📜
๗. สตฺตมวคฺโค
๑. สงฺคหิตกถาวณฺณนา
๔๗๑-๔๗๒. อิทานิ ¶ สงฺคหิตกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ทามาทีหิ พลิพทฺทาทโย วิย เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สงฺคหิตา นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘นตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สงฺคหิตา, เอวํ สนฺเต เอกวิเธน รูปสงฺคโหติอาทิ นิรตฺถก’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกานฺเจว สิทฺธตฺถิกานฺจ; เต สนฺธาย อฺเนตฺเถน สงฺคหภาวํ ทสฺเสตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อตฺตโน ลทฺธิวเสน ปฏิฺา อิตรสฺส. อิทานิ เยนตฺเถน สงฺคโห ลพฺภติ, ตํ ทสฺเสตุํ นนุ อตฺถิ เกจิ ธมฺมาติอาทิ อารทฺธํ. ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว. ยา ปเนสา ปรวาทินา ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ ยถา ทาเมน วาติอาทิกา อุปมา อาหฏา, สกวาทินา ตํ อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ‘‘หฺจิ ทาเมน วา’’ติ ตสฺส ลทฺธิ ภินฺนาติ เวทิตพฺพา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยทิ เต ทามาทีหิ พลิพทฺทาทโย สงฺคหิตา นาม, อตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สงฺคหิตาติ.
สงฺคหิตกถาวณฺณนา.
๒. สมฺปยุตฺตกถาวณฺณนา
๔๗๓-๔๗๔. อิทานิ ¶ สมฺปยุตฺตกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ติลมฺหิ เตลํ วิย น เวทนาทโย สฺาทีสุ อนุปวิฏฺา, ตสฺมา ‘‘นตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สมฺปยุตฺตา, เอวํ สนฺเต ¶ าณสมฺปยุตฺตนฺติอาทิ นิรตฺถกํ โหตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ¶ ราชคิริกสิทฺธตฺถิกานฺเว; เต สนฺธาย อฺเเนวตฺเถน สมฺปยุตฺตตํ ทสฺเสตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อตฺตโน ลทฺธิวเสน ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสมิธาปิ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว. โย ปเนส ปรวาทินา ‘‘ยถา ติลมฺหิ เตล’’นฺติอาทิโก อุปมาปฺโห อาหโฏ, โส ยสฺมา เวทนาสฺานํ วิย ติลเตลานํ ลกฺขณโต นานตฺตววตฺถานํ นตฺถิ. สพฺเพสุปิ หิ ติลอฏฺิตเจสุ ติโลติ โวหารมตฺตํ, เตเนว ติลํ นิพฺพตฺเตตฺวา คหิเต ปุริมสณฺาเนน ติโล นาม น ปฺายติ, ตสฺมา อนาหฏสทิโสว โหตีติ.
สมฺปยุตฺตกถาวณฺณนา.
๓. เจตสิกกถาวณฺณนา
๔๗๕-๔๗๗. อิทานิ เจตสิกกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ผสฺสิกาทโย นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘เจตสิเกนาปิ น ภวิตพฺพํ, อิติ นตฺถิ เจตสิโก ธมฺโม’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกสิทฺธตฺถิกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. สหชาโตติ สมฺปยุตฺตสหชาตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ผสฺสิกาติ ตาทิสํ โวหารํ อปสฺสนฺตสฺส ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. กึ โวหาเรน, ยถา จิตฺตนิสฺสิตโกติ เจตสิโก, เอวํ โสปิ ผสฺสนิสฺสิตตฺตา ผสฺสิโกติ วุตฺเต โทโส นตฺถีติ ปฏิฺา สกวาทิสฺส. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
เจตสิกกถาวณฺณนา.
