📜
๒๑. เอกวีสติมวคฺโค
๑. สาสนกถาวณฺณนา
๘๗๘. อิทานิ ¶ ¶ สาสนกถา นาม โหติ. ตตฺถ ติสฺโส สงฺคีติโย สนฺธาย ‘‘สาสนํ นวํ กต’’นฺติ จ ‘‘อตฺถิ โกจิ ตถาคตสฺส สาสนํ นวํ กโรตี’’ติ จ ‘‘ลพฺภา ตถาคตสฺส สาสนํ นวํ กาตุ’’นฺติ จ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ตีสุปิ กถาสุ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. สติปฏฺานาติอาทิ สาสนํ นาม สติปฏฺานาทโย เจว อริยธมฺมา, กุสลาทีนฺจ เทสนา. ตตฺถ เยสํ ภควตา เทสิตา สติปฏฺานาทโย, เปตฺวา เต อฺเสํ วา สติปฏฺานาทีนํ กรเณน อกุสลาทีนํ วา กุสลาทิภาวกรเณน สาสนํ นวํกตํ นาม ภเวยฺย, กึ ตํ เอวํ กตํ เกนจิ, อตฺถิ วา โกจิ เอวํ กโรติ, ลพฺภา วา เอวํ กาตุนฺติ ตีสุปิ ปุจฺฉาสุ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. เสสํ สพฺพตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.
สาสนกถาวณฺณนา.
๒. อวิวิตฺตกถาวณฺณนา
๘๗๙-๘๘๐. อิทานิ ¶ อวิวิตฺตกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺส ปุคฺคลสฺส โย ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺโน, โส เตน อวิวิตฺโต นามาติ อิทํ สกสมเย สนฺนิฏฺานํ. ยสฺมา ปน ปุถุชฺชเนน เตธาตุกา ธมฺมา อปริฺาตา, ตสฺมา โส เอกกฺขเณเยว สพฺเพหิปิ เตธาตุเกหิ ธมฺเมหิ อวิวิตฺโตติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสฺเว, เต ¶ สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ผสฺเสหีติอาทิ สพฺเพสํ ผสฺสาทีนํ เอกกฺขเณ ปวตฺติโทสทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อวิวิตฺตกถาวณฺณนา.
๓. สฺโชนกถาวณฺณนา
๘๘๑-๘๘๒. อิทานิ ¶ สฺโชนกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อรหา สพฺพํ พุทฺธวิสยํ น ชานาติ, ตสฺมา ตสฺส ตตฺถ อวิชฺชาวิจิกิจฺฉาหิ อปฺปหีนาหิ ภวิตพฺพนฺติ สฺาย ‘‘อตฺถิ กิฺจิ สฺโชนํ อปฺปหาย อรหตฺตปฺปตฺตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อตฺถิ กิฺจิ สกฺกายทิฏฺีติอาทิ อรหโต สพฺพสํโยชนปฺปหานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สพฺพํ พุทฺธวิสยนฺติ ปฺหทฺวเย อรหโต สพฺพฺุตฺาณาภาเวน ปฏิเสโธ กโต, น อวิชฺชาวิจิกิจฺฉานํ อปฺปหาเนน. อิตโร ปน เตสํ อปฺปหีนตํ สนฺธาย เตน หีติ ลทฺธึ ปติฏฺเปติ. สา อโยนิโส ปติฏฺาปิตตฺตา อปฺปติฏฺิตาว โหตีติ.
สฺโชนกถาวณฺณนา.
๔. อิทฺธิกถาวณฺณนา
๘๘๓-๘๘๔. อิทานิ อิทฺธิกถา นาม โหติ. ตตฺถ อิทฺธิ นาเมสา กตฺถจิ อิชฺฌติ, กตฺถจิ น อิชฺฌติ, อนิจฺจาทีนํ นิจฺจาทิกรเณ เอกนฺเตเนว น อิชฺฌติ. สภาคสนฺตตึ ปน ปริวตฺเตตฺวา วิสภาคสนฺตติกรเณ วา สภาคสนฺตติวเสเนว ¶ จิรตรปฺปวตฺตเน วา เยสํ อตฺถาย กริยติ, เตสํ ปฺุาทีนิ การณานิ นิสฺสาย กตฺถจิ อิชฺฌติ, ภิกฺขูนํ อตฺถาย ปานียสฺส สปฺปิขีราทิกรเณ วิย มหาธาตุนิธาเน ทีปาทีนํ จิรสนฺตานปฺปวตฺตเน วิย จาติ อิทํ สกสมเย สนฺนิฏฺานํ. ยํ ¶ ปน อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ รฺโ ปาสาทํ สุวณฺณนฺตฺเวว อธิมุจฺจิ, ตํ นิสฺสาย เยสํ ‘‘อตฺถิ อธิปฺปายอิทฺธี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อตฺถิ อธิปฺปายอิทฺธีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ อธิปฺปายอิทฺธีติ อธิปฺปายอิทฺธิ, ยถาธิปฺปายํ อิชฺฌนอิทฺธีติ อตฺโถ. อามนฺตาติ ลทฺธิมตฺเต ตฺวา ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. อถ นํ อนิจฺจาทีนํ นิจฺจาทิตาย อนุยฺุชิตุํ นิจฺจปณฺณา รุกฺขา โหนฺตูติอาทิมาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. ลทฺธิปติฏฺาปเน สุวณฺโณ จ ปนาสีติ รฺโ ปฺุูปนิสฺสเยน อาสิ, น เกวลํ เถรสฺส อธิปฺปาเยเนว. ตสฺมา อสาธกเมตนฺติ.
