📜
ปจฺจยุทฺเทสวณฺณนา
สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ อนุโลมปฏฺาเน ทฺวาวีสติ ติเก นิสฺสาย ติกปฏฺานํ นาม นิทฺทิฏฺํ, สตํ ทุเก นิสฺสาย ทุกปฏฺานํ นาม นิทฺทิฏฺํ. ตโต ปรํ ทฺวาวีสติ ติเก คเหตฺวา ทุกสเต ปกฺขิปิตฺวา ทุกติกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. ตโต ปรํ ทุกสตํ คเหตฺวา ทฺวาวีสติยา ติเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ติกทุกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. ติเก ปน ติเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ติกติกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. ทุเก จ ทุเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ทุกทุกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. เอวํ –
ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,
ทุกํ ติกฺเจว ติกํ ทุกฺจ;
ติกํ ติกฺเจว ทุกํ ทุกฺจ,
ฉ อนุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ.
ปจฺจนียปฏฺาเนปิ ¶ ทฺวาวีสติ ติเก นิสฺสาย ติกปฏฺานํ นาม. ทุกสตํ นิสฺสาย ทุกปฏฺานํ นาม. ทฺวาวีสติ ติเก ทุกสเต ปกฺขิปิตฺวา ทุกติกปฏฺานํ นาม. ทุกสตํ ทฺวาวีสติยา ติเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ติกทุกปฏฺานํ นาม. ติเก ติเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ติกติกปฏฺานํ นาม. ทุเก ทุเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ทุกทุกปฏฺานํ นามาติ เอวํ ปจฺจนีเยปิ ฉหิ นเยหิ ปฏฺานํ นิทฺทิฏฺํ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,
ทุกํ ติกฺเจว ติกํ ทุกฺจ;
ติกํ ติกฺเจว ทุกํ ทุกฺจ,
ฉ ปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ.
ตโต ¶ ปรํ อนุโลมปจฺจนีเยปิ เอเตเนวุปาเยน ฉ นยา ทสฺสิตา. เตนาห –
‘‘ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,
ทุกํ ติกฺเจว ติกํ ทุกฺจ;
ติกํ ติกฺเจว ทุกํ ทุกฺจ,
ฉ อนุโลมปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ.
ตทนนฺตรํ ปจฺจนียานุโลมมฺหิ เอเตเหว ฉหิ นเยหิ นิทฺทิฏฺํ. เตนาห –
‘‘ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,
ทุกํ ติกฺเจว ติกํ ทุกฺจ;
ติกํ ติกฺเจว ทุกํ ทุกฺจ,
ฉ ปจฺจนียานุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ.
เอวํ อนุโลเม ฉ ปฏฺานานิ, ปจฺจนีเย ฉ, อนุโลมปจฺจนีเย ฉ, ปจฺจนียานุโลเม ฉ ปฏฺานานีติ อิทํ ‘‘จตุวีสติสมนฺตปฏฺานสโมธานปฏฺานมหาปกรณํ นามา’’ติ หิ วุตฺตํ.
ตตฺถ เยสํ จตุวีสติยา สมนฺตปฏฺานานํ สโมธานวเสเนตํ จตุวีสติสมนฺตปฏฺานสโมธานํ ปฏฺานมหาปกรณํ นามาติ วุตฺตํ, เตสฺเจว อิมสฺส จ ปกรณสฺส นามตฺโถ ตาว เอวํ เวทิตพฺโพ. เกนฏฺเน ¶ ปฏฺานนฺติ? นานปฺปการปจฺจยฏฺเน. ‘ป-กาโร’ หิ นานปฺปการตฺถํ ทีเปติ, านสทฺโท ปจฺจยตฺถํ. านาฏฺานกุสลตาติอาทีสุ หิ ปจฺจโย านนฺติ วุตฺโต. อิติ นานปฺปการานํ ปจฺจยานํ วเสน เทสิตตฺตา อิเมสุ จตุวีสติยา ปฏฺาเนสุ เอเกกํ ปฏฺานํ นาม. อิเมสํ ปน ปฏฺานานํ สมูหโต สพฺพมฺเปตํ ปกรณํ ปฏฺานนฺติ เวทิตพฺพํ.
อปโร นโย – เกนฏฺเน ปฏฺานนฺติ? วิภชนฏฺเน. ‘‘ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺม’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๓๗๑) อาคตฏฺานสฺมิฺหิ วิภชนฏฺเน ปฏฺานํ ปฺายติ. อิติ กุสลาทีนํ ธมฺมานํ เหตุปจฺจยาทิวเสน วิภตฺตตฺตา อิเมสุ จตุวีสติยา ปฏฺาเนสุ ¶ เอเกกํ ปฏฺานํ นาม. อิเมสํ ปน ปฏฺานานํ สมูหโต สพฺพมฺเปตํ ปกรณํ ปฏฺานํ นามาติ เวทิตพฺพํ.
