📜

๑๔. จุทฺทสมวคฺโค

๑. กุสลากุสลปฏิสนฺทหนกถาวณฺณนา

๖๘๖-๖๙๐. อิทานิ กุสลากุสลปฏิสนฺทหนกถา นาม โหติ. ตตฺถ กุสลํ วา อกุสลสฺส, อกุสลํ วา กุสลสฺส อนนฺตรา อุปฺปชฺชนกํ นาม นตฺถีติ เตสํ อฺมฺํ ปฏิสนฺธานํ น ยุชฺชติ. เย ปน ยสฺมา เอกวตฺถุสฺมิฺเว รชฺชติ วิรชฺชติ จ, ตสฺมา ตํ อฺมฺํ ปฏิสนฺทหตีติ ลทฺธึ คเหตฺวา ิตา, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกา; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส; ปฏิฺา อิตรสฺส. อาวฏฺฏนา ปณิธีติ อุภยํ อาวชฺชนสฺเสว นามํ. ตฺหิ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏตีติ อาวฏฺฏนา. ภวงฺคารมฺมณโต อฺสฺมึ อารมฺมเณ จิตฺตํ ปณิทหติ เปตีติ ปณิธิ. กุสลํ อนาวฏฺเฏนฺตสฺสาติ ยํ ตํ อกุสลานนฺตรํ ปฏิสนฺทหนฺตํ กุสลํ อุปฺปชฺชติ, ตํ อนาวฏฺเฏนฺตสฺส อุปฺปชฺชตีติ ปุจฺฉติ. อิตโร ปน วินา อาวชฺชเนน กุสลสฺส อุปฺปตฺตึ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. กุสลํ อโยนิโส มนสิกโรโตติ อิทํ ยทิ อกุสลานนฺตรํ กุสลํ อุปฺปชฺเชยฺย, อกุสลสฺเสว อาวชฺชเนน อโยนิโส มนสิกโรโต อุปฺปชฺเชยฺยาติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ. นนุ ยสฺมึเยว วตฺถุสฺมินฺติ วจนํ เอการมฺมเณ สราควิราคุปฺปตฺตึ ทีเปติ, น กุสลากุสลานํ อนนฺตรตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

กุสลากุสลปฏิสนฺทหนกถาวณฺณนา.

๒. สฬายตนุปฺปตฺติกถาวณฺณนา

๖๙๑-๖๙๒. อิทานิ สฬายตนุปฺปตฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ อุปปตฺเตสิเยน ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สเหว โอปปาติกานํ สฬายตนํ อุปฺปชฺชติ. คพฺภเสยฺยกานํ อชฺฌตฺติกายตเนสุ มนายตนกายายตนาเนว ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺติ. เสสานิ จตฺตาริ สตฺตสตฺตติรตฺติมฺหิ. ตานิ จ โข เยน กมฺมุนา ปฏิสนฺธิ คหิตา, ตสฺเสว อฺสฺส วา กตตฺตาติ อยํ สกสมเย วาโท. เยสํ ปน เอกกมฺมสมฺภวตฺตา สมฺปนฺนสาขาวิฏปานํ รุกฺขาทีนํ อํกุโร วิย พีชมตฺตํ สฬายตนํ มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิกฺขเณเยว อุปฺปชฺชตีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย สฬายตนนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. สพฺพงฺคปจฺจงฺคีติอาทิ สฬายตเน สติ เอวรูโป หุตฺวา โอกฺกเมยฺยาติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. มาตุกุจฺฉิคตสฺสาติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. ปรโต มาตุกุจฺฉิคตสฺส ปจฺฉา เกสาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สฬายตนุปฺปตฺติกถาวณฺณนา.

๓. อนนฺตรปจฺจยกถาวณฺณนา

๖๙๓-๖๙๗. อิทานิ อนนฺตรปจฺจยกถา นาม โหติ. ตตฺถ นจฺจคีตาทีสุ รูปทสฺสนสทฺทสวนาทีนํ ลหุปริวตฺติตํ ทิสฺวา ‘‘อิมานิ วิฺาณานิ อฺมฺสฺส อนนฺตรา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย จกฺขุวิฺาณสฺสาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. โสตวิฺาณํ รูปารมฺมณํเยวาติ ยทิ จกฺขุวิฺาณสฺส อนนฺตรา อุปฺปชฺเชยฺย, วิปากมโนธาตุ วิย รูปารมฺมณํ สิยาติ โจเทตุํ วุตฺตํ. จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ โสตวิฺาณนฺติ ปฺเหสุ สุตฺตาภาเวน ปฏิกฺขิปิตฺวา อนนฺตรุปฺปตฺตึ สลฺลกฺเขนฺโต ลทฺธิวเสน ปฏิชานาติ. ตฺเว จกฺขุวิฺาณํตํ โสตวิฺาณนฺติ ยถา ปมชวนานนฺตรํ ทุติยชวนํ มโนวิฺาณภาเวน ตฺเว โหติ, กึ เต ตถา เอตมฺปิ ทฺวยํ เอกเมวาติ ปุจฺฉติ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นจฺจติ คายตีติอาทิวจนํ อารมฺมณสโมธาเน ลหุปริวตฺติตาย โวกิณฺณภาวํ ทีเปติ, น อนนฺตรปจฺจยตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

อนนฺตรปจฺจยกถาวณฺณนา.

