📜
๑๗. สตฺตรสมวคฺโค
๑. อตฺถิ อรหโต ปฺุูปจยกถาวณฺณนา
๗๗๖-๗๗๙. อิทานิ ¶ ¶ ¶ อตฺถิ อรหโต ปฺุูปจโยติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ อรหโต ทานสํวิภาคเจติยวนฺทนาทีนิ กมฺมานิ ทิสฺวา อตฺถิ อรหโต ปฺุูปจโยติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘อรหา นาม ปหีนปฺุปาโป, โส ยทิ ปฺุํ กเรยฺย, ปาปมฺปิ กเรยฺยา’’ติ โจเทตุํ อปฺุูปจโยติ อาห. อิตโร ปาณาติปาตาทิกิริยํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ปฺุาภิสงฺขารนฺติอาทีสุ ภวคามิกมฺมํ อรหโต นตฺถีติ ปฏิกฺขิปติ. ทานํ ทเทยฺยาติอาทีสุ กิริยจิตฺเตน ทานาทิปวตฺติสพฺภาวโต สกวาที ปฏิชานาติ. อิตโร จิตฺตํ อนาทิยิตฺวา กิริยาปวตฺติมตฺตทสฺสเนเนว ลทฺธึ ปติฏฺเปติ. สา ปน อโยนิโส ปติฏฺาปิตตฺตา อปฺปติฏฺาปิตา โหตีติ.
อตฺถิ อรหโต ปฺุูปจโยติกถาวณฺณนา.
๒. นตฺถิ อรหโต อกาลมจฺจูติกถาวณฺณนา
๗๘๐. อิทานิ นตฺถิ อรหโต อกาลมจฺจูติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฏิสํเวทิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ วทามี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๒๑๗) สุตฺตสฺส อตฺถํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘อรหตา นาม ¶ สพฺพกมฺมวิปากํ ปฏิสํเวทยิตฺวาว ปรินิพฺพายิตพฺพํ, ตสฺมา นตฺถิ, อรหโต อกาลมจฺจู’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกานฺเจว สิทฺธตฺถิกานฺจ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘สเจ ตสฺส นตฺถิ อกาลมจฺจุ, อรหนฺตฆาตเกน นาม น ภวิตพฺพ’’นฺติ ¶ โจเทตุํ นตฺถิ อรหนฺตฆาตโกติ อาห. อิตโร อานนฺตริยกมฺมสฺส เจว ตาทิสานฺจ ปุคฺคลานํ สพฺภาวโต ปฏิกฺขิปติ.
๗๘๑. วิสํ น กเมยฺยาติ ปฺเห ‘‘ยาว ปุพฺเพ กตกมฺมํ ปริกฺขยํ น คจฺฉติ, ตาว น กมตี’’ติ ลทฺธิยา ปฏิกฺขิปติ. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ.
๗๘๒. นาหํ, ¶ ภิกฺขเวติ สุตฺตํ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ วิปากํ อปฏิสํเวทิตฺวา อวินฺทิตฺวา อนนุภวิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ เตสํ กมฺมานํ ปริวฏุมปริจฺฉินฺนภาวํ น วทามิ, ตฺจ โข ทิฏฺธมฺมเวทนียานํ ทิฏฺเว ธมฺเม, น ตโต ปรํ, อุปปชฺชเวทนียานํ อนนฺตรํ อุปปตฺตึ อุปปชฺชิตฺวาว น ตโต ปรํ, อปราปริยเวทนียานํ ยทา วิปาโกกาสํ ลภนฺติ, ตถารูเป อปราปเร วา ปริยาเย. เอวํ สพฺพถาปิ สํสารปวตฺเต สติ ลทฺธวิปากวาเร กมฺเม น วิชฺชเตโส ชคติปฺปเทโส, ยตฺถฏฺิโต มุจฺเจยฺย ปาปกมฺมาติ. เอวํ สนฺเต ยเทตํ ‘‘อลทฺธวิปากวารมฺปิ กมฺมํ อวสฺสํ อรหโต ปฏิสํเวทิตพฺพ’’นฺติ กปฺปนาวเสน ‘‘นตฺถิ อรหโต อกาลมจฺจู’’ติ ลทฺธิปติฏฺาปนํ กตํ, ตํ ทุกฺกฏเมวาติ.
