📜
๒. นิทฺเทสวณฺณนา
๑. เอกกนิทฺเทสวณฺณนา
๑. อิทานิ ¶ ¶ ยถาปิตํ มาติกํ อาทิโต ปฏฺาย วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ – กตโม จ ปุคฺคโล สมยวิมุตฺโตติอาทิมาห. ตตฺถ อิธาติ อิมสฺมึ สตฺตโลเก. เอกจฺโจ ปุคฺคโลติ เอโก ปุคฺคโล. กาเลน กาลนฺติ เอตฺถ ภุมฺมวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอเกกสฺมึ กาเลติ วุตฺตํ โหติ. สมเยน สมยนฺติ อิทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ. อฏฺ วิโมกฺเขติ รูปาวจรารูปาวจรอฏฺสมาปตฺติโย. ตาสฺหิ ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุจฺจนโต วิโมกฺโขติ นามํ. กาเยนาติ วิโมกฺขสหชาเตน นามกาเยน. ผุสิตฺวา วิหรตีติ ปฏิลภิตฺวา อิริยติ. กตมสฺมึ ปเนส กาเล วิโมกฺเข ผุสิตฺวา วิหรตีติ? สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุกามสฺส หิ กาโล นาม อตฺถิ, อกาโล นาม อตฺถิ. ตตฺถ ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนกาโล, วตฺตกรณกาโล จ สมาปชฺชนสฺส อกาโล นาม. สรีรํ ปน ปฏิชคฺคิตฺวา วตฺตํ กตฺวา วสนฏฺานํ ¶ ปวิสิตฺวา นิสินฺนสฺส ยาว ปิณฺฑาย คมนกาโล นาคจฺฉติ, เอตสฺมึ อนฺตเร สมาปชฺชนสฺส กาโล นาม.
ปิณฺฑาย คมนกาลํ ปน สลฺลกฺเขตฺวา นิกฺขนฺตสฺส เจติยวนฺทนกาโล, ภิกฺขุสงฺฆปริวุตสฺส วิตกฺกมาฬเก านกาโล ปิณฺฑาย คมนกาโล คาเม จรณกาโล; อาสนสาลาย ยาคุปานกาโล วตฺตกรณกาโลติ อยมฺปิ สมาปชฺชนสฺส อกาโล นาม. อาสนสาลาย ปน วิวิตฺเต โอกาเส สติ ยาว ภตฺตกาโล นาคจฺฉติ, เอตสฺมิมฺปิ อนฺตเร สมาปชฺชนสฺส กาโล นาม. ภตฺตํ ปน ภฺุชนกาโล, วิหารคมนกาโล, ปตฺตจีวรปฏิสามนกาโล, ทิวาวตฺตกรณกาโล, ปริปุจฺฉาทานกาโลติ อยมฺปิ สมาปชฺชนสฺส อกาโล นาม. โย อกาโล, สฺเวว อสมโย. ตํ สพฺพมฺปิ เปตฺวา อวเสเส กาเล กาเล, สมเย สมเย วุตฺตปฺปกาเร อฏฺ ¶ วิโมกฺเข สหชาตนามกาเยน ปฏิลภิตฺวา วิหรนฺโต, ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล…เป… วิหรตี’’ติ วุจฺจติ.
อปิเจส ¶ สผสฺสเกหิ สหชาตนามธมฺเมหิ สหชาตธมฺเม ผุสติเยว นาม, อุปจาเรน อปฺปนํ ผุสติเยว นาม. ปุริมาย อปฺปนาย อปรํ อปฺปนํ ผุสติเยว. เยน หิ สทฺธึ เย ธมฺมา สหชาตา, เตน เต ปฏิลทฺธา นาม โหนฺติ. ผสฺเสนาปิ ผุฏฺาเยว นาม โหนฺติ. อุปจารมฺปิ อปฺปนาย ปฏิลาภการณเมว, ตถา ปุริมา อปฺปนา อปรอปฺปนาย. ตตฺราสฺส เอวํ สหชาเตหิ สหชาตานํ ผุสนา เวทิตพฺพา – ปมชฺฌานฺหิ วิตกฺกาทีหิ ปฺจงฺคิกํ. ตสฺมึ เปตฺวา ตานิ องฺคานิ เสสา อติเรกปณฺณาสธมฺมา จตฺตาโร ขนฺธา นาม โหนฺติ. เตน นามกาเยน ปมชฺฌานสมาปตฺติวิโมกฺขํ ผุสิตฺวา ปฏิลภิตฺวา วิหรติ. ทุติยํ ฌานํ ปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาหิ ติวงฺคิกํ, ตติยํ สุขจิตฺเตกคฺคตาหิ ทุวงฺคิกํ, จตุตฺถํ อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาหิ ทุวงฺคิกํ, ตถา อากาสานฺจายตนํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนฺจ. ตตฺถ เปตฺวา ตานิ องฺคานิ เสสา อติเรกปณฺณาสธมฺมา จตฺตาโร ขนฺธา นาม โหนฺติ. เตน นามกาเยน เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติวิโมกฺขํ ผุสิตฺวา ปฏิลภิตฺวา วิหรติ.
ปฺาย จสฺส ทิสฺวาติ วิปสฺสนาปฺาย สงฺขารคตํ, มคฺคปฺาย จตุสจฺจธมฺเม ปสฺสิตฺวา. เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตีติ อุปฑฺฒุปฑฺฒา ปมมคฺคาทิวชฺฌา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สมยวิมุตฺโตติ เอตฺถ อฏฺสมาปตฺติลาภี ปุถุชฺชโน เตน ¶ นามกาเยน ผุสิตฺวา วิหรตีติ ¶ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ปาฬิยํ ปน ‘‘เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา’’ติ วุตฺตํ. ปุถุชฺชนสฺส จ ขีณา อาสวา นาม นตฺถิ, ตสฺมา โส น คหิโต. อฏฺสมาปตฺติลาภี ขีณาสโวปิ เตน นามกาเยน ผุสิตฺวา วิหรตีติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ตสฺส ปน อปริกฺขีณาสวา นาม นตฺถิ, ตสฺมา โสปิ น คหิโต. สมยวิมุตฺโตติ ปน ติณฺณํ โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามีนํเยเวตํ นามนฺติ เวทิตพฺพํ.
๒. อสมยวิมุตฺตนิทฺเทเส – ปุริมสทิสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อสมยวิมุตฺโตติ ปเนตฺถ สุกฺขวิปสฺสกขีณาสวสฺเสตํ นามํ. สุกฺขวิปสฺสกา ปน โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโน อฏฺสมาปตฺติลาภิโน จ ขีณาสวา ปุถุชฺชนา จ อิมสฺมึ ทุเก น ลพฺภนฺติ, ทุกมุตฺตกปุคฺคลา ¶ นาม โหนฺติ. ตสฺมา สตฺถา อตฺตโน พุทฺธสุพุทฺธตาย เหฏฺา คหิเต จ อคฺคหิเต จ สงฺกฑฺฒิตฺวา สทฺธึ ปิฏฺิวฏฺฏเกหิ ตนฺตึ อาโรเปนฺโต สพฺเพปิ อริยปุคฺคลาติอาทิมาห. ตตฺถ อริเย วิโมกฺเขติ กิเลเสหิ อารกตฺตา อริเยติ สงฺขํ คเต โลกุตฺตรวิโมกฺเข. อิทํ วุตฺตํ โหติ – พาหิรานฺหิ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ สมาปชฺชนฺตสฺส สมโยปิ อตฺถิ อสมโยปิ. มคฺควิโมกฺเขน วิมุจฺจนสฺส สมโย วา อสมโย วา นตฺถิ. ยสฺส สทฺธา พลวตี, วิปสฺสนา จ อารทฺธา, ตสฺส คจฺฉนฺตสฺส ติฏฺนฺตสฺส นิสีทนฺตสฺส นิปชฺชนฺตสฺส ขาทนฺตสฺส ภฺุชนฺตสฺส มคฺคผลปฏิเวโธ นาม น โหตีติ นตฺถิ. อิติ มคฺควิโมกฺเขน วิมุจฺจนสฺส สมโย วา อสมโย วา นตฺถีติ เหฏฺา คหิเต จ อคฺคหิเต จ สงฺกฑฺฒิตฺวา อิมํ ปิฏฺิวฏฺฏกํ ตนฺตึ อาโรเปสิ ธมฺมราชา. สมาปตฺติลาภี ปุถุชฺชโน อิมายปิ ตนฺติยา อคฺคหิโตว. ภชาปิยมาโน ปน ¶ สมาปตฺติวิกฺขมฺภิตานํ กิเลสานํ วเสน สมยวิมุตฺตภาวํ ภเชยฺย.
๓. กุปฺปธมฺมากุปฺปธมฺมนิทฺเทเสสุ – ยสฺส อธิคโต สมาปตฺติธมฺโม กุปฺปติ นสฺสติ, โส กุปฺปธมฺโม. รูปสหคตานนฺติ รูปนิมิตฺตสงฺขาเตน รูเปน สหคตานํ. เตน สทฺธึ ปวตฺตานํ น วินา รูปารมฺมณานํ จตุนฺนํ รูปาวจรชฺฌานานนฺติ อตฺโถ. อรูปสหคตานนฺติ รูปโต อฺํ, น รูปนฺติ อรูปํ. อรูเปน สหคตานํ เตน สทฺธึ ปวตฺตานํ น วินา อรูปารมฺมณานํ จตุนฺนํ อรูปาวจรชฺฌานานนฺติ อตฺโถ. น นิกามลาภีติ ปฺจหากาเรหิ อจิณฺณวสิตาย อิจฺฉิตากาเรน อลทฺธตฺตา น นิกามลาภี. อปฺปคุณสมาปตฺติโกติ อตฺโถ. น อกิจฺฉลาภีติ กิจฺฉลาภี ทุกฺขลาภี. โย อาคมนมฺหิ กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต อุปจารํ ปาเปนฺโต ¶ อปฺปนํ ปาเปนฺโต จิตฺตมฺชูสํ ลภนฺโต ทุกฺเขน กิจฺเฉน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิลมนฺโต ตํ สมฺปทํ ปาปุณิตุํ สกฺโกติ, โส น อกิจฺฉลาภี นาม. น อกสิรลาภีติ อวิปุลลาภี. สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา อทฺธานํ ผริตุํ น สกฺโกติ. เอกํ ทฺเว จิตฺตวาเร วตฺเตตฺวา สหสาว วุฏฺาตีติ อตฺโถ.
ยตฺถิจฺฉกนฺติ ยสฺมึ โอกาเส สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทิตุํ อิจฺฉติ. ยทิจฺฉกนฺติ กสิณชฺฌานํ วา อานาปานชฺฌานํ วา พฺรหฺมวิหารชฺฌานํ วา อสุภชฺฌานํ ¶ วาติ ยํ ยํ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทิตุํ อิจฺฉติ. ยาวติจฺฉกนฺติ อทฺธานปริจฺเฉเทน ยตฺตกํ กาลํ อิจฺฉติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยตฺถ ยตฺถ ยํ ยํ สมาปตฺตึ ยตฺตกํ อทฺธานํ สมาปชฺชิตุมฺปิ วุฏฺาตุมฺปิ อิจฺฉติ, ตตฺถ ตตฺถ ตํ ตํ สมาปตฺตึ ตตฺตกํ อทฺธานํ สมาปชฺชิตุมฺปิ วุฏฺาตุมฺปิ น สกฺโกติ. จนฺทํ วา สูริยํ วา อุลฺโลเกตฺวา ‘อิมสฺมึ ¶ จนฺเท วา สูริเย วา เอตฺตกํ านํ คเต วุฏฺหิสฺสามี’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ฌานํ สมาปนฺโน ยถาปริจฺเฉเทน วุฏฺาตุํ น สกฺโกติ, อนฺตราว วุฏฺาติ; สมาปตฺติยา อปฺปคุณตายาติ.
ปมาทมาคมฺมาติ ปมาทํ ปฏิจฺจ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวํวิโธ ปุคฺคโล กุปฺปธมฺโมติ วุจฺจติ. อิทํ ปน อฏฺสมาปตฺติลาภิโน ปุถุชฺชนสฺส โสตาปนฺนสฺส สกทาคามิโนติ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ นามํ. เอเตสฺหิ สมาธิปาริพนฺธกา วิปสฺสนาปาริพนฺธกา จ ธมฺมา น สุวิกฺขมฺภิตา, น สุวิกฺขาลิตา, เตน เตสํ สมาปตฺติ นสฺสติ ปริหายติ. สา จ โข เนว สีลเภเทน, นาปตฺติวีติกฺกเมน. น ครุกโมกฺขธมฺโม ปเนส อปฺปมตฺตเกนปิ กิจฺจกรณีเยน วา วตฺตเภทมตฺตเกน วา นสฺสติ.
ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร เถโร สมาปตฺตึ วฬฺเชติ. ตสฺมึ ปิณฺฑาย คามํ ปวิฏฺเ ทารกา ปริเวเณ กีฬิตฺวา ปกฺกมึสุ. เถโร อาคนฺตฺวา ‘ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพ’นฺติ จินฺเตตฺวา อสมฺมชฺชิตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘สมาปตฺตึ อปฺเปสฺสามี’ติ นิสีทิ. โส อปฺเปตุํ อสกฺโกนฺโต, ‘กึ นุ โข อาวรณ’นฺติ สีลํ อาวชฺชนฺโต อปฺปมตฺตกมฺปิ วีติกฺกมํ อทิสฺวา ‘วตฺตเภโท นุ โข อตฺถี’ติ โอโลเกนฺโต ปริเวณสฺส อสมฺมฏฺภาวํ ตฺวา สมฺมชฺชิตฺวา ปวิสิตฺวา นิสีทนฺโต สมาปตฺตึ อปฺเปนฺโตว นิสีทิ.
๔. อกุปฺปธมฺมนิทฺเทโส ¶ วุตฺตปฏิปกฺขวเสเนว เวทิตพฺโพ. อกุปฺปธมฺโมติ อิทํ ปน อฏฺสมาปตฺติลาภิโน อนาคามิสฺส เจว ขีณาสวสฺส จาติ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ นามํ. เตสฺหิ สมาธิปาริพนฺธกา วิปสฺสนาปาริพนฺธกา จ ธมฺมา สุวิกฺขมฺภิตา สุวิกฺขาลิตา; เตน เตสํ ¶ ภสฺสสงฺคณิการามาทิกิจฺเจน วา อฺเน วา เยน เกนจิ อตฺตโน อนุรูเปน ปมาเทน วีตินาเมนฺตานมฺปิ สมาปตฺติ น กุปฺปติ, น นสฺสติ. สุกฺขวิปสฺสกา ปน โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิขีณาสวา อิมสฺมึ ทุเก ¶ น ลพฺภนฺติ; ทุกมุตฺตกปุคฺคลา นาม โหนฺติ. ตสฺมา สตฺถา อตฺตโน พุทฺธสุพุทฺธตาย เหฏฺา คหิเต จ อคฺคหิเต จ สงฺกฑฺฒิตฺวา อิมสฺมิมฺปิ ทุเก สทฺธึ ปิฏฺิวฏฺฏเกหิ ตนฺตึ อาโรเปนฺโต สพฺเพปิ อริยปุคฺคลาติอาทิมาห. อฏฺนฺนฺหิ สมาปตฺตีนํ กุปฺปนํ นสฺสนํ ภเวยฺย, โลกุตฺตรธมฺมสฺส ปน สกึ ปฏิวิทฺธสฺส กุปฺปนํ นสฺสนํ นาม นตฺถิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
๕. ปริหานธมฺมาปริหานธมฺมนิทฺเทสาปิ กุปฺปธมฺมากุปฺปธมฺมนิทฺเทสวเสเนว เวทิตพฺพา. เกวลฺหิ อิธ ปุคฺคลสฺส ปมาทํ ปฏิจฺจ ธมฺมานํ ปริหานมฺปิ อปริหานมฺปิ คหิตนฺติ อิทํ ปริยายเทสนามตฺตเมว นานํ. เสสํ สพฺพตฺถ ตาทิสเมว.
๗. เจตนาภพฺพนิทฺเทเส – เจตนาภพฺโพติ เจตนาย อปริหานึ อาปชฺชิตุํ ภพฺโพ. สเจ อนุสฺเจเตตีติ, สเจ สมาปชฺชติ. สมาปตฺติฺหิ สมาปชฺชนฺโต อนุสฺเจเตติ นาม. โส น ปริหายติ, อิตโร ปริหายติ.
๘. อนุรกฺขณาภพฺพนิทฺเทเส – อนุรกฺขณาภพฺโพติ อนุรกฺขณาย อปริหานึ อาปชฺชิตุํ ภพฺโพ. สเจ อนุรกฺขตีติ สเจ อนุปการธมฺเม ปหาย อุปการธมฺเม เสวนฺโต สมาปชฺชติ. เอวฺหิ ปฏิปชฺชนฺโต อนุรกฺขติ นาม. โส น ปริหายติ, อิตโร ปริหายติ.
อิเม ทฺเวปิ สมาปตฺตึ เปตุํ ถาวรํ กาตุํ ปฏิพลา. เจตนาภพฺพโต ปน อนุรกฺขณาภพฺโพว พลวตโร. เจตนาภพฺโพ หิ อุปการานุปกาเร ธมฺเม น ชานาติ. อชานนฺโต อุปการธมฺเม นุทติ นีหรติ, อนุปการธมฺเม เสวติ. โส เต เสวนฺโต สมาปตฺติโต ปริหายติ ¶ . อนุรกฺขณาภพฺโพ อุปการานุปกาเร ธมฺเม ชานาติ. ชานนฺโต อนุปการธมฺเม ¶ นุทติ นีหรติ, อุปการธมฺเม เสวติ. โส เต เสวนฺโต สมาปตฺติโต น ปริหายติ.
ยถา หิ ทฺเว เขตฺตปาลา เอโก ปณฺฑุโรเคน สโรโค อกฺขโม สีตาทีนํ, เอโก อโรโค สีตาทีนํ สโห. สโรโค เหฏฺากุฏึ น โอตรติ, รตฺตารกฺขํ ทิวารกฺขํ วิชหติ. ตสฺส ทิวา สุกโมราทโย เขตฺตํ โอตริตฺวา สาลิสีสํ ขาทนฺติ, รตฺตึ มิคสูกราทโย ปวิสิตฺวา ขลํ ¶ ตจฺฉิ ตํ วิย เฉตฺวา คจฺฉนฺติ. โส อตฺตโน ปมตฺตการณา ปุน พีชมตฺตมฺปิ น ลภติ. อิตโร รตฺตารกฺขํ ทิวารกฺขํ น วิชหติ. โส อตฺตโน อปฺปมตฺตการณา เอกกรีสโต จตฺตาริปิ อฏฺปิ สกฏานิ ลภติ.
ตตฺถ สโรคเขตฺตปาโล วิย เจตนาภพฺโพ, อโรโค วิย อนุรกฺขณาภพฺโพ ทฏฺพฺโพ. สโรคสฺส อตฺตโน ปมาเทน ปุน พีชมตฺตสฺสปิ อลภนํ วิย เจตนาภพฺพสฺส อุปการานุปกาเร ธมฺเม อชานิตฺวา อุปกาเร ปหาย อนุปกาเร เสวนฺตสฺส สมาปตฺติยา ปริหานํ. อิตรสฺส อตฺตโน อปฺปมาเทน เอกกรีสมตฺตโต จตุอฏฺสกฏอุทฺธรณํ วิย อนุรกฺขณาภพฺพสฺส อุปการานุปกาเร ธมฺเม ชานิตฺวา อนุปกาเร ปหาย อุปกาเร เสวนฺตสฺส สมาปตฺติยา อปริหานํ เวทิตพฺพํ. เอวํ เจตนาภพฺพโต อนุรกฺขณาภพฺโพว สมาปตฺตึ ถาวรํ กาตุํ พลวตโรติ เวทิตพฺโพ.
๙. ปุถุชฺชนนิทฺเทเส – ตีณิ สํโยชนานีติ ทิฏฺิสํโยชนสีลพฺพตปรามาสสํโยชนวิจิกิจฺฉาสํโยชนานิ. เอตานิ หิ ผลกฺขเณ ปหีนานิ นาม โหนฺติ. อยํ ปน ผลกฺขเณปิ น โหตีติ ทสฺเสติ. เตสํ ธมฺมานนฺติ เตสํ สํโยชนธมฺมานํ. มคฺคกฺขณสฺมิฺหิ เตสํ ปหานาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ. อยํ ปน มคฺคกฺขเณปิ น โหติ. เอตฺตาวตา วิสฺสฏฺกมฺมฏฺาโน ถูลพาลปุถุชฺชโนว อิธ กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
๑๐. โคตฺรภุนิทฺเทเส ¶ – เยสํ ธมฺมานนฺติ เยสํ โคตฺรภุาเณน สทฺธึ อุปฺปนฺนานํ ปโรปณฺณาสกุสลธมฺมานํ. อริยธมฺมสฺสาติ โลกุตฺตรมคฺคสฺส. อวกฺกนฺติ โหตีติ โอกฺกนฺติ นิพฺพตฺติ ปาตุภาโว โหติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ นิพฺพานารมฺมเณน าเณน สพฺพํ ปุถุชฺชนสงฺขํ ปุถุชฺชนโคตฺตํ ¶ ปุถุชฺชนมณฺฑลํ ปุถุชฺชนปฺตฺตึ อติกฺกมิตฺวา อริยสงฺขํ อริยโคตฺตํ อริยมณฺฑลํ อริยปฺตฺตึ โอกฺกมนโต โคตฺรภูปุคฺคโล นาม วุจฺจติ.
๑๑. ภยูปรตนิทฺเทเส – ภเยน อุปรโตติ ภยูปรโต. สตฺตปิ เสกฺขา ปุถุชฺชนา จ ภายิตฺวา ปาปโต โอรมนฺติ ปาปํ น กโรนฺติ ¶ . ตตฺถ ปุถุชฺชนา ทุคฺคติภยํ, วฏฺฏภยํ, กิเลสภยํ, อุปวาทภยนฺติ จตฺตาริ ภยานิ ภายนฺติ. เตสุ ภายิตพฺพฏฺเน ทุคฺคติเยว ภยํ ทุคฺคติภยํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ปุถุชฺชโน ‘สเจ ตฺวํ ปาปํ กริสฺสสิ, จตฺตาโร อปายา มุขํ วิวริตฺวา ิตจฺฉาตอชครสทิสา, เตสุ ทุกฺขํ อนุภวนฺโต กถํ ภวิสฺสสี’ติ ทุคฺคติภยํ ภายิตฺวา ปาปํ น กโรติ. อนมตคฺคสํสารวฏฺฏํเยว ปน วฏฺฏภยํ นาม. สพฺพมฺปิ อกุสลํ กิเลสภยํ นาม. ครหา ปน อุปวาทภยํ นาม. ตานิปิ ภายิตฺวา ปุถุชฺชโน ปาปํ น กโรติ. โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโน ปน ตโย เสกฺขา ทุคฺคตึ อตีตตฺตา เสสานิ ตีณิ ภยานิ ภายิตฺวา ปาปํ น กโรนฺติ. มคฺคฏฺกเสกฺขา อาคมนวเสน วา อสมุจฺฉินฺนภยตฺตา วา ภยูปรตา นาม โหนฺติ. ขีณาสโว อิเมสุ จตูสุ ภเยสุ เอกมฺปิ น ภายติ. โส หิ สพฺพโส สมุจฺฉินฺนภโย; ตสฺมา อภยูปรโตติ วุจฺจติ. กึ ปน โส อุปวาทมฺปิ น ภายตีติ? น ภายติ. อุปวาทํ ปน รกฺขตีติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. โทณุปฺปลวาปิคาเม ขีณาสวตฺเถโร วิย.
๑๒. อภพฺพาคมนนิทฺเทเส ¶ – สมฺมตฺตนิยามาคมนสฺส อภพฺโพติ อภพฺพาคมโน. กมฺมาวรเณนาติ ปฺจวิเธน อานนฺตริยกมฺเมน. กิเลสาวรเณนาติ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิยา. วิปากาวรเณนาติ อเหตุกทุเหตุกปฏิสนฺธิยา. อสฺสทฺธาติ พุทฺธธมฺมสงฺเฆสุ สทฺธารหิตา. อจฺฉนฺทิกาติ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺทรหิตา. เต เปตฺวา ชมฺพุทีปํ อิตรทีปตฺตยวาสิโน เวทิตพฺพา. เตสุ หิ มนุสฺสา อจฺฉนฺทิกภาวํ ปวิฏฺา นาม. ทุปฺปฺาติ ภวงฺคปฺารหิตา. อภพฺพาติ อปฺปฏิลทฺธมคฺคผลูปนิสฺสยา. นิยามนฺติ มคฺคนิยามํ, สมฺมตฺตนิยามํ. โอกฺกมิตุนฺติ เอตํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตสงฺขาตํ นิยามํ โอกฺกมิตุํ ปวิสิตุํ ตตฺถ ปติฏฺาตุํ อภพฺพา.
๑๓. ภพฺพาคมนนิทฺเทโส วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. เอวมิมสฺมึ ทุเก เย จ ปุคฺคลา ปฺจานนฺตริยกา, เย จ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิกา, เยหิ จ อเหตุกทุเหตุกปฏิสนฺธิ คหิตา ¶ , เย จ พุทฺธาทีนํ น สทฺทหนฺติ, เยสฺจ กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท นตฺถิ, เย จ อปริปุณฺณภวงฺคปฺา, เยสฺจ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย นตฺถิ, เต สพฺเพปิ สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิตุํ อภพฺพา, วิปรีตา ภพฺพาติ วุตฺตา.
๑๔. นิยตานิยตนิทฺเทเส ¶ – อานนฺตริกาติ อานฺตริกกมฺมสมงฺคิโน. มิจฺฉาทิฏฺิกาติ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิสมงฺคิโน. สพฺเพปิ เหเต นิรยสฺส อตฺถาย นิยตตฺตา นิยตา นาม. อฏฺ ปน อริยปุคฺคลา สมฺมาภาวาย อุปรูปริมคฺคผลตฺถาย เจว อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถาย จ นิยตตฺตา นิยตา นาม. อวเสสปุคฺคลา ปน อนิพทฺธคติกา. ยถา อากาเส ขิตฺตทณฺโฑ ปถวิยํ ปตนฺโต ‘อคฺเคน วา มชฺเฌน วา มูเลน วา ปติสฺสตี’ติ น ายติ; เอวเมว ‘อสุกคติยา นาม นิพฺพตฺติสฺสนฺตี’ติ นิยมาภาวา อนิยตา นามาติ เวทิตพฺพา. ยา ปน อุตฺตรกุรุกานํ นิยตคติกตา ¶ วุตฺตา, น สา นิยตธมฺมวเสน. มิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยตธมฺมาเยว หิ นิยตา นาม. เตสฺจ วเสนายํ ปุคฺคลนิยโม กถิโตติ.
๑๕. ปฏิปนฺนกนิทฺเทเส – มคฺคสมงฺคิโนติ มคฺคฏฺกปุคฺคลา. เต หิ ผลตฺถาย ปฏิปนฺนตฺตา ปฏิปนฺนกา นาม. ผลสมงฺคิโนติ ผลปฏิลาภสมงฺคิตาย ผลสมงฺคิโน. ผลปฏิลาภโต ปฏฺาย หิ เต ผลสมาปตฺตึ อสมาปนฺนาปิ ผเล ิตาเยว นาม.
๑๖. สมสีสีนิทฺเทเส – อปุพฺพํ อจริมนฺติ อปุเร อปจฺฉา, เอกปฺปหาเรเนวาติ อตฺโถ. ปริยาทานนฺติ ปริกฺขโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ปุคฺคโล สมสีสี นาม วุจฺจติ. โส ปเนส ติวิโธ โหติ – อิริยาปถสมสีสี, โรคสมสีสี, ชีวิตสมสีสีติ. ตตฺถ โย จงฺกมนฺโตว วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา จงฺกมนฺโตว ปรินิพฺพาติ ปทุมตฺเถโร วิย; ิตโกว วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ิตโกว ปรินิพฺพาติ โกฏปพฺพตวิหารวาสีติสฺสตฺเถโร วิย; นิสินฺโนว วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา นิสินฺโนว ปรินิพฺพาติ, นิปนฺโนว วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา นิปนฺโนว ปรินิพฺพาติ – อยํ อิริยาปถสมสีสี นาม.
โย ปน เอกํ โรคํ ปตฺวา อนฺโตโรเคเยว วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนว โรเคน ปรินิพฺพาติ – อยํ โรคสมสีสี นาม.
กตโร ¶ ¶ ชีวิตสมสีสี นาม? ‘‘สีสนฺติ เตรส สีสานิ – ปลิโพธสีสฺจ ตณฺหา, วินิพนฺธนสีสฺจ มาโน, ปรามาสสีสฺจ ทิฏฺิ, วิกฺเขปสีสฺจ อุทฺธจฺจํ, สํกิเลสสีสฺจ อวิชฺชา, อธิโมกฺขสีสฺจ สทฺธา, ปคฺคหสีสฺจ วีริยํ, อุปฏฺานสีสฺจ สติ, อวิกฺเขปสีสฺจ สมาธิ, ทสฺสนสีสฺจ ปฺา, ปวตฺตสีสฺจ ชีวิตินฺทฺริยํ, โคจรสีสฺจ วิโมกฺโข, สงฺขารสีสฺจ นิโรโธ’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๘๗). ตตฺถ กิเลสสีสํ อวิชฺชํ อรหตฺตมคฺโค ปริยาทิยติ. ปวตฺตสีสํ ชีวิตินฺทฺริยํ จุติจิตฺตํ ปริยาทิยติ. อวิชฺชาปริยาทายกํ ¶ จิตฺตํ ชีวิตินฺทฺริยํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ. ชีวิตินฺทฺริยปริยาทายกํ จิตฺตํ อวิชฺชํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ. อวิชฺชาปริยาทายกํ จิตฺตํ อฺํ, ชีวิตินฺทฺริยปริยาทายกํ จิตฺตํ อฺํ. ยสฺส เจตํ สีสทฺวยํ สมํ ปริยาทานํ คจฺฉติ, โส ชีวิตสมสีสี นาม.
กถมิทํ สมํ โหตีติ? วารสมตาย. ยสฺมิฺหิ วาเร มคฺควุฏฺานํ โหติ – โสตาปตฺติมคฺเค ปฺจ ปจฺจเวกฺขณานิ, สกทาคามิมคฺเค ปฺจ, อนาคามิมคฺเค ปฺจ, อรหตฺตมคฺเค จตฺตารีติ เอกูนวีสติยา ปจฺจเวกฺขณาเณ ปติฏฺาย ภวงฺคํ โอตริตฺวา ปรินิพฺพายติ. อิมาย วารสมตาย อิทํ อุภยสีสปริยาทานํ สมํ โหติ นาม. เตนายํ ปุคฺคโล ชีวิตสมสีสีติ วุจฺจติ. อยเมว จ อิธ อธิปฺเปโต.