อิทฺธิกถาวณฺณนา.
๕. พุทฺธกถาวณฺณนา
๘๘๕. อิทานิ ¶ พุทฺธกถา นาม โหติ. ตตฺถ เปตฺวา ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล สรีรเวมตฺตตํ อายุเวมตฺตตํ ปภาเวมตฺตตฺจ เสเสหิ พุทฺธธมฺเมหิ พุทฺธานํ พุทฺเธหิ หีนาติเรกตา นาม นตฺถิ. เยสํ ปน อวิเสเสเนว อตฺถีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อตฺถิ พุทฺธานนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ พุทฺธธมฺเมหิ อนุยฺุชิตุํ สติปฏฺานโตติอาทิมาห. อิตโร เตสํ วเสน หีนาติเรกตํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติเยวาติ.
พุทฺธกถาวณฺณนา.
๖. สพฺพทิสากถาวณฺณนา
๘๘๖. อิทานิ สพฺพทิสากถา นาม โหติ. ตตฺถ จตูสุ ทิสาสุ เหฏฺา ¶ อุปรีติ สมนฺตโต โลกธาตุสนฺนิวาสํ, สพฺพโลกธาตูสุ จ ¶ พุทฺธา อตฺถีติ อตฺตโน วิกปฺปสิปฺปํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘สพฺพทิสาสุ พุทฺธา ติฏฺนฺตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปุรตฺถิมายาติ ปุฏฺโ สกฺยมุนึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ ลทฺธิวเสน อฺโลกธาตุยํ ิตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. กินฺนาโม โส ภควาติอาทิ ‘‘สเจ ตฺวํ ชานาสิ, นามาทิวเสน นํ กเถหี’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
สพฺพทิสากถาวณฺณนา.
๗. ธมฺมกถาวณฺณนา
๘๘๗-๘๘๘. อิทานิ ธมฺมกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา รูปาทโย รูปาทิสภาเวน นิยตา ¶ น ตํ สภาวํ วิชหนฺติ, ตสฺมา สพฺพธมฺมา นิยตาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว เอกจฺจานฺจ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย สพฺเพ ธมฺมาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘สเจ เต นิยตา, มิจฺฉตฺตนิยตา วา สิยุํ สมฺมตฺตนิยตา วา, อิโต อฺโ นิยาโม นาม นตฺถี’’ติ โจเทตุํ มิจฺฉตฺตนิยตาติอาทิมาห. ตตฺถ ปฏิกฺเขโป จ ปฏิฺา จ ปรวาทิสฺส. รูปํ รูปฏฺเนาติอาทิ เยนตฺเถน นิยตาติ วทติ, ตสฺส วเสน โจเทตุํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – รูปฺหิ รูปฏฺเน นิยตนฺติ รูปํ รูปเมว, น เวทนาทิสภาวนฺติ อธิปฺปาเยน วตฺตพฺพํ, อิโต อฺถา น วตฺตพฺพํ. กสฺมา? รูปฏฺโต อฺสฺส รูปสฺส อภาวา. รูปสภาโว หิ รูปฏฺโ, รูปสภาโว จ รูปเมว, น รูปโต อฺโ. เวทนาทีหิ ปนสฺส นานตฺตปฺาปนตฺถํ เอส โวหาโร โหตีติ. ตสฺมา ‘‘รูปํ รูปฏฺเน นิยต’’นฺติ วทนฺเตน รูปํ นิยตนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิยตฺจ นาม มิจฺฉตฺตนิยตํ ¶ วา สิยา สมฺมตฺตนิยตํ วา, อิโต อฺโ นิยาโม นาม นตฺถีติ. อถ กสฺมา ปฏิชานาตีติ? อตฺถนฺตรวเสน. รูปํ รูปฏฺเน นิยตนฺติ เอตฺถ หิ รูปํ รูปเมว, น เวทนาทิสภาวนฺติ อยมตฺโถ. ตสฺมา ปฏิชานาติ. อิโต อฺถา ปนสฺส นิยตตฺตํ นตฺถีติ ปุน เตเนว นเยน โจเทตุํ มิจฺฉตฺตนิยตนฺติอาทิมาห ¶ . ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว. เตน หิ รูปนฺติ ลทฺธิปิ อโยนิโส ปติฏฺาปิตตฺตา อปฺปติฏฺิตาว โหตีติ.
ธมฺมกถาวณฺณนา.
๘. กมฺมกถาวณฺณนา
๘๘๙-๘๙๑. อิทานิ กมฺมกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยสฺมา ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีนิ ทิฏฺธมฺมเวทนียฏฺาทีหิ นิยตานิ, ตสฺมา สพฺเพ กมฺมา นิยตา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสฺเว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ทิฏฺธมฺมเวทนียฏฺเน นิยตนฺติ เอตฺถ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ ทิฏฺธมฺมเวทนียฏฺเมว. สเจ ทิฏฺเว ธมฺเม วิปากํ ทาตุํ สกฺโกติ เทติ, โน เจ อโหสิกมฺมํ นาม โหตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. มิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยามวเสน ปเนตํ อนิยตเมวาติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
กมฺมกถาวณฺณนา.
เอกวีสติโม วคฺโค.