📜

๕. อินฺทฺริยวิภงฺโค

๑. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๒๑๙. จกฺขุทฺวาเรอินฺทฏฺํ กาเรตีติ จกฺขุทฺวารภาเว ตํทฺวาริเกหิ อตฺตโน อินฺทภาวํ ปรมิสฺสรภาวํ การยตีติ อตฺโถ. ตฺหิ เต รูปคฺคหเณ อตฺตานํ อนุวตฺเตติ, เต จ ตํ อนุวตฺตนฺตีติ. เอส นโย อิตเรสุปิ. เยน ตํสมงฺคีปุคฺคโล ตํสมฺปยุตฺตธมฺมา วา อฺาตาวิโน โหนฺติ, โส อฺาตาวิภาโว ปรินิฏฺิตกิจฺจชานนํ.

กตฺถจิ ทฺเวติ ‘‘ทฺวินฺนํ โข, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา ขีณาสโว ภิกฺขุ อฺํ พฺยากโรติ…เป… อริยาย จ ปฺาย อริยาย จ วิมุตฺติยา. ยา หิสฺส, ภิกฺขเว, อริยา ปฺา, ตทสฺส ปฺินฺทฺริยํ. ยา หิสฺส อริยา วิมุตฺติ, ตทสฺส สมาธินฺทฺริย’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๕๑๖) ทฺเว, ‘‘ติณฺณํ โข, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา ปิณฺโฑลภารทฺวาเชน ภิกฺขุนา อฺา พฺยากตา…เป… สตินฺทฺริยสฺส สมาธินฺทฺริยสฺส ปฺินฺทฺริยสฺสา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๙), ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ. กตมานิ ตีณิ? อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ อฺินฺทฺริยํ อฺาตาวินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๙๓), ‘‘ตีณิมานิ…เป… อิตฺถินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๙๒) จ เอวมาทีสุ ตีณิ, ‘‘ปฺจิมานิ, พฺราหฺมณ, อินฺทฺริยานิ นานาวิสยานิ…เป… จกฺขุนฺทฺริยํ…เป… กายินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๒), ‘‘ปฺจิ…เป… สุขินฺทฺริยํ…เป… อุเปกฺขินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๕๐๑ อาทโย), ‘‘ปฺจิ…เป… สทฺธินฺทฺริยํ…เป… ปฺินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๘๖ อาทโย) จ เอวมาทีสุ ปฺจ. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ทุกาทิวจนํ นิสฺสรณุปายาทิภาวโต ทุกาทีนํ. สพฺพานิ ปน อินฺทฺริยานิ อภิฺเยฺยานิ, อภิฺเยฺยธมฺมเทสนา จ อภิธมฺโมติ อิธ สพฺพานิ เอกโต วุตฺตานิ.

ขีณาสวสฺส ภาวภูโต หุตฺวา อุปฺปตฺติโต ‘‘ขีณาสวสฺเสว อุปฺปชฺชนโต’’ติ วุตฺตํ.

