📜

๗. สติปฏฺานวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ

อุทฺเทสวารวณฺณนา

๓๕๕. ตโยสติปฏฺานาติ สติปฏฺาน-สทฺทสฺส อตฺถุทฺธารํ กโรติ, น อิธ ปาฬิยํ วุตฺตสฺส สติปฏฺาน-สทฺทสฺส อตฺถทสฺสนํ. อาทีสุ หิ สติโคจโรติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ผสฺสสมุทยา เวทนานํ สมุทโย, นามรูปสมุทยา จิตฺตสฺส สมุทโย, มนสิการสมุทยา ธมฺมานํ สมุทโย’’ติ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) สติปฏฺานนฺติ วุตฺตานํ สติโคจรานํ ทีปเก สุตฺตปฺปเทเส สงฺคณฺหาติ. เอวํ ปฏิสมฺภิทาปาฬิยมฺปิ อวเสสปาฬิปฺปเทสทสฺสนตฺโถ อาทิ-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. ทานาทีนิปิ กโรนฺตสฺส รูปาทีนิ กสิณาทีนิ จ สติยา านํ โหตีติ ตํนิวารณตฺถมาห ‘‘ปธานํ าน’’นฺติ. -สทฺโท หิ ปธานตฺถทีปโกติ อธิปฺปาโย.

อริโยติ อริยํ เสฏฺํ สมฺมาสมฺพุทฺธมาห. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สฬายตนวิภงฺคสุตฺเตติ อตฺโถ. สุตฺเตกเทเสน หิ สุตฺตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ หิ –

‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย…เป… อรหตีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย ‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ สติปฏฺานํ. ยทริโย…เป… อรหติ.

‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขเว สตฺถา…เป… อิทํ โว สุขายาติ. ตสฺส เอกจฺเจ สาวกา น สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. เอกจฺเจ สาวกา สุสฺสูสนฺติ …เป… น จ โวกฺกมฺม สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อตฺตมโน โหติ, น จ อตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ. น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ. อตฺตมนตฺจ อนตฺตมนตฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ…เป….

‘‘ปุน จปรํ…เป… สุขายาติ. ตสฺส สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตฺตมโน เจว โหติ, อตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติย’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๓๑๑) –

เอวํ ปฏิฆานุนเยหิ อนวสฺสุตตา, นิจฺจํ อุปฏฺิตสติตา, ตทุภยวีติวตฺตตา สติปฏฺานนฺติ วุตฺตา. พุทฺธานเมว กิร นิจฺจํ อุปฏฺิตสติตา โหติ, น ปจฺเจกพุทฺธาทีนนฺติ.

-สทฺโท อารมฺภํ โชเตติ, อารมฺโภ จ ปวตฺตีติ กตฺวา อาห ‘‘ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ’’ติ. สติยา กรณภูตาย ปฏฺานํ ปฏฺาเปตพฺพํ สติปฏฺานํ. อน-สทฺทฺหิ พหุลํ-วจเนน กมฺมตฺถํ อิจฺฉนฺติ สทฺทวิทู, ตเถว กตฺตุอตฺถมฺปิ อิจฺฉนฺตีติ ปุน ตติยนเย ‘‘ปติฏฺาตีติ ปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ -สทฺโท ภุสตฺถํ ปกฺขนฺทนํ ทีเปตีติ ‘‘โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา วตฺตตีติ อตฺโถ’’ติ อาห. ปุน ภาวตฺเถ สติ-สทฺทํ ปฏฺาน-สทฺทฺจ วณฺเณนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. เตน ปุริมตฺเถ สติ-สทฺโท ปฏฺาน-สทฺโท จ กตฺตุอตฺโถติ วิฺายติ.

วิเสเสน กาโย จ เวทนา จ อสฺสาทสฺส การณนฺติ ตปฺปหานตฺถํ เตสํ ตณฺหาวตฺถูนํ โอฬาริกสุขุมานํ อสุภทุกฺขตาทสฺสนานิ มนฺทติกฺขปฺเหิ ตณฺหาจริเตหิ สุกรานีติ ตานิ เตสํ วิสุทฺธิมคฺโคติ วุตฺตานิ, เอวํ ทิฏฺิยา วิเสสการเณสุ จิตฺตธมฺเมสุ อนิจฺจานตฺตตาทสฺสนานิ นาติปเภทาติปเภทคเตสุ เตสุ ตปฺปหานตฺถํ มนฺทติกฺขานํ ทิฏฺิจริตานํ สุกรานีติ เตสํ ตานิ วิสุทฺธิมคฺโคติ. ติกฺโข สมถยานิโก โอฬาริการมฺมณํ ปริคฺคณฺหนฺโต ตตฺถ อฏฺตฺวา ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย เวทนํ ปริคฺคณฺหาตีติ อาห ‘‘โอฬาริการมฺมเณ อสณฺหนโต’’ติ. วิปสฺสนายานิกสฺส สุขุเม จิตฺเต ธมฺเมสุ จ จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ ตทนุปสฺสนานํ ตํวิสุทฺธิมคฺคตา วุตฺตา.

เตสํ ตตฺถาติ เอตฺถ ตตฺถ-สทฺทสฺส ปหานตฺถนฺติ เอเตน โยชนา. ปฺจ กามคุณา สวิเสสา กาเย ลพฺภนฺตีติ วิเสเสน กาโย กาโมฆสฺส วตฺถุ, ภเว สุขคฺคหณวเสน ภวสฺสาโท โหตีติ ภโวฆสฺส เวทนา, สนฺตติฆนคฺคหณวเสน จิตฺเต อตฺตาภินิเวโส โหตีติ ทิฏฺโฆสฺส จิตฺตํ, ธมฺมวินิพฺโภคสฺส ธมฺมานํ ธมฺมมตฺตตาย จ ทุปฺปฏิวิชฺฌตฺตา สมฺโมโห โหตีติ อวิชฺโชฆสฺส ธมฺมา, ตสฺมา เตสุ เตสํ ปหานตฺถํ จตฺตาโรว วุตฺตา, ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสตีติ ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขภูตา เวทนา วิเสเสน พฺยาปาทกายคนฺถสฺส วตฺถุ, จิตฺเต นิจฺจคฺคหณวเสน สสฺสตสฺส อตฺตโน สีเลน สุทฺธีติอาทิปรามสนํ โหตีติ สีลพฺพตปรามาสสฺส จิตฺตํ, นามรูปปริจฺเฉเทน ภูตํ ภูตโต อปสฺสนฺตสฺส ภววิภวทิฏฺิสงฺขาโต อิทํสจฺจาภินิเวโส โหตีติ ตสฺส ธมฺมา…เป… สุขเวทนาสฺสาทวเสน ปรโลกนิรเปกฺโข ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิปรามาสํ อุปฺปาเทตีติ ทิฏฺุปาทานสฺส เวทนา. สนฺตติฆนคฺคหณวเสน สราคาทิจิตฺเต สมฺโมโห โหตีติ โมหาคติยา จิตฺตํ, ธมฺมสภาวานวโพเธน ภยํ โหตีติ ภยาคติยา ธมฺมา…เป… อวุตฺตานํ วุตฺตนเยน วตฺถุภาโว โยเชตพฺโพ.

