📜

๓. พฺรหฺมจริยกถา

๑. สุทฺธพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา

๒๖๙. อิทานิ พฺรหฺมจริยกถา โหติ. ตตฺถ ทฺเว พฺรหฺมจริยวาสา, มคฺคภาวนา จ ปพฺพชฺชา จ. ปพฺพชฺชา สพฺพเทเวสุ นตฺถิ. มคฺคภาวนา เปตฺวา อสฺสตฺเต เสเสสุ อปฺปฏิสิทฺธา. ตตฺถ เย ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเว อุปาทาย ตทุปริเทเวสุ มคฺคภาวนมฺปิ น อิจฺฉนฺติ เสยฺยถาปิ สมฺมิติยา, เต สนฺธาย นตฺถิ เทเวสูติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, าเนหิ ชมฺพุทีปกา มนุสฺสา อุตฺตรกุรุเก จ มนุสฺเส อธิคฺคณฺหนฺติ เทเว จ ตาวตึเส. กตเมหิ ตีหิ? สูรา สติมนฺโต อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ (อ. นิ. ๙.๒๑) อิทํ สุตฺตํ นิสฺสาย ทฺเวปิ พฺรหฺมจริยวาสา นตฺถิ เทเวสูติ อุปฺปนฺนลทฺธิวเสน ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ปุน ทฺวินฺนมฺปิ พฺรหฺมจริยานํ อนฺตรายิกธมฺมวเสเนว สพฺเพ เทวา ชฬาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ หตฺถสํวาจิกาติ มูคา วิย หตฺถมุทฺธาย วตฺตาโร. ปรโต อตฺถิ เทเวสูติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, มคฺคภาวนํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ปฏิฺาย อธิปฺปายํ อสลฺลกฺเขตฺวา ปพฺพชฺชาวเสน อนุโยโค ปรวาทิสฺส.

๒๗๐. ยตฺถ นตฺถิ ปพฺพชฺชาติ ปฺเห คิหีนฺเจว เอกจฺจานฺจ เทวานํ มคฺคปฏิลาภํ สนฺธาย ปฏิกฺเขโป ตสฺเสว. ปุน ปุฏฺโ ปจฺจนฺตวาสิโน เจว อสฺสตฺเต จ สนฺธาย ปฏิฺา ตสฺเสว. โย ปพฺพชตีติอาทีสุ ปุจฺฉาสุปิ เอเสว นโย. ปุน ‘‘อตฺถิ เทเวสู’’ติ ปฺเหปิ มคฺคภาวนํ สนฺธาเยว ปฏิฺา สกวาทิสฺส, ‘‘สพฺพเทเวสู’’ติ วุตฺเต อสฺสตฺเต สนฺธาย ปฏิกฺเขโป ตสฺเสว.

๒๗๑. มนุสฺเสสูติ ปฺหทฺวเย ชมฺพุทีปเก สนฺธาย ปฏิฺา. ปจฺจนฺตวาสิโน สนฺธาย ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ.

อตฺถิ ยตฺถ อตฺถีติ อตฺถิ เต เทวา, อตฺถิ วา โส ปเทโส, ยตฺถ อตฺถีติ เอวํ สตฺตปเทสวิภาคมุเขน วิสฺสชฺชนํ สกวาทิสฺส. อิมินา นเยน สพฺเพ เอกนฺตริกปฺหา เวทิตพฺพา.

๒๗๒. สุตฺตานุโยเค กุหึ ผลุปฺปตฺตีติ ตสฺส อนาคามิโน อรหตฺตผลุปฺปตฺติ กุหินฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺเถวาติ สุทฺธาวาเสสูติ อตฺโถ.

หนฺท หีติ การณตฺเถ นิปาโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา อนาคามิปุคฺคโล อิธ โลเก ภาวิเตน มคฺเคน ตตฺถ สุทฺธาวาเสสุ ผลํ สจฺฉิกโรติ, น ตตฺถ อฺํ มคฺคํ ภาเวติ, ตสฺมา นตฺถิ เทเวสุ พฺรหฺมจริยวาโสติ.

