📜

๓. ตติยวคฺโค

๑. พลกถาวณฺณนา

๓๕๔. อิทานิ พลกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ อนุรุทฺธสํยุตฺเต ‘‘อิเมสฺจ ปนาหํ, อาวุโส, จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานามี’’ติอาทีนิ (สํ. นิ. ๕.๙๑๓) ทสสุตฺตานิ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘ตถาคตพลํ สาวกสาธารณ’’นฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ตถาคตพลฺจ นาเมตํ สาวเกหิ สาธารณมฺปิ อตฺถิ อสาธารณมฺปิ สาธารณาสาธารณมฺปิ. ตตฺถ อาสวานํ ขเย าณํ สาธารณํ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺติาณํ อสาธารณํ. เสสํ สาธารณฺจ อสาธารณฺจ. านาฏฺานาทีนิ หิ สาวกา ปเทเสน ชานนฺติ, ตถาคตา นิปฺปเทเสน. อิติ ตานิ อุทฺเทสโต สาธารณานิ, น นิทฺเทสโต. อยํ ปน อวิเสเสน สพฺพมฺปิ สาธารณนฺติ อาห. ตเมนํ ตโต วิเวเจตุํ ตถาคตพลํ สาวกพลนฺติ ปุน อนุโยโค อารทฺโธ. ตตฺถ ปมปฺเห นิทฺเทสโต สพฺพาการวิสยตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยปฺเห อุทฺเทสโต านาฏฺานมตฺตาทิชานนวเสน ปฏิชานาติ. ตฺเวาติอาทิปฺเหสุ สพฺพากาเรน นินฺนานากรณตาย อภาเวน ปฏิกฺขิปติ. ปุพฺพโยโคปุพฺพจริยา จ อตฺถโต เอกํ, ตถา ธมฺมกฺขานฺจ ธมฺมเทสนา จ.

อินฺทฺริยปโรปริยตฺติปฺเห เอกเทเสน สาธารณตํ สนฺธาย สาวกวิสเย ปฏิชานาติ.

๓๕๕. อิทานิ ยสฺมา อุทฺเทสโต านาฏฺานาทีนิ สาวโก ชานาติ, ตสฺมา สาวกสฺส ตถา ชานนํ ปกาเสตฺวา เตน ชานนมตฺตสามฺเน เตสํ สาวกสาธารณตฺตํ ปติฏฺาเปตุํ สาวโก านาฏฺานํชานาตีติอาทโย ปรวาทิปฺหา โหนฺติ. ตตฺถ อินฺทฺริยปโรปริยตฺติาณํ ฉนฺนํ อสาธารณาณานํ อฺตรนฺติ น คหิตํ. อาสวกฺขเยน วา อาสวกฺขยนฺติ ยํ ตถาคตสฺส อาสวกฺขเยน สทฺธึ สาวกสฺส อาสวกฺขยํ ปฏิจฺจ วตฺตพฺพํ สิยา นานากรณํ, ตํ นตฺถิ. วิมุตฺติยา วา วิมุตฺตินฺติ ปเทปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

๓๕๖. อิทานิ ยํ สกวาทินา ‘‘อาสวานํ ขเย าณํ สาธารณ’’นฺติ อนุฺาตํ, เตน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา เสสานมฺปิ สาธารณภาวํ ปุจฺฉิตุํ ปุน อาสวานํ ขเยติอาทโย ปรวาทิปฺหาว โหนฺติ. เตสํ วิสฺสชฺชเน สกวาทินา อาสวกฺขเย วิเสสาภาเวน ตํ าณํ สาธารณนฺติ อนุฺาตํ. อิตเรสุปิ วิเสสาภาเวน สาธารณตา ปฏิกฺขิตฺตา. ปุน านาฏฺานาทีนํ อาสวกฺขเยเนว สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา อสาธารณปุจฺฉา ปรวาทิสฺเสว. ตตฺถ อาสวกฺขยาเณ ปฏิกฺเขโป, เสเสสุ จ ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ตโต อินฺทฺริยปโรปริยตฺเตน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา อสาธารณปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. สา สงฺขิปิตฺวา ทสฺสิตา. ตถาปิ อินฺทฺริยปโรปริยตฺเต ปฏิฺา, เสเสสุ จ ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส. ตโต านาฏฺานาทีหิ สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา อินฺทฺริยปโรปริยตฺตสฺส สาธารณปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. สาปิ สงฺขิปิตฺวาว ทสฺสิตา. ตตฺถ อินฺทฺริยปโรปริยตฺเต ปฏิกฺเขโป. เสเสสุ จ ปฏิฺา สกวาทิสฺสาติ.

