📜
๖. สงฺขารยมกํ
๑. ปณฺณตฺติวารวณฺณนา
๑. อิทานิ ¶ เตสฺเว มูลยมเก เทสิตานํ กุสลาทิธมฺมานํ ลพฺภมานวเสน เอกเทสํ สงฺคณฺหิตฺวา สจฺจยมกานนฺตรํ เทสิตสฺส สงฺขารยมกสฺส วณฺณนา โหติ. ตตฺถาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปณฺณตฺติวาราทโย ตโย มหาวารา, อนฺตรวาราทโย จ อวเสสปเภทา เวทิตพฺพา. อยํ ปเนตฺถ วิเสโส – ปณฺณตฺติวาเร ตาว ยถา เหฏฺา ขนฺธาทโย ธมฺเม อุทฺทิสิตฺวา ‘‘รูปํ รูปกฺขนฺโธ; จกฺขุ จกฺขายตนํ; จกฺขุ จกฺขุธาตุ; ทุกฺขํ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติ ปทโสธนวาโร อารทฺโธ. ตถา อนารภิตฺวา ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา กายสงฺขาโร’’ติ ปมํ ตโยปิ สงฺขารา วิภชิตฺวา ทสฺสิตา.
ตตฺถ ¶ กายสฺส สงฺขาโร กายสงฺขาโร. ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา กายิกา, เอเต ธมฺมา กายปฺปฏิพทฺธา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓; สํ. นิ. ๔.๓๔๘ อตฺถโต สมานํ) หิ วจนโต การณภูตสฺส กรชกายสฺส ผลภูโต เอว สงฺขาโรติ กายสงฺขาโร. อปโร นโย – สงฺขริยตีติ สงฺขาโร. เกน สงฺขริยตีติ? กาเยน. อยฺหิ วาโต วิย ภสฺตาย กรชกาเยน ¶ สงฺขริยตีติ. เอวมฺปิ กายสฺส สงฺขาโรติ กายสงฺขาโร. กาเยน กโต อสฺสาสปสฺสาสวาโตติ อตฺโถ. ‘‘ปุพฺเพว โข, อาวุโส วิสาข, วิตกฺเกตฺวา วิจาเรตฺวา ปจฺฉา วาจํ ภินฺทติ, ตสฺมา วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓; สํ. นิ. ๔.๓๔๘) วจนโต ปน สงฺขโรตีติ สงฺขาโร. กึ สงฺขโรติ? วจึ. วจิยา สงฺขาโรติ วจีสงฺขาโร. วจีเภทสมุฏฺาปกสฺส วิตกฺกวิจารทฺวยสฺเสตํ นามํ. ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา เอเต ธมฺมา จิตฺตปฏิพทฺธา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓; สํ. นิ. ๔.๓๔๘) วจนโตเยว ปน ตติยปเทปิ สงฺขริยตีติ สงฺขาโร. เกน สงฺขริยติ? จิตฺเตน. กรณตฺเถ สามิวจนํ กตฺวา จิตฺตสฺส สงฺขาโรติ จิตฺตสงฺขาโร. สพฺเพสมฺปิ จิตฺตสมุฏฺานานํ เจตสิกธมฺมานเมตํ อธิวจนํ. วิตกฺกวิจารานํ ปน วจีสงฺขารภาเวน วิสุํ คหิตตฺตา ‘‘เปตฺวา วิตกฺกวิจาเร’’ติ วุตฺตํ.