๔. ทานกถาวณฺณนา
๔๗๘. อิทานิ ¶ ทานกถา นาม โหติ. ตตฺถ ทานํ นาม ติวิธํ – จาคเจตนาปิ, วิรติปิ, เทยฺยธมฺโมปิ. ‘‘สทฺธา หิริยํ กุสลฺจ ¶ ทาน’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๓๐) อาคตฏฺาเน จาคเจตนา ทานํ. ‘‘อภยํ เทตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๓๙) อาคตฏฺาเน วิรติ. ‘‘ทานํ เทติ อนฺนํ ปาน’’นฺติ อาคตฏฺาเน เทยฺยธมฺโม. ตตฺถ จาคเจตนา ‘‘เทติ วา เทยฺยธมฺมํ, เทนฺติ ¶ วา เอตาย เทยฺยธมฺม’’นฺติ ทานํ. วิรติ อวขณฺฑนฏฺเน ลวนฏฺเน วา ทานํ. สา หิ อุปฺปชฺชมานา ภยเภรวาทิสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยเจตนํ ทาติ ขณฺเฑติ ลุนาติ วาติ ทานํ. เทยฺยธมฺโม ทิยฺยตีติ ทานํ. เอวเมตํ ติวิธมฺปิ อตฺถโต เจตสิโก เจว ธมฺโม เทยฺยธมฺโม จาติ ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘เจตสิโกว ธมฺโม ทานํ, น เทยฺยธมฺโม’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกสิทฺธตฺถิกานํ; เต สนฺธาย เจตสิโกติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ เทยฺยธมฺมวเสน โจเทตุํ ลพฺภาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อนฺนาทีนิ วิย โส น สกฺกา ทาตุนฺติ ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส. ปุน ทฬฺหํ กตฺวา ปุฏฺเ ‘‘อภยํ เทตี’’ติ สุตฺตวเสน ปฏิฺา ตสฺเสว. ผสฺสปฺหาทีสุ ปน ผสฺสํ เทตีติอาทิโวหารํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปเตว.
๔๗๙. อนิฏฺผลนฺติอาทิ อเจตสิกสฺส ธมฺมสฺส ทานภาวทีปนตฺถํ วุตฺตํ. น หิ อเจตสิโก อนฺนาทิธมฺโม อายตึ วิปากํ เทติ, อิฏฺผลภาวนิยมนตฺถํ ปเนตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยมฺปิ เหตฺถ อธิปฺปาโย – ยทิ อเจตสิโก อนฺนาทิธมฺโม ทานํ ภเวยฺย, หิตจิตฺเตน อนิฏฺํ อกนฺตํ เภสชฺชํ เทนฺตสฺส นิมฺพพีชาทีหิ วิย นิมฺพาทโย อนิฏฺเมว ผลํ นิพฺพตฺเตยฺย. ยสฺมา ปเนตฺถ หิตผรณจาคเจตนา ทานํ, ตสฺมา อนิฏฺเปิ เทยฺยธมฺเม ทานํ อิฏฺผลเมว โหตีติ.
เอวํ ปรวาทินา เจตสิกธมฺมสฺส ทานภาเว ปติฏฺาปิเต สกวาที อิตเรน ปริยาเยน เทยฺยธมฺมสฺส ทานภาวํ สาเธตุํ ทานํ อิฏฺผลํ วุตฺตํ ภควตาติอาทิมาห. ปรวาที ปน จีวราทีนํ อิฏฺวิปากตํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. สุตฺตสาธนํ ปรวาทีวาเทปิ ยุชฺชติ สกวาทีวาเทปิ, น ปน เอเกนตฺเถน. เทยฺยธมฺโม อิฏฺผโลติ อิฏฺผลภาวมตฺตเมว ปฏิกฺขิตฺตํ. ตสฺมา เตน หิ น วตฺตพฺพนฺติ อิฏฺผลภาเวเนว น วตฺตพฺพตา ยุชฺชติ ¶ . ทาตพฺพฏฺเน ¶ ปน เทยฺยธมฺโม ทานเมว. ทินฺนฺหิ ทานานํ สงฺกรภาวโมจนตฺถเมว อยํ กถาติ.
ทานกถาวณฺณนา.
