📜
๗. อนุสยยมกํ
ปริจฺเฉทปริจฺฉินฺนุทฺเทสวารวณฺณนา
๑. อิทานิ ¶ เตสฺเว มูลยมเก เทสิตานํ กุสลาทิธมฺมานํ ลพฺภมานวเสน เอกเทสํ สงฺคณฺหิตฺวา สงฺขารยมกานนฺตรํ เทสิตสฺส อนุสยยมกสฺส อตฺถวณฺณนา โหติ. ตตฺถ ปาฬิววตฺถานํ ตาว เวทิตพฺพํ – อิมสฺมิฺหิ อนุสยยมเก ขนฺธยมกาทีสุ วิย เทสนํ อกตฺวา ¶ อฺเน นเยน ปาฬิเทสนา กตา. กถํ? ปมํ ตาว ปริจฺเฉทโต, อุทฺเทสโต, อุปฺปตฺติฏฺานโตติ ตีหากาเรหิ อนุสเย คหาเปตุํ ปริจฺเฉทวาโร, ปริจฺฉินฺนุทฺเทสวาโร, อุปฺปตฺติฏฺานวาโรติ, ตโย วารา เทสิตา. ตโต สตฺตนฺนํ มหาวารานํ วเสน อนุสเย โยเชตฺวา ยมกเทสนา กตา. ตตฺถ สตฺตานุสยาติ อยํ ‘‘สตฺเตว, น ตโต อุทฺธํ, น เหฏฺา’’ติ คณนปริจฺเฉเทน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนุสยานํ เทสิตตฺตา ปริจฺเฉทวาโร นาม. กามราคานุสโย…เป… อวิชฺชานุสโยติ อยํ ปริจฺเฉทวาเรน ปริจฺฉินฺนานํ นามมตฺตํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘อิเม นาม เต’’ติ เทสิตตฺตา ปริจฺฉินฺนุทฺเทสวาโร นาม. กตฺถ กามราคานุสโย อนุเสติ…เป… เอตฺถ อวิชฺชานุสโย อนุเสตีติ อยํ ‘‘อิเมสุ นาม าเนสุ อิเม อนุสยา อนุเสนฺติ’’ติ เอวํ เตสํเยว อุปฺปตฺติฏฺานสฺส เทสิตตฺตา อุปฺปตฺติฏฺานวาโร นาม.
เยสํ ปน สตฺตนฺนํ มหาวารานํ วเสน อนุสเย โยเชตฺวา ยมกเทสนา กตา, เตสํ อิมานิ นามานิ – อนุสยวาโร, สานุสยวาโร, ปชหนวาโร, ปริฺาวาโร, ปหีนวาโร, อุปฺปชฺชนวาโร ธาตุวาโรติ. เตสุ ปโม อนุสยวาโร. โส อนุโลมปฏิโลมนยวเสน ทุวิโธ โหติ.
ตตฺถ ¶ อนุโลมนเย ‘‘ยสฺส อนุเสติ, ยตฺถ อนุเสติ, ยสฺส ยตฺถ อนุเสตี’’ติ ปุคฺคโลกาสตทุภยวเสน ตโย อนฺตรวารา โหนฺติ. เตสุ ปเม ปุคฺคลวาเร ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อนุเสติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อนุเสติ; ยสฺส วา ปน ปฏิฆานุสโย อนุเสติ, ตสฺส กามราคานุสโย อนุเสติ; ยสฺส กามราคานุสโย อนุเสติ, ตสฺส มานานุสโย, ทิฏฺานุสโย, วิจิกิจฺฉานุสโย, ภวราคานุสโย, อวิชฺชานุสโย อนุเสติ. ยสฺส วา ปน อวิชฺชานุสโย อนุเสติ, ตสฺส กามราคานุสโย ¶ อนุเสตี’’ติ กามราคานุสยมูลกานิ ฉ ยมกานิ. ปุน อคหิตคฺคหณวเสน ปฏิฆานุสยมูลกานิ ปฺจ, มานานุสยมูลกานิ จตฺตาริ, ทิฏฺานุสยมูลกานิ ตีณิ, วิจิกิจฺฉานุสยมูลกานิ ทฺเว, ภวราคานุสยมูลกํ เอกนฺติ เอวํ สพฺพานิปิ เอกมูลกานิ เอกวีสติ. ปุน ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย จ ปฏิฆานุสโย จ อนุเสนฺตี’’ติ เอวํ อาคตานิ ทุกมูลกานิ ปฺจ, ติกมูลกานิ จตฺตาริ, จตุกฺกมูลกานิ ตีณิ, ปฺจกมูลกานิ ทฺเว, ฉกฺกมูลกํ เอกนฺติ อปรานิปิ ปนฺนรส โหนฺติ. ตานิ ปุริเมหิ เอกวีสติยา สทฺธึ ฉตฺตึสาติ ปุคฺคลวาเร ฉตฺตึส ยมกานิ. ตถา โอกาสวาเร, ตถา ปุคฺคโลกาสวาเรติ สพฺพานิปิ อนุโลมนเย อฏฺสตํ ยมกานิ. ตถา ปฏิโลมนเยติ อนุสยวาเร โสฬสาธิกานิ ทฺเว ยมกสตานิ, ตโต ทิคุณา ¶ ปุจฺฉา, ตโต ทิคุณา อตฺถา จ เวทิตพฺพา. ยถา เจตฺถ, เอวํ สานุสยวาโร, ปชหนวาโร, ปริฺาวาโร, ปหีนวาโร, อุปฺปชฺชนวาโรติ อิเมสมฺปิ ปฺจนฺนํ วารานํ, เอเกกสฺมึ ยมกคณนา; ยมกทิคุณา ปุจฺฉา, ปุจฺฉาทิคุณา จ อตฺถา เวทิตพฺพา. อยํ ปเนตฺถ ปุริเมสุ ตีสุ วาเรสุ วิเสโส. โอกาสวาเร ‘‘ยตฺถ ตตฺถา’’ติ อวตฺวา ยโต ตโตติ นิสฺสกฺกวจเนน เทสนา กตา. เสสํ ตาทิสเมว.
