📜
๑๐. ทสมวคฺโค
๑. นิโรธกถาวณฺณนา
๕๗๑-๕๗๒. อิทานิ ¶ ¶ นิโรธกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อุปปตฺเตสิยนฺติ สงฺขํ คตสฺส ภวงฺคจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณน สเหว กิริยาติ สงฺขํ คตา ¶ กุสลา วา อกุสลา วา จตฺตาโร ขนฺธา จิตฺตสมุฏฺานรูปฺจาติ ปฺจกฺขนฺธา อุปฺปชฺชนฺติ. เตสุ หิ อนุปฺปนฺเนสุ ภวงฺเค นิรุทฺเธ สนฺตติวิจฺเฉโท ภเวยฺยา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อุปปตฺเตสิเยติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตตฺถ อุปปตฺเตสิเยติ จตูสุปิ ปเทสุ พหุวจนภุมฺมตฺเถ เอกวจนภุมฺมํ. อุปปตฺเตสิเยสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อนิรุทฺเธสูติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. ทสนฺนนฺติ อุปปตฺเตสิยขนฺธานฺจ กิริยขนฺธานฺจ วเสน วุตฺตํ. ตตฺถ ปมปฺเห ขนฺธลกฺขณวเสน กิริยวเสน จ ปฺเจว นาม เต ขนฺธาติ ปฏิกฺขิปติ. ทุติยปฺเห ปุริมปจฺฉิมวเสน อุปปตฺเตสิยกิริยวเสน จ นานตฺตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ทฺวินฺนํ ปน ผสฺสานํ จิตฺตานฺจ สโมธานํ ปุฏฺโ สุตฺตเลสาภาเวน ปฏิกฺขิปติ.
กิริยา จตฺตาโรติ รูเปน วินา กุสลา อกุสลา วา จตฺตาโร คหิตา. กิริยาาณนฺติ ปรวาทินา จกฺขุวิฺาณสมงฺคิกฺขเณ อรหโต อนฺุาตํ อนารมฺมณาณํ. นิรุทฺเธ มคฺโค อุปฺปชฺชตีติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, อนิรุทฺเธ อนุปฺปชฺชนโต ปฏิฺา สกวาทิสฺส. มโต มคฺคํ ภาเวตีติ ¶ ฉเลน ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. ยสฺมา ปน ปฏิสนฺธิโต ยาว จุติจิตฺตา สตฺโต ชีวติเยว นาม, ตสฺมา สกวาที น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ.
นิโรธกถาวณฺณนา.
๒. รูปํมคฺโคติกถาวณฺณนา
๕๗๓-๕๗๕. อิทานิ ¶ รูปํ มคฺโคติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา รูป’’นฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหิสาสกสมฺมิติยมหาสํฆิกานํ; เต สนฺธาย มคฺคสมงฺคิสฺสาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต สมฺมาวาจาทโย รูปํ, น วิรติโย, ยถา สมฺมาทิฏฺาทิมคฺโค สารมฺมณาทิสภาโว, เอวํ ตมฺปิ รูปํ สิยา’’ติ โจเทตุํ สารมฺมโณติอาทิมาห. ตตฺถ ปฏิกฺเขโป จ ปฏิฺา จ ปรวาทิโน ลทฺธิอนุรูเปน เวทิตพฺพา. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
รูปํ มคฺโคติกถาวณฺณนา.