‘‘อาหารสมุทยา กายสมุทโย, ผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโย (สํ. นิ. ๕.๔๐๘), สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑; อุทา. ๑) วจนโต กายาทีนํ สมุทยภูตา กพฬีการาหารผสฺสมโนสฺเจตนาวิฺาณาหารา กายาทิปริชานเนน ปริฺาตา โหนฺตีติ อาห ‘‘จตุพฺพิธาหารปริฺตฺถ’’นฺติ. ปกรณนโยติ ตมฺพปณฺณิภาสาย วณฺณนานโย. เนตฺติเปฏกปฺปกรเณ ธมฺมกถิกานํ โยชนานโยติปิ วทนฺติ.

สรณวเสนาติ กายาทีนํ กุสลาทิธมฺมานฺจ ธารณตาวเสน. สรนฺติ คจฺฉนฺติ เอตายาติ สตีติ อิมสฺมึ อตฺเถ เอกตฺเต นิพฺพาเน สมาคโม เอกตฺตสโมสรณํ. เอตเทว หิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. เอกนิพฺพานปฺปเวสเหตุภูโต วา สมานตาย เอโก สติปฏฺานสภาโว เอกตฺตํ, ตตฺถ สโมสรณํ ตํสภาคตา เอกตฺตสโมสรณํ. เอกนิพฺพานปฺปเวสเหตุภาวํ ปน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. เอตสฺมึ อตฺเถ สรเณกตฺตสโมสรณานิ สห สติปฏฺาเนกภาวสฺส การณตฺเตน วุตฺตานีติ ทฏฺพฺพานิ, ปุริมสฺมึ วิสุํ. สรณวเสนาติ วา คมนวเสนาติ อตฺเถ สติ ตเทว คมนํ สโมสรณนฺติ สโมสรเณ วา สติ-สทฺทตฺถวเสน อวุจฺจมาเน ธารณตาว สตีติ สติ-สทฺทตฺถนฺตราภาวา ปุริมํ สติภาวสฺส การณํ, ปจฺฉิมํ เอกภาวสฺสาติ นิพฺพานสโมสรเณปิ สหิตาเนว ตานิ สติปฏฺาเนกภาวสฺส การณานิ.

จุทฺทสวิเธนาติ อิทํ มหาสติปฏฺานสุตฺเต (ที. นิ. ๒.๓๗๒ อาทโย; ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย) วุตฺตานํ อานาปานปพฺพาทีนํ วเสน. ตถา ปฺจวิเธน ธมฺมานุปสฺสนนฺติ เอตฺถาปิ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ อุฏฺานกภณฺฑสทิสตา ตํตํสติปฏฺานภาวนานุภาวสฺส ทฏฺพฺพา. ภิกฺขุโคจรา หิ เอเต. วุตฺตฺหิ ‘‘โคจเร, ภิกฺขเว, จรถ สเก เปตฺติเก วิสเย’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๓๗๒; ที. นิ. ๓.๘๐).

กายานุปสฺสนาทิปฏิปตฺติยา ภิกฺขุ โหตีติ ภิกฺขุํ ‘‘กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทินา ทสฺเสติ ภิกฺขุมฺหิ ตํนิยมโต. เตนาห ‘‘ปฏิปตฺติยา วา ภิกฺขุภาวทสฺสนโต’’ติ.

สมํ จเรยฺยาติ กายาทิวิสมจริยํ ปหาย กายาทีหิ สมํ จเรยฺย. ราคาทิวูปสเมน สนฺโต, อินฺทฺริยทมเนน ทนฺโต, จตุมคฺคนิยเมน นิยโต, เสฏฺจาริตาย พฺรหฺมจารี. กายทณฺฑาทิโอโรปเนน นิธาย ทณฺฑํ. โส เอวรูโป พาหิตปาปสมิตปาปภินฺนกิเลสตาหิ พฺราหฺมณาทิสมฺโ เวทิตพฺโพ.

กายานุปสฺสนาอุทฺเทสวณฺณนา

อสมฺมิสฺสโตติ เวทนาทโยปิ เอตฺถ สิตา, เอตฺถ ปฏิพทฺธาติ กาเย เวทนาทิอนุปสฺสนาปสงฺเคปิ อาปนฺเน ตทมิสฺสโตติ อตฺโถ. อวยวีคาหสมฺาติธาวนสาราทานาภินิเวสนิเสธนตฺถํ กายํ องฺคปจฺจงฺเคหิ, ตานิ จ เกสาทีหิ, เกสาทิเก จ ภูตุปาทายรูเปหิ วินิพฺภุชฺชนฺโต ‘‘ตถา น กาเย’’ติอาทิมาห. ปาสาทาทินคราวยวสมูเห อวยวีวาทิโนปิ อวยวีคาหํ น กโรนฺติ. นครํ นาม โกจิ อตฺโถ อตฺถีติ ปน เกสฺจิ สมฺาติธาวนํ สิยาติ อิตฺถิปุริสาทิสมฺาติธาวเน นครนิทสฺสนํ วุตฺตํ.

ยํ ปสฺสติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา, นนุ จกฺขุนา อิตฺถิปุริสทสฺสนํ นตฺถีติ? สจฺจํ นตฺถิ, ‘‘อิตฺถึ ปสฺสามิ, ปุริสํ ปสฺสามี’’ติ ปน ปวตฺตสฺาย วเสน ‘‘ยํ ปสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. มิจฺฉาทสฺสเน วา ทิฏฺิยา ยํ ปสฺสติ, น ตํ ทิฏฺํ, ตํ รูปายตนํ น โหติ, รูปายตนํ วา ตํ น โหตีติ อตฺโถ. อถ วา ตํ เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ ทิฏฺํ น โหติ, ทิฏฺํ วา ยถาวุตฺตํ น โหตีติ อตฺโถ. ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสตีติ ยํ รูปายตนํ, เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ วา ทิฏฺํ, ตํ ปฺาจกฺขุนา ภูตโต น ปสฺสตีติ อตฺโถ.

น อฺธมฺมานุปสฺสีติ น อฺสภาวานุปสฺสี, อสุภาทิโต อฺาการานุปสฺสี น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ปถวีกายนฺติ เกสาทิปถวึ ธมฺมสมูหตฺตา กาโยติ วทติ, ลกฺขณปถวิเมว วา อเนกปฺปเภทสกลสรีรคตํ ปุพฺพาปริยภาเวน ปวตฺตมานํ สมูหวเสน คเหตฺวา กาโยติ วทติ, เอวํ อฺตฺถาปิ.

อชฺฌตฺตพหิทฺธาติ อชฺฌตฺตพหิทฺธาธมฺมานํ ฆฏิตารมฺมณํ เอกโต อารมฺมณภาโว นตฺถีติ อตฺโถ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา ธมฺมา วา ฆฏิตารมฺมณํ อิทํ นตฺถีติ อตฺโถ. ตีสุ ภเวสุ กิเลสานนฺติ ภวตฺตยวิสยานํ กิเลสานนฺติ อตฺโถ.

สพฺพตฺถิกนฺติ สพฺพตฺถ ภวํ. สพฺพสฺมึ ลีเน อุทฺธเฏ จ จิตฺเต อิจฺฉิตพฺพตฺตา, สพฺเพ วา ลีเน อุทฺธเฏ จ ภาเวตพฺพา โพชฺฌงฺคา อตฺถิกา เอตายาติ สพฺพตฺถิกา. อนฺโตสงฺเขโปติ อนฺโตโอลียนา โกสชฺชนฺติ อตฺโถ.

