📜
๒. ทุติยวคฺโค
๑. ปรูปหารวณฺณนา
๓๐๗. อิทานิ ¶ ¶ ปรูปหารกถา นาม โหติ. ตตฺถ เย อรหตฺตํ ปฏิชานนฺตานํ อปฺปตฺเต ปตฺตสฺีนํ อธิมานิกานํ กุหกานํ วา อรหตฺตํ ปฏิชานนฺตานํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ ทิสฺวา ‘‘มารกายิกา เทวตา อรหโต อสุจึ อุปสํหรนฺตี’’ติ มฺนฺติ; เสยฺยถาปิ เอตรหิ ปุพฺพเสลิยา จ อปรเสลิยา จ; เต สนฺธาย อตฺถิ อรหโตติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อิทานิ ยสฺมา สุกฺกวิสฺสฏฺิ นาม ราคสมุฏฺานา โหติ, ตสฺมา อตฺถิ อรหโต ราโคติ อนุโยโค อารทฺโธ. โส สพฺโพปิ อุตฺตานตฺโถเยว.
มารกายิกา เทวตา อตฺตโนติอาทิปฺเห ยสฺมา ตาสํ เทวตานํ สุกฺกวิสฺสฏฺิ นาม นตฺถิ, อฺเสมฺปิ สุกฺกํ คเหตฺวา น อุปสํหรนฺติ, อรหโต ปน สุกฺกเมว นตฺถิ, ตสฺมา น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ.
เนว อตฺตโนติปฺเห ปน นิมฺมินิตฺวา อุปสํหรนฺตีติ ลทฺธิยา ปฏิชานาติ. โลมกูเปหีติปฺเห สปฺปิเตลานํ วิย โลมกูเปหิ อุปสํหรณาภาวํ ทิสฺวา ปฏิกฺขิปติ.
๓๐๘. หนฺท ¶ หีติ วจสายตฺเถ นิปาโต. ‘‘อรหา นุ โข อหํ, โน’’ติ เอวํ วิมตึ คาหยิสฺสามาติ เอวํ วจสายํ กตฺวา อุปสํหรนฺตีติ อตฺโถ. อตฺถิ อรหโต วิมตีติ ปุฏฺโ อฏฺวตฺถุกํ วิจิกิจฺฉํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ทุติยํ ปุฏฺโ อิตฺถิปุริสานํ นามโคตฺตาทีสุ สนฺนิฏฺานาภาวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ.
๓๐๙. อตฺถิ ตสฺส อาสโยติ ตสฺส สุกฺกสฺส อุจฺจารปสฺสาวานํ วิย ปติฏฺาโนกาโส อตฺถีติ ปุจฺฉติ.
๓๑๒. สธมฺมกุสลสฺสาติ อตฺตโน อรหตฺตธมฺมมตฺเตเยว กุสลสฺส. ปฺาวิมุตฺตํ สนฺธาเยวํ ¶ วทติ. ปรธมฺมกุสลสฺสาติ สธมฺมโต ปรสฺมึ ¶ อฏฺสมาปตฺติธมฺเมปิ กุสลสฺส. อุภโตภาควิมุตฺตํ สนฺธาเยวํ วทติ. เสสเมตฺถ ปาฬิอนุสาเรเนว เวทิตพฺพนฺติ.
ปรูปหารกถาวณฺณนา.
๒-๓-๔. อฺาณาทิกถาวณฺณนา
๓๑๔. อิทานิ อฺาณํ, กงฺขา, ปรวิตรณาติ ติสฺโส กถา นาม โหนฺติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อรหโต อิตฺถิปุริสาทีนํ นามโคตฺตาทีสุ าณปฺปวตฺติยา อภาเวน อตฺถิ อฺาณํ, ตตฺเถว สนฺนิฏฺานาภาเวน อตฺถิ กงฺขา. ยสฺมา จ เนสํ ตานิ วตฺถูนิ ปเร วิตรนฺติ ปกาเสนฺติ อาจิกฺขนฺติ, ตสฺมา เนสํ อตฺถิ ปรวิตรณา’’ติ อิมา ลทฺธิโย, เสยฺยถาปิ เอตรหิ ปุพฺพเสลิยาทีนํ; เตสํ ตา ลทฺธิโย ภินฺทิตุํ ตีสุปิ กถาสุ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ อิตรสฺส. ตตฺถ สพฺเพสุปิ ปฺเหสุ เจว วิสฺสชฺชเนสุ จ ปาฬึ อนุคนฺตฺวาว อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
อฺาณาทิกถาวณฺณนา.
