📜
๑๘. อฏฺารสมวคฺโค
๑. มนุสฺสโลกกถาวณฺณนา
๘๐๒-๘๐๓. อิทานิ ¶ ¶ มนุสฺสโลกกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ตถาคโต โลเก, ชาโต โลเก สํวฑฺโฒ, โลกํ อภิภุยฺย วิหรติ ¶ อนุปลิตฺโต โลเกนา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๙๔) สุตฺตํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘ภควา ตุสิตภวเน นิพฺพตฺโต ตตฺเถว วสติ, น มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉติ, นิมฺมิตรูปมตฺตกํ ปเนตฺถ ทสฺเสตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ เวตุลฺลกานํเยว, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ปุฏฺโกาเสน เจว สุตฺตสาธเนน จ สฺาเปตุํ นนุ อตฺถีติอาทิมาห. โลเก ชาโตติ ปรวาที ตุสิตปุรํ สนฺธาย วทติ. สตฺถารา ปเนตํ มนุสฺสโลกฺเว สนฺธาย โลกํ วุตฺตํ. โลกํ อภิภุยฺยาติ ปรวาที มนุสฺสโลกํ อภิภวิตฺวาติ ทิฏฺิยา วทติ, สตฺถา ปน อารมฺมณโลกํ อภิภวิตฺวา วิหาสิ. อนุปลิตฺโต โลเกนาติ ปรวาที มนุสฺสโลเกน อนุปลิตฺตตํว สนฺธาย วทติ, สตฺถา ปน โลกธมฺเมสุ กิเลเสหิ อนุปลิตฺโต วิหาสิ. ตสฺมา อสาธกเมตนฺติ.
มนุสฺสโลกกถาวณฺณนา.
๒. ธมฺมเทสนากถาวณฺณนา
๘๐๔-๘๐๖. อิทานิ ธมฺมเทสนากถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ตุสิตปุเร ิโต ภควา ธมฺมเทสนตฺถาย อภินิมฺมิตํ เปเสสิ, เตน เจว ตสฺส จ เทสนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน ธมฺโม ¶ เทสิโต, น พุทฺเธน ภควตา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เวตุลฺลกานฺเว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เตน ธมฺโม เทสิโต, สฺเวว สตฺถา ภเวยฺยา’’ติ โจเทตุํ อภินิมฺมิโต ชิโนติอาทิมาห. อิตโร ตถา อสมฺปฏิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ธมฺมเทสนากถาวณฺณนา.
๓. กรุณากถาวณฺณนา
๘๐๗-๘๐๘. อิทานิ ¶ กรุณากถา นาม โหติ. ตตฺถ ปิยายิตานํ วตฺถูนํ วิปตฺติยา สราคานํ ราควเสน กรุณาปติรูปิกํ ปวตฺตึ ทิสฺวา ‘‘ราโคว ¶ กรุณา นาม, โส จ ภควโต นตฺถิ, ตสฺมา นตฺถิ พุทฺธสฺส ภควโต กรุณา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘กรุณา นาเมสา นิกฺกิเลสตาย เจว สตฺตารมฺมณตาย จ เจโตวิมุตฺติตาย จ เอกาทสานิสํสตาย จ เมตฺตาทีหิ สมานชาติกา, ตสฺมา ยทิ ภควโต กรุณา นตฺถิ, เมตฺตาทโยปิสฺส น สิยุ’’นฺติ โจทนตฺถํ นตฺถิ พุทฺธสฺส ภควโต เมตฺตาติอาทิมาห. อาการุณิโกติ ปฺเห ตถารูปํ โวหารํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
กรุณากถาวณฺณนา.
๔. คนฺธชาตกถาวณฺณนา
๘๐๙. อิทานิ คนฺธชาตกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ พุทฺเธ ภควติ อโยนิโส เปมวเสน ‘‘ภควโต อุจฺจารปสฺสาโว อฺเ คนฺธชาเต อติวิย อธิคณฺหาติ, นตฺถิ ตโต จ สุคนฺธตรํ คนฺธชาต’’นฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อนฺธกานฺเจว ¶ อุตฺตราปถกานฺจ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.
คนฺธชาตกถาวณฺณนา.
๕. เอกมคฺคกถาวณฺณนา
๘๑๐-๘๑๑. อิทานิ เอกมคฺคกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ พุทฺเธ ภควติ อโยนิโส เปมวเสเนว ¶ ‘‘ภควา โสตาปนฺโน หุตฺวา สกทาคามี, สกทาคามี หุตฺวา อนาคามี, อนาคามี หุตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ, เอเกเนว ปน อริยมคฺเคน จตฺตาริ ผลานิ สจฺฉากาสี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสฺเว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ จตูหิ ผเลหิ สทฺธึ อุปฺปนฺนานํ จตุนฺนํ ผสฺสาทีนํ เอกโต ¶ สโมธานวเสน โจเทตุํ จตุนฺนํ ผสฺสานนฺติอาทิมาห. โสตาปตฺติมคฺเคนาติอาทิ ‘‘กตรมคฺเคน สจฺฉิกโรตี’’ติ ปุจฺฉนตฺถํ วุตฺตํ. อรหตฺตมคฺเคนาติ จ วุตฺเต เตน สกฺกายทิฏฺิอาทีนํ ปหานาภาววเสน โจเทติ. ภควา โสตาปนฺโนติ พุทฺธภูตสฺส โสตาปนฺนภาโว นตฺถีติ ปฏิกฺขิปติ. ปรโต ปฺหทฺวเยปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.
