรตฺต’’นฺติ วุตฺเต อฺตฺถ วาสาทินา อนฺตริตมฺปิ ติรตฺตํ คณฺเหยฺย, ทิรตฺตวิสิฏฺํ ปน ติรตฺตํ วุจฺจมานํ เตน อนนฺตริตเมว ติรตฺตํ ทีเปตีติ อาห ‘‘นิรนฺตรติรตฺตทสฺสนตฺถํ วา’’ติ. พลวรูปาทิเก อารมฺมเณติ อติมหติ รูปาทิอารมฺมเณ. ‘‘อธิปฺปาโย’’ติ เอเตน เอกจิตฺตกฺขณายุเกปิ วิสเย กทาจิ ตทารมฺมณํ อุปฺปชฺเชยฺยาติ ‘‘สกึ เอวา’’ติอาทินา วุตฺตมตฺถํ อุลฺลิงฺเคติ. ‘‘สพฺพทฺวาเรสุ ตทารมฺมเณ ทฺเว เอว จิตฺตวารา อาคตา’’ติ วุตฺตตฺตา อยมฺปิ อตฺโถ วิจาเรตฺวา คเหตพฺโพ. อนุรูปาย ปฏิสนฺธิยาติ อตฺตโน อตฺตโน อนุจฺฉวิเกน ปฏิสนฺธานกิจฺเจน.

‘‘กติ ปฏิสนฺธิโย, กติ ปฏิสนฺธิจิตฺตานี’’ติอาทินา ปฏิสนฺธิวิจาโร ปรโต วิตฺถารโต กถียตีติ อาห ‘‘ปฏิสนฺธิกถา มหาวิสยาติ กตฺวา ปวตฺติเมว ตาว ทสฺเสนฺโต’’ติ. อเหตุกทฺวยาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน มหาวิปากมหคฺคตวิปาเก สงฺคณฺหาติ. ทฺวารนิยมานิยมาวจนนฺติ ทฺวารสฺส นิยตานิยตาวจนํ, นิยตทฺวารํ อนิยตทฺวารนฺติ วา อวจนนฺติ อตฺโถ. อนุปฺปตฺติโตติ น อุปฺปชฺชนโต. ยทิปิ ‘‘อนุรูปาย ปฏิสนฺธิยา’’ติ ปฏิสนฺธิปิ เหฏฺา คหิตา, ‘‘ปวตฺติยํ ปนา’’ติ อธิกตตฺตา ปน ปวตฺติเยว ปจฺจามฏฺา. ปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน ปมุทฺทิฏฺานิ สพฺพานิปิ โลกิยวิปากจิตฺตานิ อนฺวาเทสํ อรหนฺตีติ อาห ‘‘ตตฺรสฺสาติ ปวตฺติยํ พาตฺตึสวิธสฺสา’’ติ.

ยถา กามาวจรปฏิสนฺธิวิฺาณสงฺขาตสฺส พีชสฺส อภาเวปิ รูปภเว จกฺขุโสตินฺทฺริยปวตฺติอานุภาวโต จกฺขุโสตวิฺาณานํ สมฺภโว, เอวํ เตเนว การเณน สมฺปฏิจฺฉนาทีนมฺปิ ตตฺถ สมฺภโวติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อินฺทฺริยปวตฺติอานุภาวโต เอวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุโสตทฺวารเภเทนาติ จกฺขุโสตทฺวารวิเสเสน ภวิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ตสฺสาติ จกฺขุโสตทฺวารสฺส. ทฺวารวนฺตาเปกฺโข ทฺวารภาโวติ อาห ‘‘วิฺาณวีถิเภทายตฺตตฺตา’’ติ. ตสฺมิฺจ สตีติ ตสฺมึ ทฺวารเภเท วีถิเภเท จ สติ. ภาโวติ อุปฺปตฺติ. ชนกํ อนุพนฺธติ นามาติ ตํสทิเส ตพฺโพหารํ กตฺวา วุตฺตํ.

อิทํ ปน วตฺวาติ รูปารูปาวจรธมฺเม อารพฺภ ตทารมฺมณานุปฺปตฺตึ วตฺวา. ภาวนายาติ อกุสลภาวนาย สํกิเลสวฑฺฒเนน, สํกิลิฏฺสมาธาเนนาติ อตฺโถ. ตถา หิ โลภโทสสหคตจิตฺตุปฺปาเทปิ สมาธิ ‘‘อวฏฺิติ อวิสาหาโร อวิกฺเขโป อวิสาหฏมานสตา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๑) นิทฺทิฏฺโ. อวตฺถุภาวทสฺสนตฺถนฺติ อฏฺานภาวทสฺสนตฺถํ, อนารมฺมณภาวทสฺสนตฺถนฺติ อตฺโถ.

‘‘เกน กตฺถา’’ติ ปทสฺส ‘‘เกน จิตฺเตน กสฺมึ ภเว’’ติ สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘เอกูนวีสตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตน เตน จิตฺเตนาติ เตน เตน อเหตุกทฺวยาทิจิตฺเตน สทฺธึ ปวตฺตมานา ปฏิสนฺธิกฺขเณ รูปารูปธมฺมา เอกูนวีสติ ปฏิสนฺธิโยติ โยชนา. เตน เตน จิตฺเตน สหชาตาทิปจฺจยตาย เหตุภูเตน, กรณภูเตน วา. ตตฺถ ตตฺถ ภเว.

อนุสฺสรณตฺโถ พฺยาปาโร อนุสฺสรณพฺยาปาโร. เกจีติ ธมฺมสิริตฺเถรํ สนฺธาย วทติ. ตีสุ ชวนวาเรสุ…เป… ภวิตพฺพนฺติ กมฺมาทิอุปฏฺานสฺส ปรโต ตีหิ ชวนวาเรหิ ปวตฺติตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อเนก…เป… อภิปฺปลมฺพนฺจ โหตี’’ติ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอกชวนวารสฺเสว กมฺมาทิอุปฏฺาเนน มรณํ น สมฺภวติ, ตสฺมา. โผฏฺพฺพสฺสาติ ปหารโผฏฺพฺพสฺส . ภวงฺคจิตฺเต วตฺตมาเน, อนฺตรนฺตรา ปฺจทฺวารวีถิยา วา วตฺตมานาย โผฏฺพฺพสมาโยเค ปมํ กายทฺวาราวชฺชนุปฺปตฺติ ยุตฺตา, ตถาปิ กิสฺมิฺจิ จินฺติยมาเน ตเมวารพฺภ เอกสฺมึ ชวนวาเร ปวตฺเต ปจฺฉา กายทฺวาราวชฺชนุปฺปตฺติ สิยา จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติภาวโตติ เกจิวาทสฺส อธิปฺปาโย. ยถา นิทฺทายนฺตสฺส โผฏฺพฺพสมาโยเคน ปพุชฺฌนกาเล มโนทฺวาราวชฺชนเมว อาวฏฺเฏติ, น กายทฺวาราวชฺชนํ. ‘‘ปฺจหิ วิฺาเณหิ น ปฏิพุชฺฌตี’’ติ (วิภ. ๗๕๑) หิ วุตฺตํ. เอวํสมฺปทํ วา เอตํ ทฏฺพฺพํ. ลหุกปจฺจุปฏฺานนฺติ ลหุอุปฏฺานํ. มโนทฺวารสฺส วิสโย กมฺมาทิโก. ลหุกตาติ ลหุปฏฺานตา. รูปานนฺติ จกฺขาทิรูปธมฺมานํ. วิสยภาเวปีติ รูปายตนาทิวิสยสพฺภาเวปิ. เยสํ วิสโย อตฺถีติ เยสํ นิปฺปริยาเยน วิสโย อตฺถิ. ตํทสฺสนตฺถเมวาติ เตสํ สารมฺมณานํเยว ทสฺสนตฺถํ. เตนาติ ตสฺมา.

‘‘ภูมิจิตฺตุปฺปาทาทิวเสนา’’ติ อิทํ กมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ, กมฺมนิมิตฺตสฺสปิ วเสน ลพฺภเตว ตสฺส ฉฬารมฺมณภาวโต. คตินิมิตฺตสฺส ปน ปเภโท นีลาทิโกเยว.

อนุปจฺฉินฺเนสุ มคฺเคน อปฺปหีเนสุ. ตฺจ กมฺมาทึ. ภวนฺตรนินฺนาทิตา จิตฺตสนฺตานสฺส ภวปตฺถนาย ตถาภิสงฺขตตฺตา. ยสฺมิฺหิ จิตฺตสนฺตาเน ปุฺาทิเจตนาย วิย ภวปตฺถนาย ปริภาวนา อนุปจฺฉินฺนา, ตตฺเถว ภวนฺตรปริยาปนฺนจิตฺตุปฺปตฺติ. ตํ ปน จิตฺตํ ตถา อุปฺปชฺชมานํ ตาย วินามิตํ วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อนุปจฺฉินฺนกิเลสพลวินามิต’’นฺติ. สพฺพตฺถาติ สุคติทุคฺคตีสุ. อิตรายาติ สุคติปฏิสนฺธินินฺนาย จุติยา. ‘‘นิจฺฉินนฺตี’’ติ วุตฺตสฺส นิจฺฉยสฺส นิพนฺธนํ อาคมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิมิตฺตสฺสาทคธิตํ วา’’ติอาทิมาห.

อกุสเล หิ ทุคฺคตูปนิสฺสเย นิยมิเต กุสลํ สุคตูปนิสฺสโยติ นิยมิตเมว โหตีติ.

อนิฏฺํ อารมฺมณํ อาห ยโต ทุคฺคติปฏิสนฺธิ ทสฺสียตีติ อธิปฺปาโย. ยทิ เอวํ ‘‘ราคาทิเหตุภูต’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ตมฺปิ หิ…เป… โหตี’’ติ. ตมฺปีติ อนิฏฺารมฺมณมฺปิ. ยสฺมา ปน หีนํ อารมฺมณนฺติ อารมฺมณภูตกมฺมนิมิตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา ‘‘อกุสลวิปากชนกกมฺมสหชาตานํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. กมฺมนิมิตฺตภูตฺหิ อารมฺมณํ ยํ วิปากสฺส ชนกํ กมฺมํ, เตน สหชาตานํ, ตสฺส กมฺมสฺส สทิสาสนฺนชวนสหชาตานฺจ ราคาทีนํ อารมฺมณปจฺจยสงฺขาโต เหตุ โหติ, โส เอว จสฺส หีนภาโวติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. กมฺมวเสน อนิฏฺนฺติ หีนสฺส อกุสลกมฺมสฺส อารมฺมณโต อารมฺมณตาวเสน หีนนฺติ กตฺวา อนิฏฺํ, สภาเวน อิฏฺมฺปีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อฺถา จา’’ติอาทินา กมฺมนิมิตฺตารมฺมณสฺส อกุสลวิปากสฺส น สมฺภโวติ ทสฺเสติ. อาสนฺนกตกมฺมารมฺมณสนฺตติยนฺติ อาสนฺนกตสฺส กมฺมสฺส อารมฺมณสนฺตาเน. ตํสทิสนฺติ ยถาวุตฺตกมฺมารมฺมณสทิสํ. ปฏิสนฺธิอารมฺมณูปฏฺาปกนฺติ ปฏิสนฺธิยา อารมฺมณสฺส อุปฏฺาปกํ. จุติอาสนฺนชวนานํ ปฏิสนฺธิชนกตฺเต อยมตฺโถ ลพฺเภยฺยาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘น จ ปฏิสนฺธิยา’’ติอาทิ. ตํสมานวีถิยนฺติ ตาย ปฏิสนฺธิยา เอกวีถิยํ. น อสฺสาทิตานีติ อสฺสาทนภูตาย ตณฺหาย น อามฏฺานิ.

สมตฺตาติ ปริปุณฺณา, ปริยตฺตา วา. ‘‘มรณกาเล…เป… สมาทินฺนา’’ติ วจนโต ยถาวุตฺตจุติอาสนฺนชวนานํ ปฏิสนฺธิทานํ สิทฺธนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘น จ ทุพฺพเลหี’’ติอาทิ. ‘‘วกฺขติ จา’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ อุปจเยน ปากฏตรํ กโรติ. าณวตฺถุวิภงฺควณฺณนายฺหิ ‘‘ปฺจหิ วิฺาเณหิ น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตี’’ติ ปทานํ อตฺถํ วิวรนฺโต วกฺขติ ‘‘สพฺพมฺปิ…เป… ปฏิกฺขิตฺตานี’’ติ. ตตฺถ ปฏิวิชานนาทีติ อาทิ-สทฺเทน อิริยาปถกปฺปนกายวจีกมฺมุปฏฺาปนกุสลากุสลธมฺมสมาทานสมาปชฺชนวุฏฺานานิ สงฺคณฺหาติ. อุปปชฺชนสุปินทสฺสนาทีนํ มโนทฺวาริกจิตฺเตเนว ปวตฺติ ปากฏาติ ตานิ พหิ กโรนฺโต ‘‘จวนปริโยสานํ กิจฺจ’’นฺติ อาห. สหชวนกานีติ ชวนสหิตานิ, ปฺจทฺวาริกชวเนหิ สทฺธินฺติ อตฺโถ.

ตตฺถาติ ‘‘ปฺจหิ วิฺาเณหิ น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตี’’ติ ปาฬิวณฺณนายํ. น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตีติ เอตฺถ น สพฺเพ รูปาทิธมฺมา ธมฺมคฺคหเณน คหิตาติ ยถาธิปฺเปตธมฺมทสฺสนตฺถํ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมาติ (ธ. ป. ๑-๒) เอวํ วุตฺตํ เอกมฺปิ กุสลํ วา อกุสลํ วา น ปฏิวิชานาตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสตฺวา ตสฺส อตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘เยส’’นฺติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – เยสํ กุสลากุสลธมฺมานํ ปฏิวิภาวนปฺปวตฺติยา สิทฺธา วิปากธมฺมตา โยนิโสมนสิการอโยนิโสมนสิการสมุฏฺานา, ยาย สุขํ วา ทุกฺขํ วา ตํสนฺตาเน อนฺเวติ อนุคจฺฉติ, ปฺจวิฺาณานํ สา วิปากธมฺมตา ปฏิกฺขิตฺตา ปฏิเสธิตาติ. ตาทิสเมวาติ กุสลากุสลธมฺมปฏิวิชานนสทิสเมว. ยทิ ปฺจทฺวาเร ยถาวุตฺตกิจฺจสฺส กรเณ สหชวนกานิ วีถิจิตฺตานิ ปฏิกฺขิตฺตานิ, กถํ ตตฺถ จวนุปปชฺชนานิ สมฺภวนฺตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตทารมฺมณานนฺตรํ ปนา’’ติอาทิ. นิปฺปริยาเยน มโนทฺวาริกภาโว มโนทฺวาราวชฺชนุปฺปตฺติปุพฺพโกติ ตทภาเวนาห ‘‘อิมินา อธิปฺปาเยนา’’ติ. อวเสเสกจิตฺตกฺขณายุเก รูปาทิมฺหีติ โยชนา.

อุปจาโร วิย ทฏฺพฺพา สมานารมฺมณตฺตา, อุปปตฺตินิมิตฺตตฺตา จ. เกจีติ ธมฺมสิริตฺเถรํ สนฺธาย วทติ. มหคฺคตาวสานํ วทนฺตีติ ยถาปจฺจยํ มหคฺคตสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺิตสฺส สา วีถิ อุปฺปชฺชติ, ตโต จุติจิตฺตํ โหตีติ วทนฺติ. อตีตารมฺมณา เอกาทสวิธาติ นว กามาวจรสุคติจุติโย, ทฺเว วิฺาณฺจายตนเนวสฺานาสฺายตนอารุปฺปจุติโยติ เอวํ อตีตารมฺมณา เอกาทสวิธา สุคติจุติโย. ปฺจ รูปาวจรา, วุตฺตาวเสสา ทฺเว อรูปาวจราติ นวตฺตพฺพารมฺมณา สตฺตวิธา จุติโย. ทุคฺคติจุติ ปน ปรโต วุจฺจตีติ อิธ น คหิตา. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ทุคฺคติจุติยา ปน…เป… น ทสฺสิตา’’ติ.

เอวมาทิเกติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘สุทฺธาย วา ชวนวีถิยา’’ติอาทิวจนํ สงฺคณฺหาติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สุทฺธาย วาติ มหคฺคตกมฺมนิมิตฺตารมฺมณาย ชวนวีถิยา’’ติ. ‘‘วิฺายตี’’ติ อิมินา ยทิปิ ‘‘ปถวีกสิณาที’’ติอาทิสทฺเทน อรูปาวจรชฺฌานารมฺมณสฺสาปิ สงฺคโห สมฺภวติ, ‘‘จกฺขุโสตานํ วา’’ติ ปน ทฺวารทฺวยสฺเสว วเสน วิกปฺปนฺตรกรณํ ยถาธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส าปกนฺติ ทสฺเสติ. าปกฺจ นาม อคติกา คตีติ ยถาวุตฺตํ าปกํ อสมฺภาเวนฺโต ‘‘อถาปี’’ติอาทิมาห. โย ยตฺถ สมฺภวติ, ตสฺส โยชนา ยถาสมฺภวโยชนา, ตาย. อยมฺปิ ปฏิสนฺธีติ อารุปฺปจุติยา อนนฺตรํ ปฏิสนฺธึ วทติ. ตตฺเถวาติ ‘‘ปถวีกสิณาทิกํ วา นิมิตฺต’’นฺติ วุตฺเต ปเม วิกปฺเป เอว. เหฏฺิมา เหฏฺิมา ปฏิสนฺธิ นตฺถีติ โยชนา. เตนาติ ตสฺมา. ตโตติ จตุตฺถารุปฺปจุติโต. ตตฺเถวาติ จตุตฺถารุปฺเป เอว. อตีตารมฺมณา ปฏิสนฺธิ, ตโต จตุตฺถารุปฺปจุติโต กามาวจเร อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ. อิตราหีติ อารุปฺปจุตีหิ. ทุติยา อารุปฺปปฏิสนฺธิ อตีตารมฺมณา, อิตรา นวตฺตพฺพารมฺมณาติ อาห ‘‘ยถาสมฺภว’’นฺติ. อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา จ กามาวจรปฏิสนฺธีติ เอตฺถาปิ อิตราหีติ สมฺพนฺโธ. สพฺพตฺถ จ ‘‘โยเชตพฺพา’’ติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. อิมสฺส วิเสสสฺสาติ ‘‘เตนา’’ติอาทินา ยถาวุตฺตสฺส วิเสสสฺส. วิสุํ อุทฺธรณํ กตํ อธิกวจนมฺมตฺถํ โพเธตีติ.

อารมฺมณวเสนเอกวิธายาติ อตีตารมฺมณตาวเสน เอกวิธาย. ทุวิธาติ อตีตารมฺมณา, ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา จาติ ทฺวิปฺปการา. ทุคฺคติจุติยา อารมฺมณวเสน ‘‘เอกวิธายา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตาย ทฺวิปฺปการา กามาวจรปฏิสนฺธิ, นวตฺตพฺพารมฺมณตาย เอกปฺปการา รูปาวจรปฏิสนฺธิ, นวตฺตพฺพาตีตารมฺมณตาย ทฺวิปฺปการา อารุปฺปปฏิสนฺธีติ อาห ‘‘ทฺวิเอกทฺวิปฺปการานํ กามรูปารุปฺปานํ วเสนา’’ติ. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ‘‘ทฺวิเอกทฺวิปฺปการานํ กามรูปารุปฺปานํ วเสนา’’ติ ปททฺวยํ อากฑฺฒติ. ทุวิธายาติ นวตฺตพฺพาตีตารมฺมณตาวเสน ทุวิธาย. ปจฺเจกนฺติ วิสุํ วิสุํ. ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ กามารุปฺปานนฺติ เอตฺถายํ โยชนา – นวตฺตพฺพารมฺมณาย อารุปฺปจุติยา อนนฺตรา อตีตารมฺมณา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา จ ทฺเว กามปฏิสนฺธี, นวตฺตพฺพารมฺมณา อตีตารมฺมณา จ ทฺเว อารุปฺปปฏิสนฺธี, ตถา อตีตารมฺมณายปีติ อิมาสํ วเสน อฏฺวิธา.

‘‘ทฺวิทฺวี’’ติ คาถาย วุตฺตเมวตฺถํ สุขคฺคหณตฺถํ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสติ. ยทิปิ ‘‘กมฺมสฺส กตตฺตา’’ติอาทินาปิ กมฺมสฺส วิปากานํ อุปนิสฺสยปจฺจยภาโว คหิโตเยว โหติ, ‘‘กุสลากุสลํ กมฺม’’นฺติอาทินา ปน วิสุํ อุปนิสฺสยปจฺจยภาโว ทสฺสียตีติ ‘‘กามาวจรสฺส…เป… อาทินา นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว ทสฺสิตปฺปกาโร’’ติ อาห.

อาทินา วิมิสฺสวิฺาเณนาติ เอกสฺส ภวสฺส อาทิภูเตน รูปวิมิสฺเสน ปฏิสนฺธิวิฺาเณน. อฺตฺถาติ สํเสทชโอปปาติกโยนิยํ. อวจนํ ปฏิกฺเขปํ มฺมาโน ‘‘คนฺธรสาหารานํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา’’ติ วตฺวา สพฺเพน สพฺพํ รูปภเว เต นตฺถีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘จกฺขุโสตวตฺถุสตฺตกชีวิตฉกฺกภาเวปี’’ติ. ปาฬิยนฺติ ธมฺมหทยวิภงฺคปาฬิยํ. ปฺจายตนานีติ จกฺขุโสตมนรูปธมฺมายตนานิ. ปฺจ ธาตุโยติ ตา เอว ปฺจ ธาตุโย. วุตฺตฺหิ – ‘‘รูปธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ กตมานิ ปฺจายตนานิ ปาตุภวนฺติ? จกฺขายตนํ รูปายตนํ โสตายตนํ มนายตนํ ธมฺมายตนํ. อิมานิ ปฺจายตนานิ ปาตุภวนฺติ. กตมา ปฺจ ธาตุโย ปาตุภวนฺติ? จกฺขุธาตุ…เป… ธมฺมธาตุ. อิมา ปฺจ ธาตุโย ปาตุภวนฺตี’’ติ (วิภ. ๑๐๑๖). ฉ อายตนานิ สทฺทายตเนน สทฺธึ ตานิเยว. นว ธาตุโยติ จกฺขุรูปจกฺขุวิฺาณโสตสทฺทโสตวิฺาณมโนธมฺมมโนวิฺาณธาตุโย. สพฺพสงฺคหวเสนาติ อนวเสสปริคฺคหวเสน. ตตฺถาติ รูปธาตุยํ. ‘‘กถาวตฺถุมฺหิ จา’’ติอาทินา น เกวลํ ธมฺมหทยวิภงฺคปาฬิยํเยว, อถ โข ปกรณนฺตเรปิ คนฺธาทโย ปฏิกฺขิตฺตาติ ทสฺเสติ. ตตฺถ ฆานายตนาทีนํวิยาติ สทิสูทาหรณทสฺสนํ. ยถา ฆานายตนาทีนํ ตตฺถ รูปภเว ภาโว อตฺถิ, ตา ปฏิกฺขิตฺตา, เอวํ คนฺธายตนาทีนฺจาติ. อตฺถิ ตตฺถ ฆานายตนนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ยฺหิ ตตฺถ อายตนํ นตฺถิ, ตสฺส วเสนายํ โจทนา. ตโต ปรวาที ยํ ตตฺถ อชฺฌตฺติกานํ ติณฺณํ อายตนานํ ฆานาทิกํ สณฺานนิมิตฺตํ, ตเทว อายตนนฺติ ลทฺธิยา ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิชานาติ. พาหิรานํ คนฺธายตนาทีนํ วเสน ปุฏฺโ ยสฺมา ฆานปฺปสาทาทโย ตตฺถ น อิจฺฉติ, ตสฺมา เตสํ โคจรํ ปฏิเสเธนฺโต ‘‘น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ ปฏิกฺขิปติ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อตฺถิ ตตฺถ ชิวฺหายตนนฺติ? อามนฺตา. อตฺถิ ตตฺถ รสายตนนฺติ? น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติอาทินยปฺปวตฺตานํ อนุโลมปฏิโลมสํสนฺทนปฺหาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อโผฏฺพฺพายตนานนฺติ โผฏฺพฺพายตนภาวรหิตานํ, อโผฏฺพฺพสภาวานนฺติ อตฺโถ.

อิทานิ อนายตนสภาเว คนฺธรเส ปฏิชานิตฺวาปิ โทสํ วทนฺโต ‘‘ยทิ จา’’ติอาทิมาห. อวจเน นตฺถิ การณํ ยถาธมฺมสาสเน อภิธมฺเม, เตสํ วา นิสตฺตนิชฺชีวสภาวตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยถา จ ธาตุภาโว, เอวํ ธมฺมภาโว จ เตสํ เอกนฺติโก, ตถา อายตนภาโว จาติ สพฺพถาปิ ตตฺถ วิชฺชมานานํ คนฺธรสานํ อายตเนสุ อวจเน การณํ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมภาโว จา’’ติอาทิมาห. อฺสฺส ปรมตฺถสฺส อภาวา. โกจิ อายตนสภาโวติ ธมฺมายตนเมว สนฺธาย วทติ. เตน ยทิ รูปภเว คนฺธรสา วิชฺชนฺติ, ยถาวุตฺตการณโต คนฺธรสายตนภาเวน อวุจฺจมานาปิ ธมฺมายตนภาเวน วตฺตพฺพา สิยุํ, น จ วุตฺตา. ตสฺมา นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ ‘‘นตฺเถว รูปภเว คนฺธรสา’’ติ ทสฺเสติ. กิฺจ รูปธาตุยํ คนฺธรสภาเวน อวุตฺตานํ, กามธาตุยํ วุตฺตานํ เตสํ กึ คนฺธรสภาวโต อฺเน สภาเวน รูปธาตุยํ อตฺถิภาโว, อุทาหุ คนฺธรสภาเวน. ยทิ ปุริโม ปกฺโข ธมฺมายตเน เตสํ สงฺคโห สิยา อนายตนสภาวสฺส สภาวธมฺมสฺส อภาวา, อถ ทุติโย เตเนว การเณน เนสํ คนฺธรสายตนภาโว สิทฺโธติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยทิ จา’’ติอาทิมาห. ตสฺมาติ ยสฺมา คนฺธรสา ธมฺมหทยวิภงฺเค น วุตฺตา, กถาวตฺถุมฺหิ จ เตสํ ภาโว ปฏิกฺขิตฺโต, ผุสิตุํ อสกฺกุเณยฺยา ปถวีอาทโย วิย ฆายิตุํ สายิตุฺจ อสกฺกุเณยฺยา เต นตฺถิ, ธาตุสทฺเทน จ เต คหิตา, ธมฺมภาโว จ เตสํ เอกนฺติโก, ตสฺมิฺจ สติ สิทฺโธ อายตนภาโว, ตสฺมา. ตถาติ ปาฬิยํ อวุตฺตธมฺเม หาเปตฺวา จกฺขุสตฺตกาทิวเสน. เอวนฺติ จกฺขุสตฺตกาทิวเสน รูปคณนาย กริยมานาย. ธมฺมตาติ ปาฬิธมฺโม , รูปภเว วา ปวตฺตนกรูปธมฺมตา. ‘‘น วิโลมิตา’’ติ อิมินา ยถาปฏิฺาตํ ธมฺมํ ทีปิตํ อุลฺลิงฺเคติ.

เอตฺถ จ รูปาวจรสตฺตานํ ฆานชิวฺหายตนาภาวโต วิชฺชมานาปิ คนฺธรสา อายตนกิจฺจํ น กโรนฺตีติ เต อนามสิตฺวา ปาฬิยํ ‘‘ปฺจายตนานิ ปาตุภวนฺติ, ฉ อายตนานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตโย อาหารา’’ติ จ อชฺโฌหริตพฺพสฺส อาหารสฺส อภาเวน โอชฏฺมกรูปสมุฏฺาปนสงฺขาตสฺส อาหารกิจฺจสฺส อกรณโต, น สพฺเพน สพฺพํ คนฺธรสานํ โอชาย จ อภาวโต. อิติ วิสยิโน กิจฺจสฺส จ อภาเวน วิสโย, กิจฺจวา จ ธมฺโม น วุตฺโต. ยสฺมิฺหิ ภเว วิสยี นตฺถิ, ตสฺมึ ตํเหตุโก นิปฺปริยาเยน วิสยสฺส อายตนภาโว นตฺถีติ วิชฺชมานสฺสาปิ อวจนํ, ยถา รูปภเว ปถวีเตโชวาโยธาตูนํ โผฏฺพฺพายตนภาเวน. ยสฺส ปน ยตฺถ วจนํ, ตสฺส ตตฺถ วิสยีสพฺภาวเหตุโก นิปฺปริยาเยน อายตนภาโว วุตฺโต ทิฏฺโ ยถา ตตฺเถว รูปายตนสฺส. ยทิ วิสยีสพฺภาวเหตุโก วิสยสฺส นิปฺปริยาเยน อายตนภาโว, กถํ อสฺสตฺตานํ เทวานํ ทฺเว อายตนานิ ปาตุภวนฺตีติ. อสฺสตฺตานฺหิ จกฺขายตนํ นตฺถิ, อจกฺขายตนภาเวน จ เนสํ รูปายตนํ อฺเสํ อวิสโยติ? นายํ วิโรโธ. เยน อธิปฺปาเยน รูปธาตุยํ สฺีนํ คนฺธายตนาทีนํ อวจนํ, เตน รูปายตนสฺสาปิ อวจนนฺติ อสฺีนํ เอกํ อายตนํ วตฺตพฺพํ. ยถาสกฺหิ อินฺทฺริยโคจรภาวาเปกฺขาย เยสํ นิปฺปริยาเยน อายตนภาโว อตฺถิ, เตสุ นิทฺทิสิยมาเนสุ ตทภาวโต รูปธาตุยํ สฺีนํ คนฺธาทิเก วิสุํ อายตนภาเวน อวตฺวา ธมฺมสภาวานติวตฺตนโต, มโนวิฺาณสฺส จ วิสยภาวูปคมนโต ธมฺมายตนนฺโตคเธ กตฺวา ‘‘ปฺจายตนานี’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตํ. เอตทตฺถฺหิ ‘‘ธมฺมายตน’’นฺติ สามฺโต นามกรณํ, ปิฏฺิวฏฺฏกานิ วา ตานิ กตฺวา ‘‘ปฺจายตนานี’’ติ วุตฺตํ. เยน จ ปน อธิปฺปาเยน อสฺีนํ รูปายตนํ วุตฺตํ, เตน สฺีนมฺปิ คนฺธาทีนํ วิสุํ คหณํ กาตพฺพนฺติ อิมสฺส นยสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘อสฺสตฺตานํ เทวานํ ทฺเว อายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ (วิภ. ๑๐๑๗) วุตฺตํ. อสติปิ หิ อตฺตโน อินฺทฺริเย รูปสฺส วณฺณายตนสภาวาติกฺกโม นตฺเถวาติ ตํ รูปายตนนฺตฺเวว วุจฺจติ. อิมินา จ นยทสฺสเนน คนฺธาทีนิ ตีณิ ปกฺขิปิตฺวา สฺีนํ อฏฺ อายตนานิ, อสฺีนํ ปฺจาติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. เอวฺเจตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. อฺถา รูปโลเก ผุสิตุมสกฺกุเณยฺยตาย ปถวีอาทีนํ วจีโฆโส เอว น สิยา. น หิ ปฏิฆฏฺฏนานิฆํสมนฺตเรน สทฺทปฺปวตฺติ อตฺถิ, น จ ผุสนสภาวานํ กตฺถจิ อผุสนสภาวตา สกฺกา วิฺาตุํ. โผฏฺพฺพายตนสงฺขาตสฺส จ ภูตตฺตยสฺส อภาเว รูปภเว รูปายตนาทีนมฺปิ สมฺภโว เอว น สิยา, ตสฺมา ผุสิตุํ สกฺกุเณยฺยตายปิ ปถวีอาทีนํ ตตฺถ กายินฺทฺริยาภาเวน เตสํ โผฏฺพฺพภาโว น วุตฺโต. เอวฺจ กตฺวา รูปธาตุยํ เตสํ สปฺปฏิฆวจนฺจ สมตฺถิตํ โหติ. วุตฺตฺหิ ‘‘อสฺสตฺตานํ อนิทสฺสนสปฺปฏิฆํ เอกํ มหาภูตํ ปฏิจฺจ ทฺเว มหาภูตา’’ติอาทิ (ปฏฺา. ๒.๒๒.๑๗). ปฏิโฆ เหตฺถ ภูตตฺตยสฺส กายปฺปสาทํ ปติ ตํนิสฺสยภูตฆฏฺฏนทฺวาเรน อภิมุขภาโว, โส จ ผุสิตุํ อสกฺกุเณยฺยสภาวสฺส ฆฏฺฏนาย อภาวโต นตฺถิ. นนุ ‘‘ทฺเว อายตนานี’’ติ เอตฺถ ปริยายายตนํ อธิปฺเปตํ, อถ กสฺมา คนฺธายตนาทีนิปิ คเหตฺวา ‘‘ปฺจายตนานี’’ติ น วุตฺตนฺติ? ‘‘นยทสฺสนวเสน เทสนา ปวตฺตา’’ติ วุตฺโตวายมตฺโถ. อถ วา ตตฺถ รูปายตนสฺเสว วจนํ กทาจิ อฺภูมิกานํ ปสาทสฺส วิสยภาวํ สนฺธาย, น ปน อิตเรสํ อภาวโต. นาปิ ปริยาเยน คนฺธายตนาทีนํ อายตนสภาวาภาวโต. อสฺีนฺหิ รูปายตนํ สมานภูมิกานํ เวหปฺผลานํ, อุปริภูมิกานฺจ สุทฺธวาสานํ ปสาทสฺส วิสยภาวํ คจฺฉติ, น ปน คนฺธรสาติ เตสํเยว ตตฺถาวจนํ ยุตฺตํ. กถาวตฺถุมฺหิ จ นิปฺปริยาเยน คนฺธายตนาทีนํ อตฺถิภาวํ ปฏิชานนฺตํ สนฺธาย ปฏิเสโธ กโต. ยทิปิ เจตํ วจนํ ตตฺถ คนฺธายตนาทีนํ อภาววิภาวนํ น โหติ, อตฺถิภาวทีปนมฺปิ ปน อฺวจนํ นตฺเถวาติ? นยิทเมวํ อฏฺกถาสุ ตตฺถ เนสํ อตฺถิภาวสฺส นิทฺธาเรตฺวา วุตฺตตฺตา. ยฺหิ อฏฺกถาวจนํ ปาฬิยา น วิรุชฺฌติ, ตํ ปาฬิ วิย ปมาณภูตํ อครหิตาย อาจริยปรมฺปราย ยาวชฺชตนา อาคตตฺตา. ตตฺถ สิยา – ยํ ปาฬิยา น วิรุชฺฌติ อฏฺกถาวจนํ, ตํ ปมาณํ. อิทํ ปน วิรุชฺฌตีติ? นยิทเมวํ ยถา น วิรุชฺฌติ , ตถา ปฏิปาทิตตฺตา. จกฺขาทีนํ อายตนานํ, ตนฺนิสฺสยานฺจ วิฺาณานํ สตฺตสุฺตาสนฺทสฺสนตฺถํ ภควโต ธาตุเทสนาติ อายตนภาเวน วุตฺตานํเยว ธาตุภาวทีปนโต ธาตุภาวสฺสาปิ เนสํ อวจนํ ยุชฺชติ เอว, ตสฺมา ยถา ปาฬิยา อวิโรโธ โหติ, ตถา จกฺขุทสกาทิวเสน อฏฺกถายํ รูปคณนา กตาติ น เอตฺถ ธมฺมตาวิโลมนาสงฺกาย โอกาโสติ เวทิตพฺพํ.