อปโร นโย – เกนฏฺเน ปฏฺานนฺติ? ปฏฺิตตฺเถน. คมนฏฺเนาติ อตฺโถ. ‘‘โคฏฺา ปฏฺิตคาโว’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๖) อาคตฏฺานสฺมิฺหิ เยน ปฏฺาเนน ปฏฺิตคาโวติ วุตฺโต, ตํ อตฺถโต คมนํ โหติ. อิติ นาติวิตฺถาริตนเยสุ ธมฺมสงฺคณีอาทีสุ อนิสฺสงฺคคมนสฺส สพฺพฺุตฺาณสฺส เหตุปจฺจยาทิเภทภินฺเนสุ กุสลาทีสุ วิตฺถาริตนยลาภโต นิสฺสงฺควเสน ปวตฺตคมนตฺตา อิเมสุ จตุวีสติยา ปฏฺาเนสุ เอเกกํ ปฏฺานํ นาม. อิเมสํ ปน ปฏฺานานํ สมูหโต สพฺพมฺเปตํ ปกรณํ ปฏฺานํ นามาติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ อนุโลมมฺหิ ตาว ปมํ ติกวเสน เทสิตตฺตา ติกปฏฺานํ นาม. ตสฺส ปทจฺเฉโท – ติกานํ ปฏฺานํ เอตฺถ อตฺถีติ ติกปฏฺานํ. ติกานํ นานปฺปการกา ปจฺจยา เอติสฺสา เทสนาย อตฺถีติ อตฺโถ. ทุติยวิกปฺเปปิ ติกานํ ปฏฺานนฺตฺเวว ติกปฏฺานํ. เหตุปจฺจยาทิวเสน ติกานํ วิภชนาติ อตฺโถ. ตติยวิกปฺเป เหตุปจฺจยาทิเภทภินฺนตาย ลทฺธวิตฺถารา ติกา เอว ปฏฺานํ ติกปฏฺานํ. สพฺพฺุตฺาณสฺส นิสฺสงฺคคมนภูมีติ อตฺโถ. ทุกปฏฺานาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ อนุโลเม ฉปฏฺานานิ วิทิตฺวา ปจฺจนียาทีสุปิ อิมินาวุปาเยน เวทิตพฺพานิ.
ยสฺมา ปเนตานิ อนุโลเม, ปจฺจนีเย, อนุโลมปจฺจนีเย, ปจฺจนียานุโลเมติ สมนฺตา ฉ ฉ หุตฺวา จตุวีสติ โหนฺติ; ตสฺมา ‘‘จตุวีสติ สมนฺตปฏฺานานี’’ติ ¶ วุจฺจนฺติ. อิติ อิเมสํ จตุวีสติยา ขุทฺทกปฏฺานสงฺขาตานํ สมนฺตปฏฺานานํ สโมธานวเสเนตํ จตุวีสติสมนฺตปฏฺานสโมธานํ ปฏฺานมหาปกรณํ นาม.
ตํ ปเนตํ เย ติกาทโย นิสฺสาย นิทฺทิฏฺตฺตา ‘‘ติกปฏฺานํ ทุกปฏฺานํ…เป… ทุกทุกปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ, เต อนามสิตฺวา เยสํ ปจฺจยานํ วเสน เต ติกาทโย วิภตฺตา เต ปจฺจเย ทสฺเสตุํ อาทิโต ตาวสฺส มาติกานิกฺเขปวาโร นาม วุตฺโต; ปจฺจยวิภงฺควาโรติปิ ตสฺเสว นามํ. โส อุทฺเทสนิทฺเทสโต ทุวิโธ. ตสฺส เหตุปจฺจโย…เป… อวิคตปจฺจโยติ อยํ อุทฺเทโส.
ตตฺถ ¶ เหตุ จ โส ปจฺจโย จาติ เหตุปจฺจโย. เหตุ หุตฺวา ปจฺจโย, เหตุภาเวน ปจฺจโยติ วุตฺตํ โหติ. อารมฺมณปจฺจยาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ เหตูติ วจนาวยวการณมูลานเมตํ อธิวจนํ. ‘‘ปฏิฺา เหตู’’ติอาทีสุ หิ โลเก วจนาวยโว เหตูติ, วุจฺจติ. สาสเน ปน ‘‘เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา’’ติอาทีสุ (มหาว. ๖๐) การณํ. ‘‘ตโย กุสลา เหตู, ตโย อกุสลา เหตู’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๐๕๙) มูลํ เหตูติ วุจฺจติ. ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. ปจฺจโยติ เอตฺถ ปน อยํ วจนตฺโถ – ปฏิจฺจ เอตสฺมา เอตีติ ปจฺจโย, อปฺปจฺจกฺขาย นํ วตฺตตีติ อตฺโถ. โย หิ ธมฺโม ยํ ธมฺมํ อปฺปจฺจกฺขาย ติฏฺติ วา อุปฺปชฺชติ วา, โส ตสฺส ปจฺจโยติ วุตฺตํ โหติ.
