📜

๑๒. ฌานวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ

มาติกาวณฺณนา

๕๐๘. ปาติโมกฺขสํวราทีติ อาทิ-สทฺเทน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตฺุตา, สติสมฺปชฺํ, ชาคริยานุโยโคติ เอวมาทิเก สงฺคณฺหาติ. อสุภานุสฺสติโยติ อสุภฌานานิ, อนุสฺสติฌานานิ จ. สติ สมณภาวกรปุพฺพภาคกรณียสมฺปตฺติยํ สมณภาโวปิ สิทฺโธเยว โหตีติ อาห ‘‘สุฺา…เป… ทสฺเสตี’’ติ. การเณ หิ สิทฺเธ ผลมฺปิ สิทฺธเมว โหตีติ. สิกฺขาปทานํ สรูปํ, สิกฺขิตพฺพาการํ, สงฺเขปโต วิภาคฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘สิกฺขาปเทสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นามกายาทิวเสนาติ นามกายปทกายพฺยฺชนกายวเสน วุตฺเตสุ. อิมินา สิกฺขาปทานํ สิกฺขาย อธิคมูปายภูตปฺตฺติสภาวตํ ทสฺเสติ. เตสุ สิกฺขิตพฺพากาโร สตฺถุอาณานติกฺกโมเยวาติ อาห ‘‘วจ…เป… ตพฺเพสู’’ติ. สิกฺขาโกฏฺาเสสูติ วุตฺตปฺปเภเทสุ อธิสีลสิกฺขาภาเคสุ. เตสุ สมาทานเมว สิกฺขิตพฺพากาโรติ วุตฺตํ ‘‘ปริปูรณวเสน สิกฺขิตพฺเพสู’’ติ. สิกฺขาปเทกเทสภูตาติ สิกฺขาปทสมุทายสฺส อวยวภูตา. ภิกฺขุสิกฺขา หิ อิธาธิปฺเปตา ‘‘อิธ ภิกฺขู’’ติ วุตฺตตฺตา. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘เสสสิกฺขา ปน อตฺถุทฺธารวเสน สิกฺขาสทฺทสฺส อตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๕๑๖).

มาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิทฺเทสวณฺณนา

๕๐๙. ทิฏฺตฺตาติ สยมฺภูาเณน สจฺฉิกตตฺตา. ขนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. สยมฺภูาเณน สจฺฉิกรณวเสเนว หิ ภควโต ขมนรุจฺจนาทโย, น อฺเสํ วิย อนุสฺสวาการปริวิตกฺกาทิมุเขน. อวิปรีตฏฺโ เอกนฺตนิยฺยานฏฺเน เวทิตพฺโพ. สิกฺขิยมาโนติ สิกฺขาย ปฏิปชฺชิยมาโน . สิกฺขิตพฺพานิ สิกฺขาปทานีติ สิกฺขาปทปาฬึ วทติ. ขนฺธตฺตยนฺติ สีลาทิกฺขนฺธตฺตยํ. ‘‘สพฺพปาปสฺส…เป… พุทฺธาน สาสน’’นฺติ (ธ. ป. ๑๘๓; ที. นิ. ๑.๙๐; เนตฺติ. ๓๐) วจนโต อาห ‘‘อนุสาสนทานภูตํ สิกฺขตฺตย’’นฺติ.

สมฺมาทิฏฺิยา ปจฺจยตฺตาติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา เอกนฺตเหตุภาวโต. เอตฺถ จ สมฺมาทิฏฺีติ กมฺมสฺสกตาสมฺมาทิฏฺิ, กมฺมปถสมฺมาทิฏฺิ จ. ผลการโณปจาเรหีติ ผลูปจาเรน สมฺมาทิฏฺิปจฺจยตฺตา, การณูปจาเรน สมฺมาทิฏฺิปุพฺพงฺคมตฺตา. กุสลธมฺเมหิ อตฺตโน เอกเทสภูเตหีติ สมฺมาทิฏฺิธมฺเม สนฺธายาห. กุสลปฺาวิฺาณานํ วา ปชานนวิชานนวเสน ทสฺสนํ ทิฏฺีติ. เตน อวยวธมฺเมน สมุทายสฺส อุปจริตตํ ทสฺเสติ. วินยนกิริยตฺตาติ เทสนาภูตํ สิกฺขตฺตยมาห. ธมฺเมนาติ ธมฺมโต อนเปเตน. อวิสมสภาเวนาติ อวิสเมน สภาเวน, สเมนาติ อตฺโถ.

๕๑๐. อนฺตฺเถนาติ ครหาทิอฺตฺถรหิเตน สกตฺเถน. ภินฺนปฏธเรติ ภิกฺขุสารุปฺปวเสน ปฺจขณฺฑาทินา เฉเทน ฉินฺนจีวรธเร.

เภทนปริยายวเสน วุตฺตํ, ตสฺมา กิเลสานํ ปหานา กิเลสานํ เภทา ภิกฺขูติ วุตฺตํ โหติ.

คุณวเสนาติ เสกฺขธมฺมาทิคุณานํ วเสน. เตน ภาวตฺถโต ภิกฺขุสทฺโท ทสฺสิโต โหติ.