อวิเสเสน ทฺวีหิปิ นีวรณปฺปหานํ วุตฺตนฺติ กตฺวา ปุน เอเกเกน วุตฺตปฺปหานวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสเสนา’’ติ อาห, ‘‘วิเนยฺย นีวรณานี’’ติ อวตฺวา อภิชฺฌาโทมนสฺสวินยสฺส วา ปโยชนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิเสเสนา’’ติอาทิมาห. กายานุปสฺสนาภาวนาย อุชุวิปจฺจนีกานํ อนุโรธวิโรธาทีนํ ปหานทสฺสนฺหิ เอตสฺส ปโยชนนฺติ. กายภาวนายาติ กายานุปสฺสนาภาวนา อธิปฺเปตา. เตนาติ อนุโรธาทิปฺปหานวจเนน.

สพฺพตฺถิกกมฺมฏฺานํ พุทฺธานุสฺสติ เมตฺตา มรณสฺสติ อสุภภาวนา จ. สติสมฺปชฺเน เอเตน โยคินา ปริหริยมานํ ตํ สพฺพตฺถิกกมฺมฏฺานํ วุตฺตํ สติสมฺปชฺพเลน อวิจฺฉินฺนสฺส ตสฺส ปริหริตพฺพตฺตา, สติยา วา สมโถ วุตฺโต สมาธิกฺขนฺธสงฺคหิตตฺตา.

กายานุปสฺสนาอุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

เวทนานุปสฺสนาทิอุทฺเทสวณฺณนา

เกวลํ ปนิธาติอาทินา อิธ เอตฺตกํ เวทิตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. อทฺทมทกฺขีติ ทฺเวปิ เอกตฺถา. สมฺมทฺทโสติ สมฺมา ปสฺสโก.

สุขทุกฺขโตปิ จาติ สุขาทีนํ ิติวิปริณามาณสุขตาย, วิปริณามฏฺิติอฺาณทุกฺขตาย จ วุตฺตตฺตา ติสฺโสปิ จ สุขโต ติสฺโสปิ จ ทุกฺขโต อนุปสฺสิตพฺพาติ อตฺโถ.

รูปาทิอารมฺมณฉนฺทาทิอธิปติาณาทิสหชาตกามาวจราทิภูมินานตฺตเภทานํ กุสลากุสลตพฺพิปากกิริยานานตฺตเภทสฺส จ อาทิ-สทฺเทน สสงฺขาริกาสงฺขาริกสวตฺถุกาวตฺถุกาทินานตฺตเภทานฺจ วเสนาติ โยเชตพฺพํ. สุฺตาธมฺมสฺสาติ ‘‘ธมฺมา โหนฺติ, ขนฺธา โหนฺตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๑) สุฺตาวาเร อาคตสุฺตาสภาวสฺส วเสน. กามฺเจตฺถาติอาทินา ปุพฺเพ ปหีนตฺตา ปุน ปหานํ น วตฺตพฺพนฺติ โจทนํ ทสฺเสติ, มคฺคจิตฺตกฺขเณ วา เอกตฺถ ปหีนํ สพฺพตฺถ ปหีนํ โหตีติ วิสุํ วิสุํ น วตฺตพฺพนฺติ. ตตฺถ ปุริมโจทนาย นานาปุคฺคลปริหาโร, ปจฺฉิมาย นานาจิตฺตกฺขณิกปริหาโร. โลกิยภาวนาย หิ กาเย ปหีนํ น เวทนาทีสุ วิกฺขมฺภิตํ โหติ. ยทิปิ น ปวตฺเตยฺย, น ปฏิปกฺขภาวนาย ตตฺถ สา อภิชฺฌาโทมนสฺสสฺส อปฺปวตฺติ โหตีติ ปุน ตปฺปหานํ วตฺตพฺพเมวาติ. อุภยตฺถ วา อุภยํ สมฺภวโต โยเชตพฺพํ. เอกตฺถ ปหีนํเสเสสุปิ ปหีนํ โหตีติ มคฺคสติปฏฺานภาวนํ, โลกิยภาวนาย วา สพฺพตฺถ อปฺปวตฺติมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ปฺจปิ ขนฺธา โลโก’’ติ หิ จตูสุปิ วุตฺตนฺติ.

เวทนานุปสฺสนาทิอุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

กายานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา

๓๕๖. สพฺพปฺปการวจเนน อุทฺเทเส ทสฺสิตา อชฺฌตฺตาทิอนุปสฺสนา ปการา จ คหิตา. ตตฺถ อนฺโตคธา จุทฺทส ปการา, กายคตาสติสุตฺเต วุตฺตา เกสาทิวณฺณกสิณารมฺมณจตุกฺกชฺฌานปฺปการา, โลกิยาทิปฺปการา จาติ เตปิ คหิตา เอว. นิทฺเทเส หิ เอกปฺปการนิทฺเทเสน นิทสฺสนมตฺตํ กตนฺติ, สพฺพปฺปการคฺคหณฺจ พาหิเรสุปิ เอกเทสสมฺภวโต กตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

ติริยํ ตจปริจฺฉินฺนนฺติ เอตฺถ นนุ เกสโลมนขานํ อตจปริจฺฉินฺนตา ตจสฺส จ อตฺถีติ? ยทิปิ อตฺถิ, ตจปริจฺฉินฺนพหุลตาย ปน ตจปริจฺฉินฺนตา น น โหติ กายสฺสาติ เอวํ วุตฺตํ. ตโจ ปริยนฺโต อสฺสาติ ตจปริยนฺโตติ วุตฺโตติ เอเตน ปน วจเนน กาเยกเทสภูโต ตโจ คหิโต เอว. ตปฺปฏิพทฺธา จ เกสาทโย ตทนุปวิฏฺมูลา ตจปริยนฺตาว โหนฺตีติ ทฺวตฺตึสาการสมูโห สพฺโพปิ กาโย ตจปริยนฺโตติ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

‘‘ปูรํ นานปฺปการสฺสา’’ติ วุตฺตํ, เก ปน เต ปการา? เยหิ นานปฺปการํ อสุจิ วุตฺตนฺติ เกสา โลมาติอาทิ วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ ทีเปนฺโต อาห ‘‘เอเต เกสาทโย อาการา’’ติ. อาการา ปการาติ หิ เอโก อตฺโถ.

นิสินฺนสฺส ยาว อปริปฺผนฺทนิสชฺชามูลกํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ยาวตา อุฏฺาติ วา, ตาว เอโก นิสชฺชวาโร. เยน วิธินา อุคฺคเห กุสโล โหติ, โส สตฺตวิโธ วิธิ ‘‘อุคฺคหโกสลฺล’’นฺติ วุจฺจติ, ตํนิพฺพตฺตํ วา าณํ.