๕. ปริโภคมยปฺุกถาวณฺณนา
๔๘๓. อิทานิ ปริโภคมยปฺุกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘เตสํ ทิวา จ รตฺโต จ, สทา ปฺุํ ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๔๗) จ ‘‘ยสฺส ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จีวรํ ปริภฺุชมาโน’’ติ (อ. นิ. ๔.๕๑) จ เอวมาทีนิ สุตฺตานิ อโยนิโส คเหตฺวา เยสํ ปริโภคมยํ ¶ นาม ปฺุํ อตฺถี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกสิทฺธตฺถิกสมฺมิติยานํ; เต สนฺธาย ปริโภคมยนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ปฺุํ นาม ผสฺสาทโย กุสลา ธมฺมา, น ตโต ปรํ, ตสฺมา ผสฺสาทีหิ เต วฑฺฒิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ ปริโภคมโย ผสฺโสติอาทิ อารทฺธํ. ตํ สพฺพํ อิตเรน เตสํ อวฑฺฒนโต ปฏิกฺขิตฺตํ. ลตาวิยาติอาทีนิ ‘‘กิริยาย วา ภาวนาย วา วินาปิ ยถา ลตาทีนิ สยเมว วฑฺฒนฺติ, กึ เต เอวํ วฑฺฒนฺตี’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตานิ. ตถา ปนสฺส อวฑฺฒนโต น เหวาติ ปฏิกฺขิตฺตํ.
๔๘๔. น สมนฺนาหรตีติ ปฺเห ปฏิคฺคาหกานํ ปริโภเคน ปุริมเจตนา วฑฺฒติ, เอวํ ตํ โหติ ปฺุนฺติ ลทฺธิวเสน ปฏิชานาติ. ตโต อนาวฏฺเฏนฺตสฺสาติอาทีหิ ปุฏฺโ ทายกสฺส จาคเจตนํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ตตฺถ อนาวฏฺเฏนฺตสฺสาติ ทานเจตนาย ปุเรจาริเกน อาวชฺชเนน ภวงฺคํ อนาวฏฺเฏนฺตสฺส อปริวฏฺเฏนฺตสฺส. อนาโภคสฺสาติ นิราโภคสฺส. อสมนฺนาหรนฺตสฺสาติ น สมนฺนาหรนฺตสฺส. อาวชฺชนฺหิ ภวงฺคํ วิจฺฉินฺทิตฺวา อตฺตโน คตมคฺเค อุปฺปชฺชมานํ ทานเจตนํ สมนฺนาหรติ นาม. เอวํกิจฺเจน อิมินา จิตฺเตน อสมนฺนาหรนฺตสฺส ปฺุํ โหตีติ ปุจฺฉติ. อมนสิกโรนฺตสฺสาติ ¶ มนํ อกโรนฺตสฺส. อาวชฺชเนน หิ ตทนนฺตรํ อุปฺปชฺชมานํ มนํ กโรติ นาม. เอวํ อกโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อุปโยควจนสฺมิฺหิ เอตํ ภุมฺมํ. อเจตยนฺตสฺสาติ เจตนํ อนุปฺปาเทนฺตสฺส. อปตฺเถนฺตสฺสาติ ¶ ปตฺถนาสงฺขาตํ กุสลจฺฉนฺทํ อกโรนฺตสฺส. อปฺปณิทหนฺตสฺสาติ ทานเจตนาวเสน จิตฺตํ อฏฺเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ. นนุ อาวฏฺเฏนฺตสฺสาติ วาเร อาโภคสฺสาติ อาโภควโต. อถ วา อาโภคา อสฺส, อาโภคสฺส วา อนนฺตรํ ตํ ปฺุํ โหตีติ อตฺโถ.
