📜
๒๓. เตวีสติมวคฺโค
๑. เอกาธิปฺปายกถาวณฺณนา
๙๐๘. อิทานิ ¶ ¶ เอกาธิปฺปายกถา นาม โหติ. ตตฺถ การฺุเน วา เอเกน อธิปฺปาเยน เอกาธิปฺปาโย, สํสาเร วา เอกโต ภวิสฺสามาติ อิตฺถิยา สทฺธึ พุทฺธปูชาทีนิ กตฺวา ปณิธิวเสน เอโก อธิปฺปาโย อสฺสาติ เอกาธิปฺปาโย. เอวรูโป ทฺวินฺนมฺปิ ชนานํ เอกาธิปฺปาโย เมถุโน ธมฺโม ปฏิเสวิตพฺโพติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว เวตุลฺลกานฺจ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.
เอกาธิปฺปายกถาวณฺณนา.
๒. อรหนฺตวณฺณกถาวณฺณนา
๙๐๙. อิทานิ อรหนฺตวณฺณกถา นาม โหติ. ตตฺถ อิริยาปถสมฺปนฺเน อากปฺปสมฺปนฺเน ปาปภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘อรหนฺตานํ วณฺเณน อมนุสฺสา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อรหนฺตวณฺณกถาวณฺณนา.
๓-๗. อิสฺสริยกามการิกากถาวณฺณนา
๙๑๐-๙๑๔. อิทานิ ¶ อิสฺสริยกามการิกากถา นาม โหติ. ฉทฺทนฺตชาตกาทีนิ สนฺธาย ¶ ‘‘โพธิสตฺโต อิสฺสริยกามการิกาเหตุ วินิปาตํ ¶ คจฺฉติ, คพฺภเสยฺยํ โอกฺกมติ, ทุกฺกรการิกํ อกาสิ, อปรนฺตปํ อกาสิ, อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิสี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ ปมกถายํ อุตฺตานตฺถเมว. ทุติยกถายํ อิทฺธิมาติ ยทิ อิสฺสริยกามการิกาเหตุ คจฺเฉยฺย, อิทฺธิยา คจฺเฉยฺย, น กมฺมวเสนาติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อิตโร ปน ปมปฺเห ภาวนามยํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยปฺเห ปฺุิทฺธึ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตติยกถายํ อิสฺสริยกามการิกาเหตุ นาม ทุกฺกรการิกา มิจฺฉาทิฏฺิยา กริยติ. ยทิ จ โส ตํ กเรยฺย, สสฺสตาทีนิปิ คณฺเหยฺยาติ โจทนตฺถํ สสฺสโต โลโกติอาทิ วุตฺตํ. จตุตฺถกถายมฺปิ เอเสว นโยติ.
อิสฺสริยกามการิกากถาวณฺณนา.
๘. ปติรูปกถาวณฺณนา
๙๑๕-๙๑๖. อิทานิ ราคปติรูปกถา นาม โหติ. ตตฺถ เมตฺตากรุณามุทิตาโย สนฺธาย ‘‘น ราโค ราคปติรูปโก’’ติ จ อิสฺสามจฺฉริยกุกฺกุจฺจานิ สนฺธาย ‘‘น โทโส โทสปติรูปโก’’ติ จ หสิตุปฺปาทํ สนฺธาย ‘‘น โมโห โมหปติรูปโก’’ติ จ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหํ เปสลานํ ภิกฺขูนํ อนุคฺคหํ ปาปครหิตํ กลฺยาณปสํสํ อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส วสลวาทํ ภควโต เขฬาสกวาทํ โมฆปุริสวาทฺจ สนฺธาย ‘‘น กิเลโส กิเลสปติรูปโก’’ติ จ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย สพฺพกถาสุ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ยสฺมา ผสฺสาทิปติรูปกา นผสฺสาทโย นาม นตฺถิ, ตสฺมา ราคาทิปติรูปกา นราคาทโยปิ นตฺถีติ ¶ โจเทตุํ อตฺถิ น ผสฺโสติอาทิมาห ¶ . อิตโร เตสํ อภาวา ปฏิกฺขิปติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปติรูปกถาวณฺณนา.
๙. อปรินิปฺผนฺนกถาวณฺณนา
๙๑๗-๙๑๘. อิทานิ ¶ อปรินิปฺผนฺนกถา นาม โหติ. ตตฺถ –
‘‘ทุกฺขเมว หิ สมฺโภติ, ทุกฺขํ ติฏฺติ เวติ จ;
นาฺตฺร ทุกฺขา สมฺโภติ, นาฺํ ทุกฺขา นิรุชฺฌตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๗๑) –
วจนํ นิสฺสาย ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺนํ, เสสา ขนฺธายตนธาตุอินฺทฺริยธมฺมา อปรินิปฺผนฺนาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อุตฺตรปถกานฺเจว เหตุวาทานฺจ; เต สนฺธาย รูปํ อปรินิปฺผนฺนนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘สเจ รูปํ อปรินิปฺผนฺนํ, น อนิจฺจาทิสภาวํ สิยา’’ติ โจเทตุํ รูปํ น อนิจฺจนฺติอาทิมาห. อิตโร ตถารูปํ รูปํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. สกวาที นนุ รูปํ อนิจฺจนฺติอาทิ วจเนน ตสฺส เอกํ ลทฺธึ ปฏิเสเธตฺวา ทุติยํ ปุจฺฉนฺโต ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺนนฺติอาทิมาห. อถสฺส ตมฺปิ ลทฺธึ ปฏิเสเธตุํ น ยทนิจฺจนฺติอาทิมาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – น เกวลฺหิ ปมสจฺจเมว ทุกฺขํ. ยํ ปน กิฺจิ อนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขเมว. รูปฺจ อนิจฺจํ, ตสฺมา ตมฺปิ ปรินิปฺผนฺนํ. อิติ ยํ ตฺวํ วเทสิ ‘‘รูปํ อปรินิปฺผนฺนํ, ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺน’’นฺติ, ตํ โน วต เร วตฺตพฺเพ ‘‘ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺน’’นฺติ. เวทนาทิมูลิกาทีสุปิ โยชนาสุ เอเสว นโย. ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ ปน เปตฺวา นิพฺพานํ เสสธมฺมานํ วเสน อนิจฺจตา เวทิตพฺพา. อินฺทฺริยานิ อนิจฺจาเนวาติ.
อปรินิปฺผนฺนกถาวณฺณนา.
เตวีสติโม วคฺโค.
นิคมนกถา
ปณฺณาสเกหิ จตูหิ, ตีหิ วคฺเคหิ เจว จ;
สงฺคเหตฺวา กถา สพฺพา, อูนติสตเภทนา.
กถาวตฺถุปฺปกรณํ, กถามคฺเคสุ โกวิโท;
ยํ ชิโน เทสยิ ตสฺส, นิฏฺิตา อตฺถวณฺณนา.
อิมํ เตรสมตฺเตหิ, ภาณวาเรหิ ตนฺติยา;
จิรฏฺิตตฺถํ ธมฺมสฺส, สงฺขโรนฺเตน ยํ มยา.
ยํ ปตฺตํ กุสลํ เตน, โลโกยํ สนรามโร;
ธมฺมราชสฺส สทฺธมฺม-รสเมวาธิคจฺฉตูติ.
กถาวตฺถุ-อฏฺกถา นิฏฺิตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
อภิธมฺมปิฏเก