📜
๒. นิทฺเทสวณฺณนา
๑. ปมนโย สงฺคหาสงฺคหปทวณฺณนา
๑. ขนฺธปทวณฺณนา
๖. อิทานิ ¶ ปฺจกฺขนฺธาทิวเสน นิกฺขิตฺตมาติกํ ‘สงฺคโห อสงฺคโห’ติอาทีหิ นยมาติกาปเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ รูปกฺขนฺโธ กติหิ ขนฺเธหีติอาทินา ¶ นเยน นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ ยสฺมา ‘‘สงฺคโห อสงฺคโหติอาทิกาย นยมาติกาย ‘‘ตีหิ สงฺคโห, ตีหิ อสงฺคโห’’ติ นยมุขมาติกา ปิตา, ตสฺมา รูปกฺขนฺธาทีนํ สงฺคหํ ทสฺเสตุํ กติหิ ขนฺเธหิ กติหายตเนหิ กติหิ ธาตูหีติ ตีณิ ขนฺธายตนธาตุปทาเนว อุทฺธฏานิ. ‘จตฺตาริ สจฺจานี’ติอาทีสุ เอกมฺปิ น ปรามฏฺํ. ยสฺมา จ ‘‘สภาโค วิสภาโค’’ติ เอวํ ลกฺขณมาติกา ปิตา, ตสฺมา อิมสฺส ปฺหสฺส วิสฺสชฺชเน รูปกฺขนฺโธ เอเกน ขนฺเธนาติอาทิ วุตฺตํ. สภาคา หิ ตสฺส เอเต ขนฺธาทโยติ. ตตฺถ เอเกน ขนฺเธนาติ รูปกฺขนฺเธเนว. ยฺหิ กิฺจิ รูปํ รูปกฺขนฺธสภาคตฺตา รูปกฺขนฺโธตฺเวว สงฺคหํ คจฺฉตีติ รูปกฺขนฺเธเนว คณิตํ, ตํ รูปกฺขนฺเธเนว ปริจฺฉินฺนํ. เอกาทสหายตเนหีติ มนายตนวชฺเชหิ. สพฺโพปิ หิ รูปกฺขนฺโธ ทสายตนานิ ธมฺมายตเนกเทโส จ โหติ, ตสฺมา เอกาทสหายตเนหิ คณิโต ¶ , ปริจฺฉินฺโน. เอกาทสหิ ธาตูหีติ สตฺตวิฺาณธาตุวชฺชาหิ เอกาทสหิ เอตาสุ หิ อปริยาปนฺนํ รูปํ นาม นตฺถิ.
อสงฺคหนยนิทฺเทเส กติหิ อสงฺคหิโตติ สงฺเขเปเนว ปุจฺฉา กตา. วิสฺสชฺชเน ปนสฺส ยสฺมา รูปกฺขนฺธสฺส วิสภาคา จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา, เอกํ มนายตนํ, สตฺต วิฺาณธาตุโย; ตสฺมา จตูหิ ขนฺเธหีติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ สงฺคหาสงฺคโห เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปน ขนฺธนิทฺเทเส – ‘‘รูปกฺขนฺโธ กติหิ ขนฺเธหี’’ติอาทิมฺหิ ตาว เอกมูลเก สงฺคหนเย สรูเปเนว ทสฺสิตา ปฺจ ปุจฺฉา, ปฺจ วิสฺสชฺชนานิ. อสงฺคหนเย สงฺเขเปน ทสฺสิตา ปฺจ ปุจฺฉา, ปฺจ วิสฺสชฺชนานิ. อิมินา อุปาเยน ทุกมูลกาทีสุปิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ ¶ เวทิตพฺพานิ. รูปกฺขนฺธมูลกาเยว เจตฺถ ทุกติกจตุกฺกา ทสฺสิตา. ปฺจเก ปน ‘‘รูปกฺขนฺโธ ¶ จ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ จา’’ติ เอวํ เภทโต จ, ‘‘ปฺจกฺขนฺธา กติหิ ขนฺเธหี’’ติ เอวํ อเภทโต จาติ ทฺวิธา ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ กตานิ. เอวํ ปาฬินโย เวทิตพฺโพติ.
๒. อายตนปทาทิวณฺณนา
๒๒. อายตนปทนิทฺเทสาทีสุ อายตนปทนิทฺเทเส ตาว จกฺขายตนํ เอเกน ขนฺเธนาติ เอเกน รูปกฺขนฺเธเนว, เอเกน จกฺขายตเนเนว เอกาย จกฺขุธาตุยาว สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. โสตายตนาทีสุปิ อิมินาว นเยน สงฺคหาสงฺคโห เวทิตพฺโพ. อสงฺขตํ ขนฺธโต เปตฺวาติ เอตฺถ ปน ยสฺมา อสงฺขตํ ธมฺมายตนํ นาม นิพฺพานํ, ตฺจ ขนฺธสงฺคหํ น คจฺฉติ; ตสฺมา ‘ขนฺธโต เปตฺวา’ติ วุตฺตํ. จตูหิ ขนฺเธหีติ รูปเวทนาสฺาสงฺขารกฺขนฺเธหิ. นิพฺพานวชฺชฺหิ ธมฺมายตนํ เอเตหิ สงฺคหิตํ. วิฺาณกฺขนฺเธน ปน เปตฺวา ธมฺมายตนธมฺมธาตุโย เสสายตนธาตูหิ จ ตํ น สงฺคยฺหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอเกน ขนฺเธน, เอกาทสหายตเนหิ, สตฺตรสหิ ธาตูหิ อสงฺคหิต’’นฺติ. ยถา จ เต เหฏฺา รูปกฺขนฺธมูลกา, เอวมิธาปิ จกฺขายตนมูลกาว นยา เวทิตพฺพา. ทุกมตฺตเมว ปน ปาฬิยํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ทฺวาทสายตนานี’’ติ อเภทโตว ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ กตํ. ธาตุนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย.
๔๐. สจฺจนิทฺเทเส ¶ – สพฺเพปิ ทุกติกจตุกฺกา ปาฬิยํ ทสฺสิตา. ยสฺมา จ ทุกติเกสุ สมุทยสจฺจสทิสเมว มคฺคสจฺเจปิ วิสฺสชฺชนํ, ตสฺมา ตํ สมุทยานนฺตรํ วุตฺตํ.
๕๐. อินฺทฺริยนิทฺเทเส – ชีวิตินฺทฺริยํ ทฺวีหิ ขนฺเธหีติ รูปชีวิตินฺทฺริยํ รูปกฺขนฺเธน, อรูปชีวิตินฺทฺริยํ ¶ สงฺขารกฺขนฺเธน สงฺคหิตํ. เสสํ วุตฺตนยานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. ปาฬิววตฺถานํ ปเนตฺถ อายตนธาตุนิทฺเทสสทิสเมว.
๖. ปฏิจฺจสมุปฺปาทวณฺณนา
๖๑. ปฏิจฺจสมุปฺปาทนิทฺเทเส – ‘‘อวิชฺชา กติหิ ขนฺเธหี’’ติ ปุจฺฉํ อนารภิตฺวา อวิชฺชา เอเกน ขนฺเธนาติ เอวํ วิสฺสชฺชนเมว ทสฺสิตํ. ตตฺถ สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ สพฺพมฺปิ วิปากวิฺาณํ. เตเนวาห ¶ – ‘‘สตฺตหิ ธาตูหิ สงฺคหิต’’นฺติ. นามรูปมฺปิ ปฏิสนฺธิปวตฺติวเสเนว เวทิตพฺพํ. เตเนเวตฺถ สทฺทายตนมฺปิ สงฺคเหตฺวา เอกาทสหายตเนหิ สงฺคโห ทสฺสิโต. ผสฺสาทีสุ ขนฺธเภโท เวทิตพฺโพ. อฺเเนว หิ เอเกน ขนฺเธน ผสฺโส สงฺคหิโต, อฺเน เวทนา, ตณฺหาอุปาทานกมฺมภวา ปน สงฺขารกฺขนฺเธเนว สงฺคหิตา. ภวปทฺเจตฺถ กมฺมภวาทีนํ วเสน เอกาทสธา วิภตฺตํ. ตตฺถ กมฺมภโว ผสฺสาทีหิ สทิสวิสชฺชนตฺตา เตหิ สทฺธึ เอกโต ทสฺสิโต. อุปปตฺติภวกามภวสฺาภวปฺจโวการภวา อฺมฺสทิสวิสฺสชฺชนตฺตา เอกโต ทสฺสิตา. ยสฺมา เจเต อุปาทินฺนกธมฺมาว ตสฺมา ‘‘เอกาทสหายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหี’’ติ วุตฺตํ. สทฺทายตนฺหิ อนุปาทินฺนํ, ตํ เอตฺถ น คหิตํ.
