📜

๑. ปุคฺคลกถา

๑. สุทฺธสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

. ตตฺถ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ อยํ ปุจฺฉา. อามนฺตาติ อยํ ปฏิชานนา. กสฺส ปนายํ ปุจฺฉา, กสฺส ปฏิชานนาติ? อสุกสฺสาติ น วตฺตพฺพา. ภควตา หิ อิมสฺมึ ปกรเณ นานปฺปการานํ ลทฺธีนํ วิโสธนตฺถํ ตนฺติวเสน มาติกา ปิตา. สา เถเรน สตฺถารา ทินฺนนเย ตฺวา ตนฺติวเสน วิภตฺตา. น หิ เถโร ยตฺตกา เอตฺถ วาทมคฺคา ทสฺสิตา, ตตฺตเกหิ วาทีหิ สทฺธึ วาเทน วิคฺคาหิกกถํ กเถสิ. เอวํ สนฺเตปิ ปน ตาสํ ตาสํ กถานํ อตฺถสฺส สุขาวธารณตฺถํ สกวาทีปุจฺฉา, ปรวาทีปุจฺฉา, สกวาทีปฏิฺา, ปรวาทีปฏิฺาติ เอวํ วิภาคํ ทสฺเสตฺวาว อตฺถวณฺณนํ กริสฺสาม.

ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ หิ อยํ สกวาทีปุจฺฉา. ตาย ‘‘เย อตฺถิ ปุคฺคโลติ เอวํลทฺธิกา ปุคฺคลวาทิโน, เต เอวํ ปุจฺฉิตพฺพา’’ติ ทีเปติ. เก ปน ปุคฺคลวาทิโนติ? สาสเน วชฺชิปุตฺตกา เจว สมิติยา จ พหิทฺธา จ พหู อฺติตฺถิยา. ตตฺถ ปุคฺคโลติ อตฺตา, สตฺโต ชีโว. อุปลพฺภตีติ ปฺาย อุปคนฺตฺวา ลพฺภติ, ายตีติ อตฺโถ. สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ เอตฺถ สจฺจิกฏฺโติ มายามรีจิอาทโย วิย อภูตากาเรน อคฺคเหตพฺโพ ภูตฏฺโ. ปรมตฺโถติ อนุสฺสวาทิวเสน อคฺคเหตพฺโพ อุตฺตมตฺโถ. อุภเยนาปิ โย ปรโต ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน, รูปฺจ อุปลพฺภตี’’ติอาทินา ขนฺธายตนธาตุอินฺทฺริยวเสน สตฺตปฺาสวิโธ ธมฺมปฺปเภโท ทสฺสิโต . ยถา โส ภูเตน สภาวฏฺเน อุปลพฺภติ, เอวํ ตว ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ปุจฺฉติ. ปรวาที อามนฺตาติ ปฏิชานาติ. ปฏิชานนฺหิ กตฺถจิ ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ อาคจฺฉติ, กตฺถจิ ‘‘อาโม’’ติ ปฏิชานนํ อาคจฺฉติ. อิธ ปน ‘‘อามนฺตา’’ติ อาคตํ. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – โส หิ ยํ ตํ ปรโต วุตฺตํ ภควตา – ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติ สุตฺตํ อาคตํ, ตํ คเหตฺวา ยสฺมา ปน ภควา สจฺจวาที น วิสํวาทนปุเรกฺขาโร วาจํ ภาสติ, นาปิ อนุสฺสวาทิวเสน ธมฺมํ เทเสติ, สเทวกํ ปน โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, ตสฺมา โย เตน วุตฺโต ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติ, โส สจฺจิกฏฺปรมตฺเถเนว อตฺถีติ ลทฺธึ คเหตฺวา ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิชานาติ.

อถสฺส ตาทิสสฺส เลสวจนสฺส ฉลวาทสฺส โอกาสํ อททมาโน สกวาที โย สจฺจิกฏฺโติอาทิมาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยฺวายํ ปรโต ‘‘สปฺปจฺจโย อปฺปจฺจโย, สงฺขโต อสงฺขโต, สสฺสโต, อสสฺสโต สนิมิตฺโต อนิมิตฺโต’’ติ เอวํ ปริทีปิโต รูปาทิสตฺตปฺาสวิโธ ธมฺมปฺปเภโท อาคโต; น สมฺมุติสจฺจวเสน, นาปิ อนุสฺสวาทิวเสน คเหตพฺโพ. อตฺตโน ปน ภูตตาย เอว สจฺจิกฏฺโ, อตฺตปจฺจกฺขตาย จ ปรมตฺโถ. ตํ สนฺธายาห – ‘‘โย สจฺจิกฏฺโ ปรมตฺโถ, ตโต โส ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ.

ตโตติ กรณวจนเมตํ, ตสฺมา เตน สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน โส ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – รุปฺปนาทิเภเทน วา สปฺปจฺจยาทิเภเทน วา อากาเรน โย สจฺจิกฏฺปรมตฺโถ อุปลพฺภติ, กึ เต ปุคฺคโลปิ เตนากาเรน อุปลพฺภตีติ? น เหวํ วตฺตพฺเพติ อวชานนา ปรวาทิสฺส. โส หิ ตถารูปํ ปุคฺคลํ อนิจฺฉนฺโต อวชานาติ. ตตฺรายํ ปทจฺเฉโท – ‘น หิ เอวํ วตฺตพฺเพ’ติ, น หิ เอวนฺติปิ วฏฺฏติ. ทฺวินฺนมฺปิ เอวํ น วตฺตพฺโพติ อตฺโถ.

อาชานาหิ นิคฺคหนฺติ สกวาทิวจนํ. ยสฺมา เต ปุริมาย วตฺตพฺพปฏิฺาย ปจฺฉิมา นวตฺตพฺพปฏิฺา, ปจฺฉิมาย จ ปุริมา น สนฺธิยติ, ตสฺมาปิ นิคฺคหํ ปตฺโต. ตํ นิคฺคหํ โทสํ อปราธํ สมฺปฏิจฺฉาหีติ อตฺโถ. เอวํ นิคฺคหํ อาชานาเปตฺวา อิทานิ ตํ ปนาย เจว อนุโลมปฏิโลมโต ปาปนาโรปนานฺจ วเสน ปากฏํ กโรนฺโต หฺจิ ปุคฺคโลติอาทิมาห. ตตฺถ หฺจิ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ยทิ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ, สเจ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ อตฺโถ. อยํ ตาว ปรวาทีปกฺขสฺส ปนโต นิคฺคหปาปนาโรปนานํ ลกฺขณภูตา อนุโลมปนา นาม. เตน วต เรติอาทิ อนุโลมปกฺเข นิคฺคหสฺส ปาปิตตฺตา อนุโลมปาปนา นาม. ตตฺถ เตนาติ การณวจนํ. วตาติ โอกปฺปนวจนํ. เรติ อามนฺตนวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เตน, เร วตฺตพฺเพ วต, เร หมฺโภ, ภทฺรมุข, เตน การเณน วตฺตพฺโพเยวาติ. ยํ ตตฺถ วเทสีติอาทิ อนุโลมปกฺเข นิคฺคหสฺส อาโรปิตตฺตา อนุโลมโรปนา นาม. ยํ ตสฺส ปริโยสาเน มิจฺฉาติปทํ ตสฺส ปุรโต อิทํ เต’ติ อาหริตพฺพํ. อิทํ เต มิจฺฉาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. ปรโต จ ปาฬิยํ เอตํ อาคตเมว.

โน เจ ปน วตฺตพฺเพติอาทิ ‘‘น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ ปฏิกฺขิตฺตปกฺขสฺส ปิตตฺตา ปฏิโลมโต นิคฺคหปาปนาโรปนานํ ลกฺขณภูตา ปฏิโลมปนา นาม. โน จ วต เรติอาทิ ปฏิโลมปกฺเข นิคฺคหสฺส ปาปิตตฺตา ปฏิโลมปาปนา นาม. ปุน ยํ ตตฺถ วเทสีติอาทิ ปฏิโลมปกฺเข นิคฺคหสฺส อาโรปิตตฺตา ปฏิโลมโรปนา นาม. อิธาปิ ปริโยสาเน มิจฺฉาติปทสฺส ปุรโต อิทํ เตติ อาหริตพฺพเมว. ปรโตปิ เอวรูเปสุ าเนสุ เอเสว นโย.

ตตฺรายํ อาทิโต ปฏฺาย สงฺเขปตฺโถ – ยทิ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน, เตน วต โภ โส อุปลพฺภตีติ วตฺตพฺโพ. ยํ ปน ตตฺถ วเทสิ ‘‘วตฺตพฺโพ โข ปุริมปฺเห ‘สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน อุปลพฺภตี’ติ, โน จ วตฺตพฺโพ ทุติยปฺเห ‘ตโต โส ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’’’ติ, อิทํ เต มิจฺฉาติ เอวํ ตาว อนุโลมโต ปนาปาปนาโรปนา โหนฺติ. อถ น วตฺตพฺโพ ทุติยปฺเห ‘‘ตโต โส อุปลพฺภตี’’ติ, ปุริมปฺเหปิ น วตฺตพฺโพว. ยํ ปเนตฺถ วเทสิ ‘‘วตฺตพฺโพ โข ปุริมปฺเห ‘สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน อุปลพฺภตี’ติ, โน จ วตฺตพฺโพ ทุติยปฺเห ‘ตโต โส ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’’’ติ, อิทํ เต มิจฺฉาติ เอวํ ปฏิโลมโต ปนาปาปนาโรปนา โหนฺติ. เอวเมตํ นิคฺคหสฺส จ อนุโลมปฏิโลมโต จตุนฺนํ ปาปนาโรปนานฺจ วุตฺตตฺตา อุปลพฺภตีติอาทิกํ อนุโลมปฺจกํ นาม. เอตฺถ จ กิฺจาปิ อนุโลมโต ปาปนาโรปนาหิ เอโก, ปฏิโลมโต ปาปนาโรปนาหิ เอโกติ ทฺเว นิคฺคหา กตา. ‘อาชานาหิ นิคฺคห’นฺติ เอตสฺเสว ปเนตฺถ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ปมํ วาทํ นิสฺสาย ปมสฺส นิคฺคหสฺส ทฺวีหากาเรหิ อาโรปิตตฺตา เอโกวายํ นิคฺคโหติ ปโม นิคฺคโห.

. อิทานิ ปจฺจนีกนโย โหติ. ตตฺถ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. โส หิ ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติ คหิตตฺตา ‘‘นุปลพฺภตี’’ติ อสมฺปฏิจฺฉนฺโต เอวํ ปุจฺฉติ. สกวาที ยถา รูปาทิธมฺมา อุปลพฺภนฺติ, เอวํ อนุปลพฺภนียโต อามนฺตาติ ปฏิชานาติ. ปุน อิตโร อตฺตนา อธิปฺเปตํ สจฺจิกฏฺํเยว สนฺธาย โย สจฺจิกฏฺโติอาทิมาห. สมฺมุติสจฺจปรมตฺถสจฺจานิ วา เอกโต กตฺวาปิ เอวมาห. สกวาที ‘ปุคฺคโล’ติ อุปาทาปฺตฺติสพฺภาวโตปิ ทฺวินฺนํ สจฺจานํ เอกโต กตฺวา ปุจฺฉิตตฺตาปิ น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ.

