📜

๑๑. เอกาทสมวคฺโค

๑-๓. ติสฺโสปิ อนุสยกถาวณฺณนา

๖๐๕-๖๑๓. อิทานิ อนุสยา อพฺยากตา, อเหตุกา, จิตฺตวิปฺปยุตฺตาติ ติสฺโสปิ อนุสยกถา นาม โหนฺติ. ตตฺถ ยสฺมา ปุถุชฺชโน กุสลาพฺยากเต จิตฺเต วตฺตมาเน ‘‘สานุสโย’’ติ วตฺตพฺโพ, โย จสฺส ตสฺมึ ขเณ เหตุ, น เตน เหตุนา อนุสยา สเหตุกา, น เตน จิตฺเตน สมฺปยุตฺตา, ตสฺมา ‘‘เต อพฺยากตา, อเหตุกา, จิตฺตวิปฺปยุตฺตา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย ตีสุปิ กถาสุ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา สกฺกา ปาฬิมคฺเคเนว ชานิตุนฺติ, ตสฺมา น วิตฺถาริตนฺติ.

ติสฺโสปิ อนุสยกถาวณฺณนา.

๔. าณกถาวณฺณนา

๖๑๔-๖๑๕. อิทานิ าณกถา นาม โหติ. ตตฺถ มคฺคาเณน อฺาเณ วิคเตปิ ปุน จกฺขุวิฺาณาทิวเสน าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเต วตฺตมาเน ยสฺมา ตํ มคฺคจิตฺตํ น ปวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘น วตฺตพฺพํ าณี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ อฺาเณ วิคเต ‘าณี’ติ ปฺตฺติ น สิยา, ราคาทีสุ วิคเตสุ วีตราคาทิปฺตฺติปิ น สิยาติ ปุคฺคลปฺตฺติยํ อโกวิโทสี’’ติ โจเทตุํ ราเค วิคเตติอาทิมาห. อิตโร เตสุ วิคเตสุ สราคาทิภาเว ยุตฺตึ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ปริโยสาเน ยสฺมา าณปฏิลาเภน โส าณีติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, ตสฺมา น เหวนฺติ ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺสาติ.

าณกถาวณฺณนา.

๕. าณํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา

๖๑๖-๖๑๗. อิทานิ าณํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อรหา จกฺขุวิฺาณาทิสมงฺคี ปฏิลทฺธํ มคฺคาณํ สนฺธาย ‘‘าณี’’ติ วุจฺจติ, น จสฺส ตํ เตน จิตฺเตน สมฺปยุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘าณํ จิตฺตวิปฺปยุตฺต’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต าณํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ จิตฺตวิปฺปยุตฺเตสุ รูปาทีสุ อฺตรํ สิยา’’ติ โจเทตุํ รูปนฺติอาทิมาห. อิตโร ปฏิกฺขิปติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. ปริโยสาเน ปน ปฺวาติ ปุฏฺโ ปฏิลาภวเสน ตํ ปวตฺตึ อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิชานาตีติ.

าณํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา.

๖. อิทํ ทุกฺขนฺติกถาวณฺณนา

๖๑๘-๘๒๐. อิทานิ อิทํ ทุกฺขนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ โยคาวจโร อิทํ ทุกฺขนฺติ วาจํ ภาสติ, เอวมสฺส อิทํ ทุกฺขนฺติ วาจํ ภาสโต จ อิทํ ทุกฺขนฺติ าณํ ปวตฺตตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, มคฺคกฺขเณ ตถา วาจาภาสนํ าณปฺปวตฺติฺจ สนฺธาย ปฏิฺา อิตรสฺส. ยสฺมา ปน โส เสสสจฺจปฏิสํยุตฺตํ วาจํ ปุถุชฺชโนว ภาสติ , น จ ตสฺส ตถา าณปฺปวตฺตีติ อิจฺฉติ, ตสฺมา สมุทยาทิปฺเหสุ ปฏิกฺขิปติ. รูปํ อนิจฺจนฺติอาทิ ทุกฺขปริยายทสฺสนวเสน วุตฺตํ. อิตโร ปน สกสมเย ตาทิสํ โวหารํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. อิติ จ ทนฺติ จาติอาทิ ยทิ ตสฺส ทุกฺเข าณํ ปวตฺตติ, อิ-การ ทํ-การ ทุ-การ ข-กาเรสุ ปฏิปาฏิยา จตูหิ าเณหิ ปวตฺติตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. อิตโร ปน ตถา น อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ.

อิทํ ทุกฺขนฺติกถาวณฺณนา.