๑๗. ิตกปฺปีนิทฺเทเส – ิโต กปฺโปติ ิตกปฺโป, ิตกปฺโป อสฺส อตฺถีติ ิตกปฺปี. กปฺปํ เปตุํ สมตฺโถติ อตฺโถ. อุฑฺฑยฺหนเวลา อสฺสาติ ฌายนกาโล ภเวยฺย. เนว ตาวาติ ยาว เอส มคฺคสมงฺคี ปุคฺคโล โสตาปตฺติผลํ น สจฺฉิกโรติ, เนว ตาว กปฺโป ฌาเยยฺย. ฌายมาโนปิ อชฺฌายิตฺวาว ติฏฺเยฺย. กปฺปวินาโส หิ นาม มหาวิกาโร มหาปโยโค โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬสฺส ฌายนวเสน มหาโลกวินาโส. อยมฺปิ เอวํ มหาวินาโส ติฏฺเยฺย วาติ วทติ. สาสเน ปน ธรมาเน อยํ กปฺปวินาโส นาม นตฺถิ. กปฺปวินาเส สาสนํ นตฺถิ. คตโกฏิเก หิ กาเล กปฺปวินาโส นาม โหติ. เอวํ สนฺเตปิ สตฺถา อนฺตรายาภาวํ ทีเปตุํ อิทํ การณํ อาหริ – ‘‘อิทมฺปิ ภเวยฺย, มคฺคสมงฺคิโน ปน ผลสฺส อนฺตราโย น สกฺกา กาตุ’’นฺติ. อยํ ปน ปุคฺคโล กปฺปํ เปนฺโต กิตฺตกํ กาลํ เปยฺยาติ? ยสฺมึ ¶ วาเร มคฺควุฏฺานํ โหติ, อถ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏนฺตํ มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ. ตโต ตีณิ อนุโลมานิ, เอกํ โคตฺรภุจิตฺตํ, เอกํ มคฺคจิตฺตํ, ทฺเว ผลจิตฺตานิ, ปฺจ ¶ ปจฺจเวกฺขณาณานีติ ¶ เอตฺตกํ กาลํ เปยฺย. อิมํ ปนตฺถํ พาหิราย อาคนฺตุกูปมายปิ เอวํ ทีปยึสุ. สเจ หิ โสตาปตฺติมคฺคสมงฺคิสฺส มตฺถกูปริ โยชนิกํ เอกคฺฆนเสลํ ติวฏฺฏาย รชฺชุยา พนฺธิตฺวา โอลมฺเพยฺย, เอกสฺมึ วฏฺเฏ ฉินฺเน ทฺวีหิ โอลมฺเพยฺย, ทฺวีสุ ฉินฺเนสุ เอเกน โอลมฺเพยฺเยว, ตสฺมิมฺปิ ฉินฺเน อพฺภกูฏํ วิย อากาเส ติฏฺเยฺย, น ตฺเวว ตสฺส ปุคฺคลสฺส มคฺคานนฺตรผลสฺส อนฺตรายํ กเรยฺยาติ. อยํ ปน ทีปนา ปริตฺตา, ปุริมาว มหนฺตา. น เกวลํ ปน โสตาปตฺติมคฺคฏฺโว กปฺปํ เปติ, อิตเร มคฺคสมงฺคิโนปิ เปนฺติเยว. เตน ภควา เหฏฺา คหิตฺจ อคฺคหิตฺจ สพฺพํ สงฺกฑฺฒิตฺวา สทฺธึ ปิฏฺิวฏฺฏกปุคฺคเลหิ อิมํ ตนฺตึ อาโรเปสิ – ‘‘สพฺเพปิ มคฺคสมงฺคิโน ปุคฺคลา ิตกปฺปิโน’’ติ.
๑๘. อริยนิทฺเทเส – กิเลเสหิ อารกตฺตา อริยา. สเทวเกน โลเกน อรณียตฺตา อริยา. อริยฏฺโ นาม ปริสุทฺธฏฺโติ ปริสุทฺธตฺตาปิ อริยา. เสสา อปริสุทฺธตาย อนริยา.
๑๙. เสกฺขนิทฺเทเส – มคฺคสมงฺคิโน มคฺคกฺขเณ, ผลสมงฺคิโน จ ผลกฺขเณ, อธิสีลสิกฺขาทิกา ติสฺโสปิ สิกฺขา สิกฺขนฺติเยวาติ เสกฺขา. อรหตา ปน อรหตฺตผลกฺขเณ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขิตา. ปุน ตสฺส สิกฺขนกิจฺจํ นตฺถีติ อเสกฺขา. อิติ สตฺต อริยา สิกฺขนฺตีติ เสกฺขา. ขีณาสวา อฺสฺส สนฺติเก สีลาทีนํ สิกฺขิตตฺตา สิกฺขิตอเสกฺขา นาม. พุทฺธปจฺเจกพุทฺธา สยมฺภูตตาย อสิกฺขิตอเสกฺขา นาม. เสสปุคฺคลา เนว สิกฺขนฺติ น สิกฺขิตาติ เนวเสกฺขานาเสกฺขา.
๒๐. เตวิชฺชนิทฺเทเส – ปมํ ปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุาณานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ปจฺฉา อรหตฺตํ ปตฺโตปิ, ปมํ อรหตฺตํ ¶ ปตฺวา ปจฺฉา ปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุาณนิพฺพตฺตโกปิ เตวิชฺโชเยว นาม. สุตฺตนฺตกถา ปน ปริยายเทสนา อภิธมฺมกถา นิปฺปริยายเทสนาติ อิมสฺมึ าเน อาคมนียเมว ธุรํ. ตสฺมา ปมํ ทฺเว วิชฺชา นิพฺพตฺเตตฺวา ปจฺฉา อรหตฺตํ ปตฺโตว อิธ อธิปฺเปโต. ฉฬภิฺเปิ เอเสว นโย.
๒๒. สมฺมาสมฺพุทฺธนิทฺเทเส ¶ – ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสูติ ปจฺฉิมภเว สจฺจปฺปฏิเวธโต ปุพฺเพ อฺสฺส ¶ กสฺสจิ สนฺติเก อสฺสุตปุพฺเพสุ. ตโต ปุริมปุริเมสุ ปน ภเวสุ สพฺพฺุโพธิสตฺตา พุทฺธสาสเน ปพฺพชิตฺวา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา คตปจฺจาคตวตฺตํ อารุยฺห กมฺมฏฺานํ อนุโลมํ โคตฺรภุํ อาหจฺจ เปนฺติ. ตสฺมา ปจฺฉิมภวสฺมึเยว อนาจริยกภาวํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตทา หิ ตถาคโต ปูริตปารมิตฺตา อฺสฺส สนฺติเก สามํ อนนุสฺสุเตสุ สงฺขตาสงฺขตธมฺเมสุ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ…เป… อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ อตฺตปจฺจกฺเขน าเณน จตฺตาริ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌติ.
ตตฺถ จาติ ตสฺมิฺจ จตุสจฺจสมฺโพธิสงฺขาเต อรหตฺตมคฺเค. สพฺพฺุตํ ปาปุณาติ พเลสุ จ วสีภาวนฺติ สพฺพฺุตฺาณฺเจว พเลสุ จ จิณฺณวสีภาวํ ปาปุณาติ. พุทฺธานฺหิ สพฺพฺุตฺาณสฺส เจว ทสพลาณสฺส จ อธิคมนโต ปฏฺาย อฺํ กาตพฺพํ นาม นตฺถิ. ยถา ปน อุภโตสุชาตสฺส ขตฺติยกุมารสฺส อภิเสกปฺปตฺติโต ปฏฺาย ‘อิทํ นาม อิสฺสริยํ อนาคต’นฺติ น วตฺตพฺพํ, สพฺพํ อาคตเมว โหติ. เอวเมว พุทฺธานํ อรหตฺตมคฺคสฺส อาคมนโต ปฏฺาย ‘อยํ นาม คุโณ น อาคโต, น ปฏิวิทฺโธ, น ปจฺจกฺโข’ติ น วตฺตพฺโพ, สพฺเพปิ สพฺพฺุคุณา อาคตา ปฏิวิทฺธา ปจฺจกฺขกตาว โหนฺติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวํ ปารมีปูรณสิทฺธานุภาเวน อริยมคฺเคน ปฏิวิทฺธสพฺพฺุคุโณ ปุคฺคโล สมฺมาสมฺพุทฺโธติ วุจฺจติ.
๒๓. ปจฺเจกพุทฺธนิทฺเทเสปิ ¶ – ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสูติ ปเท ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปจฺเจกพุทฺโธปิ หิ ปจฺฉิมภเว อนาจริยโก อตฺตุกฺกํสิกาเณเนว ปฏิวิทฺธสจฺโจ สพฺพฺุตฺาณฺเจว พเลสุ จ จิณฺณวสีภาวํ น ปาปุณาติ.
๒๔. อุภโตภาควิมุตฺตนิทฺเทเส – อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรตีติ อฏฺ สมาปตฺติโย สหชาตนามกาเยน ปฏิลภิตฺวา วิหรติ. ปฺาย จสฺส ทิสฺวาติ วิปสฺสนาปฺาย สงฺขารคตํ, มคฺคปฺาย จตฺตาริ สจฺจานิ ปสฺสิตฺวา จตฺตาโรปิ อาสวา ขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจตีติ ¶ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต นามาติ วุจฺจติ. อยฺหิ ทฺวีหิ ภาเคหิ ทฺเว วาเร วิมุตฺโตติ อุภโตภาควิมุตฺโต. ตตฺรายํ เถรวาโท – ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ตาว อาห – ‘‘สมาปตฺติยา วิกฺขมฺภนวิโมกฺเขน, มคฺเคน สมุจฺเฉทวิโมกฺเขน ¶ วิมุตฺโตติ อุภโตภาเคหิ ทฺเว วาเร วิมุตฺโต’’ติ. ติปิฏกมหาธมฺมรกฺขิตตฺเถโร ‘‘นามนิสฺสิตโก เอโส’’ติ วตฺวา –
‘‘อจฺจี ยถา วาตเวเคน ขิตฺตา, (อุปสีวาติ ภควา;)
อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ;
เอวํ มุนี นามกายา วิมุตฺโต,
อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺข’’นฺติ. (สุ. นิ. ๑๐๘๐);
วตฺวา สุตฺตํ อาหริตฺวา ‘‘นามกายโต จ รูปกายโต จ สุวิมุตฺตตฺตา อุภโตภาควิมุตฺโต’’ติ อาห. ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ปนาห – ‘‘สมาปตฺติยา วิกฺขมฺภนวิโมกฺเขน เอกวารํ วิมุตฺโต มคฺเคน สมุจฺเฉทวิโมกฺเขน เอกวารํ วิมุตฺโตติ อุภโตภาควิมุตฺโต’’ติ. อิเม ปน ตโยปิ เถรา ปณฺฑิตา, ‘ติณฺณมฺปิ วาเท การณํ ทิสฺสตี’ติ ติณฺณมฺปิ ¶ วาทํ ตนฺตึ กตฺวา ปยึสุ.
สงฺเขปโต ปน อรูปสมาปตฺติยา รูปกายโต วิมุตฺโต, มคฺเคน นามกายโต วิมุตฺโตติ อุโภหิ ภาเคหิ วิมุตฺตตฺตา อุภโตภาควิมุตฺโต. โส จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนํ เอเกกโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตานํ จตุนฺนํ, นิโรธา วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตสฺส อนาคามิโน จ วเสน ปฺจวิโธ โหติ. ตตฺถ ปุริมา จตฺตาโร สมาปตฺติสีสํ นิโรธํ น สมาปชฺชนฺตีติ ปริยาเยน อุภโตภาควิมุตฺตา นาม. อฏฺสมาปตฺติลาภี อนาคามี ตํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโตติ นิปฺปริยาเยน อุภโตภาควิมุตฺตเสฏฺโ นาม. นนุ จ อรูปาวจรชฺฌานมฺปิ อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาหิ ทุวงฺคิกํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานมฺปิ, ตสฺมา ตมฺปิ ปทฏฺานํ กตฺวา อรหตฺตํ ปตฺเตน อุภโตภาควิมุตฺเตน ภวิตพฺพนฺติ? น ภวิตพฺพํ. กสฺมา? รูปกายโต อวิมุตฺตตฺตา. ตฺหิ กิเลสกายโตว วิมุตฺตํ, น รูปกายโต; ตสฺมา ตโต วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต นาม น โหติ ¶ . อรูปาวจรํ ปน นามกายโต จ วิมุตฺตํ รูปกายโต จาติ ตเทว ปาทกํ กตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ.
๒๕. ปฺาวิมุตฺตนิทฺเทเส – ปฺาย วิมุตฺโตติ ปฺาวิมุตฺโต. โส สุกฺขวิปสฺสโก จตูหิ ¶ ฌาเนหิ วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตา จตฺตาโร จาติ ปฺจวิโธ โหติ. เอเตสุ หิ เอโกปิ อฏฺวิโมกฺขลาภี น โหติ. เตเนว น เหว โข อฏฺ วิโมกฺเขติอาทิมาห. อรูปาวจรชฺฌาเนสุ ปน เอกสฺมึ สติ อุภโตภาควิมุตฺโตเยว นาม โหตีติ.
๒๖. กายสกฺขินิทฺเทเส – เอกจฺเจ อาสวาติ เหฏฺิมมคฺคตฺตยวชฺฌา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล กายสกฺขีติ วุจฺจติ. โส หิ ผุฏฺนฺตํ สจฺฉิกโรตีติ กายสกฺขี. ฌานผสฺสํ ปมํ ผุสติ, ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติปิ กายสกฺขี. โส โสตาปตฺติผลฏฺํ อาทึ กตฺวา ยาว อรหตฺตมคฺคฏฺา ฉพฺพิโธ โหติ.
๒๗. ทิฏฺิปฺปตฺตนิทฺเทเส ¶ – อิทํ ทุกฺขนฺติ อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต อุทฺธํ ทุกฺขํ. ทุกฺขสมุทยาทีสุปิ เอเสว นโย. ยถาภูตํ ปชานาตีติ เปตฺวา ตณฺหํ ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ ‘ทุกฺขสจฺจ’นฺติ ยาถาวสรสโต ปชานาติ. ตณฺหา ปน ทุกฺขํ ชเนติ นิพฺพตฺเตติ, ปภาเวติ, ตโต ตํ ทุกฺขํ สมุเทติ; ตสฺมา นํ อยํ ‘ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยสฺมา ปน อิทํ ทุกฺขฺจ สมุทโย จ นิพฺพานํ ปตฺวา นิรุชฺฌนฺติ วูปสมฺมนฺติ อปฺปวตฺตึ คจฺฉนฺติ; ตสฺมา นํ ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อริโย ปน อฏฺงฺคิโก มคฺโค, ตํ ทุกฺขนิโรธํ คจฺฉติ; เตน ตํ ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอตฺตาวตา นานากฺขเณ สจฺจววตฺถานํ ทสฺสิตํ. อิทานิ เอกกฺขเณ ทสฺเสตุํ ตถาคตปฺปเวทิตาติอาทิมาห. ตตฺถ ตถาคตปฺปเวทิตาติ มหาโพธิมณฺเฑ นิสีทตฺวา ตถาคเตน ปฏิวิทฺธา วิทิตา ปากฏีกตา. ธมฺมาติ จตุสจฺจธมฺมา. โวทิฏฺา โหนฺตีติ สุทิฏฺา โหนฺติ. โวจริตาติ สุจริตา. เตสุ อเนน ปฺา สุฏฺุ จราปิตา โหตีติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโตติ วุจฺจติ. อยฺหิ ทิฏฺนฺตํ ปตฺโต. ‘‘ทุกฺขา สงฺขารา, สุโข นิโรโธ’’ติ าณํ โหติ ¶ . ทิฏฺํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ปสฺสิตํ ปฺายาติ ทิฏฺปฺปตฺโต. อยมฺปิ กายสกฺขี วิย ฉพฺพิโธว โหติ.
๒๘. สทฺธาวิมุตฺตนิทฺเทเส – โน จ โข ยถา ทิฏฺิปฺปตฺตสฺสาติ ยถา ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส อาสวา ปริกฺขีณา, น เอวํ สทฺธาวิมุตฺตสฺสาติ อตฺโถ. กึ ปน เนสํ กิเลสปฺปหาเน นานตฺตํ อตฺถีติ? นตฺถิ. อถ กสฺมา สทฺธาวิมุตฺโต ทิฏฺิปฺปตฺตํ น ปาปุณาตีติ? อาคมนียนานตฺเตน. ทิฏฺิปฺปโต หิ อาคมนมฺหิ กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต อปฺปทุกฺเขน อปฺปกสิเรน อกิลมนฺโตว ¶ วิกฺขมฺเภตุํ สกฺโกติ. สทฺธาวิมุตฺโต ¶ ปน ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต หุตฺวา วิกฺขมฺเภตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา ทิฏฺิปฺปตฺตํ น ปาปุณาติ. อปิจ เนสํ ปฺายปิ นานตฺตํ อตฺถิเยว. ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส หิ อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนาาณํ ติกฺขํ สูรํ ปสนฺนํ หุตฺวา วหติ. สทฺธาวิมุตฺตสฺส วิปสฺสนาาณํ โน ติกฺขํ สูรํ ปสนฺนํ หุตฺวา วหติ, ตสฺมาปิ โส ทิฏฺิปฺปตฺตํ น ปาปุณาติ.
ยถา หิ ทฺวีสุ ตรุเณสุ สิปฺปํ ทสฺเสนฺเตสุ เอกสฺส หตฺเถ ติขิโณ อสิ, เอกสฺส กุณฺโ. ติขิเณน อสินา กทลี ฉิชฺชมานา สทฺทํ น กโรติ. กุณฺเน อสินา ฉิชฺชมานา ‘กฏกฏา’ติ สทฺทํ กโรติ. ตตฺถ ติขิเณน อสินา สทฺทํ อกโรนฺติยา เอว กทลิยา เฉทนํ วิย ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนาาณสฺส ติขิณสูรวิปฺปสนฺนภาโว. กุณฺเน อสินา สทฺทํ กโรนฺติยาปิ กทลิยา เฉทนํ วิย สทฺธาวิมุตฺตสฺส ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนาาณสฺส อติขิณอสูรอปฺปสนฺนภาโว เวทิตพฺโพ. อิมํ ปน นยํ ‘โน’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา, อาคมนียนานตฺเตเนว สทฺธาวิมุตฺโต ทิฏฺิปฺปตฺตํ น ปาปุณาตีติ สนฺนิฏฺานํ กตํ.
อาคมฏฺกถาสุ ปน วุตฺตํ – ‘‘เอเตสุ หิ สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ สทฺทหนฺตสฺส วิย โอกปฺเปนฺตสฺส วิย อธิมุจฺจนฺตสฺส วิย จ กิเลสกฺขโย โหติ. ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกาณํ อทนฺธํ ติขิณํ สูรํ หุตฺวา วหติ. ตสฺมา ยถา นาม อติขิเณน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ น มฏฺํ โหติ, อสิ น สีฆํ วหติ, สทฺโท สุยฺยติ, พลวตโร วายาโม กาตพฺโพ โหติ ¶ ; เอวรูปา สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา. ยถา ปน สุนิสิเตเนว อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ มฏฺํ โหติ, อสิ สีฆํ วหติ, สทฺโท น สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ น โหติ; เอวรูปา ¶ ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา เวทิตพฺพา’’ติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโตติ วุจฺจติ. อยฺหิ สทฺทหนฺโต วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. อยมฺปิ กายสกฺขี วิย ฉพฺพิโธว โหติ.
๒๙. ธมฺมานุสารีนิทฺเทเส – ปฏิปนฺนสฺสาติ อิมินา โสตาปตฺติมคฺคฏฺโ ทสฺสิโต. อธิมตฺตนฺติ พลวํ. ปฺํ วาเหตีติ ปฺาวาหี. ปฺา อิมํ ปุคฺคลํ วหตีติ ปฺาวาหีติปิ ¶ วุตฺตํ โหติ. ปฺาปุพฺพงฺคมนฺติ ปฺํ ปุเรจาริกํ กตฺวา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ธมฺมานุสารีติ วุจฺจติ. โส หิ ปฺาสงฺขาเตน ธมฺเมน สรติ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี. โสตาปตฺติมคฺคฏฺสฺเสเวตํ นามํ. ผเล ปน ปตฺเต ทิฏฺิปฺปตฺโต นาม โหติ.
๓๐. สทฺธานุสารีนิทฺเทเสปิ – สทฺธํ วาเหตีติ สทฺธาวาหี. สทฺธา อิมํ ปุคฺคลํ วหตีติ สทฺธาวาหีติปิ วุตฺตเมว. สทฺธาปุพฺพงฺคมนฺติ สทฺธํ ปุเรจาริกํ กตฺวา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล สทฺธานุสารีติ วุจฺจติ. โส หิ สทฺธาย สรติ. อนุสฺสรตีติ สทฺธานุสารี. โสตาปตฺติมคฺคฏฺสฺเสเวตํ นามํ. ผเล ปน ปตฺเต สทฺธาวิมุตฺโต นาม โหติ. โลกุตฺตรธมฺมฺหิ นิพฺพตฺเตนฺตานํ ทฺเว ธุรานิ นาม, ทฺเว อภินิเวสา นาม, ทฺเว สีสานิ นาม. ตตฺถ สทฺธาธุรํ ปฺาธุรนฺติ – ทฺเว ธุรานิ นาม. เอโก ปน ภิกฺขุ สมถาภินิเวเสน อภินิวิสติ, เอโก วิปสฺสนาภินิเวเสนาติ – อิเม ทฺเว อภินิเวสา นาม. เอโก จ มตฺถกํ ปาปุณนฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต โหติ, เอโก ปฺาวิมุตฺโตติ – อิมานิ ทฺเว สีสานิ นาม. เย เกจิ หิ โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตนฺติ, สพฺเพ เต อิเม ทฺเว ธมฺเม ธุรํ กตฺวา อิเมสุ ทฺวีสุ าเนสุ อภินิวิสิตฺวา อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ วิมุจฺจนฺติ. เตสุ โย ภิกฺขุ อฏฺสมาปตฺติลาภี ปฺํ ธุรํ กตฺวา สมถวเสน อภินิวิฏฺโ อฺตรํ อรูปสมาปตฺตึ ปทฏฺานํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, โส โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสารี นาม. ปรโต ปน ฉสุ าเนสุ กายสกฺขี นาม. อรหตฺตผเล ปตฺเต อุภโตภาควิมุตฺโต นาม.
อปโร ¶ ปฺเมว ¶ ธุรํ กตฺวา วิปสฺสนาวเสน อภินิวิฏฺโ สุทฺธสงฺขาเร วา รูปาวจรชฺฌาเนสุ วา อฺตรํ สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยมฺปิ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณเยว ธมฺมานุสารี นาม. ปรโต ปน ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺโต นาม. อรหตฺเต ปตฺเต ปฺาวิมุตฺโต นาม. อิธ ทฺเว นามานิ อปุพฺพานิ, ตานิ ปุริเมหิ สทฺธึ ปฺจ โหนฺติ. อปโร อฏฺสมาปตฺติลาภี สทฺธํ ธุรํ กตฺวา สมาธิวเสน อภินิวิฏฺโ อฺตรํ อรูปสมาปตฺตึ ปทฏฺานํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ – อยํ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี นาม. ปรโต ฉสุ าเนสุ กายสกฺขีเยว นาม. อรหตฺเต ปตฺเต อุภโตภาควิมุตฺโตเยว นาม. อิธ เอกเมว นามํ อปุพฺพํ. เตน สทฺธึ ปุริมานิ ปฺจ ฉ โหนฺติ. อปโร สทฺธเมว ธุรํ กตฺวา วิปสฺสนาวเสน อภินิวิฏฺโ สุทฺธสงฺขาเร วา รูปาวจรชฺฌาเนสุ วา อฺตรํ สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อยมฺปิ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี ¶ นาม. ปรโต ฉสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺโต นาม. อรหตฺเต ปตฺเต ปฺาวิมุตฺโต นาม. อิธาปิ เอกเมว นามํ อปุพฺพํ. เตน สทฺธึ ปุริมานิ ฉ สตฺต โหนฺติ. อิเม สตฺต ปุคฺคลา โลเก อคฺคทกฺขิเณยฺยา นามาติ.
๓๑. สตฺตกฺขตฺตุปรมนิทฺเทเส – สตฺตกฺขตฺตุนฺติ สตฺตวาเร. สตฺตกฺขตฺตุปรมา ภวูปปตฺติ อตฺตภาวคฺคหณํ อสฺส, ตโต ปรํ อฏฺมํ ภวํ นาทิยตีติ สตฺตกฺขตฺตุปรโม. โสตาปนฺโน โหตีติ เอตฺถ โสโตติ อริยมคฺโค, เตน สมนฺนาคโต โสตาปนฺโน นาม. ยถาห –
‘‘โสโต โสโตติ หิทํ, สาริปุตฺต, วุจฺจติ. กตโม นุ โข, สาริปุตฺต, โสโตติ? อยเมว หิ, ภนฺเต, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค โสโต, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธีติ. โสตาปนฺโน โสตาปนฺโนติ, หิทํ, สาริปุตฺต, วุจฺจติ. กตโม นุ โข, สาริปุตฺต, โสตาปนฺโนติ? โย หิ, ภนฺเต, อิมินา อริเยน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน สมนฺนาคโต อยํ วุจฺจติ โสตาปนฺโน, สฺวายํ อายสฺมา เอวํนาโม เอวํโคตฺโต อิติ วา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๐๑).
เอวํ ¶ มคฺคกฺขเณปิ โสตาปนฺโน นาม โหติ. อิธ ¶ ปน มคฺเคน ผลสฺส นามํ ทินฺนนฺติ ผลกฺขเณ โสตาปนฺโน อธิปฺเปโต.
อวินิปาตธมฺโมติ วินิปาตสงฺขาตํ อปายํ อุปปตฺติวเสน อนาคมนสภาโว. นิยโตติ มคฺคนิยาเมน นิยโต. สมฺโพธิปรายโณติ พุชฺฌนกภาวปรายโณ. โส หิ ปฏิลทฺธมคฺเคน พุชฺฌตีติ สมฺโพธิปรายโณ. อุปริ ตีหิ มคฺเคหิ อวสฺสํ พุชฺฌิสฺสตีติ สมฺโพธิปรายโณ. เทเว จ มนุสฺเส จาติ เทวโลกฺจ มนุสฺสโลกฺจ. สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวาติ ปฏิสนฺธิวเสน อปราปรํ คนฺตฺวา. ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรตีติ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริยนฺตํ ปริวฏุมํ กโรติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม วุจฺจติ. อยํ ปน กาเลน เทวโลกสฺส กาเลน มนุสฺสโลกสฺส วเสน มิสฺสกภเวน กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
๓๒. โกลํโกลนิทฺเทเส – กุลโต กุลํ คจฺฉตีติ โกลํโกโล. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยโต หิ ปฏฺาย นีเจ กุเล อุปปตฺติ นาม นตฺถิ, มหาโภคกุเลสุเยว นิพฺพตฺตตีติ ¶ อตฺโถ. ทฺเว วา ตีณิ วา กุลานีติ เทวมนุสฺสวเสน ทฺเว วา ตโย วา ภเว. อิติ อยมฺปิ มิสฺสกภเวเนว กถิโต. เทสนามตฺตเมว เจตํ – ‘ทฺเว วา ตีณิ วา’ติ. ยาว ฉฏฺภวา สํสรนฺโตปิ ปน โกลํโกโลว โหติ.
๓๓. เอกพีชินิทฺเทเส – ขนฺธพีชํ นาม กถิตํ. ยสฺส หิ โสตาปนฺนสฺส เอกํเยว ขนฺธพีชํ อตฺถิ, เอกํ อตฺตภาวคฺคหณํ, โส เอกพีชี นาม. มานุสกํ ภวนฺติ อิทํ ปเนตฺถ เทสนามตฺตเมว. เทวภวํ นิพฺพตฺเตตีติปิ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. ภควตา คหิตนามวเสเนว เจตานิ เอเตสํ นามานิ. เอตฺตกํ านํ คโต สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม โหติ, เอตฺตกํ โกลํโกโล, เอตฺตกํ เอกพีชีติ ภควตา เอเตสํ นามํ คหิตํ. นิยมโต ปน อยํ สตฺตกฺขตฺตุปรโม, อยํ โกลํโกโล, อยํ เอกพีชีติ นตฺถิ.
โก ¶ ปน เตสํ เอตํ ปเภทํ นิยเมตีติ? เกจิ ตาว เถรา ‘ปุพฺพเหตุ นิยเมตี’ติ วทนฺติ, เกจิ ‘ปมมคฺโค’, เกจิ ‘อุปริ ตโย มคฺคา’, เกจิ ‘ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา’ติ. ตตฺถ ‘ปุพฺพเหตุ นิยเมตี’ติ วาเท ‘ปมมคฺคสฺส อุปนิสฺสโย กโต นาม โหติ, อุปริ ตโย มคฺคา นิรุปนิสฺสยา อุปฺปนฺนา’ติ วจนํ อาปชฺชติ. ‘ปมมคฺโค นิยเมตี’ติ ¶ วาเท อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ นิรตฺถกตา อาปชฺชติ. ‘อุปริ ตโย มคฺคา นิยเมนฺตี’ติ วาเท ‘อฏฺมมคฺเค อนุปฺปนฺเนเยว อุปริ ตโย มคฺคา อุปฺปนฺนา’ติ อาปชฺชติ. ‘ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา นิยเมตี’ติ วาโท ปน ยุชฺชติ. สเจ หิ อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา พลวตี โหติ, เอกพีชี นาม โหติ; ตโต มนฺทตราย โกลํโกโล; ตโต มนฺทตราย สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ.
เอกจฺโจ หิ โสตาปนฺโน วฏฺฏชฺฌาสโย โหติ, วฏฺฏาภิรโต, ปุนปฺปุนํ วฏฺฏสฺมึเยว วิจรติ สนฺทิสฺสติ. อนาถปิณฺฑิโก เสฏฺิ, วิสาขา อุปาสิกา, จูฬรถมหารถา เทวปุตฺตา, อเนกวณฺโณ เทวปุตฺโต, สกฺโก เทวราชา, นาคทตฺโต เทวปุตฺโตติ อิเม หิ เอตฺตกา ชนา วฏฺฏชฺฌาสยา วฏฺฏาภิรตา อาทิโต ปฏฺาย ฉ เทวโลเก โสเธตฺวา อกนิฏฺเ ตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ, อิเม อิธ น คหิตา. น เกวลฺจิเม; โยปิ มนุสฺเสสุเยว สตฺตกฺขตฺตุํ สํสริตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, โยปิ เทวโลเก นิพฺพตฺโต เทเวสุเยว สตฺตกฺขตฺตุํ อปราปรํ สํสริตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อิเมปิ อิธ น คหิตา. มิสฺสกภววเสเนว ปเนตฺถ สตฺตกฺขตฺตุปรมโกลํโกลา ¶ มานุสกภวนิพฺพตฺตโกเยว จ เอกพีชี คหิโตติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ เอเกโก ทุกฺขาปฏิปทาทิวเสน จตุพฺพิธภาวํ อาปชฺชติ. สทฺธาธุเรเนว จตฺตาโร สตฺตกฺขตฺตุปรมา, จตฺตาโร โกลํโกลา, จตฺตาโร เอกพีชิโนติ ทฺวาทส โหนฺติ. สเจ ปฺาย สกฺกา นิพฺพตฺเตตุํ, ‘อหํ โลกุตฺตรํ ธมฺมํ นิพฺพตฺเตสฺสามี’ติ เอวํ ปฺํ ธุรํ กตฺวา สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิภาวํ ปตฺตาปิ ปฏิปทาวเสน ทฺวาทเสวาติ อิเม จตุวีสติ โสตาปนฺนา อิหฏฺกนิชฺฌานิกวเสเนว อิมสฺมึ าเน กถิตาติ เวทิตพฺพา.