๕. วจีเภทกถาวณฺณนา
๓๒๖. อิทานิ ¶ วจีเภทกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ทุกฺขนฺติ วาจา ภิชฺชตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ ปุพฺพเสลิยาทีนํ; เต สนฺธาย สมาปนฺนสฺส อตฺถิ วจีเภโทติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ปุน สพฺพตฺถาติ ตโย ภเว สนฺธาย ปุฏฺโ อรูปํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. สพฺพทาติ ¶ กาลวเสน ปุฏฺโ ปมมคฺคกฺขเณ ปมชฺฌานิกสมาปตฺติโต อฺํ สพฺพํ สมาปตฺติกาลํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. สพฺเพสํ สมาปนฺนานนฺติ ปุฏฺโ โลกิยสมาปตฺติโย สมาปนฺเน สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. สพฺพสมาปตฺตีสูติ ปุฏฺโ ทุติยชฺฌานาทิกํ โลกุตฺตรํ สพฺพฺจ โลกิยสมาปตฺตึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ.
กายเภโทติ ¶ อภิกฺกมาทิวเสน ปวตฺตกายวิฺตฺติ. อิทํ ‘‘ยานิ จิตฺตานิ วจีวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปนฺติ, ตาเนว กายวิฺตฺตึ. เอวํ สนฺเต กสฺมา กายเภโทปิ น โหตี’’ติ โจทนตฺถํ ปุจฺฉติ. อิตโร ลทฺธิวเสน ปฏิกฺขิปติ เจว ปฏิชานาติ จ. อิทานิ ยทิ โส มคฺคกฺขเณ ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วาจํ ภาสติ, ‘‘สมุทโย’’ติอาทิกมฺปิ ภาเสยฺย. ยทิ วา ตํ น ภาสติ, อิตรมฺปิ น ภาเสยฺยาติ โจทนตฺถํ ทุกฺขนฺติ ชานนฺโตติอาทโย ปฺหา วุตฺตา. อิตโร ปน อตฺตโน ลทฺธิวเสเนว ปฏิชานาติ เจว ปฏิกฺขิปติ จ. โลกุตฺตรํ ปมชฺฌานํ สมาปนฺโน ทุกฺขทุกฺขนฺติ วิปสฺสตีติ หิสฺส ลทฺธิ.
๓๒๘. าณนฺติ โลกุตฺตรํ จตุสจฺจาณํ. โสตนฺติ โสตวิฺาณํ อธิปฺเปตํ, เยน ตํ สทฺทํ สุณาติ. ทฺวินฺนํ ผสฺสานนฺติ โสตสมฺผสฺสมโนสมฺผสฺสานํ.
๓๒๙. โน วต เร วตฺตพฺเพติ ยทิ อวิเสเสน ยํกิฺจิ สมาปนฺนสฺส นตฺถิ วจีเภโท, น อวิเสเสน วตฺตพฺพํ ‘‘สมาปนฺนสฺส อตฺถิ วจีเภโท’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว สทฺธึ สุตฺตสาธนาย. ยํ ปเนเตน ‘‘สิขิสฺส อานนฺท, ภควโต’’ติ ปริโยสาเน สุตฺตํ อาภตํ, ตตฺถ เยน สมาปตฺติจิตฺเตน โส วจีเภโท สมุฏฺิโต, กายเภโทปิ เตน สมุฏฺาติเยว, น จ ตํ โลกุตฺตรํ ปมชฺฌานจิตฺตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.
วจีเภทกถาวณฺณนา.