๓. ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส มคฺคกถาวณฺณนา
๕๗๖. อิทานิ ¶ ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส มคฺคกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหตี’’ติ สุตฺตํ นิสฺสาย ‘‘ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘สเจ ตสฺส มคฺคภาวนา อตฺถิ, ปฺจวิฺาณคติเกน วา มคฺเคน, มคฺคคติเกหิ วา ปฺจวิฺาเณหิ ภวิตพฺพํ, น จ ตานิ มคฺคคติกานิ อนิพฺพานารมฺมณตฺตา อโลกุตฺตรตฺตา จ, น มคฺโค ปฺจวิฺาณคติโก เตสํ ลกฺขเณน อสงฺคหิตตฺตา’’ติ โจเทตุํ นนุ ปฺจวิฺาณา อุปฺปนฺนวตฺถุกาติอาทิมาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยทิ ¶ ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส มคฺคภาวนา สิยา, เยน มโนวิฺาเณน มคฺโค สมฺปยุตฺโต, ตมฺปิ ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส สิยา. เอวํ สนฺเต ยทิทํ ‘‘ปฺจวิฺาณา อุปฺปนฺนวตฺถุกา’’ติอาทิ ลกฺขณํ วุตฺตํ, ตํ เอวํ อวตฺวา ‘‘ฉ วิฺาณา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา. ตถา ปน อวตฺวา ‘‘ปฺจวิฺาณา’’ตฺเวว วุตฺตํ, ตสฺมา น วตพฺพํ ‘‘ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนา’’ติ. ยสฺมา เจตฺถ อยเมว อธิปฺปาโย, ตสฺมา สกวาที ตํ ลกฺขณํ ปรวาทึ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา โน จ วต เร วตฺตพฺเพ ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนาติ อาห.
อปโร ¶ นโย – ปฺจวิฺาณา อุปฺปนฺนวตฺถุกา, มคฺโค อวตฺถุโกปิ โหติ. เต จ อุปฺปนฺนารมฺมณา, มคฺโค นวตฺตพฺพารมฺมโณ. เต ปุเรชาตวตฺถุกาว มคฺโค อวตฺถุโกปิ. เต ปุเรชาตารมฺมณา, มคฺโค อปุเรชาตารมฺมโณ. เต อชฺฌตฺติกวตฺถุกาว มคฺโค อวตฺถุโกปิ โหติ. เต จ รูปาทิวเสน พาหิรารมฺมณา, มคฺโค นิพฺพานารมฺมโณ. เต อนิรุทฺธํ วตฺถุํ นิสฺสยํ กตฺวา ปวตฺตนโต อสมฺภินฺนวตฺถุกา, มคฺโค อวตฺถุโกปิ. เต อนิรุทฺธาเนว รูปาทีนิ อารพฺภ ปวตฺตนโต อสมฺภินฺนารมฺมณา, มคฺโค นิพฺพานารมฺมโณ. เต นานาวตฺถุกา, มคฺโค อวตฺถุโก วา เอกวตฺถุโก วา. เต นานารมฺมณา มคฺโค เอการมฺมโณ. เต อตฺตโน อตฺตโนว รูปาทิโคจเร ปวตฺตนโต น อฺมฺสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺติ, มคฺโค รูปาทีสุ เอกมฺปิ โคจรํ น กโรติ. เต กิริยมโนธาตุํ ปุเรจาริกํ กตฺวา อุปฺปชฺชนโต น อสมนฺนาหารา น อมนสิการา อุปฺปชฺชนฺติ, มคฺโค นิราวชฺชโนว. เต สมฺปฏิจฺฉนาทีหิ โวกิณฺณา อุปฺปชฺชนฺติ, มคฺคสฺส โวกาโรเยว นตฺถิ. เต อฺมฺํ ปุพฺพจริมภาเวน ¶ อุปฺปชฺชนฺติ, มคฺคสฺส เตหิ สทฺธึ ปุริมปจฺฉิมตาว นตฺถิ, เตสํ อนุปฺปตฺติกาเล ติกฺขวิปสฺสนาสมเย, เตสํ อนุปฺปตฺติเทเส อารุปฺเปปิ จ อุปฺปชฺชนโต. เต สมฺปฏิจฺฉนาทีหิ อนฺตริตตฺตา น อฺมฺสฺส สมนนฺตรา อุปฺปชฺชนฺติ, มคฺคสฺส สมฺปฏิจฺฉนาทีหิ อนฺตริตภาโวว นตฺถิ. เตสํ อฺตฺร อภินิปาตา อาโภคมตฺตมฺปิ กิจฺจํ นตฺถิ, มคฺคสฺส กิเลสสมุคฺฆาตนํ กิจฺจนฺติ. ยสฺมา เจตฺถ อยมฺปิ ¶ อธิปฺปาโย, ตสฺมา สกวาที อิเมหากาเรหิ ปรวาทึ มคฺคสฺส อปฺจวิฺาณคติกภาวํ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา โน จ วต เร วตฺตพฺเพ ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนาติ อาห.