เอฬกสฺส ชาตกาเล อุณฺณา ชาติอุณฺณาติ ปโม อตฺโถ. ตโต สุขุมตรตํ สนฺธาย ‘‘คพฺภํ…เป… อิติปิ วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ. สมฺภวนสฺส เภโท วา สมฺภวเภโท, ปวตฺติเภโทติ อตฺโถ.

รูปีพฺรหฺเมสูติ อธิกรเณ ภุมฺมํ, โอปปาติกโยนิเกสูติ นิทฺธารเณติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โอปปาติกโยนิเกหิ รูปีพฺรหฺเม นิทฺธาเรตี’’ติ อาห. เตน ‘‘โอปปาติกโยนิเกสู’’ติ สามฺโต วุตฺตราสิโต ‘‘รูปีพฺรหฺเมสู’’ติ วิเสสํ นิทฺธาเรติ. น สเมตีติ น สํสนฺทติ, วิรุชฺฌตีติ อตฺโถ. ยาย ปาฬิยา น สเมติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมหทยวิภงฺเค หี’’ติอาทิมาห.

เอกาทสาติ ปริปุณฺณายตนสฺส สทฺทายตนวชฺชานิ เอกาทสายตนานิ. กสฺสจิ ทสายตนานีติ อนฺธสฺส จกฺขายตนวชฺชานิ. กสฺสจิ อปรานิ ทสายตนานีติ พธิรสฺส โสตายตนวชฺชานิ. กสฺสจิ นวายตนานีติ อนฺธพธิรสฺส จกฺขุโสตายตนวชฺชานิ. กสฺสจิ สตฺตายตนานีติ คพฺภเสยฺยกสฺส รูปคนฺธรสกายโผฏฺพฺพมโนธมฺมายตนวเสน วุตฺตํ.

‘‘น วุตฺตํ อฏฺายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ อิทํ ‘‘น หิ ปาฬิยํ…เป… วุตฺตา’’ติ เอตสฺส อตฺถวิวรณํ. จกฺขุโสตฆานวิกลสฺส หิ อุปปชฺชมานสฺส อฏฺเว อายตนานิ สิยุนฺติ. สติ จ อฆานกุปปตฺติยํ ปุนปิ ‘‘กสฺสจิ อปรานิ ทสายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา. ตถา จ สติ ยถา อนฺธพธิรสฺส วเสน ‘‘กสฺสจิ นวายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ (วิภ. ๑๐๐๗) เอกวารํ วุตฺตํ, เอวํ อนฺธาฆานกสฺส, พธิราฆานกสฺส จ วเสน ‘‘กสฺสจิ อปรานิ นวายตนานิ, กสฺสจิ อปรานิ นวายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, เอวํ น วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ตถา…เป… นจ ตํ วุตฺต’’นฺติ. เอวํ ธาตุปาตุภาวาทิปฺเหสูติ ‘‘กสฺสจิ เอกาทส ธาตุโย ปาตุภวนฺติ, กสฺสจิ ทส ธาตุโย, กสฺสจิ อปรา ทส ธาตุโย, กสฺสจิ นว ธาตุโย, กสฺสจิ สตฺต ธาตุโย ปาตุภวนฺตี’’ติ (วิภ. ๑๐๐๗) เอวํ ธาตุปาตุภาวปฺโห เวทิตพฺโพ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘กสฺสจิ จุทฺทสินฺทฺริยานิ ปาตุภวนฺตี’’ติอาทิ (วิภ. ๑๐๐๗) นยปฺปวตฺตา อินฺทฺริยปฺหาทโย สงฺคหิตา.

เอตฺถ จ ยถา ‘‘สตฺตติ อุกฺกํสโต จ รูปานี’’ติ ปทํ ‘‘สํเสทโชปปาตีสู’’ติ เอตฺถ โยนิทฺวยวเสน โยชียติ, น เอวํ ‘‘อวกํสโต ตึสา’’ติ อิทํ, อิทํ ปน สํเสทชโยนิวเสเนว โยเชตพฺพํ, เอกโยคนิทฺทิฏฺสฺสาปิ เอกเทโส สมฺพนฺธํ ลภตีติ. สํเสทชสฺเสว จ ชจฺจนฺธพธิรอฆานกนปุํสกสฺส ชิวฺหากายวตฺถุทสกานํ วเสน ตึส รูปานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ, น โอปปาติกสฺสาติ อยเมตฺถ อฏฺกถาย อธิปฺปาโย. เย ปน ‘‘โอปปาติกสฺส ชจฺจนฺธ…เป… อุปฺปชฺชนฺตีติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. โส หิ ปมาทปาโ. เอวฺจ กตฺวา อายตนยมกวณฺณนาย ‘‘กามธาตุยํ ปน อฆานโก โอปปาติโก นตฺถิ. ยทิ ภเวยฺย, ‘กสฺสจิ อฏฺายตนานิ ปาตุภวนฺตี’ติ วเทยฺยา’’ติ (ยม. อฏฺ. อายตนยมก ๑๘-๒๑) วกฺขติ. อปเร ปนาหุ ‘‘กสฺสจิ เอกาทสายตนานิ ปาตุภวนฺติ, ยาว ‘กสฺสจิ นวายตนานี’ติ ปาฬิ โอปปาติเก สนฺธาย วุตฺตา. ตสฺมา ปุพฺเพนาปรํ อฏฺกถายํ อวิโรโธ สิทฺโธ โหติ, ตถา จ ยถาวุตฺตปาฬิยา อยมตฺถวณฺณนา อฺทตฺถุ สํสนฺทติ สเมติเยวา’’ติ. ยํ ปเนเก วทนฺติ ‘‘โอปปาติกคฺคหเณน สํเสทชาปิ สงฺคยฺหนฺติ. ตถา หิ ธมฺมหทยวิภงฺเค ‘กามธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ กสฺสจิ เอกาทสายตนานิ ปาตุภวนฺตี’ติอาทีนํ (วิภ. ๑๐๐๗) อุทฺเทเส ‘โอปปาติกานํ เปตาน’นฺติอาทินา โอปปาติกคฺคหณเมว กตํ, น สํเสทชคฺคหณ’’นฺติ, ตํ ปริปุณฺณายตนานํเยว สํเสทชานํ โอปปาติเกสุ สงฺคหณวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘สํเสทชโยนิกา ปริปุณฺณายตนาปริปุณฺณายตนภาเวน โอปปาติกสงฺคหํ กตฺวา วุตฺตา’’ติ ‘‘ปธานาย วา โยนิยา สพฺพํ ปริปุณฺณายตนโยนึ ทสฺเสตุํ ‘โอปปาติกาน’นฺติ วุตฺต’’นฺติ จ. อฏฺกถายํ ปน โยนิทฺวยํ สรูเปเนว ปกาเสตุํ, สํเสทชโยนิวเสเนว จ อวกํสโต ปวตฺตึ ทสฺเสตุํ โอปปาติกโยนิยา อิตรํ อสงฺคเหตฺวา ‘‘สํเสทโชปปาตีสู’’ติ วุตฺตนฺติ. สพฺพํ ตํ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.

จุติปฏิสนฺธีนนฺติ อนนฺตราตีตจุติยา, ตทนนฺตราย มิสฺสามิสฺสเภทาย ปฏิสนฺธิยา. ขนฺธาทีหีติ ขนฺธารมฺมณคติเหตุเวทนาปีติวิตกฺกวิจาเรหิ. มหคฺคตอชฺฌตฺตารมฺมณาย มหคฺคตอชฺฌตฺตารมฺมณา, อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณาย อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณาติ เอวมาทิโน อรูปภูมีสุเยว จุติปฏิสนฺธีนํ เภทาเภทวิเสสสฺส สมฺภวโต ‘‘นยมุขมตฺตํ ทสฺเสตฺวา’’ติ วุตฺตํ. เอกจฺจสุคตีติ มหคฺคตวชฺชสุคติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘รูปารูปาวจราน’’นฺติอาทิ. เกจิ ปน ‘‘ยถา มหคฺคตาวชฺชา, เอวํ อุตฺตรกุรุกวชฺชา’’ติปิ วทนฺติ. เอกจฺจสุคติจุติยาติ วุตฺตสุคติจุติยา. ยทิปิ ‘‘อยํ นาม ทุคฺคติปฏิสนฺธิ น โหตี’’ติ นิยโม นตฺถิ, เทสนา ปน โสตปติตา คตาติ วทนฺติ. นิยตโพธิสตฺตาเปกฺขาย วา เอวํ วุตฺตํ. เตสฺหิ เอกจฺจทุคฺคติปฏิสนฺธิ นตฺถิ อวีจิอาทีสุ อนุปปชฺชนโต. ‘‘เอกจฺจทุคฺคติจุติยา’’ติ เอตฺถาปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอกจฺจสุคติปฏิสนฺธีติ ปน กามาวจรสุคติปฏิสนฺธิ เวทิตพฺพา. สยเมวาติ อตฺตนา เอว. ‘‘เภทวิเสโส เอว จ เอวํ วิตฺถาเรน ทสฺสิโต’’ติ อิทํ ‘‘อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณายา’’ติอาทึ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘จตุกฺขนฺธาย…เป… ปฏิสนฺธิ โหตี’’ติ อิทํ ปน อเภทวิเสสทสฺสนเมวาติ. เอเกกสฺมึ เภเทติ ‘‘อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณายา’’ติ เอวมาทิเก เอเกกสฺมึ ภาเค. ตตฺถ ตตฺเถวาติ ‘‘อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณาย มหคฺคตพหิทฺธารมฺมณา, อมหคฺคตชฺฌตฺตารมฺมณาย มหคฺคตชฺฌตฺตารมฺมณา’’ติอาทินา ตสฺมึ ตสฺมึ เภเท, ตตฺถ ตตฺเถว วา ภวาทิเก จวิตฺวา อุปปชฺชนฺตสฺส วเสน จุติปฏิสนฺธิโยชนา เวทิตพฺพา. ภุมฺมตฺเถ อยํ โต-สทฺโทติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตโต เหตุํ วินาติ ตตฺถ เหตุํ วินา’’ติ อาห. ตสฺสตฺโถ – ตสฺมึ ปุริมภเว นิปฺผนฺนํ อวิชฺชาสงฺขาราทิกํ การณํ วินา น โหตีติ.

อติมนฺทภาวูปคมนํ สกิจฺจาสมตฺถตา. ปฺจทฺวาริกวิฺาณวเสน จุติ ปฏิสิทฺธา, น ตทนนฺตรวิฺาณวเสน. สฺวายมตฺโถ ‘‘ปฺจนฺนํ ทฺวาราน’’นฺติอาทินา เหฏฺา อฏฺกถายมาคโตติ อาห ‘‘ปฺจทฺวาริกวิฺาณานนฺตรมฺปิ หิ ปุพฺเพ จุติ ทสฺสิตา’’ติ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. จุติจิตฺเตน สทฺธึ จกฺขายตนาทีนํ นิโรโธ โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยมเก จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริณตตฺตาติ ปริปากวเสน ปริโยสานํ คตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ผสฺสาทโย ยถาวุตฺตเจตนาสหชาตผสฺสาทโย. ยถาอุปฏฺิเต กมฺมาทิอารมฺมเณ อเนกวารํ อุปฺปตฺติยา สนฺตานสฺส อภิสงฺขรณํ ตตฺถ ปฏิสนฺธิวิฺาณปติฏฺานสฺส เหตุภาโว.

สนฺตานวเสน นิปฺปชฺชมานานํ นมนาทิกิริยานํ เอกสฺมึ ปฏิสนฺธิวิฺาเณเยว อตฺถสิทฺธีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘นมน…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ปถวิยํ สพลปโยเคหีติ ปถวิยา อาธารณภูตาย อตฺตโน พเลน ปโยเคน จ กรณภูเตน.

