📜

๔. จตุตฺถวคฺโค

๑. คิหิสฺส อรหาติกถาวณฺณนา

๓๘๗. อิทานิ คิหิสฺส อรหาติ กถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ยสกุลปุตฺตาทีนํ คิหิพฺยฺชเน ิตานํ อรหตฺตปฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘คิหิ อสฺส อรหา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ คิหิสฺสาติ โย คิหิสํโยชนสมฺปยุตฺตตาย คิหิ, โส อรหํ อสฺสาติ อตฺโถ. ปรวาที ปน อธิปฺปายํ อสลฺลกฺเขตฺวา คิหิพฺยฺชนมตฺตเมว ปสฺสนฺโต ปฏิชานาติ. อิทานิสฺส ‘‘คิหิ นาม คิหิสํโยชเนน โหติ, น พฺยฺชนมตฺเตน. ยถาห ภควา –

‘อลงฺกโต เจปิ สมํ จเรยฺย,

สนฺโต ทนฺโต นิยโต พฺรหฺมจารี;

สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ,

โส พฺราหฺมโณ โส สมโณ ส ภิกฺขู’’’ติ. (ธ. ป. ๑๔๒);

อิมํ นยํ ทสฺเสตุํ อตฺถิ อรหโตติอาทิ อารทฺธํ. ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

คิหิสฺส อรหาติกถาวณฺณนา.

๒. อุปปตฺติกถาวณฺณนา

๓๘๘. อิทานิ อุปปตฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘โอปปาติโก โหติ ตตฺถปรินิพฺพายี’’ติวจนานิ (ปุ. ป. ๓๕-๔๐) อโยนิโส คเหตฺวา สุทฺธาวาเสสุ อุปปตฺติยา อรหาติ ลทฺธิ, ‘‘เยสํ วา อุปหจฺจปรินิพฺพายี’’ติ ปทํ ปริวตฺติตฺวา ‘‘อุปปชฺชปรินิพฺพายี’’ติ ปริยาปุณนฺตานํ สห อุปปตฺติยา อรหา โหตีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตตฺถ ยสฺมา อุปปตฺติจิตฺตํ นาม โลกิยํ, เตน โสตาปนฺนาทโยปิ น โหนฺติ, ปเคว อรหา. ตสฺมาสฺส อิมํ นยํ ทสฺเสตุํ สห อุปปตฺติยา โสตาปนฺโนติอาทิ อารทฺธํ.

๓๘๙. สาริปุตฺโตติอาทิ อิเมสุ มหาเถเรสุ โก เอโกปิ สห อุปปตฺติยา อรหา นามาติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ.

๓๙๐. อุปปตฺเตสิเยนาติ ปฏิสนฺธิจิตฺเตน. ตฺหิ อุปปตฺตึ เอสติ คเวสติ, ตสฺมา อุปปตฺเตสิยนฺติ วุจฺจติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อุปปตฺติกถาวณฺณนา.

๓. อนาสวกถาวณฺณนา

๓๙๑. อิทานิ อนาสวกถา นาม โหติ. ตตฺถ เย ธมฺมา อนาสวสฺส อรหโต, สพฺเพ เต อนาสวาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย อรหโตติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ อนาสวา นาม มคฺคาทโย, กึ ตสฺส เตเยว อุปฺปชฺชนฺตีติ โจทนตฺถํ มคฺโค ผลนฺติอาทิ อารทฺธํ. จกฺขุ อนาสวนฺติ ปุฏฺโ ตสฺส สาสวตฺตา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ อนาสวสฺเสตนฺติ ปฏิชานาติ.

๓๙๒. จีวรปฺเห เอโกว ธมฺโม อนาสโว สาสโว จ โหตีติ ลกฺขณวิโรธภยา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ อนาสวสฺส หุตฺวา สาสวสฺส โหตีติ ปฏิชานาติ. ตฺเว อนาสวนฺติ ปฺหาทฺวเยปิ เอเสว นโย. สกวาที ปน ตฺเวาติ อนุฺาตตฺตา ‘‘มคฺโค อนาสโว หุตฺวา’’ติอาทีหิ โจเทติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

อนาสวกถาวณฺณนา.