๗. อิทฺธิพลกถาวณฺณนา

๖๒๑-๖๒๔. อิทานิ อิทฺธิพลกถา นาม โหติ. ตตฺถ อิทฺธิปาทภาวนานิสํสสฺส อตฺถํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘อิทฺธิพเลน สมนฺนาคโต กปฺปํ ติฏฺเยฺยา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ; เต สนฺธาย อิทฺธิพเลน สมนฺนาคโต กปฺปํ ติฏฺเยฺยาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ กปฺโป นาม มหากปฺโป, กปฺเปกเทโส, อายุกปฺโปติ ติวิโธ. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กปฺปสฺส อสงฺขฺเยยฺยานี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๕๖) เอตฺถ หิ มหากปฺโปว กปฺโปติ วุตฺโต. ‘‘พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ กปฺโป อายุปฺปมาณ’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๑๒๓) เอตฺถ กปฺเปกเทสา. ‘‘กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจติ, กปฺปํ สคฺคมฺหิ โมทตี’’ติ (จูฬว. ๓๕๔) เอตฺถ อายุกปฺโป. อายุกปฺปนํ อายุวิธานํ กมฺมสฺส วิปากวเสน วา วสฺสคณนาย วา อายุปริจฺเฉโทติ อตฺโถ. เตสุ มหากปฺปํ สนฺธาย ปุจฺฉติ, อิตโร ปฏิชานาติ.

อถ นํ สกวาที ‘‘สเจ เต อิทฺธิพเลน สมนฺนาคโต, ‘โย จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโย’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๔๓) เอวํ ปริจฺฉินฺนา อายุกปฺปา อุทฺธํ มหากปฺปํ วา มหากปฺเปกเทสํ วา ชีเวยฺย อิทฺธิมยิเกนสฺส อายุนา ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ อิทฺธิมยิโก โส อายูติอาทิมาห. อิตโร ‘‘ชีวิตินฺทฺริยํ นาม อิทฺธิมยิกํ นตฺถิ, กมฺมสมุฏฺานเมวา’’ติ วุตฺตตฺตา ปฏิกฺขิปติ. โก ปเนตฺถ อิทฺธิมโต วิเสโส, นนุ อนิทฺธิมาปิ อายุกปฺปํ ติฏฺเยฺยาติ? อยํ วิเสโส – อิทฺธิมา หิ ยาวตายุกํ ชีวิตปฺปวตฺติยา อนฺตรายกเร ธมฺเม อิทฺธิพเลน ปฏิพาหิตฺวา อนฺตรา อกาลมรณํ นิวาเรตุํ สกฺโกติ, อนิทฺธิมโต เอตํ พลํ นตฺถิ. อยเมเตสํ วิเสโส.

อตีตํ อนาคตนฺติ อิทํ อวิเสเสน กปฺปํ ติฏฺเยฺยาติ ปฏิฺาตตฺตา โจเทติ. ทฺเว กปฺเปติอาทิ ‘‘ยทิ อิทฺธิมา ชีวิตปริจฺเฉทํ อติกฺกมิตุํ สกฺโกติ, น เกวลํ เอกํ อเนเกปิ กปฺเป ติฏฺเยฺยา’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อุปฺปนฺโน ผสฺโสติอาทิ น สพฺพํ อิทฺธิยา ลพฺภติ, อิทฺธิยา อวิสโยปิ อตฺถีติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อิทฺธิพลกถาวณฺณนา.

๘. สมาธิกถาวณฺณนา

๖๒๕-๖๒๖. อิทานิ สมาธิกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ เอกจิตฺตกฺขเณ อุปฺปนฺนาปิ เอกคฺคตา สมาธานฏฺเน สมาธีติ อคฺคเหตฺวา ‘‘สตฺต รตฺตินฺทิวานิ เอกนฺตสุขปฏิสํเวที วิหริตุ’’นฺติอาทิวจนํ (ม. นิ. ๑.๑๘๐) นิสฺสาย ‘‘จิตฺตสนฺตติ สมาธี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ สพฺพตฺถิวาทานฺเจว อุตฺตราปถกานฺจ; เต สนฺธาย จิตฺตสนฺตตีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ จิตฺตสนฺตติ สมาธิ, จิตฺตสนฺตติ นาม อตีตาปิ อตฺถิ, อนาคตาปิ อตฺถิ. น หิ เอกํ ปจฺจุปฺปนฺนจิตฺตเมว จิตฺตสนฺตติ นาม โหติ, กึ เต สพฺพาปิ สา สมาธี’’ติ โจเทตุํ อตีตาติอาทิมาห, อิตโร ตถา อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ.