ลกฺขณโต ปน อุปการกลกฺขโณ ปจฺจโย, โย หิ ธมฺโม ยสฺส ธมฺมสฺส ิติยา วา อุปฺปตฺติยา วา อุปการโก โหติ, โส ตสฺส ปจฺจโยติ วุจฺจติ. ปจฺจโย, เหตุ; การณํ นิทานํ สมฺภโว, ปภโวติ อตฺถโต เอกํ, พฺยฺชนโต นานํ. อิติ มูลฏฺเน เหตุ, อุปการกฏฺเน ปจฺจโยติ สงฺเขปโต มูลฏฺเน อุปการโก ธมฺโม เหตุปจฺจโย. โส หิ สาลิอาทีนํ สาลิพีชาทีนิ วิย, มณิปฺปภาทีนํ วิย จ มณิวณฺณาทโย กุสลาทีนํ กุสลาทิภาวสาธโกติ อาจริยานํ อธิปฺปาโย. เอวํ สนฺเต ปน ตํสมุฏฺานรูเปสุ เหตุปจฺจยตา น สมฺปชฺชติ. น หิ โส เตสํ กุสลาทิภาวํ สาเธติ, น จ ปจฺจโย น โหตีติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ ¶ รูปานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. อเหตุกจิตฺตานฺจ วินา เอเตน อพฺยากตภาโว สิทฺโธ.
สเหตุกานมฺปิ จ โยนิโสมนสิการาทิปฏิพทฺโธ กุสลาทิภาโว น สมฺปยุตฺตเหตุปฏิพทฺโธ. ยทิ จ สมฺปยุตฺตเหตูสุ สภาวโตว กุสลาทิภาโว สิยา, ตํสมฺปยุตฺเตสุ เหตุปฏิพทฺโธ อโลโภ กุสโล วา สิยา อพฺยากโต วา. ยสฺมา ปน อุภยถาปิ โหติ, ตสฺมา ยถา สมฺปยุตฺเตสุ, เอวํ เหตูสุปิ กุสลาทิตา ปริเยสิตพฺพา. กุสลาทิภาวสาธนวเสน ปน เหตูนํ มูลฏฺํ อคฺคเหตฺวา สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนวเสน คยฺหมาเน น กิฺจิ วิรุชฺฌติ. ลทฺธเหตุปจฺจยา หิ ธมฺมา วิรุฬฺหมูลา วิย ปาทปา ถิรา โหนฺติ สุปฺปติฏฺิตา, อเหตุกา ปน ติลพีชกาทิเสวาลา วิย น สุปฺปติฏฺิตา. อิติ มูลฏฺเน อุปการโกติ สุปฺปติฏฺิตภาวสาธเนน อุปการโก ธมฺโม เหตุปจฺจโยติ เวทิตพฺโพ.
ตโต ¶ ปเรสุ อารมฺมณวเสน อุปการโก ธมฺโม อารมฺมณปจฺจโย. โส ‘‘รูปายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา’’ติ อารภิตฺวาปิ ‘‘ยํ ยํ ธมฺมํ อารพฺภ เย เย ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, เต เต ธมฺมา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ โอสาปิตตฺตา น โกจิ ธมฺโม น โหติ. ยถา หิ ทุพฺพโล ปุริโส ทณฺฑํ วา รชฺชุํ วา อาลมฺพิตฺวาว อุฏฺหติ เจว ติฏฺติ จ, เอวํ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา รูปาทิอารมฺมณํ อารพฺเภว อุปฺปชฺชนฺติ เจว ติฏฺนฺติ จ. ตสฺมา สพฺเพปิ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ อารมฺมณภูตา ธมฺมา อารมฺมณปจฺจโยติ เวทิตพฺพา.