เอกมคฺคกถาวณฺณนา.
๖. ฌานสงฺกนฺติกถาวณฺณนา
๘๑๓-๘๑๖. อิทานิ ฌานสงฺกนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา ทุติยํ ฌานํ, ตติยํ ฌานํ, จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๙๒๓-๙๓๔) อิมํ ปฏิปาฏิเทสนํ ¶ นิสฺสาย ‘‘ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารปฺปวตฺตึ วินาว ฌานา ฌานํ สงฺกมตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหิสาสกานฺเจว เอกจฺจานฺจ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต ทุติยชฺฌานูปจารํ อปฺปตฺวา อุปฺปฏิปาฏิยา ปมชฺฌานา ทุติยชฺฌานเมว สงฺกมติ, ปมโต ตติยํ, ทุติยโต จตุตฺถมฺปิ สงฺกเมยฺยา’’ติ โจเทตุํ ปมา ฌานาติอาทิมาห. ยา ปมสฺสาติอาทิ ‘‘ยทิ ปมโต อนนฺตรํ ทุติยํ, ทุติยาทีหิ วา ตติยาทีนิ สมาปชฺชติ, เอกาวชฺชเนน สมาปชฺเชยฺยา’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. กาเม อาทีนวโตติ ปมํ กาเม อาทีนวโต มนสิ กโรโต ปจฺฉา อุปฺปชฺชติ. ฌานกฺขเณ ปเนส นิมิตฺตเมว มนสิ กโรติ. ตฺเว ปมนฺติ ‘‘ยทิ ปุริมชวนโต ปจฺฉิมชวนํ วิย อนนฺตรํ อุปฺปชฺเชยฺย, เปตฺวา ปุริมปจฺฉิมภาวํ ลกฺขณโต ตฺเว ตํ ภเวยฺยา’’ติ โจเทตุํ ปุจฺฉติ. อิมินา อุปาเยน ¶ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทีหิ ปฏิปาฏิยา ฌานานํ เทสิตภาวํ ทีเปติ, น อนนฺตรุปฺปตฺตึ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.
ฌานสงฺกนฺติกถาวณฺณนา.
๗. ฌานนฺตริกกถาวณฺณนา
๘๑๗-๘๑๘. อิทานิ ¶ ฌานนฺตริกกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ สมเย ‘‘ปฺจกนเย ปฺจ ฌานานิ วิภตฺตานิ, เกวลํ ตโย สมาธี อุทฺทิฏฺา’’ติ อวิตกฺกวิจารมตฺตสฺส สมาธิโน โอกาสํ อชานนฺตานํ ‘‘ปมสฺส จ ทุติยสฺส จ ฌานสฺส อนฺตเร ฌานนฺตริกา นาม เอสา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ สมฺมิติยานฺเจว เอกจฺจานฺจ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ฌานมฺปิ เจตสิกา ธมฺมา, ผสฺสาทโยปิ, ตสฺมา ยทิ ฌานนฺตริกา นาม ภเวยฺย, ผสฺสนฺตริกาทีหิปิ ภวิตพฺพ’’นฺติ โจทนตฺถํ อตฺถิ ผสฺสนฺตริกาติอาทิมาห ¶ .
ทุติยสฺส จ ฌานสฺสาติ ‘‘ยทิ ฌานนฺตริกา นาม ภเวยฺย, ทุติยตติยาทีนิปิ ฌานาเนว, เตสมฺปิ อนฺตริกาย ภวิตพฺพ’’นฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. โส เกวลํ ลทฺธิยา อภาเวน ปฏิกฺขิปติ เจว ปฏิชานาติ จ. ปมสฺส จาติ ปุฏฺโ ลทฺธิวเสน ปฏิชานาติ.
๘๑๙. สวิตกฺโก สวิจาโรติอาทิ ‘‘ติณฺณมฺปิ สมาธีนํ สมาธิภาเว สมาเน อวิตกฺโก วิจารมตฺโตว สมาธิ ฌานนฺตริโก, น อิตโรติ โก เอตฺถ วิเสสเหตู’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ.