๖๘. รูปภวนิทฺเทเส – ปฺจหายตเนหีติ จกฺขุโสตมนรูปธมฺมายตเนหิ. อฏฺหิ ธาตูหีติ จกฺขุโสตจกฺขุวิฺาณโสตวิฺาณรูปธมฺมมโนธาตุมโนวิฺาณธาตูหิ. อรูปภวาทโยปิ ตโย สทิสวิสฺสชฺชนตฺตาว เอกโต ทสฺสิตา. ตถา อสฺาภวเอกโวการภวา. ตตฺถ ทฺวีหายตเนหีติ รูปายตนธมฺมายตเนหิ. ธาตูสุปิ เอเสว นโย. เอกตลวาสิกานฺหิ เสสพฺรหฺมานํ จกฺขุสพฺภาวโต ตสฺสารมฺมณตฺตา ตตฺถ รูปายตนํ อุทฺธฏํ.
๗๑. ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหีติ รูปชาติ รูปกฺขนฺเธน, อรูปชาติ สงฺขารกฺขนฺเธน. ชรามรเณสุปิ ¶ เอเสว นโย. โสกาทีสุปิ ¶ เอเกน ขนฺเธนาติ โสกทุกฺขโทมนสฺสานิ เวทนากฺขนฺเธน, ปริเทโว รูปกฺขนฺเธน, อุปายาสาทโย สงฺขารกฺขนฺเธนาติ เอวํ ขนฺธวิเสโส เวทิตพฺโพ.
๗๓. อิทฺธิปาโท ทฺวีหีติ สงฺขารวิฺาณกฺขนฺเธหิ, มนายตนธมฺมายตเนหิ, ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตูหิ จ. ฌานํ ทฺวีหีติ เวทนากฺขนฺธสงฺขารกฺขนฺเธหิ. อปฺปมฺาทโย สทิสวิสฺสชฺชนตฺตา เอกโต นิทฺทิฏฺา. จิตฺตํ ปน เจตนานนฺตรํ นิกฺขิตฺตมฺปิ อสทิสวิสฺสชฺชนตฺตา ปจฺฉา คหิตํ. ตตฺถ อปฺปมฺาทีสุ เอเกน ขนฺเธนาติ เวทนา เวทนากฺขนฺเธน, สฺา สฺากฺขนฺเธน, เสสา สงฺขารกฺขนฺเธน สงฺคหิตาติ เอวํ ขนฺธวิเสโส เวทิตพฺโพ.
๗. ติกปทวณฺณนา
๗๗. เอวํ ¶ อพฺภนฺตรมาติกาย สงฺคหํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ พาหิรมาติกาย สงฺคหํ ทสฺเสตุํ กุสลา ธมฺมาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เวทนาตฺติเก ตีหิ ธาตูหีติ กายวิฺาณมโนวิฺาณธมฺมธาตูหิ. สตฺตหิ ธาตูหีติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหาวิฺาณธาตูหิ เจว มโนธาตุธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตูหิ จ. วิปากตฺติเก อฏฺหิ ธาตูหีติ กายวิฺาณธาตุยา สทฺธึ ตาหิเยว. วิปากธมฺมธมฺมา ปน สํกิลิฏฺสํกิเลสิเกหิ สทฺธึ สทิสวิสฺสชฺชนตฺตา เอกโต คหิตา. ยถา เจเต, เอวํ สพฺพติกทุกปเทสุ ยํ ยํ ปทํ เยน เยน ปเทน สทฺธึ สทิสวิสฺสชฺชนํ โหติ, ตํ ตํ อุปฺปฏิปาฏิยาปิ เตน เตน สทฺธึ คเหตฺวา วิสฺสชฺชิตํ. ตตฺถ วุตฺตานุสาเรเนว สงฺคหาสงฺคหนโย เวทิตพฺโพติ.
สงฺคหาสงฺคหปทวณฺณนา.
๒. ทุติยนโย สงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา
๑๗๑. อิทานิ ¶ สงฺคหิเตน อสงฺคหิตปทํ ภาเชตุํ จกฺขายตเนนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺริทํ ¶ ลกฺขณํ – อิมสฺมิฺหิ วาเร ยํ ขนฺธปเทน สงฺคหิตํ หุตฺวา อายตนธาตุปเทหิ อสงฺคหิตํ, ขนฺธายตนปเทหิ วา สงฺคหิตํ หุตฺวา ธาตุปเทน อสงฺคหิตํ, ตสฺส ขนฺธาทีหิ อสงฺคหํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตํ ปน รูปกฺขนฺธาทีสุ น ยุชฺชติ. รูปกฺขนฺเธน หิ รูปกฺขนฺโธว สงฺคหิโต. โส จ อฑฺเฒกาทสหิ อายตนธาตูหิ อสงฺคหิโต นาม นตฺถิ. เวทนากฺขนฺเธน จ เวทนากฺขนฺโธว สงฺคหิโต. โสปิ ธมฺมายตนธมฺมธาตูหิ อสงฺคหิโต นาม นตฺถิ. เอวํ อสงฺคหิตตาย อภาวโต เอตานิ อฺานิ จ เอวรูปานิ มนายตนธมฺมายตนาทีนิ ปทานิ อิมสฺมึ วาเร น คหิตานิ. ยานิ ปน ปทานิ รูเปกเทสํ อรูเปน อสมฺมิสฺสํ, วิฺาเณกเทสฺจ อฺเน อสมฺมิสฺสํ ทีเปนฺติ, ตานิ อิธ คหิตานิ. ปริโยสาเน จ –
‘‘ทสายตนา ¶ สตฺตรส ธาตุโย,
สตฺตินฺทฺริยา อสฺาภโว เอกโวการภโว;
ปริเทโว สนิทสฺสนสปฺปฏิฆํ,
อนิทสฺสนํ ปุนเทว สปฺปฏิฆํ อุปาทา’’ติ.
เอวํ อุทฺทานคาถาย ทสฺสิตาเนว. ตสฺมา เตสํ วเสเนว สงฺคหาสงฺคโห เวทิตพฺโพ. ปฺหวเสน หิ อิมสฺมึ วาเร อายตนธาตุวเสเนว สทิสวิสฺสชฺชเน วีสติ ธมฺเม สโมธาเนตฺวา เอโก ปฺโห กโต, สตฺต วิฺาณธาตุโย สโมธาเนตฺวา เอโก, สตฺตินฺทฺริยานิ สโมธาเนตฺวา เอโก, ทฺเว ภเว สโมธาเนตฺวา เอโก, ปริเทเวน จ สนิทสฺสนสปฺปฏิเฆหิ จ เอโก, อนิทสฺสนสปฺปฏิเฆหิ เอโก, สนิทสฺสเนหิ เอโก, สปฺปฏิเฆหิ จ อุปาทาธมฺเมหิ จ เอโกติ อฏฺ ปฺหา กตา. เตสุ ขนฺธาทิวิภาโค ¶ เอวํ เวทิตพฺโพ เสยฺยถิทํ – ปมปฺเห ตาว จตูหิ ขนฺเธหีติ อรูปกฺขนฺเธหิ, ทฺวีหายตเนหีติ จกฺขายตนาทีสุ เอเกเกน สทฺธึ มนายตเนน, อฏฺหิ ธาตูหีติ จกฺขุธาตุอาทีสุ เอเกกาย สทฺธึ สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ.