๒-๗. อิทานิ ¶ กาโย กายสงฺขาโรติ ปทโสธนวาโร อารทฺโธ. ตสฺส อนุโลมนเย ตีณิ, ปฏิโลมนเย ตีณีติ ฉ ยมกานิ. ปทโสธนมูลจกฺกวาเร เอเกกสงฺขารมูลกานิ ทฺเว ทฺเว กตฺวา อนุโลมนเย ฉ, ปฏิโลมนเย ฉาติ ทฺวาทส ยมกานิ. สุทฺธสงฺขารวาเร ปน ยถา สุทฺธขนฺธวาราทีสุ ‘‘รูปํ ขนฺโธ, ขนฺธา รูปํ; จกฺขุ อายตนํ, อายตนา จกฺขู’’ติอาทินา นเยน ยมกานิ วุตฺตานิ. เอวํ ‘‘กาโย สงฺขาโร, สงฺขารา กาโย’’ติ อวตฺวา ‘‘กายสงฺขาโร วจีสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร กายสงฺขาโร’’ติอาทินา นเยน กายสงฺขารมูลกานิ ทฺเว, วจีสงฺขารมูลกํ เอกนฺติ อนุโลเม ตีณิ, ปฏิโลเม ตีณีติ สพฺพานิปิ สุทฺธิกวาเร ฉ ยมกานิ วุตฺตานิ. กึ การณา? สุทฺธิกเอเกกปทวเสน อตฺถาภาวโต. ยถา หิ ขนฺธยมกาทีสุ รูปาทิวิสิฏฺานํ ขนฺธานํ จกฺขาทิวิสิฏฺานฺจ อายตนาทีนํ อธิปฺเปตตฺตา ‘‘รูปํ ขนฺโธ ¶ , ขนฺธา รูปํ, จกฺขุ อายตนํ, อายตนา จกฺขู’’ติ สุทฺธิกเอเกกปทวเสน อตฺโถ อตฺถิ. เอวมิธ ‘‘กาโย สงฺขาโร, สงฺขารา กาโย’’ติ นตฺถิ. กายสงฺขาโรติ ปน ทฺวีหิปิ ปเทหิ เอโกว อตฺโถ ลพฺภติ. อสฺสาโส วา ปสฺสาโส วาติ สุทฺธิกเอเกกปทวเสน อตฺถาภาวโต ‘‘กาโย สงฺขาโร, สงฺขารา กาโย’’ติ น วุตฺตํ. ‘‘กาโย กายสงฺขาโร’’ติอาทิ ปน วตฺตพฺพํ สิยา. ตมฺปิ กายวจีจิตฺตปเทหิ อิธ อธิปฺเปตานํ สงฺขารานํ อคฺคหิตตฺตา น ยุชฺชติ. สุทฺธสงฺขารวาโร เหส. ปทโสธเน ปน วินาปิ อตฺเถน วจนํ ยุชฺชตีติ ตตฺถ โส นโย คหิโตว. อิธ ปน กายสงฺขารสฺส วจีสงฺขาราทีหิ, วจีสงฺขารสฺส จ จิตฺตสงฺขาราทีหิ, จิตฺตสงฺขารสฺส จ กายสงฺขาราทีหิ, อฺตฺตา ‘‘กายสงฺขาโร วจีสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร, กายสงฺขาโร’’ติ ¶ เอเกกสงฺขารมูลกานิ ทฺเว ทฺเว กตฺวา ฉ ยมกานิ ยุชฺชนฺติ. เตสุ อคฺคหิตคฺคหเณน ตีเณว ลพฺภนฺติ. ตสฺมา ตาเนว ทสฺเสตุํ อนุโลมนเย ตีณิ, ปฏิโลมนเย ตีณีติ ฉ ยมกานิ วุตฺตานิ. สุทฺธสงฺขารมูลจกฺกวาโร ปเนตฺถ น คหิโตติ. เอวํ ปณฺณตฺติวารสฺส อุทฺเทสวาโร เวทิตพฺโพ.
๘-๑๘. นิทฺเทสวาเร ปนสฺส อนุโลเม ตาว ยสฺมา น กายาทโยว กายสงฺขาราทีนํ นามํ, ตสฺมา โนติ ปฏิเสโธ กโต. ปฏิโลเม น กาโย น กายสงฺขาโรติ โย น กาโย โส กายสงฺขาโรปิ น โหตีติ ปุจฺฉติ. กายสงฺขาโร น กาโย กายสงฺขาโรติ ¶ กายสงฺขาโร กาโย น โหติ, กายสงฺขาโรเยว ปเนโสติ อตฺโถ. อวเสสนฺติ น เกวลํ เสสสงฺขารทฺวยเมว. กายสงฺขารวินิมุตฺตํ ปน เสสํ สพฺพมฺปิ สงฺขตาสงฺขตปณฺณตฺติเภทํ ธมฺมชาตํ เนว กาโย, น กายสงฺขาโรติ อิมินา อุปาเยน สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
ปณฺณตฺติวารวณฺณนา.
