📜
๑๕. ปฏิสมฺภิทาวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
๑. สงฺคหวารวณฺณนา
๗๑๘. ‘‘เอเสว ¶ ¶ นโย’’ติ ธมฺมาทีสุ กโต อติเทโส สงฺเขปโต เตสํ ทสฺสนํ โหตีติ อาห ‘‘สงฺเขเปน ทสฺเสตฺวา’’ติ. เตสํ นิรุตฺติปฏิภานานํ วิสยา ตพฺพิสยา, เตสํ, นิรุตฺติปฏิภานวิสยภูตานนฺติ อตฺโถ. ปจฺจยุปฺปนฺนาทิเภเทหีติ ปจฺจยุปฺปนฺนนิพฺพานภาสิตตฺถาทิเภเทหิ.
ทุกฺขเหตุผลชาตาทิธมฺมชรามรณานิ ทุกฺขาทีนิ. สจฺจเหตุธมฺมปจฺจยาการวาเรสุ ทุกฺขสมุทยาทิปริยาเยน อาคโต ผลนิพฺพตฺตโก เหตุ, สจฺจปจฺจยาการวาเรสุ อริยมคฺโค, ปริยตฺติวาเร ภาสิตํ, อภิธมฺมภาชนีเย กุสลํ, อกุสลนฺติ เอวํ ปาฬิยํ วุตฺตานํเยว วเสน ปฺจ ธมฺมา เวทิตพฺพาติ อิมมตฺถมาห ‘‘ตถา ธมฺมา จา’’ติ อิมินา.
นิพฺพตฺตกเหตุอาทีนนฺติ นิพฺพตฺตกสมฺปาปกาปกานํ. ปุริโมติ ปวตฺตนตฺโถ. ตสฺมินฺติ มคฺเค. ปจฺฉิโมติ ปาปนตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อวิปรีตนิรุตฺตีติ พุทฺธาทีหิ อาจิณฺณา ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส วาจกภาเว นิรุฬฺหา ยาถาวนิรุตฺติ. ยสฺมา วิฺตฺติวิการสหิโต สทฺโท ปฺตฺตีติ อตฺตโน อธิปฺปาโย, ตสฺมา ปรมตโต ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อวจนภูตายา’’ติ วิเสเสตฺวา ‘‘เกจิ วณฺณยนฺตี’’ติ อาห. เอวํ สตีติ ¶ เอวํ นิรุตฺติยา ปฺตฺติภาเว สติ. ปฺตฺติ อภิลปิตพฺพาติ อาปชฺชตีติ วุตฺเต, โหตุ, โก โทโส ตสฺสา วจนียภาวโตติ กทาจิ วเทยฺยาติ อาสงฺกนฺโต อาห ‘‘น จ วจนโต…เป… อุจฺจาเรตพฺพํ อตฺถี’’ติ. เตสํ อตฺถธมฺมานํ. น วจนนฺติ อวจนํ อวจนสภาวํ. เอวํปการนฺติ เอวํวิธํ เอวํ นิยตลิงฺควิเสสโชตนาการํ.