ตตฺรายํ นโย – จกฺขายตเนน หิ ขนฺธสงฺคเหน รูปกฺขนฺโธ สงฺคหิโต. ตสฺมึ สงฺคหิเต รูปกฺขนฺเธ อายตนสงฺคเหน จกฺขายตนเมเวกํ สงฺคหิตํ. เสสานิ ทส อายตนานิ อสงฺคหิตานิ. ธาตุสงฺคเหนปิ เตน จกฺขุธาตุเยเวกา สงฺคหิตา. เสสา ทส ธาตุโย อสงฺคหิตา. อิติ ยานิ เตน อสงฺคหิตานิ ทสายตนานิ, ตานิ จกฺขายตนมนายตเนหิ ทฺวีหิ ¶ อสงฺคหิตานิ. ยาปิ เตน อสงฺคหิตา ทส ธาตุโย, ตา จกฺขุธาตุยา เจว สตฺตหิ จ วิฺาณธาตูหิ อสงฺคหิตาติ. รูปายตนาทีสุปิ เอเสว นโย.
๑๗๒. ทุติยปฺเห – ยสฺมา ยาย กายจิ วิฺาณธาตุยา สงฺคหิโต วิฺาณกฺขนฺโธ มนายตเนน อสงฺคหิโต นาม นตฺถิ, ตสฺมา อายตนสงฺคเหน สงฺคหิตาติ วุตฺตํ. เอตฺถ ปน จตูหิ ขนฺเธหีติ รูปาทีหิ จตูหิ. เอกาทสหายตเนหีติ มนายตนวชฺเชหิ. ทฺวาทสหิ ธาตูหีติ ยถานุรูปา ฉ วิฺาณธาตุโย อปเนตฺวา เสสาหิ ทฺวาทสหิ. จกฺขุวิฺาณธาตุยา หิ จกฺขุวิฺาณธาตุเยว สงฺคหิตา, อิตรา อสงฺคหิตา. โสตวิฺาณธาตุอาทีสุปิ เอเสว นโย.
๑๗๓. ตติยปฺเห ¶ – จกฺขุนฺทฺริยาทีนํ วิสฺสชฺชนํ จกฺขายตนาทิสทิสเมว. อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริเยสุ ปน ธมฺมายตเนน สทฺธึ ทฺเว อายตนานิ, ธมฺมธาตุยา จ สทฺธึ อฏฺ ธาตุโย เวทิตพฺพา.
๑๗๔. จตุตฺถปฺเห – ตีหายตเนหีติ รูปายตนธมฺมายตนมนายตเนหิ. เตสุ หิ ภเวสุ รูปายตนธมฺมายตนวเสน ทฺเวว อายตนานิ เตหิ สงฺคหิตานิ ¶ . เสสานิ นว รูปายตนานิ เตเหว จ ทฺวีหิ, มนายตเนน จาติ ตีหิ อสงฺคหิตานิ นาม โหนฺติ. นวหิ ธาตูหีติ รูปธาตุธมฺมธาตูหิ สทฺธึ สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ.
๑๗๕. ปฺจมปฺเห – ทฺวีหายตเนหีติ ปมปทํ สนฺธาย สทฺทายตนมนายตเนหิ. ทุติยปทํ สนฺธาย รูปายตนมนายตเนหิ. ธาตุโยปิ เตสํเยว เอเกเกน สทฺธึ สตฺต วิฺาณธาตุโย เวทิตพฺพา.
๑๗๖. ฉฏฺปฺเห – ทสหายตเนหีติ รูปายตนธมฺมายตนวชฺเชหิ. โสฬสหิ ธาตูหีติ รูปธาตุธมฺมธาตุวชฺเชเหว. กถํ? อนิทสฺสนสปฺปฏิฆา หิ ธมฺมา นาม นว โอฬาริกายตนานิ. เตหิ ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิเต รูปกฺขนฺเธ, อายตนสงฺคเหน ตาเนว นวายตนานิ สงฺคหิตานิ. รูปายตนธมฺมายตนานิ อสงฺคหิตานิ. ธาตุสงฺคเหนปิ ตา เอว นว ธาตุโย สงฺคหิตา. รูปธาตุธมฺมธาตุโย อสงฺคหิตา. อิติ ยานิ เตหิ อสงฺคหิตานิ ทฺเว อายตนานิ ¶ , ตานิ รูปายตนวชฺเชหิ นวหิ โอฬาริกายตเนหิ, มนายตเนน จาติ ทสหิ อสงฺคหิตานิ. ยาปิ เตหิ อสงฺคหิตา ทฺเว ธาตุโย, ตา รูปธาตุวชฺชาหิ นวหิ โอฬาริกธาตูหิ, สตฺตหิ จ วิฺาณธาตูหีติ โสฬสหิ อสงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา.
๑๗๗. สตฺตมปฺเห – ทฺวีหายตเนหีติ รูปายตนมนายตเนหิ. อฏฺหิ ธาตูหีติ รูปธาตุยา สทฺธึ สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ.
๑๗๘. อฏฺมปฺเห – เอกาทสหายตเนหีติ สปฺปฏิฆธมฺเม สนฺธาย ธมฺมายตนวชฺเชหิ, อุปาทาธมฺเม สนฺธาย โผฏฺพฺพายตนวชฺเชหิ. ธาตูสุปิ เอเสว นโย. อตฺถโยชนา ปเนตฺถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ.
สงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา.
๓. ตติยนโย อสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา
๑๗๙. อิทานิ ¶ ¶ อสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทํ ภาเชตุํ เวทนากฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺริทํ ลกฺขณํ – อิมสฺมิฺหิ วาเร ยํ ขนฺธปเทน อสงฺคหิตํ หุตฺวา อายตนธาตุปเทหิ สงฺคหิตํ, ตสฺส ขนฺธาทีหิ สงฺคหํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตํ ปน รูปกฺขนฺธวิฺาณกฺขนฺธจกฺขายตนาทีสุ น ยุชฺชติ. รูปกฺขนฺเธน หิ จตฺตาโร ขนฺธา ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา. เตสุ เตน เอกธมฺโมปิ อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิโต นาม นตฺถิ. นนุ จ เวทนาทโย ธมฺมายตเนน สงฺคหิตาติ? สงฺคหิตา. น ปน รูปกฺขนฺโธว ธมฺมายตนํ, รูปกฺขนฺธโต หิ สุขุมรูปมตฺตํ ธมฺมายตนํ ภชติ. ตสฺมา เย ธมฺมายตเนน สงฺคหิตา, น เต รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิตา นาม. วิฺาณกฺขนฺเธนปิ อิตเร จตฺตาโร ขนฺธา อสงฺคหิตา. เตสุ เตน เอโกปิ อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิโต นาม นตฺถิ. เอวํ สงฺคหิตตาย อภาวโต เอตานิ อฺานิ จ เอวรูปานิ จกฺขายตนาทีนิ ปทานิ อิมสฺมึ วาเร น คหิตานิ. ยานิ ปน ปทานิ ¶ วิฺาเณน วา โอฬาริกรูเปน วา อสมฺมิสฺสํ ธมฺมายตเนกเทสํ ทีเปนฺติ, ตานิ อิธ คหิตานิ. เตสํ อิทมุทฺทานํ –
‘‘ตโย ขนฺธา ตถา สจฺจา, อินฺทฺริยานิ จ โสฬส;
ปทานิ ปจฺจยากาเร, จุทฺทสูปริ จุทฺทส.