๔๘๕. ทฺวินฺนํ ผสฺสานนฺติอาทีสุปิ เอกกฺขเณ ทายกสฺส ทฺวินฺนํ ผสฺสาทีนํ อภาวา ปฏิกฺขิปติ, ทายกสฺส จ ปริภฺุชนฺตสฺส จาติ อุภินฺนํ ผสฺสาทโย สนฺธาย ปฏิชานาติ. อปิจสฺส ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ สโมธานํ โหตีติ ลทฺธิ, ตสฺสาปิ วเสน ปฏิชานาติ. อถ นํ สกวาที ปริยายสฺส ทฺวารํปิทหิตฺวา อุชุวิปจฺจนีกวเสน โจเทตุํ กุสลาทิปฺหํ ปุจฺฉติ. ตตฺราปิ กุสลากุสลานํ เอกสฺเสกกฺขเณ สมฺปโยคาภาวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ปริโภคมยํ ปน จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ลทฺธิยา ปฏิชานาติ. อถ นํ สกวาที สุตฺเตน นิคฺคณฺหาติ.
๔๘๖. สุตฺตสาธเน อารามโรปกาทีนํ อนุสฺสรณปฏิสงฺขรณาทิวเสน อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมานํ ¶ ปฺุํ สนฺธาย สทา ปฺุํ ปวฑฺฒตีติ วุตฺตํ. อปฺปมาโณ ตสฺส ปฺุาภิสนฺโทติ อิทํ อปฺปมาณวิหาริโน ทินฺนปจฺจยตฺตา จ ‘‘เอวรูโป เม จีวรํ ปริภฺุชตี’’ติ อนุโมทนวเสน จ วุตฺตํ. ตํ โส ปริโภคมยนฺติ สลฺลกฺเขติ. ยสฺมา ปน ปฏิคฺคาหเกน ปฏิคฺคเหตฺวา อปริภุตฺเตปิ เทยฺยธมฺเม ปฺุํ โหติเยว, ตสฺมา สกวาทีวาโทว พลวา, ตตฺถ ปฏิคฺคาหเกน ปฏิคฺคหิเตติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปริโภคมยปฺุกถาวณฺณนา.
๖. อิโตทินฺนกถาวณฺณนา
๔๘๘-๔๙๑. อิทานิ ¶ อิโต ทินฺนกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อิโต ทินฺเนน ยาเปนฺติ, เปตา กาลงฺกตา ตหิ’’นฺติ (เป. ว. ๑๙) วจนํ นิสฺสาย ‘‘ยํ อิโต จีวราทิ ทินฺนํ เตเนว ยาเปนฺตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกสิทฺธตฺถิกานํ; เต สนฺธาย อิโต ทินฺเนนาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส ¶ . ปุน จีวราทิวเสน อนุยุตฺโต ปฏิกฺขิปติ. อฺโ อฺสฺส การโกติ อฺสฺส วิปากทายกานํ กมฺมานํ อฺโ การโก, น อตฺตนาว อตฺตโน กมฺมํ กโรตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ปุฏฺโ ปน อิตโร สุตฺตวิโรธภเยน ปฏิกฺขิปติ. ทานํ เทนฺตนฺติ ทานํ ททมานํ ทิสฺวาติ อตฺโถ. ตตฺถ ยสฺมา อตฺตโน อนุโมทิตตฺตา จ เตสํ ตตฺถ โภคา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมาสฺส อิมินา การเณน ลทฺธึ ปติฏฺเปนฺตสฺสาปิ อปฺปติฏฺิตาว โหติ. น หิ เต อิโต ทินฺเนเนว วตฺถุนา ยาเปนฺติ. เสเสสุปิ สุตฺตสาธเนสุ เอเสว นโยติ.
อิโต ทินฺนกถาวณฺณนา.