๔. อริยรูปกถาวณฺณนา

๖๙๘-๖๙๙. อิทานิ อริยรูปกถา นาม โหติ. ตตฺถ สมฺมาวาจากมฺมนฺตา รูปํ, ตฺจ โข ‘‘สพฺพํ รูปํ จตฺตาริ จ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๖๗) วจนโต อุปาทายรูปนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย อริยรูปํ มหาภูตานํ อุปาทายาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ อริยานํ รูปํ, อริยํ วา รูปนฺติ อริยรูปํ. อามนฺตาติ ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิฺา อิตรสฺส. กุสลนฺติ ปุฏฺโ ลทฺธิวเสเนว ปฏิชานาติ. อนาสวปุจฺฉาทีสุปิ เอเสว นโย. ยํ กิฺจิ รูปนฺติ สุตฺตํ เปตฺวา ภูตานิ เสสรูปสฺส อุปาทาภาวํ ทีเปติ, น สมฺมาวาจากมฺมนฺตานํ. เตสฺหิ รูปมตฺตฺเว อสิทฺธํ, กุโต อุปาทารูปตา; ตสฺมา อสาธกนฺติ.

อริยรูปกถาวณฺณนา.

๕. อฺโ อนุสโยติกถาวณฺณนา

๗๐๐-๗๐๑. อิทานิ อฺโ อนุสโยติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ปุถุชฺชโน กุสลาพฺยากเต จิตฺเต วตฺตมาเน สานุสโยติ วตฺตพฺโพ, น ปริยุฏฺิโตติ ตสฺมา อฺโ อนุสโย, อฺํ ปริยุฏฺานนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อฺโ กามราคานุสโยติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ เหฏฺา อนุสยกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สานุสโยติอาทิ ปน ตสฺมึ สมเย อนุสยสฺส อปฺปหีนตฺตา สานุสโยติ วตฺตพฺพตํ, อนุปฺปนฺนตฺตา จ ปริยุฏฺิโตติ อวตฺตพฺพตํ ทีเปติ, น อนุสยปริยุฏฺานานํ อฺตฺตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

อฺโ อนุสโยติกถาวณฺณนา.

๖. ปริยุฏฺานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา

๗๐๒. อิทานิ ปริยุฏฺานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อนิจฺจาทิโต มนสิกโรโตปิ ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘อปฺเปกทา, โภ ภารทฺวาช, อสุภโต มนสิกริสฺสามีติ สุภโตว มนสิกโรตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๑๒๗). ตสฺมา ปริยุฏฺานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปริยุฏฺานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา.

๗. ปริยาปนฺนกถาวณฺณนา

๗๐๓-๗๐๕. อิทานิ ปริยาปนฺนกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา กามราโค กามธาตุํ อนุเสติ, กามธาตุปริยาปนฺโนติ จ วุจฺจติ, ตสฺมา รูปราคารูปราคาปิ รูปธาตุอรูปธาตุโย อนุเสนฺติ. รูปธาตุอรูปธาตุปริยาปนฺนาเยว จ นาม โหนฺตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย รูปราโคติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส . ตตฺถ อนุเสตีติ ยถา กามราโค กามวิตกฺกสงฺขาตํ กามธาตุํ สหชาตวเสน อนุเสติ, กึ เต เอวํ รูปราโค รูปธาตุนฺติ ปุจฺฉติ. ปริยาปนฺโนติ ยถา จ โส ติวิธาย กามธาตุยา กิเลสกามวเสน ปริยาปนฺนตฺตา กามธาตุปริยาปนฺโน, กึ เต เอวํ รูปราโคปิ รูปธาตุปริยาปนฺโนติ ปุจฺฉติ. อิตโร ปนสฺส อธิปฺปายํ อสลฺลกฺเขนฺโต เกวลํ ลทฺธิวเสน อามนฺตาติ ปฏิชานาติ. อถ นํ ตมตฺถํ สลฺลกฺขาเปตุํ กุสลวิปากกิริยสงฺขาเตหิ สมาปตฺเตสิยาทีหิ สํสนฺทิตฺวา ปุจฺฉิตุํ สมาปตฺเตสิโยติอาทิมาห. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ. นนุ กามราโคติอาทิวจนมฺปิ กามราคสฺเสว กามธาตุยํ อนุสยภาวํ ปริยาปนฺนตฺจ ทีเปติ, น อิตเรสํ อิตรธาตูสูติ.

ปริยาปนฺนกถาวณฺณนา.

๘. อพฺยากตกถาวณฺณนา

๗๐๖-๗๐๘. อิทานิ อพฺยากตกถา นาม โหติ. ตตฺถ วิปากกิริยรูปนิพฺพานสงฺขาตํ จตุพฺพิธํ อพฺยากตํ อวิปากตฺตา อพฺยากตนฺติ วุตฺตํ. ทิฏฺิคตํ ‘‘สสฺสโต โลโกติ โข, วจฺฉ, อพฺยากตเมต’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๑๖ โถกํ วิสทิสํ) สสฺสตาทิภาเวน อกถิตตฺตา. เยสํ ปน อิมํ วิภาคํ อคฺคเหตฺวา ปุริมาพฺยากตํ วิย ทิฏฺิคตมฺปิ อพฺยากตนฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว อุตฺตราปถกานฺจ; เตสํ ตํ วิภาคํ ทสฺเสตุํ ทิฏฺิคตํ อพฺยากตนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

อพฺยากตกถาวณฺณนา.

๙. อปริยาปนฺนกถาวณฺณนา

๗๐๙-๗๑๐. อิทานิ อปริยาปนฺนกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ปุถุชฺชโน ฌานลาภี กาเมสุ วีตราโคติ วตฺตพฺโพ โหติ, น ปน วิคตทิฏฺิโกติ , ตสฺมา ทิฏฺิคตํ อปริยาปนฺนนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

อปริยาปนฺนกถาวณฺณนา.

จุทฺทสโม วคฺโค.