📜
๑๖. โสฬสมวคฺโค
๑. นิคฺคหกถาวณฺณนา
๗๔๓-๗๔๔. อิทานิ ¶ ¶ นิคฺคหกถา นาม โหติ. ตตฺถ เย โลเก พลปฺปตฺตา วสีภูตา, เต ยทิ ปรสฺส จิตฺตํ นิคฺคณฺหิตุํ น สกฺกุเณยฺยุํ, กา เตสํ พลปฺปตฺติ, โก วสีภาโว. พลปฺปตฺติยา ปน วสีภาเวน จ อทฺธา เต ปรสฺส จิตฺตํ นิคฺคณฺหนฺตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ; เต สนฺธาย ปโร ปรสฺสาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตตฺถ ¶ นิคฺคณฺหาตีติ สํกิเลสาปตฺติโต นิวาเรติ. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ. ปคฺคหกถายปิ เอเสว นโย.
นิคฺคหกถาวณฺณนา.
๓. สุขานุปฺปทานกถาวณฺณนา
๗๔๗-๗๔๘. อิทานิ สุขานุปฺปทานกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘พหูนํ วต โน ภควา สุขธมฺมานํ อุปหตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๔๘) สุตฺตํ นิสฺสาย ปโร ปรสฺส สุขํ อนุปฺปเทตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ทุกฺขํ อนุปฺปเทตีติ ปุฏฺโ ปน ตาทิสํ สุตฺตปทํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. อตฺตโน สุขนฺติอาทิปฺเห ยํ ¶ อตฺตโน ปรสฺส วา, ตํ อนุปฺปทาตุํ น สกฺกา. ยํ ตสฺเสว, กึ ตตฺถ อนุปฺปทานํ นามาติ ปฏิกฺขิปติ. เนวตฺตโนติอาทิปฺเห ปน ยํ เอวรูปํ, น ตํ อนุปฺปทินฺนํ นาม ภวิตุมรหตีติ ลทฺธิยาปฏิชานาติ. โน จ วต เรติตาทิสสฺส สุขสฺส อภาวา วุตฺตํ. สุขธมฺมานํ อุปหตฺตาติวจนํ ภควโต ปเรสํ สุขุปฺปตฺติยา ปจฺจยภาวํ ทีเปติ, น อนฺนาทีนํ วิย สุขสฺส อนุปฺปทานํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.
สุขานุปฺปทานกถาวณฺณนา.
๔. อธิคยฺหมนสิการกถาวณฺณนา
๗๔๙-๗๕๓. อิทานิ ¶ อธิคยฺห มนสิการกถา นาม โหติ. ตตฺถ ทุวิโธ มนสิกาโร นยโต จ อารมฺมณโต จ. ตตฺถ เอกสงฺขารสฺสาปิ อนิจฺจตาย ทิฏฺาย สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ อวเสเสสุ นยโต มนสิกาโร โหติ. อตีเต ปน สงฺขาเร มนสิกโรนฺโต น อนาคเต มนสิกาตุํ สกฺโกติ. อตีตาทีสุ อฺตรํ มนสิกโรโต อารมฺมณโต มนสิกาโร โหติ ¶ . ตตฺถ ปจฺจุปฺปนฺเน มนสิกโรนฺโต เยน จิตฺเตน เต มนสิกโรติ, ตํ ปจฺจุปฺปนฺนกฺขเณ มนสิกาตุํ น สกฺโกติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทิวจนํ นิสฺสาย ‘‘มนสิกโรนฺโต นาม อธิคยฺห อธิคณฺหิตฺวา สงฺคณฺหิตฺวา สพฺเพ สงฺขาเร เอกโต มนสิกโรตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยาปรเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส.
อถ นํ ยสฺมา สพฺเพ เอกโต มนสิกโรนฺเตน เยน จิตฺเตน เต มนสิกโรติ, ตมฺปิ มนสิกาตพฺพํ โหติ. ตสฺมา ตํจิตฺตตาย โจเทตุํ เตน จิตฺเตนาติ อาห. อิตโร อารมฺมณํ กตฺวา น สกฺกา ชานิตุนฺติ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. เอวํลกฺขณํ จิตฺตนฺติ าตตฺตา ปน ตมฺปิ จิตฺตํ าตเมว โหตีติ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อถ วา ตฺเว ตสฺส อารมฺมณํ น โหตีติ ปฏิกฺขิปติ. ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, ยทา ปฺาย ปสฺสตี’’ติอาทีนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนลทฺธิวเสน ¶ ปฏิชานาติ. เสสปฺหทฺวเยปิ เอเสว นโย. เตน ผสฺเสนาติอาทีสุ ปน ตถารูปํ สุตฺตํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปเตว. อตีตาทิปฺเหสุ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปฏิกฺเขปปฏิฺา เวทิตพฺพา. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ. สพฺเพ สงฺขาราติอาทิวจนํ นยโต ทสฺสนํ สนฺธาย วุตฺตํ, น เอกกฺขเณ อารมฺมณโต, ตสฺมา อสาธกนฺติ.