อิทานิ กิฺจาปิ เตน ปมํ ปรมตฺถสจฺจวเสน นุปลพฺภนียตา สมฺปฏิจฺฉิตา, ปจฺฉา สมฺมุติสจฺจวเสน โวมิสฺสกวเสน วา ปฏิกฺขิตฺตา. ปรวาที ปน ‘นุปลพฺภตี’ติ วจนสามฺมตฺตํ ฉลวาทํ นิสฺสาย ยํ ตยา ปมํ ปฏิฺาตํ, ตํ ปจฺฉา ปฏิกฺขิตฺตนฺติ ภณฺฑนสฺส ปฏิภณฺฑนํ วิย อตฺตโน กตสฺส นิคฺคหกมฺมสฺส ปฏิกมฺมํ กโรนฺโต อาชานาหิ ปฏิกมฺมนฺติ อาห. อิทานิ ยถาสฺส อนุโลมปฺจเก สกวาทินา วาทฏฺปนํ กตฺวา อนุโลมปฏิโลมโต ปาปนาโรปนาหิ นิคฺคโห ปากโฏ กโต, เอวํ ปฏิกมฺมํ ปากฏํ กโรนฺโต หฺจิ ปุคฺคโลติอาทิมาห. ตํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺถโต เวทิตพฺพํ. ยสฺมา ปเนตฺถ ปนา นาม ปรวาทีปกฺขสฺส ปนโต ‘‘อยํ ตว โทโส’’ติ ทสฺเสตุํ ปนมตฺตเมว โหติ, น นิคฺคหสฺส วา ปฏิกมฺมสฺส วา ปากฏภาวกรณํ, ปาปนาโรปนาหิ ปนสฺส ปากฏกรณํ โหติ. ตสฺมา อิทํ อนุโลมปฏิโลมโต ปาปนาโรปนานํ วเสน จตูหากาเรหิ. ปฏิกมฺมสฺส กตตฺตา ปฏิกมฺมจตุกฺกํ นามาติ เอกํ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ.

. เอวํ ปฏิกมฺมํ กตฺวา อิทานิ ยฺวาสฺส อนุโลมปฺจเก สกวาทินา นิคฺคโห กโต, ตสฺส ตเมว ฉลวาทํ นิสฺสาย ทุกฺกฏภาวํ ทสฺเสนฺโต ตฺวฺเจ ปน มฺสีติอาทิมาห. ตตฺถ ตฺวํ เจ ปน มฺสีติ ยทิ ตฺวํ มฺสิ. วตฺตพฺเพ โขติ อิทํ ปจฺจนีเก อามนฺตาติ ปฏิฺํ สนฺธาย วุตฺตํ . โน จ วตฺตพฺเพติ อิทํ ปน น เหวาติ อวชานนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตน ตว ตตฺถาติ เตน การเณน ตฺวํเยว ตสฺมึ นุปลพฺภตีติ ปกฺเข – ‘‘เหวํ ปฏิชานนฺตนฺติ อามนฺตา’’ติ เอวํ ปฏิชานนฺโต. เหวํ นิคฺคเหตพฺเพติ ปุน น เหวาติ อวชานนฺโต เอวํ นิคฺคเหตพฺโพ. อถ ตํ นิคฺคณฺหามาติ อเถวํ นิคฺคหารหํ ตํ นิคฺคณฺหาม. สุนิคฺคหิโต จ โหสีติ สเกน มเตน นิคฺคหิตตฺตา สุนิคฺคหิโต จ ภวสิ.

เอวมสฺส นิคฺคเหตพฺพภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตํ นิคฺคณฺหนฺโต หฺจีติอาทิมาห. ตตฺถ ปนาปาปนาโรปนา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. ปริโยสาเน ปน อิทํ เต มิจฺฉาติ อิทํ ตว วจนํ มิจฺฉา โหตีติ อตฺโถ. อิทํ ฉลวาเทน จตูหิ อากาเรหิ นิคฺคหสฺส กตตฺตา นิคฺคหจตุกฺกํ นาม.

. เอวํ นิคฺคหํ กตฺวาปิ อิทานิ ‘‘ยทิ อยํ มยา ตว มเตน กโต นิคฺคโห ทุนฺนิคฺคโห, โย มม ตยา เหฏฺา อนุโลมปฺจเก กโต นิคฺคโห, โสปิ ทุนฺนิคฺคโห’’ติ ทสฺเสนฺโต เอเส เจ ทุนฺนิคฺคหิเตติอาทิมาห. ตตฺถ เอเส เจ ทุนฺนิคฺคหิเตติ เอโส เจ ตว วาโท มยา ทุนฺนิคฺคหิโต. อถ วา เอโส เจ ตว มยา กโต นิคฺคโห ทุนฺนิคฺคโห. เหวเมวํ ตตฺถ ทกฺขาติ ตตฺถาปิ ตยา มม เหฏฺา กเต นิคฺคเห เอวเมวํ ปสฺส. อิทานิ ยฺวาสฺส เหฏฺา สกวาทินา นิคฺคโห กโต, ตํ ‘‘วตฺตพฺเพ โข’’ติอาทิวจเนน ทสฺเสตฺวา ปุน ตํ นิคฺคหํ อนิคฺคหภาวํ อุปเนนฺโต โน จ มยํ ตยาติอาทิมาห. ตตฺถ โน จ มยํ ตยา ตตฺถ เหตาย ปฏิฺายาติอาทีสุ อยมตฺโถ – ยสฺมา โส ตยา มม กโต นิคฺคโห ทุนฺนิคฺคโห, ตสฺมา มยํ ตยา ตตฺถ อนุโลมปฺจเก อามนฺตาติ เอตาย ปฏิฺาย เอวํ ปฏิชานนฺตา ปุน น เหวาติ ปฏิกฺเขเป กเตปิ ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติ เอวํ น นิคฺคเหตพฺโพเยว. เอวํ อนิคฺคเหตพฺพมฺปิ มํ นิคฺคณฺหาสิ, อีทิเสน ปน นิคฺคเหน ทุนฺนิคฺคหิตา มยํ โหม.

อิทานิ ยํ นิคฺคหํ สนฺธาย ‘‘ทุนฺนิคฺคหิตา จ โหมา’’ติ อโวจ, ตํ ทสฺเสตุํ หฺจิ ปุคฺคโล…เป… อิทํ เต มิจฺฉาติอาห. เอวมิทํ อนุโลมปฏิโลมโต จตูหิ ปาปนาโรปนาหิ นิคฺคหสฺส อุปนีตตฺตา อุปนยนจตุกฺกํ นาม โหติ.

. อิทานิ ‘‘น เหวํ นิคฺคเหตพฺเพ’’ติอาทิกํ นิคฺคมนจตุกฺกํ นาม โหติ. ตตฺถ น เหวํ นิคฺคเหตพฺเพติ ยถาหํ ตยา นิคฺคหิโต, น หิ เอวํ นิคฺคเหตพฺโพ. เอตสฺส หิ นิคฺคหสฺส ทุนฺนิคฺคหภาโว มยา สาธิโต. เตน หีติ เตน การเณน, ยสฺมา เอส นิคฺคโห ทุนฺนิคฺคโห, ตสฺมา ยํ มํ นิคฺคณฺหาสิ หฺจิ ปุคฺคโล…เป… อิทํ เต มิจฺฉาติ, อิทํ นิคฺคณฺหนํ ตว มิจฺฉาติ อตฺโถ. เตน หิ เย กเต นิคฺคเหติ เยน การเณน อิทํ มิจฺฉา, เตน การเณน โย ตยา นิคฺคโห กโต, โส ทุกฺกโฏ. ยํ มยา ปฏิกมฺมํ กตํ, ตเทว สุกตํ. ยาปิ เจสา ปฏิกมฺมจตุกฺกาทิวเสน กถามคฺคสมฺปฏิปาทนา กตา, สาปิ สุกตา. เอวเมตํ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติอาทิกสฺส อนุโลมปฺจกสฺส นุปลพฺภตีติอาทิกานํ ปฏิกมฺมนิคฺคโหปนยนนิคฺคมนจตุกฺกานํ วเสน อนุโลมปจฺจนีกปฺจกํ นาม นิทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตา สกวาทิโน ปุพฺพปกฺเข สติ ปรวาทิโน วจนสามฺมตฺเตน ฉลวาเทน ชโย โหติ.

๒. ปจฺจนีกานุโลมวณฺณนา

. อิทานิ ยถา ปรวาทิโน ปุพฺพปกฺเข สติ สกวาทิโน ธมฺเมเนว ตเถน สุชโย โหติ, ตถา วาทุปฺปตฺตึ ทสฺเสตุํ ปุคฺคโล นุปลพฺภตีติ ปจฺจนีกานุโลมปฺจกํ อารทฺธํ. ตตฺถ ปจฺจนีเก ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, รูปาทิเภทํ สจฺจิกฏฺปรมตฺถํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. สุทฺธสมฺมุติสจฺจํ วา ปรมตฺถมิสฺสกํ วา สมฺมุติสจฺจํ สนฺธาย โย สจฺจิกฏฺโติ ปุน อนุโยโค ปรวาทิสฺส, สมฺมุติวเสน นุปลพฺภตีติ นวตฺตพฺพตฺตา มิสฺสกวเสน วา อนุโยคสฺส สํกิณฺณตฺตา น เหวนฺติ ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส. ปฏิฺาตํ ปฏิกฺขิปตีติ วจนสามฺมตฺเตน อาชานาหิ นิคฺคหนฺติอาทิวจนํ ปรวาทิสฺส. เอวมยํ ปุคฺคโล นุปลพฺภตีติ ทุติยวาทํ นิสฺสาย ทุติโย นิคฺคโห โหตีติ เวทิตพฺโพ. เอวํ เตน ฉเลน นิคฺคโห อาโรปิโต.

๗-๑๐. อิทานิ ธมฺเมน สเมน อตฺตโน วาเท ชยํ ทสฺเสตุํ อนุโลมนเย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อตฺตโน ลทฺธึ นิสฺสาย ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ลทฺธิยา โอกาสํ อทตฺวา ปรมตฺถวเสน ปุน อนุโยโค สกวาทิสฺส, ปรมตฺถวเสน ปุคฺคลสฺส อภาวโต ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. ตโต ปรํ ธมฺเมน สเมน อตฺตโน ชยทสฺสนตฺถํ อาชานาหิ ปฏิกมฺมนฺติอาทิ สพฺพํ สกวาทีวจนเมว โหติ. ตตฺถ สพฺเพสํ ปฏิกมฺมนิคฺคโหปนยนนิคฺคมนจตุกฺกานํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวมิทํ ปุคฺคโล นุปลพฺภตีติอาทิกสฺส ปจฺจนีกปฺจกสฺส อุปลพฺภตีติอาทีนํ ปฏิกมฺมนิคฺคโหปนยนนิคฺคมนจตุกฺกานฺจ วเสน ปจฺจนีกานุโลมปฺจกํ นาม นิทฺทิฏฺํ โหติ. เอวเมตานิ ปมสจฺจิกฏฺเ ทฺเว ปฺจกานิ นิทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ ปุริมปฺจเก ปรวาทิสฺส สกวาทินา กโต นิคฺคโห สุนิคฺคโห. สกวาทิสฺส ปน ปรวาทินา ฉลวาทํ นิสฺสาย ปฏิกมฺมํ กตฺวา อตฺตนา สาธิโต ชโย ทุชฺชโย. ทุติยปฺจเก สกวาทิสฺส ปรวาทินา กโต นิคฺคโห ทุนฺนิคฺคโห. ปรวาทิสฺส ปน สกวาทินา ธมฺมวาทํ นิสฺสาย ปฏิกมฺมํ กตฺวา อตฺตนา สาธิโต ชโย สุชโยติ ปมสจฺจิกฏฺโ. ตตฺเถตํ วุจฺจติ –

‘‘นิคฺคโห ปรวาทิสฺส, สุทฺโธ ปมปฺจเก;

อสุทฺโธ ปน ตสฺเสว, ปฏิกมฺมชโย ตหึ.