พลกถาวณฺณนา.

๒. อริยนฺติกถาวณฺณนา

๓๕๗. อิทานิ อริยนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘น เกวลํ อาสวกฺขยาณเมว อริยํ, อถ โข ปุริมานิปิ นว พลานิ อริยานิ’’จฺเจว ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อริยนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปุน ยทิ ตํ อริยํ, มคฺคาทีสุ เตน อฺตเรน ภวิตพฺพนฺติ มคฺคาทิวเสน ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส.

ปุน สุฺตารมฺมณาทิวเสน ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ ทฺเว สุฺตา – สตฺตสุฺตา จ สงฺขารสุฺตา จ. สตฺตสุฺตา นาม ทิฏฺิยา ปริกปฺปิเตน สตฺเตน สุฺา ปฺจกฺขนฺธา. สงฺขารสุฺตา นาม สพฺพสงฺขาเรหิ สุฺํ วิวิตฺตํ นิสฺสฏํ นิพฺพานํ. ตตฺถ ปรวาที นิพฺพานารมฺมณตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, สงฺขารารมฺมณตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. มนสิ กโรตีติ ปุฏฺโปิ นิพฺพานเมว สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, สงฺขาเร สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตโต สกวาทินา ‘‘านาฏฺานาทิมนสิกาโร สงฺขารารมฺมโณ, สุฺตมนสิกาโร นิพฺพานารมฺมโณ’’ติ อิมํ นยํ คเหตฺวา ‘‘ทฺวินฺนํ ผสฺสานํ ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ สโมธานํ โหตี’’ติ ปุฏฺโ เลโสกาสํ อลภนฺโต ปฏิกฺขิปติ. อนิมิตฺตาปณิหิเตสุปิ เอเสว นโย. สตฺตนิมิตฺตาภาวโต หิ ขนฺธา อนิมิตฺตา. สงฺขารนิมิตฺตาภาวโต นิพฺพานํ. เอกธมฺมสฺมิมฺปิ อาโรเปตฺวา เปตพฺพสงฺขาเตน จ ปณิทหิตพฺพฏฺเน ปณิหิตสงฺขํ คเตน สตฺตปณิธินา อปฺปณิหิตา ขนฺธา. ตณฺหาปณิธินา ตณฺหาย วา อารมฺมณภูเตน สพฺพสงฺขารปณิธินา อปฺปณิหิตํ นิพฺพานํ. ตสฺมา อิธาปิ ปฏิกฺเขโป จ ปฏิฺา จ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพา.

๓๕๘. ตโต ‘‘ยถา สติปฏฺานาทโย โลกุตฺตรธมฺมา อริยา เจว สุฺตาทิอารมฺมณา จ, กึ เต เอวํ านาฏฺานาณ’’นฺติ อนุโลมปฏิโลมปุจฺฉา โหนฺติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปฏิฺา สพฺเพ จ ปฏิกฺเขปา ปรวาทิสฺเสว. อิมินาวุปาเยน เสสาเณสุปิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. ปาฬิยํ ปน เสสานิ สงฺขิปิตฺวา อวสาเน จุตูปปาตาณเมว วิภตฺตํ. ตโต ปรํ สกสมเยปิ ‘‘อริย’’นฺติ สิทฺเธน อาสวานํ ขยาเณน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา เสสาณานํ อนุโลมโต จ ปฏิโลมโต จ อริยภาวปุจฺฉา โหนฺติ. ตา สพฺพา ปรวาทิสฺส, ปฏิฺา ปฏิกฺเขโป จ สกวาทิสฺส . เต อุตฺตานตฺถาเยว. ปาฬิยํ ปเนตฺถ ปมนวมาเนว ทสฺเสตฺวา สตฺต าณานิ สงฺขิตฺตานีติ.