๓๔. สกทาคามินิทฺเทเส – ปฏิสนฺธิวเสน สกึ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี. สกิเทวาติ เอกวารํเยว. อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวาติ อิมินา ปฺจสุ ¶ สกทาคามีสุ จตฺตาโร วชฺเชตฺวา เอโกว คหิโต. เอกจฺโจ หิ อิธ สกทาคามิผลํ ปตฺวา อิเธว ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ อิธ ปตฺวา เทวโลเก ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ¶ ปตฺวา อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายติ – อิเม จตฺตาโรปิ อิธ น คหิตา. โย ปน อิธ ปตฺวา เทวโลเก ยาวตายุกํ วสิตฺวา ปุน อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายติ – อยํ เอโกว อิธ คหิโตติ เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา ตํ สพฺพํ เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ โลกุตฺตรกุสลนิทฺเทเส วุตฺตเมว. อิมสฺส ปน สกทาคามิโน เอกพีชินา สทฺธึ กึ นานากรณนฺติ? เอกพีชิสฺส เอกาว ปฏิสนฺธิ, สกทาคามิสฺส ทฺเว ปฏิสนฺธิโย – อิทํ เนสํ นานากรณนฺติ.
๓๕. อนาคามินิทฺเทเส – โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานนฺติ โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ. ยสฺส อิมานิ ปฺจ พนฺธนานิ อปฺปหีนานิ โหนฺติ, โส ภวคฺเค นิพฺพตฺโตปิ คิลิตพฬิโส มจฺโฉ วิย ทีฆสุตฺตเกน ปาเท พทฺธกาโก วิย เตหิ พนฺธเนหิ อากฑฺฒิยมาโน กามธาตุยํเยว ปวตฺตตีติ ปฺจ พนฺธนานิ โอรมฺภาคิยานีติ วุจฺจนฺติ. เหฏฺาภาคิยานิ เหฏฺาโกฏฺาสิกานีติ อตฺโถ. ปริกฺขยาติ เตสํ พนฺธนานํ ปริกฺขเยน. โอปปาติโกติ อุปปาตโยนิโก. อิมินาสฺส คพฺภเสยฺยา ปฏิกฺขิตฺตา. ตตฺถ ปรินิพฺพายีติ ตตฺถ สุทฺธาวาสโลเก ปรินิพฺพายิตา. อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกาติ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน ตสฺมา โลกา อิธ อนาวตฺตนสภาโว. พุทฺธทสฺสนเถรทสฺสนธมฺมสฺสวนานํ ปนตฺถายสฺส อาคมนํ อนิวาริตํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวํวิโธ ปุคฺคโล ปฏิสนฺธิวเสน ปุน อนาคมนโต อนาคามี นาม วุจฺจติ.
๓๖. อนฺตราปรินิพฺพายินิทฺเทเส ¶ – อุปปนฺนํ วา สมนนฺตราติ อุปปนฺนสมนนฺตรา วา หุตฺวา. อปฺปตฺตํ วา เวมชฺฌํ อายุปฺปมาณนฺติ อายุปฺปมาณํ เวมชฺฌํ อปฺปตฺตํ วา หุตฺวา อริยมคฺคํ สฺชเนตีติ อตฺโถ. วาสทฺทวิกปฺปโต ปน เวมชฺฌํ ปตฺตนฺติปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ ตโย อนฺตราปรินิพฺพายิโน สิทฺธา โหนฺติ. อุปริฏฺิมานํ สํโยชนานนฺติ อุปริ ปฺจนฺนํ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานํ อฏฺนฺนํ วา กิเลสานํ. ปหานายาติ เอเตสํ ปชหนตฺถาย ¶ มคฺคํ สฺชเนติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อายุเวมชฺฌสฺส อนฺตราเยว ปรินิพฺพายนโต อนฺตราปรินิพฺพายีติ วุจฺจติ.
๓๗. อุปหจฺจปรินิพฺพายินิทฺเทเส ¶ – อติกฺกมิตฺวา เวมชฺฌํ อายุปฺปมาณนฺติ อายุปฺปมาณํ เวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา. อุปหจฺจ วา กาลกิริยนฺติ อุปคนฺตฺวา กาลกิริยํ. อายุกฺขยสฺส อาสนฺเน ตฺวาติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อวิเหสุ ตาว กปฺปสหสฺสปฺปมาณสฺส อายุโน ปฺจกปฺปสตสงฺขาตํ เวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา ฉฏฺเ วา กปฺปสเต สตฺตมฏฺมนวมานํ วา อฺตรสฺมึ ทสเมเยว วา กปฺปสเต ตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนโต อุปหจฺจปรินิพฺพายีติ วุจฺจติ.
๓๘. อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายินิทฺเทเสสุ – อสงฺขาเรน อปฺปทุกฺเขน อธิมตฺตปโยคํ อกตฺวาว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพานธมฺโมติ อสงฺขารปรินิพฺพายี. สสงฺขาเรน ทุกฺเขน กสิเรน อธิมตฺตปโยคํ กตฺวาว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนธมฺโมติ สสงฺขารปรินิพฺพายี.
๔๐. อุทฺธํโสตนิทฺเทเส – อุทฺธํ วาหิภาเวน อุทฺธมสฺส ตณฺหาโสตํ วฏฺฏโสตํ วาติ อุทฺธํโสโต. อุทฺธํ วา คนฺตฺวา ปฏิลภิตพฺพโต อุทฺธมสฺส มคฺคโสตนฺติ อุทฺธํโสโต. อกนิฏฺํ คจฺฉตีติ อกนิฏฺคามี. อวิหา จุโต อตปฺปํ คจฺฉตีติอาทีสุ อวิเห กปฺปสหสฺสํ วสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺกุณิตฺวา อตปฺปํ คจฺฉติ. ตตฺราปิ ทฺเว กปฺปสหสฺสานิ วสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺกุณิตฺวา สุทสฺสํ คจฺฉติ. ตตฺราปิ จตฺตาริ กปฺปสหสฺสานิ วสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺกุณิตฺวา สุทสฺสึ คจฺฉติ. ตตฺราปิ อฏฺ กปฺปสหสฺสานิ วสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺกุณิตฺวา อกนิฏฺํ คจฺฉติ. ตตฺถ วสนฺโต อริยมคฺคํ สฺชเนตีติ อตฺโถ.
อิเมสํ ¶ ปน อนาคามีนํ ปเภทชานนตฺถํ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีจตุกฺกํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ โย อวิหโต ปฏฺาย จตฺตาโร เทวโลเก โสเธตฺวา อกนิฏฺํ คนฺตฺวา ปรินิพฺพายติ อยํ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย ปน เหฏฺา ตโย เทวโลเก โสเธตฺวา สุทสฺสีเทวโลเก ตฺวา ปรินิพฺพายติ – อยํ อุทฺธํโสโต, น อกนิฏฺคามี นาม ¶ . โย ปน อิโต อกนิฏฺเมว คนฺตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต, อกนิฏฺคามี นาม ¶ . โย ปน เหฏฺา จตูสุ เทวโลเกสุ ตตฺถ ตตฺเถว ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต, น อกนิฏฺคามี นามาติ. เอวเมเต อฏฺจตฺตาลีส อนาคามิโน โหนฺติ.
กถํ? อวิเห ตาว ตโย อนฺตราปรินิพฺพายิโน, เอโก อุปหจฺจปรินิพฺพายี, เอโก อุทฺธํโสโต เต อสงฺขารปรินิพฺพายิโน ปฺจ, สสงฺขารปรินิพฺพายิโน ปฺจาติ ทส โหนฺติ. ตถา อตปฺปาสุทสฺสาสุทสฺสีสูติ จตฺตาโร ทสกา จตฺตาลีสํ. อกนิฏฺเ ปน อุทฺธํโสโต นตฺถิ. ตโย ปน อนฺตราปรินิพฺพายิโน, เอโก อุปหจฺจปรินิพฺพายี. เต อสงฺขารปรินิพฺพายิโน จตฺตาโร, สสงฺขารปรินิพฺพายิโน จตฺตาโรติ อฏฺ. เอวํ อฏฺจตฺตาลีสํ โหนฺติ.
เต สพฺเพปิ ปปฏิโกปมาย ทีปิตา – ทิวสํ สนฺตตฺตานมฺปิ หิ อารกณฺฏกวิปฺผลิกนขจฺเฉทนานํ อโยมุเข หฺมาเน ปปฏิกา อุปฺปชฺชิตฺวาว นิพฺพายติ – เอวรูโป ปโม อนฺตราปรินิพฺพายี เวทิตพฺโพ. กสฺมา? อุปฺปนฺนสมนนฺตราว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนโต. ตโต มหนฺตตเร อโยมุเข หฺมาเน ปปฏิกา อากาสํ อุลฺลงฺฆิตฺวา นิพฺพายติ – เอวรูโป ทุติโย อนฺตราปรินิพฺพายี ทฏฺพฺโพ. กสฺมา? เวมชฺฌํ อปฺปตฺวา ปรินิพฺพายนโต. ตโต มหนฺตตเร อโยมุเข หฺมาเน ปปฏิกา อากาสํ อุลฺลงฺฆิตฺวา นิวตฺตมานา ปถวิยํ อนุปหจฺจตลา หุตฺวา ปรินิพฺพายติ – เอวรูโป ตติโย อนฺตราปรินิพฺพายี ทฏฺพฺโพ. กสฺมา? เวมชฺฌํ ปตฺวา อนุปหจฺจ ปรินิพฺพายนโต. ตโต มหนฺตตเร อโยมุเข หฺมาเน ปปฏิกา อากาสํ อุลฺลงฺฆิตฺวา ปถวิยํ ปติตฺวา อุปหจฺจตลา หุตฺวา นิพฺพายติ – เอวรูโป อุปหจฺจปรินิพฺพายี เวทิตพฺโพ. กสฺมา? กาลกิริยํ อุปคนฺตฺวา อายุคตึ เขเปตฺวา ปรินิพฺพายนโต. ตโต มหนฺตตเร อโยมุเข หฺมาเน ปปฏิกา ปริตฺเต ติณกฏฺเ ปติตฺวา ตํ ปริตฺตํ ติณกฏฺํ ฌาเปตฺวา นิพฺพายติ – เอวรูโป อสงฺขารปรินิพฺพายี เวทิตพฺโพ. กสฺมา? อปฺปโยเคน ลหุสาย คติยา ปรินิพฺพายนโต. ตโต มหนฺตตเร อโยมุเข หฺมาเน ปปฏิกา วิปุเล ติณกฏฺปฺุเช ¶ ปติตฺวา ตํ วิปุลํ ติณกฏฺปฺุชํ ¶ ฌาเปตฺวา นิพฺพายติ – เอวรูโป สสงฺขารปรินิพฺพายี เวทิตพฺโพ. กสฺมา? สปฺปโยเคน อลหุสาย ¶ คติยา ปรินิพฺพายนโต. อปรา มหนฺเตสุ ติณกฏฺปฺุเชสุ ปตติ, ตตฺถ มหนฺเตสุ ติณกฏฺปฺุเชสุ ฌายมาเนสุ วีตจฺจิตงฺคาโร วา ชาลา วา อุปฺปติตฺวา กมฺมารสาลํ ฌาเปตฺวา คามนิคมนครรฏฺํ ฌาเปตฺวา สมุทฺทนฺตํ ปตฺวา นิพฺพายติ – เอวรูโป อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี ทฏฺพฺโพ. กสฺมา? อเนกภวพีชวิปฺผารํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกตฺวา ปรินิพฺพายนโต. ยสฺมา ปน อารกณฺฏกาทิเภทํ ขุทฺทกมฺปิ มหนฺตมฺปิ อโยกปาลเมว, ตสฺมา สุตฺเต สพฺพวาเรสุ อโยกปาลนฺตฺเวว วุตฺตํ (อ. นิ. ๗.๕๕). ยถาห –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – ‘โน จสฺส, โน จ เม สิยา, น ภวิสฺสติ, น เม ภวิสฺสติ, ยทตฺถิ ยํ ภูตํ, ตํ ปชหามี’’’ติ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. โส ภเว น รชฺชติ, สมฺภเว น รชฺชติ, อตฺถุตฺตริ ปทํ สนฺตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. ตฺจ ขฺวสฺส ปทํ น สพฺเพน สพฺพํ สจฺฉิกตํ โหติ. ตสฺส น สพฺเพน สพฺพํ มานานุสโย ปหีโน โหติ, น สพฺเพน สพฺพํ ภวราคานุสโย ปหีโน โหติ, น สพฺเพน สพฺพํ อวิชฺชานุสโย ปหีโน โหติ. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อนฺตราปรินิพฺพายี ¶ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา อนุปหจฺจ ¶ ตลํ นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อุปหจฺจปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา อุปหจฺจ ตลํ นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อุปหจฺจปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… ปริกฺขยา อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา ปริตฺเต ติณปฺุเช วา กฏฺปฺุเช วา นิปเตยฺย, สา ตตฺถ อคฺคิมฺปิ ชเนยฺย, ธูมมฺปิ ชเนยฺย, อคฺคิมฺปิ ชเนตฺวา ธูมมฺปิ ชเนตฺวา ตเมว ปริตฺตํ ติณปฺุชํ วา ¶ กฏฺปฺุชํ วา ปริยาทิยิตฺวา อนาหารา นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… ปริกฺขยา อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา วิปุเล ติณปฺุเช วา กฏฺปฺุเช วา นิปเตยฺย, สา ตตฺถ อคฺคิมฺปิ ชเนยฺย…เป… ตเมว วิปุลํ ติณปฺุชํ วา กฏฺปฺุชํ วา ปริยาทิยิตฺวา อนาหารา นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… ปริกฺขยา อุทฺธํโสโต โหติ อกนิฏฺคามี. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา มหนฺเต ติณปฺุเช วา กฏฺปฺุเช วา นิปเตยฺย, สา ตตฺถ อคฺคิมฺปิ ชเนยฺย…เป… ตเมว มหนฺตํ ติณปฺุชํ วา กฏฺปฺุชํ วา ปริยาทิยิตฺวา คจฺฉมฺปิ ทเหยฺย, ทายมฺปิ ทเหยฺย ¶ , คจฺฉมฺปิ ทหิตฺวา ทายมฺปิ ¶ ทหิตฺวา หริตนฺตํ วา ปถนฺตํ วา เสลนฺตํ วา อุทกนฺตํ วา รมณียํ วา ภูมิภาคํ อาคมฺม อนาหารา นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… ปริกฺขยา อุทฺธํโสโต โหติ อกนิฏฺคามี’’ติ (อ. นิ. ๗.๕๕).
๔๑-๔๔. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนาทินิทฺเทสา อุตฺตานตฺถาว. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อรหาติ เอตฺถ ปน ทฺวาทส อรหนฺโต เวทิตพฺพา. กถํ? ตโย หิ วิโมกฺขา – สฺุโต, อนิมิตฺโต, อปฺปณิหิโตติ. ตตฺถ สฺุตวิโมกฺเขน วิมุตฺตขีณาสโว ปฏิปทาวเสน จตุพฺพิโธ โหติ; ตถา อนิมิตฺตอปฺปณิหิตวิโมกฺเขหีติ – เอวํ ทฺวาทส อรหนฺโต เวทิตพฺพา. อิติ อิเม ทฺวาทส อรหนฺโต วิย ทฺวาทเสว สกทาคามิโน, จตุวีสติ โสตาปนฺนา, อฏฺจตฺตาลีส อนาคามิโนติ เอตฺตกา ปุคฺคลา อิโต มุจฺจิตฺวา พหิทฺธา นุปฺปชฺชนฺติ, อิมสฺมิฺเว สพฺพฺุพุทฺธสาสเน อุปฺปชฺชนฺตีติ.
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา.
๒. ทุกนิทฺเทสวณฺณนา
๔๕. ทุกนิทฺเทเส โกธโนติ กุชฺฌนสีโล มหาโกโธ. เอวํ ปุคฺคลํ ปุจฺฉิตฺวาปิ ธมฺเมน ปุคฺคลํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม โกโธติอาทิมาห. อุปนาหีนิทฺเทสาทีสุปิ เอเสว นโย. โกโธ กุชฺฌนาติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนว. ตถา อุปนาหีนิทฺเทสาทีสุ ปุพฺพกาลํ โกโธติอาทีนิ. อยํ โกโธ อปฺปหีโนติ อยํ เอตฺตโก โกโธ วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน วา ตทงฺคปฺปหาเนน วา สมุจฺเฉทปฺปหาเนน วา อปฺปหีโน. ปรโต อุปนาหาทีสุปิ เอเสว นโย.
๕๓. อหิริกนิทฺเทสาทีสุ – อิมินา อหิริเกนาติ อิมินา เอวํปกาเรน อหิริกธมฺเมน สมนฺนาคโต. อิมินา อโนตฺตปฺเปนาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
๖๓. อชฺฌตฺตสํโยชโนติ ¶ ¶ อชฺฌตฺตพนฺธโน. พหิทฺธาสํโยชโนติ พหิทฺธาพนฺธโน. เต อุโภปิ วจฺฉกสาลูปมาย ทีเปตพฺพา. วจฺฉกสาลาย หิ อนฺโต พทฺโธ อนฺโตเยว ¶ สยิตวจฺฉโก วิย อิธฏฺกโสตาปนฺนสกทาคามิโน. เตสฺหิ พนฺธนมฺปิ อิเธว, สยมฺปิ อิเธว. อนฺโต พทฺโธ ปน พหิ สยิตวจฺฉโก วิย รูปารูปภเว โสตาปนฺนสกทาคามิโน. เตสฺหิ พนฺธนเมว อิธ, สยํ ปน พฺรหฺมโลเก ิตา. พหิ พทฺโธ พหิ สยิตวจฺฉโก วิย รูปารูปภเว อนาคามี. ตสฺส หิ พนฺธนมฺปิ พหิทฺธา, สยมฺปิ พหิทฺธาว. พหิ พทฺโธ ปน อนฺโตสยิตวจฺฉโก วิย อิธฏฺกอนาคามี. ตสฺส หิ พนฺธนํ รูปารูปภเวสุ, สยํ ปน อิธ ิโต.
๖๕. อกฺโกธนนิทฺเทสาทีสุ – ปหีโนติ วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน วา, ตทงฺคปฺปหาเนน วา, สมุจฺเฉทปฺปหาเนน วา ปหีโน.
๘๓. ทุลฺลภนิทฺเทเส – ทุลฺลภาติ น สุลภา. ปุพฺพการีติ ปมเมว การโก. กตเวทีติ กตํ เวเทติ, วิทิตํ ปากฏํ กโรติ. เต อคาริยานคาริเยหิ ทีเปตพฺพา. อคาริเยสุ หิ มาตาปิตโร ปุพฺพการิโน นาม. ปุตฺตธีตโร ปน มาตาปิตโร ปฏิชคฺคนฺตา อภิวาทนาทีนิ เตสํ กุรุมานา กตเวทิโน นาม. อนคาริเยสุ อาจริยุปชฺฌายา ปุพฺพการิโน นาม. อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริกา อาจริยุปชฺฌาเย ปฏิชคฺคนฺตา อภิวาทนาทีนิ เตสํ กุรุมานา กตเวทิโน นาม. เตสํ อาวิภาวตฺถาย อุปชฺฌายโปสกโสณตฺเถราทีนํ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิ.
อปโร นโย – ปเรน อกเตเยว อุปกาเร อตฺตนิ กตํ อุปการํ อนเปกฺขิตฺวา การโก ปุพฺพการี, เสยฺยถาปิ มาตาปิตโร เจว อาจริยุปชฺฌายา จ. โส ทุลฺลโภ; สตฺตานํ ตณฺหาภิภูตตฺตา. ปเรน กตสฺส อุปการสฺส อนุรูปปฺปวตฺตึ อตฺตนิ กตํ อุปการํ อุปการโต ชานนฺโต, เวทิยนฺโต, กตฺุกตเวที. เสยฺยถาปิ มาตาปิตุอาจริยุปชฺฌาเยสุ สมฺมา ปฏิปนฺโน. โสปิ ทุลฺลโภ; สตฺตานํ อวิชฺชาภิภูตตฺตา.
อปิจ – อการณวจฺฉโล ปุพฺพการี, สการณวจฺฉโล กตฺุกตเวที. ‘กริสฺสติ เม’ติ เอวมาทิการณนิรเปกฺขกิริโย ¶ ปุพฺพการี. ‘กริสฺสติ ¶ เม’ติ เอวมาทิการณสาเปกฺขกิริโย กตฺุกตเวที. ตโมโชติปรายโณ ปุพฺพการี, โชติโชติปรายโณ กตฺุกตเวที. เทเสตา ปุพฺพการี, ปฏิปชฺชิตา กตฺุกตเวที. สเทวเก โลเก อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ¶ ปุพฺพการี, อริยสาวโก กตฺุกตเวทีติ. ทุกนิปาตฏฺกถายํ (อ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๒๐) ปน – ‘‘‘ปุพฺพการี’ติ ปมํ อุปการสฺส การโก, ‘กตฺุกตเวที’ติ เตน กตํ ตฺวา ปจฺฉา การโก. เตสุ ปุพฺพการี อิณํ เทมีติ สฺํ กโรติ, ปจฺฉาการโก ‘อิณํ ชีราเปมี’ติ สฺํ กโรตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ.
๘๔. ทุตฺตปฺปยนิทฺเทเส – ทุตฺตปฺปยาติ อตปฺปยา, น สกฺกา เกนจิ ตปฺเปตุํ. โย หิ อุปฏฺากกุลํ วา าติกุลํ วา นิสฺสาย วสมาโน จีวเร ชิณฺเณ เตหิ ทินฺนํ จีวรํ นิกฺขิปติ, น ปริภฺุชติ. ปุนปฺปุนํ ทินฺนมฺปิ คเหตฺวา นิกฺขิปเตว. โย จ เตเนว นเยน ลทฺธํ ลทฺธํ วิสฺสชฺเชติ ปรสฺส เทติ. ปุนปฺปุนํ ลทฺธมฺปิ ตเถว กโรติ. อิเม ทฺเว ปุคฺคลา สกเฏหิปิ ปจฺจเย อุปเนนฺเตน ตปฺเปตุํ น สกฺกาติ ทุตฺตปฺปยา นาม.
๘๕. สุตปฺปยนิทฺเทเส – น วิสฺสชฺเชตีติ อตฺตโน อกตฺวา ปรสฺส น เทติ. อติเรเก ปน สติ น นิกฺขิปติ ปรสฺส เทติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย ปน ภิกฺขุ อุปฏฺากกุลา วา าติกุลา วา ชิณฺณจีวโร สาฏกํ ลภิตฺวา จีวรํ กตฺวา ปริภฺุชติ, น นิกฺขิปติ; อคฺคฬํ ทตฺวา ปารุปนฺโตปิ ปุน ทิยฺยมาเน สหสา น ปฏิคฺคณฺหาติ. โย จ ลทฺธํ ลทฺธํ อตฺตนา ปริภฺุชติ, ปเรสํ น เทติ. อิเม ทฺเวปิ สุเขน สกฺกา ตปฺเปตุนฺติ สุตปฺปยา นามาติ.
๘๖. อาสวาติ กิเลสา. น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ กุกฺกุจฺจายตีติ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพยุตฺตกํ กุกฺกุจฺจายติ. สูกรมํสํ ลภิตฺวา อจฺฉมํสนฺติ กุกฺกุจฺจายติ, มิคมํสํ, ลภิตฺวา ทีปิมํสนฺติ กุกฺกุจฺจายติ. กาเล สนฺเตเยว ‘กาโล นตฺถี’ติ, อปฺปวาเรตฺวาว ‘ปวาริโตสฺมี’ติ, ปตฺเต รชสฺมึ อปติเตเยว ‘ปติต’นฺติ, อตฺตานํ อุทฺทิสฺส มจฺฉมํเส อกเตเยว ‘มํ อุทฺทิสฺส กต’นฺติ กุกฺกุจฺจายติ. กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ น กุกฺกุจฺจายตีติ กุกฺกุจฺจายิตพฺพยุตฺตกํ น กุกฺกุจฺจายติ. อจฺฉมํสํ ลภิตฺวา สูกรมํสนฺติ น ¶ กุกฺกุจฺจายติ…เป… อตฺตานํ อุทฺทิสฺส มจฺฉมํเส กเต ‘มํ อุทฺทิสฺส กต’นฺติ น กุกฺกุจฺจายติ ¶ . องฺคุตฺตรฏฺกถายํ ปน – ‘‘‘น กุกฺกุจฺจายิตพฺพ’นฺติ สงฺฆโภคสฺส อปฏฺปนํ อวิจารณํ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ ¶ นาม, ตํ กุกฺกุจฺจายติ. ‘กุกฺกุจฺจายิตพฺพ’นฺติ ตสฺเสว ปฏฺปนํ วิจารณํ, ตํ น กุกฺกุจฺจายตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. อิเมสนฺติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ สุภูมิยํ ติณลตาทีนิ วิย รตฺติมฺปิ ทิวาปิ อาสวา วฑฺฒนฺติเยว. สุกฺกปกฺเข กปฺปิยมํสํ ลภิตฺวา กปฺปิยมํสนฺตฺเวว คณฺหนฺโต น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ น กุกฺกุจฺจายติ นามาติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๘๘. หีนาธิมุตฺโตติ หีนชฺฌาสโย. ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล. ปาปธมฺโมติ ลามกธมฺโม.
๘๙. ปณีตาธิมุตฺโตติ ปณีตชฺฌาสโย. กลฺยาณธมฺโมติ ภทฺทกธมฺโม, สุจิธมฺโม, สุนฺทรธมฺโม.
๙๐. ติตฺโตติ สุหิโต ปริโยสิโต. ตปฺเปตาติ อฺเสมฺปิ ติตฺติกโร. ปจฺเจกสมฺพุทฺธา เย จ ตถาคตสาวกาติ เอตฺถ ปจฺเจกพุทฺธา นวหิ โลกุตฺตรธมฺเมหิ สยํ ติตฺตา ปริปุณฺณา. อฺเ ปน ตปฺเปตุํ น สกฺโกนฺติ. เตสฺหิ ธมฺมกถาย อภิสมโย น โหติ. สาวกานํ ปน ธมฺมกถาย อปริมาณานมฺปิ เทวมนุสฺสานํ อภิสมโย โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา ปน เต ธมฺมํ เทเสนฺตา น อตฺตโน วจนํ กตฺวา กเถนฺติ, พุทฺธานํ วจนํ กตฺวา กเถนฺติ. โสตุํ นิสินฺนปริสาปิ ‘อยํ ภิกฺขุ น อตฺตนา ปฏิวิทฺธธมฺมํ กเถติ, พุทฺเธหิ ปฏิวิทฺธธมฺมํ กเถตี’ติ จิตฺตีการํ กโรติ. อิติ โส จิตฺตีกาโร พุทฺธานํเยว โหติ. เอวํ ตตฺถ สมฺมาสมฺพุทฺโธว ตปฺเปตา นาม. ยถา หิ ‘อสุกสฺส นาม อิทฺจิทฺจ เทถา’ติ รฺา อาณตฺตา กิฺจาปิ อาเนตฺวา เทนฺติ, อถ โข ราชาว ตตฺถ ทายโก. เยหิปิ ลทฺธํ โหติ, เต ‘รฺา อมฺหากํ านนฺตรํ ทินฺนํ, อิสฺสริยวิภโว ทินฺโน’ตฺเวว คณฺหนฺติ, น ราชปุริเสหีติ. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ทุกนิทฺเทสวณฺณนา.
๓. ติกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๑. ติกนิทฺเทเส ¶ ¶ – ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล. ปาปธมฺโมติ ลามกธมฺโม. สีลวิปตฺติยา วา ทุสฺสีโล, ทิฏฺิวิปตฺติยา ปาปธมฺโม ¶ . กายวจีสํวรเภเทน ทุสฺสีโล, เสสสํวรเภเทน ปาปธมฺโม. อสุทฺธปโยคตาย ทุสฺสีโล, อสุทฺธาสยตาย ปาปธมฺโม. กุสลสีลวิรเหน ทุสฺสีโล; อกุสลสีลสมนฺนาคเมน ปาปธมฺโม. อสุจีติ อสุจีหิ กายกมฺมาทีหิ สมนฺนาคโต. สงฺกสฺสรสมาจาโรติ สงฺกาย ปเรหิ สริตพฺพสมาจาโร. กิฺจิเทว อสารุปฺปํ ทิสฺวา ‘อิทํ อิมินา กตํ ภวิสฺสตี’ติ เอวํ ปเรหิ อาสงฺกนียสมาจาโร, อตฺตโนเยว วา สงฺกาย สริตพฺพสมาจาโร – สาสงฺกสมาจาโรติ อตฺโถ. ตสฺส หิ ทิวาฏฺานาทีสุ สนฺนิปติตฺวา กิฺจิเทว มนฺตยนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘อิเม เอกโต หุตฺวา มนฺเตนฺติ, กจฺจิ นุ โข มยา กตกมฺมํ ชานิตฺวา มนฺเตนฺตี’ติ เอวํ สาสงฺกสมาจาโร โหติ.
ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโตติ ปฏิจฺฉาเทตพฺพยุตฺตเกน ปาปกมฺเมน สมนฺนาคโต. อสฺสมโณ สมณปฏิฺโติ อสฺสมโณ หุตฺวาว สมณปติรูปกตาย ‘สมโณ อห’นฺติ เอวํ ปฏิฺโ. อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโติ อฺเ พฺรหฺมจาริโน สุนิวตฺเถ สุปารุเต สุมฺภกปตฺตธเร คามนิคมชนปทราชธานีสุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺเต ทิสฺวา สยมฺปิ ตาทิเสน อากาเรน ตถา ปฏิปชฺชนโต ‘อหํ พฺรหฺมจารี’ติ ปฏิฺํ เทนฺโต วิย โหติ. ‘อหํ ภิกฺขู’ติ วตฺวา อุโปสถคฺคาทีนิ ปวิสนฺโต ปน พฺรหฺมจาริปฏิฺโ โหติเยว, ตถา สงฺฆิกํ ลาภํ คณฺหนฺโต. อนฺโตปูตีติ ปูตินา กมฺเมน อนฺโต อนุปวิฏฺโ, นิคฺคุณตาย วา คุณสารวิรหิตตฺตา อนฺโตปูติ. อวสฺสุโตติ ราคาทีหิ ตินฺโต. กสมฺพุชาโตติ สฺชาตราคาทิกจวโร. อถ วา กสมฺพุ วุจฺจติ ตินฺตกุณปคตํ กสฏอุทกํ. อิมสฺมิฺจ สาสเน ทุสฺสีโล นาม ชิคุจฺฉนียตฺตา ตินฺตกุณปกสฏอุทกสทิโส. ตสฺมา กสมฺพุ วิย ชาโตติ กสมฺพุชาโต.
ตสฺส น เอวํ โหตีติ กสฺมา น โหติ? ยตฺถ ปติฏฺิเตน สกฺกา ภเวยฺย อรหตฺตํ ลทฺธุํ, ตสฺสา ปติฏฺาย ภินฺนตฺตา. ยถา หิ จณฺฑาลกุมารกสฺส ¶ ‘อสุโก นาม ขตฺติยกุมาโร ¶ รชฺเช อภิสิตฺโต’ติ สุตฺวาปิ, ยสฺมึ กุเล ปจฺจาชาตา อภิเสกํ ปาปุณนฺติ, ตสฺมึ กุเล อปจฺจาชาตตฺตา น เอวํ โหติ – ‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ โส ขตฺติยกุมาโร วิย อภิเสกํ ¶ ปาปุเณยฺย’นฺติ; เอวเมว ทุสฺสีลสฺส ‘อสุโก นาม ภิกฺขุ อรหตฺตํ ปตฺโต’ติ สุตฺวาปิ, ยสฺมึ สีเล ปติฏฺิเตน อรหตฺตํ ปตฺตพฺพํ, ตสฺส อภาวโต ‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ โส สีลวา วิย อรหตฺตํ ปาปุเณย’นฺติ น เอวํ โหติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อรหตฺตาสาย อภาวา นิราโสติ วุจฺจติ.