อิทํ ทฺวยนฺติ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทินา ปรโต สงฺคหทสฺสนวเสน วุตฺตํ ‘‘เสกฺโข’’ติอาทิกํ วจนทฺวยํ. อิมินาติ ‘‘เสกฺโข ภิกฺขุ ภินฺนตฺตา ปาปกาน’’นฺติ ปทานํ อตฺถทสฺสเนน. น สเมติ เสกฺขอเสกฺขปุถุชฺชนาเสกฺขทีปนโต. ตทิทนฺติ ปมทฺวยํ. นิปฺปริยายทสฺสนํ อริยานํ , อเสกฺขานํเยว จ เสกฺขภินฺนกิเลสภาวทีปนโต. วุตฺโตติ ปฏิฺาวจนํ, สจฺจํ วุตฺโตติ อตฺโถ. น ปน อิธาธิปฺเปโต อตฺถุทฺธารวเสน ทสฺสิตตฺตา.

ภควโต วจนนฺติ อุปสมฺปทากมฺมวาจมาห. ตทนุรูปนฺติ ตทนุจฺฉวิกํ, ยถาวุตฺตนฺติ อตฺโถ. ปริสาวตฺถุสีมาสมฺปตฺติโย ‘‘สมคฺเคน สงฺเฆน อกุปฺเปนา’’ติ (วิภ. ๕๑๐) อิมินา ปกาสิตาติ ‘‘านารห’’นฺติ ปทสฺส ‘‘อนูน…เป… อวุตฺต’’นฺติ เอตฺตกเมว อตฺถมาห.

๕๑๑. อวีติกฺกมนวิรติภาวโตติ อวีติกฺกมสมาทานภูตา วิรตีติ กตฺวา วาริตฺตสีลํ ปตฺวา วิรติ เอว ปธานนฺติ เจตนาสีลสฺสปิ ปริยายตา วุตฺตา. ‘‘นครวฑฺฒกี วตฺถุวิชฺชาจริโย’’ติ อิทํ อิธาธิปฺเปตนครวฑฺฒกีทสฺสนํ. วตฺถุวิชฺชา, ปาสาทวิชฺชาติ ทุวิธา หิ วฑฺฒกีวิชฺชา. เลหิตพฺพนฺติ สายิตพฺพํ. จุพิตพฺพนฺติ ปาตพฺพํ.

อินฺทฺริยสํวราหารตฺตาติ อินฺทฺริยสํวรเหตุกตฺตา. ปาติโมกฺขสีลํ สิกฺขาปทสีลํ น ปกติสีลาทิเกน คยฺหตีติ อาห ‘‘ปาติโมกฺขโต อฺํ สีลํ กายิกอวีติกฺกมาทิคฺคหเณน คหิต’’นฺติ. ตํ ปน ปาติโมกฺขสีเลน น สงฺคยฺหตีติ น สกฺกา วตฺตุํ, กายิกวาจสิกสํวรสฺส ตพฺพินิมุตฺตสฺส อภาวโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินา อธิปฺปาเยน วุตฺต’’นฺติ อาห.

ตตฺถ ปาติโมกฺขสทฺทสฺส เอวํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ – กิเลสานํ พลวภาวโต, ปาปกิริยาย สุกรภาวโต, ปุฺกิริยาย จ ทุกฺกรภาวโต พหุกฺขตฺตุํ อปาเยสุ ปตนสีโลติ ปาตี, ปุถุชฺชโน, อนิจฺจตาย วา ภวาทีสุ กมฺมเวคกฺขิตฺโต ฆฏิยนฺตํ วิย อนวฏฺาเนน ปริพฺภมนโต คมนสีโลติ ปาตี, มรณวเสน วา ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย อตฺตภาวสฺส ปาตนสีโลติ ปาตี, สตฺตสนฺตาโน, จิตฺตเมว วา. ตํ ปาตินํ สํสารทุกฺขโต โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺขํ. จิตฺตสฺส หิ วิโมกฺเขน สตฺโตปิ ‘‘วิมุตฺโต’’ติ วุจฺจติ. วุตฺตฺหิ ‘‘จิตฺตโวทานา วิสุชฺฌนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๐๐), ‘‘อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ (มหาว. ๒๘) จ. อถ วา อวิชฺชาทินา เหตุนา สํสาเร ปตติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ ปาตี. ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ สนฺธาวตํ สํสรต’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔; ๓.๙๙; ๕.๕๒๐; กถา. ๗๕) หิ วุตฺตํ. ตสฺส ปาติโน สตฺตสฺส ตณฺหาทิสํกิเลสตฺตยโต โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺขํ. ‘‘กณฺเกาโฬ’’ติอาทีนํ วิย ตสฺส สมาสสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

อถ วา ปาเตติ วินิปาเตติ ทุกฺเขติ ปาติ, จิตฺตํ. วุตฺตฺหิ ‘‘จิตฺเตน นียติ โลโก, จิตฺเตน ปริกสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๖๒). ตสฺส ปาติโน โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺขํ. ปตติ วา เอเตน อปายทุกฺเข วา สํสารทุกฺเข วาติ ปาตี, ตณฺหาทิสํกิเลโส. วุตฺตฺหิ ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ (สํ. นิ. ๑.๕๕-๕๗), ตณฺหาทุติโย ปุริโส’’ติ (อิติวุ. ๑๕; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. ปารายนานุคีติคาถา นิทฺเทส ๑๐๗) จ อาทิ. ตโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺขํ.