อริยนฺติกถาวณฺณนา.

๓. วิมุตฺติกถาวณฺณนา

๓๖๓. อิทานิ วิมุตฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘วีตราคจิตฺตานํ วิมุตฺติปโยชนํ นาม นตฺถิ. ยถา ปน มลีนํ วตฺถํ โธวิยมานํ มลา วิมุจฺจติ, เอวํ สราคํ จิตฺตํ ราคโต วิมุจฺจตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย สราคนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตโต ราคสหคตนฺติอาทินา นเยน ปุฏฺโ มคฺคกฺขเณ จิตฺตํ วิมุจฺจติ นาม. ตทา จ เอวรูปํ จิตฺตํ นตฺถีติ ปฏิกฺขิปติ.

สผสฺสนฺติอาทินา นเยน ปุฏฺโปิ ยถา ผสฺโส จ จิตฺตฺจ อุโภ ราคโต วิมุจฺจนฺติ, เอวํ ราคสฺส วิมุตฺตึ อปสฺสมาโน ปฏิกฺขิปติ. สโทสาทีสุปิ อิมินาวุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

วิมุตฺติกถาวณฺณนา.

๔. วิมุจฺจมานกถาวณฺณนา

๓๖๖. อิทานิ วิมุจฺจมานกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘ฌาเนน วิกฺขมฺภนวิมุตฺติยา วิมุตฺตํ, มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิมุจฺจมานํ นาม โหตี’’ติ ลทฺธิ, เต สนฺธาย วิมุตฺตํ วิมุจฺจมานนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรส.

ปุน เอกเทสนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ เอกเทสนฺติ ภาวนปุํสกํ. ยถา วิมุตฺตํ, เอกเทเสน วา เอกเทเส วา อวิมุตฺตํ โหติ กึ เอวํ เอกเทสํ วิมุตฺตํ, เอกเทสํ อวิมุตฺตนฺติ ปุจฺฉติ. กึ การณา เอวํ ปุจฺฉตีติ? ‘‘วิมุตฺตํ วิมุจฺจมาน’’นฺติ วิปฺปกตภาเวน วุตฺตตฺตา. ยถา หิ กริยมานา กฏาทโย วิปฺปกตตฺตา เอกเทเสน กตา เอกเทเสน อกตา โหนฺติ, ตถา อิทมฺปิ เอกเทสํ วิมุตฺตํ เอกเทสํ อวิมุตฺตนฺติ อาปชฺชติ. ตโต ปรวาที กฏาทีนํ วิย จิตฺตสฺส เอกเทสาภาวา ปมปฺเห ปฏิกฺขิปิตฺวา ทุติเย วิมุจฺจมานสฺส อปรินิฏฺิตวิมุตฺติตาย ปฏิชานาติ. โลกิยชฺฌานกฺขณํ วา สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. น หิ ตํ ตทา สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิมุจฺจมานํ. โลกุตฺตรชฺฌานกฺขณํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตฺหิ ตทา สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิมุตฺเตกเทเสน วิมุจฺจมานนฺติสฺส ลทฺธิ. ตโต สกวาที ‘‘ยทิ เต เอกเมว จิตฺตํ เอกเทสํ วิมุตฺตํ เอกเทสํ อวิมุตฺตํ, เอวํ สนฺเต โย เอเกเนว จิตฺเตน โสตาปนฺโน โหติ, โสปิ เต เอกเทสํ โสตาปนฺโน, เอกเทสํ น โสตาปนฺโน อาปชฺชตี’’ติ โจทนตฺถํ เอกเทสํ โสตาปนฺโนติอาทิมาห. อิตโร ตํ วิธานํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโย.