๖. ทุกฺขาหารกถาวณฺณนา
๓๓๔. อิทานิ ¶ ทุกฺขาหารกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขนฺติ วาจํ ภาสนฺโต ทุกฺเข าณํ อาหรติ, ตํ ทุกฺขาหาโร นาม วุจฺจติ ¶ . ตฺจ ปเนตํ มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺน’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย ทุกฺขาหาโรติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. เย เกจีติ ปมปฺเห อวิปสฺสเก สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ทุติยปฺเห ¶ วิปสฺสเก สนฺธาย ปฏิชานาติ, ตํ ปนสฺส ลทฺธิมตฺตเมว. ตสฺมา ‘‘สพฺเพ เต’’ติ วาทสฺส ภินฺทนตฺถํ พาลปุถุชฺชนาติอาทิมาห. ตํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ทุกฺขาหารกถาวณฺณนา.
๗. จิตฺตฏฺิติกถาวณฺณนา
๓๓๕. อิทานิ จิตฺตฏฺิติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ สมาปตฺติจิตฺตฺเจว ภวงฺคจิตฺตฺจ อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺตมานํ ทิสฺวา ‘‘เอกเมว จิตฺตํ จิรํ ติฏฺตี’’ติ ลทฺธิ เสยฺยถาปิ เอตรหิ เหฏฺา วุตฺตปฺปเภทานํ อนฺธกานํ, ตํลทฺธิวิโสธนตฺถํ เอกํ, จิตฺตํ ทิวสํ ติฏฺตีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. อุปฑฺฒทิวโส อุปฺปาทกฺขโณติ เอตฺถ ิติกฺขณํ อนามสิตฺวา ‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา, อุปฺปาทวยธมฺมิโน’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๖; ๒.๑๔๓) เทสนานเยน อุปฺปาทวยวเสเนว ปุจฺฉา กตา.
เต ธมฺมา จิตฺเตน ลหุปริวตฺตาติ ปุฏฺโ จิตฺตโต ลหุตรปริวตฺติโน ธมฺเม อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ยสฺส จิตฺตสฺส ทีฆฏฺิตึ อิจฺฉติ, ตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ยาวตายุกํ ติฏฺตีติ ปฺเห ‘‘จุลฺลาสีติสหสฺสานิ, กปฺปา ติฏฺนฺติ เย มรู’’ติอาทิวจนวเสน (มหานิ. ๑๐) อารุปฺปโต อฺตฺร ปฏิกฺขิปติ, อารุปฺเป ปฏิชานาติ. มุหุตฺตํ มุหุตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ปฺเห ปรวาทิสฺส ‘‘อุปฺปาทวยธมฺมิโน’’ติอาทิสุตฺตวิโรธภเยน ปฏิชานาติ. ิตึ ปนสฺส ลทฺธิวเสน อิจฺฉติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
จิตฺตฏฺิติกถาวณฺณนา.
๘. กุกฺกุฬกถาวณฺณนา
๓๓๘. อิทานิ ¶ ¶ กุกฺกุฬกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตํ (สํ. นิ. ๔.๒๘; มหาว. ๕๔) สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา’’ติอาทีนิ (ธ. ป. ๒๗๘) สุตฺตานิ อโยนิโส คเหตฺวา ¶ ‘‘นิปฺปริยาเยเนว สพฺเพ สงฺขารา กุกฺกุฬา วีตจฺจิตงฺคารสมฺมิสฺสา ฉาริกนิรยสทิสา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ โคกุลิกานํ; เตสํ นานปฺปการสุขสนฺทสฺสเนน ตํ ลทฺธึ วิเวเจตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ตตฺถ อโนธึ กตฺวาติ โอธึ มริยาทํ โกฏฺาสํ อกริตฺวา, อวิเสเสน สพฺเพเยวาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพํ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สุตฺตสาธนายาติ.
กุกฺกุฬกถาวณฺณนา.