เชฏฺกฏฺเน อุปการโก ธมฺโม อธิปติปจฺจโย. โส สหชาตารมฺมณวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ ‘‘ฉนฺทาธิปติ ฉนฺทสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิวจนโต ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสสงฺขาตา จตฺตาโร ธมฺมา สหชาตาธิปติปจฺจโยติ เวทิตพฺพา, โน จ โข เอกโต. ยทา หิ ฉนฺทํ ธุรํ เชฏฺกํ กตฺวา จิตฺตํ ปวตฺตติ, ตทา ฉนฺโทว อธิปติ, น อิตเร. เอส นโย เสเสสุปิ. ยํ ปน ธมฺมํ ครุํ กตฺวา อรูปธมฺมา ปวตฺตนฺติ, โส เนสํ อารมฺมณาธิปติ. เตน ¶ วุตฺตํ – ‘‘ยํ ยํ ธมฺมํ ครุํ กตฺวา เย เย ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, เต เต ธมฺมา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ.
อนนฺตรภาเวน อุปการโก ธมฺโม อนนฺตรปจฺจโย. สมนนฺตรภาเวน อุปการโก ธมฺโม สมนนฺตรปจฺจโย. อิทฺจ ปจฺจยทฺวยํ พหุธา ปปฺจยนฺติ. อยํ ปเนตฺถ สาโร – โย หิ เอส จกฺขุวิฺาณานนฺตรา มโนธาตุ, มโนธาตุอนนฺตรา มโนวิฺาณธาตูติอาทิ จิตฺตนิยโม, โส ยสฺมา ปุริมจิตฺตวเสเนว อิชฺฌติ, น อฺถา. ตสฺมา อตฺตโน อตฺตโน อนนฺตรํ อนุรูปสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส อุปฺปาทนสมตฺโถว ธมฺโม อนนฺตรปจฺจโย. เตเนวาห – ‘‘อนนฺตรปจฺจโยติ จกฺขุวิฺาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิ.
โย อนนฺตรปจฺจโย, สฺเวว สมนนฺตรปจฺจโย. พฺยฺชนมตฺตเมว เหตฺถ นานํ, อุปจยสนฺตติอาทีสุ วิย, อธิวจนนิรุตฺติทุกาทีสุ วิย จ, อตฺถโต ปน นานํ นตฺถิ. ยมฺปิ ‘‘อทฺธานนฺตรตาย อนนฺตรปจฺจโย, กาลานนฺตรตาย สมนนฺตรปจฺจโย’’ติ อาจริยานํ มตํ ¶ , ตํ ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส เนวสฺานาสฺายตนกุสลํ ผลสมาปตฺติยา สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทีหิ วิรุชฺฌติ. ยมฺปิ ตตฺถ วทนฺติ – ‘‘ธมฺมานํ สมุฏฺาปนสมตฺถตา น ปริหายติ, ภาวนาพเลน ปน วาริตตฺตา ธมฺมา สมนนฺตรํ นุปฺปชฺชนฺตี’’ติ, ตมฺปิ กาลานนฺตรตาย อภาวเมว สาเธติ. ภาวนาพเลน หิ ตตฺถ กาลานนฺตรตา นตฺถีติ, มยมฺปิ เอตเทว วทาม. ยสฺมา จ กาลานนฺตรตา นตฺถิ, ตสฺมา สมนนฺตรปจฺจยตา น ยุชฺชติ. กาลานนฺตรตาย หิ เตสํ สมนนฺตรปจฺจโย โหตีติ ลทฺธิ. ตสฺมา อภินิเวสํ อกตฺวา พฺยฺชนมตฺตโตเวตฺถ นานากรณํ ปจฺเจตพฺพํ, น อตฺถโต. กถํ? นตฺถิ เอเตสํ อนฺตรนฺติ หิ อนนฺตรา. สณฺานาภาวโต สุฏฺุ อนนฺตราติ สมนนฺตรา.
อุปฺปชฺชมาโน สห อุปฺปชฺชมานภาเวน อุปการโก ธมฺโม สหชาตปจฺจโย, ปกาสสฺส ปทีโป วิย. โส อรูปกฺขนฺธาทิวเสน ฉพฺพิโธ โหติ. ยถาห – จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อฺมฺํ สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย. จตฺตาโร มหาภูตา อฺมฺํ…เป… โอกฺกนฺติกฺขเณ นามรูปํ ¶ อฺมฺํ…เป… จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ…เป… มหาภูตา อุปาทารูปานํ…เป… รูปิโน ธมฺมา อรูปีนํ ธมฺมานํ กิฺจิกาเล สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย; กิฺจิ กาเล น สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ. อิทํ หทยวตฺถุเมว สนฺธาย วุตฺตํ.
อฺมฺํ อุปฺปาทนุปตฺถมฺภนภาเวน อุปการโก ธมฺโม อฺมฺปจฺจโย. อฺมฺุปตฺถมฺภกํ ติทณฺฑํ วิย. โส อรูปกฺขนฺธาทิวเสน ติวิโธ โหติ. ยถาห – จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อฺมฺปจฺจเยน ปจฺจโย. จตฺตาโร มหาภูตา…เป… โอกฺกนฺติกฺขเณ นามรูปํ อฺมฺปจฺจเยน ปจฺจโยติ.