อถ วา ปตติ เอตฺถาติ ปาตีนิ, ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ. วุตฺตฺหิ ‘‘ฉสุ โลโก สมุปฺปนฺโน, ฉสุ กุพฺพติ สนฺถว’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๗๐; สุ. นิ. ๑๗๑). ตโต ฉอชฺฌตฺติกพาหิรายตนสงฺขาตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺขํ.

อถ วา ปาโต วินิปาโต อสฺส อตฺถีติ ปาตี, สํสาโร, ตโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺขํ.

อถ วา สพฺพโลกาธิปติภาวโต ธมฺมิสฺสโร ภควา ‘‘ปตี’’ติ วุจฺจติ, มุจฺจติ เอเตนาติ โมกฺโข, ปติโน โมกฺโข เตน ปฺตฺตตฺตาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺขํ. สพฺพคุณานํ วา มูลภาวโต อุตฺตมฏฺเน ปติ จ โส ยถาวุตฺเตนตฺเถน โมกฺโข จาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺขํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ปาติโมกฺขนฺติ มุขเมตํ ปมุขเมต’’นฺติ (มหาว. ๑๓๕) วิตฺถาโร.

อถ วา ป-อิติ ปกาเร, อตีติ อจฺจนฺตตฺเถ นิปาโต, ตสฺมา ปกาเรหิ อจฺจนฺตํ โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺขํ. อิทฺหิ สีลํ สยํ ตทงฺควเสน, สมาธิสหิตํ ปฺาสหิตฺจ วิกฺขมฺภนวเสน สมุจฺเฉทวเสน จ อจฺจนฺตํ โมกฺเขติ โมเจตีติ ปาติโมกฺขํ. ปติ ปติ โมกฺโขติ วา ปติโมกฺโข, ตมฺหา ตมฺหา วีติกฺกมโทสโต ปจฺเจกํ โมกฺโขติ อตฺโถ, ปติโมกฺโขเยว ปาติโมกฺขํ. โมกฺโข วา นิพฺพานํ, ตสฺส โมกฺขสฺส ปฏิพิมฺพภูโตติ ปติโมกฺขํ. สีลสํวโร หิ นิพฺเพธภาคิโย สูริยสฺส อรุณุคฺคมนํ วิย นิพฺพานสฺส อุทยภูโต ตปฺปฏิภาโค วิย โหติ ยถารหํ กิเลสนิพฺพาปนโตติ ปติโมกฺขํ, ปติโมกฺขํเยว ปาติโมกฺขํ.

อถ วา โมกฺขํ ปติ วตฺตติ, โมกฺขาภิมุขนฺติ วา ปติโมกฺขํ, ปติโมกฺขํเยว ปาติโมกฺขนฺติ. อิทมฺปิ ปาติโมกฺขสทฺทสฺส มุขมตฺตทสฺสนเมว. สพฺพากอาเรน ปน ชินปาติโมกฺโข ภควาว อนวชฺชปติโมกฺขํ ปาติโมกฺขํ สํวณฺเณยฺย.

๕๑๓. ครุภณฺฑวิสฺสชฺชนกรณภูตํ เอตสฺส อตฺถีติ ครุภณฺฑวิสฺสชฺชนํ. ครุภณฺฑนฺตรภูตํ ถาวราทิ. อูนกํ น วฏฺฏตีติ ผาติกมฺมํ วุตฺตํ. อติเรกคฺฆนกํ, ตทคฺฆนกเมว วา วฏฺฏตีติ. ยถาวุตฺตนฺติ โปกฺขรณิโต ปํสุอุทฺธรณาทิถาวรกมฺมํ.

ธาเรติ, โปเสติ วา ปเรสํ ทารเก.

คิหีนํ กริยมานํ วุตฺตํ, น สงฺฆสฺส, คณสฺส วาติ อตฺโถ. ปิณฺฑปฏิปิณฺฑนฺติ อุตฺตรปทโลปํ, ปุริมปเท อุตฺตรปทโลปฺจ กตฺวา นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ปิณฺฑตฺถ’’นฺติอาทิ. อโยนิโส วิจารณํ อยาถาวปฏิปตฺติ.

๕๑๔. คจฺฉนฺติ ยถาสกํ วิสเย ปวตฺตนฺตีติ คาโว, จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ.

วิธุนนํ ปปฺโผฏนํ, ปวาหนนฺติ อตฺโถ.