๒. สํสนฺทนพฺรหฺมจริยวณฺณนา

๒๗๓. อิทานิ ยทิ อฺตฺถ ภาวิเตน มคฺเคน อฺตฺถ ผลสจฺฉิกิริยา โหติ, โสตาปนฺนาทีนมฺปิ สิยาติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ปุน อนาคามีติอาทีนํ สํสนฺทนปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ อนาคามิสฺส ผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิฺา, เสสานํ ผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. อิธ ภาวิตมคฺโค หิ อนาคามี อิธวิหายนิฏฺโ นาม โหติ. โส อิธ อนาคามิมคฺคํ ภาเวตฺวา ‘‘โอปปาติโก ตตฺถปรินิพฺพายี’’ติ วจนโต ‘‘ปุน มคฺคภาวนํ วินา อุปปตฺติวเสเนว อรหตฺตผลํ สจฺฉิกโรตี’’ติ ตสฺส ลทฺธิ. โสตาปนฺนสกทาคามิโน ปน ตตฺถ มคฺคํ ภาเวตฺวา ตตฺรุปปตฺติกา นาม โหนฺตีติ เตสํ อิธาคมนฺเว นตฺถิ. อิติ โส อนาคามิสฺส ผลสจฺฉิกิริยํ ปุฏฺโ ปฏิชานาติ. อิตเรสํ ปฏิกฺขิปติ.

อนาคามี ปุคฺคโล ตตฺถ ภาวิเตน มคฺเคนาติ ปฺเห ‘‘อนาคามิโน ตตฺถ มคฺคภาวนาว นตฺถี’’ติ ลทฺธิยา ปฏิกฺขิปติ. มคฺโค จ ภาวียติ, น จ กิเลสา ปหียนฺตีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส , รูปาวจรมคฺคํ สนฺธาย ปฏิฺา อิตรสฺส. รูปาวจรมคฺเคน หิ โส อิธวิหายนิฏฺโ นาม ชาโต.

อนาคามี ปุคฺคโล กตกรณีโยติ ปฺเห ‘‘โอปปาติโก ตตฺถปรินิพฺพายี’’ติ วจนโต อุปปตฺติยาวสฺส กตกรณียาทิภาวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อรหาติ ปฺเห อิธปรินิพฺพายิโน อรหโต วเสเนว ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ ตตฺถปรินิพฺพายิโน วเสน ปฏิชานาติ.

อตฺถิ อรหโต ปุนพฺภโวติอาทีสุปิ ตตฺถปรินิพฺพายี อิธปรินิพฺพายีนํ วเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อปฺปฏิวิทฺธากุปฺโปว ตตฺถปรินิพฺพายตีติ ปุฏฺโ อิเธว ภาวิเตน มคฺเคน ตสฺส อกุปฺปปฏิเวธํ อิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ.

ยถา มิโคติ ปมํ อุทาหรณํ ปรวาทิสฺส, ทุติยํ สกวาทิสฺส. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

พฺรหฺมจริยกถา นิฏฺิตา.

๓. โอธิโสกถาวณฺณนา

๒๗๔. อิทานิ โอธิโสกถา นาม โหติ. ตตฺถ เย โสตาปนฺนาทีนํ นานาภิสมยวเสน ทุกฺขทสฺสนาทีหิ โอธิโส โอธิโส เอกเทเสน เอกเทเสน กิเลสปฺปหานํ อิจฺฉนฺติ เสยฺยถาปิ เอตรหิ สมฺมิติยาทโย, เตสํ ตํ ลทฺธึ ภินฺทิตุํ โอธิโสติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ปุน อนุโยโค สกวาทิสฺส, เอกเทเสน โสตาปนฺนาทิภาวสฺส อภาวโต ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. อิมินา อุปาเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

โอธิโสกถาวณฺณนา.