ปรโตติ ¶ ปรภาเค อนนฺตรมโนทฺวาเร. สทฺทคฺคหณานุสาเรน คหิตาย นามนิรุตฺติยํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปวตฺตตีติ วทนฺติ. ยทิ เอวํ กสฺมา ปาฬิยํ ‘‘นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘นิรุตฺติ…เป… สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. ปจฺฉา ชานนนฺติ สทฺทคฺคหณุตฺตรกาลํ นามนิรุตฺติยา ชานนํ. เอวนฺติ เอวํ สทฺทคฺคหณโต ปจฺฉา นามนิรุตฺตึ อารพฺภ ปวตฺตํ าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาติ คยฺหมาเน. เอวํ นิรุตฺติยา นามปฺตฺติปกฺเข ปาฬิยา, อฏฺกถาย จ วิโรธํ ทสฺเสตฺวา สทฺทปกฺเข ตทภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิมาห. ตํตํสทฺทวิภาวกนฺติ ยถา ตสฺส ตสฺส สทฺทปฺปเภทนิจฺฉยสฺส ปจฺจยภูตํ ทิพฺพโสตาณํ สทฺทารมฺมณเมว ตํ ตํ สทฺทํ วิภูตํ กโรติ, เอวํ นิรุตฺติปฺปเภทนิจฺฉยสฺส ปจฺจยภูตํ นิรุตฺติสทฺทารมฺมณเมว นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาาณํ ตํ วิภูตํ กโรตีติ ตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา วุตฺตา. สทฺทํ ปน วิภาเวนฺตํ เอกนฺตโต สทฺทูปนิพนฺธํ ปฺตฺติมฺปิ วิภาเวติเยว, ยโต สภาวาสภาววิเสสวิภาวนํ สมฺปชฺชติ. อฺถา หิ สทฺทมตฺตคฺคหเณ วิเสสาวโพโธ เอว น สิยาติ โปราณา ปฺตฺติวิภาวนมฺปิ ตสฺส อิจฺฉนฺติ. ตํวิภาวกนฺติ นิรุตฺติสทฺทวิภาวกํ. น ปาฬิวิโรโธ โหตีติ ยทิปิ อภิธมฺมภาชนีเย ‘‘ยาย นิรุตฺติยา เตสํ ธมฺมานํ ปฺตฺติ โหตี’’ติ (วิภ. ๗๒๗) วุตฺตํ, ตมฺปิ สภาวนิรุตฺติสทฺเทน ธมฺมานํ ปโพธนเมว สนฺธาย วุตฺตํ, น ตพฺพินิมุตฺตํ ปฺตฺตินฺติ ‘‘นิรุตฺติสทฺทารมฺมณา นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา’’ติ วุจฺจมาเน ปาฬิยา วิโรโธ น โหตีติ อตฺโถ. ‘‘ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา สทฺทํ คเหตฺวา ปจฺฉา คหิตาย ปฺตฺติยา ปจฺจเวกฺขเณน ภวิตพฺพนฺติ อาสงฺเกยฺยาติ ตทาสงฺกานิวตฺตนตฺถมาห ‘‘ตํ สภาวนิรุตฺตึ สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา’’ติอาทิ. สภาวนิรุตฺตึ วิภาเวนฺตํเยวาติ สภาวนิรุตฺติวิสยสฺส สมฺโมหสฺส ปเคว วิทฺธํสิตตฺตา อตฺถสาธนวเสน อภิฺาาณํ วิย ตํ วิภาเวนฺตเมว ปวตฺตติ. เตนาห ‘‘นิรุตฺตึ ภินฺทนฺตํ ปฏิวิชฺฌนฺตเมว อุปฺปชฺชตี’’ติ. ปเภทคมนฺเจตฺถ อนวเสสโต นิรุตฺติวิภาคชานนํ. ตถา เสเสสุ. สกฺกฏนามาทีติ สกฺกฏวเสน วุตฺตนามาขฺยาตาทิ. นิปาตปทํ ¶ นามาทิปทานิ วิย อตฺถํ น วทติ, อถ โข พฺยฺเชติ โชเตตีติ ‘‘พฺยฺชน’’นฺติ วุตฺตํ นิปาตปทํ.
โพธิ ¶ าณํ มณฺฑภูตํ เอตฺถาติ โพธิมณฺโฑ, มหาโพธิฏฺานํ. เตนาห ‘‘ปมาภิสมฺพุทฺธฏฺาเน’’ติ. อฺเน ปกาเรนาติ อุคฺคหาทิปฺปกาเรน.
อฺถา โหนฺตีติ ปุริสยุเค ปุริสยุเค เอกเทเสน ปริวตฺตนฺตา กาลนฺตเร อฺาการา ภวนฺติ. วินสฺสนฺตีติ ตํตํภาสานํ มนุสฺสานํ วินาเสน น ปฺายนฺติ, มนุสฺสานํ ทุรุคฺคหณาทินา กตฺถจิ กทาจิ ปริวตฺตนฺตีปิ พฺรหฺมโลกาทีสุ ยถาสภาเวเนว อวฏฺานโต น สพฺพตฺถ, สพฺพทา, สพฺพถา จ ปริวตฺตติ. เตนาห ‘‘กปฺปวินาเสปิ ติฏฺติเยวา’’ติ. เอตสฺส นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาาณสฺส.