๙๒. ตสฺส เอวํ โหตีติ กสฺมา โหติ? ยสฺมึ ปติฏฺิเตน สกฺกา ภเวยฺย อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ, ตสฺสา ปติฏฺาย ถิรตฺตา. ยถา หิ สุชาตสฺส ขตฺติยกุมารสฺส ‘อสุโก นาม ขตฺติยกุมาโร รชฺเช อภิสิตฺโต’ติ สุตฺวาว ยสฺมึ กุเล ปจฺจาชาตา อภิเสกํ ปาปุณนฺติ, ตสฺมึ ปจฺจาชาตสฺส เอวํ โหติ – ‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ, โส กุมาโร วิย อภิเสกํ ปาปุเณยฺย’นฺติ เอวเมว สีลวโต ‘อสุโก นาม ภิกฺขุ อรหตฺตํ ปตฺโต’ติ สุตฺวาว ยสฺมึ สีเล ปติฏฺิเตน อรหตฺตํ ปตฺตพฺพํ, ตสฺสา ปติฏฺาย ถิรตฺตา – ‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ โส ภิกฺขุ วิย อรหตฺตํ ปาปุเณยฺย’นฺติ เอวํ โหติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อาสํโส นาม วุจฺจติ. โส หิ อรหตฺตํ อาสํสติ ปตฺเถตีติ อาสํโส.
๙๓. ยา หิสฺส ปุพฺเพ อวิมุตฺตสฺสาติ ยา ตสฺส ขีณาสวสฺส ปุพฺเพ อรหตฺตวิมุตฺติยา อวิมุตฺตสฺส วิมุตฺตาสา อโหสิ, สา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, ตสฺมา น เอวํ โหติ. ยถา หิ อภิสิตฺตสฺส ขตฺติยสฺส ‘อสุโก นาม ขตฺติยกุมาโร รชฺเช อภิสิตฺโต’ติ สุตฺวา เอกสฺส รฺโ ทฺวินฺนํ รชฺชาภิเสกานํ ทฺวินฺนํ เสตจฺฉตฺตานํ อภาวา น เอวํ โหติ – ‘‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ โส กุมาโร วิย อภิเสกํ ปาปุเณยฺย’’นฺติ; เอวเมว ขีณาสวสฺส ‘อสุโก นาม ภิกฺขุ อรหตฺตํ ปตฺโต’ติ สุตฺวา, ทฺวินฺนํ อรหตฺตานํ อภาวา – ‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ โส ภิกฺขุ วิย อรหตฺตํ ปาปุเณยฺย’นฺติ ¶ น เอวํ โหติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อรหตฺตาสาย วิคตตฺตา วิคตาโสติ วุจฺจติ.
๙๔. คิลานูปมนิทฺเทเส – ยาย อุปมาย เต คิลานูปมาติ วุจฺจนฺติ, ตํ ตาว อุปมํ ทสฺเสตุํ ตโย คิลานาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สปฺปายานีติ หิตานิ วุทฺธิกรานิ. ปติรูปนฺติ ¶ อนุจฺฉวิกํ. เนว วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธาติ อิมินา อเตกิจฺเฉน วาตาปมาราทินา โรเคน สมนฺนาคโต นิฏฺปฺปตฺโต คิลาโน กถิโต. วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธาติ อิมินา ขิปิตกจฺฉุติณปุปฺผกชราทิปฺปเภโท อปฺปมตฺตกาพาโธ กถิโต.
ลภนฺโต ¶ สปฺปายานิ โภชนานิ โน อลภนฺโตติ อิมินา ปน เยสํ ปฏิชคฺคเนน ผาสุกํ โหติ, สพฺเพปิ เต อาพาธา กถิตา. เอตฺถ จ ปติรูโป อุปฏฺาโก นาม คิลานุปฏฺากองฺเคหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต ทกฺโข อนลโส เวทิตพฺโพ.
คิลานุปฏฺาโก อนฺุาโตติ ‘ภิกฺขุสงฺเฆน ทาตพฺโพ’ติ อนฺุาโต. ตสฺมิฺหิ คิลาเน อตฺตโน ธมฺมตาย ยาเปตุํ อสกฺโกนฺเต ภิกฺขุสงฺเฆน ตสฺส ภิกฺขุโน ‘เอโก ภิกฺขุ จ สามเณโร จ อิมํ ปฏิชคฺคถา’ติ อปโลเกตฺวา ทาตพฺพา. ยาว ปน เต ตํ ปฏิชคฺคนฺติ, ตาว คิลานสฺส จ เตสฺจ ทฺวินฺนํ เยนตฺโถ สพฺพํ ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว ภาโร. อฺเปิ คิลานา อุปฏฺาตพฺพาติ อิตเรปิ ทฺเว คิลานา อุปฏฺาตพฺพา. กึ การณา? โยปิ หิ นิฏฺปฺปตฺตคิลาโน, โส อนุปฏฺิยมาโน ‘สเจ มํ ปฏิชคฺเคยฺยุํ, ผาสุกํ เม ภเวยฺย, น โข ปน มํ ปฏิชคฺคนฺตี’ติ มโนปโทสํ กตฺวา อปาเย นิพฺพตฺเตยฺย. ปฏิชคฺคิยมานสฺส ปน เอวํ โหติ – ‘ภิกฺขุสงฺเฆน ยํ กตฺตพฺพํ ตํ สพฺพํ กตํ, มยฺหํ ปน กมฺมวิปาโก อีทิโส’ติ โส ภิกฺขุสงฺเฆ เมตฺตํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตติ. โย ปน อปฺปมตฺตเกน พฺยาธินา สมนฺนาคโต ลภนฺโตปิ อลภนฺโตปิ วุฏฺาติเยว, ตสฺส วินาปิ เภสชฺเชน วูปสมนกพฺยาธิ เภสชฺเช กเต ขิปฺปตรํ วูปสมฺมติ. ตโต โส พุทฺธวจนํ ¶ วา อุคฺคณฺหิตุํ สมณธมฺมํ วา กาตุํ สกฺขิสฺสติ. อิมินา การเณน อฺเปิ คิลานา อุปฏฺาตพฺพาติ วุตฺตํ.
เนว โอกฺกมตีติ เนว ปวิสติ. นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนฺติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ มคฺคนิยามสงฺขาตํ สมฺมตฺตํ. อิมินา ปทปรโม ปุคฺคโล กถิโต. ทุติยวาเรน อุคฺฆฏิตฺู คหิโต สาสเน นาฬกตฺเถรสทิโส ¶ . พุทฺธนฺตเร เอกวารํ ปจฺเจกพุทฺธานํ สนฺติเก โอวาทํ ลภิตฺวา ปฏิวิทฺธปจฺเจกโพธิาโณ จ. ตติยวาเรน วิปฺจิตฺู ปุคฺคโล กถิโต. เนยฺโย ปน ตนฺนิสฺสิโตว โหติ.
ธมฺมเทสนา อนฺุาตาติ มาสสฺส อฏฺ วาเร ธมฺมกถา อนฺุาตา. อฺเสมฺปิ ธมฺโม เทเสตพฺโพติ อิตเรสมฺปิ ธมฺโม กเถตพฺโพ. กึ การณา? ปทปรมสฺส หิ อิมสฺมึ อตฺตภาเว ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตุํ อสกฺโกนฺตสฺสาปิ อนาคเต ปจฺจโย ภวิสฺสติ. โย ปน ตถาคตสฺส รูปทสฺสนํ ลภนฺโตปิ อลภนฺโตปิ ธมฺมวินยฺจ สวนาย ลภนฺโตปิ อลภนฺโตปิ ธมฺมํ อภิสเมติ; โส อลภนฺโต น ตาว อภิสเมติ, ลภนฺโต ปน ขิปฺปเมว อภิสเมสฺสตีติ อิมินา ¶ การเณน เตสํ ธมฺโม เทเสตพฺโพ. ตติยสฺส ปน ปุนปฺปุนํ เทเสตพฺโพว. กายสกฺขิทิฏฺปฺปตฺตสทฺธาวิมุตฺตา เหฏฺา กถิตาเยว.
๙๘. คูถภาณีอาทีสุ – สภคฺคโตติ สภายํ ิโต. ปริสคฺคโตติ คามปริสาย ิโต. าติมชฺฌคโตติ ทายาทานํ มชฺเฌ ิโต. ปูคมชฺฌคโตติ เสณีนํ มชฺเฌ ิโต. ราชกุลมชฺฌคโตติ ราชกุลสฺส มชฺเฌ มหาวินิจฺฉเย ิโต. อภินีโตติ ปุจฺฉนตฺถาย นีโต. สกฺขิปุฏฺโติ สกฺขึ กตฺวา ปุจฺฉิโต. เอหมฺโภ ปุริสาติ อาลปนเมตํ. อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วาติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา หตฺถปาทาทิเหตุ วา ธนเหตุ วา. อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วาติ เอตฺถ อามิสนฺติ ลาโภ อธิปฺเปโต. กิฺจิกฺขนฺติ ยํ วา ตํ วา อปฺปมตฺตกํ. อนฺตมโส ติตฺติรวฏฺฏกสปฺปิปิณฺฑนวนีตปิณฺฑาทิอปฺปมตฺตกสฺสาปิ ลฺชสฺส เหตูติ อตฺโถ. สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหตีติ ชานนฺโตเยว มุสาวาทํ กตฺตา โหติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล คูถสทิสวจนตฺตา คูถภาณีติ วุจฺจติ. ยถา หิ คูถํ นาม มหาชนสฺส อนิฏฺํ ¶ โหติ อกนฺตํ; เอวเมว อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วจนํ เทวมนุสฺสานํ อนิฏฺํ โหติ อกนฺตํ.
๙๙. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ปุปฺผสทิสวจนตฺตา ปุปฺผภาณีติ วุจฺจติ. ยถา หิ ผุลฺลานิ วสฺสิกานิ วา อธิมุตฺตกานิ วา มหาชนสฺส อิฏฺานิ กนฺตานิ โหนฺติ; เอวเมว อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วจนํ เทวมนุสฺสานํ อิฏฺํ ¶ โหติ กนฺตํ.
๑๐๐. เนลาติ เอลํ วุจฺจติ โทโส. นาสฺสา เอลนฺติ เนลา. นิทฺโทสาติ อตฺโถ, ‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ (อุทา. ๖๕) เอตฺถ วุตฺตเนลํ วิย. กณฺณสุขาติ พฺยฺชนมธุรตาย กณฺณานํ สุขา. สูจิวิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. อตฺถมธุรตาย สกลสรีเร โกปํ อชเนตฺวา เปมํ ชเนตีติ เปมนียา. หทยํ คจฺฉติ อปฺปฏิหฺมานา สุเขน จิตฺตํ ปวิสตีติ หทยงฺคมา. คุณปริปุณฺณตาย ปุเร ภวาติ โปรี. ปุเร สํวฑฺฒนารี วิย สุกุมาราติปิ โปรี. ปุรสฺส เอสาติปิ โปรี. นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. นครวาสิโน หิ ยุตฺตกถา โหนฺติ. ปิติมตฺตํ ปิตาติ, มาติมตฺตํ มาตาติ, ภาติมตฺตํ ภาตาติ วทนฺติ. เอวรูปี กถา พหุโน ชนสฺส กนฺตา โหตีติ พหุชนกนฺตา. พหุชนสฺส กนฺตภาเวเนว พหุโน ชนสฺส มนาปา จิตฺตวุทฺธิกราติ พหุชนมนาปา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล มธุภาณีติ ¶ วุจฺจติ. มุทุภาณีติปิ ปาโ. อุภยตฺถาปิ มธุรวจโนติ อตฺโถ. ยถา หิ จตุมธุรํ นาม มธุรํ ปณีตํ; เอวเมว อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วจนํ เทวมนุสฺสานํ มธุรํ โหติ.
๑๐๑. อรุกูปมจิตฺตาทีสุ – อภิสชฺชตีติ ลคฺคติ. กุปฺปตีติ โกปวเสน กุปฺปติ. พฺยาปชฺชตีติ ปกติภาวํ ปชหติ, ปูติโก โหติ. ปติตฺถียตีติ ถินภาวํ ถทฺธภาวฺจ อาปชฺชติ. โกปนฺติ ทุพฺพลโกธํ. โทสนฺติ ทุสฺสนวเสน ตโต พลวตรํ. อปฺปจฺจยนฺติ อตุฏฺาการํ โทมนสฺสํ. ทุฏฺารุโกติ ปุราณวโณ. กฏฺเนาติ ทณฺฑกโกฏิยา. กลายาติ กปาเลน. อาสวํ เทตีติ อปราปรํ สวติ. ปุราณวโณ หิ อตฺตโน ธมฺมตาย เอว ปุพฺพํ โลหิตํ ยูสนฺติ อิมานิ ตีณิ สวติ ¶ , ฆฏฺฏิโต ปน ตานิ อธิกตรํ สวติ. เอวเมวํ โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ, ทุฏฺารุโก วิย หิ โกธโน ปุคฺคโล. ตสฺส อตฺตโน ธมฺมตาย สวนํ วิย โกธนสฺสปิ อตฺตโน ธมฺมตาย อุทฺธุมาตกสฺส วิย จณฺฑิกตสฺส จรณํ. กฏฺเน วา กลาย วา ฆฏฺฏนํ วิย อปฺปมตฺตกมฺปิ ¶ วจนํ ภิยฺโยโส มตฺตาย สวนํ วิย ‘มาทิสํ นาม เอส เอวํ วทตี’ติ ภิยฺโยโส มตฺตาย อุทฺธุมายนภาโว ทฏฺพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อรุกูปมจิตฺโตติ วุจฺจติ. ปุราณวณสทิสจิตฺโตติ อตฺโถ.
๑๐๒. รตฺตนฺธการติมิสายาติ รตฺตึ จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺตินิวารเณน อนฺธภาวกรเณ พหลตเม. วิชฺชนฺตริกายาติ วิชฺชุปฺปตฺติกฺขเณ. อิธาปิ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – จกฺขุมา ปุริโส วิย หิ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ. อนฺธการํ วิย โสตาปตฺติมคฺควชฺฌา กิเลสา. วิชฺชุสฺจรณํ วิย โสตาปตฺติมคฺคาณสฺส อุปฺปตฺติกาโล. วิชฺชนฺตริกาย จกฺขุมโต ปุริสสฺส สามนฺตา รูปทสฺสนํ วิย โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ นิพฺพานทสฺสนํ. ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย สกทาคามิมคฺควชฺฌา กิเลสา. ปุน วิชฺชุสฺจรณํ วิย สกทาคามิมคฺคาณสฺส อุปฺปาโท. วิชฺชนฺตริกาย จกฺขุมโต ปุริสสฺส สามนฺตา รูปทสฺสนํ วิย สกทาคามิมคฺคกฺขเณ นิพฺพานทสฺสนํ. ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อนาคามิมคฺควชฺฌา กิเลสา. ปุน วิชฺชุสฺจรณํ วิย อนาคามิมคฺคาณสฺส อุปฺปาโท. วิชฺชนฺตริกาย จกฺขุมโต ปุริสสฺส สามนฺตา รูปทสฺสนํ วิย อนาคามิมคฺคกฺขเณ นิพฺพานทสฺสนํ เวทิตพฺพํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล วิชฺชูปมจิตฺโตติ วุจฺจติ. อิตฺตรกาโลภาเสน วิชฺชุสทิสจิตฺโตติ อตฺโถ.
๑๐๓. วชิรูปมจิตฺตตายปิ ¶ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – วชิรํ วิย หิ อรหตฺตมคฺคาณํ ทฏฺพฺพํ. มณิคณฺิปาสาณคณฺิ วิย อรหตฺตมคฺควชฺฌา กิเลสา. วชิรสฺส มณิคณฺึ วา ปาสาณคณฺึ วา วินิวิชฺฌิตฺวา อคมนภาวสฺส นตฺถิภาโว วิย อรหตฺตมคฺคาเณน อจฺเฉชฺชานํ กิเลสานํ นตฺถิภาโว. วชิเรน นิพฺพิทฺธเวธสฺส ปุน อปฏิปูรณํ วิย อรหตฺตมคฺเคน ฉินฺนานํ กิเลสานํ ปุน อนุปฺปาโท ทฏฺพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ¶ วชิรูปมจิตฺโตติ วุจฺจติ. กิเลสานํ มูลฆาตกรณสมตฺถตาย วชิเรน สทิสจิตฺโตติ อตฺโถ.
๑๐๔. อนฺธาทีสุ ตถารูปํ จกฺขุ น โหตีติ ตถาชาติกํ ตถาสภาวํ ¶ ปฺาจกฺขุ น โหติ. ผาตึ กเรยฺยาติ ผีตํ วฑฺฒิตํ กเรยฺย. สาวชฺชานวชฺเชติ สโทสนิทฺโทเส. หีนปฺปณีเตติ อธมุตฺตเม. กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเคติ กณฺหสุกฺกาเยว อฺมฺปฏิพาหนโต ปฏิปกฺขวเสน สปฺปฏิภาคาติ วุจฺจนฺติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – กุสเล ธมฺเม ‘กุสลา ธมฺมา’ติ เยน ปฺาจกฺขุนา ชาเนยฺย, อกุสเล ธมฺเม ‘อกุสลา ธมฺมา’ติ, สาวชฺชาทีสุปิ เอเสว นโย. กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเคสุ ปน กณฺหธมฺเม ‘สุกฺกสุปฺปฏิภาคา’ติ, สุกฺกธมฺเม ‘กณฺหสปฺปฏิภาคา’ติ เยน ปฺาจกฺขุนา ชาเนยฺย. ตถารูปมฺปิสฺส จกฺขุ น โหตีติ อิมินา นเยน เสสฏฺาเนสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ทิฏฺธมฺมิกโภคสํหรณปฺาจกฺขุโน จ สมฺปรายิกตฺถโสธนปฺาจกฺขุโน จ อภาวา อนฺโธติ วุจฺจติ. ทุติโย ทิฏฺธมฺมิกโภคสํหรณปฺาจกฺขุโน ภาวา, สมฺปรายิกตฺถโสธนปฺาจกฺขุโน ปน อภาวา เอกจกฺขูติ วุจฺจติ. ตติโย ทฺวินฺนมฺปิ ภาวา ทฺวิจกฺขูติ วุจฺจติ.
๑๐๗. อวกุชฺชปฺาทีสุ ธมฺมํ เทเสนฺตีติ อุปาสโก ธมฺมสฺสวนตฺถาย อาคโตติ อตฺตโน กมฺมํ ปหาย ธมฺมํ เทเสนฺติ. อาทิกลฺยาณนฺติ อาทิมฺหิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชํ นิทฺโทสํ กตฺวา เทเสนฺติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน อาทีติ ปุพฺพปฏฺปนา. มชฺฌนฺติ กถาเวมชฺฌํ. ปริโยสานนฺติ สนฺนิฏฺานํ. อิติสฺส ธมฺมํ กเถนฺตา ปุพฺพปฏฺปเนปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา กเถนฺติ, เวมชฺเฌปิ, ปริโยสาเนปิ. เอตฺถ จ อตฺถิ เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานานิ, อตฺถิ สาสนสฺส. ตตฺถ เทสนาย ตาว – จตุปฺปทิกคาถาย ปมปทํ อาทิ, ทฺเว ปทานิ มชฺฌํ, อวสานปทํ ปริโยสานํ. เอกานุสนฺธิกสุตฺตสฺส – นิทานํ อาทิ, อนุสนฺธิ มชฺฌํ, อิทมโวจาติ อปฺปนา ปริโยสานํ. อเนกานุสนฺธิกสฺส – ปโม อนุสนฺธิ อาทิ ¶ , ตโต ปรํ เอโก วา อเนกา วา มชฺฌํ, ปจฺฉิโม ปริโยสานํ. อยํ ตาว เทสนาย นโย.
สาสนสฺส ¶ ปน สีลํ อาทิ, สมาธิ มชฺฌํ, วิปสฺสนา ปริโยสานํ. สมาธิ วา อาทิ, วิปสฺสนา มชฺฌํ, มคฺโค ปริโยสานํ. วิปสฺสนา วา อาทิ, มคฺโค มชฺฌํ, ผลํ ปริโยสานํ. มคฺโค วา อาทิ, ผลํ มชฺฌํ, นิพฺพานํ ปริโยสานํ ¶ . ทฺเว ทฺเว วา กริยมาเน สีลสมาธโย อาทิ, วิปสฺสนามคฺคา มชฺฌํ, ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํ. สาตฺถนฺติ สาตฺถกํ กตฺวา เทเสนฺติ. สพฺยฺชนนฺติ อกฺขรปาริปูรึ กตฺวา เทเสนฺติ. เกวลปริปุณฺณนฺติ สกลปริปุณฺณํ อนูนํ กตฺวา เทเสนฺติ. ปริสุทฺธนฺติ ปริสุทฺธํ นิชฺชฏํ นิคฺคณฺึ กตฺวา เทเสนฺติ. พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺตีติ เอวํ เทเสนฺตา จ เสฏฺจริยภูตํ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ปกาเสนฺติ. เนว อาทึ มนสิ กโรตีติ เนว ปุพฺพปฏฺปนํ มนสิ กโรติ. กุมฺโภติ ฆโฏ. นิกฺกุชฺโชติ อโธมุโข ปิโต. เอวเมวนฺติ เอตฺถ กุมฺโภ นิกฺกุชฺโช วิย อวกุชฺชปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ. อุทกาสิฺจนกาโล วิย ธมฺมเทสนาย ลทฺธกาโล. อุทกสฺส วิวฏฺฏนกาโล วิย ตสฺมึ อาสเน นิสินฺนสฺส อุคฺคเหตุํ อสมตฺถกาโล. อุทกสฺส อสณฺานกาโล วิย อุฏฺหิตฺวา อสลฺลกฺขณกาโล เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อวกุชฺชปฺโติ วุจฺจติ. อโธมุขปฺโติ อตฺโถ.
๑๐๘. อากิณฺณานีติ ปกฺขิตฺตานิ. สติสมฺโมสา ปกิเรยฺยาติ มุฏฺสฺสติตาย วิกิเรยฺย. เอวเมวนฺติ เอตฺถ อุจฺฉงฺโค วิย อุจฺฉงฺคปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ. นานาขชฺชกานิ วิย นานปฺปการํ พุทฺธวจนํ. อุจฺฉงฺเค นานาขชฺชกานิ ขาทนฺตสฺส นิสินฺนกาโล วิย ตสฺมึ อาสเน นิสินฺนสฺส อุคฺคหณกาโล. วุฏฺหนฺตสฺส สติสมฺโมสา วิกิรณกาโล วิย ตสฺมา อาสนา วุฏฺาย คจฺฉนฺตสฺส อสลฺลกฺขณกาโล เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อุจฺฉงฺคปฺโติ วุจฺจติ. อุจฺฉงฺคสทิสปฺโติ อตฺโถ.
๑๐๙. อุกฺกุชฺโชติ อุปริมุโข ปิโต. สณฺาตีติ ปติฏฺหติ. เอวเมว โขติ เอตฺถ อุปริมุโข ปิโต กุมฺโภ วิย ปุถุปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ. อุทกสฺส อาสิตฺตกาโล วิย เทสนาย ลทฺธกาโล. อุทกสฺส สณฺานกาโล วิย ตตฺถ นิสินฺนสฺส อุคฺคหณกาโล. โน วิวฏฺฏนกาโล ¶ ¶ วิย อุฏฺาย คจฺฉนฺตสฺส สลฺลกฺขณกาโล เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ปุถุปฺโติ วุจฺจติ. วิตฺถาริกปฺโติ อตฺโถ.
๑๑๐. อวีตราคาทีสุ – ยถา โสตาปนฺนสกทาคามิโน, เอวํ ปุถุชฺชโนปิ ¶ ปฺจสุ กามคุเณสุ, ตีสุ จ ภเวสุ อวีตราโค. อทพฺพตาย ปน น คหิโต. ยถา หิ เฉโก วฑฺฒกี ทพฺพสมฺภารตฺถํ วนํ ปวิฏฺโ น อาทิโต ปฏฺาย สมฺปตฺตสมฺปตฺตรุกฺเข ฉินฺทติ, เย ปนสฺส ทพฺพสมฺภารูปคา โหนฺติ, เตเยว ฉินฺทติ; เอวมิธาปิ ภควตา ทพฺพชาติกา อริยาว คหิตา, ปุถุชฺชนา ปน อทพฺพตาย น คหิตาติ เวทิตพฺพา. กาเมสุ วีตราโคติ ปฺจสุ กามคุเณสุ วีตราโค. ภเวสุ อวีตราโคติ รูปารูปภเวสุ อวีตราโค.
๑๑๓. ปาสาณเลขูปมาทีสุ – อนุเสตีติ อปฺปหีนตาย อนุเสติ. น ขิปฺปํ ลุชฺชตีติ น อนฺตรา นสฺสติ, กปฺปุฏฺาเนเนว นสฺสติ. เอวเมวนฺติ เอวํ ตสฺสาปิ ปุคฺคลสฺส โกโธ น อนฺตรา ปุนทิวเส วา อปรทิวเส วา นิพฺพาติ, อทฺธนิโย ปน โหติ. มรเณเนว นิพฺพาตีติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ปาสาณเลขา วิย กุชฺฌนภาเวน จิรฏฺิติกโต ปาสาณเลขูปโมติ วุจฺจติ.
๑๑๔. โส จ ขฺวสฺส โกโธติ โส อปฺปมตฺตเกปิ การเณ สหสา กุทฺธสฺส โกโธ. น จิรนฺติ อจิรํ อปฺปหีนตาย นานุเสติ. ยถา ปน ปถวิยํ อากฑฺฒิตฺวา กตเลขา วาตาทีหิ ขิปฺปํ นสฺสติ, เอวมสฺส สหสา อุปฺปนฺโนปิ โกโธ ขิปฺปเมว นิพฺพาตีติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ปถวิยํ เลขา วิย กุชฺฌนภาเวน อจิรฏฺิติกโต ปถวีเลขูปโมติ วุจฺจติ.
๑๑๕. อาคาฬฺเหนาติ อติคาฬฺเหน มมฺมจฺเฉทเกน ถทฺธวจเนน. ผรุเสนาติ น โสตสุเขน. อมนาเปนาติ น จิตฺตสุเขน. สํสนฺทตีติ เอกีภวติ. สนฺธิยตีติ ฆฏยติ. สมฺโมทตีติ นิรนฺตโร โหติ. อถ วา – สํสนฺทตีติ จิตฺตกิริยาทีสุ จิตฺเตน สโมธานํ คจฺฉติ. ขีโรทกํ วิย เอกีภาวํ อุเปตีติ อตฺโถ. สนฺธิยตีติ านคมนาทีสุ กายกิริยาทีสุ ¶ กาเยน สโมธานํ คจฺฉติ. ติลตณฺฑุลา วิย มิสฺสีภาวํ อุเปตีติ อตฺโถ. สมฺโมทตีติ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีสุ วจีกิริยาสุ วาจาย สโมธานํ คจฺฉติ. วิปฺปวาสคโตปิ ¶ ปิยสหายโก วิย ปิยตรภาวํ อุเปตีติ อตฺโถ. อปิจ – กิจฺจกรณีเยสุ เตหิ สทฺธึ อาทิโตว เอกกิริยภาวํ อุปคจฺฉนฺโต สํสนฺทติ. ยาว มชฺฌา ปวตฺตนฺโต สนฺธิยติ, ยาว ปริโยสานา อนิวตฺตนฺโต สมฺโมทตีติปิ เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อุทกเลขา ¶ วิย ขิปฺปํ สํสนฺทนโต อุทกเลขูปโมติ วุจฺจติ.
๑๑๖. โปตฺถกูปเมสุ – ยาย อุปมาย เต โปตฺถกูปมาติ วุจฺจนฺติ, ตํ ตาว อุปมํ ทสฺเสตุํ ตโย โปตฺถกาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นโวติ นววายิโม. โปตฺถโกติ สาณวากสาฏโก. ทุพฺพณฺโณติ วิวณฺโณ. ทุกฺขสมฺผสฺโสติ ขรสมฺผสฺโส. อปฺปคฺโฆติ อติพหุํ อคฺฆนฺโต กหาปณคฺฆนโก โหติ. มชฺฌิโมติ ปริโภคมชฺฌิโม. โส หิ นวภาวํ อติกฺกมิตฺวา ชิณฺณภาวํ อปฺปตฺโต มชฺเฌ ปริโภคกาเลปิ ทุพฺพณฺโณ จ ทุกฺขสมฺผสฺโส จ อปฺปคฺโฆเยว จ โหติ. อติพหุํ อคฺฆนฺโต อฑฺฒํ อคฺฆติ. ชิณฺณกาเล ปน อฑฺฒมาสกํ วา กากณิกํ วา อคฺฆติ. อุกฺขลิปริมชฺชนนฺติ กาฬุกฺขลิปริปฺุฉนํ.
นโวติ อุปสมฺปทาย ปฺจวสฺสกาลโต เหฏฺา ชาติยา สฏฺิวสฺโสปิ นโวเยว. ทุพฺพณฺณตายาติ สรีรวณฺเณนปิ คุณวณฺเณนปิ ทุพฺพณฺณตาย. ทุสฺสีลสฺส หิ ปริสมชฺเฌ นิสินฺนสฺส นิตฺเตชตาย สรีรวณฺโณปิ น สมฺปชฺชติ, คุณวณฺเณ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เย โข ปนสฺสาติ เย โข ปน ตสฺส อุปฏฺากา วา าติมิตฺตาทโย วา เอตํ ปุคฺคลํ เสวนฺติ. เตสํ ตนฺติ เตสํ ปุคฺคลานํ ฉ สตฺถาเร เสวนฺตานํ มิจฺฉาทิฏฺิกานํ วิย, เทวทตฺตํ เสวนฺตานํ โกกาลิกาทีนํ วิย จ ตํ เสวนํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย โหติ. มชฺฌิโมติ ปฺจวสฺสกาลโต ปฏฺาย ยาว นววสฺสกาลา มชฺฌิโม นาม. เถโรติ ทสวสฺสกาลโต ปฏฺาย เถโร นาม. เอวมาหํสูติ เอวํ วทนฺติ. กึ นุ โข ตุยฺหนฺติ ตุยฺหํ พาลสฺส ภณิเตน โก อตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. ตถารูปนฺติ ตถาชาติกํ ตถาสภาวํ อุกฺเขปนียกมฺมสฺส การณภูตํ.
๑๑๗. กาสิกวตฺถูปเมสุ ¶ – กาสิกวตฺถํ นาม ตโย กปฺปาสํสู คเหตฺวา กนฺติตสุตฺเตน วายิตํ สุขุมวตฺถํ. ตํ นววายิมํ อนคฺฆํ โหติ. ปริโภคมชฺฌิมํ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ สหสฺสานิ อคฺฆติ. ชิณฺณกาเล ปน อฏฺปิ ทสปิ สหสฺสานิ อคฺฆติ.
เตสํ ¶ ตํ โหตีติ เตสํ สมฺมาสมฺพุทฺธาทโย เสวนฺตานํ วิย ตํ เสวนํ ทีฆรตฺตํ ¶ หิตาย สุขาย โหติ. สมฺมาสมฺพุทฺธฺหิ เอกํ นิสฺสาย ยาวชฺชกาลา มุจฺจนกสตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ. ตถา สาริปุตฺตตฺเถรมหาโมคฺคลฺลานตฺเถเร อวเสเส จ อสีติมหาสาวเก นิสฺสาย สคฺคํ คตสตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ. ยาวชฺชกาลา เตสํ ทิฏฺานุคตึ ปฏิปนฺนสตฺตานมฺปิ ปมาณํ นตฺถิเยว. อาเธยฺยํ คจฺฉตีติ ตสฺส มหาเถรสฺส ตํ อตฺถนิสฺสิตํ วจนํ ยถา คนฺธกรณฺฑเก กาสิกวตฺถํ อาธาตพฺพตํ เปตพฺพตํ คจฺฉติ, เอวํ อุตฺตมงฺเค สิรสฺมึ หทเย จ อาธาตพฺพตํ เปตพฺพตมฺปิ คจฺฉติ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ.