โย ปนายํ สพฺพปจฺฉิโม ธาตุวาโร นาม, โส ปุจฺฉาวาโร, วิสฺสชฺชนาวาโรติ ทฺวิธา ิโต. ตสฺส ปุจฺฉาวาเร กามธาตุยา จุตสฺส กามธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺสาติ วตฺวา ‘‘กามธาตุํ วา ปน อุปปชฺชนฺตสฺส กามธาตุยา จุตสฺสา’’ติ น วุตฺตํ. กึ การณา? อตฺถวิเสสาภาวโต. ทฺเวปิ หิ เอตา ปุจฺฉา เอกตฺถาเยว, ตสฺมา เอเกกสฺมา ยมกา เอเกกเมว ปุจฺฉํ ปุจฺฉิตฺวา สพฺพปุจฺฉาวสาเน ปุจฺฉานุกฺกเมเนว ‘‘กามธาตุยา ¶ จุตสฺส กามธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺส กสฺสจิ สตฺต อนุสยา อนุเสนฺตี’’ติอาทินา นเยน วิสฺสชฺชนํ กตํ.
ตตฺถ ‘‘กามธาตุยา จุตสฺส กามธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺส, รูปธาตุํ, อรูปธาตุํ, นกามธาตุํ, นรูปธาตุํ นอรูปธาตุํ ¶ , อุปปชฺชนฺตสฺสา’’ติ ฉ สุทฺธิกปุจฺฉา; ‘‘นกามธาตุํ, นอรูปธาตุํ, นรูปธาตุํ; นอรูปธาตุํ, นกามธาตุํ, นรูปธาตุํ, อุปปชฺชนฺตสฺสา’’ติ ติสฺโส มิสฺสกา ปุจฺฉา จาติ กามธาตุมูลกา นว อนุโลมปุจฺฉา โหนฺติ. ตถา รูปธาตุมูลกา นว, อรูปธาตุมูลกา นวาติ สตฺตวีสติ อนุโลมปุจฺฉา โหนฺติ. ตถา นกามธาตุนรูปธาตุนอรูปธาตุมูลกา สตฺตวีสติ ปฏิโลมปุจฺฉา. ปุน ‘‘นกามธาตุยา, นอรูปธาตุยา, นรูปธาตุยา, นอรูปธาตุยา, นกามธาตุยา, นอรูปธาตุยา’’ติ สตฺตวีสติ ทุกมูลกา ปุจฺฉาติ สพฺพาปิ สมฺปิณฺฑิตา เอกาสีติ ปุจฺฉา โหนฺติ. ตาสํ วเสเนตฺถ วิสฺสชฺชนํ กตนฺติ อิทํ ธาตุวาเร ปาฬิววตฺถานํ. เอวํ ตาว สกเลปิ อนุสยยมเก ปาฬิววตฺถานเมตํ เวทิตพฺพํ.
อาทิโต ปฏฺาย ปเนตฺถ ยํ ยํ อนุตฺตานํ, ตตฺถ ตตฺถ อยํ วินิจฺฉยกถา – อนุสยาติ เกนฏฺเน อนุสยา? อนุสยนฏฺเน. โก เอส อนุสยนฏฺโ นามาติ? อปฺปหีนฏฺโ. เอเต หิ อปฺปหีนฏฺเน ตสฺส ตสฺส สนฺตาเน อนุเสนฺติ นาม, ตสฺมา อนุสยาติ วุจฺจนฺติ. อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. อถาปิ สิยา – อนุสยนฏฺโ นาม อปฺปหีนากาโร. อปฺปหีนากาโร จ อุปฺปชฺชตีติ วตฺตุํ น ยุชฺชติ, ตสฺมา น อนุสยา อุปฺปชฺชนฺตีติ ¶ . ตตฺริทํ ปฏิวจนํ – อปฺปหีนากาโร อนุสโย, อนุสโยติ ปน อปฺปหีนฏฺเน ถามคตกิเลโส วุจฺจติ. โส จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ สปฺปจฺจยฏฺเน สเหตุโก เอกนฺตากุสโล อตีโตปิ โหติ อนาคโตปิ ปจฺจุปฺปนฺโนปิ, ตสฺมา อุปฺปชฺชตีติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.
ตตฺริทํ ปมาณํ – อภิธมฺเม ตาว กถาวตฺถุสฺมึ (กถา. ๕๕๔ อาทโย) ‘‘อนุสยา อพฺยากตา, อนุสยา อเหตุกา, อนุสยา จิตฺตวิปฺปยุตฺตา’’ติ สพฺเพ วาทา ปฏิเสธิตา. ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๓.๒๑) ‘‘ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหตี’’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา อนุสยานํ ปจฺจุปฺปนฺนภาวสฺส อตฺถิตาย ‘‘ถามคตานุสยํ ปชหตี’’ติ ¶ วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคเห ปน โมหสฺส ปทภาชเน ‘‘อวิชฺชานุสโย อวิชฺชาปริยุฏฺานํ อวิชฺชาลงฺคี โมโห อกุสลมูลํ, อยํ ตสฺมึ สมเย โมโห โหตี’’ติ ¶ (ธ. ส. ๓๙๐) อกุสลจิตฺเตน สทฺธึ อวิชฺชานุสยสฺส อุปฺปนฺนภาโว วุตฺโต. อิมสฺมึเยว อนุสยยมเก สตฺตนฺนํ มหาวารานํ อฺตรสฺมึ อุปฺปชฺชนวาเร ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ อิมินา ตนฺติปฺปมาเณน สุวุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยมฺปิ ‘‘จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตเมว. อนุสโย หิ นาเมส ปรินิปฺผนฺโน จิตฺตสมฺปยุตฺโต อกุสลธมฺโมติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. กามราคานุสโยติอาทีสุ กามราโค จ โส อปฺปหีนฏฺเน อนุสโย จาติ กามราคานุสโย. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
ปริจฺเฉทปริจฺฉินฺนุทฺเทสวารวณฺณนา.