อธิฏฺานากาเรน นิสฺสยากาเรน จ อุปการโก ธมฺโม นิสฺสยปจฺจโย, ตรุจิตฺตกมฺมาทีนํ ปถวีปฏาทโย วิย. โส ‘‘จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อฺมฺํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอวํ สหชาเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ฉฏฺโ ปเนตฺถ โกฏฺาโส ‘‘จกฺขายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา, โสตฆานชิวฺหากายายตนํ กายวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย. ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิฺาณธาตุ จ วตฺตนฺติ ¶ , ตํ รูปํ มโนธาตุยา จ มโนวิฺาณธาตุยา จ ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอวํ วิภตฺโต.
อุปนิสฺสยปจฺจโยติ อิธ ปน อยํ ตาว วจนตฺโถ – ตทธีนวุตฺติตาย อตฺตโน ผเลน นิสฺสิโต, น ปฏิกฺขิตฺโตติ นิสฺสโย. ยถา ปน ภุโส อายาโส อุปายาโส, เอวํ ภุโส นิสฺสโย อุปนิสฺสโย. พลวการณสฺเสตํ อธิวจนํ. ตสฺมา พลวการณภาเวน อุปการโก ธมฺโม อุปนิสฺสยปจฺจโยติ เวทิตพฺโพ. โส อารมฺมณูปนิสฺสโย, อนนฺตรูปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโยติ ติวิโธ โหติ. ตตฺถ ‘‘ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขติ, ปุพฺเพ สุจิณฺณานิ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขติ, ฌานา วุฏฺหิตฺวา ฌานํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขติ, เสกฺขา โคตฺรภุํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺติ, โวทานํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺติ, เสกฺขา มคฺคา วุฏฺหิตฺวา มคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตี’’ติ เอวมาทินา นเยน อารมฺมณูปนิสฺสโย ตาว อารมฺมณาธิปตินา สทฺธึ นานตฺตํ อกตฺวา วิภตฺโต. ตตฺถ ยํ อารมฺมณํ ครุํ กตฺวา จิตฺตเจตสิกา อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ นิยมโต เตสํ อารมฺมเณสุ พลวารมฺมณํ โหติ ¶ . อิติ ครุกาตพฺพมตฺตฏฺเน อารมฺมณาธิปติ, พลวการณฏฺเน อารมฺมณูปนิสฺสโยติ เอวเมเตสํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
อนนฺตรูปนิสฺสโยปิ ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ขนฺธา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ขนฺธานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน อนนฺตรปจฺจเยน สทฺธึ นานตฺตํ อกตฺวาว วิภตฺโต. มาติกานิกฺเขเป ปน เนสํ ‘‘จกฺขุวิฺาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน อนนฺตรสฺส จ ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน อุปนิสฺสยสฺส จ อาคตตฺตา นิกฺเขปวิเสโส อตฺถิ, โสปิ อตฺถโต เอกีภาวเมว คจฺฉติ. เอวํ สนฺเตปิ อตฺตโน อตฺตโน อนนฺตรํ อนุรูปสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส ปวตฺตนสมตฺถตาย อนนฺตรตา ปุริมจิตฺตสฺส จ ปจฺฉิมจิตฺตุปฺปาทเน พลวตาย อนนฺตรูปนิสฺสยตา เวทิตพฺพา. ยถา หิ เหตุปจฺจยาทีสุ กฺจิ ธมฺมํ วินาปิ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น เอวํ อนนฺตรจิตฺตํ, วินา จิตฺตสฺส อุปฺปตฺติ นาม อตฺถิ, ตสฺมา พลวปจฺจโย โหติ. อิติ อตฺตโน อตฺตโน อนนฺตรํ อนุรูปจิตฺตุปฺปาทวเสน อนนฺตรปจฺจโย, พลวการณวเสน อนนฺตรูปนิสฺสโยติ เอวเมเตสํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
ปกตูปนิสฺสโย ¶ ปน ปกโต อุปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโย. ปกโต นาม อตฺตโน สนฺตาเน นิปฺผาทิโต วา สทฺธาสีลาทิ; อุปเสวิโต วา อุตุโภชนาทิ. ปกติยาเยว วา อุปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโย, อารมฺมณานนฺตเรหิ อสมฺมิสฺโสติ อตฺโถ. ตสฺส ‘‘ปกตูปนิสฺสโย – สทฺธํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทติ, สีลํ สมาทิยติ, อุโปสถกมฺมํ กโรติ, ฌานํ อุปฺปาเทติ, วิปสฺสนํ อุปฺปาเทติ, มคฺคํ อุปฺปาเทติ, อภิฺํ อุปฺปาเทติ, สมาปตฺตึ อุปฺปาเทติ, สีลํ… สุตํ… จาคํ… ปฺํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทติ…เป… สมาปตฺตึ อุปฺปาเทติ. สทฺธา… สีลํ… สุตํ… จาโค… ปฺา สทฺธาย… สีลสฺส… สุตสฺส… จาคสฺส… ปฺาย อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน อเนกปฺปการโก ปเภโท เวทิตพฺโพ. อิติ อิเม สทฺธาทโย ปกตา เจว พลวการณฏฺเน อุปนิสฺสยา จาติ ปกตูปนิสฺสโยติ.
