📜

๑. มาติกาวณฺณนา

. ปฺตฺติโย – ขนฺธปฺตฺติ…เป… ปุคฺคลปฺตฺตีติ อยํ ตาว ปุคฺคลปฺตฺติยา อุทฺเทโส. ตตฺถ ฉาติ คณนปริจฺเฉโท. เตน เย ธมฺเม อิธ ปฺเปตุกาโม เตสํ คณนวเสน สํเขปโต ปฺตฺติปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. ปฺตฺติโยติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. ตตฺถ ‘‘อาจิกฺขติ เทเสติ ปฺเปติ ปฏฺเปตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒๐) อาคตฏฺาเน ปฺาปนา ทสฺสนา ปกาสนา ปฺตฺติ นาม. ‘‘สุปฺตฺตํ มฺจปี’’นฺติ (ปารา. ๒๖๙) อาคตฏฺาเน ปนา นิกฺขิปนา ปฺตฺติ นาม. อิธ อุภยมฺปิ วฏฺฏติ. ฉ ปฺตฺติโยติ หิ ฉ ปฺาปนา, ฉ ทสฺสนา ปกาสนาติปิ; ฉ ปนา นิกฺขิปนาติปิ อิธ อธิปฺเปตเมว. นามปฺตฺติ หิ เต เต ธมฺเม ทสฺเสติปิ, เตน เตน โกฏฺาเสน เปติปิ.

ขนฺธปฺตฺตีติอาทิ ปน สํเขปโต ตาสํ ปฺตฺตีนํ สรูปทสฺสนํ. ตตฺถ ขนฺธานํ ‘ขนฺธา’ติ ปฺาปนา ทสฺสนา ปกาสนา ปนา นิกฺขิปนา ขนฺธปฺตฺติ นาม. อายตนานํ อายตนานีติ, ธาตูนํ ธาตุโยติ, สจฺจานํ สจฺจานีติ, อินฺทฺริยานํ อินฺทฺริยานีติ, ปุคฺคลานํ ปุคฺคลาติ ปฺาปนา ทสฺสนา ปกาสนา ปนา นิกฺขิปนา ปุคฺคลปฺตฺติ นาม.

ปาฬิมุตฺตเกน ปน อฏฺกถานเยน อปราปิ ฉ ปฺตฺติโย – วิชฺชมานปฺตฺติ, อวิชฺชมานปฺตฺติ, วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ, อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ, วิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ, อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺตีติ. ตตฺถ กุสลากุสลสฺเสว สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสน วิชฺชมานสฺส สโต สมฺภูตสฺส ธมฺมสฺส ปฺาปนา วิชฺชมานปฺตฺติ นาม. ตถา อวิชฺชมานสฺส โลกนิรุตฺติมตฺตสิทฺธสฺส อิตฺถิปุริสาทิกสฺส ปฺาปนา อวิชฺชมานปฺตฺติ นาม. สพฺพากาเรนปิ อนุปลพฺภเนยฺยสฺส วาจาวตฺถุมตฺตสฺเสว ปฺจมสจฺจาทิกสฺส ติตฺถิยานํ อณุปกติปุริสาทิกสฺส วา ปฺาปนาปิ อวิชฺชมานปฺตฺติเยว. สา ปน สาสนาวจรา น โหตีติ อิธ น คหิตา. อิติ อิเมสํ วิชฺชมานาวิชฺชมานานํ วิกปฺปนวเสน เสสา เวทิตพฺพา. ‘เตวิชฺโช’, ‘ฉฬภิฺโ’ติอาทีสุ หิ ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺา จ วิชฺชมานา, ปุคฺคโล อวิชฺชมาโน. ตสฺมา ติสฺโส วิชฺชา อสฺสาติ เตวิชฺโช, ฉ อภิฺา อสฺสาติ ฉฬภิฺโติ เอวํ วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานสฺส ปฺาปนโต เอวรูปา วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ นาม. ‘อิตฺถิรูปํ’, ‘ปุริสรูป’นฺติอาทีสุ ปน อิตฺถิปุริสา อวิชฺชมานา, รูปํ วิชฺชมานํ. ตสฺมา อิตฺถิยา รูปํ อิตฺถิรูปํ, ปุริสสฺส รูปํ ปุริสรูปนฺติ เอวํ อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานสฺส ปฺาปนโต เอวรูปา อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ นาม. จกฺขุสมฺผสฺโส, โสตสมฺผสฺโสติอาทีสุ จกฺขุโสตาทโยปิ ผสฺโสปิ วิชฺชมาโนเยว. ตสฺมา จกฺขุมฺหิ สมฺผสฺโส, จกฺขุโต ชาโต สมฺผสฺโส, จกฺขุสฺส วา ผลภูโต สมฺผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโสติ เอวํ วิชฺชมาเนน วิชฺชมานสฺส ปฺาปนโต เอวรูปา วิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ นาม. ขตฺติยปุตฺโต, พฺราหฺมณปุตฺโต, เสฏฺิปุตฺโตติอาทีสุ ขตฺติยาทโยปิ อวิชฺชมานา, ปุตฺโตปิ. ตสฺมา ขตฺติยสฺส ปุตฺโต ขตฺติยปุตฺโตติ เอวํ อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานสฺส ปฺาปนโต เอวรูปา อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ นาม. ตาสุ อิมสฺมึ ปกรเณ ปุริมา ติสฺโสว ปฺตฺติโย ลพฺภนฺติ. ‘‘ขนฺธปฺตฺติ…เป… อินฺทฺริยปฺตฺตี’’ติ อิมสฺมิฺหิ าเน วิชฺชมานสฺเสว ปฺาปิตตฺตา วิชฺชมานปฺตฺติ ลพฺภติ. ‘‘ปุคฺคลปฺตฺตี’’ติ ปเท อวิชฺชมานปฺตฺติ. ปรโต ปน ‘เตวิชฺโช’, ‘ฉฬภิฺโ’ติอาทีสุ วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ ลพฺภตีติ.

