📜
๑๕. ปนฺนรสมวคฺโค
๑. ปจฺจยตากถาวณฺณนา
๗๑๑-๗๑๗. อิทานิ ¶ ¶ ปจฺจยตากถา นาม โหติ. ตตฺถ โย ธมฺโม เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย, โส เยสํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย, เตสฺเว ยสฺมา อารมฺมณานนฺตรสมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย น โหติ, โย วา อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย, โส ยสฺมา เตสํเยว อนนฺตรสมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย น โหติ, ตสฺมา ปจฺจยตา ววตฺถิตาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.
ปจฺจยตากถาวณฺณนา.
๒. อฺมฺปจฺจยกถาวณฺณนา
๗๑๘-๗๑๙. อิทานิ อฺมฺปจฺจยกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ สมเย ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อยเมว ตนฺติ, ‘‘สงฺขารปจฺจยาปิ อวิชฺชา’’ติ อยํ นตฺถิ, ตสฺมา อวิชฺชาว สงฺขารานํ ปจฺจโย, น ปน สงฺขารา อวิชฺชายาติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ; เต สนฺธาย อวิชฺชาสงฺขาราทีนํ อฺมฺปจฺจยตาปิ อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส ¶ . อวิชฺชา สงฺขาเรนาติ เอตฺถ อปฺุาภิสงฺขาโรว คหิโต. ตสฺมา สงฺขารปจฺจยาปิ อวิชฺชาติ เอตฺถ สหชาตอฺมฺอตฺถิอวิคตสมฺปยุตฺตวเสน ปจฺจยตา เวทิตพฺพา. อุปาทานปจฺจยาปิ ตณฺหาติ เอตฺถ เปตฺวา กามุปาทานํ เสสานิ ตีณิ อุปาทานานิ อวิชฺชาย สงฺขารา วิย ตณฺหาย ปจฺจยา โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. เสสํ ¶ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ. ชรามรณปจฺจยาติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, นามรูปํ วิฺาณปจฺจยาติ สกวาทิสฺสาติ.
อฺมฺปจฺจยกถาวณฺณนา.
๓. อทฺธากถาวณฺณนา
๗๒๐-๗๒๑. อิทานิ ¶ อทฺธากถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, กถาวตฺถูนี’’ติ (อ. นิ. ๓.๖๘) สุตฺตํ นิสฺสาย กาลสงฺขาโต อทฺธา นาม ปรินิปฺผนฺโน อตฺถีติ เยสํ ลทฺธิ; เตสํ ‘‘อทฺธา นาม โกจิ ปรินิปฺผนฺโน นตฺถิ อฺตฺร กาลปฺตฺติมตฺตา. รูปาทโย ปน ขนฺธาว ปรินิปฺผนฺนา’’ติ วิภาคํ ทสฺเสตุํ อทฺธา ปรินิปฺผนฺโนติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘สเจ โส ปรินิปฺผนฺโน, รูปาทีสุ อเนน อฺตเรน ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ รูปนฺติอาทิมาห. อิตโร ปฏิกฺขิปติ. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.
อทฺธากถาวณฺณนา.
๔. ขณลยมุหุตฺตกถาวณฺณนา
๗๒๒-๗๒๓. ขณลยมุหุตฺตกถาสุปิ เอเสว นโย. สพฺเพปิ เหเต ขณาทโย อทฺธาปริยายา เอวาติ.
ขณลยมุหุตฺตกถาวณฺณนา.
๕. อาสวกถาวณฺณนา
๗๒๔-๗๒๕. อิทานิ อาสวกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา จตูหิ อาสเวหิ อุตฺตริ อฺโ อาสโว นาม นตฺถิ, เยน จตฺตาโร อาสวา ¶ สาสวา สิยุํ, ตสฺมา ¶ จตฺตาโร อาสวา อนาสวาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต อาสวา อนาสวา, เอวํ สนฺเต เตหิ มคฺคาทิลกฺขณปฺปตฺเตหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ มคฺโคติอาทิมาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อาสวกถาวณฺณนา.
