📜
๑. มาติกาวณฺณนา
๑. นยมาติกาวณฺณนา
๑. สงฺคโห ¶ อสงฺคโหติอาทีนฺหิ วเสน อิทํ ปกรณํ จุทฺทสวิเธน วิภตฺตนฺติ วุตฺตํ. ตํ สพฺพมฺปิ อุทฺเทสนิทฺเทสโต ทฺวิธา ิตํ. ตตฺถ มาติกา อุทฺเทโส. สา ปฺจวิธา – นยมาติกา, อพฺภนฺตรมาติกา, นยมุขมาติกา, ลกฺขณมาติกา, พาหิรมาติกาติ. ตตฺถ สงฺคโห อสงฺคโห…เป… วิปฺปยุตฺเตน สงฺคหิตํ อสงฺคหิตนฺติ – อยํ จุทฺทสหิ ปเทหิ นิกฺขิตฺตา นยมาติกา นาม. อยฺหิ อิมินา สงฺคหาทิเกน นเยน ธาตุกถา ธมฺมา วิภตฺตาติ ทสฺเสตุํ ปิตตฺตา นยมาติกาติ วุจฺจติ. เอเตสํ ปทานํ มูลภูตตฺตา มูลมาติกาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
๒. อพฺภนฺตรมาติกาวณฺณนา
๒. ปฺจกฺขนฺธา ¶ …เป… มนสิกาโรติ อยํ ปฺจวีสาธิเกน ปทสเตน นิกฺขิตฺตา อพฺภนฺตรมาติกา นาม. อยฺหิ ‘‘สพฺพาปิ ธมฺมสงฺคณี ธาตุกถาย มาติกา’’ติ เอวํ อวตฺวา สงฺคหาทินา นเยน วิภชิตพฺเพ ขนฺธาทิธมฺเม สรูปโต ทสฺเสตฺวา ธาตุกถาย อพฺภนฺตเรเยว ปิตตฺตา อพฺภนฺตรมาติกาติ วุจฺจติ. ขนฺธาทิปทานํ ธมฺมสงฺคณีมาติกาย ¶ อสงฺคหิตตฺตา ปกิณฺณกมาติกาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
๓. นยมุขมาติกาวณฺณนา
๓. ตีหิ สงฺคโห, ตีหิ อสงฺคโห; จตูหิ สมฺปโยโค, จตูหิ วิปฺปโยโคติ อยํ จตูหิ ปเทหิ นิกฺขิตฺตา นยมุขมาติกา นาม. อยฺหิ สพฺเพสุปิ ปฺจกฺขนฺธาทีสุ เจว กุสลตฺติกาทีสุ จ มาติกาธมฺเมสุ, ตีหิ ขนฺธายตนธาตุปเทเหว สงฺคโห จ อสงฺคโห จ โยเชตพฺโพ. ตถา จตูหิ อรูปกฺขนฺเธหิ สมฺปโยโค จ วิปฺปโยโค จ. เอตานิ อิเมสํ สงฺคหาสงฺคหาทีนํ นยานํ มุขานีติ ทสฺเสตุํ ปิตตฺตา นยมุขมาติกาติ วุจฺจติ.
๔. ลกฺขณมาติกาวณฺณนา
๔. สภาโค ¶ , วิสภาโคติ อยํ ทฺวีหิ ปเทหิ นิกฺขิตฺตา ลกฺขณมาติกา นาม. อยฺหิ สภาคลกฺขเณหิ ธมฺเมหิ สงฺคหนโย, วิสภาคลกฺขเณหิ อสงฺคหนโย, ตถา สมฺปโยควิปฺปโยคนโย โยเชตพฺโพติ สภาควิสภาคลกฺขณวเสน สงฺคหาทิลกฺขณํ ทสฺเสตุํ ปิตตฺตา ลกฺขณมาติกาติ วุจฺจติ.