‘‘นิคฺคโห สกวาทิสฺส, อสุทฺโธ ทุติยปฺจเก;

วิสุทฺโธ ปน ตสฺเสว, ปฏิกมฺมชโย ตหึ.

‘‘ตสฺมา ทฺวีสุปิ าเนสุ, ชโยว สกวาทิโน;

ธมฺเมน หิ ชโย นาม, อธมฺเมน กุโต ชโย.

‘‘สจฺจิกฏฺเ ยถา เจตฺถ, ปฺจกทฺวยมณฺฑิเต;

ธมฺมาธมฺมวเสเนว, วุตฺโต ชยปราชโย.

‘‘อิโต ปเรสุ สพฺเพสุ, สจฺจิกฏฺเสุ ปณฺฑิโต;

เอวเมว วิภาเวยฺย, อุโภ ชยปราชเย’’ติ.

๒. โอกาสสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

๑๑. เอวํ สุทฺธิกสจฺจิกฏฺํ วิตฺถาเรตฺวา อิทานิ ตเมว อปเรหิ โอกาสาทีหิ นเยหิ วิตฺถาเรตุํ ปุน ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ปุน สพฺพตฺถาติ สรีรํ สนฺธาย อนุโยโค สกวาทิสฺส, รูปสฺมึ อตฺตานํ สมนุปสฺสนาโทสฺจ ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ อาปชฺชนโทสฺจ ทิสฺวา ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. เสสเมตฺถ อนุโลมปจฺจนีกปฺจเก เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ปาโ ปน สงฺขิตฺโต . ตตฺถ ยสฺมา สรีรํ สนฺธาย ‘‘สพฺพตฺถ น อุปลพฺภตี’’ติ วุตฺเต สรีรโต พหิ อุปลพฺภตีติ อาปชฺชติ. ตสฺมา ปจฺจนีเก ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส, ปมํ อนุชานิตฺวา ปจฺฉา อวชานาตีติ ฉลวาทสฺส วเสน ปฏิกมฺมํ ปรวาทิสฺส. เสสํ ปากฏเมว.

๓. กาลสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

๑๒. ทุติยนเย สพฺพทาติ ปุริมปจฺฉิมชาติกาลฺจ ธรมานปรินิพฺพุตกาลฺจ สนฺธาย อนุโยโค สกวาทิสฺส, สฺเวว ขตฺติโย โส พฺราหฺมโณติอาทีนํ อาปตฺติโทสฺจ ธรมานปรินิพฺพุตานํ วิเสสาภาวโทสฺจ ทิสฺวา ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. เสสํ ปมนเย วุตฺตสทิสเมว.

๔. อวยวสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

๑๓. ตติยนเย สพฺเพสูติ ขนฺธายตนาทีนิ สนฺธาย อนุโยโค สกวาทิสฺส, รูปสฺมึ อตฺตา, จกฺขุสฺมึ อตฺตาติอาทิโทสภเยน ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. เสสํ ตาทิสเมวาติ.

โอกาสทิสจฺจิกฏฺาทิ

๒. ปจฺจนีกานุโลมวณฺณนา

๑๔. เอวเมตานิ ตีณิ อนุโลมปจฺจนีกปฺจเก อนุโลมมตฺตวเสเนว ตาว ปฏิปาฏิยา ภาเชตฺวา ปุน ปจฺจนีกานุโลมปฺจเก ปจฺจนีกมตฺตวเสเนว ภาเชตุํ ปุคฺคโล นุปลพฺภตีติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อนุโลมปฺจกสฺส ปาฬิยํ สงฺขิปิตฺวา อาคเต ปจฺจนีเก วุตฺตนเยเนว ปจฺจนีกสฺส จ ปาฬิยํ สงฺขิปิตฺวา อาคเต อนุโลเม วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺตาวตา สุทฺธิกสฺส เจว อิเมสฺจ ติณฺณนฺติ จตุนฺนํ สจฺจิกฏฺานํ เอเกกสฺมึ สจฺจิกฏฺเ อนุโลมปจฺจนีกสฺส ปจฺจนีกานุโลมสฺส จาติ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ ปจฺจนีกานํ วเสน อยํ อฏฺมุขา นาม วาทยุตฺติ นิทฺทิฏฺา โหตีติ เวทิตพฺพา. ยา เอเกกสฺมึ มุเข เอเกกสฺส นิคฺคหสฺส วเสน อฏฺกนิคฺคโหติ ปาฬิยํ ลิขิยติ. ตตฺเถตํ วุจฺจติ –

‘‘เอวํ จตุพฺพิเธ ปฺเห, ปฺจกทฺวยเภทโต;

เอสา อฏฺมุขา นาม, วาทยุตฺติ ปกาสิตา.

‘‘อฏฺเว นิคฺคหา ตตฺถ, จตฺตาโร เตสุ ธมฺมิกา;

อธมฺมิกา จ จตฺตาโร, สพฺพตฺถ สกวาทิโน;

ชโย ปราชโย เจว, สพฺพตฺถ ปรวาทิโน’’ติ.

สจฺจิกฏฺวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สุทฺธิกสํสนฺทนวณฺณนา

๑๗-๒๗. อิทานิ รูปาทีหิ สทฺธึ สจฺจิกฏฺสํสนฺทนํ โหติ. ตตฺถ รูปฺจาติ ยถา รูปํ ปรมตฺถโต อุปลพฺภติ, กึ เต ปุคฺคโลปิ ตเถว อุปลพฺภตีติ สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อตฺถิ ปุคฺคโลติ วจนมตฺตํ คเหตฺวา ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ยทิ เต รูปํ วิย ปรมตฺถโต ปุคฺคโล อตฺถิ, รูปโต เวทนาทีนํ วิย ปุคฺคลสฺสาปิ อฺตฺตํ อาปชฺชตีติ อนุโยโค สกวาทิสฺส, สมยสุตฺตวิโรธํ ทิสฺวา ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. เสสํ อตฺถโต ปากฏเมว. ธมฺมโต ปเนตฺถ สตฺตปฺาสเภทสฺส สจฺจิกฏฺปรมตฺถสฺส วเสน สกวาทีปกฺขมูลเก อนุโลมปจฺจนีเก สตฺตปฺาส อนุโลมปฺจกานิ ทสฺสิตานิ. ปฏิกมฺมจตุกฺกาทีนิ สงฺขิตฺตานิ. ปรวาทีปกฺขมูลเกปิ ปจฺจนีกานุโลเม สตฺตปฺาส ปฏิโลมปฺจกานิ ทสฺสิตานิ. ปฏิกมฺมจตุกฺกาทีนิ สงฺขิตฺตานิ. ตตฺถ ‘‘วุตฺตํ ภควตา’’ติ วจนมตฺเตน ปุคฺคลสฺส อตฺถิตํ รูปสฺส จ สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสน อุปลพฺภนียตํ ทสฺเสตฺวา อุภินฺนํ อฺตฺตํ ปฏิชานาปนตฺถํ วุตฺตํ ภควตาติ อนุโยโค ปรวาทิสฺส, สมฺมุติปรมตฺถานํ เอกตฺตนานตฺตปฺหสฺส ปนียตฺตา ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส. เสสมิธาปิ อตฺถโต ปากฏเมวาติ.

สุทฺธิกสํสนฺทนวณฺณนา.

๖. โอปมฺมสํสนฺทนวณฺณนา

๒๘-๓๖. อิทานิ รูปาทีเหว สทฺธึ โอปมฺมวเสน สจฺจิกฏฺสํสนฺทนํ โหติ. ตตฺถ รูปเวทนานํ อุปลทฺธิสามฺเน อฺตฺตปุจฺฉา จ ปุคฺคลรูปานํ อุปลทฺธิสามฺปุจฺฉา จาติ ปุจฺฉาทฺวยมฺปิ สกวาทิสฺส, อุโภปิ ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ปรวาทินา อนุฺาเตน อุปลทฺธิสามฺเน รูปเวทนานํ วิย รูปปุคฺคลานํ อฺตฺตานุโยโค สกวาทิสฺส, ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส. เสสมิธาปิ อตฺถโต ปากฏเมว. ธมฺมโต ปเนตฺถ รูปมูลกาทีนํ จกฺกานฺจ วเสน สกวาทีปกฺเข วีสาธิกานิ นว นิคฺคหปฺจกสตานิ ทสฺสิตานิ. กถํ? ขนฺเธสุ ตาว รูปมูลเก จกฺเก จตฺตาริ, ตถา เวทนาทิมูลเกสูติ วีสติ. อายตเนสุ จกฺขายตนมูลเก จกฺเก เอกาทส, ตถา เสเสสูติ ทฺวตฺตึสสตํ. ธาตูสุ จกฺขุธาตุมูลเก จกฺเก สตฺตรส, ตถา เสเสสูติ ฉาธิกานิ ตีณิ สตานิ. อินฺทฺริเยสุ จกฺขุนฺทฺริยมูลเก จกฺเก เอกวีสติ, ตถา เสเสสูติ ทฺวาสฏฺาธิกานิ จตฺตาริ สตานิ. เอวํ สพฺพานิปิ วีสาธิกานิ นว นิคฺคหปฺจกสตานิ โหนฺติ.

๓๗-๔๕. ปรวาทีปกฺเขปิ รูปํ อุปลพฺภตีติ อนุโลมวเสเนว รูปเวทนาทีนํ อฺตฺตปฏิฺํ กาเรตฺวา ปุน อตฺถิ ปุคฺคโลติ สุตฺตํ นิสฺสาย ฉลวเสน ปุคฺคลสฺส รูปาทีหิ อุปลทฺธิสามฺํ อาโรเปตฺวา อฺตฺตานุโยโค กโต. เสสมิธาปิ อตฺถโต อุตฺตานเมว. ธมฺมโตปิ สกวาทีปกฺเข วุตฺตนเยน วีสาธิกานิ นว ปฏิกมฺมปฺจกสตานิ ทสฺสิตานิ.

รูปาทีหิ สทฺธึ โอปมฺมวเสน สจฺจิกฏฺสํสนฺทนํ.