อตฺถาทีสุ าณนฺติ อตฺถปฏิสมฺภิทาทิ. อตฺถธมฺมนิรุตฺติวเสน ตีสุ. อตฺถธมฺมนิรุตฺติปฏิภานวเสน จตูสุปิ วา. อตฺถธมฺมาทินา อตฺตนา โชเตตพฺเพน สห อตฺเถนาติ สาตฺถกานิ. สพฺโพ อตฺถธมฺมาทิโก อตฺโถ วิสยภูโต เอตสฺส าณสฺส อตฺถีติ สพฺพตฺถกํ. สพฺพสฺมึ อตฺถาทิเก วิสเย ขิตฺตํ อตฺตโน ปจฺจเยหิ ปิตํ ปวตฺติตํ. อรหตฺตปฺปตฺติยา วิสทา โหนฺติ ปฏิปกฺขธมฺมานํ สพฺพโส วิทฺธํสิตตฺตา. ปฺจนฺนนฺติ อธิคมปริยตฺติสวนปริปุจฺฉาปุพฺพโยคานํ. ยถาโยคนฺติ ยํ ยํ ยสฺส ปุคฺคลสฺส วิสทตาย ยุชฺชติ, ตถา โยเชตพฺพํ.
ปริปุจฺฉาเหตุ ปวตฺตา กถา ปริปุจฺฉาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘ปุจฺฉาย…เป… ปริปุจฺฉาติ วุตฺตา’’ติ.
เตหีติ มคฺเคหิ. ปฏิลาโภ นาม ปุพฺพโยคสมฺปตฺติยา อตฺถาทิวิสยสฺส สมฺโมหสฺส สมุจฺฉินฺทนํ, ตํ ปน มคฺคกิจฺจเมวาติ อาห ‘‘โส โลกุตฺตโร’’ติ. อตฺถาทีนํ ปเภทโต สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถาปนา ยถารหํ ปริตฺตกุสลมหากิริยจิตฺตวเสน โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปเภโท กามาวจโร’’ติ. ยถา ปุพฺพโยโค อธิคมสฺส พลวปจฺจโย สภาวเหตุภาวโต, น ตถา ปเภทสฺส อสภาวเหตุตาย, ปรมฺปรปจฺจยตาย จาติ อธิปฺปาโย. ปริยตฺติอาทีนํ ปเภทสฺส พลวปจฺจยตาย ¶ , อธิคมสฺส จ ตทภาเว เอเสว นโย. ตตฺถาติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, ตาสุ ปริยตฺติสวนปริปุจฺฉาสุ นิมิตฺตภูตาสูติ อตฺโถ. ยํ วุตฺตํ โหตีติ ‘‘เอเตสุ ปนา’’ติอาทินา อฏฺกถาวจเนน ยํ อตฺถชาตํ วุตฺตํ ¶ โหติ. ตํ ทสฺเสนฺโตติ ตํ นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต. ‘‘ปุพฺพโยคาธิคมา’’ติ วตฺวา ‘‘ทฺเวปี’’ติ วจนํ อธิคมสหิโตเยว ปุพฺพโยโค ปเภทสฺส พลวปจฺจโย, น เกวโลติ ทสฺสนตฺถํ. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘ทฺเวปิ เอกโต หุตฺวา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๗๑๘). ‘‘ทฺเวปิ วิสทการณา’’ติ วุตฺเต ปุพฺพโยคสฺสาปิ วิสทการณตฺตํ ลพฺภเตวาติ อาห ‘‘ทฺเวปิ วิสทการณาติ…เป… วุตฺต’’นฺติ.
สงฺคหวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สจฺจวาราทิวณฺณนา
๗๑๙. กาลตฺตเยปีติ อตีตาทีสุ ตีสุปิ กาเลสุ. เหตุผลธมฺมา เหตูนํ ผลภูตา ธมฺมา, ปจฺจยนิพฺพตฺตาติ อตฺโถ. เตสฺจ เหตุธมฺมาติ เตสํ เหตุผลานํ ปจฺจยนิพฺพตฺตานํ เหตุภูตา ธมฺมา ‘‘ธมฺมา’’ติ วุตฺตาติ โยชนา. วิเนยฺยวเสนาติ ตถาวิเนตพฺพปุคฺคลชฺฌาสยวเสน. อุปฺปนฺนา สมุปฺปนฺนาติอาทิ น วุตฺตนฺติ อุปฺปนฺนา สมุปฺปนฺนา อุฏฺิตา สมุฏฺิตา ปจฺจุปฺปนฺนาติอาทิ น วุตฺตํ เอกนฺตปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว สงฺคาหกตฺตา. ตํนิพฺพตฺตกาติ เตสํ อตฺถภาเวน วุตฺตานํ นิปฺผาทกา. ธมฺมาติ วุตฺตา ธมฺมภาเวน กถิตา.
สจฺจวาราทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๗๒๕. สามฺเน ¶ วตฺวา วิเสเสน อวุตฺตตฺตาติ ‘‘เตสํ วิปาเก’’ติ ยถาวุตฺตกุสลวิปากตาทิสามฺเน วตฺวา สเหตุกาเหตุกาทิวิเสเสน อวุตฺตตฺตา, สรูเปน นิทฺธาเรตฺวา อวุตฺตตฺตาติ อตฺโถ. อวิปากตฺตาติ อวิปากธมฺมตฺตา. ยทิ เอวนฺติ ปจฺจยภาวโต ลพฺภมาโนปิ ธมฺมภาโว อวิปากธมฺมตาย กิริยานํ ยทิ น วุตฺโต, เอวํ สติ. สติปิ ปจฺจยุปฺปนฺนภาเว อวิปากภาวโต อตฺถภาโวปิ น วตฺตพฺโพ. เตนาห ‘‘วิปากา น โหนฺตีติ อตฺถภาโว จ น วตฺตพฺโพ’’ติ. เอวฺเจติ ยทิ ปจฺจยุปฺปนฺนตฺตา กิริยานํ อตฺถภาโว วุตฺโต. นปฺปฏิสิทฺโธ อิจฺฉิโตวาติ ¶ อตฺโถ. ยทิ เอวํ กสฺมา น วุตฺโตติ อาห ‘‘วิปากสฺส ปนา’’ติอาทิ. เตสนฺติ กุสลากุสลานํ, วิปากกิริยธมฺมานฺจ. อตฺถธมฺมตาติ วุตฺตนเยน ลพฺภมาโนปิ ยถากฺกมํ อตฺถภาโว, ธมฺมภาโว จ น วุตฺโต. ปจฺจยภาวํ สตฺติวิเสสํ สนิปฺผาเทตพฺพตนฺติ ปทตฺตเยนาปิ วิปากธมฺมตเมวาห. สา หิ วิปากานํ เหตุภาวโต ปจฺจยภาโว, ตทุปฺปาทนสมตฺถตาย สตฺติวิเสโส, เตหิ สคพฺภา วิย โหตีติ ‘‘สนิปฺผาเทตพฺพตา’’ติ จ วุจฺจติ. ตํ ปสฺสนฺตี นิปฺผาทกวิเสสาปิ นิปฺผาเทตพฺพาเปกฺขา โหติ ธมฺมปฏิสมฺภิทา. ตํสมฺพนฺเธนาติ นิปฺผาเทตพฺพสมฺพนฺเธน. ธมฺมปฏิสมฺภิทํ วทนฺเตน อตฺถปฏิสมฺภิทาปิ วุตฺตา.
สภาวธมฺเม ปฺตฺติ สภาวปฺตฺตีติ อาห ‘‘น สตฺตาทิปฺตฺติยา’’ติ. สภาเวน, นิรุตฺติเยว วา สภาวปฺตฺตีติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อวิปรีตปฺตฺติยา วา’’ติ.