๕. พาหิรมาติกาวณฺณนา
๕. สพฺพาปิ ธมฺมสงฺคณี ธาตุกถาย มาติกาติ อยํ ฉสฏฺิ ติกปทานิ, ทฺเว จ ทุกปทสตานิ สงฺขิปิตฺวา นิกฺขิตฺตา พาหิรมาติกา นาม. อยฺหิ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา…เป… มนสิกาโร’’ติ เอวํ ธาตุกถาย อพฺภนฺตเร อวตฺวา ‘‘สพฺพาปิ ธมฺมสงฺคณี’’ติ เอวํ ธาตุกถาย มาติกโต พหิ ปิตตฺตา พาหิรมาติกาติ วุจฺจติ.
เอวํ ¶ มาติกาย ปฺจธา ิตภาวํ วิทิตฺวา อิทานิ ‘สงฺคโห อสงฺคโห’ติอาทีสุ สงฺคโห ตาว ชาติสฺชาติกิริยาคณนวเสน จตุพฺพิโธ. ตตฺถ – ‘‘สพฺเพ ขตฺติยา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ พฺราหฺมณา, สพฺเพ เวสฺสา, สพฺเพ สุทฺทา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา, โย จ สมฺมากมฺมนฺโต, โย จ สมฺมาอาชีโว, อิเม ธมฺมา สีลกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ อยํ ชาติสงฺคโห นาม. ‘‘เอกชาติกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ วุตฺตฏฺาเน วิย หิ อิธ สพฺเพปิ ชาติยา เอกสงฺคหํ คตา. ‘‘สพฺเพ โกสลกา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ มาคธกา, สพฺเพ ภารุกจฺฉกา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘โย จาวุโส วิสาข, สมฺมาวายาโม; ยา จ สมฺมาสติ, โย จ สมฺมาสมาธิ, อิเม ธมฺมา ¶ สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ สฺชาติสงฺคโห นาม. ‘‘เอกฏฺาเน ชาตา สํวฑฺฒา อาคจฺฉนฺตู’’ติ วุตฺตฏฺาเน วิย หิ อิธ สพฺเพปิ สฺชาติาเนน นิวุตฺโถกาเสน เอกสงฺคหํ คตา. ‘‘สพฺเพ หตฺถาโรหา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ อสฺสาโรหา, สพฺเพ รถิกา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาทิฏฺิ, โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป, อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ กิริยาสงฺคโห นาม. สพฺเพว เหเต อตฺตโน กิริยากรเณน เอกสงฺคหํ คตา. ‘‘จกฺขายตนํ กตมกฺขนฺธคณนํ คจฺฉตีติ? รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉตี’’ติ. หฺจิ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ, เตน วต เร วตฺตพฺเพ – ‘จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิต’’นฺติ (กถา. ๔๗๑), อยํ ¶ คณนสงฺคโห นาม. อยมิธ อธิปฺเปโต. ตปฺปฏิปกฺเขน อสงฺคโห เวทิตพฺโพ. เตสํ วิกปฺปโต สงฺคหิเตน อสงฺคหิตาทีนิ. เอกุปฺปาเทกนิโรธเอกวตฺถุกเอการมฺมณตาวเสน สมฺปโยโค, ตปฺปฏิปกฺขโต วิปฺปโยโค. เตสํ วิกปฺปโต สมฺปยุตฺเตน วิปฺปยุตฺตาทีนิ. ตทุภยสํสคฺควิกปฺปโต สงฺคหิเตน สมฺปยุตฺตํ วิปฺปยุตฺตนฺติอาทีนิ. ปฺจกฺขนฺธาติอาทีนิ ปน ขนฺธวิภงฺคาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ผสฺสาทโย ปเนตฺถ สนฺนิฏฺานวเสน วุตฺตสพฺพจิตฺตุปฺปาทสาธารณโต วุตฺตาติ.
มาติกาวณฺณนา.