‘‘สมตึส ปทา โหนฺติ, โคจฺฉเกสุ ทสสฺวถ;
ทุเว จูฬนฺตรทุกา, อฏฺ โหนฺติ มหนฺตรา’’ติ.
เอเตสุ ปน ปเทสุ สทิสวิสฺสชฺชนานิ ปทานิ เอกโต กตฺวา สพฺเพปิ ทฺวาทส ปฺหา วุตฺตา. เตสุ เอวํ ขนฺธวิภาโค เวทิตพฺโพ. อายตนธาตูสุ ปน เภโท นตฺถิ. ตตฺถ ปมปฺเห ตาว – ตีหิ ขนฺเธหีติ รูปสฺาสงฺขารกฺขนฺเธหิ. อายตนธาตุโย ปน ธมฺมายตนธมฺมธาตุวเสน เวทิตพฺพา.
ตตฺรายํ นโย – เวทนากฺขนฺเธน หิ นิพฺพานฺจ สุขุมรูปสฺาสงฺขารา ¶ จ ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา หุตฺวา อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตา. เตสุ นิพฺพานํ ขนฺธสงฺคหํ น คจฺฉติ, เสสา รูปสฺาสงฺขารกฺขนฺเธหิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. อายตนธาตุสงฺคหํ ปน นิพฺพานมฺปิ คจฺฉเตว. เตน วุตฺตํ ¶ – ‘‘อสงฺขตํ ขนฺธโต เปตฺวา ตีหิ ขนฺเธหิ, เอเกนายตเนน, เอกาย ธาตุยา สงฺคหิตา’’ติ. สฺากฺขนฺธปกฺเข ปเนตฺถ สฺํ อปเนตฺวา เวทนาย สทฺธึ ตโย ขนฺธา สงฺขาราทีสุ สงฺขารกฺขนฺธํ อปเนตฺวา รูปเวทนาสฺาวเสน ตโย ขนฺธา เวทิตพฺพา.
๑๘๐. ทุติเย – จตูหิ ขนฺเธหีติ วิฺาณวชฺเชหิ. เต หิ นิโรเธน ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา หุตฺวา อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตา.
๑๘๑. ตติเย – ทฺวีหีติ เวทนาสฺากฺขนฺเธหิ. รูปารูปชีวิตินฺทฺริเยน หิ เวทนาสฺาวิฺาณกฺขนฺธา จ ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา. เตสุ ปน เวทนาสฺาว อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตา. เตน วุตฺตํ – ‘‘เวทนาสฺากฺขนฺเธหี’’ติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ ขนฺธเภโท เวทิตพฺโพ. อิโต ปรฺหิ ขนฺธานํ นามมตฺตเมว วกฺขาม.
๑๘๒. จตุตฺเถ ¶ – ตีหิ ขนฺเธหีติ อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริเยสุ เวทนาสฺาสงฺขาเรหิ, เวทนาปฺจเก รูปสฺาสงฺขาเรหิ; สทฺธินฺทฺริยาทีสุ ผสฺสปริโยสาเนสุ รูปเวทนาสฺากฺขนฺเธหิ. เวทนาย เวทนากฺขนฺธสทิโสว ตณฺหุปาทานกมฺมภเวสุ สงฺขารกฺขนฺธสทิโสว วินิจฺฉโย.
๑๘๓. ปฺจเม – ชาติชรามรเณสุ ชีวิตินฺทฺริยสทิโสว. ฌาเนน ปน นิพฺพานํ สุขุมรูปํ สฺา จ ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา หุตฺวา อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตา. ตสฺมา ตํ สนฺธาย รูปกฺขนฺธสฺากฺขนฺธานํ วเสน ทฺเว ขนฺธา เวทิตพฺพา.
๑๘๔. ฉฏฺเ – โสกาทิตฺตเย เวทนาย สทิโส. อุปายาสาทีสุ สงฺขารสทิโส. ปุน เวทนาย เวทนากฺขนฺธสทิโส, สฺาย สฺากฺขนฺธสทิโส, เจตนาทีสุ สงฺขารกฺขนฺธสทิโส ¶ วินิจฺฉโย. อิมินา อุปาเยน สตฺตมปฺหาทีสุปิ สงฺคหาสงฺคโห เวทิตพฺโพติ.
อสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา.
๔. จตุตฺถนโย สงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา
๑๙๑. อิทานิ ¶ สงฺคหิเตนสงฺคหิตปทํ ภาเชตุํ สมุทยสจฺเจนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยํ ขนฺธาทีหิ สงฺคหิเตน ขนฺธาทิวเสน สงฺคหิตํ, ปุน ตสฺเสว ขนฺธาทีหิ สงฺคหํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตํ ขนฺธายตนธาตูสุ เอกมฺปิ สกลโกฏฺาสํ คเหตฺวา ิตปเทสุ น ยุชฺชติ. สกเลน หิ ขนฺธาทิปเทน อฺํ ขนฺธาทิวเสน สงฺคหิตํ นาม นตฺถิ, ยํ อตฺตโน สงฺคาหกํ สงฺคณฺหิตฺวา ปุน เตเนว สงฺคหํ คจฺเฉยฺย. ตสฺมา ตถารูปานิ ปทานิ อิมสฺมึ วาเร น คหิตานิ. ยานิ ปน ปทานิ สงฺขาเรกเทสํ วา อฺเน อสมฺมิสฺสํ ทีเปนฺติ – เวทเนกเทสํ วา สุขุมรูปํ วา สทฺเทกเทสํ วา, ตานิ อิธ คหิตานิ. เตสํ อิทมุทฺทานํ –
‘‘ทฺเว สจฺจา ปนฺนรสินฺทฺริยา, เอกาทส ปฏิจฺจปทา;
อุทฺธํ ปุน เอกาทส, โคจฺฉกปทเมตฺถ ตึสวิธ’’นฺติ.
ปฺหา ¶ ปเนตฺถ ทฺเวเยว โหนฺติ. ตตฺถ ยํ ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ ปทํ, ตเทว เยหิ ธมฺเมหิ ขนฺธาทิวเสน สงฺคหิตํ, เต ธมฺเม สนฺธาย สพฺพตฺถ เอเกน ขนฺเธนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺรายํ นโย – สมุทยสจฺเจน หิ ตณฺหาวชฺชา เสสา สงฺขารา ขนฺธาทิสงฺคเหน สงฺคหิตา. ปุน เตหิ ตณฺหาว สงฺคหิตา. สา ¶ ตณฺหา ปุน สงฺขาเรเหว ขนฺธาทิสงฺคเหน สงฺคหิตาติ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. อรูปธมฺมปุจฺฉาสุ ปเนตฺถ สงฺขารกฺขนฺโธ วา เวทนากฺขนฺโธ วา เอโก ขนฺโธ นาม. รูปธมฺมปุจฺฉาสุ รูปกฺขนฺโธ. ปริเทวปุจฺฉาย สทฺทายตนํ เอกํ อายตนํ นาม. สทฺทธาตุ เอกา ธาตุ นาม, เสสฏฺาเนสุ ธมฺมายตนธมฺมธาตุวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
สงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา.