ลิงฺเคติ คเมติ าเปตีติ ลิงฺคํ, ลิงฺคียติ วา เอเตนาติ ลิงฺคํ, กึ ลิงฺเคติ, กิฺจ วา ลิงฺคียตีติ? อินฺทํ อินฺโท วา, อินฺทสฺส ลิงฺคํ อินฺทลิงฺคํ, อินฺทลิงฺคสฺส อตฺโถ ตํสภาโว อินฺทลิงฺคฏฺโ, อินฺทลิงฺคเมว วา อินฺทฺริย-สทฺทสฺส อตฺโถ อินฺทลิงฺคฏฺโ. สชฺชิตํ อุปฺปาทิตนฺติ สิฏฺํ, อินฺเทน สิฏฺํ อินฺทสิฏฺํ. ชุฏฺํ เสวิตํ. กมฺมสงฺขาตสฺส อินฺทสฺส ลิงฺคานิ, เตน จ สิฏฺานีติ กมฺมชาเนว โยเชตพฺพานิ, น อฺานิ. เต จ ทฺเว อตฺถา กมฺเม เอว โยเชตพฺพา, อิตเร จ ภควติ เอวาติ ‘‘ยถาโยค’’นฺติ อาห. เตนาติ ภควโต กมฺมสฺส จ อินฺทตฺตา. เอตฺถาติ เอเตสุ อินฺทฺริเยสุ. อุลฺลิงฺเคนฺติ ปกาเสนฺติ ผลสมฺปตฺติวิปตฺตีหิ การณสมฺปตฺติวิปตฺติอวโพธโต. ‘‘โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๙.๓๕) โคจรกรณมฺปิ อาเสวนาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘กานิจิ โคจราเสวนายา’’ติ. ตตฺถ สพฺเพสํ โคจรีกาตพฺพตฺเตปิ ‘‘กานิจี’’ติ วจนํ อวิปสฺสิตพฺพานํ พหุลีมนสิกรเณน อนาเสวนียตฺตา. ปจฺจเวกฺขณามตฺตเมว หิ เตสุ โหตีติ. ‘‘ตสฺส ตํ มคฺคํ อาเสวโต’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๗๐) ภาวนา ‘‘อาเสวนา’’ติ วุตฺตาติ ภาเวตพฺพานิ สทฺธาทีนิ สนฺธายาห ‘‘กานิจิ ภาวนาเสวนายา’’ติ. อาธิปจฺจํ อินฺทฺริยปจฺจยภาโว, อสติ จ อินฺทฺริยปจฺจยภาเว อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานํ อตฺตโน ปจฺจยวเสน ปวตฺตมาเนหิ ตํสหิตสนฺตาเน อฺากาเรน อนุปฺปชฺชมาเนหิ ลิงฺคาทีหิ อนุวตฺตนียภาโว, อิมสฺมิฺจตฺเถ อินฺทนฺติ ปรมิสฺสริยํ กโรนฺติจฺเจว อินฺทฺริยานิ. จกฺขาทีสุ ทสฺสิเตน นเยน อฺเสฺจ ตทนุวตฺตีสุ อาธิปจฺจํ ยถารหํ โยเชตพฺพํ.

เหฏฺาติ อฏฺสาลินิยํ. อโมโห เอว, น วิสุํ จตฺตาโร ธมฺมา, ตสฺมา อโมหสฺส ปฺินฺทฺริยปเท วิภาวิตานิ ลกฺขณาทีนิ เตสฺจ เวทิตพฺพานีติ อธิปฺปาโย. เสสานิ อฏฺสาลินิยํ ลกฺขณาทีหิ สรูเปเนว อาคตานิ. นนุ จ สุขินฺทฺริยทุกฺขินฺทฺริยานํ ตตฺถ ลกฺขณาทีนิ น วุตฺตานีติ? กิฺจาปิ น วุตฺตานิ, โสมนสฺสโทมนสฺสินฺทฺริยานํ ปน วุตฺตลกฺขณาทิวเสน วิฺเยฺยโต เอเตสมฺปิ วุตฺตาเนว โหนฺติ. กถํ? อิฏฺโผฏฺพฺพานุภวนลกฺขณํ สุขินฺทฺริยํ, อิฏฺาการสมฺโภครสํ, กายิกสฺสาทปจฺจุปฏฺานํ, กายินฺทฺริยปทฏฺานํ . อนิฏฺโผฏฺพฺพานุภวนลกฺขณํ ทุกฺขินฺทฺริยํ, อนิฏฺาการสมฺโภครสํ, กายิกาพาธปจฺจุปฏฺานํ, กายินฺทฺริยปทฏฺานนฺติ. เอตฺถ จ อิฏฺานิฏฺาการานเมว อารมฺมณานํ สมฺโภครสตา เวทิตพฺพา, น วิปรีเตปิ อิฏฺากาเรน อนิฏฺากาเรน จ สมฺโภครสตาติ.