๖. ชรามรณกถาวณฺณนา
๗๒๖-๗๒๗. อิทานิ ¶ ชรามรณกถา นาม โหติ. ตตฺถ ชรามรณํ นาม อปรินิปฺผนฺนตฺตา โลกิยนฺติ วา โลกุตฺตรนฺติ วา น วตฺตพฺพํ. ‘‘โลกิยา ธมฺมา โลกุตฺตรา ธมฺมา’’ติ หิ ทุเก ชรามรณํ เนว โลกิยปเท, น โลกุตฺตรปเท นิทฺทิฏฺํ. ตตฺถ เยสํ อิมํ ลกฺขณํ อนาทิยิตฺวา โลกุตฺตรานํ ธมฺมานํ ชรามรณํ โลกุตฺตรนฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.
ชรามรณกถาวณฺณนา.
๗. สฺาเวทยิตกถาวณฺณนา
๗๒๘-๗๒๙. อิทานิ สฺาเวทยิตกถา นาม โหติ. ตตฺถ สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ นาม น โกจิ ธมฺโม, จตุนฺนํ ปน ขนฺธานํ นิโรโธ. อิติ สา เนว โลกิยา น โลกุตฺตรา. ยสฺมา ปน โลกิยา น โหติ, ตสฺมา โลกุตฺตราติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ ปุริมกถาสทิสเมวาติ.
สฺาเวทยิตกถาวณฺณนา.
๘. ทุติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา
๗๓๐-๗๓๑. อิทานิ ¶ ¶ ยสฺมา สา โลกุตฺตรา น โหติ, ตสฺมา โลกิยาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ ปุริมสทิสเมวาติ.
ทุติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา.
๙. ตติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา
๗๓๒. อิทานิ ¶ ยสฺมา ‘‘อสุโก มรณธมฺโม, อสุโก น มรณธมฺโม’’ติ สตฺตานํ มรณธมฺมตาย นิยาโม นตฺถีติ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโนปิ กาลํ กเรยฺยาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกานํ; เตสํ สมาปนฺนายปิ มรณธมฺมตาย มรณสมยฺจ อมรณสมยฺจ ทสฺเสตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ยสฺมา กาลํ กโรนฺตสฺส นาม มรณนฺติเกหิ ผสฺสาทีหิ ภวิตพฺพํ, ตสฺมา เตนากาเรน โจเทตุํ อตฺถีติอาทิมาห.
อผสฺสกสฺส กาลกิริยาติอาทีนิ ปุฏฺโ เสสสตฺเต สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ วิสํ กเมยฺยาติอาทีนิ ปุฏฺโ สมาปตฺติอานุภาวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยวาเร สรีรปกตึ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เอวํ สนฺเต ปน สมาปตฺติอานุภาโว นาม น โหติ, เตเนว น นิโรธสมาปนฺโนติ อนุยฺุชติ.
๗๓๓-๗๓๔. น กาลํ กเรยฺยาติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. อตฺถิ โส นิยาโมติ ปรวาทิสฺส ปฺเห ปน ยสฺมา เอวรูโป นิยาโม นาม นตฺถิ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. จกฺขุวิฺาณสมงฺคีติอาทิ สกวาทินา ‘‘นิยาเม อสนฺเตปิ มรณสมเยเนว มรติ, นาสมเยนา’’ติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺรายมธิปฺปาโย – ยทิ นิยามาภาเวน กาลกิริยา ภเวยฺย, จกฺขุวิฺาณสมงฺคิโนปิ ภเวยฺย. ตโต ‘‘ปฺจหิ วิฺาเณหิ น จวติ, น อุปปชฺชตี’’ติ ¶ สุตฺตวิโรโธ สิยา. ยถา ปน จกฺขุวิฺาณสมงฺคิสฺส กาลกิริยา น โหติ, ตถา นิโรธสมาปนฺนสฺสาปีติ.
ตติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา.
๑๐. อสฺสตฺตุปิกากถาวณฺณนา
๗๓๕. อิทานิ ¶ อสฺสตฺตุปิกากถา นาม โหติ. ตตฺถ สฺาวิราควเสน ปวตฺตภาวนา อสฺสมาปตฺติปิ นิโรธสมาปตฺติปิ สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ นาม. อิติ ทฺเว ¶ สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติโย โลกิยา จ โลกุตฺตรา จ. ตตฺถ โลกิยา ปุถุชฺชนสฺส อสฺสตฺตุปิกา โหติ, โลกุตฺตรา อริยานํ, สา จ นาสฺสตฺตุปิกา. อิมํ ปน วิภาคํ อกตฺวา อวิเสเสน สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ อสฺสตฺตุปิกาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ยสฺมา อสฺสมาปตฺตึ สมาปนฺนสฺส อโลภาทโย อตฺถิ, น นิโรธสมาปตฺตึ, ตสฺมา เตสํ วเสน โจเทตุํ อตฺถีติอาทิมาห.