๗. ปถวีกมฺมวิปาโกติกถาวณฺณนา
๔๙๒. อิทานิ ปถวี กมฺมวิปาโกติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ‘‘อตฺถิ อิสฺสริยสํวตฺตนิยํ กมฺมํ, อาธิปจฺจสํวตฺตนิยํ กมฺม’’นฺติ เอตฺถ อิสฺสรานํ ภาโว อิสฺสริยํ นาม ¶ , อธิปตีนฺจ ภาโว อาธิปจฺจํ นาม, ปถวิสฺสริยอาธิปจฺจสํวตฺตนิกฺจ กมฺมํ อตฺถีติ วุตฺตํ. ตสฺมา เยสํ ‘‘ปถวี กมฺมวิปาโก’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปถวีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. สุขเวทนียาติอาทิ กมฺมวิปากสภาวทสฺสนวเสน วุตฺตํ. ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติอาทินา นเยน นิทฺทิฏฺเสุ วิปาเกสุ ผสฺโส สุขเวทนียาทิเภโท ¶ โหติ. โส จ สฺาทโย จ สุขเวทนาทีหิ สมฺปยุตฺตา, เวทนาทโย สฺาทีหิ, สพฺเพปิ สารมฺมณา, อตฺถิ จ เนสํ ปุเรจาริกอาวฏฺฏนาทิสงฺขาตํ อาวชฺชนํ, กมฺมปจฺจยภูตา เจตนา, โย ตตฺถ อิฏฺวิปาโก, ตสฺส ปตฺถนา, ปณิธานวเสน ปวตฺตา มูลตณฺหา, กึ เต เอวรูปา ปถวีติ ปุจฺฉติ. อิตโร ปฏิกฺขิปติ. ปฏิโลมปุจฺฉาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๔๙๓. กมฺมวิปาโก ปเรสํ สาธารโณติ ปฺเห ผสฺสาทโย สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, กมฺมสมุฏฺานํ รูปฺจ ปถวีอาทีนํเยว จ สาธารณภาวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อสาธารณมฺเสนฺติ สุตฺตํ ปรสมยโต อาหริตฺวา ¶ ทสฺสิตํ. สพฺเพ สตฺตา ปถวึ ปริภฺุชนฺตีติ ปฺเห ปถวึ อนิสฺสิเต สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, นิสฺสิเต สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปถวึ อปริภฺุชิตฺวา ปรินิพฺพายนฺตีติ ปฺเห อารุปฺเป ปรินิพฺพายนฺตานํ วเสน ปฏิชานาติ. กมฺมวิปากํ อเขเปตฺวาติ อิทํ ปรสมยวเสน วุตฺตํ. กมฺมวิปากฺหิ เขเปตฺวาว ปรินิพฺพายนฺตีติ เตสํ ลทฺธิ. สกสมเย ปน กโตกาสสฺส กมฺมสฺส อุปฺปนฺนํ วิปากํ อเขเปตฺวา ปรินิพฺพานํ นตฺถิ. เตสฺจ ลทฺธิยา ปถวี สาธารณวิปากตฺตา อุปฺปนฺนวิปาโกเยว โหติ. ตํ วิปากภาเวน ิตํ อเขเปตฺวา ปรินิพฺพานํ น ยุชฺชตีติ โจเทตุํ วฏฺฏติ. อิตโร ลทฺธิวเสน ปฏิกฺขิปติ. จกฺกวตฺติสตฺตสฺส กมฺมวิปากนฺติ ปฺเห อสาธารณํ ผสฺสาทึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, สาธารณํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปถวีสมุทฺทสูริยจนฺทิมาทโย หิ สพฺเพสํ สาธารณกมฺมวิปาโกติ เตสํ ลทฺธิ.
๔๙๔. อิสฺสริยสํวตฺตนิยนฺติ เอตฺถ อิสฺสริยํ นาม พหุธนตา. อาธิปจฺจํ นาม เสสชเน อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา เตหิ ครุกาตพฺพฏฺเน อธิปติภาโว. ตตฺถ กมฺมํ ปฏิลาภวเสน ตํสํวตฺตนิกํ นาม โหติ, น ชนกวเสน. ตสฺมา วิปากภาเว อสาธกเมตนฺติ.
ปถวี กมฺมวิปาโกติกถาวณฺณนา.