อุปฺปาทกฺขณปฺเห ยทิ เอกเมว จิตฺตํ วิมุตฺตฺจ วิมุจฺจมานฺจ, เอกสฺมึ ขเณ วิมุตฺตํ เอกสฺมึ วิมุจฺจมานํ อาปชฺชติ. กึ เต เอวรูปํ จิตฺตนฺติ อตฺโถ.

๓๖๗. สุตฺตสาธเน ปมสุตฺตํ ปรวาทิสฺส. ตตฺราสฺสายมธิปฺปาโย – วิมุจฺจตีติ วิปฺปกตนิทฺเทโส. ตสฺมา ยํ ตสฺส โยคิโน เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต เอเตหิ อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ตํ วิมุจฺจมานํ นาม โหตีติ. ทุติยสุตฺตํ สกวาทิสฺส. ตตฺราสฺสายมธิปฺปาโย – ยทิ เต วิมุจฺจตีติ วจนโต วิมุตฺตํ วิมุจฺจมานํ, อิธ วิมุจฺจตีติ วจนาภาวโต วิมุตฺตเมว สิยา, น วิมุจฺจมานนฺติ.

อิทานิ ‘‘ยถา เต วิปฺปกตวิมุตฺติตาย วิมุจฺจมานํ, กึ เอวํ วิปฺปกตราคาทิตาย รชฺชมานาทีนิปิ อตฺถี’’ติ โจทนตฺถํ ปุน อตฺถิ จิตฺตนฺติอาทิ อารทฺธํ. ปรวาทินาปิ ตถารูปํ จิตฺตํ อปสฺสนฺเตน สพฺพํ ปฏิกฺขิตฺตํ. อถ นํ สกวาที ‘‘ทฺเวเยว โกฏิโย, ตติยา นตฺถี’’ติ อนุโพเธนฺโต นนุ รตฺตฺเจว อรตฺตฺจาติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – นนุ ภทฺรมุข, ราคสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ รตฺตํ วิปฺปยุตฺตํ อรตฺตนฺติ ทฺเวว โกฏิโย, รชฺชมานํ นาม ตติยา โกฏิ นตฺถีติ? ทุฏฺาทีสุปิ เอเสว นโย. อถ นํ อามนฺตาติ ปฏิชานิตฺวา ิตํ. วิมุตฺติปกฺเขปิ ทฺเวเยว โกฏิโย ทสฺเสตุํ หฺจิ รตฺตฺเจวาติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยทิ เอตา ทฺเว โกฏิโย สมฺปฏิจฺฉสิ, อวิมุตฺตฺเจว วิมุตฺตฺจา ติ อิมาปิ สมฺปฏิจฺฉ. กิเลสสมฺปยุตฺตฺหิ จิตฺตํ อวิมุตฺตํ, วิปฺปยุตฺตํ วิมุตฺตํ. วิมุจฺจมานํ นามาติ ปรมตฺถโต ตติยา โกฏิ นตฺถีติ.

วิมุจฺจมานกถาวณฺณนา.

๕. อฏฺมกกถาวณฺณนา

๓๖๘. อิทานิ อฏฺมกกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ อนุโลมโคตฺรภุมคฺคกฺขเณ กิเลสานํ สมุทาจาราภาวโต อฏฺมกสฺส โสตาปตฺติมคฺคฏฺปุคฺคลสฺส ทฺเว ปริยุฏฺานา ปหีนาติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เตสํ อฺตรํ สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, มคฺคกฺขณโต ปฏฺาย ทิฏฺิยา อนุปฺปตฺตึ สนฺธาย ปฏิฺา อิตรสฺส. ตโต ยสฺมา ทิฏฺิ นาเมสา โสตาปนฺนสฺเสว ปหีนา, น มคฺคฏฺสฺส, ตสฺมา อฏฺมโก ปุคฺคโล โสตาปนฺโนติ อนุโยโค สกวาทิสฺส. วิจิกิจฺฉาปฺเหปิ เอเสว นโย. อนุสยปฺเห ปริยุฏฺานโต อฺโ อนุสโยติ เตสํ ลทฺธิ, ตสฺมา ‘‘น เหว’’นฺติ ปฏิกฺขิตฺตํ.