๕๑๕. ยถา กรณตฺโถ กรณียสทฺโท, เอวํ วิกิรณตฺโถปิ โหตีติ อาห ‘‘วิกฺขิปิตพฺพานี’’ติ, วิทฺธํสิตพฺพานีติ อตฺโถ. สํยมนียานิ วา สํยมกรณียานิ, ‘‘น ปุน เอวํ กโรมี’’ติ อตฺตโน ทหนํ มนสา อธิฏฺานํ สํยมนํ, สํยมนกรณียานิ สํวรกรณียานีติ จิตฺตมตฺตายตฺตา เอว สํยมสํวรา อาจริเยน อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อนาปตฺติคมนียานี’’ติ . อนฺเตวาสิกตฺเถโร ปน เทสนาปิ จิตฺตุปฺปาทมนสิกาเรหิ วินา น โหตีติ เทสนาวิสุทฺธึ นิสฺสรณํ วทติ.

๕๑๖. ‘‘อลงฺกโต เจปิ…เป… ส ภิกฺขู’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๔๒) วิย อิธาปิ คุณโต ภิกฺขุ อธิปฺเปโต. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘อิธ ภิกฺขูติ ปฏิปตฺติยา ภิกฺขุภาวทสฺสนโต เอวมาหา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๓๕๕). ยตฺตกํ เอเกน ปุคฺคเลน อเสเสตฺวา สมาทาตุํ สกฺกา, ตํ สนฺธายาห ‘‘เยน สมาทาเนน สพฺพาปิ สิกฺขา สมาทินฺนา โหนฺตี’’ติ ยถา อุปสมฺปทาปาริปูริยา อเสสํ อุปสมฺปนฺนสิกฺขาสมาทานํ. นฺติ สมาทานํ. อเนเกสูติ วิสุํ วิสุํ สมาทาเนสุ. ยถา สมาทินฺนาย สิกฺขาย สพฺเพน สพฺพํ อวีติกฺกมนํ สิกฺขิตพฺพากาโร, เอวํ สติ วีติกฺกเม เทสนาคามินิยา เทสนา, วุฏฺานคามินิยา วุฏฺานํ ตทุปายภูตํ ปาริวาสิกวตฺตจรณาทีติ วุตฺตํ ‘‘อวีติ…เป… อากาเรนา’’ติ. ยํ สิกฺขาปทํ ปมาเทน วีติกฺกนฺตํ, ตํ สิกฺขิยมานํ น โหตีติ เสสิตํ นาม โหตีติ อาห ‘‘วีติกฺกมนวเสน เสสสฺสา’’ติ.

๕๑๙. จิตฺตปริโสธนภาวนาติ จิตฺตสฺส ปริโสธนภูตา อาวรณียธมฺมวิกฺขมฺภิกา สมาธิวิปสฺสนาภาวนา จิตฺตปริโสธนภาวนา. สุปฺปปริคฺคาหกนฺติ นิทฺทาปริคฺคาหกํ. อิทนฺติ อิทํ อพฺโพกิณฺณภวงฺโคตฺตรณสงฺขาตํ กิริยมยจิตฺตานํ อปฺปวตฺตนํ สุปฺปํ นาม. อิโต ภวงฺโคตฺตรณโต. ปุพฺเพ อิโต กิริยมยจิตฺตปฺปวตฺติโต ปรฺจ นตฺถิ. อยํ กายกิลมโถ, ถินมิทฺธฺจ เอตสฺส สุตฺตสฺส ปจฺจโย.

๕๒๒. สติปฏฺานาทโยติ สติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทา, เอกจฺเจ จ มคฺคธมฺมา สห น ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา ปาฬิยํ น วุตฺตาติ อธิปฺปาโย. เอเต ตาว เอกสฺมึ อารมฺมเณ สห น ปวตฺตนฺตีติ น คณฺเหยฺยุํ, อินฺทฺริยพลานิ กสฺมา น คหิตานีติ อาห ‘‘ปวตฺต…เป… โหนฺตี’’ติ. เอวมฺปิ สทฺธินฺทฺริยพลานิ โพชฺฌงฺเคหิ น สงฺคยฺหนฺตีติ กถํ เตสํ ตทนฺโตคธตาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ปีติ…เป… วุตฺตตฺตา’’ติ.

๕๒๓. สมนฺตโตติ สพฺพภาเคสุ สพฺเพสุ อภิกฺกมาทีสุ, สพฺพภาคโต วา เตสุ เอว อภิกฺกมาทีสุ อตฺถานตฺถาทิสพฺพภาคโต สพฺพาการโต. สมฺมาติ อวิปรีตํ โยนิโส. สมนฺติ อวิสมํ, อิฏฺาทิอารมฺมเณ ราคาทิวิสมรหิตํ กตฺวาติ อตฺโถ.

ภิกฺขา จรียติ เอตฺถาติ ภิกฺขาจาโร, ภิกฺขาย จรณฏฺานํ, โส เอว โคจโร, ภิกฺขาย จรณเมว วา สมฺปชฺสฺส วิสยภาวโต โคจโร, ตสฺมึ ภิกฺขาจารโคจเร. โส ปน อภิกฺกมาทิเภทภินฺนนฺติ วิเสสนวเสน วุตฺตํ ‘‘อภิกฺกมาทีสุ ปนา’’ติ. กมฺมฏฺานสงฺขาเตติ โยคกมฺมสฺส ภาวนาย ปวตฺติฏฺานสงฺขาเต อารมฺมเณ, ภาวนากมฺเมเยว วา, โยคิโน สุขวิเสสเหตุตาย วา กมฺมฏฺานสงฺขาเต สมฺปชฺสฺส วิสยภาเวน โคจเร. อภิกฺกมาทีสูติ อภิกฺกมปฏิกฺกมาทีสุ เจว จีวรปารุปนาทีสุ จ. อสมฺมุยฺหนํ จิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผารวเสเนว เตสํ ปวตฺติ, น อฺถาติ ยาถาวโต ชานนํ.