๔. สมนฺนาคตกถาวณฺณนา

๓๙๓. อิทานิ สมนฺนาคตกถา นาม โหติ. ตตฺถ ทฺเว สมนฺนาคมา ปจฺจุปฺปนฺนกฺขเณ สมงฺคีภาวสมนฺนาคโม จ รูปาวจราทีสุ อฺตรภูมิปฺปตฺติโต ปฏิลาภสมนฺนาคโม จ. โส ยาว อธิคตวิเสสา น ปริหายติ, ตาวเทว ลพฺภติ. เยสํ ปน เปตฺวา อิเม ทฺเว สมนฺนาคเม อฺโ อุปปตฺติธมฺมวเสน เอโก สมนฺนาคโม นาม โหตีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อุตฺตราปถกานํ, เตสํ ปตฺติธมฺโม นาม โกจิ นตฺถีติ อนุโพธนตฺถํ อรหา จตูหิ ผเลหิ สมนฺนาคโตติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปตฺตึ สนฺธาย ปฏิฺา อิตรสฺส. อถสฺส ‘‘ยทิ เต อรหา จตูหิ ขนฺเธหิ วิย จตูหิ ผเลหิ สมนฺนาคโต, เอวํ สนฺเต เย จตูสุ ผเลสุ จตฺตาโร ผสฺสาทโย, เตหิ เต อรหโต สมนฺนาคตตา ปาปุณาตี’’ติ โจทนตฺถํ อรหา จตูหิ ผสฺเสหีติอาทิ อารทฺธํ. ตํ สพฺพํ ปรวาทินา เอกกฺขเณ จตุนฺนํ ผสฺสาทีนํ อภาวา ปฏิกฺขิตฺตํ. อนาคามิปฺหาทีสุปิ เอเสว นโย.

๓๙๕. โสตาปตฺติผลํ วีติวตฺโตติ น ปมชฺฌานํ วิย ทุติยชฺฌานลาภี; ปุน อนุปฺปตฺติยา ปน วีติวตฺโตติ ปุจฺฉติ. โสตาปตฺติมคฺคนฺติอาทิ ยํ วีติวตฺโต, เตนสฺส ปุน อสมนฺนาคมํ ทสฺเสตุํ อารทฺธํ.

๓๙๖. เตหิ จ อปริหีโนติ ปฺเห ยสฺมา ยถา ปจฺจนีกสมุทาจาเรน โลกิยชฺฌานธมฺมา ปริหายนฺติ, น เอวํ โลกุตฺตรา. มคฺเคน หิ เย กิเลสา ปหียนฺติ, ผเลน จ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, เต ตถา ปหีนาว ตถา ปฏิปฺปสฺสทฺธาเยว จ โหนฺติ, ตสฺมา สกวาทินา อามนฺตาติ ปฏิฺาตํ. สฺวายมตฺโถ ปรโต ‘‘อรหตา จตฺตาโร มคฺคา ปฏิลทฺธา’’ติอาทีสุ ปกาสิโตเยว. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สมนฺนาคตกถาวณฺณนา.

๕. อุเปกฺขาสมนฺนาคตกถาวณฺณนา

๓๙๗. อรหาฉหิ อุเปกฺขาหีติ กถายปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อรหา หิ ฉสุ ทฺวาเรสุ อุเปกฺขานํ อุปฺปตฺติภพฺพตาย ตาหิ สมนฺนาคโตติ วุจฺจติ, น เอกกฺขเณ สพฺพาสํ อุปฺปตฺติภาเวนาติ.

อุเปกฺขาสมนฺนาคตกถาวณฺณนา.

๖. โพธิยาพุทฺโธติกถาวณฺณนา

๓๙๘. อิทานิ โพธิยา พุทฺโธติกถา นาม โหติ. ตตฺถ โพธีติ จตุมคฺคาณสฺสาปิ สพฺพฺุตฺาณสฺสาปิ อธิวจนํ. ตสฺมา เยสํ ยถา โอทาเตน วณฺเณน โอทาโต, สาเมน วณฺเณน สาโม, เอวํ โพธิยา พุทฺโธติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อุตฺตราปถกานํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา จ อนุโยโค จ สกวาทิสฺส, ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ อิตรสฺส.