๗. จตุกฺกนยสํสนฺทนวณฺณนา

๔๖-๕๒. อิทานิ ยํ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน อุปลพฺภติ, เตน ยสฺมา รูปาทีสุ สตฺตปฺาสาย สจฺจิกฏฺปรมตฺเถสุ อฺตเรน ภวิตพฺพํ; รูปาทินิสฺสิเตน วา, อฺตฺร วา รูปาทีหิ, รูปาทีนํ วา นิสฺสเยน, ตสฺมา อิมินา จตุกฺกนเยน สจฺจิกฏฺสํสนฺทนํ อารทฺธํ. ตตฺถ รูปํ ปุคฺคโลติ อนุโยโค สกวาทิสฺส, อุจฺเฉททิฏฺิภเยน น เหวาติ ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส, นิคฺคหาโรปนํ สกวาทิสฺส. กึ ปเนตํ ยุตฺตํ, นนุ รูปํ เวทนาติ วุตฺตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพเมวาติ? อาม ปฏิกฺขิปิตพฺพํ. ตํ ปน รูปโต เวทนาย อฺสภาวสพฺภาวโต, น อฺตฺตาภาวโต. อยฺจ รูปาทีสุ เอกธมฺมโตปิ ปุคฺคลสฺส อฺตฺตํ น อิจฺฉติ, ตสฺมา ยุตฺตํ. อยฺจ อนุโยโค รูปํ ปุคฺคโล…เป… อฺาตาวินฺทฺริยํ ปุคฺคโลติ สกลํ ปรมตฺถสจฺจํ สนฺธาย อารทฺโธ. สกลํ ปน ปจฺจตฺตลกฺขณวเสน เอกโต วตฺตุํ น สกฺกาติ ตนฺติวเสน อนุโยคลกฺขณมตฺตเมตํ ปิตํ. เตน วิฺู อตฺถํ วิภาเวนฺติ. วาทกาเมน ปน อิมํ ลกฺขณํ คเหตฺวา ยถา ยถา ปรวาทิสฺส โอกาโส น โหติ, ตถา ตถา วตฺตพฺพํ. อิติ ตนฺติวเสน อนุโยคลกฺขณสฺส ปิตตฺตาปิ ยุตฺตเมว. อิมินา นเยน สพฺพานุโยเคสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อยํ ปน วิเสโส – รูปสฺมึ ปุคฺคโลติอาทีสุ ยถา เอกํ มหาภูตํ นิสฺสาย ตโย มหาภูตา, วตฺถุรูปํ นิสฺสาย วิฺาณํ รูปสฺมินฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, กึ เต เอวํ รูปสฺมึ ปุคฺคโล? ยถา จ สภาควินิพฺโภคโต เวทนาทโย สพฺพธมฺมา, อรูปา วา ปน จตฺตาโร ขนฺธา, นิพฺพานเมว วา ‘‘อฺตฺร รูปา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, กึ เต เอวํ ปุคฺคโล? ยถา จ จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ นิสฺสยวเสน ‘‘เวทนาย รูปํ…เป… วิฺาณสฺมึ รูป’’นฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, กึ เต เอวํ ปุคฺคโลติ? สพฺพานุโยเคสุ ปน อุจฺเฉททิฏฺิภเยน เจว สมยวิโรเธน จ ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. เสสเมตฺถ อตฺถโต ปากฏเมว. ธมฺมโต ปเนตฺถ สตฺตปฺาสาย สจฺจิกฏฺเสุ เอเกกสฺมึ จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา นิคฺคหวเสน อฏฺวีสาธิกานิ ทฺเว ปฺจกสตานิ ทสฺสิตานิ. ปรวาทีปกฺเขปิ ปฏิกมฺมวเสน ตตฺตกาเนว. ยา ปเนตฺถ อตฺถิ ปุคฺคโลติ วุตฺเต สกวาทิสฺส ปฏิฺา, สา สุตฺเต อาคเตน สมฺมุติวเสน. โย รูปํ ปุคฺคโลติอาทีสุ ปฏิกฺเขโป, โส สกฺกายทิฏฺิปฺหสฺส ปนียตฺตา. ปรวาทิสฺส ปฏิกมฺมํ ฉลวเสเนวาติ.

จตุกฺกนยสํสนฺทนํ.

นิฏฺิตา จ สํสนฺทนกถา.

๘. ลกฺขณยุตฺติวณฺณนา

๕๓. อิทานิ ลกฺขณยุตฺติ นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา เปตฺวา นิพฺพานํ เสโส สจฺจิกฏฺปรมตฺโถ ปจฺจยปฏิพทฺธตาย สปฺปจฺจโย, ปจฺจเยหิ สมาคมฺม กตตฺตา สงฺขโต, อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนโต สทา อภาวโต อสสฺสโต, อุปฺปตฺติการณสงฺขาตสฺส นิมิตฺตสฺส อตฺถิตาย สนิมิตฺโต, นิพฺพานํ วุตฺตปฺปการาภาวโต อปฺปจฺจยํ อสงฺขตํ สสฺสตํ อนิมิตฺตนฺติ อิทํ สจฺจิกฏฺสฺส ลกฺขณํ. ตสฺมา ยทิ ปุคฺคโลปิ สจฺจิกฏฺปรมตฺโถว ตสฺสาปิ อิมินา ลกฺขเณน ภวิตพฺพนฺติ สนฺธาย ปุคฺคโล สปฺปจฺจโยติอาทโย อฏฺปิ อนุโยคา สกวาทิสฺส , ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. อาชานาหิ นิคฺคหนฺติอาทิ ปเนตฺถ สงฺขิตฺตํ. เอวเมตานิ สกวาทีปกฺเข อนุโลมปจฺจนีเก อนุโลมมตฺตวเสน อฏฺ ปฺจกานิ เวทิตพฺพานิ.

๕๔. ปรวาทีปกฺเขปิ ปจฺจนีกานุโลเม ปจฺจนีกมตฺตวเสน อฏฺเว. ตตฺถ ยสฺมา ปรวาทินา สุตฺตวเสน สมฺมุติสจฺจํ สาธิตํ, สมฺมุติยา จ สปฺปจฺจยาทิภาโว นตฺถิ, ตสฺมา ยาถาวโต จ ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส. ฉลวเสน ปน วตฺตพฺพํ ‘‘อาชานาหิ ปฏิกมฺม’’นฺติอาทิ สพฺพํ อิธาปิ สงฺขิตฺตเมว.

ลกฺขณยุตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วจนโสธนวณฺณนา

๕๕-๕๙. อิทานิ วจนโสธนํ โหติ. ตตฺถ ยเทตํ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ วจนํ, ตํ โสเธตุํ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ, อุปลพฺภติ ปุคฺคโลติ. ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตสฺสตฺโถ – ยเทตํ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ปททฺวยํ, ตํ เอกตฺถํ วา ภเวยฺย นานตฺถํ วา. ยทิ ตาว นานตฺถํ, ยถา อฺํ รูปํ, อฺา เวทนา, เอวํ อฺโ ปุคฺคโล, อฺโ อุปลพฺภตีติ อาปชฺชติ. อเถกตฺถํ, ยถา ยํ จิตฺตํ ตํ มโน, เอวํ สฺเวว ปุคฺคโล, โส อุปลพฺภตีติ อาปชฺชติ. เตน ตํ วทามิ ‘‘ยทิ เต โย ปุคฺคโล, โส อุปลพฺภติ, เอวํ สนฺเต โย โย อุปลพฺภติ, โส โส ปุคฺคโลติ อาปชฺชติ, กึ สมฺปฏิจฺฉสิ เอต’’นฺติ? ตโต ปุคฺคลวาที ยสฺมา ปุคฺคลสฺส อุปลพฺภตํ อิจฺฉติ, น อุปลพฺภมานานมฺปิ รูปาทีนํ ปุคฺคลภาวํ, ตสฺมา ปุคฺคโล อุปลพฺภติ, อุปลพฺภติ เก หิ จิ ปุคฺคโล เก หิ จิ น ปุคฺคโลติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – มม ปุคฺคโล อตฺถิ ปุคฺคโลติ สตฺถุ วจนโต อุปลพฺภติ. โย ปน อุปลพฺภติ, น โส สพฺโพ ปุคฺคโล, อถ โข เก หิ จิ ปุคฺคโล เก หิ จิ น ปุคฺคโลติ. ตตฺถ โก-การตฺเถ เก-กาโร, หิ-กาโร จ นิปาตมตฺโต. โกจิ ปุคฺคโล, โกจิ น ปุคฺคโลติ อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปุคฺคโลปิ หิ รูปาทีสุปิ โย โกจิ ธมฺโม อุปลพฺภติเยว, ตตฺถ ปุคฺคโลว ปุคฺคโล. รูปาทีสุ ปน โกจิปิ น ปุคฺคโลติ. ตโต ตํ สกวาที อาห – ปุคฺคโล เก หิ จิ อุปลพฺภติ เก หิ จิ น อุปลพฺภตีติ. ตสฺสตฺโถ – ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ปททฺวยสฺส อตฺถโต เอกตฺเต ยทิ อุปลพฺภตีติ อนุฺาโต ธมฺโม ปุคฺคลโต อนฺโปิ โกจิ ปุคฺคโล โกจิ น ปุคฺคโล, ปุคฺคโลปิ เต โกจิ อุปลพฺภติ, โกจิ น อุปลพฺภตีติ อาปชฺชติ, กึ สมฺปฏิจฺฉสิ เอตนฺติ? โส ปุคฺคลสฺส อนุปลทฺธึ อนิจฺฉนฺโต น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ. อิโต ปรํ ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติอาทิ สพฺพํ สงฺขิตฺตํ. วิตฺถารโต ปน เวทิตพฺพํ. ปุคฺคโล สจฺจิกฏฺโติอาทีสุปิ เอเสว นโย. สพฺพานิ เหตานิ อุปลพฺภติเววจนาเนว, อปิจ ยสฺมา ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติสจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ อยํ ปุคฺคลวาทิโน ปฏิฺา, ตสฺมาสฺส ยเถว ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ลทฺธิ, เอวเมวํ ปุคฺคโล สจฺจิกฏฺโติปิ อาปชฺชติ. ยา ปนสฺส ปุคฺคโล อตฺถีติ ลทฺธิ, ตสฺสา วิชฺชมาโนติเววจนเมว, ตสฺมา สพฺพานิเปตานิ วจนานิ โสธิตานิ.