๒. ปวตฺติวารวณฺณนา
๑๙. ปวตฺติวาเร ปเนตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล ปุคฺคลวารสฺส อนุโลมนเย ‘‘ยสฺส กายสงฺขาโร อุปฺปชฺชติ, ตสฺส วจีสงฺขาโร อุปฺปชฺชตี’’ติ กายสงฺขารมูลกานิ ทฺเว, วจีสงฺขารมูลกํ ¶ เอกนฺติ ตีเณว ยมกานิ ลพฺภนฺติ; ตานิ คหิตาเนว. ตสฺส ปฏิโลมนเยปิ โอกาสวาราทีสุปิ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ สพฺพวาเรสุ ติณฺณํ ติณฺณํ ยมกานํ วเสน ยมกคณนา เวทิตพฺพา.
อตฺถวินิจฺฉเย ปเนตฺถ อิทํ ลกฺขณํ – อิมสฺมิฺหิ สงฺขารยมเก ‘‘อสฺสาสปสฺสาสานํ อุปฺปาทกฺขเณ วิตกฺกวิจารานํ อุปฺปาทกฺขเณ’’ติอาทิวจนโต ปจฺจุปฺปนฺนาทิกาลเภโท ปวตฺติวเสนาปิ คเหตพฺโพ, น จุติปฏิสนฺธิวเสเนว. ‘‘ทุติยชฺฌาเน ตติยชฺฌาเน ตตฺถ กายสงฺขาโร ¶ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิวจนโต จ ฌานมฺปิ โอกาสวเสน คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวเมตฺถ ยํ ยํ ลพฺภติ, ตสฺส ตสฺส วเสน อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ตตฺริทํ นยมุขํ – วินา วิตกฺกวิจาเรหีติ ทุติยตติยชฺฌานวเสน วุตฺตํ. เตสนฺติ เตสํ ทุติยตติยชฺฌานสมงฺคีนํ. กามาวจรานนฺติ กามาวจเร อุปฺปนฺนสตฺตานํ. รูปาวจรเทวานํ ปน อสฺสาสปสฺสาสา นตฺถิ. อรูปาวจรานํ รูปเมว นตฺถิ. วินา อสฺสาสปสฺสาเสหีติ รูปารูปภเวสุ นิพฺพตฺตสตฺตานํ วิตกฺกวิจารุปฺปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ.
๒๑. ปมชฺฌาเน กามาวจเรติ กามาวจรภูมิยํ อุปฺปนฺเน ปมชฺฌาเน. องฺคมตฺตวเสน เจตฺถ ปมชฺฌานํ คเหตพฺพํ, น อปฺปนาวเสเนว. อนปฺปนาปตฺเตปิ หิ สวิตกฺกสวิจารจิตฺเต อิทํ สงฺขารทฺวยํ อุปฺปชฺชเตว.
๒๔. จิตฺตสฺส ¶ ภงฺคกฺขเณติ อิทํ กายสงฺขารสฺส เอกนฺตจิตฺตสมุฏฺานตฺตา วุตฺตํ. อุปฺปชฺชมานเมว หิ จิตฺตํ รูปํ วา อรูปํ วา สมุฏฺาเปติ, น ภิชฺชมานํ.