สีลพฺพตปรามาสปฺเหปิ สีลพฺพตปรามาสปริยุฏฺานนฺติ โวหารํ น ปสฺสติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. ปริยุฏฺานเมวสฺส ปหีนนฺติ ลทฺธิ.

๓๖๙. มคฺโค ภาวิโตติ ปฺเห ตสฺมึ ขเณ ภาเวติ, น ภาวิโต. ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. อมคฺเคนาติอาทิอนุโยเค ปมมคฺเคเนว ปหีนภาวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ยทิ หิ อมคฺเคน ปหีเยถ, โคตฺรภุปุคฺคลาทีนมฺปิ ปหีเยถาติ อาปชฺชนโต. อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, วิสฺสชฺชนํ สกวาทิสฺส. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อฏฺมกกถาวณฺณนา.

๖. อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยกถาวณฺณนา

๓๗๑. อิทานิ อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อฏฺมโก มคฺคกฺขเณ อินฺทฺริยานิ ปฏิลภติ นาม, โน จสฺส ปฏิลทฺธานิ โหนฺตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย นตฺถิ สทฺธินฺทฺริยนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. นตฺถิ สทฺธาติ ปุฏฺโ ปน สทฺธินฺทฺริยโต สทฺธาย นานตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา ปฏิกฺขิปติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ยถา ปน ยสฺส อตฺถิ มโน, ตสฺส มนินฺทฺริยมฺปิ อตฺถิ; เอวํ ยสฺส สทฺธาทโย อตฺถิ, ตสฺส อตฺถิ สทฺธินฺทฺริยาทีนิปีติ ทีปนตฺถํ อตฺถิ มโน อตฺถิ มนินฺทฺริยนฺติอาทิ อารทฺธํ. ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว สทฺธึ สุตฺตสาธเนนาติ.

อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยกถาวณฺณนา.

๗. ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา

๓๗๓. อิทานิ ทิพฺพจกฺขุกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ จตุตฺถชฺฌานธมฺมูปตฺถทฺธํ มํสจกฺขุเมว ทิพฺพจกฺขุ นาม โหตีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย มํสจกฺขุนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส.

ปุน ‘‘มํสจกฺขุ ทิพฺพจกฺขุ, ทิพฺพจกฺขุ มํสจกฺขู’’ติ ปุฏฺโ ตํ มตฺตเมว ตํ น โหตีติ ปฏิกฺขิปติ. ยาทิสนฺติอาทิปุจฺฉาสุปิ อุภินฺนํ เอกสภาวาภาเวเนว ปฏิกฺขิปติ.

วิสโยติอาทีสุ อุภินฺนมฺปิ รูปายตนเมว วิสโย. มํสจกฺขุ ปน อาปาถคตเมว ปสฺสติ. อิตรํ อนาปาถคตํ ติโรปพฺพตาทิคตมฺปิ. ทิพฺพจกฺขุสฺส จ อติสุขุมมฺปิ รูปํ โคจโร, น ตาทิสํ อิตรสฺสาติ เอวเมเตสํ อานุภาวโคจรา อสทิสา.