สตฺตานํ อริยภูมิปฏิลาโภ ภควโต เทสนาย สาธารณํ ปธานฺจ ปโยชนนฺติ อาห ‘‘อชฺฌตฺตธมฺมํ ปริฺายา’’ติอาทิ. อฏฺกถายํ อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานนฺตรํ ชีวิตินฺทฺริยเทสนกฺกโม วุตฺโต, โส อินฺทฺริยยมกเทสนาย สเมติ. อิธ ปน อินฺทฺริยวิภงฺเค มนินฺทฺริยานนฺตรํ ชีวิตินฺทฺริยํ วุตฺตํ, ตํ ปุริมปจฺฉิมานํ อชฺฌตฺติกพาหิรานํ อนุปาลกตฺเตน เตสํ มชฺเฌ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยฺจ กิฺจิ เวทยิตํ, สพฺพํ ตํ ทุกฺขํ. ยาว จ ทุวิธตฺตภาวานุปาลกสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปวตฺติ, ตาว ทุกฺขภูตานํ เอเตสํ เวทยิตานํ อนิวตฺตีติ าปนตฺถํ. เตน จ จกฺขาทีนํ ทุกฺขานุพนฺธตาย ปริฺเยฺยตํ าเปติ. ตโต อนนฺตรํ ภาเวตพฺพตฺตาติ ภาวนามคฺคสมฺปยุตฺตํ อฺินฺทฺริยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทสฺสนานนฺตรา หิ ภาวนาติ.

สติปิ ปุเรชาตาทิปจฺจยภาเว อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน สาเธตพฺพเมว กิจฺจํ ‘‘กิจฺจ’’นฺติ อาห ตสฺส อนฺสาธารณตฺตา อินฺทฺริยกถาย จ ปวตฺตตฺตา. ปุพฺพงฺคมภาเวน มนินฺทฺริยสฺส วสวตฺตาปนํ โหติ, นาฺเสํ. ตํสมฺปยุตฺตานิปิ หิ อินฺทฺริยานิ สาเธตพฺพภูตาเนว อตฺตโน อตฺตโน อินฺทฺริยกิจฺจํ สาเธนฺติ เจตสิกตฺตาติ. ‘‘สพฺพตฺถ จ อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน สาเธตพฺพ’’นฺติ อยํ อธิกาโร อนุวตฺตตีติ ทฏฺพฺโพ. อนุปฺปาทเน อนุปตฺถมฺเภ จ ตปฺปจฺจยานํ ตปฺปวตฺตเน นิมิตฺตภาโว อนุวิธานํ. ฉาเทตฺวา ผริตฺวา อุปฺปชฺชมานา สุขทุกฺขเวทนา สหชาเต อภิภวิตฺวา สยเมว ปากฏา โหติ, สหชาตา จ ตพฺพเสน สุขทุกฺขภาวปฺปตฺตา วิยาติ อาห ‘‘ยถาสกํ โอฬาริกาการานุปาปน’’นฺติ. อสนฺตสฺส อปณีตสฺสปิ อกุสลตพฺพิปากาทิสมฺปยุตฺตสฺส มชฺฌตฺตาการานุปาปนํ โยเชตพฺพํ, สมานชาติยํ วา สุขทุกฺเขหิ สนฺตปณีตาการานุปาปนฺจ. ปสนฺนปคฺคหิตอุปฏฺิตสมาหิตทสฺสนาการานุปาปนํ ยถากฺกมํ สทฺธาทีนํ. อาทิ-สทฺเทน อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ คหิตานิ, มคฺคสมฺปยุตฺตสฺเสว จ อินฺทฺริยสฺส กิจฺจํ ทสฺสิตํ, เตเนว ผลสมฺปยุตฺตสฺส ตํตํสํโยชนานํเยว ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานกิจฺจตา ทสฺสิตา โหตีติ. สพฺพกตกิจฺจํ อฺาตาวินฺทฺริยํ อฺสฺส กาตพฺพสฺส อภาวา อมตาภิมุขเมว ตพฺภาวปจฺจโย จ โหติ, น อิตรานิ วิย กิจฺจนฺตรปสุตฺจ. เตนาห ‘‘อมตาภิมุขภาวปจฺจยตา จา’’ติ.