ปถวีธาตุพหุลภาวโต มตฺถลุงฺคสฺส กรีสาวสาเน ตนฺติอาโรปนมาห. เอตฺถ ปน มํสํ…เป… วกฺกํ…เป… เกสาติ เอวํ วกฺกปฺจกาทีสุ อนุโลมสชฺฌายํ วตฺวา ปฏิโลมสชฺฌาโย ปุริเมหิ สมฺพนฺโธ วุตฺโต. สฺวายํ เย ปรโต วิสุํ ติปฺจาหํ, ปุริเมหิ เอกโต ติปฺจาหนฺติ ฉปฺจาหํ สชฺฌายา วกฺขมานา, เตสุ อาทิอนฺตทสฺสนวเสน วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. อนุโลมปฏิโลมสชฺฌาเยปิ หิ ปฏิโลมสชฺฌาโย อนฺติโมติ. สชฺฌายปฺปการนฺตรํ วา เอตมฺปีติ เวทิตพฺพํ. หตฺถสงฺขลิกา องฺคุลิปนฺติ. ลกฺขณปฏิเวธสฺสาติ อสุภลกฺขณปฏิเวธสฺส, ธาตุลกฺขณปฏิเวธสฺส วา.

อตฺตโน ภาโค สภาโค, สภาเคน ปริจฺเฉโท สภาคปริจฺเฉโท, เหฏฺุปริติริยนฺเตหิ สกโกฏฺาสิกเกสนฺตราทีหิ จ ปริจฺเฉโทติ อตฺโถ.

ธาตุวิภงฺโค (ม. นิ. ๓.๓๔๒ อาทโย) ปุกฺกุสาติสุตฺตํ. สาธารณวเสนาติ เอตฺตเกเนว สิทฺเธ สพฺพ-คฺคหณํ วณฺณกสิณวเสน จตุกฺกชฺฌานิกสมถสาธารณตฺตสฺส จ ทสฺสนตฺถํ.

โอกฺกมนวิสฺสชฺชนนฺติ ปฏิปชฺชิตพฺพวชฺเชตพฺเพ มคฺเคติ อตฺโถ. พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณติ เอตฺถ กายานุปสฺสนํ หิตฺวา สุภาทิวเสน คยฺหมานา เกสาทโยปิ พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมณาเนวาติ เวทิตพฺพา. อุกฺกุฏฺุกฺกฏฺิฏฺาเนเยว อุฏฺหิตฺวาติ ปุพฺเพ วิย เอกตฺถ กตาย อุกฺกุฏฺิยา กเมน สพฺพตาเลสุ ปติตฺวา อุฏฺหิตฺวา ปริยนฺตตาลํ อาทิตาลฺจ อคนฺตฺวา ตโต ตโต ตตฺถ ตตฺเถว กตาย อุกฺกุฏฺิยา อุฏฺหิตฺวาติ อตฺโถ.

อธิจิตฺตนฺติ สมถวิปสฺสนาจิตฺตํ. อนุยุตฺเตนาติ ยุตฺตปยุตฺเตน, ภาเวนฺเตนาติ อตฺโถ. สมาธินิมิตฺตํ อุปลกฺขณากาโร สมาธิเยว. มนสิ กาตพฺพนฺติ จิตฺเต กาตพฺพํ, อุปฺปาเทตพฺพนฺติ อตฺโถ. สมาธิการณํ วา อารมฺมณํ สมาธินิมิตฺตํ อาวชฺชิตพฺพนฺติ อตฺโถ. านํ อตฺถีติ วจนเสโส, ตํ จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺย, เอตสฺส สํวตฺตนสฺส การณํ อตฺถีติ อตฺโถ. ตํ วา มนสิกรณํ จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺยาติ เอตสฺส านํ การณนฺติ อตฺโถ. น จ ปภงฺคูติ กมฺมนิยภาวูปคมเนน จ ปภิชฺชนสภาวนฺติ อตฺโถ.

อาลิมฺเปตีติ อาทีเปติ ชาเลติ. ตฺจาติ ตํ ปิฬนฺธนวิกติสงฺขาตํ อตฺถํ ปโยชนํ. อสฺสาติ สุวณฺณการสฺส อนุโภติ สมฺโภติ สาเธติ . อสฺส วา สุวณฺณสฺส ตํ อตฺถํ สุวณฺณกาโร อนุโภติ ปาปุณาติ.

อภิฺาย อิทฺธิวิธาทิาเณน สจฺฉิกรณียสฺส อิทฺธิวิธปจฺจนุภวนาทิกสฺส อภิฺาสจฺฉิกรณียสฺส. ปจฺจกฺขํ ยสฺส อตฺถิ, โส สกฺขิ, สกฺขิโน ภพฺพตา สกฺขิภพฺพตา, สกฺขิภวนตาติ วุตฺตํ โหติ. สกฺขิ จ โส ภพฺโพ จาติ วา สกฺขิภพฺโพ. อยฺหิ อิทฺธิวิธาทีนํ ภพฺโพ, ตตฺถ จ สกฺขีติ สกฺขิภพฺโพ, ตสฺส ภาโว สกฺขิภพฺพตา, ตํ ปาปุณาติ. อายตเนติ ปุพฺพเหตาทิเก การเณ สติ.

สีติภาวนฺติ นิพฺพานํ, กิเลสทรถวูปสมํ วา. สมฺปหํเสตีติ สมปวตฺตํ จิตฺตํ ตถาปวตฺติยา ปฺาย โตเสติ อุตฺเตเชติ. ยทา วา นิรสฺสาทํ จิตฺตํ ภาวนาย น ปกฺขนฺทติ, ตทา ชาติอาทีนิ สํเวควตฺถูนิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สมฺปหํเสติ สมุตฺเตเชติ.

ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา, กถํ? ทฺเว เกสา เอกโต นตฺถีติ. อาสโยติ นิสฺสโย, ปจฺจโยติ อตฺโถ.

นขา ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนาติ วิสุํ ววตฺถิตตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตเมว หิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺเว นขา เอกโต นตฺถี’’ติ อาหาติ.

สุขุมมฺปีติ ยถาวุตฺตโอฬาริกจมฺมโต สุขุมํ อนฺโตมุขจมฺมาทิ. โกฏฺาเสสุ วา ตเจน ปริจฺฉินฺนตฺตา ยํ ทุรุปลกฺขณียํ, ตํ ‘‘สุขุม’’นฺติ วุตฺตํ. ตฺหิ วุตฺตนเยน ตจํ วิวริตฺวา ปสฺสนฺตสฺส ปากฏํ โหตีติ.

ตาลคุฬปฏลํ นาม ปกฺกตาลผลลสิกํ ตาลปฏฺฏิกาย ลิมฺปิตฺวา สุกฺขาเปตฺวา อุทฺธริตฺวา คหิตปฏลํ.

เอวํ ติมตฺตานีติ เอวํ-มตฺต-สทฺเทหิ โคปฺผกฏฺิกาทีนิ อวุตฺตานิปิ ทสฺเสตีติ เวทิตพฺพํ. กีฬาโคฬกานิ สุตฺเตน พนฺธิตฺวา อฺมฺํ ฆฏฺเฏตฺวา กีฬนโคฬกานิ.

ตตฺถ ชงฺฆฏฺิกสฺส ปติฏฺิตฏฺานนฺติ ชณฺณุกฏฺิมฺหิ ปวิสิตฺวา ิตฏฺานนฺติ อธิปฺปาโย. เตน อฏฺินา ปติฏฺิตฏฺานํ ยํ กฏิฏฺิโน, ตํ อคฺคฉินฺนมหาปุนฺนาคผลสทิสํ. สีสกปฏฺฏเวกํ เวเตฺวา ปิตสีสมยํ ปฏฺฏกํ. สุตฺตกนฺตนสลากาวิทฺธา โคฬกา วฏฺฏนาติ วุจฺจนฺติ, วฏฺฏนานํ อาวลิ วฏฺฏนาวลิ. อวเลขนสตฺถกํ อุจฺฉุตจาวเลขนสตฺถกํ.

