📜
๑๓. เตรสมวคฺโค
๑. กปฺปฏฺกถาวณฺณนา
๖๕๔-๖๕๗. อิทานิ ¶ กปฺปฏฺกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘สงฺฆํ สมคฺคํ เภตฺวาน, กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจตี’’ติ ‘‘สกลมฺปิ กปฺปํ สงฺฆเภทโก นิรเย ติฏฺตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกานํ; เต สนฺธาย กปฺปฏฺโติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. พุทฺโธ จ โลเกติ อิทํ วินา พุทฺธุปฺปาเทน สงฺฆเภทสฺส อภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. กปฺโป จ สณฺาติ สงฺโฆ จ ภิชฺชตีติอาทิ ‘‘ยทิ โส สกลํ กปฺปํ ติฏฺติ, สณฺหนโต ปฏฺาย ตํ กมฺมํ กตฺวา ตตฺถ อุปฺปชฺชิตฺวา ติฏฺเยฺยา’’ติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. อตีตนฺติอาทิ เหฏฺา วุตฺตาธิปฺปายเมว. กปฺปฏฺโ อิทฺธิมาติ ปฺเห ภาวนามยํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ปรสมเย ปนสฺส ชาติมยํ อิทฺธึ อิจฺฉนฺติ, ตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ฉนฺทิทฺธิปาโทติอาทิ ‘‘ชาติมยาย อิทฺธิยา อิทฺธิมาติ ลทฺธิมตฺตเมตํ, กึ เตน, ยทิ ปนสฺส อิทฺธิ อตฺถิ, อิมินา นเยน อิทฺธิปาทา ภาวิตา ภเวยฺยุ’’นฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อาปายิโก เนรยิโกติ สุตฺตํ ยํ โส เอกํ กปฺปํ อสีติภาเค กตฺวา ตโต เอกภาคมตฺตํ กาลํ ติฏฺเยฺย, ตํ อายุกปฺปํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.
กปฺปฏฺกถาวณฺณนา.
๒. กุสลปฏิลาภกถาวณฺณนา
๖๕๘-๖๕๙. อิทานิ ¶ กุสลปฏิลาภกถา นาม โหติ. ตตฺถ กปฺปฏฺโ สกสมเย กามาวจรกุสลเมว ¶ ปฏิลภติ. เยน ปน ตํ อุปปตฺตึ ปฏิพาเหยฺย, ตํ มหคฺคตํ โลกุตฺตรํ วา น ปฏิลภติ. เยสํ ปน อิมํ วิภาคํ อกตฺวา อวิเสเสเนว ‘‘โส กุสลจิตฺตํ น ปฏิลภตี’’ติ ¶ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เตสํ วิภาคทสฺสเนน ตํ ลทฺธึ ภินฺทิตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
กุสลปฏิลาภกถาวณฺณนา.
๓. อนนฺตราปยุตฺตกถาวณฺณนา
๖๖๐-๖๖๒. อิทานิ อนนฺตราปยุตฺตกถา นาม โหติ. ตตฺถ อนนฺตราปยุตฺโต นาม เยน ขนฺธเภทโต อนนฺตรา วิปากทายกํ มาตุฆาตาทิ อานนฺตริยกมฺมํ อาณตฺตํ. ตตฺถ ยสฺส นิยตาย อาณตฺติยา อาณตฺโต ตํ กมฺมํ กริสฺสติ, โส อตฺถสาธิกาย เจตนาย อุปฺปาทิตตฺตา มิจฺฉตฺตนิยโต โหติ, อภพฺโพ สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิตุํ. ยสฺส อนิยตาย อาณตฺติยา อาณตฺโต ตํ กมฺมํ กริสฺสติ, โส อตฺถสาธิกาย เจตนาย อนุปฺปาทิตตฺตา น มิจฺฉตฺตนิยโต, ภพฺโพ สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิตุนฺติ อิทํ สกสมเย สนฺนิฏฺานํ. เยสํ ปน ‘‘อนิยตายปิ อาณตฺติยา อภพฺโพเยว สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิตุ’’นฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เตสํ ตํ ลทฺธึ ภินฺทิตุํ สกวาที ปุพฺพปกฺขํ ทตฺวา อนนฺตราปยุตฺโตติ ปรวาทินา อตฺตานํ ปุจฺฉาเปติ. เตเนตฺถ ปมปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, อตฺถสาธิกเจตนาย อภาวํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ตโต ปรวาที มาตุฆาตาทิกมฺมสฺส อาณตฺตตฺตาว ‘‘โส มิจฺฉตฺตนิยโต’’ติ มฺติ. ตสฺมา มิจฺฉตฺตนิยามฺจาติ ¶ ปฺหํ ปุจฺฉติ. สกวาที ปน เอกสฺส ปุคฺคลสฺส ทฺวินฺนํ นิยามานํ อโนกฺกนฺติมตฺตเมว สนฺธาย น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ.