๘. ชรามรณํ วิปาโกติกถาวณฺณนา
๔๙๕. อิทานิ ¶ ¶ ชรามรณํ วิปาโกติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อตฺถิ ทุพฺพณฺณสํวตฺตนิยํ กมฺมํ อปฺปายุกสํวตฺตนิยํ กมฺม’’นฺติ เอตฺถ ทุพฺพณฺณตา นาม ชรา. อปฺปายุกตา นาม มรณํ. ตํสํวตฺตนิยฺจ กมฺมํ อตฺถิ. ตสฺมา ชรามรณํ วิปาโกติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปฏิโลมปฺเห อนารมฺมณนฺติ รูปธมฺมานํ ตาว อนารมฺมณเมว, อรูปานํ ปน ชรามรณํ สมฺปโยคลกฺขณาภาวา อนารมฺมณเมว.
๔๙๖. อกุสลานํ ธมฺมานํ ชรามรณํ อกุสลานํ ธมฺมานํ วิปาโกติ ปฺเห ชรามรเณน นาม อนิฏฺวิปาเกน ภวิตพฺพนฺติ ลทฺธิยา ปฏิชานาติ ¶ . เตเนว การเณน กุสลานํ ธมฺมานํ ชรามรณสฺส กุสลวิปากตํ ปฏิกฺขิปติ. ปรโต จสฺส อกุสลวิปากตฺเว ปฏิชานาติ.
กุสลานฺจ อกุสลานฺจาติ ปุจฺฉาวเสน เอกโต กตํ, เอกกฺขเณ ปน ตํ นตฺถิ. อพฺยากตานํ อวิปากานํ ชรามรณํ วิปาโกติ วตฺตพฺพตาย ปริยาโย นตฺถิ, ตสฺมา อพฺยากตวเสน ปุจฺฉา น กตา.
๔๙๗. ทุพฺพณฺณสํวตฺตนิยนฺติ เอตฺถ ทุพฺพณฺณิยํ นาม อปริสุทฺธวณฺณตา. อปฺปายุกตา นาม อายุโน จิรํ ปวตฺติตุํ อสมตฺถตา. ตตฺถ อกุสลกมฺมํ กมฺมสมุฏฺานสฺส ทุพฺพณฺณรูปสฺส กมฺมปจฺจโย โหติ, อสทิสตฺตา ปนสฺส ตํวิปาโก น โหติ. อุตุสมุฏฺานาทิโน ปน ตํปฏิลาภวเสน อายุโน จ อุปจฺเฉทกวเสน ปจฺจโย โหติ. เอวเมตํ ปริยาเยน ตํสํวตฺตนิกํ นาม โหติ, น วิปากผสฺสาทีนํ วิย ชนกวเสน, ตสฺมา วิปากภาเว อสาธกํ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตสทิสเมวาติ.
ชรามรณํ วิปาโกติกถาวณฺณนา.
๙. อริยธมฺมวิปากกถาวณฺณนา
๔๙๘. อิทานิ ¶ ¶ อริยธมฺมวิปากกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ กิเลสปฺปหานมตฺตเมว สามฺผลํ, น จิตฺตเจตสิกา ธมฺมาติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย นตฺถิ อริยธมฺมวิปาโกติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ อริยธมฺมวิปาโกติ มคฺคสงฺขาตสฺส อริยธมฺมสฺส วิปาโก. กิเลสกฺขยมตฺตํ อริยผลนฺติ ลทฺธิยา ปฏิฺา อิตรสฺส. สามฺนฺติ สมณภาโว, มคฺคสฺเสตํ นามํ. ‘‘สามฺฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ สามฺผลฺจา’’ติ หิ วุตฺตํ. พฺรหฺมฺเปิ เอเสว นโย.
โสตาปตฺติผลํ น วิปาโกติอาทีสุ โสตาปตฺติมคฺคาทีนํ อปจยคามิตํ สนฺธาย อริยผลานํ นวิปากภาวํ ปฏิชานาติ, ทานผลาทีนํ ปฏิกฺขิปติ ¶ . โส หิ อาจยคามิตฺติกสฺส เอวํ อตฺถํ ธาเรติ – วิปากสงฺขาตํ อาจยํ คจฺฉนฺติ, ตํ วา อาจินนฺตา คจฺฉนฺตีติ อาจยคามิโน, วิปากํ อปจินนฺตา คจฺฉนฺตีติ อปจยคามิโนติ. ตสฺมา เอวํ ปฏิชานาติ จ ปฏิกฺขิปติ จ.