สทฺทเหตุโกติ สทฺทสฺส ปธานาทิภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตาทิโส ปพฺพตกุจฺฉิอาทิปเทโสปิ ตสฺส เหตุเยว. ปทีปนฺตราทีติ อาทิ-สทฺเทน เตลวฏฺฏิอาทิเก สงฺคณฺหาติ. ตโต สทฺทาทิปฺปวตฺติโต ปุพฺเพ อภาวา. ปฏิโฆสาทีนฺหิ สทฺทาทิปฺปวตฺติโต สติ ปุริมสิทฺธิยํ เต สทฺทาทิปจฺจยเทสํ คจฺเฉยฺยุํ, น ปน เต อตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘ตโต ปุพฺเพ อภาวา’’ติ. อุปเมยฺเยปิ เอวเมว อตฺโถ โยเชตพฺโพ. ยถา จ เหตุเทสํ น คจฺฉติ เหตุสมุปฺปนฺนํ, เอวํ ตโต นาคจฺฉตีติ อาห ‘‘ตสฺมา น…เป… อาคต’’นฺติ. เต สทฺทาทโย ปจฺจยา เอเตสนฺติ ตปฺปจฺจยา. วุตฺตนเยนาติ อุปมายํ วุตฺตนเยเนว. ปุริมภวเหตุเทเส สนฺนิหิตํ หุตฺวา ปฏิสนฺธิวิฺาณํ ตโต อฺตฺร ภวนฺตเร ตํ อุปคนฺตฺวา ตปฺปจฺจยํ น โหตีติ อตฺโถ. ปจฺจยโต นิพฺพตฺตมานํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ อฺตฺร อคนฺตฺวา ปจฺจยเทสํ อนุปคตเมว หุตฺวา นิพฺพตฺตตีติ ปโม อตฺโถ. ปมํ ปจฺจเยน สโมธานคตํ หุตฺวา ตโต อฺตฺร คนฺตฺวา ปจฺจยุปฺปนฺนวตฺถุภาวํ นาปชฺชตีติ ทุติโย อตฺโถ. ยถาสมฺภวนฺติ ยาย ‘‘น ขีรโต ทธิ สมฺภูตํ สิยา, น ขีรสามิโน ทธิ สิยา’’ติ จ ขีรทธีสุ เอกนฺตํ เอกตาย นานตาย จ โทสโยชนา กตา. อิมินา นเยน พีชาทีสุ สพฺพเหตูสุ, องฺกุราทีสุ สพฺพเหตุสมุปฺปนฺเนสุ ยถาสมฺภวํ เหตุอนุรูปํ, เหตุสมุปนฺนานุรูปฺจ โทสโยชนา กาตพฺพา. สนฺตานพทฺเธสุ ธมฺเมสุ เอกนฺตเอกตาปฏิเสเธน สสฺสตคาหสฺส ปฏิเสธิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สยํกตํสุขํ ทุกฺขนฺติ อิมํ ทิฏฺึ นิวาเรตี’’ติ. ตถา เอกนฺตนานตาปฏิเสเธน อุจฺเฉทคาโห ปฏิเสธิโต โหตีติ อาห ‘‘ปรํกตํ สุขํ ทุกฺขํ อฺโ กโรติ, อฺโ ปฏิสํเวเทตีติ อิมํ ทิฏฺึ นิวาเรตี’’ติ. เตน กตนาโส, อกตาคโม จ นิวตฺติโต โหตีติ อธิจฺจสมุปฺปนฺนทิฏฺินิวารเณเนว นิยติสภาววาทปฏิเสโธปิ กโตติ ทฏฺพฺพํ.

ตตฺถาติ องฺกุราทิปฺปพนฺธสงฺขาเต ภูตุปาทารูปสนฺตาเน. นฺติ วิชฺชาปาฏวาทิ. อฺสฺสาติ พาลกาเล กตวิชฺชาปริยาปุณนาทิโต อฺสฺส. สงฺขารโต อฺโ ตณฺหาทิโก อฺปจฺจโย.

นิยฺยาตนาทิ เอว ผลํ นิยฺยาตนาทิผลํ, อผลิตํ นิยฺยาตนาทิผลํ เอตสฺสาติ อผลิ…เป… ผลํ, ยถาวุตฺตกิริยากรณํ.

ปิณฺฑวเสนาติ อกตาวยววิภาคสฺส สมุทายสฺส วเสน. สพฺพตฺถาติ ปุฺาภิสงฺขาราทิเก สพฺพสฺมึ ปจฺจยธมฺเม, ปฏิสนฺธิเภเท วา ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเม. พลวกมฺมสฺส วเสน โยเชตพฺโพ. ภุโส นิสฺสโย หิ อุปนิสฺสโย. ‘‘อวิเสเสนา’’ติ วุตฺเตปิ กามาวจรปุฺาภิสงฺขาโร จกฺขุวิฺาณาทีนํ ปฺจนฺนํ ปวตฺเต, อิตโร ปมชฺฌานวิปากาทีนํ ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ ปจฺจโย โหตีติ ปากโฏยมตฺโถติ ตํ อวิภชิตฺวา ‘‘สพฺพปุฺาภิสงฺขารํ สห สงฺคณฺหาติ’’จฺเจว วุตฺตํ. ทฺวาทสากุสลเจตนาเภโทติ นยิทํ สมาสปทํ, สนฺธิวเสน ปเนตํ วุตฺตํ. ทฺวาทสาติ จ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, ทฺวาทสสุ อกุสลเจตนาสุ. อกุสลเจตนาเภโทติ เอกาทสากุสลเจตนาปเภโท, ทฺวาทสากุสลเจตนาปเภโท จาติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวฺหิ สติ น เอตฺถ กิฺจิ วิจาเรตพฺพํ เหฏฺา วิตฺถาริตตฺตา. เกจิ ปน ‘‘ทฺวาทสากุสลเจตนาเภโทติ อิทํ ‘ฉนฺนํ ปวตฺเต’ติอาทินา โยเชตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ, เตสํ มเตน อุทฺธจฺจเจตนาย คหเณ ปโยชนํ วิจาเรตพฺพเมว ปฏิสนฺธิยาปิ ปจฺจยภาวสฺส วุตฺตตฺตา. เอกสฺสาติ เอตฺถ เอว-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ อาห ‘‘เอกสฺเสว ปจฺจยภาวนิยโม’’ติ. มิลาตมาลาทีนนฺติ มิลาตมาลกิลิฏฺวตฺถาทีนํ. มโนปโทสิกานํ ตทฺวตฺถูนมฺปิ อนิฏฺตา กถํ น สิยา, สิยา เอวาติ อธิปฺปาโย. อฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) ปน ปจุรตาภาวโต ตํ อนามสิตฺวา ‘‘ตถา กามาวจรเทวโลเกปี’’ติ วุตฺตํ . เกจิ ปน ‘‘เทวโลเก อนิฏฺํ นาม ปริกปฺปนวเสน, สภาวโต ปน ตตฺถุปฺปนฺนํ อิฏฺเมวา’’ติ วทนฺติ.

‘‘เอกูนตึสเจตนาเภทมฺปี’’ติ อิมินา อุทฺธจฺจเจตนายปิ ปวตฺติวิปากทายิตํ อนุชานาติ, อฏฺกถาอธิปฺปายวเสน วา เอวมาห. ปฺจทสนฺนํ อเหตุกวิปากวิฺาณานํ ปฺจฏฺานานิ ทฺเว อปเนตฺวา อวเสสานํ เตรสนฺนํ. ทฺเว ทฺเว จกฺขุโสตสมฺปฏิจฺฉนวิฺาณานิ, ตีณิ สนฺตีรณานีติ นวนฺนํ. เอกเทสปจฺจยภาเวนาติ เอกเทสสฺส วีสติเจตนาเภทสฺส กามาวจรจิตฺตสงฺขารสฺส ปจฺจยภาเวน เอกูนตึสเจตนาเภโท สมุทาโย วุตฺโต. สฺเววาติ อวยวคเตนาปิ วิเสเสน สมุทาโย โวหรียติ ยถา ‘‘อลงฺกโต ราชกุมาโร’’ติ.

ยตฺถาติ ปฺจโวการภวํ สนฺธายาห. ตตฺถ หิ ‘‘กามาวจรสุคติยํ ตาว ิตสฺสา’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺติยฺจ วิปากสฺส วิตฺถารปฺปกาสนํ กตํ. จตุตฺถชฺฌานภูมีติ เวหปฺผลภูมึ วทติ. เตนาห ‘‘อสฺารุปฺปวชฺชา’’ติ. จตุตฺถชฺฌานเมว หิ ภาวนาวิเสสปฺปวตฺตํ อสฺภูมึ อารุปฺปภูมิฺจ นิปฺผาเทติ, จตุกฺกนยวเสน วา สํวณฺณนา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อฏฺ มหาวิปากา, ปริตฺตวิปาเกสุ ปจฺฉิโม, ปฺจ รูปาวจรวิปากาติ เอวํ จุทฺทสนฺนํ. สตฺตนฺนนฺติ เสสานํ ปริตฺตวิปากานํเยว สตฺตนฺนํ.

ภวาทโยติ ภวโยนิคติสตฺตาวาเส. ติณฺณํ วิฺาณานนฺติ ปุริมานํ ติณฺณํ อารุปฺปวิปากวิฺาณานํ. ตีสูติ ปฺจมาทีสุ ตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘กามภเว ปน ทุคฺคติยํ อฏฺนฺนมฺปิ ปริตฺตวิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิย’’นฺติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) วุตฺตนเยเนว.

วิฺาณปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

นามรูปปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๒๘. ยทิปิ สุตฺตนฺเต อภิธมฺเม จ ปฏิจฺจสมุปฺปาทนิทฺเทเส รูปปทสฺส เทสนาเภโท นตฺถิ, อภิธมฺเม ปน ‘‘สพฺพํ รูปํ น เหตู’’ติอาทินา (ธ. ส. ๕๘๔) สุตฺตนฺตโต ตสฺส เทสนาเภโท อตฺเถวาติ อาห ‘‘สุตฺตนฺตา…เป… เภโท’’ติ. สงฺขฺเยยฺเยสุ ปริจฺเฉทโต คหิเตสุ อตฺถสิทฺโธ ตตฺถ สงฺขฺยาปริจฺเฉโทติ วุตฺตํ ‘‘อตฺถโต ปน วุตฺตเมว โหตี’’ติ.

โอปปาติกสตฺเตสูติ วา สามฺโต สพฺเพ โอปปาติกา วุตฺตา. เตสุ พฺรหฺมกายิกาทิคฺคหเณน รูปาวจราว วุตฺตาติ ตทฺเ สนฺธาย เสสโอปปาติกานนฺติ เสสคฺคหณํ สาตฺถกเมว. วุตฺตนเยนาติ ‘‘ทฺเว วา ตโย วา ทสกา, โอมโต อาทินา สหา’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) รูปมิสฺสกวิฺาเณ วุตฺตนเยน.

‘‘ทฺเว สนฺตติสีสานี’’ติ อารพฺภ ยาว ‘‘สตฺต สนฺตติสีสานี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๘) เอตฺตกํ อฏฺกถาปาํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สตฺตกปริโยสาน’’นฺติ. เอเกกจิตฺตกฺขเณ ติกฺขตฺตุํ รูปุปฺปตฺตึ อนนุชานนฺโต อาห ‘‘อิมินาธิปฺปาเยนา’’ติ. จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว สพฺพํ รูปํ อุปฺปชฺชตีติ หิ อตฺตโน อธิปฺปาโย.

‘‘รูปาชนกกมฺมช’’นฺติ อิทํ ภูตกถนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ ปฺจวิฺาณานํ อตํสภาวตาภาวา. รูปาชนกกมฺมชนฺติ วา จุติจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ปน ‘‘ปวตฺติย’’นฺติ อิมินาว นิวตฺติตํ. ‘‘สพฺเพสมฺปิ จุติจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปตี’’ติ (ธ. ส. มูลฏี. ๖๓๖) อฏฺสาลินีฏีกายํ วุตฺโตวายมตฺโถ. ปฺจวิฺาณกฺขเณ ตปฺปจฺจยา รูปุปฺปตฺติยา อภาเวน วุตฺตํ ‘‘ปฺจวิฺาณปฺปวตฺติกาลํสนฺธายา’’ติ. ตตฺถาปิ อสหชาตวิฺาณปจฺจยา อตฺเถว รูปุปฺปตฺตีติ อาห ‘‘สหชาตวิฺาณปจฺจยฺจา’’ติ. ภวงฺคาทีติ ภวงฺคสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณตทารมฺมณานิ. อฺเนาติ ยถาวุตฺตกมฺมวิฺาณโต อฺเน อภิสงฺขารวิฺาเณน. รูปเมว หิ กุสลากุสลกิริยจิตฺตปฺปวตฺติกฺขเณ อภิสงฺขารวิฺาณปจฺจยา อุปฺปชฺชติ, น นามํ ภวงฺคํ. ตํชนเกนาติ ภวงฺคาทิชนเกน. กมฺมวิฺาณปฺปจฺจยา วิปากจิตฺตปฺปวตฺติกาเล วิปากนามสฺส กมฺมสมุฏฺานรูปสฺส จ วเสน. สหชาตวิฺาณปจฺจยา ปน อิตรจิตฺตปฺปวตฺติกาเลปิ วิปาโก วิปากนามวเสน, จิตฺตสมุฏฺานรูปวเสน จ นามรูปสฺส สมฺภโว ทสฺเสตพฺโพติ อาห ‘‘สหชาต…เป… โยเชตพฺพ’’นฺติ. รูปสทฺเทน จ อตฺตโน เอกเทเสนาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สรูปานํ เอกเทโส เอกวิภตฺติย’’นฺติ (ปาณินี ๑.๒.๖๔) สทฺทลกฺขณํ สนฺธายาห ‘‘สรูปานํ เอกเทโส’’ติ. อิจฺฉิโต หิ เอกเทสรูปานมฺปิ เอกเทโส ยถา ‘‘นิทสฺสิตวิปกฺเขหี’’ติ. นิทสฺสิโต จ นิทสฺสิตวิปกฺโข จ นิทสฺสิตวิปกฺโขติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. ‘‘าน’’นฺติ อิมินา เสสสทฺทสฺส อตฺถํ วทติ. สรูเปน ปนฺหิ อิธ เสสนํ.

ยํ-ตํ-สทฺทานํ อพฺยภิจาริตสมฺพนฺธตฺตา อวุตฺตมฺปิ ตโต-สทฺทํ อาเนตฺวา อาห ‘‘ตโต ยุตฺตเมว อิทนฺติ โยเชตพฺพ’’นฺติ. วิปากสฺส อชนกํ วิปากาชนกํ, นิสฺสนฺทผลมตฺตทายกกมฺมํ, ตํ สมุฏฺานํ เอตสฺสาติ วิปากาชนกกมฺมสมุฏฺานํ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘วตฺถุกายวเสน รูปโต ทฺเว สนฺตติสีสานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธา’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๒๘) วุตฺเตน นเยน. อุภยนฺติ นามํ รูปฺจ.

กมฺมารมฺมณปฏิสนฺธิอาทิกาเลติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สมฺมสนาทิกาลสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. นฺติ อภิสงฺขารวิฺาณํ.