อธิคยฺหมนสิการกถาวณฺณนา.
๕. รูปํ เหตูติกถาวณฺณนา
๗๕๔-๗๕๖. อิทานิ รูปํ เหตูติ กถานาม โหติ. ตตฺถ เหตูติ กุสลมูลาทิโน เหตุเหตุสฺสาปิ นามํ, ยสฺส กสฺสจิ ปจฺจยสฺสาปิ. อิมํ ¶ ปน วิภาคํ อกตฺวา ‘‘จตฺตาโร มหาภูตา เหตู’’ติ วจนมตฺตํ นิสฺสาย อวิเสเสเนว รูปํ เหตูติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อโลโภ เหตูติ กึ เต รูปํ อโลภสงฺขาโต เหตูติ ปุจฺฉติ, อิตโร ปฏิกฺขิปติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. มหาภูตา อุปาทายรูปานํ อุปาทายเหตูติ เอตฺถ ปจฺจยฏฺเน เหตุภาโว วุตฺโต, น มูลฏฺเน, ตสฺมา อสาธกนฺติ.
รูปํ เหตูติกถาวณฺณนา.
๗๕๗-๗๕๙. สเหตุกกถายมฺปิ ¶ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
รูปํ สเหตุกนฺติกถาวณฺณนา.
๗. รูปํ กุสลากุสลนฺติกถาวณฺณนา
๗๖๐-๗๖๔. อิทานิ รูปํ กุสลากุสลนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘กายกมฺมํ วจีกมฺมํ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปี’’ติวจนํ ¶ นิสฺสาย กายวจีกมฺมสงฺขาตํ กายวิฺตฺติวจีวิฺตฺติรูปํ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหิสาสกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย รูปํ กุสลนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต รูปํ กุสลํ, เอวํวิเธน อเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ สารมฺมณนฺติ อาทิมาห. ปรโต อกุสลปฺเหปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
รูปํ กุสลากุสลนฺติกถาวณฺณนา.
๘. รูปํ วิปาโกติกถาวณฺณนา
๗๖๕-๗๖๗. อิทานิ รูปํ วิปาโกติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยํ กมฺมสฺส กตตฺตา อุปฺปนฺนา จิตฺตเจตสิกา วิย กมฺมสฺส กตตฺตา อุปฺปนฺนํ ตํ รูปมฺปิ วิปาโกติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต ¶ สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต รูปํ วิปาโก, เอวํวิเธน อเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ สุขเวทนียนฺติอาทิมาห. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.
รูปํ วิปาโกติกถาวณฺณนา.
๙. รูปํ รูปาวจรารูปาวจรนฺติกถาวณฺณนา
๗๖๘-๗๗๐. อิทานิ ¶ รูปํ รูปาวจรารูปาวจรนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยํ กามาวจรกมฺมสฺส กตตฺตา รูปํ, ตํ ยสฺมา กามาวจรํ, ตสฺมา รูปาวจรารูปาวจรกมฺมานมฺปิ กตตฺตา รูเปน รูปาวจรารูปาวจเรน ภวิตพฺพนฺติ ¶ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อตฺถิ รูปํ รูปาวจรารูปาวจรนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ.
รูปํ รูปาวจรารูปาวจรนฺติกถาวณฺณนา.
๑๐. รูปารูปธาตุปริยาปนฺนกถาวณฺณนา
๗๗๑-๗๗๕. อิทานิ รูปราโค รูปธาตุปริยาปนฺโน อรูปราโค อรูปธาตุปริยาปนฺโนติ กถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา กามราโค กามธาตุปริยาปนฺโน, ตสฺมา รูปราคารูปราเคหิปิ รูปธาตุอรูปธาตุปริยาปนฺเนหิ ภวิตพฺพนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เกวลฺหิ ตตฺถ ‘‘รูปธาตุํ อนุเสติ, อรูปธาตุํ อนุเสตี’’ติ ปทํ วิเสโส. สา จ ลทฺธิ อนฺธกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ. อยํ อนฺธกานํเยวาติ.
รูปราโค รูปธาตุปริยาปนฺโน อรูปราโค อรูปธาตุปริยาปนฺโนติกถาวณฺณนา.
รูปารูปธาตุปริยาปนฺนกถาวณฺณนา.
โสฬสโม วคฺโค.