๗๔๖. โวหารภูมึ, อธิคมภูมิฺจ เอกชฺฌํ กตฺวา อาห ‘‘กามาวจรา, โลกุตฺตรา จ ภูมิ ภูมี’’ติ. จิตฺตุปฺปาทา วา ปวตฺติฏฺานภาวโต ภูมิ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๗๔๗. สพฺพาณารมฺมณตายาติ ¶ ปฏิสมฺภิทาปฏิสมฺภิทาาณารมฺมณตาย. ‘‘สุตฺตนฺตภาชนีเย ปน…เป… สิยา’’ติ อิทํ อภิธมฺมภาชนีเยน วิรุชฺฌติ, ตสฺส วา สาวเสสเทสนตา อาปชฺชตีติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘อภิธมฺมภาชนีเย’’ติอาทิ. นิรวเสสกถนนฺติ อเสเสตฺวา กถนํ. เตน จิตฺตุปฺปาทสงฺคหิเต อตฺเถ อเสเสตฺวา เทสนา อิธ อภิธมฺมภาชนียสฺส ภาโร, น สพฺพเยฺยธมฺเมติ ทสฺเสติ. ยถาทสฺสิตวิสยวจนวเสนาติ ทสฺสิตปฺปการวิสยสฺส กถนวเสน, ธมฺมตฺถวเสน ทสฺสิเต ตํตํจิตฺตุปฺปาเท ตตฺถ ธมฺมนิรุตฺตาภิลาเปน าณสฺส กถนวเสนาติ อตฺโถ. อฺารมฺมณตํ น ปฏิเสเธติ อตปฺปรภาวโตติ อธิปฺปาโย. น นิรวเสเสน กถนํ อจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนสฺส วิสยสฺส อกถิตตฺตา. เอวํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาวิสยสฺสาปิ น ¶ นิรวเสเสน กถนนฺติ สุตฺตนฺตภาชนีเย อวิเสสวจเนน สพฺพาณารมฺมณตํเยว ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย ปติฏฺาเปติ. ตถา ติสฺโส ปฏิสมฺภิทาติอาทิปฺหปุจฺฉกปาฬิยาปิ. ติสฺโสติ อตฺถธมฺมปฏิภานปฏิสมฺภิทา. นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา หิ ‘‘ปริตฺตารมฺมณา’’เตว วุตฺตา.
ยทิปิ สิยา น ตสฺสา มหคฺคตารมฺมณตาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘น หิ มคฺโค ปจฺจยุปฺปนฺโน น โหตี’’ติ อิมินา ‘‘อตฺถปฏิสมฺภิทา น มคฺคารมฺมณา’’ติ วจนสฺส ยถาวุตฺตตฺถสาธกตํ วิภาเวติ. ตสฺสาติ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย น มหคฺคตารมฺมณตา สมฺภวติ นนุ นยํ อนุสฺสรนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย. ทฺเวปีติ ‘‘อตฺถปฏิสมฺภิทา น มคฺคารมฺมณา, ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา สิยา ปริตฺตารมฺมณา, สิยา มหคฺคตารมฺมณา, สิยา อปฺปมาณารมฺมณา’’ติ จ ทฺเวปิ เอตา ปาฬิโย. ตาสุ พลวตราย านสฺส, อิตราย อธิปฺปายมคฺคนสฺส จ อุปายทสฺสนมุเขน ตาสํ อฺมฺํ อวิโรธํ ทสฺเสตุํ ‘‘กุสลากุสลานํ ปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘นิปฺปริยายา ตตฺถ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ เอเตน ตตฺถ อตฺถปฏิสมฺภิทาย ปริยายภาวมาห. ตถา วิปากกิริยานนฺติอาทิ ยถาธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส วิสทิสูทาหรณทสฺสนํ. อุภเยนปิ ‘‘อตฺถปฏิสมฺภิทา น มคฺคารมฺมณา’’ติ (วิภ. ๗๔๙) วจนํ สุตฺตนฺตนยานุคตํ นิปฺปริยายตฺถสฺส ตตฺถ อธิปฺเปตตฺตาติ ทีเปติ. กิฺจิ ปน าณนฺติอาทิ ‘‘ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา’’ติอาทิปาฬิยา สมตฺถกํ. ยถาธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส ปฏิภานํ ทีปนํ ปฏิภานํ. เตนาห ‘‘เยฺยปฺปกาสนโต’’ติ. อิติ ยา ‘‘ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา’’ติ ปาฬิ, ตสฺสา พลวภาววิภาวเนน ¶ อิตราย อธิปฺปายมคฺคนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. นิปฺปริยายาติ ปริยายรหิตา อุชุกํ สรูเปเนว ปวตฺตา. นิปฺปริยาย…เป… ปวตฺติยนฺติ เอกนฺติกอตฺถารมฺมณํ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, าณารมฺมณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาติ คเหตฺวา เทสนายํ.
โส เอวาติ ปรสฺส อภิลาปสทฺโท เอว. อนุวตฺตมานตา จสฺส นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปจฺจุปฺปนฺนเมว สทฺทํ อารมฺมณํ กโรนฺตี, สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺติ, อยํ น สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานนฺตีติ จ อาทิวจนวเสน เวทิตพฺโพ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฏิสมฺภิทาวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.