อุปฺปตฺติฏฺานวารวณฺณนา
๒. อิทานิ เตสํ อุปฺปตฺติฏฺานํ ปกาเสตุํ กตฺถ กามราคานุสโย อนุเสตีติอาทิมาห. ตตฺถ กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสูติ กามาวจรภูมิยํ สุขาย จ อุเปกฺขาย จาติ ทฺวีสุ เวทนาสุ. เอตฺถ กามราคานุสโย อนุเสตีติ อิมาสุ ทฺวีสุ เวทนาสุ อุปฺปชฺชติ. โส ปเนส อกุสลเวทนาสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จาติ ทฺวีหากาเรหิ อนุเสติ. อกุสลาย สุขาย ¶ เวทนาย เจว อุเปกฺขาย เวทนาย จ สหชาโตปิ หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. ตา เวทนา อารมฺมณํ กตฺวาปิ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. อวเสสา ปน กามาวจรกุสลวิปากกิริยเวทนา อารมฺมณเมว กตฺวา อุปฺปชฺชติ. กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุสยมาโน เจส ตาหิ เวทนาหิ สมฺปยุตฺเตสุ สฺาสงฺขารวิฺาเณสุปิ อนุเสติเยว. น หิ สกฺกา เวทนาสุ อนุสยมาเนน ตํสมฺปยุตฺเตหิ สฺาทีหิ สทฺธึ อสหชาเตน วา ภวิตุํ, ตํสมฺปยุตฺเต วา สฺาทโย อารมฺมณํ อกตฺวา อุปฺปชฺชิตุํ. เอวํ สนฺเตปิ ¶ ปน ยสฺมา อิมา ทฺเว เวทนาว สาตสนฺตสุขตฺตา อสฺสาทฏฺเน กามราคานุสยสฺส อุปฺปตฺติยา เสสสมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ปธานา, ตสฺมา ‘‘ทฺวีสุ เวทนาสุ เอตฺถ กามราคานุสโย อนุเสตี’’ติ วุตฺตํ, โอฬาริกวเสน หิ โพธเนยฺเย สุขํ โพเธตุนฺติ.
นนุ เจส อารมฺมณวเสน อนุสยมาโน น เกวลํ ¶ อิมาสุ ทฺวีสุ เวทนาสุ เจว เวทนาสมฺปยุตฺตธมฺเมสุ จ อนุเสติ, อิฏฺเสุ ปน รูปาทีสุปิ อนุเสติเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ วิภงฺคปฺปกรเณ (วิภ. ๘๑๖) ‘‘ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺถ สตฺตานํ กามราคานุสโย อนุเสตี’’ติ อิมสฺมิมฺปิ ปกรเณ อนุสยวารสฺส ปฏิโลมนเย วุตฺตํ. ‘‘ยตฺถ กามราคานุสโย นานุเสติ ตตฺถ ทิฏฺานุสโย นานุเสตีติ ทุกฺขาย เวทนาย รูปธาตุยา อรูปธาตุยา เอตฺถ กามราคานุสโย นานุเสติ, โน จ ตตฺถ ทิฏฺานุสโย นานุเสติ. อปริยาปนฺเน เอตฺถ กามราคานุสโย จ นานุเสติ, ทิฏฺานุสโย จ นานุเสตี’’ติ. เอตฺถ หิ ทุกฺขเวทนาย เจว รูปธาตุอาทีสุ จ นานุเสตีติ วุตฺตตฺตา สสมฺปยุตฺตธมฺมํ ทุกฺขเวทนํ สโอกาเส รูปารูปาวจรธมฺเม นว จ, โลกุตฺตรธมฺเม เปตฺวา อวเสเสสุ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺเพสุ อนุเสตีติ วุตฺตํ โหติ. ตํ อิธ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? อโนฬาริกตฺตา. เหฏฺา วุตฺตนเยน หิ เวทนานฺเว โอฬาริกตฺตา อิเมสํ ปน อโนฬาริกตฺตา เอเตสุ รูปาทีสุ อนุเสตีติ น วุตฺตํ, อตฺถโต ปน ลพฺภติ. ตสฺมา เอเตสุปิ กามราคานุสโย อนุเสติเยวาติ เวทิตพฺโพ. น หิ สตฺถา สพฺพํ สพฺพตฺถ กเถติ. โพธเนยฺยสตฺตานํ ปน วเสน กตฺถจิ ยํ ลพฺภติ, ตํ สพฺพํ กเถติ, กตฺถจิ น กเถติ. ตถา หิ อเนน กตฺถจิ ทิฏฺานุสโย อนุเสตีติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สพฺพสกฺกายปริยาปนฺเนสุ ธมฺเมสุ เอตฺถ ทิฏฺานุสโย อนุเสตี’’ติ ยํ ลพฺภติ ตํ สพฺพํ กถิตํ. อปรสฺมึ าเน วิสฺสชฺชนฺเตน ‘‘รูปธาตุยา อรูปธาตุยา เอตฺถ วิจิกิจฺฉานุสโย จ มานานุสโย จ ทิฏฺานุสโย จ อนุเสนฺติ, กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ เอตฺถ วิจิกิจฺฉานุสโย จ กามราคานุสโย จ มานานุสโย จ ทิฏฺานุสโย จ อนุเสนฺติ, ทุกฺขาย ¶ เวทนาย เอตฺถ วิจิกิจฺฉานุสโย จ ปฏิฆานุสโย จ ทิฏฺานุสโย จ อวิชฺชานุสโย ¶ จ อนุเสนฺตี’’ติ ยํ ลพฺภติ ตํ สพฺพํ อกเถตฺวา รูปธาตุอรูปธาตูหิ สทฺธึ ติสฺโส เวทนาว กถิตา. เวทนาสมฺปยุตฺตา ปน อรูปธมฺมา, สพฺพฺจ รูปํ น ¶ กถิตํ. กิฺจาปิ น กถิตํ, ทิฏฺานุสโย ปเนตฺถ อนุเสติเยว. เอวเมว กิฺจาปิ อิธ รูปาทิอิฏฺารมฺมณํ น กถิตํ, กามราคานุสโย ปเนตฺถ อนุเสติเยวาติ. เอวํ ตาว กามราคานุสยสฺส อนุสยนฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
ปฏิฆานุสยสฺส ปน ‘‘ทุกฺขาย เวทนายา’’ติ วจนโต ทฺเว โทมนสฺสเวทนา กายวิฺาณสมฺปยุตฺตา ทุกฺขเวทนาติ ติสฺโส เวทนา อนุสยนฏฺานํ. โส ปเนส โทมนสฺสเวทนาสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จาติ ทฺวีหากาเรหิ อนุเสติ. อวเสสทุกฺขเวทนาย ปน อารมฺมณวเสเนว อนุเสติ. ตาสุ เวทนาสุ อนุสยมาโน เจส ตาหิ สมฺปยุตฺเตสุ สฺากฺขนฺธาทีสุปิ อนุเสติเยว. ยาย หิ เวทนาย เอส สหชาโต, ตํสมฺปยุตฺเตหิ สฺาทีหิปิ สหชาโตว. ยา จ เวทนา อารมฺมณํ กโรติ, ตาหิ สมฺปยุตฺเต สฺาทโยปิ กโรติเยว. เอวํ สนฺเตปิ ปน ยสฺมา ทุกฺขเวทนาว อสาตทุกฺขเวทยิตตฺตา นิรสฺสาทฏฺเน ปฏิฆานุสยสฺส อุปฺปตฺติยา เสสสมฺปยุตฺตธมฺเมสุ อธิกา; ตสฺมา ‘‘ทุกฺขาย เวทนาย เอตฺถ ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ วุตฺตํ, โอฬาริกวเสน หิ โพธเนยฺเย สุขํ โพเธตุนฺติ.