วกฺกภาเคน ปริจฺฉินฺนนฺติ วกฺกปริยนฺตภาเคน ปริจฺฉินฺนํ.

สกฺขรสุธาวณฺณนฺติ มรุมฺเปหิ กตสุธาวณฺณํ. ‘‘เสตสกฺขรสุธาวณฺณ’’นฺติ จ ปาํ วทนฺติ, เสตสกฺขราวณฺณํ สุธาวณฺณฺจาติ อตฺโถ.

ยตฺถ อนฺนปานํ นิปติตฺวา ติฏฺตีติ สมฺพนฺโธ.

วิสมจฺฉินฺนกลาโป วิสมํ อุทกํ ปคฺฆรติ, เอวเมว สรีรํ เกสกูปาทิวิวเรหิ อุปริ เหฏฺา ติริยฺจ วิสมํ ปคฺฆรตีติ ทสฺเสตุํ วิสมจฺฉินฺน-คฺคหณํ กโรติ.

อติกฏุกอจฺจุณฺหาทิโก วิสภาคาหาโร อุณฺหกาเล ปวตฺตมานานํ ธาตูนํ วิสภาคตฺตา.

เอกตฺตารมฺมณพเลเนว วาติ วิกฺขมฺภิตนีวรเณน สุสมาหิตจิตฺเตน อุปฏฺิตสฺส นานารมฺมณวิปฺผนฺทนวิรเหน เอกสภาวสฺส อารมฺมณสฺส วเสน. ตฺหิ เอกตฺตารมฺมณํ อุปฏฺหมานเมว อตฺตนิ อภิรตึ, สาติสยํ ผรณปีตึ, อิฏฺาการานุภวนฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปาเทติ. น หิ อภิรติโสมนสฺเสหิ วินา อนติกฺกนฺตปีติสุขสฺส เอกตฺตุปฏฺานํ อตฺถีติ.

อวิเสสโตปน สาธารณวเสนาติ ปฏิกูลธาตุวณฺณวิเสสํ อกตฺวา สมถวิปสฺสนาสาธารณวเสนาติ อตฺโถ. ติวิเธนาติ อนุโลมาทินา วกฺขมาเนน. ฉ มาเสติ อทฺธมาเส อูเนปิ มาสปริจฺเฉเทน ปริจฺฉิชฺชมาเน สชฺฌาเย ฉ มาสา ปริจฺเฉทกา โหนฺตีติ กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปริจฺฉิชฺชมานสฺส มาสนฺตรคมนนิวารณฺหิ ฉมาสคฺคหณํ, น สกลฉมาเส ปริวตฺตทสฺสนตฺถํ. อาจริยาติ อฏฺกถาจริยา.

ลกฺขณนฺติ ธาตุปฏิกูลลกฺขณํ. ชนํ น อรหนฺตีติ อชฺา, ชเน ปเวเสตุํ อยุตฺตา ชิคุจฺฉนียาติ วุตฺตํ โหติ.

ปฏิปาฏิยา อฏฺีนีติ ปฏิปาฏิยา อฏฺีนิ โกฏิยา ิตานิ. น เอตฺถ โกจิ อตฺตา นาม อตฺถิ, อฏฺีนิ เอว อฏฺิปุฺชมตฺโต เอวายํ สงฺฆาโฏติ ทสฺเสติ . อเนกสนฺธิยมิโตติ อเนเกหิ สนฺธีหิ ยมิโต สมฺพทฺโธ โส อฏฺิปุฺโชติ ทสฺเสติ. น เกหิจีติ ยเมนฺตํ อตฺตานํ ปฏิเสเธติ. โจทิโต ชราย มรณาภิมุขคมเนน โจทิโต.

มหาภูตํ อุปาทารูเปน ปริจฺฉินฺนํ ‘‘นีลํ ปีตํ สุคนฺธํ ทุคฺคนฺธ’’นฺติอาทินา. อุปาทารูปํ มหาภูเตน ตนฺนิสฺสิตสฺส ตสฺส ตโต พหิ อภาวา. ฉายาตปานํ อาตปปจฺจยฉายุปฺปาทกภาโว อฺมฺปริจฺเฉทกตา. รูปกฺขนฺธสฺส ปริคฺคหิตตฺตา ตทนฺโตคธานํ จกฺขาทิอายตนทฺวารานํ วเสน ตํตํทฺวาริกา อรูปิโน ขนฺธา ปากฏา โหนฺติ, อายตนานิ จ ทฺวารานิ จ อายตนทฺวารานีติ วา อตฺโถ. เตน รูปายตนาทีนฺจ วเสนาติ วุตฺตํ โหติ.

สปฺปจฺจยาติ สปฺปจฺจยภาวา, ปจฺจยายตฺตํ หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. สมาโน วา สทิโส ยุตฺโต ปจฺจโย สปฺปจฺจโย, ตสฺมา สปฺปจฺจยา.

เอตฺตโกติ ยถาวุตฺเตน อากาเรน ปคุโณ โกฏฺาโส. อุคฺคโหว อุคฺคหสนฺธิ. วณฺณาทิมุเขน หิ อุปฏฺานํ เอตฺถ สนฺธียติ สมฺพชฺฌตีติ ‘‘สนฺธี’’ติ วุจฺจติ.

อุปฏฺาตีติ วณฺณาทิวเสน อุปฏฺาตีติ อตฺโถ. ปฺจงฺคสมนฺนาคเตติ นาติทูรนาจฺจาสนฺนคมนาคมนสมฺปนฺนนฺติ เอกงฺคํ, ทิวา อพฺโพกิณฺณํ รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสนฺติ เอกํ, อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสนฺติ เอกํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรน อุปฺปชฺชติ จีวร…เป… ปริกฺขาโรติ เอกํ, ตสฺมึ ปน เสนาสเน เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตาติ เอกํ (อ. นิ. ๑๐.๑๑). ปฺจงฺคสมนฺนาคเตนาติ อปฺปาพาธาสาเยฺยสทฺธาปฺาวีริเยหิ ปธานิยงฺเคหิ สมนฺนาคเตน.

อุฏฺานกทายนฺติ เตหิ เขตฺเตหิ อุฏฺานกํ, เตหิ ทาตพฺพธฺนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ อฏฺกุมฺภทายกเขตฺตํ วิย มุขโธวนกิจฺจํ, โสฬสกุมฺภทายกํ วิย ขาทนภุฺชนกิจฺจํ ทฏฺพฺพํ ลหุกครุกภาวโต. ตโต ปน ยํ ทุกฺขํ นิพฺพตฺตติ, ตํ อฺฺจ ทฺวตฺตึสาการมนสิกาเรน จ นิวตฺตตีติ อาห ‘‘เอตฺเถว กมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ. เอตฺตาวตาติ เอกทิวสํ ตึส วาเร มนสิการฏฺปเนน.