นตฺถิ อรหโต อกาลมจฺจูติกถาวณฺณนา.
๓. สพฺพมิทํ กมฺมโตติกถาวณฺณนา
๗๘๓. อิทานิ สพฺพมิทํ กมฺมโตติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘กมฺมุนา วตฺตติ โลโก’’ติ สุตฺตํ นิสฺสาย ‘‘สพฺพมิทํ กมฺมกิเลสวิปากวฏฺฏํ กมฺมโตว โหตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ ¶ , เสยฺยถาปิ ราชคิริกานฺเจว สิทฺธตฺถิกานฺจ; เต สนฺธาย สพฺพมิทนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘เอวํ สนฺเต กมฺมมฺปิ กมฺมโต อาปชฺชตี’’ติ โจเทตุํ กมฺมมฺปิ กมฺมโตติ อาห. อิตโร ยทิ กมฺมมฺปิ กมฺมโตว นาม ตํ กมฺมํ วิปาโกเยว สิยาติ ปฏิกฺขิปติ. ปุพฺเพกตเหตูติ ‘‘ยทิ สพฺพมิทํ กมฺมโต, ปุพฺเพกตเหตุนา เตน ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ ปุจฺฉติ, อิตโร ปุพฺเพกตเหตุวาทภเยน ปฏิกฺขิปติ.
๗๘๔. กมฺมวิปากโตติ ¶ ‘‘ยทิ สพฺพมิทํ กมฺมโต, ยํ อตีตภเว ปวตฺตสฺส เหตุภูตํ กมฺมํ, ตมฺปิ ปุริมตเร ภเว กมฺมโตติ กมฺมวิปาโก สมฺปชฺชติ, เตน เต สพฺพมิทํ กมฺมวิปากโต อาปชฺชตี’’ติ โจเทตุํ ปุจฺฉติ. อิตโร พีชโต อํกุรสฺเสว ปจฺจุปฺปนฺนปวตฺตสฺส กมฺมโต นิพฺพตฺตึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ตสฺสาปิ กมฺมสฺส พีชสฺส ปุริมพีชโต วิย ¶ ปุริมกมฺมโต ปวตฺตตฺตา ปฏิชานาติ. ปาณํ หเนยฺยาติอาทิ ‘‘ยทิ สพฺพํ กมฺมวิปากโต, ปาณาติปาตาทีนิ กมฺมวิปาเกเนว กเรยฺยา’’ติ โจเทตุํ วุตฺตํ. อิตโร ทุสฺสีลฺยเจตนาปิ ปุริมกมฺมนิพฺพตฺตา เอเกน ปริยาเยน วิปาโกเยวาติ ลทฺธิยา ปฏิชานาติ. อถ นํ ‘‘ยทิ เต ปาณาติปาโต กมฺมวิปากโต นิพฺพตฺตติ, ปาณาติปาโต วิย วิปาโกปิ สผโล อาปชฺชตี’’ติ โจเทตุํ สผโลติ อาห. อิตโร ปาณาติปาตสฺส นิรยสํวตฺตนิกาทิภาวโต สผลตํ ปสฺสนฺโต ปฏิชานาติ. กมฺมวิปากสฺส ปน อิทํ นาม ผลนฺติ วุตฺตฏฺานํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. อทินฺนาทานาทีสุปิ เอเสว นโย. คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาโร สผโลติ เทยฺยธมฺมวเสน ทานผลํ ปุจฺฉติ. กมฺมุนา วตฺตตีติ สุตฺตํ ‘‘นตฺถิ กมฺม’’นฺติ อกมฺมวาทิตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อตฺถิ กมฺม’’นฺติ กมฺมวาทิตํ กมฺมสฺสกตํ ทีเปติ. น สพฺพสฺเสว กมฺมโต นิพฺพตฺตึ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.
สพฺพมิทํ กมฺมโตติกถาวณฺณนา.