นนุ เจส อารมฺมณวเสน อนุสยมาโน น เกวลํ ทุกฺขเวทนาย เจว ตํสมฺปยุตฺตธมฺเมสุ จ อนุเสติ, อนิฏฺเสุ ปน รูปาทีสุปิ อนุเสติเยว? วุตฺตมฺปิ เจตํ วิภงฺคปฺปกรเณ (วิภ. ๘๑๖) ‘‘ยํ โลเก อปฺปิยรูปํ อสาตรูปํ, เอตฺถ สตฺตานํ ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ อิมสฺมิมฺปิ ปกรเณ อนุสยวารสฺส ปฏิโลมนเย วุตฺตํ – ‘‘กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ เอตฺถ ปฏิฆานุสโย นานุเสติ, โน จ ตตฺถ กามราคานุสโย นานุเสติ. รูปธาตุยา อรูปธาตุยา อปริยาปนฺเน เอตฺถ ปฏิฆานุสโย จ นานุเสติ, กามราคานุสโย จ นานุเสตี’’ติ. เอตฺถ หิ ทฺวีสุ กามาวจรเวทนาสุ เจว รูปธาตุอาทีสุ จ นานุเสตีติ วุตฺตตฺตา สสมฺปยุตฺตธมฺมา ทฺเว เวทนา สโอกาเส รูปารูปาวจรธมฺเม นว จ, โลกุตฺตรธมฺเม เปตฺวา ¶ อวเสเสสุ รูปาทีสุ อนุเสตีติ วุตฺตํ โหติ ¶ . ตํ อิธ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? อโนฬาริกตฺตา. เหฏฺา วุตฺตนเยน หิ ทุกฺขเวทนาย เอว โอฬาริกตฺตา อิเมสํ ปน อโนฬาริกตฺตา เอเตสุ รูปาทีสุ อนุเสตีติ น วุตฺตํ. อตฺถโต ปน ลพฺภติ, ตสฺมา เอเตสุปิ ปฏิฆานุสโย อนุเสติเยวาติ เวทิตพฺโพ.
กึ ¶ ปน อิตรา ทฺเว เวทนา อิฏฺารมฺมณํ วา ปฏิฆสฺส อารมฺมณํ น โหนฺตีติ? โน น โหนฺติ. ปริหีนชฺฌานสฺส วิปฺปฏิสารวเสน สสมฺปยุตฺตธมฺมา ตา เวทนา อารพฺภ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิฏฺารมฺมณสฺส จ ปฏิลทฺธสฺส วิปริณามํ วา อปฺปฏิลทฺธสฺส อปฺปฏิลาภํ วา สมนุสฺสรโตปิ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. โทมนสฺสมตฺตเมว ปน ตํ โหติ, น ปฏิฆานุสโย. ปฏิฆานุสโย หิ อนิฏฺารมฺมเณ ปฏิหฺนวเสน อุปฺปนฺโน ถามคโต กิเลโส, ตสฺมา เอตฺถ โทมนสฺเสน สทฺธึ ปฏิโฆ อุปฺปนฺโนปิ อตฺตโน ปฏิฆกิจฺจํ อกรณภาเวน เอว ปฏิฆานุสโย น โหติ อพฺโพหาริกตฺตํ คจฺฉติ. ยถา หิ ปาณาติปาตเจตนาย สทฺธึ อุปฺปนฺโนปิ พฺยาปาโท มโนกมฺมํ นาม น โหติ อพฺโพหาริกตฺตํ คจฺฉติ, เอวํ ปฏิฆานุสโย น โหติ, อพฺโพหาริกตฺตํ คจฺฉติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ เอกจฺจํ อิฏฺารมฺมณํ เนกฺขมฺมสิตมฺปิ วา โทมนสฺสํ สนฺธาย ‘‘ยํ เอวรูปํ โทมนสฺสํ ปฏิฆํ เตน ปชหติ น ตตฺถ ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕). เอวํ ปฏิฆานุสยสฺส อนุสยนฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
มานานุสยสฺส ปน ‘‘กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสู’’ติอาทิวจนโต ทฺเว กามาวจรเวทนา รูปารูปธาตุโย จาติ อิทํ ติวิธํ อนุสยนฏฺานํ. ตสฺส อกุสลาสุ เวทนาสุ กามราคานุสยสฺส วิย สหชาตานุสยตา เวทิตพฺพา. สสมฺปยุตฺตธมฺมาสุ ปน สพฺพาสุปิ กามาวจราสุ สุขอทุกฺขมสุขเวทนาสุ รูปารูปธาตูสุ จ อารมฺมณวเสเนว อนุเสติ. อนุสยวารสฺส ปน ปฏิโลมนเย ‘‘ทุกฺขาย เวทนาย อปริยาปนฺเน เอตฺถ กามราคานุสโย จ นานุเสติ, มานานุสโย จ นานุเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา เปตฺวา ทุกฺขเวทนฺเจว นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมฺจ เสสรูปารูปธมฺเมสุปิ ¶ อยํ อนุเสติเยวาติ. เอวํ มานานุสยสฺส อนุสยนฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสยา ¶ ปน เกวลํ โลกุตฺตรธมฺเมสฺเวว นานุเสนฺติ. เตภูมเกสุ ปน สพฺเพสุปิ อนุเสนฺติเยว. เตน วุตฺตํ – ‘‘สพฺพสกฺกายปริยาปนฺเนสุ ธมฺเมสุ เอตฺถ ทิฏฺานุสโย