๙. อนุปุพฺพาภิสมยกถาวณฺณนา
๓๓๙. อิทานิ อนุปุพฺพาภิสมยกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ –
‘‘อนุปุพฺเพน เมธาวี, โถกํ โถกํ ขเณ ขเณ;
กมฺมาโร รชตสฺเสว, นิทฺธเม มลมตฺตโน’’ติ. (ธ. ป. ๒๓๙) –
อาทีนิ สุตฺตานิ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน เอกจฺเจ กิเลเส ทุกฺขทสฺสเนน ปชหติ, เอกจฺเจ สมุทยนิโรธมคฺคทสฺสเนน, ตถา เสสาปีติ เอวํ โสฬสหิ โกฏฺาเสหิ อนุปุพฺเพน กิเลสปฺปหานํ กตฺวา อรหตฺตปฏิลาโภ โหตี’’ติ เอวรูปา นานาภิสมยลทฺธิ อุปฺปนฺนา, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกสพฺพตฺถิกสมฺมิติยภทฺรยานิกานํ; เตสํ ลทฺธิวิเวจนตฺถํ อนุปุพฺพาภิสมโยติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อนุปุพฺเพน โสตาปตฺติมคฺคนฺติ ปุฏฺโ ปน เอกสฺส มคฺคสฺส พหุภาวาปตฺติภเยน ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ทุกฺขทสฺสนาทิวเสน ปฏิชานาติ. ตานิ วา จตฺตาริปิ าณานิ เอโก โสตาปตฺติมคฺโคเยวาติ ¶ ปฏิชานาติ, ผลํ ปน เอกเมว อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. สกทาคามิมคฺคาทีสุปิ ¶ เอเสว นโย.
๓๔๔. มคฺเค ทิฏฺเ ผเล ิโตติ ปฺเห ยสฺมา ทุกฺขทสฺสนาทีหิ ทสฺสนํ อปรินิฏฺิตํ, มคฺคทสฺสเนน ปรินิฏฺิตํ นาม โหติ, ตทา โส ผเล ิโตติ สงฺขํ คจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ.
๓๔๕. ทุกฺเข ¶ ทิฏฺเ จตฺตาริ สจฺจานีติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, เอกาภิสมยวเสน ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ปุน ทุกฺขสจฺจํ จตฺตาริ สจฺจานีติ อนุโยเค จตุนฺนมฺปิ นานาสภาวตฺตา ปฏิกฺเขโป ตสฺเสว.
รูปกฺขนฺเธ อนิจฺจโต ทิฏฺเติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, สมุทฺทโต เอกพินฺทุสฺส รเส ปฏิวิทฺเธ เสสอุทกสฺส ปฏิเวโธ วิย เอกธมฺเม อนิจฺจาทิโต ปฏิวิทฺเธ สพฺเพปิ ปฏิวิทฺธา โหนฺตีติ ลทฺธิยา ปฏิฺา ปรวาทิสฺส.
จตูหิ าเณหีติ ทุกฺเข าณาทีหิ. อฏฺหิ าเณหีติ สาวกานํ สาธารเณหิ สจฺจาเณหิ เจว ปฏิสมฺภิทาาเณหิ จ. ทฺวาทสหิ าเณหีติ ทฺวาทสงฺคปฏิจฺจสมุปฺปาทาเณหิ. จตุจตฺตารีสาย าเณหีติ ‘‘ชรามรเณ าณํ, ชรามรณสมุทเย าณ’’นฺติ เอวํ นิทานวคฺเค วุตฺตาเณหิ. สตฺตสตฺตติยา าเณหีติ ‘‘ชรามรณํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺม’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒๐) เอวํ ตตฺเถว วุตฺตาเณหิ. เสสเมตฺถ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สุตฺตสาธเนนาติ.
อนุปุพฺพาภิสมยกถาวณฺณนา.
๑๐. โวหารกถาวณฺณนา
๓๔๗. อิทานิ ¶ โวหารกถา นาม โหติ. ตตฺถ พุทฺโธ ภควา โลกุตฺตเรน โวหาเรน โวหรตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ลทฺธิวเสน ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. โลกุตฺตเร โสเตติอาทีนิ ตสฺส อยุตฺตวาทีภาวทีปนตฺถํ วุตฺตานิ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ‘‘สทฺทายตนเมว เต โลกุตฺตรํ, อุทาหุ โสตาทีนิปี’’ติ.