อฏฺกถามุตฺตเกน ปน อาจริยนเยน อปราปิ ฉ ปฺตฺติโย – อุปาทาปฺตฺติ, อุปนิธาปฺตฺติ, สโมธานปฺตฺติ, อุปนิกฺขิตฺตปฺตฺติ, ตชฺชาปฺตฺติ, สนฺตติปฺตฺตีติ . ตตฺถ โย รูปเวทนาทีหิ เอกตฺเตน วา อฺตฺเตน วา รูปเวทนาทโย วิย สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน อนุปลพฺภสภาโวปิ รูปเวทนาทิเภเท ขนฺเธ อุปาทาย นิสฺสาย การณํ กตฺวา สมฺมโต สตฺโต. ตานิ ตานิ องฺคานิ อุปาทาย รโถ เคหํ มุฏฺิ อุทฺธนนฺติ จ; เต เตเยว รูปาทโย อุปาทาย ฆโฏ ปโฏ; จนฺทสูริยปริวตฺตาทโย อุปาทาย กาโล, ทิสา; ตํ ตํ ภูตนิมิตฺตฺเจว ภาวนานิสํสฺจ อุปาทาย นิสฺสาย การณํ กตฺวา สมฺมตํ เตน เตนากาเรน อุปฏฺิตํ อุคฺคหนิมิตฺตํ ปฏิภาคนิมิตฺตนฺติ อยํ เอวรูปา อุปาทาปฺตฺติ นาม. ปฺเปตพฺพฏฺเน เจสา ปฺตฺติ นาม, น ปฺาปนฏฺเน. ยา ปน ตสฺสตฺถสฺส ปฺาปนา, อยํ อวิชฺชมานปฺตฺติเยว.

ยา ปมทุติยาทีนิ อุปนิธาย ทุติยํ ตติยนฺติอาทิกา, อฺมฺฺจ อุปนิธาย ทีฆํ รสฺสํ, ทูรํ, สนฺติกนฺติอาทิกา ปฺาปนา; อยํ อุปนิธาปฺตฺติ นาม. อปิเจสา อุปนิธาปฺตฺติ – ตทฺาเปกฺขูปนิธา, หตฺถคตูปนิธา, สมฺปยุตฺตูปนิธา, สมาโรปิตูปนิธา, อวิทูรคตูปนิธา , ปฏิภาคูปนิธา, ตพฺพหุลูปนิธา, ตพฺพิสิฏฺูปนิธาติอาทินา เภเทน อเนกปฺปการา.