๕. ปฺจมนโย อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา
๑๙๓. อิทานิ อสงฺคหิเตน อสงฺคหิตปทํ ภาเชตุํ รูปกฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยํ ขนฺธาทีหิ อสงฺคหิเตน ขนฺธาทิวเสน อสงฺคหิตํ, ปุน ตสฺเสว ขนฺธาทีหิ อสงฺคหํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตํ ปฺจกฺขนฺธคฺคาหเกสุ ทุกฺขสจฺจาทีสุ ¶ วิฺาเณน สทฺธึ สุขุมรูปคฺคาหเกสุ อนิทสฺสนอปฺปฏิฆาทีสุ จ ปเทสุ น ยุชฺชติ. ตาทิเสน หิ ปเทน นิพฺพานํ ขนฺธสงฺคหมตฺตํ น คจฺเฉยฺย. เสสา ขนฺธาทีหิ อสงฺคหิตธมฺมา นาม นตฺถิ. ตสฺมา ตถารูปานิ ปทานิ อิมสฺมึ วาเร น คหิตานิ. ยานิ ปน ปฺจกฺขนฺเธ วิฺาณฺจ สุขุมรูเปน สทฺธึ เอกโต น ทีเปนฺติ, ตานิ อิธ คหิตานิ. เตสํ อิทมุทฺทานํ –
‘‘สพฺเพ ขนฺธา ตถายตนธาตุโย สจฺจโต ตโย;
อินฺทฺริยานิปิ สพฺพานิ, เตวีสติ ปฏิจฺจโต.
‘‘ปรโต โสฬส ปทา, เตจตฺตาลีสกํ ติเก;
โคจฺฉเก สตฺตติ ทฺเว จ, สตฺต จูฬนฺตเร ปทา.
‘‘มหนฺตเร ¶ ปทา วุตฺตา, อฏฺารส ตโต ปรํ;
อฏฺารเสว าตพฺพา, เสสา อิธ น ภาสิตา’’ติ.
ปฺหา ปเนตฺถ สทิสวิสฺสชฺชนานํ วเสน สโมธาเนตฺวา กติหิ สทฺธึ สพฺเพปิ จตุตฺตึส โหนฺติ. ตตฺถ ยํ ¶ ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ ปทํ, ตเทว เยหิ ขนฺธาทีหิ อสงฺคหิตํ, เต ธมฺเม สนฺธาย เอเกน ขนฺเธนาติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺรายํ นโย – รูปกฺขนฺเธน หิ จตฺตาโร ขนฺธา นิพฺพานฺจ ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา. อายตนธาตุสงฺคเหน ปน เปตฺวา วิฺาณํ อวเสสา สงฺคหิตาติ วิฺาณเมว ตีหิปิ ขนฺธสงฺคหาทีหิ อสงฺคหิตํ นาม. ปุน เตน วิฺาเณน สทฺธึ นิพฺพาเนน จตฺตาโร ขนฺธา ขนฺธาทิสงฺคเหน อสงฺคหิตา. เต สพฺเพปิ ปุน วิฺาเณเนว ขนฺธาทิสงฺคเหน อสงฺคหิตาติ เอเกน ขนฺเธน, เอเกนายตเนน, สตฺตหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา นาม โหนฺติ. อถ วา – ยเทตํ รูปกฺขนฺเธน วิฺาณเมว ตีหิ ขนฺธาทิสงฺคเหหิ อสงฺคหิตํ, เตหิปิ วิฺาณธมฺเมหิ เต รูปธมฺมาว ตีหิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิตา. ปุน เต รูปธมฺมา วิฺาเณเนว ตีหิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิตา. วิฺาณฺจ ขนฺธโต เอโก วิฺาณกฺขนฺโธ โหติ, อายตนโต เอกํ มนายตนํ, ธาตุโต สตฺต วิฺาณธาตุโย. ตสฺมา ‘‘เอเกน ขนฺเธนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ ยํ ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ ปทํ, ตเทว เยหิ ธมฺเมหิ ขนฺธาทิวเสน อสงฺคหิตํ, เตสํ ธมฺมานํ วเสน ขนฺธาทโย เวทิตพฺพา. ตตฺถ ทุติยปฺเห ตาว – รูปวิฺาณานํ วเสน ¶ เวทิตพฺพา. เวทนาทโย หิ รูปวิฺาเณเหว ขนฺธาทิสงฺคเหน อสงฺคหิตา. เต จ ทฺเว ขนฺธา เอกาทสายตนานิ สตฺตรส ธาตุโย โหนฺติ.
๑๙๕. ตติยปฺเห – วิฺาณํ รูปาทีหิ จตูหิ อสงฺคหิตนฺติ เตสํ วเสน ขนฺธาทโย เวทิตพฺพา.
๑๙๖. จตุตฺถปฺเห – จกฺขายตนํ เวทนาทีหิ จตูหีติ อิมินา นเยน สพฺพตฺถ ขนฺธาทโย เวทิตพฺพา. ปริโยสาเน – รูปฺจ ธมฺมายตนนฺติ อุทฺทานคาถาย ทสฺสิตธมฺมาเยว อฺเนากาเรน สงฺขิปิตฺวา ทสฺสิตาติ.
อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา.
๖. ฉฏฺนโย สมฺปโยควิปฺปโยคปทวณฺณนา
๒๒๘. อิทานิ ¶ ¶ สมฺปโยควิปฺปโยคปทํ ภาเชตุํ รูปกฺขนฺโธติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยํ ลพฺภติ ยฺจ น ลพฺภติ ตํ สพฺพํ ปุจฺฉาย คหิตํ. วิสฺสชฺชเน ปน ยํ น ลพฺภติ, ตํ นตฺถีติ ปฏิกฺขิตฺตํ. จตูหิ สมฺปโยโค, จตูหิ วิปฺปโยโค; สภาโค วิสภาโคติ หิ วจนโต จตูหิ อรูปกฺขนฺเธเหว สภาคานํ เอกสนฺตานสฺมึ เอกกฺขเณ อุปฺปนฺนานํ อรูปกฺขนฺธานํเยว อฺมฺํ สมฺปโยโค ลพฺภติ. รูปธมฺมานํ ปน รูเปน นิพฺพาเนน วา, นิพฺพานสฺส จ รูเปน สทฺธึ สมฺปโยโค นาม นตฺถิ. ตถา รูปนิพฺพานานํ อรูปกฺขนฺเธหิ, วิสภาคา หิ เต เตสํ. ยถา จ อรูปกฺขนฺธานํ รูปนิพฺพาเนหิ, เอวํ ภินฺนสนฺตาเนหิ นานากฺขณิเกหิ อรูปธมฺเมหิปิ สทฺธึ นตฺถิเยว. เตปิ หิ เตสํ สนฺตานกฺขณวิสภาคตาย วิสภาคาเยว. อยํ ปน วิสภาคตา สงฺคหฏฺเน วิรุชฺฌนโต สงฺคหนเย นตฺถิ. คณนูปคมตฺตฺหิ สงฺคหฏฺโ. สมฺปโยคนเย ปน อตฺถิ, เอกุปฺปาทตาทิลกฺขณฺหิ สมฺปโยคฏฺโติ. เอวเมตฺถ ยสฺส เอกธมฺเมนปิ สมฺปโยคลกฺขณํ น ยุชฺฌติ, ตสฺส ปุจฺฉาย สงฺคหํ กตฺวาปิ นตฺถีติ ปฏิกฺเขโป กโต. ยสฺส วิปฺปโยคลกฺขณํ ยุชฺชติ, ตสฺส วิปฺปโยโค ทสฺสิโต. ยานิ ปน ปทานิ สตฺตสุ วิฺาณธาตูสุ เอกายปิ อวิปฺปยุตฺเต รูเปน นิพฺพาเนน วา มิสฺสกธมฺเม ทีเปนฺติ, ตานิ สพฺพถาปิ อิธ น ยุชฺชนฺตีติ น คหิตานิ. เตสํ อิทมุทฺทานํ –
‘‘ธมฺมายตนํ ¶ ธมฺมธาตุ, ทุกฺขสจฺจฺจ ชีวิตํ;
สฬายตนํ นามรูปํ, จตฺตาโร จ มหาภวา.
‘‘ชาติชรา จ มรณํ, ติเกสฺเวกูนวีสติ;
โคจฺฉเกสุ จ ปฺาส, อฏฺ จูฬนฺตเร ปทา.
‘‘มหนฺตเร ปนฺนรส, อฏฺารส ตโต ปเร;
เตวีส ปทสตํ เอตํ, สมฺปโยเค น ลพฺภตี’’ติ.