๕๐๐. กามาวจรํ กุสลํ สวิปากํ อาจยคามีติอาทิกา ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ สกวาทิสฺส. โลกิยฺหิ กุสลํ วิปากจุติปฏิสนฺธิโย เจว วฏฺฏฺจ อาจินนฺตํ คจฺฉตีติ อาจยคามิ. โลกุตฺตรกุสลํ จุติปฏิสนฺธิโย เจว วฏฺฏฺจ อปจินนฺตํ คจฺฉตีติ อปจยคามิ. เอวเมตํ สวิปากเมว โหติ, น อปจยคามิวจนมตฺเตน อวิปากํ. อิมมตฺถํ สนฺธาเยตฺถ สกวาทิโน ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ เวทิตพฺพาติ.
อริยธมฺมวิปากกถาวณฺณนา.
๑๐. วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโมติกถาวณฺณนา
๕๐๑. อิทานิ วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโมติกถา นาม ¶ โหติ. ตตฺถ ยสฺมา วิปาโก วิปากสฺส อฺมฺาทิปจฺจยวเสน ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา วิปาโกปิ วิปากธมฺมธมฺโมติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตสฺส วิปาโกติ ตสฺส วิปากธมฺมธมฺมสฺส วิปากสฺส โย วิปาโก, โสปิ เต วิปากธมฺมธมฺโม โหตีติ ¶ ปุจฺฉติ. อิตโร อายตึ วิปากทานาภาวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ตปฺปจฺจยาปิ อฺสฺส วิปากสฺส อุปฺปตฺตึ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เอวํ สนฺเต ปนสฺส กุสลากุสลสฺส วิย ตสฺสาปิ วิปากสฺส วิปาโก, ตสฺสาปิ วิปาโกติ วฏฺฏานุปจฺเฉโท อาปชฺชตีติ ปุฏฺโ สมยวิโรธภเยน ปฏิกฺขิปติ.
วิปาโกติ วาติอาทิมฺหิ วจนสาธเน ปน ยทิ วิปากสฺส วิปากธมฺมธมฺเมน เอกตฺถตา ภเวยฺย, กุสลากุสลพฺยากตานํ เอกตฺถตํ อาปชฺเชยฺยาติ ปฏิกฺขิปติ. วิปาโก จ วิปากธมฺมธมฺโม จาติ เอตฺถ ¶ อยํ อธิปฺปาโย – โส หิ จตูสุ วิปากกฺขนฺเธสุ เอเกกํ อฺมฺปจฺจยาทีสุ ปจฺจยฏฺเน วิปากธมฺมธมฺมตํ ปจฺจยุปฺปนฺนฏฺเน จ วิปากํ มฺมาโน ‘‘วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโม’’ติ ปุฏฺโ อามนฺตาติ ปฏิชานาติ. อถ นํ สกวาที ‘‘ยสฺมา ตยา เอกกฺขเณ จตูสุ ขนฺเธสุ วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโมปิ อนฺุาโต, ตสฺมา เตสํ สหคตาทิภาโว อาปชฺชตี’’ติ โจเทตุํ เอวมาห. อิตโร กุสลากุสลสงฺขาตํ วิปากธมฺมธมฺมํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ตฺเว อกุสลนฺติ ยทิ เต วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโม, โย อกุสลวิปาโก, โส อกุสลํ อาปชฺชติ. กสฺมา? วิปากธมฺมธมฺเมน เอกตฺตา. ตฺเว กุสลนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
๕๐๒. อฺมฺปจฺจยาติ อิทํ สหชาตานํ ปจฺจยมตฺตวเสน วุตฺตํ, ตสฺมา อสาธกํ. มหาภูตานมฺปิ จ อฺมฺปจฺจยตา วุตฺตา, น จ ตานิ วิปากานิ, น จ วิปากธมฺมธมฺมานีติ.
วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโมติกถาวณฺณนา.
สตฺตโม วคฺโค.