๓๗. สุทฺธาวาสานํ ทุติเย จิตฺเต วตฺตมาเนติ ปฏิสนฺธิโต ทุติเย ภวงฺคจิตฺเต. กามฺเจตํ ปฏิสนฺธิจิตฺเตปิ วตฺตมาเน เตสํ ตตฺถ นุปฺปชฺชิตฺเถว. ยาว ปน อพฺโพกิณฺณํ วิปากจิตฺตํ วตฺตติ, ตาว นุปฺปชฺชิตฺเถว นามาติ ทสฺสนตฺถเมตํ วุตฺตํ. ยสฺส วา ฌานสฺส วิปากจิตฺเตน เต นิพฺพตฺตา, ตํ สตโสปิ สหสฺสโสปิ อุปฺปชฺชมานํ ปมจิตฺตเมว. วิปากจิตฺเตน ปน วิสทิสํ ภวนิกนฺติยา อาวชฺชนจิตฺตํ ทุติยจิตฺตํ นาม. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๔๔. ปจฺฉิมจิตฺตสมงฺคีนนฺติ ¶ สพฺพปจฺฉิเมน อปฺปฏิสนฺธิกจิตฺเตน สมงฺคีภูตานํ ขีณาสวานํ. อวิตกฺกอวิจารํ ปจฺฉิมจิตฺตนฺติ รูปาวจรานํ ทุติยชฺฌานิกาทิจุติจิตฺตวเสน, อรูปาวจรานฺจ จตุตฺถชฺฌานิกจุติจิตฺตวเสเนตํ วุตฺตํ. เตสนฺติ เตสํ ปจฺฉิมจิตฺตสมงฺคีอาทีนํ.
๗๙. ยสฺส กายสงฺขาโร นิรุชฺฌติ, ตสฺส จิตฺตสงฺขาโร นิรุชฺฌตีติ เอตฺถ นิยมโต กายสงฺขารสฺส จิตฺตสงฺขาเรน สทฺธึ เอกกฺขเณ นิรุชฺฌนโต อามนฺตาติ ปฏิวจนํ ทินฺนํ. น จิตฺตสงฺขารสฺส ¶ กายสงฺขาเรน สทฺธึ. กึ การณา? จิตฺตสงฺขาโร หิ กายสงฺขาเรน วินาปิ อุปฺปชฺชติ จ นิรุชฺฌติ จ. กายสงฺขาโร ปน จิตฺตสมุฏฺาโน อสฺสาสปสฺสาสวาโต. จิตฺตสมุฏฺานรูปฺจ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปชฺชิตฺวา ยาว อฺานิ โสฬสจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตาว ติฏฺติ. เตสํ โสฬสนฺนํ สพฺพปจฺฉิเมน สทฺธึ นิรุชฺฌตีติ เยน จิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปชฺชติ, ตโต ปฏฺาย สตฺตรสเมน สทฺธึ นิรุชฺฌติ. น กสฺสจิ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ วา ิติกฺขเณ วา นิรุชฺฌติ, นาปิ ิติกฺขเณ วา ภงฺคกฺขเณ วา อุปฺปชฺชติ. เอสา จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส ธมฺมตาติ นิยมโต จิตฺตสงฺขาเรน สทฺธึ เอกกฺขเณ นิรุชฺฌนโต อามนฺตาติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิภงฺคปฺปกรณสฺส สีหฬฏฺกถายํ ‘‘จิตฺตสมุฏฺานํ รูปํ สตฺตรสมสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิรุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ อิมาย ปาฬิยา วิรูชฺฌติ. อฏฺกถาโต จ ปาฬิเยว พลวตราติ ปาฬิยํ วุตฺตเมว ปมาณํ.
๑๒๘. ยสฺส กายสงฺขาโร อุปฺปชฺชติ, ตสฺส วจีสงฺขาโร นิรุชฺฌตีติ เอตฺถ ยสฺมา กายสงฺขาโร จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปชฺชติ, น จ ตสฺมึ ขเณ ¶ วิตกฺกวิจารา นิรุชฺฌนฺติ, ตสฺมา โนติ ปฏิเสโธ กโตติ. อิมินา นยมุเขน สพฺพตฺถ อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ปริฺาวาโร ปากติโกเยวาติ.
ปวตฺติวารวณฺณนา.
สงฺขารยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.