๖๐. ตตฺถ ยํ อวสาเน ‘‘ปุคฺคโล อตฺถิ, อตฺถิ น สพฺโพ ปุคฺคโล’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺรายมธิปฺปาโย – ยฺเหตํ ปรวาทินา ‘‘ปุคฺคโล อตฺถิ, อตฺถิ เกหิจิ ปุคฺคโล, เกหิจิ น ปุคฺคโล’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยสฺมา อตฺถโต ปุคฺคโล อตฺถิ, อตฺถิ น สพฺโพ ปุคฺคโลติ เอตฺตกํ โหติ, ตสฺมา นํ สกวาที สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา อิทานิ นํ เอวํ อนุยุฺชติ. ตยา หิ ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติ วจนมตฺตํ นิสฺสาย ‘‘ปุคฺคโล อตฺถี’’ติ ลทฺธิ คหิตา, ยถา จ ภควตา เอตํ วุตฺตํ, ตถา ‘‘สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ, โมฆราชา, สทา สโต’’ติอาทินา (สุ. นิ. ๑๑๒๕) นเยน ‘‘นตฺถี’’ติปิ วุตฺตํ, ตสฺมา ยเถว เต ‘‘ปุคฺคโล อตฺถิ, อตฺถิ น สพฺโพ ปุคฺคโล’’ติ ลทฺธิ, ตถา ปุคฺคโล นตฺถิ, นตฺถิ น สพฺโพ ปุคฺคโลติปิ อาปชฺชติ, กึ เอตํ สมฺปฏิจฺฉสีติ? อถ นํ อสมฺปฏิจฺฉนฺโต น เหวาติ ปฏิกฺขิปติ. เสสเมตฺถ นิคฺคหาทิวิธานํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

วจนโสธนวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปฺตฺตานุโยควณฺณนา

๖๑-๖๖. อิทานิ ปฺตฺตานุโยโค นาม โหติ. รูปธาตุยา หิ ปุคฺคลวาที รูปึ ปุคฺคลํ ปฺเปติ, ตถา อรูปธาตุยา อรูปึ. ตสฺส ตํ ลทฺธึ ภินฺทิตุํ สพฺพาปิ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ อิตรสฺส . โส หิ รูปีติ วุตฺเต รูปกายสพฺภาวโต เจว ตถารูปาย จ ปฺตฺติยา อตฺถิตาย ปฏิชานาติ. กามีติ วุตฺเต วีตราคสพฺภาวโต เจว ตถารูปาย จ ปฺตฺติยา นตฺถิตาย ปฏิกฺขิปติ. อรูปีติ วุตฺเตปิ อรูปกฺขนฺธสพฺภาวโต เจว ตถารูปาย จ ปฺตฺติยา อตฺถิตาย ปฏิชานาติ. ทฺวีสุปิ นเยสุ สตฺโตติ ปุคฺคลสฺส เววจนวเสน วุตฺตํ.

๖๗. อิทานิ ยสฺมา โส ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติ อาคตฏฺาเน อฺโ กาโย อฺโ ปุคฺคโลติ อิจฺฉติ, ตสฺมา ตํ ลทฺธึ ภินฺทิตุํ กาโยติ วา สรีรนฺติ วาติอาทิ สกวาทีปุจฺฉา โหติ. ตตฺถ กายํ อปฺปิยํ กริตฺวาติ กายํ อปฺเปตพฺพํ อลฺลียาเปตพฺพํ เอกีภาวํ อุปเนตพฺพํ อวิภชิตพฺพํ กตฺวา ปุจฺฉามีติ อตฺโถ. เอเสเสติ เอโส โสเยว. เอเส เอเสติปิ ปาโ. เอโส เอโสเยวาติ อตฺโถ. เอกฏฺเติ เอกฏฺโ. สเม สมภาเค ตชฺชาเตติ สโม สมภาโค ตชฺชาติโก. วจนมตฺเตเยเวตฺถ เภโท. อตฺถโต ปน กาโยว เอโสติ ปุจฺฉติ. ปรวาที นานตฺตํ อปสฺสนฺโต อามนฺตาติ ปฏิชานาติ. ปุคฺคโลติ วา ชีโวติ วาติ ปุจฺฉายปิ เอเสว นโย. อฺโ กาโยติ ปุฏฺโ ปน กายานุปสฺสนาย เอวํลทฺธิกตฺตา ปฏิชานาติ. อฺํ ชีวนฺติ ปุฏฺโ ปน อาหจฺจ ภาสิตํ สุตฺตํ ปฏิกฺขิปิตุํ อสกฺโกนฺโต อวชานาติ. ตโต ปรํ ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติอาทิ อุตฺตานตฺถเมว.

๖๘. ปรวาทีปกฺเข ปน อฺโ กาโย อฺโ ปุคฺคโลติ ปุฏฺโ สกวาที ปนียปฺหตฺตา ปฏิกฺขิปติ, ปรวาที ฉลวเสน ปฏิกมฺมํ กโรติ. ตมฺปิ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปฺตฺตานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. คติอนุโยควณฺณนา

๖๙-๗๒. อิทานิ คติปริวตฺตนมุเขน จุติปฏิสนฺธิอนุโยโค โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ปุคฺคลวาที ‘‘ส สตฺตกฺขตฺตุปรมํ สนฺธาวิตฺวาน ปุคฺคโล’’ติอาทีนิ (สํ. นิ. ๒.๑๓๓; อิติวุ. ๒๔) สุตฺตานิ นิสฺสาย ปุคฺคโล สนฺธาวตีติ ลทฺธึ คเหตฺวา โวหรติ , ตสฺมาสฺส ตํ ลทฺธึ ภินฺทิตุํ สนฺธาวตีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ สนฺธาวตีติ สํสรติ คมนาคมนํ กโรติ. อตฺตโน ลทฺธิวเสน ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. โส ปุคฺคโลติอาทโย อนุโยโคปิ สกวาทิสฺส, ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส. ตตฺถ โสติ โสเยวาติ อตฺโถ. เอวํ ปน อนุยุตฺโต สสฺสตทิฏฺิภเยน ปฏิกฺขิปติ. อฺโติ ปุฏฺโ อุจฺเฉททิฏฺิภเยน. โส จ อฺโ จาติ ปุฏฺโ เอกจฺจสสฺสตทิฏฺิภเยน. เนว โส น อฺโติ ปุฏฺโ อมราวิกฺเขปทิฏฺิภเยน. ปุน จตฺตาโรปิ ปฺเห เอกโต ปุฏฺโ จตุนฺนมฺปิ ทิฏฺีนํ ภเยน ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ยานิสฺส สุตฺตานิ นิสฺสาย ลทฺธิ อุปฺปนฺนา ตานิ ทสฺเสนฺโต เตน หิ ปุคฺคโลสนฺธาวตีติอาทิมาห.

๗๖. ปุน สกวาทินา ‘‘ยฺวายํ ตว ลทฺธิยา สนฺธาวติ, กึ โส อสฺมิฺจ ปรสฺมิฺจ โลเก เอโกเยวา’’ติ อธิปฺปาเยน สฺเววาติ นิยเมตฺวา ปุฏฺโ สสฺสตภยา ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ทฬฺหํ กตฺวา ตเถว ปุฏฺโ ยสฺมา โส ปุคฺคโลว น อฺโ ภาโว, ‘‘โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’’ติอาทิสุตฺตมฺปิ (ปารา. ๑๒; ที. นิ. ๑.๒๔๕) อตฺถิ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. สฺเวว มนุสฺโสติ ปุฏฺโ มนุสฺสสฺเสว เทวตฺตาภาวโต ปฏิกฺขิปติ.

๗๗. ปุน ปุฏฺโ ‘‘อหํ เตน สมเยน สุเนตฺโต นาม สตฺถา อโหสิ’’นฺติอาทิสุตฺตวเสน (อ. นิ. ๗.๖๖ อตฺถโต สมานํ) ปฏิชานาติ. อถสฺส สกวาที เทวมนุสฺสุปปตฺตีนํ นานตฺตโต วจนํ มิจฺฉาติ ปกาเสนฺโต มนุสฺโส หุตฺวาติอาทิมาห.

๗๘. ตตฺถ เหวํ มรณํ น เหหิตีติ เอวํ สนฺเต มรณํ น ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อิโต ปรํ ยกฺโข เปโตติ อตฺตภาวนานตฺตวเสน อนุโยคนานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

๘๒. ขตฺติโยติอาทีนิ ชาติวเสน เจว องฺคเวกลฺลาทิวเสน จ วุตฺตานิ.

๘๗. ปุน น วตฺตพฺพนฺติ ปรวาทินา ปุฏฺโ อิธฏฺกสฺส อุปปตฺติวเสน ปรโลกสฺส คมนาภาวโต ปฏิฺา สกวาทิสฺส ปุน โสตาปนฺนสฺส ภวนฺตเรปิ โสตาปนฺนภาวาวิชหนโต ทุติยปฏิฺาปิ ตสฺเสว. หฺจีติอาทิวจนํ ปรวาทิสฺส.

๘๘. ปุน เทวโลเก อุปปนฺนสฺส มนุสฺสตฺตาภาวทสฺสเนน อนุโยโค สกวาทิสฺส.

๘๙. ตโต ปรํ อนฺโ อวิคโตติ เอตฺถ อนฺโติ สพฺพากาเรน เอกสทิโส. อวิคโตติ เอเกนาปิ อากาเรน อวิคโตติ อตฺโถ. น เหวนฺติ เทวโลเก อุปปนฺนสฺส มนุสฺสภาวาภาวโต เอวมาห.

๙๐. ปุน ทฬฺหํ กตฺวา อนุยุตฺโต ‘‘สฺเวว ปุคฺคโล สนฺธาวตี’’ติ ลทฺธิยา อนุชานาติ. หตฺถจฺฉินฺโนติอาทิ อาการวิคมนทสฺสเนน อวิคโต สนฺธาวตีติ ลทฺธิภินฺทนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ อฬจฺฉินฺโนติ ยสฺส องฺคุฏฺกา ฉินฺนา. กณฺฑรจฺฉินฺโนติ ยสฺส มหานฺหารู ฉินฺนา.

๙๑. สรูโปติอาทีสุ ปเม ปฺเห อิมินา รูปกาเยน สทฺธึ อคมนํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติเย อนฺตราภวปุคฺคลํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. โส หิ ตสฺส ลทฺธิยา สรูโปว คนฺตฺวา มาตุกุจฺฉึ ปวิสติ. อถสฺส ตํ รูปํ ภิชฺชติ. ตํ ชีวนฺติ เยน รูปสงฺขาเตน สรีเรน สทฺธึ คจฺฉติ, กิมสฺส ตเทว ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ปุจฺฉติ. ปรวาที อิธ สรีรนิกฺเขปา สุตฺตวิโรธา จ ปฏิกฺขิปติ.

สเวทโนติอาทีสุ อสฺูปปตฺตึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ตทฺํ อุปปตฺตึ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตํ ชีวนฺติ เยน เวทนาทิสงฺขาเตน สรีเรน สทฺธึ คจฺฉติ. กิมสฺส ตเทว ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ปุจฺฉติ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ เอติสฺสา หิ ลทฺธิยา ปฺจปิ ขนฺธา สรีรนฺติ อธิปฺเปตา. ปรวาที สุตฺตวิโรธา ปฏิกฺขิปติ.

๙๒. อรูโปติอาทีสุ ปเม ปฺเห อนฺตราภวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติเย อรูปา รูปํ อุปปชฺชมานํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อฺํ, ชีวนฺติ ยํ รูปสงฺขาตํ สรีรํ ปหาย อรูโป สนฺธาวติ, กึ เต ตํ สรีรํ อฺํ, อฺํ ชีวนฺติ ปุจฺฉติ. อิตโร สุตฺตวิโรธา ปฏิกฺขิปติ.

อเวทโนติอาทีสุ สฺีภวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ตทฺํ อุปปตฺตึ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อฺํ ชีวนฺติ ยํ เวทนาทิสงฺขาตํ สรีรํ ปหาย อเวทโน อวิฺาโณ สนฺธาวติ, กึ เต ตํ อฺํ สรีรํ, อฺํ ชีวนฺติ ปุจฺฉติ. อิตโร สุตฺตวิโรธา ปฏิกฺขิปติ.