นนุอตีตํ นิรุทฺธนฺติอาทิ ‘‘จิตฺตสนฺตติยํ ปจฺจุปฺปนฺนเมว จิตฺตํ กิจฺจกรํ, อตีตานาคตํ นิรุทฺธตฺตา อนุปฺปนฺนตฺตา จ นตฺถิ, กถํ ตํ สมาธิ นาม โหตี’’ติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เอกจิตฺตกฺขณิโกติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. ตโต ยา สกสมเย ‘‘สมาธึ, ภิกฺขเว, ภาเวถา’’ติอาทีสุ ปจฺจุปฺปนฺนกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตา เอกคฺคตา สมาธีติ วุตฺตา, ตํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. จกฺขุวิฺาณสมงฺคีติอาทิ ‘‘เอกจิตฺตกฺขณิโก’’ติ วจนมตฺตํ คเหตฺวา ฉเลน วุตฺตํ, เตเนว สกวาทินา ปฏิกฺขิตฺตํ. นนุ วุตฺตํ ภควตาติ สุตฺตํ ปุริมปจฺฉิมวเสน ปวตฺตมานสฺส สมาธิสฺส อพฺโพกิณฺณตํ สาเธติ, น สนฺตติยา สมาธิภาวํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

สมาธิกถาวณฺณนา.

๙. ธมฺมฏฺิตตากถาวณฺณนา

๖๒๗. อิทานิ ธมฺมฏฺิตตากถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ิตาว สา ธาตู’’ติ วจนํ นิสฺสาย ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทสงฺขาตา ธมฺมฏฺิตตา นาม เอกา อตฺถิ, สา จ ปรินิปฺผนฺนา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ ปรินิปฺผนฺนานํ อวิชฺชาทีนํ อฺา ธมฺมฏฺิตตา นาม ปรินิปฺผนฺนา อตฺถิ, ตายปิ จ เต ธมฺมฏฺิตตาย อฺา ิตตา ปรินิปฺผนฺนา อาปชฺชตี’’ติ โจเทตุํ ตาย ิตตาติอาทิมาห. ปรวาที เอวรูปาย ลทฺธิยา อภาเวน ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ อนนฺตรปจฺจยตฺเจว อฺมฺปจฺจยตฺจ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ธมฺมฏฺิตตากถาวณฺณนา.

๑๐. อนิจฺจตากถาวณฺณนา

๖๒๘. อิทานิ อนิจฺจตากถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘อนิจฺจานํ รูปาทีนํ อนิจฺจตาปิ รูปาทโย วิย ปรินิปฺผนฺนา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต รูปาทโย วิย อนิจฺจตา ปรินิปฺผนฺนา, ตสฺสาปิ อฺาย ปรินิปฺผนฺนาย อนิจฺจตาย ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ ตาย อนิจฺจตายาติอาทิมาห. อิตโร ทฺวินฺนํ อนิจฺจตาย เอกโต อภาเวน ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ยสฺมา สา อนิจฺจตา นิจฺจา น โหติ, เตเนว อนิจฺเจน สทฺธึ อนฺตรธายติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. อถสฺส สกวาที เลโสกาสํ อทตฺวา ยา เตน ทุติยา อนิจฺจตา ปฏิฺาตา , ตายปิ ตโต ปรายปีติ ปรมฺปรวเสน อนุปจฺเฉทโทสํ อาโรเปนฺโต ตาย ตาเยวาติอาทิมาห. ชรา ปรินิปฺผนฺนาติอาทิ ยสฺมา อุปฺปนฺนสฺส ชรามรณโต อฺา อนิจฺจตา นาม นตฺถิ, ตสฺมา อนิจฺจตาวิภาคานุยุฺชนวเสน วุตฺตํ. ตตฺราปิ ปรวาทิโน ปุริมนเยเนว ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ เวทิตพฺโพ.

๖๒๙. รูปํ ปรินิปฺผนฺนนฺติอาทิ เยสํ สา อนิจฺจตา, เตหิ สทฺธึ สํสนฺทนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ยถา ปรินิปฺผนฺนานํ รูปาทีนํ อนิจฺจตาชรามรณานิ อตฺถิ, เอวํ ปรินิปฺผนฺนานํ อนิจฺจตาทีนํ ตานิ นตฺถี’’ติ มฺมาโน เอกนฺเตน ปฏิกฺขิปติเยวาติ.

อนิจฺจตากถาวณฺณนา.

เอกาทสโม วคฺโค.