๗๓๖. อิธาปิ อสฺีติ ปฺเห อิธ สฺาวิราควเสน สมาปนฺนตฺตา อสฺิตา อนฺุาตา, ตตฺราปิ อสฺสตฺเตเนว. ตสฺมา อิมํ ปฏิฺํ คเหตฺวา ลทฺธึ ปติฏฺเปนฺเตน ฉเลน ปติฏฺาปิตา โหติ. อิธ วา นิโรธสมาปตฺตึ สนฺธาย อสฺิตา อนฺุาตา. ตตฺราปิ อิโต จุตสฺส อนาคามิโน นิโรธสมาปตฺติเมว ตสฺมาปิ อิมาย ปฏิฺาย ปติฏฺาปิตา ลทฺธิ อปฺปติฏฺิตาเยวาติ.
อสฺสตฺตุปิกากถาวณฺณนา.
๑๑. กมฺมูปจยกถาวณฺณนา
๗๓๗. อิทานิ กมฺมูปจยกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ กมฺมูปจโย ¶ นาม กมฺมโต อฺโ จิตฺตวิปฺปยุตฺโต อพฺยากโต อนารมฺมโณติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย อฺํ กมฺมนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ กมฺมโต อฺโ กมฺมูปจโย, ผสฺสาทิโตปิ อฺเน ผสฺสูปจยาทินา ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ อฺโ ผสฺโสติอาทิมาห. อิตโร ลทฺธิยา อภาเวน ปฏิกฺขิปติ.
๗๓๘-๗๓๙. กมฺเมน ¶ สหชาโตติ ปฺเหสุ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, จิตฺตสมฺปยุตฺตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. กุสโลติ ปฺเหสุปิ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปรโต อกุสโลติปฺเหสุปิ เอเสว นโย.
๗๔๐. สารมฺมโณติ ¶ ปุฏฺโ ปน เอกนฺตํ อนารมฺมณเมว อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. จิตฺตํ ภิชฺชมานนฺติ ยทา จิตฺตํ ภิชฺชมานํ โหติ, ตทา กมฺมํ ภิชฺชตีติ อตฺโถ. ภุมฺมตฺเถ วา ปจฺจตฺตํ, จิตฺเต ภิชฺชมาเนติ อตฺโถ. อยเมว วา ปาโ. ตตฺถ ยสฺมา สมฺปยุตฺโต ภิชฺชติ, วิปฺปยุตฺโต น ภิชฺชติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ เจว ปฏิกฺขิปติ จ.
๗๔๑. กมฺมมฺหิ กมฺมูปจโยติ กมฺเม สติ กมฺมูปจโย, กมฺเม วา ปติฏฺิเต กมฺมูปจโย, กมฺมูปจยโตว วิปาโก นิพฺพตฺตติ. ตสฺมึ ปน กมฺเม นิรุทฺเธ ยาว อํกุรุปฺปาทา พีชํ วิย ยาว วิปากุปฺปาทา กมฺมูปจโย ติฏฺตีติสฺส ลทฺธิ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. ตฺเว กมฺมํ, โส กมฺมูปจโย, โส กมฺมวิปาโกติ ยสฺมา กมฺมมฺหิ กมฺมูปจโย, โส จ ยาว วิปากุปฺปาทา ติฏฺตีติสฺส ลทฺธิ, ตสฺมา นํ เตสํ ติณฺณมฺปิ เอกตฺตํ ปุจฺฉติ วิปาโก สารมฺมโณติ อิทํ วิปาโก วิย วิปากธมฺมธมฺโมปิ อารมฺมณปฏิพทฺโธเยวาติ โจทนตฺถํ ปุจฺฉติ. อิตโร ปน ลทฺธิวเสเนกํ ปฏิชานาติ, เอกํ ปฏิกฺขิปติ. ปฏิโลเมปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.
กมฺมูปจยกถาวณฺณนา.
ปนฺนรสโม วคฺโค.
ตติยปณฺณาสโก สมตฺโต.