ธมฺมายตนฺหิ ¶ รูปนิพฺพานมิสฺสกตฺตา ตสฺมึ อปริยาปนฺเนน วิฺาเณนปิ น สกฺกา สมฺปยุตฺตนฺติ ¶ วตฺตุํ. ยสฺมา ปเนตฺถ เวทนาทโย วิฺาเณน สมฺปยุตฺตา, ตสฺมา วิปฺปยุตฺตนฺติปิ น สกฺกา วตฺตุํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เอวํ สพฺพตฺถาปิ เอตานิ น ยุชฺชนฺตีติ อิธ น คหิตานิ. เสสานิ ขนฺธาทีนิ ยุชฺชนฺตีติ ตานิ คเหตฺวา เอเกกวเสน จ สโมธาเนน จ ปฺหวิสฺสชฺชนํ กตํ. เตสุ ปฺเหสุ, ปเม – เอเกนายตเนนาติ มนายตเนน. เกหิจีติ ธมฺมายตนธมฺมธาตุปริยาปนฺเนหิ เวทนาสฺาสงฺขาเรหิ.
๒๒๙. ทุติเย – ตีหีติ ปุจฺฉิตํ ปุจฺฉิตํ เปตฺวา เสเสหิ. เกหิจิ สมฺปยุตฺโตติ เวทนากฺขนฺโธ สฺาสงฺขาเรหิ. อิตเรปิ อตฺตานํ เปตฺวา อิตเรหิ. เกหิจิ วิปฺปยุตฺโตติ รูปนิพฺพาเนหิ. เอวํ สพฺพตฺถ รูปสฺส วิปฺปโยเค ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ อรูปํ, อรูปสฺส วิปฺปโยเค รูปํ ทฏฺพฺพํ. ตติยปฺโห อุตฺตานตฺโถว.
๒๓๑. จตุตฺเถ – ‘กติหิ ขนฺเธหี’ติอาทึ อวตฺวา สมฺปยุตฺตนฺติ นตฺถีติ วุตฺตํ. ตํ ปน ขนฺธาทีนํเยว วเสน เวทิตพฺพํ. ปรโตปิ เอวรูเปสุ ปฺเหสุ เอเสว นโย. อาทิปฺหสฺมิฺหิ สรูปโต ทสฺเสตฺวา ปรโต ปาฬิ สํขิตฺตา. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. ยตฺถ ปน นาติปากฏา ภวิสฺสติ, ตตฺถ นํ ปากฏํ กตฺวาว คมิสฺสาม.
๒๓๔. โสฬสหิ ธาตูหีติ จกฺขุวิฺาณธาตุ ตาว อตฺตานํ เปตฺวา ฉหิ วิฺาณธาตูหิ, ทสหิ จ รูปธาตูหิ. เสสาสุปิ เอเสว นโย.
๒๓๕. ตีหิ ¶ ขนฺเธหีติ สงฺขารกฺขนฺธํ เปตฺวา เสเสหิ. เอกาย ธาตุยาติ มโนวิฺาณธาตุยา. สมุทยมคฺคานฺหิ อฺาย ธาตุยา สมฺปโยโค นตฺถิ. เอเกน ขนฺเธนาติ สงฺขารกฺขนฺเธน. เอเกนายตเนนาติ ธมฺมายตเนน. เอกาย ¶ ธาตุยาติ ธมฺมธาตุยา. เอเตสุ หิ ตํ สจฺจทฺวยํ เกหิจิ สมฺปยุตฺตํ.
๒๓๘. สุขินฺทฺริยาทิปฺเห – ตีหีติ สฺาสงฺขารวิฺาเณหิ. เอกาย ธาตุยาติ กายวิฺาณธาตุยา, มโนวิฺาณธาตุยา จ. ฉหิ ธาตูหีติ กายวิฺาณธาตุวชฺชาหิ.
๒๔๕. รูปภวปฺเห – สพฺเพสมฺปิ อรูปกฺขนฺธานํ อรูปายตนานฺจ อตฺถิตาย น เกหิจีติ ¶ วุตฺตํ. ฆานชิวฺหากายวิฺาณธาตูนํ ปน นตฺถิตาย ตีหิ ธาตูหิ วิปฺปยุตฺโตติ วุตฺตํ.
๒๕๖. อธิโมกฺขปฺเห – ทฺวีหิ ธาตูหีติ มโนธาตุมโนวิฺาณธาตูหิ. ปนฺนรสหีติ เสสาหิ ทสหิ รูปธาตูหิ, ปฺจหิ จ จกฺขุวิฺาณาทีหิ.
๒๕๗. กุสลปฺเห – กุสเลหิ จตุนฺนมฺปิ ขนฺธานํ คหิตตฺตา สมฺปโยโค ปฏิกฺขิตฺโต.
๒๕๘. เวทนาตฺติกปฺเห – เอเกน ขนฺเธนาติ เวทนากฺขนฺเธเนว. ปนฺนรสหีติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหาวิฺาณธาตุมโนธาตูหิ เจว รูปธาตูหิ จ. เอกาทสหีติ กายวิฺาณธาตุยา สทฺธึ รูปธาตูหิ.
๒๖๒. เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมปฺเห – ปฺจหีติ จกฺขุวิฺาณาทีหิ. อนุปาทินฺนอนุปาทานิยปฺเห – ฉหีติ มโนวิฺาณธาตุวชฺชาหิ. สวิตกฺกสวิจารปฺเห – ปนฺนรสหีติ ปฺจหิ วิฺาเณหิ สทฺธึ รูปธาตูหิ. อวิตกฺกวิจารมตฺตปฺเห – เอเกน ขนฺเธนาติอาทิ สงฺขารกฺขนฺธวเสเนว เวทิตพฺพํ. ทุติยชฺฌานวิจารฺหิ เปตฺวา เสสา อวิตกฺกวิจารมตฺตา นาม. ปีตึ เปตฺวา เสสา ปีติสหคตา. ตตฺถ วิจาโร วิจาเรน, ปีติ จ ปีติยา น สมฺปยุตฺตาติ สงฺขารกฺขนฺธธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ เกหิจิ สมฺปยุตฺตา นาม. โสฬสหีติ ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตุวชฺชาเหว. อวิตกฺกอวิจารปฺเห ¶ ¶ – เอกาย ธาตุยาติ มโนธาตุยา. สุขสหคตา อุเปกฺขาสหคตา จ เวทนาตฺติเก วุตฺตาว. ทสฺสเนนปหาตพฺพาทโย กุสลสทิสาว.
๒๗๑. ปริตฺตารมฺมณํ วิปากธมฺมสทิสํ. เอกาย ธาตุยาติ ธมฺมธาตุยา. เกหิจีติ เย ตตฺถ ปริตฺตารมฺมณา น โหนฺติ, เตหิ. ธมฺมธาตุ ปน ปริตฺตารมฺมณานํ ฉนฺนํ จิตฺตุปฺปาทานํ วเสน จตูหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตตฺตา ปมปฏิกฺเขปเมว ภชติ. มหคฺคตารมฺมณาทโย กุสลสทิสาว.
๒๗๓. อนุปฺปนฺเนสุ – ปฺจหิ ธาตูหีติ จกฺขุวิฺาณาทีหิ. ตานิ หิ เอกนฺเตน อุปฺปาทิธมฺมภูตาเนว, อุปฺปนฺนโกฏฺาสมฺปิ ปน ภชนฺติ. ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาทโย ปริตฺตารมฺมณสทิสาว ¶ . เหตุอาทโย สมุทยสทิสาว. สเหตุกา เจว น จ เหตูปิ ปีติสหคตสทิสาว. ตถา ปรามาสสมฺปยุตฺตา. อนุปาทินฺนา อนุปฺปนฺนสทิสาว. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สมฺปโยควิปฺปโยคปทวณฺณนา.