กมฺมฏฺานํ ปธานํ กตฺวาติ จีวรปารุปนาทิสรีรปริหรณกิจฺจกาเลปิ กมฺมฏฺานมนสิการเมว ปธานํ กตฺวา.

ตสฺมาติ ยสฺมา อุสฺสุกฺกชาโต หุตฺวา อติวิย มํ ยาจสิ, ยสฺมา จ ชีวิตนฺตรายานํ ทุชฺชานตํ วทสิ, อินฺทฺริยานิ จ เต ปริปากํ คตานิ, ตสฺมา. ติหาติ นิปาตมตฺตํ. เต ตยา. เอวนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพาการํ วทติ. สิกฺขิตพฺพนฺติ อธิสีลสิกฺขาทีนํ ติสฺสนฺนมฺปิ สิกฺขานํ วเสน สิกฺขนํ กาตพฺพํ. ยถา ปน สิกฺขิตพฺพํ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตนฺติ รูปายตเน จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺมตฺตํ. ยถา หิ จกฺขุวิฺาณํ รูเป รูปมตฺตเมว ปสฺสติ, น นิจฺจาทิสภาวํ, เอวํ เสสตํทฺวาริกวิฺาเณหิปิ เม เอตฺถ ทิฏฺมตฺตเมว ภวิสฺสตีติ สิกฺขิตพฺพนฺติ อตฺโถ. อถ วา ทิฏฺเ ทิฏฺํ นาม จกฺขุวิฺาณํ, รูเป รูปวิชานนนฺติ อตฺโถ. มตฺตาติ ปมาณํ. ทิฏฺํ มตฺตา เอตสฺสาติ ทิฏฺมตฺตํ, จกฺขุวิฺาณมตฺตเมว เม จิตฺตํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อาปาถคเต รูเป จกฺขุวิฺาณํ น รชฺชติ น ทุสฺสติ น มุยฺหติ, เอวํ ราคาทิวิรเหน จกฺขุวิฺาณมตฺตเมว เม ชวนํ ภวิสฺสติ, จกฺขุวิฺาณปฺปมาเณเนว นํ เปสฺสามีติ. อถ วา ทิฏฺํ นาม จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺรูปํ. ทิฏฺเ ทิฏฺํ นาม ตตฺเถว อุปฺปนฺนํ สมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณโวฏฺพฺพนสงฺขาตํ จิตฺตตฺตยํ. ยถา ตํ น รชฺชติ น ทุสฺสติ น มุยฺหติ, เอวํ อาปาถคเต รูเป เตเนว สมฺปฏิจฺฉนาทิปฺปมาเณน ชวนํ อุปฺปาเทสฺสามิ, นาสฺส ตํ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา รชฺชนาทิวเสน อุปฺปชฺชิตุํ ทสฺสามีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอส นโย สุตมุเตสุ. มุตนฺติ จ ตทารมฺมณวิฺาเณหิ สทฺธึ คนฺธรสโผฏฺพฺพายตนํ เวทิตพฺพํ. วิฺาเต วิฺาตมตฺตนฺติ เอตฺถ ปน วิฺาตํ นาม มโนทฺวาราวชฺชเนน วิฺาตารมฺมณํ, ตสฺมึ วิฺาเต. วิฺาตมตฺตนฺติ อาวชฺชนปฺปมาณํ. ยถา อาวชฺชนํ น รชฺชติ น ทุสฺสติ น มุยฺหติ, เอวํ รชฺชนาทิวเสน อุปฺปชฺชิตุํ อทตฺวา อาวชฺชนปฺปมาเณเนว จิตฺตํ เปสฺสามีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เอวฺหิ เต พาหิย สิกฺขิตพฺพนฺติ เอวํ อิมาย ปฏิปทาย ตยา พาหิย ติสฺสนฺนํ สิกฺขานํ อนุปวตฺตนวเสน สิกฺขิตพฺพํ. อิติ ภควา พาหิยสฺส สํขิตฺตรุจิตาย ฉหิ วิฺาณกาเยหิ สทฺธึ ฉฬารมฺมณเภทภินฺนํ วิปสฺสนาวิสยํ ทิฏฺาทีหิ จตูหิ โกฏฺาเสหิ วิภชิตฺวา ตตฺถสฺส าตตีรณปริฺํ ทสฺเสติ.

กถํ? เอตฺถ หิ รูปายตนํ ปสฺสิตพฺพฏฺเน ทิฏฺํ นาม, จกฺขุวิฺาณํ ปน สทฺธึ ตํทฺวาริกวิฺาเณหิ ทสฺสนฏฺเน, ตทุภยมฺปิ ยถาปจฺจยํ ปวตฺตมานํ ธมฺมมตฺตเมว, น เอตฺถ โกจิ กตฺตา วา กาเรตา วา. ยโต ตํ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจํ, อุทยพฺพยปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺขํ, อวสวตฺตนฏฺเน อนตฺตาติ กุโต ตตฺถ ปณฺฑิตสฺส รชฺชนาทีนํ โอกาโสติ อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย. เอส นโย สุตาทีสุปิ.