ตตฺถ ทุติยํ ตติยนฺติอาทิกาว ตทฺํ อเปกฺขิตฺวา วุตฺตตาย ตทฺาเปกฺขูปนิธา นาม. ฉตฺตปาณิ, สตฺถปาณีติอาทิกา หตฺถคตํ อุปนิธาย วุตฺตตาย หตฺถคตูปนิธา นาม. กุณฺฑลี, สิขรี, กิริฏีติอาทิกา สมฺปยุตฺตํ อุปนิธาย วุตฺตตาย สมฺปยุตฺตูปนิธา นาม. ธฺสกฏํ, สปฺปิกุมฺโภติอาทิกา สมาโรปิตํ อุปนิธาย วุตฺตตาย สมาโรปิตูปนิธา นาม. อินฺทสาลคุหา, ปิยงฺคุคุหา, เสรีสกนฺติอาทิกา อวิทูรคตํ อุปนิธาย วุตฺตตาย อวิทูรคตูปนิธา นาม. สุวณฺณวณฺโณ, อุสภคามีติอาทิกา ปฏิภาคํ อุปนิธาย วุตฺตตาย ปฏิภาคูปนิธา นาม. ปทุมสฺสโร, พฺราหฺมณคาโมติอาทิกา ตพฺพหุลํ อุปนิธาย วุตฺตตาย ตพฺพหุลูปนิธา นาม. มณิกฏกํ, วชิรกฏกนฺติอาทิกา ตพฺพิสิฏฺํ อุปนิธาย วุตฺตตาย ตพฺพิสิฏฺูปนิธา นาม.

ยา ปน เตสํ เตสํ สโมธานมเปกฺขิตฺวา ติทณฺฑํ, อฏฺปทํ, ธฺราสิ, ปุปฺผราสีติอาทิกา ปฺาปนา, อยํ สโมธานปฺตฺติ นาม. ยา ปุริมสฺส ปุริมสฺส อุปนิกฺขิปิตฺวา ทฺเว, ตีณิ, จตฺตารีติอาทิกา ปฺาปนา, อยํ อุปนิกฺขิตฺตปฺตฺติ นาม. ยา ตํ ตํ ธมฺมสภาวํ อเปกฺขิตฺวา ปถวี, เตโช, กกฺขฬตา, อุณฺหตาติอาทิกา ปฺาปนา, อยํ ตชฺชาปฺตฺติ นาม. ยา ปน สนฺตติวิจฺเฉทาภาวํ อเปกฺขิตฺวา อาสีติโก, นาวุติโกติอาทิกา ปฺาปนา, อยํ สนฺตติปฺตฺติ นาม. เอตาสุ ปน ตชฺชาปฺตฺติ วิชฺชมานปฺตฺติเยว. เสสา อวิชฺชมานปกฺขฺเจว, อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปกฺขฺจ ภชนฺติ.

อฏฺกถามุตฺตเกน อาจริยนเยเนว อปราปิ ฉ ปฺตฺติโย – กิจฺจปฺตฺติ, สณฺานปฺตฺติ, ลิงฺคปฺตฺติ, ภูมิปฺตฺติ, ปจฺจตฺตปฺตฺติ, อสงฺขตปฺตฺตีติ. ตตฺถ ภาณโก, ธมฺมกถิโกติอาทิกา กิจฺจวเสน ปฺาปนา กิจฺจปฺตฺติ นาม. กิโส, ถูโล, ปริมณฺฑโล, จตุรสฺโสติอาทิกา สณฺานวเสน ปฺาปนา สณฺานปฺตฺติ นาม. อิตฺถี, ปุริโสติอาทิกา ลิงฺควเสน ปฺาปนา ลิงฺคปฺติ นาม. กามาวจรา, รูปาวจรา, อรูปาวจรา, โกสลกา, มาธุราติอาทิกา ภูมิวเสน ปฺาปนา ภูมิปฺตฺติ นาม. ติสฺโส , นาโค, สุมโนติอาทิกา ปจฺจตฺตนามกรณมตฺตวเสน ปฺาปนา ปจฺจตฺตปฺตฺติ นาม. นิโรโธ, นิพฺพานนฺติอาทิกา อสงฺขตธมฺมสฺส ปฺาปนา อสงฺขตปฺตฺติ นาม. ตตฺถ เอกจฺจา ภูมิปฺตฺติ อสงฺขตปฺตฺติ จ วิชฺชมานปฺตฺติเยว, กิจฺจปฺตฺติ วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปกฺขํ ภชติ. เสสา อวิชฺชมานปฺตฺติโย นาม.