อนุเสติ, เอตฺถ วิจิกิจฺฉานุสโย อนุเสตี’’ติ. ตตฺถ สพฺพสกฺกายปริยาปนฺเนสูติ สํสารวฏฺฏนิสฺสิตฏฺเน สกฺกายปริยาปนฺเนสุ สพฺพธมฺเมสูติ อตฺโถ. ตตฺถ ปเนเต ปฺจสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ สหชาตานุสยนวเสน อนุเสนฺติ. เต วา ปน ปฺจ จิตฺตุปฺปาเท อฺเ วา เตภูมกธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติกาเล อารมฺมณานุสยนวเสน อนุเสนฺตีติ. เอวํ ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสยานํ อนุสยนฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
ภวราคานุสโย ¶ ปน กิฺจาปิ ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุ จตูสุ จิตฺเตสุ อุปฺปชฺชนโต สหชาตานุสยนวเสน ‘‘กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุเสตี’’ติ วตฺตพฺโพ ภเวยฺย. กามธาตุยํ ปเนส ทฺวีหิ เวทนาหิ สทฺธึ อุปฺปชฺชมาโนปิ รูปารูปาวจรธมฺมเมว ปฏิลภติ. กามธาตุยา ปริยาปนฺนํ เอกธมฺมมฺปิ อารมฺมณํ น กโรติ, ตสฺมา อารมฺมณานุสยนวเสน นิยมํ กตฺวา ‘‘รูปธาตุยา อรูปธาตุยา เอตฺถ ภวราคานุสโย อนุเสตี’’ติ วุตฺตํ. อปิจ ราโค นาเมส กามราคภวราควเสน ทุวิโธ. ตตฺถ กามราโค กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุเสตีติ วุตฺโต. สเจ ปน ภวราโคปิ กามราโค วิย เอวํ วุจฺเจยฺย, กามราเคน สทฺธึ เทสนา สํกิณฺณา วิย ภเวยฺยาติ ราคกิเลสํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา กามราคโต ภวราคสฺส วิเสสทสฺสนตฺถมฺปิ เอวํ เทสนา กตาติ. เอวํ ภวราคานุสยสฺส อนุสยนฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
อวิชฺชานุสโย ปน สพฺเพสุปิ เตภูมกธมฺเมสุ อนุเสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺพสกฺกายปริยาปนฺเนสุ ธมฺเมสุ เอตฺถ อวิชฺชานุสโย อนุเสตี’’ติ. ตสฺส ทฺวาทสสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ สหชาตานุสยตา เวทิตพฺพา. อารมฺมณกรณวเสน ปน น กิฺจิ เตภูมกธมฺมํ อารพฺภ น ปวตฺตตีติ. เอวํ อวิชฺชานุสยสฺส อนุสยนฏฺานํ เวทิตพฺพํ. อยํ ¶ ตาว ปริจฺเฉทวารปริจฺฉินฺนุทฺเทสวารอุปฺปตฺติฏฺานวาเรสุ วินิจฺฉยกถา.
อุปฺปตฺติฏฺานวารวณฺณนา.
มหาวาโร
๑. อนุสยวารวณฺณนา
๓. สตฺตนฺนํ ¶ ปน มหาวารานํ ปเม อนุสยวาเร ยสฺส กามราคานุสโย อนุเสติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อนุเสตีติ เอตฺถ ยเทตํ ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิวจนํ ทินฺนํ, ตํ ทุทฺทินฺนํ วิย ขายติ. กสฺมา? กามราคปฏิฆานํ เอกกฺขเณ อนุปฺปตฺติโต. ยถา หิ ‘‘ยสฺส มนายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ธมฺมายตนํ อุปฺปชฺชตีติ ‘อามนฺตา’, อสฺสาสปสฺสาสานํ อุปฺปาทกฺขเณ เตสํ กายสงฺขาโร ¶ จ อุปฺปชฺชติ, วจีสงฺขาโร จ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทีสุ มนายตนธมฺมายตนานิ กายสงฺขารวจีสงฺขารา จ เอกกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺติ, น ตถา กามราคปฏิฆา. กามราโค หิ อฏฺสุ โลภสหคตจิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชติ. ปฏิโฆ ทฺวีสุ โทมนสฺสสหคเตสูติ, นตฺถิ เนสํ เอกกฺขเณ อุปฺปตฺติ; ตสฺมา เอตฺถ ‘โน’ติ ปฏิเสโธ กตฺตพฺโพ สิยา. ตํ อกตฺวา ปน ‘อามนฺตา’ติ ปฏิวจนสฺส ทินฺนตฺตา เหฏฺายมเกสุ วิย เอตฺถ ขณปจฺจุปฺปนฺนวเสน วตฺตมานโวหารํ อคฺคเหตฺวา อฺถา คเหตพฺโพ.