๙๓. รูปํ สนฺธาวตีติอาทีสุ เย รูปาทโย ขนฺเธ อุปาทาย ปุคฺคลํ ปฺเปติ, กึ เต ตสฺมึ ปุคฺคเล สนฺธาวนฺเต ตมฺปิ รูปํ สนฺธาวตีติ ปุจฺฉติ. ปรวาที ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ สนฺธาวตํ สํสรต’’นฺติ สตฺตสฺเสว สนฺธาวนวจนโต ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ ยสฺมา รูปาทิธมฺเม วินา ปุคฺคโล นตฺถิ, ตสฺมา ตสฺมึ สนฺธาวนฺเต เตนปิ รูเปน สนฺธาวิตพฺพนฺติ สฺาย ปฏิชานาติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย.

๙๔. รูปํ น สนฺธาวตีติอาทีสุ ยสฺมา เต รูปํ ปุคฺคโล น โหติ, สฺเวว จ สนฺธาวตีติ วเทสิ, ตสฺมา ตํ ปุจฺฉามิ, กึ เต รูปํ น สนฺธาวตีติ อตฺโถ. อิตโร ปุคฺคเล สนฺธาวนฺเต น สกฺกา ตสฺส อุปาทานภูเตน รูเปน สนฺธาวิตุนฺติ สฺาย ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ สตฺตานฺเว สนฺธาวนวจนโต ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

คาถานํ ปน อยมตฺโถ – อายสฺมโต มเตน รุกฺขํ อุปาทาย ฉายา วิย, อินฺธนํ อุปาทาย อคฺคิ วิย จ, ขนฺเธ อุปาทาย ปุคฺคโล; รูปาทีนํ สนฺธาวเน อสติ เตสุ ขนฺเธสุ ภิชฺชมาเนสุ โส ตว ปุคฺคโล ภิชฺชติ เจ, เอวํ สนฺเต อุจฺเฉทา ภวติ ทิฏฺิ, อุจฺเฉททิฏฺิ เต อาปชฺชติ. กตรา ยา พุทฺเธน วิวชฺชิตา อกุสลทิฏฺิ. ยา ปน ‘‘อุจฺเฉทวาที สมโณ โคตโม’’ติ ปริยายภาสิตา, น ตํ วทามาติ ทสฺเสติ. อถาปิ เตสุ ขนฺเธสุ ภิชฺชมาเนสุ โส ปุคฺคโล น ภิชฺชติ, เอวํ สนฺเต สสฺสโต ปุคฺคโล โหติ. ตโต โส นิพฺพาเนน สมสโม อาปชฺชติ . สมสโมติ อติวิย สโม, สเมน วา สโม, สมภาเวเนว สโม. ยเถว นิพฺพานํ นุปฺปชฺชติ น ภิชฺชติ, เอวํ เต ปุคฺคโลปิ เตน สมสโมติ.

คติปริวตฺตนมุเขน จุติปฏิสนฺธานุโยโค นิฏฺิโต.

อนุโยควณฺณนา.

๑๒. อุปาทาปฺตฺตานุโยควณฺณนา

๙๕. อิทานิ อุปาทาปฺตฺตานุโยโค โหติ. ตตฺถ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺาปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. โส หิ รุกฺขํ อุปาทาย ฉายาย วิย, อินฺธนํ อุปาทาย อคฺคิสฺส วิย จ, รูปาทีนิ อุปาทาย ปุคฺคลสฺส ปฺตฺตึ ปฺาปนํ อวโพธนํ อิจฺฉติ, ตสฺมา ‘‘รูปํ อุปาทายา’’ติ ปุฏฺโ ปฏิชานาติ. ปุน ยถา รุกฺขุปาทานา ฉายา รุกฺโข วิย, อินฺธนุปาทาโน จ อคฺคิ อินฺธนํ วิย อนิจฺจาทิธมฺโม, เอวํ เต รูปาทิอุปาทาโน ปุคฺคโล รูปาทโย วิย อนิจฺโจติ อิมมตฺถํ ปุฏฺโ อตฺตโน ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิกฺขิปติ.

๙๗. นีลํ รูปํ อุปาทาย นีโลติอาทีสุ นีลรูเปน สทฺธึ ปุคฺคลสฺส เอกตฺตํ, เอกสรีเร นีลาทีนํ พหูนํ วเสน พหุภาวฺจ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ.

๙๘. กุสลํ เวทนนฺติ เอตฺถาปิ เวทนาย สทฺธึ เอกตฺตํ เอกสนฺตาเน พหูนํ กุสลเวทนานํ วเสน พหุภาวฺจ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ทุติยนเย มคฺคกุสโลติอาทิวจนสพฺภาวโต เฉกฏฺํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. สผโลติอาทีนิ ปุฏฺโ ตถารูปสฺส โวหารสฺส อภาวโต ปฏิกฺขิปติ.

๙๙. อกุสลปกฺเข อเฉกฏฺํ สนฺธาย ปฏิชานาติ.

๑๐๐. อพฺยากตปกฺเข สสฺสตาทิวเสน อพฺยากตภาวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๑๐๔. จกฺขุํอุปาทายาติอาทีสุ ‘‘จกฺขุมา วิสมานีว…เป… ปาปานิ ปริวชฺชเย’’ติ(อุทา. ๔๓) อาทิโวหารสพฺภาวโต ปฏิชานาติ. จกฺขุมตฺตาทินิโรเธน ปุคฺคลนิโรธํ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ.

๑๐๗. รูปํ อุปาทาย เวทนํ อุปาทายาติ เอตฺถ อฺเปิ รูปมูลกา ทุกติกจตุกฺกา เวทิตพฺพา. ยสฺมา ปน ขนฺเธ อุปาทาย ปุคฺคลสฺส ปฺตฺติ, ตสฺมา ทฺเวปิ ตโยปิ จตฺตาโรปิ ปฺจปิ อุปาทาย ปฺตฺตึ ปฏิชานาติ. เอกสนฺตาเน ปน ทฺวินฺนํ ปฺจนฺนํ วา อภาวา ปฏิกฺขิปติ. อายตนาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑๑๒. อิทานิ ยํ อุปาทาย ยสฺส ปฺตฺติ, ยถา ตสฺส อนิจฺจตาย ตสฺสาปิ อนิจฺจตา, ตโต จ อฺตฺตํ สิทฺธํ, เอวํ ตสฺส ปุคฺคลสฺสาปิ อาปชฺชตีติ ทสฺเสตุํ ยถา รุกฺขนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อุปาทายาติ ปฏิจฺจ อาคมฺม, น วินา ตนฺติ อตฺโถ. ปรวาที ปน ตถา อนิจฺฉนฺโต ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิกฺขิปติ.

๑๑๕. นิคโฬติ สงฺขลิกพนฺธนํ. เนคฬิโกติ เตน พนฺธโก ยสฺส รูปํ โส รูปวาติ ยสฺมา ยสฺส รูปํ โส รูปวา โหติ, ตสฺมา ยถา น นิคโฬ …เป… อฺโ รูปวาติ อตฺโถ.

๑๑๖. จิตฺเต จิตฺเตติอาทีสุ สราคาทิจิตฺตวเสน สราคาทิตํ สนฺธาย จิตฺตานุปสฺสนาวเสน ปฏิชานาติ. ชายตีติอาทินา นเยน ปุฏฺโ ปุคฺคลสฺส ขณิกภาวํ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ‘‘โส’’ติ วา ‘‘อฺโ’’ติ วา ปุฏฺโ สสฺสตุจฺเฉทภเยน ปฏิกฺขิปติ. ปุน น วตฺตพฺพํ ‘‘กุมารโก’’ติ วา ‘‘กุมาริกา’’ติ วา ปุฏฺโ โลกโวหารสมุจฺเฉทภเยน วตฺตพฺพนฺติ ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ ปากฏเมว.

๑๑๘. อิทานิ ปรวาที อฺเนากาเรน ลทฺธึ ปติฏฺาเปตุกาโม น วตฺตพฺพํ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติอาทิมาห. ตตฺถ น วตฺตพฺพนฺติ กึ เต อิมินา เอวํ พหุนา อุปาทาปฺตฺตานุโยเคน, อิทํ ตาว วเทหิ, กึ น วตฺตพฺพํ ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ. ตโต สกวาทินา อามนฺตาติ วุตฺเต นนุ โย ปสฺสตีติอาทิมาห. ตตฺถ โยติ ปุคฺคโล . นฺติ รูปํ. เยนาติ จกฺขุนา. โสติ ปุคฺคโล. นฺติ รูปํ. เตนาติ จกฺขุนา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – นนุ โย ยํ รูปํ เยน จกฺขุนา ปสฺสติ, โส ตํ รูปํ เตน จกฺขุนา ปสฺสนฺโต ปุคฺคโลติ. สกวาที กิฺจาปิ จกฺขุวิฺาณสฺส นิสฺสยภาวํ คจฺฉนฺตํ จกฺขุเมว รูปํ ปสฺสติ, ตถา โสตเมว สทฺทํ สุณาติ…เป… วิฺาณเมว ธมฺมํ วิชานาติ, ‘‘อตฺถิ อรหโต จกฺขุ, ปสฺสติ อรหา จกฺขุนา รูป’’นฺติอาทิสมฺมุติวเสน ปน อามนฺตาติ ปฏิชานาติ.

๑๒๐. ตโต ฉลวาทํ นิสฺสาย ปรวาทินา ปุคฺคลสฺส วตฺตพฺพตาย สาธิตาย ตเมว วาทํ ปริวตฺเตตฺวา ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติอาทิมาห. ตตฺถ โย น ปสฺสตีติ อนฺโธ อสฺสตฺโต อรูปํ อุปปนฺโน นิโรธํ สมาปนฺโน, อนนฺโธปิ จ อฺตฺร ทสฺสนสมยา น ปสฺสติ นาม. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโย. เสสํ ปาฬิวเสเนว อตฺถโต เวทิตพฺพํ.

๑๒๒. สุตฺตสํสนฺทนายํ ทิพฺพสฺส จกฺขุโน รูปโคจรตฺตา รูปํ ปสฺสตีติ อาห. ทุติยวาเร ‘‘สตฺเต ปสฺสามี’’ติวจนโต ปุคฺคลํ ปสฺสตีติ อาห. ตติยวาเร ‘‘รูปํ ทิสฺวา ปุคฺคลํ วิภาเวตี’’ติ ลทฺธิโต อุโภ ปสฺสตีติ อาห. ยสฺมา ปน ปสฺสิตพฺพํ นาม ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตนฺติ จตุพฺพิเธ รูปสงฺคเห รูปายตนเมว สงฺคหิตํ, ตสฺมา สกวาที ‘‘รูปํ ปุคฺคโล, ปุคฺคโล รูปํ, อุโภ รูป’’นฺติ อนุโยคํ กโรติ. ตสฺสตฺโถ ปากโฏเยวาติ.

อุปาทาปฺตฺตานุโยควณฺณนา.

๑๓. ปุริสการานุโยควณฺณนา

๑๒๓. อิทานิ ปุริสการานุโยโค โหติ. ตตฺถ กมฺเม สติ นิยมโต ตสฺส การเกนปิ ภวิตพฺพนฺติ ลทฺธิยา ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ตถารูปานํ กมฺมานํ อตฺถิตาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ปุน กตฺตา กาเรตาติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. ตตฺถ กตฺตาติ เตสํ กมฺมานํ การโก. กาเรตาติ อาณตฺติเทสนาทีหิ อุปาเยหิ การาปโก. อิทานิ ยสฺมา ปรวาที ปุคฺคลํ สนฺธาย กตฺตาติ ปุจฺฉติ, น กรณมตฺตํ, ตสฺมา ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส.