ปมตรํ อุปฺปชฺชิตฺวา วตฺตมานภาเวน อุปการโก ธมฺโม ปุเรชาตปจฺจโย. โส ปฺจทฺวาเร วตฺถารมฺมณหทยวตฺถุวเสน เอกาทสวิโธ โหติ ¶ . ยถาห – จกฺขายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย. โสต… ฆาน… ชิวฺหา… กายายตนํ, รูปายตนํ, สทฺท… คนฺธ… รส… โผฏฺพฺพายตนํ, กายวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย. รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพายตนํ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย. ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิฺาณธาตุ จ วตฺตนฺติ, ตํ รูปํ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย, มโนวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ กิฺจิ กาเล ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย, กิฺจิ กาเล น ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ.
ปุเรชาตานํ รูปธมฺมานํ อุปตฺถมฺภกฏฺเน อุปการโก อรูปธมฺโม ปจฺฉาชาตปจฺจโย, คิชฺฌโปตกสรีรานํ อาหาราสาเจตนา วิย. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ.
อาเสวนฏฺเน อนนฺตรานํ ปคุณพลวภาวาย อุปการโก ธมฺโม อาเสวนปจฺจโย, คนฺถาทีสุ ปุริมาปุริมาภิโยโค วิย. โส กุสลากุสลกิริยชวนวเสน ติวิโธ โหติ. ยถาห – ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย ¶ . ปุริมา ปุริมา อกุสลา…เป… กิริยาพฺยากตา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กิริยาพฺยากตานํ ธมฺมานํ อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโยติ.
จิตฺตปโยคสงฺขาเตน กิริยาภาเวน อุปการโก ธมฺโม กมฺมปจฺจโย. โส นานากฺขณิกาย เจว กุสลากุสลเจตนาย สหชาตาย จ สพฺพายปิ เจตนาย วเสน ทุวิโธ โหติ. ยถาห – กุสลากุสลํ กมฺมํ วิปากานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย. เจตนา สมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํ สมุฏฺานานฺจ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโยติ.
นิรุสฺสาหสนฺตภาเวน นิรุสฺสาหสนฺตภาวาย อุปการโก วิปากธมฺโม วิปากปจฺจโย. โส ปวตฺเต จิตฺตสมุฏฺานานํ, ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตา จ ¶ รูปานํ, สพฺพตฺถ จ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วิปากปจฺจโย โหติ. ยถาห – วิปากาพฺยากโต เอโก ขนฺโธ ติณฺณํ ขนฺธานํ, จิตฺตสมุฏฺานานฺจ รูปานํ, วิปากปจฺจเยน ปจฺจโย…เป… ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากโต เอโก ขนฺโธ…เป… ทฺเว ขนฺธา ทฺวินฺนํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ วิปากปจฺจเยน ปจฺจโย. ขนฺธา วตฺถุสฺส วิปากปจฺจเยน ปจฺจโยติ.
รูปารูปานํ อุปตฺถมฺภกฏฺเน อุปการกา จตฺตาโร อาหารา อาหารปจฺจโย. ยถาห – กพฬีกาโร อาหาโร อิมสฺส กายสฺส อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย. อรูปิโน อาหารา สมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ อาหารปจฺจเยน ปจฺจโยติ. ปฺหาวาเร ปน ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตา อาหารา สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติปิ วุตฺตํ.
อธิปติยฏฺเน อุปการกา อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยวชฺชา วีสตินฺทฺริยา อินฺทฺริยปจฺจโย. ตตฺถ จกฺขุนฺทฺริยาทโย ปฺจ อรูปธมฺมานํเยว, เสสา รูปารูปานํ ปจฺจยา โหนฺติ. ยถาห – จกฺขุนฺทฺริยํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา, โสต… ฆาน… ชิวฺหา… กายินฺทฺริยํ กายวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย. รูปชีวิตินฺทฺริยํ กฏตฺตารูปานํ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย. อรูปิโน อินฺทฺริยา สมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโยติ. ปฺหาวาเร ปน ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตา อินฺทฺริยา สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติปิ วุตฺตํ.