กถํ? อปฺปหีนวเสน. อปฺปหีนตฺหิ สนฺธาย อยํ ‘‘อนุเสตี’’ติ วตฺตมานโวหาโร วุตฺโต, น ขณปจฺจุปฺปนฺนตํ. ยสฺมา จ อปฺปหีนตํ สนฺธาย วุตฺโต, ตสฺมา ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อนุเสติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ ปุจฺฉาย ยสฺส กามราคานุสโย อปฺปหีโน, น อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาทิโต, ตสฺส ปฏิฆานุสโยปิ อปฺปหีโนติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยสฺมา จ เตสุ ยสฺเสโก อปฺปหีโน, ตสฺส อิตโรปิ อปฺปหีโนว โหติ, ตสฺมา ‘‘อามนฺตา’’ติ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ, ยํ อุปริ อุปฺปชฺชนวาเร ‘ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชตี’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘อามนฺตา’ติ วุตฺตํ; ตตฺถ กถํ อตฺโถ คเหตพฺโพติ? ตตฺถาปิ อปฺปหีนวเสเนว อุปฺปตฺติปจฺจเย สติ อุปฺปตฺติยา อนิวาริตวเสน วา. ยถา หิ จิตฺตกมฺมาทีนิ อารภิตฺวา อปรินิฏฺิตกมฺมนฺตา จิตฺตการาทโย เตสํ กมฺมนฺตานํ อกรณกฺขเณปิ มิตฺตสุหชฺชาทีหิ ทิฏฺทิฏฺฏฺาเน ‘‘อิเมสุ ทิวเสสุ กึ กโรถา’’ติ วุตฺตา, ‘‘จิตฺตกมฺมํ กโรม, กฏฺกมฺมํ กโรมา’’ติ วทนฺติ. เต กิฺจาปิ ตสฺมึ ขเณ น กโรนฺติ อวิจฺฉินฺนกมฺมนฺตตฺตา ปน กตขณฺจ กตฺตพฺพขณฺจ อุปาทาย ¶ กโรนฺติเยว นาม โหนฺติ. เอวเมว ยมฺหิ สนฺตาเน อนุสยา อปฺปหีนา, ยมฺหิ วา ปน เนสํ สนฺตาเน อุปฺปตฺติปจฺจเย สติ อุปฺปตฺติ อนิวาริตา, ตตฺถ อนุปฺปชฺชนกฺขเณปิ ¶ อุปฺปนฺนปุพฺพฺเจว กาลนฺตเร อุปฺปชฺชนกฺจ อุปาทาย ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชติเยว นามาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิโต ปเรสุปิ เอวรูเปสุ วิสฺสชฺชเนสุ เอเสว นโย. โน จ ตสฺสาติ อิทํ อนาคามิสฺส กามราคพฺยาปาทานํ อนวเสสโต ปหีนตฺตา วุตฺตํ. ติณฺณํ ปุคฺคลานนฺติ ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามีนํ. ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานนฺติ โสตาปนฺนสกทาคามีนํ. ปรโตปิ เอวรูเปสุ าเนสุ เอเสว นโย.
๑๔. โอกาสวารสฺส ปมทุติยปุจฺฉาสุ ยสฺมา กามราคานุสโย กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ ¶ อนุเสติ, ปฏิฆานุสโย ทุกฺขเวทนาย; ตสฺมา ‘โน’ติ ปฏิเสโธ กโต. ตติยปุจฺฉายํ อุภินฺนมฺปิ กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุสยนโต ‘อามนฺตา’ติ ปฏิวจนํ ทินฺนํ. รูปธาตุอรูปธาตุยา ปน มานานุสยสฺส กามราคานุสเยน สทฺธึ อสาธารณํ อุปฺปตฺติฏฺานํ. ตสฺมา โน จ ตตฺถ กามราคานุสโยติ วุตฺตํ. อิมินา นเยน สพฺเพสํ อุปฺปตฺติฏฺานวารํ โอโลเกตฺวา สาธารณาสาธารณํ อุปฺปตฺติฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
๒๐. ทุกมูลกปุจฺฉายํ ยสฺมา กามราคปฏิฆานุสยา นาปิ เอกสฺมึ าเน อุปฺปชฺชนฺติ, น เอกํ ธมฺมํ อารมฺมณํ กโรนฺติ, ตสฺมา นตฺถีติ ปฏิกฺเขโป กโต. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย. ยสฺมึ อิเม ทฺเว อนุสยา อนุสเยยฺยุํ, ตํ านเมว นตฺถิ. ตสฺมา ‘‘กตฺถ มานานุสโย อนุเสตี’’ติ อยํ ปุจฺฉา อปุจฺฉาเยวาติ. อฺเสุปิ เอวรูเปสุ เอเสว นโย.
๒๗. ปุคฺคโลกาสวาเร จตุนฺนนฺติ ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามีนํ.
๓๖. ปฏิโลมนเย ยสฺส กามราคานุสโย นานุเสตีติ อยํ ปุจฺฉา อนาคามึ คเหตฺวา ปุจฺฉติ.
๕๖. ทฺวินฺนํ ¶ ปุคฺคลานํ สพฺพตฺถ กามราคานุสโย ¶ นานุเสตีติ อนาคามิอรหนฺตานํ. กามธาตุยา ตีสุ เวทนาสูติ จ เวทนาคฺคหเณน เวทนาสมฺปยุตฺตกานมฺปิ เตสํ วตฺถารมฺมณานมฺปีติ สพฺเพสมฺปิ กามาวจรธมฺมานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. อยํ อนุสยวาเร วินิจฺฉยกถา.
อนุสยวารวณฺณนา.
๒. สานุสยวารวณฺณนา
๖๖-๑๓๑. สานุสยวาเร ปน โย กามราคานุสเยน สานุสโยติ ยถา เอกนฺตริกชราทิโรเคน อาพาธิโก ยาว ตมฺหา โรคา น มุจฺจติ, ตาว ตสฺส โรคสฺส อนุปฺปตฺติกฺขเณปิ ¶ สโรโคเยว นาม โหติ. เอวํ สสํกิเลสสฺส วฏฺฏคามิสตฺตสฺส ยาว อริยมคฺเคน อนุสยา สมุคฺฆาตํ น คจฺฉนฺติ, ตาว เตสํ อนุสยานํ อนุปฺปตฺติกฺขเณปิ สานุสโยเยว นาม โหติ. เอวรูปํ สานุสยตํ สนฺธาย ‘อามนฺตา’ติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อนุสยวารสทิสเมว.