๑๑๘. สุปฺปเมยฺยาทีสุ – สุเขน ปเมตพฺโพติ สุปฺปเมยฺโย. อิธาติ อิมสฺมึ สตฺตโลเก. อุทฺธโตติ อุทฺธจฺเจน สมนฺนาคโต. อุนฺนโฬติ อุคฺคตนโฬ; ตุจฺฉมานํ อุกฺขิปิตฺวา ิโตติ อตฺโถ. จปโลติ ปตฺตมณฺฑนาทินา จาปลฺเลน สมนฺนาคโต. มุขโรติ มุขขโร. วิกิณฺณวาโจติ อสํยตวจโน. อสมาหิโตติ จิตฺเตกคฺคตารหิโต. วิพฺภนฺตจิตฺโตติ ภนฺตจิตฺโต, ภนฺตคาวีภนฺตมิคีสปฺปฏิภาโค. ปากฏินฺทฺริโยติ วิวฏินฺทฺริโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ‘สุปฺปเมยฺโย’ติ วุจฺจติ. ยถา หิ ปริตฺตสฺส อุทกสฺส สุเขน ปมาณํ คยฺหติ; เอวเมว อิเมหิ อคุณงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส สุเขน ปมาณํ คยฺหติ. เตเนส ‘สุปฺปเมยฺโย’ติ วุตฺโต.
๑๑๙. ทุกฺเขน ปเมตพฺโพติ ทุปฺปเมยฺโย. อนุทฺธตาทีนิ วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพานิ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ‘ทุปฺปเมยฺโย’ติ วุจฺจติ. ยถา หิ มหาสมุทฺทสฺส ทุกฺเขน ปมาณํ คยฺหติ; เอวเมว อิเมหิ คุณงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ทุกฺเขน ปมาณํ คยฺหติ. ตาทิโส ‘อนาคามี นุ โข, ขีณาสโว นุ โข’ติ วตฺตพฺพตํ คจฺฉติ, เตเนส ‘ทุปฺปเมยฺโย’ติ วุตฺโต.
๑๒๐. น ¶ สกฺกา ปเมตุนฺติ อปฺปเมยฺโย. ยถา หิ อากาสสฺส น สกฺกา ปมาณํ คเหตุํ, เอวํ ขีณาสวสฺส. เตเนส ‘อปฺปเมยฺโย’ติ วุตฺโต.
๑๒๑. น เสวิตพฺพาทีสุ – น เสวิตพฺโพติ น อุปสงฺกมิตพฺโพ. น ภชิตพฺโพติ น อลฺลียิตพฺโพ. น ปยิรุปาสิตพฺโพติ น สนฺติเก นิสีทนวเสน ปุนปฺปุนํ อุปาสิตพฺโพ. หีโน ¶ โหติ สีเลนาติอาทีสุ อุปาทายุปาทาย หีนตา เวทิตพฺพา ¶ . โย หิ ปฺจ สีลานิ รกฺขติ, โส ทส สีลานิ รกฺขนฺเตน น เสวิตพฺโพ. โย ปน ทส สีลานิ รกฺขติ, โส จตุปาริสุทฺธิสีลํ รกฺขนฺเตน น เสวิตพฺโพ. อฺตฺร อนุทฺทยา อฺตฺร อนุกมฺปาติ เปตฺวา อนุทฺทยฺจ อนุกมฺปฺจ. อตฺตโน อตฺถาย เอว หิ เอวรูโป ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ. อนุทฺทยานุกมฺปาวเสน ปน ตํ อุปสงฺกมิตุํ วฏฺฏติ.
๑๒๒. สทิโส โหตีติ สมาโน โหติ. สีลสามฺคตานํ สตนฺติ สีเลน สมานภาวํ คตานํ สนฺตานํ. สีลกถา จ โน ภวิสฺสตีติ เอวํ สมานสีลานํ อมฺหากํ สีลเมว อารพฺภ กถา ภวิสฺสติ. สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสตีติ สา จ สีลกถา อมฺหากํ ผาสุวิหาโร สุขวิหาโร ภวิสฺสติ. สา จ โน ปวตฺตินี ภวิสฺสตีติ สา จ อมฺหากํ กถา ทิวสมฺปิ กเถนฺตานํ ปวตฺตินี ภวิสฺสติ, น ปฏิหฺิสฺสติ. ทฺวีสุ หิ สีลวนฺเตสุ เอเกน สีลสฺส วณฺเณ กถิเต อิตโร อนุโมทติ; เตน เตสํ กถา ผาสุ เจว โหติ, ปวตฺตินี จ. เอกสฺมึ ปน ทุสฺสีเล สติ ทุสฺสีลสฺส สีลกถา ทุกฺกถาติ เนว สีลกถา โหติ, น ผาสุ โหติ, น ปวตฺตินี. สมาธิปฺากถาสุปิ เอเสว นโย. ทฺเว หิ สมาธิลาภิโน สมาธิกถํ, สปฺปฺา จ ปฺากถํ กเถนฺตา, รตฺตึ วา ทิวสํ วา อติกฺกนฺตมฺปิ น ชานนฺติ.
๑๒๓. สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวาติ สกฺการฺเจว ครุการฺจ กริตฺวา. อธิโก โหตีติ อติเรโก โหติ. สีลกฺขนฺธนฺติ สีลราสึ. ปริปูเรสฺสามีติ ตํ อติเรกสีลํ ปุคฺคลํ นิสฺสาย อตฺตโน อปริปูรํ สีลราสึ ปริปูรํ กริสฺสามิ. ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ เอตฺถ สีลสฺส ¶ อสปฺปาเย อนุปการธมฺเม วชฺเชตฺวา สปฺปาเย อุปการธมฺเม เสวนฺโต ตสฺมึ ตสฺมึ าเน สีลกฺขนฺธํ ปฺาย อนุคฺคณฺหาติ นาม. สมาธิปฺากฺขนฺเธสุปิ เอเสว นโย.
๑๒๔. ชิคุจฺฉิตพฺพาทีสุ – ชิคุจฺฉิตพฺโพติ คูถํ วิย ชิคุจฺฉิตพฺโพ. อถ โข นนฺติ อถ โข อสฺส. กิตฺติสทฺโทติ กถาสทฺโท. เอวเมวนฺติ เอตฺถ คูถกูโป วิย ทุสฺสีลฺยํ ทฏฺพฺพํ. คูถกูเป ปติตฺวา ิโต ธมนีอหิ วิย ทุสฺสีลปุคฺคโล. คุถกูปโต อุทฺธริยมาเนน เตน อหินา ปุริสสฺส สรีรํ อารุฬฺเหนาปิ อทฏฺภาโว วิย ทุสฺสีลํ เสวมานสฺสาปิ ¶ ตสฺส กิริยาย ¶ การณภาโว สรีรํ คูเถน มกฺเขตฺวา อหิโน คตกาโล วิย ทุสฺสีลํ เสวมานสฺส ปาปกิตฺติสทฺทสฺส อพฺภุคฺคมนกาโล เวทิตพฺโพ.
๑๒๕. ตินฺทุกาลาตนฺติ ตินฺทุกรุกฺขอลาตํ. ภิยฺโยโส มตฺตาย จิจฺจิฏายตีติ ตฺหิ ฌายมานํ ปกติยาปิ ปปฏิกาโย มฺุจนฺตํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏาติ สทฺทํ กโรติ. ฆฏฺฏิตํ ปน อธิมตฺตํ กโรตีติ อตฺโถ. เอวเมวนฺติ เอวเมวํ โกธโน อตฺตโน ธมฺมตายปิ อุทฺธโต จณฺฑิกโต หุตฺวา จรติ. อปฺปมตฺตกํ ปน วจนํ วุตฺตกาเล ‘มาทิสํ นาม เอวํ วทตี’ติ อติเรกตรํ อุทฺธโต จณฺฑิกโต หุตฺวา จรติ. คูถกูโปติ คูถปุณฺณกูโป, คูถราสิเยว วา. โอปมฺมสํสนฺทนํ ปเนตฺถ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ, น เสวิตพฺโพติ ยสฺมา โกธโน อติเสวิยมาโนปิ อติอุปสงฺกมิยมาโนปิ กุชฺฌติเยว, ‘กึ อิมินา’ติ ปฏิกฺกมนฺโตปิ กุชฺฌติเยว, ตสฺมา ปลาลคฺคิ วิย อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ. กึ วุตฺตํ โหติ? โย หิ ปลาลคฺคึ อติอุปสงฺกมิตฺวา ตปฺปติ, ตสฺส สรีรํ ฌายติ. โย อติปฏิกฺกมิตฺวา ตปฺปติ, ตสฺส สีตํ น วูปสมฺมติ. อนุปสงฺกมิตฺวา อปฏิกฺกมิตฺวา ปน มชฺฌตฺตภาเวน ตปฺเปนฺตสฺส สีตํ วูปสมฺมติ, กาโยปิ น ฑยฺหติ. ตสฺมา ปลาลคฺคิ วิย โกธโน ปุคฺคโล มชฺฌตฺตภาเวน อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ, น ภชิตพฺโพ, น ปยิรุปาสิตพฺโพ.
๑๒๖. กลฺยาณมิตฺโตติ สุจิมิตฺโต. กลฺยาณสหาโยติ สุจิสหาโย. สหาโยติ สหคามี สทฺธึจโร. กลฺยาณสมฺปวงฺโกติ กลฺยาเณสุ ¶ สุจิปุคฺคเลสุ สมฺปวงฺโก, ตนฺนินฺนตปฺโปณตปฺปพฺภารมานโสติ อตฺโถ.
๑๒๗. สีเลสุ ปริปูรการีติอาทีสุ – สีเลสุ ปริปูรการิโนติ เอเต อริยสาวกา ยานิ ตานิ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตานิ, อาทิพฺรหฺมจริยกานิ, ปาราชิกสงฺขาตานิ จตฺตาริ มหาสีลสิกฺขาปทานิ, เตสํ อวีติกฺกมนโต ยานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ อาปชฺชนฺติ, เตหิ จ วุฏฺานโต สีเลสุ ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ ปริปูรํ สมตฺตํ กโรนฺตีติ ‘สีเลสุ ปริปูรการิโน’ติ วุจฺจนฺติ. สมาธิปาริพนฺธกานํ ปน กามราคพฺยาปาทานํ, ปฺาปาริพนฺธกสฺส จ สจฺจปฏิจฺฉาทกสฺส โมหสฺส ¶ อสมูหตตฺตา, สมาธึ ปฺฺจ ภาเวนฺตาปิ สมาธิปฺาสุ ยํ ¶ กตฺตพฺพํ ตํ มตฺตโส ปมาเณน ปเทสมตฺตเมว กโรนฺตีติ สมาธิสฺมึ ปฺาย จ มตฺตโส การิโนติ วุจฺจนฺติ. อิมินา อุปาเยน อิตเรสุปิ ทฺวีสุ นเยสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ตตฺรายํ อปโรปิ สุตฺตนฺตนโย –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ มตฺตโส การี, ปฺาย มตฺตโส การี. โส ยานิ ตานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ ตานิ อาปชฺชติปิ, วุฏฺาติปิ. ตํ กิสฺส เหตุ? น หิ เมตฺถ, ภิกฺขเว, อภพฺพตา วุตฺตา. ยานิ จ โข ตานิ สิกฺขาปทานิ อาทิพฺรหฺมจริยกานิ พฺรหฺมจริยสารุปฺปานิ, ตตฺถ ธุวสีโล จ โหติ, ิตสีโล จ, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ, อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ…เป… โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา, ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา, สกทาคามี โหติ; สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ ปริปูรการี, ปฺาย มตฺตโส การี. โส ยานิ ตานิ…เป… สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ…เป… อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อิธ ปน, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุ สีเลสุ ปริปูรการี, สมาธิสฺมึ ปริปูรการี, ปฺาย ปริปูรการี. โส ยานิ ตานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ…เป… สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส อาสวานํ ขยา…เป… อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๗).
๑๓๐. สตฺถารนิทฺเทเส – ปริฺํ ปฺเปตีติ ปหานํ สมติกฺกมํ ปฺเปติ. ตตฺราติ เตสุ ตีสุ ชเนสุ. เตน ทฏฺพฺโพติ เตน ปฺาปเนน โส สตฺถา รูปาวจรสมาปตฺติยา ลาภีติ ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ. ทุติยวาเรปิ เอเสว นโย. สมฺมาสมฺพุทฺโธ สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพติ เตน ติตฺถิเยหิ อสาธารเณน ปฺาปเนน อยํ ตติโย สตฺถา สพฺพฺุพุทฺโธ ทฏฺพฺโพ. ติตฺถิยา หิ กามานํ ปริฺํ ปฺเปนฺตา รูปภวํ วกฺขนฺติ. รูปานํ ปริฺํ ปฺเปนฺตา ¶ อรูปภวํ วกฺขนฺติ. เวทนานํ ปริฺํ ปฺเปนฺตา อสฺภวํ วกฺขนฺติ. สมฺมา ปฺเปนฺตา ‘เอวํ ปฺเปยฺยุํ’, โน จ สมฺมา ปฺเปตุํ สกฺโกนฺติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน กามานํ ปริฺํ ปหานํ อนาคามิมคฺเคน ปฺเปติ ¶ . รูปเวทนานํ ปริฺํ ปหานํ อรหตฺตมคฺเคน ปฺเปติ. อิเม ตโย สตฺถาโรติ อิเม ทฺเว ชนา พาหิรกา, เอโก สมฺมาสมฺพุทฺโธติ – อิมสฺมึ โลเก ตโย สตฺถาโร นาม.
๑๓๑. ทุติเย สตฺถารนิทฺเทเส – ทิฏฺเ เจว ธมฺเมติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว. อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปฺเปตีติ ‘‘อตฺตา นาเมโก อตฺถิ นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต’’ติ ภูตโต ถิรโต ปฺเปติ. อภิสมฺปรายฺจาติ อปรสฺมึ อตฺตภาเว เอวเมว ปฺเปติ. เสสเมตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
ติกนิทฺเทสวณฺณนา.
๔. จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๑๓๒. จตุกฺกนิทฺเทเส – อสปฺปุริโสติ ลามกปุริโส. ปาณํ อติปาเตตีติ ปาณาติปาตี. อทินฺนํ อาทิยตีติ อทินฺนาทายี. กาเมสุ มิจฺฉา จรตีติ กาเมสุมิจฺฉาจารี. มุสา วทตีติ มุสาวาที. สุราเมรยมชฺชปมาเท ติฏฺตีติ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายี.
๑๓๓. ปาณาติปาเต ¶ สมาทเปตีติ ยถา ปาณํ อติปาเตติ, ตถา นํ ตตฺถ คหณํ คณฺหาเปติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ยสฺมา สยํ กเตน จ ทุสฺสีลฺเยน สมนฺนาคโต ยฺจ สมาทปิเตน กตํ, ตโต อุปฑฺฒสฺส ทายาโท, ตสฺมา อสปฺปุริเสน อสปฺปุริสตโรติ วุจฺจติ. สปฺปุริโสติ อุตฺตมปุริโส.
๑๓๕. สปฺปุริเสน สปฺปุริสตโรติ อตฺตนา กเตน สุสีลฺเยน สมนฺนาคตตฺตา ยฺจ สมาทปิโต กโรติ. ตโต อุปฑฺฒสฺส ทายาทตฺตา อุตฺตมปุริเสน อุตฺตมปุริสตโร.
๑๓๖. ปาโปติ อกุสลกมฺมปถสงฺขาเตน ทสวิเธน ปาเปน สมนฺนาคโต.
๑๓๘. กลฺยาโณติ ¶ กุสลกมฺมปถสงฺขาเตน ทสวิเธน กลฺยาณธมฺเมน สมนฺนาคโต สุทฺธโก ¶ ภทฺรโก. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว.
๑๔๐. ปาปธมฺมาทีสุ – ปาโป ธมฺโม อสฺสาติ ปาปธมฺโม. กลฺยาโณ ธมฺโม อสฺสาติ กลฺยาณธมฺโม. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
๑๔๔. สาวชฺชาทีสุ – สาวชฺโชติ สโทโส. สาวชฺเชน กายกมฺเมนาติ สโทเสน ปาณาติปาตาทินา กายกมฺเมน. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ตีหิ ทฺวาเรหิ อายูหนกมฺมสฺส สโทสตฺตา, คูถกุณปาทิภริโต ปเทโส วิย สาวชฺโชติ วุจฺจติ.
๑๔๕. สาวชฺเชน พหุลนฺติ ยสฺส สาวชฺชเมว กายกมฺมํ พหุ โหติ, อปฺปํ อนวชฺชํ; โส สาวชฺเชน พหุลํ กายกมฺเมน สมนฺนาคโต, อปฺปํ อนวชฺเชนาติ วุจฺจติ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. โก ปน เอวรูโป โหตีติ? โย คามธมฺมตาย วา นิคมธมฺมตาย วา กทาจิ กรหจิ อุโปสถํ สมาทิยติ, สีลานิ ปูเรติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ¶ ตีหิ ทฺวาเรหิ อายูหนกมฺเมสุ สาวชฺชสฺเสว พหุลตาย อนวชฺชสฺส อปฺปตาย วชฺชพหุโลติ วุจฺจติ.
ยถา หิ เอกสฺมึ ปเทเส ทุพฺพณฺณานิ ทุคฺคนฺธานิ ปุปฺผานิ ราสิกตานสฺสุ, เตสํ อุปริ ตหํ ตหํ อติมุตฺตกวสฺสิกปาฏลานิ ปติตานิ ภเวยฺยุํ. เอวรูโป อยํ ปุคฺคโล เวทิตพฺโพ. ยถา ปน เอกสฺมึ ปเทเส อติมุตฺตกวสฺสิกปาฏลานิ ราสิกตานสฺสุ, เตสํ อุปริ ตหํ ตหํ ทุพฺพณฺณทุคฺคนฺธานิ พทรปุปฺผาทีนิ ปติตานิ ภเวยฺยุํ. เอวรูโป ตติโย ปุคฺคโล เวทิตพฺโพ. จตุตฺโถ ปน ตีหิปิ ทฺวาเรหิ อายูหนกมฺมสฺส นิทฺโทสตฺตา, จตุมธุรภริตสุวณฺณปาติ วิย ทฏฺพฺโพ. เตสุ ปโม อนฺธพาลปุถุชฺชโน. ทุติโย อนฺตรนฺตรา กุสลสฺส การโก โลกิยปุถุชฺชโน. ตติโย โสตาปนฺโน สกทาคามิอนาคามิโนปิ เอเตเนว สงฺคหิตา. จตุตฺโถ ขีณาสโว. โส หิ เอกนฺเตน อนวชฺโชเยว. อยํ องฺคุตฺตรฏฺกถาโย.
๑๔๘. อุคฺฆฏิตฺูอาทีสุ – อุคฺฆฏิตฺูติ เอตฺถ อุคฺฆฏิตํ นาม ¶ าณุคฺฆาฏนํ, าเณ อุคฺฆฏิตมตฺเตเยว ¶ ชานาตีติ อตฺโถ. สห อุทาหฏเวลายาติ อุทาหาเร อุทาหฏมตฺเตเยว. ธมฺมาภิสมโยติ จตุสจฺจธมฺมสฺส าเณน สทฺธึ อภิสมโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’ติอาทินา นเยน สํขิตฺเตน มาติกาย ปิยมานาย เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิตุํ สมตฺโถ ปุคฺคโล อุคฺฆฏิตฺูติ วุจฺจติ.
๑๔๙. วิปฺจิตํ วิตฺถาริตเมว อตฺถํ ชานาตีติ วิปฺจิตฺู. อยํ วุจฺจตีติ อยํ สงฺขิตฺเตน มาติกํ เปตฺวา วิตฺถาเรน อตฺเถ ภาชิยมาเน อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ สมตฺโถ ปุคฺคโล วิปฺจิตฺูติ วุจฺจติ.
๑๕๐. อุทฺเทสาทีหิ เนตพฺโพติ เนยฺโย. อนุปุพฺเพน ธมฺมาภิสมโย โหตีติ อนุกฺกเมน อรหตฺตปฺปตฺติ.
๑๕๑. พฺยฺชนปทเมว ¶ ปรมํ อสฺสาติ ปทปรโม. น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหตีติ น เตน อตฺตภาเวน ฌานํ วา วิปสฺสนํ วา มคฺคํ วา ผลํ วา นิพฺพตฺเตตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ.
๑๕๒. ยุตฺตปฏิภานาทีสุ – ปฏิภานํ วุจฺจติ าณมฺปิ, าณสฺส อุปฏฺิตวจนมฺปิ. ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. อตฺถยุตฺตํ การณยุตฺตฺจ ปฏิภานมสฺสาติ ยุตฺตปฺปฏิภาโน. ปุจฺฉิตานนฺตรเมว สีฆํ พฺยากาตุํ อสมตฺถตาย โน มุตฺตํ ปฏิภานมสฺสาติ โน มุตฺตปฺปฏิภาโน. อิมินา นเยน เสสา เวทิตพฺพา. เอตฺถ ปน ปโม – กิฺจิ กาลํ วีมํสิตฺวา ยุตฺตเมว เปกฺขติ, ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร วิย. โส กิร ปฺหํ ปุฏฺโ ปริคฺคเหตฺวา ยุตฺตปยุตฺตการณเมว กเถติ.
ทุติโย – ปุจฺฉานนฺตรเมว เยน วา เตน วา วจเนน ปฏิพาหติ, วีมํสิตฺวาปิ จ ยุตฺตํ น เปกฺขติ จตุนิกายิกปณฺฑิตติสฺสตฺเถโร วิย. โส กิร ปฺหํ ปุฏฺโ ปฺหปริโยสานมฺปิ นาคเมติ, ยํ วา ตํ วา กเถติเยว. วจนตฺถํ ปนสฺส วีมํสิยมานํ กตฺถจิ น ลคฺคติ.
ตติโย – ปุจฺฉาสมกาลเมว ยุตฺตํ เปกฺขติ, ตงฺขณฺเว วจนํ พฺยากโรติ ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ¶ วิย. โส กิร ปฺหํ ปุฏฺโ สีฆเมว กเถติ, ยุตฺตปยุตฺตการโณ จ โหติ.
จตุตฺโถ – ปุฏฺโ สมาโน เนว ยุตฺตํ เปกฺขติ ¶ , น เยน วา เตน วา ปฏิพาหิตุํ สกฺโกติ ติพฺพนฺธการนิมุคฺโค วิย โหติ ลาฬุทายิตฺเถโร วิย.
๑๕๖. ธมฺมกถิเกสุ – อปฺปฺจ ภาสตีติ สมฺปตฺตปริสาย โถกเมว กเถติ. อสหิตฺจาติ กเถนฺโต จ ปน น อตฺถยุตฺตํ การณยุตฺตํ กเถติ. ปริสา จสฺส น กุสลา โหตีติ โสตุํ นิสินฺนปริสา จสฺส ยุตฺตายุตฺตํ การณาการณํ สิลิฏฺาสิลิฏฺํ น ชานาตีติ อตฺโถ. เอวรูโปติ อยํ เอวํชาติโก พาลธมฺมกถิโก. เอวํชาติกาย พาลปริสาย ธมฺมกถิโกตฺเวว นามํ ลภติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ทฺเวเยว ชนา สภาวธมฺมกถิกา, อิตเร ปน ธมฺมกถิกานํ อนฺตเร ปวิฏฺตฺตา เอวํ วุตฺตา.
๑๕๗. วลาหกูปเมสุ ¶ วลาหกาติ เมฆา. คชฺชิตาติ ถนิตา. ตตฺถ คชฺชิตฺวา โน วสฺสนภาโว นาม ปาปโก. มนุสฺสา หิ ยถา เทโว คชฺชติ ‘สุวุฏฺิกา ภวิสฺสตี’ติ พีชานิ นีหริตฺวา วปนฺติ. อถ เทเว อวสฺสนฺเต เขตฺเต พีชานิ เขตฺเตเยว นสฺสนฺติ, เคเห พีชานิ เคเหเยว นสฺสนฺตีติ ทุพฺภิกฺขํ โหติ. โน คชฺชิตฺวา วสฺสนภาโวปิ ปาปโกว. มนุสฺสา หิ ‘อิมสฺมึ กาเล ทุพฺพุฏฺิกา ภวิสฺสตี’ติ นินฺนฏฺาเนสุเยว วปฺปํ กโรนฺติ. อถ เทโว วสฺสิตฺวา สพฺพพีชานิ มหาสมุทฺทํ ปาเปติ, ทุพฺภิกฺขเมว โหติ. คชฺชิตฺวา วสฺสนภาโว ปน ภทฺทโก. ตทา หิ สุภิกฺขํ โหติ. โน คชฺชิตฺวา โน วสฺสนภาโว เอกนฺตปาปโกว.
ภาสิตา โหติ โน กตฺตาติ ‘อิทานิ คนฺถธุรํ ปูเรสฺสามิ, วาสธุรํ ปูเรสฺสามี’ติ กเถติเยว, น ปน อุทฺเทสํ คณฺหาติ, น กมฺมฏฺานํ ภาเวติ.
กตฺตา โหติ โน ภาสิตาติ ‘คนฺถธุรํ วา ปูเรสฺสามิ วาสธุรํ วา’ติ น ภาสติ. สมฺปตฺเต ปน กาเล ตมตฺถํ สมฺปาเทติ. อิมินา นเยน อิตเรปิ เวทิตพฺพา. สพฺพํ ปเนตํ ปจฺจยทายเกเนว กถิตํ. เอโก หิ ‘อสุกทิวเส นาม ทานํ ทสฺสามี’ติ สงฺฆํ นิมนฺเตติ, สมฺปตฺตกาเล โน กโรติ. อยํ ปุคฺคโล ปฺุเน ปริหายติ, ภิกฺขุสงฺโฆปิ ลาเภน ปริหายติ ¶ . อปโร สงฺฆํ อนิมนฺเตตฺวาว สกฺการํ กตฺวา ‘ภิกฺขู อาเนสฺสามี’ติ น ลภติ, สพฺเพ อฺตฺถ นิมนฺติตา โหนฺติ. อยมฺปิ ปฺุเน ปริหายติ ¶ , สงฺโฆปิ เตน ลาเภน ปริหายติ. อปโร ปมํ สงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา, ปจฺฉา สกฺการํ กตฺวา ทานํ เทติ, อยํ กิจฺจการี โหติ. อปโร เนว สงฺฆํ นิมนฺเตติ, น ทานํ เทติ, อยํ ‘ปาปปุคฺคโล’ติ เวทิตพฺโพ.
๑๕๘. มูสิกูปเมสุ – คาธํ กตฺตา โน วสิตาติ อตฺตโน อาสยํ พิลํ กูปํ ขณติ, โน ตตฺถ วสติ, กิสฺมิฺจิเทว าเน วสติ, เอวํ พิฬาราทิอมิตฺตวสํ คจฺฉติ. ขตฺตาติปิ ปาโ. วสิตา โน คาธํ กตฺตาติ สยํ น ขณติ, ปเรน ขเต พิเล วสติ, เอวํ ชีวิตํ รกฺขติ. ตติยา ทฺเวปิ กโรนฺตี, ชีวิตํ รกฺขติ. จตุตฺถา ทฺเวปิ อกโรนฺตี อมิตฺตวสํ คจฺฉติ. อิมาย ปน อุปมาย อุปมิเตสุ ปุคฺคเลสุ ¶ ปโม ยถา สา มูสิกา คาธํ ขณติ, เอวํ นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ อุคฺคณฺหาติ. ยถา ปน สา ตตฺถ น วสติ, กิสฺมิฺจิเทว าเน วสนฺตี, อมิตฺตวสํ คจฺฉติ; ตถา อยมฺปิ ปริยตฺติวเสน าณํ เปเสตฺวา จตุสจฺจธมฺมํ น ปฏิวิชฺฌติ, โลกามิสฏฺาเนสุเยว จรนฺโต มจฺจุมารกิเลสมารเทวปุตฺตมารสงฺขาตานํ อมิตฺตานํ วสํ คจฺฉติ. ทุติโย ยถา สา มูสิกา คาธํ น ขณติ, เอวํ นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ น อุคฺคณฺหาติ. ยถา ปน ปเรน ขตพิเล วสนฺตี ชีวิตํ รกฺขติ; เอวํ ปรสฺส กถํ สุตฺวา จตุสจฺจธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ติณฺณํ มารานํ วสํ อติกฺกมติ. อิมินา นเยน ตติยจตุตฺเถสุปิ โอปมฺมสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.
๑๕๙. อมฺพูปเมสุ – อามํ ปกฺกวณฺณีติ อนฺโต อามํ พหิ ปกฺกสทิสํ. ปกฺกํ อามวณฺณีติ อนฺโต ปกฺกํ พหิ อามสทิสํ. เสสทฺวเยสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ยถา อมฺเพ อปกฺกภาโว อามตา โหติ, เอวํ ปุคฺคเลปิ ปุถุชฺชนภาโว อามตา, อริยภาโว ปกฺกตา. ยถา จ ตตฺถ ปกฺกสทิสตา ปกฺกวณฺณิตา; เอวํ ปุคฺคเลปิ อริยานํ อภิกฺกมนาทิสทิสตา ปกฺกวณฺณิตาติ – อิมินา นเยน อุปมิตปุคฺคเลสุ โอปมฺมสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.
๑๖๐. กุมฺภูปเมสุ ¶ – กุมฺโภติ ฆโฏ. ตุจฺโฉติ อนฺโต ริตฺโต. ปิหิโตติ ปิทหิตฺวา ปิโต. ปุโรติ อนฺโต ปุณฺโณ. วิวโฏติ วิวริตฺวา ปิโต. อุปมิตปุคฺคเลสุ ปเนตฺถ อนฺโต คุณสารวิรหิโต ¶ ตุจฺโฉ พาหิรโสภนตาย ปิหิโต ปุคฺคโล เวทิตพฺโพ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
๑๖๑. อุทกรหทูปเมสุ – อุทกรหโท ตาว ชณฺณุมตฺเตปิ อุทเก สติ ปณฺณรสสมฺภินฺนวณฺณตฺตา วา พหลตฺตา วา อุทกสฺส อปฺายมานตโล อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส นาม โหติ. ติโปริส จตุโปริเสปิ ปน อุทเก สติ อจฺฉตฺตา อุทกสฺส ปฺายมานตโล คมฺภีโร อุตฺตาโนภาโส นาม โหติ. อุภยการณสมฺภาวโต ปน อิตเร ทฺเว เวทิตพฺพา. ปุคฺคโลปิ กิเลสุสฺสทภาวโต คุณคมฺภีรตาย จ อภาวโต คุณคมฺภีรานํ สทิเสหิ อภิกฺกมาทีหิ ยุตฺโต อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส นาม. อิมินา นเยน เสสาปิ เวทิตพฺพา.
๑๖๒. พลีพทฺทูปเมสุ ¶ – พลีพทฺโท ตาว โย อตฺตโน โคคณํ ฆฏฺเฏติ อุพฺเพเชติ, ปรโคคเณ ปน โสรโต สุขสีโล โหติ – อยํ สกควจณฺโฑ โน ปรควจณฺโฑ นาม. ปุคฺคโลปิ อตฺตโน ปริสํ ฆฏฺเฏนฺโต วิชฺฌนฺโต ผรุเสน สมุทาจรนฺโต, ปรปริสาย ปน โสรจฺจํ นิวาตวุตฺติตํ อาปชฺชนฺโต สกควจณฺโฑ โหติ โน ปรควจณฺโฑ นามาติ. อิมินา นเยน เสสาปิ เวทิตพฺพา. นิทฺเทสวาเร ปเนตฺถ อุพฺเพชิตา โหตีติ ฆฏฺเฏตฺวา วิชฺฌิตฺวา อุพฺเพคปฺปตฺตํ กโรติจฺเจว อตฺโถ.