อุปนิชฺฌายนฏฺเน ¶ อุปการกานิ เปตฺวา ทฺวิปฺจวิฺาเณสุ กายิกสุขทุกฺขเวทนาทฺวยํ สพฺพานิปิ กุสลาทิเภทานิ สตฺต ฌานงฺคานิ ฌานปจฺจโย. ยถาห – ฌานงฺคานิ ฌานสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ ฌานปจฺจเยน ปจฺจโยติ. ปฺหาวาเร ปน ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตานิ ฌานงฺคานิ สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ ฌานปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติปิ วุตฺตํ.
ยโต ตโต วา นิยฺยานฏฺเน อุปการกานิ กุสลาทิเภทานิ ทฺวาทส มคฺคงฺคานิ มคฺคปจฺจโย. ยถาห – ‘‘มคฺคงฺคานิ มคฺคสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ มคฺคปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. ปฺหาวาเร ปน ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตานิ มคฺคงฺคานิ สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ ¶ มคฺคปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตํ. น เอเต ปน ทฺเวปิ ฌานมคฺคปจฺจยา ยถาสงฺขฺยํ ทฺวิปฺจวิฺาณาเหตุกจิตฺเตสุ ลพฺภนฺตีติ เวทิตพฺพา.
เอกวตฺถุกเอการมฺมณเอกุปฺปาเทกนิโรธสงฺขาเตน สมฺปยุตฺตภาเวน อุปการกา อรูปธมฺมา สมฺปยุตฺตปจฺจโย. ยถาห – ‘‘จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อฺมฺํ สมฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ.
เอกวตฺถุกาทิภาวานุปคเมน อุปการกา รูปิโน ธมฺมา อรูปีนํ, อรูปิโน ธมฺมา รูปีนํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. โส สหชาตปจฺฉาชาตปุเรชาตวเสน ติวิโธ โหติ. วุตฺตฺเหตํ – สหชาตา กุสลา ขนฺธา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. ปจฺฉาชาตา กุสลา ขนฺธา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโยติ. อพฺยากตปทสฺส ปน สหชาตวิภงฺเค ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตา ขนฺธา กฏตฺตารูปานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. ขนฺธา วตฺถุสฺส, วตฺถุ ขนฺธานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตํ. ปุเรชาตํ ปน จกฺขุนฺทฺริยาทิวตฺถุวเสเนว เวทิตพฺพํ. ยถาห – ปุเรชาตํ จกฺขายตนํ จกฺขุวิฺาณสฺส…เป… กายายตนํ กายวิฺาณสฺส วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. วตฺถุ วิปากาพฺยากตานํ กิริยาพฺยากตานํ ขนฺธานํ วตฺถุ กุสลานํ ขนฺธานํ, วตฺถุ อกุสลานํ ขนฺธานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโยติ.
ปจฺจุปฺปนฺนลกฺขเณน อตฺถิภาเวน ตาทิสสฺเสว ธมฺมสฺส อุปตฺถมฺภกฏฺเน อุปการโก ธมฺโม อตฺถิปจฺจโย ¶ . ตสฺส อรูปกฺขนฺธมหาภูตนามรูปจิตฺตเจตสิกมหาภูตายตนวตฺถุวเสน สตฺตธา มาติกา นิกฺขิตฺตา. ยถาห – จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อฺมฺํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย; จตฺตาโร มหาภูตา อฺมฺํ, โอกฺกนฺติกฺขเณ นามรูปํ อฺมฺํ, จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ มหาภูตา อุปาทารูปานํ, จกฺขายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา…เป… กายายตนํ…เป… รูปายตนํ…เป… โผฏฺพฺพายตนํ กายวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย. รูปายตนํ…เป… โผฏฺพฺพายตนํ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย. ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิฺาณธาตุ จ วตฺตนฺติ, ตํ รูปํ มโนธาตุยา จ มโนวิฺาณธาตุยา จ ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโยติ. ปฺหาวาเร ปน สหชาตํ, ปุเรชาตํ, ปจฺฉาชาตํ, อาหารํ, อินฺทฺริยนฺติปิ นิกฺขิปิตฺวา สหชาเต ตาว ‘‘เอโก ขนฺโธ ติณฺณํ ขนฺธานํ จิตฺตสมุฏฺานานฺจ ¶ รูปานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน นิทฺเทโส กโต. ปุเรชาเต ปุเรชาตานํ จกฺขาทีนํ วเสน นิทฺเทโส กโต. ปจฺฉาชาเต ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตานํ จิตฺตเจตสิกานํ ปจฺจยวเสน นิทฺเทโส กโต. อาหารินฺทฺริเยสุ ปน ‘‘กพฬีกาโร อาหาโร อิมสฺส กายสฺส อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย. รูปชีวิตินฺทฺริยํ กฏตฺตารูปานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอวํ นิทฺเทโส กโตติ.