นนุ ตํ กมฺมนฺติ มาตุฆาตาทิกมฺมํ. ตตฺถ อนิยตาณตฺตึ สนฺธาย ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิฺา สกวาทิสฺส. อนิยตมฺปิ หิ อาณตฺตึ ปโยเชตฺวา ิตสฺส ‘‘อนนุจฺฉวิกํ มยา กต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺชเตว, วิปฺปฏิสาโร ชายเตว. หฺจีติอาทิ กุกฺกุจฺจุปฺปตฺติมตฺตํ คเหตฺวา ปรวาทินา ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ วุตฺตํ.
๖๖๑. อิทานิ ¶ ยสฺส อนิยตาณตฺติกสฺสาปิ อนนฺตราปยุตฺตสฺส ปรวาทินา สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนํ ปฏิสิทฺธํ, ตเมว ปุคฺคลํ คเหตฺวา อนนฺตราปยุตฺโต ¶ ปุคฺคโล อภพฺโพติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อตฺตโน ลทฺธิวเสน ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ สกวาที ‘‘อภพฺโพ นาม มาตุฆาตาทิกมฺมานํ การโก, กึ เต เตน ตานิ กมฺมานิ กตานี’’ติ โจเทตุํ มาตา ชีวิตา โวโรปิตาติอาทิมาห. อิตโร เตสํ วตฺถูนํ อโรคตาย ตถารูปํ กิริยํ อปสฺสนฺโต ‘‘น เหว’’นฺติ ปฏิกฺขิปติ.
ตํ กมฺมํ ปฏิสํหริตฺวาติ อนิยตาณตฺติกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ ‘‘มา โข มยา อาณตฺตํ อากาสี’’ติ อาณตฺตํ นิวาเรนฺเตน ปฏิสํหฏํ นาม โหติ. ปฏิสํหฏตฺตาเยว เจตฺถ กุกฺกุจฺจํ ปฏิวิโนทิตํ, วิปฺปฏิสาโร ปฏิวินีโต นาม โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ปเนตฺถ ปุริมาณตฺติยาเยว นิยตภาวํ มฺมาโน ปรวาที ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิชานาติ. อถ นํ สกวาที ตสฺส กมฺมสฺส ปฏิสํหฏภาวํ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา อตฺตโน ลทฺธึ ปติฏฺาเปตฺวา หฺจีติอาทิมาห.
๖๖๒. ปุน อนนฺตราปยุตฺโตติ ปริโยสานปฺเห ปมปฺเห วิย ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ปฏิฺา สกวาทิสฺส. นนุ ตํ กมฺมนฺติ อนุโยโค ปรวาทิสฺส, ปฏิสํหฏกาลโต ปุพฺเพ ปยุตฺตกาลํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ปยุตฺตปุพฺพตามตฺตํ คเหตฺวา อนิยตาณตฺติวเสน หฺจีติ ลทฺธิปติฏฺาปนํ ปรวาทิสฺส. อยํ ปน ลทฺธิ อโยนิโส ปติฏฺิตตฺตา อปฺปติฏฺิตาว โหตีติ.
อนนฺตราปยุตฺตกถาวณฺณนา.