๑๖๓. อาสีวิสูปเมสุ – อาสีวิโส ตาว ยสฺส วิสํ อาสุํ อาคจฺฉติ สีฆํ ผรติ; โฆรํ ปน น โหติ, จิรกาลํ น ปีเฬติ – อยํ อาคตวิโส โน โฆรวิโส. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ปุคฺคลวิภาชนํ ปน อุตฺตานตฺถเมว.
๑๖๔. อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหตีติอาทีสุ อนนุวิจฺจาติ อตุลยิตฺวา, อปริคฺคณฺหิตฺวา. อปริโยคาเหตฺวาติ ปฺาย คุเณ อโนคาเหตฺวา.
๑๖๖. ภูตํ ตจฺฉนฺติ วิชฺชมานโต ภูตํ, อวิปรีตโต ตจฺฉํ. กาเลนาติ ยุตฺตปยุตฺตกาเลน. ตตฺร กาลฺู โหตีติ ยมิทํ ¶ กาเลนาติ วุตฺตํ. ตตฺร โย ปุคฺคโล กาลฺู โหติ, กาลํ ชานาติ, ตสฺส ปฺหสฺส เวยฺยากรณตฺถาย ‘‘อิมสฺมึ กาเล ปุจฺฉิเตนาปิ มยา ¶ น กเถตพฺพา, อิมสฺมึ กาเล กเถตพฺพา’’ติ – อยํ กาเลน ภณติ นาม. อุเปกฺขโก วิหรตีติ มชฺฌตฺตภูตาย อุเปกฺขาย ิโต หุตฺวา วิหรติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
๑๖๗. อุฏฺานผลูปชีวีติอาทีสุ – โย อุฏฺานวีริเยเนว ทิวสํ วีตินาเมตฺวา ตสฺส นิสฺสนฺทผลมตฺตํ กิฺจิเทว ลภิตฺวา ชีวิกํ กปฺเปติ, ตํ ปน อุฏฺานํ อาคมฺม กิฺจิ ปฺุผลํ น ปฏิลภติ, ตํ สนฺธาย ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุฏฺหโตติอาทิ วุตฺตํ. ตตูปริ เทวาติ ตโต อุปริ พฺรหฺมกายิกาทโย เทวา. เตสฺหิ อุฏฺานวีริเยน กิจฺจํ นาม นตฺถิ. ปฺุผลเมว อุปชีวนฺติ. ปฺุวโต จาติ อิทํ ปฺุวนฺเต ขตฺติยพฺราหฺมณาทโย เจว ภุมฺมเทเว อาทึ กตฺวา นิมฺมานรติปริโยสาเน เทเว จ สนฺธาย ¶ วุตฺตํ. สพฺเพปิ เหเต วายามผลฺเจว ปฺุผลฺจ อนุภวนฺติ. เนรยิกา ปน เนว อุฏฺาเนน อาชีวํ อุปฺปาเทตุํ สกฺโกนฺติ, นาปิ เนสํ ปฺุผเลน โกจิ อาชีโว อุปฺปชฺชติ.
๑๖๘. ตมาทีสุ – ‘‘นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต’’ติอาทิเกน ตเมน ยุตฺโตติ ตโม. กายทุจฺจริตาทีหิ ปุน นิรยตมูปคมนโต ตมปรายโณ. เนสาทกุเลติ มิคลุทฺทกาทีนํ กุเล. เวนกุเลติ วิลีวการกุเล. รถการกุเลติ จมฺมการกุเล. ปุกฺกุสกุเลติ ปุปฺผฉฑฺฑกกุเล. กสิรวุตฺติเกติ ทุกฺขวุตฺติเก. ทุพฺพณฺโณติ ปํสุปิสาจโก วิย ฌามขาณุวณฺโณ. ทุทฺทสิโกติ วิชาตมาตุยาปิ อมนาปทสฺสโน. โอโกฏิมโกติ ลกุณฺฑโก. กาโณติ เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วา. กุณีติ เอกหตฺถกุณี วา อุภยหตฺถกุณี วา. ขฺโชติ เอกปาทขฺโช วา อุภยปาทขฺโช วา. ปกฺขหโตติ หตปกฺโข ปีสปฺปี. ปทีเปยฺยสฺสาติ เตลกปลฺลกาทิโน ปทีปูปกรณสฺส. เอวํ ปุคฺคโล ตโม โหติ ตมปรายโณติ เอตฺถ เอโก ปุคฺคโล พหิทฺธา อาโลกํ อทิสฺวา มาตุกุจฺฉิสฺมิฺเว กาลํ กตฺวา อปาเยสุ นิพฺพตฺตนฺโต สกเลปิ กปฺเป สํสรติ. โสปิ ตโม ตมปรายโณว. โส ปน กุหกปุคฺคโล ภเวยฺย. กุหกสฺส หิ เอวรูปา นิพฺพตฺติ โหตีติ วุตฺตํ.
เอตฺถ จ นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต ¶ โหติ จณฺฑาลกุเล วาติอาทีหิ อาคมนวิปตฺติ เจว ปุพฺพุปฺปนฺนปจฺจยวิปตฺติ จ ทสฺสิตา. ทลิทฺเทติอาทีหิ ปวตฺติปจฺจยวิปตฺติ. กสิรวุตฺติเกติอาทีหิ อาชีวุปายวิปตฺติ. ทุพฺพณฺโณติอาทีหิ รูปวิปตฺติ. พหฺวาพาโธติอาทีหิ ทุกฺขการณสมาโยโค. น ลาภีติอาทีหิ สุขการณวิปตฺติ เจว อุปโภควิปตฺติ ¶ จ. กาเยน ทุจฺจริตนฺติอาทีหิ ตมปรายณภาวสฺส การณสมาโยโค. กายสฺส เภทาติอาทีหิ สมฺปรายิกตมูปคโม. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ.
อปิเจตฺถ ติวิธาย กุลสมฺปตฺติยา ปจฺจาชาติอาทิเกน โชตินา ยุตฺตโต โชติ, อาโลกภูโตติ วุตฺตํ โหติ. กายสุจริตาทีหิ ปน สคฺคูปปตฺติโชติภาวูปคมนโต โชติปรายโณ. ขตฺติยมหาสาลกุเล วาติอาทีสุ ขตฺติยมหาสาลาติ ขตฺติยา มหาสารา ¶ มหาสารปฺปตฺตา ขตฺติยา. เยสฺหิ ขตฺติยานํ เหฏฺิมนฺเตน โกฏิสตํ นิธานคตํ โหติ, ตโย กหาปณกุมฺภา วฬฺชนตฺถาย เคหมชฺเฌ ราสึ กตฺวา ปิตา โหนฺติ, เต ขตฺติยมหาสาลา นาม. เยสํ พฺราหฺมณานํ อสีติโกฏิธนํ นิหิตํ โหติ, ทิยฑฺโฒ กหาปณกุมฺโภ วฬฺชนตฺถาย เคหมชฺเฌ ราสึ กตฺวา ปิโต โหติ, เต พฺราหฺมณมหาสาลา นาม. เยสํ คหปตีนํ จตฺตาลีสโกฏิธนํ นิหิตํ โหติ, กหาปณกุมฺโภ วฬฺชตฺถาย เคหมชฺเฌ ราสึ กตฺวา ปิโต โหติ, เต คหปติมหาสาลา นาม. เตสํ กุเลติ อตฺโถ. อฑฺเฒติ อิสฺสเร. นิธานคตธนสฺส มหนฺตตาย มหทฺธเน. สุวณฺณรชตภาชนาทีนํ อุปโภคภณฺฑานํ มหนฺตตาย มหาโภเค. นิธานคตสฺส ชาตรูปรชตสฺส ปหูตตาย ปหูตชาตรูปรชเต. วิตฺตูปกรณสฺส ตุฏฺิกรณสฺส ปหูตตาย ปหูตวิตฺตูปกรเณ. โคธนาทีนฺจ สตฺตวิธธฺานฺจ ปหูตตาย ปหูตธนธฺเ. อภิรูโปติ สุนฺทรรูโป. ทสฺสนีโยติ อฺํ กมฺมํ ปหาย ทิวสมฺปิ ปสฺสิตพฺพยุตฺโต. ปาสาทิโกติ ทสฺสเนเนว จิตฺตปสาทาวโห. ปรมายาติ อุตฺตมาย. วณฺณโปกฺขรตายาติ โปกฺขรวณฺณตาย. โปกฺขรํ วุจฺจติ สรีรํ. ตสฺส วณฺณสมฺปตฺติยาติ อตฺโถ. สมนฺนาคโตติ อุเปโต.
๑๖๙. โอณโตณตาทีสุ ¶ – ทิฏฺธมฺมิกาย วา สมฺปรายิกาย วา สมฺปตฺติยา วิรหิโต โอณโต. นีโจ, ลามโกติ อตฺโถ. ตพฺพิปกฺขโต อุณฺณโต. อุจฺโจ, อุคฺคโตติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ ตมาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อปิจ – โอณโตณโตติ อิทานิ นีโจ, อายติมฺปิ นีโจว ภวิสฺสติ. โอณตุณฺณโตติ อิทานิ นีโจ, อายตึ อุจฺโจ ภวิสฺสติ. อุณฺณโตณโตติ อิทานิ อุจฺโจ, อายตึ นีโจ ภวิสฺสติ. อุณฺณตุณฺณโตติ อิทานิ อุจฺโจ, อายติมฺปิ อุจฺโจว ภวิสฺสตีติ.
๑๗๐. รุกฺขูปเมสุ – รุกฺโข ตาว เผคฺคุสารปริวาโรติ วนเชฏฺกรุกฺโข สยํ เผคฺคุ โหติ ¶ , ปริวารรุกฺขา ปนสฺส สารา โหนฺติ. อิมินา นเยน เสสา เวทิตพฺพา. ปุคฺคเลสุ ปน สีลสารวิรหโต เผคฺคุตา, สีลาจารสมนฺนาคเมน จ สารตา เวทิตพฺพา.
๑๗๑. รูปปฺปมาณาทีสุ ¶ – สมฺปตฺติยุตฺตํ รูปํ ปมาณํ กโรตีติ รูปปฺปมาโณ. ตตฺถ ปสาทํ ชเนตีติ รูปปฺปสนฺโน. กิตฺติสทฺทภูตํ โฆสํ ปมาณํ กโรตีติ โฆสปฺปมาโณ. อาโรหํ วาติอาทีสุ ปน – อาโรหนฺติ อุจฺจตฺตนํ. ปริณาหนฺติ กิสถูลภาวาปคตํ ปริกฺเขปสมฺปตฺตึ. สณฺานนฺติ องฺคปจฺจงฺคานํ ทีฆรสฺสวฏฺฏตาทิยุตฺตฏฺาเนสุ ตถาภาวํ. ปาริปูรินฺติ ยถาวุตฺตปฺปการานํ อนูนตํ, ลกฺขณปริปุณฺณภาวํ วา. ปรวณฺณนายาติ ปเรหิ ปรมฺมุขา นิจฺฉาริตาย คุณวณฺณนาย. ปรโถมนายาติ ปเรหิ ถุติวเสน คาถาทิอุปนิพนฺธเนน วุตฺตาย โถมนาย. ปรปสํสนายาติ ปเรหิ สมฺมุขา วุตฺตาย ปสํสาย. ปรวณฺณหาริกายาติ ปรมฺปรถุติวเสน ปเรหิ ปวตฺติตาย วณฺณหรณาย.
๑๗๒. จีวรลูขนฺติ จีวรสฺส ทุพฺพณฺณาทิภาเวน ลูขตํ. ปตฺตลูขนฺติ ภาชนสฺส วณฺณสณฺานวตฺถูหิ ลูขตํ. เสนาสนลูขนฺติ นาฏกาทิสมฺปตฺติวิรเหน เสนาสนสฺส ลูขตํ. วิวิธนฺติ อเจลกาทิภาเวน อเนกปฺปการํ. ทุกฺกรการิกนฺติ สรีรตาปนํ.
อปโร นโย – อิเมสุ หิ จตูสุ ปุคฺคเลสุ รูเป ปมาณํ คเหตฺวา ปสนฺโน รูปปฺปมาโณ นาม. รูปปฺปสนฺโนติ ตสฺเสว อตฺถวจนํ. โฆเส ปมาณํ คเหตฺวา ปสนฺโน โฆสปฺปมาโณ ¶ นาม. จีวรลูขปตฺตลูเขสุ ปมาณํ คเหตฺวา ปสนฺโน ลูขปฺปมาโณ นาม. ธมฺเม ปมาณํ คเหตฺวา ปสนฺโน ธมฺมปฺปมาโณ นาม. อิตรานิ เตสํเยว อตฺถวจนานิ. สพฺพสตฺเต จ ตโย โกฏฺาเส กตฺวา ทฺเว โกฏฺาสา รูปปฺปมาณา, เอโก น รูปปฺปมาโณ. ปฺจ โกฏฺาเส กตฺวา จตฺตาโร โกฏฺาสา โฆสปฺปมาณา, เอโก น โฆสปฺปมาโณ. ทส โกฏฺาเส กตฺวา นว โกฏฺาสา ลูขปฺปมาณา, เอโก น ลูขปฺปมาโณ. สตสหสฺสํ โกฏฺาเส กตฺวา ปน เอโก โกฏฺาโสว ธมฺมปฺปมาโณ, เสสา น ธมฺมปฺปมาณา. เอวมยํ จตุปฺปมาโณ โลกสนฺนิวาโส.
เอตสฺมึ จตุปฺปมาเณ โลกสนฺนิวาเส พุทฺเธสุ อปฺปสนฺนา มนฺทา, ปสนฺนาว พหุกา. รูปปฺปมาณสฺส หิ พุทฺธรูปโต อุตฺตริ ปสาทาวหํ รูปํ นาม นตฺถิ. โฆสปฺปมาณสฺส พุทฺธานํ กิตฺติโฆสโต อุตฺตริ ปสาทาวโห โฆโส นาม นตฺถิ. ลูขปฺปมาณสฺส กาสิกานิ วตฺถานิ มหารหานิ ¶ ¶ กฺจนภาชนานิ ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเก สพฺพสมฺปตฺติยุตฺเต ปาสาทวเร ปหาย ปํสุกูลจีวรเสลมยปตฺตรุกฺขมูลาทิเสนาสนเสวิโน พุทฺธสฺส ภควโต ลูขโต อุตฺตริ ปสาทาวหํ อฺํ ลูขํ นาม นตฺถิ. ธมฺมปฺปมาณสฺส สเทวเก โลเก อสาธารณสีลาทิคุณสฺส ตถาคตสฺส สีลาทิคุณโต อุตฺตริ ปสาทาวโห อฺโ สีลาทิคุโณ นาม นตฺถิ. อิติ ภควา อิมํ จตุปฺปมาณิกํ โลกสนฺนิวาสํ มุฏฺินา คเหตฺวา วิย ิโตติ.
๑๗๓. อตฺตหิตาย ปฏิปนฺนาทีสุ – สีลสมฺปนฺโนติ สีเลน สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต. สมาธิสมฺปนฺโนติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ สีลํ โลกิยโลกุตฺตรํ กถิตํ. ตถา สมาธิปฺา จ. วิมุตฺติ อรหตฺตผลวิมุตฺติเยว. าณทสฺสนํ เอกูนวีสติวิธํ ปจฺจเวกฺขณาณํ. โน ปรนฺติอาทีสุ – ปรปุคฺคลํ ‘‘ตยาปิ สีลสมฺปนฺเนน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา ยถา สีลํ สมาทิยติ, เอวํ น สมาทเปติ, น คณฺหาเปติ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. เอเตสุ ปน จตูสุ ปโม วกฺกลิตฺเถรสทิโส โหติ. ทุติโย อุปนนฺทสกฺยปุตฺตสทิโส ¶ . ตติโย สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานตฺเถรสทิโส. จตุตฺโถ เทวทตฺตสทิโสติ เวทิตพฺโพ.
๑๗๔. อตฺตนฺตปาทีสุ – อตฺตานํ ตปติ ทุกฺขาเปตีติ อตฺตนฺตโป. อตฺตโน ปริตาปนานุโยคํ อตฺตปริตาปนานุโยคํ. อเจลโกติ นิจฺเจโล, นคฺโค. มุตฺตาจาโรติ วิสฏฺาจาโร. อุจฺจารกมฺมาทีสุ โลกิยกุลปุตฺตาจาเรน วิรหิโต ิตโกว อุจฺจารํ กโรติ, ปสฺสาวํ กโรติ, ขาทติ, ภฺุชติ จ. หตฺถาปเลขโนติ หตฺเถ ปิณฺฑมฺหิ นิฏฺิเต ชิวฺหาย หตฺถํ อปเลขติ. อุจฺจารํ วา กตฺวา หตฺถสฺมิฺเว ทณฺฑกสฺี หุตฺวา หตฺเถน อปเลขตีติ ทสฺเสติ. เต กิร ทณฺฑกํ สตฺโตติ ปฺเปนฺติ. ตสฺมา เตสํ ปฏิปทํ ปูเรนฺโต เอวํ กโรติ. ภิกฺขาคหณตฺถํ ‘เอหิ ภทฺทนฺเต’ติ วุตฺโต, น เอตีติ นเอหิภทฺทนฺติโก. เตน หิ ‘ติฏฺ ภทฺทนฺเต’ติ วุตฺโตปิ น ติฏฺตีติ นติฏฺภทฺทนฺติโก. ตทุภยมฺปิ เหตํ ติตฺถิยา ‘‘เอตสฺส วจนํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ น กโรนฺติ. อภิหฏนฺติ ปุเรตรํ คเหตฺวา อาหฏํ ภิกฺขํ. อุทฺทิสฺสกตนฺติ ‘‘อิมํ ตุมฺเห อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ เอวํ อาโรจิตภิกฺขํ. น นิมนฺตนนฺติ ‘‘อสุกํ นาม กุลํ วา วีถึ วา คามํ วา ปวิเสยฺยาถา’’ติ เอวํ นิมนฺติตภิกฺขมฺปิ น สาทิยติ, น คณฺหาติ.
น ¶ กุมฺภิมุขาติ กุมฺภิโต อุทฺธริตฺวา ทิยฺยมานํ ภิกฺขํ น คณฺหาติ. น กโฬปิมุขาติ ¶ กโฬปีติ อุกฺขลิ, ปจฺฉิ วา. ตโตปิ น คณฺหาติ. กสฺมา? กุมฺภี กโฬปิโย กฏจฺฉุนา ปหารํ ลภนฺตีติ. น เอฬกมนฺตรนฺติ อุมฺมารํ อนฺตรํ กตฺวา ทิยฺยมานํ น คณฺหาติ. กสฺมา? อยํ มํ นิสฺสาย อนฺตรกรณํ ลภตีติ. ทณฺฑมุสเลสุปิ เอเสว นโย. ทฺวินฺนนฺติ ทฺวีสุ ภฺุชมาเนสุ เอกสฺมึ อุฏฺาย เทนฺเต น คณฺหติ. กสฺมา? กพฬนฺตราโย โหตีติ. น คพฺภินิยาติอาทีสุ ปน คพฺภินิยา กุจฺฉิยํ ทารโก กิลมติ. ปายนฺติยา ทารกสฺส ขีรนฺตราโย โหติ. ปุริสนฺตรคตาย รติอนฺตราโย โหตีติ น คณฺหาติ น สงฺกิตฺตีสูติ สงฺกิตฺเตตฺวา กตภตฺเตสุ. ทุพฺภิกฺขสมเย กิร อเจลกสาวกา อเจลกานํ อตฺถาย ตโต ตโต ตณฺฑุลาทีนิ สมาทเปตฺวา ¶ ภตฺตํ ปจนฺติ, อุกฺกฏฺาเจลโก ตโต น ปฏิคฺคณฺหาติ. น ยตฺถ สาติ ยตฺถ สุนโข ‘ปิณฺฑํ ลภิสฺสามี’ติ อุปฏฺิโต โหติ, ตตฺถ ตสฺส อทตฺวา อาหฏํ น คณฺหาติ. กสฺมา? เอตสฺส ปิณฺฑนฺตราโย โหตีติ.
สณฺฑสณฺฑจารินีติ สมูหสมูหจารินี. สเจ หิ อเจลกํ ทิสฺวา ‘อิมสฺส ภิกฺขํ ทสฺสามา’ติ มานุสฺสกา ภตฺตเคหํ ปวิสนฺติ, เตสุ จ ปวิสนฺเตสุ กโฬปิมุขาทีสุ นิลีนา มกฺขิกา อุปฺปติตฺวา สณฺฑสณฺฑา จรนฺติ, ตโต อาหฏํ ภิกฺขํ น คณฺหาติ. กสฺมา? มํ นิสฺสาย มกฺขิกานํ โคจรนฺตราโย ชาโตติ. ถุโสทกนฺติ สพฺพสสฺสสมฺภาเรหิ กตํ โสวีรกํ. เอตฺถ จ สุราปานเมว สาวชฺชํ. อยํ ปน เอตสฺมิมฺปิ สาวชฺชสฺี. เอกาคาริโกติ โย เอกสฺมึเยว เคเห ภิกฺขํ ลภิตฺวา นิวตฺตติ. เอกาโลปิโกติ โย เอเกเนว อาโลเปน ยาเปติ. ทฺวาคาริกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอกิสฺสาปิ ทตฺติยาติ เอกาย ทตฺติยา. ทตฺติ นาม เอกา ขุทฺทกปาติ โหติ, ยตฺถ อคฺคภิกฺขํ ปกฺขิปิตฺวา เปนฺติ.
เอกาหิกนฺติ เอกทิวสนฺตริกํ. อฑฺฒมาสิกนฺติ อฑฺฒมาสนฺตริกํ. ปริยายภตฺตโภชนนฺติ วารภตฺตโภชนํ. เอกาหวาเรน ทฺวีหวาเรน สตฺตาหวาเรน อฑฺฒมาสวาเรนาติ – เอวํ ทิวสวาเรน อาภตภตฺตโภชนํ. สากภกฺโขติ อลฺลสากภกฺโข. สามากภกฺโขติ สามากตณฺฑุลภกฺโข. นีวาราทีสุ – นีวารา นาม ตาว อรฺเ สยํ ชาตา วีหิชาติ. ททฺทุลนฺติ จมฺมกาเรหิ จมฺมํ วิลิขิตฺวา ฉฑฺฑิตกสฏํ. หฏํ วุจฺจติ ¶ สิเลโสปิ, เสวาโลปิ กณิการาทิรุกฺขนิยฺยาโสปิ. กณนฺติ กุณฺฑกํ. อาจาโมติ ภตฺตอุกฺขลิกาย ลคฺโค ฌาโมทโน. ตํ ฉฑฺฑิตฏฺาเน คเหตฺวา ขาทติ. ‘‘โอทนกฺชิย’’นฺติปิ วทนฺติ. ปิฺากาทโย ปากฏา เอว. ปวตฺตผลโภชีติ ปติตผลโภชี.
สาณานีติ ¶ สาณวากเจลานิ. มสาณานีติ มิสฺสกเจลานิ. ฉวทุสฺสานีติ มตสรีรโต ฉฑฺฑิตวตฺถานิ. เอรกติณาทีนิ วา คนฺเถตฺวา กตนิวาสนานิ. ปํสุกูลานีติ ปถวิยํ ฉฑฺฑิตนนฺตกานิ. ติรีฏานีติ รุกฺขตฺตจวตฺถานิ. อชินนฺติ ¶ อชินมิคจมฺมํ. อชินกฺขิปนฺติ ตเทว มชฺเฌ ผาลิตํ. สขุรกนฺติปิ วทนฺติ. กุสจีรนฺติ กุสติณานิ คนฺเถตฺวา กตจีรกํ. วากจีรผลกจีเรสุปิ เอเสว นโย. เกสกมฺพลนฺติ มนุสฺสเกเสหิ กตกมฺพลํ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ ตนฺตาวุตานํ วตฺถานํ เกสกมฺพโล เตสํ ปติกุฏฺโ อกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๓๘). วาฬกมฺพลนฺติ อสฺสวาฬาทีหิ กตกมฺพลํ. อุลูกปกฺขนฺติ อุลูกปตฺตานิ คนฺเถตฺวา กตนิวาสนํ. อุพฺภฏฺโกติ อุทฺธํ ิตโก.
อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโตติ อุกฺกุฏิกวีริยํ อนุยุตฺโต. คจฺฉนฺโตปิ อุกฺกุฏิโกว หุตฺวา อุปฺปติตฺวา อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ. กณฺฏกาปสฺสยิโกติ อยกณฺฏเก วา ปกติกณฺฏเก วา ภูมิยํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ จมฺมํ อตฺถริตฺวา านจงฺกมาทีนิ กโรติ. เสยฺยนฺติ สยนฺโตปิ ตตฺเถว เสยฺยํ กปฺเปติ. สายํ ตติยมสฺสาติ สายตติยกํ. ‘‘ปาโต, มชฺฌนฺหิเก, สายนฺติ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ปาปํ ปวาเหสฺสามี’’ติ อุทโกโรหนานุโยคํ อนุยุตฺโต วิหรติ.
๑๗๕. ปรํ ตปตีติ ปรนฺตโป. ปเรสํ ปริตาปนานุโยคํ ปรปริตาปนานุโยคํ. โอรพฺภิกาทีสุ – อุรพฺภา วุจฺจนฺติ เอฬกา. อุรพฺเภ หนตีติ โอรพฺภิโก. สูกริกาทีสุปิ – เอเสว นโย. ลุทฺโทติ ทารุโณ กกฺขโฬ. มจฺฉฆาตโกติ มจฺฉพนฺโธ เกวฏฺโฏ. พนฺธนาคาริโกติ พนฺธนาคารโคปโก. กุรูรกมฺมนฺตาติ ทารุณกมฺมนฺตา.
๑๗๖. มุทฺธาวสิตฺโตติ ขตฺติยาภิเสเกน มุทฺธนิ อภิสิตฺโต. ปุรตฺถิเมน นครสฺสาติ นครโต ปุรตฺถิมทิสาย. สนฺธาคารนฺติ ยฺสาลํ ¶ . ขราชินํ นิวาเสตฺวาติ สขุรํ อชินจมฺมํ นิวาเสตฺวา. สปฺปิเตเลนาติ สปฺปินา จ เตเลน จ. เปตฺวา หิ สปฺปึ อวเสโส โย โกจิ สฺเนโห เตลนฺติ วุจฺจติ. กณฺฑุวมาโนติ นขานํ ฉินฺนตฺตา กณฺฑุวิตพฺพกาเล เตน กณฺฑุวมาโน. อนนฺตรหิตายาติ อสนฺถตาย. สรูปวจฺฉายาติ สทิสวจฺฉาย. สเจ คาวี เสตา โหติ, วจฺโฉปิ เสตโกว สเจ กพรา วา, รตฺตา วา, วจฺโฉปิ ตาทิโสวาติ – เอวํ สรูปวจฺฉาย. โส เอวมาหาติ ¶ โส ราชา เอวํ วเทติ. วจฺฉตราติ ตรุณวจฺฉกภาวํ อติกฺกนฺตา ¶ พลววจฺฉา. วจฺฉตรีสุปิ เอเสว นโย. พริหิสตฺถายาติ ปริกฺเขปกรณตฺถาย เจว ยฺภูมิยํ อตฺถรณตฺถาย จ.
๑๗๗. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. นิจฺฉาโตติ ฉาตํ วุจฺจติ ตณฺหา, สา อสฺส นตฺถีติ นิจฺฉาโต. สพฺพกิเลสานํ นิพฺพุตตฺตา นิพฺพุโต. อนฺโต ตาปนกิเลสานํ อภาวา สีตโล ชาโตติ สีตีภูโต. ฌานมคฺคผลนิพฺพานสุขานิ ปฏิสํเวเทตีติ สุขปฺปฏิสํเวที. พฺรหฺมภูเตน อตฺตนาติ เสฏฺภูเตน อตฺตนา.
อิมํ ปน ปุคฺคลํ พุทฺธุปฺปาทโต ปฏฺาย ทสฺเสตุํ – อิธ ตถาคโตติอาทิมาห. ตตฺถ ตถาคโตติ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ตถาคโต – ตถา อาคโตติ ตถาคโต, ตถา คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต, ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต, ตถทสฺสิตาย ตถาคโต, ตถาวาทิตาย ตถาคโต, ตถาการิตาย ตถาคโต, อภิภวนฏฺเน ตถาคโตติ. อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตาเนว. ตํ ธมฺมนฺติ ตํ วุตฺตปฺปการสมฺปทํ ธมฺมํ. สุณาติ คหปติ วาติ กสฺมา ปมํ คหปตึ นิทฺทิสติ? นิหตมานตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา จ. เยภุยฺเยน หิ ขตฺติยกุลโต ปพฺพชิตา ชาตึ นิสฺสาย มานํ กโรนฺติ. พฺราหฺมณกุลา ปพฺพชิตา มนฺเต นิสฺสาย มานํ กโรนฺติ. หีนชจฺจกุลา ปพฺพชิตา อตฺตโน วิชาติตาย ปติฏฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. คหปติทารกา ปน กจฺเฉหิ เสทํ มฺุจนฺเตหิ ปิฏฺิยา โลณํ ปุปฺผมานาย ภูมึ กสิตฺวา ตาทิสสฺส มานสฺส อภาวโต นิหตมานทปฺปา โหนฺติ. เต ปพฺพชิตฺวา มานํ วา ทปฺปํ วา อกตฺวา ยถาพลํ พุทฺธวจนํ ¶ อุคฺคเหตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตา สกฺโกนฺติ อรหตฺเต ปติฏฺาตุํ. อิตเรหิ จ กุเลหิ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตา นาม น พหุกา, คหปติกาว พหุกา. อิติ นิหตมานตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา จ ปมํ คหปตึ นิทฺทิสตีติ.
อฺตรสฺมึ วาติ อิตเรสํ วา กุลานํ อฺตรสฺมึ. ปจฺจาชาโตติ ปติชาโต. ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภตีติ ปริสุทฺธํ ¶ ธมฺมํ สุตฺวา ธมฺมสฺสามิมฺหิ ตถาคเต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา’’ติ สทฺธํ ปฏิลภติ. อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. สมฺพาโธ ฆราวาโสติ สเจปิ สฏฺิหตฺเถ ฆเร โยชนสตนฺตเรปิ วา ทฺเว ชายมฺปติกา วสนฺติ, ตถาปิ เนสํ สกิฺจนสปลิโพธฏฺเน ฆราวาโส สมฺพาโธเยว. รโชปโถติ ราครชาทีนํ อุฏฺานฏฺานนฺติ มหาอฏฺกถายํ ¶ วุตฺตํ. อาคมนปโถติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อลคฺคนฏฺเน อพฺโภกาโส วิยาติ อพฺโภกาโส. ปพฺพชิโต หิ กูฏาคารรตนปาสาเท จ เทววิมานาทีสุ จ สุปิหิตทฺวารวาตปาเนสุ ปฏิจฺฉนฺเนสุ วสนฺโตปิ เนว ลคฺคติ, น สชฺชติ, น พชฺฌติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา’’ติ.