สหสฺสุทฺธารํสาเธตฺวาติ สหสฺสวฑฺฒิตํ อิณํ โยเชตฺวา. อุทฺธริตพฺโพติ อุทฺธาโรติ หิ วฑฺฒิ วุจฺจตีติ. สุทฺธจิตฺเตนาติ วิกฺเขปาทิกิเลสวิรหิตจิตฺเตน. เกสาทีสุ ตเจ รชฺชนฺตา สุจฺฉวิจมฺมํ ตโจติ คเหตฺวา ‘‘สุวณฺณาทิวณฺโณ เม ตโจ’’ติอาทินา รชฺชนฺติ.

เตสุ ทฺเว เอกมคฺคํ ปฏิปชฺชมานา นาม น โหนฺตีติ ยถา ตถา วา ปลายนฺตีติ อตฺโถ. ตตฺถ ราคาทิวตฺถุภาเวน ทฺวตฺตึสาการานํ โจรสทิสตา อนตฺถาวหตา ทฏฺพฺพา.

กมฺมเมว วิเสสาธิคมสฺส านนฺติ กมฺมฏฺานํ ภาวนา วุจฺจติ. เตนาห ‘‘มนสิกโรนฺตสฺส อปฺปนํ ปาปุณาตี’’ติ. กมฺมสฺส วา ภาวนาย านํ อารมฺมณํ อปฺปนารมฺมณภาวูปคมเนน อปฺปนํ ปาปุณาตีติ วุตฺตํ.

มานชาติโกติ เอเตน ลงฺฆนสมตฺถตาโยเคน อุปสมรหิตตํ ทสฺเสติ. จิตฺตมฺปิ หิ ตถา นานารมฺมเณสุ วฑฺฒิตํ อุปสมรหิตนฺติ ทสฺเสตพฺพนฺติ.

หตฺเถ คหิตปฺหวตฺถุ ปากติกเมวาติ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตตํ สนฺธายาห. ตตฺถ หิ วุตฺตํ –

‘‘มาลกตฺเถโร กิร ทีฆภาณกอภยตฺเถรํ หตฺเถ คเหตฺวา ‘อาวุโส อภย, อิมํ ตาว ปฺหํ อุคฺคณฺหาหี’ติ วตฺวา อาห ‘มาลกตฺเถโร ทฺวตฺตึสโกฏฺาเสสุ ทฺวตฺตึสปมชฺฌานลาภี, สเจ รตฺตึ เอกํ, ทิวา เอกํ สมาปชฺชติ, อติเรกฑฺฒมาเสน ปุน สมฺปชฺชติ. สเจ ปน เทวสิกํ เอกเมว สมาปชฺชติ, อติเรกมาเสน ปุน สมฺปชฺชตี’’’ติ.

อิทํ ปน เอกํ มนสิกโรนฺตสฺส เอกํ ปาฏิเยกฺกํ มนสิกโรนฺตสฺส ทฺวตฺตึสาติ เอตสฺส สาธนตฺถํ นิทสฺสนวเสน อานีตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อนุปาทินฺนกปกฺเข ิตานีติ เอเตน เจติยปพฺพตวาสี มหาติสฺสตฺเถโร วิย, สงฺฆรกฺขิตตฺเถรุปฏฺากสามเณโร วิย จ อนุปาทินฺนกปกฺเข เปตฺวา คเหตุํ สกฺโกนฺตสฺส ทสวิธาสุภวเสน ชีวมานกสรีเรปิ อุปฏฺิเต อุปจารปฺปตฺติ ทสฺสิตา โหตีติ เวทิตพฺพา. ‘‘อตฺถิสฺส กาเย’’ติ ปน สตฺตวเสน เกสาทีสุ คยฺหมาเนสุ ยถา ‘‘อิมสฺมึ กาเย’’ติ สตฺต-คฺคหณรหิเต อหํการวตฺถุมฺหิ วิทฺธสฺตาหํกาเร สทา สนฺนิหิเต ปากเฏ จ อตฺตโน กาเย อุปฏฺานํ โหติ, น ตถา ตตฺถาติ อปฺปนํ อปฺปตฺตา อาทีนวานุปสฺสนาว ตตฺถ โหตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อสุภานุปสฺสนาสงฺขาตา ปน วิปสฺสนาภาวนา โหตีติ เวทิตพฺพา’’ติ.

๓๕๗. อาทิมฺหิ เสวนา อาเสวนา, วฑฺฒนํ ภาวนา, ปุนปฺปุนํ กรณํ พหุลีกมฺมนฺติ อยเมเตสํ วิเสโส.

๓๖๒. วตฺถุปริฺายาติ อภิชฺฌาโทมนสฺสานํ วตฺถุภูตสฺส กายสฺส ปริชานเนน. อปฺปิตาติ คมิตา, สา จ วินาสิตตาติ อาห ‘‘วินาสิตา’’ติ. อปฺปวตฺติยํ ปิตาติปิ อปฺปิตาติ อยมตฺโถ นิรุตฺติสิทฺธิยา วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. วิคตนฺตา กตาติ อิทานิ กาตพฺโพ อนฺโต เอเตสํ นตฺถีติ วิคตนฺตา, เอวํภูตา กตาติ อตฺโถ. กมฺมเมว วิเสสาธิคมสฺส านํ กมฺมฏฺานํ, กมฺเม วา านํ ภาวนารมฺโภ กมฺมฏฺานํ, ตฺจ อนุปสฺสนาติ อาห ‘‘อนุปสฺสนาย กมฺมฏฺาน’’นฺติ, อนุปสฺสนาย วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.

กายานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

เวทนานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา

๓๖๓. สมฺปชานสฺส เวทิยนํ สมฺปชานเวทิยนํ. วตฺถุนฺติ สุขาทีนํ อารมฺมณมาห, เตน วตฺถุ อารมฺมณํ เอติสฺสาติ วตฺถุอารมฺมณาติ สมาโส ทฏฺพฺโพ. โวหารมตฺตํ โหตีติ เอเตน ‘‘สุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ อิทํ โวหารมตฺเตน วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ.

วีริยสมาธึ โยเชตฺวาติ อธิวาสนวีริยสฺส อธิมตฺตตาย ตสฺส สมตาย อุภยํ สห โยเชตฺวา. สห ปฏิสมฺภิทาหีติ โลกุตฺตรปฏิสมฺภิทาหิ สห. โลกิยานมฺปิ วา สติ อุปฺปตฺติกาเล ตตฺถ สมตฺถตํ สนฺธาย ‘‘สห ปฏิสมฺภิทาหี’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สมสีสีติ วารสมสีสี หุตฺวา ปจฺจเวกฺขณวารสฺส อนนฺตรวาเร ปรินิพฺพายีติ อตฺโถ. สงฺเขปมนสิการวเสน มหาสติปฏฺาเน, วิตฺถารมนสิการวเสน ราหุโลวาทธาตุวิภงฺคาทีสุ.

ผสฺสปฺจมเกเยวาติ เอว-สทฺเทน วุตฺเตสุ ตีสุปิ มุเขสุ ปริคฺคหสฺส สมานตํ ทสฺเสติ. นามรูปววตฺถานสฺส อธิปฺเปตตฺตา นิรวเสสรูปปริคฺคหสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘วตฺถุ นาม กรชกาโย’’ติ อาห, น จกฺขาทีนิ ฉวตฺถูนีติ. กรชกายสฺส ปน วตฺถุภาวสาธนตฺถํ ‘‘อิทฺจ ปน เม วิฺาณํ เอตฺถ สิตํ, เอตฺถ ปฏิพทฺธ’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๒๓๕; ม. นิ. ๒.๒๕๒) สุตฺตํ อาภตํ.