อิทานิ าตตีรณปริฺาสุ ปติฏฺิตสฺส อุปริ สห ผเลน ปหานปริฺํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยโต โข เต พาหิยา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยโตติ ยทา, ยสฺมา วา. เตติ ตว. ตโตติ ตทา, ตสฺมา วา. เตนาติ เตน ทิฏฺาทินา, ทิฏฺาทิปฏิพทฺเธน วา ราคาทินา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – พาหิย, ตว ยสฺมึ กาเล, เยน วา การเณน ทิฏฺาทีสุ มยา วุตฺตวิธึ ปฏิปชฺชนฺตสฺส อวิปรีตสภาวาวโพเธน ทิฏฺาทิมตฺตํ ภวิสฺสติ, ตสฺมึ กาเล, เตน วา การเณน ตฺวํ เตน ทิฏฺาทิปฏิพทฺเธน ราคาทินา สห น ภวิสฺสสิ, รตฺโต วา ทุฏฺโ วา มูฬฺโห วา น ภวิสฺสสิ ปหีนราคาทิกตฺตา, เตน วา ทิฏฺาทินา สห ปฏิพทฺโธ น ภวิสฺสสีติ. ตโต ตฺวํ, พาหิย, น ตตฺถาติ ยทา, ยสฺมา วา ตฺวํ เตน ราเคน วา รตฺโต, โทเสน วา ทุฏฺโ, โมเหน วา มูฬฺโห น ภวิสฺสสิ, ตทา, ตสฺมา วา ตฺวํ ตตฺถ ทิฏฺาทิเก น ภวิสฺสสิ, ตสฺมึ ทิฏฺเ วา สุตมุตวิฺาเต วา ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ (มหาว. ๒๑) ตณฺหามานทิฏฺีหิ อลฺลีโน ปติฏฺิโต น ภวิสฺสสิ. เอตฺตาวตา ปหานปริฺํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ขีณาสวภูมิ ทสฺสิตา. ตโต ตฺวํ, พาหิย, เนวิธ, น หุรํ, น อุภยมนฺตเรนาติ ยทา ตฺวํ, พาหิย, เตน ราคาทินา ตตฺถ ทิฏฺาทีสุ ปฏิพทฺโธ น ภวิสฺสสิ, ตทา ตฺวํ เนว อิธ โลเก, น ปรโลเก, น อุภยตฺถ โหสิ. เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสาติ กิเลสทุกฺขสฺส, วฏฺฏทุกฺขสฺส จ อยเมว อนฺโต อยํ ปริจฺเฉโท ปริวฏุมภาโวติ อยเมว หิ เอตฺถ อตฺโถ . เย ปน ‘‘อุภยมนฺตเรนา’’ติ ปทํ คเหตฺวา อนฺตราภวํ นาม อิจฺฉนฺติ, เตสํ ตํ มิจฺฉา. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต อนฺตราภวกถายํ (กถา. ๕๐๕ อาทโย ) อาวิ ภวิสฺสติ.

เอเตสนฺติ อติหรณวีติหรณานํ.

‘‘ตตฺถ หี’’ติอาทินา ปฺจวิฺาณวีถิยํ ปุเรตรํ ปวตฺตอโยนิโสมนสิการวเสน อาวชฺชนาทีนํ อโยนิโส อาวชฺชนาทินา อิฏฺาทิอารมฺมเณ โลภาทิปฺปวตฺติมตฺตํ โหติ, น ปน อิตฺถิปุริสาทิวิกปฺปคาโห, มโนทฺวาเรเยว ปน โส โหตีติ ทสฺเสติ. ตสฺสาติ ‘‘อิตฺถี, ปุริโส’’ติ รชฺชนาทิกสฺส. ภวงฺคาทีติ ภวงฺคอาวชฺชนทสฺสนานิ, สมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณโวฏฺพฺพนปฺจทฺวาริกชวนฺจ. อปุพฺพติตฺตรตาวเสนาติ อปุพฺพตาอิตฺตรภาวานํ วเสน.

อติหรตีติ มุขทฺวารํ อติกฺกมิตฺวา หรติ. ตํตํวิชานนนิปฺผาทโกติ ตสฺส ตสฺส ปริเยสนาทิวิสยสฺส, วิชานนสฺส จ นิปฺผาทโก. เยน หิ ปโยเคน ปริเยสนาทิ นิปฺผชฺชติ, โส ตพฺพิสยํ วิชานนมฺปิ นิปฺผาเทติ นาม โหติ. สมฺมาปฏิปตฺตินฺติ ธมฺเมสุ อวิปรีตปฏิปตฺตึ ยถาภูตาวโพธํ.