อปิจ – สมฺพาโธ ฆราวาโส กุสลกิริยาย โอกาสาภาวโต. รโชปโถ อสํวุตสงฺการฏฺานํ วิย รชานํ กิเลสรชานํ สนฺนิปาตฏฺานโต. อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา กุสลกิริยาย ยถาสุขํ โอกาสสมฺภาวโต. นยิทํ สุกรํ…เป… ปพฺพเชยฺยนฺติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปกถา – ยเทตํ สิกฺขตฺตยพฺรหฺมจริยํ เอกมฺปิ ทิวสํ อขณฺฑํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริปุณฺณํ. เอกทิวสมฺปิ จ กิเลสมเลน อมลินํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริสุทฺธํ. สงฺขลิขิตํ ลิขิตสงฺขสทิสํ โธตสงฺขสปฺปฏิภาคํ จริตพฺพํ. อิทํ น สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา อคารมชฺเฌ วสนฺเตน เอกนฺตปริปุณฺณํ…เป… จริตุํ – ‘‘ยํนูนาหํ เกเส จ มสฺสฺุจ โอหาเรตฺวา กสายรสปีตตาย กาสายานิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตานํ อนุจฺฉวิกานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา ปริทหิตฺวา อคารสฺมา นิกฺขมิตฺวา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’’นฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมา อคารสฺส หิตํ กสิวาณิชฺชาทิกมฺมํ ‘‘อคาริย’’นฺติ วุจฺจติ, ตฺจ ปพฺพชฺชาย นตฺถิ, ตสฺมา ปพฺพชฺชา ‘‘อนคาริย’’นฺติ าตพฺพา. ตํ อนคาริยํ. ปพฺพเชยฺยนฺติ ¶ ปฏิปชฺเชยฺยํ. อปฺปํ วาติ สหสฺสโต เหฏฺา โภคกฺขนฺโธ อปฺโป นาม โหติ, สหสฺสโต ปฏฺาย ¶ มหา. อพนฺธนฏฺเน าติเยว าติปริวฏฺโฏ. โสปิ วีสติยา เหฏฺา อปฺโป โหติ, วีสติยา ปฏฺาย มหา.
๑๗๘. ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโนติ ยา ภิกฺขูนํ อธิสีลสงฺขาตา สิกฺขา, ตฺจ. ยตฺถ เจเต สห ชีวนฺติ, เอกชีวิกา สภาควุตฺติโน โหนฺติ, ตํ ภควตา ปฺตฺตสิกฺขาปทสงฺขาตํ สาชีวฺจ. ตตฺถ สิกฺขนภาเวน สมาปนฺโนติ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน. สมาปนฺโนติ สิกฺขํ ปริปูเรนฺโต สาชีวฺจ อวีติกฺกมนฺโต หุตฺวา ตทุภยํ อุปคโตติ อตฺโถ. ปาณาติปาตํ ปหายาติอาทีสุ ปาณาติปาตาทิกถา เหฏฺา วิตฺถาริตา เอว. ปหายาติ อิมํ ปาณาติปาตเจตนาสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ ปชหิตฺวา. ปฏิวิรโต โหตีติ ปหีนกาลโต ปฏฺาย ตโต ทุสฺสีลฺยโต โอรโต วิรโตว โหติ. นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถติ ปรูปฆาตตฺถาย ทณฺฑํ วา สตฺถํ วา อาทาย อวตฺตนโต นิกฺขิตฺตทณฺโฑ เจว นิกฺขิตฺตสตฺโถ จาติ ¶ อตฺโถ. เอตฺถ จ เปตฺวา ทณฺฑํ, สพฺพมฺปิ อวเสสํ อุปกรณํ สตฺตานํ วินาสนภาวโต ‘สตฺถ’นฺติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปน ภิกฺขู กตฺตรทณฺฑํ วา ทนฺตกฏฺวาสึ วา ปิปฺผลิกํ วา คเหตฺวา วิจรนฺติ, น ตํ ปรูปฆาตตฺถาย. ตสฺมา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถาตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ลชฺชีติ ปาปชิคุจฺฉนลกฺขณาย ลชฺชาย สมนฺนาคโต. ทยาปนฺโนติ ทยํ เมตฺตจิตฺตตํ อาปนฺโน. สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปีติ สพฺเพ ปาณภูเต หิเตน อนุกมฺปโก. ตาย ทยาปนฺนตาย สพฺเพสํ ปาณภูตานํ หิตจิตฺตโกติ อตฺโถ. วิหรตีติ อิริยติ, ปาเลติ.
ทินฺนเมว อาทิยตีติ ทินฺนาทายี. จิตฺเตนปิ ทินฺนเมว ปฏิกงฺขตีติ ทินฺนปาฏิกงฺขี. เถเนตีติ เถโน. น เถเนน อเถเนน. อเถนตฺตาเยว สุจิภูเตน. อตฺตนาติ อตฺตภาเวน. อเถนํ สุจิภูตํ อตฺตภาวํ กตฺวา วิหรตีติ วุตฺตํ โหติ.
อพฺรหฺมจริยนฺติ ¶ อเสฏฺจริยํ. พฺรหฺมํ เสฏฺํ อาจารํ จรตีติ พฺรหฺมจารี. อาราจารีติ อพฺรหฺมจริยโต ทูรจารี. เมถุนาติ ราคปริยุฏฺานวเสน สทิสตฺตา เมถุนกาติ ลทฺธโวหาเรหิ ปฏิเสวิตพฺพโต เมถุนาติ สงฺขํ คตา อสทฺธมฺมา. คามธมฺมาติ คามวาสีนํ ธมฺมา.
สจฺจํ ¶ วทตีติ สจฺจวาที. สจฺเจน สจฺจํ สนฺทหติ ฆเฏตีติ สจฺจสนฺโธ. น อนฺตรนฺตรา มุสา วทตีติ อตฺโถ. โย หิ ปุริโส กทาจิ มุสา วทติ, กทาจิ สจฺจํ, ตสฺส มุสาวาเทน อนฺตริตตฺตา สจฺจํ สจฺเจน น ฆฏียติ, ตสฺมา น โส สจฺจสนฺโธ. อยํ ปน น ตาทิโส. ชีวิตเหตุปิ มุสา อวตฺวา สจฺเจน สจฺจํ สนฺทหติเยวาติ สจฺจสนฺโธ. เถโตติ ถิโร, ถิรกโถติ อตฺโถ. เอโก หิ ปุคฺคโล หลิทฺทิราโค วิย, ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุโก วิย, อสฺสปิฏฺเ ปิตกุมฺภณฺฑมิว จ, น ถิรกโถ โหติ. เอโก ปาสาณเลขา วิย, อินฺทขีโล วิย จ ถิรกโถ โหติ. อสินา สีเส ฉินฺทนฺเตปิ ทฺเว กถา น กเถติ. อยํ วุจฺจติ เถโต. ปจฺจยิโกติ ปตฺติยายิตพฺพโก, สทฺธายิโกติ อตฺโถ. เอกจฺโจ หิ ปุคฺคโล น ปจฺจยิโก โหติ. ‘อิทํ เกน วุตฺตํ? อสุเกนา’ติ วุตฺเต ‘มา ตสฺส วจนํ สทฺทหถา’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. เอโก ปจฺจยิโก โหติ. ‘อิทํ เกน วุตฺตํ? อสุเกนา’ติ วุตฺเต ‘ยทิ เตน วุตฺตํ, อิทเมว ปมาณํ, อิทานิ อุปปริกฺขิตพฺพํ นตฺถิ, เอวเมว อิท’นฺติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ ปจฺจยิโก. อวิสํวาทโก โลกสฺสาติ ตาย สจฺจวาทิตาย โลกํ น วิสํวาเทตีติ อตฺโถ.
อิเมสํ ¶ เภทายาติ เยสํ อิโต สุตฺวาติ วุตฺตานํ สนฺติเก สุตํ, เตสํ เภทาย. ภินฺนานํ วา สนฺธาตาติ ทฺวินฺนํ มิตฺตานํ วา สมานุปชฺฌายกาทีนํ วา เกนจิเทว การเณน ภินฺนานํ เอกเมกํ อุปสงฺกมิตฺวา – ‘ตุมฺหากํ อีทิเส กุเล ชาตานํ, เอวํ พหุสฺสุตานํ อิทํ น ยุตฺต’นฺติอาทีนิ วตฺวา สนฺธานํ กตฺตา. อนุปฺปทาตาติ สนฺธานานุปฺปทาตา. ทฺเว ชเน สมคฺเค ทิสฺวา – ‘ตุมฺหากํ เอวรูเป กุเล ชาตานํ, เอวรูเปหิ คุเณหิ สมนฺนาคตานํ ¶ อนุจฺฉวิกเมต’นฺติอาทีนิ วตฺวา ทฬฺหีกมฺมํ กตฺตาติ อตฺโถ. สมคฺโค อาราโม อสฺสาติ สมคฺคาราโม. ยตฺถ สมคฺคา นตฺถิ, ตตฺถ วสิตุมฺปิ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. สมคฺคราโมติปิ ปาฬิ. อยเมว อตฺโถ. สมคฺครโตติ สมคฺเคสุ รโต. เต ปหาย อฺตฺร คนฺตุมฺปิ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. สมคฺเค ทิสฺวาปิ สุตฺวาปิ นนฺทตีติ สมคฺคนนฺที. สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตาติ ยา วาจา สตฺเต สมคฺเคเยว กโรติ, ตํ สามคฺคีคุณปริทีปกเมว ¶ วาจํ ภาสติ, น อิตรนฺติ.
กาเลน วทตีติ กาลวาที. วตฺตพฺพยุตฺตกาลํ สลฺลกฺเขตฺวา วทตีติ อตฺโถ. ภูตํ ตถํ ตจฺฉํ สภาวเมว วทตีติ ภูตวาที. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺถสนฺนิสฺสิตเมว กตฺวา วทตีติ อตฺถวาที. นวโลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ ธมฺมวาที. สํวรวินยปหานวินยสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ วินยวาที. นิธานํ วุจฺจติ ปโนกาโส. นิธานมสฺส อตฺถีติ นิธานวตี. หทเย นิธาตพฺพยุตฺตกํ วาจํ ภาสิตาติ อตฺโถ. กาเลนาติ เอวรูปึ ภาสมาโนปิ จ ‘‘อหํ นิธานวตึ วาจํ ภาสิสฺสามี’’ติ น อกาเลน ภาสติ. ยุตฺตกาลํ ปน สลฺลกฺเขตฺวาว ภาสตีติ อตฺโถ. สาปเทสนฺติ สอุปมํ, สการณนฺติ อตฺโถ. ปริยนฺตวตินฺติ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา. ยถาสฺสา ปริจฺเฉโท ปฺายติ, เอวํ ภาสตีติ อตฺโถ. อตฺถสํหิตนฺติ อเนเกหิปิ นเยหิ วิภชนฺเตน ปริยาทาตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อตฺถสมฺปนฺนํ ภาสติ. ยํ วา โส อตฺถวาที อตฺถํ วทติ, เตน อตฺเถน สํหิตตฺตา อตฺถสํหิตํ วาจํ ภาสติ. น อฺํ นิกฺขิปิตฺวา อฺํ ภาสตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๗๙. พีชคามภูตคามสมารมฺภาติ มูลพีชํ, ขนฺธพีชํ, ผฬุพีชํ, อคฺคพีชํ พีชพีชนฺติ ปฺจวิธสฺส พีชคามสฺส เจว ยสฺส กสฺสจิ นีลติณรุกฺขาทิกสฺส ภูตคามสฺส จ สมารมฺภา. เฉทนเภทนปจนาทิภาเวน วิโกปนา ปฏิวิรโตติ อตฺโถ. เอกภตฺติโกติ ปาตราสภตฺตํ, สายมาสภตฺตนฺติ ทฺเว ภตฺตานิ. เตสุ ปาตราสภตฺตํ อนฺโตมชฺฌนฺหิเกน ปริจฺฉินฺนํ. อิตรํ มชฺฌนฺหิกโต อุทฺธํ อนฺโตอรุเณน. ตสฺมา อนฺโตมชฺฌนฺหิเก ¶ ทสกฺขตฺตุํ ¶ ภฺุชมาโนปิ เอกภตฺติโกว โหติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – เอกภตฺติโกติ. รตฺติยา โภชนํ รตฺติ, ตโต อุปรโตติ รตฺตูปรโต. อติกฺกนฺเต มชฺฌนฺหิเก ยาว สูริยสตฺถงฺคมนา โภชนํ วิกาลโภชนํ นาม, ตโต วิรตตฺตา วิรโต วิกาลโภชนา. สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา วิสูกํ ปฏาณีภูตํ ทสฺสนนฺติ วิสูกทสฺสนํ. อตฺตนา นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสน นจฺจา จ คีตา จ วาทิตา จ อนฺตมโส มยูรนจฺจนาปนาทิวเสนปิ ปวตฺตานํ นจฺจาทีนํ วิสูกภูตา ทสฺสนา จาติ นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา. นจฺจาทีนิ ¶ หิ อตฺตนา ปโยเชตุํ วา ปเรหิ ปโยชาเปตุํ วา ยุตฺตานิ ปสฺสิตุํ วา เนว ภิกฺขูนํ น ภิกฺขุนีนํ วฏฺฏนฺติ. มาลาทีสุ – มาลาติ ยํกิฺจิ ปุปฺผํ. คนฺธนฺติ ยํกิฺจิ คนฺธชาตํ. วิเลปนนฺติ ฉวิราคกรณํ. ตตฺถ ปิฬนฺธนฺโต ธาเรติ นาม. อูนฏฺานํ ปูเรนฺโต มณฺเฑติ นาม. คนฺธวเสน ฉวิราควเสน จ สาทิยนฺโต วิภูเสติ นาม. านํ วุจฺจติ การณํ. ตสฺมา ยาย ทุสฺสีลฺยเจตนาย ตานิ มาลาธารณาทีนิ มหาชโน กโรติ, ตโต ปฏิวิรโตติ อตฺโถ. อุจฺจาสยนํ วุจฺจติ ปมาณาติกฺกนฺตํ. มหาสยนํ อกปฺปิยสนฺถตํ, ตโต ปฏิวิรโตติ อตฺโถ. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. รชตนฺติ กหาปโณ, โลหมาสโก, ชตุมาสโก, ทารุมาสโกติ เย โวหารํ คจฺฉนฺติ. ตสฺส อุภยสฺสาปิ ปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต, เนว นํ อุคฺคณฺหาติ, น อุคฺคณฺหาเปติ, น อุปนิกฺขิตฺตํ สาทิยตีติ อตฺโถ.
อามกธฺปฏิคฺคหณาติ สาลิวีหิยวโคธุมกงฺคุวรกกุทฺรูสกสงฺขาตสฺส สตฺตวิธสฺสาปิ อามกธฺสฺส ปฏิคฺคหณา. น เกวลฺจ เอเตสํ ปฏิคฺคหณเมว, อามสนมฺปิ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติเยว. อามกมํสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อฺตฺร โอทิสฺส อนฺุาตา อามกมจฺฉมํสานํ ปฏิคฺคหณเมว ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติ, โน อามสนํ. อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อิตฺถีติ ปุริสนฺตรคตา. อิตรา กุมาริกา นาม. ตาสํ ปฏิคฺคหณมฺปิ อามสนมฺปิ อกปฺปิยเมว. ทาสิทาสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ ทาสิทาสวเสเนว เตสํ ปฏิคฺคหณํ น วฏฺฏติ. ‘กปฺปิยการกํ ทมฺมิ’, ‘อารามิกํ ทมฺมี’ติ เอวํ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ. อเชฬกาทีสุปิ เขตฺตวตฺถุปริโยสาเนสุ กปฺปิยากปฺปิยนโย วินยวเสน อุปปริกฺขิตพฺโพ. ตตฺถ เขตฺตํ นาม ยสฺมึ ปุพฺพณฺณํ รุหติ. วตฺถุ นาม ยสฺมึ อปรณฺณํ รุหติ. ยตฺถ วา อุภยมฺปิ ¶ รุหติ ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถาย อกตภูมิภาโค วตฺถุ. เขตฺตวตฺถุสีเสน เจตฺถ วาปิตฬากาทีนิปิ สงฺคหิตาเนว.
ทูเตยฺยํ วุจฺจติ ทูตกมฺมํ. คิหีนํ ปหิตํ ปณฺณํ วา สาสนํ วา คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ คมนํ ¶ . ปหีณคมนํ วุจฺจติ ปรฆรํ เปสิตสฺส ขุทฺทกคมนํ. อนุโยโค นาม ตทุภยกรณํ. ตสฺมา ทูเตยฺยปหีณคมนานํ อนุโคติ ¶ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. กยวิกฺกยาติ กยา จ วิกฺกยา จ. ตุลากูฏาทีสุ – กูฏนฺติ วฺจนํ. ตตฺถ ตุลากูฏํ นาม รูปกูฏํ, องฺคกูฏํ คหณกูฏํ, ปฏิจฺฉนฺนกูฏนฺติ จตุพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ รูปกูฏํ นาม ทฺเว ตุลา สมรูปา กตฺวา คณฺหนฺโต มหติยา คณฺหาติ, ททนฺโต ขุทฺทิกาย เทติ. องฺคกูฏํ นาม คณฺหนฺโต ปจฺฉาภาเค หตฺเถน ตุลํ อกฺกมติ, ททนฺโต ปุพฺพภาเค. คหณกูฏํ นาม คณฺหนฺโต มูเล รชฺชุํ คณฺหาติ, ททนฺโต อคฺเค. ปฏิจฺฉนฺนกูฏํ นาม ตุลํ สุสิรํ กตฺวา อนฺโต อยจุณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา คณฺหนฺโต ตํ ปจฺฉาภาเค กโรติ, ททนฺโต อคฺคภาเค.
กํโส วุจฺจติ สุวณฺณปาติ. ตาย วฺจนํ กํสกูฏํ. กถํ? เอกํ สุวณฺณปาตึ กตฺวา อฺา ทฺเว ติสฺโส โลหปาติโย สุวณฺณวณฺณา กโรนฺติ, ตโต ชนปทํ คนฺตฺวา กิฺจิเทว อฑฺฒกุลํ ปวิสิตฺวา สุวณฺณภาชนานิ กิณถา’ติ วตฺวา อคฺเฆ ปุจฺฉิเต สมคฺฆตรํ ทาตุกามา โหนฺติ. ตโต เตหิ ‘กถํ อิเมสํ สุวณฺณภาโว ชานิตพฺโพ’ติ วุตฺเต ‘วีมํสิตฺวา คณฺหถา’ติ สุวณฺณปาตึ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา สพฺพปาติโย ทตฺวา คจฺฉนฺติ.
มานกูฏํ นาม หทยเภทสิขาเภทรชฺชุเภทวเสน ติวิธํ โหติ. ตตฺถ หทยเภโท สปฺปิเตลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต เหฏฺา ฉิทฺเทน มาเนน ‘สณิกํ อาสิฺจา’ติ วตฺวา อนฺโตภาชเน พหุํ ปคฺฆราเปตฺวา คณฺหาติ. ททนฺโต ฉิทฺทํ ปิธาย สีฆํ ปูเรตฺวา เทติ. สิขาเภโท ติลตณฺฑุลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต สณิกํ สิขํ อุสฺสาเปตฺวา คณฺหาติ. ททนฺโต เวเคน ปูเรตฺวา สิขํ ฉินฺทนฺโต เทติ. รชฺชุเภโท เขตฺตวตฺถุมินนกาเล ลพฺภติ. ลฺชํ อลภนฺตา หิ เขตฺตํ อมหนฺตมฺปิ มหนฺตํ กตฺวา มินนฺติ.
อุกฺโกฏนาทีสุ ¶ – อุกฺโกฏนนฺติ อสฺสามิเก สามิเก กาตุํ ลฺชคฺคหณํ. วฺจนนฺติ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ ปเรสํ วฺจนํ. ตตฺริทเมกํ วตฺถุ – เอโก กิร ลุทฺทโก มิคฺจ มิคโปตกฺจ คเหตฺวา อาคจฺฉติ. ตเมโก ธุตฺโต – ‘‘กึ โภ มิโค อคฺฆติ, กึ มิคโปตโก’’ติ อาห. ‘‘มิโค ทฺเว กหาปเณ, มิคโปตโก เอก’’นฺติ จ วุตฺเต กหาปณํ ทตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา โถกํ คนฺตฺวา นิวตฺโต ¶ , ‘‘น เม โภ มิคโปตเกน อตฺโถ, มิคํ เม เทหี’’ติ อาห. เตน หิ ‘‘ทฺเว กหาปเณ เทหี’’ติ. โส อาห – ‘‘นนุ เต, โภ, มยา ปมํ ¶ เอโก กหาปโณ ทินฺโน’’ติ? ‘‘อาม ทินฺโน’’ติ. อิทมฺปิ มิคโปตกํ คณฺห, เอวํ โส จ กหาปโณ อยฺจ กหาปณคฺฆณโก มิคโปตโกติ ทฺเว กหาปณา ภวิสฺสนฺตีติ. โส ‘‘การณํ วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา มิคํ อทาสีติ.
นิกตีติ โยควเสน วา มายาวเสน วา อปามงฺคํ ปามงฺคนฺติ, อมณึ มณีติ, อสุวณฺณํ สุวณฺณนฺติ กตฺวา ปติรูปเกน วฺจนํ. สาจิโยโคติ กุฏิลโยโค. เอเตสํเยว อุกฺโกฏนาทีนเมตํ นามํ. ตสฺมา อุกฺโกฏนสาจิโยโค วฺจนสาจิโยโค นิกติสาจิโยโคติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกจิ อฺํ ทสฺเสตฺวา อฺสฺส ปริวตฺตนํ ‘สาจิโยโค’ติ วทนฺติ. ตํ ปน วฺจเนเนว สงฺคหิตํ.
เฉทนาทีสุ – เฉทนนฺติ หตฺถจฺเฉทนาทิ. วโธติ มารณํ. พนฺโธติ รชฺชุพนฺธนาทีหิ พนฺธนํ. วิปราโมโสติ หิมวิปราโมโส, คุมฺพวิปราโมโสติ ทุวิโธ. ยฺหิ หิมปาตสมเย หิเมน ปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา มคฺคปฺปฏิปนฺนํ ชนํ มุสนฺติ, อยํ หิมวิปราโมโส. ยํ คุมฺพาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนา มุสนฺติ, อยํ คุมฺพวิปราโมโส. อาโลโป วุจฺจติ คามนิคมาทีนํ วิโลปกรณํ. สหสากาโรติ สาหสิกกิริยา. เคหํ ปวิสิตฺวา มนุสฺสานํ อุเร สตฺถํ เปตฺวา อิจฺฉิตภณฺฑคฺคหณํ. เอวเมตสฺมา เฉทน…เป… สหสาการา ปฏิวิรโต โหติ.
๑๘๐. โส สนฺตุฏฺโ โหตีติ โส จตูสุ ปจฺจเยสุ ทฺวาทสวิเธน อิตรีตรปจฺจยสนฺโตเสน สมนฺนาคโต โหติ. กายปริหาริเกนาติ กายํ ปริหรณมตฺตเกน. กุจฺฉิปริหาริเกนาติ กุจฺฉิปริหรณมตฺตเกน. สมาทาเยว ปกฺกมตีติ อฏฺวิธํ ภิกฺขุ ปริกฺขารมตฺตกํ สพฺพํ คเหตฺวาว กายปฏิพทฺธํ กตฺวาว คจฺฉติ. ‘‘มม ¶ วิหาโร ปริเวณํ อุปฏฺาโก’’ติ สงฺโค วา พทฺโธ วา น โหติ. โส ชิยา มุตฺตสโร วิย ยูถา ปกฺกนฺโต, มตฺตหตฺถี วิย อิจฺฉิติจฺฉิตํ เสนาสนํ วนสณฺฑํ รุกฺขมูลํ วนปตฺถํ ปพฺภารํ ปริภฺุชนฺโต เอโกว ติฏฺติ, เอโกว นิสีทติ. สพฺพิริยาปเถสุ เอโกว อทุติโย.
‘‘จาตุทฺทิโส ¶ อปฺปฏิโฆ จ โหติ,
สนฺตุสฺสมาโน อิตรีตเรน;
ปริสฺสยานํ ¶ สหิตา อฉมฺภี,
เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ. (สุ. นิ. ๔๒);
เอวํ วณฺณิตํ ขคฺควิสาณกปฺปตํ อาปชฺชติ.
อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย สาเธนฺโต, ‘‘เสยฺยถาปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปกฺขี สกุโณติ ปกฺขยุตฺโต สกุโณ. เฑตีติ อุปฺปตติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – สกุโณ นาม ‘‘อสุกสฺมึ ปเทเส รุกฺโข ปริปกฺกผโล’’ติ ตฺวา นานาทิสาหิ อาคนฺตฺวา นขปกฺขตุณฺฑาทีหิ ตสฺส ผลานิ วิชฺฌนฺตา วิธุนนฺตา ขาทนฺติ. ‘‘อิทํ อชฺชตนาย, อิทํ สฺวาตนาย ภวิสฺสตี’’ติ เตสํ น โหติ. ผเล ปน ขีเณ เนว รุกฺขสฺส อารกฺขํ เปนฺติ, น ตตฺถ ปตฺตํ วา นขํ วา ตุณฺฑํ วา เปนฺติ. อถ โข ตสฺมึ รุกฺเข อนเปกฺโข หุตฺวา โย ยํ ทิสาภาคํ อิจฺฉติ, โส เตน สปตฺตภาโรว อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ. เอวเมว อยํ ภิกฺขุ นิสฺสงฺโค นิรเปกฺโขเยว ปกฺกมติ, เตน วุตฺตํ สมาทาเยว ปกฺกมตีติ. อริเยนาติ นิทฺโทเสน. อชฺฌตฺตนฺติ สเก อตฺตภาเว. อนวชฺชสุขนฺติ นิทฺโทสสุขํ.
๑๘๑. โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวาติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อพฺยาเสกสุขนฺติ กิเลเสหิ อนวสิตฺตสุขํ. อวิกิณฺณสุขนฺติปิ วุตฺตํ. อินฺทฺริยสํวรสุขฺหิ ทิฏฺาทีสุ ทิฏฺมตฺตาทิวเสน ปวตฺตตาย อวิกิณฺณํ โหติ.
๑๘๒. โส ¶ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติ โส มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ สํวเรน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อิเมสุ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺตาทีสุ สตฺตสุ าเนสุ สติสมฺปชฺวเสน สมฺปชานการี โหติ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ ฌานวิภงฺเค วุตฺตเมว.
โส อิมินา จาติอาทินา กึ ทสฺเสติ? อรฺวาสสฺส ปจฺจยสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ. ยสฺส หิ อิเม จตฺตาโร ปจฺจยา นตฺถิ ¶ , ตสฺส อรฺวาโส น อิชฺฌติ, ติรจฺฉานคเตหิ วา วนจรเกหิ วา สทฺธึ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. อรฺเ อธิวตฺถา เทวตา ‘‘กึ เอวรูปสฺส ปาปภิกฺขุโน อรฺวาเสนา’’ติ เภรวํ สทฺทํ สาเวนฺติ. หตฺเถหิ สีสํ ปหริตฺวา ปลายนาการํ กโรนฺติ ¶ . ‘‘อสุโก ภิกฺขุ อรฺํ ปวิสิตฺวา อิทฺจิทฺจ ปาปกมฺมํ อกาสี’’ติ อยโส ปตฺถรติ. ยสฺส ปเนเต จตฺตาโร ปจฺจยา อตฺถิ, ตสฺส อรฺวาโส อิชฺฌติ. โส หิ อตฺตโน สีลํ ปจฺจเวกฺขนฺโต กิฺจิ กาฬกํ วา ติลกํ วา อปสฺสนฺโต ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ขยโต วยโต สมฺมสนฺโต อริยภูมึ โอกฺกมติ. อรฺเ อธิวตฺถา เทวตา อตฺตมนา วณฺณํ ภาสนฺติ. อิติสฺส อุทเก ปกฺขิตฺตเตลพินฺทุ วิย ยโส วิตฺถาริโก โหติ. วิวิตฺตนฺติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนว. โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาตีติ เอตฺตเก าเน ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตเมว.
๑๘๕. ตติยวิชฺชาย โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเตติ วิปสฺสนาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ เวทิตพฺพํ. อาสวานํ ขยาณายาติ อรหตฺตมคฺคาณตฺถาย. อรหตฺตมคฺโค หิ อาสวานํ วินาสนโต อาสวานํ ขโยติ วุจฺจติ. ตตฺร เจตํ าณํ ตปฺปริยาปนฺนตฺตาติ. จิตฺตํ อภินินฺนาเมตีติ วิปสฺสนาจิตฺตํ อภินีหรติ. โส อิทํ ทุกฺขนฺติ เอวมาทีสุ – ‘‘เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต ภิยฺโย’’ติ สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจํ สรสลกฺขณปฺปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ, ปฏิวิชฺฌติ. ตสฺส จ ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺติกํ ตณฺหํ – อยํ ทุกฺขสมุทโยติ; ตทุภยมฺปิ ยํ านํ ปตฺวา นิรุชฺฌติ, ตํ เตสํ อปฺปวตฺตึ นิพฺพานํ – อยํ ทุกฺขนิโรโธติ; ตสฺส จ สมฺปาปกํ อริยมคฺคํ – อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ สรสลกฺขณปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ, ปฏิวิชฺฌตีติ – เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เอวํ ¶ สรูปโต สจฺจานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กิเลสวเสน ปริยายโต ทสฺเสนฺโต อิเม อาสวาติอาทิมาห. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ¶ ปสฺสโตติ ตสฺส เอวํ ชานนฺตสฺส เอวํ ปสฺสนฺตสฺส สห วิปสฺสนาย โกฏิปฺปตฺตํ มคฺคํ กเถติ. กามาสวาติ กามาสวโต. วิมุจฺจตีติ อิมินา มคฺคกฺขณํ ทสฺเสติ. วิมุตฺตสฺมินฺติ อิมินา ผลกฺขณํ ทสฺเสติ. มคฺคกฺขเณ หิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ผลกฺขเณ วิมุตฺตํ โหติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณนฺติ อิมินา ปจฺจเวกฺขณาณํ ทสฺเสติ. ขีณา ชาตีติอาทีหิ ตสฺส ภูมึ. เตน หิ าเณน โส ปจฺจเวกฺขนฺโต ‘ขีณา ชาตี’ติอาทีนิ ปชานาติ. วุสิตนฺติ วุฏฺํ ปริวุฏฺํ กตํ จริตํ นิฏฺิตนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ. ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน หิ สทฺธึ สตฺต เสกฺขา พฺรหฺมจริยวาสํ วสนฺติ นาม. ขีณาสโว วุฏฺวาโส. ตสฺมา โส อตฺตโน พฺรหฺมจริยวาสํ ปจฺจเวกฺขนฺโต วุสิตํ พฺรหฺมจริยนฺติ ปชานาติ. กตํ กรณียนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ ¶ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาวเสน โสฬสวิธมฺปิ กิจฺจํ นิฏฺาปิตนฺติ อตฺโถ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกาทโย หิ ตํ กิจฺจํ กโรนฺติ; ขีณาสโว กตกรณีโย. ตสฺมา โส อตฺตโน กรณียํ ปจฺจเวกฺขนฺโต. ‘‘กตํ กรณีย’’นฺติ ปชานาติ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ‘‘อิทานิ ปุน เอตฺถภาวาย เอวํ โสฬสกิจฺจภาวาย กิเลสกฺขยาย วา มคฺคภาวนากิจฺจํ นตฺถี’’ติ ปชานาติ.
๑๘๖. สราคาทีสุ – อปฺปหีโนติ วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน วา ตทงฺคปฺปหาเนน วา สมุจฺเฉทปฺปหาเนน วา อปฺปหีโน.
๑๘๗. ลาภี โหตีติอาทีสุ – ลาภีติ ลาภวา ปฏิลภิตฺวา ิโต. อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺสาติ นิยกชฺฌตฺตสงฺขาเต อตฺตโน จิตฺเต อุปฺปนฺนสฺส เจโตสมถสฺส. อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนายาติ อธิปฺาสงฺขาตาย ขนฺธธมฺเมสุ อนิจฺจาทิวเสน ปวตฺตาย วิปสฺสนาย. รูปสหคตานนฺติ รูปนิมิตฺตารมฺมณานํ รูปาวจรสมาปตฺตีนํ. อรูปสหคตานนฺติ น รูปนิมิตฺตารมฺมณานํ อรูปสมาปตฺตีนํ. เอตฺถ จ ปโม อฏฺสมาปตฺติลาภี ปุถุชฺชโน. ทุติโย สุกฺขวิปสฺสกอริยสาวโก. ตติโย อฏฺสมาปตฺติลาภี ¶ อริยสาวโก. จตุตฺโถ โลกิยมหาชโน เวทิตพฺโพ.