โอกาสวาเร ปน ‘‘รูปธาตุยา อรูปธาตุยา เอตฺถ มานานุสเยน สานุสโย’’ติ วุตฺเต ตาสุ ธาตูสุ ปุคฺคลสฺส สานุสยตา ปฺาเยยฺย, อนุสยสฺส อุปฺปตฺติฏฺานํ น ปฺาเยยฺย. อนุสยสฺส จ อุปฺปตฺติฏฺานทสฺสนตฺถํ อยํ วาโร อารทฺโธ, ตสฺมา ตโต มานานุสเยน สานุสโยติ วุตฺตํ. เอวฺหิ สติ ตโต ธาตุทฺวยโต อุปฺปนฺเนน มานานุสเยน สานุสโยติ อนุสยสฺส อุปฺปตฺติฏฺานํ ทสฺสิตํ โหติ. อิมสฺส ปน ปฺหสฺส อตฺเถ อวุตฺเต อาทิปฺหสฺส อตฺโถ ปากโฏ น โหตีติ ปมํ น วุตฺโต, ตสฺมา โส เอวํ เวทิตพฺโพ. ยโต กามราคานุสเยนาติ ยโต อุปฺปนฺเนน กามราคานุสเยน สานุสโย, กึ โส ตโต อุปฺปนฺเนน ปฏิฆานุสเยนปิ สานุสโยติ? ยสฺมา ปเนเต ทฺเว เอกสฺมา านา นุปฺปชฺชนฺติ; ตสฺมา ‘‘โน’’ติ ปฏิเสโธ กโต. อรหา สพฺพตฺถาติ อรหา สพฺพธมฺเมสุ อุปฺปชฺชนเกน เกนจิ อนุสเยน นิรานุสโยติ. อิมินา อตฺถวเสน นิปฺปเทสฏฺาเนสุ ภุมฺมวจนเมว กตนฺติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.
สานุสยวารวณฺณนา.
๓. ปชหนวารวณฺณนา
๑๓๒-๑๙๗. ปชหนวาเร ¶ ¶ ปชหตีติ เตน เตน มคฺเคน ปหานปริฺาวเสน ปชหติ, อายตึ อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาเทติ. อามนฺตาติ อนาคามีมคฺคฏฺํ สนฺธาย ปฏิวจนํ. ตเทกฏฺํ ปชหตีติ ปหาเนกฏฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. โนติ อรหตฺตมคฺคฏฺํ สนฺธาย ปฏิเสโธ.
ยโต กามราคานุสยํ ปชหตีติ ยโต อุปฺปชฺชนกํ กามราคานุสยํ ปชหตีติ อตฺโถ. อฏฺมโกติ อรหตฺตผลฏฺโต ปฏฺาย ปจฺโจโรหนคณนาย คณิยมาโน โสตาปตฺติมคฺคฏฺโ อฏฺมโก ¶ นาม. ทกฺขิเณยฺยคณนาย หิ อรหา อคฺคทกฺขิเณยฺยตฺตา ปโม, อรหตฺตมคฺคฏฺโ ทุติโย, อนาคามี ตติโย…เป… โสตาปตฺติมคฺคฏฺโ อฏฺโม. โส อิธ ‘‘อฏฺมโก’’ติ วุตฺโต. นามสฺาเยว วา เอสา ตสฺสาติ. อนาคามิมคฺคสมงฺคิฺจ อฏฺมกฺจ เปตฺวา อวเสสาติ สทฺธึ ปุถุชฺชเนน เสกฺขาเสกฺขา. เตสุ หิ ปุถุชฺชโน ปหานปริฺาย อภาเวน นปฺปชหติ. เสสา เตสํ อนุสยานํ ปหีนตฺตา. ทฺวินฺนํ มคฺคสมงฺคีนนฺติ ทฺเว มคฺคสมงฺคิโน เปตฺวาติ อตฺโถ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.
ปชหนวารวณฺณนา.
๔. ปริฺาวารวณฺณนา
๑๙๘-๒๖๓. ปริฺาวาเร ปริชานาตีติ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานาติ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. อยมฺปิ หิ วาโร ปชหนวาโร วิย มคฺคฏฺานฺเว วเสน วิสฺสชฺชิโตติ.
ปริฺาวารวณฺณนา.
๕. ปหีนวารวณฺณนา
๒๖๔-๒๗๔. ปหีนวาเร ผลฏฺวเสเนว เทสนา อารทฺธา. อนาคามิสฺส หิ อุโภเปเต อนุสยา ปหีนา, ตสฺมา ‘‘อามนฺตา’’ติ วุตฺตํ.
๒๗๕-๒๙๖. โอกาสวาเร ¶ ยตฺถ กามราคานุสโย ปหีโน ตตฺถ ปฏิฆานุสโย ปหีโนติ ปุจฺฉิตฺวา น วตฺตพฺโพ ปหีโนติ วา อปฺปหีโนติ วาติ วุตฺตํ ตํ กสฺมาติ? อุปฺปตฺติฏฺานสฺส อสาธารณตฺตา. อฺํ หิ กามราคานุสยสฺส ¶ อุปฺปตฺติฏฺานํ, อฺํ ปฏิฆานุสยสฺส. อภาวิตมคฺคสฺส จ ยตฺถ อนุสโย อุปฺปชฺชติ, มคฺเค ภาวิเต ตตฺเถว โส ปหีโน นาม โหติ ¶ . ตตฺถ ยสฺมา เนว กามราคานุสยฏฺาเน ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชติ, น ปฏิฆานุสยฏฺาเน กามราคานุสโย, ตสฺมา ตตฺถ โส ปหีโนติ วา อปฺปหีโนติ วา น วตฺตพฺโพ. โส หิ ยสฺมึ อตฺตโน อุปฺปตฺติฏฺาเน กามราคานุสโย ปหีโน, ตสฺมึ อปฺปหีนตฺตา ตตฺถ ปหีโนติ น วตฺตพฺโพ. ยํ กามราคานุสยสฺส อุปฺปตฺติฏฺานํ, ตสฺมึ อฏฺิตตฺตา ตตฺถ อปฺปหีโนติ น วตฺตพฺโพ.
ยตฺถ กามราคานุสโย ปหีโน, ตตฺถ มานานุสโย ปหีโนติ เอตฺถ ปน สาธารณฏฺานํ สนฺธาย อามนฺตาติ วุตฺตํ. กามราคานุสโย หิ กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุเสติ. มานานุสโย ตาสุ เจว รูปารูปธาตูสุ จ. โส เปตฺวา อสาธารณฏฺานํ สาธารณฏฺาเน เตน สทฺธึ ปหีโน นาม โหติ. ตสฺมา ‘อามนฺตา’ติ วุตฺตํ. อิมินา นเยน สพฺพสฺมิมฺปิ โอกาสวาเร ปหีนตา จ นวตฺตพฺพตา จ เวทิตพฺพา. ‘นตฺถี’ติ อาคตฏฺาเนสุ ปน เหฏฺา วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. ปุคฺคโลกาสวาโร, โอกาสวารคติโกเยว.