๒๒๐. เอวํสนฺเตปีติ สติปิ สพฺพสงฺคาหกตฺเต วีริยินฺทฺริยปทาทีหิ สงฺคเหตพฺพานิ กุสลากุสลวีริยาทีนิ, จกฺขุนฺทฺริยปทาทีหิ สงฺคเหตพฺพานิ กาลปุคฺคลปจฺจยาทิเภเทน ภินฺนานิ จกฺขาทีนิ สงฺคณฺหนฺติจฺเจว สพฺพสงฺคาหกานิ, น ยสฺสา ภูมิยา ยานิ น วิชฺชนฺติ, เตสํ สงฺคาหกตฺตาติ อตฺโถ. เตน จ อวิเสสิตตฺตา สพฺเพสํ สพฺพภูมิกตฺตคหณปฺปสงฺเค ตํนิวตฺตเนน สพฺพสงฺคาหกวจนํ อวิชฺชมานสฺส สงฺคาหกตฺตทีปกํ น โหตีติ ทสฺเสติ.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

๒๒๓. อิธ อนาภฏฺนฺติ เอกนฺตานารมฺมณตฺเตน ภาสิตํ. ‘‘รูปมิสฺสกตฺตา อนารมฺมเณสุ รูปธมฺเมสุ สงฺคหิต’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ มิสฺสกตฺตา เอว ชีวิตินฺทฺริยํ อนารมฺมเณสุ อสงฺคหิตํ. น หิ อฏฺินฺทฺริยา อนารมฺมณาติ วุตฺตาติ? สจฺจเมตํ, ชีวิตินฺทฺริยเอกเทสสฺส ปน อนารมฺมเณสุ รูปธมฺเมสุ สงฺคหิตตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, อรูปโกฏฺาเสน ปริตฺตารมฺมณาทิตา อตฺถีติ สิยาปกฺเข สงฺคหิตนฺติ อธิปฺปาโย. อรูปโกฏฺาเสน ปน ปริตฺตารมฺมณาทิตา, รูปโกฏฺาเสน จ นวตฺตพฺพตา อตฺถีติ มิสฺสกสฺส สมุทายสฺเสว วเสน สิยาปกฺเข สงฺคหิตํ, น เอกเทสวเสนาติ ทฏฺพฺพํ. น หิ อนารมฺมณํ ปริตฺตารมฺมณาทิภาเวน นวตฺตพฺพํ น โหตีติ. ‘‘รูปฺจ นิพฺพานฺจ อนารมฺมณา, สตฺตินฺทฺริยา อนารมฺมณา’’ติอาทิวจนฺจ อวิชฺชมานารมฺมณานารมฺมเณสุ นวตฺตพฺเพสุ อนารมฺมณตฺตา นวตฺตพฺพตํ ทสฺเสติ, น สารมฺมณสฺเสว นวตฺตพฺพตํ, นวตฺตพฺพสฺส วา สารมฺมณตํ. น หิ นวตฺตพฺพ-สทฺโท สารมฺมเณ นิรุฬฺโห. ยทิปิ สิยา, ‘‘ติสฺโส จ เวทนา รูปฺจ นิพฺพานฺจ อิเม ธมฺมา นวตฺตพฺพา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา’’ติอาทิ น วุจฺเจยฺย, อถาปิ ปริตฺตารมฺมณาทิสมฺพนฺโธ นวตฺตพฺพ-สทฺโท สารมฺมเณสฺเวว วตฺตติ, ‘‘ทฺวายตนา สิยา ปริตฺตารมฺมณา’’ติอาทึ อวตฺวา ‘‘มนายตนํ สิยา ปริตฺตารมฺมณํ…เป… อปฺปมาณารมฺมณ’’นฺติปิ, ‘‘ธมฺมายตนํ สิยา ปริตฺตารมฺมณํ…เป… อปฺปมาณารมฺมณ’’นฺติปิ, ‘‘สิยา อนารมฺมณ’’นฺติปิ วตฺตพฺพํ สิยา. น หิ ปฺหปุจฺฉเก สาวเสสา เทสนา อตฺถีติ . ‘‘อฏฺินฺทฺริยา สิยา อชฺฌตฺตารมฺมณา’’ติ เอตฺถ จ ชีวิตินฺทฺริยสฺส อากิฺจฺายตนกาเล อรูปสฺส รูปสฺส จ อนารมฺมณตฺตา นวตฺตพฺพตา เวทิตพฺพา.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

อินฺทฺริยวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.