ยทิปิ ‘‘อตฺถิ รูปํ จิตฺตสมุฏฺาน’’นฺติอาทิวจนโต (ธ. ส. ๕๘๔) รูปสฺสปิ วิฺาณปจฺจยตา สุตฺตโต ชานิตพฺพา, วิฺาณสนฺนิสฺสิตา อิฏฺานุภวนาทโย ตสฺมึ สติ สพฺภาวโต, อสติ จ อภาวโต ยถา สทฺเธยฺยาทิวตฺถุมฺหิ สทฺธาทโยติ นามสฺสปิ ยุตฺติโต วิฺาณปจฺจยตา สิทฺธา, อฏฺกถายํ ปน วุตฺตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุตฺตโต นามํ…เป… ชานิตพฺพ’’นฺติ อาห. ยาวเทว ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมมตฺตตาวิภาวนมุเขน อวิปรีตโต ปวตฺตินิวตฺติสนฺทสฺสนํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนา, ตาวเทว จ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิมาห . ยสฺมา ปน ปวตฺตินิวตฺติวิภาวนโต สจฺจเทสนาว ปจฺจยาการเทสนา, สจฺจเทสนา จ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ. ยถาห ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ เม ภิกฺขเว…เป… พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติต’’นฺติอาทิ, ตสฺมา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ ปทสฺส สจฺจเทสนาภาวทีปเนน ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘นามรูปมตฺตตาวจเนเนว วา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

นามรูปปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สฬายตนปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๒๙. ยถาสมฺภวนฺติ สมฺภวานุรูปํ. เตน จตุนฺนํ ตาว ภูตานํ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตวเสน จกฺขายตนาทีนํ ปฺจนฺนํ ปจฺจยภาโว, วตฺถูสุ ปน หทยวตฺถุโน ฉฏฺายตนสฺส ปฏิสนฺธิยํ สหชาตนิสฺสยอฺมฺวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน, ปวตฺติยํ ยสฺมา อนนฺตรจิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปนฺนเมว วตฺถุ ิติปฺปตฺติยา พลวภาเวน ตสฺส นิสฺสโย ภวิตุํ สกฺโกติ, น สหชาตํ, ตสฺมา ปุเรชาตนิสฺสยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน. อิตรวตฺถูนํ ปฺจวิฺาณสงฺขาตสฺส ฉฏฺายตนสฺส อินฺทฺริยปจฺจยวเสน จ, ชีวิตสฺส อินฺทฺริยอตฺถิอวิคตวเสน ปจฺจยภาโว วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. เอกปฺปกาเรเนวาติ ยถา จกฺขาทีนํ มนายตนสฺส ปฏินิยตทสฺสนาทิกิจฺจานุวิธานโต นิยโต เอกปฺปกาเรเนว ปจฺจยภาโว, น เอวํ รูปายตนาทีนํ, เตสํ ปน รูปารมฺมณาทินา ปการนฺตเรน ตสฺส ปจฺจยภาโวติ ‘‘อนิยมโต’’ติ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘นิยมโต’’ติ ปทํ ‘‘สสนฺตติปริยาปนฺน’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺธิตฺวา อตฺถํ วทนฺติ ‘‘เอกนฺเตน สสนฺตติปริยาปนฺน’’นฺติ.

‘‘ฉฏฺายตนฺจ มนายตนฺจ ฉฏฺายตน’’นฺติ อิมินา วิคฺคเหน อตฺถโต, อิตเรหิ ทฺวีหิ สทฺทโตปิ อตฺถโตปิ สรูปตํ ทสฺเสติ. ‘‘จกฺขาทีหิ สห ‘สฬายตน’นฺติ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตนเยน เอกเสสํ กตฺวา มนายตนํ จกฺขาทีหิ สทฺธึ ‘‘สฬายตน’’นฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํ ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ. ยถาวุตฺโตติ ‘‘ฉฏฺายตนฺจ มนายตนฺจา’’ติอาทินา อตฺตนา วุตฺตปฺปกาโร. สพฺพตฺถาติ นามรูปสทฺเทน สฬายตนสทฺเทน จ สทฺทสรูปตาสุ, อตฺถสรูปตาสุ วา. ยทิ สุตฺตนฺตภาชนีเย วิปากฉฏฺายตนเมว อธิปฺเปตํ, อถ กสฺมา ‘‘อิตรํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อวิปากฺหิ ตตฺถ อิตรนฺติ อธิปฺเปตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ปจฺจยนเย ปนา’’ติอาทิ.

สหชาตาทีสุ เหตุอาหารินฺทฺริยปจฺจเย ปกฺขิปิตฺวา ทสธา, ตโต เอกํ อปเนตฺวา นวธา, ตโต เอกํ อปเนตฺวา อฏฺธา ปจฺจยภาโว เวทิตพฺโพ. เอวเมตฺถ สาธารณวเสน อวกํโส, เหตุอาทิอสาธารณวเสน อุกฺกํโสติ ฌานาทีนมฺปิ วเสน เวทิตพฺโพ.

ปฏิสนฺธิยํ อรูปธมฺมา กมฺมชรูปสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ปจฺจยา โหนฺตีติ ‘‘ปวตฺเต’’ติ วิเสเสติ. ‘‘ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตาทโย เอวา’’ติ นิยเมน สหชาตปุเรชาตวิปฺปยุตฺตาทโย นิวตฺเตติ.

‘‘อวเสสมนายตนสฺสา’’ติ อวเสสคฺคหณมฺปิ ปกรณโต วิสิฏฺวิสยเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจกฺขนฺธภเว’’ติอาทิมาห, ยโต อฏฺกถายํ ‘‘วตฺถุรูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพติ นามรูปสฺส ปฏิสนฺธิยํ สหชาตอฺมฺนิสฺสยอตฺถิอวิคตาทิปจฺจยภาโว สหชาตาทิสาธารณปจฺจยภาโว, สมฺปยุตฺตวิปากเหตุอาหารินฺทฺริยาทิปจฺจยภาโว สมฺปยุตฺตาทิอสาธารณปจฺจยภาโว นามสฺส, รูปสฺส ปน วิปฺปยุตฺตปจฺจยภาโว โยเชตพฺโพ.

สฬายตนปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ผสฺสปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓๐. ตทเภทวเสนาติ ตสฺส ผสฺสสฺส อเภทวเสน, ผสฺสภาวสามฺเนาติ อตฺโถ. น ยุตฺตํ เอกสฺเสว วจนํ. อฺสฺสาปีติ ยถาวุตฺตโต อฺสฺสาปิ. สพฺพายตนโต หิ เอกสฺส ผสฺสสฺส อสมฺภวโจทนายํ ตปฺปสงฺเคน เอกายตนโต อเนกสฺสาปิ สมฺภโว นตฺถีติ โจทนา ‘‘อีทิสี ธมฺมตา นตฺถี’’ติ าปนตฺถาติ ทสฺเสติ ‘‘อฺสฺสาปี’’ติอาทินา. นิทสฺสนวเสนาติ อุทาหรณทสฺสนวเสน . เอกผสฺสสฺส สมฺภวโตติ การณาปเทโส. เอกผสฺสสมฺภวสฺส ลพฺภมานตฺตา ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ ภควตา วุตฺตนฺติ ปริหารํ ทสฺเสนฺโตติ โยชนา. เสเสสูติ เอกนฺติอาทีสุ. นวธา ปจฺจยตฺเต เอกํ วิปากมนายตนํ วิภาวเย. ตถา จาติ อารมฺมณปุเรชาตอตฺถิอวิคตวเสน. ยฺวายํ ปจฺจยภาโว ยาทิสานํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนานิ…เป… สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ อาห. อตีตานาคตกาลวิมุตฺตานมฺปิ อารมฺมณมตฺตตาย สมฺภวโต อาห ‘‘อารมฺมณ…เป… สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. ตตฺถ นฺติ รูปายตนาทึ.

ผสฺสปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

เวทนาปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓๑. อนนฺตราทีหีติ อนนฺตรสมนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตปจฺจเยหิ. อุปนิสฺสเยติ อนนฺตรูปนิสฺสเย. อนนฺตรสมนนฺตรปจฺจยา หิ อนนฺตรตาวเสเนว อนนฺตรูปนิสฺสเย อนฺโตคธา. นตฺถิวิคตปจฺจยา ปน อนนฺตรสมนนฺตรปจฺจยธมฺมานํเยว ตถาภาวโต ตทนฺโตคธา. ตสฺสาติ อุปนิสฺสยสฺส.

สพฺพสฺสาติ วิปากสฺส, อวิปากสฺส จ. ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติจิตฺตสมฺปยุตฺตาย หิ เวทนาย สหชาตมโนสมฺผสฺโส วุตฺตนเยน อฏฺธา ปจฺจโย โหติ. อนนฺตโร อนนฺตราทินา, อนานนฺตโร อุปนิสฺสยวเสเนว ปจฺจโย โหติ. สมฺภวทสฺสนฺเจตํ, น ตาสํ มโนทฺวาริกภาวทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เวทนาปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตณฺหาปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓๒. ยถา จ รสายนชานิ โอชาชีวิตานิ, เอวํ ตํนิมิตฺตํ สุขํ, ตทปเนยฺยํ ชราทิทุกฺขฺจ ธมฺมารมฺมณภาเวน โยเชตพฺพํ.

กมฺมผลาภิปตฺถนาวเสน สตฺตา กมฺมานิปิ อายูหนฺตีติ สาติสยํ ตณฺหาย วิปากเวทนา อุปนิสฺสโย, น ตถา อิตราติ อาห ‘‘วิปากา วิเสเสน…เป… อวิเสเสน อิตรา จา’’ติ. อิตราติ อวิปากาติ อตฺโถ. ‘‘สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ อิทํ อิฏฺสภาวํเยว อุเปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อนิฏฺสภาวํ. เตนาห ‘‘อุเปกฺขา ปนา’’ติอาทิ. สพฺพสฺสาติ อวีตราคสฺส วีตราคสฺส จ เวทนาวโต ปุคฺคลสฺส.

เวทนาปจฺจยา เอวาติ อยํ นิยโม นิยมนฺตรนิวตฺตนปโรติ นาสฺส ปจฺจยนฺตรนิวตฺตนตฺถตา ทฏฺพฺพา. เอเตน ปจฺจยุปฺปนฺนนฺตรปฏิกฺเขโปปิ นิวตฺติโต โหติ.

ตณฺหาปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุปาทานปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓๓. ปุริมทิฏฺินฺติ ‘‘สสฺสโต อตฺตา’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๑) ปเคว อภินิวิฏฺํ สสฺสตคาหํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อตฺตคฺคหณํ…เป… ทฏฺพฺพ’’นฺติ. อุปาทิยมานนฺติ คณฺหนฺตํ. โลโกติ วา คหณนฺติ ยํ ‘‘โลโก สสฺสโต’’ติ คหณํ, สา ทิฏฺีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ทิฏฺุปาทานภูต’’นฺติ. ‘‘ธมฺมสงฺเขป…เป… ทิฏฺิมตฺตเมวา’’ติ อิทํ พฺยวหิตานํ ปทานํ สมฺพนฺธทสฺสนํ. ตตฺถ สงฺเขปโต ตณฺหาทฬฺหตฺตํ, สงฺเขปโต ทิฏฺิมตฺตเมว จตฺตาริ อุปาทานานีติ อธิปฺปาโย. ธมฺมสงฺเขปวิตฺถารโตติ สมุทายภูตโต ธมฺมสงฺเขปวิตฺถารโต ตทวยวภูตํ สงฺเขปํ วิตฺถารฺจ นิทฺธาเรติ.

สสฺสตคาหปุพฺพงฺคโม, อุจฺเฉทคาหปุพฺพงฺคโม จ อตฺตคาโหติ โยชนา. เตสนฺติ ยถาวุตฺตสสฺสตุจฺเฉทคาหานํ มูลภาเวน วิธายกตฺตา สามิภูโต. อาทินา วาติ ‘‘ปมํ อตฺตวาทุปาทาน’’นฺติอาทินา วา วากฺเยน.

เยน ภวสฺสาเทน คธิตจิตฺโต ภวนิพฺพตฺตกํ กมฺมํ กตฺวา อุปปนฺโน, สา ภวนิกนฺติ สนฺตาเน จิรานุพนฺธา อภิณฺหุปฺปตฺติกา อุปปนฺนมตฺตสฺส อุปฺปชฺชตีติ อาห ‘‘ยทิปิ…เป… ปวตฺติตพฺพตฺตา’’ติ. อรหตฺตมคฺควชฺฌตฺตา ภวราคสฺสปิ กามุปาทานภาโว อตฺเถวาติ อาห ‘‘ตณฺหาทฬฺหตฺตํ น โหตีติ มฺมาโน’’ติ. ภวราโคปิ หิ สวิสเย ทฬฺหํ ปวตฺตตีติ. สพฺพาปิ ตณฺหา กามุปาทานนฺติ เอตฺถาปิ ตสฺส อรหตฺตมคฺควชฺฌตา วุตฺตาติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ.

อุปฺปตฺติฏฺานภูตา น อารมฺมณภูตาติ อธิปฺปาโย. เตนาติ ขนฺธานํ อาลยภาเวน. อารมฺมณานนฺตรปกตูปนิสฺสยาติ อารมฺมณูปนิสฺสยอนนฺตรูปนิสฺสยปกตูปนิสฺสยา. อนนฺตรปจฺจยาทีนนฺติ อนนฺตรสมนนฺตรอารมฺมณปจฺจยาทีนํ.

อุปาทานปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภวปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓๔. ‘‘ภวตี’’ติ อิทํ อุปปตฺติภวนิพฺพจนํ. ทฺวยสฺสาติ กมฺมุปปตฺติภวทฺวยสฺส. นิปฺผาทนผลํ ผลสฺส อุปฺปาทนสมตฺถตา. นิพฺพตฺตนํ นิปฺผาทนํ.

‘‘ภควํมูลกา’’ติ (อ. นิ. ๘.๘๓; ๙.๑; ๑๐.๕๘; ๑๑.๑๙) วิย ‘‘สฺาวํภโว’’ติ วตฺตพฺเพ อตฺถิ-อตฺเถ วา วํ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ อาห ‘‘สฺาภโว’’ติ. ตสฺส วา อตฺเถติ ตสฺส วนฺตุสทฺทสฺส อตฺเถ, อตฺถิ-อตฺเถติ อตฺโถ. อการํ กตฺวาติ ยถา ‘‘ปีติสุขํ อสฺส อตฺถี’’ติ อตฺเถ อการํ กตฺวา อุปฺปาเทตฺวา ฌานํ ปีติสุขนฺติ วุจฺจติ, เอวํ สฺา อสฺส อตฺถีติ สฺโ, ภโว, โสว สฺภโว. เอกสฺมินฺติ รูปกฺขนฺเธ เอว. ปวตฺตตฺตาติ ปวตฺตกปวตฺตนฏฺานานํ อเภเทปิ อุปจารวเสน ภินฺนํ วิย กตฺวา ทสฺเสติ.

กมฺมสงฺขาตตนฺติ ‘‘กมฺม’’นฺติ วตฺตพฺพตํ, กมฺมโกฏฺาสตํ วา. ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามี’’ติอาทินา (อ. นิ. ๖.๖๓) สุตฺเตปิ เจตนาย กมฺมภาโว อาคโตว. นิปฺปริยาเยน ปน เจตนาว กมฺมภโวติ วุตฺตมตฺถํ อภิธมฺมปาฬิยาว สาเธนฺโต ‘‘วุตฺตฺหี’’ติอาทิมาห. อิมาย หิ เวทนาสฺาวิฺาณกฺขนฺเธหิ, มนายตนมโนวิฺาณธาตูหิ, สงฺขารกฺขนฺธธมฺมายตนธมฺมธาตุเอกเทเสน จ กมฺมภวสฺส สมฺปยุตฺตตํ วทนฺติยา ธาตุกถาปาฬิยา ตสฺส เจตนาภาโว ทีปิโตติ.

ธมฺมเภทโตติ เจตนาเจตนาสมฺปยุตฺตภาเวน, กุสลากุสลาพฺยากตภาเวน จ ธมฺมวิภาคโต. ‘‘ปุนวจน’’นฺติ อิมินาว ปุนรุตฺติโทสาปตฺติ ปฏิฺาตาติ ปรสฺส อาสงฺกํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สาตฺถกเมวิทํ ปุนวจนนฺติ เอตํ น ยุตฺตนฺติ เจ’’ติ อาห. ภเวกเทสภาเวนาติ กมฺมภวสฺส เอกเทสตฺตา สงฺขารานํ. เตน เยสํ ธมฺมานํ สมุทาโย ภโว วุตฺโต, ตเทกเทสา สงฺขารา, สมุทาเยกเทสา จ อตฺถโต ภินฺนา เอวาติ วุตฺตเมเวตนฺติ ทสฺเสติ. ปุน ยถาวุตฺตเมว เภทํ มนสิ กตฺวา อตฺถโต ปุนวจนาภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปเรน วา’’ติอาทิมาห.