ผสฺสวิฺาณานํ ปากฏตา เกสฺจิ โหตีติ เยสํ น โหติ, เต สนฺธายาห ‘‘ผสฺสวเสน วา หิ…เป… น ปากฏํ โหตี’’ติ. เตสํ ปน อฺเสฺจ สพฺเพสํ เวเนยฺยานํ เวทนา ปากฏาติ อาห ‘‘เวทนาวเสน ปน ปากฏํ โหตี’’ติ. สตโธตสปฺปิ นาม สตวารํ วิลาเปตฺวา วิลาเปตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธริตฺวา คหิตสปฺปิ.

วินิวตฺเตตฺวาติ จตุกฺขนฺธสมุทายโต วิสุํ อุทฺธริตฺวา. มหาสติปฏฺานสุตฺตาทีสุ กตฺถจิ ปมํ รูปกมฺมฏฺานํ วตฺวา ปจฺฉา อรูปกมฺมฏฺานํ เวทนาวเสน วินิวตฺเตตฺวา ทสฺสิตํ. กตฺถจิ อรูปกมฺมฏฺานํ เอว เวทนาวเสน อรูปราสิโต, าตปริฺาย ปริฺาตโต วา รูปารูปราสิโต วา วินิวตฺเตตฺวา ทสฺสิตํ. ตตฺถาปิ เยสุ ปมํ าตปริฺา วุตฺตา, เตสุ ตทนฺโตคธํ . เยสุ น วุตฺตา, เตสุ จ เวทนาย อารมฺมณมตฺตํ สํขิตฺตํ ปาฬิอนารุฬฺหํ รูปกมฺมฏฺานํ สนฺธาย รูปกมฺมฏฺานสฺส ปมํ กถิตตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

‘‘มโนวิฺเยฺยานํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตาน’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๓.๓๐๖) นเยน วุตฺตํ ฉเคหสฺสิตโสมนสฺสํ ปฺจกามคุเณสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน เอว โหตีติ อาห ‘‘ปฺจกามคุณามิสนิสฺสิตา ฉ เคหสฺสิตโสมนสฺสเวทนา’’ติ.

เวทนานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา

๓๖๕. กิเลสสมฺปยุตฺตานํ ธมฺมานํ เกหิจิ กิเลเสหิ วิปฺปโยเคปิ สติ เยหิ สมฺปยุตฺตา, เตหิ สํกิเลสภาเวน สทิเสหิ สํกิลิฏฺตฺตา อิตเรหิปิ น วิสุทฺธตา โหตีติ อาห ‘‘น ปจฺฉิมปทํ ภชนฺตี’’ติ. ทุวิธนฺติ วิสุํ วจนํ สราคสโทเสหิ วิสิฏฺคฺคหณตฺถํ. อวิปสฺสนุปคตฺตา ‘‘อิธ โอกาโสว นตฺถี’’ติ วุตฺตํ.

จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธมฺมานุปสฺสนานิทฺเทโส

ก. นีวรณปพฺพวณฺณนา

๓๖๗. กณฺหสุกฺกานํ ยุคนทฺธตา นตฺถีติ ปชานนกาเล อภาวา ‘‘อภิณฺหสมุทาจารวเสนา’’ติ อาห.

สุภมฺปีติ กามจฺฉนฺโทปิ. โส หิ อตฺตโน คหณากาเรน ‘‘สุภ’’นฺติ วุจฺจติ, เตนากาเรน ปวตฺตมานกสฺส อฺสฺส กามจฺฉนฺทสฺส นิมิตฺตตฺตา ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ จาติ. อากงฺขิตสฺส หิตสุขสฺส อนุปายภูโต มนสิกาโร อนุปายมนสิกาโร. ตตฺถาติ นิปฺผาเทตพฺเพ อารมฺมณภูเต จ ทุวิเธปิ สุภนิมิตฺเต.

อสุภมฺปีติ อสุภชฺฌานมฺปิ. ตํ ปน ทสสุ อสุเภสุ เกสาทีสุ จ ปวตฺตํ ทฏฺพฺพํ. เกสาทีสุ หิ สฺา อสุภสฺาติ คิริมานนฺทสุตฺเต วุตฺตาติ. เอตฺถ จตุพฺพิธสฺสปิ อโยนิโสมนสิการสฺส โยนิโสมนสิการสฺส จ ทสฺสนํ นิรวเสสทสฺสนตฺถํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตสุ ปน อสุเภ สุภนฺติ อสุภนฺติ จ มนสิกาโร อิธาธิปฺเปโต, ตทนุกุลตฺตา วา อิตเรปีติ.

โภชเน มตฺตฺุโน ถินมิทฺธาภิภวาภาวา โอตารํ อลภมาโน กามราโค ปหียตีติ วทนฺติ. โภชนนิสฺสิตํ ปน อาหาเรปฏิกูลสฺํ, ตพฺพิปริณามสฺส ตทาธารสฺส ตสฺส จ อุปนิสฺสยภูตสฺส อสุภตาทิทสฺสนํ, กายสฺส จ อาหารฏฺิติกตาทิทสฺสนํ โส อุปฺปาเทตีติ ตสฺส กามจฺฉนฺโท ปหียเตว, อภิธมฺมปริยาเยน สพฺโพปิ โลโภ กามจฺฉนฺทนีวรณนฺติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺเคนา’’ติ.

โอทิสฺสกาโนทิสฺสกทิสาผรณานนฺติ อตฺตครุอติปฺปิยสหายมชฺฌตฺตวเสน โอทิสฺสกตา, สีมาเภเท กเต อโนทิสฺสกตา, เอกทิสาผรณวเสน ทิสาผรณตา เมตฺตาย อุคฺคหเณ เวทิตพฺพา. วิหารรจฺฉาคามาทิวเสน วา โอทิสฺสกทิสาผรณํ, วิหาราทิอุทฺเทสรหิตํ ปุรตฺถิมาทิทิสาวเสน อโนทิสฺสกทิสาผรณนฺติ เอวํ วา ทฺวิธา อุคฺคหํ สนฺธาย ‘‘โอทิสฺสกาโนทิสฺสกทิสาผรณาน’’นฺติ วุตฺตํ. อุคฺคโห จ ยาว อุปจารา ทฏฺพฺโพ, อุคฺคหิตาย อาเสวนา ภาวนา. ตตฺถ ‘‘สพฺเพ สตฺตา ปาณา ภูตา ปุคฺคลา อตฺตภาวปริยาปนฺนา’’ติ เอเตสํ วเสน ปฺจวิธา, เอเกกสฺมึ ‘‘อเวรา โหนฺตุ, อพฺยาปชฺชา, อนีฆา, สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’’ติ จตุธา ปวตฺติโต วีสติวิธา วา อโนธิโสผรณา เมตฺตา, ‘‘สพฺพา อิตฺถิโย ปุริสา อริยา อนริยา เทวา มนุสฺสา วินิปาติกา’’ติ สตฺโตธิกรณวเสน ปวตฺตา สตฺตวิธา, อฏฺวีสติวิธา วา โอธิโสผรณา เมตฺตา, ทสหิ ทิสาหิ ทิโสธิกรณวเสน ปวตฺตา ทสวิธา จ ทิสาผรณา เมตฺตา, เอเกกาย วา ทิสาย สตฺตาทิอิตฺถิอาทิอเวราทิโยเคน อสีตาธิกจตุสตปฺปเภทา อโนธิโสโอธิโสผรณา เวทิตพฺพา.