อตีตายาติ ปฺเห ตสฺมึ ขเณ อภาวโต ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ปฏิลาภํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปุน กิจฺจวเสน ปุฏฺโ กิจฺจาภาวโต ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ยํ เตน ตาย กรณียํ กตํ, ตตฺถ สมฺโมหาภาวํ ปฏิชานาติ. เลโสกาสํ ปน อทตฺวา ทุกฺขํ ปริชานาตีติอาทินา นเยน ปุฏฺโ ตสฺส กิจฺจสฺส อภาวา ปฏิกฺขิปติ.

อนาคตปฺเห ตสฺมึ ขเณ มคฺคาณสฺส อภาวา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ‘‘อคมา ราชคหํ พุทฺโธ’’ติ (สุ. นิ. ๔๑๐) อนาคตาย โพธิยา พุทฺธภาวํ มฺมาโน ปฏิชานาติ. โพธิกรณียํ กโรตีติ ปุฏฺโ ตสฺมึ ขเณ กิจฺจาภาเวน ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ยทิ น กเรยฺย, พุทฺโธติ น วุจฺเจยฺย. ยสฺมา อวสฺสํ กริสฺสติ, ตสฺมา กโรติเยว นามาติ ปฏิชานาติ. ปุน เลโสกาสํ อทตฺวา ปุฏฺโ ปฏิกฺขิปติ. ปจฺจุปฺปนฺนปฺโห สทฺธึ สํสนฺทนาย อุตฺตานตฺโถว.

๓๙๙. ติสฺโส โพธิโย เอกโต กตฺวา ปุฏฺโ สพฺพฺุตฺาณํ สนฺธาย ตีหิปิ พุทฺโธติ วตฺตพฺพภาวโต ปฏิชานาติ. ปุน ตีหิติ ปุฏฺโ สพฺพาสํ เอกกฺขเณ อภาวา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนสฺส สพฺพฺุตฺาณสฺส วเสน ปฏิชานาติ. ปุน เลโสกาสํ อทตฺวา สตตํ สมิตนฺติ ปุฏฺโ ปฏิกฺขิปติ.

น พตฺตพฺพํ โพธิยาติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, โพธิยา อภาวกฺขเณ อพุทฺธภาวาปตฺติโต ปฏิฺา สกวาทิสฺส. นนุ โพธิปฏิลาภาติ ปฺเห ปน ยสฺมึ สนฺตาเน โพธิสงฺขาตํ มคฺคาณํ อุปฺปนฺนํ, ตตฺถ พุทฺโธติ สมฺมุติสพฺภาวโต ปฏิฺา ตสฺเสว. ตสฺส อธิปฺปายํ อชานิตฺวา หฺจีติ ลทฺธิฏฺปนา ปรวาทิสฺส. อิทานิสฺส อสลฺลกฺขณํ ปากฏํ กาตุํ โพธิปฏิลาภา พุทฺโธติ โพธิยา พุทฺโธติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตสฺสตฺโถ – ‘‘กึ เต ยสฺมา โพธิปฏิลาภา พุทฺโธ, ตสฺมา โพธิยา พุทฺโธ’’ติ. อิตโร ‘‘โพธิปฏิลาโภ นาม โพธิยา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธายปิ สนฺตาเน อุปฺปนฺนภาโวเยว. โพธิ นาม มคฺคกฺขเณ าณ’’นฺติ อิมํ วิภาคํ อสลฺลกฺเขนฺโตว ปุน ปฏิชานาติ. ตโต สกวาทินา โพธิปฏิลาภา โพธีติ ปุฏฺโ วจโนกาสํ อลภนฺโต ปฏิกฺขิปตีติ.

โพธิยาพุทฺโธติกถาวณฺณนา.

อิติ อิมา ติสฺโสปิ กถา อุตฺตราปถกานํเยว.

๗. ลกฺขณกถาวณฺณนา

๔๐๐. อิทานิ ลกฺขณกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๕๘) อิมํ สุตฺตํ อโยนิโส คเหตฺวา ลกฺขณสมนฺนาคโต โพธิสตฺโตว โหตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส.