๔. นิยตสฺส นิยามกถาวณฺณนา
๖๖๓-๖๖๔. อิทานิ ¶ นิยตสฺส นิยามกถา นาม โหติ. ตตฺถ ทุวิโธ นิยาโม – มิจฺฉตฺตนิยาโม จ อานนฺตริยกมฺมํ, สมฺมตฺตนิยาโม จ อริยมคฺโค. อิเม ทฺเว นิยาเม เปตฺวา อฺโ นิยาโม นาม นตฺถิ. สพฺเพปิ หิ เสสา เตภูมกธมฺมา อนิยตา นาม. เตหิ สมนฺนาคโตปิ ¶ อนิยโตเยว. พุทฺเธหิ ปน อตฺตโน าณพเลน ‘‘อยํ สตฺโต อนาคเต โพธึ ปาปุณิสฺสตี’’ติ พฺยากโต โพธิสตฺโต ปฺุุสฺสทตฺตา นิยโตติ วุจฺจติ. อิติ อิมํ โวหารมตฺตํ คเหตฺวา ‘‘ปจฺฉิมภวิโก โพธิสตฺโต ¶ ตาย ชาติยา ภพฺโพ ธมฺมํ อภิสเมตุ’’นฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘นิยโต นิยามํ โอกฺกมตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยาปรเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. มิจฺฉตฺตนิยโตติอาทิ อฺเน นิยาเมน นิยตสฺส อฺนิยามาภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปุพฺเพ มคฺคํ ภาเวตฺวาติอาทิ นิยามปฺปเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สติปฏฺานนฺติอาทิ เอกสฺมิมฺปิ นิยาเม ธมฺมปฺปเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ภพฺโพ โพธิสตฺโตติ วจนํ เกวลํ โพธิสตฺตสฺส ภพฺพตํ ทีเปติ, น นิยตสฺส นิยาโมกฺกมนํ, ตสฺมา อสาธกํ. โส หิ ปุพฺเพ เอเกนปิ นิยตธมฺเมน อนิยโต โพธิมูเล สจฺจทสฺสเนน นิยามํ โอกฺกนฺโตติ.
นิยตสฺส นิยามกถาวณฺณนา.
๕. นิวุตกถาวณฺณนา
๖๖๕-๖๖๗. อิทานิ นิวุตกถา นาม โหติ. ตตฺถ สุทฺธสฺส สุทฺธกิจฺจาภาวโต นีวรเณหิ นิวุโต โอผุโฏ ปริโยนทฺโธ จ นีวรณํ ชหตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย นิวุโตติปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. รตฺโต ราคนฺติอาทิ นิวุตสฺส นีวรณชหเน โทสทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปริสุทฺเธ ปริโยทาเตติอาทิ วิกฺขมฺภนวิสุทฺธิยา วิสุทฺธสฺส ¶ สมุจฺเฉทวิสุทฺธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺส เอวํ ชานโตติอาทิ ชานโต ปสฺสโต อาสวกฺขยํ ทีเปติ, น นิวุตสฺส นีวรณชหนํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.
นิวุตกถาวณฺณนา.
๖. สมฺมุขีภูตกถาวณฺณนา
๖๖๘-๖๗๐. อิทานิ ¶ สมฺมุขีภูตกถา นาม โหติ. ตตฺถ สมฺมุขีภูโตติ สํโยชนานํ สมฺมุขีภาวํ เตหิ สมงฺคีภาวํ อุปคโต. เสสเมตฺถ นิวุตกถาสทิสเมวาติ.
สมฺมุขีภูตกถาวณฺณนา.
๗. สมาปนฺโน อสฺสาเทตีติกถาวณฺณนา
๖๗๑-๖๗๓. อิทานิ ¶ สมาปนฺโน อสฺสาเทตีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, โส ตทสฺสาเทตี’’ติอาทิวจนํ (อ. นิ. ๔.๑๒๓) นิสฺสาย ‘‘สมาปนฺโน อสฺสาเทติ, สา จสฺส ฌานนิกนฺติ ฌานารมฺมณา โหตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ, เต สนฺธาย สมาปนฺโนติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตํ ฌานํ ตสฺส ฌานสฺส อารมฺมณนฺติ ปฺเหสุ ตสฺเสว ตทารมฺมณตํ อปสฺสนฺโต สุตฺตวิโรธภเยน ปฏิกฺขิปติ, ‘‘ตทสฺสาเทตี’’ติวจนมตฺเตน ปฏิชานาติ. โส ตทสฺสาเทตีติ สุตฺตํ ฌานลาภิโน ฌานา วุฏฺาย ฌานสฺสาทํ สาเธติ, น อนฺโตสมาปตฺติยํเยว ฌานนิกนฺติยา ฌานารมฺมณตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.