๘๒๐-๘๒๒. ทฺวินฺนํ ฌานานํ ปฏุปฺปนฺนานนฺติ ปมทุติยานิ สนฺธาย ปุจฺฉติ. อิตโร ‘‘เตสํ ปจฺจุปฺปนฺนานํเยว อนฺตเร อวิตกฺโก วิจารมตฺโต สมาธิ ฌานนฺตริโก นาม โหตี’’ติ ลทฺธิยา ปฏิชานาติ. ปมํ ฌานํ นิรุทฺธนฺติ ปุฏฺโ ติณฺณํ เอกกฺขเณ ปวตฺติ น ยุตฺตาติ ปฏิชานาติ ¶ . อวิตกฺโก วิจารมตฺโต สมาธิ ปมํ ฌานนฺติ จตุกฺกนยวเสน ปุจฺฉติ. สกวาที ตสฺมึ นเย ตสฺส อภาวา ปฏิกฺขิปติ. นนุ ตโย สมาธีติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – ยถา เตสุ ตีสุ สมาธีสุ ทฺเว สมาธี ฌานาเนว, น ฌานนฺตริกา, เอวํ อิตเรนปิ ฌาเนเนว ภวิตพฺพํ, น ฌานนฺตริกายาติ.
ฌานนฺตริกกถาวณฺณนา.
๘. สมาปนฺโน สทฺทํ สุณาตีติกถาวณฺณนา
๘๒๓-๘๒๕. อิทานิ ¶ สมาปนฺโน สทฺทํ สุณาตีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยสฺมา ปมสฺส ฌานสฺส สทฺโท กณฺฑโก วุตฺโต ภควตา, ยทิ จ สมาปนฺโน ตํ น สุเณยฺย, กถํ กณฺฑโก สิยา. ตสฺมา สมาปนฺโน สทฺทํ, สุณาตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. จกฺขุนา รูปํ ปสฺสตีติอาทิ ‘‘สมาปนฺนสฺส ตาว ปฺจทฺวารปฺปวตฺตํ นตฺถิ, ตสฺมึ อสติ ¶ ยทิ โส สทฺทํ สุเณยฺย, รูปมฺปิ ปสฺเสยฺยา’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. สทฺโท กณฺฑโกติ วิกฺเขปกรตฺตา วุตฺตํ. โอฬาริเกน หิ สทฺเทน โสเต ฆฏฺฏิเต ปมชฺฌานโต วุฏฺานํ โหติ, เตเนตํ วุตฺตํ, ตสฺมา อสาธกํ. ทุติยสฺส ฌานสฺสาติอาทิ ‘‘ยถา อฺโปิ กณฺฑโก อนฺโตสมาปตฺติยํ นตฺถิ, เอวํ สทฺทสฺสวนมฺปี’’ติ โพธนตฺถํ วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สมาปนฺโน สทฺทํ สุณาตีติกถาวณฺณนา.
๙. จกฺขุนารูปํปสฺสตีติกถาวณฺณนา
๘๒๖-๘๒๗. อิทานิ จกฺขุนา รูปํ ปสฺสตีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติ วจนํ นิสฺสาย ‘‘ปสาทจกฺขุเมว รูปํ ปสฺสตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ ¶ , เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ จกฺขุนา รูปํ ปสฺเสยฺย, รูเปน รูปํ ปสฺเสยฺยาตี’’ติ โจเทตุํ รูเปน รูปํ ปสฺสตีติ อาห. อิตโร รูปายตนํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ปุฏฺโ จกฺขุเมว สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปฏิวิชานาตีติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ปสฺสตีติ หิ มยํ ปฏิชานนํ สนฺธาย ปุจฺฉาม, น จกฺขูปสํหารมตฺตํ. ตสฺมา วเทหิ ตาว ‘‘กึ เต จกฺขุมา รูเปน รูปํ ปฏิวิชานาตี’’ติ. อิตโร ปุริมนเยเนว ปฏิกฺขิปติ เจว ปฏิชานาติ จ. อถ นํ ‘‘เอวํ สนฺเต รูปํ มโนวิฺาณํ อาปชฺชติ, ตฺหิ ปฏิวิชานาติ นามา’’ติ โจเทตุํ รูปํ มโนวิฺาณนฺติ อาห. อิตโร เลสํ อลภนฺโต ปฏิกฺขิปเตว. อตฺถิ จกฺขุสฺส อาวฏฺฏนาติอาทิ ‘‘ยทิ จกฺขุ ปฏิวิชานนฏฺเน ปสฺสติ, จกฺขุวิฺาณสฺส วิย ตสฺสาปิ อาวชฺชนาย ¶ ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ ปุจฺฉติ. อิตโร ยสฺมา น อาวชฺชนปฏิพทฺธํ จกฺขุ, น ตํ อาวชฺชนานนฺตรํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ. โสเตน สทฺทนฺติอาทีสุปิ ¶ เอเสว นโย. อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ปสฺสตีติ สสมฺภารกถานเยน วุตฺตํ. ยถา หิ อุสุนา วิชฺฌนฺโตปิ ‘‘ธนุนา วิชฺฌตี’’ติ วุจฺจติ, เอวํ จกฺขุวิฺาเณน ปสฺสนฺโตปิ ‘‘จกฺขุนา ปสฺสตี’’ติ วุตฺโต, ตสฺมา อสาธกเมตํ. เสเสสุปิ เอเสว นโยปิ.
จกฺขุนา รูปํ ปสฺสตีติกถาวณฺณนา.
อฏฺารสโม วคฺโค.