๔. อินฺทฺริยพทฺธกถาวณฺณนา
๗๘๖-๗๘๗. อิทานิ ¶ อินฺทฺริยพทฺธกถา นาม โหติ. ตตฺถ ทุวิธํ ทุกฺขํ – อินฺทฺริยพทฺธํ, อนินฺทฺริยพทฺธฺจ. อินฺทฺริยพทฺธํ ทุกฺขวตฺถุตาย ทุกฺขํ, อนินฺทฺริยพทฺธํ อุทยพฺพยปฏิปีฬนฏฺเน ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ สงฺคหิตตฺตา ทุกฺขํ. อิมํ วิภาคํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ยสฺส ปริฺาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ, ตํ อินฺทฺริยพทฺธเมว ทุกฺขํ, น อิตร’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํ, เตสํ อิตรสฺสาปิ ทุกฺขภาวํ ทสฺเสตุํ อินฺทฺริยพทฺธฺเวาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยสฺมา ภควตา ‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา อินฺทฺริยพทฺเธเนว เตน อนิจฺเจน ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ อินฺทฺริยพทฺธฺเว อนิจฺจนฺติอาทิมาห. นนุ ¶ อนินฺทฺริยพทฺธํ อนิจฺจนฺติ นนุ ปถวีปพฺพตปาสาณาทิ อนินฺทฺริยพทฺธมฺปิ อนิจฺจนฺติ อตฺโถ.
๗๘๘. น วตฺตพฺพํ อินฺทฺริยพทฺธฺเว ทุกฺขนฺติ ปฺเห อามนฺตาติ ปฏิฺา สกวาทิสฺส. อนินฺทฺริยพทฺธฺหิ ทุกฺขโทมนสฺสานํ อารมฺมณํ โหติ. อุณฺหกาลสฺมิฺหิ อคฺคิ สีตกาเล จ วาโต ทุกฺขสฺส อารมฺมณํ, นิจฺจมฺปิ ¶ โภควินาสาทโย โทมนสฺสสฺส. ตสฺมา วินาปิ อนิจฺจฏฺเน อนินฺทฺริยพทฺธํ ทุกฺขนฺติ วตฺตพฺพํ. กมฺมกิเลเสหิ ปน อนิพฺพตฺตตฺตา ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ น วตฺตพฺพํ, ตถา มคฺเคน อปริฺเยฺยตฺตา. ยสฺมา ปน ติณกฏฺาทินิโรโธ วา อุตุพีชาทินิโรโธ วา ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ นาม น โหติ, ตสฺมา อินฺทฺริยพทฺธํ ทุกฺขฺเจว อริยสจฺจฺจ, อิตรํ ปน ทุกฺขเมวาติ อิทํ นานตฺตํ ทสฺเสตุํ ปฏิชานาติ. ยถา อินฺทฺริยพทฺธสฺสาติอาทิวจนํ อินฺทฺริยพทฺธสฺส ปริฺาย พฺรหฺมจริยวาสํ ปริฺาตสฺส ปุน อนุปฺปตฺตึ ทีเปติ. เตเนเวตฺถ สกวาทินา ปฏิกฺเขโป กโต. ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ วจเนน ปน สงฺคหิตสฺส อนินฺทฺริยพทฺธสฺส ทุกฺขภาวํ ปฏิเสเธตุํ น สกฺกาติ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.
อินฺทฺริยพทฺธกถาวณฺณนา.
๕. เปตฺวา อริยมคฺคนฺติกถาวณฺณนา
๗๘๙-๗๙๐. อิทานิ ¶ เปตฺวา อริยมคฺคนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยสฺมา อริยมคฺโค ‘ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทา’ติ วุตฺโต, ตสฺมา เปตฺวา อริยมคฺคํ อวเสสา สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เอวํ สมุทยสฺสาปิ ทุกฺขภาโว อาปชฺชตี’’ติ โจเทตุํ ทุกฺขสมุทโยปีติ อาห. อิตโร เหตุลกฺขณํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ ปวตฺตปริยาปนฺนภาวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตีเณวาติ ปฺเหสุ สุตฺตวิโรธภเยน ปฏิกฺขิปติ, ลทฺธิวเสน ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
เปตฺวา อริยมคฺคนฺติกถาวณฺณนา.