๑๒๔. ตสฺส กตฺตา กาเรตาติ เอตฺถ ยทิ ยํ ยํ อุปลพฺภติ, ตสฺส ตสฺส กตฺตา ปุคฺคโล เต อุปลพฺภติ, กึ ตสฺสาปิ การโก จ การาปโก จ อฺโ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ อตฺโถ. ปรวาที ตถา อนิจฺฉนฺโต อิสฺสรนิมฺมานวาทภเยน ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ ยสฺมา ปุคฺคลํ มาตาปิตโร ชเนนฺติ นามํ กโรนฺติ โปเสนฺติ, ตสฺมาสฺส เต การกา. เย จ ปน ตํ กลฺยาณมิตฺตา วา อาจริยา วา ตานิ ตานิ วิชฺชาฏฺานสิปฺปายตนานิ สิกฺขาเปนฺติ , เต การาปกา นามาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปุริมกมฺมเมว ตสฺส กตฺตา เจว การาเปตา จาติ อธิปฺเปตํ.

๑๒๕. ตสฺส ตสฺเสวาติ อิมินา อิทํ ปุจฺฉติ – ยทิ กมฺมานํ การกสฺส กตฺตา ตสฺสาปิ กตฺตา ตสฺสาปิ กตฺตา อตฺเถว, เอวํ สนฺเต ปุริเมน ปุริเมน อวสฺสํ ปจฺฉา ปจฺฉา ปุคฺคโล กาตพฺโพติ อิมินาปิ เต กมฺมานํ การเกน ปุคฺคเลน อายตึ อฺโ ปุคฺคโล กาตพฺโพ, เตนาปิ อฺโติ นตฺถิ ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยา, นตฺถิ วฏฺฏสฺส อุปจฺเฉโท, นตฺถิ อปฺปจฺจยปรินิพฺพานํ. ปจฺจยาภาเวน ปจฺจยปฏิพทฺธสฺส ทุกฺขสฺส อภาวา ยํ นิพฺพานํ วุตฺตํ, นตฺถิ เต ตนฺติ. อถ วา ตสฺส ตสฺเสวาติ ยทิ กมฺมํ กมฺมมตฺตํ น โหติ, ตสฺส ปน การโก ปุคฺคโล, ตสฺสาปิ การโก, ตสฺสาปิ การโกติ เอวํ ปุคฺคลปรมฺปรา อตฺถิ. เอวํ สนฺเต ยา เอสา กมฺมวฏฺฏสฺส อปฺปวตฺติกรเณน ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยา วุตฺตา, สา นตฺถีติ อตฺโถ. ปรวาที ตํ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ. อิโต อปราสุปิ อุปลพฺภติ สามฺเน การกปุจฺฉาสุ ปุคฺคลํเยว สนฺธาย ‘‘กตฺตา กาเรตา’’ติ วุตฺตํ, น ปจฺจเย. น หิ มหาปถวีอาทีนํ ปจฺจยา นตฺถิ.

๑๓๕. อฺโ กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ กตฺตาติ ปฺโห ‘‘สงฺขารวนฺตํ วา อตฺตาน’’นฺติอาทิทิฏฺิภยา ปฏิกฺขิตฺโต.

๑๓๖. วิปาโก อุปลพฺภตีติอาทิ วิปากปฏิสํเวทีวเสน ปุคฺคลํ ทสฺเสนฺตสฺส ลทฺธิภินฺทนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ วิปากปฏิสํเวทีติ อนุโยโค ปรวาทิสฺส , วิปากปวตฺติโต อฺสฺส เวทกสฺส อภาวา ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส. ปุน ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส.

๑๓๘. ตสฺส ปฏิสํเวทีติ ตสฺส วิปากปฏิสํเวทกสฺส ปฏิสํเวที ยสฺมา ปน ปฏิสํเวทิตพฺโพ นาม วิปาโก, น จ ปุคฺคโล วิปาโก, ตสฺมา ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. ปุน ปุฏฺโ ยสฺมา ปุฺวิปาเก ิตตฺตา วิปากปฏิสํเวที ปุตฺตํ วา ปตึ วา มาตา วา ชายา วา ปริจุมฺพติ ปริสชฺชติ, ตสฺมา ตถารูปํ ปฏิสํเวทิตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ ปรวาที.

ตสฺสตสฺเสวาติ ยทิ วิปาโก วิปากมตฺตํ น โหติ, ตสฺส ปน ปฏิสํเวที ปุคฺคโล, ตสฺสาปิ ปฏิสํเวที ตสฺสาปิ ปฏิสํเวทีติ เอวํ ปุคฺคลปรมฺปรา อตฺถิ. เอวํ สนฺเต ยา เอสา วิปากวฏฺฏสฺส อปฺปวตฺติกรเณน ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยา วุตฺตา, สา นตฺถีติ อตฺโถ. อิโต ปรํ อุปลพฺภติสามฺเน ปฏิสํเวทีปุจฺฉาสุ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๔๒. อฺโ กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากปฏิสํเวทีติ ปฺโห ‘‘เวทนวนฺตํ วา อตฺตาน’’นฺติอาทิทิฏฺิภยา ปฏิกฺขิตฺโต.

๑๔๓. ทิพฺพํ สุขนฺติอาทิ กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ ภาเชตฺวา ทสฺสนวเสน อารทฺธํ. ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สกวาทิโน เจตฺถ ปุคฺคลวเสเนว ปฏิสํเวทีปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ, น เวทยิตวเสน.

๑๔๘. มหาปถวีอาทีนิ หิ อารมฺมณํ กตฺวา เวทยิตานํ อุปฺปตฺติ อปฺปฏิสิทฺธา.

๑๗๐. กตฺตา กาเรตา วิปากปฏิสํเวทีติอาทิ โวมิสฺสกนยวเสน อารทฺธํ. ตตฺถ โส กโรตีติ ยํ ตฺวํ กตฺตาติ จ ปฏิสํเวทีติ จ วเทสิ, กึ โสเยว กโรติ, โส ปฏิสํเวเทติ. อยมนุโยโค สกวาทิสฺส, สุตฺตวิโรธภเยน ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส.

๑๗๑. ปุน ปุฏฺโ ‘‘อิธ นนฺทติ เปจฺจ นนฺทตี’’ติอาทิสุตฺตวเสน (ธ. ป. ๑๘) ปฏิฺา ตสฺเสว. อถสฺส วจโนกาสํ ปฏิพาหนฺโต สกวาที สยํกตํ สุขทุกฺขนฺติ อาห.

๑๗๒. ตตฺถ อฺโ กโรตีติ การกเวทกานํ อฺตฺตปุจฺฉาวเสน วุตฺตํ. ตโต ปรวาที สุตฺตวิโรธภเยน ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ปุฏฺโ ‘‘มนุสฺสภูโต กตฺวา เทวภูโต ปฏิสํเวเทตี’’ติ มฺมาโน ปฏิชานาติ . เอวํวาทิโน ปน ปรํกตํ สุขทุกฺขํ อาปชฺชตีติ ตสฺส วเสน ปุฏฺโ ปุน ปฏิกฺขิปติ.

๑๗๔. โส จ อฺโ จาติ การกเวทกานํ เอกตฺตอฺตฺตปุจฺฉาวเสน วุตฺตํ. ตโต ปรวาที สุตฺตวิโรธภเยเนว ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ปุฏฺโ ปุริเม ทฺเวปิ นเย เอกโต กตฺวา ปฏิชานาติ. เอวํวาทิโน ปน สยํกตฺจ ปรํกตฺจ สุขทุกฺขํ อาปชฺชตีติ ตสฺส วเสน ปุฏฺโ ปุน ปฏิกฺขิปติ.

๑๗๖. เนว โส กโรตีติ การกเวทกานํ เอกตฺตอฺตฺตปฏิกฺเขปวเสน วุตฺตํ. ตโต ปรวาที สุตฺตวิโรธวเสเนว ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ปุฏฺโ ยสฺมา มนุสฺโส เทวโลกูปปตฺติยา กมฺมํ กตฺวา น มนุสฺสภูโตว ปฏิสํเวเทติ, นาปิ เยน กมฺมํ กตํ, ตโต อฺโว ปฏิสํเวเทติ, ตสฺมา การกโต เวทโก เนว โส โหติ, น อฺโติ มฺมาโน ปฏิชานาติ. ลทฺธิมตฺตเมเวตํ? เอวํวาทิโน ปน อสยํการํ อปรํการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขํ อาปชฺชตีติ ตสฺส วเสน ปุฏฺโ ปุน ปฏิกฺขิปติ. อปิจ อิมสฺมึ โวมิสฺสกนเย อาทิโต ปฏฺาย อิมินาปิ นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา หิ อยํ ปุคฺคลวาที กมฺมานํ การกฺเจว เวทกฺจ อิจฺฉติ, ตสฺมาสฺส โย การโก, เตเนว วา เวทเกน ภวิตพฺพํ, อฺเน วา อุโภหิ วา ภวิตพฺพํ, อุโภหิ วาปิ น ภวิตพฺพนฺติ อิทมาปนฺนํ โหติ. เอวมาปนฺนเมว อนุโยคํ อนุยุฺชนฺโต สกวาที ‘‘โส กโรตี’’ติอาทโย จตฺตาโรปิ วิกปฺเป อาห. เสสํ วุตฺตปฺปการเมว.

ปริโยสาเน ปน จตฺตาโรปิ ปฺหา เอกโต ปุฏฺา. ตตฺถ ปฏิกฺเขโป จ ปฏิชานนา จ สยํกตาทิโทสปฺปตฺติ จ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพา. อิโต ปรํ ‘‘กลฺยาณปาปกานี’’ติ อวตฺวา เหฏฺา วุตฺตนยา เอว ‘‘กมฺมํ อตฺถี’’ติอาทินา วิกปฺเปน ทสฺสิตา. เตสมฺปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปุริสการานุโยควณฺณนา.

กลฺยาณวคฺโคติปิ เอตสฺเสว นามํ.

๑๔. อภิฺานุโยควณฺณนา

๑๙๓. อิโต ปรํ อภิฺานุโยคาทิวเสน อรหตฺตสาธนา โหติ. ตตฺถ อามนฺตาติ สกวาทินา ปฏิฺาเต ปรวาที ‘‘พหิทฺธา อนินฺทฺริยพทฺธรูเป อิทฺธิวิธาทิวิเสสาธิคโม นตฺถิ, อชฺฌตฺตํ อตฺถิ, ตสฺมา อิทฺธาทินิพฺพตฺตเกน ปุคฺคเลน ภวิตพฺพ’’นฺติ มฺมาโน นนุ อตฺถิ โกจิ อิทฺธึ วิกุพฺพตีติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว.

อภิฺานุโยควณฺณนา.