คมเนปีติ คมนปโยเคปิ. อติหรณํ ยถาิตสฺเสว กายสฺส อิจฺฉิตเทสาภิมุขกรณํ. คมนํ เทสนฺตรุปฺปตฺติ. วกฺขมาโนติ ‘‘อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติ…เป… อทฺธาคมนวเสน กถิโต. คเต ิเต นิสินฺเนติ เอตฺถ วิหาเร จุณฺณิกปาทุทฺธารอิริยาปถวเสน กถิโต’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๕๒๓) วกฺขมาโน วิเสโส.

ปวตฺเตติ จงฺกมาทีสุ ปวตฺเต รูปารูปธมฺเม. ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อนิจฺจาทิโต.

กายิกกิริยาทินิพฺพตฺตกชวนํ ผลูปจาเรน ‘‘กายาทิกิริยามย’’นฺติ วุตฺตํ. กิริยาสมุฏฺิตตฺตาติ ปน การณูปจาเรน.

๕๒๖. กมฺมฏฺานอุปาสนสฺสาติ กมฺมฏฺานภาวนาย. โยคปถนฺติ ภาวนาโยคฺคกิริยาย ปวตฺตนมคฺคํ.

๕๓๗. กายาทีสูติ กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ. สุฏฺุ ปวตฺติยาติ อสุภานุปสฺสนาทิวเสน ปวตฺติยา. นิยฺยานสภาโว สมฺมาสติตา เอว . อุปฏฺานนฺติ สตึ กิจฺจโต ทสฺเสติ. เอตฺถ จ ยถาวุตฺโต ปริคฺคโห ชาโต เอติสฺสาติ ปริคฺคหิตา, ตํ ปริคฺคหิตํ นิยฺยานภูตํ สตึ กตฺวาติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๕๔๒-๓. ปกุปฺปนํ อิธ วิการาปตฺติภาโว.

๕๕๐. ตปฺปฏิปกฺขสฺาติ ถินมิทฺธปฏิปกฺขสฺา. สา อตฺถโต ตทงฺคาทิวเสน ถินมิทฺธวิโนทนาการปฺปวตฺตา กุสลวิตกฺกสมฺปยุตฺตสฺา, ตถาภูโต วา จิตฺตุปฺปาโท สฺาสีเสน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

๕๕๓. สารมฺภนฺติ อารมฺภวนฺตํ, สหารมฺภนฺติ อตฺโถ. นิราวรณาโภคา ถินมิทฺธนฺธการวิคเมน นิราวรณสมนฺนาหารสฺา. วิวฏา อปฺปฏิจฺฉาทนา.

๕๖๔. ตตฺถ ตตฺถาติ ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหตี’’ติอาทีสุ (วิภ. ๕๑๑).

๕๘๘. ยถา เกนจิ นิกฺกุชฺชิตํ ‘‘อิทํ นาเมต’’นฺติ ปกติาเณน น ายติ, เอวํ สพฺพปฺปกาเรน อวิทิตํ นิกฺกุชฺชิตํ วิย โหตีติ อาห ‘‘สพฺพถา อฺาตตา นิกฺกุชฺชิตภาโว’’ติ. นิรวเสสปริจฺฉินฺทนาภาโวติ ทุวิฺเยฺยตาย นิรวเสสโต ปริจฺฉินฺทิตพฺพตาภาโว, ปริจฺฉินฺทิกาภาโว วา. เอกเทเสเนว หิ คมฺภีรํ ายติ.

อาจิกฺขนฺตีติอาทิโต ปริพฺยตฺตํ กเถนฺติ. เทเสนฺตีติ อุปทิสนวเสน วทนฺติ, ปโพเธนฺติ วา. ปฺาเปนฺตีติ ปชานาเปนฺติ, สํปกาเสนฺตีติ อตฺโถ. ปฏฺเปนฺตีติ ปกาเรหิ อสงฺกรโต เปนฺติ. วิวรนฺตีติ วิวฏํ กโรนฺติ. วิภชนฺตีติ วิภตฺตํ กโรนฺติ. อุตฺตานีกโรนฺตีติ อนุตฺตานํ คมฺภีรํ อุตฺตานํ ปากฏํ กโรนฺติ. เอตฺถ จ ‘‘ปฺาเปนฺตี’’ติอาทีหิ ฉหิ ปเทหิ อตฺถปทานิ ทสฺสิตานิ. ‘‘อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺตี’’ติ ปน ทฺวีหิ ปเทหิ พฺยฺชนปทานีติ เอวํ อตฺถพฺยฺชนปทสมฺปนฺนาย อุฬาราย ปสํสาย ปสํสนํ ทสฺเสติ. ยํ ปเนเตสุ อตฺถพฺยฺชนปเทสุ วตฺตพฺพํ, ตํ เนตฺติอฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๓ อาทโย) วิตฺถารโต วุตฺตเมว, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๖๐๒. เอตฺเถวโยเชตพฺพํ ตสฺส เหฏฺาภูมิสมติกฺกมนมุเขน ภูมิวิเสสาธิคมุปายทีปนโต. สพฺพตฺถาปีติ ‘‘รูปสฺานํ สมติกฺกมา, อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ สพฺเพสุปิ สมติกฺกมวจเนสุ.