๖. น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ ปฏิคฺคณฺหาตีติกถาวณฺณนา
๗๙๑-๗๙๒. อิทานิ ¶ น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ ปฏิคฺคณฺหาตีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ปรมตฺถโต มคฺคผลาเนว สงฺโฆ, มคฺคผเลหิ อฺโ ¶ สงฺโฆ นาม นตฺถิ, มคฺคผลานิ จ น กิฺจิ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, ตสฺมา น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ มหาปฺุวาทีสงฺขาตานํ เวตุลฺลกานํ; เต สนฺธาย น วตฺตพฺพนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ สงฺโฆ น ปฏิคฺคณฺเหยฺย, น นํ สตฺถา อาหุเนยฺยาติอาทีหิ โถเมยฺยา’’ติ โจเทตุํ นนุ สงฺโฆ อาหุเนยฺโยติอาทิมาห. สงฺฆสฺส ทานํ เทนฺตีติ ‘‘เย เต สงฺฆสฺส เทนฺติ, เต ปฏิคฺคาหเกสุ อสติ กสฺส ทเทยฺยุ’’นฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อาหุตึ ชาตเวโท วาติ สุตฺตํ ปรสมยโต อาคตํ. ตตฺถ มหาเมฆนฺติ เมฆวุฏฺึ สนฺธาย วุตฺตํ. วุฏฺิฺหิ เมทนี ปฏิคฺคณฺหาติ, น เมฆเมว. มคฺโค ปฏิคฺคณฺหาตีติ ‘‘มคฺคผลานิ สงฺโฆ’’ติ ลทฺธิยา ¶ วทติ, น จ มคฺคผลาเนว สงฺโฆ. มคฺคผลปาตุภาวปริสุทฺเธ ปน ขนฺเธ อุปาทาย ปฺตฺตา อฏฺ ปุคฺคลา สงฺโฆ, ตสฺมา อสาธกเมตนฺติ.
น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ ปฏิคฺคณฺหาตีติกถาวณฺณนา.
๗. น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ วิโสเธตีติกถาวณฺณนา
๗๙๓-๗๙๔. อิทานิ น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ วิโสเธตีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘มคฺคผลาเนว สงฺโฆ นาม, น จ ตานิ ทกฺขิณํ วิโสเธตุํ สกฺโกนฺติ, ตสฺมา น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ วิโสเธตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสฺเว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อาหุเนยฺโยติอาทิ ‘‘ยทิ สงฺโฆ ทกฺขิณํ วิโสเธตุํ น สกฺกุเณยฺย, น นํ สตฺถา เอวํ โถเมยฺยา’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วิโสเธตีติ มหปฺผลํ กโรติ. สงฺฆสฺมิฺหิ อปฺปํ ทินฺนํ พหุ โหติ, พหุ ทินฺนํ พหุตรํ. ทกฺขิเณยฺยาติ ทกฺขิณารหา ทกฺขิณาย อนุจฺฉวิกา, ทกฺขิณํ วิโสเธตุํ สมตฺถาติ อตฺโถ. ทกฺขิณํ อาราเธนฺตีติ สมฺปาเทนฺติ, อปฺปมตฺติกายปิ ทกฺขิณาย มหนฺตํ ผลํ ปาปุณนฺตีติ อตฺโถ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ.
น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ วิโสเธตีติกถาวณฺณนา.
๘. น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ภฺุชตีติกถาวณฺณนา
๗๙๕-๗๙๖. อิทานิ ¶ ¶ น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ภฺุชตีติกถา นาม โหติ. ตตฺราปิ ‘‘มคฺคผลาเนว สงฺโฆ นาม, น จ ตานิ กิฺจิ ภฺุชนฺติ, ตสฺมา น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ภฺุชติ, ปิวติ, ขาทติ, สายตี’’ติ ¶ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ สงฺโฆ น ภฺุเชยฺย, สงฺฆภตฺตาทิกรณํ นิรตฺถกํ ภเวยฺยา’’ติ โจเทตุํ นนุ อตฺถิ เกจิ สงฺฆภตฺตานิ กโรนฺตีติอาทิมาห. คณโภชนนฺติอาทิ ‘‘ยทิ สงฺโฆ น ภฺุเชยฺย, กสฺส คณโภชนาทีนิ สิยุ’’นฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อฏฺ ปานานีติ อิทมฺปิ ‘‘ยทิ สงฺโฆ น ปิเวยฺย, กสฺเสตานิ ปานานิ สตฺถา อนุชาเนยฺยา’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. เสสมิธาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ภฺุชตีติกถาวณฺณนา.