๑๕-๑๘. าตกานุโยคาทิวณฺณนา

๑๙๗. อิทานิ มาตาติอาทิโก าตกานุโยโค. ขตฺติโยติอาทิโก ชาติอนุโยโค. คหฏฺโ ปพฺพชิโตติ ปฏิปตฺติอนุโยโค. เทโว มนุสฺโสติ อุปปตฺติอนุโยโค. โสตาปนฺโนติอาทิโก ปฏิเวธานุโยโค, อริยานุโยโคติปิ วุจฺจติ. เต สพฺเพ อุตฺตานตฺถาเยว. ‘‘อรหา หุตฺวา น อรหา’’ติ ปเนตฺถ โมฆปฺหตฺตา น วุตฺตํ.

๒๐๖. จตฺตาโร ปุริสยุคาติอาทิ สํฆานุโยโค, โสปิ อุตฺตานตฺโถเยว.

๒๐๙. สงฺขโตติอาทิ สจฺจิกฏฺสภาวานุโยโค. ตตฺถ ตติยา โกฏีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตถารูปสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อภาวโต ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. ปุน ปุฏฺโ ปุคฺคลํ สนฺธาย ปฏิฺา ตสฺเสว.

๒๑๑. อฺโปุคฺคโลติปฺเหปิ สงฺขเตหิ ขนฺเธหิ อฺตฺตํ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺเขโป ตสฺเสว.

๒๑๒. ขนฺธา สงฺขตาติอาทิ สงฺขตาสงฺขตานิ สรูเปน ทสฺเสตฺวา อฺตฺตปุจฺฉนตฺถํ วุตฺตํ.

๒๑๓. รูปํ สงฺขตนฺติอาทิ ขนฺเธ วิภาคโต ทสฺเสตฺวา อฺตฺตปุจฺฉนตฺถํ วุตฺตํ.

๒๑๔. ปุคฺคลสฺส อุปฺปาโทติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ‘‘ชาติธมฺมา ชราธมฺมา, อโถ มรณธมฺมิโน’’ติอาทิสุตฺตวเสน ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. สงฺขตภาวํ ปนสฺส โส น อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ.

๒๑๕. ปุน น อุปฺปาโท ปฺายตีติอาทินา นเยน ปุฏฺโ ‘‘ทุกฺขเมว หิ สมฺโภติ , ทุกฺขํ ติฏฺติ เวติ จา’’ติอาทิวจนโต (สํ. นิ. ๑.๑๗๑) ปุคฺคลสฺส อุปฺปาทาทโย นาม น ยุชฺชนฺตีติ ปฏิชานาติ.

๒๑๖. อตฺถตฺถมฺหีติ อตฺถํ วุจฺจติ นิพฺพานํ. ตตฺถ อตฺถีติ ปุจฺฉติ. ตสฺส อตฺถิตาย สสฺสตํ, นตฺถิตาย. อุจฺเฉโท อาปชฺชติ. ตทุภยมฺปิ อนิจฺฉนฺโต ปจฺฉา ปฏิกฺขิปติ.

าตกานุโยคาทิวณฺณนา.

๑๙. ปฏิเวธานุโยคาทิวณฺณนา

๒๑๗. ภวํ นิสฺสาย ปฺเห ภวนฺติ อุปปตฺติภวํ.

๒๑๘. เวทนํ เวทิยมานปฺเห เวทนํ เวทิยมาโน ปริคฺคหิตเวทโน โยคาวจโรว ปชานาติ, พาลปุถุชฺชโน นปฺปชานาติ.

๒๒๔. กายานุปสฺสนาทิปฺหา อุตฺตานตฺถาเยว.

๒๒๖. ปารายนคาถาย สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสูติ สตฺตสุฺตวเสน ขนฺธโลกํ โอโลเกหีติ อตฺโถ.

๒๒๘. ปุคฺคโล อเวกฺขตีติ สกวาทิปุจฺฉา. ปรวาทิสฺส หิ ‘‘สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสู’’ติ คาถาย โย อเวกฺขติ, โส ปุคฺคโลติ ลทฺธิ, ตสฺมา นํ เอวํ ปุจฺฉติ. สห รูเปนาติ รูปกาเยน สทฺธึ. ตโต อนิสฺสโฏ หุตฺวาติ อตฺโถ. อิทํ ปฺจโวการวเสน อนุชานิตฺวา ปุน ตํ ชีวนฺติ ปุฏฺโ สุตฺตวิโรธภเยน ปฏิกฺขิปติ. วินา รูเปนาติ อิทํ จตุโวการวเสน อนุชานิตฺวา ปุน อฺํ ชีวนฺติ ปุฏฺโ สุตฺตวิโรธภเยเนว ปฏิกฺขิปติ. ‘‘อพฺภนฺตรคโต’’ติ จ ‘‘พหิทฺธา นิกฺขมิตฺวา’’ติ จ อิทํ ‘‘สห รูเปน วินา รูเปนา’’ติ เหฏฺา วุตฺตสฺส ลกฺขณวจนํ. ตตฺถ อพฺภนฺตรคโตติ รูปสฺส อนฺโตคโต, อิโต วา เอตฺโต วา อนิกฺขมิตฺวา รูปปริจฺเฉทวเสเนว ิโต หุตฺวาติ อตฺโถ. นิกฺขมิตฺวาติ รูปปริจฺเฉทํ อติกฺกมิตฺวา. รูปํ อนิสฺสิโต หุตฺวาติ อตฺโถ.

๒๓๑. อนตฺตาติ อตฺตนา ชีเวน ปุคฺคเลน รหิโต. เอกธมฺเมปิ ปุคฺคโล นตฺถีติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพสุตฺตานํ อาคมฏฺกถาสุ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิธ ปน สนฺธายภาสิตมตฺตเมว วกฺขาม.

๒๓๗. วุตฺตํ ภควตา สปฺปิกุมฺโภติอาทิ ‘‘สพฺพาว เทสนา ยถารุตวเสเนว อตฺถโต น คเหตพฺพา’’ติ ทสฺสนตฺถํ อาภตํ. ยถา หิ สุวณฺณํ คเหตฺวา กโต สุวณฺณวิกาโร กุมฺโภ สุวณฺณกุมฺโภติ วุจฺจติ, น เอวํ สปฺปึ คเหตฺวา กโต สปฺปิสฺส วิกาโร สปฺปิกุมฺโภ นาม อตฺถิ. ยสฺมึ ปน กุมฺเภ สปฺปิ ปกฺขิตฺตํ, โส สปฺปิกุมฺโภ นามาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เตลกุมฺภาทีสุปิ เอเสว นโย. ยถา จ นิพฺพานํ นิจฺจํ ธุวํ, น เอวํ ภตฺตํ วา ยาคุ วา อตฺถิ. กาลปริจฺเฉทํ ปน อกตฺวา ทิวเส ทิวเส ทสฺสามาติ ปฺตฺตวเสน ‘‘นิจฺจภตฺตํ ธุวยาคู’’ติ วุจฺจตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติอาทีสุปิ ยถา รูปาทโย ธมฺมา ปจฺจตฺตลกฺขณสามฺลกฺขณวเสน อตฺถิ, น เอวํ ปุคฺคโล . รูปาทีสุ ปน สติ ‘เอวํนาโม’‘เอวํโคตฺโต’ติ โวหาโร โหติ. อิติ อิมินา โลกโวหาเรน โลกสมฺมุติยา โลกนิรุตฺติยา อตฺถิ ปุคฺคโลติ อยเมตฺถ อตฺโถ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา – ‘‘อิมา โข จิตฺต, โลกสมฺา โลกนิรุตฺติโย โลกโวหารา โลกปฺตฺติโย’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๔๐). รูปาทิธมฺมา ปน วินาปิ โลกสมฺมุตึ ปจฺจตฺตสามฺลกฺขณวเสน ปฺาปนโต อตฺถีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

พุทฺธานํ ปน ทฺเว กถา สมฺมุติกถา จ ปรมตฺถกถา จ. ตตฺถ สตฺโต, ปุคฺคโล, เทโว, พฺรหฺมาติอาทิกา สมฺมุติกถา นาม. อนิจฺจํ, ทุกฺขํ, อนตฺตา, ขนฺธา, ธาตุโย, อายตนานิ, สติปฏฺานา, สมฺมปฺปธานาติอาทิกา ปรมตฺถกถา นาม.

ตตฺถ โย สมฺมุติเทสนาย สตฺโตติ วา…เป… พฺรหฺมาติ วาติ วุตฺเต ชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ นิยฺยาตุํ อรหตฺตชยคฺคาหํ คเหตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ภควา อาทิโตว สตฺโตติ วา ปุคฺคโลติ วา โปโสติ วา เทโวติ วา พฺรหฺมาติ วา กเถติ. โย ปรมตฺถเทสนาย อนิจฺจนฺติ วา ทุกฺขนฺติ วาติอาทีสุ อฺตรํ สุตฺวาว ชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ นิยฺยาตุํ อรหตฺตชยคฺคาหํ คเหตุํ สกฺโกติ. ตสฺส อนิจฺจนฺติอาทีสุ อฺตรํ กเถติ. ตถา สมฺมุติกถาย พุชฺฌนกสตฺตสฺส น ปมํ ปรมตฺถกถํ กเถติ. สมฺมุติกถาย ปน โพเธตฺวา ปจฺฉา ปรมตฺถกถํ กเถติ . ปรมตฺถกถาย พุชฺฌนกสตฺตสฺสาปิ น ปมํ สมฺมุติกถํ กเถติ. ปรมตฺถกถาย ปน โพเธตฺวา ปจฺฉา สมฺมุติกถํ กเถติ. ปกติยา ปน ปมเมว ปรมตฺถกถํ กเถนฺตสฺส เทสนา ลูขาการา โหติ. ตสฺมา พุทฺธา ปมํ สมฺมุติกถํ กเถตฺวา ปจฺฉา ปรมตฺถกถํ กเถนฺติ. เต สมฺมุติกถํ กเถนฺตาปิ สจฺจเมว สภาวเมว อมุสาว กเถนฺติ. ปรมตฺถกถํ กเถนฺตาปิ สจฺจเมว สภาวเมว อมุสาว กเถนฺติ. อยฺหิ –

‘‘ทุเว สจฺจานิ อกฺขาสิ, สมฺพุทฺโธ วทตํ วโร;

สมฺมุตึ ปรมตฺถฺจ, ตติยํ นุปลพฺภติ’’.

ตตฺถ

‘‘สงฺเกตวจนํ สจฺจํ, โลกสมฺมุติการณํ;

ปรมตฺถวจนํ สจฺจํ, ธมฺมานํ ตถลกฺขณ’’นฺติ.

อปโร นโย – ทฺเว ภควโต เทสนา ปรมตฺถเทสนา จ ขนฺธาทิวเสน, สมฺมุติเทสนา จ สปฺปิกุมฺภาทิวเสน. น หิ ภควา สมฺํ อติธาวติ. ตสฺมา ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล’’ติ วจนมตฺตโต อภินิเวโส น กาตพฺโพ. สตฺถารา หิ –

‘‘ปฺตฺตึ อนติกฺกมฺม, ปรมตฺโถ ปกาสิโต;

สมฺํ นาติธาเวยฺย, ตสฺมา อฺโปิ ปณฺฑิโต;

ปรมตฺถํ ปกาเสนฺโต, สมฺํ นาติธาวเย’’.

เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปุคฺคลกถา นิฏฺิตา.