อตฺตโน อนนฺตรํ อุปฺปชฺชมานานํ อรูปธมฺมานํ ปวตฺติโอกาสสฺส ทาเนน อุปการกา สมนนฺตรนิรุทฺธา อรูปธมฺมา นตฺถิปจฺจโย. ยถาห – สมนนฺตรนิรุทฺธา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปฏุปฺปนฺนานํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ นตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโยติ.
เต เอว วิคตภาเวน อุปการกตฺตา วิคตปจฺจโย. ยถาห – สมนนฺตรวิคตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปฏุปฺปนฺนานํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ วิคตปจฺจเยน ปจฺจโยติ.
อตฺถิปจฺจยธมฺมา เอว อวิคตภาเวน อุปการกตฺตา อวิคตปจฺจโยติ เวทิตพฺพา. เทสนาวิลาเสน ปน ตถา วิเนตพฺพเวเนยฺยวเสน วา อยํ ทุโก วุตฺโต; สเหตุกทุกํ วตฺวาปิ เหตุสมฺปยุตฺตทุโก วิยาติ.
อิเมสุ ปน จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ อสมฺโมหตฺถํ –
ธมฺมโต ¶ กาลโต เจว, นานปฺปการเภทโต;
ปจฺจยุปฺปนฺนโต เจว, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ ธมฺมโตติ – อิเมสุ หิ ปจฺจเยสุ เหตุปจฺจโย ตาว นามรูปธมฺเมสุ นามธมฺเมกเทโส. อารมฺมณปจฺจโย สทฺธึ ปฺตฺติยา จ อภาเวน สพฺเพปิ นามรูปธมฺมา. อธิปติปจฺจเย สหชาตาธิปติ นามธมฺเมกเทโส, ตถา กมฺมฌานมคฺคปจฺจยา. อารมฺมณาธิปติ สพฺเพปิ ครุกาตพฺพา อารมฺมณธมฺมา. อนนฺตรสมนนฺตรปจฺฉาชาตอาเสวนวิปากสมฺปยุตฺตนตฺถิวิคตปจฺจยา นามธมฺมาว. นิพฺพานสฺส อสงฺคหิตตฺตา นามธมฺเมกเทโสติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ปุเรชาตปจฺจโย รูเปกเทโส. เสสา ยถาลาภวเสน นามรูปธมฺมาติ เอวํ ตาเวตฺถ ธมฺมโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
กาลโตติ ¶ –
ปจฺจุปฺปนฺนาว โหนฺเตตฺถ, ปจฺจยา ทส ปฺจ จ;
อตีตา เอว ปฺเจโก, เต กาเล ทฺเวปิ นิสฺสิโต;
ตโย ติกาลิกา เจว, วิมุตฺตา จาปิ กาลโตติ.
เอเตสุ หิ เหตุปจฺจโย สหชาตอฺมฺนิสฺสยปุเรชาตปจฺฉาชาตวิปากอาหารอินฺทฺริยฌานมคฺคสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจโยติ อิเม ปนฺนรส ปจฺจยา ปจฺจุปฺปนฺนธมฺมาว โหนฺติ. อนนฺตรปจฺจโย สมนนฺตรอาเสวนนตฺถิวิคตปจฺจโยติ อิเม ปฺจ อตีตาเยว โหนฺติ. เอโก ปน กมฺมปจฺจโย, โส ปจฺจุปฺปนฺนาตีเต ทฺเวปิ กาเล นิสฺสิโต โหติ. เสสา อารมฺมณปจฺจโย อธิปติปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจโยติ อิเม ตโย ปจฺจยา เตกาลิกาปิ โหนฺติ, ปฺตฺติยา สทฺธึ นิพฺพานสฺส สงฺคหิตตฺตา กาลวิมุตฺตาปีติ. เอวเมตฺถ กาลโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
นานปฺปการเภทโต ปจฺจยุปฺปนฺนโตติ อิเมสํ ปน ทฺวินฺนํ ปทานํ อตฺโถ นิทฺเทสวาเร อาวิภวิสฺสตีติ.
ปจฺจยุทฺเทสวณฺณนา.