๗. สตฺตมนโย สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา
๓๐๖. อิทานิ สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทํ ภาเชตุํ เวทนากฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺริทํ ลกฺขณํ – อิมสฺมิฺหิ วาเร ปุจฺฉาย อุทฺธฏปเทน เย ธมฺมา สมฺปยุตฺตา, เตหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เตสํ ขนฺธาทีหิ วิปฺปโยคํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตํ ปน รูปกฺขนฺธาทีสุ น ยุชฺชติ. รูปกฺขนฺเธน หิ สมฺปยุตฺตา นาม นตฺถิ. ตสฺมา ตฺจ อฺานิ จ เอวรูปานิ ปทานิ อิมสฺมึ วาเร น คหิตานิ. ยานิ ปน ปทานิ ธมฺมธาตุยา ¶ สมฺปยุตฺเต ธมฺเม วิฺาณฺจ อฺเน อสมฺมิสฺสํ ทีเปนฺติ, ตานิ อิธ คหิตานิ. เตสํ อิทมุทฺทานํ –
‘‘จตฺตาโร ¶ ขนฺธายตนฺจ เอกํ,
ทฺเว อินฺทฺริยา ธาตุปทานิ สตฺต;
ตโย ปฏิจฺจา อถ ผสฺสสตฺตกํ,
ติเก ตโย สตฺต มหนฺตเร จ.
‘‘เอกํ สวิตกฺกํ, สวิจารเมกํ;
ยุตฺตํ อุเปกฺขาย จ เอกเมวา’’ติ.
ปริโยสาเน – ขนฺธา จตุโรติอาทินาปิ อยเมวตฺโถ สงฺคหิโต. ตตฺถ ยานิ ปทานิ สทิสวิสฺสชฺชนานิ, ตานิ อุปฺปฏิปาฏิยาปิ สโมธาเนตฺวา ตตฺถ เวทนากฺขนฺธาทิกา ปฺหา กตา. เตสุ เอวํ ขนฺธาทิวิภาโค เวทิตพฺโพ. เวทนากฺขนฺธาทิปฺเห ตาว – เอเกนาติ มนายตเนน. สตฺตหีติ วิฺาณธาตูหิ. เกหิจีติ ธมฺมายตเน เวทนาทีหิ. วิฺาณธาตุปฺเห ¶ – เต ธมฺมา น เกหิจีติ เต ปุจฺฉาย อุทฺธฏปทํ วิฺาณธาตุํ เปตฺวา เสสา ฉ วิฺาณธาตุธมฺมา, รูปํ, นิพฺพานฺจ. เตหิ สพฺเพสํ ขนฺธายตนานํ สงฺคหิตตฺตา น เกหิจิ ขนฺเธหิ อายตเนหิ วา วิปฺปยุตฺตา. เอกาย ธาตุยาติ ยา ยา ปุจฺฉาย อุทฺธฏา โหติ ตาย ตาย.
๓๐๙. อุเปกฺขินฺทฺริยปฺเห – ปฺจหีติ อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตาหิ จกฺขุวิฺาณธาตุอาทีหิ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ ปุจฺฉาย อุทฺธฏปเทเนว สทฺธึ วิปฺปยุตฺตานํ วเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา.
๘. อฏฺมนโย วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา
๓๑๗. อิทานิ วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทํ ภาเชตุํ รูปกฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปุจฺฉา โมฆปุจฺฉาว ¶ . รูปกฺขนฺเธน หิ วิปฺปยุตฺตา นาม จตฺตาโร ขนฺธา, เตสํ อฺเหิ สมฺปโยโค นตฺถิ. เวทนากฺขนฺเธน วิปฺปยุตฺตํ รูปํ นิพฺพานฺจ, ตสฺส จ เกนจิ สมฺปโยโค นตฺถิ. เอวํ สพฺพปเทสุ. วิปฺปยุตฺตานํ ปน สมฺปโยคาภาโว เวทิตพฺโพ. อิติ ปุจฺฉาย โมฆตฺตา สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ นตฺถิ นตฺถิอิจฺเจว วุตฺตนฺติ.
วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา.
๙. นวมนโย สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา
๓๑๙. อิทานิ ¶ สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทํ ภาเชตุํ เวทนากฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยํ ¶ ขนฺธาทิวเสน สมฺปยุตฺตํ, ปุน ตสฺเสว ขนฺธาทีหิ สมฺปโยคํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตํ รูเปน วา รูปมิสฺสเกหิ วา สพฺพรูปกฺขนฺธสงฺคาหเกหิ วา ปเทหิ สทฺธึ น ยุชฺชติ. รูเปน หิ รูปมิสฺสเกน วา อฺเสํ สมฺปโยโค นตฺถิ. สพฺพรูปกฺขนฺธสงฺคาหเกหิ สพฺเพสํ สมฺปโยคารหานํ ขนฺธาทีนํ คหิตตฺตา อฺํเยว นตฺถิ, ยํ เตน สห สมฺปโยคํ คจฺเฉยฺย. ตสฺมา ตถารูปานิ ปทานิ อิธ น คหิตานิ. ยานิ ปน ปทานิ รูเปน อสมฺมิสฺสํ อรูเปกเทสํ ทีเปนฺติ, ตานิ อิธ คหิตานิ. เตสํ อิทมุทฺทานํ –
‘‘อรูปกฺขนฺธา จตฺตาโร, มนายตนเมว จ;
วิฺาณธาตุโย สตฺต, ทฺเว สจฺจา จุทฺทสินฺทฺริยา.
‘‘ปจฺจเย ทฺวาทส ปทา, ตโต อุปริ โสฬส;
ติเกสุ อฏฺ โคจฺฉเก, เตจตฺตาลีสเมว จ.
‘‘มหนฺตรทุเก สตฺต, ปทา ปิฏฺิทุเกสุ ฉ;
นวมสฺส ปทสฺเสเต, นิทฺเทเส สงฺคหํ คตา’’ติ.
สพฺพปฺเหสุ ปน เย ธมฺมา ปุจฺฉาย อุทฺธฏา, เต เยหิ สมฺปยุตฺตา โหนฺติ, เตสํ วเสน ขนฺธาทิเภโท เวทิตพฺโพ ¶ . เวทนากฺขนฺเธน หิ อิตเร ตโย ขนฺธา สมฺปยุตฺตา, ปุน เตหิ เวทนากฺขนฺโธ สมฺปยุตฺโต. โส เตหิ สฺาทีหิ ตีหิ ขนฺเธหิ, เอเกน มนายตเนน, สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ, เอกสฺมึ ธมฺมายตเน, ธมฺมธาตุยา จ, เกหิจิ สฺาสงฺขาเรเหว สมฺปยุตฺโต. เอเสว นโย สพฺพตฺถาติ.
สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา.
๑๐. ทสมนโย วิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา
๓๕๓. อิทานิ ¶ วิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทํ ภาเชตุํ รูปกฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เย สมฺปโยควิปฺปโยคปทนิทฺเทเส รูปกฺขนฺธาทโย ธมฺมา อุทฺธฏา, สพฺพปุจฺฉาสุ เตเยว อุทฺธฏา. สทิสวิสฺสชฺชนานํ ปน เอกโต คหิตตฺตา ¶ ปทานิ อฺาย ปฏิปาฏิยา อาคตานิ. ตตฺถ ยํ ปทํ ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ, ตํ เยหิ ธมฺเมหิ วิปฺปยุตฺตํ, เตสํ วเสน ขนฺธาทิวิภาโค เวทิตพฺโพ. รูปกฺขนฺเธน หิ เวทนาทโย วิปฺปยุตฺตา, เตหิ จ รูปกฺขนฺโธ วิปฺปยุตฺโต. นิพฺพานํ ปน สุขุมรูปคติกเมว. โส รูปกฺขนฺโธ จตูหิ ขนฺเธหิ, เอเกน มนายตเนน สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ, ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ, เกหิจิ เวทนาทีหิ ธมฺเมเหว วิปฺปยุตฺโต. เอเสว นโย สพฺพตฺถาติ.
วิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา.
๑๑. เอกาทสมนโย สงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา
๔๐๙. อิทานิ สงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทํ ภาเชตุํ สมุทยสจฺเจนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เย สงฺคหิเตนสงฺคหิตปทนิทฺเทเส สมุทยสจฺจาทโยว ธมฺมา อุทฺธฏา, สพฺพปุจฺฉาสุ เตเยว อุทฺธฏา. สทิสวิสฺสชฺชนานํ ปน เอกโต คหิตตฺตา ปทานิ อฺาย ปฏิปาฏิยา อาคตานิ. ตตฺถ เย ธมฺมา ปุจฺฉาย อุทฺธฏปเทน ขนฺธาทิสงฺคเหน สงฺคหิตา, เตสํ เยหิ สมฺปโยโค วา วิปฺปโยโค วา โหติ, เตสํ วเสน ¶ ขนฺธาทิวิภาโค เวทิตพฺโพ.
ตตฺรายํ นโย – สมุทยสจฺเจน ตาว สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนา ธมฺมา ขนฺธาทิสงฺคเหน สงฺคหิตา. เต จ เสเสหิ ตีหิ ขนฺเธหิ, เอเกน มนายตเนน, สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ, สงฺขารกฺขนฺเธ ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ จ เปตฺวา ตณฺหํ เสเสหิ สมฺปยุตฺตตฺตา เกหิจิ สมฺปยุตฺตา นาม. เอเกน ปน รูปกฺขนฺเธน, ทสหิ รูปายตเนหิ, รูปธาตูหิ จ วิปฺปยุตฺตา, เอกสฺมึ ธมฺมายตเน ¶ ธมฺมธาตุยา จ, รูปนิพฺพาเนหิ วิปฺปยุตฺตตฺตา เกหิจิ วิปฺปยุตฺตา นาม. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
สงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา.
๑๒. ทฺวาทสมนโย สมฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา
๔๑๗. อิทานิ ¶ สมฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทํ ภาเชตุํ เวทนากฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เย สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทนิทฺเทเส เวทนากฺขนฺธาทโย ธมฺมา อุทฺธฏา, สพฺพปุจฺฉาสุ เตเยว อุทฺธฏา. ตตฺถ เย ธมฺมา ปุจฺฉาย อุทฺธฏปเทน สมฺปยุตฺตา, เตสํ เยหิ สงฺคโห วา อสงฺคโห วา โหติ, เตสํ วเสน ขนฺธาทิเภโท เวทิตพฺโพ.
ตตฺรายํ นโย – เวทนากฺขนฺโธ หิ สฺาทีหิ สมฺปยุตฺโต. เต สฺาทโย ตีหิ สฺาทิกฺขนฺเธหิ, ทฺวีหิ ธมฺมายตนมนายตเนหิ, ธมฺมธาตุยา เจว, สตฺตหิ จ วิฺาณธาตูหีติ อฏฺหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา, เสสาหิ ขนฺธายตนธาตูหิ อสงฺคหิตา. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
สมฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา.
๑๓. เตรสมนโย อสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา
๔๔๘. อิทานิ อสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทํ ¶ ภาเชตุํ รูปกฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เย ปฺจเม อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทนิทฺเทเส รูปกฺขนฺเธน สทิสปฺหา ธมฺมา, เย จ อรูปภเวน สทิสา, เตเยว อุทฺธฏา. เสสา ปน น รุหนฺตีติ น อุทฺธฏา. เวทนากฺขนฺเธน หิ ¶ ขนฺธาทิวเสน ปน รูปารูปธมฺมา อสงฺคหิตา โหนฺติ. เตสฺจ สมฺปโยโค นาม นตฺถิ. ตสฺมา ยานิ ปทานิ รุหนฺติ, ตาเนว สทิสวิสฺสชฺชเนหิ สทฺธึ สโมธาเนตฺวา อุทฺธฏานิ. ตตฺถ เย ธมฺมา ปุจฺฉาย อุทฺธฏธมฺเมหิ ขนฺธาทิวเสน อสงฺคหิตา, เต เยหิ สมฺปยุตฺตา จ วิปฺปยุตฺตา จ, เตสํ วเสน ขนฺธาทิวิภาโค เวทิตพฺโพ.
ตตฺรายํ นโย – รูปกฺขนฺเธน ตาว วิฺาณเมว ตีหิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิตํ. ตํ เวทนาทีหิ ตีหิ ขนฺเธหิ, ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ จ เวทนาทีเหว สมฺปยุตฺตํ. เอเกน รูปกฺขนฺเธน, ทสหิ รูปายตนรูปธาตูหิ, ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ ¶ จ รูปนิพฺพานธมฺเมหิ วิปฺปยุตฺตํ. ตํ สนฺธาย เต ธมฺมา ตีหิ ขนฺเธหีติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
อสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา.
๑๔. จุทฺทสมนโย วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา
๔๕๖. อิทานิ วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทํ ภาเชตุํ รูปกฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เยสํ ปทานํ วิปฺปโยโค น รุหติ, ตานิ อิมสฺมึ วาเร น คหิตานิ. กานิ ปน ตานีติ? ธมฺมายตนาทีนิ. ธมฺมายตนสฺส หิ ขนฺธาทีสุ เอเกนาปิ วิปฺปโยโค น รุหติ. ธมฺมธาตุอาทีสุปิ เอเสว นโย. เตสํ อิทมุทฺทานํ –
‘‘ธมฺมายตนํ ธมฺมธาตุ, ชีวิตินฺทฺริยเมว จ;
นามรูปปทฺเจว, สฬายตนเมว จ.
‘‘ชาติอาทิตฺตยํ เอกํ, ปทํ วีสติเม ติเก;
ติกาวสานิกํ เอกํ, สตฺต จูฬนฺตเร ปทา.
‘‘ทเสว ¶ โคจฺฉเก โหนฺติ, มหนฺตรมฺหิ จุทฺทส;
ฉ ปทานิ ตโต อุทฺธํ สพฺพานิปิ สมาสโต;
ปทานิ จ น ลพฺภนฺติ, จตฺตาลีสฺจ สตฺต จา’’ติ.
ปริโยสาเน ¶ จ – ธมฺมายตนํ ธมฺมธาตูติ คาถาปิ อิมเมวตฺถํ ทีเปตุํ วุตฺตา. อิมานิ ปน เปตฺวา เสสานิ สพฺพานิปิ ลพฺภนฺติ. เตสุ ขนฺธาทิวิภาโค วุตฺตนยานุสาเรเนว เวทิตพฺโพติ.
วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา.
นิคมนกถา
เอตฺตาวตา ¶ จ –
ธาตุปฺปเภทกุสโล, ยํ ธาตุกถํ ตถาคโต อาห;
ตสฺสา นยมุขเภท-ปฺปกาสนํ นิฏฺิตํ โหติ.
อิมินา นยมุขเภท-ปฺปกาสเนน หิ วิภาวินา สกฺกา;
าตุํ สพฺเพปิ นยา, สงฺเขปกถาว อิติ วุตฺตา.
เอเกกสฺส ปน สเจ, ปทสฺส วิตฺถารเมว ภาเสยฺยํ;
วจนฺจ อติวิย พหุํ, ภเวยฺย อตฺโถ จ อวิเสโส.
อิติ อูนภาณวารทฺวยาย, ยํ ตนฺติยา มยา เอตํ;
กุรุนา ปตฺตํ ปฺุํ, สุขาย ตํ โหตุ โลกสฺสาติ.
ธาตุกถา-อฏฺกถา นิฏฺิตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
อภิธมฺมปิฏเก