๒๙๗-๓๐๗. ปฏิโลมนเย ยสฺส กามราคานุสโย อปฺปหีโนติ ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามิวเสน ปุจฺฉติ. กิฺจาปิ หิ อิเม ทฺเว อนุสยา ปุถุชฺชนโต ปฏฺาย ยาว อนาคามิมคฺคฏฺา ฉนฺนํ ปุคฺคลานํ อปฺปหีนา. อิธ ปน ปรโต ‘‘ติณฺณํ ปุคฺคลานํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลาน’’นฺติอาทิวจนโต มคฺคฏฺา อนธิปฺเปตา, ตสฺมา ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามิโนว สนฺธาย ‘อามนฺตา’ติ วุตฺตํ. ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานนฺติ โสตาปนฺนสกทาคามีนํ. อิมินา นเยน ปุคฺคลวาเร วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
๓๐๘-๓๒๙. โอกาสวารปุคฺคโลกาสวารา ปน เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ.
ปหีนวารวณฺณนา.
๖. อุปฺปชฺชนวารวณฺณนา
๓๓๐. อุปฺปชฺชนวาโร ¶ อนุสยวารสทิโสเยว.
๗. ธาตุปุจฺฉาวารวณฺณนา
๓๓๒-๓๔๐. ธาตุวารสฺส ¶ ปุจฺฉาวาเร ตาว กติ อนุสยา อนุเสนฺตีติ กติ ¶ อนุสยา สนฺตานํ อนุคตา หุตฺวา สยนฺติ. กติ อนุสยา นานุเสนฺตีติ กติ อนุสยา สนฺตานํ น อนุคตา หุตฺวา สยนฺติ. กติ อนุสยา ภงฺคาติ กติ อนุสยา อนุเสนฺติ นานุเสนฺตีติ เอวํ วิภชิตพฺพาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ เหฏฺา ปาฬิววตฺถาเน วุตฺตเมว.
๗. ธาตุวิสฺสชฺชนาวารวณฺณนา
๓๔๑-๓๔๙. นิทฺเทสวาเร ปนสฺส กสฺสจิ สตฺต อนุสยา อนุเสนฺตีติ ปุถุชฺชนวเสน วุตฺตํ. กสฺสจิ ปฺจาติ โสตาปนฺนสกทาคามิวเสน วุตฺตํ. เตสฺหิ ทิฏฺานุสโย จ วิจิกิจฺฉานุสโย จ ปหีนาติ ปฺเจว อนุเสนฺติ. ตตฺถ ยถา อนุสยวาเร ‘‘อนุเสนฺตี’’ติ ปทสฺส อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ คหิโต, เอวมิธ น คเหตพฺโพ. กสฺมา? ตสฺมึ ขเณ อนุปฺปชฺชนโต. กามธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺส หิ วิปากจิตฺตฺเจว กมฺมสมุฏฺานรูปฺจ อุปฺปชฺชติ, อกุสลจิตฺตํ นตฺถิ. อนุสยา จ อกุสลจิตฺตกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺติ, น วิปากจิตฺตกฺขเณติ ตสฺมึ ขเณ อนุปฺปชฺชนโต ตถา อตฺโถ น คเหตพฺโพ. กถํ ปน คเหตพฺโพติ? ยถา ลพฺภติ ตถา คเหตพฺโพ. กถฺจ ลพฺภติ? อปฺปหีนฏฺเน. ยถา หิ ราคโทสโมหานํ อปฺปหีนตฺตา. กุสลาพฺยากตจิตฺตสมงฺคี ปุคฺคโล ‘‘สราโค สโทโส สโมโห’’ติ วุจฺจติ, เอวํ มคฺคภาวนาย อปฺปหีนตฺตา ปฏิสนฺธิกฺขเณปิ ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺส เต เต อนุสยา อนุเสนฺตีติ วุจฺจนฺติ. น เกวลฺจ วุจฺจนฺติ, อปฺปหีนตฺตา ปน เต อนุเสนฺติเยว นามาติ เวทิตพฺพา.
อนุสยา ภงฺคา นตฺถีติ ยสฺส หิ โย อนุเสติ, โส อนุเสติเยว; โย นานุเสติ, โส นานุเสติเยว. อยํ อนุเสติ จ นานุเสติ จ, อยํ สิยา อนุเสติ สิยา นานุเสตีติ, เอวํ วิภชิตพฺโพ อนุสโย นาม นตฺถิ. รูปธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺส กสฺสจิ ตโยติ ¶ อนาคามิวเสน วุตฺตํ. ตสฺส หิ กามราคปฏิฆทิฏฺิวิจิกิจฺฉานุสยา จตฺตาโรปิ อนวเสสโต ปหีนา. อิตเร ตโยว อปฺปหีนา. เตน วุตฺตํ – ‘‘กสฺสจิ ตโย อนุสยา อนุเสนฺตี’’ติ.
น ¶ กามธาตุนฺติ กามธาตุยา ปฏิสิทฺธตฺตา เสสา ทฺเว ธาตุโย อุปปชฺชนฺตสฺสาติ อตฺโถ. สตฺเต ¶ วาติ ยสฺมา อริยสาวกสฺส รูปธาตุยา จุตสฺส กามธาตุยํ อุปปตฺติ นาม นตฺถิ, ปุถุชฺชนสฺเสว โหติ, ตสฺมา สตฺเตวาติ นิยเมตฺวา วุตฺตํ. ‘‘อรูปธาตุยา จุตสฺส กามธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺส สตฺเตวา’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. รูปธาตุยา อุปปตฺติ นตฺถีติ กสฺมา นตฺถิ? อุปปตฺตินิปฺผาทกสฺส รูปาวจรชฺฌานสฺส อภาวา. โส หิ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ตํ ธาตุํ อุปปนฺโนติ นาสฺส ตตฺถ รูปาวจรชฺฌานํ อตฺถิ. ตทภาวา รูปธาตุยํ อุปปตฺติ นตฺถีติ เวทิตพฺพา. อรูปธาตุยา จุตสฺส น กามธาตุนฺติ เอตฺถ อรูปธาตุเยว อธิปฺเปตา. อิมินา นเยน สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
ธาตุวารวณฺณนา.
อนุสยยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.