๙. น วตฺตพฺพํ สงฺฆสฺส ทินฺนํ มหปฺผลนฺติกถาวณฺณนา
๗๙๗-๗๙๘. อิทานิ น วตฺตพฺพํ สงฺฆสฺส ทินฺนํ มหปฺผลนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺราปิ ‘‘มคฺคผลาเนว สงฺโฆ นาม, น จ สกฺกา เตสํ กิฺจิ ทาตุํ, น จ เตหิ ปฏิคฺคณฺหิตุํ, นาปิ เตสํ ทาเนน โกจิ อุปกาโร อิชฺฌติ, ตสฺมา น วตฺตพฺพํ สงฺฆสฺส ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อาหุเนยฺโยติอาทิ ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ทินฺนํ มหปฺผลํ น ภเวยฺย, น นํ สตฺถา เอวํ โถเมยฺยา’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.
น วตฺตพฺพํ สงฺฆสฺส ทินฺนํ มหปฺผลนฺติกถาวณฺณนา.
๑๐. น วตฺตพฺพํ พุทฺธสฺส ทินฺนํ มหปฺผลนฺติกถาวณฺณนา
๗๙๙. อิทานิ ¶ น วตฺตพฺพํ พุทฺธสฺส ทินฺนํ มหปฺผลนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘พุทฺโธ ภควา น กิฺจิ ปริภฺุชติ, โลกานุวตฺตนตฺถํ ปน ปริภฺุชมานํ วิย ¶ อตฺตานํ ทสฺเสติ, ตสฺมา นิรุปการตฺตา น วตฺตพฺพํ ตสฺมึ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ เยสํ ¶ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ทฺวิปทานํ อคฺโคติอาทิ ‘‘มนุสฺสทุสฺสีเลปิ ทานํ สหสฺสคุณํ โหติ, กิมงฺคํ ปน เอวรูเป อคฺคปุคฺคเล’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.
น วตฺตพฺพํ พุทฺธสฺส ทินฺนํ มหปฺผลนฺติกถาวณฺณนา.
๑๑. ทกฺขิณาวิสุทฺธิกถาวณฺณนา
๘๐๐-๘๐๑. อิทานิ ทกฺขิณาวิสุทฺธิกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยทิ ปฏิคฺคาหกโต ทกฺขิณา วิสุชฺเฌยฺย, มหปฺผลา ภเวยฺย. ทายเกน ทานํ ทินฺนํ, ปฏิคฺคาหเกน วิปาโก นิพฺพตฺติโตติ อฺโ อฺสฺส การโก ภเวยฺย, ปรํกตํ สุขทุกฺขํ อาปชฺเชยฺย, อฺโ กเรยฺย, อฺโ ปฏิสํเวเทยฺย. ตสฺมา ทายกโตว ทานํ วิสุชฺฌติ, โน ปฏิคฺคาหกโต, ทายกสฺเสว จิตฺตวิสุทฺธิ วิปากทายิกา โหตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อาหุเนยฺยาติอาทิ ‘‘ยทิ ปฏิคฺคาหกโต ทานํ น วิสุชฺเฌยฺย, กิมสฺส อาหุเนยฺยาทิภาโว กเรยฺยา’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อฺโ อฺสฺส การโกติ ยทิ ทายกสฺส ทานเจตนา ปฏิคฺคาหเกน กตา ภเวยฺย, ยุตฺตรูปํ สิยา. ตสฺส ปน ทานเจตนา ปริสุทฺธา ปฏิคฺคาหกสงฺขาตํ วตฺถุํ ปฏิจฺจ มหาวิปากฏฺเน วิสุชฺฌติ, ตสฺมา อโจทนา เอสา ‘‘ปฏิคฺคาหกโต ทานํ วิสุชฺฌตี’’ติ.
ทกฺขิณาวิสุทฺธิกถาวณฺณนา.
สตฺตรสโม วคฺโค.