อนฺโตคเธติ กามภวาทิอนฺโตคเธ สฺาภวาทิเก. กามภวาทิเกติ กามรูปารูปภเว.

อุปาทานเภทนฺติ กามุปาทานาทิอุปาทานวิเสสํ.

เตนาติ สีลพฺพตุปาทาเนน. วกฺขมาเนนาติ ‘‘อิทํ สีลพฺพตํ นามา’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๓๔) อฏฺกถายํ วกฺขมาเนน ปกาเรน. ปุราณํ พฺรหฺมณฺฑลิงฺคขนฺทปุราณาทิ. ‘‘เสตวธยชฺชํ อารภเต ภูติกาโม’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๖๕๐) ปสุมารณวิธานยุตฺโต ยฺวิธิ ปสุพนฺธวิธิ.

อตฺตโน สุทฺธิมคฺคปรามาสมตฺตตฺตา สีลพฺพตุปาทานสฺส อตฺตวาทุปาทานนิมิตฺตํ วุตฺตํ.

มคฺคปจฺจยา โหนฺติ มิจฺฉานิยฺยานสภาวตฺตา. อนนฺตรสฺส ปน กามกมฺมภวสฺส อนนฺตรสมนนฺตรอนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตาเสวนปจฺจเยหิ อุปาทานสฺส ปจฺจยภาโว ปากโฏเยวาติ น วุตฺโต.

ภวปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ชาติชรามรณาทิปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓๕. อุปปตฺติภวุปฺปตฺตีติ อุปปตฺติภเว, อุปปตฺติภวภาเวน วา อุปาทินฺนกฺขนฺธานํ อุปฺปตฺติ. ชายมานสฺส ขนฺธสฺส. ชาติ นิพฺพตฺติวิกาโร. อุปปตฺติภโวปิ ชาติยา ปจฺจโย. กสฺมา? อุปปตฺติภเว อสติ ชาติยา อภาวาติ โยชนา. ‘‘ชายมานรูปปทฏฺานตา’’ติอาทินาปิ ตสฺส ชาติยา ปจฺจยภาวํเยว วิภาเวติ.

สติปิ สุกฺกโสณิตาทิเก ปิตุคตวิเสสาทิการเณ พาหิเร ปจฺจเย ตสฺส ปน อนิยตตฺตา, หีนปณีตาทิวิเสสสฺส จ อธิปฺเปตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อชฺฌตฺต…เป… อภาวา’’ติ.

ชาติชรามรณาทิปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภวจกฺกกถาวณฺณนา

๒๔๒. สมฺพนฺธํ อิตํ คตนฺติ สมิตํ. เตนาห ‘‘สงฺคต’’นฺติ.

ภวจฺฉนฺโท ภวราโค. ตสฺสารุปฺปกถาสวนนฺติ ตสฺส พาลภาวสฺส อยุตฺตการิตาย อนุจฺฉวิกกถาสวนํ. เอเตน ปรูปวาทเหตุกาทิทุกฺขํ ทสฺเสติ, ‘‘กมฺมการณาทสฺสน’’นฺติ อิมินา ทณฺฑเหตุกํ, อิตเรน ทุคฺคตินิพฺพตฺติเหตุกํ . คเมนฺตีติ าเปนฺติ. ผเลนาปิ หิ อพฺยภิจารินา เหตุ ายติ, วุฏฺินิมิตฺเตน วิย มโหเฆน อุปริเทเส วุฏฺินิปาโต. เตน วุตฺตํ ‘‘โพเธนฺตี’’ติ.

วิเสสนิวตฺติอตฺโถ มตฺตสทฺโท ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺตา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๖) วิย. อปฺปหีนาวิชฺชา การณลาเภ อุปฺปตฺติอรหตาย สมีเปเยวาติ อาห ‘‘สนฺนิหิตภาวกรเณนา’’ติ. เวเทตีติ เวทยติ. ตสฺส อตฺถวจนํ อนุภวตีติ. เวทํ วา าณํ กโรติ อุปฺปาเทตีติ เวเทติ. ตสฺส อตฺถวจนํ ชานาตีติ. เวทิยตีติ ปน กมฺมกตฺตุกมฺมานํ วเสน นิทฺเทโสติ ตสฺสปิ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ชานาติ, ายติ จา’’ติ อาห. จ-สทฺทตฺโถติ สมุจฺจยตฺโถ, พฺรหฺมาทินา จ การเกน, อตฺตนา จ เวทเกน รหิตนฺติ อตฺโถ. จ-สทฺทตฺถสมาสนฺติ ทฺวนฺทสมาสมาห.

จตุพฺพิธมฺปิ วา สุฺตนฺติ ธุวภาวาทิสุฺตํ, อตฺตาทิสุฺตฺจ สนฺธาย วทติ.

ปุพฺพนฺตโตติ อตีตโกฏฺาสโต. เวทนาวสานมฺปิ ภวจกฺกํ ปริปุณฺณเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เวทนา วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อวิชฺชาคหเณน วา ตณฺหุปาทานานิ, สงฺขารคฺคหเณน ภโว, วิฺาณาทิคฺคหเณน ชาติชรามรณานิ โสกาทโย จ คหิตาติ เอวมฺปิ เวทนาวสานํ ภวจกฺกนฺติ ยุตฺตเมเวตํ. ตณฺหามูลเก จาติ ตณฺหุปาทานคฺคหเณน อวิชฺชา คหิตาติอาทินา โยเชตพฺพํ. เตนาห ‘‘ทฺวินฺนํ…เป… โหตี’’ติ. ตตฺถ ทฺวินฺนนฺติ ปุริมปจฺฉิมานํ อุภินฺนํ เหตุผลวชฺชานํ. วิปรีตาภินิเวสํ กโรนฺตีติ นิมิตฺตํ กตฺตุอุปจาเรน วทติ. อนุปจฺเฉทเมว ปกาเสตีติ โยชนา.

เหตุผลสนฺธิ, ผลเหตุสนฺธิ, ปุนปิ เหตุผลสนฺธีติ เอวํ เหตุอาทิปุพฺพกา เหตุผลเหตุปุพฺพกา. เหตุผลเหตุผลวเสนาติ อวิชฺชาทิเหตุ, วิฺาณาทิผล, ตณฺหาทิเหตุ, ชาติผลวเสน. อุปสคฺควิเสเสน อตฺถวิเสโส โหตีติ ‘‘อากิรียนฺตี’’ติ ปทสฺส ปกาสียนฺตีติ อตฺโถ วุตฺโต. กิเลสกมฺมวิปากาติ อวิชฺชาทิเก เวทนาปริโยสาเน วทติ. วิปากกิเลสกมฺเมหีติ วิฺาณาทีหิ ภวปริโยสาเนหิ. ปุน กมฺมสฺส วิปากสมฺพนฺโธ วุตฺตนยตฺตา น คหิโต. ‘‘วฏฺฏานี’’ติ จ อิทํ ‘‘ตีณิ วฏฺฏานี’’ติ วิคฺคหวเสน ลพฺภมานํ คเหตฺวา วุตฺตํ.

‘‘ปุริมกมฺมภวสฺมึ โมโห’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๔๒) อฏฺกถาย อาคตตฺตา อาสนฺนปจฺจกฺขตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อิมิสฺสา’’ติ. วิภงฺคปาฬิยา วเสน ทสฺสิตํ, ตสฺมา น อฏฺกถาย ปุพฺพาปรวิโรโธ ยถาปาํ อตฺถสฺส ปกาสิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ เจตนาสมฺปยุตฺตานฺจ เจตนาย จ สงฺขารภาเวน กมฺมภวภาเวน จ วตฺตพฺพเมวาติ ปาฬิทฺวยาธิปฺปายวิวรณวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภวสฺสาติ อุปปตฺติภวสฺส. ‘‘ภโว’’ติ วุตฺตา เจตนาสมฺปยุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. คหณนฺติ นิกามนวเสน อารมฺมณสฺส คหณํ. เตนาห ‘‘กามุปาทานํ กิจฺเจนาหา’’ติ. อิตรานิ กิจฺเจนาหาติ โยชนา. ตีสุ อตฺถวิกปฺเปสูติ ‘‘ตํ กมฺมํ กโรโต ปุริมา เจตนาโย’’ติอาทินา วุตฺเตสุ ตีสุ อายูหนเจตนานํ อตฺถวิกปฺเปสุ. นนุ จ ตติเย อตฺถวิกปฺเป อายูหนสฺส อวสาเน เจตนา น วุตฺตาติ? ยทิปิ สรูปโต น วุตฺตา, ‘‘ตํสมฺปยุตฺตา’’ติ ปน สทฺทโต ปธานภาเวน วุตฺตสฺส อายูหนสฺส อปฺปธานภาเวน วุตฺตา อวสาเน ปจฺฉโต วุตฺตา วิย โหตีติ อิมํ ปริยายํ สนฺธาย ‘‘ตีสุปิ…เป… อวสาเน’’ติ วุตฺตํ.

นิปฺปริยาเยน ปน เยสุ อายูหนสฺส อวสาเน เจตนา วุตฺตา, เต ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺวีสุ…เป… อาหา’’ติ วุตฺตํ. ตติเย อตฺถวิกปฺเป วุตฺเต อายูหนสงฺขาเร ตํสมฺปยุตฺตาติ อาหาติ โยชนา. กมฺมสฺส ปจฺจยภูตนฺติ สงฺขารปจฺจยํ. เตน ‘‘กมฺมกรณกาเล’’ติ เอตฺถ กมฺม-สทฺเทน สพฺพสฺสปิ สงฺขารสฺส คหิตตํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘น กมฺมสมฺปยุตฺตเมวา’’ติ.

กมฺมาเนวาติ กมฺมานิเยว. วิปากธมฺมตาย กมฺมสริกฺขกา. สหชาตโกฏิยา, อุปนิสฺสยโกฏิยา จ ตสฺส กมฺมสฺส อุปการกาติ ตทุปการกา. สํขิปฺปนฺตีติ สํขิปียนฺติ สํยูหียนฺติ. ‘‘สํขิปฺปนฺติ เอตฺถา’’ติ อธิกรณสาธนวเสน สงฺเขปสทฺทสฺส อตฺถํ วตฺวา ปุน กมฺมสาธนวเสน วตฺตุํ ‘‘สํขิปียตี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถาปีติ ‘‘กมฺม’’นฺติ วุตฺตกมฺมสมฺภาเรปิ. คมนธมฺมนฺติ ภงฺคุปคมนธมฺมํ. เตน อิตฺตรนฺติ ภงฺคปรนฺติ วุตฺตํ โหติ. เตนาติ วินสฺสนธมฺมตาทีปเกน อิตฺตรสทฺเทน. นิสฺสารตํ อตฺตสาราภาวํ ทีเปติ. เอวํ ‘‘อิตฺตร’’นฺติอาทินา อนิจฺจํ จลํ อิตฺตรํ อทฺธุวนฺติ จตุนฺนํ ปทานํ อตฺถวิเสสวาจิตํ ทสฺเสติ. านโสติ เอตฺถ วุตฺตฏฺานํ นาม ปจฺจโย. อฺมฺปีติ อฺตฺถ วุตฺตํ. ตสฺส ตสฺส ผลสฺส. ธมฺมมตฺตสมฺภเว สติ วฏฺฏุปจฺเฉเท สตีติ โยชนา. เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน สมุจฺจยตฺเถ จ-สทฺเท สติ.

สจฺจานิเยว ปภโวติ สมานาธิกรณปกฺขํ สนฺธายาห ‘‘สจฺจปฺปภวโตติ สจฺจโต’’ติ. ‘‘ยสฺส ปหานตฺถํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ เอวํภูตํ อริยสจฺจํ วิเสสํ อกตฺวา.

เตหิ โสกาทีหิ. ‘‘โสกโทมนสฺสุปายาสา อวิชฺชาย อวิโยคิโน’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน สิทฺธาย อวิชฺชาย. อตฺตโนเยวาติ ปจฺจยุปฺปนฺนํ อนเปกฺขิตฺวา อตฺตโนเยว ปวตฺตสงฺขาตกิจฺจโต.

โสกาทโยปิ หีติ เอตฺถ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา ‘‘โสกาทโย ปจฺจยายตฺตา อวสวตฺติโน’’ติ อิทํ ‘‘ชาติปจฺจยา…เป… สมฺภวนฺตี’’ติ เอเตน วจเนน สิทฺธํ, ตสฺมา ตํ ‘‘อตฺตา โสจตี’’ติอาทิทสฺสนนิวารณนฺติ อตฺโถ.

สติ จ ปริคฺคเห รชฺชํ วิย คติโย อเนกานตฺถานุพนฺธนา, ตาหิ จ วิฺาณสฺส อุปทฺทุตตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺขารปริคฺคหิตํ…เป… รชฺเช’’ติ วุตฺตนฺติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยถาอุปฏฺิตานิ กมฺมาทีนิ จุติอาสนฺนชวเนหิ ปริกปฺเปตฺวา วิย คหิตานิ ปฏิสนฺธิวิฺาเณนปิ ปริกปฺปิตานิ วิย โหนฺติ, ตํ ปนสฺส ปริกปฺปนํ อตฺถโต อารมฺมณกรณเมวาติ วุตฺตํ ‘‘ปริ…เป… โต’’ติ. สงฺกปฺปนํ วา ปริกปฺปนนฺติ วุตฺตํ ‘‘วิตกฺเกน วิตกฺกนโต’’ติ. สสมฺภารจกฺขุอาทโย สฬายตนสฺส ปติฏฺาวิเสโส.

ยทาการาย ชาติยา ยทาการํ ชรามรณํ สมฺภวติ, สมฺภวนฺตฺจ ยถานุปุพฺพํ ปวตฺตํ, โส อตฺโถ ชาติปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ, สหิตสฺส สมุทิตสฺส ปุคฺคลสฺส ชีรณภิชฺชนาวตฺถา ธมฺมา ชรามรณาปเทเสน วุตฺตา, สา จ เนสํ อวตฺถา ชาติปุพฺพิกา, เต จ สมุทิตา เอว ปวตฺตนฺตีติ เอวํ ชาติโต ชรามรณสฺส สมฺภูตสมุทาคตฏฺโ เวทิตพฺโพ. ชาติโต ชรามรณํ น น โหติ โหติเยว เอกนฺเตน ชาตสฺส ชรามรณสมฺภวโต, น จ ชาตึ วินา โหติ อชาตสฺส ตทภาวโตติ ชรามรณสฺส ชาติปจฺจยตํ อนฺวยพฺยติเรเกหิ วิภาเวติ ‘‘น ชาติโต’’ติอาทินา. อิตฺถนฺติ ชาติปจฺจยา ชรามรณสฺส นิพฺพตฺตาการํ วทติ.

นิโรธา นิโรธสงฺขาตนฺติ ปจฺจยนิโรธา ปจฺจยุปฺปนฺนนิโรธสงฺขาตํ. อนุโลมเทสนาย จ เวมชฺฌโต ปฏฺายาติ โยชนา.

อปุฺาภิสงฺขาเรกเทโส สราโค ราเคน สหเชกฏฺโติ กตฺวา. สพฺโพปิ อปุฺาภิสงฺขาโร สราโค ปหาเนกฏฺภาวโต. ยสฺมา ปน อกุสลธมฺโม อกุสลธมฺมสฺส สภาโค, อนกุสลธมฺโม วิสภาโค, ยถารหํ ปจฺจโย จ โหติ, ตสฺมา ‘‘อปฏิปกฺขภาวโต, ราคปฺปวฑฺฒโก’’ติ จ วุตฺตํ . ‘‘ตเทว วิฺาณํ สนฺธาวติ สํสรตี’’ติ มิจฺฉาภินิเวสสพฺภาวโต สํสรณกิริยายปิ สพฺยาปารตา วิฺาณสฺส วุตฺตา. สพฺยาปารตาภินิเวสพลวตาย, สงฺกนฺติอภินิเวสพลวตายาติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ‘‘อสหวตฺตนโต, สหวตฺตนโต’’ติ เอเตน อสหวุตฺติ วินิพฺโภโค, สหวุตฺติ อวินิพฺโภโคติ ทสฺเสติ.