๕๗๗. สฺุตํ อารพฺภาติ ‘‘ยถา โลกุตฺตรมคฺโค สฺุตํ นิพฺพานํ อารพฺภ, โลกิโย สุทฺธสงฺขารปฺุชํ อารพฺภ อุปฺปชฺชติ, กึ เต เอวํ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ ปุจฺฉติ. อิตโร ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จา’’ติ วจนโต ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ‘‘น นิมิตฺตคฺคาหี’’ติ วจนโต ยํ ตตฺถ อนิมิตฺตํ, ตเทว สฺุตนฺติ สนฺธาย ปฏิชานาติ. จกฺขฺุจ ปฏิจฺจาติ ปฺหทฺวเยปิ เอเสว นโย.
๕๗๘-๕๗๙. จกฺขุวิฺาณํ อตีตานาคตํ อารพฺภาติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – มโนวิฺาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนา, มโนวิฺาณฺจ อตีตานาคตมฺปิ อารพฺภ อุปฺปชฺชติ, กึ เต เอวํ จกฺขุวิฺาณมฺปีติ. ผสฺสํ อารพฺภาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. จกฺขุนา ¶ รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหีติ เอตฺถ ชวนกฺขเณ น นิมิตฺตคฺคาหิตา วุตฺตา, น จกฺขุวิฺาณกฺขเณ. ตสฺมา โลกิยมคฺคมฺปิ สนฺธาเยตํ อสาธกนฺติ.
ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส มคฺคกถาวณฺณนา.
๔. ปฺจวิฺาณา กุสลาปีติกถาวณฺณนา
๕๘๐-๕๘๓. อิทานิ ปฺจวิฺาณา กุสลาปีติกถา นาม โหติ. สา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺถโต เวทิตพฺพาติ.
ปฺจวิฺาณา กุสลาปีติกถาวณฺณนา.
๕. ปฺจวิฺาณา สาโภคาติกถาวณฺณนา
๕๘๔-๕๘๖. อิทานิ ¶ ปฺจวิฺาณา สาโภคาติกถา นาม โหติ. ตตฺถ อาโภโค นาม กุสลากุสลวเสน โหติ สตฺถารา ¶ จ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหติ, น นิมิตฺตคฺคาหี โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘ปฺจวิฺาณา สาโภคา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ปุริมกถาสทิสเมวาติ.
ปฺจวิฺาณา สาโภคาติกถาวณฺณนา.
๖. ทฺวีหิ สีเลหีติกถาวณฺณนา
๕๘๗-๕๘๙. อิทานิ ¶ ทฺวีหิ สีเลหีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ’’ติอาทิวจนโต (สํ. นิ. ๑.๒๓) ยสฺมา โลกิเยน สีเลน สีลวา โลกุตฺตรํ มคฺคํ ภาเวติ, ตสฺมา ‘‘ปุริเมน จ โลกิเยน มคฺคกฺขเณ โลกุตฺตเรน จาติ ทฺวีหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต นาม โหตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํเยว, เต สนฺธาย มคฺคสมงฺคีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ โส เอกกฺขเณ โลกิยโลกุตฺตเรหิ ทฺวีหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต, ทฺวีหิ ผสฺสาทีหิปิ เตน สมนฺนาคเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ ทฺวีหิ ผสฺเสหีติอาทิมาห. อิตโร ตถารูปํ นยํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. โลกิเยน จ โลกุตฺตเรน จาติ ปฺเห ปุพฺเพ สมาทินฺนฺจ มคฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนสมฺมาวาจาทีนิ จ สนฺธาย ปฏิชานาติ.
โลกิเย สีเล นิรุทฺเธติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ขณภงฺคนิโรธํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. อิตโร ปน ตํ วีติกฺกมํ วิย สลฺลกฺเขนฺโต ทุสฺสีโลติอาทิมาห. ลทฺธิปติฏฺาปนํ ปนสฺส ปุพฺเพ อภินฺนสีลตํเยว ทีเปติ, น ทฺวีหิ สมนฺนาคตตํ. ตสฺมา อปฺปติฏฺิตาว ลทฺธีติ.
ทฺวีหิ สีเลหีติกถาวณฺณนา.