กายวินามนาติ กายสฺส วิวิเธน อากาเรน นามนา.

อติโภชเน นิมิตฺตคฺคาโหติ อติโภชเน ถินมิทฺธสฺส นิมิตฺตคฺคาโห, ‘‘เอตฺตเก ภุตฺเต ถินมิทฺธสฺส การณํ โหติ, เอตฺตเก น โหตี’’ติ ถินมิทฺธสฺส การณาการณคฺคาโหติ อตฺโถ. ธุตงฺคานํ วีริยนิสฺสิตตฺตา อาห ‘‘ธุตงฺคนิสฺสิตสปฺปายกถายปี’’ติ.

กุกฺกุจฺจมฺปิ กตากตานุโสจนวเสน ปวตฺตมานํ อุทฺธจฺเจน สมานลกฺขณํ อวูปสมสภาวเมวาติ เจตโส อวูปสโม ‘‘อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจเมวา’’ติ วุตฺโต.

พหุสฺสุตสฺส คนฺถโต จ อตฺถโต จ อตฺถาทีนิ วิจินนฺตสฺส เจตโส วิกฺเขโป น โหติ ยถาวิธิปฏิปตฺติยา ยถานุรูปปติการปฺปวตฺติยา กตากตานุโสจนฺจาติ ‘‘พาหุสจฺเจนปิ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียตี’’ติ อาห. วุฑฺฒเสวิตา จ วุฑฺฒสีลิตํ อาวหตีติ เจโตวูปสมกรตฺตา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปฺปหานการิตา วุตฺตา. วุฑฺฒตํ ปน อนเปกฺขิตฺวา วินยธรา กุกฺกุจฺจวิโนทกา กลฺยาณมิตฺตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา.

ติฏฺติ เอตฺถาติ านียา, วิจิกิจฺฉาย านียา วิจิกิจฺฉาานียา. าตพฺพาติ วา านียา, วิจิกิจฺฉา านียา เอเตสูติ วิจิกิจฺฉาานียา.

กามํ พหุสฺสุตตาปริปุจฺฉกตาหิ อฏฺวตฺถุกาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ, ตถาปิ รตนตฺตยวิจิกิจฺฉามูลิกา เสสวิจิกิจฺฉาติ กตฺวา อาห ‘‘ตีณิ รตนานิ อารพฺภา’’ติ. วินเย ปกตฺุตา ‘‘สิกฺขาย กงฺขตี’’ติ (ธ. ส. ๑๐๐๘; วิภ. ๙๑๕) วุตฺตาย วิจิกิจฺฉาย ปหานํ กโรตีติ อาห ‘‘วินเย จิณฺณวสีภาวสฺสปี’’ติ. โอกปฺปนิยสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺขพหุลสฺสาติ อนุปวิสนสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺเขน อธิมุจฺจนพหุลสฺส. อธิมุจฺจนฺจ อธิโมกฺขุปฺปาทนเมวาติ ทฏฺพฺพํ. สทฺธาย วา นินฺนตา อธิมุตฺติ.

นีวรณปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

ข. โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา

ขนฺธาทิปาฬิยา อตฺโถ ขนฺธาทีนํ อตฺโถติ กตฺวา อาห ‘‘ขนฺธ…เป… วิปสฺสนานํ อตฺถสนฺนิสฺสิตปริปุจฺฉาพหุลตา’’ติ. เตน ปาฬิมุตฺตกปุจฺฉา น ตถา ปฺาสํวตฺตนิกา, ยถา อตฺถปฏิปุจฺฉาติ ทสฺเสติ.

มนฺทตฺตา อคฺคิชาลาทีสุ อาโปธาตุอาทีนํ วิย วีริยาทีนํ สกิจฺเจ อสมตฺถตา วุตฺตา.

ปตฺตํ นีหรนฺโตว ตํ สุตฺวาติ เอตฺถ ปฺจาภิฺตฺตา ทิพฺพโสเตน อสฺโสสีติ วทนฺติ.

ปสาทสิเนหาภาเวนาติ ปสาทสงฺขาตสฺส สิเนหสฺส อภาเวน. คทฺรภปิฏฺเ ลูขรโช ลูขตโร หุตฺวา ทิสฺสตีติ อติลูขตาย ตํสทิเส.

สํเวชนปสาทเนหิ เตชนํ โตสนฺจ สมฺปหํสนาติ.

โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมถวิปสฺสนาสุทฺธวิปสฺสนาวเสน ปมสฺส อิตเรสฺจ กถิตตฺตาติ อตฺโถ. มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ กายานุปสฺสนา นามาติ อาคมนวเสน วุตฺตํ. เอวํ ตาว เทสนา ปุคฺคเล ติฏฺตีติ กายานุปสฺสีอาทีนํ อาคมนวเสน วิเสเสตฺวา วุตฺตา สติปฏฺานเทสนา ปุคฺคเล ติฏฺตีติ อตฺโถ. น หิ สกฺกา เอกสฺส อเนกสมงฺคิตา วตฺตุํ เอกกฺขเณ อเนกสติสมฺภวาวโพธปสงฺคา, ปุคฺคลํ ปน อามสิตฺวา สกิจฺจปริจฺฉินฺเน ธมฺเม วุจฺจมาเน กิจฺจเภเทน เอกิสฺสาปิ สติยา อเนกนามตา โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กาเย ปนา’’ติอาทิมาห. ยถา หิ ปุคฺคลกิจฺจํ ธมฺมา เอวาติ ธมฺมเภเทน กายานุปสฺสีอาทิปุคฺคลเภโทว โหติ, น เอวํ ธมฺมสฺส ธมฺโม กิจฺจนฺติ น ธมฺมเภเทน ตสฺส เภโท, ตสฺมา เอกาว สติ จตุวิปลฺลาสปฺปหานภูตา มคฺเค สมิทฺธา อนตฺถนฺตเรน ตปฺปหานกิจฺจเภเทน จตฺตาริ นามานิ ลภตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๓๗๔. อภิธมฺมภาชนีเย ‘‘กถฺจ ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมึ สมเย…เป… ทนฺธาภิฺํ กาเย กายานุปสฺสี, ยา ตสฺมึ สมเย สตี’’ติอาทินา อาคมนวเสน วิเสสิตานิ สติปฏฺานานิ ปุคฺคเล เปตฺวา เทเสตฺวา ปุน ‘‘ตตฺถ กตมํ สติปฏฺานํ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมึ สมเย…เป… ทนฺธาภิฺํ…เป… ยา ตสฺมึ สมเย สตี’’ติอาทินา ปุคฺคลํ อนามสิตฺวา อาคมวิเสสนฺจ อกตฺวา จตุกิจฺจสาธเกกสติวเสน สุทฺธิกสติปฏฺานนโย วุตฺโตติ อยเมตฺถ นยทฺวเย วิเสโส.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สติปฏฺานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.