๖๑๐. ตํเยว อากาสํ ผุฏํ วิฺาณนฺติ ตํเยว กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ ‘‘อนนฺต’’นฺติ มนสิกาเรน ผุฏํ ผริตฺวา ิตํ ปมารุปฺปวิฺาณํ ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ มนสิ กโรตีติ อตฺโถ. ทุติยวิกปฺเป ปน สามฺโชตนา วิเสเส ติฏฺตีติ ‘‘ผุฏ’’นฺติ อิมินา วิฺาณเมว วุตฺตนฺติ ผุฏํ วิฺาณนฺติ ปมารุปฺปวิฺาณมาห. ตฺหิ อากาสสฺส สผรณกวิฺาณํ. วิฺาเณนาติ จ กรณตฺเถ กรณวจนํ, ตฺจ ทุติยารุปฺปวิฺาณํ วทตีติ อาห ‘‘วิฺาณฺจายตนวิฺาเณน มนสิ กโรตี’’ติ. เตนาติ ปมารุปฺปวิฺาเณน. คหิตาการนฺติ อนนฺตผรณวเสน คหิตาการํ. มนสิ กโรตีติ ทุติยารุปฺปปริกมฺมมนสิกาเรน มนสิ กโรติ. เอวนฺติ ยถาวุตฺตาการํ กสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปมารุปฺปวิฺาเณน อนนฺตผรณวเสน โย คหิตากาโร, ตํ มนสิ กโรนฺตํเยว. ตํ วิฺาณนฺติ ตํ ทุติยารุปฺปวิฺาณํ. อนนฺตํ ผรตีติ ‘‘อนนฺต’’นฺติ ผรติ, ตสฺมา ทุติโยเยวตฺโถ ยุตฺโตติ. ‘‘ยฺหี’’ติอาทินา ยถาวุตฺตมตฺถํ ปากฏํ กโรติ. ตํผรณาการสหิตนฺติ ตสฺมึ อากาเส ผรณาการสหิตํ. วิฺาณนฺติ ปมารุปฺปวิฺาณํ.

๖๑๕. ปุพฺเพติ ทุติยารุปฺปปริกมฺมกาเล. ยํ ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ มนสิ กตํ, ตํเยว ปมารุปฺปวิฺาณเมว. ตํเยว หิ อภาเวติ. อารมฺมณาติกฺกมวเสน หิ เอตา สมาปตฺติโย ลทฺธพฺพาติ.

นิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๖๒๓. จตุกฺกนเย ทุติยชฺฌานเมว เยสํ วิจาโร โอฬาริกโต น อุปฏฺาติ, เยสฺจ อุปฏฺาติ, เตสํ วเสน ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา เทสิตนฺติ จตุกฺกนยโต ปฺจกนโย นีหโตติ อาห ‘‘อุทฺธฏานํเยว จตุนฺนํ…เป… ทสฺสนโต จา’’ติ.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

๖๔๐. ตีสูติ ปมาทีสุ ตีสุ. จตุกฺกนเยน หิ ตํ วุตฺตํ. เอวํโกฏฺาสิกาติ อปฺปมาณาติ วุตฺตา. เตนาห ‘‘โลกุตฺตรภูตา เอวาติ อธิปฺปาโย’’ติ. ปริจฺฉินฺนากาส…เป… จตุตฺถานํ วฏฺฏวิปสฺสนาปาทกตฺตา ‘‘สพฺพตฺถปาทกจตุตฺเถ สงฺคหิตานี’’ติ วุตฺตํ.

อยํ กถาติ ปริตฺตารมฺมณาทิกถา. เหฏฺิโม อริโย อุปริมสฺส อริยสฺส โลกุตฺตรจิตฺตานิ ปฏิวิชฺฌิตุํ น สกฺโกตีติ วุตฺตํ ‘‘น จ…เป… สกฺโกตี’’ติ.

‘‘กิริยโต ทฺวาทสนฺน’’นฺติ จ ปาโ อตฺถิ. สห วทติ โลกุตฺตรผลจตุตฺถตาสามฺเนาติ อธิปฺปาโย. อิธ สพฺพสทฺทสฺส ปเทสสพฺพวาจิภาวโต เอกเทสสฺส อสมฺภเวปิ สพฺพตฺถปาทกตา เอว เวทิตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพตฺถ…เป… ทฏฺพฺพ’’นฺติ อาห. ปริจฺฉินฺนากาสกสิณจตุตฺถาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อานาปานจตุตฺถาทโย สงฺคหิตา. นวตฺตพฺพตายาติ นวตฺตพฺพารมฺมณตาย.

นิพฺพานฺจาติ วตฺตพฺพํ ตทารมฺมณสฺสาปิ พหิทฺธารมฺมณภาวโต.

‘‘สสนฺตานคตมฺปี’’ติ อิทํ รูป-สทฺเทน, กมฺม-สทฺเทน จ สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘สสนฺตานคตมฺปิ อปากฏํ รูปํ ทิพฺพจกฺขุ วิย สสนฺตานคตมฺปิ อปากฏํ กมฺมํ วิภาเวตี’’ติ. ปากเฏ ปน สสนฺตานคเต รูเป, กมฺเม จ อภิฺาาเณน ปโยชนํ นตฺถีติ ‘‘อปากฏ’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

ฌานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.