จกฺกวตฺติสตฺโตติ ปฺเหสุ ยสฺมา จกฺกวตฺตี สตฺโตปิ จ โพธิสตฺโตปิ, ตสฺมา อโพธิสตฺตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. โพธิสตฺตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ.

๔๐๒. ทฺวตฺตึสิมานีติสุตฺตํ โพธิสตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตํ. โส หิ ปจฺฉิเม ภเว พุทฺโธ โหติ, อิตเรสุ จกฺกวตฺตี, ตสฺมา อาภตมฺปิ อนาภตสทิสเมวาติ.

ลกฺขณกถาวณฺณนา.

๘. นิยาโมกฺกนฺติกถาวณฺณนา

๔๐๓. อิทานิ นิยาโมกฺกนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ฆฏิการสุตฺเต โชติปาลสฺส ปพฺพชฺชํ สนฺธาย ‘‘โพธิสตฺโต กสฺสปภควโต ปาวจเน โอกฺกนฺตนิยาโม จริตพฺรหฺมจริโย’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย โพธิสตฺโตติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิฺา อิตรสฺส. ตโต ยสฺมา นิยาโมติ วา พฺรหฺมจริยนฺติ วา อริยมคฺคสฺส นามํ, โพธิสตฺตานฺจ เปตฺวา ปารมีปูรณํ อฺา นิยาโมกฺกนฺติ นาม นตฺถิ. ยทิ ภเวยฺย, โพธิสตฺโต โสตาปนฺโน สาวโก ภเวยฺย. น เจตเมวํ. เกวลฺหิ นํ พุทฺธา อตฺตโน าณพเล ตฺวา – ‘‘อยํ พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากโรนฺติ, ตสฺมา ปุน โพธิสตฺโตติ อนุโยโค สกวาทิสฺส. ปจฺฉิมภวํ สนฺธาย ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส. ทุติยปฺเห โชติปาลกาลํ สนฺธาย ปฏิฺา ตสฺเสว. สาวโก หุตฺวาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อนุสฺสวิโยติ อนุสฺสเวน ปฏิวิทฺธธมฺโม. ปจฺฉิมภวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปิตฺวา โชติปาลกาเล อนุสฺสวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ.

๔๐๔. อฺํ สตฺถารนฺติอาฬารฺจ รามปุตฺตฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. อายสฺมา อานนฺโทติอาทิ ‘‘โอกฺกนฺตนิยามาว สาวกา โหนฺติ, น อิตเร โอกฺกนฺตนิยามา เอวรูปา โหนฺตี’’ติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ.

สาวโก ชาตึ วีติวตฺโตติ ยาย ชาติยา สาวโก, ตํ วีติวตฺโต อฺสฺมึ ภเว อสาวโก โหตีติ ปุจฺฉติ. อิตโร โสตาปนฺนาทีนํ โสตาปนฺนาทิสาวกภาวโต ปฏิกฺขิปติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

นิยาโมกฺกนฺติกถาวณฺณนา.

๙. อปราปิ สมนฺนาคตกถาวณฺณนา

๔๐๖. อิทานิ อปราปิ สมนฺนาคตกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘จตุตฺถมคฺคฏฺโ ปุคฺคโล ปตฺติธมฺมวเสน ตีหิ ผเลหิ สมนฺนาคโต’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ เหฏฺา จตูหิ ผเลหิ สมนฺนาคตกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

อปราปิ สมนฺนาคตกถาวณฺณนา.

๑๐. สพฺพสํโยชนปฺปหานกถาวณฺณนา

๔๑๓. อิทานิ สํโยชนปฺปหานกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘นิปฺปริยาเยเนว สพฺพสํโยชนปฺปหานํ อรหตฺต’’นฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปุน สพฺเพ สํโยชนาติ ปุฏฺโ เหฏฺา วุตฺตมคฺคตฺตเยน ปหีเน สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ เตน มคฺเคน อปฺปหีนสฺส อภาวา ปฏิชานาติ. สกฺกายทิฏฺิอาทีสุปิ ปมมคฺเคน ปหีนภาวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, จตุตฺถมคฺเคน อนวเสสปฺปหานํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เอเสว นโย สพฺพตฺถาติ.

สพฺพสํโยชนปฺปหานกถาวณฺณนา.

จตุตฺโถ วคฺโค.