สภาวาธิคมนิมิตฺตตา โอภาสนํ. จกฺขาทิสนฺนิสฺสเยน หิ ปฺจวิฺาณานิ รูปาทิสภาวํ อุปลภนฺติ. อิตเร ผุสนสงฺคติสนฺนิปาตฏฺา. ฉนฺนนฺติ ฉนฺนมฺปิ สมฺผสฺสานํ.

อาทานนฺติ อุปสทฺเทน วินาปิ ทฬฺหคาโห อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘อาทานฏฺโ จตุนฺนมฺปิ อุปาทานานํ สมาโน’’ติ. คหณนฺติ นิกามนวเสน วิสยสฺส ปฏิจฺฉนฺนนฺติ วุตฺตํ ‘‘คหณฏฺโ กามุปาทานสฺสา’’ติ. อิตเรสนฺติ ทิฏฺุปาทานาทีนํ. ตสฺมาติ วิภตฺติยา อลุตฺตภาวโต. เตนาติ ขิปนสทฺเทน. หานิ วา ขีณภาโว ขโยติ ‘‘ขยฏฺโ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทฺวินฺนนฺติ ชรามรณานํ. มรณูปนยนรสตฺตา วา ชรายปิ มรณฏฺโ เอว ทสฺสิโต.

นียนฺติ คเมนฺตีติ นยา, เอกตฺตาทโย. เกหิ นียนฺติ? อวิชฺชาทิอตฺเถหีติ อิมมตฺถมาห ‘‘อวิชฺชาที’’ติอาทินา. เสน ภาเวนาติ สเกน อวิชฺชาทิภาเวน, ตํ อมุฺจิตฺวา เอว. น หิ อวิชฺชาทิวินิมุตฺตํ เอกตฺตํ นาม กิฺจิ ปรมตฺถโต อตฺถิ. เสน ภาเวนาติ วา สเกน เอกตฺตาทิภาเวน. อวิชฺชาทีสุ วิฺายมาโน เหตุผลธมฺมานํ เอกสนฺตติปติตาทิสงฺขาโต เอกตฺตาทิภาโว เตเนว สภาเวน ายติ, น อวิชฺชาทิภาเวนาติ. เต หิ เนตพฺพาติ เตสํ นยา. อตฺถา เอว วา อวิชฺชาทโย. อเนเกปิ สมานา ธมฺมา เยน สนฺตานานุปจฺเฉเทน ‘‘เอก’’นฺติ ายนฺติ โวหรียนฺติ, โส ตตฺถ กรณภาเวน วตฺตพฺพตํ อรหติ, ตถา อิตเรปีติ อาห ‘‘เอกตฺตาทีหิ จ อตฺถา ‘เอก’นฺติอาทินา นียนฺตี’’ติ. ตตฺถ นียนฺตีติ ายนฺติ, ปฺาปียนฺติ จ. ปุริมปจฺฉิมานํ ธมฺมานํ นิโรธุปฺปาทนิรนฺตรตาย นามกายสฺส, สมฺพนฺธวุตฺติตาย รูปกายสฺส, อุภยสฺส จ อฺมฺสนฺนิสฺสิตตาย ทุวิฺเยฺยนานโต เอกีภูตสฺส วิย ฆนภาวปฺปพนฺโธ เหตุผลภาเวน สมฺพนฺโธ สมฺมา ตาโนติ สนฺตาโน, ตสฺส อนุปจฺเฉโท ตถาปวตฺติ เอกตฺตนฺติ อาห ‘‘สนฺตานานุปจฺเฉโท เอกตฺต’’นฺติ.

สมฺพนฺธรหิตสฺสาติ เหตุผลภาเวน อฺมฺสมฺพนฺธภาวรหิตสฺส. สตฺตนฺตโรติ อฺโ สตฺโต. อุจฺเฉททิฏฺิมุปาทิยตีติ ยถานุรูปการณโต ผลปฺปวตฺตึ อสมนุปสฺสนฺโต นานาสนฺตาเน วิย อสมฺพนฺธนานตฺตทสฺสนโต เหตุภาวรหิตานํ นิปฺปโยชนานํ ปุริมุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ นิโรเธ เหตุนิยมาภาวโต เอกนฺเตน อุปฺปตฺติ น ยุตฺตา, ตถา สนฺตาเนน อุปฺปตฺติ, สทิสภาเวน อุปฺปตฺติ, สมานชาติเทสปริณามวยรูปพลสณฺานานํ อุปฺปตฺติ น ยุตฺตาติอาทีนิ วิกปฺเปนฺโต อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาติ.

กสฺมา อุปฺปตฺติ น สิยาติ วาลิกาหิ วิย ติเลหิปิ เตลสฺส, อุจฺฉุโต วิย คาวิโตปิ ขีรสฺส อฺาภาวโต เกน การเณน เตหิ เตสํ อุปฺปตฺติ น สิยา, อิตเรหิ เอว จ เนสํ อุปฺปตฺติ โหตีติ. ตสฺมาติ อฺสฺส อฺโต อุปฺปตฺติยํ สพฺพสฺส สพฺพโส อุปฺปตฺติยา ภวิตพฺพํ, น เจตํ อตฺถิ, ตสฺมา. ยสฺมา นิยติวาที อนุรูปา เหตุโต ผลุปฺปตฺตึ น อิจฺฉติ, สภาวสิทฺธเมว จ ธมฺมปฺปวตฺตึ อิจฺฉติ, ตสฺมา ‘‘อวิชฺชมาเนปิ เหตุมฺหี’’ติ วุตฺตํ. สภาวสิทฺธา เอว หิ อจฺเฉชฺชสุตฺตาวุตาเภชฺชมณิ วิย กมลงฺฆนรหิตา ตถา ตถา สรีรินฺทฺริยสุขาทิภาวปริณามาย นิยติยาว กายา สมาคจฺฉนฺติ, ยโต คติชาติพนฺธา, อปวคฺโค จ โหตีติ นิยติวาโท. เตนาห ‘‘นิยตตาย…เป… ปวตฺตนฺตี’’ติ. นิยติอตฺโถ วุตฺโตเยว.

เอตสฺส อตฺถสฺส สาธกํ สุตฺตํ. อากุลเมว, อากุลภาโว วา อากุลกํ. ชฏิตาติ เหฏฺุปริยวเสน ปวตฺตมาเนหิ กิเลสกมฺมวิปาเกหิ ชาตชฏา. นีฑนฺติ กุลาวกํ. สํสารนฺติ อิธ สมฺปตฺติภวปฺปพนฺธมาห อปายาทิปเทหิ ทุคฺคติปฺปพนฺธสฺส วุตฺตตฺตา.

ภวจกฺกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๒๔๓. ตํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ. เอเกกจิตฺตาวรุทฺธนฺติ อภิธมฺมภาชนีเย วิย เอเกกสฺมึ จิตฺเต อวรุทฺธํ อนฺโตคธํ อกตฺวา. อสหชาตานฺจ ‘‘อสหชาตานํ, สหชาตานฺจา’’ติ เอวํ ปมปเท เอกเสสนิทฺเทโส ทฏฺพฺโพ. ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ อสหชาตาเยว ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนา ทสฺสิตา วิปากวิฺาณสฺเสว อธิปฺเปตตฺตา. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ (วิภ. ๒๒๕) จ เอวมาทีสุ อสหชาตา, สหชาตา จ. ‘‘เอเกเกน นเยนา’’ติ ปุราตโน ปาโ, เอตรหิ ปน ‘‘เอเกเกน จตุกฺเกน’’ อิจฺเจว พหูสุ โปตฺถเกสุ ปาโ. นยจตุกฺกวาราติ นเยสุ จตุกฺกานํ วารา, อวิชฺชามูลกาทีสุ นวสุ นเยสุ ปจฺเจกํ ปจฺจยจตุกฺกาทีนํ จตุนฺนํ จตุกฺกานํ ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตน’’นฺติอาทิวิเสสภินฺนา จตฺตาโร วาราติ อตฺโถ. ววตฺถิตาติ ยถาวุตฺตวิเสเสน อสํกิณฺณา. จตุกฺกานนฺติ วารจตุกฺกานํ วารโสฬสกสฺส นยภาวโตติ อธิปฺปาโย.

๑. ปจฺจยจตุกฺกวณฺณนา

ปจฺจยสหิตปจฺจยุปฺปนฺนานิ องฺคภาเวน วุตฺตานิ, น เกวลํ ปจฺจยา. ตสฺมา ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ เอตฺถ น ฉฏฺายตนสฺส องฺคตา. เตน วุตฺตํ ‘‘น, ตสฺส อนงฺคตฺตา’’ติ. เอวฺจ กตฺวาติ ปจฺจยสหิตสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส องฺคภาวโต. ตีสุ ปกาเรสูติ ‘‘ปโม สพฺพสงฺคาหิกฏฺเนา’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๔๓) อฏฺกถายํ วุตฺเตสุ ตีสุปิ ปกาเรสุ. ปจฺจยวิเสสาทีติ เอตฺถ นามํ, ฉฏฺายตนฺจ ปจฺจยวิเสโส. อาทิ-สทฺเทน โยนิวิเสโส, อายตนานํ อปาริปูริปาริปูริภววิเสโส จ คหิโต. เต หิ ทุติยวาราทีนํ นานตฺตกรา. อตฺถวิเสเสนาติ ยทิปิ อฺตฺถ ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ สฬายตนปจฺจโย วุตฺโต, ตถาปิ สหชาตาทินามสนฺนิสฺสเยน ปวตฺตนโต นามมตฺตปจฺจยาปิ โส โหตีติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส นานานยวิจิตฺตตานุมิตสฺส คมฺภีรภาวสฺส วิภาวนสงฺขาเตน, อนวเสสนามปจฺจยทสฺสนสงฺขาเตน จ อตฺถวิเสเสน. ตถา หิ ‘‘เยหิ, อานนฺท, อากาเรหิ เยหิ ลิงฺเคหิ เยหิ นิมิตฺเตหิ เยหิ อุทฺเทเสหิ นามกายสฺส ปฺตฺติ โหติ, เตสุ อากาเรสุ…เป… อุทฺเทเสสุ อสติ อปิ นุ โข รูปกาเย อธิวจนสมฺผสฺโส ปฺาเยถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๑๔) ผสฺสสฺส นามปจฺจยตาวิภาวนวเสน มหานิทานเทสนา ปวตฺตา. ตถา ‘‘นามรูปปจฺจยา ผสฺโสติ อิจฺจสฺส วจนีย’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๙๗) ‘‘นามรูปปจฺจยา’’ติ วทนฺเตน ‘‘นามปจฺจยา’’ติปิ วุตฺตเมว โหตีติ.

วารจตุกฺเก ‘‘สงฺขาโร’’ติ วุตฺตํ, โสกาทโย น วุตฺตา, ปุริมสฺมึ วารทฺวเย รูปํ น วุตฺตํ, วารตฺตเย สฬายตนํ น วุตฺตนฺติ โยเชตพฺพํ.

สพฺพ…เป… รณโตติ สพฺพสฺส วิฺาณสฺส ปวตฺติฏฺานภูตสพฺพภวสาธารณโต, วิฺาณสฺส วา ปวตฺติฏฺานภูตสพฺพภวสาธารณโต. สมานํ ผลํ สมาโน ปจฺจโย สหชาตาทิปจฺจเยหิ อุปกตฺตพฺพโต, อุปการกโต จ. ตสฺส วิฺาณสฺส. วิฺาณาหรณนฺติ วิปากวิฺาณนิพฺพตฺตนํ. อสฺส วิฺาณสฺส.

คติสูจโกติ หิ-สทฺทํ โลเก คติอตฺถํ วทนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ. ‘‘วิคต’’นฺติ เอตฺถ วิ-สทฺโท ปฏิเสธทีปโกติ ทฺเว ปฏิเสธา ปกตึ าเปนฺตีติ อาห ‘‘วิคตตานิวารณวเสน คติ เอว โหตี’’ติ.

ติธา จตุธา ปฺจธา วาติ เอตฺถ สฺามนสิการาทโย สหชาตนิสฺสยอตฺถิปจฺจยวเสน ติธา, ผสฺสเจตนาทโย เตสฺเจว อาหาราทีนฺจ วเสน จตุธา, เวทนาวิตกฺกาทโย เตสฺเจว ฌานินฺทฺริยาทีนฺจ วเสน ปฺจธา. ยถา สมาธิ, เอวํ วีริยมฺปิ ทฏฺพฺพํ. ตมฺปิ หิ อธิปตินฺทฺริยมคฺคปจฺจเยหิ ฉธา ปจฺจโย โหติ.

‘‘วจนวเสนา’’ติ อิมินา อิมสฺมึ จตุกฺเก สหชาตปจฺจยํ ธุรํ กตฺวา เทสนา ปวตฺตาติ เตสํ อธิปฺปาโยติ ทสฺเสติ. อตฺโถติ ปจฺจยธมฺโม. กตฺถจีติ กิสฺมิฺจิ วาเร อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ยถาสเกหิ ปจฺจโย น น โหติ. ‘‘อตฺถโต’’ติ จ ปาโ. ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติอาทิ น วตฺตพฺพํ สิยา, วุตฺตฺจ ตํ. ตสฺมา สหชาตปจฺจยวเสเนว ปมจตุกฺโก วุตฺโตติ น คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘น จ ตํ น วุตฺต’’นฺติอาทิ. อิมสฺส จ ‘‘ภวปจฺจยา ชาตีติอาทิ น วตฺตพฺพํ สิยา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปจฺจยวจนเมวาติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา’’ติอาทีสุ วุตฺตปจฺจยวจนเมว จ. เตสนฺติ เตสํ อาจริยานํ. อโยเชตฺวา วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. กถํ ปน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สามฺเน…เป… สนฺธายวุตฺต’’นฺติ. เอตฺถ จ ‘‘สหชาตสูจก’’นฺติอาทินา ยถาธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส วจนโต อสิทฺธิมาห, ‘‘สหชาตโต’’ติอาทินา ปน อตฺถาปตฺติโต. อสมฺภเว หิ อฺสฺส อตฺถโต สิชฺเฌยฺย วจนโต วา อตฺถโต วา อธิปฺเปตตฺถสาธนาติ.

อฺตฺถาติ อฺสฺมึ สุตฺเต. อตีตทฺธํ นิทฺธาเรตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนานาคเตหิ สทฺธึ อทฺธตฺตยทสฺสนตฺถํ. ตํเทสนาปริคฺคหตฺถนฺติ มหานิทานเทสนาปริคฺคหตฺถํ. โส จ อุภินฺนํ เทสนานํ อฺมฺํ สํสนฺทนภาวทสฺสนตฺถํ. เอวํ สพฺพฺุพุทฺธภาสิตา เทสนา อฺทตฺถุ สํสนฺทตีติ.

อิมสฺสาติ อิมสฺส ตติยวารสฺส.

อปราเปกฺขตาย, อปริกิลิฏฺุปปตฺติตาย, อสุจิอมกฺขิตตาย กามาวจรเทวานํ, สพฺเพสฺจ พฺรหฺมานํ ตถา อุปปชฺชนโต จ โอปปาติกโยนิยา ปธานตา เวทิตพฺพา. สงฺคหนิทสฺสนวเสนาติ โอปปาติกโยนิยา เอว สํเสทชโยนิยา สงฺคหสฺส นิทสฺสนวเสน อุทาหรณวเสน. อารมฺมณปจฺจยสฺสาปิ ผสฺสสฺส สติปิ ปวตฺติเหตุภาเว โส ปน สหชาตาทิปจฺจยภูตสฺส อชฺฌตฺติกสฺส ฉฏฺายตนสฺส วิย น สาติสโยติ วุตฺตํ ‘‘อารมฺมณปจฺจโย เจตฺถ ปวตฺตโก น โหตี’’ติ.