สมาปนฺโน อสฺสาเทตีติกถาวณฺณนา.
๘. อสาตราคกถาวณฺณนา
๖๗๔. อิทานิ ¶ อสาตราคกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยํกิฺจิ เวทนํ เวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, โส ตํ เวทนํ อภินนฺทติ อภิวทตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๙) สุตฺเต ทิฏฺาภินนฺทนวเสน วุตฺตํ. ‘‘อภินนฺทตี’’ติวจนํ นิสฺสาย ‘‘ทุกฺขเวทนายปิ ราคสฺสาทวเสน ¶ อภินนฺทนา โหติ. ตสฺมา อตฺถิ อสาตราโค’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย อตฺถิ อสาตราโคติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ อสาตราโคติ อสาเต ทุกฺขเวทยิเต ‘‘อโห วต เม เอตเทว ภเวยฺยา’’ติ รชฺชนา. อามนฺตาติ ลทฺธิวเสน ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
๖๗๕. โส ตํ เวทนํ อภินนฺทตีติ สุตฺเต ปน วินิวฏฺเฏตฺวา ทุกฺขเวทนเมว อารพฺภ ราคุปฺปตฺติ นาม นตฺถิ, สมูหคฺคหเณน ปน เวทยิตลกฺขณํ ธมฺมํ ทุกฺขเวทนเมว วา อตฺตโต สมนุปสฺสนฺโต ทิฏฺิมฺนาสงฺขาตาย ทิฏฺาภินนฺทนาย เวทนํ อภินนฺทติ, ทุกฺขาย เวทนาย วิปริณามํ อภินนฺทติ, ทุกฺขาย เวทนาย อภิภูโต ตสฺสา ปฏิปกฺขํ กามสุขํ ปตฺถยนฺโตปิ ¶ ทุกฺขเวทนํ อภินนฺทติ นาม. เอวํ ทุกฺขเวทนาย อภินนฺทนา โหตีติ อธิปฺปาโย. ตสฺมา อสาธกเมตํ อสาตราคสฺสาติ.
อสาตราคกถาวณฺณนา.
๙. ธมฺมตณฺหาอพฺยากตาติกถาวณฺณนา
๖๗๖-๖๘๐. อิทานิ ธมฺมตณฺหา อพฺยากตาติกถา นาม โหติ. ตตฺถ รูปตณฺหา…เป… ธมฺมตณฺหาติ อิมาสุ ฉสุ ตณฺหาสุ ยสฺมา สพฺพปจฺฉิมา ตณฺหา ธมฺมตณฺหาติ วุตฺตา, ตสฺมา สา อพฺยากตาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสปฺหานํ ¶ ปาฬิยา อตฺโถ นิยฺยาติ. กามตณฺหาติอาทีหิ ตีหิ โกฏฺาเสหิ ฉปิ ตณฺหา สงฺขิปิตฺวา ทสฺสิตา. รูปาทีสุ หิ ฉสุ อารมฺมเณสุ กามสฺสาทวเสน ปวตฺตา ตณฺหา กามตณฺหา. ‘‘ภวิสฺสติ อตฺตา จ โลโก จา’’ติ สสฺสตทิฏฺิสหคตา ตณฺหา ภวตณฺหา. ‘‘น ภวิสฺสตี’’ติ อุจฺเฉททิฏฺิสหคตา ตณฺหา วิภวตณฺหาติ. นนุ สา ธมฺมตณฺหาติ ปทํ ตณฺหาย ธมฺมารมฺมณํ อารพฺภ ปวตฺตึ ทีเปติ, น อพฺยากตภาวํ ตสฺมา อสาธกนฺติ.
ธมฺมตณฺหา อพฺยากตาติกถาวณฺณนา.
๑๐. ธมฺมตณฺหานทุกฺขสมุทโยติกถาวณฺณนา
๖๘๑-๖๘๕. อิทานิ ¶ ธมฺมตณฺหา นทุกฺขสมุทโยติกถา นาม โหติ. ตตฺราปิ ยสฺมา สา ธมฺมตณฺหาติ วุตฺตา, ตสฺมา น ทุกฺขสมุทโยติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ ปุริมกถาสทิสเมวาติ.
ธมฺมตณฺหา นทุกฺขสมุทโยติกถาวณฺณนา.
เตรสโม วคฺโค.