๑๘๘. อนุโสตคามีอาทีสุ – อนุโสตคามีติ วฏฺฏโสตํ อนุคโต, วฏฺฏโสเต นิมุคฺโค ปุถุชฺชโน เวทิตพฺโพ. ปฏิโสตคามีติ ปฏิโสตคมโน ¶ . อนุโสตํ อคนฺตฺวา ปฏิโสตํ คจฺฉนฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. ปาปฺจ กมฺมํ น กโรตีติ ปฺตฺตํ วีติกฺกมนฺโต น กโรติ. สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสนาติ กิเลสปริยุฏฺาเน สติ อุปฺปนฺเนน ทุกฺขโทมนสฺเสน สทฺธิมฺปิ. ปริปุณฺณนฺติ ติสฺสนฺนํ สิกฺขานํ เอกายปิ อนูนํ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺจริยํ. อิมินา วาเรน โสตาปนฺนสกทาคามิโน กถิตา. กึ ปน เต รุทนฺตา พฺรหฺมจริยํ จรนฺตีติ? อาม. กิเลสโรทเนน รุทนฺตา จรนฺติ นาม. สีลสมฺปนฺโน ปุถุชฺชนภิกฺขุปิ เอตฺเถว สงฺคหิโต.
ิตตฺโตติ ิตสภาโว. อนาคามีติ กามราคพฺยาปาเทหิ อกมฺปนียจิตฺตตาย จ ตมฺหา โลกา อนาวตฺติธมฺมตาย จ ิตสภาโว นาม. ติณฺโณติ ตณฺหาโสตํ อุตฺติณฺโณ. ปารงฺคโตติ นิพฺพานปารํ ¶ คโต. ถเล ติฏฺตีติ อรหตฺตผลสมาปตฺติถเล ติฏฺติ. เจโตวิมุตฺตินฺติ ผลสมาธึ. ปฺาวิมุตฺตินฺติ ผลาณํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ขีณาสโว ‘‘ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ’’ติ วุจฺจติ. พาหิตปาปตาย หิ เอส พฺราหฺมโณ นาม.
๑๘๙. อปฺปสฺสุตาทีสุ – อปฺปกํ สุตํ โหตีติ นวงฺเค สตฺถุสาสเน กิฺจิเทว โถกํ สุตํ โหติ. น อตฺถมฺาย, น ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺโน โหตีติ อฏฺกถฺจ ปาฬิฺจ ชานิตฺวา โลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุรูปธมฺมํ ปุพฺพภาคปฏิปทํ ปฏิปนฺโน น โหติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๑๙๐. สมณมจลาทีสุ – สมณมจโลติ สมณอจโล, มกาโร ปทสนฺธิกโร. นิจฺจลสมโณ, ถิรสมโณติ อตฺโถ ¶ . อยํ วุจฺจตีติ อยํ โสตาปนฺโน สาสเน มูลชาตาย สทฺธาย ปติฏฺิตตฺตา ‘สมณมจโล’ติ วุจฺจติ. สกทาคามี ปน รชฺชนกิเลสสฺส อตฺถิตาย สมณปทุโมติ วุตฺโต. รตฺตฏฺโ หิ อิธ ปทุมฏฺโ นามาติ วุตฺตํ. อนาคามี กามราคสงฺขาตสฺส รชฺชนกิเลสสฺส นตฺถิตาย สมณปุณฺฑรีโกติ วุตฺโต. ปณฺฑรฏฺโ หิ อิธ ปุณฺฑรีกฏฺโ นามาติ วุตฺตํ ¶ . ขีณาสโว จ ถทฺธภาวกรานํ กิเลสานํ อภาเวน สมเณสุ สมณสุขุมาโล นามาติ วุตฺโต. อปฺปทุกฺขฏฺเนปิ เจส สมณสุขุมาโลเยวาติ.
จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา.
๕. ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๑. ปฺจเก – ตตฺราติ เตสุ ‘‘อารภติ จ วิปฺปฏิสารี จ โหตี’’ติอาทินา นเยน เหฏฺา อุทฺทิฏฺปุคฺคเลสุ. ยฺวายนฺติ โย อยํ. อารภตีติ เอตฺถ อารมฺภสทฺโท กมฺมกิริยาหึสนวีริยวิโกปนาปตฺติวีติกฺกเมสุ วตฺตติ. ตถา เหส ‘‘ยํกิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ อารมฺภปจฺจยา’’ติ (สุ. นิ. ๗๔๘) กมฺเม อาคโต. ‘‘มหายฺา มหารมฺภา, น เต โหนฺติ มหปฺผลา’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๙) กิริยายํ. ‘‘สมณํ โคตมํ อุทฺทิสฺส ¶ ปาณํ อารภนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๕๑-๕๒) หึสเน. ‘‘อารภถ, นิกฺขมถ, ยฺุชถ พุทฺธสาสเน’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕) วีริเย. ‘‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔; ม. นิ. ๑.๒๙๓) วิโกปเน. ‘‘อารภติ จ วิปฺปฏิสารี จ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๔๒) อยํ ปน อาปตฺติวีติกฺกเม อาคโต. ตสฺมา อาปตฺติวีติกฺกมวเสน อารภติ เจว ตปฺปจฺจยา วิปฺปฏิสารี จ โหตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
ยถาภูตํ นปฺปชานาตีติ อนธิคตตฺตา ยถาสภาวโต น ชานาติ. ยตฺถสฺสาติ ยสฺมึ อสฺส, ยํ านํ ปตฺวา เอตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺตีติ อตฺโถ. กึ ปน ปตฺวา เต นิรุชฺฌนฺตีติ? อรหตฺตมคฺคํ. ผลปฺปตฺตสฺส ปน นิรุทฺธา นาม โหนฺติ. เอวํ ¶ สนฺเตปิ อิธ มคฺคกิจฺจวเสน ผลเมว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อารมฺภชาติ อาปตฺติวีติกฺกมสมฺภวา. วิปฺปฏิสารชาติ วิปฺปฏิสารโต ชาตา. ปวฑฺฒนฺตีติ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชเนน วฑฺฒนฺติ. สาธูติ อายาจนสาธุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาว อปรทฺธฺจ วต อายสฺมตา, เอวํ สนฺเตปิ มยํ อายสฺมนฺตํ ยาจาม – ‘‘เทเสตพฺพยุตฺตกสฺส เทสนาย, วุฏฺาตพฺพยุตฺตกสฺส วุฏฺาเนน, อาวิกาตพฺพยุตฺตกสฺส อาวิกิริยาย, อารมฺภเช อาสเว ¶ ปหาย, สุทฺธนฺเต ิตภาวปจฺจเวกฺขเณน วิปฺปฏิสารเช อาสเว ปฏิวิโนเทตฺวา นีหริตฺวา วิปสฺสนาจิตฺตฺเจว วิปสฺสนาปฺฺจ ภาเวตู’’ติ. อมุนา ปฺจเมน ปุคฺคเลนาติ เอเตน ปฺจเมน ขีณาสวปุคฺคเลน. สมสโม ภวิสฺสตีติ โลกุตฺตรคุเณหิ สมภาเวเนว สโม ภวิสฺสตีติ เอวํ ขีณาสเวน โอวทิตพฺโพติ อตฺโถ.
อารภติ น วิปฺปฏิสารี โหตีติ อาปตฺตึ อาปชฺชติ. ตํ ปน เทเสตุํ สภาคปุคฺคลํ ปริเยสติ. ตสฺมา น วิปฺปฏิสารี โหติ. องฺคุตฺตรฏฺกถายํ ปน ‘‘วุฏฺิตตฺตา น วิปฺปฏิสารี โหตี’’ติ วุตฺตํ. น อารภติ วิปฺปฏิสารี โหตีติ อาปตฺตึ นาปชฺชติ, วินยปฺตฺติยํ ปน อโกวิทตฺตา อนาปตฺติยํ อาปตฺติสฺี หุตฺวา วิปฺปฏิสารี โหติ. องฺคุตฺตรฏฺกถายํ ปน ‘‘สกึ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย ปจฺฉา กิฺจาปิ นาปชฺชติ, วิปฺปฏิสารํ ปน วิโนเทตุํ น สกฺโกตี’’ติ วุตฺตํ. น อารภติ น วิปฺปฏิสารี โหตีติ เนว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, น วิปฺปฏิสารี โหติ. กตโม ปเนส ปุคฺคโลติ? โอสฺสฏฺวีริยปุคฺคโล. โส หิ ‘‘กึ เม อิมสฺมึ พุทฺธกาเล ปรินิพฺพาเนน, อนาคเต เมตฺเตยฺยสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ ¶ วิสุทฺธสีโลปิ ปฏิปตฺตึ น ปูเรติ. โสปิ ‘‘กิมตฺถํ อายสฺมา ปมตฺโต วิหรติ ปุถุชฺชนสฺส นาม คติ อนิพทฺธา. อายสฺมา หิ เมตฺเตยฺยสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สมฺมุขภาวํ ลเภยฺยปิ น ลเภยฺยาปีติ อรหตฺตตฺถาย วิปสฺสนํ ภาเวหี’’ติ โอวทิตพฺโพว. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๑๙๒. ทตฺวา ¶ อวชานาตีติอาทีสุ – เอโก ภิกฺขุ มหาปฺุโ จตุปจฺจยลาภี โหติ. โส จีวราทีนิ ลภิตฺวา อฺํ อปฺปปฺุํ อาปุจฺฉติ. โสปิ ตสฺมึ ปุนปฺปุนํ อาปุจฺฉนฺเตปิ คณฺหาติเยว. อถสฺส อิตโร โถกํ กุปิโต หุตฺวา มงฺกุภาวํ อุปฺปาเทตุกาโม วทติ – ‘‘อยํ อตฺตโน ธมฺมตาย จีวราทีนิ น ลภติ, อมฺเห นิสฺสาย ลภตี’’ติ. เอวํ ปุคฺคโล ทตฺวา อวชานาติ นาม. เอโก ปน เอเกน สทฺธึ ทฺเว ตีณิ วสฺสานิ วสนฺโต ปุพฺเพ ตํ ปุคฺคลํ ครุํ กตฺวา ปจฺฉา คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล จิตฺตีการํ น กโรติ, อาสนาปิ น วุฏฺาติ, อุปฏฺานมฺปิ น คจฺฉติ. เอวํ ปุคฺคโล สํวาเสน อวชานาติ นาม.
อาเธยฺยมุโขติ ¶ อาทิโต เธยฺยมุโข. ปมวจนสฺมึเยว ปิตมุโขติ อตฺโถ. อธิมุจฺจิตา โหตีติ สทฺธาตา โหติ. ตตฺรายํ นโย – เอโก ปุคฺคโล สารุปฺปํเยว ภิกฺขุํ ‘อสารุปฺโป เอโส’ติ กเถติ, ตํ สุตฺวา เอส นิฏฺํ คจฺฉติ. ปุน อฺเน สภาเคน ภิกฺขุนา ‘สารุปฺโป อย’นฺติ วุตฺเตปิ ตสฺส วจนํ น คณฺหาติ ‘‘อสุเกน นาม ‘อสารุปฺโป อย’นฺติ อมฺหากํ กถิต’’นฺติ ปุริมภิกฺขุโนว กถํ คณฺหาติ. อปโรปิสฺส ทุสฺสีลํ ‘สีลวา’ติ กเถติ. ตสฺส วจนํ สทฺทหิตฺวา ปุน อฺเน ‘‘อสารุปฺโป เอส ภิกฺขุ, นายํ ตุมฺหากํ สนฺติกํ อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺโต’’ติ วุตฺโตปิ ตสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวา ปุริมสฺเสว กถํ คณฺหาติ. อปโร วณฺณมฺปิ กถิตํ คณฺหาติ, อวณฺณมฺปิ กถิตํ คณฺหาติเยว. อยมฺปิ อาเธยฺยมุโขเยว นาม. อาธาตพฺพมุโข ยํ ยํ สุณาติ, ตตฺถ ตตฺถ ปิตมุโขติ อตฺโถ.
โลโลติ สทฺธาทีนํ อิตฺตรกาลฏฺิติกตฺตา อสฺสทฺธิยาทีหิ ลุลิตภาเวน โลโล. อิตฺตรสทฺโธติ ปริตฺตสทฺโธ, อปริปุณฺณสทฺโธ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน ปุนปฺปุนํ ภชนวเสน สทฺธาว ภตฺติ. เปมํ สทฺธาเปมํ เคหสิตเปมมฺปิ วฏฺฏติ. ปสาโท สทฺธาปสาโทว. เอวํ ปุคฺคโล โลโล โหตีติ เอวํ อิตฺตรสทฺธาทิตาย ปุคฺคโล โลโล นาม โหติ. หลิทฺทิราโค วิย ¶ , ถุสราสิมฺหิ โกฏฺฏิตขาณุโก วิย, อสฺสปิฏฺิยํ ปิตกุมฺภณฺฑํ ¶ วิย จ อนิพทฺธฏฺาโน มุหุตฺเตน ปสีทติ, มุหุตฺเตน กุปฺปติ.
มนฺโท โมมูโหติ อฺาณภาเวน มนฺโท อวิสทตาย โมมูโห. มหามูฬฺโหติ อตฺโถ.
๑๙๓. โยธาชีวูปเมสุ – โยธาชีวาติ ยุทฺธูปชีวิโน. รชคฺคนฺติ หตฺถิอสฺสาทีนํ ปาทปฺปหารภินฺนาย ภูมิยา อุคฺคตํ รชกฺขนฺธํ. น สนฺถมฺภตีติ สนฺถมฺภิตฺวา าตุํ น สกฺโกติ. สหติ รชคฺคนฺติ รชกฺขนฺธํ ทิสฺวาปิ อธิวาเสติ. ธชคฺคนฺติ หตฺถิอสฺสาทิปิฏฺเสุ วา รเถสุ วา อุสฺสาปิตานํ ธชานํ อคฺคํ. อุสฺสารณนฺติ หตฺถิอสฺสรถาทีนฺเจว พลกายสฺส จ อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทํ. สมฺปหาเรติ สมาคเต อปฺปมตฺตเกปิ ปหาเร. หฺตีติ วิหฺติ, วิฆาตํ อาปชฺชติ. พฺยาปชฺชตีติ วิปตฺตึ อาปชฺชติ, ปกติภาวํ ชหติ. สหติ สมฺปหารนฺติ ทฺเว ตโย ปหาเร ปตฺวาปิ สหติ, อธิวาเสติ ¶ . ตเมว สงฺคามสีสนฺติ ตเมว ชยขนฺธาวารฏฺานํ. อชฺฌาวสตีติ สตฺตาหมตฺตํ อภิภวิตฺวา อาวสติ. กึ การณา? ลทฺธปฺปหารานํ ปหารชคฺคนตฺถฺเจว กตกมฺมานํ วิเสสํ ตฺวา านนฺตรทานตฺถฺจ อิสฺสริยสุขานุภวนตฺถฺจ.
๑๙๔. อิทานิ ยสฺมา สตฺถุ โยธาชีเวหิ กิจฺจํ นตฺถิ, อิมสฺมึ ปน สาสเน ตถารูเป ปฺจ ปุคฺคเล ทสฺเสตุํ อิทํ โอปมฺมํ อาภตํ, ตสฺมา เต ปุคฺคเล ทสฺเสนฺโต เอวเมวนฺติอาทิมาห.
ตตฺถ สํสีทตีติ มิจฺฉาวิตกฺกสฺมึ วิสีทติ, อนุปวิสติ. น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุนฺติ พฺรหฺมจริยวาสํ อนุปจฺฉิชฺชมานํ โคเปตุํ น สกฺโกติ. สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวาติ สิกฺขาย ทุพฺพลภาวํ ปกาเสตฺวา. กิมสฺส รชคฺคสฺมินฺติ กึ ตสฺส ปุคฺคลสฺส รชคฺคํ นามาติ วทติ. อภิรูปาติ อภิรูปวตี. ทสฺสนียาติ ทสฺสนโยคฺคา. ปาสาทิกาติ ทสฺสเนเนว จิตฺตปฺปสาทาวหา. ปรมายาติ อุตฺตมาย. วณฺณโปกฺขรตายาติ สรีรวณฺเณน เจว องฺคสณฺาเนน จ.
๑๙๖. อูหสตีติ อวหสติ. อุลฺลปตีติ กเถติ. อุชฺชคฺฆตีติ ปาณึ ปหริตฺวา มหาหสิตํ ¶ หสติ. อุปฺปณฺเฑตีติ อุปฺปณฺฑนกถํ กเถติ.
๑๙๗. อภินิสีทตีติ ¶ อภิภวิตฺวา สนฺติเก วา เอกาสเน วา นิสีทติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. อชฺโฌตฺถรตีติ อวตฺถรติ.
๑๙๘. วินิเวเตฺวา วินิโมเจตฺวาติ คหิตฏฺานโต ตสฺส หตฺถํ วินิเวเตฺวา เจว, โมเจตฺวา จ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
๑๙๙. ปิณฺฑปาติเกสุ – มนฺทตฺตา โมมูหตฺตาติ เนว สมาทานํ ชานาติ, น อานิสํสํ; อตฺตโน ปน มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา อฺาเณเนว ปิณฺฑปาติโก โหติ. ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโตติ ปิณฺฑปาติกสฺส เม สโต ‘‘อยํ ปิณฺฑปาติโก’’ติ จตุปจฺจยสกฺการํ กริสฺสนฺติ. ลชฺชี, อปฺปิจฺโฉติอาทีหิ จ คุเณหิ สมฺภาเวสฺสนฺตีติ. เอวํ ปาปิกาย อิจฺฉาย ตฺวา ตาย ปาปิจฺฉาย อภิภูโต หุตฺวา ปิณฺฑปาติโก โหติ. อุมฺมาทวเสน ปิณฺฑาย จรนฺโต ปน อุมฺมาทา จิตฺตวิกฺเขปา ปิณฺฑปาติโก ¶ นาม โหติ. วณฺณิตนฺติ อิทํ ปิณฺฑปาติกงฺคํ นาม พุทฺเธหิ จ พุทฺธสาวเกหิ จ วณฺณิตํ ปสตฺถนฺติ ปิณฺฑปาติโก โหติ. อปฺปิจฺฉตํเยว นิสฺสายาติอาทีสุ – ‘‘อิติ อปฺปิจฺโฉ ภวิสฺสามิ, อิทํ เม ปิณฺฑปาติกงฺคํ อปฺปิจฺฉตาย สํวตฺติสฺสติ; ‘อิติ สนฺตุฏฺโ ภวิสฺสามิ อิทํ เม ปิณฺฑปาติกงฺคํ สนฺตุฏฺิยา สํวตฺติสฺสติ’; ‘อิติ กิเลเส สํลิขิสฺสามิ’, อิทํ เม ปิณฺฑปาติกงฺคํ กิเลสสลฺเลขนตฺถาย สํวตฺติสฺสตี’’ติ ปิณฺฑปาติโก โหติ. อิทมตฺถิตนฺติ อิมาย กลฺยาณาย ปฏิปตฺติยา อตฺถิกภาวํ, อิมินา วา ปิณฺฑปาตมตฺเตน อตฺถิกภาวํ. ยํ ยํ ลทฺธํ เตน เตเนว ยาปนภาวํ นิสฺสายาติ อตฺโถ. อคฺโคติ เชฏฺโก. เสสานิ ตสฺเสว เววจนานิ.
ควา ขีรนฺติ คาวิโต ขีรํ นาม โหติ, น วินา คาวิยา. ขีรมฺหา ทธีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวเมวนฺติ ยถา เอเตสุ ปฺจสุ โครเสสุ สปฺปิมณฺโฑ อคฺโค; เอวเมวํ อิเมสุ ปฺจสุ ปิณฺฑปาติเกสุ ยฺวายํ อปฺปิจฺฉตาทีนิ นิสฺสาย ปิณฺฑปาติโก โหติ. อยํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข จ อุตฺตโม จ ปวโร จ. อิเมสุ ปน ปฺจสุ ปิณฺฑปาติเกสุ ทฺเวว ชนา ปิณฺฑปาติกา ¶ , ตโย น ปิณฺฑปาติกา. นามมตฺเตน ปน ปิณฺฑปาติกาติ เวทิตพฺพา. ขลุปจฺฉาภตฺติกาทีสุปิ เอเสว นโยติ.
ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา.
๖. ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๒. ฉกฺเก ¶ – ตตฺราติ เตสุ ฉสุ ปุคฺคเลสุ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตน ทฏฺพฺโพติ โส ปุคฺคโล เตน อนาจริยเกน อตฺตนา อุปฺปาทิเตน สพฺพฺุตฺาเณน สพฺพฺุพุทฺโธ ทฏฺพฺโพ.
ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ เตนาติอาทีสุปิ เตน ปจฺเจกสมฺโพธิาเณน โส ปุคฺคโล ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ. เตน สาวกปารมีาเณน เต ปุคฺคลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา. เตน ทุกฺขสฺส อนฺตกรเณน เต ปุคฺคลา อวเสสา อรหนฺโต. เตน อิตฺถตฺตํ อนาคมเนน โส ปุคฺคโล อนาคามี. เตน อิตฺถตฺตํ อาคมเนน เต ปุคฺคลา โสตาปนฺนสกทาคามิโน ทฏฺพฺพาติ.
ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา.
๗. สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๓. สตฺตเก ¶ – สกึ นิมุคฺโคติ เอกวารํ นิมุคฺโค. เอกนฺตกาฬเกหีติ เอกนฺเตเนว กาฬเกหิ นตฺถิกวาทอเหตุกวาทอกิริยวาทสงฺขาเตหิ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิธมฺเมหิ. เอวํ ปุคฺคโลติ อิมินา การเณน ปุคฺคโล เอกวารํ นิมุคฺโค ตถา นิมุคฺโคว โหติ. เอตสฺส หิ ปุน ภวโต วุฏฺานํ นาม นตฺถีติ วทนฺติ. มกฺขลิโคสาลาทโย วิย เหฏฺา นรกคฺคีนํเยว อาหาโร โหติ.
สาหุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสูติ กุสลธมฺเมสุ สทฺธา นาม สาธุลทฺธิกาติ อุมฺมุชฺชติ. โส ตาวตเกเนว กุสเลน อุมฺมุชฺชติ นาม. สาธุ หิรีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. หายติเยวาติ จงฺกวาเร อาสิตฺตอุทกํ วิย เอกนฺเตน ปริหายเตว. เอวํ ปุคฺคโลติ เอวํ สาหุ สทฺธาติ. อิเมสํ สทฺธาทีนํ วเสน เอกวารํ อุมฺมุชฺชิตฺวา เตสํ ปริหานิยา ปุน นิมุชฺชติเยว, เทวทตฺตาทโย วิย. เทวทตฺโต หิ อฏฺ สมาปตฺติโย, ปฺจ จ อภิฺาโย นิพฺพตฺเตตฺวาปิ ปุน พุทฺธานํ ปฏิกณฺฏกตาย เตหิ คุเณหิ ปริหีโน รุหิรุปฺปาทกมฺมํ ¶ สงฺฆเภทกมฺมฺจ ¶ กตฺวา กายสฺส เภทา ทุติยจิตฺตวาเรน นิรเย นิพฺพตฺติ. โกกาลิโก ทฺเว อคฺคสาวเก อุปวทิตฺวา ปทุมนิรเย นิพฺพตฺโต.
เนว หายติ โน วฑฺฒตีติ อปฺปโหนกกาเลปิ น หายติ, ปโหนกกาเลปิ น วฑฺฒติ. อุภยมฺปิ ปเนตํ อคาริเกนปิ อนคาริเกนปิ ทีเปตพฺพํ. เอกจฺโจ หิ อคาริโก อปฺปโหนกกาเล ปกฺขิกภตฺตํ วา สลากภตฺตํ วา วสฺสาวาสิกํ วา อุปนิพนฺธาเปติ. โส ปจฺฉา ปโหนกกาเลปิ ปกฺขิกภตฺตาทิมตฺตเมว ปวตฺเตติ. อนคาริโกปิ อาทิมฺหิ อปฺปโหนกกาเล อุทฺเทสํ วา ธุตงฺคํ วา คณฺหาติ, เมธาพลวีริยสมฺปตฺติยา ปโหนกกาเลปิ ตโต อุตฺตรึ น กโรติ. เอวํ ปุคฺคโลติ เอวํ อิมาย สทฺธาทีนํ ิติยา ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ิโต นาม โหติ.
อุมฺมุชฺชิตฺวา วิปสฺสติ วิโลเกตีติ โสตาปนฺโน ปุคฺคโล อุฏฺหิตฺวา คมนมคฺคํ คนฺตพฺพํ ทิสํ วา อาโลเกติ นาม.
อุมฺมุชฺชิตฺวา ¶ ปตรตีติ สกทาคามิปุคฺคโล กิเลสตนุตาย อุฏฺหิตฺวา คนฺตพฺพทิสาภิมุโข ปตรติ นาม.
ปติคาธปฺปตฺโต โหตีติ อนาคามิปุคฺคโล อุฏฺาย วิโลเกตฺวา ปตริตฺวา คนฺตฺวา เอกสฺมึ าเน ปติฏฺาปตฺโต นาม โหติ, ติฏฺติ, น ปุนาคจฺฉติ.
ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺตีติ สพฺพกิเลโสฆํ ตริตฺวา ปรตีรํ คนฺตฺวา นิพฺพานถเล ิโต นาม โหติ. อิเม ปน สตฺต ปุคฺคลา อุทโกปเมน ทีปิตา.
สตฺต กิร ชงฺฆวาณิชา อทฺธานมคฺคปฏิปนฺนา อนฺตรามคฺเค เอกํ ปุณฺณนทึ ปาปุณึสุ. เตสุ ปมํ โอติณฺโณ อุทกภีรุโก ปุริโส โอติณฺณฏฺาเนเยว นิมุชฺชิตฺวา ปุน อุฏฺาตุํ นาสกฺขิ, อนฺโตเยว มจฺฉกจฺฉปภกฺโข ชาโต. ทุติโย โอติณฺณฏฺาเน นิมุชฺชิตฺวา สกึ อุฏฺหิตฺวา ปุน นิมุคฺโค อุฏฺาตุํ นาสกฺขิ, อนฺโตเยว มจฺฉกจฺฉปภกฺโข ชาโต. ตติโย นิมุชฺชิตฺวา อุฏฺหิ. โส มชฺเฌ นทิยา ตฺวา เนว โอรโต อาคนฺตุํ, น ปรโต คนฺตุํ อสกฺขิ ¶ . จตุตฺโถ อุฏฺาย ิโต อุตฺตรณติตฺถํ โอโลเกสิ. ปฺจโม โอตรณติตฺถํ โอโลเกตฺวา ปตริ. ฉฏฺโ ตริตฺวา ปาริมตีรํ คนฺตฺวา กฏิปฺปมาเณ อุทเก ิโต. สตฺตโม ปาริมตีรํ คนฺตฺวา คนฺธจุณฺณาทีหิ นฺหาตฺวา วรวตฺถานิ ¶ นิวาเสตฺวา สุรภิวิเลปนํ วิลิมฺปิตฺวา นีลุปฺปลาทีนิ ปิฬนฺธิตฺวา นานาลงฺการปฏิมณฺฑิโต มหานครํ ปวิสิตฺวา ปาสาทวรมารุยฺห อุตฺตมโภชนํ ภฺุชิ.
ตตฺถ สตฺต ชงฺฆวาณิชา วิย อิเม สตฺต ปุคฺคลา. นที วิย วฏฺฏํ. ปมสฺส อุทกภีรุกสฺส ปุริสสฺส โอติณฺณฏฺาเนเยว นิมุชฺชนํ วิย มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส วฏฺเฏ นิมุชฺชนํ. อุมฺมุชฺชิตฺวา นิมุคฺคปุริโส วิย สทฺธาทีนํ อุปฺปตฺติมตฺตเกน อุมฺมุชฺชิตฺวา เตสํ ปริหานิยา นิมุคฺคปุคฺคโล. มชฺเฌ นทิยา ิโต วิย สทฺธาทีนํ ิติยา ิตปุคฺคโล. อุตฺตรณติตฺถํ โอโลเกนฺโต วิย คนฺตพฺพมคฺคํ คนฺตพฺพทิสํ วา โอโลเกนฺโต โสตาปนฺโน. ปตริตปุริโส วิย กิเลสตนุตาย ปตรนฺโต สกทาคามี. ตริตฺวา กฏิมตฺเต อุทเก ิตปุริโส วิย อนาวตฺติตธมฺมตาย ิโต อนาคามี. นฺหตฺวา ปาริมตีรํ ¶ อุตฺตริตฺวา ถเล ิตปุริโส วิย จตฺตาโร โอเฆ อติกฺกมิตฺวา นิพฺพานถเล ิโต ขีณาสวพฺราหฺมโณ. ถเล ิตปุริสสฺส นครํ ปวิสิตฺวา ปาสาทวรํ อารุยฺห อุตฺตมโภชนภฺุชนํ วิย ขีณาสวสฺส นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา วีตินามนํ เวทิตพฺพํ. อุภโตภาควิมุตฺตาทโย เหฏฺา ปกาสิตาเยวาติ.
สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา.
๒๐๗. อฏฺกนวกนิทฺเทสาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
๑๐. ทสกนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๙. ทสกนิทฺเทเส – อิธาติ กามาวจรภูมิยํ. กามาวจรภูมิยฺหิ สตฺตกฺขตฺตุปรมาทีนํ กามาวจรภูมิยฺเว นิฏฺา โหติ. กามาวจรตฺตภาเวเนว อรหตฺตปฺปตฺติ จ อนุปาทิเสสนิพฺพานปฺปตฺติ จ โหตีติ อตฺโถ.
อิธ ¶ วิหายาติ อิธ กามาวจเร อตฺตภาเว วิหาย สุทฺธาวาสตฺตภาเว ิตานํ นิฏฺา โหตีติ อตฺโถ. อนฺตราปรินิพฺพายิอาทโย หิ อิธ อนาคามิผลํ ปตฺวา อิโต จุตา สุทฺธาวาเสสุ อุปฺปชฺชิตฺวา เตน อตฺตภาเวน อรหตฺตฺเจว อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตฺุจ ¶ ปาปุณนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา’’ติ.
ทสกนิทฺเทสวณฺณนา.
นิคมนกถา
เอตฺตาวตา จ –
ยํ เว ปุคฺคลปฺตฺตึ, โลเก อปฺปฏิปุคฺคโล;
นาติสงฺเขปโต สตฺถา, เทเสสิ ติทสาลเย.
ตสฺสา อฏฺกถฺเจว, ทีปภาสาย สงฺขตํ;
อาคมฏฺกถาโย จ, โอคาเหตฺวา อเสสโต.
สุวิภตฺโต ¶ อสํกิณฺโณ, โย โย อตฺโถ ยหึ ยหึ;
ตโต ตโต ตํ คเหตฺวา, ปหาย อติวิตฺถารํ.
วิสุทฺธิมคฺเค ยํ วุตฺตํ, ตํ อนาทาย สงฺขตา;
นาติสงฺเขปวิตฺถาร-นเยนฏฺกถา อยํ.
ตํ เอตํ สตฺตมตฺเตหิ, ภาณวาเรหิ ตนฺติยา;
จิรฏฺิตตฺถํ ธมฺมสฺส, สงฺขโรนฺเตน ยํ มยา.
สมฺปตฺตํ กุสลํ เตน, สทฺธมฺมํ สุขุมํ สิวํ;
โอโลเกนฺตุ วิสุทฺเธน, ปาณโย ธมฺมจกฺขุนาติ.
ปุคฺคลปฺตฺติ-อฏฺกถา นิฏฺิตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
อภิธมฺมปิฏเก