หฺจิ พุทฺธสฺส ภควโต โวหาโร โลกิเย โสเต ปฏิหฺตีติ เอตฺถ ยทิ โส โลกุตฺตเร ปฏิหฺเยฺย. โลกุตฺตโร สิยาติ เอวมตฺโถ น คเหตพฺโพ. โลกิเย ¶ ปฏิหฺมานสฺส ปน โลกุตฺตรตา นาม นตฺถีติ อยเมตฺถาธิปฺปาโย. โลกิเยน วิฺาเณนาติ เอตฺถาปิ โลกิเยเนวาติ ¶ อตฺโถ. อิตรถา อเนกนฺตตา สิยา. โลกุตฺตรฺหิ โลกิเยนปิ าเณน ายตี. เอวํ สพฺพํ ยถานุรูปโต เวทิตพฺพํ. สพฺเพ เต มคฺคํ ภาเวนฺตีติ ปฺเหสุ เย มคฺคํ นปฺปฏิลภนฺติ, เต สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. เย ปฏิลภนฺติ, เต สนฺธาย ปฏิชานาติ.
๓๕๑. โสวณฺณมยายาติ สุวณฺณมยาย. อิทํ ปรวาทิสฺส อุทาหรณํ.
เอฬณฺฑิยายาติ เอฬณฺฑมยาย. อิทํ สกวาทิสฺส อุทาหรณํ. โลกิยํ โวหรนฺตสฺส โลกิโยติ อยมฺปิ เอกา ลทฺธิ. สา เอตรหิ เอกจฺจานํ อนฺธกานํ ลทฺธิ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
โวหารกถาวณฺณนา.
๑๑. นิโรธกถาวณฺณนา
๓๕๓. อิทานิ นิโรธกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ อปฺปฏิสงฺขานิโรธฺจ ปฏิสงฺขานิโรธฺจ ทฺเวปิ เอกโต กตฺวา นิโรธสจฺจนฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ มหิสาสกานฺเจว อนฺธกานฺจ; เต สนฺธาย ทฺเว นิโรธาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส ¶ . ทฺเว ทุกฺขนิโรธาติ ปฺเหสุ ยสฺมา ทฺเว ทุกฺขสจฺจานิ น อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. ยสฺมา ทฺวีหากาเรหิ ทุกฺขํ นิรุชฺฌตีติ อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. ทฺเว นิโรธสจฺจานีติปฺเหสุ ทฺวินฺนํ ทุกฺขสจฺจานํ นิโรธวเสนอนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ทฺวีหากาเรหิ ทุกฺขสฺส นิรุชฺฌนโต ปฏิชานาติ. ทฺเว ตาณานีติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
อตฺถิ ทฺวินฺนํ นิพฺพานานนฺติอาทีสุ ปุจฺฉาสุ อุจฺจนีจตาทีนิ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ.
อปฺปฏิสงฺขานิรุทฺเธติ เย ปฏิสงฺขาย โลกุตฺตเรน าเณน อนิรุทฺธา สุทฺธปกติกตฺตา วา อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนํ วา วเสน น สมุทาจรณโต นิรุทฺธาติ วุจฺจนฺติ, เต สงฺขาเร. ปฏิสงฺขา นิโรเธนฺตีติ. โลกุตฺตราเณน นิโรเธนฺติ อนุปฺปตฺติภาวํ คเมนฺติ. นนุ อปฺปฏิสงฺขานิรุทฺธา สงฺขาราติ ¶ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส ¶ . ตตฺถ ภคฺคานํ ปุน อภฺชนโต อปฺปฏิสงฺขานิรุทฺธานํ วา อริยมคฺเค อุปฺปนฺเน ตถา นิรุชฺฌนโตว สกวาที อจฺจนฺตภคฺคตํ ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
นิโรธกถาวณฺณนา.
ทุติโย วคฺโค.