อุปาทิณฺณํ หุตฺวา อนุปาทิณฺณํ โหตีติ ปุฏฺโ ยสฺมา มํสจกฺขุ อุปาทิณฺณํ, ทิพฺพจกฺขุ อนุปาทิณฺณํ, น จ มํสจกฺขุเมว ทิพฺพจกฺขูติ อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ยสฺมา ‘‘มํสจกฺขุสฺส อุปฺปาโท, มคฺโค ทิพฺพสฺส จกฺขุโน’’ติ วจนํ นิสฺสาย มํสจกฺขุปจฺจยา ทิพฺพจกฺขุ อุปฺปชฺชติ, ตฺจ รูปาวจริกานํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ ปสาโทติ อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. กามาวจรํ หุตฺวาติ ปุฏฺโปิ ยสฺมา น มํสจกฺขุเมว ทิพฺพจกฺขูติ อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ รูปาวจรชฺฌานปจฺจเยน อุปฺปนฺนตฺตา รูปาวจรํ นาม ชาตนฺติ ปฏิชานาติ.

รูปาวจรํ หุตฺวา อรูปาวจรนฺติ ปุฏฺโปิ ตโต ปรํ ภาวนาย อรูปาวจรกฺขเณ รูปาวจรจิตฺตสฺส อภาวา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ อรูปาวจริกานํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ ปสาโท หุตฺวา อุปฺปชฺชตีติ ลทฺธิยา ปฏิชานาติ. อปริยาปนฺนภาวํ ปนสฺส น อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติเยว.

๓๗๔. ทิพฺพจกฺขุํ ธมฺมุปตฺถทฺธนฺติ กามาวจรธมฺเมน อุปตฺถมฺภิตํ หุตฺวา. ปุน ธมฺมุปตฺถทฺธนฺติ โลกุตฺตรธมฺเมน อุปตฺถทฺธํ. ทฺเวว จกฺขูนีติ ปุฏฺโ กิฺจาปิ ทิพฺพจกฺขุโน ธมฺมุปตฺถทฺธสฺส ปฺาจกฺขุภาวํ น อิจฺฉติ, ปฺาจกฺขุสฺส ปน อตฺถิตาย ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ มํสจกฺขุ ธมฺมุปตฺถทฺธํ ทิพฺพจกฺขุ โหตีติ ลทฺธิวเสน ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา.

๘. ทิพฺพโสตกถาวณฺณนา

๓๗๕. อิทานิ ทิพฺพโสตกถา นาม โหติ. ตตฺถ เอกํเยว โสตนฺติ ปุฏฺโ ทฺวินฺนํ อตฺถิตาย ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ ยสฺมา ตเทว ธมฺมุปตฺถทฺธํ ทิพฺพโสตํ นาม โหติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ.

ทิพฺพโสตกถาวณฺณนา.

๙. ยถากมฺมูปคตาณกถาวณฺณนา

๓๗๗. อิทานิ ยถากมฺมูปคตาณกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๔๖; ปฏิ. ม. ๑.๑๐๖) สุตฺตํ อโยนิโส คเหตฺวา ยถากมฺมูปคตาณเมว ทิพฺพจกฺขุนฺติ ลทฺธิ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปุน ยถากมฺมูปคตฺจ มนสิ กโรตีติ ปุฏฺโ เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณทฺวยาภาวา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ นานาจิตฺตวเสน ปฏิชานาติ. ปุน เลโสกาสํ อทตฺวา ทฺวินฺนํ ผสฺสานนฺติ ปุฏฺโ ปฏิกฺขิปติ. อิติ ยถา อิมินา ยถากมฺมูปคตปเทน, เอวเมว อิเม วต โภนฺโต, สตฺตาติอาทิปเทหิปิ สทฺธึ โยชนาสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๓๗๘. อายสฺมาสาริปุตฺโต ยถากมฺมูปคตํ าณํ ชานาตีติ อิทํ สกวาที ยสฺมา เถโร อปฺปิจฺฉตาย อภิฺาาณานิ น วฬฺเชตีติ เอกจฺเจ น ชานนฺติ, ตานิ ปนสฺส เนว อตฺถีติ มฺนฺติ, ตสฺมา ตํ ‘‘ทิพฺพจกฺขุโน อลาภี เถโร’’ติ มฺมานํ ปุจฺฉติ. เตเนว การเณน ‘‘อตฺถายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทิพฺพจกฺขู’’ติ ปรโต ปุฏฺโ ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ยํกิฺจิ สาวเกน ปตฺตพฺพํ, สพฺพํ ตํ เถเรน อนุปฺปตฺตนฺติ ปฏิชานาติ. อิทานิสฺส วิกฺเขปํ กโรนฺโต สกวาที นนุ อายสฺมา สาริปุตฺโตติอาทิมาห. อิมฺหิ คาถํ เถโร วฬฺชนปณิธิยา เอว อภาเวน อาห, น อภิฺาาณสฺส อภาเวน. ปรวาที ปน อภาเวเนวาติ อตฺถํ สลฺลกฺเขติ. ตสฺมา ตสฺส ลทฺธิยา เถรสฺส ยถากมฺมูปคตาณเมว อตฺถิ, โน ทิพฺพจกฺขุ. เตน วุตฺตํ ‘‘เตน หิ น วตฺตพฺพํ ยถากมฺมูปคตาณํ ทิพฺพจกฺขู’’ติ.