. อิทานิ ยาสํ ปฺตฺตีนํ อุทฺเทสวาเร สงฺเขปโต สรูปทสฺสนํ กตํ, สงฺเขปโตเยว ตาว ตาสํ วตฺถุํ วิภชิตฺวา ทสฺสนวเสน ตา ทสฺเสตุํ กิตฺตาวตาติอาทิมาห. ตตฺถ ปุจฺฉาย ตาว เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – ยา อยํ ขนฺธานํ ‘ขนฺธา’ติ ปฺาปนา, ทสฺสนา, ปนา, สา กิตฺตเกน โหตีติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ปรโต กิตฺตาวตา อายตนานนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. วิสฺสชฺชเนปิ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – ยตฺตเกน ปฺาปเนน สงฺเขปโต ปฺจกฺขนฺธาติ วา ปเภทโต ‘‘รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วา; ตตฺราปิ รูปกฺขนฺโธ กามาวจโร, เสสา จตุภูมิกาติ วา เอวรูปํ ปฺาปนํ โหติ; เอตฺตเกน ขนฺธานํ ‘ขนฺธา’ติ ปฺตฺติ โหติ.

. ตถา ยตฺตเกน ปฺาปเนน สงฺเขปโต ทฺวาทสายตนานีติ วา, ปเภทโต ‘‘จกฺขายตนํ…เป… ธมฺมายตน’’นฺติ วา; ตตฺราปิ ทสายตนา กามาวจรา , ทฺวายตนา จตุภูมิกาติ วา, เอวรูปํ ปฺาปนํ โหติ; เอตฺตเกน อายตนานํ อายตนานีติ ปฺตฺติ โหติ.

. ยตฺตเกน ปฺาปเนน สงฺเขปโต อฏฺารส ธาตุโยติ วา , ปเภทโต ‘‘จกฺขุธาตุ…เป… มโนวิฺาณธาตู’’ติ วา; ตตฺราปิ โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, ทฺเว ธาตุโย จตุภูมิกาติ วา เอวรูปํ ปฺาปนํ โหติ; เอตฺตเกน ธาตูนํ ธาตูติ ปฺตฺติ โหติ.

. ยตฺตเกน ปฺาปเนน สงฺเขปโต จตฺตาริ สจฺจานีติ วา, ปเภทโต ‘‘ทุกฺขสจฺจํ…เป… นิโรธสจฺจ’’นฺติ วา; ตตฺราปิ ทฺเว สจฺจา โลกิยา, ทฺเว สจฺจา โลกุตฺตราติ วา เอวรูปํ ปฺาปนํ โหติ; เอตฺตเกน สจฺจานํ ‘สจฺจานี’ติ ปฺตฺติ โหติ.

. ยตฺตเกน ปฺาปเนน สงฺเขปโต พาวีสตินฺทฺริยานีติ วา, ปเภทโต ‘‘จกฺขุนฺทฺริยํ…เป… อฺาตาวินฺทฺริย’’นฺติ วา; ตตฺราปิ ทสินฺทฺริยานิ กามาวจรานิ, นวินฺทฺริยานิ มิสฺสกานิ, ตีณิ อินฺทฺริยานิ โลกุตฺตรานีติ วา เอวรูปํ ปฺาปนํ โหติ; เอตฺตเกน อินฺทฺริยานํ อินฺทฺริยานีติ ปฺตฺติ โหติ. เอตฺตาวตา สงฺเขปโต วตฺถุํ วิภชิตฺวา ทสฺสนวเสน ปฺจ ปฺตฺติโย ทสฺสิตา โหนฺติ.

. อิทานิ วิตฺถารโต วตฺถุํ วิภชิตฺวา ทสฺสนวเสน ปุคฺคลปฺตฺตึ ทสฺเสตุํ สมยวิมุตฺโต อสมยวิมุตฺโตติอาทิมาห. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ ติเล วิสารยมาเนน วิย, วาเก หีรยมาเนน วิย จ, เหฏฺา วิภงฺคปฺปกรเณ อิมาสํ ปฺจนฺนํ ปฺตฺตีนํ วตฺถุภูตา ขนฺธาทโย นิปฺปเทเสน กถิตาติ เตน เต อิธ เอกเทเสเนว กเถสิ. ฉฏฺา ปุคฺคลปฺตฺติ เหฏฺา อกถิตาว. อิธาปิ อุทฺเทสวาเร เอกเทเสเนว กถิตา; ตสฺมา ตํ วิตฺถารโต กเถตุกาโม สมยวิมุตฺโต อสมยวิมุตฺโตติ เอกกโต ปฏฺาย ยาว ทสกา มาติกํ เปสีติ.

มาติกาวณฺณนา.