๗. สีลํ อเจตสิกนฺติกถาวณฺณนา
๕๙๐-๕๙๔. อิทานิ ¶ ¶ สีลํ อเจตสิกนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา สีเล อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธปิ สมาทานเหตุโก สีโลปจโย นาม อตฺถิ, เยน โส สีลวาเยว นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘สีลํ อเจตสิก’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ‘‘ทานํ อเจตสิก’’นฺติกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ลทฺธิปติฏฺาปนมฺปิ อโยนิโส คหิตตฺตา อปฺปติฏฺาปนเมวาติ.
สีลํ อเจตสิกนฺติกถาวณฺณนา.
๘. สีลํ น จิตฺตานุปริวตฺตีติกถาวณฺณนา
๕๙๕-๕๙๗. อิทานิ ¶ สีลํ น จิตฺตานุปริวตฺตีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ น จิตฺตานุปริวตฺตีติ ภาสนฺตรเมว นานํ, เสสํ ปุริมกถาสทิสเมวาติ.
สีลํ น จิตฺตานุปริวตฺตีติกถาวณฺณนา.
๙. สมาทานเหตุกถาวณฺณนา
๕๙๘-๖๐๐. อิทานิ สมาทานเหตุกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘อารามโรปา’’ติ คาถาย อตฺถํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘สทา ปฺุํ ปวฑฺฒตี’’ติ วจนโต ‘‘สมาทานเหตุกํ สีลํ วฑฺฒตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานฺเว, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ สีโลปจยํ สนฺธาย ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. เสสํ ปุริมกถาสทิสเมวาติ.
สมาทานเหตุกถาวณฺณนา.
๑๐. วิฺตฺติ สีลนฺติกถาวณฺณนา
๖๐๑-๖๐๒. อิทานิ ¶ วิฺตฺติ สีลนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ กายวิฺตฺติ กายกมฺมํ, วจีวิฺตฺติ วจีกมฺมนฺติ คหิตตฺตา ‘‘วิฺตฺติ สีล’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย วิฺตฺตีติ ¶ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ยสฺมา สีลํ นาม วิรติ, น รูปธมฺโม, ตสฺมา เตนตฺเถน โจเทตุํ ปาณาติปาตา เวรมณีติอาทิมาห. อภิวาทนํ สีลนฺติอาทิ ยถารูปํ วิฺตฺตึ โส ‘‘สีล’’นฺติ มฺติ ตํ อุทฺธริตฺวา ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน สา วิรติ น โหติ, ตสฺมา ปุน ปาณาติปาตาติอาทิมาห. ลทฺธิ ปนสฺส ฉเลน ปติฏฺิตตฺตา อปฺปติฏฺิตาเยวาติ.
วิฺตฺติ สีลนฺติกถาวณฺณนา.
๑๑. อวิฺตฺติ ทุสฺสีลฺยนฺติกถาวณฺณนา
๖๐๓-๖๐๔. อิทานิ ¶ อวิฺตฺติ ทุสฺสีลฺยนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ อปฺุูปจยฺเจว อาณตฺติยา จ ปาณาติปาตาทีสุ องฺคปาริปูรึ สนฺธาย ‘‘อวิฺตฺติ ทุสฺสีลฺย’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘สเจ สา ทุสฺสีลฺยํ, ปาณาติปาตาทีสุ อฺตรา สิยา’’ติ โจเทตุํ ปาณาติปาโตติอาทิมาห. ปาปกมฺมํ สมาทิยิตฺวาติ ‘‘อสุกํ นาม ฆาเตสฺสามิ, อสุกํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามี’’ติ เอวํ ปาปสมาทานํ กตฺวา. อุโภ วฑฺฒนฺตีติ ปุฏฺโ ทานกฺขเณ ปาปสฺส อนุปฺปตฺตึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ ปาปูปจยํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ ปริโภคมยกถายํ วุตฺตนเยเนว ¶ เวทิตพฺพํ. ลทฺธิปติฏฺาปนมฺปิสฺส ปาปสมาทินฺนปุพฺพภาคเมว สาเธติ; น อวิฺตฺติยา ทุสฺสีลภาวนฺติ.
อวิฺตฺติ ทุสฺสีลฺยนฺติกถาวณฺณนา.
ทสโม วคฺโค.
ทุติยปณฺณาสโก สมตฺโต.