ยถากมฺมูปคตาณกถาวณฺณนา.

๑๐. สํวรกถาวณฺณนา

๓๗๙. อิทานิ สํวรกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ตาวตึเส เทเว อุปาทาย ตตุตฺตริ เทเวสุ ยสฺมา เต ปฺจ เวรานิ น สมาจรนฺติ, ตสฺมา สํวโร อตฺถีติ ลทฺธิ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, เวรสมุทาจารํ อปสฺสโต ปฏิฺา อิตรสฺส. ตโต ยสฺมา สํวโร นาม สํวริตพฺเพ อสํวเร สติ โหติ, ตสฺมา อสํวรปุจฺฉา สกวาทิสฺส, เทเวสุ ปาณาติปาตาทีนํ อภาเวน ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส.

อตฺถิ มนุสฺเสสูติอาทิ สํวเร สติ อสํวรสฺส อสํวเร จ สติ สํวรสฺส ปวตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

๓๘๐. ปาณาติปาตา เวรมณีติ อาทิปฺเหสุ ปาณาติปาตาทีนํ อสมาจรณวเสน ปฏิฺา, ปาณาติปาตาทีนํ นตฺถิตาย ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. ปฏิโลมปฺหา อุตฺตานตฺถาเยว.

อวสาเน นตฺถิ เทเวสุ สํวโรติปฺเห ปาณาติปาตาทีนิ กตฺวา ปุน ตโต สํวราภาวํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ตโต ฉลวเสน ยทิ สํวโร นตฺถิ, สพฺเพ เทวา ปาณาติปาติโนติอาทิปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. เทวานํ เวรสมุทาจารสฺส อภาเวน ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส. นเหวนฺติ วจนมตฺตํ คเหตฺวา ลทฺธิปติฏฺาปนํ ปรวาทิสฺส. เอวํ ปติฏฺิตา ปน ลทฺธิ อปฺปติฏฺิตาว โหตีติ.

สํวรกถาวณฺณนา.

๑๑. อสฺกถาวณฺณนา

๓๘๑. อิทานิ อสฺกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ วจนโต วินา วิฺาเณน ปฏิสนฺธิ นาม นตฺถิ. ‘‘สฺุปฺปาทา จ ปน เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺตี’’ติ วจนโต อสฺสตฺตานมฺปิ จุติปฏิสนฺธิกฺขเณ สฺา อตฺถีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตโต นํ สกวาที ‘‘กึ เต ตํ านํ สฺาภโว’’ติอาทีหิ โจเทตุํ สฺาภโว สฺาคตีติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ ตโต ปรฺจ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

อสฺกถาวณฺณนา.

๑๒. เนวสฺานาสฺายตนกถาวณฺณนา

๓๘๔. อิทานิ เนวสฺานาสฺายตนกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘เนวสฺานาสฺายตน’’นฺติ วจนโต น วตฺตพฺพํ ‘‘ตสฺมึ ภเว สฺา อตฺถี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ สพฺพํ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

เนวสฺานาสฺายตนกถาวณฺณนา.

ตติโย วคฺโค.