เกสฺจีติ ปริปุณฺณายตนานํ คพฺภเสยฺยกานํ. ‘‘ปจฺฉิม…เป… สทา สมฺภวตี’’ติ อิทํ คพฺภเสยฺยกานํ วิย อิตรโยนิกานํ กเมน อายตนุปฺปตฺติ นตฺถีติ วุตฺตํ. ตถา จาห อฏฺกถายํ ‘‘สหุปฺปตฺติทีปนโต’’ติ.

ปจฺจยจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. เหตุจตุกฺกวณฺณนา

๒๔๔. อภาวโตติ ภาวาภาวโต. ยฺหิ ชาติกฺขณมตฺเตเยว ภวติ, น ตโต ปรํ, ตํ ชาติยา อวิคตปจฺจโย สิยา อวิคตปจฺจยนิยมสพฺภาวโต. ภโว ปน ยสฺมา ชาติกฺขณโต ปรมฺปิ ภวติ, ตสฺมา น โส ตสฺสา อวิคตปจฺจโย โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตโต อุทฺธํ ภาวโตติ อตฺโถ’’ติ. ภเวติ ภวปเท, ภเว วา นิปฺผาเทตพฺเพ. เอส นโย ชาติอาทีสูติ เอตฺถาปิ. ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทินา ‘‘อวิคตปจฺจยสฺส อภาวโต, นิยมาภาวโต จา’’ติ วุตฺตานํ เหตูนํ วุตฺตนเยน อพฺยาปิภาววิภาวเนน อการณตํ ทสฺเสติ อยาวภาวิโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส, ปจฺจยธมฺมสฺส จ อวิคตปจฺจยภาวทสฺสนโต. สงฺขารกฺขนฺเธติอาทิ มคฺคโสธนวเสน วุตฺตํ. ตสฺส ปริหารํ สยเมว วทติ. โส ขโณ เอตสฺส อตฺถีติ ตงฺขณิโก, น ตงฺขณิโก อตงฺขณิโก, ตสฺส สพฺภาวา, อยาวภาวิกสพฺภาวาติ อตฺโถ. ยถา ปน เหตู โหนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺขตลกฺขณานํ ปนา’’ติอาทิมาห.

เอวนฺติ เอวํ ยถาวุตฺตนเย สติ, เอวํ สนฺเตติ อตฺโถ. ‘‘น หิ…เป… อตฺถี’’ติ อิมินา ชาติอาทีนํ อวิคตปจฺจยวเสน ปจฺจยุปฺปนฺนภาโว วิย ปจฺจยภาโวปิ นตฺถีติ ทสฺเสติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘อสภาวธมฺมตฺตา’’ติ.

กถํ ปน อสภาวธมฺมานํ ชาติอาทีนํ ปจฺจยุปฺปนฺนตา, ปจฺจยตา จาติ อาห ‘‘ชายมานานํ ปนา’’ติอาทิ. ตสฺสาติ ชาติชรามรณสฺส. วตฺตพฺพปเทโสติ ‘‘เปตฺวา’’ติ วตฺตพฺพปเทโส. โก ปน โสติ? ยถาวุตฺตํ นามํ, นามรูปฺจ สงฺขารกฺขนฺเธน รูปกฺขนฺเธน จ ชรามรณานํ สงฺคหิตตฺตา . ‘‘โย ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ เอเตน ภวสงฺคหิตานิปิ ชาติอาทีนิ ชาติยา อปฺปจฺจยตฺตา เอว ‘‘เปตฺวา’’ติ น วุตฺตานีติ ทสฺเสติ, ปจฺจยภาวาสงฺกา เอว เนสํ ตสฺสา นตฺถีติ อธิปฺปาโย. เตเนว เปตพฺพคเหตพฺพวิเสเส สตีติ สาสงฺกํ วทติ.

เหตุจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อฺมฺจตุกฺกวณฺณนา

๒๔๖. ปจฺจยุปฺปนฺนสฺสาติ ปจฺจยุปฺปนฺนภาวิโน. วิสุํ ิตสฺสาติ ภเวน อสงฺคหิตสฺส. สปฺปเทสเมว คหิตํ อิธ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยสฺเสว อธิปฺเปตตฺตา นิรุฬฺหตฺตา จ. ปจฺจยุปฺปนฺนํ เปตฺวา ปจฺจยภูตํเยว นามํ คหิตํ, อวิคตปจฺจยนิยมาภาโว วิย ภเว อุปาทานสฺส อฺมฺปจฺจยนิยมาภาโวติ โยชนา. วุตฺตนเยนาติ ‘‘สงฺขตลกฺขณานํ ปนา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน.

อฺมฺปจฺจโย วิย อฺมฺปจฺจโยติ อยมตฺโถ อิธาธิปฺเปโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อฺมฺ…เป… อธิปฺเปโต สิยา’’ติ อาห. ตถา จ วทนฺติ ‘‘อฺมฺฺเจตฺถ น ปฏฺาเน อาคตอฺมฺวเสน คเหตพฺพ’’นฺติ. จกฺขายตนุปจยาทีนนฺติ อุปรูปริ จิตานิ วิย อุปฺปนฺนจกฺขายตนาทีนิ, จกฺขายตนาทีนํ วา อุปตฺถมฺภกานิ จกฺขายตนุปจยาทีนิ.

อฺมฺจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.

สงฺขาราทิมูลกนยมาติกาวณฺณนา

๒๔๗. ยทิปิ สามฺโต คตวิเสโส, ตถาปิ สามฺคฺคหเณน นยคโต วิเสโส สรูปโต ทสฺสิโต โหตีติ ‘‘นามปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ วตฺวาปิ นามวิเสสานํ ตสฺสา ปจฺจยภาโว ทสฺเสตพฺโพติ อาห ‘‘นามวิเสสานํ…เป… วุตฺตา’’ติ. ‘‘ยเทว ปน นาม’’นฺติอาทิ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ นามคฺคหเณน อคฺคหิโตปิ ชาติอาทิ ภวคฺคหเณน คหิโตติ ทสฺสิโตวายมตฺโถติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ภวคฺคหเณน จา’’ติอาทิ. อิธาปีติ ‘‘ภวปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ อิธาปิ. สิยาติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ วุตฺตํ น สิยา. ตสฺมาติ ยสฺมา สามฺโจทิตํ วิเสสโจทิตเมว น โหติ, ตสฺมา. โสติ ภโว. เตนาติ สภาวาสภาวธมฺมสงฺคหเณน.

อุปาทานสฺสปิ ภเวกเทสตฺตา วุตฺตํ ‘‘อุปาทานปจฺจยา…เป… อคฺคหิเต’’ติ. ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ อิทํ วจนํ สนฺธายาห ‘‘ภวสทฺโท…เป… วุจฺจมาโน’’ติ. ‘‘นามปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ เอตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนํ เปตฺวา ปจฺจยสฺส คหณโต อวิชฺชาวินิมุตฺตา เอว จตฺตาโร ขนฺธา นามสทฺเทน วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘น นามสทฺโท นิรวเสสโพธโก’’ติ. น เจตฺถ เอกํสโต การณํ มคฺคิตพฺพํ. เยน ภว-สทฺโท นิรวเสสโพธโก, น นาม-สทฺโทติ อาห ‘‘เอวํสภาวา หิ เอตา นิรุตฺติโย’’ติ. อิมินา อธิปฺปาเยนาติ ภวสทฺโท นิรวเสสโพธโก อุปาทินฺนจตุกฺขนฺธวิสยตฺตาติ อิมินา อธิปฺปาเยน. ชายมานาทิธมฺมวิการภาวโต ชายมานาทิกฺขนฺธปฏิพทฺธา ชาติอาทโย วุจฺเจยฺยุํ, น ปน ชาติอาทิปฏิพทฺธา ชายมานาทิกฺขนฺธาติ น เอกจิตฺตกฺขเณ ชาติอาทีนํ อวิชฺชาย ปจฺจยภาโว สมฺภวตีติ อิมมตฺถมาห ‘‘ชายมานานํ ปนา’’ติอาทินา. นานาจิตฺตกฺขเณ ปน ชาติอาทโย อวิชฺชาย อุปนิสฺสยปจฺจโย โหนฺตีติ ‘‘เอกจิตฺตกฺขเณ’’ติ วิเสสิตํ. เตเนวาติ อสมฺภเวเนว.

มาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา

๒๔๘-๙. นฺติ ทิฏฺุปาทานํ. อิตรสฺสาติ กามุปาทานสฺส. ตณฺหาคหเณนาติ ‘‘ตณฺหาปจฺจยา’’ติ เอตฺถ ตณฺหาคหเณน คหิตตฺตา. ยทิ เอวํ นามคฺคหเณน คหิตา ตณฺหา กสฺมา ปุน วุตฺตาติ อาห ‘‘นาเม วิย วิเสสปจฺจยตฺตาภาวา’’ติ. ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตน’’นฺติ เอตฺถ หิ กามตณฺหาปิ นาเม สงฺคหิตาติ นามสฺส ยถารหํ ฉฏฺายตนสฺส ปจฺจยภาโว วุตฺโตติ อตฺถิ ตตฺถ วิเสสปจฺจยตฺตํ, อุปาทานสฺส ปน ภวสงฺคโหปิ อตฺถีติ ‘‘ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติ เอเตน ‘‘กามุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ เอตสฺส นตฺเถว วิเสโสติ วุตฺตํ ‘‘นาเม วิย วิเสสปจฺจยตฺตาภาวา’’ติ. ตณฺหา เอติสฺสา ปจฺจโยติ ตณฺหาปจฺจยา, ทิฏฺิ . ภวสฺส ปจฺจยภูตาติ ทุวิธสฺสปิ ภวสฺส การณภูตา. อุภเยนปิ อุปาทานสฺส ภวนิทฺเทเส เปตพฺพตํเยว วิภาเวติ. ปจฺจยุปฺปนฺนํ ปจฺจโย จ เอกเมวาติ ‘‘ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตปจฺจยุปฺปนฺนํ, ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ เอตฺถ วุตฺตปจฺจโย จ เอโก เอวตฺโถ, ตสฺมา ปจฺจโย วิสุํ ปจฺจยุปฺปนฺนโต ภินฺนํ กตฺวา น วิภตฺโต.

๒๕๒. อุปตฺถมฺภกสมุฏฺาปนปจฺฉาชาตปจฺจยวเสนาติ อุปตฺถมฺภกสฺส จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส สมุฏฺาปนวเสน, ปจฺฉาชาตปจฺจยวเสน จ.

๒๕๔. ปฺจนฺนนฺติ จกฺขายตนาทีนํ ปฺจนฺนํ. สหชาตาทิปจฺจโยติ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตาทิปจฺจโย. วตฺถุสงฺขาตํ รูปํ. ปุเรชาตาทิปจฺจโยติ ปุเรชาตนิสฺสยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจโย. ปจฺฉาชาตาทิปจฺจโยติ ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจโย. ฉฏฺสฺส สหชาตาทีติ อาทิ-สทฺเทน อฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตาทโย คหิตา.

๒๖๔. ยสฺสาติ ‘‘ยสฺส จ โหตี’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ ‘‘ยสฺสา’’ติ ปทํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘โหตีติ โยเชตพฺพ’’นฺติ.

๒๘๐. ตสฺสาติ ‘‘พลวกิเลสภูตาย วิจิกิจฺฉายา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๘๐) ปทสฺส. เตนาติ ‘‘ตณฺหาฏฺาเน’’ติ ปเทน. จิตฺตุปฺปาทกณฺฑาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน อิมสฺมึ ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียาทึ สงฺคณฺหาติ.

อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

กุสลาพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา

๓๐๖. สพฺยาปารานีติ สอุสฺสาหานิ, วิปากธมฺมานีติ อตฺโถ. ปริหีนํ อวิชฺชาฏฺานํ เอเตสนฺติ ปริหีนาวิชฺชาฏฺานา.

สนฺธายาติ อธิปฺปายํ วิภาเวนฺโต วิย วทติ, สรูเปเนว ปน ‘‘น จ จกฺขุวิฺาณาทีนิ รูปํ สมุฏฺาเปนฺตี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๓๐๖) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. นามรูปํ น น ลพฺภตีติ โยชนา.

กุสลาพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา

๓๓๔. กุสลผเลติ กุสลวิปากปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส คหิตตฺตา ตสฺส สาทุรสวิสรุกฺขพีชสทิสตา วุตฺตา.

ยทิปิ ‘‘สงฺขารเหตุก’’นฺติอาทินา โยชนา ลพฺภติ, อวิคตจตุกฺกาทีนิ ปน น ลพฺภนฺติ ยถาลาภโยชนาย ทสฺสิตตฺตา.

อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

กุสลมูลกวิปากนิทฺเทสวณฺณนา

๓๔๓. กมฺมํ วิย ปจฺจโย โหติ วิปากภาวโตติ อธิปฺปาโย. วิปากสฺส กมฺมํ ปจฺจโย โหนฺตํ สาติสยํ โหตีติ ตสฺส นิปฺปริยายตา, ตํสมฺปยุตฺตานํ ปริยายตา สิยาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ปริยาเยน อุปนิสฺสยปจฺจโยติ วุตฺตานี’’ติ อาห. ‘‘กุสโล ธมฺโม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓), อกุสโล ธมฺโม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓), วิปากธมฺมธมฺโม เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๓.๑๐๓) ปน วจนโต นิปฺปริยาเยน สพฺเพปิ กุสลากุสลา ธมฺมา วิปากสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย โหตีติ อยมตฺโถ ทิสฺสติ. ‘‘กุสลมูลํ อกุสลมูล’’นฺติ อิเมสํ อนฺวาเทโสปิ ปจฺจยสทฺทาเปกฺขาย ‘‘เอสา’’ติ ปุลฺลิงฺควเสน วุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอสาติ…เป… โยเชตพฺพ’’นฺติ.

‘‘มนสิกาโรปี’’ติอาทินา อปฺปหีนาวิชฺชานมฺปิ กิริยาย กุสลากุสลมูลานิ, อวิชฺชา จ อุปนิสฺสยา น โหนฺตีติ ทสฺเสติ. กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏภูตานิเยว สงฺขารวิฺาณานิ ปจฺฉิมนเย อธิปฺเปตานีติ วุตฺตํ ‘‘กิริยานิ ปน…เป… คจฺฉนฺตี’’ติ. เตสํ ปจฺจยานํ วเสน อเนกปฺปการโตติ อธิปฺปาโยติ โยชนา.

นวาทิเภทานนฺติ นวอฏฺสตฺตฉาติ เอวํปเภทานํ. จตุนฺนํ จตุกฺกานนฺติ ปุริมนเย ปจฺฉิมนเย จ อาคตานํ ยถาลาภํ จตุนฺนํ จตุนฺนํ จตุกฺกานํ. ‘‘กุสลากุสลานํ ปน วิปาเก จา’’ติ -สทฺเทน กุสลากุสเล จาติ สมุจฺเจตพฺโพติ อาห ‘‘กุสล…เป… วตฺตพฺพ’’นฺติ. มูลปเทกปจฺจยตาวเสนาติ มูลปทสฺส เอกปจฺจยภาววเสน อุปนิสฺสยปจฺจยตาวเสน. เอกสฺเสว นยสฺสาติ กุสลากุสเลสุ อวิชฺชามูลกสฺส, วิปาเกสุ กุสลากุสลมูลกสฺสาติ เอวํ เอกสฺเสว นยสฺส วเสน. ธมฺมปจฺจยเภเทติ ธมฺมสฺส ปจฺจยภูตสฺส, ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส วา ปจฺจยภาเวน เภเทติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อวิชฺชาทีน’’นฺติอาทึ วตฺวา ปุน ตเมว ‘‘ตํตํจิตฺตุปฺปาทา’’ติอาทินา ปการนฺตเรน วิภาเวติ.

กุสลมูลกวิปากนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.